• ณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคประชาชน ร่วมกับ สำนักข่าววาร์ตานี-เครือข่ายสื่อ ยื่นจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องแม่ทัพภาค 4, ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ปล่อยตัว "อับลุดอาฟิร เซ็ง" นักข่าวอิสระของวาร์ตานี ไม่มีเงื่อนไขในทันที ระบุ การรายงานข่าวไม่ใช่อาชญากรรม

    https://prachatai.com/journal/2025/02/112129
    ณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคประชาชน ร่วมกับ สำนักข่าววาร์ตานี-เครือข่ายสื่อ ยื่นจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องแม่ทัพภาค 4, ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ปล่อยตัว "อับลุดอาฟิร เซ็ง" นักข่าวอิสระของวาร์ตานี ไม่มีเงื่อนไขในทันที ระบุ การรายงานข่าวไม่ใช่อาชญากรรม https://prachatai.com/journal/2025/02/112129
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    🌸 วันแห่งความรักตามวิถีไทย วาเลนไทน์ 2568 🌸 ธรรมเนียมวัฒนธรรมตะวันตก ที่ไทยปรับใช้อย่างกลมกลืน วันที่เราต่างมีความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กัน 🏹 เมื่อ "วาเลนไทน์" ไม่ใช่แค่ของฝรั่งอีกต่อไป 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันที่หลายคนทั่วโลก ต่างเฝ้ารอ เพราะเป็น "วันวาเลนไทน์" หรือ วันแห่งความรัก 💕 วันสำคัญที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบ การ์ดบอกรัก ของขวัญแทนใจ และการแสดงความรักต่อคนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก เพื่อน หรือครอบครัว แม้ว่าวันวาเลนไทน์ จะมีต้นกำเนิดจากโลกตะวันตก แต่เมื่อเดินทางมาถึงไทย วัฒนธรรมแห่งความรักนี้ ได้ถูกปรับเปลี่ยน และหลอมรวมเข้ากับวิถีไทย อย่างกลมกลืน คนไทยให้ความสำคัญ กับความรักในทุกมิติ ไม่ใช่แค่รักโรแมนติก แต่ยังรวมถึง ความรักของครอบครัว มิตรภาพ และความเมตตาต่อกัน วาเลนไทน์ 2568 นี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของความโรแมนติก ระหว่างหนุ่มสาว แต่เป็นโอกาสดี ที่จะได้มอบความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กันในทุก ๆ ความสัมพันธ์ ❤️ 🌹 จากตำนานยุคโรมัน สู่วันที่โลกจดจำ 📜 วันวาเลนไทน์ มีที่มาจากตำนานของนักบุญ "เซนต์วาเลนไทน์" (Saint Valentine) ซึ่งเชื่อกันว่า ในช่วงศตวรรษที่ 3 จักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 แห่งโรมัน สั่งห้ามไม่ให้ทหารแต่งงาน เพราะเชื่อว่าทหารที่มีครอบครัว จะไม่มีสมาธิในการรบ แต่เซนต์วาเลนไทน์ ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ และยังคงทำพิธีแต่งงาน ให้คู่รักแบบลับ ๆ 💒 เมื่อความลับถูกเปิดเผย จึงถูกจับกุม และประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 269 ตั้งแต่นั้นมา วันแห่งความรักจึงถูกกำหนดขึ้น เพื่อรำลึกถึงการเสียสละ 💌 จากจดหมายรัก สู่วันแห่งการบอกรัก ก่อนที่เซนต์วาเลนไทน์จะเสียชีวิต ได้เขียนจดหมายถึงหญิงสาวที่เขารัก และลงท้ายว่า "From your Valentine" กลายเป็นต้นแบบของ "การ์ดวาเลนไทน์" ที่ได้รับความนิยม มาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าเรื่องราวของวันวาเลนไทน์ จะเต็มไปด้วยความเศร้า แต่ได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของความรัก และการเสียสละ ที่ถูกเฉลิมฉลองทั่วโลก 🌏 💖 วันวาเลนไทน์ในสไตล์ไทย การปรับตัวของวัฒนธรรมแห่งความรัก แม้ว่าจะเป็น ธรรมเนียมจากตะวันตก แต่คนไทยได้ปรับวันวาเลนไทน์ ให้เข้ากับวิถีชีวิต และวัฒนธรรมไทย ได้อย่างลงตัว นอกจากการให้ดอกไม้ หรือของขวัญแล้ว คนไทยยังให้ความสำคัญ กับความรักที่อบอุ่น และความกตัญญูต่อผู้ใหญ่ 🌷 สัญลักษณ์วาเลนไทน์แบบไทย ๆ ในประเทศไทย ดอกกุหลาบสีแดง 🌹 ยังคงเป็นของขวัญยอดนิยม เพราะสื่อถึงความรักอันร้อนแรง แต่ยังมีดอกไม้อื่น ๆ ที่ใช้แทนความรู้สึกพิเศษ เช่น - ดอกมะลิ 🤍 สื่อถึงความรักบริสุทธิ์ และความกตัญญู นิยมมอบให้พ่อแม่ - ดอกทานตะวัน 🌻 เป็นสัญลักษณ์ของรักแท้ที่มั่นคง ไม่ว่าสถานการณ์ใด - ดอกคัตเตอร์ 💜 แทนความหมายของความรัก ที่มั่นคงและซื่อสัตย์ 🍜 ฉลองวาเลนไทน์แบบไทย ๆ ในขณะที่บางประเทศ นิยมไปดินเนอร์หรู 🥂 คนไทยจำนวนมาก กลับเลือกใช้วันวาเลนไทน์ ในรูปแบบที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง เช่น - พาคนรักไปไหว้พระขอพร 🙏✨ ตามวัดดัง เช่น วัดพระแก้ว วัดอรุณ หรือวัดเล่งเน่ยยี่ - ทำบุญร่วมกัน เพื่อเป็นสิริมงคลต่อความรัก - ทานข้าวกับครอบครัว 🍲 เพราะความรักในแบบไทย ไม่ได้จำกัดแค่คู่รัก แต่รวมถึงครอบครัวด้วย 💑 วาเลนไทน์ 2568: เทรนด์ความรักยุคใหม่ ในสังคมไทย 📱 วาเลนไทน์ในโลกดิจิทัล ในยุคที่เทคโนโลยีครองโลก โซเชียลมีเดีย กลายเป็นช่องทางสำคัญ ในการแสดงความรัก ไม่ว่าจะเป็นการ 💌 ส่งข้อความหวาน ๆ ผ่านแชท 📸 แชร์รูปคู่ลง Instagram พร้อมแคปชันสุดโรแมนติก 🎁 สั่งดอกไม้ หรือของขวัญออนไลน์ให้คนพิเศษ 💍 เทรนด์แต่งงานในวันวาเลนไทน์ ทุก ๆ ปี วาเลนไทน์เป็นวันที่คู่รักหลายคู่ เลือกจดทะเบียนสมรส 💍 โดยที่ว่าการเขตบางรัก เป็นสถานที่ยอดนิยมที่สุดในไทย เพราะชื่อเขตมีความหมายดี และมักมีของที่ระลึกพิเศษ สำหรับคู่บ่าวสาว ❓ คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ 💘 คนไม่มีคู่ จะฉลองวาเลนไทน์ได้ไหม? ได้แน่นอน! เพราะวันวาเลนไทน์ ไม่ได้จำกัดแค่คู่รัก แต่เป็นวันแห่งความรัก ในทุกความสัมพันธ์ สามารถใช้เวลานี้ เพื่อดูแลตัวเอง หรือบอกรักครอบครัว และเพื่อนได้ 🌹 ดอกไม้สีอะไร เหมาะกับการให้ในวันวาเลนไทน์? - สีแดง ❤️ แสดงถึงความรักโรแมนติก - สีขาว 🤍 สื่อถึงรักที่บริสุทธิ์ - สีชมพู 💖 หมายถึงความอ่อนหวาน และน่ารัก 🎁 ถ้าไม่อยากให้ของขวัญแบบเดิม ๆ ควรให้อะไรดี? ลองเลือกของขวัญที่มีความหมาย เช่น จดหมายรักเขียนด้วยมือ 💌 เซอร์ไพรส์ทริปเล็ก ๆ 🚗 ทำอาหารให้คนที่คุณรัก 🍰 🎀 ความรักไม่มีพรมแดน และไม่มีวันหมดอายุ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหน หรือมีสถานะอะไร วาเลนไทน์คือโอกาสที่ดี ในการแสดงความรักต่อกัน ความรักไม่จำเป็นต้องแสดงออก แค่ปีละครั้ง แต่ควรเป็นสิ่งที่มอบให้กันทุกวัน 💖 🌸 วาเลนไทน์ 2568 นี้ อย่าลืมบอกรักคนที่ห่วงใย ไม่ว่าจะเป็นคำพูด การกระทำ หรือของขวัญแทนใจ เพราะความรักคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 🎁💖 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 140905 ก.พ. 2568 🔖 #วันวาเลนไทน์ #วาเลนไทน์2568 #ความรักไม่จำกัดรูปแบบ #ValentineThailand #LoveInThaiStyle #กุหลาบแดง #ไหว้พระขอพร #รักแท้ #รักไม่มีเงื่อนไข #บอกรักทุกวัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    FBI วันอังคาร(11 ก.พ) ประกาศค้นพบเอกสารลับการลอบสังหาร JFK อีก 2,400 ไฟล์ที่หายไป เชื่ออาจมีเงื่อนงำใหม่ซ่อน สุดระทึกผู้นำหน่วยเปิดเผยความลับ JFK ของทรัมป์เชื่อ “อาจมีมือปืน 2 คน” ไม่ใช่แค่ ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ มือยิง ทฤษฎีสมคบคิดเชื่อมีมือปืนมากกว่า 1 คน มี CIA อยู่เบื้องหลัง และมาเฟียอิตาลีเป็นคนรับผิดชอบ • สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานวันพุธ(12 ก.พ)ว่า FBI ออกมาเปิดเผยวานนี้(11)ว่า ได้ค้นพบเอกสารที่หายไปร่วม 2,400 ไฟล์เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอห์น เอฟ. เคนเนดี หรือ JFK ถูกลอบสังหารที่เมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ในรถเปิดประทุนเมื่อปี 1963 โดย ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ (Lee Harvey Oswald ) • เกิดขึ้นหลัง FBI กำลังรวบรวมเพื่อเตรียมเอกสารเกี่ยวข้องกับคดีลอบสังหารทั้งหมดไปให้กับสำนักงานหอจดหมายเหตุสหรัฐฯ NARA เพื่อคลายชั้นความลับก่อนเผยแพร่ต่อสาธารณะตามคำสั่งของประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ที่ได้ลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 23 ม.คที่ผ่านมา เปิดเผยเอกสารลับ 3 คดีดัง JFK รวมน้องชาย JFK และ สาธุคุณมาร์ติน ลูเธอร์ คิง หรือ MLK สั่นสะเทือนอเมริกายุค 60 • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000014242 • #MGROnline #FBI #การลอบสังหาร #JFK
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    ภาพหน้าปกนิตยสารไทม์สล่าสุดทำเอาจี๊ดเมื่อจับมหาเศรษฐีพันล้าน “อีลอน มัสก์” ขึ้นปกจัดให้นั่งหลังโต๊ะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในทำเนียบขาวบริหารอเมริกา นักข่าวใช้ไมโครโฟนจี้ถาม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงภาพปกใหม่ โดนตอบกลับ “ยังทำธุรกิจอยู่อีกหรือ?” . CNNของสหรัฐฯ รายงานวันศุกร์ (7 ก.พ.) ว่า นักข่าวชื่อดังประจำนิตยสารไทม์ส ไซมอน ชัสเตอร์ (Simon Schuster) และไบรอัน เบนเนตต์ (Brian Bennett) แสดงความเห็นว่า “มาจนถึงเวลานี้ มัสก์์ (อีลอน มัสก์) ดูเหมือนไม่อยู่ภายใต้ใครยกเว้นประธานาธิบดีทรัมป์ผู้ที่ให้อำนาจกวาดล้างแก่คนที่ช่วยให้เขาชนะเพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ ทำตามเป้าหมายของเขา” . โดยภาพปกฮือฮาและมีสีสันของนิตยสารไทม์สล่าสุดแสดงให้เห็นมหาเศรษฐีอเมริกันเจ้าของเทสลาและสเปซเอ็กซ์ “อีลอน มัสก์” ขึ้นปกจัดให้นั่งหลังโต๊ะทำงานประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในห้องทำงานรูปไข่ภายในทำเนียบขาวนั่งบริหารประเทศแทนทรัมป์ . มือของมัสก์ถือแก้วกาแฟและเขานั่งระหว่างธงชาติสหรัฐฯ และธงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดฉากหลังสีแดงสด เป็นภาพปกที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำนักงานประสิทธิภาพรัฐ DOGE ที่ตั้งใหม่โดยทรัมป์ให้มัสก์บริหาร และตามมาด้วยการสั่งปิด USAID และหมายตาเพื่อล้างบางไปที่หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ อื่นอีก 14 แห่ง รวมกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ . CNN รายงานว่าขณะที่ทรัมป์เองวันศุกร์ (7) สั่งปลดผู้บริหารสูงสุดสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ NARA แบบฟ้าผ่าจากเหตุผลเกี่ยวข้องกับคดีทรัมป์นำเอกสารลับทำเนียบขาว รวมจดหมายจากประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน มาเก็บไว้ที่คฤหาสน์ Mar-a-Lago ที่รัฐฟลอริดา . และในวันเดียวกัน (7) ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งทางบริหารสั่งตัดเงินช่วยเหลือแอฟริกาใต้ อ้างอิงจากเดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (8) . โดยทรัมป์ให้เหตุผลว่า เป็นการกีดกันทางเชื้อชาติอย่างไม่ชอบธรรมต่อชาวแอฟริกาใต้ผิวขาวพร้อมเสนอให้คนเหล่านั้นสามารถเข้าไปลี้ภัยต่อในอเมริกา . เป็นการออกมาวิจารณ์ต่อกฎหมายที่ทรัมป์เห็นว่าไม่ชอบธรรมในการพริทอเรียเปิดโอกาสให้สามารถยึดที่ดินของแอฟริกันผิวขาวได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าเยียวยาในบางกรณี . แอฟริกาใต้เป็นประเทศบ้านเกิดของอีลอน มัสก์ ก่อนที่เขาจะย้ายไปอเมริกาและเปลี่ยนสัญชาติในที่สุด พ่อของเขาคือ เออโรล มัสก์ (Errol Musk) ปัจจุบันอายุ 79 ปี และยังอาศัยอยู่ที่แอฟริกาใต้ แต่เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา รอยเตอร์รายงานว่า พ่อของเขาอ้างว่า ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ซีริล รามาโฟซา ได้ร้องขอให้ช่วยประสานโทรศัพท์ติดต่อหารือระหว่างรามาโฟซา และลูกชายอีลอน มัสก์เกิดขึ้นก่อนข่าวสหรัฐฯ จะตัดเงินช่วยเหลือแอฟริกาใต้อ้างเหตุกฎหมายที่ดินแอฟริกาใต้ . โดยการทูตหลังบ้านแบบรีบด่วนหลังผู้นำสหรัฐฯ ได้โพสต์ทางออนไลน์โดยไม่แสดงหลักฐานว่า แอฟริกาใต้กำลังยึดที่ดินและ “บางชนชั้น” กำลังได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้าย . CNN รายงานต่อว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่นิตยสารไทม์สขึ้นปก อีลอน มัสก์ หลังเมื่อพฤศจิกายนล่าสุดมีการขึ้นปกรูปเจ้าของบริษัทเทสลาพร้อมคำว่า “ประชาชนมัสก์” (Citizen Musk) แสดงให้เห็นถึงความเป็นคนที่ช่วยให้ทรัมป์ชนะเลือกตั้งได้สำเร็จ . อย่างไรก็ตาม เมื่อนักข่าวถามทรัมป์ที่ทำเนียบขาวในวันศุกร์ (7) ถึงปกนิตยสารไทม์สล่าสุดว่าเป็นเช่นใด . เขากลับตอบกลับมาว่า “นิตยสารไทม์สยังทำธุรกิจอยู่อีกหรือ?” และเสริมต่อว่า “ผมไม่รู้เลยนะนี่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013144 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1223 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    จีนแถลงวันพุธ (5 ก.พ.) ยืนกรานคัดค้านสหรัฐฯ ประกาศมาตรการรีดภาษีศุลกากรจากสินค้าเข้าแดนมังกร พร้อมเรียกร้องเปิดเจรจาเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้า ทว่า ทำเนียบขาวระบุทรัมป์ยังไม่รีบร้อนหารือสี จิ้นผิง ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐฯ ประกาศระงับการรับพัสดุภัณฑ์จากจีนและฮ่องกง ซึ่งคาดหมายกันว่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมของจีนอย่าง “ชีอิน” และ “เทมู” โดยที่ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า วอชิงตันกำลังพิจารณาขึ้นบัญชีดำยักษ์ใหญ่แดนมังกรทั้งสองเจ้านี้ว่าเป็นบริษัทที่มีการบังคับใช้แรงงาน . ในวันพุธ ซึ่งเป็นวันแรกที่หน่วยราชการของจีนเปิดทำการหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศออกมาแถลงว่า จีนไม่พอใจอย่างมากและคัดค้านถึงที่สุดต่อมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของอเมริกา และเรียกร้องให้เปิดการเจรจาอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ก่อนทิ้งท้ายว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าหรือสงครามภาษีศุลกากร . ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นคือเมื่อวันอังคาร (4) จีนประกาศตอบโต้อเมริกา โดยจะขึ้นภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ซึ่งส่งมาจากสหรัฐฯสูงขึ้น 15% จากน้ำมันดิบ อุปกรณ์เกษตรกรรม รถบรรทุก รถซีดาน 10% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. . นอกจากนั้น จีนยังประกาศเริ่มการสอบสวนที่มุ่งต่อต้านพฤติการณ์การผูกขาดของกูเกิล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอัลฟาเบต รวมทั้งขึ้นบัญชีพีวีเอช คอร์ป บริษัทโฮลดิ้งเจ้าของแบรนด์แคลวิน ไคลน์ และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ อิลลูมินา เอาไว้ในรายชื่อบริษัทที่อาจถูกแซงก์ชันในจีน โดยบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นกิจการของอเมริกา . เวลาเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานศุลกากรจีนยังสั่งควบคุมการส่งออกโลหะบางรายการที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางทหาร และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ . การประกาศมาตรการตอบโต้ของจีนเช่นนี้ เกิดขึ้นแทบจะทันที หลังจากการมีผลบังคับใช้ของมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของฝ่ายอเมริกา ซึ่งเป็นการบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้เพิ่มอัตราภาษีศุลกากรจัดเก็บจากสินค้านำเข้าจีนทุกรายการขึ้นอีก 10% โดยที่ทรัมป์ย้ำข้อกล่าวหาของเขาที่ว่า ปักกิ่งไม่พยายามมากพอในการสกัดการลักลอบขนยาเสพติดแฟนทานิลเข้าสู่อเมริกา . ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (3) ทำเนียบขาวส่งสัญญาณว่า ทรัมป์จะมีการหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ในตอนบ่ายวันอังคาร (4) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับบอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ไม่รีบร้อนที่จะคุยกับผู้นำจีน . แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงในวันเดียวกันว่า การหารือระหว่างทรัมป์กับสีที่ถูกมองว่า เป็นกุญแจสำคัญที่อาจผ่อนปรนหรือชะลอการบังคับใช้ภาษีศุลกากรนั้น จำเป็นต้องมีการตกลงกันเรื่องตารางเวลา ทว่า ขณะนี้ผู้นำจีนยังไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด . นอกจากไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาแล้ว เมื่อวันอังคาร สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐฯ (ยูเอสพีเอส) ได้ประกาศระงับการรับพัสดุภัณฑ์ที่ส่งจากจีนและฮ่องกง หลังจากทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกข้อยกเว้นการเก็บภาษีอากรกับพัสดุที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์ ที่เรียกกันว่า ข้อยกเว้น de minimis . ยูเอสพีเอสยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่กระทบจดหมายและจดหมายขนาดใหญ่ (ความยาวไม่เกิน 38 ซม. หรือหนาไม่เกิน 1.9 ซม.) จากจีนและฮ่องกง แต่ไม่ได้ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับการยกเลิกข้อยกเว้น de minimis หรือไม่ . ตามรายงานของคณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ระบุว่าพัสดุภัณฑ์เกือบครึ่งหนึ่งที่จัดส่งภายใต้ข้อยกเว้น de minimis นั้นส่งมาจากจีน . รายงานดังกล่าวยังระบุว่า “ชีอิน” แพลตฟอร์มฟาสต์แฟชั่น และ “เทมู” แพลตฟอร์มขายสินค้าราคาถูก ซึ่งต่างก็เป็นของจีนและขายสินค้าทุกอย่างตั้งแต่ของเล่นจนถึงสมาร์ทโฟนนั้น เติบโตเร็วมากในอเมริกา ส่วนหนึ่งเนื่องจากข้อยกเว้น de minimis โดยทั้งสองบริษัทมีแนวโน้มเป็นเจ้าของพัสดุกว่า 30% ที่จัดส่งไปยังอเมริกาในแต่ละวันภายใต้ข้อยกเว้นดังกล่าว . แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า การยกเลิกข้อยกเว้น de minimis อาจทำให้สินค้าบนแพลตฟอร์มชีอินและเทมูแพงขึ้น แต่ไม่มีแนวโน้มว่า จะทำให้ยอดจัดส่งของทั้งสองบริษัทลดลงแต่อย่างใด . กระนั้น แพลตฟอร์มทั้งสองแห่งอาจหนีไม่พ้นการเล่นงานเพิ่มเติมของคณะบริหารทรัมป์ โดยเมื่อวันอังคาร เว็บไซต์เซมาฟอร์รายงานว่า อเมริกากำลังพิจารณาขึ้นบัญชีเทมูและชีอินในรายชื่อบริษัทที่บังคับใช้แรงงานของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011929 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2100 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำอาหรับ ร่วมลงนามเพื่อส่งข้อความถึงรูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ "ไม่เห็นด้วยในการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา"

    รัฐมนตรีต่างประเทศจากซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ อียิปต์ จอร์แดน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงชาวปาเลสไตน์ ลงนามในจดหมายร่วมกัน เพื่อส่งถึงมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เพื่อแสดงการไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับแผนการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา
    ผู้นำอาหรับ ร่วมลงนามเพื่อส่งข้อความถึงรูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ "ไม่เห็นด้วยในการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา" รัฐมนตรีต่างประเทศจากซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ อียิปต์ จอร์แดน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงชาวปาเลสไตน์ ลงนามในจดหมายร่วมกัน เพื่อส่งถึงมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เพื่อแสดงการไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับแผนการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    เขาขึ้นหรือเขานางบวชและวิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ .... ในท้องทุ่งแห่งลุ่มแม่น้ำน้อยมีตำนานเล่าเรื่องวีรชนแห่งบ้านระจันหรือบางระจัน ที่ต้านทัพพม่า ซึ่งเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยาที่อยู่ทางใต้ไม่ไกลนักได้ถึง ๗ ครั้ง ชาวบ้านบางระจันได้รวมตัวกันต่อสู้รบและเสียชีวิตทั้งหมู่บ้านในครั้งที่ ๘ แม้นักประวัติศาสตร์หลายท่านจะเห็นแย้งและกล่าวว่าทัพพม่าเข้ามาทางบ้านตากนั้นยังคงไม่ถึงกรุงศรีอยุธยา เอกสารที่บันทึกไว้อย่างละเอียดน่าจะเป็นพระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวน่าจะขยายความและบรรยายอย่างละเอียด โดยมีนำมากล่าวถึงในหนังสือไทยรบพม่าของ สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ส่วนพระราชพงศาวดารฉบับอื่นคงบรรยายไว้เพียงไม่มาก ปรากฎชื่อสถานที่ว่า ‘บ้านระจัน’ พระอาจารย์วัดเขานางบวชซึ่งก็หมายถึงพระอาจารย์ธรรมโชติ นายจันเขียว พระยารัตนาธิเบศ . อย่างไรก็ตาม พระราชพงศาวดารและบันทึกคำให้การต่างๆ ล้วนมีการบันทึกเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญและมีส่วนที่เป็นข้อเท็จจริง ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างใดนั้น เรื่องเล่าติดที่คือตำนานต่างๆ ถูกสร้างและแต่งเสริมด้วยผู้คนที่เป็นชาวบ้านแห่งท้องทุ่งในลุ่มแม่น้ำน้อยนี้ . น่าสนใจว่า ผู้นำทางจิตวิญญาณที่สำคัญ คือ ‘พระอาจารย์ธรรมโชติ’ แห่งวัดเขานางบวช สุพรรณบุรี นั้นกลายเป็น Culture hero แห่งเขตพื้นที่กลางอันเป็นพื้นที่นครรัฐเจนลีฟูแต่เดิม เมื่อย้อนกลับไปราวห้าร้อยกว่าปีก่อนหน้านั้น . พื้นที่สู้รบนั้นอยู่ตามลำแม่น้ำน้อย ตั้งแต่แขวงเมืองวิเศษไชยชาญจนลงเข้าสู่ผักไห่และตั้งค่ายสำคัญอยู่ที่สีกุก . ส่วนด้านทางเหนือก็เข้าควบคุมพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านไปรวมกันแถบรอบวัดโพธิ์เก้าต้น ต่อชาวบ้านไปอาราธนาพระอาจารย์ธรรมโชติจากวัดเขานางบวช ให้ไปช่วยคุ้มครองทำผ้าประเจียด ตะกรุด พิสมร (ตะกรุดรูปแบบหนึ่ง ใช้ร้อยสายไว้ป้องกันอันตราย) แจกจ่ายนักรบชาวบ้าน เล่าสืบต่อมาว่าพระอาจารย์ธรรมโชติ บวชครั้งแรกที่ ‘วัดยาง’ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง กับวัดโพธิ์เก้าต้นหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘วัดแดง’ เพราะมีดงไม้แดงขึ้นเยอะ ทั้งสองวัดนี้เป็นวัดเก่า เพราะมีวิหารแบบแอ่นท้องสำเภา พระพุทธรูปหินทราย และพระพุทธรูปปูนปั้นประดิษฐานไว้ ก่อนย้ายไปฝึกวิปัสสนากรรมฐานในถ้ำบนยอดเขานางบวช ต่อมาชาวบ้านบางระจันได้อาราธนามาอยู่ ณ วัดโพธิ์เก้าต้น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการสู้รบ . บริเวณ ‘วัดโพธิ์เก้าต้น’ นี้เป็นย่านชุมชนเก่ามาตั้งแต่สมัยทวารวดีช่วงปลาย แต่อยู่อาศัยกันบางเบาเพราะเป็นเขตที่ต้องใช้ดารเดินทางติดต่อทางน้ำเป็นหลัก [Riverine] เพราะอยู่ไม่ไกลจาก ‘เมืองคูเมือง’ ในตำบลแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ที่อยู่ห่างไปราว ๓ กิโลเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเมืองรูปสี่เหลี่ยมของลุ่มน้ำระหว่างลำสีบัวทองและแม่น้ำน้อย มีการอยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยทวารวดีและยุคลพบุรีหรือราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๘ และคงอยู่สืบเนื่องกันต่อเรื่อยมาจนถึงสิ้นกรุงศรีอยุธยา . พอพม่าเข้าตีค่ายบางระจันที่วัดโพธิ์เก้าต้นได้ ใน ‘ไทยรบพม่า’ พระนิพนธ์ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ก็ว่าชาวบ้านที่เหลือตายหนีไปได้บ้าง พม่าจับเอาไปเป็นเชลยบ้าง แต่พระอาจารย์ธรรมโชตินั้นเลยหายสาบสูญไป จะถึงมรณภาพในเวลาเสียค่ายพม่าหรือหนีรอดไปได้ไม่มีหลักฐานปรากฎ . แต่ในบทความของอาจารย์มนัส โอภากุล เรื่อง พระอาจารย์ธรรมโชติ หายไปไหน? (มนัส โอภากุล. พระอาจารย์ธรรมโชติหายไปไหน? ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๒๗) ใช้ข้อมูลประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจากทายกวัดนางบวช อายุ ๗๕ ปี ใน พ.ศ. ๒๕๒๗ เล่าว่า พระอาจารย์ธรรมโชติกลับมาจำพรรษาที่วัดเขานางบวชตามเดิม โดยคำบอกเล่าของปู่ย่าตายายเล่าว่า เมื่อค่ายบางระจันแตก พระอาจารย์ธรรมโชติหลบหนีมาที่เขานางบวช ทหารก็ไล่ติดตามมาจนมาค้นที่วัดเขานางบวชหาตัวเท่าไหร่ก็ไม่พบ เพราะท่านลงไปหลบในอุโมงค์ภายในวิหารที่ยังปรากฎอยู่จนปัจจุบันที่เคยเป็นที่นั่งวิปัสสนากรรมฐาน เล่ากันว่าภายในมีพื้นที่ให้คนนั่งรวมกันได้ ๕ - ๖ คน ทุกวันนี้ก็ยังปรากฎอยู่.... . ซึ่งเป็นความเชื่อในคุณวิเศษของพระอาจารย์ธรรมโชติ ที่ชาวบ้านทางแถบเดิมบางตลอดไปจนถึงเขาพระ หัวเขาและบ้านกำมะเชียร ในย่านลุ่มน้ำสุพรรณเชื่อถือกันสืบต่อมา . พระวิหารวิปัสสนาที่เขาขึ้นหรือวัดเขานางบวชนั้น เป็นอาคารยาวมุงกระเบื้องกาบกล้วยแบบเก่า ประดิษฐานรอยพระบาท ด้านหลังเป็นโพรงหรืออุโมงค์ลงไปในโพรงแคบๆ ของพระเจดีย์ที่อาจจะเป็นกรุมาแต่ดั้งเดิม (ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชวินิจฉัยเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เป็นโพรงถ้ำวิปัสสนามาแต่ก่อน . ‘เขาขึ้น’ หรือ ‘เขานางบวช’ นั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มโบราณสถานบนเขาและชุมชนยุคแรกๆ มราเข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้ เนื่องจากใกล้ชิดกับชุมชนที่เดิมบางฯ ริมแม่น้ำสุพรรณซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อเส้นทางเดินทางสมัยโบราณได้หลายทิศทาง ไม่ว่าจะขึ้นเหนือไปทางลุ่มน้ำสะแกกรังผ่านไปทางลำน้ำปิง ทางลำน้ำมะเขามเฒ่าสู่กลุ่มเมืองทางอู่ตะเภาและพื้นที่ดอนที่ติดต่อกับที่ราบสูงโคราช ทางตะวันตกสู่ลุ่มน้ำสุพรรณ อู่ทองและแม่กลอง และทางใต้ติดต่อกับท้องทุ่งและลำน้ำใหญ่น้อยที่ลงสูากลุ่มละโว้ได้เช่นกัน และมีการอยู่อาศัยต่อเนื่อง จนกลายเป็นแลนด์มาร์กและวัดสำคัญของท้องถิ่น มำตำนานของผู้เข้ามาอยู่อาศัยใหม่ๆ สร้างให้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น และกลายมาเป็นการสร้างประเพณีสำคัญของท้องถิ่นสืบมาจนถึงปัจจุบัน . เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสขึ้นบนเขานางบวช เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๑ ในพระราชหัตถเลขาบันทึกไว้ว่า . ...ที่บนนั้นมีพระอุโบสถหลังหนึ่ง ห้าห้อง ไม่มีหน้าต่าง ก่อเว้นช่องอย่างวัดพุทไธสวรรย์ แต่ไม่มีหลังคามุงแฝกคลุมไว้ พระที่ตั้งอยู่บนฐานชุกชีเป็นพระพุทธรูปศิลาปั้นปูน ประกอบปิดทอง ผนังโบสถ์ด้านหนึ่งก่อเป็นแท่นเหมือนอาสนสงฆ์ ตั้งพระพุทธรูป เป็นพระยืนขนาดใหญ่ เห็นจะเป็นพระเก่าผีมือดี ๆ อย่างโบราณ สวมเทริด หน้าต่าง ๆ แต่ ชำรุดทั้งสิ้น ได้เชิญให้ลงมาปฏิสังขรณ์ ๔ องค์ ถ้าเสร็จแล้วจะส่งกลับไปไว้ที่เขานั้นบ้าง เสมาใช้ศิลาแผ่นใหญ่ ๆ อย่างเสมาวัดหลวงกรุงเก่า มีกำแพงแก้วรอบไป จนกระทั่งเจดีย์และวิหารด้วย แต่วิหารนั้นเป็นที่น่าสงสัยอยู่ว่า ทำเป็นสองคราว เพราะกระชั้นพระเจดีย์นัก ไม่ได้ไว้ช่อง อีกมีช่องหน้าต่างเล็กสูงเพียงศอกเดียว กว้างกับเศษ ๒ ช่องเท่านั้น ท้ายวิหารจดฐานพระเจดีย์ มีทางเข้าไปในองค์พระเจดีย์ที่กำแพงแก้ว มีพระเจดีย์ประจำมุมเห็นจะมีถึงด้านละ ๔ องค์ พระเจดีย์นั้นก็เป็นพานแว่นฟ้า ๓ ชั้น . เขานางบวชนี้เป็นที่ราษฎรนับถือมาก มีกำหนดขึ้นไหว้กันกลางเดือน ๔ ทุกปี มาแต่หัวเมืองอื่นก็มากใช้เดินทางบกทั้งนั้น... . ลักษณะของเจดีย์ที่สร้างแบบผสมกับหินก้อนใหญ่ๆ ซึ่งมักนิยมสร้างกันเช่นนี้ตามเขาที่มีฐานวิหารและพระเจดีย์บนเขา เช่น ที่บ้านหัวเขาในอำเภอเดิมบางฯ นี้ และแนวเขาพระที่ต่อเนื่องมาจากอู่ทองจนถึงเลาขวัญอีกหลายแห่ง ก็มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งเป็นยุคสมัยแบบลพบุรีหรือในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๘ อันเป็นช่วงร่วมสมัยกับกลุ่มนครรัฐเจนลีฟูที่ปรากฎขึ้นในบริเวณนี้ และเป็นรัฐที่นับถือพุทธศาสนาเป็นหลักตามระบุไว้ในจดหมายเหตุจีน . และยังพบฐานแท่นหินทรายขนาดย่อมๆ สำหรับประติมากรรมที่อาจเป็นพระพุทธรูปหรือเทวรูปก็ได้ และพระพุทธรูปยืนสวมเทริดทำจากหินที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกล่าวถึงที่อาจนำไปปฏิสังขรณ์แล้วและอาจไม่ได้ส่งกลับมาก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังพบพระพุทธรูปแบบหินทรายปางมารวิชัยแบบเก่าซึ่งพบในแถบพื้นที่ดอนของสามชุก หนองหญ้าไซ และดอนเจดีย์ ... ภาพ วิหารพระอาจารย์ธรรมโชติบนเขาขึ้นหรือเขานางบวช ต่อด้วยเจดีย์ทำจากก้อนหินผสมกับอิฐ ซึ่งมีโพรงด้านใน และพระอุโบสถมีพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัยที่พบในเขตนี้หลายองค์ ทั้งใบเสมาทำจากหินชนวนแบบวัดหลวงแต่ทำลวดลายที่พบได้ทั่วไปในเขตชัยนาท เมืองสิงห์เก่าและเมืองพรหมเก่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    บริษัท Mizuno USA ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Mizuno Corporation หนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงเครือข่ายของบริษัทได้เป็นเวลาสองเดือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงตุลาคม 2024 โดยแฮกเกอร์ได้ขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าจำนวนมาก Mizuno USA ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมือง Peachtree Corners รัฐจอร์เจีย ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์กีฬาหลากหลายประเภท เช่น กอล์ฟ วิ่ง เบสบอล วอลเลย์บอล ซอฟต์บอล ว่ายน้ำ และเทนนิส ในทวีปอเมริกาเหนือ บริษัทได้ตรวจพบกิจกรรมที่น่าสงสัยในเครือข่ายของตนเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2024 และได้ทำการตรวจสอบพบว่าแฮกเกอร์ได้เข้าถึงระบบบางส่วนและคัดลอกเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อมูลที่ถูกขโมยไปนั้นอาจรวมถึงชื่อ หมายเลขประกันสังคม ข้อมูลบัญชีการเงิน ข้อมูลใบขับขี่ และหมายเลขหนังสือเดินทาง Mizuno USA ได้เสนอการตรวจสอบเครดิตและบริการป้องกันตัวตนฟรีเป็นเวลาหนึ่งปีให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ และแนะนำให้พวกเขาตรวจสอบบัญชีและรายงานเครดิตของตนเพื่อหาสัญญาณของการโจรกรรมข้อมูลและการฉ้อโกง การโจมตีนี้ถูกอ้างสิทธิ์โดยกลุ่มแรนซัมแวร์ BianLian ซึ่งได้ขโมยข้อมูลธุรกิจและข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก รวมถึงข้อมูลการเงินและทรัพยากรบุคคล สัญญาและข้อตกลงที่เป็นความลับ ความลับทางการค้าและสิทธิบัตร กล่องจดหมาย และการติดต่อทางอีเมลภายในและภายนอก https://www.bleepingcomputer.com/news/security/mizuno-usa-says-hackers-stayed-in-its-network-for-two-months/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Mizuno USA says hackers stayed in its network for two months
    ​Mizuno USA, a subsidiary of Mizuno Corporation, one of the world's largest sporting goods manufacturers, confirmed in data breach notification letters that unknown attackers stole files from its network between August and October 2024.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    เพจ "กิ๊ฟจังนั่งเล่า" เพจที่นำเสนอเรื่องราวของประเทศญี่ปุ่น ออกมาโพสต์ข้อความเตือนเกี่ยวกับข่าวปลอมของ "น้องมะพร้าว" นักศึกษาปริญญาเอกชาวไทย หลังหายตัวปริศนา ว่าขณะนี้ยังคงไม่เจอน้อง หลังปรากฏข่าวว่อนเน็ตว่าเจอตัวน้องแล้ว ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างค้นหาและสืบสวน • จากกรณีโซเชียลฯ ร่วมแชร์ช่วยหลังเพื่อนประกาศตามหา “มะพร้าว พรสวรรค์” นักศึกษาปริญญาเอกชาวไทย วัย 30 ปี หลังหายตัวปริศนาในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันศุกร์ที่ 24 ม.ค. 68 • ล่าสุดวันนี้ (30 ม.ค.) เพจ "กิ๊ฟจังนั่งเล่า" เพจที่แชร์ข้อมูลเรื่องข่าวสารในประเทศญี่ปุ่น ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการเผยแพร่ Fake News เกี่ยวกับน้องมะพร้าว เช่น เจอน้องแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า • "ขอความกรุณาอย่าเผยแพร่ Fake News (ข่าวปลอม) เกี่ยวกับน้องมะพร้าว • ขณะนี้เกิดข่าวปลอมจำนวนมากในกลุ่มญี่ปุ่น เช่น พบน้องแล้ว / เนื้อความในจดหมายมีเนื้อความว่า พร้อมทั้งมีลายมือเขียนด้วย เป็นต้น • ขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า ณ วันที่ 30 มกราคม เวลา 12.00 น. • เนื้อหาที่เผยแพร่ไม่เป็นความจริง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000009653 • #MGROnline #มะพร้าวพรสวรรค์ #นักศึกษาปริญญาเอก #ชาวไทย #หายตัวปริศนา #ประเทศญี่ปุ่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    ถาม: โรงเรียนมีจดหมาย แจ้ง เชิญชวน ให้ลูกสาวฉีด วซ ป้องกัน HPV จำเป็นหรือไม่? ตอบ: อ่านข้อมูลให้รอบด้าน แล้วชั่งใจเองว่าคุ้มกับความเสี่ยงมั้ย? ข่าวเรื่องญี่ปุ่นประกาศไม่แนะนำว่าต้องฉีด HPV Vaccine หาอ่านได้ที่นี่ครับ(เข้าถึงเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556) http://sanevax.org/breaking-news-japan-and-hpv-vaccines/ http://sanevax.org/hpv-vaccines-japan-requires-disclosure-of-side-effects/ ข่าวเกี่ยวกับความกังวลของชาวสหรัฐต่อ HPV Vaccine ก็หาอ่านได้ที่นี่ครับ(เข้าถึงเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556) http://www.drugs.com/news/citing-japan-pulls-recommendations-hpv-vaccines-45158.html http://www.pharmalive.com/parental-fears-toward-hpv-vaccines-growing ส่วนอันนี้เป็นบทความทางวิชาการที่สำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ไม่ต้องการฉีด HPV Vaccine ในสหรัฐครับ(เข้าถึงเมื่อ 11 กันยายน 2556) http://pediatrics.aappublications.org/content/early/2013/03/12/peds.2012-2384.abstract https://www.facebook.com/share/p/1D2n5ZH5n2/ ลูกดับ หลังโรงเรียนพาหมอมาฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก (HPV) ตรึกตรองให้จงดี ความรู้คือเกราะป้องกัน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวครับ https://t.me/ThChildJabVictems/1537 คลิปการสัมภาษณ์ ดร. เชอรรี่ เทนเพนนี่ เรื่องวัคซีน HPV & วัคซีนในเด็ก คลิป 4 นาทีอธิบายเรื่องการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ : https://vt.tiktok.com/ZSYCGuqoM/ เนื้อหาเรื่องวัคซีน HPV & เด็ก - กลโกงในการทดสอบความปลอดภัย - สารเคมี ในวัคซีน - ผลข้างเคียง - ประสิทธิผลของวัคซีน HPV - ลำดับการป่วย | ปัจจัยความเสี่ยง | วิธีป้องกัน/รักษามะเร็งปากมดลูก - วัคซีนในเด็ก & การดีท็อกซ์ - Homeopathy | Borax | CDS ท่านสามารถชมคลิปได้ที่ :https://www.rookon.com/?p=1173 ขอบคุณครับ 🙏🏼 https://www.facebook.com/share/v/KfmPF1N9zLio9CCJ/?mibextid=oFDknk https://www.rookon.com/?p=1173 https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=h79pFPh_nCdXBQqaPljyYg&s=19
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 422 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    มีการอธิบายเทคนิคการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่เรียกว่า "hidden text salting" หรือ "poisoning" ซึ่งเป็นวิธีที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของระบบความปลอดภัยอีเมล โดยการซ่อนข้อความบางส่วนในอีเมลเพื่อทำให้ระบบสแกนอีเมลสับสนและปล่อยให้อีเมลฟิชชิ่งผ่านไปยังกล่องจดหมายของผู้ใช้ นักวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์จาก Cisco Talos ได้เผยแพร่คู่มือที่อธิบายถึงวิธีที่แฮกเกอร์ใช้คุณสมบัติ HTML และ CSS ในการซ่อนข้อความ โดยการตั้งค่าความกว้างขององค์ประกอบบางอย่างเป็น 0 และใช้คุณสมบัติ "display: hidden" เพื่อซ่อนเนื้อหาบางส่วนจากเหยื่อ นอกจากนี้ยังมีการแทรกตัวอักษรที่มีความกว้างเป็นศูนย์ (ZWSP) และตัวอักษรที่ไม่เชื่อมต่อ (ZWNJ) เพื่อซ่อนเนื้อหาอีเมลที่แท้จริง โดยการฝังภาษาที่ไม่เกี่ยวข้อง ผลที่ได้คือ ระบบความปลอดภัยอีเมล ฟิลเตอร์สแปม และตัวแยกชื่อแบรนด์จะสับสน และอีเมลที่ควรจะถูกจัดเก็บในโฟลเดอร์สแปมจะถูกส่งไปยังกล่องจดหมายของผู้ใช้แทน Cisco Talos ได้ให้ตัวอย่างหลายกรณี เช่น การที่แฮกเกอร์ซ่อนคำภาษาฝรั่งเศสในเนื้อหาอีเมล ซึ่งทำให้ฟิลเตอร์สแปมของ Microsoft Exchange Online Protection (EOP) สับสนและปล่อยให้อีเมลผ่านไปได้ เพื่อรับมือกับกลยุทธ์นี้ นักวิจัยแนะนำให้ทีม IT ใช้เทคนิคการกรองขั้นสูงที่สแกนโครงสร้างของอีเมล HTML แทนที่จะสแกนเฉพาะเนื้อหา นอกจากนี้ยังแนะนำให้ใช้การป้องกันที่ขับเคลื่อนด้วย AI อีเมลยังคงเป็นช่องทางการโจมตีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากความเรียบง่าย การแพร่หลาย และต้นทุนต่ำสำหรับการดำเนินการขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมเพราะโจมตีห่วงโซ่ความปลอดภัยของอีเมลในจุดที่อ่อนแอที่สุด นั่นคือมนุษย์ https://www.techradar.com/pro/security/hidden-text-salting-is-letting-hackers-craft-devious-email-attacks-to-evade-detection
    WWW.TECHRADAR.COM
    Hidden text "salting" is letting hackers craft devious email attacks to evade detection
    Just because you can't see certain email text, it doesn't mean it's not there
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    Part 2 : จาก “ไอ้ขี้ยา” ถึง “มื้อกลางวันที่เปลือยเปล่า” . การฆ่าคนสักคนโดยที่คนเราจะตั้งใจไม่หรือไม่ตั้งใจก็ตาม หากคนผู้นั้นมีจิตสำนึก ชีวิตอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง สำหรับ วิลเลี่ยม “บิล” เอส. เบอร์โรส์ ที่ชักปืนมายิงเปรี้ยงพลาดเข้ากางหน้าผากโวมเมอร์ ภรรยาโดยพฤตินัยนั้น อย่างแรกที่เขาเลือกที่จะทำคือการโทรหาทนายความหัวหมอคนนั้นอีก ซึ่งแน่นอน เขารอดคุกเป็นครั้งที่ 2 จากการใช้ช่องโหว่ทางจดหมาย แต่ไม่นานเท่าไหร่ ทนายเองก็มีปัญหาส่วนตัวกับกฏหมายบ้านเมือง ทางออกที่ดีที่สุดคือ บิลต้องเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง คราวนี้ต้องไปให้ไกลกว่าเดิม ลึกกว่าเดิม เขาไปใช้ชีวิตในแถบอเมริกาใต้อยู่ครึ่งปี และกลายเป็นคนแรกในกลุ่มบีทส์ ที่ได้เสพ อายาวัสกาอย่างบ้าคลั่ง ในปี 1953 บิลกลับมาที่แม็กซิโก และ เดินทางออกจากที่นั่น กลับไปที่้ นิวยอร์ค เพื่อพบกับอัลแลน ซึ่งได้แนะนำเส้นสายในวงการโรงพิมพ์ให้เขารู้จัก หนึ่งในนั้นคือ คาร์ล โซโลมอน ซึ่งเป็นบรรณาธิการของ เอสบุ๊ค ผู้รับหนังสือเล่มแรกของบิลตีพิมพ์ออกสู่ตลาดในวงกว้าง "ไอ้ขี้ยา" - Junkie บิลได้เงินจากการขายสิทธิ์ในการตีพิมพ์เป็นเงิน 800 เหรียญ หนังสือเล่มนี้ "ไอ้ขี้ยา" - Junkie ขายไม่ค่อยดีเท่าไรนักในเวลานั้น เนื่องจากมันเป็นการรวมประสบการณ์ส่วนตัวที่ดิบและเถื่อนของบิลเองในฐานะผู้เสพยาเสพติดหลากหลายชนิด แต่หากมองในมุมมองของโลกบุคปัจจุบันซึ่งผ่านมาแล้วกว่า 70 ปี หนังสือเล่มนี้เปิดโลกอีกใบของสังคมอเมริกาในยุค mid-century ที่คนภายนอก หรือคนในปัจจุบัน มองว่าทุกอย่างนั้นเป็นระเบียบแบบแผน มีสีสัน มีความล้ำสมัย มีความเป็นอเมริกาน่าแบบไม่ตกยุค "ไอ้ขี้ยา" - Junkie จึงเป็นหนังสือเล่มหนึ่งในจำนวนที่น้อยมากๆ ที่สะท้อนสังคมอเมริกันในยุคนั้น อย่างลึกซึ้ง . อันที่จริง บิล ตกหลุมรัก อัลแลน แบบจริงจัง แบบหัวปักหัวปำ โดยออกปากว่าอยากความสัมพันธ์ทางเพศแบบชายรักชายกับเขา แต่เมื่อ อัลแลนปฏิเสธเขา บิลรู้สึกอกหัก และเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้งสู่ แทนเจียร์ ประเทศโมร็อกโก ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วว่า เป็นตลาดใหญ่ของ โสเภณีชาย และ ยาเสพติดทุกประเภทในโลก และมันก็ไม่เกินความคาดเดา บิลเสพยาหนักขึ้นอีก ยาที่เขาเลือกใช้บ่อยที่สุดในช่วงนั้นคือ ยูคาโดล ซึ่งก็คือชื่้อทางการตลาดของยาระงับประสาท ออกซิโคโดน นั่นเอง เขาติดแบบงอมแงมซะเขาต้องเลือกที่จะบากหน้ากลับไปหาแม่ ในเดือนกันยายน ปี 1956 เพื่อขอยืมเงิน 500 เหรียญเพื่อไปบำบัด ซึ่งเขาได้พบกับ ดร. จอห์น ยาเบอร์รี่ ซึ่งเป็นหนึ่งใน แพทย์สายบำบัด ที่เก่งที่สุดในโลก โดยให้ อโปมอร์ฟีน กับบิลแทน นั่นก็ทำให้บิลหยุดอาการอยากยา ได้ขณะหนึ่ง แต่ไม่รู้เหตุอันใด บิล รีบเดินทางกลับไปที่แทนเจียร์เลยทันที . แทนเจียร์ สภาพที่คุ้นเคย สถานที่ที่บิลจัดหาทุกอย่างเพื่อสนองความต้องของตัวเองได้ทุกเวลา บิลเริ่มมีความมุ่งมั่นในการผลิตงานเขียนอย่างจริงๆจังๆ ก็ที่นี่ ที่ผลงานชั้นครูในโลกของวรรณกรรมนอกกระแส "มื้อกลางวันที่เปลือยเปล่า" - Naked Lunch บิลเขียนจดหมายถึงอัลแลนเล่าว่า "นายรู้หรือเปล่า? วิธีเขียนหนังสือยาวๆแบบฉัน ฉันนี่ดูดกัญชาไปเรื่อยๆ พิมพ์ไปด้วยความสูงสุดเท่าที่จะพิมพ์ได้ วันละ หกชั่วโมงติดต่อกันเท่านั้นเป็นเลิกกัน" อันที่จริงแล้วชื่อวรรณกรรมเล่มนี้มาด้วยความบังเอิญสุดๆ คือตอนที่จะให้ชื่อกับวรรณกรรมดังกล่าว ก่อนหน้านี้ที่บิลนั้นเดินทางไปเยี่ยมพรรคพวกที่ ม.โคลัมเบีย ซึ่งกลุ่มบีทส์ นำโดย แจ็ค กับ อัลแลน จะฝึกวิชาเขียนบทกันอย่างหนักหน่วงมาก โดยจะผลัดกับเขียนเรื่องสั้น เรียกว่า รูทีน และเอาพวกคนในกลุ่มผลัดกันมาเล่นละครแล้วก็วิจารณ์กันเองอย่างดุเดือด อัลแลนอ่านประโยค "ความใคร่อันเปลือยเปล่า" - Naked Lust ผิดเป็น Naked Lunch ซึ่งบิลชื่นชอบคำนี้มาก และจำมาเขียนเป็นชื่อวรรณกรรมของเขาเอง ในปี 1957 แจ็คเดินทางไปแทนเจียร์และพบว่า ต้นฉบับของ Naked Lunch นั้นปลิวกระจายไปทั่วห้อง แจ็คถึงกลับต้องเอามานั่งเรียบเรียงและพิมพ์ดีดลงกระดาษให้เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตาม เดือนถัดมา แจ็คก็ยังรู้สึกไม่พอใจ จึงกลับไปที่แทนเจียร์อีกรอบพร้อมกับชายคนรักคนใหม่ของเขา ปีเตอร์ ออลอฟสกี้ และสองคนนี้ก็ไปช่วยกันเรียบเรียงให้ต้นฉบับนี้สมบูรณ์และพร้อมตีพิมพ์ในเวลาต่อมา ซึ่งเมื่ออัลแลนได้อ่านต้นฉบับถึงกลับเขียนจดหมายไปหา ลูเชี่ยน คารร์ เล่าว่า "ผลงานของบิลนี้โคตรเจ๋ง การที่บิลเขาทุ่มเทกับมันใช้ความรู้และศิลปะในการใช้ภาษาที่เขามี และ ยังมีพวกเราที่มาขัดเกลามันขึ้นอีก!" . บิลกับอัลแลนเดินทางไปปารีสในเดือนมกราคมปี 1958 และขายสิทธิ์ในการตีพิมพ์งานชิ้นเอกของเขาให้กับ สำนักพิมพ์โอลิมเปีย และต่อมา ในปี 1962 ผลงานนี้จึงถูกนำเข้ามาตีพิมพ์ในอเมริกาโดย สำนักพิมพ์โกว์ฟ แต่ขายได้ไม่นานก็ถูกสั่งโดยรัฐบาลกลางให้เลิกขายโดยทันทีเนื่องจากมีเนื้อหาที่ลามกหยาบโลนเกินไปสำหรับนักอ่านในอเมริกา กว่าหนังสือเล่มนี้จะได้ขายในตลาดหนังสืออเมริกาก็ปาเข้าไปปี 1966 ซึ่งบิลนั้นยินดีมากที่หนังสือเขาจะไม่ถูกหาว่าเป็นหนังสือต้องห้าม ในเวลาต่อมาเมื่อมีการเสวนากันโดยสื่อมวลชนถึง คุณค่าและความเป็นวรรณกรรมของหนังสือดังกล่าว นอแมน เมลเลอร์ กล่าวว่า "ก็ด้วยความที่มันสุดขอบในเรื่องเซ็กซ์ ความใคร่ ความกระสันในความรุนแรงแบบน่าสยดสยอง แบบดิบๆ ที่เราเจอได้ในหนังสือเล่มนี้ ทำให้ผมชื่นชม คุณ เบอร์โรส์ มากๆ เพราะเขาเข้าถึงเรื่องอย่างว่าได้ลึกกว่านักเขียนคนใดในโลกตะวันตกในยุคนี้" . วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ ก็ใช่่จะไม่เจอปัญหาที่ในชีวิตที่ดูเหมือนจะไม่แคร์โลกไม่แคร์สังคมของเขา นั่นก็คือลูกชายเขา - บิลจูเนียร์ นั่นเอง บิลจูเนียร์ติดยาเสพติดอย่างงอมแงม ตามไลฟสไตล์ที่เขาเห็นพ่อ และ แม่ผู้ล่วงลับใช้ชีวิตกันแบบนั้นมาตลอด บิลเดินทางออกจากแทนเจียร์อีกครั้ง มาอเมริกาเพื่อเอาลูกชายตัวเอง เข้าสถานบำบัดเอกชน เล็กซิงตั้น มีเรื่้องเล่าอยู่ว่า วันที่ สองคนเดินทางไปถึง พยาบาลถึงกลับงงและถามว่า "หนึ่งในสองคนนี้ คนไหนกันคะที่จะเข้ารับการบำบัด?" บิลจูเนียร์ มีชีวิตที่น่าสงสาร เป็นโรคไตวาย เปลี่ยนไตใหม่ไปหนึ่งครั้ง และก็จบชีวิตที่แสนสั้นของเขาที่ฟลอริดา บิลจูเนียร์เขียนจดหมายลาพ่อของเขา ลงท้ายจดหมาย "จาก บุตรที่โดนสาปแช่งตั้งแต่เกิดของท่านเอง" . . to be continued... . .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    Part 1 : The Beats and William S. Burroughs บีทเจนเนอเรชั่น คือ กลุ่มคนหนุ่ม-สาว ในยุคต้น 1960s ที่เกี่ยวข้องแวะกันด้วยอิทธิพลทางความคิดต้านกระแสสังคม พวกเขายืนอยู่บนเส้นแบ่งของแนวคิดแบบองค์รวมของสังคมอเมริกันอุดมคติแบบ แฟร้งคลิน ดีลาโน่ รูทส์เวลท์ และ สังคมที่นิยมความเป็นปัจเจกบุคคลแบบสุดโต่งในช่วงเวลานั้น ตัวตนขวกเขาถูกแสดงผ่านผลงานการเขียน หลากหลายรูปแบบ เซ็กซ์ ดนตรี และ ศิลปะ พวกเขาเชื่อกันเองว่าในกลุ่มพวกเขามีอยู่เพียงหลักร้อยคน ซึ่งอันที่จริง จำนวนที่แท้จริงของกลุ่ม บีทส์ นั้นไม่ปรากฏเป็นตัวเลขที่ชัดเจนนัก นอแมน เมลเลอร์ ผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน ความมีตัวตนของ บีทส์ กล่าวไว้อย่างสวยงามมากว่า บีทส์นั้นคือผู้กล้าหาญที่จะแสดงถึงความเป็นตัวของตัวเอง ในยุคที่ทุกกระแสสังคมถูกจับจ้องโดยรัฐบาลสหรัฐ พวกเขาคือคนที่อยู่นอกกฏระเบียบของสังคม งานเขียนของพวกเขาสะท้อนสิ่งที่ประชาชนยุคนั้นมองไม่เห็นหรือแกล้งมองไม่เห็น ซึ่งครอบคลุมเรื่องการเมือง วัฒนธรรม และ การแสวงหาทางจิตวิญญาณ โดยที่พวกเขานั้นไม่อิงแอบกับตรรกะภายนอก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องทุนนิยมเรื่องสังคมนิยม แต่เป็นการค้นพบสิ่งใหม่ด้วยตัวเอง ผลงานของพวกเขาจึงเป็นดั่งการเบิกทางให้กับผู้ที่จะค้นพบสิ่งใหม่ๆในยุคต่อๆมา แจ็ค คูโรแวค แอลลัน กินเบิร์ค วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ สามศาสดาแถวหน้า บีทเจนเนอเรชั่น วิลเลี่ยม เอส. เบอร์โรส์ “อัจฉริยะ รุนแรง บ้าคลั่ง” . . วิลเลี่ยม “บิล” เอส. เบอร์โรส์ อายุมากกว่าเพื่อนอีกสองคน และ ผลงานของเขาประสบความสำเร็จช้ากว่าอีกสองคนมาก แต่เป็นการประสบความสำเร็จที่ยาวนานและยั่งยืนที่สุด บิล เกิดในปี ค.ศ. 1914 ในเซนหลุยส์ มิสซูรี่ ปู่ของเขาร่ำรวยจากกว่าเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องบวกเลขเครื่องแรกของโลก แม้ครอบครัวของบิลจะไม่รวยเท่ากับรุ่นปู่แต่บอกได้ว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะดีมากๆครอบครัวหนึ่งในเวลานั้น เมื่ออายุได้ 15 ปี ตามกระแสในยุคนั้น ครอบครัวส่งบิลได้เรียนในโรงเรียน “บ้านไร่” โรงเรียนประจำที่อยู่ในรัฐตะวันตกอเมริกา ซึ่งเขาถูกส่งไปอยู่ถึงรัฐนิวแม็กซิโก - โรงเรียนประจำลอสอลาโมสแรนช์สกูล เนื่องจากบิลเป็นคนที่เกลียดกิจกรรมภายนอกห้องเรียนอยู่เป็นทุนเดิน เขาแทบจะเข้ากับที่นั่นไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่กีฬาชนิดหนึ่งของโรงเรียนที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษนั่นก็คือ กีฬายิงปืนนั่นเอง . ที่นั่นบิลได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับสารเสพติดเป็นครั้งแรกนั่นก็คือ คลอรอลไฮเดรต ยาระงับประสาท และเป็นที่รู้กันว่า บิลเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการเสพเกินขนาด พอเรียนต่อไม่ได้จึงต้องย้ายไปเข้าโรงเรียนเอกชนเพื่อเก็บเกรดไว้ไปต่อที่ฮาร์วาร์ด ซึ่งก็ทันตอนอายุ 18 พอดี พอเข้าไปได้ บิลก็ไม่ได้สนใจเล่าเรียนเท่าไหร่ แต่มักพบว่าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ที่นั่นเขาได้อ่านวรรณกรรมภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสอย่างจุใจ พอเรียนจบตอนอายุ 21 ปีพอดี บิลขอพ่อแม่ออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วยุโรป และ ก็ได้เมียเป็นแม่หม้าย ชาวยิวอายุ 35 ปี จาก ยูโกสลาเวีย นัยว่าตัวเขานั้นอยากเป็นฮีโร่ ปกป้องผู้หญิงคนหนึ่งจากลัทธิเผด็จการที่เริ่มก่อตัวในยุโรปในขณะนั้น ซึ่งก็อยู่กินกับเขาเกือบ 9 ปีในนิวยอร์ค กระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงในปี 1945 . หลังจากกลับมาถึงสหรัฐอเมริกา บิลเลือกจะที่กลับไปสู่แวดวงการศึกษาโดยเข้าเรียนในระดับปริญญาโทอีกครั้งที่ ฮาร์วาร์ด โดยแรงจูงใจในครั้งนี้คือการได้ใกล้ชิดกับเพื่อนชายของเขา เคลส์ แอลวินส์ ที่นั่นเอง ทั้งสองคนได้ร่วมกันผลิตงานเขียนเสียดสี เกี่้ยวกับการจมลงของเรือไททานิคโดยใช้ชื่อว่า "แสงสะท้อนสุดท้ายของยามพลบค่ำ" ซึ่งพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการหาสำนักพิมพ์ที่จะรับซื้องานเขียนดังกล่าวได้ โดยนิตยสาร Esquire ตอบกลับมาว่า มันไม่มีเนื้อหาอะไรลึกซึ้งพอที่จะให้พวกเขานำไปตีพิมพ์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม งานเขียนนี้กลับมาปรากฏในนิยายเรื่อง "โนวา เอ็กซ์เพรส"ของบิลในเวลาต่อมา . บิลเลือกที่จะทิ้งการเรียนปริญญาโทไปแบบครึ่งๆกลางๆ และ กลับไปอยู่ที่ เซนหลุยส์ มิสซูรี่ เพื่อจะไปเป็นลูกศิษย์ของ อัลเฟรด คอซิบสกี้ นักอรรถศาสตร์ ผู้เสนอแนวคิดว่า "คำพูดต่างๆนั้นสูญเสียความหมายที่แท้จริง" และ จากนี้ต่อไปตลอดชีวิต บิลก็ทุ่มเทความคิดให้กับการค้นหาความหมายที่แท้จริงของคำศัพท์แต่ละคำที่เขาเล็งเห็นว่าถูกใช้อย่างผิดๆโดยมนุษย์ . "ผมขอเสนอทฤษฎีอย่างกว้างๆว่า คำศัพท์ของมนุษย์เราจริงๆแล้วคือ ไวรัส แต่มนุษย์เราจะไม่ได้ทราบว่ามันเป็นไวรัส ก็เพราะว่าเราเป็นพาหะที่ค่อนข้างเสถียร ซึ่ง ไอ้ไวรัสนี่ไม่มีหน้าที่อะไรนอกจาก ทำสำเนาให้ตัวเอง และส่งต่อจากมนุษย์คนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งหรือหลายๆคน..." . หลังเหตุการณ์ประกาศสงครามกับฝ่ายอักษะ บิลถูกหมายเกณฑ์ให้เป็นทหาร แต่แม่ของบิลช่วยเขาหลีกเลี่ยงการเป็นทหารโดยการส่งเขาเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช และให้การรับรองว่าเขาป่วยทางจิตและไม่เหมาะสมกับการรับใช้ชาติ ช่วงเวลาดังกล่าว บิลเดินทางออกจาก เซนหลุยส์ มิสซูรี่ สู่เมืองชิคาโก้ และหาเลี้ยงชีพโดยการรับจ้างกำจัดสัตว์ไม่พึงประสงค์ (อาชีพนี้ทำให้เขาได้เข้าไปสัมผัสมุมมืดในสังคมเมืองใหญ่ ที่เขาเคยแต่เพียงอ่านจากในหนังสือเท่านั้น พอเป็นแบบนี้มันทำให้บิลมีความรู้สึกว่า สิ่งที่เขาพบเจอนั้นคือของแท้) นอกจากนี้ยังได้รับเงินอุดหนุนจากทางบ้านเป็นค่ากินอยู่อีกเดือนละ 200 เหรียญ เป็นอยู่อย่างนี้อีกประมาณแปดเดือนเศษ กระทั่งเขาได้เจอเพื่อนเก่าจาก เซนหลุยส์ มิสซูรี่ นั่นก็คือ ลูเชี่ยน คารร์ และ เดวิท แคมเมอเรอร์ ที่ชิคาโก้ (ในเวลาต่อมา คารร์ก็ปลิดชีพ แคมเมอเรอร์ ที่นิวยอร์ค) . คารร์ มาแวะเพียงชั่วคราว และ มุ่งหน้าสู่นิวยอร์คเพื่อจะกลับไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ บิล กับ แคมเมอเรอร์ก็ตามไปสมทบในที่สุด ซึ่งที่นี่เองเป็นที่ ที่ บิลได้พบกับเพื่อนที่จะข้องเกี่ยวกับตัวเขาเองไปอีกครึ่งศตวรรษ เขาคนนั้นคือ แอลลัน กินเบิร์ค - และ แอลลันก็แนะนำพวกเขาให้รู้จักกับ แจ็ค คูโรแวค , อีดี้ ปาร์คเกอร์ (แฟนสาวของแจ็ค) และ โจแอน โวมเมอร์ (ภรรยาของบิลในเวลาต่อมา) แอลลัน กับ แจ็ค ร่วมกันผลิตงานเขียนด้วยกันเป็นครั้งแรก มีชื่อว่า "และฮิปโปโดนต้มในบ่อของมันเอง" ซึ่งก็ไม่ได้ถูกสำนักพิมพ์ใดๆนำไปตีพิมพ์ ขณะเดียวกัน บิลก็เริ่มเบนเข็มสู่อีกช่าวของชีวิต เขาเริ่มเป็นแมงดาข้างถนนย่านไทม์สแควร์ ขายของอีหยิบ ขายมอร์ฟีนแบบเข็มฉีดเข้าเส้น และ ปล้นจี้คนด้วยปืนพกในสถานีรถไฟใต้ดินในยามค่ำคืน คนที่เป็นผู้ชักชวนบิลสู่เส้นทางสายนี้คือ เฮอเบิร์ท ฮังค์คี ซึ่งอยู่ในสายอาชีพ ปล้นชิงทรัพย์ ลักเล็กขโมยน้อย มาแต่เดิม อีกด้านหนึ่ง บิลก็แนะนำ เฮอเบิร์ทให้รู้กจักกับพวกกลุ่มเพื่อนของเขาใน มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และ รวมกลุ่มกันอยู่แบบชุมชนเล็กในอพาร์ทเม็นท์ใกล้ๆ มหาวิทยาลัย นั่นแหละ . โจแอน โวมเมอร์ นักศึกษาสาวคณะวารสารศาสตร์ เริ่มคบหาเชิงชู้สาวกับ บิล ทั้งๆที่ใครๆในกลุ่มก็ทราบดีว่าบิลมีรสนิยมทางเพศแบบโฮโมเซ็กซ์ชั่ล แต่เธอให้เห็นผลว่า "บิลเก่งเรื่องบนเตียง แบบที่แมงดาควรเป็น" - สองคนนี้อยู่กินกันแบบสามีภรรยา และเสพยาหนักทั้งคู่ กระทั่งวันหนึ่งก็ถูกตำรวจบุกจับถึงอพาร์ทเม็นท์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สองคนยังหาเวลาไปเขียนบทละครสั้น เกี่ยวกับเรื่องรสนิยมทางเพศ อยู่ด้วยกันอยู่หลายเรื่อง ซึ่งในเวลาต่อมา บิลก็เอาไปยัดใส่ในวรรณกรรมของเขาทีละเรื่อง ทีละเรื่อง ไม่นานหลังจากห้วงเวลาในรั้วมหาวิทยาลัย โวมเมอร์กับบิล ร่วมกันซื้อไร่ขนาด 99 เอเคอร์ ในเมือง นิวเวเวอรี่ รัฐเท็กซัส และ โวมเมอร์ก็ให้กำเนิดลูกชายของบิลหนึ่งคน สองผัวเมียมองหาธุรกิจทำและในที่สุดก็ชักชวน ฮังค์คี ให้มาอยู่ด้วยกันที่ไร่ และไม่นานเกินรอผลผลิตหลักจากไร่ของสองผัวเมีย คือ กัญชา . เพื่อนที่เริ่มมีชื่อเสียงมาก ก็ได้แวะเวียนมาเยี่ยมสองผัวเมีย ไม่ว่าจะเป็น อัลแลน รวมไปถึง นีล แคซซิดี้ (คู่ขาเพศชายของอัลแลน) นีลทำหน้าที่หลักคือขนกัญชาของบิลไปขายในนิวยอร์ค ส่วน อัลแลนส่งกัญชาของสองผัวเมียไปขายผ่านเส้นสายของเหล่าพาณิชย์นาวี ที่เขามีแต่เดิม เป็นแผนธุรกิจฟังดูดีใช่ไหม? แต่เอาจริง แม่งเจ๊งไม่เป็นท่า เพราะค่าใช้จ่ายของแต่ละคนมันสูงมาก เนื่องจาก สองผัวเมียนักเสพ ต้องคอยส่งส่วยให้ตำรวจท้องถิ่นตลอด ราคาขายส่งที่ควรจะเป็นมันถีบสูงไปถึงร้อยเหรียญ ในที่สุดสองผัวเมียและอีกหนึ่งนักปลูกเพื่อนผัว ก็ต้องระเห็ดไปอยู่ที่ นิวออร์ลีนส์ แต่แค่พักเดียวยังไม่ทันได้ทำอะไรจริงจัง ตำรวจก็เข้าจับกุมพวกเขาถึงบ้าน ซ้ำร้ายนอกจากกัญชาที่ปลูกไว้เสพด้วย ขายด้วยแล้ว ก็เจอยาเสพติดอีกหลายประเภทในบ้านของสองผัวเมีย แต่โชคดีพวกนี้รู้จักทนายเก่ง ทนายก็ทำให้คดีหลุดด้วยช่องโหว่ทางกฏหมาย แต่ก็แนะนำว่า สองผัวเมียควรออกไปอยู่นอกประเทศสักพักจะเป็นการดีที่สุด . ในปี 1950 บิลเขียนจดหมายหาอัลแลน จากที่ประเทศแม็กซิโก แจ้งว่าเขาเขียนหนังสือเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขา ใกล้เสร็จแล้ว หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า "ไอ้ขี้ยา" - Junkie. ในวันที่ 6 กันยายน ปีเดียวกันนั้นเอง เล่ากันว่า บิลและโวมเมอร์กำลังเมากันได้ที่ จากการเสพและดื่ม โวมเมอร์เริ่มต้นก่อนด้วยการท้าทายฝีมือการแม่นปืนของบิล ซึ่งเธอเอาแก้วน้ำวางไว้เหนือหัว และ บิลก็ชักปืนสั้นขึ้นยิงแก้วนั้น แต่เล็งพลาด กระสุนเลยพุ่งเข้ากลางหน้าผากโวมเมอร์ ปลิดชีพภรรยาคู่เสพทันที และ ปิดบทบาทสามี ที่ บิลไม่ค่อยเต็มใจนัก . . to be continued...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 556 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนั่งลง แล้วเขียนจดหมายสักสองฉบับสิ มันได้ผลนะ
    ลองนั่งลง แล้วเขียนจดหมายสักสองฉบับสิ มันได้ผลนะ
    Video Player is loading.
    Current Time 0:00
    Duration -:-
    Loaded: 0%
    Stream Type LIVE
    Remaining Time -:-
     
    1x
      • Chapters
      • descriptions off, selected
      • subtitles off, selected
          0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 21 0 รีวิว
        • อ่านเพิ่มเติม
          #สนุกจังตังอยู่ครบ ความสนุกที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ กับแค่โครงเรื่องแนวคลาสสิกที่ให้คนกลุ่มหนึ่ง ติดอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่อาจติดต่อกับคนอื่นได้ แล้วมีการตายเกิดขึ้นทีละราย ทว่าเล่มนี้มีการรื้อโครงสร้างแนวเก่าออก แล้วก่อขึ้นใหม่โดยรูปแบบภายนอกยังคงคล้ายเดิม ทว่าภายในนั้นมีความดัดแปลงให้แตกต่างไป นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าพอใจยิ่ง ผมกำลังพูดถึง #ฆาตกรรมปิดตายบนภูเขาหิมะ ผลงานของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ ฝีมือแปลโดย สุรีรัตน์ งามสง่าพงษ์ จัดพิมพ์โดย สนพ.ไดฟุกุ เมื่อกรกฎาคม 2566 ความหนา 240 หน้า ราคา 270 บาท ต้นฉบับพิมพ์ตั้งแต่ปี 2539 นับถึงปัจจุบันก็เฉียด 30 ปีเข้าแล้ว อ่านจบก่อนและค่อนข้างชอบ จึงลองไปอ่านความเห็นคนอื่นดูบ้าง รู้สึกเสียงแตกเป็นสองฝั่ง มีไม่น้อยค่อนไปในทางไม่ค่อยชอบเท่าไรนัก ซึ่งก็แล้วแต่ความเห็นของคนอ่าน ในส่วนของผมเองมีเหตุผลที่ชอบซึ่งจะได้เขียนถึงต่อไป เบื้องต้นขอเล่าเนื้อหาโดยสรุปดังนี้ ชายหนุ่มหญิงสาว 7 คน (แบ่งเป็นชาย4หญิง3) ที่ผ่านการออดิชันเพื่อจะรับบทแสดงนำในละครเวทีของคณะละครแห่งหนึ่ง ได้รับจดหมายจากผกก.ละครที่ส่งถึงทุกคนว่าให้มารวมตัวกันที่บ้านพักหลังหนึ่งบนภูเขาเป็นเวลา 4 วัน เพื่อฝึกซ้อมพิเศษตามวันเวลานัดที่ระบุ ถ้าใครไม่มาหรือมาช้าจะถูกตัดสิทธิ์ และห้ามบอกใครทั้งนั้น ที่บ้านพัก ทั้ง7คนได้พบกับเจ้าของบ้านที่รออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ให้ทราบว่ามีห้องอะไรในเกสต์เฮาส์บ้าง มีวัตถุดิบทำอาหารไว้ให้พอสำหรับ 4 วัน แต่ผู้มาพักต้องทำอาหารเอง ไม่มีใครมาคอยดูแลให้ทั้งสิ้น ทั้ง7ต้องอยู่ตามลำพัง เป็นเงื่อนไขที่ทางคนกลางของ ผกก.ที่ติดต่อมาแจ้งไว้ ก่อนออกจากบ้านพักเขาทิ้งท้ายว่าหากมีเหตุฉุกเฉินให้โทรศัพท์ถึงเขาได้ เขาอยู่อีกที่หนึ่งซึ่งห่างไปไม่ไกลนัก ขณะทั้ง7กำลังไม่สบอารมณ์ในสิ่งที่เจ้าของบ้านพักแจ้ง และจับกลุ่มสนทนา ปรากฏว่ามีจดหมายจากผกก.มาส่ง แจ้งรายละเอียดว่าตลอด 4 วันนี้ ให้ทุกคนถือเสมือนหนึ่งอยู่ในเหตุการณ์ที่มีหิมะตกหนัก ไม่สามารถออกไปไหนและสายสัญญาณโทรศัพท์ถูกหิมะหล่นทับไม่อาจติดต่อใคร และจะมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น โดยให้แต่ละคนจำลองสถานการณ์เอาเองว่าจะทำอย่างไร ถ้ามีฆาตกรฆ่าคนตายไปทีละคน ทั้งหมดถือเป็นการฝึกซ้อมและทดสอบที่จะนำมาใช้ในการวัดผล โดยห้ามติดต่อหาใครทั้งนั้น ห้ามออกไปไหนจนกว่าจะครบกำหนด ใครฝ่าฝืนถือว่าสละสิทธิ์โดยปริยาย ด้วยเหตุนี้ยิ่งทำให้ทั้ง7คนทุ่มเถียงถึงคำสั่งแปลกพิสดารของผกก. แต่ในที่สุดก็จำต้องยอมรับและปฏิบัติตาม หลังเลือกห้องกันแล้วว่าใครจะพักห้องไหน มีทั้งห้องเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ มีห้องสันทนาการ ห้องนั่งเล่นรวม ห้องอาหาร ห้องครัว ห้องสุขาและอาบน้ำ และห้องอื่น ๆ ทุกคนใช้ชีวิตไปตามอัธยาศัย แล้วก็เกิดเหตุน่ากลัวขึ้นในคืนวันแรก สมาชิกในกลุ่มคนหนึ่งหายตัวไปในเช้าวันถัดมา และมีกระดาษที่เขียนคำอธิบายไว้ว่าบุคคลคนนั้นถูกฆ่าตายแล้วด้วยวิธีการใด และต้องหายตัวไปเหมือนถูกตัดออกจากการแข่งขัน สมาชิกที่เหลือจึงเริ่มตื่นตัวขึ้น แม้ไม่รู้ว่าเพื่อนคนดังกล่าวไปแอบอยู่ที่ใดระหว่างที่ยังไม่ครบ4วัน คนที่เหลือต้องพยายามหาทางคาดเดาตัวคนร้ายให้ได้ ในระหว่างคนทั้ง6ที่เหลือ ก็มีความสัมพันธ์ส่วนตัวพัวพันกันอยู่ มีชายอย่างน้อยสามคนที่ชอบหญิงคนหนึ่งในกลุ่ม จึงมีการพูดจาเชิงข่มหรือดูถูกเหยียดหยาม ส่วนหญิงอีกคนดูจะมีใจให้กับชายอีกคนที่ชอบผู้หญิงอีกคน มันช่างยุ่งเหยิงดีแท้ และแล้วก็มีการตายเกิดขึ้นอีกในคืนวันถัดมาโดยไม่มีใครทราบจนล่วงเข้าวันใหม่ ยังคงมีกระดาษเขียนรายละเอียดที่ระบุว่าผู้ตายถูกฆ่าแบบไหน และคนในกลุ่มก็หายตัวไปอีกหนึ่ง เหลือเพียง 5 คน ทำให้เกิดการทุ่มเถียงกันมากขึ้น มีคนหนึ่งเริ่มเสนอแนวคิดที่น่ากลัวว่า คนที่หายตัวไปนั้นอาจไม่ใช่การซ้อมแสดงละคร แต่ได้ถูกฆ่าตายไปแล้วจริง ๆ ความจริงเบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดคืออะไรกันแน่ หาคำตอบได้ใน ฆาตกรรมปิดตายบนภูเขาหิมะครับ .............. ความจริงเล่มนี้ตัวละครไม่เยอะ มีกล่าวถึงคนอื่นที่เกี่ยวข้องบ้างเล็กน้อยคือผกก. ,เจ้าของบ้านพัก,และตัวละครอีกหนึ่งคนซึ่งจะถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังคนในกลุ่มได้เข้าพักในบ้านไปแล้วระยะหนึ่ง ดังนั้นสำหรับผม ถือว่าเรื่องนี้มีความง่ายกว่าเรื่องอื่น ๆ ที่เคยอ่านมาในการจดจำตัวละคร เรียกว่าพยายามท่องจำเอาตั้งแต่เริ่มเลย พร้อมกับดูผังบ้านชั้น1 และชั้น2ประกอบไปด้วย เพื่อจำว่าใครพักอยู่ห้องไหนบ้าง แม้รายละเอียดของผังบ้านที่ให้มาจะไม่ได้มีรายละเอียดมากนัก แค่วาดแบ่งเป็นขนาดให้เห็นอย่างหยาบ ๆ ว่าห้องไหนคือห้องอะไร มีเฟอร์นิเจอร์ใดตั้งอยู่บ้างเท่าที่จำเป็น ตำแหน่งของประตูหน้าต่างก็บอกเฉพาะบางตำแหน่งเท่านั้น ไม่ได้แสดงครบทุกห้อง และมองเห็นบางจุดที่รู้สึกติดใจตั้งแต่ทีแรกว่าตำแหน่งนั้นคืออะไร ทำไมไม่ระบุรายละเอียดให้ทราบ พออ่านจนใกล้จบจึงถึงบางอ้อ ที่แท้จุดที่เราสงสัยเป็นส่วนสำคัญของปริศนาแห่งคดีในเล่มนี้ด้วยสิ ขอกล่าวถึงเหตุผลที่ชอบนะครับ หลักเลยคือเห็นถึงความตั้งใจของผู้เขียน ที่อยากจะทำให้เกิดการเล่าเรื่องแนวใหม่ที่แตกต่างไปจากการเล่ารูปแบบเดิมที่เคยใช้กันมาในนิยายรุ่นเก่าของนักเขียนดังหลายคนทางฝากตะวันตก แม้จะสร้างสถานการณ์ให้มีคนมาอยู่รวมกันในที่ซึ่งเหมือนหนีไปไหนไม่ได้ แล้วตายไปทีละคนเช่นโครงเรื่องแนวคลาสสิก แต่ก็ใส่รายละเอียดที่ทำให้ต่างตรงที่คราวนี้ ทุกอย่างถูกกำหนดบังคับจากกฎกติกาที่ระบุในจม. ทำให้เหยื่อมีความสับสนระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าคือความจริงหรือคือการแสดงละครตามสิ่งที่ผกก.ต้องการกันแน่ ที่สร้างสรรค์อย่างมากคือใช้วิธีการเล่าสองรูปแบบสลับกันไปตลอดทั้งเรื่อง คือเล่าในมุมมองพระเจ้าที่เราเข้าใจเอาเองแต่แรกว่าคือมุมมองสายตาของนักเขียน ทว่าเฉลยตอนท้ายที่เข้าสู่ช่วงไขคดีว่าที่แท้เป็นมุมมองพระเจ้าก็จริง แต่ไม่ใช่สายตาผู้เขียน หากแต่เป็นใคร หากได้อ่านเองแล้วก็จะรู้ จุดนี้ผมถือว่ายอดเยี่ยมมาก ส่วนอีกมุมมองหนึ่งจะเป็นการเล่าผ่านสายตาและความคิดของตัวละครตัวหนึ่งที่อยู่ในกลุ่ม7คน คล้ายทำนองบันทึกการคุยกับตัวเองว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น มีใครทำอะไร ใครคุยว่าอย่างไรบ้าง โดยในส่วนนี้จะมีสอดแทรกความเห็นส่วนตัวของคนดังกล่าวทำให้คนอ่านทราบมุมมองของเขาอย่างใกล้ชิด และเป็นตัวละครสำคัญที่เหมือนเป็นตัวขับเคลื่อนให้เรื่องเดินหน้าต่อไป และตัวละครตัวนี้เองที่ภายหลัง ก็คล้ายจะสถาปนาตนเองเป็นผู้ทำหน้าที่แทนนักสืบในการคลี่คลายปริศนาทั้งหมดด้วย เรื่องจะถูกแบ่งเล่าเป็น 4 วัน ในแต่ละวันมีอะไรเกิดขึ้นบ้างจนกระทั่งจบวัน จึงเริ่มต้นบทใหม่ในวันถัดไป ดังที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้คือ ตั้งใจท่องจำชื่อตัวละครทั้ง7และจำผังบ้านไว้ในหัวคร่าว ๆ ดังนั้นตอนอ่านที่ผู้เขียนบรรยายเล่าถึงช่วงที่ระบุถึงตัวละครกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนในห้องใด และการเล่าถึงสภาพภายในของบ้านพักว่ามีอะไรตั้งอยู่จุดไหนอย่างไร ผมจึงมองเห็นภาพเป็นสามมิติได้ไม่ยากนัก นับว่าผู้เขียนออกแบบและคิดผังบ้านหลังนี้มาได้ไม่เลว จึงสอดรับเข้ากันกับเหตุผลที่ประกอบในการกระทำของตัวละครต่าง ๆ อย่างกลมกลืน ด้วยความที่ส่วนตัวผมเคยผ่านการ try out จนได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของคนที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อแสดงละครเวที รวมถึงเคยอยู่ในฐานะของผู้ที่ฝึกฝนการแสดงให้กับรุ่นน้องในคณะสมัยเรียนมาก่อน ดังนั้นจึงค่อนข้างเข้าใจในความรู้สึกของเหล่าตัวละครที่แสดงบทบาทลีลาในเรื่อง ว่าทำไมถึงคิดหรือพูดและทำอะไรลงไปดังที่ปรากฏนั้น ซึ่งไม่แปลกแต่ประการใด จึงถือว่าเล่มนี้เป็นอีกเล่มหนึ่งของผู้เขียน ที่มีมุมมองการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์ได้น่าสนใจไม่แพ้เรื่องตุ๊กตาปิเอโรในคฤหาสน์กางเขนเช่นกัน ด้านสำนวนการแปลอ่านได้เพลินไม่มีสะดุดติดขัด บางคำพูดของบทสนทนาก็ทำให้รู้สึกฮาเหมือนกัน เป็นเรื่องที่น่าจะเครียด แต่กลับอ่านแล้วผ่อนคลายสบาย ๆ และอยากรู้ว่าที่แท้แล้วเรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่ ชอบบทสรุปของเรื่องในตอนท้ายที่ต่างไปจากนิยายแนวนี้ที่อ่านผ่านมาทั้งหมด นับว่าเป็นตอนจบที่ผมมีความสุขมากจริง ๆ ครับ โดยเฉพาะกลอุบายที่ใช้ ช่างน่าประทับใจยิ่ง #รีวิวหนังสือ #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #บทความ #เรื่องแปล #ฃาตกรรม #สืบสวน #thaitimes #ละครเวที #ไขปริศนา
          Like
          1
          0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 555 มุมมอง 0 รีวิว
        • อ่านเพิ่มเติม
          มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับมาตรการต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ของอิตาลีที่ชื่อว่า "Piracy Shield" ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักตั้งแต่เปิดตัวในต้นปี 2024 ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาโดยการบล็อกโดเมนและที่อยู่ IP ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างรวดเร็ว แม้ว่าระบบนี้จะสามารถบล็อกแหล่งที่มาของการละเมิดลิขสิทธิ์ได้หลายแห่ง แต่ก็มีปัญหาการบล็อกเกินไปด้วย มีรายงานว่าบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Google Drive และ Cloudflare ถูกบล็อกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในอิตาลีได้รับผลกระทบ เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2024 เมื่อ Google Drive ถูกบล็อกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ผู้ใช้ในอิตาลีไม่สามารถเข้าถึงได้เป็นเวลาสามชั่วโมง และมีผลกระทบต่อผู้ใช้บางส่วนแม้หลังจาก 12 ชั่วโมง อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับระบบนี้ โดยสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร (CCIA) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Amazon, Cloudflare และ Google ได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อแสดงความกังวล CCIA ระบุว่ามาตรการบล็อก DNS และ IP ของ Piracy Shield นั้นกว้างเกินไปและอาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ของอิตาลีที่เพิ่มข้อกำหนดการรายงานใหม่สำหรับผู้ให้บริการตัวกลาง ซึ่งรวมถึงบทลงโทษทางอาญาสำหรับการไม่ปฏิบัติตาม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจขัดแย้งกับกฎหมายของสหภาพยุโรปและสร้างผลกระทบต่อการแสดงออกทางออนไลน์และนวัตกรรม https://www.techspot.com/news/106483-tech-giants-urge-eu-review-italy-anti-piracy.html
          WWW.TECHSPOT.COM
          Tech giants urge EU to review Italy's anti-piracy measures amid overblocking concerns
          While Piracy Shield has successfully blocked numerous pirate sources, it has also been plagued by incidents of overblocking. Reports indicate that legitimate services such as Google Drive...
          0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
        • มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯวันพฤหัสบดี ที่ 23 มกราคม 2568 ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ บางพลัด กรุงเทพมหานครมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรม ราชูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมโครงการเตรียม ความพร้อมก่อนจบ (Jop Ready)นักเรียนทุนพระราชทานเพื่อการ ศึกษาสงเคราะห์ โดยมี 5 กิจกรรม ดังนี้ การสร้างแรงบันดาลใจในตนเองคุณสมบัติของบัณฑิตที่องค์กรส่วนใหญ่ ต้องการ การเขียนจดหมายเพื่อสมัคบก่อนจบงาน และการจัดทำแฟ้มสะสมงาน (Portfolio) การพัฒนาบุคลิกภาพและกราะห์ราชทา การพูดเพื่อการสัมภาษณ์งาน การวางแผนทางการเงิน #มูลนิธิราชประชานุ เคราะห์ฯ #สังคมสงเคราะห์ ##นักเรียน ทุนพระราชทาน #รัชกาลที่10 TikTok@rpk.bkk #ว่างว่างก็แวะมา
          มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯวันพฤหัสบดี ที่ 23 มกราคม 2568 ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ บางพลัด กรุงเทพมหานครมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรม ราชูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมโครงการเตรียม ความพร้อมก่อนจบ (Jop Ready)นักเรียนทุนพระราชทานเพื่อการ ศึกษาสงเคราะห์ โดยมี 5 กิจกรรม ดังนี้ การสร้างแรงบันดาลใจในตนเองคุณสมบัติของบัณฑิตที่องค์กรส่วนใหญ่ ต้องการ การเขียนจดหมายเพื่อสมัคบก่อนจบงาน และการจัดทำแฟ้มสะสมงาน (Portfolio) การพัฒนาบุคลิกภาพและกราะห์ราชทา การพูดเพื่อการสัมภาษณ์งาน การวางแผนทางการเงิน #มูลนิธิราชประชานุ เคราะห์ฯ #สังคมสงเคราะห์ ##นักเรียน ทุนพระราชทาน #รัชกาลที่10 TikTok@rpk.bkk #ว่างว่างก็แวะมา
          Video Player is loading.
          Current Time 0:00
          Duration -:-
          Loaded: 0%
          Stream Type LIVE
          Remaining Time -:-
           
          1x
            • Chapters
            • descriptions off, selected
            • subtitles off, selected
                Like
                2
                0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 476 มุมมอง 1 0 รีวิว
              • อ่านเพิ่มเติม
                วันแรกก็เอาจริงเลย ข่าวอันเป็นนิมิตหมายดี ตั้งแต่มี โคขิต ใครที่เอะอะก็เชื่อ องค์การอนามัยโลก WHO (ที่ก่อตั้งโดยกลุ่มคนสามานย์) ถึงเวลาออกจากกะลาครับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก ณ ห้องโอวัลออฟฟิศ ของทำเนียบขาว เมื่อวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2025 ในกรุงวอชิงตัน (ภาพเอพี/อีวาน วุชชี) การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก ถือเป็นก้าวสำคัญ สู่ความรับผิดชอบด้านสุขภาพระดับโลก การระบาดใหญ่ครั้งนี้ เผยให้เห็นถึงความล้มเหลว ขององค์การอนามัยโลก และเน้นย้ำถึงความจำเป็นของผู้นำ ที่ให้ความสำคัญกับความจริง วิทยาศาสตร์ และแนวทางแก้ปัญหาที่แท้จริง มากกว่าการเมือง นสพ. แนวหน้า 21/1/2568 https://www.naewna.com/inter/854734 การถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก ด้วยอำนาจที่มอบให้ผม ในฐานะประธานาธิบดีตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายของสหรัฐอเมริกา จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้: มาตรา 1 วัตถุประสงค์ สหรัฐฯ แจ้งการถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2020 เนื่องจากองค์กร จัดการกับการระบาดของ COVID-19 ได้อย่างผิดพลาด ซึ่งเกิดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และวิกฤตด้านสุขภาพทั่วโลกอื่นๆ ล้มเหลวในการปฏิรูปที่จำเป็นเร่งด่วน และไม่สามารถแสดงความเป็นอิสระ จากอิทธิพลทางการเมืองที่ไม่เหมาะสม ของประเทศสมาชิกของ WHO ได้ นอกจากนี้ WHO ยังคงเรียกร้องเงินชดเชย ที่ไม่เป็นธรรมจากสหรัฐฯ ซึ่งไม่สมดุลกับเงินชดเชย ที่ประเมินแล้วของประเทศอื่นๆ จีนซึ่งมีประชากร 1.4 พันล้านคน มีประชากร 300 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสหรัฐฯ แต่มีส่วนสนับสนุน WHO น้อยกว่าเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ มาตรา 2 การดำเนินการ (ก) สหรัฐอเมริกา มีเจตนาที่จะถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก จดหมายของประธานาธิบดี ถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021 ซึ่งเพิกถอนการแจ้งเตือน การถอนตัวของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2020 ถูกเพิกถอน (ข) คำสั่งฝ่ายบริหาร 13987 ลงวันที่ 25 มกราคม 2021 (การจัดระเบียบ และระดมพลรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพื่อให้มีการตอบสนองที่เป็นหนึ่งเดียว และมีประสิทธิผล ในการต่อสู้กับ COVID-19 และเพื่อให้สหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำด้านสุขภาพ และความมั่นคงระดับโลก) ถูกเพิกถอน (ค) ผู้ช่วยประธานาธิบดี ฝ่ายกิจการความมั่นคงแห่งชาติ จะจัดตั้งผู้อำนวยการ และกลไกการประสานงาน ภายในกลไกของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามที่เขาเห็นว่าจำเป็น และเหมาะสม เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน และเสริมสร้างความปลอดภัยทางชีวภาพ (ง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร และงบประมาณ จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสม และรวดเร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อ: (i) ระงับการโอนเงินทุน การสนับสนุน หรือทรัพยากรของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ไปยังองค์การอนามัยโลกในอนาคต (ii) เรียกตัว และมอบหมายงานใหม่ ให้กับบุคลากร หรือผู้รับเหมาของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ทำงานในตำแหน่งใดๆ ก็ตาม กับองค์การอนามัยโลก และ (iii) ระบุพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ และโปร่งใส ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมที่จำเป็น ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ดำเนินการไปแล้ว (จ) ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการเตรียมพร้อม และตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของทำเนียบขาว จะต้องทบทวน ยกเลิก และเปลี่ยนกลยุทธ์ความมั่นคง ด้านสุขภาพระดับโลก ของสหรัฐอเมริกาสำหรับปี 2024 โดยเร็วที่สุด มาตรา 3 การแจ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องแจ้งให้ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ผู้รับฝากที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และผู้นำขององค์การอนามัยโลกทราบ เกี่ยวกับการถอนตัวในทันที มาตรา 4 การเจรจาเกี่ยวกับระบบทั่วโลก ในขณะที่กำลังดำเนินการถอนตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะยุติการเจรจา เกี่ยวกับข้อตกลงการระบาดใหญ่ ขององค์การอนามัยโลก และการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ และการดำเนินการ เพื่อให้เกิดข้อตกลง และการแก้ไขดังกล่าว จะไม่มีผลผูกพันต่อสหรัฐอเมริกา มาตรา 5 บทบัญญัติทั่วไป (ก) ห้ามตีความข้อความใดๆ ในคำสั่งนี้ เพื่อทำให้เสียหาย หรือส่งผลกระทบในทางอื่นใด ต่อไปนี้: (i) อำนาจที่กฎหมายมอบให้กับฝ่ายบริหาร หรือหน่วยงาน หรือหัวหน้าหน่วยงาน หรือ (ii) หน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานจัดการ และงบประมาณที่เกี่ยวข้อง กับข้อเสนอเกี่ยวกับงบประมาณ การบริหาร หรือการออกกฎหมาย (ข) คำสั่งนี้ จะต้องนำไปปฏิบัติ ให้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ และขึ้นอยู่กับการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่ (ค) คำสั่งนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์ และไม่ได้สร้างสิทธิ หรือผลประโยชน์ใดๆ ในทางเนื้อหาหรือขั้นตอน บังคับใช้ได้ตามกฎหมาย หรือในความเป็นธรรมโดยฝ่ายใดๆ ต่อสหรัฐอเมริกา หน่วยงาน หน่วยงาน หรือนิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ พนักงาน หรือตัวแทนของสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลอื่นใด https://www.whitehouse.gov/.../withdrawing-the-united.../ ทำเนียบขาว, 20 มกราคม 2025 https://www.facebook.com/share/p/1DTaBnErqv/
                0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
              • อ่านเพิ่มเติม
                ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก ณ ห้องโอวัลออฟฟิศ ของทำเนียบขาว เมื่อวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2025 ในกรุงวอชิงตัน (ภาพเอพี/อีวาน วุชชี) การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก ถือเป็นก้าวสำคัญ สู่ความรับผิดชอบด้านสุขภาพระดับโลก การระบาดใหญ่ครั้งนี้ เผยให้เห็นถึงความล้มเหลว ขององค์การอนามัยโลก และเน้นย้ำถึงความจำเป็นของผู้นำ ที่ให้ความสำคัญกับความจริง วิทยาศาสตร์ และแนวทางแก้ปัญหาที่แท้จริง มากกว่าการเมือง นสพ. แนวหน้า 21/1/2568 https://www.naewna.com/inter/854734 การถอนสหรัฐฯ ออกจากองค์การอนามัยโลก ด้วยอำนาจที่มอบให้ผม ในฐานะประธานาธิบดีตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายของสหรัฐอเมริกา จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้: มาตรา 1 วัตถุประสงค์ สหรัฐฯ แจ้งการถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2020 เนื่องจากองค์กร จัดการกับการระบาดของ COVID-19 ได้อย่างผิดพลาด ซึ่งเกิดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และวิกฤตด้านสุขภาพทั่วโลกอื่นๆ ล้มเหลวในการปฏิรูปที่จำเป็นเร่งด่วน และไม่สามารถแสดงความเป็นอิสระ จากอิทธิพลทางการเมืองที่ไม่เหมาะสม ของประเทศสมาชิกของ WHO ได้ นอกจากนี้ WHO ยังคงเรียกร้องเงินชดเชย ที่ไม่เป็นธรรมจากสหรัฐฯ ซึ่งไม่สมดุลกับเงินชดเชย ที่ประเมินแล้วของประเทศอื่นๆ จีนซึ่งมีประชากร 1.4 พันล้านคน มีประชากร 300 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสหรัฐฯ แต่มีส่วนสนับสนุน WHO น้อยกว่าเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ มาตรา 2 การดำเนินการ (ก) สหรัฐอเมริกา มีเจตนาที่จะถอนตัว ออกจากองค์การอนามัยโลก จดหมายของประธานาธิบดี ถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021 ซึ่งเพิกถอนการแจ้งเตือน การถอนตัวของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2020 ถูกเพิกถอน (ข) คำสั่งฝ่ายบริหาร 13987 ลงวันที่ 25 มกราคม 2021 (การจัดระเบียบ และระดมพลรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพื่อให้มีการตอบสนองที่เป็นหนึ่งเดียว และมีประสิทธิผล ในการต่อสู้กับ COVID-19 และเพื่อให้สหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำด้านสุขภาพ และความมั่นคงระดับโลก) ถูกเพิกถอน (ค) ผู้ช่วยประธานาธิบดี ฝ่ายกิจการความมั่นคงแห่งชาติ จะจัดตั้งผู้อำนวยการ และกลไกการประสานงาน ภายในกลไกของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามที่เขาเห็นว่าจำเป็น และเหมาะสม เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน และเสริมสร้างความปลอดภัยทางชีวภาพ (ง) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร และงบประมาณ จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสม และรวดเร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อ: (i) ระงับการโอนเงินทุน การสนับสนุน หรือทรัพยากรของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ไปยังองค์การอนามัยโลกในอนาคต (ii) เรียกตัว และมอบหมายงานใหม่ ให้กับบุคลากร หรือผู้รับเหมาของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ทำงานในตำแหน่งใดๆ ก็ตาม กับองค์การอนามัยโลก และ (iii) ระบุพันธมิตรที่น่าเชื่อถือ และโปร่งใส ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมที่จำเป็น ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ดำเนินการไปแล้ว (จ) ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายการเตรียมพร้อม และตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของทำเนียบขาว จะต้องทบทวน ยกเลิก และเปลี่ยนกลยุทธ์ความมั่นคง ด้านสุขภาพระดับโลก ของสหรัฐอเมริกาสำหรับปี 2024 โดยเร็วที่สุด มาตรา 3 การแจ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องแจ้งให้ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ผู้รับฝากที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และผู้นำขององค์การอนามัยโลกทราบ เกี่ยวกับการถอนตัวในทันที มาตรา 4 การเจรจาเกี่ยวกับระบบทั่วโลก ในขณะที่กำลังดำเนินการถอนตัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะยุติการเจรจา เกี่ยวกับข้อตกลงการระบาดใหญ่ ขององค์การอนามัยโลก และการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ และการดำเนินการ เพื่อให้เกิดข้อตกลง และการแก้ไขดังกล่าว จะไม่มีผลผูกพันต่อสหรัฐอเมริกา มาตรา 5 บทบัญญัติทั่วไป (ก) ห้ามตีความข้อความใดๆ ในคำสั่งนี้ เพื่อทำให้เสียหาย หรือส่งผลกระทบในทางอื่นใด ต่อไปนี้: (i) อำนาจที่กฎหมายมอบให้กับฝ่ายบริหาร หรือหน่วยงาน หรือหัวหน้าหน่วยงาน หรือ (ii) หน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานจัดการ และงบประมาณที่เกี่ยวข้อง กับข้อเสนอเกี่ยวกับงบประมาณ การบริหาร หรือการออกกฎหมาย (ข) คำสั่งนี้ จะต้องนำไปปฏิบัติ ให้สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ และขึ้นอยู่กับการจัดสรรงบประมาณที่มีอยู่ (ค) คำสั่งนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์ และไม่ได้สร้างสิทธิ หรือผลประโยชน์ใดๆ ในทางเนื้อหาหรือขั้นตอน บังคับใช้ได้ตามกฎหมาย หรือในความเป็นธรรมโดยฝ่ายใดๆ ต่อสหรัฐอเมริกา หน่วยงาน หน่วยงาน หรือนิติบุคคลของสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ พนักงาน หรือตัวแทนของสหรัฐอเมริกา หรือบุคคลอื่นใด https://www.whitehouse.gov/.../withdrawing-the-united.../ ทำเนียบขาว, 20 มกราคม 2025
                0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
              • อ่านเพิ่มเติม
                หากท่านใดค้นหาข้อมูลไม่ได้ หรือไม่ขึ้นข้อมูลใด ๆ บน Story ให้ลองทำตามนี้: 1. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 2. ออกจากระบบตามวิธีตัวอย่าง แล้วเข้าสู่ระบบใหม่ 3. ลองค้นหาข้อมูลอีกครั้ง -------------------- วิธีการออกจากระบบในแอปพลิเคชัน **Thaitimes** 1. หน้าหลัก: เปิดแอปพลิเคชัน Thaitimes บนโทรศัพท์มือถือของคุณ คุณจะเห็นหน้าหลักที่แสดงเนื้อหาข่าวสารและข้อมูลต่าง ๆ 👉 มองหาปุ่ม "เมนู" ซึ่งอยู่มุมล่างขวาของหน้าจอ (ไอคอนที่มี 4 จุด) 2. เข้าสู่เมนู: เมื่อกดปุ่ม "เมนู" จะมีรายการตัวเลือกต่าง ๆ ปรากฏขึ้น 👉 เลื่อนลงจนเจอคำว่า **"ออกจากระบบ"** และแตะที่ตัวเลือกนี้ 3. ยืนยันการออกจากระบบ: หลังจากกด "ออกจากระบบ" ระบบจะถามคุณว่า "คุณต้องการออกจากระบบใช่หรือไม่?" 👉 ให้แตะที่ปุ่ม "ใช่" (ปุ่มสีเขียว) เพื่อยืนยันว่าคุณต้องการออกจากระบบ หมายเหตุ: - เมื่อออกจากระบบเรียบร้อย คุณจะต้องใส่ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านอีกครั้งหากต้องการเข้าสู่ระบบใหม่ ทำไมเกิดปัญหานี้? - บางคนยังไม่ได้ Activate Email ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาบนแอปได้ - วิธีแก้ไข: ออกจากระบบ แล้วยืนยันตัวตนใหม่ด้วย OTP ที่ส่งผ่านอีเมล หมายเหตุ :  กรณีการรับรหัส OTP ระบบจะส่งไปที่อีเมลของคุณครับ โดยมองหาอีเมลที่มาจาก ThaiTimes (ถ้าไม่เจอในกล่องข้อความ ให้ดูใน Spam หรือ ข้อความจดหมายขยะ) Line Support : @sondhitalk #Thaitimes #HowTo
                Like
                1
                0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
              • อ่านเพิ่มเติม
                ท่องเที่ยวไทยป่นปี้พินาศ จีนหวั่นไม่ปลอดภัย จนท.รัฐเอื้อจีนเทา+อุ๊งอิ๊งค์ปัดสวะข่าวปลอม . จากกรณีของ นายหวัง ซิง หรือที่เรียกว่า ซิงซิง ดาราจีนที่ถูกหลอกลวง กักขัง โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพม่า ต่อมาได้รับการช่วยเหลือจากฝ่ายไทยเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ท่านผู้ชมรู้ไหม แทนที่ประเทศไทยจะเป็นฮีโร่ที่ช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว กลับกลายเป็นกระแสคนจีนหวาดกลัวประเทศไทยไปแล้ว คนจีนยกเลิกทัวร์ช่วงตรุษจีนอย่างมากมาย คนจีนจำนวนมากเชื่อแล้วว่าเจ้าหน้าที่ไทยหลับตาข้างนึงสมคบกับจีนเทา . นักท่องเที่ยวจีนพากันยกเลิกตั๋วเครื่องบินและแผนการมาเที่ยวไทยคิดเป็นสัดส่วนอย่างน้อยเกือบๆ 30% ของยอดจอง ประเมินว่าประเทศไทยจะสูญเสียรายได้ถึง 5,000 ล้านบาท ยอดการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยในแพลตฟอร์มของจีนลดลงมากกว่า 40% . แม้ว่านางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการออกจดหมายภาษาจีนเผยแพร่ไปในสื่อสังคมออนไลน์จีนเมื่อวันเสาร์11ม.ค. โดยใช้วาทะยอดนิยม ไม่เคยเบื่อที่จะใช้ ว่า "จีน-ไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" แต่ว่าคนจีนเห็นว่า ในแต่ละปีชาวจีนหลายหมื่นคนถูกล่อลวงโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีต้นทาง โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน . ขณะที่อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ก็ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับชาวบ้านเขา ไม่เข้าใจปัญหาเชิงระบบ มิหนำซ้ำยังทะลึ่งออกมาบอกว่าเป็นความเข้าใจผิด ข่าวปลอม คือไม่รู้เลยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ปัดสวะบอกว่าเป็นข่าวปลอม . คุณอุ๊งอิ๊งค์ครับ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องความเข้าใจผิดหรือข่าวปลอมแต่อย่างใด เพราะเป็นปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทุนจีนสีเทาที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน และเป็นฐานในการหลอกลวงพวกเดียวกันเอง รวมทั้งคนไทย ชาติไทย ชาติอื่น ประเทศไทยถูกมองว่าเป็นเส้นทางการค้ามนุษย์ของขบวนการหลอกลวง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง คุณอุ๊งอิ๊งค์ นี่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง เป็นระบบ ผมเห็นใจท่าน สงสารท่าน และสมนำหน้าท่านด้วย พูดอะไรไม่คิดเลย ถ้าท่านบอกว่าท่านจะลงไปแก้ไขที่ระบบพวกนี้ ยังน่าฟังหน่อย ท่านพูดลอยๆ อีก 6 เดือน จบแน่นอน คอลเซ็นเตอร์ . แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านล้วนใช้อินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า เส้นทางการเงินจากประเทศไทย การปัดสวะให้พ้นตัว อ้างว่าจีนหลอกจีน เหมือนเหตุเรือล่มที่ภูเก็ตเมื่อปี 2561ที่พล.อ.ประวิตร ต้องออกมาขอโทษในที่สุด . ประชาชนชาวจีนยังโยงข่าวที่ประชุม ครม. อนุมัติร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ รวมทั้งนายกฯ ตัวจริง ทักษิณ ชินวัตร คุยโวโอ้อวดว่าจะทำให้การท่องเที่ยวเจริญเติบโตมาก และ GDP จะสูงมาก แต่ชาวจีนกลับวิจารณ์ว่า มีบ่อนการพนันถูกกฎหมายจะยิ่งทำให้ประเทศไทยน่ากลัวมากขึ้น . คุณอุ๊งอิ๊งค์ครับ คุณภูมิธรรมครับ และท่านนายกฯ ตัวจริงครับ ทักษิณ ชินวัตร ท่านหยุดบ้าบอคอแตกเรื่องเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สักพักได้มั้ย ท่านมาสัมผัสความเป็นจริงหน่อย รัฐบาลไทยต้องคุยกับจีน พม่า กองกำลังกะเหรี่ยงที่คุมแถวเมียวดี แม่สอด ฉ่วยก๊กโก ว่าจะปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินต่อไปอย่างนี้ไม่ได้ เพราะประเทศไทยได้รับความเสียหาย เสียชื่อ . สรุป ประเทศไทยไม่สามารถจะปัดความรับผิดชอบได้ว่าขบวนการอาชญากรรมอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ได้อยู่ในบ้านเรา เพราะว่าประเทศไทยและคนไทยก็รับเคราะห์เช่นเดียวกัน การตัดรากถอนโคนปัญหา ถึงจะเป็นการกอบกู้ชื่อเสียงให้คนไทยได้ดีที่สุด และปกป้องคนไทยเองด้วย . เวลาคนจีนนั่งเครื่องมาไทยต้องได้รับการแจกใบปลิว 2-3 หน้า ให้ความรู้เรื่องขบวนการจีนเทาหลอกว่าจะได้เงิน อย่าไปเชื่อ เพราะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนไม่ค่อยดีเหมือนแต่ก่อน ทำให้คนมีความหวัง มาขุดทองในภูมิภาคนี้มาก แต่หลายคนกลับเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ . ตำรวจ และ ตม. ต้องจัดการจีนเทาเด็ดขาด จีนเทาอยู่ได้ในประเทศไทยเพราะตำรวจ พวกที่ซื้อบ้านแถวนั้นรอรับแขกแถวชายแดน พวกตำรวจภูธรภาค 6 กับพวกผู้กำกับแม่สอด นั่นล่ะตัวดี
                Love
                1
                0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 675 มุมมอง 0 รีวิว
              • อ่านเพิ่มเติม
                อิตามาร์ เบน-กวีร์ (Itamar Ben-Gvir) รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอล หัวหน้าพรรค Otzma Yehudit ประกาศลาออกจากคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู นอกจาก เบน-กวีร์ แล้ว ยังมีรัฐมนตรีอีก 2 คนจากพรรคเดียวกัน ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมรดก (Heritage Minister) และ รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาพื้นที่รอบนอก เนเกฟ และกาลิลี (The Ministry for the Development of the Periphery, the Negev and the Galilee) ประกาศลาออกในครั้งนี้ด้วย ทั้งหมดได้ยื่นจดหมายลาออกต่อเนทันยาฮูเรียบร้อยแล้ว และออกแถลงการณ์ว่า "นับจากนี้เป็นต้นไป พรรค Otzma Yehudit จะไม่เป็นสมาชิกของพรรคร่วมรัฐบาลอีกต่อไป" ในแถลงการณ์ของเบน กวีร์ยังระบุอีกว่า การทำข้อตกลงหยุดยิงถือเป็น “ชัยชนะที่สมบูรณ์ของกลุ่มก่อการร้าย” อย่างไรก็ตาม เบน กวีร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เขาจะกลับมาร่วมรัฐบาลหากสงครามยังคงดำเนินต่อไป
                Like
                3
                0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
              • อ่านเพิ่มเติม
                บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่ง เช่น Apple, Google, Microsoft, Meta, Amazon, OpenAI และ Uber กำลังถูกตั้งคำถามจากวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เกี่ยวกับการบริจาคเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Donald Trump! วุฒิสมาชิก Elizabeth Warren และ Michael Bennet กำลังสงสัยว่าการบริจาคเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อ "ซื้อความโปรดปราน" จากรัฐบาลใหม่หรือไม่ การบริจาคเงินจำนวนมากนี้ทำให้เกิดความสงสัย เนื่องจากเงินที่บริจาคให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Trump สูงกว่าที่บริจาคให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Biden อย่างมาก ตัวอย่างเช่น Apple บริจาคเงินให้กับการเข้ารับตำแหน่งของ Trump ถึง 23 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาคให้กับ Biden นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่าผู้บริหารบางคน เช่น Mark Zuckerberg จาก Meta ได้พบกับ Donald Trump และจัดงานเลี้ยงฉลองการเข้ารับตำแหน่งของเขา วุฒิสมาชิก Warren และ Bennet ได้ส่งจดหมายถึงบริษัทเหล่านี้เพื่อขอคำอธิบายเกี่ยวกับการบริจาคเงินจำนวนมากนี้ https://wccftech.com/us-senators-are-questioning-apple-google-microsoft-others-over-the-1-million-trump-donation/
                WCCFTECH.COM
                Apple, Google, Microsoft and Others Are Under The Prying Eyes Of U.S. Senators For Their $1 Million Donations To Trump’s Inauguration, Seemingly To ‘Buy Favor’
                Two U.S. senators are questioning why technology giants like Apple, Google and Microsoft donating high amounts to the Trump administration
                0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
              • อ่านเพิ่มเติม
                "รถบรรทุกชนิด รถตู้ใหญ่ Covered Goods อักษรย่อ ต.ญ. C.G. เลขที่ ๑๓๒๖ รถรุ่นนี้ได้ติดตั้งเครื่องห้ามล้อลมดูดไว้ โดยแสดงเครื่องหมาย"ดาวสีขาว"ไว้ข้างรถ" กรมรถไฟนำมาใช้ในราชการเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๘ ราคาขึ้นทะเบียนสินทรัพย์ ๒๘,๔๕๓.๓๕ บาท ถ่ายโดยช่างภาพกรมรถไฟ ................................. ภาพจาก : สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
                0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 422 มุมมอง 0 รีวิว
              • อ่านเพิ่มเติม
                ญี่ปุ่น 4 : รถจิ๋ว Kei car ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่น คงจะสะดุดตาและชอบใจกับรถคันจิ๋วๆทรงกล่องที่วิ่งขวักไขว่ไปมาอยู่ตามท้องถนนนะครับ รถจิ๋วเหล่านี้มีชื่อว่า Kei car ครับเป็นรถขนาดประหยัดที่คนญี่ปุ่นเขาเอาไปพลิกแพลงใช้งานหลากหลาย ทั้งใช้เป็นรถส่วนตัว รถขนของ รถบรรทุกจิ๋ว หรือบางคนเอาไปทำเป็นรถแคมปิ้งก็มี จุดสังเกตง่ายๆคือ ป้ายทะเบียนรถ Kei car จะเป็นสีเหลืองครับ Kei นั้นเป็นคำย่อมาจากภาษาญี่ปุ่นว่า Kei-jidosha แปลว่า ”รถยนต์ขนาดเล็ก“ ตรงๆตัวเลยครับ รถ Kei car นี้มีจุดเริ่มต้นในปี 1949 อันเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 มาหมาดๆ รัฐบาลญี่ปุ่นในตอนนั้นได้ดำริว่า “เราจะต้องรื้อฟื้นอุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาให้ได้โดยเร็ว“ ว่าแล้วก็ออกประกาศว่า ถ้าผู้ผลิตรถยนต์เจ้าไหนสร้างรถยนต์ที่ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 150 ซีซีขึ้นมา รัฐบาลจะช่วยอุดหนุน แถมยังว่าหากประชาชนคนไหนซื้อไปใช้ จะลดภาษี ลดค่าประกันภัยให้ด้วย ทำไปทำมาปรากฏว่าขายดิบขายดี คนญี่ปุ่นชอบมาก เพราะถูกจริตกับการใช้งานในธุรกิจย่อมๆในเมืองและราคาสบายกระเป๋า ต่อมารัฐบาลญี่ปุ่นเขาก็ได้เพิ่มขนาดเครื่องยนต์สำหรับรถ Kei ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันคือสูงสุดที่ 660 ซีซี รถ Kei car นี้มียอดขายแซงหน้ารถประเภทอื่นๆมายาวนานหลายปี ว่ากันว่า Kei car นั้นมีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในญี่ปุ่นถึง 30-40% เลยเชียว แม้ตอนนี้รัฐบาลจะไม่ได้อุดหนุน Kei car เหมือนแต่ก่อนแล้ว Kei car ก็ยังคงขายดีเช่นเดิม Kei car รุ่นยอดนิยมตลอดกาลก็คือ ฮอนด้า N-box ครับ สำหรับของยี่ห้ออื่นก็มีไดฮัทสุ Tanto, ซูซูกิ Spacia และอีกมากมายหลายรุ่น . . . การพัฒนาล่าสุดของรถ Kei car ก็คือ เขาพัฒนาขึ้นมาเป็นรถไฟฟ้าด้วย ซึ่งก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความจิ๋วไว้เช่นเดิมทุกประการ รถไฟฟ้าจิ๋วที่โด่งดังก็คือ นิสสันรุ่นซากุระ (Sakura) ครับ ใช้แบตเตอรี่ขนาด 20 กิโลวัตต์ ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ไกลสุด 160 กม. และที่ผมเพิ่งเห็นเมื่อวานนี้ก็คือ รถไฟฟ้าจิ๋วยี่ห้อมิตซูบิชิที่เขาผลิตขึ้นมาสำหรับไปรษณีย์ญี่ปุ่น (Japan Post) ครับ ทำออกมาเป็นสีแดงสวยงาม เอาไว้วิ่งส่งพัสดุและจดหมายได้คล่องตัวดี ทีนี้ผู้อ่านบางท่านคงเกิดคำถามว่า “แล้วทำไมญี่ปุ่นไม่ส่ง Kei car ออกไปทำตลาดต่างประเทศบ้าง?” คำตอบมีสองประการครับคือ หนึ่ง… รถ Kei car นี้ทำกำไรไม่มาก ไม่คุ้มกับการทำการตลาด สอง… ในบางประเทศเช่น อเมริกาและออสเตรเลีย เขาบอกว่ารถ Kei car นั้นไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศเขา ก็เลยไม่อนุญาตให้ญี่ปุ่นเอาเข้าไปขาย สำหรับผมแล้ว ชอบ Kei car มากๆเลยครับ ถ้าคนไทยคนไหนอยากริเริ่มผลิตรถจิ๋วๆขึ้นมา ผมว่าคงมีคนซื้อไม่น้อยเลย นัทแนะ
                0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
              Pages Boosts