• หมากนี้ใครๆก็ดูออก,ตู่เป็นบ๋อยโทนี่,หนูบ๋อยตู่สั่งไปคุ้มสาธาตอนฉีดตายโควิดให้คนไทย ไม่ใช่เด็กตนเองจะสั่งไปทำงานสำคัญไม่ได้แบบฉีดวัคซีนลดประชากรไทย,ตู่สั่งส้มหนุนหนู สั่งแดงไปใช้ปากอยู่ฝ่ายค้าน ,โทนี่พอใจตู่มากเลยไปพักผ่อนที่ดูไบสบายๆก่อน,
    ..สรุป เหี้ยทั้งนั้น.เดอะแก๊งเดียวกันหมด ฝันเลยจะยกเลิกmou43,44,tor46,อาจเป็นมุกหาเสียงทางการเมืองในอนาคต อาจอ้างสั่งหยุดยิงก่อนเวลาไม่พอ ถ้าต่ออายุต่อเวลาออกไปอีก อาจยกเลิกmou43,44,tor46และอื่นๆทั้งหมดกับเขมรได้ทัน,แล้วประชาชนก็จะถามว่า ระหว่างก่อนถึง4เดือนทำห่าอะไรอยู่ แบบบ้านหนองจาน24-28ก.ค.68ก่อนหยุดยิงทำห่าอะไรอยู่ทำไมไม่ถีบเขมร รื้อบ้านเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดให้หมด.
    ..โหรแปลกๆนะ อวยว่าตนทายถูกเพื่อ?
    ..4เดือนนี้ มาดูว่าจะปาหี่ แสดงอะไร เรื่องอะไรได้บ้าง.
    ..ไม่แน่นะ บ่อนคาสิโนทำไม่สำเร็จในยุคอุ๊งอิ๊งอาจสำเร็จภายใน4เดือนนี้ก็ได้,ส้มหนุนอยู่แล้วนี้ แหล่งสร้างตังมันว่า,ดูเหี้ยทางไหนมีแต่ชาติพังพินาศ เจ้ามือร่ำรวยมหาศาลทั้งพนันออนไลน์และออฟไลน์อีก,ใบอนุญาตประกอบการในเมืองไทยได้มาแล้ว ,ดูมือถือเลย,เจ้าของค่ายเหี้ยร่ำรวย แดกตังคนไทยเป็นว่าเล่น,เน็ตจริงๆสมควรฟรีทั่วไทยได้แล้ว,ใช้เน็ตฟรีได้ต้องเป็นมือถือควอนตัมเฉพาะคนไทยเข้ารหัสเครื่องใครมันด้วยระบบยืนยันDNAก็ว่า,เรากากจริงๆ ทุจริตโกงกินเต็มประเทศมิอาจอัพเลเวลได้เลยจากนักการเมืองและข้าราชการชั่วเลวมากมายเหล่านี้เต็มบ้านเต็มเมืองเกินไป,เคสกรณีศึกษาที่ดีคือบ้านหนองจานนี้เอง,ศาลทหารมิอาจเข้าลงโทษอดีตนายพลชั่วเลวฝ่ายทหารตนเองได้เลย,หน่วยข่าวกรองทหารสายทหารสืบสวนรับรู้ค่าจริงในเป็นอย่างไรหมดล่ะ,แต่ไม่จัดการต้นเหตุปัญหาจากภายในตนเองจริงใดๆเลย,กรณีบ้านหนองจานคือจุดด่างเลวชั่วของวิถีทหารชั่วเลวภายในกองทัพไทยเราได้ดี,สะท้อนชั่วเลวทหารไทยและข้าราชการไทยที่เลวชั่วได้ดี.



    https://youtube.com/watch?v=sKysrmof-Jo&si=N_OLQh6FENNiWqQhhttps://youtube.com/watch?v=sKysrmof-Jo&si=N_OLQh6FENNiWqQh
    หมากนี้ใครๆก็ดูออก,ตู่เป็นบ๋อยโทนี่,หนูบ๋อยตู่สั่งไปคุ้มสาธาตอนฉีดตายโควิดให้คนไทย ไม่ใช่เด็กตนเองจะสั่งไปทำงานสำคัญไม่ได้แบบฉีดวัคซีนลดประชากรไทย,ตู่สั่งส้มหนุนหนู สั่งแดงไปใช้ปากอยู่ฝ่ายค้าน ,โทนี่พอใจตู่มากเลยไปพักผ่อนที่ดูไบสบายๆก่อน, ..สรุป เหี้ยทั้งนั้น.เดอะแก๊งเดียวกันหมด ฝันเลยจะยกเลิกmou43,44,tor46,อาจเป็นมุกหาเสียงทางการเมืองในอนาคต อาจอ้างสั่งหยุดยิงก่อนเวลาไม่พอ ถ้าต่ออายุต่อเวลาออกไปอีก อาจยกเลิกmou43,44,tor46และอื่นๆทั้งหมดกับเขมรได้ทัน,แล้วประชาชนก็จะถามว่า ระหว่างก่อนถึง4เดือนทำห่าอะไรอยู่ แบบบ้านหนองจาน24-28ก.ค.68ก่อนหยุดยิงทำห่าอะไรอยู่ทำไมไม่ถีบเขมร รื้อบ้านเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดให้หมด. ..โหรแปลกๆนะ อวยว่าตนทายถูกเพื่อ? ..4เดือนนี้ มาดูว่าจะปาหี่ แสดงอะไร เรื่องอะไรได้บ้าง. ..ไม่แน่นะ บ่อนคาสิโนทำไม่สำเร็จในยุคอุ๊งอิ๊งอาจสำเร็จภายใน4เดือนนี้ก็ได้,ส้มหนุนอยู่แล้วนี้ แหล่งสร้างตังมันว่า,ดูเหี้ยทางไหนมีแต่ชาติพังพินาศ เจ้ามือร่ำรวยมหาศาลทั้งพนันออนไลน์และออฟไลน์อีก,ใบอนุญาตประกอบการในเมืองไทยได้มาแล้ว ,ดูมือถือเลย,เจ้าของค่ายเหี้ยร่ำรวย แดกตังคนไทยเป็นว่าเล่น,เน็ตจริงๆสมควรฟรีทั่วไทยได้แล้ว,ใช้เน็ตฟรีได้ต้องเป็นมือถือควอนตัมเฉพาะคนไทยเข้ารหัสเครื่องใครมันด้วยระบบยืนยันDNAก็ว่า,เรากากจริงๆ ทุจริตโกงกินเต็มประเทศมิอาจอัพเลเวลได้เลยจากนักการเมืองและข้าราชการชั่วเลวมากมายเหล่านี้เต็มบ้านเต็มเมืองเกินไป,เคสกรณีศึกษาที่ดีคือบ้านหนองจานนี้เอง,ศาลทหารมิอาจเข้าลงโทษอดีตนายพลชั่วเลวฝ่ายทหารตนเองได้เลย,หน่วยข่าวกรองทหารสายทหารสืบสวนรับรู้ค่าจริงในเป็นอย่างไรหมดล่ะ,แต่ไม่จัดการต้นเหตุปัญหาจากภายในตนเองจริงใดๆเลย,กรณีบ้านหนองจานคือจุดด่างเลวชั่วของวิถีทหารชั่วเลวภายในกองทัพไทยเราได้ดี,สะท้อนชั่วเลวทหารไทยและข้าราชการไทยที่เลวชั่วได้ดี. https://youtube.com/watch?v=sKysrmof-Jo&si=N_OLQh6FENNiWqQhhttps://youtube.com/watch?v=sKysrmof-Jo&si=N_OLQh6FENNiWqQh
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Pentium 4 ถึง Software Defined Super Core: เมื่อ Intel หยิบเทคนิคเก่า มาปรับใหม่เพื่ออนาคตของ CPU

    Intel ได้จดสิทธิบัตรใหม่ชื่อว่า “Software Defined Super Core” ซึ่งเป็นแนวคิดที่รวมคอร์จริงหลายตัวให้กลายเป็นคอร์เสมือนเดียวในสายตาของระบบปฏิบัติการ โดยคอร์ที่รวมกันจะทำงานแบบขนานก่อนจะจัดเรียงคำสั่งใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงานแบบ single-thread โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดคอร์หรือความเร็วสัญญาณนาฬิกา

    แนวคิดนี้คล้ายกับ “inverse hyper-threading” ที่เคยทดลองในยุค Pentium 4 แต่ถูกปรับให้ทันสมัยขึ้น โดยใช้ shared memory และ synchronization module ขนาดเล็กในแต่ละคอร์ พร้อมพื้นที่หน่วยความจำพิเศษชื่อ wormhole address space เพื่อจัดการการส่งข้อมูลระหว่างคอร์

    ในทางปฏิบัติ ระบบปฏิบัติการจะต้องตัดสินใจว่า workload ใดควรใช้โหมด super core ซึ่งอาจทำให้การจัดตารางงานซับซ้อนขึ้น และต้องการการสนับสนุนจาก compiler หรือ binary instrumentation เพื่อแบ่งโค้ดและใส่คำสั่งควบคุม flow

    Intel หวังว่าแนวทางนี้จะช่วยเพิ่ม performance-per-watt โดยเฉพาะในงานที่ต้องการประสิทธิภาพแบบ single-thread เช่น AI inference, mining, หรือ simulation ที่ไม่สามารถกระจายงานได้ดีบน multicore แบบเดิม

    แม้จะยังไม่มีข้อมูล benchmark ที่ชัดเจน แต่แนวคิดนี้อาจเป็นทางเลือกใหม่ที่ไม่ต้องพึ่ง brute-force แบบเพิ่มจำนวนคอร์หรือขยายขนาด cache เหมือนที่ AMD และ Apple ใช้ในปัจจุบัน

    แนวคิด Software Defined Super Core ของ Intel
    รวมคอร์จริงหลายตัวให้กลายเป็นคอร์เสมือนเดียว
    ทำงานแบบขนานก่อนจัดเรียงคำสั่งใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    ใช้ shared memory และ synchronization module ภายในคอร์

    จุดต่างจากเทคนิคเดิม
    คล้าย inverse hyper-threading แต่ปรับให้ทันสมัย
    ต่างจาก AMD ที่ใช้ Clustered Multi-Threading โดยแบ่งคอร์เป็นโมดูล
    มีการใช้ wormhole address space เพื่อจัดการข้อมูลระหว่างคอร์

    การใช้งานและความคาดหวัง
    เหมาะกับงาน single-thread ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
    หวังว่าจะเพิ่ม performance-per-watt โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดคอร์
    อาจใช้ในงาน AI inference, simulation, หรือ mining

    ข้อกำหนดด้านซอฟต์แวร์
    ต้องการ compiler หรือ binary instrumentation เพื่อแบ่งโค้ด
    ระบบปฏิบัติการต้องจัดการ scheduling ให้เหมาะกับโหมด super core
    ต้องการการสนับสนุนจาก ecosystem ทั้ง hardware และ software

    https://www.techradar.com/pro/is-it-a-bird-is-it-a-plane-no-its-super-core-intels-latest-patent-revives-ancient-anti-hyperthreading-cpu-technique-in-attempt-to-boost-processor-performance-but-will-it-be-enough
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Pentium 4 ถึง Software Defined Super Core: เมื่อ Intel หยิบเทคนิคเก่า มาปรับใหม่เพื่ออนาคตของ CPU Intel ได้จดสิทธิบัตรใหม่ชื่อว่า “Software Defined Super Core” ซึ่งเป็นแนวคิดที่รวมคอร์จริงหลายตัวให้กลายเป็นคอร์เสมือนเดียวในสายตาของระบบปฏิบัติการ โดยคอร์ที่รวมกันจะทำงานแบบขนานก่อนจะจัดเรียงคำสั่งใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงานแบบ single-thread โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดคอร์หรือความเร็วสัญญาณนาฬิกา แนวคิดนี้คล้ายกับ “inverse hyper-threading” ที่เคยทดลองในยุค Pentium 4 แต่ถูกปรับให้ทันสมัยขึ้น โดยใช้ shared memory และ synchronization module ขนาดเล็กในแต่ละคอร์ พร้อมพื้นที่หน่วยความจำพิเศษชื่อ wormhole address space เพื่อจัดการการส่งข้อมูลระหว่างคอร์ ในทางปฏิบัติ ระบบปฏิบัติการจะต้องตัดสินใจว่า workload ใดควรใช้โหมด super core ซึ่งอาจทำให้การจัดตารางงานซับซ้อนขึ้น และต้องการการสนับสนุนจาก compiler หรือ binary instrumentation เพื่อแบ่งโค้ดและใส่คำสั่งควบคุม flow Intel หวังว่าแนวทางนี้จะช่วยเพิ่ม performance-per-watt โดยเฉพาะในงานที่ต้องการประสิทธิภาพแบบ single-thread เช่น AI inference, mining, หรือ simulation ที่ไม่สามารถกระจายงานได้ดีบน multicore แบบเดิม แม้จะยังไม่มีข้อมูล benchmark ที่ชัดเจน แต่แนวคิดนี้อาจเป็นทางเลือกใหม่ที่ไม่ต้องพึ่ง brute-force แบบเพิ่มจำนวนคอร์หรือขยายขนาด cache เหมือนที่ AMD และ Apple ใช้ในปัจจุบัน ✅ แนวคิด Software Defined Super Core ของ Intel ➡️ รวมคอร์จริงหลายตัวให้กลายเป็นคอร์เสมือนเดียว ➡️ ทำงานแบบขนานก่อนจัดเรียงคำสั่งใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ ใช้ shared memory และ synchronization module ภายในคอร์ ✅ จุดต่างจากเทคนิคเดิม ➡️ คล้าย inverse hyper-threading แต่ปรับให้ทันสมัย ➡️ ต่างจาก AMD ที่ใช้ Clustered Multi-Threading โดยแบ่งคอร์เป็นโมดูล ➡️ มีการใช้ wormhole address space เพื่อจัดการข้อมูลระหว่างคอร์ ✅ การใช้งานและความคาดหวัง ➡️ เหมาะกับงาน single-thread ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ➡️ หวังว่าจะเพิ่ม performance-per-watt โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดคอร์ ➡️ อาจใช้ในงาน AI inference, simulation, หรือ mining ✅ ข้อกำหนดด้านซอฟต์แวร์ ➡️ ต้องการ compiler หรือ binary instrumentation เพื่อแบ่งโค้ด ➡️ ระบบปฏิบัติการต้องจัดการ scheduling ให้เหมาะกับโหมด super core ➡️ ต้องการการสนับสนุนจาก ecosystem ทั้ง hardware และ software https://www.techradar.com/pro/is-it-a-bird-is-it-a-plane-no-its-super-core-intels-latest-patent-revives-ancient-anti-hyperthreading-cpu-technique-in-attempt-to-boost-processor-performance-but-will-it-be-enough
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากบทความถึงการบอยคอต: เมื่อความพยายามควบคุมข้อมูลกลายเป็นสงครามกับความเป็นกลาง

    ในช่วงปลายปี 2024 ถึงต้นปี 2025 Elon Musk ได้เปิดฉากโจมตี Wikipedia อย่างเปิดเผย โดยเริ่มจากโพสต์บน X (Twitter) ที่เรียกร้องให้ผู้ติดตามกว่า 200 ล้านคน “หยุดบริจาคให้ Wokepedia” พร้อมกล่าวหาว่า Wikipedia มีอคติทางการเมือง และควร “คืนความสมดุลให้กับอำนาจการแก้ไข”

    การโจมตีนี้เกิดขึ้นหลังจาก Wikipedia อัปเดตหน้าประวัติของ Musk โดยเพิ่มเนื้อหาที่กล่าวถึงท่าทางของเขาในงานสุนทรพจน์ของ Donald Trump ซึ่งบางคนตีความว่าเป็น “ท่าทางแบบนาซี” แม้จะไม่มีการยืนยันเจตนา แต่การกล่าวถึงในบทความก็เพียงพอให้ Muskโกรธและเริ่มรณรงค์ต่อต้าน Wikipedia อย่างจริงจัง

    บทความใน Wikipedia Signpost และรายงานจาก Newsweek ระบุว่า Musk ไม่ได้โจมตี Wikipedia เพียงลำพัง แต่ร่วมมือกับนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวา เช่น Chaya Raichik (Libs of TikTok) ที่โพสต์ภาพงบประมาณของ Wikimedia Foundation พร้อมกล่าวหาว่าองค์กรใช้เงิน $50 ล้านไปกับ “diversity, equity, and inclusion” ซึ่งกลายเป็นเป้าหมายของฝ่ายขวาในสหรัฐฯ

    Jimmy Wales ผู้ก่อตั้ง Wikipedia ตอบโต้ทันที โดยโพสต์ว่า “Elon ไม่พอใจที่ Wikipedia ไม่สามารถซื้อได้” และหวังว่าการรณรงค์ของ Musk จะกระตุ้นให้คนที่เชื่อในความจริงบริจาคมากขึ้น Wales ยังย้ำว่า Wikipedia ยึดหลักความเป็นกลาง และเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ไขอย่างโปร่งใส

    ในขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น X ภายใต้การนำของ Musk กำลังลดการควบคุมเนื้อหาและเปิดทางให้ข้อมูลเท็จแพร่กระจาย Wikipedia ยังคงรักษามาตรฐานการตรวจสอบและการอ้างอิงอย่างเข้มงวด แม้จะถูกโจมตีจากหลายฝ่าย

    การโจมตี Wikipedia โดย Elon Musk
    Musk เรียกร้องให้ผู้ติดตาม “หยุดบริจาคให้ Wokepedia”
    โจมตีเนื้อหาที่กล่าวถึงท่าทางของเขาในงานของ Trump
    ร่วมมือกับนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาในการโจมตีงบประมาณของ Wikimedia

    การตอบโต้จาก Wikipedia
    Jimmy Wales ยืนยันว่า Wikipedia ไม่สามารถซื้อได้
    ย้ำหลักความเป็นกลางและการเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วม
    หวังว่าการโจมตีจะกระตุ้นให้คนที่เชื่อในความจริงบริจาคมากขึ้น

    บริบททางการเมืองและสื่อ
    Wikipedia ถูกมองว่าเป็น “ปราการสุดท้าย” ของข้อมูลที่ไม่ถูกควบคุม
    X ภายใต้ Musk ลดการควบคุมเนื้อหาและเปิดทางให้ข้อมูลเท็จ
    ความขัดแย้งสะท้อนถึงแนวโน้มการแบ่งขั้วในสื่อดิจิทัล

    ความสำคัญของ Wikipedia ในยุคข้อมูล
    เป็นแหล่งข้อมูลที่มีผู้เข้าชมหลายล้านคนต่อวัน
    ใช้ระบบอ้างอิงและการตรวจสอบจากชุมชนอาสาสมัคร
    ยังคงเป็นแหล่งข้อมูลที่ได้รับความเชื่อถือในระดับโลก

    https://www.theverge.com/cs/features/717322/wikipedia-attacks-neutrality-history-jimmy-wales
    🎙️ เรื่องเล่าจากบทความถึงการบอยคอต: เมื่อความพยายามควบคุมข้อมูลกลายเป็นสงครามกับความเป็นกลาง ในช่วงปลายปี 2024 ถึงต้นปี 2025 Elon Musk ได้เปิดฉากโจมตี Wikipedia อย่างเปิดเผย โดยเริ่มจากโพสต์บน X (Twitter) ที่เรียกร้องให้ผู้ติดตามกว่า 200 ล้านคน “หยุดบริจาคให้ Wokepedia” พร้อมกล่าวหาว่า Wikipedia มีอคติทางการเมือง และควร “คืนความสมดุลให้กับอำนาจการแก้ไข” การโจมตีนี้เกิดขึ้นหลังจาก Wikipedia อัปเดตหน้าประวัติของ Musk โดยเพิ่มเนื้อหาที่กล่าวถึงท่าทางของเขาในงานสุนทรพจน์ของ Donald Trump ซึ่งบางคนตีความว่าเป็น “ท่าทางแบบนาซี” แม้จะไม่มีการยืนยันเจตนา แต่การกล่าวถึงในบทความก็เพียงพอให้ Muskโกรธและเริ่มรณรงค์ต่อต้าน Wikipedia อย่างจริงจัง บทความใน Wikipedia Signpost และรายงานจาก Newsweek ระบุว่า Musk ไม่ได้โจมตี Wikipedia เพียงลำพัง แต่ร่วมมือกับนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวา เช่น Chaya Raichik (Libs of TikTok) ที่โพสต์ภาพงบประมาณของ Wikimedia Foundation พร้อมกล่าวหาว่าองค์กรใช้เงิน $50 ล้านไปกับ “diversity, equity, and inclusion” ซึ่งกลายเป็นเป้าหมายของฝ่ายขวาในสหรัฐฯ Jimmy Wales ผู้ก่อตั้ง Wikipedia ตอบโต้ทันที โดยโพสต์ว่า “Elon ไม่พอใจที่ Wikipedia ไม่สามารถซื้อได้” และหวังว่าการรณรงค์ของ Musk จะกระตุ้นให้คนที่เชื่อในความจริงบริจาคมากขึ้น Wales ยังย้ำว่า Wikipedia ยึดหลักความเป็นกลาง และเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ไขอย่างโปร่งใส ในขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น X ภายใต้การนำของ Musk กำลังลดการควบคุมเนื้อหาและเปิดทางให้ข้อมูลเท็จแพร่กระจาย Wikipedia ยังคงรักษามาตรฐานการตรวจสอบและการอ้างอิงอย่างเข้มงวด แม้จะถูกโจมตีจากหลายฝ่าย ✅ การโจมตี Wikipedia โดย Elon Musk ➡️ Musk เรียกร้องให้ผู้ติดตาม “หยุดบริจาคให้ Wokepedia” ➡️ โจมตีเนื้อหาที่กล่าวถึงท่าทางของเขาในงานของ Trump ➡️ ร่วมมือกับนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาในการโจมตีงบประมาณของ Wikimedia ✅ การตอบโต้จาก Wikipedia ➡️ Jimmy Wales ยืนยันว่า Wikipedia ไม่สามารถซื้อได้ ➡️ ย้ำหลักความเป็นกลางและการเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วม ➡️ หวังว่าการโจมตีจะกระตุ้นให้คนที่เชื่อในความจริงบริจาคมากขึ้น ✅ บริบททางการเมืองและสื่อ ➡️ Wikipedia ถูกมองว่าเป็น “ปราการสุดท้าย” ของข้อมูลที่ไม่ถูกควบคุม ➡️ X ภายใต้ Musk ลดการควบคุมเนื้อหาและเปิดทางให้ข้อมูลเท็จ ➡️ ความขัดแย้งสะท้อนถึงแนวโน้มการแบ่งขั้วในสื่อดิจิทัล ✅ ความสำคัญของ Wikipedia ในยุคข้อมูล ➡️ เป็นแหล่งข้อมูลที่มีผู้เข้าชมหลายล้านคนต่อวัน ➡️ ใช้ระบบอ้างอิงและการตรวจสอบจากชุมชนอาสาสมัคร ➡️ ยังคงเป็นแหล่งข้อมูลที่ได้รับความเชื่อถือในระดับโลก https://www.theverge.com/cs/features/717322/wikipedia-attacks-neutrality-history-jimmy-wales
    WWW.THEVERGE.COM
    Wikipedia is under attack — and how it can survive
    The site’s volunteers face threats from Trump, billionaires, and AI.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • น่าจะเอาไอ้เหี้ยสองตัวนี้ไปเดินรอบๆตาควายนะ,ไปสัมผัสกับระเบิดที่ทหารเขมรมันวางไว้,เหน็บแม่ทัพภาค.2ที่ทำคุณงามความดีต่อชาติบ้านเมืองแบบนี้ เสียดายมันสมองความรู้กระแดะภาษาฝรั่งอวยโชว์สกิล ,มิสมควรอย่างยิ่ง,เห็นต่างได้ แต่มันผิดและต่างจากค่าจริงเกิน,ไม่ต่างจากสันดานเขมรที่มืดบอดในจิตในใจ,ที่คนไทยเห็นๆสภาพความคิดอ่านมัน,ใครสนับสนุนช่องมัน อุดหนุนช่องมันหากไงมีสติคิดอ่านดี รู้ผิดชั่ว คนแบบใดสันดานแบบใดสมควรส่งเสริมก็พิจารณาเอานะ,พวกนี้อาจต้องตรวจสอบกระแสเงินสด ช่องทางรายได้ ธุรกิจเครือญาติมันทั้งหมด ร่ำรวยอะไรมา มาอยู่ไทย ใครส่งมาก่อกวน อเมริกาให้เงินสนับสนุนเปิดช่องแบบหลายๆช่องสื่อหลายๆองค์กรที่เป็นบ่อนทำลายไทย สร้างความแตกแยกในประเทศด้วยหรือไม่,ปากกล้าหาญแบบนี้มีใบสั่งให้ทำลายภาพลักษณ์แม่ทัพกุ้งแน่นอน,เชื่อมโยงกับเดอะแก๊งสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์มั้ย,กิจการในเครือญาติฟอกเงินจนร่ำรวยมั้ย,ฮุนเซนสั่งมาทำลายแม่ทัพกุ้งมั้ย,หาแสงแบบนี้ไม่ธรรมดา,ใครคนไทยคนไหนค้าขายซื้อขายใช้บริการตระกูลนี้ อย่าไปซื้อไปอุดหนุนมันอีกเลย,ปิดด่านปิดช่องหาแดกมัน จากนั้นเราอาจจะรู้ชัดเจนว่า มันรับตังจากใครมา เสือกไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจกิจการมีตังใช้จ่ายสบายด่าเหน็บใครเป็นว่าเล่นได้ตามใบสั่งมา,กระแสตัง,คนถ้าไม่มีตังมาเกี่ยวมันไม่กล้าหรอก.,สามารถตามเด็ดหัวคนที่อยู่เบื้องหลังได้อีก.
    ..สามารถเป็นไส้ศึกทำลายความแตกแยก ขัดขวางความสามัคคีของคนในชาติได้,คนจัญไรอัปรีย์ถือกำเนิดคู่คนดีเสนอ.
    https://youtube.com/watch?v=UOBbGa1SZ7Q&si=3o_HJ6EMMA4R4Hiw
    น่าจะเอาไอ้เหี้ยสองตัวนี้ไปเดินรอบๆตาควายนะ,ไปสัมผัสกับระเบิดที่ทหารเขมรมันวางไว้,เหน็บแม่ทัพภาค.2ที่ทำคุณงามความดีต่อชาติบ้านเมืองแบบนี้ เสียดายมันสมองความรู้กระแดะภาษาฝรั่งอวยโชว์สกิล ,มิสมควรอย่างยิ่ง,เห็นต่างได้ แต่มันผิดและต่างจากค่าจริงเกิน,ไม่ต่างจากสันดานเขมรที่มืดบอดในจิตในใจ,ที่คนไทยเห็นๆสภาพความคิดอ่านมัน,ใครสนับสนุนช่องมัน อุดหนุนช่องมันหากไงมีสติคิดอ่านดี รู้ผิดชั่ว คนแบบใดสันดานแบบใดสมควรส่งเสริมก็พิจารณาเอานะ,พวกนี้อาจต้องตรวจสอบกระแสเงินสด ช่องทางรายได้ ธุรกิจเครือญาติมันทั้งหมด ร่ำรวยอะไรมา มาอยู่ไทย ใครส่งมาก่อกวน อเมริกาให้เงินสนับสนุนเปิดช่องแบบหลายๆช่องสื่อหลายๆองค์กรที่เป็นบ่อนทำลายไทย สร้างความแตกแยกในประเทศด้วยหรือไม่,ปากกล้าหาญแบบนี้มีใบสั่งให้ทำลายภาพลักษณ์แม่ทัพกุ้งแน่นอน,เชื่อมโยงกับเดอะแก๊งสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์มั้ย,กิจการในเครือญาติฟอกเงินจนร่ำรวยมั้ย,ฮุนเซนสั่งมาทำลายแม่ทัพกุ้งมั้ย,หาแสงแบบนี้ไม่ธรรมดา,ใครคนไทยคนไหนค้าขายซื้อขายใช้บริการตระกูลนี้ อย่าไปซื้อไปอุดหนุนมันอีกเลย,ปิดด่านปิดช่องหาแดกมัน จากนั้นเราอาจจะรู้ชัดเจนว่า มันรับตังจากใครมา เสือกไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจกิจการมีตังใช้จ่ายสบายด่าเหน็บใครเป็นว่าเล่นได้ตามใบสั่งมา,กระแสตัง,คนถ้าไม่มีตังมาเกี่ยวมันไม่กล้าหรอก.,สามารถตามเด็ดหัวคนที่อยู่เบื้องหลังได้อีก. ..สามารถเป็นไส้ศึกทำลายความแตกแยก ขัดขวางความสามัคคีของคนในชาติได้,คนจัญไรอัปรีย์ถือกำเนิดคู่คนดีเสนอ. https://youtube.com/watch?v=UOBbGa1SZ7Q&si=3o_HJ6EMMA4R4Hiw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 3

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
    ตอนที่ 3
    หลังจากอยู่กรุงเทพฯได้ 1 ปี นาย Kenneth และครอบครัว ก็ถูกให้ย้ายไปประจำที่นครศรีธรรมราช เขาอยู่ที่นั่น 1 ปี จากนั้นก็ย้ายมาประจำที่ตรัง รวมๆ แล้ว เขาอยู่แถวภาคใต้ของไทย ประมาณเกือบ 10 ปี ตอนที่อยู่ที่นครศรีธรรมราช เขาอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงเรียนสตรี ซึ่งเป็นของพวกมิชชั่นนารี ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นที่พระราชทานจากกรมพระยาดำรงราชานุภาพ แต่เมื่อมาอยู่ตรัง เขามีบ้านแยกต่างหากจากโรงเรียน ระหว่างที่เขาอยู่ตรังเขาเดินทาง ไปทั่ว ขึ้นมาจนทับสะแก (คือหัวหินในปัจจุบัน) และลงใต้ไปถึงแหลมมาลายู เขาบอกว่าในภาคใต้ของไทย มีคนจีนอาศัยอยู่มาก และส่วนมากเป็นพวกใช้แรงงาน หรือขายของชำ บ้างก็เปิดร้านค้าเล็กๆ ในตลาด ครอบครัวเขามีคนรับใช้และคนทำอาหารเป็นชาวจีน เขาจึงหัดพูดภาษาจีนกับคนรับใช้ทุกวัน
    จากการที่เขาคุยกับคนรับใช้ชาวจีน เขารู้ว่าคนจีนเหล่านั้นไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ ไม่มีโรงเรียนของคนจีน เขาจึงพยายามให้ทางคณะมิชชั่นนารีช่วยจัดตั้งโรงเรียนให้คนจีน โดยเอาครูมาจากกรุงเทพฯ สิงคโปร์ ปีนัง ส่วนค่าก่อสร้างเขาก็ขอรับบริจาคบ้างจากคนในจังหวัด เขาสามารถสร้างใด้ถึง 4 โรงเรียน การคลุกคลีกับคนจีน ทำให้เขาพูดภาษาจีนแต้จิ๋วได้และเทศน์เป็นภาษาจีนได้อีกด้วย การสอนภาษาของ นาย Kenneth ขยายไปตั้งแต่คอขอดกระจนถึงชายแดนมาลายู และทำให้เขาต้องเดินทางแถบนั้นบ่อยมาก โดยรถไฟ เกวียน ช้าง เรือข้ามฝั่ง เรือเล็กตามคลอง รวมทั้งที่จักรยาน และการเดินเท้าของตนเอง และเพื่อให้มีการติดต่อระหว่างสังคมไทยและจีน ซึ่งอยู่ห่างไกลกัน นาย Kenneth ลงทุนพิมพ์จดหมายเหตุรายเดือน เป็นภาษาไทยและจีน เพื่อให้คนเหล่านั้นได้ข้อมูลและข่าว (ตามที่เขาเขียน !) ต้องนับถือผู้ที่เลือกถิ่นที่ทำงานให้นาย Kenneth จริงๆ ภาคใต้น่าสนใจหลายอย่าง รวมทั้งภูมิศาสตร์ที่มีพื้นที่ยาวตลอดไป ตามอ่าวไทยของไทยจนไปถึงเขตแดนมลายู
    นาย Kenneth และครอบครัว ย้ายกลับไปอเมริกาใน ค.ศ. 1937 โดยอ้างว่า เบื่อที่จะเป็น มิชชั่นนารีแล้ว เพราะรายได้ไม่พอ (หรือภาระกิจสำเร็จได้ตามเป้า เลยเก็บฉากขนของกลับบ้านซะเฉยๆ งั้นแหละ !?) เมื่อเขากลับ เขาหอบหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่ออกเป็นงวด ที่เกี่ยวกับเมืองไทยที่เขาเก็บสะสมไว้ ตลอด 10 ปีที่อยู่เมืองกลับไปด้วย รวมทั้งแผนที่ของเมืองไทยแสดงอาณาบริเวณต่างๆ ทั่วประเทศอย่างละเอียด ยังไม่หมดยังหอบเอาหนังสือจากห้องสมุดของไทย ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เท่าที่ตัวเองจะหาได้กลับไปด้วย ที่สำคัญ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย เมื่อปี ค.ศ. 1932 (พ.ศ. 2475) นาย Kenneth บอกว่าเป็นช่วงเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ไทย เขาเก็บเอกสารในช่วง 5 ปี ระหว่างนั้นไว้หมด โดยตั้งใจจะเขียนหนังสือ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย (นับว่าเป็นมิชชั่นนารี “ตัวอย่าง” จริงๆ ตกลงจะมาเผยแพร่ศาสนาหรือมาทำอะไรกันแน่)
    วันหนึ่งหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ.2475 ขณะที่เขาเริ่มเขียนหนังสือ เรื่อง Siam in Transition เขายังอยู่ที่ตรังกับครอบครัว มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทของนายปรีดี พนมยงค์ ตอนเป็นผู้สำเร็จราชการ เกิดอยากจะแต่งงานในโบสถ์คริสเตียน กับสาวตรังซึ่งเป็นคริสเตียน นายคนสนิทนี้ก็มาหา นาย Kenneth เพื่อขออนุญาตนาย Kenneth ให้คู่บ่าวสาวได้แต่งงานและทำพิธีในโบสถ์ นาย Kenneth ดีใจจนบอกไม่ถูก เห็นโอกาสทองลอยอยู่ข้างหน้า เขาบอกกับนายคนสนิทว่า ได้สิ ถ้าคุณหาเอกสารมาให้ผมชิ้นหนึ่ง เอกสารนั้นคือบทความเค้าโครงเศรษฐกิจ ฉบับที่นายปรีดีเขียน เพื่อจะนำมาใช้กับประเทศไทย หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงไม่เห็นด้วย ทรงเห็นว่านายปรีดีมีแนวความคิดเช่นลัทธิคอมมิวนิสม์ ต่อมาเอกสารนั้นก็ถูกเก็บ เป็นเอกสารต้องห้าม ไม่มีใครได้เห็นอีก (นาย Kenneth นี่ต้องนับว่าเป็นนักฉวยโอกาสตัวยงจริงๆ) คงจะเป็นเพราะกำลังหน้ามืดอยากแต่งงานเต็มแก่ นายคนสนิทลงทุนไปเอาเอกสารมาให้นาย Kenneth รวมทั้งแถมรายงานการประชุมคณะอภิรัฐมนตรี ซึ่งระบุว่านายปรีดี เป็นคอมมิวนิสต์และที่ประชุมเห็นว่านายปรีดี ควรลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ
    ภายหลังเมื่อนาย Kenneth ได้เขียนหนังสือ Siam in Transition เขาได้นำเอกสารทั้ง 2 ชิ้นมาแนบท้ายหนังสือไว้ด้วย แต่หนังสือนี้ถูกห้ามขายในประเทศไทย
    หลังจากเขาได้เอกสารนี้มาไม่นาน พระองค์เจ้าธานีฯ (นาย Kenneth เขียนชื่อไว้เช่นนั้น) ทรงทราบข่าวที่นาย Kenneth ได้เอกสารนี้มา ท่านสนใจมากถึงขนาดลงทุนเดินทางจากกรุงเทพมาหานาย Kenneth ที่ตรัง เพื่อขออ่านเอกสารทั้ง 2 ชิ้น (แสดงว่าเอกสาร 2 ชิ้นนี้ต้องมีความสำคัญมากสำหรับ การเมืองของไทย แล้วมิชชั่นนารี ซึ่งไม่น่าจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองบ้านเรา ทำไมถึงให้ความสนใจจนลืมมรรยาท ถึงกับใช้วิธีการฉวยโอกาสอย่างคนไม่มีระดับถึงขนาดนี้!?) นาย Kenneth รู้ว่าเอกสารนี้ต้องห้าม เขาเลยเอาไปซ่อนไว้ในกองหนังสือพิมพ์ในห้องส้วมของเขาและ พระองค์เจ้าธานีฯ ก็ต้องไปนั่งอ่านเอกสาร โดยล็อคตัวเองอยู่ในส้วมของนาย Kenneth !
    หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เจ้านายหลายพระองค์ รวมทั้งกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ต้องเสด็จลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ กรมพระยาดำรงฯเสด็จไปอยู่ปีนัง เมื่อนาย Kenneth และครอบครัวจะกลับอเมริกา เขาเดินทางไปเยี่ยมท่านที่ปีนัง เขาอ้างว่าเป็นการเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า ระหว่างคุยกัน เขาถามกรมพระยาดำรงฯ ว่าท่านจะยินยอมให้เขานำหนังสือที่ท่านทรงสะสมไว้ มอบให้แก่มหาวิทยาลัยในอเมริกาหรือไม่ เพราะกรมพระยาดำรงฯ ท่านเป็นเสนาบดีกระทรวงศึกษาฯ อยู่ช่วงหนึ่ง และท่านได้รับมอบหมายจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ให้ทรงจัดตั้งหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งกรมพระยาดำรงฯก็จัดตั้งเรียบร้อย โดยหนังสือทุกเล่มที่อยู่ในหอสมุด ท่านก็จะมีอีกชุดหนึ่งเก็บไว้ที่ท่านเอง รวมทั้งหนังสือที่ท่านทรงสะสม เอง ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วรรณคดี ศาสนา ฯลฯ ของไทยและเอเซียตะวันออก มีทั้งเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส กรมพระยาดำรงฯ ตอบว่าท่านเสียดายที่หนังสือนั้นจะไม่มีใครสนใจอีกต่อไป แต่ถ้ามีมหาวิทยาลัยที่สนใจ มีคนได้ศึกษาและมีคนอย่างนาย Kenneth ดูแลท่านก็ยินดีที่จะยกให้
    แล้วนาย Kenneth ก็นำรายชื่อหนังสือประมาณ 600 เล่ม ของกรมพระยาดำรงกลับอเมริกาไปด้วย โดยเขาอ้างว่า เขาจะนำไปจัดทำห้องสมุดไทยหรือเอเซียตะวันออก ที่มหาวิทยาลัยดังๆ ในอเมริกา ค่าเดินทางไปปีนังนี่มันคงไม่ใช่ราคาถูกๆ แต่คงจะเป็นการลงทุนที่เกินคุ้มหลายร้อยเท่า เมื่อเทียบกับรายชื่อหนังสือ 600 เล่ม ที่นาย Kenneth จะเอาไป อ้างว่าเป็นของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ อดีตเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยของเมืองไทยที่จะมอบให้นาย Kenneth ที่จะได้มาโดยการ “กล่อม” ซึ่งต่อมาเขาได้นำไปใช้ประโยชน์ให้แก่ตัวเองและสร้างประโยชน์ให้แก่อเมริกาอย่างมหาศาล ในการใช้เป็นต้นแบบเครื่องมือการล่าชนิดหนึ่ง!
    (หมายเหตุคนเล่านิทาน : เข้าใจว่า กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านคงกำลังเศร้าพระทัย จากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และจากการที่คณะราษฎร์แสดงความไม่ประสงค์ดีต่อท่าน จนท่านถึงกับต้องเสด็จไปประทับอยู่ปีนัง ท่านเป็นนักประวัติศาสตร์ สนใจศึกษาหาความรู้ ทรงเก็บสะสมหนังสือเกี่ยวกับเมืองไทยไว้แยะ เมื่อคณะราษฎร์ทำการปฏิวัติ เปลี่ยนการปกครอง ซึ่งอาจจะกระทบถึงวัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งหลักสูตรการศึกษา ฯลฯ หนังสือต่างๆ เหล่านั้น คณะราษฎร์อาจไม่เห็นประโยชน์อีกต่อไป เมื่อนาย Kenneth เข้าไปขอในจังหวะนั้น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ท่านจะคล้อยตาม !)

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า” ตอนที่ 3 หลังจากอยู่กรุงเทพฯได้ 1 ปี นาย Kenneth และครอบครัว ก็ถูกให้ย้ายไปประจำที่นครศรีธรรมราช เขาอยู่ที่นั่น 1 ปี จากนั้นก็ย้ายมาประจำที่ตรัง รวมๆ แล้ว เขาอยู่แถวภาคใต้ของไทย ประมาณเกือบ 10 ปี ตอนที่อยู่ที่นครศรีธรรมราช เขาอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงเรียนสตรี ซึ่งเป็นของพวกมิชชั่นนารี ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นที่พระราชทานจากกรมพระยาดำรงราชานุภาพ แต่เมื่อมาอยู่ตรัง เขามีบ้านแยกต่างหากจากโรงเรียน ระหว่างที่เขาอยู่ตรังเขาเดินทาง ไปทั่ว ขึ้นมาจนทับสะแก (คือหัวหินในปัจจุบัน) และลงใต้ไปถึงแหลมมาลายู เขาบอกว่าในภาคใต้ของไทย มีคนจีนอาศัยอยู่มาก และส่วนมากเป็นพวกใช้แรงงาน หรือขายของชำ บ้างก็เปิดร้านค้าเล็กๆ ในตลาด ครอบครัวเขามีคนรับใช้และคนทำอาหารเป็นชาวจีน เขาจึงหัดพูดภาษาจีนกับคนรับใช้ทุกวัน จากการที่เขาคุยกับคนรับใช้ชาวจีน เขารู้ว่าคนจีนเหล่านั้นไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ ไม่มีโรงเรียนของคนจีน เขาจึงพยายามให้ทางคณะมิชชั่นนารีช่วยจัดตั้งโรงเรียนให้คนจีน โดยเอาครูมาจากกรุงเทพฯ สิงคโปร์ ปีนัง ส่วนค่าก่อสร้างเขาก็ขอรับบริจาคบ้างจากคนในจังหวัด เขาสามารถสร้างใด้ถึง 4 โรงเรียน การคลุกคลีกับคนจีน ทำให้เขาพูดภาษาจีนแต้จิ๋วได้และเทศน์เป็นภาษาจีนได้อีกด้วย การสอนภาษาของ นาย Kenneth ขยายไปตั้งแต่คอขอดกระจนถึงชายแดนมาลายู และทำให้เขาต้องเดินทางแถบนั้นบ่อยมาก โดยรถไฟ เกวียน ช้าง เรือข้ามฝั่ง เรือเล็กตามคลอง รวมทั้งที่จักรยาน และการเดินเท้าของตนเอง และเพื่อให้มีการติดต่อระหว่างสังคมไทยและจีน ซึ่งอยู่ห่างไกลกัน นาย Kenneth ลงทุนพิมพ์จดหมายเหตุรายเดือน เป็นภาษาไทยและจีน เพื่อให้คนเหล่านั้นได้ข้อมูลและข่าว (ตามที่เขาเขียน !) ต้องนับถือผู้ที่เลือกถิ่นที่ทำงานให้นาย Kenneth จริงๆ ภาคใต้น่าสนใจหลายอย่าง รวมทั้งภูมิศาสตร์ที่มีพื้นที่ยาวตลอดไป ตามอ่าวไทยของไทยจนไปถึงเขตแดนมลายู นาย Kenneth และครอบครัว ย้ายกลับไปอเมริกาใน ค.ศ. 1937 โดยอ้างว่า เบื่อที่จะเป็น มิชชั่นนารีแล้ว เพราะรายได้ไม่พอ (หรือภาระกิจสำเร็จได้ตามเป้า เลยเก็บฉากขนของกลับบ้านซะเฉยๆ งั้นแหละ !?) เมื่อเขากลับ เขาหอบหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่ออกเป็นงวด ที่เกี่ยวกับเมืองไทยที่เขาเก็บสะสมไว้ ตลอด 10 ปีที่อยู่เมืองกลับไปด้วย รวมทั้งแผนที่ของเมืองไทยแสดงอาณาบริเวณต่างๆ ทั่วประเทศอย่างละเอียด ยังไม่หมดยังหอบเอาหนังสือจากห้องสมุดของไทย ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เท่าที่ตัวเองจะหาได้กลับไปด้วย ที่สำคัญ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย เมื่อปี ค.ศ. 1932 (พ.ศ. 2475) นาย Kenneth บอกว่าเป็นช่วงเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ไทย เขาเก็บเอกสารในช่วง 5 ปี ระหว่างนั้นไว้หมด โดยตั้งใจจะเขียนหนังสือ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย (นับว่าเป็นมิชชั่นนารี “ตัวอย่าง” จริงๆ ตกลงจะมาเผยแพร่ศาสนาหรือมาทำอะไรกันแน่) วันหนึ่งหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ.2475 ขณะที่เขาเริ่มเขียนหนังสือ เรื่อง Siam in Transition เขายังอยู่ที่ตรังกับครอบครัว มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทของนายปรีดี พนมยงค์ ตอนเป็นผู้สำเร็จราชการ เกิดอยากจะแต่งงานในโบสถ์คริสเตียน กับสาวตรังซึ่งเป็นคริสเตียน นายคนสนิทนี้ก็มาหา นาย Kenneth เพื่อขออนุญาตนาย Kenneth ให้คู่บ่าวสาวได้แต่งงานและทำพิธีในโบสถ์ นาย Kenneth ดีใจจนบอกไม่ถูก เห็นโอกาสทองลอยอยู่ข้างหน้า เขาบอกกับนายคนสนิทว่า ได้สิ ถ้าคุณหาเอกสารมาให้ผมชิ้นหนึ่ง เอกสารนั้นคือบทความเค้าโครงเศรษฐกิจ ฉบับที่นายปรีดีเขียน เพื่อจะนำมาใช้กับประเทศไทย หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงไม่เห็นด้วย ทรงเห็นว่านายปรีดีมีแนวความคิดเช่นลัทธิคอมมิวนิสม์ ต่อมาเอกสารนั้นก็ถูกเก็บ เป็นเอกสารต้องห้าม ไม่มีใครได้เห็นอีก (นาย Kenneth นี่ต้องนับว่าเป็นนักฉวยโอกาสตัวยงจริงๆ) คงจะเป็นเพราะกำลังหน้ามืดอยากแต่งงานเต็มแก่ นายคนสนิทลงทุนไปเอาเอกสารมาให้นาย Kenneth รวมทั้งแถมรายงานการประชุมคณะอภิรัฐมนตรี ซึ่งระบุว่านายปรีดี เป็นคอมมิวนิสต์และที่ประชุมเห็นว่านายปรีดี ควรลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ภายหลังเมื่อนาย Kenneth ได้เขียนหนังสือ Siam in Transition เขาได้นำเอกสารทั้ง 2 ชิ้นมาแนบท้ายหนังสือไว้ด้วย แต่หนังสือนี้ถูกห้ามขายในประเทศไทย หลังจากเขาได้เอกสารนี้มาไม่นาน พระองค์เจ้าธานีฯ (นาย Kenneth เขียนชื่อไว้เช่นนั้น) ทรงทราบข่าวที่นาย Kenneth ได้เอกสารนี้มา ท่านสนใจมากถึงขนาดลงทุนเดินทางจากกรุงเทพมาหานาย Kenneth ที่ตรัง เพื่อขออ่านเอกสารทั้ง 2 ชิ้น (แสดงว่าเอกสาร 2 ชิ้นนี้ต้องมีความสำคัญมากสำหรับ การเมืองของไทย แล้วมิชชั่นนารี ซึ่งไม่น่าจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองบ้านเรา ทำไมถึงให้ความสนใจจนลืมมรรยาท ถึงกับใช้วิธีการฉวยโอกาสอย่างคนไม่มีระดับถึงขนาดนี้!?) นาย Kenneth รู้ว่าเอกสารนี้ต้องห้าม เขาเลยเอาไปซ่อนไว้ในกองหนังสือพิมพ์ในห้องส้วมของเขาและ พระองค์เจ้าธานีฯ ก็ต้องไปนั่งอ่านเอกสาร โดยล็อคตัวเองอยู่ในส้วมของนาย Kenneth ! หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เจ้านายหลายพระองค์ รวมทั้งกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ต้องเสด็จลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ กรมพระยาดำรงฯเสด็จไปอยู่ปีนัง เมื่อนาย Kenneth และครอบครัวจะกลับอเมริกา เขาเดินทางไปเยี่ยมท่านที่ปีนัง เขาอ้างว่าเป็นการเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า ระหว่างคุยกัน เขาถามกรมพระยาดำรงฯ ว่าท่านจะยินยอมให้เขานำหนังสือที่ท่านทรงสะสมไว้ มอบให้แก่มหาวิทยาลัยในอเมริกาหรือไม่ เพราะกรมพระยาดำรงฯ ท่านเป็นเสนาบดีกระทรวงศึกษาฯ อยู่ช่วงหนึ่ง และท่านได้รับมอบหมายจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ให้ทรงจัดตั้งหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งกรมพระยาดำรงฯก็จัดตั้งเรียบร้อย โดยหนังสือทุกเล่มที่อยู่ในหอสมุด ท่านก็จะมีอีกชุดหนึ่งเก็บไว้ที่ท่านเอง รวมทั้งหนังสือที่ท่านทรงสะสม เอง ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วรรณคดี ศาสนา ฯลฯ ของไทยและเอเซียตะวันออก มีทั้งเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส กรมพระยาดำรงฯ ตอบว่าท่านเสียดายที่หนังสือนั้นจะไม่มีใครสนใจอีกต่อไป แต่ถ้ามีมหาวิทยาลัยที่สนใจ มีคนได้ศึกษาและมีคนอย่างนาย Kenneth ดูแลท่านก็ยินดีที่จะยกให้ แล้วนาย Kenneth ก็นำรายชื่อหนังสือประมาณ 600 เล่ม ของกรมพระยาดำรงกลับอเมริกาไปด้วย โดยเขาอ้างว่า เขาจะนำไปจัดทำห้องสมุดไทยหรือเอเซียตะวันออก ที่มหาวิทยาลัยดังๆ ในอเมริกา ค่าเดินทางไปปีนังนี่มันคงไม่ใช่ราคาถูกๆ แต่คงจะเป็นการลงทุนที่เกินคุ้มหลายร้อยเท่า เมื่อเทียบกับรายชื่อหนังสือ 600 เล่ม ที่นาย Kenneth จะเอาไป อ้างว่าเป็นของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ อดีตเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยของเมืองไทยที่จะมอบให้นาย Kenneth ที่จะได้มาโดยการ “กล่อม” ซึ่งต่อมาเขาได้นำไปใช้ประโยชน์ให้แก่ตัวเองและสร้างประโยชน์ให้แก่อเมริกาอย่างมหาศาล ในการใช้เป็นต้นแบบเครื่องมือการล่าชนิดหนึ่ง! (หมายเหตุคนเล่านิทาน : เข้าใจว่า กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านคงกำลังเศร้าพระทัย จากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และจากการที่คณะราษฎร์แสดงความไม่ประสงค์ดีต่อท่าน จนท่านถึงกับต้องเสด็จไปประทับอยู่ปีนัง ท่านเป็นนักประวัติศาสตร์ สนใจศึกษาหาความรู้ ทรงเก็บสะสมหนังสือเกี่ยวกับเมืองไทยไว้แยะ เมื่อคณะราษฎร์ทำการปฏิวัติ เปลี่ยนการปกครอง ซึ่งอาจจะกระทบถึงวัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งหลักสูตรการศึกษา ฯลฯ หนังสือต่างๆ เหล่านั้น คณะราษฎร์อาจไม่เห็นประโยชน์อีกต่อไป เมื่อนาย Kenneth เข้าไปขอในจังหวะนั้น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ท่านจะคล้อยตาม !) คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
    ตอนที่ 1
    เมื่อตัดสินใจเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ค.ศ. 1942 อเมริกาไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่จะไปทำสงคราม แต่เป้าหมายของอเมริกาไกลกว่านั้น เขามองถึงการเป็นพี่เบิ้มใหญ่ของโลกหลังสงคราม และอเมริกาก็ทำได้ตามเป้าหมายมาตลอด ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน กลยุทธใด แสดงให้เห็นว่าแม้จะเป็นนักล่าหน้าใหม่ แต่ฝีไม้ลายมือในการล่าไม่เบา หลังจากเป็นผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกามองตัวเองว่าเป็นจักรวรรดิอเมริกา เพราะจักรวรรดิต่างๆ ได้ล่มสลายไปหมดเหลือไว้แต่ซากกับประวัติ อเมริกาหมดคู่แข่งชั่วคราว ผงาดตัวมาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง แม้ตอนนี้ แท่นยืนของนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะออกอาการง่อนแง่น แท่นเอียง ขาเก เพราะโดนทั้งปลวกทั้งด้วงแมงแทะในบ้านอยู่ แถมหลายประเทศที่อเมริกาเคยใช้กลยุทธ โกหก ตอแหล สร้างเรื่องสาระพัด หลอกโลกและใช้หน่วยงานที่ตนเองชักใย รุมกันจนประเทศเหล่านั้นแตกเป็นเสี่ยง หรือโดนกองทัพอันเกรียงไกรของพี่เบิ้มบุกเข้าประเทศ ประหนึ่งขี่ช้างจับตั๊กแตน จนบ้างเมืองเขาพินาศ เหลือเป็นซากเศษอิฐ หรือที่เคยมองประเทศเหล่านั้นอย่างหยามเหยียดด้วยหางตา ประเทศเหล่านั้นเริ่มขยับมาตีเสมอ เผลอๆ จะจับมือกันร่วมหัว ร่วมท้าย ท้าทายอเมริกา กระแซะพี่เบิ้มให้ตกจากแท่นยืนในฐานะหมายเลขหนึ่งเอาเสียด้วย ซ้ำ แต่เกมการล่า การแข่งขันชิงแชมป์โลก ต้องมองกันนานๆ ดูกันไปยาวๆ อย่าเพิ่งตัดสินแค่ยกสองยก มวยใหญ่มันอึด มีท่วงทีลีลาน่าศึกษา แต่ที่สำคัญอยู่ที่ชั้นเชิง ไม่รู้ปล่อยกันออกมาหมดหรือยัง
    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เข้าสู่ยุคสงครามเย็น ระบอบคอมมิวนิสต์ออกดอกแพร่พันธ์ ไปหลายแห่งในโลก สายหนึ่งไปทางสหภาพโซเวียต สายหนึ่งมาทางเอเซีย สู่จีนและเวียตนาม ใครเป็นคนเอาพันธ์มาแพร่ ก็รู้ๆ กันอยู่ อเมริกาทำเป็นทนดูไม่ได้ แบบนี้เสียหน้าผู้พิทักษ์โลกสวยใบนี้หมด (แหม! ใช้ศัพท์สมัยใหม่เป็นเหมือนกันเหรอลุง ฮา!) ดังนั้น อเมริกาจึงทำทุกอย่างเพื่อหลอกให้ชาวโลกเชื่อว่า สงครามเท่านั้นแหละ ที่จะเป็นยาขจัดการแพร่พันธ์คอมมิวนิสต์อย่างชงัด
    เมื่ออเมริกาตัดสินใจทำมาหากินกับสงครามเวียตนาม ก็จำเป็นต้องมีเหยื่อเข้ามาร่วมกิจกรรม จะไปรบคนเดียวได้ยังไงเหงาตาย ไทยแลนด์สมันน้อยถูกผู้กำกับคัดตัวให้ไปเล่นบทตัวเอก แต่สมันน้อย อ่านบทไม่แตก ไม่ตัดสินใจเสียที อเมริกาจึงลงทุนประคองคุณป๋าสฤษดิ์บินไปอเมริกาเพื่อไปรักษาตัวตอนคุณป๋าป่วย พอไปถึงคุณป๋านอกจากจะถูกบรรดาหมอรุมกันรักษาแล้วคูณป๋ายังถูกอุ้มลงเปลเห่กล่อม ติวเข้มเกี่ยวกับภัยคอมมี่ กลับมาคุณป๋าร้องเฮ้ยเว้ย เอาไง เอากัน จะปล่อยให้คอมมี่มันบุกบ้านเรา บ้านพี่เมืองน้องเราได้ยังไง (ท่านที่ยังไม่เคยอ่านนิทานจิกโก๋ปากซอย ตอนนี้เป็นโอกาสดี เชิญแวะไปอ่านหน่อยนะครับ ทำลิงค์ไว้ให้แล้ว หาไม่เจอบอกมาจะลงให้ใหม่ จะได้อ่านนิทานเรื่องนี้แบบไม่ขาดลอย เพราะมันเกี่ยวเนื่องกันครับ แหม ! เอาใจคนอ่านจังนะลุง กลัวแฟนเพจไม่ถึงหมื่นหรือไง ฮา !)
    ขบวนการล่อเหยื่อ จับลงเปลเห่กล่อมเขาน่าสนใจ อเมริกาจะทำอะไร ไม่ใช่ทำวันนี้คิดพรุ่งนี้ จะทำวันนี้เขาคิดมา 20-30 ปีก่อนหน้าแล้ว วางแผนซับซ้อน วิธีการวางแผน หาข้อมูล ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ เหมือนพวกไอ้ป้อดอีแป้ดมันออกรุ่นใหม่ มีลูกเล่นมาหลอกให้เราซื้ออยู่เรื่อย แต่ลูกหลักมันก็ไม่ต่างกันหรอก เพราะฉะนั้นถึงแม้นักล่าจะเปลี่ยนลูกเล่นอยู่เรื่อย แต่ลูกหลักมันก็พอมองออก ถ้าหมั่นติดตาม
    แกะสะเก็ด แกะรอยเก่า รอยใหม่ เอาแว่นมาส่องดู ก็คงพอจะตามรอยมันได้บ้าง ตอนนี้นักล่าประกาศไปทั่วโลก ว่าจะกลับมาวิ่งเล่นลิงชิงหลักอยู่แถวเอเซีย ตามนโยบาย Rebalancing ไทยแลนด์แดนสมันน้อยก็ไม่แคล้วจะถูกคัดตัวมาเข้าฉากอีก แต่คราวนี้จะได้รับบทตัวเอก ตัวประกอบ หรือบทไหน เรายังไม่รู้แน่ แต่จะไปรอรู้เอาตอนจบ นอนนับศพนับซากในบ้านเรา มันจะไหวหรือ สมันน้อยตื่นตัว ตามศึกษาแกะรอยนักล่ากันหน่อย อย่าดูแค่ที่เห็นข้างหน้า หัดเหลียวหลังแลข้างบ้างน่าจะดีกว่านะ
    มารู้จักสามีภรรยาคู่หนึ่งกันหน่อย นาย Kenneth และนาง Margaret Landon เขา 2 คนนี้ น่าสนใจมาก เขาเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ของไทยกับอเมริกา ช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นส่วนสำคัญในการช่วยสร้าง เครื่องมือการล่าเหยื่อของอเมริกาในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในเมืองไทย เครื่องมือการล่าเหยื่อชนิดนี้ยังใช้อยู่จนทุกวันนี้ อุปกรณ์หลักเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนอุปกรณ์เสริมให้ทันตามสมัยนิยมเท่านั้นเอง
    นาง Margaret มีชื่อเสียงเพราะเป็นคนเขียนหนังสือ เรื่อง Anna and the King ซึ่งตอนหลังHollywood เอาไปสร้างหนังเรื่อง The King and I นำแสดงโดย Rex Harrison ตอนรุ่นแรก แต่มาดังตอนสร้างครั้งที่สองโดยเอานาย Yul Brynner มารับบทเป็น The King หนังเรื่องนี้ถูกห้ามฉายในประเทศไทย นอกจากนั้นหนังสือเรื่องนี้ยังถูกนำไปสร้างเป็นละคร Broadway ดังระเบิด เพลงเพราะ ฉากสวย แต่เนื้อเรื่องแต่งตามความคิดของฝรั่งมองไทย ที่รู้จักไทยอย่างครึ่งๆ กลางๆ แต่คิดเอาเองว่ารู้จักหมด แต่นิทานเรื้องนี้จะไม่เล่าเกี่ยวกับนาง Margaret แต่จะเล่าเกี่ยวกับสามีนาง Margaret ที่ชื่อนาย Kenneth ผู้สร้างรอยเก่าน่าสนใจตามแกะดู


    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า” ตอนที่ 1 เมื่อตัดสินใจเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ค.ศ. 1942 อเมริกาไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่จะไปทำสงคราม แต่เป้าหมายของอเมริกาไกลกว่านั้น เขามองถึงการเป็นพี่เบิ้มใหญ่ของโลกหลังสงคราม และอเมริกาก็ทำได้ตามเป้าหมายมาตลอด ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน กลยุทธใด แสดงให้เห็นว่าแม้จะเป็นนักล่าหน้าใหม่ แต่ฝีไม้ลายมือในการล่าไม่เบา หลังจากเป็นผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกามองตัวเองว่าเป็นจักรวรรดิอเมริกา เพราะจักรวรรดิต่างๆ ได้ล่มสลายไปหมดเหลือไว้แต่ซากกับประวัติ อเมริกาหมดคู่แข่งชั่วคราว ผงาดตัวมาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง แม้ตอนนี้ แท่นยืนของนักล่าหมายเลขหนึ่ง จะออกอาการง่อนแง่น แท่นเอียง ขาเก เพราะโดนทั้งปลวกทั้งด้วงแมงแทะในบ้านอยู่ แถมหลายประเทศที่อเมริกาเคยใช้กลยุทธ โกหก ตอแหล สร้างเรื่องสาระพัด หลอกโลกและใช้หน่วยงานที่ตนเองชักใย รุมกันจนประเทศเหล่านั้นแตกเป็นเสี่ยง หรือโดนกองทัพอันเกรียงไกรของพี่เบิ้มบุกเข้าประเทศ ประหนึ่งขี่ช้างจับตั๊กแตน จนบ้างเมืองเขาพินาศ เหลือเป็นซากเศษอิฐ หรือที่เคยมองประเทศเหล่านั้นอย่างหยามเหยียดด้วยหางตา ประเทศเหล่านั้นเริ่มขยับมาตีเสมอ เผลอๆ จะจับมือกันร่วมหัว ร่วมท้าย ท้าทายอเมริกา กระแซะพี่เบิ้มให้ตกจากแท่นยืนในฐานะหมายเลขหนึ่งเอาเสียด้วย ซ้ำ แต่เกมการล่า การแข่งขันชิงแชมป์โลก ต้องมองกันนานๆ ดูกันไปยาวๆ อย่าเพิ่งตัดสินแค่ยกสองยก มวยใหญ่มันอึด มีท่วงทีลีลาน่าศึกษา แต่ที่สำคัญอยู่ที่ชั้นเชิง ไม่รู้ปล่อยกันออกมาหมดหรือยัง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เข้าสู่ยุคสงครามเย็น ระบอบคอมมิวนิสต์ออกดอกแพร่พันธ์ ไปหลายแห่งในโลก สายหนึ่งไปทางสหภาพโซเวียต สายหนึ่งมาทางเอเซีย สู่จีนและเวียตนาม ใครเป็นคนเอาพันธ์มาแพร่ ก็รู้ๆ กันอยู่ อเมริกาทำเป็นทนดูไม่ได้ แบบนี้เสียหน้าผู้พิทักษ์โลกสวยใบนี้หมด (แหม! ใช้ศัพท์สมัยใหม่เป็นเหมือนกันเหรอลุง ฮา!) ดังนั้น อเมริกาจึงทำทุกอย่างเพื่อหลอกให้ชาวโลกเชื่อว่า สงครามเท่านั้นแหละ ที่จะเป็นยาขจัดการแพร่พันธ์คอมมิวนิสต์อย่างชงัด เมื่ออเมริกาตัดสินใจทำมาหากินกับสงครามเวียตนาม ก็จำเป็นต้องมีเหยื่อเข้ามาร่วมกิจกรรม จะไปรบคนเดียวได้ยังไงเหงาตาย ไทยแลนด์สมันน้อยถูกผู้กำกับคัดตัวให้ไปเล่นบทตัวเอก แต่สมันน้อย อ่านบทไม่แตก ไม่ตัดสินใจเสียที อเมริกาจึงลงทุนประคองคุณป๋าสฤษดิ์บินไปอเมริกาเพื่อไปรักษาตัวตอนคุณป๋าป่วย พอไปถึงคุณป๋านอกจากจะถูกบรรดาหมอรุมกันรักษาแล้วคูณป๋ายังถูกอุ้มลงเปลเห่กล่อม ติวเข้มเกี่ยวกับภัยคอมมี่ กลับมาคุณป๋าร้องเฮ้ยเว้ย เอาไง เอากัน จะปล่อยให้คอมมี่มันบุกบ้านเรา บ้านพี่เมืองน้องเราได้ยังไง (ท่านที่ยังไม่เคยอ่านนิทานจิกโก๋ปากซอย ตอนนี้เป็นโอกาสดี เชิญแวะไปอ่านหน่อยนะครับ ทำลิงค์ไว้ให้แล้ว หาไม่เจอบอกมาจะลงให้ใหม่ จะได้อ่านนิทานเรื่องนี้แบบไม่ขาดลอย เพราะมันเกี่ยวเนื่องกันครับ แหม ! เอาใจคนอ่านจังนะลุง กลัวแฟนเพจไม่ถึงหมื่นหรือไง ฮา !) ขบวนการล่อเหยื่อ จับลงเปลเห่กล่อมเขาน่าสนใจ อเมริกาจะทำอะไร ไม่ใช่ทำวันนี้คิดพรุ่งนี้ จะทำวันนี้เขาคิดมา 20-30 ปีก่อนหน้าแล้ว วางแผนซับซ้อน วิธีการวางแผน หาข้อมูล ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ เหมือนพวกไอ้ป้อดอีแป้ดมันออกรุ่นใหม่ มีลูกเล่นมาหลอกให้เราซื้ออยู่เรื่อย แต่ลูกหลักมันก็ไม่ต่างกันหรอก เพราะฉะนั้นถึงแม้นักล่าจะเปลี่ยนลูกเล่นอยู่เรื่อย แต่ลูกหลักมันก็พอมองออก ถ้าหมั่นติดตาม แกะสะเก็ด แกะรอยเก่า รอยใหม่ เอาแว่นมาส่องดู ก็คงพอจะตามรอยมันได้บ้าง ตอนนี้นักล่าประกาศไปทั่วโลก ว่าจะกลับมาวิ่งเล่นลิงชิงหลักอยู่แถวเอเซีย ตามนโยบาย Rebalancing ไทยแลนด์แดนสมันน้อยก็ไม่แคล้วจะถูกคัดตัวมาเข้าฉากอีก แต่คราวนี้จะได้รับบทตัวเอก ตัวประกอบ หรือบทไหน เรายังไม่รู้แน่ แต่จะไปรอรู้เอาตอนจบ นอนนับศพนับซากในบ้านเรา มันจะไหวหรือ สมันน้อยตื่นตัว ตามศึกษาแกะรอยนักล่ากันหน่อย อย่าดูแค่ที่เห็นข้างหน้า หัดเหลียวหลังแลข้างบ้างน่าจะดีกว่านะ มารู้จักสามีภรรยาคู่หนึ่งกันหน่อย นาย Kenneth และนาง Margaret Landon เขา 2 คนนี้ น่าสนใจมาก เขาเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ของไทยกับอเมริกา ช่วงก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นส่วนสำคัญในการช่วยสร้าง เครื่องมือการล่าเหยื่อของอเมริกาในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในเมืองไทย เครื่องมือการล่าเหยื่อชนิดนี้ยังใช้อยู่จนทุกวันนี้ อุปกรณ์หลักเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนอุปกรณ์เสริมให้ทันตามสมัยนิยมเท่านั้นเอง นาง Margaret มีชื่อเสียงเพราะเป็นคนเขียนหนังสือ เรื่อง Anna and the King ซึ่งตอนหลังHollywood เอาไปสร้างหนังเรื่อง The King and I นำแสดงโดย Rex Harrison ตอนรุ่นแรก แต่มาดังตอนสร้างครั้งที่สองโดยเอานาย Yul Brynner มารับบทเป็น The King หนังเรื่องนี้ถูกห้ามฉายในประเทศไทย นอกจากนั้นหนังสือเรื่องนี้ยังถูกนำไปสร้างเป็นละคร Broadway ดังระเบิด เพลงเพราะ ฉากสวย แต่เนื้อเรื่องแต่งตามความคิดของฝรั่งมองไทย ที่รู้จักไทยอย่างครึ่งๆ กลางๆ แต่คิดเอาเองว่ารู้จักหมด แต่นิทานเรื้องนี้จะไม่เล่าเกี่ยวกับนาง Margaret แต่จะเล่าเกี่ยวกับสามีนาง Margaret ที่ชื่อนาย Kenneth ผู้สร้างรอยเก่าน่าสนใจตามแกะดู คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออก

    เดือนนี้ คิดริเริ่มธุรกิจ หรือดำเนินกิจการใหม่ๆ ค้าขายจะได้กำไรดี จะประชุมตกลงมติใดๆ จะเกิดผลสัมฤทธิ์ พบความสำเร็จได้ เป็นเพราะมีเสนห์ราศีเป็นที่นิยมชมชอบ จะไปไหนมาไหนมีแต่คนคอยให้ความช่วยเหลือ หากแอบรักคนอื่นอาจจะต้องระวังเรื่องชู้สาว จะถูกหลอกให้ชื่อเสียงเสียหาย ชีวิตจะวุ่นวาย เป็นผลให้สูญเสีย ความร่าเริง อีกทั้งมีโอกาสจะสูญเสียคนรัก หรือที่โสดอยู่จะยังคงไม่ได้แต่ง รู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง จนเป็นเหตุ ให้เก็บกด เครียดง่าย เกิดอารมณ์แปรปรวน จนเป็นผลทำให้สุขภาพร่างกายเจ็บไข้ได้ป่วยที่ ตา ร้อนใน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต กระเพาะเป็นแผล เยื่อกระเพาะอักเสบ บาดเจ็บจนเสียเลือด

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออก เดือนนี้ คิดริเริ่มธุรกิจ หรือดำเนินกิจการใหม่ๆ ค้าขายจะได้กำไรดี จะประชุมตกลงมติใดๆ จะเกิดผลสัมฤทธิ์ พบความสำเร็จได้ เป็นเพราะมีเสนห์ราศีเป็นที่นิยมชมชอบ จะไปไหนมาไหนมีแต่คนคอยให้ความช่วยเหลือ หากแอบรักคนอื่นอาจจะต้องระวังเรื่องชู้สาว จะถูกหลอกให้ชื่อเสียงเสียหาย ชีวิตจะวุ่นวาย เป็นผลให้สูญเสีย ความร่าเริง อีกทั้งมีโอกาสจะสูญเสียคนรัก หรือที่โสดอยู่จะยังคงไม่ได้แต่ง รู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง จนเป็นเหตุ ให้เก็บกด เครียดง่าย เกิดอารมณ์แปรปรวน จนเป็นผลทำให้สุขภาพร่างกายเจ็บไข้ได้ป่วยที่ ตา ร้อนใน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต กระเพาะเป็นแผล เยื่อกระเพาะอักเสบ บาดเจ็บจนเสียเลือด ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Nova Lake-S ถึง Zen 6: เมื่อ HWiNFO กลายเป็นผู้เปิดประตูสู่ยุคใหม่ของ CPU สายเดสก์ท็อป

    ใน release notes ของ HWiNFO เวอร์ชัน 8.31 มีการระบุว่าซอฟต์แวร์จะรองรับแพลตฟอร์มใหม่จากทั้ง Intel และ AMD โดยฝั่ง Intel คือ Nova Lake-S ซึ่งเป็นซีพียูเดสก์ท็อปที่ใช้ซ็อกเก็ตใหม่ LGA 1954 และมีรุ่นสูงสุดถึง 52 คอร์ ส่วนฝั่ง AMD คือ “Next-Gen Platform” ที่คาดว่าจะเป็นซีรีส์ 900 สำหรับ Zen 6 บนซ็อกเก็ต AM5 เช่นเดิม

    Nova Lake-S ถูกออกแบบมาให้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของ Intel ในรอบหลายปี โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ multi-tile ที่ประกอบด้วย 16 P-cores, 32 E-cores และ 4 LP-E cores รวมเป็น 52 คอร์ในรุ่นสูงสุด โดยไม่มี SMT บน P-core และใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบผสมระหว่าง Intel 14A และ TSMC N2 สำหรับบางส่วนของ SoC

    ซ็อกเก็ต LGA 1954 มีขนาดเท่ากับ LGA 1700 เดิม (45 × 37.5 มม.) แต่เพิ่มจำนวนขาเพื่อรองรับพลังงานและแบนด์วิดธ์ที่สูงขึ้น พร้อมเปิดตัวคู่กับชิปเซ็ต 900-series เช่น Z990 และ H970 ที่รองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 และ Thunderbolt 5

    ฝั่ง AMD ก็ไม่น้อยหน้า โดย Zen 6 จะใช้ CCD บน TSMC N2P และ IOD บน N3P ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับ 2nm และ 3nm ตามลำดับ โดยยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 และคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับเมนบอร์ดซีรีส์ 900 เช่น X970, B950 และ B940 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2026

    การที่ HWiNFO เพิ่มการรองรับล่วงหน้า แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ใกล้เข้าสู่ช่วง Pre-QS หรือการทดสอบก่อนผลิตจริง และจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันรอบใหม่ระหว่าง Intel และ AMD ในตลาดเดสก์ท็อประดับสูง

    การอัปเดตของ HWiNFO
    เวอร์ชัน 8.31 จะรองรับ Intel Nova Lake-S และ AMD Next-Gen Platform
    เป็นครั้งแรกที่ Nova Lake-S ถูกระบุใน release notes ของซอฟต์แวร์

    Intel Nova Lake-S และซ็อกเก็ต LGA 1954
    ใช้สถาปัตยกรรม multi-tile: 16 P-cores + 32 E-cores + 4 LP-E cores
    ไม่มี SMT บน P-core และใช้ Intel 14A + TSMC N2
    ซ็อกเก็ต LGA 1954 มีขนาดเท่าเดิมแต่เพิ่มจำนวนขา
    เปิดตัวพร้อมชิปเซ็ต Z990, H970 รองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Thunderbolt 5

    AMD Zen 6 และแพลตฟอร์ม 900-series
    ใช้ CCD บน TSMC N2P และ IOD บน N3P
    ยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 และเปิดตัวพร้อม X970, B950, B940
    คาดว่าจะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2026

    ความหมายต่อวงการเดสก์ท็อป
    เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและ I/O
    HWiNFO เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบสเปกและการทดสอบเบื้องต้น
    จุดเริ่มต้นของการแข่งขันรอบใหม่ระหว่าง Intel และ AMD

    https://wccftech.com/hwinfo-to-add-support-for-nova-lake-s-and-next-gen-amd-platform-likely-hinting-towards-amd-900-series-for-zen-6/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Nova Lake-S ถึง Zen 6: เมื่อ HWiNFO กลายเป็นผู้เปิดประตูสู่ยุคใหม่ของ CPU สายเดสก์ท็อป ใน release notes ของ HWiNFO เวอร์ชัน 8.31 มีการระบุว่าซอฟต์แวร์จะรองรับแพลตฟอร์มใหม่จากทั้ง Intel และ AMD โดยฝั่ง Intel คือ Nova Lake-S ซึ่งเป็นซีพียูเดสก์ท็อปที่ใช้ซ็อกเก็ตใหม่ LGA 1954 และมีรุ่นสูงสุดถึง 52 คอร์ ส่วนฝั่ง AMD คือ “Next-Gen Platform” ที่คาดว่าจะเป็นซีรีส์ 900 สำหรับ Zen 6 บนซ็อกเก็ต AM5 เช่นเดิม Nova Lake-S ถูกออกแบบมาให้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของ Intel ในรอบหลายปี โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ multi-tile ที่ประกอบด้วย 16 P-cores, 32 E-cores และ 4 LP-E cores รวมเป็น 52 คอร์ในรุ่นสูงสุด โดยไม่มี SMT บน P-core และใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบผสมระหว่าง Intel 14A และ TSMC N2 สำหรับบางส่วนของ SoC ซ็อกเก็ต LGA 1954 มีขนาดเท่ากับ LGA 1700 เดิม (45 × 37.5 มม.) แต่เพิ่มจำนวนขาเพื่อรองรับพลังงานและแบนด์วิดธ์ที่สูงขึ้น พร้อมเปิดตัวคู่กับชิปเซ็ต 900-series เช่น Z990 และ H970 ที่รองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 และ Thunderbolt 5 ฝั่ง AMD ก็ไม่น้อยหน้า โดย Zen 6 จะใช้ CCD บน TSMC N2P และ IOD บน N3P ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับ 2nm และ 3nm ตามลำดับ โดยยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 และคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับเมนบอร์ดซีรีส์ 900 เช่น X970, B950 และ B940 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2026 การที่ HWiNFO เพิ่มการรองรับล่วงหน้า แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ใกล้เข้าสู่ช่วง Pre-QS หรือการทดสอบก่อนผลิตจริง และจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันรอบใหม่ระหว่าง Intel และ AMD ในตลาดเดสก์ท็อประดับสูง ✅ การอัปเดตของ HWiNFO ➡️ เวอร์ชัน 8.31 จะรองรับ Intel Nova Lake-S และ AMD Next-Gen Platform ➡️ เป็นครั้งแรกที่ Nova Lake-S ถูกระบุใน release notes ของซอฟต์แวร์ ✅ Intel Nova Lake-S และซ็อกเก็ต LGA 1954 ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม multi-tile: 16 P-cores + 32 E-cores + 4 LP-E cores ➡️ ไม่มี SMT บน P-core และใช้ Intel 14A + TSMC N2 ➡️ ซ็อกเก็ต LGA 1954 มีขนาดเท่าเดิมแต่เพิ่มจำนวนขา ➡️ เปิดตัวพร้อมชิปเซ็ต Z990, H970 รองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Thunderbolt 5 ✅ AMD Zen 6 และแพลตฟอร์ม 900-series ➡️ ใช้ CCD บน TSMC N2P และ IOD บน N3P ➡️ ยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 และเปิดตัวพร้อม X970, B950, B940 ➡️ คาดว่าจะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2026 ✅ ความหมายต่อวงการเดสก์ท็อป ➡️ เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและ I/O ➡️ HWiNFO เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบสเปกและการทดสอบเบื้องต้น ➡️ จุดเริ่มต้นของการแข่งขันรอบใหม่ระหว่าง Intel และ AMD https://wccftech.com/hwinfo-to-add-support-for-nova-lake-s-and-next-gen-amd-platform-likely-hinting-towards-amd-900-series-for-zen-6/
    WCCFTECH.COM
    HWiNFO To Add Support For Nova Lake-S And "Next-Gen" AMD Platform, Likely Hinting Towards AMD 900-Series For Zen 6
    The upcoming HWiNFO version 8.31 will add support for the next-gen Intel Nova Lake-S and AMD's next-gen platform support.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก N3P ถึง 5W: เมื่อชิปมือถือระดับเรือธงสามารถเล่นเกม AAA ได้โดยไม่เกิน 5 วัตต์

    Qualcomm กำลังเตรียมเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 5 ภายในเดือนกันยายน 2025 โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 3nm รุ่นที่สามของ TSMC ที่เรียกว่า N3P ซึ่งแม้จะเป็นแค่ “optical shrink” จาก N3E แต่ก็ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นราว 5% ที่พลังงานเท่าเดิม หรือประหยัดพลังงานได้ 5–10% ที่ความเร็วเท่าเดิม

    จากตัวอย่างชิปที่หลุดออกมา (engineering sample) พบว่าประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูงกว่ารุ่น Snapdragon 8 Elite เดิมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในด้าน framerate และการจัดการพลังงาน แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยชื่อเกมที่ใช้ทดสอบ แต่มีรายงานว่าชิปสามารถรันเกมกราฟิกหนักได้โดยใช้พลังงานไม่เกิน 5W

    สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้จะมีการเพิ่มความเร็วของคอร์และประสิทธิภาพของ GPU/NPU แต่การใช้พลังงานกลับไม่เพิ่มตาม—สะท้อนถึงการปรับปรุงด้านสถาปัตยกรรม เช่น memory fabric, instruction-per-clock และการจัดการ scheduler ที่ดีขึ้น

    ในบางกรณี ตัวอย่างชิปที่ถูก underclock ยังสามารถทำคะแนน multi-core ได้สูงกว่ารุ่นเดิม แม้จะรันที่ความเร็วเพียง 4.00GHz เทียบกับ 4.74GHz ของ Elite เดิม ซึ่งบ่งชี้ถึงการปรับปรุงที่ไม่ใช่แค่เรื่องความเร็ว แต่เป็นการออกแบบที่ลึกขึ้น

    Qualcomm ยังตั้งเป้าลดการใช้พลังงานลงอีก 1W สำหรับเกมกราฟิกหนัก ซึ่งแม้จะดูเล็กน้อย แต่ในโลกของสมาร์ทโฟน ทุกวัตต์มีผลต่อความร้อนและอายุแบตเตอรี่อย่างมีนัยสำคัญ

    สถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีการผลิต
    ใช้ TSMC N3P ซึ่งเป็น 3nm รุ่นที่สามแบบ optical shrink จาก N3E
    ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 5% หรือประหยัดพลังงานได้ 5–10%
    Qualcomm ใช้ headroom เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพโดยไม่เพิ่ม wattage

    ประสิทธิภาพของ engineering sample
    เล่นเกมกราฟิกหนักได้โดยใช้พลังงานไม่เกิน 5W
    ให้ framerate สูงกว่ารุ่น Snapdragon 8 Elite เดิม
    underclocked sample ยังทำคะแนน multi-core ได้สูงกว่า Elite เดิม

    การปรับปรุงด้านสถาปัตยกรรม
    ปรับปรุง instruction-per-clock, memory subsystem และ scheduler
    GPU และ NPU มีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่เพิ่มพลังงาน
    รองรับงาน generative AI บนอุปกรณ์โดยไม่กระทบแบตเตอรี่

    เป้าหมายด้านพลังงานและความร้อน
    Qualcomm ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานลงอีก 1W สำหรับเกมกราฟิกหนัก
    ช่วยลดความร้อนและยืดอายุแบตเตอรี่
    เหมาะสำหรับงาน burst เช่น AI inference, photo processing, app launch

    https://wccftech.com/snapdragon-8-elite-gen-5-engineering-sample-better-performance-and-efficiency-than-snapdragon-8-elite/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก N3P ถึง 5W: เมื่อชิปมือถือระดับเรือธงสามารถเล่นเกม AAA ได้โดยไม่เกิน 5 วัตต์ Qualcomm กำลังเตรียมเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 5 ภายในเดือนกันยายน 2025 โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 3nm รุ่นที่สามของ TSMC ที่เรียกว่า N3P ซึ่งแม้จะเป็นแค่ “optical shrink” จาก N3E แต่ก็ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นราว 5% ที่พลังงานเท่าเดิม หรือประหยัดพลังงานได้ 5–10% ที่ความเร็วเท่าเดิม จากตัวอย่างชิปที่หลุดออกมา (engineering sample) พบว่าประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูงกว่ารุ่น Snapdragon 8 Elite เดิมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในด้าน framerate และการจัดการพลังงาน แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยชื่อเกมที่ใช้ทดสอบ แต่มีรายงานว่าชิปสามารถรันเกมกราฟิกหนักได้โดยใช้พลังงานไม่เกิน 5W สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้จะมีการเพิ่มความเร็วของคอร์และประสิทธิภาพของ GPU/NPU แต่การใช้พลังงานกลับไม่เพิ่มตาม—สะท้อนถึงการปรับปรุงด้านสถาปัตยกรรม เช่น memory fabric, instruction-per-clock และการจัดการ scheduler ที่ดีขึ้น ในบางกรณี ตัวอย่างชิปที่ถูก underclock ยังสามารถทำคะแนน multi-core ได้สูงกว่ารุ่นเดิม แม้จะรันที่ความเร็วเพียง 4.00GHz เทียบกับ 4.74GHz ของ Elite เดิม ซึ่งบ่งชี้ถึงการปรับปรุงที่ไม่ใช่แค่เรื่องความเร็ว แต่เป็นการออกแบบที่ลึกขึ้น Qualcomm ยังตั้งเป้าลดการใช้พลังงานลงอีก 1W สำหรับเกมกราฟิกหนัก ซึ่งแม้จะดูเล็กน้อย แต่ในโลกของสมาร์ทโฟน ทุกวัตต์มีผลต่อความร้อนและอายุแบตเตอรี่อย่างมีนัยสำคัญ ✅ สถาปัตยกรรมและเทคโนโลยีการผลิต ➡️ ใช้ TSMC N3P ซึ่งเป็น 3nm รุ่นที่สามแบบ optical shrink จาก N3E ➡️ ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 5% หรือประหยัดพลังงานได้ 5–10% ➡️ Qualcomm ใช้ headroom เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพโดยไม่เพิ่ม wattage ✅ ประสิทธิภาพของ engineering sample ➡️ เล่นเกมกราฟิกหนักได้โดยใช้พลังงานไม่เกิน 5W ➡️ ให้ framerate สูงกว่ารุ่น Snapdragon 8 Elite เดิม ➡️ underclocked sample ยังทำคะแนน multi-core ได้สูงกว่า Elite เดิม ✅ การปรับปรุงด้านสถาปัตยกรรม ➡️ ปรับปรุง instruction-per-clock, memory subsystem และ scheduler ➡️ GPU และ NPU มีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่เพิ่มพลังงาน ➡️ รองรับงาน generative AI บนอุปกรณ์โดยไม่กระทบแบตเตอรี่ ✅ เป้าหมายด้านพลังงานและความร้อน ➡️ Qualcomm ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานลงอีก 1W สำหรับเกมกราฟิกหนัก ➡️ ช่วยลดความร้อนและยืดอายุแบตเตอรี่ ➡️ เหมาะสำหรับงาน burst เช่น AI inference, photo processing, app launch https://wccftech.com/snapdragon-8-elite-gen-5-engineering-sample-better-performance-and-efficiency-than-snapdragon-8-elite/
    WCCFTECH.COM
    Snapdragon 8 Elite Gen 5 Engineering Sample Pushes Higher Framerate In Games With Better Efficiency Than The Snapdragon 8 Elite
    An engineering sample of the Snapdragon 8 Elite Gen 5 ended up delivering significantly better performance and efficiency than its direct predecessor, the Snapdragon 8 Elite
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากชิปที่ถูกทิ้งถึงการปฏิวัติวงการขุดบิตคอยน์

    ย้อนกลับไปปี 2022 Intel เคยเปิดตัวชิป Blockscale BZM2 ซึ่งเป็น ASIC รุ่นที่สองสำหรับการขุดบิตคอยน์โดยเฉพาะ ด้วยประสิทธิภาพสูงถึง 580 GH/s และใช้พลังงานเพียง 23 J/TH แต่หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน Intel ก็ถอนตัวจากตลาดนี้อย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงจาก Bitmain และการเปลี่ยนแปลงในตลาดคริปโต

    สองปีผ่านไป ชิปเหล่านี้กลับมาอีกครั้ง—ไม่ใช่เพื่อขาย แต่เพื่อแจกฟรี โดย Jack Dorsey ผ่านบริษัท Block (เดิมคือ Square) ได้บริจาคชิป BZM2 จำนวน 256,000 ตัวให้กับมูลนิธิ 256 Foundation ซึ่งเป็นกลุ่มนักพัฒนาโอเพ่นซอร์สด้านฮาร์ดแวร์ขุดบิตคอยน์ในสหรัฐฯ

    ชิปเหล่านี้จะถูกแจกจ่ายให้กับ 4 โครงการโอเพ่นซอร์สในสหรัฐฯ โครงการละ 54,000 ตัว โดยไม่มีเอกสารทางเทคนิคจาก Intel แต่มีการสร้าง schematic และ reference design ใหม่จากชุมชน เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้จริง

    แม้ชิป BZM2 จะถูกออกแบบมาเพื่อขุดบิตคอยน์โดยใช้ SHA-256 แต่ผู้พัฒนาบางรายเริ่มทดลองใช้ความร้อนจากชิปในการทำงานอื่น เช่น อุ่นน้ำ อุ่นห้อง หรือแม้แต่ทำให้เตียงเครื่องพิมพ์ 3D ร้อนขึ้น—สะท้อนถึงแนวคิด “heat reuse” ที่กำลังได้รับความสนใจในวงการพลังงานหมุนเวียน

    การแจกชิปครั้งนี้ถือเป็นการปลดล็อก ecosystem ที่เคยถูกควบคุมโดยผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น Bitmain ซึ่งมักล็อก firmware และไม่เปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ การมีชิปในมือของนักพัฒนาโอเพ่นซอร์สจึงเป็นก้าวสำคัญสู่การกระจายอำนาจของระบบขุดบิตคอยน์

    การกลับมาของชิป Blockscale BZM2
    Intel เคยเปิดตัวในปี 2022 แล้วถอนตัวจากตลาดในปีถัดมา
    ชิปมีประสิทธิภาพ 580 GH/s และใช้พลังงาน 23 J/TH
    ถูกบริจาคจำนวน 256,000 ตัวโดย Block (Jack Dorsey) ให้ 256 Foundation

    การแจกจ่ายและการใช้งาน
    แจกให้ 4 โครงการโอเพ่นซอร์สในสหรัฐฯ โครงการละ 54,000 ตัว
    ไม่มีเอกสารจาก Intel แต่มีการสร้าง schematic และ reference design ใหม่
    ใช้สำหรับการขุดบิตคอยน์และการทดลองด้าน heat reuse

    ความหมายต่อวงการขุดบิตคอยน์
    เป็นการปลดล็อก ecosystem ที่เคยถูกควบคุมโดยผู้ผลิตรายใหญ่
    เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับแต่งและตรวจสอบฮาร์ดแวร์ได้เอง
    สร้างแนวทางใหม่ในการพัฒนาอุปกรณ์ขุดแบบเปิดและยั่งยืน

    การใช้งานนอกเหนือจากการขุด
    ใช้ความร้อนจากชิปในการอุ่นห้อง อุ่นน้ำ หรือทำงานในระบบพลังงานหมุนเวียน
    มีศักยภาพในการใช้งานในบ้านหรือพื้นที่ห่างไกล
    สะท้อนแนวคิด circular computing และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-bzm2-block-sale-chips-return-from-dead
    🎙️ เรื่องเล่าจากชิปที่ถูกทิ้งถึงการปฏิวัติวงการขุดบิตคอยน์ ย้อนกลับไปปี 2022 Intel เคยเปิดตัวชิป Blockscale BZM2 ซึ่งเป็น ASIC รุ่นที่สองสำหรับการขุดบิตคอยน์โดยเฉพาะ ด้วยประสิทธิภาพสูงถึง 580 GH/s และใช้พลังงานเพียง 23 J/TH แต่หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน Intel ก็ถอนตัวจากตลาดนี้อย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงจาก Bitmain และการเปลี่ยนแปลงในตลาดคริปโต สองปีผ่านไป ชิปเหล่านี้กลับมาอีกครั้ง—ไม่ใช่เพื่อขาย แต่เพื่อแจกฟรี โดย Jack Dorsey ผ่านบริษัท Block (เดิมคือ Square) ได้บริจาคชิป BZM2 จำนวน 256,000 ตัวให้กับมูลนิธิ 256 Foundation ซึ่งเป็นกลุ่มนักพัฒนาโอเพ่นซอร์สด้านฮาร์ดแวร์ขุดบิตคอยน์ในสหรัฐฯ ชิปเหล่านี้จะถูกแจกจ่ายให้กับ 4 โครงการโอเพ่นซอร์สในสหรัฐฯ โครงการละ 54,000 ตัว โดยไม่มีเอกสารทางเทคนิคจาก Intel แต่มีการสร้าง schematic และ reference design ใหม่จากชุมชน เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้จริง แม้ชิป BZM2 จะถูกออกแบบมาเพื่อขุดบิตคอยน์โดยใช้ SHA-256 แต่ผู้พัฒนาบางรายเริ่มทดลองใช้ความร้อนจากชิปในการทำงานอื่น เช่น อุ่นน้ำ อุ่นห้อง หรือแม้แต่ทำให้เตียงเครื่องพิมพ์ 3D ร้อนขึ้น—สะท้อนถึงแนวคิด “heat reuse” ที่กำลังได้รับความสนใจในวงการพลังงานหมุนเวียน การแจกชิปครั้งนี้ถือเป็นการปลดล็อก ecosystem ที่เคยถูกควบคุมโดยผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น Bitmain ซึ่งมักล็อก firmware และไม่เปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ การมีชิปในมือของนักพัฒนาโอเพ่นซอร์สจึงเป็นก้าวสำคัญสู่การกระจายอำนาจของระบบขุดบิตคอยน์ ✅ การกลับมาของชิป Blockscale BZM2 ➡️ Intel เคยเปิดตัวในปี 2022 แล้วถอนตัวจากตลาดในปีถัดมา ➡️ ชิปมีประสิทธิภาพ 580 GH/s และใช้พลังงาน 23 J/TH ➡️ ถูกบริจาคจำนวน 256,000 ตัวโดย Block (Jack Dorsey) ให้ 256 Foundation ✅ การแจกจ่ายและการใช้งาน ➡️ แจกให้ 4 โครงการโอเพ่นซอร์สในสหรัฐฯ โครงการละ 54,000 ตัว ➡️ ไม่มีเอกสารจาก Intel แต่มีการสร้าง schematic และ reference design ใหม่ ➡️ ใช้สำหรับการขุดบิตคอยน์และการทดลองด้าน heat reuse ✅ ความหมายต่อวงการขุดบิตคอยน์ ➡️ เป็นการปลดล็อก ecosystem ที่เคยถูกควบคุมโดยผู้ผลิตรายใหญ่ ➡️ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับแต่งและตรวจสอบฮาร์ดแวร์ได้เอง ➡️ สร้างแนวทางใหม่ในการพัฒนาอุปกรณ์ขุดแบบเปิดและยั่งยืน ✅ การใช้งานนอกเหนือจากการขุด ➡️ ใช้ความร้อนจากชิปในการอุ่นห้อง อุ่นน้ำ หรือทำงานในระบบพลังงานหมุนเวียน ➡️ มีศักยภาพในการใช้งานในบ้านหรือพื้นที่ห่างไกล ➡️ สะท้อนแนวคิด circular computing และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-bzm2-block-sale-chips-return-from-dead
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Ransomware 3.0: เมื่อมัลแวร์ไม่ต้องเขียนโค้ดล่วงหน้า แค่สั่ง AI ให้แต่งสดตามสถานการณ์

    ในเดือนกันยายน 2025 นักวิจัยจาก NYU Tandon School of Engineering เปิดเผยว่า “PromptLocker” ซึ่งถูกบริษัท ESET เข้าใจผิดว่าเป็นมัลแวร์จริงในโลกไซเบอร์นั้น แท้จริงคือโค้ดทดลองในโครงการวิจัยชื่อ “Ransomware 3.0” ที่พัฒนาขึ้นเพื่อศึกษาความสามารถของ AI ในการสร้างมัลแวร์แบบอัตโนมัติ

    PromptLocker ใช้ Lua script ที่ถูกสร้างจาก prompt แบบ hard-coded เพื่อสแกนไฟล์ในเครื่อง, เลือกเป้าหมาย, ขโมยข้อมูล, และเข้ารหัสไฟล์—ครบทุกขั้นตอนของ ransomware โดยไม่ต้องมีโค้ดล่วงหน้า นักวิจัยใช้ LLM (Large Language Model) แบบโอเพ่นซอร์สเพื่อแต่งโค้ดตามคำสั่งที่ฝังไว้ใน binary และให้ AI ตัดสินใจเองว่าจะโจมตีอย่างไร

    สิ่งที่น่ากังวลคือ ความสามารถของระบบนี้ในการทำงานแบบ “ปิดวงจร” โดยไม่ต้องมีมนุษย์คอยควบคุม และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามสภาพแวดล้อมได้แบบ polymorphic—ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก

    ต้นทุนของการโจมตีหนึ่งครั้งอยู่ที่ประมาณ 23,000 token หรือราว $0.70 หากใช้ API เชิงพาณิชย์ แต่ถ้าใช้โมเดลโอเพ่นซอร์ส ต้นทุนจะเป็นศูนย์ นักวิจัยเตือนว่า “ผลตอบแทนของแฮกเกอร์จะสูงกว่าคนลงทุนใน AI เสียอีก” หากไม่มีมาตรการควบคุมที่เหมาะสม

    แม้จะเป็นแค่การทดลองในห้องแล็บ แต่ PromptLocker ทำงานได้จริง และสามารถหลอกนักวิจัยด้านความปลอดภัยให้เชื่อว่าเป็นมัลแวร์ในโลกจริงได้—สะท้อนถึงความซับซ้อนของภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

    จุดกำเนิดของ PromptLocker
    เป็นโค้ดทดลองจาก NYU Tandon School of Engineering
    ถูกเข้าใจผิดโดย ESET ว่าเป็นมัลแวร์จริงในโลกไซเบอร์
    ใช้ชื่อในงานวิจัยว่า “Ransomware 3.0”

    วิธีการทำงานของระบบ
    ใช้ Lua script ที่สร้างจาก prompt เพื่อควบคุมการโจมตี
    ทำงานครบทุกขั้นตอน: สแกน, ขโมย, เข้ารหัส, สร้างโน้ตร้องค่าไถ่
    ใช้ LLM แบบโอเพ่นซอร์สในการแต่งโค้ดตามสถานการณ์

    ความสามารถของระบบ
    ทำงานแบบปิดวงจรโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม
    สร้างโค้ดแบบ polymorphic ที่ปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม
    สามารถหลอกนักวิจัยให้เชื่อว่าเป็นมัลแวร์จริงได้

    ต้นทุนและผลกระทบ
    ใช้ประมาณ 23,000 token ต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง (~$0.70)
    หากใช้โมเดลโอเพ่นซอร์ส ต้นทุนจะเป็นศูนย์
    นักวิจัยเตือนว่าแฮกเกอร์อาจได้ผลตอบแทนสูงกว่าผู้ลงทุนใน AI

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/ai-powered-promptlocker-ransomware-is-just-an-nyu-research-project-the-code-worked-as-a-typical-ransomware-selecting-targets-exfiltrating-selected-data-and-encrypting-volumes
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Ransomware 3.0: เมื่อมัลแวร์ไม่ต้องเขียนโค้ดล่วงหน้า แค่สั่ง AI ให้แต่งสดตามสถานการณ์ ในเดือนกันยายน 2025 นักวิจัยจาก NYU Tandon School of Engineering เปิดเผยว่า “PromptLocker” ซึ่งถูกบริษัท ESET เข้าใจผิดว่าเป็นมัลแวร์จริงในโลกไซเบอร์นั้น แท้จริงคือโค้ดทดลองในโครงการวิจัยชื่อ “Ransomware 3.0” ที่พัฒนาขึ้นเพื่อศึกษาความสามารถของ AI ในการสร้างมัลแวร์แบบอัตโนมัติ PromptLocker ใช้ Lua script ที่ถูกสร้างจาก prompt แบบ hard-coded เพื่อสแกนไฟล์ในเครื่อง, เลือกเป้าหมาย, ขโมยข้อมูล, และเข้ารหัสไฟล์—ครบทุกขั้นตอนของ ransomware โดยไม่ต้องมีโค้ดล่วงหน้า นักวิจัยใช้ LLM (Large Language Model) แบบโอเพ่นซอร์สเพื่อแต่งโค้ดตามคำสั่งที่ฝังไว้ใน binary และให้ AI ตัดสินใจเองว่าจะโจมตีอย่างไร สิ่งที่น่ากังวลคือ ความสามารถของระบบนี้ในการทำงานแบบ “ปิดวงจร” โดยไม่ต้องมีมนุษย์คอยควบคุม และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามสภาพแวดล้อมได้แบบ polymorphic—ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก ต้นทุนของการโจมตีหนึ่งครั้งอยู่ที่ประมาณ 23,000 token หรือราว $0.70 หากใช้ API เชิงพาณิชย์ แต่ถ้าใช้โมเดลโอเพ่นซอร์ส ต้นทุนจะเป็นศูนย์ นักวิจัยเตือนว่า “ผลตอบแทนของแฮกเกอร์จะสูงกว่าคนลงทุนใน AI เสียอีก” หากไม่มีมาตรการควบคุมที่เหมาะสม แม้จะเป็นแค่การทดลองในห้องแล็บ แต่ PromptLocker ทำงานได้จริง และสามารถหลอกนักวิจัยด้านความปลอดภัยให้เชื่อว่าเป็นมัลแวร์ในโลกจริงได้—สะท้อนถึงความซับซ้อนของภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ✅ จุดกำเนิดของ PromptLocker ➡️ เป็นโค้ดทดลองจาก NYU Tandon School of Engineering ➡️ ถูกเข้าใจผิดโดย ESET ว่าเป็นมัลแวร์จริงในโลกไซเบอร์ ➡️ ใช้ชื่อในงานวิจัยว่า “Ransomware 3.0” ✅ วิธีการทำงานของระบบ ➡️ ใช้ Lua script ที่สร้างจาก prompt เพื่อควบคุมการโจมตี ➡️ ทำงานครบทุกขั้นตอน: สแกน, ขโมย, เข้ารหัส, สร้างโน้ตร้องค่าไถ่ ➡️ ใช้ LLM แบบโอเพ่นซอร์สในการแต่งโค้ดตามสถานการณ์ ✅ ความสามารถของระบบ ➡️ ทำงานแบบปิดวงจรโดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม ➡️ สร้างโค้ดแบบ polymorphic ที่ปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม ➡️ สามารถหลอกนักวิจัยให้เชื่อว่าเป็นมัลแวร์จริงได้ ✅ ต้นทุนและผลกระทบ ➡️ ใช้ประมาณ 23,000 token ต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง (~$0.70) ➡️ หากใช้โมเดลโอเพ่นซอร์ส ต้นทุนจะเป็นศูนย์ ➡️ นักวิจัยเตือนว่าแฮกเกอร์อาจได้ผลตอบแทนสูงกว่าผู้ลงทุนใน AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/ai-powered-promptlocker-ransomware-is-just-an-nyu-research-project-the-code-worked-as-a-typical-ransomware-selecting-targets-exfiltrating-selected-data-and-encrypting-volumes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • อันตรายมากๆตอนนี้มีทหารไทยใจอเมริกาแบบพรรคส้มด้วย,ค่าจริงคือบ้านหนองจานตัวบทพิสูจน์ผลลัพธ์,ต่างจากอีสานใต้มหาศาล,บูรพาพยัคฆ์อันตรายมากตอนนี้ต่อสถานะการแสดงตัวตนของตน,และการรัฐประหารที่ผ่านๆมาทุกๆครั้งได้ไฟเขียวจากciaอเมริกาสนับสนุนหนุนหลังนี้ล่ะ,อเมริกาปล้นบ่อปิโตรเลียมไทยสำเร็จเรื่อยมาในอดีตก็แบบนี้,ต่ออายุสัมปทานเฉยๆอเมริกามันสั่งมวลชนหลอกคนไทยจนไปสู่การยึดอำนาจสำเร็จเพื่อต่ออายุสัมปทานบ่อน้ำมันบริษัทอเมริกาและแจกสัมปทานให้ชาติซาอุฯแดกใบ้บนอ่าวไทยเต็มขนาดใหญ่จนซาอุฯคุยจะสร้างคลังแสงเก็บน้ำมันขนาดใหญ่บนแผ่นดินไทย ,อเมริกาจึงรีบมายึดพังงาไทยยึดคลองคอกกระไทยหากสร้่งจริงกูจะได้คุมและได้ประโยชน์มหาศาลทำตังได้มากมายกองเป็นภูเขาด้วยกับแลนด์บริดจ์ไทย,บ้านเมืองไทยจึงสงบสุขไม่ได้ ต้องโกลาหลอยู่ตลอดเวลามิให้ตั้งตัวได้,อเมริกาชาติฝรั่งแบบยุโรปเลวชั่วเหมือนกันหมดจริงๆนะ,ไทยจึงต้องสามัคคีกันจริงๆนักการเมืองคิอศัตรูที่แท้จริงของคนไทยแล้ว คือขี้ข้าอเมริกา สิ่งนี้ต้องประชาสัมพันธ์ให้คนไทยตื่นรู้,มาร่วมถีบฝรั่งอเมริกาฝรั่งเศสออกจากแผ่นดินไทย มันปกปิดค่าจริงมิให้ลูกหลานเรารู้ประวัติศาสตร์ไทยว่าชาติฝรั่งอเมริกาเลวชั่วแบบใดบ้าง จึงตัดตำราเรียนเราออกไปมากมาย มันอเมริกาและชาติฝรั่งเศสก็ปกครองควบคุมการเรียนการสอนเด็กๆเราด้วย,คนไทยเลยโง่มากในปัจจุบัน สิ่งนี้ต้องยอมรับ,ภาพรวมระบบการศึกษาเราโง่ อุปถัมภ์มาแรง กู้เรียนก็สไตล์การทำลายคนไทยที่ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ด้วย,เป็นพลเมืองไทย มันวางแผนทำลายแบบนี้ อเมริกาและชาติฝรั่งเศสจึงอำมหิตไม่เลิกและไม่เคยเปลี่ยนแปลงสันดานเดิมนี้เลย,จะแรปทีเลี่ยนฝ่ายมืดอะไรก็ตามมาอ้างเป็นสายปกครองอยู่ในอำนาจ พวกนี้ก็ต้องถูกกำจัดทันที เมื่อทฤษฎีต่างดาวมีจริง สภากาแล็คติกถ้ามีจริงต้องสแกนกำจัดทันทีเช่นกันจากผิวโลกมิใช่ผีบ้าตามเจตจำนงเสรีห่าเหวอะไร,ต้องลงมาดูดพวกนี้ไป ลงมากำจัดพวกนี้ไปเพราะต่างดาวเหมือนกันแต่ลงมาทำชั่วบนผิวโลกด้วยใช้ความล้ำสมัยตนมันรังแกคนบนโลกก็ด้วย ต้องถูกดูดออกจากโลกนี้ทั้งหมด จากนั้นชาวโลกจะกำจัดส่วนที่เหลือจริงค้างอีกที,คนเหนือมนุษย์ทั่วโลกต้องออกมาจากรูได้แล้ว ออกมากำจัดคนพวกนี้จริงๆทำความสะอาดโลกใบนี้ร่วมกันจริงๆ,อย่าอยู่รกโลกหนักโลกใบนี้อีกเลย,ไม่สนใจก็ย้ายดวงดาวไปอยู่โลกใบอื่นสะ ไปเป็นยอดมนุษย์คนเหนือมนุษย์ในโลกอื่นเถอะ,ไม่ได้ช่วยร่วมสร้างสันติสุขจริงห่าเหวอะไร,ไปอยู่กรอบรอบรรลุธรรมโลกอื่นเถอะ,โลกใบนี้สกปรกเกินไป อย่าแสดงมาเป็นบัวใต้ตมเหนือตมอีกเลย, หนองน้ำนี้ตื่นรู้จริงจากคนเหนือมนุษย์แสดงตัวตนจริงบอกค่าจริงบนโดมบนกรอบนี้มันจะดีขนาดไหน,กฎจักรวาบผีบ้าฉีกทิ้งไปเถอะ,สภาจักรวาลแท้ๆยังมีฝ่ายมือเป็นประธานได้โน้น.
    https://youtube.com/shorts/B-9Krpc-fB4?si=bDnZe3lXFwwKbq2E
    อันตรายมากๆตอนนี้มีทหารไทยใจอเมริกาแบบพรรคส้มด้วย,ค่าจริงคือบ้านหนองจานตัวบทพิสูจน์ผลลัพธ์,ต่างจากอีสานใต้มหาศาล,บูรพาพยัคฆ์อันตรายมากตอนนี้ต่อสถานะการแสดงตัวตนของตน,และการรัฐประหารที่ผ่านๆมาทุกๆครั้งได้ไฟเขียวจากciaอเมริกาสนับสนุนหนุนหลังนี้ล่ะ,อเมริกาปล้นบ่อปิโตรเลียมไทยสำเร็จเรื่อยมาในอดีตก็แบบนี้,ต่ออายุสัมปทานเฉยๆอเมริกามันสั่งมวลชนหลอกคนไทยจนไปสู่การยึดอำนาจสำเร็จเพื่อต่ออายุสัมปทานบ่อน้ำมันบริษัทอเมริกาและแจกสัมปทานให้ชาติซาอุฯแดกใบ้บนอ่าวไทยเต็มขนาดใหญ่จนซาอุฯคุยจะสร้างคลังแสงเก็บน้ำมันขนาดใหญ่บนแผ่นดินไทย ,อเมริกาจึงรีบมายึดพังงาไทยยึดคลองคอกกระไทยหากสร้่งจริงกูจะได้คุมและได้ประโยชน์มหาศาลทำตังได้มากมายกองเป็นภูเขาด้วยกับแลนด์บริดจ์ไทย,บ้านเมืองไทยจึงสงบสุขไม่ได้ ต้องโกลาหลอยู่ตลอดเวลามิให้ตั้งตัวได้,อเมริกาชาติฝรั่งแบบยุโรปเลวชั่วเหมือนกันหมดจริงๆนะ,ไทยจึงต้องสามัคคีกันจริงๆนักการเมืองคิอศัตรูที่แท้จริงของคนไทยแล้ว คือขี้ข้าอเมริกา สิ่งนี้ต้องประชาสัมพันธ์ให้คนไทยตื่นรู้,มาร่วมถีบฝรั่งอเมริกาฝรั่งเศสออกจากแผ่นดินไทย มันปกปิดค่าจริงมิให้ลูกหลานเรารู้ประวัติศาสตร์ไทยว่าชาติฝรั่งอเมริกาเลวชั่วแบบใดบ้าง จึงตัดตำราเรียนเราออกไปมากมาย มันอเมริกาและชาติฝรั่งเศสก็ปกครองควบคุมการเรียนการสอนเด็กๆเราด้วย,คนไทยเลยโง่มากในปัจจุบัน สิ่งนี้ต้องยอมรับ,ภาพรวมระบบการศึกษาเราโง่ อุปถัมภ์มาแรง กู้เรียนก็สไตล์การทำลายคนไทยที่ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ด้วย,เป็นพลเมืองไทย มันวางแผนทำลายแบบนี้ อเมริกาและชาติฝรั่งเศสจึงอำมหิตไม่เลิกและไม่เคยเปลี่ยนแปลงสันดานเดิมนี้เลย,จะแรปทีเลี่ยนฝ่ายมืดอะไรก็ตามมาอ้างเป็นสายปกครองอยู่ในอำนาจ พวกนี้ก็ต้องถูกกำจัดทันที เมื่อทฤษฎีต่างดาวมีจริง สภากาแล็คติกถ้ามีจริงต้องสแกนกำจัดทันทีเช่นกันจากผิวโลกมิใช่ผีบ้าตามเจตจำนงเสรีห่าเหวอะไร,ต้องลงมาดูดพวกนี้ไป ลงมากำจัดพวกนี้ไปเพราะต่างดาวเหมือนกันแต่ลงมาทำชั่วบนผิวโลกด้วยใช้ความล้ำสมัยตนมันรังแกคนบนโลกก็ด้วย ต้องถูกดูดออกจากโลกนี้ทั้งหมด จากนั้นชาวโลกจะกำจัดส่วนที่เหลือจริงค้างอีกที,คนเหนือมนุษย์ทั่วโลกต้องออกมาจากรูได้แล้ว ออกมากำจัดคนพวกนี้จริงๆทำความสะอาดโลกใบนี้ร่วมกันจริงๆ,อย่าอยู่รกโลกหนักโลกใบนี้อีกเลย,ไม่สนใจก็ย้ายดวงดาวไปอยู่โลกใบอื่นสะ ไปเป็นยอดมนุษย์คนเหนือมนุษย์ในโลกอื่นเถอะ,ไม่ได้ช่วยร่วมสร้างสันติสุขจริงห่าเหวอะไร,ไปอยู่กรอบรอบรรลุธรรมโลกอื่นเถอะ,โลกใบนี้สกปรกเกินไป อย่าแสดงมาเป็นบัวใต้ตมเหนือตมอีกเลย, หนองน้ำนี้ตื่นรู้จริงจากคนเหนือมนุษย์แสดงตัวตนจริงบอกค่าจริงบนโดมบนกรอบนี้มันจะดีขนาดไหน,กฎจักรวาบผีบ้าฉีกทิ้งไปเถอะ,สภาจักรวาลแท้ๆยังมีฝ่ายมือเป็นประธานได้โน้น. https://youtube.com/shorts/B-9Krpc-fB4?si=bDnZe3lXFwwKbq2E
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555,ส่วนตัวถ้าได้เป็นนายกฯ4เดือนก็จะประกาศผีบ้าแบบนี้ล่ะ,ว่าไทยไม่ต้องการสงครามแต่จำเป็นต้องเป็นผู้เตรียมพร้อมทุกๆยุทธการทางสงครามเพื่อปกป้องและป้องกันประเทศ,ต่อมาจะยกเลิกmou43,44และtor46 ใช้สันปันน้ำกำหนดเส้นเขตแดนกับเขมรทั้งหมดที่มีเสาหมุดอายุกว่า100ปีปักตำตาชัดเจนกว่า73,74เสาเป็นหลักฐานชัดเจนเรื่องเขตแดนและตกลงจบไปนานแล้วกับฝรั่งเศส,เกิดก่อนโคตรพ่อโคตรแมร่งmou43,44นี้อีก,จึงสมควรว่าmou43,44เป็นอันมิชอบและตกไปพร้อมเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยตนเองอีกเรื่องดินแดนผ่นดินประเทศไทยตนเอง ต้องอำนาจพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวจะตัดสินเด็ดขาดได้,ทั้งหมดที่กอดmou43,44มีโทษประหารชีวิตชัดเจน ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนในเจตนาให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยตน ผิดม.119ชัดเจนตั้งแต่mou43,44tor46นี้ร่างเขียนขึ้น,ทุกๆคนที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด.
    ..ต่อมา555ในฐานะนายกฯ4เดือน,จะยกเลิกสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมทั่วประเทศทั้งหมด ปรับปรุงให้ทันสมัยจริงมิให้ไทยเสียเปรียบแบบปัจจุบัน,..ประกาศแจกมือถือควอนตัมฟรีแก่คนไทยทั่วประเทศ ให้คนไทยรับตังดิจิดัลทันทีคนละ100,000บาทคอยน์อินทนนท์ทั่วประเทศสู่ยุคใหม่,สังคมไทยจะไม่ใช้เงินสดอีก,กำหนดเงินใต้ดินฟอกเงินทั้งหมดที่อยู่นอกระบบทันที,1คนไทย1บัญชีเงินควอนตัมเท่านั้นและ1หมายเลขโทรศัพท์,ฟรีเน็ตทั่วไทยสำหรับคนไทยทั่วประเทศผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำของไทยเราเอง.
    ..ต่อมาจะประกาศสร้างรั้วลวดหนามไทยกับเขมร ไทยกับมาเลย์ ไทยกับพม่าทั่วประเทศทันที ลดอาชญากรรมทุกๆมิติต่อประชาชนคนไทยเรา,ควบคุมกำจีดอาชญากรที่ปะปนในไทยได้สะดวก,จากนั้นประกาศจัดตั้งบริษัทคลองขุดกระแห่งชาติไทย ให้หุ้นฟรีๆแก่คนไทยทุกๆคนๆละ10,000หุ้น,ตั้งแต่เกิดจนตาย,บวกหุ้นเพิ่มทุนอีก10,000หุ้นๆละ0.01บาทคอยน์ซื้อเพิ่มสูงสุดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของฮับกิจการสร้างเม็ดเงินมหาศาลแก่คนไทยเราจริงกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีรวมกับแลนด์บริดจ์ซึ่งคนไทยประเทศไทยเราขุดเองดำเนินการเองเป็นเจ้าของเองทั้งหมดจริงร่วมกัน,สร้างฮับสาระพัดฮับศูนย์การค้าตลาดระดับโลกผ่านคลองไทยเราค้าขายระหว่างทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลางกับโซนเอเชียแปซิฟิกมหาสมุทรฝั่งตะวันออกทั้งหมด,คลอง2เลน กว้าง2กม.เมตร เลนละ1กม.คู่ขนานแลนด์บริดจ์รอบข้างทางบก,ใครสะดวกทางใดเชิญเลย,ตลอดพื้นที่ทั่วไทยโดยเฉพาะภาคใต้เราจะสาระพัดฐานบริษัทแม่ต่างชาติทั่วโลกมาตั้งกิจการ นำรายได้เข้าประเทศผ่านบริษัทคลองไทยแห่งชาติเราเป็นอันมาก,ร่ำรวยไปพร้อมๆกัน,
    ..ฐานผลิตอาวุธและกองทัพอวกาศประจำประเทศไทยคือเราในอนาคต เพื่อพิทักษ์ป้องกันภัยรุกรานจากยานต่างดาวที่ไม่ดีในอนาคตได้,มิใช่กากๆแบบเขมรในปัจจุบัน.
    ..ยุคประเทศไทยใหม่ต้องถือกำเนิดขึ้นจริงๆหากทำไม่ได้,นายกฯหรือผู้ปกครองประเทศยังจุดยืนไม่ชัดเจน กากในการปกครองอยู่ก็สมควรสิ้นชาติไทยเถอะ,ยุคสมัยหน้าจะมาทำเล่นๆแบบนักการเมืองปัจจุบันไม่ได้แล้ว,ประชาชนคนไทยเราต้องอัพเลเวลแล้ว,คือเท่าทันโลกค่าจริง ยืนบนความเป็นจริง สายกลางเราจะเป็นไปตามธรรมชาติเอง.พลังงานล้ำๆเชิงดีงามของจักรวาลไม่ทอดทิ้งประเทศไทยเราหรอก,แต่ถ้ายังเหี้ยอยู่ พระสยามเทวาฯก็อาจละทิ้งประเทศนี้จริงๆนะ,ไทยแตกจะเกิดขึ้นจริง ประชาทุกข์ร้อนจะของจริง,เราจึงต้องกำจัดคนไม่ดีบนแผ่นดินไทยที่มีอำนาจปะปนในเราให้เด็ดขาดจริงจังได้แล้ว,ศัตรูแบบเขมรก็เด็ดขาดด้วย สันดานเชื้อชาตินี้เมื่อเป็นกันทั้งประเทศหมายทำลายไทยชัดเจน ทำลายประชาชนไทยแบบยิวใส่ประชาชนเราแบบไม่สนใจไม่แคร์ความรู้สึกคนไทยมันไม่สมควรเก็บไว้ โลกไม่จำเป็นต้องมีคนลักษณะนี้ประจำโลกก็ได้,ประเทศลักษณะนี้แบบเขมร แบบฝรั่งเศสหรือชาติยุโรปไม่จำเป็นต้องมีบนโลกก็ได้ เราสามารถสร้างสมดุลกันเองได้,เมื่อศัตรูหมายฆ่าคนไทย จะเก็บไว้ทำโคตรพ่อโคตรแมร่งมันเหรอ,ถ้าเราแพ้เขมร มันจะทำคนไทยแบบมันทำในเขมรนั้นล่ะจะกดขี่ข่มเหงคนไทยเราแน่นอน,เคสมทภ.1จึงน่าผิดหวังและเสียใจเป็นอันมาก,ท่านรักศัตรูเขมรที่รุกรานคนไทยมากกว่ารักคนไทยจริงๆ,ทหารเขมรและคนเขมรท่านไม่จัดการเด็ดขาดจริงจังด้วยเมื่อต้องเด็ดขาด,นายใหญ่ที่สั่งท่านนั้นคือคนเลว คนไทยไม่สมควรเก็บนายใหญ่นี้ไว้แม้เป็นเชื้อพระวงศ์ก็ตัดเด็ดหัวทิ้ง.,เขาทรยศต่อบรรพบุรษไทยตนและบุรพระมหากษัตริย์ตนเองด้วย,ไม่สมควรจงรักและภักดีโคตรพ่อโคตรแมร่งบรมโคตรมันด้วย.,เห็นแก่ได้แก่ตัวปกป้องผลประโยชน์ตนในแผ่นดินเขมรและพื้นที่ผลประโยชน์ตนในไทย คนเช่นนี้หนักแผ่นดินไทยต้องสัวหารทิ้งสถานเดียวเป็นภัยต่อประเทศชาติและประชาชนคนไทยทุกๆคนได้,นายกฯไทยต้องไม่กากและกระจอกอีกต่อไป.,เช่นนั้นประชาชนคนไทยเองจะร่วมกันทำลายชาตินี้ไม่ต้องรอผู้นำผู้ปกครองกากๆก็ได้.บ้านเมืองรุกเป็นไฟมันง่ายมากเมื่อประชาชนภายในประเทศไม่เอาแล้วเช่นกัน.
    ..ดาบมีสองด้านสองคมได้ ค่ำมืดยังมีสว่างแจ้งก็ด้วย,ประชาชนมืดบอดน่ากลัวมากๆ.

    https://youtube.com/watch?v=Y1eqppymLCI&si=8CSuTYkA6JUFttNR
    555,ส่วนตัวถ้าได้เป็นนายกฯ4เดือนก็จะประกาศผีบ้าแบบนี้ล่ะ,ว่าไทยไม่ต้องการสงครามแต่จำเป็นต้องเป็นผู้เตรียมพร้อมทุกๆยุทธการทางสงครามเพื่อปกป้องและป้องกันประเทศ,ต่อมาจะยกเลิกmou43,44และtor46 ใช้สันปันน้ำกำหนดเส้นเขตแดนกับเขมรทั้งหมดที่มีเสาหมุดอายุกว่า100ปีปักตำตาชัดเจนกว่า73,74เสาเป็นหลักฐานชัดเจนเรื่องเขตแดนและตกลงจบไปนานแล้วกับฝรั่งเศส,เกิดก่อนโคตรพ่อโคตรแมร่งmou43,44นี้อีก,จึงสมควรว่าmou43,44เป็นอันมิชอบและตกไปพร้อมเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทยตนเองอีกเรื่องดินแดนผ่นดินประเทศไทยตนเอง ต้องอำนาจพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวจะตัดสินเด็ดขาดได้,ทั้งหมดที่กอดmou43,44มีโทษประหารชีวิตชัดเจน ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนในเจตนาให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยตน ผิดม.119ชัดเจนตั้งแต่mou43,44tor46นี้ร่างเขียนขึ้น,ทุกๆคนที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด. ..ต่อมา555ในฐานะนายกฯ4เดือน,จะยกเลิกสัมปทานแหล่งปิโตรเลียมทั่วประเทศทั้งหมด ปรับปรุงให้ทันสมัยจริงมิให้ไทยเสียเปรียบแบบปัจจุบัน,..ประกาศแจกมือถือควอนตัมฟรีแก่คนไทยทั่วประเทศ ให้คนไทยรับตังดิจิดัลทันทีคนละ100,000บาทคอยน์อินทนนท์ทั่วประเทศสู่ยุคใหม่,สังคมไทยจะไม่ใช้เงินสดอีก,กำหนดเงินใต้ดินฟอกเงินทั้งหมดที่อยู่นอกระบบทันที,1คนไทย1บัญชีเงินควอนตัมเท่านั้นและ1หมายเลขโทรศัพท์,ฟรีเน็ตทั่วไทยสำหรับคนไทยทั่วประเทศผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำของไทยเราเอง. ..ต่อมาจะประกาศสร้างรั้วลวดหนามไทยกับเขมร ไทยกับมาเลย์ ไทยกับพม่าทั่วประเทศทันที ลดอาชญากรรมทุกๆมิติต่อประชาชนคนไทยเรา,ควบคุมกำจีดอาชญากรที่ปะปนในไทยได้สะดวก,จากนั้นประกาศจัดตั้งบริษัทคลองขุดกระแห่งชาติไทย ให้หุ้นฟรีๆแก่คนไทยทุกๆคนๆละ10,000หุ้น,ตั้งแต่เกิดจนตาย,บวกหุ้นเพิ่มทุนอีก10,000หุ้นๆละ0.01บาทคอยน์ซื้อเพิ่มสูงสุดเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของฮับกิจการสร้างเม็ดเงินมหาศาลแก่คนไทยเราจริงกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีรวมกับแลนด์บริดจ์ซึ่งคนไทยประเทศไทยเราขุดเองดำเนินการเองเป็นเจ้าของเองทั้งหมดจริงร่วมกัน,สร้างฮับสาระพัดฮับศูนย์การค้าตลาดระดับโลกผ่านคลองไทยเราค้าขายระหว่างทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลางกับโซนเอเชียแปซิฟิกมหาสมุทรฝั่งตะวันออกทั้งหมด,คลอง2เลน กว้าง2กม.เมตร เลนละ1กม.คู่ขนานแลนด์บริดจ์รอบข้างทางบก,ใครสะดวกทางใดเชิญเลย,ตลอดพื้นที่ทั่วไทยโดยเฉพาะภาคใต้เราจะสาระพัดฐานบริษัทแม่ต่างชาติทั่วโลกมาตั้งกิจการ นำรายได้เข้าประเทศผ่านบริษัทคลองไทยแห่งชาติเราเป็นอันมาก,ร่ำรวยไปพร้อมๆกัน, ..ฐานผลิตอาวุธและกองทัพอวกาศประจำประเทศไทยคือเราในอนาคต เพื่อพิทักษ์ป้องกันภัยรุกรานจากยานต่างดาวที่ไม่ดีในอนาคตได้,มิใช่กากๆแบบเขมรในปัจจุบัน. ..ยุคประเทศไทยใหม่ต้องถือกำเนิดขึ้นจริงๆหากทำไม่ได้,นายกฯหรือผู้ปกครองประเทศยังจุดยืนไม่ชัดเจน กากในการปกครองอยู่ก็สมควรสิ้นชาติไทยเถอะ,ยุคสมัยหน้าจะมาทำเล่นๆแบบนักการเมืองปัจจุบันไม่ได้แล้ว,ประชาชนคนไทยเราต้องอัพเลเวลแล้ว,คือเท่าทันโลกค่าจริง ยืนบนความเป็นจริง สายกลางเราจะเป็นไปตามธรรมชาติเอง.พลังงานล้ำๆเชิงดีงามของจักรวาลไม่ทอดทิ้งประเทศไทยเราหรอก,แต่ถ้ายังเหี้ยอยู่ พระสยามเทวาฯก็อาจละทิ้งประเทศนี้จริงๆนะ,ไทยแตกจะเกิดขึ้นจริง ประชาทุกข์ร้อนจะของจริง,เราจึงต้องกำจัดคนไม่ดีบนแผ่นดินไทยที่มีอำนาจปะปนในเราให้เด็ดขาดจริงจังได้แล้ว,ศัตรูแบบเขมรก็เด็ดขาดด้วย สันดานเชื้อชาตินี้เมื่อเป็นกันทั้งประเทศหมายทำลายไทยชัดเจน ทำลายประชาชนไทยแบบยิวใส่ประชาชนเราแบบไม่สนใจไม่แคร์ความรู้สึกคนไทยมันไม่สมควรเก็บไว้ โลกไม่จำเป็นต้องมีคนลักษณะนี้ประจำโลกก็ได้,ประเทศลักษณะนี้แบบเขมร แบบฝรั่งเศสหรือชาติยุโรปไม่จำเป็นต้องมีบนโลกก็ได้ เราสามารถสร้างสมดุลกันเองได้,เมื่อศัตรูหมายฆ่าคนไทย จะเก็บไว้ทำโคตรพ่อโคตรแมร่งมันเหรอ,ถ้าเราแพ้เขมร มันจะทำคนไทยแบบมันทำในเขมรนั้นล่ะจะกดขี่ข่มเหงคนไทยเราแน่นอน,เคสมทภ.1จึงน่าผิดหวังและเสียใจเป็นอันมาก,ท่านรักศัตรูเขมรที่รุกรานคนไทยมากกว่ารักคนไทยจริงๆ,ทหารเขมรและคนเขมรท่านไม่จัดการเด็ดขาดจริงจังด้วยเมื่อต้องเด็ดขาด,นายใหญ่ที่สั่งท่านนั้นคือคนเลว คนไทยไม่สมควรเก็บนายใหญ่นี้ไว้แม้เป็นเชื้อพระวงศ์ก็ตัดเด็ดหัวทิ้ง.,เขาทรยศต่อบรรพบุรษไทยตนและบุรพระมหากษัตริย์ตนเองด้วย,ไม่สมควรจงรักและภักดีโคตรพ่อโคตรแมร่งบรมโคตรมันด้วย.,เห็นแก่ได้แก่ตัวปกป้องผลประโยชน์ตนในแผ่นดินเขมรและพื้นที่ผลประโยชน์ตนในไทย คนเช่นนี้หนักแผ่นดินไทยต้องสัวหารทิ้งสถานเดียวเป็นภัยต่อประเทศชาติและประชาชนคนไทยทุกๆคนได้,นายกฯไทยต้องไม่กากและกระจอกอีกต่อไป.,เช่นนั้นประชาชนคนไทยเองจะร่วมกันทำลายชาตินี้ไม่ต้องรอผู้นำผู้ปกครองกากๆก็ได้.บ้านเมืองรุกเป็นไฟมันง่ายมากเมื่อประชาชนภายในประเทศไม่เอาแล้วเช่นกัน. ..ดาบมีสองด้านสองคมได้ ค่ำมืดยังมีสว่างแจ้งก็ด้วย,ประชาชนมืดบอดน่ากลัวมากๆ. https://youtube.com/watch?v=Y1eqppymLCI&si=8CSuTYkA6JUFttNR
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยนักล่า ตอนที่ 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (4)
    คุณพี่ Obama น่าจะตัดสินใจแล้ว ดูจากรายงานของคุณครู CRS บวกกับถังสมองยี่ห้อ CSIS (Council for Strategic and International Studies) ที่ออกมาเสนอเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2014 ให้มีการเจรจาและมีนายกคนกลาง เพื่อจะได้เอาสมันน้อยเข้าฉากลุยเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน
    แบบนี้คุณพี่ก็ต้องสร้างขบวนการ จัดการบ้านของสมันน้อยให้มั่นคง (Stable) 
อย่างที่คุณพี่ต้องการก่อน หนึ่งในการจัดการให้เกิดความมั่นคงในบ้านสมันน้อย
(ส่วนที่เปิดเผยได้ !) คุณพี่และสมุน ก็กลับลำประกาศหนุนให้มีการเจรจาหลังฉากและเลือกนายกฯ คนกลาง (ที่คุณพี่สนับสนุน !) ซึ่งตอนนี้ กำลังส่งเข้าประกวดกันเพียบ คุณน้านันท์ชื่อยังไม่ตกรอบ คุณพี่ ส ชื่ออีสานตัวมาจากใต้ ก็ยังแรงดี ตอนนี้มีสายอีลีตเก่าใหม่ ส่ง อาจารย์นักวิชาการ เด่นๆ มาเข้ารอบประกวดอีกเป็นกระบุง ดร. ส. ดร. อ. ดร. ป. ฯลฯ แต่เผลอ ๆ คนที่จะเข้าวินจะกลายเป็นคุณพี่ทหารของผมซะก็ไม่รู้
    เมื่อมีนายกฯ คนกลางมาแล้ว จะปฏิรูปจริงไหม จะอยู่นานเท่าไหร่ มีพรายมากระซิบ
บอกว่า เรื่องนายกฯ คนกลาง เขาว่าจะมาอยู่แค่ 6 เดือน พอหอมปากหอมคอ ให้มวลมหาประชาชนหายเหนื่อยหายเครียด ทำให้บ้านเมืองมันสงบนิ่ง ๆ ตามใบสั่งก่อน แล้วก็แก้ไขกฎหมายอะไรนิดหน่อย หลังจากนั้นก็ให้มีการเลือกตั้ง ใครมาเป็นรัฐบาล เป็น
นายกฯ น่าจะพอเดากันออก ใบสั่งเขามาแบบนั้น เรื่องปฏิรูปก็ค่อย ๆ ทำกันไปไม่ต้องรีบร้อน แบบนี้ ก็เท่ากับมวยล้มต้มคนดู มวลมหาประชาชนจะรับได้หรือ ประเมินผิดไปหน่อยหรือเปล่า
    ถ้าเป็นแบบนี้จริง เรา ๆ ก็ต้องหัดซ้อม ฝึกโวยไว้ อย่าลืม นักล่าก็ปอดแหกเป็น เผยไต๋มาแล้วว่า ถ้ามีความขัดแย้งกัน เขาจะให้เราใช้ฐานทัพเขาหรือ
    เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพยายามกันหน่อย ติดตามความเคลื่อนไหวของนักล่า นักล่ามันมาซ่าในบ้านเราเองทั้งหมดไม่ได้หรอก มันต้องมีมือ มีเท้ารับใช้ในบ้านเรา เราต้องดูให้ออก ตามให้ติด แกะรอยมันบ้าง มันไม่ได้ฉลาดกว่าเรานักหรอก มันต้องคอยถามถังสมอง
มันทุกเรื่อง ถังสมองก็เหมือนหมอดู ถูกบ้างผิดบ้าง แล้วคนไทยน่ะ อ่านง่ายเข้าใจง่ายนักหรือ จนบัดนี้สื่อฝรั่งยังไม่เข้าใจ มวลมหาประชาชนเลย มีชาติไหนบ้าง เวลาจะออกไปประท้วงต้องหอบทั้งวงดนตรี ทั้งโรงครัวไปด้วยแบบเรา มีแต่คนไทยเท่านั้นแหละ ไปถามนาย Michael Yon ที่ตามไปทำข่าวทุกเวทีดูเถิด ขนาดมีเมียไทย ยังเข้าใจแบบงู ๆ ปลา ๆ
    เห็นมาหมาด ๆ เมื่อ 2,3 วันก่อน นสพ.ไทยรัฐวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 หน้า 3 เขียนบทความพาดหัวว่า “อดัม คาเฮน ส่องวิกฤติการเมืองไทยใกล้จุดวิบาก” บทความสรุปว่า สถานการณ์เร่งให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีการปฏิรูปประเทศไทย … … โดยได้มีการแอบจัดทำอย่างเงียบ ๆ มาตั้งแต่ปี 53 โดยเครือข่าย Scenario Thailand และมีการเสวนาด้วย เมื่อปลายปี 56 เขาว่า Scenario Thailand อาจไม่ใช่ทางออกเสียทีเดียว แต่เป็นโครงการนำร่องที่มีศักยภาพ แกนนำ 2 ขั้ว ควรมีการเปิดการเจรจาอย่างลับ ๆ จะเวิร์กกว่ามาถกเถียงต่อหน้าสาธารณะชน…
    นาย Adam Kahane เป็นใคร ประวัติเขาน่าสนใจ เขาเป็นชาวแคนาดา ปริญญา 3,4 ใบ ทางด้านฟิสิกซ์ พฤติกรรมสังคมและการเจรจา เป็นผู้เริ่มโครงการ Mont Fleur Scenario Exercise ให้กับ South Africa เมื่อ Nelson Mandela พยายามให้คนผิวดำกับคนผิวขาวจับมือกันสร้างชาติ สร้างประชาธิปไตย คนอ่านนิทานจะโยงถูกไหมหนอ ว่าคนประวัติแบบนี้ใครจัดส่งมาให้ !?
    วิธีการจำลองเหตุการณ์ หรือ Scenario planning นี้ จริง ๆ แล้ว เป็นวิธีการของ Rand Corporation เป็นทฤษฎีที่ใช้สำหรับด้านการรบของทหาร (หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะจำชื่อ Rand Corporation ได้ ต้นความคิดฐานทัพใบบัว Lily Pad และการรบแบบ Special Force Operation ถ้าจำไม่ได้ช่วยกลับไปอ่านยุทธการกบกระโดดใหม่นะครับ) คนคิดทฤษฎีนี้คือนาย Herman Kahn ของ Rand ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950
    ต่อมานาย Kahn ลาออกจาก Rand Corporation และมาตั้ง Hudson Institute ซึ่งเป็นพวกถังความคิด (think tank) ที่วอชิงตันสนับสนุนให้ดูแลความมั่นคง และส่งเสริมนโยบายสำคัญ ให้กับเอกชนระดับบรรษัท หรือสถาบันข้ามชาติ สำหรับกรณี ที่บรรษัทพวกนี้มีนโยบายหลัก ที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของอ เมริกา และอาจกระทบกับชุมชน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจในต่างประเทศ ฯลฯ Hudson Institute ก็จะรับหน้าที่ดูแล แนะนำ วางแผน จัดการ ทดลอง และปฏิบัติการให้บรรลุตามเป้าหมาย ลูกค้าของเขา เช่น Shell, Cargill, Monsanto, Du Port, Dow Chemical, Sandoz, Ciba Geigy คงพอนึกออกนะครับ เช่น บริษัทน้ำมันจะวางท่อผ่านไปบนที่ชาวบ้านหรือแหล่งน้ำ ชาวบ้านประท้วงกัน ทะเลาะกัน หน่วยงานนี้ก็จะมีหน้าที่จัดการให้เรื่องเงียบ หรือบริษัทยาจะทดลองยากับมนุษย์ในโลกที่ 3 หน่วยงานนี้ก็จะจัดให้ พูดไม่อ้อมค้อม หน่วยงานนี้ก็ทำหน้าที่เหมือนพวกเสธ คนดัง ที่รับจ้าง clear เรื่องขัดแย้งทำนองนั้น แต่ไอ้นี่มันเรื่องระดับชาติหรือระดับโลก แต่วิธีการก็ไม่น่าต่างกัน
    นาย Adam Kahane เคยทำงานให้กับบริษัท Dutch Shell เป็นเวลานาน คุ้นเคยกับวิธีการสร้างภาพจำลอง Sceanario workshop/ exercise แบบนี้ ภายหลังเขาร่วมกับพรรคพวกตั้ง Reos Partners รับงานด้านนี้ (หลังจากที่นาย Kahn เสียชีวิต) ท่านผู้อ่านนิทาน พอมองเห็นภาพต่อกันได้หรือยัง เชื่อว่ารายการของนาย Adam Kahane ยังไม่จบง่าย ๆ เพราะผู้ที่นำเขาเข้ามาแสดงใน เมืองไทย ใช้ชื่อว่า Siam Intelligence เป็นถังความคิดคนไทย เป็นหน้าฉากให้ใคร เดี๋ยวก็คงโผล่มาเอง แต่เมื่อตอนเขาจัดงานเสวนา เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2556 เรื่อง Solution Talk “เราจะส่งมอบประเทศไทยแบบไหนให้ลูกหลาน” บรรดาขาใหญ่มาร่วมเป็นเหยื่อกันเพียบ ไปหาชื่ออ่านกันนะครับ
    หน่วยงานประเภท Rand Corporation, Hudson Institution นักล่ามีอยู่ในกระเป๋าเป็นร้อย นักล่ากำลังนั่งหมอบอยู่บนภู ดูจังหวะขม่ำสมันน้อยรอบใหม่ แต่รอบนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเก่า ไม่มีผีคอมมี่มาหลอน คราวก่อนมันรบกันนอกบ้านเรา คราวนี้ถ้าเราเดินหมากผิด มันเท่ากับชักศึกเข้าบ้าน กำลังนั่งเหมอ ๆ สบายอยู่ในบ้าน หันมาอีกทีบ้านอาจโดนถล่มหายไปทั้งแถบ เพราะดันไปยอมให้นักล่า มาสร้างฐานทัพใบบัวเต็มชายฝั่งไว้ให้กบกระโดด เพราะฉะนั้น ต้องมารู้จัก มาตามดู ท่าทีของนักล่ากันบ้าง
นี่มันบ้านเรานะ จะให้มันจะมาเดินกร่าง ชี้นิ้ว สั่งเราทำโน่นทำนี่ได้อย่างไร แล้วมันจะทำทุกอย่างเองไม่ได้ มันต้องเลี่ยงไปใช้ร่างทรง เพราะฉะนั้นต้องทำความรู้จัก พวกสมอง มือ เท้า ร่างทรง ของนักล่าเอาไว้ ยิ่งเป็นพวกมือเท้าร่างทรงไทย แต่ใจเป็นของฝรั่ง อย่าปล่อยให้ลอยนวลครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 มีค 57
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (4) คุณพี่ Obama น่าจะตัดสินใจแล้ว ดูจากรายงานของคุณครู CRS บวกกับถังสมองยี่ห้อ CSIS (Council for Strategic and International Studies) ที่ออกมาเสนอเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2014 ให้มีการเจรจาและมีนายกคนกลาง เพื่อจะได้เอาสมันน้อยเข้าฉากลุยเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน แบบนี้คุณพี่ก็ต้องสร้างขบวนการ จัดการบ้านของสมันน้อยให้มั่นคง (Stable) 
อย่างที่คุณพี่ต้องการก่อน หนึ่งในการจัดการให้เกิดความมั่นคงในบ้านสมันน้อย
(ส่วนที่เปิดเผยได้ !) คุณพี่และสมุน ก็กลับลำประกาศหนุนให้มีการเจรจาหลังฉากและเลือกนายกฯ คนกลาง (ที่คุณพี่สนับสนุน !) ซึ่งตอนนี้ กำลังส่งเข้าประกวดกันเพียบ คุณน้านันท์ชื่อยังไม่ตกรอบ คุณพี่ ส ชื่ออีสานตัวมาจากใต้ ก็ยังแรงดี ตอนนี้มีสายอีลีตเก่าใหม่ ส่ง อาจารย์นักวิชาการ เด่นๆ มาเข้ารอบประกวดอีกเป็นกระบุง ดร. ส. ดร. อ. ดร. ป. ฯลฯ แต่เผลอ ๆ คนที่จะเข้าวินจะกลายเป็นคุณพี่ทหารของผมซะก็ไม่รู้ เมื่อมีนายกฯ คนกลางมาแล้ว จะปฏิรูปจริงไหม จะอยู่นานเท่าไหร่ มีพรายมากระซิบ
บอกว่า เรื่องนายกฯ คนกลาง เขาว่าจะมาอยู่แค่ 6 เดือน พอหอมปากหอมคอ ให้มวลมหาประชาชนหายเหนื่อยหายเครียด ทำให้บ้านเมืองมันสงบนิ่ง ๆ ตามใบสั่งก่อน แล้วก็แก้ไขกฎหมายอะไรนิดหน่อย หลังจากนั้นก็ให้มีการเลือกตั้ง ใครมาเป็นรัฐบาล เป็น
นายกฯ น่าจะพอเดากันออก ใบสั่งเขามาแบบนั้น เรื่องปฏิรูปก็ค่อย ๆ ทำกันไปไม่ต้องรีบร้อน แบบนี้ ก็เท่ากับมวยล้มต้มคนดู มวลมหาประชาชนจะรับได้หรือ ประเมินผิดไปหน่อยหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนี้จริง เรา ๆ ก็ต้องหัดซ้อม ฝึกโวยไว้ อย่าลืม นักล่าก็ปอดแหกเป็น เผยไต๋มาแล้วว่า ถ้ามีความขัดแย้งกัน เขาจะให้เราใช้ฐานทัพเขาหรือ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพยายามกันหน่อย ติดตามความเคลื่อนไหวของนักล่า นักล่ามันมาซ่าในบ้านเราเองทั้งหมดไม่ได้หรอก มันต้องมีมือ มีเท้ารับใช้ในบ้านเรา เราต้องดูให้ออก ตามให้ติด แกะรอยมันบ้าง มันไม่ได้ฉลาดกว่าเรานักหรอก มันต้องคอยถามถังสมอง
มันทุกเรื่อง ถังสมองก็เหมือนหมอดู ถูกบ้างผิดบ้าง แล้วคนไทยน่ะ อ่านง่ายเข้าใจง่ายนักหรือ จนบัดนี้สื่อฝรั่งยังไม่เข้าใจ มวลมหาประชาชนเลย มีชาติไหนบ้าง เวลาจะออกไปประท้วงต้องหอบทั้งวงดนตรี ทั้งโรงครัวไปด้วยแบบเรา มีแต่คนไทยเท่านั้นแหละ ไปถามนาย Michael Yon ที่ตามไปทำข่าวทุกเวทีดูเถิด ขนาดมีเมียไทย ยังเข้าใจแบบงู ๆ ปลา ๆ เห็นมาหมาด ๆ เมื่อ 2,3 วันก่อน นสพ.ไทยรัฐวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 หน้า 3 เขียนบทความพาดหัวว่า “อดัม คาเฮน ส่องวิกฤติการเมืองไทยใกล้จุดวิบาก” บทความสรุปว่า สถานการณ์เร่งให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีการปฏิรูปประเทศไทย … … โดยได้มีการแอบจัดทำอย่างเงียบ ๆ มาตั้งแต่ปี 53 โดยเครือข่าย Scenario Thailand และมีการเสวนาด้วย เมื่อปลายปี 56 เขาว่า Scenario Thailand อาจไม่ใช่ทางออกเสียทีเดียว แต่เป็นโครงการนำร่องที่มีศักยภาพ แกนนำ 2 ขั้ว ควรมีการเปิดการเจรจาอย่างลับ ๆ จะเวิร์กกว่ามาถกเถียงต่อหน้าสาธารณะชน… นาย Adam Kahane เป็นใคร ประวัติเขาน่าสนใจ เขาเป็นชาวแคนาดา ปริญญา 3,4 ใบ ทางด้านฟิสิกซ์ พฤติกรรมสังคมและการเจรจา เป็นผู้เริ่มโครงการ Mont Fleur Scenario Exercise ให้กับ South Africa เมื่อ Nelson Mandela พยายามให้คนผิวดำกับคนผิวขาวจับมือกันสร้างชาติ สร้างประชาธิปไตย คนอ่านนิทานจะโยงถูกไหมหนอ ว่าคนประวัติแบบนี้ใครจัดส่งมาให้ !? วิธีการจำลองเหตุการณ์ หรือ Scenario planning นี้ จริง ๆ แล้ว เป็นวิธีการของ Rand Corporation เป็นทฤษฎีที่ใช้สำหรับด้านการรบของทหาร (หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะจำชื่อ Rand Corporation ได้ ต้นความคิดฐานทัพใบบัว Lily Pad และการรบแบบ Special Force Operation ถ้าจำไม่ได้ช่วยกลับไปอ่านยุทธการกบกระโดดใหม่นะครับ) คนคิดทฤษฎีนี้คือนาย Herman Kahn ของ Rand ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 ต่อมานาย Kahn ลาออกจาก Rand Corporation และมาตั้ง Hudson Institute ซึ่งเป็นพวกถังความคิด (think tank) ที่วอชิงตันสนับสนุนให้ดูแลความมั่นคง และส่งเสริมนโยบายสำคัญ ให้กับเอกชนระดับบรรษัท หรือสถาบันข้ามชาติ สำหรับกรณี ที่บรรษัทพวกนี้มีนโยบายหลัก ที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของอ เมริกา และอาจกระทบกับชุมชน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจในต่างประเทศ ฯลฯ Hudson Institute ก็จะรับหน้าที่ดูแล แนะนำ วางแผน จัดการ ทดลอง และปฏิบัติการให้บรรลุตามเป้าหมาย ลูกค้าของเขา เช่น Shell, Cargill, Monsanto, Du Port, Dow Chemical, Sandoz, Ciba Geigy คงพอนึกออกนะครับ เช่น บริษัทน้ำมันจะวางท่อผ่านไปบนที่ชาวบ้านหรือแหล่งน้ำ ชาวบ้านประท้วงกัน ทะเลาะกัน หน่วยงานนี้ก็จะมีหน้าที่จัดการให้เรื่องเงียบ หรือบริษัทยาจะทดลองยากับมนุษย์ในโลกที่ 3 หน่วยงานนี้ก็จะจัดให้ พูดไม่อ้อมค้อม หน่วยงานนี้ก็ทำหน้าที่เหมือนพวกเสธ คนดัง ที่รับจ้าง clear เรื่องขัดแย้งทำนองนั้น แต่ไอ้นี่มันเรื่องระดับชาติหรือระดับโลก แต่วิธีการก็ไม่น่าต่างกัน นาย Adam Kahane เคยทำงานให้กับบริษัท Dutch Shell เป็นเวลานาน คุ้นเคยกับวิธีการสร้างภาพจำลอง Sceanario workshop/ exercise แบบนี้ ภายหลังเขาร่วมกับพรรคพวกตั้ง Reos Partners รับงานด้านนี้ (หลังจากที่นาย Kahn เสียชีวิต) ท่านผู้อ่านนิทาน พอมองเห็นภาพต่อกันได้หรือยัง เชื่อว่ารายการของนาย Adam Kahane ยังไม่จบง่าย ๆ เพราะผู้ที่นำเขาเข้ามาแสดงใน เมืองไทย ใช้ชื่อว่า Siam Intelligence เป็นถังความคิดคนไทย เป็นหน้าฉากให้ใคร เดี๋ยวก็คงโผล่มาเอง แต่เมื่อตอนเขาจัดงานเสวนา เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2556 เรื่อง Solution Talk “เราจะส่งมอบประเทศไทยแบบไหนให้ลูกหลาน” บรรดาขาใหญ่มาร่วมเป็นเหยื่อกันเพียบ ไปหาชื่ออ่านกันนะครับ หน่วยงานประเภท Rand Corporation, Hudson Institution นักล่ามีอยู่ในกระเป๋าเป็นร้อย นักล่ากำลังนั่งหมอบอยู่บนภู ดูจังหวะขม่ำสมันน้อยรอบใหม่ แต่รอบนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเก่า ไม่มีผีคอมมี่มาหลอน คราวก่อนมันรบกันนอกบ้านเรา คราวนี้ถ้าเราเดินหมากผิด มันเท่ากับชักศึกเข้าบ้าน กำลังนั่งเหมอ ๆ สบายอยู่ในบ้าน หันมาอีกทีบ้านอาจโดนถล่มหายไปทั้งแถบ เพราะดันไปยอมให้นักล่า มาสร้างฐานทัพใบบัวเต็มชายฝั่งไว้ให้กบกระโดด เพราะฉะนั้น ต้องมารู้จัก มาตามดู ท่าทีของนักล่ากันบ้าง
นี่มันบ้านเรานะ จะให้มันจะมาเดินกร่าง ชี้นิ้ว สั่งเราทำโน่นทำนี่ได้อย่างไร แล้วมันจะทำทุกอย่างเองไม่ได้ มันต้องเลี่ยงไปใช้ร่างทรง เพราะฉะนั้นต้องทำความรู้จัก พวกสมอง มือ เท้า ร่างทรง ของนักล่าเอาไว้ ยิ่งเป็นพวกมือเท้าร่างทรงไทย แต่ใจเป็นของฝรั่ง อย่าปล่อยให้ลอยนวลครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 มีค 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยนักล่า ตอนที่ 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (3)
    คุณครูผู้ปกครอง CRS เขียนสมุดรายงานความประพฤตินักเรียนไทยแบบไม่ต้องตีความกันมาก อเมริการับไม่ได้ที่จะให้ไทยแลนด์เล่นกีฬาสีภายในกันไปตลอดชาติ มันต้องหยุดเสียที จะหยุดแบบไหน ก็แบบที่ทำให้ประเทศไทยมีความสงบมั่นคงนั่นแหละ เพราะมันเป็นความจำเป็นของนักล่า ในการจะใช้ไทย ที่มีบ้านเมืองสงบมั่นคง ร่วมขบวนทัพไปบุกบ้านอาเฮีย !

คุณครูเขียนเองนะว่า ประเทศไทยเป็นที่ชื่นชมว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาตลอด จนเมื่อมีการปฏิวัติ ค.ศ. 2006 (เมื่อมีการไล่ไอ้โจรร้ายออกไป แล้วไอ้โจรร้ายมันไม่ยอมรับ ไม่ว่าผลทางกฏหมาย หรือผลทางการเมือง มันถึงได้ตีตั๋วรวนแบบตั๋วไม่มีหมดอายุ จนกว่าหมดอายุกันไปข้างหนึ่งน่ะแหละ) เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าสื่อนอกหรือคุณนายฑูต มันว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เอารายงานคุณครู CRS ของพวกมันเองนี้แหละ ส่งไปให้อ่านนะครับ ทำเป็นแผ่นโปสเตอร์ใหญ่ ติดหน้าสถาน
ฑูตมันเลยดีไหมพี่น้อง เดี๋ยวผมจะเอา link มาลง แล้วก็ช่วยกันอ่าน ช่วยกันก๊อบส่งกันไป จริง ๆ ก็หาไม่ยากอะไร กดถามอากู “Thailand : Background and US Relations” ปี ค.ศ. 2013 มันก็ขึ้นมาแล้วครับ
    นักล่ามันจะทนนั่งเกาหัวดูอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง ประเทศนี้อยู่ในอุ้งมือมันมาตั้งกะ ค.ศ. 1954 กว่า 60 ปีมาแล้ว ของมันเคย เคยมี เคยสั่ง เคยใช้กันได้ วันดีคืนดีมีอาเฮียมายืนพุงโต แอบจับมือกับสมันน้อยอีกคน ความอิจฉาตาร้อนก็ต้องมีเป็นธรรมดา ยังมาปากแข็งทำเป็นขู่ว่า ไอไม่ให้ไทยแลนด์เล่นเป็นตัวเอกในหนังใหม่เรื่อง เมื่อคาวบอยบุก
เซียงไฮ้ “Rebalancing” พูดแบบนี้ นึกว่าสมันน้อยจะร้องไห้ฟูมฟายหรือ ขอโทษผ่านมา 60 ปีแล้ว ไม่มีคอมมี่มาขู่ให้สมันน้อยผวาแล้ว แถมตอนนี้สมันน้อยเนื้อหอม
ไม่ให้เล่นเป็นพระเอก ในเรื่องคาวบอยบุกเซียงไฮ้ สมันน้อยอาจจะเลือกไปเล่นเป็นนางเอกเรื่อง เมื่อเซียงไฮ้ถล่มแอลเอ แทนก็ได้นะ
แล้วไงล่ะ ไปเอาพวกตัวประกอบหน้าใหม่ ผักชีโรยหน้ามาเล่นแทนนะ จะให้กบกระโดดมาจากอินโดนีเซี ย หรือออสเตรเลีย ไม่มีใบบัวแถวชุมพรรองรับ กบได้จมน้ำตายเกลี้ยง เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน ก็รู้อยู่แก่ใจ จนหลุดปากบอกออกมาแล้วว่า ตำแหน่งที่ประเทศไทยตั้งอยู่มันเป็นส่วนสำคัญ (อย่างยิ่ง !) สำหรับการจะเข้าไปเล่นบทคาวบอยบุกเซียงไฮ้
    รายงานของคุณครูผู้ปกครอง CRS ออกมาปลายธันวาคม ค.ศ. 2013
shut down กรุงเทพฯ ของลุงกำนัน 9 ธันวาคม เกิดขึ้นแล้ว นักล่าเห็นแล้วว่า
มวลมหาประชาชน แม้จะร้องรำทำเพลงประกอบการประท้วงขับไล่ทุกวัน แต่ก็เอาจริง (เอะ ! หรือนักล่ามันเป็นคนช่วยส่ง ช่วยเสริม ให้เอาจริง ความสงบจะได้มาเร็ว !?!) แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ให้เห็นว่ารัฐบาลแพ้ยับเยิน บวกกับรายงานการสำรวจของ Asia Foundation ที่บอกว่าคนชั้นกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้มีรายได้ สนับสนุนฝ่ายไล่รัฐบาล
    นักล่าไม่ต้องคิดมาก คุณครู CRS เขียนสารภาพออกมาแล้วว่า ไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ นำเข้าสินค้าจากอเมริกาเป็นจำนวนมาก ชนชั้นกลางคือผู้มีกำลังซื้อ จะปล่อยให้เล่นชกมวยสนามในบ้านไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทำให้นักล่าเสียหายในสนามภูมิภาค แถมจะกระเทือนตำแหน่งแชมป์โลกเอาด้วย ไหนจะเรื่องกบจะจมน้ำเพราะไม่มีใบบัวรองรับ ไหนจะมีอาเฮียคอยคว้าสะเอวสมัน น้อยไปเดินเล่น นี่ยังมีเรื่องค้าขายอีก โอ้ พระเจ้า เศรษฐกิจไอกำลังอาการหนัก ต้องการกำลังซื้ออย่างยิ่ง แล้วพวกผักชีโรยหน้าที่ไปเจรจาไว้นะ เอาเข้าจริงจะพึ่งได้แบบ Mil to Mil อย่างคุณพี่ทหารของไทยแลนด์หรือเปล่า สิงคโปร์น่ะ ยังต้องส่งทหารมาฝึกกับคุณพี่ตู่ทุกปี เวียตนามล่ะ รบคนละแนว อาวุธยุทโธปกรณ์เขาก็ได้จากพี่ปูของรัสเซียทั้งนั้น แล้วแน่ใจหรือว่าคุณเวียตเขาจะเชื่อว่านักล่า รักจริงหวังแต่ง รบราฆ่าฟันกันจนตายเป็นเบื่อ เขาไม่ลืมง่าย ๆ หรอกน่า
    ส่วนอินโดน่ะ ตอนคุณพี่ Obama ไปตั้งให้เป็นคู่หูคนใหม่ เพราะบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เคยอาศัยอยู่บ้านเมืองเขาอยู่เมื่อเด็ก ๆ น่ะ นักวิเคราะห์ค่ายนักล่าเอง หัวร่อกันครืน บอกว่าทดแทนบุญคุณผิดที่เสียแล้วท่าน ท่านอาจจะกำลังยื่นดาบให้ศัตรู (อ้าวตาย เรื่องนี้เขาปิดกันหรือเปล่านะ) ฟิลิปปินส์เองก็ใช่ว่าหายเคืองกัน เดี๋ยวสั่งปิดเดี๋ยวสั่งเปิดฐานทัพ ชาวบ้านเขาก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ วัน ๆ วิดน้ำทะเลออกจากบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว พายุมาแล้ว มาอีก แล้วคุณพ่ออเมริกามาช่วยอะไรบ้างล่ะ ถ้าจะให้ดีช่วยกลับไปอ่าน ยุทธการกบกระโดด อีกรอบนะครับ จะได้ประหยัดแรงงานคนแก่ ไม่ต้องเขียนซ้ำ
    เห็นได้ชัดว่า นักล่าแทบไม่มีทางเลือกหรอก อยากจะบุกเซียงไฮ้ ไม่มีไทยแลนด์เข้าฉากด้วย บอกได้คำเดียวว่าหนังจืดครับ เผลอ ๆ คนดูนอนหลับ น้ำลายไหลยึด จะลุยกับ
อาเฮียเขาทั้งที มันต้องยกทัพโยธาเป็นขบวนใหญ่ มันถึงจะสมศักดิ์ศรีนักล่า มีแต่เด็ก ๆ หรือพวกหน้าใหม่ผักชีโรยหน้าไป แต่หัวหมู่ทะลวงฟันคบกับมา 60 ปี มองหน้ารู้ใจ
ไม่เอาไปด้วย อย่างนี้ต้องส่งสามก๊กบวกตำรา ซุนวูไปให้ คุณพี่ Obama อ่านแทนฟังรายงานของ ไอ้พวกถังสมอง (think tank) พูดถึงเรื่องถังสมอง เดี๋ยวจะแถมให้ก่อนจบ ถ้าไม่ลืมซะก่อน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (3) คุณครูผู้ปกครอง CRS เขียนสมุดรายงานความประพฤตินักเรียนไทยแบบไม่ต้องตีความกันมาก อเมริการับไม่ได้ที่จะให้ไทยแลนด์เล่นกีฬาสีภายในกันไปตลอดชาติ มันต้องหยุดเสียที จะหยุดแบบไหน ก็แบบที่ทำให้ประเทศไทยมีความสงบมั่นคงนั่นแหละ เพราะมันเป็นความจำเป็นของนักล่า ในการจะใช้ไทย ที่มีบ้านเมืองสงบมั่นคง ร่วมขบวนทัพไปบุกบ้านอาเฮีย !

คุณครูเขียนเองนะว่า ประเทศไทยเป็นที่ชื่นชมว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาตลอด จนเมื่อมีการปฏิวัติ ค.ศ. 2006 (เมื่อมีการไล่ไอ้โจรร้ายออกไป แล้วไอ้โจรร้ายมันไม่ยอมรับ ไม่ว่าผลทางกฏหมาย หรือผลทางการเมือง มันถึงได้ตีตั๋วรวนแบบตั๋วไม่มีหมดอายุ จนกว่าหมดอายุกันไปข้างหนึ่งน่ะแหละ) เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าสื่อนอกหรือคุณนายฑูต มันว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เอารายงานคุณครู CRS ของพวกมันเองนี้แหละ ส่งไปให้อ่านนะครับ ทำเป็นแผ่นโปสเตอร์ใหญ่ ติดหน้าสถาน
ฑูตมันเลยดีไหมพี่น้อง เดี๋ยวผมจะเอา link มาลง แล้วก็ช่วยกันอ่าน ช่วยกันก๊อบส่งกันไป จริง ๆ ก็หาไม่ยากอะไร กดถามอากู “Thailand : Background and US Relations” ปี ค.ศ. 2013 มันก็ขึ้นมาแล้วครับ นักล่ามันจะทนนั่งเกาหัวดูอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง ประเทศนี้อยู่ในอุ้งมือมันมาตั้งกะ ค.ศ. 1954 กว่า 60 ปีมาแล้ว ของมันเคย เคยมี เคยสั่ง เคยใช้กันได้ วันดีคืนดีมีอาเฮียมายืนพุงโต แอบจับมือกับสมันน้อยอีกคน ความอิจฉาตาร้อนก็ต้องมีเป็นธรรมดา ยังมาปากแข็งทำเป็นขู่ว่า ไอไม่ให้ไทยแลนด์เล่นเป็นตัวเอกในหนังใหม่เรื่อง เมื่อคาวบอยบุก
เซียงไฮ้ “Rebalancing” พูดแบบนี้ นึกว่าสมันน้อยจะร้องไห้ฟูมฟายหรือ ขอโทษผ่านมา 60 ปีแล้ว ไม่มีคอมมี่มาขู่ให้สมันน้อยผวาแล้ว แถมตอนนี้สมันน้อยเนื้อหอม
ไม่ให้เล่นเป็นพระเอก ในเรื่องคาวบอยบุกเซียงไฮ้ สมันน้อยอาจจะเลือกไปเล่นเป็นนางเอกเรื่อง เมื่อเซียงไฮ้ถล่มแอลเอ แทนก็ได้นะ
แล้วไงล่ะ ไปเอาพวกตัวประกอบหน้าใหม่ ผักชีโรยหน้ามาเล่นแทนนะ จะให้กบกระโดดมาจากอินโดนีเซี ย หรือออสเตรเลีย ไม่มีใบบัวแถวชุมพรรองรับ กบได้จมน้ำตายเกลี้ยง เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน ก็รู้อยู่แก่ใจ จนหลุดปากบอกออกมาแล้วว่า ตำแหน่งที่ประเทศไทยตั้งอยู่มันเป็นส่วนสำคัญ (อย่างยิ่ง !) สำหรับการจะเข้าไปเล่นบทคาวบอยบุกเซียงไฮ้ รายงานของคุณครูผู้ปกครอง CRS ออกมาปลายธันวาคม ค.ศ. 2013
shut down กรุงเทพฯ ของลุงกำนัน 9 ธันวาคม เกิดขึ้นแล้ว นักล่าเห็นแล้วว่า
มวลมหาประชาชน แม้จะร้องรำทำเพลงประกอบการประท้วงขับไล่ทุกวัน แต่ก็เอาจริง (เอะ ! หรือนักล่ามันเป็นคนช่วยส่ง ช่วยเสริม ให้เอาจริง ความสงบจะได้มาเร็ว !?!) แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ให้เห็นว่ารัฐบาลแพ้ยับเยิน บวกกับรายงานการสำรวจของ Asia Foundation ที่บอกว่าคนชั้นกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้มีรายได้ สนับสนุนฝ่ายไล่รัฐบาล นักล่าไม่ต้องคิดมาก คุณครู CRS เขียนสารภาพออกมาแล้วว่า ไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ นำเข้าสินค้าจากอเมริกาเป็นจำนวนมาก ชนชั้นกลางคือผู้มีกำลังซื้อ จะปล่อยให้เล่นชกมวยสนามในบ้านไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทำให้นักล่าเสียหายในสนามภูมิภาค แถมจะกระเทือนตำแหน่งแชมป์โลกเอาด้วย ไหนจะเรื่องกบจะจมน้ำเพราะไม่มีใบบัวรองรับ ไหนจะมีอาเฮียคอยคว้าสะเอวสมัน น้อยไปเดินเล่น นี่ยังมีเรื่องค้าขายอีก โอ้ พระเจ้า เศรษฐกิจไอกำลังอาการหนัก ต้องการกำลังซื้ออย่างยิ่ง แล้วพวกผักชีโรยหน้าที่ไปเจรจาไว้นะ เอาเข้าจริงจะพึ่งได้แบบ Mil to Mil อย่างคุณพี่ทหารของไทยแลนด์หรือเปล่า สิงคโปร์น่ะ ยังต้องส่งทหารมาฝึกกับคุณพี่ตู่ทุกปี เวียตนามล่ะ รบคนละแนว อาวุธยุทโธปกรณ์เขาก็ได้จากพี่ปูของรัสเซียทั้งนั้น แล้วแน่ใจหรือว่าคุณเวียตเขาจะเชื่อว่านักล่า รักจริงหวังแต่ง รบราฆ่าฟันกันจนตายเป็นเบื่อ เขาไม่ลืมง่าย ๆ หรอกน่า ส่วนอินโดน่ะ ตอนคุณพี่ Obama ไปตั้งให้เป็นคู่หูคนใหม่ เพราะบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เคยอาศัยอยู่บ้านเมืองเขาอยู่เมื่อเด็ก ๆ น่ะ นักวิเคราะห์ค่ายนักล่าเอง หัวร่อกันครืน บอกว่าทดแทนบุญคุณผิดที่เสียแล้วท่าน ท่านอาจจะกำลังยื่นดาบให้ศัตรู (อ้าวตาย เรื่องนี้เขาปิดกันหรือเปล่านะ) ฟิลิปปินส์เองก็ใช่ว่าหายเคืองกัน เดี๋ยวสั่งปิดเดี๋ยวสั่งเปิดฐานทัพ ชาวบ้านเขาก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ วัน ๆ วิดน้ำทะเลออกจากบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว พายุมาแล้ว มาอีก แล้วคุณพ่ออเมริกามาช่วยอะไรบ้างล่ะ ถ้าจะให้ดีช่วยกลับไปอ่าน ยุทธการกบกระโดด อีกรอบนะครับ จะได้ประหยัดแรงงานคนแก่ ไม่ต้องเขียนซ้ำ เห็นได้ชัดว่า นักล่าแทบไม่มีทางเลือกหรอก อยากจะบุกเซียงไฮ้ ไม่มีไทยแลนด์เข้าฉากด้วย บอกได้คำเดียวว่าหนังจืดครับ เผลอ ๆ คนดูนอนหลับ น้ำลายไหลยึด จะลุยกับ
อาเฮียเขาทั้งที มันต้องยกทัพโยธาเป็นขบวนใหญ่ มันถึงจะสมศักดิ์ศรีนักล่า มีแต่เด็ก ๆ หรือพวกหน้าใหม่ผักชีโรยหน้าไป แต่หัวหมู่ทะลวงฟันคบกับมา 60 ปี มองหน้ารู้ใจ
ไม่เอาไปด้วย อย่างนี้ต้องส่งสามก๊กบวกตำรา ซุนวูไปให้ คุณพี่ Obama อ่านแทนฟังรายงานของ ไอ้พวกถังสมอง (think tank) พูดถึงเรื่องถังสมอง เดี๋ยวจะแถมให้ก่อนจบ ถ้าไม่ลืมซะก่อน คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ เป็นเพราะปากพาจน เป็นผลให้การเจรจานำไปสู่การแตกหัก ชื่อเสียงที่สั่งสมไว้จึงถูกดิสเครดิตรให้ เสียหาย คำมั่นคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับใคร จะถูกทวงถามให้เป็นที่น่ารำคาญใจ จะตกลงเอกสารสัญญา ต้องรัดกุมให้มากๆ มีโอกาสตัดสินใจผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ยุ่งเรื่องคนอื่นจะเดือดร้อนเสียหาย ทำให้ถูกฟ้องร้อง จนกลายเป็นคดีความ ครอบครัวมีโอกาสแตกแยกเพราะนอกใจ แม้แต่คนงานในบ้านอาจเป็นสาย รู้เห็นเป็นใจ ให้แก่โจรมาปล้นขโมย อีกทั้งควรป้องกันอัคคีภัยก่อนจะบานปลาย โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงจะโชคร้าย จะได้รับ บาดเจ็บเพราะโลหะ มีด ของมีคม หรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ ระวังอาหารจะเป็นพิษ ดื่มน้ำเย็นจัดจะเป็นผลร้าย จะเจ็บป่วยหนัก จนเป็นโรคร้าย ที่ปอด คอ ปาก ฟัน ลิ้น รังไข่ มดลูก ลำไส้ใหญ่ โรคเพศสัมพันธุ์

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เดือนนี้ เป็นเพราะปากพาจน เป็นผลให้การเจรจานำไปสู่การแตกหัก ชื่อเสียงที่สั่งสมไว้จึงถูกดิสเครดิตรให้ เสียหาย คำมั่นคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับใคร จะถูกทวงถามให้เป็นที่น่ารำคาญใจ จะตกลงเอกสารสัญญา ต้องรัดกุมให้มากๆ มีโอกาสตัดสินใจผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ยุ่งเรื่องคนอื่นจะเดือดร้อนเสียหาย ทำให้ถูกฟ้องร้อง จนกลายเป็นคดีความ ครอบครัวมีโอกาสแตกแยกเพราะนอกใจ แม้แต่คนงานในบ้านอาจเป็นสาย รู้เห็นเป็นใจ ให้แก่โจรมาปล้นขโมย อีกทั้งควรป้องกันอัคคีภัยก่อนจะบานปลาย โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงจะโชคร้าย จะได้รับ บาดเจ็บเพราะโลหะ มีด ของมีคม หรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ ระวังอาหารจะเป็นพิษ ดื่มน้ำเย็นจัดจะเป็นผลร้าย จะเจ็บป่วยหนัก จนเป็นโรคร้าย ที่ปอด คอ ปาก ฟัน ลิ้น รังไข่ มดลูก ลำไส้ใหญ่ โรคเพศสัมพันธุ์ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบข้อมูลสนามบินเซเลตาร์ สิงคโปร์ เปิดทำการบินถึง 4 ทุ่มตามที่ทักษิณอ้าง เหตุเป็นช่วง "ไนท์ เคอร์ฟิว" ลดเสียงรบกวนชุมชนโดยรอบสนามบิน แถมกลางวันยังมีชั่วโมงฝึกบิน 1 ชั่วโมง 4 ช่วง ด้านอินฟลูเอนเซอร์สายวิทย์ฯ กังขา ถ้าบอกว่ามาหาหมอลงจอดได้ ไม่ต้องไปประเทศอื่น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085048

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    พบข้อมูลสนามบินเซเลตาร์ สิงคโปร์ เปิดทำการบินถึง 4 ทุ่มตามที่ทักษิณอ้าง เหตุเป็นช่วง "ไนท์ เคอร์ฟิว" ลดเสียงรบกวนชุมชนโดยรอบสนามบิน แถมกลางวันยังมีชั่วโมงฝึกบิน 1 ชั่วโมง 4 ช่วง ด้านอินฟลูเอนเซอร์สายวิทย์ฯ กังขา ถ้าบอกว่ามาหาหมอลงจอดได้ ไม่ต้องไปประเทศอื่น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085048 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Ironwood: เมื่อ Google สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ “ฉลาดและยืดหยุ่น” ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

    ในงาน Hot Chips 2025 Google ได้เปิดเผยรายละเอียดของ Ironwood TPU ซึ่งเป็นชิปรุ่นที่ 7 ของตระกูล Tensor Processing Unit โดยออกแบบมาเพื่อรองรับงาน inference ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ไม่ใช่การเทรนโมเดลเหมือนรุ่นก่อน ๆ

    แต่ละชิป Ironwood มีสถาปัตยกรรมแบบ dual-die ให้กำลังประมวลผล FP8 สูงถึง 4,614 TFLOPs และมาพร้อมกับหน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป โดยมีแบนด์วิดธ์สูงถึง 7.3TB/s

    ระบบสามารถขยายได้ถึง 9,216 ชิปต่อหนึ่ง pod โดยไม่ต้องใช้ glue logic และมี I/O bandwidth รวมถึง 1.2TBps ทำให้สามารถสร้างระบบที่มี shared memory ขนาด 1.77PB ได้—ซึ่งถือเป็นสถิติโลกใหม่สำหรับระบบ multi-CPU ที่ใช้ shared memory

    การเชื่อมต่อระหว่างแร็คใช้ optical circuit switch ที่สามารถ reconfigure ได้เมื่อมี node เสีย พร้อมระบบ checkpoint recovery และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น root of trust, built-in self test, และการตรวจจับ silent data corruption

    Ironwood ยังใช้ AI ในการออกแบบตัวเอง เช่น การ optimize ALU circuits และ floorplan พร้อมเพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 เพื่อเร่งงาน embedding และ collective operations เช่น recommendation engine

    ระบบระบายความร้อนใช้ cold plate รุ่นที่ 3 ของ Google ซึ่งเป็น liquid cooling แบบเต็มรูปแบบ และมีการปรับแรงดันไฟฟ้าและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ให้ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า

    สเปกหลักของ Ironwood TPU
    Dual-die architecture ให้ 4,614 TFLOPs FP8 ต่อชิป
    หน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป พร้อมแบนด์วิดธ์ 7.3TB/s
    รองรับการขยายถึง 9,216 ชิปต่อ pod ด้วย I/O bandwidth 1.2TBps

    สถิติโลกด้าน shared memory
    ระบบมี shared memory ขนาด 1.77PB แบบ addressable โดยตรง
    ใช้ optical circuit switch เชื่อมต่อแร็คแบบ dynamic
    รองรับ workload recovery และ node reconfiguration

    ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพ
    มี root of trust, built-in self test, และ logic repair
    ตรวจจับและป้องกัน silent data corruption
    ออกแบบเพื่อ RAS: reliability, availability, serviceability

    การออกแบบด้วย AI และการใช้งาน
    ใช้ AI ในการ optimize ALU และ floorplan
    เพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 สำหรับ embedding และ collective ops
    รองรับงาน inference เช่น LLM, recommendation, simulation

    ระบบระบายความร้อนและประสิทธิภาพ
    ใช้ cold plate liquid cooling รุ่นที่ 3 ของ Google
    ปรับแรงดันและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่ม efficiency
    ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า

    https://www.techradar.com/pro/googles-most-powerful-supercomputer-ever-has-a-combined-memory-of-1-77pb-apparently-a-new-world-record-for-shared-memory-multi-cpu-setups
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Ironwood: เมื่อ Google สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ “ฉลาดและยืดหยุ่น” ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในงาน Hot Chips 2025 Google ได้เปิดเผยรายละเอียดของ Ironwood TPU ซึ่งเป็นชิปรุ่นที่ 7 ของตระกูล Tensor Processing Unit โดยออกแบบมาเพื่อรองรับงาน inference ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ไม่ใช่การเทรนโมเดลเหมือนรุ่นก่อน ๆ แต่ละชิป Ironwood มีสถาปัตยกรรมแบบ dual-die ให้กำลังประมวลผล FP8 สูงถึง 4,614 TFLOPs และมาพร้อมกับหน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป โดยมีแบนด์วิดธ์สูงถึง 7.3TB/s ระบบสามารถขยายได้ถึง 9,216 ชิปต่อหนึ่ง pod โดยไม่ต้องใช้ glue logic และมี I/O bandwidth รวมถึง 1.2TBps ทำให้สามารถสร้างระบบที่มี shared memory ขนาด 1.77PB ได้—ซึ่งถือเป็นสถิติโลกใหม่สำหรับระบบ multi-CPU ที่ใช้ shared memory การเชื่อมต่อระหว่างแร็คใช้ optical circuit switch ที่สามารถ reconfigure ได้เมื่อมี node เสีย พร้อมระบบ checkpoint recovery และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น root of trust, built-in self test, และการตรวจจับ silent data corruption Ironwood ยังใช้ AI ในการออกแบบตัวเอง เช่น การ optimize ALU circuits และ floorplan พร้อมเพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 เพื่อเร่งงาน embedding และ collective operations เช่น recommendation engine ระบบระบายความร้อนใช้ cold plate รุ่นที่ 3 ของ Google ซึ่งเป็น liquid cooling แบบเต็มรูปแบบ และมีการปรับแรงดันไฟฟ้าและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ให้ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า ✅ สเปกหลักของ Ironwood TPU ➡️ Dual-die architecture ให้ 4,614 TFLOPs FP8 ต่อชิป ➡️ หน่วยความจำ HBM3e ขนาด 192GB ต่อชิป พร้อมแบนด์วิดธ์ 7.3TB/s ➡️ รองรับการขยายถึง 9,216 ชิปต่อ pod ด้วย I/O bandwidth 1.2TBps ✅ สถิติโลกด้าน shared memory ➡️ ระบบมี shared memory ขนาด 1.77PB แบบ addressable โดยตรง ➡️ ใช้ optical circuit switch เชื่อมต่อแร็คแบบ dynamic ➡️ รองรับ workload recovery และ node reconfiguration ✅ ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและเสถียรภาพ ➡️ มี root of trust, built-in self test, และ logic repair ➡️ ตรวจจับและป้องกัน silent data corruption ➡️ ออกแบบเพื่อ RAS: reliability, availability, serviceability ✅ การออกแบบด้วย AI และการใช้งาน ➡️ ใช้ AI ในการ optimize ALU และ floorplan ➡️ เพิ่ม SparseCore รุ่นที่ 4 สำหรับ embedding และ collective ops ➡️ รองรับงาน inference เช่น LLM, recommendation, simulation ✅ ระบบระบายความร้อนและประสิทธิภาพ ➡️ ใช้ cold plate liquid cooling รุ่นที่ 3 ของ Google ➡️ ปรับแรงดันและความถี่แบบ dynamic เพื่อเพิ่ม efficiency ➡️ ประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีกว่ารุ่น Trillium ถึง 2 เท่า https://www.techradar.com/pro/googles-most-powerful-supercomputer-ever-has-a-combined-memory-of-1-77pb-apparently-a-new-world-record-for-shared-memory-multi-cpu-setups
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Zara: เมื่อ Linux Mint กลายเป็นระบบปฏิบัติการที่ “รู้จักคุณ” มากขึ้น

    Linux Mint 22.2 รหัสชื่อ “Zara” เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2025 โดยเป็นเวอร์ชัน Long-Term Support (LTS) ที่จะได้รับอัปเดตจนถึงปี 2029 และสร้างบนฐานของ Ubuntu 24.04 พร้อม Linux Kernel 6.14 จุดเด่นของเวอร์ชันนี้ไม่ใช่แค่ความเสถียร แต่คือการเพิ่มฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่า “ระบบเข้าใจเรา” มากขึ้น

    ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่นคือ Fingwit—แอปสำหรับจัดการการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือแบบเนทีฟ ซึ่งสามารถใช้ปลดล็อกหน้าจอ, ยืนยันคำสั่ง sudo, และเปิดแอป admin ได้โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องมือภายนอกอีกต่อไป

    อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ Sticky Notes ที่ไม่ใช่แค่แอปโพสต์อิทธรรมดา แต่สามารถซิงก์กับแอป Android ชื่อ StyncyNotes ได้ ทำให้คุณสามารถเขียนโน้ตบนคอมแล้วเปิดดูบนมือถือได้ทันที และยังรองรับ Wayland ซึ่งเป็นโปรโตคอลแสดงผลรุ่นใหม่ที่มาแทน X11

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าจอล็อกอินให้ดูทันสมัยขึ้นด้วย blur effect และ user avatar, อัปเดตแอป Hypnotix สำหรับดู IPTV ให้มี Theater Mode และ Borderless Mode, และปรับปรุง Software Manager ให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยเพิ่มคำอธิบายระหว่าง Flatpak กับ system packages

    เวอร์ชันและฐานระบบของ Linux Mint 22.2 Zara
    เป็นเวอร์ชัน LTS ที่จะได้รับอัปเดตจนถึงปี 2029
    สร้างบน Ubuntu 24.04 และใช้ Linux Kernel 6.14

    Fingwit: ระบบลายนิ้วมือแบบเนทีฟ
    ใช้ยืนยันตัวตนสำหรับ login, screensaver, sudo, และ pkexec
    ไม่ต้องติดตั้งเครื่องมือภายนอกอีกต่อไป
    UI เรียบง่ายและใช้งานสะดวก

    Sticky Notes และการซิงก์กับมือถือ
    รองรับ Wayland และมีมุมโค้งที่ดูทันสมัย
    ซิงก์กับแอป Android ชื่อ StyncyNotes ผ่าน D-Bus
    เขียนโน้ตบนคอมแล้วเปิดดูบนมือถือได้ทันที

    การปรับปรุงหน้าจอและแอปอื่น ๆ
    หน้าจอล็อกอินมี blur effect และ user avatar
    Hypnotix เพิ่ม Theater Mode และ Borderless Mode
    Software Manager อธิบายความต่างระหว่าง Flatpak กับ system packages

    การอัปเดตและการติดตั้ง
    อัปเดตจาก Mint 22 หรือ 22.1 ได้ง่ายผ่าน Update Manager
    มีให้เลือก 3 desktop environment: Cinnamon 6.4, Xfce 4.18, MATE 1.26

    https://www.tomshardware.com/software/linux/linux-mint-22-2-zara-released-with-native-fingerprint-support-also-has-a-new-syncing-sticky-note-system
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Zara: เมื่อ Linux Mint กลายเป็นระบบปฏิบัติการที่ “รู้จักคุณ” มากขึ้น Linux Mint 22.2 รหัสชื่อ “Zara” เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2025 โดยเป็นเวอร์ชัน Long-Term Support (LTS) ที่จะได้รับอัปเดตจนถึงปี 2029 และสร้างบนฐานของ Ubuntu 24.04 พร้อม Linux Kernel 6.14 จุดเด่นของเวอร์ชันนี้ไม่ใช่แค่ความเสถียร แต่คือการเพิ่มฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่า “ระบบเข้าใจเรา” มากขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่นคือ Fingwit—แอปสำหรับจัดการการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือแบบเนทีฟ ซึ่งสามารถใช้ปลดล็อกหน้าจอ, ยืนยันคำสั่ง sudo, และเปิดแอป admin ได้โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องมือภายนอกอีกต่อไป อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ Sticky Notes ที่ไม่ใช่แค่แอปโพสต์อิทธรรมดา แต่สามารถซิงก์กับแอป Android ชื่อ StyncyNotes ได้ ทำให้คุณสามารถเขียนโน้ตบนคอมแล้วเปิดดูบนมือถือได้ทันที และยังรองรับ Wayland ซึ่งเป็นโปรโตคอลแสดงผลรุ่นใหม่ที่มาแทน X11 นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าจอล็อกอินให้ดูทันสมัยขึ้นด้วย blur effect และ user avatar, อัปเดตแอป Hypnotix สำหรับดู IPTV ให้มี Theater Mode และ Borderless Mode, และปรับปรุง Software Manager ให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยเพิ่มคำอธิบายระหว่าง Flatpak กับ system packages ✅ เวอร์ชันและฐานระบบของ Linux Mint 22.2 Zara ➡️ เป็นเวอร์ชัน LTS ที่จะได้รับอัปเดตจนถึงปี 2029 ➡️ สร้างบน Ubuntu 24.04 และใช้ Linux Kernel 6.14 ✅ Fingwit: ระบบลายนิ้วมือแบบเนทีฟ ➡️ ใช้ยืนยันตัวตนสำหรับ login, screensaver, sudo, และ pkexec ➡️ ไม่ต้องติดตั้งเครื่องมือภายนอกอีกต่อไป ➡️ UI เรียบง่ายและใช้งานสะดวก ✅ Sticky Notes และการซิงก์กับมือถือ ➡️ รองรับ Wayland และมีมุมโค้งที่ดูทันสมัย ➡️ ซิงก์กับแอป Android ชื่อ StyncyNotes ผ่าน D-Bus ➡️ เขียนโน้ตบนคอมแล้วเปิดดูบนมือถือได้ทันที ✅ การปรับปรุงหน้าจอและแอปอื่น ๆ ➡️ หน้าจอล็อกอินมี blur effect และ user avatar ➡️ Hypnotix เพิ่ม Theater Mode และ Borderless Mode ➡️ Software Manager อธิบายความต่างระหว่าง Flatpak กับ system packages ✅ การอัปเดตและการติดตั้ง ➡️ อัปเดตจาก Mint 22 หรือ 22.1 ได้ง่ายผ่าน Update Manager ➡️ มีให้เลือก 3 desktop environment: Cinnamon 6.4, Xfce 4.18, MATE 1.26 https://www.tomshardware.com/software/linux/linux-mint-22-2-zara-released-with-native-fingerprint-support-also-has-a-new-syncing-sticky-note-system
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากบรรทัดแรกของ Microsoft: เมื่อโค้ดที่ Bill Gates เขียนในปี 1976 กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในโลกโอเพ่นซอร์ส

    Microsoft ได้เปิดซอร์สโค้ดของ “BASIC for 6502 Microprocessor – Version 1.1” บน GitHub ภายใต้ MIT license ซึ่งหมายความว่าใครก็สามารถดาวน์โหลด แก้ไข แชร์ หรือแม้แต่ขายซ้ำได้อย่างเสรี โค้ดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมาก เพราะเป็นรากฐานของซอฟต์แวร์ที่อยู่ในเครื่อง Apple II, Commodore PET, VIC-20 และ Commodore 64—คอมพิวเตอร์ที่ทำให้คนหลายล้านคนเริ่มเขียนโปรแกรมด้วยคำสั่งง่าย ๆ อย่าง:

    10 PRINT “HELLO”
    20 GOTO 10
    RUN

    BASIC เวอร์ชันนี้ถูกพอร์ตโดย Bill Gates และ Ric Weiland ไปยังชิป MOS 6502 ในปี 1976 และถูกใช้ในเครื่องที่ขายดีที่สุดในยุคนั้น เช่น Commodore 64 ซึ่งขายไปมากกว่า 17 ล้านเครื่องทั่วโลก

    ที่น่าสนใจคือ Commodore ได้ซื้อสิทธิ์ใช้โค้ดนี้แบบไม่จำกัดจำนวนเครื่องในราคาเพียง $25,000 โดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์รายเครื่อง ซึ่งเป็นดีลที่ดูเล็กในตอนนั้น แต่กลายเป็นการวางรากฐานให้ Microsoft กลายเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่มีอิทธิพลที่สุดในโลก

    โค้ดที่เปิดเผยนี้มีจำนวน 6,955 บรรทัด เป็นภาษา Assembly สำหรับชิป 6502 และยังมีการแก้ไขระบบ garbage collector ที่ Bill Gates ร่วมพัฒนากับวิศวกรของ Commodore ในปี 1978 รวมถึง easter egg ที่ซ่อนอยู่ใน label STORDO และ STORD0 ซึ่ง Gates ยืนยันว่าเขาใส่ไว้เอง

    การเปิดซอร์ส Microsoft BASIC for 6502
    เปิดเผยบน GitHub ภายใต้ MIT license
    มีทั้งหมด 6,955 บรรทัด เป็นภาษา Assembly สำหรับ MOS 6502
    สามารถใช้งาน แก้ไข และเผยแพร่ได้อย่างเสรี

    ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
    เป็นซอฟต์แวร์ตัวแรกของ Microsoft ที่เขียนโดย Bill Gates และ Paul Allen
    ถูกใช้ใน Apple II, Commodore PET, VIC-20, และ C64
    เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมสำหรับคนหลายล้านคน

    ดีลกับ Commodore และผลกระทบ
    Commodore ซื้อสิทธิ์ใช้แบบไม่จำกัดในราคา $25,000
    ไม่มีค่าลิขสิทธิ์รายเครื่อง ทำให้ Microsoft ได้การเผยแพร่ในวงกว้าง
    ช่วยให้ Microsoft สร้างชื่อเสียงในยุคเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

    รายละเอียดทางเทคนิคและการพัฒนา
    มีการแก้ไข garbage collector ร่วมกับวิศวกรของ Commodore ในปี 1978
    มี easter egg ที่ซ่อนอยู่ใน label STORDO และ STORD0
    รองรับระบบ Apple II, Commodore PET, KIM-1, OSI และ PDP-10 simulation

    https://www.tomshardware.com/software/bill-gates-48-year-old-microsoft-6502-basic-goes-open-source
    🎙️ เรื่องเล่าจากบรรทัดแรกของ Microsoft: เมื่อโค้ดที่ Bill Gates เขียนในปี 1976 กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในโลกโอเพ่นซอร์ส Microsoft ได้เปิดซอร์สโค้ดของ “BASIC for 6502 Microprocessor – Version 1.1” บน GitHub ภายใต้ MIT license ซึ่งหมายความว่าใครก็สามารถดาวน์โหลด แก้ไข แชร์ หรือแม้แต่ขายซ้ำได้อย่างเสรี โค้ดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมาก เพราะเป็นรากฐานของซอฟต์แวร์ที่อยู่ในเครื่อง Apple II, Commodore PET, VIC-20 และ Commodore 64—คอมพิวเตอร์ที่ทำให้คนหลายล้านคนเริ่มเขียนโปรแกรมด้วยคำสั่งง่าย ๆ อย่าง: 10 PRINT “HELLO” 20 GOTO 10 RUN BASIC เวอร์ชันนี้ถูกพอร์ตโดย Bill Gates และ Ric Weiland ไปยังชิป MOS 6502 ในปี 1976 และถูกใช้ในเครื่องที่ขายดีที่สุดในยุคนั้น เช่น Commodore 64 ซึ่งขายไปมากกว่า 17 ล้านเครื่องทั่วโลก ที่น่าสนใจคือ Commodore ได้ซื้อสิทธิ์ใช้โค้ดนี้แบบไม่จำกัดจำนวนเครื่องในราคาเพียง $25,000 โดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์รายเครื่อง ซึ่งเป็นดีลที่ดูเล็กในตอนนั้น แต่กลายเป็นการวางรากฐานให้ Microsoft กลายเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่มีอิทธิพลที่สุดในโลก โค้ดที่เปิดเผยนี้มีจำนวน 6,955 บรรทัด เป็นภาษา Assembly สำหรับชิป 6502 และยังมีการแก้ไขระบบ garbage collector ที่ Bill Gates ร่วมพัฒนากับวิศวกรของ Commodore ในปี 1978 รวมถึง easter egg ที่ซ่อนอยู่ใน label STORDO และ STORD0 ซึ่ง Gates ยืนยันว่าเขาใส่ไว้เอง ✅ การเปิดซอร์ส Microsoft BASIC for 6502 ➡️ เปิดเผยบน GitHub ภายใต้ MIT license ➡️ มีทั้งหมด 6,955 บรรทัด เป็นภาษา Assembly สำหรับ MOS 6502 ➡️ สามารถใช้งาน แก้ไข และเผยแพร่ได้อย่างเสรี ✅ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ➡️ เป็นซอฟต์แวร์ตัวแรกของ Microsoft ที่เขียนโดย Bill Gates และ Paul Allen ➡️ ถูกใช้ใน Apple II, Commodore PET, VIC-20, และ C64 ➡️ เป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมสำหรับคนหลายล้านคน ✅ ดีลกับ Commodore และผลกระทบ ➡️ Commodore ซื้อสิทธิ์ใช้แบบไม่จำกัดในราคา $25,000 ➡️ ไม่มีค่าลิขสิทธิ์รายเครื่อง ทำให้ Microsoft ได้การเผยแพร่ในวงกว้าง ➡️ ช่วยให้ Microsoft สร้างชื่อเสียงในยุคเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ✅ รายละเอียดทางเทคนิคและการพัฒนา ➡️ มีการแก้ไข garbage collector ร่วมกับวิศวกรของ Commodore ในปี 1978 ➡️ มี easter egg ที่ซ่อนอยู่ใน label STORDO และ STORD0 ➡️ รองรับระบบ Apple II, Commodore PET, KIM-1, OSI และ PDP-10 simulation https://www.tomshardware.com/software/bill-gates-48-year-old-microsoft-6502-basic-goes-open-source
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Bill Gates’ 48-year-old Microsoft 6502 BASIC goes open source
    Named after the MOS Technology 6502 CPU, but a port of BASIC for the Altair 8800 microcomputer (1975) which used the Intel 8080 processor.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Scaling Laws: เมื่อ compute ไม่ใช่พระเจ้าองค์เดียว และ data คือสิ่งที่เรากำลังขาดแคลน

    Kushal Chakrabarti เขียนบทความที่พลิกความเข้าใจเดิมเกี่ยวกับ The Bitter Lesson โดยชี้ว่า เราอ่านบทเรียนนี้ “กลับด้าน” มานานหลายปี เพราะจริง ๆ แล้ว Scaling Laws บอกเราว่า compute (C) ไม่ได้ทำงานลอย ๆ—มันต้องจับคู่กับ data (D) อย่างถูกสัดส่วน และความสัมพันธ์นั้นคือ C ∼ D²

    แปลว่า ถ้าเราจะเพิ่ม GPU เป็นสองเท่า เราต้องเพิ่มข้อมูลอีก 40% ไม่งั้นก็เหมือนจุดไฟเผาเงินเล่น เพราะ compute ที่มากขึ้นจะไม่มีประโยชน์ถ้าไม่มีข้อมูลที่มากพอให้มันเรียนรู้

    ปัญหาคือ เรากินข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตไปหมดแล้ว และไม่มี “อินเทอร์เน็ตที่สอง” ให้เทรน GPT-6 ได้อีกต่อไป ข้อมูลที่มีคุณภาพสูงจริง ๆ เหลืออยู่แค่ประมาณ 10 ล้านล้าน token เท่านั้น ซึ่งไม่พอสำหรับโมเดลระดับ 100B+ parameters ที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาลต่อ parameter

    ดังนั้น ทีม AI ต้องเลือกทางเดินใหม่: จะเป็น “Architect” ที่ออกแบบโมเดลให้ฉลาดขึ้นโดยใช้ข้อมูลเท่าเดิม หรือเป็น “Alchemist” ที่สร้างข้อมูลใหม่จากการเรียนรู้ของโมเดลเอง เช่น self-play, RLHF, หรือ agentic feedback loop

    Scaling Laws และความเข้าใจใหม่
    ความสัมพันธ์ระหว่าง compute กับ data คือ C ∼ D²
    เพิ่ม GPU โดยไม่เพิ่มข้อมูล = ประสิทธิภาพลดลง
    Chinchilla model ของ DeepMind ยืนยันว่า model size ควรสอดคล้องกับ data size

    ปัญหาคอขวดด้านข้อมูล
    อินเทอร์เน็ตถูกใช้หมดแล้ว ไม่มีแหล่งข้อมูลใหม่ขนาดใหญ่
    ข้อมูลคุณภาพสูงเหลือเพียง ~10T token หลังกรองซ้ำและคุณภาพ
    GPT-6 ต้องการข้อมูลระดับ ~20 token ต่อ parameter ซึ่งไม่พอในปัจจุบัน

    ทางเลือกของทีมวิจัย AI
    Architect: พัฒนาโมเดลให้ฉลาดขึ้นโดยใช้ข้อมูลเท่าเดิม เช่น Mamba, HRM, ParScale
    Alchemist: สร้างข้อมูลใหม่จาก self-play, RLHF, agentic feedback loop
    ทั้งสองแนวทางต้องทำงานร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

    กลยุทธ์สำหรับผู้นำองค์กร
    Incumbent’s Gambit: ลงทุน 70% กับ Architect เพื่อความมั่นคง และ 30% กับ Alchemist เพื่อ hedge
    Challenger’s Gambit: ลงทุน 70% กับ Alchemist เพื่อ leapfrog และ 30% กับ Architect เพื่อความต่อเนื่อง
    การจัดพอร์ตวิจัยต้องสะท้อนความเสี่ยงและเป้าหมายขององค์กร

    https://obviouslywrong.substack.com/p/the-bitter-lesson-is-misunderstood
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Scaling Laws: เมื่อ compute ไม่ใช่พระเจ้าองค์เดียว และ data คือสิ่งที่เรากำลังขาดแคลน Kushal Chakrabarti เขียนบทความที่พลิกความเข้าใจเดิมเกี่ยวกับ The Bitter Lesson โดยชี้ว่า เราอ่านบทเรียนนี้ “กลับด้าน” มานานหลายปี เพราะจริง ๆ แล้ว Scaling Laws บอกเราว่า compute (C) ไม่ได้ทำงานลอย ๆ—มันต้องจับคู่กับ data (D) อย่างถูกสัดส่วน และความสัมพันธ์นั้นคือ C ∼ D² แปลว่า ถ้าเราจะเพิ่ม GPU เป็นสองเท่า เราต้องเพิ่มข้อมูลอีก 40% ไม่งั้นก็เหมือนจุดไฟเผาเงินเล่น เพราะ compute ที่มากขึ้นจะไม่มีประโยชน์ถ้าไม่มีข้อมูลที่มากพอให้มันเรียนรู้ ปัญหาคือ เรากินข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตไปหมดแล้ว และไม่มี “อินเทอร์เน็ตที่สอง” ให้เทรน GPT-6 ได้อีกต่อไป ข้อมูลที่มีคุณภาพสูงจริง ๆ เหลืออยู่แค่ประมาณ 10 ล้านล้าน token เท่านั้น ซึ่งไม่พอสำหรับโมเดลระดับ 100B+ parameters ที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาลต่อ parameter ดังนั้น ทีม AI ต้องเลือกทางเดินใหม่: จะเป็น “Architect” ที่ออกแบบโมเดลให้ฉลาดขึ้นโดยใช้ข้อมูลเท่าเดิม หรือเป็น “Alchemist” ที่สร้างข้อมูลใหม่จากการเรียนรู้ของโมเดลเอง เช่น self-play, RLHF, หรือ agentic feedback loop ✅ Scaling Laws และความเข้าใจใหม่ ➡️ ความสัมพันธ์ระหว่าง compute กับ data คือ C ∼ D² ➡️ เพิ่ม GPU โดยไม่เพิ่มข้อมูล = ประสิทธิภาพลดลง ➡️ Chinchilla model ของ DeepMind ยืนยันว่า model size ควรสอดคล้องกับ data size ✅ ปัญหาคอขวดด้านข้อมูล ➡️ อินเทอร์เน็ตถูกใช้หมดแล้ว ไม่มีแหล่งข้อมูลใหม่ขนาดใหญ่ ➡️ ข้อมูลคุณภาพสูงเหลือเพียง ~10T token หลังกรองซ้ำและคุณภาพ ➡️ GPT-6 ต้องการข้อมูลระดับ ~20 token ต่อ parameter ซึ่งไม่พอในปัจจุบัน ✅ ทางเลือกของทีมวิจัย AI ➡️ Architect: พัฒนาโมเดลให้ฉลาดขึ้นโดยใช้ข้อมูลเท่าเดิม เช่น Mamba, HRM, ParScale ➡️ Alchemist: สร้างข้อมูลใหม่จาก self-play, RLHF, agentic feedback loop ➡️ ทั้งสองแนวทางต้องทำงานร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ✅ กลยุทธ์สำหรับผู้นำองค์กร ➡️ Incumbent’s Gambit: ลงทุน 70% กับ Architect เพื่อความมั่นคง และ 30% กับ Alchemist เพื่อ hedge ➡️ Challenger’s Gambit: ลงทุน 70% กับ Alchemist เพื่อ leapfrog และ 30% กับ Architect เพื่อความต่อเนื่อง ➡️ การจัดพอร์ตวิจัยต้องสะท้อนความเสี่ยงและเป้าหมายขององค์กร https://obviouslywrong.substack.com/p/the-bitter-lesson-is-misunderstood
    OBVIOUSLYWRONG.SUBSTACK.COM
    The Bitter Lesson is Misunderstood
    Together, the Bitter Lesson and Scaling Laws reveal that the god of Compute we worship is yoked to an even greater one — the god of Data.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย
    สัทธรรมลำดับที่ : 737
    ชื่อบทธรรม :- อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย(ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=737
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย
    (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ)
    --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของรูป ?
    +--ภิกษุ ท. ! เหมือนอย่างว่านางสาวน้อยแห่งกษัตริย์ก็ดี
    นางสาวน้อยแห่งพราหมณ์ก็ดี หรือนางสาวน้อยแห่งคหบดีก็ดี
    ที่แสดงลักษณะว่ามีอายุสิบห้าปีก็ดี หรือสิบหกปีก็ดี
    ซึ่งมีทรวดทรงไม่สูงนัก ไม่ต่ำนัก ไม่ผอมนัก ไม่อ้วนนัก ไม่ดำนัก ไม่ขาวนัก
    +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยนั้น สีสรรวรรณะแห่งหญิงนั้น ย่อมงดงามอย่างยิ่ง มิใช่หรือ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +-ภิกษุ ท. ! สุขโสมนัสที่อาศัยสีสรรวรรณะอัน งดงามแล้วบังเกิดขึ้น อันใด,
    อันนั้น #เป็นอัสสาทะของรูป.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/173/?keywords=อสฺสาโท

    --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็น อาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของรูป ?
    (ก) ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้
    บุคคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ
    โดยกาลต่อมา มีอายุได้ ๘๐ ปีบ้าง ๙๐ ปีบ้าง ๑๐๐ ปีบ้าง
    ชราทรุดโทรมแล้ว มีหลังงอเหมือน โคปานสิแห่งหลังคา*--๑
    มีกายคดไปคดมา
    มีไม้เท้ายันไปในเบื้องหน้า เดินตัวสั่นเทิ้ม กระสับกระส่าย ผ่านวัยอันแข็งแกร่งไปแล้ว
    มีฟันหักแล้ว มีผมหงอกแล้ว มีผมตัดสั้นอย่างลวกๆ
    มีผิวหนังหย่อนยานและมีตัวเต็มไปด้วยจุด.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร :
    สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีมาแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้วมิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! นั่นคือ #อาทีนวะของรูป.
    ------
    *--๑. คำนี้เคยแปลกันว่า กลอนหรือจันทัน แต่ไม่สมเหตุสมผลคือไม่ได้โค้ง.
    รูปเรือนโบราณที่ปรากฏอยู่ในสิลาสลักของโบราณ เห็นโค้งอยู่แต่ส่วนที่เรียกว่าปั้นลม
    โค้งงอเป็นรูปดอกบัว พอที่จะเปรียบกับหลังโกงได้.
    หรือมิฉะนั้น ก็ต้องเป็นเรือนที่มีหลังคาเป็นรูปประทุนเรือจันทันหรือกลอนจึงจะโค้งงอได้, ทำให้ไม่แน่ใจว่าแปลคำนี้ว่าอะไรดี จึงไม่แปลและคงไว้ตามเดิมว่า โคปานสิ.

    (ข) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ
    อาพาธลง ได้รับทุกข์ทรมาณ เป็นไข้หนัก
    นอนกลิ้งเกลือกอยู่ในมูตรและคูถของตนเอง
    อันบุคคลต้องช่วยพยุงให้ลุกและนอน.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจข้อความนี้ว่าอย่างไร
    : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป.

    (ค) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง)
    นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ
    ตายแล้ววันหนึ่ง บ้าง ตายแล้วสองวัน บ้าง ตายแล้วสามวัน บ้าง กำลังขึ้นพอง บ้าง
    มีสีเขียว บ้าง มีหนองไหล บ้าง.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะข้าใจความหมายนี้อย่างไร
    : สีสันวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป.

    (ง) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง)
    นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพอัน
    ฝูงกาจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงแร้งจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงตะกรุมจิกกินอยู่ บ้าง
    อัน ฝูงสุนัขกัดกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงสุนัขจิ้งจอกกัดกินอยู่ บ้าง
    และอัน หมู่หนอนต่างชนิดบ่อนกินอยู่ บ้าง.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร
    : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป.

    (จ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ
    บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ
    เป็นร่างกระดูก ยังมีเนื้อและเลือด และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดอยู่ บ้าง
    เป็นร่างกระดูกที่ ปราศจากเนื้อ แต่ยังมีเลือดเปื้อนอยู่ และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้ บ้าง
    เป็นร่างกระดูกที่ ปราศจากเนื้อและเลือด แต่ยังมีอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้ บ้าง
    เป็นท่อนกระดูกที่ ปราศจากเอ็นเป็นเครื่องรึงรัด กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง คือกระดูกมือไปทางหนึ่ง กระดูกเท้าไปทางหนึ่ง กระดูกแข้งไปทางหนึ่ง กระดูกขาไปทางหนึ่ง กระดูกสะเอวไปทางหนึ่ง กระดูกข้อสันหลังไปทางหนึ่ง กระดูกสีข้างไปทางหนึ่ง กระดูกหน้าอกไปทางหนึ่ง กระดูกแขนไปทางหนึ่ง กระดูกไหล่ไปทางหนึ่ง กระดูกคอไปทางหนึ่ง กระดูกคางไปทางหนึ่ง ฟันไปทางหนึ่ง กระโหลกศีรษะไปทางหนึ่ง บ้าง.
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร :
    สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป.

    (ฉ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก
    : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ
    บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ
    เป็นชิ้นกระดูก มีสีขาวดังสีสังข์ บ้าง
    เป็นชิ้นกระดูก กองเรี่ยรายอยู่นานเกินกว่าปีหนึ่งไปแล้ว บ้าง
    เป็นกระดูก เปื่อยผงละเอียดไปแล้ว บ้าง
    +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร
    : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป.

    --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นนิสสรณะ (อุบายเครื่องออก) จากรูป ?
    +--ภิกษุ ท. ! การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะในรูปอันใด,
    อันนั้น เป็น #นิสสรณะของรูป.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/175/?keywords=ฉนฺทราคปฺปหานํ
    --ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง
    ซึ่ง อัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย
    ซึ่ง อาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย
    ซึ่ง นิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่;
    สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง
    หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว
    ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้.
    --ภิกษุ ท. ! ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด รู้ชัดตามความเป็นจริง
    ซึ่ง อัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย
    ซึ่ง อาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย
    ซึ่ง นิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่
    สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง
    หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว
    ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/118-121/201-204.
    http://etipitaka.com/read/thai/12/118/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๑๗๓-๑๗๕/๒๐๑-๒๐๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/173/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=737
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55&id=737
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55
    ลำดับสาธยายธรรม : 55 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_55.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย สัทธรรมลำดับที่ : 737 ชื่อบทธรรม :- อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย(ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=737 เนื้อความทั้งหมด :- --อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ) --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของรูป ? +--ภิกษุ ท. ! เหมือนอย่างว่านางสาวน้อยแห่งกษัตริย์ก็ดี นางสาวน้อยแห่งพราหมณ์ก็ดี หรือนางสาวน้อยแห่งคหบดีก็ดี ที่แสดงลักษณะว่ามีอายุสิบห้าปีก็ดี หรือสิบหกปีก็ดี ซึ่งมีทรวดทรงไม่สูงนัก ไม่ต่ำนัก ไม่ผอมนัก ไม่อ้วนนัก ไม่ดำนัก ไม่ขาวนัก +--ภิกษุ ท. ! ในสมัยนั้น สีสรรวรรณะแห่งหญิงนั้น ย่อมงดงามอย่างยิ่ง มิใช่หรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +-ภิกษุ ท. ! สุขโสมนัสที่อาศัยสีสรรวรรณะอัน งดงามแล้วบังเกิดขึ้น อันใด, อันนั้น #เป็นอัสสาทะของรูป. http://etipitaka.com/read/pali/12/173/?keywords=อสฺสาโท --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็น อาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของรูป ? (ก) ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ โดยกาลต่อมา มีอายุได้ ๘๐ ปีบ้าง ๙๐ ปีบ้าง ๑๐๐ ปีบ้าง ชราทรุดโทรมแล้ว มีหลังงอเหมือน โคปานสิแห่งหลังคา*--๑ มีกายคดไปคดมา มีไม้เท้ายันไปในเบื้องหน้า เดินตัวสั่นเทิ้ม กระสับกระส่าย ผ่านวัยอันแข็งแกร่งไปแล้ว มีฟันหักแล้ว มีผมหงอกแล้ว มีผมตัดสั้นอย่างลวกๆ มีผิวหนังหย่อนยานและมีตัวเต็มไปด้วยจุด. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีมาแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้วมิใช่หรือ ? “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! นั่นคือ #อาทีนวะของรูป. ------ *--๑. คำนี้เคยแปลกันว่า กลอนหรือจันทัน แต่ไม่สมเหตุสมผลคือไม่ได้โค้ง. รูปเรือนโบราณที่ปรากฏอยู่ในสิลาสลักของโบราณ เห็นโค้งอยู่แต่ส่วนที่เรียกว่าปั้นลม โค้งงอเป็นรูปดอกบัว พอที่จะเปรียบกับหลังโกงได้. หรือมิฉะนั้น ก็ต้องเป็นเรือนที่มีหลังคาเป็นรูปประทุนเรือจันทันหรือกลอนจึงจะโค้งงอได้, ทำให้ไม่แน่ใจว่าแปลคำนี้ว่าอะไรดี จึงไม่แปลและคงไว้ตามเดิมว่า โคปานสิ. (ข) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ อาพาธลง ได้รับทุกข์ทรมาณ เป็นไข้หนัก นอนกลิ้งเกลือกอยู่ในมูตรและคูถของตนเอง อันบุคคลต้องช่วยพยุงให้ลุกและนอน. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจข้อความนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป. (ค) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ ตายแล้ววันหนึ่ง บ้าง ตายแล้วสองวัน บ้าง ตายแล้วสามวัน บ้าง กำลังขึ้นพอง บ้าง มีสีเขียว บ้าง มีหนองไหล บ้าง. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะข้าใจความหมายนี้อย่างไร : สีสันวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป. (ง) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพอัน ฝูงกาจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงแร้งจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงตะกรุมจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงสุนัขกัดกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงสุนัขจิ้งจอกกัดกินอยู่ บ้าง และอัน หมู่หนอนต่างชนิดบ่อนกินอยู่ บ้าง. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป. (จ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ เป็นร่างกระดูก ยังมีเนื้อและเลือด และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดอยู่ บ้าง เป็นร่างกระดูกที่ ปราศจากเนื้อ แต่ยังมีเลือดเปื้อนอยู่ และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้ บ้าง เป็นร่างกระดูกที่ ปราศจากเนื้อและเลือด แต่ยังมีอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้ บ้าง เป็นท่อนกระดูกที่ ปราศจากเอ็นเป็นเครื่องรึงรัด กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง คือกระดูกมือไปทางหนึ่ง กระดูกเท้าไปทางหนึ่ง กระดูกแข้งไปทางหนึ่ง กระดูกขาไปทางหนึ่ง กระดูกสะเอวไปทางหนึ่ง กระดูกข้อสันหลังไปทางหนึ่ง กระดูกสีข้างไปทางหนึ่ง กระดูกหน้าอกไปทางหนึ่ง กระดูกแขนไปทางหนึ่ง กระดูกไหล่ไปทางหนึ่ง กระดูกคอไปทางหนึ่ง กระดูกคางไปทางหนึ่ง ฟันไปทางหนึ่ง กระโหลกศีรษะไปทางหนึ่ง บ้าง. +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป. (ฉ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ เป็นชิ้นกระดูก มีสีขาวดังสีสังข์ บ้าง เป็นชิ้นกระดูก กองเรี่ยรายอยู่นานเกินกว่าปีหนึ่งไปแล้ว บ้าง เป็นกระดูก เปื่อยผงละเอียดไปแล้ว บ้าง +--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คือ #อาทีนวะของรูป. --ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นนิสสรณะ (อุบายเครื่องออก) จากรูป ? +--ภิกษุ ท. ! การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะในรูปอันใด, อันนั้น เป็น #นิสสรณะของรูป. http://etipitaka.com/read/pali/12/175/?keywords=ฉนฺทราคปฺปหานํ --ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่ง อาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่ง นิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่; สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้. --ภิกษุ ท. ! ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด รู้ชัดตามความเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่ง อาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่ง นิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/118-121/201-204. http://etipitaka.com/read/thai/12/118/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๑๗๓-๑๗๕/๒๐๑-๒๐๔. http://etipitaka.com/read/pali/12/173/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%90%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=737 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55&id=737 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=55 ลำดับสาธยายธรรม : 55 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_55.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย--(ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ)
    -(ความรู้ดังกล่าวนี้สงเคราะห์ลงในสัมมาทิฏฐิ ดังนั้นจึงนำมารวมไว้ในที่นี้). อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะของรูปกาย (ธรรมลักษณะ ๓ ประการของรูป : วัตถุแห่งสัมมาทิฏฐิ) ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นอัสสาทะ (รสอร่อย) ของรูป ? ภิกษุ ท. ! เหมือนอย่างว่านางสาวน้อยแห่งกษัตริย์ก็ดี นางสาวน้อยแห่งพราหมณ์ก็ดี หรือนางสาวน้อยแห่งคหบดีก็ดี ที่แสดงลักษณะว่ามีอายุสิบห้าปีก็ดี หรือสิบหกปีก็ดี ซึ่งมีทรวดทรงไม่สูงนัก ไม่ต่ำนัก ไม่ผอมนัก ไม่อ้วนนัก ไม่ดำนัก ไม่ขาวนัก ภิกษุ ท. ! ในสมัยนั้น สีสรรวรรณะแห่งหญิงนั้น ย่อมงดงามอย่างยิ่ง มิใช่หรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! สุขโสมนัสที่อาศัยสีสรรวรรณะอัน งดงามแล้วบังเกิดขึ้น อันใด, อันนั้น เป็นอัสสาทะของรูป. ภิกษุ ท. ! อะไร เป็น อาทีนวะ (โทษอันต่ำทราม) ของรูป ? (ก) ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ โดยกาลต่อมา มีอายุได้ ๘๐ ปีบ้าง ๙๐ ปีบ้าง ๑๐๐ ปีบ้าง ชราทรุดโทรมแล้ว มีหลังงอเหมือนโคปานสิแห่งหลังคา๑ มีกายคดไปคดมา มีไม้เท้ายันไป ๑. คำนี้เคยแปลกันว่า กลอนหรือจันทัน แต่ไม่สมเหตุสมผลคือไม่ได้โค้ง. รูปเรือนโบราณที่ปรากฏอยู่ในสิลาสลักของโบราณ เห็นโค้งอยู่แต่ส่วนที่เรียกว่าปั้นลม โค้งงอเป็นรูปดอกบัว พอที่จะเปรียบกับหลังโกงได้. หรือมิฉะนั้น ก็ต้องเป็นเรือนที่มีหลังคาเป็นรูปประทุนเรือจันทันหรือกลอนจึงจะโค้งงอได้, ทำให้ไม่แน่ใจว่าแปลคำนี้ว่าอะไรดี จึงไม่แปลและคงไว้ตามเดิมว่า โคปานสิ. ในเบื้องหน้า เดินตัวสั่นเทิ้ม กระสับกระส่าย ผ่านวัยอันแข็งแกร่งไปแล้ว มีฟันหักแล้ว มีผมหงอกแล้ว มีผมตัดสั้นอย่างลวกๆ มีผิวหนังหย่อนยานและมีตัวเต็มไปด้วยจุด. ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีมาแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้วมิใช่หรือ ? “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! นั่นคือ อาทีนวะของรูป. (ข) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ อาพาธลง ได้รับทุกข์ทรมาณ เป็นไข้หนัก นอนกลิ้งเกลือกอยู่ในมูตรและคูถของตนเอง อันบุคคลต้องช่วยพยุงให้ลุกและนอน. ภิกษุ ท. ! พวกเธอเข้าใจข้อความนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คืออาทีนวะของรูป. (ค) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ ตายแล้ววันหนึ่ง บ้าง ตายแล้วสองวัน บ้าง ตายแล้วสามวัน บ้าง กำลังขึ้นพอง บ้าง มีสีเขียว บ้าง มีหนองไหล บ้าง. ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะข้าใจความหมายนี้อย่างไร : สีสันวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คืออาทีนวะ ของรูป. (ง) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ อัน ฝูงกาจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงแร้งจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงตะกรุมจิกกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงสุนัขกัดกินอยู่ บ้าง อัน ฝูงสุนัขจิ้งจอกกัดกินอยู่ บ้าง และอัน หมู่หนอนต่างชนิดบ่อนกินอยู่ บ้าง. ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คืออาทีนวะของรูป. (จ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ เป็นร่างกระดูก ยังมีเนื้อและเลือด และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดอยู่ บ้าง เป็นร่างกระดูกที่ ปราศจากเนื้อ แต่ยังมีเลือดเปื้อนอยู่ และยังมีเอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้บ้าง เป็นร่างกระดูกที่ปราศจากเนื้อและเลือด แต่ยังมีอ็นเป็นเครื่องรึงรัดไว้บ้าง เป็นท่อนกระดูกที่ปราศจากเอ็นเป็นเครื่องรึงรัด กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง คือกระดูกมือไปทางหนึ่ง กระดูกเท้าไปทางหนึ่ง กระดูกแข้งไปทางหนึ่ง กระดูกขาไปทางหนึ่ง กระดูกสะเอวไปทางหนึ่ง กระดูกข้อสันหลังไปทางหนึ่ง กระดูกสีข้างไปทางหนึ่ง กระดูกหน้าอกไปทางหนึ่ง กระดูกแขนไปทางหนึ่ง กระดูกไหล่ไปทางหนึ่ง กระดูกคอไปทางหนึ่ง กระดูกคางไปทางหนึ่ง ฟันไปทางหนึ่ง กระโหลกศีรษะไปทางหนึ่งบ้าง. ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คืออาทีนวะของรูป. (ฉ) ภิกษุ ท. ! โทษอย่างอื่นยังมีอีก : บุคคล จะได้เห็นน้องสาว (ของตนเอง) นั่นแหละ บัดนี้เป็นสรีระร่างอันเขาทิ้งแล้ว ในป่าช้าเป็นที่ทิ้งศพ เป็นชิ้นกระดูก มีสีขาวดังสีสังข์ บ้าง เป็นชิ้นกระดูก กองเรี่ยรายอยู่นานเกินกว่าปีหนึ่งไปแล้ว บ้าง เป็นกระดูก เปื่อยผงละเอียดไปแล้ว บ้าง ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร : สีสรรวรรณะอันงดงามที่มีแต่เดิม อันตรธานไปแล้ว, โทษปรากฏชัดแล้ว มิใช่หรือ ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! แม้นั่น ก็คืออาทีนวะของรูป. ภิกษุ ท. ! อะไร เป็นนิสสรณะ (อุบายเครื่องออก) จากรูป ? ภิกษุ ท. ! การนำออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ การละเสียได้ซึ่งฉันทราคะในรูปอันใด, อันนั้น เป็นนิสสรณะของรูป. ภิกษุ ท. ! สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด ไม่รู้ชัดตามเป็นจริง ซึ่ง อัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่งอาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่งนิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่; สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้นน่ะหรือ จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นไม่เป็นฐานะที่มีได้. ภิกษุ ท. ! ส่วนสมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด รู้ชัดตามความเป็น จริง ซึ่งอัสสาทะแห่งรูปโดยความเป็นอัสสาทะด้วย ซึ่งอาทีนวะโดยความเป็นอาทีนวะด้วย ซึ่งนิสสรณะโดยความเป็นนิสสรณะด้วย โดยอาการอย่างนี้ อยู่ สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น จักรอบรู้ซึ่งรูปด้วยตนเอง หรือว่าจักชวนผู้อื่นให้รอบรู้ซึ่งรูปเหมือนผู้ที่เคยปฏิบัติแล้ว ดังนี้นั้น : นั่นเป็นฐานะที่มีได้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Influencer ที่ไม่มีวันแก่: เมื่อ AI กลายเป็นคนดังที่แบรนด์รักและ FTC เริ่มไม่ไว้ใจ

    Lil Miquela เปิดตัวในปี 2016 ในฐานะ “วัยรุ่นบราซิล-อเมริกันจากแคลิฟอร์เนีย” ที่มีชีวิตอยู่บน Instagram เท่านั้น แต่เธอกลับกลายเป็นคนดังที่มีผู้ติดตามกว่า 2.4 ล้านคน ปรากฏตัวบนปกนิตยสาร, ร่วมแคมเปญกับ Calvin Klein และ Prada, และแม้แต่ถ่ายเซลฟี่กับ Nancy Pelosi ที่งานดนตรีในซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนก่อน

    แต่เบื้องหลังของ Lil Miquela คือโมเดล AI ที่สร้างโดยบริษัท Dapper Labs ซึ่งใช้เทคนิคการเรนเดอร์ภาพและการเขียนบทสนทนาให้เหมือนมนุษย์จริง ๆ จนผู้ติดตามหลายคนไม่รู้ว่าเธอไม่ใช่คนจริง

    การเติบโตของ “AI influencer” ไม่ได้หยุดแค่ Miquela—ยังมี Shudu, Milla Sofia และอีกหลายคนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนแบรนด์โดยเฉพาะ และนั่นทำให้ FTC (คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ) ต้องออกกฎใหม่ในปี 2023 โดยระบุว่า virtual influencer ที่ “ดูเหมือนคนจริง” และ “พูดในลักษณะที่ผู้บริโภคอาจเข้าใจว่าเป็นประสบการณ์ส่วนตัว” จะต้องปฏิบัติตามกฎการโฆษณาเหมือน influencer จริงทุกประการ3

    นั่นหมายความว่า AI influencer ต้องเปิดเผยความเกี่ยวข้องกับแบรนด์, ห้ามพูดราวกับเคยใช้สินค้าจริง, และแบรนด์ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ AI พูด—แม้จะเป็นโมเดลที่ไม่มีความรู้สึกหรือประสบการณ์จริงก็ตาม

    การเติบโตของ AI influencer
    Lil Miquela เปิดตัวในปี 2016 และมีผู้ติดตามกว่า 2.4 ล้านคน
    ปรากฏตัวในแคมเปญของแบรนด์ใหญ่ เช่น Calvin Klein และ Prada
    มีการโต้ตอบกับบุคคลจริง เช่น Nancy Pelosi ในงานดนตรี

    การกำกับดูแลจาก FTC
    FTC อัปเดต Endorsement Guide ให้ครอบคลุม virtual influencer
    ต้องเปิดเผยความเกี่ยวข้องกับแบรนด์อย่างชัดเจน
    ห้ามพูดราวกับมีประสบการณ์ส่วนตัวกับสินค้า

    ตัวอย่าง virtual influencer ที่มีอิทธิพล
    Shudu, Milla Sofia, Lu do Magalu เป็นตัวอย่างของ AI ที่มีผู้ติดตามหลักล้าน
    ถูกใช้เป็นตัวแทนแบรนด์ในหลายประเทศ
    บางรายถูกสร้างโดยแบรนด์เองเพื่อควบคุมภาพลักษณ์และข้อความ

    แนวโน้มของตลาดและเทคโนโลยี
    AI influencer ช่วยลดต้นทุนการตลาดและควบคุมเนื้อหาได้เต็มที่
    ใช้เทคโนโลยีเรนเดอร์ภาพและ NLP เพื่อสร้างบทสนทนาเหมือนจริง
    แบรนด์ขนาดเล็กสามารถสร้าง content ระดับสตูดิโอได้ด้วยงบจำกัด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/04/theyre-famous-theyre-everywhere-and-theyre-fake
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Influencer ที่ไม่มีวันแก่: เมื่อ AI กลายเป็นคนดังที่แบรนด์รักและ FTC เริ่มไม่ไว้ใจ Lil Miquela เปิดตัวในปี 2016 ในฐานะ “วัยรุ่นบราซิล-อเมริกันจากแคลิฟอร์เนีย” ที่มีชีวิตอยู่บน Instagram เท่านั้น แต่เธอกลับกลายเป็นคนดังที่มีผู้ติดตามกว่า 2.4 ล้านคน ปรากฏตัวบนปกนิตยสาร, ร่วมแคมเปญกับ Calvin Klein และ Prada, และแม้แต่ถ่ายเซลฟี่กับ Nancy Pelosi ที่งานดนตรีในซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนก่อน แต่เบื้องหลังของ Lil Miquela คือโมเดล AI ที่สร้างโดยบริษัท Dapper Labs ซึ่งใช้เทคนิคการเรนเดอร์ภาพและการเขียนบทสนทนาให้เหมือนมนุษย์จริง ๆ จนผู้ติดตามหลายคนไม่รู้ว่าเธอไม่ใช่คนจริง การเติบโตของ “AI influencer” ไม่ได้หยุดแค่ Miquela—ยังมี Shudu, Milla Sofia และอีกหลายคนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนแบรนด์โดยเฉพาะ และนั่นทำให้ FTC (คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ) ต้องออกกฎใหม่ในปี 2023 โดยระบุว่า virtual influencer ที่ “ดูเหมือนคนจริง” และ “พูดในลักษณะที่ผู้บริโภคอาจเข้าใจว่าเป็นประสบการณ์ส่วนตัว” จะต้องปฏิบัติตามกฎการโฆษณาเหมือน influencer จริงทุกประการ3 นั่นหมายความว่า AI influencer ต้องเปิดเผยความเกี่ยวข้องกับแบรนด์, ห้ามพูดราวกับเคยใช้สินค้าจริง, และแบรนด์ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ AI พูด—แม้จะเป็นโมเดลที่ไม่มีความรู้สึกหรือประสบการณ์จริงก็ตาม ✅ การเติบโตของ AI influencer ➡️ Lil Miquela เปิดตัวในปี 2016 และมีผู้ติดตามกว่า 2.4 ล้านคน ➡️ ปรากฏตัวในแคมเปญของแบรนด์ใหญ่ เช่น Calvin Klein และ Prada ➡️ มีการโต้ตอบกับบุคคลจริง เช่น Nancy Pelosi ในงานดนตรี ✅ การกำกับดูแลจาก FTC ➡️ FTC อัปเดต Endorsement Guide ให้ครอบคลุม virtual influencer ➡️ ต้องเปิดเผยความเกี่ยวข้องกับแบรนด์อย่างชัดเจน ➡️ ห้ามพูดราวกับมีประสบการณ์ส่วนตัวกับสินค้า ✅ ตัวอย่าง virtual influencer ที่มีอิทธิพล ➡️ Shudu, Milla Sofia, Lu do Magalu เป็นตัวอย่างของ AI ที่มีผู้ติดตามหลักล้าน ➡️ ถูกใช้เป็นตัวแทนแบรนด์ในหลายประเทศ ➡️ บางรายถูกสร้างโดยแบรนด์เองเพื่อควบคุมภาพลักษณ์และข้อความ ✅ แนวโน้มของตลาดและเทคโนโลยี ➡️ AI influencer ช่วยลดต้นทุนการตลาดและควบคุมเนื้อหาได้เต็มที่ ➡️ ใช้เทคโนโลยีเรนเดอร์ภาพและ NLP เพื่อสร้างบทสนทนาเหมือนจริง ➡️ แบรนด์ขนาดเล็กสามารถสร้าง content ระดับสตูดิโอได้ด้วยงบจำกัด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/04/theyre-famous-theyre-everywhere-and-theyre-fake
    WWW.THESTAR.COM.MY
    They're famous. They're everywhere. And they're fake.
    Influencers like Lil' Miquela and Mia Zelu have millions of followers and generate serious income, despite being created with artificial intelligence.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก charmap.exe: เมื่อแอปพื้นฐานกลายเป็นหน้ากากของการขุดเหรียญลับ

    ในเดือนกรกฎาคม 2025 ทีมวิจัยจาก Darktrace ตรวจพบการโจมตีแบบ cryptojacking บนเครือข่ายของบริษัทค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ โดยพบว่ามีการใช้ PowerShell user agent ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนที่นำไปสู่การค้นพบมัลแวร์ NBMiner ที่ถูกฝังอยู่ในกระบวนการของ Windows Character Map (charmap.exe)

    มัลแวร์นี้ถูกโหลดผ่านสคริปต์ infect.ps1 ที่ถูกเข้ารหัสหลายชั้นด้วย Base64 และ XOR เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ โดยใช้ AutoIt loader ที่ถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อนเพื่อ inject ตัวเองเข้าไปในโปรเซสที่ดูปลอดภัยและไม่เป็นพิษภัย

    เมื่อเข้าไปใน charmap.exe แล้ว มัลแวร์จะตรวจสอบว่า Task Manager เปิดอยู่หรือไม่, มีแอนตี้ไวรัสตัวอื่นนอกจาก Windows Defender หรือเปล่า และพยายามยกระดับสิทธิ์ผู้ใช้โดยหลบเลี่ยง UAC เพื่อให้สามารถขุดเหรียญ Monero ได้อย่างเงียบ ๆ ผ่าน mining pool ที่ชื่อ gulf.moneroocean.stream

    สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้น่ากังวลคือการใช้เทคนิค zero-click และการฝังตัวในหน่วยความจำโดยไม่แตะไฟล์บนดิสก์เลย ทำให้ระบบตรวจจับแบบ signature-based หรือ sandboxing แทบไม่มีโอกาสเห็นพฤติกรรมผิดปกติ

    Jason Soroko จาก Sectigo เตือนว่า cryptojacking ไม่ใช่แค่เรื่องของค่าไฟแพงหรือเครื่องช้า แต่เป็น “สัญญาณของการบุกรุก” ที่อาจเป็นหน้ากากของแคมเปญใหญ่ เช่น การเก็บ credentials หรือการสอดแนมเครือข่ายในระดับองค์กร

    รูปแบบการโจมตีที่ตรวจพบโดย Darktrace
    เริ่มจาก PowerShell user agent ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
    ใช้ infect.ps1 ที่ถูกเข้ารหัสหลายชั้นด้วย Base64 และ XOR
    โหลด AutoIt executable และ inject เข้าไปใน charmap.exe

    เทคนิคการหลบเลี่ยงและยกระดับสิทธิ์
    ตรวจสอบว่า Task Manager เปิดอยู่หรือไม่
    ตรวจสอบว่า Windows Defender เป็นแอนตี้ไวรัสเดียวที่ติดตั้ง
    พยายาม bypass UAC เพื่อยกระดับสิทธิ์ผู้ใช้

    การฝังตัวและการขุดคริปโต
    ฝังตัวในหน่วยความจำของ charmap.exe โดยไม่แตะไฟล์บนดิสก์
    เชื่อมต่อกับ mining pool gulf.moneroocean.stream เพื่อขุด Monero
    ใช้เทคนิค zero-click และ anti-sandboxing เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ

    ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย
    Jason Soroko เตือนว่า cryptojacking คือสัญญาณของการบุกรุก
    อาจเป็นหน้ากากของแคมเปญที่ใหญ่กว่าการขุดเหรียญ
    การตรวจจับต้องอาศัยการวิเคราะห์พฤติกรรม ไม่ใช่แค่ signature

    https://hackread.com/new-malware-uses-windows-character-map-cryptomining/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก charmap.exe: เมื่อแอปพื้นฐานกลายเป็นหน้ากากของการขุดเหรียญลับ ในเดือนกรกฎาคม 2025 ทีมวิจัยจาก Darktrace ตรวจพบการโจมตีแบบ cryptojacking บนเครือข่ายของบริษัทค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ โดยพบว่ามีการใช้ PowerShell user agent ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบสวนที่นำไปสู่การค้นพบมัลแวร์ NBMiner ที่ถูกฝังอยู่ในกระบวนการของ Windows Character Map (charmap.exe) มัลแวร์นี้ถูกโหลดผ่านสคริปต์ infect.ps1 ที่ถูกเข้ารหัสหลายชั้นด้วย Base64 และ XOR เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ โดยใช้ AutoIt loader ที่ถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อนเพื่อ inject ตัวเองเข้าไปในโปรเซสที่ดูปลอดภัยและไม่เป็นพิษภัย เมื่อเข้าไปใน charmap.exe แล้ว มัลแวร์จะตรวจสอบว่า Task Manager เปิดอยู่หรือไม่, มีแอนตี้ไวรัสตัวอื่นนอกจาก Windows Defender หรือเปล่า และพยายามยกระดับสิทธิ์ผู้ใช้โดยหลบเลี่ยง UAC เพื่อให้สามารถขุดเหรียญ Monero ได้อย่างเงียบ ๆ ผ่าน mining pool ที่ชื่อ gulf.moneroocean.stream สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้น่ากังวลคือการใช้เทคนิค zero-click และการฝังตัวในหน่วยความจำโดยไม่แตะไฟล์บนดิสก์เลย ทำให้ระบบตรวจจับแบบ signature-based หรือ sandboxing แทบไม่มีโอกาสเห็นพฤติกรรมผิดปกติ Jason Soroko จาก Sectigo เตือนว่า cryptojacking ไม่ใช่แค่เรื่องของค่าไฟแพงหรือเครื่องช้า แต่เป็น “สัญญาณของการบุกรุก” ที่อาจเป็นหน้ากากของแคมเปญใหญ่ เช่น การเก็บ credentials หรือการสอดแนมเครือข่ายในระดับองค์กร ✅ รูปแบบการโจมตีที่ตรวจพบโดย Darktrace ➡️ เริ่มจาก PowerShell user agent ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ➡️ ใช้ infect.ps1 ที่ถูกเข้ารหัสหลายชั้นด้วย Base64 และ XOR ➡️ โหลด AutoIt executable และ inject เข้าไปใน charmap.exe ✅ เทคนิคการหลบเลี่ยงและยกระดับสิทธิ์ ➡️ ตรวจสอบว่า Task Manager เปิดอยู่หรือไม่ ➡️ ตรวจสอบว่า Windows Defender เป็นแอนตี้ไวรัสเดียวที่ติดตั้ง ➡️ พยายาม bypass UAC เพื่อยกระดับสิทธิ์ผู้ใช้ ✅ การฝังตัวและการขุดคริปโต ➡️ ฝังตัวในหน่วยความจำของ charmap.exe โดยไม่แตะไฟล์บนดิสก์ ➡️ เชื่อมต่อกับ mining pool gulf.moneroocean.stream เพื่อขุด Monero ➡️ ใช้เทคนิค zero-click และ anti-sandboxing เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ✅ ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ➡️ Jason Soroko เตือนว่า cryptojacking คือสัญญาณของการบุกรุก ➡️ อาจเป็นหน้ากากของแคมเปญที่ใหญ่กว่าการขุดเหรียญ ➡️ การตรวจจับต้องอาศัยการวิเคราะห์พฤติกรรม ไม่ใช่แค่ signature https://hackread.com/new-malware-uses-windows-character-map-cryptomining/
    HACKREAD.COM
    New Malware Uses Windows Character Map for Cryptomining
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก 5 แอป Android ที่ควรค่าแก่การรู้จัก: เมื่อฟีเจอร์ลับกลายเป็นพลังเสริมของมือถือ

    ในบทความจาก SlashGear ได้คัดเลือก 5 แอป Android ที่แม้จะไม่ติดอันดับยอดนิยมใน Play Store แต่กลับมีฟีเจอร์ที่ทรงพลังและช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมมือถือได้ลึกขึ้น ทั้งในด้าน gesture, automation, image processing และการปรับแต่งปุ่มฮาร์ดแวร์ โดยทั้งหมดนี้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องรูทเครื่อง

    แอปแรกคือ Tap, Tap ซึ่งเป็นพอร์ตของฟีเจอร์ Quick Tap จาก Pixel ที่ให้คุณแตะด้านหลังเครื่องเพื่อเรียกใช้งานต่าง ๆ เช่น เปิดไฟฉาย, ถ่ายภาพหน้าจอ หรือเปิดแอป โดยรองรับทั้ง double-tap และ triple-tap พร้อมระบบ “gates” ที่ช่วยป้องกันการทำงานผิดจังหวะ เช่น ไม่ให้ถ่ายภาพหน้าจอขณะเปิดแอปธนาคาร

    แอปที่สองคือ ImageToolbox ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการภาพแบบครบวงจร รองรับการ resize, convert, ลบข้อมูล EXIF, ใส่ลายน้ำ, OCR, สร้าง PDF, สแกน QR และแม้แต่สร้าง ZIP จากภาพหลายไฟล์—ทั้งหมดนี้ทำได้บนมือถือโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์

    แอปที่สามคือ Key Mapper ซึ่งช่วยให้คุณ remap ปุ่มฮาร์ดแวร์ เช่น ปุ่มเพิ่มเสียงให้กลายเป็นปุ่มเปิดไฟฉาย หรือเปิดแอปเฉพาะเมื่ออยู่ใน lock screen โดยรองรับ gesture แบบกดครั้งเดียว, กดสองครั้ง และกดค้าง พร้อมระบบ constraint ที่ช่วยจำกัดการทำงานในสถานการณ์เฉพาะ

    แอปที่สี่คือ MacroDroid ซึ่งเป็นแอป automation ที่ให้คุณสร้าง macro เพื่อให้มือถือทำงานอัตโนมัติตามเงื่อนไข เช่น เล่นเพลงเมื่อเชื่อมต่อ Bluetooth กับรถ หรือลบภาพหน้าจอทุกวันอาทิตย์ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

    แอปสุดท้ายคือ Action Notch ที่เปลี่ยน notch หรือกล้องหน้าให้กลายเป็นปุ่มเสมือน รองรับ gesture แบบแตะครั้งเดียว, สองครั้ง, กดค้าง และ swipe เพื่อเรียกใช้งานต่าง ๆ เช่น scroll to top, เปิด power menu หรือเรียก automation จาก MacroDroid

    Tap, Tap: แตะหลังเครื่องเพื่อเรียกใช้งาน
    รองรับกว่า 50 actions เช่น เปิดแอป, ถ่ายภาพหน้าจอ, เปิดไฟฉาย
    มีระบบ “gates” เพื่อป้องกันการทำงานผิดจังหวะ
    ต้อง sideload จาก GitHub เพราะไม่มีใน Play Store

    ImageToolbox: จัดการภาพแบบครบวงจร
    รองรับการ resize, convert, ลบ EXIF, watermark, OCR
    มีเครื่องมือสร้าง PDF, สแกน QR, สร้าง ZIP และ GIF
    ใช้งานง่ายผ่าน tab แยกหมวดหมู่ เช่น Edit, Create, Tools

    Key Mapper: รีแมปปุ่มฮาร์ดแวร์
    รองรับ gesture แบบกดครั้งเดียว, สองครั้ง, กดค้าง
    สามารถตั้ง constraint เช่น ทำงานเฉพาะในแอปหรือ lock screen
    ต้องปลดล็อกเวอร์ชันพรีเมียมเพื่อ remap ปุ่มด้านข้าง

    MacroDroid: สร้าง automation แบบไม่ต้องเขียนโค้ด
    macro ประกอบด้วย trigger, action และ constraint
    รองรับ automation เช่น เปิดเพลง, ลบไฟล์, ส่งข้อความ
    มี community ให้แชร์ template และ macro ที่สร้างไว้

    Action Notch: เปลี่ยน notch เป็นปุ่มเสมือน
    รองรับ gesture แบบแตะ, กดค้าง, swipe ซ้าย/ขวา
    เรียกใช้งานเช่น scroll to top, เปิด power menu, trigger automation
    ปรับขนาด interactive zone ได้ เช่น ขยายไปถึง status bar

    https://www.slashgear.com/1952387/android-apps-that-deserve-more-attention/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก 5 แอป Android ที่ควรค่าแก่การรู้จัก: เมื่อฟีเจอร์ลับกลายเป็นพลังเสริมของมือถือ ในบทความจาก SlashGear ได้คัดเลือก 5 แอป Android ที่แม้จะไม่ติดอันดับยอดนิยมใน Play Store แต่กลับมีฟีเจอร์ที่ทรงพลังและช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมมือถือได้ลึกขึ้น ทั้งในด้าน gesture, automation, image processing และการปรับแต่งปุ่มฮาร์ดแวร์ โดยทั้งหมดนี้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องรูทเครื่อง แอปแรกคือ Tap, Tap ซึ่งเป็นพอร์ตของฟีเจอร์ Quick Tap จาก Pixel ที่ให้คุณแตะด้านหลังเครื่องเพื่อเรียกใช้งานต่าง ๆ เช่น เปิดไฟฉาย, ถ่ายภาพหน้าจอ หรือเปิดแอป โดยรองรับทั้ง double-tap และ triple-tap พร้อมระบบ “gates” ที่ช่วยป้องกันการทำงานผิดจังหวะ เช่น ไม่ให้ถ่ายภาพหน้าจอขณะเปิดแอปธนาคาร แอปที่สองคือ ImageToolbox ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการภาพแบบครบวงจร รองรับการ resize, convert, ลบข้อมูล EXIF, ใส่ลายน้ำ, OCR, สร้าง PDF, สแกน QR และแม้แต่สร้าง ZIP จากภาพหลายไฟล์—ทั้งหมดนี้ทำได้บนมือถือโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ แอปที่สามคือ Key Mapper ซึ่งช่วยให้คุณ remap ปุ่มฮาร์ดแวร์ เช่น ปุ่มเพิ่มเสียงให้กลายเป็นปุ่มเปิดไฟฉาย หรือเปิดแอปเฉพาะเมื่ออยู่ใน lock screen โดยรองรับ gesture แบบกดครั้งเดียว, กดสองครั้ง และกดค้าง พร้อมระบบ constraint ที่ช่วยจำกัดการทำงานในสถานการณ์เฉพาะ แอปที่สี่คือ MacroDroid ซึ่งเป็นแอป automation ที่ให้คุณสร้าง macro เพื่อให้มือถือทำงานอัตโนมัติตามเงื่อนไข เช่น เล่นเพลงเมื่อเชื่อมต่อ Bluetooth กับรถ หรือลบภาพหน้าจอทุกวันอาทิตย์ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด แอปสุดท้ายคือ Action Notch ที่เปลี่ยน notch หรือกล้องหน้าให้กลายเป็นปุ่มเสมือน รองรับ gesture แบบแตะครั้งเดียว, สองครั้ง, กดค้าง และ swipe เพื่อเรียกใช้งานต่าง ๆ เช่น scroll to top, เปิด power menu หรือเรียก automation จาก MacroDroid ✅ Tap, Tap: แตะหลังเครื่องเพื่อเรียกใช้งาน ➡️ รองรับกว่า 50 actions เช่น เปิดแอป, ถ่ายภาพหน้าจอ, เปิดไฟฉาย ➡️ มีระบบ “gates” เพื่อป้องกันการทำงานผิดจังหวะ ➡️ ต้อง sideload จาก GitHub เพราะไม่มีใน Play Store ✅ ImageToolbox: จัดการภาพแบบครบวงจร ➡️ รองรับการ resize, convert, ลบ EXIF, watermark, OCR ➡️ มีเครื่องมือสร้าง PDF, สแกน QR, สร้าง ZIP และ GIF ➡️ ใช้งานง่ายผ่าน tab แยกหมวดหมู่ เช่น Edit, Create, Tools ✅ Key Mapper: รีแมปปุ่มฮาร์ดแวร์ ➡️ รองรับ gesture แบบกดครั้งเดียว, สองครั้ง, กดค้าง ➡️ สามารถตั้ง constraint เช่น ทำงานเฉพาะในแอปหรือ lock screen ➡️ ต้องปลดล็อกเวอร์ชันพรีเมียมเพื่อ remap ปุ่มด้านข้าง ✅ MacroDroid: สร้าง automation แบบไม่ต้องเขียนโค้ด ➡️ macro ประกอบด้วย trigger, action และ constraint ➡️ รองรับ automation เช่น เปิดเพลง, ลบไฟล์, ส่งข้อความ ➡️ มี community ให้แชร์ template และ macro ที่สร้างไว้ ✅ Action Notch: เปลี่ยน notch เป็นปุ่มเสมือน ➡️ รองรับ gesture แบบแตะ, กดค้าง, swipe ซ้าย/ขวา ➡️ เรียกใช้งานเช่น scroll to top, เปิด power menu, trigger automation ➡️ ปรับขนาด interactive zone ได้ เช่น ขยายไปถึง status bar https://www.slashgear.com/1952387/android-apps-that-deserve-more-attention/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 More Great Android Apps Not Enough People Know About - SlashGear
    Not every Android app worth installing is popular — these ones will add convenience and utility to your smartphone experience and deserve to be more well known.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts