• “Amazon เผชิญศึกกฎหมายในฝรั่งเศส: ใบอนุญาตดาวเทียมอินเทอร์เน็ตถูกท้าทาย”

    Amazon ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมของฝรั่งเศส (Arcep) ให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับโครงการดาวเทียมอินเทอร์เน็ตเป็นเวลา 10 ปี เพื่อสร้างเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) แข่งกับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง SpaceX และ OneWeb อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงาน CFE-CGC Telecoms ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสูงสุดของฝรั่งเศสเพื่อขอให้ยกเลิกการอนุญาตดังกล่าว

    แรงงานมองว่าการให้สิทธิ์ Amazon อาจสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากข้อมูลการสื่อสารอาจถูกควบคุมโดยบริษัทต่างชาติ อีกทั้งยังตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการอนุมัติและผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมฝรั่งเศส

    กรณีนี้ถือเป็นการทดสอบครั้งใหญ่สำหรับความทะเยอทะยานของ Amazon ในการเข้าสู่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือภูมิภาคที่โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม

    แม้จะมีความท้าทายทางกฎหมาย แต่ Amazon ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการดาวเทียม Kuiper ที่ตั้งเป้าจะให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก และมองว่าการแข่งขันกับ SpaceX จะเป็นแรงผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้ใช้ได้เร็วขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การอนุญาตจาก Arcep
    Amazon ได้สิทธิ์ใช้คลื่นความถี่ดาวเทียม 10 ปี
    โครงการ Kuiper ตั้งเป้าให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก

    การฟ้องร้องโดยสหภาพแรงงานฝรั่งเศส
    ยื่นต่อศาลสูงสุดเพื่อยกเลิกใบอนุญาต
    ตั้งข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใสและผลกระทบต่อการแข่งขัน

    เป้าหมายของ Amazon
    แข่งขันกับ SpaceX และ OneWeb ในตลาดดาวเทียมอินเทอร์เน็ต
    เน้นพื้นที่ชนบทและภูมิภาคที่ขาดโครงสร้างพื้นฐาน

    ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล
    การควบคุมข้อมูลโดยบริษัทต่างชาติอาจเสี่ยงต่อความมั่นคง
    อาจกระทบต่อผู้ให้บริการโทรคมนาคมท้องถิ่น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/amazon039s-satellite-internet-licence-faces-legal-challenge-in-france
    🚀 “Amazon เผชิญศึกกฎหมายในฝรั่งเศส: ใบอนุญาตดาวเทียมอินเทอร์เน็ตถูกท้าทาย” Amazon ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมของฝรั่งเศส (Arcep) ให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับโครงการดาวเทียมอินเทอร์เน็ตเป็นเวลา 10 ปี เพื่อสร้างเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) แข่งกับผู้เล่นรายใหญ่อย่าง SpaceX และ OneWeb อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงาน CFE-CGC Telecoms ได้ยื่นฟ้องต่อศาลสูงสุดของฝรั่งเศสเพื่อขอให้ยกเลิกการอนุญาตดังกล่าว แรงงานมองว่าการให้สิทธิ์ Amazon อาจสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากข้อมูลการสื่อสารอาจถูกควบคุมโดยบริษัทต่างชาติ อีกทั้งยังตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการอนุมัติและผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมฝรั่งเศส กรณีนี้ถือเป็นการทดสอบครั้งใหญ่สำหรับความทะเยอทะยานของ Amazon ในการเข้าสู่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทหรือภูมิภาคที่โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุม แม้จะมีความท้าทายทางกฎหมาย แต่ Amazon ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการดาวเทียม Kuiper ที่ตั้งเป้าจะให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก และมองว่าการแข่งขันกับ SpaceX จะเป็นแรงผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าถึงผู้ใช้ได้เร็วขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การอนุญาตจาก Arcep ➡️ Amazon ได้สิทธิ์ใช้คลื่นความถี่ดาวเทียม 10 ปี ➡️ โครงการ Kuiper ตั้งเป้าให้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ✅ การฟ้องร้องโดยสหภาพแรงงานฝรั่งเศส ➡️ ยื่นต่อศาลสูงสุดเพื่อยกเลิกใบอนุญาต ➡️ ตั้งข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใสและผลกระทบต่อการแข่งขัน ✅ เป้าหมายของ Amazon ➡️ แข่งขันกับ SpaceX และ OneWeb ในตลาดดาวเทียมอินเทอร์เน็ต ➡️ เน้นพื้นที่ชนบทและภูมิภาคที่ขาดโครงสร้างพื้นฐาน ‼️ ข้อกังวลด้านความมั่นคงและข้อมูล ⛔ การควบคุมข้อมูลโดยบริษัทต่างชาติอาจเสี่ยงต่อความมั่นคง ⛔ อาจกระทบต่อผู้ให้บริการโทรคมนาคมท้องถิ่น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/amazon039s-satellite-internet-licence-faces-legal-challenge-in-france
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Amazon's satellite internet licence faces legal challenge in France
    (Reuters) -A French union filed a legal challenge on Monday against a decision by the country's telecoms regulator to grant radio spectrum to Amazon's satellite internet service, the biggest test yet of the U.S. tech giant's broadband ambitions.
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • Intel ปฏิเสธการได้ข้อมูลลับจาก TSMC

    Lip-Bu Tan ซีอีโอของ Intel ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่า Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหารระดับสูงของ TSMC ได้นำข้อมูลเชิงลึกด้านเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูงมาให้ Intel หลังจากเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดย Tan ย้ำว่า “นี่เป็นเพียงข่าวลือและการคาดเดา เราเคารพทรัพย์สินทางปัญญา”

    การสอบสวนของไต้หวัน
    อัยการไต้หวันได้เริ่มการสอบสวนในระดับความมั่นคงแห่งชาติ โดยตรวจสอบว่า Lo อาจนำข้อมูลกระบวนการผลิตขั้นสูง เช่น N2, A16 และ A14 ไปเผยแพร่ให้กับ Intel หรือไม่ รายงานบางฉบับระบุว่า Lo เคยขอเอกสารภายในก่อนลาออกจาก TSMC ซึ่งสร้างความกังวลว่าข้อมูลอาจถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

    ความแตกต่างด้านเทคโนโลยี
    แม้จะมีข้อสงสัย แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เทคโนโลยีของ Intel (18A และ 14A) แตกต่างจากของ TSMC อย่างมาก ทำให้ข้อมูลที่ Lo อาจนำออกไปไม่สามารถนำมาใช้โดยตรงกับกระบวนการผลิตของ Intel ได้ อย่างมากก็อาจใช้เพื่อการวิเคราะห์เชิงแข่งขันเท่านั้น

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    กรณีนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง Intel และ TSMC ในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูง การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป และอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและพันธมิตรในอุตสาหกรรม หากพบว่ามีการละเมิดจริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Intel ปฏิเสธข่าวลือเรื่องการได้ข้อมูลลับจาก TSMC
    ซีอีโอ Lip-Bu Tan ยืนยันว่า “เคารพทรัพย์สินทางปัญญา”

    อัยการไต้หวันสอบสวน Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC
    ตรวจสอบการขอเอกสารภายในเกี่ยวกับเทคโนโลยี N2, A16, A14

    เทคโนโลยี Intel (18A, 14A) แตกต่างจาก TSMC
    ทำให้ข้อมูลที่อาจถูกนำออกมาไม่สามารถใช้ได้โดยตรง

    กรณีนี้สะท้อนการแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและพันธมิตร

    ความเสี่ยงด้านความมั่นคงและทรัพย์สินทางปัญญา
    หากพบการละเมิดจริง อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการลงทุน

    ความไม่แน่นอนต่ออนาคตของ Intel และ TSMC
    การสอบสวนที่ยืดเยื้ออาจสร้างแรงกดดันต่อทั้งสองบริษัท

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-ceo-rejects-reports-the-company-is-obtaining-tsmc-secrets-from-former-executive-taiwans-investigation-into-intels-controversial-recent-hire-continues
    🏭 Intel ปฏิเสธการได้ข้อมูลลับจาก TSMC Lip-Bu Tan ซีอีโอของ Intel ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่า Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหารระดับสูงของ TSMC ได้นำข้อมูลเชิงลึกด้านเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูงมาให้ Intel หลังจากเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดย Tan ย้ำว่า “นี่เป็นเพียงข่าวลือและการคาดเดา เราเคารพทรัพย์สินทางปัญญา” 🔎 การสอบสวนของไต้หวัน อัยการไต้หวันได้เริ่มการสอบสวนในระดับความมั่นคงแห่งชาติ โดยตรวจสอบว่า Lo อาจนำข้อมูลกระบวนการผลิตขั้นสูง เช่น N2, A16 และ A14 ไปเผยแพร่ให้กับ Intel หรือไม่ รายงานบางฉบับระบุว่า Lo เคยขอเอกสารภายในก่อนลาออกจาก TSMC ซึ่งสร้างความกังวลว่าข้อมูลอาจถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ⚙️ ความแตกต่างด้านเทคโนโลยี แม้จะมีข้อสงสัย แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เทคโนโลยีของ Intel (18A และ 14A) แตกต่างจากของ TSMC อย่างมาก ทำให้ข้อมูลที่ Lo อาจนำออกไปไม่สามารถนำมาใช้โดยตรงกับกระบวนการผลิตของ Intel ได้ อย่างมากก็อาจใช้เพื่อการวิเคราะห์เชิงแข่งขันเท่านั้น 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ กรณีนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง Intel และ TSMC ในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูง การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไป และอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและพันธมิตรในอุตสาหกรรม หากพบว่ามีการละเมิดจริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Intel ปฏิเสธข่าวลือเรื่องการได้ข้อมูลลับจาก TSMC ➡️ ซีอีโอ Lip-Bu Tan ยืนยันว่า “เคารพทรัพย์สินทางปัญญา” ✅ อัยการไต้หวันสอบสวน Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC ➡️ ตรวจสอบการขอเอกสารภายในเกี่ยวกับเทคโนโลยี N2, A16, A14 ✅ เทคโนโลยี Intel (18A, 14A) แตกต่างจาก TSMC ➡️ ทำให้ข้อมูลที่อาจถูกนำออกมาไม่สามารถใช้ได้โดยตรง ✅ กรณีนี้สะท้อนการแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ➡️ อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและพันธมิตร ‼️ ความเสี่ยงด้านความมั่นคงและทรัพย์สินทางปัญญา ⛔ หากพบการละเมิดจริง อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการลงทุน ‼️ ความไม่แน่นอนต่ออนาคตของ Intel และ TSMC ⛔ การสอบสวนที่ยืดเยื้ออาจสร้างแรงกดดันต่อทั้งสองบริษัท https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-ceo-rejects-reports-the-company-is-obtaining-tsmc-secrets-from-former-executive-taiwans-investigation-into-intels-controversial-recent-hire-continues
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.30

    อำนาจหน้าที่ของตำรวจในฐานะผู้รักษากฎหมายมิได้จำกัดอยู่เพียงการปรากฏกายในเครื่องแบบ แต่คือการเป็นกลไกสำคัญที่สุดในการบังคับใช้กฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสาธารณชน บทบาทหลักของตำรวจจึงครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันการกระทำผิดทางอาญา การป้องปรามมิให้เกิดความวุ่นวาย ไปจนถึงภารกิจอันละเอียดอ่อนของการสืบสวนสอบสวนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด การใช้อำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การเรียกตรวจสอบ การจับกุม หรือการควบคุมตัวชั่วคราว จึงต้องอยู่ภายใต้กรอบของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติหน้าที่อย่างชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นที่จะทำให้อำนาจรัฐมีความชอบธรรมและได้รับการยอมรับจากประชาชน ในแง่ของการสืบสวน ตำรวจคือด่านแรกที่ต้องรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงให้แก่การพิจารณาคดีในชั้นอัยการและศาล การตัดสินใจทุกครั้ง ตั้งแต่การลงบันทึกประจำวันไปจนถึงการสรุปสำนวนคดี ล้วนมีผลกระทบโดยตรงต่อเสรีภาพและสิทธิของบุคคล รวมถึงความยุติธรรมที่สังคมคาดหวัง การเป็นเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายจึงหมายถึงการรับผิดชอบต่อการรักษาหลักนิติรัฐและนิติธรรมอย่างแท้จริง

    ภารกิจในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจเป็นไปเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์พื้นฐานของรัฐและประชาชน การป้องกันอาชญากรรมมิใช่เพียงการลาดตระเวนหรือการตั้งจุดตรวจ แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์อาชญากรรมเชิงพื้นที่และเชิงสังคม การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค เพื่อขจัดช่องโหว่และปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการกระทำผิด สำหรับการสืบสวนอาชญากรรม ตำรวจต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญในการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ การสอบปากคำ และการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อเชื่อมโยงการกระทำผิดไปยังผู้ต้องหาได้อย่างปราศจากข้อสงสัย หน้าที่เหล่านี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อการลงโทษเท่านั้น แต่เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เจ้าพนักงานตำรวจจึงเป็นผู้ถืออำนาจตามกฎหมายที่ต้องใช้ดุลยพินิจภายใต้ความรับผิดชอบอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ความซับซ้อนของอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ทั้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติ บทบาทของตำรวจจึงต้องพัฒนาตามทันเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

    ดังนั้น ตำรวจจึงเป็นมากกว่าผู้จับกุมหรือผู้สอบสวน แต่เป็นเสาหลักแห่งการบังคับใช้กฎหมายที่สร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นในชีวิตประจำวันของพลเมืองทุกคน การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจคือการแสดงออกถึงอำนาจอธิปไตยของรัฐในการคุ้มครองพลเมืองภายใต้หลักนิติธรรม ความสำเร็จของภารกิจตำรวจจึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเข้มแข็งของระบบกฎหมายในสังคม การมุ่งมั่นในจรรยาบรรณ การพัฒนาความรู้ทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และการยึดมั่นในความยุติธรรม จะเป็นเกราะป้องกันและเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อให้สังคมไทยยังคงไว้ซึ่งความสงบสุขและความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายใต้ร่มเงาของกฎหมายตลอดไป
    บทความกฎหมาย EP.30 อำนาจหน้าที่ของตำรวจในฐานะผู้รักษากฎหมายมิได้จำกัดอยู่เพียงการปรากฏกายในเครื่องแบบ แต่คือการเป็นกลไกสำคัญที่สุดในการบังคับใช้กฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสาธารณชน บทบาทหลักของตำรวจจึงครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันการกระทำผิดทางอาญา การป้องปรามมิให้เกิดความวุ่นวาย ไปจนถึงภารกิจอันละเอียดอ่อนของการสืบสวนสอบสวนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด การใช้อำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การเรียกตรวจสอบ การจับกุม หรือการควบคุมตัวชั่วคราว จึงต้องอยู่ภายใต้กรอบของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติหน้าที่อย่างชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นที่จะทำให้อำนาจรัฐมีความชอบธรรมและได้รับการยอมรับจากประชาชน ในแง่ของการสืบสวน ตำรวจคือด่านแรกที่ต้องรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงให้แก่การพิจารณาคดีในชั้นอัยการและศาล การตัดสินใจทุกครั้ง ตั้งแต่การลงบันทึกประจำวันไปจนถึงการสรุปสำนวนคดี ล้วนมีผลกระทบโดยตรงต่อเสรีภาพและสิทธิของบุคคล รวมถึงความยุติธรรมที่สังคมคาดหวัง การเป็นเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายจึงหมายถึงการรับผิดชอบต่อการรักษาหลักนิติรัฐและนิติธรรมอย่างแท้จริง ภารกิจในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจเป็นไปเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์พื้นฐานของรัฐและประชาชน การป้องกันอาชญากรรมมิใช่เพียงการลาดตระเวนหรือการตั้งจุดตรวจ แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์อาชญากรรมเชิงพื้นที่และเชิงสังคม การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค เพื่อขจัดช่องโหว่และปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการกระทำผิด สำหรับการสืบสวนอาชญากรรม ตำรวจต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญในการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ การสอบปากคำ และการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อเชื่อมโยงการกระทำผิดไปยังผู้ต้องหาได้อย่างปราศจากข้อสงสัย หน้าที่เหล่านี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อการลงโทษเท่านั้น แต่เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เจ้าพนักงานตำรวจจึงเป็นผู้ถืออำนาจตามกฎหมายที่ต้องใช้ดุลยพินิจภายใต้ความรับผิดชอบอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ความซับซ้อนของอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ทั้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติ บทบาทของตำรวจจึงต้องพัฒนาตามทันเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ดังนั้น ตำรวจจึงเป็นมากกว่าผู้จับกุมหรือผู้สอบสวน แต่เป็นเสาหลักแห่งการบังคับใช้กฎหมายที่สร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นในชีวิตประจำวันของพลเมืองทุกคน การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจคือการแสดงออกถึงอำนาจอธิปไตยของรัฐในการคุ้มครองพลเมืองภายใต้หลักนิติธรรม ความสำเร็จของภารกิจตำรวจจึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเข้มแข็งของระบบกฎหมายในสังคม การมุ่งมั่นในจรรยาบรรณ การพัฒนาความรู้ทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และการยึดมั่นในความยุติธรรม จะเป็นเกราะป้องกันและเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อให้สังคมไทยยังคงไว้ซึ่งความสงบสุขและความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายใต้ร่มเงาของกฎหมายตลอดไป
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 Reviews
  • PCIe Finger ของ Nvidia โผล่ขายในจีน

    รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า ชิ้นส่วนเชื่อมต่อ PCIe ของการ์ดจอ Nvidia GeForce RTX 5090 และ RTX Pro 6000 Blackwell ที่เคยถูกมองว่าเป็นชิ้นส่วนหายาก ตอนนี้สามารถหาซื้อได้ในแพลตฟอร์ม e-commerce ของจีน เช่น Goofish และ Xianyu ในราคาประมาณ $19–$25 เท่านั้น

    เหตุการณ์ที่ทำให้ชิ้นส่วนนี้เป็นที่จับตามอง
    ก่อนหน้านี้มีกรณีการ์ดจอราคาแพงถึง $10,000 เสียหายเพราะตัวเชื่อมต่อ PCIe หักจากการขนส่ง และอีกกรณีเกิดจากการติดตั้งระบบระบายความร้อนผิดพลาด Nvidia ถึงกับยอมเปลี่ยนการ์ดใหม่ทั้งใบให้ลูกค้า แม้จะเป็นความผิดพลาดจากผู้ใช้เอง ทำให้หลายคนสงสัยว่าชิ้นส่วนนี้ทำไมถึงไม่สามารถหาซื้อได้อย่างเป็นทางการ

    ความกังวลของช่างซ่อมและผู้ใช้
    ช่างซ่อมการ์ดจอหลายรายบ่นว่าการหาชิ้นส่วน PCIe connector จาก Nvidia เป็นไปไม่ได้เลย ทั้งที่มันเป็นเพียงชิ้นส่วนพื้นฐาน การที่ Nvidia ไม่ขายอะไหล่แยกทำให้ผู้ใช้ทั่วไปและร้านซ่อมต้องพึ่งพาตลาดมือสองหรือชิ้นส่วนที่ถูกถอดออกมา

    มิติทางธุรกิจและภาพลักษณ์
    แม้ Nvidia จะยอมเปลี่ยนการ์ดให้ลูกค้ารายใหญ่ แต่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าบริษัทอาจทำเช่นนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกระแสลบจากสื่อและผู้ใช้ที่มีชื่อเสียง การที่ชิ้นส่วนราคาถูกนี้สามารถซ่อมการ์ดราคาแพงได้สะท้อนถึงความไม่สมดุลในนโยบายการจัดจำหน่ายอะไหล่ของ Nvidia

    สรุปประเด็นสำคัญ
    PCIe Finger ของ Nvidia มีขายในจีน
    ราคาเพียง $19–$25 บนแพลตฟอร์ม Goofish และ Xianyu

    กรณีการ์ดจอเสียหายราคา $10,000
    เกิดจากการขนส่งและการติดตั้งระบบระบายความร้อนผิดพลาด

    Nvidia ยอมเปลี่ยนการ์ดใหม่ให้ลูกค้า
    แม้จะเป็นความผิดพลาดจากผู้ใช้เอง

    การไม่ขายอะไหล่แยกอย่างเป็นทางการ
    ทำให้ผู้ใช้และช่างซ่อมต้องพึ่งพาตลาดมือสอง

    ข้อสงสัยด้านภาพลักษณ์และธุรกิจ
    Nvidia อาจเลือกเปลี่ยนการ์ดเพื่อหลีกเลี่ยงกระแสลบจากผู้ใช้ที่มีชื่อเสียง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-fabled-pcie-finger-sells-for-under-usd25-in-china-should-you-happen-to-break-it-resuscitate-your-usd10-000-gpu-for-less-than-a-pair-of-fuzzy-socks
    🖥️ PCIe Finger ของ Nvidia โผล่ขายในจีน รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า ชิ้นส่วนเชื่อมต่อ PCIe ของการ์ดจอ Nvidia GeForce RTX 5090 และ RTX Pro 6000 Blackwell ที่เคยถูกมองว่าเป็นชิ้นส่วนหายาก ตอนนี้สามารถหาซื้อได้ในแพลตฟอร์ม e-commerce ของจีน เช่น Goofish และ Xianyu ในราคาประมาณ $19–$25 เท่านั้น ⚡ เหตุการณ์ที่ทำให้ชิ้นส่วนนี้เป็นที่จับตามอง ก่อนหน้านี้มีกรณีการ์ดจอราคาแพงถึง $10,000 เสียหายเพราะตัวเชื่อมต่อ PCIe หักจากการขนส่ง และอีกกรณีเกิดจากการติดตั้งระบบระบายความร้อนผิดพลาด Nvidia ถึงกับยอมเปลี่ยนการ์ดใหม่ทั้งใบให้ลูกค้า แม้จะเป็นความผิดพลาดจากผู้ใช้เอง ทำให้หลายคนสงสัยว่าชิ้นส่วนนี้ทำไมถึงไม่สามารถหาซื้อได้อย่างเป็นทางการ 🔍 ความกังวลของช่างซ่อมและผู้ใช้ ช่างซ่อมการ์ดจอหลายรายบ่นว่าการหาชิ้นส่วน PCIe connector จาก Nvidia เป็นไปไม่ได้เลย ทั้งที่มันเป็นเพียงชิ้นส่วนพื้นฐาน การที่ Nvidia ไม่ขายอะไหล่แยกทำให้ผู้ใช้ทั่วไปและร้านซ่อมต้องพึ่งพาตลาดมือสองหรือชิ้นส่วนที่ถูกถอดออกมา 🌐 มิติทางธุรกิจและภาพลักษณ์ แม้ Nvidia จะยอมเปลี่ยนการ์ดให้ลูกค้ารายใหญ่ แต่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าบริษัทอาจทำเช่นนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกระแสลบจากสื่อและผู้ใช้ที่มีชื่อเสียง การที่ชิ้นส่วนราคาถูกนี้สามารถซ่อมการ์ดราคาแพงได้สะท้อนถึงความไม่สมดุลในนโยบายการจัดจำหน่ายอะไหล่ของ Nvidia 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ PCIe Finger ของ Nvidia มีขายในจีน ➡️ ราคาเพียง $19–$25 บนแพลตฟอร์ม Goofish และ Xianyu ✅ กรณีการ์ดจอเสียหายราคา $10,000 ➡️ เกิดจากการขนส่งและการติดตั้งระบบระบายความร้อนผิดพลาด ✅ Nvidia ยอมเปลี่ยนการ์ดใหม่ให้ลูกค้า ➡️ แม้จะเป็นความผิดพลาดจากผู้ใช้เอง ‼️ การไม่ขายอะไหล่แยกอย่างเป็นทางการ ⛔ ทำให้ผู้ใช้และช่างซ่อมต้องพึ่งพาตลาดมือสอง ‼️ ข้อสงสัยด้านภาพลักษณ์และธุรกิจ ⛔ Nvidia อาจเลือกเปลี่ยนการ์ดเพื่อหลีกเลี่ยงกระแสลบจากผู้ใช้ที่มีชื่อเสียง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-fabled-pcie-finger-sells-for-under-usd25-in-china-should-you-happen-to-break-it-resuscitate-your-usd10-000-gpu-for-less-than-a-pair-of-fuzzy-socks
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.29

    การแสวงหาความยุติธรรมในชั้นสูงสุดของศาลไทย คือหัวใจสำคัญของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด การฎีกาไม่ใช่เพียงแค่ขั้นตอนทางธุรการ แต่คือกลไกสุดท้ายที่เปิดโอกาสให้คู่ความได้นำข้อพิพาทขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลสูงสุดและเป็นที่พึ่งสุดท้ายในการอำนวยความยุติธรรมตามกฎหมายอย่างแท้จริง การอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ต่อศาลฎีกานี้ จึงเป็นด่านสุดท้ายที่กำหนดชะตาชีวิตและสิทธิของประชาชนภายใต้ระบบกฎหมายที่มุ่งเน้นความถูกต้องและเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด ก่อนที่คำวินิจฉัยใดๆ จะกลายเป็นข้อยุติที่มีผลผูกพันตลอดไป

    โดยหลักการแล้ว การฎีกาถูกออกแบบมาให้เป็นกระบวนการที่มีความเข้มงวดและมีเงื่อนไขเฉพาะเจาะจงตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความได้กำหนดไว้ ศาลฎีกาในฐานะผู้ควบคุมความชอบด้วยกฎหมายและความถูกต้องของคำพิพากษา จะมุ่งเน้นการพิจารณาในประเด็นข้อกฎหมายเป็นหลัก ไม่ใช่การพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมดซ้ำอีกครั้งเหมือนศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ขัดแย้งกับหลักกฎหมายที่สำคัญ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือเป็นข้อสงสัยที่สมควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลสูงสุดเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้เกิดความมั่นคงในระบบยุติธรรม ความสำคัญของการฎีกาจึงอยู่ที่การสร้างความสม่ำเสมอในการใช้กฎหมาย การธำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย และการให้โอกาสคู่ความที่เชื่อว่าคำวินิจฉัยในชั้นศาลล่างอาจมีความคลาดเคลื่อนในทางกฎหมายได้เข้าสู่การตรวจสอบขั้นสุดท้าย ภารกิจอันทรงเกียรตินี้จึงเรียกร้องความรอบคอบและวิจารณญาณสูงสุดในการตีความและประยุกต์ใช้กฎหมายเพื่ออำนวยความยุติธรรมที่เป็นเลิศ

    ดังนั้น ฎีกาจึงเป็นมากกว่าแค่การยื่นคำร้อง แต่มันคือการยืนยันถึงหลักการตรวจสอบและถ่วงดุลในกระบวนการยุติธรรมของชาติอย่างแท้จริง มันสะท้อนให้เห็นว่าแม้คำพิพากษาในชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์จะมีน้ำหนักและผลผูกพันเพียงใด แต่ประตูสู่การแสวงหาความยุติธรรมสูงสุดก็ยังเปิดอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและเงื่อนไขที่รัดกุม การตัดสินใจของศาลฎีกาจึงถือเป็นที่สุด เป็นข้อยุติที่กำหนดทิศทางของกฎหมายในอนาคตและเป็นหลักประกันสุดท้ายแห่งสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทุกคนภายใต้ร่มเงาแห่งความยุติธรรมของราชอาณาจักรไทย
    บทความกฎหมาย EP.29 การแสวงหาความยุติธรรมในชั้นสูงสุดของศาลไทย คือหัวใจสำคัญของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด การฎีกาไม่ใช่เพียงแค่ขั้นตอนทางธุรการ แต่คือกลไกสุดท้ายที่เปิดโอกาสให้คู่ความได้นำข้อพิพาทขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลสูงสุดและเป็นที่พึ่งสุดท้ายในการอำนวยความยุติธรรมตามกฎหมายอย่างแท้จริง การอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ต่อศาลฎีกานี้ จึงเป็นด่านสุดท้ายที่กำหนดชะตาชีวิตและสิทธิของประชาชนภายใต้ระบบกฎหมายที่มุ่งเน้นความถูกต้องและเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด ก่อนที่คำวินิจฉัยใดๆ จะกลายเป็นข้อยุติที่มีผลผูกพันตลอดไป โดยหลักการแล้ว การฎีกาถูกออกแบบมาให้เป็นกระบวนการที่มีความเข้มงวดและมีเงื่อนไขเฉพาะเจาะจงตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความได้กำหนดไว้ ศาลฎีกาในฐานะผู้ควบคุมความชอบด้วยกฎหมายและความถูกต้องของคำพิพากษา จะมุ่งเน้นการพิจารณาในประเด็นข้อกฎหมายเป็นหลัก ไม่ใช่การพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมดซ้ำอีกครั้งเหมือนศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ขัดแย้งกับหลักกฎหมายที่สำคัญ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือเป็นข้อสงสัยที่สมควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลสูงสุดเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้เกิดความมั่นคงในระบบยุติธรรม ความสำคัญของการฎีกาจึงอยู่ที่การสร้างความสม่ำเสมอในการใช้กฎหมาย การธำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย และการให้โอกาสคู่ความที่เชื่อว่าคำวินิจฉัยในชั้นศาลล่างอาจมีความคลาดเคลื่อนในทางกฎหมายได้เข้าสู่การตรวจสอบขั้นสุดท้าย ภารกิจอันทรงเกียรตินี้จึงเรียกร้องความรอบคอบและวิจารณญาณสูงสุดในการตีความและประยุกต์ใช้กฎหมายเพื่ออำนวยความยุติธรรมที่เป็นเลิศ ดังนั้น ฎีกาจึงเป็นมากกว่าแค่การยื่นคำร้อง แต่มันคือการยืนยันถึงหลักการตรวจสอบและถ่วงดุลในกระบวนการยุติธรรมของชาติอย่างแท้จริง มันสะท้อนให้เห็นว่าแม้คำพิพากษาในชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์จะมีน้ำหนักและผลผูกพันเพียงใด แต่ประตูสู่การแสวงหาความยุติธรรมสูงสุดก็ยังเปิดอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและเงื่อนไขที่รัดกุม การตัดสินใจของศาลฎีกาจึงถือเป็นที่สุด เป็นข้อยุติที่กำหนดทิศทางของกฎหมายในอนาคตและเป็นหลักประกันสุดท้ายแห่งสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทุกคนภายใต้ร่มเงาแห่งความยุติธรรมของราชอาณาจักรไทย
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • “Taiwan เปิดการสอบสวนกรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC กลับเข้าร่วม Intel”

    ทางการไต้หวันได้เปิดการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติ กรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหารฝ่าย R&D ของ TSMC ที่เพิ่งเกษียณหลังทำงานกว่า 21 ปี แต่กลับไปปรากฏตัวที่ Intel ในตำแหน่งรองประธานฝ่าย R&D เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า Lo อาจนำเอกสารทางเทคนิคที่เป็นความลับของ TSMC ไปด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เช่น N2, A16, A14 และ post-A14 nodes

    ก่อนออกจาก TSMC Lo เคยมีอำนาจสั่งให้ทีมงานส่งมอบเอกสารภายในที่มีข้อจำกัดด้านการเข้าถึง โดยไม่มีการตั้งข้อสงสัยในตอนนั้น เนื่องจากตำแหน่งของเขาสูงมาก ทำให้คำสั่งดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาปรากฏตัวที่ Intel พร้อมรับผิดชอบด้านการพัฒนาอุปกรณ์และโมดูลใหม่ ๆ จึงเกิดข้อกังวลว่าเอกสารเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์เชิงแข่งขัน

    แม้จะมีข้อกล่าวหา แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ข้อมูลของ TSMC อาจไม่สามารถนำไปใช้ตรง ๆ กับ Intel ได้ เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตของทั้งสองบริษัทมีความแตกต่างกัน เช่น Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV ในบางกระบวนการ ขณะที่ TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV multipatterning อย่างไรก็ตาม เอกสารเหล่านี้ยังคงมีค่าในเชิงการวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ทางธุรกิจ

    กรณีนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่การเคลื่อนไหวของผู้บริหารระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก รัฐบาลไต้หวันกำลังตรวจสอบว่า Lo ละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้าไปยังต่างประเทศหรือไม่

    สรุปสาระสำคัญ
    Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC
    กลับไปทำงานที่ Intel ในตำแหน่ง VP of R&D

    ข้อกล่าวหานำเอกสารลับติดตัวไป
    ครอบคลุมเทคโนโลยี N2, A16, A14 และ post-A14

    ความแตกต่างด้านเทคโนโลยีระหว่าง Intel และ TSMC
    Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV, TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV

    รัฐบาลไต้หวันเปิดการสอบสวนด้านความมั่นคง
    ตรวจสอบการละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้า

    ความเสี่ยงต่อการแข่งขันระดับโลก
    เอกสารลับอาจถูกใช้เพื่อวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ธุรกิจ

    การขาดมาตรการป้องกันภายในองค์กร
    TSMC ไม่ได้บังคับใช้ข้อตกลง non-compete กับ Lo ก่อนออกจากบริษัท

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/high-ranking-tsmc-executive-faces-taiwan-legal-investigation-over-murky-return-to-intel-report-alleges-employee-took-technical-documents-with-him
    📰 “Taiwan เปิดการสอบสวนกรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC กลับเข้าร่วม Intel” ทางการไต้หวันได้เปิดการสอบสวนด้านความมั่นคงแห่งชาติ กรณี Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหารฝ่าย R&D ของ TSMC ที่เพิ่งเกษียณหลังทำงานกว่า 21 ปี แต่กลับไปปรากฏตัวที่ Intel ในตำแหน่งรองประธานฝ่าย R&D เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า Lo อาจนำเอกสารทางเทคนิคที่เป็นความลับของ TSMC ไปด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เช่น N2, A16, A14 และ post-A14 nodes ก่อนออกจาก TSMC Lo เคยมีอำนาจสั่งให้ทีมงานส่งมอบเอกสารภายในที่มีข้อจำกัดด้านการเข้าถึง โดยไม่มีการตั้งข้อสงสัยในตอนนั้น เนื่องจากตำแหน่งของเขาสูงมาก ทำให้คำสั่งดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาปรากฏตัวที่ Intel พร้อมรับผิดชอบด้านการพัฒนาอุปกรณ์และโมดูลใหม่ ๆ จึงเกิดข้อกังวลว่าเอกสารเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์เชิงแข่งขัน แม้จะมีข้อกล่าวหา แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ข้อมูลของ TSMC อาจไม่สามารถนำไปใช้ตรง ๆ กับ Intel ได้ เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตของทั้งสองบริษัทมีความแตกต่างกัน เช่น Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV ในบางกระบวนการ ขณะที่ TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV multipatterning อย่างไรก็ตาม เอกสารเหล่านี้ยังคงมีค่าในเชิงการวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ทางธุรกิจ กรณีนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่การเคลื่อนไหวของผู้บริหารระดับสูงอาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก รัฐบาลไต้หวันกำลังตรวจสอบว่า Lo ละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้าไปยังต่างประเทศหรือไม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Wei-Jen Lo อดีตผู้บริหาร TSMC ➡️ กลับไปทำงานที่ Intel ในตำแหน่ง VP of R&D ✅ ข้อกล่าวหานำเอกสารลับติดตัวไป ➡️ ครอบคลุมเทคโนโลยี N2, A16, A14 และ post-A14 ✅ ความแตกต่างด้านเทคโนโลยีระหว่าง Intel และ TSMC ➡️ Intel ใช้ PowerVia และ High-NA EUV, TSMC ใช้ Super Power Rail และ Low-NA EUV ✅ รัฐบาลไต้หวันเปิดการสอบสวนด้านความมั่นคง ➡️ ตรวจสอบการละเมิดกฎหมายการถ่ายโอนความลับทางการค้า ‼️ ความเสี่ยงต่อการแข่งขันระดับโลก ⛔ เอกสารลับอาจถูกใช้เพื่อวิเคราะห์คู่แข่งและกลยุทธ์ธุรกิจ ‼️ การขาดมาตรการป้องกันภายในองค์กร ⛔ TSMC ไม่ได้บังคับใช้ข้อตกลง non-compete กับ Lo ก่อนออกจากบริษัท https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/high-ranking-tsmc-executive-faces-taiwan-legal-investigation-over-murky-return-to-intel-report-alleges-employee-took-technical-documents-with-him
    0 Comments 0 Shares 223 Views 0 Reviews
  • Snapchat เปิดซอร์ส Valdi Framework

    Snap Inc. บริษัทเบื้องหลังแอป Snapchat ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดซอร์ส Valdi ซึ่งเป็น cross-platform mobile UI framework ที่ใช้พัฒนาแอป Snapchat มาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา โดยเปิดให้ใช้งานภายใต้ MIT License บน GitHub นักพัฒนาสามารถนำไปใช้ ปรับปรุง และแจกจ่ายได้โดยไม่มีข้อจำกัดเชิงพาณิชย์

    จุดเด่นของ Valdi
    Valdi มีความแตกต่างจากเฟรมเวิร์กอื่นตรงที่ คอมไพล์ TypeScript เป็น native views โดยตรง สำหรับ Android, iOS และ macOS โดยไม่ใช้ web views หรือ JavaScript bridges ซึ่งช่วยให้ เร็วขึ้น 2 เท่าในการ render ครั้งแรก และใช้หน่วยความจำเพียง 1/4 ของคู่แข่ง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ทันสมัย เช่น instant hot reload, VSCode debugging, automatic view recycling, C++ layout engine และ FlexBox support

    การเปิดตัวและการตอบรับ
    ก่อนเปิดซอร์สอย่างเป็นทางการ Valdi เคยอยู่ในช่วง beta ตั้งแต่สิงหาคม 2025 โดย Snapchatเปิดให้ทดสอบแบบมี NDA และใช้เวลาสามเดือนในการปรับปรุงเอกสารและ tooling จนพร้อมปล่อยสู่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม การตอบรับจากนักพัฒนายังมีความเห็นที่หลากหลาย โดยบางคนตั้งคำถามว่า Valdi มีข้อได้เปรียบเหนือ React Native จริงหรือไม่ เนื่องจาก React Native รุ่นใหม่ก็เลิกใช้ JavaScript bridges เช่นกัน

    ความสำคัญและอนาคต
    การเปิดซอร์ส Valdi ถือเป็นก้าวสำคัญที่ Snap Inc. เข้าสู่โลกโอเพนซอร์สอย่างจริงจัง ซึ่งอาจช่วยสร้างชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนาที่กว้างขึ้น แต่ก็ยังต้องพิสูจน์ว่า Valdi จะสามารถก้าวออกจากเงาของ Snapchat และแข่งขันในตลาดเฟรมเวิร์ก UI ที่มีผู้เล่นใหญ่หลายรายได้หรือไม่

    สรุปสาระสำคัญ
    Snapchat เปิดซอร์ส Valdi Framework
    ใช้งานภายในมาแล้วกว่า 8 ปี
    ปล่อยบน GitHub ภายใต้ MIT License

    จุดเด่นของ Valdi
    คอมไพล์ TypeScript เป็น native views โดยตรง
    เร็วขึ้น 2 เท่า และใช้หน่วยความจำ 1/4

    ฟีเจอร์สำคัญ
    Hot reload, VSCode debugging, FlexBox support
    Embed components ใน native apps ได้

    คำเตือนและข้อสงสัย
    นักพัฒนาบางส่วนตั้งคำถามว่าเหนือกว่า React Native จริงหรือไม่
    ต้องพิสูจน์ว่าจะได้รับการยอมรับนอก Snapchat

    https://itsfoss.com/news/snapchat-open-sources-valdi/
    📱 Snapchat เปิดซอร์ส Valdi Framework Snap Inc. บริษัทเบื้องหลังแอป Snapchat ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดซอร์ส Valdi ซึ่งเป็น cross-platform mobile UI framework ที่ใช้พัฒนาแอป Snapchat มาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา โดยเปิดให้ใช้งานภายใต้ MIT License บน GitHub นักพัฒนาสามารถนำไปใช้ ปรับปรุง และแจกจ่ายได้โดยไม่มีข้อจำกัดเชิงพาณิชย์ ⚡ จุดเด่นของ Valdi Valdi มีความแตกต่างจากเฟรมเวิร์กอื่นตรงที่ คอมไพล์ TypeScript เป็น native views โดยตรง สำหรับ Android, iOS และ macOS โดยไม่ใช้ web views หรือ JavaScript bridges ซึ่งช่วยให้ เร็วขึ้น 2 เท่าในการ render ครั้งแรก และใช้หน่วยความจำเพียง 1/4 ของคู่แข่ง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ทันสมัย เช่น instant hot reload, VSCode debugging, automatic view recycling, C++ layout engine และ FlexBox support 🌍 การเปิดตัวและการตอบรับ ก่อนเปิดซอร์สอย่างเป็นทางการ Valdi เคยอยู่ในช่วง beta ตั้งแต่สิงหาคม 2025 โดย Snapchatเปิดให้ทดสอบแบบมี NDA และใช้เวลาสามเดือนในการปรับปรุงเอกสารและ tooling จนพร้อมปล่อยสู่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม การตอบรับจากนักพัฒนายังมีความเห็นที่หลากหลาย โดยบางคนตั้งคำถามว่า Valdi มีข้อได้เปรียบเหนือ React Native จริงหรือไม่ เนื่องจาก React Native รุ่นใหม่ก็เลิกใช้ JavaScript bridges เช่นกัน 🔮 ความสำคัญและอนาคต การเปิดซอร์ส Valdi ถือเป็นก้าวสำคัญที่ Snap Inc. เข้าสู่โลกโอเพนซอร์สอย่างจริงจัง ซึ่งอาจช่วยสร้างชุมชนผู้ใช้และนักพัฒนาที่กว้างขึ้น แต่ก็ยังต้องพิสูจน์ว่า Valdi จะสามารถก้าวออกจากเงาของ Snapchat และแข่งขันในตลาดเฟรมเวิร์ก UI ที่มีผู้เล่นใหญ่หลายรายได้หรือไม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Snapchat เปิดซอร์ส Valdi Framework ➡️ ใช้งานภายในมาแล้วกว่า 8 ปี ➡️ ปล่อยบน GitHub ภายใต้ MIT License ✅ จุดเด่นของ Valdi ➡️ คอมไพล์ TypeScript เป็น native views โดยตรง ➡️ เร็วขึ้น 2 เท่า และใช้หน่วยความจำ 1/4 ✅ ฟีเจอร์สำคัญ ➡️ Hot reload, VSCode debugging, FlexBox support ➡️ Embed components ใน native apps ได้ ‼️ คำเตือนและข้อสงสัย ⛔ นักพัฒนาบางส่วนตั้งคำถามว่าเหนือกว่า React Native จริงหรือไม่ ⛔ ต้องพิสูจน์ว่าจะได้รับการยอมรับนอก Snapchat https://itsfoss.com/news/snapchat-open-sources-valdi/
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • สภา 2 หมื่นล้านสุดเละเทะ พื้นไม้ตะเคียงทองปลอมผุ เพดานรั่ว น้ำขังปลั๊กไฟ เขื่อนกั้นน้ำขวางทางรถเข็นคนพิการ , วัชระเผยเจอไม้ไม่ตรงสัญญา-ปลวกกิน-ห้องใช้งานไม่ได้หลายจุด แถมปัญหาน้ำรั่ว-ปลั๊กไฟท่วม ตั้งข้อสงสัยขั้นตอนตรวจรับ

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109579

    #รัฐสภาไทย #การเมืองไทย #ตรวจสอบทุจริต #ทุจริตก่อสร้าง #News1live #News1
    สภา 2 หมื่นล้านสุดเละเทะ พื้นไม้ตะเคียงทองปลอมผุ เพดานรั่ว น้ำขังปลั๊กไฟ เขื่อนกั้นน้ำขวางทางรถเข็นคนพิการ , วัชระเผยเจอไม้ไม่ตรงสัญญา-ปลวกกิน-ห้องใช้งานไม่ได้หลายจุด แถมปัญหาน้ำรั่ว-ปลั๊กไฟท่วม ตั้งข้อสงสัยขั้นตอนตรวจรับ • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109579 • #รัฐสภาไทย #การเมืองไทย #ตรวจสอบทุจริต #ทุจริตก่อสร้าง #News1live #News1
    Haha
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 273 Views 0 Reviews
  • แรงกดดันปริศนาต่อ Archive.today

    Archive.today หรือ Archive.is เป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้ผู้ใช้บันทึก “snapshot” ของหน้าเว็บเพื่อเก็บรักษาเนื้อหาที่อาจหายไปในอนาคต แต่ล่าสุดกลับถูกกดดันจากองค์กรที่อ้างว่าต่อต้านสื่อลามกเด็กในฝรั่งเศส โดยเรียกร้องให้ผู้ให้บริการ DNS อย่าง AdGuard บล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์นี้ เหตุผลคือมีการกล่าวหาว่า Archive.today ไม่ยอมลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2023

    สิ่งที่น่าสงสัยคือองค์กรที่ยื่นเรื่องนี้เพิ่งก่อตั้งขึ้นไม่นาน มีข้อมูลสาธารณะน้อยมาก และใช้วิธีการที่ดูเหมือนจะปกปิดตัวตน ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการปลอมแปลงหรือแอบอ้างเพื่อสร้างแรงกดดันต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและโครงสร้างพื้นฐาน

    กฎหมายฝรั่งเศสกับข้อถกเถียง
    ตามกฎหมายฝรั่งเศส (LCEN) บริษัทที่ได้รับแจ้งว่ามีเนื้อหาผิดกฎหมายอาจถูกบังคับให้บล็อกการเข้าถึง แม้จะไม่ใช่ผู้ให้บริการโฮสต์โดยตรง ซึ่งเป็นจุดที่ AdGuard มองว่าไม่สมเหตุสมผล เพราะการตัดสินว่าอะไรผิดกฎหมายควรเป็นหน้าที่ของศาล ไม่ใช่บริษัทเอกชนที่ถูกกดดันด้วยข้อร้องเรียนที่อาจไม่จริง

    นอกจากนี้ กฎหมายเดียวกันยังมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่แจ้งข้อมูลเท็จ โดยอาจถูกจำคุกและปรับเงิน ทำให้กรณีนี้ยิ่งซับซ้อนขึ้น เพราะหากข้อร้องเรียนเป็นการปลอมแปลงจริง ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายเช่นกัน

    มิติระหว่างประเทศและการสืบสวน
    ในเวลาเดียวกัน มีรายงานว่า FBI ของสหรัฐฯ กำลังสืบสวน Archive.today โดยอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหาที่ผิดกฎหมาย การที่ทั้งฝรั่งเศสและสหรัฐฯ มีการเคลื่อนไหวพร้อมกัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีแรงกดดันระดับนานาชาติที่ต้องการจำกัดการทำงานของเว็บไซต์นี้ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเก็บรักษาข้อมูลออนไลน์

    สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของโลกดิจิทัล ที่เส้นแบ่งระหว่าง “การเก็บรักษาข้อมูลเพื่อประโยชน์สาธารณะ” และ “การเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย” อาจทับซ้อนกัน และกลายเป็นประเด็นถกเถียงทั้งด้านกฎหมายและจริยธรรม

    สรุปสาระสำคัญ
    Archive.today ถูกกดดันจากองค์กรฝรั่งเศส
    อ้างว่าไม่ลบเนื้อหาผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2023
    เรียกร้องให้ AdGuard DNS บล็อกการเข้าถึง

    กฎหมายฝรั่งเศส LCEN มีผลบังคับใช้
    บริษัทอาจต้องบล็อกเนื้อหาตามคำร้องเรียน
    มีบทลงโทษสำหรับการแจ้งข้อมูลเท็จ

    FBI สหรัฐฯ กำลังสืบสวน Archive.today
    สงสัยเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหาผิดกฎหมาย
    สร้างแรงกดดันระหว่างประเทศต่อเว็บไซต์

    ข้อร้องเรียนมีความน่าสงสัย
    องค์กรเพิ่งก่อตั้งและข้อมูลสาธารณะน้อย
    อาจมีการปลอมแปลงหรือแอบอ้างเพื่อสร้างแรงกดดัน

    ความเสี่ยงต่อเสรีภาพการเก็บข้อมูลออนไลน์
    การบังคับบล็อกอาจกระทบการเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณค่า
    เส้นแบ่งระหว่างการเก็บรักษาและการเผยแพร่ผิดกฎหมายยังไม่ชัดเจน

    https://adguard-dns.io/en/blog/archive-today-adguard-dns-block-demand.html
    🕵️‍♂️ แรงกดดันปริศนาต่อ Archive.today Archive.today หรือ Archive.is เป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้ผู้ใช้บันทึก “snapshot” ของหน้าเว็บเพื่อเก็บรักษาเนื้อหาที่อาจหายไปในอนาคต แต่ล่าสุดกลับถูกกดดันจากองค์กรที่อ้างว่าต่อต้านสื่อลามกเด็กในฝรั่งเศส โดยเรียกร้องให้ผู้ให้บริการ DNS อย่าง AdGuard บล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์นี้ เหตุผลคือมีการกล่าวหาว่า Archive.today ไม่ยอมลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2023 สิ่งที่น่าสงสัยคือองค์กรที่ยื่นเรื่องนี้เพิ่งก่อตั้งขึ้นไม่นาน มีข้อมูลสาธารณะน้อยมาก และใช้วิธีการที่ดูเหมือนจะปกปิดตัวตน ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีการปลอมแปลงหรือแอบอ้างเพื่อสร้างแรงกดดันต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและโครงสร้างพื้นฐาน ⚖️ กฎหมายฝรั่งเศสกับข้อถกเถียง ตามกฎหมายฝรั่งเศส (LCEN) บริษัทที่ได้รับแจ้งว่ามีเนื้อหาผิดกฎหมายอาจถูกบังคับให้บล็อกการเข้าถึง แม้จะไม่ใช่ผู้ให้บริการโฮสต์โดยตรง ซึ่งเป็นจุดที่ AdGuard มองว่าไม่สมเหตุสมผล เพราะการตัดสินว่าอะไรผิดกฎหมายควรเป็นหน้าที่ของศาล ไม่ใช่บริษัทเอกชนที่ถูกกดดันด้วยข้อร้องเรียนที่อาจไม่จริง นอกจากนี้ กฎหมายเดียวกันยังมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่แจ้งข้อมูลเท็จ โดยอาจถูกจำคุกและปรับเงิน ทำให้กรณีนี้ยิ่งซับซ้อนขึ้น เพราะหากข้อร้องเรียนเป็นการปลอมแปลงจริง ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายเช่นกัน 🌐 มิติระหว่างประเทศและการสืบสวน ในเวลาเดียวกัน มีรายงานว่า FBI ของสหรัฐฯ กำลังสืบสวน Archive.today โดยอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหาที่ผิดกฎหมาย การที่ทั้งฝรั่งเศสและสหรัฐฯ มีการเคลื่อนไหวพร้อมกัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีแรงกดดันระดับนานาชาติที่ต้องการจำกัดการทำงานของเว็บไซต์นี้ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการเก็บรักษาข้อมูลออนไลน์ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของโลกดิจิทัล ที่เส้นแบ่งระหว่าง “การเก็บรักษาข้อมูลเพื่อประโยชน์สาธารณะ” และ “การเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย” อาจทับซ้อนกัน และกลายเป็นประเด็นถกเถียงทั้งด้านกฎหมายและจริยธรรม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Archive.today ถูกกดดันจากองค์กรฝรั่งเศส ➡️ อ้างว่าไม่ลบเนื้อหาผิดกฎหมายตั้งแต่ปี 2023 ➡️ เรียกร้องให้ AdGuard DNS บล็อกการเข้าถึง ✅ กฎหมายฝรั่งเศส LCEN มีผลบังคับใช้ ➡️ บริษัทอาจต้องบล็อกเนื้อหาตามคำร้องเรียน ➡️ มีบทลงโทษสำหรับการแจ้งข้อมูลเท็จ ✅ FBI สหรัฐฯ กำลังสืบสวน Archive.today ➡️ สงสัยเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่เนื้อหาผิดกฎหมาย ➡️ สร้างแรงกดดันระหว่างประเทศต่อเว็บไซต์ ‼️ ข้อร้องเรียนมีความน่าสงสัย ⛔ องค์กรเพิ่งก่อตั้งและข้อมูลสาธารณะน้อย ⛔ อาจมีการปลอมแปลงหรือแอบอ้างเพื่อสร้างแรงกดดัน ‼️ ความเสี่ยงต่อเสรีภาพการเก็บข้อมูลออนไลน์ ⛔ การบังคับบล็อกอาจกระทบการเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณค่า ⛔ เส้นแบ่งระหว่างการเก็บรักษาและการเผยแพร่ผิดกฎหมายยังไม่ชัดเจน https://adguard-dns.io/en/blog/archive-today-adguard-dns-block-demand.html
    ADGUARD-DNS.IO
    Behind the complaints: Our investigation into the suspicious pressure on Archive.today
    Some time ago, we were contacted by a group fighting against online CSAM, demanding that AdGuard DNS blocks the Archive.today website. This was only the beginning of a much larger story…
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • สะพานยักษ์ในจีนพังถล่มหลังเปิดใช้งานไม่กี่เดือน

    เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 ส่วนหนึ่งของ สะพาน Shuangjiangkou Hongqi Bridge ซึ่งเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างมณฑลเสฉวนและทิเบต ได้พังถล่มลงมาในกลุ่มฝุ่นหนาทึบ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากสะพานเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ โชคดีที่ในขณะเกิดเหตุไม่มีรถสัญจร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดสะพานก่อนหนึ่งวันหลังพบรอยร้าวบนถนนและพื้นที่ลาดเขาใกล้เคียง

    สะพานแห่งนี้มีความยาวกว่า 2,487 ฟุต ใช้งบประมาณก่อสร้างราว 399 ล้านดอลลาร์ และใช้เวลาเพียง 19 เดือนในการสร้าง ถือเป็นโครงการสำคัญของจีนที่ตั้งใจจะรองรับการจราจรในพื้นที่ภูเขาสูง อย่างไรก็ตาม การพังถล่มครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามต่อคุณภาพการก่อสร้างและการตรวจสอบความปลอดภัยของโครงการขนาดใหญ่

    พื้นที่ดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะแผ่นดินไหวและดินถล่ม เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ดินถล่ม เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ถนนและทางลาดของสะพานพังลงมา ขณะเดียวกันก็มีการตั้งข้อสงสัยว่า เขื่อน Shuangjiangkou Dam ซึ่งเพิ่งเปิดใช้งานและเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่สูงที่สุดในโลก อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน

    เหตุการณ์นี้ยังถูกเปรียบเทียบกับสะพานที่พังถล่มในอดีต เช่น สะพาน Francis Scott Key ในสหรัฐฯ ปี 2024 ที่ถูกเรือบรรทุกชนจนมีผู้เสียชีวิต 6 ราย และ สะพาน Morandi ในอิตาลี ปี 2018 ที่พังลงระหว่างพายุ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 43 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการสร้างสะพานขนาดใหญ่ในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติจำเป็นต้องมีมาตรการตรวจสอบที่เข้มงวด

    สรุปสาระสำคัญ
    เหตุการณ์สะพาน Shuangjiangkou Hongqi Bridge ถล่ม
    เกิดขึ้นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 หลังเปิดใช้งานเพียงไม่กี่เดือน
    ไม่มีผู้เสียชีวิตเพราะสะพานถูกปิดก่อนหนึ่งวัน

    รายละเอียดโครงการ
    ความยาวสะพาน 2,487 ฟุต
    งบประมาณก่อสร้าง 399 ล้านดอลลาร์ ใช้เวลา 19 เดือน

    สาเหตุที่ถูกตั้งข้อสงสัย
    เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นชี้ว่าเป็นดินถล่ม
    มีข้อกังวลเรื่องการก่อสร้างเร่งรีบและเขื่อนใกล้เคียง

    คำเตือนและบทเรียนจากเหตุการณ์
    การสร้างสะพานในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ ต้องตรวจสอบความปลอดภัยเข้มงวด
    โครงการขนาดใหญ่ที่เร่งรีบอาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรง
    เหตุการณ์สะพานพังในอดีตทั่วโลกชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการบำรุงรักษาและตรวจสอบต่อเนื่อง

    https://www.slashgear.com/2026522/china-long-hongqi-bridge-collapse/
    🌉 สะพานยักษ์ในจีนพังถล่มหลังเปิดใช้งานไม่กี่เดือน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 ส่วนหนึ่งของ สะพาน Shuangjiangkou Hongqi Bridge ซึ่งเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างมณฑลเสฉวนและทิเบต ได้พังถล่มลงมาในกลุ่มฝุ่นหนาทึบ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากสะพานเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ โชคดีที่ในขณะเกิดเหตุไม่มีรถสัญจร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดสะพานก่อนหนึ่งวันหลังพบรอยร้าวบนถนนและพื้นที่ลาดเขาใกล้เคียง 📏 สะพานแห่งนี้มีความยาวกว่า 2,487 ฟุต ใช้งบประมาณก่อสร้างราว 399 ล้านดอลลาร์ และใช้เวลาเพียง 19 เดือนในการสร้าง ถือเป็นโครงการสำคัญของจีนที่ตั้งใจจะรองรับการจราจรในพื้นที่ภูเขาสูง อย่างไรก็ตาม การพังถล่มครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามต่อคุณภาพการก่อสร้างและการตรวจสอบความปลอดภัยของโครงการขนาดใหญ่ 🌍 พื้นที่ดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะแผ่นดินไหวและดินถล่ม เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ดินถล่ม เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ถนนและทางลาดของสะพานพังลงมา ขณะเดียวกันก็มีการตั้งข้อสงสัยว่า เขื่อน Shuangjiangkou Dam ซึ่งเพิ่งเปิดใช้งานและเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่สูงที่สุดในโลก อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ⚠️ เหตุการณ์นี้ยังถูกเปรียบเทียบกับสะพานที่พังถล่มในอดีต เช่น สะพาน Francis Scott Key ในสหรัฐฯ ปี 2024 ที่ถูกเรือบรรทุกชนจนมีผู้เสียชีวิต 6 ราย และ สะพาน Morandi ในอิตาลี ปี 2018 ที่พังลงระหว่างพายุ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 43 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการสร้างสะพานขนาดใหญ่ในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติจำเป็นต้องมีมาตรการตรวจสอบที่เข้มงวด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เหตุการณ์สะพาน Shuangjiangkou Hongqi Bridge ถล่ม ➡️ เกิดขึ้นวันที่ 11 พฤศจิกายน 2025 หลังเปิดใช้งานเพียงไม่กี่เดือน ➡️ ไม่มีผู้เสียชีวิตเพราะสะพานถูกปิดก่อนหนึ่งวัน ✅ รายละเอียดโครงการ ➡️ ความยาวสะพาน 2,487 ฟุต ➡️ งบประมาณก่อสร้าง 399 ล้านดอลลาร์ ใช้เวลา 19 เดือน ✅ สาเหตุที่ถูกตั้งข้อสงสัย ➡️ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นชี้ว่าเป็นดินถล่ม ➡️ มีข้อกังวลเรื่องการก่อสร้างเร่งรีบและเขื่อนใกล้เคียง ‼️ คำเตือนและบทเรียนจากเหตุการณ์ ⛔ การสร้างสะพานในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ ต้องตรวจสอบความปลอดภัยเข้มงวด ⛔ โครงการขนาดใหญ่ที่เร่งรีบอาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรง ⛔ เหตุการณ์สะพานพังในอดีตทั่วโลกชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการบำรุงรักษาและตรวจสอบต่อเนื่อง https://www.slashgear.com/2026522/china-long-hongqi-bridge-collapse/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Chinese Bridge Collapse Caught On Camera Just Months After Opening - SlashGear
    China's new Hongqi Bridge promised to help commuters cross a vast distance, but now it's turning heads as it was nearly the site of a massive disaster.
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 Reviews
  • ข่าวฮาร์ดแวร์เดือด: เมนบอร์ด X870 ทำ CPU พองไหม้

    ASRock X870 Riptide กลายเป็นกระแสร้อน เมื่อมีผู้ใช้รายงานภาพ Ryzen 7 7800X3D พองบวมและซ็อกเก็ตไหม้ โดยใช้ BIOS เวอร์ชันเก่ากว่าหนึ่งปี (3.06) ซึ่งไม่มีแพตช์ลดความเสี่ยง ชี้ให้เห็นว่าการไม่อัปเดตเฟิร์มแวร์อาจเพิ่มโอกาสเกิดเหตุรุนแรง แม้อัปเดตใหม่จะไม่ได้การันตีความปลอดภัย 100% แต่ทั้ง AMD และ ASRock ต่างแนะนำให้ใช้ BIOS ล่าสุด (เช่น 3.40–3.50) เพื่อปรับเสถียรภาพและตั้งค่า PBO ให้ปลอดภัยขึ้น.

    เคสคล้ายกันเคยเกิดกับ Ryzen 9800X3D บนเมนบอร์ด ASRock X870E ที่ไหม้ทั้ง CPU และซ็อกเก็ตในสภาพค่าโรงงาน เปิดแค่ EXPO ซึ่งสร้างข้อสงสัยถึงสาเหตุจริง บางรายอัปเดต BIOS ใหม่ (เช่น 3.18) แล้วไม่มีปัญหา อย่างไรก็ดี ยังมีเสียงเตือนว่าเป็นปัญหาเฉพาะบางล็อตหรือบางคอนฟิก และชุมชนยังถกเถียงว่ากรณีเดี่ยวไม่ควรตัดสินทั้งแพลตฟอร์ม.

    อีกด้านหนึ่ง มีผู้ใช้รายงานอาการ “ถูกล็อกกำลัง” ที่ 75W บน ASRock หลายรุ่น ทำให้เฟรมเรตตก ทั้งที่ไม่ได้เปิด Eco mode หรือจำกัด TDP สาเหตุถูกตั้งข้อสังเกตตั้งแต่การต่อ EPS 4-pin เดียว ไปจนถึงบั๊กเฟิร์มแวร์ที่กด PBO/แพลตฟอร์มสายจ่ายพลังงาน แม้แก้ด้วยอัปเดต BIOS และเคลียร์ CMOS ก็ยังติดเพดาน 75W ในบางเครื่อง แสดงให้เห็นว่าปัญหาอาจหลากปัจจัยและเฉพาะรุ่น.

    ข่าวดีคือ ASRock (เกาหลี) ออก BIOS 3.25 (AGESA 1.2.0.3d) ที่ระบุชัดว่า “รับผิดชอบ” กรณีเกิดความเสียหายจากปัญหานี้ พร้อมปรับปรุงเสถียรภาพและ PBO สำหรับ Ryzen 9000 แม้มีข่าวว่าประสิทธิภาพเกมและการกินไฟอาจลดลงเล็กน้อย แต่เป้าหมายคือความปลอดภัย และสัญญาว่าจะช่วยดูแล RMA ทั้ง CPU และเมนบอร์ดที่จัดจำหน่ายผ่านผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ภาพรวมเหตุการณ์: ผู้ใช้รายงาน 7800X3D พองและซ็อกเก็ตไหม้บน ASRock X870 Riptide
    เฟิร์มแวร์เก่า: ใช้ BIOS 3.06 ไม่มีแพตช์ลดความเสี่ยง ทำให้โอกาสเกิดเหตุสูงขึ้น

    เคส 9800X3D: เกิดความเสียหายภายใต้ค่าโรงงาน เปิดเพียง EXPO
    บทเรียน: บางรายอัปเดต BIOS ใหม่แล้วทำงานปกติ แต่ยังถกเถียงสาเหตุที่แท้จริง

    อาการ 75W cap: หลายเครื่องบน ASRock ติดเพดาน “Package Power” ที่ 75W
    ข้อสังเกต: อาจเกี่ยวกับการต่อ EPS หรือบั๊กที่กด PBO/นโยบายพลังงานใน BIOS

    การแก้ไข: ASRock ปล่อย BIOS 3.25 ปรับ PBO และประกาศรับผิดชอบ RMA
    ผลข้างเคียง: ประสิทธิภาพเกม/การกินไฟอาจลดลงเล็กน้อย เพื่อแลกความปลอดภัย

    คำเตือนสำคัญ: ไม่อัปเดต BIOS เสี่ยงต่อการไหม้และความเสียหายถาวร
    หลีกเลี่ยง: ใช้โปรไฟล์ OC/PBO รุนแรงโดยไม่ตรวจเสถียรภาพและอุณหภูมิ

    การต่อไฟผิด: ต่อ EPS 4-pin เดียวอาจทำให้ระบบกดกำลังและไม่เสถียร
    ตรวจสอบ: สาย EPS 8-pin/8+4-pin ต่อครบแน่นทุกหัว ไม่ใช้โหมด Eco ของ PSU โดยไม่ได้ตั้งใจ

    การตั้งค่าแรม: เปิด EXPO/XMP โดยไม่ผ่าน stress test อาจเพิ่มความเสี่ยง
    แนวทาง: ทดสอบเสถียรภาพ (TM5/HCI/OCCT) และเฝ้าค่ากระแส-อุณหภูมิ VRM/SoC เป็นระยะ

    https://wccftech.com/asrock-x870-riptide-pops-ryzen-7800x3d-and-burns-socket-horribly/
    🔥 ข่าวฮาร์ดแวร์เดือด: เมนบอร์ด X870 ทำ CPU พองไหม้ 🔥 ASRock X870 Riptide กลายเป็นกระแสร้อน เมื่อมีผู้ใช้รายงานภาพ Ryzen 7 7800X3D พองบวมและซ็อกเก็ตไหม้ โดยใช้ BIOS เวอร์ชันเก่ากว่าหนึ่งปี (3.06) ซึ่งไม่มีแพตช์ลดความเสี่ยง ชี้ให้เห็นว่าการไม่อัปเดตเฟิร์มแวร์อาจเพิ่มโอกาสเกิดเหตุรุนแรง แม้อัปเดตใหม่จะไม่ได้การันตีความปลอดภัย 100% แต่ทั้ง AMD และ ASRock ต่างแนะนำให้ใช้ BIOS ล่าสุด (เช่น 3.40–3.50) เพื่อปรับเสถียรภาพและตั้งค่า PBO ให้ปลอดภัยขึ้น. เคสคล้ายกันเคยเกิดกับ Ryzen 9800X3D บนเมนบอร์ด ASRock X870E ที่ไหม้ทั้ง CPU และซ็อกเก็ตในสภาพค่าโรงงาน เปิดแค่ EXPO ซึ่งสร้างข้อสงสัยถึงสาเหตุจริง บางรายอัปเดต BIOS ใหม่ (เช่น 3.18) แล้วไม่มีปัญหา อย่างไรก็ดี ยังมีเสียงเตือนว่าเป็นปัญหาเฉพาะบางล็อตหรือบางคอนฟิก และชุมชนยังถกเถียงว่ากรณีเดี่ยวไม่ควรตัดสินทั้งแพลตฟอร์ม. อีกด้านหนึ่ง มีผู้ใช้รายงานอาการ “ถูกล็อกกำลัง” ที่ 75W บน ASRock หลายรุ่น ทำให้เฟรมเรตตก ทั้งที่ไม่ได้เปิด Eco mode หรือจำกัด TDP สาเหตุถูกตั้งข้อสังเกตตั้งแต่การต่อ EPS 4-pin เดียว ไปจนถึงบั๊กเฟิร์มแวร์ที่กด PBO/แพลตฟอร์มสายจ่ายพลังงาน แม้แก้ด้วยอัปเดต BIOS และเคลียร์ CMOS ก็ยังติดเพดาน 75W ในบางเครื่อง แสดงให้เห็นว่าปัญหาอาจหลากปัจจัยและเฉพาะรุ่น. ข่าวดีคือ ASRock (เกาหลี) ออก BIOS 3.25 (AGESA 1.2.0.3d) ที่ระบุชัดว่า “รับผิดชอบ” กรณีเกิดความเสียหายจากปัญหานี้ พร้อมปรับปรุงเสถียรภาพและ PBO สำหรับ Ryzen 9000 แม้มีข่าวว่าประสิทธิภาพเกมและการกินไฟอาจลดลงเล็กน้อย แต่เป้าหมายคือความปลอดภัย และสัญญาว่าจะช่วยดูแล RMA ทั้ง CPU และเมนบอร์ดที่จัดจำหน่ายผ่านผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ภาพรวมเหตุการณ์: ผู้ใช้รายงาน 7800X3D พองและซ็อกเก็ตไหม้บน ASRock X870 Riptide ➡️ เฟิร์มแวร์เก่า: ใช้ BIOS 3.06 ไม่มีแพตช์ลดความเสี่ยง ทำให้โอกาสเกิดเหตุสูงขึ้น ✅ เคส 9800X3D: เกิดความเสียหายภายใต้ค่าโรงงาน เปิดเพียง EXPO ➡️ บทเรียน: บางรายอัปเดต BIOS ใหม่แล้วทำงานปกติ แต่ยังถกเถียงสาเหตุที่แท้จริง ✅ อาการ 75W cap: หลายเครื่องบน ASRock ติดเพดาน “Package Power” ที่ 75W ➡️ ข้อสังเกต: อาจเกี่ยวกับการต่อ EPS หรือบั๊กที่กด PBO/นโยบายพลังงานใน BIOS ✅ การแก้ไข: ASRock ปล่อย BIOS 3.25 ปรับ PBO และประกาศรับผิดชอบ RMA ➡️ ผลข้างเคียง: ประสิทธิภาพเกม/การกินไฟอาจลดลงเล็กน้อย เพื่อแลกความปลอดภัย ‼️ คำเตือนสำคัญ: ไม่อัปเดต BIOS เสี่ยงต่อการไหม้และความเสียหายถาวร ⛔ หลีกเลี่ยง: ใช้โปรไฟล์ OC/PBO รุนแรงโดยไม่ตรวจเสถียรภาพและอุณหภูมิ ‼️ การต่อไฟผิด: ต่อ EPS 4-pin เดียวอาจทำให้ระบบกดกำลังและไม่เสถียร ⛔ ตรวจสอบ: สาย EPS 8-pin/8+4-pin ต่อครบแน่นทุกหัว ไม่ใช้โหมด Eco ของ PSU โดยไม่ได้ตั้งใจ ‼️ การตั้งค่าแรม: เปิด EXPO/XMP โดยไม่ผ่าน stress test อาจเพิ่มความเสี่ยง ⛔ แนวทาง: ทดสอบเสถียรภาพ (TM5/HCI/OCCT) และเฝ้าค่ากระแส-อุณหภูมิ VRM/SoC เป็นระยะ https://wccftech.com/asrock-x870-riptide-pops-ryzen-7800x3d-and-burns-socket-horribly/
    WCCFTECH.COM
    ASRock X870 Riptide Pops Ryzen 7800X3D And Burns Socket Horribly
    Another burnt Ryzen 7000 CPU surfaces: The user witnessed a horribly damaged Ryzen 7 7800X3D on ASRock X870 Riptide.
    0 Comments 0 Shares 260 Views 0 Reviews
  • Tachyum เปิดตัวชิป Prodigy 2nm – 1024 คอร์ แรงกว่า NVIDIA Rubin Ultra

    บริษัท Tachyum ได้เผยโฉมชิป Prodigy รุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี 2nm โดยมีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 1024 คอร์ และความเร็วสัญญาณนาฬิกา 6 GHz พร้อมแคชรวม 1 GB ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในโลกของเซิร์ฟเวอร์และ AI ชิปนี้ยังรองรับ DDR5-17600 และ PCIe 7.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยังไม่แพร่หลายในตลาดปัจจุบัน

    Tachyum อ้างว่าชิป Prodigy สามารถทำงานด้าน AI inference ได้ถึง 1000 PFLOPs ซึ่งสูงกว่า NVIDIA Rubin Ultra ที่คาดว่าจะทำได้เพียง 50 PFLOPs นอกจากนี้ยังมีการออกแบบให้รองรับระบบหลายซ็อกเก็ต ทำให้สามารถขยายได้ถึง 8192 คอร์ในระบบเดียว ถือเป็นการท้าทายยักษ์ใหญ่ในตลาด GPU อย่าง NVIDIA

    อย่างไรก็ตาม แม้สเปกจะดูน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการผลิตจริง และบริษัทเคยมีประวัติเลื่อนการเปิดตัวหลายครั้ง ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าชิปนี้จะสามารถออกสู่ตลาดได้ตามกำหนดหรือไม่ แม้จะมีเงินลงทุนกว่า 220 ล้านดอลลาร์เพื่อผลักดันโครงการ แต่ความเสี่ยงยังคงสูง

    จุดเด่นของ Tachyum Prodigy 2nm
    1024 คอร์ ความเร็ว 6 GHz
    รองรับ DDR5-17600 และ PCIe 7.0
    AI inference สูงถึง 1000 PFLOPs

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่มีการผลิตจริง เป็นเพียงการประกาศสเปก
    ประวัติการเลื่อนเปิดตัวทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง

    https://wccftech.com/tachyums-2nm-prodigy-chips-1024-cores-6-ghz-1-gb-cache-ddr5-17600-21x-faster-vs-nvidia-rubin-ultra/
    ⚡Tachyum เปิดตัวชิป Prodigy 2nm – 1024 คอร์ แรงกว่า NVIDIA Rubin Ultra บริษัท Tachyum ได้เผยโฉมชิป Prodigy รุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี 2nm โดยมีจำนวนคอร์สูงสุดถึง 1024 คอร์ และความเร็วสัญญาณนาฬิกา 6 GHz พร้อมแคชรวม 1 GB ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในโลกของเซิร์ฟเวอร์และ AI ชิปนี้ยังรองรับ DDR5-17600 และ PCIe 7.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยังไม่แพร่หลายในตลาดปัจจุบัน Tachyum อ้างว่าชิป Prodigy สามารถทำงานด้าน AI inference ได้ถึง 1000 PFLOPs ซึ่งสูงกว่า NVIDIA Rubin Ultra ที่คาดว่าจะทำได้เพียง 50 PFLOPs นอกจากนี้ยังมีการออกแบบให้รองรับระบบหลายซ็อกเก็ต ทำให้สามารถขยายได้ถึง 8192 คอร์ในระบบเดียว ถือเป็นการท้าทายยักษ์ใหญ่ในตลาด GPU อย่าง NVIDIA อย่างไรก็ตาม แม้สเปกจะดูน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการผลิตจริง และบริษัทเคยมีประวัติเลื่อนการเปิดตัวหลายครั้ง ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าชิปนี้จะสามารถออกสู่ตลาดได้ตามกำหนดหรือไม่ แม้จะมีเงินลงทุนกว่า 220 ล้านดอลลาร์เพื่อผลักดันโครงการ แต่ความเสี่ยงยังคงสูง ✅ จุดเด่นของ Tachyum Prodigy 2nm ➡️ 1024 คอร์ ความเร็ว 6 GHz ➡️ รองรับ DDR5-17600 และ PCIe 7.0 ➡️ AI inference สูงถึง 1000 PFLOPs ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่มีการผลิตจริง เป็นเพียงการประกาศสเปก ⛔ ประวัติการเลื่อนเปิดตัวทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง https://wccftech.com/tachyums-2nm-prodigy-chips-1024-cores-6-ghz-1-gb-cache-ddr5-17600-21x-faster-vs-nvidia-rubin-ultra/
    WCCFTECH.COM
    Tachyum's 2nm Prodigy Chips Are Insane: 1024 Cores Running at 6 GHz, 1 GB Cache, 24-Channel DDR5-17600 Support, & 21x Faster Than NVIDIA Rubin Ultra
    Tachyum unveils 2nm Prodigy chips, offering up to 1024 cores & support super-fast DDR5 memory, and will compete against NVIDIA's Rubin Ultra.
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • โฆษกทบ.ตอบชัด สส.ส้มมีข้อสงสัย "เงินเดือนทหารเกณฑ์" งานนี้กระจ่างไหม... (10/11/68)
    .
    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #โฆษกทบ #ทหารเกณฑ์ #พรรคส้ม #การเมืองไทย #กองทัพไทย #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    โฆษกทบ.ตอบชัด สส.ส้มมีข้อสงสัย "เงินเดือนทหารเกณฑ์" งานนี้กระจ่างไหม... (10/11/68) . #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #โฆษกทบ #ทหารเกณฑ์ #พรรคส้ม #การเมืองไทย #กองทัพไทย #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 0 Reviews
  • “AI เขียนโค้ดมัลแวร์! ส่วนขยาย VS Code ปลอมแฝงแรนซัมแวร์ โผล่บน Marketplace ของ Microsoft”

    นักวิจัยด้านความปลอดภัย John Tuckner จาก Secure Annex พบส่วนขยายชื่อว่า “susvsex” บน VS Code Marketplace ของ Microsoft ซึ่งทำหน้าที่เป็น แรนซัมแวร์ โดยตรง! ที่น่าตกใจคือมันระบุชัดเจนในคำอธิบายว่า “จะ zip, upload และเข้ารหัสไฟล์จาก C:\Users\Public\testing” และยังใช้ GitHub เป็นช่องทางควบคุมคำสั่ง (command-and-control)

    ที่สำคัญคือโค้ดของส่วนขยายนี้มีลักษณะ “vibe-coded” หรือเขียนโดยใช้ AI ผ่าน prompt ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่โค้ดที่เขียนด้วยมือแบบปกติ และยังฝัง เครื่องมือถอดรหัสและคีย์ ไว้ในแพ็กเกจด้วย!

    จุดอ่อนของระบบ Marketplace
    Microsoft ไม่ได้ลบส่วนขยายทันทีหลังได้รับรายงาน
    ใช้เวลาเกือบ 8 ชั่วโมงหลังจากโพสต์บล็อกก่อนจะลบออก
    นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นการ “ทดสอบระบบรีวิว” ก่อนการโจมตีจริงที่ซับซ้อนกว่า

    รายละเอียดของส่วนขยาย susvsex
    ระบุชัดเจนว่า zip, upload และเข้ารหัสไฟล์
    ใช้ GitHub เป็นช่องทางควบคุมคำสั่ง
    เขียนด้วย AI ผ่าน prompt ไม่ใช่โค้ดมือ
    ฝังเครื่องมือถอดรหัสและคีย์ไว้ในแพ็กเกจ

    การตอบสนองของ Microsoft
    ไม่ลบส่วนขยายทันทีหลังได้รับรายงาน
    ใช้เวลา 8 ชั่วโมงหลังโพสต์บล็อกจึงลบออก
    URL ของส่วนขยายตอนนี้กลายเป็น “404 – Page not found”

    ข้อสังเกตจากนักวิจัย
    อาจเป็นการทดสอบระบบรีวิวของ Microsoft
    เมตาดาต้าชี้ไปยังผู้ใช้ GitHub ในเมือง Baku ประเทศอาเซอร์ไบจาน
    โค้ดมีคอมเมนต์ที่บ่งชี้ว่าไม่ได้เขียนโดยมนุษย์

    คำเตือนสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ VS Code
    อย่าติดตั้งส่วนขยายจากผู้พัฒนาไม่รู้จักโดยไม่ตรวจสอบโค้ด
    ส่วนขยายที่มีคำอธิบายแปลกหรือชัดเจนเกินไปอาจเป็นกับดัก
    ควรใช้ VS Code ใน sandbox หรือ VM หากต้องทดลองส่วนขยายใหม่
    Microsoft ควรปรับปรุงระบบรีวิวให้ตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/malicious-ai-made-extension-with-ransomware-capabilities-sneaks-on-to-microsofts-official-vs-code-marketplace
    🧨🧠 “AI เขียนโค้ดมัลแวร์! ส่วนขยาย VS Code ปลอมแฝงแรนซัมแวร์ โผล่บน Marketplace ของ Microsoft” นักวิจัยด้านความปลอดภัย John Tuckner จาก Secure Annex พบส่วนขยายชื่อว่า “susvsex” บน VS Code Marketplace ของ Microsoft ซึ่งทำหน้าที่เป็น แรนซัมแวร์ โดยตรง! ที่น่าตกใจคือมันระบุชัดเจนในคำอธิบายว่า “จะ zip, upload และเข้ารหัสไฟล์จาก C:\Users\Public\testing” และยังใช้ GitHub เป็นช่องทางควบคุมคำสั่ง (command-and-control) ที่สำคัญคือโค้ดของส่วนขยายนี้มีลักษณะ “vibe-coded” หรือเขียนโดยใช้ AI ผ่าน prompt ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่โค้ดที่เขียนด้วยมือแบบปกติ และยังฝัง เครื่องมือถอดรหัสและคีย์ ไว้ในแพ็กเกจด้วย! 🧠 จุดอ่อนของระบบ Marketplace 🔖 Microsoft ไม่ได้ลบส่วนขยายทันทีหลังได้รับรายงาน 🔖 ใช้เวลาเกือบ 8 ชั่วโมงหลังจากโพสต์บล็อกก่อนจะลบออก 🔖 นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นการ “ทดสอบระบบรีวิว” ก่อนการโจมตีจริงที่ซับซ้อนกว่า ✅ รายละเอียดของส่วนขยาย susvsex ➡️ ระบุชัดเจนว่า zip, upload และเข้ารหัสไฟล์ ➡️ ใช้ GitHub เป็นช่องทางควบคุมคำสั่ง ➡️ เขียนด้วย AI ผ่าน prompt ไม่ใช่โค้ดมือ ➡️ ฝังเครื่องมือถอดรหัสและคีย์ไว้ในแพ็กเกจ ✅ การตอบสนองของ Microsoft ➡️ ไม่ลบส่วนขยายทันทีหลังได้รับรายงาน ➡️ ใช้เวลา 8 ชั่วโมงหลังโพสต์บล็อกจึงลบออก ➡️ URL ของส่วนขยายตอนนี้กลายเป็น “404 – Page not found” ✅ ข้อสังเกตจากนักวิจัย ➡️ อาจเป็นการทดสอบระบบรีวิวของ Microsoft ➡️ เมตาดาต้าชี้ไปยังผู้ใช้ GitHub ในเมือง Baku ประเทศอาเซอร์ไบจาน ➡️ โค้ดมีคอมเมนต์ที่บ่งชี้ว่าไม่ได้เขียนโดยมนุษย์ ‼️ คำเตือนสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ VS Code ⛔ อย่าติดตั้งส่วนขยายจากผู้พัฒนาไม่รู้จักโดยไม่ตรวจสอบโค้ด ⛔ ส่วนขยายที่มีคำอธิบายแปลกหรือชัดเจนเกินไปอาจเป็นกับดัก ⛔ ควรใช้ VS Code ใน sandbox หรือ VM หากต้องทดลองส่วนขยายใหม่ ⛔ Microsoft ควรปรับปรุงระบบรีวิวให้ตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/malicious-ai-made-extension-with-ransomware-capabilities-sneaks-on-to-microsofts-official-vs-code-marketplace
    0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • สะเทือนวงการเว็บเก็บข้อมูล! FBI สั่งผู้ให้บริการเผยตัวตนผู้ใช้ Archive.today

    ในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยข้อมูลและความลับ เว็บไซต์ Archive.today ถือเป็นหนึ่งในแหล่งเก็บข้อมูลเว็บเพจที่ลึกลับที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้สามารถบันทึกและเข้าถึงหน้าเว็บในอดีตได้โดยไม่ต้องผ่านข้อจำกัดใด ๆ เช่นเดียวกับ Wayback Machine แต่มีความเป็นอิสระและไม่เปิดเผยตัวตนมากกว่า

    ล่าสุด เว็บไซต์นี้กำลังตกเป็นเป้าหมายของ FBI ที่ออกคำสั่งศาลให้ผู้ให้บริการโดเมน Tucows ในแคนาดา ส่งมอบข้อมูลผู้ใช้ที่อยู่เบื้องหลัง Archive.today ซึ่งรวมถึงข้อมูลการติดต่อและการชำระเงิน โดยมีบทลงโทษหากไม่ปฏิบัติตาม

    เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากโพสต์ลึกลับในบัญชี X (Twitter เดิม) ของ Archive.today ที่เงียบหายไปนานกว่า 1 ปี โดยโพสต์คำว่า “Canary” พร้อมลิงก์ไปยังไฟล์ PDF ซึ่งเปรียบเสมือนสัญญาณเตือนภัยในเหมืองถ่านหินยุคเก่า ว่าอาจมีอันตรายที่มองไม่เห็นกำลังใกล้เข้ามา

    แม้คำสั่งศาลจะยังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องได้ แต่ก็จุดกระแสให้เกิดการขุดคุ้ยถึงตัวตนของผู้ดำเนินการเว็บไซต์นี้ บางรายงานชี้ว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับรัสเซีย ขณะที่อีกแหล่งหนึ่งระบุว่าเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในนิวยอร์ก

    นอกจากประเด็นด้านลิขสิทธิ์แล้ว ยังมีข้อสงสัยเรื่องการใช้ botnet เพื่อหลบเลี่ยงระบบป้องกันการดึงข้อมูลจากเว็บไซต์อื่น ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หน่วยงานสืบสวนของสหรัฐฯ ให้ความสนใจ

    Archive.today คืออะไร
    เป็นเว็บไซต์ที่เก็บ snapshot ของหน้าเว็บในอดีต โดยไม่สนข้อจำกัดหรือกฎเกณฑ์ทั่วไป
    ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกลบหรืออยู่หลัง paywall ได้

    คำสั่งศาลจาก FBI
    สั่งให้ Tucows ผู้ให้บริการโดเมนในแคนาดา ส่งข้อมูลผู้ใช้ของ Archive.today
    รวมถึงข้อมูลการติดต่อและการชำระเงิน
    หากไม่ส่งข้อมูลตามคำสั่ง จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย

    สัญญาณเตือนจากโพสต์ “Canary”
    เป็นสัญลักษณ์เตือนภัยแบบลับ ๆ ว่าเว็บไซต์อาจกำลังเผชิญอันตราย
    ลิงก์ไปยังไฟล์ PDF ที่อ้างว่าเป็นคำสั่งศาล

    ข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนผู้ดำเนินการ
    บางรายงานชี้ว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย
    อีกแหล่งหนึ่งระบุว่าเป็นนักพัฒนาจากนิวยอร์ก
    ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด

    พฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายละเมิด
    ใช้ botnet เพื่อหลบเลี่ยงระบบป้องกันการดึงข้อมูล
    อาจละเมิดลิขสิทธิ์จากการเผยแพร่เนื้อหาหลัง paywall

    https://www.heise.de/en/news/Archive-today-FBI-Demands-Data-from-Provider-Tucows-11066346.html
    🕵️‍♂️ สะเทือนวงการเว็บเก็บข้อมูล! FBI สั่งผู้ให้บริการเผยตัวตนผู้ใช้ Archive.today ในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยข้อมูลและความลับ เว็บไซต์ Archive.today ถือเป็นหนึ่งในแหล่งเก็บข้อมูลเว็บเพจที่ลึกลับที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้สามารถบันทึกและเข้าถึงหน้าเว็บในอดีตได้โดยไม่ต้องผ่านข้อจำกัดใด ๆ เช่นเดียวกับ Wayback Machine แต่มีความเป็นอิสระและไม่เปิดเผยตัวตนมากกว่า ล่าสุด เว็บไซต์นี้กำลังตกเป็นเป้าหมายของ FBI ที่ออกคำสั่งศาลให้ผู้ให้บริการโดเมน Tucows ในแคนาดา ส่งมอบข้อมูลผู้ใช้ที่อยู่เบื้องหลัง Archive.today ซึ่งรวมถึงข้อมูลการติดต่อและการชำระเงิน โดยมีบทลงโทษหากไม่ปฏิบัติตาม เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากโพสต์ลึกลับในบัญชี X (Twitter เดิม) ของ Archive.today ที่เงียบหายไปนานกว่า 1 ปี โดยโพสต์คำว่า “Canary” พร้อมลิงก์ไปยังไฟล์ PDF ซึ่งเปรียบเสมือนสัญญาณเตือนภัยในเหมืองถ่านหินยุคเก่า ว่าอาจมีอันตรายที่มองไม่เห็นกำลังใกล้เข้ามา แม้คำสั่งศาลจะยังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องได้ แต่ก็จุดกระแสให้เกิดการขุดคุ้ยถึงตัวตนของผู้ดำเนินการเว็บไซต์นี้ บางรายงานชี้ว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับรัสเซีย ขณะที่อีกแหล่งหนึ่งระบุว่าเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในนิวยอร์ก นอกจากประเด็นด้านลิขสิทธิ์แล้ว ยังมีข้อสงสัยเรื่องการใช้ botnet เพื่อหลบเลี่ยงระบบป้องกันการดึงข้อมูลจากเว็บไซต์อื่น ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หน่วยงานสืบสวนของสหรัฐฯ ให้ความสนใจ ✅ Archive.today คืออะไร ➡️ เป็นเว็บไซต์ที่เก็บ snapshot ของหน้าเว็บในอดีต โดยไม่สนข้อจำกัดหรือกฎเกณฑ์ทั่วไป ➡️ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกลบหรืออยู่หลัง paywall ได้ ✅ คำสั่งศาลจาก FBI ➡️ สั่งให้ Tucows ผู้ให้บริการโดเมนในแคนาดา ส่งข้อมูลผู้ใช้ของ Archive.today ➡️ รวมถึงข้อมูลการติดต่อและการชำระเงิน ➡️ หากไม่ส่งข้อมูลตามคำสั่ง จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย ✅ สัญญาณเตือนจากโพสต์ “Canary” ➡️ เป็นสัญลักษณ์เตือนภัยแบบลับ ๆ ว่าเว็บไซต์อาจกำลังเผชิญอันตราย ➡️ ลิงก์ไปยังไฟล์ PDF ที่อ้างว่าเป็นคำสั่งศาล ✅ ข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนผู้ดำเนินการ ➡️ บางรายงานชี้ว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย ➡️ อีกแหล่งหนึ่งระบุว่าเป็นนักพัฒนาจากนิวยอร์ก ➡️ ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด ✅ พฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายละเมิด ➡️ ใช้ botnet เพื่อหลบเลี่ยงระบบป้องกันการดึงข้อมูล ➡️ อาจละเมิดลิขสิทธิ์จากการเผยแพร่เนื้อหาหลัง paywall https://www.heise.de/en/news/Archive-today-FBI-Demands-Data-from-Provider-Tucows-11066346.html
    WWW.HEISE.DE
    Archive.today: FBI Demands Data from Provider Tucows
    The mysterious website Archive.today is coming under the FBI's crosshairs. A court order is forcing the provider Tucows to hand over user data.
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • ต่างประเทศกำลังรวมพลังเพื่อต่อต้าน เพราะไม่ต้องการให้อีลิทควบคุมวิถีการใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีของเขา,ย่อมาดูไทย กำลังผ่านสาระพัดร่างกฎหมาย ลักหลับประชาชน หักเหความสนใจให้คนไทยไปสนใจเรื่องอื่นๆแทนเช่นเกี่ยวกับเขมรที่ปั่นปลุกกระแสจนติด,ทำไมไทยไม่สั่งจบ เพราะมันไม่ต้องการให้จบ จึงลากยาวจุดกระแสต่อเรื่องราวไปทั่วตลอดเวลา,โดยอีกด้านหนึ่ง ดำเนินทุกวิถีทางให้แผนอีลิทซาตานเดินหน้าทางแอบๆได้อย่างราบรื่น,ผ่านกลไกสส.สว.ในสภาของมันสั่งให้ผ่านกฎหมายต่างๆที่ว่านั้นอย่างเรียบร้อยโดยรวดเร็ว,สังเกตุมุกคาร์บอนต่ำที่สอดแทรกในประกาศนโยบายของรัฐบาลหนูนี้,แอบวางหมากเนียนๆไว้หมด อุ๊งอิ๊งไปหนูมาก็คนของมันหมด,ควบคุมได้หมด เช่นเก็บความลับที่ชั่วเลวไว้ แบบฮุนเซนขู่จะแฉนั้นล่ะ,แล้วก็ปฏิบัติตามมันขู่ทุกๆอย่างอย่างควบคุมโดยว่าง่ายเป็นต้น,คุณอดิเทพไขข้อสงสัยนี้ชัดเจน,เรา..จะประเทศไหนๆทั่วโลก ชาวโลกด้วยกันหมด หากสามัคคีร่วมกันทำลายอีลิทกันอย่างจริงจังทั่วโลก เรา..จะเป็นไทอิสระเสรีแน่นอน,ใครจะมาเยี่ยมมาเยือนกันของชาติไหนๆจะไร้พรมแดนกีดกั้นทันที และไม่ทำลายทำร้ายกันด้วยหรือข่มเหงกันแบบปัจจุบัน คนเราทั่วโลกจะให้เกียรติซึ่งกันและกันในคุณค่าชีวิตของแต่ละคนนั้นเอง ผิวสีใดๆก็รักกันได้ลงใจ ชาติใดก็รักกันได้สบายใจ,สันดานแบบคนเขมรจะไม่มีเลย,จึงสงบสันติเป็นสุขกันทั่วโลก.


    รวมพลังต่อต้าน Digital ID

    เวลาและสถานที่
    22 พ.ย. 2568, 13:00 – 17:00 น.

    ลอนดอน, ลอนดอน W2 2UH, สหราชอาณาจักร

    เกี่ยวกับกิจกรรม
    เลือกอิสรภาพเหนือการควบคุม มาร่วมกับเราที่ Marble Arch, ลอนดอน เวลา 13:00 น. เพื่อรวมพลังต่อต้านการนำ Digital ID สู่อำนาจ

    แพลตฟอร์มประชาชน

    เราคือขบวนการรากหญ้าที่สร้างขึ้นโดยคนธรรมดาที่ไม่ยอมนิ่งเฉย พันธกิจของเราคือการปลุกพลัง เสริมพลัง และรวมชุมชนให้เป็นหนึ่ง ผ่านความคิดสร้างสรรค์ ความจริง และการกระทำในโลกแห่งความเป็นจริง ตั้งแต่การเผยแพร่แบบไวรัลไปจนถึงการชุมนุมทั่วประเทศ เราพิสูจน์ให้เห็นว่าการพูดออกมานั้นทรงพลัง สร้างแรงบันดาลใจ และสนุกสนาน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหว เชื่อมต่อ และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อรวมกัน เราคือพลัง

    https://www.thepeoplesplatform.co.uk/events-1/unite-against-digital-id

    ต่างประเทศกำลังรวมพลังเพื่อต่อต้าน เพราะไม่ต้องการให้อีลิทควบคุมวิถีการใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีของเขา,ย่อมาดูไทย กำลังผ่านสาระพัดร่างกฎหมาย ลักหลับประชาชน หักเหความสนใจให้คนไทยไปสนใจเรื่องอื่นๆแทนเช่นเกี่ยวกับเขมรที่ปั่นปลุกกระแสจนติด,ทำไมไทยไม่สั่งจบ เพราะมันไม่ต้องการให้จบ จึงลากยาวจุดกระแสต่อเรื่องราวไปทั่วตลอดเวลา,โดยอีกด้านหนึ่ง ดำเนินทุกวิถีทางให้แผนอีลิทซาตานเดินหน้าทางแอบๆได้อย่างราบรื่น,ผ่านกลไกสส.สว.ในสภาของมันสั่งให้ผ่านกฎหมายต่างๆที่ว่านั้นอย่างเรียบร้อยโดยรวดเร็ว,สังเกตุมุกคาร์บอนต่ำที่สอดแทรกในประกาศนโยบายของรัฐบาลหนูนี้,แอบวางหมากเนียนๆไว้หมด อุ๊งอิ๊งไปหนูมาก็คนของมันหมด,ควบคุมได้หมด เช่นเก็บความลับที่ชั่วเลวไว้ แบบฮุนเซนขู่จะแฉนั้นล่ะ,แล้วก็ปฏิบัติตามมันขู่ทุกๆอย่างอย่างควบคุมโดยว่าง่ายเป็นต้น,คุณอดิเทพไขข้อสงสัยนี้ชัดเจน,เรา..จะประเทศไหนๆทั่วโลก ชาวโลกด้วยกันหมด หากสามัคคีร่วมกันทำลายอีลิทกันอย่างจริงจังทั่วโลก เรา..จะเป็นไทอิสระเสรีแน่นอน,ใครจะมาเยี่ยมมาเยือนกันของชาติไหนๆจะไร้พรมแดนกีดกั้นทันที และไม่ทำลายทำร้ายกันด้วยหรือข่มเหงกันแบบปัจจุบัน คนเราทั่วโลกจะให้เกียรติซึ่งกันและกันในคุณค่าชีวิตของแต่ละคนนั้นเอง ผิวสีใดๆก็รักกันได้ลงใจ ชาติใดก็รักกันได้สบายใจ,สันดานแบบคนเขมรจะไม่มีเลย,จึงสงบสันติเป็นสุขกันทั่วโลก. รวมพลังต่อต้าน Digital ID เวลาและสถานที่ 22 พ.ย. 2568, 13:00 – 17:00 น. ลอนดอน, ลอนดอน W2 2UH, สหราชอาณาจักร เกี่ยวกับกิจกรรม เลือกอิสรภาพเหนือการควบคุม มาร่วมกับเราที่ Marble Arch, ลอนดอน เวลา 13:00 น. เพื่อรวมพลังต่อต้านการนำ Digital ID สู่อำนาจ แพลตฟอร์มประชาชน เราคือขบวนการรากหญ้าที่สร้างขึ้นโดยคนธรรมดาที่ไม่ยอมนิ่งเฉย พันธกิจของเราคือการปลุกพลัง เสริมพลัง และรวมชุมชนให้เป็นหนึ่ง ผ่านความคิดสร้างสรรค์ ความจริง และการกระทำในโลกแห่งความเป็นจริง ตั้งแต่การเผยแพร่แบบไวรัลไปจนถึงการชุมนุมทั่วประเทศ เราพิสูจน์ให้เห็นว่าการพูดออกมานั้นทรงพลัง สร้างแรงบันดาลใจ และสนุกสนาน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหว เชื่อมต่อ และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อรวมกัน เราคือพลัง https://www.thepeoplesplatform.co.uk/events-1/unite-against-digital-id
    WWW.THEPEOPLESPLATFORM.CO.UK
    Unite Against Digital ID | The People 1
    Choose freedom over control. Join us at the Marble Arch, London at 1pm to unite against The Digital ID being brought into power.
    0 Comments 0 Shares 319 Views 0 Reviews
  • "อนุทิน" ยื้อปราบสแกมเมอร์ แฉ ตร.เอี่ยวเว็บพนัน 200 คน : [THE MESSAGE]

    นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ผิดหวังท่าที นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ปราบสแกมเมอร์สวนทางบอกเป็นวาระแห่งชาติ แต่หน่วยงานเกียร์ว่างไม่ดำเนินการจริงจัง จี้ ปลด ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกจาก ครม. สังคมรับไม่ได้กับพฤติกรรม มีข้อสงสัยเชื่อมโยง ทุนสีเทาเชื่อมโยง ส่งผลรัฐบาลขาดความเชื่อมั่น ยืนยัน ข้อมูลที่มีเอาผิดได้ทุกระดับ ฝ่ายการเมืองข้าราชการประจำเละเทะ ตำรวจที่มีการแฉไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันกว่า 200 คน พร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
    "อนุทิน" ยื้อปราบสแกมเมอร์ แฉ ตร.เอี่ยวเว็บพนัน 200 คน : [THE MESSAGE] นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ผิดหวังท่าที นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ปราบสแกมเมอร์สวนทางบอกเป็นวาระแห่งชาติ แต่หน่วยงานเกียร์ว่างไม่ดำเนินการจริงจัง จี้ ปลด ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกจาก ครม. สังคมรับไม่ได้กับพฤติกรรม มีข้อสงสัยเชื่อมโยง ทุนสีเทาเชื่อมโยง ส่งผลรัฐบาลขาดความเชื่อมั่น ยืนยัน ข้อมูลที่มีเอาผิดได้ทุกระดับ ฝ่ายการเมืองข้าราชการประจำเละเทะ ตำรวจที่มีการแฉไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันกว่า 200 คน พร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 493 Views 0 0 Reviews
  • ศึก AI สะเทือนวงการ: Elon Musk กล่าวหา Sam Altman “ขโมยองค์กรไม่แสวงกำไร”

    เรื่องราวดราม่าระหว่างสองผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการ AI กลับมาเดือดอีกครั้ง เมื่อ Elon Musk โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X กล่าวหาว่า Sam Altman “ขโมยองค์กรไม่แสวงกำไร” หลังจากเกิดข้อพิพาทเรื่องการคืนเงินมัดจำ $50,000 สำหรับการจอง Tesla Roadster รุ่นใหม่ที่ล่าช้ามาหลายปี

    Altman ยกเลิกการจองและขอเงินคืน แต่พบว่าอีเมลสำหรับติดต่อไม่สามารถใช้งานได้ ขณะที่ Musk ตอบกลับอย่างเผ็ดร้อนว่าเงินคืนให้ภายใน 24 ชั่วโมง และกล่าวหาว่า Altman “มีนิสัยชอบบิดเบือน” พร้อมเสริมว่าเขา “ขโมย OpenAI” ซึ่งเดิมเป็นองค์กรไม่แสวงกำไรที่ Musk ร่วมก่อตั้งในปี 2015 ก่อนจะถอนตัวในปี 2018 เพราะไม่เห็นด้วยกับทิศทางเชิงพาณิชย์ขององค์กร

    ดราม่านี้สะท้อนความขัดแย้งเชิงอุดมการณ์ระหว่าง Musk กับ Altman ที่ยืดเยื้อมาหลายปี โดยเฉพาะเมื่อ OpenAI เปลี่ยนโครงสร้างเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ และกลายเป็นผู้นำด้าน AI ด้วย ChatGPT ขณะที่ Musk ก็เปิดตัว xAI เพื่อแข่งขันโดยตรง และสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อพัฒนาโมเดลของตัวเอง

    เกร็ดน่ารู้จากวงการ AI:
    OpenAI Foundation ยังคงเป็นองค์กรไม่แสวงกำไร แต่ควบคุม OpenAI PBC ซึ่งเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์
    Microsoft เข้ามาสนับสนุน OpenAI ทั้งด้านเงินทุนและโครงสร้าง เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างอิสระ
    xAI ของ Musk พัฒนาโมเดล Grok และมีแผนสร้าง GPU เองในอนาคต

    จุดเริ่มต้นของดราม่า
    Altman ยกเลิกจอง Tesla Roadster และขอคืนเงินมัดจำ
    Musk ตอบกลับว่าเงินคืนแล้ว และกล่าวหาว่า “ขโมยองค์กรไม่แสวงกำไร”

    ความขัดแย้งระหว่าง Musk และ Altman
    Musk ร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 และถอนตัวในปี 2018
    ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยน OpenAI เป็นบริษัทเชิงพาณิชย์

    โครงสร้างของ OpenAI ในปัจจุบัน
    OpenAI Foundation ควบคุม OpenAI PBC ซึ่งเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์
    ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft เพื่อเพิ่มความคล่องตัว

    การแข่งขันระหว่าง xAI และ OpenAI
    xAI พัฒนาโมเดล Grok และสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่
    Musk วางแผนผลิต GPU เองเพื่อแข่งขันในตลาด AI

    ความเสี่ยงจากความขัดแย้งในวงการ AI
    อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ใช้งาน
    การแข่งขันเชิงอุดมการณ์อาจเบี่ยงเบนจากเป้าหมายเพื่อมนุษยชาติ

    ความไม่ชัดเจนของโครงสร้างองค์กร AI
    การผสมระหว่างไม่แสวงกำไรกับเชิงพาณิชย์อาจสร้างความสับสน
    อาจเกิดข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใสและเจตนารมณ์ขององค์กร

    เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การคืนเงินจองรถ แต่เป็นการเปิดฉาก “สงครามอุดมการณ์” ระหว่างสองผู้นำที่กำลังขับเคลื่อนอนาคตของปัญญาประดิษฐ์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musk-alleges-sam-altman-stole-a-non-profit-as-ai-bros-spat-over-cancelled-tesla-roadster-order
    🤖 ศึก AI สะเทือนวงการ: Elon Musk กล่าวหา Sam Altman “ขโมยองค์กรไม่แสวงกำไร” เรื่องราวดราม่าระหว่างสองผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการ AI กลับมาเดือดอีกครั้ง เมื่อ Elon Musk โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม X กล่าวหาว่า Sam Altman “ขโมยองค์กรไม่แสวงกำไร” หลังจากเกิดข้อพิพาทเรื่องการคืนเงินมัดจำ $50,000 สำหรับการจอง Tesla Roadster รุ่นใหม่ที่ล่าช้ามาหลายปี Altman ยกเลิกการจองและขอเงินคืน แต่พบว่าอีเมลสำหรับติดต่อไม่สามารถใช้งานได้ ขณะที่ Musk ตอบกลับอย่างเผ็ดร้อนว่าเงินคืนให้ภายใน 24 ชั่วโมง และกล่าวหาว่า Altman “มีนิสัยชอบบิดเบือน” พร้อมเสริมว่าเขา “ขโมย OpenAI” ซึ่งเดิมเป็นองค์กรไม่แสวงกำไรที่ Musk ร่วมก่อตั้งในปี 2015 ก่อนจะถอนตัวในปี 2018 เพราะไม่เห็นด้วยกับทิศทางเชิงพาณิชย์ขององค์กร ดราม่านี้สะท้อนความขัดแย้งเชิงอุดมการณ์ระหว่าง Musk กับ Altman ที่ยืดเยื้อมาหลายปี โดยเฉพาะเมื่อ OpenAI เปลี่ยนโครงสร้างเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ และกลายเป็นผู้นำด้าน AI ด้วย ChatGPT ขณะที่ Musk ก็เปิดตัว xAI เพื่อแข่งขันโดยตรง และสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อพัฒนาโมเดลของตัวเอง 💡 เกร็ดน่ารู้จากวงการ AI: 📍 OpenAI Foundation ยังคงเป็นองค์กรไม่แสวงกำไร แต่ควบคุม OpenAI PBC ซึ่งเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ 📍 Microsoft เข้ามาสนับสนุน OpenAI ทั้งด้านเงินทุนและโครงสร้าง เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างอิสระ 📍 xAI ของ Musk พัฒนาโมเดล Grok และมีแผนสร้าง GPU เองในอนาคต ✅ จุดเริ่มต้นของดราม่า ➡️ Altman ยกเลิกจอง Tesla Roadster และขอคืนเงินมัดจำ ➡️ Musk ตอบกลับว่าเงินคืนแล้ว และกล่าวหาว่า “ขโมยองค์กรไม่แสวงกำไร” ✅ ความขัดแย้งระหว่าง Musk และ Altman ➡️ Musk ร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 และถอนตัวในปี 2018 ➡️ ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยน OpenAI เป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ ✅ โครงสร้างของ OpenAI ในปัจจุบัน ➡️ OpenAI Foundation ควบคุม OpenAI PBC ซึ่งเป็นบริษัทเชิงพาณิชย์ ➡️ ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft เพื่อเพิ่มความคล่องตัว ✅ การแข่งขันระหว่าง xAI และ OpenAI ➡️ xAI พัฒนาโมเดล Grok และสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ➡️ Musk วางแผนผลิต GPU เองเพื่อแข่งขันในตลาด AI ‼️ ความเสี่ยงจากความขัดแย้งในวงการ AI ⛔ อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ใช้งาน ⛔ การแข่งขันเชิงอุดมการณ์อาจเบี่ยงเบนจากเป้าหมายเพื่อมนุษยชาติ ‼️ ความไม่ชัดเจนของโครงสร้างองค์กร AI ⛔ การผสมระหว่างไม่แสวงกำไรกับเชิงพาณิชย์อาจสร้างความสับสน ⛔ อาจเกิดข้อสงสัยเรื่องความโปร่งใสและเจตนารมณ์ขององค์กร เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การคืนเงินจองรถ แต่เป็นการเปิดฉาก “สงครามอุดมการณ์” ระหว่างสองผู้นำที่กำลังขับเคลื่อนอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ 🌐🔥 https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musk-alleges-sam-altman-stole-a-non-profit-as-ai-bros-spat-over-cancelled-tesla-roadster-order
    0 Comments 0 Shares 279 Views 0 Reviews
  • Lock Glimpse: ฟีเจอร์ใหม่จาก Nothing ที่เปลี่ยนหน้าจอล็อกให้กลายเป็นพื้นที่โฆษณา (แบบแนบเนียน)

    Nothing เปิดตัวฟีเจอร์ “Lock Glimpse” บนสมาร์ทโฟนรุ่น 3a และ 3a Lite ซึ่งแสดงวอลเปเปอร์หมุนเวียนพร้อมลิงก์ไปยังบทความภายนอกที่มีโฆษณาแฝง แม้จะไม่ใช่โฆษณาเต็มจอแบบตรง ๆ แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความโปร่งใสและคุณภาพของเนื้อหา

    ฟีเจอร์ Lock Glimpse ของ Nothing ทำงานโดยแสดงวอลเปเปอร์แบบหมุนเวียนบนหน้าจอล็อก พร้อมลิงก์เล็ก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาพ เช่น สูตรอาหารหรือบทความ DIY หากผู้ใช้แตะลิงก์นั้น จะถูกนำไปยังหน้าเว็บที่เต็มไปด้วยโฆษณา ซึ่งหลายบทความถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจสร้างโดย AI และไม่มีแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน

    บริษัทที่อยู่เบื้องหลังเนื้อหาเหล่านี้ชื่อว่า Vilykke ซึ่งไม่มีเว็บไซต์หลักหรือข้อมูลสาธารณะที่ตรวจสอบได้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า Nothing กำลังร่วมมือกับ “ฟาร์มคลิกเบต” เพื่อสร้างรายได้จากการแสดงโฆษณาโดยไม่แจ้งผู้ใช้อย่างชัดเจน

    Nothing ชี้แจงว่า Lock Glimpse มีจุดประสงค์เพื่อ “เพิ่มประสบการณ์” โดยนำเสนอ “เนื้อหาที่มีประโยชน์และทันเวลา” และไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นเฉพาะในรุ่น 3a Lite และสามารถปิดได้ใน Settings

    รายละเอียดของ Lock Glimpse
    แสดงวอลเปเปอร์หมุนเวียนพร้อมลิงก์ไปยังบทความ
    บทความมีโฆษณาแฝง และอาจสร้างโดย AI
    ฟีเจอร์เปิดโดยค่าเริ่มต้นในรุ่น 3a Lite
    ปิดได้ใน Settings หรือปัดซ้ายจากหน้าจอล็อก

    คำชี้แจงจาก Nothing
    ไม่มีการเก็บหรือแชร์ข้อมูลส่วนตัว
    ฟีเจอร์ออกแบบมาเพื่อ “เพิ่มประสบการณ์” ไม่ใช่รบกวน
    อ้างว่าเนื้อหาคัดสรรจากหมวดหมู่ที่ผู้ใช้เลือกได้

    บริบทของอุตสาหกรรม
    Motorola, Samsung, Xiaomi เคยใช้ฟีเจอร์คล้ายกันชื่อ Glance
    Nothing อาจร่วมมือกับบริษัท Bouyan จากฮ่องกง
    การแสดงโฆษณาบนหน้าจอล็อกเริ่มกลายเป็นแนวโน้มในสมาร์ทโฟนราคาประหยัด

    คำเตือนจากข่าวนี้
    บทความที่แสดงอาจไม่มีคุณภาพหรือแหล่งอ้างอิง
    ผู้ใช้บางคนอาจไม่รู้ว่ากำลังดูโฆษณา
    ความโปร่งใสของ Nothing ถูกตั้งคำถาม
    ฟีเจอร์นี้อาจขัดกับภาพลักษณ์ “UX สะอาด” ที่ Nothing เคยโปรโมต

    https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/watch-out-lock-screen-ads-are-coming-to-smartphones-and-nothings-are-the-strangest-ones-yet
    📱🔒 Lock Glimpse: ฟีเจอร์ใหม่จาก Nothing ที่เปลี่ยนหน้าจอล็อกให้กลายเป็นพื้นที่โฆษณา (แบบแนบเนียน) Nothing เปิดตัวฟีเจอร์ “Lock Glimpse” บนสมาร์ทโฟนรุ่น 3a และ 3a Lite ซึ่งแสดงวอลเปเปอร์หมุนเวียนพร้อมลิงก์ไปยังบทความภายนอกที่มีโฆษณาแฝง แม้จะไม่ใช่โฆษณาเต็มจอแบบตรง ๆ แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความโปร่งใสและคุณภาพของเนื้อหา ฟีเจอร์ Lock Glimpse ของ Nothing ทำงานโดยแสดงวอลเปเปอร์แบบหมุนเวียนบนหน้าจอล็อก พร้อมลิงก์เล็ก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาพ เช่น สูตรอาหารหรือบทความ DIY หากผู้ใช้แตะลิงก์นั้น จะถูกนำไปยังหน้าเว็บที่เต็มไปด้วยโฆษณา ซึ่งหลายบทความถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจสร้างโดย AI และไม่มีแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน บริษัทที่อยู่เบื้องหลังเนื้อหาเหล่านี้ชื่อว่า Vilykke ซึ่งไม่มีเว็บไซต์หลักหรือข้อมูลสาธารณะที่ตรวจสอบได้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า Nothing กำลังร่วมมือกับ “ฟาร์มคลิกเบต” เพื่อสร้างรายได้จากการแสดงโฆษณาโดยไม่แจ้งผู้ใช้อย่างชัดเจน Nothing ชี้แจงว่า Lock Glimpse มีจุดประสงค์เพื่อ “เพิ่มประสบการณ์” โดยนำเสนอ “เนื้อหาที่มีประโยชน์และทันเวลา” และไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นเฉพาะในรุ่น 3a Lite และสามารถปิดได้ใน Settings ✅ รายละเอียดของ Lock Glimpse ➡️ แสดงวอลเปเปอร์หมุนเวียนพร้อมลิงก์ไปยังบทความ ➡️ บทความมีโฆษณาแฝง และอาจสร้างโดย AI ➡️ ฟีเจอร์เปิดโดยค่าเริ่มต้นในรุ่น 3a Lite ➡️ ปิดได้ใน Settings หรือปัดซ้ายจากหน้าจอล็อก ✅ คำชี้แจงจาก Nothing ➡️ ไม่มีการเก็บหรือแชร์ข้อมูลส่วนตัว ➡️ ฟีเจอร์ออกแบบมาเพื่อ “เพิ่มประสบการณ์” ไม่ใช่รบกวน ➡️ อ้างว่าเนื้อหาคัดสรรจากหมวดหมู่ที่ผู้ใช้เลือกได้ ✅ บริบทของอุตสาหกรรม ➡️ Motorola, Samsung, Xiaomi เคยใช้ฟีเจอร์คล้ายกันชื่อ Glance ➡️ Nothing อาจร่วมมือกับบริษัท Bouyan จากฮ่องกง ➡️ การแสดงโฆษณาบนหน้าจอล็อกเริ่มกลายเป็นแนวโน้มในสมาร์ทโฟนราคาประหยัด ‼️ คำเตือนจากข่าวนี้ ⛔ บทความที่แสดงอาจไม่มีคุณภาพหรือแหล่งอ้างอิง ⛔ ผู้ใช้บางคนอาจไม่รู้ว่ากำลังดูโฆษณา ⛔ ความโปร่งใสของ Nothing ถูกตั้งคำถาม ⛔ ฟีเจอร์นี้อาจขัดกับภาพลักษณ์ “UX สะอาด” ที่ Nothing เคยโปรโมต https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/watch-out-lock-screen-ads-are-coming-to-smartphones-and-nothings-are-the-strangest-ones-yet
    0 Comments 0 Shares 264 Views 0 Reviews
  • ‘พีระพันธุ์’ ไม่สบายใจปม ‘ข้อตกลงไทย-กัมพูชา’ ชี้ศักดิ์ศรีประเทศต้องมาก่อน พร้อมตั้งข้อสงสัยปมลงนาม ‘แร่แรร์เอิร์ธ’
    https://www.thai-tai.tv/news/22147/
    .
    #ไทยไท #พีระพันธุ์ #MOUแรร์เอิร์ธ #สแกมเมอร์ #ถ้อยแถลงไทยกัมพูชา #ประหารคอร์รัปชัน

    ‘พีระพันธุ์’ ไม่สบายใจปม ‘ข้อตกลงไทย-กัมพูชา’ ชี้ศักดิ์ศรีประเทศต้องมาก่อน พร้อมตั้งข้อสงสัยปมลงนาม ‘แร่แรร์เอิร์ธ’ https://www.thai-tai.tv/news/22147/ . #ไทยไท #พีระพันธุ์ #MOUแรร์เอิร์ธ #สแกมเมอร์ #ถ้อยแถลงไทยกัมพูชา #ประหารคอร์รัปชัน
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 Reviews
  • ไต้หวันเพิ่มโทษทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ: จำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับกว่า 325,000 ดอลลาร์!

    รัฐบาลไต้หวันเสนอร่างกฎหมายใหม่เพิ่มโทษผู้ที่ทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านการสื่อสาร โดยมีบทลงโทษสูงสุดถึง 7 ปี และปรับกว่า 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 325,000 ดอลลาร์สหรัฐ)

    สายเคเบิลใต้น้ำไม่ใช่แค่ท่อส่งข้อมูลระหว่างประเทศ แต่เป็นเส้นเลือดหลักของการสื่อสารระหว่างไต้หวันกับโลกภายนอก โดยเฉพาะกับพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่สายเคเบิลเหล่านี้ถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้ง โดยมีข้อสงสัยว่ามาจากเรือสินค้าจีนที่จงใจทำลาย

    เพื่อรับมือกับภัยคุกคามนี้ รัฐบาลไต้หวันจึงเสนอ “กฎหมายสายเคเบิลใต้น้ำ 7 ฉบับ” ที่เพิ่มบทลงโทษอย่างชัดเจน:
    ผู้ที่จงใจทำลาย: จำคุกสูงสุด 7 ปี และปรับ 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
    ผู้ที่ทำลายโดยไม่ตั้งใจ: จำคุก 6 เดือน และปรับ 2 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
    เรือที่เกี่ยวข้อง: รัฐบาลมีสิทธิ์ยึดเรือทันที ไม่ว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์จะเป็นใคร

    นอกจากนี้ กฎหมายยังบังคับให้เรือทุกลำต้องติดตั้งระบบระบุตัวอัตโนมัติ (AIS) และให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำแผนที่แสดงตำแหน่งสายเคเบิลใต้น้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ

    แม้การเปิดเผยตำแหน่งสายเคเบิลอาจดูเสี่ยง แต่รัฐบาลมองว่า “ฝ่ายตรงข้ามน่าจะรู้ตำแหน่งอยู่แล้ว” การเปิดเผยต่อสาธารณะจะช่วยลดความผิดพลาดจากเรือทั่วไปที่ไม่รู้ว่ากำลังแล่นผ่านโครงสร้างสำคัญ

    นี่คือการส่งสัญญาณว่า “ข้อมูลคืออธิปไตย” และไต้หวันจะไม่ยอมให้โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารถูกคุกคามอีกต่อไป ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

    https://www.tomshardware.com/networking/taiwan-increases-penalty-for-damaging-undersea-cables-offenders-face-up-to-7-years-in-prison-and-usd325-000-in-fines
    🌐⚖️ ไต้หวันเพิ่มโทษทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ: จำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับกว่า 325,000 ดอลลาร์! รัฐบาลไต้หวันเสนอร่างกฎหมายใหม่เพิ่มโทษผู้ที่ทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านการสื่อสาร โดยมีบทลงโทษสูงสุดถึง 7 ปี และปรับกว่า 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 325,000 ดอลลาร์สหรัฐ) สายเคเบิลใต้น้ำไม่ใช่แค่ท่อส่งข้อมูลระหว่างประเทศ แต่เป็นเส้นเลือดหลักของการสื่อสารระหว่างไต้หวันกับโลกภายนอก โดยเฉพาะกับพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่สายเคเบิลเหล่านี้ถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้ง โดยมีข้อสงสัยว่ามาจากเรือสินค้าจีนที่จงใจทำลาย เพื่อรับมือกับภัยคุกคามนี้ รัฐบาลไต้หวันจึงเสนอ “กฎหมายสายเคเบิลใต้น้ำ 7 ฉบับ” ที่เพิ่มบทลงโทษอย่างชัดเจน: 📍 ผู้ที่จงใจทำลาย: จำคุกสูงสุด 7 ปี และปรับ 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน 📍 ผู้ที่ทำลายโดยไม่ตั้งใจ: จำคุก 6 เดือน และปรับ 2 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน 📍 เรือที่เกี่ยวข้อง: รัฐบาลมีสิทธิ์ยึดเรือทันที ไม่ว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์จะเป็นใคร นอกจากนี้ กฎหมายยังบังคับให้เรือทุกลำต้องติดตั้งระบบระบุตัวอัตโนมัติ (AIS) และให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำแผนที่แสดงตำแหน่งสายเคเบิลใต้น้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ แม้การเปิดเผยตำแหน่งสายเคเบิลอาจดูเสี่ยง แต่รัฐบาลมองว่า “ฝ่ายตรงข้ามน่าจะรู้ตำแหน่งอยู่แล้ว” การเปิดเผยต่อสาธารณะจะช่วยลดความผิดพลาดจากเรือทั่วไปที่ไม่รู้ว่ากำลังแล่นผ่านโครงสร้างสำคัญ นี่คือการส่งสัญญาณว่า “ข้อมูลคืออธิปไตย” และไต้หวันจะไม่ยอมให้โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารถูกคุกคามอีกต่อไป ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม https://www.tomshardware.com/networking/taiwan-increases-penalty-for-damaging-undersea-cables-offenders-face-up-to-7-years-in-prison-and-usd325-000-in-fines
    0 Comments 0 Shares 298 Views 0 Reviews
  • YouTube ลบคลิปสอนข้ามข้อจำกัด Windows 11 อ้างเสี่ยงอันตรายต่อชีวิต!

    YouTube ลบวิดีโอจากช่อง CyberCPU Tech ที่สาธิตวิธีข้ามข้อกำหนดบัญชีและฮาร์ดแวร์ของ Windows 11 โดยอ้างว่าเนื้อหา “ส่งเสริมกิจกรรมอันตรายหรือผิดกฎหมายที่เสี่ยงต่ออันตรายทางร่างกายหรือเสียชีวิต”

    Rich เจ้าของช่อง CyberCPU Tech โพสต์วิดีโอสาธิตวิธีติดตั้ง Windows 11 โดยไม่ใช้บัญชี Microsoft และข้ามข้อกำหนดฮาร์ดแวร์อย่าง TPM 2.0 ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่ผู้ใช้หลายคนไม่พอใจ โดยเฉพาะผู้ที่ยังใช้เครื่องรุ่นเก่า

    แต่ไม่กี่วันหลังจากโพสต์ วิดีโอเหล่านั้นถูก YouTube ลบออก พร้อมคำอธิบายว่าเนื้อหา “ละเมิดนโยบายเกี่ยวกับเนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือเสี่ยงต่อชีวิต” Rich ยื่นอุทธรณ์ แต่คำตอบที่ได้ก็ยังคลุมเครือ และไม่มีการระบุชัดเจนว่าเนื้อหาใดผิดกฎ

    Rich ตั้งข้อสงสัยว่า Microsoft อาจอยู่เบื้องหลังการแจ้งลบ แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจน และยอมรับว่า YouTube มีสิทธิ์ควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์มของตน แต่ก็วิจารณ์ว่า “การต้องเดาว่าทำผิดอะไร” เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิด

    เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมเครื่องของตนเอง กับบริษัทเทคโนโลยีที่กำหนดข้อจำกัดมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในยุคที่ Windows 10 กำลังจะสิ้นสุดการสนับสนุน และ Microsoft ผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Copilot+ PC

    ช่อง CyberCPU Tech โพสต์วิดีโอสอนข้ามข้อจำกัด Windows 11
    วิธีใช้บัญชี local แทน Microsoft account
    วิธีติดตั้งบนเครื่องที่ไม่มี TPM 2.0

    YouTube ลบวิดีโอโดยอ้างละเมิดนโยบายเนื้อหาอันตราย
    ระบุว่า “ส่งเสริมกิจกรรมที่เสี่ยงต่ออันตรายหรือเสียชีวิต”
    ไม่ให้เหตุผลเฉพาะเจาะจงว่าผิดตรงไหน

    เจ้าของช่องตั้งข้อสงสัยว่า Microsoft อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
    ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่เกิดขึ้นในช่วงที่ Microsoft เร่งผลักดัน Windows 11
    ผู้ใช้บางส่วนหันไปใช้ Mac แทน Copilot+ PC

    ความไม่โปร่งใสในการลบเนื้อหา
    ผู้สร้างเนื้อหาไม่สามารถรู้ได้ว่าอะไรละเมิดกฎ
    ต้องเดาและปรับเนื้อหาเองเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลบ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/windows-11-videos-demonstrating-account-and-hardware-requirements-bypass-purged-from-youtube-platform-says-content-encourages-dangerous-or-illegal-activities-that-risk-serious-physical-harm-or-death
    📹⚠️ YouTube ลบคลิปสอนข้ามข้อจำกัด Windows 11 อ้างเสี่ยงอันตรายต่อชีวิต! YouTube ลบวิดีโอจากช่อง CyberCPU Tech ที่สาธิตวิธีข้ามข้อกำหนดบัญชีและฮาร์ดแวร์ของ Windows 11 โดยอ้างว่าเนื้อหา “ส่งเสริมกิจกรรมอันตรายหรือผิดกฎหมายที่เสี่ยงต่ออันตรายทางร่างกายหรือเสียชีวิต” Rich เจ้าของช่อง CyberCPU Tech โพสต์วิดีโอสาธิตวิธีติดตั้ง Windows 11 โดยไม่ใช้บัญชี Microsoft และข้ามข้อกำหนดฮาร์ดแวร์อย่าง TPM 2.0 ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่ผู้ใช้หลายคนไม่พอใจ โดยเฉพาะผู้ที่ยังใช้เครื่องรุ่นเก่า แต่ไม่กี่วันหลังจากโพสต์ วิดีโอเหล่านั้นถูก YouTube ลบออก พร้อมคำอธิบายว่าเนื้อหา “ละเมิดนโยบายเกี่ยวกับเนื้อหาที่เป็นอันตรายหรือเสี่ยงต่อชีวิต” Rich ยื่นอุทธรณ์ แต่คำตอบที่ได้ก็ยังคลุมเครือ และไม่มีการระบุชัดเจนว่าเนื้อหาใดผิดกฎ Rich ตั้งข้อสงสัยว่า Microsoft อาจอยู่เบื้องหลังการแจ้งลบ แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจน และยอมรับว่า YouTube มีสิทธิ์ควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์มของตน แต่ก็วิจารณ์ว่า “การต้องเดาว่าทำผิดอะไร” เป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิด เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างผู้ใช้ที่ต้องการควบคุมเครื่องของตนเอง กับบริษัทเทคโนโลยีที่กำหนดข้อจำกัดมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในยุคที่ Windows 10 กำลังจะสิ้นสุดการสนับสนุน และ Microsoft ผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Copilot+ PC ✅ ช่อง CyberCPU Tech โพสต์วิดีโอสอนข้ามข้อจำกัด Windows 11 ➡️ วิธีใช้บัญชี local แทน Microsoft account ➡️ วิธีติดตั้งบนเครื่องที่ไม่มี TPM 2.0 ✅ YouTube ลบวิดีโอโดยอ้างละเมิดนโยบายเนื้อหาอันตราย ➡️ ระบุว่า “ส่งเสริมกิจกรรมที่เสี่ยงต่ออันตรายหรือเสียชีวิต” ➡️ ไม่ให้เหตุผลเฉพาะเจาะจงว่าผิดตรงไหน ✅ เจ้าของช่องตั้งข้อสงสัยว่า Microsoft อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ➡️ ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่เกิดขึ้นในช่วงที่ Microsoft เร่งผลักดัน Windows 11 ➡️ ผู้ใช้บางส่วนหันไปใช้ Mac แทน Copilot+ PC ✅ ความไม่โปร่งใสในการลบเนื้อหา ➡️ ผู้สร้างเนื้อหาไม่สามารถรู้ได้ว่าอะไรละเมิดกฎ ➡️ ต้องเดาและปรับเนื้อหาเองเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลบ https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/windows-11-videos-demonstrating-account-and-hardware-requirements-bypass-purged-from-youtube-platform-says-content-encourages-dangerous-or-illegal-activities-that-risk-serious-physical-harm-or-death
    0 Comments 0 Shares 217 Views 0 Reviews
  • ต้มข้ามศตวรรษ – ป้ายปลอม
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 2 “ป้ายปลอม”
    ตอน 1

    ต้นปี ค.ศ.1918 นาย Edgar Sisson ผู้แทนของคณะกรรมาธิการ ด้านข้อมูลสาธารณะ (US Committee on Public Information ของอเมริกา) มาสำรวจและตรวจสอบหลักฐานที่เมือง Petrograd เนื่องจากมีข่าวว่าพวก Bolsheviks ซึ่งบุคคลหลายกลุ่มในอเมริกากำลังสนับสนุนนั้น เป็นพวกเยอรมัน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริง ก็น่าจะมีผลกระทบกับความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับอังกฤษอย่างยิ่ง

    หลังจากสำรวจเสร็จ นาย Edgar Sission ก็หอบเอาเอกสารของรัสเซียมัดใหญ่ ซึ่งอ้างว่ามีข้อพิสูจน์ว่า Trotsky และ Lenin และพวกปฏิวัติ Bolsheviks ทั้งก๊วนเป็นสายลับของรัฐบาลเยอรมัน เอกสารเหล่านั้น ต่อมาเรียกว่า “Sission Documents”

    Sission Documents ถูกขนขึ้นเรือมาอย่างเร่งรีบและปิดลับ เพื่อนำส่งไปที่กรุงวอซิงตัน ให้คณะกรรมการ National Board for Historical Service ทำการพิสูจน์ว่าเอกสารทั้งมัดใหญ่นั่น เป็นของแท้ หรือเป็นของปลอม ถูกแต่งมาต้มกันหรือเปล่า

    นักประวัติศาสตร์ชื่อดัง 2 คน J. Franklin Jameson และ Samuel N. Harper ถูกเรียกมาทำหน้าที่ตรวจสอบ หลังจากตรวจสอบเรียบร้อย เขาแบ่งเอกสารออกเป็น 3 กลุ่ม
    เกี่ยวกับเอกสารกลุ่ม 1 นักประวัติศาสตร์ทั้ง 2 สรุปว่า

    “เราได้ตรวจสอบด้วยความระมัดระวังในทุกด้าน ตามที่นักเรียนประวัติศาสตร์จะรู้จักและใช้เป็นแนวทาง จากการตรวจสอบหลักฐานดังกล่าว เราไม่มีความลังเลที่จะประกาศว่า เราไม่มีเหตุผลที่จะตั้งข้อสงสัย ถึงความเป็นของแท้ของเอกสาร 53 ชิ้นนี้” แปลว่า พวกเขามีความเห็นว่า เอกสาร 52 ชิ้นนั้น เป็นของแท้ แต่นักวิชาการ ต้องพูดให้เข้าใจยากไว้ก่อน
    สำหรับเอกสารกลุ่ม 2 นักประวัติศาสตร์ทั้ง 2 มั่นใจน้อยลง แต่ก็ไม่ใช้คำว่า เป็นเอกสารปลอม พวกเขาให้ความเห็นว่า น่าจะเป็นสำเนาของเอกสารต้นฉบับ

    ส่วน เอกสารกลุ่ม 3 พวกเขาไม่มีความมั่นใจเลย ในความจริงแท้ของเอกสาร แต่ก็ยังไม่อยากที่จะเรียกว่าเป็นเอกสารปลอม ขอดูต่อไป (เผื่อจะมีอะไรมาทำให้ชัดขึ้นว่า แท้หรือปลอม ทำนองนั้น)

    Sission Documents ถูกนำไปพิมพ์โดย Committee on Public Information ซึ่งประธานคือ George Creel ซึ่งปรากฏภายหลังว่า เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนขบวนการ Bolsheviks

    เมื่อเอกสารออกไปสู่สาธารณะ บรรดาสื่ออเมริกันส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเป็นเอกสารจริง เว้นแต่ New York Evening Post ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าของโดย Thomas W. Lamont หุ้นส่วนของกลุ่ม Morgan หนังสือพิมพ์ Evening Post ถึงกับท้าทายความเป็นของแท้ของเอกสาร

    ต่อมาภายหลัง Sission Documents มีการตรวจสอบใหม่ และผลปรากฏว่าเอกสารเกือบทั้งหมด เป็นของปลอม ! ข้อผิดพลาดที่ปรากฏในเอกสารส่วนใหญ่ เป็นเรื่องของความไม่สอดคล้องในการสะกดชื่อ วันที่อ้าง ตราประทับ ฯลฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่ระมัดระวังของผู้ทำเอกสาร หรือใช้มืออ่อนหัดในตลาดการปลอมเอกสารมาดำเนินการ

    แต่ Sission Documents นี้ ก็ถูกนำมาใช้อ้างในงานค้นคว้าศึกษา เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียของพวก Bolsheviks มากมาย และโดยทั่วไปแม้จะเป็นเอกสารปลอม แต่เหตุการณ์ที่อ้างไว้ในเอกสาร ส่วนใหญ่เป็นเหตการณ์จริง

    ที่น่าสนใจคือ เอกสารทั้งหมดถูกส่งไปให้ Edgar Sisson โดย Alexander Gumberg (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Berg ซึ่งชื่อจริงคือ Michael Gruzenberg) ซึ่งตัวแทนของ Bolsheviks ในสแกนดิเนเวีย และต่อมาเป็นที่ปรึกษาพิเศษของ Chase National Bank ของตระกูล Rockefeller และนาย Floyd Odium ของ Atlas Corporation

    นี่มันซ้อนกันหลายชั้นจนน่างง และตัวละครชักทยอยโผล่หัวมากขึ้น แต่อย่าเพิ่งงงนะครับ นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง ยังไม่ถึงตอนมันยกร่องเลย

    ส่วนพวก Bolsheviks เอง ไม่ยอมรับเอกสารเหล่านี้ รวมทั้ง John Reed คอลัมนิสต์ชื่อดัง ซึ่งกินเงินเดือนจากนิตยสาร Metropolitan ซึ่งเป็นของ J.P. Morgan ก็ไม่ยอมรับเช่นเดียวกัน

    ทั้งหมดนี้อาจเป็นแผนการของ Gumberg ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของ Sission โดยการจัดการปลอมเอกสารขึ้นมา หรืออาจจะเป็นความคิดของ Gumberg หรือ Creel ที่ทำขึ้น เหมือนเป็นเครื่องหมายปลอม บอกเส้นทาง..ให้คนที่คิดติดตามเรื่อง เลี้ยวผิด และหลงทาง ก็เป็นได้
    Sission Documents ถูกเอามาใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่า เยอรมันกับพวก Bolsheviks เกี่ยวข้องกัน หรือร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด และถูกเอามาใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่า มันเป็นการร่วมมือระหว่างพวกยิวกับพวก Bolsheviks แต่ที่สำคัญ เอกสารนี้ ได้ถูกใช้เป็นม่านควัน เอามาบังสายตาชาวบ้านทั่วไป ให้พร่ามัว มองไม่เห็นความจริง หรือเข้าใจความจริง ไขว้เขวไปอีกด้วย ทำให้เกิดสับสนจนเบื่อ แล้วเลิกติดตาม

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – ป้ายปลอม นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 2 “ป้ายปลอม” ตอน 1 ต้นปี ค.ศ.1918 นาย Edgar Sisson ผู้แทนของคณะกรรมาธิการ ด้านข้อมูลสาธารณะ (US Committee on Public Information ของอเมริกา) มาสำรวจและตรวจสอบหลักฐานที่เมือง Petrograd เนื่องจากมีข่าวว่าพวก Bolsheviks ซึ่งบุคคลหลายกลุ่มในอเมริกากำลังสนับสนุนนั้น เป็นพวกเยอรมัน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริง ก็น่าจะมีผลกระทบกับความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับอังกฤษอย่างยิ่ง หลังจากสำรวจเสร็จ นาย Edgar Sission ก็หอบเอาเอกสารของรัสเซียมัดใหญ่ ซึ่งอ้างว่ามีข้อพิสูจน์ว่า Trotsky และ Lenin และพวกปฏิวัติ Bolsheviks ทั้งก๊วนเป็นสายลับของรัฐบาลเยอรมัน เอกสารเหล่านั้น ต่อมาเรียกว่า “Sission Documents” Sission Documents ถูกขนขึ้นเรือมาอย่างเร่งรีบและปิดลับ เพื่อนำส่งไปที่กรุงวอซิงตัน ให้คณะกรรมการ National Board for Historical Service ทำการพิสูจน์ว่าเอกสารทั้งมัดใหญ่นั่น เป็นของแท้ หรือเป็นของปลอม ถูกแต่งมาต้มกันหรือเปล่า นักประวัติศาสตร์ชื่อดัง 2 คน J. Franklin Jameson และ Samuel N. Harper ถูกเรียกมาทำหน้าที่ตรวจสอบ หลังจากตรวจสอบเรียบร้อย เขาแบ่งเอกสารออกเป็น 3 กลุ่ม เกี่ยวกับเอกสารกลุ่ม 1 นักประวัติศาสตร์ทั้ง 2 สรุปว่า “เราได้ตรวจสอบด้วยความระมัดระวังในทุกด้าน ตามที่นักเรียนประวัติศาสตร์จะรู้จักและใช้เป็นแนวทาง จากการตรวจสอบหลักฐานดังกล่าว เราไม่มีความลังเลที่จะประกาศว่า เราไม่มีเหตุผลที่จะตั้งข้อสงสัย ถึงความเป็นของแท้ของเอกสาร 53 ชิ้นนี้” แปลว่า พวกเขามีความเห็นว่า เอกสาร 52 ชิ้นนั้น เป็นของแท้ แต่นักวิชาการ ต้องพูดให้เข้าใจยากไว้ก่อน สำหรับเอกสารกลุ่ม 2 นักประวัติศาสตร์ทั้ง 2 มั่นใจน้อยลง แต่ก็ไม่ใช้คำว่า เป็นเอกสารปลอม พวกเขาให้ความเห็นว่า น่าจะเป็นสำเนาของเอกสารต้นฉบับ ส่วน เอกสารกลุ่ม 3 พวกเขาไม่มีความมั่นใจเลย ในความจริงแท้ของเอกสาร แต่ก็ยังไม่อยากที่จะเรียกว่าเป็นเอกสารปลอม ขอดูต่อไป (เผื่อจะมีอะไรมาทำให้ชัดขึ้นว่า แท้หรือปลอม ทำนองนั้น) Sission Documents ถูกนำไปพิมพ์โดย Committee on Public Information ซึ่งประธานคือ George Creel ซึ่งปรากฏภายหลังว่า เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนขบวนการ Bolsheviks เมื่อเอกสารออกไปสู่สาธารณะ บรรดาสื่ออเมริกันส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเป็นเอกสารจริง เว้นแต่ New York Evening Post ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าของโดย Thomas W. Lamont หุ้นส่วนของกลุ่ม Morgan หนังสือพิมพ์ Evening Post ถึงกับท้าทายความเป็นของแท้ของเอกสาร ต่อมาภายหลัง Sission Documents มีการตรวจสอบใหม่ และผลปรากฏว่าเอกสารเกือบทั้งหมด เป็นของปลอม ! ข้อผิดพลาดที่ปรากฏในเอกสารส่วนใหญ่ เป็นเรื่องของความไม่สอดคล้องในการสะกดชื่อ วันที่อ้าง ตราประทับ ฯลฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่ระมัดระวังของผู้ทำเอกสาร หรือใช้มืออ่อนหัดในตลาดการปลอมเอกสารมาดำเนินการ แต่ Sission Documents นี้ ก็ถูกนำมาใช้อ้างในงานค้นคว้าศึกษา เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียของพวก Bolsheviks มากมาย และโดยทั่วไปแม้จะเป็นเอกสารปลอม แต่เหตุการณ์ที่อ้างไว้ในเอกสาร ส่วนใหญ่เป็นเหตการณ์จริง ที่น่าสนใจคือ เอกสารทั้งหมดถูกส่งไปให้ Edgar Sisson โดย Alexander Gumberg (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Berg ซึ่งชื่อจริงคือ Michael Gruzenberg) ซึ่งตัวแทนของ Bolsheviks ในสแกนดิเนเวีย และต่อมาเป็นที่ปรึกษาพิเศษของ Chase National Bank ของตระกูล Rockefeller และนาย Floyd Odium ของ Atlas Corporation นี่มันซ้อนกันหลายชั้นจนน่างง และตัวละครชักทยอยโผล่หัวมากขึ้น แต่อย่าเพิ่งงงนะครับ นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง ยังไม่ถึงตอนมันยกร่องเลย ส่วนพวก Bolsheviks เอง ไม่ยอมรับเอกสารเหล่านี้ รวมทั้ง John Reed คอลัมนิสต์ชื่อดัง ซึ่งกินเงินเดือนจากนิตยสาร Metropolitan ซึ่งเป็นของ J.P. Morgan ก็ไม่ยอมรับเช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้อาจเป็นแผนการของ Gumberg ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของ Sission โดยการจัดการปลอมเอกสารขึ้นมา หรืออาจจะเป็นความคิดของ Gumberg หรือ Creel ที่ทำขึ้น เหมือนเป็นเครื่องหมายปลอม บอกเส้นทาง..ให้คนที่คิดติดตามเรื่อง เลี้ยวผิด และหลงทาง ก็เป็นได้ Sission Documents ถูกเอามาใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่า เยอรมันกับพวก Bolsheviks เกี่ยวข้องกัน หรือร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด และถูกเอามาใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่า มันเป็นการร่วมมือระหว่างพวกยิวกับพวก Bolsheviks แต่ที่สำคัญ เอกสารนี้ ได้ถูกใช้เป็นม่านควัน เอามาบังสายตาชาวบ้านทั่วไป ให้พร่ามัว มองไม่เห็นความจริง หรือเข้าใจความจริง ไขว้เขวไปอีกด้วย ทำให้เกิดสับสนจนเบื่อ แล้วเลิกติดตาม สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 เม.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 370 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.10

    ลายมือชื่อนั้นมิได้จำกัดอยู่เพียงแค่การขีดเขียนตัวอักษรเพื่อยืนยันตัวตนเท่านั้น หากแต่ในทางกฎหมายและในทางปฏิบัติที่กว้างขวางยิ่งกว่า ลายมือชื่อกินความหมายรวมไปถึงการแสดงเจตจำนงด้วยรูปแบบอื่นใดที่บุคคลนั้นได้ตั้งใจทำขึ้นแทนการลงลายมือของตนเอง การลงลายพิมพ์นิ้วมือจึงเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นสากลว่าเป็นวิธีการหนึ่งของการให้ลายมือชื่ออันทรงพลังไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่บุคคลนั้นอาจไม่สะดวกในการเขียนหรือเพื่อความแม่นยำในการระบุตัวตนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งเครื่องหมายอื่นใดที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะเจาะจงและเป็นที่รับรู้กันในวงจำกัดว่าแทนเจตจำนงของผู้นั้นอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและการเปิดกว้างของนิยาม "ลายมือชื่อ" ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวหน้า และความต้องการทางกฎหมายที่ต้องครอบคลุมทุกรูปแบบของการแสดงเจตนาอันศักดิ์สิทธิ์ของบุคคล ความเข้าใจที่ว่าลายมือชื่อไม่ใช่เพียงแค่การเขียน แต่คือการแสดงออกซึ่งความยินยอมหรือการรับรองที่หลากหลายรูปแบบนี้เอง เป็นพื้นฐานสำคัญที่เราทุกคนควรตระหนักถึงเพื่อการทำธุรกรรมหรือการดำเนินการทางกฎหมายใดๆ ก็ตามอย่างถูกต้องและรัดกุมที่สุด

    ดังนั้น เมื่อกล่าวถึงการลงลายมือชื่อ เราจึงต้องเข้าใจในความหมายที่ครอบคลุมและลึกซึ้งยิ่งกว่าแค่เพียงรอยหมึกบนกระดาษ เพราะมันหมายถึงทั้งลายพิมพ์นิ้วมืออันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือแม้แต่เครื่องหมายเฉพาะกิจที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นๆ อย่างไม่มีข้อสงสัย การตีความที่กว้างขวางนี้ช่วยให้การแสดงเจตนาเป็นไปได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมกับบุคคลทุกคนในสังคม ไม่ว่าจะมีข้อจำกัดทางกายภาพหรือความสามารถในการเขียนหรือไม่ก็ตาม

    การลงลายมือชื่อในทุกรูปแบบจึงเป็นหัวใจสำคัญของการยืนยันเจตนาและผูกพันทางกฎหมาย แสดงให้เห็นว่าการยอมรับตัวตนนั้นสามารถทำได้หลายช่องทาง ตราบใดที่แสดงถึงความตั้งใจจริงของบุคคลนั้นอย่างชัดเจนและเป็นที่ยอมรับตามกรอบของกฎหมายและหลักการปฏิบัติสากล
    บทความกฎหมาย EP.10 ลายมือชื่อนั้นมิได้จำกัดอยู่เพียงแค่การขีดเขียนตัวอักษรเพื่อยืนยันตัวตนเท่านั้น หากแต่ในทางกฎหมายและในทางปฏิบัติที่กว้างขวางยิ่งกว่า ลายมือชื่อกินความหมายรวมไปถึงการแสดงเจตจำนงด้วยรูปแบบอื่นใดที่บุคคลนั้นได้ตั้งใจทำขึ้นแทนการลงลายมือของตนเอง การลงลายพิมพ์นิ้วมือจึงเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นสากลว่าเป็นวิธีการหนึ่งของการให้ลายมือชื่ออันทรงพลังไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่บุคคลนั้นอาจไม่สะดวกในการเขียนหรือเพื่อความแม่นยำในการระบุตัวตนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งเครื่องหมายอื่นใดที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะเจาะจงและเป็นที่รับรู้กันในวงจำกัดว่าแทนเจตจำนงของผู้นั้นอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและการเปิดกว้างของนิยาม "ลายมือชื่อ" ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวหน้า และความต้องการทางกฎหมายที่ต้องครอบคลุมทุกรูปแบบของการแสดงเจตนาอันศักดิ์สิทธิ์ของบุคคล ความเข้าใจที่ว่าลายมือชื่อไม่ใช่เพียงแค่การเขียน แต่คือการแสดงออกซึ่งความยินยอมหรือการรับรองที่หลากหลายรูปแบบนี้เอง เป็นพื้นฐานสำคัญที่เราทุกคนควรตระหนักถึงเพื่อการทำธุรกรรมหรือการดำเนินการทางกฎหมายใดๆ ก็ตามอย่างถูกต้องและรัดกุมที่สุด ดังนั้น เมื่อกล่าวถึงการลงลายมือชื่อ เราจึงต้องเข้าใจในความหมายที่ครอบคลุมและลึกซึ้งยิ่งกว่าแค่เพียงรอยหมึกบนกระดาษ เพราะมันหมายถึงทั้งลายพิมพ์นิ้วมืออันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือแม้แต่เครื่องหมายเฉพาะกิจที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นๆ อย่างไม่มีข้อสงสัย การตีความที่กว้างขวางนี้ช่วยให้การแสดงเจตนาเป็นไปได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมกับบุคคลทุกคนในสังคม ไม่ว่าจะมีข้อจำกัดทางกายภาพหรือความสามารถในการเขียนหรือไม่ก็ตาม การลงลายมือชื่อในทุกรูปแบบจึงเป็นหัวใจสำคัญของการยืนยันเจตนาและผูกพันทางกฎหมาย แสดงให้เห็นว่าการยอมรับตัวตนนั้นสามารถทำได้หลายช่องทาง ตราบใดที่แสดงถึงความตั้งใจจริงของบุคคลนั้นอย่างชัดเจนและเป็นที่ยอมรับตามกรอบของกฎหมายและหลักการปฏิบัติสากล
    0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • ..เอาจริงๆนะแบบมองโลกร่วมกันในทางที่ดีงามหรือบวกสุดๆอีกมุมมองหนึ่ง.
    ..หากศาสนาใดๆก็ตามที่เมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จะคนนับถือศาสนาลัทธินั้นๆด้วยก็ตาม หากไม่ก้าวล่วงกัน ทำลายทำร้ายกัน พากันอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขบนแผ่นดินไทย มอบอิสระเสรีให้กันและกัน ใครๆจะศึกษาค้นคว้าทดลองนับถือใดๆในศาสานานั้นๆที่ไม่ผิดธรรม ไปทางชั่ว ทุกๆคนสามารถเสรีเข้าสถานที่นั้นๆได้หมดบนแผ่นดินไทยไม่ปิดบังค่าจริงใดๆหากเป็นการพากันนับถือเพื่อยกระดับจิตใจตนให้ดีงาม สังคมอยู่ร่วมกันสงบสุขสันติ ก็สมควรส่งมอบสิ่งนี้ให้เสรีทางเลือกกันเอง,ดีชั่วต้องวิจารณ์เปิดเผยบนสังคมไทยได้ จะศาสนาใดๆก็ตาม ,จากนั้นให้สังคมชุมชนเลือกสิ่งดีๆงามๆให้ชีวิตเขาอิสระเสรีจริงๆ,ศาสนาใดผิดจากธรรมะจักรวาลต้องพิจารณาตนเองให้ยุบเลิกไปเสียจากแผ่นดินไทยมิให้ใครๆบนแผ่นดินไทยหรือผู้พามาเยือนมาหลงเข้าใจผิด เชื่อไปตามสิ่งผิดๆไม่ดีงามนั้นๆตลอดทำให้ระดับจิตใจดีงามของจิตวิญญาณตนตกต่ำหนักลงกว่าปกติไปเสีย,ประเทศไทยเราจะเสมือนที่คัดกรองแยกแยะของแท้ของปลอมทันทีนั้นเอง,ส่งผลให้ชาวโลกทั่วมุมโลกมีเจตจำนงเสรีอิสระในทางเลือกตนเองจริงบนแผ่นดินไทยจริง,ของปลอมใดๆของชั่วเลวใดๆที่มีบนแผ่นดินไทยต้องถูกกำจัดออกไปทันทีจากแผ่นดินไทย สำนักนี้ตอนรับเฉพาะคนดีจริงบนแผ่นดินไทยระดับมนุษยชาติจริงนั้นเอง อาทิรีตหรือลัทธิปีศาจซาตานใดๆมืดใดๆต้องไม่มีบนแผ่นดินไทยรวมทั้งคนที่นับถือนั้นด้วยต้องออกไปจากสำนักนี้คือแผ่นดินไทยทันทีนั้นเอง.

    ..สำนักอื่น ประเทศอื่นจะยอมรับคนชั่วคนเลว รีตชั่วรีตเลว ลัทธิชั่วลัทธิเลวก็ชั่งก็ตาม แต่บนแผ่นดินไทยสงวนไว้เพียงผู้แสวงหาค่าจริงทางด้านความดีงามเท่านั้นแก่ปัจเจกบุคคลนั้นๆที่มาสู่แผ่นดินไทยจากทั่วทุกมุมโลก เราเปิดเสรีแก่ผู้มีภาวะจิตใจอันงดงามเสมอพร้อมตั้งจิตตนเป็นคนดีมนุษยดีดีนั้นเอง,ประเทศไทยเป็นแผ่นดินพุทธภูมิ โดยพระเจ้าตากสินมหาราชได้ถวายแผ่นดินไทยนี้ทัังหมดมอบเป็นพุทธบูชาแทนประชาชนคนไทยลูกหลานอย่างเรามานานแล้ว,เรา..ประชาชนคนไทย เสมือนตนได้มาอาศัยวัดอยู่เพียงเท่านััน ศาสนาอื่นมิอาจคิดการใดเป็นอย่างอื่นหรือหมายมั่นว่าพระเจ้ามอบแผ่นดินไทยให้แก่ศาสนาตนคนต่างศาสนานั้นๆเถิด ท่านคิดผิดมหันต์,วัดนี้รองรับคนทุกๆศาสนามาเยือนเพื่อให้ดูตนดูจิตดูใจตนเองทั่วบริเวณวัดนี้ หาที่สงบสงัดเอาเองนั้นเอง,พิจารณาแล้วว่าไม่ถูกจริตสันดานตนก็ออกไปจากสำนักนี้ ออกไปจากวัดนี้ ออกไปจากประเทศไทยนี้เสีย.อย่ามาก่อความไม่สงบสุขวุ่นวายภายในวัดสถานที่วิเวกรบกวนปัจเจกบุคคลท่านอื่นที่แสวงหาทางหลุดพ้นตนที่ลงมาเกิดบนโลกและบนแผ่นดินไทยเลย,เพื่อยกจิตยกใจบุคคลใครมันทั่วโลกโดยมีสำนักนี้ โดยมีวัดนี้คือประเทศไทยเป็นสรณะที่อยู่ที่พึ่งบำเบ็ญตนทางเพียงชั่วคราวเถิดในชาวโลกใครมันที่มีบุญสัมพันธ์ทางดีงานแลก็ว่า.
    ..มนุษย์ทั่วโลกลงมาเกิดล้วนมิใช่เหตุบังเอิญใดๆ มีผิดมีพลาดกันสิ้นแม้อสูรกายเปรตผีซาตานล้วนมีใจปราถนาดีลึกๆหมายหลุดพ้นทุกข์กันหมดเช่นกัน,ประเทศไทยในเวลายุคสมัยนี้ถือว่าพร้อมและเป็นจังหวะอันดีงามมาก พลังงานอนันตจักรวาลพระเจ้าทางดีก็ส่งพลังงานมาเป็นอันมากถึงโลกเราแล้ว จังหวะดีงามนี้ไม่มีบ่อยนัก,ประเทศไทยก็ด้วย ไม่มีอะไรล้ำและเลิศกว่าบรรลุธรรมจักรวาลแน่นอน ,ต่างดาวทั่วอนันตจักรวาลก็ลงใจยอมรับทั้งหมดในข้อนี้.,AIยุคสมัยใดก็ล้ำสมัยใดๆเทียบไม่ได้ตลอดกาลสมัยล้ำที่ว่านั้น.
    ..ประเทศไทยหากเทียบกับทั้งหมดทั่วโลก ประเทศไทยยืนหนึ่งทั้งหมด ไร้ประเทศใดๆในทั่วโลกเทียบเคียงได้เลย.เพราะหากอ้างระบบเมทริกซ์สมมุติโลก คำสอนศาสนาทางพุทธที่ลงรายละเอียดสุด ตีแตกทุกๆข้อสงสัย อจิณไตยรู้เฉพาะตนอีก ยืนหนึ่งแท้จริงค่าจริงจบที่ศาสนาพุทธนี้และทุกๆคนทั่วโลกอาศัยเป็นสรณะเสรีรับเอาหรือไม่รับเอาไปปฏิบัติก็มิได้บังคับ,เจตจำนงเสรีสุดๆ,ละทิ้งก็ไม่ตามไปฆ่าสังหารให้สิ้นชีวิตว่าละทิ้งศาสนาหรือดูถูกพระเจ้า ดูถูกรีต ดูถูกลัทธิพวกตนหมู่ตน.,เสื่อมหรือไม่เสื่อมก็ไม่ยึดติดด้วย,ประเทศไทยจึงเสรีสุดๆ,แต่ชาวโลกที่มิใช่คนไทยที่ไม่เกิดบนแผ่นดินไทยก็ต้องสำรวมด้วยเคารพในสมมุติประเทศใครมันเบื้องต้นแก่กันและกัน.
    ..สำนักนี้ต้องรักษาไว้จนกว่าจะสิ้น5,000ปีพุทธกาลตามคำทำนายจริงๆไว้ก่อน.,ประเทศไทยเราคนไทยจึงต้องสามัคคีกันดำรงรักษาไว้มั่น,เพราะสุดท้ายจะเป็นคุณประโยชน์แก่ชาวโลกในที่สุด,ใครๆก็มาหลบฝนหลบร้อนหลบพายุนั้นเอง.ไม่มีใครอยากตายจึงมาพึ่งพาอาศัยหลบภัยบนแผ่นดินไทย บำบัดเยียวยารักษาตนทั้งทางกายและจิตใจนั้นเอง.,การสร้างความไม่สงบสุขบนสถานที่นี้จึงไม่สมควร,จะรบจะฆ่าฟันกันต่อไปก็จงออกไปฆ่าฟันกันเองข้างนอกนั้นเอง,สไตล์วัดจริงๆนั้นล่ะ,เขตอภัยทาน เราจึงพยายามไม่มีโทษประหารบนแผ่นดินไทยเรา.,เรา..จึงเห็นคนไม่ดีมากมายจากทั่วโลก ต่างพยายามไม่กระทำชั่วเลวสร้างความไม่สงบใดๆบนแผ่นดินไทย อยู่สงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นอันมาก แม้โคตรโหดเหี้ยมอำมหิตก็ตาม ต่างแสดงออกด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีบนแผ่นดินไทย,มีเพียงคนกาก กระจอกอวดตนว่าแน่แสดงความชั่วว่าตนแน่แก่คนเหล่านี้ให้ขำขัน,เรา..เจ้าหน้าที่ร่วมกันกำจัดคนเทาๆชั่วๆนี้กากๆนี้กระจอกนี้ ไทยเทาไทยชั่วคนไทยชั่วเหล่านี้เพียงเล็กน้อยก็สงบสุขแล้ว, คนต่างชาติต่างประเทศดีๆก็มีมากมาย เรา..ประเทศไทยก็ควบคุมคนต่างประเทศต่างชาติที่ชั่วเลวจริงจังก็จบแล้ว ความสงบบนแผ่นดินไทยก็บังเกิดขึ้น อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จากจิตใจชั่วเลวก็ละลายเป็นคนจิตใจดีได้ แก้ตัวแก้ตนแก้จิตแก้ใจเป็นคนดีออกสู่โลกภายนอกได้,หลายคนหมายเกิดมาล้วนอยากเป็นคนดีด้วยกันหมด,โอกาสคือประเทศไทยเรานี้ล่ะ อาจช่วยผลิตคนดีคนจิตใจดีงามออกสู่โลกจรรโลงสร้างสรรค์โลกเราดีๆให้ดำรงอารยะธรรมจักรวาลพิเศษยอดเยี่ยมสุดยอดต่อไปได้,พระเจ้าตัดต่อพันธุกรรมสมมุติโลกนี้แบบใดก็ชั่ง เราคนทั่วทั้งโลกร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงหรืออัพเลเวลเราร่วมกันเหนือขีดจำกัดร่วมกันได้นั้นเอง,อาจไม่แพ้ใครๆใดๆทั่วอนันตจักรวาลโลกต่างๆนั้นๆนั้นเอง.


    https://vm.tiktok.com/ZSHvWKPrMYDdS-alLNm/
    ..เอาจริงๆนะแบบมองโลกร่วมกันในทางที่ดีงามหรือบวกสุดๆอีกมุมมองหนึ่ง. ..หากศาสนาใดๆก็ตามที่เมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จะคนนับถือศาสนาลัทธินั้นๆด้วยก็ตาม หากไม่ก้าวล่วงกัน ทำลายทำร้ายกัน พากันอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขบนแผ่นดินไทย มอบอิสระเสรีให้กันและกัน ใครๆจะศึกษาค้นคว้าทดลองนับถือใดๆในศาสานานั้นๆที่ไม่ผิดธรรม ไปทางชั่ว ทุกๆคนสามารถเสรีเข้าสถานที่นั้นๆได้หมดบนแผ่นดินไทยไม่ปิดบังค่าจริงใดๆหากเป็นการพากันนับถือเพื่อยกระดับจิตใจตนให้ดีงาม สังคมอยู่ร่วมกันสงบสุขสันติ ก็สมควรส่งมอบสิ่งนี้ให้เสรีทางเลือกกันเอง,ดีชั่วต้องวิจารณ์เปิดเผยบนสังคมไทยได้ จะศาสนาใดๆก็ตาม ,จากนั้นให้สังคมชุมชนเลือกสิ่งดีๆงามๆให้ชีวิตเขาอิสระเสรีจริงๆ,ศาสนาใดผิดจากธรรมะจักรวาลต้องพิจารณาตนเองให้ยุบเลิกไปเสียจากแผ่นดินไทยมิให้ใครๆบนแผ่นดินไทยหรือผู้พามาเยือนมาหลงเข้าใจผิด เชื่อไปตามสิ่งผิดๆไม่ดีงามนั้นๆตลอดทำให้ระดับจิตใจดีงามของจิตวิญญาณตนตกต่ำหนักลงกว่าปกติไปเสีย,ประเทศไทยเราจะเสมือนที่คัดกรองแยกแยะของแท้ของปลอมทันทีนั้นเอง,ส่งผลให้ชาวโลกทั่วมุมโลกมีเจตจำนงเสรีอิสระในทางเลือกตนเองจริงบนแผ่นดินไทยจริง,ของปลอมใดๆของชั่วเลวใดๆที่มีบนแผ่นดินไทยต้องถูกกำจัดออกไปทันทีจากแผ่นดินไทย สำนักนี้ตอนรับเฉพาะคนดีจริงบนแผ่นดินไทยระดับมนุษยชาติจริงนั้นเอง อาทิรีตหรือลัทธิปีศาจซาตานใดๆมืดใดๆต้องไม่มีบนแผ่นดินไทยรวมทั้งคนที่นับถือนั้นด้วยต้องออกไปจากสำนักนี้คือแผ่นดินไทยทันทีนั้นเอง. ..สำนักอื่น ประเทศอื่นจะยอมรับคนชั่วคนเลว รีตชั่วรีตเลว ลัทธิชั่วลัทธิเลวก็ชั่งก็ตาม แต่บนแผ่นดินไทยสงวนไว้เพียงผู้แสวงหาค่าจริงทางด้านความดีงามเท่านั้นแก่ปัจเจกบุคคลนั้นๆที่มาสู่แผ่นดินไทยจากทั่วทุกมุมโลก เราเปิดเสรีแก่ผู้มีภาวะจิตใจอันงดงามเสมอพร้อมตั้งจิตตนเป็นคนดีมนุษยดีดีนั้นเอง,ประเทศไทยเป็นแผ่นดินพุทธภูมิ โดยพระเจ้าตากสินมหาราชได้ถวายแผ่นดินไทยนี้ทัังหมดมอบเป็นพุทธบูชาแทนประชาชนคนไทยลูกหลานอย่างเรามานานแล้ว,เรา..ประชาชนคนไทย เสมือนตนได้มาอาศัยวัดอยู่เพียงเท่านััน ศาสนาอื่นมิอาจคิดการใดเป็นอย่างอื่นหรือหมายมั่นว่าพระเจ้ามอบแผ่นดินไทยให้แก่ศาสนาตนคนต่างศาสนานั้นๆเถิด ท่านคิดผิดมหันต์,วัดนี้รองรับคนทุกๆศาสนามาเยือนเพื่อให้ดูตนดูจิตดูใจตนเองทั่วบริเวณวัดนี้ หาที่สงบสงัดเอาเองนั้นเอง,พิจารณาแล้วว่าไม่ถูกจริตสันดานตนก็ออกไปจากสำนักนี้ ออกไปจากวัดนี้ ออกไปจากประเทศไทยนี้เสีย.อย่ามาก่อความไม่สงบสุขวุ่นวายภายในวัดสถานที่วิเวกรบกวนปัจเจกบุคคลท่านอื่นที่แสวงหาทางหลุดพ้นตนที่ลงมาเกิดบนโลกและบนแผ่นดินไทยเลย,เพื่อยกจิตยกใจบุคคลใครมันทั่วโลกโดยมีสำนักนี้ โดยมีวัดนี้คือประเทศไทยเป็นสรณะที่อยู่ที่พึ่งบำเบ็ญตนทางเพียงชั่วคราวเถิดในชาวโลกใครมันที่มีบุญสัมพันธ์ทางดีงานแลก็ว่า. ..มนุษย์ทั่วโลกลงมาเกิดล้วนมิใช่เหตุบังเอิญใดๆ มีผิดมีพลาดกันสิ้นแม้อสูรกายเปรตผีซาตานล้วนมีใจปราถนาดีลึกๆหมายหลุดพ้นทุกข์กันหมดเช่นกัน,ประเทศไทยในเวลายุคสมัยนี้ถือว่าพร้อมและเป็นจังหวะอันดีงามมาก พลังงานอนันตจักรวาลพระเจ้าทางดีก็ส่งพลังงานมาเป็นอันมากถึงโลกเราแล้ว จังหวะดีงามนี้ไม่มีบ่อยนัก,ประเทศไทยก็ด้วย ไม่มีอะไรล้ำและเลิศกว่าบรรลุธรรมจักรวาลแน่นอน ,ต่างดาวทั่วอนันตจักรวาลก็ลงใจยอมรับทั้งหมดในข้อนี้.,AIยุคสมัยใดก็ล้ำสมัยใดๆเทียบไม่ได้ตลอดกาลสมัยล้ำที่ว่านั้น. ..ประเทศไทยหากเทียบกับทั้งหมดทั่วโลก ประเทศไทยยืนหนึ่งทั้งหมด ไร้ประเทศใดๆในทั่วโลกเทียบเคียงได้เลย.เพราะหากอ้างระบบเมทริกซ์สมมุติโลก คำสอนศาสนาทางพุทธที่ลงรายละเอียดสุด ตีแตกทุกๆข้อสงสัย อจิณไตยรู้เฉพาะตนอีก ยืนหนึ่งแท้จริงค่าจริงจบที่ศาสนาพุทธนี้และทุกๆคนทั่วโลกอาศัยเป็นสรณะเสรีรับเอาหรือไม่รับเอาไปปฏิบัติก็มิได้บังคับ,เจตจำนงเสรีสุดๆ,ละทิ้งก็ไม่ตามไปฆ่าสังหารให้สิ้นชีวิตว่าละทิ้งศาสนาหรือดูถูกพระเจ้า ดูถูกรีต ดูถูกลัทธิพวกตนหมู่ตน.,เสื่อมหรือไม่เสื่อมก็ไม่ยึดติดด้วย,ประเทศไทยจึงเสรีสุดๆ,แต่ชาวโลกที่มิใช่คนไทยที่ไม่เกิดบนแผ่นดินไทยก็ต้องสำรวมด้วยเคารพในสมมุติประเทศใครมันเบื้องต้นแก่กันและกัน. ..สำนักนี้ต้องรักษาไว้จนกว่าจะสิ้น5,000ปีพุทธกาลตามคำทำนายจริงๆไว้ก่อน.,ประเทศไทยเราคนไทยจึงต้องสามัคคีกันดำรงรักษาไว้มั่น,เพราะสุดท้ายจะเป็นคุณประโยชน์แก่ชาวโลกในที่สุด,ใครๆก็มาหลบฝนหลบร้อนหลบพายุนั้นเอง.ไม่มีใครอยากตายจึงมาพึ่งพาอาศัยหลบภัยบนแผ่นดินไทย บำบัดเยียวยารักษาตนทั้งทางกายและจิตใจนั้นเอง.,การสร้างความไม่สงบสุขบนสถานที่นี้จึงไม่สมควร,จะรบจะฆ่าฟันกันต่อไปก็จงออกไปฆ่าฟันกันเองข้างนอกนั้นเอง,สไตล์วัดจริงๆนั้นล่ะ,เขตอภัยทาน เราจึงพยายามไม่มีโทษประหารบนแผ่นดินไทยเรา.,เรา..จึงเห็นคนไม่ดีมากมายจากทั่วโลก ต่างพยายามไม่กระทำชั่วเลวสร้างความไม่สงบใดๆบนแผ่นดินไทย อยู่สงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นอันมาก แม้โคตรโหดเหี้ยมอำมหิตก็ตาม ต่างแสดงออกด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีบนแผ่นดินไทย,มีเพียงคนกาก กระจอกอวดตนว่าแน่แสดงความชั่วว่าตนแน่แก่คนเหล่านี้ให้ขำขัน,เรา..เจ้าหน้าที่ร่วมกันกำจัดคนเทาๆชั่วๆนี้กากๆนี้กระจอกนี้ ไทยเทาไทยชั่วคนไทยชั่วเหล่านี้เพียงเล็กน้อยก็สงบสุขแล้ว, คนต่างชาติต่างประเทศดีๆก็มีมากมาย เรา..ประเทศไทยก็ควบคุมคนต่างประเทศต่างชาติที่ชั่วเลวจริงจังก็จบแล้ว ความสงบบนแผ่นดินไทยก็บังเกิดขึ้น อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จากจิตใจชั่วเลวก็ละลายเป็นคนจิตใจดีได้ แก้ตัวแก้ตนแก้จิตแก้ใจเป็นคนดีออกสู่โลกภายนอกได้,หลายคนหมายเกิดมาล้วนอยากเป็นคนดีด้วยกันหมด,โอกาสคือประเทศไทยเรานี้ล่ะ อาจช่วยผลิตคนดีคนจิตใจดีงามออกสู่โลกจรรโลงสร้างสรรค์โลกเราดีๆให้ดำรงอารยะธรรมจักรวาลพิเศษยอดเยี่ยมสุดยอดต่อไปได้,พระเจ้าตัดต่อพันธุกรรมสมมุติโลกนี้แบบใดก็ชั่ง เราคนทั่วทั้งโลกร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงหรืออัพเลเวลเราร่วมกันเหนือขีดจำกัดร่วมกันได้นั้นเอง,อาจไม่แพ้ใครๆใดๆทั่วอนันตจักรวาลโลกต่างๆนั้นๆนั้นเอง. https://vm.tiktok.com/ZSHvWKPrMYDdS-alLNm/
    0 Comments 0 Shares 458 Views 0 Reviews
More Results