• “5 ข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยงเมื่อซื้ออุปกรณ์รีเฟอร์บิช”

    การซื้ออุปกรณ์รีเฟอร์บิช เช่น สมาร์ทโฟนหรือแล็ปท็อป อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า แต่ก็มีความเสี่ยงที่ผู้ซื้อหลายคนมักมองข้าม การละเลยนโยบายรับประกันและการคืนสินค้า เป็นข้อผิดพลาดแรกที่พบบ่อย หากซื้อจากผู้ขายที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจไม่ได้รับการคุ้มครองเมื่อเครื่องมีปัญหา

    อีกประเด็นคือ ไม่ตรวจสอบชื่อเสียงของผู้ขาย แม้บางรายจะมีคะแนนรีวิวสูง แต่ก็อาจเป็นกลโกงที่แฝงอยู่ การซื้อจากแบรนด์ใหญ่หรือผู้ผลิตโดยตรง เช่น Apple, Samsung หรือ Sony จะปลอดภัยกว่า เพราะมีมาตรฐานการตรวจสอบและการรับประกันที่ชัดเจน

    “อุปกรณ์เสริมไม่แท้ อาจทำให้เครื่องพัง”
    ผู้ซื้อจำนวนมากคาดหวังว่าอุปกรณ์รีเฟอร์บิชจะมาพร้อมสายชาร์จหรืออุปกรณ์เสริมแท้ แต่ความจริงคือ หลายครั้งผู้ขายใช้สายหรืออะแดปเตอร์จากผู้ผลิตอื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหากับแบตเตอรี่หรือวงจรไฟฟ้า การตรวจสอบรายละเอียดสินค้าและสอบถามผู้ขายก่อนซื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญ

    “อายุเครื่องและซอฟต์แวร์คือปัจจัยสำคัญ”
    แม้เครื่องรีเฟอร์บิชจะดูดีภายนอก แต่หากอายุเครื่องมากเกินไปก็อาจไม่รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ เช่น iOS หรือ Android เวอร์ชันล่าสุด ทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากไวรัสหรือไม่สามารถใช้แอปใหม่ ๆ ได้ การเลือกเครื่องที่ยังอยู่ในรอบการสนับสนุนซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การละเลยนโยบายรับประกันและการคืนสินค้า
    ควรเลือกซื้อจากผู้ขายที่มีนโยบายชัดเจน เช่น Amazon Renewed, Best Buy, Walmart

    ไม่ตรวจสอบชื่อเสียงผู้ขาย
    ผู้ขายบางรายแม้มีคะแนนสูงก็อาจเป็นมิจฉาชีพ
    เลือกซื้อจาก OEM เช่น Apple, Samsung, Sony

    คาดหวังอุปกรณ์เสริมแท้
    หลายครั้งได้สายชาร์จหรืออะแดปเตอร์จากผู้ผลิตอื่น
    อุปกรณ์เสริมไม่แท้อาจทำให้เครื่องเสียหาย

    มองข้ามอายุเครื่อง
    เครื่องเก่าอาจไม่รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์
    เสี่ยงต่อไวรัสและไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่

    ไม่เปรียบเทียบราคากับรุ่นใหม่
    บางครั้งราคาต่างกันไม่มาก ซื้อใหม่อาจคุ้มกว่า
    เครื่องใหม่มีอุปกรณ์แท้และรับประกันเต็ม

    คำเตือนสำหรับผู้ซื้อ
    อย่าซื้อเครื่องที่ไม่มีนโยบายรับประกันหรือคืนสินค้า
    ระวังอุปกรณ์เสริมไม่แท้ที่อาจทำให้เครื่องพัง
    อย่าซื้อเครื่องที่เก่าจนหมดการสนับสนุนซอฟต์แวร์

    https://www.slashgear.com/2038043/common-mistakes-buying-refurbished-electronics-and-how-to-avoid/
    📰 “5 ข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยงเมื่อซื้ออุปกรณ์รีเฟอร์บิช” การซื้ออุปกรณ์รีเฟอร์บิช เช่น สมาร์ทโฟนหรือแล็ปท็อป อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า แต่ก็มีความเสี่ยงที่ผู้ซื้อหลายคนมักมองข้าม การละเลยนโยบายรับประกันและการคืนสินค้า เป็นข้อผิดพลาดแรกที่พบบ่อย หากซื้อจากผู้ขายที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจไม่ได้รับการคุ้มครองเมื่อเครื่องมีปัญหา อีกประเด็นคือ ไม่ตรวจสอบชื่อเสียงของผู้ขาย แม้บางรายจะมีคะแนนรีวิวสูง แต่ก็อาจเป็นกลโกงที่แฝงอยู่ การซื้อจากแบรนด์ใหญ่หรือผู้ผลิตโดยตรง เช่น Apple, Samsung หรือ Sony จะปลอดภัยกว่า เพราะมีมาตรฐานการตรวจสอบและการรับประกันที่ชัดเจน 💡 “อุปกรณ์เสริมไม่แท้ อาจทำให้เครื่องพัง” ผู้ซื้อจำนวนมากคาดหวังว่าอุปกรณ์รีเฟอร์บิชจะมาพร้อมสายชาร์จหรืออุปกรณ์เสริมแท้ แต่ความจริงคือ หลายครั้งผู้ขายใช้สายหรืออะแดปเตอร์จากผู้ผลิตอื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหากับแบตเตอรี่หรือวงจรไฟฟ้า การตรวจสอบรายละเอียดสินค้าและสอบถามผู้ขายก่อนซื้อจึงเป็นสิ่งสำคัญ 📱 “อายุเครื่องและซอฟต์แวร์คือปัจจัยสำคัญ” แม้เครื่องรีเฟอร์บิชจะดูดีภายนอก แต่หากอายุเครื่องมากเกินไปก็อาจไม่รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ เช่น iOS หรือ Android เวอร์ชันล่าสุด ทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากไวรัสหรือไม่สามารถใช้แอปใหม่ ๆ ได้ การเลือกเครื่องที่ยังอยู่ในรอบการสนับสนุนซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การละเลยนโยบายรับประกันและการคืนสินค้า ➡️ ควรเลือกซื้อจากผู้ขายที่มีนโยบายชัดเจน เช่น Amazon Renewed, Best Buy, Walmart ✅ ไม่ตรวจสอบชื่อเสียงผู้ขาย ➡️ ผู้ขายบางรายแม้มีคะแนนสูงก็อาจเป็นมิจฉาชีพ ➡️ เลือกซื้อจาก OEM เช่น Apple, Samsung, Sony ✅ คาดหวังอุปกรณ์เสริมแท้ ➡️ หลายครั้งได้สายชาร์จหรืออะแดปเตอร์จากผู้ผลิตอื่น ➡️ อุปกรณ์เสริมไม่แท้อาจทำให้เครื่องเสียหาย ✅ มองข้ามอายุเครื่อง ➡️ เครื่องเก่าอาจไม่รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ ➡️ เสี่ยงต่อไวรัสและไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่ ✅ ไม่เปรียบเทียบราคากับรุ่นใหม่ ➡️ บางครั้งราคาต่างกันไม่มาก ซื้อใหม่อาจคุ้มกว่า ➡️ เครื่องใหม่มีอุปกรณ์แท้และรับประกันเต็ม ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ซื้อ ⛔ อย่าซื้อเครื่องที่ไม่มีนโยบายรับประกันหรือคืนสินค้า ⛔ ระวังอุปกรณ์เสริมไม่แท้ที่อาจทำให้เครื่องพัง ⛔ อย่าซื้อเครื่องที่เก่าจนหมดการสนับสนุนซอฟต์แวร์ https://www.slashgear.com/2038043/common-mistakes-buying-refurbished-electronics-and-how-to-avoid/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Common Mistakes To Avoid When Buying Refurbished Electronics - SlashGear
    Buying refurbished tech can seem like a perfect solution, but don't let the lure of recent devices and discounted prices make you overlook potential problems.
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • เรื่อง สู่ทางน้ำเชี่ยว 1 – 2

    “สู่ทางน้ำเชี่ยว”
    (1)
    วันนี้ขอคุยกับท่านผู้อ่าน แบบตรงไปตรงมา จากความรู้สึกในใจของผมหน่อยเถิด ไม่ชอบใจ ก็ปิดเครื่อง หรือเปลี่ยนไปอ่านเพจอื่น ไม่พอใจ อยากจะด่า ก็เชิญตามสบาย
    แต่อย่าแรงนักแล้วกัน คนแก่ตกใจง่าย
    ผมเขียนนิทานเรื่องจริงให้อ่านกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว เอาข้อมูลเรื่องราวที่มองมาจากอีกมุมหนึ่ง รวมทั้งที่มองจากมุมเดิม ที่เห็นๆกันอยู่ซ้ำซาก แต่ผมมองลึกไปอีกแบบ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องราวที่สื่อฟอกย้อม ทั้งในบ้านและนอกบ้าน แทบไม่เคยพูดถึง หรือพูดแบบใส่สีเข้มตามใบสั่งของ เจ้าของสื่อ จนไม่รู้ว่า มีความจริงน้อยมากแค่ไหน หรือพูดแบบ มั่ว คลุมเคลือ ไม่รู้ที่มาและที่จะไปต่อ หรือพูดแบบครึ่งใบ ที่เหลือให้เดาเอา หรือแต่งกันเองสนุกดี
    จากการอ่านและการวิเคราะห์ของผมเอง ผมเชื่อว่า อีกไม่เกิน 2 ถึง 3 ปี จากที่ผมเริ่มเขียนนิทานเรื่อง แรก เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2556 ก็แปลว่า จากนี้ไป ไม่เกิน 1 ปี โลกเราจะเริ่มเข้าสู่อาการ ถ้าเปรียบกันคน ก็เป็นคนต้องเกณท์เปลี่ยนชะตานั่นแหละ มันจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเล็ก สิ่งน้อย ซึ่งถ้าเราไม่ทันสังเกต หรือไม่สนใจติดตาม เราก็จะไม่รู้ว่า มันมีการเปลี่ยนไปแล้ว และการเปลี่ยนนั้น จะเปลี่ยนมากขึ้น ด้วยอัตราที่เร็วขึ้น จนเราเริ่มรู้สึก แต่ก็อาจจะยังไม่รู้เรื่อง รู้เหตุ รู้ผล อยู่ดี กว่าจะรู้เรื่อง ก็อาจจะทำอะไรไม่ทันแล้ว
    เราเคยชินกับการมีอเมริกา ที่ทำตัวเหมือนเป็นจิ๊กโก๋ปากซอยตัวแสบ เบ่งกล้าม คุมทั้งซอยอยู่คนเดียว มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นานถึง 70 ปี เชียวนะครับ ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันคุมโลก จนตัวมันก็ “ชิน” กับการที่ไม่ใครมากล้าหือกับมัน และเราๆ ก็ดัน “ชิน” กับการคุมของมัน แถมบางพวก ก็ชอบที่จะอยู่ใต้อุ้งมืออุ้งตีนของไอ้จิ๊กโก๋ ก็ของมันเคย มันชิน แต่สำหรับพวกที่ไม่ชอบ ก็ต้องทนยอมมันไป (ก่อน) ก็มันวางกฏเกณท์ของทั้งโลกทั้ง ใบ หันไปทางไหน จะทำอะไร ก็เจอกฏ เจอระบบ ที่มันวางไว้ทั้งนั้น ขนาดจะแต่งตัว ตัดผม ดูหนัง ฟังเพลง บันเทิงใจ ชอบ ไม่ชอบอะไร ยังต้องเป็นแบบที่มันจัดยัดใส่หัวมาให้เลย ใครที่ไม่อยู่ในระบบ ในรูปแบบที่มันเห็นชอบ มันก็จัดการเก็บกวาดจนเหี้ยน ในที่สุด ชาวโลกส่วนใหญ่ ก็เลยจำยอมอยู่ในกำมือ ในกฏ กติกา ความเห็น ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันสร้าง มันวางเอาไว้ น่าสมเพชไหมครับ ที่ต้องมีใครมาจูงเราทุกเรื่อง หรือชอบใจกัน ที่ไม่ต้องคิดมาก จูงไปทางไหน ก็ไปทางนั้น…
    แต่ประมาณ 15 ปี มานี้ เริ่มมีพวกที่อยากดำเนินชีวิต ตามระบบ ตามแบบของตัวเอง อยากกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ทุกอย่างต้องขึ้นกับจิ๊กโก๋ปากซอยสั่ง กูจะหิว กูจะกิน กูจะนอน ฯลฯ ให้มันเป็นไปตามใจกูบ้างได้มั้ย กูเบื่อที่จะถูกจูงแล้ว….
    จิ๊กโก๋ บอก ไม่ได้ กูไม่เชื่อว่าพวกมึงตัดสินใจเป็น และตัดสินใจถูก ขอโทษนะครับ ต้องเขียนด้วยสรรพนาม เช่นนี้ เพราะลักษณะที่เขาออกอาการกัน มันดูจะไม่ใช่เป็นการพูดแบบคุณครับขอรับกระผมกัน ที่นี้ เรื่องมันก็เลยเริ่มวุ่น และบานไปเรื่อยๆ
    มาถึงวันนี้ โลกแบ่งชัดเจนแล้ว อำนาจของโลก ที่เคยมีขั้วอำนาจขั้วเดียว ที่คุมโดย ไอ้จิ๊กโก๋ปากซอย อเมริกาและพวกลูกกระเป๋ง กำลังเปลี่ยนไป ขั้วอำนาจอีกขั้ว ที่นำโดยรัสเซียและจีน กำลังรวมตัว และปรากฏตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีจำนวนประเทศน้อยกว่า แต่ถ้านับเนื้อที่ของประเทศ กับจำนวนรวมของพลเมือง คงไม่ต่างกันมาก และขณะนี้ ทั้งสองขั้ว ต่างกำลังจ้องตาใส่กันอย่างไม่กระพริบ เพื่อค้นหา รวมไปถึงทดสอบ ศักยภาพทางเศรษฐกิจ และศักยภาพทางอาวุธ ของขั้วที่ต่างกัน ว่าใครจะเหนือกว่าใคร
    เศรษฐกิจเป็นเกมที่ทางขั้วอำนา จอเมริกาถนัดนัก เล่นกลอยู่เสมอ เล่นมา 100 ปีแล้วนี่ ปั่นขึ้น ปั่นลง ได้ทุกอย่าง ก็เป็นคนคุมระบบทั้งหมด มันก็เหมือนเป็นเจ้ามือคุมบ่อน นั่นแหล่ะ แจกไพ่เอง ทำเครื่องหมายไพ่ ให้ยืมเงินมาเล่น ใครทำอะไรไม่ถูกใจ ก็ไล่ออกจากวง คว่ำบาตรเสีย แบบนี้ เจ้ามือก็ไม่มีทางแพ้อยู่แล้ว (มีแต่ถูกเผาบ่อน หรือถูกยิง) เรื่องเศรษฐกิจ จึงเป็นเหมือนตัววัดตัวหนึ่ง เมื่อไหร่ที่เจ้ามือออกอาการ มีการใกล้จะล้มโต๊ะ เพราะเจ้ามือเล่นกลไม่ออก จะเพราะลูกมือเกิดดวงดี ดวงแข็ง หรือถูกลูกมือจับกลโกงของเจ้ามือได้ นั่นก็เป็นอาการที่เราๆ จะต้องระวัง แปลว่า เรื่องใหญ่ใกล้จะมา ดวงชะตาของโลกใกล้จะมีการเปลี่ยน
    เหตุการณ์ตลาดหุ้นจีน ที่เริ่มถูกปั่นลงดิ่ง ตั้งแต่เดือนมิถุนา กรกฏาคม จนแมงเม่าตาตี่ปีกหัก ร่วงผล่อยหล่นลงพื้นเต็มไปหมด แต่จีนก็ปล่อยให้เจ้ามือตาน้ำข้าวเล่นให้เพลิน ด้วยการปล่อยให้หล่นถึงพื้น และจีนก็ซื้อกลับ ส่วนเงินกองทุนของเจ้ามือตาน้ำข้าว รวมทั้งกำไรที่รวยมาจากเด็ดปีกแมงเม่าตาตี่ เจ้ามือตาน้ำข้าวเตรียมโอนกลับ บ้าน แต่จีนบอกรอแป๊บนึง อย่าเพิ่งใจร้อน รีบโอนกลับ ขอเราตรวจสอบก่อนว่า ทำผิดกฏอะไรบ้างหรือเปล่า ทำได้ไม่ไม่ใช่หรือ ก็ดันไปเปิดบ่อนเต๋าถ่วงที่บ้านคนอื่น โง่หรือฉลาด(วะ) ทุนก้อนใหญ่ เอาออกมาไม่ได้ ตลาดอื่นๆ ก็ค่อยๆร่วง ชาวบ้านนึกว่าร่วงเรื่องกรีซ ก็เพราะสื่อย้อมสีกับกองทุนตาน้ำข้าว มันบอกอย่างนั้น ก็เลยเชื่อกันอย่างนั้น…นี่การตรวจสอบจะนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้…. สื่อฟอกย้อม เรื่องนี้ ไม่ออกข่าวเลยนะ
    อเมริกาบอก โลกนี้หมุนด้วยน้ำมัน และมันต้องเป็นน้ำมัน ที่ค้าขายกันด้วยดอลล่าร์ (เปโตรดอลล่าร์) เท่านั้น โลกถึงจะหมุน วันนี้ จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ เปโตรหยวน หรือเปโตรรูเบิล ก็หมุนโลกได้เหมือนกัน
    อเมริกาบอก ระบบการเงินในโลก ต้องคุมด้วยระบบธนาคารกลางของอเมริกา จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ ถ้าเราสร้างระบบที่พวกเราเห็นพ้องกันว่ามันยุติธรรมได้ และตอนนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังค้าขายกันด้วยการแลกเปลี่ยนเงินสกุลของพวกเขา ตามค่าของเงินที่พวกเขาตกลงกันเอง อ้าว พวกเอ็งตกลงกันเองได้ พวกผมก็ตกลงกันได้เหมือนกัน มีปัญหาไหม
    อเมริกากับพวกสร้าง World Bank, IMF มาเป็นกลไกด้านการเงิน คุมโลกจนกระดิกแทบไม่ออก วันนี้ จีนกับรัสเซียและพวกสร้าง AIIB ขึ้นมาเป็นทางเลือก
    อเมริกาสร้างใอ้ 3 หมาไน เป็นตัววัดเครดิตเรตติ้งของธุรกิจ ของประเทศต่างๆ ตามหลักเกณท์ที่มีผู้ค้านมากมาย ว่าไม่เป็นธรรม วันนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังสร้างบริษัทวัดเครดิตเช่นนั้นเหมือนกัน และบอกว่าเป็นธรรมกว่า
    เราจะได้ยินเรื่องทำนองนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริง มันควรจะเป็นเรื่องน่ายินดี ที่มีการเพิ่มทางเลือกให้แก่มนุษยชาติ แต่ดูเหมือนอเมริกาไม่ยินดี นอกจากไม่ยินดีแล้ว อเมริกายังแสดงอาการ ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วยว่า อเมริกาไม่พอใจอย่างยิ่ง อเมริกามองว่า การที่อีกฝ่าย และมนุษยชาติ มีทางเลือก มันเป็นการคุกคาม การเป็นผู้ครอบครองโลกใบนี้แต่ผู้เดียวของอเมริกา( America World Dominence) และ อเมริกาเท่านั้นนะ ที่จะเป็นผู้กำหนดชะตาของโลก มันต้องเป็นไปตามเส้นทาง วิธีการ ระบบ ที่อเมริกาเลือก และเห็นชอบสิ เข้าใจไหม
    และเพราะอเมริกา มีแนวคิด และแนวปฏิบัติเข่นนี้ โลกนี้ถึงได้ยุ่งเหยิงอย่างไม่ควรจะเป็น เมื่อใดที่เรื่องอะไร ที่ไหน ที่ไม่เป็นไปตามแนวที่อเมริกาเห็นชอบ หรือเมื่ออเมริกาอยากได้สมบัติของเขา ประเทศเหล่านั้นก็ถูกสื่อที่เป็นมือตีนของอเมริกา ฟอกย้อมให้เป็นคนเลว เป็นเผด็จการ เป็นผู้ร้าย เป็นโจร เมื่อสื่อย้อมจนได้ที่ อเมริกาก็ยาตราใช้อำนาจของอาวุธของตัวเองเข้าไปตัดสิน และประเทศเหล่านั้น ก็ถึงแก่การกาลวิบัติ ฉิบหาย จนถึงสิ้นชาติ โลกนี้จึงอยู่ในกำมือของอเมริกา ที่ใช้มาตรฐานของตน ที่มีหลายระดับ หลายแบบ ตามสันดานจิ๊กโก๋เป็นเครื่องตัดสิน

    (2)
    แดนสยามของสมันน้อย กำลังถูกอเมริกาจับตามองอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่สมันน้อยเริ่มไม่ว่าง่าย เมื่อสมันน้อยทนมีรัฐบาลโคตรโกง ไม่ไหว ออกมาขับไล่ อเมริกายื่นหน้ามาถาม ไล่เขาทำไม เขามาจากการเลือกตั้ง เสือกไหม เสือกสิ ในความเห็นของผม ทำไมเอ็งต้องมาออกความเห็นเรื่องบ้านผมทุกเรื่อง วันนี้แดนสยาม มีทหารเป็นผู้ใช้อำนาจในการบริหาร โดยยังไม่มีการลือกตั้ง อเมริกาจะลงแดงตายเสียให้ได้ เมื่อไหร่ ไทยแลนด์จะมีการเลือกตั้ง อเมริการับไม่ได้กับการปฏิวัติ รับไม่ได้กับการไม่เลือกตั้ง รับไม่ได้กับการไม่เป็นประชาธิปไตย อเมริกาไม่ชอบ ไม่ชอบ และไม่ชอบ ทำไมไม่ลงไปดื้นเร่าๆกลิ้งกับพื้น ตอนด่าไทยแลนด์เลยละ (วะ) จะได้สมกับเป็นชาติมหาอำนาจใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก
    Wall Street Journal ลงบทความ เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคมนี้ เขียนโดย นาย Desmond Dalton ซึ่งเป็นนายทหารอเมริกัน ที่เกษียณแล้ว และเคยเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอเมริกาในประเทศไทย บทความนั้นชื่อว่า ” Saving America’s Ties With Thailand” หลายท่านคงเห็นแล้ว และเข้าใจว่าสื่อไทยก็น่าจะลงแล้ว แต่ผมมีมุมมองของผม ที่อาจจะต่างไปบ้าง
    บทความดังกล่าว สรุปว่า อเมริกาไม่พอใจไทย ตั้งแต่มีการปฏิวัติเมื่อปี ค.ศ.2014 (ก็ปฏิวัติของลุงตู่นั่นแหละ) และความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับไทย ก็เสื่อมลงมากมายอย่างน่าใจหาย อเมริกาหันหลังให้กับรัฐบาลทหาร อย่างไม่ไว้หน้า แถมขู่ให้ไทยรีบมีการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้น สัมพันธ์อเมริกาไทยก็จะยิ่งเสื่อมลงไปอีกเรื่อยๆ (จะให้เสื่อมลงถึงไหน นี่ยังไม่ถึงดินหรือไง สงสัยอยากได้สัมพันธ์แบบใต้ดิน แบบนั้น ต้องไปแถวประเทศที่ถนัดแบกถาด ฮา)
    คุณทหารอดีตที่ปรึกษา บอกว่า การที่อเมริกาปฏิบัติต่อไทยเช่นนี้ ทำให้อเมริกาเสียโอกาสในไทยอย่างยิ่ง และทำให้นโยบายของรัฐบาลโอบามา ที่คิดจะมาถ่วงดุลอำนาจ ในเอเซียแปซิฟิกจะกลายเป็นแค่ราคาคุย ไม่ใช่ว่า อเมริกาควรจะหลับหู หลับตา กับสิ่งที่ไทยทำ แต่เพื่อรักษาโอกาสของอเมริกา อเมริกาก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่สร้างศัตรูกับไทย ด้วยการด่าว่าทหารไทยอย่างเอิกเกริก ไปพูด (ด่า) กันเงียบๆก็ได้นะ แถมการที่อเมริกาตัดงบอาวุธ ตัดงบการอบรม สาระพัดกับไทย กลายเป็นการผลักให้ไทยหันไปสร้างสัมพันธ์กับชาติอื่น เช่นจีนแทน…
    ….และไทย ก็เลยปิดประตูทางเข้า ที่อเมริกาเคยเข้ามาใช้ไทยอย่างอิสระ สะดวกสบายไปเรียบร้อย และจากการตัดสินใจซื้ออาวุธล่าสุดของไทย แสดงให้เห็นว่า ไทยไม่คิดจะพึ่งพาอเมริกาด้านอาวุธเพียงรายเดียว นี่เป็นก้าวที่พลาดอย่างยิ่งของอเมริกา แม้ไทยจะเป็นเพียงประเทศขนาดกลาง มีพลเมือง ประมาณ 70 ล้านคน มีเศรษฐกิจเพียงอันดับที่ 22 ของโลก … แต่ไทย มีความหมายในเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่งกับอเมริกา ……
    ….เส้นทางจากไทย เป็นเส้นทางเดียว ที่กองทัพอเมริกันเชื่อถือ ที่จะใช้เป็นจุดผ่านเข้าไปสู่แผ่นดินใหญ่ของเอเซีย…
    …It offers U.S forces the only reliable access point to mainland Asia…
    นอกจากนี้ อุตสาหกรรมด้านการผลิตอาวุธของอเมริกา ได้รับการอุดหนุนจากงบประมาณด้านความมั่นคงก้อนใหญ่ ของไทยทุกปี
    บทความที่เหลือ ก็เป็นการสรรเสริญ ถึงความเก่งกล้าสามารถด้านการทหารของไทย รวมทั้งด้านการเป็นผู้นำในภูมิภาคของไทย พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ ให้อเมริกากลับมาเจรจาโดยใช้คำหวานกับไทยเสียใหม่ ให้ไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย และเพื่อที่อเมริกาจะได้ใช้ประโยชน์จากการมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันให้มากที่สุด…โดยทำผ่านการพูดคุยกับผู้นำทหาร นักวิชาการ และราษฎรที่มีชื่อเสียง….อืม..
    พอเห็นไหมครับ ว่าบทความนี้มันสื่ออะไรกับเราบ้าง
    มันไม่มีส่วนไหนเลย ที่แสดงถึงความเข้าใจ และเห็นใจประเทศไทย มันมีแต่ว่า เขาจะใช้ประโยชน์จากเราได้อย่างไรบ้าง และจะ “ทำอย่างไร” ที่จะกลับมาจิกหัวเรา ได้อย่างเดิม
    บทความนี้ เป็นการโยนหินถามทางที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะ คำแนะนำ ว่า อเมริกาควร “ทำอย่างไร” เพื่อจะกลับมา
    อเมริกา น่าจะรู้ตัวแล้วว่า อเมริกากำลังเดินหมากผิดจนน่าโขกหัวตัวเอง ในยามที่โลกแบ่งชัดเป็น 2 ขั้ว เมื่อจีนและรัสเซียอยู่คนละขั้วกับอเมริกา แต่อเมริกาดันถีบหมากชื่อไทยแลนด์ กระเด็นออกไปนอกกระดานของอเมริกา และก็เป็นการถีบทิ้งอย่างเอิกเกริก เล่นงานกันทุกทาง ไม่ว่าจะโดยแสดงด้วยกริยา อาการ หรือการแสดงด้วยวาจา การด่า การเขียน ทั้งทางตรง ทางอ้อม แม้กระทั่งในบทความของถังขยะความคิด ไม่ว่าถังไหน เมื่อพูดถึงอเมริกาและพวก จะไม่ปรากฏชื่อไทยแลนด์ แดนสยามของสมันน้อยแม้แต่ครั้งเดียว คบกันมา กว่า 70 ปี บทจะถีบทิ้ง ก็ไม่เหลือใย เหลือหน้ากันไว้ อย่างนี้จะกลับมาเป็นเพื่อนกันใหม่ จะให้มองกันติดสนิทใจ จะใช้กาวยี่ห้อไหนดี(วะ)
    อเมริกา กำลังทดสอบไทย ตามสันดานจิ๊กโก๋ปากซอย ด้วยการบีบคั้นทุกรูปแบบ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาใช้ hard power (อาวุธ) อเมริกาจึงใช้ soft power (อำนาจที่ไม่ต้องใช้อาวุธ เช่น การคว่ำบาตร การกีดกัน การระงับ โดยอ้างว่าไม่ได้มาตรฐานการ และใช้มากที่สุดคือ ใช้สื่อโจมตี) เราจึงได้เห็นตั้งแต่ การโจมตีเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ การเลื่อนการเลือกตั้ง เรื่องการไม่มีมนุษยธรรม ตั้งแต่โรฮิงญา มาจนถึงอุยกูร์ การที่บริษักการบินไทยไม่ได้มาตรฐาน เรื่องส่งออกอาหารไม่ผ่านมาตรฐาน ใช้แรงงานผิดมาตรฐาน ข่าวเรื่องอียู คว่ำบาตรไทย การจ่าหน้าซองผิด ฯลฯ ยังจะมีสาระพัด ตะหวักตะบวยเลวไปกว่านี้อีกมากมาย ที่มันจะสรรหา ยกขึ้นตามมาอีก การก่อกวนในรูปแบบต่างๆ ก็ยังจะเกิดขึ้นอีก และอาจจะรุนแรงขึ้น เป้าหมายก็เพื่อสั่นคลอนเรา พยายามทุกอย่างให้สมันน้อยปอดแหก จะได้ไม่กล้า แหกคอก
    มาถึงวันนี้ วันที่ต่างก็เริ่มเห็นชัดแล้ว ว่าอะไรคอยอยู่ข้างหน้า อเมริกา คิดตกหรือยัง ว่า จะตบหน้าเพื่อนเก่า 70 ปีต่อไปอีก โทษฐานคิดแหกคอก หรือ อเมริกาจะทำไม่รู้ไม่ชี้ เดินกลับมา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะชักสำนึกได้ว่า ถ้าจะใช้ไอ้พวกลูกกระเป๋ง มาแบกถาดถือปืน อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่คิด
    จิ๊กโก๋ทำได้ไหม ทำได้สบายมาก ถ้าจำเป็นจริงๆ อเมริกาก็หาวิธีกลับเข้ามาตบหลังลูบหัวไทยได้ ถ้าเดินเข้ามาตรงๆไม่ได้ หนอนในบ้าน ที่ยังเห็นอเมริกาเป็นพ่อ ยังมีอีกแยะ คงหาทางให้ สมันน้อยเดินจ๋อยๆกลับเข้าคอกเอง โดยนึกว่าอเมริกาไม่เกี่ยว แล้วเราจะว่ายังไงครับ….
    ตอนนี้ ลุงตู่กำลังทำหน้าที่เป็นกัปตัน พาเรือใหญ่ขนาดกลาง ขนคนประมาณ 70 ล้านคน มุ่งหน้าไปตามลำน้ำใหญ่ สายน้ำเริ่มเชี่ยวขึ้นทุกที แถมข้างหน้า มีวังน้ำวนเห็นอยู่ชัดๆ เรือจะผ่านวังน้ำวน ไปได้หรือเปล่ายังไม่รู้ ลุงตู่จะคัดท้าย นำเรือขนาดกลางนี้ ไปรอดไหม ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคัด ท้ายของลุงตู่เอง แต่อีกส่วน ก็ขึ้นอยู่กับผู้โดยสาร 70 ล้านคนนั่นด้วย จะเอาอย่างไรล่ะ จะให้กัปตันพาเรือเดินหน้า หรือเปลี่ยนใจ ไม่ไปต่อแล้ว กลัวน้ำวน กลัวโจรปล้น กลัวจิ๊กโก๋ขู่ ให้กัปตันทิ้งสมอ จอดมันริมฝั่งนั่นแหละ ใครจะมาเอาเรือก็เอาไป แล้วจะจอดฝั่งไหนล่ะ ฝั่งที่คุ้นๆกันมา 70 ปี เดี๋ยวดี เดียวด่า ทำเหมือนสมันน้อยเป็นขี้ข้า หรือจะจอดอีกฝั่ง จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่เท่าที่ดู เขาว่าเป็นประเภทไม่ชอบเป็นขี้ข้าใคร แต่จะทิ้งสมอจอดเรือ ยามน้ำเชี่ยว ก็ใช่ว่าจะทำง่าย เผลอๆ ล่มตอนจอดนี่แหละ สมันน้อย ได้เป็นสมันน้ำ ลอยคอกันเป็นแถว
    เออ..แล้ว อยู่ๆ จะจอดเรือ ยกประเทศให้เขาเลยงั้นหรือ จะมีคนไม่ยอม หรือ จะมีคนอยากให้เขาจูงกลับเข้าคอก ผมตอบไม่ได้ รู้แต่ว่า หนอนในที่ชอบอยู่คอก และชอบถูกจูงยังมีอยู่
    แต่ถ้าเราจะเลือกเดินหน้า ผู้โดยสารก็ต้องทำความเข้าใจ และปรับชีวิตตัวเองบ้าง ต้องรับรู้ว่า กำลังนั่งเรือไปในทางน้ำเชี่ยว ก็ต้องนั่งให้มีสติ เตรียมอุปกรณ์ทั้งด้านส่วนตัวและ ด้านสติปัญญาให้พร้อม เริ่มฝึกตัวเองให้มีวินัย ช่วยเหลือตัวเองได้ นั่งเรือไป ไม่ใช่วีดว้าย กระตู้วู้ ไปตลอดทาง อะไรนิดก็โวย อะไรหน่อยก็ด่า ฟังอะไรมาไม่ได้ยังไม่ทันกรอง ก็แชร์กัน ไลน์กัน เหมือนคนมีแต่นิ้ว แต่ไม่มีสมอง เป็นมนุษย์พันธ์ใหม่ และอย่าเป็นประเภทชอบเอามือราน้ำ แบบนี้ ต่อให้กัปตันเก่งยังไง เรือก็อาจล่ม…
    บ้านเมืองมาถึงจุดสำคัญ ตื่นกันได้แล้วครับ ลดเรื่องไร้สาระลงเสียบ้าง เอาใจใส่บ้านเมืองกันหน่อย อย่างที่ผมเคยบอก ความเข้าใจและเห็นพ้องกัน ระหว่างผู้บริหารบ้านเมืองกับพลเมือง เป็นความมั่นคงของชาติอย่างหนึ่ง ปิดทางไม่ให้ศัตรูทั้งภายนอกและภายในเข้ามาทำร้าย และทำลายบ้านเมืองเราได้ เราจะได้ช่วยกัน พาเรือผ่านน้ำเชี่ยวไปได้ เป็นสิ่งที่เราทำให้บ้านเมืองของเราได้นะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    29 ก.ค. 2558
    เรื่อง สู่ทางน้ำเชี่ยว 1 – 2 “สู่ทางน้ำเชี่ยว” (1) วันนี้ขอคุยกับท่านผู้อ่าน แบบตรงไปตรงมา จากความรู้สึกในใจของผมหน่อยเถิด ไม่ชอบใจ ก็ปิดเครื่อง หรือเปลี่ยนไปอ่านเพจอื่น ไม่พอใจ อยากจะด่า ก็เชิญตามสบาย แต่อย่าแรงนักแล้วกัน คนแก่ตกใจง่าย ผมเขียนนิทานเรื่องจริงให้อ่านกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว เอาข้อมูลเรื่องราวที่มองมาจากอีกมุมหนึ่ง รวมทั้งที่มองจากมุมเดิม ที่เห็นๆกันอยู่ซ้ำซาก แต่ผมมองลึกไปอีกแบบ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องราวที่สื่อฟอกย้อม ทั้งในบ้านและนอกบ้าน แทบไม่เคยพูดถึง หรือพูดแบบใส่สีเข้มตามใบสั่งของ เจ้าของสื่อ จนไม่รู้ว่า มีความจริงน้อยมากแค่ไหน หรือพูดแบบ มั่ว คลุมเคลือ ไม่รู้ที่มาและที่จะไปต่อ หรือพูดแบบครึ่งใบ ที่เหลือให้เดาเอา หรือแต่งกันเองสนุกดี จากการอ่านและการวิเคราะห์ของผมเอง ผมเชื่อว่า อีกไม่เกิน 2 ถึง 3 ปี จากที่ผมเริ่มเขียนนิทานเรื่อง แรก เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2556 ก็แปลว่า จากนี้ไป ไม่เกิน 1 ปี โลกเราจะเริ่มเข้าสู่อาการ ถ้าเปรียบกันคน ก็เป็นคนต้องเกณท์เปลี่ยนชะตานั่นแหละ มันจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเล็ก สิ่งน้อย ซึ่งถ้าเราไม่ทันสังเกต หรือไม่สนใจติดตาม เราก็จะไม่รู้ว่า มันมีการเปลี่ยนไปแล้ว และการเปลี่ยนนั้น จะเปลี่ยนมากขึ้น ด้วยอัตราที่เร็วขึ้น จนเราเริ่มรู้สึก แต่ก็อาจจะยังไม่รู้เรื่อง รู้เหตุ รู้ผล อยู่ดี กว่าจะรู้เรื่อง ก็อาจจะทำอะไรไม่ทันแล้ว เราเคยชินกับการมีอเมริกา ที่ทำตัวเหมือนเป็นจิ๊กโก๋ปากซอยตัวแสบ เบ่งกล้าม คุมทั้งซอยอยู่คนเดียว มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นานถึง 70 ปี เชียวนะครับ ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันคุมโลก จนตัวมันก็ “ชิน” กับการที่ไม่ใครมากล้าหือกับมัน และเราๆ ก็ดัน “ชิน” กับการคุมของมัน แถมบางพวก ก็ชอบที่จะอยู่ใต้อุ้งมืออุ้งตีนของไอ้จิ๊กโก๋ ก็ของมันเคย มันชิน แต่สำหรับพวกที่ไม่ชอบ ก็ต้องทนยอมมันไป (ก่อน) ก็มันวางกฏเกณท์ของทั้งโลกทั้ง ใบ หันไปทางไหน จะทำอะไร ก็เจอกฏ เจอระบบ ที่มันวางไว้ทั้งนั้น ขนาดจะแต่งตัว ตัดผม ดูหนัง ฟังเพลง บันเทิงใจ ชอบ ไม่ชอบอะไร ยังต้องเป็นแบบที่มันจัดยัดใส่หัวมาให้เลย ใครที่ไม่อยู่ในระบบ ในรูปแบบที่มันเห็นชอบ มันก็จัดการเก็บกวาดจนเหี้ยน ในที่สุด ชาวโลกส่วนใหญ่ ก็เลยจำยอมอยู่ในกำมือ ในกฏ กติกา ความเห็น ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันสร้าง มันวางเอาไว้ น่าสมเพชไหมครับ ที่ต้องมีใครมาจูงเราทุกเรื่อง หรือชอบใจกัน ที่ไม่ต้องคิดมาก จูงไปทางไหน ก็ไปทางนั้น… แต่ประมาณ 15 ปี มานี้ เริ่มมีพวกที่อยากดำเนินชีวิต ตามระบบ ตามแบบของตัวเอง อยากกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ทุกอย่างต้องขึ้นกับจิ๊กโก๋ปากซอยสั่ง กูจะหิว กูจะกิน กูจะนอน ฯลฯ ให้มันเป็นไปตามใจกูบ้างได้มั้ย กูเบื่อที่จะถูกจูงแล้ว…. จิ๊กโก๋ บอก ไม่ได้ กูไม่เชื่อว่าพวกมึงตัดสินใจเป็น และตัดสินใจถูก ขอโทษนะครับ ต้องเขียนด้วยสรรพนาม เช่นนี้ เพราะลักษณะที่เขาออกอาการกัน มันดูจะไม่ใช่เป็นการพูดแบบคุณครับขอรับกระผมกัน ที่นี้ เรื่องมันก็เลยเริ่มวุ่น และบานไปเรื่อยๆ มาถึงวันนี้ โลกแบ่งชัดเจนแล้ว อำนาจของโลก ที่เคยมีขั้วอำนาจขั้วเดียว ที่คุมโดย ไอ้จิ๊กโก๋ปากซอย อเมริกาและพวกลูกกระเป๋ง กำลังเปลี่ยนไป ขั้วอำนาจอีกขั้ว ที่นำโดยรัสเซียและจีน กำลังรวมตัว และปรากฏตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีจำนวนประเทศน้อยกว่า แต่ถ้านับเนื้อที่ของประเทศ กับจำนวนรวมของพลเมือง คงไม่ต่างกันมาก และขณะนี้ ทั้งสองขั้ว ต่างกำลังจ้องตาใส่กันอย่างไม่กระพริบ เพื่อค้นหา รวมไปถึงทดสอบ ศักยภาพทางเศรษฐกิจ และศักยภาพทางอาวุธ ของขั้วที่ต่างกัน ว่าใครจะเหนือกว่าใคร เศรษฐกิจเป็นเกมที่ทางขั้วอำนา จอเมริกาถนัดนัก เล่นกลอยู่เสมอ เล่นมา 100 ปีแล้วนี่ ปั่นขึ้น ปั่นลง ได้ทุกอย่าง ก็เป็นคนคุมระบบทั้งหมด มันก็เหมือนเป็นเจ้ามือคุมบ่อน นั่นแหล่ะ แจกไพ่เอง ทำเครื่องหมายไพ่ ให้ยืมเงินมาเล่น ใครทำอะไรไม่ถูกใจ ก็ไล่ออกจากวง คว่ำบาตรเสีย แบบนี้ เจ้ามือก็ไม่มีทางแพ้อยู่แล้ว (มีแต่ถูกเผาบ่อน หรือถูกยิง) เรื่องเศรษฐกิจ จึงเป็นเหมือนตัววัดตัวหนึ่ง เมื่อไหร่ที่เจ้ามือออกอาการ มีการใกล้จะล้มโต๊ะ เพราะเจ้ามือเล่นกลไม่ออก จะเพราะลูกมือเกิดดวงดี ดวงแข็ง หรือถูกลูกมือจับกลโกงของเจ้ามือได้ นั่นก็เป็นอาการที่เราๆ จะต้องระวัง แปลว่า เรื่องใหญ่ใกล้จะมา ดวงชะตาของโลกใกล้จะมีการเปลี่ยน เหตุการณ์ตลาดหุ้นจีน ที่เริ่มถูกปั่นลงดิ่ง ตั้งแต่เดือนมิถุนา กรกฏาคม จนแมงเม่าตาตี่ปีกหัก ร่วงผล่อยหล่นลงพื้นเต็มไปหมด แต่จีนก็ปล่อยให้เจ้ามือตาน้ำข้าวเล่นให้เพลิน ด้วยการปล่อยให้หล่นถึงพื้น และจีนก็ซื้อกลับ ส่วนเงินกองทุนของเจ้ามือตาน้ำข้าว รวมทั้งกำไรที่รวยมาจากเด็ดปีกแมงเม่าตาตี่ เจ้ามือตาน้ำข้าวเตรียมโอนกลับ บ้าน แต่จีนบอกรอแป๊บนึง อย่าเพิ่งใจร้อน รีบโอนกลับ ขอเราตรวจสอบก่อนว่า ทำผิดกฏอะไรบ้างหรือเปล่า ทำได้ไม่ไม่ใช่หรือ ก็ดันไปเปิดบ่อนเต๋าถ่วงที่บ้านคนอื่น โง่หรือฉลาด(วะ) ทุนก้อนใหญ่ เอาออกมาไม่ได้ ตลาดอื่นๆ ก็ค่อยๆร่วง ชาวบ้านนึกว่าร่วงเรื่องกรีซ ก็เพราะสื่อย้อมสีกับกองทุนตาน้ำข้าว มันบอกอย่างนั้น ก็เลยเชื่อกันอย่างนั้น…นี่การตรวจสอบจะนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้…. สื่อฟอกย้อม เรื่องนี้ ไม่ออกข่าวเลยนะ อเมริกาบอก โลกนี้หมุนด้วยน้ำมัน และมันต้องเป็นน้ำมัน ที่ค้าขายกันด้วยดอลล่าร์ (เปโตรดอลล่าร์) เท่านั้น โลกถึงจะหมุน วันนี้ จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ เปโตรหยวน หรือเปโตรรูเบิล ก็หมุนโลกได้เหมือนกัน อเมริกาบอก ระบบการเงินในโลก ต้องคุมด้วยระบบธนาคารกลางของอเมริกา จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ ถ้าเราสร้างระบบที่พวกเราเห็นพ้องกันว่ามันยุติธรรมได้ และตอนนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังค้าขายกันด้วยการแลกเปลี่ยนเงินสกุลของพวกเขา ตามค่าของเงินที่พวกเขาตกลงกันเอง อ้าว พวกเอ็งตกลงกันเองได้ พวกผมก็ตกลงกันได้เหมือนกัน มีปัญหาไหม อเมริกากับพวกสร้าง World Bank, IMF มาเป็นกลไกด้านการเงิน คุมโลกจนกระดิกแทบไม่ออก วันนี้ จีนกับรัสเซียและพวกสร้าง AIIB ขึ้นมาเป็นทางเลือก อเมริกาสร้างใอ้ 3 หมาไน เป็นตัววัดเครดิตเรตติ้งของธุรกิจ ของประเทศต่างๆ ตามหลักเกณท์ที่มีผู้ค้านมากมาย ว่าไม่เป็นธรรม วันนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังสร้างบริษัทวัดเครดิตเช่นนั้นเหมือนกัน และบอกว่าเป็นธรรมกว่า เราจะได้ยินเรื่องทำนองนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริง มันควรจะเป็นเรื่องน่ายินดี ที่มีการเพิ่มทางเลือกให้แก่มนุษยชาติ แต่ดูเหมือนอเมริกาไม่ยินดี นอกจากไม่ยินดีแล้ว อเมริกายังแสดงอาการ ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วยว่า อเมริกาไม่พอใจอย่างยิ่ง อเมริกามองว่า การที่อีกฝ่าย และมนุษยชาติ มีทางเลือก มันเป็นการคุกคาม การเป็นผู้ครอบครองโลกใบนี้แต่ผู้เดียวของอเมริกา( America World Dominence) และ อเมริกาเท่านั้นนะ ที่จะเป็นผู้กำหนดชะตาของโลก มันต้องเป็นไปตามเส้นทาง วิธีการ ระบบ ที่อเมริกาเลือก และเห็นชอบสิ เข้าใจไหม และเพราะอเมริกา มีแนวคิด และแนวปฏิบัติเข่นนี้ โลกนี้ถึงได้ยุ่งเหยิงอย่างไม่ควรจะเป็น เมื่อใดที่เรื่องอะไร ที่ไหน ที่ไม่เป็นไปตามแนวที่อเมริกาเห็นชอบ หรือเมื่ออเมริกาอยากได้สมบัติของเขา ประเทศเหล่านั้นก็ถูกสื่อที่เป็นมือตีนของอเมริกา ฟอกย้อมให้เป็นคนเลว เป็นเผด็จการ เป็นผู้ร้าย เป็นโจร เมื่อสื่อย้อมจนได้ที่ อเมริกาก็ยาตราใช้อำนาจของอาวุธของตัวเองเข้าไปตัดสิน และประเทศเหล่านั้น ก็ถึงแก่การกาลวิบัติ ฉิบหาย จนถึงสิ้นชาติ โลกนี้จึงอยู่ในกำมือของอเมริกา ที่ใช้มาตรฐานของตน ที่มีหลายระดับ หลายแบบ ตามสันดานจิ๊กโก๋เป็นเครื่องตัดสิน (2) แดนสยามของสมันน้อย กำลังถูกอเมริกาจับตามองอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่สมันน้อยเริ่มไม่ว่าง่าย เมื่อสมันน้อยทนมีรัฐบาลโคตรโกง ไม่ไหว ออกมาขับไล่ อเมริกายื่นหน้ามาถาม ไล่เขาทำไม เขามาจากการเลือกตั้ง เสือกไหม เสือกสิ ในความเห็นของผม ทำไมเอ็งต้องมาออกความเห็นเรื่องบ้านผมทุกเรื่อง วันนี้แดนสยาม มีทหารเป็นผู้ใช้อำนาจในการบริหาร โดยยังไม่มีการลือกตั้ง อเมริกาจะลงแดงตายเสียให้ได้ เมื่อไหร่ ไทยแลนด์จะมีการเลือกตั้ง อเมริการับไม่ได้กับการปฏิวัติ รับไม่ได้กับการไม่เลือกตั้ง รับไม่ได้กับการไม่เป็นประชาธิปไตย อเมริกาไม่ชอบ ไม่ชอบ และไม่ชอบ ทำไมไม่ลงไปดื้นเร่าๆกลิ้งกับพื้น ตอนด่าไทยแลนด์เลยละ (วะ) จะได้สมกับเป็นชาติมหาอำนาจใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก Wall Street Journal ลงบทความ เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคมนี้ เขียนโดย นาย Desmond Dalton ซึ่งเป็นนายทหารอเมริกัน ที่เกษียณแล้ว และเคยเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอเมริกาในประเทศไทย บทความนั้นชื่อว่า ” Saving America’s Ties With Thailand” หลายท่านคงเห็นแล้ว และเข้าใจว่าสื่อไทยก็น่าจะลงแล้ว แต่ผมมีมุมมองของผม ที่อาจจะต่างไปบ้าง บทความดังกล่าว สรุปว่า อเมริกาไม่พอใจไทย ตั้งแต่มีการปฏิวัติเมื่อปี ค.ศ.2014 (ก็ปฏิวัติของลุงตู่นั่นแหละ) และความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับไทย ก็เสื่อมลงมากมายอย่างน่าใจหาย อเมริกาหันหลังให้กับรัฐบาลทหาร อย่างไม่ไว้หน้า แถมขู่ให้ไทยรีบมีการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้น สัมพันธ์อเมริกาไทยก็จะยิ่งเสื่อมลงไปอีกเรื่อยๆ (จะให้เสื่อมลงถึงไหน นี่ยังไม่ถึงดินหรือไง สงสัยอยากได้สัมพันธ์แบบใต้ดิน แบบนั้น ต้องไปแถวประเทศที่ถนัดแบกถาด ฮา) คุณทหารอดีตที่ปรึกษา บอกว่า การที่อเมริกาปฏิบัติต่อไทยเช่นนี้ ทำให้อเมริกาเสียโอกาสในไทยอย่างยิ่ง และทำให้นโยบายของรัฐบาลโอบามา ที่คิดจะมาถ่วงดุลอำนาจ ในเอเซียแปซิฟิกจะกลายเป็นแค่ราคาคุย ไม่ใช่ว่า อเมริกาควรจะหลับหู หลับตา กับสิ่งที่ไทยทำ แต่เพื่อรักษาโอกาสของอเมริกา อเมริกาก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่สร้างศัตรูกับไทย ด้วยการด่าว่าทหารไทยอย่างเอิกเกริก ไปพูด (ด่า) กันเงียบๆก็ได้นะ แถมการที่อเมริกาตัดงบอาวุธ ตัดงบการอบรม สาระพัดกับไทย กลายเป็นการผลักให้ไทยหันไปสร้างสัมพันธ์กับชาติอื่น เช่นจีนแทน… ….และไทย ก็เลยปิดประตูทางเข้า ที่อเมริกาเคยเข้ามาใช้ไทยอย่างอิสระ สะดวกสบายไปเรียบร้อย และจากการตัดสินใจซื้ออาวุธล่าสุดของไทย แสดงให้เห็นว่า ไทยไม่คิดจะพึ่งพาอเมริกาด้านอาวุธเพียงรายเดียว นี่เป็นก้าวที่พลาดอย่างยิ่งของอเมริกา แม้ไทยจะเป็นเพียงประเทศขนาดกลาง มีพลเมือง ประมาณ 70 ล้านคน มีเศรษฐกิจเพียงอันดับที่ 22 ของโลก … แต่ไทย มีความหมายในเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่งกับอเมริกา …… ….เส้นทางจากไทย เป็นเส้นทางเดียว ที่กองทัพอเมริกันเชื่อถือ ที่จะใช้เป็นจุดผ่านเข้าไปสู่แผ่นดินใหญ่ของเอเซีย… …It offers U.S forces the only reliable access point to mainland Asia… นอกจากนี้ อุตสาหกรรมด้านการผลิตอาวุธของอเมริกา ได้รับการอุดหนุนจากงบประมาณด้านความมั่นคงก้อนใหญ่ ของไทยทุกปี บทความที่เหลือ ก็เป็นการสรรเสริญ ถึงความเก่งกล้าสามารถด้านการทหารของไทย รวมทั้งด้านการเป็นผู้นำในภูมิภาคของไทย พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ ให้อเมริกากลับมาเจรจาโดยใช้คำหวานกับไทยเสียใหม่ ให้ไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย และเพื่อที่อเมริกาจะได้ใช้ประโยชน์จากการมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันให้มากที่สุด…โดยทำผ่านการพูดคุยกับผู้นำทหาร นักวิชาการ และราษฎรที่มีชื่อเสียง….อืม.. พอเห็นไหมครับ ว่าบทความนี้มันสื่ออะไรกับเราบ้าง มันไม่มีส่วนไหนเลย ที่แสดงถึงความเข้าใจ และเห็นใจประเทศไทย มันมีแต่ว่า เขาจะใช้ประโยชน์จากเราได้อย่างไรบ้าง และจะ “ทำอย่างไร” ที่จะกลับมาจิกหัวเรา ได้อย่างเดิม บทความนี้ เป็นการโยนหินถามทางที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะ คำแนะนำ ว่า อเมริกาควร “ทำอย่างไร” เพื่อจะกลับมา อเมริกา น่าจะรู้ตัวแล้วว่า อเมริกากำลังเดินหมากผิดจนน่าโขกหัวตัวเอง ในยามที่โลกแบ่งชัดเป็น 2 ขั้ว เมื่อจีนและรัสเซียอยู่คนละขั้วกับอเมริกา แต่อเมริกาดันถีบหมากชื่อไทยแลนด์ กระเด็นออกไปนอกกระดานของอเมริกา และก็เป็นการถีบทิ้งอย่างเอิกเกริก เล่นงานกันทุกทาง ไม่ว่าจะโดยแสดงด้วยกริยา อาการ หรือการแสดงด้วยวาจา การด่า การเขียน ทั้งทางตรง ทางอ้อม แม้กระทั่งในบทความของถังขยะความคิด ไม่ว่าถังไหน เมื่อพูดถึงอเมริกาและพวก จะไม่ปรากฏชื่อไทยแลนด์ แดนสยามของสมันน้อยแม้แต่ครั้งเดียว คบกันมา กว่า 70 ปี บทจะถีบทิ้ง ก็ไม่เหลือใย เหลือหน้ากันไว้ อย่างนี้จะกลับมาเป็นเพื่อนกันใหม่ จะให้มองกันติดสนิทใจ จะใช้กาวยี่ห้อไหนดี(วะ) อเมริกา กำลังทดสอบไทย ตามสันดานจิ๊กโก๋ปากซอย ด้วยการบีบคั้นทุกรูปแบบ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาใช้ hard power (อาวุธ) อเมริกาจึงใช้ soft power (อำนาจที่ไม่ต้องใช้อาวุธ เช่น การคว่ำบาตร การกีดกัน การระงับ โดยอ้างว่าไม่ได้มาตรฐานการ และใช้มากที่สุดคือ ใช้สื่อโจมตี) เราจึงได้เห็นตั้งแต่ การโจมตีเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ การเลื่อนการเลือกตั้ง เรื่องการไม่มีมนุษยธรรม ตั้งแต่โรฮิงญา มาจนถึงอุยกูร์ การที่บริษักการบินไทยไม่ได้มาตรฐาน เรื่องส่งออกอาหารไม่ผ่านมาตรฐาน ใช้แรงงานผิดมาตรฐาน ข่าวเรื่องอียู คว่ำบาตรไทย การจ่าหน้าซองผิด ฯลฯ ยังจะมีสาระพัด ตะหวักตะบวยเลวไปกว่านี้อีกมากมาย ที่มันจะสรรหา ยกขึ้นตามมาอีก การก่อกวนในรูปแบบต่างๆ ก็ยังจะเกิดขึ้นอีก และอาจจะรุนแรงขึ้น เป้าหมายก็เพื่อสั่นคลอนเรา พยายามทุกอย่างให้สมันน้อยปอดแหก จะได้ไม่กล้า แหกคอก มาถึงวันนี้ วันที่ต่างก็เริ่มเห็นชัดแล้ว ว่าอะไรคอยอยู่ข้างหน้า อเมริกา คิดตกหรือยัง ว่า จะตบหน้าเพื่อนเก่า 70 ปีต่อไปอีก โทษฐานคิดแหกคอก หรือ อเมริกาจะทำไม่รู้ไม่ชี้ เดินกลับมา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะชักสำนึกได้ว่า ถ้าจะใช้ไอ้พวกลูกกระเป๋ง มาแบกถาดถือปืน อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่คิด จิ๊กโก๋ทำได้ไหม ทำได้สบายมาก ถ้าจำเป็นจริงๆ อเมริกาก็หาวิธีกลับเข้ามาตบหลังลูบหัวไทยได้ ถ้าเดินเข้ามาตรงๆไม่ได้ หนอนในบ้าน ที่ยังเห็นอเมริกาเป็นพ่อ ยังมีอีกแยะ คงหาทางให้ สมันน้อยเดินจ๋อยๆกลับเข้าคอกเอง โดยนึกว่าอเมริกาไม่เกี่ยว แล้วเราจะว่ายังไงครับ…. ตอนนี้ ลุงตู่กำลังทำหน้าที่เป็นกัปตัน พาเรือใหญ่ขนาดกลาง ขนคนประมาณ 70 ล้านคน มุ่งหน้าไปตามลำน้ำใหญ่ สายน้ำเริ่มเชี่ยวขึ้นทุกที แถมข้างหน้า มีวังน้ำวนเห็นอยู่ชัดๆ เรือจะผ่านวังน้ำวน ไปได้หรือเปล่ายังไม่รู้ ลุงตู่จะคัดท้าย นำเรือขนาดกลางนี้ ไปรอดไหม ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคัด ท้ายของลุงตู่เอง แต่อีกส่วน ก็ขึ้นอยู่กับผู้โดยสาร 70 ล้านคนนั่นด้วย จะเอาอย่างไรล่ะ จะให้กัปตันพาเรือเดินหน้า หรือเปลี่ยนใจ ไม่ไปต่อแล้ว กลัวน้ำวน กลัวโจรปล้น กลัวจิ๊กโก๋ขู่ ให้กัปตันทิ้งสมอ จอดมันริมฝั่งนั่นแหละ ใครจะมาเอาเรือก็เอาไป แล้วจะจอดฝั่งไหนล่ะ ฝั่งที่คุ้นๆกันมา 70 ปี เดี๋ยวดี เดียวด่า ทำเหมือนสมันน้อยเป็นขี้ข้า หรือจะจอดอีกฝั่ง จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่เท่าที่ดู เขาว่าเป็นประเภทไม่ชอบเป็นขี้ข้าใคร แต่จะทิ้งสมอจอดเรือ ยามน้ำเชี่ยว ก็ใช่ว่าจะทำง่าย เผลอๆ ล่มตอนจอดนี่แหละ สมันน้อย ได้เป็นสมันน้ำ ลอยคอกันเป็นแถว เออ..แล้ว อยู่ๆ จะจอดเรือ ยกประเทศให้เขาเลยงั้นหรือ จะมีคนไม่ยอม หรือ จะมีคนอยากให้เขาจูงกลับเข้าคอก ผมตอบไม่ได้ รู้แต่ว่า หนอนในที่ชอบอยู่คอก และชอบถูกจูงยังมีอยู่ แต่ถ้าเราจะเลือกเดินหน้า ผู้โดยสารก็ต้องทำความเข้าใจ และปรับชีวิตตัวเองบ้าง ต้องรับรู้ว่า กำลังนั่งเรือไปในทางน้ำเชี่ยว ก็ต้องนั่งให้มีสติ เตรียมอุปกรณ์ทั้งด้านส่วนตัวและ ด้านสติปัญญาให้พร้อม เริ่มฝึกตัวเองให้มีวินัย ช่วยเหลือตัวเองได้ นั่งเรือไป ไม่ใช่วีดว้าย กระตู้วู้ ไปตลอดทาง อะไรนิดก็โวย อะไรหน่อยก็ด่า ฟังอะไรมาไม่ได้ยังไม่ทันกรอง ก็แชร์กัน ไลน์กัน เหมือนคนมีแต่นิ้ว แต่ไม่มีสมอง เป็นมนุษย์พันธ์ใหม่ และอย่าเป็นประเภทชอบเอามือราน้ำ แบบนี้ ต่อให้กัปตันเก่งยังไง เรือก็อาจล่ม… บ้านเมืองมาถึงจุดสำคัญ ตื่นกันได้แล้วครับ ลดเรื่องไร้สาระลงเสียบ้าง เอาใจใส่บ้านเมืองกันหน่อย อย่างที่ผมเคยบอก ความเข้าใจและเห็นพ้องกัน ระหว่างผู้บริหารบ้านเมืองกับพลเมือง เป็นความมั่นคงของชาติอย่างหนึ่ง ปิดทางไม่ให้ศัตรูทั้งภายนอกและภายในเข้ามาทำร้าย และทำลายบ้านเมืองเราได้ เราจะได้ช่วยกัน พาเรือผ่านน้ำเชี่ยวไปได้ เป็นสิ่งที่เราทำให้บ้านเมืองของเราได้นะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 29 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 855 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.27

    อาชญากรรมที่เรียกว่า "ฉ้อโกง" นั้น มิได้เป็นเพียงการสูญเสียทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในสังคม และสร้างบาดแผลทางกฎหมายที่ลึกซึ้ง คำว่า "ฉ้อโกง" ในทางกฎหมายอาญาของไทยนั้น ครอบคลุมการกระทำที่ผู้กระทำมีเจตนาทุจริต โดยใช้อุบายหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และการหลอกลวงนั้นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อและยอมส่งมอบ ทรัพย์สินให้แก่ผู้กระทำความผิดหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงได้รับผลกระทบทางทรัพย์สินที่เป็นโทษแก่ตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นฐานความผิดหลักสำหรับคดีฉ้อโกงธรรมดา โทษทางกฎหมายสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงนั้น กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของคดีฉ้อโกงมักปรากฏเมื่อเข้าข่ายความผิดที่หนักขึ้น เช่น การฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 ซึ่งเป็นการหลอกลวงประชาชนตั้งแต่สิบคนขึ้นไป หรือเป็นการหลอกลวงผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะที่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอย่างกว้างขวาง โดยมีเจตนาให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดและมอบทรัพย์สินให้ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนี้มีโทษรุนแรงกว่า คือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเมื่อการกระทำความผิดนั้นเกิดขึ้นในรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น มีการจัดตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรม หรือมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการหลอกลวงเป็นวงกว้าง เช่น คดี Call Center หรือ Romance Scam จะมีการใช้กฎหมายเฉพาะเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มโทษ เช่น พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงโทษผู้กระทำความผิดที่ใช้เครื่องมือดิจิทัลในการก่ออาชญากรรมอย่างหนักหน่วงขึ้น เพื่อเป็นการป้องปราม การดำเนินการทางกฎหมายในคดีฉ้อโกงจึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งพยานหลักฐานทางเอกสาร พยานบุคคล และพยานหลักฐานทางดิจิทัล เพื่อพิสูจน์ "เจตนาทุจริต" ของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของความผิดฐานนี้ การรับรู้และเข้าใจถึงขอบเขตของกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดีสำหรับประชาชน และเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับเจ้าหน้าที่ในการยุติภัยอาชญากรรมทางการเงิน

    การดำเนินคดีฉ้อโกงตามกฎหมายนั้น เริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายจะต้องเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งการแจ้งความนี้จะต้องกระทำภายในอายุความที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีฉ้อโกงธรรมดาซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น อายุความคือสามเดือนนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจะสิ้นสุดลงทันที แต่สำหรับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนั้น ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ไม่อาจยอมความได้ และมีอายุความที่ยาวนานกว่าคือสิบปีนับแต่วันกระทำความผิด การแยกแยะประเภทของความผิดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียหาย เมื่อมีการแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และหากพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล การพิจารณาคดีในศาลจะเน้นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ "การหลอกลวง" จริง และการหลอกลวงนั้นได้ทำให้ผู้เสียหาย "หลงเชื่อ" จนนำมาซึ่งการ "ส่งมอบทรัพย์สิน" หรือ "การได้รับผลกระทบทางทรัพย์สิน" อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนควรตระหนักคือ ในหลายกรณีที่ผู้เสียหายต้องการทรัพย์สินคืน การฟ้องคดีอาญาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากคดีอาญามุ่งเน้นที่การลงโทษผู้กระทำความผิดทางกายภาพ (จำคุก) และทางการเงิน (ปรับ) เท่านั้น ดังนั้นผู้เสียหายจึงต้องใช้สิทธิทางแพ่งควบคู่กันไป โดยอาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้กระทำความผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หรือแยกไปฟ้องเป็นคดีแพ่งต่างหากเพื่อเรียกทรัพย์สินหรือค่าเสียหายคืน การดำเนินการทางแพ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการบังคับคดี การติดตามทรัพย์สินที่ถูกฉ้อโกงคืนมานั้น มักเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการโอนย้ายทรัพย์สินไปยังบุคคลอื่นหรือต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการมีที่ปรึกษาทางกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถเข้าถึงความยุติธรรมและได้รับความเสียหายชดเชยอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

    ท้ายที่สุดแล้ว ภัยฉ้อโกงที่แฝงตัวอยู่ในโลกปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบดั้งเดิมหรือรูปแบบดิจิทัลก็ตาม เป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับระบบกฎหมายไทยในการปรับตัวและตอบสนองต่อกลโกงที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง การป้องกันที่ดีที่สุดมิใช่เพียงการจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดเท่านั้น แต่คือการสร้างภูมิคุ้มกันทางกฎหมายให้กับประชาชน การตระหนักว่ากฎหมายฉ้อโกงมิใช่แค่เรื่องของ "การหลอกลวง" แต่คือเรื่องของ "เจตนาทุจริต" ที่มุ่งหมายเอาเปรียบผู้อื่นอย่างไม่ชอบธรรม และการเข้าใจถึงสิทธิและอายุความในการดำเนินคดี เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องยึดถือไว้เสมอ หากคุณตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง สิ่งสำคัญที่สุดคือการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง การโอนเงิน หรือการติดต่อสื่อสาร และรีบดำเนินการทางกฎหมายทันที อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนพ้นอายุความ การใช้สิทธิเรียกร้องความยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว จะเป็นหนทางเดียวที่จะนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการลงโทษและเปิดโอกาสในการเรียกทรัพย์สินคืนมา ซึ่งเป็นการยืนยันหลักการที่ว่า ไม่มีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจใดที่จะอยู่เหนือกฎหมายได้ ความเชี่ยวชาญในการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและเด็ดขาดเท่านั้น จึงจะสามารถยุติวงจรของการฉ้อโกงและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและความเชื่อมั่นในสังคมให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง
    บทความกฎหมาย EP.27 อาชญากรรมที่เรียกว่า "ฉ้อโกง" นั้น มิได้เป็นเพียงการสูญเสียทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในสังคม และสร้างบาดแผลทางกฎหมายที่ลึกซึ้ง คำว่า "ฉ้อโกง" ในทางกฎหมายอาญาของไทยนั้น ครอบคลุมการกระทำที่ผู้กระทำมีเจตนาทุจริต โดยใช้อุบายหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และการหลอกลวงนั้นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อและยอมส่งมอบ ทรัพย์สินให้แก่ผู้กระทำความผิดหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงได้รับผลกระทบทางทรัพย์สินที่เป็นโทษแก่ตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นฐานความผิดหลักสำหรับคดีฉ้อโกงธรรมดา โทษทางกฎหมายสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงนั้น กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของคดีฉ้อโกงมักปรากฏเมื่อเข้าข่ายความผิดที่หนักขึ้น เช่น การฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 ซึ่งเป็นการหลอกลวงประชาชนตั้งแต่สิบคนขึ้นไป หรือเป็นการหลอกลวงผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะที่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอย่างกว้างขวาง โดยมีเจตนาให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดและมอบทรัพย์สินให้ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนี้มีโทษรุนแรงกว่า คือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเมื่อการกระทำความผิดนั้นเกิดขึ้นในรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น มีการจัดตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรม หรือมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการหลอกลวงเป็นวงกว้าง เช่น คดี Call Center หรือ Romance Scam จะมีการใช้กฎหมายเฉพาะเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มโทษ เช่น พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงโทษผู้กระทำความผิดที่ใช้เครื่องมือดิจิทัลในการก่ออาชญากรรมอย่างหนักหน่วงขึ้น เพื่อเป็นการป้องปราม การดำเนินการทางกฎหมายในคดีฉ้อโกงจึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งพยานหลักฐานทางเอกสาร พยานบุคคล และพยานหลักฐานทางดิจิทัล เพื่อพิสูจน์ "เจตนาทุจริต" ของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของความผิดฐานนี้ การรับรู้และเข้าใจถึงขอบเขตของกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดีสำหรับประชาชน และเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับเจ้าหน้าที่ในการยุติภัยอาชญากรรมทางการเงิน การดำเนินคดีฉ้อโกงตามกฎหมายนั้น เริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายจะต้องเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งการแจ้งความนี้จะต้องกระทำภายในอายุความที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีฉ้อโกงธรรมดาซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น อายุความคือสามเดือนนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจะสิ้นสุดลงทันที แต่สำหรับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนั้น ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ไม่อาจยอมความได้ และมีอายุความที่ยาวนานกว่าคือสิบปีนับแต่วันกระทำความผิด การแยกแยะประเภทของความผิดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียหาย เมื่อมีการแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และหากพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล การพิจารณาคดีในศาลจะเน้นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ "การหลอกลวง" จริง และการหลอกลวงนั้นได้ทำให้ผู้เสียหาย "หลงเชื่อ" จนนำมาซึ่งการ "ส่งมอบทรัพย์สิน" หรือ "การได้รับผลกระทบทางทรัพย์สิน" อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนควรตระหนักคือ ในหลายกรณีที่ผู้เสียหายต้องการทรัพย์สินคืน การฟ้องคดีอาญาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากคดีอาญามุ่งเน้นที่การลงโทษผู้กระทำความผิดทางกายภาพ (จำคุก) และทางการเงิน (ปรับ) เท่านั้น ดังนั้นผู้เสียหายจึงต้องใช้สิทธิทางแพ่งควบคู่กันไป โดยอาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้กระทำความผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หรือแยกไปฟ้องเป็นคดีแพ่งต่างหากเพื่อเรียกทรัพย์สินหรือค่าเสียหายคืน การดำเนินการทางแพ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการบังคับคดี การติดตามทรัพย์สินที่ถูกฉ้อโกงคืนมานั้น มักเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการโอนย้ายทรัพย์สินไปยังบุคคลอื่นหรือต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการมีที่ปรึกษาทางกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถเข้าถึงความยุติธรรมและได้รับความเสียหายชดเชยอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ท้ายที่สุดแล้ว ภัยฉ้อโกงที่แฝงตัวอยู่ในโลกปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบดั้งเดิมหรือรูปแบบดิจิทัลก็ตาม เป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับระบบกฎหมายไทยในการปรับตัวและตอบสนองต่อกลโกงที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง การป้องกันที่ดีที่สุดมิใช่เพียงการจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดเท่านั้น แต่คือการสร้างภูมิคุ้มกันทางกฎหมายให้กับประชาชน การตระหนักว่ากฎหมายฉ้อโกงมิใช่แค่เรื่องของ "การหลอกลวง" แต่คือเรื่องของ "เจตนาทุจริต" ที่มุ่งหมายเอาเปรียบผู้อื่นอย่างไม่ชอบธรรม และการเข้าใจถึงสิทธิและอายุความในการดำเนินคดี เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องยึดถือไว้เสมอ หากคุณตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง สิ่งสำคัญที่สุดคือการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง การโอนเงิน หรือการติดต่อสื่อสาร และรีบดำเนินการทางกฎหมายทันที อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนพ้นอายุความ การใช้สิทธิเรียกร้องความยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว จะเป็นหนทางเดียวที่จะนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการลงโทษและเปิดโอกาสในการเรียกทรัพย์สินคืนมา ซึ่งเป็นการยืนยันหลักการที่ว่า ไม่มีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจใดที่จะอยู่เหนือกฎหมายได้ ความเชี่ยวชาญในการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและเด็ดขาดเท่านั้น จึงจะสามารถยุติวงจรของการฉ้อโกงและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและความเชื่อมั่นในสังคมให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง
    0 Comments 0 Shares 543 Views 0 Reviews
  • Scameter เวอร์ชันใหม่ในฮ่องกง ใช้ AI ปราบมิจฉาชีพออนไลน์ได้ทันใจ

    ในยุคที่มิจฉาชีพออนไลน์แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ฮ่องกงได้อัปเกรดแอป “Scameter” ให้กลายเป็นเครื่องมือปราบกลโกงยุคดิจิทัลที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ด้วยการเสริมเทคโนโลยี AI เข้าไปในระบบ

    Scameter เดิมทีใช้ตรวจสอบเบอร์โทรและลิงก์ต้องสงสัย แต่เวอร์ชันใหม่สามารถวิเคราะห์ภาพหน้าจอจากแอปแชต เช่น WhatsApp, Facebook, Instagram และ Telegram ได้ทันที โดยใช้เทคโนโลยีอย่าง agentic AI, computer vision และ NLP เพื่อแยกแยะข้อความหลอกลวงจากของจริง

    ตำรวจฮ่องกงเผยว่า แม้จำนวนคดีหลอกลวงจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในปี 2025 แต่ยอดความเสียหายยังสูงถึง 726 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกลโกงที่พบบ่อยคือการขายบัตรคอนเสิร์ตปลอม, งานคลิกฟาร์มหลอกเงิน และการลงทุนปลอมในหุ้น

    นอกจากนี้ แอปยังสามารถอัปเดตฐานข้อมูลอัตโนมัติจากรายงานของผู้ใช้ และจัดอันดับกลโกงยอดฮิตแบบเรียลไทม์ ทำให้ประชาชนรู้ทันและหลีกเลี่ยงได้ง่ายขึ้น

    ที่น่าสนใจคือ ธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ก็ร่วมมือกับตำรวจในการพัฒนาแพลตฟอร์มแชร์ข้อมูลระหว่างธนาคาร เพื่อป้องกันการฟอกเงินและการโอนเงินไปยังบัญชีต้องสงสัย โดยมีแผนให้ธนาคาร 28 แห่งเข้าร่วมครอบคลุมกว่า 90% ของบัญชีในประเทศ

    แอป Scameter เวอร์ชันใหม่ใช้ AI วิเคราะห์กลโกงบนโซเชียลมีเดีย
    รองรับการรายงานภาพหน้าจอจาก WhatsApp, Facebook, Instagram และ Telegram
    ใช้ agentic AI, computer vision และ NLP ในการตรวจจับข้อความหลอกลวง
    อัปเดตฐานข้อมูลอัตโนมัติจากรายงานของผู้ใช้

    ตำรวจฮ่องกงเผยสถิติการหลอกลวงในปี 2025
    จำนวนคดีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 32,142 คดี
    ความเสียหายรวมกว่า 726 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    กลโกงยอดฮิต: บัตรคอนเสิร์ตปลอม, คลิกฟาร์ม, หุ้นปลอม

    ธนาคารกลางฮ่องกงร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มแชร์ข้อมูล
    ใช้ตรวจจับบัญชีต้องสงสัยและป้องกันการฟอกเงิน
    มีแผนให้ธนาคาร 28 แห่งเข้าร่วม ครอบคลุมกว่า 90% ของบัญชี

    กลโกงออนไลน์เปลี่ยนรูปแบบตามเทรนด์และเหตุการณ์
    มิจฉาชีพใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงเหยื่อ
    กลโกงใหม่ๆ เช่น งานคลิกฟาร์มและการลงทุนปลอมกำลังระบาด

    ผู้ใช้ที่ไม่รู้เท่าทันอาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
    ขาดการตรวจสอบข้อมูลก่อนโอนเงินหรือซื้อสินค้า
    การไม่รายงานเหตุการณ์ทำให้กลโกงแพร่กระจายต่อไป

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/31/hong-kongs-scameter-app-gets-upgrade-ai-tools-to-tackle-social-media-scams
    👮‍♀️ Scameter เวอร์ชันใหม่ในฮ่องกง ใช้ AI ปราบมิจฉาชีพออนไลน์ได้ทันใจ ในยุคที่มิจฉาชีพออนไลน์แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ฮ่องกงได้อัปเกรดแอป “Scameter” ให้กลายเป็นเครื่องมือปราบกลโกงยุคดิจิทัลที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ด้วยการเสริมเทคโนโลยี AI เข้าไปในระบบ Scameter เดิมทีใช้ตรวจสอบเบอร์โทรและลิงก์ต้องสงสัย แต่เวอร์ชันใหม่สามารถวิเคราะห์ภาพหน้าจอจากแอปแชต เช่น WhatsApp, Facebook, Instagram และ Telegram ได้ทันที โดยใช้เทคโนโลยีอย่าง agentic AI, computer vision และ NLP เพื่อแยกแยะข้อความหลอกลวงจากของจริง ตำรวจฮ่องกงเผยว่า แม้จำนวนคดีหลอกลวงจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในปี 2025 แต่ยอดความเสียหายยังสูงถึง 726 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกลโกงที่พบบ่อยคือการขายบัตรคอนเสิร์ตปลอม, งานคลิกฟาร์มหลอกเงิน และการลงทุนปลอมในหุ้น นอกจากนี้ แอปยังสามารถอัปเดตฐานข้อมูลอัตโนมัติจากรายงานของผู้ใช้ และจัดอันดับกลโกงยอดฮิตแบบเรียลไทม์ ทำให้ประชาชนรู้ทันและหลีกเลี่ยงได้ง่ายขึ้น ที่น่าสนใจคือ ธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) ก็ร่วมมือกับตำรวจในการพัฒนาแพลตฟอร์มแชร์ข้อมูลระหว่างธนาคาร เพื่อป้องกันการฟอกเงินและการโอนเงินไปยังบัญชีต้องสงสัย โดยมีแผนให้ธนาคาร 28 แห่งเข้าร่วมครอบคลุมกว่า 90% ของบัญชีในประเทศ ✅ แอป Scameter เวอร์ชันใหม่ใช้ AI วิเคราะห์กลโกงบนโซเชียลมีเดีย ➡️ รองรับการรายงานภาพหน้าจอจาก WhatsApp, Facebook, Instagram และ Telegram ➡️ ใช้ agentic AI, computer vision และ NLP ในการตรวจจับข้อความหลอกลวง ➡️ อัปเดตฐานข้อมูลอัตโนมัติจากรายงานของผู้ใช้ ✅ ตำรวจฮ่องกงเผยสถิติการหลอกลวงในปี 2025 ➡️ จำนวนคดีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 32,142 คดี ➡️ ความเสียหายรวมกว่า 726 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ➡️ กลโกงยอดฮิต: บัตรคอนเสิร์ตปลอม, คลิกฟาร์ม, หุ้นปลอม ✅ ธนาคารกลางฮ่องกงร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มแชร์ข้อมูล ➡️ ใช้ตรวจจับบัญชีต้องสงสัยและป้องกันการฟอกเงิน ➡️ มีแผนให้ธนาคาร 28 แห่งเข้าร่วม ครอบคลุมกว่า 90% ของบัญชี ‼️ กลโกงออนไลน์เปลี่ยนรูปแบบตามเทรนด์และเหตุการณ์ ⛔ มิจฉาชีพใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการเข้าถึงเหยื่อ ⛔ กลโกงใหม่ๆ เช่น งานคลิกฟาร์มและการลงทุนปลอมกำลังระบาด ‼️ ผู้ใช้ที่ไม่รู้เท่าทันอาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย ⛔ ขาดการตรวจสอบข้อมูลก่อนโอนเงินหรือซื้อสินค้า ⛔ การไม่รายงานเหตุการณ์ทำให้กลโกงแพร่กระจายต่อไป https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/31/hong-kongs-scameter-app-gets-upgrade-ai-tools-to-tackle-social-media-scams
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Hong Kong’s Scameter app gets upgrade, AI tools to tackle social media scams
    Online employment and investment scams are on the rise, despite police recording a marginal increase in swindling cases.
    0 Comments 0 Shares 326 Views 0 Reviews
  • “แฮกเกอร์แกล้งบอกคุณตายแล้ว: กลโกงใหม่หลอกผู้ใช้ LastPass ให้เปิดเผยรหัสผ่าน”

    ล่าสุดมีกลโกงแปลก ๆ ที่กำลังระบาดในหมู่ผู้ใช้ LastPass ซึ่งเป็นบริการจัดการรหัสผ่านยอดนิยม—แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมมาบอกว่า “คุณเสียชีวิตแล้ว” เพื่อหลอกให้เหยื่อคลิกลิงก์และกรอกรหัสผ่านหลัก!

    ฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่แยบยลมาก เพราะถ้าเราได้รับอีเมลที่บอกว่ามีคนส่งใบมรณบัตรเพื่อขอเข้าถึงบัญชีของเรา เราก็อาจตกใจและรีบตอบกลับทันทีโดยไม่คิดให้รอบคอบ

    อีเมลปลอมพวกนี้มีหัวข้อว่า “Legacy Request Opened (URGENT IF YOU ARE NOT DECEASED)” และมีเนื้อหาที่ดูเหมือนมาจากฝ่ายสนับสนุนของ LastPass พร้อมลิงก์ให้ “ยกเลิกคำขอ” ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นเว็บไซต์ของแฮกเกอร์ที่ใช้ขโมยรหัสผ่านหลักของเรา

    บางกรณีแฮกเกอร์ยังโทรมาหาเหยื่อโดยตรงเพื่อเร่งให้เข้าไปกรอกข้อมูลในเว็บปลอมอีกด้วย—เรียกว่าใช้ทั้ง phishing และ social engineering แบบเต็มรูปแบบ

    กลุ่มที่อยู่เบื้องหลังแคมเปญนี้ชื่อว่า CryptoChameleon ซึ่งเคยโจมตีแพลตฟอร์มคริปโตมาก่อน และตอนนี้หันมาเล่นงานผู้ใช้ LastPass โดยเฉพาะ

    กลโกงใหม่ที่ใช้ข้อความ “คุณเสียชีวิตแล้ว”
    อีเมลปลอมอ้างว่ามีการส่งใบมรณบัตรเพื่อขอเข้าถึงบัญชี LastPass
    มีหัวข้ออีเมลว่า “Legacy Request Opened (URGENT IF YOU ARE NOT DECEASED)”
    มีลิงก์ให้ “ยกเลิกคำขอ” ซึ่งนำไปสู่เว็บไซต์ปลอมเพื่อขโมยรหัสผ่านหลัก

    การใช้เทคนิค social engineering เพื่อหลอกเหยื่อ
    เนื้อหาอีเมลดูเหมือนมาจากฝ่ายสนับสนุนจริง มีข้อมูลปลอมเช่นหมายเลขเคสและชื่อเจ้าหน้าที่
    บางกรณีมีการโทรศัพท์หาผู้ใช้เพื่อเร่งให้เข้าเว็บปลอม
    ใช้จิตวิทยาเพื่อให้เหยื่อตอบสนองทันทีโดยไม่ตรวจสอบ

    คำเตือนจาก LastPass และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย
    LastPass ยืนยันว่าไม่เคยขอรหัสผ่านหลักจากผู้ใช้
    เตือนให้ผู้ใช้ตรวจสอบอีเมลที่น่าสงสัยและไม่คลิกลิงก์โดยไม่แน่ใจ
    แนะนำให้ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) เพื่อป้องกันการเข้าถึงบัญชี

    กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลัง: CryptoChameleon
    เคยโจมตีแพลตฟอร์มคริปโตและใช้ LastPass เป็นส่วนหนึ่งของ phishing kit
    ใช้โฮสต์ที่มีชื่อเสียงด้านการหลบเลี่ยงการตรวจสอบเพื่อสร้างเว็บปลอม
    มีพฤติกรรมซ้ำแบบเดิม เช่น การโทรหาเหยื่อและใช้ข้อมูลปลอม

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ LastPass และบริการจัดการรหัสผ่านอื่น ๆ
    อย่ากรอกรหัสผ่านหลักในเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ของ LastPass โดยตรง
    หากได้รับอีเมลที่ดูน่าสงสัย ให้ตรวจสอบ URL และอย่าคลิกลิงก์ทันที
    ควรเปิดใช้ MFA และตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติมในบัญชี
    หากสงสัยว่าโดน phishing ให้รายงานไปที่ abuse@lastpass.com พร้อมแนบอีเมลหรือภาพหน้าจอ

    https://www.csoonline.com/article/4079001/scammers-try-to-trick-lastpass-users-into-giving-up-credentials-by-telling-them-theyre-dead-2.html
    🪦 “แฮกเกอร์แกล้งบอกคุณตายแล้ว: กลโกงใหม่หลอกผู้ใช้ LastPass ให้เปิดเผยรหัสผ่าน” ล่าสุดมีกลโกงแปลก ๆ ที่กำลังระบาดในหมู่ผู้ใช้ LastPass ซึ่งเป็นบริการจัดการรหัสผ่านยอดนิยม—แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมมาบอกว่า “คุณเสียชีวิตแล้ว” เพื่อหลอกให้เหยื่อคลิกลิงก์และกรอกรหัสผ่านหลัก! ฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่แยบยลมาก เพราะถ้าเราได้รับอีเมลที่บอกว่ามีคนส่งใบมรณบัตรเพื่อขอเข้าถึงบัญชีของเรา เราก็อาจตกใจและรีบตอบกลับทันทีโดยไม่คิดให้รอบคอบ อีเมลปลอมพวกนี้มีหัวข้อว่า “Legacy Request Opened (URGENT IF YOU ARE NOT DECEASED)” และมีเนื้อหาที่ดูเหมือนมาจากฝ่ายสนับสนุนของ LastPass พร้อมลิงก์ให้ “ยกเลิกคำขอ” ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นเว็บไซต์ของแฮกเกอร์ที่ใช้ขโมยรหัสผ่านหลักของเรา บางกรณีแฮกเกอร์ยังโทรมาหาเหยื่อโดยตรงเพื่อเร่งให้เข้าไปกรอกข้อมูลในเว็บปลอมอีกด้วย—เรียกว่าใช้ทั้ง phishing และ social engineering แบบเต็มรูปแบบ กลุ่มที่อยู่เบื้องหลังแคมเปญนี้ชื่อว่า CryptoChameleon ซึ่งเคยโจมตีแพลตฟอร์มคริปโตมาก่อน และตอนนี้หันมาเล่นงานผู้ใช้ LastPass โดยเฉพาะ ✅ กลโกงใหม่ที่ใช้ข้อความ “คุณเสียชีวิตแล้ว” ➡️ อีเมลปลอมอ้างว่ามีการส่งใบมรณบัตรเพื่อขอเข้าถึงบัญชี LastPass ➡️ มีหัวข้ออีเมลว่า “Legacy Request Opened (URGENT IF YOU ARE NOT DECEASED)” ➡️ มีลิงก์ให้ “ยกเลิกคำขอ” ซึ่งนำไปสู่เว็บไซต์ปลอมเพื่อขโมยรหัสผ่านหลัก ✅ การใช้เทคนิค social engineering เพื่อหลอกเหยื่อ ➡️ เนื้อหาอีเมลดูเหมือนมาจากฝ่ายสนับสนุนจริง มีข้อมูลปลอมเช่นหมายเลขเคสและชื่อเจ้าหน้าที่ ➡️ บางกรณีมีการโทรศัพท์หาผู้ใช้เพื่อเร่งให้เข้าเว็บปลอม ➡️ ใช้จิตวิทยาเพื่อให้เหยื่อตอบสนองทันทีโดยไม่ตรวจสอบ ✅ คำเตือนจาก LastPass และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ➡️ LastPass ยืนยันว่าไม่เคยขอรหัสผ่านหลักจากผู้ใช้ ➡️ เตือนให้ผู้ใช้ตรวจสอบอีเมลที่น่าสงสัยและไม่คลิกลิงก์โดยไม่แน่ใจ ➡️ แนะนำให้ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) เพื่อป้องกันการเข้าถึงบัญชี ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลัง: CryptoChameleon ➡️ เคยโจมตีแพลตฟอร์มคริปโตและใช้ LastPass เป็นส่วนหนึ่งของ phishing kit ➡️ ใช้โฮสต์ที่มีชื่อเสียงด้านการหลบเลี่ยงการตรวจสอบเพื่อสร้างเว็บปลอม ➡️ มีพฤติกรรมซ้ำแบบเดิม เช่น การโทรหาเหยื่อและใช้ข้อมูลปลอม ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ LastPass และบริการจัดการรหัสผ่านอื่น ๆ ⛔ อย่ากรอกรหัสผ่านหลักในเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ของ LastPass โดยตรง ⛔ หากได้รับอีเมลที่ดูน่าสงสัย ให้ตรวจสอบ URL และอย่าคลิกลิงก์ทันที ⛔ ควรเปิดใช้ MFA และตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติมในบัญชี ⛔ หากสงสัยว่าโดน phishing ให้รายงานไปที่ abuse@lastpass.com พร้อมแนบอีเมลหรือภาพหน้าจอ https://www.csoonline.com/article/4079001/scammers-try-to-trick-lastpass-users-into-giving-up-credentials-by-telling-them-theyre-dead-2.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Scammers try to trick LastPass users into giving up credentials by telling them they’re dead
    Oddly worded pitch aimed at the living aims to get victims to click on a malicious link if they think the message isn’t for them.
    0 Comments 0 Shares 269 Views 0 Reviews
  • “Google Messages ยกระดับความปลอดภัย ป้องกันหลอกลวงด้วย 2 ฟีเจอร์ใหม่” — เมื่อข้อความกลายเป็นช่องทางโจมตี Google จึงตอบโต้ด้วยเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด

    ในยุคที่การหลอกลวงผ่านข้อความกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว Google ได้เพิ่มมาตรการป้องกันในแอป Messages ด้วยฟีเจอร์ใหม่ 2 รายการ ได้แก่ “Key Verifier” และ “Scam Link Alerts” เพื่อช่วยให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงผ่านข้อความ RCS และลิงก์อันตราย

    ฟีเจอร์แรก “Key Verifier” ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบตัวตนของคู่สนทนาในแชทแบบตัวต่อตัว โดยการสแกน QR code เพื่อยืนยันว่าอีกฝ่ายเป็นคนจริง ไม่ใช่บัญชีปลอมที่แอบอ้างมา ซึ่งเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับการสนทนาแบบเข้ารหัส

    ฟีเจอร์ที่สอง “Scam Link Alerts” จะตรวจสอบลิงก์ที่ส่งมาในข้อความ หากพบว่าอาจเป็นอันตราย ระบบจะแสดง popup เตือนทันที ช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจก่อนคลิกลิงก์ที่อาจนำไปสู่เว็บไซต์หลอกลวงหรือขโมยข้อมูล

    Google ระบุว่าเกือบ 60% ของผู้คนทั่วโลกเคยเจอการหลอกลวงในปีที่ผ่านมา และการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงทำให้กลโกงดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้จึงเป็นการตอบสนองต่อภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ

    นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่า Google จะขยายฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมในอนาคต เช่น การตรวจจับข้อความปลอมที่ใช้ AI สร้าง หรือการป้องกันการหลอกลวงผ่าน QR code ซึ่งกำลังเป็นช่องทางใหม่ที่ถูกใช้โจมตีผู้ใช้มือถือ

    Google Messages เพิ่มฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ 2 รายการ
    Key Verifier สำหรับตรวจสอบตัวตนในแชทแบบ RCS
    Scam Link Alerts สำหรับเตือนลิงก์อันตรายในข้อความ

    Key Verifier ใช้การสแกน QR code เพื่อยืนยันตัวตน
    ต้องใช้ Android 10 ขึ้นไป
    ทั้งสองฝ่ายต้องสแกน QR code ของกันและกัน

    Scam Link Alerts แสดง popup เตือนเมื่อพบลิงก์น่าสงสัย
    ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานสำหรับผู้ใช้ทุกคน

    Google ระบุว่า 60% ของผู้คนทั่วโลกเคยเจอการหลอกลวงในปีที่ผ่านมา
    การหลอกลวงมีความซับซ้อนมากขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

    Google มีแผนขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติมในอนาคต
    อาจรวมถึงการตรวจจับข้อความปลอมที่สร้างด้วย AI
    การป้องกันการหลอกลวงผ่าน QR code

    https://www.techradar.com/computing/software/google-messages-is-doubling-down-on-scam-prevention-with-two-new-safety-measures-this-is-how-you-can-keep-your-inbox-clean
    📱 “Google Messages ยกระดับความปลอดภัย ป้องกันหลอกลวงด้วย 2 ฟีเจอร์ใหม่” — เมื่อข้อความกลายเป็นช่องทางโจมตี Google จึงตอบโต้ด้วยเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด ในยุคที่การหลอกลวงผ่านข้อความกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว Google ได้เพิ่มมาตรการป้องกันในแอป Messages ด้วยฟีเจอร์ใหม่ 2 รายการ ได้แก่ “Key Verifier” และ “Scam Link Alerts” เพื่อช่วยให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงผ่านข้อความ RCS และลิงก์อันตราย ฟีเจอร์แรก “Key Verifier” ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบตัวตนของคู่สนทนาในแชทแบบตัวต่อตัว โดยการสแกน QR code เพื่อยืนยันว่าอีกฝ่ายเป็นคนจริง ไม่ใช่บัญชีปลอมที่แอบอ้างมา ซึ่งเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับการสนทนาแบบเข้ารหัส ฟีเจอร์ที่สอง “Scam Link Alerts” จะตรวจสอบลิงก์ที่ส่งมาในข้อความ หากพบว่าอาจเป็นอันตราย ระบบจะแสดง popup เตือนทันที ช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจก่อนคลิกลิงก์ที่อาจนำไปสู่เว็บไซต์หลอกลวงหรือขโมยข้อมูล Google ระบุว่าเกือบ 60% ของผู้คนทั่วโลกเคยเจอการหลอกลวงในปีที่ผ่านมา และการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงทำให้กลโกงดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้จึงเป็นการตอบสนองต่อภัยคุกคามที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่า Google จะขยายฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมในอนาคต เช่น การตรวจจับข้อความปลอมที่ใช้ AI สร้าง หรือการป้องกันการหลอกลวงผ่าน QR code ซึ่งกำลังเป็นช่องทางใหม่ที่ถูกใช้โจมตีผู้ใช้มือถือ ✅ Google Messages เพิ่มฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ 2 รายการ ➡️ Key Verifier สำหรับตรวจสอบตัวตนในแชทแบบ RCS ➡️ Scam Link Alerts สำหรับเตือนลิงก์อันตรายในข้อความ ✅ Key Verifier ใช้การสแกน QR code เพื่อยืนยันตัวตน ➡️ ต้องใช้ Android 10 ขึ้นไป ➡️ ทั้งสองฝ่ายต้องสแกน QR code ของกันและกัน ✅ Scam Link Alerts แสดง popup เตือนเมื่อพบลิงก์น่าสงสัย ➡️ ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานสำหรับผู้ใช้ทุกคน ✅ Google ระบุว่า 60% ของผู้คนทั่วโลกเคยเจอการหลอกลวงในปีที่ผ่านมา ➡️ การหลอกลวงมีความซับซ้อนมากขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ✅ Google มีแผนขยายฟีเจอร์ความปลอดภัยเพิ่มเติมในอนาคต ➡️ อาจรวมถึงการตรวจจับข้อความปลอมที่สร้างด้วย AI ➡️ การป้องกันการหลอกลวงผ่าน QR code https://www.techradar.com/computing/software/google-messages-is-doubling-down-on-scam-prevention-with-two-new-safety-measures-this-is-how-you-can-keep-your-inbox-clean
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • ด่วน!! สหรัฐฯ สั่งยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.9 แสนล้านบาท) ของนายเฉิน จื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา ซึ่งมีฐานเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา บังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกาย ทรมานและฉ้อโกงเงินดิจิทัล หนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงของฮุนเซน ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เป็น "การริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ"
    .
    มีรานงานล่าสุดว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) สั่งยึด Bitcoin ของนายเฉินจื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา มูลค่าหลายพันล้านจากกลโกงคริปโต ครั้งใหญ่ในกัมพูชา
    .
    นายเฉิน จื้อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าดำเนินค่ายแรงงานบังคับในกัมพูชา โดยบังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกายและทรมาน ที่ถูกค้ามนุษย์ดำเนินการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล และสามารถกวาดเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์
    .
    สหรัฐ กล่าวว่า เฉิน จื้อ แห่ง Prince Holding Group และพวกพ้องของเขาถูกกล่าวหาว่าสร้างรายได้มากถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวันจากการหลอกลวงครั้งหนึ่ง และฉินเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และบิดาของเขา อดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และได้รับเกียรติด้วยบรรดาศักดิ์ “ออกญา” ซึ่งเทียบเท่ากับขุนนางอังกฤษ และไทยในอดีต
    .
    เฉิน จื้อ ชายวัย 37 ปี ซึ่งรู้จักกันในชื่อวินเซนต์ เป็นผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่ทางการระบุว่าทำหน้าที่เป็นฉากหน้าของ "หนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย" ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
    .
    กระทรวงยุติธรรมยังได้ยื่นฟ้องริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยยึด Bitcoin ได้ประมาณ 127,271 บิตคอยน์ คิดเป็นมูลค่าราว 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.9 แสนล้านบาท ในราคาปัจจุบัน
    .
    “การดำเนินการในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามการค้ามนุษย์และการฉ้อโกงทางการเงินผ่านไซเบอร์ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงระดับโลก” อัยการสูงสุด แพม บอนดี กล่าว
    .
    มีรายงานว่าเฉินได้สั่งการให้มีการบังคับใช้แรงงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกัมพูชา โดยมีการกักขังแรงงานค้ามนุษย์หลายร้อยคนไว้ในสถานที่คล้ายเรือนจำที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม
    .
    ปีที่แล้ว ชาวอเมริกันสูญเสียเงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ และเรียก Prince Holding Group ว่าเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในอุตสาหกรรมนี้ ทางการจีนได้ดำเนินการสืบสวนบริษัทนี้ในข้อหาหลอกลวงทางไซเบอร์และการฟอกเงินมาตั้งแต่ต้นปี 2020 ตามบันทึกของศาลที่ตรวจสอบโดยสถาบันสันติภาพสหรัฐฯ
    .
    ภายใต้การคุกคามของความรุนแรง พวกเขาถูกบังคับให้ดำเนินการตามกลลวงที่เรียกว่า "การฆ่าหมู" ซึ่งเป็นแผนการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างความไว้วางใจกับเหยื่อในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะขโมยเงินของพวกเขาไป แผนการดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่เหยื่อทั่วโลก ทำให้เกิดการสูญเสียนับพันล้าน
    .
    ศูนย์หลอกลวงทั่วทั้งกัมพูชา เมียนมาร์ และภูมิภาคอื่นๆ ใช้โฆษณาหางานปลอมเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ ซึ่งหลายคนเป็นชาวจีน ให้มาทำงานในสถานที่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ โดยคนเหล่านี้ถูกบังคับให้ฉ้อโกงทางออนไลน์ภายใต้ภัยคุกคามของการทรมาน
    .
    เฉินเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ติดตามผลกำไรและแผนการต่างๆ และยังมีภาพการทุบตีและการทรมานเหยื่ออีกด้วย เขาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับการลงโทษผู้ที่ “ก่อปัญหา” แต่เน้นย้ำว่าคนงาน “ไม่ควรถูกตีจนตาย” ผู้หลอกลวงมักติดต่อเหยื่อผ่านแอปส่งข้อความหรือโซเชียลมีเดีย โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงจากการลงทุน ตามที่ฟ้องระบุ
    .
    นับตั้งแต่ประมาณปี 2015 Prince Group ได้ดำเนินกิจการในกว่า 30 ประเทศภายใต้ข้ออ้างของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และผู้บริโภคที่ถูกกฎหมาย อัยการกล่าว
    .
    เฉินและผู้บริหารระดับสูงถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลทางการเมืองและติดสินบนเจ้าหน้าที่ในหลายประเทศเพื่อปกป้องการดำเนินงาน รายได้ส่วนหนึ่งถูกฟอกเงินผ่านการพนันและการขุดสกุลเงินดิจิทัลของ Prince Group เอง
    .
    เจ้าหน้าที่เผยว่าเงินที่ถูกขโมยไปนั้นจะถูกนำไปใช้ในการซื้อของหรูหราต่างๆ รวมถึงนาฬิกา เรือยอทช์ เครื่องบินส่วนตัว บ้านพักตากอากาศ และภาพวาดของปิกัสโซที่ซื้อจากบ้านประมูลแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก
    .
    เฉินอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงทางสายโทรศัพท์และสมคบคิดฟอกเงิน
    .
    ในการดำเนินการประสานงานกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อังกฤษได้อายัดทรัพย์สิน 19 แห่งในลอนดอน มูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายของเฉิน รวมถึงคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านปอนด์ในลอนดอนตอนเหนือ
    .
    มาตรการคว่ำบาตรยังมุ่งเป้าไปที่ Qiu Wei Ren ผู้ร่วมงานของ Chen ซึ่งเป็นคนสัญชาติจีนที่มีสัญชาติกัมพูชา ไซปรัส และฮ่องกงอีกด้วย
    .
    การสืบสวนของ AFP เมื่อวันอังคารพบว่าศูนย์หลอกลวงในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่เดือนหลังจากการปราบปรามในประเทศดังกล่าว
    .
    จีน ไทย และเมียนมาร์ บังคับให้กองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลทหารของเมียนมาร์ซึ่งปกป้องศูนย์เหล่านี้สัญญาว่าจะปิดศูนย์เหล่านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยปล่อยตัวผู้คนไปประมาณ 7,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจีน
    .
    แต่ระบบคอลเซ็นเตอร์แบบโหดกำลังกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในเมียนมาร์ โดยขณะนี้ใช้ระบบดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
    ด่วน!! สหรัฐฯ สั่งยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.9 แสนล้านบาท) ของนายเฉิน จื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา ซึ่งมีฐานเปิดศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา บังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกาย ทรมานและฉ้อโกงเงินดิจิทัล หนึ่งในท่อน้ำเลี้ยงของฮุนเซน ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า เป็น "การริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ" . มีรานงานล่าสุดว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) สั่งยึด Bitcoin ของนายเฉินจื้อ นักธุรกิจจีนสัญชาติกัมพูชา มูลค่าหลายพันล้านจากกลโกงคริปโต ครั้งใหญ่ในกัมพูชา . นายเฉิน จื้อ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าดำเนินค่ายแรงงานบังคับในกัมพูชา โดยบังคับใช้แรงงาน ทำร้ายร่างกายและทรมาน ที่ถูกค้ามนุษย์ดำเนินการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัล และสามารถกวาดเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์ . สหรัฐ กล่าวว่า เฉิน จื้อ แห่ง Prince Holding Group และพวกพ้องของเขาถูกกล่าวหาว่าสร้างรายได้มากถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวันจากการหลอกลวงครั้งหนึ่ง และฉินเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และบิดาของเขา อดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และได้รับเกียรติด้วยบรรดาศักดิ์ “ออกญา” ซึ่งเทียบเท่ากับขุนนางอังกฤษ และไทยในอดีต . เฉิน จื้อ ชายวัย 37 ปี ซึ่งรู้จักกันในชื่อวินเซนต์ เป็นผู้ก่อตั้ง Prince Holding Group ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่ทางการระบุว่าทำหน้าที่เป็นฉากหน้าของ "หนึ่งในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย" ตามข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ . กระทรวงยุติธรรมยังได้ยื่นฟ้องริบทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยยึด Bitcoin ได้ประมาณ 127,271 บิตคอยน์ คิดเป็นมูลค่าราว 15,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 4.9 แสนล้านบาท ในราคาปัจจุบัน . “การดำเนินการในวันนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญที่สุดในการปราบปรามการค้ามนุษย์และการฉ้อโกงทางการเงินผ่านไซเบอร์ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงระดับโลก” อัยการสูงสุด แพม บอนดี กล่าว . มีรายงานว่าเฉินได้สั่งการให้มีการบังคับใช้แรงงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกัมพูชา โดยมีการกักขังแรงงานค้ามนุษย์หลายร้อยคนไว้ในสถานที่คล้ายเรือนจำที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม . ปีที่แล้ว ชาวอเมริกันสูญเสียเงินอย่างน้อย 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับการหลอกลวงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 66% จากปี 2023 กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุ และเรียก Prince Holding Group ว่าเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในอุตสาหกรรมนี้ ทางการจีนได้ดำเนินการสืบสวนบริษัทนี้ในข้อหาหลอกลวงทางไซเบอร์และการฟอกเงินมาตั้งแต่ต้นปี 2020 ตามบันทึกของศาลที่ตรวจสอบโดยสถาบันสันติภาพสหรัฐฯ . ภายใต้การคุกคามของความรุนแรง พวกเขาถูกบังคับให้ดำเนินการตามกลลวงที่เรียกว่า "การฆ่าหมู" ซึ่งเป็นแผนการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างความไว้วางใจกับเหยื่อในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะขโมยเงินของพวกเขาไป แผนการดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่เหยื่อทั่วโลก ทำให้เกิดการสูญเสียนับพันล้าน . ศูนย์หลอกลวงทั่วทั้งกัมพูชา เมียนมาร์ และภูมิภาคอื่นๆ ใช้โฆษณาหางานปลอมเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ ซึ่งหลายคนเป็นชาวจีน ให้มาทำงานในสถานที่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ โดยคนเหล่านี้ถูกบังคับให้ฉ้อโกงทางออนไลน์ภายใต้ภัยคุกคามของการทรมาน . เฉินเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว ติดตามผลกำไรและแผนการต่างๆ และยังมีภาพการทุบตีและการทรมานเหยื่ออีกด้วย เขาพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับการลงโทษผู้ที่ “ก่อปัญหา” แต่เน้นย้ำว่าคนงาน “ไม่ควรถูกตีจนตาย” ผู้หลอกลวงมักติดต่อเหยื่อผ่านแอปส่งข้อความหรือโซเชียลมีเดีย โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงจากการลงทุน ตามที่ฟ้องระบุ . นับตั้งแต่ประมาณปี 2015 Prince Group ได้ดำเนินกิจการในกว่า 30 ประเทศภายใต้ข้ออ้างของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริการทางการเงิน และผู้บริโภคที่ถูกกฎหมาย อัยการกล่าว . เฉินและผู้บริหารระดับสูงถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลทางการเมืองและติดสินบนเจ้าหน้าที่ในหลายประเทศเพื่อปกป้องการดำเนินงาน รายได้ส่วนหนึ่งถูกฟอกเงินผ่านการพนันและการขุดสกุลเงินดิจิทัลของ Prince Group เอง . เจ้าหน้าที่เผยว่าเงินที่ถูกขโมยไปนั้นจะถูกนำไปใช้ในการซื้อของหรูหราต่างๆ รวมถึงนาฬิกา เรือยอทช์ เครื่องบินส่วนตัว บ้านพักตากอากาศ และภาพวาดของปิกัสโซที่ซื้อจากบ้านประมูลแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก . เฉินอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงทางสายโทรศัพท์และสมคบคิดฟอกเงิน . ในการดำเนินการประสานงานกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อังกฤษได้อายัดทรัพย์สิน 19 แห่งในลอนดอน มูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายของเฉิน รวมถึงคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านปอนด์ในลอนดอนตอนเหนือ . มาตรการคว่ำบาตรยังมุ่งเป้าไปที่ Qiu Wei Ren ผู้ร่วมงานของ Chen ซึ่งเป็นคนสัญชาติจีนที่มีสัญชาติกัมพูชา ไซปรัส และฮ่องกงอีกด้วย . การสืบสวนของ AFP เมื่อวันอังคารพบว่าศูนย์หลอกลวงในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่เดือนหลังจากการปราบปรามในประเทศดังกล่าว . จีน ไทย และเมียนมาร์ บังคับให้กองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาลทหารของเมียนมาร์ซึ่งปกป้องศูนย์เหล่านี้สัญญาว่าจะปิดศูนย์เหล่านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยปล่อยตัวผู้คนไปประมาณ 7,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจีน . แต่ระบบคอลเซ็นเตอร์แบบโหดกำลังกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในเมียนมาร์ โดยขณะนี้ใช้ระบบดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk เพื่อเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
    0 Comments 0 Shares 1328 Views 0 Reviews
  • "หมวดป้อ" หนึ่งในทหารผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะที่ช่องอานม้า ออกมาเผยคลิปวิดีโอ ถ่ายทอดประสบการณ์การปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน เมื่อต้องเจอกับทหารเขมร ชี้ พวกนี้มีกลโกงและเล่ห์เหลี่ยมมากมายทหารไทยต้องรู้เท่าทัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000097308

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    "หมวดป้อ" หนึ่งในทหารผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะที่ช่องอานม้า ออกมาเผยคลิปวิดีโอ ถ่ายทอดประสบการณ์การปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน เมื่อต้องเจอกับทหารเขมร ชี้ พวกนี้มีกลโกงและเล่ห์เหลี่ยมมากมายทหารไทยต้องรู้เท่าทัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000097308 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 421 Views 0 Reviews
  • 18-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.2(ตอนจบ)

    (ต่อ) ขณะที่ชาวบ้านมุงดูดารา เน็ตไอดอลกันตรึม สื่อก็ทำข่าวต่อทันที ดูเหมือนว่า เจ้านี้ จะจ่ายหนักกว่า นักข่าวสายชอบเปย์พากันเข้าสัมภาษณ์ทันที พรรคขาวปรี๊ด หนนี้มีความมั่นใจแค่ไหนครับท่าน?

    หัวหน้าพรรคตอบทันควัน "กระผม นายปลิงดูด น้องปรีดู ขอถวายตัวรับใช้เพ่น้องประชาชนอันเป็นที่รัก" ที่ไหนยากจน ความเจริญจะไปหาทันที ด้วยนโยบายพรรคเรา จ่ายหนัก เฮ๊ย..อยากได้ ก็ต้องได้ อยากมี ก็ต้องมี เสกได้ตามสั่ง แค่เลือกพรรคขาวปรี๊ด เบอร์ 00 ศักดิ์ไม่ต้องศรี มีแดร๊กทุกวัน เฮฮาปาร์ตี้กันทั่วหัวมุมถนน ใครใคร่ชอบอะไร ก็เชิญทำตามสบายใจท่าน เราคือพรรคเอนเตอร์เทนตัวพ่อ กาสิโอ๊ะ ไม่จำเป็น เราเน้นนโยบายกระจายรายได้ ใช้ชุมชนเป็นเจ้ามือ ทุกคนมีงานทำ เปิดด่านไปเลย การค้ากลับมาดั่งเดิม ไม่ต้องห่วงระเบิด เปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษไปเลย ดูแลทั้ง 2 ฝ่าย จบง่าย รวยด้วยกัน อ่าวไทยเหรอ? เก็บเอาไว้ให้ใคร ขุดขึ้นมาใช้ดิ เราจะได้ใช้น้ำมันถูกไง ไม่ดีเหรอ ส่งออกเพื่อนบ้านได้อีก แบ่งๆ กันกิน ก็ไม่มีใครมารบกับเราแล้ว ปากท้องไม่เข้าใครออกใคร?

    นักข่าวยังช็อค ชาวบ้านอารมณ์เปลี่ยน? LIVE สด อยู่น่ะมรึง?

    1 ในชาวบ้าน ตะโกนถามท่านหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า "แล้วดินแดนล่ะ ต้องแบ่งด้วยมั้ย?"

    อ้าว..แบ่งกันไปเลย จะได้จบจบ มีทองแบ่งทอง มีน้ำมันแบ่งน้ำมัน จะมาฆ่ากันทำไม แค่แผ่นดินเท่าเหมี๊ยวดิ้นตาย คนละครึ่งไงจ๊ะ แฟร์เพลย์ดีมั้ยล่ะ?

    ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงเห่าหอน ก็มีเสียงแทรกตะโกนมาว่า "ไอ้สัส!" ประเทศจะมีพวกมรึงไปทำไม? กล้องจับภาพทันที รู้ดี สัญญานแรงแน่ มีข่าวตีชัวร์

    หันไปดูปุ๊บ..ไม่ใช่ใครอื่น? "อาแปะ เปิดฟลอร์แล้วจ๊ะ"

    อาแปะ : มรึงรีบออกไปจากหมู่บ้านกูเลย ก่อนชาวบ้านจะสหบาทา อย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก! (หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านก็เลิกสนใจดารา เน็ตไอดอลทันที ต่างรู้ดีว่า ไอ้พวกห่าเหี้ยนี่ มาทำไม? เดินกันเข้ามาหนุนอาแปะ)

    อาโก รีบชิงจังหวะ ที่เห็นอีปากหมา(หัวหน้าพรรคคนใหม่) มันยังช็อคกับเหตุการณ์อยู่ ชิงพื้นที่สื่อทันที เดินเข้าขวางหน้ากล้อง พร้อมพูดว่า

    "นี่คือคนที่คุณจะเลือกเหรอ?" เลือกตั้งมันตอบโจทย์ปากท้องเราได้จริงเหรอ? 93 ปี เราได้อะไรบ้างจากประชาธิปไตย ก็แค่เก้าอี้ดนตรี สมบัติผลัดกันชม เหี้ยไป จัญไรมา เวลาเปลี่ยน พรรคเปลี่ยน คนเปลี่ยน แต่ความเสียหายไม่เคยเปลี่ยน มันลงมาที่ชาวบ้านและประเทศนี้เสมอมา คืนพระราชอำนาจต่างหาก คือสิ่งที่ลูกทุกคนควรทำ เราแย่งชิงพระราชอำนาจมาจากพ่อ ด้วยกลโกงของภัยจากตะวันตก เมื่อไม่ใช่ของเรามาตั้งแต่ต้น ก็ควรจะคืนให้พ่อท่านไป เพราะไม่ว่าพ่อท่านจะส่งใครมาดูแล ปกครองเรา ก็ล้วนอยู่ในสายพระเนตรตลอดเวลา มั่นใจในความซื่อสัตย์ เที่ยงตรงแน่นอน แต่นักการเมือง มาจากพรรค มาจากนายทุน กำไรคือเป้าหมาย พวกเราก็เป็นแค่เหยื่อ?

    อาแปะ รับเข้ามาเสริมทันที "กล้องๆ มาทางนี้ เราขอประกาศว่า หมู่บ้านหมีดุ จะทำการขอประชามติ เรื่องคืนพระราชอำนาจ แล้วจะส่งผลไปให้ฝ่ายการปกครองบ้านเมือง ว่า ณ มุมแห่งนี้ มีความต้องการเช่นไร"

    นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตาตื่น ไอ้สัส! ออกสื่อไม่ปรึกษากูเลย ไอ้แปะ เอาอีกแล้ว งานนี้ กูจะเด้งมั้ยหนอ?

    มีชาวบ้านสนใจ ตะโกนถามอาแปะว่า "จะประชามติเมื่อไหร่" พวกเราพร้อมโหวตจ๊ะ ไม่เอาแล้วการเมือง ยิ่งอยู่ยิ่งรวย ชาวบ้านอดอยากมากยิ่งขึ้น เงินภาษีพวกกู ไม่ได้เอาไปทำความเจริญให้แผ่นดินเลย โดนพวกแม่งแดร๊กเรียบวุธ เอาเลยอาแปะ เราเอาด้วย พอกันที แผ่นดินนี้ต้องการพ่อ ไม่ได้ต้องการเหี้ย?

    นายอำเภอเห็นท่าไม่ดี เรียนเชิญหัวหน้าพรรคขาวปรี๊ด กลับไปก่อน เดี๋ยวชาวบ้านอาจจะไม่พอใจมากไปกว่านี้ อาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้อีก แต่กลับถูกตอกหน้ากลับว่า "แค่หมู่บ้านเล็กๆ จะกลัวไปทำไมกันเล่า" อั๊วเรียก อีกากี ยกกันมาทั้งกรมแล้ว อยากวัด ต้องได้วัด ใครขัดใจ มรึงตาย! เดี๋ยวมรึงหลบไป กูเดาไม่ผิด ต้องเจอพวกหัวแข็ง จึงได้เตรียมจัดฉาก ชาวบ้านคลั่งทำร้ายนักการเมือง จะต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ ใครหัวนำ แกนนำ จับมันไปให้หมด งานนี้ ต้องประกาศศักดา พื้นที่นี้ พรรคขาวปรี๊ดเท่านั้น ที่จะตีให้แตกกระจุย

    ไม่ทันไร ขบวนรถขังคุกก็เข้ามาทันควัน เจ้าหน้าที่แห่กันมาเตรียมรวบชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำเหี้ยอาไยเลย? นี่ไง ข้าราชการใต้ตรีนนายทุน หาใช่ข้าราชการในหลวงไม่? มีการรประกาศพื้นที่ฉุกเฉิน ห้ามชาวบ้านออกนอกพื้นที่นี้เด็ดขาด อ้างมีกลุ่มก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามา ไอ้สัส! แทนที่จะไปปาย เสือกมาหมู่บ้านนี้ เหี้ยกันให้สุดไปเลย

    ชาวบ้านเริ่มไม่พอใจหนัก นี่พวกมรึงคิดการณ์ไว้แล้วชิมิ? จะมากวาดล้างบางหมู่บ้านนี้สิท่า มันไม่ง่ายดอกน่ะ 20 ปีที่ผ่านมา เจออะไรมาเยอะ หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว ไม่รีรอ ยิงแสงสปอตไลท์ขึ้นฟ้า "หาแม่ทัพกุ้ง SUPER KUNG" ทันที แจ้งรหัสลับ "ขะแมร์บุก"

    ในขณะที่กองกำลังอีกากี กำลังจะทำการสลายม็อบรักชาติ อาแปะก็รับชิงเปิดโทรโข่งเสียงดัง เปิดเพลงปลุกใจเพ่น้องไทย บ้านเมืองเป็นกลียุค เพราะไอ้อีที่ไร้จิตสำนึก ดีชั่ว แยกไม่ออก บรรยากาศ ชวนชนอย่างมว๊าก ชาวบ้านก็ไม่ถอย กล้องทุกตัว จับตาอยู่ตลอด ขณะที่อี 6 เหลี่ยม ผู้นำพรรคขาวปรี๊ด เตรียมสั่งกวาดล้างบางทั้งหมู่บ้าน เหมือนที่เคยทำมาก่อนหน้านี้

    อาโก รีบพาเด็กๆ คนชรา ไปยืนแถวหลังสุด เพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บจากการตะลุมบอล ฝา กะละมัง หม้อ สาก ครก เอามาใช้ป้องกันตัวหมด ยามนี้ ชาวหมู่บ้าน ได้รวมใจเป็นหนึ่ง ไม่คิดว่าจะต้องลงเอยแบบนี้ แต่กลับไม่มีใครบ่น หรือกล่าวหาใครทั้งนั้น เพราะหมู่บ้านนี้ ชูเรื่อง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นที่ตั้ง ไม่มีอะไรเปลี่ยนใจได้ เมื่อวีรกรรมหมู่บ้านนี้ก่อเกิด มันจะส่งผลเป็นโดมิโน่ ไปทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอเภอ และทุกจังหวัด กระจายสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไปทั่วประเทศ นี่แหละ ที่เราต้องการ

    สิ้นเสียงเพลงเร้าใจ ก็เปิดลุยทันที ยังไม่ทันจะได้ประชิดตัว ก็มีเสียงตะโกนดังก้องฟ้าว่า "ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้"

    หลังหันไปมองกันหมด ปรากฎว่า "ลุงกุ้ง" ไม่รู้โผล่มาจากไหน? สัญญาน SOS ส่งถึง SUPER KUNG มีอยู่จริงเฟ้ยเห้ย? ทุกคนต่างยินนิ่ง ดูก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้น?

    ลุงกุ้งของน้องๆ มาแย้วจ๋า.. เอ๊ะ ทำอาไยกันอยู่ เหยียบกับระเบิดกันบ้างแล้วรึยัง?

    อี 6 เหลี่ยม หันมามองกองหนุนอีกากี ทันที "พวกมรึงทำห่าอะไรอยู่ฟ่ะ" มันมาแค่คนเดียว "กลัวเหี้ยอะไรกันนักหนา" ลุยเลย กูจ่ายเต็มที่ กล้องส่องกูก็ไม่สนแล้ว "เลือดขึ้นหน้า" วันนี้ หมู่บ้านหมีดุ ต้องตกเป็นของกูผู้เดียว แค่มดปลวก เสือกไม่คิด อยากวัดกับกูชิมิ? กูจัดให้

    "เดี๋ยวก่อน" อี 6 เหลี่ยม คราวก่อนกูไว้ชีวิตมรึง ยังไม่เข็ดอีกเหรอ? เมื่อคืน กูยังแอบเห็น อีเมีย กับอีลูกร่านมรึง เที่ยวบาร์โฮสต์อยู่เลย ครอบครัวหรรษาดีแท้จริงน่ะมรึง ไปอยู่ไหนมา กูมาคนเดียวก็จริง แต่แค่กูยกมือขึ้น ระเบิดลงหัวมรึงแน่ รู้จักมั้ย ดาวเทียม ขนมาทำไมเยอะแยะ แค่หมู่บ้านเล็กๆ ไม่ต้องยกกันมาทั้งกองทัพดอกน่ะ กับแค่ แก๊งค์สีกากี ไม่กี่ร้อย กูเอาอยู่ จริงมั้ย? เด็กๆ

    ไม่ทันไร F-16 และกริปเพนก็บินผ่านหัวอย่างไว เหมือนรอดูสัญญานมือแม่ทัพกุ้งอยู่ ว่าจะให้ย่างยังไงดี กึ่งสุก กึ่งดิบ หรือเอาแบบ MEDIUM RARE ดี เผาอีขะแมรืไป 5000 ตัวแล้ว ยังไม่หนำใจ ขอพ่วงอีสีกากีซักกองร้อย คงอร่อยเหาะดีเน๊าะ

    อี 6 เหลี่ยม เห็นท่าไม่ดี สั่งถอย "ฝากไว้ก่อนโอฬาร" ติดคุกไม่กี่ปี เดี๋ยวกูออกมาอาละวาดใหม่ได้ แค่ย้ายบ้านอยู่ใหม่ชั่วคราว

    หลังพวกเหี้ยกลับไป บรรยากาศก็กลับคืนสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านแยกย้ายกันไปทำมาหาแดร๊กกันต่อ ส่วนลุงกุ้ง ก็แวะเข้ามากินโกปี๊กันต่อ ถามสารทุกข์สุกดิบชาวบ้านตามประสา แม่ทัพผู้ใจดี

    อาฉี : ท่านแม่ทัพ ถามจริง? เราจะได้คืนพระราชอำนาจหรือไม่ ทหารคิดเห็นอย่างไร? และมีแผนการเรียกคืนดินแดนเดิมหรือไม่?

    แม่ทัพกุ้ง : ทหารก็คิดไม่แตกต่างจากพวกเราดอกน่ะ แต่ด้วยวินัยทหาร แสดงออกมาไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามสายการบังคับบัญชา แต่ทหารรุ่นใหม่ เค้าเทใจให้วังไปนานแล้ว ไอ้ที่ยังอยู่ เก่า แก่ แต่หวงอำนาจยังคงมี ส่วนแผนการเรียกคืนแผ่นดิน เรื่องนี้ การทหารเค้ามีนานแล้ว แต่จะเดินเกมส์ไปกับเกมส์การเมืองโลก และอำนาจของการปิดด่าน จนเศรษฐกิจอีขะแมร์พินาศ เมื่อประเทศอ่อนแอ การรวมชาติก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไปทีละสเตปเร่งไม่ได้ เพราะมันยังไม่เคลียร์เรื่องสนธิสัญญาโตเกียว ที่ไม่ผ่านมติสภา มีผลเป็นโมฆะตามกฎหมายไทย ไม่ว่าใครจะเซ็นต์อะไรไป แต่อำนาจในมือไม่มี ก็ไร้ผล

    อาแปะ : อั๊วว่า ท่านแม่ทัพคงได้สานเรื่องนี้ต่อแน่ หลังเกษียณชัวร์

    แม่ทัพกุ้ง : เราก็หวังเช่นนั้น เพราะทุกฝ่ายวางตัวสืบทอดไว้แล้ว คงต้องใช้เวลาอีกซักระยะนึง เพราะปัญหาโลกนั้นใหญ่เกินกว่าที่เราจะต้านทานเพียงลำพังได้

    อาโก : ท่านแม่ทัพ คิดว่าจะมีปฎิวัติอีกหรือไม่? ผบ.สูงสุด ผบ.ทบ. ท่านพร้อมเรื่องนี้มากแค่ไหน หากสถานการณ์เลวร้ายลง และไม่เป็นไปตามแผน

    แม่ทัพกุ้ง : ดูเหตุ และปัจจัยก่อน หากหาทางออกในฝ่ายการเมืองได้ก็จบ หากหาทางออกในฝ่ายความมั่นคงได้ ก็ไม่จำเป็นต้องรัฐประหาร

    อาคิม : ข่าวมาล่าสุดว่า อีส้มเน่า เตรียมประกาศเป็นผู้นำรัฐบาลแล้ว พร้อมบริหารประเทศ สิ่งแรกที่จะทำ คือ "ยกเลิกมาตรา 112 ในทันที" ท่านแม่ทัพคิดว่ายังไง?

    แม่ทัพกุ้ง : มันทำไม่ได้ดอก แผ่นดินนี้ต้องมีกษัตริย์ และใครก็จะมาดูหมิ่นไม่ได้ เรื่องนี้ แม้ทหารก็ไม่ยอมเช่นกัน เป็นไงเป็นกัน เรื่องนี้ อย่าได้กังวลมากไป เพราะยังมีศาลไคฟงท่านอยู่ ดาบ 2 ดาบ 3 รออีกเพี๊ยบ บางอย่างจะพูดตอนนี้ไปทำไม ทุกอย่างมันต้องมีเหตุก่อน ผลถึงจะตามมา

    อาซิ่ม อินเตอร์ : ท่านแม่ทัพจ๊ะ แล้วเมื่อโลกเปลี่ยนมือไปแล้ว ภายในบ้านเราเองก็ต้องปรับตัวตามเช่นกัน เป็นไปได้หรือไม่ ที่เราจะกลับไปใช้ระบบการปกครองเดิม และประยุกต์ให้มันทันสมัยมากขึ้น ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายกับปชต.ตอแหลแล้ว จะเลือกไปทำไม เสียภาษีไปทำไม เอามาช่วยชาวบ้านอย่างเราเราไม่ดีกว่าเหรอ?

    แม่ทัพกุ้ง : รอบบ้านเราเองก็ยังไม่มั่นคง ต้องรอดูท่าทีอาเซียนก่อน หากสงครามใหญ่มา อาเซียนจะผนึกกำลังเอง ส่วนเรื่องการปกครองนั้น เป็นเรื่องภายในของเราเอง อยากจะเปลี่ยน อยากจะแก้ก็ได้ทั้งนั้น แต่เกมส์โลกต้องได้ผู้ชนะก่อน ถึงจะรู้ทิศทางลมว่าจะต้องเดินไปทางไหน? ศึกใหญ่มันใกล้เข้ามาล่ะ

    ปล.ในแผ่นดิน ย่อมต้องมี ทั้งคนดี คนชั่ว หากแต่ เราต้องช่วยกันส่งมอบอำนาจให้คนดีปกครอง ไม่มีใครทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด หากแต่ให้คนดีปกครองบ้านเมือง คนชั่วก็จะไม่มีโอกาสทำลายบ้านเมืองได้นั่นเอง แล้วใครล่ะคนดี? ก็คนที่พ่อเลือกไงล่ะ คนที่พ่อไว้วางพระทัย คืนพระราชอำนาจเป็นแค่สัญลักษณ์ เพราะโดยเนื้อแท้แล้ว อำนาจสูงสุดก็ยังอยู่ในมือพระมหากษัตริย์ หาแต่ ที่ผ่านมา ลูกได้ช่วงชิงมันไปจากมือพ่อ ก็ต้องส่งคืนมือพ่อด้วยตัวเองไงล่ะ เป็นการขอพระราชทานอภัยโทษ ในสิ่งที่ลุกได้ทำผิดพลาดไปในครั้งอดีต ซึ่งเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว แต่จะทำให้มันถูกต้องดั่งเดิม นั่นคือสิ่งที่ทำได้ในวันนี้

    EP.5.2(อวสาน) เรื่องราวในหมู่บ้านหมีดุ จะกลายเป็นตำนานเล่าขานไปอีกนาน ทุกหมู่บ้านเริ่มดวงตาเห็นธรรม นักการเมือง พรรคการเมือง จะมีไปทำไม แดร๊กภาษี เอาเปรียบคนไทยทั้งชาติ โลกเปลี่ยนมือ ก็ไม่ต้องตามปชต.ตอแหลอีกต่อไป โมเดลรัสเซีย จีน มีให้เห็นอยู่ ว่าทำยังไง ถึงได้เจริญแบบก้าวกระโดด โดยที่ไม่ทิ้งรากเหง้าตัวเอง ตัวอย่างมีให้โลกประจักษ์แล้ว อยู่ที่ใครจะเลือกทางไหน?

    หมี CNN(ไทยสุดทน! ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง ปราบม็อบเติมเงินขะแมร์ บ้านหนองหญ้าแก้ว ส่งสัญญานชัด ใช้วิธีสลายม็อบ แบบสากล แต่เด็ดขาด ชาวโลกประจักษ์ มันมาถึงที่สุดแล้ว ดินแดนใช่จะยอมให้กันง่ายๆ เอาชาวบ้านมาเป็นกันชน สุดท้ายมรึงเลือกเอง อย่าร้อง ไอ้สัส! โลกชื่นชมวิธีการทหารไทย ล่อจะเบาไปหาหนัก ตามความชอบธรรม)
    18 กันยายน 68
    00.01 น.
    18-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.2(ตอนจบ) (ต่อ) ขณะที่ชาวบ้านมุงดูดารา เน็ตไอดอลกันตรึม สื่อก็ทำข่าวต่อทันที ดูเหมือนว่า เจ้านี้ จะจ่ายหนักกว่า นักข่าวสายชอบเปย์พากันเข้าสัมภาษณ์ทันที พรรคขาวปรี๊ด หนนี้มีความมั่นใจแค่ไหนครับท่าน? หัวหน้าพรรคตอบทันควัน "กระผม นายปลิงดูด น้องปรีดู ขอถวายตัวรับใช้เพ่น้องประชาชนอันเป็นที่รัก" ที่ไหนยากจน ความเจริญจะไปหาทันที ด้วยนโยบายพรรคเรา จ่ายหนัก เฮ๊ย..อยากได้ ก็ต้องได้ อยากมี ก็ต้องมี เสกได้ตามสั่ง แค่เลือกพรรคขาวปรี๊ด เบอร์ 00 ศักดิ์ไม่ต้องศรี มีแดร๊กทุกวัน เฮฮาปาร์ตี้กันทั่วหัวมุมถนน ใครใคร่ชอบอะไร ก็เชิญทำตามสบายใจท่าน เราคือพรรคเอนเตอร์เทนตัวพ่อ กาสิโอ๊ะ ไม่จำเป็น เราเน้นนโยบายกระจายรายได้ ใช้ชุมชนเป็นเจ้ามือ ทุกคนมีงานทำ เปิดด่านไปเลย การค้ากลับมาดั่งเดิม ไม่ต้องห่วงระเบิด เปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษไปเลย ดูแลทั้ง 2 ฝ่าย จบง่าย รวยด้วยกัน อ่าวไทยเหรอ? เก็บเอาไว้ให้ใคร ขุดขึ้นมาใช้ดิ เราจะได้ใช้น้ำมันถูกไง ไม่ดีเหรอ ส่งออกเพื่อนบ้านได้อีก แบ่งๆ กันกิน ก็ไม่มีใครมารบกับเราแล้ว ปากท้องไม่เข้าใครออกใคร? นักข่าวยังช็อค ชาวบ้านอารมณ์เปลี่ยน? LIVE สด อยู่น่ะมรึง? 1 ในชาวบ้าน ตะโกนถามท่านหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า "แล้วดินแดนล่ะ ต้องแบ่งด้วยมั้ย?" อ้าว..แบ่งกันไปเลย จะได้จบจบ มีทองแบ่งทอง มีน้ำมันแบ่งน้ำมัน จะมาฆ่ากันทำไม แค่แผ่นดินเท่าเหมี๊ยวดิ้นตาย คนละครึ่งไงจ๊ะ แฟร์เพลย์ดีมั้ยล่ะ? ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงเห่าหอน ก็มีเสียงแทรกตะโกนมาว่า "ไอ้สัส!" ประเทศจะมีพวกมรึงไปทำไม? กล้องจับภาพทันที รู้ดี สัญญานแรงแน่ มีข่าวตีชัวร์ หันไปดูปุ๊บ..ไม่ใช่ใครอื่น? "อาแปะ เปิดฟลอร์แล้วจ๊ะ" อาแปะ : มรึงรีบออกไปจากหมู่บ้านกูเลย ก่อนชาวบ้านจะสหบาทา อย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก! (หลังเกิดเหตุ ชาวบ้านก็เลิกสนใจดารา เน็ตไอดอลทันที ต่างรู้ดีว่า ไอ้พวกห่าเหี้ยนี่ มาทำไม? เดินกันเข้ามาหนุนอาแปะ) อาโก รีบชิงจังหวะ ที่เห็นอีปากหมา(หัวหน้าพรรคคนใหม่) มันยังช็อคกับเหตุการณ์อยู่ ชิงพื้นที่สื่อทันที เดินเข้าขวางหน้ากล้อง พร้อมพูดว่า "นี่คือคนที่คุณจะเลือกเหรอ?" เลือกตั้งมันตอบโจทย์ปากท้องเราได้จริงเหรอ? 93 ปี เราได้อะไรบ้างจากประชาธิปไตย ก็แค่เก้าอี้ดนตรี สมบัติผลัดกันชม เหี้ยไป จัญไรมา เวลาเปลี่ยน พรรคเปลี่ยน คนเปลี่ยน แต่ความเสียหายไม่เคยเปลี่ยน มันลงมาที่ชาวบ้านและประเทศนี้เสมอมา คืนพระราชอำนาจต่างหาก คือสิ่งที่ลูกทุกคนควรทำ เราแย่งชิงพระราชอำนาจมาจากพ่อ ด้วยกลโกงของภัยจากตะวันตก เมื่อไม่ใช่ของเรามาตั้งแต่ต้น ก็ควรจะคืนให้พ่อท่านไป เพราะไม่ว่าพ่อท่านจะส่งใครมาดูแล ปกครองเรา ก็ล้วนอยู่ในสายพระเนตรตลอดเวลา มั่นใจในความซื่อสัตย์ เที่ยงตรงแน่นอน แต่นักการเมือง มาจากพรรค มาจากนายทุน กำไรคือเป้าหมาย พวกเราก็เป็นแค่เหยื่อ? อาแปะ รับเข้ามาเสริมทันที "กล้องๆ มาทางนี้ เราขอประกาศว่า หมู่บ้านหมีดุ จะทำการขอประชามติ เรื่องคืนพระราชอำนาจ แล้วจะส่งผลไปให้ฝ่ายการปกครองบ้านเมือง ว่า ณ มุมแห่งนี้ มีความต้องการเช่นไร" นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตาตื่น ไอ้สัส! ออกสื่อไม่ปรึกษากูเลย ไอ้แปะ เอาอีกแล้ว งานนี้ กูจะเด้งมั้ยหนอ? มีชาวบ้านสนใจ ตะโกนถามอาแปะว่า "จะประชามติเมื่อไหร่" พวกเราพร้อมโหวตจ๊ะ ไม่เอาแล้วการเมือง ยิ่งอยู่ยิ่งรวย ชาวบ้านอดอยากมากยิ่งขึ้น เงินภาษีพวกกู ไม่ได้เอาไปทำความเจริญให้แผ่นดินเลย โดนพวกแม่งแดร๊กเรียบวุธ เอาเลยอาแปะ เราเอาด้วย พอกันที แผ่นดินนี้ต้องการพ่อ ไม่ได้ต้องการเหี้ย? นายอำเภอเห็นท่าไม่ดี เรียนเชิญหัวหน้าพรรคขาวปรี๊ด กลับไปก่อน เดี๋ยวชาวบ้านอาจจะไม่พอใจมากไปกว่านี้ อาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้อีก แต่กลับถูกตอกหน้ากลับว่า "แค่หมู่บ้านเล็กๆ จะกลัวไปทำไมกันเล่า" อั๊วเรียก อีกากี ยกกันมาทั้งกรมแล้ว อยากวัด ต้องได้วัด ใครขัดใจ มรึงตาย! เดี๋ยวมรึงหลบไป กูเดาไม่ผิด ต้องเจอพวกหัวแข็ง จึงได้เตรียมจัดฉาก ชาวบ้านคลั่งทำร้ายนักการเมือง จะต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ ใครหัวนำ แกนนำ จับมันไปให้หมด งานนี้ ต้องประกาศศักดา พื้นที่นี้ พรรคขาวปรี๊ดเท่านั้น ที่จะตีให้แตกกระจุย ไม่ทันไร ขบวนรถขังคุกก็เข้ามาทันควัน เจ้าหน้าที่แห่กันมาเตรียมรวบชาวบ้าน ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำเหี้ยอาไยเลย? นี่ไง ข้าราชการใต้ตรีนนายทุน หาใช่ข้าราชการในหลวงไม่? มีการรประกาศพื้นที่ฉุกเฉิน ห้ามชาวบ้านออกนอกพื้นที่นี้เด็ดขาด อ้างมีกลุ่มก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามา ไอ้สัส! แทนที่จะไปปาย เสือกมาหมู่บ้านนี้ เหี้ยกันให้สุดไปเลย ชาวบ้านเริ่มไม่พอใจหนัก นี่พวกมรึงคิดการณ์ไว้แล้วชิมิ? จะมากวาดล้างบางหมู่บ้านนี้สิท่า มันไม่ง่ายดอกน่ะ 20 ปีที่ผ่านมา เจออะไรมาเยอะ หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว ไม่รีรอ ยิงแสงสปอตไลท์ขึ้นฟ้า "หาแม่ทัพกุ้ง SUPER KUNG" ทันที แจ้งรหัสลับ "ขะแมร์บุก" ในขณะที่กองกำลังอีกากี กำลังจะทำการสลายม็อบรักชาติ อาแปะก็รับชิงเปิดโทรโข่งเสียงดัง เปิดเพลงปลุกใจเพ่น้องไทย บ้านเมืองเป็นกลียุค เพราะไอ้อีที่ไร้จิตสำนึก ดีชั่ว แยกไม่ออก บรรยากาศ ชวนชนอย่างมว๊าก ชาวบ้านก็ไม่ถอย กล้องทุกตัว จับตาอยู่ตลอด ขณะที่อี 6 เหลี่ยม ผู้นำพรรคขาวปรี๊ด เตรียมสั่งกวาดล้างบางทั้งหมู่บ้าน เหมือนที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ อาโก รีบพาเด็กๆ คนชรา ไปยืนแถวหลังสุด เพื่อไม่ให้ได้รับบาดเจ็บจากการตะลุมบอล ฝา กะละมัง หม้อ สาก ครก เอามาใช้ป้องกันตัวหมด ยามนี้ ชาวหมู่บ้าน ได้รวมใจเป็นหนึ่ง ไม่คิดว่าจะต้องลงเอยแบบนี้ แต่กลับไม่มีใครบ่น หรือกล่าวหาใครทั้งนั้น เพราะหมู่บ้านนี้ ชูเรื่อง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นที่ตั้ง ไม่มีอะไรเปลี่ยนใจได้ เมื่อวีรกรรมหมู่บ้านนี้ก่อเกิด มันจะส่งผลเป็นโดมิโน่ ไปทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอเภอ และทุกจังหวัด กระจายสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไปทั่วประเทศ นี่แหละ ที่เราต้องการ สิ้นเสียงเพลงเร้าใจ ก็เปิดลุยทันที ยังไม่ทันจะได้ประชิดตัว ก็มีเสียงตะโกนดังก้องฟ้าว่า "ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้" หลังหันไปมองกันหมด ปรากฎว่า "ลุงกุ้ง" ไม่รู้โผล่มาจากไหน? สัญญาน SOS ส่งถึง SUPER KUNG มีอยู่จริงเฟ้ยเห้ย? ทุกคนต่างยินนิ่ง ดูก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้น? ลุงกุ้งของน้องๆ มาแย้วจ๋า.. เอ๊ะ ทำอาไยกันอยู่ เหยียบกับระเบิดกันบ้างแล้วรึยัง? อี 6 เหลี่ยม หันมามองกองหนุนอีกากี ทันที "พวกมรึงทำห่าอะไรอยู่ฟ่ะ" มันมาแค่คนเดียว "กลัวเหี้ยอะไรกันนักหนา" ลุยเลย กูจ่ายเต็มที่ กล้องส่องกูก็ไม่สนแล้ว "เลือดขึ้นหน้า" วันนี้ หมู่บ้านหมีดุ ต้องตกเป็นของกูผู้เดียว แค่มดปลวก เสือกไม่คิด อยากวัดกับกูชิมิ? กูจัดให้ "เดี๋ยวก่อน" อี 6 เหลี่ยม คราวก่อนกูไว้ชีวิตมรึง ยังไม่เข็ดอีกเหรอ? เมื่อคืน กูยังแอบเห็น อีเมีย กับอีลูกร่านมรึง เที่ยวบาร์โฮสต์อยู่เลย ครอบครัวหรรษาดีแท้จริงน่ะมรึง ไปอยู่ไหนมา กูมาคนเดียวก็จริง แต่แค่กูยกมือขึ้น ระเบิดลงหัวมรึงแน่ รู้จักมั้ย ดาวเทียม ขนมาทำไมเยอะแยะ แค่หมู่บ้านเล็กๆ ไม่ต้องยกกันมาทั้งกองทัพดอกน่ะ กับแค่ แก๊งค์สีกากี ไม่กี่ร้อย กูเอาอยู่ จริงมั้ย? เด็กๆ ไม่ทันไร F-16 และกริปเพนก็บินผ่านหัวอย่างไว เหมือนรอดูสัญญานมือแม่ทัพกุ้งอยู่ ว่าจะให้ย่างยังไงดี กึ่งสุก กึ่งดิบ หรือเอาแบบ MEDIUM RARE ดี เผาอีขะแมรืไป 5000 ตัวแล้ว ยังไม่หนำใจ ขอพ่วงอีสีกากีซักกองร้อย คงอร่อยเหาะดีเน๊าะ อี 6 เหลี่ยม เห็นท่าไม่ดี สั่งถอย "ฝากไว้ก่อนโอฬาร" ติดคุกไม่กี่ปี เดี๋ยวกูออกมาอาละวาดใหม่ได้ แค่ย้ายบ้านอยู่ใหม่ชั่วคราว หลังพวกเหี้ยกลับไป บรรยากาศก็กลับคืนสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านแยกย้ายกันไปทำมาหาแดร๊กกันต่อ ส่วนลุงกุ้ง ก็แวะเข้ามากินโกปี๊กันต่อ ถามสารทุกข์สุกดิบชาวบ้านตามประสา แม่ทัพผู้ใจดี อาฉี : ท่านแม่ทัพ ถามจริง? เราจะได้คืนพระราชอำนาจหรือไม่ ทหารคิดเห็นอย่างไร? และมีแผนการเรียกคืนดินแดนเดิมหรือไม่? แม่ทัพกุ้ง : ทหารก็คิดไม่แตกต่างจากพวกเราดอกน่ะ แต่ด้วยวินัยทหาร แสดงออกมาไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามสายการบังคับบัญชา แต่ทหารรุ่นใหม่ เค้าเทใจให้วังไปนานแล้ว ไอ้ที่ยังอยู่ เก่า แก่ แต่หวงอำนาจยังคงมี ส่วนแผนการเรียกคืนแผ่นดิน เรื่องนี้ การทหารเค้ามีนานแล้ว แต่จะเดินเกมส์ไปกับเกมส์การเมืองโลก และอำนาจของการปิดด่าน จนเศรษฐกิจอีขะแมร์พินาศ เมื่อประเทศอ่อนแอ การรวมชาติก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไปทีละสเตปเร่งไม่ได้ เพราะมันยังไม่เคลียร์เรื่องสนธิสัญญาโตเกียว ที่ไม่ผ่านมติสภา มีผลเป็นโมฆะตามกฎหมายไทย ไม่ว่าใครจะเซ็นต์อะไรไป แต่อำนาจในมือไม่มี ก็ไร้ผล อาแปะ : อั๊วว่า ท่านแม่ทัพคงได้สานเรื่องนี้ต่อแน่ หลังเกษียณชัวร์ แม่ทัพกุ้ง : เราก็หวังเช่นนั้น เพราะทุกฝ่ายวางตัวสืบทอดไว้แล้ว คงต้องใช้เวลาอีกซักระยะนึง เพราะปัญหาโลกนั้นใหญ่เกินกว่าที่เราจะต้านทานเพียงลำพังได้ อาโก : ท่านแม่ทัพ คิดว่าจะมีปฎิวัติอีกหรือไม่? ผบ.สูงสุด ผบ.ทบ. ท่านพร้อมเรื่องนี้มากแค่ไหน หากสถานการณ์เลวร้ายลง และไม่เป็นไปตามแผน แม่ทัพกุ้ง : ดูเหตุ และปัจจัยก่อน หากหาทางออกในฝ่ายการเมืองได้ก็จบ หากหาทางออกในฝ่ายความมั่นคงได้ ก็ไม่จำเป็นต้องรัฐประหาร อาคิม : ข่าวมาล่าสุดว่า อีส้มเน่า เตรียมประกาศเป็นผู้นำรัฐบาลแล้ว พร้อมบริหารประเทศ สิ่งแรกที่จะทำ คือ "ยกเลิกมาตรา 112 ในทันที" ท่านแม่ทัพคิดว่ายังไง? แม่ทัพกุ้ง : มันทำไม่ได้ดอก แผ่นดินนี้ต้องมีกษัตริย์ และใครก็จะมาดูหมิ่นไม่ได้ เรื่องนี้ แม้ทหารก็ไม่ยอมเช่นกัน เป็นไงเป็นกัน เรื่องนี้ อย่าได้กังวลมากไป เพราะยังมีศาลไคฟงท่านอยู่ ดาบ 2 ดาบ 3 รออีกเพี๊ยบ บางอย่างจะพูดตอนนี้ไปทำไม ทุกอย่างมันต้องมีเหตุก่อน ผลถึงจะตามมา อาซิ่ม อินเตอร์ : ท่านแม่ทัพจ๊ะ แล้วเมื่อโลกเปลี่ยนมือไปแล้ว ภายในบ้านเราเองก็ต้องปรับตัวตามเช่นกัน เป็นไปได้หรือไม่ ที่เราจะกลับไปใช้ระบบการปกครองเดิม และประยุกต์ให้มันทันสมัยมากขึ้น ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายกับปชต.ตอแหลแล้ว จะเลือกไปทำไม เสียภาษีไปทำไม เอามาช่วยชาวบ้านอย่างเราเราไม่ดีกว่าเหรอ? แม่ทัพกุ้ง : รอบบ้านเราเองก็ยังไม่มั่นคง ต้องรอดูท่าทีอาเซียนก่อน หากสงครามใหญ่มา อาเซียนจะผนึกกำลังเอง ส่วนเรื่องการปกครองนั้น เป็นเรื่องภายในของเราเอง อยากจะเปลี่ยน อยากจะแก้ก็ได้ทั้งนั้น แต่เกมส์โลกต้องได้ผู้ชนะก่อน ถึงจะรู้ทิศทางลมว่าจะต้องเดินไปทางไหน? ศึกใหญ่มันใกล้เข้ามาล่ะ ปล.ในแผ่นดิน ย่อมต้องมี ทั้งคนดี คนชั่ว หากแต่ เราต้องช่วยกันส่งมอบอำนาจให้คนดีปกครอง ไม่มีใครทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด หากแต่ให้คนดีปกครองบ้านเมือง คนชั่วก็จะไม่มีโอกาสทำลายบ้านเมืองได้นั่นเอง แล้วใครล่ะคนดี? ก็คนที่พ่อเลือกไงล่ะ คนที่พ่อไว้วางพระทัย คืนพระราชอำนาจเป็นแค่สัญลักษณ์ เพราะโดยเนื้อแท้แล้ว อำนาจสูงสุดก็ยังอยู่ในมือพระมหากษัตริย์ หาแต่ ที่ผ่านมา ลูกได้ช่วงชิงมันไปจากมือพ่อ ก็ต้องส่งคืนมือพ่อด้วยตัวเองไงล่ะ เป็นการขอพระราชทานอภัยโทษ ในสิ่งที่ลุกได้ทำผิดพลาดไปในครั้งอดีต ซึ่งเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว แต่จะทำให้มันถูกต้องดั่งเดิม นั่นคือสิ่งที่ทำได้ในวันนี้ EP.5.2(อวสาน) เรื่องราวในหมู่บ้านหมีดุ จะกลายเป็นตำนานเล่าขานไปอีกนาน ทุกหมู่บ้านเริ่มดวงตาเห็นธรรม นักการเมือง พรรคการเมือง จะมีไปทำไม แดร๊กภาษี เอาเปรียบคนไทยทั้งชาติ โลกเปลี่ยนมือ ก็ไม่ต้องตามปชต.ตอแหลอีกต่อไป โมเดลรัสเซีย จีน มีให้เห็นอยู่ ว่าทำยังไง ถึงได้เจริญแบบก้าวกระโดด โดยที่ไม่ทิ้งรากเหง้าตัวเอง ตัวอย่างมีให้โลกประจักษ์แล้ว อยู่ที่ใครจะเลือกทางไหน? หมี CNN(ไทยสุดทน! ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง ปราบม็อบเติมเงินขะแมร์ บ้านหนองหญ้าแก้ว ส่งสัญญานชัด ใช้วิธีสลายม็อบ แบบสากล แต่เด็ดขาด ชาวโลกประจักษ์ มันมาถึงที่สุดแล้ว ดินแดนใช่จะยอมให้กันง่ายๆ เอาชาวบ้านมาเป็นกันชน สุดท้ายมรึงเลือกเอง อย่าร้อง ไอ้สัส! โลกชื่นชมวิธีการทหารไทย ล่อจะเบาไปหาหนัก ตามความชอบธรรม) 18 กันยายน 68 00.01 น.
    0 Comments 0 Shares 1128 Views 0 Reviews
  • การฉ้อโกงมนุษย์ครั้งยิ่งใหญ่ – คุณไม่เคยเป็นอิสระ คุณถูกเข้ารหัสด้วยรหัส CUSIP: กลโกงมูลค่า 169 ล้านล้านดอลลาร์ การหลอกลวงพันธบัตรกำเนิด และการตกเป็นทาสทางการเงินของมนุษยชาติทั่วโลก

    คุณไม่เคยยากจน คุณไม่เคยมีหนี้ คุณถูกเข้ารหัสด้วยรหัส CUSIP ตั้งแต่เกิด กลายเป็นพันธบัตรทางการเงิน และซื้อขายเหมือนหุ้น ในขณะที่ความมั่งคั่งมูลค่า 169 ล้านล้านดอลลาร์ถูกปกปิด ตัวตนของคุณกลายเป็นหลักประกัน นี่คือระบบที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อเป็นเจ้าของคุณ และตอนนี้มันจบลงแล้ว

    คุณไม่เคยเป็นพลเมือง คุณเป็นเพียงรายการในงบดุล

    อ่านเรื่องราวฉบับเต็มได้ที่นี่: https://amg-news.com/the-great-human-fraud-you-were-never-free-you-were-cusip-coded-the-169-trillion-scam-the-birth-bond-deception-the-global-financial-enslavement-of-humanity/
    🟥การฉ้อโกงมนุษย์ครั้งยิ่งใหญ่ – คุณไม่เคยเป็นอิสระ คุณถูกเข้ารหัสด้วยรหัส CUSIP: กลโกงมูลค่า 169 ล้านล้านดอลลาร์ การหลอกลวงพันธบัตรกำเนิด และการตกเป็นทาสทางการเงินของมนุษยชาติทั่วโลก 🔥 คุณไม่เคยยากจน คุณไม่เคยมีหนี้ คุณถูกเข้ารหัสด้วยรหัส CUSIP ตั้งแต่เกิด กลายเป็นพันธบัตรทางการเงิน และซื้อขายเหมือนหุ้น ในขณะที่ความมั่งคั่งมูลค่า 169 ล้านล้านดอลลาร์ถูกปกปิด ตัวตนของคุณกลายเป็นหลักประกัน นี่คือระบบที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อเป็นเจ้าของคุณ และตอนนี้มันจบลงแล้ว 🔥คุณไม่เคยเป็นพลเมือง คุณเป็นเพียงรายการในงบดุล 👉 อ่านเรื่องราวฉบับเต็มได้ที่นี่: https://amg-news.com/the-great-human-fraud-you-were-never-free-you-were-cusip-coded-the-169-trillion-scam-the-birth-bond-deception-the-global-financial-enslavement-of-humanity/
    AMG-NEWS.COM
    THE GREAT HUMAN FRAUD – YOU WERE NEVER FREE, YOU WERE CUSIP-CODED: THE $169 TRILLION SCAM, THE BIRTH BOND DECEPTION & THE GLOBAL FINANCIAL ENSLAVEMENT OF HUMANITY - amg-news.com - American Media Group
    You were never poor. You were never in debt. You were CUSIP-coded at birth, turned into a financial bond, and traded like stock. While $169 trillion in wealth was hidden, your identity became collateral. This is the system they built to own you. Now it ends.
    0 Comments 0 Shares 338 Views 0 Reviews
  • เมื่อ 73% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ เคยตกเป็นเหยื่อออนไลน์: กลโกงใหม่ที่คุณต้องรู้ทัน

    ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต การหลอกลวงออนไลน์กลายเป็นภัยเงียบที่แทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันของผู้คนโดยไม่รู้ตัว จากการสำรวจล่าสุดโดย Pew Research Center พบว่า 73% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ เคยเผชิญกับการหลอกลวงออนไลน์อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการถูกขโมยข้อมูลบัตรเครดิต ซื้อของออนไลน์แล้วไม่ได้รับสินค้า หรือถูกโจมตีด้วย ransomware

    ที่น่าตกใจคือ คนวัยทำงานอายุ 18–59 ปีกลับมีแนวโน้มเสียเงินจากการหลอกลวงมากกว่าผู้สูงอายุถึง 34% โดยกลโกงที่พบมากที่สุดในกลุ่มนี้คือโฆษณาหลอกลวงในโซเชียลมีเดีย งานปลอม และการลงทุนปลอม

    กลโกงใหม่ที่กำลังระบาดคือ “การเชิญประชุมปลอม” ผ่าน Google หรือ Outlook Calendar ที่แฮกเกอร์ส่งลิงก์ปลอมมาให้โดยไม่ต้องได้รับการตอบรับ เมื่อคลิกเข้าไป ผู้ใช้จะถูกนำไปยังเว็บปลอมที่ดูเหมือน Zoom หรือถูกหลอกให้ติดตั้งมัลแวร์

    อีกหนึ่งกลโกงคือการโจมตีผ่านแอปยืนยันตัวตน (MFA) ที่ส่งการแจ้งเตือนซ้ำ ๆ จนผู้ใช้เผลอกดอนุมัติโดยไม่ตั้งใจ และสุดท้ายคือไฟล์แนบ HTML ที่แฝงโค้ดอันตรายไว้ในอีเมลที่ดูเหมือนมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้

    73% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ เคยถูกหลอกลวงออนไลน์
    รูปแบบที่พบบ่อยคือบัตรเครดิต, ซื้อของออนไลน์, ransomware

    32% เคยถูกหลอกลวงภายในปีที่ผ่านมา
    ส่วนใหญ่ผ่านอีเมล, ข้อความ หรือโทรศัพท์

    คนอายุ 18–59 ปีมีแนวโน้มเสียเงินจากการหลอกลวงมากกว่าผู้สูงอายุ
    โดยเฉพาะจากโฆษณาในโซเชียลมีเดีย, งานปลอม และการลงทุนปลอม

    กลโกงใหม่ผ่าน Calendar Invite ปลอม
    ลิงก์ปลอมที่ดูเหมือน Zoom หรืออัปเดตซอฟต์แวร์

    MFA scam ส่งแจ้งเตือนซ้ำ ๆ เพื่อให้ผู้ใช้เผลอกดอนุมัติ
    มักเกิดกับแอปที่ใช้การแจ้งเตือนแบบ “approve”

    ไฟล์แนบ HTML ในอีเมลสามารถฝังมัลแวร์หรือเปิดเว็บปลอม
    ใช้ชื่อบริการที่คุ้นเคยเพื่อหลอกให้คลิก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/13/at-least-73-of-us-adults-have-fallen-for-online-scams-how-you-can-avoid-the-latest-con
    🕵️‍♀️📱 เมื่อ 73% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ เคยตกเป็นเหยื่อออนไลน์: กลโกงใหม่ที่คุณต้องรู้ทัน ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต การหลอกลวงออนไลน์กลายเป็นภัยเงียบที่แทรกซึมเข้ามาในชีวิตประจำวันของผู้คนโดยไม่รู้ตัว จากการสำรวจล่าสุดโดย Pew Research Center พบว่า 73% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ เคยเผชิญกับการหลอกลวงออนไลน์อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการถูกขโมยข้อมูลบัตรเครดิต ซื้อของออนไลน์แล้วไม่ได้รับสินค้า หรือถูกโจมตีด้วย ransomware ที่น่าตกใจคือ คนวัยทำงานอายุ 18–59 ปีกลับมีแนวโน้มเสียเงินจากการหลอกลวงมากกว่าผู้สูงอายุถึง 34% โดยกลโกงที่พบมากที่สุดในกลุ่มนี้คือโฆษณาหลอกลวงในโซเชียลมีเดีย งานปลอม และการลงทุนปลอม กลโกงใหม่ที่กำลังระบาดคือ “การเชิญประชุมปลอม” ผ่าน Google หรือ Outlook Calendar ที่แฮกเกอร์ส่งลิงก์ปลอมมาให้โดยไม่ต้องได้รับการตอบรับ เมื่อคลิกเข้าไป ผู้ใช้จะถูกนำไปยังเว็บปลอมที่ดูเหมือน Zoom หรือถูกหลอกให้ติดตั้งมัลแวร์ อีกหนึ่งกลโกงคือการโจมตีผ่านแอปยืนยันตัวตน (MFA) ที่ส่งการแจ้งเตือนซ้ำ ๆ จนผู้ใช้เผลอกดอนุมัติโดยไม่ตั้งใจ และสุดท้ายคือไฟล์แนบ HTML ที่แฝงโค้ดอันตรายไว้ในอีเมลที่ดูเหมือนมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ✅ 73% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ เคยถูกหลอกลวงออนไลน์ ➡️ รูปแบบที่พบบ่อยคือบัตรเครดิต, ซื้อของออนไลน์, ransomware ✅ 32% เคยถูกหลอกลวงภายในปีที่ผ่านมา ➡️ ส่วนใหญ่ผ่านอีเมล, ข้อความ หรือโทรศัพท์ ✅ คนอายุ 18–59 ปีมีแนวโน้มเสียเงินจากการหลอกลวงมากกว่าผู้สูงอายุ ➡️ โดยเฉพาะจากโฆษณาในโซเชียลมีเดีย, งานปลอม และการลงทุนปลอม ✅ กลโกงใหม่ผ่าน Calendar Invite ปลอม ➡️ ลิงก์ปลอมที่ดูเหมือน Zoom หรืออัปเดตซอฟต์แวร์ ✅ MFA scam ส่งแจ้งเตือนซ้ำ ๆ เพื่อให้ผู้ใช้เผลอกดอนุมัติ ➡️ มักเกิดกับแอปที่ใช้การแจ้งเตือนแบบ “approve” ✅ ไฟล์แนบ HTML ในอีเมลสามารถฝังมัลแวร์หรือเปิดเว็บปลอม ➡️ ใช้ชื่อบริการที่คุ้นเคยเพื่อหลอกให้คลิก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/13/at-least-73-of-us-adults-have-fallen-for-online-scams-how-you-can-avoid-the-latest-con
    WWW.THESTAR.COM.MY
    At least 73% of US adults have fallen for online scams. How you can avoid the latest con
    Scammers are constantly finding new ways to lure you into unknowingly giving up your personal information and the calendar connected to your email account is one of them.
    0 Comments 0 Shares 382 Views 0 Reviews
  • เมื่อภาพลวงตากลายเป็นกับดัก: Deepfake Steve Wozniak กับกลโกง Bitcoin ที่สื่อยังพลาด

    ลองจินตนาการว่าเห็นคลิปของ Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple พูดถึง Bitcoin พร้อมข้อความว่า “ส่งมา 1 BTC แล้วจะได้คืน 2 BTC” — หลายคนหลงเชื่อ เพราะภาพนั้นดูจริง เสียงนั้นเหมือน และชื่อ Wozniak ก็มีน้ำหนักพอจะทำให้คนไว้ใจ

    แต่ทั้งหมดนั้นคือกลโกงที่ใช้ deepfake และภาพเก่าของ Wozniak มาตัดต่อหลอกลวง โดยมีเหยื่อจำนวนมากสูญเงินไปถึงขั้นหมดตัว

    CBS News ได้เชิญ Wozniak มาพูดถึงเรื่องนี้ในรายการ แต่กลับพลาดอย่างแรง—ใช้ภาพหุ่นยนต์จาก Disney EPCOT ที่ดูคล้าย Wozniak แทนภาพจริง ทำให้ประเด็นเรื่อง “ภาพปลอม” กลายเป็นเรื่องจริงในรายการข่าวเอง

    Wozniak เคยฟ้อง YouTube ตั้งแต่ปี 2020 ฐานปล่อยให้มีคลิปหลอกลวงใช้ภาพเขา แต่คดีถูกยกฟ้องในปี 2021 เพราะกฎหมาย Section 230 ที่คุ้มครองแพลตฟอร์มจากความรับผิดชอบต่อเนื้อหาผู้ใช้

    เขาและภรรยา Janet Hill เล่าว่าเหยื่อบางคนถึงขั้นส่งอีเมลมาถามว่า “เมื่อไหร่จะได้เงินคืน” เพราะเชื่อว่า Wozniak เป็นคนรับเงินไปจริง ๆ

    สิ่งที่น่ากังวลคือ deepfake และการปลอมแปลงตัวตนดิจิทัลกำลังระบาดไปทั่ว Elon Musk, Jeff Bezos ก็เคยถูกใช้ภาพหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน และแพลตฟอร์มอย่าง YouTube, Meta, X ยังถูกวิจารณ์ว่าควบคุมเนื้อหาไม่ทัน

    Steve Wozniak ถูกใช้ภาพและเสียงปลอมเพื่อหลอกลวง Bitcoin
    เหยื่อถูกหลอกให้ส่งเงินโดยสัญญาว่าจะได้คืนสองเท่า

    CBS เชิญ Wozniak มาเล่าเรื่อง แต่ใช้ภาพหุ่นยนต์ Disney แทนภาพจริง
    กลายเป็นการตอกย้ำปัญหาภาพปลอมในสื่อ

    Wozniak เคยฟ้อง YouTube ฐานปล่อยคลิปหลอกลวงในปี 2020
    คดีถูกยกฟ้องในปี 2021 เพราะกฎหมาย Section 230

    ภรรยา Wozniak ได้รับอีเมลจากเหยื่อที่เชื่อว่าเขาเป็นผู้รับเงิน
    แสดงให้เห็นว่าผู้คนเชื่อภาพปลอมอย่างจริงจัง

    Deepfake และการปลอมแปลงตัวตนดิจิทัลกำลังระบาด
    Elon Musk และ Jeff Bezos ก็เคยถูกใช้ภาพในกลโกงคล้ายกัน

    CBS เตือนให้ผู้ชมระวังและตรวจสอบความจริงของเนื้อหาดิจิทัล
    ไม่ควรเชื่อภาพหรือเสียงเพียงอย่างเดียว

    FBI รายงานว่าปี 2024 มีผู้เสียหายจากกลโกงออนไลน์กว่า $9.3 พันล้าน
    ตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้มาก

    Deepfake ถูกใช้ในกลโกงคริปโตสูงถึง 40% ของมูลค่าการหลอกลวง
    เป็นเครื่องมือหลักของแฮกเกอร์ยุคใหม่

    Google ลบโฆษณาหลอกลวงกว่า 5.1 พันล้านรายการในปีเดียว
    แต่ยังมีช่องโหว่ให้โฆษณาหลอกลวงเล็ดลอด

    นักการเมืองในอังกฤษเรียกร้องให้ควบคุมโฆษณาออนไลน์เหมือนทีวี
    เพื่อปิดช่องโหว่ที่ผู้ไม่หวังดีใช้หลอกลวง

    https://wccftech.com/cbs-reveals-bitcoin-scams-exploiting-steve-wozniaks-image-but-accidentally-features-disney-animatronic/
    🎭💸 เมื่อภาพลวงตากลายเป็นกับดัก: Deepfake Steve Wozniak กับกลโกง Bitcoin ที่สื่อยังพลาด ลองจินตนาการว่าเห็นคลิปของ Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple พูดถึง Bitcoin พร้อมข้อความว่า “ส่งมา 1 BTC แล้วจะได้คืน 2 BTC” — หลายคนหลงเชื่อ เพราะภาพนั้นดูจริง เสียงนั้นเหมือน และชื่อ Wozniak ก็มีน้ำหนักพอจะทำให้คนไว้ใจ แต่ทั้งหมดนั้นคือกลโกงที่ใช้ deepfake และภาพเก่าของ Wozniak มาตัดต่อหลอกลวง โดยมีเหยื่อจำนวนมากสูญเงินไปถึงขั้นหมดตัว CBS News ได้เชิญ Wozniak มาพูดถึงเรื่องนี้ในรายการ แต่กลับพลาดอย่างแรง—ใช้ภาพหุ่นยนต์จาก Disney EPCOT ที่ดูคล้าย Wozniak แทนภาพจริง ทำให้ประเด็นเรื่อง “ภาพปลอม” กลายเป็นเรื่องจริงในรายการข่าวเอง Wozniak เคยฟ้อง YouTube ตั้งแต่ปี 2020 ฐานปล่อยให้มีคลิปหลอกลวงใช้ภาพเขา แต่คดีถูกยกฟ้องในปี 2021 เพราะกฎหมาย Section 230 ที่คุ้มครองแพลตฟอร์มจากความรับผิดชอบต่อเนื้อหาผู้ใช้ เขาและภรรยา Janet Hill เล่าว่าเหยื่อบางคนถึงขั้นส่งอีเมลมาถามว่า “เมื่อไหร่จะได้เงินคืน” เพราะเชื่อว่า Wozniak เป็นคนรับเงินไปจริง ๆ สิ่งที่น่ากังวลคือ deepfake และการปลอมแปลงตัวตนดิจิทัลกำลังระบาดไปทั่ว Elon Musk, Jeff Bezos ก็เคยถูกใช้ภาพหลอกลวงในลักษณะเดียวกัน และแพลตฟอร์มอย่าง YouTube, Meta, X ยังถูกวิจารณ์ว่าควบคุมเนื้อหาไม่ทัน ✅ Steve Wozniak ถูกใช้ภาพและเสียงปลอมเพื่อหลอกลวง Bitcoin ➡️ เหยื่อถูกหลอกให้ส่งเงินโดยสัญญาว่าจะได้คืนสองเท่า ✅ CBS เชิญ Wozniak มาเล่าเรื่อง แต่ใช้ภาพหุ่นยนต์ Disney แทนภาพจริง ➡️ กลายเป็นการตอกย้ำปัญหาภาพปลอมในสื่อ ✅ Wozniak เคยฟ้อง YouTube ฐานปล่อยคลิปหลอกลวงในปี 2020 ➡️ คดีถูกยกฟ้องในปี 2021 เพราะกฎหมาย Section 230 ✅ ภรรยา Wozniak ได้รับอีเมลจากเหยื่อที่เชื่อว่าเขาเป็นผู้รับเงิน ➡️ แสดงให้เห็นว่าผู้คนเชื่อภาพปลอมอย่างจริงจัง ✅ Deepfake และการปลอมแปลงตัวตนดิจิทัลกำลังระบาด ➡️ Elon Musk และ Jeff Bezos ก็เคยถูกใช้ภาพในกลโกงคล้ายกัน ✅ CBS เตือนให้ผู้ชมระวังและตรวจสอบความจริงของเนื้อหาดิจิทัล ➡️ ไม่ควรเชื่อภาพหรือเสียงเพียงอย่างเดียว ✅ FBI รายงานว่าปี 2024 มีผู้เสียหายจากกลโกงออนไลน์กว่า $9.3 พันล้าน ➡️ ตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้มาก ✅ Deepfake ถูกใช้ในกลโกงคริปโตสูงถึง 40% ของมูลค่าการหลอกลวง ➡️ เป็นเครื่องมือหลักของแฮกเกอร์ยุคใหม่ ✅ Google ลบโฆษณาหลอกลวงกว่า 5.1 พันล้านรายการในปีเดียว ➡️ แต่ยังมีช่องโหว่ให้โฆษณาหลอกลวงเล็ดลอด ✅ นักการเมืองในอังกฤษเรียกร้องให้ควบคุมโฆษณาออนไลน์เหมือนทีวี ➡️ เพื่อปิดช่องโหว่ที่ผู้ไม่หวังดีใช้หลอกลวง https://wccftech.com/cbs-reveals-bitcoin-scams-exploiting-steve-wozniaks-image-but-accidentally-features-disney-animatronic/
    WCCFTECH.COM
    CBS Unmasks Bitcoin Scams Using Deepfake Steve Wozniak, Accidentally Showcases Disney Animatronic, Exposing the Growing Digital Identity Fraud Threat
    Steve Wozniak shared about internet scammers and deepfakes on CBS only to have the news outlet feature a fake image of him.
    0 Comments 0 Shares 513 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากหน้าบ้าน: เมื่อกล่องปริศนาอาจเป็นกับดักไซเบอร์จาก QR Code

    ลองจินตนาการว่าคุณกลับบ้านมาแล้วพบกล่องพัสดุวางอยู่หน้าประตู โดยไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีใบเสร็จ และไม่มีใครในบ้านสั่งของนั้น แต่บนกล่องกลับมี QR code ขนาดใหญ่พร้อมข้อความเชิญชวนให้สแกนเพื่อ “ยืนยันการรับสินค้า” หรือ “รับส่วนลดพิเศษ” — นี่คือรูปแบบใหม่ของกลโกงที่ FBI เตือนว่าอันตรายมาก

    กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ผู้ขายออนไลน์ส่งสินค้าราคาถูกไปยังที่อยู่สุ่ม แล้วใช้ชื่อผู้รับในการเขียนรีวิวปลอมเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่เวอร์ชันใหม่ที่เรียกว่า “quishing” นั้นร้ายแรงกว่า เพราะ QR code บนกล่องสามารถพาคุณไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลส่วนตัว หรือแย่กว่านั้น — ติดตั้งมัลแวร์ลงในมือถือของคุณทันทีที่สแกน

    FBI ระบุว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สงสัยอะไรและสแกน QR code ทันที กล่องเหล่านี้มักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นความอยากรู้ของผู้รับ และเมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ปลอม ผู้ใช้จะถูกหลอกให้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต หรืออนุญาตให้เข้าถึงโทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว

    FBI เตือนประชาชนเกี่ยวกับกลโกงใหม่ที่ใช้ QR code บนพัสดุที่ไม่ได้สั่ง
    เรียกว่า “quishing” เป็นการหลอกให้สแกน QR เพื่อขโมยข้อมูล

    กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ใช้ชื่อผู้รับในการรีวิวปลอม
    แต่เวอร์ชันใหม่มีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวและการเงิน

    เมื่อสแกน QR code อาจถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลบัตรเครดิต
    หรือดาวน์โหลดมัลแวร์ลงในมือถือทันที

    กล่องมักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้รับสแกนด้วยความสงสัย
    เป็นเทคนิคจิตวิทยาเพื่อเพิ่มโอกาสในการหลอกลวง

    FBI แนะนำให้รายงานเหตุการณ์เหล่านี้ผ่านเว็บไซต์ IC3.gov
    พร้อมตรวจสอบบัญชีออนไลน์และขอรายงานเครดิตฟรีจาก Experian, Equifax, TransUnion

    QR code เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันทั่วไปในร้านอาหาร การตลาด และการชำระเงิน
    ทำให้ผู้ใช้คุ้นเคยและไม่ระวังเมื่อเห็น QR code บนกล่องพัสดุ

    การสแกน QR code เปรียบเสมือนการคลิกลิงก์ โดยไม่สามารถเห็น URL ล่วงหน้า
    ต่างจากลิงก์ที่สามารถตรวจสอบปลายทางก่อนคลิก

    โทรศัพท์มือถือมักไม่มีระบบป้องกันมัลแวร์เท่ากับคอมพิวเตอร์
    ทำให้เป็นเป้าหมายหลักของกลโกงแบบ quishing

    66% ของผู้ใช้เคยสแกน QR code เพื่อซื้อสินค้าโดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัย
    เพิ่มความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/09/fbi-warning-danger-could-be-arriving-at-your-door-in-an-unlikely-package
    📦📲 เรื่องเล่าจากหน้าบ้าน: เมื่อกล่องปริศนาอาจเป็นกับดักไซเบอร์จาก QR Code ลองจินตนาการว่าคุณกลับบ้านมาแล้วพบกล่องพัสดุวางอยู่หน้าประตู โดยไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีใบเสร็จ และไม่มีใครในบ้านสั่งของนั้น แต่บนกล่องกลับมี QR code ขนาดใหญ่พร้อมข้อความเชิญชวนให้สแกนเพื่อ “ยืนยันการรับสินค้า” หรือ “รับส่วนลดพิเศษ” — นี่คือรูปแบบใหม่ของกลโกงที่ FBI เตือนว่าอันตรายมาก กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ผู้ขายออนไลน์ส่งสินค้าราคาถูกไปยังที่อยู่สุ่ม แล้วใช้ชื่อผู้รับในการเขียนรีวิวปลอมเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่เวอร์ชันใหม่ที่เรียกว่า “quishing” นั้นร้ายแรงกว่า เพราะ QR code บนกล่องสามารถพาคุณไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลส่วนตัว หรือแย่กว่านั้น — ติดตั้งมัลแวร์ลงในมือถือของคุณทันทีที่สแกน FBI ระบุว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สงสัยอะไรและสแกน QR code ทันที กล่องเหล่านี้มักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นความอยากรู้ของผู้รับ และเมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ปลอม ผู้ใช้จะถูกหลอกให้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต หรืออนุญาตให้เข้าถึงโทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว ✅ FBI เตือนประชาชนเกี่ยวกับกลโกงใหม่ที่ใช้ QR code บนพัสดุที่ไม่ได้สั่ง ➡️ เรียกว่า “quishing” เป็นการหลอกให้สแกน QR เพื่อขโมยข้อมูล ✅ กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ใช้ชื่อผู้รับในการรีวิวปลอม ➡️ แต่เวอร์ชันใหม่มีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวและการเงิน ✅ เมื่อสแกน QR code อาจถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลบัตรเครดิต ➡️ หรือดาวน์โหลดมัลแวร์ลงในมือถือทันที ✅ กล่องมักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้รับสแกนด้วยความสงสัย ➡️ เป็นเทคนิคจิตวิทยาเพื่อเพิ่มโอกาสในการหลอกลวง ✅ FBI แนะนำให้รายงานเหตุการณ์เหล่านี้ผ่านเว็บไซต์ IC3.gov ➡️ พร้อมตรวจสอบบัญชีออนไลน์และขอรายงานเครดิตฟรีจาก Experian, Equifax, TransUnion ✅ QR code เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันทั่วไปในร้านอาหาร การตลาด และการชำระเงิน ➡️ ทำให้ผู้ใช้คุ้นเคยและไม่ระวังเมื่อเห็น QR code บนกล่องพัสดุ ✅ การสแกน QR code เปรียบเสมือนการคลิกลิงก์ โดยไม่สามารถเห็น URL ล่วงหน้า ➡️ ต่างจากลิงก์ที่สามารถตรวจสอบปลายทางก่อนคลิก ✅ โทรศัพท์มือถือมักไม่มีระบบป้องกันมัลแวร์เท่ากับคอมพิวเตอร์ ➡️ ทำให้เป็นเป้าหมายหลักของกลโกงแบบ quishing ✅ 66% ของผู้ใช้เคยสแกน QR code เพื่อซื้อสินค้าโดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัย ➡️ เพิ่มความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/09/fbi-warning-danger-could-be-arriving-at-your-door-in-an-unlikely-package
    WWW.THESTAR.COM.MY
    FBI warning: Danger could be arriving at your door in an unlikely package
    Scanning a bogus QR code can give scammers access to your contacts or send you to a fake payment portal.
    0 Comments 0 Shares 452 Views 0 Reviews
  • BIG Story | ผ่าทองทิพย์

    แฉแหลก แฉเหลี่ยม แฉกลโกงขั้นเซียนในตำนาน "ทองทิพย์" งานนี้โจรตัดโจร! เมื่ออดีต 18 มงกุฎกลับใจ เปิดโปงขบวนการหลอกขายทองปลอมอย่างหมดเปลือก ตั้งแต่ขั้นตอนลวงเหยื่อจนถึงจุดจบของเกม รู้ทันก่อนโดนหลอก รู้ไว้...จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อรายต่อไป

    ติดตามสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: ผ่าทองทิพย์ ได้ที่ Thaitimes App

    #BigStory #ผ่าทองทิพย์ #แก๊งทองปลอม #กลโกงขั้นเทพ #โจรตัดโจร #รู้ทันมิจฉาชีพ #ThaiTimes
    BIG Story | ผ่าทองทิพย์ แฉแหลก แฉเหลี่ยม แฉกลโกงขั้นเซียนในตำนาน "ทองทิพย์" งานนี้โจรตัดโจร! เมื่ออดีต 18 มงกุฎกลับใจ เปิดโปงขบวนการหลอกขายทองปลอมอย่างหมดเปลือก ตั้งแต่ขั้นตอนลวงเหยื่อจนถึงจุดจบของเกม รู้ทันก่อนโดนหลอก รู้ไว้...จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อรายต่อไป 📲 ติดตามสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: ผ่าทองทิพย์ ได้ที่ Thaitimes App #BigStory #ผ่าทองทิพย์ #แก๊งทองปลอม #กลโกงขั้นเทพ #โจรตัดโจร #รู้ทันมิจฉาชีพ #ThaiTimes
    Like
    Love
    5
    0 Comments 0 Shares 1244 Views 0 0 Reviews
  • กลโกงล่าสุด สำหรับคนอยากสวย อยากหล่อ...เปิดเพจรับการสนับสนุน ..เสริมความงาม ฉีดผิว botox ยกกระชับ สารพัด...และอ้างว่า เป็นโปร.ราคาถูกจำกัดจำนวน..ต้องโอนเงินเพื่อจองสิทธิ์ ..มีคนโดนกันหลายคนแล้ว ..แต่สำนักข่าวยังไม่มีใครหยิบมาเป็นข่าว...
    กลโกงล่าสุด สำหรับคนอยากสวย อยากหล่อ...เปิดเพจรับการสนับสนุน ..เสริมความงาม ฉีดผิว botox ยกกระชับ สารพัด...และอ้างว่า เป็นโปร.ราคาถูกจำกัดจำนวน..ต้องโอนเงินเพื่อจองสิทธิ์ ..มีคนโดนกันหลายคนแล้ว ..แต่สำนักข่าวยังไม่มีใครหยิบมาเป็นข่าว...
    0 Comments 0 Shares 405 Views 0 Reviews
  • ร้อยเล่ห์กลโกง จีบก่อนเชือด หลอกข้ามพรมแดน 03/07/68 #ร้อยเล่ห์กลโกง #จีบก่อนเชือด #ระบบเงิน #การค้ามนุษย์

    https://www.youtube.com/watch?v=z6O2j5goAqg
    ร้อยเล่ห์กลโกง จีบก่อนเชือด หลอกข้ามพรมแดน 03/07/68 #ร้อยเล่ห์กลโกง #จีบก่อนเชือด #ระบบเงิน #การค้ามนุษย์ https://www.youtube.com/watch?v=z6O2j5goAqg
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 694 Views 0 Reviews
  • ปกติเวลาเรามีปัญหาใช้บริการ Netflix, Apple, Microsoft หรือธนาคารต่าง ๆ ก็จะเข้า Google แล้วพิมพ์ “เบอร์ฝ่ายซัพพอร์ต” ใช่ไหมครับ? แต่ตอนนี้แฮกเกอร์รู้ทันคนแล้ว!

    Malwarebytes ออกมาเตือนว่า มิจฉาชีพซื้อโฆษณาบน Google แล้วใส่พารามิเตอร์พิเศษลงในลิงก์ ที่พาไปยังหน้าเว็บซัพพอร์ตจริงของแบรนด์ แต่จะฝัง เบอร์โทรปลอมไว้ในช่องค้นหาด้านบนของหน้าเว็บนั้น

    พูดง่าย ๆ คือ ลิงก์โฆษณาพาไปเว็บจริง แต่เนื้อหาเหมือน “ถูกฉีดข้อความ” ให้แสดงเบอร์หลอกไว้ตรงหน้า — ผู้ใช้ที่รีบโทร อาจโดนหลอกเอาข้อมูลบัญชี บัตรเครดิต หรือกู้เงินในชื่อเราได้ง่าย ๆ เลย

    เป้าหมายที่โดนบ่อยมีทั้ง Netflix, Apple, Facebook, PayPal, Microsoft, HP, Bank of America ฯลฯ โดยเฉพาะเว็บ Apple ที่แทบตรวจจับไม่ได้ว่ามีอะไรแอบแฝง

    แฮกเกอร์ฝังเบอร์หลอกในหน้าเว็บซัพพอร์ตจริง โดยใช้ลิงก์โฆษณา Google Ads  
    • ใช้ query string ปลอมให้ช่องค้นหาบนหน้าเว็บแสดงเบอร์โทรหลอก

    เว็บแบรนด์ดังที่ตกเป็นเป้า ได้แก่:  
    • Apple, Netflix, PayPal, Microsoft, Facebook, Bank of America, HP

    ผู้ใช้เข้าเว็บจริงแต่เห็นเบอร์ปลอม คิดว่าเป็นของบริษัท และโทรหาแก๊งหลอกลวงโดยไม่รู้ตัว  
    • มิจฉาชีพจะพยายามล้วงข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร, login credentials

    Malwarebytes ระบุว่า “Browser Guard” สามารถตรวจจับกลโกงลักษณะนี้ได้ในบางกรณี  
    • ช่วยแจ้งเตือนเมื่อหน้าเว็บมีพารามิเตอร์หรือข้อความแฝงผิดปกติ

    ตัวอย่างลักษณะ URL และพฤติกรรมที่ควรระวัง:  
    • มีเบอร์โทรต่อท้าย URL ของหน้าเว็บ  
    • มีคำเตือนรุนแรงผิดปกติ เช่น “Call now to avoid account lock”  
    • มีอักขระพิเศษใน URL เช่น %20 หรือพารามิเตอร์ยาวผิดปกติ  
    • หน้า search ของเว็บแสดงผลทันทีแม้ยังไม่ได้พิมพ์

    อย่าโทรเบอร์ใด ๆ ที่พบจากโฆษณาหรือหน้าค้นหาโดยไม่ตรวจสอบก่อน  
    • ให้เช็กเบอร์จากช่องทางที่ยืนยันแล้ว เช่น อีเมลเก่า, แอปทางการ, โซเชียลทางการ หรือ Wikipedia

    อย่าเชื่อเว็บที่คลิกเข้าไปจาก Google โดยไม่ตรวจสอบ URL ให้แน่ชัด  
    • แม้จะดูเป็นเว็บจริง แต่พารามิเตอร์ในลิงก์อาจถูกฉีดข้อมูลเข้ามา

    ถ้าฝ่ายซัพพอร์ตถามข้อมูลการเงินที่ไม่เกี่ยวกับปัญหา อย่าตอบ — ควรวางสายทันที  
    • แบรนด์จริงไม่ควรขอรหัสผ่านหรือ OTP ผ่านการโทรปกติ

    หลีกเลี่ยงการกดลิงก์จากอีเมลหรือโฆษณาที่พยายามสร้างความเร่งรีบ  
    • อาทิ “บัญชีจะถูกลบถ้าไม่ยืนยันใน 24 ชั่วโมง”

    https://www.techspot.com/news/108384-scammers-hijack-real-support-pages-show-fake-phone.html
    ปกติเวลาเรามีปัญหาใช้บริการ Netflix, Apple, Microsoft หรือธนาคารต่าง ๆ ก็จะเข้า Google แล้วพิมพ์ “เบอร์ฝ่ายซัพพอร์ต” ใช่ไหมครับ? แต่ตอนนี้แฮกเกอร์รู้ทันคนแล้ว! Malwarebytes ออกมาเตือนว่า มิจฉาชีพซื้อโฆษณาบน Google แล้วใส่พารามิเตอร์พิเศษลงในลิงก์ ที่พาไปยังหน้าเว็บซัพพอร์ตจริงของแบรนด์ แต่จะฝัง เบอร์โทรปลอมไว้ในช่องค้นหาด้านบนของหน้าเว็บนั้น พูดง่าย ๆ คือ ลิงก์โฆษณาพาไปเว็บจริง แต่เนื้อหาเหมือน “ถูกฉีดข้อความ” ให้แสดงเบอร์หลอกไว้ตรงหน้า — ผู้ใช้ที่รีบโทร อาจโดนหลอกเอาข้อมูลบัญชี บัตรเครดิต หรือกู้เงินในชื่อเราได้ง่าย ๆ เลย เป้าหมายที่โดนบ่อยมีทั้ง Netflix, Apple, Facebook, PayPal, Microsoft, HP, Bank of America ฯลฯ โดยเฉพาะเว็บ Apple ที่แทบตรวจจับไม่ได้ว่ามีอะไรแอบแฝง ✅ แฮกเกอร์ฝังเบอร์หลอกในหน้าเว็บซัพพอร์ตจริง โดยใช้ลิงก์โฆษณา Google Ads   • ใช้ query string ปลอมให้ช่องค้นหาบนหน้าเว็บแสดงเบอร์โทรหลอก ✅ เว็บแบรนด์ดังที่ตกเป็นเป้า ได้แก่:   • Apple, Netflix, PayPal, Microsoft, Facebook, Bank of America, HP ✅ ผู้ใช้เข้าเว็บจริงแต่เห็นเบอร์ปลอม คิดว่าเป็นของบริษัท และโทรหาแก๊งหลอกลวงโดยไม่รู้ตัว   • มิจฉาชีพจะพยายามล้วงข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคาร, login credentials ✅ Malwarebytes ระบุว่า “Browser Guard” สามารถตรวจจับกลโกงลักษณะนี้ได้ในบางกรณี   • ช่วยแจ้งเตือนเมื่อหน้าเว็บมีพารามิเตอร์หรือข้อความแฝงผิดปกติ ✅ ตัวอย่างลักษณะ URL และพฤติกรรมที่ควรระวัง:   • มีเบอร์โทรต่อท้าย URL ของหน้าเว็บ   • มีคำเตือนรุนแรงผิดปกติ เช่น “Call now to avoid account lock”   • มีอักขระพิเศษใน URL เช่น %20 หรือพารามิเตอร์ยาวผิดปกติ   • หน้า search ของเว็บแสดงผลทันทีแม้ยังไม่ได้พิมพ์ ‼️ อย่าโทรเบอร์ใด ๆ ที่พบจากโฆษณาหรือหน้าค้นหาโดยไม่ตรวจสอบก่อน   • ให้เช็กเบอร์จากช่องทางที่ยืนยันแล้ว เช่น อีเมลเก่า, แอปทางการ, โซเชียลทางการ หรือ Wikipedia ‼️ อย่าเชื่อเว็บที่คลิกเข้าไปจาก Google โดยไม่ตรวจสอบ URL ให้แน่ชัด   • แม้จะดูเป็นเว็บจริง แต่พารามิเตอร์ในลิงก์อาจถูกฉีดข้อมูลเข้ามา ‼️ ถ้าฝ่ายซัพพอร์ตถามข้อมูลการเงินที่ไม่เกี่ยวกับปัญหา อย่าตอบ — ควรวางสายทันที   • แบรนด์จริงไม่ควรขอรหัสผ่านหรือ OTP ผ่านการโทรปกติ ‼️ หลีกเลี่ยงการกดลิงก์จากอีเมลหรือโฆษณาที่พยายามสร้างความเร่งรีบ   • อาทิ “บัญชีจะถูกลบถ้าไม่ยืนยันใน 24 ชั่วโมง” https://www.techspot.com/news/108384-scammers-hijack-real-support-pages-show-fake-phone.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scammers hijack real support pages to show fake phone numbers
    Many people likely understand that they should verify URLs when visiting sites for banks, tech companies, and other critical services to avoid fraudulent links. While steering clear...
    0 Comments 0 Shares 486 Views 0 Reviews
  • ร้อยเล่ห์กลโกง Huione ฟอกเงินข้ามชาติ จากเครือข่ายฮุนเซน สู่มือถือคนไทย 19/06/68 #เครือข่ายฮุนเซน #Huione #ฟอกเงินข้ามชาติ #คนไทย #ร้อยเล่ห์กลโกง
    ร้อยเล่ห์กลโกง Huione ฟอกเงินข้ามชาติ จากเครือข่ายฮุนเซน สู่มือถือคนไทย 19/06/68 #เครือข่ายฮุนเซน #Huione #ฟอกเงินข้ามชาติ #คนไทย #ร้อยเล่ห์กลโกง
    Like
    Angry
    8
    0 Comments 2 Shares 826 Views 46 0 Reviews
  • กัมพูชาสหรัฐฯ เปิดศึก “ตัดเส้นเลือด” อาชญากรรมไซเบอร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ Huione Group จากกัมพูชา บริษัทของญาติฮุน เซน กลายเป็นตัวอย่างของสงครามการเงินยุคดิจิทัลเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ขยับหมากชุดใหญ่ ด้วยการออกประกาศตาม มาตรา 311 ของกฎหมาย PATRIOT Actเพื่อตัดการเชื่อมต่อกลุ่มทุนจากกัมพูชาที่ชื่อว่า Huione Groupออกจากระบบการเงินสหรัฐฯ อย่างถาวรนี่ไม่ใช่การคว่ำบาตรแบบที่เราคุ้นชินจาก OFAC ที่แค่ “แช่แข็งบัญชี”แต่นี่คือการ ตัดเส้นเลือดใหญ่ ขององค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติที่ผูกโยงกันระหว่างโลกเงินสด ธนาคารดั้งเดิม และโลกคริปโตเคอร์เรนซีHuione Group คือ “หัวใจโลกการเงิน” ของอุตสาหกรรมโกงออนไลน์ในเอเชียตามประกาศของ FinCEN (หน่วยงานปราบปรามการฟอกเงิน)Huione Group ฟอกเงินรวมกันกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ในเวลาไม่ถึง 4 ปี!•37 ล้านดอลลาร์ มาจากปฏิบัติการไซเบอร์ที่ได้รับการหนุนหลังโดยรัฐเกาหลีเหนือ•36 ล้านดอลลาร์ จากกลโกงลงทุนแบบ “Pig Butchering” (หลอกลงทุนจนหมดตัว)•และ 300 ล้านดอลลาร์ จากอาชญากรรมไซเบอร์รูปแบบอื่นๆสิ่งที่น่ากลัวคือ Huione ไม่ได้ทำแค่ในโลกออนไลน์แต่มันมีทั้งสาขาในโลกจริง และโครงสร้างที่ดูเหมือนถูกกฎหมาย เช่น• Huione Pay สถาบันประมวลผลการชำระเงินในกัมพูชาที่มีใบอนุญาต•Huione Crypto แพลตฟอร์มบริการสินทรัพย์ดิจิทัล•Haowang Guarantee ตลาดออนไลน์ขายบริการผิดกฎหมายเว็บไซต์ของ Huione Guarantee ถูกอ้างถึงในรายงานของ UN ว่าเป็น “กลไกกลาง” ของอุตสาหกรรมโกงออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเคยประมวลผลธุรกรรมไปมากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2021!มาตรา 311 คือ อาวุธลับที่ไม่มีใครพูดถึงหลายคนรู้จักมาตรการคว่ำบาตรของ OFACแต่น้อยคนนักจะรู้ว่า “มาตรการแรงที่สุด” ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ คือ Section 311เพราะมันไม่ได้แค่แช่แข็งเงิน แต่เป็นการ ตัดการเชื่อมต่อโดยสิ้นเชิง กับระบบดอลลาร์ความต่างระหว่าง 311 vs OFACหัวข้อมาตรา 311OFAC Sanctionsบังคับใช้โดย FinCENOFACจุดประสงค์เพื่อต่อต้านฟอกเงิน & ก่อการร้ายความมั่นคงชาติ (การค้า อาวุธ มนุษยชน)สิ่วที่จะเกิดขึ้น คือการจำกัดการเข้าถึงระบบธนาคารสหรัฐฯอายัดทรัพย์สินทันที (หากเป็น “interim final rule”)หลังประกาศธนาคารทั่วโลกจะ “เลิกยุ่ง” โดยสมัครใจ เพราะไม่คุ้มเสี่ยงต้องปฏิบัติตามทันทีกล่าวง่ายๆ คือ ถ้า OFAC เป็น “ตำรวจล้อมจับ” Section 311 คือ “ตัดสายเลือด” ไม่ให้เงินไหลเข้า-ออกระบบเลยทำไม Huione ถึงน่ากลัว?เพราะ Huione ไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มแต่มันคือ ระบบนิเวศของอาชญากรรม ที่เชื่อมโลกการเงินดั้งเดิมเข้ากับคริปโตอย่างแนบเนียน•มีทั้ง Stablecoin (USDH) ที่โฆษณาชัดว่า “ไม่มีระบบอายัดทรัพย์สิน”•มี Blockchain ของตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามธุรกรรม•มีการเคลื่อนย้ายเงิน ข้าม Chain (Ethereum, BSC, Tron, Huione Chain)•และยังมีบริการแปลง Fiat → Crypto → Fiat ที่ทำให้ธนาคารตามไม่ทันระบบธนาคารทั่วไปเห็นแค่ “ถอนเงินปกติ” แต่ Blockchain วิเคราะห์ลึกถึงขั้นพบว่าเงินมาจากการโกงออนไลน์ดังนั้น ถ้าไม่มีระบบที่เชื่อมต่อข้อมูลโลก “on-chain” และ “off-chain”ธนาคารก็จะมองไม่เห็นความเสี่ยงเลยแม้ว่า Section 311 จะมีเวลาให้แสดงความเห็น 30 วันแต่ในทางปฏิบัติผลกระทบจะเริ่มต้นทันทีเพราะธนาคารต้อง1.รีบตรวจสอบ ว่ามีลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวข้องกับ Huione หรือไม่2.ย้อนดูธุรกรรมย้อนหลัง หลายปี เพื่อทำ Suspicious Activity Report (SAR)3.ขยายขอบเขต ไปยังบุคคลที่ 3 ที่อาจเกี่ยวข้องโดยอ้อม4.รับมือกับข่าวสารใหม่ ที่หลั่งไหลเข้ามาทุกวันเกี่ยวกับเครือข่ายนี้กรณี Huione สอนเราว่าการฟอกเงินยุคใหม่ ไม่ใช่แค่ใส่เงินเข้าเครื่องซัก แล้วออกมาใหม่ แต่มันคือกาใช้กลไกซับซ้อนระหว่างโลกคริปโต และธนาคาร ซ่อนเงินไว้หลาย Layer ที่ไม่มีใครคนเดียวมองเห็นทั้งหมด ต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย องค์กรที่ไม่มี ระบบ compliance ที่เชื่อมโลกเก่ากับโลกใหม่เข้าด้วยกันจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป ไม่ใช่แค่เสียชื่อเสียง แต่อาจถูกตั้งข้อหา “ละเลยความเสี่ยง” และเสียใบอนุญาตได้Huione Group ไม่ใช่แค่บริษัทหนึ่งแต่มันคือสัญลักษณ์ของยุคที่อาชญากรใช้เทคโนโลยีล้ำหน้ากว่า Regulatorและโลกการเงินต้องตื่นตัว ปรับตัวอย่างไม่รีรอตัดท่อน้ำเลี้ยงให้เร็ว ก่อนที่ระบบจะล่มทั้งเครือข่าย ที่มา : https://x.com/galadriel_tx/status/1934425378522828961?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA
    กัมพูชาสหรัฐฯ เปิดศึก “ตัดเส้นเลือด” อาชญากรรมไซเบอร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ Huione Group จากกัมพูชา บริษัทของญาติฮุน เซน กลายเป็นตัวอย่างของสงครามการเงินยุคดิจิทัลเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ขยับหมากชุดใหญ่ ด้วยการออกประกาศตาม มาตรา 311 ของกฎหมาย PATRIOT Actเพื่อตัดการเชื่อมต่อกลุ่มทุนจากกัมพูชาที่ชื่อว่า Huione Groupออกจากระบบการเงินสหรัฐฯ อย่างถาวรนี่ไม่ใช่การคว่ำบาตรแบบที่เราคุ้นชินจาก OFAC ที่แค่ “แช่แข็งบัญชี”แต่นี่คือการ ตัดเส้นเลือดใหญ่ ขององค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติที่ผูกโยงกันระหว่างโลกเงินสด ธนาคารดั้งเดิม และโลกคริปโตเคอร์เรนซีHuione Group คือ “หัวใจโลกการเงิน” ของอุตสาหกรรมโกงออนไลน์ในเอเชียตามประกาศของ FinCEN (หน่วยงานปราบปรามการฟอกเงิน)Huione Group ฟอกเงินรวมกันกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ในเวลาไม่ถึง 4 ปี!•37 ล้านดอลลาร์ มาจากปฏิบัติการไซเบอร์ที่ได้รับการหนุนหลังโดยรัฐเกาหลีเหนือ•36 ล้านดอลลาร์ จากกลโกงลงทุนแบบ “Pig Butchering” (หลอกลงทุนจนหมดตัว)•และ 300 ล้านดอลลาร์ จากอาชญากรรมไซเบอร์รูปแบบอื่นๆสิ่งที่น่ากลัวคือ Huione ไม่ได้ทำแค่ในโลกออนไลน์แต่มันมีทั้งสาขาในโลกจริง และโครงสร้างที่ดูเหมือนถูกกฎหมาย เช่น• Huione Pay สถาบันประมวลผลการชำระเงินในกัมพูชาที่มีใบอนุญาต•Huione Crypto แพลตฟอร์มบริการสินทรัพย์ดิจิทัล•Haowang Guarantee ตลาดออนไลน์ขายบริการผิดกฎหมายเว็บไซต์ของ Huione Guarantee ถูกอ้างถึงในรายงานของ UN ว่าเป็น “กลไกกลาง” ของอุตสาหกรรมโกงออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเคยประมวลผลธุรกรรมไปมากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2021!มาตรา 311 คือ อาวุธลับที่ไม่มีใครพูดถึงหลายคนรู้จักมาตรการคว่ำบาตรของ OFACแต่น้อยคนนักจะรู้ว่า “มาตรการแรงที่สุด” ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ คือ Section 311เพราะมันไม่ได้แค่แช่แข็งเงิน แต่เป็นการ ตัดการเชื่อมต่อโดยสิ้นเชิง กับระบบดอลลาร์ความต่างระหว่าง 311 vs OFACหัวข้อมาตรา 311OFAC Sanctionsบังคับใช้โดย FinCENOFACจุดประสงค์เพื่อต่อต้านฟอกเงิน & ก่อการร้ายความมั่นคงชาติ (การค้า อาวุธ มนุษยชน)สิ่วที่จะเกิดขึ้น คือการจำกัดการเข้าถึงระบบธนาคารสหรัฐฯอายัดทรัพย์สินทันที (หากเป็น “interim final rule”)หลังประกาศธนาคารทั่วโลกจะ “เลิกยุ่ง” โดยสมัครใจ เพราะไม่คุ้มเสี่ยงต้องปฏิบัติตามทันทีกล่าวง่ายๆ คือ ถ้า OFAC เป็น “ตำรวจล้อมจับ” Section 311 คือ “ตัดสายเลือด” ไม่ให้เงินไหลเข้า-ออกระบบเลยทำไม Huione ถึงน่ากลัว?เพราะ Huione ไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มแต่มันคือ ระบบนิเวศของอาชญากรรม ที่เชื่อมโลกการเงินดั้งเดิมเข้ากับคริปโตอย่างแนบเนียน•มีทั้ง Stablecoin (USDH) ที่โฆษณาชัดว่า “ไม่มีระบบอายัดทรัพย์สิน”•มี Blockchain ของตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามธุรกรรม•มีการเคลื่อนย้ายเงิน ข้าม Chain (Ethereum, BSC, Tron, Huione Chain)•และยังมีบริการแปลง Fiat → Crypto → Fiat ที่ทำให้ธนาคารตามไม่ทันระบบธนาคารทั่วไปเห็นแค่ “ถอนเงินปกติ” แต่ Blockchain วิเคราะห์ลึกถึงขั้นพบว่าเงินมาจากการโกงออนไลน์ดังนั้น ถ้าไม่มีระบบที่เชื่อมต่อข้อมูลโลก “on-chain” และ “off-chain”ธนาคารก็จะมองไม่เห็นความเสี่ยงเลยแม้ว่า Section 311 จะมีเวลาให้แสดงความเห็น 30 วันแต่ในทางปฏิบัติผลกระทบจะเริ่มต้นทันทีเพราะธนาคารต้อง1.รีบตรวจสอบ ว่ามีลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์ที่เกี่ยวข้องกับ Huione หรือไม่2.ย้อนดูธุรกรรมย้อนหลัง หลายปี เพื่อทำ Suspicious Activity Report (SAR)3.ขยายขอบเขต ไปยังบุคคลที่ 3 ที่อาจเกี่ยวข้องโดยอ้อม4.รับมือกับข่าวสารใหม่ ที่หลั่งไหลเข้ามาทุกวันเกี่ยวกับเครือข่ายนี้กรณี Huione สอนเราว่าการฟอกเงินยุคใหม่ ไม่ใช่แค่ใส่เงินเข้าเครื่องซัก แล้วออกมาใหม่ แต่มันคือกาใช้กลไกซับซ้อนระหว่างโลกคริปโต และธนาคาร ซ่อนเงินไว้หลาย Layer ที่ไม่มีใครคนเดียวมองเห็นทั้งหมด ต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย องค์กรที่ไม่มี ระบบ compliance ที่เชื่อมโลกเก่ากับโลกใหม่เข้าด้วยกันจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป ไม่ใช่แค่เสียชื่อเสียง แต่อาจถูกตั้งข้อหา “ละเลยความเสี่ยง” และเสียใบอนุญาตได้Huione Group ไม่ใช่แค่บริษัทหนึ่งแต่มันคือสัญลักษณ์ของยุคที่อาชญากรใช้เทคโนโลยีล้ำหน้ากว่า Regulatorและโลกการเงินต้องตื่นตัว ปรับตัวอย่างไม่รีรอตัดท่อน้ำเลี้ยงให้เร็ว ก่อนที่ระบบจะล่มทั้งเครือข่าย ที่มา : https://x.com/galadriel_tx/status/1934425378522828961?s=46&t=nn3z3yuHSlOFcPbFyzmrQA
    0 Comments 0 Shares 914 Views 0 Reviews
  • กลโกง Bitcoin ATM: วิธีใหม่ในการหลอกลวงทางการเงิน
    Bitcoin ATM กำลังกลายเป็นเครื่องมือใหม่ของมิจฉาชีพ โดยใช้ กลยุทธ์หลอกลวงทางโทรศัพท์ เพื่อให้เหยื่อ ถอนเงินสดและฝากเข้า Bitcoin ATM ซึ่งทำให้เงินหายไปโดยไม่สามารถติดตามได้

    วิธีการหลอกลวงที่พบในสหรัฐฯ
    มิจฉาชีพใช้โทรศัพท์หลอกเหยื่อให้ถอนเงินสด
    - เหยื่อได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทนจาก Apple หรือธนาคาร
    - ถูกข่มขู่ว่าบัญชีของตนมีธุรกรรมผิดกฎหมาย เช่น การซื้อสื่อลามกอนาจาร
    - มิจฉาชีพอ้างว่าเงินจะถูกยึดหากไม่รีบถอนและฝากเข้า “บัญชีตัวแทน” ผ่าน Bitcoin ATM

    Bitcoin ATM ถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน
    - เครื่องเหล่านี้ไม่สามารถถอนเงินสดได้ แต่รับเงินสดเพื่อแลกเป็นคริปโตเคอร์เรนซี
    - เงินที่ฝากเข้าไปจะถูกโอนไปยังบัญชีที่ไม่สามารถติดตามได้
    - มีการฟ้องร้องบริษัทผู้ให้บริการ Bitcoin ATM ในหลายรัฐ เช่น นิวเจอร์ซีย์และไอโอวา

    มูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - จากปี 2020 ถึง 2023 ความเสียหายจากการหลอกลวงผ่าน Bitcoin ATM เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า
    - ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    ผลกระทบต่อความปลอดภัยทางการเงิน
    Bitcoin ATM อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงินและฉ้อโกง
    - มิจฉาชีพสามารถใช้เครื่องเหล่านี้เพื่อรับเงินจากเหยื่อโดยไม่สามารถติดตามได้

    การหลอกลวงทางโทรศัพท์กำลังพัฒนาไปสู่รูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น
    - การปลอมหมายเลขโทรศัพท์ (spoofing) ทำให้เหยื่อเชื่อว่ากำลังคุยกับบริษัทจริง

    กฎหมายเกี่ยวกับ Bitcoin ATM ยังไม่มีมาตรการป้องกันที่เพียงพอ
    - บางรัฐเริ่มพิจารณาห้ามการติดตั้ง Bitcoin ATM เพื่อป้องกันการฉ้อโกง

    แนวทางป้องกันและอนาคตของ Bitcoin ATM
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนทำธุรกรรมทางการเงิน
    - หากได้รับโทรศัพท์ที่น่าสงสัย ควรติดต่อธนาคารโดยตรงเพื่อยืนยัน

    หน่วยงานกำกับดูแลควรเพิ่มมาตรการป้องกันการฉ้อโกง
    - ควรมีระบบตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติและแจ้งเตือนผู้ใช้

    ต้องติดตามว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายควบคุม Bitcoin ATM หรือไม่
    - บางรัฐกำลังพิจารณาห้ามการติดตั้งเครื่องเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/14/she-got-a-phone-call-to-deposit-her-money-the-terrifying-scam-inside-bitcoin-atms-in-the-us
    ⚠️ กลโกง Bitcoin ATM: วิธีใหม่ในการหลอกลวงทางการเงิน Bitcoin ATM กำลังกลายเป็นเครื่องมือใหม่ของมิจฉาชีพ โดยใช้ กลยุทธ์หลอกลวงทางโทรศัพท์ เพื่อให้เหยื่อ ถอนเงินสดและฝากเข้า Bitcoin ATM ซึ่งทำให้เงินหายไปโดยไม่สามารถติดตามได้ 🔍 วิธีการหลอกลวงที่พบในสหรัฐฯ ✅ มิจฉาชีพใช้โทรศัพท์หลอกเหยื่อให้ถอนเงินสด - เหยื่อได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างว่าเป็นตัวแทนจาก Apple หรือธนาคาร - ถูกข่มขู่ว่าบัญชีของตนมีธุรกรรมผิดกฎหมาย เช่น การซื้อสื่อลามกอนาจาร - มิจฉาชีพอ้างว่าเงินจะถูกยึดหากไม่รีบถอนและฝากเข้า “บัญชีตัวแทน” ผ่าน Bitcoin ATM ✅ Bitcoin ATM ถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน - เครื่องเหล่านี้ไม่สามารถถอนเงินสดได้ แต่รับเงินสดเพื่อแลกเป็นคริปโตเคอร์เรนซี - เงินที่ฝากเข้าไปจะถูกโอนไปยังบัญชีที่ไม่สามารถติดตามได้ - มีการฟ้องร้องบริษัทผู้ให้บริการ Bitcoin ATM ในหลายรัฐ เช่น นิวเจอร์ซีย์และไอโอวา ✅ มูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว - จากปี 2020 ถึง 2023 ความเสียหายจากการหลอกลวงผ่าน Bitcoin ATM เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า - ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 🔥 ผลกระทบต่อความปลอดภัยทางการเงิน ‼️ Bitcoin ATM อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงินและฉ้อโกง - มิจฉาชีพสามารถใช้เครื่องเหล่านี้เพื่อรับเงินจากเหยื่อโดยไม่สามารถติดตามได้ ‼️ การหลอกลวงทางโทรศัพท์กำลังพัฒนาไปสู่รูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น - การปลอมหมายเลขโทรศัพท์ (spoofing) ทำให้เหยื่อเชื่อว่ากำลังคุยกับบริษัทจริง ‼️ กฎหมายเกี่ยวกับ Bitcoin ATM ยังไม่มีมาตรการป้องกันที่เพียงพอ - บางรัฐเริ่มพิจารณาห้ามการติดตั้ง Bitcoin ATM เพื่อป้องกันการฉ้อโกง 🚀 แนวทางป้องกันและอนาคตของ Bitcoin ATM ✅ ผู้ใช้ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนทำธุรกรรมทางการเงิน - หากได้รับโทรศัพท์ที่น่าสงสัย ควรติดต่อธนาคารโดยตรงเพื่อยืนยัน ✅ หน่วยงานกำกับดูแลควรเพิ่มมาตรการป้องกันการฉ้อโกง - ควรมีระบบตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติและแจ้งเตือนผู้ใช้ ✅ ต้องติดตามว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายควบคุม Bitcoin ATM หรือไม่ - บางรัฐกำลังพิจารณาห้ามการติดตั้งเครื่องเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/14/she-got-a-phone-call-to-deposit-her-money-the-terrifying-scam-inside-bitcoin-atms-in-the-us
    WWW.THESTAR.COM.MY
    She got a phone call to deposit her money. The terrifying scam inside bitcoin ATMs in the US
    Bitcoin ATMs – generally found at convenience stores, gas stations and other high-traffic areas – have increasingly become the latest tool to separate people from their money.
    0 Comments 0 Shares 560 Views 0 Reviews
  • BIG Story | คนไร้ที่พึ่ง ใครพึ่ง(โกง)ใคร

    เมื่อกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุดในสังคมกลับถูกซ้ำเติมจากผู้มีหน้าที่ดูแล ย้อนรอยกลโกงเงินช่วยเหลือ "คนไร้ที่พึ่ง" จากโครงการ พม. ที่ลุกลามทั่วประเทศ มูลค่านับพันล้านบาท เผยช่องโหว่ของระบบราชการ และคำถามถึงจริยธรรมของผู้มีอำนาจ ที่หากินบนความทุกข์ยากของผู้อื่น

    ติดตามสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: คนไร้ที่พึ่ง ใครพึ่ง(โกง)ใคร ได้ที่ Thaitimes App

    #BigStory #คนไร้ที่พึ่ง #โกงเงินคนจน #คดีทุจริตพม #ข้าราชการโกง #ช่องโหว่ระบบราชการ #ThaiTimes
    BIG Story | คนไร้ที่พึ่ง ใครพึ่ง(โกง)ใคร เมื่อกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุดในสังคมกลับถูกซ้ำเติมจากผู้มีหน้าที่ดูแล ย้อนรอยกลโกงเงินช่วยเหลือ "คนไร้ที่พึ่ง" จากโครงการ พม. ที่ลุกลามทั่วประเทศ มูลค่านับพันล้านบาท เผยช่องโหว่ของระบบราชการ และคำถามถึงจริยธรรมของผู้มีอำนาจ ที่หากินบนความทุกข์ยากของผู้อื่น 📲 ติดตามสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: คนไร้ที่พึ่ง ใครพึ่ง(โกง)ใคร ได้ที่ Thaitimes App #BigStory #คนไร้ที่พึ่ง #โกงเงินคนจน #คดีทุจริตพม #ข้าราชการโกง #ช่องโหว่ระบบราชการ #ThaiTimes
    Like
    Love
    6
    0 Comments 1 Shares 1507 Views 40 0 Reviews
  • สรุป 6 กลโกงยอดฮิตที่มิจฉาชีพใช้แอบอ้างหน่วยงานต่างๆ

    มาดูกันว่ามิจฉาชีพมีวิธีไหนบ้างที่ใช้หลอกเราให้โอนเงิน หรือล้วงข้อมูลสำคัญของเราไป เช่น อ้างว่าเป็นธนาคาร DSI ตำรวจ การไฟฟ้า แบงก์ชาติ หรือกรมบัญชีกลาง

    จำไว้เสมอว่า "ของจริงไม่ทำ ของปลอมเท่านั้นที่มาหลอก!" สงสัย ให้ " Double Check เช็กซ้ำก่อนโอน!" ถ้าไม่แน่ใจให้ตรวจสอบกับหน่วยงานโดยตรงเสมอ
    💡 สรุป 6 กลโกงยอดฮิตที่มิจฉาชีพใช้แอบอ้างหน่วยงานต่างๆ มาดูกันว่ามิจฉาชีพมีวิธีไหนบ้างที่ใช้หลอกเราให้โอนเงิน หรือล้วงข้อมูลสำคัญของเราไป เช่น อ้างว่าเป็นธนาคาร DSI ตำรวจ การไฟฟ้า แบงก์ชาติ หรือกรมบัญชีกลาง จำไว้เสมอว่า "ของจริงไม่ทำ ของปลอมเท่านั้นที่มาหลอก!" สงสัย ให้ " Double Check เช็กซ้ำก่อนโอน!" ถ้าไม่แน่ใจให้ตรวจสอบกับหน่วยงานโดยตรงเสมอ 🙌
    0 Comments 0 Shares 464 Views 0 Reviews
  • ระวัง! มิจฉาชีพใช้ Booking.com หลอกขโมยข้อมูลบัตรเครดิต

    นักท่องเที่ยวที่ใช้ Booking.com อาจตกเป็นเป้าหมายของกลโกงใหม่ที่ใช้ ระบบแชทของแพลตฟอร์ม เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต โดยมิจฉาชีพ แฮ็กบัญชีของโรงแรมและที่พัก แล้วส่งข้อความแจ้งว่า การจองยังไม่สมบูรณ์และต้องยืนยันการชำระเงิน

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกง Booking.com
    มิจฉาชีพใช้บัญชีของโรงแรมจริงเพื่อส่งข้อความหลอกลวงผ่านระบบแชทของ Booking.com
    - ทำให้ ผู้ใช้เชื่อว่าเป็นข้อความจากที่พักจริง

    ข้อความแจ้งว่า "การจองยังไม่สมบูรณ์" และต้องยืนยันการชำระเงิน
    - หากผู้ใช้กดลิงก์ จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบ Booking.com

    เมื่อกรอกข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลจะถูกขโมยทันที
    - มิจฉาชีพ สามารถนำข้อมูลไปใช้ซื้อสินค้าออนไลน์หรือถอนเงินจากบัญชี

    Booking.com แนะนำให้ตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงินในหน้ารายละเอียดที่พัก
    - หากมีข้อสงสัย ควรติดต่อโรงแรมโดยตรงทางโทรศัพท์

    นอกจากกลโกงการยืนยันการจอง ยังมีมิจฉาชีพที่สร้างรายการที่พักปลอม
    - เสนอราคาถูกผิดปกติ และขอให้ผู้ใช้โอนเงินผ่าน WhatsApp หรืออีเมล

    Booking.com ใช้มาตรการตรวจจับการฉ้อโกงและบล็อกการจองปลอมกว่า 1.5 ล้านครั้งในปี 2023
    - ในปี 2024 จำนวนการฉ้อโกงลดลงเหลือ 250,000 ครั้ง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/26/bookingcom-scams-watch-for-these-fake-emails-targeting-users
    ระวัง! มิจฉาชีพใช้ Booking.com หลอกขโมยข้อมูลบัตรเครดิต นักท่องเที่ยวที่ใช้ Booking.com อาจตกเป็นเป้าหมายของกลโกงใหม่ที่ใช้ ระบบแชทของแพลตฟอร์ม เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต โดยมิจฉาชีพ แฮ็กบัญชีของโรงแรมและที่พัก แล้วส่งข้อความแจ้งว่า การจองยังไม่สมบูรณ์และต้องยืนยันการชำระเงิน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกง Booking.com ✅ มิจฉาชีพใช้บัญชีของโรงแรมจริงเพื่อส่งข้อความหลอกลวงผ่านระบบแชทของ Booking.com - ทำให้ ผู้ใช้เชื่อว่าเป็นข้อความจากที่พักจริง ✅ ข้อความแจ้งว่า "การจองยังไม่สมบูรณ์" และต้องยืนยันการชำระเงิน - หากผู้ใช้กดลิงก์ จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบ Booking.com ✅ เมื่อกรอกข้อมูลบัตรเครดิต ข้อมูลจะถูกขโมยทันที - มิจฉาชีพ สามารถนำข้อมูลไปใช้ซื้อสินค้าออนไลน์หรือถอนเงินจากบัญชี ✅ Booking.com แนะนำให้ตรวจสอบเงื่อนไขการชำระเงินในหน้ารายละเอียดที่พัก - หากมีข้อสงสัย ควรติดต่อโรงแรมโดยตรงทางโทรศัพท์ ✅ นอกจากกลโกงการยืนยันการจอง ยังมีมิจฉาชีพที่สร้างรายการที่พักปลอม - เสนอราคาถูกผิดปกติ และขอให้ผู้ใช้โอนเงินผ่าน WhatsApp หรืออีเมล ✅ Booking.com ใช้มาตรการตรวจจับการฉ้อโกงและบล็อกการจองปลอมกว่า 1.5 ล้านครั้งในปี 2023 - ในปี 2024 จำนวนการฉ้อโกงลดลงเหลือ 250,000 ครั้ง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/26/bookingcom-scams-watch-for-these-fake-emails-targeting-users
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Booking.com scams: Watch for these fake emails targeting users
    What's particularly perfidious is that, according to consumer protection website Watchlist Internet, contact is often made not via email or text message, but using the chat feature on Booking.com – the official communication channel between accommodation and guest.
    0 Comments 0 Shares 492 Views 0 Reviews
  • ชายชาวสหรัฐฯ สูญเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ หลังถูกหลอกผ่าน Instagram

    ชายคนหนึ่งในเมือง Trenton สหรัฐฯ ถูกหลอกให้โอนเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 850,099 บาท) หลังจากกดไลก์รูปของ Angelina Jolie บน Instagram โดยเขาเชื่อว่า กำลังพูดคุยกับนักแสดงชื่อดังผ่านข้อความ แต่แท้จริงแล้ว เป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้กลยุทธ์หลอกลวงทางออนไลน์

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกงนี้
    เหยื่อเริ่มพูดคุยกับมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็น Angelina Jolie ตั้งแต่เดือนกันยายน 2023
    - มิจฉาชีพ แนะนำให้เขาลงทุนใน Bitcoin โดยอ้างว่ามีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยได้

    เหยื่อซื้อบัตร Apple Gift Card และส่งรูปให้มิจฉาชีพ รวมมูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์
    - มิจฉาชีพ ใช้ข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

    เมื่อเหยื่อเริ่มสงสัยว่าถูกหลอก เขาติดต่อบุคคลที่อ้างว่าเป็นนักข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ
    - นักข่าวปลอม แนะนำให้เขาติดต่อทนายความ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นมิจฉาชีพอีกคนหนึ่ง

    ทนายความปลอมส่งรูปตัวเองพร้อมใบขับขี่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
    - จากนั้น เรียกร้องให้เหยื่อจ่ายค่าบริการเป็น Bitcoin และออกใบเสร็จปลอม

    เหยื่อพบว่ามีการพยายามถอนเงิน 31,000 ดอลลาร์จากบัญชีของเขา
    - เขาสามารถ ยับยั้งการทำธุรกรรมได้ทัน และยื่นเรื่องร้องเรียนกับธนาคาร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/24/man-taken-for-us200000-after-liking-instagram-picture-of-angelina-jolie
    ชายชาวสหรัฐฯ สูญเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ หลังถูกหลอกผ่าน Instagram ชายคนหนึ่งในเมือง Trenton สหรัฐฯ ถูกหลอกให้โอนเงินกว่า 200,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 850,099 บาท) หลังจากกดไลก์รูปของ Angelina Jolie บน Instagram โดยเขาเชื่อว่า กำลังพูดคุยกับนักแสดงชื่อดังผ่านข้อความ แต่แท้จริงแล้ว เป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้กลยุทธ์หลอกลวงทางออนไลน์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกลโกงนี้ ✅ เหยื่อเริ่มพูดคุยกับมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็น Angelina Jolie ตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 - มิจฉาชีพ แนะนำให้เขาลงทุนใน Bitcoin โดยอ้างว่ามีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยได้ ✅ เหยื่อซื้อบัตร Apple Gift Card และส่งรูปให้มิจฉาชีพ รวมมูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์ - มิจฉาชีพ ใช้ข้ออ้างต่าง ๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ✅ เมื่อเหยื่อเริ่มสงสัยว่าถูกหลอก เขาติดต่อบุคคลที่อ้างว่าเป็นนักข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ - นักข่าวปลอม แนะนำให้เขาติดต่อทนายความ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นมิจฉาชีพอีกคนหนึ่ง ✅ ทนายความปลอมส่งรูปตัวเองพร้อมใบขับขี่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ - จากนั้น เรียกร้องให้เหยื่อจ่ายค่าบริการเป็น Bitcoin และออกใบเสร็จปลอม ✅ เหยื่อพบว่ามีการพยายามถอนเงิน 31,000 ดอลลาร์จากบัญชีของเขา - เขาสามารถ ยับยั้งการทำธุรกรรมได้ทัน และยื่นเรื่องร้องเรียนกับธนาคาร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/24/man-taken-for-us200000-after-liking-instagram-picture-of-angelina-jolie
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Man taken for US$200,000 after liking Instagram picture of Angelina Jolie
    According to a police report, the man first conversed via text message with a woman he thought was Jolie back in September 2023.
    0 Comments 0 Shares 614 Views 0 Reviews
  • คนยุคนี้ก็ดัง "งูพิษ" ต่อให้แปลงหน้าตาให้สวยหล่อก็มีพิษ ฉ้อฉล กลโกงมากมาย และหลอกกันฆ่าชิงทรัพย์กันอยู่เนื่องๆ เพราะมีจิตใจแต่ความโลภมหาศาล กิเลสในจิตมหาศาล
    คนยุคนี้ก็ดัง "งูพิษ" ต่อให้แปลงหน้าตาให้สวยหล่อก็มีพิษ ฉ้อฉล กลโกงมากมาย และหลอกกันฆ่าชิงทรัพย์กันอยู่เนื่องๆ เพราะมีจิตใจแต่ความโลภมหาศาล กิเลสในจิตมหาศาล
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
More Results