• ..ความอีกด้านในช่วงเวลาที่ผ่านมา,การต่อสู้กับภาครัฐที่บัดสบมาตลอดตั้งแต่รัฐบาลที่นำเข้าวัคซีนโควิดที่ไร้งานวิจัยรับรองความปลอดภัยใดๆ,คนเหล่านี้กอดกองเงินกองทองกอดตังอย่างมีความสุขนักโดยเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องกับการค้่ยาค้าวัคซีนโควิดหรือตัววัคซีนmRNAทุกๆคนที่นำเข้ามาในไทยตลอดสร้างพวกโรงงานเพื่อผลิตวัคซีนที่เป็นmRNAเหมือนกันมาฉีดคนไทยด้วย,คณะแพทย์หมอที่สมคบคิดไม่สำนึกต่อการกระทำชั่วตั้งแต่ต้นต้องถูกกำจัดทันที,ซึ่งปัจจุบันลอยหน้าลอยตาเชิดหน้ามีเกียรติมีศักดิ์ศรีนัก,ไม่ถูกจัดการลงโทษสั่งสอนห่าเหวใดๆเลย.

    ..หมอจุฬา นำทีมผู้ได้รับผลกระทบ วัคซีนโควิด ร้องสภาฯตั้งคณะสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน
    วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 - 11:47 น.
    “หมอจุฬา” พร้อมผู้ได้รับผลกระทบวัคซีนโควิด ร้องสภาฯเปิดเวทีสาธารณะ-ตั้งคณะทำงานสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน โดยไม่รู้สาเหตุ ชี้ จากผลตรวจAnti spike ค่าสูงกว่า25,000 จาก 0.8 ขณะยุโรป-สหรัฐฯ สอบเรื่องนี้แล้ว ขอ “สธ.” เปิดสัญญาซื้อวัคซีน จี้ “สปสช.” ทบทวนขยายเวลาเยียวยา

    เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมคณะแพทย์และผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด 19  ในนามกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านตัวแทนเพื่อให้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อที่จะได้มีข้อมูลในการดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ และให้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโควิด

    โดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี มีผู้ไปฉีดวัคซีนได้รับผลกระทบตามร่างกาย เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุจำนวนไม่น้อย จึงเป็นโอกาสที่จะสะท้อนความเห็นของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยอยากให้มีการหามาตรการป้องกันผลกระทบจากการฉีดวัคซีน ซึ่งมีการรวมตัวของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลต่างๆ ช่วงแรกหลังฉีดวัคซีน ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยแต่ต่อมามีผลทางวิชาการ ยืนยันว่าวัคซีนโควิดสร้างปัญหาจริง

    ขณะที่ในยุโรปและสหรัฐฯ มีการสอบสวนกันมากขึ้น ส่วนประเทศไทย มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากถูกมองข้ามว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน แม้หลายคนพยายามร้องขอความเป็นธรรม แต่ถูกปิดปากซึ่งข่าวนี้เกิดขึ้นจริงทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมีการยอมรับจากทำเนียบข่าวว่ามีการปิดข่าวเรื่องนี้ ในช่วงประธานาธิบดีโจไบเดน และขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยู่

    ด้านพ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา แพทย์ชื่อดัง กล่าวว่า มีญาติผู้ป่วย มาขอให้สะกดจิตเนื่องจากภรรยาไม่รู้เป็นอะไรต้องถูกตัดแขนตัดขาทั้งสองข้าง เมื่อดูภาพเห็นเท้าแขนขาดำทั้งสองข้าง แล้ววันนี้ถูกตัดขาด 2 ข้าง ตัดแขน 1 ข้าง และตัดมืออีกข้างหนึ่งออก โดยยังไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร

    ซึ่งเมื่อตรวจค่าเลือดภูมิต้านทานต่อต้านโควิด สูงถึง 14,500 จึงน่าจะเกี่ยวข้อง และเมื่อมาถามหมอหลายคน ได้ข้อสรุปว่าตัวAnti spike ไปอุดที่ไหนก็จะมีปัญหาที่นั่น ยกตัวอย่างมีหมอรุ่นน้องที่เชียงใหม่ล้มเสียชีวิต รวมถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ของอินโดนีเซีย ที่กำลังยืนปราศรัยก็ล้มตึงจากเวที และรองผู้ว่าฯพังงา ซึ่งมีร่างกายแข็งแรงก็เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุ

    “เป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ฉีดวัคซีนถึง 8 เข็มแล้วเป็นสโตรก และยังมีเสียชีวิตเฉียบพลันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีคนที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตจากการฉีดวัคซีนโควิดมาให้หมอรักษา 600 คน ทั้งนี้เห็นว่าน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีน เพราะจากการตรวจคนไข้ที่คลินิก 70 กว่าคน พบค่า Anti spike ระดับกว่า 1,000 สูงสุดถึง 25,000 จากค่าปกติต้อง 0.8 ขณะที่ส่วนตัวเป็นโควิด 2 ครั้ง ไม่เคยฉีดวัคซีน รักษาด้วยสมุนไพร ตรวจพบค่าเพียง 137” พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าว

    พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสมุนไพร ถ้าสามารถนำมาใช้รักษาน่าจะช่วยรักษาคนทั้งโลกได้ และจะยังเพิ่มเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยไม่ต้องตั้งเป้าทำวิจัย

    ขณะที่ สามีของผู้ป่วยที่ถูกตัดขาตัดแขน กล่าวว่า ได้ไปขอค่าชดเชย จาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)แต่ไม่ได้รับการชดเชยเพราะเกินเวลา 2 ปีแล้ว

    ด้านแม่ที่ลูกอายุ 23 ปีได้รับผลกระทบ เล่าพร้อมน้ำตาคลอว่า ลูกฉีดวัคซีนโควิด 3 เข็ม จากเคยเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย วันนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียงเดินไม่ได้ หมอบอกว่าเป็นลิ่มเลือดอุดตันก้านสมอง ไม่รู้สาเหตุ รักษาตามอาการ ทั้งที่ก่อนหน้า เล่นกีฬาปกติ ขณะนี้ป่วยมา 2 ปีแล้ว จิตใจไม่ปกติ ต้องหาหมอจิตเวชร่วมด้วย เงินที่เก็บไว้ให้เรียนก็หมดไปกับการรักษาตัว จึงอยากฝากภาครัฐช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย

    ขณะที่ผู้ป่วยอีกราย บอกว่ามีอาการปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอก และคันในศีรษะ อย่างรุนแรง ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่หาย แค่บรรเทาเวลากินยา คาดว่ามาจากวัคซันโควิด

    ด้านนายแทนคุณ กล่าวเรียกร้องให้ รมว.สาธารณสุข เปิดสัญญาทุกฉบับที่ทำกับเอกชนในการซื้อวัคซีนโควิด และให้ สปสช.ทบทวนการขยายเวลาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีน โควิดได้รับการเยียวยา... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5194414
    ..ความอีกด้านในช่วงเวลาที่ผ่านมา,การต่อสู้กับภาครัฐที่บัดสบมาตลอดตั้งแต่รัฐบาลที่นำเข้าวัคซีนโควิดที่ไร้งานวิจัยรับรองความปลอดภัยใดๆ,คนเหล่านี้กอดกองเงินกองทองกอดตังอย่างมีความสุขนักโดยเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องกับการค้่ยาค้าวัคซีนโควิดหรือตัววัคซีนmRNAทุกๆคนที่นำเข้ามาในไทยตลอดสร้างพวกโรงงานเพื่อผลิตวัคซีนที่เป็นmRNAเหมือนกันมาฉีดคนไทยด้วย,คณะแพทย์หมอที่สมคบคิดไม่สำนึกต่อการกระทำชั่วตั้งแต่ต้นต้องถูกกำจัดทันที,ซึ่งปัจจุบันลอยหน้าลอยตาเชิดหน้ามีเกียรติมีศักดิ์ศรีนัก,ไม่ถูกจัดการลงโทษสั่งสอนห่าเหวใดๆเลย. ..หมอจุฬา นำทีมผู้ได้รับผลกระทบ วัคซีนโควิด ร้องสภาฯตั้งคณะสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 - 11:47 น. “หมอจุฬา” พร้อมผู้ได้รับผลกระทบวัคซีนโควิด ร้องสภาฯเปิดเวทีสาธารณะ-ตั้งคณะทำงานสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน โดยไม่รู้สาเหตุ ชี้ จากผลตรวจAnti spike ค่าสูงกว่า25,000 จาก 0.8 ขณะยุโรป-สหรัฐฯ สอบเรื่องนี้แล้ว ขอ “สธ.” เปิดสัญญาซื้อวัคซีน จี้ “สปสช.” ทบทวนขยายเวลาเยียวยา เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมคณะแพทย์และผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด 19  ในนามกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านตัวแทนเพื่อให้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อที่จะได้มีข้อมูลในการดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ และให้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโควิด โดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี มีผู้ไปฉีดวัคซีนได้รับผลกระทบตามร่างกาย เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุจำนวนไม่น้อย จึงเป็นโอกาสที่จะสะท้อนความเห็นของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยอยากให้มีการหามาตรการป้องกันผลกระทบจากการฉีดวัคซีน ซึ่งมีการรวมตัวของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลต่างๆ ช่วงแรกหลังฉีดวัคซีน ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยแต่ต่อมามีผลทางวิชาการ ยืนยันว่าวัคซีนโควิดสร้างปัญหาจริง ขณะที่ในยุโรปและสหรัฐฯ มีการสอบสวนกันมากขึ้น ส่วนประเทศไทย มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากถูกมองข้ามว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน แม้หลายคนพยายามร้องขอความเป็นธรรม แต่ถูกปิดปากซึ่งข่าวนี้เกิดขึ้นจริงทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมีการยอมรับจากทำเนียบข่าวว่ามีการปิดข่าวเรื่องนี้ ในช่วงประธานาธิบดีโจไบเดน และขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยู่ ด้านพ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา แพทย์ชื่อดัง กล่าวว่า มีญาติผู้ป่วย มาขอให้สะกดจิตเนื่องจากภรรยาไม่รู้เป็นอะไรต้องถูกตัดแขนตัดขาทั้งสองข้าง เมื่อดูภาพเห็นเท้าแขนขาดำทั้งสองข้าง แล้ววันนี้ถูกตัดขาด 2 ข้าง ตัดแขน 1 ข้าง และตัดมืออีกข้างหนึ่งออก โดยยังไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร ซึ่งเมื่อตรวจค่าเลือดภูมิต้านทานต่อต้านโควิด สูงถึง 14,500 จึงน่าจะเกี่ยวข้อง และเมื่อมาถามหมอหลายคน ได้ข้อสรุปว่าตัวAnti spike ไปอุดที่ไหนก็จะมีปัญหาที่นั่น ยกตัวอย่างมีหมอรุ่นน้องที่เชียงใหม่ล้มเสียชีวิต รวมถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ของอินโดนีเซีย ที่กำลังยืนปราศรัยก็ล้มตึงจากเวที และรองผู้ว่าฯพังงา ซึ่งมีร่างกายแข็งแรงก็เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุ “เป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ฉีดวัคซีนถึง 8 เข็มแล้วเป็นสโตรก และยังมีเสียชีวิตเฉียบพลันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีคนที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตจากการฉีดวัคซีนโควิดมาให้หมอรักษา 600 คน ทั้งนี้เห็นว่าน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีน เพราะจากการตรวจคนไข้ที่คลินิก 70 กว่าคน พบค่า Anti spike ระดับกว่า 1,000 สูงสุดถึง 25,000 จากค่าปกติต้อง 0.8 ขณะที่ส่วนตัวเป็นโควิด 2 ครั้ง ไม่เคยฉีดวัคซีน รักษาด้วยสมุนไพร ตรวจพบค่าเพียง 137” พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าว พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสมุนไพร ถ้าสามารถนำมาใช้รักษาน่าจะช่วยรักษาคนทั้งโลกได้ และจะยังเพิ่มเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยไม่ต้องตั้งเป้าทำวิจัย ขณะที่ สามีของผู้ป่วยที่ถูกตัดขาตัดแขน กล่าวว่า ได้ไปขอค่าชดเชย จาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)แต่ไม่ได้รับการชดเชยเพราะเกินเวลา 2 ปีแล้ว ด้านแม่ที่ลูกอายุ 23 ปีได้รับผลกระทบ เล่าพร้อมน้ำตาคลอว่า ลูกฉีดวัคซีนโควิด 3 เข็ม จากเคยเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย วันนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียงเดินไม่ได้ หมอบอกว่าเป็นลิ่มเลือดอุดตันก้านสมอง ไม่รู้สาเหตุ รักษาตามอาการ ทั้งที่ก่อนหน้า เล่นกีฬาปกติ ขณะนี้ป่วยมา 2 ปีแล้ว จิตใจไม่ปกติ ต้องหาหมอจิตเวชร่วมด้วย เงินที่เก็บไว้ให้เรียนก็หมดไปกับการรักษาตัว จึงอยากฝากภาครัฐช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย ขณะที่ผู้ป่วยอีกราย บอกว่ามีอาการปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอก และคันในศีรษะ อย่างรุนแรง ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่หาย แค่บรรเทาเวลากินยา คาดว่ามาจากวัคซันโควิด ด้านนายแทนคุณ กล่าวเรียกร้องให้ รมว.สาธารณสุข เปิดสัญญาทุกฉบับที่ทำกับเอกชนในการซื้อวัคซีนโควิด และให้ สปสช.ทบทวนการขยายเวลาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีน โควิดได้รับการเยียวยา... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5194414
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • มะเร็งยังคงเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนทั่วโลกมากที่สุด หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือคนส่วนใหญ่มักตรวจพบเมื่อสายเกินไป แต่ตอนนี้...ทีมวิจัยจาก Johns Hopkins นำโดย ดร.ยวี่ซวน หวัง (Dr. Yuxuan Wang) ได้เปิดเผยผลงานในวารสาร Cancer Discovery ว่าเขาสามารถตรวจพบ "DNA ของเนื้องอก" ในเลือดได้ ล่วงหน้า 3 ปี ก่อนที่อาการจะปรากฏชัด

    พวกเขาศึกษาตัวอย่างพลาสมาเลือด 52 รายที่เคยบริจาคไว้ในการศึกษาก่อนหน้า พบว่า 8 รายมีผลตรวจ “บวก” ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า MCED (Multicancer Early Detection test) และสุดท้ายทั้ง 8 รายถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งจริงภายใน 4 เดือน!

    ยิ่งน่าทึ่งคือ ในบางราย ทีมงานมีตัวอย่างเลือดย้อนหลังไปถึง 3.5 ปีก่อนวินิจฉัย และพบ "การกลายพันธุ์ของ DNA ที่ชี้ถึงมะเร็ง" ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว… ทั้งหมดนี้เกิดจากการตรวจหา ctDNA (circulating tumor DNA) หรือเศษดีเอ็นเอที่เซลล์เนื้องอกปล่อยออกสู่กระแสเลือด

    อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ MCED ยังไม่ผ่านการรับรองจาก FDA และมีราคาหลักหลายร้อยดอลลาร์ แถมประกันสุขภาพส่วนใหญ่ยังไม่ครอบคลุม และ American Cancer Society ก็เตือนว่า ผลตรวจ "บวก" ยังไม่ใช่ข้อยืนยันว่าคุณเป็นมะเร็งจริง ๆ

    แต่ที่แน่ ๆ งานนี้อาจกลายเป็นก้าวแรกของ “การตรวจสุขภาพแบบล้ำอนาคต” ที่ไม่ต้องรออาการ แค่เจาะเลือดก็รู้!

    ทีมวิจัย Johns Hopkins พัฒนาเทคนิคตรวจเลือดเพื่อหา DNA จากเนื้องอก (ctDNA)  
    • ใช้วิธี MCED (Multicancer Early Detection)  
    • ตรวจพบความผิดปกติได้ล่วงหน้าถึง 3.5 ปี ก่อนมีอาการ

    ผลการทดลองเบื้องต้น: มีผู้ที่ตรวจพบผลบวก 8 ราย และได้รับการวินิจฉัยมะเร็งจริงภายใน 4 เดือน  
    • ยืนยันว่าการตรวจ ctDNA อาจใช้ช่วยวินิจฉัยล่วงหน้าได้จริง

    วิธีการศึกษาคือวิเคราะห์พลาสมาเลือดย้อนหลังที่เก็บไว้จากโครงการวิจัยอื่น  
    • โดยเปรียบเทียบเลือดจากกลุ่มที่ป่วยกับกลุ่มไม่ป่วย

    บทความตีพิมพ์ในวารสาร Cancer Discovery  
    • นำโดย ดร. ยวี่ซวน หวัง จากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins

    MCED ยังไม่ผ่านการรับรองจาก FDA และไม่ครอบคลุมโดยประกันส่วนใหญ่  
    • การตรวจนี้ยังถือเป็นการวิจัย ไม่ใช่บริการทางการแพทย์ทั่วไป  
    • อาจมีต้นทุนหลักหลายร้อยดอลลาร์ต่อครั้ง

    ผลตรวจ “บวก” ของ MCED ยังไม่ถือเป็นหลักฐานยืนยันการเป็นมะเร็ง  
    • ต้องใช้ร่วมกับการวินิจฉัยแบบดั้งเดิม เช่น CT scan, MRI หรือการตรวจชิ้นเนื้อ  
    • อาจเกิด “ผลบวกลวง (False Positive)” และสร้างความวิตกโดยไม่จำเป็น

    ข้อมูลชุดทดสอบยังน้อยเกินไปที่จะใช้กับประชากรทั่วไปได้ทันที  
    • กลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยมีเพียง 52 ราย

    การวิเคราะห์ ctDNA มีความซับซ้อนและต้องการห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง  
    • ยังไม่สามารถให้บริการได้ในโรงพยาบาลทั่วไป

    https://wccftech.com/this-blood-test-can-detect-cancer-tumors-years-before-clinical-symptoms-develop-claims-a-new-study/
    มะเร็งยังคงเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนทั่วโลกมากที่สุด หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือคนส่วนใหญ่มักตรวจพบเมื่อสายเกินไป แต่ตอนนี้...ทีมวิจัยจาก Johns Hopkins นำโดย ดร.ยวี่ซวน หวัง (Dr. Yuxuan Wang) ได้เปิดเผยผลงานในวารสาร Cancer Discovery ว่าเขาสามารถตรวจพบ "DNA ของเนื้องอก" ในเลือดได้ ล่วงหน้า 3 ปี ก่อนที่อาการจะปรากฏชัด พวกเขาศึกษาตัวอย่างพลาสมาเลือด 52 รายที่เคยบริจาคไว้ในการศึกษาก่อนหน้า พบว่า 8 รายมีผลตรวจ “บวก” ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า MCED (Multicancer Early Detection test) และสุดท้ายทั้ง 8 รายถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งจริงภายใน 4 เดือน! ยิ่งน่าทึ่งคือ ในบางราย ทีมงานมีตัวอย่างเลือดย้อนหลังไปถึง 3.5 ปีก่อนวินิจฉัย และพบ "การกลายพันธุ์ของ DNA ที่ชี้ถึงมะเร็ง" ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว… ทั้งหมดนี้เกิดจากการตรวจหา ctDNA (circulating tumor DNA) หรือเศษดีเอ็นเอที่เซลล์เนื้องอกปล่อยออกสู่กระแสเลือด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ MCED ยังไม่ผ่านการรับรองจาก FDA และมีราคาหลักหลายร้อยดอลลาร์ แถมประกันสุขภาพส่วนใหญ่ยังไม่ครอบคลุม และ American Cancer Society ก็เตือนว่า ผลตรวจ "บวก" ยังไม่ใช่ข้อยืนยันว่าคุณเป็นมะเร็งจริง ๆ แต่ที่แน่ ๆ งานนี้อาจกลายเป็นก้าวแรกของ “การตรวจสุขภาพแบบล้ำอนาคต” ที่ไม่ต้องรออาการ แค่เจาะเลือดก็รู้! ✅ ทีมวิจัย Johns Hopkins พัฒนาเทคนิคตรวจเลือดเพื่อหา DNA จากเนื้องอก (ctDNA)   • ใช้วิธี MCED (Multicancer Early Detection)   • ตรวจพบความผิดปกติได้ล่วงหน้าถึง 3.5 ปี ก่อนมีอาการ ✅ ผลการทดลองเบื้องต้น: มีผู้ที่ตรวจพบผลบวก 8 ราย และได้รับการวินิจฉัยมะเร็งจริงภายใน 4 เดือน   • ยืนยันว่าการตรวจ ctDNA อาจใช้ช่วยวินิจฉัยล่วงหน้าได้จริง ✅ วิธีการศึกษาคือวิเคราะห์พลาสมาเลือดย้อนหลังที่เก็บไว้จากโครงการวิจัยอื่น   • โดยเปรียบเทียบเลือดจากกลุ่มที่ป่วยกับกลุ่มไม่ป่วย ✅ บทความตีพิมพ์ในวารสาร Cancer Discovery   • นำโดย ดร. ยวี่ซวน หวัง จากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ‼️ MCED ยังไม่ผ่านการรับรองจาก FDA และไม่ครอบคลุมโดยประกันส่วนใหญ่   • การตรวจนี้ยังถือเป็นการวิจัย ไม่ใช่บริการทางการแพทย์ทั่วไป   • อาจมีต้นทุนหลักหลายร้อยดอลลาร์ต่อครั้ง ‼️ ผลตรวจ “บวก” ของ MCED ยังไม่ถือเป็นหลักฐานยืนยันการเป็นมะเร็ง   • ต้องใช้ร่วมกับการวินิจฉัยแบบดั้งเดิม เช่น CT scan, MRI หรือการตรวจชิ้นเนื้อ   • อาจเกิด “ผลบวกลวง (False Positive)” และสร้างความวิตกโดยไม่จำเป็น ‼️ ข้อมูลชุดทดสอบยังน้อยเกินไปที่จะใช้กับประชากรทั่วไปได้ทันที   • กลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยมีเพียง 52 ราย ‼️ การวิเคราะห์ ctDNA มีความซับซ้อนและต้องการห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง   • ยังไม่สามารถให้บริการได้ในโรงพยาบาลทั่วไป https://wccftech.com/this-blood-test-can-detect-cancer-tumors-years-before-clinical-symptoms-develop-claims-a-new-study/
    WCCFTECH.COM
    This Blood Test Can Detect Cancer Tumors Years Before Clinical Symptoms Develop, Claims A New Study
    Despite a lack of approval from the FDA, MCED tests can play a critical ancillary role in the early diagnosis of cancer.
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    WWW.CBSNEWS.COM
    What's in Trump's House-passed "one big, beautiful bill"
    Republicans made a number of last-minute changes to the legislation that passed in the lower chamber early Thursday.
    0 Comments 0 Shares 711 Views 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน

    วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง

    “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน”

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน” #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 438 Views 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน

    วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง

    “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน”

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน” #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 448 Views 0 Reviews
  • เพราะ…พวกเค้าสำคัญ
    ลูกคือทั้งโลกของเรา แล้วคุณพร้อมดูแล “ทั้งโลก” ของคุณหรือยัง?

    ประกันสุขภาพเด็ก สำหรับวัยเริ่มต้น 6 ขวบ
    ให้ความคุ้มครองสูงถึง 1 ล้านบาท
    เริ่มต้นเบี้ยเพียง 25,xxx - 29,xxx บาท/ปี
    (รับผิดส่วนแรกเพียง 10,000 บาท)

    มั่นใจว่าลูกจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
    ประกันเลือกได้ by P J
    พร้อมให้คำปรึกษา วางแผนคุ้มครองแบบเข้าใจคนเป็นพ่อแม่

    ส่งข้อความหาเราได้เลยตอนนี้ เพื่อเริ่มต้นสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกคุณ
    เพราะ…พวกเค้าสำคัญ ลูกคือทั้งโลกของเรา แล้วคุณพร้อมดูแล “ทั้งโลก” ของคุณหรือยัง? ประกันสุขภาพเด็ก สำหรับวัยเริ่มต้น 6 ขวบ ให้ความคุ้มครองสูงถึง 1 ล้านบาท เริ่มต้นเบี้ยเพียง 25,xxx - 29,xxx บาท/ปี (รับผิดส่วนแรกเพียง 10,000 บาท) มั่นใจว่าลูกจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ประกันเลือกได้ by P J พร้อมให้คำปรึกษา วางแผนคุ้มครองแบบเข้าใจคนเป็นพ่อแม่ ส่งข้อความหาเราได้เลยตอนนี้ เพื่อเริ่มต้นสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกคุณ
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • Frederick Health Medical Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านสุขภาพในสหรัฐฯ ได้เผชิญกับการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ในเดือนมกราคม 2025 ซึ่งส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยเกือบ 1 ล้านคน โดยข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงชื่อ ที่อยู่ วันเกิด หมายเลขประกันสังคม หมายเลขใบขับขี่ หมายเลขประวัติการรักษา ข้อมูลประกันสุขภาพ และข้อมูลทางคลินิกที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย

    แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการโจมตี และข้อมูลที่ถูกขโมยยังไม่ปรากฏบนเว็บมืด แต่มีความเป็นไปได้ว่า Frederick Health อาจได้จ่ายค่าไถ่เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว เพื่อบรรเทาผลกระทบ Frederick Health ได้เสนอการตรวจสอบเครดิตและบริการป้องกันการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลฟรีให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ

    การโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมสุขภาพ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มแรนซัมแวร์ เนื่องจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องมีความอ่อนไหวและมีมูลค่าสูง

    ข้อมูลที่ถูกขโมย
    - ชื่อ ที่อยู่ วันเกิด หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลทางคลินิก
    - ข้อมูลประกันสุขภาพและหมายเลขใบขับขี่

    การตอบสนองของ Frederick Health
    - เสนอการตรวจสอบเครดิตและบริการป้องกันการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลฟรี
    - ยังไม่มีข้อมูลที่ถูกขโมยปรากฏบนเว็บมืด

    ผลกระทบต่อผู้ป่วย
    - ผู้ป่วยเกือบ 1 ล้านคนได้รับผลกระทบจากการโจมตี

    ความสำคัญของอุตสาหกรรมสุขภาพ
    - ข้อมูลสุขภาพเป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มแรนซัมแวร์

    https://www.techradar.com/pro/security/almost-a-million-patients-hit-by-frederick-health-data-breach
    Frederick Health Medical Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านสุขภาพในสหรัฐฯ ได้เผชิญกับการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ในเดือนมกราคม 2025 ซึ่งส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยเกือบ 1 ล้านคน โดยข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงชื่อ ที่อยู่ วันเกิด หมายเลขประกันสังคม หมายเลขใบขับขี่ หมายเลขประวัติการรักษา ข้อมูลประกันสุขภาพ และข้อมูลทางคลินิกที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการโจมตี และข้อมูลที่ถูกขโมยยังไม่ปรากฏบนเว็บมืด แต่มีความเป็นไปได้ว่า Frederick Health อาจได้จ่ายค่าไถ่เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว เพื่อบรรเทาผลกระทบ Frederick Health ได้เสนอการตรวจสอบเครดิตและบริการป้องกันการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลฟรีให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ การโจมตีครั้งนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมสุขภาพ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มแรนซัมแวร์ เนื่องจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องมีความอ่อนไหวและมีมูลค่าสูง ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมย - ชื่อ ที่อยู่ วันเกิด หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลทางคลินิก - ข้อมูลประกันสุขภาพและหมายเลขใบขับขี่ ✅ การตอบสนองของ Frederick Health - เสนอการตรวจสอบเครดิตและบริการป้องกันการขโมยข้อมูลส่วนบุคคลฟรี - ยังไม่มีข้อมูลที่ถูกขโมยปรากฏบนเว็บมืด ✅ ผลกระทบต่อผู้ป่วย - ผู้ป่วยเกือบ 1 ล้านคนได้รับผลกระทบจากการโจมตี ✅ ความสำคัญของอุตสาหกรรมสุขภาพ - ข้อมูลสุขภาพเป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มแรนซัมแวร์ https://www.techradar.com/pro/security/almost-a-million-patients-hit-by-frederick-health-data-breach
    WWW.TECHRADAR.COM
    Almost a million patients hit by Frederick Health data breach
    No one has assumed responsibility for January 2025 breach
    0 Comments 0 Shares 385 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพที่สำคัญของลูกค้ากว่า 4.7 ล้านคน ของบริษัทประกันสุขภาพ Blue Shield of California โดยข้อมูลดังกล่าวถูกส่งไปยังแพลตฟอร์ม Google Analytics และ Google Ads เนื่องจากการตั้งค่าที่ผิดพลาดในเว็บไซต์ของบริษัทระหว่างเดือนเมษายน 2021 ถึงมกราคม 2024 ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึงชื่อผู้ป่วย ข้อมูลแผนประกันสุขภาพ วันที่ให้บริการ และข้อมูลทางการเงินของผู้ป่วย

    Blue Shield ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขประกันสังคม บัตรเครดิต หรือใบขับขี่ที่ถูกเปิดเผย และไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลเหล่านี้ถูกใช้โดยบุคคลที่ไม่หวังดี อย่างไรก็ตาม Google อาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อการโฆษณาแบบเจาะจง

    บริษัทได้ดำเนินการแก้ไขโดยตัดการเชื่อมต่อระหว่าง Google Analytics และ Google Ads พร้อมทั้งปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต

    การรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพ
    - ข้อมูลของลูกค้ากว่า 4.7 ล้านคนถูกส่งไปยัง Google Analytics และ Google Ads
    - ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึงชื่อผู้ป่วย ข้อมูลแผนประกันสุขภาพ และข้อมูลทางการเงิน

    การตอบสนองของ Blue Shield
    - ตัดการเชื่อมต่อระหว่าง Google Analytics และ Google Ads
    - ปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต

    การยืนยันจากบริษัท
    - ไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขประกันสังคม บัตรเครดิต หรือใบขับขี่ที่ถูกเปิดเผย
    - ไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลถูกใช้โดยบุคคลที่ไม่หวังดี

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
    - Google อาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อการโฆษณาแบบเจาะจง

    https://www.techradar.com/pro/security/breach-at-health-insurance-giant-blue-shield-of-california-leaked-health-data-of-millions-to-google
    ข่าวนี้กล่าวถึงการรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพที่สำคัญของลูกค้ากว่า 4.7 ล้านคน ของบริษัทประกันสุขภาพ Blue Shield of California โดยข้อมูลดังกล่าวถูกส่งไปยังแพลตฟอร์ม Google Analytics และ Google Ads เนื่องจากการตั้งค่าที่ผิดพลาดในเว็บไซต์ของบริษัทระหว่างเดือนเมษายน 2021 ถึงมกราคม 2024 ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึงชื่อผู้ป่วย ข้อมูลแผนประกันสุขภาพ วันที่ให้บริการ และข้อมูลทางการเงินของผู้ป่วย Blue Shield ยืนยันว่าไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขประกันสังคม บัตรเครดิต หรือใบขับขี่ที่ถูกเปิดเผย และไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลเหล่านี้ถูกใช้โดยบุคคลที่ไม่หวังดี อย่างไรก็ตาม Google อาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อการโฆษณาแบบเจาะจง บริษัทได้ดำเนินการแก้ไขโดยตัดการเชื่อมต่อระหว่าง Google Analytics และ Google Ads พร้อมทั้งปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต ✅ การรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพ - ข้อมูลของลูกค้ากว่า 4.7 ล้านคนถูกส่งไปยัง Google Analytics และ Google Ads - ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึงชื่อผู้ป่วย ข้อมูลแผนประกันสุขภาพ และข้อมูลทางการเงิน ✅ การตอบสนองของ Blue Shield - ตัดการเชื่อมต่อระหว่าง Google Analytics และ Google Ads - ปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต ✅ การยืนยันจากบริษัท - ไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขประกันสังคม บัตรเครดิต หรือใบขับขี่ที่ถูกเปิดเผย - ไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลถูกใช้โดยบุคคลที่ไม่หวังดี ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน - Google อาจใช้ข้อมูลนี้เพื่อการโฆษณาแบบเจาะจง https://www.techradar.com/pro/security/breach-at-health-insurance-giant-blue-shield-of-california-leaked-health-data-of-millions-to-google
    0 Comments 0 Shares 309 Views 0 Reviews
  • บริษัท Laboratory Services Cooperative (LSC) ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าเกิดเหตุ ข้อมูลรั่วไหล ส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนตัวของ 1.6 ล้านคน โดยข้อมูลที่ถูกขโมยอาจรวมถึง ข้อมูลทางการแพทย์, ข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลระบุตัวตน

    LSC ตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัยในระบบเมื่อเดือนตุลาคม 2024
    - บริษัทแจ้งตำรวจและนำผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เข้ามาตรวจสอบ
    - การสอบสวนเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจได้รับผลกระทบ

    ข้อมูลที่ถูกขโมยมีหลายประเภท
    - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล
    - ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น วันที่รับบริการ, การวินิจฉัยโรค, ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
    - ข้อมูลประกันสุขภาพ เช่น ชื่อแผนประกัน, หมายเลขสมาชิก
    - ข้อมูลการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร, รายละเอียดบัตรเครดิต

    ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ
    - ผู้ที่เข้ารับการตรวจผ่าน Planned Parenthood ซึ่งใช้บริการของ LSC อาจได้รับผลกระทบ
    - ข้อมูลของพนักงาน LSC และบุคคลในครอบครัวของพนักงานอาจถูกขโมยด้วย

    ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ข้อมูลยังไม่ถูกเผยแพร่บน Dark Web
    - ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยถูกนำไปขายหรือเผยแพร่
    - แต่ผู้ใช้ควรเฝ้าระวังการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว

    ความเสี่ยงด้านการเงินและการฉ้อโกง
    - ข้อมูลการชำระเงินที่ถูกขโมยอาจถูกนำไปใช้ในการฉ้อโกง
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ

    แนวโน้มของภัยคุกคามไซเบอร์ในอุตสาหกรรมสุขภาพ
    - การโจมตีทางไซเบอร์ต่อองค์กรด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    - บริษัทต่างๆ ต้องลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลมากขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/top-us-lab-testing-firm-hit-with-major-data-leak-exposes-health-info-on-1-6-million-users
    บริษัท Laboratory Services Cooperative (LSC) ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าเกิดเหตุ ข้อมูลรั่วไหล ส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนตัวของ 1.6 ล้านคน โดยข้อมูลที่ถูกขโมยอาจรวมถึง ข้อมูลทางการแพทย์, ข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลระบุตัวตน ✅ LSC ตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัยในระบบเมื่อเดือนตุลาคม 2024 - บริษัทแจ้งตำรวจและนำผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เข้ามาตรวจสอบ - การสอบสวนเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจได้รับผลกระทบ ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยมีหลายประเภท - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล - ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น วันที่รับบริการ, การวินิจฉัยโรค, ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ - ข้อมูลประกันสุขภาพ เช่น ชื่อแผนประกัน, หมายเลขสมาชิก - ข้อมูลการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร, รายละเอียดบัตรเครดิต ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ - ผู้ที่เข้ารับการตรวจผ่าน Planned Parenthood ซึ่งใช้บริการของ LSC อาจได้รับผลกระทบ - ข้อมูลของพนักงาน LSC และบุคคลในครอบครัวของพนักงานอาจถูกขโมยด้วย ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ข้อมูลยังไม่ถูกเผยแพร่บน Dark Web - ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยถูกนำไปขายหรือเผยแพร่ - แต่ผู้ใช้ควรเฝ้าระวังการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว ℹ️ ความเสี่ยงด้านการเงินและการฉ้อโกง - ข้อมูลการชำระเงินที่ถูกขโมยอาจถูกนำไปใช้ในการฉ้อโกง - ผู้ใช้ควรตรวจสอบบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ ℹ️ แนวโน้มของภัยคุกคามไซเบอร์ในอุตสาหกรรมสุขภาพ - การโจมตีทางไซเบอร์ต่อองค์กรด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น - บริษัทต่างๆ ต้องลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลมากขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/top-us-lab-testing-firm-hit-with-major-data-leak-exposes-health-info-on-1-6-million-users
    0 Comments 0 Shares 524 Views 0 Reviews
  • ภาษีทรัมป์จะทำให้อเมริกาและโลกยากจนลงเผยการขาดดุลการค้า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ เกิดจากการใช้จ่ายเกินตัวของอเมริกาเอง ไม่ใช่ประเทศอื่นเอาเปรียบ ย้ำภาษีศุลกากรจะสร้างความเสียหายทั้งสองฝ่าย ทำให้สินค้าแพงขึ้น แต่ไม่แก้ปัญหาขาดดุล ชี้ทางออกที่แท้จริงคือการปิดช่องว่างงบประมาณ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่ และเก็บภาษีคนรวยเพิ่ม เจฟฟรีย์ ดี. ซัคส์ ศาสตราจารย์และผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าตั้งอยู่บนความเข้าใจผิดทางเศรษฐกิจขั้นพื้นฐาน ซัคส์ชี้ให้เห็นว่าทรัมป์อ้างอย่างผิดๆ ว่าการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ เกิดจากประเทศอื่นๆ ของโลกฉวยประโยชน์ ทั้งที่ความจริงเป็นผลมาจากการใช้จ่ายเกินตัวของสหรัฐฯ เอง โดยในปี 2024 สหรัฐฯ มีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเกิดจากรายจ่ายทั้งหมด 30.1 ล้านล้านดอลลาร์ แต่มีรายได้ประชาชาติเพียง 29.0 ล้านล้านดอลลาร์ ซัคส์ระบุว่าการขาดดุลเป็นผลมาจากการขาดดุลงบประมาณจำนวนมากอย่างต่อเนื่องที่เกิดจากการลดภาษีให้คนรวย และเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ที่สูญเปล่าไปกับสงครามที่ไร้ประโยชน์ ไม่ใช่เกิดจากการเอาเปรียบของประเทศคู่ค้า เจฟฟรีย์ ซัคส์ ยังเตือนว่าภาษีศุลกากรจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าได้ แต่จะทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น ขณะที่ประเทศคู่ค้าจะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ทั้งสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเสียประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ซัคส์ย้ำว่าวิธีที่แท้จริงในการสนับสนุนคนงานชาวอเมริกันคือผ่านมาตรการของรัฐบาลกลางที่ตรงข้ามกับมาตรการที่ทรัมป์สนับสนุน ซึ่งควรรวมถึงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า การสนับสนุนการจัดตั้งสหภาพแรงงาน และการสนับสนุนงบประมาณสำหรับโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่ รวมถึงพลังงานสีเขียว #imctnews รายงาน
    ภาษีทรัมป์จะทำให้อเมริกาและโลกยากจนลง📌เผยการขาดดุลการค้า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ 📌เกิดจากการใช้จ่ายเกินตัวของอเมริกาเอง ไม่ใช่ประเทศอื่นเอาเปรียบ ย้ำภาษีศุลกากรจะสร้างความเสียหายทั้งสองฝ่าย ทำให้สินค้าแพงขึ้น แต่ไม่แก้ปัญหาขาดดุล 📌ชี้ทางออกที่แท้จริงคือการปิดช่องว่างงบประมาณ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่ และเก็บภาษีคนรวยเพิ่ม 👉เจฟฟรีย์ ดี. ซัคส์ ศาสตราจารย์และผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าตั้งอยู่บนความเข้าใจผิดทางเศรษฐกิจขั้นพื้นฐาน ซัคส์ชี้ให้เห็นว่าทรัมป์อ้างอย่างผิดๆ ว่าการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ เกิดจากประเทศอื่นๆ ของโลกฉวยประโยชน์ ทั้งที่ความจริงเป็นผลมาจากการใช้จ่ายเกินตัวของสหรัฐฯ เอง โดยในปี 2024 สหรัฐฯ มีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเกิดจากรายจ่ายทั้งหมด 30.1 ล้านล้านดอลลาร์ แต่มีรายได้ประชาชาติเพียง 29.0 ล้านล้านดอลลาร์ ซัคส์ระบุว่าการขาดดุลเป็นผลมาจากการขาดดุลงบประมาณจำนวนมากอย่างต่อเนื่องที่เกิดจากการลดภาษีให้คนรวย และเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ที่สูญเปล่าไปกับสงครามที่ไร้ประโยชน์ ไม่ใช่เกิดจากการเอาเปรียบของประเทศคู่ค้า เจฟฟรีย์ ซัคส์ ยังเตือนว่าภาษีศุลกากรจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้าได้ แต่จะทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น ขณะที่ประเทศคู่ค้าจะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ทั้งสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเสียประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ซัคส์ย้ำว่าวิธีที่แท้จริงในการสนับสนุนคนงานชาวอเมริกันคือผ่านมาตรการของรัฐบาลกลางที่ตรงข้ามกับมาตรการที่ทรัมป์สนับสนุน ซึ่งควรรวมถึงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า การสนับสนุนการจัดตั้งสหภาพแรงงาน และการสนับสนุนงบประมาณสำหรับโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่ รวมถึงพลังงานสีเขียว #imctnews รายงาน
    Sad
    1
    0 Comments 1 Shares 393 Views 0 Reviews
  • สภาผู้บริโภคจี้คปภ.ทบทวน Co-payment ผลักภาระประชาชน : คนเคาะข่าว 24-03-68
    : นิมิตร์ เทียนอุดม รองประธานสภาผู้บริโภค
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    #คนเคาะข่าว #สภาผู้บริโภค #CoPayment #คปภ #สิทธิผู้บริโภค #ภาระประชาชน #ประกันสุขภาพ #นโยบายรัฐ #นิมิตร์เทียนอุดม #นงวดีถนิมมาลย์ #ข่าวสังคม #สุขภาพการเงิน #ความเป็นธรรม #ThaiTimes #วิเคราะห์นโยบาย
    สภาผู้บริโภคจี้คปภ.ทบทวน Co-payment ผลักภาระประชาชน : คนเคาะข่าว 24-03-68 : นิมิตร์ เทียนอุดม รองประธานสภาผู้บริโภค ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #สภาผู้บริโภค #CoPayment #คปภ #สิทธิผู้บริโภค #ภาระประชาชน #ประกันสุขภาพ #นโยบายรัฐ #นิมิตร์เทียนอุดม #นงวดีถนิมมาลย์ #ข่าวสังคม #สุขภาพการเงิน #ความเป็นธรรม #ThaiTimes #วิเคราะห์นโยบาย
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 869 Views 7 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 24-3-68
    .
    เช้าวันจันทร์วันนี้มีเรื่องที่ท่านผู้ชมให้ความสนใจอย่างมากหลาย ๆ ประเด็น ไม่ว่าจะเป็น "ดิว อริสรา", เรื่องปัญหาและผลกระทบจากการก่อสร้างทางด่วนบนถนนพระราม 2 รวมไปถึงวิกฤตของระบบสาธารณสุขไทย ระบบประกันสังคม, ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ,ระบบบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ ที่หลายท่านคงยังไม่ทราบว่า เมื่อเจาะลงลึก ๆ ไปแล้ว "หนักกว่าที่ทุกคนคิดหลายเท่า"
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=-SkM1o-lGjo
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ดิวอริสรา
    สนธิเล่าเรื่อง 24-3-68 . เช้าวันจันทร์วันนี้มีเรื่องที่ท่านผู้ชมให้ความสนใจอย่างมากหลาย ๆ ประเด็น ไม่ว่าจะเป็น "ดิว อริสรา", เรื่องปัญหาและผลกระทบจากการก่อสร้างทางด่วนบนถนนพระราม 2 รวมไปถึงวิกฤตของระบบสาธารณสุขไทย ระบบประกันสังคม, ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ,ระบบบำเหน็จบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาลของข้าราชการ ที่หลายท่านคงยังไม่ทราบว่า เมื่อเจาะลงลึก ๆ ไปแล้ว "หนักกว่าที่ทุกคนคิดหลายเท่า" . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=-SkM1o-lGjo . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ดิวอริสรา
    Like
    3
    1 Comments 0 Shares 622 Views 0 Reviews
  • ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป

    จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน

    สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน

    1. อาหารและโภชนาการ

    อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

    การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง

    2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต

    สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน

    การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน

    3. การแพทย์และสาธารณสุข

    ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง"

    มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง

    แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต

    ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น

    การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย

    การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ

    การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ

    จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ

    ที่มา: VGraps
    ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน 1. อาหารและโภชนาการ อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง 2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน 3. การแพทย์และสาธารณสุข ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง" มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ ที่มา: VGraps
    0 Comments 0 Shares 979 Views 0 Reviews
  • To Gen-Y ,Gen X เตรียมตัวรับมือแล้วหรือยัง❓️
    ✅️การป้องกัน ดีกว่า การแก้ไข
    ✅️ป้ายยา:: มีผลิตภัณฑ์บำรุง ดูแลร่างกาย หลายอย่าง เลือกช๊อป ตามสบายเลยค่ะ
    ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป

    จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน

    สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน

    1. อาหารและโภชนาการ

    อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

    การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง

    2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต

    สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน

    การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน

    3. การแพทย์และสาธารณสุข

    ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง"

    มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง

    แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต

    ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น

    การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย

    การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ

    การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ

    จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ

    ที่มา: VGraps

    Cr.FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
    📣📣To Gen-Y ,Gen X เตรียมตัวรับมือแล้วหรือยัง❓️ ✅️การป้องกัน ดีกว่า การแก้ไข ✅️ป้ายยา:: มีผลิตภัณฑ์บำรุง ดูแลร่างกาย หลายอย่าง เลือกช๊อป ตามสบายเลยค่ะ 📌ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน 1. อาหารและโภชนาการ อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง 2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน 3. การแพทย์และสาธารณสุข ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง" มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ ที่มา: VGraps Cr.FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
    0 Comments 0 Shares 939 Views 0 Reviews
  • To Gen-Y ,Gen X เตรียมตัวรับมือแล้วหรือยัง❓️
    ✅️การป้องกัน ดีกว่า การแก้ไข
    ✅️ป้ายยา:: มีผลิตภัณฑ์บำรุง ดูแลร่างกาย หลายอย่าง เลือกช๊อป ตามสบายเลยค่ะ
    ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป

    จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน

    สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน

    1. อาหารและโภชนาการ

    อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

    การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง

    2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต

    สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน

    การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน

    3. การแพทย์และสาธารณสุข

    ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง"

    มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง

    แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต

    ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น

    การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย

    การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ

    การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ

    จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ

    ที่มา: VGraps

    Cr.FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
    📣📣To Gen-Y ,Gen X เตรียมตัวรับมือแล้วหรือยัง❓️ ✅️การป้องกัน ดีกว่า การแก้ไข ✅️ป้ายยา:: มีผลิตภัณฑ์บำรุง ดูแลร่างกาย หลายอย่าง เลือกช๊อป ตามสบายเลยค่ะ 📌ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน 1. อาหารและโภชนาการ อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง 2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน 3. การแพทย์และสาธารณสุข ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง" มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ ที่มา: VGraps Cr.FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
    0 Comments 0 Shares 936 Views 0 Reviews
  • 10 เทคนิควางแผนการเงินเพื่อชีวิตวัยเกษียณสำหรับ Generation X
    1. กำหนดเป้าหมายเกษียณ – คำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องการและระยะเวลาการออม

    2. สร้างกองทุนฉุกเฉิน – มีเงินสำรอง 6-12 เดือนเผื่อค่าใช้จ่ายไม่คาดคิด

    3. ออมเงินอย่างสม่ำเสมอ – กันเงินเก็บทุกเดือน สร้างนิสัยออมก่อนใช้

    4. ลงทุนเพื่ออนาคต – กระจายความเสี่ยงในหุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์

    5. ลดหนี้สินก่อนเกษียณ – จัดการหนี้ให้หมดเร็ว ลดภาระดอกเบี้ย

    6. วางแผนประกันสุขภาพ – เลือกประกันคุ้มครองระยะยาวลดภาระค่ารักษาพยาบาล

    7. ศึกษาสิทธิ์ประกันสังคม – ตรวจสอบเงินบำนาญและสวัสดิการที่ได้รับ

    8. หารายได้เสริม – ลงทุนหรือทำธุรกิจขนาดเล็กสร้างรายได้ต่อเนื่อง

    9. ควบคุมค่าใช้จ่าย – ตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือย บริหารเงินให้มีประสิทธิภาพ

    10. วางแผนมรดก – จัดการพินัยกรรมเพื่อป้องกันปัญหาทรัพย์สินในอนาคต

    เตรียมตัวดี มีเงินใช้ เกษียณอย่างมั่นคง!

    📌10 เทคนิควางแผนการเงินเพื่อชีวิตวัยเกษียณสำหรับ Generation X 1. กำหนดเป้าหมายเกษียณ – คำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องการและระยะเวลาการออม 2. สร้างกองทุนฉุกเฉิน – มีเงินสำรอง 6-12 เดือนเผื่อค่าใช้จ่ายไม่คาดคิด 3. ออมเงินอย่างสม่ำเสมอ – กันเงินเก็บทุกเดือน สร้างนิสัยออมก่อนใช้ 4. ลงทุนเพื่ออนาคต – กระจายความเสี่ยงในหุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์ 5. ลดหนี้สินก่อนเกษียณ – จัดการหนี้ให้หมดเร็ว ลดภาระดอกเบี้ย 6. วางแผนประกันสุขภาพ – เลือกประกันคุ้มครองระยะยาวลดภาระค่ารักษาพยาบาล 7. ศึกษาสิทธิ์ประกันสังคม – ตรวจสอบเงินบำนาญและสวัสดิการที่ได้รับ 8. หารายได้เสริม – ลงทุนหรือทำธุรกิจขนาดเล็กสร้างรายได้ต่อเนื่อง 9. ควบคุมค่าใช้จ่าย – ตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือย บริหารเงินให้มีประสิทธิภาพ 10. วางแผนมรดก – จัดการพินัยกรรมเพื่อป้องกันปัญหาทรัพย์สินในอนาคต เตรียมตัวดี มีเงินใช้ เกษียณอย่างมั่นคง!
    0 Comments 0 Shares 729 Views 0 Reviews
  • **หมดห่วงทุกค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพ**
    - ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายสูงสุดตามแผน
    - ครอบคลุมทั้งโรคร้ายแรง อุบัติเหตุ และการรักษาทั่วไป
    - ไม่ต้องสำรองจ่าย โรงพยาบาลในเครือข่ายทั่วประเทศ

    **ยืดหยุ่น เลือกได้ตามความต้องการของคุณ**
    - วงเงินคุ้มครองสูงสุดที่ปรับได้ตามไลฟ์สไตล์
    - แผนที่เหมาะกับทุกวัย ทั้งคนโสด ครอบครัว หรือผู้สูงอายุ

    **จุดเด่นที่ทำให้คุณอุ่นใจ**
    - บริการรวดเร็ว เคลมง่าย ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก
    - เบี้ยประกันเริ่มต้นในราคาที่เข้าถึงได้

    **ให้คำปรึกษาฟรี!** คลิกเพื่อหาแผนที่ใช่สำหรับคุณ
    FB Page: Fiamony
    Line ID: @fiamony
    แชทได้เลย: https://lin.ee/lXOjzTj
    โทร 081-323-8168

    **เพราะสุขภาพดีต้องมาพร้อมความคุ้มครองที่ดี
    ให้เราเป็นตัวช่วยในทุกจังหวะชีวิตของคุณ**

    #fiamony | #AllianzAyudhya | #อลิอันซ์อยุธยาประกันชีวิต
    #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย | #ซื้อประกันออนไลน์
    #ประกันออนไลน์ | #ประกันชีวิต | #ประกันสุขภาพ
    #ประกันสุขภาพเด็ก | #ซื้อประกันสุขภาพ #เหมาจ่าย
    🛡️ **หมดห่วงทุกค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพ** - ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายสูงสุดตามแผน - ครอบคลุมทั้งโรคร้ายแรง อุบัติเหตุ และการรักษาทั่วไป - ไม่ต้องสำรองจ่าย โรงพยาบาลในเครือข่ายทั่วประเทศ ✨ **ยืดหยุ่น เลือกได้ตามความต้องการของคุณ** - วงเงินคุ้มครองสูงสุดที่ปรับได้ตามไลฟ์สไตล์ - แผนที่เหมาะกับทุกวัย ทั้งคนโสด ครอบครัว หรือผู้สูงอายุ 💡 **จุดเด่นที่ทำให้คุณอุ่นใจ** - บริการรวดเร็ว เคลมง่าย ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก - เบี้ยประกันเริ่มต้นในราคาที่เข้าถึงได้ 💬 **ให้คำปรึกษาฟรี!** คลิกเพื่อหาแผนที่ใช่สำหรับคุณ 🌐 FB Page: Fiamony 📩 Line ID: @fiamony 📩 แชทได้เลย: https://lin.ee/lXOjzTj ☎️ โทร 081-323-8168 **เพราะสุขภาพดีต้องมาพร้อมความคุ้มครองที่ดี ให้เราเป็นตัวช่วยในทุกจังหวะชีวิตของคุณ** #fiamony | #AllianzAyudhya | #อลิอันซ์อยุธยาประกันชีวิต #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย | #ซื้อประกันออนไลน์ #ประกันออนไลน์ | #ประกันชีวิต | #ประกันสุขภาพ #ประกันสุขภาพเด็ก | #ซื้อประกันสุขภาพ #เหมาจ่าย
    0 Comments 0 Shares 1196 Views 0 Reviews
  • จ่ายเบี้ยน้อย คุ้มครอง8,000,000
    เด็ก ผู้ใหญ่ ทำได้ทุกวัย
    #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย8ล้าน

    ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ปลดล็อค ดับเบิล แคร์
    เบี้ยเริ่มต้นแค่วันละ 39 บาท*
    เจอโรคร้ายแรงตามที่กำหนด เบิ้ลวงเงินผลประโยชน์เป็น 2 เท่า!

    แอดมิทนอนรพ. เหมาจ่ายค่ารักษาตามจริง แผน1 แผน2, แผน3 วงเงินผลประโยชน์ 8 ล้าน, 15 ล้าน, 30 ล้าน/ต่อรอบปีกรมธรรม์
    เป็นโรคร้ายแรงตามเงื่อนไข เบิ้ลวงเงินผลประโยชน์เป็น 2 เท่า แผน1, แผน2, แผน3 วงเงินผลประโยชน์ 16 ล้าน, 30 ล้าน, 60 ล้าน/ต่อรอบปีกรมธรรม์
    ค่าห้อง-อาหาร ในรพ. แผน1 3,000 บาท, แผน2 6,000 บาท และ แผน3 15,000 บาท/วัน**
    ค่ารักษาในห้องไอซียู จ่ายตามจริง
    ค่าผ่าตัด ค่าห้องผ่าตัด ค่าวางยาสลบ จ่ายตามจริง
    ค่าผ่าตัดเล็ก ผ่าตัดใหญ่ จ่ายตามจริง
    คุ้มครองคีโม Targeted Therapy ฉายแสง ล้างไต แม้ไม่นอนรพ. จ่ายตามจริง
    ค่ารักษาพยาบาลอุบัติเหตุฉุกเฉิน ภายใน 24 ชม. จ่ายตามจริง
    ค่าตรวจสุขภาพประจำปี/ฉีดวัคซีน แผน1 1,000 บาท, แผน2 2,500 บาท และ แผน3 5,500 บาท/ต่อรอบปีกรมธรรม์ ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์
    Fax Claim ได้ ไม่ต้องสำรองจ่าย***

    ~~~~~~~~

    สนใจทักแชทได้เลย ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
    Line ID : @fiamony
    คลิ๊กเลย https://lin.ee/o3lzLTu
    FB Page: Fiamony
    081-323-8168
    TikTok: Fiamony , (live บ่ายโมง จันทร์-ศุกร์)

    #fiamony | #ประกันชีวิต | #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย
    #ประกันอลิอันซ์ | #อลิอันซ์อยุธยา | #ถูกและดี
    #ประกันสุขภาพเด็ก | #ประกันสุขภาพออนไลน์
    จ่ายเบี้ยน้อย คุ้มครอง8,000,000 ✅ เด็ก ✅ผู้ใหญ่ ทำได้ทุกวัย #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย8ล้าน ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ปลดล็อค ดับเบิล แคร์ เบี้ยเริ่มต้นแค่วันละ 39 บาท* เจอโรคร้ายแรงตามที่กำหนด เบิ้ลวงเงินผลประโยชน์เป็น 2 เท่า! 👉 แอดมิทนอนรพ. เหมาจ่ายค่ารักษาตามจริง แผน1 แผน2, แผน3 วงเงินผลประโยชน์ 8 ล้าน, 15 ล้าน, 30 ล้าน/ต่อรอบปีกรมธรรม์ 👉 เป็นโรคร้ายแรงตามเงื่อนไข เบิ้ลวงเงินผลประโยชน์เป็น 2 เท่า แผน1, แผน2, แผน3 วงเงินผลประโยชน์ 16 ล้าน, 30 ล้าน, 60 ล้าน/ต่อรอบปีกรมธรรม์ 👉 ค่าห้อง-อาหาร ในรพ. แผน1 3,000 บาท, แผน2 6,000 บาท และ แผน3 15,000 บาท/วัน** 👉 ค่ารักษาในห้องไอซียู จ่ายตามจริง 👉 ค่าผ่าตัด ค่าห้องผ่าตัด ค่าวางยาสลบ จ่ายตามจริง 👉 ค่าผ่าตัดเล็ก ผ่าตัดใหญ่ จ่ายตามจริง 👉 คุ้มครองคีโม Targeted Therapy ฉายแสง ล้างไต แม้ไม่นอนรพ. จ่ายตามจริง 👉 ค่ารักษาพยาบาลอุบัติเหตุฉุกเฉิน ภายใน 24 ชม. จ่ายตามจริง 👉 ค่าตรวจสุขภาพประจำปี/ฉีดวัคซีน แผน1 1,000 บาท, แผน2 2,500 บาท และ แผน3 5,500 บาท/ต่อรอบปีกรมธรรม์ ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ 👉 Fax Claim ได้ ไม่ต้องสำรองจ่าย*** ~~~~~~~~ 💬 สนใจทักแชทได้เลย ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ 📩 Line ID : @fiamony 📩 คลิ๊กเลย https://lin.ee/o3lzLTu 🌐 FB Page: Fiamony ☎️ 081-323-8168 🎙️ TikTok: Fiamony , (live บ่ายโมง จันทร์-ศุกร์) #fiamony | #ประกันชีวิต | #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย #ประกันอลิอันซ์ | #อลิอันซ์อยุธยา | #ถูกและดี #ประกันสุขภาพเด็ก | #ประกันสุขภาพออนไลน์
    0 Comments 0 Shares 1277 Views 0 Reviews
  • ทำอย่างไร เมื่อประกันสุขภาพ ไม่รับคนที้เป็นโรคซึมเศร้า มาก่อน
    ทำอย่างไร เมื่อประกันสุขภาพ ไม่รับคนที้เป็นโรคซึมเศร้า มาก่อน
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • ประกันสุขภาพไว้ อย่างน้อยหายห่วงเรื่องค่ารักษาที่ประเมินไม่ได้
    ประกันสุขภาพไว้ อย่างน้อยหายห่วงเรื่องค่ารักษาที่ประเมินไม่ได้
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายดี อย่าลืมวางแผนกันนะครับ

    #ประกันสุขภาพเหมาจ่ายสุดคุ้ม #ประกันสุขภาพ #มะเร็ง #AIA #คุ้มครอง #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย #ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่าย #ประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษี #copayment #คุ้มครองโรคร้ายแรง #ค่ารักษาพยาบาล #โรงพยาบาล
    ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายดี อย่าลืมวางแผนกันนะครับ #ประกันสุขภาพเหมาจ่ายสุดคุ้ม #ประกันสุขภาพ #มะเร็ง #AIA #คุ้มครอง #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย #ค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่าย #ประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษี #copayment #คุ้มครองโรคร้ายแรง #ค่ารักษาพยาบาล #โรงพยาบาล
    0 Comments 0 Shares 944 Views 0 Reviews
  • เคลมประกันสุขภาพเกือบล้าน ประกันจ่ายไหม!?!?

    "สุขภาพดี ไม่มีสะดุด กับประกันสุขภาพเหมาจ่าย ครอบคลุมทุกการรักษา!"

    ✔ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย 8-120ล้านบาท/ปี
    ✔ ครอบคลุมทุกโรค ทั้งโรคระบาด โรคร้ายแรง และอุบัติเหตุ
    ✔ จ่ายค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายา ไม่ต้องสำรองจ่าย (เครือข่ายโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ)
    ✔ เหมาจ่ายค่าผ่าตัด คีโม ฟอกไต รักษาตัวได้เต็มที่
    ✔ หมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล ดูแลสุขภาพได้อย่างไร้กังวล

    **คุ้มครองเหนือระดับ สบายใจได้ทุกสถานการณ์**
    "เพราะสุขภาพของคุณคือสิ่งสำคัญที่สุด อย่ารอให้ป่วยก่อนค่อยทำประกัน!"

    **สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Fiamony
    หรือทักแชทมาได้เลย!*
    FB Page: Fiamony
    👉🏻 Line ID: @fiamony
    👉🏻 คลิ๊กเลย https://lin.ee/yLUTrz2
    ทุกช่องทางออนไลน์: Fiamony
    TikTok ไลฟ์ทุกวันบ่ายโมง

    #fiamony | #อลิอันซ์อยุธยา | #ซื้อประกันออนไลน์
    #ตัวแทนประกันชีวิต | #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย
    #ประกันชีวิต | #ประกันอลิอันซ์ | #AllianzAyudhya
    💸 เคลมประกันสุขภาพเกือบล้าน ประกันจ่ายไหม!?!?💰 "สุขภาพดี ไม่มีสะดุด กับประกันสุขภาพเหมาจ่าย ครอบคลุมทุกการรักษา!" ✨ ✔ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย 8-120ล้านบาท/ปี ✔ ครอบคลุมทุกโรค ทั้งโรคระบาด โรคร้ายแรง และอุบัติเหตุ ✔ จ่ายค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายา ไม่ต้องสำรองจ่าย (เครือข่ายโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ) ✔ เหมาจ่ายค่าผ่าตัด คีโม ฟอกไต รักษาตัวได้เต็มที่ ✔ หมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล ดูแลสุขภาพได้อย่างไร้กังวล ✨ **คุ้มครองเหนือระดับ สบายใจได้ทุกสถานการณ์** ✨ "เพราะสุขภาพของคุณคือสิ่งสำคัญที่สุด อย่ารอให้ป่วยก่อนค่อยทำประกัน!" **สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Fiamony 📞 หรือทักแชทมาได้เลย!* 🌐 FB Page: Fiamony 👉🏻 Line ID: @fiamony 👉🏻 คลิ๊กเลย https://lin.ee/yLUTrz2 🌏 ทุกช่องทางออนไลน์: Fiamony 📱TikTok ไลฟ์ทุกวันบ่ายโมง #fiamony | #อลิอันซ์อยุธยา | #ซื้อประกันออนไลน์ #ตัวแทนประกันชีวิต | #ประกันสุขภาพเหมาจ่าย #ประกันชีวิต | #ประกันอลิอันซ์ | #AllianzAyudhya
    0 Comments 0 Shares 1135 Views 0 Reviews
  • การทำงานที่บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ดีอย่างไร มาฟังจากพนักงานโดยตรง ซึ่งตอกย้ำรางวัล ‘สุดยอดนายจ้างดีเด่นระดับโลกประจำปี 2567’ ที่ไฟเซอร์สำนักงานใหญ่ได้รับการจัดอันดับที่ #34 จากอุตสาหกรรมโดยรวม และอันดับ #1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมยาและเทคโนโลยีชีวภาพ Forbes World's Best Employers 2024 - Best Companies To Work For Worldwide ซึ่งถือเป็นรางวัลฉลองครบรอบ 175 ปีของไฟเซอร์ อิงค์ ในปีนี้ และครบรอบ 66 ปีในประเทศไทย ซึ่งพนักงานคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันยาวนาน
    .
    เมื่อไม่นานมานี้นิตยสาร Forbes ร่วมกับ Statista ประกาศรายชื่อนายจ้างยอดเยี่ยมระดับโลกประจำปี 2024 โดยไฟเซอร์ (Pfizer) ได้รับการจัดอันดับตอกย้ำความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นในการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างบรรยากาศเชิงบวกและความเป็นเลิศ จากการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานกว่า 300,000 คนจาก 50 ประเทศ ที่เข้าร่วมการสำรวจกับ Forbes ที่ทำงานในองค์กรข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 คน และดำเนินงานในภูมิภาคทวีปอย่างน้อย 2 แห่งจากทั้งหมด 6 แห่งของโลก ได้แก่ เอเชีย, ยุโรป, แอฟริกา, ลาตินอเมริกา, แคริบเบียน, อเมริกาเหนือ และโอเชียเนีย
    .
    ความสำเร็จของบริษัทแม่สะท้อนภาพลักษณ์องค์กรที่ดีของไฟเซอร์ (ประเทศไทย) องค์กรนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จมากว่า 6 ทศวรรษในประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย ความสำเร็จที่สานต่อเกิดจาก ‘ความสามารถของพนักงานและการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร’ ที่ล้วนเป็นพื้นฐานแห่งความสำเร็จด้วยคุณลักษณะสำคัญคือ
    .
    1. ความรับผิดชอบ
    2. การให้ความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม
    3. การนำเสนอแนวคิดและวิธีการใหม่ๆ
    .
    ‘สภาพแวดล้อมการทำงาน’ ที่เหมาะสมและหลากหลายคือกุญแจสำคัญ โดยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ไฟเซอร์จึงกลายเป็นสถานที่ที่พนักงานสามารถเติบโตได้
    วันเวลาทำงาน วันจันทร์-ศุกร์
    วันหยุดชดเชยกรณีต้องทำงานวันหยุด
    วันลา Caregiving Leave หรือสิทธิ์ลาดูแลสมาชิกครอบครัวรวมถึงสัตว์เลี้ยง 10 วัน (แยกออกจากวันลากิจ ลาป่วย ลาพักร้อนอื่นๆ)
    ออฟฟิศตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงเชื่อมตรงกับอาคาร
    Mobile Office สามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้
    มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ปลอดคนที่มีลักษณะเป็นพิษในองค์กร (Toxic People)
    .
    มาร์ค คาว (Mark Kuo) ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไฟเซอร์ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแบบ Accountability ซึ่งพนักงานทุกคนจะเข้าใจบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่เพื่อให้ได้รับผลสำเร็จตรงตามเป้าหมายของตนเองและบรรลุวัตถุประสงค์ที่องค์กรวางไว้ คือไม่ใช่สักแต่เพียงการทำงานให้เสร็จสิ้น แต่ต้องประสบผลความสำเร็จ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของไฟเซอร์คือพนักงานซึ่งเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่า เราได้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ ซึ่งสามารถยืนหยัดและเติบโตในประเทศไทยได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นการสะท้อนถึงความไว้วางใจและการสนับสนุนจากชาวไทยอย่างแท้จริง ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) ยินดีต้อนรับทุกคนที่มีความรู้ความสามารถและมีคุณภาพสูงมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ในการทำหน้าที่นำเสนอนวัตกรรมเพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย และมาร่วมกันสร้างความสำเร็จและการเติบโตเข้าสู่ปีที่ 67 ของการก่อตั้งในประเทศไทยและในปีต่อๆ ไป
    .
    สิทธิประโยชน์ของพนักงานไฟเซอร์คือ
    ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงความปลอดภัยของพนักงานเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งจัดกิจกรรมเสริมสุขภาพกายใจ และให้ความรู้ด้านการเงินและการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลทุกเดือน
    สวัสดิการยืดหยุ่น 16,000 บาทต่อปี ครอบคลุมสุขภาพ ความงาม ประกัน ดูแลครอบครัว สัตว์เลี้ยง เป็นต้น
    ตรวจสุขภาพประจำปี โบนัสการันตี 1 เดือน + โบนัสตามผลงาน
    กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสิทธิหุ้น Provident Fund อัตราแข่งขันได้ บางตำแหน่งมีสิทธิหุ้น
    สนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียม (DEI) สิทธิคู่สมรสเท่าเทียมสำหรับคู่ชีวิตเพศเดียวกัน
    ประกันสุขภาพครอบคลุมคู่สมรสและบุตร รวมถึงคู่ชีวิต (Life Partner) เพศเดียวกันกับพนักงาน
    พัฒนาและเติบโตในสายอาชีพ อบรมผ่านระบบออนไลน์และชั้นเรียน เติบโตในองค์กรและเปิดโอกาสให้ได้ทำงานในระดับภูมิภาคและระดับโลก
    นโยบายปรึกษาหัวหน้างานโดยตรง (Speak Up) ผู้บริหารพร้อมรับฟังและแก้ปัญหาอย่างจริงใจ (Open Door)
    วัฒนธรรมเสมอภาค ยืดหยุ่น เน้นผลลัพธ์ สร้างบรรยากาศการทำงานที่สนุกและส่งเสริมความสุข
    องค์กรแห่งการเรียนรู้ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง
    ผู้นำที่ใส่ใจ เปิดรับความคิดเห็นและให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ
    ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี
    .
    ไฟเซอร์ไม่เพียงเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมที่ให้ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี แต่ยังดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ และสนับสนุนให้พนักงานเติบโต จึงทำให้ไฟเซอร์เป็นอีกหนึ่งองค์กรในฝัน
    .
    มาร่วมค้นพบว่า ทำไมไฟเซอร์ (Pfizer) จึงเป็นที่ทำงานในฝันของใครหลายคน!
    .
    ติดตามข่าวสารของบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่ www.pfizer.co.th หรือ Facebook: Pfizer Thailand ที่ https://www.facebook.com/PfizerThailand
    #PfizerThailand #ไฟเซอร์
    #Forbes #worldbestemployers2024 #ไฟเซอร์
    [PR NEWS]
    การทำงานที่บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ดีอย่างไร มาฟังจากพนักงานโดยตรง ซึ่งตอกย้ำรางวัล ‘สุดยอดนายจ้างดีเด่นระดับโลกประจำปี 2567’ ที่ไฟเซอร์สำนักงานใหญ่ได้รับการจัดอันดับที่ #34 จากอุตสาหกรรมโดยรวม และอันดับ #1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมยาและเทคโนโลยีชีวภาพ Forbes World's Best Employers 2024 - Best Companies To Work For Worldwide ซึ่งถือเป็นรางวัลฉลองครบรอบ 175 ปีของไฟเซอร์ อิงค์ ในปีนี้ และครบรอบ 66 ปีในประเทศไทย ซึ่งพนักงานคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันยาวนาน . เมื่อไม่นานมานี้นิตยสาร Forbes ร่วมกับ Statista ประกาศรายชื่อนายจ้างยอดเยี่ยมระดับโลกประจำปี 2024 โดยไฟเซอร์ (Pfizer) ได้รับการจัดอันดับตอกย้ำความเป็นผู้นำและความมุ่งมั่นในการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานที่สร้างบรรยากาศเชิงบวกและความเป็นเลิศ จากการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานกว่า 300,000 คนจาก 50 ประเทศ ที่เข้าร่วมการสำรวจกับ Forbes ที่ทำงานในองค์กรข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 คน และดำเนินงานในภูมิภาคทวีปอย่างน้อย 2 แห่งจากทั้งหมด 6 แห่งของโลก ได้แก่ เอเชีย, ยุโรป, แอฟริกา, ลาตินอเมริกา, แคริบเบียน, อเมริกาเหนือ และโอเชียเนีย . ความสำเร็จของบริษัทแม่สะท้อนภาพลักษณ์องค์กรที่ดีของไฟเซอร์ (ประเทศไทย) องค์กรนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จมากว่า 6 ทศวรรษในประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย ความสำเร็จที่สานต่อเกิดจาก ‘ความสามารถของพนักงานและการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร’ ที่ล้วนเป็นพื้นฐานแห่งความสำเร็จด้วยคุณลักษณะสำคัญคือ . 1. ความรับผิดชอบ 2. การให้ความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม 3. การนำเสนอแนวคิดและวิธีการใหม่ๆ . ‘สภาพแวดล้อมการทำงาน’ ที่เหมาะสมและหลากหลายคือกุญแจสำคัญ โดยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ไฟเซอร์จึงกลายเป็นสถานที่ที่พนักงานสามารถเติบโตได้ ▪️วันเวลาทำงาน วันจันทร์-ศุกร์ ▪️วันหยุดชดเชยกรณีต้องทำงานวันหยุด ▪️วันลา Caregiving Leave หรือสิทธิ์ลาดูแลสมาชิกครอบครัวรวมถึงสัตว์เลี้ยง 10 วัน (แยกออกจากวันลากิจ ลาป่วย ลาพักร้อนอื่นๆ) ▪️ออฟฟิศตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงเชื่อมตรงกับอาคาร ▪️Mobile Office สามารถนั่งทำงานที่ไหนก็ได้ ▪️มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ปลอดคนที่มีลักษณะเป็นพิษในองค์กร (Toxic People) . มาร์ค คาว (Mark Kuo) ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไฟเซอร์ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแบบ Accountability ซึ่งพนักงานทุกคนจะเข้าใจบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่เพื่อให้ได้รับผลสำเร็จตรงตามเป้าหมายของตนเองและบรรลุวัตถุประสงค์ที่องค์กรวางไว้ คือไม่ใช่สักแต่เพียงการทำงานให้เสร็จสิ้น แต่ต้องประสบผลความสำเร็จ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของไฟเซอร์คือพนักงานซึ่งเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่า เราได้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ ซึ่งสามารถยืนหยัดและเติบโตในประเทศไทยได้จนถึงทุกวันนี้ เป็นการสะท้อนถึงความไว้วางใจและการสนับสนุนจากชาวไทยอย่างแท้จริง ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) ยินดีต้อนรับทุกคนที่มีความรู้ความสามารถและมีคุณภาพสูงมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ในการทำหน้าที่นำเสนอนวัตกรรมเพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วย และมาร่วมกันสร้างความสำเร็จและการเติบโตเข้าสู่ปีที่ 67 ของการก่อตั้งในประเทศไทยและในปีต่อๆ ไป . สิทธิประโยชน์ของพนักงานไฟเซอร์คือ ▪️ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงความปลอดภัยของพนักงานเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งจัดกิจกรรมเสริมสุขภาพกายใจ และให้ความรู้ด้านการเงินและการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลทุกเดือน ▪️สวัสดิการยืดหยุ่น 16,000 บาทต่อปี ครอบคลุมสุขภาพ ความงาม ประกัน ดูแลครอบครัว สัตว์เลี้ยง เป็นต้น ▪️ตรวจสุขภาพประจำปี โบนัสการันตี 1 เดือน + โบนัสตามผลงาน ▪️กองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสิทธิหุ้น Provident Fund อัตราแข่งขันได้ บางตำแหน่งมีสิทธิหุ้น ▪️สนับสนุนความหลากหลายและความเท่าเทียม (DEI) สิทธิคู่สมรสเท่าเทียมสำหรับคู่ชีวิตเพศเดียวกัน ▪️ประกันสุขภาพครอบคลุมคู่สมรสและบุตร รวมถึงคู่ชีวิต (Life Partner) เพศเดียวกันกับพนักงาน ▪️พัฒนาและเติบโตในสายอาชีพ อบรมผ่านระบบออนไลน์และชั้นเรียน เติบโตในองค์กรและเปิดโอกาสให้ได้ทำงานในระดับภูมิภาคและระดับโลก ▪️นโยบายปรึกษาหัวหน้างานโดยตรง (Speak Up) ผู้บริหารพร้อมรับฟังและแก้ปัญหาอย่างจริงใจ (Open Door) ▪️วัฒนธรรมเสมอภาค ยืดหยุ่น เน้นผลลัพธ์ สร้างบรรยากาศการทำงานที่สนุกและส่งเสริมความสุข ▪️องค์กรแห่งการเรียนรู้ สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง ▪️ผู้นำที่ใส่ใจ เปิดรับความคิดเห็นและให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ ▪️ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี . ไฟเซอร์ไม่เพียงเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมที่ให้ผลตอบแทนและสวัสดิการที่ดี แต่ยังดูแลเอาใจใส่เรื่องสุขภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ และสนับสนุนให้พนักงานเติบโต จึงทำให้ไฟเซอร์เป็นอีกหนึ่งองค์กรในฝัน . มาร่วมค้นพบว่า ทำไมไฟเซอร์ (Pfizer) จึงเป็นที่ทำงานในฝันของใครหลายคน! . ติดตามข่าวสารของบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่ www.pfizer.co.th หรือ Facebook: Pfizer Thailand ที่ https://www.facebook.com/PfizerThailand #PfizerThailand #ไฟเซอร์ #Forbes #worldbestemployers2024 #ไฟเซอร์ [PR NEWS]
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1674 Views 80 0 Reviews
  • 'ทรัมป์' ตัดงบมนุษยธรรม 'ไทย' พร้อมช่วยผู้ลี้ภัย ลั่นต้องไม่มีใครตาย
    .
    การประกาศตัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในหลายๆด้านของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ส่งผลกระทบมาถึงโรงพยาบาลผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดนทันที ซึ่งในประเด็นนี้ท่าทีของรัฐบาลไทยยังคงมั่นใจว่าจะยังสามารถให้ความช่วยเหลือได้ตามปกติ
    .
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ระบุว่า ส่วนตัวในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาก่อน การให้ความสำคัญกับด้านมนุษยธรรมไม่มีใครใส่ใจดีเท่ากับประเทศไทย ในการดูแลผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ในกรณีที่คนที่ไม่ใช่คนไทยแล้วประสบสภาวะบ้านแตกสาแหรกขาด สภาวะที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่มีทางเลือกอื่น เราก็ให้การดูแลอย่างเต็มที่
    .
    "สหรัฐอเมริกาจะประกาศอะไรก็เป็นเรื่องของนโยบายเขา แต่ถ้าระบบสาธารณสุขไทยจะไม่มีการปล่อยให้ใครต้องมาเสียชีวิตในประเทศของเรา โดยที่เราสามารถช่วยเหลือเขาได้ ยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศของเรา" นายอนุทิน ระบุ
    .
    ทั้งนี้ นายอนุทิน มั่นใจว่าการให้ความช่วยเหลือของประเทศไทยในเรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยถึงขนาดที่จะมีผู้ลี้ภียทะลักเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก เพราะมีการป้องกันชายแดนไว้อยู่แล้ว ถ้าเป็นกรณีเข้ามาเพราะหนีความรุนแรง เราก็จะขีดเส้นว่าเขาสามารถอยู่ได้ในบริเวณที่กำหนด และสถานการณ์เปิดก็จะส่งตัวกลับประเทศ
    .
    ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ได้มีการพูดคุยกับทางผู้นำมาเลเซียถึงนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ที่เป็นความท้าทายของอาเซียนในการนำเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกัน ว่าจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอาเซียนอย่างไร
    .
    "สิ่งไหนที่เป็นเรื่องของการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ก็จะต้องมีการหารือกันเพื่อแก้ปัญหา" นายภูมิธรรม กล่าว
    ..............
    Sondhi X
    'ทรัมป์' ตัดงบมนุษยธรรม 'ไทย' พร้อมช่วยผู้ลี้ภัย ลั่นต้องไม่มีใครตาย . การประกาศตัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในหลายๆด้านของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ส่งผลกระทบมาถึงโรงพยาบาลผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดนทันที ซึ่งในประเด็นนี้ท่าทีของรัฐบาลไทยยังคงมั่นใจว่าจะยังสามารถให้ความช่วยเหลือได้ตามปกติ . นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ระบุว่า ส่วนตัวในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาก่อน การให้ความสำคัญกับด้านมนุษยธรรมไม่มีใครใส่ใจดีเท่ากับประเทศไทย ในการดูแลผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ในกรณีที่คนที่ไม่ใช่คนไทยแล้วประสบสภาวะบ้านแตกสาแหรกขาด สภาวะที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่มีทางเลือกอื่น เราก็ให้การดูแลอย่างเต็มที่ . "สหรัฐอเมริกาจะประกาศอะไรก็เป็นเรื่องของนโยบายเขา แต่ถ้าระบบสาธารณสุขไทยจะไม่มีการปล่อยให้ใครต้องมาเสียชีวิตในประเทศของเรา โดยที่เราสามารถช่วยเหลือเขาได้ ยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศของเรา" นายอนุทิน ระบุ . ทั้งนี้ นายอนุทิน มั่นใจว่าการให้ความช่วยเหลือของประเทศไทยในเรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยถึงขนาดที่จะมีผู้ลี้ภียทะลักเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก เพราะมีการป้องกันชายแดนไว้อยู่แล้ว ถ้าเป็นกรณีเข้ามาเพราะหนีความรุนแรง เราก็จะขีดเส้นว่าเขาสามารถอยู่ได้ในบริเวณที่กำหนด และสถานการณ์เปิดก็จะส่งตัวกลับประเทศ . ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ได้มีการพูดคุยกับทางผู้นำมาเลเซียถึงนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ที่เป็นความท้าทายของอาเซียนในการนำเรื่องนี้ไปพิจารณาร่วมกัน ว่าจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอาเซียนอย่างไร . "สิ่งไหนที่เป็นเรื่องของการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ก็จะต้องมีการหารือกันเพื่อแก้ปัญหา" นายภูมิธรรม กล่าว .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Love
    16
    0 Comments 0 Shares 2643 Views 0 Reviews
  • ผู้พิพากษาสั่งระงับคำสั่งทรัมป์ในการพักการให้เงินกู้ เงินให้เปล่า และความช่วยเหลือทางการเงินอื่นๆ ของรัฐบาลกลางเป็นการชั่วคราว ตามการฟ้องร้องของกลุ่มที่เป็นตัวแทนองค์กรไม่หวังผลกำไร บุคลากรทางการแพทย์ และธุรกิจขนาดเล็กที่ระบุว่า คำสั่งของทำเนียบขาวอาจกระทบต่อโครงการที่ให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันหลายสิบล้านคน
    .
    ลอเรน อาลีข่าน ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ สั่งให้คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระงับการขัดขวางการให้เงินช่วยเหลือโครงการต่างๆ จนถึงวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งจะมีการให้การในศาลที่วอชิงตัน
    .
    คำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ในส่วนนี้เป็นขั้นตอนล่าสุดของความพยายามยกเครื่องรัฐบาลกลาง โดยก่อนหน้านี้เขาสั่งระงับการให้ความช่วยเหลือต่างชาติ ระงับการจ้างงาน และยกเลิกโครงการความหลากหลายในหน่วยงานรัฐบาลหลายสิบแห่ง
    .
    พรรคเดโมแครตโจมตีคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือว่า เป็นการโจมตีอำนาจของคองเกรสในการกำกับดูแลการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งทำให้การจ่ายเงินให้แพทย์และครูที่ดูแลเด็กก่อนวัยเรียนหยุดชะงัก ทว่า รีพับลิกันอ้างว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียงของทรัมป์ในการควบคุมงบประมาณที่มากผิดปกติของรัฐบาล
    .
    นอกจากนั้น คณะบริหารของทรัมป์ยังยืนยันว่า โปรแกรมที่มอบสิทธิพิเศษที่สำคัญให้แก่ประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบ
    .
    ทว่า วุฒิสมาชิกรอน ไวเดน จากพรรคเดโมแครต เผยว่า ได้รับการยืนยันจากแพทย์จากทั้ง 50 รัฐว่า ไม่ได้รับเงินจากโครงการเมดิแคร์ที่ให้การประกันสุขภาพชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่ำ 70 ล้านคน
    .
    แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า รัฐบาลกลางรับรู้ว่า พอร์ทัลเมดิเคดเกิดการขัดข้องและจะกลับมาออนไลน์ได้ตามปกติเร็วๆ นี้ พร้อมยืนยันว่า การจ่ายเงินไม่ได้รับผลกระทบ
    .
    คำสั่งดังกล่าวที่ปรากฏอยู่ในบันทึกของสำนักงานงบประมาณทำเนียบขาวระบุให้ระงับเงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลกลางนับจากเวลา 17.00 น. วันอังคาร (28 ม.ค.) โดยครอบคลุมถึงเงินช่วยเหลือต่างชาติ
    .
    และองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) พร้อมสั่งการให้หน่วยงาน 55 แห่งตรวจสอบโครงการเงินให้เปล่ากว่า 2,600 โครงการ
    .
    ทำเนียบขาวยืนยันว่า การระงับเงินช่วยเหลือจะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินของโครงการสวัสดิการสังคม หรือเมดิแคร์ที่ให้แก่ผู้สูงวัยหรือความช่วยเหลือโดยตรงแก่ประชาชน เช่น ความช่วยเหลือด้านอาหารและโครงการสวัสดิการสำหรับผู้ยากไร้
    .
    ทั้งนี้ เงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลมีความสำคัญต่อทุกแง่มุมชีวิตของคนอเมริกันอย่างแท้จริง โดยเงินนับล้านล้านดอลลาร์ถูกอัดฉีดให้โครงการด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และการต่อสู้กับความยากจน ให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย บรรเทาทุกข์ในเหตุการณ์ภัยพิบัติ สนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานและอื่นๆ อีกมากมาย
    .
    ในบันทึกฉบับที่สอง ทำเนียบขาวระบุว่า เงินสนับสนุนสำหรับโครงการเมดิเคด เกษตรกร ธุรกิจขนาดเล็ก ความช่วยเหลือสำหรับผู้จ่ายค่าเช่า และโครงการเฮดสตาร์ตสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีการหยุดชะงัก
    .
    ทว่า วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟีย์ จากพรรคเดโมแครต ระบุว่า ระบบเบิกจ่ายของโครงการเฮดสตาร์ตในรัฐคอนเน็กติกัตของตนถูกปิด ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ได้
    .
    ขณะเดียวกัน ซารา แรตเนอร์ จากบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ โนมิ เฮลธ์ สำทับว่า หากรัฐบาลกลางระงับเงินช่วยเหลือแก่ผู้รับเหมาสัญญาเมดิเคด อาจทำให้บริษัทเหล่านั้นต้องปิดกิจการตามๆ กัน
    .
    บันทึกของทำเนียบขาวดูเหมือนไม่มีข้อยกเว้นในการตัดความช่วยเหลือสำหรับภัยพิบัติให้แก่พื้นที่อย่างลอสแองเจลิสและด้านตะวันตกของรัฐนอร์ธแคโรไลนาที่เสียหายหนักจากภัยธรรมชาติ แม้ทรัมป์ให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนระหว่างเดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยทั้งสองแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม
    .
    ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพยายามทำความเข้าใจว่า จะดำเนินการตามคำสั่งใหม่ของคณะบริหารอย่างไร
    .
    พรรครีพับลิกันของทรัมป์พยายามผลักดันการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลมาโดยตลอด แม้ทรัมป์ให้สัญญาว่า จะไม่แตะต้องโครงการสวัสดิการสังคมและเมดิแคร์ที่เป็นองค์ประกอบเกือบ 1 ใน 3 ของงบประมาณก็ตาม
    .
    ทว่า เดโมแครตวิจารณ์ว่า การระงับการใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอันตราย เนื่องจากครอบครัวอเมริกันชนคือผู้ที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด
    .
    อนึ่ง รัฐธรรมนูญของอเมริกาให้อำนาจคองเกรสในการควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาล ทว่า ทรัมป์ประกาศระหว่างหาเสียงว่า เขาเชื่อว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจในการระงับการใช้จ่ายในโครงการที่ตนเองไม่ชอบ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009485
    ..............
    Sondhi X
    ผู้พิพากษาสั่งระงับคำสั่งทรัมป์ในการพักการให้เงินกู้ เงินให้เปล่า และความช่วยเหลือทางการเงินอื่นๆ ของรัฐบาลกลางเป็นการชั่วคราว ตามการฟ้องร้องของกลุ่มที่เป็นตัวแทนองค์กรไม่หวังผลกำไร บุคลากรทางการแพทย์ และธุรกิจขนาดเล็กที่ระบุว่า คำสั่งของทำเนียบขาวอาจกระทบต่อโครงการที่ให้ความช่วยเหลือชาวอเมริกันหลายสิบล้านคน . ลอเรน อาลีข่าน ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ สั่งให้คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระงับการขัดขวางการให้เงินช่วยเหลือโครงการต่างๆ จนถึงวันที่ 3 ก.พ. ซึ่งจะมีการให้การในศาลที่วอชิงตัน . คำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ในส่วนนี้เป็นขั้นตอนล่าสุดของความพยายามยกเครื่องรัฐบาลกลาง โดยก่อนหน้านี้เขาสั่งระงับการให้ความช่วยเหลือต่างชาติ ระงับการจ้างงาน และยกเลิกโครงการความหลากหลายในหน่วยงานรัฐบาลหลายสิบแห่ง . พรรคเดโมแครตโจมตีคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือว่า เป็นการโจมตีอำนาจของคองเกรสในการกำกับดูแลการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งทำให้การจ่ายเงินให้แพทย์และครูที่ดูแลเด็กก่อนวัยเรียนหยุดชะงัก ทว่า รีพับลิกันอ้างว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียงของทรัมป์ในการควบคุมงบประมาณที่มากผิดปกติของรัฐบาล . นอกจากนั้น คณะบริหารของทรัมป์ยังยืนยันว่า โปรแกรมที่มอบสิทธิพิเศษที่สำคัญให้แก่ประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบ . ทว่า วุฒิสมาชิกรอน ไวเดน จากพรรคเดโมแครต เผยว่า ได้รับการยืนยันจากแพทย์จากทั้ง 50 รัฐว่า ไม่ได้รับเงินจากโครงการเมดิแคร์ที่ให้การประกันสุขภาพชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่ำ 70 ล้านคน . แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า รัฐบาลกลางรับรู้ว่า พอร์ทัลเมดิเคดเกิดการขัดข้องและจะกลับมาออนไลน์ได้ตามปกติเร็วๆ นี้ พร้อมยืนยันว่า การจ่ายเงินไม่ได้รับผลกระทบ . คำสั่งดังกล่าวที่ปรากฏอยู่ในบันทึกของสำนักงานงบประมาณทำเนียบขาวระบุให้ระงับเงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลกลางนับจากเวลา 17.00 น. วันอังคาร (28 ม.ค.) โดยครอบคลุมถึงเงินช่วยเหลือต่างชาติ . และองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) พร้อมสั่งการให้หน่วยงาน 55 แห่งตรวจสอบโครงการเงินให้เปล่ากว่า 2,600 โครงการ . ทำเนียบขาวยืนยันว่า การระงับเงินช่วยเหลือจะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินของโครงการสวัสดิการสังคม หรือเมดิแคร์ที่ให้แก่ผู้สูงวัยหรือความช่วยเหลือโดยตรงแก่ประชาชน เช่น ความช่วยเหลือด้านอาหารและโครงการสวัสดิการสำหรับผู้ยากไร้ . ทั้งนี้ เงินให้เปล่าและเงินกู้ของรัฐบาลมีความสำคัญต่อทุกแง่มุมชีวิตของคนอเมริกันอย่างแท้จริง โดยเงินนับล้านล้านดอลลาร์ถูกอัดฉีดให้โครงการด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และการต่อสู้กับความยากจน ให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัย บรรเทาทุกข์ในเหตุการณ์ภัยพิบัติ สนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานและอื่นๆ อีกมากมาย . ในบันทึกฉบับที่สอง ทำเนียบขาวระบุว่า เงินสนับสนุนสำหรับโครงการเมดิเคด เกษตรกร ธุรกิจขนาดเล็ก ความช่วยเหลือสำหรับผู้จ่ายค่าเช่า และโครงการเฮดสตาร์ตสำหรับเด็กก่อนวัยเรียนจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีการหยุดชะงัก . ทว่า วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟีย์ จากพรรคเดโมแครต ระบุว่า ระบบเบิกจ่ายของโครงการเฮดสตาร์ตในรัฐคอนเน็กติกัตของตนถูกปิด ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ได้ . ขณะเดียวกัน ซารา แรตเนอร์ จากบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ โนมิ เฮลธ์ สำทับว่า หากรัฐบาลกลางระงับเงินช่วยเหลือแก่ผู้รับเหมาสัญญาเมดิเคด อาจทำให้บริษัทเหล่านั้นต้องปิดกิจการตามๆ กัน . บันทึกของทำเนียบขาวดูเหมือนไม่มีข้อยกเว้นในการตัดความช่วยเหลือสำหรับภัยพิบัติให้แก่พื้นที่อย่างลอสแองเจลิสและด้านตะวันตกของรัฐนอร์ธแคโรไลนาที่เสียหายหนักจากภัยธรรมชาติ แม้ทรัมป์ให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนระหว่างเดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยทั้งสองแห่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม . ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพยายามทำความเข้าใจว่า จะดำเนินการตามคำสั่งใหม่ของคณะบริหารอย่างไร . พรรครีพับลิกันของทรัมป์พยายามผลักดันการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลมาโดยตลอด แม้ทรัมป์ให้สัญญาว่า จะไม่แตะต้องโครงการสวัสดิการสังคมและเมดิแคร์ที่เป็นองค์ประกอบเกือบ 1 ใน 3 ของงบประมาณก็ตาม . ทว่า เดโมแครตวิจารณ์ว่า การระงับการใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอันตราย เนื่องจากครอบครัวอเมริกันชนคือผู้ที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุด . อนึ่ง รัฐธรรมนูญของอเมริกาให้อำนาจคองเกรสในการควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาล ทว่า ทรัมป์ประกาศระหว่างหาเสียงว่า เขาเชื่อว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจในการระงับการใช้จ่ายในโครงการที่ตนเองไม่ชอบ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009485 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    10
    0 Comments 0 Shares 2837 Views 0 Reviews
More Results