• "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 431 Views 0 Reviews
  • ..คนยุคน้ำหมากเราก็เหนื่อยเป็นนะ,จะมั่วแต่มาออกมาไล่มาชุมนุมประกาศความชั่วเลวเป็นตัวแทนความดีเหี้ยนี้ไม่นานหรอก,มันบ่งบอกถึงระบบมันชั่วเลวชัดเจนจึงควบคุมคนชั่วเลวไม่ได้จริง,ระบบปกครองล้มเหลวจนเดือดร้อนประชาชนตนดำๆทั่วประเทศต้องมาทวงคืนความเป็นธรรมแทนคนไทยร่วมกันแทน,ในขณะตัวแทนพวกกาเลทอกตั้งอวดอวยตนกราบไหว้ก่อนกาเลือกบอกว่าจะเป็นตัวแทนที่ดีเสือกกระทำชั่ว,คนในระบบแบบคนข้าราชการก็ไม่ทำอะไรสร้างดุลความยุติธรรม,มองตาปริบๆในวงราชการตนเองนั่งคาตำแหน่งอำนาจกระจายเต็มแผ่นดินไทยตั้งแต่ระดับผู้ว่า,นายอำเภอคนราชการท้องถิ่นซึ่งชัดเจนว่าอยุติธรรมเต็มแผ่นดินเพียงใดในปัญหาประจำท้องถิ่นตนแต่ล่ะที่ พบเจอค่าจริงมากมาย แต่หดเป็นเต่าไม่บอกความจริงประชาชนเลยก็คนราชการนี้ล่ะ,บ่อน้ำมันบ่อทองคำมากมายเต็มประเทศระดับผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.รับรู้หมดล่ะ,อะไรไม่ดีก็ไม่คิดอ่านส่งเสริมให้ดี,อะไรดีก็ตัดตอนทำให้แย่,มันคือการปกครองแบบใด,บ่อนพนันเลวๆรู้ว่าชั่ว มีผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.กี่คนออกมาประกาศจุดยืนปกป้องประเทศให้พ้นอบายมุขในสิ่งชั่ว,นึกเล่นๆสิผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.ร่วมกันตีแผ่บอกค่าจริงที่เลวชั่วสาระพัดร่วมกัน ใครประชาชนที่ไหนจะมืดบอดอีก ตนในฐานะพ่อเมืองพ่อบ้านที่อวดอวยอ้างนักกลับไม่ออกมาสู้ อ้างผิดวิถีคนใต้ปกครองพะนะ ถ้าวิถีปกครองเหี้ยๆนี้ปิดปากให้อบายมุขสิ่งเลวชั่วเจริญรุ่งเรืองก็อย่ามีวิถีปกครองแบบนำพาประชาชนให้มืดบอดเลย บรรลุรู้เองพะนะ คงไม่จำเป็นต้องมีผู้ว่านายเภออบต.อบจ.ประดับแผ่นดินไทยสิ้นเปลืองงบประมาณประเทศที่แม้ความชั่วเลวก็ออกมาสู้รบกับข้าศึกชั่วเลวนี้แบบเปิดเผยชี้บอกเลวชั่วต่อทหารตนไม่ได้ว่ารบกับข้าศึกทำไม สู้เพื่ออะไรในนานแม่ทัพนำหน้ารบ,เสือกหลบมืดใต้ดินที่เกรงกลัวข้าศึกศัตรูแต่พอเงินเดือนออกสวัสดิโบนัสมารีบเร่งเบิกเร่งรับโอนเต็มๆ มันใช้ไม่ได้นะ,เราต้องล้างทุบทำลายวิถีปกครองที่ส่งเสริมความชั่วเลวเถอะ,ตนถูกปล้นก็ไม่สู้กลับเอาคืน,ตนถูกหลอกก็ไม่บอกความจริงให้หายโง่ไม่พาคนตามโง่ไปด้วย ฉีกความโง่ทิ้ง,แบบฉีกสัญญาทาสฉีกกฎหมายเลวชั่วที่ปล้นบ่อน้ำมันเราไปแบบฉีกรัฐธรรมนูญที่ทหารยึดอำนาจแล้วทำเสียของมาก,ไม่เป็นประโยชน์จริงอะไรต่อการสร้างชาติ นึกว่าจะเอาวัตถุดิบสร้างชาติคืนทั้งหมดได้เช่นสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายทีีเอกชนต่างชาติผูกขาดไปและคนทรยศเอกชนไทยเองยึดเอาผูกขาดเอาไปก็ด้วยให้ตกเป็นของกลางสร้างชาติจริงในอนาคตต่อยอดสิ่งต่างๆมากมายต่อไป,กาก&กระจอกมาก,ฝีมือไม่ถึง,เสียเวลาและเสียของจนก่อปัญหาไม่จบสิ้นถึงปัจจุบัน,ปัญหาทั้งหมดคือพวกปกครองพวกได้อำนาจไปปกครองที่ไร้ฝีมือ นำพาประเทศสู่ความฉิบหายทั่วประเทศ เจริญแบบเป็นทาสขี้ข้าวัตถุต่างชาติ เขาทุบทำลายตนเมื่อใดก็ไร้ความเจริญเพราะเจริญแบบปลอมๆ,ไม่สร้างรากฐานความเจริญที่แท้จริงจากคนของแผ่นดินไทยตนก่อน,ทุกๆคนไทยเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ ยืนด้วยขาตนเองจริง ร่ำรวยทางวัตถุแม้ไม่มากแต่ความว่าสิ้นชาติไทยจะไม่มีบนแผ่นดินไทยต่อคนไทยเราทุกๆคนและพลิกสู่เจริญวัตถุธาตุร่ำรวยทั้งทางกายและจิตวิญญาณที่ดีงามฝ่ายเดียวด้วยคู่ขนานโลกยุคล้ำๆต่างๆปรับเข้าลงตัวต่อโลกได้อย่างสบาย.
    ..ปัจจุบันสมควรจบจริง ภาคนักการเมืองแบบนี้และแบบภาคก่อนคณะกบฎ2475ก็คงรับการปกครองแบบนั้นไม่ได้ในสไตล์ศักดินาขี้ข้าทาสไพร่รับใช้แบบนั้น,วิถีปกครองเราต้องธรรมาธิปไตยสไตล์ธรรมะฝ่ายกุศลธรรมนำหน้าจริงๆจึงพอก้าวต่อไปได้,ทุกๆคนไทยจะมีธรรมดีปกครองในใจใครมันบนจริตสันดานปรับปรุงตนให้ดีขึ้นเรื่อยๆร่วมกันได้,ตรงข้ามทุกๆคนไทยขาดธรรมดี วุ่นวายทั้งชุมชนสังคมแบบในปัจจุบันนี้แน่นอน ทำร้ายกันแบบไร้สติคิดอ่านล่ะ,จึงต้องเคลียร์พื้นที่อย่างรวดเร็ว,ใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยต้องถีบออกจากประเทศไทยทั้งหมดทันที ความโกลาหลจากคนต่างบ้านต่างเมืองจะหมดไปจะเหลือแค่จัดการกันเองภายในล้วนๆ, นโยบายเร่งด่วนคือใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยกรุณาบินกลับประเทศตนเองทั้งหมดทันที,สนับสนุนส่งไปเกาะใดๆพักคนพวกนี้ได้,หรือติดต่อประเทศที่สามรับไปดูแลแทนแบบพวกสงครามพม่า,ไม่ใช่ภาระเราต้องแบกรับปัญหาที่บ้านเมืองมันเองก่อการกันเอง.แล้วมาสร้างความไม่สงบสุขแก่คนของแผ่นดินไทยในบ้านเมืองไทยเราด้วย,กิจการไหนเสียดายต่างด้าวกรุณาย้ายฐานการผลิตไปตั้งโรงงานที่ประเทศต่างด้าวนั้นเลยบวกตัดเครดิตในภาครัฐทั้งหมดที่รัฐส่งเสริมสนับสนุนทิ้งทั้งหมด ข้อหาส่งเสริมต่างด้าวสร้างภัยความมั่นคงไม่สงบต่อชุมชนสังคมรอบกิจการโรงงานและคนไทยร่วมทั้งประเทศ,
    ..แม้ฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆจะอาศัยต่างด้าวสร้างเป็นมือที่สามหรือใดๆจะก่อการลำบากหรือยากหรือไม่ได้เป็นเพียงอาศัยคนทรยศคนไทยอย่างเดียวแล้วแค่นั้นหรือมันก่อการเองของต่างชาตินั้นๆ.ตัดตอนปัญหาสาระพัดเลยล่ะหรือหมอพยาบาลที่ดูแลต่างด้าวมากกว่าคนไทย งบมากมาย ทรัพยากรจำกัดหลากหลายที่ต่างชาติต่างด้าวนี้มาแย่งชิงการใช้ขณะดำรงชีวิตไม่ให้ตายในไทยจะลดลงมหาศาลเป็นจำนวนมากทันที,ฝ่ายการเมืองเลวชั่วจะใช้ต่างด้าวมาปั่นป่วนใดๆก็จบเกมส์ด้วย,ความสงบสุขมากมายที่ผิดปกติไปเพราะต่างชาติต่างด้าวนี้ล่ะคือตัวปัญหาซึ่งคนชั่วสามารถวางสนุ็คใช้ในแผนการต่างๆมันได้,กิจการที่อาศัยทาสแรงงานต่างด้าวค้ากำไรจะตายลงไป,คนกิจการจริงจะอาศัยสัมมาครอบครัวใครมันทำการค้าขายแต่พอดีตามกำลังแรงตนใครมันไม่เอาเปรียบกันก็ว่า,สัมมาอาชีพมากมายจะค้าขายกันพอดีกำลังไม่กอบโกยรวบเอามากองแต่หน้าตักตนเอง,แรงตนกับคนในครอบครัวปกติทำรายได้10-100ล้าน โลภอยากได้มากๆตัดสัมมาอาชีพคนอื่นที่สามารถทำได้ไปยึดผูกขาดทำเองหมดจนตังกว่าแสนล้านหรือล้านล้านบาทจากแรงงานต่างด้าวนำเข้าหรือใครคนอื่นแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้,ตนครอบครัวใครมันทำได้เท่าไรก็เอาแต่พอดี ปล่อยคนอื่นๆร่ำรวยมีสุขบ้างในแต่ละท้องที่ จรรโจงชุมชนสังคมทั่วไทย ยืนร่วมกันด้วยขาตนเองร่วมกันในสัมมาอาชีพต่างๆบนแผ่นดินไทยตน,ซึ่งปัจจุบันเหี้ยภายในไม่พอ ไปเชิญชวนต่างชาติมายึดครองแผ่นดินไทยตนด้วย,แล้วฉลาดอวดโง่ว่านำพานักลงทุนมาลงแดกเต็มประเทศไทยได้.,วิถีปกครองนี้เลวชั่วและคือภัยความมั่นคงของประเทศไทยเราอย่างชัดเจน.

    https://m.youtube.com/watch?v=9krnTyEP7pQ
    ..คนยุคน้ำหมากเราก็เหนื่อยเป็นนะ,จะมั่วแต่มาออกมาไล่มาชุมนุมประกาศความชั่วเลวเป็นตัวแทนความดีเหี้ยนี้ไม่นานหรอก,มันบ่งบอกถึงระบบมันชั่วเลวชัดเจนจึงควบคุมคนชั่วเลวไม่ได้จริง,ระบบปกครองล้มเหลวจนเดือดร้อนประชาชนตนดำๆทั่วประเทศต้องมาทวงคืนความเป็นธรรมแทนคนไทยร่วมกันแทน,ในขณะตัวแทนพวกกาเลทอกตั้งอวดอวยตนกราบไหว้ก่อนกาเลือกบอกว่าจะเป็นตัวแทนที่ดีเสือกกระทำชั่ว,คนในระบบแบบคนข้าราชการก็ไม่ทำอะไรสร้างดุลความยุติธรรม,มองตาปริบๆในวงราชการตนเองนั่งคาตำแหน่งอำนาจกระจายเต็มแผ่นดินไทยตั้งแต่ระดับผู้ว่า,นายอำเภอคนราชการท้องถิ่นซึ่งชัดเจนว่าอยุติธรรมเต็มแผ่นดินเพียงใดในปัญหาประจำท้องถิ่นตนแต่ล่ะที่ พบเจอค่าจริงมากมาย แต่หดเป็นเต่าไม่บอกความจริงประชาชนเลยก็คนราชการนี้ล่ะ,บ่อน้ำมันบ่อทองคำมากมายเต็มประเทศระดับผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.รับรู้หมดล่ะ,อะไรไม่ดีก็ไม่คิดอ่านส่งเสริมให้ดี,อะไรดีก็ตัดตอนทำให้แย่,มันคือการปกครองแบบใด,บ่อนพนันเลวๆรู้ว่าชั่ว มีผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.กี่คนออกมาประกาศจุดยืนปกป้องประเทศให้พ้นอบายมุขในสิ่งชั่ว,นึกเล่นๆสิผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.ร่วมกันตีแผ่บอกค่าจริงที่เลวชั่วสาระพัดร่วมกัน ใครประชาชนที่ไหนจะมืดบอดอีก ตนในฐานะพ่อเมืองพ่อบ้านที่อวดอวยอ้างนักกลับไม่ออกมาสู้ อ้างผิดวิถีคนใต้ปกครองพะนะ ถ้าวิถีปกครองเหี้ยๆนี้ปิดปากให้อบายมุขสิ่งเลวชั่วเจริญรุ่งเรืองก็อย่ามีวิถีปกครองแบบนำพาประชาชนให้มืดบอดเลย บรรลุรู้เองพะนะ คงไม่จำเป็นต้องมีผู้ว่านายเภออบต.อบจ.ประดับแผ่นดินไทยสิ้นเปลืองงบประมาณประเทศที่แม้ความชั่วเลวก็ออกมาสู้รบกับข้าศึกชั่วเลวนี้แบบเปิดเผยชี้บอกเลวชั่วต่อทหารตนไม่ได้ว่ารบกับข้าศึกทำไม สู้เพื่ออะไรในนานแม่ทัพนำหน้ารบ,เสือกหลบมืดใต้ดินที่เกรงกลัวข้าศึกศัตรูแต่พอเงินเดือนออกสวัสดิโบนัสมารีบเร่งเบิกเร่งรับโอนเต็มๆ มันใช้ไม่ได้นะ,เราต้องล้างทุบทำลายวิถีปกครองที่ส่งเสริมความชั่วเลวเถอะ,ตนถูกปล้นก็ไม่สู้กลับเอาคืน,ตนถูกหลอกก็ไม่บอกความจริงให้หายโง่ไม่พาคนตามโง่ไปด้วย ฉีกความโง่ทิ้ง,แบบฉีกสัญญาทาสฉีกกฎหมายเลวชั่วที่ปล้นบ่อน้ำมันเราไปแบบฉีกรัฐธรรมนูญที่ทหารยึดอำนาจแล้วทำเสียของมาก,ไม่เป็นประโยชน์จริงอะไรต่อการสร้างชาติ นึกว่าจะเอาวัตถุดิบสร้างชาติคืนทั้งหมดได้เช่นสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายทีีเอกชนต่างชาติผูกขาดไปและคนทรยศเอกชนไทยเองยึดเอาผูกขาดเอาไปก็ด้วยให้ตกเป็นของกลางสร้างชาติจริงในอนาคตต่อยอดสิ่งต่างๆมากมายต่อไป,กาก&กระจอกมาก,ฝีมือไม่ถึง,เสียเวลาและเสียของจนก่อปัญหาไม่จบสิ้นถึงปัจจุบัน,ปัญหาทั้งหมดคือพวกปกครองพวกได้อำนาจไปปกครองที่ไร้ฝีมือ นำพาประเทศสู่ความฉิบหายทั่วประเทศ เจริญแบบเป็นทาสขี้ข้าวัตถุต่างชาติ เขาทุบทำลายตนเมื่อใดก็ไร้ความเจริญเพราะเจริญแบบปลอมๆ,ไม่สร้างรากฐานความเจริญที่แท้จริงจากคนของแผ่นดินไทยตนก่อน,ทุกๆคนไทยเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ ยืนด้วยขาตนเองจริง ร่ำรวยทางวัตถุแม้ไม่มากแต่ความว่าสิ้นชาติไทยจะไม่มีบนแผ่นดินไทยต่อคนไทยเราทุกๆคนและพลิกสู่เจริญวัตถุธาตุร่ำรวยทั้งทางกายและจิตวิญญาณที่ดีงามฝ่ายเดียวด้วยคู่ขนานโลกยุคล้ำๆต่างๆปรับเข้าลงตัวต่อโลกได้อย่างสบาย. ..ปัจจุบันสมควรจบจริง ภาคนักการเมืองแบบนี้และแบบภาคก่อนคณะกบฎ2475ก็คงรับการปกครองแบบนั้นไม่ได้ในสไตล์ศักดินาขี้ข้าทาสไพร่รับใช้แบบนั้น,วิถีปกครองเราต้องธรรมาธิปไตยสไตล์ธรรมะฝ่ายกุศลธรรมนำหน้าจริงๆจึงพอก้าวต่อไปได้,ทุกๆคนไทยจะมีธรรมดีปกครองในใจใครมันบนจริตสันดานปรับปรุงตนให้ดีขึ้นเรื่อยๆร่วมกันได้,ตรงข้ามทุกๆคนไทยขาดธรรมดี วุ่นวายทั้งชุมชนสังคมแบบในปัจจุบันนี้แน่นอน ทำร้ายกันแบบไร้สติคิดอ่านล่ะ,จึงต้องเคลียร์พื้นที่อย่างรวดเร็ว,ใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยต้องถีบออกจากประเทศไทยทั้งหมดทันที ความโกลาหลจากคนต่างบ้านต่างเมืองจะหมดไปจะเหลือแค่จัดการกันเองภายในล้วนๆ, นโยบายเร่งด่วนคือใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยกรุณาบินกลับประเทศตนเองทั้งหมดทันที,สนับสนุนส่งไปเกาะใดๆพักคนพวกนี้ได้,หรือติดต่อประเทศที่สามรับไปดูแลแทนแบบพวกสงครามพม่า,ไม่ใช่ภาระเราต้องแบกรับปัญหาที่บ้านเมืองมันเองก่อการกันเอง.แล้วมาสร้างความไม่สงบสุขแก่คนของแผ่นดินไทยในบ้านเมืองไทยเราด้วย,กิจการไหนเสียดายต่างด้าวกรุณาย้ายฐานการผลิตไปตั้งโรงงานที่ประเทศต่างด้าวนั้นเลยบวกตัดเครดิตในภาครัฐทั้งหมดที่รัฐส่งเสริมสนับสนุนทิ้งทั้งหมด ข้อหาส่งเสริมต่างด้าวสร้างภัยความมั่นคงไม่สงบต่อชุมชนสังคมรอบกิจการโรงงานและคนไทยร่วมทั้งประเทศ, ..แม้ฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆจะอาศัยต่างด้าวสร้างเป็นมือที่สามหรือใดๆจะก่อการลำบากหรือยากหรือไม่ได้เป็นเพียงอาศัยคนทรยศคนไทยอย่างเดียวแล้วแค่นั้นหรือมันก่อการเองของต่างชาตินั้นๆ.ตัดตอนปัญหาสาระพัดเลยล่ะหรือหมอพยาบาลที่ดูแลต่างด้าวมากกว่าคนไทย งบมากมาย ทรัพยากรจำกัดหลากหลายที่ต่างชาติต่างด้าวนี้มาแย่งชิงการใช้ขณะดำรงชีวิตไม่ให้ตายในไทยจะลดลงมหาศาลเป็นจำนวนมากทันที,ฝ่ายการเมืองเลวชั่วจะใช้ต่างด้าวมาปั่นป่วนใดๆก็จบเกมส์ด้วย,ความสงบสุขมากมายที่ผิดปกติไปเพราะต่างชาติต่างด้าวนี้ล่ะคือตัวปัญหาซึ่งคนชั่วสามารถวางสนุ็คใช้ในแผนการต่างๆมันได้,กิจการที่อาศัยทาสแรงงานต่างด้าวค้ากำไรจะตายลงไป,คนกิจการจริงจะอาศัยสัมมาครอบครัวใครมันทำการค้าขายแต่พอดีตามกำลังแรงตนใครมันไม่เอาเปรียบกันก็ว่า,สัมมาอาชีพมากมายจะค้าขายกันพอดีกำลังไม่กอบโกยรวบเอามากองแต่หน้าตักตนเอง,แรงตนกับคนในครอบครัวปกติทำรายได้10-100ล้าน โลภอยากได้มากๆตัดสัมมาอาชีพคนอื่นที่สามารถทำได้ไปยึดผูกขาดทำเองหมดจนตังกว่าแสนล้านหรือล้านล้านบาทจากแรงงานต่างด้าวนำเข้าหรือใครคนอื่นแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้,ตนครอบครัวใครมันทำได้เท่าไรก็เอาแต่พอดี ปล่อยคนอื่นๆร่ำรวยมีสุขบ้างในแต่ละท้องที่ จรรโจงชุมชนสังคมทั่วไทย ยืนร่วมกันด้วยขาตนเองร่วมกันในสัมมาอาชีพต่างๆบนแผ่นดินไทยตน,ซึ่งปัจจุบันเหี้ยภายในไม่พอ ไปเชิญชวนต่างชาติมายึดครองแผ่นดินไทยตนด้วย,แล้วฉลาดอวดโง่ว่านำพานักลงทุนมาลงแดกเต็มประเทศไทยได้.,วิถีปกครองนี้เลวชั่วและคือภัยความมั่นคงของประเทศไทยเราอย่างชัดเจน. https://m.youtube.com/watch?v=9krnTyEP7pQ
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • AMD ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในไมโครโค้ดของชิป Zen 5 ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่เรียกว่า EntrySign (ID: AMD-SB-7033) โดยช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันไมโครโค้ดที่ไม่ได้รับการลงนามบน CPU ซึ่งอาจนำไปสู่การโจมตีที่มีความเสี่ยงสูง

    ช่องโหว่นี้เกิดจากกระบวนการตรวจสอบลายเซ็นที่ใช้ AES-CMAC ซึ่งเป็นอัลกอริธึมที่มีความปลอดภัยต่ำ โดยนักวิจัยจาก Google สามารถสร้างลายเซ็นปลอมเพื่อรันไมโครโค้ดที่เป็นอันตรายได้ อย่างไรก็ตาม การโจมตีนี้ต้องการสิทธิ์ระดับ Kernel-level (ring 0) ซึ่งทำให้ช่องโหว่นี้มีความเสี่ยงต่ำในสภาพแวดล้อมทั่วไป

    AMD ได้ส่งมอบเฟิร์มแวร์ที่แก้ไขช่องโหว่ให้กับผู้ผลิตเมนบอร์ดในเดือนที่ผ่านมา โดย MSI เป็นผู้ผลิตรายแรกที่ออก BIOS อัปเดตสำหรับเมนบอร์ดในซีรีส์ 800 ซึ่งใช้เฟิร์มแวร์ AGESA 1.2.0.3C เพื่อแก้ไขปัญหานี้

    นอกจากนี้ ช่องโหว่นี้ยังส่งผลกระทบต่อโปรเซสเซอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ เช่น EPYC 9005 (Turin) ซึ่งอาจทำให้เทคโนโลยี SEV และ SEV-SNP ที่ใช้ปกป้องข้อมูลในเครื่องเสมือนถูกโจมตี

    ✅ ช่องโหว่ใน Zen 5
    - ช่องโหว่ EntrySign เปิดโอกาสให้รันไมโครโค้ดที่ไม่ได้รับการลงนามบน CPU
    - เกิดจากกระบวนการตรวจสอบลายเซ็นที่ใช้ AES-CMAC

    ✅ การตอบสนองของ AMD
    - AMD ส่งมอบเฟิร์มแวร์ที่แก้ไขช่องโหว่ให้กับผู้ผลิตเมนบอร์ด
    - MSI ออก BIOS อัปเดตสำหรับเมนบอร์ดในซีรีส์ 800

    ✅ ผลกระทบต่อโปรเซสเซอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์
    - ช่องโหว่ส่งผลกระทบต่อ EPYC 9005 ซึ่งอาจทำให้เทคโนโลยี SEV และ SEV-SNP ถูกโจมตี

    ✅ การป้องกันในระดับผู้ใช้งานทั่วไป
    - ไมโครโค้ดที่รันผ่านช่องโหว่จะไม่คงอยู่หลังจากรีบูตระบบ


    https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/amd-patches-critical-zen-5-microcode-bug-partners-deliver-new-bios-with-agesa-1-2-0-3c
    AMD ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในไมโครโค้ดของชิป Zen 5 ซึ่งเป็นช่องโหว่ที่เรียกว่า EntrySign (ID: AMD-SB-7033) โดยช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันไมโครโค้ดที่ไม่ได้รับการลงนามบน CPU ซึ่งอาจนำไปสู่การโจมตีที่มีความเสี่ยงสูง ช่องโหว่นี้เกิดจากกระบวนการตรวจสอบลายเซ็นที่ใช้ AES-CMAC ซึ่งเป็นอัลกอริธึมที่มีความปลอดภัยต่ำ โดยนักวิจัยจาก Google สามารถสร้างลายเซ็นปลอมเพื่อรันไมโครโค้ดที่เป็นอันตรายได้ อย่างไรก็ตาม การโจมตีนี้ต้องการสิทธิ์ระดับ Kernel-level (ring 0) ซึ่งทำให้ช่องโหว่นี้มีความเสี่ยงต่ำในสภาพแวดล้อมทั่วไป AMD ได้ส่งมอบเฟิร์มแวร์ที่แก้ไขช่องโหว่ให้กับผู้ผลิตเมนบอร์ดในเดือนที่ผ่านมา โดย MSI เป็นผู้ผลิตรายแรกที่ออก BIOS อัปเดตสำหรับเมนบอร์ดในซีรีส์ 800 ซึ่งใช้เฟิร์มแวร์ AGESA 1.2.0.3C เพื่อแก้ไขปัญหานี้ นอกจากนี้ ช่องโหว่นี้ยังส่งผลกระทบต่อโปรเซสเซอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ เช่น EPYC 9005 (Turin) ซึ่งอาจทำให้เทคโนโลยี SEV และ SEV-SNP ที่ใช้ปกป้องข้อมูลในเครื่องเสมือนถูกโจมตี ✅ ช่องโหว่ใน Zen 5 - ช่องโหว่ EntrySign เปิดโอกาสให้รันไมโครโค้ดที่ไม่ได้รับการลงนามบน CPU - เกิดจากกระบวนการตรวจสอบลายเซ็นที่ใช้ AES-CMAC ✅ การตอบสนองของ AMD - AMD ส่งมอบเฟิร์มแวร์ที่แก้ไขช่องโหว่ให้กับผู้ผลิตเมนบอร์ด - MSI ออก BIOS อัปเดตสำหรับเมนบอร์ดในซีรีส์ 800 ✅ ผลกระทบต่อโปรเซสเซอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ - ช่องโหว่ส่งผลกระทบต่อ EPYC 9005 ซึ่งอาจทำให้เทคโนโลยี SEV และ SEV-SNP ถูกโจมตี ✅ การป้องกันในระดับผู้ใช้งานทั่วไป - ไมโครโค้ดที่รันผ่านช่องโหว่จะไม่คงอยู่หลังจากรีบูตระบบ https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/amd-patches-critical-zen-5-microcode-bug-partners-deliver-new-bios-with-agesa-1-2-0-3c
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD patches critical Zen 5 microcode bug — partners deliver new BIOS with AGESA 1.2.0.3C
    Check your motherboard vendor's website to see if a new BIOS is available.
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • ภาวะไร้ราคา เมื่อรู้สึกว่าไม่มีคุณค่าในสายตาใคร แม้กระทั่งความในใจ…ยังต้องใช้เงินถึงจะมีคนสนใจ 💸🧍‍♂️

    💡 เข้าใจลึกถึงภาวะ "ไร้คุณค่า" ในมุมที่หลายคนอาจเคยสัมผัส แต่ไม่กล้าพูดถึง ตั้งแต่ความเจ็บที่ซ่อนในความเงียบ ไปจนถึงพฤติกรรมที่ดูแรง แต่เต็มไปด้วยคำขอความเข้าใจ พร้อมแนวทางรับมืออย่างเข้าใจ ทั้งใจเราและใจเขา

    📝 ภาวะไร้ราคาในใจคน ความเงียบที่เจ็บปวด และวิธีรับมือด้วยความเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องเปล่งเสียงดัง เพื่อให้ใครได้ยิน 🌐

    🔍 เสียงของความเงียบที่ไม่มีใครฟัง “แม้กระทั่งความในใจ…ยังต้องใช้เงิน ถึงจะมีคนสนใจ” ประโยคนี้อาจฟังดูประชดประชัน แต่มันสะท้อนความจริงเจ็บลึก ของคนจำนวนมาก ในยุคที่โลกออนไลน์ กลายเป็นเวทีให้คนตะโกนหา ‘ตัวตน’

    ในสังคมที่ทุกอย่างวัดค่าจากยอดไลก์ 💬 ความสนใจ 🧠 หรือจำนวนผู้ติดตาม คนที่รู้สึกว่าไม่มีใครฟัง ไม่มีใครแคร์ อาจเริ่มตั้งคำถามว่า “เรายังมีตัวตนอยู่จริงไหม?”

    ความเงียบไม่ใช่สิ่งเลวร้าย… แต่เมื่อความเงียบนั้นไม่ใช่ ‘พื้นที่พักใจ’ แต่คือ ‘กำแพงที่กั้นไม่ให้ใครเห็นเรา’ มันกลายเป็นความเจ็บที่ไม่พูดก็ไม่เข้าใจ

    🔍 "ภาวะไร้ราคา" หรือ "Worthlessness" คือความรู้สึกที่ว่า… เราไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมาย ไม่มีใครสนใจ หรือแม้แต่สังเกตเห็นว่าเรามีตัวตน

    📌 ความรู้สึกนี้มักเกิดขึ้นจากปัจจัยทางจิตใจ สังคม หรือการเปรียบเทียบกับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเรารู้สึกว่า "ความรู้สึกของเราไม่ถูกฟัง ไม่ถูกเห็น"

    ตัวอย่างของภาวะนี้... โพสต์อะไรแล้วไม่มีใครสนใจ 📉 พูดสิ่งที่รู้สึก แต่ไม่มีใครใส่ใจฟัง 🧏‍♀️ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีบทบาทในกลุ่ม หรือในครอบครัว

    🧠 ซึ่งภาวะนี้หากปล่อยไว้ ไม่จัดการ อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า, การแยกตัวทางสังคม หรือแม้กระทั่งความคิดอยากทำร้ายตัวเอง

    🔍 ยุคนี้มีรู้สึก "ไร้คุณค่า" มากขึ้น เพราะวัฒนธรรมเปรียบเทียบ ทุกคนโพสต์แต่สิ่งที่ดีที่สุด 📷 เราเห็นแต่ภาพ “สำเร็จ” ของคนอื่น แต่ไม่เห็นความล้มเหลว ทำให้เรารู้สึกว่า “เรายังไม่ดีพอ”

    การนิยามตัวตนจากความสนใจภายนอก หากโพสต์ไม่มีคนกดไลก์ 🖱️ หรือเรื่องที่เราพูดไม่มีใครสนใจ เราอาจรู้สึกว่า “เสียงของเราไม่มีความหมาย”

    พฤติกรรมของคนรอบข้าง เช่น คนในครอบครัว เพิกเฉยต่อสิ่งที่เราพูด เพื่อนร่วมงานไม่ฟังความเห็น หรือการถูกมองข้ามซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ความเหนื่อยล้าจากการ "สร้างภาพ" การต้อง "ดูดี" ตลอดเวลา เหมือนการใส่หน้ากาก ที่ไม่สามารถถอดได้ แม้แต่ตอนอยู่คนเดียว

    🔍 เมื่อเสียงที่ถูกเพิกเฉย กลายเป็นคำพูดที่รุนแรง คนที่ “ตะโกน” ออกมา อาจไม่ใช่คนที่อยากทำร้ายใคร แต่อาจเป็นคนที่อยากให้ “ใครบางคน” ได้ยิน

    หลายครั้งที่การด่าทอ 🗣️ การประชดชีวิต หรือการแสดงพฤติกรรมแรง ๆ ไม่ได้เกิดจาก “ความเกลียด” แต่เกิดจากความพยายาม “ส่งเสียง” ครั้งสุดท้าย

    เขาอาจพยายามพูดดี ๆ แล้ว อาจเคยแสดงออกด้วยวิธีที่นุ่มนวลกว่า แต่เมื่อไม่มีใครฟัง… ก็เลย “พูดให้ดังขึ้น” แม้มันจะมาในรูปแบบของ “คำพูดที่เจ็บ” ก็ตาม

    🪧 ยอมเสียเงินทำป้าย เพื่อให้คนสนใจ ความเจ็บที่กลายเป็นข้อความ "เมื่อโพสต์ไม่มีใครกดไลก์ เมื่อพูดแล้วไม่มีใครฟัง… บางคนเลือก ‘จ่ายเงิน’ เพื่อให้ความรู้สึกของตัวเองได้มีคนเห็น"

    การยอมลงทุนทำป้ายติดหน้าบ้าน ไม่ใช่แค่เพราะอยากประชดชีวิต แต่มันคือการพยายาม ‘ปล่อยเสียงออกมาให้ดังพอ’ ที่จะทะลุผ่านกำแพงความเงียบ ของสังคมในยุคนี้

    😢 ความเจ็บที่อยู่เบื้องหลังข้อความบนป้าย หลายคนอาจหัวเราะ เมื่อเห็นใครทำป้ายที่มีข้อความแรง ๆ ติดไว้หน้าบ้าน แต่ถ้าลองหยุดและคิดดี ๆ... คนที่เลือกวิธีนี้ อาจไม่ใช่คนที่อยากทำร้ายใคร แต่คือคนที่ “กำลังร้องไห้เงียบ ๆ อยู่ข้างใน”

    เพราะอาจเคยพูดแล้ว เคยขอความช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเห็น…

    สุดท้ายเลยต้อง “เปลี่ยนความรู้สึกเป็นตัวหนังสือ” แล้วแปะไว้ให้โลกรู้ แม้จะต้อง “เสียเงิน” เพื่อให้ข้อความนี้ มีพื้นที่อยู่บ้างก็ตาม

    💬 ข้อความที่คนไม่กล้าพูด แต่กล้าเขียน ข้อความเหล่านี้ มักไม่ใช่ถ้อยคำสุภาพ แต่มันคือ ความรู้สึกดิบๆ จากคนที่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร

    บางข้อความอาจดู “แรง” บางข้อความอาจดู “ตลกร้าย” แต่เกือบทุกข้อความ…แฝง “ความเจ็บปวด” เสมอ เช่น...

    "ทำไมเงียบกันจังวะ? หรือเราตายไปแล้ว?"

    "ใครสักคน สนใจหน่อยไม่ได้เหรอ?"

    "ถึงต้องซื้อป้าย ถึงจะมีคนอ่านใจเรา"

    "ฉันรังเกียจโน่น นี่ นั่น..."

    เสียงพวกนี้ บางทีก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนสนใจ แต่อยากให้ “ใครบางคน” เห็น…

    📌 ความจริงที่น่ากลัวกว่า "ความรุนแรง" คือ "ความเงียบ" ความรุนแรงของถ้อยคำ อาจดูน่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ความเงียบที่ทำให้คนรู้สึกว่า ‘ไม่มีตัวตน’

    ในยุคที่เราทุกคนต่างยุ่งกับหน้าจอ บางคนกำลัง “จมหาย” อยู่ข้างหลังประตูบ้าน และบางที… แค่มีใครสักคนหยุดดูป้ายนั้น ก็อาจช่วยชีวิตเขาไว้ได้

    🎯 บทเรียนจาก “ป้าย” ที่ควรเห็นใจ ไม่ใช่ตัดสิน ถ้าเห็นใครทำแบบนี้ อย่าเพิ่งรีบหัวเราะ อย่าเพิ่งรีบด่า เพราะเบื้องหลังนั้น… อาจคือคนที่ “เจ็บจนเงียบไม่ไหวแล้วจริง ๆ”

    ลองคิดในมุมกลับ… ถ้ารู้สึกแย่มาก จนต้องเสียเงินเพื่อให้คนฟัง แสดงว่ากำลังขาดการเชื่อมโยง ที่ลึกมากในชีวิต

    ❤️ เราควรฟังให้มากขึ้น โดยไม่ตัดสิน สังเกตคนรอบตัว ที่อาจกำลังส่งสัญญาณว่าเขา “หมดแรงแล้ว” เปิดใจคุย แบบจริงใจ แม้เพียงไม่กี่คำ ก็อาจช่วยเขาได้มาก สร้างพื้นที่ให้คนได้ระบาย โดยไม่จำเป็นต้องมีคำตอบ

    เพราะบางครั้ง... “ข้อความบนป้าย” ก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนเข้าใจ แต่อยากให้ “ใครบางคนที่เขาหวัง” เข้าใจแค่นั้น 🪧💔
    และคุณ...อาจเป็น “คนนั้น” ที่เขารอให้เห็นอยู่ก็ได้ 🫂

    🔍 วิธีรับมือคนที่รู้สึกไร้คุณค่า โดยไม่ทำให้เขาเจ็บเพิ่ม ฟังอย่างจริงใจ ไม่ต้องรีบตัดสิน บางทีเขาไม่ได้ต้องการ “คำตอบ” แค่ต้องการ “พื้นที่ให้พูด”

    อย่าโต้กลับด้วยความรุนแรง ความสงบของคุณ อาจเป็นพื้นที่ปลอดภัยเดียวที่เขามีในวันนั้น เว้นระยะอย่างมีเมตตา เข้าใจ ≠ ต้องทน คุณมีสิทธิ์ดูแลตัวเอง ไม่ต้องรับพลังลบเข้าใส่ทุกวัน

    ถ้ารุนแรงมาก ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหากพฤติกรรมของเขา อาจเป็นอันตรายต่อคนรอบข้าง

    🔍 ความลวงบนโลกโซเชียล เมื่อ "สร้างภาพว่าขายดี" กลายเป็นดาบสองคม 🧾 ปัญหาที่ตามมาคือ หลอกตัวเอง จนหลุดจากปัญหาจริง เหนื่อยกับการแสดง มากกว่าทำธุรกิจ สูญเสียความน่าเชื่อถือในระยะยาว เครียดสะสมแบบไม่รู้ตัว เสียโอกาสในการพัฒนา พังทั้งระบบ เมื่อแบกรับไม่ไหว สร้างมาตรฐานปลอมให้คนทั้งวงการ

    ✅ วิธีแก้คือ พูดความจริงอย่างมีพลัง ✨ เล่าความเปลี่ยนแปลงจากใจจริง ยอมรับว่ายังไม่ดีพอ แล้วค่อยๆ ปรับ

    🔍 ภาระของคนที่ "เคยรวย" แล้วจมไม่ลง 💼💔 ผลเสียที่ตามมาคือ ภาระหนี้เกินตัว ถูกตัดน้ำ ตัดไฟ รถต้องจอดจำนำ ความสัมพันธ์พังเพราะโกหก ความเครียดสะสมเพราะต้องแสดง ไม่ยอมพัฒนา เพราะไม่ยอมรับความจริง โอกาสหาย เพราะไม่มีใครรู้ว่ากำลังล้ม เสียเวลาไปกับ “เปลือก” แทนที่จะสร้างแก่น เปรียบเทียบตัวเองกับอดีต ไม่มีใครเข้าใจ เพราะไม่กล้าพูดความจริง

    🔍 คุณมีค่าเสมอ แม้ไม่มีใครบอก 🧡 ไม่จำเป็นต้องเสียงดัง ไม่ต้อง “ดูดี” ตลอดเวลา ไม่ต้องมีไลก์เยอะ เพื่อยืนยันการมีอยู่ของตัวเอง

    การยอมรับว่า “ฉันกำลังเจ็บ” ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือ ก้าวแรกของความเข้มแข็ง ที่แท้จริง

    หากเจอใครที่กำลังรู้สึกไร้ค่า ขอให้คุณเป็นคนหนึ่ง… ที่ “ฟัง” ก่อนจะ “ตัดสิน” เพราะความเข้าใจจากใจคนหนึ่ง อาจเปลี่ยนอีกคนทั้งชีวิต 🌱

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251519 เม.ย. 2568

    📲 #ภาวะไร้ค่า #ไม่มีใครฟัง #สังคมสร้างภาพ #ความรู้สึกที่ไม่มีใครเห็น #ฟังด้วยใจ #ความจริงสำคัญที่สุด #ฟังเถอะก่อนจะสาย #ความเจ็บจากความเงียบ #รักษาใจไม่ใช่ภาพลักษณ์ #อย่าตัดสินแค่สิ่งที่เห็น
    ภาวะไร้ราคา เมื่อรู้สึกว่าไม่มีคุณค่าในสายตาใคร แม้กระทั่งความในใจ…ยังต้องใช้เงินถึงจะมีคนสนใจ 💸🧍‍♂️ 💡 เข้าใจลึกถึงภาวะ "ไร้คุณค่า" ในมุมที่หลายคนอาจเคยสัมผัส แต่ไม่กล้าพูดถึง ตั้งแต่ความเจ็บที่ซ่อนในความเงียบ ไปจนถึงพฤติกรรมที่ดูแรง แต่เต็มไปด้วยคำขอความเข้าใจ พร้อมแนวทางรับมืออย่างเข้าใจ ทั้งใจเราและใจเขา 📝 ภาวะไร้ราคาในใจคน ความเงียบที่เจ็บปวด และวิธีรับมือด้วยความเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องเปล่งเสียงดัง เพื่อให้ใครได้ยิน 🌐 🔍 เสียงของความเงียบที่ไม่มีใครฟัง “แม้กระทั่งความในใจ…ยังต้องใช้เงิน ถึงจะมีคนสนใจ” ประโยคนี้อาจฟังดูประชดประชัน แต่มันสะท้อนความจริงเจ็บลึก ของคนจำนวนมาก ในยุคที่โลกออนไลน์ กลายเป็นเวทีให้คนตะโกนหา ‘ตัวตน’ ในสังคมที่ทุกอย่างวัดค่าจากยอดไลก์ 💬 ความสนใจ 🧠 หรือจำนวนผู้ติดตาม คนที่รู้สึกว่าไม่มีใครฟัง ไม่มีใครแคร์ อาจเริ่มตั้งคำถามว่า “เรายังมีตัวตนอยู่จริงไหม?” ความเงียบไม่ใช่สิ่งเลวร้าย… แต่เมื่อความเงียบนั้นไม่ใช่ ‘พื้นที่พักใจ’ แต่คือ ‘กำแพงที่กั้นไม่ให้ใครเห็นเรา’ มันกลายเป็นความเจ็บที่ไม่พูดก็ไม่เข้าใจ 🔍 "ภาวะไร้ราคา" หรือ "Worthlessness" คือความรู้สึกที่ว่า… เราไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมาย ไม่มีใครสนใจ หรือแม้แต่สังเกตเห็นว่าเรามีตัวตน 📌 ความรู้สึกนี้มักเกิดขึ้นจากปัจจัยทางจิตใจ สังคม หรือการเปรียบเทียบกับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเรารู้สึกว่า "ความรู้สึกของเราไม่ถูกฟัง ไม่ถูกเห็น" ตัวอย่างของภาวะนี้... โพสต์อะไรแล้วไม่มีใครสนใจ 📉 พูดสิ่งที่รู้สึก แต่ไม่มีใครใส่ใจฟัง 🧏‍♀️ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีบทบาทในกลุ่ม หรือในครอบครัว 🧠 ซึ่งภาวะนี้หากปล่อยไว้ ไม่จัดการ อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า, การแยกตัวทางสังคม หรือแม้กระทั่งความคิดอยากทำร้ายตัวเอง 🔍 ยุคนี้มีรู้สึก "ไร้คุณค่า" มากขึ้น เพราะวัฒนธรรมเปรียบเทียบ ทุกคนโพสต์แต่สิ่งที่ดีที่สุด 📷 เราเห็นแต่ภาพ “สำเร็จ” ของคนอื่น แต่ไม่เห็นความล้มเหลว ทำให้เรารู้สึกว่า “เรายังไม่ดีพอ” การนิยามตัวตนจากความสนใจภายนอก หากโพสต์ไม่มีคนกดไลก์ 🖱️ หรือเรื่องที่เราพูดไม่มีใครสนใจ เราอาจรู้สึกว่า “เสียงของเราไม่มีความหมาย” พฤติกรรมของคนรอบข้าง เช่น คนในครอบครัว เพิกเฉยต่อสิ่งที่เราพูด เพื่อนร่วมงานไม่ฟังความเห็น หรือการถูกมองข้ามซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเหนื่อยล้าจากการ "สร้างภาพ" การต้อง "ดูดี" ตลอดเวลา เหมือนการใส่หน้ากาก ที่ไม่สามารถถอดได้ แม้แต่ตอนอยู่คนเดียว 🔍 เมื่อเสียงที่ถูกเพิกเฉย กลายเป็นคำพูดที่รุนแรง คนที่ “ตะโกน” ออกมา อาจไม่ใช่คนที่อยากทำร้ายใคร แต่อาจเป็นคนที่อยากให้ “ใครบางคน” ได้ยิน หลายครั้งที่การด่าทอ 🗣️ การประชดชีวิต หรือการแสดงพฤติกรรมแรง ๆ ไม่ได้เกิดจาก “ความเกลียด” แต่เกิดจากความพยายาม “ส่งเสียง” ครั้งสุดท้าย เขาอาจพยายามพูดดี ๆ แล้ว อาจเคยแสดงออกด้วยวิธีที่นุ่มนวลกว่า แต่เมื่อไม่มีใครฟัง… ก็เลย “พูดให้ดังขึ้น” แม้มันจะมาในรูปแบบของ “คำพูดที่เจ็บ” ก็ตาม 🪧 ยอมเสียเงินทำป้าย เพื่อให้คนสนใจ ความเจ็บที่กลายเป็นข้อความ "เมื่อโพสต์ไม่มีใครกดไลก์ เมื่อพูดแล้วไม่มีใครฟัง… บางคนเลือก ‘จ่ายเงิน’ เพื่อให้ความรู้สึกของตัวเองได้มีคนเห็น" การยอมลงทุนทำป้ายติดหน้าบ้าน ไม่ใช่แค่เพราะอยากประชดชีวิต แต่มันคือการพยายาม ‘ปล่อยเสียงออกมาให้ดังพอ’ ที่จะทะลุผ่านกำแพงความเงียบ ของสังคมในยุคนี้ 😢 ความเจ็บที่อยู่เบื้องหลังข้อความบนป้าย หลายคนอาจหัวเราะ เมื่อเห็นใครทำป้ายที่มีข้อความแรง ๆ ติดไว้หน้าบ้าน แต่ถ้าลองหยุดและคิดดี ๆ... คนที่เลือกวิธีนี้ อาจไม่ใช่คนที่อยากทำร้ายใคร แต่คือคนที่ “กำลังร้องไห้เงียบ ๆ อยู่ข้างใน” เพราะอาจเคยพูดแล้ว เคยขอความช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเห็น… สุดท้ายเลยต้อง “เปลี่ยนความรู้สึกเป็นตัวหนังสือ” แล้วแปะไว้ให้โลกรู้ แม้จะต้อง “เสียเงิน” เพื่อให้ข้อความนี้ มีพื้นที่อยู่บ้างก็ตาม 💬 ข้อความที่คนไม่กล้าพูด แต่กล้าเขียน ข้อความเหล่านี้ มักไม่ใช่ถ้อยคำสุภาพ แต่มันคือ ความรู้สึกดิบๆ จากคนที่ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร บางข้อความอาจดู “แรง” บางข้อความอาจดู “ตลกร้าย” แต่เกือบทุกข้อความ…แฝง “ความเจ็บปวด” เสมอ เช่น... "ทำไมเงียบกันจังวะ? หรือเราตายไปแล้ว?" "ใครสักคน สนใจหน่อยไม่ได้เหรอ?" "ถึงต้องซื้อป้าย ถึงจะมีคนอ่านใจเรา" "ฉันรังเกียจโน่น นี่ นั่น..." เสียงพวกนี้ บางทีก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนสนใจ แต่อยากให้ “ใครบางคน” เห็น… 📌 ความจริงที่น่ากลัวกว่า "ความรุนแรง" คือ "ความเงียบ" ความรุนแรงของถ้อยคำ อาจดูน่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ความเงียบที่ทำให้คนรู้สึกว่า ‘ไม่มีตัวตน’ ในยุคที่เราทุกคนต่างยุ่งกับหน้าจอ บางคนกำลัง “จมหาย” อยู่ข้างหลังประตูบ้าน และบางที… แค่มีใครสักคนหยุดดูป้ายนั้น ก็อาจช่วยชีวิตเขาไว้ได้ 🎯 บทเรียนจาก “ป้าย” ที่ควรเห็นใจ ไม่ใช่ตัดสิน ถ้าเห็นใครทำแบบนี้ อย่าเพิ่งรีบหัวเราะ อย่าเพิ่งรีบด่า เพราะเบื้องหลังนั้น… อาจคือคนที่ “เจ็บจนเงียบไม่ไหวแล้วจริง ๆ” ลองคิดในมุมกลับ… ถ้ารู้สึกแย่มาก จนต้องเสียเงินเพื่อให้คนฟัง แสดงว่ากำลังขาดการเชื่อมโยง ที่ลึกมากในชีวิต ❤️ เราควรฟังให้มากขึ้น โดยไม่ตัดสิน สังเกตคนรอบตัว ที่อาจกำลังส่งสัญญาณว่าเขา “หมดแรงแล้ว” เปิดใจคุย แบบจริงใจ แม้เพียงไม่กี่คำ ก็อาจช่วยเขาได้มาก สร้างพื้นที่ให้คนได้ระบาย โดยไม่จำเป็นต้องมีคำตอบ เพราะบางครั้ง... “ข้อความบนป้าย” ก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนเข้าใจ แต่อยากให้ “ใครบางคนที่เขาหวัง” เข้าใจแค่นั้น 🪧💔 และคุณ...อาจเป็น “คนนั้น” ที่เขารอให้เห็นอยู่ก็ได้ 🫂 🔍 วิธีรับมือคนที่รู้สึกไร้คุณค่า โดยไม่ทำให้เขาเจ็บเพิ่ม ฟังอย่างจริงใจ ไม่ต้องรีบตัดสิน บางทีเขาไม่ได้ต้องการ “คำตอบ” แค่ต้องการ “พื้นที่ให้พูด” อย่าโต้กลับด้วยความรุนแรง ความสงบของคุณ อาจเป็นพื้นที่ปลอดภัยเดียวที่เขามีในวันนั้น เว้นระยะอย่างมีเมตตา เข้าใจ ≠ ต้องทน คุณมีสิทธิ์ดูแลตัวเอง ไม่ต้องรับพลังลบเข้าใส่ทุกวัน ถ้ารุนแรงมาก ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหากพฤติกรรมของเขา อาจเป็นอันตรายต่อคนรอบข้าง 🔍 ความลวงบนโลกโซเชียล เมื่อ "สร้างภาพว่าขายดี" กลายเป็นดาบสองคม 🧾 ปัญหาที่ตามมาคือ หลอกตัวเอง จนหลุดจากปัญหาจริง เหนื่อยกับการแสดง มากกว่าทำธุรกิจ สูญเสียความน่าเชื่อถือในระยะยาว เครียดสะสมแบบไม่รู้ตัว เสียโอกาสในการพัฒนา พังทั้งระบบ เมื่อแบกรับไม่ไหว สร้างมาตรฐานปลอมให้คนทั้งวงการ ✅ วิธีแก้คือ พูดความจริงอย่างมีพลัง ✨ เล่าความเปลี่ยนแปลงจากใจจริง ยอมรับว่ายังไม่ดีพอ แล้วค่อยๆ ปรับ 🔍 ภาระของคนที่ "เคยรวย" แล้วจมไม่ลง 💼💔 ผลเสียที่ตามมาคือ ภาระหนี้เกินตัว ถูกตัดน้ำ ตัดไฟ รถต้องจอดจำนำ ความสัมพันธ์พังเพราะโกหก ความเครียดสะสมเพราะต้องแสดง ไม่ยอมพัฒนา เพราะไม่ยอมรับความจริง โอกาสหาย เพราะไม่มีใครรู้ว่ากำลังล้ม เสียเวลาไปกับ “เปลือก” แทนที่จะสร้างแก่น เปรียบเทียบตัวเองกับอดีต ไม่มีใครเข้าใจ เพราะไม่กล้าพูดความจริง 🔍 คุณมีค่าเสมอ แม้ไม่มีใครบอก 🧡 ไม่จำเป็นต้องเสียงดัง ไม่ต้อง “ดูดี” ตลอดเวลา ไม่ต้องมีไลก์เยอะ เพื่อยืนยันการมีอยู่ของตัวเอง การยอมรับว่า “ฉันกำลังเจ็บ” ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่คือ ก้าวแรกของความเข้มแข็ง ที่แท้จริง หากเจอใครที่กำลังรู้สึกไร้ค่า ขอให้คุณเป็นคนหนึ่ง… ที่ “ฟัง” ก่อนจะ “ตัดสิน” เพราะความเข้าใจจากใจคนหนึ่ง อาจเปลี่ยนอีกคนทั้งชีวิต 🌱 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251519 เม.ย. 2568 📲 #ภาวะไร้ค่า #ไม่มีใครฟัง #สังคมสร้างภาพ #ความรู้สึกที่ไม่มีใครเห็น #ฟังด้วยใจ #ความจริงสำคัญที่สุด #ฟังเถอะก่อนจะสาย #ความเจ็บจากความเงียบ #รักษาใจไม่ใช่ภาพลักษณ์ #อย่าตัดสินแค่สิ่งที่เห็น
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 Reviews
  • ตำรวจ ปคบ. สนธิกำลังร่วมกับ อย. บุกทลายโรงงานเมืองกรุงเก่า ลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอม ส่งขายนักเสพ 4x100 ยึดเครื่องจักร-ของกลางนับแสนขวด รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038834

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจ ปคบ. สนธิกำลังร่วมกับ อย. บุกทลายโรงงานเมืองกรุงเก่า ลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอม ส่งขายนักเสพ 4x100 ยึดเครื่องจักร-ของกลางนับแสนขวด รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038834 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 565 Views 0 Reviews
  • 78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅

    เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า?

    เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥

    เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก

    "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ"

    “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี

    😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5”

    ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน

    แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨

    ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป

    สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน

    🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️

    “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ”

    🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน

    เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ

    “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ”

    🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง

    จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน”

    สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา

    📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก...

    ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌

    แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล”

    😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร

    “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้

    เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ

    🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร

    🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ

    🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่...

    เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า”

    คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓

    ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ?

    ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง?

    ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว?

    🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ
    แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี

    เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568

    📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅 เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า? เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥 เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ" “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี 😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5” ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨 ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน 🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️ “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ” 🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ” 🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน” สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา 📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก... ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌ แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล” 😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้ เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ 🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร 🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ 🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่... เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า” คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ? ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง? ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว? 🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568 📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • รายงานจาก FBI ในปี 2024 เปิดเผยว่าการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ (ransomware) มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 33% จากปี 2023 โดยการโจมตีเหล่านี้เพิ่มขึ้น 9% และมีเป้าหมายสำคัญคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ระบบพลังงานและการขนส่ง ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการร้องเรียนทั้งหมด การโจมตีเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการสนับสนุนจากรัฐ

    นอกจากนี้ การฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซีก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีมูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 โดยการฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม

    FBI ได้ดำเนินการตอบโต้ เช่น การแจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์

    ✅ ค่าเสียหายจากแรนซัมแวร์
    - มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2023
    - การโจมตีเพิ่มขึ้น 9% โดยเป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ

    ✅ การฉ้อโกงคริปโตเคอเรนซี
    - มูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023
    - การฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม

    ✅ การตอบโต้ของ FBI
    - แจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์
    - ช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์

    ✅ การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการโจมตี
    - การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามและการฟิชชิงเพิ่มขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-cost-us-victims-usd16-6-billion-in-2024-fbi-warns
    รายงานจาก FBI ในปี 2024 เปิดเผยว่าการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ (ransomware) มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 33% จากปี 2023 โดยการโจมตีเหล่านี้เพิ่มขึ้น 9% และมีเป้าหมายสำคัญคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ระบบพลังงานและการขนส่ง ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการร้องเรียนทั้งหมด การโจมตีเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการสนับสนุนจากรัฐ นอกจากนี้ การฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซีก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีมูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 โดยการฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม FBI ได้ดำเนินการตอบโต้ เช่น การแจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์ ✅ ค่าเสียหายจากแรนซัมแวร์ - มีค่าเสียหายสูงถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2023 - การโจมตีเพิ่มขึ้น 9% โดยเป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ✅ การฉ้อโกงคริปโตเคอเรนซี - มูลค่าความเสียหายถึง 9.3 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 - การฉ้อโกงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุนปลอม ✅ การตอบโต้ของ FBI - แจกจ่ายคีย์ถอดรหัสให้กับเหยื่อแรนซัมแวร์ - ช่วยหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินกว่า 800 ล้านดอลลาร์ ✅ การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการโจมตี - การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามและการฟิชชิงเพิ่มขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-cost-us-victims-usd16-6-billion-in-2024-fbi-warns
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการดำเนินการของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ปลั๊กอิน WordPress เพื่อสร้างการหลอกลวงโฆษณาออนไลน์ขนาดใหญ่ โดยกลุ่มนี้เรียกชื่อว่า Scallywag ซึ่งใช้ปลั๊กอิน 4 ตัว ได้แก่ Soralink, Yu Idea, WPSafeLink และ Droplink เพื่อสร้างคำขอโฆษณาปลอมมากถึง 1.4 พันล้านคำขอต่อวัน การดำเนินการนี้มุ่งเป้าไปที่เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ โดยใช้วิธีการหลอกลวง เช่น ปุ่ม "โปรดรอ" ที่เปลี่ยนเป็น "ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้" และ CAPTCHA ปลอม

    ✅ การใช้ปลั๊กอิน WordPress เพื่อสร้างคำขอโฆษณาปลอม
    - ปลั๊กอินที่ใช้ ได้แก่ Soralink, Yu Idea, WPSafeLink และ Droplink
    - ปลั๊กอินเหล่านี้ช่วยโหลดโฆษณาและทำให้ผู้ใช้งานอยู่ในหน้าเว็บนานขึ้น

    ✅ การดำเนินการของ Scallywag
    - มีการสร้างคำขอโฆษณาปลอมมากถึง 1.4 พันล้านคำขอต่อวัน
    - ใช้วิธีการหลอกลวง เช่น ปุ่ม "โปรดรอ" และ CAPTCHA ปลอม

    ✅ ผลกระทบต่อเว็บไซต์และผู้ใช้งาน
    - เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้จากโฆษณาปลอม
    - ผู้ใช้งานถูกหลอกให้ใช้เวลาในเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย

    ✅ การตอบสนองของนักวิจัยด้านความปลอดภัย
    - นักวิจัยจาก HUMAN รายงานและบล็อกการจราจรของ Scallywag ได้สำเร็จถึง 95%
    - กลุ่มแฮกเกอร์ยังคงเปลี่ยนโดเมนและใช้โมเดลการสร้างรายได้อื่น

    https://www.techradar.com/pro/security/a-huge-online-fraud-operation-is-hijacking-wordpress-sites-to-send-out-1-4-billion-ad-requests-per-day
    ข่าวนี้กล่าวถึงการดำเนินการของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ปลั๊กอิน WordPress เพื่อสร้างการหลอกลวงโฆษณาออนไลน์ขนาดใหญ่ โดยกลุ่มนี้เรียกชื่อว่า Scallywag ซึ่งใช้ปลั๊กอิน 4 ตัว ได้แก่ Soralink, Yu Idea, WPSafeLink และ Droplink เพื่อสร้างคำขอโฆษณาปลอมมากถึง 1.4 พันล้านคำขอต่อวัน การดำเนินการนี้มุ่งเป้าไปที่เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ โดยใช้วิธีการหลอกลวง เช่น ปุ่ม "โปรดรอ" ที่เปลี่ยนเป็น "ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้" และ CAPTCHA ปลอม ✅ การใช้ปลั๊กอิน WordPress เพื่อสร้างคำขอโฆษณาปลอม - ปลั๊กอินที่ใช้ ได้แก่ Soralink, Yu Idea, WPSafeLink และ Droplink - ปลั๊กอินเหล่านี้ช่วยโหลดโฆษณาและทำให้ผู้ใช้งานอยู่ในหน้าเว็บนานขึ้น ✅ การดำเนินการของ Scallywag - มีการสร้างคำขอโฆษณาปลอมมากถึง 1.4 พันล้านคำขอต่อวัน - ใช้วิธีการหลอกลวง เช่น ปุ่ม "โปรดรอ" และ CAPTCHA ปลอม ✅ ผลกระทบต่อเว็บไซต์และผู้ใช้งาน - เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้จากโฆษณาปลอม - ผู้ใช้งานถูกหลอกให้ใช้เวลาในเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย ✅ การตอบสนองของนักวิจัยด้านความปลอดภัย - นักวิจัยจาก HUMAN รายงานและบล็อกการจราจรของ Scallywag ได้สำเร็จถึง 95% - กลุ่มแฮกเกอร์ยังคงเปลี่ยนโดเมนและใช้โมเดลการสร้างรายได้อื่น https://www.techradar.com/pro/security/a-huge-online-fraud-operation-is-hijacking-wordpress-sites-to-send-out-1-4-billion-ad-requests-per-day
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • Zoom กำลังเผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้ฟีเจอร์ Remote Control เพื่อขโมยคริปโตเคอเรนซีจากผู้ใช้งาน โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อว่า Elusive Comet ได้ปลอมตัวเป็นนักข่าว Bloomberg และส่งคำเชิญประชุมผ่าน Zoom เพื่อหลอกให้เหยื่ออนุญาตการควบคุมหน้าจอ หลังจากได้รับสิทธิ์ แฮกเกอร์จะติดตั้งมัลแวร์เพื่อเข้าถึงกระเป๋าเงินคริปโตของเหยื่อ

    ✅ การใช้ฟีเจอร์ Remote Control ในการโจมตี
    - แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นนักข่าว Bloomberg และส่งคำเชิญประชุมผ่าน Zoom
    - เหยื่อถูกหลอกให้อนุญาตการควบคุมหน้าจอ ซึ่งเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ติดตั้งมัลแวร์

    ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ Elusive Comet
    - กลุ่มนี้ใช้วิธีการที่คล้ายกับกลุ่ม Lazarus ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐในเกาหลีเหนือ
    - การโจมตีนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Bybit hack ที่เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
    - เหยื่อสูญเสียคริปโตเคอเรนซีในกระเป๋าเงินดิจิทัล
    - การโจมตีนี้มุ่งเป้าไปที่บุคคลที่มีมูลค่าสูง เช่น ผู้ที่สื่อมักติดต่อเพื่อขอความคิดเห็น

    ✅ คำแนะนำในการป้องกัน
    - อย่าอนุญาตการควบคุมหน้าจอให้กับบุคคลหรือแอปพลิเคชันที่ไม่แน่ใจ
    - ใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบสองขั้นตอนและเครื่องมือป้องกันมัลแวร์

    https://www.techradar.com/pro/security/zoom-remote-control-feature-abused-for-crypto-stealing-cyberattacks
    Zoom กำลังเผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้ฟีเจอร์ Remote Control เพื่อขโมยคริปโตเคอเรนซีจากผู้ใช้งาน โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อว่า Elusive Comet ได้ปลอมตัวเป็นนักข่าว Bloomberg และส่งคำเชิญประชุมผ่าน Zoom เพื่อหลอกให้เหยื่ออนุญาตการควบคุมหน้าจอ หลังจากได้รับสิทธิ์ แฮกเกอร์จะติดตั้งมัลแวร์เพื่อเข้าถึงกระเป๋าเงินคริปโตของเหยื่อ ✅ การใช้ฟีเจอร์ Remote Control ในการโจมตี - แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นนักข่าว Bloomberg และส่งคำเชิญประชุมผ่าน Zoom - เหยื่อถูกหลอกให้อนุญาตการควบคุมหน้าจอ ซึ่งเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ติดตั้งมัลแวร์ ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ Elusive Comet - กลุ่มนี้ใช้วิธีการที่คล้ายกับกลุ่ม Lazarus ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐในเกาหลีเหนือ - การโจมตีนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Bybit hack ที่เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน - เหยื่อสูญเสียคริปโตเคอเรนซีในกระเป๋าเงินดิจิทัล - การโจมตีนี้มุ่งเป้าไปที่บุคคลที่มีมูลค่าสูง เช่น ผู้ที่สื่อมักติดต่อเพื่อขอความคิดเห็น ✅ คำแนะนำในการป้องกัน - อย่าอนุญาตการควบคุมหน้าจอให้กับบุคคลหรือแอปพลิเคชันที่ไม่แน่ใจ - ใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบสองขั้นตอนและเครื่องมือป้องกันมัลแวร์ https://www.techradar.com/pro/security/zoom-remote-control-feature-abused-for-crypto-stealing-cyberattacks
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • แฮกเกอร์ที่ใช้มัลแวร์ FOG ransomware ได้เปิดตัวแคมเปญโจมตีที่มีความซับซ้อน โดยมุ่งเป้าไปที่องค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยี การศึกษา การผลิต และการขนส่ง โดยมัลแวร์นี้ถูกส่งผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่มีไฟล์ ZIP ชื่อ Pay Adjustment ซึ่งมีไฟล์ LNK ที่ปลอมตัวเป็น PDF การคลิกไฟล์นี้จะเรียกใช้ PowerShell script เพื่อดาวน์โหลด payload ของ ransomware และเล่นวิดีโอทางการเมืองบน YouTube

    ✅ FOG ransomware มีการโจมตีที่ซับซ้อนและมุ่งเป้าไปที่หลากหลายอุตสาหกรรม
    - อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ เทคโนโลยี การศึกษา การผลิต และการขนส่ง
    - มีการโจมตีทั้งหมด 173 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024

    ✅ มัลแวร์ถูกส่งผ่านอีเมลฟิชชิ่ง
    - ใช้ไฟล์ ZIP ชื่อ Pay Adjustment ที่มีไฟล์ LNK ปลอมตัวเป็น PDF
    - การคลิกไฟล์จะเรียกใช้ PowerShell script เพื่อดาวน์โหลด payload ของ ransomware

    ✅ FOG ransomware ได้รับแรงบันดาลใจจากนโยบาย DOGE ของ Elon Musk
    - แฮกเกอร์ใช้ข้อความที่อ้างถึงนโยบาย DOGE เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

    ✅ Trend Micro แนะนำให้บริษัทตรวจสอบ indicators of compromise
    - การตรวจสอบนี้ช่วยป้องกันการโจมตีและลดความเสี่ยง

    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-demand-victims-justify-their-jobs-or-pay-up
    แฮกเกอร์ที่ใช้มัลแวร์ FOG ransomware ได้เปิดตัวแคมเปญโจมตีที่มีความซับซ้อน โดยมุ่งเป้าไปที่องค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยี การศึกษา การผลิต และการขนส่ง โดยมัลแวร์นี้ถูกส่งผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่มีไฟล์ ZIP ชื่อ Pay Adjustment ซึ่งมีไฟล์ LNK ที่ปลอมตัวเป็น PDF การคลิกไฟล์นี้จะเรียกใช้ PowerShell script เพื่อดาวน์โหลด payload ของ ransomware และเล่นวิดีโอทางการเมืองบน YouTube ✅ FOG ransomware มีการโจมตีที่ซับซ้อนและมุ่งเป้าไปที่หลากหลายอุตสาหกรรม - อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ เทคโนโลยี การศึกษา การผลิต และการขนส่ง - มีการโจมตีทั้งหมด 173 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024 ✅ มัลแวร์ถูกส่งผ่านอีเมลฟิชชิ่ง - ใช้ไฟล์ ZIP ชื่อ Pay Adjustment ที่มีไฟล์ LNK ปลอมตัวเป็น PDF - การคลิกไฟล์จะเรียกใช้ PowerShell script เพื่อดาวน์โหลด payload ของ ransomware ✅ FOG ransomware ได้รับแรงบันดาลใจจากนโยบาย DOGE ของ Elon Musk - แฮกเกอร์ใช้ข้อความที่อ้างถึงนโยบาย DOGE เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ✅ Trend Micro แนะนำให้บริษัทตรวจสอบ indicators of compromise - การตรวจสอบนี้ช่วยป้องกันการโจมตีและลดความเสี่ยง https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-demand-victims-justify-their-jobs-or-pay-up
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • หลักฐานเพียบตึก สตง.ส่อทุจริตตั้งแต่เริ่ม : [NEWS UPDATE]

    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พานายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ อดีตข้าราชการในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ในฐานะพยาน นำหลักฐานเอกสารการประชุมในการก่อสร้างตึก สตง. แห่งใหม่ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พิจารณาดำเนินคดี มีทั้งเอกสาร คลิปวิดีโอ คลิปเสียงสนทนา จำนวนมากที่รวบรวมตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน ตั้ง 3 ข้อสงสัย 1.การออกแบบอาคารมีปัญหาตั้งแต่ต้น เป็นไปด้วยความโปร่งใสหรือไม่ 2.กระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน การก่อสร้าง และ 3.ระหว่างก่อสร้างมีการแก้ไขแบบหลายครั้ง มีวิศวกรอ้างถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแปลงการออกแบบต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สตง. ด้วย

    -เชื่อผู้บริหารเอี่ยวเกิน 10 คน

    -ลักลอบผลิตเหล็กคาตา

    -แกะรอยก๊วนขโมยข้อสอบ

    -ทุจริตสหกรณ์รัฐสภา 14 ล้าน
    หลักฐานเพียบตึก สตง.ส่อทุจริตตั้งแต่เริ่ม : [NEWS UPDATE] นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พานายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ อดีตข้าราชการในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ในฐานะพยาน นำหลักฐานเอกสารการประชุมในการก่อสร้างตึก สตง. แห่งใหม่ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พิจารณาดำเนินคดี มีทั้งเอกสาร คลิปวิดีโอ คลิปเสียงสนทนา จำนวนมากที่รวบรวมตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน ตั้ง 3 ข้อสงสัย 1.การออกแบบอาคารมีปัญหาตั้งแต่ต้น เป็นไปด้วยความโปร่งใสหรือไม่ 2.กระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน การก่อสร้าง และ 3.ระหว่างก่อสร้างมีการแก้ไขแบบหลายครั้ง มีวิศวกรอ้างถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแปลงการออกแบบต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สตง. ด้วย -เชื่อผู้บริหารเอี่ยวเกิน 10 คน -ลักลอบผลิตเหล็กคาตา -แกะรอยก๊วนขโมยข้อสอบ -ทุจริตสหกรณ์รัฐสภา 14 ล้าน
    Like
    Love
    8
    0 Comments 2 Shares 547 Views 40 0 Reviews
  • นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พานายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ อดีตข้าราชการในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ในฐานะพยาน นำหลักฐานเอกสารการประชุมในการก่อสร้างตึก สตง. แห่งใหม่ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พิจารณาดำเนินคดี มีทั้งเอกสาร คลิปวิดีโอ คลิปเสียงสนทนา ซึ่งเป็นหลักฐานจำนวนมากรวบรวมตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน โดยได้มาจากอดีตข้าราชการ สตง. และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตั้ง 3 ข้อสงสัย 1.การออกแบบอาคารมีปัญหาตั้งแต่ต้น โปร่งใสหรือไม่ 2.กระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน การก่อสร้าง และ 3.ระหว่างก่อสร้างแก้ไขแบบหลายครั้ง มีวิศวกรอ้างถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแบบต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สตง. ด้วย ด้านนายณรัฐนันทน์ เผย ทำงานที่ สตง. มา 18 ปี เคยใกล้ชิด ทำงานให้ผู้บริหาร สตง. จึงรู้พฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตในการสร้างตึก สตง. ได้ถูกใช้งานหลายอย่างที่อาจเป็นเรื่องไม่สุจริตโปร่งใส ได้รับทราบข้อเท็จจริงเรื่องกระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้รับจ้าง การก่อสร้าง ที่อาจมีเบื้องลึกเบื้องหลัง มีผู้บริหารเกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 10 คน พบสัญญาจ้างผู้ควบคุมงานที่ สตง. เป็นผู้ว่าจ้าง ลงนามโดยอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และปัจจุบันผู้บริหารบางคนก็ยังมีอำนาจอยู่
    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พานายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ อดีตข้าราชการในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ในฐานะพยาน นำหลักฐานเอกสารการประชุมในการก่อสร้างตึก สตง. แห่งใหม่ ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พิจารณาดำเนินคดี มีทั้งเอกสาร คลิปวิดีโอ คลิปเสียงสนทนา ซึ่งเป็นหลักฐานจำนวนมากรวบรวมตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน โดยได้มาจากอดีตข้าราชการ สตง. และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตั้ง 3 ข้อสงสัย 1.การออกแบบอาคารมีปัญหาตั้งแต่ต้น โปร่งใสหรือไม่ 2.กระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน การก่อสร้าง และ 3.ระหว่างก่อสร้างแก้ไขแบบหลายครั้ง มีวิศวกรอ้างถูกปลอมลายเซ็น ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแบบต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สตง. ด้วย ด้านนายณรัฐนันทน์ เผย ทำงานที่ สตง. มา 18 ปี เคยใกล้ชิด ทำงานให้ผู้บริหาร สตง. จึงรู้พฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตในการสร้างตึก สตง. ได้ถูกใช้งานหลายอย่างที่อาจเป็นเรื่องไม่สุจริตโปร่งใส ได้รับทราบข้อเท็จจริงเรื่องกระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้รับจ้าง การก่อสร้าง ที่อาจมีเบื้องลึกเบื้องหลัง มีผู้บริหารเกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 10 คน พบสัญญาจ้างผู้ควบคุมงานที่ สตง. เป็นผู้ว่าจ้าง ลงนามโดยอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และปัจจุบันผู้บริหารบางคนก็ยังมีอำนาจอยู่
    Like
    Love
    6
    0 Comments 2 Shares 549 Views 47 0 Reviews
  • กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่รู้จักในชื่อ Slow Pisces ได้เปิดตัวแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อน โดยมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์ม LinkedIn โดยแฮกเกอร์เหล่านี้ปลอมตัวเป็นผู้สรรหางานและเสนอการทดสอบการเขียนโค้ดที่ดูเหมือนจริง แต่แท้จริงแล้วมีมัลแวร์ซ่อนอยู่ในโค้ด Python และ JavaScript ที่ใช้ในการโจมตี

    ✅ แฮกเกอร์ใช้ LinkedIn เพื่อหลอกลวงนักพัฒนา
    - แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นผู้สรรหางานและส่งเอกสาร PDF ที่มีคำอธิบายงาน
    - การโจมตีเริ่มต้นด้วยการให้ผู้เสียหายทำการทดสอบเขียนโค้ดผ่าน GitHub

    ✅ มัลแวร์ที่ใช้ในการโจมตีมีความซับซ้อน
    - ใช้มัลแวร์ RN Loader และ RN Stealer ที่ซ่อนอยู่ในโค้ด Python และ JavaScript
    - มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น credentials, cloud configuration files และ SSH keys

    ✅ การโจมตีมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี
    - ในปี 2023 กลุ่มนี้ถูกเชื่อมโยงกับการโจรกรรมมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์
    - การโจมตีรวมถึงการขโมยเงินจากบริษัทในดูไบและญี่ปุ่น

    ✅ การตอบสนองจาก GitHub และ LinkedIn
    - ทั้งสองแพลตฟอร์มได้ลบบัญชีและ repository ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี

    https://www.techradar.com/pro/north-korean-hackers-are-using-linkedin-to-entice-developers-to-coding-challenges-heres-what-you-need-to-know
    กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่รู้จักในชื่อ Slow Pisces ได้เปิดตัวแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อน โดยมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์ม LinkedIn โดยแฮกเกอร์เหล่านี้ปลอมตัวเป็นผู้สรรหางานและเสนอการทดสอบการเขียนโค้ดที่ดูเหมือนจริง แต่แท้จริงแล้วมีมัลแวร์ซ่อนอยู่ในโค้ด Python และ JavaScript ที่ใช้ในการโจมตี ✅ แฮกเกอร์ใช้ LinkedIn เพื่อหลอกลวงนักพัฒนา - แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นผู้สรรหางานและส่งเอกสาร PDF ที่มีคำอธิบายงาน - การโจมตีเริ่มต้นด้วยการให้ผู้เสียหายทำการทดสอบเขียนโค้ดผ่าน GitHub ✅ มัลแวร์ที่ใช้ในการโจมตีมีความซับซ้อน - ใช้มัลแวร์ RN Loader และ RN Stealer ที่ซ่อนอยู่ในโค้ด Python และ JavaScript - มัลแวร์สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น credentials, cloud configuration files และ SSH keys ✅ การโจมตีมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี - ในปี 2023 กลุ่มนี้ถูกเชื่อมโยงกับการโจรกรรมมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ - การโจมตีรวมถึงการขโมยเงินจากบริษัทในดูไบและญี่ปุ่น ✅ การตอบสนองจาก GitHub และ LinkedIn - ทั้งสองแพลตฟอร์มได้ลบบัญชีและ repository ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี https://www.techradar.com/pro/north-korean-hackers-are-using-linkedin-to-entice-developers-to-coding-challenges-heres-what-you-need-to-know
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • รายงานล่าสุดจาก Bitdefender เปิดเผยถึงการโจมตีทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปยังบัญชีโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube และ Instagram โดยแฮกเกอร์ใช้วิธีการหลากหลาย เช่น การปลอมตัวเป็นแบรนด์ดัง การใช้ deepfake ของบุคคลที่มีชื่อเสียง และการส่งลิงก์ฟิชชิ่งเพื่อหลอกลวงผู้ใช้งาน การโจมตีเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวและทรัพย์สินดิจิทัล เช่น สกุลเงินคริปโต

    ✅ บัญชีโซเชียลมีเดียยอดนิยมเป็นเป้าหมายหลัก
    - แฮกเกอร์มุ่งเป้าบัญชีที่มีผู้ติดตามจำนวนมากและยอดวิวสูง
    - มีการตรวจพบ livestreams ปลอมกว่า 9,000 รายการ ในปี 2024

    ✅ การใช้ deepfake และการปลอมตัวเป็นแบรนด์ดัง
    - แฮกเกอร์ใช้ deepfake ของบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น Elon Musk เพื่อโปรโมตการหลอกลวง
    - การปลอมตัวเป็นแบรนด์ดัง เช่น Tesla และ SpaceX เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

    ✅ การโจมตีผ่านฟิชชิ่งและมัลแวร์
    - การส่งลิงก์ฟิชชิ่งและไฟล์มัลแวร์ที่ปลอมเป็นเนื้อหาโฆษณา
    - การใช้โฆษณาปลอม เช่น AI tools หรือเกม GTA VI เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งาน

    ✅ การป้องกันและคำแนะนำจาก Bitdefender
    - ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) และตรวจสอบกิจกรรมบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
    - ใช้เครื่องมือป้องกัน เช่น Bitdefender Security for Creators เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

    https://www.techradar.com/pro/millions-at-risk-as-cybercriminals-successfully-compromise-popular-youtube-accounts-heres-how-to-stay-safe
    รายงานล่าสุดจาก Bitdefender เปิดเผยถึงการโจมตีทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปยังบัญชีโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube และ Instagram โดยแฮกเกอร์ใช้วิธีการหลากหลาย เช่น การปลอมตัวเป็นแบรนด์ดัง การใช้ deepfake ของบุคคลที่มีชื่อเสียง และการส่งลิงก์ฟิชชิ่งเพื่อหลอกลวงผู้ใช้งาน การโจมตีเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวและทรัพย์สินดิจิทัล เช่น สกุลเงินคริปโต ✅ บัญชีโซเชียลมีเดียยอดนิยมเป็นเป้าหมายหลัก - แฮกเกอร์มุ่งเป้าบัญชีที่มีผู้ติดตามจำนวนมากและยอดวิวสูง - มีการตรวจพบ livestreams ปลอมกว่า 9,000 รายการ ในปี 2024 ✅ การใช้ deepfake และการปลอมตัวเป็นแบรนด์ดัง - แฮกเกอร์ใช้ deepfake ของบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น Elon Musk เพื่อโปรโมตการหลอกลวง - การปลอมตัวเป็นแบรนด์ดัง เช่น Tesla และ SpaceX เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ✅ การโจมตีผ่านฟิชชิ่งและมัลแวร์ - การส่งลิงก์ฟิชชิ่งและไฟล์มัลแวร์ที่ปลอมเป็นเนื้อหาโฆษณา - การใช้โฆษณาปลอม เช่น AI tools หรือเกม GTA VI เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งาน ✅ การป้องกันและคำแนะนำจาก Bitdefender - ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) และตรวจสอบกิจกรรมบัญชีอย่างสม่ำเสมอ - ใช้เครื่องมือป้องกัน เช่น Bitdefender Security for Creators เพื่อเพิ่มความปลอดภัย https://www.techradar.com/pro/millions-at-risk-as-cybercriminals-successfully-compromise-popular-youtube-accounts-heres-how-to-stay-safe
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้เตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ AI Generative ในการสร้างการหลอกลวงออนไลน์ โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ไม่หวังดีสามารถสร้างเว็บไซต์ปลอม รีวิวสินค้า และแชทบอทที่หลอกลวงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีการใช้ Deepfake ในการสร้างการหลอกลวงที่ซับซ้อน เช่น การปลอมแปลงการสัมภาษณ์งานผ่านวิดีโอ

    ✅ AI ช่วยลดความซับซ้อนในการสร้างการหลอกลวงออนไลน์
    - ผู้ไม่หวังดีสามารถสร้างเว็บไซต์ปลอมและแบรนด์อีคอมเมิร์ซปลอมได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
    - ใช้ AI ในการสร้างรีวิวสินค้าและประวัติธุรกิจที่ดูน่าเชื่อถือ

    ✅ Deepfake ถูกใช้ในการหลอกลวงที่ซับซ้อน
    - การปลอมแปลงการสัมภาษณ์งานผ่านวิดีโอและการสร้างการรับรองจากคนดังปลอม
    - Microsoft แนะนำให้สังเกตความผิดปกติ เช่น การเคลื่อนไหวของริมฝีปากที่ไม่ตรงกับเสียง

    ✅ Microsoft เพิ่มการป้องกันในเครื่องมือ Quick Assist
    - เพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการแชร์หน้าจอ
    - แนะนำให้ใช้ Remote Help แทน Quick Assist สำหรับการสนับสนุนภายใน

    ✅ Microsoft ป้องกันการหลอกลวงมูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
    - ปฏิเสธการสมัครสมาชิกปลอมกว่า 49,000 รายการ
    - บล็อกการสมัครสมาชิกบอทประมาณ 1.6 ล้านครั้งต่อชั่วโมง

    https://www.techspot.com/news/107641-microsoft-warns-ai-making-faster-easier-create-online.html
    Microsoft ได้เตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ AI Generative ในการสร้างการหลอกลวงออนไลน์ โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ไม่หวังดีสามารถสร้างเว็บไซต์ปลอม รีวิวสินค้า และแชทบอทที่หลอกลวงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีการใช้ Deepfake ในการสร้างการหลอกลวงที่ซับซ้อน เช่น การปลอมแปลงการสัมภาษณ์งานผ่านวิดีโอ ✅ AI ช่วยลดความซับซ้อนในการสร้างการหลอกลวงออนไลน์ - ผู้ไม่หวังดีสามารถสร้างเว็บไซต์ปลอมและแบรนด์อีคอมเมิร์ซปลอมได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที - ใช้ AI ในการสร้างรีวิวสินค้าและประวัติธุรกิจที่ดูน่าเชื่อถือ ✅ Deepfake ถูกใช้ในการหลอกลวงที่ซับซ้อน - การปลอมแปลงการสัมภาษณ์งานผ่านวิดีโอและการสร้างการรับรองจากคนดังปลอม - Microsoft แนะนำให้สังเกตความผิดปกติ เช่น การเคลื่อนไหวของริมฝีปากที่ไม่ตรงกับเสียง ✅ Microsoft เพิ่มการป้องกันในเครื่องมือ Quick Assist - เพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการแชร์หน้าจอ - แนะนำให้ใช้ Remote Help แทน Quick Assist สำหรับการสนับสนุนภายใน ✅ Microsoft ป้องกันการหลอกลวงมูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา - ปฏิเสธการสมัครสมาชิกปลอมกว่า 49,000 รายการ - บล็อกการสมัครสมาชิกบอทประมาณ 1.6 ล้านครั้งต่อชั่วโมง https://www.techspot.com/news/107641-microsoft-warns-ai-making-faster-easier-create-online.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI is enabling cybercriminals to act quickly - and with little technical knowledge, Microsoft warns
    In its latest edition of the Cyber Signals report, Microsoft writes that AI has started to lower the technical bar for fraud and cybercrime actors looking for...
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงความพยายามในการพัฒนาทักษะ Soft Skills ให้กับคนรุ่น Gen Z ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงาน เช่น ความเห็นอกเห็นใจ การบริหารเวลา และมารยาทในการใช้โทรศัพท์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตในยุคดิจิทัลที่ทำให้การสื่อสารแบบตัวต่อตัวลดลง

    ✅ โครงการนี้มีชื่อว่า Skills 4 Living
    - เปิดตัวโดยองค์กร Higher Health ที่เป็นพันธมิตรกับ Unesco
    - มีเป้าหมายเข้าถึงเยาวชนกว่า 10,000 คนในเมืองแมนเชสเตอร์

    ✅ เนื้อหาหลักของโครงการรวมถึงการพัฒนาทักษะ Soft Skills
    - การเรียนรู้ความเห็นอกเห็นใจ การบริหารเวลา และการพูดคุยแบบตัวต่อตัว
    - มีการสัมมนาเกี่ยวกับการตรวจจับข่าวปลอม ความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต และการหลีกเลี่ยงการหลอกลวง

    ✅ การเรียนรู้ผ่านการปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัว
    - แม้หลักสูตรจะถูกจัดส่งออนไลน์ แต่ผู้เรียนต้องทำการประเมินผ่านการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

    ✅ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์
    - เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับผู้ให้บริการการศึกษาระดับสูง

    https://www.techspot.com/news/107638-gen-z-digital-natives-taught-empathy-time-management.html
    บทความนี้กล่าวถึงความพยายามในการพัฒนาทักษะ Soft Skills ให้กับคนรุ่น Gen Z ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงาน เช่น ความเห็นอกเห็นใจ การบริหารเวลา และมารยาทในการใช้โทรศัพท์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตในยุคดิจิทัลที่ทำให้การสื่อสารแบบตัวต่อตัวลดลง ✅ โครงการนี้มีชื่อว่า Skills 4 Living - เปิดตัวโดยองค์กร Higher Health ที่เป็นพันธมิตรกับ Unesco - มีเป้าหมายเข้าถึงเยาวชนกว่า 10,000 คนในเมืองแมนเชสเตอร์ ✅ เนื้อหาหลักของโครงการรวมถึงการพัฒนาทักษะ Soft Skills - การเรียนรู้ความเห็นอกเห็นใจ การบริหารเวลา และการพูดคุยแบบตัวต่อตัว - มีการสัมมนาเกี่ยวกับการตรวจจับข่าวปลอม ความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต และการหลีกเลี่ยงการหลอกลวง ✅ การเรียนรู้ผ่านการปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัว - แม้หลักสูตรจะถูกจัดส่งออนไลน์ แต่ผู้เรียนต้องทำการประเมินผ่านการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ✅ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ - เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับผู้ให้บริการการศึกษาระดับสูง https://www.techspot.com/news/107638-gen-z-digital-natives-taught-empathy-time-management.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Gen Z "digital natives" to be taught empathy, time management, and phone etiquette in soft skills program
    Generation Z, typically defined as those born between 1997 and 2012 (give or take), is typically considered to consist of digital natives. The term is defined as...
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • ..อีกมุมที่เท็จจริงไม่รู้,ข่าวนำเสนอ,อดีตแนวนี้พวกขายโปร&กูรูขายโปรขายเงินบุญ ใช้เล่นเสียนาน,จนท้าทายกันเองว่า ใครดูถูกพวกฉันจะไร้ตังลงเข้าบัญชีQFSบัตรประชาชนคนไทยนั้นๆพะนะ,gesara&nesaraเปิดใช้งานแล้วก็ว่า พากันลงแบบนี้ทุกๆปีก็ด้วยหรือสามเดือน หนึ่งเดือนบอกอีกล่ะ วาทะนี้พวกขายโปรลงขายให้ลูกเหยื่อใจชื่นรอหวังล่ะ ขายบ้านขายรถขายที่ดินซื้อโปรกันขนานใหญ่จนคนขายร่ำรวยตรึมบนแผ่นดินไทยและชาวโลกก็เหยื่อตรึม.

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ให้ไฟเขียวแล้ว

    พันธมิตรทางทหารระดับโลกกำลังดำเนินการ

    พันธมิตรระดับโลกจะเข้าควบคุมสื่อข่าวปลอมรายใหญ่และจับกุมผู้คนจำนวนมาก

    ระบบออกอากาศฉุกเฉินจะเปิดใช้งานในเร็วๆ นี้

    สหรัฐฯ เตรียมรับมือกับการเข้าควบคุมทางทหาร

    GESARA/NESARA เปิดใช้งานแล้ว

    การตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่

    มีเพียงทางเดียวเท่านั้น

    พระเจ้าชนะ

    …Q
    ..อีกมุมที่เท็จจริงไม่รู้,ข่าวนำเสนอ,อดีตแนวนี้พวกขายโปร&กูรูขายโปรขายเงินบุญ ใช้เล่นเสียนาน,จนท้าทายกันเองว่า ใครดูถูกพวกฉันจะไร้ตังลงเข้าบัญชีQFSบัตรประชาชนคนไทยนั้นๆพะนะ,gesara&nesaraเปิดใช้งานแล้วก็ว่า พากันลงแบบนี้ทุกๆปีก็ด้วยหรือสามเดือน หนึ่งเดือนบอกอีกล่ะ วาทะนี้พวกขายโปรลงขายให้ลูกเหยื่อใจชื่นรอหวังล่ะ ขายบ้านขายรถขายที่ดินซื้อโปรกันขนานใหญ่จนคนขายร่ำรวยตรึมบนแผ่นดินไทยและชาวโลกก็เหยื่อตรึม. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ให้ไฟเขียวแล้ว พันธมิตรทางทหารระดับโลกกำลังดำเนินการ พันธมิตรระดับโลกจะเข้าควบคุมสื่อข่าวปลอมรายใหญ่และจับกุมผู้คนจำนวนมาก ระบบออกอากาศฉุกเฉินจะเปิดใช้งานในเร็วๆ นี้ สหรัฐฯ เตรียมรับมือกับการเข้าควบคุมทางทหาร GESARA/NESARA เปิดใช้งานแล้ว การตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่ มีเพียงทางเดียวเท่านั้น พระเจ้าชนะ …Q
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • เมินซินเคอหยวนแถลงโต้ พวกนี้หัวหมอต้องจัดการ : [THE MESSAGE]

    นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ รมว.อุตสาหกรรม เผยถึงคำชี้แจงจากบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ฟังไม่ขึ้นแม้แต่เรื่องเดียว ข้อสงสัยของสังคม เช่น ผลิตของตกมาตรฐานถึง 3 ครั้ง ฝุ่นซึ่งเป็นกากอุตสาหกรรมอันตราย การปรับปรุงคุณภาพน้ำเหล็ก เรื่องการปลอมแปลงเอกสาร เรื่องภาษี กลับไม่มีการชี้แจง แต่ไปกล่าวหาสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย มีอุปกรณ์ตรวจสอบที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง ย้ำเครื่องมือของสถาบัน สำหรับทดสอบและวิเคราะห์ค่าปริมาณธาตุโบรอนในผลิตภัณฑ์เหล็ก เป็นไปตามมาตรฐานสากล ยิ่งแถลงข่าวยิ่งทำให้สังคมสับสน และเสียเวลา ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการเอาผิดที่กำลังดำเนินการ และจะตรวจสอบลงลึกว่าในปี 2546 ได้ มอก. มาถูกต้องหรือไม่ และไม่กังวลการรวมตัวกดดันเพื่อปรับตนเองออกจากคณะรัฐมนตรี พวกนี้หัวหมอไม่ธรรมดา ต้องใช้สติปัญญา ใช้ทุกอย่าง อ่าน เอกสาร ศึกษาข้อกฎหมาย เพื่อเอาผิดเต็มที่
    เมินซินเคอหยวนแถลงโต้ พวกนี้หัวหมอต้องจัดการ : [THE MESSAGE] นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ รมว.อุตสาหกรรม เผยถึงคำชี้แจงจากบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ฟังไม่ขึ้นแม้แต่เรื่องเดียว ข้อสงสัยของสังคม เช่น ผลิตของตกมาตรฐานถึง 3 ครั้ง ฝุ่นซึ่งเป็นกากอุตสาหกรรมอันตราย การปรับปรุงคุณภาพน้ำเหล็ก เรื่องการปลอมแปลงเอกสาร เรื่องภาษี กลับไม่มีการชี้แจง แต่ไปกล่าวหาสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย มีอุปกรณ์ตรวจสอบที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง ย้ำเครื่องมือของสถาบัน สำหรับทดสอบและวิเคราะห์ค่าปริมาณธาตุโบรอนในผลิตภัณฑ์เหล็ก เป็นไปตามมาตรฐานสากล ยิ่งแถลงข่าวยิ่งทำให้สังคมสับสน และเสียเวลา ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการเอาผิดที่กำลังดำเนินการ และจะตรวจสอบลงลึกว่าในปี 2546 ได้ มอก. มาถูกต้องหรือไม่ และไม่กังวลการรวมตัวกดดันเพื่อปรับตนเองออกจากคณะรัฐมนตรี พวกนี้หัวหมอไม่ธรรมดา ต้องใช้สติปัญญา ใช้ทุกอย่าง อ่าน เอกสาร ศึกษาข้อกฎหมาย เพื่อเอาผิดเต็มที่
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 430 Views 52 0 Reviews
  • สาวแฉ! โกดังทุนจีนเถื่อนระยองสุดแสบ ขู่หักเงินพนง. 5 พัน หากแจ้งลูกค้าพัสดุปลอม แถมฮุบของตีกลับไปขายตลาดนัด
    https://www.thai-tai.tv/news/18283/
    สาวแฉ! โกดังทุนจีนเถื่อนระยองสุดแสบ ขู่หักเงินพนง. 5 พัน หากแจ้งลูกค้าพัสดุปลอม แถมฮุบของตีกลับไปขายตลาดนัด https://www.thai-tai.tv/news/18283/
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • “ทวี” แจง บริษัท ไชน่าเรลเวย์ มอบเงินเยียวยาตึก สตง.ถล่มไม่มีผลให้ได้รับการลดโทษ สั่ง DSI เร่งสอบปมบริษัทเหล็กออกใบกำกับภาษีปลอม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037579


    “ทวี” แจง บริษัท ไชน่าเรลเวย์ มอบเงินเยียวยาตึก สตง.ถล่มไม่มีผลให้ได้รับการลดโทษ สั่ง DSI เร่งสอบปมบริษัทเหล็กออกใบกำกับภาษีปลอม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037579
    Like
    Angry
    6
    1 Comments 0 Shares 1173 Views 0 Reviews
  • “ทวี” แจง บริษัท ไชน่าเรลเวย์ มอบเงินเยียวยาตึก สตง.ถล่มไม่มีผลให้ได้รับการลดโทษ สั่ง DSI เร่งสอบปมบริษัทเหล็กออกใบกำกับภาษีปลอม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037579

    #SondhiX #SondhiX #Sondhitalk #Thaitimes
    “ทวี” แจง บริษัท ไชน่าเรลเวย์ มอบเงินเยียวยาตึก สตง.ถล่มไม่มีผลให้ได้รับการลดโทษ สั่ง DSI เร่งสอบปมบริษัทเหล็กออกใบกำกับภาษีปลอม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037579 #SondhiX #SondhiX #Sondhitalk #Thaitimes
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 1134 Views 0 Reviews
  • “ทวี” แจง บริษัท ไชน่าเรลเวย์ มอบเงินเยียวยาตึก สตง.ถล่มไม่มีผลให้ได้รับการลดโทษ สั่ง DSI เร่งสอบปมบริษัทเหล็กออกใบกำกับภาษีปลอม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037579

    #SondhiX #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทวี” แจง บริษัท ไชน่าเรลเวย์ มอบเงินเยียวยาตึก สตง.ถล่มไม่มีผลให้ได้รับการลดโทษ สั่ง DSI เร่งสอบปมบริษัทเหล็กออกใบกำกับภาษีปลอม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037579 #SondhiX #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 969 Views 0 Reviews
  • “ทวี” แจง บริษัท ไชน่าเรลเวย์ มอบเงินเยียวยาตึก สตง.ถล่มไม่มีผลให้ได้รับการลดโทษ สั่ง DSI เร่งสอบปมบริษัทเหล็กออกใบกำกับภาษีปลอม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037579

    #SondhiX #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทวี” แจง บริษัท ไชน่าเรลเวย์ มอบเงินเยียวยาตึก สตง.ถล่มไม่มีผลให้ได้รับการลดโทษ สั่ง DSI เร่งสอบปมบริษัทเหล็กออกใบกำกับภาษีปลอม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037579 #SondhiX #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 818 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้ค้นพบ แคมเปญฟิชชิงที่ซับซ้อน ซึ่งใช้บริการของ Google เพื่อส่งอีเมลหลอกลวงจาก no-reply@google.com โดยแฮกเกอร์ใช้ OAuth apps และ sites.google.com เพื่อสร้างอีเมลที่ดูเหมือนเป็นการแจ้งเตือนจาก Google ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและให้ข้อมูลรับรองบัญชีของตน

    ✅ แฮกเกอร์ใช้ OAuth apps เพื่อสร้างอีเมลฟิชชิงที่ดูเหมือนมาจาก Google
    - อีเมลปลอมแจ้งว่ามีหมายเรียกจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับบัญชี Google ของผู้ใช้
    - ข้อความในอีเมลถูกออกแบบให้ดูเหมือนเป็นการแจ้งเตือนจริงจาก Google

    ✅ อีเมลฟิชชิงถูกส่งจาก no-reply@google.com และผ่านการตรวจสอบ DKIM
    - DKIM (DomainKeys Identified Mail) เป็นระบบตรวจสอบความถูกต้องของอีเมล
    - เนื่องจากอีเมลถูกสร้างโดย Google ระบบ DKIM จึงรับรองว่าเป็นอีเมลที่ถูกต้อง

    ✅ แฮกเกอร์ใช้ sites.google.com เพื่อสร้างหน้าเว็บหลอกลวง
    - หน้าเว็บนี้ถูกใช้เพื่อขโมยข้อมูลรับรองบัญชีของผู้ใช้
    - sites.google.com เป็นบริการสร้างเว็บไซต์ฟรีของ Google ซึ่งมักถูกใช้ในแคมเปญฟิชชิง

    ✅ การโจมตีนี้เรียกว่า "DKIM replay phishing attack"
    - ใช้ช่องโหว่ในระบบตรวจสอบ DKIM ของ Google เพื่อให้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย

    https://www.techradar.com/pro/security/beware-hackers-can-apparently-now-send-phishing-emails-from-no-reply-google-com
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยได้ค้นพบ แคมเปญฟิชชิงที่ซับซ้อน ซึ่งใช้บริการของ Google เพื่อส่งอีเมลหลอกลวงจาก no-reply@google.com โดยแฮกเกอร์ใช้ OAuth apps และ sites.google.com เพื่อสร้างอีเมลที่ดูเหมือนเป็นการแจ้งเตือนจาก Google ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและให้ข้อมูลรับรองบัญชีของตน ✅ แฮกเกอร์ใช้ OAuth apps เพื่อสร้างอีเมลฟิชชิงที่ดูเหมือนมาจาก Google - อีเมลปลอมแจ้งว่ามีหมายเรียกจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับบัญชี Google ของผู้ใช้ - ข้อความในอีเมลถูกออกแบบให้ดูเหมือนเป็นการแจ้งเตือนจริงจาก Google ✅ อีเมลฟิชชิงถูกส่งจาก no-reply@google.com และผ่านการตรวจสอบ DKIM - DKIM (DomainKeys Identified Mail) เป็นระบบตรวจสอบความถูกต้องของอีเมล - เนื่องจากอีเมลถูกสร้างโดย Google ระบบ DKIM จึงรับรองว่าเป็นอีเมลที่ถูกต้อง ✅ แฮกเกอร์ใช้ sites.google.com เพื่อสร้างหน้าเว็บหลอกลวง - หน้าเว็บนี้ถูกใช้เพื่อขโมยข้อมูลรับรองบัญชีของผู้ใช้ - sites.google.com เป็นบริการสร้างเว็บไซต์ฟรีของ Google ซึ่งมักถูกใช้ในแคมเปญฟิชชิง ✅ การโจมตีนี้เรียกว่า "DKIM replay phishing attack" - ใช้ช่องโหว่ในระบบตรวจสอบ DKIM ของ Google เพื่อให้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย https://www.techradar.com/pro/security/beware-hackers-can-apparently-now-send-phishing-emails-from-no-reply-google-com
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • “ระวัง: สเต็กเนื้อพิมพ์ (เนื้อปลอม) ถูกขายตามร้านต่างๆ โดยไม่เปิดเผยข้อมูล...
    “ระวัง: สเต็กเนื้อพิมพ์ (เนื้อปลอม) ถูกขายตามร้านต่างๆ โดยไม่เปิดเผยข้อมูล...
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 0 Reviews
More Results