• เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥

    ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร

    📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ!

    อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲

    โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸

    แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱

    🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

    สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ...
    🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง
    💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี
    📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้
    ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน

    ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅
    2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
    19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข
    1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค
    18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค
    31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
    3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่
    1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ

    📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี!

    กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯
    🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ
    มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง

    📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ
    - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท

    - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท

    - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท

    💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว!

    ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค

    🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน
    - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน
    - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน
    - ภาษาไทย 20 คะแนน
    - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน

    🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น
    - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร
    - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน
    - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี

    🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน
    - บุคลิกภาพ
    - ทัศนคติ
    - ความสามารถในการสื่อสาร
    - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง

    เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖
    ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข

    ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ

    ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️

    ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice

    🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น!

    🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌

    🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅

    🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง!

    🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้

    🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝

    ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ
    - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น!
    - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน
    - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม

    📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪

    ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้!

    ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568

    📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥 ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร 📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ! อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲 โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸 แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱 🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ... 🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง 💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี 📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้ ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅 2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข 1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค 18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค 31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ 3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่ 1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ 📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี! กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯 🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง 📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท 💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว! ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค 🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน - ภาษาไทย 20 คะแนน - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน 🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี 🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน - บุคลิกภาพ - ทัศนคติ - ความสามารถในการสื่อสาร - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖 ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️ ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice 🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น! 🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌ 🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅ 🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง! 🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้ 🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝 ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น! - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม 📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪 ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้! ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568 📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา” (ฉิงปู้จื๊อสัวฉี่ อี้หว่างเอ๋อร์เซิ้น / 情不知所起,一往而深)

    ต้อนรับสัปดาห์แห่งความรักกันด้วยอีกหนึ่งวลีสุดฮิตเกี่ยวกับความรัก ที่ Storyฯ เชื่อว่าแฟนนิยายจีนต้องเคยผ่านตายามตัวละครบอกรักกัน (แต่อาจแปลแตกต่างกันบ้างแล้วแต่ผู้แปล)

    ตัวอย่างจากในซีรีส์ก็มี อย่างเช่นในเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ในฉากที่เหล่ามเหสีชายาและสนมนั่งชมละครงิ้วในวังหลัง นางเอกเมื่อยังเป็นว่านกุ้ยเหรินได้พูดว่า “ในบทประพันธ์ <ศาลาโบตั๋น> มีเขียนไว้ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’...” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)

    ละครเรื่องนี้แฝงบทกวีเลื่องชื่อไว้ในคำสนทนาหลายบท วลีที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นวลีจากบทประพันธ์ ‘ศาลาโบตั๋น’ (หมู่ตานถิง / 牡丹亭) (ค.ศ. 1598) ของทังเสียนจู่ นักอักษรและนักประพันธ์บทงิ้วที่เลื่องชื่อในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นบทประพันธ์ที่โด่งดังเพราะเป็นเรื่องราวความรักกินใจและเพราะความสละสลวยของภาษา มีทั้งสิ้น 55 ตอน ว่ากันว่า ถ้าแสดงชุดเต็ม ละครงิ้วนี้อาจกินเวลานานถึง 22 ชั่วโมง!

    ปัจจุบัน ‘ศาลาโบตั๋น’ ยังคงเป็นหนึ่งในงิ้วสุดนิยมและได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ของบทประพันธ์ละครงิ้วโบราณที่ดีที่สุดของจีน ได้รับการแปลไปหลายภาษาเช่น อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น ฯลฯ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ฝันคืนวิญญาณ’ (还魂梦)

    ‘ศาลาโบตั๋น’ เป็นเรื่องราวของตู้ลี่เหนียง สตรีลูกขุนนางที่งามเพียบพร้อม วันหนึ่งนางหลับอยู่ในอุทยานในเรือนแล้วฝันว่าได้พบรักกับบัณฑิตหนุ่มนามว่าหลิ่วเมิ่งเหมย เป็นรักที่ตราตรึงใจทำให้นางโหยหาแม้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว สุดท้ายนางเฝ้ารอแต่ชายในฝันจนตรอมใจตายไป ก่อนตายนางได้ให้คนวาดภาพนางไว้ และสามปีให้หลัง ปรากฏว่ามีบัณฑิตหนุ่มชื่อหลิ่วเมิ่งเหมยเข้าเมืองมาสอบราชบัณฑิต ได้เห็นรูปของนางก็หลงรักและฝันถึง ในฝันนั้นนางบอกเขาว่า หากเขาขุดศพของนางที่ถูกฝังอยู่ในอุทยานขึ้นมา นางจะฟื้นคืนชีพ หลิ่วเมิ่งเหมยทำตามคำบอกของนางก็พบว่าศพของนางยังไม่เน่าเปื่อยและนางก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ เขาทั้งสองจึงครองรักกันต่อไป

    จึงเป็นที่มาของวรรคที่ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’ และเป็นวลีที่ถูกนำมาใช้บ่อยครั้งเพื่อสะท้อนความหมายของมันว่า รักนั้น บางทีก็หาเหตุผลและจุดเริ่มต้นไม่ได้ คนที่ถลำลงไปในรักสามารถตายเพื่อรักได้ และรักก็สามารถสร้างปาฏิหารย์ให้คนตายฟื้นคืนชีพได้

    เป็นประโยคที่ผ่านตา Storyฯ บ่อยมากจนจำไม่ได้แล้วว่ามีในละครหรือนิยายเรื่องไหนอีกที่กล่าวถึงวลีนี้ เท่าที่พอจะจำได้ ก็มีเรื่อง ‘ความฝันในหอแดง’ หากเพื่อนเพจคุ้นหูคุ้นตาจากซีรีส์หรือนิยายเรื่องอื่นก็เม้นท์มาบอกกันได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://new.qq.com/rain/a/20210820A0E6Z100
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e1f2a8e8bf19704ecbbbff47
    https://baike.baidu.com/item/情不知所起一往而深
    https://www.ximalaya.com/ask/q142274?source=m_jump

    #เจินหวน #หมู่ตานถิง #ศาลาโบตั๋น #วลีรักจีน #ทังเสียนจู่
    “รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา” (ฉิงปู้จื๊อสัวฉี่ อี้หว่างเอ๋อร์เซิ้น / 情不知所起,一往而深) ต้อนรับสัปดาห์แห่งความรักกันด้วยอีกหนึ่งวลีสุดฮิตเกี่ยวกับความรัก ที่ Storyฯ เชื่อว่าแฟนนิยายจีนต้องเคยผ่านตายามตัวละครบอกรักกัน (แต่อาจแปลแตกต่างกันบ้างแล้วแต่ผู้แปล) ตัวอย่างจากในซีรีส์ก็มี อย่างเช่นในเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ในฉากที่เหล่ามเหสีชายาและสนมนั่งชมละครงิ้วในวังหลัง นางเอกเมื่อยังเป็นว่านกุ้ยเหรินได้พูดว่า “ในบทประพันธ์ <ศาลาโบตั๋น> มีเขียนไว้ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’...” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า) ละครเรื่องนี้แฝงบทกวีเลื่องชื่อไว้ในคำสนทนาหลายบท วลีที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นวลีจากบทประพันธ์ ‘ศาลาโบตั๋น’ (หมู่ตานถิง / 牡丹亭) (ค.ศ. 1598) ของทังเสียนจู่ นักอักษรและนักประพันธ์บทงิ้วที่เลื่องชื่อในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นบทประพันธ์ที่โด่งดังเพราะเป็นเรื่องราวความรักกินใจและเพราะความสละสลวยของภาษา มีทั้งสิ้น 55 ตอน ว่ากันว่า ถ้าแสดงชุดเต็ม ละครงิ้วนี้อาจกินเวลานานถึง 22 ชั่วโมง! ปัจจุบัน ‘ศาลาโบตั๋น’ ยังคงเป็นหนึ่งในงิ้วสุดนิยมและได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ของบทประพันธ์ละครงิ้วโบราณที่ดีที่สุดของจีน ได้รับการแปลไปหลายภาษาเช่น อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น ฯลฯ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ฝันคืนวิญญาณ’ (还魂梦) ‘ศาลาโบตั๋น’ เป็นเรื่องราวของตู้ลี่เหนียง สตรีลูกขุนนางที่งามเพียบพร้อม วันหนึ่งนางหลับอยู่ในอุทยานในเรือนแล้วฝันว่าได้พบรักกับบัณฑิตหนุ่มนามว่าหลิ่วเมิ่งเหมย เป็นรักที่ตราตรึงใจทำให้นางโหยหาแม้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว สุดท้ายนางเฝ้ารอแต่ชายในฝันจนตรอมใจตายไป ก่อนตายนางได้ให้คนวาดภาพนางไว้ และสามปีให้หลัง ปรากฏว่ามีบัณฑิตหนุ่มชื่อหลิ่วเมิ่งเหมยเข้าเมืองมาสอบราชบัณฑิต ได้เห็นรูปของนางก็หลงรักและฝันถึง ในฝันนั้นนางบอกเขาว่า หากเขาขุดศพของนางที่ถูกฝังอยู่ในอุทยานขึ้นมา นางจะฟื้นคืนชีพ หลิ่วเมิ่งเหมยทำตามคำบอกของนางก็พบว่าศพของนางยังไม่เน่าเปื่อยและนางก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ เขาทั้งสองจึงครองรักกันต่อไป จึงเป็นที่มาของวรรคที่ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’ และเป็นวลีที่ถูกนำมาใช้บ่อยครั้งเพื่อสะท้อนความหมายของมันว่า รักนั้น บางทีก็หาเหตุผลและจุดเริ่มต้นไม่ได้ คนที่ถลำลงไปในรักสามารถตายเพื่อรักได้ และรักก็สามารถสร้างปาฏิหารย์ให้คนตายฟื้นคืนชีพได้ เป็นประโยคที่ผ่านตา Storyฯ บ่อยมากจนจำไม่ได้แล้วว่ามีในละครหรือนิยายเรื่องไหนอีกที่กล่าวถึงวลีนี้ เท่าที่พอจะจำได้ ก็มีเรื่อง ‘ความฝันในหอแดง’ หากเพื่อนเพจคุ้นหูคุ้นตาจากซีรีส์หรือนิยายเรื่องอื่นก็เม้นท์มาบอกกันได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://new.qq.com/rain/a/20210820A0E6Z100 https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e1f2a8e8bf19704ecbbbff47 https://baike.baidu.com/item/情不知所起一往而深 https://www.ximalaya.com/ask/q142274?source=m_jump #เจินหวน #หมู่ตานถิง #ศาลาโบตั๋น #วลีรักจีน #ทังเสียนจู่
    腾讯网
    腾讯网从2003年创立至今,已经成为集新闻信息,区域垂直生活服务、社会化媒体资讯和产品为一体的互联网媒体平台。腾讯网下设新闻、科技、财经、娱乐、体育、汽车、时尚等多个频道,充分满足用户对不同类型资讯的需求。同时专注不同领域内容,打造精品栏目,并顺应技术发展趋势,推出网络直播等创新形式,改变了用户获取资讯的方式和习惯。
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • กฏหมายเมื่อวานมันตอกย้ำความรู้สึกที่ว่า
    "ไม่กล้ามีลูก !"
    ....
    หลายคนถาม lit nit บ่อย ๆ ว่าทำไมไม่มีลูกสักที บอกตามตรงว่า "กลัว"
    - กลัวหนึ่งคือโลกในยุคปัจจุบันทุกอย่างมันหมุนไปด้วยเงิน
    - กลัวสองคือโลกในยุคปัจจุบันมันมีเรื่องให้สุ่มเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา
    ....
    และตอนนี้ก็มีเรื่องให้กลัวเป็นเรื่องที่สาม เมื่อสิทธิของสถาบันครอบครัวถูกลิดรอนให้อยู่ในภาวะที่สุ่มเสี่ยงทางกฏหมาย
    ....
    การตีเพื่ออบสั่งสอนไม่ใช่การทารุณกรรม กฏหมายเดิมก็เอื้อให้ศาลใช้ดุลพินิจแยกแยะได้อยู่แล้ว แต่เมื่อยกเลิก การตีเพื่ออบรมสั่งสอนจึงเหมารวมอยู่ในการทารุณกรรม แบบนี้จะมีลูกเพื่อให้มากดดันตัวเองทำไม
    ....
    เรายึดถือแนวทางของชาติอื่น งานวิจัยในบางมุม มากกว่าประสบการณ์และวัฒนธรรมที่ผ่านมาหลายปีซึ่งถือได้ว่าเป็นงานวิจัยได้เช่นกัน ?
    ...
    ก็ได้แค่เขียนในพื้นที่เล็ก ๆ ของเรา สิ่งที่ทำได้มากกว่านี้อีกนิดคือเลือกตั้งรอบหน้า โหวดโนแน่นอน
    #อยากได้การเมืองแบบใหม่จัง เสียดายก็แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นกลุ่มไหนมีพฤติกรรมที่จะนำพาไปสู่ความฝันนั้นเลย
    กฏหมายเมื่อวานมันตอกย้ำความรู้สึกที่ว่า "ไม่กล้ามีลูก !" .... หลายคนถาม lit nit บ่อย ๆ ว่าทำไมไม่มีลูกสักที บอกตามตรงว่า "กลัว" - กลัวหนึ่งคือโลกในยุคปัจจุบันทุกอย่างมันหมุนไปด้วยเงิน - กลัวสองคือโลกในยุคปัจจุบันมันมีเรื่องให้สุ่มเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา .... และตอนนี้ก็มีเรื่องให้กลัวเป็นเรื่องที่สาม เมื่อสิทธิของสถาบันครอบครัวถูกลิดรอนให้อยู่ในภาวะที่สุ่มเสี่ยงทางกฏหมาย .... การตีเพื่ออบสั่งสอนไม่ใช่การทารุณกรรม กฏหมายเดิมก็เอื้อให้ศาลใช้ดุลพินิจแยกแยะได้อยู่แล้ว แต่เมื่อยกเลิก การตีเพื่ออบรมสั่งสอนจึงเหมารวมอยู่ในการทารุณกรรม แบบนี้จะมีลูกเพื่อให้มากดดันตัวเองทำไม .... เรายึดถือแนวทางของชาติอื่น งานวิจัยในบางมุม มากกว่าประสบการณ์และวัฒนธรรมที่ผ่านมาหลายปีซึ่งถือได้ว่าเป็นงานวิจัยได้เช่นกัน ? ... ก็ได้แค่เขียนในพื้นที่เล็ก ๆ ของเรา สิ่งที่ทำได้มากกว่านี้อีกนิดคือเลือกตั้งรอบหน้า โหวดโนแน่นอน #อยากได้การเมืองแบบใหม่จัง เสียดายก็แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นกลุ่มไหนมีพฤติกรรมที่จะนำพาไปสู่ความฝันนั้นเลย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ Storyฯ ย้อนไปดูซีรีส์เก่า มีฉากหนึ่งในเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ที่เตะตา เพื่อนเพจที่เคยดูคงจำได้ว่าพระนางของเรื่องต้องผ่านด่านกลหมากปริวรรตเพื่อช่วงชิงสุดยอดวิชาหลันอิงปี้เยวี่ย ซึ่งเป็นการต่อสู้กับจิตใจของตนเอง โดยในด่านสุดท้ายนั้นพระเอกต้องตัดสายใยที่อยู่ในใจทั้งหมดทิ้ง แต่พระเอกเลือกที่จะเหลือสายใยไว้หนึ่งเส้นซึ่งก็คือสายใยที่มีต่อนางเอก พร้อมกับวลีที่ว่า “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม สายใยความวุ่นวายแห่งทางโลกสามพันเส้น ข้าเหลือไว้เส้นหนึ่งจะเป็นไรไป?” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า>

    วันนี้มาคุยกันสั้นๆ เรื่องวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” (รั่วสุ่ยซันเชียน จื๋อฉวี่อี้เผียว / 弱水三千只取一瓢) (หมายเหตุ ซันเชียน แปลว่า สามพัน เป็นที่เข้าใจว่าหมายถึงสามพันลี้)

    วลีนี้เคยถูกแปลไว้ว่า “แม่น้ำรั่วสามพันลี้ หนึ่งจอกดับกระหาย” เพื่อนเพจบางท่านอาจงงว่ามันต่างกันหรือไม่อย่างไร ขออธิบายก่อนว่า คำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณใช้หมายถึงลำธารที่อันตราบไม่สามารถใช้สัญจรได้ และ ‘รั่วสุ่ย’ ยังเป็นชื่อแม่น้ำสายหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ซานไห่จิงหรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ และแม่น้ำสายนี้ได้ถูกแปลมาเป็นภาษาไทยและอังกฤษว่า ‘แม่น้ำรั่ว’ นั่นเอง

    วลีนี้มีที่มาจากคำสอนทางศาสนาพุทธ เป็นนิทานว่าชายผู้ที่กำลังจะขาดน้ำตายเมื่อได้เห็นน้ำในลำธารก็โอดครวญอย่างเสียดายว่าน้ำทั้งลำธารจะดื่มอย่างไรหมด พระพุทธเจ้าจึงสอนว่าในชีวิตเรานั้นอาจพานพบหลากหลายสรรพสิ่งที่ดีงาม แต่เราไม่จำเป็นต้องครอบครองได้ทั้งหมด เพียงมีสิ่งเล็กๆ ที่สำคัญก็เพียงพอแล้ว ดังวลีนี้ที่เปรียบเปรยว่า น้ำในสายธารที่ทอดยาว ไม่จำเป็นต้องเอาน้ำมาดื่มใช้ให้หมด ขอเพียงหนึ่งชามก็พอยังชีพแล้ว

    แม้ว่าคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ จะมีมาแต่โบราณ แต่วรรคที่ว่า ‘รั่วสุ่ยซันเชียน’ หรือ ‘ธารน้ำสามพัน(ลี้)’ ในรูปประโยคอย่างนี้ แรกปรากฏให้เห็นในอมตะวรรณกรรมเรื่อง <ความฝันในหอแดง> โดยเป็นตอนที่พระเอกเจี๋ยเป่าอวี้ใช้วลีเต็ม “แม้ธารน้ำยาวสามพันลี้ ข้าก็จะขอตักเพียงหนึ่งชาม” เพื่อบอกต่อนางเอกหลินไต้อวี้ว่า แม้จะมีสตรีอื่นรายล้อมเพียงใด เขาขอเพียงนางคนเดียวมาเป็นคู่ครองก็พอใจแล้ว และต่อมาวลีนี้จึงกลายเป็นวลีอมตะที่บ่งบอกถึงรักอันมั่นคง รักเดียวใจเดียว

    และด้วยคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณแปลว่าสายธารที่อันตราย จึงมีการตีความวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” นี้เพิ่มเติมด้วยว่า กว่าจะตักน้ำนั้นมาได้หนึ่งชามก็ยากแสนยาก พึงเห็นคุณค่าของมันให้จงดี

    ดังนั้น จริงๆ แล้ววลีนี้ใช้ในบริบทอื่นก็ได้ เพื่อสื่อความหมายว่า ในบรรดาสรรพสิ่งมากมาย ขอเพียงได้ในสิ่งเดียวที่ตั้งใจที่มีคุณค่ามากมายต่อจิตใจเรา ก็เพียงพอแล้ว

    Storyฯ ถือโอกาสนี้แปะรูปมาให้แฟนคลับของหยางหยางดูว่า เขาไม่เพียงกล่าววลีนี้มาแล้วในละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> แต่เมื่อปี 2010 ยังเคยแสดงเป็นเจี๋ยเป่าอวี้ ในเรื่อง <ความฝันในหอแดง> ซึ่งเป็นต้นฉบับของวลีอมตะนี้ด้วย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://imgur.com/20Mx6mv
    http://yule.sohu.com/20160617/n454973158.shtml
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/弱水三千只取一瓢/96378
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=242a130850f0cbde411c456e&lemmaId=96378&fromLemmaModule=pcBottom&lemmaTitle=%E5%BC%B1%E6%B0%B4%E4%B8%89%E5%8D%83%E5%8F%AA%E5%8F%96%E4%B8%80%E7%93%A2&fromModule=lemma_bottom-tashuo-article
    https://www.sohu.com/a/325578545_594411

    #เทียบท้าปฐพี #แม่น้ำรั่ว #สายธารสามพันลี้
    ช่วงนี้ Storyฯ ย้อนไปดูซีรีส์เก่า มีฉากหนึ่งในเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ที่เตะตา เพื่อนเพจที่เคยดูคงจำได้ว่าพระนางของเรื่องต้องผ่านด่านกลหมากปริวรรตเพื่อช่วงชิงสุดยอดวิชาหลันอิงปี้เยวี่ย ซึ่งเป็นการต่อสู้กับจิตใจของตนเอง โดยในด่านสุดท้ายนั้นพระเอกต้องตัดสายใยที่อยู่ในใจทั้งหมดทิ้ง แต่พระเอกเลือกที่จะเหลือสายใยไว้หนึ่งเส้นซึ่งก็คือสายใยที่มีต่อนางเอก พร้อมกับวลีที่ว่า “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม สายใยความวุ่นวายแห่งทางโลกสามพันเส้น ข้าเหลือไว้เส้นหนึ่งจะเป็นไรไป?” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า> วันนี้มาคุยกันสั้นๆ เรื่องวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” (รั่วสุ่ยซันเชียน จื๋อฉวี่อี้เผียว / 弱水三千只取一瓢) (หมายเหตุ ซันเชียน แปลว่า สามพัน เป็นที่เข้าใจว่าหมายถึงสามพันลี้) วลีนี้เคยถูกแปลไว้ว่า “แม่น้ำรั่วสามพันลี้ หนึ่งจอกดับกระหาย” เพื่อนเพจบางท่านอาจงงว่ามันต่างกันหรือไม่อย่างไร ขออธิบายก่อนว่า คำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณใช้หมายถึงลำธารที่อันตราบไม่สามารถใช้สัญจรได้ และ ‘รั่วสุ่ย’ ยังเป็นชื่อแม่น้ำสายหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ซานไห่จิงหรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ และแม่น้ำสายนี้ได้ถูกแปลมาเป็นภาษาไทยและอังกฤษว่า ‘แม่น้ำรั่ว’ นั่นเอง วลีนี้มีที่มาจากคำสอนทางศาสนาพุทธ เป็นนิทานว่าชายผู้ที่กำลังจะขาดน้ำตายเมื่อได้เห็นน้ำในลำธารก็โอดครวญอย่างเสียดายว่าน้ำทั้งลำธารจะดื่มอย่างไรหมด พระพุทธเจ้าจึงสอนว่าในชีวิตเรานั้นอาจพานพบหลากหลายสรรพสิ่งที่ดีงาม แต่เราไม่จำเป็นต้องครอบครองได้ทั้งหมด เพียงมีสิ่งเล็กๆ ที่สำคัญก็เพียงพอแล้ว ดังวลีนี้ที่เปรียบเปรยว่า น้ำในสายธารที่ทอดยาว ไม่จำเป็นต้องเอาน้ำมาดื่มใช้ให้หมด ขอเพียงหนึ่งชามก็พอยังชีพแล้ว แม้ว่าคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ จะมีมาแต่โบราณ แต่วรรคที่ว่า ‘รั่วสุ่ยซันเชียน’ หรือ ‘ธารน้ำสามพัน(ลี้)’ ในรูปประโยคอย่างนี้ แรกปรากฏให้เห็นในอมตะวรรณกรรมเรื่อง <ความฝันในหอแดง> โดยเป็นตอนที่พระเอกเจี๋ยเป่าอวี้ใช้วลีเต็ม “แม้ธารน้ำยาวสามพันลี้ ข้าก็จะขอตักเพียงหนึ่งชาม” เพื่อบอกต่อนางเอกหลินไต้อวี้ว่า แม้จะมีสตรีอื่นรายล้อมเพียงใด เขาขอเพียงนางคนเดียวมาเป็นคู่ครองก็พอใจแล้ว และต่อมาวลีนี้จึงกลายเป็นวลีอมตะที่บ่งบอกถึงรักอันมั่นคง รักเดียวใจเดียว และด้วยคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณแปลว่าสายธารที่อันตราย จึงมีการตีความวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” นี้เพิ่มเติมด้วยว่า กว่าจะตักน้ำนั้นมาได้หนึ่งชามก็ยากแสนยาก พึงเห็นคุณค่าของมันให้จงดี ดังนั้น จริงๆ แล้ววลีนี้ใช้ในบริบทอื่นก็ได้ เพื่อสื่อความหมายว่า ในบรรดาสรรพสิ่งมากมาย ขอเพียงได้ในสิ่งเดียวที่ตั้งใจที่มีคุณค่ามากมายต่อจิตใจเรา ก็เพียงพอแล้ว Storyฯ ถือโอกาสนี้แปะรูปมาให้แฟนคลับของหยางหยางดูว่า เขาไม่เพียงกล่าววลีนี้มาแล้วในละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> แต่เมื่อปี 2010 ยังเคยแสดงเป็นเจี๋ยเป่าอวี้ ในเรื่อง <ความฝันในหอแดง> ซึ่งเป็นต้นฉบับของวลีอมตะนี้ด้วย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://imgur.com/20Mx6mv http://yule.sohu.com/20160617/n454973158.shtml Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/弱水三千只取一瓢/96378 https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=242a130850f0cbde411c456e&lemmaId=96378&fromLemmaModule=pcBottom&lemmaTitle=%E5%BC%B1%E6%B0%B4%E4%B8%89%E5%8D%83%E5%8F%AA%E5%8F%96%E4%B8%80%E7%93%A2&fromModule=lemma_bottom-tashuo-article https://www.sohu.com/a/325578545_594411 #เทียบท้าปฐพี #แม่น้ำรั่ว #สายธารสามพันลี้
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌿 หลักการเลือกทางชีวิตที่ไม่ผิดพลาด 🌿


    ---

    🛤️ 1️⃣ ทางเลือกที่ถูกต้อง ไม่ได้ขึ้นกับว่า ‘อะไรดูดี’ แต่ขึ้นกับ ‘อะไรอยู่กับใจได้นานกว่า’

    ✅ หากต้องเลือกระหว่าง

    เงินผิดๆ กับ ความรู้สึกดีๆ

    ทางลัดที่ไม่ถูกต้อง กับ ความสบายใจที่ยั่งยืน
    ✅ ให้เลือก ‘ความรู้สึกดีๆ’ เพราะ…

    เงินได้มาแล้วก็หมดไป

    แต่ความรู้สึกผิดอยู่กับเราตลอดไป
    📌 "เลือกสิ่งที่ทำให้ใจเราดีในระยะยาว มากกว่าสิ่งที่ให้ผลเร็วแต่เป็นพิษต่อใจ"



    ---

    💰 2️⃣ เงินน้อยแต่ถูกต้อง vs. เงินมากแต่ผิดศีล

    🔴 ได้เงินแบบผิดๆ → อิ่มใจชั่วคราว แต่รู้สึกผิดตลอด

    ได้มาแล้วก็กลัว

    เดี๋ยวเงินหมด แต่ความรู้สึกผิดไม่หมด

    จิตใจไม่สงบ สุขภาพจิตย่ำแย่


    🟢 ไม่ได้เงินจากทางผิด → เสียดายชั่วคราว แต่สบายใจตลอด

    อาจเสียโอกาสเงินเร็ว แต่ใจโล่ง

    สามารถหาเงินจากทางอื่นที่ถูกต้องได้

    ไม่มีกรรมที่ต้องกังวลในอนาคต


    📌 "เงินหมดไปได้ แต่ใจที่บริสุทธิ์และสงบ จะอยู่กับเราตลอด"


    ---

    🌄 3️⃣ ชีวิตก็เหมือนฝันแป๊บเดียว เลือกให้เป็นฝันดี

    ✅ ชีวิตเป็นเหมือนความฝัน → จิตเป็นผู้เสพฝัน
    ✅ ถ้าเลือกผิด → ได้เงินแต่รู้สึกผิด คือ ฝันร้ายที่ฉากดูดี
    ✅ ถ้าเลือกถูก → เงินอาจน้อยลง แต่ ใจสงบ คือฝันดี
    📌 "คุณอยากใช้ชีวิตไปกับฝันดี หรือฝันร้ายที่ดูหรูหรา?"


    ---

    🛤️ 4️⃣ วิธีตัดสินใจเมื่อต้องเลือกทางเดิน

    1️⃣ ตั้งสติ และสำรวจใจ → ทางไหนทำให้จิตใจสงบ?
    2️⃣ คิดถึงผลระยะยาว → เลือกสิ่งที่อยู่กับใจเราได้นาน
    3️⃣ อย่ายึดติดแต่ผลลัพธ์ชั่วคราว → อะไรที่ดึงใจไปในทางผิด อาจดูดีตอนแรก แต่สุดท้ายมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ
    4️⃣ เลือกตามหลักศีลธรรม → ศีลข้อไหนที่เรากำลังจะละเมิด? ถ้าเงินต้องแลกกับความชั่ว เราควรหยุด
    5️⃣ คิดถึงอดีตและอนาคต → ถ้าหันกลับมามองตัวเองหลังจาก 10 ปี เราจะภูมิใจกับสิ่งที่เลือกหรือไม่?

    📌 "การเลือกในวันนี้ กำหนดว่าพรุ่งนี้เราจะเป็นคนแบบไหน"


    ---

    🔮 5️⃣ สรุป : เลือกทางที่ทำให้ใจเราสงบ ไม่ใช่ทางที่ให้ผลเร็วแต่ทำลายจิตใจ

    ✅ เงินที่ได้จากทางผิด = ฝันร้ายที่ดูหรู
    ✅ เงินที่ได้จากทางถูก = ฝันดีที่เรียบง่าย
    ✅ ถ้าต้องเลือก → ให้เลือกสิ่งที่อยู่กับใจได้ตลอดไป

    📌 "สุดท้าย… จิตดีอยู่กับเราได้นานกว่าเงินเสมอ" 💙

    🌿 หลักการเลือกทางชีวิตที่ไม่ผิดพลาด 🌿 --- 🛤️ 1️⃣ ทางเลือกที่ถูกต้อง ไม่ได้ขึ้นกับว่า ‘อะไรดูดี’ แต่ขึ้นกับ ‘อะไรอยู่กับใจได้นานกว่า’ ✅ หากต้องเลือกระหว่าง เงินผิดๆ กับ ความรู้สึกดีๆ ทางลัดที่ไม่ถูกต้อง กับ ความสบายใจที่ยั่งยืน ✅ ให้เลือก ‘ความรู้สึกดีๆ’ เพราะ… เงินได้มาแล้วก็หมดไป แต่ความรู้สึกผิดอยู่กับเราตลอดไป 📌 "เลือกสิ่งที่ทำให้ใจเราดีในระยะยาว มากกว่าสิ่งที่ให้ผลเร็วแต่เป็นพิษต่อใจ" --- 💰 2️⃣ เงินน้อยแต่ถูกต้อง vs. เงินมากแต่ผิดศีล 🔴 ได้เงินแบบผิดๆ → อิ่มใจชั่วคราว แต่รู้สึกผิดตลอด ได้มาแล้วก็กลัว เดี๋ยวเงินหมด แต่ความรู้สึกผิดไม่หมด จิตใจไม่สงบ สุขภาพจิตย่ำแย่ 🟢 ไม่ได้เงินจากทางผิด → เสียดายชั่วคราว แต่สบายใจตลอด อาจเสียโอกาสเงินเร็ว แต่ใจโล่ง สามารถหาเงินจากทางอื่นที่ถูกต้องได้ ไม่มีกรรมที่ต้องกังวลในอนาคต 📌 "เงินหมดไปได้ แต่ใจที่บริสุทธิ์และสงบ จะอยู่กับเราตลอด" --- 🌄 3️⃣ ชีวิตก็เหมือนฝันแป๊บเดียว เลือกให้เป็นฝันดี ✅ ชีวิตเป็นเหมือนความฝัน → จิตเป็นผู้เสพฝัน ✅ ถ้าเลือกผิด → ได้เงินแต่รู้สึกผิด คือ ฝันร้ายที่ฉากดูดี ✅ ถ้าเลือกถูก → เงินอาจน้อยลง แต่ ใจสงบ คือฝันดี 📌 "คุณอยากใช้ชีวิตไปกับฝันดี หรือฝันร้ายที่ดูหรูหรา?" --- 🛤️ 4️⃣ วิธีตัดสินใจเมื่อต้องเลือกทางเดิน 1️⃣ ตั้งสติ และสำรวจใจ → ทางไหนทำให้จิตใจสงบ? 2️⃣ คิดถึงผลระยะยาว → เลือกสิ่งที่อยู่กับใจเราได้นาน 3️⃣ อย่ายึดติดแต่ผลลัพธ์ชั่วคราว → อะไรที่ดึงใจไปในทางผิด อาจดูดีตอนแรก แต่สุดท้ายมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ 4️⃣ เลือกตามหลักศีลธรรม → ศีลข้อไหนที่เรากำลังจะละเมิด? ถ้าเงินต้องแลกกับความชั่ว เราควรหยุด 5️⃣ คิดถึงอดีตและอนาคต → ถ้าหันกลับมามองตัวเองหลังจาก 10 ปี เราจะภูมิใจกับสิ่งที่เลือกหรือไม่? 📌 "การเลือกในวันนี้ กำหนดว่าพรุ่งนี้เราจะเป็นคนแบบไหน" --- 🔮 5️⃣ สรุป : เลือกทางที่ทำให้ใจเราสงบ ไม่ใช่ทางที่ให้ผลเร็วแต่ทำลายจิตใจ ✅ เงินที่ได้จากทางผิด = ฝันร้ายที่ดูหรู ✅ เงินที่ได้จากทางถูก = ฝันดีที่เรียบง่าย ✅ ถ้าต้องเลือก → ให้เลือกสิ่งที่อยู่กับใจได้ตลอดไป 📌 "สุดท้าย… จิตดีอยู่กับเราได้นานกว่าเงินเสมอ" 💙
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • พอเห็นยอดวิวแล้วแสนโศกศัลย์
    อกเอ๋ยตัวเลขนั้นจะลดลงจนถึงไหน
    คิดถึงไม่กี่วันก่อนหลักพันยังพออุ่นใจ
    แล้วมาตอนนี้เป็นไรทำไมเหลือน้อยเสียจัง
    เมื่อก่อนเคยมีคนคอยกดไลค์
    แต่มาวันนี้เศร้าใจทำไมเหมือนไร้มนต์ขลัง
    ความฝันที่เคยวาดไว้นั้นคงเริ่มใกล้จะพัง
    นึกถึงภาพแห่งความหวังโธ่มันกำลังเลือนราง
    ยอดตกน่าตื่นตระหนกเหมือนคนบุญน้อย
    กลัวแม่เนื้อกลอยเธอจะถอยใจออกห่าง
    หากไม่มีเงินมาหมั้นมาหมายน้องนาง
    เห็นทีรักเราจะร้างแล้วฉันจะอยู่อย่างไร
    ถ้าหากยอดวิวยังจะตกหนัก
    แล้วเธอจะยังคงรักจะยังอยู่กับฉันไหม
    ถ้าหากว่าฉันไม่มีรายได้มาเยียวยาใจ
    เธอคงจะต้องจากไปมันน่าเหนื่อยใจยอดวิว
    พอเห็นยอดวิวแล้วแสนโศกศัลย์ อกเอ๋ยตัวเลขนั้นจะลดลงจนถึงไหน คิดถึงไม่กี่วันก่อนหลักพันยังพออุ่นใจ แล้วมาตอนนี้เป็นไรทำไมเหลือน้อยเสียจัง เมื่อก่อนเคยมีคนคอยกดไลค์ แต่มาวันนี้เศร้าใจทำไมเหมือนไร้มนต์ขลัง ความฝันที่เคยวาดไว้นั้นคงเริ่มใกล้จะพัง นึกถึงภาพแห่งความหวังโธ่มันกำลังเลือนราง ยอดตกน่าตื่นตระหนกเหมือนคนบุญน้อย กลัวแม่เนื้อกลอยเธอจะถอยใจออกห่าง หากไม่มีเงินมาหมั้นมาหมายน้องนาง เห็นทีรักเราจะร้างแล้วฉันจะอยู่อย่างไร ถ้าหากยอดวิวยังจะตกหนัก แล้วเธอจะยังคงรักจะยังอยู่กับฉันไหม ถ้าหากว่าฉันไม่มีรายได้มาเยียวยาใจ เธอคงจะต้องจากไปมันน่าเหนื่อยใจยอดวิว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระบบการ ศึกษาของไทยที่มีปัญหา
    ช่วงนี้ผมเป็นห่วงเห็นพ่อแม่หลายคนให้เด็กติว กันหนักมาก
    บางคนอยู่ ม. 1 แต่ว่าเรียนพิเศษคณิตศาสตร์จนจบ เนื้อหาม.3แล้ว
    บางคนอยู่ ม.1 ก็เริ่มเรียนพิเศษ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แล้ว
    บางคนอยู่ ม.3 แต่เรียน ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เนื้อหาของ ม.ปลาย จบแล้ว…..
    ถามว่าทำไปเพื่ออะไร?
    แน่นอนว่าเด็กกลุ่มนี้อยากเป็นหมอ และอยากเข้ามหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศ ไม่แน่ใจว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามเด็กคิดเองหรือพ่อแม่บังคับ หรือกระตุ้นด้วยวิธีการต่างๆ พ่อแม่ก็จะดันเต็มที่ ปลายทางคืออยากให้เข้าคณะแพทย์คณะที่ดีที่สุดของประเทศไทยซึ่งแน่นอนว่าคือจุฬากับมหิดล และความฝันในการเรียน ม.ปลายของเด็กกลุ่มนี้ก็ต้องเป็นโรงเรียนชั้นนำเช่นกัน
    คะแนนสอบต่างๆก็ต้องคาดหวังเต็ม 100 หรืออันดับ 1
    ทำให้เด็กกลุ่มนี้ต้องติวกันหนักมาก เลิกเรียนกลับมา ติวต่อแน่นอน , เสาร์ - อาทิตย์ ติวทั้งวัน เช้าถึงเย็น
    แล้วเด็กกลุ่มนี้จะใช้ชีวิตในวัยเด็กจนถึงวัยรุ่นยังไง?
    น้องเรียนอย่างเดียว ไม่มีกิจกรรมอื่นๆเลยหรือ กีฬา , ดนตรี หรืองานอดิเรกอื่นๆ มีมั้ย
    ผมคิดว่าน่าเป็นห่วงมากๆ เพราะการจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ ต้องหล่อหลอมจากประสบการณ์รอบด้าน ไม่ใช่เรียนหนักเพียงอย่างเดียว
    แน่นอนผมเชื่อว่าปลายทางของเด็กกลุ่มนี้ ถ้าเรียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ เขาได้เป็นหมอสมใจแน่ๆ
    เผลอๆได้เกียรตินิยมอีก แต่… เค้าจะจบมาแบบไม่เคยทำอะไรอย่างอื่นเลย ประสบการณ์การใช้ชีวิตในวัยเด็กของเขา การได้ลองผิดลองถูก การได้ลองทำกิจกรรมอื่นๆที่ไม่ใช่การเรียน เค้าเสียตรงนี้ไปโดยที่ย้อนกลับมาไม่ได้แล้ว
    ผมชวนคิดอีกแบบ ถ้าเด็กอยากเป็นหมอ เหมือนกัน เราสอนวิธีการเรียนอีกแบบดีมั้ย?
    คะแนนไม่ต้องเต็ม 100 ก็ได้ เอาแค่พอผ่านเกณฑ์เป็นหมอได้ หรือเข้ามหาวิทยาลัยอันดับ 1 ไม่ได้ ก็ไปอันดับรองๆ หรือถ้ายังไม่ได้อีกก็ภาคเอกชนไปเลย เน้นเข้าเรียนในสถาบันที่เหมาะสมกับตัวเด็กที่สุด มีติวบ้างนิดหน่อย เพราะระบบการศึกษาของไทยที่ผมว่ามีปัญหา ทำให้เด็กๆต้องไปหาความรู้ตามที่เรียนพิเศษกันเยอะ (ไว้จะเล่าประเด็นนี้ให้ฟังวันหลัง) เอาแค่เท่าที่จำเป็นจริงๆ
    แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการเรียนคือต้องมีความรับผิดชอบ ส่งการบ้านหรือทำงานตามกำหนดทุกชิ้นหรือไม่ มีการช่วยเหลือครูและเพื่อนในห้องบ้างไหม และเราต้องส่งเสริมให้เด็กรู้จักการวางแผนการเรียนที่ดีอย่างมีระบบ รู้ว่าติวแค่ไหนพอ ไม่มากไป ไม่น้อยไป
    และส่งเสริมให้เด็กได้ทำกิจกรรมอื่นๆนอกเหนือจากการเรียนบ้าง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ลองทำกิจกรรมให้หลากหลาย ฝึกให้มีความรับผิดชอบ เรียนรู้การทำงานเป็นทีม ระหว่างเรียน มีสอบตกบ้าง หรือมีความผิดพลาดบ้าง ให้เขาได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง พ่อแม่ก็ไม่ต้องกดดันลูก แค่เข้าใจและให้กำลังใจ ไม่ต้องเปรียบเทียบกับคนอื่น
    ผมว่าปลายทางของเด็กกลุ่มหลังนี้ก็จบหมอได้เหมือนกัน แต่อาจจะไม่ได้เกียรตินิยม หรืออาจจะไม่ได้เรียนสถานบันการศึกษาอันดับ 1 ของประเทศ

    แต่ที่สำคัญคือเค้าได้ใช้ชีวิตวัยเด็กคุ้มค่าเลย ได้มีการทำกิจกรรมที่หลากหลายนอกเหนือจากการเรียนอย่างเดียว และได้ค้นหาตัวตนไปด้วย แน่นอน….โตขึ้นเค้าก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพมากๆ

    ผมอยากให้นึกภาพถึงเด็กที่เรียนเก่งมากๆ จบการศึกษาสูง แต่ทำอะไรไม่เป็น……กับคนที่เรียนจบเหมือนกันคะแนนอาจจะไม่ได้เต็มร้อย แต่ทำงานเก่งมาก เข้ากับสังคมได้ดี

    หมอคนที่เรียนเก่งมาก กับคนที่เรียนปกติ พอไปทำงานจริงๆแล้ว คนไข้ไม่เคยถามหรอกครับว่าหมอได้เกรดอะไรมา คนไข้ดูแค่ว่าหมอท่านนั้นรักษาหายมั้ย พูดจาแนะนำหรืออัธยาศัยดีมั้ย เท่านี้ครับ และลูกเราก็จะเป็นหมออย่างมีความสุข
    ระบบการ ศึกษาของไทยที่มีปัญหา ช่วงนี้ผมเป็นห่วงเห็นพ่อแม่หลายคนให้เด็กติว กันหนักมาก บางคนอยู่ ม. 1 แต่ว่าเรียนพิเศษคณิตศาสตร์จนจบ เนื้อหาม.3แล้ว บางคนอยู่ ม.1 ก็เริ่มเรียนพิเศษ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แล้ว บางคนอยู่ ม.3 แต่เรียน ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เนื้อหาของ ม.ปลาย จบแล้ว….. ถามว่าทำไปเพื่ออะไร? แน่นอนว่าเด็กกลุ่มนี้อยากเป็นหมอ และอยากเข้ามหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศ ไม่แน่ใจว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามเด็กคิดเองหรือพ่อแม่บังคับ หรือกระตุ้นด้วยวิธีการต่างๆ พ่อแม่ก็จะดันเต็มที่ ปลายทางคืออยากให้เข้าคณะแพทย์คณะที่ดีที่สุดของประเทศไทยซึ่งแน่นอนว่าคือจุฬากับมหิดล และความฝันในการเรียน ม.ปลายของเด็กกลุ่มนี้ก็ต้องเป็นโรงเรียนชั้นนำเช่นกัน คะแนนสอบต่างๆก็ต้องคาดหวังเต็ม 100 หรืออันดับ 1 ทำให้เด็กกลุ่มนี้ต้องติวกันหนักมาก เลิกเรียนกลับมา ติวต่อแน่นอน , เสาร์ - อาทิตย์ ติวทั้งวัน เช้าถึงเย็น แล้วเด็กกลุ่มนี้จะใช้ชีวิตในวัยเด็กจนถึงวัยรุ่นยังไง? น้องเรียนอย่างเดียว ไม่มีกิจกรรมอื่นๆเลยหรือ กีฬา , ดนตรี หรืองานอดิเรกอื่นๆ มีมั้ย ผมคิดว่าน่าเป็นห่วงมากๆ เพราะการจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ ต้องหล่อหลอมจากประสบการณ์รอบด้าน ไม่ใช่เรียนหนักเพียงอย่างเดียว แน่นอนผมเชื่อว่าปลายทางของเด็กกลุ่มนี้ ถ้าเรียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ เขาได้เป็นหมอสมใจแน่ๆ เผลอๆได้เกียรตินิยมอีก แต่… เค้าจะจบมาแบบไม่เคยทำอะไรอย่างอื่นเลย ประสบการณ์การใช้ชีวิตในวัยเด็กของเขา การได้ลองผิดลองถูก การได้ลองทำกิจกรรมอื่นๆที่ไม่ใช่การเรียน เค้าเสียตรงนี้ไปโดยที่ย้อนกลับมาไม่ได้แล้ว ผมชวนคิดอีกแบบ ถ้าเด็กอยากเป็นหมอ เหมือนกัน เราสอนวิธีการเรียนอีกแบบดีมั้ย? คะแนนไม่ต้องเต็ม 100 ก็ได้ เอาแค่พอผ่านเกณฑ์เป็นหมอได้ หรือเข้ามหาวิทยาลัยอันดับ 1 ไม่ได้ ก็ไปอันดับรองๆ หรือถ้ายังไม่ได้อีกก็ภาคเอกชนไปเลย เน้นเข้าเรียนในสถาบันที่เหมาะสมกับตัวเด็กที่สุด มีติวบ้างนิดหน่อย เพราะระบบการศึกษาของไทยที่ผมว่ามีปัญหา ทำให้เด็กๆต้องไปหาความรู้ตามที่เรียนพิเศษกันเยอะ (ไว้จะเล่าประเด็นนี้ให้ฟังวันหลัง) เอาแค่เท่าที่จำเป็นจริงๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการเรียนคือต้องมีความรับผิดชอบ ส่งการบ้านหรือทำงานตามกำหนดทุกชิ้นหรือไม่ มีการช่วยเหลือครูและเพื่อนในห้องบ้างไหม และเราต้องส่งเสริมให้เด็กรู้จักการวางแผนการเรียนที่ดีอย่างมีระบบ รู้ว่าติวแค่ไหนพอ ไม่มากไป ไม่น้อยไป และส่งเสริมให้เด็กได้ทำกิจกรรมอื่นๆนอกเหนือจากการเรียนบ้าง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ลองทำกิจกรรมให้หลากหลาย ฝึกให้มีความรับผิดชอบ เรียนรู้การทำงานเป็นทีม ระหว่างเรียน มีสอบตกบ้าง หรือมีความผิดพลาดบ้าง ให้เขาได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง พ่อแม่ก็ไม่ต้องกดดันลูก แค่เข้าใจและให้กำลังใจ ไม่ต้องเปรียบเทียบกับคนอื่น ผมว่าปลายทางของเด็กกลุ่มหลังนี้ก็จบหมอได้เหมือนกัน แต่อาจจะไม่ได้เกียรตินิยม หรืออาจจะไม่ได้เรียนสถานบันการศึกษาอันดับ 1 ของประเทศ แต่ที่สำคัญคือเค้าได้ใช้ชีวิตวัยเด็กคุ้มค่าเลย ได้มีการทำกิจกรรมที่หลากหลายนอกเหนือจากการเรียนอย่างเดียว และได้ค้นหาตัวตนไปด้วย แน่นอน….โตขึ้นเค้าก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพมากๆ ผมอยากให้นึกภาพถึงเด็กที่เรียนเก่งมากๆ จบการศึกษาสูง แต่ทำอะไรไม่เป็น……กับคนที่เรียนจบเหมือนกันคะแนนอาจจะไม่ได้เต็มร้อย แต่ทำงานเก่งมาก เข้ากับสังคมได้ดี หมอคนที่เรียนเก่งมาก กับคนที่เรียนปกติ พอไปทำงานจริงๆแล้ว คนไข้ไม่เคยถามหรอกครับว่าหมอได้เกรดอะไรมา คนไข้ดูแค่ว่าหมอท่านนั้นรักษาหายมั้ย พูดจาแนะนำหรืออัธยาศัยดีมั้ย เท่านี้ครับ และลูกเราก็จะเป็นหมออย่างมีความสุข
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • วางชีวิตเอาไว้เมื่อใกล้จะบ้า
    วางนิทราเอาไว้อยู่ใกล้กับฝัน
    วางความทุกข์ความสุขให้คลุกเคล้ากัน
    วางสวรรค์ไว้สวรรค์อย่าดึงดันไป
    เรื่องนะรกอย่าหมกมุ่นอย่าครุ่นคิด
    เรื่องถูกผิดปล่อยปลงอย่าสงสัย
    เรื่องดีร้ายหลายหลากที่ยุ่งยากใจ
    เรื่องอะไรต่ออะไรจงได้ปล่อยวาง
    ยามดึกดาวเรียงรายสุดปลายฟ้า
    ยามเช้ามาตะวันมาเมื่อฟ้าสาง
    ยามย่อมหยุดเฝ้ายามเมื่อถึงยามรุ่งราง
    เมื่อฟ้าแจ้งจางปางตอนกลางวัน
    ความสุขเศร้าเหงารักอันหนักเหนื่อย
    ยังเรื่อยเปื่อยเลื้อยไหลลงไนความฝัน
    สิ่งในสังสารวัฏสารพัดสารพัน
    วนเวียนวันเวลาเช่นว่าแล

    สิ่งในสังสารวัฏสารพัดสารพัน
    วนเวียนวันเวลาเจ้าข้าเอย
    วางชีวิตเอาไว้เมื่อใกล้จะบ้า วางนิทราเอาไว้อยู่ใกล้กับฝัน วางความทุกข์ความสุขให้คลุกเคล้ากัน วางสวรรค์ไว้สวรรค์อย่าดึงดันไป เรื่องนะรกอย่าหมกมุ่นอย่าครุ่นคิด เรื่องถูกผิดปล่อยปลงอย่าสงสัย เรื่องดีร้ายหลายหลากที่ยุ่งยากใจ เรื่องอะไรต่ออะไรจงได้ปล่อยวาง ยามดึกดาวเรียงรายสุดปลายฟ้า ยามเช้ามาตะวันมาเมื่อฟ้าสาง ยามย่อมหยุดเฝ้ายามเมื่อถึงยามรุ่งราง เมื่อฟ้าแจ้งจางปางตอนกลางวัน ความสุขเศร้าเหงารักอันหนักเหนื่อย ยังเรื่อยเปื่อยเลื้อยไหลลงไนความฝัน สิ่งในสังสารวัฏสารพัดสารพัน วนเวียนวันเวลาเช่นว่าแล สิ่งในสังสารวัฏสารพัดสารพัน วนเวียนวันเวลาเจ้าข้าเอย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15 ปี สิ้น “จ่าเพียร ขาเหล็ก” ผู้กำกับนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ตำนานย้ายยากเย็น เซ่นสลับบัญชี โชคร้ายตายก่อนขึ้นรองผู้การ

    🚔 “คงอยากจะขอยศพันตำรวจเอกให้ผม ตอนที่ผมตายแล้ว” คำพูดที่ยังคงก้องในหัวใจคนไทยหลายคน… 🕊️

    🌿 ตำนานที่ยังไม่ลืม ผ่านมากว่า 15 ปี แล้ว... แต่เรื่องราวของ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” หรือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ภ.จว.ยะลา ยังถูกเล่าขานในฐานะ “นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด” ผู้ทุ่มเทชีวิตเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินปลายด้ามขวาน 🗡️ แม้จะแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อย เจ็บปวด และสุดท้าย... ชีวิต

    👮‍♂️ “สมเพียร เอกสมญา” หรือชื่อเล่นว่า “เนี้ยบ” เกิดเมื่อปี 2493 ในครอบครัวยากจนที่จังหวัดสงขลา ชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความลำบาก ต้องช่วยพ่อแม่กรีดยาง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ความยากจน ไม่สามารถปิดกั้นความฝันได้ 🎓

    หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 สมเพียรตัดสินใจเป็นศิษย์วัดเพื่อเรียนต่อ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเรียนตำรวจ ต้องเปลี่ยนนามสกุลจาก “แซ่เจ่ง” เป็น “เอกสมญา” เพื่อเข้ารับราชการในยุคนั้น

    จุดเริ่มต้นของนักรบแดนใต้ ปี 2513 สมเพียรเริ่มต้นอาชีพตำรวจที่ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ภ.จว.ยะลา ในช่วงเวลาที่ภาคใต้ร้อนระอุ จากความขัดแย้งของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) และกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน

    ชีวิตของสมเพียร ไม่ใช่แค่การจับผู้ร้ายทั่วไป แต่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกองโจร และการลอบสังหารเกือบทุกวัน 😔

    🔥 วีรกรรมและตำนาน “ขาเหล็ก” เหตุการณ์ปะทะที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ปี 2519 ขณะที่ครองยศ "จ่าสิบตำรวจ" ได้เข้าปะทะกับขบวนการก่อการไม่สงบ ที่จับตำรวจและครอบครัวเป็นตัวประกัน บนเขาเจาะปันตัง เหตุการณ์นั้นทำให้ จ่าเพียรเกือบเสียขาข้างซ้าย ต้องใส่เหล็กดามขามาตลอดชีวิต จนได้ฉายาว่า “จ่าเพียร ขาเหล็ก” 🦿

    🦾 “ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา

    🦅 ปฏิบัติการ “ยูงทอง” ชุดปฏิบัติการปราบปราม กลุ่มก่อการไม่สงบในบันนังสตา มีชื่อเสียงอย่างมากภาย ใต้การนำของจ่าเพียร เคยนำทีมเข้าปะทะกองกำลังกว่า 30 คน ในปี 2526 แม้ตัวเองจะโดนยิงที่ต้นขาขวา แต่ยังสู้ไม่ถอย ✊

    🏡 ความฝันสุดท้ายของจ่าเพียร อยากกลับบ้าน...แค่ใช้ชีวิตกับครอบครัว ในช่วงสุดท้ายของชีวิต พ.ต.อ.สมเพียร ยื่นเรื่องขอย้ายกลับไปอยู่ สภ.กันตัง จ.ตรัง บ้านเกิดของภรรยา เพื่อใช้ชีวิตเงียบสงบช่วง 18 เดือนก่อนเกษียณ แต่การโยกย้ายกลับไม่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีชื่อติดในโผโยกย้ายตั้งแต่แรก แต่ในขั้นตอนสุดท้าย กลับถูกสับเปลี่ยนชื่อ สลับบัญชี เพื่อหลีกทางให้คนของนักการเมือง 🍃

    จ่าเพียรไม่ยอมรับโผอัปยศ จึงเดินทางจากชายแดนใต้สู่กรุงเทพฯ ไปทวงถามความเป็นธรรม ถึงทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับคำปลอบใจว่า จะเยียวยาโดยให้ขึ้นตำแหน่ง "รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด" ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ

    💬 “ไม่มีการแต่งตั้งตำรวจครั้งไหนที่แย่เท่าครั้งนี้อีกแล้ว” แม้ว่าจ่าเพยีจะพูดด้วยน้ำตา แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

    💔 วันแห่งความสูญเสีย ปฏิบัติการสุดท้ายที่บ้านทับช้าง ในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 จ่าเพียร พร้อมด้วยลูกน้อง 4 นาย และ อส.คนสนิทอีก 1 นาย นั่งรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา และอส.คนสนิท อีก 1 นาย ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านทับช้าง แต่ถูกกลุ่มก่อการไม่สงบ กดระเบิด และกราดยิงด้วยอาวุธสงครามอย่างหนัก จ่าเพียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ลูกน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย และอีก 1 นายเสียชีวิต 🔫

    ⚰️ อายุ 59 ปี สิ้นสุดเส้นทางของนักรบผู้ภักดีต่อหน้าที่ บทเรียนชีวิตและความจริงที่เจ็บปวด การต่อสู้ของจ่าเพียร ไม่ใช่แค่ศึกในสนามรบ แต่ยังเป็นศึกในระบบราชการที่ซับซ้อน และมีปัญหาเรื่องอุปถัมภ์ จ่าเพียรไม่ได้รับโอกาสเลื่อนยศหรือโยกย้าย จนกว่าจะเสียชีวิตแล้ว ถึงได้เลื่อนยศ 7 ขั้น เป็น "พลตำรวจเอก" 🕊️

    ⚖️ ระบบที่ควรตอบแทนคนทุ่มเท กลับถูกแทนที่ด้วยสายสัมพันธ์และอำนาจ มรดกและแรงบันดาลใจ
    หลังจากการเสียชีวิตของจ่าเพียร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวน 3 ล้านบาท และรับผิดชอบการศึกษาของลูก จนจบปริญญาตรี แต่สิ่งที่จ่าเพียรทิ้งไว้ไม่ใช่แค่เงินทอง

    ❤️ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” กลายเป็นสัญลักษณ์ของตำรวจที่ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ต่ออุปถัมภ์

    🗣️ คำพูดสุดท้ายที่ยังตราตรึง "ผมไม่ได้อยากย้ายเพื่อความก้าวหน้า แต่อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมทำงานมา 40 ปี แทบไม่มีเวลาให้พวกเขาเลย"

    ❓ คำถามที่ยังไร้คำตอบ แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปี แต่เรื่องราวของจ่าเพียร ยังเป็นกระจกสะท้อนปัญหาระบบราชการไทย หลายคนยังสงสัยว่า…

    - ทำไมตำรวจน้ำดี ต้องตายก่อนจึงได้รับการยกย่อง?
    - ทำไมระบบโยกย้าย ถึงเต็มไปด้วยข้อครหา?
    - ใครจะปกป้องผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ไม่มีเส้นสาย?

    🤝 เสียงจากคนในพื้นที่ “จ่าเพียรกลับมาแล้ว” ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน

    🕊️ “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รู้จักจ่าเพียรในฐานะคนที่ไม่เคยทิ้งพื้นที่”

    🌳 "คนที่เคยเป็นเยาวชนไม่มีอนาคต กลายมาเป็นอาสาสมัครในทีมของจ่าเพียร ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่น"

    🕯️ ตำนานที่ไม่ควรจางหาย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ชื่อ "สมเพียร เอกสมญา" ไม่ได้ตายเพราะกระสุนหรือระเบิด แต่เพราะระบบที่ล้มเหลวในการดูแลคนดี 💐

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121155 มี.ค. 2568

    #จ่าเพียรขาเหล็ก #ฮีโร่แดนใต้ #ผู้กำกับนักสู้ #สมเพียรเอกสมญา #ชายแดนใต้ #นักรบแห่งบูโด #ตำรวจไทย #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ #วีรบุรุษแดนใต้ #ระบบอุปถัมภ์

    15 ปี สิ้น “จ่าเพียร ขาเหล็ก” ผู้กำกับนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ตำนานย้ายยากเย็น เซ่นสลับบัญชี โชคร้ายตายก่อนขึ้นรองผู้การ 🚔 “คงอยากจะขอยศพันตำรวจเอกให้ผม ตอนที่ผมตายแล้ว” คำพูดที่ยังคงก้องในหัวใจคนไทยหลายคน… 🕊️ 🌿 ตำนานที่ยังไม่ลืม ผ่านมากว่า 15 ปี แล้ว... แต่เรื่องราวของ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” หรือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ภ.จว.ยะลา ยังถูกเล่าขานในฐานะ “นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด” ผู้ทุ่มเทชีวิตเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินปลายด้ามขวาน 🗡️ แม้จะแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อย เจ็บปวด และสุดท้าย... ชีวิต 👮‍♂️ “สมเพียร เอกสมญา” หรือชื่อเล่นว่า “เนี้ยบ” เกิดเมื่อปี 2493 ในครอบครัวยากจนที่จังหวัดสงขลา ชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความลำบาก ต้องช่วยพ่อแม่กรีดยาง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ความยากจน ไม่สามารถปิดกั้นความฝันได้ 🎓 หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 สมเพียรตัดสินใจเป็นศิษย์วัดเพื่อเรียนต่อ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเรียนตำรวจ ต้องเปลี่ยนนามสกุลจาก “แซ่เจ่ง” เป็น “เอกสมญา” เพื่อเข้ารับราชการในยุคนั้น จุดเริ่มต้นของนักรบแดนใต้ ปี 2513 สมเพียรเริ่มต้นอาชีพตำรวจที่ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ภ.จว.ยะลา ในช่วงเวลาที่ภาคใต้ร้อนระอุ จากความขัดแย้งของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) และกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน ชีวิตของสมเพียร ไม่ใช่แค่การจับผู้ร้ายทั่วไป แต่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกองโจร และการลอบสังหารเกือบทุกวัน 😔 🔥 วีรกรรมและตำนาน “ขาเหล็ก” เหตุการณ์ปะทะที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ปี 2519 ขณะที่ครองยศ "จ่าสิบตำรวจ" ได้เข้าปะทะกับขบวนการก่อการไม่สงบ ที่จับตำรวจและครอบครัวเป็นตัวประกัน บนเขาเจาะปันตัง เหตุการณ์นั้นทำให้ จ่าเพียรเกือบเสียขาข้างซ้าย ต้องใส่เหล็กดามขามาตลอดชีวิต จนได้ฉายาว่า “จ่าเพียร ขาเหล็ก” 🦿 🦾 “ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา 🦅 ปฏิบัติการ “ยูงทอง” ชุดปฏิบัติการปราบปราม กลุ่มก่อการไม่สงบในบันนังสตา มีชื่อเสียงอย่างมากภาย ใต้การนำของจ่าเพียร เคยนำทีมเข้าปะทะกองกำลังกว่า 30 คน ในปี 2526 แม้ตัวเองจะโดนยิงที่ต้นขาขวา แต่ยังสู้ไม่ถอย ✊ 🏡 ความฝันสุดท้ายของจ่าเพียร อยากกลับบ้าน...แค่ใช้ชีวิตกับครอบครัว ในช่วงสุดท้ายของชีวิต พ.ต.อ.สมเพียร ยื่นเรื่องขอย้ายกลับไปอยู่ สภ.กันตัง จ.ตรัง บ้านเกิดของภรรยา เพื่อใช้ชีวิตเงียบสงบช่วง 18 เดือนก่อนเกษียณ แต่การโยกย้ายกลับไม่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีชื่อติดในโผโยกย้ายตั้งแต่แรก แต่ในขั้นตอนสุดท้าย กลับถูกสับเปลี่ยนชื่อ สลับบัญชี เพื่อหลีกทางให้คนของนักการเมือง 🍃 จ่าเพียรไม่ยอมรับโผอัปยศ จึงเดินทางจากชายแดนใต้สู่กรุงเทพฯ ไปทวงถามความเป็นธรรม ถึงทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับคำปลอบใจว่า จะเยียวยาโดยให้ขึ้นตำแหน่ง "รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด" ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ 💬 “ไม่มีการแต่งตั้งตำรวจครั้งไหนที่แย่เท่าครั้งนี้อีกแล้ว” แม้ว่าจ่าเพยีจะพูดด้วยน้ำตา แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 💔 วันแห่งความสูญเสีย ปฏิบัติการสุดท้ายที่บ้านทับช้าง ในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 จ่าเพียร พร้อมด้วยลูกน้อง 4 นาย และ อส.คนสนิทอีก 1 นาย นั่งรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา และอส.คนสนิท อีก 1 นาย ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านทับช้าง แต่ถูกกลุ่มก่อการไม่สงบ กดระเบิด และกราดยิงด้วยอาวุธสงครามอย่างหนัก จ่าเพียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ลูกน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย และอีก 1 นายเสียชีวิต 🔫 ⚰️ อายุ 59 ปี สิ้นสุดเส้นทางของนักรบผู้ภักดีต่อหน้าที่ บทเรียนชีวิตและความจริงที่เจ็บปวด การต่อสู้ของจ่าเพียร ไม่ใช่แค่ศึกในสนามรบ แต่ยังเป็นศึกในระบบราชการที่ซับซ้อน และมีปัญหาเรื่องอุปถัมภ์ จ่าเพียรไม่ได้รับโอกาสเลื่อนยศหรือโยกย้าย จนกว่าจะเสียชีวิตแล้ว ถึงได้เลื่อนยศ 7 ขั้น เป็น "พลตำรวจเอก" 🕊️ ⚖️ ระบบที่ควรตอบแทนคนทุ่มเท กลับถูกแทนที่ด้วยสายสัมพันธ์และอำนาจ มรดกและแรงบันดาลใจ หลังจากการเสียชีวิตของจ่าเพียร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวน 3 ล้านบาท และรับผิดชอบการศึกษาของลูก จนจบปริญญาตรี แต่สิ่งที่จ่าเพียรทิ้งไว้ไม่ใช่แค่เงินทอง ❤️ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” กลายเป็นสัญลักษณ์ของตำรวจที่ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ต่ออุปถัมภ์ 🗣️ คำพูดสุดท้ายที่ยังตราตรึง "ผมไม่ได้อยากย้ายเพื่อความก้าวหน้า แต่อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมทำงานมา 40 ปี แทบไม่มีเวลาให้พวกเขาเลย" ❓ คำถามที่ยังไร้คำตอบ แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปี แต่เรื่องราวของจ่าเพียร ยังเป็นกระจกสะท้อนปัญหาระบบราชการไทย หลายคนยังสงสัยว่า… - ทำไมตำรวจน้ำดี ต้องตายก่อนจึงได้รับการยกย่อง? - ทำไมระบบโยกย้าย ถึงเต็มไปด้วยข้อครหา? - ใครจะปกป้องผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ไม่มีเส้นสาย? 🤝 เสียงจากคนในพื้นที่ “จ่าเพียรกลับมาแล้ว” ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน 🕊️ “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รู้จักจ่าเพียรในฐานะคนที่ไม่เคยทิ้งพื้นที่” 🌳 "คนที่เคยเป็นเยาวชนไม่มีอนาคต กลายมาเป็นอาสาสมัครในทีมของจ่าเพียร ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่น" 🕯️ ตำนานที่ไม่ควรจางหาย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ชื่อ "สมเพียร เอกสมญา" ไม่ได้ตายเพราะกระสุนหรือระเบิด แต่เพราะระบบที่ล้มเหลวในการดูแลคนดี 💐 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121155 มี.ค. 2568 #จ่าเพียรขาเหล็ก #ฮีโร่แดนใต้ #ผู้กำกับนักสู้ #สมเพียรเอกสมญา #ชายแดนใต้ #นักรบแห่งบูโด #ตำรวจไทย #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ #วีรบุรุษแดนใต้ #ระบบอุปถัมภ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 863 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพลงแนวร๊อค-จีนกวางตุ้ง อมตะนิรันด์กาล ของวง Beyond ชื่อว่า Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空 แปลว่า "มหาสมุทรไร้ขอบเขต ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่" เนื้อเพลงมีความหมายถึง เสรีภาพส่วนบุคคลและการแสวงหาความฝัน
    -------------------------------------------
    นำมาขับร้อง(ใหม่)โดย ตัง จี๋ เข่ย Tang Tsz-kei (鄧紫棋)
    หรือ ในชื่อสากล ว่า G.E.M. (Get Everybody Moving)
    เพลงแนวร๊อค-จีนกวางตุ้ง อมตะนิรันด์กาล ของวง Beyond ชื่อว่า Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空 แปลว่า "มหาสมุทรไร้ขอบเขต ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่" เนื้อเพลงมีความหมายถึง เสรีภาพส่วนบุคคลและการแสวงหาความฝัน ------------------------------------------- นำมาขับร้อง(ใหม่)โดย ตัง จี๋ เข่ย Tang Tsz-kei (鄧紫棋) หรือ ในชื่อสากล ว่า G.E.M. (Get Everybody Moving)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • เพลงจีนกวางตุ้ง 铁血丹心 ( ถิด-ฮวิด-ต๊าน-ซั้ม )
    แปลเป็นภาษาไทย ได้ว่า "หัวใจเหล็ก"
    เป็นเพลงประกอบซีรี่ย์ มังกรหยก ที่ทุกคนคุ้นเคย
    -----------------------------------
    ฉัน เป็น ชาวจีน(กวางตุ้ง) เข้าใจ+แปลเนื้อร้องเป็นภาษาไทย
    ได้ใจความดังนี้...
    ราวกับเคยเห็นมาก่อนในความฝัน
    依稀往夢似曾見
    คลื่นในใจของฉันปรากฏขึ้น
    心內波瀾現
    ละทิ้งความโศกเศร้าทางโลก
    拋開世事斷愁怨
    มาพร้อมกับคุณไปยังจุดสิ้นสุดของโลก
    相伴到天邊
    ไล่หญ้าไปทุกทิศ ทะเลทรายกว้างใหญ่
    (ลมหนาวพัด ท้องฟ้าก็ซีด)
    逐草四方沙漠蒼茫(冷風吹 天蒼蒼)
    ความกลัวหิมะและน้ำค้างแข็งกระทบหน้าของฉัน
    (เถาวัลย์และต้นไม้เชื่อมโยงกัน)
    那懼雪霜撲面(藤樹 相連)
    แร้งยิงธนูและควบม้าออกไปนอกกำแพงเมืองจีน
    (ลมและทรายรุนแรง พื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่)
    射雕引弓塞外奔馳(猛風沙 野茫茫)
    ชีวิตนี้ยิ้มอย่างภาคภูมิใจไม่เคยเบื่อ
    (เถาวัลย์ และต้นไม้สองต้นอ้อยอิ่ง)
    笑傲此生無厭倦(藤樹兩纏綿)
    ฟ้าเป็นสีฟ้า ท้องทุ่งกว้างใหญ่
    (ควรรู้ว่ารักก็เหมือนน้ำไหล)
    天蒼蒼 野茫茫(應知愛意是流水)
    การเปลี่ยนแปลงทุกประเภท
    萬般變化(斬不斷理還亂)
    ผ่านภัยมานับร้อยก็อยู่ในใจฉันเช่นกัน
    身經百劫也在心間
    ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม
    恩義兩難斷
    ไล่หญ้าไปทุกทิศ ทะเลทรายกว้างใหญ่
    (ลมหนาวพัด ท้องฟ้าก็ซีด)
    逐草四方沙漠蒼茫(冷風吹 天蒼蒼)
    กลัวหิมะและน้ำค้างแข็ง
    (เถาวัลย์และต้นไม้เชื่อมต่อกัน)
    那懼雪霜撲面(藤樹相連)
    แร้งยิงธนูและควบม้าออกไปนอกกำแพงเมืองจีน
    (ลมและทรายรุนแรง พื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่)
    射雕引弓塞外奔馳(猛風沙 野茫茫)
    ชีวิตนี้ยิ้มอย่างภาคภูมิใจไม่เคยเบื่อ
    (เถาวัลย์ และต้นไม้สองต้นอ้อยอิ่ง)
    笑傲此生無厭倦(藤樹兩纏綿)
    ฟ้าเป็นสีฟ้า ท้องทุ่งกว้างใหญ่
    (ควรรู้ว่ารักก็เหมือนน้ำไหล)
    天蒼蒼 野茫茫(應知愛意是流水)
    การเปลี่ยนแปลงต่างๆ
    萬般變化 (斬不斷理還亂)
    ผ่านภัยมานับร้อยก็อยู่ในใจฉันเช่นกัน
    身經百劫也在心間
    ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม
    恩義兩難斷
    หลังจากภัยพิบัติหลายร้อยครั้งในร่างกายของฉัน ฉันยังคงอยู่ในใจของฉัน
    身經百劫也在心間
    ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม
    恩義兩難斷
    เพลงจีนกวางตุ้ง 铁血丹心 ( ถิด-ฮวิด-ต๊าน-ซั้ม ) แปลเป็นภาษาไทย ได้ว่า "หัวใจเหล็ก" เป็นเพลงประกอบซีรี่ย์ มังกรหยก ที่ทุกคนคุ้นเคย ----------------------------------- ฉัน เป็น ชาวจีน(กวางตุ้ง) เข้าใจ+แปลเนื้อร้องเป็นภาษาไทย ได้ใจความดังนี้... ราวกับเคยเห็นมาก่อนในความฝัน 依稀往夢似曾見 คลื่นในใจของฉันปรากฏขึ้น 心內波瀾現 ละทิ้งความโศกเศร้าทางโลก 拋開世事斷愁怨 มาพร้อมกับคุณไปยังจุดสิ้นสุดของโลก 相伴到天邊 ไล่หญ้าไปทุกทิศ ทะเลทรายกว้างใหญ่ (ลมหนาวพัด ท้องฟ้าก็ซีด) 逐草四方沙漠蒼茫(冷風吹 天蒼蒼) ความกลัวหิมะและน้ำค้างแข็งกระทบหน้าของฉัน (เถาวัลย์และต้นไม้เชื่อมโยงกัน) 那懼雪霜撲面(藤樹 相連) แร้งยิงธนูและควบม้าออกไปนอกกำแพงเมืองจีน (ลมและทรายรุนแรง พื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่) 射雕引弓塞外奔馳(猛風沙 野茫茫) ชีวิตนี้ยิ้มอย่างภาคภูมิใจไม่เคยเบื่อ (เถาวัลย์ และต้นไม้สองต้นอ้อยอิ่ง) 笑傲此生無厭倦(藤樹兩纏綿) ฟ้าเป็นสีฟ้า ท้องทุ่งกว้างใหญ่ (ควรรู้ว่ารักก็เหมือนน้ำไหล) 天蒼蒼 野茫茫(應知愛意是流水) การเปลี่ยนแปลงทุกประเภท 萬般變化(斬不斷理還亂) ผ่านภัยมานับร้อยก็อยู่ในใจฉันเช่นกัน 身經百劫也在心間 ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม 恩義兩難斷 ไล่หญ้าไปทุกทิศ ทะเลทรายกว้างใหญ่ (ลมหนาวพัด ท้องฟ้าก็ซีด) 逐草四方沙漠蒼茫(冷風吹 天蒼蒼) กลัวหิมะและน้ำค้างแข็ง (เถาวัลย์และต้นไม้เชื่อมต่อกัน) 那懼雪霜撲面(藤樹相連) แร้งยิงธนูและควบม้าออกไปนอกกำแพงเมืองจีน (ลมและทรายรุนแรง พื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่) 射雕引弓塞外奔馳(猛風沙 野茫茫) ชีวิตนี้ยิ้มอย่างภาคภูมิใจไม่เคยเบื่อ (เถาวัลย์ และต้นไม้สองต้นอ้อยอิ่ง) 笑傲此生無厭倦(藤樹兩纏綿) ฟ้าเป็นสีฟ้า ท้องทุ่งกว้างใหญ่ (ควรรู้ว่ารักก็เหมือนน้ำไหล) 天蒼蒼 野茫茫(應知愛意是流水) การเปลี่ยนแปลงต่างๆ 萬般變化 (斬不斷理還亂) ผ่านภัยมานับร้อยก็อยู่ในใจฉันเช่นกัน 身經百劫也在心間 ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม 恩義兩難斷 หลังจากภัยพิบัติหลายร้อยครั้งในร่างกายของฉัน ฉันยังคงอยู่ในใจของฉัน 身經百劫也在心間 ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างพระคุณและความชอบธรรม 恩義兩難斷
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • 33 ปี สิ้นราชินีหมอลำสาวเสียงกำมะหยี่ “ฮันนี่ ศรีอีสาน” ตำนานอาถรรพ์ที่ไม่มีวันจางหาย

    🕯️ ย้อนไปเมื่อ 33 ปี ที่ผ่านมา เช้ามืดวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 วันแห่งความสูญเสียของวงการหมอลำไทย เมื่อราชินีหมอลำสาวเสียงกำมะหยี่ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จากเหตุการณ์รถปิกอัพยางแตก เสียหลักข้ามเลนตกถนนพลิกคว่ำ ที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ ขณะกำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ ของอาชีพนักร้องลูกทุ่งหมอลำ

    ⭐ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ดาวรุ่งที่ดับแสงก่อนวัยอันควร จากสาวน้อยบ้านนา...สู่ราชินีหมอลำเสียงกำมะหยี่ 🔹
    "ฮันนี่ ศรีอีสาน" หรือชื่อจริง "นางสาวสุพิณ เหมวิจิตร" เกิดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2514 ที่บ้านเมย ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นลูกสาวคนสุดท้องจากพี่น้อง 14 คน แม้จะเรียนจบเพียงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 แต่มีความฝันที่จะเป็นศิลปิน และมีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลง

    เมื่ออายุ 16 ปี อันนี่ได้ก้าวเข้าสู่วงการหมอลำ เป็นนางเอกหมอลำให้กับคณะชื่อดังหลายคณะ ก่อนจะได้รับโอกาสครั้งสำคัญ ในการเซ็นสัญญาบันทึกเสียงกับ "เยนาวี่ โปรโมชั่น" โดยใช้ชื่อในการแสดงว่า "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนักร้องดัง "ฮันนี่-ภัสสร บุณยเกียรติ" ที่กำลังโด่งดังในยุคนั้น

    🎤 จุดสูงสุดของอาชีพนักร้อง ในปี 2534 ฮันนี่เปิดตัวด้วยอัลบั้มแรก "น้ำตาหล่นบนที่นอน" ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับฉายา "ราชินีหมอลำสาวเสียงกำมะหยี่"

    📀 ผลงานเพลงเด่น ได้แก่
    ✔ น้ำตาหล่นบนที่นอน
    ✔ วอนพี่มีรักเดียว
    ✔ สาวกาฬสินธุ์
    ✔ รักสองแผ่นดิน
    ✔ ขอแล้วไม่แต่ง

    ด้วยความนิยมที่พุ่งสูงขึ้น ฮันนี่จึงได้เปิดวงดนตรีของตัวเอง เพื่อเดินสายแสดงคอนเสิร์ต ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

    🚗 โศกนาฏกรรมเช้ามืด 26 กุมภาพันธ์ 2535
    📅 วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 เวลา 04.30 น. ขณะเดินทางกลับจากการแสดง ที่อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ รถปิกอัพที่โดยสารมา ประสบอุบัติเหตุยางแตก เสียหลักพุ่งข้ามเลนตกถนนพลิกคว่ำ ที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 สายศรีสะเกษ - อุบลราชธานี ช่วงกิโลเมตรที่ 10-11 บริเวณตำบลหนองแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ

    💔 "ฮันนี่ ศรีอีสาน" คอหักเสียชีวิตคาที่ ขณะอายุเพียง 21 ปี 4 เดือน 4 วัน

    🎗️ จุดเกิดเหตุได้มีการสร้างศาลอนุสรณ์ เพื่อรำลึกถึง และในทุกๆ ปี จะมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตรำลึก

    👻 อาถรรพ์ “ฮันนี่ ศรีอีสาน” กับเรื่องเล่าขนหัวลุก หลังการเสียชีวิตของฮันนี่ ได้เกิดเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับวิญญาณ ที่ยังคงวนเวียนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ

    🚘 เห็นเวทีคอนเสิร์ตลอยกลางทาง หลายคนที่ขับรถผ่านบริเวณจุดเกิดเหตุในช่วง ตี 1 ถึงตี 2 เล่าว่าเคยเห็น เวทีคอนเสิร์ตที่มีแสงสีเสียงอลังการ คล้ายกับมีงานแสดง แต่เมื่อเข้าไปใกล้กลับ ไม่มีอะไรอยู่เลย

    📿อาถรรพ์ของทรัพย์สินเธอ มีเรื่องเล่าว่า ผู้ที่ถือโอกาสฉกฉวน นำทรัพย์สินจากที่เกิดเหตุไป ต่างพากันมีอันเป็นไปทุกราย ไม่เว้นแม้กระทั่งนายตำรวจ ที่พบศพเธอเป็นคนแรก ซึ่งมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก็เสียชีวิตแบบไม่คาดคิด หลังจากนั้นไม่นาน

    🌙 เสียงร้องเพลงยามค่ำคืน มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ยิน เสียงร้องเพลงแว่วมาในช่วงกลางดึก โดยเฉพาะเพลง "น้ำตาหล่นบนที่นอน"

    🙏 ย้ายศาลจากศรีสะเกษสู่กาฬสินธุ์ ใน ปี 2558 มีการย้ายศาลฮันนี่ จากจุดเกิดเหตุในศรีสะเกษ กลับไปที่บ้านเกิดที่กมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังจากพี่สาวของฮันนี่ "คำศรี เหมวิจิตร" อ้างว่าวิญญาณของฮันนี่ ไปเข้าฝันพระอาจารย์ประจักษ์ ขอให้ช่วยนำดวงวิญญาณกลับบ้าน

    🔹 พิธีกรรมย้ายศาล ต้องทำถึง 3 ครั้ง ถึงจะสามารถขอวิญญาณของฮันนี่ กลับมาได้

    🎼 มรดกทางดนตรีที่ยังคงอยู่ แม้ว่า "ฮันนี่ ศรีอีสาน" จะจากไปนาน 33 ปี แต่บทเพลงยังคงเป็นที่จดจำ และมีศิลปินหลายคน ได้นำบทเพลงของฮันนี่มาร้องใหม่ รวมถึงศิลปินแห่งชาติอย่าง "บานเย็น รากแก่น" ที่นำเพลงของฮันนี่กลับมาขับร้องอีกครั้ง

    📀 เพลงของฮันนี่ที่ถูกนำมาร้องใหม่ ได้แก่
    ✔ น้ำตาหล่นบนที่นอน
    ✔ วอนพี่มีรักเดียว
    ✔ รักสองแผ่นดิน

    🏆 "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ตำนานที่ไม่มีวันลืม ฮันนี่เป็นศิลปินที่มีครบทุกคุณสมบัติ ทั้งเสียงดี รูปร่างหน้าตาสวย และมีเสน่ห์ในการแสดง หลายคนเชื่อว่า ถ้าฮันนี่ยังมีชีวิตอยู่ อาจกลายเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เป็นอยู่

    🎶 แม้เวลาจะผ่านไป 33 ปี แต่ชื่อของ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ยังคงอยู่ในหัวใจของแฟนเพลง และยังคงเป็นตำนานของวงการหมอลำไทย 🕊️💜

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 260931 ก.พ. 2568

    🔖 #ฮันนี่ศรีอีสาน #ตำนานหมอลำ #น้ำตาหล่นบนที่นอน #อาถรรพ์ฮันนี่ #หมอลำไทย #ข่าวดังในอดีต #อุบัติเหตุหมอลำ #ราชินีเสียงกำมะหยี่ #ลูกทุ่งหมอลำ #วงการลูกทุ่ง
    33 ปี สิ้นราชินีหมอลำสาวเสียงกำมะหยี่ “ฮันนี่ ศรีอีสาน” ตำนานอาถรรพ์ที่ไม่มีวันจางหาย 🕯️ ย้อนไปเมื่อ 33 ปี ที่ผ่านมา เช้ามืดวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 วันแห่งความสูญเสียของวงการหมอลำไทย เมื่อราชินีหมอลำสาวเสียงกำมะหยี่ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต จากเหตุการณ์รถปิกอัพยางแตก เสียหลักข้ามเลนตกถนนพลิกคว่ำ ที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ ขณะกำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ ของอาชีพนักร้องลูกทุ่งหมอลำ ⭐ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ดาวรุ่งที่ดับแสงก่อนวัยอันควร จากสาวน้อยบ้านนา...สู่ราชินีหมอลำเสียงกำมะหยี่ 🔹 "ฮันนี่ ศรีอีสาน" หรือชื่อจริง "นางสาวสุพิณ เหมวิจิตร" เกิดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2514 ที่บ้านเมย ตำบลดงลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นลูกสาวคนสุดท้องจากพี่น้อง 14 คน แม้จะเรียนจบเพียงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 แต่มีความฝันที่จะเป็นศิลปิน และมีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลง เมื่ออายุ 16 ปี อันนี่ได้ก้าวเข้าสู่วงการหมอลำ เป็นนางเอกหมอลำให้กับคณะชื่อดังหลายคณะ ก่อนจะได้รับโอกาสครั้งสำคัญ ในการเซ็นสัญญาบันทึกเสียงกับ "เยนาวี่ โปรโมชั่น" โดยใช้ชื่อในการแสดงว่า "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนักร้องดัง "ฮันนี่-ภัสสร บุณยเกียรติ" ที่กำลังโด่งดังในยุคนั้น 🎤 จุดสูงสุดของอาชีพนักร้อง ในปี 2534 ฮันนี่เปิดตัวด้วยอัลบั้มแรก "น้ำตาหล่นบนที่นอน" ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับฉายา "ราชินีหมอลำสาวเสียงกำมะหยี่" 📀 ผลงานเพลงเด่น ได้แก่ ✔ น้ำตาหล่นบนที่นอน ✔ วอนพี่มีรักเดียว ✔ สาวกาฬสินธุ์ ✔ รักสองแผ่นดิน ✔ ขอแล้วไม่แต่ง ด้วยความนิยมที่พุ่งสูงขึ้น ฮันนี่จึงได้เปิดวงดนตรีของตัวเอง เพื่อเดินสายแสดงคอนเสิร์ต ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ 🚗 โศกนาฏกรรมเช้ามืด 26 กุมภาพันธ์ 2535 📅 วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 เวลา 04.30 น. ขณะเดินทางกลับจากการแสดง ที่อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ รถปิกอัพที่โดยสารมา ประสบอุบัติเหตุยางแตก เสียหลักพุ่งข้ามเลนตกถนนพลิกคว่ำ ที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 สายศรีสะเกษ - อุบลราชธานี ช่วงกิโลเมตรที่ 10-11 บริเวณตำบลหนองแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ 💔 "ฮันนี่ ศรีอีสาน" คอหักเสียชีวิตคาที่ ขณะอายุเพียง 21 ปี 4 เดือน 4 วัน 🎗️ จุดเกิดเหตุได้มีการสร้างศาลอนุสรณ์ เพื่อรำลึกถึง และในทุกๆ ปี จะมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตรำลึก 👻 อาถรรพ์ “ฮันนี่ ศรีอีสาน” กับเรื่องเล่าขนหัวลุก หลังการเสียชีวิตของฮันนี่ ได้เกิดเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับวิญญาณ ที่ยังคงวนเวียนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ 🚘 เห็นเวทีคอนเสิร์ตลอยกลางทาง หลายคนที่ขับรถผ่านบริเวณจุดเกิดเหตุในช่วง ตี 1 ถึงตี 2 เล่าว่าเคยเห็น เวทีคอนเสิร์ตที่มีแสงสีเสียงอลังการ คล้ายกับมีงานแสดง แต่เมื่อเข้าไปใกล้กลับ ไม่มีอะไรอยู่เลย 📿อาถรรพ์ของทรัพย์สินเธอ มีเรื่องเล่าว่า ผู้ที่ถือโอกาสฉกฉวน นำทรัพย์สินจากที่เกิดเหตุไป ต่างพากันมีอันเป็นไปทุกราย ไม่เว้นแม้กระทั่งนายตำรวจ ที่พบศพเธอเป็นคนแรก ซึ่งมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ก็เสียชีวิตแบบไม่คาดคิด หลังจากนั้นไม่นาน 🌙 เสียงร้องเพลงยามค่ำคืน มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ยิน เสียงร้องเพลงแว่วมาในช่วงกลางดึก โดยเฉพาะเพลง "น้ำตาหล่นบนที่นอน" 🙏 ย้ายศาลจากศรีสะเกษสู่กาฬสินธุ์ ใน ปี 2558 มีการย้ายศาลฮันนี่ จากจุดเกิดเหตุในศรีสะเกษ กลับไปที่บ้านเกิดที่กมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังจากพี่สาวของฮันนี่ "คำศรี เหมวิจิตร" อ้างว่าวิญญาณของฮันนี่ ไปเข้าฝันพระอาจารย์ประจักษ์ ขอให้ช่วยนำดวงวิญญาณกลับบ้าน 🔹 พิธีกรรมย้ายศาล ต้องทำถึง 3 ครั้ง ถึงจะสามารถขอวิญญาณของฮันนี่ กลับมาได้ 🎼 มรดกทางดนตรีที่ยังคงอยู่ แม้ว่า "ฮันนี่ ศรีอีสาน" จะจากไปนาน 33 ปี แต่บทเพลงยังคงเป็นที่จดจำ และมีศิลปินหลายคน ได้นำบทเพลงของฮันนี่มาร้องใหม่ รวมถึงศิลปินแห่งชาติอย่าง "บานเย็น รากแก่น" ที่นำเพลงของฮันนี่กลับมาขับร้องอีกครั้ง 📀 เพลงของฮันนี่ที่ถูกนำมาร้องใหม่ ได้แก่ ✔ น้ำตาหล่นบนที่นอน ✔ วอนพี่มีรักเดียว ✔ รักสองแผ่นดิน 🏆 "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ตำนานที่ไม่มีวันลืม ฮันนี่เป็นศิลปินที่มีครบทุกคุณสมบัติ ทั้งเสียงดี รูปร่างหน้าตาสวย และมีเสน่ห์ในการแสดง หลายคนเชื่อว่า ถ้าฮันนี่ยังมีชีวิตอยู่ อาจกลายเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ 🎶 แม้เวลาจะผ่านไป 33 ปี แต่ชื่อของ "ฮันนี่ ศรีอีสาน" ยังคงอยู่ในหัวใจของแฟนเพลง และยังคงเป็นตำนานของวงการหมอลำไทย 🕊️💜 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 260931 ก.พ. 2568 🔖 #ฮันนี่ศรีอีสาน #ตำนานหมอลำ #น้ำตาหล่นบนที่นอน #อาถรรพ์ฮันนี่ #หมอลำไทย #ข่าวดังในอดีต #อุบัติเหตุหมอลำ #ราชินีเสียงกำมะหยี่ #ลูกทุ่งหมอลำ #วงการลูกทุ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 778 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2507++-คืน1มีบุคคล2ท่านมาเยี่ยมที่ห้องพักผู้ป่วยรพ.ศิริราช ในความฝัน ยามเช้าเดินซนตามวัยพบรูปปั้นที่กลางสนามถึงกับตกใจ พระเมตตายิ่ง น้อมกราบพระองค์
    2507++-คืน1มีบุคคล2ท่านมาเยี่ยมที่ห้องพักผู้ป่วยรพ.ศิริราช ในความฝัน ยามเช้าเดินซนตามวัยพบรูปปั้นที่กลางสนามถึงกับตกใจ พระเมตตายิ่ง น้อมกราบพระองค์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัตตา: พื้นที่จำกัดของจิตที่พองเกินขนาด


    ---

    🌀 อัตตา = ห้องคับแคบ

    ชีวิตเปรียบเหมือน "ห้องเรียน" ที่มี ขนาดจำกัด
    ✔ มี เพดาน → ไม่ให้ตัวตนสูงเกินไป
    ✔ มี กำแพง → กั้นไม่ให้พองตัวเกินขนาด
    ✔ มี ขีดจำกัด → ที่ต้องเรียนรู้

    แต่…
    🚩 อัตตา ทำให้คนอยากใหญ่เกินห้อง
    🚩 อัตตา ทำให้คนดิ้นรนฝืนเพดาน
    🚩 อัตตา ทำให้คน "อึดอัด" กับตัวเอง


    ---

    🎈 ลูกโป่งอัตตา

    💡 ยิ่งโป่งมาก → ยิ่งแน่น
    💡 ยิ่งแน่น → ยิ่งเครียด
    💡 ยิ่งพอง → ยิ่งอึดอัด

    สุดท้าย…
    💥 อัตตาแตกเปล่า
    💥 ฝืนจนพัง
    💥 ขาดลอยไปกับความฝันที่เกินตัว


    ---

    🌱 พอดีตัว = พอดีสุข

    📌 เมื่ออัตตาพอดี → ใจสงบ
    📌 เมื่อเลิกอยากเป็นใครเหนือใคร → ใจสบาย
    📌 เมื่อพอใจกับสิ่งที่มี → ใจคลายทุกข์

    💡 โลกสอนให้เจียมตน
    → ถ้าอัตตาโป่ง โลกจะกดให้แบน
    → ถ้าอัตตาอาละวาด โลกจะสอนให้สงบ

    🔥 ถูกบีบบ้าง ถูกทุบบ้าง คือบทเรียนของชีวิต
    🔥 ให้เรียนรู้ว่า เมื่อเลิกดิ้น เลิกพอง = ได้พ้นทุกข์


    ---

    🪷 เทวดาก็อยากเป็นมนุษย์

    📌 เทพอยากเกิดเป็นมนุษย์ → เพราะมนุษย์มี ข้อจำกัด
    📌 มนุษย์เห็น ความไม่เที่ยง ได้ชัดกว่าทวยเทพ
    📌 มนุษย์มี โอกาสเจริญสติ ได้เหนือกว่าเทวดา

    แต่…
    🚩 พอเกิดเป็นมนุษย์ = ลืมหมด
    🚩 แทนที่จะพอใจ = อยากใหญ่ขึ้นอีก
    🚩 แทนที่จะเห็นตามจริง = อยากเหนือมนุษย์


    ---

    💎 อยากพ้นทุกข์ = ต้องหยุดพอง

    ✅ หยุดขยายตัวเอง
    ✅ หยุดอยากเป็นใครที่เกินขีดจำกัด
    ✅ หยุดฝืนกฎธรรมชาติ

    💡 "แค่เข้าใจว่า อัตตาคือศัตรูของสติ"
    💡 "แค่รู้ว่าความอยากเกินตัว = ทุกข์"
    💡 "แค่พอใจ… ใจก็พ้นทุกข์ได้แล้ว!"

    อัตตา: พื้นที่จำกัดของจิตที่พองเกินขนาด --- 🌀 อัตตา = ห้องคับแคบ ชีวิตเปรียบเหมือน "ห้องเรียน" ที่มี ขนาดจำกัด ✔ มี เพดาน → ไม่ให้ตัวตนสูงเกินไป ✔ มี กำแพง → กั้นไม่ให้พองตัวเกินขนาด ✔ มี ขีดจำกัด → ที่ต้องเรียนรู้ แต่… 🚩 อัตตา ทำให้คนอยากใหญ่เกินห้อง 🚩 อัตตา ทำให้คนดิ้นรนฝืนเพดาน 🚩 อัตตา ทำให้คน "อึดอัด" กับตัวเอง --- 🎈 ลูกโป่งอัตตา 💡 ยิ่งโป่งมาก → ยิ่งแน่น 💡 ยิ่งแน่น → ยิ่งเครียด 💡 ยิ่งพอง → ยิ่งอึดอัด สุดท้าย… 💥 อัตตาแตกเปล่า 💥 ฝืนจนพัง 💥 ขาดลอยไปกับความฝันที่เกินตัว --- 🌱 พอดีตัว = พอดีสุข 📌 เมื่ออัตตาพอดี → ใจสงบ 📌 เมื่อเลิกอยากเป็นใครเหนือใคร → ใจสบาย 📌 เมื่อพอใจกับสิ่งที่มี → ใจคลายทุกข์ 💡 โลกสอนให้เจียมตน → ถ้าอัตตาโป่ง โลกจะกดให้แบน → ถ้าอัตตาอาละวาด โลกจะสอนให้สงบ 🔥 ถูกบีบบ้าง ถูกทุบบ้าง คือบทเรียนของชีวิต 🔥 ให้เรียนรู้ว่า เมื่อเลิกดิ้น เลิกพอง = ได้พ้นทุกข์ --- 🪷 เทวดาก็อยากเป็นมนุษย์ 📌 เทพอยากเกิดเป็นมนุษย์ → เพราะมนุษย์มี ข้อจำกัด 📌 มนุษย์เห็น ความไม่เที่ยง ได้ชัดกว่าทวยเทพ 📌 มนุษย์มี โอกาสเจริญสติ ได้เหนือกว่าเทวดา แต่… 🚩 พอเกิดเป็นมนุษย์ = ลืมหมด 🚩 แทนที่จะพอใจ = อยากใหญ่ขึ้นอีก 🚩 แทนที่จะเห็นตามจริง = อยากเหนือมนุษย์ --- 💎 อยากพ้นทุกข์ = ต้องหยุดพอง ✅ หยุดขยายตัวเอง ✅ หยุดอยากเป็นใครที่เกินขีดจำกัด ✅ หยุดฝืนกฎธรรมชาติ 💡 "แค่เข้าใจว่า อัตตาคือศัตรูของสติ" 💡 "แค่รู้ว่าความอยากเกินตัว = ทุกข์" 💡 "แค่พอใจ… ใจก็พ้นทุกข์ได้แล้ว!"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧘‍♂️ วิธีรักเป็น ผ่านการเจริญสติและเข้าใจความผูกพัน 🧘‍♀️


    ---

    🔹 ความผูกพันไม่ใช่ความเข้าใจ

    📌 หลายคนเข้าใจผิดว่า "อยู่ด้วยกันมานาน" = "เข้าใจกันดี"
    ❌ แต่ความจริง… ความคุ้นเคยอาจทำให้มองข้ามกัน
    ❌ ความผูกพันที่ไม่มีสติ อาจกลายเป็นความเฉยชาต่อกัน
    ✅ การมีสติในความรัก = รู้ตัวว่าเรามีอะไร และมีค่าขนาดไหน

    💡 "อยู่กันไปนานๆ ไม่ใช่ปัญหา... อยู่แล้วไม่เห็นค่ากันต่างหากที่เป็นปัญหา"


    ---

    🔹 กำแพงของความเป็นอื่น

    💭 คนสองคนถูกกั้นด้วย "กำแพงของความอยาก"
    👉 อยากให้เขาเป็นแบบที่เราคิด
    👉 อยากให้เขาเข้าใจเราก่อน
    👉 อยากให้เขาปรับตัวให้พอดีกับเรา

    💡 ถ้าคนหนึ่งอยากอย่าง อีกคนอยากอีกอย่าง → เดินไปกันคนละทางโดยไม่รู้ตัว

    ✅ ทางออก:
    ✔ ลดความคาดหวัง → เปิดใจรับอีกฝ่ายในสิ่งที่เขาเป็น
    ✔ เห็นค่าของกันและกัน → หมั่นสำรวจว่า "วันนี้เรามีอะไรดีๆ อยู่บ้าง"
    ✔ สื่อสารอย่างเข้าใจ → ถาม ไม่ใช่เดา / ฟัง ไม่ใช่รอพูด


    ---

    🔹 เมื่อมีสติ เราจะรักเป็น

    ✅ รักที่แท้จริง = ความพร้อมจะแบ่งปัน
    ✔ แบ่งปัน "ใจเดียว" ให้กัน
    ✔ แบ่งปัน "เวลา" เพื่อใช้ร่วมกัน
    ✔ แบ่งปัน "ความฝัน" แล้วเดินไปด้วยกัน

    💡 "รักเป็น = มองข้ามข้อบกพร่อง หมั่นเห็นใจ และเข้าใจ"
    ❌ ไม่ใช่เอาแต่เรียกร้องให้อีกฝ่ายเห็นใจเรา


    ---

    🔹 อย่ารอให้สายเกินไป

    📌 "การทำความเข้าใจกัน… ถ้าไม่รีบ อาจช้าเกินไป"
    ❌ หลายคนตระหนักถึงคุณค่าของคนรัก "เมื่อเขาหายไปแล้ว"
    ✅ แต่คนที่มีสติ… จะตระหนักได้ตั้งแต่วันนี้ ว่าอะไรมีค่า และต้องให้เวลาอะไร

    💡 "อย่าเอาคำว่า 'ไม่มีเวลา' ไปใช้กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต"
    เพราะความรัก… เติบโตได้ ด้วยเวลาที่ให้กัน ❤️

    🧘‍♂️ วิธีรักเป็น ผ่านการเจริญสติและเข้าใจความผูกพัน 🧘‍♀️ --- 🔹 ความผูกพันไม่ใช่ความเข้าใจ 📌 หลายคนเข้าใจผิดว่า "อยู่ด้วยกันมานาน" = "เข้าใจกันดี" ❌ แต่ความจริง… ความคุ้นเคยอาจทำให้มองข้ามกัน ❌ ความผูกพันที่ไม่มีสติ อาจกลายเป็นความเฉยชาต่อกัน ✅ การมีสติในความรัก = รู้ตัวว่าเรามีอะไร และมีค่าขนาดไหน 💡 "อยู่กันไปนานๆ ไม่ใช่ปัญหา... อยู่แล้วไม่เห็นค่ากันต่างหากที่เป็นปัญหา" --- 🔹 กำแพงของความเป็นอื่น 💭 คนสองคนถูกกั้นด้วย "กำแพงของความอยาก" 👉 อยากให้เขาเป็นแบบที่เราคิด 👉 อยากให้เขาเข้าใจเราก่อน 👉 อยากให้เขาปรับตัวให้พอดีกับเรา 💡 ถ้าคนหนึ่งอยากอย่าง อีกคนอยากอีกอย่าง → เดินไปกันคนละทางโดยไม่รู้ตัว ✅ ทางออก: ✔ ลดความคาดหวัง → เปิดใจรับอีกฝ่ายในสิ่งที่เขาเป็น ✔ เห็นค่าของกันและกัน → หมั่นสำรวจว่า "วันนี้เรามีอะไรดีๆ อยู่บ้าง" ✔ สื่อสารอย่างเข้าใจ → ถาม ไม่ใช่เดา / ฟัง ไม่ใช่รอพูด --- 🔹 เมื่อมีสติ เราจะรักเป็น ✅ รักที่แท้จริง = ความพร้อมจะแบ่งปัน ✔ แบ่งปัน "ใจเดียว" ให้กัน ✔ แบ่งปัน "เวลา" เพื่อใช้ร่วมกัน ✔ แบ่งปัน "ความฝัน" แล้วเดินไปด้วยกัน 💡 "รักเป็น = มองข้ามข้อบกพร่อง หมั่นเห็นใจ และเข้าใจ" ❌ ไม่ใช่เอาแต่เรียกร้องให้อีกฝ่ายเห็นใจเรา --- 🔹 อย่ารอให้สายเกินไป 📌 "การทำความเข้าใจกัน… ถ้าไม่รีบ อาจช้าเกินไป" ❌ หลายคนตระหนักถึงคุณค่าของคนรัก "เมื่อเขาหายไปแล้ว" ✅ แต่คนที่มีสติ… จะตระหนักได้ตั้งแต่วันนี้ ว่าอะไรมีค่า และต้องให้เวลาอะไร 💡 "อย่าเอาคำว่า 'ไม่มีเวลา' ไปใช้กับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต" เพราะความรัก… เติบโตได้ ด้วยเวลาที่ให้กัน ❤️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันแรกที่เข้าพื้นที่ lit nit พยายามจะจับเข่าคุยกับเจ้าที่เจ้าทางแต่ก็มองไม่เห็นว่าเข่าท่านอยู่ตรงไหน จึงได้ยืนพูดอยู่คนเดียว
    "ถ้าผมมีบุญเพียงพอให้มาพัฒนาพื้นที่นี้ ผมจะพยายามสร้างศาลาพระพุทธรูปเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่านี้คือวัดฝางในอดีต คนรุ่นหลังจะได้รู้ว่าที่นี้คือเขตวัดเราแค่มาอาศัยทำกินไม่ใช่เจ้าของ ขอให้เจตนาของผมสำเร็จและช่วยให้ผมพอจะรู้เรื่องราวของวัดในอดีตด้วยเถอะ"
    ....
    เมื่อวันก่อนป้าวัยแปดสิบเศษบิดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาคุยนู่นนี่นั่น แล้วบอกว่าเมื่อก่อนมีเจดีย์องค์ใหญ่ (ตรงที่ lit nit ทำสัญลักษณ์) แต่โดนพวกขโมยขุดเป็นโพรง แล้วก็จำไม่ได้แล้วว่าเจดีย์หายไปตอนไหน ก็มันนานเกินกว่าหกสิบปีมาแล้ว
    ....
    ความฝันหนึ่งเล็ก ๆ ของ lit nit ที่มีมาหลายปีคือ อยากสร้างศาลาพระเอาไว้สวดมนต์ แต่ไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะมีเหตุให้ได้มาบูรณะวัดร้าง มีพี่บางคนที่รู้ข่าวก็บอกว่า มันเป็นสัญญาเก่า !
    #ไม่รู้ว่าจะมีบารมีพอจะทำได้ไหม แต่ถ้าไม่เริ่มมันก็ไม่มีทางสำเร็จใช่ไหมล่ะ^^
    วันแรกที่เข้าพื้นที่ lit nit พยายามจะจับเข่าคุยกับเจ้าที่เจ้าทางแต่ก็มองไม่เห็นว่าเข่าท่านอยู่ตรงไหน จึงได้ยืนพูดอยู่คนเดียว "ถ้าผมมีบุญเพียงพอให้มาพัฒนาพื้นที่นี้ ผมจะพยายามสร้างศาลาพระพุทธรูปเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่านี้คือวัดฝางในอดีต คนรุ่นหลังจะได้รู้ว่าที่นี้คือเขตวัดเราแค่มาอาศัยทำกินไม่ใช่เจ้าของ ขอให้เจตนาของผมสำเร็จและช่วยให้ผมพอจะรู้เรื่องราวของวัดในอดีตด้วยเถอะ" .... เมื่อวันก่อนป้าวัยแปดสิบเศษบิดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาคุยนู่นนี่นั่น แล้วบอกว่าเมื่อก่อนมีเจดีย์องค์ใหญ่ (ตรงที่ lit nit ทำสัญลักษณ์) แต่โดนพวกขโมยขุดเป็นโพรง แล้วก็จำไม่ได้แล้วว่าเจดีย์หายไปตอนไหน ก็มันนานเกินกว่าหกสิบปีมาแล้ว .... ความฝันหนึ่งเล็ก ๆ ของ lit nit ที่มีมาหลายปีคือ อยากสร้างศาลาพระเอาไว้สวดมนต์ แต่ไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะมีเหตุให้ได้มาบูรณะวัดร้าง มีพี่บางคนที่รู้ข่าวก็บอกว่า มันเป็นสัญญาเก่า ! #ไม่รู้ว่าจะมีบารมีพอจะทำได้ไหม แต่ถ้าไม่เริ่มมันก็ไม่มีทางสำเร็จใช่ไหมล่ะ^^
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • 塵緣
    โลกมายา
    作詞:娃娃
    作曲:徐日勤
    ทำนอง : หวาวา
    เนื้อร้อง : สวียื่อฉวิน

    塵緣如夢 幾番起伏總不平
    โลกดุจความฝัน ผันผวนปรวนแปรแต่ไหนมา
    到如今都成煙雲
    บัดนี้เป็นเพียงหมอกเมฆา
    情也成空 宛如揮手袖底風
    รักหายลับตา ดุจลมมือโบกปัดไปมา
    幽幽一縷香 飄在深深舊夢中
    หอมหวนสุคนธา ลอยสู่ฝันเก่าแต่นานมา
    繁花落盡 一身憔悴在風裡
    มาลีร่วงลา เหนื่อยล้ากลางสายลมเอกา
    回頭時無晴也無雨
    เหลียวมองไปไร้สุขไร้โศกา
    明月小樓 孤獨無人訴情衷
    เรือนใต้จันทรา ไร้คนฟังคำเปลี่ยวเหว่ว้า
    人間有我殘夢未醒
    มีเพียงฉันไม่ตื่นฝันมายา
    漫漫長路起伏不能由我
    ยาวไกลมรรคา ลุ่มดอนเกินแรงไขว่คว้า
    人海漂泊 嚐盡人情淡泊
    คลื่นคนลอยวน ลองสิ้นน้ำใจเฉยชา
    熱情熱心 換冷淡冷漠
    ไออุ่นกลับได้ ความเย็นชาแลกมา
    任多少深情獨向寂寞
    แม้รักเท่าไหร่ก็หันสู่เอกา
    人隨風過 自在花開花又落
    คนไหลตามลม ดุจมาลาบานแล้วโรยรา
    不管世間滄桑如何
    ช่างโลกที่ผกผันอนาถา
    一城風絮 滿腹相思都沉默
    ดอกหญ้าลอยมา แรงคนึงกลายเป็นเฉยชา
    只有桂花香暗飄過
    มีเพียงหมื่นลี้หอมพัดผ่านมา

    https://youtu.be/RsT5ZUzncg0?si=LHOndBqH59NysPUM


    cr. https://www.youtube.com/results?search_query=%E9%99%B3%E6%95%8F
    塵緣 โลกมายา 作詞:娃娃 作曲:徐日勤 ทำนอง : หวาวา เนื้อร้อง : สวียื่อฉวิน 塵緣如夢 幾番起伏總不平 โลกดุจความฝัน ผันผวนปรวนแปรแต่ไหนมา 到如今都成煙雲 บัดนี้เป็นเพียงหมอกเมฆา 情也成空 宛如揮手袖底風 รักหายลับตา ดุจลมมือโบกปัดไปมา 幽幽一縷香 飄在深深舊夢中 หอมหวนสุคนธา ลอยสู่ฝันเก่าแต่นานมา 繁花落盡 一身憔悴在風裡 มาลีร่วงลา เหนื่อยล้ากลางสายลมเอกา 回頭時無晴也無雨 เหลียวมองไปไร้สุขไร้โศกา 明月小樓 孤獨無人訴情衷 เรือนใต้จันทรา ไร้คนฟังคำเปลี่ยวเหว่ว้า 人間有我殘夢未醒 มีเพียงฉันไม่ตื่นฝันมายา 漫漫長路起伏不能由我 ยาวไกลมรรคา ลุ่มดอนเกินแรงไขว่คว้า 人海漂泊 嚐盡人情淡泊 คลื่นคนลอยวน ลองสิ้นน้ำใจเฉยชา 熱情熱心 換冷淡冷漠 ไออุ่นกลับได้ ความเย็นชาแลกมา 任多少深情獨向寂寞 แม้รักเท่าไหร่ก็หันสู่เอกา 人隨風過 自在花開花又落 คนไหลตามลม ดุจมาลาบานแล้วโรยรา 不管世間滄桑如何 ช่างโลกที่ผกผันอนาถา 一城風絮 滿腹相思都沉默 ดอกหญ้าลอยมา แรงคนึงกลายเป็นเฉยชา 只有桂花香暗飄過 มีเพียงหมื่นลี้หอมพัดผ่านมา https://youtu.be/RsT5ZUzncg0?si=LHOndBqH59NysPUM cr. https://www.youtube.com/results?search_query=%E9%99%B3%E6%95%8F
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันสนั่นเกาหลีทีเดียว หลังข่าวสะเทือนใจเด็กประถมวัย 8 ปี ถูกแทงกระหน่ำเสียชีวิตในโรงเรียน พ่อจัดงานศพลูกพร้อมเรียกร้องให้ศิลปินที่ลูกสาวชื่นชอบอย่าง “จางวอนยอง” จากวง “IVE” มาร่วมงานศพ เพราะเป็นความฝันของลูกสาวที่อยากเจอตัวจริง ทำเอาหลายคนไม่พอใจบอกการเรียกร้องเหมือนเป็นการบังคับทำศิลปินลำบากใจหวั่นสังคมเอาเป็นแบบอย่าง

    เรื่องสะเทือนใจในประเทศเกาหลีใต้ตอนนี้ต้องยกให้คดีของเด็กหญิง “ฮานึล” ที่ต้องมาเสียชีวิตลงในวัยเพียงแค่ 8 ปีเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนประถมที่เธอศึกษาอยู่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000014793

    #MGROnline #เกาหลีใต้ #ฮานึล #จางวอนยอง #IVE
    กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันสนั่นเกาหลีทีเดียว หลังข่าวสะเทือนใจเด็กประถมวัย 8 ปี ถูกแทงกระหน่ำเสียชีวิตในโรงเรียน พ่อจัดงานศพลูกพร้อมเรียกร้องให้ศิลปินที่ลูกสาวชื่นชอบอย่าง “จางวอนยอง” จากวง “IVE” มาร่วมงานศพ เพราะเป็นความฝันของลูกสาวที่อยากเจอตัวจริง ทำเอาหลายคนไม่พอใจบอกการเรียกร้องเหมือนเป็นการบังคับทำศิลปินลำบากใจหวั่นสังคมเอาเป็นแบบอย่าง • เรื่องสะเทือนใจในประเทศเกาหลีใต้ตอนนี้ต้องยกให้คดีของเด็กหญิง “ฮานึล” ที่ต้องมาเสียชีวิตลงในวัยเพียงแค่ 8 ปีเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนประถมที่เธอศึกษาอยู่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000014793 • #MGROnline #เกาหลีใต้ #ฮานึล #จางวอนยอง #IVE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความฝันของเนทันยาฮูกำลังจะเป็นจริง ชาวปาเลสไตน์จะหมดสิ้นไปจากกาซา!

    ทรัมป์จะเปลี่ยนกาซากลายเป็นเพชร เนื่องจากตำแหน่งของกาซาตั้งอยู่ริมทะเล เป็นตำแหน่งที่เหมาะสม

    ในคำพูดของทรัมป์ ไม่เคยเหลียวแลต่อชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ที่เป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้ ทรัมป์มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์บนดินแดนแห่งนี้ โดยใช้ข้ออ้างเรื่องการสร้าง "สันติภาพ"
    ความฝันของเนทันยาฮูกำลังจะเป็นจริง ชาวปาเลสไตน์จะหมดสิ้นไปจากกาซา! ทรัมป์จะเปลี่ยนกาซากลายเป็นเพชร เนื่องจากตำแหน่งของกาซาตั้งอยู่ริมทะเล เป็นตำแหน่งที่เหมาะสม ในคำพูดของทรัมป์ ไม่เคยเหลียวแลต่อชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ที่เป็นเจ้าของดินแดนแห่งนี้ ทรัมป์มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์บนดินแดนแห่งนี้ โดยใช้ข้ออ้างเรื่องการสร้าง "สันติภาพ"
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • ฉันเอามีดทิ่มแทง
    ความฝันของตัวเอง
    ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    ทำมันอยู่อย่างนั้น
    เพียงเพราะคิดว่า
    มันไม่มีทางเป็นจริง.

    จากหนังสือ |แล้วสักวันมันจะหายดี

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #แล้วสักวันมันจะหายดี
    ฉันเอามีดทิ่มแทง ความฝันของตัวเอง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำมันอยู่อย่างนั้น เพียงเพราะคิดว่า มันไม่มีทางเป็นจริง. จากหนังสือ |แล้วสักวันมันจะหายดี #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #แล้วสักวันมันจะหายดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔍 รวมเคล็ดลับแก้ปัญหาเล็ดในวัยทอง ที่คุณควรรู้!

    ปัญหาปัสสาวะเล็ดเป็นเรื่องที่ผู้หญิงวัยทองหลายคนต้องเจอ แต่เรามีทางแก้ไข! 💡 ด้วยการฟื้นฟูอุ้งเชิงกรานและเทคโนโลยีการดูแลที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและกระชับ ลดปัญหาปัสสาวะเล็ดได้อย่างเห็นผล 🩺 สุขภาพดีไม่ใช่แค่ความฝัน เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้เพื่อชีวิตที่มั่นใจในทุกสถานการณ์!
    .
    สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองคิวใน Comment
    .
    #วัยทอง #ปัสสาวะเล็ด #ดูแลตัวเอง #สุขภาพวัยทอง #วัยทองต้องใส่ใจ #ผู้หญิงยุคใหม่ #ฮอร์โมนวัยทอง #ผู้หญิงวัยทอง #ปรับสมดุลฮอร์โมน #สุขภาพดีในวัยทอง #ฮอร์โมน #DrJim #VagiClinic
    🔍 รวมเคล็ดลับแก้ปัญหาเล็ดในวัยทอง ที่คุณควรรู้! ปัญหาปัสสาวะเล็ดเป็นเรื่องที่ผู้หญิงวัยทองหลายคนต้องเจอ แต่เรามีทางแก้ไข! 💡 ด้วยการฟื้นฟูอุ้งเชิงกรานและเทคโนโลยีการดูแลที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและกระชับ ลดปัญหาปัสสาวะเล็ดได้อย่างเห็นผล 🩺 สุขภาพดีไม่ใช่แค่ความฝัน เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้เพื่อชีวิตที่มั่นใจในทุกสถานการณ์! . สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองคิวใน Comment . #วัยทอง #ปัสสาวะเล็ด #ดูแลตัวเอง #สุขภาพวัยทอง #วัยทองต้องใส่ใจ #ผู้หญิงยุคใหม่ #ฮอร์โมนวัยทอง #ผู้หญิงวัยทอง #ปรับสมดุลฮอร์โมน #สุขภาพดีในวัยทอง #ฮอร์โมน #DrJim #VagiClinic
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 611 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • น้ำตาแห่งมิวนิค

    เสียงเครื่องยนต์ขาดช่วงกลางสายลม ไฟลุกโหมกลางหิมะขาวพร่างพราว รอยยิ้มแห่งชัยชนะเมื่อคราว กลับกลายเป็นเถ้าถ่าน ล่องลอยไป

    เหล่าปีศาจแดงสิ้นแสงกลางฟ้า ความฝันล่องลอยไปกลางสายตา บอกลาฟุตบอลที่รัก ตลอดมา เสียงเชียร์เคยก้องฟ้า กลับเงียบงัน

    * น้ำตาหลั่งริน มิวนิคคืนนี้�ชีวิตที่มี ดับลงทันใด นักรบสนามหญ้า จากไป แต่หัวใจ…ยังคงอยู่ที่เดิม

    ใครกันที่ต้องรับผิดชอบ โยนความผิดลงบนบ่าคนเดียว กัปตันเจมส์ แบกรับความเปล่าเปลี่ยว ทั้งที่เขา…คือผู้พยายาม

    ** โลกจารึกชื่อพวกเขาตลอดไป ร่างดับไปแต่ตำนานยังหายใจ แมนเชสเตอร์ ยังคงก้าวต่อไป เพื่อพวกเค้า ที่จากไปในวันนั้น

    ซ้ำ *, **

    เสียงตะโกนดังก้องขึ้นอีกครา "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่สิ้น" แม้ฟ้าแยกดินสะเทือนทั่วทั้งถิ่น ตำนานยังโบยบิน อยู่เหนือกาลเวลา

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 062314 ก.พ. 2568

    #MunichAirDisaster #แมนยูไนเต็ด #TearsOfMunich #BusbyBabes #ManchesterUnited #NeverForget #MUFC #FootballLegends #RedDevils #EternalGlory
    น้ำตาแห่งมิวนิค เสียงเครื่องยนต์ขาดช่วงกลางสายลม ไฟลุกโหมกลางหิมะขาวพร่างพราว รอยยิ้มแห่งชัยชนะเมื่อคราว กลับกลายเป็นเถ้าถ่าน ล่องลอยไป เหล่าปีศาจแดงสิ้นแสงกลางฟ้า ความฝันล่องลอยไปกลางสายตา บอกลาฟุตบอลที่รัก ตลอดมา เสียงเชียร์เคยก้องฟ้า กลับเงียบงัน * น้ำตาหลั่งริน มิวนิคคืนนี้�ชีวิตที่มี ดับลงทันใด นักรบสนามหญ้า จากไป แต่หัวใจ…ยังคงอยู่ที่เดิม ใครกันที่ต้องรับผิดชอบ โยนความผิดลงบนบ่าคนเดียว กัปตันเจมส์ แบกรับความเปล่าเปลี่ยว ทั้งที่เขา…คือผู้พยายาม ** โลกจารึกชื่อพวกเขาตลอดไป ร่างดับไปแต่ตำนานยังหายใจ แมนเชสเตอร์ ยังคงก้าวต่อไป เพื่อพวกเค้า ที่จากไปในวันนั้น ซ้ำ *, ** เสียงตะโกนดังก้องขึ้นอีกครา "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่สิ้น" แม้ฟ้าแยกดินสะเทือนทั่วทั้งถิ่น ตำนานยังโบยบิน อยู่เหนือกาลเวลา ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 062314 ก.พ. 2568 #MunichAirDisaster #แมนยูไนเต็ด #TearsOfMunich #BusbyBabes #ManchesterUnited #NeverForget #MUFC #FootballLegends #RedDevils #EternalGlory
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 718 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • ความฝัน ความเพ้อฝันมันก็เกิดขึ้นในจิตมนุษย์เสมอ
    ความฝัน ความเพ้อฝันมันก็เกิดขึ้นในจิตมนุษย์เสมอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💐เมื่อเสียงระฆังวันตรุษจีนดังขึ้น เราก็ได้ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและความสุข ในช่วงเวลาพิเศษนี้ ผมอยากส่งคำอวยพรที่จริงใจที่สุดให้กับทุกท่าน ขอให้ทุกท่านสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา และทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีในปีใหม่นี้!
    .
    วันตรุษจีนเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เป็นช่วงเวลาแห่งการขอบคุณและอวยพร ขอให้ทุกท่านได้ใช้เวลาอันมีค่ากับครอบครัว อบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความสุข ไม่ว่าปีที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร ปีใหม่ก็มักนำมาซึ่งความหวังและโอกาสใหม่ๆ ขอให้ทุกท่านจับโอกาสทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา กล้าที่จะไล่ตามความฝัน และพบกับความสำเร็จและความสุข
    .
    ขอให้สุขภาพของทุกท่านแข็งแรงดั่งต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม หน้าที่การงานราบรื่นดั่งสายลมที่พัดผ่าน ความมั่งคั่งไหลมาเทมาดั่งแม่น้ำที่ไหลไม่หยุด และครอบครัวมีความสุขดั่งสวนดอกไม้ที่เบ่งบาน ขอให้ทุกวันเต็มไปด้วยแสงแดดและเสียงหัวเราะ ทุกช่วงเวลาอบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น
    .
    ปีใหม่นี้ ขอให้ทุกท่านมีโชคดี มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และพบแต่สิ่งดีๆในชีวิต!
    .
    สุขสันต์วันตรุษจีน ขอให้ร่ำรวยเงินทอง!
    希望这些祝福文章能为你们带来新年的喜悦与好运!🎉🎊
    💐เมื่อเสียงระฆังวันตรุษจีนดังขึ้น เราก็ได้ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและความสุข ในช่วงเวลาพิเศษนี้ ผมอยากส่งคำอวยพรที่จริงใจที่สุดให้กับทุกท่าน ขอให้ทุกท่านสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา และทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีในปีใหม่นี้! . วันตรุษจีนเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เป็นช่วงเวลาแห่งการขอบคุณและอวยพร ขอให้ทุกท่านได้ใช้เวลาอันมีค่ากับครอบครัว อบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความสุข ไม่ว่าปีที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร ปีใหม่ก็มักนำมาซึ่งความหวังและโอกาสใหม่ๆ ขอให้ทุกท่านจับโอกาสทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา กล้าที่จะไล่ตามความฝัน และพบกับความสำเร็จและความสุข . ขอให้สุขภาพของทุกท่านแข็งแรงดั่งต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม หน้าที่การงานราบรื่นดั่งสายลมที่พัดผ่าน ความมั่งคั่งไหลมาเทมาดั่งแม่น้ำที่ไหลไม่หยุด และครอบครัวมีความสุขดั่งสวนดอกไม้ที่เบ่งบาน ขอให้ทุกวันเต็มไปด้วยแสงแดดและเสียงหัวเราะ ทุกช่วงเวลาอบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น . ปีใหม่นี้ ขอให้ทุกท่านมีโชคดี มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และพบแต่สิ่งดีๆในชีวิต! . สุขสันต์วันตรุษจีน ขอให้ร่ำรวยเงินทอง! 希望这些祝福文章能为你们带来新年的喜悦与好运!🎉🎊
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เราเท่าเทียมกัน วันแห่งเสรีภาพ

    วันนี้คือวันใหม่ ประวัติศาสตร์ได้จารึก สิทธิของเรา ไม่ใช่แค่ฝันที่ไกลลิบ จูงมือเธอเดินไป หัวใจเต็มไปด้วยความหวัง วันนี้กฎหมายไม่แบ่งแยกเราอีกแล้ว

    เสียงหัวใจที่รอคอย บอกให้โลกรู้ว่าเราเท่าเทียม ปลดปล่อยความฝันที่เคยปิดไว้ เปิดประตูใจ ก้าวไปด้วยกัน

    * เพราะรักไม่เคยจำกัดเพศ ไม่ว่าฉันหรือเธอ เราเท่าเทียมกันในวันนี้ วันแห่งเสรีภาพ ยี่สิบสาม มกราคม สองห้าหกแปด เสียงหัวใจดังทั่วแผ่นดิน ร่วมเขียนตำนานบทใหม่ไปด้วยกัน

    จากอดีตถึงวันนี้ เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เราก็ไม่เคยหยุดฝัน ยืนหยัดเพื่อความจริง มือในมือเราแน่นแฟ้น ความรักของเราคือพลัง วันนี้แสงสว่างสะท้อนในดวงตา

    เสียงหัวใจที่รอคอย บอกให้โลกรู้ว่าเราเท่าเทียม ปลดปล่อยความฝันที่เคยปิดไว้ เปิดประตูใจ ก้าวไปด้วยกัน

    ซ้ำ *

    ปลดปล่อยความฝันที่เรามี กฎหมายไม่ใช่กำแพงอีกต่อไป เราจะยืนเคียงข้างกันไป ให้โลกได้เห็นพลังรักของเรา

    ซ้ำ *

    ยี่สิบสาม มกราคม สองห้าหกแปด วันที่รักและสิทธิเสรีภาพได้พบกัน วันนี้เรายืนด้วยกัน … อย่างเท่าเทียม

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 230600 ม.ค. 2568
    เราเท่าเทียมกัน วันแห่งเสรีภาพ วันนี้คือวันใหม่ ประวัติศาสตร์ได้จารึก สิทธิของเรา ไม่ใช่แค่ฝันที่ไกลลิบ จูงมือเธอเดินไป หัวใจเต็มไปด้วยความหวัง วันนี้กฎหมายไม่แบ่งแยกเราอีกแล้ว เสียงหัวใจที่รอคอย บอกให้โลกรู้ว่าเราเท่าเทียม ปลดปล่อยความฝันที่เคยปิดไว้ เปิดประตูใจ ก้าวไปด้วยกัน * เพราะรักไม่เคยจำกัดเพศ ไม่ว่าฉันหรือเธอ เราเท่าเทียมกันในวันนี้ วันแห่งเสรีภาพ ยี่สิบสาม มกราคม สองห้าหกแปด เสียงหัวใจดังทั่วแผ่นดิน ร่วมเขียนตำนานบทใหม่ไปด้วยกัน จากอดีตถึงวันนี้ เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เราก็ไม่เคยหยุดฝัน ยืนหยัดเพื่อความจริง มือในมือเราแน่นแฟ้น ความรักของเราคือพลัง วันนี้แสงสว่างสะท้อนในดวงตา เสียงหัวใจที่รอคอย บอกให้โลกรู้ว่าเราเท่าเทียม ปลดปล่อยความฝันที่เคยปิดไว้ เปิดประตูใจ ก้าวไปด้วยกัน ซ้ำ * ปลดปล่อยความฝันที่เรามี กฎหมายไม่ใช่กำแพงอีกต่อไป เราจะยืนเคียงข้างกันไป ให้โลกได้เห็นพลังรักของเรา ซ้ำ * ยี่สิบสาม มกราคม สองห้าหกแปด วันที่รักและสิทธิเสรีภาพได้พบกัน วันนี้เรายืนด้วยกัน … อย่างเท่าเทียม ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 230600 ม.ค. 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 12 0 รีวิว
Pages Boosts