• เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505
    เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ (พิมพ์พิเศษ นิยมสุด!!) วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้ จัดสร้าง มวรสารหลักในการจัดสร้างเฉกเช่นเดียวกับ พระเครื่องเนื้อว่านหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี 2497 พืธีปลุกเสก รวม 3 วัน 3 คืน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พระสถาพสวยมาก พระไม่ร้าว ไม่ราน ไม่บิ่น ไม่หัก ไม่ซ่อม พระสถาพสมบูรณ์ หายากก !! ** หาหลวงปู่ทวด รุ่นแรก 2497 ไม่ได้ ใช้หลวงพ่อไกรรุ่นแรก แทนได้เลยครับ เนื้อหามวลสาร เหมือนกัน พิธิปลุกเสก ก็มีเกจิ ชุดเดียวกันที่ ปลุกเสก หลวงปู่ทวด 2497 มีส่วนผสมของเนื้อว่าน หลวงปู่ทวด ปี2497 จำนวนมาก !!

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พระดีพิธีใหญ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ หลายท่าน พืธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2505 ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2505 รวม 3 วัน 3 คืน โดยพระอาจารย์ทิม เป็นประธานนั่งบริกรรมตลอดพืธี ร่วมด้วย ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว...พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์...พ่อท่านฉิ้น วัดเมือง ยะลา และ คณาจารย์สายใต้อีกหลายท่าน... โดย พระว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรกนี้ มีวัตถุธาติส่วนผสม 9 ชนิด ดังนี้ คือ

    1.ว่าน 108 จากเทือกเขากาลาคีรี
    2.ดินเถ้าถ่านที่บูชาเพลิงพ่อท่านไกร
    3.ดินชนวนพระในถ้ำศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ
    4.ดินดำกากยายักษ์(ดินชนิดนี้มีแห่งเดียวที่ลำพะยาเท่านั้น)
    5.ดินเบ้าหล่อพ่อท่านไกร(พระประธาน)
    6.รากไม้ยาศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในบริเวณเขื่อนพ่อท่านไกร
    7.กระเบื้องศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้มุงเขื่อน
    8.ไม้เสาเขื่อนพ่อท่านไกร
    9.อัฐิธาตุ(กระดูก) ของพ่อท่านไกร

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505 เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ (พิมพ์พิเศษ นิยมสุด!!) วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้ จัดสร้าง มวรสารหลักในการจัดสร้างเฉกเช่นเดียวกับ พระเครื่องเนื้อว่านหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี 2497 พืธีปลุกเสก รวม 3 วัน 3 คืน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พระสถาพสวยมาก พระไม่ร้าว ไม่ราน ไม่บิ่น ไม่หัก ไม่ซ่อม พระสถาพสมบูรณ์ หายากก !! ** หาหลวงปู่ทวด รุ่นแรก 2497 ไม่ได้ ใช้หลวงพ่อไกรรุ่นแรก แทนได้เลยครับ เนื้อหามวลสาร เหมือนกัน พิธิปลุกเสก ก็มีเกจิ ชุดเดียวกันที่ ปลุกเสก หลวงปู่ทวด 2497 มีส่วนผสมของเนื้อว่าน หลวงปู่ทวด ปี2497 จำนวนมาก !! ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พระดีพิธีใหญ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ หลายท่าน พืธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2505 ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2505 รวม 3 วัน 3 คืน โดยพระอาจารย์ทิม เป็นประธานนั่งบริกรรมตลอดพืธี ร่วมด้วย ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว...พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์...พ่อท่านฉิ้น วัดเมือง ยะลา และ คณาจารย์สายใต้อีกหลายท่าน... โดย พระว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรกนี้ มีวัตถุธาติส่วนผสม 9 ชนิด ดังนี้ คือ 1.ว่าน 108 จากเทือกเขากาลาคีรี 2.ดินเถ้าถ่านที่บูชาเพลิงพ่อท่านไกร 3.ดินชนวนพระในถ้ำศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ 4.ดินดำกากยายักษ์(ดินชนิดนี้มีแห่งเดียวที่ลำพะยาเท่านั้น) 5.ดินเบ้าหล่อพ่อท่านไกร(พระประธาน) 6.รากไม้ยาศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในบริเวณเขื่อนพ่อท่านไกร 7.กระเบื้องศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้มุงเขื่อน 8.ไม้เสาเขื่อนพ่อท่านไกร 9.อัฐิธาตุ(กระดูก) ของพ่อท่านไกร ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระพุทธนิมิตร วัดป่าขอม จ.พัทลุง ปี2536
    เหรียญพระพุทธนิมิตร วัดป่าขอม จ.พัทลุง ปี2536 // พระดีพิธีใหญ๋ เหรียญมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณโดดเด่นด้าน โชคลาภ เงินทอง และการคุ้มครองป้องกันภัย สามารถบันดาลโชคลาภ เพิ่มพูนทรัพย์สิน และปกป้องคุ้มครองอันตรายได้ ทำให้มีผู้คนมาไหว้ขอพรและบนบานอยู่เสมอ **

    ** วัดป่าขอม เดิมเรียกว่า วัดป่าขัน ตามตำนานพื้นเมืองเล่าว่า วัดนี้สร้างโดยนางเลือดขาว ส่วนในหนังสือกัลปนาวัดจังหวัดพัทลุงในสมัยอยุธยา กล่าวถึงวัดนี้ว่า พระมหาอินทร์ได้สร้างวิหารขึ้นที่วัดป่าขัน (ป่าขอม) ต่อมาวัดร้างไปนานจนกระทั่ง พ.ศ.๒๔๗๙ หลวงพ่อเปลี่ยนและแม่ชีเลื่อน ได้บูรณะวัดขึ้นใหม่ หลวงพ่อเปลี่ยนเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ๗ - ๘ ปี ก็ไปจากวัดจน พ.ศ.๒๕๐๖ พระอาจารย์ล่อง อมมรโต เป็นเจ้าอาวาส ได้พัฒนาวัดจนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๑๙ ในชื่อป่าขอม **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระพุทธนิมิตร วัดป่าขอม จ.พัทลุง ปี2536 เหรียญพระพุทธนิมิตร วัดป่าขอม จ.พัทลุง ปี2536 // พระดีพิธีใหญ๋ เหรียญมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณโดดเด่นด้าน โชคลาภ เงินทอง และการคุ้มครองป้องกันภัย สามารถบันดาลโชคลาภ เพิ่มพูนทรัพย์สิน และปกป้องคุ้มครองอันตรายได้ ทำให้มีผู้คนมาไหว้ขอพรและบนบานอยู่เสมอ ** ** วัดป่าขอม เดิมเรียกว่า วัดป่าขัน ตามตำนานพื้นเมืองเล่าว่า วัดนี้สร้างโดยนางเลือดขาว ส่วนในหนังสือกัลปนาวัดจังหวัดพัทลุงในสมัยอยุธยา กล่าวถึงวัดนี้ว่า พระมหาอินทร์ได้สร้างวิหารขึ้นที่วัดป่าขัน (ป่าขอม) ต่อมาวัดร้างไปนานจนกระทั่ง พ.ศ.๒๔๗๙ หลวงพ่อเปลี่ยนและแม่ชีเลื่อน ได้บูรณะวัดขึ้นใหม่ หลวงพ่อเปลี่ยนเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ๗ - ๘ ปี ก็ไปจากวัดจน พ.ศ.๒๕๐๖ พระอาจารย์ล่อง อมมรโต เป็นเจ้าอาวาส ได้พัฒนาวัดจนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๑๙ ในชื่อป่าขอม ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543
    เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน พิมพ์ใหญ๋ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543 //พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกพิธีเสาร์ห้า ณ.อุโบสถ วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมกับพระเกจิสายหลวงพ่อทวดหลายท่านร่วม ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย อยู่ยงคงกระพัน เสริมลาภทรัพย์ให้เพิ่มพูน เจรจาธุรกิจก็จะสำเร็จ ป้องกันคุณไสย มีอำนาจ บารมี **

    ** เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543 พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกพิธีเสาร์ห้า ณ.อุโบสถ วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมกับพระเกจิสายหลวงพ่อทวด -สายเขาอ้อหลายท่าน เป็นรุ่นหายากซึ่งพบเจอหมุนเวียนน้อยมาก จัดได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในหมู่​ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ ยิ่งฤดูกาลแต่งตั้งเป็นต้องเสาะหามาบูชากัน **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543 เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน พิมพ์ใหญ๋ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543 //พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกพิธีเสาร์ห้า ณ.อุโบสถ วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมกับพระเกจิสายหลวงพ่อทวดหลายท่านร่วม ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย อยู่ยงคงกระพัน เสริมลาภทรัพย์ให้เพิ่มพูน เจรจาธุรกิจก็จะสำเร็จ ป้องกันคุณไสย มีอำนาจ บารมี ** ** เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543 พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกพิธีเสาร์ห้า ณ.อุโบสถ วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมกับพระเกจิสายหลวงพ่อทวด -สายเขาอ้อหลายท่าน เป็นรุ่นหายากซึ่งพบเจอหมุนเวียนน้อยมาก จัดได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในหมู่​ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ ยิ่งฤดูกาลแต่งตั้งเป็นต้องเสาะหามาบูชากัน ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จหลวงพ่อองค์ดำ มหาวิทยาลัยนาลันทา ประเทศอินเดีย
    สมเด็จหลวงพ่อองค์ดำ เนื้อผงพุทธคุณ มหาวิทยาลัยนาลันทา เมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย // ตำนาน พระพุทธเจ้าองค์ดำ หรือ หลวงพ่อองค์ดำ แห่งอินเดีย พระพุทธรูปเพียงองค์เดียวที่หลุดรอดจากการถูกทำลายและไม่ถูกอังกฤษยึดไป // พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ อธิษฐานขอพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เมตตาหานิยม โภคทรัพย์ เงินไหลมา มหาโภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย. จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง โชคลาภมหาสมบัติค้าขายร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงาน **

    ** ประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ” หรือ “หลวงพ่อองค์ดำ” สร้างขึ้นโดยท่านธรรมปาล ในสมัยพระเจ้าเทวาปาล คือระหว่างปี พ.ศ. 1353-1393 ในยุคที่อังกฤษปกครองอินเดีย มีนักโบราณคดีจำนวนมากได้เข้ามาสำรวจขุดค้นพุทธสถนต่างๆ ในอินเดีย โดยปี พ.ศ. 2403 มีนักปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีชาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อ นายพลโทเซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม (Sir Alexander Cunningham) ได้ศึกษาและอ่านบันทึกลายแทงของพระถังซัมจั๋งดังกล่าวจนเข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงนำคณะเข้ามาสำรวจและขุดค้น ก็ปรากฏผลดังที่ตนปรารถนาไว้ทุกประการ คือได้ค้นพบพระเจดีย์องค์ที่ตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทาพอดี ซึ่งในขณะนั้นเป็นเพียงกองดินสูงเท่านั้นจากนั้นเซอร์คันนิ่งแฮมก็ได้ทำแผนที่ตามบันทึกลายแทงที่มีอยู่ เพื่อค้นหาพระเจดีย์องค์อื่นๆ จนปรากฏว่าเมื่อปี พ.ศ. 2458 ได้ค้นพบซากพระเจดีย์องค์อื่นๆ และตัวมหาวิทยาลัยสงฆ์ รวมทั้ง หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ และพระพุทธรูปองค์อื่นๆ อีกมากมายหลายองค์ซึ่งส่วนมากจะเสียหายหักบิ่นจากการถูกทำลาย ซึ่งการค้นพบครั้งนี้เท่ากับว่า “มหาวิทยาลัยนาลันทา” คือมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก ได้ปรากฏแก่สายตาชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    สมเด็จหลวงพ่อองค์ดำ มหาวิทยาลัยนาลันทา ประเทศอินเดีย สมเด็จหลวงพ่อองค์ดำ เนื้อผงพุทธคุณ มหาวิทยาลัยนาลันทา เมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย // ตำนาน พระพุทธเจ้าองค์ดำ หรือ หลวงพ่อองค์ดำ แห่งอินเดีย พระพุทธรูปเพียงองค์เดียวที่หลุดรอดจากการถูกทำลายและไม่ถูกอังกฤษยึดไป // พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ ** พุทธคุณ อธิษฐานขอพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เมตตาหานิยม โภคทรัพย์ เงินไหลมา มหาโภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย. จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง โชคลาภมหาสมบัติค้าขายร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงาน ** ** ประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ” หรือ “หลวงพ่อองค์ดำ” สร้างขึ้นโดยท่านธรรมปาล ในสมัยพระเจ้าเทวาปาล คือระหว่างปี พ.ศ. 1353-1393 ในยุคที่อังกฤษปกครองอินเดีย มีนักโบราณคดีจำนวนมากได้เข้ามาสำรวจขุดค้นพุทธสถนต่างๆ ในอินเดีย โดยปี พ.ศ. 2403 มีนักปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีชาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อ นายพลโทเซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม (Sir Alexander Cunningham) ได้ศึกษาและอ่านบันทึกลายแทงของพระถังซัมจั๋งดังกล่าวจนเข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงนำคณะเข้ามาสำรวจและขุดค้น ก็ปรากฏผลดังที่ตนปรารถนาไว้ทุกประการ คือได้ค้นพบพระเจดีย์องค์ที่ตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทาพอดี ซึ่งในขณะนั้นเป็นเพียงกองดินสูงเท่านั้นจากนั้นเซอร์คันนิ่งแฮมก็ได้ทำแผนที่ตามบันทึกลายแทงที่มีอยู่ เพื่อค้นหาพระเจดีย์องค์อื่นๆ จนปรากฏว่าเมื่อปี พ.ศ. 2458 ได้ค้นพบซากพระเจดีย์องค์อื่นๆ และตัวมหาวิทยาลัยสงฆ์ รวมทั้ง หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ และพระพุทธรูปองค์อื่นๆ อีกมากมายหลายองค์ซึ่งส่วนมากจะเสียหายหักบิ่นจากการถูกทำลาย ซึ่งการค้นพบครั้งนี้เท่ากับว่า “มหาวิทยาลัยนาลันทา” คือมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก ได้ปรากฏแก่สายตาชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดอกเตอร์ชนดอกเตอร์ พรรคการเมืองแข่งเดือด ใครจะเป็นนายกฯคนที่33 : ตะลุยเลือกตั้ง69
    ดอกเตอร์ชนดอกเตอร์ พรรคการเมืองแข่งเดือด ใครจะเป็นนายกฯคนที่33 : ตะลุยเลือกตั้ง69
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ดอกเตอร์ชนดอกเตอร์ พรรคการเมืองแข่งเดือด ใครจะเป็นนายกฯคนที่33 : ตะลุยเลือกตั้ง69
    ดอกเตอร์ชนดอกเตอร์ พรรคการเมืองแข่งเดือด ใครจะเป็นนายกฯคนที่33 : ตะลุยเลือกตั้ง69
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • พลโท บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้แทน ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ตรวจสภาพพื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย และเนิน 350 อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ หลังทหารไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้ตามเป้าหมาย
    .
    การลงพื้นที่ครั้งนี้มีขึ้นเพื่อประเมินสภาพพื้นที่จริง หลังถูกใช้เป็นฐานที่มั่นในการสู้รบ พร้อมตรวจสอบความเรียบร้อยด้านความมั่นคง และติดตามผลการปฏิบัติการของกำลังพลในแนวหน้า
    .
    ในโอกาสนี้ พลโท บุญสิน ได้เชิดชูเกียรติและให้กำลังใจทหารกล้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง จนสามารถผลักดันฝ่ายตรงข้ามและยึดคืนพื้นที่ได้สำเร็จ พร้อมย้ำว่าความเสียสละของกำลังพลทุกนายจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การปกป้องอธิปไตยของชาติ
    .
    พลโท บุญสิน ยืนยันว่ากองทัพไทยจะดูแลและยืนเคียงข้างกำลังพลทุกคนอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศอย่างต่อเนื่อง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122735
    .
    #News1live #News1 #กองทัพบก #ปราสาทตาควาย #เนิน350 #อธิปไตยไทย
    พลโท บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้แทน ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ตรวจสภาพพื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย และเนิน 350 อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ หลังทหารไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้ตามเป้าหมาย . การลงพื้นที่ครั้งนี้มีขึ้นเพื่อประเมินสภาพพื้นที่จริง หลังถูกใช้เป็นฐานที่มั่นในการสู้รบ พร้อมตรวจสอบความเรียบร้อยด้านความมั่นคง และติดตามผลการปฏิบัติการของกำลังพลในแนวหน้า . ในโอกาสนี้ พลโท บุญสิน ได้เชิดชูเกียรติและให้กำลังใจทหารกล้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง จนสามารถผลักดันฝ่ายตรงข้ามและยึดคืนพื้นที่ได้สำเร็จ พร้อมย้ำว่าความเสียสละของกำลังพลทุกนายจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การปกป้องอธิปไตยของชาติ . พลโท บุญสิน ยืนยันว่ากองทัพไทยจะดูแลและยืนเคียงข้างกำลังพลทุกคนอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศอย่างต่อเนื่อง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122735 . #News1live #News1 #กองทัพบก #ปราสาทตาควาย #เนิน350 #อธิปไตยไทย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุเรือนำนักท่องเที่ยวล่มกลางแม่น้ำโขง บริเวณหน้าถ้ำติ่ง ตรงข้ามบ้านปากอู ใกล้เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว หลังเรือช้าที่ล่องมาจากเมืองปากแบ่ง ชนแก่งหินกลางลำน้ำ ส่งผลให้เรือค่อย ๆ จมลง
    .
    เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม เวลาประมาณ 15.40 น. บนเรือลำดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปราว 120 คน รวมถึงผู้โดยสารชาวลาว โดยหลังเกิดเหตุมีเรือและชาวบ้านเข้าช่วยเหลือ สามารถอพยพนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งได้เกือบทั้งหมด
    .
    อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้โดยสารชาวลาวเพศหญิง 1 ราย พร้อมบุตรสาวอายุ 3 ปี และ 1 ปี สูญหายไปในกระแสน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยประดาน้ำจากกาชาดแขวงหลวงพระบางได้เร่งค้นหาต่อเนื่อง แต่จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 19 ธันวาคม ยังไม่พบผู้สูญหายทั้ง 3 คน
    .
    การล่องเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงถือเป็นเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเส้นทางจากเมืองปากแบ่งและเมืองห้วยซายมายังหลวงพระบาง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122601
    .
    #News1live #News1 #หลวงพระบาง #แม่น้ำโขง #เรือล่ม #ข่าวต่างประเทศ #อุบัติเหตุ
    เกิดเหตุเรือนำนักท่องเที่ยวล่มกลางแม่น้ำโขง บริเวณหน้าถ้ำติ่ง ตรงข้ามบ้านปากอู ใกล้เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว หลังเรือช้าที่ล่องมาจากเมืองปากแบ่ง ชนแก่งหินกลางลำน้ำ ส่งผลให้เรือค่อย ๆ จมลง . เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม เวลาประมาณ 15.40 น. บนเรือลำดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปราว 120 คน รวมถึงผู้โดยสารชาวลาว โดยหลังเกิดเหตุมีเรือและชาวบ้านเข้าช่วยเหลือ สามารถอพยพนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งได้เกือบทั้งหมด . อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้โดยสารชาวลาวเพศหญิง 1 ราย พร้อมบุตรสาวอายุ 3 ปี และ 1 ปี สูญหายไปในกระแสน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยประดาน้ำจากกาชาดแขวงหลวงพระบางได้เร่งค้นหาต่อเนื่อง แต่จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 19 ธันวาคม ยังไม่พบผู้สูญหายทั้ง 3 คน . การล่องเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงถือเป็นเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเส้นทางจากเมืองปากแบ่งและเมืองห้วยซายมายังหลวงพระบาง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122601 . #News1live #News1 #หลวงพระบาง #แม่น้ำโขง #เรือล่ม #ข่าวต่างประเทศ #อุบัติเหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพเรือเผยแพร่วิดีโอปฏิบัติการเครื่องบิน F-16 ของกองทัพอากาศไทย ยิงถล่มเป้าหมาย ก่อนกำลังนาวิกโยธินเข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่กาสิโนทมอดา และบ้านท่าเส้น ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด ได้สำเร็จ
    .
    พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหาร มีการเสริมกำลัง พลซุ่มยิง จุดควบคุมพื้นที่ และส่วนปฏิบัติการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศไทย
    .
    การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการบูรณาการกำลังร่วมระหว่างกองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองทัพอากาศ ภายใต้แผนที่รัดกุมและคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนเป็นสำคัญ
    .
    ผลการปฏิบัติการ ฝ่ายไทยสามารถยึดพื้นที่เป้าหมายได้โดยสมบูรณ์ ไม่มีการสูญเสียกำลังพลหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ และสามารถตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ของฝ่ายตรงข้ามได้จำนวนหนึ่ง อยู่ระหว่างการตรวจสอบตามขั้นตอน
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122733
    .
    #News1live #News1 #กองทัพเรือ #นาวิกโยธิน #F16 #ตราด #สถานการณ์ชายแดน
    กองทัพเรือเผยแพร่วิดีโอปฏิบัติการเครื่องบิน F-16 ของกองทัพอากาศไทย ยิงถล่มเป้าหมาย ก่อนกำลังนาวิกโยธินเข้าควบคุมและยึดคืนพื้นที่กาสิโนทมอดา และบ้านท่าเส้น ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด ได้สำเร็จ . พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหาร มีการเสริมกำลัง พลซุ่มยิง จุดควบคุมพื้นที่ และส่วนปฏิบัติการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศไทย . การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการบูรณาการกำลังร่วมระหว่างกองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองทัพอากาศ ภายใต้แผนที่รัดกุมและคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนเป็นสำคัญ . ผลการปฏิบัติการ ฝ่ายไทยสามารถยึดพื้นที่เป้าหมายได้โดยสมบูรณ์ ไม่มีการสูญเสียกำลังพลหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ และสามารถตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ของฝ่ายตรงข้ามได้จำนวนหนึ่ง อยู่ระหว่างการตรวจสอบตามขั้นตอน . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122733 . #News1live #News1 #กองทัพเรือ #นาวิกโยธิน #F16 #ตราด #สถานการณ์ชายแดน
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศไทยเปิดเผยการปฏิบัติการใช้เครื่องบิน F-16 โจมตี “สะพานโอร์จิก” ในจังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชา ด้วยอาวุธชั้นสูง เข้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ เพื่อ ตัดเส้นทางการส่งกำลังพลและอาวุธ ไปยังพื้นที่เนิน 350 และปราสาทตาควาย
    .
    พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ระบุว่า การโจมตีมุ่งเฉพาะโครงสร้างสะพานสำหรับยานพาหนะ เพื่อขัดขวางการลำเลียงกำลังบำรุงทางทหาร โดยยังเหลือโครงสร้างให้ประชาชนใช้เดินเท้าหรือรถจักรยานยนต์ได้ เพื่อลดผลกระทบต่อพลเรือน
    .
    โฆษกกองทัพอากาศย้ำว่า หากฝ่ายกัมพูชายังใช้เส้นทางดังกล่าวในการส่งกำลังไปแนวหน้า กองทัพอากาศพร้อมปฏิบัติการซ้ำ และจะดำเนินการทางทหารอย่างต่อเนื่อง จนกว่ากัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไขทั้ง 3 ประการของรัฐบาลไทย เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงและการเจรจาเพื่อสันติภาพ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122681
    .
    #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #สะพานโอร์จิก #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #สถานการณ์ชายแดน
    กองทัพอากาศไทยเปิดเผยการปฏิบัติการใช้เครื่องบิน F-16 โจมตี “สะพานโอร์จิก” ในจังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชา ด้วยอาวุธชั้นสูง เข้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ เพื่อ ตัดเส้นทางการส่งกำลังพลและอาวุธ ไปยังพื้นที่เนิน 350 และปราสาทตาควาย . พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ระบุว่า การโจมตีมุ่งเฉพาะโครงสร้างสะพานสำหรับยานพาหนะ เพื่อขัดขวางการลำเลียงกำลังบำรุงทางทหาร โดยยังเหลือโครงสร้างให้ประชาชนใช้เดินเท้าหรือรถจักรยานยนต์ได้ เพื่อลดผลกระทบต่อพลเรือน . โฆษกกองทัพอากาศย้ำว่า หากฝ่ายกัมพูชายังใช้เส้นทางดังกล่าวในการส่งกำลังไปแนวหน้า กองทัพอากาศพร้อมปฏิบัติการซ้ำ และจะดำเนินการทางทหารอย่างต่อเนื่อง จนกว่ากัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไขทั้ง 3 ประการของรัฐบาลไทย เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงและการเจรจาเพื่อสันติภาพ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122681 . #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #สะพานโอร์จิก #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #สถานการณ์ชายแดน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานเหตุปะทะในฝั่งกัมพูชา หลังเพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและวิดีโอ ระบุว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทย ปฏิบัติการโจมตีฐานที่มั่นและสนามเพลาะของทหารกัมพูชา ในพื้นที่สตึงกัด ตำบลทมอดา อำเภอเวียงเวล จังหวัดโพธิสัตว์
    .
    รายงานระบุว่า ปฏิบัติการเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.50 น. ของวันที่ 20 ธันวาคม โดยเป็นการโจมตีอย่างแม่นยำ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตทันที 18 นาย ตามข้อมูลที่อ้างจากมูลนิธิกู้ภัยสตึงกัดของกัมพูชา
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนความตึงเครียดของสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122614
    .
    #News1live #News1 #F16 #สถานการณ์ชายแดน #ไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ข่าวด่วน
    มีรายงานเหตุปะทะในฝั่งกัมพูชา หลังเพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและวิดีโอ ระบุว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 ของกองทัพอากาศไทย ปฏิบัติการโจมตีฐานที่มั่นและสนามเพลาะของทหารกัมพูชา ในพื้นที่สตึงกัด ตำบลทมอดา อำเภอเวียงเวล จังหวัดโพธิสัตว์ . รายงานระบุว่า ปฏิบัติการเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.50 น. ของวันที่ 20 ธันวาคม โดยเป็นการโจมตีอย่างแม่นยำ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตทันที 18 นาย ตามข้อมูลที่อ้างจากมูลนิธิกู้ภัยสตึงกัดของกัมพูชา . เหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนความตึงเครียดของสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122614 . #News1live #News1 #F16 #สถานการณ์ชายแดน #ไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ข่าวด่วน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2025-2026 นัดที่ 17 สเปอร์ส VS ลิเวอร์พูล คืนวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2568 เวลา 00.30 น. สนาม : ท็อทแน่ม ฮอทสเปอร์ส สเตเดียม
    ครึ่งเวลาแรก ทั้ง 2 ฝ่ายเล่นแบบรัดกุม ทำอะไรไม่ได้เสมอกันไป 1 : 1
    เล่นต่อครึ่งหลัง เป็นลิเวอร์พูลขึ้นไปก่อน 1 : 0 จากลูกยิงของ อิซัค ในนาทีที่ 56 ยิงเป็นลูกที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก แต่ก็ต้องออกจากสนามเพราะบาดเจ็บ และเป็นลูกแรกจากแอสซิสต์ของเวีร์ต ต่อมาในนาทีที่ 66 เป็นเกติอิเก้ มาโหม่งจากลูกโยนของฟริมปง เข้าไป ลิเวอร์พูลขึ้นนำเป็น 2 : 0 สเปอร์ส ฮึดสู้ ยิงได้จากลูกชุลมุนหน้าประตู ลูกหลุดมาถึง ริชาร์ลิซอน ยิงเข้าไปในนาทีที่ 83 จบเกมลิเวอร์พูลชนะสเปอร์สไป 2 : 1 เกมส์นี้สเปอร์ส โดนใบแดง 2 คนคือ ซาฟี ซิมอนส์ นาทีที่ 33 และคริสเตียน โรเมโร่ ในนาทีที่ 90+3
    ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2025-2026 นัดที่ 17 สเปอร์ส VS ลิเวอร์พูล คืนวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2568 เวลา 00.30 น. สนาม : ท็อทแน่ม ฮอทสเปอร์ส สเตเดียม ครึ่งเวลาแรก ทั้ง 2 ฝ่ายเล่นแบบรัดกุม ทำอะไรไม่ได้เสมอกันไป 1 : 1 เล่นต่อครึ่งหลัง เป็นลิเวอร์พูลขึ้นไปก่อน 1 : 0 จากลูกยิงของ อิซัค ในนาทีที่ 56 ยิงเป็นลูกที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก แต่ก็ต้องออกจากสนามเพราะบาดเจ็บ และเป็นลูกแรกจากแอสซิสต์ของเวีร์ต ต่อมาในนาทีที่ 66 เป็นเกติอิเก้ มาโหม่งจากลูกโยนของฟริมปง เข้าไป ลิเวอร์พูลขึ้นนำเป็น 2 : 0 สเปอร์ส ฮึดสู้ ยิงได้จากลูกชุลมุนหน้าประตู ลูกหลุดมาถึง ริชาร์ลิซอน ยิงเข้าไปในนาทีที่ 83 จบเกมลิเวอร์พูลชนะสเปอร์สไป 2 : 1 เกมส์นี้สเปอร์ส โดนใบแดง 2 คนคือ ซาฟี ซิมอนส์ นาทีที่ 33 และคริสเตียน โรเมโร่ ในนาทีที่ 90+3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลอร่า บรานิแกน (Laura Branigan) ถือเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงที่โดดเด่นที่สุดในยุค 1980s ด้วยเสียงร้องที่ทรงพลังและมีเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้เธอได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เธอเกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1952 ในเมืองเมานต์คิสโก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวชาวไอริช-อเมริกัน โดยเป็นลูกคนที่สี่ในห้าคน พ่อของเธอชื่อเจมส์ บรานิแกน ซีเนียร์ เป็นนายหน้าซื้อขายหุ้นและกองทุนรวม ส่วนแม่ชื่อแคธลีน (นามสกุลเดิม โอแฮร์) เธอเติบโตในเมืองอาร์มองก์และได้รับการศึกษาจากโรงเรียนคาทอลิกในชัปปาควา ก่อนจบมัธยมจากไบแรมฮิลส์ไฮสคูลในปี 1970 จากนั้นเธอเข้าศึกษาที่ American Academy of Dramatic Arts ในนิวยอร์คระหว่างปี 1970-1972 ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการแสดงและร้องเพลงของเธอ ในช่วงต้นอาชีพ เธอเคยทำงานหลากหลาย เช่น เป็นนักร้องแบ็กอัพให้กับเลนาร์ด โคเฮน ในทัวร์ยุโรปปี 1976 และเป็นสมาชิกวงโฟล์ก-ร็อกชื่อ Meadow ซึ่งออกอัลบั้ม The Friend Ship ในปี 1973 พร้อมซิงเกิล "When You Were Young" และ "Cane and Able" แต่หลังวงยุบ เธอเซ็นสัญญากับ Atlantic Records ในปี 1979 ผ่านการแนะนำจากผู้จัดการซิด เบิร์นสไตน์

    อาชีพหลักของบรานิแกนเริ่มพุ่งขึ้นในปี 1982 ด้วยอัลบั้มแรก Branigan ที่มีเพลงฮิต "Gloria" (คัฟเวอร์จากเพลงอิตาลีของอุมแบร์โต โตซซี) ซึ่งขึ้นอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 นาน 3 สัปดาห์ อยู่ในชาร์ตนาน 36 สัปดาห์ (สถิติสำหรับศิลปินหญิงในขณะนั้น) และได้รับการรับรองแพลตตินัม นอกจากนี้ยังขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรเลียและแคนาดา รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่สาขา Best Female Pop Vocal Performance ในปี 1983 เธอมีส่วนร่วมในซาวด์แทร็กภาพยนตร์ Flashdance ในปี 1983 ซึ่งได้รับรางวัลแกรมมี่และออสการ์สำหรับอัลบั้มโดยรวม และปรากฏตัวในรายการทีวีชื่อดังอย่าง Saturday Night Live, CHiPs, Automan และ Knight Rider อัลบั้มที่สอง Branigan 2 ในปี 1983 มีเพลงฮิต "Solitaire" (ท็อป 10 ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเพลงฮิตแรกของไดแอน วอร์เรน) และ "How Am I Supposed to Live Without You" (อันดับ 12 บน Hot 100 และอันดับ 1 บน Adult Contemporary นาน 3 สัปดาห์ เขียนร่วมโดยไมเคิล โบลตัน) ในปี 1984 อัลบั้ม Self Control กลายเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเธอ ได้รับการรับรองแพลตตินัม และมีเพลงฮิตอย่าง "Self Control", "Ti Amo" (อันดับ 2 ในออสเตรเลีย คัฟเวอร์จากโตซซีอีกเพลง), "The Lucky One" (ชนะรางวัล Grand Prix ที่ Tokyo Music Festival) และ "Satisfaction" เธอยังมีส่วนในซาวด์แทร็ก Ghostbusters ด้วยเพลง "Hot Night" และปรากฏในซีรีส์ Miami Vice อัลบั้มต่อๆ มา เช่น Hold Me (1985) มี "Spanish Eddie" และ "I Found Someone", Touch (1987) มี "Shattered Glass" และ "The Power of Love" (กลับสู่ท็อป 40 ในสหรัฐฯ), อัลบั้มชื่อตัวเองในปี 1990 มี "Moonlight on Water" และ "Never in a Million Years" และอัลบั้มสุดท้าย Over My Heart ในปี 1993 นอกจากร้องเพลง เธอยังแสดงในภาพยนตร์อย่าง Mugsy's Girls (1985) และ Backstage (1988) รวมถึงละครเวที Love, Janis ในฐานะจานิส จอปลิน ในปี 2002 ในช่วงปี 1990s เธอหยุดพักหลังสามีเสียชีวิต แต่กลับมาร้องเพลงดูเอ็ตกับเดวิด แฮสเซลฮอฟฟ์ สำหรับ Baywatch และพยายามคัมแบ็กในช่วงต้น 2000s แต่ประสบอุบัติเหตุตกบันไดหักขาทั้งสองข้างในปี 2001 ทำให้ต้องพักฟื้น 6 เดือน บรานิแกนเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2004 ที่บ้านในอีสต์ควอก นิวยอร์ก จากอาการโป่งพองของหลอดเลือดสมองที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย หลังจากปวดหัวต่อเนื่องหลายสัปดาห์โดยไม่ได้ไปพบแพทย์ เถ้าถ่านของเธอถูกโปรยลงในลองไอส์แลนด์ซาวด์ เพลงของเธอได้รับความนิยมใหม่ในปี 2019 เมื่อ "Gloria" กลายเป็นเพลงชัยชนะอย่างไม่เป็นทางการของทีมฮอกกี้ St. Louis Blues ในฤดูกาล 2018-19 นำไปสู่การชนะสแตนลีย์คัพครั้งแรก และทำให้เพลงพุ่งขึ้นชาร์ตและสตรีมมิง

    เพลง "Self Control" มีจุดเริ่มต้นจากผลงานของนักร้องอิตาลีราฟ (ราฟฟาเอเล รีเอโฟลี) ซึ่งเขียนร่วมกับกีอันคาร์โล บิกัซซีและสตีฟ พิคโคโล จัดเรียงโดยเซลโซ วาลลี และโปรดิวซ์โดยบิกัซซี ออกในเดือนกุมภาพันธ์ 1984 เป็นซิงเกิลจากอัลบั้ม Raf ภายใต้ค่าย Carrere Records เวอร์ชัน 7 นิ้วยาว 4:21 นาที และ 12 นิ้วยาว 6:08 นาที โดยมีเพลง B-side เป็น "Self Control (Part Two)" และ "Running Away" ตามลำดับ เวอร์ชันของราฟมีส่วนแร็พซึ่งหายากสำหรับศิลปินผิวขาวในขณะนั้น และประสบความสำเร็จในยุโรป โดยขึ้นอันดับ 1 ในอิตาลี (7 สัปดาห์ไม่ต่อเนื่อง) และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในเยอรมนีตะวันตก อันดับ 7 ในออสเตรีย และอันดับ 40 ในฝรั่งเศส ได้รับการรับรองโกลด์ในอิตาลี (50,000 ยูนิต) และติดอันดับปี 1984 ที่ 10 ในสวิตเซอร์แลนด์ และ 15 ในเยอรมนีตะวันตก ในปีเดียวกัน ลอร่า บรานิแกนนำมาคัฟเวอร์และออกเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1984 เป็นเพลงนำจากอัลบั้ม Self Control ภายใต้ Atlantic Records โปรดิวซ์โดยแจ็ค ไวต์และร็อบบี้ บูคานัน จัดเรียงโดยฮาโรลด์ ฟัลเตอร์เมเยอร์และบูคานัน บันทึกเสียงในเยอรมนีตะวันตกและลอสแองเจลิส การปรับเปลี่ยนจากเวอร์ชันราฟรวมถึงการแทนที่คีย์บอร์ดฮุกด้วยกีตาร์ริฟฟ์และเพิ่มเพอร์คัสชันที่คมชัด มิวสิกวิดีโอกำกับโดยวิลเลียม ฟรีดกิน ถ่ายทำในนิวเจอร์ซีย์และนิวยอร์คซิตี้ แต่ถูก MTV ถือว่ารุนแรงเกินไป ทำให้ต้องตัดต่อและออกอากาศเฉพาะช่วงดึก ส่งผลให้บรานิแกนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง American Music Awards ปี 1985 สาขา Favorite Pop/Rock Female Video Artist (แต่แพ้ให้ไซนดี ลอเปอร์) เธอแสดงเพลงนี้ในรายการทีวีหลายแห่ง เช่น The Tonight Show Starring Johnny Carson (27 เมษายน 1984), The Merv Griffin Show, Solid Gold (12 พฤษภาคม 1984), American Bandstand (9 มิถุนายน 1984) และ Rock Rolls On

    ในแง่ความหมาย เพลง "Self Control" บรรยายถึงการสูญเสียการควบคุมตนเองในชีวิตกลางคืน ท่ามกลางแสงสีและสิ่งยั่วยวน โดยผู้บรรยายรู้สึกว่ากลางวันไร้ความหมายแต่กลางคืนคือโลกที่แท้จริง ท่อนเพลงหลักอย่าง "You take my self, you take my self control" แสดงถึงการยอมจำนนต่ออิทธิพลภายนอก ซึ่งอาจเป็นกลางคืน คนรัก หรือสิ่งเสพติด บรานิแกนอธิบายว่ามันเกี่ยวกับการสูญเสียการควบคุมให้กับกลางคืนหรือใครบางคน โดยในมิวสิกวิดีโอมีผู้ชายสวมหน้ากากแทนกลางคืนที่พาเธอเข้าสู่โลกนั้น การวิเคราะห์บางชิ้นชี้ว่ามันสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่เกินขอบเขตในยุค 1980s ซึ่งเต็มไปด้วยการบริโภคและการปลดปล่อยตัวเอง แต่ก็มีความตึงเครียดระหว่างความดึงดูดและอันตราย การตีความอื่นๆ รวมถึงมุมมองว่ามันเกี่ยวกับหญิงสาวที่ชีวิตกลางวันปกติแต่กลางคืนกลายเป็น "creatures of the night" ที่ไม่อาจต่อต้านอนาคตใหม่ได้ ทำให้ต้องเชื่อว่าพรุ่งนี้ไม่มีจริง เพลงนี้ยังถูกนำไปตีความในแง่การต่อสู้ภายในจิตใจหรือแม้กระทั่งการเสพติด nightlife ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยง

    สำหรับความสำเร็จระดับโลก เวอร์ชันของบรานิแกนขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรีย แคนาดา เดนมาร์ก ฟินแลนด์ โปรตุเกส แอฟริกาใต้ สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในนอร์เวย์และไอร์แลนด์ อันดับ 3 ในออสเตรเลีย อันดับ 4 บน US Billboard Hot 100 (เข้าชาร์ตที่ 63 เมื่อ 8 เมษายน 1984 ขึ้นสูงสุด 4 นาน 2 สัปดาห์เมื่อ 24 มิถุนายน 1984 และอยู่ในชาร์ต 19 สัปดาห์ โดย 6 สัปดาห์ในท็อป 10) และอันดับ 5 บน UK Singles Chart สำหรับปี 1984 มันเป็นเพลงอันดับ 1 ในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการรับรองโกลด์ในเดนมาร์ก (45,000 ยูนิต) ฝรั่งเศส (500,000 ยูนิต) เยอรมนี (500,000 ยูนิต) สเปน (30,000 ยูนิต) และซิลเวอร์ในสหราชอาณาจักร (250,000 ยูนิต) ทั้งสองเวอร์ชัน (ราฟและบรานิแกน) ครองชาร์ตยุโรปในฤดูร้อน 1984 โดยสลับอันดับ 1 ในสวิตเซอร์แลนด์หลายครั้ง และจุดประกายกระแส Italo disco ในยุโรปแผ่นดินใหญ่ เพลงนี้กลายเป็นเพลงกำหนดยุค 1980s และถูกนำไปรีเมกหลายครั้ง เช่น โดยริกกี้ มาร์ติน ในปี 1993 (เป็นภาษาสเปนชื่อ "Que Día Es Hoy" ขึ้นอันดับ 26 บน US Hot Latin Songs), Royal Gigolos ในปี 2005 (ท็อป 20 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), Infernal ในปี 2006 (ท็อป 10 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), รีเมกแดนซ์โดยบรานิแกนเองในปี 2004 (อันดับ 10 บน US Dance Singles Sales), Kendra Erika ในปี 2018 (อันดับ 1 บน US Dance Club Songs), Eelke Kleijn และ Lee Cabrera ในปี 2023 และ Fast Boy ในปี 2024 (เปลี่ยนชื่อเป็น "Wave") นอกจากนี้ยังปรากฏในวัฒนธรรมป็อป เช่น ในตอน "The Great McCarthy" ของ Miami Vice ปี 1984 และเกม Grand Theft Auto: Vice City

    เพลง "Self Control" ไม่เพียงเป็นจุดสูงสุดในอาชีพของลอร่า บรานิแกน แต่ยังเป็นตัวแทนของยุคสมัยที่ผสมผสานดนตรีอิตาลีกับป็อปอเมริกัน ทำให้มันยังคงได้รับการยกย่องและนำไปใช้ในสื่อสมัยใหม่จนถึงปัจจุบัน

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://www.youtube.com/watch?v=RP0_8J7uxhs
    ลอร่า บรานิแกน (Laura Branigan) ถือเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงที่โดดเด่นที่สุดในยุค 1980s ด้วยเสียงร้องที่ทรงพลังและมีเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้เธอได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เธอเกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1952 ในเมืองเมานต์คิสโก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวชาวไอริช-อเมริกัน โดยเป็นลูกคนที่สี่ในห้าคน พ่อของเธอชื่อเจมส์ บรานิแกน ซีเนียร์ เป็นนายหน้าซื้อขายหุ้นและกองทุนรวม ส่วนแม่ชื่อแคธลีน (นามสกุลเดิม โอแฮร์) เธอเติบโตในเมืองอาร์มองก์และได้รับการศึกษาจากโรงเรียนคาทอลิกในชัปปาควา ก่อนจบมัธยมจากไบแรมฮิลส์ไฮสคูลในปี 1970 จากนั้นเธอเข้าศึกษาที่ American Academy of Dramatic Arts ในนิวยอร์คระหว่างปี 1970-1972 ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการแสดงและร้องเพลงของเธอ ในช่วงต้นอาชีพ เธอเคยทำงานหลากหลาย เช่น เป็นนักร้องแบ็กอัพให้กับเลนาร์ด โคเฮน ในทัวร์ยุโรปปี 1976 และเป็นสมาชิกวงโฟล์ก-ร็อกชื่อ Meadow ซึ่งออกอัลบั้ม The Friend Ship ในปี 1973 พร้อมซิงเกิล "When You Were Young" และ "Cane and Able" แต่หลังวงยุบ เธอเซ็นสัญญากับ Atlantic Records ในปี 1979 ผ่านการแนะนำจากผู้จัดการซิด เบิร์นสไตน์ 🌠 🎤 อาชีพหลักของบรานิแกนเริ่มพุ่งขึ้นในปี 1982 ด้วยอัลบั้มแรก Branigan ที่มีเพลงฮิต "Gloria" (คัฟเวอร์จากเพลงอิตาลีของอุมแบร์โต โตซซี) ซึ่งขึ้นอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 นาน 3 สัปดาห์ อยู่ในชาร์ตนาน 36 สัปดาห์ (สถิติสำหรับศิลปินหญิงในขณะนั้น) และได้รับการรับรองแพลตตินัม นอกจากนี้ยังขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรเลียและแคนาดา รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่สาขา Best Female Pop Vocal Performance ในปี 1983 เธอมีส่วนร่วมในซาวด์แทร็กภาพยนตร์ Flashdance ในปี 1983 ซึ่งได้รับรางวัลแกรมมี่และออสการ์สำหรับอัลบั้มโดยรวม และปรากฏตัวในรายการทีวีชื่อดังอย่าง Saturday Night Live, CHiPs, Automan และ Knight Rider อัลบั้มที่สอง Branigan 2 ในปี 1983 มีเพลงฮิต "Solitaire" (ท็อป 10 ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเพลงฮิตแรกของไดแอน วอร์เรน) และ "How Am I Supposed to Live Without You" (อันดับ 12 บน Hot 100 และอันดับ 1 บน Adult Contemporary นาน 3 สัปดาห์ เขียนร่วมโดยไมเคิล โบลตัน) ในปี 1984 อัลบั้ม Self Control กลายเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเธอ ได้รับการรับรองแพลตตินัม และมีเพลงฮิตอย่าง "Self Control", "Ti Amo" (อันดับ 2 ในออสเตรเลีย คัฟเวอร์จากโตซซีอีกเพลง), "The Lucky One" (ชนะรางวัล Grand Prix ที่ Tokyo Music Festival) และ "Satisfaction" เธอยังมีส่วนในซาวด์แทร็ก Ghostbusters ด้วยเพลง "Hot Night" และปรากฏในซีรีส์ Miami Vice อัลบั้มต่อๆ มา เช่น Hold Me (1985) มี "Spanish Eddie" และ "I Found Someone", Touch (1987) มี "Shattered Glass" และ "The Power of Love" (กลับสู่ท็อป 40 ในสหรัฐฯ), อัลบั้มชื่อตัวเองในปี 1990 มี "Moonlight on Water" และ "Never in a Million Years" และอัลบั้มสุดท้าย Over My Heart ในปี 1993 นอกจากร้องเพลง เธอยังแสดงในภาพยนตร์อย่าง Mugsy's Girls (1985) และ Backstage (1988) รวมถึงละครเวที Love, Janis ในฐานะจานิส จอปลิน ในปี 2002 ในช่วงปี 1990s เธอหยุดพักหลังสามีเสียชีวิต แต่กลับมาร้องเพลงดูเอ็ตกับเดวิด แฮสเซลฮอฟฟ์ สำหรับ Baywatch และพยายามคัมแบ็กในช่วงต้น 2000s แต่ประสบอุบัติเหตุตกบันไดหักขาทั้งสองข้างในปี 2001 ทำให้ต้องพักฟื้น 6 เดือน บรานิแกนเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2004 ที่บ้านในอีสต์ควอก นิวยอร์ก จากอาการโป่งพองของหลอดเลือดสมองที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย หลังจากปวดหัวต่อเนื่องหลายสัปดาห์โดยไม่ได้ไปพบแพทย์ เถ้าถ่านของเธอถูกโปรยลงในลองไอส์แลนด์ซาวด์ เพลงของเธอได้รับความนิยมใหม่ในปี 2019 เมื่อ "Gloria" กลายเป็นเพลงชัยชนะอย่างไม่เป็นทางการของทีมฮอกกี้ St. Louis Blues ในฤดูกาล 2018-19 นำไปสู่การชนะสแตนลีย์คัพครั้งแรก และทำให้เพลงพุ่งขึ้นชาร์ตและสตรีมมิง 💿 เพลง "Self Control" มีจุดเริ่มต้นจากผลงานของนักร้องอิตาลีราฟ (ราฟฟาเอเล รีเอโฟลี) ซึ่งเขียนร่วมกับกีอันคาร์โล บิกัซซีและสตีฟ พิคโคโล จัดเรียงโดยเซลโซ วาลลี และโปรดิวซ์โดยบิกัซซี ออกในเดือนกุมภาพันธ์ 1984 เป็นซิงเกิลจากอัลบั้ม Raf ภายใต้ค่าย Carrere Records เวอร์ชัน 7 นิ้วยาว 4:21 นาที และ 12 นิ้วยาว 6:08 นาที โดยมีเพลง B-side เป็น "Self Control (Part Two)" และ "Running Away" ตามลำดับ เวอร์ชันของราฟมีส่วนแร็พซึ่งหายากสำหรับศิลปินผิวขาวในขณะนั้น และประสบความสำเร็จในยุโรป โดยขึ้นอันดับ 1 ในอิตาลี (7 สัปดาห์ไม่ต่อเนื่อง) และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในเยอรมนีตะวันตก อันดับ 7 ในออสเตรีย และอันดับ 40 ในฝรั่งเศส ได้รับการรับรองโกลด์ในอิตาลี (50,000 ยูนิต) และติดอันดับปี 1984 ที่ 10 ในสวิตเซอร์แลนด์ และ 15 ในเยอรมนีตะวันตก ในปีเดียวกัน ลอร่า บรานิแกนนำมาคัฟเวอร์และออกเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1984 เป็นเพลงนำจากอัลบั้ม Self Control ภายใต้ Atlantic Records โปรดิวซ์โดยแจ็ค ไวต์และร็อบบี้ บูคานัน จัดเรียงโดยฮาโรลด์ ฟัลเตอร์เมเยอร์และบูคานัน บันทึกเสียงในเยอรมนีตะวันตกและลอสแองเจลิส การปรับเปลี่ยนจากเวอร์ชันราฟรวมถึงการแทนที่คีย์บอร์ดฮุกด้วยกีตาร์ริฟฟ์และเพิ่มเพอร์คัสชันที่คมชัด มิวสิกวิดีโอกำกับโดยวิลเลียม ฟรีดกิน ถ่ายทำในนิวเจอร์ซีย์และนิวยอร์คซิตี้ แต่ถูก MTV ถือว่ารุนแรงเกินไป ทำให้ต้องตัดต่อและออกอากาศเฉพาะช่วงดึก ส่งผลให้บรานิแกนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง American Music Awards ปี 1985 สาขา Favorite Pop/Rock Female Video Artist (แต่แพ้ให้ไซนดี ลอเปอร์) เธอแสดงเพลงนี้ในรายการทีวีหลายแห่ง เช่น The Tonight Show Starring Johnny Carson (27 เมษายน 1984), The Merv Griffin Show, Solid Gold (12 พฤษภาคม 1984), American Bandstand (9 มิถุนายน 1984) และ Rock Rolls On 📝 ในแง่ความหมาย เพลง "Self Control" บรรยายถึงการสูญเสียการควบคุมตนเองในชีวิตกลางคืน ท่ามกลางแสงสีและสิ่งยั่วยวน โดยผู้บรรยายรู้สึกว่ากลางวันไร้ความหมายแต่กลางคืนคือโลกที่แท้จริง ท่อนเพลงหลักอย่าง "You take my self, you take my self control" แสดงถึงการยอมจำนนต่ออิทธิพลภายนอก ซึ่งอาจเป็นกลางคืน คนรัก หรือสิ่งเสพติด บรานิแกนอธิบายว่ามันเกี่ยวกับการสูญเสียการควบคุมให้กับกลางคืนหรือใครบางคน โดยในมิวสิกวิดีโอมีผู้ชายสวมหน้ากากแทนกลางคืนที่พาเธอเข้าสู่โลกนั้น การวิเคราะห์บางชิ้นชี้ว่ามันสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่เกินขอบเขตในยุค 1980s ซึ่งเต็มไปด้วยการบริโภคและการปลดปล่อยตัวเอง แต่ก็มีความตึงเครียดระหว่างความดึงดูดและอันตราย การตีความอื่นๆ รวมถึงมุมมองว่ามันเกี่ยวกับหญิงสาวที่ชีวิตกลางวันปกติแต่กลางคืนกลายเป็น "creatures of the night" ที่ไม่อาจต่อต้านอนาคตใหม่ได้ ทำให้ต้องเชื่อว่าพรุ่งนี้ไม่มีจริง เพลงนี้ยังถูกนำไปตีความในแง่การต่อสู้ภายในจิตใจหรือแม้กระทั่งการเสพติด nightlife ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยง 🏅 สำหรับความสำเร็จระดับโลก เวอร์ชันของบรานิแกนขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรีย แคนาดา เดนมาร์ก ฟินแลนด์ โปรตุเกส แอฟริกาใต้ สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในนอร์เวย์และไอร์แลนด์ อันดับ 3 ในออสเตรเลีย อันดับ 4 บน US Billboard Hot 100 (เข้าชาร์ตที่ 63 เมื่อ 8 เมษายน 1984 ขึ้นสูงสุด 4 นาน 2 สัปดาห์เมื่อ 24 มิถุนายน 1984 และอยู่ในชาร์ต 19 สัปดาห์ โดย 6 สัปดาห์ในท็อป 10) และอันดับ 5 บน UK Singles Chart สำหรับปี 1984 มันเป็นเพลงอันดับ 1 ในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการรับรองโกลด์ในเดนมาร์ก (45,000 ยูนิต) ฝรั่งเศส (500,000 ยูนิต) เยอรมนี (500,000 ยูนิต) สเปน (30,000 ยูนิต) และซิลเวอร์ในสหราชอาณาจักร (250,000 ยูนิต) ทั้งสองเวอร์ชัน (ราฟและบรานิแกน) ครองชาร์ตยุโรปในฤดูร้อน 1984 โดยสลับอันดับ 1 ในสวิตเซอร์แลนด์หลายครั้ง และจุดประกายกระแส Italo disco ในยุโรปแผ่นดินใหญ่ เพลงนี้กลายเป็นเพลงกำหนดยุค 1980s และถูกนำไปรีเมกหลายครั้ง เช่น โดยริกกี้ มาร์ติน ในปี 1993 (เป็นภาษาสเปนชื่อ "Que Día Es Hoy" ขึ้นอันดับ 26 บน US Hot Latin Songs), Royal Gigolos ในปี 2005 (ท็อป 20 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), Infernal ในปี 2006 (ท็อป 10 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), รีเมกแดนซ์โดยบรานิแกนเองในปี 2004 (อันดับ 10 บน US Dance Singles Sales), Kendra Erika ในปี 2018 (อันดับ 1 บน US Dance Club Songs), Eelke Kleijn และ Lee Cabrera ในปี 2023 และ Fast Boy ในปี 2024 (เปลี่ยนชื่อเป็น "Wave") นอกจากนี้ยังปรากฏในวัฒนธรรมป็อป เช่น ในตอน "The Great McCarthy" ของ Miami Vice ปี 1984 และเกม Grand Theft Auto: Vice City 💃 เพลง "Self Control" ไม่เพียงเป็นจุดสูงสุดในอาชีพของลอร่า บรานิแกน แต่ยังเป็นตัวแทนของยุคสมัยที่ผสมผสานดนตรีอิตาลีกับป็อปอเมริกัน ทำให้มันยังคงได้รับการยกย่องและนำไปใช้ในสื่อสมัยใหม่จนถึงปัจจุบัน 🌟💫 #ลุงเล่าหลานฟัง https://www.youtube.com/watch?v=RP0_8J7uxhs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung พลิกเกมตลาด HBM แซง Micron หลังโชว์ศักยภาพ HBM3E และ HBM4

    หลังจากช่วงต้นปี 2025 ที่ Samsung ดูเหมือนจะตามหลังคู่แข่งในตลาด HBM แต่การปรับโครงสร้างภายในและการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีอย่างจริงจังทำให้บริษัทสามารถกลับมาทวงพื้นที่ได้สำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อ AMD และ NVIDIA เริ่มหันมาใช้กระบวนการผลิต HBM3E และ HBM4 ของ Samsung ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรม AI เริ่มให้ความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีของบริษัทมากขึ้น

    ในไตรมาส 3 ปี 2025 Samsung สามารถทำยอดขาย HBM จนมีส่วนแบ่งตลาด 22% แซงหน้า Micron แม้ยังตามหลัง SK hynix อยู่ แต่ก็ถือเป็นการฟื้นตัวครั้งใหญ่จากปีที่แล้วที่ส่วนแบ่งเคยอยู่ที่ 40% ก่อนจะร่วงลงอย่างหนัก การกลับมาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาด DRAM และ HBM ทั่วโลกกำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ทันกลายเป็นผู้ได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ทันที

    ความได้เปรียบสำคัญของ Samsung คือความเร็ว pin speed ของ HBM4 ที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงแผนการตั้งราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งช่วยดึงดูดลูกค้ารายใหญ่ที่ต้องการหน่วยความจำสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น NVIDIA Rubin และ AMD Instinct MI400 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 การที่ Samsung สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านเทคโนโลยีและราคา ทำให้บริษัทกลับมาเป็นผู้เล่นที่น่ากลัวในตลาดนี้อีกครั้ง

    เมื่อเข้าสู่ปี 2026 ผลลัพธ์ของการลงทุนด้าน HBM จะยิ่งชัดเจนขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ HBM4 จะเริ่มเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Samsung กลับมาท้าทาย SK hynix อย่างจริงจังในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจากความต้องการด้าน AI, LLM, และระบบประมวลผลความเร็วสูงทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญแบบ
    Samsung ฟื้นตัวในตลาด HBM
    ส่วนแบ่งตลาด Q3 2025 ขึ้นมาที่ 22% แซง Micron
    การปรับนโยบายภายในและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีช่วยให้กลับมามีบทบาทอีกครั้ง

    การดึงลูกค้ารายใหญ่กลับมา
    AMD และ NVIDIA เริ่มใช้ HBM3E และ HBM4 ของ Samsung
    ความเร็ว pin speed ของ HBM4 สูงที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

    บริบทตลาด HBM และ DRAM
    ตลาดกำลังขาดแคลนอย่างหนัก ทำให้ผู้ผลิตที่เพิ่มกำลังผลิตได้มีความได้เปรียบ
    ความต้องการจาก AI และ Data Center พุ่งสูงต่อเนื่องทั่วโลก

    ผลกระทบเชิงกลยุทธ์
    Samsung มีโอกาสกลับมาท้าทาย SK hynix ในปี 2026
    การตั้งราคาที่แข่งขันได้ช่วยดึงลูกค้าระดับองค์กรกลับมา

    ประเด็นเสี่ยงและคำเตือนที่ควรจับตา
    ความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน
    ความต้องการ HBM สูงกว่ากำลังผลิตรวมของ Samsung, SK hynix และ Micron อาจทำให้เกิดคอขวดต่อเนื่อง

    ความท้าทายด้านการแข่งขัน
    SK hynix ยังคงเป็นผู้นำตลาด และอาจเร่งเปิดตัว HBM4E เพื่อตอบโต้
    หาก Samsungไม่สามารถรักษาคุณภาพและ yield rate ของ HBM4 ได้ อาจเสียโมเมนตัมอีกครั้ง

    https://wccftech.com/the-tables-are-turning-for-samsung-in-the-hbm-market/
    🚀 Samsung พลิกเกมตลาด HBM แซง Micron หลังโชว์ศักยภาพ HBM3E และ HBM4 หลังจากช่วงต้นปี 2025 ที่ Samsung ดูเหมือนจะตามหลังคู่แข่งในตลาด HBM แต่การปรับโครงสร้างภายในและการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีอย่างจริงจังทำให้บริษัทสามารถกลับมาทวงพื้นที่ได้สำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อ AMD และ NVIDIA เริ่มหันมาใช้กระบวนการผลิต HBM3E และ HBM4 ของ Samsung ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรม AI เริ่มให้ความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีของบริษัทมากขึ้น ในไตรมาส 3 ปี 2025 Samsung สามารถทำยอดขาย HBM จนมีส่วนแบ่งตลาด 22% แซงหน้า Micron แม้ยังตามหลัง SK hynix อยู่ แต่ก็ถือเป็นการฟื้นตัวครั้งใหญ่จากปีที่แล้วที่ส่วนแบ่งเคยอยู่ที่ 40% ก่อนจะร่วงลงอย่างหนัก การกลับมาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาด DRAM และ HBM ทั่วโลกกำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ทันกลายเป็นผู้ได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ทันที ความได้เปรียบสำคัญของ Samsung คือความเร็ว pin speed ของ HBM4 ที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงแผนการตั้งราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งช่วยดึงดูดลูกค้ารายใหญ่ที่ต้องการหน่วยความจำสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น NVIDIA Rubin และ AMD Instinct MI400 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 การที่ Samsung สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านเทคโนโลยีและราคา ทำให้บริษัทกลับมาเป็นผู้เล่นที่น่ากลัวในตลาดนี้อีกครั้ง เมื่อเข้าสู่ปี 2026 ผลลัพธ์ของการลงทุนด้าน HBM จะยิ่งชัดเจนขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ HBM4 จะเริ่มเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Samsung กลับมาท้าทาย SK hynix อย่างจริงจังในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจากความต้องการด้าน AI, LLM, และระบบประมวลผลความเร็วสูงทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญแบบ ✅ Samsung ฟื้นตัวในตลาด HBM ➡️ ส่วนแบ่งตลาด Q3 2025 ขึ้นมาที่ 22% แซง Micron ➡️ การปรับนโยบายภายในและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีช่วยให้กลับมามีบทบาทอีกครั้ง ✅ การดึงลูกค้ารายใหญ่กลับมา ➡️ AMD และ NVIDIA เริ่มใช้ HBM3E และ HBM4 ของ Samsung ➡️ ความเร็ว pin speed ของ HBM4 สูงที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ✅ บริบทตลาด HBM และ DRAM ➡️ ตลาดกำลังขาดแคลนอย่างหนัก ทำให้ผู้ผลิตที่เพิ่มกำลังผลิตได้มีความได้เปรียบ ➡️ ความต้องการจาก AI และ Data Center พุ่งสูงต่อเนื่องทั่วโลก ✅ ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ ➡️ Samsung มีโอกาสกลับมาท้าทาย SK hynix ในปี 2026 ➡️ การตั้งราคาที่แข่งขันได้ช่วยดึงลูกค้าระดับองค์กรกลับมา ⚠️ ประเด็นเสี่ยงและคำเตือนที่ควรจับตา ‼️ ความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน ⛔ ความต้องการ HBM สูงกว่ากำลังผลิตรวมของ Samsung, SK hynix และ Micron อาจทำให้เกิดคอขวดต่อเนื่อง ‼️ ความท้าทายด้านการแข่งขัน ⛔ SK hynix ยังคงเป็นผู้นำตลาด และอาจเร่งเปิดตัว HBM4E เพื่อตอบโต้ ⛔ หาก Samsungไม่สามารถรักษาคุณภาพและ yield rate ของ HBM4 ได้ อาจเสียโมเมนตัมอีกครั้ง https://wccftech.com/the-tables-are-turning-for-samsung-in-the-hbm-market/
    WCCFTECH.COM
    The Tables Are Turning for Samsung in the HBM Market, as It Has Now Overtaken Micron After Recent HBM3E & HBM4 Breakthroughs
    Samsung's HBM business has managed to make a massive comeback, as the firm now sees its quarterly market share surpassing that of Micron's.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA อาจยุติ RTX 5060 Ti 16GB เพราะต้นทุน VRAM พุ่งสูง

    รายงานล่าสุดระบุว่า NVIDIA อาจพิจารณายุติการผลิต RTX 5060 Ti รุ่น 16GB เนื่องจากต้นทุน VRAM โดยเฉพาะ GDDR6/GDDR6X เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตึงตัวของซัพพลายเชนหน่วยความจำทั่วโลก ซึ่งถูกกดดันจากความต้องการด้าน AI, เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์พกพาที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในปีที่ผ่านมา

    ในเชิงกลยุทธ์ การตัดสินใจเช่นนี้อาจเป็นสัญญาณว่า NVIDIA ต้องการ รักษา margin ของซีรีส์ระดับกลาง โดยเลือกผลักดันรุ่น VRAM ต่ำกว่าแทน เพื่อไม่ให้ราคาขายปลีกสูงเกินไปจนชนกับรุ่นระดับสูงกว่าในไลน์อัปของตัวเอง นอกจากนี้ยังสะท้อนความจริงที่ว่า ตลาดเกมมิ่งไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของอุตสาหกรรม GPU อีกต่อไป เมื่อเทียบกับตลาด AI และ Data Center ที่พร้อมจ่ายราคาสูงกว่าอย่างมาก

    ในมุมของผู้บริโภค การหายไปของรุ่น 16GB อาจทำให้ตลาดระดับกลางขาด “ตัวเลือกที่สมดุล” ระหว่างราคาและความจุ VRAM โดยเฉพาะในยุคที่เกม AAA และงานสร้างสรรค์ต้องการ VRAM มากขึ้นเรื่อย ๆ การลดตัวเลือกลงอาจทำให้ผู้ใช้ต้องขยับไปซื้อรุ่นที่แพงกว่าโดยปริยาย ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่หลายคนกังวล

    สุดท้าย ข่าวลือนี้ยังสะท้อนภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมว่า ต้นทุน VRAM กลายเป็นตัวแปรเชิงกลยุทธ์ที่กำหนดทิศทางผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่แค่สเปกหรือประสิทธิภาพอีกต่อไป และอาจเป็นสัญญาณว่าตลาด GPU ระดับกลางกำลังเข้าสู่ยุคที่ “ความจุ VRAM” จะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาโครงสร้างราคาในไลน์อัปทั้งหมดของผู้ผลิต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข่าวลือการยุติ RTX 5060 Ti 16GB
    สาเหตุหลักคือราคาหน่วยความจำ VRAM เพิ่มสูงขึ้น
    NVIDIA ต้องการรักษา margin ของผลิตภัณฑ์ระดับกลาง

    ผลกระทบต่อผู้บริโภค
    ตัวเลือก GPU ระดับกลางที่มี VRAM สูงอาจลดลง
    ผู้ใช้บางกลุ่มอาจต้องขยับไปซื้อรุ่นที่แพงกว่า

    บริบทตลาดหน่วยความจำโลก
    ความต้องการ VRAM จากตลาด AI และ Data Center เพิ่มขึ้น
    ซัพพลายเชนหน่วยความจำยังตึงตัวต่อเนื่อง

    ผลต่อกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA
    อาจเน้นรุ่น VRAM ต่ำกว่าเพื่อควบคุมราคา
    ป้องกันการชนกันของราคาในไลน์อัป

    ความเสี่ยงและคำเตือนที่ควรจับตา
    ตลาด GPU ระดับกลางอาจมีราคาแพงขึ้นในปีถัดไป
    เกม AAA รุ่นใหม่อาจต้องการ VRAM มากขึ้น ทำให้รุ่น 8GB เริ่มไม่เพียงพอ
    ผู้บริโภคอาจถูกบังคับให้ซื้อรุ่นสูงขึ้นโดยไม่ตั้งใจ

    https://wccftech.com/rtx-5060-ti-16-gb-rumored-to-be-at-risk-of-discontinuation-due-to-increasing-vram-prices/
    ⚠️ NVIDIA อาจยุติ RTX 5060 Ti 16GB เพราะต้นทุน VRAM พุ่งสูง รายงานล่าสุดระบุว่า NVIDIA อาจพิจารณายุติการผลิต RTX 5060 Ti รุ่น 16GB เนื่องจากต้นทุน VRAM โดยเฉพาะ GDDR6/GDDR6X เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตึงตัวของซัพพลายเชนหน่วยความจำทั่วโลก ซึ่งถูกกดดันจากความต้องการด้าน AI, เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์พกพาที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในปีที่ผ่านมา ในเชิงกลยุทธ์ การตัดสินใจเช่นนี้อาจเป็นสัญญาณว่า NVIDIA ต้องการ รักษา margin ของซีรีส์ระดับกลาง โดยเลือกผลักดันรุ่น VRAM ต่ำกว่าแทน เพื่อไม่ให้ราคาขายปลีกสูงเกินไปจนชนกับรุ่นระดับสูงกว่าในไลน์อัปของตัวเอง นอกจากนี้ยังสะท้อนความจริงที่ว่า ตลาดเกมมิ่งไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของอุตสาหกรรม GPU อีกต่อไป เมื่อเทียบกับตลาด AI และ Data Center ที่พร้อมจ่ายราคาสูงกว่าอย่างมาก ในมุมของผู้บริโภค การหายไปของรุ่น 16GB อาจทำให้ตลาดระดับกลางขาด “ตัวเลือกที่สมดุล” ระหว่างราคาและความจุ VRAM โดยเฉพาะในยุคที่เกม AAA และงานสร้างสรรค์ต้องการ VRAM มากขึ้นเรื่อย ๆ การลดตัวเลือกลงอาจทำให้ผู้ใช้ต้องขยับไปซื้อรุ่นที่แพงกว่าโดยปริยาย ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่หลายคนกังวล สุดท้าย ข่าวลือนี้ยังสะท้อนภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมว่า ต้นทุน VRAM กลายเป็นตัวแปรเชิงกลยุทธ์ที่กำหนดทิศทางผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่แค่สเปกหรือประสิทธิภาพอีกต่อไป และอาจเป็นสัญญาณว่าตลาด GPU ระดับกลางกำลังเข้าสู่ยุคที่ “ความจุ VRAM” จะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาโครงสร้างราคาในไลน์อัปทั้งหมดของผู้ผลิต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข่าวลือการยุติ RTX 5060 Ti 16GB ➡️ สาเหตุหลักคือราคาหน่วยความจำ VRAM เพิ่มสูงขึ้น ➡️ NVIDIA ต้องการรักษา margin ของผลิตภัณฑ์ระดับกลาง ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภค ➡️ ตัวเลือก GPU ระดับกลางที่มี VRAM สูงอาจลดลง ➡️ ผู้ใช้บางกลุ่มอาจต้องขยับไปซื้อรุ่นที่แพงกว่า ✅ บริบทตลาดหน่วยความจำโลก ➡️ ความต้องการ VRAM จากตลาด AI และ Data Center เพิ่มขึ้น ➡️ ซัพพลายเชนหน่วยความจำยังตึงตัวต่อเนื่อง ✅ ผลต่อกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA ➡️ อาจเน้นรุ่น VRAM ต่ำกว่าเพื่อควบคุมราคา ➡️ ป้องกันการชนกันของราคาในไลน์อัป ‼️ ความเสี่ยงและคำเตือนที่ควรจับตา ⛔ ตลาด GPU ระดับกลางอาจมีราคาแพงขึ้นในปีถัดไป ⛔ เกม AAA รุ่นใหม่อาจต้องการ VRAM มากขึ้น ทำให้รุ่น 8GB เริ่มไม่เพียงพอ ⛔ ผู้บริโภคอาจถูกบังคับให้ซื้อรุ่นสูงขึ้นโดยไม่ตั้งใจ https://wccftech.com/rtx-5060-ti-16-gb-rumored-to-be-at-risk-of-discontinuation-due-to-increasing-vram-prices/
    WCCFTECH.COM
    RTX 5060 Ti 16 GB Rumored To Be At Risk Of Discontinuation Due To Increasing VRAM Prices
    As per a report, NVIDIA could halt the production of the GeForce RTX 5060 Ti 16 GB GPU due to high VRAM prices.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • FSR 4 “Redstone” ถูกบังคับให้ทำงานบน RDNA 3 ได้แล้วบน Linux — ผ่านวิธีแก้เฉพาะทางที่ต้องใช้ Proton

    ชุมชน Linux gaming พบวิธี “ปลดล็อก” ให้ AMD FSR 4 (โค้ดเนม Redstone) ทำงานบนการ์ดจอ RDNA 3 แม้ AMD จะยังไม่รองรับอย่างเป็นทางการก็ตาม วิธีนี้อาศัยการแก้ไขไฟล์และการบังคับโหลดไลบรารีผ่าน Proton ทำให้เกมที่รองรับ FSR 4 สามารถเรียกใช้ฟีเจอร์ได้บน Linux โดยไม่ต้องรอไดรเวอร์เวอร์ชันใหม่จาก AMD.

    FSR 4 เป็นเวอร์ชันที่เน้นคุณภาพภาพดีขึ้นมาก โดยเฉพาะในงาน temporal reconstruction และการลด artifact ในภาพเคลื่อนไหว แต่ AMD ยังจำกัดการรองรับไว้เฉพาะ RDNA 4 ในตอนนี้ ทำให้ผู้ใช้ RDNA 3 ต้องใช้วิธี workaround เพื่อเปิดใช้งาน ซึ่งต้องอาศัย Proton compatibility layer และไฟล์ไลบรารีที่ถูกดึงมาจากระบบที่รองรับ.

    อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบ ผู้ใช้รายงานว่าคุณภาพภาพและประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับเกมและเวอร์ชันของ Proton ที่ใช้ บางเกมทำงานได้ดี ในขณะที่บางเกมมีปัญหา artifact หรือเฟรมเรตไม่นิ่ง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านความเข้ากันได้ เพราะ FSR 4 ยังไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานบน RDNA 3 โดยตรง.

    แม้จะเป็นวิธีแก้ชั่วคราว แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนพลังของชุมชน Linux gaming ที่มักหาวิธีปลดล็อกฟีเจอร์ใหม่ๆ ก่อนผู้ผลิตจะรองรับอย่างเป็นทางการ และยังเป็นสัญญาณว่า FSR 4 อาจถูกนำมาสู่ RDNA 3 ในอนาคต หาก AMD เห็นว่ามีความต้องการมากพอ.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    FSR 4 ถูกบังคับให้ทำงานบน RDNA 3 ผ่าน workaround บน Linux
    ใช้ Proton compatibility layer
    ต้องโหลดไลบรารีเฉพาะทาง

    FSR 4 ยังไม่รองรับ RDNA 3 อย่างเป็นทางการ
    AMD จำกัดไว้เฉพาะ RDNA 4
    คุณภาพภาพและประสิทธิภาพยังไม่เสถียร

    ชุมชน Linux gaming เป็นผู้ค้นพบวิธีปลดล็อก
    ทำงานได้ในบางเกม
    แสดงให้เห็นความยืดหยุ่นของ Proton

    เป็นสัญญาณว่า RDNA 3 อาจได้ FSR 4 ในอนาคต
    หาก AMD ตัดสินใจเปิดรองรับผ่านไดรเวอร์

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    วิธีนี้ไม่เสถียรและไม่รับประกันผลลัพธ์
    บางเกมมี artifact หรือเฟรมเรตตก

    มีความเสี่ยงด้านความเข้ากันได้ของไลบรารี
    อาจทำให้เกมบางเกมเปิดไม่ติด

    ไม่ใช่วิธีที่ AMD รับรอง
    อาจมีผลต่อการดีบักหรือการอัปเดตในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/you-can-force-fsr-4-redstone-to-work-on-rdna-3-gpus-with-new-workaround-for-linux-systems-solution-requires-proton-compatibility-to-work-properly-gpu-drivers
    🧩🐧 FSR 4 “Redstone” ถูกบังคับให้ทำงานบน RDNA 3 ได้แล้วบน Linux — ผ่านวิธีแก้เฉพาะทางที่ต้องใช้ Proton ชุมชน Linux gaming พบวิธี “ปลดล็อก” ให้ AMD FSR 4 (โค้ดเนม Redstone) ทำงานบนการ์ดจอ RDNA 3 แม้ AMD จะยังไม่รองรับอย่างเป็นทางการก็ตาม วิธีนี้อาศัยการแก้ไขไฟล์และการบังคับโหลดไลบรารีผ่าน Proton ทำให้เกมที่รองรับ FSR 4 สามารถเรียกใช้ฟีเจอร์ได้บน Linux โดยไม่ต้องรอไดรเวอร์เวอร์ชันใหม่จาก AMD. FSR 4 เป็นเวอร์ชันที่เน้นคุณภาพภาพดีขึ้นมาก โดยเฉพาะในงาน temporal reconstruction และการลด artifact ในภาพเคลื่อนไหว แต่ AMD ยังจำกัดการรองรับไว้เฉพาะ RDNA 4 ในตอนนี้ ทำให้ผู้ใช้ RDNA 3 ต้องใช้วิธี workaround เพื่อเปิดใช้งาน ซึ่งต้องอาศัย Proton compatibility layer และไฟล์ไลบรารีที่ถูกดึงมาจากระบบที่รองรับ. อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ยังไม่สมบูรณ์แบบ ผู้ใช้รายงานว่าคุณภาพภาพและประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับเกมและเวอร์ชันของ Proton ที่ใช้ บางเกมทำงานได้ดี ในขณะที่บางเกมมีปัญหา artifact หรือเฟรมเรตไม่นิ่ง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงด้านความเข้ากันได้ เพราะ FSR 4 ยังไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานบน RDNA 3 โดยตรง. แม้จะเป็นวิธีแก้ชั่วคราว แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนพลังของชุมชน Linux gaming ที่มักหาวิธีปลดล็อกฟีเจอร์ใหม่ๆ ก่อนผู้ผลิตจะรองรับอย่างเป็นทางการ และยังเป็นสัญญาณว่า FSR 4 อาจถูกนำมาสู่ RDNA 3 ในอนาคต หาก AMD เห็นว่ามีความต้องการมากพอ. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ FSR 4 ถูกบังคับให้ทำงานบน RDNA 3 ผ่าน workaround บน Linux ➡️ ใช้ Proton compatibility layer ➡️ ต้องโหลดไลบรารีเฉพาะทาง ✅ FSR 4 ยังไม่รองรับ RDNA 3 อย่างเป็นทางการ ➡️ AMD จำกัดไว้เฉพาะ RDNA 4 ➡️ คุณภาพภาพและประสิทธิภาพยังไม่เสถียร ✅ ชุมชน Linux gaming เป็นผู้ค้นพบวิธีปลดล็อก ➡️ ทำงานได้ในบางเกม ➡️ แสดงให้เห็นความยืดหยุ่นของ Proton ✅ เป็นสัญญาณว่า RDNA 3 อาจได้ FSR 4 ในอนาคต ➡️ หาก AMD ตัดสินใจเปิดรองรับผ่านไดรเวอร์ ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ วิธีนี้ไม่เสถียรและไม่รับประกันผลลัพธ์ ⛔ บางเกมมี artifact หรือเฟรมเรตตก ‼️ มีความเสี่ยงด้านความเข้ากันได้ของไลบรารี ⛔ อาจทำให้เกมบางเกมเปิดไม่ติด ‼️ ไม่ใช่วิธีที่ AMD รับรอง ⛔ อาจมีผลต่อการดีบักหรือการอัปเดตในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/you-can-force-fsr-4-redstone-to-work-on-rdna-3-gpus-with-new-workaround-for-linux-systems-solution-requires-proton-compatibility-to-work-properly-gpu-drivers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทดสอบยาว 3 ปีเผยผลชัด — OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ รุ่นส่วนใหญ่ใช้งานเกิน 10,000 ชั่วโมง

    การทดสอบความทนทานของทีวีจำนวน 102 เครื่อง ที่ดำเนินต่อเนื่องกว่า 3 ปี โดยสถาบันวิจัยด้านภาพและทีวี (ตามรายงานของ Tom’s Hardware) เผยผลที่น่าประหลาดใจว่า OLED มีความทนทานสูงกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านอายุการใช้งานและความเสถียรของภาพ โดยทีวี OLED ส่วนใหญ่สามารถทำงานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง โดยไม่มีอาการเสื่อมที่ส่งผลต่อการใช้งานจริง.

    จากการทดสอบ พบว่า มีทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง โดยสัดส่วนความเสียหายเกิดขึ้นในกลุ่ม LCD มากกว่าอย่างชัดเจน ขณะที่ OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่ามาก ซึ่งสวนทางกับความเชื่อดั้งเดิมที่มักมองว่า OLED เสี่ยงต่อการ burn‑in และเสื่อมสภาพเร็วกว่า LCD การทดสอบนี้จึงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชี้ว่าเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีความทนทานกว่าที่หลายคนคาดไว้.

    ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ OLED รุ่นใหม่ทนขึ้นมาจากการพัฒนา วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่, ระบบควบคุมพิกเซล, และ อัลกอริทึมป้องกัน burn‑in ที่ฉลาดขึ้นมาก รวมถึงการออกแบบ panel ที่รองรับความสว่างสูงโดยไม่เร่งพิกเซลจนเกินไป ขณะที่ LCD แม้จะไม่มีปัญหา burn‑in แต่กลับมีอัตราความล้มเหลวด้าน backlight, power board และ panel defect สูงกว่าในการทดสอบระยะยาว.

    ผลการทดสอบนี้ยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดทีวีระดับพรีเมียม ซึ่งกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการคุณภาพภาพสูงสุดและความทนทานที่พิสูจน์ได้จริงจากการใช้งานระยะยาว.

    การทดสอบ 3 ปีพบว่า OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ
    OLED ส่วนใหญ่ใช้งานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง
    LCD มีอัตราความล้มเหลวสูงกว่าอย่างชัดเจน

    ทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง
    ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดในกลุ่ม LCD
    OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่าที่คาดไว้

    เทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีระบบป้องกัน burn‑in ที่ดีขึ้นมาก
    วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่
    อัลกอริทึมควบคุมพิกเซลที่ฉลาดขึ้น

    ตลาดพรีเมียมกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นมาตรฐานใหม่
    คุณภาพภาพสูงกว่า
    ความทนทานพิสูจน์ได้จากการใช้งานจริง

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    การทดสอบเกิดในสภาพแวดล้อมควบคุม
    ผลลัพธ์อาจแตกต่างในบ้านที่มีความสว่างสูงหรือเปิดทิ้งยาว

    OLED ยังมีความเสี่ยง burn‑in หากใช้งานผิดประเภท
    เช่น เปิดภาพนิ่งนานหลายชั่วโมงทุกวัน

    LCD ยังมีข้อดีในด้านความสว่างสูงสุดและราคาที่ถูกกว่า
    ผู้ใช้บางกลุ่มอาจยังเหมาะกับ LCD มากกว่า

    https://www.tomshardware.com/monitors/televisions/three-year-test-shows-oled-is-significantly-more-reliable-than-lcd-with-most-lasting-more-than-10-000-hours-20-tvs-failed-out-of-102-tested
    📺⏳ ทดสอบยาว 3 ปีเผยผลชัด — OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ รุ่นส่วนใหญ่ใช้งานเกิน 10,000 ชั่วโมง การทดสอบความทนทานของทีวีจำนวน 102 เครื่อง ที่ดำเนินต่อเนื่องกว่า 3 ปี โดยสถาบันวิจัยด้านภาพและทีวี (ตามรายงานของ Tom’s Hardware) เผยผลที่น่าประหลาดใจว่า OLED มีความทนทานสูงกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านอายุการใช้งานและความเสถียรของภาพ โดยทีวี OLED ส่วนใหญ่สามารถทำงานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง โดยไม่มีอาการเสื่อมที่ส่งผลต่อการใช้งานจริง. จากการทดสอบ พบว่า มีทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง โดยสัดส่วนความเสียหายเกิดขึ้นในกลุ่ม LCD มากกว่าอย่างชัดเจน ขณะที่ OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่ามาก ซึ่งสวนทางกับความเชื่อดั้งเดิมที่มักมองว่า OLED เสี่ยงต่อการ burn‑in และเสื่อมสภาพเร็วกว่า LCD การทดสอบนี้จึงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชี้ว่าเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีความทนทานกว่าที่หลายคนคาดไว้. ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ OLED รุ่นใหม่ทนขึ้นมาจากการพัฒนา วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่, ระบบควบคุมพิกเซล, และ อัลกอริทึมป้องกัน burn‑in ที่ฉลาดขึ้นมาก รวมถึงการออกแบบ panel ที่รองรับความสว่างสูงโดยไม่เร่งพิกเซลจนเกินไป ขณะที่ LCD แม้จะไม่มีปัญหา burn‑in แต่กลับมีอัตราความล้มเหลวด้าน backlight, power board และ panel defect สูงกว่าในการทดสอบระยะยาว. ผลการทดสอบนี้ยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดทีวีระดับพรีเมียม ซึ่งกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการคุณภาพภาพสูงสุดและความทนทานที่พิสูจน์ได้จริงจากการใช้งานระยะยาว. ✅ การทดสอบ 3 ปีพบว่า OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ ➡️ OLED ส่วนใหญ่ใช้งานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง ➡️ LCD มีอัตราความล้มเหลวสูงกว่าอย่างชัดเจน ✅ ทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง ➡️ ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดในกลุ่ม LCD ➡️ OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่าที่คาดไว้ ✅ เทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีระบบป้องกัน burn‑in ที่ดีขึ้นมาก ➡️ วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่ ➡️ อัลกอริทึมควบคุมพิกเซลที่ฉลาดขึ้น ✅ ตลาดพรีเมียมกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นมาตรฐานใหม่ ➡️ คุณภาพภาพสูงกว่า ➡️ ความทนทานพิสูจน์ได้จากการใช้งานจริง ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ การทดสอบเกิดในสภาพแวดล้อมควบคุม ⛔ ผลลัพธ์อาจแตกต่างในบ้านที่มีความสว่างสูงหรือเปิดทิ้งยาว ‼️ OLED ยังมีความเสี่ยง burn‑in หากใช้งานผิดประเภท ⛔ เช่น เปิดภาพนิ่งนานหลายชั่วโมงทุกวัน ‼️ LCD ยังมีข้อดีในด้านความสว่างสูงสุดและราคาที่ถูกกว่า ⛔ ผู้ใช้บางกลุ่มอาจยังเหมาะกับ LCD มากกว่า https://www.tomshardware.com/monitors/televisions/three-year-test-shows-oled-is-significantly-more-reliable-than-lcd-with-most-lasting-more-than-10-000-hours-20-tvs-failed-out-of-102-tested
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • Valve ยุติการผลิต Steam Deck รุ่นถูกสุด $399 — จุดเริ่มต้นใหม่ขยับขึ้นเป็น $549 พร้อมยุค OLED ครองไลน์อัป

    Valve ประกาศยุติการผลิต Steam Deck LCD รุ่น 256GB ราคา $399 ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกที่สุดในไลน์อัปเดิม ทำให้ราคาตั้งต้นใหม่ของ Steam Deck ขยับขึ้นเป็น $549 สำหรับรุ่น 512GB OLED โดยทันที การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ Valve ที่ต้องการผลักดันรุ่น OLED ให้เป็นมาตรฐานหลักของแพลตฟอร์มพกพา หลังจากเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมาและได้รับเสียงตอบรับดีเยี่ยมในด้านคุณภาพหน้าจอ ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่.

    ในหน้า Store ของ Steam Deck รุ่น LCD ปรากฏสถานะ “Out of stock” พร้อมข้อความชัดเจนว่า Valve “ไม่ผลิตรุ่นนี้อีกต่อไป” ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ต้องการ Steam Deck ราคาประหยัดจะต้องหันไปพึ่งตลาดมือสองหรือรุ่น Refurbished แทน นี่ถือเป็นการปิดฉากหนึ่งในอุปกรณ์เกมพกพาที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดช่วงปี 2022–2024.

    แม้ Valve ไม่ได้ให้เหตุผลอย่างเป็นทางการ แต่มีการคาดการณ์ว่าต้นทุนหน่วยความจำ NAND ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2025 อาจทำให้รุ่น LCD ไม่คุ้มค่าต่อการผลิตอีกต่อไป ขณะเดียวกัน Valve ก็เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายอย่าง เช่น Steam Machine, Steam Controller รุ่นใหม่ และ Steam Frame 3D ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังจัดโครงสร้างไลน์ผลิตใหม่เพื่อรองรับยุคถัดไปของ ecosystem เกมบน PC.

    การยุติรุ่น $399 ยังส่งผลต่อการแข่งขันในตลาด handheld gaming โดยตรง เพราะคู่แข่งอย่าง ROG Ally และ Lenovo Legion Go S มีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่า ทำให้ Steam Deck OLED กลายเป็นตัวเลือกที่ “คุ้มที่สุด” ในระดับราคาใหม่โดยอัตโนมัติ แม้จะไม่ถูกเท่ารุ่น LCD เดิมก็ตาม.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Valve ยุติการผลิต Steam Deck LCD รุ่น 256GB ราคา $399
    รุ่นนี้ขึ้นสถานะ Out of stock
    ราคาตั้งต้นใหม่คือ $549 สำหรับรุ่น OLED

    รุ่น OLED กลายเป็นไลน์อัปหลักของ Steam Deck
    หน้าจอคุณภาพสูงกว่า
    แบตอึดขึ้น และประสิทธิภาพดีขึ้น

    ตลาด handheld gaming ได้รับผลกระทบโดยตรง
    คู่แข่งมีราคาเริ่มต้นสูงกว่า
    Steam Deck OLED กลายเป็นตัวเลือกคุ้มสุดในระดับราคาใหม่

    มีการคาดการณ์ว่าต้นทุน NAND ที่พุ่งสูงเป็นปัจจัยสำคัญ
    ราคาหน่วยความจำเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในปี 2025

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    ผู้ใช้ที่ต้องการรุ่นราคาถูกอาจต้องหันไปตลาดมือสอง
    รุ่น LCD ไม่มีผลิตใหม่อีกแล้ว

    ราคาเริ่มต้นที่สูงขึ้นอาจทำให้ผู้ใช้บางกลุ่มเข้าถึงยากขึ้น
    โดยเฉพาะผู้เล่นที่ต้องการเครื่องพกพาราคาประหยัด

    ตลาดอาจเกิดภาวะโก่งราคาสำหรับรุ่น LCD ที่ยังเหลืออยู่
    โดยเฉพาะในบางภูมิภาคที่มีความต้องการสูง

    https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/valve-discontinues-the-most-affordable-steam-deck-usd399-lcd-version-on-the-way-out-as-new-starting-point-is-usd549
    🎮📉 Valve ยุติการผลิต Steam Deck รุ่นถูกสุด $399 — จุดเริ่มต้นใหม่ขยับขึ้นเป็น $549 พร้อมยุค OLED ครองไลน์อัป Valve ประกาศยุติการผลิต Steam Deck LCD รุ่น 256GB ราคา $399 ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกที่สุดในไลน์อัปเดิม ทำให้ราคาตั้งต้นใหม่ของ Steam Deck ขยับขึ้นเป็น $549 สำหรับรุ่น 512GB OLED โดยทันที การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ Valve ที่ต้องการผลักดันรุ่น OLED ให้เป็นมาตรฐานหลักของแพลตฟอร์มพกพา หลังจากเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมาและได้รับเสียงตอบรับดีเยี่ยมในด้านคุณภาพหน้าจอ ประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่. ในหน้า Store ของ Steam Deck รุ่น LCD ปรากฏสถานะ “Out of stock” พร้อมข้อความชัดเจนว่า Valve “ไม่ผลิตรุ่นนี้อีกต่อไป” ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ต้องการ Steam Deck ราคาประหยัดจะต้องหันไปพึ่งตลาดมือสองหรือรุ่น Refurbished แทน นี่ถือเป็นการปิดฉากหนึ่งในอุปกรณ์เกมพกพาที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดช่วงปี 2022–2024. แม้ Valve ไม่ได้ให้เหตุผลอย่างเป็นทางการ แต่มีการคาดการณ์ว่าต้นทุนหน่วยความจำ NAND ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2025 อาจทำให้รุ่น LCD ไม่คุ้มค่าต่อการผลิตอีกต่อไป ขณะเดียวกัน Valve ก็เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายอย่าง เช่น Steam Machine, Steam Controller รุ่นใหม่ และ Steam Frame 3D ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังจัดโครงสร้างไลน์ผลิตใหม่เพื่อรองรับยุคถัดไปของ ecosystem เกมบน PC. การยุติรุ่น $399 ยังส่งผลต่อการแข่งขันในตลาด handheld gaming โดยตรง เพราะคู่แข่งอย่าง ROG Ally และ Lenovo Legion Go S มีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่า ทำให้ Steam Deck OLED กลายเป็นตัวเลือกที่ “คุ้มที่สุด” ในระดับราคาใหม่โดยอัตโนมัติ แม้จะไม่ถูกเท่ารุ่น LCD เดิมก็ตาม. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Valve ยุติการผลิต Steam Deck LCD รุ่น 256GB ราคา $399 ➡️ รุ่นนี้ขึ้นสถานะ Out of stock ➡️ ราคาตั้งต้นใหม่คือ $549 สำหรับรุ่น OLED ✅ รุ่น OLED กลายเป็นไลน์อัปหลักของ Steam Deck ➡️ หน้าจอคุณภาพสูงกว่า ➡️ แบตอึดขึ้น และประสิทธิภาพดีขึ้น ✅ ตลาด handheld gaming ได้รับผลกระทบโดยตรง ➡️ คู่แข่งมีราคาเริ่มต้นสูงกว่า ➡️ Steam Deck OLED กลายเป็นตัวเลือกคุ้มสุดในระดับราคาใหม่ ✅ มีการคาดการณ์ว่าต้นทุน NAND ที่พุ่งสูงเป็นปัจจัยสำคัญ ➡️ ราคาหน่วยความจำเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในปี 2025 ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ ผู้ใช้ที่ต้องการรุ่นราคาถูกอาจต้องหันไปตลาดมือสอง ⛔ รุ่น LCD ไม่มีผลิตใหม่อีกแล้ว ‼️ ราคาเริ่มต้นที่สูงขึ้นอาจทำให้ผู้ใช้บางกลุ่มเข้าถึงยากขึ้น ⛔ โดยเฉพาะผู้เล่นที่ต้องการเครื่องพกพาราคาประหยัด ‼️ ตลาดอาจเกิดภาวะโก่งราคาสำหรับรุ่น LCD ที่ยังเหลืออยู่ ⛔ โดยเฉพาะในบางภูมิภาคที่มีความต้องการสูง https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/valve-discontinues-the-most-affordable-steam-deck-usd399-lcd-version-on-the-way-out-as-new-starting-point-is-usd549
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • CENI: จีนเปิดใช้งานเครือข่ายวิจัยระดับชาติ — โอนข้อมูล 72TB ข้ามระยะทาง 1,000 กม. ด้วยความเร็วใกล้ 100 Gbps

    จีนประกาศเปิดใช้งาน China Environment for Network Innovation (CENI) เครือข่ายวิจัยระดับชาติที่ออกแบบมาเพื่อทดสอบสถาปัตยกรรมเครือข่ายยุคอนาคต รองรับงานด้าน AI, วิทยาศาสตร์ข้อมูล และระบบที่ต้องการ deterministic networking จุดเด่นคือการทดสอบโอนข้อมูล 72TB จากกล้องโทรทรรศน์วิทยุ FAST ในมณฑลกุ้ยโจว ไปยังมณฑลหูเป่ย ระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร ภายในเวลาเพียง 1.6 ชั่วโมง ซึ่งคิดเป็น throughput ใกล้เคียง 100 Gbps.

    CENI ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์งานวิจัยที่ต้องการปริมาณข้อมูลมหาศาล เช่น FAST ที่ผลิตข้อมูลมากกว่า 100TB ต่อวัน ซึ่งเกินความสามารถของเครือข่ายสาธารณะทั่วไป เครือข่ายนี้ครอบคลุมกว่า 40 เมือง, ใช้โครงข่ายใยแก้วนำแสงยาวกว่า 55,000 กิโลเมตร, และรองรับการสร้าง virtual networks มากกว่า 4,000 เครือข่ายพร้อมกัน ผ่านเทคโนโลยี DWDM 100 Gbps ต่อช่องสัญญาณ.

    สิ่งที่ทำให้ CENI แตกต่างคือแนวคิด deterministic networking — การรับประกัน latency, jitter และ packet delivery แบบคงที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่อินเทอร์เน็ตทั่วไปทำไม่ได้ นี่คือคุณสมบัติสำคัญสำหรับงาน AI distributed training, real‑time robotics, และระบบควบคุมโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติ นักวิจัยจีนยังเปรียบ CENI กับบทบาทของ ARPANET ในสหรัฐฯ ที่เคยเป็นรากฐานของอินเทอร์เน็ตยุคแรก.

    แม้การทดสอบจะเกิดในสภาพแวดล้อมควบคุม แต่ขนาดของโครงการและความสามารถที่แสดงออกมาชี้ให้เห็นว่าจีนกำลังลงทุนอย่างจริงจังเพื่อสร้างเครือข่ายระดับประเทศที่รองรับงานข้อมูลยุค AI ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบของโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายในอนาคตทั่วโลก.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    CENI คือเครือข่ายวิจัยระดับชาติของจีน
    ออกแบบเพื่อทดสอบสถาปัตยกรรมเครือข่ายยุคอนาคต
    รองรับงาน AI และ data‑intensive workloads

    ทดสอบโอนข้อมูล 72TB ข้าม 1,000 กม. ใน 1.6 ชั่วโมง
    throughput ใกล้ 100 Gbps
    ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ FAST

    โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ระดับประเทศ
    ครอบคลุม 40 เมือง
    ใยแก้วนำแสงกว่า 55,000 กม.
    รองรับ virtual networks มากกว่า 4,000 เครือข่าย

    รองรับ deterministic networking
    ควบคุม latency และ jitter ได้แม่นยำ
    เหมาะกับ AI, robotics, และ real‑time systems

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    ผลทดสอบเกิดในสภาพแวดล้อมควบคุม
    ประสิทธิภาพจริงอาจแตกต่างเมื่อใช้งานเต็มรูปแบบ

    deterministic networking ต้องการการจัดการที่ซับซ้อนมาก
    ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจส่งผลต่อระบบทั้งเครือข่าย

    โครงสร้างพื้นฐานระดับนี้ต้องใช้งบประมาณและการดูแลสูงมาก
    อาจไม่เหมาะกับประเทศที่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณหรือพื้นที่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-switches-on-ceni-research-network-with-72tb-transfer-test-across-1000km
    🌐⚡ CENI: จีนเปิดใช้งานเครือข่ายวิจัยระดับชาติ — โอนข้อมูล 72TB ข้ามระยะทาง 1,000 กม. ด้วยความเร็วใกล้ 100 Gbps จีนประกาศเปิดใช้งาน China Environment for Network Innovation (CENI) เครือข่ายวิจัยระดับชาติที่ออกแบบมาเพื่อทดสอบสถาปัตยกรรมเครือข่ายยุคอนาคต รองรับงานด้าน AI, วิทยาศาสตร์ข้อมูล และระบบที่ต้องการ deterministic networking จุดเด่นคือการทดสอบโอนข้อมูล 72TB จากกล้องโทรทรรศน์วิทยุ FAST ในมณฑลกุ้ยโจว ไปยังมณฑลหูเป่ย ระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร ภายในเวลาเพียง 1.6 ชั่วโมง ซึ่งคิดเป็น throughput ใกล้เคียง 100 Gbps. CENI ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์งานวิจัยที่ต้องการปริมาณข้อมูลมหาศาล เช่น FAST ที่ผลิตข้อมูลมากกว่า 100TB ต่อวัน ซึ่งเกินความสามารถของเครือข่ายสาธารณะทั่วไป เครือข่ายนี้ครอบคลุมกว่า 40 เมือง, ใช้โครงข่ายใยแก้วนำแสงยาวกว่า 55,000 กิโลเมตร, และรองรับการสร้าง virtual networks มากกว่า 4,000 เครือข่ายพร้อมกัน ผ่านเทคโนโลยี DWDM 100 Gbps ต่อช่องสัญญาณ. สิ่งที่ทำให้ CENI แตกต่างคือแนวคิด deterministic networking — การรับประกัน latency, jitter และ packet delivery แบบคงที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่อินเทอร์เน็ตทั่วไปทำไม่ได้ นี่คือคุณสมบัติสำคัญสำหรับงาน AI distributed training, real‑time robotics, และระบบควบคุมโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติ นักวิจัยจีนยังเปรียบ CENI กับบทบาทของ ARPANET ในสหรัฐฯ ที่เคยเป็นรากฐานของอินเทอร์เน็ตยุคแรก. แม้การทดสอบจะเกิดในสภาพแวดล้อมควบคุม แต่ขนาดของโครงการและความสามารถที่แสดงออกมาชี้ให้เห็นว่าจีนกำลังลงทุนอย่างจริงจังเพื่อสร้างเครือข่ายระดับประเทศที่รองรับงานข้อมูลยุค AI ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบของโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายในอนาคตทั่วโลก. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ CENI คือเครือข่ายวิจัยระดับชาติของจีน ➡️ ออกแบบเพื่อทดสอบสถาปัตยกรรมเครือข่ายยุคอนาคต ➡️ รองรับงาน AI และ data‑intensive workloads ✅ ทดสอบโอนข้อมูล 72TB ข้าม 1,000 กม. ใน 1.6 ชั่วโมง ➡️ throughput ใกล้ 100 Gbps ➡️ ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ FAST ✅ โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ระดับประเทศ ➡️ ครอบคลุม 40 เมือง ➡️ ใยแก้วนำแสงกว่า 55,000 กม. ➡️ รองรับ virtual networks มากกว่า 4,000 เครือข่าย ✅ รองรับ deterministic networking ➡️ ควบคุม latency และ jitter ได้แม่นยำ ➡️ เหมาะกับ AI, robotics, และ real‑time systems ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ ผลทดสอบเกิดในสภาพแวดล้อมควบคุม ⛔ ประสิทธิภาพจริงอาจแตกต่างเมื่อใช้งานเต็มรูปแบบ ‼️ deterministic networking ต้องการการจัดการที่ซับซ้อนมาก ⛔ ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจส่งผลต่อระบบทั้งเครือข่าย ‼️ โครงสร้างพื้นฐานระดับนี้ต้องใช้งบประมาณและการดูแลสูงมาก ⛔ อาจไม่เหมาะกับประเทศที่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณหรือพื้นที่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-switches-on-ceni-research-network-with-72tb-transfer-test-across-1000km
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 แอบซ่อน Native NVMe Driver รุ่นใหม่ — ปลดล็อกได้ผ่าน Registry แต่เสี่ยงพังทั้งระบบ

    มีการค้นพบว่า Windows 11 และ Windows Server 2025 มี NVMe storage driver รุ่นใหม่ ที่ Microsoft ยังไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งาน แต่ซ่อนอยู่ในระบบแบบ “experimental flag” ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ผ่านการแก้ไข Registry โดยตรง ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ NVMe โดยเฉพาะในงานที่ต้องการ I/O throughput สูง เช่นเกม, workstation และ workload แบบ data‑intensive.

    ผู้ใช้ที่ทดลองเปิดใช้งานรายงานว่า driver ใหม่นี้ช่วยลด latency และเพิ่มความเร็ว I/O ได้จริงในบางสถานการณ์ โดยเฉพาะบน SSD PCIe 4.0 และ PCIe 5.0 ที่มีคอขวดด้าน driver overhead อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังไม่เปิดใช้ฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการใน Windows 11 เวอร์ชัน consumer เพราะยังอยู่ในสถานะทดสอบ และอาจมีปัญหาความเข้ากันได้กับ SSD บางรุ่นหรือคอนโทรลเลอร์บางตระกูล.

    สิ่งที่น่าสนใจคือ driver ตัวนี้ถูกเปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นใน Windows Server 2025 ซึ่งบ่งชี้ว่ามันถูกออกแบบมาสำหรับ workload ระดับองค์กร เช่น virtualization, database, และ storage‑heavy compute แต่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “ปลดล็อก” มาใช้ได้บน Windows 11 ผ่าน Registry hack แม้ Microsoft จะไม่ได้แนะนำให้ทำก็ตาม.

    ในภาพรวม ฟีเจอร์นี้สะท้อนทิศทางของ Microsoft ที่ต้องการยกระดับ stack การจัดการ storage ให้ทันกับยุค SSD PCIe 5.0 ที่มีความเร็วสูงมาก แต่ก็ยังต้องใช้เวลาในการทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่ารองรับ SSD ทุกแบรนด์และทุกคอนโทรลเลอร์ได้อย่างเสถียร ก่อนจะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Windows 11 มี NVMe driver รุ่นใหม่ซ่อนอยู่ในระบบ
    ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ I/O และลด latency
    เปิดใช้งานได้ผ่าน Registry hack

    เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นใน Windows Server 2025
    ชี้ว่าฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาสำหรับ workload ระดับองค์กร
    เน้นงาน virtualization และ database

    ผู้ใช้บางรายพบว่าความเร็วเพิ่มขึ้นจริง
    เหมาะกับ SSD PCIe 4.0 และ 5.0
    ลด driver overhead ในงานหนัก

    Microsoft ยังไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปอย่างเป็นทางการ
    อยู่ในสถานะ experimental
    อาจเปิดในอัปเดตใหญ่ของ Windows 11 ในอนาคต

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    Registry hack มีความเสี่ยงสูง
    อาจทำให้ระบบบูตไม่ได้หรือเกิด BSOD

    ความเข้ากันได้กับ SSD บางรุ่นยังไม่สมบูรณ์
    โดยเฉพาะคอนโทรลเลอร์รุ่นเก่า

    Microsoft ไม่รับประกันความเสถียรหากเปิดใช้เอง
    อาจมีผลต่อการอัปเดตหรือระบบความปลอดภัย

    https://www.tomshardware.com/software/windows/registry-hack-enables-new-performance-boosting-native-nvme-support-on-windows-11-windows-server-2025-feature-can-be-unlocked-for-consumer-pcs-but-at-your-own-risk
    ⚡🗝️ Windows 11 แอบซ่อน Native NVMe Driver รุ่นใหม่ — ปลดล็อกได้ผ่าน Registry แต่เสี่ยงพังทั้งระบบ มีการค้นพบว่า Windows 11 และ Windows Server 2025 มี NVMe storage driver รุ่นใหม่ ที่ Microsoft ยังไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งาน แต่ซ่อนอยู่ในระบบแบบ “experimental flag” ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ผ่านการแก้ไข Registry โดยตรง ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ NVMe โดยเฉพาะในงานที่ต้องการ I/O throughput สูง เช่นเกม, workstation และ workload แบบ data‑intensive. ผู้ใช้ที่ทดลองเปิดใช้งานรายงานว่า driver ใหม่นี้ช่วยลด latency และเพิ่มความเร็ว I/O ได้จริงในบางสถานการณ์ โดยเฉพาะบน SSD PCIe 4.0 และ PCIe 5.0 ที่มีคอขวดด้าน driver overhead อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังไม่เปิดใช้ฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการใน Windows 11 เวอร์ชัน consumer เพราะยังอยู่ในสถานะทดสอบ และอาจมีปัญหาความเข้ากันได้กับ SSD บางรุ่นหรือคอนโทรลเลอร์บางตระกูล. สิ่งที่น่าสนใจคือ driver ตัวนี้ถูกเปิดใช้โดยค่าเริ่มต้นใน Windows Server 2025 ซึ่งบ่งชี้ว่ามันถูกออกแบบมาสำหรับ workload ระดับองค์กร เช่น virtualization, database, และ storage‑heavy compute แต่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “ปลดล็อก” มาใช้ได้บน Windows 11 ผ่าน Registry hack แม้ Microsoft จะไม่ได้แนะนำให้ทำก็ตาม. ในภาพรวม ฟีเจอร์นี้สะท้อนทิศทางของ Microsoft ที่ต้องการยกระดับ stack การจัดการ storage ให้ทันกับยุค SSD PCIe 5.0 ที่มีความเร็วสูงมาก แต่ก็ยังต้องใช้เวลาในการทดสอบเพื่อให้มั่นใจว่ารองรับ SSD ทุกแบรนด์และทุกคอนโทรลเลอร์ได้อย่างเสถียร ก่อนจะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Windows 11 มี NVMe driver รุ่นใหม่ซ่อนอยู่ในระบบ ➡️ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ I/O และลด latency ➡️ เปิดใช้งานได้ผ่าน Registry hack ✅ เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นใน Windows Server 2025 ➡️ ชี้ว่าฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาสำหรับ workload ระดับองค์กร ➡️ เน้นงาน virtualization และ database ✅ ผู้ใช้บางรายพบว่าความเร็วเพิ่มขึ้นจริง ➡️ เหมาะกับ SSD PCIe 4.0 และ 5.0 ➡️ ลด driver overhead ในงานหนัก ✅ Microsoft ยังไม่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปอย่างเป็นทางการ ➡️ อยู่ในสถานะ experimental ➡️ อาจเปิดในอัปเดตใหญ่ของ Windows 11 ในอนาคต ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ Registry hack มีความเสี่ยงสูง ⛔ อาจทำให้ระบบบูตไม่ได้หรือเกิด BSOD ‼️ ความเข้ากันได้กับ SSD บางรุ่นยังไม่สมบูรณ์ ⛔ โดยเฉพาะคอนโทรลเลอร์รุ่นเก่า ‼️ Microsoft ไม่รับประกันความเสถียรหากเปิดใช้เอง ⛔ อาจมีผลต่อการอัปเดตหรือระบบความปลอดภัย https://www.tomshardware.com/software/windows/registry-hack-enables-new-performance-boosting-native-nvme-support-on-windows-11-windows-server-2025-feature-can-be-unlocked-for-consumer-pcs-but-at-your-own-risk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • Der8enchtable: แพลตฟอร์มทดสอบยุคใหม่จาก Thermal Grizzly — PCB แอกทีฟเต็มรูปแบบเพื่อสายรีวิวและโอเวอร์คล็อก

    Thermal Grizzly เปิดตัว Der8enchtable แพลตฟอร์มทดสอบระดับมืออาชีพที่ออกแบบร่วมกับ der8auer และ ElmorLabs โดยยกระดับจากแพลตฟอร์มทดสอบทั่วไปด้วย active PCB ที่รวมพอร์ตและฟังก์ชันสำหรับงานทดสอบฮาร์ดแวร์แบบครบวงจร จุดเด่นคือการจัดวางที่ช่วยให้การสลับชิ้นส่วน การทดสอบเมนบอร์ด และการจัดสายเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างมาก เหมาะสำหรับนักรีวิว นักโอเวอร์คล็อก และผู้ที่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์บ่อยๆ.

    ตัวแพลตฟอร์มมีราคาประมาณ $269.99 แต่แลกมากับฟีเจอร์ที่หาไม่ได้จากแพลตฟอร์มทดสอบทั่วไป เช่น 11 พอร์ตพัดลมแบบ 4‑pin, โซนควบคุมพัดลม 4 โซน, พอร์ต SATA, ช่อง microSD 4 ช่อง, USB Type‑A และ Type‑C รวม 6 พอร์ต รวมถึงพื้นที่ติดตั้งหม้อน้ำด้านข้างและช่องเก็บ PSU ใต้ฐาน พร้อมไฟ RGB ในชั้น plexi ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามโดยไม่รบกวนการใช้งาน.

    การออกแบบรองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ Mini‑ITX ถึง E‑ATX และมีอุปกรณ์เสริมครบชุดในกล่อง ตั้งแต่ขายึด หมุดยึด สกรู ไปจนถึงสายต่อ USB และ ARGB ทำให้สามารถประกอบและใช้งานได้ทันที จุดเด่นอีกอย่างคือสวิตช์ควบคุมพัดลมแบบ 3 ระดับ (EXT / 50% / 100%) ที่ช่วยให้การทดสอบมีความเสถียรและทำซ้ำได้ง่ายขึ้น.

    แม้จะมีฟีเจอร์ครบครัน แต่รีวิวระบุว่ามีข้อสังเกตเล็กน้อย เช่น ไม่มีจุดติดตั้ง M.2 บนแพลตฟอร์มโดยตรง และฐานอาจเสียสมดุลเมื่อใช้หม้อน้ำ AIO ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม Der8enchtable ยังคงโดดเด่นในฐานะแพลตฟอร์มทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อ “งานจริง” มากกว่าความสวยงาม และเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและความสามารถระดับมืออาชีพ.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Der8enchtable คือแพลตฟอร์มทดสอบที่มี active PCB ในตัว
    มีพอร์ตพัดลม 11 จุด แบ่งเป็น 4 โซนควบคุม
    มี SATA, microSD, USB‑A/USB‑C ครบชุด

    ออกแบบเพื่อการทดสอบฮาร์ดแวร์ระดับโปร
    รองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ Mini‑ITX ถึง E‑ATX
    มีพื้นที่ติดตั้งหม้อน้ำและช่องเก็บ PSU

    อุปกรณ์ในกล่องครบพร้อมใช้งาน
    มีสกรู เครื่องมือ สายต่อ และขายึดทุกแบบ
    ไฟ RGB ในชั้น plexi เพิ่มความโดดเด่น

    เหมาะสำหรับนักรีวิวและโอเวอร์คล็อก
    สวิตช์ควบคุมพัดลมช่วยให้ผลเทสต์เสถียร
    ออกแบบมาเพื่อการสลับชิ้นส่วนอย่างรวดเร็ว

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    ไม่มีจุดติดตั้ง M.2 บนแพลตฟอร์มโดยตรง
    อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ทดสอบ SSD รุ่นใหม่

    ฐานอาจเสียสมดุลเมื่อใช้ AIO ขนาดใหญ่
    ต้องเพิ่มน้ำหนักถ่วงหรือจัดวาง PSU ให้สมดุล

    ราคาสูงกว่าแพลตฟอร์มทดสอบทั่วไป
    เหมาะกับผู้ใช้งานจริงจังมากกว่าผู้เล่นทั่วไป

    https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/hands-on-with-the-thermal-grizzly-der8enchtable
    🧪🛠️ Der8enchtable: แพลตฟอร์มทดสอบยุคใหม่จาก Thermal Grizzly — PCB แอกทีฟเต็มรูปแบบเพื่อสายรีวิวและโอเวอร์คล็อก Thermal Grizzly เปิดตัว Der8enchtable แพลตฟอร์มทดสอบระดับมืออาชีพที่ออกแบบร่วมกับ der8auer และ ElmorLabs โดยยกระดับจากแพลตฟอร์มทดสอบทั่วไปด้วย active PCB ที่รวมพอร์ตและฟังก์ชันสำหรับงานทดสอบฮาร์ดแวร์แบบครบวงจร จุดเด่นคือการจัดวางที่ช่วยให้การสลับชิ้นส่วน การทดสอบเมนบอร์ด และการจัดสายเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างมาก เหมาะสำหรับนักรีวิว นักโอเวอร์คล็อก และผู้ที่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์บ่อยๆ. ตัวแพลตฟอร์มมีราคาประมาณ $269.99 แต่แลกมากับฟีเจอร์ที่หาไม่ได้จากแพลตฟอร์มทดสอบทั่วไป เช่น 11 พอร์ตพัดลมแบบ 4‑pin, โซนควบคุมพัดลม 4 โซน, พอร์ต SATA, ช่อง microSD 4 ช่อง, USB Type‑A และ Type‑C รวม 6 พอร์ต รวมถึงพื้นที่ติดตั้งหม้อน้ำด้านข้างและช่องเก็บ PSU ใต้ฐาน พร้อมไฟ RGB ในชั้น plexi ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามโดยไม่รบกวนการใช้งาน. การออกแบบรองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ Mini‑ITX ถึง E‑ATX และมีอุปกรณ์เสริมครบชุดในกล่อง ตั้งแต่ขายึด หมุดยึด สกรู ไปจนถึงสายต่อ USB และ ARGB ทำให้สามารถประกอบและใช้งานได้ทันที จุดเด่นอีกอย่างคือสวิตช์ควบคุมพัดลมแบบ 3 ระดับ (EXT / 50% / 100%) ที่ช่วยให้การทดสอบมีความเสถียรและทำซ้ำได้ง่ายขึ้น. แม้จะมีฟีเจอร์ครบครัน แต่รีวิวระบุว่ามีข้อสังเกตเล็กน้อย เช่น ไม่มีจุดติดตั้ง M.2 บนแพลตฟอร์มโดยตรง และฐานอาจเสียสมดุลเมื่อใช้หม้อน้ำ AIO ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม Der8enchtable ยังคงโดดเด่นในฐานะแพลตฟอร์มทดสอบที่ออกแบบมาเพื่อ “งานจริง” มากกว่าความสวยงาม และเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและความสามารถระดับมืออาชีพ. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Der8enchtable คือแพลตฟอร์มทดสอบที่มี active PCB ในตัว ➡️ มีพอร์ตพัดลม 11 จุด แบ่งเป็น 4 โซนควบคุม ➡️ มี SATA, microSD, USB‑A/USB‑C ครบชุด ✅ ออกแบบเพื่อการทดสอบฮาร์ดแวร์ระดับโปร ➡️ รองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ Mini‑ITX ถึง E‑ATX ➡️ มีพื้นที่ติดตั้งหม้อน้ำและช่องเก็บ PSU ✅ อุปกรณ์ในกล่องครบพร้อมใช้งาน ➡️ มีสกรู เครื่องมือ สายต่อ และขายึดทุกแบบ ➡️ ไฟ RGB ในชั้น plexi เพิ่มความโดดเด่น ✅ เหมาะสำหรับนักรีวิวและโอเวอร์คล็อก ➡️ สวิตช์ควบคุมพัดลมช่วยให้ผลเทสต์เสถียร ➡️ ออกแบบมาเพื่อการสลับชิ้นส่วนอย่างรวดเร็ว ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ ไม่มีจุดติดตั้ง M.2 บนแพลตฟอร์มโดยตรง ⛔ อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ทดสอบ SSD รุ่นใหม่ ‼️ ฐานอาจเสียสมดุลเมื่อใช้ AIO ขนาดใหญ่ ⛔ ต้องเพิ่มน้ำหนักถ่วงหรือจัดวาง PSU ให้สมดุล ‼️ ราคาสูงกว่าแพลตฟอร์มทดสอบทั่วไป ⛔ เหมาะกับผู้ใช้งานจริงจังมากกว่าผู้เล่นทั่วไป https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/hands-on-with-the-thermal-grizzly-der8enchtable
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Hands-on with the Thermal Grizzly Der8enchtable: Updating our longstanding motherboard test bench
    Der8nechtable brings active PCB and convenience to extreme benchmarking and hardware reviewing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ปิดการรองรับ PlanetWeb 3.0 — Dreamcast สูญเสียเว็บเบราว์เซอร์ที่อยู่รอดมา 25 ปี

    เบราว์เซอร์ PlanetWeb 3.0 ของ Sega Dreamcast ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2001 และยังคง “ใช้งานได้” อย่างน่าประหลาดใจมานานกว่า 25 ปี เพิ่งถูก Google ปิดการรองรับอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้บริการหลักของ Google ไม่ตอบสนองต่อโปรโตคอล SSL/TLS เก่าอีกต่อไป ทำให้เบราว์เซอร์นี้แทบไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ได้แล้ว.

    PlanetWeb เป็นเบราว์เซอร์ที่มากับ Dreamcast ตั้งแต่ยุค dial‑up และแม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัย เช่น SSL เก่า, JavaScript engine รุ่นโบราณ และ ciphers ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ยังสามารถเข้าถึงบริการของ Google ได้จนถึงปี 2025 ซึ่งถือว่ายาวนานเกินคาดอย่างมาก การปิดครั้งนี้จึงเป็นเหมือน “การปิดฉากยุคอินเทอร์เน็ต 1.0” ที่ยังหลงเหลืออยู่ในเครื่องเกมคอนโซล.

    แม้บริการของ Google จะไม่รองรับแล้ว แต่ชุมชน Dreamcast ยังคงมีทางเลือก เช่น FrogFind.de ซึ่งเป็นเสิร์ชเอนจินที่ออกแบบมาให้รองรับเบราว์เซอร์เก่า รวมถึงเซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์ของ Phantasy Star Online และ Quake III Arena ที่ยังคงเปิดให้เล่นอยู่ ทำให้ Dreamcast ยังคงมีชีวิตในชุมชน retro gaming อย่างเหนียวแน่น.

    เหตุการณ์นี้สะท้อนความทนทานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ยุคเก่า รวมถึงพลังของชุมชนที่ยังคงดูแล ecosystem ของ Dreamcast แม้เวลาจะผ่านไปกว่าสองทศวรรษ และยังเป็นสัญญาณว่าบริการเว็บสมัยใหม่กำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคที่ความเข้ากันได้ย้อนหลัง (backward compatibility) จะยิ่งลดลงเรื่อยๆ.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Google ปิดการรองรับ PlanetWeb 3.0 อย่างเป็นทางการ
    Dreamcast ไม่สามารถเข้าถึงบริการ Google ได้อีก
    สาเหตุจาก SSL/TLS และ JavaScript engine ที่ล้าสมัย

    PlanetWeb อยู่รอดมาอย่างเหลือเชื่อกว่า 25 ปี
    เปิดตัวปี 2001 พร้อม Dreamcast
    ใช้เทคโนโลยีเว็บยุค dial‑up

    ชุมชนยังมีทางเลือกอื่นสำหรับ Dreamcast
    FrogFind.de รองรับเบราว์เซอร์เก่า
    เซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์ยังเปิดอยู่หลายเกม

    เป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดยุคเว็บเก่า
    บริการสมัยใหม่ลดการรองรับโปรโตคอลเก่าอย่างต่อเนื่อง

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    Dreamcast จะใช้งานเว็บสมัยใหม่แทบไม่ได้แล้ว
    ไม่มีการอัปเดตความปลอดภัยหรือโปรโตคอลใหม่

    บริการเว็บเก่าอาจทยอยปิดตัวตามมา
    ความเข้ากันได้ย้อนหลังจะลดลงเรื่อยๆ

    ผู้ใช้ควรระวังการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เก่า
    โปรโตคอลเก่าอาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/the-sega-dreamcasts-planetweb-3-0-browser-was-killed-by-google-this-week-big-gs-services-no-longer-respond-to-this-quarter-century-old-software
    🕹️📡 Google ปิดการรองรับ PlanetWeb 3.0 — Dreamcast สูญเสียเว็บเบราว์เซอร์ที่อยู่รอดมา 25 ปี เบราว์เซอร์ PlanetWeb 3.0 ของ Sega Dreamcast ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2001 และยังคง “ใช้งานได้” อย่างน่าประหลาดใจมานานกว่า 25 ปี เพิ่งถูก Google ปิดการรองรับอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้บริการหลักของ Google ไม่ตอบสนองต่อโปรโตคอล SSL/TLS เก่าอีกต่อไป ทำให้เบราว์เซอร์นี้แทบไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ได้แล้ว. PlanetWeb เป็นเบราว์เซอร์ที่มากับ Dreamcast ตั้งแต่ยุค dial‑up และแม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัย เช่น SSL เก่า, JavaScript engine รุ่นโบราณ และ ciphers ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ยังสามารถเข้าถึงบริการของ Google ได้จนถึงปี 2025 ซึ่งถือว่ายาวนานเกินคาดอย่างมาก การปิดครั้งนี้จึงเป็นเหมือน “การปิดฉากยุคอินเทอร์เน็ต 1.0” ที่ยังหลงเหลืออยู่ในเครื่องเกมคอนโซล. แม้บริการของ Google จะไม่รองรับแล้ว แต่ชุมชน Dreamcast ยังคงมีทางเลือก เช่น FrogFind.de ซึ่งเป็นเสิร์ชเอนจินที่ออกแบบมาให้รองรับเบราว์เซอร์เก่า รวมถึงเซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์ของ Phantasy Star Online และ Quake III Arena ที่ยังคงเปิดให้เล่นอยู่ ทำให้ Dreamcast ยังคงมีชีวิตในชุมชน retro gaming อย่างเหนียวแน่น. เหตุการณ์นี้สะท้อนความทนทานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ยุคเก่า รวมถึงพลังของชุมชนที่ยังคงดูแล ecosystem ของ Dreamcast แม้เวลาจะผ่านไปกว่าสองทศวรรษ และยังเป็นสัญญาณว่าบริการเว็บสมัยใหม่กำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคที่ความเข้ากันได้ย้อนหลัง (backward compatibility) จะยิ่งลดลงเรื่อยๆ. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Google ปิดการรองรับ PlanetWeb 3.0 อย่างเป็นทางการ ➡️ Dreamcast ไม่สามารถเข้าถึงบริการ Google ได้อีก ➡️ สาเหตุจาก SSL/TLS และ JavaScript engine ที่ล้าสมัย ✅ PlanetWeb อยู่รอดมาอย่างเหลือเชื่อกว่า 25 ปี ➡️ เปิดตัวปี 2001 พร้อม Dreamcast ➡️ ใช้เทคโนโลยีเว็บยุค dial‑up ✅ ชุมชนยังมีทางเลือกอื่นสำหรับ Dreamcast ➡️ FrogFind.de รองรับเบราว์เซอร์เก่า ➡️ เซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์ยังเปิดอยู่หลายเกม ✅ เป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดยุคเว็บเก่า ➡️ บริการสมัยใหม่ลดการรองรับโปรโตคอลเก่าอย่างต่อเนื่อง ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ Dreamcast จะใช้งานเว็บสมัยใหม่แทบไม่ได้แล้ว ⛔ ไม่มีการอัปเดตความปลอดภัยหรือโปรโตคอลใหม่ ‼️ บริการเว็บเก่าอาจทยอยปิดตัวตามมา ⛔ ความเข้ากันได้ย้อนหลังจะลดลงเรื่อยๆ ‼️ ผู้ใช้ควรระวังการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เก่า ⛔ โปรโตคอลเก่าอาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/the-sega-dreamcasts-planetweb-3-0-browser-was-killed-by-google-this-week-big-gs-services-no-longer-respond-to-this-quarter-century-old-software
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • MSI เปิดตัว Auto BCLK Overclocking บน X870 MAX — กดปุ่มเดียวเพิ่มแรง Ryzen 7 9800X3D ได้สูงสุด 15%

    MSI เปิดตัวชุดฟีเจอร์ใหม่บนเมนบอร์ด B850 และ X870 MAX ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถโอเวอร์คล็อกซีพียู AMD Ryzen 9000 Series ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะรุ่น Ryzen 7 9800X3D ที่ปกติจะโอเวอร์คล็อกได้จำกัด ฟีเจอร์ใหม่นี้รวมถึง PBO BCLK Booster, Memory Try It!, และ High-Efficiency Mode ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบให้ใช้งานแบบ “one‑click” ผ่าน BIOS.

    ฟีเจอร์ PBO BCLK Booster มีสองโหมด:
    Booster 1 → 103 MHz สำหรับซีพียูที่มี headroom ปานกลาง
    Booster 2 → 105 MHz สำหรับชิปที่ลากได้ไกลกว่า แต่ MSI เตือนว่าบางตัวอาจไม่เสถียร

    ด้านหน่วยความจำ MSI เพิ่มฟีเจอร์ Memory Try It! ที่ช่วยปรับ sub‑timings อัตโนมัติ และ High‑Efficiency Mode ที่มี preset ตั้งแต่ “tightest” ถึง “relax” เพื่อรีดประสิทธิภาพ DDR5 ให้สูงสุดโดยไม่ต้องจูนเองทีละค่า.

    จากผลทดสอบของ MSI เอง ฟีเจอร์เหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ตั้งแต่ 3–15% ขึ้นอยู่กับเกมหรือแอป เช่น Doom: The Dark Ages เพิ่มได้ถึง 15% ขณะที่เกมอื่นอย่าง Call of Duty: Black Ops 7 เพิ่มไม่ถึง 1% แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับลักษณะเวิร์กโหลดเป็นหลัก.

    โดยรวมแล้ว ฟีเจอร์นี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ MSI ที่ต้องการทำให้การโอเวอร์คล็อก “เข้าถึงง่าย” แม้สำหรับผู้ใช้ทั่วไป พร้อมผลักดันเมนบอร์ด X870 MAX ให้เป็นตัวเลือกหลักของผู้ใช้ Ryzen 9000 Series ที่ต้องการประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องจูนเองแบบละเอียด.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    MSI เพิ่มฟีเจอร์ Auto BCLK บน B850 และ X870 MAX
    ใช้งานแบบ one‑click ผ่าน BIOS
    เน้นเพิ่มประสิทธิภาพ Ryzen 9000 Series โดยเฉพาะ 9800X3D

    PBO BCLK Booster มี 2 โหมด
    103 MHz สำหรับชิปทั่วไป
    105 MHz สำหรับชิปที่ลากได้ไกลกว่า

    ฟีเจอร์หน่วยความจำช่วยรีดประสิทธิภาพ DDR5
    Memory Try It! สำหรับ sub‑timings
    High‑Efficiency Mode มี 4 preset

    ผลทดสอบเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 15%
    ขึ้นอยู่กับเกมและเวิร์กโหลด
    บางเกมเพิ่มน้อยกว่า 1%

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    โหมด BCLK 105 MHz อาจไม่เสถียรในบางชิป
    MSI เตือนว่าขึ้นอยู่กับ headroom ของซีพียูแต่ละตัว

    การโอเวอร์คล็อกอัตโนมัติยังมีความเสี่ยงด้านความร้อนและอายุการใช้งาน
    ควร stress‑test ทุกครั้งหลังเปิดฟีเจอร์

    ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นไม่สม่ำเสมอในทุกเกม
    บางเกมแทบไม่เพิ่มเลยแม้เปิดทุกฟีเจอร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/msi-adds-auto-bclk-overclocking-to-x870-max-motherboards-claims-new-one-click-features-add-up-to-15-percent-extra-performance-on-ryzen-7-9800x3d
    ⚙️🔥 MSI เปิดตัว Auto BCLK Overclocking บน X870 MAX — กดปุ่มเดียวเพิ่มแรง Ryzen 7 9800X3D ได้สูงสุด 15% MSI เปิดตัวชุดฟีเจอร์ใหม่บนเมนบอร์ด B850 และ X870 MAX ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถโอเวอร์คล็อกซีพียู AMD Ryzen 9000 Series ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะรุ่น Ryzen 7 9800X3D ที่ปกติจะโอเวอร์คล็อกได้จำกัด ฟีเจอร์ใหม่นี้รวมถึง PBO BCLK Booster, Memory Try It!, และ High-Efficiency Mode ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบให้ใช้งานแบบ “one‑click” ผ่าน BIOS. ฟีเจอร์ PBO BCLK Booster มีสองโหมด: 💠 Booster 1 → 103 MHz สำหรับซีพียูที่มี headroom ปานกลาง 💠 Booster 2 → 105 MHz สำหรับชิปที่ลากได้ไกลกว่า แต่ MSI เตือนว่าบางตัวอาจไม่เสถียร ด้านหน่วยความจำ MSI เพิ่มฟีเจอร์ Memory Try It! ที่ช่วยปรับ sub‑timings อัตโนมัติ และ High‑Efficiency Mode ที่มี preset ตั้งแต่ “tightest” ถึง “relax” เพื่อรีดประสิทธิภาพ DDR5 ให้สูงสุดโดยไม่ต้องจูนเองทีละค่า. จากผลทดสอบของ MSI เอง ฟีเจอร์เหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ตั้งแต่ 3–15% ขึ้นอยู่กับเกมหรือแอป เช่น Doom: The Dark Ages เพิ่มได้ถึง 15% ขณะที่เกมอื่นอย่าง Call of Duty: Black Ops 7 เพิ่มไม่ถึง 1% แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับลักษณะเวิร์กโหลดเป็นหลัก. โดยรวมแล้ว ฟีเจอร์นี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ MSI ที่ต้องการทำให้การโอเวอร์คล็อก “เข้าถึงง่าย” แม้สำหรับผู้ใช้ทั่วไป พร้อมผลักดันเมนบอร์ด X870 MAX ให้เป็นตัวเลือกหลักของผู้ใช้ Ryzen 9000 Series ที่ต้องการประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องจูนเองแบบละเอียด. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ MSI เพิ่มฟีเจอร์ Auto BCLK บน B850 และ X870 MAX ➡️ ใช้งานแบบ one‑click ผ่าน BIOS ➡️ เน้นเพิ่มประสิทธิภาพ Ryzen 9000 Series โดยเฉพาะ 9800X3D ✅ PBO BCLK Booster มี 2 โหมด ➡️ 103 MHz สำหรับชิปทั่วไป ➡️ 105 MHz สำหรับชิปที่ลากได้ไกลกว่า ✅ ฟีเจอร์หน่วยความจำช่วยรีดประสิทธิภาพ DDR5 ➡️ Memory Try It! สำหรับ sub‑timings ➡️ High‑Efficiency Mode มี 4 preset ✅ ผลทดสอบเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 15% ➡️ ขึ้นอยู่กับเกมและเวิร์กโหลด ➡️ บางเกมเพิ่มน้อยกว่า 1% ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ โหมด BCLK 105 MHz อาจไม่เสถียรในบางชิป ⛔ MSI เตือนว่าขึ้นอยู่กับ headroom ของซีพียูแต่ละตัว ‼️ การโอเวอร์คล็อกอัตโนมัติยังมีความเสี่ยงด้านความร้อนและอายุการใช้งาน ⛔ ควร stress‑test ทุกครั้งหลังเปิดฟีเจอร์ ‼️ ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นไม่สม่ำเสมอในทุกเกม ⛔ บางเกมแทบไม่เพิ่มเลยแม้เปิดทุกฟีเจอร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/msi-adds-auto-bclk-overclocking-to-x870-max-motherboards-claims-new-one-click-features-add-up-to-15-percent-extra-performance-on-ryzen-7-9800x3d
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    MSI adds auto BCLK overclocking to X870 MAX motherboards — claims new 'one-click' features add up to 15% extra performance on Ryzen 7 9800X3D
    MSI's new overclocking features make it easier to tighten sub-timings on some of its latest AM5 motherboards.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • Zen 6: สถาปัตยกรรมใหม่แบบ “8‑wide” ของ AMD — ก้าวกระโดดครั้งใหญ่สู่ยุค 2nm และงานเวกเตอร์หนัก

    AMD เปิดเผยเอกสารทางเทคนิคชุดแรกของ Zen 6 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสถาปัตยกรรม CPU รุ่นถัดไปของบริษัท โดย Zen 6 ไม่ใช่การพัฒนาต่อยอดจาก Zen 4/Zen 5 แบบ incremental แต่เป็นการออกแบบใหม่แทบทั้งหมด โดยเน้นความกว้างของสถาปัตยกรรม (wide issue) และ throughput เป็นหลัก เอกสาร “Performance Monitor Counters” ที่ถูกค้นพบโดย InstLatX64 ชี้ว่า Zen 6 ใช้ 8‑slot dispatch engine พร้อม SMT ที่แชร์ช่องสั่งงานร่วมกัน ทำให้เป็นดีไซน์ที่เน้นงานขนานและงานหนักด้านเวกเตอร์มากขึ้น.

    Zen 6 ยังเพิ่มความสามารถด้านเวกเตอร์อย่างชัดเจน โดยรองรับ AVX‑512 แบบเต็ม 512‑bit ครอบคลุม FP64, FP32, FP16, BF16 รวมถึงชุดคำสั่ง AI เช่น VNNI, AES, SHA และ mixed FP‑INT ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่า AMD ต้องการยกระดับ Zen 6 ให้เป็น “dense‑math engine” สำหรับงาน AI inference, HPC และเวิร์กโหลด data center โดยเฉพาะ. ความสามารถนี้สอดคล้องกับข้อมูลจาก HotHardware ที่ระบุว่า Zen 6 มี FP16 แบบ native และเพิ่ม hardware profiling สำหรับ memory behavior เพื่อแก้ปัญหาคอขวดด้าน latency และ bandwidth ในงานสมัยใหม่.

    อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ Zen 6 มี integer scheduler แยกเป็น 6 โดเมน แทนที่จะเป็น unified scheduler แบบ Zen 5 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่ อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพหรือความถี่สัญญาณนาฬิกาในงาน integer ได้มากขึ้น แม้ AMD ยังไม่เปิดเผยเหตุผลอย่างเป็นทางการก็ตาม. นอกจากนี้ Zen 6 ยังถูกออกแบบบนกระบวนการผลิต TSMC 2nm-class และในฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (EPYC “Venice”) จะรองรับจำนวนคอร์สูงสุดถึง 256 คอร์ ตามข้อมูลจาก Tom’s Hardware.

    โดยรวมแล้ว Zen 6 ดูเหมือนจะเป็นสถาปัตยกรรมที่ AMD ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อ data center, AI และงานเวกเตอร์หนักเป็นหลัก ก่อนจะนำบางส่วนมาปรับใช้ใน Ryzen รุ่นคอนซูเมอร์ในปี 2026–2027 ซึ่งอาจทำให้ยุค Zen 6 กลายเป็นหนึ่งในก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดของ AMD นับตั้งแต่ Zen รุ่นแรก.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Zen 6 เป็นสถาปัตยกรรมใหม่แบบ “8‑wide” เน้น throughput
    ใช้ 8‑slot dispatch engine พร้อม SMT ที่แชร์ช่องสั่งงานร่วมกัน
    ออกแบบใหม่ ไม่ใช่ incremental จาก Zen 5

    รองรับ AVX‑512 เต็มรูปแบบและงาน AI หนัก
    รองรับ FP64/FP32/FP16/BF16 และ VNNI, AES, SHA
    FP16 แบบ native เพิ่มประสิทธิภาพ AI inference อย่างมากHotHardware

    เพิ่มความสามารถด้าน memory profiling
    มี “Memory Profiler IBS” สำหรับวิเคราะห์ bottleneck ระดับ instruction

    เปลี่ยน integer backend เป็น 6 scheduler domains
    แตกต่างจาก Zen 5 ที่ใช้ unified scheduler

    ใช้กระบวนการผลิต 2nm-class และรองรับคอร์จำนวนมาก
    EPYC “Venice” อาจสูงสุดถึง 256 คอร์

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    ดีไซน์แบบ wide‑issue อาจไม่เด่นในงาน single‑thread
    Apple มีดีไซน์ 9‑wide ที่อาจยังแรงกว่าในบางงานตามข้อมูล Tom’s Hardware

    ฟีเจอร์บางอย่างอาจไม่ถูกนำมาใช้ใน Ryzen รุ่นคอนซูเมอร์
    Zen 6 ถูกออกแบบเพื่อ data center เป็นหลัก อาจมีการตัดทอนในรุ่นทั่วไป

    การเพิ่มความซับซ้อนของ scheduler อาจเพิ่มความเสี่ยงด้าน latency
    หากจัดการไม่ดี อาจเกิด overhead ในบางเวิร์กโหลด

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-pubs-first-zen-6-document-for-developers-a-brand-new-8-wide-cpu-core-with-strong-vector-capabilities
    🧠⚡ Zen 6: สถาปัตยกรรมใหม่แบบ “8‑wide” ของ AMD — ก้าวกระโดดครั้งใหญ่สู่ยุค 2nm และงานเวกเตอร์หนัก AMD เปิดเผยเอกสารทางเทคนิคชุดแรกของ Zen 6 อย่างเป็นทางการ ซึ่งเผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสถาปัตยกรรม CPU รุ่นถัดไปของบริษัท โดย Zen 6 ไม่ใช่การพัฒนาต่อยอดจาก Zen 4/Zen 5 แบบ incremental แต่เป็นการออกแบบใหม่แทบทั้งหมด โดยเน้นความกว้างของสถาปัตยกรรม (wide issue) และ throughput เป็นหลัก เอกสาร “Performance Monitor Counters” ที่ถูกค้นพบโดย InstLatX64 ชี้ว่า Zen 6 ใช้ 8‑slot dispatch engine พร้อม SMT ที่แชร์ช่องสั่งงานร่วมกัน ทำให้เป็นดีไซน์ที่เน้นงานขนานและงานหนักด้านเวกเตอร์มากขึ้น. Zen 6 ยังเพิ่มความสามารถด้านเวกเตอร์อย่างชัดเจน โดยรองรับ AVX‑512 แบบเต็ม 512‑bit ครอบคลุม FP64, FP32, FP16, BF16 รวมถึงชุดคำสั่ง AI เช่น VNNI, AES, SHA และ mixed FP‑INT ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่า AMD ต้องการยกระดับ Zen 6 ให้เป็น “dense‑math engine” สำหรับงาน AI inference, HPC และเวิร์กโหลด data center โดยเฉพาะ. ความสามารถนี้สอดคล้องกับข้อมูลจาก HotHardware ที่ระบุว่า Zen 6 มี FP16 แบบ native และเพิ่ม hardware profiling สำหรับ memory behavior เพื่อแก้ปัญหาคอขวดด้าน latency และ bandwidth ในงานสมัยใหม่. อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ Zen 6 มี integer scheduler แยกเป็น 6 โดเมน แทนที่จะเป็น unified scheduler แบบ Zen 5 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่ อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพหรือความถี่สัญญาณนาฬิกาในงาน integer ได้มากขึ้น แม้ AMD ยังไม่เปิดเผยเหตุผลอย่างเป็นทางการก็ตาม. นอกจากนี้ Zen 6 ยังถูกออกแบบบนกระบวนการผลิต TSMC 2nm-class และในฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (EPYC “Venice”) จะรองรับจำนวนคอร์สูงสุดถึง 256 คอร์ ตามข้อมูลจาก Tom’s Hardware. โดยรวมแล้ว Zen 6 ดูเหมือนจะเป็นสถาปัตยกรรมที่ AMD ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อ data center, AI และงานเวกเตอร์หนักเป็นหลัก ก่อนจะนำบางส่วนมาปรับใช้ใน Ryzen รุ่นคอนซูเมอร์ในปี 2026–2027 ซึ่งอาจทำให้ยุค Zen 6 กลายเป็นหนึ่งในก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดของ AMD นับตั้งแต่ Zen รุ่นแรก. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Zen 6 เป็นสถาปัตยกรรมใหม่แบบ “8‑wide” เน้น throughput ➡️ ใช้ 8‑slot dispatch engine พร้อม SMT ที่แชร์ช่องสั่งงานร่วมกัน ➡️ ออกแบบใหม่ ไม่ใช่ incremental จาก Zen 5 ✅ รองรับ AVX‑512 เต็มรูปแบบและงาน AI หนัก ➡️ รองรับ FP64/FP32/FP16/BF16 และ VNNI, AES, SHA ➡️ FP16 แบบ native เพิ่มประสิทธิภาพ AI inference อย่างมากHotHardware ✅ เพิ่มความสามารถด้าน memory profiling ➡️ มี “Memory Profiler IBS” สำหรับวิเคราะห์ bottleneck ระดับ instruction ✅ เปลี่ยน integer backend เป็น 6 scheduler domains ➡️ แตกต่างจาก Zen 5 ที่ใช้ unified scheduler ✅ ใช้กระบวนการผลิต 2nm-class และรองรับคอร์จำนวนมาก ➡️ EPYC “Venice” อาจสูงสุดถึง 256 คอร์ ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ ดีไซน์แบบ wide‑issue อาจไม่เด่นในงาน single‑thread ⛔ Apple มีดีไซน์ 9‑wide ที่อาจยังแรงกว่าในบางงานตามข้อมูล Tom’s Hardware ‼️ ฟีเจอร์บางอย่างอาจไม่ถูกนำมาใช้ใน Ryzen รุ่นคอนซูเมอร์ ⛔ Zen 6 ถูกออกแบบเพื่อ data center เป็นหลัก อาจมีการตัดทอนในรุ่นทั่วไป ‼️ การเพิ่มความซับซ้อนของ scheduler อาจเพิ่มความเสี่ยงด้าน latency ⛔ หากจัดการไม่ดี อาจเกิด overhead ในบางเวิร์กโหลด https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-pubs-first-zen-6-document-for-developers-a-brand-new-8-wide-cpu-core-with-strong-vector-capabilities
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • 12 ปีแห่ง “HODL” — จากโพสต์เมาๆ สู่กลยุทธ์ลงทุนที่ทำกำไร 16,666%

    ย้อนกลับไปวันที่ 18 ธันวาคม 2013 ผู้ใช้ชื่อ GameKyuubi บนฟอรั่ม Bitcointalk ได้โพสต์ข้อความที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความเมา พร้อมพิมพ์ผิดคำว่า “HOLD” กลายเป็น “HODL” โดยบอกว่าตัวเองเป็น “นักเทรดที่ห่วย” และจะไม่ขายแม้ราคา Bitcoin จะร่วงหนัก ข้อความนั้นกลายเป็นมีมระดับตำนาน และเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรม “ถือยาวไม่ขาย” ที่ครองใจนักลงทุนคริปโตทั่วโลก.

    ในเวลานั้น Bitcoin มีราคาเพียง $523 ต่อ 1 BTC ซึ่งถือว่าตกลงมามากจากจุดสูงสุด $1,132 ในเดือนก่อนหน้า แต่ถ้าใคร “HODL” จริงตามโพสต์นั้นและถือยาวมาถึงวันนี้ มูลค่าจะพุ่งขึ้นเป็นกว่า $87,623 ต่อ BTC หรือคิดเป็นกำไร 16,666% ตามข้อมูลในข่าว นี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของพลังการถือยาวในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอย่าง Bitcoin.

    แม้คำว่า HODL จะเกิดจากความเมา แต่วงการคริปโตได้ตีความใหม่ให้เป็น “Hold On for Dear Life” หรือ “จับไว้ให้แน่น” ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นระยะยาวมากกว่าการเทรดสั้นๆ ที่ต้องใช้ทักษะสูงและเสี่ยงต่อการขาดทุน การถือยาวจึงกลายเป็นทั้งวัฒนธรรมและกลยุทธ์ที่นักลงทุนจำนวนมากยึดถือ โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวนหนัก.

    อย่างไรก็ตาม แม้ตัวอย่างนี้จะดูสวยงาม แต่นักลงทุนแบบดั้งเดิมเตือนว่ากลยุทธ์ HODL อาจไม่เหมาะกับทุกคน เพราะการไม่ตัดขาดทุนเลยอาจทำให้พอร์ตเสียหายหนักในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง การจัดการความเสี่ยงและการวางแผนจึงยังเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะอยู่ในโลกคริปโตที่เต็มไปด้วยความเชื่อและวัฒนธรรมเฉพาะตัวก็ตาม.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ต้นกำเนิด HODL มาจากโพสต์เมาๆ ของ GameKyuubi ปี 2013
    พิมพ์ผิดจาก “HOLD” เป็น “HODL” แต่กลายเป็นมีมระดับโลก
    เกิดขึ้นช่วงราคา BTC ร่วงหนักจนชุมชนตื่นตระหนก

    การถือ 1 BTC จากปี 2013 ถึงวันนี้ให้ผลตอบแทน 16,666%
    จาก $523 → มากกว่า $87,000
    เป็นตัวอย่างคลาสสิกของการถือยาวในสินทรัพย์ผันผวน

    HODL ถูกตีความใหม่เป็น “Hold On for Dear Life”
    กลายเป็นวัฒนธรรมหลักของนักลงทุนคริปโต
    เน้นความเชื่อมั่นระยะยาวมากกว่าการเทรดรายวัน

    ข่าวชี้ว่ากลยุทธ์นี้ยังเป็นแรงบันดาลใจในวงการคริปโต
    แม้จะเริ่มจากความเมา แต่กลายเป็นหลักคิดที่ทรงพลัง

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    กลยุทธ์ HODL ไม่เหมาะกับทุกคน
    การไม่ตัดขาดทุนอาจทำให้พอร์ตเสียหายหนักในตลาดผันผวน

    การตีความ “ถือยาว” อาจทำให้มองข้ามความเสี่ยงจริง
    นักลงทุนบางรายอาจเข้าใจผิดว่า HODL คือวิธีที่ปลอดภัยเสมอ

    ข้อมูลในข่าวชี้ว่าควรระวังการมองอดีตเป็นตัวชี้อนาคต
    ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลลัพธ์ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/hodlers-began-hodling-bitcoin-12-years-ago-iconic-whisky-fuelled-investment-strategy-would-have-turned-usd523-into-over-usd87-000-a-16-666-percent-gain
    🥃🚀 12 ปีแห่ง “HODL” — จากโพสต์เมาๆ สู่กลยุทธ์ลงทุนที่ทำกำไร 16,666% ย้อนกลับไปวันที่ 18 ธันวาคม 2013 ผู้ใช้ชื่อ GameKyuubi บนฟอรั่ม Bitcointalk ได้โพสต์ข้อความที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความเมา พร้อมพิมพ์ผิดคำว่า “HOLD” กลายเป็น “HODL” โดยบอกว่าตัวเองเป็น “นักเทรดที่ห่วย” และจะไม่ขายแม้ราคา Bitcoin จะร่วงหนัก ข้อความนั้นกลายเป็นมีมระดับตำนาน และเป็นจุดเริ่มต้นของวัฒนธรรม “ถือยาวไม่ขาย” ที่ครองใจนักลงทุนคริปโตทั่วโลก. ในเวลานั้น Bitcoin มีราคาเพียง $523 ต่อ 1 BTC ซึ่งถือว่าตกลงมามากจากจุดสูงสุด $1,132 ในเดือนก่อนหน้า แต่ถ้าใคร “HODL” จริงตามโพสต์นั้นและถือยาวมาถึงวันนี้ มูลค่าจะพุ่งขึ้นเป็นกว่า $87,623 ต่อ BTC หรือคิดเป็นกำไร 16,666% ตามข้อมูลในข่าว นี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของพลังการถือยาวในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอย่าง Bitcoin. แม้คำว่า HODL จะเกิดจากความเมา แต่วงการคริปโตได้ตีความใหม่ให้เป็น “Hold On for Dear Life” หรือ “จับไว้ให้แน่น” ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นระยะยาวมากกว่าการเทรดสั้นๆ ที่ต้องใช้ทักษะสูงและเสี่ยงต่อการขาดทุน การถือยาวจึงกลายเป็นทั้งวัฒนธรรมและกลยุทธ์ที่นักลงทุนจำนวนมากยึดถือ โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวนหนัก. อย่างไรก็ตาม แม้ตัวอย่างนี้จะดูสวยงาม แต่นักลงทุนแบบดั้งเดิมเตือนว่ากลยุทธ์ HODL อาจไม่เหมาะกับทุกคน เพราะการไม่ตัดขาดทุนเลยอาจทำให้พอร์ตเสียหายหนักในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง การจัดการความเสี่ยงและการวางแผนจึงยังเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะอยู่ในโลกคริปโตที่เต็มไปด้วยความเชื่อและวัฒนธรรมเฉพาะตัวก็ตาม. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ต้นกำเนิด HODL มาจากโพสต์เมาๆ ของ GameKyuubi ปี 2013 ➡️ พิมพ์ผิดจาก “HOLD” เป็น “HODL” แต่กลายเป็นมีมระดับโลก ➡️ เกิดขึ้นช่วงราคา BTC ร่วงหนักจนชุมชนตื่นตระหนก ✅ การถือ 1 BTC จากปี 2013 ถึงวันนี้ให้ผลตอบแทน 16,666% ➡️ จาก $523 → มากกว่า $87,000 ➡️ เป็นตัวอย่างคลาสสิกของการถือยาวในสินทรัพย์ผันผวน ✅ HODL ถูกตีความใหม่เป็น “Hold On for Dear Life” ➡️ กลายเป็นวัฒนธรรมหลักของนักลงทุนคริปโต ➡️ เน้นความเชื่อมั่นระยะยาวมากกว่าการเทรดรายวัน ✅ ข่าวชี้ว่ากลยุทธ์นี้ยังเป็นแรงบันดาลใจในวงการคริปโต ➡️ แม้จะเริ่มจากความเมา แต่กลายเป็นหลักคิดที่ทรงพลัง ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ กลยุทธ์ HODL ไม่เหมาะกับทุกคน ⛔ การไม่ตัดขาดทุนอาจทำให้พอร์ตเสียหายหนักในตลาดผันผวน ‼️ การตีความ “ถือยาว” อาจทำให้มองข้ามความเสี่ยงจริง ⛔ นักลงทุนบางรายอาจเข้าใจผิดว่า HODL คือวิธีที่ปลอดภัยเสมอ ‼️ ข้อมูลในข่าวชี้ว่าควรระวังการมองอดีตเป็นตัวชี้อนาคต ⛔ ผลตอบแทนในอดีตไม่ได้การันตีผลลัพธ์ในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/hodlers-began-hodling-bitcoin-12-years-ago-iconic-whisky-fuelled-investment-strategy-would-have-turned-usd523-into-over-usd87-000-a-16-666-percent-gain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts