• 10 ข่าวเด่นต่างประเทศปี 2025 : คนเคาะข่าว 22-12-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=swA8syWDGU8
    10 ข่าวเด่นต่างประเทศปี 2025 : คนเคาะข่าว 22-12-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ . https://www.youtube.com/watch?v=swA8syWDGU8
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีอากาศยานเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮ.ท.212 ของกองทัพบก ประสบเหตุจำเป็นต้องลงฉุกเฉิน ขณะร่อนลง ณ สนามบินสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลาประมาณ 17.19 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2568

    จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลประจำอากาศยานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยรวม 4 นาย เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์และให้การช่วยเหลือโดยทันที ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด

    ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และอาการโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย

    ทั้งนี้ สาเหตุของเหตุการณ์อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ตามระเบียบและขั้นตอนของกองทัพบก เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นธรรมในทุกมิติ โดยกองทัพภาคที่ 2 จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123388

    #News1live #News1 #กองทัพภาคที่2 #ฮ.เบลล์212 #สุรินทร์
    กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีอากาศยานเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮ.ท.212 ของกองทัพบก ประสบเหตุจำเป็นต้องลงฉุกเฉิน ขณะร่อนลง ณ สนามบินสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลาประมาณ 17.19 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2568 จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลประจำอากาศยานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยรวม 4 นาย เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์และให้การช่วยเหลือโดยทันที ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และอาการโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ทั้งนี้ สาเหตุของเหตุการณ์อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ตามระเบียบและขั้นตอนของกองทัพบก เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นธรรมในทุกมิติ โดยกองทัพภาคที่ 2 จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123388 #News1live #News1 #กองทัพภาคที่2 #ฮ.เบลล์212 #สุรินทร์
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • ผู้บัญชาการทหารบก สดุดีและเชิดชูเกียรติกำลังพลทุกนาย ที่อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เพื่อพิทักษ์รักษาอธิปไตย ความมั่นคง และความปลอดภัยของประเทศชาติ พร้อมย้ำให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับดูแลกำลังพลและครอบครัวอย่างดีที่สุด ยึดหลัก “ทุกคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน”

    การกล่าวเน้นย้ำดังกล่าว มีขึ้นในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ครั้งที่ 3/2569 โดยผู้บัญชาการทหารบกได้แสดงความห่วงใยต่อกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติภารกิจ รวมถึงครอบครัวของผู้เสียสละ พร้อมขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ควบคู่กับการดูแลประชาชน และร่วมกันป้องกันไม่ให้วาทกรรมบิดเบือนสร้างความแตกแยกในสังคม

    ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2569 ผู้บัญชาการทหารบกได้อำนวยพรให้กำลังพลและครอบครัวทุกนายประสบความสุข มีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังกาย กำลังใจ และความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานตลอดปีใหม่

    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123390

    #News1live #News1 #กองทัพบก #ผบ.ทบ. #กำลังพล
    ผู้บัญชาการทหารบก สดุดีและเชิดชูเกียรติกำลังพลทุกนาย ที่อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เพื่อพิทักษ์รักษาอธิปไตย ความมั่นคง และความปลอดภัยของประเทศชาติ พร้อมย้ำให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับดูแลกำลังพลและครอบครัวอย่างดีที่สุด ยึดหลัก “ทุกคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน” การกล่าวเน้นย้ำดังกล่าว มีขึ้นในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ครั้งที่ 3/2569 โดยผู้บัญชาการทหารบกได้แสดงความห่วงใยต่อกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติภารกิจ รวมถึงครอบครัวของผู้เสียสละ พร้อมขอให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ควบคู่กับการดูแลประชาชน และร่วมกันป้องกันไม่ให้วาทกรรมบิดเบือนสร้างความแตกแยกในสังคม ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2569 ผู้บัญชาการทหารบกได้อำนวยพรให้กำลังพลและครอบครัวทุกนายประสบความสุข มีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังกาย กำลังใจ และความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานตลอดปีใหม่ อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123390 #News1live #News1 #กองทัพบก #ผบ.ทบ. #กำลังพล
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • ตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการทลายโกดังพักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ย่านพุทธมณฑลสาย 2 หลังผู้เสียหายแจ้งความรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ถูกลักขโมย ก่อนสืบสวนพบสัญญาณ GPS ชี้เป้าถึงโกดังดังกล่าว

    เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย พร้อมรถต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 10 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คาดเป็นรถที่ถูกลักขโมยมาแล้วรอส่งต่อไปขายตามแนวชายแดนเมียนมา

    เบื้องต้นจับกุมชายวัย 36 ปี ทำหน้าที่ดูแลโกดัง ดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์หรือลักของโจร” พร้อมยึดรถของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ขยายผลหาขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป

    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123383

    #News1live #News1 #ตำรวจนครบาล #รถจักรยานยนต์หาย #พุทธมณฑลสาย2 #ชายแดนพม่า
    ตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการทลายโกดังพักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ย่านพุทธมณฑลสาย 2 หลังผู้เสียหายแจ้งความรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ถูกลักขโมย ก่อนสืบสวนพบสัญญาณ GPS ชี้เป้าถึงโกดังดังกล่าว เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย พร้อมรถต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 10 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คาดเป็นรถที่ถูกลักขโมยมาแล้วรอส่งต่อไปขายตามแนวชายแดนเมียนมา เบื้องต้นจับกุมชายวัย 36 ปี ทำหน้าที่ดูแลโกดัง ดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์หรือลักของโจร” พร้อมยึดรถของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ขยายผลหาขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123383 #News1live #News1 #ตำรวจนครบาล #รถจักรยานยนต์หาย #พุทธมณฑลสาย2 #ชายแดนพม่า
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • “อาจารย์ช้าง” ออกโรงวิจารณ์ระบบการศึกษาไทย หลังพบข้อสอบแข่งขันวิทยาศาสตร์ระดับ ป.5 ใช้เนื้อหาฟิสิกส์ ม.4 ทั้งการแตกแรงเวกเตอร์ กฎของนิวตัน และตรีโกณมิติ ชี้ไม่ใช่ความเก่งของเด็ก แต่คือความล้มเหลวของผู้ใหญ่ที่ออกแบบการวัดผลผิดวัย

    อาจารย์ช้างระบุ ข้อสอบลักษณะนี้ไม่ได้วัดไหวพริบหรือการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ แต่กำลังวัดเพียงว่า “ใครมีเงินเรียนพิเศษล่วงหน้าได้มากกว่า” ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ และเปลี่ยนสนามแข่งขันทางปัญญาให้กลายเป็นการแข่งขันทางฐานะครอบครัว

    พร้อมเตือนว่าการออกข้อสอบยากเกินหลักสูตร คือวิธีที่มักง่ายที่สุดของผู้ออกข้อสอบ และกำลังทำลายทั้งความมั่นใจ ความรักในการเรียนรู้ และความเชื่อของเด็กว่า ความพยายามมีความหมาย

    อาจารย์ช้างย้ำว่า การศึกษาที่ดีไม่ใช่ทำให้เด็ก “อึ้ง” แต่ต้องทำให้เด็ก “คิดได้” ในระดับวัยของเขา หากระบบยังยึดติดว่าข้อสอบยากคือเด็กเก่ง สังคมอาจได้ผู้ใหญ่ที่ท่องสูตรได้เร็ว แต่ไม่เข้าใจความยุติธรรมของสังคมในวันข้างหน้า

    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123397

    #News1live #News1 #การศึกษาไทย #ข้อสอบผิดวัย #ความเหลื่อมล้ำ #เด็กไม่ใช่ปัญหา
    “อาจารย์ช้าง” ออกโรงวิจารณ์ระบบการศึกษาไทย หลังพบข้อสอบแข่งขันวิทยาศาสตร์ระดับ ป.5 ใช้เนื้อหาฟิสิกส์ ม.4 ทั้งการแตกแรงเวกเตอร์ กฎของนิวตัน และตรีโกณมิติ ชี้ไม่ใช่ความเก่งของเด็ก แต่คือความล้มเหลวของผู้ใหญ่ที่ออกแบบการวัดผลผิดวัย อาจารย์ช้างระบุ ข้อสอบลักษณะนี้ไม่ได้วัดไหวพริบหรือการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ แต่กำลังวัดเพียงว่า “ใครมีเงินเรียนพิเศษล่วงหน้าได้มากกว่า” ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ และเปลี่ยนสนามแข่งขันทางปัญญาให้กลายเป็นการแข่งขันทางฐานะครอบครัว พร้อมเตือนว่าการออกข้อสอบยากเกินหลักสูตร คือวิธีที่มักง่ายที่สุดของผู้ออกข้อสอบ และกำลังทำลายทั้งความมั่นใจ ความรักในการเรียนรู้ และความเชื่อของเด็กว่า ความพยายามมีความหมาย อาจารย์ช้างย้ำว่า การศึกษาที่ดีไม่ใช่ทำให้เด็ก “อึ้ง” แต่ต้องทำให้เด็ก “คิดได้” ในระดับวัยของเขา หากระบบยังยึดติดว่าข้อสอบยากคือเด็กเก่ง สังคมอาจได้ผู้ใหญ่ที่ท่องสูตรได้เร็ว แต่ไม่เข้าใจความยุติธรรมของสังคมในวันข้างหน้า อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123397 #News1live #News1 #การศึกษาไทย #ข้อสอบผิดวัย #ความเหลื่อมล้ำ #เด็กไม่ใช่ปัญหา
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • แบตเตอรี่ยักษ์เปลี่ยนโลกพลังงาน: จากการทดลองกลางทะเลทราย สู่โครงข่ายไฟฟ้าทั่วโลก

    ลิเธียมไอออนเคยเป็นเทคโนโลยีที่ถูกมองว่า “แพงและเสี่ยงเกินไป” สำหรับระบบไฟฟ้า แต่วันนี้มันกลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงข่ายพลังงานทั่วโลก แบตเตอรี่ขนาดเท่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกติดตั้งข้างฟาร์มโซลาร์และกังหันลม เพื่อกักเก็บพลังงานในช่วงที่ผลิตได้มาก และปล่อยออกมาในช่วงที่ความต้องการพุ่งสูง ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับอย่างมีนัยสำคัญ

    จุดเปลี่ยนสำคัญเริ่มขึ้นกว่า 15 ปีก่อน เมื่อทีมวิศวกรของบริษัท AES ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชุดแรกในทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี บนพื้นที่สูงเกือบ 9,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล การทดลองนี้พิสูจน์ว่าแบตเตอรี่สามารถทำงานร่วมกับโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตอบสนองช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าที่เคยล้มเหลวจากความต้องการพลังงานที่ผันผวนของเหมืองแร่

    ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์ข้อมูลทั่วโลก รวมถึงการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน ทำให้แบตเตอรี่กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานจำเป็น” ไม่ใช่แค่ตัวเลือกอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น แคลิฟอร์เนียสามารถลดการประกาศเตือนประชาชนให้ประหยัดไฟในฤดูร้อนลงได้อย่างมาก เพราะมีแบตเตอรี่ช่วยเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้ในช่วงค่ำ ขณะที่ราคาของแบตเตอรี่ลดลงถึง 90% ในรอบ 15 ปี ทำให้หลายประเทศเร่งติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่

    แม้จะมีความสำเร็จ แต่ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงอยู่ โดยเฉพาะเหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ เช่น เหตุการณ์ในมอนเทอเรย์ เคาน์ตี ที่ทำให้เกิดควันพิษ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าระบบรุ่นใหม่ปลอดภัยกว่าเดิมมาก และส่วนใหญ่ติดตั้งกลางแจ้งเพื่อลดความเสี่ยงการลุกลามของไฟ ปัจจุบันประเทศต่างๆ ตั้งแต่ชิลี ออสเตรเลีย จนถึงจีนและอินเดีย ต่างเร่งขยายการใช้แบตเตอรี่เพื่อรองรับพลังงานสะอาดในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบไฟฟ้า
    ใช้กักเก็บพลังงานจากโซลาร์และลมเพื่อใช้ในช่วงความต้องการสูง
    ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับ

    จุดเริ่มต้นสำคัญเกิดขึ้นที่ทะเลทรายอาตากามาในชิลี
    การติดตั้งแบตเตอรี่ครั้งแรกพิสูจน์ว่าระบบไฟฟ้าสามารถเสถียรขึ้นได้อย่างมาก
    แบตเตอรี่ตอบสนองเร็วกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เวลาสตาร์ทถึง 12 นาที

    ราคาลดลง 90% ทำให้การใช้งานทั่วโลกพุ่งสูง
    แคลิฟอร์เนียเพิ่มความจุแบตเตอรี่ 30 เท่าใน 7 ปี
    จีนเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุด แต่ยุโรป อินเดีย และสหรัฐฯ กำลังเร่งผลิตตาม

    ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงเป็นอุปสรรค
    เหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ทำให้ชุมชนบางแห่งต่อต้านการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
    แบตเตอรี่รุ่นเก่ามีความเสี่ยงลุกลามไฟสูงกว่ารุ่นใหม่ที่ออกแบบให้ปลอดภัยกว่า

    การยอมรับของผู้ให้บริการไฟฟ้ายังไม่ทั่วถึง
    ผู้ให้บริการในบางรัฐของสหรัฐฯ ยังลังเลเพราะขาดประสบการณ์กับระบบกักเก็บพลังงาน
    ความคุ้นชินกับโรงไฟฟ้าแบบเดิมทำให้บางองค์กรต่อต้านเทคโนโลยีใหม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/once-a-gamble-in-the-desert-electric-grid-batteries-are-everywhere
    ⚡ แบตเตอรี่ยักษ์เปลี่ยนโลกพลังงาน: จากการทดลองกลางทะเลทราย สู่โครงข่ายไฟฟ้าทั่วโลก ลิเธียมไอออนเคยเป็นเทคโนโลยีที่ถูกมองว่า “แพงและเสี่ยงเกินไป” สำหรับระบบไฟฟ้า แต่วันนี้มันกลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงข่ายพลังงานทั่วโลก แบตเตอรี่ขนาดเท่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกติดตั้งข้างฟาร์มโซลาร์และกังหันลม เพื่อกักเก็บพลังงานในช่วงที่ผลิตได้มาก และปล่อยออกมาในช่วงที่ความต้องการพุ่งสูง ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับอย่างมีนัยสำคัญ จุดเปลี่ยนสำคัญเริ่มขึ้นกว่า 15 ปีก่อน เมื่อทีมวิศวกรของบริษัท AES ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชุดแรกในทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี บนพื้นที่สูงเกือบ 9,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล การทดลองนี้พิสูจน์ว่าแบตเตอรี่สามารถทำงานร่วมกับโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตอบสนองช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าที่เคยล้มเหลวจากความต้องการพลังงานที่ผันผวนของเหมืองแร่ ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์ข้อมูลทั่วโลก รวมถึงการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน ทำให้แบตเตอรี่กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานจำเป็น” ไม่ใช่แค่ตัวเลือกอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น แคลิฟอร์เนียสามารถลดการประกาศเตือนประชาชนให้ประหยัดไฟในฤดูร้อนลงได้อย่างมาก เพราะมีแบตเตอรี่ช่วยเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้ในช่วงค่ำ ขณะที่ราคาของแบตเตอรี่ลดลงถึง 90% ในรอบ 15 ปี ทำให้หลายประเทศเร่งติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ แม้จะมีความสำเร็จ แต่ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงอยู่ โดยเฉพาะเหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ เช่น เหตุการณ์ในมอนเทอเรย์ เคาน์ตี ที่ทำให้เกิดควันพิษ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าระบบรุ่นใหม่ปลอดภัยกว่าเดิมมาก และส่วนใหญ่ติดตั้งกลางแจ้งเพื่อลดความเสี่ยงการลุกลามของไฟ ปัจจุบันประเทศต่างๆ ตั้งแต่ชิลี ออสเตรเลีย จนถึงจีนและอินเดีย ต่างเร่งขยายการใช้แบตเตอรี่เพื่อรองรับพลังงานสะอาดในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบไฟฟ้า ➡️ ใช้กักเก็บพลังงานจากโซลาร์และลมเพื่อใช้ในช่วงความต้องการสูง ➡️ ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับ ✅ จุดเริ่มต้นสำคัญเกิดขึ้นที่ทะเลทรายอาตากามาในชิลี ➡️ การติดตั้งแบตเตอรี่ครั้งแรกพิสูจน์ว่าระบบไฟฟ้าสามารถเสถียรขึ้นได้อย่างมาก ➡️ แบตเตอรี่ตอบสนองเร็วกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เวลาสตาร์ทถึง 12 นาที ✅ ราคาลดลง 90% ทำให้การใช้งานทั่วโลกพุ่งสูง ➡️ แคลิฟอร์เนียเพิ่มความจุแบตเตอรี่ 30 เท่าใน 7 ปี ➡️ จีนเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุด แต่ยุโรป อินเดีย และสหรัฐฯ กำลังเร่งผลิตตาม ‼️ ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงเป็นอุปสรรค ⛔ เหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ทำให้ชุมชนบางแห่งต่อต้านการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ⛔ แบตเตอรี่รุ่นเก่ามีความเสี่ยงลุกลามไฟสูงกว่ารุ่นใหม่ที่ออกแบบให้ปลอดภัยกว่า ‼️ การยอมรับของผู้ให้บริการไฟฟ้ายังไม่ทั่วถึง ⛔ ผู้ให้บริการในบางรัฐของสหรัฐฯ ยังลังเลเพราะขาดประสบการณ์กับระบบกักเก็บพลังงาน ⛔ ความคุ้นชินกับโรงไฟฟ้าแบบเดิมทำให้บางองค์กรต่อต้านเทคโนโลยีใหม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/once-a-gamble-in-the-desert-electric-grid-batteries-are-everywhere
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Once a gamble in the desert, electric grid batteries are everywhere
    An early grid battery was installed in the Atacama Desert in Chile 15 years ago. Now, as prices have tumbled, they are increasingly being used around the world.
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • เมื่อมะเร็งทำลายเสียง แต่ AI ช่วยคืนตัวตนให้เธออีกครั้ง

    เรื่องราวของ Sonya Sotinsky เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ทรงพลังที่สุดของการที่เทคโนโลยี AI สามารถคืน “ตัวตน” ให้มนุษย์ได้ หลังจากเธอต้องสูญเสียทั้งลิ้นและกล่องเสียงเพราะมะเร็งช่องปาก เธอไม่ยอมให้ชีวิตเงียบงัน จึงเริ่มบันทึกเสียงทุกอย่างที่เธออยากเก็บไว้—ตั้งแต่คำอวยพรวันเกิด คำพูดกับครอบครัว ไปจนถึงคำสบถที่เป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกเธอเอง

    เมื่อเทคโนโลยี AI ด้านเสียงพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในปี 2024 เธอพบวิธีสร้าง “เสียงจำลอง” ที่มีสำเนียง New Jersey แบบเดิมครบถ้วน ทั้งอารมณ์ ความประชด และความเป็นตัวเธอ เสียงนี้ถูกเก็บไว้ในแอปบนโทรศัพท์ ทำให้เธอสามารถ “พูด” ได้อีกครั้งผ่านการพิมพ์ข้อความ แม้แพทย์และบริษัทประกันจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการรักษาเสียงของเธอ แต่เธอกลับพิสูจน์ว่าเสียงคือส่วนหนึ่งของศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์

    นอกจากช่วยให้เธอสื่อสารได้ดีขึ้น เสียง AI นี้ยังช่วยให้ทีมแพทย์รับรู้ความคิดและความต้องการของเธอได้ชัดเจนขึ้น จนมีส่วนช่วยในการรักษามะเร็งรอบล่าสุดที่ลุกลามไปยังปอดและตับ เธอรู้สึกว่าคนรอบตัว “มองเห็นความเป็นมนุษย์ของเธอมากขึ้น” เมื่อได้ยินเสียงที่มีชีวิตชีวาแทนเสียงสังเคราะห์แบบหุ่นยนต์ในอดีต

    วันนี้ Sotinsky ใช้ประสบการณ์ของตัวเองเพื่อผลักดันให้เกิดการวิจัยและการสนับสนุนด้านประกันสุขภาพสำหรับเทคโนโลยีเสียง AI เธอสร้างเว็บไซต์ แชร์ประสบการณ์ และพูดในงานวิชาการ เพื่อให้ผู้ป่วยคนอื่นไม่ต้องเผชิญความเงียบงันแบบที่เธอเคยเจอ เธอย้ำเสมอว่า “เสียงคืออัตลักษณ์” และแม้โรคร้ายจะพรากเสียงจริงไป แต่ AI ก็ช่วยคืนความเป็นตัวเธอได้อย่างงดงาม

    สรุปประเด็นสำคัญจากข่าว
    AI ช่วยคืนเสียงและตัวตนให้ผู้ป่วยมะเร็ง
    Sotinsky ใช้เสียงที่บันทึกไว้ก่อนผ่าตัดเพื่อสร้างเสียง AI ที่เหมือนจริง
    เสียงใหม่ช่วยให้เธอสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีอารมณ์

    เสียงคือส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์มนุษย์
    เธอเชื่อว่าความถี่ น้ำเสียง และสำเนียงคือ “ลายนิ้วมือของตัวตน”
    การไม่มีเสียงทำให้เกิดความโดดเดี่ยวและความเครียดทางอารมณ์

    เทคโนโลยี AI ด้านเสียงก้าวหน้าอย่างมาก
    โมเดลใหม่สามารถสร้างเสียงที่มีอารมณ์และความเป็นธรรมชาติสูง
    ใช้เพียง 30 นาทีของเสียงต้นฉบับก็สร้างเสียงจำลองได้แล้ว

    ความท้าทายด้านระบบสุขภาพและประกัน
    บริษัทประกันปฏิเสธการครอบคลุมค่าใช้จ่ายเทคโนโลยีเสียง AI
    แพทย์จำนวนมากยังไม่รู้ว่ามีเทคโนโลยีนี้ให้ผู้ป่วยใช้

    ความเสี่ยงด้านคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยไร้เสียง
    ผู้ป่วยที่สูญเสียกล่องเสียงมีความเสี่ยงซึมเศร้าและโดดเดี่ยวสูง
    เสียงสังเคราะห์แบบเก่าอาจทำให้คนรอบข้างไม่เข้าใจหรือไม่เห็นคุณค่าความคิดของผู้ป่วย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/cancer-stole-her-voice-she-used-ai-curse-words-and-kids-books-to-get-it-back
    🗞️ เมื่อมะเร็งทำลายเสียง แต่ AI ช่วยคืนตัวตนให้เธออีกครั้ง เรื่องราวของ Sonya Sotinsky เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ทรงพลังที่สุดของการที่เทคโนโลยี AI สามารถคืน “ตัวตน” ให้มนุษย์ได้ หลังจากเธอต้องสูญเสียทั้งลิ้นและกล่องเสียงเพราะมะเร็งช่องปาก เธอไม่ยอมให้ชีวิตเงียบงัน จึงเริ่มบันทึกเสียงทุกอย่างที่เธออยากเก็บไว้—ตั้งแต่คำอวยพรวันเกิด คำพูดกับครอบครัว ไปจนถึงคำสบถที่เป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกเธอเอง เมื่อเทคโนโลยี AI ด้านเสียงพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในปี 2024 เธอพบวิธีสร้าง “เสียงจำลอง” ที่มีสำเนียง New Jersey แบบเดิมครบถ้วน ทั้งอารมณ์ ความประชด และความเป็นตัวเธอ เสียงนี้ถูกเก็บไว้ในแอปบนโทรศัพท์ ทำให้เธอสามารถ “พูด” ได้อีกครั้งผ่านการพิมพ์ข้อความ แม้แพทย์และบริษัทประกันจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับการรักษาเสียงของเธอ แต่เธอกลับพิสูจน์ว่าเสียงคือส่วนหนึ่งของศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์ นอกจากช่วยให้เธอสื่อสารได้ดีขึ้น เสียง AI นี้ยังช่วยให้ทีมแพทย์รับรู้ความคิดและความต้องการของเธอได้ชัดเจนขึ้น จนมีส่วนช่วยในการรักษามะเร็งรอบล่าสุดที่ลุกลามไปยังปอดและตับ เธอรู้สึกว่าคนรอบตัว “มองเห็นความเป็นมนุษย์ของเธอมากขึ้น” เมื่อได้ยินเสียงที่มีชีวิตชีวาแทนเสียงสังเคราะห์แบบหุ่นยนต์ในอดีต วันนี้ Sotinsky ใช้ประสบการณ์ของตัวเองเพื่อผลักดันให้เกิดการวิจัยและการสนับสนุนด้านประกันสุขภาพสำหรับเทคโนโลยีเสียง AI เธอสร้างเว็บไซต์ แชร์ประสบการณ์ และพูดในงานวิชาการ เพื่อให้ผู้ป่วยคนอื่นไม่ต้องเผชิญความเงียบงันแบบที่เธอเคยเจอ เธอย้ำเสมอว่า “เสียงคืออัตลักษณ์” และแม้โรคร้ายจะพรากเสียงจริงไป แต่ AI ก็ช่วยคืนความเป็นตัวเธอได้อย่างงดงาม 📌 สรุปประเด็นสำคัญจากข่าว ✅ AI ช่วยคืนเสียงและตัวตนให้ผู้ป่วยมะเร็ง ➡️ Sotinsky ใช้เสียงที่บันทึกไว้ก่อนผ่าตัดเพื่อสร้างเสียง AI ที่เหมือนจริง ➡️ เสียงใหม่ช่วยให้เธอสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีอารมณ์ ✅ เสียงคือส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์มนุษย์ ➡️ เธอเชื่อว่าความถี่ น้ำเสียง และสำเนียงคือ “ลายนิ้วมือของตัวตน” ➡️ การไม่มีเสียงทำให้เกิดความโดดเดี่ยวและความเครียดทางอารมณ์ ✅ เทคโนโลยี AI ด้านเสียงก้าวหน้าอย่างมาก ➡️ โมเดลใหม่สามารถสร้างเสียงที่มีอารมณ์และความเป็นธรรมชาติสูง ➡️ ใช้เพียง 30 นาทีของเสียงต้นฉบับก็สร้างเสียงจำลองได้แล้ว ‼️ ความท้าทายด้านระบบสุขภาพและประกัน ⛔ บริษัทประกันปฏิเสธการครอบคลุมค่าใช้จ่ายเทคโนโลยีเสียง AI ⛔ แพทย์จำนวนมากยังไม่รู้ว่ามีเทคโนโลยีนี้ให้ผู้ป่วยใช้ ‼️ ความเสี่ยงด้านคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยไร้เสียง ⛔ ผู้ป่วยที่สูญเสียกล่องเสียงมีความเสี่ยงซึมเศร้าและโดดเดี่ยวสูง ⛔ เสียงสังเคราะห์แบบเก่าอาจทำให้คนรอบข้างไม่เข้าใจหรือไม่เห็นคุณค่าความคิดของผู้ป่วย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/cancer-stole-her-voice-she-used-ai-curse-words-and-kids-books-to-get-it-back
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Cancer stole her voice. She used AI, curse words and kids' books to get it back
    When doctors told her they had to remove her tongue and voice box to save her life from the cancer that had invaded her mouth, Sonya Sotinsky sat down with a microphone to record herself saying the things she would never again be able to say.
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯ vs จีนในสมรภูมิ AI: ทำไมหลายบริษัทอเมริกันกลับเลือกใช้โมเดลจากจีน

    กระแสการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังทวีความเข้มข้น แต่ในอีกมุมหนึ่ง บริษัทและนักพัฒนาจำนวนไม่น้อยในสหรัฐฯ กลับหันไปใช้โมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สจากจีนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม โมเดลจากค่ายจีนอย่าง Alibaba Qwen, DeepSeek R1, MiniMax, และ Z.ai ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกกว่า ปรับแต่งได้มากกว่า และให้ประสิทธิภาพที่ “ดีพอ” สำหรับงานส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการความล้ำหน้าระดับ OpenAI หรือ Google

    ในเวลาเดียวกัน การเติบโตของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรม AI ทั่วโลก จากเดิมที่สหรัฐฯ ครองความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีอย่างชัดเจน แต่การเปิดตัวโมเดลอย่าง DeepSeek R1 ที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า “จีนกำลังไล่ทันหรือแซงหน้าในบางด้านแล้วหรือไม่”

    นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของโอเพ่นซอร์ส โดยออกแผน “AI Action Plan” เพื่อผลักดันโมเดลโอเพ่นซอร์สที่ยึดตามค่านิยมอเมริกัน แต่บริษัทใหญ่ในสหรัฐฯ กลับเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม เช่น Meta ที่หันกลับไปเน้นโมเดลปิดมากขึ้น ขณะที่ฝั่งยุโรปอย่าง Mistral แม้ยังยืนหยัดในโอเพ่นซอร์ส แต่ก็ยังตามหลังจีนในด้านการใช้งานจริงทั่วโลก

    อย่างไรก็ตาม แม้โมเดลจีนจะได้รับความนิยม แต่ก็ยังมีความกังวลด้านความเสี่ยง เช่น ความเป็นไปได้ของมาตรการคว่ำบาตรในอนาคต หรือความไม่มั่นใจของลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่ต้องการใช้เทคโนโลยีจากจีน แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยืนยันว่าโมเดลโอเพ่นซอร์สเหล่านี้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับจีนโดยตรงก็ตาม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความนิยมของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    การใช้งานทั่วโลกเพิ่มจาก 1.2% เป็นเกือบ 30% ภายในไม่ถึงปี
    โมเดลอย่าง Qwen และ DeepSeek ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกและปรับแต่งได้ดี

    บริษัทสหรัฐฯ หลายแห่งหันมาใช้โมเดลจีน
    ผู้ประกอบการบางรายประหยัดต้นทุนได้ถึง 400,000 ดอลลาร์ต่อปี
    องค์กรใหญ่ เช่น Nvidia, Perplexity และ Stanford ก็ใช้ Qwen ในบางงาน

    จีนก้าวหน้าในด้าน AI Agents และโมเดลรุ่นใหม่
    โมเดล Kimi K2 และ DeepSeek R1 ถูกมองว่าเป็นแนวหน้าของยุค AI Agents
    โมเดลจีนจำนวนมากเปิดให้ปรับแต่งได้มากกว่าโมเดลสหรัฐฯ

    ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการคว่ำบาตร
    บริษัทกังวลว่าโมเดลจีนอาจถูกสหรัฐฯ แบนในอนาคต
    ลูกค้าบางรายไม่มั่นใจเรื่องภาพลักษณ์และความสอดคล้องกับค่านิยมตะวันตก

    ความไม่แน่นอนด้านทิศทางของบริษัทสหรัฐฯ
    Meta หันกลับไปเน้นโมเดลปิด ทำให้ตลาดโอเพ่นซอร์สฝั่งตะวันตกอ่อนแรง
    ความไม่ชัดเจนของนโยบายสหรัฐฯ อาจทำให้บริษัทลังเลในการเลือกเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/as-us-battles-china-on-ai-some-companies-choose-chinese
    🧭 สหรัฐฯ vs จีนในสมรภูมิ AI: ทำไมหลายบริษัทอเมริกันกลับเลือกใช้โมเดลจากจีน กระแสการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังทวีความเข้มข้น แต่ในอีกมุมหนึ่ง บริษัทและนักพัฒนาจำนวนไม่น้อยในสหรัฐฯ กลับหันไปใช้โมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สจากจีนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม โมเดลจากค่ายจีนอย่าง Alibaba Qwen, DeepSeek R1, MiniMax, และ Z.ai ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกกว่า ปรับแต่งได้มากกว่า และให้ประสิทธิภาพที่ “ดีพอ” สำหรับงานส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการความล้ำหน้าระดับ OpenAI หรือ Google ในเวลาเดียวกัน การเติบโตของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในอุตสาหกรรม AI ทั่วโลก จากเดิมที่สหรัฐฯ ครองความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีอย่างชัดเจน แต่การเปิดตัวโมเดลอย่าง DeepSeek R1 ที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่า “จีนกำลังไล่ทันหรือแซงหน้าในบางด้านแล้วหรือไม่” นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เองก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของโอเพ่นซอร์ส โดยออกแผน “AI Action Plan” เพื่อผลักดันโมเดลโอเพ่นซอร์สที่ยึดตามค่านิยมอเมริกัน แต่บริษัทใหญ่ในสหรัฐฯ กลับเดินไปในทิศทางตรงกันข้าม เช่น Meta ที่หันกลับไปเน้นโมเดลปิดมากขึ้น ขณะที่ฝั่งยุโรปอย่าง Mistral แม้ยังยืนหยัดในโอเพ่นซอร์ส แต่ก็ยังตามหลังจีนในด้านการใช้งานจริงทั่วโลก อย่างไรก็ตาม แม้โมเดลจีนจะได้รับความนิยม แต่ก็ยังมีความกังวลด้านความเสี่ยง เช่น ความเป็นไปได้ของมาตรการคว่ำบาตรในอนาคต หรือความไม่มั่นใจของลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่ต้องการใช้เทคโนโลยีจากจีน แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายรายยืนยันว่าโมเดลโอเพ่นซอร์สเหล่านี้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับจีนโดยตรงก็ตาม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความนิยมของโมเดลโอเพ่นซอร์สจากจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ➡️ การใช้งานทั่วโลกเพิ่มจาก 1.2% เป็นเกือบ 30% ภายในไม่ถึงปี ➡️ โมเดลอย่าง Qwen และ DeepSeek ได้รับความนิยมเพราะราคาถูกและปรับแต่งได้ดี ✅ บริษัทสหรัฐฯ หลายแห่งหันมาใช้โมเดลจีน ➡️ ผู้ประกอบการบางรายประหยัดต้นทุนได้ถึง 400,000 ดอลลาร์ต่อปี ➡️ องค์กรใหญ่ เช่น Nvidia, Perplexity และ Stanford ก็ใช้ Qwen ในบางงาน ✅ จีนก้าวหน้าในด้าน AI Agents และโมเดลรุ่นใหม่ ➡️ โมเดล Kimi K2 และ DeepSeek R1 ถูกมองว่าเป็นแนวหน้าของยุค AI Agents ➡️ โมเดลจีนจำนวนมากเปิดให้ปรับแต่งได้มากกว่าโมเดลสหรัฐฯ ‼️ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการคว่ำบาตร ⛔ บริษัทกังวลว่าโมเดลจีนอาจถูกสหรัฐฯ แบนในอนาคต ⛔ ลูกค้าบางรายไม่มั่นใจเรื่องภาพลักษณ์และความสอดคล้องกับค่านิยมตะวันตก ‼️ ความไม่แน่นอนด้านทิศทางของบริษัทสหรัฐฯ ⛔ Meta หันกลับไปเน้นโมเดลปิด ทำให้ตลาดโอเพ่นซอร์สฝั่งตะวันตกอ่อนแรง ⛔ ความไม่ชัดเจนของนโยบายสหรัฐฯ อาจทำให้บริษัทลังเลในการเลือกเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/as-us-battles-china-on-ai-some-companies-choose-chinese
    WWW.THESTAR.COM.MY
    As US battles China on AI, some companies choose Chinese
    Even as the United States is embarked on a bitter rivalry with China over the deployment of artificial intelligence, Chinese technology is quietly making inroads into the US market.
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar

    RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล
    รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย
    https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams

    “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI
    CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai

    ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล
    รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030
    https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate

    GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน
    นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก
    https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard

    วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน
    วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์
    https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills

    หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม
    ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away

    LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่
    LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า
    https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name

    Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย
    Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย
    https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful

    ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม
    https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more

    NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin
    NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers

    Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI
    รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด
    https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees

    Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ
    Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel

    ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา
    ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why

    ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร
    https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware

    iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์
    หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026
    https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover

    ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ
    OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar 💾 RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams 🧠 “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai 🌡️ ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030 🔗 https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate 🕵️‍♂️ GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก 🔗 https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard ⚡ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills 📱 หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away 🖥️ LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่ LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name 🧊 Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful 🚨 ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more 🔐 NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers 🔄 Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด 🔗 https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees 🛂 Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel ⚖️ ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why 🏥 ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware 🤖 iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์ หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover 🎭 ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline

    Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น
    ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน
    รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ
    https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk

    ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click
    การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด
    https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools

    AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok
    AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก
    https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs

    ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware
    แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร
    https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection

    Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน
    Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ
    https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools

    110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ
    Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส
    https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy

    Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้
    แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต
    รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข
    https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows

    HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน
    https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api

    Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI
    Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม
    https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses

    Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google
    บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง
    https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot

    Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง
    Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด
    https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o

    The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด
    คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ
    https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader

    Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ
    ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น
    https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal

    OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์
    OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม
    https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone

    n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว
    แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน
    https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access

    Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี
    แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline 🧩 Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 🕶️ Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ 🔗 https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk 📱 ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด 🔗 https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools 🎭 AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs 🧪 ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร 🔗 https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection 🐾 Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ 🔗 https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools 🕵️‍♀️ 110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส 🔗 https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy 🧩 Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้ แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 📡 Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข 🔗 https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows 🖥️ HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api 🕶️ Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม 🔗 https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses 🐺 Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง 🔗 https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot ⚡ Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o 🕵️‍♂️ The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ 🔗 https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader ☎️ Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal 🤖 OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์ OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone ⚠️ n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access 🔐 Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • Schedule: แอป Kanban แบบออฟไลน์สำหรับ Linux — เมื่อ “ความเรียบง่าย” กลายเป็นจุดแข็ง

    Schedule คือแอปจัดการงานส่วนตัวที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ Linux ที่ต้องการระบบที่เบา เรียบง่าย และไม่ต้องพึ่งพา Cloud เลยแม้แต่นิดเดียว ตัวแอปสร้างบน GTK4 และ Libadwaita ทำให้หน้าตากลมกลืนกับ GNOME อย่างเป็นธรรมชาติ จุดเด่นคือมันทำหน้าที่เหมือน “กระดานโพสต์อิทดิจิทัล” ที่คุณสามารถลากการ์ดไปมาระหว่างคอลัมน์ได้อย่างลื่นไหล โดยไม่ต้องผ่าน onboarding หรือเมนูซับซ้อนใดๆ

    ความยืดหยุ่นของ Schedule ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับกระดานให้เข้ากับ workflow ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น Kanban แบบคลาสสิก, ปฏิทินคอนเทนต์, หรือกระดานงานบ้าน คุณสามารถเพิ่มคอลัมน์ใหม่ เปลี่ยนชื่อคอลัมน์ และจัดเรียงการ์ดได้ตามใจชอบ พร้อมระบบ autosave ที่บันทึกทุกการเปลี่ยนแปลงทันทีโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ

    อีกหนึ่งจุดแข็งคือการทำงานแบบ “offline‑first” อย่างแท้จริง ไม่มีบัญชีผู้ใช้ ไม่มีการซิงก์ข้อมูลขึ้นคลาวด์ และไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโฟกัสแบบลึก (deep work) หรือผู้ที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ export กระดานออกมาเป็นไฟล์เพื่อสำรองข้อมูลได้ง่ายๆ

    อย่างไรก็ตาม ความเรียบง่ายนี้ก็มาพร้อมข้อจำกัด เช่น ไม่มีระบบแจ้งเตือน ไม่มีการซิงก์ข้ามอุปกรณ์ และไม่มีแอปมือถือ หากคุณต้องการระบบที่ซับซ้อนแบบ Sunsama หรือ Notion อาจรู้สึกว่ามัน “เบาเกินไป” แต่สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องมือที่ไม่รบกวนสมาธิและไม่พยายามเป็นทุกอย่างในเวลาเดียวกัน Schedule คือคำตอบที่ตรงไปตรงมาที่สุดในโลก Linux

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Schedule เป็นแอป Kanban แบบออฟไลน์สำหรับ Linux
    ใช้ GTK4 + Libadwaita ทำงานลื่นและกลมกลืนกับ GNOME
    ไม่มี onboarding ซับซ้อน เปิดมาก็ใช้งานได้ทันที

    ยืดหยุ่นและปรับแต่ง workflow ได้ตามใจ
    เปลี่ยนชื่อคอลัมน์ เพิ่มลิสต์ใหม่ และลากการ์ดได้อย่างลื่นไหล
    เหมาะกับ Kanban, content planning, หรือ life admin board

    ออกแบบแบบ offline‑first และเน้นความเป็นส่วนตัว
    ไม่มีบัญชี ไม่มีคลาวด์ ไม่มีการเก็บข้อมูล
    autosave และ export กระดานได้ง่าย

    ข้อจำกัดที่ผู้ใช้ต้องพิจารณา
    ไม่มีระบบแจ้งเตือนหรือ reminder
    ไม่มีการซิงก์ข้ามอุปกรณ์และไม่มีแอปมือถือ

    อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ระดับโปร
    ไม่รองรับ workflow ซับซ้อนแบบ Sunsama หรือ Notion
    ใช้ได้ดีเฉพาะงานส่วนตัว ไม่เหมาะกับทีมขนาดใหญ่

    https://itsfoss.com/schedule-kanban-board/
    🗂️ Schedule: แอป Kanban แบบออฟไลน์สำหรับ Linux — เมื่อ “ความเรียบง่าย” กลายเป็นจุดแข็ง Schedule คือแอปจัดการงานส่วนตัวที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ Linux ที่ต้องการระบบที่เบา เรียบง่าย และไม่ต้องพึ่งพา Cloud เลยแม้แต่นิดเดียว ตัวแอปสร้างบน GTK4 และ Libadwaita ทำให้หน้าตากลมกลืนกับ GNOME อย่างเป็นธรรมชาติ จุดเด่นคือมันทำหน้าที่เหมือน “กระดานโพสต์อิทดิจิทัล” ที่คุณสามารถลากการ์ดไปมาระหว่างคอลัมน์ได้อย่างลื่นไหล โดยไม่ต้องผ่าน onboarding หรือเมนูซับซ้อนใดๆ ความยืดหยุ่นของ Schedule ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับกระดานให้เข้ากับ workflow ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น Kanban แบบคลาสสิก, ปฏิทินคอนเทนต์, หรือกระดานงานบ้าน คุณสามารถเพิ่มคอลัมน์ใหม่ เปลี่ยนชื่อคอลัมน์ และจัดเรียงการ์ดได้ตามใจชอบ พร้อมระบบ autosave ที่บันทึกทุกการเปลี่ยนแปลงทันทีโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ อีกหนึ่งจุดแข็งคือการทำงานแบบ “offline‑first” อย่างแท้จริง ไม่มีบัญชีผู้ใช้ ไม่มีการซิงก์ข้อมูลขึ้นคลาวด์ และไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโฟกัสแบบลึก (deep work) หรือผู้ที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ export กระดานออกมาเป็นไฟล์เพื่อสำรองข้อมูลได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตาม ความเรียบง่ายนี้ก็มาพร้อมข้อจำกัด เช่น ไม่มีระบบแจ้งเตือน ไม่มีการซิงก์ข้ามอุปกรณ์ และไม่มีแอปมือถือ หากคุณต้องการระบบที่ซับซ้อนแบบ Sunsama หรือ Notion อาจรู้สึกว่ามัน “เบาเกินไป” แต่สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องมือที่ไม่รบกวนสมาธิและไม่พยายามเป็นทุกอย่างในเวลาเดียวกัน Schedule คือคำตอบที่ตรงไปตรงมาที่สุดในโลก Linux 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Schedule เป็นแอป Kanban แบบออฟไลน์สำหรับ Linux ➡️ ใช้ GTK4 + Libadwaita ทำงานลื่นและกลมกลืนกับ GNOME ➡️ ไม่มี onboarding ซับซ้อน เปิดมาก็ใช้งานได้ทันที ✅ ยืดหยุ่นและปรับแต่ง workflow ได้ตามใจ ➡️ เปลี่ยนชื่อคอลัมน์ เพิ่มลิสต์ใหม่ และลากการ์ดได้อย่างลื่นไหล ➡️ เหมาะกับ Kanban, content planning, หรือ life admin board ✅ ออกแบบแบบ offline‑first และเน้นความเป็นส่วนตัว ➡️ ไม่มีบัญชี ไม่มีคลาวด์ ไม่มีการเก็บข้อมูล ➡️ autosave และ export กระดานได้ง่าย ‼️ ข้อจำกัดที่ผู้ใช้ต้องพิจารณา ⛔ ไม่มีระบบแจ้งเตือนหรือ reminder ⛔ ไม่มีการซิงก์ข้ามอุปกรณ์และไม่มีแอปมือถือ ‼️ อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ระดับโปร ⛔ ไม่รองรับ workflow ซับซ้อนแบบ Sunsama หรือ Notion ⛔ ใช้ได้ดีเฉพาะงานส่วนตัว ไม่เหมาะกับทีมขนาดใหญ่ https://itsfoss.com/schedule-kanban-board/
    ITSFOSS.COM
    Away from Cloud: This Local, Offline Tool is Perfect for Personal Project Management on Linux Desktop
    We have all been there. You start the week with a massive to-do list, only to feel overwhelmed by Tuesday afternoon. While heavy-duty project management tools exist, sometimes you just need a digital version of "sticky notes on a wall".
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • สั่ง DDR5 แต่ได้ DDR4 ซ่อนใต้ฮีตสเปรดเดอร์ — สัญญาณเตือนใหม่ของ “supply‑chain fraud” ในยุคแรมแพง

    ราคาของ DDR5 ที่พุ่งสูงและสินค้าขาดตลาดทำให้การหลอกลวงในตลาดฮาร์ดแวร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งในยุโรปพบว่าแรม DDR5 ที่สั่งจาก Amazon (ขายและจัดส่งโดย Amazon เอง) ถูกสลับไส้ในเป็น DDR4 โดยมีการนำฮีตสเปรดเดอร์ของ DDR5 มาครอบทับเพื่อให้ดูเหมือนของแท้ เมื่อเขาพยายามเสียบลงเมนบอร์ด ร่องบน PCB กลับไม่ตรงกัน ทำให้รู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ

    ที่น่าตกใจคือสินค้าชิ้นนี้ไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นของมือสองหรือ open‑box แต่เป็นของใหม่ทั้งหมด ซึ่งบ่งชี้ว่าการสลับสินค้าอาจเกิดขึ้น “ภายในซัพพลายเชนของ Amazon เอง” ไม่ใช่จากผู้ขายภายนอก ผู้ใช้รายนี้โชคดีที่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน และยังได้คืนมากกว่าที่จ่ายไป เนื่องจากราคาปัจจุบันสูงขึ้นกว่าเดิมราว £100

    เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้มีผู้ซื้อในสเปนที่ได้ DDR2 ใส่ตุ้มน้ำหนักปลอมเป็น DDR5 และอีกคนที่สั่งแรมโน้ตบุ๊กแล้วถูกขโมยของในพัสดุ เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนปัญหาใหญ่ของตลาดฮาร์ดแวร์ที่กำลังเผชิญ “return fraud” และ “component swapping” มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสินค้าที่มีราคาสูงและขาดตลาดอย่าง DDR5

    Tom’s Hardware จึงเตือนผู้ใช้ให้ “ถ่ายวิดีโอทุกครั้งที่แกะกล่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์” เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดปัญหา เพราะแม้จะซื้อจากผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ก็ยังมีความเสี่ยงจากการสลับสินค้าในขั้นตอนโลจิสติกส์ที่ผู้ซื้อไม่สามารถมองเห็นได้เลย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    พบการสลับ DDR5 เป็น DDR4 ภายใต้ฮีตสเปรดเดอร์
    ผู้ซื้อสังเกตว่าฮีตสเปรดเดอร์หลวมและร่อง PCB ไม่ตรง
    เป็นการปลอมแปลงที่ทำให้ดูเหมือนของใหม่สมบูรณ์

    สินค้าถูกขายและจัดส่งโดย Amazon เอง
    ไม่ใช่สินค้ามือสองหรือ open‑box
    บ่งชี้ว่าการสลับอาจเกิดในซัพพลายเชนของ Amazon

    มีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นหลายครั้ง
    เคยมีผู้ได้ DDR2 ใส่ตุ้มน้ำหนักปลอมเป็น DDR5
    มีเคสพัสดุถูกขโมยหรือสลับของในระหว่างขนส่ง

    ความเสี่ยงจากการหลอกลวงในตลาดฮาร์ดแวร์
    ราคาสูงและสินค้าขาดตลาดทำให้ DDR5 เป็นเป้าหมายหลัก
    การสลับสินค้าในซัพพลายเชนเป็นภัยที่ผู้ซื้อควบคุมไม่ได้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/unlucky-amazon-shopper-orders-ddr5-memory-but-gets-ddr4-hidden-under-the-heatspreader-ram-sold-as-new-was-a-switcharoo
    🧨 สั่ง DDR5 แต่ได้ DDR4 ซ่อนใต้ฮีตสเปรดเดอร์ — สัญญาณเตือนใหม่ของ “supply‑chain fraud” ในยุคแรมแพง ราคาของ DDR5 ที่พุ่งสูงและสินค้าขาดตลาดทำให้การหลอกลวงในตลาดฮาร์ดแวร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งในยุโรปพบว่าแรม DDR5 ที่สั่งจาก Amazon (ขายและจัดส่งโดย Amazon เอง) ถูกสลับไส้ในเป็น DDR4 โดยมีการนำฮีตสเปรดเดอร์ของ DDR5 มาครอบทับเพื่อให้ดูเหมือนของแท้ เมื่อเขาพยายามเสียบลงเมนบอร์ด ร่องบน PCB กลับไม่ตรงกัน ทำให้รู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ ที่น่าตกใจคือสินค้าชิ้นนี้ไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นของมือสองหรือ open‑box แต่เป็นของใหม่ทั้งหมด ซึ่งบ่งชี้ว่าการสลับสินค้าอาจเกิดขึ้น “ภายในซัพพลายเชนของ Amazon เอง” ไม่ใช่จากผู้ขายภายนอก ผู้ใช้รายนี้โชคดีที่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน และยังได้คืนมากกว่าที่จ่ายไป เนื่องจากราคาปัจจุบันสูงขึ้นกว่าเดิมราว £100 เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้มีผู้ซื้อในสเปนที่ได้ DDR2 ใส่ตุ้มน้ำหนักปลอมเป็น DDR5 และอีกคนที่สั่งแรมโน้ตบุ๊กแล้วถูกขโมยของในพัสดุ เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนปัญหาใหญ่ของตลาดฮาร์ดแวร์ที่กำลังเผชิญ “return fraud” และ “component swapping” มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสินค้าที่มีราคาสูงและขาดตลาดอย่าง DDR5 Tom’s Hardware จึงเตือนผู้ใช้ให้ “ถ่ายวิดีโอทุกครั้งที่แกะกล่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์” เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดปัญหา เพราะแม้จะซื้อจากผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ก็ยังมีความเสี่ยงจากการสลับสินค้าในขั้นตอนโลจิสติกส์ที่ผู้ซื้อไม่สามารถมองเห็นได้เลย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ พบการสลับ DDR5 เป็น DDR4 ภายใต้ฮีตสเปรดเดอร์ ➡️ ผู้ซื้อสังเกตว่าฮีตสเปรดเดอร์หลวมและร่อง PCB ไม่ตรง ➡️ เป็นการปลอมแปลงที่ทำให้ดูเหมือนของใหม่สมบูรณ์ ✅ สินค้าถูกขายและจัดส่งโดย Amazon เอง ➡️ ไม่ใช่สินค้ามือสองหรือ open‑box ➡️ บ่งชี้ว่าการสลับอาจเกิดในซัพพลายเชนของ Amazon ✅ มีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นหลายครั้ง ➡️ เคยมีผู้ได้ DDR2 ใส่ตุ้มน้ำหนักปลอมเป็น DDR5 ➡️ มีเคสพัสดุถูกขโมยหรือสลับของในระหว่างขนส่ง ‼️ ความเสี่ยงจากการหลอกลวงในตลาดฮาร์ดแวร์ ⛔ ราคาสูงและสินค้าขาดตลาดทำให้ DDR5 เป็นเป้าหมายหลัก ⛔ การสลับสินค้าในซัพพลายเชนเป็นภัยที่ผู้ซื้อควบคุมไม่ได้ https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/unlucky-amazon-shopper-orders-ddr5-memory-but-gets-ddr4-hidden-under-the-heatspreader-ram-sold-as-new-was-a-switcharoo
    0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • Atari Hotel เปิดระดมทุนสาธารณะ — โรงแรมธีมเกมยุคคลาสสิกมูลค่า $124M ที่คุณเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเพียง $500

    โครงการ Atari Hotel ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหลังจากเงียบไปหลายปี โดยตอนนี้โครงการแรกกำลังจะถูกสร้างขึ้นที่ Phoenix, Arizona พร้อมเปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุนผ่าน Regulation A Tier 2 ของ SEC ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง $500 การลงทุนนี้ไม่ใช่การซื้อของที่ระลึก แต่เป็นการถือหุ้นจริงในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีธีมเกมยุคเรโทรและวัฒนธรรมป๊อปเป็นแกนกลาง

    แม้ชื่อ Atari จะถูกใช้เป็นแบรนด์หลัก แต่โรงแรมนี้ไม่ได้สร้างโดยบริษัท Atari เอง หากเป็นผลงานของ Intersection Development และดีไซเนอร์ räkkhaus ที่ได้รับสิทธิ์ใช้แบรนด์ Atari เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ “cyberpunk arena” ที่ผสมผสานเกม เทคโนโลยี และศิลปะเข้าด้วยกัน ภาพเรนเดอร์ของโครงการเผยให้เห็นพื้นที่กว่า 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์ ร้านค้า และล็อบบี้ที่เต็มไปด้วย LED walls ขนาดใหญ่

    โครงการนี้มีงบประมาณรวม $124 ล้าน โดยระดมทุนไปแล้ว $14 ล้าน และตั้งเป้าเพิ่มอีก $35–40 ล้าน แต่ตามกฎของ SEC สามารถรับเงินได้สูงสุดถึง $75 ล้าน นักลงทุนจะได้รับสิทธิ์เข้าชมไซต์แบบ virtual ก่อนเปิดจริง และมี “digital brick” ของตัวเองในล็อบบี้ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนอสังหาฯ กับวัฒนธรรมแฟนคลับในยุคดิจิทัล

    โรงแรมมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปีหน้า และตั้งเป้าเปิดให้บริการช่วงกลางถึงปลายปี 2028 แม้จะมีความเสี่ยงด้านเงินทุนและความไม่แน่นอนของตลาดอสังหาฯ แต่โครงการนี้สะท้อนความพยายามของแบรนด์ Atari ที่กำลังทดลองเส้นทางใหม่ๆ ตั้งแต่ NFT ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อฟื้นบทบาทของตนในโลกสมัยใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    โครงการ Atari Hotel เปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุน
    ใช้ Regulation A Tier 2 ของ SEC
    เริ่มลงทุนได้ที่ $500 และสูงสุดกว่า $50,000

    โรงแรมธีมเกมและวัฒนธรรมป๊อปมูลค่า $124 ล้าน
    พื้นที่รวม 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์และร้านค้า
    ล็อบบี้มี LED walls และงานศิลปะตามธีม Atari

    สิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุน
    virtual tour ก่อนเปิดจริง
    “digital brick” ในล็อบบี้เป็นสัญลักษณ์การมีส่วนร่วม

    ความเสี่ยงด้านเงินทุนและการก่อสร้าง
    ต้องการเงินอย่างน้อย ~$8.7M เพื่อให้ข้อเสนอเดินหน้าต่อ
    แม้จะรับได้สูงสุด $75M แต่ยังต้องหาเงินเพิ่มจากแหล่งอื่น

    ความไม่แน่นอนของแบรนด์ Atari ในยุคใหม่
    เคยทดลองธุรกิจหลากหลาย เช่น crypto และ NFT ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
    โครงการอาจถูกมองว่าใช้แบรนด์ Atari เพื่อดึงดูดนักลงทุนมากกว่าการสร้างคุณค่าจริง

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/you-can-own-a-piece-of-the-first-usd124-million-atari-hotel-in-phoenix-for-as-little-as-usd500-developer-launches-sec-backed-fundraiser-with-construction-set-to-begin-next-year
    🏨 Atari Hotel เปิดระดมทุนสาธารณะ — โรงแรมธีมเกมยุคคลาสสิกมูลค่า $124M ที่คุณเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเพียง $500 โครงการ Atari Hotel ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหลังจากเงียบไปหลายปี โดยตอนนี้โครงการแรกกำลังจะถูกสร้างขึ้นที่ Phoenix, Arizona พร้อมเปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุนผ่าน Regulation A Tier 2 ของ SEC ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง $500 การลงทุนนี้ไม่ใช่การซื้อของที่ระลึก แต่เป็นการถือหุ้นจริงในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีธีมเกมยุคเรโทรและวัฒนธรรมป๊อปเป็นแกนกลาง แม้ชื่อ Atari จะถูกใช้เป็นแบรนด์หลัก แต่โรงแรมนี้ไม่ได้สร้างโดยบริษัท Atari เอง หากเป็นผลงานของ Intersection Development และดีไซเนอร์ räkkhaus ที่ได้รับสิทธิ์ใช้แบรนด์ Atari เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ “cyberpunk arena” ที่ผสมผสานเกม เทคโนโลยี และศิลปะเข้าด้วยกัน ภาพเรนเดอร์ของโครงการเผยให้เห็นพื้นที่กว่า 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์ ร้านค้า และล็อบบี้ที่เต็มไปด้วย LED walls ขนาดใหญ่ โครงการนี้มีงบประมาณรวม $124 ล้าน โดยระดมทุนไปแล้ว $14 ล้าน และตั้งเป้าเพิ่มอีก $35–40 ล้าน แต่ตามกฎของ SEC สามารถรับเงินได้สูงสุดถึง $75 ล้าน นักลงทุนจะได้รับสิทธิ์เข้าชมไซต์แบบ virtual ก่อนเปิดจริง และมี “digital brick” ของตัวเองในล็อบบี้ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนอสังหาฯ กับวัฒนธรรมแฟนคลับในยุคดิจิทัล โรงแรมมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปีหน้า และตั้งเป้าเปิดให้บริการช่วงกลางถึงปลายปี 2028 แม้จะมีความเสี่ยงด้านเงินทุนและความไม่แน่นอนของตลาดอสังหาฯ แต่โครงการนี้สะท้อนความพยายามของแบรนด์ Atari ที่กำลังทดลองเส้นทางใหม่ๆ ตั้งแต่ NFT ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อฟื้นบทบาทของตนในโลกสมัยใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ โครงการ Atari Hotel เปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุน ➡️ ใช้ Regulation A Tier 2 ของ SEC ➡️ เริ่มลงทุนได้ที่ $500 และสูงสุดกว่า $50,000 ✅ โรงแรมธีมเกมและวัฒนธรรมป๊อปมูลค่า $124 ล้าน ➡️ พื้นที่รวม 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์และร้านค้า ➡️ ล็อบบี้มี LED walls และงานศิลปะตามธีม Atari ✅ สิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุน ➡️ virtual tour ก่อนเปิดจริง ➡️ “digital brick” ในล็อบบี้เป็นสัญลักษณ์การมีส่วนร่วม ‼️ ความเสี่ยงด้านเงินทุนและการก่อสร้าง ⛔ ต้องการเงินอย่างน้อย ~$8.7M เพื่อให้ข้อเสนอเดินหน้าต่อ ⛔ แม้จะรับได้สูงสุด $75M แต่ยังต้องหาเงินเพิ่มจากแหล่งอื่น ‼️ ความไม่แน่นอนของแบรนด์ Atari ในยุคใหม่ ⛔ เคยทดลองธุรกิจหลากหลาย เช่น crypto และ NFT ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ⛔ โครงการอาจถูกมองว่าใช้แบรนด์ Atari เพื่อดึงดูดนักลงทุนมากกว่าการสร้างคุณค่าจริง https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/you-can-own-a-piece-of-the-first-usd124-million-atari-hotel-in-phoenix-for-as-little-as-usd500-developer-launches-sec-backed-fundraiser-with-construction-set-to-begin-next-year
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • Biren เปิดตัว IPO ในฮ่องกง — มังกรตัวใหม่ในศึกชิงบัลลังก์ AI GPU จาก Nvidia

    Biren Intelligent Technology ผู้ผลิต GPU ชั้นนำของจีนเริ่มกระบวนการ bookbuilding สำหรับการเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง โดยตั้งเป้าระดมทุนสูงสุดถึง 4.85 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 624 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิต GPU จากจีนแผ่นดินใหญ่เข้าจดทะเบียนในฮ่องกง และสะท้อนความเร่งรีบของบริษัทจีนที่ต้องการเงินทุนเพื่อเร่งพัฒนา AI accelerators ท่ามกลางความต้องการมหาศาลจากตลาดโลก

    การเข้าตลาดของ Biren เกิดขึ้นในช่วงที่สตาร์ทอัพ GPU จีนกำลังได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดย Moore Threads และ MetaX ต่างสร้างสถิติราคาหุ้นพุ่งขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ในวันแรกของการซื้อขาย ทำให้ทั้งสามบริษัท รวมถึง Enflame ถูกเรียกว่า “สี่มังกรน้อย” ของวงการ GPU จีน ซึ่งต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือท้าทายความเป็นเจ้าตลาดของ Nvidia ในตลาด AI accelerator

    แม้ Biren จะเริ่มมีรายได้จากโซลูชันคอมพิวติ้งอัจฉริยะตั้งแต่ปี 2023 แต่บริษัทก็ยังขาดทุนอย่างหนัก โดยขาดทุนเกือบ 9 พันล้านหยวนในครึ่งแรกของปี 2025 จากการลงทุนด้าน R&D และซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Biren ยังได้รับผลกระทบจากการถูกสหรัฐฯ ใส่ใน Entity List ทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศได้ยากขึ้น และต้องหันมาพึ่งซัพพลายเชนภายในประเทศมากขึ้น

    การเข้าตลาดครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การระดมทุน แต่เป็นการประกาศจุดยืนของจีนในสงครามเทคโนโลยีระดับโลก โดย Biren, MiniMax, Zhipu และบริษัท AI อื่นๆ ต่างเร่งเข้าตลาดเพื่อเสริมทุนและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง ในขณะที่การแข่งขันด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ AI ภายในจีนกำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Biren เปิดตัว IPO มูลค่าสูงสุด 624 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    เป็นผู้ผลิต GPU จีนรายแรกที่เข้าตลาดฮ่องกง
    เสนอขายหุ้น 247.7 ล้านหุ้น ราคา 17–19.60 ดอลลาร์ฮ่องกง

    กระแส “สี่มังกรน้อย” ของวงการ GPU จีนกำลังมาแรง
    Moore Threads และ MetaX ทำราคาหุ้นพุ่งหลายร้อยเปอร์เซ็นต์
    ทั้งหมดมีเป้าหมายท้าทาย Nvidia ในตลาด AI accelerator

    Biren มีรายได้เพิ่มขึ้นแต่ยังขาดทุนหนัก
    รายได้ปี 2023 อยู่ที่ 336.8 ล้านหยวน
    ขาดทุนครึ่งแรกปี 2025 เกือบ 9 พันล้านหยวนจากการลงทุน R&D

    ความเสี่ยงจากข้อจำกัดทางการเมืองและซัพพลายเชน
    ถูกสหรัฐฯ ใส่ใน Entity List ทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศยากขึ้น
    ต้องพึ่งซัพพลายเชนภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งยังไม่สมบูรณ์

    การแข่งขันในตลาด AI จีนกำลังรุนแรงขึ้น
    MiniMax และ Zhipu ก็เตรียมเข้าตลาดเช่นกัน
    บริษัทต้องเร่งพัฒนาเพื่อไม่ให้ตามหลังคู่แข่งทั้งในและนอกประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/biren-kicks-off-hong-kong-ipo
    🐉 Biren เปิดตัว IPO ในฮ่องกง — มังกรตัวใหม่ในศึกชิงบัลลังก์ AI GPU จาก Nvidia Biren Intelligent Technology ผู้ผลิต GPU ชั้นนำของจีนเริ่มกระบวนการ bookbuilding สำหรับการเข้าตลาดหุ้นฮ่องกง โดยตั้งเป้าระดมทุนสูงสุดถึง 4.85 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 624 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ผลิต GPU จากจีนแผ่นดินใหญ่เข้าจดทะเบียนในฮ่องกง และสะท้อนความเร่งรีบของบริษัทจีนที่ต้องการเงินทุนเพื่อเร่งพัฒนา AI accelerators ท่ามกลางความต้องการมหาศาลจากตลาดโลก การเข้าตลาดของ Biren เกิดขึ้นในช่วงที่สตาร์ทอัพ GPU จีนกำลังได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดย Moore Threads และ MetaX ต่างสร้างสถิติราคาหุ้นพุ่งขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ในวันแรกของการซื้อขาย ทำให้ทั้งสามบริษัท รวมถึง Enflame ถูกเรียกว่า “สี่มังกรน้อย” ของวงการ GPU จีน ซึ่งต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือท้าทายความเป็นเจ้าตลาดของ Nvidia ในตลาด AI accelerator แม้ Biren จะเริ่มมีรายได้จากโซลูชันคอมพิวติ้งอัจฉริยะตั้งแต่ปี 2023 แต่บริษัทก็ยังขาดทุนอย่างหนัก โดยขาดทุนเกือบ 9 พันล้านหยวนในครึ่งแรกของปี 2025 จากการลงทุนด้าน R&D และซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Biren ยังได้รับผลกระทบจากการถูกสหรัฐฯ ใส่ใน Entity List ทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศได้ยากขึ้น และต้องหันมาพึ่งซัพพลายเชนภายในประเทศมากขึ้น การเข้าตลาดครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การระดมทุน แต่เป็นการประกาศจุดยืนของจีนในสงครามเทคโนโลยีระดับโลก โดย Biren, MiniMax, Zhipu และบริษัท AI อื่นๆ ต่างเร่งเข้าตลาดเพื่อเสริมทุนและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง ในขณะที่การแข่งขันด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ AI ภายในจีนกำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Biren เปิดตัว IPO มูลค่าสูงสุด 624 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ➡️ เป็นผู้ผลิต GPU จีนรายแรกที่เข้าตลาดฮ่องกง ➡️ เสนอขายหุ้น 247.7 ล้านหุ้น ราคา 17–19.60 ดอลลาร์ฮ่องกง ✅ กระแส “สี่มังกรน้อย” ของวงการ GPU จีนกำลังมาแรง ➡️ Moore Threads และ MetaX ทำราคาหุ้นพุ่งหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ ➡️ ทั้งหมดมีเป้าหมายท้าทาย Nvidia ในตลาด AI accelerator ✅ Biren มีรายได้เพิ่มขึ้นแต่ยังขาดทุนหนัก ➡️ รายได้ปี 2023 อยู่ที่ 336.8 ล้านหยวน ➡️ ขาดทุนครึ่งแรกปี 2025 เกือบ 9 พันล้านหยวนจากการลงทุน R&D ‼️ ความเสี่ยงจากข้อจำกัดทางการเมืองและซัพพลายเชน ⛔ ถูกสหรัฐฯ ใส่ใน Entity List ทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศยากขึ้น ⛔ ต้องพึ่งซัพพลายเชนภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งยังไม่สมบูรณ์ ‼️ การแข่งขันในตลาด AI จีนกำลังรุนแรงขึ้น ⛔ MiniMax และ Zhipu ก็เตรียมเข้าตลาดเช่นกัน ⛔ บริษัทต้องเร่งพัฒนาเพื่อไม่ให้ตามหลังคู่แข่งทั้งในและนอกประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/biren-kicks-off-hong-kong-ipo
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    China's premier GPU maker Biren kicks off Hong Kong IPO — GPU startups vying for Nvidia's crown race to fund AI chip development
    Shanghai-based Biren is targeting up to US$624 million in what would be the first Hong Kong listing by a mainland GPU developer.
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • จอมินิ 1.14 นิ้วราคา $10 ที่ใช้ ESP32 — เมื่อจอ “สำหรับมด” กลายเป็นเดสก์ท็อปเสริมจริงๆ

    โปรเจกต์ของ Tucker Shannon แสดงให้เห็นว่าการสร้าง “จอเสริม” ขนาดจิ๋วไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป ด้วยการใช้บอร์ด TENSTAR T‑Display ESP32‑D0WD ซึ่งมีจอ ST7789 ขนาด 1.14 นิ้ว ความละเอียด 135×240 พิกเซลในตัว แม้จะเล็กจนแทบต้องเพ่ง แต่ Shannon สามารถทำให้มันแสดงผลเดสก์ท็อปจริงแบบมิเรอร์จากเครื่องหลักได้อย่างน่าทึ่ง

    หัวใจของระบบคือการจับภาพหน้าจอจากคอมพิวเตอร์ แล้วส่งเฟรมผ่าน Wi‑Fi ไปยัง ESP32 ด้วยโปรโตคอลที่เขาออกแบบเอง โดยส่งเฉพาะ “พิกเซลที่เปลี่ยนไป” ทำให้เมื่อหน้าจอค่อนข้างนิ่ง สามารถเรนเดอร์ได้ถึง 60 FPS แต่ถ้าภาพเคลื่อนไหวมาก เฟรมเรตจะตกลงเหลือประมาณ 5 FPS ซึ่งยังถือว่าเร็วมากสำหรับจอขนาดนี้และข้อจำกัดของไมโครคอนโทรลเลอร์

    บนฝั่ง ESP32 ตัวบอร์ดทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณล้วนๆ ผ่าน SPI โดย Shannon เขียนเฟิร์มแวร์ด้วย Arduino IDE ส่วนฝั่งคอมพิวเตอร์ใช้ Python ทำงานเปรียบเทียบเฟรมก่อนส่ง ทำให้ระบบทั้งหมดทำงานได้แม้มี latency ต่ำกว่า 100 ms บน Wi‑Fi คุณภาพดี ถือว่าเร็วพอสำหรับการแสดงข้อมูลสถานะหรือ dashboard แบบเรียลไทม์

    แม้โปรเจกต์นี้จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานจริงจัง เช่น การทำงานเอกสารหรือเล่นเกม แต่ Shannon ชี้ว่ามันเหมาะมากสำหรับ IoT dashboards, จอแจ้งเตือน, หรือเป็นโปรเจกต์เรียนรู้การสตรีมภาพแบบ low‑bandwidth ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าด้วยความคิดสร้างสรรค์และการเขียนโค้ดที่ฉลาด แม้แต่จอเล็กระดับ “ของเล่น” ก็สามารถกลายเป็นอุปกรณ์จริงได้

    โปรเจกต์ใช้บอร์ด TENSTAR T‑Display ESP32‑D0WD
    มีจอ ST7789 ขนาด 1.14 นิ้ว ความละเอียด 135×240
    ราคาเพียง $11 แต่ทำงานเป็นจอเสริมได้จริง

    ระบบสตรีมภาพผ่าน Wi‑Fi แบบส่งเฉพาะพิกเซลที่เปลี่ยน
    เฟรมเรตสูงสุด ~60 FPS เมื่อภาพนิ่ง
    ลดลงเหลือ ~5 FPS เมื่อภาพเคลื่อนไหวมาก

    โครงสร้างซอฟต์แวร์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
    ESP32 รับเฟรมผ่าน SPI และแสดงผลทันที
    Python บน PC ทำ frame diffing และ batching ก่อนส่ง

    ข้อจำกัดที่ต้องระวัง
    จอเล็กมากจนใช้งานจริงจังไม่ได้
    เฟรมเรตตกหนักเมื่อมีการเคลื่อนไหวเยอะ

    ความเสี่ยงด้านเครือข่ายและ latency
    ประสิทธิภาพขึ้นกับคุณภาพ Wi‑Fi
    หากสัญญาณรบกวนมาก อาจเกิดอาการหน่วงหรือเฟรมขาด

    https://www.tomshardware.com/maker-stem/microcontrollers/maker-builds-tiny-usd10-secondary-1-14-inch-display-using-an-esp32-you-could-play-crysis-on-it-if-you-squint
    🖥️ จอมินิ 1.14 นิ้วราคา $10 ที่ใช้ ESP32 — เมื่อจอ “สำหรับมด” กลายเป็นเดสก์ท็อปเสริมจริงๆ โปรเจกต์ของ Tucker Shannon แสดงให้เห็นว่าการสร้าง “จอเสริม” ขนาดจิ๋วไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป ด้วยการใช้บอร์ด TENSTAR T‑Display ESP32‑D0WD ซึ่งมีจอ ST7789 ขนาด 1.14 นิ้ว ความละเอียด 135×240 พิกเซลในตัว แม้จะเล็กจนแทบต้องเพ่ง แต่ Shannon สามารถทำให้มันแสดงผลเดสก์ท็อปจริงแบบมิเรอร์จากเครื่องหลักได้อย่างน่าทึ่ง หัวใจของระบบคือการจับภาพหน้าจอจากคอมพิวเตอร์ แล้วส่งเฟรมผ่าน Wi‑Fi ไปยัง ESP32 ด้วยโปรโตคอลที่เขาออกแบบเอง โดยส่งเฉพาะ “พิกเซลที่เปลี่ยนไป” ทำให้เมื่อหน้าจอค่อนข้างนิ่ง สามารถเรนเดอร์ได้ถึง 60 FPS แต่ถ้าภาพเคลื่อนไหวมาก เฟรมเรตจะตกลงเหลือประมาณ 5 FPS ซึ่งยังถือว่าเร็วมากสำหรับจอขนาดนี้และข้อจำกัดของไมโครคอนโทรลเลอร์ บนฝั่ง ESP32 ตัวบอร์ดทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณล้วนๆ ผ่าน SPI โดย Shannon เขียนเฟิร์มแวร์ด้วย Arduino IDE ส่วนฝั่งคอมพิวเตอร์ใช้ Python ทำงานเปรียบเทียบเฟรมก่อนส่ง ทำให้ระบบทั้งหมดทำงานได้แม้มี latency ต่ำกว่า 100 ms บน Wi‑Fi คุณภาพดี ถือว่าเร็วพอสำหรับการแสดงข้อมูลสถานะหรือ dashboard แบบเรียลไทม์ แม้โปรเจกต์นี้จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานจริงจัง เช่น การทำงานเอกสารหรือเล่นเกม แต่ Shannon ชี้ว่ามันเหมาะมากสำหรับ IoT dashboards, จอแจ้งเตือน, หรือเป็นโปรเจกต์เรียนรู้การสตรีมภาพแบบ low‑bandwidth ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าด้วยความคิดสร้างสรรค์และการเขียนโค้ดที่ฉลาด แม้แต่จอเล็กระดับ “ของเล่น” ก็สามารถกลายเป็นอุปกรณ์จริงได้ ✅ โปรเจกต์ใช้บอร์ด TENSTAR T‑Display ESP32‑D0WD ➡️ มีจอ ST7789 ขนาด 1.14 นิ้ว ความละเอียด 135×240 ➡️ ราคาเพียง $11 แต่ทำงานเป็นจอเสริมได้จริง ✅ ระบบสตรีมภาพผ่าน Wi‑Fi แบบส่งเฉพาะพิกเซลที่เปลี่ยน ➡️ เฟรมเรตสูงสุด ~60 FPS เมื่อภาพนิ่ง ➡️ ลดลงเหลือ ~5 FPS เมื่อภาพเคลื่อนไหวมาก ✅ โครงสร้างซอฟต์แวร์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ➡️ ESP32 รับเฟรมผ่าน SPI และแสดงผลทันที ➡️ Python บน PC ทำ frame diffing และ batching ก่อนส่ง ‼️ ข้อจำกัดที่ต้องระวัง ⛔ จอเล็กมากจนใช้งานจริงจังไม่ได้ ⛔ เฟรมเรตตกหนักเมื่อมีการเคลื่อนไหวเยอะ ‼️ ความเสี่ยงด้านเครือข่ายและ latency ⛔ ประสิทธิภาพขึ้นกับคุณภาพ Wi‑Fi ⛔ หากสัญญาณรบกวนมาก อาจเกิดอาการหน่วงหรือเฟรมขาด https://www.tomshardware.com/maker-stem/microcontrollers/maker-builds-tiny-usd10-secondary-1-14-inch-display-using-an-esp32-you-could-play-crysis-on-it-if-you-squint
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • NIST เตือนเซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจคลาดเคลื่อน — เมื่อ “เวลามาตรฐานของโลก” สะดุดเพราะไฟดับ

    เหตุขัดข้องครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อศูนย์ NIST ที่ Boulder, Colorado สูญเสียไฟฟ้าระดับยูทิลิตี้ในช่วงลมแรงที่ทำให้สายไฟเสียหายและมีการปิดระบบเพื่อป้องกันไฟป่า ผลกระทบหนักที่สุดคือการที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในจุดสำคัญของโซ่สัญญาณ ทำให้ atomic ensemble time scale NIST‑F4 ซึ่งเป็นหัวใจของ Internet Time Service หยุดทำงานชั่วคราว ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ time‑a‑b ถึง time‑e‑b รวมถึง ntp‑b.nist.gov อาจให้เวลาที่ไม่ถูกต้อง

    แม้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ยังตอบสนองคำขอ NTP ได้ แต่ NIST เตือนว่ามันอาจไม่ได้อ้างอิงแหล่งเวลาที่ถูกต้อง และอาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์บางตัวเพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิดพลาด ปัญหานี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ที่ Gaithersburg ซึ่งทำให้เวลาคลาดเคลื่อนถึง –10 มิลลิวินาที แสดงให้เห็นว่าระบบเวลามาตรฐานของสหรัฐฯ กำลังเผชิญความเสี่ยงจากเหตุการณ์โครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น

    แม้ความคลาดเคลื่อนระดับไมโครวินาทีจะไม่กระทบผู้ใช้ทั่วไป แต่สำหรับระบบที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การเงิน 고‑frequency, การซิงก์ข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์, ระบบไฟฟ้า, และ GPS — ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจสร้างความเสียหายเป็นลูกโซ่ได้ นี่คือเหตุผลที่ผู้ใช้งานระดับ critical ต้องตรวจสอบหลายแหล่งเวลาเสมอ และเหตุการณ์นี้ย้ำให้เห็นว่าการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเพียงจุดเดียวเป็นความเสี่ยงเชิงระบบ

    NIST ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะกู้คืนระบบทั้งหมดเมื่อใด แต่ยืนยันว่าบริการ time.nist.gov ซึ่งใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดข้ามหลายภูมิภาคไม่ได้รับผลกระทบ เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าการออกแบบระบบเวลาในระดับประเทศต้องมีความทนทานต่อความล้มเหลวมากกว่าที่เป็นอยู่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เหตุไฟดับทำให้ระบบเวลาหลัก NIST‑F4 สะดุด
    เกิดจากลมแรงทำให้สายไฟเสียหายและระบบป้องกันไฟป่าตัดไฟ
    เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในตำแหน่งสำคัญของโซ่สัญญาณ

    เซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจให้เวลาคลาดเคลื่อน
    time‑a‑b ถึง time‑e‑b และ ntp‑b.nist.gov ได้รับผลกระทบ
    อาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์เพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิด

    บริการหลัก time.nist.gov ไม่ได้รับผลกระทบ
    ใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดหลายภูมิภาค
    ผู้ใช้ทั่วไปจึงไม่เห็นผลกระทบโดยตรง

    ความเสี่ยงเชิงระบบจากความคลาดเคลื่อนของเวลา
    กระทบระบบการเงิน, ดาต้าเซ็นเตอร์, พลังงาน, และ GPS
    ความผิดพลาดระดับไมโครวินาทีอาจสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่

    โครงสร้างพื้นฐานเวลาของประเทศยังเปราะบาง
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองในเดือนเดียว
    การพึ่งพาแหล่งเวลาเดียวเป็นความเสี่ยงที่ต้องแก้ไข

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nist-warns-of-potential-inaccuracies-on-boulder-time-servers-after-power-failure
    ⏱️ NIST เตือนเซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจคลาดเคลื่อน — เมื่อ “เวลามาตรฐานของโลก” สะดุดเพราะไฟดับ เหตุขัดข้องครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อศูนย์ NIST ที่ Boulder, Colorado สูญเสียไฟฟ้าระดับยูทิลิตี้ในช่วงลมแรงที่ทำให้สายไฟเสียหายและมีการปิดระบบเพื่อป้องกันไฟป่า ผลกระทบหนักที่สุดคือการที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในจุดสำคัญของโซ่สัญญาณ ทำให้ atomic ensemble time scale NIST‑F4 ซึ่งเป็นหัวใจของ Internet Time Service หยุดทำงานชั่วคราว ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ time‑a‑b ถึง time‑e‑b รวมถึง ntp‑b.nist.gov อาจให้เวลาที่ไม่ถูกต้อง แม้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ยังตอบสนองคำขอ NTP ได้ แต่ NIST เตือนว่ามันอาจไม่ได้อ้างอิงแหล่งเวลาที่ถูกต้อง และอาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์บางตัวเพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิดพลาด ปัญหานี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ที่ Gaithersburg ซึ่งทำให้เวลาคลาดเคลื่อนถึง –10 มิลลิวินาที แสดงให้เห็นว่าระบบเวลามาตรฐานของสหรัฐฯ กำลังเผชิญความเสี่ยงจากเหตุการณ์โครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น แม้ความคลาดเคลื่อนระดับไมโครวินาทีจะไม่กระทบผู้ใช้ทั่วไป แต่สำหรับระบบที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การเงิน 고‑frequency, การซิงก์ข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์, ระบบไฟฟ้า, และ GPS — ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจสร้างความเสียหายเป็นลูกโซ่ได้ นี่คือเหตุผลที่ผู้ใช้งานระดับ critical ต้องตรวจสอบหลายแหล่งเวลาเสมอ และเหตุการณ์นี้ย้ำให้เห็นว่าการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเพียงจุดเดียวเป็นความเสี่ยงเชิงระบบ NIST ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะกู้คืนระบบทั้งหมดเมื่อใด แต่ยืนยันว่าบริการ time.nist.gov ซึ่งใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดข้ามหลายภูมิภาคไม่ได้รับผลกระทบ เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าการออกแบบระบบเวลาในระดับประเทศต้องมีความทนทานต่อความล้มเหลวมากกว่าที่เป็นอยู่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เหตุไฟดับทำให้ระบบเวลาหลัก NIST‑F4 สะดุด ➡️ เกิดจากลมแรงทำให้สายไฟเสียหายและระบบป้องกันไฟป่าตัดไฟ ➡️ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในตำแหน่งสำคัญของโซ่สัญญาณ ✅ เซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจให้เวลาคลาดเคลื่อน ➡️ time‑a‑b ถึง time‑e‑b และ ntp‑b.nist.gov ได้รับผลกระทบ ➡️ อาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์เพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิด ✅ บริการหลัก time.nist.gov ไม่ได้รับผลกระทบ ➡️ ใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดหลายภูมิภาค ➡️ ผู้ใช้ทั่วไปจึงไม่เห็นผลกระทบโดยตรง ‼️ ความเสี่ยงเชิงระบบจากความคลาดเคลื่อนของเวลา ⛔ กระทบระบบการเงิน, ดาต้าเซ็นเตอร์, พลังงาน, และ GPS ⛔ ความผิดพลาดระดับไมโครวินาทีอาจสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ ‼️ โครงสร้างพื้นฐานเวลาของประเทศยังเปราะบาง ⛔ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองในเดือนเดียว ⛔ การพึ่งพาแหล่งเวลาเดียวเป็นความเสี่ยงที่ต้องแก้ไข https://www.tomshardware.com/tech-industry/nist-warns-of-potential-inaccuracies-on-boulder-time-servers-after-power-failure
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • Gemini 3 Pro แซง 2.5 Pro ใน Pokémon Crystal: จุดเปลี่ยนของ “Spatial AI”

    การทดสอบของ Joel แสดงให้เห็นความแตกต่างเชิงคุณภาพระหว่าง Gemini 3 Pro และ Gemini 2.5 Pro เมื่อให้ทั้งสองรุ่นเล่น Pokémon Crystal ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน จุดที่น่าสนใจคือ แม้ทั้งคู่จะเริ่มเกมได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ค่อยๆ เปิดระยะห่างด้วยความสามารถด้านการรับรู้พื้นที่ การวางแผนล่วงหน้า และการจัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งเป็นทักษะที่ 2.5 Pro ยังทำได้ไม่ดีพอ

    ในช่วงต้นเกม ทั้งสองโมเดลผ่านเส้นทางและด่านต่างๆ ได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ใช้เส้นทางที่มีประสิทธิภาพกว่า ลดการเดินหลงและลดการวนซ้ำโดยไม่จำเป็น เมื่อถึงช่วงสู้กับ Whitney ซึ่งเป็นจุดที่มักทำให้ผู้เล่นต้องฟาร์มเลเวลเพิ่ม 3 Pro กลับจัดการทรัพยากรและการต่อสู้ได้เฉียบคมกว่า ทำให้ผ่านด่านนี้ได้เร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด

    จุดที่ทำให้ 3 Pro ทิ้งห่างจริงๆ คือ Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องใช้การนำทางแบบซับซ้อนและการแก้ปริศนาแบบไม่มี “safety net” 3 Pro สามารถแบ่งแผนที่เป็นส่วนๆ ทำ marker-aware navigation และวางแผนล่วงหน้าได้หลายก้าว ขณะที่ 2.5 Pro มักติดลูปหรือเดินผิดซ้ำๆ

    ท้ายที่สุด ในการทดสอบ “Final Exam: Red” ซึ่งเป็นบอสที่ยากที่สุดของเกม 3 Pro แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้าน vision และการวิเคราะห์สถานการณ์แบบเรียลไทม์ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน แม้จะยังมีจุดอ่อนบางอย่าง แต่ภาพรวมคือ 3 Pro เป็นก้าวกระโดดด้าน “agentic gameplay” ที่เริ่มเข้าใกล้ความสามารถของผู้เล่นมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Gemini 3 Pro มีความเข้าใจพื้นที่เหนือกว่า
    แบ่งแผนที่เป็นโซนและนำทางได้แม่นยำ
    ลดการเดินหลงและลดลูปซ้ำๆ

    การวางแผนล่วงหน้าและการจัดการงานหลายอย่างดีขึ้น
    ควบคุมการฟาร์มเลเวลและการต่อสู้ได้มีประสิทธิภาพ
    ทำ marker-aware navigation ได้จริงในเกม

    ผ่านด่านซับซ้อนได้ดีกว่า 2.5 Pro
    Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground เป็นจุดที่เห็นความต่างชัด
    ใช้กลยุทธ์แบบผู้เล่นมนุษย์มากขึ้น

    จุดอ่อนที่ยังพบใน Gemini 3 Pro
    ยังมีบางสถานการณ์ที่ติดลูปหรืออ่านบริบทผิด
    การวางแผนบางครั้งยังไม่เสถียรในพื้นที่ที่มีตัวแปรสูง

    ความเสี่ยงของการพึ่งพา Vision Model ในเกมจริง
    หากสภาพภาพไม่ชัดหรือมี noise อาจทำให้ตัดสินใจผิด
    เกมที่มี UI ซับซ้อนกว่านี้อาจทำให้โมเดลสับสนได้

    https://blog.jcz.dev/gemini-3-pro-vs-25-pro-in-pokemon-crystal
    🎮 Gemini 3 Pro แซง 2.5 Pro ใน Pokémon Crystal: จุดเปลี่ยนของ “Spatial AI” การทดสอบของ Joel แสดงให้เห็นความแตกต่างเชิงคุณภาพระหว่าง Gemini 3 Pro และ Gemini 2.5 Pro เมื่อให้ทั้งสองรุ่นเล่น Pokémon Crystal ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน จุดที่น่าสนใจคือ แม้ทั้งคู่จะเริ่มเกมได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ค่อยๆ เปิดระยะห่างด้วยความสามารถด้านการรับรู้พื้นที่ การวางแผนล่วงหน้า และการจัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งเป็นทักษะที่ 2.5 Pro ยังทำได้ไม่ดีพอ ในช่วงต้นเกม ทั้งสองโมเดลผ่านเส้นทางและด่านต่างๆ ได้ใกล้เคียงกัน แต่ 3 Pro ใช้เส้นทางที่มีประสิทธิภาพกว่า ลดการเดินหลงและลดการวนซ้ำโดยไม่จำเป็น เมื่อถึงช่วงสู้กับ Whitney ซึ่งเป็นจุดที่มักทำให้ผู้เล่นต้องฟาร์มเลเวลเพิ่ม 3 Pro กลับจัดการทรัพยากรและการต่อสู้ได้เฉียบคมกว่า ทำให้ผ่านด่านนี้ได้เร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัด จุดที่ทำให้ 3 Pro ทิ้งห่างจริงๆ คือ Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องใช้การนำทางแบบซับซ้อนและการแก้ปริศนาแบบไม่มี “safety net” 3 Pro สามารถแบ่งแผนที่เป็นส่วนๆ ทำ marker-aware navigation และวางแผนล่วงหน้าได้หลายก้าว ขณะที่ 2.5 Pro มักติดลูปหรือเดินผิดซ้ำๆ ท้ายที่สุด ในการทดสอบ “Final Exam: Red” ซึ่งเป็นบอสที่ยากที่สุดของเกม 3 Pro แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้าน vision และการวิเคราะห์สถานการณ์แบบเรียลไทม์ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน แม้จะยังมีจุดอ่อนบางอย่าง แต่ภาพรวมคือ 3 Pro เป็นก้าวกระโดดด้าน “agentic gameplay” ที่เริ่มเข้าใกล้ความสามารถของผู้เล่นมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Gemini 3 Pro มีความเข้าใจพื้นที่เหนือกว่า ➡️ แบ่งแผนที่เป็นโซนและนำทางได้แม่นยำ ➡️ ลดการเดินหลงและลดลูปซ้ำๆ ✅ การวางแผนล่วงหน้าและการจัดการงานหลายอย่างดีขึ้น ➡️ ควบคุมการฟาร์มเลเวลและการต่อสู้ได้มีประสิทธิภาพ ➡️ ทำ marker-aware navigation ได้จริงในเกม ✅ ผ่านด่านซับซ้อนได้ดีกว่า 2.5 Pro ➡️ Olivine Lighthouse และ Goldenrod Underground เป็นจุดที่เห็นความต่างชัด ➡️ ใช้กลยุทธ์แบบผู้เล่นมนุษย์มากขึ้น ‼️ จุดอ่อนที่ยังพบใน Gemini 3 Pro ⛔ ยังมีบางสถานการณ์ที่ติดลูปหรืออ่านบริบทผิด ⛔ การวางแผนบางครั้งยังไม่เสถียรในพื้นที่ที่มีตัวแปรสูง ‼️ ความเสี่ยงของการพึ่งพา Vision Model ในเกมจริง ⛔ หากสภาพภาพไม่ชัดหรือมี noise อาจทำให้ตัดสินใจผิด ⛔ เกมที่มี UI ซับซ้อนกว่านี้อาจทำให้โมเดลสับสนได้ https://blog.jcz.dev/gemini-3-pro-vs-25-pro-in-pokemon-crystal
    BLOG.JCZ.DEV
    How Gemini 3 Pro Beat Pokemon Crystal (and 2.5 Pro didn't)
    From 2.5 Pro's lighthouse loop to 3 Pro's "Zombie Phoenix" strategy against Red: a full breakdown of why Gemini 3 Pro is a superior long-horizon agent.
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • เดโมระดับ “Pure Silicon” ที่สร้างโลกทั้งใบด้วยแค่ 4,000 Gates

    โปรเจกต์ Tiny Tapeout 8 ที่ผู้เขียนนำเสนอเป็นการทดลองสร้างเดโมกราฟิกและเสียงบนชิป ASIC ที่มีข้อจำกัดสูงมาก—ไม่มี CPU, ไม่มี RAM, ไม่มี ROM และมีเพียงประมาณ 4,000 logic gates ให้ใช้งานเท่านั้น การสร้างภาพ 2-bit RGB และเสียง 1-bit จากข้อจำกัดระดับนี้ทำให้ทุกฟังก์ชันต้องถูกออกแบบเป็น state machine ล้วนๆ โดยไม่มีพื้นที่สำหรับเทคนิค sizecoding แบบเดิมที่อาศัยการบีบอัดข้อมูลหรือ lookup table ขนาดใหญ่

    หนึ่งในเดโมหลักคืออินโทรสไตล์ C64/Amiga ที่มี starfield, checkerboard 3D, และข้อความเลื่อนแบบ sine wave พร้อมเงาที่ฉายลงบนพื้นผิว—all done in hardware. ผู้เขียนต้องคิดค้นเทคนิคใหม่ เช่น การหมุนเวกเตอร์เพื่อสร้าง sine แบบไม่ใช้ตาราง และการทำ perspective transform ด้วย fixed‑point arithmetic ที่คำนวณได้ภายในไม่กี่บิต

    ด้านเสียง ผู้เขียนสร้าง synthesizer แบบฮาร์ดแวร์ล้วน ใช้ triangle wave ที่มี pitch decay สำหรับ kick, LFSR noise สำหรับ snare และ square‑wave arpeggio สำหรับเมโลดี้ โดยทั้งหมดถูกควบคุมด้วย combinational logic แทนที่จะใช้ตัวนับหรือ state registers จำนวนมาก ซึ่งมีราคาแพงในพื้นที่ของชิป Tiny Tapeout

    แม้จะมีความท้าทาย เช่น การเลือกโหมดวิดีโอ 1220×480 ที่ทำให้เกิดปัญหา aliasing หรือการที่ clock ของเสียงไม่ซิงก์กับภาพจนเกิด tearing แต่สุดท้ายผลงานทั้งหมดก็ทำงานได้จริงบนชิปที่ผลิตออกมาหลังจากกระบวนการ Tiny Tapeout กลับมาดำเนินการอีกครั้งในปี 2025 หลังจากบริษัท Efabless ปิดตัวลงชั่วคราว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อจำกัดของ Tiny Tapeout ทำให้ต้องคิดใหม่ทุกอย่าง
    ไม่มี CPU, RAM, ROM—ทุกอย่างต้องเป็น combinational + flip‑flop
    lookup table ขนาดใหญ่ใช้ไม่ได้ ต้องสร้างฟังก์ชันด้วยตรรกะล้วน

    เทคนิคกราฟิกระดับล่างที่ซับซ้อนมาก
    sine wave จากการหมุนเวกเตอร์ ไม่ใช้ตาราง
    perspective transform แบบ fixed‑point เพื่อสร้าง checkerboard 3D

    ระบบเสียงแบบฮาร์ดแวร์ล้วน
    triangle‑decay kick, LFSR snare, square‑wave arpeggio
    envelope และ pitch ควบคุมด้วย combinational logic เพื่อลดจำนวน flip‑flops

    ความเสี่ยงและข้อผิดพลาดจากการออกแบบ
    clock ของเสียงไม่ซิงก์กับภาพ ทำให้เกิด tearing
    โหมดวิดีโอ 1220×480 ทำให้ภาพบน LCD ดูแย่เพราะ aliasing

    ความไม่แน่นอนจากกระบวนการผลิต
    Efabless ปิดตัวกลางคัน ทำให้ชิป TT08 ติดค้าง
    ต้องรอหลายเดือนจนมีบริษัทใหม่รับช่วงต่อก่อนจะได้ชิปจริง

    https://www.a1k0n.net/2025/12/19/tiny-tapeout-demo.html
    🚀 เดโมระดับ “Pure Silicon” ที่สร้างโลกทั้งใบด้วยแค่ 4,000 Gates โปรเจกต์ Tiny Tapeout 8 ที่ผู้เขียนนำเสนอเป็นการทดลองสร้างเดโมกราฟิกและเสียงบนชิป ASIC ที่มีข้อจำกัดสูงมาก—ไม่มี CPU, ไม่มี RAM, ไม่มี ROM และมีเพียงประมาณ 4,000 logic gates ให้ใช้งานเท่านั้น การสร้างภาพ 2-bit RGB และเสียง 1-bit จากข้อจำกัดระดับนี้ทำให้ทุกฟังก์ชันต้องถูกออกแบบเป็น state machine ล้วนๆ โดยไม่มีพื้นที่สำหรับเทคนิค sizecoding แบบเดิมที่อาศัยการบีบอัดข้อมูลหรือ lookup table ขนาดใหญ่ หนึ่งในเดโมหลักคืออินโทรสไตล์ C64/Amiga ที่มี starfield, checkerboard 3D, และข้อความเลื่อนแบบ sine wave พร้อมเงาที่ฉายลงบนพื้นผิว—all done in hardware. ผู้เขียนต้องคิดค้นเทคนิคใหม่ เช่น การหมุนเวกเตอร์เพื่อสร้าง sine แบบไม่ใช้ตาราง และการทำ perspective transform ด้วย fixed‑point arithmetic ที่คำนวณได้ภายในไม่กี่บิต ด้านเสียง ผู้เขียนสร้าง synthesizer แบบฮาร์ดแวร์ล้วน ใช้ triangle wave ที่มี pitch decay สำหรับ kick, LFSR noise สำหรับ snare และ square‑wave arpeggio สำหรับเมโลดี้ โดยทั้งหมดถูกควบคุมด้วย combinational logic แทนที่จะใช้ตัวนับหรือ state registers จำนวนมาก ซึ่งมีราคาแพงในพื้นที่ของชิป Tiny Tapeout แม้จะมีความท้าทาย เช่น การเลือกโหมดวิดีโอ 1220×480 ที่ทำให้เกิดปัญหา aliasing หรือการที่ clock ของเสียงไม่ซิงก์กับภาพจนเกิด tearing แต่สุดท้ายผลงานทั้งหมดก็ทำงานได้จริงบนชิปที่ผลิตออกมาหลังจากกระบวนการ Tiny Tapeout กลับมาดำเนินการอีกครั้งในปี 2025 หลังจากบริษัท Efabless ปิดตัวลงชั่วคราว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อจำกัดของ Tiny Tapeout ทำให้ต้องคิดใหม่ทุกอย่าง ➡️ ไม่มี CPU, RAM, ROM—ทุกอย่างต้องเป็น combinational + flip‑flop ➡️ lookup table ขนาดใหญ่ใช้ไม่ได้ ต้องสร้างฟังก์ชันด้วยตรรกะล้วน ✅ เทคนิคกราฟิกระดับล่างที่ซับซ้อนมาก ➡️ sine wave จากการหมุนเวกเตอร์ ไม่ใช้ตาราง ➡️ perspective transform แบบ fixed‑point เพื่อสร้าง checkerboard 3D ✅ ระบบเสียงแบบฮาร์ดแวร์ล้วน ➡️ triangle‑decay kick, LFSR snare, square‑wave arpeggio ➡️ envelope และ pitch ควบคุมด้วย combinational logic เพื่อลดจำนวน flip‑flops ‼️ ความเสี่ยงและข้อผิดพลาดจากการออกแบบ ⛔ clock ของเสียงไม่ซิงก์กับภาพ ทำให้เกิด tearing ⛔ โหมดวิดีโอ 1220×480 ทำให้ภาพบน LCD ดูแย่เพราะ aliasing ‼️ ความไม่แน่นอนจากกระบวนการผลิต ⛔ Efabless ปิดตัวกลางคัน ทำให้ชิป TT08 ติดค้าง ⛔ ต้องรอหลายเดือนจนมีบริษัทใหม่รับช่วงต่อก่อนจะได้ชิปจริง https://www.a1k0n.net/2025/12/19/tiny-tapeout-demo.html
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • จินนี่ ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 2
    จินนี่เป็นใคร ทำไมถึงได้สัมปทาน และทำไมเซียนระดับโลกทางด้านภูมิศาสตร์การเมืองถึงวิเคราะห์ว่า เรื่องจีนนี่ อาจเป็นตัวจุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 3
    จีนนี่ Genie Energy เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ Newark, New Jersey ในอเมริกา อยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ของบริษัท Strategic Advisory Board ที่มีรายชื่อน่าสนใจระดับโลก เช่น **** Cheney, James Woolsey, Bill Richardson, Jacob Lord Rothschild, Rupert Murdock, Larry Summmers และ Michael Steinhardt…
    **** Cheney เป็นเหยี่ยวกระหายเลือดตัวจริง ยังไม่ตาย และยังอยู่ดี เขาเป็นรองประธานาธิบดี ที่เป็นเสมือนประธานาธิบดีตัวจริง สมัยที่คาวบอยบุชเป็นประธานาธิบดี ก่อนหน้านั้น เขาเคยเป็นประธานผู้บริหารของบริษัทขายน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกบริษัทหนึ่งคือ Halliburton ซึ่งตระกูลบุช ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของตัวจริง Halliburton ไม่ได้ค้าแต่น้ำมัน ช่วงสงครามอิรัค Halliburton ค้าอาวุธ ยุทธภัณท์ทุกอย่าง ที่จำเป็นสำหรับการทำสงคราม ให้แก่รัฐบาลอเมริกัน ที่ตอนนั้นมีคาวบอยบุช เป็นประธานาธิบดี เข้าใจเรื่องการค้าเสรี และการเป็นประชาธิปไตย ในความหมายของอเมริกาแล้วนะครับ
    James Woolsey เป็นอดีตผู้อำนวยการซีไอเอสมัยที่ บิล คลินตัน ผู้นิยมเด็กฝึกงานเป็นประธานาธิบดี เขาเป็นสายเหยี่ยวเช่นเดียวกัน ปัจจุบัน นั่งเป็นประธานถังความคิด ชื่อ Foundation for Defense of Democracies อ้อ… พวกอยู่หลังเขาเหมือนกัน นอกจากนี้ ยังเป็นสมาชิกผู้สนับสนุนโครงการเพื่อความเป็นหมายเลขหนึ่งของอเมริกาในศตวรรษใหม่ Project of the New American Century (PNAC) อันโด่งดัง ร่วมกับ Cheney และ Donald Rumsfeld สรุปว่า เป็นก๊วนเหยี่ยวกระหายเลือด ตะกระน้ำมันด้วยกัน
    Bill Richardson เป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอเมริกา
    Rupert Murdoch เป็นเจ้าของสื่อใหญ่ ทั้งในอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย หรือเป็นเจ้าของโรงงานฟอกย้อมข่าวตัวสำคัญนั่นเอง ทั้งรวย ทั้งมีอิทธิพลสูงในวงการสื่อระดับโลก เขาเป็นเจ้าของสื่อตัวแสบ Wall Street Journal และเป็นนายทุนให้นิตยสารรายสัปดาห์ the Standard ที่เป็นสายเหยี่ยว และที่มีหัวหน้าคณะบรรณาธิการ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง โครงการ PNAC
    Larry Summers เป็นอดีตรัฐมนตรีคลังของอเมริกา ที่มีบทบาทสำคัญในการเอาเงินภาษีชาวอเมริกัน มาอุ้มยักษ์ใหญ่ทางการเงิน ไม่ให้ล้มละลาย จากการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างตะกระ และไร้ความรับผิดชอบ ….อ้าว นึกว่าอเมริกาเคร่งเรื่องธรรมาภิบาล good governance เห็นสมุนชาวสยามคนสำคัญ ชอบเดินสายสั่งสอนชาวสยามให้มีธรรมาภิบาล งวดหน้า รบกวนท่านบินไปพูดแถวอเมริกาด้วยนะครับ ถ้ายังมีแรงเหลือ…
    Michael Steinhardt เป็นเจ้าของกองทุนเล่นหุ้น หรือนักปั่นหุ้นระดับโลก ที่ใกล้ชิดกับอิสราเอล (เป็นนักเล่นหุ้นชาวยิวน่ะครับ)
    ส่วน Jacob Lord Rothschild คงไม่ต้องแนะนำกันมาก แค่ขอเพิ่มข้อมูลให้ว่า เขาเป็นหุ้นส่วนกับนักธุรกิจน้ำมันตัวแสบชาวรัสเซีย Mikhail Khodorkovsky ซึ่งถูกคุณพี่ปูตินสั่งจับและดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง และเอาปูนหมายหน้าเอาไว้ เกี่ยวกับ Yukos Oil ที่มีความหมายกับรัสเซียมาก บางสื่อในรัสเซียเรียกเขาว่า เป็นคนขายชาติ ( อ่านเรื่องของเขาได้ ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง และเรื่องแกะรอยสงครามโลกครั้ง ที่ 3) แต่นาย Kho ก็หนีออกจากรัสเซีย มาซุกอกใบตองแห้งได้ และเมื่อมีข่าวว่าจะถูกจับ นาย Kho โอนหุ้นที่ถือทั้งหมดใน Yukos Oil (กลับ !?) ไปให้ Jacob Rothschild ซึ่งปัจจุบัน เป็นผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่งในจีนนี่ ที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเนทันยาฮู ในปี ค.ศ.2013 เพื่อทำการสำรวจน้ำมัน และแก๊ส ในเนื้อที่จำนวน 153 ตารางไมล์ ที่อยู่ในที่ราบสูงโกลาน เป็นเวลา 3 ปี
    เห็นรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับ จีนนี่ แล้ว ก็พอจะเดาได้ว่า จีนนี่ น่าจะร้อนแรงน่าดู
    และก๊วนเหยี่ยวกระหายเลือด เหยี่ยวตะกระน้ำมันนี้แหละ ที่เป็นตัวริเริ่ม ยุให้อเมริกาบุกเข้าไปในตะวันออกกลางโดยเฉพาะที่อิรัค เพื่อไปปล้นน้ำมันอิรัค และก็ไอ้ก๊วนนี้อีกเช่นกัน ที่สนับสนุนให้อเมริกาส่งกำลังเข้าไปสนับสนุนพวกกบฏซีเรีย เพื่อไล่อัสสาดให้กระเด็นออกไปจากการปกครองซีเรีย
    คงพอเห็นภาพกันแล้วนะครับว่า ทำไม จึงมีคนถูตะเกียงเรียก จินนี่ ออกมาตอนนี้ และทำไมถึงมีเซียนวิเคราะห์ว่า จีนนี่ อาจจะทำให้เรื่องราวในตะวันออกกลาง บานปลาย กลายเป็นตัวจุดชนวนสงครามโลก ครั้งที่ 3 ก็ได้
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    4 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 2 จินนี่เป็นใคร ทำไมถึงได้สัมปทาน และทำไมเซียนระดับโลกทางด้านภูมิศาสตร์การเมืองถึงวิเคราะห์ว่า เรื่องจีนนี่ อาจเป็นตัวจุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 3 จีนนี่ Genie Energy เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ Newark, New Jersey ในอเมริกา อยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ของบริษัท Strategic Advisory Board ที่มีรายชื่อน่าสนใจระดับโลก เช่น Dick Cheney, James Woolsey, Bill Richardson, Jacob Lord Rothschild, Rupert Murdock, Larry Summmers และ Michael Steinhardt… Dick Cheney เป็นเหยี่ยวกระหายเลือดตัวจริง ยังไม่ตาย และยังอยู่ดี เขาเป็นรองประธานาธิบดี ที่เป็นเสมือนประธานาธิบดีตัวจริง สมัยที่คาวบอยบุชเป็นประธานาธิบดี ก่อนหน้านั้น เขาเคยเป็นประธานผู้บริหารของบริษัทขายน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกบริษัทหนึ่งคือ Halliburton ซึ่งตระกูลบุช ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของตัวจริง Halliburton ไม่ได้ค้าแต่น้ำมัน ช่วงสงครามอิรัค Halliburton ค้าอาวุธ ยุทธภัณท์ทุกอย่าง ที่จำเป็นสำหรับการทำสงคราม ให้แก่รัฐบาลอเมริกัน ที่ตอนนั้นมีคาวบอยบุช เป็นประธานาธิบดี เข้าใจเรื่องการค้าเสรี และการเป็นประชาธิปไตย ในความหมายของอเมริกาแล้วนะครับ James Woolsey เป็นอดีตผู้อำนวยการซีไอเอสมัยที่ บิล คลินตัน ผู้นิยมเด็กฝึกงานเป็นประธานาธิบดี เขาเป็นสายเหยี่ยวเช่นเดียวกัน ปัจจุบัน นั่งเป็นประธานถังความคิด ชื่อ Foundation for Defense of Democracies อ้อ… พวกอยู่หลังเขาเหมือนกัน นอกจากนี้ ยังเป็นสมาชิกผู้สนับสนุนโครงการเพื่อความเป็นหมายเลขหนึ่งของอเมริกาในศตวรรษใหม่ Project of the New American Century (PNAC) อันโด่งดัง ร่วมกับ Cheney และ Donald Rumsfeld สรุปว่า เป็นก๊วนเหยี่ยวกระหายเลือด ตะกระน้ำมันด้วยกัน Bill Richardson เป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอเมริกา Rupert Murdoch เป็นเจ้าของสื่อใหญ่ ทั้งในอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย หรือเป็นเจ้าของโรงงานฟอกย้อมข่าวตัวสำคัญนั่นเอง ทั้งรวย ทั้งมีอิทธิพลสูงในวงการสื่อระดับโลก เขาเป็นเจ้าของสื่อตัวแสบ Wall Street Journal และเป็นนายทุนให้นิตยสารรายสัปดาห์ the Standard ที่เป็นสายเหยี่ยว และที่มีหัวหน้าคณะบรรณาธิการ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง โครงการ PNAC Larry Summers เป็นอดีตรัฐมนตรีคลังของอเมริกา ที่มีบทบาทสำคัญในการเอาเงินภาษีชาวอเมริกัน มาอุ้มยักษ์ใหญ่ทางการเงิน ไม่ให้ล้มละลาย จากการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างตะกระ และไร้ความรับผิดชอบ ….อ้าว นึกว่าอเมริกาเคร่งเรื่องธรรมาภิบาล good governance เห็นสมุนชาวสยามคนสำคัญ ชอบเดินสายสั่งสอนชาวสยามให้มีธรรมาภิบาล งวดหน้า รบกวนท่านบินไปพูดแถวอเมริกาด้วยนะครับ ถ้ายังมีแรงเหลือ… Michael Steinhardt เป็นเจ้าของกองทุนเล่นหุ้น หรือนักปั่นหุ้นระดับโลก ที่ใกล้ชิดกับอิสราเอล (เป็นนักเล่นหุ้นชาวยิวน่ะครับ) ส่วน Jacob Lord Rothschild คงไม่ต้องแนะนำกันมาก แค่ขอเพิ่มข้อมูลให้ว่า เขาเป็นหุ้นส่วนกับนักธุรกิจน้ำมันตัวแสบชาวรัสเซีย Mikhail Khodorkovsky ซึ่งถูกคุณพี่ปูตินสั่งจับและดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง และเอาปูนหมายหน้าเอาไว้ เกี่ยวกับ Yukos Oil ที่มีความหมายกับรัสเซียมาก บางสื่อในรัสเซียเรียกเขาว่า เป็นคนขายชาติ ( อ่านเรื่องของเขาได้ ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง และเรื่องแกะรอยสงครามโลกครั้ง ที่ 3) แต่นาย Kho ก็หนีออกจากรัสเซีย มาซุกอกใบตองแห้งได้ และเมื่อมีข่าวว่าจะถูกจับ นาย Kho โอนหุ้นที่ถือทั้งหมดใน Yukos Oil (กลับ !?) ไปให้ Jacob Rothschild ซึ่งปัจจุบัน เป็นผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่งในจีนนี่ ที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเนทันยาฮู ในปี ค.ศ.2013 เพื่อทำการสำรวจน้ำมัน และแก๊ส ในเนื้อที่จำนวน 153 ตารางไมล์ ที่อยู่ในที่ราบสูงโกลาน เป็นเวลา 3 ปี เห็นรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับ จีนนี่ แล้ว ก็พอจะเดาได้ว่า จีนนี่ น่าจะร้อนแรงน่าดู และก๊วนเหยี่ยวกระหายเลือด เหยี่ยวตะกระน้ำมันนี้แหละ ที่เป็นตัวริเริ่ม ยุให้อเมริกาบุกเข้าไปในตะวันออกกลางโดยเฉพาะที่อิรัค เพื่อไปปล้นน้ำมันอิรัค และก็ไอ้ก๊วนนี้อีกเช่นกัน ที่สนับสนุนให้อเมริกาส่งกำลังเข้าไปสนับสนุนพวกกบฏซีเรีย เพื่อไล่อัสสาดให้กระเด็นออกไปจากการปกครองซีเรีย คงพอเห็นภาพกันแล้วนะครับว่า ทำไม จึงมีคนถูตะเกียงเรียก จินนี่ ออกมาตอนนี้ และทำไมถึงมีเซียนวิเคราะห์ว่า จีนนี่ อาจจะทำให้เรื่องราวในตะวันออกกลาง บานปลาย กลายเป็นตัวจุดชนวนสงครามโลก ครั้งที่ 3 ก็ได้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 4 พ.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • จินนี่ ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 1
    ตั้งชื่อแบบนี่ อย่านึกว่าผมจะเขียนเรื่องดารานะครับ ยังไม่อยากดังแข่งกับซ้อ….
    จีนนี่ หรือ Genie Energy เป็นชื่อ ของบริษัทน้ำมัน ที่มีเซียนระดับโลก ด้านยุทธศาสตร์การเมืองเขาว่า มันอาจจะเป็นตัวจุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ตัวจริงก็ได้ และถ้าจับมาโยงกับเรื่องซีเรีย ฮู้ย… มันยกร่อง เห็นไส้เน่าลากยาวไปถึงไหนๆ ไม่ทำความรู้จัก “จีนนี่” เอาไว้ เดี๋ยวเชยตาย.. อายเขาแย่
    เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา (ค.ศ.2015) ระหว่างที่ ฝูงเครื่องบินรบของคุณพี่ปูติน กำลังบินขึ้น บินลง วันละไม่รู้กี่เที่ยว ไล่ถล่มรังไอซิสราบไปเป็นแถบๆ (แต่สื่อตะวันตกไม่ลงให้หรอก เดี๋ยวคุณพี่ปูตินแกจะหล่อมากไป) นาย Yuval Bartov หัวหน้านักธรณีวิทยาประจำบริษัท Afek Oil & Gas ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Genie ก็ไปออกโทรทัศน์ของอิสราเอล ทำเสียงทุ้มบอกว่า ตอนนี้บริษัทของเขาได้พบแหล่งน้ำมันใหญ่มากกกก ในที่ราบสูงโกลาน Golan Heights
    … เสียงทุ้ม โม้ต่ออย่างตื่นเต้นว่า เราเจอน้ำมัน shale oil ใต้ชั้นหินดินดาน ที่หนาถึง 350 เมตร อยู่ที่ด้านใต้ของที่ราบสูงโกลาน ซึ่งโดยทั่วไปหินดินดาน ที่มีน้ำมันแบบนี้ ที่เจอกันส่วนใหญ่จะหนาแค่ประมาณ 20 ถึง 30 เมตรเท่านั้น นี่มันหนา 10 เท่าเชียวนะ เรากำลังเจออะไรที่มันมหึมา และน่าจะปริมาณที่มหาศาล… โอ้ย ตื่นเต้น ตื่นเต้น
    อิสราเอลนี่ โชคดีชะมัด แบบนี้ยิวคงโม้ไม่หยุดว่า พระเจ้าได้ประทานของขวัญชิ้นใหญ่ให้ยิวผู้ซึ่งเป็นชนพันธุ์พิเศษ เอะ แต่ที่ราบสูงโกลานเป็นของยิวแน่หรือครับ ใจคอคิดจะงาบของเขาไปง่ายๆแบบนี้ เจ้าของเขาจะยอมหรือครับ ไม่ใช่ของชิ้นเล็กวางโชว์ เดินผ่าน ก็ยื่นมือฉวยเอาเข้ากระเป๋ากันง่ายๆแบบนั้นนะ ไอ้แบบนั้นก็กุ๊ยแย่พอแล้ว นี่มันแหล่งน้ำมันนะครับ แล้วเป็นแหล่งตั้งใหญ่โตมโหฬารอย่างนี้
    ในปี ค.ศ.1967 กลุ่มประเทศที่มีบริเวณใกล้ชิดกับอิสราเอล คือ อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน ออกอาการเหม็นเบื่อยิว จึงมีการแอบเหยียบตีน หรือยื่นศอกไปซัดกันอยู่เรื่อย อิสราเอล ได้ลูกยุจากฝั่งอเมริกาที่กำลั งกร่างสุด สั่งให้นายพลโมเช่ดายัน ทำหน้าที่พระเอก ยกทัพไปลุยอียิปต์ ที่นำโดยนายพลกามาล นัสเซอร์ พระเอกอีกคน ที่เป็นเพื่อนรักของโซเวียต โดยมี ซีเรีย อิรัค กับจอร์แดน ถือหางข้างอียิปต์ เอาละสิ
    ผลปรากฏว่า อิสราเอลคงมีของดี รบแค่ 6 วัน อียิปต์ถอยกรูด ทำให้ อิสราเอลโม้เรื่องสงคราม 6 วันนี้ไม่เลิก แต่คนที่น่าจะยังจำเรื่องนี้ดี คือ รัสเซีย ที่เป็นลูกพี่ใหญ่ของอียิปต์ และซีเรียในช่วงนั้น เห็นไหมครับ บางเรื่อง มันมีที่มาเยอะ ไม่รู้เรื่องเก่าๆ ก็อาจจะไม่รู้ว่าเรื่องใหม่ที่เขากำลังเล่นกันนั้น จะเล่นกันยาวไกลย้อนเกล็ดกันหนักหนาขนาดไหน
    อิสราเอลนั้น พอรบชนะ ก็ตัวยืดเบ่งกล้าม ถือโอกาสยึดครองพื้นที่ของซีเรียไป 460 ตารางไมล์ตามแนวเขตแดนของซีเรีย โดยรวมเอาที่ราบสูงโกลานของซีเรียไปด้วยอย่างหน้าตาเฉย หรือเขาเรียกว่า หน้าด้าน ผมไม่แน่ใจ
    ที่ราบสูงโกลานในตอนนั้น ก็มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แล้ว อย่างแรก
    โกลาน มีแหล่งน้ำจืดใหญ่ ที่ไหลลงมาตามแม่น้ำจอร์แดน เลี้ยงหลายประเทศในแถบนั้น รวมทั้งเลี้ยงอิสราเอลด้วย อย่าลืมว่าตะวันออกกลางเป็นทะเลทราย คงหาน้ำจืดยาก แม้คนแถบนั้นจะเคยเป็นคนเลี้ยงอูฐกันมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเก็บน้ำไว้ในหนอกคอตัวเองได้อย่างอูฐ น้ำจืดจึงเป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับพวกเขา แต่ดันมีไอ้คนใจดำ ยึดน้ำจืด ของชาวบ้านเขาไปอย่างหน้าด้านๆ
    นอกจากนี้ ถ้าเอาเครื่องมือจารกรรม จะแบบลูกกอล์ฟยักษ์ ที่ชอบใช้กันนัก หรือจานใบใหญ่ ไปตั้งไว้บนที่ราบสูงโกลาน ที่อยู่หน้าบ้านดามัสคัส เมืองหลวงของซีเรีย อิสราเอลก็คงเห็นหนังสด ทั้งภาพทั้งเสียงในดามัสคัสชัดเจน แจ๋วแหวว ล้างหูล้างตามั่งนะคุณยิว
    ดูหนังสดข้างบ้านจนติดใจ ในปี ค.ศ.1981 อิสราเอล เลยออกกฏหมาย กำหนดให้ที่ราบสูงโกลานเป็นของตัว อยู่ภายใต้บังคับกฏหมาย และการปกครองของอิสราเอล แม้ว่าจะมีมติของสหประชาชาติที่ 242 ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967 บอกว่า การครอบครองที่ราบสูงโกลานของอิสราเอล ไม่ชอบด้วยหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ให้อิสราเอลถอนการครอบครองออก ไปจากบริเวณนั้น แต่อิสราเอลไม่สนใจ จะต้องสนใจทำไม ก็ลูกพี่อเมริกา ไม่เห็นว่าอะไรเลย นี่… ให้มันรู้กันเสียบ้างว่า ข้างกูทำได้ทั้งนั้น ไม่มีผิด ไม่มีคว่ำบาตร แต่ข้างมึงอย่า.. เชียวนะ ทีนี้ใครอย่ามาอ้างเรื่องมติสหประชาชาติกับผมนะ ผมจะด่าให้หงายเงิบเลย ( ผมใช้ศัพท์สมัยใหม่แล้วนะ ใช้ถูกไหมครับ)
    ถึงปี ค.ศ.2008 สหประชาชาติ เอาใหม่ มีมติที่ 161-1 ยืนยัน มติเดิม ให้อิสราเอลคืนพื้นที่ให้แก่ซีเรีย และให้กฏหมายที่อิสราเอลออกใช้บังคับ เมื่อปี ค.ศ.1981 นั้นไม่มีผลใช้บังคับ และให้อิสราเอล ทำการปรับพื้นที่บนที่ราบสูงโกลาน กลับสู่สภาพเดิมทั้งหมด และยุติการครอบครอง การก่อสร้าง และยุติการบังคับให้ชาวซีเรียที่อยู่ในพื้นราบสูงโกลาน มาถือสัญชาติและใช้บัตรประจำตัวของอิสราเอลอีกด้วย โห…สั่งได้เข้ม เห็นภาพเลยว่า ชาวซีเรียนี่โดนข่มขืนย่ำยีใน ศักดิ์ศรี ของความเป็นชาติของเขามานานแล้วนะ แล้วเราเคยรู้เรื่องนี้กันไหมครับ ไม่รู้แน่นอน เพราะสื่อกระป๋องสีไม่ว่ายี่ห้อไหน จะออกข่าวแต่เรื่องอัสสาดเป็นเผด็จการ ตามใบสั่งเท่านั้น
    แล้วตกลงมติเข้มของสหประชาชาติได้ผลไหม มีใครทำอะไรอิสราเอลได้ไหม ไม่น่าถาม ไม่มีครับ ใครจะกล้า ลูกพี่ใหญ่ยืนจังก้าอยู่ข้างหลัง เห็นความเป็นธรรมชัดเจนจัง แบบนี้ยังมาพล่ามเรื่อง
    ธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชน ถุด…เดี๋ยวรื้อเรื่องเขาพระวิหารมาเล่นใหม่เสียหรอก
    ตกลงเห็นหน้าเห็นตัวกันแล้วนะครับว่า ใครเป็นเจ้าของตัวจริงของที่ราบสูง
    โกลาน ที่เพิ่งมีการเจอแหล่งน้ำมันมหึมา ไม่ใช่ไอ้ตัวที่ไปงาบเขามา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967
    และแม้สหประชาชาติ จะมีมติให้อิสราเอลคืนที่ราบสูงโกลาน ให้กับซีเรีย นอกจากอิสราเอลจะไม่สนใจแล้ว อิสราเอลยังเดินหน้ามอบสัมปทานบนพื้นที่ดังกล่าวให้บริษัท จีนนี่ อีกด้วย แน่จริงๆ
    แต่ที่แน่กว่านั้น มันเป็นการให้สัมปทานในปี ค.ศ.2013 ในช่วงเวลาที่ซีเรียกำลังถูกรุมกินโต๊ะ และหนึ่งในผู้รุมกินก็คือ อิสราเอล มันเป็นการวางจังหวะ การรุมกินโต๊ะ และการให้สัมปทาน ที่ได้เวลาอย่างที่อัสสาดไม่มีทางประท้วง หรือต่อสู้อะไรเลย เพราะตัวเองก็ยังแทบจะเอาไม่รอดอยู่แล้ว คนวางแผนรายการนี้ ฝีมือร้ายกาจมาก
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    3 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 1 ตั้งชื่อแบบนี่ อย่านึกว่าผมจะเขียนเรื่องดารานะครับ ยังไม่อยากดังแข่งกับซ้อ…. จีนนี่ หรือ Genie Energy เป็นชื่อ ของบริษัทน้ำมัน ที่มีเซียนระดับโลก ด้านยุทธศาสตร์การเมืองเขาว่า มันอาจจะเป็นตัวจุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ตัวจริงก็ได้ และถ้าจับมาโยงกับเรื่องซีเรีย ฮู้ย… มันยกร่อง เห็นไส้เน่าลากยาวไปถึงไหนๆ ไม่ทำความรู้จัก “จีนนี่” เอาไว้ เดี๋ยวเชยตาย.. อายเขาแย่ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา (ค.ศ.2015) ระหว่างที่ ฝูงเครื่องบินรบของคุณพี่ปูติน กำลังบินขึ้น บินลง วันละไม่รู้กี่เที่ยว ไล่ถล่มรังไอซิสราบไปเป็นแถบๆ (แต่สื่อตะวันตกไม่ลงให้หรอก เดี๋ยวคุณพี่ปูตินแกจะหล่อมากไป) นาย Yuval Bartov หัวหน้านักธรณีวิทยาประจำบริษัท Afek Oil & Gas ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Genie ก็ไปออกโทรทัศน์ของอิสราเอล ทำเสียงทุ้มบอกว่า ตอนนี้บริษัทของเขาได้พบแหล่งน้ำมันใหญ่มากกกก ในที่ราบสูงโกลาน Golan Heights … เสียงทุ้ม โม้ต่ออย่างตื่นเต้นว่า เราเจอน้ำมัน shale oil ใต้ชั้นหินดินดาน ที่หนาถึง 350 เมตร อยู่ที่ด้านใต้ของที่ราบสูงโกลาน ซึ่งโดยทั่วไปหินดินดาน ที่มีน้ำมันแบบนี้ ที่เจอกันส่วนใหญ่จะหนาแค่ประมาณ 20 ถึง 30 เมตรเท่านั้น นี่มันหนา 10 เท่าเชียวนะ เรากำลังเจออะไรที่มันมหึมา และน่าจะปริมาณที่มหาศาล… โอ้ย ตื่นเต้น ตื่นเต้น อิสราเอลนี่ โชคดีชะมัด แบบนี้ยิวคงโม้ไม่หยุดว่า พระเจ้าได้ประทานของขวัญชิ้นใหญ่ให้ยิวผู้ซึ่งเป็นชนพันธุ์พิเศษ เอะ แต่ที่ราบสูงโกลานเป็นของยิวแน่หรือครับ ใจคอคิดจะงาบของเขาไปง่ายๆแบบนี้ เจ้าของเขาจะยอมหรือครับ ไม่ใช่ของชิ้นเล็กวางโชว์ เดินผ่าน ก็ยื่นมือฉวยเอาเข้ากระเป๋ากันง่ายๆแบบนั้นนะ ไอ้แบบนั้นก็กุ๊ยแย่พอแล้ว นี่มันแหล่งน้ำมันนะครับ แล้วเป็นแหล่งตั้งใหญ่โตมโหฬารอย่างนี้ ในปี ค.ศ.1967 กลุ่มประเทศที่มีบริเวณใกล้ชิดกับอิสราเอล คือ อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน ออกอาการเหม็นเบื่อยิว จึงมีการแอบเหยียบตีน หรือยื่นศอกไปซัดกันอยู่เรื่อย อิสราเอล ได้ลูกยุจากฝั่งอเมริกาที่กำลั งกร่างสุด สั่งให้นายพลโมเช่ดายัน ทำหน้าที่พระเอก ยกทัพไปลุยอียิปต์ ที่นำโดยนายพลกามาล นัสเซอร์ พระเอกอีกคน ที่เป็นเพื่อนรักของโซเวียต โดยมี ซีเรีย อิรัค กับจอร์แดน ถือหางข้างอียิปต์ เอาละสิ ผลปรากฏว่า อิสราเอลคงมีของดี รบแค่ 6 วัน อียิปต์ถอยกรูด ทำให้ อิสราเอลโม้เรื่องสงคราม 6 วันนี้ไม่เลิก แต่คนที่น่าจะยังจำเรื่องนี้ดี คือ รัสเซีย ที่เป็นลูกพี่ใหญ่ของอียิปต์ และซีเรียในช่วงนั้น เห็นไหมครับ บางเรื่อง มันมีที่มาเยอะ ไม่รู้เรื่องเก่าๆ ก็อาจจะไม่รู้ว่าเรื่องใหม่ที่เขากำลังเล่นกันนั้น จะเล่นกันยาวไกลย้อนเกล็ดกันหนักหนาขนาดไหน อิสราเอลนั้น พอรบชนะ ก็ตัวยืดเบ่งกล้าม ถือโอกาสยึดครองพื้นที่ของซีเรียไป 460 ตารางไมล์ตามแนวเขตแดนของซีเรีย โดยรวมเอาที่ราบสูงโกลานของซีเรียไปด้วยอย่างหน้าตาเฉย หรือเขาเรียกว่า หน้าด้าน ผมไม่แน่ใจ ที่ราบสูงโกลานในตอนนั้น ก็มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์แล้ว อย่างแรก โกลาน มีแหล่งน้ำจืดใหญ่ ที่ไหลลงมาตามแม่น้ำจอร์แดน เลี้ยงหลายประเทศในแถบนั้น รวมทั้งเลี้ยงอิสราเอลด้วย อย่าลืมว่าตะวันออกกลางเป็นทะเลทราย คงหาน้ำจืดยาก แม้คนแถบนั้นจะเคยเป็นคนเลี้ยงอูฐกันมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเก็บน้ำไว้ในหนอกคอตัวเองได้อย่างอูฐ น้ำจืดจึงเป็นสิ่งมีค่ามากสำหรับพวกเขา แต่ดันมีไอ้คนใจดำ ยึดน้ำจืด ของชาวบ้านเขาไปอย่างหน้าด้านๆ นอกจากนี้ ถ้าเอาเครื่องมือจารกรรม จะแบบลูกกอล์ฟยักษ์ ที่ชอบใช้กันนัก หรือจานใบใหญ่ ไปตั้งไว้บนที่ราบสูงโกลาน ที่อยู่หน้าบ้านดามัสคัส เมืองหลวงของซีเรีย อิสราเอลก็คงเห็นหนังสด ทั้งภาพทั้งเสียงในดามัสคัสชัดเจน แจ๋วแหวว ล้างหูล้างตามั่งนะคุณยิว ดูหนังสดข้างบ้านจนติดใจ ในปี ค.ศ.1981 อิสราเอล เลยออกกฏหมาย กำหนดให้ที่ราบสูงโกลานเป็นของตัว อยู่ภายใต้บังคับกฏหมาย และการปกครองของอิสราเอล แม้ว่าจะมีมติของสหประชาชาติที่ 242 ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967 บอกว่า การครอบครองที่ราบสูงโกลานของอิสราเอล ไม่ชอบด้วยหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ให้อิสราเอลถอนการครอบครองออก ไปจากบริเวณนั้น แต่อิสราเอลไม่สนใจ จะต้องสนใจทำไม ก็ลูกพี่อเมริกา ไม่เห็นว่าอะไรเลย นี่… ให้มันรู้กันเสียบ้างว่า ข้างกูทำได้ทั้งนั้น ไม่มีผิด ไม่มีคว่ำบาตร แต่ข้างมึงอย่า.. เชียวนะ ทีนี้ใครอย่ามาอ้างเรื่องมติสหประชาชาติกับผมนะ ผมจะด่าให้หงายเงิบเลย ( ผมใช้ศัพท์สมัยใหม่แล้วนะ ใช้ถูกไหมครับ) ถึงปี ค.ศ.2008 สหประชาชาติ เอาใหม่ มีมติที่ 161-1 ยืนยัน มติเดิม ให้อิสราเอลคืนพื้นที่ให้แก่ซีเรีย และให้กฏหมายที่อิสราเอลออกใช้บังคับ เมื่อปี ค.ศ.1981 นั้นไม่มีผลใช้บังคับ และให้อิสราเอล ทำการปรับพื้นที่บนที่ราบสูงโกลาน กลับสู่สภาพเดิมทั้งหมด และยุติการครอบครอง การก่อสร้าง และยุติการบังคับให้ชาวซีเรียที่อยู่ในพื้นราบสูงโกลาน มาถือสัญชาติและใช้บัตรประจำตัวของอิสราเอลอีกด้วย โห…สั่งได้เข้ม เห็นภาพเลยว่า ชาวซีเรียนี่โดนข่มขืนย่ำยีใน ศักดิ์ศรี ของความเป็นชาติของเขามานานแล้วนะ แล้วเราเคยรู้เรื่องนี้กันไหมครับ ไม่รู้แน่นอน เพราะสื่อกระป๋องสีไม่ว่ายี่ห้อไหน จะออกข่าวแต่เรื่องอัสสาดเป็นเผด็จการ ตามใบสั่งเท่านั้น แล้วตกลงมติเข้มของสหประชาชาติได้ผลไหม มีใครทำอะไรอิสราเอลได้ไหม ไม่น่าถาม ไม่มีครับ ใครจะกล้า ลูกพี่ใหญ่ยืนจังก้าอยู่ข้างหลัง เห็นความเป็นธรรมชัดเจนจัง แบบนี้ยังมาพล่ามเรื่อง ธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชน ถุด…เดี๋ยวรื้อเรื่องเขาพระวิหารมาเล่นใหม่เสียหรอก ตกลงเห็นหน้าเห็นตัวกันแล้วนะครับว่า ใครเป็นเจ้าของตัวจริงของที่ราบสูง โกลาน ที่เพิ่งมีการเจอแหล่งน้ำมันมหึมา ไม่ใช่ไอ้ตัวที่ไปงาบเขามา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1967 และแม้สหประชาชาติ จะมีมติให้อิสราเอลคืนที่ราบสูงโกลาน ให้กับซีเรีย นอกจากอิสราเอลจะไม่สนใจแล้ว อิสราเอลยังเดินหน้ามอบสัมปทานบนพื้นที่ดังกล่าวให้บริษัท จีนนี่ อีกด้วย แน่จริงๆ แต่ที่แน่กว่านั้น มันเป็นการให้สัมปทานในปี ค.ศ.2013 ในช่วงเวลาที่ซีเรียกำลังถูกรุมกินโต๊ะ และหนึ่งในผู้รุมกินก็คือ อิสราเอล มันเป็นการวางจังหวะ การรุมกินโต๊ะ และการให้สัมปทาน ที่ได้เวลาอย่างที่อัสสาดไม่มีทางประท้วง หรือต่อสู้อะไรเลย เพราะตัวเองก็ยังแทบจะเอาไม่รอดอยู่แล้ว คนวางแผนรายการนี้ ฝีมือร้ายกาจมาก สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 3 พ.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • Logging Sucks: ทำไม Log ของคุณถึง “โกหก” — และวิธีแก้ด้วย Wide Events

    บทความนี้ของ Boris Tane เป็นการ “เขย่าวงการ Observability” แบบตรงไปตรงมา เขาชี้ให้เห็นว่าระบบ Logging แบบดั้งเดิมที่องค์กรส่วนใหญ่ใช้อยู่ในปี 2025 นั้นล้าสมัยเกินไปสำหรับระบบ distributed ที่ซับซ้อนในยุค microservices และ cloud-native ความจริงคือ log ส่วนใหญ่ “ไม่ได้โกหกโดยตั้งใจ” แต่เพราะมันถูกออกแบบมาสำหรับยุคที่ระบบมีเพียงเซิร์ฟเวอร์เดียวและ request flow ง่ายกว่ามาก

    ปัญหาหลักคือ log แบบเก่าเน้น “เขียนง่าย” มากกว่า “ค้นหาได้จริง” ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ เช่น checkout ล้มเหลว หรือ latency พุ่งขึ้นตอนตีสาม ทีม DevOps ต้อง grep หานรกแตกเป็นหมื่นบรรทัดโดยไม่เจอ context ที่ต้องการ เพราะ log กระจัดกระจาย ขาดโครงสร้าง และไม่สื่อความหมายเชิงธุรกิจที่แท้จริง

    Boris เสนอแนวคิด “Wide Events” หรือ “Canonical Log Line” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนมุมมองจากการ log เป็นชิ้นเล็ก ๆ หลายบรรทัด ไปสู่การสร้าง “หนึ่ง event ต่อหนึ่ง request” ที่รวมทุก context ที่จำเป็น เช่น user, subscription tier, payment provider, feature flags, latency breakdown, error code ฯลฯ วิธีนี้ทำให้ log กลายเป็นข้อมูลเชิงวิเคราะห์ (analytics-grade data) ที่ตอบคำถามเชิงธุรกิจได้ทันที เช่น “ทำไม premium users checkout fail มากขึ้น?” หรือ “feature flag ใหม่ทำให้ error rate เพิ่มหรือไม่?”

    บทความยังชี้ให้เห็นว่า OpenTelemetry ไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันเป็นเพียง plumbing — ถ้าไม่ใส่ context ที่ถูกต้องลงไป ก็ยังได้ telemetry ที่ไร้ประโยชน์เหมือนเดิม การแก้ปัญหาที่แท้จริงคือการออกแบบ event ให้ “กว้างพอ” และใช้ tail-based sampling เพื่อควบคุมต้นทุนโดยไม่เสียข้อมูลสำคัญ เช่น error, slow requests หรือ VIP users

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ปัญหาของ Logging แบบเดิม
    Log กระจัดกระจาย ขาด context ที่จำเป็น
    String search ใช้ไม่ได้ผลในระบบ distributed

    แนวคิด Wide Events / Canonical Log Line
    หนึ่ง event ต่อหนึ่ง request พร้อม context ครบถ้วน
    เปลี่ยน log จาก “ข้อความ” เป็น “ข้อมูลวิเคราะห์ได้”

    ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย
    Structured logging ≠ Wide events
    OpenTelemetry ไม่ได้แก้ปัญหาให้เองถ้าไม่ใส่ context

    สิ่งที่ต้องระวังในการใช้งานจริง
    High-cardinality fields อาจทำให้ระบบเก่า choke
    Random sampling เสี่ยงทำให้ error สำคัญหายไป

    https://loggingsucks.com/
    🧨 Logging Sucks: ทำไม Log ของคุณถึง “โกหก” — และวิธีแก้ด้วย Wide Events บทความนี้ของ Boris Tane เป็นการ “เขย่าวงการ Observability” แบบตรงไปตรงมา เขาชี้ให้เห็นว่าระบบ Logging แบบดั้งเดิมที่องค์กรส่วนใหญ่ใช้อยู่ในปี 2025 นั้นล้าสมัยเกินไปสำหรับระบบ distributed ที่ซับซ้อนในยุค microservices และ cloud-native ความจริงคือ log ส่วนใหญ่ “ไม่ได้โกหกโดยตั้งใจ” แต่เพราะมันถูกออกแบบมาสำหรับยุคที่ระบบมีเพียงเซิร์ฟเวอร์เดียวและ request flow ง่ายกว่ามาก ปัญหาหลักคือ log แบบเก่าเน้น “เขียนง่าย” มากกว่า “ค้นหาได้จริง” ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ เช่น checkout ล้มเหลว หรือ latency พุ่งขึ้นตอนตีสาม ทีม DevOps ต้อง grep หานรกแตกเป็นหมื่นบรรทัดโดยไม่เจอ context ที่ต้องการ เพราะ log กระจัดกระจาย ขาดโครงสร้าง และไม่สื่อความหมายเชิงธุรกิจที่แท้จริง Boris เสนอแนวคิด “Wide Events” หรือ “Canonical Log Line” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนมุมมองจากการ log เป็นชิ้นเล็ก ๆ หลายบรรทัด ไปสู่การสร้าง “หนึ่ง event ต่อหนึ่ง request” ที่รวมทุก context ที่จำเป็น เช่น user, subscription tier, payment provider, feature flags, latency breakdown, error code ฯลฯ วิธีนี้ทำให้ log กลายเป็นข้อมูลเชิงวิเคราะห์ (analytics-grade data) ที่ตอบคำถามเชิงธุรกิจได้ทันที เช่น “ทำไม premium users checkout fail มากขึ้น?” หรือ “feature flag ใหม่ทำให้ error rate เพิ่มหรือไม่?” บทความยังชี้ให้เห็นว่า OpenTelemetry ไม่ใช่ยาวิเศษ เพราะมันเป็นเพียง plumbing — ถ้าไม่ใส่ context ที่ถูกต้องลงไป ก็ยังได้ telemetry ที่ไร้ประโยชน์เหมือนเดิม การแก้ปัญหาที่แท้จริงคือการออกแบบ event ให้ “กว้างพอ” และใช้ tail-based sampling เพื่อควบคุมต้นทุนโดยไม่เสียข้อมูลสำคัญ เช่น error, slow requests หรือ VIP users 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ปัญหาของ Logging แบบเดิม ➡️ Log กระจัดกระจาย ขาด context ที่จำเป็น ➡️ String search ใช้ไม่ได้ผลในระบบ distributed ✅ แนวคิด Wide Events / Canonical Log Line ➡️ หนึ่ง event ต่อหนึ่ง request พร้อม context ครบถ้วน ➡️ เปลี่ยน log จาก “ข้อความ” เป็น “ข้อมูลวิเคราะห์ได้” ‼️ ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย ⛔ Structured logging ≠ Wide events ⛔ OpenTelemetry ไม่ได้แก้ปัญหาให้เองถ้าไม่ใส่ context ‼️ สิ่งที่ต้องระวังในการใช้งานจริง ⛔ High-cardinality fields อาจทำให้ระบบเก่า choke ⛔ Random sampling เสี่ยงทำให้ error สำคัญหายไป https://loggingsucks.com/
    LOGGINGSUCKS.COM
    Logging Sucks - Your Logs Are Lying To You
    Why traditional logging fails and how wide events can fix your observability
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • GnuCash 5.14 อัปเดตใหญ่: เพิ่มการรองรับ US Bonds และยกระดับระบบดึงข้อมูลการเงิน

    GnuCash 5.14 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญอย่างการรองรับ US Bonds ผ่านโมดูล Finance::Quote ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดึงราคาของพันธบัตรสหรัฐฯ ประเภท E, EE และ I ได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ การเพิ่มความสามารถนี้สะท้อนทิศทางของ GnuCash ที่ต้องการเป็นเครื่องมือบัญชีส่วนบุคคลและธุรกิจขนาดเล็กที่ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ต้องการติดตามสินทรัพย์หลากหลายประเภทในพอร์ตเดียว

    การอัปเดตครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามต่อเนื่องในการทำให้ GnuCash รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เติบโตในปี 2025 เมื่อผู้ใช้ทั่วไปเริ่มลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น ทั้งเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพื่อรับผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าในสภาวะเศรษฐกิจผันผวน การรองรับ US Bonds จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ GnuCash แข่งขันกับซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ได้ดีขึ้น

    นอกจากนี้ การอัปเดตยังคงเน้นความเสถียรและการแก้ไขบั๊กในหลายส่วน ซึ่งเป็นจุดแข็งของโครงการโอเพ่นซอร์สที่มีชุมชนผู้ใช้และผู้พัฒนาขนาดใหญ่ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ GnuCash ยังคงเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์บัญชีฟรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Linux, Windows และ macOS โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังอย่างละเอียด

    ในภาพรวม GnuCash 5.14 เป็นอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลต่อผู้ใช้ที่ลงทุนในตราสารหนี้อย่างชัดเจน และยังเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนากำลังผลักดันให้ซอฟต์แวร์รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่หลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ทันกับความต้องการของผู้ใช้ยุคใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน GnuCash 5.14
    รองรับ US Bonds (E, EE, I) ผ่าน Finance::Quote
    ดึงข้อมูลราคาพันธบัตรได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์

    ทิศทางการพัฒนา
    เน้นรองรับสินทรัพย์การเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น
    ปรับปรุงเสถียรภาพและแก้ไขบั๊กอย่างต่อเนื่อง

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    การดึงข้อมูล Finance::Quote อาจขึ้นกับความพร้อมของแหล่งข้อมูลภายนอก
    ผู้ใช้ที่ไม่อัปเดตโมดูล Perl อาจพบปัญหาการดึงข้อมูล

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้
    อัปเดต GnuCash และ Finance::Quote ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพันธบัตรก่อนบันทึกในบัญชี

    https://9to5linux.com/gnucash-5-14-open-source-accounting-software-adds-support-for-us-bonds
    💵 GnuCash 5.14 อัปเดตใหญ่: เพิ่มการรองรับ US Bonds และยกระดับระบบดึงข้อมูลการเงิน GnuCash 5.14 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญอย่างการรองรับ US Bonds ผ่านโมดูล Finance::Quote ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดึงราคาของพันธบัตรสหรัฐฯ ประเภท E, EE และ I ได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ การเพิ่มความสามารถนี้สะท้อนทิศทางของ GnuCash ที่ต้องการเป็นเครื่องมือบัญชีส่วนบุคคลและธุรกิจขนาดเล็กที่ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ต้องการติดตามสินทรัพย์หลากหลายประเภทในพอร์ตเดียว การอัปเดตครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามต่อเนื่องในการทำให้ GnuCash รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เติบโตในปี 2025 เมื่อผู้ใช้ทั่วไปเริ่มลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น ทั้งเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพื่อรับผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าในสภาวะเศรษฐกิจผันผวน การรองรับ US Bonds จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ GnuCash แข่งขันกับซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การอัปเดตยังคงเน้นความเสถียรและการแก้ไขบั๊กในหลายส่วน ซึ่งเป็นจุดแข็งของโครงการโอเพ่นซอร์สที่มีชุมชนผู้ใช้และผู้พัฒนาขนาดใหญ่ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ GnuCash ยังคงเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์บัญชีฟรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Linux, Windows และ macOS โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังอย่างละเอียด ในภาพรวม GnuCash 5.14 เป็นอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลต่อผู้ใช้ที่ลงทุนในตราสารหนี้อย่างชัดเจน และยังเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนากำลังผลักดันให้ซอฟต์แวร์รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่หลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ทันกับความต้องการของผู้ใช้ยุคใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน GnuCash 5.14 ➡️ รองรับ US Bonds (E, EE, I) ผ่าน Finance::Quote ➡️ ดึงข้อมูลราคาพันธบัตรได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ ✅ ทิศทางการพัฒนา ➡️ เน้นรองรับสินทรัพย์การเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น ➡️ ปรับปรุงเสถียรภาพและแก้ไขบั๊กอย่างต่อเนื่อง ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ การดึงข้อมูล Finance::Quote อาจขึ้นกับความพร้อมของแหล่งข้อมูลภายนอก ⛔ ผู้ใช้ที่ไม่อัปเดตโมดูล Perl อาจพบปัญหาการดึงข้อมูล ‼️ คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ ⛔ อัปเดต GnuCash และ Finance::Quote ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ⛔ ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพันธบัตรก่อนบันทึกในบัญชี https://9to5linux.com/gnucash-5-14-open-source-accounting-software-adds-support-for-us-bonds
    9TO5LINUX.COM
    GnuCash 5.14 Open-Source Accounting Software Adds Support for US Bonds - 9to5Linux
    GnuCash 5.14 open-source, free, and cross-platform accounting software is now available for download with various improvements and bug fixes.
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • Ventoy 1.1.10 เปิดตัว: รองรับ AerynOS พร้อมยกระดับประสบการณ์ Multiboot บน Linux

    Ventoy 1.1.10 มาถึงพร้อมการอัปเดตสำคัญที่ทำให้เครื่องมือ multiboot ยอดนิยมนี้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการรองรับ AerynOS ซึ่งเป็นดิสโทรรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจในชุมชนโอเพ่นซอร์ส การรองรับนี้สะท้อนให้เห็นว่า Ventoy ยังคงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบดิสโทรจำนวนมากโดยไม่ต้องเขียน USB ใหม่ทุกครั้ง

    การอัปเดตครั้งนี้ยังมาพร้อมการปรับปรุงการบูตบนระบบไฟล์ EXT4 ซึ่งเป็นฟอร์แมตที่ดิสโทร Linux ส่วนใหญ่ใช้เป็นค่าเริ่มต้น การแก้ไขนี้ช่วยลดปัญหาบูตไม่ขึ้นหรือโหลดเคอร์เนลผิดพลาดที่เคยเกิดในบางรุ่นของดิสโทร ทำให้ Ventoy กลายเป็นเครื่องมือที่เสถียรขึ้นสำหรับงานทดสอบระบบ, recovery, และ deployment ในองค์กร

    อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือการปรับปรุง Wayland support สำหรับ Ventoy LinuxGUI ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนา Ventoyกำลังเดินหน้าให้ GUI ของตนเข้ากันได้กับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจาก X11 ไปสู่ Wayland อย่างเต็มรูปแบบ การรองรับนี้ช่วยให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ เช่น GNOME, KDE Plasma 6 และ COSMIC สามารถใช้งาน Ventoy GUI ได้อย่างราบรื่นขึ้น

    ในภาพรวม Ventoy 1.1.10 เป็นการอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านไอที, นักทดสอบดิสโทร, และผู้ดูแลระบบที่ต้องการเครื่องมือ multiboot ที่เชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฮไลต์ของ Ventoy 1.1.10
    รองรับ AerynOS อย่างเป็นทางการ
    ปรับปรุงการบูตบน EXT4 ให้เสถียรขึ้น

    การพัฒนา GUI บน Wayland
    Ventoy LinuxGUI ทำงานได้ดีขึ้นบน Wayland
    รองรับเดสก์ท็อปยุคใหม่ เช่น GNOME และ KDE Plasma

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    ดิสโทรบางตัวอาจยังต้องการ compatibility tweaks
    การบูตบนฮาร์ดแวร์เก่าอาจยังมีปัญหาในบางกรณี

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้
    อัปเดต Ventoy USB ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนใช้งาน
    ทดสอบ ISO หลายตัวก่อนใช้งานจริงในงาน production

    https://9to5linux.com/ventoy-1-1-10-bootable-usb-creator-released-with-support-for-aerynos
    🧰 Ventoy 1.1.10 เปิดตัว: รองรับ AerynOS พร้อมยกระดับประสบการณ์ Multiboot บน Linux Ventoy 1.1.10 มาถึงพร้อมการอัปเดตสำคัญที่ทำให้เครื่องมือ multiboot ยอดนิยมนี้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการรองรับ AerynOS ซึ่งเป็นดิสโทรรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจในชุมชนโอเพ่นซอร์ส การรองรับนี้สะท้อนให้เห็นว่า Ventoy ยังคงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบดิสโทรจำนวนมากโดยไม่ต้องเขียน USB ใหม่ทุกครั้ง การอัปเดตครั้งนี้ยังมาพร้อมการปรับปรุงการบูตบนระบบไฟล์ EXT4 ซึ่งเป็นฟอร์แมตที่ดิสโทร Linux ส่วนใหญ่ใช้เป็นค่าเริ่มต้น การแก้ไขนี้ช่วยลดปัญหาบูตไม่ขึ้นหรือโหลดเคอร์เนลผิดพลาดที่เคยเกิดในบางรุ่นของดิสโทร ทำให้ Ventoy กลายเป็นเครื่องมือที่เสถียรขึ้นสำหรับงานทดสอบระบบ, recovery, และ deployment ในองค์กร อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือการปรับปรุง Wayland support สำหรับ Ventoy LinuxGUI ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนา Ventoyกำลังเดินหน้าให้ GUI ของตนเข้ากันได้กับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจาก X11 ไปสู่ Wayland อย่างเต็มรูปแบบ การรองรับนี้ช่วยให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ เช่น GNOME, KDE Plasma 6 และ COSMIC สามารถใช้งาน Ventoy GUI ได้อย่างราบรื่นขึ้น ในภาพรวม Ventoy 1.1.10 เป็นการอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานด้านไอที, นักทดสอบดิสโทร, และผู้ดูแลระบบที่ต้องการเครื่องมือ multiboot ที่เชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฮไลต์ของ Ventoy 1.1.10 ➡️ รองรับ AerynOS อย่างเป็นทางการ ➡️ ปรับปรุงการบูตบน EXT4 ให้เสถียรขึ้น ✅ การพัฒนา GUI บน Wayland ➡️ Ventoy LinuxGUI ทำงานได้ดีขึ้นบน Wayland ➡️ รองรับเดสก์ท็อปยุคใหม่ เช่น GNOME และ KDE Plasma ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ ดิสโทรบางตัวอาจยังต้องการ compatibility tweaks ⛔ การบูตบนฮาร์ดแวร์เก่าอาจยังมีปัญหาในบางกรณี ‼️ คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ ⛔ อัปเดต Ventoy USB ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนใช้งาน ⛔ ทดสอบ ISO หลายตัวก่อนใช้งานจริงในงาน production https://9to5linux.com/ventoy-1-1-10-bootable-usb-creator-released-with-support-for-aerynos
    9TO5LINUX.COM
    Ventoy 1.1.10 Bootable USB Creator Released with Support for AerynOS - 9to5Linux
    Ventoy 1.1.10 open-source bootable USB solution is now available for download with support for AerynOS and other improvements.
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • MPV 0.41 มาแล้ว: ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของวิดีโอเพลเยอร์สายโอเพ่นซอร์สบน Wayland

    MPV 0.41 เปิดตัวพร้อมการปรับปรุงสำคัญด้าน Wayland ซึ่งเป็นหัวใจของเดสก์ท็อป Linux ยุคใหม่ การอัปเดตครั้งนี้ช่วยให้การเรนเดอร์ภาพลื่นไหลขึ้น ลด input latency และแก้ปัญหาการจัดการหน้าต่างที่เคยเป็นข้อจำกัดในเวอร์ชันก่อนหน้า การพัฒนา Wayland ecosystem ที่เร็วขึ้นในปี 2025 ทำให้โปรเจกต์อย่าง MPV ต้องเร่งตามให้ทัน และเวอร์ชันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

    อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือการรองรับ Ambient Light Sensor (ALS) ผ่าน sysfs ซึ่งช่วยให้ MPV ปรับความสว่างของวิดีโอตามสภาพแสงรอบตัวได้อัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้เคยพบในอุปกรณ์พกพาและระบบปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ แต่กำลังเริ่มถูกนำมาใช้ใน Linux Desktop มากขึ้น โดยเฉพาะในแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่รองรับเซนเซอร์แบบมาตรฐาน ACPI และ ALS

    การอัปเดตครั้งนี้ยังสอดคล้องกับทิศทางของ MPV ที่เน้นการรองรับเทคโนโลยีภาพสมัยใหม่ เช่น HDR, tone‑mapping และ GPU scaling ซึ่งเริ่มถูกผลักดันอย่างจริงจังตั้งแต่เวอร์ชัน 0.39–0.40 การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ MPV กลายเป็นหนึ่งในวิดีโอเพลเยอร์ที่นักรีวิวสาย Linux ยกให้เป็น “มาตรฐานทองคำ” สำหรับงานดูหนังคุณภาพสูงบนระบบโอเพ่นซอร์ส

    ในภาพรวม MPV 0.41 ไม่ได้เป็นเพียงอัปเดตเล็ก ๆ แต่เป็นการยืนยันว่าโปรเจกต์ยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคง และพร้อมรองรับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland เต็มรูปแบบ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความเข้ากันได้ และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ยุคใหม่มากขึ้น

    ไฮไลต์ของ MPV 0.41
    ปรับปรุง Wayland ให้เสถียรและตอบสนองเร็วขึ้น
    รองรับ Ambient Light Sensor ผ่าน sysfs ALS

    ทิศทางการพัฒนา
    สอดคล้องกับการผลักดัน Wayland ใน Linux Desktop
    เดินหน้ารองรับ HDR และ GPU scaling อย่างต่อเนื่อง

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    ฟีเจอร์ ALS อาจใช้ไม่ได้ในฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า
    การเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland อาจทำให้ปลั๊กอินหรือสคริปต์บางตัวต้องปรับตาม

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้
    อัปเดตไดรเวอร์ GPU ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่
    ตรวจสอบการตั้งค่า Wayland หากพบปัญหา input หรือการเรนเดอร์

    https://9to5linux.com/mpv-0-41-open-source-video-player-released-with-improved-wayland-support
    🎬 MPV 0.41 มาแล้ว: ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของวิดีโอเพลเยอร์สายโอเพ่นซอร์สบน Wayland MPV 0.41 เปิดตัวพร้อมการปรับปรุงสำคัญด้าน Wayland ซึ่งเป็นหัวใจของเดสก์ท็อป Linux ยุคใหม่ การอัปเดตครั้งนี้ช่วยให้การเรนเดอร์ภาพลื่นไหลขึ้น ลด input latency และแก้ปัญหาการจัดการหน้าต่างที่เคยเป็นข้อจำกัดในเวอร์ชันก่อนหน้า การพัฒนา Wayland ecosystem ที่เร็วขึ้นในปี 2025 ทำให้โปรเจกต์อย่าง MPV ต้องเร่งตามให้ทัน และเวอร์ชันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือการรองรับ Ambient Light Sensor (ALS) ผ่าน sysfs ซึ่งช่วยให้ MPV ปรับความสว่างของวิดีโอตามสภาพแสงรอบตัวได้อัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้เคยพบในอุปกรณ์พกพาและระบบปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ แต่กำลังเริ่มถูกนำมาใช้ใน Linux Desktop มากขึ้น โดยเฉพาะในแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่รองรับเซนเซอร์แบบมาตรฐาน ACPI และ ALS การอัปเดตครั้งนี้ยังสอดคล้องกับทิศทางของ MPV ที่เน้นการรองรับเทคโนโลยีภาพสมัยใหม่ เช่น HDR, tone‑mapping และ GPU scaling ซึ่งเริ่มถูกผลักดันอย่างจริงจังตั้งแต่เวอร์ชัน 0.39–0.40 การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ MPV กลายเป็นหนึ่งในวิดีโอเพลเยอร์ที่นักรีวิวสาย Linux ยกให้เป็น “มาตรฐานทองคำ” สำหรับงานดูหนังคุณภาพสูงบนระบบโอเพ่นซอร์ส ในภาพรวม MPV 0.41 ไม่ได้เป็นเพียงอัปเดตเล็ก ๆ แต่เป็นการยืนยันว่าโปรเจกต์ยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคง และพร้อมรองรับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland เต็มรูปแบบ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความเข้ากันได้ และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ยุคใหม่มากขึ้น ✅ ไฮไลต์ของ MPV 0.41 ➡️ ปรับปรุง Wayland ให้เสถียรและตอบสนองเร็วขึ้น ➡️ รองรับ Ambient Light Sensor ผ่าน sysfs ALS ✅ ทิศทางการพัฒนา ➡️ สอดคล้องกับการผลักดัน Wayland ใน Linux Desktop ➡️ เดินหน้ารองรับ HDR และ GPU scaling อย่างต่อเนื่อง ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ ฟีเจอร์ ALS อาจใช้ไม่ได้ในฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า ⛔ การเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland อาจทำให้ปลั๊กอินหรือสคริปต์บางตัวต้องปรับตาม ‼️ คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ ⛔ อัปเดตไดรเวอร์ GPU ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่ ⛔ ตรวจสอบการตั้งค่า Wayland หากพบปัญหา input หรือการเรนเดอร์ https://9to5linux.com/mpv-0-41-open-source-video-player-released-with-improved-wayland-support
    9TO5LINUX.COM
    MPV 0.41 Open-Source Video Player Released with Improved Wayland Support - 9to5Linux
    MPV 0.41 open-source media player is now available for download with improved Wayland support and ambient light support on Linux.
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • Linux Gaming พุ่งแรงรับปลายปี: 13 เกมเด่นใน Steam Winter Sale ที่คอ Linux ไม่ควรพลาด

    Steam Winter Sale ปี 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของวงการเกมบน Linux เพราะจำนวนเกมที่รองรับ Proton และ Steam Deck เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ Linux สามารถเข้าถึงเกมระดับ AAA ได้มากกว่ายุคก่อนหลายเท่า รายชื่อเกมที่ถูกคัดมาบนหน้าเว็บนี้สะท้อนภาพรวมของ ecosystem ที่โตขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เกมอินดี้ราคาประหยัดไปจนถึงเกมฟอร์มยักษ์ที่เคยเป็นไปไม่ได้สำหรับ Linux เมื่อหลายปีก่อน

    สิ่งที่โดดเด่นคือเกมหลากหลายแนว ทั้ง RPG, Survival Horror, Extraction Shooter, Sandbox และ Adventure ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับสถานะ Verified บน Steam Deck แสดงให้เห็นว่าการปรับแต่ง compatibility layer อย่าง Proton ทำงานได้ดีขึ้นมาก นอกจากนี้ เกมอย่าง Dying Light, The Last of Us Part I และ Metal Gear Solid Δ ยังเป็นตัวอย่างของเกมที่แม้ไม่รองรับ Linux แบบ native แต่ก็เล่นได้ดีผ่าน Proton ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเลือกเกมตามระบบปฏิบัติการอีกต่อไปเหมือนในอดีต

    อีกเทรนด์ที่น่าสนใจคือเกมอินดี้คุณภาพสูง เช่น Tiny Glade, R.E.P.O., และ Escape From Duckov ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในชุมชน Linux เพราะราคาเข้าถึงง่ายและรองรับ Steam Deck ได้ดี การเติบโตของเกมอินดี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างขึ้นสำหรับนักพัฒนาเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องพึ่ง engine หรือระบบ DRM ที่ผูกกับ Windows แบบเดิม ๆ

    ท้ายที่สุด รายการนี้ยังชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้ Linux มีตัวเลือกมากขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งเกม native และเกมที่เล่นผ่าน Proton โดยมีส่วนลดแรงในช่วง Winter Sale ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการขยายคลังเกมของผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้ Steam Deck หรือเครื่อง Linux แบบ custom build

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทรนด์ Linux Gaming ปี 2025
    Proton และ Steam Deck ทำให้เกม AAA เล่นได้ง่ายขึ้น
    เกมอินดี้คุณภาพสูงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

    เกมเด่นที่ลดราคาแรง
    The Last of Us Part I, Dying Light, Expedition 33 ลดสูงสุดถึง 50–85%
    เกม native Linux เช่น Tiny Glade และ Dying Light (ภาคแรก) ทำงานได้ดีมาก

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    เกมบางเกมยังเป็น “Unsupported” บน Steam Deck เช่น Mafia: The Old Country และ MGS Δ
    ประสบการณ์การเล่นอาจขึ้นกับเวอร์ชัน Proton และสเปกเครื่อง

    คำแนะนำก่อนซื้อ
    ตรวจสอบ ProtonDB ก่อนซื้อเกม AAA
    อัปเดต SteamOS/Proton ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความเสถียร

    https://itsfoss.com/news/linux-games-steam-winter-sale-2025/
    🎮 Linux Gaming พุ่งแรงรับปลายปี: 13 เกมเด่นใน Steam Winter Sale ที่คอ Linux ไม่ควรพลาด Steam Winter Sale ปี 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของวงการเกมบน Linux เพราะจำนวนเกมที่รองรับ Proton และ Steam Deck เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ Linux สามารถเข้าถึงเกมระดับ AAA ได้มากกว่ายุคก่อนหลายเท่า รายชื่อเกมที่ถูกคัดมาบนหน้าเว็บนี้สะท้อนภาพรวมของ ecosystem ที่โตขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เกมอินดี้ราคาประหยัดไปจนถึงเกมฟอร์มยักษ์ที่เคยเป็นไปไม่ได้สำหรับ Linux เมื่อหลายปีก่อน สิ่งที่โดดเด่นคือเกมหลากหลายแนว ทั้ง RPG, Survival Horror, Extraction Shooter, Sandbox และ Adventure ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับสถานะ Verified บน Steam Deck แสดงให้เห็นว่าการปรับแต่ง compatibility layer อย่าง Proton ทำงานได้ดีขึ้นมาก นอกจากนี้ เกมอย่าง Dying Light, The Last of Us Part I และ Metal Gear Solid Δ ยังเป็นตัวอย่างของเกมที่แม้ไม่รองรับ Linux แบบ native แต่ก็เล่นได้ดีผ่าน Proton ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเลือกเกมตามระบบปฏิบัติการอีกต่อไปเหมือนในอดีต อีกเทรนด์ที่น่าสนใจคือเกมอินดี้คุณภาพสูง เช่น Tiny Glade, R.E.P.O., และ Escape From Duckov ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในชุมชน Linux เพราะราคาเข้าถึงง่ายและรองรับ Steam Deck ได้ดี การเติบโตของเกมอินดี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างขึ้นสำหรับนักพัฒนาเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องพึ่ง engine หรือระบบ DRM ที่ผูกกับ Windows แบบเดิม ๆ ท้ายที่สุด รายการนี้ยังชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้ Linux มีตัวเลือกมากขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งเกม native และเกมที่เล่นผ่าน Proton โดยมีส่วนลดแรงในช่วง Winter Sale ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการขยายคลังเกมของผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้ Steam Deck หรือเครื่อง Linux แบบ custom build 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทรนด์ Linux Gaming ปี 2025 ➡️ Proton และ Steam Deck ทำให้เกม AAA เล่นได้ง่ายขึ้น ➡️ เกมอินดี้คุณภาพสูงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ✅ เกมเด่นที่ลดราคาแรง ➡️ The Last of Us Part I, Dying Light, Expedition 33 ลดสูงสุดถึง 50–85% ➡️ เกม native Linux เช่น Tiny Glade และ Dying Light (ภาคแรก) ทำงานได้ดีมาก ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ เกมบางเกมยังเป็น “Unsupported” บน Steam Deck เช่น Mafia: The Old Country และ MGS Δ ⛔ ประสบการณ์การเล่นอาจขึ้นกับเวอร์ชัน Proton และสเปกเครื่อง ‼️ คำแนะนำก่อนซื้อ ⛔ ตรวจสอบ ProtonDB ก่อนซื้อเกม AAA ⛔ อัปเดต SteamOS/Proton ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความเสถียร https://itsfoss.com/news/linux-games-steam-winter-sale-2025/
    ITSFOSS.COM
    13 Awesome Games Linux Users Can Grab in Steam Winter Sale 🎮 (Ends 5 January)
    End 2025 on a winning note by grabbing some fun games for your Linux gaming rig!
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
More Results