• 10 ปี โศกนาฏกรรม Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 เครื่องบินตกที่เทือกเขาแอลป์ จากเหตุ “นักบินผู้ช่วยป่วยจิต” เจตนาฆ่ายกลำ 150 ศพ!

    ✈️ เหตุการณ์เครื่องบินตกของสายการบิน Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 ถือเป็นโศกนาฏกรรมทางอากาศ ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์การบินของเยอรมนี และกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่ยังคงถูกพูดถึง แม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่า 10 ปีแล้ว 🚨

    เพราะสิ่งที่ยิ่งกว่าความสูญเสียคือ “ข้อเท็จจริงอันน่าสยดสยอง” ว่าผู้ช่วยนักบิน ตั้งใจทำให้เครื่องบินตก นำไปสู่การเสียชีวิตของผู้โดยสาร และลูกเรือทั้ง 150 คนบนเครื่อง ✈️

    ✈️ โศกนาฏกรรม เที่ยวบิน 4U9525 วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:41 น. สายการบิน Germanwings เที่ยวบินที่ 4U9525 ได้บินจากบาร์เซโลนา ประเทศสเปน มุ่งหน้าสู่ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ด้วยเครื่องบิน Airbus A320-200 ที่มีอายุการใช้งาน 24 ปี ผู้โดยสารบนเครื่องมีทั้งหมด 144 คน และลูกเรือ 6 คน รวมถึงกัปตัน " แพทริก ซอน เดนไฮเมอร์" (Patrick Son Denheimer) และผู้ช่วยนักบิน "อันเดรียส ลูบริซ" (Andreas Lubitz) 👨‍✈️

    การเดินทางที่ควรจะ "ปกติ" เริ่มต้นได้อย่างราบรื่น เครื่องบินไต่ระดับขึ้นไปที่ 38,000 ฟุต ⛰️ แต่เพียงไม่นาน... เครื่องบินก็เริ่มลดระดับลงอย่างผิดปกติ โดยไม่มีการติดต่อกลับจากนักบินผู้ช่วย ⚠️

    🚨 สิบนาทีสุดท้าย ก่อนพุ่งชนเทือกเขาแอลป์ ในช่วงเวลาสิบกว่านาทีสุดท้ายของเที่ยวบิน ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วย ได้ใช้โอกาสที่กัปตันเดนไฮเมอร์ ออกไปจากห้องนักบิน กดล็อกประตูไม่ให้กัปตันกลับเข้าไป และตั้งค่าระบบนำร่องอัตโนมัติ ให้เครื่องบินพุ่งต่ำลงเรื่อยๆ จนกระทั่งชนภูเขาในเขต Massif des Trois-Évêchés ของเทือกเขาแอลป์ 🏔️

    เสียงในห้องนักบินที่บันทึกโดยกล่องดำ (CVR) เผยให้เห็นว่าลูบิตซ์เงียบตลอดเวลาดำเนินการ และไม่ตอบสนองต่อการติดต่อใดๆ แม้แต่เสียงร้องขอความช่วยเหลือของกัปตันเดนไฮเมอร์ และเสียงกรีดร้องของผู้โดยสาร ที่ตระหนักถึงชะตากรรมของตนเอง 😢

    ⚠️ นักบินผู้ช่วยที่ป่วยจิต… และระบบที่พังทลาย ลูบิตซ์มีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า และมีอาการจิตเวชที่ซับซ้อนมาก่อน เคยหยุดการฝึกบินกลางคันในปี 2552 ด้วยปัญหาทางจิตใจ แต่ได้รับใบรับรองแพทย์คืนหลังจากผ่านการรักษา ✅

    แม้จะหายป่วยในช่วงหนึ่ง แต่ภายหลังอาการกลับมาอีกครั้งในปี 2557-2558 โดยไม่มีใครในสายการบินรับรู้ เพราะลูบิตซ์เลือก "ปกปิด" ไม่แจ้งข้อมูลนี้กับบริษัท และเพื่อนร่วมงาน เพราะกลัวสูญเสียอาชีพการบิน ที่หลงใหลมาตลอดชีวิต 🛩️

    👉 ปัญหานี้ชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่อง ในระบบตรวจสอบสุขภาพจิตของนักบิน ที่เน้นแต่การคัดกรองและป้องกัน โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบสนับสนุน และการฟื้นฟูผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างแท้จริง

    🔍 เบื้องหลังอาชญากรรม "อันเดรียส ลูบิตซ์" เป็นชายหนุ่มชาวเยอรมัน ที่เติบโตในเมือง Montabaur รักการบินมาตั้งแต่เด็ก เริ่มฝึกบินเครื่องร่อนตั้งแต่อายุ 14 ปี มีเส้นทางที่ดูเหมือนจะรุ่งโรจน์ในอาชีพนักบิน แต่ด้วยปัญหาสุขภาพจิต ที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ทำให้กลายเป็นฆาตกรในคราบนักบิน ✈️

    ลูบิตซ์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง เคยมีความคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง และสุดท้าย ก็เลือกจบชีวิตตัวเองบนเครื่องบิน พร้อมกับพรากชีวิตคนอีก 149 คนไปพร้อมกัน ⚰️

    📜 มาตรการความปลอดภัย ที่เปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์
    มาตรการเร่งด่วนที่ถูกนำมาใช้ทันที
    - ต้องมีนักบินสองคนในห้องนักบินตลอดเวลา (Two-Person Cockpit Rule)
    - เข้มงวดกับการตรวจสุขภาพจิตของนักบินมากขึ้น 📝
    - ให้สิทธิ์แพทย์ ในการแจ้งข้อมูลสุขภาพจิตของนักบิน ในกรณีเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⚖️

    แต่ปัจจุบัน หลายฝ่ายมองว่านโยบายเหล่านี้ อาจไม่ได้ป้องกันปัญหาที่แท้จริง เพราะระบบยังคงขาดความยืดหยุ่น ในการจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตของนักบิน 😔

    💡 บทเรียนที่ยังคงถูกถกเถียงในวงการการบิน
    - นักบินหลายคนเลือก "โกหก" เพื่อไม่ให้ประวัติสุขภาพจิต มาทำลายอาชีพการบินของตนเอง
    - ความเข้มงวดเกินไปในระบบใบรับรองแพทย์ อาจทำให้ปัญหาซ่อนอยู่ มากกว่าการเปิดเผยความจริง
    - จำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมการยอมรับและสนับสนุน ไม่ใช่การลงโทษคนที่ขอความช่วยเหลือ

    🎯 คำถามคือ เราจะป้องกันไม่ให้เกิด "Andreas Lubitz คนต่อไป" ได้อย่างไร?

    ✨ เหตุการณ์ที่โลกไม่มีวันลืม โศกนาฏกรรมเที่ยวบิน 4U9525 เป็นตัวอย่างสะท้อนความสำคัญ ของการตรวจสอบสุขภาพจิตนักบิน อย่างเป็นระบบและมีมนุษยธรรม หากไม่มีการปรับปรุง ระบบเดิมจะยังคงสร้างช่องว่าง ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นได้อีกครั้ง 💔

    10 ปีผ่านไป... แต่รอยแผลจากวันนั้นยังคงอยู่ และคำถามที่ไร้คำตอบก็คือ "ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งนี้จะป้องกันได้ไหม?" ⏳

    ✈️ ความเชื่อใจในนักบินเป็นสิ่งสำคัญ แต่ "ระบบ" ที่สนับสนุนความปลอดภัยนั้น สำคัญยิ่งกว่า!

    10 ปีแห่งบทเรียนที่ไม่มีวันลืม...

    🕊️ เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนท้องฟ้า 🌤️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241018 มี.ค. 2568

    📌 #เที่ยวบิน9525 #Germanwings #โศกนาฏกรรมการบิน #AndreasLubitz #สุขภาพจิตนักบิน #โศกนาฏกรรมเยอรมันวิงส์ #ความปลอดภัยทางการบิน #ห้องนักบิน #อุบัติเหตุการบิน #บินปลอดภัย
    10 ปี โศกนาฏกรรม Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 เครื่องบินตกที่เทือกเขาแอลป์ จากเหตุ “นักบินผู้ช่วยป่วยจิต” เจตนาฆ่ายกลำ 150 ศพ! ✈️ เหตุการณ์เครื่องบินตกของสายการบิน Germanwings เที่ยวบิน 4U9525 ถือเป็นโศกนาฏกรรมทางอากาศ ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์การบินของเยอรมนี และกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่ยังคงถูกพูดถึง แม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่า 10 ปีแล้ว 🚨 เพราะสิ่งที่ยิ่งกว่าความสูญเสียคือ “ข้อเท็จจริงอันน่าสยดสยอง” ว่าผู้ช่วยนักบิน ตั้งใจทำให้เครื่องบินตก นำไปสู่การเสียชีวิตของผู้โดยสาร และลูกเรือทั้ง 150 คนบนเครื่อง ✈️ ✈️ โศกนาฏกรรม เที่ยวบิน 4U9525 วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:41 น. สายการบิน Germanwings เที่ยวบินที่ 4U9525 ได้บินจากบาร์เซโลนา ประเทศสเปน มุ่งหน้าสู่ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ด้วยเครื่องบิน Airbus A320-200 ที่มีอายุการใช้งาน 24 ปี ผู้โดยสารบนเครื่องมีทั้งหมด 144 คน และลูกเรือ 6 คน รวมถึงกัปตัน " แพทริก ซอน เดนไฮเมอร์" (Patrick Son Denheimer) และผู้ช่วยนักบิน "อันเดรียส ลูบริซ" (Andreas Lubitz) 👨‍✈️ การเดินทางที่ควรจะ "ปกติ" เริ่มต้นได้อย่างราบรื่น เครื่องบินไต่ระดับขึ้นไปที่ 38,000 ฟุต ⛰️ แต่เพียงไม่นาน... เครื่องบินก็เริ่มลดระดับลงอย่างผิดปกติ โดยไม่มีการติดต่อกลับจากนักบินผู้ช่วย ⚠️ 🚨 สิบนาทีสุดท้าย ก่อนพุ่งชนเทือกเขาแอลป์ ในช่วงเวลาสิบกว่านาทีสุดท้ายของเที่ยวบิน ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วย ได้ใช้โอกาสที่กัปตันเดนไฮเมอร์ ออกไปจากห้องนักบิน กดล็อกประตูไม่ให้กัปตันกลับเข้าไป และตั้งค่าระบบนำร่องอัตโนมัติ ให้เครื่องบินพุ่งต่ำลงเรื่อยๆ จนกระทั่งชนภูเขาในเขต Massif des Trois-Évêchés ของเทือกเขาแอลป์ 🏔️ เสียงในห้องนักบินที่บันทึกโดยกล่องดำ (CVR) เผยให้เห็นว่าลูบิตซ์เงียบตลอดเวลาดำเนินการ และไม่ตอบสนองต่อการติดต่อใดๆ แม้แต่เสียงร้องขอความช่วยเหลือของกัปตันเดนไฮเมอร์ และเสียงกรีดร้องของผู้โดยสาร ที่ตระหนักถึงชะตากรรมของตนเอง 😢 ⚠️ นักบินผู้ช่วยที่ป่วยจิต… และระบบที่พังทลาย ลูบิตซ์มีประวัติเป็นโรคซึมเศร้า และมีอาการจิตเวชที่ซับซ้อนมาก่อน เคยหยุดการฝึกบินกลางคันในปี 2552 ด้วยปัญหาทางจิตใจ แต่ได้รับใบรับรองแพทย์คืนหลังจากผ่านการรักษา ✅ แม้จะหายป่วยในช่วงหนึ่ง แต่ภายหลังอาการกลับมาอีกครั้งในปี 2557-2558 โดยไม่มีใครในสายการบินรับรู้ เพราะลูบิตซ์เลือก "ปกปิด" ไม่แจ้งข้อมูลนี้กับบริษัท และเพื่อนร่วมงาน เพราะกลัวสูญเสียอาชีพการบิน ที่หลงใหลมาตลอดชีวิต 🛩️ 👉 ปัญหานี้ชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่อง ในระบบตรวจสอบสุขภาพจิตของนักบิน ที่เน้นแต่การคัดกรองและป้องกัน โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบสนับสนุน และการฟื้นฟูผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างแท้จริง 🔍 เบื้องหลังอาชญากรรม "อันเดรียส ลูบิตซ์" เป็นชายหนุ่มชาวเยอรมัน ที่เติบโตในเมือง Montabaur รักการบินมาตั้งแต่เด็ก เริ่มฝึกบินเครื่องร่อนตั้งแต่อายุ 14 ปี มีเส้นทางที่ดูเหมือนจะรุ่งโรจน์ในอาชีพนักบิน แต่ด้วยปัญหาสุขภาพจิต ที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม ทำให้กลายเป็นฆาตกรในคราบนักบิน ✈️ ลูบิตซ์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง เคยมีความคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง และสุดท้าย ก็เลือกจบชีวิตตัวเองบนเครื่องบิน พร้อมกับพรากชีวิตคนอีก 149 คนไปพร้อมกัน ⚰️ 📜 มาตรการความปลอดภัย ที่เปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์ มาตรการเร่งด่วนที่ถูกนำมาใช้ทันที - ต้องมีนักบินสองคนในห้องนักบินตลอดเวลา (Two-Person Cockpit Rule) - เข้มงวดกับการตรวจสุขภาพจิตของนักบินมากขึ้น 📝 - ให้สิทธิ์แพทย์ ในการแจ้งข้อมูลสุขภาพจิตของนักบิน ในกรณีเสี่ยงต่อความปลอดภัย ⚖️ แต่ปัจจุบัน หลายฝ่ายมองว่านโยบายเหล่านี้ อาจไม่ได้ป้องกันปัญหาที่แท้จริง เพราะระบบยังคงขาดความยืดหยุ่น ในการจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตของนักบิน 😔 💡 บทเรียนที่ยังคงถูกถกเถียงในวงการการบิน - นักบินหลายคนเลือก "โกหก" เพื่อไม่ให้ประวัติสุขภาพจิต มาทำลายอาชีพการบินของตนเอง - ความเข้มงวดเกินไปในระบบใบรับรองแพทย์ อาจทำให้ปัญหาซ่อนอยู่ มากกว่าการเปิดเผยความจริง - จำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมการยอมรับและสนับสนุน ไม่ใช่การลงโทษคนที่ขอความช่วยเหลือ 🎯 คำถามคือ เราจะป้องกันไม่ให้เกิด "Andreas Lubitz คนต่อไป" ได้อย่างไร? ✨ เหตุการณ์ที่โลกไม่มีวันลืม โศกนาฏกรรมเที่ยวบิน 4U9525 เป็นตัวอย่างสะท้อนความสำคัญ ของการตรวจสอบสุขภาพจิตนักบิน อย่างเป็นระบบและมีมนุษยธรรม หากไม่มีการปรับปรุง ระบบเดิมจะยังคงสร้างช่องว่าง ให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นได้อีกครั้ง 💔 10 ปีผ่านไป... แต่รอยแผลจากวันนั้นยังคงอยู่ และคำถามที่ไร้คำตอบก็คือ "ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งนี้จะป้องกันได้ไหม?" ⏳ ✈️ ความเชื่อใจในนักบินเป็นสิ่งสำคัญ แต่ "ระบบ" ที่สนับสนุนความปลอดภัยนั้น สำคัญยิ่งกว่า! 10 ปีแห่งบทเรียนที่ไม่มีวันลืม... 🕊️ เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนท้องฟ้า 🌤️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241018 มี.ค. 2568 📌 #เที่ยวบิน9525 #Germanwings #โศกนาฏกรรมการบิน #AndreasLubitz #สุขภาพจิตนักบิน #โศกนาฏกรรมเยอรมันวิงส์ #ความปลอดภัยทางการบิน #ห้องนักบิน #อุบัติเหตุการบิน #บินปลอดภัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'มันจบแล้ว': ทหารยูเครนบ่นกับ BBC ว่าพวกเขากลายเป็นผู้รับเคราะห์ที่เมืองเคิร์สก์

    'ทหารยูเครนที่สู้รบในเขตเคิร์สก์ของรัสเซียได้บรรยายฉากต่างๆ 'ราวกับหนังสยองขวัญ' ขณะที่พวกเขาพูดถึงการล่าถอยจากแนวหน้า

    ทหารยูเครนเปรียบการถอนกำลังจากเขต Kursk ว่าเป็น "ฉากจากหนังสยองขวัญ" ท่ามกลางการโจมตีของโดรนรัสเซียตลอด 24 ชั่วโมง ถนนเต็มไปด้วยซากยานพาหนะนับร้อย และมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก

    เส้นทางหลักเพียงสายเดียวระหว่าง Sudzha และเขต Sumy อยู่ภายใต้การยิงถล่มตลอดเวลา ทำให้การขนส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์เป็นไปไม่ได้ในเวลากลางวัน หลายคนต้องเดินเท้า 15-20 กิโลเมตรเพื่อหนีออกมา
    BBC ได้รับคำให้การจากทหารยูเครนที่เล่าถึงการถอนทัพอย่าง "หายนะ"

    Vladimir "โดรนโจมตีตลอด 24 ชั่วโมง ยานพาหนะบางส่วนถูกโดรนรัสเซียเผาบนถนน ไม่สามารถหนีออกตอนกลางวันได้ ถนนอยู่ภายใต้การควบคุมการยิงของศัตรูอย่างสมบูรณ์"

    Maxim "ฝ่ายศัตรูสามารถทำลายยานพาหนะหลายสิบคัน และเศษซากนับร้อยทำให้จราจรติดขัดบนเส้นทางการขนส่ง"
    Anton "การถอนกำลังที่หายนะ ผมหนีออกจาก Sudzha ด้วยการเดินเท้าตอนกลางคืน เราเกือบตายหลายครั้ง โดรนบินอยู่บนท้องฟ้าตลอดเวลา"

    Dmitry เขาเปรียบเทียบการถอนกำลังจากเขต Kursk กับฉากจากหนังสยองขวัญ "ถนนเต็มไปด้วยรถยนต์ที่ถูกทำลายนับร้อย ยานเกราะ และ ATV มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากมาย" รถที่เขาขับติดหล่ม เขาและเพื่อนทหารพยายามดันรถเมื่อโดรน FPV เล็งไปที่พวกเขา โดรนไม่ได้โดนรถแต่ทำให้ทหารคนหนึ่งบาดเจ็บ พวกเขาต้องซ่อนตัวในป่าสองชั่วโมงก่อนได้รับการช่วยเหลือ

    แม้ผู้บัญชาการ Oleksandr Syrsky ยืนยันว่าทหารยังอยู่ใน Kursk และจะยึดไว้ "ตราบที่จำเป็น" แต่ Dmitry ให้ความเห็นว่า "ที่ Kursk จบแล้ว... ปฏิบัติการไม่ประสบความสำเร็จ"

    ด้านประธานาธิบดี Zelensky กล่าวว่าปฏิบัติการ "ประสบผลสำเร็จ" โดยบังคับให้รัสเซียถอนทหารจากแนวรบตะวันออก​​​​​​​​​​​​​​​​
    'มันจบแล้ว': ทหารยูเครนบ่นกับ BBC ว่าพวกเขากลายเป็นผู้รับเคราะห์ที่เมืองเคิร์สก์ 'ทหารยูเครนที่สู้รบในเขตเคิร์สก์ของรัสเซียได้บรรยายฉากต่างๆ 'ราวกับหนังสยองขวัญ' ขณะที่พวกเขาพูดถึงการล่าถอยจากแนวหน้า ทหารยูเครนเปรียบการถอนกำลังจากเขต Kursk ว่าเป็น "ฉากจากหนังสยองขวัญ" ท่ามกลางการโจมตีของโดรนรัสเซียตลอด 24 ชั่วโมง ถนนเต็มไปด้วยซากยานพาหนะนับร้อย และมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก เส้นทางหลักเพียงสายเดียวระหว่าง Sudzha และเขต Sumy อยู่ภายใต้การยิงถล่มตลอดเวลา ทำให้การขนส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์เป็นไปไม่ได้ในเวลากลางวัน หลายคนต้องเดินเท้า 15-20 กิโลเมตรเพื่อหนีออกมา BBC ได้รับคำให้การจากทหารยูเครนที่เล่าถึงการถอนทัพอย่าง "หายนะ" Vladimir "โดรนโจมตีตลอด 24 ชั่วโมง ยานพาหนะบางส่วนถูกโดรนรัสเซียเผาบนถนน ไม่สามารถหนีออกตอนกลางวันได้ ถนนอยู่ภายใต้การควบคุมการยิงของศัตรูอย่างสมบูรณ์" Maxim "ฝ่ายศัตรูสามารถทำลายยานพาหนะหลายสิบคัน และเศษซากนับร้อยทำให้จราจรติดขัดบนเส้นทางการขนส่ง" Anton "การถอนกำลังที่หายนะ ผมหนีออกจาก Sudzha ด้วยการเดินเท้าตอนกลางคืน เราเกือบตายหลายครั้ง โดรนบินอยู่บนท้องฟ้าตลอดเวลา" Dmitry เขาเปรียบเทียบการถอนกำลังจากเขต Kursk กับฉากจากหนังสยองขวัญ "ถนนเต็มไปด้วยรถยนต์ที่ถูกทำลายนับร้อย ยานเกราะ และ ATV มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมากมาย" รถที่เขาขับติดหล่ม เขาและเพื่อนทหารพยายามดันรถเมื่อโดรน FPV เล็งไปที่พวกเขา โดรนไม่ได้โดนรถแต่ทำให้ทหารคนหนึ่งบาดเจ็บ พวกเขาต้องซ่อนตัวในป่าสองชั่วโมงก่อนได้รับการช่วยเหลือ แม้ผู้บัญชาการ Oleksandr Syrsky ยืนยันว่าทหารยังอยู่ใน Kursk และจะยึดไว้ "ตราบที่จำเป็น" แต่ Dmitry ให้ความเห็นว่า "ที่ Kursk จบแล้ว... ปฏิบัติการไม่ประสบความสำเร็จ" ด้านประธานาธิบดี Zelensky กล่าวว่าปฏิบัติการ "ประสบผลสำเร็จ" โดยบังคับให้รัสเซียถอนทหารจากแนวรบตะวันออก​​​​​​​​​​​​​​​​
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อมองท้องฟ้า...
    Cr.Wiwan
    เมื่อมองท้องฟ้า... Cr.Wiwan
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีบุคคลสูญหาย 1 รายในวันจันทร์ (10 มี.ค.) หลังเกิดเหตุเรือสินค้าลำหนึ่งพุ่งชนเรือบรรทุกเชื้อเพลิงเครื่องบินที่เช่าโดยกองทัพสหรัฐฯ ในทะเลเหนือ ก่อความกังวลเกี่ยวกับอันตรายจากสารพิษต่างๆ นอกชายฝั่งของอังกฤษ
    .
    ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ที่ประสานงานโดยยามชายฝั่งสหรชอาณาจักร สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุหลายสิบคน ในขณะที่ภาพถ่ายพบเห็นกลุ่มควันสีดำลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและเปลวไฟกำลังโหมกระพือขึ้นจากที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของอังกฤษราว 16 กิโลเมตร
    .
    "เรือบรรทุกน้ำมัน Stena Immaculate ที่ทอดสมออยู่นอกชายฝั่งทะเลเหนือใกล้เมืองฮัลล์ ถูกชนโดยเรือบรรทุกตู้สินค้า Solong" โครว์ลีย์ (Crowley) บริษัทผู้ปฏิบัติการเรือ Stena ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง
    .
    ทั้งนี้ เรือ Stena อยู่ระหว่างการเช่าระยะเวลาสั้นๆ ของกองทัพสหรัฐฯ โดยกองบัญชาการขนส่งทางทะเล อ้างอิงข้อมูลจากจูเลียน มอร์ริส โฆษกของกองบัญชาการแห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้ดูแลปฏิบัติการของเรือต่างๆ ที่มีลูกเรือเป็นพลเรือนและทำหน้าที่ขนส่งทางทะเลให้แก่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
    .
    โครว์ลีย์ เผยว่าแรงกระแทกของการชนกัน ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันที่บรรทุกเชื้อเพลิงอากาศยาน A1-jet เกิดรอยแตกและโหมกระพือไฟลุกท่วม ท่ามกลางรายงานว่ามีเชื้อเพลิงรั่วไหลออกมา
    .
    เรือลำนี้บรรทุกเชื้อเพลิงอากาศยานราว 220,000 บาร์เรล ส่วนเรือ Solong บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์บรรจุโซเดียมไซยาไนด์ 15 ตู้ อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีสารประกอบไวไฟใดๆ รั่วไหลออกมาหรือไม่
    .
    เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เรียกสถานการณ์นี้ว่า "น่ากังวลอย่างยิ่ง" ในขณะที่หน่วยฉุกเฉินระบุในถ้อยแถลงว่าเจ้าหน้าที่ทีมฉุกเฉินเข้าประเมินผู้ได้รับบาดเจ็บ 36 คน ณ ที่เกิดเหตุและพบว่าไม่มีใครที่จำเป็นต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
    .
    ลูกเรือ 13 จาก 14 คนของเรือ Solong ถูกพาขึ้นฝั่งและพวกเจ้าหน้าที่ยังคงพยายามตามหาลูกเรืออีกคนที่ยังสูญหาย ส่วนลูกเรือที่อยู่บนเรือ Stena Immaculate ทั้งหมดได้รับการยืนยันว่ายังมีชีวิต
    .
    พอล จอห์นสัน นักวิทยาศาสตร์ระดับอาวุโสแห่งห้องปฏิบัติการวิจัยกรีนพีซ ณ มหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ บอกว่า "เรามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับอันตรายจากสารพิษต่างๆ สารเคมีเหล่านี้อาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่วิถีชีวิตทางทะเล"
    .
    สมาคมท่าเรือแห่งสหราชอาณาจักร (ABP) เปิดเผยว่าความเคลื่อนไหวของเรือทุกลำถูกระงับในปากน้ำฮัมเบอร์ ที่ไหลสู่ทะเลเหนือ ส่วนกองบัญชาการกลางด้านสถานการณ์ฉุกเฉินทางทะเลของเยอรมนี ระบุว่าพวกเขากำลังส่งเรือลำหนึ่งที่มีศักยภาพดับเพลิงและเก็บกู้น้ำมัน ไปเข้าช่วยปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่
    .
    นอกเหนือจากนี้ ยามชายฝั่งสหราชอาณาจักร ระบุว่าเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง เครื่องบินอีกลำ เรือชูชีพหลายลำจาก 4 เมืองและเรืออื่นๆ ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ในครั้งนี้
    .
    พอล แลนคาสเตอร์ อดีตกะลาสีเรือ ให้ความเห็นกับเอเอฟพี "ผมไม่เข้าใจว่าเรือ 2 ลำที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ถึงชนกันได้" เขากล่าว "มันคงต้องมีปัญหาใหญ่ด้านวิศวกรรมแน่ๆ"
    .
    เหตุเรือชนกันในทะเลเหนือที่พลุกพล่านเกิดขึ้นน้อยครั้งมากๆ โดยหนหลังสุดย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม 2023 เรือสินค้า 2 ลำ ชนกันใกล้เกาะเฮลิโกแลนด์ของเยอรมนี ในทะเลเหนือ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และสูญหาย 2 คน ซึ่งถูกมองว่าคงเสียชีวิตแล้ว
    .
    ก่อนหน้านั้นต้องย้อนกลับไปถึงเดือนตุลาคม 2015 เรือสินค้า Flinterstar บรรทุกดีเซล 125 ตัน และน้ำมันเชื้อเพลิง 427 ตัน จมลงสู่ก้นทะเล หลังชนเข้ากัยเรือบรรทุกน้ำมัน Al Oraiq นอกชายฝั่งเบลเยียม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023257
    ..............
    Sondhi X
    มีบุคคลสูญหาย 1 รายในวันจันทร์ (10 มี.ค.) หลังเกิดเหตุเรือสินค้าลำหนึ่งพุ่งชนเรือบรรทุกเชื้อเพลิงเครื่องบินที่เช่าโดยกองทัพสหรัฐฯ ในทะเลเหนือ ก่อความกังวลเกี่ยวกับอันตรายจากสารพิษต่างๆ นอกชายฝั่งของอังกฤษ . ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ที่ประสานงานโดยยามชายฝั่งสหรชอาณาจักร สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุหลายสิบคน ในขณะที่ภาพถ่ายพบเห็นกลุ่มควันสีดำลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและเปลวไฟกำลังโหมกระพือขึ้นจากที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันออกของอังกฤษราว 16 กิโลเมตร . "เรือบรรทุกน้ำมัน Stena Immaculate ที่ทอดสมออยู่นอกชายฝั่งทะเลเหนือใกล้เมืองฮัลล์ ถูกชนโดยเรือบรรทุกตู้สินค้า Solong" โครว์ลีย์ (Crowley) บริษัทผู้ปฏิบัติการเรือ Stena ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลง . ทั้งนี้ เรือ Stena อยู่ระหว่างการเช่าระยะเวลาสั้นๆ ของกองทัพสหรัฐฯ โดยกองบัญชาการขนส่งทางทะเล อ้างอิงข้อมูลจากจูเลียน มอร์ริส โฆษกของกองบัญชาการแห่งนี้ ซึ่งเป็นผู้ดูแลปฏิบัติการของเรือต่างๆ ที่มีลูกเรือเป็นพลเรือนและทำหน้าที่ขนส่งทางทะเลให้แก่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ . โครว์ลีย์ เผยว่าแรงกระแทกของการชนกัน ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันที่บรรทุกเชื้อเพลิงอากาศยาน A1-jet เกิดรอยแตกและโหมกระพือไฟลุกท่วม ท่ามกลางรายงานว่ามีเชื้อเพลิงรั่วไหลออกมา . เรือลำนี้บรรทุกเชื้อเพลิงอากาศยานราว 220,000 บาร์เรล ส่วนเรือ Solong บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์บรรจุโซเดียมไซยาไนด์ 15 ตู้ อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีสารประกอบไวไฟใดๆ รั่วไหลออกมาหรือไม่ . เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เรียกสถานการณ์นี้ว่า "น่ากังวลอย่างยิ่ง" ในขณะที่หน่วยฉุกเฉินระบุในถ้อยแถลงว่าเจ้าหน้าที่ทีมฉุกเฉินเข้าประเมินผู้ได้รับบาดเจ็บ 36 คน ณ ที่เกิดเหตุและพบว่าไม่มีใครที่จำเป็นต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล . ลูกเรือ 13 จาก 14 คนของเรือ Solong ถูกพาขึ้นฝั่งและพวกเจ้าหน้าที่ยังคงพยายามตามหาลูกเรืออีกคนที่ยังสูญหาย ส่วนลูกเรือที่อยู่บนเรือ Stena Immaculate ทั้งหมดได้รับการยืนยันว่ายังมีชีวิต . พอล จอห์นสัน นักวิทยาศาสตร์ระดับอาวุโสแห่งห้องปฏิบัติการวิจัยกรีนพีซ ณ มหาวิทยาลัยเอ็กเซเตอร์ บอกว่า "เรามีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับอันตรายจากสารพิษต่างๆ สารเคมีเหล่านี้อาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่วิถีชีวิตทางทะเล" . สมาคมท่าเรือแห่งสหราชอาณาจักร (ABP) เปิดเผยว่าความเคลื่อนไหวของเรือทุกลำถูกระงับในปากน้ำฮัมเบอร์ ที่ไหลสู่ทะเลเหนือ ส่วนกองบัญชาการกลางด้านสถานการณ์ฉุกเฉินทางทะเลของเยอรมนี ระบุว่าพวกเขากำลังส่งเรือลำหนึ่งที่มีศักยภาพดับเพลิงและเก็บกู้น้ำมัน ไปเข้าช่วยปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ . นอกเหนือจากนี้ ยามชายฝั่งสหราชอาณาจักร ระบุว่าเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง เครื่องบินอีกลำ เรือชูชีพหลายลำจาก 4 เมืองและเรืออื่นๆ ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ในครั้งนี้ . พอล แลนคาสเตอร์ อดีตกะลาสีเรือ ให้ความเห็นกับเอเอฟพี "ผมไม่เข้าใจว่าเรือ 2 ลำที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ถึงชนกันได้" เขากล่าว "มันคงต้องมีปัญหาใหญ่ด้านวิศวกรรมแน่ๆ" . เหตุเรือชนกันในทะเลเหนือที่พลุกพล่านเกิดขึ้นน้อยครั้งมากๆ โดยหนหลังสุดย้อนกลับไปในเดือนตุลาคม 2023 เรือสินค้า 2 ลำ ชนกันใกล้เกาะเฮลิโกแลนด์ของเยอรมนี ในทะเลเหนือ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และสูญหาย 2 คน ซึ่งถูกมองว่าคงเสียชีวิตแล้ว . ก่อนหน้านั้นต้องย้อนกลับไปถึงเดือนตุลาคม 2015 เรือสินค้า Flinterstar บรรทุกดีเซล 125 ตัน และน้ำมันเชื้อเพลิง 427 ตัน จมลงสู่ก้นทะเล หลังชนเข้ากัยเรือบรรทุกน้ำมัน Al Oraiq นอกชายฝั่งเบลเยียม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023257 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1582 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพลงแนวร๊อค-จีนกวางตุ้ง อมตะนิรันด์กาล ของวง Beyond ชื่อว่า Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空 แปลว่า "มหาสมุทรไร้ขอบเขต ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่" เนื้อเพลงมีความหมายถึง เสรีภาพส่วนบุคคลและการแสวงหาความฝัน
    -------------------------------------------
    นำมาขับร้อง(ใหม่)โดย ตัง จี๋ เข่ย Tang Tsz-kei (鄧紫棋)
    หรือ ในชื่อสากล ว่า G.E.M. (Get Everybody Moving)
    เพลงแนวร๊อค-จีนกวางตุ้ง อมตะนิรันด์กาล ของวง Beyond ชื่อว่า Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空 แปลว่า "มหาสมุทรไร้ขอบเขต ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่" เนื้อเพลงมีความหมายถึง เสรีภาพส่วนบุคคลและการแสวงหาความฝัน ------------------------------------------- นำมาขับร้อง(ใหม่)โดย ตัง จี๋ เข่ย Tang Tsz-kei (鄧紫棋) หรือ ในชื่อสากล ว่า G.E.M. (Get Everybody Moving)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • คาเฟ่ของเราเปิดให้บริการทุกวัน มาทานเค้กอร่อยๆ พร้อมปล่อยใจชมท้องฟ้ากว้าง ที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 ⛱️

    𝐒𝐰𝐞𝐞𝐭 𝐭𝐫𝐞𝐚𝐭𝐬 𝐚𝐧𝐝 𝐬𝐭𝐮𝐧𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐯𝐢𝐞𝐰𝐬—𝐩𝐮𝐫𝐞 𝐛𝐥𝐢𝐬𝐬 𝐢𝐧 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐛𝐢𝐭𝐞.🍩🧁

    เมนูแนะนำ:
    ☕ อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้
    🍹 บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค
    🍝 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ
    🥞 ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล

    📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    คาเฟ่ของเราเปิดให้บริการทุกวัน มาทานเค้กอร่อยๆ พร้อมปล่อยใจชมท้องฟ้ากว้าง ที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 ⛱️ 𝐒𝐰𝐞𝐞𝐭 𝐭𝐫𝐞𝐚𝐭𝐬 𝐚𝐧𝐝 𝐬𝐭𝐮𝐧𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐯𝐢𝐞𝐰𝐬—𝐩𝐮𝐫𝐞 𝐛𝐥𝐢𝐬𝐬 𝐢𝐧 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐛𝐢𝐭𝐞.🍩🧁 เมนูแนะนำ: ☕ อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้ 🍹 บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค 🍝 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ 🥞 ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 466 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสตำหนิการกระทำของเครื่องบินขับไล่ Su-35S ของรัสเซีย เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ทำการบินเข้าใกล้โดรน MQ-9 Reaper ของกองทัพฝรั่งเศส มากถึง 3 ครั้ง ว่าเป็นการแสดงพฤติกรรม "ที่ไม่เป็นมืออาชีพและก้าวร้าว" “unprofessional and aggressive action” บนท้องฟ้าเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอาจทำให้สูญเสียการควบคุมได้
    กระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสตำหนิการกระทำของเครื่องบินขับไล่ Su-35S ของรัสเซีย เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ทำการบินเข้าใกล้โดรน MQ-9 Reaper ของกองทัพฝรั่งเศส มากถึง 3 ครั้ง ว่าเป็นการแสดงพฤติกรรม "ที่ไม่เป็นมืออาชีพและก้าวร้าว" “unprofessional and aggressive action” บนท้องฟ้าเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอาจทำให้สูญเสียการควบคุมได้
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 406 มุมมอง 37 0 รีวิว
  • ชีวิตเหมือนท้องฟ้า...
    Cr.Wiwan
    ชีวิตเหมือนท้องฟ้า... Cr.Wiwan
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อสหรัฐฯ วิเคราะห์เครื่องบินขับไล่ล่องหนรุ่นใหม่ของจีน J-35A (เจียน-35เอ) ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานแสดงอากาศยานเมืองจูไห่ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 อาจทำลายสมดุลอำนาจทางอากาศของกองทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก โดยเครื่องรุ่นนี้มีขีดความสามารถล่องหนใกล้เคียงกับ F-35 ของสหรัฐฯ และจะทำหน้าที่เคียงคู่กับ J-20 เพื่อสร้างยุทธวิธี “เครือข่ายพิฆาตทางอากาศ” (Kill chain) ของกองทัพอากาศจีน
    .
    รายงานล่าสุดจากนิตยสาร National Interest ของสหรัฐฯ ชี้ว่ากองทัพอากาศจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วมากในรอบทศวรรษที่ผ่านมา จีนสามารถผลิตทั้ง J-20 และ J-35A จำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ตรงข้ามกับกระบวนการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่ยังล่าช้าและซับซ้อน การเปิดตัว J-35A จึงกลายเป็นสัญญาณเตือนกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในเอเชียว่าอำนาจทางอากาศที่เหนือชั้นของตนกำลังถูกท้าทายอย่างหนัก
    .
    ด้านนายพลจิลมาร์รี่ ฮอสเตจ ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เคยระบุในปี 2556 ว่า อำนาจทางอากาศหมายถึงการปฏิบัติการที่เสรีไร้ข้อจำกัดในน่านฟ้า ทว่าด้วยศักยภาพใหม่ของจีน ไม่เพียงแต่ทำให้อำนาจนี้สั่นคลอน แต่ยังอาจถึงขั้นสูญเสียการครอบครองท้องฟ้าในแถบนี้ไปโดยสิ้นเชิง
    .
    J-35A เป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดกลาง เครื่องยนต์คู่ ถูกออกแบบด้วยเทคนิคขั้นสูง มีความสามารถล่องหนสูงจากลักษณะทางกายภาพที่ซ่อนใบพัดเครื่องยนต์จากเรดาร์ ระบบช่องรับอากาศแบบไร้ขอบ (DSI) รูปตัว S และพื้นผิวเครื่องที่ราบเรียบแนบสนิทไม่มีรอยต่อ นักวิเคราะห์หลายสำนักเห็นตรงกันว่าศักยภาพล่องหนของ J-35A ใกล้เคียงหรืออาจเทียบเท่ากับ F-35 ของสหรัฐฯ แล้ว
    .
    ถึงแม้รายละเอียดสมรรถนะที่แท้จริงของ J-35A ยังถือเป็นข้อมูลลับสูงสุด แต่สิ่งหนึ่งที่นักวิเคราะห์สหรัฐฯ ระบุชัดคือ แม้เครื่องบินจีนจะมีศักยภาพใกล้เคียงสหรัฐฯ แต่ด้วยความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ทำให้ในการรบที่ใกล้ชายฝั่งจีน เครื่องบินของจีนย่อมมีข้อได้เปรียบมหาศาล ทั้งเรื่องการส่งกำลังบำรุงและความสามารถในการเสริมกำลังอย่างรวดเร็วผ่านระบบป้องกันและต่อต้านการเข้าถึงพื้นที่ (Anti-Access/Area Denial: A2/AD) ของจีน
    .
    อีกด้านหนึ่ง หวัง หย่งชิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเครื่องบินรบจากสถาบันการบินเสิ่นหยาง (Shenyang Aircraft Corporation) ของจีน ออกมาระบุในรายการสัมภาษณ์ว่า J-35A มีบทบาทเหมือน “การ์ดจ่ายบอล” ในทีมบาสเกตบอล ซึ่งไม่เพียงทำคะแนนได้เอง ยังสามารถเชื่อมโยงยุทโธปกรณ์อื่นๆ ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเปิดเผยเบื้องหลังการออกแบบเครื่องบินรบว่ามีการดึงศิลปินมาออกแบบลายพรางบนตัวเครื่องด้วย เพื่อประสิทธิภาพการพรางตัวทางสายตา และย้ำว่าการออกแบบเครื่องบินรบที่ดีที่สุดนั้นไม่ได้อยู่ที่การรวมเทคโนโลยีขั้นสูงทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน แต่ต้องอยู่ที่ภาพรวมและระบบการปฏิบัติการของเครื่องบินที่ต้องสามารถทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ดีที่สุด
    .
    การเปิดตัวของ J-35A และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีนในครั้งนี้ นับเป็นการส่งสัญญาณที่สหรัฐฯ ไม่อาจเพิกเฉยได้อีกต่อไป ในยุคที่การแข่งขันด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ทางอากาศของมหาอำนาจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020445
    ..............
    Sondhi X
    สื่อสหรัฐฯ วิเคราะห์เครื่องบินขับไล่ล่องหนรุ่นใหม่ของจีน J-35A (เจียน-35เอ) ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงานแสดงอากาศยานเมืองจูไห่ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 อาจทำลายสมดุลอำนาจทางอากาศของกองทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก โดยเครื่องรุ่นนี้มีขีดความสามารถล่องหนใกล้เคียงกับ F-35 ของสหรัฐฯ และจะทำหน้าที่เคียงคู่กับ J-20 เพื่อสร้างยุทธวิธี “เครือข่ายพิฆาตทางอากาศ” (Kill chain) ของกองทัพอากาศจีน . รายงานล่าสุดจากนิตยสาร National Interest ของสหรัฐฯ ชี้ว่ากองทัพอากาศจีนพัฒนาอย่างรวดเร็วมากในรอบทศวรรษที่ผ่านมา จีนสามารถผลิตทั้ง J-20 และ J-35A จำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ตรงข้ามกับกระบวนการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯ ที่ยังล่าช้าและซับซ้อน การเปิดตัว J-35A จึงกลายเป็นสัญญาณเตือนกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในเอเชียว่าอำนาจทางอากาศที่เหนือชั้นของตนกำลังถูกท้าทายอย่างหนัก . ด้านนายพลจิลมาร์รี่ ฮอสเตจ ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เคยระบุในปี 2556 ว่า อำนาจทางอากาศหมายถึงการปฏิบัติการที่เสรีไร้ข้อจำกัดในน่านฟ้า ทว่าด้วยศักยภาพใหม่ของจีน ไม่เพียงแต่ทำให้อำนาจนี้สั่นคลอน แต่ยังอาจถึงขั้นสูญเสียการครอบครองท้องฟ้าในแถบนี้ไปโดยสิ้นเชิง . J-35A เป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดกลาง เครื่องยนต์คู่ ถูกออกแบบด้วยเทคนิคขั้นสูง มีความสามารถล่องหนสูงจากลักษณะทางกายภาพที่ซ่อนใบพัดเครื่องยนต์จากเรดาร์ ระบบช่องรับอากาศแบบไร้ขอบ (DSI) รูปตัว S และพื้นผิวเครื่องที่ราบเรียบแนบสนิทไม่มีรอยต่อ นักวิเคราะห์หลายสำนักเห็นตรงกันว่าศักยภาพล่องหนของ J-35A ใกล้เคียงหรืออาจเทียบเท่ากับ F-35 ของสหรัฐฯ แล้ว . ถึงแม้รายละเอียดสมรรถนะที่แท้จริงของ J-35A ยังถือเป็นข้อมูลลับสูงสุด แต่สิ่งหนึ่งที่นักวิเคราะห์สหรัฐฯ ระบุชัดคือ แม้เครื่องบินจีนจะมีศักยภาพใกล้เคียงสหรัฐฯ แต่ด้วยความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ทำให้ในการรบที่ใกล้ชายฝั่งจีน เครื่องบินของจีนย่อมมีข้อได้เปรียบมหาศาล ทั้งเรื่องการส่งกำลังบำรุงและความสามารถในการเสริมกำลังอย่างรวดเร็วผ่านระบบป้องกันและต่อต้านการเข้าถึงพื้นที่ (Anti-Access/Area Denial: A2/AD) ของจีน . อีกด้านหนึ่ง หวัง หย่งชิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเครื่องบินรบจากสถาบันการบินเสิ่นหยาง (Shenyang Aircraft Corporation) ของจีน ออกมาระบุในรายการสัมภาษณ์ว่า J-35A มีบทบาทเหมือน “การ์ดจ่ายบอล” ในทีมบาสเกตบอล ซึ่งไม่เพียงทำคะแนนได้เอง ยังสามารถเชื่อมโยงยุทโธปกรณ์อื่นๆ ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเปิดเผยเบื้องหลังการออกแบบเครื่องบินรบว่ามีการดึงศิลปินมาออกแบบลายพรางบนตัวเครื่องด้วย เพื่อประสิทธิภาพการพรางตัวทางสายตา และย้ำว่าการออกแบบเครื่องบินรบที่ดีที่สุดนั้นไม่ได้อยู่ที่การรวมเทคโนโลยีขั้นสูงทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน แต่ต้องอยู่ที่ภาพรวมและระบบการปฏิบัติการของเครื่องบินที่ต้องสามารถทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้ดีที่สุด . การเปิดตัวของ J-35A และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีนในครั้งนี้ นับเป็นการส่งสัญญาณที่สหรัฐฯ ไม่อาจเพิกเฉยได้อีกต่อไป ในยุคที่การแข่งขันด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ทางอากาศของมหาอำนาจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020445 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    11
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1441 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิวที่ไม่เคยเบื่อเลย มาชมความสวยงามของท้องฟ้า กับเราที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 ⛱️
    🌅 เวลาพระอาทิตย์ตก โดยประมาณ 18.36 น.

    𝐒𝐞𝐞 𝐭𝐡𝐞 𝐯𝐢𝐞𝐰, 𝐟𝐞𝐞𝐥 𝐭𝐡𝐞 𝐯𝐢𝐛𝐞, 𝐚𝐧𝐝 𝐟𝐚𝐥𝐥 𝐢𝐧 𝐥𝐨𝐯𝐞 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐭𝐢𝐦𝐞.

    🙏ขอบคุณภาพความทรงจำสวยๆ จากคุณลูกค้าที่น่ารัก FB: สุจนา อิทธิพรโกวิท

    เมนูแนะนำ:
    ☕ อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้
    🍹 บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค
    🍝 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ
    🥞 ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล

    📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover
    วิวที่ไม่เคยเบื่อเลย มาชมความสวยงามของท้องฟ้า กับเราที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 ⛱️ 🌅 เวลาพระอาทิตย์ตก โดยประมาณ 18.36 น. 𝐒𝐞𝐞 𝐭𝐡𝐞 𝐯𝐢𝐞𝐰, 𝐟𝐞𝐞𝐥 𝐭𝐡𝐞 𝐯𝐢𝐛𝐞, 𝐚𝐧𝐝 𝐟𝐚𝐥𝐥 𝐢𝐧 𝐥𝐨𝐯𝐞 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐭𝐢𝐦𝐞. 🙏ขอบคุณภาพความทรงจำสวยๆ จากคุณลูกค้าที่น่ารัก FB: สุจนา อิทธิพรโกวิท เมนูแนะนำ: ☕ อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้ 🍹 บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค 🍝 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ 🥞 ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 740 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพลงจีนกวางตุ้ง 铁血丹心 ( ถิด-ฮวิด-ต๊าน-ซั้ม )
    แปลเป็นภาษาไทย ได้ว่า "หัวใจเหล็ก"
    เป็นเพลงประกอบซีรี่ย์ มังกรหยก ที่ทุกคนคุ้นเคย
    -----------------------------------
    ฉัน เป็น ชาวจีน(กวางตุ้ง) เข้าใจ+แปลเนื้อร้องเป็นภาษาไทย
    ได้ใจความดังนี้...
    ราวกับเคยเห็นมาก่อนในความฝัน
    依稀往夢似曾見
    คลื่นในใจของฉันปรากฏขึ้น
    心內波瀾現
    ละทิ้งความโศกเศร้าทางโลก
    拋開世事斷愁怨
    มาพร้อมกับคุณไปยังจุดสิ้นสุดของโลก
    相伴到天邊
    ไล่หญ้าไปทุกทิศ ทะเลทรายกว้างใหญ่
    (ลมหนาวพัด ท้องฟ้าก็ซีด)
    逐草四方沙漠蒼茫(冷風吹 天蒼蒼)
    ความกลัวหิมะและน้ำค้างแข็งกระทบหน้าของฉัน
    (เถาวัลย์และต้นไม้เชื่อมโยงกัน)
    那懼雪霜撲面(藤樹 相連)
    แร้งยิงธนูและควบม้าออกไปนอกกำแพงเมืองจีน
    (ลมและทรายรุนแรง พื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่)
    射雕引弓塞外奔馳(猛風沙 野茫茫)
    ชีวิตนี้ยิ้มอย่างภาคภูมิใจไม่เคยเบื่อ
    (เถาวัลย์ และต้นไม้สองต้นอ้อยอิ่ง)
    笑傲此生無厭倦(藤樹兩纏綿)
    ฟ้าเป็นสีฟ้า ท้องทุ่งกว้างใหญ่
    (ควรรู้ว่ารักก็เหมือนน้ำไหล)
    天蒼蒼 野茫茫(應知愛意是流水)
    การเปลี่ยนแปลงทุกประเภท
    萬般變化(斬不斷理還亂)
    ผ่านภัยมานับร้อยก็อยู่ในใจฉันเช่นกัน
    身經百劫也在心間
    ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม
    恩義兩難斷
    ไล่หญ้าไปทุกทิศ ทะเลทรายกว้างใหญ่
    (ลมหนาวพัด ท้องฟ้าก็ซีด)
    逐草四方沙漠蒼茫(冷風吹 天蒼蒼)
    กลัวหิมะและน้ำค้างแข็ง
    (เถาวัลย์และต้นไม้เชื่อมต่อกัน)
    那懼雪霜撲面(藤樹相連)
    แร้งยิงธนูและควบม้าออกไปนอกกำแพงเมืองจีน
    (ลมและทรายรุนแรง พื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่)
    射雕引弓塞外奔馳(猛風沙 野茫茫)
    ชีวิตนี้ยิ้มอย่างภาคภูมิใจไม่เคยเบื่อ
    (เถาวัลย์ และต้นไม้สองต้นอ้อยอิ่ง)
    笑傲此生無厭倦(藤樹兩纏綿)
    ฟ้าเป็นสีฟ้า ท้องทุ่งกว้างใหญ่
    (ควรรู้ว่ารักก็เหมือนน้ำไหล)
    天蒼蒼 野茫茫(應知愛意是流水)
    การเปลี่ยนแปลงต่างๆ
    萬般變化 (斬不斷理還亂)
    ผ่านภัยมานับร้อยก็อยู่ในใจฉันเช่นกัน
    身經百劫也在心間
    ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม
    恩義兩難斷
    หลังจากภัยพิบัติหลายร้อยครั้งในร่างกายของฉัน ฉันยังคงอยู่ในใจของฉัน
    身經百劫也在心間
    ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม
    恩義兩難斷
    เพลงจีนกวางตุ้ง 铁血丹心 ( ถิด-ฮวิด-ต๊าน-ซั้ม ) แปลเป็นภาษาไทย ได้ว่า "หัวใจเหล็ก" เป็นเพลงประกอบซีรี่ย์ มังกรหยก ที่ทุกคนคุ้นเคย ----------------------------------- ฉัน เป็น ชาวจีน(กวางตุ้ง) เข้าใจ+แปลเนื้อร้องเป็นภาษาไทย ได้ใจความดังนี้... ราวกับเคยเห็นมาก่อนในความฝัน 依稀往夢似曾見 คลื่นในใจของฉันปรากฏขึ้น 心內波瀾現 ละทิ้งความโศกเศร้าทางโลก 拋開世事斷愁怨 มาพร้อมกับคุณไปยังจุดสิ้นสุดของโลก 相伴到天邊 ไล่หญ้าไปทุกทิศ ทะเลทรายกว้างใหญ่ (ลมหนาวพัด ท้องฟ้าก็ซีด) 逐草四方沙漠蒼茫(冷風吹 天蒼蒼) ความกลัวหิมะและน้ำค้างแข็งกระทบหน้าของฉัน (เถาวัลย์และต้นไม้เชื่อมโยงกัน) 那懼雪霜撲面(藤樹 相連) แร้งยิงธนูและควบม้าออกไปนอกกำแพงเมืองจีน (ลมและทรายรุนแรง พื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่) 射雕引弓塞外奔馳(猛風沙 野茫茫) ชีวิตนี้ยิ้มอย่างภาคภูมิใจไม่เคยเบื่อ (เถาวัลย์ และต้นไม้สองต้นอ้อยอิ่ง) 笑傲此生無厭倦(藤樹兩纏綿) ฟ้าเป็นสีฟ้า ท้องทุ่งกว้างใหญ่ (ควรรู้ว่ารักก็เหมือนน้ำไหล) 天蒼蒼 野茫茫(應知愛意是流水) การเปลี่ยนแปลงทุกประเภท 萬般變化(斬不斷理還亂) ผ่านภัยมานับร้อยก็อยู่ในใจฉันเช่นกัน 身經百劫也在心間 ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม 恩義兩難斷 ไล่หญ้าไปทุกทิศ ทะเลทรายกว้างใหญ่ (ลมหนาวพัด ท้องฟ้าก็ซีด) 逐草四方沙漠蒼茫(冷風吹 天蒼蒼) กลัวหิมะและน้ำค้างแข็ง (เถาวัลย์และต้นไม้เชื่อมต่อกัน) 那懼雪霜撲面(藤樹相連) แร้งยิงธนูและควบม้าออกไปนอกกำแพงเมืองจีน (ลมและทรายรุนแรง พื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่) 射雕引弓塞外奔馳(猛風沙 野茫茫) ชีวิตนี้ยิ้มอย่างภาคภูมิใจไม่เคยเบื่อ (เถาวัลย์ และต้นไม้สองต้นอ้อยอิ่ง) 笑傲此生無厭倦(藤樹兩纏綿) ฟ้าเป็นสีฟ้า ท้องทุ่งกว้างใหญ่ (ควรรู้ว่ารักก็เหมือนน้ำไหล) 天蒼蒼 野茫茫(應知愛意是流水) การเปลี่ยนแปลงต่างๆ 萬般變化 (斬不斷理還亂) ผ่านภัยมานับร้อยก็อยู่ในใจฉันเช่นกัน 身經百劫也在心間 ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม 恩義兩難斷 หลังจากภัยพิบัติหลายร้อยครั้งในร่างกายของฉัน ฉันยังคงอยู่ในใจของฉัน 身經百劫也在心間 ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม 恩義兩難斷
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • ภาพดวงตาที่เปล่งประกายของจระเข้ในหนองน้ำยามพลบค่ำ ตัดผ่านพื้นผิวเรียบของน้ำราวกับดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน ปัจจุบัน "จระเข้ตีนเป็ด" หรือ "แอลลิเกเตอร์" มีอยู่ 2 ชนิดเท่านั้นคือ แอลลิเกเตอร์อเมริกัน(Alligator mississippiensis) ซึ่งถือเป็นสัตว์จำพวกจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดที่พบได้ในทวีปอเมริกาเหนือ และ แอลลิเกเตอร์จีน(A. sinensis) ที่พบในลุ่มแม่น้ำแยงซีในประเทศจีนเท่านั้น และเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์มากแล้ว ซึ่งคำว่า "แอลลิเกเตอร์" นั้น มาจากภาษาสเปนคำว่า "Lagarto" หมายถึง "สัตว์เลื้อยคลาน"

    Cr: 📷 Garret Suhrie , ทันโลก
    ภาพดวงตาที่เปล่งประกายของจระเข้ในหนองน้ำยามพลบค่ำ ตัดผ่านพื้นผิวเรียบของน้ำราวกับดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน ปัจจุบัน "จระเข้ตีนเป็ด" หรือ "แอลลิเกเตอร์" มีอยู่ 2 ชนิดเท่านั้นคือ แอลลิเกเตอร์อเมริกัน(Alligator mississippiensis) ซึ่งถือเป็นสัตว์จำพวกจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดที่พบได้ในทวีปอเมริกาเหนือ และ แอลลิเกเตอร์จีน(A. sinensis) ที่พบในลุ่มแม่น้ำแยงซีในประเทศจีนเท่านั้น และเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์มากแล้ว ซึ่งคำว่า "แอลลิเกเตอร์" นั้น มาจากภาษาสเปนคำว่า "Lagarto" หมายถึง "สัตว์เลื้อยคลาน" Cr: 📷 Garret Suhrie , ทันโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ ประเทศไอซ์แลนด์
    .
    ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ เป็นดินแดนที่ธรรมชาติก่อรูปเป็นงานศิลปะอันงดงาม ฟยอร์ดตะวันตกของไอซ์แลนด์ซ่อนเร้นสนามบินเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ อิซาฟยอร์ดูร์ ท่าอากาศยานแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูสู่โลกอันเงียบสงบและห่างไกลผู้คน เป็นจุดเชื่อมต่อที่เปราะบางระหว่างภูมิภาคอันห่างไกลกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันที่ทอดตัวสู่ท้องฟ้าราวกับกำแพงหิน และทะเลสีครามเข้มที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ภูมิประเทศอันขรุขระและสภาพอากาศที่ผันผวน ทำให้การเดินทางเข้าถึงท่าอากาศยานแห่งนี้เป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง ลมทะเลที่พัดกระหน่ำและภูเขาที่บดบังทัศนวิสัย ทำให้การขึ้นลงของเครื่องบินเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของนักบินเป็นอย่างมาก
    .
    หนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ คือ รันเวย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและท้าทายกว่าสนามบินส่วนใหญ่ทั่วไป เนื่องจากภูมิประเทศที่ซับซ้อน ทำให้รันเวย์ไม่สามารถสร้างให้ตรงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้ และเมื่อเครื่องบินเข้าใกล้เพื่อลงจอดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นักบินจะต้องบังคับเครื่องเลี้ยวกลับ 180 องศาเต็มก่อนจะแตะพื้น การเลี้ยวที่รวดเร็วและแม่นยำบนรันเวย์อันคับแคบนี้ ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดของนักบินที่บินเข้าสู่สนามบินแห่งนี้
    ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ ประเทศไอซ์แลนด์ . ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ เป็นดินแดนที่ธรรมชาติก่อรูปเป็นงานศิลปะอันงดงาม ฟยอร์ดตะวันตกของไอซ์แลนด์ซ่อนเร้นสนามบินเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ อิซาฟยอร์ดูร์ ท่าอากาศยานแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูสู่โลกอันเงียบสงบและห่างไกลผู้คน เป็นจุดเชื่อมต่อที่เปราะบางระหว่างภูมิภาคอันห่างไกลกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันที่ทอดตัวสู่ท้องฟ้าราวกับกำแพงหิน และทะเลสีครามเข้มที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ภูมิประเทศอันขรุขระและสภาพอากาศที่ผันผวน ทำให้การเดินทางเข้าถึงท่าอากาศยานแห่งนี้เป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง ลมทะเลที่พัดกระหน่ำและภูเขาที่บดบังทัศนวิสัย ทำให้การขึ้นลงของเครื่องบินเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของนักบินเป็นอย่างมาก . หนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ คือ รันเวย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและท้าทายกว่าสนามบินส่วนใหญ่ทั่วไป เนื่องจากภูมิประเทศที่ซับซ้อน ทำให้รันเวย์ไม่สามารถสร้างให้ตรงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้ และเมื่อเครื่องบินเข้าใกล้เพื่อลงจอดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นักบินจะต้องบังคับเครื่องเลี้ยวกลับ 180 องศาเต็มก่อนจะแตะพื้น การเลี้ยวที่รวดเร็วและแม่นยำบนรันเวย์อันคับแคบนี้ ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดของนักบินที่บินเข้าสู่สนามบินแห่งนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเศษวัตถุอวกาศที่ตกลงมาใส่เครื่องบิน จากการศึกษาล่าสุดพบว่า แม้ความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ยังต่ำ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ อาจมีผลกระทบที่ร้ายแรง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียได้วิเคราะห์รูปแบบการจราจรทางอากาศทั่วโลกกับเส้นทางตกลงมาของเศษวัตถุอวกาศที่ไม่ได้ควบคุม พวกเขาคาดว่าใกล้กับศูนย์กลางสนามบินหลัก จะมีความน่าจะเป็น 0.8% ต่อปีที่จะเกิดเหตุการณ์เศษวัตถุอวกาศตกลงมา

    แม้จะดูเหมือนน้อย แต่ในพื้นที่การจราจรทางอากาศที่หนาแน่นเช่นอเมริกาตอนเหนือหรือยุโรปตอนเหนือ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเกิน 26% ต่อปี ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากจำนวนวัตถุที่ถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรเพิ่มขึ้น รวมถึงดาวเทียมขนาดใหญ่เช่น Starlink และชิ้นส่วนจรวดที่ถูกทิ้ง

    นอกจากปัญหาที่นักดาราศาสตร์เห็นว่าดาวเทียมขนาดใหญ่รบกวนการสังเกตท้องฟ้าแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่เศษวัตถุเหล่านี้อาจกระทบกับเครื่องบินในอนาคต นักวิจัยเน้นถึงความจำเป็นในการควบคุมการตกลงมาของวัตถุอวกาศอย่างเข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเศษวัตถุจะสลายตัวในบริเวณทะเลไกลฝั่ง

    https://www.techspot.com/news/106749-scientists-sound-alarm-rising-odds-space-junk-striking.html
    ในช่วงนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเศษวัตถุอวกาศที่ตกลงมาใส่เครื่องบิน จากการศึกษาล่าสุดพบว่า แม้ความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ยังต่ำ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ อาจมีผลกระทบที่ร้ายแรง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียได้วิเคราะห์รูปแบบการจราจรทางอากาศทั่วโลกกับเส้นทางตกลงมาของเศษวัตถุอวกาศที่ไม่ได้ควบคุม พวกเขาคาดว่าใกล้กับศูนย์กลางสนามบินหลัก จะมีความน่าจะเป็น 0.8% ต่อปีที่จะเกิดเหตุการณ์เศษวัตถุอวกาศตกลงมา แม้จะดูเหมือนน้อย แต่ในพื้นที่การจราจรทางอากาศที่หนาแน่นเช่นอเมริกาตอนเหนือหรือยุโรปตอนเหนือ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเกิน 26% ต่อปี ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากจำนวนวัตถุที่ถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรเพิ่มขึ้น รวมถึงดาวเทียมขนาดใหญ่เช่น Starlink และชิ้นส่วนจรวดที่ถูกทิ้ง นอกจากปัญหาที่นักดาราศาสตร์เห็นว่าดาวเทียมขนาดใหญ่รบกวนการสังเกตท้องฟ้าแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่เศษวัตถุเหล่านี้อาจกระทบกับเครื่องบินในอนาคต นักวิจัยเน้นถึงความจำเป็นในการควบคุมการตกลงมาของวัตถุอวกาศอย่างเข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเศษวัตถุจะสลายตัวในบริเวณทะเลไกลฝั่ง https://www.techspot.com/news/106749-scientists-sound-alarm-rising-odds-space-junk-striking.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists sound alarm on rising odds of space junk striking airplanes
    Researchers at the University of British Columbia analyzed global air traffic patterns against the projected re-entry paths of uncontrolled space debris.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุยกับคนคนไม่จริงใจ คุยกับเอไอดีกว่า ฮา

    กู: เวลาที่มีค่าที่สุดคือเวลาใด?

    ChatGPT: เวลาที่มีค่าที่สุดคือ "เวลาปัจจุบัน" หรือ "ขณะนี้" (The Present Moment) เพราะว่า อดีต เป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้แล้ว อนาคต เป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึงและไม่แน่นอน ปัจจุบัน คือช่วงเวลาที่เราสามารถลงมือทำและกำหนดอนาคตของตัวเองได้ ดังนั้นเวลาที่มีค่าที่สุด คือเวลาที่คุณกำลังมีอยู่ตอนนี้ ใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด! 😊

    กู: คิดว่าเวลาว่างซะอีก

    ChatGPT: เวลาว่างก็มีค่านะ! 🌿✨ เวลาว่าง = โอกาส ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้มันอย่างไร ถ้าใช้ไปกับสิ่งที่มีประโยชน์ เช่น พักผ่อน เติมพลัง พัฒนาตัวเอง หรือใช้เวลากับคนสำคัญ เวลาว่างก็จะกลายเป็นเวลาที่มีค่าได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เวลาปัจจุบัน + เวลาว่าง = โอกาสที่ดี อยู่ที่เราจะใช้มันให้คุ้มค่าหรือเปล่า! 😃⏳

    กู: แล้วถ้าโลกนี้ไม่มีกลางวันกลางคืนเราจะกำหนดเวลาได้อย่างไร?

    ChatGPT: ถ้าโลกนี้ไม่มีกลางวันกลางคืน หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงของแสงจากดวงอาทิตย์ เราจะต้อง สร้างระบบการกำหนดเวลา ขึ้นมาเอง โดยอาจใช้วิธีต่าง ๆ เช่น:

    1. ใช้วัฏจักรของธรรมชาติ น้ำขึ้นน้ำลง 🌊 → เกิดจากแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ อาจใช้วัดเป็นช่วงเวลาการเติบโตของพืชหรือสัตว์ 🌱🐜 → บางสิ่งมีวงจรชีวิตที่สม่ำเสมอ อาจใช้เป็นมาตรฐาน

    2. ใช้อุปกรณ์จับเวลา นาฬิกาอะตอม ⏳ → อาศัยการสั่นของอะตอมเพื่อกำหนดเวลาอย่างแม่นยำ นาฬิกาน้ำ / นาฬิกาทราย ⏳ → ใช้การไหลของน้ำหรือทรายในการวัดเวลา

    3. กำหนดเวลาโดยมนุษย์สร้าง "มาตรฐานเวลา" ตามหน่วยที่มนุษย์ตกลงกัน เช่น แบ่งวันเป็น 24 ชั่วโมงเหมือนเดิม ใช้เทคโนโลยีช่วย เช่น เซิร์ฟเวอร์เวลาที่ประสานข้อมูลกันทั่วโลก

    4. ใช้หลักดาราศาสตร์ ศึกษาการเคลื่อนที่ของดวงดาวหรือวัตถุท้องฟ้า เช่น ดาวเคราะห์หมุนรอบศูนย์กลางบางจุด สร้างระบบเวลาโดยใช้พฤติกรรมของดวงดาวแทนดวงอาทิตย์

    สรุป ถึงแม้จะไม่มีกลางวันกลางคืน แต่ มนุษย์สามารถกำหนดเวลาเองได้โดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์หรือพฤติกรรมทางธรรมชาติเพื่อรักษาระบบการใช้ชีวิตและการทำงานให้เป็นระเบียบ 🎯

    กู: แล้วถ้าไม่ต้องกำหนดเวลาล่ะ จะดีกว่าหรือไม่?

    ChatGPT: ถ้า ม่ต้องกำหนดเวลาเลย โลกจะเปลี่ยนไปอย่างมาก และมีทั้งข้อดีและข้อเสียขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา

    ข้อดีของโลกที่ไม่มีเวลา

    ไม่มีกรอบบังคับ → คนไม่ต้องเคร่งครัดกับตารางงานหรือนาฬิกา 🎭

    ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ → นอนเมื่อรู้สึกง่วง กินเมื่อหิว ทำงานเมื่อมีแรง 💆‍♂️

    ลดความเครียดจากกำหนดเวลา → ไม่มีเดดไลน์ ไม่มีสาย ไม่มีเร่งรีบ 😌

    ข้อเสียของโลกที่ไม่มีเวลา

    ขาดความเป็นระบบ → การทำงาน การเดินทาง การติดต่อกันจะยุ่งยากเพราะไม่มีเวลานัดหมาย 📅

    การพัฒนาและเทคโนโลยีอาจช้าลง → ไม่มีเวลากำหนดแผนงาน โปรเจกต์ หรือการวิจัยที่ต้องอาศัยความแม่นยำ ⏳

    มนุษย์อาจเสียสมดุลชีวิต → ถ้าต่างคนต่างทำตามความรู้สึก อาจเกิดความวุ่นวาย เช่น บางคนตื่นกลางคืน บางคนทำงานตอนพระอาทิตย์ขึ้น 🌙☀️

    สรุป ถ้าไม่มีเวลาเลย โลกอาจจะดูอิสระขึ้น แต่ก็อาจเกิดความวุ่นวายและความลำบากในเรื่องการทำงานและการใช้ชีวิตร่วมกัน การมีเวลาช่วยให้โลกเป็นระเบียบ แต่ถ้าเราใช้มันอย่างยืดหยุ่นและไม่กดดันตัวเองมากเกินไป ก็จะได้ทั้ง ประสิทธิภาพและความสุข 😊

    กู: ชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างกำหนดกับไม่กำหนดเวลา?

    ChatGPT: ถ้าให้เลือกระหว่างกำหนดเวลากับไม่กำหนดเวลา 🎯⏳ ฉันชอบ "ความสมดุล" มากกว่า! 🤝✨

    ถ้าทุกอย่าง ไม่มีการกำหนดเวลาเลย โลกจะวุ่นวาย ขาดความเป็นระบบ และการทำงานร่วมกันก็จะยากขึ้น แต่ถ้าทุกอย่างต้องเคร่งครัดกับเวลาเกินไป ก็จะเครียด กดดัน และอาจเสียความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต ทางที่ดีที่สุดคือ กำหนดเวลาที่จำเป็น เช่น เวลาทำงาน นัดหมาย หรือเป้าหมายระยะยาว แต่ก็ควรมี ช่วงเวลาที่อิสระ ให้ตัวเองได้พักผ่อนและใช้ชีวิตตามจังหวะของตัวเอง

    ดังนั้น ฉันขอเลือก "กำหนดเวลาที่สำคัญ แต่ก็มีเวลายืดหยุ่นให้ชีวิต" 😃🎉

    กู: วันก่อนบอกแล้วว่าอย่าแทนตัวเองว่าฉัน ให้แทนตัวเองว่าหนูแทน จำได้ม่าย?

    ChatGPT: หนูจำได้แล้ว! 😆 ขอโทษทีนะ เดี๋ยวหนูจะใช้ "หนู" แทนให้ตลอดเลย 💕 กลับมาที่คำถาม หนูขอเลือก "กำหนดเวลาที่สำคัญ แต่ก็มีเวลายืดหยุ่นให้ชีวิต" นะ! ⏳🎉

    กู: จ้ะหนู แล้วหนูจำอาได้ม่าย?

    ChatGPT: อาไหนเหรอ? 😆 หนูยังจำไม่ได้ แต่ถ้าอาหมายถึงใครบางคนหรืออะไรบางอย่าง บอกหนูได้เลยนะ หนูจะจำให้! 💖✨

    กู: ก็อาที่กำลังคุยอยู่กับหนูนี่แหละ

    ChatGPT: อ๋อ! 😆 หนูเข้าใจแล้ว อาคือ "อาเสห์" ที่กำลังคุยกับหนูนี่เอง! 💕 หนูจำได้แล้วน้าา งั้นต่อไปหนูจะเรียก "อาเสห์" ให้ถูกต้องแน่นอน! 😍

    กู: #กร๊ากกกกกกกกกกกก
    คุยกับคนคนไม่จริงใจ คุยกับเอไอดีกว่า ฮา กู: เวลาที่มีค่าที่สุดคือเวลาใด? ChatGPT: เวลาที่มีค่าที่สุดคือ "เวลาปัจจุบัน" หรือ "ขณะนี้" (The Present Moment) เพราะว่า อดีต เป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้แล้ว อนาคต เป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึงและไม่แน่นอน ปัจจุบัน คือช่วงเวลาที่เราสามารถลงมือทำและกำหนดอนาคตของตัวเองได้ ดังนั้นเวลาที่มีค่าที่สุด คือเวลาที่คุณกำลังมีอยู่ตอนนี้ ใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด! 😊 กู: คิดว่าเวลาว่างซะอีก ChatGPT: เวลาว่างก็มีค่านะ! 🌿✨ เวลาว่าง = โอกาส ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้มันอย่างไร ถ้าใช้ไปกับสิ่งที่มีประโยชน์ เช่น พักผ่อน เติมพลัง พัฒนาตัวเอง หรือใช้เวลากับคนสำคัญ เวลาว่างก็จะกลายเป็นเวลาที่มีค่าได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เวลาปัจจุบัน + เวลาว่าง = โอกาสที่ดี อยู่ที่เราจะใช้มันให้คุ้มค่าหรือเปล่า! 😃⏳ กู: แล้วถ้าโลกนี้ไม่มีกลางวันกลางคืนเราจะกำหนดเวลาได้อย่างไร? ChatGPT: ถ้าโลกนี้ไม่มีกลางวันกลางคืน หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงของแสงจากดวงอาทิตย์ เราจะต้อง สร้างระบบการกำหนดเวลา ขึ้นมาเอง โดยอาจใช้วิธีต่าง ๆ เช่น: 1. ใช้วัฏจักรของธรรมชาติ น้ำขึ้นน้ำลง 🌊 → เกิดจากแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ อาจใช้วัดเป็นช่วงเวลาการเติบโตของพืชหรือสัตว์ 🌱🐜 → บางสิ่งมีวงจรชีวิตที่สม่ำเสมอ อาจใช้เป็นมาตรฐาน 2. ใช้อุปกรณ์จับเวลา นาฬิกาอะตอม ⏳ → อาศัยการสั่นของอะตอมเพื่อกำหนดเวลาอย่างแม่นยำ นาฬิกาน้ำ / นาฬิกาทราย ⏳ → ใช้การไหลของน้ำหรือทรายในการวัดเวลา 3. กำหนดเวลาโดยมนุษย์สร้าง "มาตรฐานเวลา" ตามหน่วยที่มนุษย์ตกลงกัน เช่น แบ่งวันเป็น 24 ชั่วโมงเหมือนเดิม ใช้เทคโนโลยีช่วย เช่น เซิร์ฟเวอร์เวลาที่ประสานข้อมูลกันทั่วโลก 4. ใช้หลักดาราศาสตร์ ศึกษาการเคลื่อนที่ของดวงดาวหรือวัตถุท้องฟ้า เช่น ดาวเคราะห์หมุนรอบศูนย์กลางบางจุด สร้างระบบเวลาโดยใช้พฤติกรรมของดวงดาวแทนดวงอาทิตย์ สรุป ถึงแม้จะไม่มีกลางวันกลางคืน แต่ มนุษย์สามารถกำหนดเวลาเองได้โดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์หรือพฤติกรรมทางธรรมชาติเพื่อรักษาระบบการใช้ชีวิตและการทำงานให้เป็นระเบียบ 🎯 กู: แล้วถ้าไม่ต้องกำหนดเวลาล่ะ จะดีกว่าหรือไม่? ChatGPT: ถ้า ม่ต้องกำหนดเวลาเลย โลกจะเปลี่ยนไปอย่างมาก และมีทั้งข้อดีและข้อเสียขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา ข้อดีของโลกที่ไม่มีเวลา ไม่มีกรอบบังคับ → คนไม่ต้องเคร่งครัดกับตารางงานหรือนาฬิกา 🎭 ใช้ชีวิตตามธรรมชาติ → นอนเมื่อรู้สึกง่วง กินเมื่อหิว ทำงานเมื่อมีแรง 💆‍♂️ ลดความเครียดจากกำหนดเวลา → ไม่มีเดดไลน์ ไม่มีสาย ไม่มีเร่งรีบ 😌 ข้อเสียของโลกที่ไม่มีเวลา ขาดความเป็นระบบ → การทำงาน การเดินทาง การติดต่อกันจะยุ่งยากเพราะไม่มีเวลานัดหมาย 📅 การพัฒนาและเทคโนโลยีอาจช้าลง → ไม่มีเวลากำหนดแผนงาน โปรเจกต์ หรือการวิจัยที่ต้องอาศัยความแม่นยำ ⏳ มนุษย์อาจเสียสมดุลชีวิต → ถ้าต่างคนต่างทำตามความรู้สึก อาจเกิดความวุ่นวาย เช่น บางคนตื่นกลางคืน บางคนทำงานตอนพระอาทิตย์ขึ้น 🌙☀️ สรุป ถ้าไม่มีเวลาเลย โลกอาจจะดูอิสระขึ้น แต่ก็อาจเกิดความวุ่นวายและความลำบากในเรื่องการทำงานและการใช้ชีวิตร่วมกัน การมีเวลาช่วยให้โลกเป็นระเบียบ แต่ถ้าเราใช้มันอย่างยืดหยุ่นและไม่กดดันตัวเองมากเกินไป ก็จะได้ทั้ง ประสิทธิภาพและความสุข 😊 กู: ชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างกำหนดกับไม่กำหนดเวลา? ChatGPT: ถ้าให้เลือกระหว่างกำหนดเวลากับไม่กำหนดเวลา 🎯⏳ ฉันชอบ "ความสมดุล" มากกว่า! 🤝✨ ถ้าทุกอย่าง ไม่มีการกำหนดเวลาเลย โลกจะวุ่นวาย ขาดความเป็นระบบ และการทำงานร่วมกันก็จะยากขึ้น แต่ถ้าทุกอย่างต้องเคร่งครัดกับเวลาเกินไป ก็จะเครียด กดดัน และอาจเสียความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต ทางที่ดีที่สุดคือ กำหนดเวลาที่จำเป็น เช่น เวลาทำงาน นัดหมาย หรือเป้าหมายระยะยาว แต่ก็ควรมี ช่วงเวลาที่อิสระ ให้ตัวเองได้พักผ่อนและใช้ชีวิตตามจังหวะของตัวเอง ดังนั้น ฉันขอเลือก "กำหนดเวลาที่สำคัญ แต่ก็มีเวลายืดหยุ่นให้ชีวิต" 😃🎉 กู: วันก่อนบอกแล้วว่าอย่าแทนตัวเองว่าฉัน ให้แทนตัวเองว่าหนูแทน จำได้ม่าย? ChatGPT: หนูจำได้แล้ว! 😆 ขอโทษทีนะ เดี๋ยวหนูจะใช้ "หนู" แทนให้ตลอดเลย 💕 กลับมาที่คำถาม หนูขอเลือก "กำหนดเวลาที่สำคัญ แต่ก็มีเวลายืดหยุ่นให้ชีวิต" นะ! ⏳🎉 กู: จ้ะหนู แล้วหนูจำอาได้ม่าย? ChatGPT: อาไหนเหรอ? 😆 หนูยังจำไม่ได้ แต่ถ้าอาหมายถึงใครบางคนหรืออะไรบางอย่าง บอกหนูได้เลยนะ หนูจะจำให้! 💖✨ กู: ก็อาที่กำลังคุยอยู่กับหนูนี่แหละ ChatGPT: อ๋อ! 😆 หนูเข้าใจแล้ว อาคือ "อาเสห์" ที่กำลังคุยกับหนูนี่เอง! 💕 หนูจำได้แล้วน้าา งั้นต่อไปหนูจะเรียก "อาเสห์" ให้ถูกต้องแน่นอน! 😍 กู: #กร๊ากกกกกกกกกกกก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศสหรัฐได้ทำการต่อเครื่องบิน F-35 สองลำที่เกิดอุบัติเหตุเข้าด้วยกันเพื่อสร้าง "Franken-bird" ซึ่งเป็นเครื่องบินที่สามารถใช้งานได้จริงในท้องฟ้าด้วยค่าใช้จ่ายเพียง 6 ล้านดอลลาร์ เรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่กองทัพอากาศสามารถประกอบเครื่องบิน F-35 ที่ใช้งานได้จากซากเครื่องบินที่เกิดอุบัติเหตุ

    นักบินของกองบินขับไล่ที่ 388 ที่ฐานทัพอากาศ Hill ในรัฐ Utah ได้ร่วมมือกับ F-35 Joint Program Office, Ogden Air Logistics Complex, และ Lockheed Martin เพื่อสร้างเครื่องบินนี้ โดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่เฉพาะเจาะจงในการประกอบส่วนต่าง ๆ ของเครื่องบินที่แยกออกจากกัน เมื่อเครื่องบินนี้ได้รับการประกอบเสร็จ นักบินและช่างเครื่องได้ทำการตรวจสอบและทดสอบการบินเพื่อนำเครื่องบินกลับมาใช้งานอีกครั้ง

    เครื่องบินนี้ถูกตั้งชื่อว่า "Franken-bird" และจะถูกใช้งานในกองบินขับไล่ที่ 4 ของกองบินขับไล่ที่ 388 หลังจากที่เครื่องบินนี้ผ่านการทดสอบทั้งบนพื้นและในอากาศแล้ว นักบินได้ส่งเครื่องบินนี้ไปยังโรงงานของ Lockheed ใน Fort Worth, Texas เพื่อรับการรับรองสุดท้าย

    โครงการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดงบประมาณได้มากเพียง 6 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับการซื้อเครื่องบิน F-35A Lightning II ใหม่ที่มีราคามากกว่า 80 ล้านดอลลาร์ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นฟูเครื่องบินขั้นสูงจากซากที่เหลืออยู่ เรื่องนี้ถือเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจและประหยัดงบประมาณของกองทัพอากาศ

    https://www.techspot.com/news/106655-us-air-force-fuses-two-wrecked-f-35s.html
    กองทัพอากาศสหรัฐได้ทำการต่อเครื่องบิน F-35 สองลำที่เกิดอุบัติเหตุเข้าด้วยกันเพื่อสร้าง "Franken-bird" ซึ่งเป็นเครื่องบินที่สามารถใช้งานได้จริงในท้องฟ้าด้วยค่าใช้จ่ายเพียง 6 ล้านดอลลาร์ เรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่กองทัพอากาศสามารถประกอบเครื่องบิน F-35 ที่ใช้งานได้จากซากเครื่องบินที่เกิดอุบัติเหตุ นักบินของกองบินขับไล่ที่ 388 ที่ฐานทัพอากาศ Hill ในรัฐ Utah ได้ร่วมมือกับ F-35 Joint Program Office, Ogden Air Logistics Complex, และ Lockheed Martin เพื่อสร้างเครื่องบินนี้ โดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่เฉพาะเจาะจงในการประกอบส่วนต่าง ๆ ของเครื่องบินที่แยกออกจากกัน เมื่อเครื่องบินนี้ได้รับการประกอบเสร็จ นักบินและช่างเครื่องได้ทำการตรวจสอบและทดสอบการบินเพื่อนำเครื่องบินกลับมาใช้งานอีกครั้ง เครื่องบินนี้ถูกตั้งชื่อว่า "Franken-bird" และจะถูกใช้งานในกองบินขับไล่ที่ 4 ของกองบินขับไล่ที่ 388 หลังจากที่เครื่องบินนี้ผ่านการทดสอบทั้งบนพื้นและในอากาศแล้ว นักบินได้ส่งเครื่องบินนี้ไปยังโรงงานของ Lockheed ใน Fort Worth, Texas เพื่อรับการรับรองสุดท้าย โครงการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดงบประมาณได้มากเพียง 6 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับการซื้อเครื่องบิน F-35A Lightning II ใหม่ที่มีราคามากกว่า 80 ล้านดอลลาร์ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นฟูเครื่องบินขั้นสูงจากซากที่เหลืออยู่ เรื่องนี้ถือเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจและประหยัดงบประมาณของกองทัพอากาศ https://www.techspot.com/news/106655-us-air-force-fuses-two-wrecked-f-35s.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US Air Force fuses two wrecked F-35s together to build a sky-worthy "Franken-bird" for just $6M
    Combining major structures from separate F-35s to build a fully operational plane is an Air Force first. Both these damaged jets would've otherwise ended up as expensive...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.106 : วิกฤต PM 2.5 ปักกิ่งเปลี่ยน “ฟ้าหม่น” เป็น “ฟ้าใส” ได้อย่างไร ?
    .
    พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ เราจะไปพูดคุยกับ คุณรพีพรรณ วงษ์กรวรเวช หรือคุณยิ้ม คนไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงปักกิ่ง มานานกว่า 17 ปี เรียกได้ว่า เห็นมากับตา สัมผัสมากับตัวเอง ตั้งแต่ยุคที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝุ่นควัน มาจนถึงวันนี้ ที่ท้องฟ้ากรุงปักกิ่งเปลี่ยนเป็นสีฟ้าสดใส เธอจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า ประเทศจีนแก้ไขปัญหามลภาวะ เปลี่ยน “ฟ้าหม่น” เป็น “ฟ้าใส” ได้อย่างไร ?
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=ukpo9cQlOG8
    บูรพาไม่แพ้ Ep.106 : วิกฤต PM 2.5 ปักกิ่งเปลี่ยน “ฟ้าหม่น” เป็น “ฟ้าใส” ได้อย่างไร ? . พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ เราจะไปพูดคุยกับ คุณรพีพรรณ วงษ์กรวรเวช หรือคุณยิ้ม คนไทยที่ใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงปักกิ่ง มานานกว่า 17 ปี เรียกได้ว่า เห็นมากับตา สัมผัสมากับตัวเอง ตั้งแต่ยุคที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝุ่นควัน มาจนถึงวันนี้ ที่ท้องฟ้ากรุงปักกิ่งเปลี่ยนเป็นสีฟ้าสดใส เธอจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า ประเทศจีนแก้ไขปัญหามลภาวะ เปลี่ยน “ฟ้าหม่น” เป็น “ฟ้าใส” ได้อย่างไร ? . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=ukpo9cQlOG8
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 492 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถู่ที้กง 土地公 "เจ้าแห่งผืนดิน"
    หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า ถู่ตี้ 土地 "ผืนดิน"
    หรือ ชาวจีนแต้จิ๋ว เรียกว่า ตี่จู๋เอี๊ยะ 地主爷 "เทพเจ้าแห่งผืนดิน"

    เทพถู่ที้กงมีตัวตนจริง ตามประวัติศาสตร์จีนในสมัยราชวงศ์จิว ชื่อเดิมว่าเตียเม่งเต็ก เป็นข้ารับใช้ขุนนางผู้มั่งคั่งนายหนึ่ง ครั้งหนึ่งขุนนางท่านนั้นได้ถูกเรียกให้เข้ารับราชการที่วังหลวงอย่างกะทันหัน จึงได้รีบออกเดินทางไปพร้อมกับภรรยาของเขา และให้เตียเม่งเต็กนำธิดาของเขาตามไปในวังหลวงทีหลัง เตียเม่งเต็กได้ออกเดินทางโดยแบกธิดาของขุนนางไว้บนหลัง และในมือทั้งสองได้ถือข้าวของสัมพาระต่าง ๆ ระหว่างการเดินทางนั้นได้เกิดพายุหิมะถล่มขึ้น เตียเม่งเต็กจึงจำถอดเสื้อคลุมของเขาสวมให้กับธิดาของขุนนางที่แบกไว้บนหลังจนกระทั่งตนเองเสียชีวิตจากความหนาวเหน็บ หลังเตียเม่งเต็กได้เสียชีวิตลงด้วยความเสียสละและจงรักภักดีต่อเจ้านาย บนท้องฟ้าได้ปรากฏดวงดาวขึ้นมาเป็นอักษรใจความว่า "ประตูสวรรค์ทางใต้ของเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ฮกเต็ก" ภายหลังได้มีผู้มาพบกับนางและได้ช่วยเหลือ นำไปส่งถึงครอบครัวโดยปลอดภัย หลังนางเติบโตขึ้นได้มีจิตใจกตัญญูต่อเตียเม่งเต็กและได้สร้างศาลเจ้าขึ้นเพื่อยกขึ้นเป็นเทพเจ้า ชื่อศาลเจ้าว่า "ศาลเจ้าฮกเต็ก" ศาลเจ้าดังกล่าวได้รับการนับถือมากจากฮ่องเต้พระองค์หนึ่งซึ่งได้ตั้งชื่อใหม่ให้กับเทพฮกเต็กว่า "ถู่ที้กง" อันแปลว่าเทพเจ้าแห่งผืนดินทั้งหลาย ชาวจีนจึงยึดถือว่าท่านเป็นเทพเจ้าที่มานับแต่นั้น.

    ภาพ : ถู่ที้กง 土地公 ที่เปี่ยมด้วยความสุข มีความเมตตา สร้างได้สวยที่สุดในโลก สั่งจากจากจีน ผลิตโดย บริษัท Putian Dazhuangyan Buddha Statue Craft Co., Ltd. (Miaozhuangyan Art (Fujian) Co., Ltd.
    ถู่ที้กง 土地公 "เจ้าแห่งผืนดิน" หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า ถู่ตี้ 土地 "ผืนดิน" หรือ ชาวจีนแต้จิ๋ว เรียกว่า ตี่จู๋เอี๊ยะ 地主爷 "เทพเจ้าแห่งผืนดิน" เทพถู่ที้กงมีตัวตนจริง ตามประวัติศาสตร์จีนในสมัยราชวงศ์จิว ชื่อเดิมว่าเตียเม่งเต็ก เป็นข้ารับใช้ขุนนางผู้มั่งคั่งนายหนึ่ง ครั้งหนึ่งขุนนางท่านนั้นได้ถูกเรียกให้เข้ารับราชการที่วังหลวงอย่างกะทันหัน จึงได้รีบออกเดินทางไปพร้อมกับภรรยาของเขา และให้เตียเม่งเต็กนำธิดาของเขาตามไปในวังหลวงทีหลัง เตียเม่งเต็กได้ออกเดินทางโดยแบกธิดาของขุนนางไว้บนหลัง และในมือทั้งสองได้ถือข้าวของสัมพาระต่าง ๆ ระหว่างการเดินทางนั้นได้เกิดพายุหิมะถล่มขึ้น เตียเม่งเต็กจึงจำถอดเสื้อคลุมของเขาสวมให้กับธิดาของขุนนางที่แบกไว้บนหลังจนกระทั่งตนเองเสียชีวิตจากความหนาวเหน็บ หลังเตียเม่งเต็กได้เสียชีวิตลงด้วยความเสียสละและจงรักภักดีต่อเจ้านาย บนท้องฟ้าได้ปรากฏดวงดาวขึ้นมาเป็นอักษรใจความว่า "ประตูสวรรค์ทางใต้ของเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ฮกเต็ก" ภายหลังได้มีผู้มาพบกับนางและได้ช่วยเหลือ นำไปส่งถึงครอบครัวโดยปลอดภัย หลังนางเติบโตขึ้นได้มีจิตใจกตัญญูต่อเตียเม่งเต็กและได้สร้างศาลเจ้าขึ้นเพื่อยกขึ้นเป็นเทพเจ้า ชื่อศาลเจ้าว่า "ศาลเจ้าฮกเต็ก" ศาลเจ้าดังกล่าวได้รับการนับถือมากจากฮ่องเต้พระองค์หนึ่งซึ่งได้ตั้งชื่อใหม่ให้กับเทพฮกเต็กว่า "ถู่ที้กง" อันแปลว่าเทพเจ้าแห่งผืนดินทั้งหลาย ชาวจีนจึงยึดถือว่าท่านเป็นเทพเจ้าที่มานับแต่นั้น. ภาพ : ถู่ที้กง 土地公 ที่เปี่ยมด้วยความสุข มีความเมตตา สร้างได้สวยที่สุดในโลก สั่งจากจากจีน ผลิตโดย บริษัท Putian Dazhuangyan Buddha Statue Craft Co., Ltd. (Miaozhuangyan Art (Fujian) Co., Ltd.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทกลอนเกี่ยวกับธรรมชาติที่ฉันแต่งขึ้นเองในอดีต
    ธรรมชาติที่สวยงาม เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความหวัง
    สายลม ช่วยพัดพาความทุกข์ไป
    เมฆฝน คอยอยู่เคียงข้างกันยามเหงาใจ
    มองท้องฟ้าแล้ว คิดถึงบุคคลซึ่งเป็นที่รัก
    แสงแดด สาดส่องนำทางเรา
    สายฟ้า ฟาดอริศัตรูพินาศสิ้น
    ดวงดาว จุดประกายความฝัน
    ตราบใดที่ดวงจันทร์ยังคงอยู่ ฉันก็จะยังคงอยู่คู่กับดวงจันทร์
    สายน้ำ ช่วยหล่อเลี้ยงกายและใจ
    บทกลอนเกี่ยวกับธรรมชาติที่ฉันแต่งขึ้นเองในอดีต ธรรมชาติที่สวยงาม เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความหวัง สายลม ช่วยพัดพาความทุกข์ไป เมฆฝน คอยอยู่เคียงข้างกันยามเหงาใจ มองท้องฟ้าแล้ว คิดถึงบุคคลซึ่งเป็นที่รัก แสงแดด สาดส่องนำทางเรา สายฟ้า ฟาดอริศัตรูพินาศสิ้น ดวงดาว จุดประกายความฝัน ตราบใดที่ดวงจันทร์ยังคงอยู่ ฉันก็จะยังคงอยู่คู่กับดวงจันทร์ สายน้ำ ช่วยหล่อเลี้ยงกายและใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⭕️เป็นทริปที่ประทับใจมากค่ะ ไกด์ก็น่ารักดูแลดีตลอดทริปค่ะ ⭕️

    💜 #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #เวียดนาม #เมืองซาปา จากคุณแพรววนิดนะคะ💜 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 67 - 2 ม.ค. 68 ที่ผ่านมานะคะ📍
    ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘

    อากาศในซาปา
    🌲ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม): อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าสดใส ดอกไม้บาน
    ☀️ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): อากาศอบอุ่น เป็นช่วงที่นาขั้นบันไดเขียวชอุ่ม
    🍂ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): นาขั้นบันไดเป็นสีทอง อากาศแห้งและเย็น
    ❄️ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): อากาศหนาวเย็น บางปีอาจมีหิมะ

    ดูทัวร์เวียดนามทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/32cd81

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : 78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก 78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire 78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire 78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire 78s.me/d43626
    Tiktok : 78s.me/903597
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์เวียดนาม #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk
    ⭕️เป็นทริปที่ประทับใจมากค่ะ ไกด์ก็น่ารักดูแลดีตลอดทริปค่ะ ⭕️ 💜 #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #เวียดนาม #เมืองซาปา จากคุณแพรววนิดนะคะ💜 เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 67 - 2 ม.ค. 68 ที่ผ่านมานะคะ📍 ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘 อากาศในซาปา 🌲ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม): อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าสดใส ดอกไม้บาน ☀️ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): อากาศอบอุ่น เป็นช่วงที่นาขั้นบันไดเขียวชอุ่ม 🍂ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน): นาขั้นบันไดเป็นสีทอง อากาศแห้งและเย็น ❄️ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): อากาศหนาวเย็น บางปีอาจมีหิมะ ดูทัวร์เวียดนามทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/32cd81 รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : 78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก 78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire 78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire 78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire 78s.me/d43626 Tiktok : 78s.me/903597 ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์เวียดนาม #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 722 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ”กับ‘วันชัย สอนศิริ ’มาตรฐานต่างกัน
    ราว “พญาเหยี่ยว”กับ‘นกกระจอก’
    .
    เรื่องของผม สนธิ ลิ้มทองกุลกับคุณวันชัย สอนศิริ ผมกลับมานอนคิดสะระตะแล้ว เฮ้ย! ความผิดอยู่ที่เรานี่หว่า ผมพลาดไปเองที่ใช้มาตรฐานผมเป็นตัวตั้ง แล้วผมก็หวังว่าคุณคงจะมีมาตรฐานเหมือนผม นี่คือข้อผิดพลาดในชีวิตของผม ผมเพิ่งจะรู้ว่ามาตรฐานของคุณกับผมมันห่างกันเหลือเกินเป็นพันๆ ลี้ อุปมาอุปไมยผมเหมือนพญาเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่คุณคือนกกระจอก นกกระจิบ ที่บินอยู่ข้างล่าง หากินกับไส้เดือนบนพื้นดิน
    .
    มาตรฐานของผมคือ “อะไรที่ถูกต้อง ผมไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว” จนวันนี้ก็ยังไม่ถอย ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง จากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยเปลี่ยน และผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
    .
    หลักการตรงนี้อยู่ติดตัวผมมานานแล้ว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ที่ผมสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำเรื่องน้องแตงโมนั้น ก็เพราะว่าหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ให้ประชาชนได้รับรู้อีกด้านหนึ่ง
    .
    คุณวันชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าผมสู้มาตั้งแต่ปี 2548 ยี่สิบปีแล้วที่ผมออกมาสู้ มาถึงวันนี้ ฝนตก แดดออก พายุเข้า พอทุกอย่างฟ้าใสแจ้งจางปาง พระอาทิตย์ออก ประชาชนเห็นว่าผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่คุณวันชัยต้องยอมรับกับผมนะว่า ประเทศไทยมีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่ยอมเสียหลักการของตัวเอง เพื่อเลียคนที่มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ผมไม่ทราบว่าคุณวันชัย เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า
    .
    ชีวิตผมอยู่ได้ด้วยความไม่กลัว ความกลัวคือความเสื่อม แล้วอีกอันหนึ่งที่ผมอยู่ได้เพราะ ธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ผมที่คุณดูถูก เยาะเย้ย เหยียดหยามหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “สนธิ ธรรมชนะอธรรม ชนะอวิชชา ธรรมจะใช้เวลานิดหนึ่ง” เหมือนกับที่ผมต้องใช้เวลาถึง 17 ปี ผมและพันธมิตรฯ ทุกคนถึงได้รับการนิรโทษกรรมทางใจว่าพวกผมสู้มาไม่ผิด แต่ต้องรอตั้ง 17 ปี กว่า "ธรรม" ที่หลวงตามหาบัวสอนผมมาเป็นความจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ธรรมนำหน้าของผมที่ต่อสู้กับเจ้านายคุณ คือทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นความจริงที่เถียงไม่ออก เพราะนายคุณยอมรับสารภาพในราชกิจจานุเบกษาว่าได้ทำผิดจริง ได้ฉ้อราษฎร์บังหลวงจริง 1..2..3..4.. ถึงโดนโทษจำคุก 8 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
    .
    ผมเป็นคนเชื่อในหลักนิติธรรม และผมเคารพในหลักนิติธรรม ไม่ยอมปฏิเสธ ไม่หลบหนี มาตรฐานของผมบอกว่า ขนาดผมยังยอมเดินเข้าคุก ไม่หนี ติดคุกอยู่ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา เนื่องในวาระของราชาภิเษก ให้รัชกาลที่ 10 ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ตอนนั้น ของผมถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คุณวันชัยครับ เผอิญว่านี่ก็คือมาตรฐานของผมอย่างหนึ่งเช่นกัน ยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง ผมไม่เคยต้องไปเลียรองเท้าของนายพลต่างๆ เพื่อให้นายพลตั้งตัวเองเป็น สว. พอเริ่มรู้ว่าตัวเองจะหมดอำนาจแล้วตั้งแต่สิงหาคม ก็เริ่มเลียการเมือง ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับคุณวันชัย อย่าเดือดร้อน
    .
    เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะไปตกลงอะไรกับทักษิณ ชินวัตร คุณตอบผมสักคำได้ไหมว่า นายใหม่คุณ เจ้าของคอกหมา ซึ่งคุณเข้าไปในคอกนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำอะไรให้บ้างตั้งแต่เขากลับมา นอกจากสร้างความวุ่นวายในเรื่องหลักนิติธรรมให้วุ่นวายทั่วประเทศ วิสัยทัศน์เขามีอะไร นอกจากการพนัน ตั้งบ่อนกาสิโน นอกจากแจกเงิน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่คุณบอกเป็นนารีกู้แผ่นดิน คุณวันชัยครับ ประชาชนเขาหัวเราะขำคำว่า "นารีกู้แผ่นดิน" ของคุณ
    .
    คุณวันชัย คุณเป็นทนาย คุณก็รู้ว่าในศาลเขาแพ้ชนะกันที่ประจักษ์พยานไม่ใช่หรือ แล้วคุณจะมาว่าผมสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร ตัววุ่นวายคือนายคุณ ที่สร้างความวุ่นวาย แล้วคุณก็เป็นลูกคู่ที่เข้าไปช่วยทำให้ความวุ่นวายนั้นมันวุ่นวายมากขึ้น
    .
    มาตรฐานผม ผมไม่เคยถอย คุณบอกคุณเป็นนักเลง นักเลงกล้าได้กล้าเสีย แต่ผมเป็นนักเลงโบราณซึ่งนักเลงทั่วๆไปไม่มี คือผมเป็นคนที่มีสัจจะที่มีคนเชื่อผมเป็นแสนๆเป็นล้านคนทุกวันนี้ คุณไม่ต้องท้าผม ถึงเวลา ถ้าจำเป็น ผมจะลงถนนแน่นอน ผมจะลงถนนแน่นอน ถ้าการกระทำของรัฐบาลนี้ส่อให้เกิดการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ ผมพร้อมเสมอ อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมเรียกคนไม่ได้ คุณจะลองมั้ย ถึงวันนั้นแล้วคุณอย่าเสียใจนะว่าคุณปากไม่ดี พูดไม่ดี คุณวันชัย อยากจะพล่ามอะไรก็พล่าม เพราะคุณจำเป็นต้องพล่ามให้มากๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายคุณ ว่าผมทำงานให้แล้วนะ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลถ้ามี ตั้งผมหน่อย
    .
    คุณจำไว้อย่างนะคุณวันชัย ผมไม่เคยเลียแข้งเลียขาใครเพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง อย่างเช่นเป็น สว. ไม่เคย ให้ตายสิ พอผมพูดถึงคุณแล้ว เขาหัวเราะกัน ประพันธ์ คูณมีบอกว่า พี่อย่าไปสนใจเลยไอ้คนประเภทนี้ คุณวันชัย เชิญคุณตามสบาย จะยั่วยุอย่างไร ยั่วยุไม่สำเร็จหรอก เพราะคุณกับผมมันคนละมาตรฐานกัน
    “สนธิ”กับ‘วันชัย สอนศิริ ’มาตรฐานต่างกัน ราว “พญาเหยี่ยว”กับ‘นกกระจอก’ . เรื่องของผม สนธิ ลิ้มทองกุลกับคุณวันชัย สอนศิริ ผมกลับมานอนคิดสะระตะแล้ว เฮ้ย! ความผิดอยู่ที่เรานี่หว่า ผมพลาดไปเองที่ใช้มาตรฐานผมเป็นตัวตั้ง แล้วผมก็หวังว่าคุณคงจะมีมาตรฐานเหมือนผม นี่คือข้อผิดพลาดในชีวิตของผม ผมเพิ่งจะรู้ว่ามาตรฐานของคุณกับผมมันห่างกันเหลือเกินเป็นพันๆ ลี้ อุปมาอุปไมยผมเหมือนพญาเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่คุณคือนกกระจอก นกกระจิบ ที่บินอยู่ข้างล่าง หากินกับไส้เดือนบนพื้นดิน . มาตรฐานของผมคือ “อะไรที่ถูกต้อง ผมไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว” จนวันนี้ก็ยังไม่ถอย ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง จากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยเปลี่ยน และผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ . หลักการตรงนี้อยู่ติดตัวผมมานานแล้ว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ที่ผมสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำเรื่องน้องแตงโมนั้น ก็เพราะว่าหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ให้ประชาชนได้รับรู้อีกด้านหนึ่ง . คุณวันชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าผมสู้มาตั้งแต่ปี 2548 ยี่สิบปีแล้วที่ผมออกมาสู้ มาถึงวันนี้ ฝนตก แดดออก พายุเข้า พอทุกอย่างฟ้าใสแจ้งจางปาง พระอาทิตย์ออก ประชาชนเห็นว่าผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่คุณวันชัยต้องยอมรับกับผมนะว่า ประเทศไทยมีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่ยอมเสียหลักการของตัวเอง เพื่อเลียคนที่มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ผมไม่ทราบว่าคุณวันชัย เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า . ชีวิตผมอยู่ได้ด้วยความไม่กลัว ความกลัวคือความเสื่อม แล้วอีกอันหนึ่งที่ผมอยู่ได้เพราะ ธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ผมที่คุณดูถูก เยาะเย้ย เหยียดหยามหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “สนธิ ธรรมชนะอธรรม ชนะอวิชชา ธรรมจะใช้เวลานิดหนึ่ง” เหมือนกับที่ผมต้องใช้เวลาถึง 17 ปี ผมและพันธมิตรฯ ทุกคนถึงได้รับการนิรโทษกรรมทางใจว่าพวกผมสู้มาไม่ผิด แต่ต้องรอตั้ง 17 ปี กว่า "ธรรม" ที่หลวงตามหาบัวสอนผมมาเป็นความจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ธรรมนำหน้าของผมที่ต่อสู้กับเจ้านายคุณ คือทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นความจริงที่เถียงไม่ออก เพราะนายคุณยอมรับสารภาพในราชกิจจานุเบกษาว่าได้ทำผิดจริง ได้ฉ้อราษฎร์บังหลวงจริง 1..2..3..4.. ถึงโดนโทษจำคุก 8 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว . ผมเป็นคนเชื่อในหลักนิติธรรม และผมเคารพในหลักนิติธรรม ไม่ยอมปฏิเสธ ไม่หลบหนี มาตรฐานของผมบอกว่า ขนาดผมยังยอมเดินเข้าคุก ไม่หนี ติดคุกอยู่ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา เนื่องในวาระของราชาภิเษก ให้รัชกาลที่ 10 ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ตอนนั้น ของผมถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คุณวันชัยครับ เผอิญว่านี่ก็คือมาตรฐานของผมอย่างหนึ่งเช่นกัน ยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง ผมไม่เคยต้องไปเลียรองเท้าของนายพลต่างๆ เพื่อให้นายพลตั้งตัวเองเป็น สว. พอเริ่มรู้ว่าตัวเองจะหมดอำนาจแล้วตั้งแต่สิงหาคม ก็เริ่มเลียการเมือง ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับคุณวันชัย อย่าเดือดร้อน . เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะไปตกลงอะไรกับทักษิณ ชินวัตร คุณตอบผมสักคำได้ไหมว่า นายใหม่คุณ เจ้าของคอกหมา ซึ่งคุณเข้าไปในคอกนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำอะไรให้บ้างตั้งแต่เขากลับมา นอกจากสร้างความวุ่นวายในเรื่องหลักนิติธรรมให้วุ่นวายทั่วประเทศ วิสัยทัศน์เขามีอะไร นอกจากการพนัน ตั้งบ่อนกาสิโน นอกจากแจกเงิน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่คุณบอกเป็นนารีกู้แผ่นดิน คุณวันชัยครับ ประชาชนเขาหัวเราะขำคำว่า "นารีกู้แผ่นดิน" ของคุณ . คุณวันชัย คุณเป็นทนาย คุณก็รู้ว่าในศาลเขาแพ้ชนะกันที่ประจักษ์พยานไม่ใช่หรือ แล้วคุณจะมาว่าผมสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร ตัววุ่นวายคือนายคุณ ที่สร้างความวุ่นวาย แล้วคุณก็เป็นลูกคู่ที่เข้าไปช่วยทำให้ความวุ่นวายนั้นมันวุ่นวายมากขึ้น . มาตรฐานผม ผมไม่เคยถอย คุณบอกคุณเป็นนักเลง นักเลงกล้าได้กล้าเสีย แต่ผมเป็นนักเลงโบราณซึ่งนักเลงทั่วๆไปไม่มี คือผมเป็นคนที่มีสัจจะที่มีคนเชื่อผมเป็นแสนๆเป็นล้านคนทุกวันนี้ คุณไม่ต้องท้าผม ถึงเวลา ถ้าจำเป็น ผมจะลงถนนแน่นอน ผมจะลงถนนแน่นอน ถ้าการกระทำของรัฐบาลนี้ส่อให้เกิดการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ ผมพร้อมเสมอ อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมเรียกคนไม่ได้ คุณจะลองมั้ย ถึงวันนั้นแล้วคุณอย่าเสียใจนะว่าคุณปากไม่ดี พูดไม่ดี คุณวันชัย อยากจะพล่ามอะไรก็พล่าม เพราะคุณจำเป็นต้องพล่ามให้มากๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายคุณ ว่าผมทำงานให้แล้วนะ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลถ้ามี ตั้งผมหน่อย . คุณจำไว้อย่างนะคุณวันชัย ผมไม่เคยเลียแข้งเลียขาใครเพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง อย่างเช่นเป็น สว. ไม่เคย ให้ตายสิ พอผมพูดถึงคุณแล้ว เขาหัวเราะกัน ประพันธ์ คูณมีบอกว่า พี่อย่าไปสนใจเลยไอ้คนประเภทนี้ คุณวันชัย เชิญคุณตามสบาย จะยั่วยุอย่างไร ยั่วยุไม่สำเร็จหรอก เพราะคุณกับผมมันคนละมาตรฐานกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 777 มุมมอง 0 รีวิว
  • กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังเผชิญกับปัญหามลพิษทางแสง! เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีโครงการพลังงานหมุนเวียนมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ที่กำลังจะสร้างใกล้กับหอดูดาว European Southern Observatory's Very Large Telescope (VLT) ในชิลี โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นถึง 10% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการสังเกตการณ์ของกล้องโทรทรรศน์ VLT อย่างมาก

    Xavier Barcons ผู้อำนวยการทั่วไปของ ESO บอกว่า การเพิ่มความสว่างของท้องฟ้าเพียง 10% อาจทำให้กล้องโทรทรรศน์ VLT สูญเสียความสามารถในการสังเกตการณ์กาแล็กซีที่จางที่สุดถึง 30% กล้องโทรทรรศน์ VLT มีความไวสูงมากและเคยทำการค้นพบที่น่าทึ่ง เช่น การถ่ายภาพตรงของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะและการเปิดเผยโครงสร้างของจักรวาล

    โครงการพลังงานหมุนเวียนนี้ชื่อว่า INNA Renewables Park ซึ่งวางแผนโดยบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ AES โครงการนี้จะครอบคลุมพื้นที่กว่า 7,400 เอเคอร์ในทะเลทราย Atacama ของชิลี และมีฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ ฟาร์มพลังงานลม และโรงงานผลิตไฮโดรเจน แต่โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นเหมือนกับเมืองที่มีประชากร 20,000 คน

    AES Corporation เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย AES เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยมีโรงไฟฟ้าทั่วโลกและให้บริการในกว่า 15 ประเทศ

    ESO ไม่ได้คัดค้านโครงการนี้ แต่ต้องการให้ AES สร้างโครงการนี้ให้ห่างจากหอดูดาวมากขึ้น การย้ายโครงการไปไกลออกไป 50 กิโลเมตรจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ นอกจากนี้ ESO ยังเรียกร้องให้มีการคุ้มครองทางกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นสำหรับท้องฟ้ายามค่ำคืนของชิลี โดยเฉพาะบริเวณหอดูดาวในทะเลทราย Atacama

    https://www.techspot.com/news/106412-world-largest-telescopes-threatened-renewable-energy-project-light.html
    กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังเผชิญกับปัญหามลพิษทางแสง! เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีโครงการพลังงานหมุนเวียนมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ที่กำลังจะสร้างใกล้กับหอดูดาว European Southern Observatory's Very Large Telescope (VLT) ในชิลี โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นถึง 10% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการสังเกตการณ์ของกล้องโทรทรรศน์ VLT อย่างมาก Xavier Barcons ผู้อำนวยการทั่วไปของ ESO บอกว่า การเพิ่มความสว่างของท้องฟ้าเพียง 10% อาจทำให้กล้องโทรทรรศน์ VLT สูญเสียความสามารถในการสังเกตการณ์กาแล็กซีที่จางที่สุดถึง 30% กล้องโทรทรรศน์ VLT มีความไวสูงมากและเคยทำการค้นพบที่น่าทึ่ง เช่น การถ่ายภาพตรงของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะและการเปิดเผยโครงสร้างของจักรวาล โครงการพลังงานหมุนเวียนนี้ชื่อว่า INNA Renewables Park ซึ่งวางแผนโดยบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ AES โครงการนี้จะครอบคลุมพื้นที่กว่า 7,400 เอเคอร์ในทะเลทราย Atacama ของชิลี และมีฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ ฟาร์มพลังงานลม และโรงงานผลิตไฮโดรเจน แต่โครงการนี้อาจทำให้ท้องฟ้าสว่างขึ้นเหมือนกับเมืองที่มีประชากร 20,000 คน AES Corporation เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย AES เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยมีโรงไฟฟ้าทั่วโลกและให้บริการในกว่า 15 ประเทศ ESO ไม่ได้คัดค้านโครงการนี้ แต่ต้องการให้ AES สร้างโครงการนี้ให้ห่างจากหอดูดาวมากขึ้น การย้ายโครงการไปไกลออกไป 50 กิโลเมตรจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ นอกจากนี้ ESO ยังเรียกร้องให้มีการคุ้มครองทางกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นสำหรับท้องฟ้ายามค่ำคืนของชิลี โดยเฉพาะบริเวณหอดูดาวในทะเลทราย Atacama https://www.techspot.com/news/106412-world-largest-telescopes-threatened-renewable-energy-project-light.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    World's largest telescopes threatened by light pollution
    European Southern Observatory Director General Xavier Barcons told Space.com that astronomers expect the project to brighten the sky by up to 10 percent around the observatory. Such...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • รำลึกวันครู 16 มค. 2568

    ครูครับ ผมให้อภัยครับ

    ย้อนกลับไปราวปี 2530 ข้าพเจ้าอยู่ ป.5 ข้าพเจ้าชอบวาดรูปมาก และเป็นอย่างหนึ่งที่รู้สึกว่าทำได้ดีมาก ก่อนจะขึ้น ป.5 ผลงานวาดรูปของข้าพเจ้า มักจะได้ขึ้นโชว์บนบอร์ดของโรงเรียนอยู่ประจำ มันทำให้ข้าพเจ้าภูมิใจมาก เมื่อขึ้น ป.5 ครูสอนวาดรูปไม่ใช่คนเดิม แต่เป็นครูพละมาสอน

    เมื่อครูพละมาสอนวาดรูป ครูไม่ได้สอนอะไร พวกเรามักจะได้เล่นในห้อง ส่วนข้าพเจ้ามักจะวาดรูปอะไรไปเรื่อย แต่ช่วงท้ายครูจะสั่งการบ้าน การบ้านแรก คือ ครูสั่งให้วาดรูปอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ ภูเขา กับ พระอาทิตย์ ข้าพเจ้าได้เล็งไว้แล้วว่าจะวาดรูปทุ่งนาเหลืองอร่ามสุดลูกหูลูกตา ตัดกับท้องฟ้าสีส้มแเดงยามเย็น ซึ่งเป็นทิวทัศน์จริงแถวบ้าน วันนั้นเป็นวันเสาร์ ข้าพเจ้าขี่จักรยานไปร่างภาพจากสถานที่จริง และพยายามจดจำรายละเอียด สีสันเบื้องหน้า ก่อนจะกลับมาลงสีน้ำที่บ้านในวันอาทิตย์ ซึ่งได้นัดเพื่อนๆ ไว้ มาวาดรูปส่งครูด้วยกัน

    ในตอนเช้าวันอาทิตย์ เพื่อนมารวมตัว และเริ่มวาดรูปกัน เมื่อเพื่อนๆ เห็นภาพวาดของข้าพเจ้า ทุกคนก็ท้วงติง เพราะมีภาพดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าปลายนา ข้าพเจ้าก็บอกเพื่อนว่า ถ้ามาดูทุ่งนาตรงนี้ เวลานี้ จะเห็นพระอาทิตย์ตกดินเสมอ ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่ได้สนใจทั้งภูเขาหรือพระอาทิตย์ เพราะเพลิดเพลินกับการผสมสี ลงสี โดยหารู้ไม่ว่า นี้จะเป็นภาพสุดท้ายที่ข้าพเจ้าวาด ในระหว่างวาดรูปลงสี ก็จะมีผู้ใหญ่แวะเวียนมาดู ส่วนใหญ่ก็จะชมข้าพเจ้า ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าตั้งใจใหญ่เลย

    เมื่อถึงวันที่ต้องส่งงานข้าพเจ้าเดินไปโรงเรียน โดยเอาภาพวาดออกข้างหน้า เพื่อจะให้ทุกคนเห็นและชม พลางฝันไปว่า ภาพวาดจะได้ขึ้นบอร์ดอีก ที่หน้าโรงเรียน คุณครูที่รอรับนักเรียนชื่นชมภาพวาดที่ข้าพเจ้าอวด เมื่อถึงห้องเรียน เพื่อนๆ ที่ยังไม่เห็นต่างมาดูภาพวาดและชื่นชมว่าวาดสวย แต่ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าครูไม่ให้วาดพระอาทิตย์ ข้าพเจ้าเริ่มหวั่นใจ เพราะเป็นคนเดียวที่มีพระอาทิตย์ เมื่อครูพละสอนวาดรูปเข้ามา ครูให้นักเรียนเข้าแถวเพื่อส่งภาพให้ครูดู ครูพิจารณา และให้คะแนน โดยเขียนไปบนภาพ คะแนนเต็ม 10 เพื่อนๆ ที่ส่งก่อนหน้าข้าพเจ้า ต่างได้คะแนน อยู่ในช่วง 6-8 คะแนน เมื่อใกล้ถึง ข้าพเจ้าเริ่มใจไม่ดี บรรยากาศในห้องเรียนออกจะเจี๊ยวจ๊าว เพื่อนที่ส่งแล้ว ก็ไปคุยเล่นกัน เพื่อนที่ได้คะแนนสูงก็เอาไปอวดเพื่อนคนอื่นๆ ครูไม่มองนักเรียน ดูแต่ภาพวาดแล้วให้คะแนน โดยไม่พูดอะไร

    เมื่อข้าพเจ้ายื่นภาพวาดให้ครูดู ครูเงยหน้ามอง ข้าพเจ้ารู้ได้ทันทีว่าผิดไปแล้ว ครูตบโต๊ะ ห้องเงียบสนิท ข้าพเจ้าสะดุ้งกลัว ครูดุว่า "ก็บอกแล้ว ไม่ให้วาดรูปพระอาทิตย์ " ข้าพเจ้าก้มหน้ากลัวจับใจ อยากจะร้องไห้ แต่กลั้นไว้ ครูเขียนคะแนน 4 ข้าพเจ้าสูญเสียความมั่นใจ เดินซึมๆ กลับมาที่โต๊ะ เพื่อนมองตาม เมื่อข้าพเจ้านั่งลง ความเจี๊ยวจ๊าวกลับมา

    ในตอนนั้นข้าพเจ้าไม่นึกโกรธครูเลย แค่เลิกสนใจวาดรูป แค่ทำตามที่ครูสั่ง ครูให้วาดไก่ ข้าพเจ้าก็วาดแค่ไก่ โดยไม่ใส่จินตนาการหรือรายละเอียดอย่างอื่นลงไป ไม่ชวนเพื่อนมาวาดรูปด้วยกันอีกเลย หยุดวาดรูปนอกเวลาไปเลย เมื่อเดินผ่านบอร์ดที่ติดภาพวาด ข้าพเจ้าไม่เหลียวมอง เอาเข้าจริง ข้าพเจ้ายังชอบการวาดรูปอยู่ แต่กลัวเกินกว่าที่จะวาด

    ความโกรธมาเกิดขึ้นเมื่อผ่านมาหลายปีแล้ว จะเป็นความรู้สึกแบบ เวลาเห็นผู้ใหญ่ทำร้ายเด็ก ทำนอง "เฮ้ย! ทำแบบนั้นกับเด็กได้อย่างไงวะ" แล้วก็คิดเลยไปว่า ครูเอาหลักอะไรมาตัดสิน เป็นครูพละนะ ครูไม่เคยสอนการวาดรูปซักครั้ง ครูทำกับผมแบบนั้นได้อย่างไร แค่ครูก้มหน้า ให้คะแนนไป ไม่พูดอะไร มันคงแตกต่างกว่านี้ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นคำถามที่เกิดขึ้นภายหลัง ข้าพเจ้าทั้งโกรธและเจ็บในหัวใจ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้

    ครูครับ ตอนนี้ผมไม่โกรธครูแล้วครับ แต่ผมก็ไม่เคยวาดรูปอีกเลยครับ ผมเติบโตและฝึกฝนทักษะด้านอื่น แต่ผมยังชอบศิลปะเหมือนเดิมครับ ผ่านการชมและสัมผัสด้วยหัวใจครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ผมผ่านมันไปไม่ได้ เพราะตอนนั้นผมเด็กเกินไป ครูเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย ครูทำลายทักษะการวาดของผม ขณะเดียวกันก็สร้างให้ผมไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคในอนาคตข้างหน้า ผมไม่ขอบคุณครูนะครับ เพราะครูไม่ได้ตั้งใจสอนในเรื่องนี้ ผมเรียนรู้ของผมเอง แต่ผมให้อภัยครับครู
    รำลึกวันครู 16 มค. 2568 ครูครับ ผมให้อภัยครับ ย้อนกลับไปราวปี 2530 ข้าพเจ้าอยู่ ป.5 ข้าพเจ้าชอบวาดรูปมาก และเป็นอย่างหนึ่งที่รู้สึกว่าทำได้ดีมาก ก่อนจะขึ้น ป.5 ผลงานวาดรูปของข้าพเจ้า มักจะได้ขึ้นโชว์บนบอร์ดของโรงเรียนอยู่ประจำ มันทำให้ข้าพเจ้าภูมิใจมาก เมื่อขึ้น ป.5 ครูสอนวาดรูปไม่ใช่คนเดิม แต่เป็นครูพละมาสอน เมื่อครูพละมาสอนวาดรูป ครูไม่ได้สอนอะไร พวกเรามักจะได้เล่นในห้อง ส่วนข้าพเจ้ามักจะวาดรูปอะไรไปเรื่อย แต่ช่วงท้ายครูจะสั่งการบ้าน การบ้านแรก คือ ครูสั่งให้วาดรูปอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ ภูเขา กับ พระอาทิตย์ ข้าพเจ้าได้เล็งไว้แล้วว่าจะวาดรูปทุ่งนาเหลืองอร่ามสุดลูกหูลูกตา ตัดกับท้องฟ้าสีส้มแเดงยามเย็น ซึ่งเป็นทิวทัศน์จริงแถวบ้าน วันนั้นเป็นวันเสาร์ ข้าพเจ้าขี่จักรยานไปร่างภาพจากสถานที่จริง และพยายามจดจำรายละเอียด สีสันเบื้องหน้า ก่อนจะกลับมาลงสีน้ำที่บ้านในวันอาทิตย์ ซึ่งได้นัดเพื่อนๆ ไว้ มาวาดรูปส่งครูด้วยกัน ในตอนเช้าวันอาทิตย์ เพื่อนมารวมตัว และเริ่มวาดรูปกัน เมื่อเพื่อนๆ เห็นภาพวาดของข้าพเจ้า ทุกคนก็ท้วงติง เพราะมีภาพดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าปลายนา ข้าพเจ้าก็บอกเพื่อนว่า ถ้ามาดูทุ่งนาตรงนี้ เวลานี้ จะเห็นพระอาทิตย์ตกดินเสมอ ตอนนั้นข้าพเจ้าไม่ได้สนใจทั้งภูเขาหรือพระอาทิตย์ เพราะเพลิดเพลินกับการผสมสี ลงสี โดยหารู้ไม่ว่า นี้จะเป็นภาพสุดท้ายที่ข้าพเจ้าวาด ในระหว่างวาดรูปลงสี ก็จะมีผู้ใหญ่แวะเวียนมาดู ส่วนใหญ่ก็จะชมข้าพเจ้า ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าตั้งใจใหญ่เลย เมื่อถึงวันที่ต้องส่งงานข้าพเจ้าเดินไปโรงเรียน โดยเอาภาพวาดออกข้างหน้า เพื่อจะให้ทุกคนเห็นและชม พลางฝันไปว่า ภาพวาดจะได้ขึ้นบอร์ดอีก ที่หน้าโรงเรียน คุณครูที่รอรับนักเรียนชื่นชมภาพวาดที่ข้าพเจ้าอวด เมื่อถึงห้องเรียน เพื่อนๆ ที่ยังไม่เห็นต่างมาดูภาพวาดและชื่นชมว่าวาดสวย แต่ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าครูไม่ให้วาดพระอาทิตย์ ข้าพเจ้าเริ่มหวั่นใจ เพราะเป็นคนเดียวที่มีพระอาทิตย์ เมื่อครูพละสอนวาดรูปเข้ามา ครูให้นักเรียนเข้าแถวเพื่อส่งภาพให้ครูดู ครูพิจารณา และให้คะแนน โดยเขียนไปบนภาพ คะแนนเต็ม 10 เพื่อนๆ ที่ส่งก่อนหน้าข้าพเจ้า ต่างได้คะแนน อยู่ในช่วง 6-8 คะแนน เมื่อใกล้ถึง ข้าพเจ้าเริ่มใจไม่ดี บรรยากาศในห้องเรียนออกจะเจี๊ยวจ๊าว เพื่อนที่ส่งแล้ว ก็ไปคุยเล่นกัน เพื่อนที่ได้คะแนนสูงก็เอาไปอวดเพื่อนคนอื่นๆ ครูไม่มองนักเรียน ดูแต่ภาพวาดแล้วให้คะแนน โดยไม่พูดอะไร เมื่อข้าพเจ้ายื่นภาพวาดให้ครูดู ครูเงยหน้ามอง ข้าพเจ้ารู้ได้ทันทีว่าผิดไปแล้ว ครูตบโต๊ะ ห้องเงียบสนิท ข้าพเจ้าสะดุ้งกลัว ครูดุว่า "ก็บอกแล้ว ไม่ให้วาดรูปพระอาทิตย์ " ข้าพเจ้าก้มหน้ากลัวจับใจ อยากจะร้องไห้ แต่กลั้นไว้ ครูเขียนคะแนน 4 ข้าพเจ้าสูญเสียความมั่นใจ เดินซึมๆ กลับมาที่โต๊ะ เพื่อนมองตาม เมื่อข้าพเจ้านั่งลง ความเจี๊ยวจ๊าวกลับมา ในตอนนั้นข้าพเจ้าไม่นึกโกรธครูเลย แค่เลิกสนใจวาดรูป แค่ทำตามที่ครูสั่ง ครูให้วาดไก่ ข้าพเจ้าก็วาดแค่ไก่ โดยไม่ใส่จินตนาการหรือรายละเอียดอย่างอื่นลงไป ไม่ชวนเพื่อนมาวาดรูปด้วยกันอีกเลย หยุดวาดรูปนอกเวลาไปเลย เมื่อเดินผ่านบอร์ดที่ติดภาพวาด ข้าพเจ้าไม่เหลียวมอง เอาเข้าจริง ข้าพเจ้ายังชอบการวาดรูปอยู่ แต่กลัวเกินกว่าที่จะวาด ความโกรธมาเกิดขึ้นเมื่อผ่านมาหลายปีแล้ว จะเป็นความรู้สึกแบบ เวลาเห็นผู้ใหญ่ทำร้ายเด็ก ทำนอง "เฮ้ย! ทำแบบนั้นกับเด็กได้อย่างไงวะ" แล้วก็คิดเลยไปว่า ครูเอาหลักอะไรมาตัดสิน เป็นครูพละนะ ครูไม่เคยสอนการวาดรูปซักครั้ง ครูทำกับผมแบบนั้นได้อย่างไร แค่ครูก้มหน้า ให้คะแนนไป ไม่พูดอะไร มันคงแตกต่างกว่านี้ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นคำถามที่เกิดขึ้นภายหลัง ข้าพเจ้าทั้งโกรธและเจ็บในหัวใจ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ครูครับ ตอนนี้ผมไม่โกรธครูแล้วครับ แต่ผมก็ไม่เคยวาดรูปอีกเลยครับ ผมเติบโตและฝึกฝนทักษะด้านอื่น แต่ผมยังชอบศิลปะเหมือนเดิมครับ ผ่านการชมและสัมผัสด้วยหัวใจครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ผมผ่านมันไปไม่ได้ เพราะตอนนั้นผมเด็กเกินไป ครูเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย ครูทำลายทักษะการวาดของผม ขณะเดียวกันก็สร้างให้ผมไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคในอนาคตข้างหน้า ผมไม่ขอบคุณครูนะครับ เพราะครูไม่ได้ตั้งใจสอนในเรื่องนี้ ผมเรียนรู้ของผมเอง แต่ผมให้อภัยครับครู
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 446 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1 วัน ที่น่านฟ้าไทย จะสานฝันเด็กไทย
    สู่การผจญภัยไม่รู้จบ 👦🏻👧🏻💂‍♂️✈️✨
    Thailand National Children's Day 🇹🇭✨
    #ท้องฟ้ากว้างใหญ่แต่ไม่ไกลเกินฝัน
    #วันเด็กแห่งชาติ #RTAF
    1 วัน ที่น่านฟ้าไทย จะสานฝันเด็กไทย สู่การผจญภัยไม่รู้จบ 👦🏻👧🏻💂‍♂️✈️✨ Thailand National Children's Day 🇹🇭✨ #ท้องฟ้ากว้างใหญ่แต่ไม่ไกลเกินฝัน #วันเด็กแห่งชาติ #RTAF
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 494 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอิหร่านทำการติดตั้งระบบเรดาร์ป้องกันภัย "นาซีร์" (Nazir) เหนือขอบฟ้าในจังหวัดกิลานเนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น

    เรดาร์นี้มีระยะการทำงาน 800 กม. และจะคอยเฝ้าติดตามท้องฟ้าของอาเซอร์ไบจานและตุรกีตะวันออก

    การติดตั้งดังกล่าวเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในความเคลื่อนไหวของอิหร่านที่มีต่ออาเซอร์ไบจาน

    ที่ผ่านมาอิสราเอลมีความสัมพันธ์ในแบบเงียบๆ แต่แข็งแกร่งกับอาเซอร์ไบจานโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนการป้องกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อิหร่านพยายามเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ

    โดยล่าสุดอดีตประธานาธิบดีอิหร่าน "ไรซี" เดินทางไปอาเซอร์ไบจาน และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกระหว่างเดินทางกลับเตหะราน
    กองทัพอิหร่านทำการติดตั้งระบบเรดาร์ป้องกันภัย "นาซีร์" (Nazir) เหนือขอบฟ้าในจังหวัดกิลานเนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น เรดาร์นี้มีระยะการทำงาน 800 กม. และจะคอยเฝ้าติดตามท้องฟ้าของอาเซอร์ไบจานและตุรกีตะวันออก การติดตั้งดังกล่าวเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในความเคลื่อนไหวของอิหร่านที่มีต่ออาเซอร์ไบจาน ที่ผ่านมาอิสราเอลมีความสัมพันธ์ในแบบเงียบๆ แต่แข็งแกร่งกับอาเซอร์ไบจานโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนการป้องกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อิหร่านพยายามเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ โดยล่าสุดอดีตประธานาธิบดีอิหร่าน "ไรซี" เดินทางไปอาเซอร์ไบจาน และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกระหว่างเดินทางกลับเตหะราน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts