• ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 20 (จบ)
    เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ
    แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้
    บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น
    เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น
    ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน
    ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก
    แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว
    ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง
    หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ
    ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
    ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง
    แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน
    แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย
    ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ
    และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก…
    ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu
    Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ
    สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน
    นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ
    ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน
    นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่
    หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา
    ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ
    ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great
    Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว….
    (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม)

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    31 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 20 (จบ) เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้ บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก… ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่ หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว…. (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม) สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 31 ส.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 819 Views 0 Reviews
  • เกาหลีใต้เดินเกมรุก เตรียมส่ง กองกำลังชุดพิเศษไป “กัมพูชา” ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ
    https://www.thai-tai.tv/news/21907/
    .
    #ไทยไท #เกาหลีใต้ #กัมพูชา #กองกำลังพิเศษ #แก๊งสแกมเมอร์ #KoreanDesk #อาชญากรรมข้ามชาติ

    เกาหลีใต้เดินเกมรุก เตรียมส่ง กองกำลังชุดพิเศษไป “กัมพูชา” ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ https://www.thai-tai.tv/news/21907/ . #ไทยไท #เกาหลีใต้ #กัมพูชา #กองกำลังพิเศษ #แก๊งสแกมเมอร์ #KoreanDesk #อาชญากรรมข้ามชาติ
    0 Comments 0 Shares 288 Views 0 Reviews
  • หยุดยิงแล้ว แต่สงครามยังไม่จบ! กัมพูชาอาจใช้กองกำลังพิเศษ BHQ เชี่ยวชาญรบในเมือง แทรกซึมก่อกวน สร้างความปั่นป่วนในไทย จับตา Urban Warfare รูปแบบใหม่!

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071950

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    หยุดยิงแล้ว แต่สงครามยังไม่จบ! กัมพูชาอาจใช้กองกำลังพิเศษ BHQ เชี่ยวชาญรบในเมือง แทรกซึมก่อกวน สร้างความปั่นป่วนในไทย จับตา Urban Warfare รูปแบบใหม่! อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071950 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 367 Views 0 Reviews
  • ..ตอนนี้ไม่มีการเจรจาใดๆทั้งสิ้น,ชนะกับแพ้คือคำตอบ.
    ..เพราะนี้คือสนามยุทธศาสตร์โลกไปแล้ว,จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามหรือไม่เกิด,สงครามกับอาชญากรสงครามแบบเขมรเท่านั้นคือคำตอบด้วย ซึ่งเราจบสงครามนี้ได้ จะสามารถรักษาความเป็นกลางของภาวะสงครามโลกได้ทันที,จะจีนจะอเมริกาจะไม่มีข้ออ้างใดๆอีกมาใช้อาเชียนเราทำสงครามโลก,อเมริกาจะอ้างว่าเขมรคือฐานทัพจีนแบบจีนสร้างกองทัพเรือย่อยของจีนในเขมรก็ไม่ได้อีก ไทยสามารถขจัดความจะเอาของอเมริกาได้ที่พังงามิให้มีเปรียบเทียบโดยนายกฯพนาเรา ผบ.ปู เดินทางไปเจรจาตกลงกับจีนให้ถอนกองทัพเรือออกจากพื้นที่นี้ที่ไทยชนะสงครามร่วมกับลาวกับเวียดนามรบกวนเชิญออกไปด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีงามจากพื้นที่นี้เพื่อมิให้เหี้ยอเมริกาอ้างใช้ไทยมายึดพังงาตั้งฐานทัพในไทยได้อีกแห่งอย่างถาวรในอนาคตเพราะนั่นจะขัดขวางถาวรทันทีของทางสายไหมของการค้าจีนเองทันทีด้วย,หลังจากไทยขุดคลองคอดกระ ทำแลนด์บริดจ์อำนาจอเมริกาจะไม่สามารถมีเหนือในเขตพื้นที่นั้นทันทีด้วย,จีนเองก็สามารถค้าขายอิสระในคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์นั้น ทุกๆชาติทั่วโลกสามารถค้าขายเสรีอิสระผ่านคลองคอดกระของไทยได้โดยไทยมีอธิปไตย100%ในพื้นที่นี้ทั้งหมดไม่มีอเมริกาหรือชาติฝรั่งตะวันตกใดๆมาแทรกแซงการค้าขายในเอเชียในอาเชียนเราได้อีก,จีนสามารถขนส่งทั้งทางบกทางทะเลทางพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงอิสระก็ได้,ทุกๆชาติร่วมมาค้าขายเสรีในราชอาณาจักรไทยได้ เรา..ประเทศไทยเป็นกลางนั้นเอง,แม้อเมริกาจะรบกับจีนจริง ไทยก็เป็นกลางและพื้นที่ชนะสงครามนี้มิให้ใครมาตั้งฐานทัพใดๆก็อเมริกาเพื่อจีนมาสู้รบกันได้,เขตปลิดสงครามโลกคือไทย ลาว เวียดนาม นั้นเอง หากพม่า มาเลย์ สิงคโปร์ อินโด ฟิลิปปินส์จะร่วมmouเป็นกลางทางสงครามโลกระหว่างอเมริกากับจีน สามารถมาเข้าร่วมลงนามในmouนี้อย่างเปิดเผยและเป็นทางการได้ทันที,จะมิให้อเมริกาใช้ภาษีมาแอบอ้างมีนัยยะแอบแฝงแบบเจรจาอ้างการค้าแต่หมายเอาพังงาไทยมาเป็นฐานทัพรบกับจีนไม่ได้ มาห้ามไทยค้าขายกับใครอิสระเสรีไม่ได้ในอธิปไตยไทยเรา,หรือจีนหมายใช้พื้นที่สงครามที่ไทยชนะยึดทั้งประเทศมันได้แล้วนี้ใช้เป็นฐานทัพรบกับอเมริการก็ไม่ได้หรือหมายใช้ไทยหมายคานกำลังอเมริกาหมายตั้งฐานกำลังสู้กับอเมริกาก็ไม่ได้,นายกฯพระราชทานที่คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยขอถวายพระราชทาน สามารถเจรจาลักษณะนี้แบบเด็ดขาดได้,ตัดตอนหมากทั้งกระดานอเมริการและจีนทันทีด้วย.,อาเชียนเราอย่างด้วยคือไทย ลาว เวียดนามอาจรอดภัยสงครามโลกนี้ พม่ามาเข้าร่วมก็อาจรอด,มาเลย์ก็อิสราเอลมาประจำในมาเลย์แล้ว,สิงคโปร์บ๋อยอเมริกาตัวพ่อ,ฟิลิปปินส์ยิ่งอยากเป็นรัฐหนึ่งของอเมริกาโน้น,อินโดฯก็ไปทางอเมริกากว่า60%อีก,บ่อน้ำมันในอินโดฯอเมริกาเอาไปเกือบหมดประเทศ.ไม่ต่างจากไทยเพราะยุคอดีตนายกฯขายชาติขึ้นมาปกครองเป็นอันมากในประเทศไทยเรานี้.

    ..นีคือภาวะสงคราม มันเขมรอยากเกิดเลยเปิดมา,ต้องพร้อมจ่ายราคาที่แพงแสนแพงคือไทย ลาว และเวียดนาม จะสลายสถานะการเป็นประเทศเขมรในตอนนี้ทันทีร่วมกันนั้นเอง.,คือร่วมกันกำจัดอาชญากรและอาชญากรรมโลก ฮับค้ามนุษย์ ฮับสแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ทำโจรกรรมก่ออาชญากรรมสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก,ฮับฟอกเงินสากลโลก แหล่งบ่อนคาสิโนเถื่อนระดับโลกออนไลน์หลอกลวงทั่วโลกด้วยโดยมีประมุขประเทศคุ้มครองคืออาชญากรฮุนเซนและฮุนมาเนตรวมถึงตระกูลฮุนทุกๆตัวนั้นเองบริหารจัดการควบคุมฮับสาระพัดเลวชั่วนี้ร่วมกันทั้งตระกูลและสมุนขี้ข้าคนรับใช้มันด้วยเป็นกองทัพกองกำลังพิเศษมากมายเพื่อปกป้องฮับสาระพัดอาชญากรและอาชญากรรมนี้,ถ้านานาชาติทั่วโลกว่าเขมรดี แล้วปกป้องเขมรเชื่อว่าประเทศนั้นๆคือแหล่งโอนถ่ายรับเนื้องานธุรกรรมกิจกรรมผลประโยชน์กับประเทศเขมรนี้แน่นอน,ชั่วเลวเหมือนกันนั้นเอง,เกาหลีใต้หากให้ที่หลบหนีจริงแก่อาชญากรโลกนี้แสดงว่า เป็นผู้เคยค้าขายการค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์กับฮุนเซนกับประเทศเขมรด้วยตลอดอาจรวมถึงจุดพักเงินของการฟอกเงินระดับสากลโลกด้วย,หรือมีกิจกรรมทางชั่วร่วมกันก็ไม่ทางใดทางหนึ่งนั้นเอง.
    ..เขมรต้องสิ้นนชาติเพราะแต่เดิมก็ไม่เคยมีชาติมีประเทศอะไร,มีแค่ฝรั่งเศสกับไทยทำศึกสงครามกันช่วงล่าอาณานิคมเท่านั้น,ไม่เคยมีชื่อเขมรปรากฎเกิดขึ้นในขณะนั้นแต่ใดๆ.
    https://youtube.com/watch?v=1JD22hWmnV0&si=mXSl0ROdlfSLeGNz
    ..ตอนนี้ไม่มีการเจรจาใดๆทั้งสิ้น,ชนะกับแพ้คือคำตอบ. ..เพราะนี้คือสนามยุทธศาสตร์โลกไปแล้ว,จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามหรือไม่เกิด,สงครามกับอาชญากรสงครามแบบเขมรเท่านั้นคือคำตอบด้วย ซึ่งเราจบสงครามนี้ได้ จะสามารถรักษาความเป็นกลางของภาวะสงครามโลกได้ทันที,จะจีนจะอเมริกาจะไม่มีข้ออ้างใดๆอีกมาใช้อาเชียนเราทำสงครามโลก,อเมริกาจะอ้างว่าเขมรคือฐานทัพจีนแบบจีนสร้างกองทัพเรือย่อยของจีนในเขมรก็ไม่ได้อีก ไทยสามารถขจัดความจะเอาของอเมริกาได้ที่พังงามิให้มีเปรียบเทียบโดยนายกฯพนาเรา ผบ.ปู เดินทางไปเจรจาตกลงกับจีนให้ถอนกองทัพเรือออกจากพื้นที่นี้ที่ไทยชนะสงครามร่วมกับลาวกับเวียดนามรบกวนเชิญออกไปด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีงามจากพื้นที่นี้เพื่อมิให้เหี้ยอเมริกาอ้างใช้ไทยมายึดพังงาตั้งฐานทัพในไทยได้อีกแห่งอย่างถาวรในอนาคตเพราะนั่นจะขัดขวางถาวรทันทีของทางสายไหมของการค้าจีนเองทันทีด้วย,หลังจากไทยขุดคลองคอดกระ ทำแลนด์บริดจ์อำนาจอเมริกาจะไม่สามารถมีเหนือในเขตพื้นที่นั้นทันทีด้วย,จีนเองก็สามารถค้าขายอิสระในคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์นั้น ทุกๆชาติทั่วโลกสามารถค้าขายเสรีอิสระผ่านคลองคอดกระของไทยได้โดยไทยมีอธิปไตย100%ในพื้นที่นี้ทั้งหมดไม่มีอเมริกาหรือชาติฝรั่งตะวันตกใดๆมาแทรกแซงการค้าขายในเอเชียในอาเชียนเราได้อีก,จีนสามารถขนส่งทั้งทางบกทางทะเลทางพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงอิสระก็ได้,ทุกๆชาติร่วมมาค้าขายเสรีในราชอาณาจักรไทยได้ เรา..ประเทศไทยเป็นกลางนั้นเอง,แม้อเมริกาจะรบกับจีนจริง ไทยก็เป็นกลางและพื้นที่ชนะสงครามนี้มิให้ใครมาตั้งฐานทัพใดๆก็อเมริกาเพื่อจีนมาสู้รบกันได้,เขตปลิดสงครามโลกคือไทย ลาว เวียดนาม นั้นเอง หากพม่า มาเลย์ สิงคโปร์ อินโด ฟิลิปปินส์จะร่วมmouเป็นกลางทางสงครามโลกระหว่างอเมริกากับจีน สามารถมาเข้าร่วมลงนามในmouนี้อย่างเปิดเผยและเป็นทางการได้ทันที,จะมิให้อเมริกาใช้ภาษีมาแอบอ้างมีนัยยะแอบแฝงแบบเจรจาอ้างการค้าแต่หมายเอาพังงาไทยมาเป็นฐานทัพรบกับจีนไม่ได้ มาห้ามไทยค้าขายกับใครอิสระเสรีไม่ได้ในอธิปไตยไทยเรา,หรือจีนหมายใช้พื้นที่สงครามที่ไทยชนะยึดทั้งประเทศมันได้แล้วนี้ใช้เป็นฐานทัพรบกับอเมริการก็ไม่ได้หรือหมายใช้ไทยหมายคานกำลังอเมริกาหมายตั้งฐานกำลังสู้กับอเมริกาก็ไม่ได้,นายกฯพระราชทานที่คณะรวมพลังประชาชนแผ่นดินไทยขอถวายพระราชทาน สามารถเจรจาลักษณะนี้แบบเด็ดขาดได้,ตัดตอนหมากทั้งกระดานอเมริการและจีนทันทีด้วย.,อาเชียนเราอย่างด้วยคือไทย ลาว เวียดนามอาจรอดภัยสงครามโลกนี้ พม่ามาเข้าร่วมก็อาจรอด,มาเลย์ก็อิสราเอลมาประจำในมาเลย์แล้ว,สิงคโปร์บ๋อยอเมริกาตัวพ่อ,ฟิลิปปินส์ยิ่งอยากเป็นรัฐหนึ่งของอเมริกาโน้น,อินโดฯก็ไปทางอเมริกากว่า60%อีก,บ่อน้ำมันในอินโดฯอเมริกาเอาไปเกือบหมดประเทศ.ไม่ต่างจากไทยเพราะยุคอดีตนายกฯขายชาติขึ้นมาปกครองเป็นอันมากในประเทศไทยเรานี้. ..นีคือภาวะสงคราม มันเขมรอยากเกิดเลยเปิดมา,ต้องพร้อมจ่ายราคาที่แพงแสนแพงคือไทย ลาว และเวียดนาม จะสลายสถานะการเป็นประเทศเขมรในตอนนี้ทันทีร่วมกันนั้นเอง.,คือร่วมกันกำจัดอาชญากรและอาชญากรรมโลก ฮับค้ามนุษย์ ฮับสแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ทำโจรกรรมก่ออาชญากรรมสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก,ฮับฟอกเงินสากลโลก แหล่งบ่อนคาสิโนเถื่อนระดับโลกออนไลน์หลอกลวงทั่วโลกด้วยโดยมีประมุขประเทศคุ้มครองคืออาชญากรฮุนเซนและฮุนมาเนตรวมถึงตระกูลฮุนทุกๆตัวนั้นเองบริหารจัดการควบคุมฮับสาระพัดเลวชั่วนี้ร่วมกันทั้งตระกูลและสมุนขี้ข้าคนรับใช้มันด้วยเป็นกองทัพกองกำลังพิเศษมากมายเพื่อปกป้องฮับสาระพัดอาชญากรและอาชญากรรมนี้,ถ้านานาชาติทั่วโลกว่าเขมรดี แล้วปกป้องเขมรเชื่อว่าประเทศนั้นๆคือแหล่งโอนถ่ายรับเนื้องานธุรกรรมกิจกรรมผลประโยชน์กับประเทศเขมรนี้แน่นอน,ชั่วเลวเหมือนกันนั้นเอง,เกาหลีใต้หากให้ที่หลบหนีจริงแก่อาชญากรโลกนี้แสดงว่า เป็นผู้เคยค้าขายการค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์กับฮุนเซนกับประเทศเขมรด้วยตลอดอาจรวมถึงจุดพักเงินของการฟอกเงินระดับสากลโลกด้วย,หรือมีกิจกรรมทางชั่วร่วมกันก็ไม่ทางใดทางหนึ่งนั้นเอง. ..เขมรต้องสิ้นนชาติเพราะแต่เดิมก็ไม่เคยมีชาติมีประเทศอะไร,มีแค่ฝรั่งเศสกับไทยทำศึกสงครามกันช่วงล่าอาณานิคมเท่านั้น,ไม่เคยมีชื่อเขมรปรากฎเกิดขึ้นในขณะนั้นแต่ใดๆ. https://youtube.com/watch?v=1JD22hWmnV0&si=mXSl0ROdlfSLeGNz
    0 Comments 0 Shares 742 Views 0 Reviews
  • Sat. Jul. 26, 2025

    Very interesting. From unknown source.
    READ CAREFULLY!!

    What Hun Sen truly wants isn’t just a border war — it’s to eliminate soldiers who may no longer be loyal to Hun dynasty.

    Hunsen now significantly reduced the military budget and redirected funds to build a “special guard force” equipped with state-of-the-art weapons, available only to those loyal to him personally.

    Ordinary Cambodian soldiers don't have a chance to even touch those weapons. Soldiers are usually not familiar with modern weapons. But ultimately, he was sent to death at the border with patriotism, using the word "loyal to the nation" as a vest.

    And now, Hun Sen is preparing to send the navy to the battlefield — even though there is no maritime dispute with Thailand. There aren’t even proper warships ready, yet generals and sailors are being deployed to die.

    This is too weird, and obviously not a war for the nation, but a war for the dynasty.

    The world may ignore a small country like Cambodia, but the truth is this:

    Cambodian soldiers are being sacrificed — not for the nation — but for one man’s throne.
    This is not a war for the country. It’s a purge — a calculated operation to remove anyone in uniform who might challenge the Hun dynasty’s grip on power.

    It’s not just strange. It’s strategic.

    No rational leader would send his troops to death if he knew they would lose—except “death” was the original plan.

    ----------------------------------------------

    น่าสนใจมาก จากแหล่งข่าวนิรนาม
    โปรดอ่านอย่างตั้งใจ!!

    สิ่งที่ฮุน เซนต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่สงครามชายแดน — แต่คือการกำจัดทหารที่อาจจะไม่จงรักภักดีต่อราชวงศ์ฮุนอีกต่อไป

    ขณะนี้ ฮุน เซนได้ลดงบประมาณกองทัพลงอย่างมาก และนำเงินไปสร้าง “กองกำลังพิเศษอารักขา” ซึ่งมีอาวุธทันสมัยที่สุด และมีไว้ให้เฉพาะผู้ที่จงรักภักดีต่อเขาเป็นการส่วนตัวเท่านั้น

    ทหารกัมพูชาทั่วไปไม่มีโอกาสแม้แต่จะสัมผัสอาวุธเหล่านั้น ทหารเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับอาวุธยุคใหม่ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกส่งไปตายที่ชายแดน ภายใต้คำว่า “จงรักภักดีต่อชาติ” เป็นเกราะกำบัง

    ตอนนี้ ฮุน เซนกำลังเตรียมส่งกองทัพเรือเข้าสู่สนามรบ — ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิพาททางทะเลกับประเทศไทยด้วยซ้ำ ไม่มีแม้แต่เรือรบที่พร้อมรบ แต่กลับมีการส่งนายพลและลูกเรือไปตาย

    เรื่องนี้แปลกเกินไป และเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สงครามเพื่อชาติ แต่เป็นสงครามเพื่อราชวงศ์

    แม้โลกอาจเพิกเฉยต่อประเทศเล็กๆ อย่างกัมพูชา แต่ความจริงคือ:

    ทหารกัมพูชากำลังถูกสังเวย — ไม่ใช่เพื่อประเทศชาติ — แต่เพื่อบัลลังก์ของชายคนเดียว

    นี่ไม่ใช่สงครามเพื่อประเทศ แต่มันคือการกวาดล้าง — ปฏิบัติการที่วางแผนมาอย่างดีเพื่อกำจัดทุกคนในเครื่องแบบที่อาจเป็นภัยต่ออำนาจของราชวงศ์ฮุน

    มันไม่ใช่แค่แปลก แต่มันคือกลยุทธ์

    ไม่มีผู้นำที่มีสติดีคนไหนจะส่งทหารไปตาย ทั้งที่รู้ว่าจะแพ้ — เว้นแต่ “ความตาย” นั้นจะเป็นแผนที่ถูกวางไว้แต่แรกอยู่แล้ว

    #กัมพูชายิงก่อน
    #CambodiaOpenedFire
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #hunsenwarcriminal
    #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม
    #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន
    #洪森戰爭罪犯
    Sat. Jul. 26, 2025 Very interesting. From unknown source. READ CAREFULLY!! What Hun Sen truly wants isn’t just a border war — it’s to eliminate soldiers who may no longer be loyal to Hun dynasty. Hunsen now significantly reduced the military budget and redirected funds to build a “special guard force” equipped with state-of-the-art weapons, available only to those loyal to him personally. Ordinary Cambodian soldiers don't have a chance to even touch those weapons. Soldiers are usually not familiar with modern weapons. But ultimately, he was sent to death at the border with patriotism, using the word "loyal to the nation" as a vest. And now, Hun Sen is preparing to send the navy to the battlefield — even though there is no maritime dispute with Thailand. There aren’t even proper warships ready, yet generals and sailors are being deployed to die. This is too weird, and obviously not a war for the nation, but a war for the dynasty. The world may ignore a small country like Cambodia, but the truth is this: Cambodian soldiers are being sacrificed — not for the nation — but for one man’s throne. This is not a war for the country. It’s a purge — a calculated operation to remove anyone in uniform who might challenge the Hun dynasty’s grip on power. It’s not just strange. It’s strategic. No rational leader would send his troops to death if he knew they would lose—except “death” was the original plan. ---------------------------------------------- น่าสนใจมาก จากแหล่งข่าวนิรนาม โปรดอ่านอย่างตั้งใจ!! สิ่งที่ฮุน เซนต้องการจริงๆ ไม่ใช่แค่สงครามชายแดน — แต่คือการกำจัดทหารที่อาจจะไม่จงรักภักดีต่อราชวงศ์ฮุนอีกต่อไป ขณะนี้ ฮุน เซนได้ลดงบประมาณกองทัพลงอย่างมาก และนำเงินไปสร้าง “กองกำลังพิเศษอารักขา” ซึ่งมีอาวุธทันสมัยที่สุด และมีไว้ให้เฉพาะผู้ที่จงรักภักดีต่อเขาเป็นการส่วนตัวเท่านั้น ทหารกัมพูชาทั่วไปไม่มีโอกาสแม้แต่จะสัมผัสอาวุธเหล่านั้น ทหารเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับอาวุธยุคใหม่ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ถูกส่งไปตายที่ชายแดน ภายใต้คำว่า “จงรักภักดีต่อชาติ” เป็นเกราะกำบัง ตอนนี้ ฮุน เซนกำลังเตรียมส่งกองทัพเรือเข้าสู่สนามรบ — ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิพาททางทะเลกับประเทศไทยด้วยซ้ำ ไม่มีแม้แต่เรือรบที่พร้อมรบ แต่กลับมีการส่งนายพลและลูกเรือไปตาย เรื่องนี้แปลกเกินไป และเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สงครามเพื่อชาติ แต่เป็นสงครามเพื่อราชวงศ์ แม้โลกอาจเพิกเฉยต่อประเทศเล็กๆ อย่างกัมพูชา แต่ความจริงคือ: ทหารกัมพูชากำลังถูกสังเวย — ไม่ใช่เพื่อประเทศชาติ — แต่เพื่อบัลลังก์ของชายคนเดียว นี่ไม่ใช่สงครามเพื่อประเทศ แต่มันคือการกวาดล้าง — ปฏิบัติการที่วางแผนมาอย่างดีเพื่อกำจัดทุกคนในเครื่องแบบที่อาจเป็นภัยต่ออำนาจของราชวงศ์ฮุน มันไม่ใช่แค่แปลก แต่มันคือกลยุทธ์ ไม่มีผู้นำที่มีสติดีคนไหนจะส่งทหารไปตาย ทั้งที่รู้ว่าจะแพ้ — เว้นแต่ “ความตาย” นั้นจะเป็นแผนที่ถูกวางไว้แต่แรกอยู่แล้ว #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #hunsenwarcriminal #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #ឧក្រិដ្ឋជនហ៊ុនសែន #洪森戰爭罪犯
    0 Comments 0 Shares 851 Views 0 Reviews
  • "ทรัมป์ไม่เชื่อว่าระเบิด "Bunker Buster" GBU-57 จะทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านได้"

    รายงานจาก Axios ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ มีข้อสงสัยว่าระเบิด GBU-57A/B MOP (Massive Ordnance Penetrator) ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ จะสามารถเข้าถึงและทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะเชื้อเพลิง Fordow (FFEP) ซึ่งเป็นโรงงานหลักของอิหร่านสำหรับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมระดับอาวุธ ซึ่งเชื่อว่าอยู่ลึกลงไปถึง 90 เมตรภายในภูเขาใกล้เมืองกอม(Qom) ทางตอนเหนือของอิหร่านได้จริงหรือไม่

    มีรายงานว่าทรัมป์ได้สอบถามที่ปรึกษาทางทหารของเขาโดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า "บังเกอร์บัสเตอร์" ขนาด 30,000 ปอนด์จะมีความสามารถในการทำลายโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์หรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมบอกกับประธานาธิบดีว่าพวกเขาเชื่อว่าจะทำสำเร็จ แม้ว่าจะไม่ทราบว่าประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อหรือไม่

    "บังเกอร์บัสเตอร์จะได้ผล ไม่ใช่เรื่องความสามารถ เรามีศักยภาพ และเราก็มีแผนทั้งหมดต่อจากนั้น (สำหรับการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น) ไม่ใช่แค่ทิ้งบังเกอร์บัสเตอร์แล้วประกาศชัยชนะ" เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าว

    ทางด้านเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลเชื่อว่าในที่สุดสหรัฐจะเข้าร่วมสงครามและช่วยทำลายโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ แต่ยืนกรานว่าพวกเขาก็สามารถสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับอาคารใต้ดินแห่งนี้ได้ แม้ว่าจะต้องดำเนินการเพียงลำพังก็ตาม (กรณีที่ทรัมป์ตัดสินใจถอนตัว) ทางเลือกหนึ่งอาจเป็นการบุกโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์โดยกองกำลังพิเศษของอิสราเอล ซึ่งคล้ายกับปฏิบัติการที่เห็นเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งกองกำลังอิสราเอลได้บุกโจมตีและทำลายโรงงานขีปนาวุธใต้ดินทางตอนเหนือของกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย

    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งกล่าวว่าอิสราเอลแจ้งต่อรัฐบาลทรัมป์ว่า แม้พวกเขาทำลายไม่ได้ด้วยระเบิด แต่พวกเขาอาจทำโดยใช้บุคคลเข้าไปในนั้น
    "ทรัมป์ไม่เชื่อว่าระเบิด "Bunker Buster" GBU-57 จะทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านได้" รายงานจาก Axios ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ มีข้อสงสัยว่าระเบิด GBU-57A/B MOP (Massive Ordnance Penetrator) ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ จะสามารถเข้าถึงและทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะเชื้อเพลิง Fordow (FFEP) ซึ่งเป็นโรงงานหลักของอิหร่านสำหรับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมระดับอาวุธ ซึ่งเชื่อว่าอยู่ลึกลงไปถึง 90 เมตรภายในภูเขาใกล้เมืองกอม(Qom) ทางตอนเหนือของอิหร่านได้จริงหรือไม่ มีรายงานว่าทรัมป์ได้สอบถามที่ปรึกษาทางทหารของเขาโดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า "บังเกอร์บัสเตอร์" ขนาด 30,000 ปอนด์จะมีความสามารถในการทำลายโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์หรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมบอกกับประธานาธิบดีว่าพวกเขาเชื่อว่าจะทำสำเร็จ แม้ว่าจะไม่ทราบว่าประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อหรือไม่ "บังเกอร์บัสเตอร์จะได้ผล ไม่ใช่เรื่องความสามารถ เรามีศักยภาพ และเราก็มีแผนทั้งหมดต่อจากนั้น (สำหรับการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น) ไม่ใช่แค่ทิ้งบังเกอร์บัสเตอร์แล้วประกาศชัยชนะ" เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าว ทางด้านเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลเชื่อว่าในที่สุดสหรัฐจะเข้าร่วมสงครามและช่วยทำลายโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ แต่ยืนกรานว่าพวกเขาก็สามารถสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับอาคารใต้ดินแห่งนี้ได้ แม้ว่าจะต้องดำเนินการเพียงลำพังก็ตาม (กรณีที่ทรัมป์ตัดสินใจถอนตัว) ทางเลือกหนึ่งอาจเป็นการบุกโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์โดยกองกำลังพิเศษของอิสราเอล ซึ่งคล้ายกับปฏิบัติการที่เห็นเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งกองกำลังอิสราเอลได้บุกโจมตีและทำลายโรงงานขีปนาวุธใต้ดินทางตอนเหนือของกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งกล่าวว่าอิสราเอลแจ้งต่อรัฐบาลทรัมป์ว่า แม้พวกเขาทำลายไม่ได้ด้วยระเบิด แต่พวกเขาอาจทำโดยใช้บุคคลเข้าไปในนั้น
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 414 Views 0 Reviews
  • กองทัพรัสเซียทำลายจุดบัญชาการของศูนย์บัญชาการกองกำลังพิเศษ SSO (Special Operations Forces) ของยูเครนในภูมิภาค Nikolaev (Mykolaiv) ด้วยการโจมตีผสมผสานของขีปนาวุธ Iskander-M ร่วมกับโดรน Geran-2

    นอกจากนี้ยังทำลายคลังกระสุนและบริเวณที่จอดยานพาหนะสำหรับขนส่งยุทโธปกรณ์อีกด้วย
    กองทัพรัสเซียทำลายจุดบัญชาการของศูนย์บัญชาการกองกำลังพิเศษ SSO (Special Operations Forces) ของยูเครนในภูมิภาค Nikolaev (Mykolaiv) ด้วยการโจมตีผสมผสานของขีปนาวุธ Iskander-M ร่วมกับโดรน Geran-2 นอกจากนี้ยังทำลายคลังกระสุนและบริเวณที่จอดยานพาหนะสำหรับขนส่งยุทโธปกรณ์อีกด้วย
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 394 Views 14 0 Reviews
  • อัปตี อัลลูดินีฟ (Apti Alludiniv) ผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษ "อัคมัต" (Akhmat) แห่งเชชเนีย ยืนยันว่าหากเป็นทหารรับจ้างต่างชาติจะไม่ถูกจับเป็นเชลยศึก!! มีทางเลือกเดียวเท่านั้นสำหรับพวกเขา

    แต่สำหรับชาวยูเครน หากยอมจำนนจะถูกจับเป็นเชลย และจะปฏิบัติต่อชาวยูเครนอย่างดี เพราะรู้ดีว่าส่วนใหญ่พวกเขาถูกบังคับจับตัวมาจากท้องถนนเพื่อให้มาต่อสู้กับรัสเซีย
    อัปตี อัลลูดินีฟ (Apti Alludiniv) ผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษ "อัคมัต" (Akhmat) แห่งเชชเนีย ยืนยันว่าหากเป็นทหารรับจ้างต่างชาติจะไม่ถูกจับเป็นเชลยศึก!! มีทางเลือกเดียวเท่านั้นสำหรับพวกเขา แต่สำหรับชาวยูเครน หากยอมจำนนจะถูกจับเป็นเชลย และจะปฏิบัติต่อชาวยูเครนอย่างดี เพราะรู้ดีว่าส่วนใหญ่พวกเขาถูกบังคับจับตัวมาจากท้องถนนเพื่อให้มาต่อสู้กับรัสเซีย
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 352 Views 9 0 Reviews
  • ปฏิบัติการค้นหาและกู้ซากรถกู้ภัยหุ้มเกราะ M88A2 “Hercules” ของกองทัพสหรัฐฯ ที่จมโคลนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ 4 นาย ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตแล้ว ยังคงดำเนินต่อไปในลิทัวเนีย

    กองกำลังพิเศษที่ประกอบด้วยทหาร 50 นายและยุทโธปกรณ์หนักจากกองทัพโปแลนด์รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารอื่นๆ ของ NATO ยังคงทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อกู้รถหุ้มเกราะพร้อมด้วยร่างของทหารอเมริกัน 4 นายซึ่งจมลงไปในหนองน้ำระดับความลึก 5 เมตร นานกว่า 1 วัน ระหว่างการซ้อมรบร่วมเมื่อวันอังคารในลิทัวเนียตะวันออกห่างจากชายแดนเพียงไม่กี่ไมล์

    คาดว่าการกู้ซากอาจต้องใช้เวลาหลายวันในการระบายน้ำออก และขุดลงไปในโคลนลึกซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ
    ปฏิบัติการค้นหาและกู้ซากรถกู้ภัยหุ้มเกราะ M88A2 “Hercules” ของกองทัพสหรัฐฯ ที่จมโคลนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ 4 นาย ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตแล้ว ยังคงดำเนินต่อไปในลิทัวเนีย กองกำลังพิเศษที่ประกอบด้วยทหาร 50 นายและยุทโธปกรณ์หนักจากกองทัพโปแลนด์รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารอื่นๆ ของ NATO ยังคงทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อกู้รถหุ้มเกราะพร้อมด้วยร่างของทหารอเมริกัน 4 นายซึ่งจมลงไปในหนองน้ำระดับความลึก 5 เมตร นานกว่า 1 วัน ระหว่างการซ้อมรบร่วมเมื่อวันอังคารในลิทัวเนียตะวันออกห่างจากชายแดนเพียงไม่กี่ไมล์ คาดว่าการกู้ซากอาจต้องใช้เวลาหลายวันในการระบายน้ำออก และขุดลงไปในโคลนลึกซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ
    0 Comments 0 Shares 443 Views 0 Reviews
  • ภาพเหตุการณ์ช่วงปลายปี 2024 จากกล้องติดลำตัวของ เจมส์ แอนเดอร์สัน (James Anderson) ทหารรับจ้างชาวอังกฤษ ขณะถูกกองกำลังพิเศษของรัสเซียเข้าจับกุมตัว พร้อมกับทหารยูเครนรายอื่นในแนวป่าทิศทางภูมิภาคเคิร์สก์ (Kursk)

    เขาถูกตัดสินจำคุกในเรือนจำพิเศษของรัสเซียเป็นเวลา 19 ปี ด้วยข้อหาเป็นทหารรับจ้างที่ก่อการร้ายต่อดินแดนรัสเซีย
    ภาพเหตุการณ์ช่วงปลายปี 2024 จากกล้องติดลำตัวของ เจมส์ แอนเดอร์สัน (James Anderson) ทหารรับจ้างชาวอังกฤษ ขณะถูกกองกำลังพิเศษของรัสเซียเข้าจับกุมตัว พร้อมกับทหารยูเครนรายอื่นในแนวป่าทิศทางภูมิภาคเคิร์สก์ (Kursk) เขาถูกตัดสินจำคุกในเรือนจำพิเศษของรัสเซียเป็นเวลา 19 ปี ด้วยข้อหาเป็นทหารรับจ้างที่ก่อการร้ายต่อดินแดนรัสเซีย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 533 Views 0 Reviews
  • ภาพวิดีโอช่วงเวลาที่สมาชิกหน่วยรบพิเศษ Akhmat ของรัสเซีย ซึ่งเป็นอีกหน่วยหนึ่งที่เข้าร่วมภารกิจเสี่ยงชีวิตมุดท่อก๊าซในพื้นที่เขตรอบเมืองซูดจา(Sudzha) กำลังเคลื่อนตัวไปในทิศทางใกล้หมู่บ้าน Kubatkin ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่หน่วยนี้รับผิดชอบ หลังเพิ่งออกมาจากท่อก๊าซ

    ภารกิจครั้งนี้ นอกจากหน่วยพิเศษ Akhmat แล้ว ยังประกอบไปด้วยกองกำลังพิเศษของกองพลที่ 11 , กองพลทหารผ่านศึก และกองพลวอสตอก (Vostok)
    ภาพวิดีโอช่วงเวลาที่สมาชิกหน่วยรบพิเศษ Akhmat ของรัสเซีย ซึ่งเป็นอีกหน่วยหนึ่งที่เข้าร่วมภารกิจเสี่ยงชีวิตมุดท่อก๊าซในพื้นที่เขตรอบเมืองซูดจา(Sudzha) กำลังเคลื่อนตัวไปในทิศทางใกล้หมู่บ้าน Kubatkin ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางที่หน่วยนี้รับผิดชอบ หลังเพิ่งออกมาจากท่อก๊าซ ภารกิจครั้งนี้ นอกจากหน่วยพิเศษ Akhmat แล้ว ยังประกอบไปด้วยกองกำลังพิเศษของกองพลที่ 11 , กองพลทหารผ่านศึก และกองพลวอสตอก (Vostok)
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 310 Views 0 Reviews
  • ‘สว.ไชยยงค์’ ชี้การก่อวินาศกรรมใน อ.สุไหงโก-ลก คือความล้มเหลวของภาครัฐในด้านการข่าว การรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ และกองกำลังพิเศษจากส่วนกบาง ชี้ถึงเวลาต้องมี “กฎหมายการก่อการร้าย และรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000022804

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ‘สว.ไชยยงค์’ ชี้การก่อวินาศกรรมใน อ.สุไหงโก-ลก คือความล้มเหลวของภาครัฐในด้านการข่าว การรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ และกองกำลังพิเศษจากส่วนกบาง ชี้ถึงเวลาต้องมี “กฎหมายการก่อการร้าย และรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000022804 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    7
    0 Comments 0 Shares 1135 Views 0 Reviews
  • "มาครง ฟาดใส่ปูตินอีกครั้งต่อหน้าทรัมป์"
    โดยระบุว่าเขายุติเจรจากับปูตินหลังเหตุการณ์ในเมืองบูชา (Bucha) ของยูเครน ซึ่งเกี่ยวข้องกับ “อาชญากรรมสงคราม” มาครงยังกล่าวถึงท่าทีใหม่ของเขาอีกว่า ขณะนี้เขาพร้อมกลับมาเจรจากับปูตินอีกครั้ง หลังสหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจการปกครอง

    "ผมยุติการเจรจากับประธานาธิบดีปูตินหลังเหตุการณ์ที่เมืองบูชา ซึ่งเป็นเรื่องอาชญากรรมสงคราม เพราะผมคิดว่าเราคงไม่ได้อะไรจากเขาในตอนนั้น"

    "แต่ตอนนี้สหรัฐฯ มีความเป็นจริงใหม่และรัฐบาลชุดใหม่ ผมคิดว่านั่นคือเหตุผลที่การหารือครั้งนี้อาจมีประโยชน์ ตอนนี้มีเหตุผลที่น่าเชื่อถือในการกลับมาติดต่อและเจรจากับปูตินใหม่อีกครั้ง"

    .
    เหตุการณ์ในเมืองบูชา ซึ่งอยู่ห่างจากเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเพียงเล็กน้อย เกิดขึ้นช่วงเริ่มต้นสงครามในปี 2022 ขณะนั้นรัสเซียบุกประชิดเมืองเคียฟ

    สื่อตะวันตกประโคมข่าวพบศพพลเรือนจำนวนมากอยู่ในเมือง แน่นอนว่าพวกเขากล่าวหาว่ารัสเซียเป็นผู้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงนี้

    รัสเซียออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาสังหารหมู่ในเมืองบูชา โดยกล่าวว่าเป็นโฆษณาชวนเชื่อของกองกำลังพิเศษเคียฟที่ได้ทุนสนับสนุนจากตะวันตกและสหรัฐเพื่อป้ายสีมอสโก และพร้อมให้เปิดการสอบสวนคดีอาชญากรรมสงครามต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งรัสเซียพร้อมแสดงหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์

    ไม่ถึงหนึ่งเดือน ข่าวนี้ก็เงียบหายไปจากหน้าสื่อ ไม่มีใครพูดถึงอีกเลย แต่รัสเซียยังคงพยายามรื้อฟื้นการสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตนเอง


    "มาครง ฟาดใส่ปูตินอีกครั้งต่อหน้าทรัมป์" โดยระบุว่าเขายุติเจรจากับปูตินหลังเหตุการณ์ในเมืองบูชา (Bucha) ของยูเครน ซึ่งเกี่ยวข้องกับ “อาชญากรรมสงคราม” มาครงยังกล่าวถึงท่าทีใหม่ของเขาอีกว่า ขณะนี้เขาพร้อมกลับมาเจรจากับปูตินอีกครั้ง หลังสหรัฐมีการเปลี่ยนแปลงอำนาจการปกครอง "ผมยุติการเจรจากับประธานาธิบดีปูตินหลังเหตุการณ์ที่เมืองบูชา ซึ่งเป็นเรื่องอาชญากรรมสงคราม เพราะผมคิดว่าเราคงไม่ได้อะไรจากเขาในตอนนั้น" "แต่ตอนนี้สหรัฐฯ มีความเป็นจริงใหม่และรัฐบาลชุดใหม่ ผมคิดว่านั่นคือเหตุผลที่การหารือครั้งนี้อาจมีประโยชน์ ตอนนี้มีเหตุผลที่น่าเชื่อถือในการกลับมาติดต่อและเจรจากับปูตินใหม่อีกครั้ง" . เหตุการณ์ในเมืองบูชา ซึ่งอยู่ห่างจากเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเพียงเล็กน้อย เกิดขึ้นช่วงเริ่มต้นสงครามในปี 2022 ขณะนั้นรัสเซียบุกประชิดเมืองเคียฟ สื่อตะวันตกประโคมข่าวพบศพพลเรือนจำนวนมากอยู่ในเมือง แน่นอนว่าพวกเขากล่าวหาว่ารัสเซียเป็นผู้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงนี้ รัสเซียออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาสังหารหมู่ในเมืองบูชา โดยกล่าวว่าเป็นโฆษณาชวนเชื่อของกองกำลังพิเศษเคียฟที่ได้ทุนสนับสนุนจากตะวันตกและสหรัฐเพื่อป้ายสีมอสโก และพร้อมให้เปิดการสอบสวนคดีอาชญากรรมสงครามต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งรัสเซียพร้อมแสดงหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ไม่ถึงหนึ่งเดือน ข่าวนี้ก็เงียบหายไปจากหน้าสื่อ ไม่มีใครพูดถึงอีกเลย แต่รัสเซียยังคงพยายามรื้อฟื้นการสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตนเอง
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 472 Views 21 0 Reviews
  • ภาพเหตุการณ์จากกล้องของฝ่ายยูเครน ขณะโจมตีเครื่องบิน Su-25 ของรัสเซียจนตกใกล้กับเมืองโทเรตสค์ (Toretsk) จากระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบประทับบ่ายิงของยูเครน (MANPADS: Man-Portable Air-Defence System)

    เหตุการณ์ต่อมา ทีมค้นหาและกู้ภัยของรัสเซียเดินทางมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 แต่ถูกโจมตีโดยโดรน FPV ทำให้ต้องถอนตัวออกจากเขตอันตราย

    ต่อมาได้กลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อนำเจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษและนักบิน Su-25 ออกมา จากรายงานระบุว่านักบินสามารถดีดตัวออกมาได้และได้รับบาดเจ็บ
    ภาพเหตุการณ์จากกล้องของฝ่ายยูเครน ขณะโจมตีเครื่องบิน Su-25 ของรัสเซียจนตกใกล้กับเมืองโทเรตสค์ (Toretsk) จากระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบประทับบ่ายิงของยูเครน (MANPADS: Man-Portable Air-Defence System) เหตุการณ์ต่อมา ทีมค้นหาและกู้ภัยของรัสเซียเดินทางมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ Mi-8 แต่ถูกโจมตีโดยโดรน FPV ทำให้ต้องถอนตัวออกจากเขตอันตราย ต่อมาได้กลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อนำเจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษและนักบิน Su-25 ออกมา จากรายงานระบุว่านักบินสามารถดีดตัวออกมาได้และได้รับบาดเจ็บ
    Like
    Love
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 273 Views 22 0 Reviews
  • สถานการณ์ Chasiv Yar

    มีรายงานล่าสุดว่า กองกำลังพิเศษ Akhmat ของเชเชน สามารถเคลียร์ศูนย์บัญชาการชั่วคราวของนาโต้ที่ตั้งอยู่ในป่าทางตะวันออกเฉียงใต้ได้แล้ว

    สถานที่แห่งนี้มีสนามเพลาะและบังเกอร์ที่แข็งแกร่ง รวมทั้งสนามบินสำหรับเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากที่นี่ใช้เป็นศูนย์บัญชาการหลักตั้งแต่ช่วงการต่อสู่เพื่อปลดปล่อย Bakhmut

    ศูนย์บัญชาการแห่งนี้เคยถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander หลายครั้ง และมีรายงานการเสียชีวิตของนายพลชาวโปแลนด์อีกด้วย
    สถานการณ์ Chasiv Yar มีรายงานล่าสุดว่า กองกำลังพิเศษ Akhmat ของเชเชน สามารถเคลียร์ศูนย์บัญชาการชั่วคราวของนาโต้ที่ตั้งอยู่ในป่าทางตะวันออกเฉียงใต้ได้แล้ว สถานที่แห่งนี้มีสนามเพลาะและบังเกอร์ที่แข็งแกร่ง รวมทั้งสนามบินสำหรับเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากที่นี่ใช้เป็นศูนย์บัญชาการหลักตั้งแต่ช่วงการต่อสู่เพื่อปลดปล่อย Bakhmut ศูนย์บัญชาการแห่งนี้เคยถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander หลายครั้ง และมีรายงานการเสียชีวิตของนายพลชาวโปแลนด์อีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 372 Views 0 Reviews
  • หน่วยซุ่มยิงของหน่วยรบเซเวอร์ (Battlegroup Seve) กำลังกำจัดเป้าหมายยูเครนอย่างเงียบๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ในการสนับสนุนกองกำลังในพื้นที่ชายแดนของภูมิภาคเคิร์ส

    มือปืนจากกองกำลังพิเศษเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่เป้าหมายที่สำคัญ เช่น พลปืนกล ลูกเรือรถถัง และทหารปืนใหญ่
    หน่วยซุ่มยิงของหน่วยรบเซเวอร์ (Battlegroup Seve) กำลังกำจัดเป้าหมายยูเครนอย่างเงียบๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ในการสนับสนุนกองกำลังในพื้นที่ชายแดนของภูมิภาคเคิร์ส มือปืนจากกองกำลังพิเศษเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่เป้าหมายที่สำคัญ เช่น พลปืนกล ลูกเรือรถถัง และทหารปืนใหญ่
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 673 Views 44 0 Reviews
  • ภาพผลลัพธ์บางส่วนของกองกำลังยูเครนในการบุกโจมตีภูมิภาคเคิร์สรอบที่ 2 เมื่อช่วงวันที่ 5 มกราคม ซึ่งในวันดังกล่าว สื่อตะวันตกประโคมข่าวกันอย่างครึกโครม ราวกับว่ายูเครนได้รับชัยชนะ หลังจากผ่านไปเพียงสามวัน ทุกอย่างเงียบสงัด!

    ผลงานจากหน่วย Kashtan ส่วนหนึ่งของกองกำลังพิเศษ Akhmat ของรัสเซีย
    ภาพผลลัพธ์บางส่วนของกองกำลังยูเครนในการบุกโจมตีภูมิภาคเคิร์สรอบที่ 2 เมื่อช่วงวันที่ 5 มกราคม ซึ่งในวันดังกล่าว สื่อตะวันตกประโคมข่าวกันอย่างครึกโครม ราวกับว่ายูเครนได้รับชัยชนะ หลังจากผ่านไปเพียงสามวัน ทุกอย่างเงียบสงัด! ผลงานจากหน่วย Kashtan ส่วนหนึ่งของกองกำลังพิเศษ Akhmat ของรัสเซีย
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 524 Views 0 Reviews
  • ทหารกองกำลังพิเศษกรีนเบเรต์ ผู้ต้องสงสัยจุดชนวนระเบิดรถกระบะไฟฟ้าไซเบอร์ทรัค บริเวณด้านหน้าโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชัลแนล โฮเท็ล ในลาสเวกัส ในวันขึ้นปีใหม่ อ้างว่าปฏิบัติการของเขานั้นไม่ใช่การโจมตีก่อการร้าย แต่เป็นการเตือนสติถึงอเมริกันชนทุกคน ตามรายงานของอาร์ทนิวส์อ้างอิงข้อความและบันทึกต่างๆที่พบในสมาร์ทโฟนของเขา
    .
    ในวันที่ 1 มกราคม 2025 รถกระบะไซเบอร์ทรัคของเทสลา บรรทุกพลุไฟ ถังแก๊สและเชื้อเพลิง เกิดระเบิดบริเวณด้านนอกโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนเชันแนล โฮเท็ล ในลาสเวกัส คนขับที่ถูกระบะตัวตนว่าได้แก่จ่าสิบเอกแมทธิว อลัน ลิเวลส์เบอร์เกอร์ สมาชิกหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์ ถูกพบเสียชีวิตในรถคันดังกล่าว แรงระเบิดทำให้ผู้สัญจรผ่านไปมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 7 คน โรงแรมได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย และเบื้องต้นพวกเจ้าหน้าที่สืบสวนจากรัฐบาลกลาง เกรงว่ามันมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการลงมือโจมตีก่อการร้าย
    .
    อย่างไรก็ตามในข้อความต่างๆ ซึ่งตำรวจลาสเวกัสเผยแพร่เมื่อวันศุกร์(3ม.ค.) เผยให้เห็นว่า ลิเวลส์เบอร์เกอร์ มีความผิดหวังอย่างมากเกี่ยวกับประเด็นในสังคมต่างๆนานาและมีปมขัดแย้งภายใน โดยข้อความหนึ่ง เขาเขียนว่า "ผมต้องการชำระล้างจิตใจพวกพี่น้อง ที่ผมสูญเสียไป และปล่อยวางตัวเอง จากภาระการใช้ชีวิตที่ผมต้องแบกรับ"
    .
    "นี่ไม่ใช่ก่อการร้าย แต่เป็นสัญญาณเตือนสติ อเมริกันชนใส่ใจแต่เพียงเรื่องน่าตื่นเต้นและความรุนแรง มันอาจเป็นเรื่องดีกว่าที่ผมจะสื่อสารให้พวกเขาเข้าใจประเด็นของผม ด้วยพลุไฟและระเบิด"ลิเวลส์เบอร์เกอร์เขียน
    .
    เขาได้ระบุถึงประเด็นทางสังคมต่างๆนานา ที่เขาบอกว่าอยากให้จัดการ ในนั้นรวมถึงแปรรูปอาหาร โรคอ้วน ความไม่เท่าเทียมทางรายได้ คนเร่ร่อน ผู้นำอ่อนแอ และคอรัปชันอย่างโจ่งแจ้ง
    .
    "หยุดหมกหมุ่นกับหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (DEI) เราทุกคนล้วนแตกต่างกันอยู่แล้ว DEI คือมะเร็ง" เขาเขียน พร้อมระบุว่า "ขอบคุณ ที่พวกเราปฏิเสธผู้สมัครจาก DEI และเราจะมีประธานาธิบดีจริงๆ ไม่ใช่จากหนังตลก" เขาเขียน
    .
    "เราต้องหยุดสงครามในยูเครนด้วยการเจรจาหาทางออก มันเป็นหนทางเดียว" เขาระบุ พร้อมบอกว่า "ประชากรของเราอ้วนเกินไปที่จะเข้าร่วมกองทัพ และเรากำลังเผชิญการทำสงครามกับจีน รัสเซีย เกาหลีเหนือและอิหร่าน ก่อนปี 2030"
    .
    ในบันทึกฉบับที่ 2 ของเขา จ่าหน้าถึงเพื่อนสมาชิกหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์ นายทหารผ่านศึก พวกนักรบและชาวอเมริกันชนทุกคน ในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นการเรียกร้องให้คนเหล่านี้รับประกันว่าพวกเดโมแครต จะไม่ขัดขวาง ทรัมป์ จากการเข้ารับอำนาจและกวาดล้างอาการป่วยต่างๆนานาของประเทศ
    .
    "เรากำลังอยู่ภายใต้ผู้นำที่อ่อนแอและปวกเปียก ที่ทำหน้าที่เพียงเพื่อความมั่งคั่งของตนเอง" เขาเขียน "พยายามด้วยวิธีสันติก่อน แต่ก็เตรียมพร้อมสู้เอาพวกเดโมแครตออกจากรัฐบาลกลางและกองทัพในทุกหนทางที่จำเป็น พวกเขาต้องไปและจำเป็นต้องมีการรีเซ็ตประเทศของเราครั้งใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงการล่มสลาย"
    .
    ลิเวลส์เบอร์เกอร์ เป็นสมาชิกของกองกำลังพิเศษ ที่ถึงขั้นได้รับเหรียญกล้าหาญ เขาเคยถูกส่งเข้าประจำการทั้งในอัฟกานิสถาน ทาจิกิสถาน จอร์เจีย คองโก และแม้รายงานข่าวอาจรวมถึงยูเครนด้วย อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ระบุว่าเขากำลังต่อสู้กับความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตหลายเหตุการณ์ ในนั้นรวมถึงการเพิ่งหย่าขาดกับภรรยาเมื่อเร็วๆนี้
    .
    รายงานข่าวระบุว่า ลิเวลส์เบอร์เกอร์ ใช้ปืนสั้นยิงตัวเอง ก่อนจุดชนวนระเบิด และบันทึกต่างๆของเขาบ่งชี้ว่าเขาเต็มไปด้วยแรงกดดันชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงาน แม้ขณะเดียวกันทีมสืบสวนมีความระมัดระวังในการตีความบันทึกเหล่านี้ ในขณะที่พวกเขากำลังแกะรอยหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001229
    ..............
    Sondhi X
    ทหารกองกำลังพิเศษกรีนเบเรต์ ผู้ต้องสงสัยจุดชนวนระเบิดรถกระบะไฟฟ้าไซเบอร์ทรัค บริเวณด้านหน้าโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชัลแนล โฮเท็ล ในลาสเวกัส ในวันขึ้นปีใหม่ อ้างว่าปฏิบัติการของเขานั้นไม่ใช่การโจมตีก่อการร้าย แต่เป็นการเตือนสติถึงอเมริกันชนทุกคน ตามรายงานของอาร์ทนิวส์อ้างอิงข้อความและบันทึกต่างๆที่พบในสมาร์ทโฟนของเขา . ในวันที่ 1 มกราคม 2025 รถกระบะไซเบอร์ทรัคของเทสลา บรรทุกพลุไฟ ถังแก๊สและเชื้อเพลิง เกิดระเบิดบริเวณด้านนอกโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนเชันแนล โฮเท็ล ในลาสเวกัส คนขับที่ถูกระบะตัวตนว่าได้แก่จ่าสิบเอกแมทธิว อลัน ลิเวลส์เบอร์เกอร์ สมาชิกหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์ ถูกพบเสียชีวิตในรถคันดังกล่าว แรงระเบิดทำให้ผู้สัญจรผ่านไปมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 7 คน โรงแรมได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย และเบื้องต้นพวกเจ้าหน้าที่สืบสวนจากรัฐบาลกลาง เกรงว่ามันมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการลงมือโจมตีก่อการร้าย . อย่างไรก็ตามในข้อความต่างๆ ซึ่งตำรวจลาสเวกัสเผยแพร่เมื่อวันศุกร์(3ม.ค.) เผยให้เห็นว่า ลิเวลส์เบอร์เกอร์ มีความผิดหวังอย่างมากเกี่ยวกับประเด็นในสังคมต่างๆนานาและมีปมขัดแย้งภายใน โดยข้อความหนึ่ง เขาเขียนว่า "ผมต้องการชำระล้างจิตใจพวกพี่น้อง ที่ผมสูญเสียไป และปล่อยวางตัวเอง จากภาระการใช้ชีวิตที่ผมต้องแบกรับ" . "นี่ไม่ใช่ก่อการร้าย แต่เป็นสัญญาณเตือนสติ อเมริกันชนใส่ใจแต่เพียงเรื่องน่าตื่นเต้นและความรุนแรง มันอาจเป็นเรื่องดีกว่าที่ผมจะสื่อสารให้พวกเขาเข้าใจประเด็นของผม ด้วยพลุไฟและระเบิด"ลิเวลส์เบอร์เกอร์เขียน . เขาได้ระบุถึงประเด็นทางสังคมต่างๆนานา ที่เขาบอกว่าอยากให้จัดการ ในนั้นรวมถึงแปรรูปอาหาร โรคอ้วน ความไม่เท่าเทียมทางรายได้ คนเร่ร่อน ผู้นำอ่อนแอ และคอรัปชันอย่างโจ่งแจ้ง . "หยุดหมกหมุ่นกับหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (DEI) เราทุกคนล้วนแตกต่างกันอยู่แล้ว DEI คือมะเร็ง" เขาเขียน พร้อมระบุว่า "ขอบคุณ ที่พวกเราปฏิเสธผู้สมัครจาก DEI และเราจะมีประธานาธิบดีจริงๆ ไม่ใช่จากหนังตลก" เขาเขียน . "เราต้องหยุดสงครามในยูเครนด้วยการเจรจาหาทางออก มันเป็นหนทางเดียว" เขาระบุ พร้อมบอกว่า "ประชากรของเราอ้วนเกินไปที่จะเข้าร่วมกองทัพ และเรากำลังเผชิญการทำสงครามกับจีน รัสเซีย เกาหลีเหนือและอิหร่าน ก่อนปี 2030" . ในบันทึกฉบับที่ 2 ของเขา จ่าหน้าถึงเพื่อนสมาชิกหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์ นายทหารผ่านศึก พวกนักรบและชาวอเมริกันชนทุกคน ในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นการเรียกร้องให้คนเหล่านี้รับประกันว่าพวกเดโมแครต จะไม่ขัดขวาง ทรัมป์ จากการเข้ารับอำนาจและกวาดล้างอาการป่วยต่างๆนานาของประเทศ . "เรากำลังอยู่ภายใต้ผู้นำที่อ่อนแอและปวกเปียก ที่ทำหน้าที่เพียงเพื่อความมั่งคั่งของตนเอง" เขาเขียน "พยายามด้วยวิธีสันติก่อน แต่ก็เตรียมพร้อมสู้เอาพวกเดโมแครตออกจากรัฐบาลกลางและกองทัพในทุกหนทางที่จำเป็น พวกเขาต้องไปและจำเป็นต้องมีการรีเซ็ตประเทศของเราครั้งใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงการล่มสลาย" . ลิเวลส์เบอร์เกอร์ เป็นสมาชิกของกองกำลังพิเศษ ที่ถึงขั้นได้รับเหรียญกล้าหาญ เขาเคยถูกส่งเข้าประจำการทั้งในอัฟกานิสถาน ทาจิกิสถาน จอร์เจีย คองโก และแม้รายงานข่าวอาจรวมถึงยูเครนด้วย อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ระบุว่าเขากำลังต่อสู้กับความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตหลายเหตุการณ์ ในนั้นรวมถึงการเพิ่งหย่าขาดกับภรรยาเมื่อเร็วๆนี้ . รายงานข่าวระบุว่า ลิเวลส์เบอร์เกอร์ ใช้ปืนสั้นยิงตัวเอง ก่อนจุดชนวนระเบิด และบันทึกต่างๆของเขาบ่งชี้ว่าเขาเต็มไปด้วยแรงกดดันชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงาน แม้ขณะเดียวกันทีมสืบสวนมีความระมัดระวังในการตีความบันทึกเหล่านี้ ในขณะที่พวกเขากำลังแกะรอยหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001229 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 Comments 0 Shares 1873 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯ เดินหน้าขยายฐานทัพใหม่ทางตอนเหนือของซีเรีย!

    ภาพถ่ายขบวนรถมากกว่า 50 คัน กำลังขนส่งโครงสร้างขนาดใหญ่ พร้อมด้วยกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ที่กำลังมุ่งหน้าสู่เมืองโคบานี (Kobani) ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของชาวเคิร์ดทางตอนเหนือของซีเรียเมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยมีกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ให้การคุ้มครอง

    หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการขยายฐานทัพของสหรัฐครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับการประจำการของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมุ่งเป้าไปที่การต่อต้านภัยคุกคามของตุรกีต่อชาวเคิร์ด
    สหรัฐฯ เดินหน้าขยายฐานทัพใหม่ทางตอนเหนือของซีเรีย! ภาพถ่ายขบวนรถมากกว่า 50 คัน กำลังขนส่งโครงสร้างขนาดใหญ่ พร้อมด้วยกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ที่กำลังมุ่งหน้าสู่เมืองโคบานี (Kobani) ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของชาวเคิร์ดทางตอนเหนือของซีเรียเมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยมีกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ให้การคุ้มครอง หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการขยายฐานทัพของสหรัฐครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับการประจำการของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมุ่งเป้าไปที่การต่อต้านภัยคุกคามของตุรกีต่อชาวเคิร์ด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 354 Views 0 Reviews
  • "ยุน ซอก-ยอล" ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่งและถูกพักการปฏิบัติหน้าที่จากการประกาศกฎอัยการศึกประกาศสู้จนถึงที่สุดหลังถูกออกหมายจับ

    ยุนเขียนจดหมายถึงกลุ่มผู้สนับสนุนที่ปักหลักชุมนุมหน้าบ้านพักว่าได้ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้สนับสนุนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ และร้องขอให้ผู้สนับสนุนช่วยปกป้องประชาธิปไตยและต่อสู้จนถึงที่สุด นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า เขาจะต่อสู้ร่วมกับผู้สนับสนุนจนถึงที่สุดเพื่อปกป้องประเทศชาติ

    ขณะที่ทนายของยุน ระบุว่า หมายจับยุนนั้นขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากสำนักการสอบสวนการทุจริตเจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการขอหมายจับ พร้อมทั้งเตือนว่าตำรวจที่พยายามเข้าจับกุมยุนตามหมายจับดังกล่าว อาจถูกจับกุมโดยทีมอารักขาประธานาธิบดีหรือประชาชนคนใดก็ตาม นอกจากนี้ยังยื่นข้อคัดค้านต่อศาลในกรุงโซลที่ออกหมายจับด้วย

    ความตึงเครียดที่บ้านพักประธานาธิบดีเกาหลีใต้อยู่ในขั้นวิกฤติ!
    ทางด้านเจ้าหน้าที่จากคณะสอบสวนนำทีมโดยสำนักงานสอบสวนทุจริตเจ้าหน้าที่ระดับสูง (CIO) สนธิกำลังกับตำรวจและอัยการวางกำลังล้อมบ้านพักของยุน เพื่อพยายามเข้าจับกุม และต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังพิเศษซึ่งเป็นทีมอารักขาประธานาธิบดี มีรายงานว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่รวมกว่า 2,700 นาย นอกจากนี้ยังมีประชาชนเกือบ 3,000 คนมาคอยให้กำลังใจประธานาธิบดียุนอีกด้วย

    เจ้าหน้าที่มีเวลาจับกุมอีก 3 วัน ซึ่งหมายจับจะหมดอายุในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม นี้!

    การเมืองเกาหลีใต้ในวันนี้นับวันยิ่งคล้ายกับปากีสถาน ในการจับกุม อิมราน ข่าน อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถานเข้าไปทุกที
    "ยุน ซอก-ยอล" ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่งและถูกพักการปฏิบัติหน้าที่จากการประกาศกฎอัยการศึกประกาศสู้จนถึงที่สุดหลังถูกออกหมายจับ ยุนเขียนจดหมายถึงกลุ่มผู้สนับสนุนที่ปักหลักชุมนุมหน้าบ้านพักว่าได้ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้สนับสนุนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ และร้องขอให้ผู้สนับสนุนช่วยปกป้องประชาธิปไตยและต่อสู้จนถึงที่สุด นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า เขาจะต่อสู้ร่วมกับผู้สนับสนุนจนถึงที่สุดเพื่อปกป้องประเทศชาติ ขณะที่ทนายของยุน ระบุว่า หมายจับยุนนั้นขัดต่อกฎหมาย เนื่องจากสำนักการสอบสวนการทุจริตเจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการขอหมายจับ พร้อมทั้งเตือนว่าตำรวจที่พยายามเข้าจับกุมยุนตามหมายจับดังกล่าว อาจถูกจับกุมโดยทีมอารักขาประธานาธิบดีหรือประชาชนคนใดก็ตาม นอกจากนี้ยังยื่นข้อคัดค้านต่อศาลในกรุงโซลที่ออกหมายจับด้วย ความตึงเครียดที่บ้านพักประธานาธิบดีเกาหลีใต้อยู่ในขั้นวิกฤติ! ทางด้านเจ้าหน้าที่จากคณะสอบสวนนำทีมโดยสำนักงานสอบสวนทุจริตเจ้าหน้าที่ระดับสูง (CIO) สนธิกำลังกับตำรวจและอัยการวางกำลังล้อมบ้านพักของยุน เพื่อพยายามเข้าจับกุม และต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังพิเศษซึ่งเป็นทีมอารักขาประธานาธิบดี มีรายงานว่าการเผชิญหน้าครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่รวมกว่า 2,700 นาย นอกจากนี้ยังมีประชาชนเกือบ 3,000 คนมาคอยให้กำลังใจประธานาธิบดียุนอีกด้วย เจ้าหน้าที่มีเวลาจับกุมอีก 3 วัน ซึ่งหมายจับจะหมดอายุในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม นี้! การเมืองเกาหลีใต้ในวันนี้นับวันยิ่งคล้ายกับปากีสถาน ในการจับกุม อิมราน ข่าน อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถานเข้าไปทุกที
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 659 Views 0 Reviews
  • แมทธิว ลิเวลสเบอร์เกอร์ (Matthew Livelsberger) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้จุดชนวนระเบิดตัวเองในรถ Cybertruck เมื่อช่วงเช้าวันนี้หน้าโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นแนลในลาสเวกัส

    เขาเคยอยู่ในอัฟกานิสถานหลายครั้ง เขาเป็นทหารของกองทัพสหรัฐฯ เป็นเวลา 19 ปี และยังเป็นหัวหน่วยข่าวกรองของกองกำลังพิเศษอีกด้วย

    สำหรับ ซารา ภรรยาของเขา ก็อยู่ในกลุ่มต่อต้านทรัมป์ โดยมีประวัติการโพสต์มีมต่อต้านทรัมป์บนเฟซบุ๊กมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
    แมทธิว ลิเวลสเบอร์เกอร์ (Matthew Livelsberger) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้จุดชนวนระเบิดตัวเองในรถ Cybertruck เมื่อช่วงเช้าวันนี้หน้าโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นแนลในลาสเวกัส เขาเคยอยู่ในอัฟกานิสถานหลายครั้ง เขาเป็นทหารของกองทัพสหรัฐฯ เป็นเวลา 19 ปี และยังเป็นหัวหน่วยข่าวกรองของกองกำลังพิเศษอีกด้วย สำหรับ ซารา ภรรยาของเขา ก็อยู่ในกลุ่มต่อต้านทรัมป์ โดยมีประวัติการโพสต์มีมต่อต้านทรัมป์บนเฟซบุ๊กมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 610 Views 0 Reviews
  • นายพลระดับท็อปของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนกล่าวหาอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน ถูกลอบสังหารอุกอาจด้วยระเบิดในกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร (17 ธ.ค.) โดยที่หน่วยข่าวกรอง เอสยูบี ของยูเครนกระพือข่าวว่าเป็นฝีมือของตน ซึ่งหากเป็นจริงก็ถือว่าเป็นการก่อเหตุเข่นฆ่าลักษณะนี้ครั้งอึกทึกครึกโครมที่สุดทีเดียว
    .
    พลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย พร้อมผู้ช่วยคนหนึ่งของเขา เสียชีวิตจากระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดอยู่ใกล้ทางเข้าอพาร์ตเมนต์บนถนนรยาแซนสกี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร ทั้งนี้ตามการแถลงคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการสืบสวนคดีอุกฉกรรจ์ โดยระบุว่าได้เปิดการสอบสวนเหตุการณ์นี้แล้ว คาดกันว่าคดีนี้จะถูกจัดให้เป็นคดีก่อการร้าย
    .
    เวลาเดียวกัน สื่อมวลชนหลายแห่ง รวมทั้งสำนักข่าวรอยเตอร์ และสำนักข่าวเอเอฟพี ต่างอ้างอิงแหล่งข่าวรายหนึ่งในหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครน ได้ยืนยันว่า เอสบียูอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยถือเป็นการปฏิบัติการพิเศษเพื่อสังหารอาชญากรสงคราม เนื่องจากคิริลลอฟเป็นผู้ออกคำสั่งให้ใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน โดยที่เมื่อวันจันทร์ (16) เช่นกัน เอสบียูเพิ่งกล่าวหารัสเซียใช้กระสุนที่เป็นอาวุธเคมีโจมตีใส่ทหารยูเครนมากกว่า 4,800 กรณี นับตั้งแต่เริ่มต้นรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    ก่อนหน้านี้ ชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรของเคียฟ อย่างสหราชอาณาจักรและอเมริกา ก็ได้กล่าวหาว่ารัสเซียใช้สารพิษคลอโรพิกรินกับทหารยูเครน ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี และเมื่อเดือนตุลาคมสหราชอาณาจักรยังได้ประกาศแซงก์ชันคว่ำบาตร คิริลลอฟและหน่วยงานใต้บังคับบัญชาของเขา ในข้อหาช่วยเหลือให้มีการใช้อาวุธร้ายแรงเหล่านั้น
    .
    สำหรับกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย ที่คิริลลอฟ เป็นผู้บังคับบัญชา และเป็นที่รู้จักกันด้วยชื่อย่อว่า RKhBZ นั้น ทางรัสเซียระบุว่าเป็นกองกำลังพิเศษซึ่งปฏิบัติการภายใต้สภาพที่เกิดการปนเปื้อนทางรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพ และภารกิจของทหารหน่วยนี้คือการพิทักษ์ปกป้องพวกกองกำลังภาคพื้นดินที่กำลังปฏิบัติการในสภาพเงื่อนไขแบบสุดขั้ว
    .
    ถ้าหากการกล่าวอ้างของเคียฟได้รับการยืนยัน คิริลลอฟ วัย 54 ปี ก็จะถือเป็นนายทหารอาวุโสที่สุดที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย และมีแนวโน้มว่า เหตุการณ์นี้จะกระตุ้นให้รัสเซียทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยนายทหารระดับสูงของกองทัพ รวมทั้งหาวิธีแก้แค้น
    .
    สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีที่ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ประกาศว่า จะชำระแค้นเอากับผู้นำกองทัพและรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้
    .
    รัสเซียยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนเรื่องการใช้อาวุธเคมีในสนามรบในยูเครน โดยบางครั้งคิริลลอฟเองได้บรรยายสรุปทางสถานีทีวีของรัฐบาล กล่าวหาตอบโต้กลับว่า ยูเครนและฝ่ายตะวันตกมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการชีววิทยาลับ ที่พัฒนาอาวุธเคมีต้องห้ามทั่วยูเครน
    .
    ด้าน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงยกย่องคิริลลอฟว่า อุทิศตนให้ประเทศชาติอย่างกล้าหาญในการเปิดโปงอาชญากรรมสงครามที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเคมีและโครงการลับของฝ่ายตะวันตกทั้งในซีเรียและประเทศอื่นๆ
    .
    ก่อนหน้าคิริลลอฟเสียชีวิต 1 วัน อัยการรัฐบาลยูเครนได้ตั้งข้อหานายทหารรัสเซียผู้นี้ใช้อาวุธเคมีที่ถูกนานาชาติห้ามใช้ นอกจากนั้นคิริลลอฟยังมีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการของบุคคลที่ถือเป็นศัตรูของยูเครน
    .
    การลอบสังหารคิริลลอฟยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (16) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อวดอ้างว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยที่กองทหารรัสเซียอยู่ในสถานะได้เปรียบในทุกสมรภูมิ
    .
    ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มอสโกเชื่อว่า เคียฟอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารบุคคลสำคัญของรัสเซียมาแล้วหลายคนเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของแดนหมีขาว รวมทั้งเพื่อลงโทษผู้ที่เคียฟระบุว่า มีบทบาทในอาชญากรรมสงคราม โดยยูเครนประกาศชัดเจนว่า การสังหารคนเหล่านั้นเป็นการกระทำอันชอบธรรม
    .
    บุคคลที่เป็นที่รู้จักซึ่งถูกลอบสังหารนับจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อต้นปี 2022 มีอาทิ ดาร์ยา ดูกินา นักเขียนแนวชาตินิยมและเป็นบุตรสาวของนักปรัชญาการเมืองชื่อดัง อเล็กซานเดอร์ ดูกิน โดยเธอถูกโจมตีด้วยคาร์บอมบ์นอกมอสโก, วลาเดน ตาตาร์สกี บล็อกเกอร์ที่สนับสนุนสงครามยูเครนซึ่งเสียชีวิตจากการลอบวางระเบิดคาเฟ่ในปี 2023 และการลอบยิงผู้บังคับการเรือดำน้ำรัสเซียที่ถูกเคียฟกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามเมื่อปีที่แล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121236
    ..............
    Sondhi X
    นายพลระดับท็อปของรัสเซีย ที่ถูกยูเครนกล่าวหาอยู่เบื้องหลังการใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน ถูกลอบสังหารอุกอาจด้วยระเบิดในกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร (17 ธ.ค.) โดยที่หน่วยข่าวกรอง เอสยูบี ของยูเครนกระพือข่าวว่าเป็นฝีมือของตน ซึ่งหากเป็นจริงก็ถือว่าเป็นการก่อเหตุเข่นฆ่าลักษณะนี้ครั้งอึกทึกครึกโครมที่สุดทีเดียว . พลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย พร้อมผู้ช่วยคนหนึ่งของเขา เสียชีวิตจากระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดอยู่ใกล้ทางเข้าอพาร์ตเมนต์บนถนนรยาแซนสกี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโกเมื่อเช้าวันอังคาร ทั้งนี้ตามการแถลงคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการสืบสวนคดีอุกฉกรรจ์ โดยระบุว่าได้เปิดการสอบสวนเหตุการณ์นี้แล้ว คาดกันว่าคดีนี้จะถูกจัดให้เป็นคดีก่อการร้าย . เวลาเดียวกัน สื่อมวลชนหลายแห่ง รวมทั้งสำนักข่าวรอยเตอร์ และสำนักข่าวเอเอฟพี ต่างอ้างอิงแหล่งข่าวรายหนึ่งในหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครน ได้ยืนยันว่า เอสบียูอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ โดยถือเป็นการปฏิบัติการพิเศษเพื่อสังหารอาชญากรสงคราม เนื่องจากคิริลลอฟเป็นผู้ออกคำสั่งให้ใช้อาวุธเคมีกับทหารยูเครน โดยที่เมื่อวันจันทร์ (16) เช่นกัน เอสบียูเพิ่งกล่าวหารัสเซียใช้กระสุนที่เป็นอาวุธเคมีโจมตีใส่ทหารยูเครนมากกว่า 4,800 กรณี นับตั้งแต่เริ่มต้นรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . ก่อนหน้านี้ ชาติตะวันตกที่เป็นพันธมิตรของเคียฟ อย่างสหราชอาณาจักรและอเมริกา ก็ได้กล่าวหาว่ารัสเซียใช้สารพิษคลอโรพิกรินกับทหารยูเครน ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาห้ามใช้อาวุธเคมี และเมื่อเดือนตุลาคมสหราชอาณาจักรยังได้ประกาศแซงก์ชันคว่ำบาตร คิริลลอฟและหน่วยงานใต้บังคับบัญชาของเขา ในข้อหาช่วยเหลือให้มีการใช้อาวุธร้ายแรงเหล่านั้น . สำหรับกองทหารหน่วยอาวุธรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพของรัสเซีย ที่คิริลลอฟ เป็นผู้บังคับบัญชา และเป็นที่รู้จักกันด้วยชื่อย่อว่า RKhBZ นั้น ทางรัสเซียระบุว่าเป็นกองกำลังพิเศษซึ่งปฏิบัติการภายใต้สภาพที่เกิดการปนเปื้อนทางรังสีนิวเคลียร์ เคมี และชีวภาพ และภารกิจของทหารหน่วยนี้คือการพิทักษ์ปกป้องพวกกองกำลังภาคพื้นดินที่กำลังปฏิบัติการในสภาพเงื่อนไขแบบสุดขั้ว . ถ้าหากการกล่าวอ้างของเคียฟได้รับการยืนยัน คิริลลอฟ วัย 54 ปี ก็จะถือเป็นนายทหารอาวุโสที่สุดที่ถูกยูเครนลอบสังหารในรัสเซีย และมีแนวโน้มว่า เหตุการณ์นี้จะกระตุ้นให้รัสเซียทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยนายทหารระดับสูงของกองทัพ รวมทั้งหาวิธีแก้แค้น . สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีที่ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของรัสเซีย ประกาศว่า จะชำระแค้นเอากับผู้นำกองทัพและรัฐบาลยูเครนเร็วๆ นี้ . รัสเซียยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนเรื่องการใช้อาวุธเคมีในสนามรบในยูเครน โดยบางครั้งคิริลลอฟเองได้บรรยายสรุปทางสถานีทีวีของรัฐบาล กล่าวหาตอบโต้กลับว่า ยูเครนและฝ่ายตะวันตกมีเครือข่ายห้องปฏิบัติการชีววิทยาลับ ที่พัฒนาอาวุธเคมีต้องห้ามทั่วยูเครน . ด้าน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แถลงยกย่องคิริลลอฟว่า อุทิศตนให้ประเทศชาติอย่างกล้าหาญในการเปิดโปงอาชญากรรมสงครามที่เกี่ยวข้องกับอาวุธเคมีและโครงการลับของฝ่ายตะวันตกทั้งในซีเรียและประเทศอื่นๆ . ก่อนหน้าคิริลลอฟเสียชีวิต 1 วัน อัยการรัฐบาลยูเครนได้ตั้งข้อหานายทหารรัสเซียผู้นี้ใช้อาวุธเคมีที่ถูกนานาชาติห้ามใช้ นอกจากนั้นคิริลลอฟยังมีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการของบุคคลที่ถือเป็นศัตรูของยูเครน . การลอบสังหารคิริลลอฟยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (16) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อวดอ้างว่า ปีนี้เป็นปีสำคัญของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน โดยที่กองทหารรัสเซียอยู่ในสถานะได้เปรียบในทุกสมรภูมิ . ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มอสโกเชื่อว่า เคียฟอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารบุคคลสำคัญของรัสเซียมาแล้วหลายคนเพื่อทำลายขวัญและกำลังใจของแดนหมีขาว รวมทั้งเพื่อลงโทษผู้ที่เคียฟระบุว่า มีบทบาทในอาชญากรรมสงคราม โดยยูเครนประกาศชัดเจนว่า การสังหารคนเหล่านั้นเป็นการกระทำอันชอบธรรม . บุคคลที่เป็นที่รู้จักซึ่งถูกลอบสังหารนับจากที่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อต้นปี 2022 มีอาทิ ดาร์ยา ดูกินา นักเขียนแนวชาตินิยมและเป็นบุตรสาวของนักปรัชญาการเมืองชื่อดัง อเล็กซานเดอร์ ดูกิน โดยเธอถูกโจมตีด้วยคาร์บอมบ์นอกมอสโก, วลาเดน ตาตาร์สกี บล็อกเกอร์ที่สนับสนุนสงครามยูเครนซึ่งเสียชีวิตจากการลอบวางระเบิดคาเฟ่ในปี 2023 และการลอบยิงผู้บังคับการเรือดำน้ำรัสเซียที่ถูกเคียฟกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามเมื่อปีที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121236 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    8
    0 Comments 0 Shares 1355 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล ของเกาหลีใต้ ที่ถูกรัฐสภาลงมติถอดถอน ทำให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ยังคงปฏิเสธหมายเรียกไปให้ปากคำของเจ้าหน้าที่สอบสวนทีมต่างๆ ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญเผยว่าเริ่มดำเนินการตามกระบวนการพิจารณาจะรับรองหรือปฏิเสธการถอดถอนประธานาธิบดีผู้นี้แล้วตั้งแต่วันจันทร์ (16 ธ.ค.)
    .
    ลี จิน โฆษกศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ แถลงในวันจันทร์ (16) ว่า ตุลาการรัฐธรรมนูญที่เวลานี้มีด้วยกัน 6 คน เริ่มการพิจารณาหารือแล้วเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกระบวนการ หลังจากรัฐสภาลงมติถอดถอนยุนเมื่อวันเสาร์ (14) ที่ผ่านมา โดยจะจัดทำประชาพิจารณ์ครั้งแรกในวันที่ 27 ที่จะถึงนี้ เพื่อเตรียมการรับรองประเด็นสำคัญทางกฎหมายและกำหนดกรอบการการดำเนินการต่างๆ
    .
    ศาลรัฐธรรมนูญมีเวลาพิจารณาประมาณ 6 เดือนเพื่อตัดสินว่า จะยืนตามมติของรัฐสภาหรือไม่ และหากวินิจฉัยเห็นชอบให้ถอดถอนยุน เกาหลีใต้ก็จะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ภายในเวลา 2 เดือน
    .
    ครั้งล่าสุดที่มีการพิจารณาเรื่องเช่นนี้ คือในปี 2017 ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาราว 3 เดือน ก็สามารถประกาศคำตัดสินยืนยันให้ถอดถอน พัค กึน-ฮเย ประธานาธิบดีในขณะนั้น ซึ่งถูกสภาลงมติถอดถอนจากกรณีการใช้อำนาจโดยมิชอบ
    .
    นอกจากถูกรัฐสภาลงมติให้เข้าสู่กระบวนการถูกถอดถอนแล้ว ยังมีหน่วยงานอื่นๆ จัดการสอบสวนเขาคู่ขนานไปด้วย ทำให้ ยุน ที่ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศก่อนหน้านี้แล้ว ยังอาจถูกตั้งข้อหากบฏจากการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่อาวุโสอีกหลายคน
    .
    ทางด้านตำรวจเผยว่า ทีมสอบสวนร่วมระหว่างตำรวจ กระทรวงกลาโหม และสำนักงานปราบปรามการทุจริต ได้เรียกยุนมาสอบปากคำวันพุธ (18) นี้ ในข้อกล่าวหาเป็นผู้นำในการประกาศกฎอัยการศึกอย่างผิดกฎหมาย ทว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีปฏิเสธไม่ยอมรับหมายเรียก โดยอ้างว่า ไม่อยู่ในสถานะที่จะทำได้ และสำนักงานปราบปรามการทุจริตแจ้งว่า จะส่งหมายเรียกผ่านจดหมายลงทะเบียนด่วนอีกครั้ง
    .
    สำนักข่าวยอนฮัป ซึ่งเป็นสำนักข่าวกึ่งทางการของเกาหลีใต้รายงานว่า ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางเจ้าหน้าที่สอบสวนพยายามส่งหมายเรียกยุนไปให้ปากคำ ด้วยการส่งเจ้านห้าที่เดินทางไปที่สำนักงานประธานาธิบดีและที่บ้านพักประจำตำแหน่ง ทว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีไม่ยอมรับหมายดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลเดียวกัน
    .
    เช่นเดียวกับสำนักงานอัยการที่ต้องออกหมายเรียกยุนครั้งที่ 2 ในวันจันทร์เพื่อให้เขาไปให้ปากคำเกี่ยวกับข้อกล่าวหากบฏและการใช้อำนาจโดยมิชอบ หลังจากถูกปฏิเสธไปเมื่อวันอาทิตย์ (15) โดยอ้างว่า กำลังจัดทีมกฎหมายเพื่อสู้คดี ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า หากยุนยังปฏิเสธอีก จะมีการออกหมายจับต่อไป
    .
    สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่า ยุน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอัยการสูงสุดของประเทศ ก่อนที่จะชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดี ได้แต่งตั้งคิม ฮองอิล อดีตอัยการ เป็นผู้นำของทีมทนายความรับมือทั้งในกรณีการถูกถอดถอนและการถูกสอบสวนคดีอาญา
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง ตำรวจระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ (15) ได้จับกุมอดีตผู้บัญชาการและผู้บัญชาการคนปัจจุบัน ของกองบัญชาการข่าวกรองกลาโหม ฐานเกี่ยวข้องพัวพันกับข้อกล่าวหาเป็นกบฏของยุน
    .
    สำนักงานอัยการยังเปิดเผยว่า กำลังขอหมายจับ กว็อก จองกึน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ที่ถูกกล่าวหาว่า ส่งกองกำลังพิเศษไปยังรัฐสภาระหว่างการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างทหารกับเจ้าหน้าที่สภา
    .
    ทางด้านพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ต้นสังกัดของยุนนั้น เมื่อวันจันทร์ ฮัน ด็องฮุน หัวหน้าพรรค ซึ่งแม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึก รวมทั้งให้การสนับสนุนการถอดถอนยุน ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง พร้อมขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศกฎอัยการศึก
    .
    ฮันยังประณามกลุ่มสุดโต่ง โดยเฉพาะพวกนักทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดที่คอยกระพือข่าวเท็จทางโซเชียลมีเดียว่า มีการโกงเลือกตั้งอย่างมโหฬาร จึงทำให้พีพีพีพ่ายแพ้ยับเยินในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับเตือนว่า ลัทธิอนุรักษนิยมอาจหมดอนาคตในเกาหลีใต้ หากพีพีพียังคงหนุนหลังคนเหล่านี้
    .
    ทั้งนี้ ในการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อต้นเดือน เหตุผลหนึ่งที่ยุนยกมาเป็นข้ออ้าง คือเรื่องระบบการเลือกตั้งของเกาหลีใต้ไม่โปร่งใส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120822
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดี ยุน ซ็อกยอล ของเกาหลีใต้ ที่ถูกรัฐสภาลงมติถอดถอน ทำให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ยังคงปฏิเสธหมายเรียกไปให้ปากคำของเจ้าหน้าที่สอบสวนทีมต่างๆ ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญเผยว่าเริ่มดำเนินการตามกระบวนการพิจารณาจะรับรองหรือปฏิเสธการถอดถอนประธานาธิบดีผู้นี้แล้วตั้งแต่วันจันทร์ (16 ธ.ค.) . ลี จิน โฆษกศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ แถลงในวันจันทร์ (16) ว่า ตุลาการรัฐธรรมนูญที่เวลานี้มีด้วยกัน 6 คน เริ่มการพิจารณาหารือแล้วเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกระบวนการ หลังจากรัฐสภาลงมติถอดถอนยุนเมื่อวันเสาร์ (14) ที่ผ่านมา โดยจะจัดทำประชาพิจารณ์ครั้งแรกในวันที่ 27 ที่จะถึงนี้ เพื่อเตรียมการรับรองประเด็นสำคัญทางกฎหมายและกำหนดกรอบการการดำเนินการต่างๆ . ศาลรัฐธรรมนูญมีเวลาพิจารณาประมาณ 6 เดือนเพื่อตัดสินว่า จะยืนตามมติของรัฐสภาหรือไม่ และหากวินิจฉัยเห็นชอบให้ถอดถอนยุน เกาหลีใต้ก็จะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ภายในเวลา 2 เดือน . ครั้งล่าสุดที่มีการพิจารณาเรื่องเช่นนี้ คือในปี 2017 ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาราว 3 เดือน ก็สามารถประกาศคำตัดสินยืนยันให้ถอดถอน พัค กึน-ฮเย ประธานาธิบดีในขณะนั้น ซึ่งถูกสภาลงมติถอดถอนจากกรณีการใช้อำนาจโดยมิชอบ . นอกจากถูกรัฐสภาลงมติให้เข้าสู่กระบวนการถูกถอดถอนแล้ว ยังมีหน่วยงานอื่นๆ จัดการสอบสวนเขาคู่ขนานไปด้วย ทำให้ ยุน ที่ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศก่อนหน้านี้แล้ว ยังอาจถูกตั้งข้อหากบฏจากการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่อาวุโสอีกหลายคน . ทางด้านตำรวจเผยว่า ทีมสอบสวนร่วมระหว่างตำรวจ กระทรวงกลาโหม และสำนักงานปราบปรามการทุจริต ได้เรียกยุนมาสอบปากคำวันพุธ (18) นี้ ในข้อกล่าวหาเป็นผู้นำในการประกาศกฎอัยการศึกอย่างผิดกฎหมาย ทว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีปฏิเสธไม่ยอมรับหมายเรียก โดยอ้างว่า ไม่อยู่ในสถานะที่จะทำได้ และสำนักงานปราบปรามการทุจริตแจ้งว่า จะส่งหมายเรียกผ่านจดหมายลงทะเบียนด่วนอีกครั้ง . สำนักข่าวยอนฮัป ซึ่งเป็นสำนักข่าวกึ่งทางการของเกาหลีใต้รายงานว่า ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางเจ้าหน้าที่สอบสวนพยายามส่งหมายเรียกยุนไปให้ปากคำ ด้วยการส่งเจ้านห้าที่เดินทางไปที่สำนักงานประธานาธิบดีและที่บ้านพักประจำตำแหน่ง ทว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีไม่ยอมรับหมายดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลเดียวกัน . เช่นเดียวกับสำนักงานอัยการที่ต้องออกหมายเรียกยุนครั้งที่ 2 ในวันจันทร์เพื่อให้เขาไปให้ปากคำเกี่ยวกับข้อกล่าวหากบฏและการใช้อำนาจโดยมิชอบ หลังจากถูกปฏิเสธไปเมื่อวันอาทิตย์ (15) โดยอ้างว่า กำลังจัดทีมกฎหมายเพื่อสู้คดี ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า หากยุนยังปฏิเสธอีก จะมีการออกหมายจับต่อไป . สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่า ยุน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอัยการสูงสุดของประเทศ ก่อนที่จะชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดี ได้แต่งตั้งคิม ฮองอิล อดีตอัยการ เป็นผู้นำของทีมทนายความรับมือทั้งในกรณีการถูกถอดถอนและการถูกสอบสวนคดีอาญา . ในอีกด้านหนึ่ง ตำรวจระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ (15) ได้จับกุมอดีตผู้บัญชาการและผู้บัญชาการคนปัจจุบัน ของกองบัญชาการข่าวกรองกลาโหม ฐานเกี่ยวข้องพัวพันกับข้อกล่าวหาเป็นกบฏของยุน . สำนักงานอัยการยังเปิดเผยว่า กำลังขอหมายจับ กว็อก จองกึน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ที่ถูกกล่าวหาว่า ส่งกองกำลังพิเศษไปยังรัฐสภาระหว่างการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างทหารกับเจ้าหน้าที่สภา . ทางด้านพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) ต้นสังกัดของยุนนั้น เมื่อวันจันทร์ ฮัน ด็องฮุน หัวหน้าพรรค ซึ่งแม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึก รวมทั้งให้การสนับสนุนการถอดถอนยุน ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง พร้อมขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศกฎอัยการศึก . ฮันยังประณามกลุ่มสุดโต่ง โดยเฉพาะพวกนักทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดที่คอยกระพือข่าวเท็จทางโซเชียลมีเดียว่า มีการโกงเลือกตั้งอย่างมโหฬาร จึงทำให้พีพีพีพ่ายแพ้ยับเยินในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับเตือนว่า ลัทธิอนุรักษนิยมอาจหมดอนาคตในเกาหลีใต้ หากพีพีพียังคงหนุนหลังคนเหล่านี้ . ทั้งนี้ ในการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อต้นเดือน เหตุผลหนึ่งที่ยุนยกมาเป็นข้ออ้าง คือเรื่องระบบการเลือกตั้งของเกาหลีใต้ไม่โปร่งใส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120822 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 1434 Views 0 Reviews
  • เกาหลีใต้ตกอยู่ในภาวะ "ยุ่งเหยิง" หลังจากประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันพุธ(11ธ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในชาติคู่อริ พร้อมชี้ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ต่างจากพวกเผด็จการฟาสซิสต์ ขณะที่รอยเตอร์ระบุคำสั่งส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยางเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง โดยมีเป้าหมายประกาศอัยการศึกนั่นเอง
    .
    ประธานาธิบดียุน ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันอังคารที่แล้ว(3ธ.ค.) ส่งกองกำลังพิเศษและเฮลิคอปเตอร์ไปยังอาคารรัฐสภา ก่อนถูกสมาชิกสมัชชาแห่งชาติบีบให้ถอนประกาศดังกล่าาว สถานการณ์ความโกลาหลที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งๆที่เชื่อว่ามีเสถียรภาพในประชาธิปไตย
    .
    "มีเหตุการณ์อันน่าช็อค หุ่นเชิดยุน ซ็อกยอล ซึ่งกำลังเผชิญกับการถอดถอนและวิกฤตการปกครอง ประกาศอัยการศึกอย่างกะทันหัน กวัดแกว่งปืนและมีดของเผด็จการฟาสซิสต์ ก่อความยุ่งเหยิงทั่วเกาหลีใต้" สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงาน "ประชาคมนานาชาติกำลังจับตาอย่างเคร่งเครียด ด้วยคำประเมินว่าเหตุการณ์อัยการศึกเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอในสังคมเกาหลีใต้"
    .
    นอกจากนี้แล้วรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือยังได้อ้างผู้สัดทัดกรณี ให้คำจำกัดความการประกาศอัยการศึกอย่างฉับพลันของยุน ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่จนตรอก และบอกว่าชีวิตทางการเมืองของยุน ซ็อกยอล คงพบจุดจบเร็ววันนี้
    .
    ในประกาศอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ยุนอ้างว่าเพื่อปกป้องเกาหลีใต้ "จากภัยคุกคามโดยกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ และกำจัดเครือข่ายต่อต้านรัฐที่ปล้นสะดมเสรีภาพและความผาสุกของประชาชน"
    .
    ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเกาหลี ดำดิ่งสู่ระดับต่ำที่สุดหนหน่งในรอบหลายปี ด้วยเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธเป็นชัดๆ ที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ
    .
    นอกจากนี้แล้วเกาหลีเหนือยังเล่นงานเกาหลีใต้ด้วยบอลลูนขยะมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ในสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการแก้แค้นกรณีที่บรรดานักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ ทำการโฆษณาชวนเชื่อครั้งใหญ่ต่อต้านเปียงยาง
    .
    เกาหลีเหนือ กลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งเสียงสนับสนุนและหนุนหลังรายสำคัญของรัสเซีย ในปฏิบัติการรุกรานยูเครน โดยสหรัฐฯและเกาหลีใต้กล่าวหาเปียงยาง ส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าช่วยมอสโกสู้รบกับเคียฟ
    .
    คิม ยอง-ฮยุน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งถูกจับในวันอังคาร(10ธ.ค.) เคยถูกพวกสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกล่าวหาว่า เรียกร้องให้โจมตีที่ตั้งต่างๆที่เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนบรรทุกขยะออกมา และมีข่าวว่าคำสั่งดังกล่าวในตอนนั้นของ ยอง-ฮยุน ถูกปฏิเสธโดยบรรดาผู้บังคับบัญชาของเขาเอง
    .
    นอกจากนี้แล้วยังมีคำกล่าวหาว่าเขาออกคำสั่งให้ส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนเป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง เพื่อเป็นข้ออ้างในการประกาศกฎอัยการศึก ตามรายงานของรอยเตอร์
    .
    ประธานาธิบดียุน รอดมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์(7ธ.ค.) แม้มีเกาหลีใต้หลายหมื่นคนฝ่าอากาศเย็น ออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนนเรียกร้องให้เขาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ฝ่ายค้านมีแผนผลักดันให้มีการลงมติในญัตติถอดถอนยุนอีกรอบในวันเสาร์นี้(14ธ.ค.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119175
    ..............
    Sondhi X
    เกาหลีใต้ตกอยู่ในภาวะ "ยุ่งเหยิง" หลังจากประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันพุธ(11ธ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในชาติคู่อริ พร้อมชี้ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ต่างจากพวกเผด็จการฟาสซิสต์ ขณะที่รอยเตอร์ระบุคำสั่งส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยางเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง โดยมีเป้าหมายประกาศอัยการศึกนั่นเอง . ประธานาธิบดียุน ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันอังคารที่แล้ว(3ธ.ค.) ส่งกองกำลังพิเศษและเฮลิคอปเตอร์ไปยังอาคารรัฐสภา ก่อนถูกสมาชิกสมัชชาแห่งชาติบีบให้ถอนประกาศดังกล่าาว สถานการณ์ความโกลาหลที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งๆที่เชื่อว่ามีเสถียรภาพในประชาธิปไตย . "มีเหตุการณ์อันน่าช็อค หุ่นเชิดยุน ซ็อกยอล ซึ่งกำลังเผชิญกับการถอดถอนและวิกฤตการปกครอง ประกาศอัยการศึกอย่างกะทันหัน กวัดแกว่งปืนและมีดของเผด็จการฟาสซิสต์ ก่อความยุ่งเหยิงทั่วเกาหลีใต้" สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงาน "ประชาคมนานาชาติกำลังจับตาอย่างเคร่งเครียด ด้วยคำประเมินว่าเหตุการณ์อัยการศึกเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอในสังคมเกาหลีใต้" . นอกจากนี้แล้วรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือยังได้อ้างผู้สัดทัดกรณี ให้คำจำกัดความการประกาศอัยการศึกอย่างฉับพลันของยุน ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่จนตรอก และบอกว่าชีวิตทางการเมืองของยุน ซ็อกยอล คงพบจุดจบเร็ววันนี้ . ในประกาศอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ยุนอ้างว่าเพื่อปกป้องเกาหลีใต้ "จากภัยคุกคามโดยกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ และกำจัดเครือข่ายต่อต้านรัฐที่ปล้นสะดมเสรีภาพและความผาสุกของประชาชน" . ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเกาหลี ดำดิ่งสู่ระดับต่ำที่สุดหนหน่งในรอบหลายปี ด้วยเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธเป็นชัดๆ ที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ . นอกจากนี้แล้วเกาหลีเหนือยังเล่นงานเกาหลีใต้ด้วยบอลลูนขยะมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ในสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการแก้แค้นกรณีที่บรรดานักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ ทำการโฆษณาชวนเชื่อครั้งใหญ่ต่อต้านเปียงยาง . เกาหลีเหนือ กลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งเสียงสนับสนุนและหนุนหลังรายสำคัญของรัสเซีย ในปฏิบัติการรุกรานยูเครน โดยสหรัฐฯและเกาหลีใต้กล่าวหาเปียงยาง ส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าช่วยมอสโกสู้รบกับเคียฟ . คิม ยอง-ฮยุน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งถูกจับในวันอังคาร(10ธ.ค.) เคยถูกพวกสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกล่าวหาว่า เรียกร้องให้โจมตีที่ตั้งต่างๆที่เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนบรรทุกขยะออกมา และมีข่าวว่าคำสั่งดังกล่าวในตอนนั้นของ ยอง-ฮยุน ถูกปฏิเสธโดยบรรดาผู้บังคับบัญชาของเขาเอง . นอกจากนี้แล้วยังมีคำกล่าวหาว่าเขาออกคำสั่งให้ส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนเป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง เพื่อเป็นข้ออ้างในการประกาศกฎอัยการศึก ตามรายงานของรอยเตอร์ . ประธานาธิบดียุน รอดมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์(7ธ.ค.) แม้มีเกาหลีใต้หลายหมื่นคนฝ่าอากาศเย็น ออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนนเรียกร้องให้เขาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ฝ่ายค้านมีแผนผลักดันให้มีการลงมติในญัตติถอดถอนยุนอีกรอบในวันเสาร์นี้(14ธ.ค.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119175 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 1221 Views 0 Reviews
  • ## กลุ่มกบฏ ซีเรีย โค่นล้ม รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด สำเร็จ...!!! ##
    ..
    ..
    ผลในวันนี้ย่อมเกิดจากเหตุเมื่อครั้งอดีต...
    .
    สงครามกลางเมือง ในซีเรีย เริ่มเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 13 ปี ที่แล้ว (2011)...
    .
    ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า Arab Spring...
    .
    ซึ่ง CIA และ องค์กรอื่น ๆ ของ อเมริกา ให้การสนับสนุน การเคลื่อนไหว ในหลายประเทศ ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น...
    .
    การให้การอบรมด้านสื่อดิจิทัล และ การจัดตั้งเครือข่ายออนไลน์ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้กลุ่มเคลื่อนไหวในช่วงนั้นมีความสามารถในการจัดการประท้วงมากขึ้น...
    .
    เมื่อ อเมริกา ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ของ ประเทศซีเรีย เพียงเพราะ...
    .
    ผู้นำ ซีเรีย บาชา อัล อัสซาด ไม่ยอม ศิโรราบ ต่อ อเมริกา แต่ดันหันไปมี สัมพันธ์ ฉันมิตร กับ รัสเซีย การแทรกแซงด้วย ศาสตร์มืดจึงเริ่มต้นขึ้น...
    .
    ด้วยข้อหา เผด็จการ และ ไม่เป็นประชาธิปไตย...
    .
    คำสั่งลับถูกเซ็นโดย ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ให้ช่วยเหลือ กลุ่มกบฏในซีเรีย เช่น กลุ่ม FSA
    .
    อีกทั้ง CIA ยังคงเป็นคนติดต่อประสานงานกับ ซาอุดีอาระเบีย และ กาตาร์ ให้ช่วยสนับสนุน กลุ่มกบฏในซีเรีย
    .
    เกิดการปลุกปั่นประชาชนภายในประเทศจาก กลุ่มเจ้าหน้าที่ CIA
    .
    ผ่านสงครามกลางเมืองมา 10 ปี
    .
    ISIS รุกเข้าไปยึดพื้นที่ ยึดบ่อน้ำมันของ รัฐบาลซีเรีย
    .
    จากนั้น อเมริกา ก็รุกเข้าไปในแผ่นดินที่ของ ซีเรียบ้าง อ้างว่า จะเข้าไปปราบ กลุ่ม ISIS
    .
    รัซบาลซีเรีย บอกว่า ฉันไม่ได้ร้องขอ ออกไปจากประเทศฉันเดี๋ยวนี้...!!!
    .
    อเมริกา บอก ไม่ออกโว่ย...!!!
    .
    อเมริกา ว่า บาชา อัล อัสซาด เอ็งมันเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย (ทั้งๆที่เขาชนะเลือกตั้งมาด้วยเสียงของประชาชนชาว ซีเรีย ในปี 2000 อ่ะนะ) ข้าไม่จำเป็นต้องฟังเสียงเอ็ง
    .
    หลังจากนั้น...
    .
    รัสเซีย เข้ามาช่วยกำจัดกลุ่ม ISIS
    .
    อเมริกา จะออกมาโวยวายเสียงดังทุกครั้งที่ รัสเซีย ถล่มกลุ่ม ISIS จนเฮี่ยน ว่า...
    .
    รัสเซีย ยิงถล่มประชาชนผู้บริสุทธิ์...
    .
    อเมริกา ขัดแข้งขัดขา รัสเซีย ตลอดเวลา
    .
    ทั้งๆที่ อเมริกาก เข้ามาก่อน รัสเซีย เป็นปีๆ แต่ กลุ่ม ISIS ไม่ได้ถูกกวาดล้างเลย แถมยังเข้มแข็งมากขึ้นด้วย
    .
    ผิดกับช่วงที่ รัสเซีย เข้ามา ไม่นาน กลุ่ม ISIS ก็ถูกรัสเซีย ถล่มเฮี่ยนจนล่มสลายไป...
    .
    ท้ายที่สุด ข้อมูลก็เปิดเผยสู่สาธารณะชนว่า ผู้ที่ ก่อตั้ง ก่อกำเนิด ให้ทุนสนับสนุน ทำให้ ISIS แข็งแรง ก็คือ อเมริกา นั่นเอง โดยครั้งหนึ่ง ฮิลลารี่ คลินตัน เป็นคนยอมรับเองกับปาก...
    .
    วีรกรรม คร่าวๆของ อเมริกา เมื่อเข้าไปใน แผ่นดินซีเรีย...
    .
    1.อเมริกา และ กองกำลัง SDF ที่อเมริกาสนับสนุน เข้าไป ยึดแหล่งน้ำมันของในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยเฉพาะในจังหวัด Hasakah และ Deir Ezzor
    .
    มีรายงานว่า น้ำมันประมาณ 80% ของที่ผลิตใน ซีเรีย ถูกขโมย และ ส่งออกไปขายยัง อิรัก ผ่านเส้นทางลักลอบ
    .
    การกระทำนี้สร้างความเสียหายมหาศาลต่อเศรษฐกิจซีเรีย โดยกระทรวงน้ำมันซีเรียรายงานว่าความเสียหายรวมตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปี 2022 มีมูลค่ากว่า 107.1 พันล้านดอลลาร์
    .
    2.อเมริกา ยึดเรือส่งสินค้าธัญพืช ของ ซีเรีย ไปดื้อๆ
    .
    3.อเมริกา ยังขโมยธัญพืชจำนวนมากจากพื้นที่เกษตรในซีเรีย โดยใช้รถบรรทุกขนส่งไปยัง อิรัก ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ซีเรียเผชิญปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างหนัก
    .
    4.อเมริกา และ พันธมิตรในพื้นที่ ตั้งโรงกลั่นน้ำมันเพื่อแปรรูปน้ำมันที่ขโมยมาในพื้นที่ Rmelan ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตน้ำมันของซีเรีย
    .
    เป็นต้น...
    .
    ทุกวันนี้ สรุปได้แน่ชัดและเห็นหน้าเห็นตากันหมดแล้วว่า...
    .
    - ตุรกี อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA และ HTS ในพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย
    .
    โดย HTS มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอัลกออิดะห์ในอดีต และ เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่...
    .
    ตุรกี ให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ การฝึกทหาร และ การสนับสนุนทางการเงิน
    .
    - อิสราเอล อยู่เบื้องหลัง กลุ่มติดอาวุธในซีเรีย แถมยังเปิดหน้า ใช้ขีปนาวุธ โจมตีพื้นที่ทางการทหารของ ฝั่งรัฐบาลซีเรีย อย่างต่อเนื่อง
    .
    - อเมริกา อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA ชาวเคิร์ดในซีเรีย และ กลุ่ม ISIS
    .
    อเมริกา ให้การสนับสนุน ทั้งทาง อาวุธ การฝึกทหาร และ ความช่วยเหลือทางการเงิน นอกจากนี้ยังส่งกองกำลังพิเศษเข้าปฏิบัติการในพื้นที่บางส่วนของซีเรียเพื่อช่วยกลุ่มพันธมิตร โค่นล้มรัฐบาลซีเรีย
    ...
    ...
    วันนี้ขัดเจนแล้ว ว่า กรุงดามัสกัส ถูกกลุ่มกบฏ ยึดไว้ได้ เท่ากับว่า รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด ถูกโค่นล้มลงแล้ว...
    .
    ต่อไปก็จะถึงขั้น การแบ่งเค้กกัน ระหว่าง กลุ่มกบฏต่างๆ และ ประเทศเบื้องหลัง อย่าง ตุรกี อเมริกา และ อิสราเอล...
    ...
    ...
    ผลประโยชน์ของแต่ละประเทศคือ...???
    .
    1. อิสราเอล จะได้พื้นที่ดินแดนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความพยายามของ รัฐเถื่อนไซออนนิสต์ มาโดยตลอด (ซึ่งก็คือแผน The Greater Israel นั่นเอง)
    .
    2. ตุรกี จะได้ดินแดนที่พวกเขากล่าวมาตลอดว่า ทางประวัติศาสต์ มันคือส่วนหนึ่งของ ตุรกี นั่นคือ อาเลปโป แต่ครั้งนี้อาจจะได้กำไรเพิ่มมากกว่านั้น
    .
    3. อเมริกา จะได้ครอบครอง ทรัพยากรน้ำมัน ของ ซีเรีย อย่างถูกกฏหมาย และ แผน The Greater Israel จะได้เป็นจริงไปอีก Step หนึ่ง...
    ...
    การล้มรัฐบาลซีเรีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ อิหร่าน และ รัสเซีย จะช่วยลดอิทธิพลของทั้ง 2 ประเทศในภูมิภาค และช่วยเสริมความมั่นคงของพันธมิตร อเมริกา เช่น ตุรกี และ อิสราเอล ในตะวันออกกลาง...
    .
    https://www.thairath.co.th/news/foreign/2829854
    ## กลุ่มกบฏ ซีเรีย โค่นล้ม รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด สำเร็จ...!!! ## .. .. ผลในวันนี้ย่อมเกิดจากเหตุเมื่อครั้งอดีต... . สงครามกลางเมือง ในซีเรีย เริ่มเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 13 ปี ที่แล้ว (2011)... . ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า Arab Spring... . ซึ่ง CIA และ องค์กรอื่น ๆ ของ อเมริกา ให้การสนับสนุน การเคลื่อนไหว ในหลายประเทศ ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น... . การให้การอบรมด้านสื่อดิจิทัล และ การจัดตั้งเครือข่ายออนไลน์ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้กลุ่มเคลื่อนไหวในช่วงนั้นมีความสามารถในการจัดการประท้วงมากขึ้น... . เมื่อ อเมริกา ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ของ ประเทศซีเรีย เพียงเพราะ... . ผู้นำ ซีเรีย บาชา อัล อัสซาด ไม่ยอม ศิโรราบ ต่อ อเมริกา แต่ดันหันไปมี สัมพันธ์ ฉันมิตร กับ รัสเซีย การแทรกแซงด้วย ศาสตร์มืดจึงเริ่มต้นขึ้น... . ด้วยข้อหา เผด็จการ และ ไม่เป็นประชาธิปไตย... . คำสั่งลับถูกเซ็นโดย ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ให้ช่วยเหลือ กลุ่มกบฏในซีเรีย เช่น กลุ่ม FSA . อีกทั้ง CIA ยังคงเป็นคนติดต่อประสานงานกับ ซาอุดีอาระเบีย และ กาตาร์ ให้ช่วยสนับสนุน กลุ่มกบฏในซีเรีย . เกิดการปลุกปั่นประชาชนภายในประเทศจาก กลุ่มเจ้าหน้าที่ CIA . ผ่านสงครามกลางเมืองมา 10 ปี . ISIS รุกเข้าไปยึดพื้นที่ ยึดบ่อน้ำมันของ รัฐบาลซีเรีย . จากนั้น อเมริกา ก็รุกเข้าไปในแผ่นดินที่ของ ซีเรียบ้าง อ้างว่า จะเข้าไปปราบ กลุ่ม ISIS . รัซบาลซีเรีย บอกว่า ฉันไม่ได้ร้องขอ ออกไปจากประเทศฉันเดี๋ยวนี้...!!! . อเมริกา บอก ไม่ออกโว่ย...!!! . อเมริกา ว่า บาชา อัล อัสซาด เอ็งมันเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย (ทั้งๆที่เขาชนะเลือกตั้งมาด้วยเสียงของประชาชนชาว ซีเรีย ในปี 2000 อ่ะนะ) ข้าไม่จำเป็นต้องฟังเสียงเอ็ง . หลังจากนั้น... . รัสเซีย เข้ามาช่วยกำจัดกลุ่ม ISIS . อเมริกา จะออกมาโวยวายเสียงดังทุกครั้งที่ รัสเซีย ถล่มกลุ่ม ISIS จนเฮี่ยน ว่า... . รัสเซีย ยิงถล่มประชาชนผู้บริสุทธิ์... . อเมริกา ขัดแข้งขัดขา รัสเซีย ตลอดเวลา . ทั้งๆที่ อเมริกาก เข้ามาก่อน รัสเซีย เป็นปีๆ แต่ กลุ่ม ISIS ไม่ได้ถูกกวาดล้างเลย แถมยังเข้มแข็งมากขึ้นด้วย . ผิดกับช่วงที่ รัสเซีย เข้ามา ไม่นาน กลุ่ม ISIS ก็ถูกรัสเซีย ถล่มเฮี่ยนจนล่มสลายไป... . ท้ายที่สุด ข้อมูลก็เปิดเผยสู่สาธารณะชนว่า ผู้ที่ ก่อตั้ง ก่อกำเนิด ให้ทุนสนับสนุน ทำให้ ISIS แข็งแรง ก็คือ อเมริกา นั่นเอง โดยครั้งหนึ่ง ฮิลลารี่ คลินตัน เป็นคนยอมรับเองกับปาก... . วีรกรรม คร่าวๆของ อเมริกา เมื่อเข้าไปใน แผ่นดินซีเรีย... . 1.อเมริกา และ กองกำลัง SDF ที่อเมริกาสนับสนุน เข้าไป ยึดแหล่งน้ำมันของในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยเฉพาะในจังหวัด Hasakah และ Deir Ezzor . มีรายงานว่า น้ำมันประมาณ 80% ของที่ผลิตใน ซีเรีย ถูกขโมย และ ส่งออกไปขายยัง อิรัก ผ่านเส้นทางลักลอบ . การกระทำนี้สร้างความเสียหายมหาศาลต่อเศรษฐกิจซีเรีย โดยกระทรวงน้ำมันซีเรียรายงานว่าความเสียหายรวมตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปี 2022 มีมูลค่ากว่า 107.1 พันล้านดอลลาร์ . 2.อเมริกา ยึดเรือส่งสินค้าธัญพืช ของ ซีเรีย ไปดื้อๆ . 3.อเมริกา ยังขโมยธัญพืชจำนวนมากจากพื้นที่เกษตรในซีเรีย โดยใช้รถบรรทุกขนส่งไปยัง อิรัก ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ซีเรียเผชิญปัญหาการขาดแคลนอาหารอย่างหนัก . 4.อเมริกา และ พันธมิตรในพื้นที่ ตั้งโรงกลั่นน้ำมันเพื่อแปรรูปน้ำมันที่ขโมยมาในพื้นที่ Rmelan ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตน้ำมันของซีเรีย . เป็นต้น... . ทุกวันนี้ สรุปได้แน่ชัดและเห็นหน้าเห็นตากันหมดแล้วว่า... . - ตุรกี อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA และ HTS ในพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย . โดย HTS มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มอัลกออิดะห์ในอดีต และ เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่... . ตุรกี ให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ การฝึกทหาร และ การสนับสนุนทางการเงิน . - อิสราเอล อยู่เบื้องหลัง กลุ่มติดอาวุธในซีเรีย แถมยังเปิดหน้า ใช้ขีปนาวุธ โจมตีพื้นที่ทางการทหารของ ฝั่งรัฐบาลซีเรีย อย่างต่อเนื่อง . - อเมริกา อยู่เบื้องหลัง กลุ่มกบฏซีเรีย FSA ชาวเคิร์ดในซีเรีย และ กลุ่ม ISIS . อเมริกา ให้การสนับสนุน ทั้งทาง อาวุธ การฝึกทหาร และ ความช่วยเหลือทางการเงิน นอกจากนี้ยังส่งกองกำลังพิเศษเข้าปฏิบัติการในพื้นที่บางส่วนของซีเรียเพื่อช่วยกลุ่มพันธมิตร โค่นล้มรัฐบาลซีเรีย ... ... วันนี้ขัดเจนแล้ว ว่า กรุงดามัสกัส ถูกกลุ่มกบฏ ยึดไว้ได้ เท่ากับว่า รัฐบาล บาชา อัล อัสซาด ถูกโค่นล้มลงแล้ว... . ต่อไปก็จะถึงขั้น การแบ่งเค้กกัน ระหว่าง กลุ่มกบฏต่างๆ และ ประเทศเบื้องหลัง อย่าง ตุรกี อเมริกา และ อิสราเอล... ... ... ผลประโยชน์ของแต่ละประเทศคือ...??? . 1. อิสราเอล จะได้พื้นที่ดินแดนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นความพยายามของ รัฐเถื่อนไซออนนิสต์ มาโดยตลอด (ซึ่งก็คือแผน The Greater Israel นั่นเอง) . 2. ตุรกี จะได้ดินแดนที่พวกเขากล่าวมาตลอดว่า ทางประวัติศาสต์ มันคือส่วนหนึ่งของ ตุรกี นั่นคือ อาเลปโป แต่ครั้งนี้อาจจะได้กำไรเพิ่มมากกว่านั้น . 3. อเมริกา จะได้ครอบครอง ทรัพยากรน้ำมัน ของ ซีเรีย อย่างถูกกฏหมาย และ แผน The Greater Israel จะได้เป็นจริงไปอีก Step หนึ่ง... ... การล้มรัฐบาลซีเรีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ อิหร่าน และ รัสเซีย จะช่วยลดอิทธิพลของทั้ง 2 ประเทศในภูมิภาค และช่วยเสริมความมั่นคงของพันธมิตร อเมริกา เช่น ตุรกี และ อิสราเอล ในตะวันออกกลาง... . https://www.thairath.co.th/news/foreign/2829854
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    กบฏซีเรีย ยึดกรุงดามัสกัสสำเร็จ ปธน.อัสซาดเผ่นหนีออกนอกประเทศ
    กองบัญชาการกองทัพซีเรียแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า การปกครองของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด สิ้นสุดลงแล้ว หลังจากกลุ่มกบฏโจมตีแบบสายฟ้าแลบ
    0 Comments 0 Shares 915 Views 0 Reviews
More Results