• #ป๋าตั๊ม ให้ #อภัยโทษ #ผู้ต้องขังคดี
    #บุกทำเนียบรัฐสภา ประท้วงพ่ายแพ้
    #เลือกต้ม 4 ปีก่อน

    BREAKING: Trump pardons approximately 1,500 defendants charged in January 6, 2021 Capitol riot and commutes 6 sentences.
    #ป๋าตั๊ม ให้ #อภัยโทษ #ผู้ต้องขังคดี #บุกทำเนียบรัฐสภา ประท้วงพ่ายแพ้ #เลือกต้ม 4 ปีก่อน BREAKING: Trump pardons approximately 1,500 defendants charged in January 6, 2021 Capitol riot and commutes 6 sentences.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ยธ.-ราชทัณฑ์" แถลงพักโทษผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว เผยกรรมการออกเสียง 8 ต่อ 0 ให้ "เสี่ยเปี๋ยง" เข้าเกณฑ์กรณีพิเศษ เพราะอายุ 70 ปี ป่วยร้ายแรง 7 โรค ไตวายเรื้อรังเสี่ยงเสียชีวิต เป็นผู้ต้องขังคนแรกที่ได้ผ่าตัดเปลี่ยนไต ส่วน "บุญทรง-ภูมิ สารผล" เข้าเกณฑ์ปกติ รับโทษมาแล้ว 2 ใน 3

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000117450

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ยธ.-ราชทัณฑ์" แถลงพักโทษผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว เผยกรรมการออกเสียง 8 ต่อ 0 ให้ "เสี่ยเปี๋ยง" เข้าเกณฑ์กรณีพิเศษ เพราะอายุ 70 ปี ป่วยร้ายแรง 7 โรค ไตวายเรื้อรังเสี่ยงเสียชีวิต เป็นผู้ต้องขังคนแรกที่ได้ผ่าตัดเปลี่ยนไต ส่วน "บุญทรง-ภูมิ สารผล" เข้าเกณฑ์ปกติ รับโทษมาแล้ว 2 ใน 3 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000117450 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    Like
    Haha
    Sad
    8
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1224 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ยธ.-ราชทัณฑ์" แถลงพักโทษผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว เผยกรรมการออกเสียง 8 ต่อ 0 ให้ "เสี่ยเปี๋ยง" เข้าเกณฑ์กรณีพิเศษ เพราะอายุ 70 ปี ป่วยร้ายแรง 7 โรค ไตวายเรื้อรังเสี่ยงเสียชีวิต เป็นผู้ต้องขังคนแรกที่ได้ผ่าตัดเปลี่ยนไต ส่วน "บุญทรง-ภูมิ สารผล" เข้าเกณฑ์ปกติ รับโทษมาแล้ว 2 ใน 3

    วันนี้ (6 ธ.ค.) เวลา 10.30 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพฯ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พร้อม ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ร่วมแถลงประเด็นการปล่อยตัว พักการลงโทษของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" ซึ่งเป็นกระแสข่าวที่อยู่ในความสนใจของประชาชนอยู่ในขณะนี้ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจร่วมกัน

    พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยว่า การพิจารณาการพักโทษของกรมราชทัณฑ์ มี 2 รูปแบบ โดยแบบปกติเป็นนักโทษชั้นกลาง ชั้นดีเยี่ยม การจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 ขอกำหนดโทษ ส่วนแบบพิเศษเป็นการจำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 รวมทั้งมีอาการป่วยรุนแรงและเฉพาะกฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งจะมีการพิจารณาเสนอรายชื่อจากทางเรือนจำและคณะกรรมการ 8 ราย เข้าอนุกรรมการกรมราชทัณฑ์ 19 ราย ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ แพทย์ ศาล กรม ประพฤติ โดยมีปลัด ยธ. เป็นประธาน ทั้งนี้ ในปี 66 มีการพักโทษแบบปกติ 10,552 คน แบบพิเศษ 1,776 คน รวม 12,328 คน ส่วนปี 67 มีการพักโทษแบบปกติ 6,792 คน แบบพิเศษ 1,320 คน รวมทั้งสิ้น 8,112 คน ข้อมูล ณ วันที่ 5 ม.ค.67

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000117450

    #MGROnline #ราชทัณฑ์ #พักโทษ #ผู้ต้องขัง #คดีจำนำข้าว #เสี่ยเปี๋ยง
    "ยธ.-ราชทัณฑ์" แถลงพักโทษผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว เผยกรรมการออกเสียง 8 ต่อ 0 ให้ "เสี่ยเปี๋ยง" เข้าเกณฑ์กรณีพิเศษ เพราะอายุ 70 ปี ป่วยร้ายแรง 7 โรค ไตวายเรื้อรังเสี่ยงเสียชีวิต เป็นผู้ต้องขังคนแรกที่ได้ผ่าตัดเปลี่ยนไต ส่วน "บุญทรง-ภูมิ สารผล" เข้าเกณฑ์ปกติ รับโทษมาแล้ว 2 ใน 3 • วันนี้ (6 ธ.ค.) เวลา 10.30 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพฯ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พร้อม ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ร่วมแถลงประเด็นการปล่อยตัว พักการลงโทษของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" ซึ่งเป็นกระแสข่าวที่อยู่ในความสนใจของประชาชนอยู่ในขณะนี้ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจร่วมกัน พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยว่า การพิจารณาการพักโทษของกรมราชทัณฑ์ มี 2 รูปแบบ โดยแบบปกติเป็นนักโทษชั้นกลาง ชั้นดีเยี่ยม การจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 ขอกำหนดโทษ ส่วนแบบพิเศษเป็นการจำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 รวมทั้งมีอาการป่วยรุนแรงและเฉพาะกฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งจะมีการพิจารณาเสนอรายชื่อจากทางเรือนจำและคณะกรรมการ 8 ราย เข้าอนุกรรมการกรมราชทัณฑ์ 19 ราย ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ แพทย์ ศาล กรม ประพฤติ โดยมีปลัด ยธ. เป็นประธาน ทั้งนี้ ในปี 66 มีการพักโทษแบบปกติ 10,552 คน แบบพิเศษ 1,776 คน รวม 12,328 คน ส่วนปี 67 มีการพักโทษแบบปกติ 6,792 คน แบบพิเศษ 1,320 คน รวมทั้งสิ้น 8,112 คน ข้อมูล ณ วันที่ 5 ม.ค.67 • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000117450 • #MGROnline #ราชทัณฑ์ #พักโทษ #ผู้ต้องขัง #คดีจำนำข้าว #เสี่ยเปี๋ยง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมว.ยธ. แจง "บุญทรง เตริยาภิรมย์" ผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 4 ครั้ง จนเหลือจำคุก 10 ปี ติดมาแล้ว 2 ใน 3 จึงเข้าเกณฑ์พักโทษ พร้อมผู้ต้องขังรายอื่น 1,000 กว่าคน แต่ต้องติดกำไล EM รายงานตัวกรมคุมประพฤติตามเงื่อนไข

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000115905

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รมว.ยธ. แจง "บุญทรง เตริยาภิรมย์" ผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 4 ครั้ง จนเหลือจำคุก 10 ปี ติดมาแล้ว 2 ใน 3 จึงเข้าเกณฑ์พักโทษ พร้อมผู้ต้องขังรายอื่น 1,000 กว่าคน แต่ต้องติดกำไล EM รายงานตัวกรมคุมประพฤติตามเงื่อนไข อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000115905 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Angry
    Like
    Sad
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1025 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถูกล้างสมองด้วยประชาธิปไตย-เสรีภาพ-ภราดรภาพ-ที่ไม่เคยมีอยู่จริง จากการหว่านเมล็ดพันธุ์ของ NED ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้องค์กร CIA ของสหรัฐอเมริกา เหมือนกับหลายๆคนในอีกหลายๆประเทศ โดยออกมาประท้วงเพื่อให้เกิดการปฏิวัติสี-ล้มเจ้า-ล้มล้างการปกครองในประเทศไทย...

    ในที่สุดก็หลบลี้หนีคดีไป ในฐานะพลเมืองโลก ของระเบียบโลกใหม่ New World Order...

    ( ...ผมจะเป็นกระบอกเสียงเพื่อนักต่อสู้ทุกคนให้อารยะประเทศได้รับรู้ถึงการกดขี่ การจำกัดสิทธิเสรีภาพผู้เห็นต่างทางการเมืองในประเทศไทย และเรียกร้องอิสรภาพให้กับคนที่ถูกดำเนินคดีจากความเห็นต่าง และเพื่อนผู้ต้องขังคดีทางการเมืองทุกคน ในฐานะพลเมืองโลก... )

    https://www.facebook.com/mike.jadnok/posts/pfbid0FrL6SVYtqWjfFiPphKhBpwAH3YVLiwhRzYQ4r1qcGdEQzsXuRsDwu9pwxhhScZYel
    .
    .
    .
    THE NATIONAL ENDOWMENT FOR DEMOCRACY
    https://www.ned.org/
    .
    About the National Endowment for Democracy
    https://www.ned.org/about/
    ถูกล้างสมองด้วยประชาธิปไตย-เสรีภาพ-ภราดรภาพ-ที่ไม่เคยมีอยู่จริง จากการหว่านเมล็ดพันธุ์ของ NED ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้องค์กร CIA ของสหรัฐอเมริกา เหมือนกับหลายๆคนในอีกหลายๆประเทศ โดยออกมาประท้วงเพื่อให้เกิดการปฏิวัติสี-ล้มเจ้า-ล้มล้างการปกครองในประเทศไทย... ในที่สุดก็หลบลี้หนีคดีไป ในฐานะพลเมืองโลก ของระเบียบโลกใหม่ New World Order... ( ...ผมจะเป็นกระบอกเสียงเพื่อนักต่อสู้ทุกคนให้อารยะประเทศได้รับรู้ถึงการกดขี่ การจำกัดสิทธิเสรีภาพผู้เห็นต่างทางการเมืองในประเทศไทย และเรียกร้องอิสรภาพให้กับคนที่ถูกดำเนินคดีจากความเห็นต่าง และเพื่อนผู้ต้องขังคดีทางการเมืองทุกคน ในฐานะพลเมืองโลก... ) https://www.facebook.com/mike.jadnok/posts/pfbid0FrL6SVYtqWjfFiPphKhBpwAH3YVLiwhRzYQ4r1qcGdEQzsXuRsDwu9pwxhhScZYel . . . THE NATIONAL ENDOWMENT FOR DEMOCRACY https://www.ned.org/ . About the National Endowment for Democracy https://www.ned.org/about/
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ราเกซ"อดีตพ่อมดการเงินที่ต้องโทษคดีฉ้อโกงธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ BBCจนแบงก์เจ้ง ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตำรวจเตรียมผลักดันออกนอกประเทศ
    .
    10 กันยายน 2567 -รายงานข่าวแจ้งว่า เช้าวันนี้ ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ไปรับตัวนายราเกซ สักเสนา (Rakesh Saxena) สัญชาติอินเดีย ผู้ต้องขังในคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ (บีบีซี) ออกจากเรือนจำ เพื่อผลักดันออกนอกประเทศ
    .
    หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 โดยได้ส่งตัวนายราเกซไปยังกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บก.สส.สตม.) เพื่อดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ต่อไป
    .
    นับเป็นการปิดฉากชีวิตพ่อมดการเงินในประเทศไทย จากการปล่อยสินเชื่อให้แก่นักธุรกิจและนักการเมืองเพื่อเข้าเทกโอเวอร์บริษัทต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีกำไรจากการซื้อมา-ขายไป จนเกิดหนี้เน่ามากกว่า 80,000 ล้านบาท และเป็นต้นเหตุที่ทำให้บีบีซีปิดกิจการ
    .
    สำหรับนายราเกซ ชาวเมืองอินดอร์ รัฐมัธยประเทศ อดีตโบรกเกอร์ค้าเงิน เป็นผู้ต้องขังคดีหมายเลขแดงที่ อ 4138/2559 ในความผิดฐานพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี ระหว่างปี 2537-2539 ขณะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งขณะนั้นคือนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์
    .
    โดยกระทำการทุจริตอนุมัติวงเงินสินเชื่อเกินบัญชี (โอดี) กับบริษัท สมประสงค์ อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และเอกชนอื่นร่วม 10 แห่ง เกินกว่า 30 ล้านบาท โดยไม่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองจากคณะกรรมการสินเชื่อ หรือคณะกรรมการบริหารของธนาคารก่อน อีกทั้งไม่ได้จัดให้มีหลักประกัน ไม่มีการวิเคราะห์ฐานะของลูกหนี้ และความสามารถในการชำระหนี้คืน อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งธนาคารแห่งประเทศไทย
    .
    นอกจากนี้ จำเลยและพวกยังได้ร่วมกันแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกันเบียดบังเอาเงินของธนาคารผู้เสียหาย (บีบีซี) ซึ่งอยู่ในความครอบครองของนายเกริกเกียรติ ไปเป็นของจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติโดยทุจริต แม้ภายหลังจำเลยกับพวกได้ชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหายบางส่วน แต่คงเหลือเงินที่ยังไม่ได้คืนผู้เสียหาย 353,363,966 บาท
    .
    คดีนี้ต่อสู้กันสามศาล ในที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 จำคุกกระทงละ 5 ปี และปรับกระทงละ 500,000 บาท โดยมีสำนวนแรก 60 กระทง สำนวนที่สอง 6 กระทง และสำนวนที่สาม 1 กระทง รวม 67 กระทง รวมจำคุก 335 ปี และปรับ 33,500,000 บาท เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุก 20 ปี และสั่งคืนเงินผู้เสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท
    .
    ก่อนหน้านี้นายราเกซหลบหนีคดีไปยังประเทศแคนาดา ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2539 แม้ทางการไทยได้ประสานงานกับแคนาดาขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่นายราเกซได้ให้ทนายความยื่นคัดค้าน ใช้ระยะเวลาพิจารณาถึง 13 ปี กระทั่งวันที่ 29 ต.ค. 2552 ศาลฎีกาแคนาดามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา และส่งตัวมาถึงประเทศไทยด้วยเที่ยวบิน TG 615 เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2552
    .
    ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาเมื่อปี 2555 จำคุกนายราเกซ 10 ปี และต่อสู้คดีเรื่อยมา กระทั่งคดีถึงที่สุดเมื่อปี 2565 รวมระยะเวลาที่รับโทษในประเทศไทย 15 ปี

    ที่มา https://sondhitalk.com/detail/9670000083928

    #Thaitimes
    "ราเกซ"อดีตพ่อมดการเงินที่ต้องโทษคดีฉ้อโกงธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ BBCจนแบงก์เจ้ง ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตำรวจเตรียมผลักดันออกนอกประเทศ . 10 กันยายน 2567 -รายงานข่าวแจ้งว่า เช้าวันนี้ ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ไปรับตัวนายราเกซ สักเสนา (Rakesh Saxena) สัญชาติอินเดีย ผู้ต้องขังในคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ (บีบีซี) ออกจากเรือนจำ เพื่อผลักดันออกนอกประเทศ . หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฏาคม 2567 โดยได้ส่งตัวนายราเกซไปยังกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บก.สส.สตม.) เพื่อดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ต่อไป . นับเป็นการปิดฉากชีวิตพ่อมดการเงินในประเทศไทย จากการปล่อยสินเชื่อให้แก่นักธุรกิจและนักการเมืองเพื่อเข้าเทกโอเวอร์บริษัทต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีกำไรจากการซื้อมา-ขายไป จนเกิดหนี้เน่ามากกว่า 80,000 ล้านบาท และเป็นต้นเหตุที่ทำให้บีบีซีปิดกิจการ . สำหรับนายราเกซ ชาวเมืองอินดอร์ รัฐมัธยประเทศ อดีตโบรกเกอร์ค้าเงิน เป็นผู้ต้องขังคดีหมายเลขแดงที่ อ 4138/2559 ในความผิดฐานพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี ระหว่างปี 2537-2539 ขณะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งขณะนั้นคือนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ . โดยกระทำการทุจริตอนุมัติวงเงินสินเชื่อเกินบัญชี (โอดี) กับบริษัท สมประสงค์ อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และเอกชนอื่นร่วม 10 แห่ง เกินกว่า 30 ล้านบาท โดยไม่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองจากคณะกรรมการสินเชื่อ หรือคณะกรรมการบริหารของธนาคารก่อน อีกทั้งไม่ได้จัดให้มีหลักประกัน ไม่มีการวิเคราะห์ฐานะของลูกหนี้ และความสามารถในการชำระหนี้คืน อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งธนาคารแห่งประเทศไทย . นอกจากนี้ จำเลยและพวกยังได้ร่วมกันแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ร่วมกันเบียดบังเอาเงินของธนาคารผู้เสียหาย (บีบีซี) ซึ่งอยู่ในความครอบครองของนายเกริกเกียรติ ไปเป็นของจำเลยกับพวกและนายเกริกเกียรติโดยทุจริต แม้ภายหลังจำเลยกับพวกได้ชดใช้เงินให้แก่ผู้เสียหายบางส่วน แต่คงเหลือเงินที่ยังไม่ได้คืนผู้เสียหาย 353,363,966 บาท . คดีนี้ต่อสู้กันสามศาล ในที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 จำคุกกระทงละ 5 ปี และปรับกระทงละ 500,000 บาท โดยมีสำนวนแรก 60 กระทง สำนวนที่สอง 6 กระทง และสำนวนที่สาม 1 กระทง รวม 67 กระทง รวมจำคุก 335 ปี และปรับ 33,500,000 บาท เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุก 20 ปี และสั่งคืนเงินผู้เสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท . ก่อนหน้านี้นายราเกซหลบหนีคดีไปยังประเทศแคนาดา ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2539 แม้ทางการไทยได้ประสานงานกับแคนาดาขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แต่นายราเกซได้ให้ทนายความยื่นคัดค้าน ใช้ระยะเวลาพิจารณาถึง 13 ปี กระทั่งวันที่ 29 ต.ค. 2552 ศาลฎีกาแคนาดามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา และส่งตัวมาถึงประเทศไทยด้วยเที่ยวบิน TG 615 เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2552 . ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาเมื่อปี 2555 จำคุกนายราเกซ 10 ปี และต่อสู้คดีเรื่อยมา กระทั่งคดีถึงที่สุดเมื่อปี 2565 รวมระยะเวลาที่รับโทษในประเทศไทย 15 ปี ที่มา https://sondhitalk.com/detail/9670000083928 #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2235 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปล่อยตัว เจสสิก้า วองโซ ทันฑ์บนคดีกาแฟไซยาไนด์

    ข่าวใหญ่ในอินโดนีเซียเวลานี้ คือ ผู้ต้องขังคดีฆาตกรรม เจสสิก้า วองโซ (Jessica Wongso) นักออกแบบกราฟิก ได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 หลังกรมราชทัณฑ์อินโดนีเซียประเมินว่าเป็นผู้คุมขังที่มีความประพฤติดี จึงได้รับการผ่อนผันการลงโทษ โดยได้รับโทษรวม 58 เดือน 30 วัน หรือประมาณ 4 ปี 11 เดือน

    เจสสิก้าได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำปอนดกบัมบู เมืองจาการ์ตาตะวันออก โดยมี อ็อตโต้ ฮาซิบวน (Otto Hasibuan) ทนายความเป็นผู้มารับ โดยได้ทักทายกับกองทัพสื่อมวลชน และกล่าวว่า ตนหิว อยากกินซูชิและเครื่องดื่มเย็นๆ

    โฆษกกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมของอินโดนีเซีย เดดดี้ เอ็ดวาร์ เอกา ซาปูตรา (Deddy Eduar Eka Saputra) ระบุว่า ระหว่างที่ถูกคุมขัง เจสสิก้าได้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ดีตามระบบคะแนนของผู้ต้องขัง จึงได้รับโทษทัณฑ์บน ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2575 แต่ระหว่างนั้นจะต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เป็นประจำ

    เจสสิก้าถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรม หลังจากเพื่อนสนิท วายัน มิร์นา ซาลิอิน (Wayan Mirna Salihin) ดื่มกาแฟเวียดนามเย็น ระหว่างพบกับเพื่อนๆ ที่ร้านโอลิเวอร์คาเฟ่ ภายในศูนย์การค้าแกรนด์อินโดนีเซีย กรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2559 ก่อนที่มิร์นาจะมีอาการชักและหมดสติ เสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล

    คดีนี้ตำรวจระบุว่า พบสารไซยาไนด์ในกาแฟที่มิร์นาดื่ม และเจสสิก้าตกเป็นผู้ต้องสงสัย กระทั่งถูกตำรวจควบคุมตัวเจสสิก้าเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ต่อมาวันที่ 21 มิถุนายน 2560 ศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 20 ปี และส่งตัวไปยังเรือนจำ แม้ฝ่ายของเจสสิก้าจะยื่นคำอุทธรณ์ แต่ศาลชั้นสูงได้ปฏิเสธคำอุทธรณ์ดังกล่าว

    เรื่องดังกล่าวเป็นคดีฆาตกรรมที่โด่งดังในปี 2559 สื่อมวลชนรายงานข่าวคดีนี้อย่างต่อเนื่อง กระทั่งการพิพากษาคดีได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และมีผู้ชมนับล้านคน หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ รายงานว่า ตามคำฟ้อง ผู้พิพากษาสรุปว่าเจสสิกาฆ่ามิร์นาเพื่อแก้แค้น ที่ก่อนหน้านี้มิร์นาบอกให้เจสสิกาเลิกกับ แพทริก โอคอนเนอร์ อดีตแฟนหนุ่มชาวออสเตรเลียของเธอ

    เรื่องราวระหว่างเจสสิก้าและมิร์นาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Ice Cold: Murder, Coffee and Jessica Wongso ผลิตโดย Beach House Pictures ออกอากาศผ่านเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่ามีเนื้อหาที่ยั่วยุและทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมของอินโดนีเซีย

    ขณะที่ทนายความอีกคนหนึ่งของเจสสิก้าอย่าง ฮิดายัต บอสตัม (Hidayat Bostam) กล่าวกับสำนักข่าวจาการ์ตาโกลบ (Jakarta Globe) ว่า ทีมทนายความยังคงดำเนินการพิจารณาทบทวนการตัดสินลงโทษเจสสิกาต่อไป โดยอ้างว่ามีหลักฐานใหม่ที่อาจพลิกคำตัดสินว่ามีความผิดได้ และจะยื่นคำร้องในสัปดาห์หน้า

    #Newskit #JessicaWongso #IceColdMurder
    ปล่อยตัว เจสสิก้า วองโซ ทันฑ์บนคดีกาแฟไซยาไนด์ ข่าวใหญ่ในอินโดนีเซียเวลานี้ คือ ผู้ต้องขังคดีฆาตกรรม เจสสิก้า วองโซ (Jessica Wongso) นักออกแบบกราฟิก ได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 หลังกรมราชทัณฑ์อินโดนีเซียประเมินว่าเป็นผู้คุมขังที่มีความประพฤติดี จึงได้รับการผ่อนผันการลงโทษ โดยได้รับโทษรวม 58 เดือน 30 วัน หรือประมาณ 4 ปี 11 เดือน เจสสิก้าได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำปอนดกบัมบู เมืองจาการ์ตาตะวันออก โดยมี อ็อตโต้ ฮาซิบวน (Otto Hasibuan) ทนายความเป็นผู้มารับ โดยได้ทักทายกับกองทัพสื่อมวลชน และกล่าวว่า ตนหิว อยากกินซูชิและเครื่องดื่มเย็นๆ โฆษกกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมของอินโดนีเซีย เดดดี้ เอ็ดวาร์ เอกา ซาปูตรา (Deddy Eduar Eka Saputra) ระบุว่า ระหว่างที่ถูกคุมขัง เจสสิก้าได้แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ดีตามระบบคะแนนของผู้ต้องขัง จึงได้รับโทษทัณฑ์บน ถึงวันที่ 27 มีนาคม 2575 แต่ระหว่างนั้นจะต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เป็นประจำ เจสสิก้าถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรม หลังจากเพื่อนสนิท วายัน มิร์นา ซาลิอิน (Wayan Mirna Salihin) ดื่มกาแฟเวียดนามเย็น ระหว่างพบกับเพื่อนๆ ที่ร้านโอลิเวอร์คาเฟ่ ภายในศูนย์การค้าแกรนด์อินโดนีเซีย กรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2559 ก่อนที่มิร์นาจะมีอาการชักและหมดสติ เสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล คดีนี้ตำรวจระบุว่า พบสารไซยาไนด์ในกาแฟที่มิร์นาดื่ม และเจสสิก้าตกเป็นผู้ต้องสงสัย กระทั่งถูกตำรวจควบคุมตัวเจสสิก้าเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ต่อมาวันที่ 21 มิถุนายน 2560 ศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 20 ปี และส่งตัวไปยังเรือนจำ แม้ฝ่ายของเจสสิก้าจะยื่นคำอุทธรณ์ แต่ศาลชั้นสูงได้ปฏิเสธคำอุทธรณ์ดังกล่าว เรื่องดังกล่าวเป็นคดีฆาตกรรมที่โด่งดังในปี 2559 สื่อมวลชนรายงานข่าวคดีนี้อย่างต่อเนื่อง กระทั่งการพิพากษาคดีได้รับการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และมีผู้ชมนับล้านคน หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ รายงานว่า ตามคำฟ้อง ผู้พิพากษาสรุปว่าเจสสิกาฆ่ามิร์นาเพื่อแก้แค้น ที่ก่อนหน้านี้มิร์นาบอกให้เจสสิกาเลิกกับ แพทริก โอคอนเนอร์ อดีตแฟนหนุ่มชาวออสเตรเลียของเธอ เรื่องราวระหว่างเจสสิก้าและมิร์นาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Ice Cold: Murder, Coffee and Jessica Wongso ผลิตโดย Beach House Pictures ออกอากาศผ่านเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่ามีเนื้อหาที่ยั่วยุและทำให้เกิดความวุ่นวาย เพราะวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรมของอินโดนีเซีย ขณะที่ทนายความอีกคนหนึ่งของเจสสิก้าอย่าง ฮิดายัต บอสตัม (Hidayat Bostam) กล่าวกับสำนักข่าวจาการ์ตาโกลบ (Jakarta Globe) ว่า ทีมทนายความยังคงดำเนินการพิจารณาทบทวนการตัดสินลงโทษเจสสิกาต่อไป โดยอ้างว่ามีหลักฐานใหม่ที่อาจพลิกคำตัดสินว่ามีความผิดได้ และจะยื่นคำร้องในสัปดาห์หน้า #Newskit #JessicaWongso #IceColdMurder
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1218 มุมมอง 0 รีวิว