• กองบัญชาการกลางของสหรัฐอเมริกา (CENTCOM) เผยแพร่ภาพจากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) ในทะเลแดงตอนเหนือ ขณะกำลังเตรียมกระสุนและอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับปฏิบัติการโจมตีกลุ่มฮูตี เยเมน

    อาวุธที่เห็นในวิดีโอนี้ ได้แก่ :
    ขีปนาวุธร่อนยิงจากอากาศขั้นสูง AGM-84H/K SLAM-ER
    อาวุธระยะประชิดร่วม AGM-154 (JSOW), ระเบิด MK-82 ขนาด 500 ปอนด์ ที่ติดตั้งชุด JDAM,
    ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศระยะกลางขั้นสูง AIM-120 (AMRAAM)
    ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-9 “Sidewinder”
    ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AGM-114 “Hellfire”
    และสุดท้ายคือจรวด Hydra-70 ที่น่าจะแปลงมาใช้ระบบอาวุธสังหารแม่นยำขั้นสูง AGR-20 (APKWS)
    กองบัญชาการกลางของสหรัฐอเมริกา (CENTCOM) เผยแพร่ภาพจากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) ในทะเลแดงตอนเหนือ ขณะกำลังเตรียมกระสุนและอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับปฏิบัติการโจมตีกลุ่มฮูตี เยเมน อาวุธที่เห็นในวิดีโอนี้ ได้แก่ : ขีปนาวุธร่อนยิงจากอากาศขั้นสูง AGM-84H/K SLAM-ER อาวุธระยะประชิดร่วม AGM-154 (JSOW), ระเบิด MK-82 ขนาด 500 ปอนด์ ที่ติดตั้งชุด JDAM, ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศระยะกลางขั้นสูง AIM-120 (AMRAAM) ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-9 “Sidewinder” ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AGM-114 “Hellfire” และสุดท้ายคือจรวด Hydra-70 ที่น่าจะแปลงมาใช้ระบบอาวุธสังหารแม่นยำขั้นสูง AGR-20 (APKWS)
    1 Comments 0 Shares 344 Views 17 0 Reviews
  • กองกำลัง HTS ของรัฐบาลซีเรีย โจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน

    ภาพกองกำลัง HTS ของรัฐบาลใหม่ซีเรียขณะโจมตีหมู่บ้านเบกา (Bekaa Valley) เมืองชายแดนของเลบานอน "ในเวลาเดียวกับที่อิสราเอลก็โจมตีเลบานอนเช่นกัน"

    จรวดมากกว่า 50 ลูกและปืนใหญ่หลายสิบนัดเพิ่งถูกถล่มใส่ฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์

    กองกำลังซีเรียกำลังยิงเข้าไปในเลบานอนอย่างหนัก และคนในพื้นที่กำลังหลบหนี มีรายงานเบื้องต้นเด็กอย่างน้อยหนึ่งคนเสียชีวิต และอีกสี่คนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของกองกำลัง HTS

    หลายฝ่ายกำลังจับตามองท่าทีของรัฐบาลซีเรีย ที่นับวันยิ่งเปิดเผยตัวตนว่าสนับสนุนอิสราเอลเข้าไปทุกที หากเป็นเช่นนั้นจริง นั่นเท่ากับว่าซีเรียได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอิสราเอลไปแล้ว ทำให้เข้าใกล้ "GREATER ISRAEL" เข้าไปทุกที

    มาดูกันว่าอิทธิพลของอิสราเอลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐเต็มรูปแบบ จะต้องครอบคลุมพื้นที่เท่าไหร่ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย "GREATER ISRAEL" :

    ปาเลสไตน์ 100%
    จอร์แดน 100%
    เลบานอน 100%
    คูเวต 100%
    ซีเรีย 75%
    อิรัก 45%
    ซาอุดีอาระเบีย 40%
    กองกำลัง HTS ของรัฐบาลซีเรีย โจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ภาพกองกำลัง HTS ของรัฐบาลใหม่ซีเรียขณะโจมตีหมู่บ้านเบกา (Bekaa Valley) เมืองชายแดนของเลบานอน "ในเวลาเดียวกับที่อิสราเอลก็โจมตีเลบานอนเช่นกัน" จรวดมากกว่า 50 ลูกและปืนใหญ่หลายสิบนัดเพิ่งถูกถล่มใส่ฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กองกำลังซีเรียกำลังยิงเข้าไปในเลบานอนอย่างหนัก และคนในพื้นที่กำลังหลบหนี มีรายงานเบื้องต้นเด็กอย่างน้อยหนึ่งคนเสียชีวิต และอีกสี่คนได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของกองกำลัง HTS หลายฝ่ายกำลังจับตามองท่าทีของรัฐบาลซีเรีย ที่นับวันยิ่งเปิดเผยตัวตนว่าสนับสนุนอิสราเอลเข้าไปทุกที หากเป็นเช่นนั้นจริง นั่นเท่ากับว่าซีเรียได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอิสราเอลไปแล้ว ทำให้เข้าใกล้ "GREATER ISRAEL" เข้าไปทุกที มาดูกันว่าอิทธิพลของอิสราเอลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐเต็มรูปแบบ จะต้องครอบคลุมพื้นที่เท่าไหร่ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย "GREATER ISRAEL" : ปาเลสไตน์ 100% จอร์แดน 100% เลบานอน 100% คูเวต 100% ซีเรีย 75% อิรัก 45% ซาอุดีอาระเบีย 40%
    1 Comments 0 Shares 240 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลเตรียมนำระบบเลเซอร์มาใช้จริงภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

    "อิสราเอล คัทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ยืนยันว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วยเลเซอร์กำลังสูงจะพร้อมให้ใช้งานจริงภายในสิ้นปี 2025

    ระบบที่บริษัทผลิตอาวุธราฟาเอลพัฒนาขึ้นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อสกัดกั้นอาวุธหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น จรวด กระสุนปืนครก โดรน และขีปนาวุธร่อน และเมื่อคำนวนออกมาแล้วต้นทุนในการยิงต่อหนึ่งครั้งจะมีราคาเพียง 2-3.50 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับราคา 40,000-50,000 ดอลลาร์ต่อจรวดหนึ่งลูกจาก Iron Dome

    สัญญาการผลิตมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ที่ลงนามในปี 2024 บ่งชี้ว่าการติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วยเลเซอร์ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว

    แต่แผนการติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วยเลเซอร์บนเครื่องบินอาจต้องใช้เวลาอีก 5-10 ปี
    อิสราเอลเตรียมนำระบบเลเซอร์มาใช้จริงภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ "อิสราเอล คัทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ยืนยันว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วยเลเซอร์กำลังสูงจะพร้อมให้ใช้งานจริงภายในสิ้นปี 2025 ระบบที่บริษัทผลิตอาวุธราฟาเอลพัฒนาขึ้นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อสกัดกั้นอาวุธหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น จรวด กระสุนปืนครก โดรน และขีปนาวุธร่อน และเมื่อคำนวนออกมาแล้วต้นทุนในการยิงต่อหนึ่งครั้งจะมีราคาเพียง 2-3.50 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับราคา 40,000-50,000 ดอลลาร์ต่อจรวดหนึ่งลูกจาก Iron Dome สัญญาการผลิตมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ที่ลงนามในปี 2024 บ่งชี้ว่าการติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วยเลเซอร์ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว แต่แผนการติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วยเลเซอร์บนเครื่องบินอาจต้องใช้เวลาอีก 5-10 ปี
    0 Comments 0 Shares 441 Views 54 0 Reviews
  • มีรายงานว่าสหรัฐเตรียมส่งระเบิด GLSDB ไปยังยูเครน ซึ่งรวมอยู่ในความช่วยเหลือที่กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง

    ระเบิด Ground-Launched Small Diameter Bombs (GLSDB) เป็นอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำสูง โดยออกแบบมาเพื่อโจมตีระยะไกล ซึ่งจะสามารถสร้างอันตรายต่อฐานที่มั่นของรัสเซียได้

    🔹 พิสัยทำการ: 150 กม. (94 ไมล์)
    🔹 ระบบนำทาง: GPS สามารถยิงเป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้
    🔹 ระบบปล่อย: ใช้ร่วมกับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง HIMARS MLRS
    🔹 น้ำหนักหัวรบ: หัวรบระเบิดแรงสูง 93 กก. (205 ปอนด์)
    🔹 การอัปเกรดล่าสุด: สามารถต่อต้านระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) และการรบกวนสัญญาณของฝ่ายรัสเซียได้ดีขึ้น
    มีรายงานว่าสหรัฐเตรียมส่งระเบิด GLSDB ไปยังยูเครน ซึ่งรวมอยู่ในความช่วยเหลือที่กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง ระเบิด Ground-Launched Small Diameter Bombs (GLSDB) เป็นอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำสูง โดยออกแบบมาเพื่อโจมตีระยะไกล ซึ่งจะสามารถสร้างอันตรายต่อฐานที่มั่นของรัสเซียได้ 🔹 พิสัยทำการ: 150 กม. (94 ไมล์) 🔹 ระบบนำทาง: GPS สามารถยิงเป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้ 🔹 ระบบปล่อย: ใช้ร่วมกับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง HIMARS MLRS 🔹 น้ำหนักหัวรบ: หัวรบระเบิดแรงสูง 93 กก. (205 ปอนด์) 🔹 การอัปเกรดล่าสุด: สามารถต่อต้านระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) และการรบกวนสัญญาณของฝ่ายรัสเซียได้ดีขึ้น
    0 Comments 0 Shares 349 Views 0 Reviews
  • ทิศทาง Kurakhove

    ภาพการโจมตีด้วยจรวดหลายลำกล้อง TOS-1A ขนาด 220 มิลลิเมตร ติดหัวรบเทอร์โมบาริก ของกองทัพรัสเซียในทิศทาง Kostyantynopil ซึ่งต่อมาเมืองนี้ถูกปลดปล่อยได้ในที่สุดเมื่อหลายวันก่อน
    ทิศทาง Kurakhove ภาพการโจมตีด้วยจรวดหลายลำกล้อง TOS-1A ขนาด 220 มิลลิเมตร ติดหัวรบเทอร์โมบาริก ของกองทัพรัสเซียในทิศทาง Kostyantynopil ซึ่งต่อมาเมืองนี้ถูกปลดปล่อยได้ในที่สุดเมื่อหลายวันก่อน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • ทหารหน่วยรบพิเศษรัสเซียมุดสายท่อส่งก๊าซเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร แล้วโผล่ออกมาตีตลบหลังกองทหารยูเครนที่บุกเข้าไปยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์ของแดนหมีขาวมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน มอสโกอ้างด้วยว่าสามารถยึดพื้นที่ใหม่ๆ เพิ่มเติมในการรุกขับไล่ชิงดินแดนคืนและโอบล้อมข้าศึกที่แคว้นประชิดชายแดนยูเครนแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเข้าครองหมู่บ้านในแคว้นซูมีของยูเครนได้เป็นครั้งแรกนับจากปี 2022 อีกด้วย
    .
    กองทหารยูเครนบุกข้ามแดนเข้าสู่แคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ถือเป็นเหตุการณ์ทหารต่างชาติโจมตีเข้าสู่แดนหมีขาวครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และภายในไม่กี่วันก็สามารถยึดดินแดนได้ถึง 1,000 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึงซุดซาที่เป็นเมืองยุทธศาสตร์ใกล้ชายแดน รวมทั้งจับเชลยศึกรัสเซียได้หลายร้อยคน
    .
    เคียฟหมายมั่นใช้ความสำเร็จคราวนี้เป็นหมากต่อรองหากมีการเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งมุ่งสร้างแรงบีบคั้นให้รัสเซียถอนทหารออกจากแนวรบในยูเครนตะวันออก กลับมาป้องกันดินแดนของตัวเอง
    .
    ทว่า หลายเดือนนับจากนั้น ทหารยูเครนในคูร์สก์ตกอยู่ในสภาพทั้งเหนื่อยล้าและบาดเจ็บล้มตาย จากการถูกโจมตีอย่างไม่ลดละจากกองทหารมากกว่า 50,000 นายที่ส่วนหนึ่งเป็นทหารเกาหลีเหนือ เวลานี้ทหารยูเครนหลายหมื่นคนยังกำลังอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกปิดล้อม ทั้งนี้เมื่อดูจากแผนที่ของสมรภูมิซึ่งมาจากพวกแหล่งข่าวโอเพ่นซอร์ส รายงานข่าวของเอพีระบุ
    .
    ขณะที่รอยเตอร์รายงานเช่นกันว่า จนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัสเซียสามารถยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์คืนไปได้อย่างน้อย 800 ตารางกิโลเมตร และระยะไม่กี่วันมานี้ได้เปิดฉากโจมตีจากหลายทิศทางพร้อมกันเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงอาวุธ ตลอดจนเส้นทางที่ยูเครนอาจใช้ในการล่าถอย
    .
    สำหรับเหตุการณ์การโจมตีระทึกใจล่าสุด เอพีรายงานโดยอ้าง ยูริ โปโดลยากา บล็อกเกอร์สที่เกิดในยูเครนแต่เป็นฝ่ายสนับสนุนเครมลิน โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเทเลแกรมเมื่อคืนวันเสาร์ (8 มี.ค.) ระบุว่า กองทหารหน่วยรบพิเศษของรัสเซีย ได้เดินกันเป็นระยะทางราว 15 กิโลเมตรภายในสายท่อส่งก๊าซ ซึ่งมอสโกเคยใช้ส่งก๊าซธรรมชาติไปให้แก่ยุโรปจนกระทั่งมีอันยุติลงเมื่อไม่นานมานี้ ทหารรัสเซียเหล่านี้บางส่วนอยู่ภายในท่อส่งก๊าซซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.4 เมตรนี้เป็นเวลาหลายวัน ก่อนที่จะโผล่ออกมาโจมตีหน่วยทหารยูเครนจากทางด้านหลัง ในบริเวณใกล้ๆ เมืองซุดซา
    .
    เอพีอ้างบล็อกเกอร์สงครามอีกคนที่ใช้นามแฝงว่า ทู เมเจอร์ส ระบุว่า ขณะนี้มีการสู้รบดุเดือดเพื่อแย่งชิงซุดซา และกองกำลังรัสเซียสามารถบุกเข้าเมืองผ่านทางท่อส่งก๊าซ นอกจากนั้น ช่องรายการของเทเลแกรมหลายช่องมีการเผยแพร่ภาพหน่วยรบพิเศษรัสเซียซึ่งสวมหน้ากากป้องกันก๊าซ เคลื่อนที่ไปตามสิ่งที่ดูเหมือนเป็นด้านในของท่อขนาดใหญ่
    .
    ทางด้านกรมเสนาธิการใหญ่กองทัพยูเครนแถลงยืนยันเมื่อค่ำวันเสาร์ แต่ระบุว่า พวกกลุ่มก่อวินาศกรรมและรุกโจมตีของรัสเซียใช้ท่อส่งก๊าซเป็นเส้นทางเดินทางเพื่อเข้ายึดพื้นที่ด้านนอกของซุดซา ทว่า ยูเครนตรวจพบทันเวลาและโจมตีด้วยจรวดและปืนใหญ่จนสามารถปิดกั้นและทำลายทหารเหล่านั้น และย้ำว่า รัสเซียสูญเสียหนักมากในซุดซา
    .
    เอพีรายงานว่า ยังมีบล็อกเกอร์สงครามของรัสเซียคนที่ 3 ที่กล่าวว่า ตัวเขาเป็นทหารและใช้รหัส “13” ในการสื่อสารทางวิทยุ เล่าเรื่องว่า กองกำลังฝ่ายเข้าโจมตีขาดการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง จึงโจมตีไม่สำเร็จ โดยบล็อกเกอร์ผู้นี้อ้างว่า ฝ่ายเข้าโจมตี 2 ถึง 3 กลุ่มที่อยู่ด้านหลัง ขาดแคลนทั้งอาหาร น้ำ เครื่องกระสุน การสื่อสาร อุปกรณ์ชาร์จไฟ เพาเวอร์แบงก์ อีกทั้งไม่อาจติดต่อกับกองกำลังหลัก ตลอดจนไม่สามารถอพยพทหารที่บาดเจ็บได้ ซึ่งถือเป็นหายนะอย่างแท้จริง
    .
    อย่างไรก็ดี เอพีเตือนว่า ตนเองไม่สามารถตรวจสอบยืนยันข้อมูลเหล่านี้ได้
    .
    ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีที่รายงานเรื่องรัสเซียเคลื่อนพลผ่านท่อส่งก๊าซเข้าโจมตีซุดซาเช่นกัน อ้างพวกบล็อกเกอร์ฝ่ายรัสเซียระบุว่า การโจมตีคราวนี้ประสบความสำเร็จ กองทหารนี้บรรลุวัตถุประสงค์ของพวกเขา และการสู้รบยังคงดำเนินอยู่ที่ซุดซา
    .
    สำหรับทางการรัสเซียเองนั้น ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการโจมตีโดยมุดสายท่อส่งก๊าซนี้ แต่ต่อมาในวันอาทิตย์ (9 ) กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองทหารรัสเซียสามารถยึดหมู่บ้าน 4 แห่งทางเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของซุดซาได้ โดยหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากใจกลางเมืองราว 12 กิโลเมตร หลังจากก่อนหน้านั้นเข้ายึดหมู่บ้านคืนได้ 3 แห่งใกล้เมืองซุดซาเมื่อวันเสาร์ ขณะที่ฝ่ายยูเครนไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกล่าวอ้างเหล่านี้
    .
    วันเดียวกันนั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังประกาศว่า สามารถยึดโนเวนกี ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กแห่งหนึ่งในแคว้นซูมีของยูเครนที่อยู่ห่างจากคูร์สก์เพียง 1 กิโลเมตร และทำให้เข้าใกล้เส้นทางขนส่งกำลังบำรุงหลักของยูเครนมากขึ้น ทั้งนี้รัสเซียเคยยึดครองหลายส่วนของแคว้นซูมีได้ในตอนเริ่มต้นการรุกรานเมื่อปี 2022 แต่หลังจากต้องถอยกลับไปแล้วก็ไม่เคยยึดพื้นที่ใดๆ ในแคว้นนี้ได้อีกเลยจนกระทั่งมาถึงตอนนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023254
    ..............
    Sondhi X
    ทหารหน่วยรบพิเศษรัสเซียมุดสายท่อส่งก๊าซเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร แล้วโผล่ออกมาตีตลบหลังกองทหารยูเครนที่บุกเข้าไปยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์ของแดนหมีขาวมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน มอสโกอ้างด้วยว่าสามารถยึดพื้นที่ใหม่ๆ เพิ่มเติมในการรุกขับไล่ชิงดินแดนคืนและโอบล้อมข้าศึกที่แคว้นประชิดชายแดนยูเครนแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเข้าครองหมู่บ้านในแคว้นซูมีของยูเครนได้เป็นครั้งแรกนับจากปี 2022 อีกด้วย . กองทหารยูเครนบุกข้ามแดนเข้าสู่แคว้นคูร์สก์ของรัสเซียเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ถือเป็นเหตุการณ์ทหารต่างชาติโจมตีเข้าสู่แดนหมีขาวครั้งใหญ่ที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และภายในไม่กี่วันก็สามารถยึดดินแดนได้ถึง 1,000 ตารางเมตร ซึ่งรวมถึงซุดซาที่เป็นเมืองยุทธศาสตร์ใกล้ชายแดน รวมทั้งจับเชลยศึกรัสเซียได้หลายร้อยคน . เคียฟหมายมั่นใช้ความสำเร็จคราวนี้เป็นหมากต่อรองหากมีการเจรจาสันติภาพเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งมุ่งสร้างแรงบีบคั้นให้รัสเซียถอนทหารออกจากแนวรบในยูเครนตะวันออก กลับมาป้องกันดินแดนของตัวเอง . ทว่า หลายเดือนนับจากนั้น ทหารยูเครนในคูร์สก์ตกอยู่ในสภาพทั้งเหนื่อยล้าและบาดเจ็บล้มตาย จากการถูกโจมตีอย่างไม่ลดละจากกองทหารมากกว่า 50,000 นายที่ส่วนหนึ่งเป็นทหารเกาหลีเหนือ เวลานี้ทหารยูเครนหลายหมื่นคนยังกำลังอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกปิดล้อม ทั้งนี้เมื่อดูจากแผนที่ของสมรภูมิซึ่งมาจากพวกแหล่งข่าวโอเพ่นซอร์ส รายงานข่าวของเอพีระบุ . ขณะที่รอยเตอร์รายงานเช่นกันว่า จนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัสเซียสามารถยึดพื้นที่ในแคว้นคูร์สก์คืนไปได้อย่างน้อย 800 ตารางกิโลเมตร และระยะไม่กี่วันมานี้ได้เปิดฉากโจมตีจากหลายทิศทางพร้อมกันเพื่อตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงอาวุธ ตลอดจนเส้นทางที่ยูเครนอาจใช้ในการล่าถอย . สำหรับเหตุการณ์การโจมตีระทึกใจล่าสุด เอพีรายงานโดยอ้าง ยูริ โปโดลยากา บล็อกเกอร์สที่เกิดในยูเครนแต่เป็นฝ่ายสนับสนุนเครมลิน โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเทเลแกรมเมื่อคืนวันเสาร์ (8 มี.ค.) ระบุว่า กองทหารหน่วยรบพิเศษของรัสเซีย ได้เดินกันเป็นระยะทางราว 15 กิโลเมตรภายในสายท่อส่งก๊าซ ซึ่งมอสโกเคยใช้ส่งก๊าซธรรมชาติไปให้แก่ยุโรปจนกระทั่งมีอันยุติลงเมื่อไม่นานมานี้ ทหารรัสเซียเหล่านี้บางส่วนอยู่ภายในท่อส่งก๊าซซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.4 เมตรนี้เป็นเวลาหลายวัน ก่อนที่จะโผล่ออกมาโจมตีหน่วยทหารยูเครนจากทางด้านหลัง ในบริเวณใกล้ๆ เมืองซุดซา . เอพีอ้างบล็อกเกอร์สงครามอีกคนที่ใช้นามแฝงว่า ทู เมเจอร์ส ระบุว่า ขณะนี้มีการสู้รบดุเดือดเพื่อแย่งชิงซุดซา และกองกำลังรัสเซียสามารถบุกเข้าเมืองผ่านทางท่อส่งก๊าซ นอกจากนั้น ช่องรายการของเทเลแกรมหลายช่องมีการเผยแพร่ภาพหน่วยรบพิเศษรัสเซียซึ่งสวมหน้ากากป้องกันก๊าซ เคลื่อนที่ไปตามสิ่งที่ดูเหมือนเป็นด้านในของท่อขนาดใหญ่ . ทางด้านกรมเสนาธิการใหญ่กองทัพยูเครนแถลงยืนยันเมื่อค่ำวันเสาร์ แต่ระบุว่า พวกกลุ่มก่อวินาศกรรมและรุกโจมตีของรัสเซียใช้ท่อส่งก๊าซเป็นเส้นทางเดินทางเพื่อเข้ายึดพื้นที่ด้านนอกของซุดซา ทว่า ยูเครนตรวจพบทันเวลาและโจมตีด้วยจรวดและปืนใหญ่จนสามารถปิดกั้นและทำลายทหารเหล่านั้น และย้ำว่า รัสเซียสูญเสียหนักมากในซุดซา . เอพีรายงานว่า ยังมีบล็อกเกอร์สงครามของรัสเซียคนที่ 3 ที่กล่าวว่า ตัวเขาเป็นทหารและใช้รหัส “13” ในการสื่อสารทางวิทยุ เล่าเรื่องว่า กองกำลังฝ่ายเข้าโจมตีขาดการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุง จึงโจมตีไม่สำเร็จ โดยบล็อกเกอร์ผู้นี้อ้างว่า ฝ่ายเข้าโจมตี 2 ถึง 3 กลุ่มที่อยู่ด้านหลัง ขาดแคลนทั้งอาหาร น้ำ เครื่องกระสุน การสื่อสาร อุปกรณ์ชาร์จไฟ เพาเวอร์แบงก์ อีกทั้งไม่อาจติดต่อกับกองกำลังหลัก ตลอดจนไม่สามารถอพยพทหารที่บาดเจ็บได้ ซึ่งถือเป็นหายนะอย่างแท้จริง . อย่างไรก็ดี เอพีเตือนว่า ตนเองไม่สามารถตรวจสอบยืนยันข้อมูลเหล่านี้ได้ . ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีที่รายงานเรื่องรัสเซียเคลื่อนพลผ่านท่อส่งก๊าซเข้าโจมตีซุดซาเช่นกัน อ้างพวกบล็อกเกอร์ฝ่ายรัสเซียระบุว่า การโจมตีคราวนี้ประสบความสำเร็จ กองทหารนี้บรรลุวัตถุประสงค์ของพวกเขา และการสู้รบยังคงดำเนินอยู่ที่ซุดซา . สำหรับทางการรัสเซียเองนั้น ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการโจมตีโดยมุดสายท่อส่งก๊าซนี้ แต่ต่อมาในวันอาทิตย์ (9 ) กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองทหารรัสเซียสามารถยึดหมู่บ้าน 4 แห่งทางเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของซุดซาได้ โดยหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากใจกลางเมืองราว 12 กิโลเมตร หลังจากก่อนหน้านั้นเข้ายึดหมู่บ้านคืนได้ 3 แห่งใกล้เมืองซุดซาเมื่อวันเสาร์ ขณะที่ฝ่ายยูเครนไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกล่าวอ้างเหล่านี้ . วันเดียวกันนั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังประกาศว่า สามารถยึดโนเวนกี ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กแห่งหนึ่งในแคว้นซูมีของยูเครนที่อยู่ห่างจากคูร์สก์เพียง 1 กิโลเมตร และทำให้เข้าใกล้เส้นทางขนส่งกำลังบำรุงหลักของยูเครนมากขึ้น ทั้งนี้รัสเซียเคยยึดครองหลายส่วนของแคว้นซูมีได้ในตอนเริ่มต้นการรุกรานเมื่อปี 2022 แต่หลังจากต้องถอยกลับไปแล้วก็ไม่เคยยึดพื้นที่ใดๆ ในแคว้นนี้ได้อีกเลยจนกระทั่งมาถึงตอนนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023254 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    12
    0 Comments 0 Shares 1635 Views 0 Reviews
  • 2/
    รัสเซียถล่มเมือง Dobropillia ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้ฝ่ายยูเครนเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 50 ราย อาคารสูง 5 ชั้น จำนวน 8 หลัง ที่มีทั้งศูนย์การค้า ร้านขายปลีก ที่พักอาศัย และรถยนต์ 30 คัน ได้รับความเสียหาย

    เซเลนสกีโวยวายว่านี่คือการยิงจากขีปนาวุธพิสัยไกลของรัสเซียจำนวน 2 ลูก ใส่พื้นที่พลเรือน

    แต่จากสื่อในพื้นที่ระบุว่า การโจมตีของรัสเซียครั้งนี้น่าจะมาจากการโจมตีผสมผสานด้วยขีปนาวุธ Iskander-M, ระบบจรวดหลายลำกล้อง Tornado-S ติดหัวรบคลัสเตอร์ และโดรน Geran-2
    2/ รัสเซียถล่มเมือง Dobropillia ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้ฝ่ายยูเครนเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 50 ราย อาคารสูง 5 ชั้น จำนวน 8 หลัง ที่มีทั้งศูนย์การค้า ร้านขายปลีก ที่พักอาศัย และรถยนต์ 30 คัน ได้รับความเสียหาย เซเลนสกีโวยวายว่านี่คือการยิงจากขีปนาวุธพิสัยไกลของรัสเซียจำนวน 2 ลูก ใส่พื้นที่พลเรือน แต่จากสื่อในพื้นที่ระบุว่า การโจมตีของรัสเซียครั้งนี้น่าจะมาจากการโจมตีผสมผสานด้วยขีปนาวุธ Iskander-M, ระบบจรวดหลายลำกล้อง Tornado-S ติดหัวรบคลัสเตอร์ และโดรน Geran-2
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 353 Views 23 0 Reviews
  • 1/
    รัสเซียถล่มเมือง Dobropillia ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้ฝ่ายยูเครนเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 50 ราย อาคารสูง 5 ชั้น จำนวน 8 หลัง ที่มีทั้งศูนย์การค้า ร้านขายปลีก ที่พักอาศัย และรถยนต์ 30 คัน ได้รับความเสียหาย

    เซเลนสกีโวยวายว่านี่คือการยิงจากขีปนาวุธพิสัยไกลของรัสเซียจำนวน 2 ลูก ใส่พื้นที่พลเรือน

    แต่จากสื่อในพื้นที่ระบุว่า การโจมตีของรัสเซียครั้งนี้น่าจะมาจากการโจมตีผสมผสานด้วยขีปนาวุธ Iskander-M, ระบบจรวดหลายลำกล้อง Tornado-S ติดหัวรบคลัสเตอร์ และโดรน Geran-2
    1/ รัสเซียถล่มเมือง Dobropillia ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้ฝ่ายยูเครนเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 50 ราย อาคารสูง 5 ชั้น จำนวน 8 หลัง ที่มีทั้งศูนย์การค้า ร้านขายปลีก ที่พักอาศัย และรถยนต์ 30 คัน ได้รับความเสียหาย เซเลนสกีโวยวายว่านี่คือการยิงจากขีปนาวุธพิสัยไกลของรัสเซียจำนวน 2 ลูก ใส่พื้นที่พลเรือน แต่จากสื่อในพื้นที่ระบุว่า การโจมตีของรัสเซียครั้งนี้น่าจะมาจากการโจมตีผสมผสานด้วยขีปนาวุธ Iskander-M, ระบบจรวดหลายลำกล้อง Tornado-S ติดหัวรบคลัสเตอร์ และโดรน Geran-2
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 274 Views 0 Reviews
  • กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานว่า ขีปนาวุธ Iskander โจมตีตำแหน่งหลบซ่อนของ จรวดหลายลำกล้อง HIMARS MLRS ในทิศทาง Novonikolayevka (ห่างไปทางตะวันออก 26 กม. จาก Nikolayev)

    จากการโจมตีดังกล่าว ฝ่ายยูเครนได้รับความสูญเสียดังต่อไปนี้: รถขนถ่าย HIMARS พร้อมกระสุน และทหารยูเครน จำนวน 10 นาย
    กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานว่า ขีปนาวุธ Iskander โจมตีตำแหน่งหลบซ่อนของ จรวดหลายลำกล้อง HIMARS MLRS ในทิศทาง Novonikolayevka (ห่างไปทางตะวันออก 26 กม. จาก Nikolayev) จากการโจมตีดังกล่าว ฝ่ายยูเครนได้รับความสูญเสียดังต่อไปนี้: รถขนถ่าย HIMARS พร้อมกระสุน และทหารยูเครน จำนวน 10 นาย
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 321 Views 18 0 Reviews
  • ภาพจรวดหลายลำกล้อง BM-27 Uragan ขนาด 220 มม. ของรัสเซีย กำลังโจมตีทำลายตำแหน่งยูเครน
    ภาพจรวดหลายลำกล้อง BM-27 Uragan ขนาด 220 มม. ของรัสเซีย กำลังโจมตีทำลายตำแหน่งยูเครน
    0 Comments 0 Shares 322 Views 32 0 Reviews
  • ผมเพิ่งมาฉุกคิดเอาเมื่อไม่กี่วันมานี้เองว่า ไพ่ Tower นำเสนอโลกทัศน์แบบเฟมินิสม์ (Feminism) ชัดเอามาก ๆ หรือจะให้เจาะจงกว่านั้นคือ ไพ่ใบนี้แสดงถึงการต่อต้านปิตาธิปไตย (Patriarchy) แบบเห็นตำตากระแทกหน้าเลยทีเดียว

    ก่อนจะตอบคำถามว่าทำไม ผมขอถือวิสาสะติ๊ต่างว่าพวกคุณที่กำลังอ่านเนื้อหาในโพสต์นี้อยู่ไม่เคยรู้จักคำว่า Phallus หรือ Phallic symbol มาก่อน เพื่อที่ผมจะได้ติ๊ต่างว่าตัวเองเป็นผู้ทรงภูมิและเล่าเรื่องต่อจากนี้ได้อย่างมีแพชชันมากขึ้นนะครับ

    ในสัญลักษณ์วิทยา ซึ่งต่อมาก็ขยายไปถึงทฤษฏีการวิจารณ์งานศิลปะ วรรณกรรม และสื่อประเภทต่าง ๆ มีสัญลักษณ์ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า "Phallic symbol" หรือ "ลึงคสัญลักษณ์" คือเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับ "Phallus" หรือ "ลึงค์" หรือก็คือ_วยซึ่งเป็นเครื่องเพศแบบ Built it แต่กำเนิดของมนุษย์เพศชายทุกคนนั่นแหละครับ

    Phallic symbol คือสัญลักษณ์ที่อยู่ในรูปวัตถุสิ่งของใด ๆ ก็ตามที่มีลักษณะหรือสัณฐานคล้าย Phallus กล่าวคือ ยาว เป็นแท่ง เป็นดุ้น เป็นลำ มีตั้งแต่สิ่งของไม่มีชีวิต เช่น ดาบ กระบอง จรวด เข็ม ดินสอ ปืน ฯลฯ ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตหรืออวัยวะ เช่น งู มังกร แขน ขา นิ้ว เขี้ยว หนวดหมึก เป็นต้น แน่นอนว่า หอคอย ก็จัดเป็นสัญลักษณ์ประเภทนี้ด้วย

    ทีนี้ วัตถุสิ่งของใดก็ตามที่เข้าข่าย Phallic symbol มันไม่ได้แค่เป็นตัวแทนของ_วยหรือลึงค์ของผู้ชาย แต่ในทางสัญลักษณ์วิทยาและทฤษฎีการวิจารณ์ (โดยเฉพาะในสายจิตวิเคราะห์และสายเฟมินิสม์) สัญลักษณ์พวกนี้พ่วงมาด้วยคุณลักษณะอะไรก็ตามที่สังคมแบบปิตาธิปไตยหรือชายเป็นใหญ่ล้วนแต่จับยึดโยงกับเพศชาย ไม่ว่าจะเป็น ความแข็งแกร่ง ความเป็นผู้นำ ความเป็นฝ่ายกระทำหรือฝ่ายรุก อำนาจ ฯลฯ ตย. ที่เห็นชัดมาก ๆ คือในสมัยก่อน คนที่จับอาวุธอย่างดาบ กระบี่กระบอง หรือท่อนไม้ เพื่อใช้ต่อสู้ศัตรูหรือปกป้องครอบครัว ก็มักเป็นผู้ชาย ส่วนในสมัยปัจจุบันก็มีสัญลักษณ์ใหม่ ๆ อย่างรถยนต์ ผู้ชายที่ขับรถก็เป็นการแสดงถึงความมีอำนาจ(ทางการเงิน) ทำให้มีโอกาสตกผู้หญิงได้มากกว่าคนไม่มีรถขับ อะไรทำนองนี้

    เมื่อพูดถึง Phallus แล้วก็ต้องขอแนะนำอีกคำหนึ่ง นั่นคือ "Phallocentrism" คือแนวคิดว่าด้วยการเอา "ลึงค์" เป็นศูนย์กลาง ไม่ได้หมายถึงวัน ๆ คิดแต่เรื่องหื่น ๆ แต่หมายถึงการสร้างวัฒนธรรมและวางระบบของสังคมโดยเน้นที่เพศชายเป็นหลัก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือปิตาธิปไตยนั่นเอง

    สังคมมนุษย์หลายแห่งทั้งในอดีตและปัจจุบันเป็นสังคมแบบเอาลึงค์เป็นใหญ่ ซึ่งมักสะท้อนให้เห็นผ่านตำนานความเชื่อของคนในสังคมนั้น ๆ ลองสังเกตเทพปกรณัมของหลายชนชาติที่ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นชายมีอำนาจสูงสุด มันมักจะมีสัญลักษณ์ที่เป็น Phallic symbol สักอย่างทำหน้าที่เป็นเสมือนศูนย์กลางทางจักรวาลวิทยาของความเชื่อนั้น ๆ เช่น เขาโอลิมปัสและเขาพระสุเมรุที่เป็นแกนกลางของจักรวาลตามตำนานกรีกและฮินดูตามลำดับ ต้นอิกดราซิลของนอร์ส หรือในกรณีของศาสนาที่ยังคง active ในปัจจุบัน ก็มีต้นศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับข้างใต้ขณะตรัสรู้ และไม้กางเขนที่ตรึงพระเยซู เป็นต้น (อย่าปฏิเสธผมนะว่า 2 ศาสนานี้ไม่ได้เอาชายเป็นใหญ่)

    กลับมาที่ไพ่ Tower ไพ่ทาโรต์ชุดหลักหมายเลข 16 ตัวหอคอยที่กำลังโดนฟ้าผ่าจนพังทลาย มันก็คือ Phallic symbol อย่างหนึ่ง เป็นเสมือนลึงค์ลำเบ้อเร่อที่ชูตระหง่านขึ้นฟ้า ลองนึกภาพว่าคุณเป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ ในหมู่บ้านห่างไกล หอคอยหลังนี้น่าจะสูงตระหง่านจนมองเห็นได้จากหมู่บ้านของคุณ และผู้ที่สั่งการให้สร้างหอคอยสูงตระหง่านขนาดนี้ได้ก็ต้องมีอำนาจไม่ธรรมดา และแน่นอนว่าสำหรับยุคสมัยนั้น ผู้มีอำนาจนี้ก็น่าเป็นผู้ปกครองที่เป็นชาย เป็นราชา เป็นจักรพรรดิ หอคอยสูงตระหง่านหลังนี้จึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์แทนอำนาจของผู้ปกครอง(ชาย)ที่สูงเสียดฟ้า และดังนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจปิตาธิปไตยที่อยู่เหนือดินแดนแห่งนั้นด้วย

    และเมื่อหอคอยที่ว่าถูกทำลายจนถล่ม มองในเชิงสัญลักษณ์ มันก็คือการพังทลายของอำนาจชายเป็นใหญ่นั่นเอง และพอความเป็นปิตาธิปไตยพังทลายแล้ว นั่นก็หมายถึงการเปิดพื้นที่ให้เพศที่เป็นรองอย่างเพศหญิงได้ลุกขึ้นมาลืมตาอ้าปาก มีบทบาทมากขึ้น รวมไปถึงการเปิดพื้นที่ให้เพศวิถีและรูปแบบความสัมพันธ์ที่อยู่นอกเหนือไปจากบรรทัดฐานเพศตรงข้าม (Heteronormativity) ที่ปัจจุบันเราเรียกรวม ๆ ว่า LGBTQIA+ ทั้งหมดนี่แหละครับคือ เฟมินิสม์

    โอเคครับ บางคนอาจจะบอกว่า เรื่องราวตามหน้าไพ่ Tower มันอ้างอิงถึงตำนานของหอบาเบลไม่ใช่หรือ มนุษย์ผู้อหังการมุ่งหมายจะยึดอำนาจพระเจ้า พระเจ้าเลยตบเกรียนสั่งสอนด้วยการทำลายหอคอยและทำให้มนุษย์พูดภาษาต่างกัน อ่าฮะ ถ้างั้น ลองมาอ่านตำนานนี้จากแว่นของทฤษฎีจิตวิเคราะห์กันไหมครับ ;) การสร้างหอคอยบาเบลก็ไม่ต่างจากการที่มนุษย์จะพยายามฉุดคร่าข่มขืuแดนสวรรค์ มนุษย์พยายามสร้าง "ลึงค์" อันมหึมาให้แข็งชูชันขึ้นไปทะลุเยื่อเมฆเพื่อเปิดซิงสวรรค์ แต่สวรรค์ไม่ใช่แดน "บริสุทธิ์" มีพระเจ้าเป็นเจ้าของอยู่แล้ว และพระเจ้าก็ใช้ Phallic symbol ที่มาพร้อมอำนาจทำลายล้างทรงพลังกว่า อย่างสายฟ้า ทำลายลึงค์ของมนุษย์จนพังไม่เป็นท่า หอบาเบลที่ถล่มไปก็เหมือนลึงค์ขาด เปรียบเหมือนมนุษย์ถูกลงโทษด้วยการโดน "ตอน" ส่วนการพูดภาษาแตกต่างกัน ก็คือการสูญเสียอำนาจในรูปแบบหนึ่ง พอคนคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ก็รวมตัวกันก่อการใหญ่ไม่ได้อีก

    อย่างไรก็ดี ตำนานหอคอยบาเบลก็มีกำเนิดจากศาสนายิว ซึ่งคงไม่ต้องย้ำนะครับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวพ่อในการเผยแพร่วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ คุณดูสิว่าเขาเรียกพระเจ้าว่าอะไร พระบิดา ใช่ไหม และก่อนที่จะมีไพ่ RWS เกิดขึ้นมา ไพ่ทาโรต์ระบบหลักในยุโรปตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 14 - 19 คือระบบมาร์แซย์ (Tarot de Marseille) ระบบนี้เรียกไพ่หอคอยถล่มหมายเลข XVI ว่า "La Maison Dieu" ลา เมซง ดิเยอ แปลตรงตัวว่า บ้านของพระเจ้า พระเจ้าคือตัวแทนสูงสุดแห่งปิตาธิปไตย เมื่อหอคอยที่เป็นเหมือนบ้านของพระเจ้าถูกทำลายลง มันก็เปรียบได้กับการพังทลายของปิตาธิปไตย... ย้อนกลับไปสู่เมื่อ 2 ย่อหน้าที่แล้ว

    ทีนี้ บางคนอาจสงสัย (มีไหมนะ? มีจริงไหมไม่รู้ เอาเป็นว่าผมจะมโนละกันว่ามี) ว่าถ้าดูตามภาพหน้าไพ่ ก็เห็นว่าคนที่ร่วงลงมามีทั้งชายและหญิง แล้วแบบนี้จะเป็นการพังทลายของแนวคิดชายเป็นใหญ่แต่ฝ่ายเดียวได้ยังไง ผมจะตอบอย่างนี้ละกันครับว่า ปิตาธิปไตยหรือชายเป็นใหญ่เป็นแนวคิดที่ผูกติดกับทั้งสังคมและวัฒนธรรม และผู้คนที่ยึดถือปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมทางสังคมและวัฒนธรรมสืบต่อกันมาก็มีทั้งชายและหญิง ทำต่อ ๆ กันมาจนทุกคน(หลง)เชื่อกันว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องปกติวิสัยที่จะให้ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า เป็นนักรบ ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง เป็นแม่ศรีเรือน ใครที่ชอบหรือหลงใหลกิจกรรมที่สังคมมองว่าเหมาะสำหรับอีกเพศ (เช่น ผู้ชายอยากเรียนแต่งหน้า ผู้หญิงอยากเรียนวิทยาศาสตร์) จะถูกมองว่าแปลก ทั้งหมดนี้คือชุดความคิดที่เป็นมายาคติครอบงำโลกทัศน์ของผู้คนในสังคมและวัฒนธรรมนั้น ๆ เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเขา ฉะนั้น คุณลองคิดดูว่า ถ้าจู่ ๆ มีคนบอกว่าคุณไม่ต้องทำตามกรอบขนบประเพณีพวกนั้นแล้ว โลกของพวกเขาก็คงเหมือนจะพังทลาย ไม่ต่างกับหอคอยในไพ่ Tower

    ดังนั้น ครั้งต่อไปที่เห็นไพ่ Tower ปรากฏขึ้นมา ถ้าพิจารณาจากบริบทคำถามแล้ว เห็นว่ามันไม่น่าจะเป็นคำเตือนถึงอุบัติเหตุหรืออะไรบางอย่างที่จะเกิดอย่างกะทันหัน ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูนะครับว่า หรือไพ่กำลังกระซิบบอกให้คุณทลายกรอบความคิดหรือมายาคติเกี่ยวกับเรื่องเพศสภาพและเพศวิถี แล้วลองมองเรื่องตรงหน้าโดยสวมแว่นของเฟมินิสต์ดูบ้าง
    ผมเพิ่งมาฉุกคิดเอาเมื่อไม่กี่วันมานี้เองว่า ไพ่ Tower นำเสนอโลกทัศน์แบบเฟมินิสม์ (Feminism) ชัดเอามาก ๆ หรือจะให้เจาะจงกว่านั้นคือ ไพ่ใบนี้แสดงถึงการต่อต้านปิตาธิปไตย (Patriarchy) แบบเห็นตำตากระแทกหน้าเลยทีเดียว ก่อนจะตอบคำถามว่าทำไม ผมขอถือวิสาสะติ๊ต่างว่าพวกคุณที่กำลังอ่านเนื้อหาในโพสต์นี้อยู่ไม่เคยรู้จักคำว่า Phallus หรือ Phallic symbol มาก่อน เพื่อที่ผมจะได้ติ๊ต่างว่าตัวเองเป็นผู้ทรงภูมิและเล่าเรื่องต่อจากนี้ได้อย่างมีแพชชันมากขึ้นนะครับ ในสัญลักษณ์วิทยา ซึ่งต่อมาก็ขยายไปถึงทฤษฏีการวิจารณ์งานศิลปะ วรรณกรรม และสื่อประเภทต่าง ๆ มีสัญลักษณ์ประเภทหนึ่งที่เรียกว่า "Phallic symbol" หรือ "ลึงคสัญลักษณ์" คือเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับ "Phallus" หรือ "ลึงค์" หรือก็คือ_วยซึ่งเป็นเครื่องเพศแบบ Built it แต่กำเนิดของมนุษย์เพศชายทุกคนนั่นแหละครับ Phallic symbol คือสัญลักษณ์ที่อยู่ในรูปวัตถุสิ่งของใด ๆ ก็ตามที่มีลักษณะหรือสัณฐานคล้าย Phallus กล่าวคือ ยาว เป็นแท่ง เป็นดุ้น เป็นลำ มีตั้งแต่สิ่งของไม่มีชีวิต เช่น ดาบ กระบอง จรวด เข็ม ดินสอ ปืน ฯลฯ ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตหรืออวัยวะ เช่น งู มังกร แขน ขา นิ้ว เขี้ยว หนวดหมึก เป็นต้น แน่นอนว่า หอคอย ก็จัดเป็นสัญลักษณ์ประเภทนี้ด้วย ทีนี้ วัตถุสิ่งของใดก็ตามที่เข้าข่าย Phallic symbol มันไม่ได้แค่เป็นตัวแทนของ_วยหรือลึงค์ของผู้ชาย แต่ในทางสัญลักษณ์วิทยาและทฤษฎีการวิจารณ์ (โดยเฉพาะในสายจิตวิเคราะห์และสายเฟมินิสม์) สัญลักษณ์พวกนี้พ่วงมาด้วยคุณลักษณะอะไรก็ตามที่สังคมแบบปิตาธิปไตยหรือชายเป็นใหญ่ล้วนแต่จับยึดโยงกับเพศชาย ไม่ว่าจะเป็น ความแข็งแกร่ง ความเป็นผู้นำ ความเป็นฝ่ายกระทำหรือฝ่ายรุก อำนาจ ฯลฯ ตย. ที่เห็นชัดมาก ๆ คือในสมัยก่อน คนที่จับอาวุธอย่างดาบ กระบี่กระบอง หรือท่อนไม้ เพื่อใช้ต่อสู้ศัตรูหรือปกป้องครอบครัว ก็มักเป็นผู้ชาย ส่วนในสมัยปัจจุบันก็มีสัญลักษณ์ใหม่ ๆ อย่างรถยนต์ ผู้ชายที่ขับรถก็เป็นการแสดงถึงความมีอำนาจ(ทางการเงิน) ทำให้มีโอกาสตกผู้หญิงได้มากกว่าคนไม่มีรถขับ อะไรทำนองนี้ เมื่อพูดถึง Phallus แล้วก็ต้องขอแนะนำอีกคำหนึ่ง นั่นคือ "Phallocentrism" คือแนวคิดว่าด้วยการเอา "ลึงค์" เป็นศูนย์กลาง ไม่ได้หมายถึงวัน ๆ คิดแต่เรื่องหื่น ๆ แต่หมายถึงการสร้างวัฒนธรรมและวางระบบของสังคมโดยเน้นที่เพศชายเป็นหลัก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือปิตาธิปไตยนั่นเอง สังคมมนุษย์หลายแห่งทั้งในอดีตและปัจจุบันเป็นสังคมแบบเอาลึงค์เป็นใหญ่ ซึ่งมักสะท้อนให้เห็นผ่านตำนานความเชื่อของคนในสังคมนั้น ๆ ลองสังเกตเทพปกรณัมของหลายชนชาติที่ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นชายมีอำนาจสูงสุด มันมักจะมีสัญลักษณ์ที่เป็น Phallic symbol สักอย่างทำหน้าที่เป็นเสมือนศูนย์กลางทางจักรวาลวิทยาของความเชื่อนั้น ๆ เช่น เขาโอลิมปัสและเขาพระสุเมรุที่เป็นแกนกลางของจักรวาลตามตำนานกรีกและฮินดูตามลำดับ ต้นอิกดราซิลของนอร์ส หรือในกรณีของศาสนาที่ยังคง active ในปัจจุบัน ก็มีต้นศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับข้างใต้ขณะตรัสรู้ และไม้กางเขนที่ตรึงพระเยซู เป็นต้น (อย่าปฏิเสธผมนะว่า 2 ศาสนานี้ไม่ได้เอาชายเป็นใหญ่) กลับมาที่ไพ่ Tower ไพ่ทาโรต์ชุดหลักหมายเลข 16 ตัวหอคอยที่กำลังโดนฟ้าผ่าจนพังทลาย มันก็คือ Phallic symbol อย่างหนึ่ง เป็นเสมือนลึงค์ลำเบ้อเร่อที่ชูตระหง่านขึ้นฟ้า ลองนึกภาพว่าคุณเป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ ในหมู่บ้านห่างไกล หอคอยหลังนี้น่าจะสูงตระหง่านจนมองเห็นได้จากหมู่บ้านของคุณ และผู้ที่สั่งการให้สร้างหอคอยสูงตระหง่านขนาดนี้ได้ก็ต้องมีอำนาจไม่ธรรมดา และแน่นอนว่าสำหรับยุคสมัยนั้น ผู้มีอำนาจนี้ก็น่าเป็นผู้ปกครองที่เป็นชาย เป็นราชา เป็นจักรพรรดิ หอคอยสูงตระหง่านหลังนี้จึงเป็นเสมือนสัญลักษณ์แทนอำนาจของผู้ปกครอง(ชาย)ที่สูงเสียดฟ้า และดังนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจปิตาธิปไตยที่อยู่เหนือดินแดนแห่งนั้นด้วย และเมื่อหอคอยที่ว่าถูกทำลายจนถล่ม มองในเชิงสัญลักษณ์ มันก็คือการพังทลายของอำนาจชายเป็นใหญ่นั่นเอง และพอความเป็นปิตาธิปไตยพังทลายแล้ว นั่นก็หมายถึงการเปิดพื้นที่ให้เพศที่เป็นรองอย่างเพศหญิงได้ลุกขึ้นมาลืมตาอ้าปาก มีบทบาทมากขึ้น รวมไปถึงการเปิดพื้นที่ให้เพศวิถีและรูปแบบความสัมพันธ์ที่อยู่นอกเหนือไปจากบรรทัดฐานเพศตรงข้าม (Heteronormativity) ที่ปัจจุบันเราเรียกรวม ๆ ว่า LGBTQIA+ ทั้งหมดนี่แหละครับคือ เฟมินิสม์ โอเคครับ บางคนอาจจะบอกว่า เรื่องราวตามหน้าไพ่ Tower มันอ้างอิงถึงตำนานของหอบาเบลไม่ใช่หรือ มนุษย์ผู้อหังการมุ่งหมายจะยึดอำนาจพระเจ้า พระเจ้าเลยตบเกรียนสั่งสอนด้วยการทำลายหอคอยและทำให้มนุษย์พูดภาษาต่างกัน อ่าฮะ ถ้างั้น ลองมาอ่านตำนานนี้จากแว่นของทฤษฎีจิตวิเคราะห์กันไหมครับ ;) การสร้างหอคอยบาเบลก็ไม่ต่างจากการที่มนุษย์จะพยายามฉุดคร่าข่มขืuแดนสวรรค์ มนุษย์พยายามสร้าง "ลึงค์" อันมหึมาให้แข็งชูชันขึ้นไปทะลุเยื่อเมฆเพื่อเปิดซิงสวรรค์ แต่สวรรค์ไม่ใช่แดน "บริสุทธิ์" มีพระเจ้าเป็นเจ้าของอยู่แล้ว และพระเจ้าก็ใช้ Phallic symbol ที่มาพร้อมอำนาจทำลายล้างทรงพลังกว่า อย่างสายฟ้า ทำลายลึงค์ของมนุษย์จนพังไม่เป็นท่า หอบาเบลที่ถล่มไปก็เหมือนลึงค์ขาด เปรียบเหมือนมนุษย์ถูกลงโทษด้วยการโดน "ตอน" ส่วนการพูดภาษาแตกต่างกัน ก็คือการสูญเสียอำนาจในรูปแบบหนึ่ง พอคนคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ก็รวมตัวกันก่อการใหญ่ไม่ได้อีก อย่างไรก็ดี ตำนานหอคอยบาเบลก็มีกำเนิดจากศาสนายิว ซึ่งคงไม่ต้องย้ำนะครับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวพ่อในการเผยแพร่วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ คุณดูสิว่าเขาเรียกพระเจ้าว่าอะไร พระบิดา ใช่ไหม และก่อนที่จะมีไพ่ RWS เกิดขึ้นมา ไพ่ทาโรต์ระบบหลักในยุโรปตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 14 - 19 คือระบบมาร์แซย์ (Tarot de Marseille) ระบบนี้เรียกไพ่หอคอยถล่มหมายเลข XVI ว่า "La Maison Dieu" ลา เมซง ดิเยอ แปลตรงตัวว่า บ้านของพระเจ้า พระเจ้าคือตัวแทนสูงสุดแห่งปิตาธิปไตย เมื่อหอคอยที่เป็นเหมือนบ้านของพระเจ้าถูกทำลายลง มันก็เปรียบได้กับการพังทลายของปิตาธิปไตย... ย้อนกลับไปสู่เมื่อ 2 ย่อหน้าที่แล้ว ทีนี้ บางคนอาจสงสัย (มีไหมนะ? มีจริงไหมไม่รู้ เอาเป็นว่าผมจะมโนละกันว่ามี) ว่าถ้าดูตามภาพหน้าไพ่ ก็เห็นว่าคนที่ร่วงลงมามีทั้งชายและหญิง แล้วแบบนี้จะเป็นการพังทลายของแนวคิดชายเป็นใหญ่แต่ฝ่ายเดียวได้ยังไง ผมจะตอบอย่างนี้ละกันครับว่า ปิตาธิปไตยหรือชายเป็นใหญ่เป็นแนวคิดที่ผูกติดกับทั้งสังคมและวัฒนธรรม และผู้คนที่ยึดถือปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมทางสังคมและวัฒนธรรมสืบต่อกันมาก็มีทั้งชายและหญิง ทำต่อ ๆ กันมาจนทุกคน(หลง)เชื่อกันว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องปกติวิสัยที่จะให้ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า เป็นนักรบ ผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง เป็นแม่ศรีเรือน ใครที่ชอบหรือหลงใหลกิจกรรมที่สังคมมองว่าเหมาะสำหรับอีกเพศ (เช่น ผู้ชายอยากเรียนแต่งหน้า ผู้หญิงอยากเรียนวิทยาศาสตร์) จะถูกมองว่าแปลก ทั้งหมดนี้คือชุดความคิดที่เป็นมายาคติครอบงำโลกทัศน์ของผู้คนในสังคมและวัฒนธรรมนั้น ๆ เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเขา ฉะนั้น คุณลองคิดดูว่า ถ้าจู่ ๆ มีคนบอกว่าคุณไม่ต้องทำตามกรอบขนบประเพณีพวกนั้นแล้ว โลกของพวกเขาก็คงเหมือนจะพังทลาย ไม่ต่างกับหอคอยในไพ่ Tower ดังนั้น ครั้งต่อไปที่เห็นไพ่ Tower ปรากฏขึ้นมา ถ้าพิจารณาจากบริบทคำถามแล้ว เห็นว่ามันไม่น่าจะเป็นคำเตือนถึงอุบัติเหตุหรืออะไรบางอย่างที่จะเกิดอย่างกะทันหัน ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูนะครับว่า หรือไพ่กำลังกระซิบบอกให้คุณทลายกรอบความคิดหรือมายาคติเกี่ยวกับเรื่องเพศสภาพและเพศวิถี แล้วลองมองเรื่องตรงหน้าโดยสวมแว่นของเฟมินิสต์ดูบ้าง
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 432 Views 0 Reviews
  • หน่วยยิงจรวดหลายลำกล้องของกองทัพรัสเซียปฏิบัติการโจมตีตำแหน่งยูเครนอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำดนีเปอร์ ในภูมิภาคเคอร์ซอน

    ตลอดช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยของกองกำลังรัสเซียทิศทางสะพานอันโตนอฟสกี้
    หน่วยยิงจรวดหลายลำกล้องของกองทัพรัสเซียปฏิบัติการโจมตีตำแหน่งยูเครนอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำดนีเปอร์ ในภูมิภาคเคอร์ซอน ตลอดช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยของกองกำลังรัสเซียทิศทางสะพานอันโตนอฟสกี้
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เผยแพร่ภาพจรวดหลายลำกล้อง BM-21 'Grad' MLRS ของกองกำลังทางอากาศ Tula Guards แห่งกองทัพรัสเซีย กำลังทำลายล้างกลุ่มทหารราบยูเครน ในเขตพื้นที่ชายแดนของภูมิภาค Kursk ดินแดนรัสเซีย
    กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เผยแพร่ภาพจรวดหลายลำกล้อง BM-21 'Grad' MLRS ของกองกำลังทางอากาศ Tula Guards แห่งกองทัพรัสเซีย กำลังทำลายล้างกลุ่มทหารราบยูเครน ในเขตพื้นที่ชายแดนของภูมิภาค Kursk ดินแดนรัสเซีย
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 322 Views 23 0 Reviews
  • แนวคิดของ lunar economy ที่เคยเป็นเพียงเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ กำลังกลายเป็นความจริงที่สามารถจับต้องได้ ประเทศต่าง ๆ และบริษัทเอกชนกำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างฐานที่มั่นบนดวงจันทร์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่นั่นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และพัฒนาความสามารถในการสำรวจอวกาศในอนาคต

    หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้คือ Firefly Aerospace บริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2025 Firefly ได้ทำการปล่อยภารกิจ Blue Ghost 1 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบการส่งมอบจากโลกสู่ดวงจันทร์ ขณะนี้ Blue Ghost กำลังมุ่งหน้าสู่พื้นผิวดวงจันทร์และต้องเผชิญกับภารกิจท้าทายหลายอย่าง เช่น การเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ การลงจอดอย่างควบคุมในพื้นที่ Mare Crisium และการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง การติดตั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ การเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อม และการเจาะและสกัดฝุ่นละอองบนดวงจันทร์อย่างอัตโนมัติ

    ภารกิจของ Firefly นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Commercial Lunar Payload Services (CLPS) ของ NASA ที่มุ่งใช้ความสร้างสรรค์ของภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาการสำรวจอวกาศ ขณะที่ NASA มุ่งเน้นการส่งนักบินอวกาศกลับสู่ดวงจันทร์ผ่านโครงการ Artemis บริษัทเอกชนถูกมอบหมายให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการส่งมอบสิ่งของและการส่งคืนตัวอย่าง

    Blue Ghost lander บรรทุกอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ 10 ชิ้น รวมถึงคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจวัดความต้านทานของวงจรต่อรังสีในอวกาศ และกล้องที่ใช้ศึกษาฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ นอกจากนี้ lander ยังจะถ่ายภาพปรากฏการณ์ lunar eclipse เพื่อให้มุมมองพิเศษต่อปรากฏการณ์นี้

    ในขณะที่ lunar economy เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ความสนใจจึงหันไปที่การใช้ประโยชน์จากวัสดุบนดวงจันทร์ โดยเฉพาะ Helium-3 ซึ่งเป็นไอโซโทปหายากที่มีประโยชน์ในการฟิวชั่นนิวเคลียร์ คอมพิวเตอร์ควอนตัม และการสร้างภาพทางการแพทย์ Helium-3 นั้นหายากบนโลก แต่เชื่อว่ามีการสะสมอยู่ในดวงจันทร์เนื่องจากลมสุริยะ

    บริษัทอย่าง Interlune กำลังวางแผนภารกิจการขุดเพื่อสกัด Helium-3 จากดวงจันทร์ นักวิจัยยังสำรวจการใช้แร่ธาตุและน้ำบนดวงจันทร์เพื่อผลิตออกซิเจนและไฮโดรเจนสำหรับเชื้อเพลิงจรวด ซึ่งอาจเปิดทางให้มีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์บนดวงจันทร์อย่างยั่งยืนในอนาคต รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบนดวงจันทร์ เช่น ถนน ทางรถไฟ และสิ่งก่อสร้างจากคอนกรีต

    ในอนาคต ภาพของ lander ที่เข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์และการสร้างระบบการส่งมอบในอวกาศจะเป็นเรื่องปกติทั่วไป เปิดฉากยุคใหม่ของการสำรวจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่นอกเหนือจากชั้นบรรยากาศของโลก

    https://www.techspot.com/news/106885-new-space-race-building-sustainable-economy-moon.html
    แนวคิดของ lunar economy ที่เคยเป็นเพียงเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ กำลังกลายเป็นความจริงที่สามารถจับต้องได้ ประเทศต่าง ๆ และบริษัทเอกชนกำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างฐานที่มั่นบนดวงจันทร์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่นั่นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และพัฒนาความสามารถในการสำรวจอวกาศในอนาคต หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้คือ Firefly Aerospace บริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2025 Firefly ได้ทำการปล่อยภารกิจ Blue Ghost 1 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบการส่งมอบจากโลกสู่ดวงจันทร์ ขณะนี้ Blue Ghost กำลังมุ่งหน้าสู่พื้นผิวดวงจันทร์และต้องเผชิญกับภารกิจท้าทายหลายอย่าง เช่น การเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ การลงจอดอย่างควบคุมในพื้นที่ Mare Crisium และการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง การติดตั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ การเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อม และการเจาะและสกัดฝุ่นละอองบนดวงจันทร์อย่างอัตโนมัติ ภารกิจของ Firefly นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Commercial Lunar Payload Services (CLPS) ของ NASA ที่มุ่งใช้ความสร้างสรรค์ของภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาการสำรวจอวกาศ ขณะที่ NASA มุ่งเน้นการส่งนักบินอวกาศกลับสู่ดวงจันทร์ผ่านโครงการ Artemis บริษัทเอกชนถูกมอบหมายให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการส่งมอบสิ่งของและการส่งคืนตัวอย่าง Blue Ghost lander บรรทุกอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ 10 ชิ้น รวมถึงคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจวัดความต้านทานของวงจรต่อรังสีในอวกาศ และกล้องที่ใช้ศึกษาฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ นอกจากนี้ lander ยังจะถ่ายภาพปรากฏการณ์ lunar eclipse เพื่อให้มุมมองพิเศษต่อปรากฏการณ์นี้ ในขณะที่ lunar economy เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ความสนใจจึงหันไปที่การใช้ประโยชน์จากวัสดุบนดวงจันทร์ โดยเฉพาะ Helium-3 ซึ่งเป็นไอโซโทปหายากที่มีประโยชน์ในการฟิวชั่นนิวเคลียร์ คอมพิวเตอร์ควอนตัม และการสร้างภาพทางการแพทย์ Helium-3 นั้นหายากบนโลก แต่เชื่อว่ามีการสะสมอยู่ในดวงจันทร์เนื่องจากลมสุริยะ บริษัทอย่าง Interlune กำลังวางแผนภารกิจการขุดเพื่อสกัด Helium-3 จากดวงจันทร์ นักวิจัยยังสำรวจการใช้แร่ธาตุและน้ำบนดวงจันทร์เพื่อผลิตออกซิเจนและไฮโดรเจนสำหรับเชื้อเพลิงจรวด ซึ่งอาจเปิดทางให้มีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์บนดวงจันทร์อย่างยั่งยืนในอนาคต รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบนดวงจันทร์ เช่น ถนน ทางรถไฟ และสิ่งก่อสร้างจากคอนกรีต ในอนาคต ภาพของ lander ที่เข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์และการสร้างระบบการส่งมอบในอวกาศจะเป็นเรื่องปกติทั่วไป เปิดฉากยุคใหม่ของการสำรวจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่นอกเหนือจากชั้นบรรยากาศของโลก https://www.techspot.com/news/106885-new-space-race-building-sustainable-economy-moon.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The new space race: building a sustainable economy on the moon
    This modern-day lunar gold rush has attracted diverse participants, from established space agencies to innovative private firms. One such company in this space race is the Texas-based...
    0 Comments 0 Shares 358 Views 0 Reviews
  • ภาพการทำลายจรวดหลายลำกล้อง BM-21 'Grad' MLRS ของกองทัพยูเครนโดยการโจมตีจากโดรนพลีชีพ "Lancet" ของรัสเซีย
    ภาพการทำลายจรวดหลายลำกล้อง BM-21 'Grad' MLRS ของกองทัพยูเครนโดยการโจมตีจากโดรนพลีชีพ "Lancet" ของรัสเซีย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 266 Views 20 0 Reviews
  • กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ภาพขีปนาวุธ Iskander ทำลายหน่วยโจมตีของกองพลปืนใหญ่จรวดที่ 27 ของกองทัพยูเครน ซึ่งตั้งอยู่ในแถบป่าใกล้โบรอมเลีย (ฺBoromlya) ภูมิภาคซูมี

    ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว การโจมตีได้ทำลาย:
    - จรวดหลายลำกล้อง Olkha (MLRS) - 2 คัน
    - รถ AV - 6 คัน
    - รถยนต์ - 8 คัน
    - รถบรรทุกอุปกรณ์ทหาร - 2 คัน
    - ทหารยูเครนประมาณ 30 นาย
    กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่ภาพขีปนาวุธ Iskander ทำลายหน่วยโจมตีของกองพลปืนใหญ่จรวดที่ 27 ของกองทัพยูเครน ซึ่งตั้งอยู่ในแถบป่าใกล้โบรอมเลีย (ฺBoromlya) ภูมิภาคซูมี ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว การโจมตีได้ทำลาย: - จรวดหลายลำกล้อง Olkha (MLRS) - 2 คัน - รถ AV - 6 คัน - รถยนต์ - 8 คัน - รถบรรทุกอุปกรณ์ทหาร - 2 คัน - ทหารยูเครนประมาณ 30 นาย
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 Reviews
  • 37 ปี ไทย-ลาว ประกาศหยุดยิง ยุติสมรภูมิบ้านร่มเกล้า สงครามบ่อแตน จุดพิพาทเนิน 1428

    📅 ย้อนไปเมื่อ 37 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2531 นับเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย-ลาว เมื่อทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลง ประกาศหยุดยิงอย่างเป็นทางการ ในสมรภูมิบ้านร่มเกล้า หลังจากการสู้รบที่ยืดเยื้อ มาอย่างยาวนานถึง 19 วัน สาเหตุหลักมาจาก ข้อพิพาทเรื่องเขตแดน ที่นำไปสู่การปะทะกันอย่างรุนแรง ระหว่างกองทัพทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะบริเวณ นิน 1428 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ

    สงครามครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งทหารและพลเรือน การเจรจาหยุดยิง นำไปสู่การตั้งคณะกรรมการพิสูจน์เขตแดน เพื่อหาข้อยุติที่ชัดเจน แม้เวลาจะผ่านไป 37 ปี แต่ปัญหาเรื่อง พรมแดนไทย-ลาว บริเวณนี้ ก็ยังคงเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ที่ทั้งสองประเทศต้องจับตาดู

    🔥 จุดเริ่มต้นของสงครามบ้านร่มเกล้า ข้อพิพาทเขตแดนไทย-ลาว 🎯
    ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนไทย-ลาว มีรากเหง้ามาจาก สนธิสัญญาปักปันเขตแดนไทย-ฝรั่งเศส เมื่อปี 2450 (ค.ศ. 1907) ซึ่งกำหนดให้ใช้ "แม่น้ำเหือง" เป็นเส้นแบ่งพรมแดน ระหว่างไทยกับลาว ในขณะนั้นเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ แม่น้ำเหืองมีสองสาย ได้แก่

    - แม่น้ำเหืองป่าหมัน มีต้นกำเนิดจากภูสอยดาว
    - แม่น้ำเหืองงา มีต้นกำเนิดจากภูเมี่ยง

    ฝ่ายลาวยืนยันว่า "แม่น้ำเหืองป่าหมัน" ควรเป็นเส้นแบ่งพรมแดน แต่ฝ่ายไทยแย้งว่า สนธิสัญญากำหนดให้ใช้แม่น้ำ ที่มีต้นกำเนิดจากภูเมี่ยง ซึ่งหมายถึง "แม่น้ำเหืองงา" ทำให้พื้นที่บ้านร่มเกล้า กลายเป็นพื้นที่พิพาทที่ ไทย-ลาว ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ครอบครอง

    🏕️ บ้านร่มเกล้า จากหมู่บ้านม้ง สู่สมรภูมิรบ
    "บ้านร่มเกล้า" ตั้งอยู่บนแนวชายแดนไทย-ลาว ในเขตหมู่ที่ 8 ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของชาวม้ง ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาชาติไทย ตามนโยบาย 66/23 ของรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์

    ต่อมารัฐบาลไทย ให้สัมปทานป่าไม้ ในพื้นที่บ้านร่มเกล้า ทำให้ฝ่ายลาวมองว่า ไทยรุกล้ำเข้าไปในดินแดนของตน และเป็นการลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย จึงเกิดเหตุปะทะกันหลายครั้ง ระหว่างทหารพรานไทย กับกองกำลังลาว

    ⚔️ การสู้รบในสมรภูมิร่มเกล้า ปะทะครั้งใหญ่ 31 พฤษภาคม 2530 📌
    ทหารลาวเข้าโจมตีแคมป์คนงานไทย ที่ทำสัมปทานป่าไม้ คนงานไทยเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บหลายคน
    กองร้อยทหารพรานที่ 3405 เข้าช่วยเหลือ ทำให้เกิดการปะทะ หลังจากนั้น สถานการณ์เริ่มตึงเครียด กองทัพภาคที่ 3 ของไทย จึงส่งกำลังเสริม เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ

    🚀 ยุทธการสอยดาว 01 และ 02 ช่วงปลายปี 2530
    กองทัพไทยเปิดปฏิบัติการทางทหาร เต็มรูปแบบ ใช้ทหารราบ ทหารม้า ปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศ เป้าหมายหลักคือ "เนิน 1428" ที่ทหารลาวยึดครอง อย่างไรก็ตาม เนิน 1428 อยู่ในตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบ ทำให้ไทยไม่สามารถบุกยึด ได้อย่างเด็ดขาด

    ✈️ รบหนักสุด 1-19 กุมภาพันธ์ 2531
    กองทัพไทยระดมกำลังบุกเนิน 1428 โดยกองทัพอากาศไทย ส่งเครื่องบิน เอฟ-5 อี และโอวี-10 โจมตี
    แต่สูญเสียเครื่องบิน 2 ลำ ที่ถูกยิงตกโดยปืนต่อต้านอากาศยา นและจรวดแซม การรบยืดเยื้อนานถึง 19 วัน ทั้งสองฝ่ายสูญเสียหนัก

    🕊️ เจรจาหยุดยิง
    💬 11 กุมภาพันธ์ 2531 นายไกรสอน พรหมวิหาร นายกรัฐมนตรีลาว ส่งสาส์นถึง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีไทย ขอให้หยุดยิง และตั้งคณะกรรมการพิสูจน์เขตแดน

    🤝 16-17 กุมภาพันธ์ 2531 ไทยและลาวเจรจากัน ที่กองบัญชาการ กองทัพอากาศไทย

    ✍️ 19 กุมภาพันธ์ 2531 ไทย-ลาว ลงนามข้อตกลงหยุดยิง และตกลงให้ถอยจากแนวปะทะ ฝ่ายละ 3 กิโลเมตร

    📉 ผลกระทบจากสงคราม
    💀 จำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
    - ฝ่ายไทยเสียชีวิต 147 นาย บาดเจ็บกว่า 700 นาย
    - ฝ่ายลาวคาดว่าเสียชีวิต 300-400 นาย บาดเจ็บ 200-300 นาย

    💰 งบประมาณทางทหาร
    ไทยใช้งบประมาณในสงครามนี้กว่า 3,000 ล้านบาท

    🌍 ความสัมพันธ์ไทย-ลาว
    การรบทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ลาว ตกต่ำที่สุดในยุคนั้น แม้จะหยุดยิง แต่ปัญหาพรมแดน ยังคงไม่ได้ข้อยุติ จนถึงปัจจุบัน

    🏛️ สมรภูมิบ้านร่มเกล้า เป็นหนึ่งในสงคราม ที่สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อน ของปัญหาพรมแดน ที่มีรากเหง้ามาจาก สนธิสัญญาทางประวัติศาสตร์ และความแตกต่างในการตีความแผนที่

    แม้สงครามจะจบลงแล้ว แต่ประเด็นเรื่องพรมแดนไทย-ลาว ยังคงเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ที่ทั้งสองประเทศ ต้องหารือร่วมกันต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ซ้ำรอยอีกในอนาคต

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 190937 ก.พ. 2568

    🔗#ไทยลาว #สงครามบ้านร่มเกล้า #สงครามบ่อแตน #พรมแดนไทยลาว #เนิน1428 #หยุดยิง #ความสัมพันธ์ไทยลาว #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามเย็น #สมรภูมิร่มเกล้า 🎖️
    37 ปี ไทย-ลาว ประกาศหยุดยิง ยุติสมรภูมิบ้านร่มเกล้า สงครามบ่อแตน จุดพิพาทเนิน 1428 📅 ย้อนไปเมื่อ 37 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2531 นับเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย-ลาว เมื่อทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลง ประกาศหยุดยิงอย่างเป็นทางการ ในสมรภูมิบ้านร่มเกล้า หลังจากการสู้รบที่ยืดเยื้อ มาอย่างยาวนานถึง 19 วัน สาเหตุหลักมาจาก ข้อพิพาทเรื่องเขตแดน ที่นำไปสู่การปะทะกันอย่างรุนแรง ระหว่างกองทัพทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะบริเวณ นิน 1428 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ สงครามครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งทหารและพลเรือน การเจรจาหยุดยิง นำไปสู่การตั้งคณะกรรมการพิสูจน์เขตแดน เพื่อหาข้อยุติที่ชัดเจน แม้เวลาจะผ่านไป 37 ปี แต่ปัญหาเรื่อง พรมแดนไทย-ลาว บริเวณนี้ ก็ยังคงเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ที่ทั้งสองประเทศต้องจับตาดู 🔥 จุดเริ่มต้นของสงครามบ้านร่มเกล้า ข้อพิพาทเขตแดนไทย-ลาว 🎯 ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนไทย-ลาว มีรากเหง้ามาจาก สนธิสัญญาปักปันเขตแดนไทย-ฝรั่งเศส เมื่อปี 2450 (ค.ศ. 1907) ซึ่งกำหนดให้ใช้ "แม่น้ำเหือง" เป็นเส้นแบ่งพรมแดน ระหว่างไทยกับลาว ในขณะนั้นเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ แม่น้ำเหืองมีสองสาย ได้แก่ - แม่น้ำเหืองป่าหมัน มีต้นกำเนิดจากภูสอยดาว - แม่น้ำเหืองงา มีต้นกำเนิดจากภูเมี่ยง ฝ่ายลาวยืนยันว่า "แม่น้ำเหืองป่าหมัน" ควรเป็นเส้นแบ่งพรมแดน แต่ฝ่ายไทยแย้งว่า สนธิสัญญากำหนดให้ใช้แม่น้ำ ที่มีต้นกำเนิดจากภูเมี่ยง ซึ่งหมายถึง "แม่น้ำเหืองงา" ทำให้พื้นที่บ้านร่มเกล้า กลายเป็นพื้นที่พิพาทที่ ไทย-ลาว ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ครอบครอง 🏕️ บ้านร่มเกล้า จากหมู่บ้านม้ง สู่สมรภูมิรบ "บ้านร่มเกล้า" ตั้งอยู่บนแนวชายแดนไทย-ลาว ในเขตหมู่ที่ 8 ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของชาวม้ง ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาชาติไทย ตามนโยบาย 66/23 ของรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ต่อมารัฐบาลไทย ให้สัมปทานป่าไม้ ในพื้นที่บ้านร่มเกล้า ทำให้ฝ่ายลาวมองว่า ไทยรุกล้ำเข้าไปในดินแดนของตน และเป็นการลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย จึงเกิดเหตุปะทะกันหลายครั้ง ระหว่างทหารพรานไทย กับกองกำลังลาว ⚔️ การสู้รบในสมรภูมิร่มเกล้า ปะทะครั้งใหญ่ 31 พฤษภาคม 2530 📌 ทหารลาวเข้าโจมตีแคมป์คนงานไทย ที่ทำสัมปทานป่าไม้ คนงานไทยเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บหลายคน กองร้อยทหารพรานที่ 3405 เข้าช่วยเหลือ ทำให้เกิดการปะทะ หลังจากนั้น สถานการณ์เริ่มตึงเครียด กองทัพภาคที่ 3 ของไทย จึงส่งกำลังเสริม เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ 🚀 ยุทธการสอยดาว 01 และ 02 ช่วงปลายปี 2530 กองทัพไทยเปิดปฏิบัติการทางทหาร เต็มรูปแบบ ใช้ทหารราบ ทหารม้า ปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศ เป้าหมายหลักคือ "เนิน 1428" ที่ทหารลาวยึดครอง อย่างไรก็ตาม เนิน 1428 อยู่ในตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบ ทำให้ไทยไม่สามารถบุกยึด ได้อย่างเด็ดขาด ✈️ รบหนักสุด 1-19 กุมภาพันธ์ 2531 กองทัพไทยระดมกำลังบุกเนิน 1428 โดยกองทัพอากาศไทย ส่งเครื่องบิน เอฟ-5 อี และโอวี-10 โจมตี แต่สูญเสียเครื่องบิน 2 ลำ ที่ถูกยิงตกโดยปืนต่อต้านอากาศยา นและจรวดแซม การรบยืดเยื้อนานถึง 19 วัน ทั้งสองฝ่ายสูญเสียหนัก 🕊️ เจรจาหยุดยิง 💬 11 กุมภาพันธ์ 2531 นายไกรสอน พรหมวิหาร นายกรัฐมนตรีลาว ส่งสาส์นถึง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีไทย ขอให้หยุดยิง และตั้งคณะกรรมการพิสูจน์เขตแดน 🤝 16-17 กุมภาพันธ์ 2531 ไทยและลาวเจรจากัน ที่กองบัญชาการ กองทัพอากาศไทย ✍️ 19 กุมภาพันธ์ 2531 ไทย-ลาว ลงนามข้อตกลงหยุดยิง และตกลงให้ถอยจากแนวปะทะ ฝ่ายละ 3 กิโลเมตร 📉 ผลกระทบจากสงคราม 💀 จำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ - ฝ่ายไทยเสียชีวิต 147 นาย บาดเจ็บกว่า 700 นาย - ฝ่ายลาวคาดว่าเสียชีวิต 300-400 นาย บาดเจ็บ 200-300 นาย 💰 งบประมาณทางทหาร ไทยใช้งบประมาณในสงครามนี้กว่า 3,000 ล้านบาท 🌍 ความสัมพันธ์ไทย-ลาว การรบทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ลาว ตกต่ำที่สุดในยุคนั้น แม้จะหยุดยิง แต่ปัญหาพรมแดน ยังคงไม่ได้ข้อยุติ จนถึงปัจจุบัน 🏛️ สมรภูมิบ้านร่มเกล้า เป็นหนึ่งในสงคราม ที่สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อน ของปัญหาพรมแดน ที่มีรากเหง้ามาจาก สนธิสัญญาทางประวัติศาสตร์ และความแตกต่างในการตีความแผนที่ แม้สงครามจะจบลงแล้ว แต่ประเด็นเรื่องพรมแดนไทย-ลาว ยังคงเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ที่ทั้งสองประเทศ ต้องหารือร่วมกันต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ซ้ำรอยอีกในอนาคต ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 190937 ก.พ. 2568 🔗#ไทยลาว #สงครามบ้านร่มเกล้า #สงครามบ่อแตน #พรมแดนไทยลาว #เนิน1428 #หยุดยิง #ความสัมพันธ์ไทยลาว #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามเย็น #สมรภูมิร่มเกล้า 🎖️
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 732 Views 0 Reviews
  • ไต้หวันกำลังเจรจากับรัฐบาลวอชิงตัน เพื่อซื้ออาวุธมูลค่าราว 7,000 - 10,000 ล้านดอลลาร์จากสหรัฐ

    การซื้ออาวุธครั้งนี้จะรวมถึงขีปนาวุธร่อนป้องกันชายฝั่งและจรวด HIMARS ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันกองกำลังรุกรานของจีนไม่ให้เข้าใกล้ชายหาด
    ไต้หวันกำลังเจรจากับรัฐบาลวอชิงตัน เพื่อซื้ออาวุธมูลค่าราว 7,000 - 10,000 ล้านดอลลาร์จากสหรัฐ การซื้ออาวุธครั้งนี้จะรวมถึงขีปนาวุธร่อนป้องกันชายฝั่งและจรวด HIMARS ซึ่งออกแบบมาเพื่อป้องกันกองกำลังรุกรานของจีนไม่ให้เข้าใกล้ชายหาด
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • "เริ่มโทษกันเอง"

    แหล่งข่าวด้านกลาโหมของอังกฤษกล่าวหากองทัพของเซเลนสกีว่าสิ้นเปลืองอาวุธและอุปกรณ์ราคาแพงให้รัสเซียยึดเป็นจำนวนมาก จนอาจเป็นไปได้ว่า "กองทัพรัสเซียตอนนี้อาจมีจรวด Javelin มากกว่ากองทัพอังกฤษเสียอีก"

    - สำนักข่าว The Telegraph ของอังกฤษรายงาน
    "เริ่มโทษกันเอง" แหล่งข่าวด้านกลาโหมของอังกฤษกล่าวหากองทัพของเซเลนสกีว่าสิ้นเปลืองอาวุธและอุปกรณ์ราคาแพงให้รัสเซียยึดเป็นจำนวนมาก จนอาจเป็นไปได้ว่า "กองทัพรัสเซียตอนนี้อาจมีจรวด Javelin มากกว่ากองทัพอังกฤษเสียอีก" - สำนักข่าว The Telegraph ของอังกฤษรายงาน
    0 Comments 0 Shares 265 Views 0 Reviews
  • DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency) เป็นหน่วยงานวิจัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา โดยมีหน้าที่ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการป้องกันประเทศ กำลังเริ่มขั้นตอนสุดท้ายของโครงการ NOM4D (Novel Orbital and Moon Manufacturing, Materials, and Mass Efficient Design) โดยเปลี่ยนจากการทดสอบในห้องทดลองมาเป็นการสาธิตในวงโคจรขนาดเล็ก วัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือการพัฒนาวัสดุและเทคนิคการประกอบใหม่ ๆ ในอวกาศ เพื่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยทำได้

    หนึ่งในความท้าทายหลักในการก่อสร้างในอวกาศคือข้อจำกัดด้านขนาดและน้ำหนักของโครงสร้างที่สามารถนำขึ้นไปในจรวด โครงการ NOM4D มีแนวทางใหม่โดยการใช้วัสดุน้ำหนักเบาที่จะถูกนำขึ้นไปในจรวดเพื่อประกอบในอวกาศ ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

    ในโครงการนี้ Caltech ได้ร่วมมือกับ Momentus เพื่อแสดงเทคโนโลยีการประกอบหุ่นยนต์อัตโนมัติบนยาน Momentus Vigoride Orbital Services Vehicle ซึ่งจะถูกส่งขึ้นไปในอวกาศโดยจรวด SpaceX Falcon 9 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 โครงสร้างที่จะสร้างขึ้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ทำจากวัสดุคอมโพสิตไฟเบอร์น้ำหนักเบา ซึ่งจะจำลองสถาปัตยกรรมของช่องเปิดเสาอากาศ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ในอวกาศ

    ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์บานา-แชมเปญ ได้พัฒนากระบวนการขึ้นรูปคอมโพสิตที่มีความแม่นยำสูงในอวกาศ ร่วมกับ Voyager Space และจะสาธิตเทคโนโลยีนี้บนสถานีอวกาศนานาชาติในเดือนเมษายน 2026 กระบวนการนี้ใช้วิธี "frontal polymerization" ที่ทำให้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แข็งโดยไม่ต้องใช้เตาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการบุกเบิกที่สามารถทำให้การก่อสร้างโครงสร้างในอวกาศเป็นไปได้

    นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยฟลอริด้ายังมีการวิจัยเกี่ยวกับเทคนิคการดัดแผ่นโลหะด้วยเลเซอร์ร่วมกับ NASA's Marshall Space Flight Center ซึ่งงานนี้สามารถให้ความสามารถในการผลิตที่สำคัญสำหรับการก่อสร้างในอวกาศในอนาคต

    ความสำเร็จของการสาธิตเหล่านี้อาจมีผลกระทบที่กว้างขวางทั้งในด้านการพาณิชย์และความมั่นคงของชาติ โดยเทคโนโลยีที่พัฒนาเหล่านี้สามารถเพิ่มศักยภาพในการสร้างเสาอากาศขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร ที่จะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ในพื้นที่ใกล้ดวงจันทร์ (cislunar space) นอกจากนี้ โครงการ NOM4D ยังสามารถช่วยในการสร้างระบบนิเวศการผลิตในอวกาศ เช่น สถานีเติมเชื้อเพลิงในอวกาศ ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ในอวกาศ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่สำคัญทั้งสำหรับการพาณิชย์และความมั่นคงของชาติ

    https://www.techspot.com/news/106775-darpa-begins-testing-phase-orbit-space-construction.html
    DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency) เป็นหน่วยงานวิจัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา โดยมีหน้าที่ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในการป้องกันประเทศ กำลังเริ่มขั้นตอนสุดท้ายของโครงการ NOM4D (Novel Orbital and Moon Manufacturing, Materials, and Mass Efficient Design) โดยเปลี่ยนจากการทดสอบในห้องทดลองมาเป็นการสาธิตในวงโคจรขนาดเล็ก วัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือการพัฒนาวัสดุและเทคนิคการประกอบใหม่ ๆ ในอวกาศ เพื่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยทำได้ หนึ่งในความท้าทายหลักในการก่อสร้างในอวกาศคือข้อจำกัดด้านขนาดและน้ำหนักของโครงสร้างที่สามารถนำขึ้นไปในจรวด โครงการ NOM4D มีแนวทางใหม่โดยการใช้วัสดุน้ำหนักเบาที่จะถูกนำขึ้นไปในจรวดเพื่อประกอบในอวกาศ ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ ในโครงการนี้ Caltech ได้ร่วมมือกับ Momentus เพื่อแสดงเทคโนโลยีการประกอบหุ่นยนต์อัตโนมัติบนยาน Momentus Vigoride Orbital Services Vehicle ซึ่งจะถูกส่งขึ้นไปในอวกาศโดยจรวด SpaceX Falcon 9 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 โครงสร้างที่จะสร้างขึ้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 เมตร ทำจากวัสดุคอมโพสิตไฟเบอร์น้ำหนักเบา ซึ่งจะจำลองสถาปัตยกรรมของช่องเปิดเสาอากาศ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ในอวกาศ ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์บานา-แชมเปญ ได้พัฒนากระบวนการขึ้นรูปคอมโพสิตที่มีความแม่นยำสูงในอวกาศ ร่วมกับ Voyager Space และจะสาธิตเทคโนโลยีนี้บนสถานีอวกาศนานาชาติในเดือนเมษายน 2026 กระบวนการนี้ใช้วิธี "frontal polymerization" ที่ทำให้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แข็งโดยไม่ต้องใช้เตาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการบุกเบิกที่สามารถทำให้การก่อสร้างโครงสร้างในอวกาศเป็นไปได้ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยฟลอริด้ายังมีการวิจัยเกี่ยวกับเทคนิคการดัดแผ่นโลหะด้วยเลเซอร์ร่วมกับ NASA's Marshall Space Flight Center ซึ่งงานนี้สามารถให้ความสามารถในการผลิตที่สำคัญสำหรับการก่อสร้างในอวกาศในอนาคต ความสำเร็จของการสาธิตเหล่านี้อาจมีผลกระทบที่กว้างขวางทั้งในด้านการพาณิชย์และความมั่นคงของชาติ โดยเทคโนโลยีที่พัฒนาเหล่านี้สามารถเพิ่มศักยภาพในการสร้างเสาอากาศขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร ที่จะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ในพื้นที่ใกล้ดวงจันทร์ (cislunar space) นอกจากนี้ โครงการ NOM4D ยังสามารถช่วยในการสร้างระบบนิเวศการผลิตในอวกาศ เช่น สถานีเติมเชื้อเพลิงในอวกาศ ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ในอวกาศ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่สำคัญทั้งสำหรับการพาณิชย์และความมั่นคงของชาติ https://www.techspot.com/news/106775-darpa-begins-testing-phase-orbit-space-construction.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    DARPA begins testing phase for in-orbit space construction
    DARPA has announced a major shift in the final phase of its NOM4D program, transitioning from laboratory testing to small-scale orbital demonstrations. This move aims to evaluate...
    0 Comments 0 Shares 480 Views 0 Reviews
  • ในช่วงนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเศษวัตถุอวกาศที่ตกลงมาใส่เครื่องบิน จากการศึกษาล่าสุดพบว่า แม้ความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ยังต่ำ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ อาจมีผลกระทบที่ร้ายแรง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียได้วิเคราะห์รูปแบบการจราจรทางอากาศทั่วโลกกับเส้นทางตกลงมาของเศษวัตถุอวกาศที่ไม่ได้ควบคุม พวกเขาคาดว่าใกล้กับศูนย์กลางสนามบินหลัก จะมีความน่าจะเป็น 0.8% ต่อปีที่จะเกิดเหตุการณ์เศษวัตถุอวกาศตกลงมา

    แม้จะดูเหมือนน้อย แต่ในพื้นที่การจราจรทางอากาศที่หนาแน่นเช่นอเมริกาตอนเหนือหรือยุโรปตอนเหนือ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเกิน 26% ต่อปี ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากจำนวนวัตถุที่ถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรเพิ่มขึ้น รวมถึงดาวเทียมขนาดใหญ่เช่น Starlink และชิ้นส่วนจรวดที่ถูกทิ้ง

    นอกจากปัญหาที่นักดาราศาสตร์เห็นว่าดาวเทียมขนาดใหญ่รบกวนการสังเกตท้องฟ้าแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่เศษวัตถุเหล่านี้อาจกระทบกับเครื่องบินในอนาคต นักวิจัยเน้นถึงความจำเป็นในการควบคุมการตกลงมาของวัตถุอวกาศอย่างเข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเศษวัตถุจะสลายตัวในบริเวณทะเลไกลฝั่ง

    https://www.techspot.com/news/106749-scientists-sound-alarm-rising-odds-space-junk-striking.html
    ในช่วงนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของเศษวัตถุอวกาศที่ตกลงมาใส่เครื่องบิน จากการศึกษาล่าสุดพบว่า แม้ความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ยังต่ำ แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงๆ อาจมีผลกระทบที่ร้ายแรง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียได้วิเคราะห์รูปแบบการจราจรทางอากาศทั่วโลกกับเส้นทางตกลงมาของเศษวัตถุอวกาศที่ไม่ได้ควบคุม พวกเขาคาดว่าใกล้กับศูนย์กลางสนามบินหลัก จะมีความน่าจะเป็น 0.8% ต่อปีที่จะเกิดเหตุการณ์เศษวัตถุอวกาศตกลงมา แม้จะดูเหมือนน้อย แต่ในพื้นที่การจราจรทางอากาศที่หนาแน่นเช่นอเมริกาตอนเหนือหรือยุโรปตอนเหนือ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเกิน 26% ต่อปี ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากจำนวนวัตถุที่ถูกปล่อยขึ้นสู่วงโคจรเพิ่มขึ้น รวมถึงดาวเทียมขนาดใหญ่เช่น Starlink และชิ้นส่วนจรวดที่ถูกทิ้ง นอกจากปัญหาที่นักดาราศาสตร์เห็นว่าดาวเทียมขนาดใหญ่รบกวนการสังเกตท้องฟ้าแล้ว ยังมีความเสี่ยงที่เศษวัตถุเหล่านี้อาจกระทบกับเครื่องบินในอนาคต นักวิจัยเน้นถึงความจำเป็นในการควบคุมการตกลงมาของวัตถุอวกาศอย่างเข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเศษวัตถุจะสลายตัวในบริเวณทะเลไกลฝั่ง https://www.techspot.com/news/106749-scientists-sound-alarm-rising-odds-space-junk-striking.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists sound alarm on rising odds of space junk striking airplanes
    Researchers at the University of British Columbia analyzed global air traffic patterns against the projected re-entry paths of uncontrolled space debris.
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • มีความก้าวหน้าของนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียที่ได้พัฒนาเครื่องยนต์พลาสมา ซึ่งอาจทำให้การเดินทางไปยังดาวอังคารใช้เวลาเพียง 30-60 วัน จากเดิมที่ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งปี

    เครื่องยนต์นี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและยังไม่พร้อมใช้งานจริงในการปฏิบัติการในอวกาศ แต่มีความหวังว่าจะสามารถทำให้การเดินทางในอวกาศมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยหลักการทำงานที่ต่างจากเครื่องยนต์จรวดแบบเดิม โดยใช้ระบบการเร่งพลาสมาด้วยสนามแม่เหล็ก

    พลาสมาเป็นสถานะของสสารที่เกิดจากการเพิ่มพลังงานให้กับก๊าซจนกระทั่งอะตอมและโมเลกุลแตกตัวเป็นอิออนและอิเล็กตรอน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเครื่องยนต์พลาสมานี้จะสามารถเร่งอนุภาคที่มีประจุให้มีความเร็วสูงถึง 100 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงกว่าระบบการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในจรวดแบบเดิม

    เครื่องยนต์พลาสมายังมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูง เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนเป็นการเคลื่อนที่ โดยไม่ทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์มีความร้อนเกินไป นอกจากนี้ เครื่องยนต์นี้ยังสามารถใช้งานได้ในการขนส่งสินค้าระหว่างดาวเคราะห์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาอยู่

    แม้ว่าเครื่องยนต์นี้จะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและยังมีความไม่แน่นอน แต่ก็เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการเดินทางในอวกาศที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น ทำให้เรามีความหวังในการสำรวจดาวเคราะห์และอวกาศในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/106713-russian-scientists-develop-plasma-engine-prototype-promising-mars.html
    มีความก้าวหน้าของนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียที่ได้พัฒนาเครื่องยนต์พลาสมา ซึ่งอาจทำให้การเดินทางไปยังดาวอังคารใช้เวลาเพียง 30-60 วัน จากเดิมที่ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งปี เครื่องยนต์นี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและยังไม่พร้อมใช้งานจริงในการปฏิบัติการในอวกาศ แต่มีความหวังว่าจะสามารถทำให้การเดินทางในอวกาศมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยหลักการทำงานที่ต่างจากเครื่องยนต์จรวดแบบเดิม โดยใช้ระบบการเร่งพลาสมาด้วยสนามแม่เหล็ก พลาสมาเป็นสถานะของสสารที่เกิดจากการเพิ่มพลังงานให้กับก๊าซจนกระทั่งอะตอมและโมเลกุลแตกตัวเป็นอิออนและอิเล็กตรอน นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเครื่องยนต์พลาสมานี้จะสามารถเร่งอนุภาคที่มีประจุให้มีความเร็วสูงถึง 100 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงกว่าระบบการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในจรวดแบบเดิม เครื่องยนต์พลาสมายังมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูง เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนเป็นการเคลื่อนที่ โดยไม่ทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์มีความร้อนเกินไป นอกจากนี้ เครื่องยนต์นี้ยังสามารถใช้งานได้ในการขนส่งสินค้าระหว่างดาวเคราะห์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาอยู่ แม้ว่าเครื่องยนต์นี้จะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและยังมีความไม่แน่นอน แต่ก็เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการเดินทางในอวกาศที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น ทำให้เรามีความหวังในการสำรวจดาวเคราะห์และอวกาศในอนาคต https://www.techspot.com/news/106713-russian-scientists-develop-plasma-engine-prototype-promising-mars.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Russian scientists develop plasma engine prototype promising Mars trips in 30-60 days
    Russia's State Atomic Energy Corporation, Rosatom, recently developed a new spacecraft engine with impressive specifications. It far surpasses the capabilities of traditional chemical rocket engines, capable of...
    0 Comments 0 Shares 232 Views 0 Reviews
  • เป็นที่รู้กันว่ารัฐบาลทหารพม่าใช้การปิดกั้นอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือควบคุมประชาชนและจำกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้าน แต่ท่ามกลางการปิดกั้นเหล่านี้ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม "สตาร์ลิงค์" (Starlink) ของอีลอน มักส์ (Elon Musk) ได้กลายเป็นความหวังของประชาชน เพื่อฝันในการเชื่อมต่อและไม่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

    ปัจจุบัน มีรายงานว่าอินเทอร์เน็ตของ Starlink ถูกให้บริการในมากกว่า 60 แห่งในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า เช่น ซะไกง์หรือสะกาย มัคเวย์ คะเรนนี และคะฉิ่น ซึ่งแม้จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระมากขึ้น แต่ Starlink ก็กำลังเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะในกรณีของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ที่ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงนี้เพื่อดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย

    ในขณะที่ Starlink อาจถูกใช้งานทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ แต่ต้นสังกัดอย่าง "สเปซ เอ็กซ์" (SpaceX) ก็ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2025 บริษัท SpaceX มีกำหนดการปล่อยดาวเทียม Starlink เพิ่มอีก 23 ดวงผ่านจรวด Falcon 9 จากฐานปล่อยจรวด Vandenberg Space Force Base เป้าหมายหลักของการขยายเครือข่ายคือการปรับปรุงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลและเพิ่มประสิทธิภาพของบริการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9680000013337

    #MGROnline #Starlink #ElonMusk
    เป็นที่รู้กันว่ารัฐบาลทหารพม่าใช้การปิดกั้นอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือควบคุมประชาชนและจำกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้าน แต่ท่ามกลางการปิดกั้นเหล่านี้ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม "สตาร์ลิงค์" (Starlink) ของอีลอน มักส์ (Elon Musk) ได้กลายเป็นความหวังของประชาชน เพื่อฝันในการเชื่อมต่อและไม่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก • ปัจจุบัน มีรายงานว่าอินเทอร์เน็ตของ Starlink ถูกให้บริการในมากกว่า 60 แห่งในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า เช่น ซะไกง์หรือสะกาย มัคเวย์ คะเรนนี และคะฉิ่น ซึ่งแม้จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างอิสระมากขึ้น แต่ Starlink ก็กำลังเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะในกรณีของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ที่ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงนี้เพื่อดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย • ในขณะที่ Starlink อาจถูกใช้งานทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ แต่ต้นสังกัดอย่าง "สเปซ เอ็กซ์" (SpaceX) ก็ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2025 บริษัท SpaceX มีกำหนดการปล่อยดาวเทียม Starlink เพิ่มอีก 23 ดวงผ่านจรวด Falcon 9 จากฐานปล่อยจรวด Vandenberg Space Force Base เป้าหมายหลักของการขยายเครือข่ายคือการปรับปรุงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลและเพิ่มประสิทธิภาพของบริการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9680000013337 • #MGROnline #Starlink #ElonMusk
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 346 Views 0 Reviews
  • ภาพการยิงระบบจรวดหลายลำกล้อง BM-27 Uragan ขนาด 220 มิลลิเมตร เป้าหมายเพื่อทำลายฝ่ายยูเครน ทิศทางเมือง Sudzha ภูมิภาคเคิร์สก์ ดินแดนรัสเซีย
    ภาพการยิงระบบจรวดหลายลำกล้อง BM-27 Uragan ขนาด 220 มิลลิเมตร เป้าหมายเพื่อทำลายฝ่ายยูเครน ทิศทางเมือง Sudzha ภูมิภาคเคิร์สก์ ดินแดนรัสเซีย
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • โครงการทดสอบ ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยไกล "Dark Eagle" ของเพนตากอนดูท่าทางจะล้มเหลวและเดินหน้าต่อไปยาก ในขณะที่จีนและรัสเซียมีอาวุธประเภทนี้พร้อมใช้งานแล้ว

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เริ่มมีคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยไกล Dark Eagle (Long Range Hypersonic Weapon - LRHW) ซึ่งจะถูกติดตั้งให้กับเรือพิฆาตล่องหนคลาส Zumwalt ของกองทัพเรือ และเรือดำน้ำคลาส Virginia Block V ในอนาคต

    แม้ว่าจะมีการทดสอบหลายครั้งแต่ส่วนใหญ่จะล้มเหลว มีเพียงสองครั้งที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบ นอกจากนี้ สำนักงานผู้อำนวยการฝ่ายทดสอบและประเมินการปฏิบัติการ (DOT&E) ระบุว่า ข้อมูลทดสอบยังไม่เพียงพอที่จะยืนยันประสิทธิภาพการทำงานของระบบขีปนาวุธนี้ได้

    ทางด้านรายงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินสหรัฐฯ (GAO) ระบุว่าปัญหาสำคัญคือ ต้นทุนที่สูงเกินไป ต้องใช้อุปกรณ์โครงสร้างพิเศษ เช่น อุโมงค์ลมและสถานที่ทดสอบระยะไกล ทำให้มีความซับซ้อนขึ้นไปอีก

    - ภาพวิดีโอประกอบ เป็นช่วงเวลาการทดสอบปล่อยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Dark Eagle" เมื่อเดือนธันวาคม 2024 จากฐานปล่อยจรวดที่แหลมคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา มีรายงานว่าขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดที่มัค 17 (~20,825 กม./ชม.)
    โครงการทดสอบ ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยไกล "Dark Eagle" ของเพนตากอนดูท่าทางจะล้มเหลวและเดินหน้าต่อไปยาก ในขณะที่จีนและรัสเซียมีอาวุธประเภทนี้พร้อมใช้งานแล้ว กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เริ่มมีคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงพิสัยไกล Dark Eagle (Long Range Hypersonic Weapon - LRHW) ซึ่งจะถูกติดตั้งให้กับเรือพิฆาตล่องหนคลาส Zumwalt ของกองทัพเรือ และเรือดำน้ำคลาส Virginia Block V ในอนาคต แม้ว่าจะมีการทดสอบหลายครั้งแต่ส่วนใหญ่จะล้มเหลว มีเพียงสองครั้งที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบ นอกจากนี้ สำนักงานผู้อำนวยการฝ่ายทดสอบและประเมินการปฏิบัติการ (DOT&E) ระบุว่า ข้อมูลทดสอบยังไม่เพียงพอที่จะยืนยันประสิทธิภาพการทำงานของระบบขีปนาวุธนี้ได้ ทางด้านรายงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินสหรัฐฯ (GAO) ระบุว่าปัญหาสำคัญคือ ต้นทุนที่สูงเกินไป ต้องใช้อุปกรณ์โครงสร้างพิเศษ เช่น อุโมงค์ลมและสถานที่ทดสอบระยะไกล ทำให้มีความซับซ้อนขึ้นไปอีก - ภาพวิดีโอประกอบ เป็นช่วงเวลาการทดสอบปล่อยขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง "Dark Eagle" เมื่อเดือนธันวาคม 2024 จากฐานปล่อยจรวดที่แหลมคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา มีรายงานว่าขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดที่มัค 17 (~20,825 กม./ชม.)
    0 Comments 0 Shares 291 Views 0 Reviews
More Results