• ปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวง อว. มอบรางวัล “OAP Award 2568” ยกย่องหน่วยงานต้นแบบด้านความปลอดภัยนิวเคลียร์และรังสี
    https://www.thai-tai.tv/news/20920/
    .
    #OAPAward #ปส #ความปลอดภัยนิวเคลียร์ #วิทยาศาสตร์ #ข่าวเทคโนโลยี #ไทยไท
    ปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวง อว. มอบรางวัล “OAP Award 2568” ยกย่องหน่วยงานต้นแบบด้านความปลอดภัยนิวเคลียร์และรังสี https://www.thai-tai.tv/news/20920/ . #OAPAward #ปส #ความปลอดภัยนิวเคลียร์ #วิทยาศาสตร์ #ข่าวเทคโนโลยี #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • พักนี้ไม่ค่อยมีเวลาดูข่าวที่เหมือนว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของชีวิตผมเลยแม้แต่น้อย แต่คนรอบข้างชอบเปิดสื่อกระแสหลักที่โปรตะวันตก 100% โปรส้ม 100% โปรแดง 100% จนผมเริ่มรู้แล้วว่างูพิษที่ร้ายที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหนก็คนรอบข้างไม่ว่าจะคนในครอบครัว คนสนิท สุดท้ายก็ต้องพึ่งพาตัวเอง ไว้ใจตัวเอง เชื่อมั่นกับใจตัวเอง เพราะคนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากไม่ค่อยมานั่งตัดพ้อว่า Environment รอบตัวเราไม่เอื้ออำนวย และเป็นพิษแก่จิตใจเรา และทางครอบครัวบีบบังคับเรามากจนเกินไป คือกลับบ้านยาวๆช่วงโควิตไม่ได้มาช่วยงานเพื่อนใช้ชีวิตคนหอจนผมต้องเสียเพื่อนดีๆไป เพื่อนที่เคยคบอย่างดิบดีสุดท้ายกลายเป็นตัดเพื่อนซะงั้น โทษครอบครัวไม่ได้ โทษเพื่อนก็ไม่ได้ โทษศักยภาพและแนวความคิดตัวเองว่ายังไม่ดีพอ ที่ยังไม่ดีพอเพราะหลงไหลกับธุรกิจเครือข่ายสุดท้ายก็แค่เรื่องขายฝันเพ้อฝัน และแนวคิดหาบน้ำเทียบกับแนวคิดทำงานหวังอัพตำแหน่ง หรือทำงานไม่หวังตำแหน่ง สุดท้าย ร่างกายเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว และ แนวคิดทำงานแบบทำท่อส่งน้ำ ถ้าจะเทียบกับธุรกิจเครือข่าย สำหรับพวกเขาที่ยังทำธุรกิจเครือข่าย คือ ใช่ สำหรับผม คือ ไม่ใช่เลย ไม่ใช่ 100% แต่ถ้าจะทำแนวคิดท่าส่งน้ำ-เครื่องสูบน้ำ ไม่ต้องหาบน้ำไปมาให้เหนื่อยเหมือนทำงานประจำหรือทำงานเยี่ยงทาส ยังไงก็ต้องสร้างงานเป็นของตัวเอง สร้างหน้าโปรไฟล์และหน้าร้านออนไลนร์เพื่อขายงานตัวเอง ขายผลงาน ทำฟรีแลนซ์ไปเรื่อยๆ ไม่ก็ทำเป็นสตาร์ทอัพ วางแผนการใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด จะได้มีเวลาเที่ยวกินพักเล่นเกมส์รีแลกซ์ทำคอนเทนต์ได้สบายๆ
    สังคมแบบครอบครัวผมไม่ใช่แค่ทำงานประจำเพียงอย่างเดียว จะให้กู้ในระบบบ้าง นอกระบบบ้าง ให้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และมากำกับการใช้เงินของเรา แบบนี้มันไม่ถูก มันไม่ยุติธรรม ชีวิตใครชีวิตมัน ไม่ต้องมากำหนดชีวิตเราจนเราไม่สามารถมีตัวเป็นของตัวเองได้ หรือจนเราสูญเสียตัวตนที่แท้จริงไปเลย คือรับช่วงสืบทอดสิ่งที่ครอบครับเขาทำกัน หลักๆคือ มูเตลู สุดท้ายผมก็ไม่จำเป็นต้องเป๊ะเหมือนคนในครอบครัวทุกคน และจะได้ไม่ต้องสูญเสียตัวตนเพราะกับดักกตัญญู ความต้องการครอบครัวที่ไม่สอดคล้องกับยุคโลกาภิวัฒน์
    คนรอบข้างไม่ว่าจะคนในครอบครัวหรือคนสนิทก็เปลี่ยนใจอยากให้ผมทำงานในสภาพแวดล้อมที่ผมไม่ชอบที่สุด ก่อนหน้านั้นคนรอบข้างยังไฟเขียวอยู่เลยว่าให้ผมทำงานเป็นสตาร์ทอัพก็ได้ รับงานเอกชนก็ได้ ช่วงโควิดระบาดใหม่ๆทางคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวเองก็เถอะ คงไม่อยากให้ผมใช้ชีวิตคนเดียวในหอ ด้วยความหวังดี ด้วยความเป็นห่วง คือกลัวว่าผมจะใช้ชีวิตอิสระทำอาชีพอิสระขนาดนั้นเลย เลยต้องจำกัดกรอบให้ผมต้องเป็นลูกจ้างเท่านั้น หรือรับราชการเท่านั้น ชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้เนี่ย เรื่องนอกตัวเรื่องที่ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและเอี่ยว ผมก็ไม่เสพ ไม่ดู ดูและเสพเรื่องที่น่าสนใจอย่างข่าวเกมส์ ข่าวเฟรมเวิร์กโปรแกรมมิ่ง ข่าวเทคโนโลยีจากจีนและรัสเซียจะดีกว่า เพราะตอนนี้ข่าวประท้วงอีลอนแม่งดังกว่าข่าวเทคโนโลยีสุดล้ำนวัตกรรมสุดลึกของจีนอีก สื่อกระแสหลักก็ขยันประโคมกันเข้าไป ตามกำลังทุนเงินยิวอย่างร็อดไชล์ร็อกกี้เฟลเลอร์และแบล็กร็อคไง
    บอกเลย ครอบครัวเปลี่ยนไปจากที่ก่อนหน้านี้เคยให้ผมทำงานแล้วแต่ที่ผมอยากจะทำ เดี๋ยวนี้กลายเป็นให้ลูกสอบงานราชการ สอบบรรจุ สอบไม่ได้ก็ต้องเป็นลูกจ้าง คือจบสายอาชีวะสะเต็ม ระดับนี้แล้วจะให้ทำงานเยี่ยงวัวควายเยี่ยงทาสขี้ข้ากรรมกรจับกังเลยหรือไง ได้ยินคำว่าโตเป็นควายแล้วทีไร ผมนึกไม่อยากทนอยู่เป็นวัวควายให้เขาทุกครั้งเลยนะครับ
    สุดท้ายนี้ปัจจัยที่ทำให้ครอบครัวคิดแบบนี้กับผม คือเปลี่ยนความคิดไปเปลี่ยนความคิดมาจนคิดจะให้ผมเป็นไปตามที่ครอบครัวต้องการ ทั้งๆที่ผมไม่เต็มใจอยู่แล้ว มันก็มาจากสื่อกระแสหลักที่โปรตะวันตก 100% ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว จริงแท้แน่ชัดอยู่ 100% แล้วนะครับ
    พักนี้ไม่ค่อยมีเวลาดูข่าวที่เหมือนว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของชีวิตผมเลยแม้แต่น้อย แต่คนรอบข้างชอบเปิดสื่อกระแสหลักที่โปรตะวันตก 100% โปรส้ม 100% โปรแดง 100% จนผมเริ่มรู้แล้วว่างูพิษที่ร้ายที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหนก็คนรอบข้างไม่ว่าจะคนในครอบครัว คนสนิท สุดท้ายก็ต้องพึ่งพาตัวเอง ไว้ใจตัวเอง เชื่อมั่นกับใจตัวเอง เพราะคนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากไม่ค่อยมานั่งตัดพ้อว่า Environment รอบตัวเราไม่เอื้ออำนวย และเป็นพิษแก่จิตใจเรา และทางครอบครัวบีบบังคับเรามากจนเกินไป คือกลับบ้านยาวๆช่วงโควิตไม่ได้มาช่วยงานเพื่อนใช้ชีวิตคนหอจนผมต้องเสียเพื่อนดีๆไป เพื่อนที่เคยคบอย่างดิบดีสุดท้ายกลายเป็นตัดเพื่อนซะงั้น โทษครอบครัวไม่ได้ โทษเพื่อนก็ไม่ได้ โทษศักยภาพและแนวความคิดตัวเองว่ายังไม่ดีพอ ที่ยังไม่ดีพอเพราะหลงไหลกับธุรกิจเครือข่ายสุดท้ายก็แค่เรื่องขายฝันเพ้อฝัน และแนวคิดหาบน้ำเทียบกับแนวคิดทำงานหวังอัพตำแหน่ง หรือทำงานไม่หวังตำแหน่ง สุดท้าย ร่างกายเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว และ แนวคิดทำงานแบบทำท่อส่งน้ำ ถ้าจะเทียบกับธุรกิจเครือข่าย สำหรับพวกเขาที่ยังทำธุรกิจเครือข่าย คือ ใช่ สำหรับผม คือ ไม่ใช่เลย ไม่ใช่ 100% แต่ถ้าจะทำแนวคิดท่าส่งน้ำ-เครื่องสูบน้ำ ไม่ต้องหาบน้ำไปมาให้เหนื่อยเหมือนทำงานประจำหรือทำงานเยี่ยงทาส ยังไงก็ต้องสร้างงานเป็นของตัวเอง สร้างหน้าโปรไฟล์และหน้าร้านออนไลนร์เพื่อขายงานตัวเอง ขายผลงาน ทำฟรีแลนซ์ไปเรื่อยๆ ไม่ก็ทำเป็นสตาร์ทอัพ วางแผนการใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด จะได้มีเวลาเที่ยวกินพักเล่นเกมส์รีแลกซ์ทำคอนเทนต์ได้สบายๆ สังคมแบบครอบครัวผมไม่ใช่แค่ทำงานประจำเพียงอย่างเดียว จะให้กู้ในระบบบ้าง นอกระบบบ้าง ให้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และมากำกับการใช้เงินของเรา แบบนี้มันไม่ถูก มันไม่ยุติธรรม ชีวิตใครชีวิตมัน ไม่ต้องมากำหนดชีวิตเราจนเราไม่สามารถมีตัวเป็นของตัวเองได้ หรือจนเราสูญเสียตัวตนที่แท้จริงไปเลย คือรับช่วงสืบทอดสิ่งที่ครอบครับเขาทำกัน หลักๆคือ มูเตลู สุดท้ายผมก็ไม่จำเป็นต้องเป๊ะเหมือนคนในครอบครัวทุกคน และจะได้ไม่ต้องสูญเสียตัวตนเพราะกับดักกตัญญู ความต้องการครอบครัวที่ไม่สอดคล้องกับยุคโลกาภิวัฒน์ คนรอบข้างไม่ว่าจะคนในครอบครัวหรือคนสนิทก็เปลี่ยนใจอยากให้ผมทำงานในสภาพแวดล้อมที่ผมไม่ชอบที่สุด ก่อนหน้านั้นคนรอบข้างยังไฟเขียวอยู่เลยว่าให้ผมทำงานเป็นสตาร์ทอัพก็ได้ รับงานเอกชนก็ได้ ช่วงโควิดระบาดใหม่ๆทางคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวเองก็เถอะ คงไม่อยากให้ผมใช้ชีวิตคนเดียวในหอ ด้วยความหวังดี ด้วยความเป็นห่วง คือกลัวว่าผมจะใช้ชีวิตอิสระทำอาชีพอิสระขนาดนั้นเลย เลยต้องจำกัดกรอบให้ผมต้องเป็นลูกจ้างเท่านั้น หรือรับราชการเท่านั้น ชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้เนี่ย เรื่องนอกตัวเรื่องที่ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและเอี่ยว ผมก็ไม่เสพ ไม่ดู ดูและเสพเรื่องที่น่าสนใจอย่างข่าวเกมส์ ข่าวเฟรมเวิร์กโปรแกรมมิ่ง ข่าวเทคโนโลยีจากจีนและรัสเซียจะดีกว่า เพราะตอนนี้ข่าวประท้วงอีลอนแม่งดังกว่าข่าวเทคโนโลยีสุดล้ำนวัตกรรมสุดลึกของจีนอีก สื่อกระแสหลักก็ขยันประโคมกันเข้าไป ตามกำลังทุนเงินยิวอย่างร็อดไชล์ร็อกกี้เฟลเลอร์และแบล็กร็อคไง บอกเลย ครอบครัวเปลี่ยนไปจากที่ก่อนหน้านี้เคยให้ผมทำงานแล้วแต่ที่ผมอยากจะทำ เดี๋ยวนี้กลายเป็นให้ลูกสอบงานราชการ สอบบรรจุ สอบไม่ได้ก็ต้องเป็นลูกจ้าง คือจบสายอาชีวะสะเต็ม ระดับนี้แล้วจะให้ทำงานเยี่ยงวัวควายเยี่ยงทาสขี้ข้ากรรมกรจับกังเลยหรือไง ได้ยินคำว่าโตเป็นควายแล้วทีไร ผมนึกไม่อยากทนอยู่เป็นวัวควายให้เขาทุกครั้งเลยนะครับ สุดท้ายนี้ปัจจัยที่ทำให้ครอบครัวคิดแบบนี้กับผม คือเปลี่ยนความคิดไปเปลี่ยนความคิดมาจนคิดจะให้ผมเป็นไปตามที่ครอบครัวต้องการ ทั้งๆที่ผมไม่เต็มใจอยู่แล้ว มันก็มาจากสื่อกระแสหลักที่โปรตะวันตก 100% ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว จริงแท้แน่ชัดอยู่ 100% แล้วนะครับ
    0 Comments 0 Shares 632 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์ประกาศโครงการลงทุนมูลค่าอย่างน้อยที่สุด 500,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ในอเมริกา ที่นำโดยซอฟต์แบงก์ ออราเคิล และโอเพนเอไอ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อก้าวนำทิ้งห่างพวกประเทศคู่แข่งในเทคโนโลยีเอไอที่กำลังมีความสำคัญยิ่งยวดมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อธุรกิจ
    .
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงเมื่อวันอังคาร (21 ม.ค.) ว่า โครงการลงทุนดังกล่าวที่มีชื่อว่า “สตาร์เกต” เป็นสักขีพยานความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพของอเมริกา
    .
    ขณะที่ แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพนเอไอ มาซาโยชิ ซัน หัวเรือใหญ่ซอฟต์แบงก์จากญี่ปุ่น และแลร์รี เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งออราเคิล เข้าร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้ที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาวด้วย
    .
    ซันเผยว่า ทั้งสามบริษัทตกลงลงทุนเริ่มต้น 100,000 ล้านดอลลาร์ และสูงสุด 500,000 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 4 ปีต่อจากนี้ไป
    .
    โครงการร่วมทุนนี้เกิดขึ้นขณะที่บรรดาบิ๊กเทคพยายามอย่างหนักในการตอบสนองความต้องการท่วมท้นมหาศาลที่มีต่อการประยุกต์ใช้งานจากการคำนวณของเทคโนโลยีเอไอ
    .
    ทรัมป์กล่าวว่า สตาร์เกตจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางกายภาพและแบบเสมือนที่จะส่งเสริมความก้าวหน้าใหม่ๆ ในเทคโนโลยีเอไอ ซึ่งรวมถึงการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์หลายๆ แห่งที่จะนำไปสู่การสร้างงานกว่า 100,000 ตำแหน่งในอเมริกา
    .
    ในเวลาต่อมา โอเพนเอไอ ผู้พัฒนาแชตจีพีที โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า โปรเจกต์นี้ไม่เพียงสนับสนุนการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมใหม่ของอเมริกาเท่านั้น แต่ยังนำเสนอความสามารถเชิงยุทธศาสตร์ในการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และเหล่าพันธมิตรอีกด้วย
    .
    โพสต์ดังกล่าวเสริมว่า ซอฟต์แบงก์และโอเพนเอไอจะเป็นหุ้นส่วนหลักของสตาร์เกต โดยซอฟต์แบงก์รับผิดชอบด้านการเงิน และโอเพนเอไอรับผิดชอบด้านปฏิบัติการ นอกจากนั้นยังมีเอ็มจีเอ็กซ์ กองทุนเทคโนโลยีจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นนักลงทุนรายที่ 4 ขณะที่อาร์ม ไมโครซอฟท์ เอ็นวีเดีย ออราเคิล และโอเพนเอไอเป็นหุ้นส่วนเทคโนโลยีหลัก
    .
    เอลลิสันจากออราเคิล บริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำของอเมริกา กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลแห่งแรกของสตาร์เกตอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่รัฐเทกซัส โดยจะมีการสร้างศูนย์ข้อมูล 20 แห่ง แต่ละแห่งมีพื้นที่ 500,000 ตารางฟุต และเสริมว่า โครงการนี้อาจสนับสนุนเอไอที่ทำการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพระบบอิเล็กทรอนิกส์ และช่วยแพทย์ดูแลผู้ป่วย
    .
    ทั้งนี้ในปัจจุบัน เทกซัสกำลังกลายเป็นตัวเลือกใหม่มาแรงแทนที่แคลิฟอร์เนียสำหรับการลงทุนด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในอเมริกา
    .
    ขณะที่โอเพนเอไอสำทับว่า กำลังประเมินสถานที่ที่เป็นไปได้ในการตั้งแคมปัสขึ้นทั่วอเมริกา ควบคู่ไปกับการดำเนินการข้อตกลงขั้นสุดท้าย
    .
    ผู้บริหารบิ๊กเทคทั้งสามกล่าวขอบคุณทรัมป์ โดยอัลต์แมนบอกว่า โครงการนี้คงไม่มีทางเป็นไปได้ถ้าไม่มีประธานาธิบดีใหม่ของอเมริกาผู้นี้
    .
    อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า การประกาศข่าวล่าสุดนี้เป็นโครงการเดียวกับที่เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยี ดิ อินฟอร์เมชัน รายงานตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้วว่า โอเพนเอไอและไมโครซอฟท์กำลังร่วมมือกันในโครงการศูนย์ข้อมูลมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ที่จะครอบคลุมซูเปอร์คอมพิวเตอร์เอไอ อีกทั้งยังมีชื่อว่า “สตาร์เกต” ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปี 2028 หรือไม่
    .
    ข่าวนี้ออกมาหลังจากในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์เมื่อวันจันทร์ (20 ม.ค.) คลาคล่ำไปด้วยเหล่าผู้บริหารบริษัทไฮเทคชื่อดังมากมาย เช่น ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิล ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอกูเกิล มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเมตา และเจฟฟ์ เบโซส นายใหญ่แอมะซอน
    .
    นอกจากนั้น ในวันจันทร์ ทรัมป์ยังยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่มีเป้าหมายในการลดความเสี่ยงจากเอไอที่มีต่อผู้บริโภค พนักงาน และความมั่นคงของชาติ เท่ากับว่า ขณะนี้อเมริกาไม่มีแนวทางในการพัฒนาเอไอระดับประเทศ แม้แต่ละรัฐกำลังพยายามกำหนดมาตรการของตนเองก็ตาม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006997
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ประกาศโครงการลงทุนมูลค่าอย่างน้อยที่สุด 500,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ในอเมริกา ที่นำโดยซอฟต์แบงก์ ออราเคิล และโอเพนเอไอ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อก้าวนำทิ้งห่างพวกประเทศคู่แข่งในเทคโนโลยีเอไอที่กำลังมีความสำคัญยิ่งยวดมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อธุรกิจ . ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงเมื่อวันอังคาร (21 ม.ค.) ว่า โครงการลงทุนดังกล่าวที่มีชื่อว่า “สตาร์เกต” เป็นสักขีพยานความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพของอเมริกา . ขณะที่ แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพนเอไอ มาซาโยชิ ซัน หัวเรือใหญ่ซอฟต์แบงก์จากญี่ปุ่น และแลร์รี เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งออราเคิล เข้าร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้ที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาวด้วย . ซันเผยว่า ทั้งสามบริษัทตกลงลงทุนเริ่มต้น 100,000 ล้านดอลลาร์ และสูงสุด 500,000 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 4 ปีต่อจากนี้ไป . โครงการร่วมทุนนี้เกิดขึ้นขณะที่บรรดาบิ๊กเทคพยายามอย่างหนักในการตอบสนองความต้องการท่วมท้นมหาศาลที่มีต่อการประยุกต์ใช้งานจากการคำนวณของเทคโนโลยีเอไอ . ทรัมป์กล่าวว่า สตาร์เกตจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางกายภาพและแบบเสมือนที่จะส่งเสริมความก้าวหน้าใหม่ๆ ในเทคโนโลยีเอไอ ซึ่งรวมถึงการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์หลายๆ แห่งที่จะนำไปสู่การสร้างงานกว่า 100,000 ตำแหน่งในอเมริกา . ในเวลาต่อมา โอเพนเอไอ ผู้พัฒนาแชตจีพีที โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า โปรเจกต์นี้ไม่เพียงสนับสนุนการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมใหม่ของอเมริกาเท่านั้น แต่ยังนำเสนอความสามารถเชิงยุทธศาสตร์ในการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และเหล่าพันธมิตรอีกด้วย . โพสต์ดังกล่าวเสริมว่า ซอฟต์แบงก์และโอเพนเอไอจะเป็นหุ้นส่วนหลักของสตาร์เกต โดยซอฟต์แบงก์รับผิดชอบด้านการเงิน และโอเพนเอไอรับผิดชอบด้านปฏิบัติการ นอกจากนั้นยังมีเอ็มจีเอ็กซ์ กองทุนเทคโนโลยีจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นนักลงทุนรายที่ 4 ขณะที่อาร์ม ไมโครซอฟท์ เอ็นวีเดีย ออราเคิล และโอเพนเอไอเป็นหุ้นส่วนเทคโนโลยีหลัก . เอลลิสันจากออราเคิล บริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำของอเมริกา กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลแห่งแรกของสตาร์เกตอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่รัฐเทกซัส โดยจะมีการสร้างศูนย์ข้อมูล 20 แห่ง แต่ละแห่งมีพื้นที่ 500,000 ตารางฟุต และเสริมว่า โครงการนี้อาจสนับสนุนเอไอที่ทำการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพระบบอิเล็กทรอนิกส์ และช่วยแพทย์ดูแลผู้ป่วย . ทั้งนี้ในปัจจุบัน เทกซัสกำลังกลายเป็นตัวเลือกใหม่มาแรงแทนที่แคลิฟอร์เนียสำหรับการลงทุนด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในอเมริกา . ขณะที่โอเพนเอไอสำทับว่า กำลังประเมินสถานที่ที่เป็นไปได้ในการตั้งแคมปัสขึ้นทั่วอเมริกา ควบคู่ไปกับการดำเนินการข้อตกลงขั้นสุดท้าย . ผู้บริหารบิ๊กเทคทั้งสามกล่าวขอบคุณทรัมป์ โดยอัลต์แมนบอกว่า โครงการนี้คงไม่มีทางเป็นไปได้ถ้าไม่มีประธานาธิบดีใหม่ของอเมริกาผู้นี้ . อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า การประกาศข่าวล่าสุดนี้เป็นโครงการเดียวกับที่เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยี ดิ อินฟอร์เมชัน รายงานตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้วว่า โอเพนเอไอและไมโครซอฟท์กำลังร่วมมือกันในโครงการศูนย์ข้อมูลมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ที่จะครอบคลุมซูเปอร์คอมพิวเตอร์เอไอ อีกทั้งยังมีชื่อว่า “สตาร์เกต” ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปี 2028 หรือไม่ . ข่าวนี้ออกมาหลังจากในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์เมื่อวันจันทร์ (20 ม.ค.) คลาคล่ำไปด้วยเหล่าผู้บริหารบริษัทไฮเทคชื่อดังมากมาย เช่น ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิล ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอกูเกิล มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเมตา และเจฟฟ์ เบโซส นายใหญ่แอมะซอน . นอกจากนั้น ในวันจันทร์ ทรัมป์ยังยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่มีเป้าหมายในการลดความเสี่ยงจากเอไอที่มีต่อผู้บริโภค พนักงาน และความมั่นคงของชาติ เท่ากับว่า ขณะนี้อเมริกาไม่มีแนวทางในการพัฒนาเอไอระดับประเทศ แม้แต่ละรัฐกำลังพยายามกำหนดมาตรการของตนเองก็ตาม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006997 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 2091 Views 0 Reviews