• "Samsung ตอนนี้เจอปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในตลาดชิป AI และเซมิคอนดักเตอร์ที่คู่แข่งกำลังนำหน้าไปไกล Jay Y. Lee ประธานของบริษัทถึงกับออกมาเตือนผู้บริหารว่า นี่คือสถานการณ์ 'เป็นตาย' และเรียกร้องให้มีการลงทุนระยะยาว แม้ว่าจะต้องยอมลดกำไรระยะสั้น. การประชุมผู้ถือหุ้นที่จะถึงนี้จึงเป็นจุดสำคัญที่ต้องจับตามองว่าสิ่งที่ Lee เสนอนี้จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุนได้มากแค่ไหน แต่นับว่าคำพูดของเขาก็มีผลแล้ว เพราะหุ้นของ Samsung เพิ่งกระโดดขึ้นกว่า 5%

    https://www.techspot.com/news/107174-samsung-ceo-warns-do-or-die-situation-urges.html
    "Samsung ตอนนี้เจอปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะในตลาดชิป AI และเซมิคอนดักเตอร์ที่คู่แข่งกำลังนำหน้าไปไกล Jay Y. Lee ประธานของบริษัทถึงกับออกมาเตือนผู้บริหารว่า นี่คือสถานการณ์ 'เป็นตาย' และเรียกร้องให้มีการลงทุนระยะยาว แม้ว่าจะต้องยอมลดกำไรระยะสั้น. การประชุมผู้ถือหุ้นที่จะถึงนี้จึงเป็นจุดสำคัญที่ต้องจับตามองว่าสิ่งที่ Lee เสนอนี้จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุนได้มากแค่ไหน แต่นับว่าคำพูดของเขาก็มีผลแล้ว เพราะหุ้นของ Samsung เพิ่งกระโดดขึ้นกว่า 5% https://www.techspot.com/news/107174-samsung-ceo-warns-do-or-die-situation-urges.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Samsung CEO warns of "do-or-die" situation, urges investment over short-term profits
    Lee's remarks were delivered via a prerecorded video at a recent internal seminar attended by approximately 2,000 executives from Samsung's various affiliates. The seminars are part of...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กับก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ TypeScript หากคุณเป็นนักพัฒนาที่ใช้ TypeScript คุณอาจเคยเจอปัญหาโหลดโค้ดนานหรือคอมไพล์ที่กินเวลานาน โดยเฉพาะในโครงการที่มีขนาดใหญ่ ตอนนี้ Microsoft มีคำตอบด้วยการพัฒนา TypeScript ให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้นโดยอาศัยการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานไปใช้กับภาษา Go แทน JavaScript ในปัจจุบัน

    ประโยชน์ที่เด่นชัดที่สุด:
    1) ความเร็ว: Startup time ของโปรแกรมและเวลาในการคอมไพล์โค้ดลดลง 10 เท่า
    2) การใช้หน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพ: หน่วยความจำลดลงเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับเวอร์ชันเก่า
    3) รองรับโครงการใหญ่: ปัญหาการโหลดโค้ดขนาดใหญ่จะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป

    Microsoft ยังเน้นการปรับปรุงเพื่อช่วยนักพัฒนาที่ทำงานกับ AI ซึ่งต้องการเครื่องมือที่รวดเร็วเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ในเวลาสั้นๆ ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ดีกว่าที่เคย

    ตัวอย่างความสำเร็จที่น่าสนใจ เช่น เมื่อทดสอบกับโปรเจ็กต์ยอดนิยมใน GitHub อย่าง TypeORM ผลลัพธ์ที่ได้แสดงถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นถึง 13.5 เท่า!

    ในอนาคต Microsoft มีแผนเปิดตัว TypeScript เวอร์ชัน 7.0 ที่พัฒนาใน Go เพื่อช่วยนักพัฒนาให้ทำงานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังคงสนับสนุน TypeScript เวอร์ชันเก่าสำหรับการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่น

    https://www.techspot.com/news/107139-microsoft-making-typescript-10x-faster-native-implementation-go.html
    Microsoft กับก้าวกระโดดครั้งใหม่ของ TypeScript หากคุณเป็นนักพัฒนาที่ใช้ TypeScript คุณอาจเคยเจอปัญหาโหลดโค้ดนานหรือคอมไพล์ที่กินเวลานาน โดยเฉพาะในโครงการที่มีขนาดใหญ่ ตอนนี้ Microsoft มีคำตอบด้วยการพัฒนา TypeScript ให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้นโดยอาศัยการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานไปใช้กับภาษา Go แทน JavaScript ในปัจจุบัน ประโยชน์ที่เด่นชัดที่สุด: 1) ความเร็ว: Startup time ของโปรแกรมและเวลาในการคอมไพล์โค้ดลดลง 10 เท่า 2) การใช้หน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพ: หน่วยความจำลดลงเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับเวอร์ชันเก่า 3) รองรับโครงการใหญ่: ปัญหาการโหลดโค้ดขนาดใหญ่จะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป Microsoft ยังเน้นการปรับปรุงเพื่อช่วยนักพัฒนาที่ทำงานกับ AI ซึ่งต้องการเครื่องมือที่รวดเร็วเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ในเวลาสั้นๆ ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ดีกว่าที่เคย ตัวอย่างความสำเร็จที่น่าสนใจ เช่น เมื่อทดสอบกับโปรเจ็กต์ยอดนิยมใน GitHub อย่าง TypeORM ผลลัพธ์ที่ได้แสดงถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นถึง 13.5 เท่า! ในอนาคต Microsoft มีแผนเปิดตัว TypeScript เวอร์ชัน 7.0 ที่พัฒนาใน Go เพื่อช่วยนักพัฒนาให้ทำงานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังคงสนับสนุน TypeScript เวอร์ชันเก่าสำหรับการเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่น https://www.techspot.com/news/107139-microsoft-making-typescript-10x-faster-native-implementation-go.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft is making TypeScript 10x faster with native implementation in Go
    TypeScript should soon become 10x faster on average. Anders Hejlsberg's team at Microsoft is working on a radical improvement to its performance with a new native port...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัตตานี - คนร้ายขว้างไปป์บอมใส่จุดตรวจริมถนนสายนาเกตุ-โคกโพธิ์ ม.7 บ้านดอน ต.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ก่อนเร่งเครื่องหลบหนีไป โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เชื่อเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบที่พยายามสร้างสถานการณ์

    วันนี้ (11 มี.ค.) พ.ต.อ.มุสตาพา มะนิ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งคนร้ายขว้างไปป์บอมบ์ ใส่จุดตรวจยูเทิร์น ตั้งอยู่ริมถนนสายนาเกตุ-โคกโพธิ์ ม.7 บ้านดอน ต.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งจึงรีบนำกำลังเข้าที่เกิดเหตุ พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ประจำป้อมจุดตรวจออกมาด้านนอกคุมพื้นที่หลังเกิดเหตุ พร้อมกับปิดกั้นเส้นทางดังกล่าวไว้ชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยระเบิดบริเวณบังเกอร์และหลุมระเบิดอยู่บริเวณด้านข้างป้อมจุดตรวจ และมีชิ้นส่วนระเบิดและสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

    จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อม กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อม ปรากฏว่าได้มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มาทาง อ.โคกโพธิ์ เมื่อมาถึงด้านหน้าของจุดตรวจโคราช จึงได้ขว้างไปป์บอมบ์ตกด้านข้างจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในต่างกระโดดหลบก่อนจะออกมาด้านนอกเพราะเกรงว่าจะมีการโจมตีซ้ำ แต่หลังเกิดเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/south/detail/9680000023344

    #MGROnline #ปัตตานี #ไปป์บอม #จุดตรวจริม #ถนนสายนาเกตุ_โคกโพธิ์
    ปัตตานี - คนร้ายขว้างไปป์บอมใส่จุดตรวจริมถนนสายนาเกตุ-โคกโพธิ์ ม.7 บ้านดอน ต.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ก่อนเร่งเครื่องหลบหนีไป โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เชื่อเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบที่พยายามสร้างสถานการณ์ • วันนี้ (11 มี.ค.) พ.ต.อ.มุสตาพา มะนิ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งคนร้ายขว้างไปป์บอมบ์ ใส่จุดตรวจยูเทิร์น ตั้งอยู่ริมถนนสายนาเกตุ-โคกโพธิ์ ม.7 บ้านดอน ต.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งจึงรีบนำกำลังเข้าที่เกิดเหตุ พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ประจำป้อมจุดตรวจออกมาด้านนอกคุมพื้นที่หลังเกิดเหตุ พร้อมกับปิดกั้นเส้นทางดังกล่าวไว้ชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่องรอยระเบิดบริเวณบังเกอร์และหลุมระเบิดอยู่บริเวณด้านข้างป้อมจุดตรวจ และมีชิ้นส่วนระเบิดและสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน • จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อม กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อม ปรากฏว่าได้มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มาทาง อ.โคกโพธิ์ เมื่อมาถึงด้านหน้าของจุดตรวจโคราช จึงได้ขว้างไปป์บอมบ์ตกด้านข้างจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น เจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายในต่างกระโดดหลบก่อนจะออกมาด้านนอกเพราะเกรงว่าจะมีการโจมตีซ้ำ แต่หลังเกิดเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องหลบหนีไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/south/detail/9680000023344 • #MGROnline #ปัตตานี #ไปป์บอม #จุดตรวจริม #ถนนสายนาเกตุ_โคกโพธิ์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้ว่ารัสเซียจะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากหลายประเทศ แต่อุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์กลับเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2024 โดยมีการเพิ่มจำนวนพนักงานถึง 13% ในหลายบริษัท เช่น Element Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Mikron (ผู้ผลิตชิประดับสูงรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย) และอื่น ๆ เช่น Graviton และ RDV Technology

    == การเพิ่มจำนวนและคุณภาพบุคลากร ==
    1) การเติบโตของพนักงาน: บริษัท Element Group มีพนักงานถึง 9,500 คน โดย 42% เป็นวิศวกร และ Graviton เพิ่มบุคลากรในสาย R&D ถึงสามเท่าในปีที่ผ่านมา
    2) แรงจูงใจผ่านเงินเดือน: อัตราเงินเดือนวิศวกรเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น มอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15-22% พร้อมกับการมอบผลประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อแข่งขันแย่งบุคลากรที่มีความสามารถ

    == ผลผลิตและนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น ==
    - RDV Technology ขยายสายการผลิตเพิ่มขึ้นสองสาย พร้อมเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สองรุ่นชื่อ Altai และ Caucasus
    - Aquarius เพิ่มบุคลากรสายอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น และเน้นนวัตกรรมในระบบเซิร์ฟเวอร์และ PC

    มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2025 โดยบริษัทในรัสเซียตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานอีก 8% โดยบริษัทบางแห่งวางแผนเพิ่มถึง 20% ภายในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดไมโครอิเล็กทรอนิกส์

    ในขณะที่อุตสาหกรรมกำลังเติบโต แต่รัสเซียเผชิญกับการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากมีบุคลากรหลายคนย้ายออกนอกประเทศจากสงครามในยูเครน เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัทต่าง ๆ ได้เสนอโครงการฝึกอบรมสำหรับนักศึกษาและเพิ่มโควต้าผู้เรียนในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังลงทุนในโครงการฝึกงานที่มอบโอกาสการจ้างงานแก่ผู้สำเร็จการศึกษา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/russia-sees-tech-boom-amid-sanctions-microelectronics-industry-sees-massive-hiring-surge-and-increased-salaries
    แม้ว่ารัสเซียจะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากหลายประเทศ แต่อุตสาหกรรมไมโครอิเล็กทรอนิกส์กลับเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2024 โดยมีการเพิ่มจำนวนพนักงานถึง 13% ในหลายบริษัท เช่น Element Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Mikron (ผู้ผลิตชิประดับสูงรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย) และอื่น ๆ เช่น Graviton และ RDV Technology == การเพิ่มจำนวนและคุณภาพบุคลากร == 1) การเติบโตของพนักงาน: บริษัท Element Group มีพนักงานถึง 9,500 คน โดย 42% เป็นวิศวกร และ Graviton เพิ่มบุคลากรในสาย R&D ถึงสามเท่าในปีที่ผ่านมา 2) แรงจูงใจผ่านเงินเดือน: อัตราเงินเดือนวิศวกรเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ เช่น มอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15-22% พร้อมกับการมอบผลประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อแข่งขันแย่งบุคลากรที่มีความสามารถ == ผลผลิตและนวัตกรรมที่เพิ่มขึ้น == - RDV Technology ขยายสายการผลิตเพิ่มขึ้นสองสาย พร้อมเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สองรุ่นชื่อ Altai และ Caucasus - Aquarius เพิ่มบุคลากรสายอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น และเน้นนวัตกรรมในระบบเซิร์ฟเวอร์และ PC มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2025 โดยบริษัทในรัสเซียตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานอีก 8% โดยบริษัทบางแห่งวางแผนเพิ่มถึง 20% ภายในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่อุตสาหกรรมกำลังเติบโต แต่รัสเซียเผชิญกับการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากมีบุคลากรหลายคนย้ายออกนอกประเทศจากสงครามในยูเครน เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัทต่าง ๆ ได้เสนอโครงการฝึกอบรมสำหรับนักศึกษาและเพิ่มโควต้าผู้เรียนในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังลงทุนในโครงการฝึกงานที่มอบโอกาสการจ้างงานแก่ผู้สำเร็จการศึกษา https://www.tomshardware.com/tech-industry/russia-sees-tech-boom-amid-sanctions-microelectronics-industry-sees-massive-hiring-surge-and-increased-salaries
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • แพทองธารกล่าว "อย่าท้อใจ" GDP ไทยรั้งท้ายอาเซียน

    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการโอกาสไทยกับนายกแพทองธาร ทางช่อง NBT เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ในตอนหนึ่งกล่าวถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งมีหลายฝ่ายกังวลว่าเศรษฐกิจไทยไม่โตและรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน เจ้าตัวชี้แจงว่าไตรมาส 4/2567 ตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้น 3.2% รวมทั้งปีอยู่ที่ 2.5% เกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ และการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

    น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ หากไม่ทำให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า จะตามคนอื่นไม่ทัน ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องดันจีดีพีขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตอนที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน เป็นนายกฯ เกือบ 6 เดือน ดูเรื่องงบประมาณค่อนข้างจำกัด งบส่วนใหญ่ที่รัฐได้มาจะถูกนำไปใช้จ่ายเรื่องงบประจำ พยายามรัดเข็มขัดให้ดี ไม่อยากให้มีการจ่ายเพิ่มงบประจำ ขออย่าเสียกำลังใจในเรื่องจีดีพี

    "จีดีพีเราโต 2.5% แปลว่าเราโตขึ้นจากปีที่แล้ว 2% ขยับขึ้นและคิดว่าภายใต้การนำของรัฐบาลร่วมกับเอกชนร่วมมือกัน จีดีพีมีโอกาสโตขึ้นสูงมากๆ อย่าเพิ่งท้อใจ นี่เพิ่งต้นปี เราต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย"

    น.ส.แพทองธารยืนยันว่า ตนต้องอยู่ครบเทอมเพื่อผลักดันการลงทุน ยืนยันว่าทุกจังหวัดรัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว เพิ่งเริ่มต้นรัฐบาลผลักดันต่อแน่นอน เพื่อให้จีดีพีของประเทศเพิ่มมากขึ้น แปลว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนเพิ่มขึ้น ให้ประเทศอื่นได้ดูด้วยว่าประเทศไทยมีคุณภาพ มีศักยภาพขึ้นแล้ว จีดีพีช่วงนี้ที่ไม่ได้ขึ้นมานานก็ขึ้น กำลังค่อยๆ ไปต่อ ตนอยากทำให้ขึ้นแบบก้าวกระโดด คิดว่าเป็นไปได้ รัฐบาลอยากให้พี่น้องทุกคนร่ำรวย จะได้จับจ่ายใช้สอยให้เกิดประโยชน์กับประเทศ

    “ก็ขอกำลังใจเยอะๆ บางทีก็มีท้อบ้าง แต่ว่าไม่ท้อนานแน่นอน สู้ ประเทศยังต้องการพัฒนา การผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุนอีกเยอะ ดิฉันเองวันนี้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯ ทำหน้าที่เต็มที่ที่สุด เพราะฉะนั้นปีแห่งโอกาส ทุกคนต้องมีความหวังและต้องได้รับโอกาสแน่นอน”

    ก่อนหน้านี้ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ คาดการณ์ว่าปี 2568 จีดีพีโต 2.8% รวมมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทแล้ว แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแต่ยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม (6.4%) ฟิลิปปินส์ (6%) และกัมพูชา (6%) แต่ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าโลก หากรัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจโตถึง 3-3.5% ต้องกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนและเร่งกระจายเงินลงทุนภาครัฐเพิ่มเติม

    #Newskit
    แพทองธารกล่าว "อย่าท้อใจ" GDP ไทยรั้งท้ายอาเซียน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการโอกาสไทยกับนายกแพทองธาร ทางช่อง NBT เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ในตอนหนึ่งกล่าวถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งมีหลายฝ่ายกังวลว่าเศรษฐกิจไทยไม่โตและรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน เจ้าตัวชี้แจงว่าไตรมาส 4/2567 ตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้น 3.2% รวมทั้งปีอยู่ที่ 2.5% เกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ และการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ หากไม่ทำให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า จะตามคนอื่นไม่ทัน ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องดันจีดีพีขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตอนที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน เป็นนายกฯ เกือบ 6 เดือน ดูเรื่องงบประมาณค่อนข้างจำกัด งบส่วนใหญ่ที่รัฐได้มาจะถูกนำไปใช้จ่ายเรื่องงบประจำ พยายามรัดเข็มขัดให้ดี ไม่อยากให้มีการจ่ายเพิ่มงบประจำ ขออย่าเสียกำลังใจในเรื่องจีดีพี "จีดีพีเราโต 2.5% แปลว่าเราโตขึ้นจากปีที่แล้ว 2% ขยับขึ้นและคิดว่าภายใต้การนำของรัฐบาลร่วมกับเอกชนร่วมมือกัน จีดีพีมีโอกาสโตขึ้นสูงมากๆ อย่าเพิ่งท้อใจ นี่เพิ่งต้นปี เราต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย" น.ส.แพทองธารยืนยันว่า ตนต้องอยู่ครบเทอมเพื่อผลักดันการลงทุน ยืนยันว่าทุกจังหวัดรัฐบาลต้องดูแลอยู่แล้ว เพิ่งเริ่มต้นรัฐบาลผลักดันต่อแน่นอน เพื่อให้จีดีพีของประเทศเพิ่มมากขึ้น แปลว่าเงินในกระเป๋าของประชาชนเพิ่มขึ้น ให้ประเทศอื่นได้ดูด้วยว่าประเทศไทยมีคุณภาพ มีศักยภาพขึ้นแล้ว จีดีพีช่วงนี้ที่ไม่ได้ขึ้นมานานก็ขึ้น กำลังค่อยๆ ไปต่อ ตนอยากทำให้ขึ้นแบบก้าวกระโดด คิดว่าเป็นไปได้ รัฐบาลอยากให้พี่น้องทุกคนร่ำรวย จะได้จับจ่ายใช้สอยให้เกิดประโยชน์กับประเทศ “ก็ขอกำลังใจเยอะๆ บางทีก็มีท้อบ้าง แต่ว่าไม่ท้อนานแน่นอน สู้ ประเทศยังต้องการพัฒนา การผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุนอีกเยอะ ดิฉันเองวันนี้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯ ทำหน้าที่เต็มที่ที่สุด เพราะฉะนั้นปีแห่งโอกาส ทุกคนต้องมีความหวังและต้องได้รับโอกาสแน่นอน” ก่อนหน้านี้ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒน์ คาดการณ์ว่าปี 2568 จีดีพีโต 2.8% รวมมาตรการแจกเงิน 10,000 บาทแล้ว แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแต่ยังต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม (6.4%) ฟิลิปปินส์ (6%) และกัมพูชา (6%) แต่ยังมีความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าโลก หากรัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจโตถึง 3-3.5% ต้องกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนและเร่งกระจายเงินลงทุนภาครัฐเพิ่มเติม #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสมเด็จทรงครุฑ วัดประชุมราษฎร์ จ.ปทุมธานี
    พระสมเด็จทรงครุฑ วัดประชุมราษฎร์ จ.ปทุมธานี // เมตตา, แคล้วคลาด, สำเร็จ พิธีมหาพุทธาภิเษก // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยมเป็นเลิศ มหาอำนาจบารมี การงานเจริญรุ่งเรือง ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า มั่นคง และแคล้วคลาดปลอดภัย เสริมอำนาจ วาสนา รับราชการเจริญก้าวหน้า ทำมาหากินคล่องธุรกิจ ..

    “พญาครุฑ” ทั้งคนดวงชง หรือไม่ชง เพราะเคราะห์ร้าย ภัยพิบัติ หากจะเกิดมี พลังเทวานุภาพของครุฑ จะกางปีกปัดเป่าออกไปหมด และเสริมดวงชะตาผู้บูชาให้ก้าวหน้า แบบก้าวกระโดด

    ** วัดประชุมราษฎร์สร้างเมื่อ พ.ศ. 2400 โดยมีชาวบ้านร่วมใจกันสร้าง เดิมวัดนี้ตั้งอยู่ริมคลองหกวา ต่อมาทางราชการได้ขุดคลองหกขึ้นไปทางทิศเหนือเชื่อมกับคลองรังสิต และขุดคลองสามวาทางด้านทิศใต้เกิดเป็นสี่แยก และได้ขนานนามว่า "วัดประชุมราษฎร์" แต่ชาวบ้านมักเรียกว่า วัดปากคลองหก >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระสมเด็จทรงครุฑ วัดประชุมราษฎร์ จ.ปทุมธานี พระสมเด็จทรงครุฑ วัดประชุมราษฎร์ จ.ปทุมธานี // เมตตา, แคล้วคลาด, สำเร็จ พิธีมหาพุทธาภิเษก // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เมตตามหานิยมเป็นเลิศ มหาอำนาจบารมี การงานเจริญรุ่งเรือง ทำมาหากินเจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า มั่นคง และแคล้วคลาดปลอดภัย เสริมอำนาจ วาสนา รับราชการเจริญก้าวหน้า ทำมาหากินคล่องธุรกิจ .. “พญาครุฑ” ทั้งคนดวงชง หรือไม่ชง เพราะเคราะห์ร้าย ภัยพิบัติ หากจะเกิดมี พลังเทวานุภาพของครุฑ จะกางปีกปัดเป่าออกไปหมด และเสริมดวงชะตาผู้บูชาให้ก้าวหน้า แบบก้าวกระโดด ** วัดประชุมราษฎร์สร้างเมื่อ พ.ศ. 2400 โดยมีชาวบ้านร่วมใจกันสร้าง เดิมวัดนี้ตั้งอยู่ริมคลองหกวา ต่อมาทางราชการได้ขุดคลองหกขึ้นไปทางทิศเหนือเชื่อมกับคลองรังสิต และขุดคลองสามวาทางด้านทิศใต้เกิดเป็นสี่แยก และได้ขนานนามว่า "วัดประชุมราษฎร์" แต่ชาวบ้านมักเรียกว่า วัดปากคลองหก >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวล่าสุดที่น่าสนใจจาก TechSpot เกี่ยวกับการทดลองใช้หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ในการผลิตหุ่นยนต์เพิ่มขึ้นเองที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส โดยบริษัทชื่อ Apptronik ได้ร่วมมือกับบริษัท Jabil ในการทดสอบการใช้งานหุ่นยนต์ Apollo ในสภาพแวดล้อมของโรงงาน

    หุ่นยนต์ Apollo มีความสูง 5 ฟุต 8 นิ้ว น้ำหนัก 160 ปอนด์ และสามารถทำงานได้ 4 ชั่วโมงต่อแบตเตอรี่หนึ่งชุด โดยหุ่นยนต์จะทำงานในหน้าที่ที่ซ้ำซ้อน เช่น ตรวจสอบสินค้า จัดเรียงของ การจัดส่งข้างไลน์ และการติดตั้งชิ้นส่วน หุ่นยนต์เหล่านี้จะเริ่มการผลิตในปี 2026 หากการทดลองนี้ประสบความสำเร็จ

    มีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียงานของมนุษย์เนื่องจากหุ่นยนต์ แต่ทางบริษัทกล่าวว่า การนำหุ่นยนต์มาใช้จะช่วยให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการวิเคราะห์

    เรื่องที่น่าสนใจคือ หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถสร้างหุ่นยนต์ได้อีก ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในวงการอุตสาหกรรมอย่างมหาศาล การพัฒนานี้สะท้อนให้เห็นถึงการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีและความสามารถของมนุษย์ในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ

    https://www.techspot.com/news/106967-factory-trials-begin-humanoid-robots-could-build-more.html
    มีข่าวล่าสุดที่น่าสนใจจาก TechSpot เกี่ยวกับการทดลองใช้หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ในการผลิตหุ่นยนต์เพิ่มขึ้นเองที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส โดยบริษัทชื่อ Apptronik ได้ร่วมมือกับบริษัท Jabil ในการทดสอบการใช้งานหุ่นยนต์ Apollo ในสภาพแวดล้อมของโรงงาน หุ่นยนต์ Apollo มีความสูง 5 ฟุต 8 นิ้ว น้ำหนัก 160 ปอนด์ และสามารถทำงานได้ 4 ชั่วโมงต่อแบตเตอรี่หนึ่งชุด โดยหุ่นยนต์จะทำงานในหน้าที่ที่ซ้ำซ้อน เช่น ตรวจสอบสินค้า จัดเรียงของ การจัดส่งข้างไลน์ และการติดตั้งชิ้นส่วน หุ่นยนต์เหล่านี้จะเริ่มการผลิตในปี 2026 หากการทดลองนี้ประสบความสำเร็จ มีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียงานของมนุษย์เนื่องจากหุ่นยนต์ แต่ทางบริษัทกล่าวว่า การนำหุ่นยนต์มาใช้จะช่วยให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการวิเคราะห์ เรื่องที่น่าสนใจคือ หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถสร้างหุ่นยนต์ได้อีก ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในวงการอุตสาหกรรมอย่างมหาศาล การพัฒนานี้สะท้อนให้เห็นถึงการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีและความสามารถของมนุษย์ในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ https://www.techspot.com/news/106967-factory-trials-begin-humanoid-robots-could-build-more.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Factory begins trial for humanoid robots that can build more of themselves
    Robot-maker Apptronik has announced a pilot partnership with American firm Jabil. In addition to its supply chain services primarily serving OEMs, Jabil is involved in designing, engineering,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการเปรียบเทียบการ์ดจอ NVIDIA ซีรีส์ 50 กับซีรีส์ 40 ที่เปิดตัวใหม่ โดย Merzal-1414 ซึ่งเขาโพสต์ในเว็บไซต์ The Crimson Market เพราะการเปรียบเทียบการ์ดจอทั้ง 2 รุ่น ก่อให้เกิดการอภิปรายมากมายในกลุ่มนักเล่นเกมและผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยี หลายคนตั้งคำถามว่าเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดนี้มีความก้าวหน้าอย่างสำคัญหรือเป็นเพียงการพัฒนาเล็กน้อยเหนือซีรีส์ 40 โดย Merzal-1414 สรุปไว้ดังนี้

    =ประสิทธิภาพดิบ=
    การปรับปรุงเล็กน้อย จากการเปรียบเทียบเบื้องต้นพบว่า ซีรีส์ 50 ไม่ได้มีความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในการทำงานแบบดั้งเดิมเมื่อเทียบกับซีรีส์ 40 ในเกมที่ไม่มีเทคโนโลยี DLSS 4’s Multi Frame Generation (การสร้างเฟรมหลายภาพด้วย AI) การ์ดจอซีรีส์ 50 ให้เฟรมเรต (FPS) สูงขึ้นเพียง 15-33% เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าการกระโดดทางประสิทธิภาพจากซีรีส์ 30 ไปยังซีรีส์ 40

    =ประสิทธิภาพของ Ray Tracing=
    การเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่า Ray Tracing จะเป็นจุดเน้นของการพัฒนา GPU ของ NVIDIA ซีรีส์ 50 นำการปรับปรุงเล็กน้อยในการเรนเดอร์ด้วยเทคโนโลยีนี้ โดยประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ในเกมที่มี Ray Tracing

    =Frame Generation=
    การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เทคโนโลยี DLSS 4’s Multi Frame Generation ของซีรีส์ 50 ช่วยเพิ่ม FPS ได้อย่างมหาศาลโดยใช้ AI สร้างเฟรมระหว่างเฟรมจริง ทำให้การเล่นเกมดูเรียบเนียนและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น สำหรับเกมที่รองรับเทคโนโลยีนี้ ความแตกต่างในการเล่นจะชัดเจนมาก แต่สิ่งนี้ไม่ใช่การเพิ่มประสิทธิภาพการเรนเดอร์จริง ๆ

    =ประสิทธิภาพพลังงาน=
    ก้าวเล็กน้อยไปข้างหน้า ซีรีส์ 50 มีการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานที่ดีกว่าซีรีส์ 40 โดยให้ประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่ดีกว่า ทำให้ระบบทำงานเย็นลงและเงียบกว่า แต่คำถามคือว่าคุณสมบัตินี้เพียงพอที่จะทำให้คุณควรอัปเกรดหรือไม่

    ความจุของ VRAM และการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การอัปเกรดไปใช้ซีรีส์ 50 น่าสนใจคือความจุของ VRAM ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการ์ดจอซีรีส์ 40 บางรุ่น เช่น RTX 4060 Ti มีเพียง 8GB เท่านั้น ทำให้การ์ดจอซีรีส์ 50 มีความคุ้มค่ามากกว่าสำหรับเกมในอนาคตที่ต้องการหน่วยความจำมากขึ้น

    **==สรุป==**
    มันเป็น "การพัฒนา" ไม่ใช่ "การปฏิวัติ"
    ซีรีส์ 50 ของ NVIDIA ไม่ได้เป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านประสิทธิภาพดิบ แต่สำหรับผู้ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการเล่นเกมเช่น DLSS 4’s Multi Frame Generation จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่กว่าความเป็นจริงในการเรนเดอร์ ด้วยเหตุนี้ การตัดสินใจอัปเกรดจะขึ้นอยู่กับความสำคัญที่คุณให้กับการปรับปรุงด้าน AI เมื่อเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพการเรนเดอร์แบบดั้งเดิม

    https://www.thecrimsonmarket.com/hub/blogs/entry/4-nvidia-50-series-vs-40-series-is-the-upgrade-worth-it/
    มีการเปรียบเทียบการ์ดจอ NVIDIA ซีรีส์ 50 กับซีรีส์ 40 ที่เปิดตัวใหม่ โดย Merzal-1414 ซึ่งเขาโพสต์ในเว็บไซต์ The Crimson Market เพราะการเปรียบเทียบการ์ดจอทั้ง 2 รุ่น ก่อให้เกิดการอภิปรายมากมายในกลุ่มนักเล่นเกมและผู้ที่หลงใหลในเทคโนโลยี หลายคนตั้งคำถามว่าเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดนี้มีความก้าวหน้าอย่างสำคัญหรือเป็นเพียงการพัฒนาเล็กน้อยเหนือซีรีส์ 40 โดย Merzal-1414 สรุปไว้ดังนี้ =ประสิทธิภาพดิบ= การปรับปรุงเล็กน้อย จากการเปรียบเทียบเบื้องต้นพบว่า ซีรีส์ 50 ไม่ได้มีความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในการทำงานแบบดั้งเดิมเมื่อเทียบกับซีรีส์ 40 ในเกมที่ไม่มีเทคโนโลยี DLSS 4’s Multi Frame Generation (การสร้างเฟรมหลายภาพด้วย AI) การ์ดจอซีรีส์ 50 ให้เฟรมเรต (FPS) สูงขึ้นเพียง 15-33% เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าการกระโดดทางประสิทธิภาพจากซีรีส์ 30 ไปยังซีรีส์ 40 =ประสิทธิภาพของ Ray Tracing= การเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่า Ray Tracing จะเป็นจุดเน้นของการพัฒนา GPU ของ NVIDIA ซีรีส์ 50 นำการปรับปรุงเล็กน้อยในการเรนเดอร์ด้วยเทคโนโลยีนี้ โดยประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ในเกมที่มี Ray Tracing =Frame Generation= การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เทคโนโลยี DLSS 4’s Multi Frame Generation ของซีรีส์ 50 ช่วยเพิ่ม FPS ได้อย่างมหาศาลโดยใช้ AI สร้างเฟรมระหว่างเฟรมจริง ทำให้การเล่นเกมดูเรียบเนียนและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น สำหรับเกมที่รองรับเทคโนโลยีนี้ ความแตกต่างในการเล่นจะชัดเจนมาก แต่สิ่งนี้ไม่ใช่การเพิ่มประสิทธิภาพการเรนเดอร์จริง ๆ =ประสิทธิภาพพลังงาน= ก้าวเล็กน้อยไปข้างหน้า ซีรีส์ 50 มีการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานที่ดีกว่าซีรีส์ 40 โดยให้ประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่ดีกว่า ทำให้ระบบทำงานเย็นลงและเงียบกว่า แต่คำถามคือว่าคุณสมบัตินี้เพียงพอที่จะทำให้คุณควรอัปเกรดหรือไม่ ความจุของ VRAM และการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การอัปเกรดไปใช้ซีรีส์ 50 น่าสนใจคือความจุของ VRAM ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการ์ดจอซีรีส์ 40 บางรุ่น เช่น RTX 4060 Ti มีเพียง 8GB เท่านั้น ทำให้การ์ดจอซีรีส์ 50 มีความคุ้มค่ามากกว่าสำหรับเกมในอนาคตที่ต้องการหน่วยความจำมากขึ้น **==สรุป==** มันเป็น "การพัฒนา" ไม่ใช่ "การปฏิวัติ" ซีรีส์ 50 ของ NVIDIA ไม่ได้เป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านประสิทธิภาพดิบ แต่สำหรับผู้ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการเล่นเกมเช่น DLSS 4’s Multi Frame Generation จะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่กว่าความเป็นจริงในการเรนเดอร์ ด้วยเหตุนี้ การตัดสินใจอัปเกรดจะขึ้นอยู่กับความสำคัญที่คุณให้กับการปรับปรุงด้าน AI เมื่อเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพการเรนเดอร์แบบดั้งเดิม https://www.thecrimsonmarket.com/hub/blogs/entry/4-nvidia-50-series-vs-40-series-is-the-upgrade-worth-it/
    WWW.THECRIMSONMARKET.COM
    NVIDIA 50 Series vs. 40 Series: Is the Upgrade Worth It?
    The launch of NVIDIA’s 50 series GPUs has sparked debates among gamers and tech enthusiasts. Many are questioning whether the latest generation offers a significant leap forward or just a minor iteration over the 40 series. The consensus among early adopters and benchmarks suggests that if you ig...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Micron Technology ได้ประกาศความสำเร็จในการส่งตัวอย่างหน่วยความจำ 1γ (1-gamma) DRAM รุ่นแรกในอุตสาหกรรม โดยใช้กระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญในด้านการผลิตหน่วยความจำ DRAM ที่มีประสิทธิภาพสูง

    หน่วยความจำ 1γ DRAM ของ Micron ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูง โดยมีความสามารถในการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 9200 MT/s และลดการใช้พลังงานลงถึง 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีความหนาแน่นของบิตสูงขึ้นถึง 30% ซึ่งทำให้สามารถผลิตหน่วยความจำในปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Scott DeBoer รองประธานบริหารและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของ Micron กล่าวว่า "ความเชี่ยวชาญของ Micron ในการพัฒนาหน่วยความจำ DRAM ที่เป็นเอกลักษณ์ ร่วมกับการใช้เทคโนโลยี EUV ช่วยให้เราสามารถสร้างหน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความยั่งยืน"

    การเปลี่ยนมาใช้กระบวนการผลิต 1γ DRAM จะช่วยให้ Micron สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านการประมวลผลในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในศูนย์ข้อมูล (Data Center) อุปกรณ์ AI บน Edge คอมพิวเตอร์พีซีสมาร์ทโฟน และรถยนต์

    นอกจากนี้ 1γ DRAM ยังมีการใช้งาน CMOS เทคโนโลยีใหม่ที่มีความสามารถสูง และมีการปรับปรุงการออกแบบเพื่อลดขนาดของฟีเจอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน

    Micron ยังระบุว่าจะนำหน่วยความจำ 1γ DRAM นี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์หน่วยความจำประเภทอื่นๆ เช่น GDDR7, LPDDR5X และหน่วยความจำสำหรับศูนย์ข้อมูลในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/333111/micron-announces-shipment-of-1g-1-gamma-dram-companys-first-euv-memory-node
    บริษัท Micron Technology ได้ประกาศความสำเร็จในการส่งตัวอย่างหน่วยความจำ 1γ (1-gamma) DRAM รุ่นแรกในอุตสาหกรรม โดยใช้กระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญในด้านการผลิตหน่วยความจำ DRAM ที่มีประสิทธิภาพสูง หน่วยความจำ 1γ DRAM ของ Micron ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูง โดยมีความสามารถในการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 9200 MT/s และลดการใช้พลังงานลงถึง 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีความหนาแน่นของบิตสูงขึ้นถึง 30% ซึ่งทำให้สามารถผลิตหน่วยความจำในปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Scott DeBoer รองประธานบริหารและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของ Micron กล่าวว่า "ความเชี่ยวชาญของ Micron ในการพัฒนาหน่วยความจำ DRAM ที่เป็นเอกลักษณ์ ร่วมกับการใช้เทคโนโลยี EUV ช่วยให้เราสามารถสร้างหน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความยั่งยืน" การเปลี่ยนมาใช้กระบวนการผลิต 1γ DRAM จะช่วยให้ Micron สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านการประมวลผลในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในศูนย์ข้อมูล (Data Center) อุปกรณ์ AI บน Edge คอมพิวเตอร์พีซีสมาร์ทโฟน และรถยนต์ นอกจากนี้ 1γ DRAM ยังมีการใช้งาน CMOS เทคโนโลยีใหม่ที่มีความสามารถสูง และมีการปรับปรุงการออกแบบเพื่อลดขนาดของฟีเจอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน Micron ยังระบุว่าจะนำหน่วยความจำ 1γ DRAM นี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์หน่วยความจำประเภทอื่นๆ เช่น GDDR7, LPDDR5X และหน่วยความจำสำหรับศูนย์ข้อมูลในอนาคต https://www.techpowerup.com/333111/micron-announces-shipment-of-1g-1-gamma-dram-companys-first-euv-memory-node
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Micron Announces Shipment of 1γ (1-gamma) DRAM: Company's First EUV Memory Node
    Micron Technology, Inc., today announced it is the first in the industry to ship samples of its 1γ (1-gamma), sixth-generation (10 nm-class) DRAM node-based DDR5 memory designed for next-generation CPUs to ecosystem partners and select customers. This 1γ DRAM milestone builds on Micron's previous 1α...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • BINANCE TH by Gulf BINANCE ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการกำกับดูแลภายใต้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนาและเติมทักษะให้กับบุคลากรรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมต่าง ๆ รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย

    ข้อมูลจาก ก.ล.ต. เผยมูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ณ เดือน มกราคม 2568 มีมูลค่ากว่า 9.95 หมื่นล้านบาท โดยมีบัญชีนักลงทุนมากกว่า 2.45 ล้านราย สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ที่มีความต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งในด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยังอยู่ในวงจำกัด สอดคล้องกับข้อมูลของกระทรวงแรงงาน ที่ระบุว่า ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยต้องการกําลังแรงงานด้านดิจิทัลมากกว่า 140,000 คน อาทิ วิศวกรซอฟต์แวร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล นักพัฒนาเอไอ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้พัฒนาโปรแกรมเซมิคอนดัคเตอร์ ไมโครชิป ออโตเมชั่น และนักการตลาดดิจิทัล

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000018253

    #MGROnline #Binance #BinanceTH #GULF #มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ #บุคลากรสินทรัพย์ดิจิทัล
    BINANCE TH by Gulf BINANCE ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการกำกับดูแลภายใต้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนาและเติมทักษะให้กับบุคลากรรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมต่าง ๆ รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย • ข้อมูลจาก ก.ล.ต. เผยมูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ณ เดือน มกราคม 2568 มีมูลค่ากว่า 9.95 หมื่นล้านบาท โดยมีบัญชีนักลงทุนมากกว่า 2.45 ล้านราย สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี่ที่มีความต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งในด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยังอยู่ในวงจำกัด สอดคล้องกับข้อมูลของกระทรวงแรงงาน ที่ระบุว่า ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยต้องการกําลังแรงงานด้านดิจิทัลมากกว่า 140,000 คน อาทิ วิศวกรซอฟต์แวร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล นักพัฒนาเอไอ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน ผู้พัฒนาโปรแกรมเซมิคอนดัคเตอร์ ไมโครชิป ออโตเมชั่น และนักการตลาดดิจิทัล • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000018253 • #MGROnline #Binance #BinanceTH #GULF #มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ #บุคลากรสินทรัพย์ดิจิทัล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นเรื่องราวของคนหนุ่มที่น่าติดตามมากครับ

    Wang Xingxing วัย 35 ปี ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Unitree Robotics บริษัทผู้นำในด้านหุ่นยนต์ของจีน ได้ทำให้เกิดความสนใจอย่างมากเมื่อเขาได้รับเชิญให้นั่งแถวหน้าในงานสัมมนาธุรกิจระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดในปี 1990 Wang เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมประชุม

    Wang กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากที่หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ของ Unitree ได้แสดงการเต้นฟอร์คแดนซ์ในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ CCTV เมื่อเดือนที่แล้ว Wang บอกกับ CCTV ว่าหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้นกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นก่อนสิ้นปีนี้

    แม้ว่า Unitree จะยังคงเป็นบริษัทเอกชน แต่นักลงทุนก็หันมาสนใจซัพพลายเออร์ของบริษัทนี้ เช่น หุ้นของ Zhejiang Changsheng Sliding Bearings ที่กระโดดขึ้น 62% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 600% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Ningbo Shuanglin Auto Parts ก็พุ่งขึ้น 575% จากปีที่แล้ว

    Wang มีความหลงใหลในด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก เกิดในเมืองหนิงโป จังหวัดเจ้อเจียง เขามักใช้เวลาว่างสร้างแบบจำลองเครื่องบินและทำการทดลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่มัธยมต้น เขาได้สร้างเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ตขนาดเล็ก Wang ศึกษาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัย Zhejiang Sci-Tech และสร้างหุ่นยนต์เดินสองขาตัวแรกของเขาด้วยงบประมาณเพียง 200 หยวน

    หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาได้รับสิทธิบัตรแรกสำหรับอุปกรณ์ฟีดแบ็กหลายแรง แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และในปี 2016 เขาได้ก่อตั้ง Unitree ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 2 ล้านหยวน

    Unitree กลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่ขายหุ่นยนต์ขาหนาและฮิวมานอยด์ประสิทธิภาพสูงให้กับประชาชนทั่วไป ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการแสดงในงานใหญ่เช่นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจวในปี 2023 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในท้องถิ่นด้วยแนวทางและเงินทุนจากรัฐ

    Wang บอกกับนักศึกษาในงานต้อนรับที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วว่า “หาสิ่งที่คุณรัก ทำงานหนัก เรียนรู้ตลอดเวลา และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมมีแรงบันดาลใจที่จะใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งมีค่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงโลก นั่นเป็นแรงขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม”

    นี่คือเรื่องราวของ Wang Xingxing ที่กลายมาเป็นดาวรุ่งในวงการหุ่นยนต์ของจีน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/meet-wang-xingxing-the-young-chinese-robotics-star-from-unitree-at-xi-jinpings-symposium
    เป็นเรื่องราวของคนหนุ่มที่น่าติดตามมากครับ Wang Xingxing วัย 35 ปี ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Unitree Robotics บริษัทผู้นำในด้านหุ่นยนต์ของจีน ได้ทำให้เกิดความสนใจอย่างมากเมื่อเขาได้รับเชิญให้นั่งแถวหน้าในงานสัมมนาธุรกิจระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดในปี 1990 Wang เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมประชุม Wang กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากที่หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ของ Unitree ได้แสดงการเต้นฟอร์คแดนซ์ในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ CCTV เมื่อเดือนที่แล้ว Wang บอกกับ CCTV ว่าหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้นกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นก่อนสิ้นปีนี้ แม้ว่า Unitree จะยังคงเป็นบริษัทเอกชน แต่นักลงทุนก็หันมาสนใจซัพพลายเออร์ของบริษัทนี้ เช่น หุ้นของ Zhejiang Changsheng Sliding Bearings ที่กระโดดขึ้น 62% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 600% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Ningbo Shuanglin Auto Parts ก็พุ่งขึ้น 575% จากปีที่แล้ว Wang มีความหลงใหลในด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก เกิดในเมืองหนิงโป จังหวัดเจ้อเจียง เขามักใช้เวลาว่างสร้างแบบจำลองเครื่องบินและทำการทดลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่มัธยมต้น เขาได้สร้างเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ตขนาดเล็ก Wang ศึกษาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัย Zhejiang Sci-Tech และสร้างหุ่นยนต์เดินสองขาตัวแรกของเขาด้วยงบประมาณเพียง 200 หยวน หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาได้รับสิทธิบัตรแรกสำหรับอุปกรณ์ฟีดแบ็กหลายแรง แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และในปี 2016 เขาได้ก่อตั้ง Unitree ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 2 ล้านหยวน Unitree กลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่ขายหุ่นยนต์ขาหนาและฮิวมานอยด์ประสิทธิภาพสูงให้กับประชาชนทั่วไป ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการแสดงในงานใหญ่เช่นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจวในปี 2023 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในท้องถิ่นด้วยแนวทางและเงินทุนจากรัฐ Wang บอกกับนักศึกษาในงานต้อนรับที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วว่า “หาสิ่งที่คุณรัก ทำงานหนัก เรียนรู้ตลอดเวลา และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมมีแรงบันดาลใจที่จะใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งมีค่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงโลก นั่นเป็นแรงขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม” นี่คือเรื่องราวของ Wang Xingxing ที่กลายมาเป็นดาวรุ่งในวงการหุ่นยนต์ของจีน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/meet-wang-xingxing-the-young-chinese-robotics-star-from-unitree-at-xi-jinpings-symposium
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meet Wang Xingxing, the young Chinese robotics star from Unitree at Xi Jinping’s symposium
    Wang, 35, is the founder and CEO of Unitree – one of China's top developers of quadrupedal and humanoid robots.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 549 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2028 โดยโครงการนี้มีมูลค่ารวมสูงถึง 35 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะสร้างงานได้ถึง 10,000 ตำแหน่ง

    ศูนย์ข้อมูลนี้จะถูกสร้างขึ้นในจังหวัด Jeollanam-do และจะมีความจุ 3GW ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดที่สำคัญในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ โดยคาดว่าจะเพิ่มความจุของศูนย์ข้อมูลแบบ hyper-scale ถึงสามเท่าจากที่มีในปัจจุบัน เช่นของ Microsoft, Google และ Amazon

    โครงการนี้ได้รับการก่อตั้งโดยทายาทของบริษัท LG Electronics Brian Koo และ Dr. Amin Badr-El-Din โดยมีการลงนามบันทึกความเข้าใจกับผู้ว่าราชการจังหวัด Jeollanam-do เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี

    แม้ว่าโครงการนี้จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย เช่น การใช้พลังงานและน้ำเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่โครงการนี้สามารถยกระดับเกาหลีใต้ให้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก และสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจให้กับภูมิภาคนี้

    นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบกับโครงการของ Meta ในสหรัฐฯ ที่มีมูลค่า 10 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่จะสร้างงานโดยตรงเพียง 500 ตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งโครงการของเกาหลีใต้มีการคาดการณ์ว่าจะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจมากมาย

    https://www.techradar.com/pro/security/worlds-largest-mega-data-center-planned-for-south-korea-in-usd35bn-project
    ข่าวนี้เล่าถึงการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2028 โดยโครงการนี้มีมูลค่ารวมสูงถึง 35 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะสร้างงานได้ถึง 10,000 ตำแหน่ง ศูนย์ข้อมูลนี้จะถูกสร้างขึ้นในจังหวัด Jeollanam-do และจะมีความจุ 3GW ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดที่สำคัญในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ โดยคาดว่าจะเพิ่มความจุของศูนย์ข้อมูลแบบ hyper-scale ถึงสามเท่าจากที่มีในปัจจุบัน เช่นของ Microsoft, Google และ Amazon โครงการนี้ได้รับการก่อตั้งโดยทายาทของบริษัท LG Electronics Brian Koo และ Dr. Amin Badr-El-Din โดยมีการลงนามบันทึกความเข้าใจกับผู้ว่าราชการจังหวัด Jeollanam-do เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี แม้ว่าโครงการนี้จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย เช่น การใช้พลังงานและน้ำเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่โครงการนี้สามารถยกระดับเกาหลีใต้ให้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก และสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจให้กับภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบกับโครงการของ Meta ในสหรัฐฯ ที่มีมูลค่า 10 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่จะสร้างงานโดยตรงเพียง 500 ตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งโครงการของเกาหลีใต้มีการคาดการณ์ว่าจะสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจมากมาย https://www.techradar.com/pro/security/worlds-largest-mega-data-center-planned-for-south-korea-in-usd35bn-project
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อไม่นานมานี้ Intel ได้ประกาศข่าวดีเกี่ยวกับการพัฒนากระบวนการผลิตชิป 18A ที่ทำให้ SoC รุ่น Panther Lake สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในส่วนของ memory controllers, I/O interfaces และ onboard interconnect อย่างไรก็ตาม การทดสอบของ P-Cores ที่ชื่อ Cougar Cove ยังคงเป็นระดับปานกลางอยู่ แต่กระนั้น Intel ยังคงมองในแง่ดีและมีแผนจะเปิดตัว SoC รุ่น Panther Lake ในช่วงปลายปี 2025

    สำหรับข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ การพัฒนา SoC รุ่น Panther Lake ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่สำหรับ Intel และเป็นตัวอย่างหนึ่งของการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในอุปกรณ์พกพา ซึ่งทำให้ตลาดนี้มีการแข่งขันสูงขึ้น นอกจากนี้ Intel ยังใช้เทคโนโลยี 18A เพื่อฟื้นฟูตำแหน่งในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐอเมริกาและกลับมาเป็นผู้นำในตลาดนี้อีกครั้ง

    https://wccftech.com/intels-18a-process-shows-great-performance-as-panther-lake-socs-are-finally-up/
    เมื่อไม่นานมานี้ Intel ได้ประกาศข่าวดีเกี่ยวกับการพัฒนากระบวนการผลิตชิป 18A ที่ทำให้ SoC รุ่น Panther Lake สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในส่วนของ memory controllers, I/O interfaces และ onboard interconnect อย่างไรก็ตาม การทดสอบของ P-Cores ที่ชื่อ Cougar Cove ยังคงเป็นระดับปานกลางอยู่ แต่กระนั้น Intel ยังคงมองในแง่ดีและมีแผนจะเปิดตัว SoC รุ่น Panther Lake ในช่วงปลายปี 2025 สำหรับข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ การพัฒนา SoC รุ่น Panther Lake ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่สำหรับ Intel และเป็นตัวอย่างหนึ่งของการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในอุปกรณ์พกพา ซึ่งทำให้ตลาดนี้มีการแข่งขันสูงขึ้น นอกจากนี้ Intel ยังใช้เทคโนโลยี 18A เพื่อฟื้นฟูตำแหน่งในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐอเมริกาและกลับมาเป็นผู้นำในตลาดนี้อีกครั้ง https://wccftech.com/intels-18a-process-shows-great-performance-as-panther-lake-socs-are-finally-up/
    WCCFTECH.COM
    Intel's 18A Process Shows "Great Performance" As Initial Panther Lake SoCs Are Reported To Be Finally Up & Running
    Intel Foundry has become a heated topic, and in all that, it is now said that the division has managed a breakthrough with 18A process.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัยที่ผมเป็นหนุ่ม
    "หมาโรเบิร์ต"

    เมื่อปี พศ.2541...
    ผมกลับมานครพนม บ้านเกิด

    ผมย้ายบ้านจากลานคนเมืองในปัจจุบันมาอยู่บ้านที่ทำการค้า....

    บ้านของผมเป็นตึกแถวริมถนน บำรุงเมือง ทุกๆวัน จะมีหมา แมว แม้กระทั่ง นกพิราบ แวะเวียนผ่านหน้าบ้านทุกวัน บางวันก็มากินนํ้าตรงอ่างบัวที่ผมเลี้ยงไว้ บางวันก็มานอนเล่น พอตื่นก็จากไป วนเวียนอยู่แบบนี้ไม่เคยว่างเว้น

    วันหนึ่ง....

    ผมสังเกตเห็นว่า มีหมาตัวหนึ่งชอบมานอน และมายืนมองเข้ามาในบ้านเหมือนจะหาใคร หรือขอของกิน

    หมาตัวนี้ ตัวใหญ่ มีอายุพอสมควร ขนฟูสีนํ้าตาลแดง ไม่มีปลอกคอ หูตั้ง ปลายหูซ้ายแหว่ง เหมือนมีใครเอาอะไรมาเจาะหูมัน ตาเศร้า ปากมอม หางตั้ง ขนหางเป็นพวง

    มันมายืนมอง และมานอนพักอยู่ ระยะหนึ่ง ด้วยความสงสาร เตี่ยของผมเริ่มเข้าไปผูกมิตรกับมัน ให้ข้าวให้นํ้ามัน จนมันเชื่องและยอมเล่นด้วย

    ผมเลยบอกเตี่ยว่า เอามันมาเลี้ยงเลยดีกว่า คงไม่มีเจ้าของหรอก เตี่ยก็เห็นดีเห็นงามด้วย
    เตี่ยพามันไปฉีดวัคซีน ซื้อปลอกคอให้ และตั้งชื่อมันว่า

    "โรเบิร์ต"

    โรเบิร์ต เป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน แมวจรที่เคยวนเวียนมาหาของกินก็หายหมด
    โรเบิร์ต กลายเป็นเจ้าที่ไปเรียบร้อย

    แต่ละวันที่ผ่านไปของโรเบิร์ตนั้นแสนจะสบาย กิน นอน และ ลุกมาเห่ารถที่วิ่งผ่านไปมาสักครั้ง2ครั้ง ก็เป็นอันหมดหน้าที่

    โรเบิร์ต เป็นหมาที่จะว่าเลี้ยงง่ายก็ง่าย เลี้ยงยากก็ยาก

    แม่ผมจะรับหน้าที่ เป็นคนคลุกข้าวให้มัน บางวันมีกระดูกชิ้นใหญ่ๆ ที่ใช้ต้มนํ้าซุป แกก็จะโยนให้มันแทะ
    มันก็จะนอนแทะด้วยความเพลิดเพลิน บางครั้งก็หลับไปพร้อมกับกระดูกชิ้นโตในปาก

    วันหนึ่ง...

    แม่แกคลุกข้าวให้มันเสร็จแล้วก็เอาไปวางตรงที่มันมากินข้าว พร้อมกับส่งเสียงเรียก

    "โรเบิร์ต มากินข้าว..."

    ผมยืนมองดูมัน มันยันกายลุกจากที่ๆมันนอน เดินมาที่ชามข้าว

    มันมาถึงชามข้าว ดมๆไปพักนึง ก็ทำท่าถอนหายใจ แล้วก็เอาจมูกของมันค่อยดันก้นชามให้พลิก

    ชามข้าวของมันควํ่าแล้ว!!!
    ข้าวหกเรี่ยราด มันยืนมองอยู่พักนึง แล้วก็เดินจากไป

    ผมกับแม่ได้แต่ยืนมอง และขำในพฤติกรรมของไอ้โรเบิร์ต

    แม่ผมบ่นไล่หลังมันว่า

    "ต่อไป ไม่ต้องมาขอข้าวชั้นกินเลยนะ..."
    .
    .
    .
    อาจจะเพราะ ผมเลี้ยงมันที่บ้านในเมืองที่เป็นตึกแถว แม้จะมีบริเวณให้มันวิ่งเล่นพอสมควร แต่ก็ดูมันเนือยๆ
    วันหนึ่ง เตี่ยบอกว่าจะเอามันไปเล่น ที่โรงงานลองดู...เผื่อมันจะสดชื่น

    ปรากฎว่า พอไปถึงโรงงาน ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ โรเบิร์ต กระโดดลงจากรถ และวิ่งไปทั่วด้วยความชอบใจ มันคงชอบที่จะวิ่งในที่โล่งๆแบบนี้...

    หลังจากนั้น ถ้าเตี่ยหรือผมไปโรงงาน ด้วยรถกระบะ มันจะ กระโดดขึ้นกระบะ นั่งโต้ลมไปด้วยทุกครั้ง

    อยู่มาวันหนึ่ง...
    โรเบิร์ต หายหน้าไป 2วันเต็ม
    ทั้งแม่ ทั้งเตี่ย และตัวผม ต่างเที่ยวสอบถาม ละแวกบ้านว่าเห็นโรเบิร์ตไหม เพราะอาจจะโดนรถชนแล้วหนีไป รึโชคร้ายก็ตายแล้ว...

    ไม่มีวี่แวว โรเบิร์ต เลย...
    .
    เย็นวันนั้น ผมมีธุระออกไปที่โรงงาน พอเสร็จงาน

    ในใจผมคิดอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ ผมไปเดินเรียกเจ้าโรเบิร์ต ตรงทุ่งที่มันชอบไปวิ่งเล่น ซึ่งตอนนี้มีหญ้าท่วมสูงพอสมควร

    ผมเรียกหามัน ตลอดทางที่เดินลุยดงหญ้า

    สักพัก...

    ผมได้ยินเสียง "งื้ดๆ " เหมือนเสียงหมาร้องคราง

    ผมเริ่มมองหาที่มาของเสียงพร้อมเรียกคนงานมาช่วยหา

    "โรเบิร์ต!!!!"

    ผมเจอมันแล้ว!!
    มันตกลงไปวงท่อซีเมนต์ ที่ขุดไว้ สำหรับดูดนํ้าซับใต้ดินมาใช้

    มันลึก2เมตรกว่า!

    แรกที่ผมเห็นมันนั้น เห็นจมูกมันโผล่พ้นนํ้า ขึ้นมา!!! พร้อมกับวงกระเพื่อมของคลื่นรอบตัวมันที่มันพยายามพยุงตัวมา2วันเต็ม

    คนงานผม ค่อยๆนำมันขึ้นมาจากบ่อนํ้านั้น

    เล็บที่นิ้วมัน เหี้ยนหมด คงเกิดจากที่มันพยายามตะกุยวงท่อซีเมนต์ เพื่อหาทางขึ้น

    ตัวมันสั่นเทาด้วยความหนาวที่แช่อยู่ในนํ้านั้น2วัน

    ผมเอาผ้าเช็ดตัวมาห่มให้มัน พร้อมกับป้อนอาหารให้มัน จนมันค่อยๆสงบลง...
    .
    .
    เตี่ยบอกว่า
    "มันคงกระโดดขึ้นกระบะตอนผมหรือเตี่ยออกมาโรงงาน แล้วไปวิ่งเล่นที่ดงหญ้านี้ จนตกลงไป ในบ่อนํ้า"

    โรเบิร์ตกลับเข้ามาบ้านในเมืองพร้อมผม มันนอนนิ่งๆ คงหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน....
    .
    .
    .
    3-4ปีผ่านไป โรเบิร์ต เริ่มแก่ตัวลง ฟันเขี้ยว ค่อยๆหล่นไปทีละอัน ดวงตาเริ่มฝ้าฟาง แต่ยังแฝงด้วยแววตาเศร้าๆของมัน

    เตี่ย แม่ และผม ยังดูแลมันตลอด แม้ว่าหลังๆ มันจะไม่ไปโลดเต้นที่ไหนได้อีกแล้ว แต่เตี่ยก็ยังพามันไปโรงงานด้วยเสมอ

    วันหนึ่ง โรเบิร์ต หายไป

    เตี่ยพูดขึ้นมาลอยๆ ว่า...

    "โรเบิร์ต มันก็คงจะไป ในแบบที่คล้ายวันที่ มันมา...

    ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่า มันไปไหน.."

    โรเบิร์ต จากไปตลอดกาล...
    .
    .
    .
    ***น่าเสียดายที่ในยุคนั้นไม่มีกล้องมือถือ เลยไม่มี ภาพของโรเบิร์ตเก็บไว้ ผมเคยผ่านตาว่ามีภาพโรเบิร์ต หลุดมาเข้าเฟรมสักภาพ แต่ยังหาไม่พบ...
    สมัยที่ผมเป็นหนุ่ม "หมาโรเบิร์ต" เมื่อปี พศ.2541... ผมกลับมานครพนม บ้านเกิด ผมย้ายบ้านจากลานคนเมืองในปัจจุบันมาอยู่บ้านที่ทำการค้า.... บ้านของผมเป็นตึกแถวริมถนน บำรุงเมือง ทุกๆวัน จะมีหมา แมว แม้กระทั่ง นกพิราบ แวะเวียนผ่านหน้าบ้านทุกวัน บางวันก็มากินนํ้าตรงอ่างบัวที่ผมเลี้ยงไว้ บางวันก็มานอนเล่น พอตื่นก็จากไป วนเวียนอยู่แบบนี้ไม่เคยว่างเว้น วันหนึ่ง.... ผมสังเกตเห็นว่า มีหมาตัวหนึ่งชอบมานอน และมายืนมองเข้ามาในบ้านเหมือนจะหาใคร หรือขอของกิน หมาตัวนี้ ตัวใหญ่ มีอายุพอสมควร ขนฟูสีนํ้าตาลแดง ไม่มีปลอกคอ หูตั้ง ปลายหูซ้ายแหว่ง เหมือนมีใครเอาอะไรมาเจาะหูมัน ตาเศร้า ปากมอม หางตั้ง ขนหางเป็นพวง มันมายืนมอง และมานอนพักอยู่ ระยะหนึ่ง ด้วยความสงสาร เตี่ยของผมเริ่มเข้าไปผูกมิตรกับมัน ให้ข้าวให้นํ้ามัน จนมันเชื่องและยอมเล่นด้วย ผมเลยบอกเตี่ยว่า เอามันมาเลี้ยงเลยดีกว่า คงไม่มีเจ้าของหรอก เตี่ยก็เห็นดีเห็นงามด้วย เตี่ยพามันไปฉีดวัคซีน ซื้อปลอกคอให้ และตั้งชื่อมันว่า "โรเบิร์ต" โรเบิร์ต เป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน แมวจรที่เคยวนเวียนมาหาของกินก็หายหมด โรเบิร์ต กลายเป็นเจ้าที่ไปเรียบร้อย แต่ละวันที่ผ่านไปของโรเบิร์ตนั้นแสนจะสบาย กิน นอน และ ลุกมาเห่ารถที่วิ่งผ่านไปมาสักครั้ง2ครั้ง ก็เป็นอันหมดหน้าที่ โรเบิร์ต เป็นหมาที่จะว่าเลี้ยงง่ายก็ง่าย เลี้ยงยากก็ยาก แม่ผมจะรับหน้าที่ เป็นคนคลุกข้าวให้มัน บางวันมีกระดูกชิ้นใหญ่ๆ ที่ใช้ต้มนํ้าซุป แกก็จะโยนให้มันแทะ มันก็จะนอนแทะด้วยความเพลิดเพลิน บางครั้งก็หลับไปพร้อมกับกระดูกชิ้นโตในปาก วันหนึ่ง... แม่แกคลุกข้าวให้มันเสร็จแล้วก็เอาไปวางตรงที่มันมากินข้าว พร้อมกับส่งเสียงเรียก "โรเบิร์ต มากินข้าว..." ผมยืนมองดูมัน มันยันกายลุกจากที่ๆมันนอน เดินมาที่ชามข้าว มันมาถึงชามข้าว ดมๆไปพักนึง ก็ทำท่าถอนหายใจ แล้วก็เอาจมูกของมันค่อยดันก้นชามให้พลิก ชามข้าวของมันควํ่าแล้ว!!! ข้าวหกเรี่ยราด มันยืนมองอยู่พักนึง แล้วก็เดินจากไป ผมกับแม่ได้แต่ยืนมอง และขำในพฤติกรรมของไอ้โรเบิร์ต แม่ผมบ่นไล่หลังมันว่า "ต่อไป ไม่ต้องมาขอข้าวชั้นกินเลยนะ..." . . . อาจจะเพราะ ผมเลี้ยงมันที่บ้านในเมืองที่เป็นตึกแถว แม้จะมีบริเวณให้มันวิ่งเล่นพอสมควร แต่ก็ดูมันเนือยๆ วันหนึ่ง เตี่ยบอกว่าจะเอามันไปเล่น ที่โรงงานลองดู...เผื่อมันจะสดชื่น ปรากฎว่า พอไปถึงโรงงาน ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ โรเบิร์ต กระโดดลงจากรถ และวิ่งไปทั่วด้วยความชอบใจ มันคงชอบที่จะวิ่งในที่โล่งๆแบบนี้... หลังจากนั้น ถ้าเตี่ยหรือผมไปโรงงาน ด้วยรถกระบะ มันจะ กระโดดขึ้นกระบะ นั่งโต้ลมไปด้วยทุกครั้ง อยู่มาวันหนึ่ง... โรเบิร์ต หายหน้าไป 2วันเต็ม ทั้งแม่ ทั้งเตี่ย และตัวผม ต่างเที่ยวสอบถาม ละแวกบ้านว่าเห็นโรเบิร์ตไหม เพราะอาจจะโดนรถชนแล้วหนีไป รึโชคร้ายก็ตายแล้ว... ไม่มีวี่แวว โรเบิร์ต เลย... . เย็นวันนั้น ผมมีธุระออกไปที่โรงงาน พอเสร็จงาน ในใจผมคิดอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ ผมไปเดินเรียกเจ้าโรเบิร์ต ตรงทุ่งที่มันชอบไปวิ่งเล่น ซึ่งตอนนี้มีหญ้าท่วมสูงพอสมควร ผมเรียกหามัน ตลอดทางที่เดินลุยดงหญ้า สักพัก... ผมได้ยินเสียง "งื้ดๆ " เหมือนเสียงหมาร้องคราง ผมเริ่มมองหาที่มาของเสียงพร้อมเรียกคนงานมาช่วยหา "โรเบิร์ต!!!!" ผมเจอมันแล้ว!! มันตกลงไปวงท่อซีเมนต์ ที่ขุดไว้ สำหรับดูดนํ้าซับใต้ดินมาใช้ มันลึก2เมตรกว่า! แรกที่ผมเห็นมันนั้น เห็นจมูกมันโผล่พ้นนํ้า ขึ้นมา!!! พร้อมกับวงกระเพื่อมของคลื่นรอบตัวมันที่มันพยายามพยุงตัวมา2วันเต็ม คนงานผม ค่อยๆนำมันขึ้นมาจากบ่อนํ้านั้น เล็บที่นิ้วมัน เหี้ยนหมด คงเกิดจากที่มันพยายามตะกุยวงท่อซีเมนต์ เพื่อหาทางขึ้น ตัวมันสั่นเทาด้วยความหนาวที่แช่อยู่ในนํ้านั้น2วัน ผมเอาผ้าเช็ดตัวมาห่มให้มัน พร้อมกับป้อนอาหารให้มัน จนมันค่อยๆสงบลง... . . เตี่ยบอกว่า "มันคงกระโดดขึ้นกระบะตอนผมหรือเตี่ยออกมาโรงงาน แล้วไปวิ่งเล่นที่ดงหญ้านี้ จนตกลงไป ในบ่อนํ้า" โรเบิร์ตกลับเข้ามาบ้านในเมืองพร้อมผม มันนอนนิ่งๆ คงหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน.... . . . 3-4ปีผ่านไป โรเบิร์ต เริ่มแก่ตัวลง ฟันเขี้ยว ค่อยๆหล่นไปทีละอัน ดวงตาเริ่มฝ้าฟาง แต่ยังแฝงด้วยแววตาเศร้าๆของมัน เตี่ย แม่ และผม ยังดูแลมันตลอด แม้ว่าหลังๆ มันจะไม่ไปโลดเต้นที่ไหนได้อีกแล้ว แต่เตี่ยก็ยังพามันไปโรงงานด้วยเสมอ วันหนึ่ง โรเบิร์ต หายไป เตี่ยพูดขึ้นมาลอยๆ ว่า... "โรเบิร์ต มันก็คงจะไป ในแบบที่คล้ายวันที่ มันมา... ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่า มันไปไหน.." โรเบิร์ต จากไปตลอดกาล... . . . ***น่าเสียดายที่ในยุคนั้นไม่มีกล้องมือถือ เลยไม่มี ภาพของโรเบิร์ตเก็บไว้ ผมเคยผ่านตาว่ามีภาพโรเบิร์ต หลุดมาเข้าเฟรมสักภาพ แต่ยังหาไม่พบ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌿 หมดปัญหาแมลงกวนใจ พืชแข็งแรง โตไว ไร้สารตกค้าง! 🌿

    👨‍🌾 เกษตรกรยุคใหม่ต้องเลือก น้ำส้มควันไม้ ทีพีไอ ทางเลือกปลอดภัย ใช้ดี ไม่มีสารพิษ! 🛡✨

    ✔ ป้องกัน & ไล่แมลง เช่น เพลี้ยแป้ง เพลี้ยกระโดด เพลี้ยจักจั่น 🦗
    ✔ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์ ไม่มีสารตกค้าง ใช้ได้ทั้งพืชผักสวนครัว ผลไม้ และนาข้าว 🏡🌾
    ✔ ใช้งานง่าย แค่ผสมน้ำแล้วฉีดพ่น ประหยัดแต่ได้ผล!
    ✔ กำจัดศัตรูพืช อย่างมด ปลวก และแมลงต่าง ๆ 🐜
    ✔ ฆ่าเชื้อรา ลดการเกิดโรคพืช 🍃

    ✨ พืชงาม โตไว ทำกำไรสบายใจ ถูกใจเกษตรกร ✨

    📍 สนใจสั่งซื้อออนไลน์ คลิก https://bit.ly/3IXVnAA

    💚 ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เปลี่ยนสวนของคุณให้ไร้สารพิษตั้งแต่วันนี้!

    #น้ำส้มควันไม้TPIPL #ไล่แมลงไร้สารพิษ #เกษตรปลอดภัย #พืชงามไร้สารตกค้าง #TPIPOLENE
    🌿 หมดปัญหาแมลงกวนใจ พืชแข็งแรง โตไว ไร้สารตกค้าง! 🌿 👨‍🌾 เกษตรกรยุคใหม่ต้องเลือก น้ำส้มควันไม้ ทีพีไอ ทางเลือกปลอดภัย ใช้ดี ไม่มีสารพิษ! 🛡✨ ✔ ป้องกัน & ไล่แมลง เช่น เพลี้ยแป้ง เพลี้ยกระโดด เพลี้ยจักจั่น 🦗 ✔ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์ ไม่มีสารตกค้าง ใช้ได้ทั้งพืชผักสวนครัว ผลไม้ และนาข้าว 🏡🌾 ✔ ใช้งานง่าย แค่ผสมน้ำแล้วฉีดพ่น ประหยัดแต่ได้ผล! ✔ กำจัดศัตรูพืช อย่างมด ปลวก และแมลงต่าง ๆ 🐜 ✔ ฆ่าเชื้อรา ลดการเกิดโรคพืช 🍃 ✨ พืชงาม โตไว ทำกำไรสบายใจ ถูกใจเกษตรกร ✨ 📍 สนใจสั่งซื้อออนไลน์ คลิก https://bit.ly/3IXVnAA 💚 ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เปลี่ยนสวนของคุณให้ไร้สารพิษตั้งแต่วันนี้! #น้ำส้มควันไม้TPIPL #ไล่แมลงไร้สารพิษ #เกษตรปลอดภัย #พืชงามไร้สารตกค้าง #TPIPOLENE
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 553 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุโรปจะมีการขยายตัวของศูนย์ข้อมูลที่มีความจุสูงสุดในปี 2025 ตามรายงานของ CBRE Group ซึ่งการขยายตัวนี้เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมปัญญาประดิษฐ์และการประมวลผลข้อมูลบนคลาวด์ ความต้องการสำหรับศูนย์ข้อมูลได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทต่างๆ พยายามใช้เทคโนโลยีใหม่ในการดำเนินธุรกิจของพวกเขา

    คาดว่าตลาดยุโรปจะมีศูนย์ข้อมูลที่มีความจุไฟฟ้า 937 เมกะวัตต์เข้ามาในปี 2025 ซึ่งจะสร้างสถิติใหม่สำหรับภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นการกระโดดขึ้นถึง 282 เมกะวัตต์ หรือ 43% จากความจุ 655 เมกะวัตต์ที่มีในปี 2024 การเติบโตนี้ได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความพร้อมของพลังงาน ที่ดินที่เหมาะสม และแรงจูงใจจากรัฐบาล

    ตลาดศูนย์ข้อมูลหลักในยุโรป เช่น แฟรงก์เฟิร์ต ลอนดอน อัมสเตอร์ดัม ปารีส และดับลิน จะเห็นการเพิ่มขึ้นของความจุสูงสุด คิดเป็น 57% ของความจุใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีการเติบโตแบบสองหลักในตลาดรองในยุโรปห้าจากสิบแห่งที่ติดตามโดย CBRE

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/14/europe-set-to-see-record-data-centre-capacity-roll-out-in-2025-cbre-says
    ยุโรปจะมีการขยายตัวของศูนย์ข้อมูลที่มีความจุสูงสุดในปี 2025 ตามรายงานของ CBRE Group ซึ่งการขยายตัวนี้เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมปัญญาประดิษฐ์และการประมวลผลข้อมูลบนคลาวด์ ความต้องการสำหรับศูนย์ข้อมูลได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทต่างๆ พยายามใช้เทคโนโลยีใหม่ในการดำเนินธุรกิจของพวกเขา คาดว่าตลาดยุโรปจะมีศูนย์ข้อมูลที่มีความจุไฟฟ้า 937 เมกะวัตต์เข้ามาในปี 2025 ซึ่งจะสร้างสถิติใหม่สำหรับภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นการกระโดดขึ้นถึง 282 เมกะวัตต์ หรือ 43% จากความจุ 655 เมกะวัตต์ที่มีในปี 2024 การเติบโตนี้ได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความพร้อมของพลังงาน ที่ดินที่เหมาะสม และแรงจูงใจจากรัฐบาล ตลาดศูนย์ข้อมูลหลักในยุโรป เช่น แฟรงก์เฟิร์ต ลอนดอน อัมสเตอร์ดัม ปารีส และดับลิน จะเห็นการเพิ่มขึ้นของความจุสูงสุด คิดเป็น 57% ของความจุใหม่ทั้งหมด นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีการเติบโตแบบสองหลักในตลาดรองในยุโรปห้าจากสิบแห่งที่ติดตามโดย CBRE https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/14/europe-set-to-see-record-data-centre-capacity-roll-out-in-2025-cbre-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Europe set to see record data centre capacity roll-out in 2025, CBRE says
    LONDON (Reuters) - Europe could see a record level of new data centres this year, according to research released on Wednesday by CBRE Group, as companies expand their artificial intelligence and cloud computing activities.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครบ้างที่จะได้รับประโยชน์จาก "ถอดรหัส 10X ลบล้ม เร่งรุ่ง (Fail Fast Succeed More)"

    หนังสือ "ถอดรหัส 10X ลบล้ม เร่งรุ่ง (Fail Fast Succeed More)" ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้นำในองค์กร แต่ยังเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการพัฒนาตนเอง และก้าวไปสู่ความสำเร็จ

    ผู้ที่จะได้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้ 6 กลุ่ม
    •กลุ่มที่ 1 ผู้นำทีม
    หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ผู้นำทีม มีแนวทางการพัฒนาตนเอง และสามารถ "สร้าง" และ "พัฒนา" ทีมให้แข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพ และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
    •กลุ่มที่ 2 ผู้จัดการ
    เรียนรู้แนวทางการพัฒนาตนเอง และมีวิธีการ "จัดการ" และ "พัฒนา" ทีมอย่างเป็นระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และบรรลุเป้าหมายขององค์กร
    •กลุ่มที่ 3 ผู้บริหาร
    เข้าใจความสำคัญ และรู้วิธีการใน "ภาพรวม" ของการบริหารจัดการองค์กร และนำ องค์กร สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน และมีกลยุทธ์การพัฒนาตัวเองให้เป็นแบบอย่างที่ดีของคนทั้งในระดับทีม หน่วยงาน และองค์กร
    •กลุ่มที่ 4 เจ้าของธุรกิจ
    ค้นพบ "แนวทาง" การพัฒนาตัวเอง และธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน พร้อม รับมือกับการแข่งขันในโลกธุรกิจยุคใหม่
    •กลุ่มที่ 5 ผู้ก่อตั้ง
    สร้าง "รากฐาน" ที่แข็งแกร่งให้กับองค์กรตั้งแต่เริ่มต้น และนำพา องค์กรสู่ความสำเร็จใน ระยะยาว
    •กลุ่มที่ 6 บุคคลทั่วไปที่ต้องการพัฒนาตนเอง
    แม้ ไม่ใช่แค่ผู้นำ หรือเจ้าของกิจการ แต่หนังสือเล่มนี้ก็ยังมีประโยชน์สำหรับบุคคลทั่วไปที่ ต้องการพัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มศักยภาพ และก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และชีวิตส่วนตัว เนื้อหาในส่วนของการพัฒนาตนเอง การทำงานเป็นทีม และการบริหาร จัดการ สามารถ นำไปปรับใช้ ได้กับทุกคนไม่ว่าจะอยู่ ในสายงานใดก็ตาม

    "ถอดรหัส 10X ลบล้ม เร่งรุ่ง (Fail Fast Succeed More)" เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับ ทุกคนที่ต้องการพัฒนาตนเอง ทีมงาน หน่วยงานและองค์กร ให้ เติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ระดับบุคคล ไปจนถึงระดับองค์กร ช่วยให้คุณสามารถนำ ไป ประยุกต์ใช้ ได้จริงในทุกสถานการณ์

    ติดตามสาระดีๆ อีกมากมายได้ที่ https://10-xconsulting.com/feeds/
    ใครบ้างที่จะได้รับประโยชน์จาก "ถอดรหัส 10X ลบล้ม เร่งรุ่ง (Fail Fast Succeed More)" หนังสือ "ถอดรหัส 10X ลบล้ม เร่งรุ่ง (Fail Fast Succeed More)" ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้นำในองค์กร แต่ยังเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการพัฒนาตนเอง และก้าวไปสู่ความสำเร็จ ผู้ที่จะได้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้ 6 กลุ่ม •กลุ่มที่ 1 ผู้นำทีม หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ผู้นำทีม มีแนวทางการพัฒนาตนเอง และสามารถ "สร้าง" และ "พัฒนา" ทีมให้แข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพ และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ •กลุ่มที่ 2 ผู้จัดการ เรียนรู้แนวทางการพัฒนาตนเอง และมีวิธีการ "จัดการ" และ "พัฒนา" ทีมอย่างเป็นระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และบรรลุเป้าหมายขององค์กร •กลุ่มที่ 3 ผู้บริหาร เข้าใจความสำคัญ และรู้วิธีการใน "ภาพรวม" ของการบริหารจัดการองค์กร และนำ องค์กร สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน และมีกลยุทธ์การพัฒนาตัวเองให้เป็นแบบอย่างที่ดีของคนทั้งในระดับทีม หน่วยงาน และองค์กร •กลุ่มที่ 4 เจ้าของธุรกิจ ค้นพบ "แนวทาง" การพัฒนาตัวเอง และธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน พร้อม รับมือกับการแข่งขันในโลกธุรกิจยุคใหม่ •กลุ่มที่ 5 ผู้ก่อตั้ง สร้าง "รากฐาน" ที่แข็งแกร่งให้กับองค์กรตั้งแต่เริ่มต้น และนำพา องค์กรสู่ความสำเร็จใน ระยะยาว •กลุ่มที่ 6 บุคคลทั่วไปที่ต้องการพัฒนาตนเอง แม้ ไม่ใช่แค่ผู้นำ หรือเจ้าของกิจการ แต่หนังสือเล่มนี้ก็ยังมีประโยชน์สำหรับบุคคลทั่วไปที่ ต้องการพัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มศักยภาพ และก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และชีวิตส่วนตัว เนื้อหาในส่วนของการพัฒนาตนเอง การทำงานเป็นทีม และการบริหาร จัดการ สามารถ นำไปปรับใช้ ได้กับทุกคนไม่ว่าจะอยู่ ในสายงานใดก็ตาม "ถอดรหัส 10X ลบล้ม เร่งรุ่ง (Fail Fast Succeed More)" เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับ ทุกคนที่ต้องการพัฒนาตนเอง ทีมงาน หน่วยงานและองค์กร ให้ เติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่ระดับบุคคล ไปจนถึงระดับองค์กร ช่วยให้คุณสามารถนำ ไป ประยุกต์ใช้ ได้จริงในทุกสถานการณ์ ติดตามสาระดีๆ อีกมากมายได้ที่ https://10-xconsulting.com/feeds/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน
    .
    รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ
    .
    รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง
    .
    หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด
    .
    เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า
    .
    ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน
    .
    เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้
    .
    “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ”
    .
    พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น”
    .
    ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ
    .
    เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน
    .
    โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ
    .
    เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง
    .
    นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2)
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา
    .
    และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา
    .
    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน . รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ . รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ . รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง . หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด . เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า . ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน . เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้ . “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ” . พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น” . ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ . เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน . โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ . เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง . นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2) . รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา . และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา . แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2423 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดสะพานทศมราชัน สร้างมา 5 ปีกว่าจะมีวันนี้

    เวลา 09.09 น. วันที่ 29 ม.ค. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานทศมราชัน ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษสุขสวัสดิ์ ระหว่างรอโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยก่อสร้างแล้วเสร็จ คิดค่าผ่านทางตามปกติของทางพิเศษเฉลิมมหานคร คาดว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรบนสะพานพระราม 9 จาก 100,470 คันต่อวัน ลดเหลือ 75,325 คันต่อวัน

    สำหรับความคืบหน้าโครงการฯ ตลอดสายทาง 18.7 กิโลเมตร ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2567 ภาพรวม 86.28% เร็วกว่าแผน 1.03% คาดว่าเปิดให้บริการประมาณปลายปี 2568 โดยขาออกกรุงเทพฯ จากทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ก่อนขึ้นสะพานทศมราชันต้องรับบัตรผ่านทางพิเศษที่ด่านบางโคล่ และจ่ายเงินที่ด่านปลายทาง โดยคิดค่าผ่านทางแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงดาวคะนอง-พระราม 3 และช่วงดาวคะนอง-วงแหวนฯ ตะวันตก ได้แก่ รถ 4 ล้อ ช่วงละ 30 บาท รถ 6-10 ล้อช่วงละ 60 บาท รถมากกว่า 10 ล้อช่วงละ 90 บาท

    สะพานทศมราชัน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ สัญญา 4 ลักษณะเป็นสะพานคู่ (Cable Stayed Bridge) แบบไม่มีเสาอยู่ในลำน้ำ ขนาด 8 ช่องจราจร ความยาว 781.2 เมตร รับแรงลมได้สูงถึง 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มูลค่าโครงการ 6,636.19 ล้านบาท ก่อสร้างโดย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นสัญญา 16 ม.ค. 2563 แล้วเสร็จตามสัญญาวันที่ 30 มี.ค. 2566 รวม 1,170 วัน ก่อนส่งมอบให้การทางพิเศษฯ

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม “สะพานทศมราชัน” หมายถึง พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 10 และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 ไปประดิษฐานบนสะพานแห่งนี้ โดยเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสะพานทศมราชัน

    องค์ประกอบสถาปัตยกรรมของสะพาน ได้แก่ 1.ส่วนยอดของเสาสะพาน หมายถึง ฝ่าพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงถึงความโอบอุ้มปกป้อง ให้ความรัก ความห่วงใย พสกนิกรต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือเกล้า 2.สายเคเบิลเป็นสีเหลือง สื่อถึงวันพระบรมราชสมภพคือวันจันทร์ 3.รูปปั้นพญานาคสีเหลืองทองอยู่บนโคนเสาสะพานทั้ง 4 ต้น ซึ่งเป็นราศีประจำปีมะโรง ปีพระบรมราชสมภพ เพื่อถวายอารักขาแด่พระองค์ 4.รั้วสะพานกันกระโดด ออกแบบให้เป็นลายดอกรวงผึ้ง ต้นไม้ประจำพระองค์

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    เปิดสะพานทศมราชัน สร้างมา 5 ปีกว่าจะมีวันนี้ เวลา 09.09 น. วันที่ 29 ม.ค. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานทศมราชัน ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษสุขสวัสดิ์ ระหว่างรอโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยก่อสร้างแล้วเสร็จ คิดค่าผ่านทางตามปกติของทางพิเศษเฉลิมมหานคร คาดว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรบนสะพานพระราม 9 จาก 100,470 คันต่อวัน ลดเหลือ 75,325 คันต่อวัน สำหรับความคืบหน้าโครงการฯ ตลอดสายทาง 18.7 กิโลเมตร ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2567 ภาพรวม 86.28% เร็วกว่าแผน 1.03% คาดว่าเปิดให้บริการประมาณปลายปี 2568 โดยขาออกกรุงเทพฯ จากทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษศรีรัช ก่อนขึ้นสะพานทศมราชันต้องรับบัตรผ่านทางพิเศษที่ด่านบางโคล่ และจ่ายเงินที่ด่านปลายทาง โดยคิดค่าผ่านทางแบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงดาวคะนอง-พระราม 3 และช่วงดาวคะนอง-วงแหวนฯ ตะวันตก ได้แก่ รถ 4 ล้อ ช่วงละ 30 บาท รถ 6-10 ล้อช่วงละ 60 บาท รถมากกว่า 10 ล้อช่วงละ 90 บาท สะพานทศมราชัน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ สัญญา 4 ลักษณะเป็นสะพานคู่ (Cable Stayed Bridge) แบบไม่มีเสาอยู่ในลำน้ำ ขนาด 8 ช่องจราจร ความยาว 781.2 เมตร รับแรงลมได้สูงถึง 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มูลค่าโครงการ 6,636.19 ล้านบาท ก่อสร้างโดย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นสัญญา 16 ม.ค. 2563 แล้วเสร็จตามสัญญาวันที่ 30 มี.ค. 2566 รวม 1,170 วัน ก่อนส่งมอบให้การทางพิเศษฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม “สะพานทศมราชัน” หมายถึง พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 10 และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค. 2567 ไปประดิษฐานบนสะพานแห่งนี้ โดยเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสะพานทศมราชัน องค์ประกอบสถาปัตยกรรมของสะพาน ได้แก่ 1.ส่วนยอดของเสาสะพาน หมายถึง ฝ่าพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงถึงความโอบอุ้มปกป้อง ให้ความรัก ความห่วงใย พสกนิกรต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือเกล้า 2.สายเคเบิลเป็นสีเหลือง สื่อถึงวันพระบรมราชสมภพคือวันจันทร์ 3.รูปปั้นพญานาคสีเหลืองทองอยู่บนโคนเสาสะพานทั้ง 4 ต้น ซึ่งเป็นราศีประจำปีมะโรง ปีพระบรมราชสมภพ เพื่อถวายอารักขาแด่พระองค์ 4.รั้วสะพานกันกระโดด ออกแบบให้เป็นลายดอกรวงผึ้ง ต้นไม้ประจำพระองค์ #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 775 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! เครื่องบินขับไล่ F-35 ของสหรัฐ ตกที่บริเวณฐานทัพอากาศ Eielson ใกล้เมืองแฟร์แบงก์ส รัฐอลาสก้า

    นักบินรอดชีวิตจากการดีดตัวออกจากเครื่องบิน และถูกนำส่งโรงพยาบาลทหารบาสเซตต์

    ในวิดีโอสามารถเห็นนักบินกระโดดร่มออกมาได้อย่างปลอดภัย

    เครื่องบินขับไล่ F-35 มีราคาเกือบ 81 ล้านเหรียญสหรัฐ

    สาเหตุยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวน
    ด่วน! เครื่องบินขับไล่ F-35 ของสหรัฐ ตกที่บริเวณฐานทัพอากาศ Eielson ใกล้เมืองแฟร์แบงก์ส รัฐอลาสก้า นักบินรอดชีวิตจากการดีดตัวออกจากเครื่องบิน และถูกนำส่งโรงพยาบาลทหารบาสเซตต์ ในวิดีโอสามารถเห็นนักบินกระโดดร่มออกมาได้อย่างปลอดภัย เครื่องบินขับไล่ F-35 มีราคาเกือบ 81 ล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## จีน - อเมริกา บนสนามรบด้าน AI ##
    ..
    ..
    แค่ชั่วข้ามคืน ทั่วโลกได้รู้จัก DeepSeek AI จีน กันหมด...!!!
    .
    หลังถล่ม หุ้นเทคโนลียี อเมริกา ยับ ในคืนเดียว...
    .
    (เปิด Gap โดดทิ้งตัวลงมาแท่งแดงยาวเลย...!!!)
    .
    น่าหมั่นไส้ขนาดนี้ ล่าสุด DeepSeek AI จีน ก็เลยตองโดน "โจมตีทางไซเบอร์" ไปตามระเบียบ...
    .
    (ฝีมือใครกันหว่า...??? 🤣🤣🤣🤣)
    .
    ตอนนี้จำกัดการสมัคร เหลือแค่คนในประเทศจีนก่อน...
    .
    จากบริษัทสตาร์ทอัพเล็กๆ ที่มีฐานอยู่ในเมืองหางโจวและก่อตั้งขึ้นในปี 2023
    .
    วันนี้ ก้าวกระโดดมา จนเป็นรายแรกที่ได้รับการยกย่องจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของ อเมริกา...
    .
    ว่ามีประสิทธิภาพ เทียบเท่า หรือ เหนือกว่า "โมเดล" ที่ล้ำสมัยของ อเมริกา ด้วยซ้ำ...!!!
    .
    https://shorturl.asia/dyLo6
    ## จีน - อเมริกา บนสนามรบด้าน AI ## .. .. แค่ชั่วข้ามคืน ทั่วโลกได้รู้จัก DeepSeek AI จีน กันหมด...!!! . หลังถล่ม หุ้นเทคโนลียี อเมริกา ยับ ในคืนเดียว... . (เปิด Gap โดดทิ้งตัวลงมาแท่งแดงยาวเลย...!!!) . น่าหมั่นไส้ขนาดนี้ ล่าสุด DeepSeek AI จีน ก็เลยตองโดน "โจมตีทางไซเบอร์" ไปตามระเบียบ... . (ฝีมือใครกันหว่า...??? 🤣🤣🤣🤣) . ตอนนี้จำกัดการสมัคร เหลือแค่คนในประเทศจีนก่อน... . จากบริษัทสตาร์ทอัพเล็กๆ ที่มีฐานอยู่ในเมืองหางโจวและก่อตั้งขึ้นในปี 2023 . วันนี้ ก้าวกระโดดมา จนเป็นรายแรกที่ได้รับการยกย่องจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของ อเมริกา... . ว่ามีประสิทธิภาพ เทียบเท่า หรือ เหนือกว่า "โมเดล" ที่ล้ำสมัยของ อเมริกา ด้วยซ้ำ...!!! . https://shorturl.asia/dyLo6
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้อ่านเล่มไหนก็รู้สึกชอบและสนุกไปหมดเลยครับ อาจเพราะเป็นคนเลือกที่อยากอ่านเองจริง ๆ และก็มักไม่พบความผิดหวังกับเล่มที่เลือกนั้น ล่าสุดก็เรื่องนี้ที่สะดุดตาตั้งแต่ปกหน้า พอเจอในแอป hibrary ที่คนจองคิวไม่มาก และระบุว่าเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน ระทึกขวัญกลางกรุงโตเกียว คิดว่าน่าสนใจจึงต่อคิวจอง และเมื่อวันก่อนครบกำหนดต้องคืน จึงรีบอ่านแบบติดเทอร์โบรวดเดียวจนจบทันก่อนเวลาเส้นตายแบบเฉียดฉิว เมื่ออ่านจบก็พบว่า

    "ดีจริงที่ตัดสินใจที่จะลองอ่าน ถ้าไม่งั้นคงน่าเสียดายยิ่ง"

    #silenttokyoandsothisisxmas
    สนพ.ไดฟุกุ (อ่านหนังสือของไดฟุกุติดกันหลายเล่ม เป็นสนพ.หนึ่งที่ผลิตหนังสือค่อนข้างคุณภาพทีเดียว แต่ผมอ่านแบบอีบุ๊ก)
    ฮาตะ ทาเคฮิโตะ เขียน
    เกวลิน ลิขิตวิทยาวุฒิ แปล
    248 หน้า 280 บาท
    พิมพ์ในญี่ปุ่นครั้งแรก 2559 ในไทยพิมพ์ครั้งแรกปี 2564

    คุณจะทำอย่างไร ถ้ารู้ว่าเมืองที่ตนอาศัยอยู่กำลังจะเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ใจกลางกรุง?

    เริ่มเรื่องก็ระทึกขวัญแต่ต้น ด้วยการที่แม่บ้านวัยสี่สิบกว่ารายหนึ่งตั้งใจจะออกไปซื้อของขวัญให้สามี เพราะใกล้จะถึงคริสต์มาส เธอจึงออกจากบ้านไปยังย่านกลางเมือง หลังซื้อของแล้วจึงมานั่งรับแดดกะจะกินแซนด์วิช บนม้านั่งตัวหนึ่งที่ลานสาธารณะหน้าสถานีรถไฟเอบิสุ ครู่หนึ่งชายที่ไหนไม่รู้ เข้ามาคุยกับเธอพูดจาแปลก ๆ บอกว่าใต้ม้านั่งมีระเบิด ห้ามเธอลุกขึ้นไม่งั้นระเบิดจะทำงาน เพราะเมื่อมีน้ำหนักมากกว่า30กิโลกรัมกดทับ วงจรจะเริ่มเตรียมพร้อม ทางเดียวที่จะรอด เธอต้องนั่งรอจนกว่าจะมีคนจากสถานทีโทรทัศน์แห่งหนึ่งมาที่นี่ แล้วให้เขานั่งลงข้าง ๆ จากนั้นเธอจึงลุกขึ้นได้ แต่ให้บอกสิ่งที่เธอได้ยินนี้กับเขาด้วยเพื่อจะได้ไม่ตายเพราะระเบิด และสุดท้ายให้บอกเขาว่า นี่คือสงคราม!

    🧨

    จากจุดเริ่มนั้นเอง ที่สถานีโทรทัศน์แห่งนั้น มีสายโทรแจ้งว่าจะมีการระเบิดขึ้นที่...หนุ่มทำงานพาร์ตไทม์ในสถานีที่ได้รับงานเป็นเบ๊ทั่วไป ถูกสั่งให้ไปยังจุดดังกล่าวพร้อมจนท.อีกคนที่ติดอุปกรณ์การถ่ายทำไปด้วย ทั้งสองจำใจไปแต่เชื่อว่าคงเป็นการล้อกันเล่น เมื่อไปถึงพบหญิงที่นั่งอยู่ข้างม้านั่งที่คนในสายแจ้ง ทั้งสองเข้าไปใกล้กะจะไปนั่งม้านั่งใกล้กันเพื่อสังเกต แต่เธอกลับเรียกให้ชายที่ถือกล้องนั่งลงถามว่ามาจากสถานีโทรทัศน์ใช่ไหม เขาแปลกใจจึงนั่งลงจะสอบถาม เธอรีบกระโดดขึ้นทันทีพลางบอกรายละเอียดทั้งหมด

    🧨

    ชายที่นั่งไม่เชื่อจะลุก เธอรีบกดไหล่และหว่านล้อมว่าวิธีเดียวที่จะรอดคือต้องทำตามคำบอกของชายคนที่แจ้งรายละเอียดกับเธอไว้ในตอนแรก นั่นคือให้เขาใช้กล้องบันทึกสิ่งที่ตัวเองประสบแล้วเผยแพร่ออกไป จากนั้นเธอเอาของที่คล้ายนาฬิกาข้อมือดิจิทัลมาคล้องกับข้อมือของหนุ่มพาร์ตไทม์โดยเขาไม่ทันตั้งตัว พลางเธอชูให้ดูว่าที่ข้อมือตัวเองก็มี บอกว่านี่เป็นระเบิดด้วยเช่นกัน ถ้าไม่ทำตามคำสั่งของชายแปลกหน้าที่เข้ามาคุยกับเธอ เขาจะสั่งงานระยะไกลให้นาฬิการะเบิด แล้วรีบบอกกับเด็กหนุ่มว่าต้องไปต่อที่แห่งหนึ่งตามคำสั่ง จากนั้นทิ้งชายที่น่าสงสารไว้ตามลำพัง ซึ่งเขาก็กลัวมากจึงรีบทำตามที่เธอบอก ในที่สุดเรื่องก็ทราบถึงตำรวจ จนแห่กันมากู้ระเบิดด้วยการใช้ไนโตรเจนเหลวกะให้หยุดการทำงานของระบบ ปรากฏว่าเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น

    🧨

    ที่แท้เป็นการข่มขู่ แค่ระเบิดเสียงแต่ยังไม่มีอำนาจทำลายล้าง ทว่าด้วยเหตุนี้ทางตำรวจสืบสวนกลางจึงตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดูแลและสืบเรื่องนี้ขึ้น จากการวิเคราะห์ทำให้ตำรวจทราบว่า ระเบิดนั้นถูกติดตั้งตัวจับอุณหภูมิไว้ด้วย แสดงว่าคนที่ประกอบระเบิดเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้ด้านนี้และคาดเดาได้ว่าตำรวจจะใช้ไนโตรเจนเหลว จึงดักทางด้วยการติดตั้งระบบให้ไม่อาจกู้ด้วยวิธีที่ตำรวจใช้ ในทีมสืบสวน มีการจับคู่ของนายตำรวจมากประสบการณ์วัยสี่สิบกว่ากับตำรวจหนุ่มไฟแรงคู่หนึ่ง ซึ่งมีบทบาทในการตามสืบข้อมูลเกี่ยวกับการระเบิดครั้งนี้อย่างกัดติด ด้วยตำรวจวัยกลางคนนั้นเคยแต่งงานกับลูกสาวของระดับสูงของหัวหน้าที่ตั้งทีมครั้งนี้ ทว่ามีเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้ต้องหย่ากันไป อย่างไรเขาคือผู้มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนเกี่ยวกับสถานการณ์อันตราย

    🧨

    ด้านหญิงกลางคนกับหนุ่มพาร์ตไทม์ เดินทางไปยังอาคารหลังหนึ่งเป็นห้องเช่า ที่ภายในมีทีวีและอุปกรณ์กล้อง พร้อมซองสีขาวที่เขียนรายละเอียดบอกไว้ให้เด็กหนุ่มต้องอ่านข้อความตามที่มีบทพูดไว้ให้ โดยให้ฝ่ายหญิงเป็นคนทำหน้าที่บันทึกภาพ จากนั้นให้นำโหลดเผยแพร่ให้คนอื่นในยูทูปเห็น เนื้อหาสรุปคือให้บอกว่าผมคือผู้ที่วางระเบิดนั้นเอง และยื่นข้อเสนอขอคุยกับนายกถ่ายทอดออกทางสถานีโทรทัศน์ ถ้าไม่ทำตาม จะมีการวางระเบิดในย่านใจกลางชิบูย่า หน้ารูปปั้นหมาฮาจิโกะ เส้นตายคือ18.30น. ปรากฏว่านายกฯออกข่าวตอบโต้ว่าไม่ต้องการเจรจาใดกับผู้ก่อการร้ายทั้งสิ้น และจะทำสงครามกับคนไม่หวังดีอย่างถึงที่สุด

    🧨

    ด้านหนุ่มพาร์ตไทม์ได้รับคำสั่งต่อไปให้ไปทำคนเดียว จึงต้องแยกกับหญิงกลางคนที่ถูกให้เฝ้ารอคำสั่งอยู่ในห้องแห่งนั้น ส่วนตำรวจก็วิ่งขาขวิด ล้อมรั้วด้วยแถบเหลืองรอบรูปปั้นฮาจิโกะด้วยรัศมีประมาณหนึ่ง และให้หน่วยกอบกู้ระเบิดพยายามเร่งค้นหาวัตถุระเบิดที่ถูกซุกซ่อนอยู่ แต่คนโตเกียวและชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เข้าใจว่าคลิปที่เผยแพร่ น่าจะเป็นการหลอกลวงเหมือนเช่นระเบิดก่อนหน้าที่สถานีเอบิสุ จึงไม่รู้สึกกลัวแถมยังแห่มายังบริเวณลานอันเป็นสถานที่ถูกระบุ ด้วยต้องการมาเซลฟี่ตนเอง บ้างมาเป็นกลุ่ม เพื่ออัปโหลดเผยแพร่ให้คนอื่นเห็น

    🧨

    มีหญิงสาวพนักงานบริษัทธรรมดาสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน คนหนึ่งเป็นชู้กับสามีของคนอื่นและคะยั้นคะยอชวนเพื่อนไปนัดบอดก่อนหน้านี้ ซึ่งเพื่อนของเธอเพิ่งอกหักจากแฟนที่รักกันมากว่าสิบปี แล้วทิ้งไปอยู่กับกิ๊กที่ตั้งท้องไม่กี่เดือน เพื่อนสาวคนนี้กำลังคิดจะเริ่มต้นใหม่และรู้สึกดีกับหนุ่มคนหนึ่งในงานนัดบอด โดยเขาคนนั้นเป็นเจ้าของบริษัทที่สร้างแอปพลิเคชันที่เปิดตัวดีและมีคนใช้เยอะ ธุรกิจไปได้สวยทั้งที่ยังอายุไม่มาก แต่ค่อนข้างเย็นชาไม่สนใจคนรอบข้าง สองสาวตั้งใจจะมากินอาหารฉลองก่อนคริสต์มาส แล้วเห็นหนุ่มคนที่ตนสนใจเข้าพอดีในสถานที่ใกล้รูปปั้นฮาจิโกะ เพื่อนคนที่ใจกล้าจึงชวนอีกคนว่าให้ลองตามไปดูเขาว่าทำไมถึงมาอยู่แถวชิบูย่า ทั้งที่ก่อนหน้าตอนเธอชวนมากินข้าวด้วยกัน ปฏิเสธว่ามีนัดสำคัญที่อื่น เธอไม่อยากไปแต่สุดท้ายก็โดนเพื่อนลากไปจนได้

    🧨

    ด้านตำรวจยังคงพยายามตามหาว่าระเบิดถูกซ่อนตรงไหน เวลากระชั้นสั้นเข้าใกล้ถึงกำหนดที่ถูกประกาศว่าจะมีการระเบิด แต่ผู้คนยิ่งมาออกันอย่างเนืองแน่นด้วยความสนุกสนาน

    สุดท้ายจึงเกิดโศกนาฏกรรมใหญ่ เพราะมีการระเบิดขึ้นจริง ผู้คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง แต่เรื่องราวไม่จบเท่านี้ เพราะหลังเหตุร้ายแรง นายกฯยังคงยืนยันคำพูดแข็งกร้าวเช่นเดิม ดังนั้นจึงมีข้อความต่อมาของคนร้ายที่แจ้งให้ทราบว่า ถ้านายกยังไม่ทำตามข้อเสนอ ระเบิดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในคืนวันคริสต์มาสอีฟ คราวนี้บอกแค่เวลา แต่ไม่ระบุจุดที่จะระเบิด บอกเพียงว่าในกรุงโตเกียว

    🧨

    เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป..

    ตำรวจจะหาตัวคนร้ายเจอไหม ..

    สถานที่ใดจะเกิดระเบิดครั้งต่อไป..

    หญิงสาวสองคนที่อยู่ตรงบริเวณย่านชิบูย่าตายหรือไม่..

    ชายคนที่หญิงสาวรู้สึกสนใจ ทำไมโกหกเธอ แล้วเขามาทำอะไร รอดตายหรือไม่..

    หญิงวัยกลางคนที่ประสบเหตุคนแรกเล่า ที่ข้อมือยังมีนาฬิกาที่พร้อมระเบิดถ้าขัดคำสั่งคนร้าย เธอถูกให้ทำเรื่องใดต่อไป..

    หนุ่มพาร์ตไทม์ที่ได้รับมอบหมายงานไปทำตามลำพัง จะรอดหรือไม่ ใคร ๆ ต่างเข้าใจว่าเขาคือคนร้ายไปหมดแล้ว ...

    ยังมีอีกหลายตัวละครที่มีบทบาทต่อเนื้อเรื่อง ที่ผมเล่าได้ไม่หมด ต้องไปหาอ่านกันต่อแล้วล่ะ

    .......

    ภาควิเคราะห์✒️

    ตัวละครเยอะ และโผล่มาเรื่อย ๆ เฉพาะที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลักก็เกือบสิบคน ยังมีประเภทโผล่มาประปรายเพราะมีความสัมพันธ์กับตัวละครที่เกี่ยวข้องอีกพอสมควร แต่เนื่องจากผมมีเวลาจำกัดที่ต้องอ่านให้จบทันก่อนหนังสือจะคืนเข้าระบบตามกำหนด จึงไม่สามารถค่อย ๆ เสพอ่านอย่างละเมียดบรรจง แต่ใช้วิธีอ่านแบบกวาดตาโดยไว ซึ่งปกติจะไม่อยากอ่านแบบนี้ถ้าไม่จำเป็น เนื่องจากจะจดจำชื่อตัวละคร หรือดื่มด่ำกับสำนวนและการบรรยายของผู้เขียนได้น้อย

    ✒️

    ดีที่เล่มนี้ไม่เน้นการบรรยายเยอะ แต่สนทนามากกว่า มีบรรยายบ้างแต่ไม่ยาวเป็นหน้า ค่อนข้างเดินเรื่องกระชับฉับไว ให้รายละเอียดเท่าที่จำเป็น ตัวละครคุยกันเยอะ ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังครับ ยิ่งอ่านประวัติคนเขียนด้วยจึงเข้าใจ เพราะเป็นทั้งนักเขียนหนังสือ นักเขียนบท โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ มิน่าล่ะจึงสะท้อนความเชี่ยวชาญและแนวคิดการทำงานในการผลิตหนัง มาใช้ในงานเขียนด้วย

    ✒️

    อ่านแล้วนึกถึงหนังเรื่อง pulp fiction เมื่อปี 2537 ครับ ลักษณะการเล่ามีความเดินเรื่องคล้ายอย่างในหนัง คือไม่ได้เล่าไปทีละลำดับ แต่สลับระหว่างตัวละครหลักกลับไปกลับมา ฉากโน้นฉากนี้ แล้วพอตัวละครเยอะ ก็จะเข้าใจยากหน่อย แต่พอนำมาร้อยเรียงกันเองในหัวแล้วจะเริ่มมองภาพใหญ่ออก เพียงแค่ผู้เขียนเลือกหยิบเล่าในบริเวณจำกัดของ jigsaw บางส่วนในภาพทั้งหมด แล้วกระโดดไปเล่ามุมอื่นของชีวิตตัวละครตัวอื่น วนไปวนมาแบบนี้ จนค่อย ๆ กลายเป็นภาพที่ต่อสำเร็จเป็นรูปร่างมากขึ้นเรื่อย ๆ

    ✒️

    อ่านไปเหมือนจะงง แล้วพาลทำให้ไม่เข้าใจและไม่ชอบ หมดสนุกได้หากเราไม่คุ้นเคยกับการเล่าแบบนี้ ผมนึกถึงตัวเองตอนได้ดู pulp fiction ในโรงหนังลิโด้ครั้งแรกสมัยก่อน ถึงกับอุทานในใจ

    แหม..หนังอะไรวะเนี่ย ดูไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจอะไรเลย ตัวละครต่าง ๆ ที่จู่ ๆ ก็โผล่มาแบบไม่มีต้น ไม่มีปลาย มาทำบ้าอะไรของมันเดี๋ยวเดียวก็ตัดไป กลายเป็นตัวอื่นโผล่มาแล้วก็ลักษณะเดียวกันคือไม่มีรายละเอียดให้รู้ งงไปจนแทบเลยกลางเรื่องไปพอสมควรแล้วนั่นแหละ แบบดูไปด่าไปในใจ แต่ก็ทนดูต่อไปเพราะอยากรู้ว่าตกลงเรื่องราวมันยังไงกันแน่

    ✒️

    พอดูจบถึงกับแทบโห่ร้องออกมาแบบไม่มีเสียง นี่มันหนังโคตรดี สุดยอดอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน คิดได้ยังไง ถ้าดำเนินเรื่องตามลำดับเวลาก่อนหลังที่ควรจะเป็น เราก็เข้าใจง่ายตั้งแต่ต้นละ แต่นี่ดันตัดเอาแค่บางช่วงสลับไปมาจนงงไปหมด ให้ไปต่อเอาเองในหัว

    หนังสือเล่มนี้ก็มีความคล้ายในการเล่าแบบหนังเรื่องนั้นเหมือนกัน แต่ไม่ได้มากเท่าและไม่ได้ชัดเจนเท่า ยังมีความเล่าตามลำดับในโครงสร้างใหญ่ไปตามวันที่เริ่มตั้งแต่ 22 ธันวาคม จนถึงก่อนวันคริสต์มาส แต่ทว่าจะมีช่วงที่เล่าให้ทราบถึงความเป็นไปในตัวละครบางตัวในอดีต เป็นเชิงภาคขยายจากในคราวแรกที่ไม่ได้ให้รายละเอียดตัวละครอะไรมากมาย

    ✒️

    กลางเล่มไปแล้วที่หลังเกิดเหตุระเบิดใหญ่อันน่าตกใจและมีการสูญเสียทำได้ดีทีเดียว ฉากกลางย่านชิบูย่าในภาพก่อนหน้าที่กำลังวุ่นวายและเต็มไปด้วยความเอะอะของเหล่าผู้คน ที่ไม่ตระหนักถึงอันตรายใดแล้วไม่สนใจคำเตือนตำรวจ กับภายหลังเหตุระเบิด รวมถึงความไต่ระดับของการเดินเรื่องที่บางตัวละครพยายามตามหาความจริง จิกกัดไม่ปล่อย ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่ตำรวจและยังเป็นผู้หญิง มีฉากหนึ่งที่อ่านแล้วอดนึกไม่ได้ว่า

    "อยากตายนักหรือไง"

    เพราะเธอไปจี้ถาม คุ้ยแคะแกะแผลจะคาดคั้นเอาคำตอบกับคนที่น่าสงสัยให้ได้ ช่วงบทสนทนาตอนนั้นคือลุ้นมาก นางปากดีคนนี้จะถูกหมกตายไหมเนี่ย ช่างปากกล้า ปากเก่งในเวลาที่ไม่ควรจริง ๆ แล้วเหตุการณ์ต่อจากฉากนั้น ก็ทำเอาแทบกลั้นลมหายใจอ่านทีเดียว

    ✒️

    ผู้เขียนฉลาดในการหลอกล่อคนอ่านมาตั้งแต่ต้นเริ่มเรื่องทีเดียว เรียกว่าเอาอยู่ หัวปั่นเพราะเบาะแสที่ให้มาทีละนิด เราก็คิดว่าเออ คนนี้หรือคนนั้นมีแววนะว่าอาจจะใช่คนร้ายที่เจ้าแผนการทั้งหมด เพียงเพื่อสุดท้ายจะพบกับความพลิกเหมือนลูกรูบิกที่บิดที สีที่เหมือนจะเรียงกันได้ครบ แต่ทำเอาแทบสลบเพราะนอกจากไม่เรียงสำเร็จทุกสี ยังเหมือนวิ่งหนีออกไปไกลกว่าเก่า

    อ้าว..ที่แท้คนนี้เองเหรอ..เราหมุนไปผิดทางตั้งแต่แรกเลยเหรอเนี่ย

    พอย้อนไปเก็บรายละเอียดหลังอ่านจบ โดยทวนเนื้อหาใหม่ในบางช่วงบางบทสนทนา การบรรยายรายละเอียดที่ผู้เขียนใส่ไว้ใหม่ จึงเกิดความรู้สึกเหมือน อะไรที่มันขัดกันในหัว หมุนเคลื่อนตัวลงล็อกดัง "กริ๊ก" ในตำแหน่งที่ถูกต้องเป๊ะ

    ✒️

    เราอ่านไม่ดีเองตั้งแต่แรก ละเลยส่วนสำคัญไปเพราะไม่ละเอียดและไม่คิดตามมากพอ แท้จริงร่องรอยของความจริงได้วางไว้ให้เห็นอยู่แล้ว ช่างสุดยอดจริง ๆ สมกับที่เล่มนี้ขายดีในญี่ปุ่น รวมถึงตอนสร้างเป็นหนังก็มีผลตอบรับดีด้วย (ตามที่ในหนังสือระบุไว้ในช่วงคำนำสำนักพิมพ์ หรือความในใจของผู้แปลก็ไม่แน่ใจ)

    ชอบที่ตอนจบ บทสรุปที่ให้คนอ่านได้เก็บไปคิดทบทวนถึงสิ่งที่คนเขียนต้องการสื่อไปถึงชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ หรือที่จริงชาวโลกก็ว่าได้ เกี่ยวกับสงครามว่าคือสิ่งที่นักการเมือง ผู้มีอำนาจ และพลเมืองที่อยู่ในประเทศนั้น ๆ ควรจะปฏิบัติเช่นไร หรือไม่ควรปฏิบัติเช่นไร

    ✒️บทสรุปของคนร้ายจะตายหรือไม่

    ตอนที่เรื่องเฉลยโดยให้คนร้ายบอกเล่าความจริงในใจกับใครคนหนึ่งนั้น รู้สึกชอบวิธีเฉลยที่ผู้เขียนเลือกใช้ครับ รูปแบบเรียบง่ายแต่เข้ากับนิสัยของตัวละครตัวนี้ดี บ่งบอกตัวตนของคนคนนี้ได้ค่อนข้างชัดเจน

    คนอ่านหลายคนอาจไม่ชอบเหตุผลและแรงจูงใจของคนร้าย และไม่อาจทำใจให้เชื่อได้ แต่ผมคิดว่าพอจะเข้าใจนะ แต่ไม่ใช่เห็นด้วยกับสิ่งที่คนร้ายเลือกกระทำ คนเราเมื่อยึดติดในสิ่งใด สัตว์ใด คนใด ความเชื่อใดมากจนฝังแน่นไปถึงจิต

    ✒️

    มันยากเหลือเกินที่จะลบล้างเอาเจ้าความคิดนั้นให้หลุดออกไปได้ ในแง่นี้ผมจึงคิดว่าเข้าใจและเห็นใจสงสารคนร้ายพอสมควร ส่วนประชาชนคนที่ตายไปมากมายนั้น หากพูดกันอย่างไม่อคติ จะไปโทษคนร้ายทั้งหมดก็ไม่ได้ แท้จริงเหล่าคนที่ตายไป จะมากน้อยเพราะเขาทำตัวเอง พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่อันตราย ทั้งที่ทางตำรวจก็แจ้งเตือน ห้ามปราม แต่ก็ไม่สนใจ รวมถึงพวกสื่อต่าง ๆ ที่เอาแต่อยากทำข่าวโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ทำนั้นจะส่งผลให้สถานการณ์แย่กว่าเดิมหรือเป็นอันตรายต่อสังคม ประชาชนและประเทศชาติหรือไม่

    ผมว่าเล่มนี้สะท้อนมุมมองเรื่องเหล่านี้ได้ดี

    แต่เหนืออื่นใดคือฉากจบที่ตัวละครหนึ่งที่น่าสงสารและน่าเห็นใจมาก แต่กลับเป็นฝ่ายพูดและให้กำลังใจกับตัวละครอีกตัวที่บาดเจ็บทางใจอย่างร้ายแรงได้อย่างเข้าถึงจิตใจภายใน ราวกับคำพูดนั้นไปสัมผัสและลูบไล้ที่หัวใจด้วยความแผ่วเบาที่สุด

    ช่างอบอุ่นหัวใจดีเหลือเกิน หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ประสบมา

    สำนวนแปลอ่านได้อย่างไม่รู้สึกสะดุด

    ..........

    อ่านจบ ไปลองค้นข้อมูลที่มีการสร้างเป็นหนังต่อ พอเห็นภาพโปสเตอร์ยิ่งอยากดูมาก เพราะมีนักแสดงคนโปรดเล่นด้วยนั่นคือ อิชิดะ ยูริโกะ และคนอื่น ๆ ก็ต่างเป็นนักแสดงคุณภาพทั้งนั้น สุดท้ายเจอที่มีคนทำซับบรรยายไทย จึงโหลดมาชม แต่ดูจบแล้วพบว่า ฉบับหนังสือดีกว่าพอสมควร คือหนังสร้างออกมาได้โอเคอยู่ นักแสดงก็ทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองได้ดี แต่มันมีอยู่หลายช่วงที่รู้สึกว่าน่าจะเล่าได้ดีกว่านี้ อาจเพราะเวลาจำกัด รายละเอียดมากมายจึงใส่มาได้ไม่หมด จึงทำให้ลดความสนุกลงไปจากฉบับหนังสือเยอะเลย

    แต่ฉากสำคัญที่เกิดระเบิดกลางย่านชิบูย่าทำออกมาได้ดี

    ใครสนใจลองไปหาชมดูครับ

    สุดท้ายขอจบด้วยประโยคที่ตัวละครสองตัวในเรื่องเอ่ยไว้ได้อย่างน่าประทับใจ โดยระบุว่าเป็นคำกล่าวของนักเขียนนิยายที่มีชื่อว่า Stephen King

    "ผู้ชนะในการแข่งขันปาขี้คือคนที่มือเปื้อนน้อยที่สุด คนมีคุณภาพคือคนที่ไม่ทำให้มือตัวเองเปื้อนจากอะไรไร้สาระอย่างการขว้างปาเจตนาร้ายใส่คนอื่น"

    #หนังญี่ปุ่น
    #หนังน่าดู
    #หนังสือน่าอ่าน
    #บทความ
    #รีววิหนังสือ
    #thaitimes
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #ระเบิดกลางกรุง
    #โตเกียว
    #สงคราม
    #แง่คิด
    #ระทึกขวัญ
    #สืบสวน
    #ก่อการร้าย
    ช่วงนี้อ่านเล่มไหนก็รู้สึกชอบและสนุกไปหมดเลยครับ อาจเพราะเป็นคนเลือกที่อยากอ่านเองจริง ๆ และก็มักไม่พบความผิดหวังกับเล่มที่เลือกนั้น ล่าสุดก็เรื่องนี้ที่สะดุดตาตั้งแต่ปกหน้า พอเจอในแอป hibrary ที่คนจองคิวไม่มาก และระบุว่าเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน ระทึกขวัญกลางกรุงโตเกียว คิดว่าน่าสนใจจึงต่อคิวจอง และเมื่อวันก่อนครบกำหนดต้องคืน จึงรีบอ่านแบบติดเทอร์โบรวดเดียวจนจบทันก่อนเวลาเส้นตายแบบเฉียดฉิว เมื่ออ่านจบก็พบว่า "ดีจริงที่ตัดสินใจที่จะลองอ่าน ถ้าไม่งั้นคงน่าเสียดายยิ่ง" #silenttokyoandsothisisxmas สนพ.ไดฟุกุ (อ่านหนังสือของไดฟุกุติดกันหลายเล่ม เป็นสนพ.หนึ่งที่ผลิตหนังสือค่อนข้างคุณภาพทีเดียว แต่ผมอ่านแบบอีบุ๊ก) ฮาตะ ทาเคฮิโตะ เขียน เกวลิน ลิขิตวิทยาวุฒิ แปล 248 หน้า 280 บาท พิมพ์ในญี่ปุ่นครั้งแรก 2559 ในไทยพิมพ์ครั้งแรกปี 2564 คุณจะทำอย่างไร ถ้ารู้ว่าเมืองที่ตนอาศัยอยู่กำลังจะเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ใจกลางกรุง? เริ่มเรื่องก็ระทึกขวัญแต่ต้น ด้วยการที่แม่บ้านวัยสี่สิบกว่ารายหนึ่งตั้งใจจะออกไปซื้อของขวัญให้สามี เพราะใกล้จะถึงคริสต์มาส เธอจึงออกจากบ้านไปยังย่านกลางเมือง หลังซื้อของแล้วจึงมานั่งรับแดดกะจะกินแซนด์วิช บนม้านั่งตัวหนึ่งที่ลานสาธารณะหน้าสถานีรถไฟเอบิสุ ครู่หนึ่งชายที่ไหนไม่รู้ เข้ามาคุยกับเธอพูดจาแปลก ๆ บอกว่าใต้ม้านั่งมีระเบิด ห้ามเธอลุกขึ้นไม่งั้นระเบิดจะทำงาน เพราะเมื่อมีน้ำหนักมากกว่า30กิโลกรัมกดทับ วงจรจะเริ่มเตรียมพร้อม ทางเดียวที่จะรอด เธอต้องนั่งรอจนกว่าจะมีคนจากสถานทีโทรทัศน์แห่งหนึ่งมาที่นี่ แล้วให้เขานั่งลงข้าง ๆ จากนั้นเธอจึงลุกขึ้นได้ แต่ให้บอกสิ่งที่เธอได้ยินนี้กับเขาด้วยเพื่อจะได้ไม่ตายเพราะระเบิด และสุดท้ายให้บอกเขาว่า นี่คือสงคราม! 🧨 จากจุดเริ่มนั้นเอง ที่สถานีโทรทัศน์แห่งนั้น มีสายโทรแจ้งว่าจะมีการระเบิดขึ้นที่...หนุ่มทำงานพาร์ตไทม์ในสถานีที่ได้รับงานเป็นเบ๊ทั่วไป ถูกสั่งให้ไปยังจุดดังกล่าวพร้อมจนท.อีกคนที่ติดอุปกรณ์การถ่ายทำไปด้วย ทั้งสองจำใจไปแต่เชื่อว่าคงเป็นการล้อกันเล่น เมื่อไปถึงพบหญิงที่นั่งอยู่ข้างม้านั่งที่คนในสายแจ้ง ทั้งสองเข้าไปใกล้กะจะไปนั่งม้านั่งใกล้กันเพื่อสังเกต แต่เธอกลับเรียกให้ชายที่ถือกล้องนั่งลงถามว่ามาจากสถานีโทรทัศน์ใช่ไหม เขาแปลกใจจึงนั่งลงจะสอบถาม เธอรีบกระโดดขึ้นทันทีพลางบอกรายละเอียดทั้งหมด 🧨 ชายที่นั่งไม่เชื่อจะลุก เธอรีบกดไหล่และหว่านล้อมว่าวิธีเดียวที่จะรอดคือต้องทำตามคำบอกของชายคนที่แจ้งรายละเอียดกับเธอไว้ในตอนแรก นั่นคือให้เขาใช้กล้องบันทึกสิ่งที่ตัวเองประสบแล้วเผยแพร่ออกไป จากนั้นเธอเอาของที่คล้ายนาฬิกาข้อมือดิจิทัลมาคล้องกับข้อมือของหนุ่มพาร์ตไทม์โดยเขาไม่ทันตั้งตัว พลางเธอชูให้ดูว่าที่ข้อมือตัวเองก็มี บอกว่านี่เป็นระเบิดด้วยเช่นกัน ถ้าไม่ทำตามคำสั่งของชายแปลกหน้าที่เข้ามาคุยกับเธอ เขาจะสั่งงานระยะไกลให้นาฬิการะเบิด แล้วรีบบอกกับเด็กหนุ่มว่าต้องไปต่อที่แห่งหนึ่งตามคำสั่ง จากนั้นทิ้งชายที่น่าสงสารไว้ตามลำพัง ซึ่งเขาก็กลัวมากจึงรีบทำตามที่เธอบอก ในที่สุดเรื่องก็ทราบถึงตำรวจ จนแห่กันมากู้ระเบิดด้วยการใช้ไนโตรเจนเหลวกะให้หยุดการทำงานของระบบ ปรากฏว่าเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น 🧨 ที่แท้เป็นการข่มขู่ แค่ระเบิดเสียงแต่ยังไม่มีอำนาจทำลายล้าง ทว่าด้วยเหตุนี้ทางตำรวจสืบสวนกลางจึงตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดูแลและสืบเรื่องนี้ขึ้น จากการวิเคราะห์ทำให้ตำรวจทราบว่า ระเบิดนั้นถูกติดตั้งตัวจับอุณหภูมิไว้ด้วย แสดงว่าคนที่ประกอบระเบิดเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้ด้านนี้และคาดเดาได้ว่าตำรวจจะใช้ไนโตรเจนเหลว จึงดักทางด้วยการติดตั้งระบบให้ไม่อาจกู้ด้วยวิธีที่ตำรวจใช้ ในทีมสืบสวน มีการจับคู่ของนายตำรวจมากประสบการณ์วัยสี่สิบกว่ากับตำรวจหนุ่มไฟแรงคู่หนึ่ง ซึ่งมีบทบาทในการตามสืบข้อมูลเกี่ยวกับการระเบิดครั้งนี้อย่างกัดติด ด้วยตำรวจวัยกลางคนนั้นเคยแต่งงานกับลูกสาวของระดับสูงของหัวหน้าที่ตั้งทีมครั้งนี้ ทว่ามีเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้ต้องหย่ากันไป อย่างไรเขาคือผู้มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนเกี่ยวกับสถานการณ์อันตราย 🧨 ด้านหญิงกลางคนกับหนุ่มพาร์ตไทม์ เดินทางไปยังอาคารหลังหนึ่งเป็นห้องเช่า ที่ภายในมีทีวีและอุปกรณ์กล้อง พร้อมซองสีขาวที่เขียนรายละเอียดบอกไว้ให้เด็กหนุ่มต้องอ่านข้อความตามที่มีบทพูดไว้ให้ โดยให้ฝ่ายหญิงเป็นคนทำหน้าที่บันทึกภาพ จากนั้นให้นำโหลดเผยแพร่ให้คนอื่นในยูทูปเห็น เนื้อหาสรุปคือให้บอกว่าผมคือผู้ที่วางระเบิดนั้นเอง และยื่นข้อเสนอขอคุยกับนายกถ่ายทอดออกทางสถานีโทรทัศน์ ถ้าไม่ทำตาม จะมีการวางระเบิดในย่านใจกลางชิบูย่า หน้ารูปปั้นหมาฮาจิโกะ เส้นตายคือ18.30น. ปรากฏว่านายกฯออกข่าวตอบโต้ว่าไม่ต้องการเจรจาใดกับผู้ก่อการร้ายทั้งสิ้น และจะทำสงครามกับคนไม่หวังดีอย่างถึงที่สุด 🧨 ด้านหนุ่มพาร์ตไทม์ได้รับคำสั่งต่อไปให้ไปทำคนเดียว จึงต้องแยกกับหญิงกลางคนที่ถูกให้เฝ้ารอคำสั่งอยู่ในห้องแห่งนั้น ส่วนตำรวจก็วิ่งขาขวิด ล้อมรั้วด้วยแถบเหลืองรอบรูปปั้นฮาจิโกะด้วยรัศมีประมาณหนึ่ง และให้หน่วยกอบกู้ระเบิดพยายามเร่งค้นหาวัตถุระเบิดที่ถูกซุกซ่อนอยู่ แต่คนโตเกียวและชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เข้าใจว่าคลิปที่เผยแพร่ น่าจะเป็นการหลอกลวงเหมือนเช่นระเบิดก่อนหน้าที่สถานีเอบิสุ จึงไม่รู้สึกกลัวแถมยังแห่มายังบริเวณลานอันเป็นสถานที่ถูกระบุ ด้วยต้องการมาเซลฟี่ตนเอง บ้างมาเป็นกลุ่ม เพื่ออัปโหลดเผยแพร่ให้คนอื่นเห็น 🧨 มีหญิงสาวพนักงานบริษัทธรรมดาสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน คนหนึ่งเป็นชู้กับสามีของคนอื่นและคะยั้นคะยอชวนเพื่อนไปนัดบอดก่อนหน้านี้ ซึ่งเพื่อนของเธอเพิ่งอกหักจากแฟนที่รักกันมากว่าสิบปี แล้วทิ้งไปอยู่กับกิ๊กที่ตั้งท้องไม่กี่เดือน เพื่อนสาวคนนี้กำลังคิดจะเริ่มต้นใหม่และรู้สึกดีกับหนุ่มคนหนึ่งในงานนัดบอด โดยเขาคนนั้นเป็นเจ้าของบริษัทที่สร้างแอปพลิเคชันที่เปิดตัวดีและมีคนใช้เยอะ ธุรกิจไปได้สวยทั้งที่ยังอายุไม่มาก แต่ค่อนข้างเย็นชาไม่สนใจคนรอบข้าง สองสาวตั้งใจจะมากินอาหารฉลองก่อนคริสต์มาส แล้วเห็นหนุ่มคนที่ตนสนใจเข้าพอดีในสถานที่ใกล้รูปปั้นฮาจิโกะ เพื่อนคนที่ใจกล้าจึงชวนอีกคนว่าให้ลองตามไปดูเขาว่าทำไมถึงมาอยู่แถวชิบูย่า ทั้งที่ก่อนหน้าตอนเธอชวนมากินข้าวด้วยกัน ปฏิเสธว่ามีนัดสำคัญที่อื่น เธอไม่อยากไปแต่สุดท้ายก็โดนเพื่อนลากไปจนได้ 🧨 ด้านตำรวจยังคงพยายามตามหาว่าระเบิดถูกซ่อนตรงไหน เวลากระชั้นสั้นเข้าใกล้ถึงกำหนดที่ถูกประกาศว่าจะมีการระเบิด แต่ผู้คนยิ่งมาออกันอย่างเนืองแน่นด้วยความสนุกสนาน สุดท้ายจึงเกิดโศกนาฏกรรมใหญ่ เพราะมีการระเบิดขึ้นจริง ผู้คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง แต่เรื่องราวไม่จบเท่านี้ เพราะหลังเหตุร้ายแรง นายกฯยังคงยืนยันคำพูดแข็งกร้าวเช่นเดิม ดังนั้นจึงมีข้อความต่อมาของคนร้ายที่แจ้งให้ทราบว่า ถ้านายกยังไม่ทำตามข้อเสนอ ระเบิดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในคืนวันคริสต์มาสอีฟ คราวนี้บอกแค่เวลา แต่ไม่ระบุจุดที่จะระเบิด บอกเพียงว่าในกรุงโตเกียว 🧨 เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป.. ตำรวจจะหาตัวคนร้ายเจอไหม .. สถานที่ใดจะเกิดระเบิดครั้งต่อไป.. หญิงสาวสองคนที่อยู่ตรงบริเวณย่านชิบูย่าตายหรือไม่.. ชายคนที่หญิงสาวรู้สึกสนใจ ทำไมโกหกเธอ แล้วเขามาทำอะไร รอดตายหรือไม่.. หญิงวัยกลางคนที่ประสบเหตุคนแรกเล่า ที่ข้อมือยังมีนาฬิกาที่พร้อมระเบิดถ้าขัดคำสั่งคนร้าย เธอถูกให้ทำเรื่องใดต่อไป.. หนุ่มพาร์ตไทม์ที่ได้รับมอบหมายงานไปทำตามลำพัง จะรอดหรือไม่ ใคร ๆ ต่างเข้าใจว่าเขาคือคนร้ายไปหมดแล้ว ... ยังมีอีกหลายตัวละครที่มีบทบาทต่อเนื้อเรื่อง ที่ผมเล่าได้ไม่หมด ต้องไปหาอ่านกันต่อแล้วล่ะ ....... ภาควิเคราะห์✒️ ตัวละครเยอะ และโผล่มาเรื่อย ๆ เฉพาะที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลักก็เกือบสิบคน ยังมีประเภทโผล่มาประปรายเพราะมีความสัมพันธ์กับตัวละครที่เกี่ยวข้องอีกพอสมควร แต่เนื่องจากผมมีเวลาจำกัดที่ต้องอ่านให้จบทันก่อนหนังสือจะคืนเข้าระบบตามกำหนด จึงไม่สามารถค่อย ๆ เสพอ่านอย่างละเมียดบรรจง แต่ใช้วิธีอ่านแบบกวาดตาโดยไว ซึ่งปกติจะไม่อยากอ่านแบบนี้ถ้าไม่จำเป็น เนื่องจากจะจดจำชื่อตัวละคร หรือดื่มด่ำกับสำนวนและการบรรยายของผู้เขียนได้น้อย ✒️ ดีที่เล่มนี้ไม่เน้นการบรรยายเยอะ แต่สนทนามากกว่า มีบรรยายบ้างแต่ไม่ยาวเป็นหน้า ค่อนข้างเดินเรื่องกระชับฉับไว ให้รายละเอียดเท่าที่จำเป็น ตัวละครคุยกันเยอะ ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังครับ ยิ่งอ่านประวัติคนเขียนด้วยจึงเข้าใจ เพราะเป็นทั้งนักเขียนหนังสือ นักเขียนบท โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ มิน่าล่ะจึงสะท้อนความเชี่ยวชาญและแนวคิดการทำงานในการผลิตหนัง มาใช้ในงานเขียนด้วย ✒️ อ่านแล้วนึกถึงหนังเรื่อง pulp fiction เมื่อปี 2537 ครับ ลักษณะการเล่ามีความเดินเรื่องคล้ายอย่างในหนัง คือไม่ได้เล่าไปทีละลำดับ แต่สลับระหว่างตัวละครหลักกลับไปกลับมา ฉากโน้นฉากนี้ แล้วพอตัวละครเยอะ ก็จะเข้าใจยากหน่อย แต่พอนำมาร้อยเรียงกันเองในหัวแล้วจะเริ่มมองภาพใหญ่ออก เพียงแค่ผู้เขียนเลือกหยิบเล่าในบริเวณจำกัดของ jigsaw บางส่วนในภาพทั้งหมด แล้วกระโดดไปเล่ามุมอื่นของชีวิตตัวละครตัวอื่น วนไปวนมาแบบนี้ จนค่อย ๆ กลายเป็นภาพที่ต่อสำเร็จเป็นรูปร่างมากขึ้นเรื่อย ๆ ✒️ อ่านไปเหมือนจะงง แล้วพาลทำให้ไม่เข้าใจและไม่ชอบ หมดสนุกได้หากเราไม่คุ้นเคยกับการเล่าแบบนี้ ผมนึกถึงตัวเองตอนได้ดู pulp fiction ในโรงหนังลิโด้ครั้งแรกสมัยก่อน ถึงกับอุทานในใจ แหม..หนังอะไรวะเนี่ย ดูไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจอะไรเลย ตัวละครต่าง ๆ ที่จู่ ๆ ก็โผล่มาแบบไม่มีต้น ไม่มีปลาย มาทำบ้าอะไรของมันเดี๋ยวเดียวก็ตัดไป กลายเป็นตัวอื่นโผล่มาแล้วก็ลักษณะเดียวกันคือไม่มีรายละเอียดให้รู้ งงไปจนแทบเลยกลางเรื่องไปพอสมควรแล้วนั่นแหละ แบบดูไปด่าไปในใจ แต่ก็ทนดูต่อไปเพราะอยากรู้ว่าตกลงเรื่องราวมันยังไงกันแน่ ✒️ พอดูจบถึงกับแทบโห่ร้องออกมาแบบไม่มีเสียง นี่มันหนังโคตรดี สุดยอดอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน คิดได้ยังไง ถ้าดำเนินเรื่องตามลำดับเวลาก่อนหลังที่ควรจะเป็น เราก็เข้าใจง่ายตั้งแต่ต้นละ แต่นี่ดันตัดเอาแค่บางช่วงสลับไปมาจนงงไปหมด ให้ไปต่อเอาเองในหัว หนังสือเล่มนี้ก็มีความคล้ายในการเล่าแบบหนังเรื่องนั้นเหมือนกัน แต่ไม่ได้มากเท่าและไม่ได้ชัดเจนเท่า ยังมีความเล่าตามลำดับในโครงสร้างใหญ่ไปตามวันที่เริ่มตั้งแต่ 22 ธันวาคม จนถึงก่อนวันคริสต์มาส แต่ทว่าจะมีช่วงที่เล่าให้ทราบถึงความเป็นไปในตัวละครบางตัวในอดีต เป็นเชิงภาคขยายจากในคราวแรกที่ไม่ได้ให้รายละเอียดตัวละครอะไรมากมาย ✒️ กลางเล่มไปแล้วที่หลังเกิดเหตุระเบิดใหญ่อันน่าตกใจและมีการสูญเสียทำได้ดีทีเดียว ฉากกลางย่านชิบูย่าในภาพก่อนหน้าที่กำลังวุ่นวายและเต็มไปด้วยความเอะอะของเหล่าผู้คน ที่ไม่ตระหนักถึงอันตรายใดแล้วไม่สนใจคำเตือนตำรวจ กับภายหลังเหตุระเบิด รวมถึงความไต่ระดับของการเดินเรื่องที่บางตัวละครพยายามตามหาความจริง จิกกัดไม่ปล่อย ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่ตำรวจและยังเป็นผู้หญิง มีฉากหนึ่งที่อ่านแล้วอดนึกไม่ได้ว่า "อยากตายนักหรือไง" เพราะเธอไปจี้ถาม คุ้ยแคะแกะแผลจะคาดคั้นเอาคำตอบกับคนที่น่าสงสัยให้ได้ ช่วงบทสนทนาตอนนั้นคือลุ้นมาก นางปากดีคนนี้จะถูกหมกตายไหมเนี่ย ช่างปากกล้า ปากเก่งในเวลาที่ไม่ควรจริง ๆ แล้วเหตุการณ์ต่อจากฉากนั้น ก็ทำเอาแทบกลั้นลมหายใจอ่านทีเดียว ✒️ ผู้เขียนฉลาดในการหลอกล่อคนอ่านมาตั้งแต่ต้นเริ่มเรื่องทีเดียว เรียกว่าเอาอยู่ หัวปั่นเพราะเบาะแสที่ให้มาทีละนิด เราก็คิดว่าเออ คนนี้หรือคนนั้นมีแววนะว่าอาจจะใช่คนร้ายที่เจ้าแผนการทั้งหมด เพียงเพื่อสุดท้ายจะพบกับความพลิกเหมือนลูกรูบิกที่บิดที สีที่เหมือนจะเรียงกันได้ครบ แต่ทำเอาแทบสลบเพราะนอกจากไม่เรียงสำเร็จทุกสี ยังเหมือนวิ่งหนีออกไปไกลกว่าเก่า อ้าว..ที่แท้คนนี้เองเหรอ..เราหมุนไปผิดทางตั้งแต่แรกเลยเหรอเนี่ย พอย้อนไปเก็บรายละเอียดหลังอ่านจบ โดยทวนเนื้อหาใหม่ในบางช่วงบางบทสนทนา การบรรยายรายละเอียดที่ผู้เขียนใส่ไว้ใหม่ จึงเกิดความรู้สึกเหมือน อะไรที่มันขัดกันในหัว หมุนเคลื่อนตัวลงล็อกดัง "กริ๊ก" ในตำแหน่งที่ถูกต้องเป๊ะ ✒️ เราอ่านไม่ดีเองตั้งแต่แรก ละเลยส่วนสำคัญไปเพราะไม่ละเอียดและไม่คิดตามมากพอ แท้จริงร่องรอยของความจริงได้วางไว้ให้เห็นอยู่แล้ว ช่างสุดยอดจริง ๆ สมกับที่เล่มนี้ขายดีในญี่ปุ่น รวมถึงตอนสร้างเป็นหนังก็มีผลตอบรับดีด้วย (ตามที่ในหนังสือระบุไว้ในช่วงคำนำสำนักพิมพ์ หรือความในใจของผู้แปลก็ไม่แน่ใจ) ชอบที่ตอนจบ บทสรุปที่ให้คนอ่านได้เก็บไปคิดทบทวนถึงสิ่งที่คนเขียนต้องการสื่อไปถึงชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ หรือที่จริงชาวโลกก็ว่าได้ เกี่ยวกับสงครามว่าคือสิ่งที่นักการเมือง ผู้มีอำนาจ และพลเมืองที่อยู่ในประเทศนั้น ๆ ควรจะปฏิบัติเช่นไร หรือไม่ควรปฏิบัติเช่นไร ✒️บทสรุปของคนร้ายจะตายหรือไม่ ตอนที่เรื่องเฉลยโดยให้คนร้ายบอกเล่าความจริงในใจกับใครคนหนึ่งนั้น รู้สึกชอบวิธีเฉลยที่ผู้เขียนเลือกใช้ครับ รูปแบบเรียบง่ายแต่เข้ากับนิสัยของตัวละครตัวนี้ดี บ่งบอกตัวตนของคนคนนี้ได้ค่อนข้างชัดเจน คนอ่านหลายคนอาจไม่ชอบเหตุผลและแรงจูงใจของคนร้าย และไม่อาจทำใจให้เชื่อได้ แต่ผมคิดว่าพอจะเข้าใจนะ แต่ไม่ใช่เห็นด้วยกับสิ่งที่คนร้ายเลือกกระทำ คนเราเมื่อยึดติดในสิ่งใด สัตว์ใด คนใด ความเชื่อใดมากจนฝังแน่นไปถึงจิต ✒️ มันยากเหลือเกินที่จะลบล้างเอาเจ้าความคิดนั้นให้หลุดออกไปได้ ในแง่นี้ผมจึงคิดว่าเข้าใจและเห็นใจสงสารคนร้ายพอสมควร ส่วนประชาชนคนที่ตายไปมากมายนั้น หากพูดกันอย่างไม่อคติ จะไปโทษคนร้ายทั้งหมดก็ไม่ได้ แท้จริงเหล่าคนที่ตายไป จะมากน้อยเพราะเขาทำตัวเอง พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่อันตราย ทั้งที่ทางตำรวจก็แจ้งเตือน ห้ามปราม แต่ก็ไม่สนใจ รวมถึงพวกสื่อต่าง ๆ ที่เอาแต่อยากทำข่าวโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ทำนั้นจะส่งผลให้สถานการณ์แย่กว่าเดิมหรือเป็นอันตรายต่อสังคม ประชาชนและประเทศชาติหรือไม่ ผมว่าเล่มนี้สะท้อนมุมมองเรื่องเหล่านี้ได้ดี แต่เหนืออื่นใดคือฉากจบที่ตัวละครหนึ่งที่น่าสงสารและน่าเห็นใจมาก แต่กลับเป็นฝ่ายพูดและให้กำลังใจกับตัวละครอีกตัวที่บาดเจ็บทางใจอย่างร้ายแรงได้อย่างเข้าถึงจิตใจภายใน ราวกับคำพูดนั้นไปสัมผัสและลูบไล้ที่หัวใจด้วยความแผ่วเบาที่สุด ช่างอบอุ่นหัวใจดีเหลือเกิน หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ประสบมา สำนวนแปลอ่านได้อย่างไม่รู้สึกสะดุด .......... อ่านจบ ไปลองค้นข้อมูลที่มีการสร้างเป็นหนังต่อ พอเห็นภาพโปสเตอร์ยิ่งอยากดูมาก เพราะมีนักแสดงคนโปรดเล่นด้วยนั่นคือ อิชิดะ ยูริโกะ และคนอื่น ๆ ก็ต่างเป็นนักแสดงคุณภาพทั้งนั้น สุดท้ายเจอที่มีคนทำซับบรรยายไทย จึงโหลดมาชม แต่ดูจบแล้วพบว่า ฉบับหนังสือดีกว่าพอสมควร คือหนังสร้างออกมาได้โอเคอยู่ นักแสดงก็ทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองได้ดี แต่มันมีอยู่หลายช่วงที่รู้สึกว่าน่าจะเล่าได้ดีกว่านี้ อาจเพราะเวลาจำกัด รายละเอียดมากมายจึงใส่มาได้ไม่หมด จึงทำให้ลดความสนุกลงไปจากฉบับหนังสือเยอะเลย แต่ฉากสำคัญที่เกิดระเบิดกลางย่านชิบูย่าทำออกมาได้ดี ใครสนใจลองไปหาชมดูครับ สุดท้ายขอจบด้วยประโยคที่ตัวละครสองตัวในเรื่องเอ่ยไว้ได้อย่างน่าประทับใจ โดยระบุว่าเป็นคำกล่าวของนักเขียนนิยายที่มีชื่อว่า Stephen King "ผู้ชนะในการแข่งขันปาขี้คือคนที่มือเปื้อนน้อยที่สุด คนมีคุณภาพคือคนที่ไม่ทำให้มือตัวเองเปื้อนจากอะไรไร้สาระอย่างการขว้างปาเจตนาร้ายใส่คนอื่น" #หนังญี่ปุ่น #หนังน่าดู #หนังสือน่าอ่าน #บทความ #รีววิหนังสือ #thaitimes #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #ระเบิดกลางกรุง #โตเกียว #สงคราม #แง่คิด #ระทึกขวัญ #สืบสวน #ก่อการร้าย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1226 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงเวลา "ทรัมป์ 2.0" ตัวป่วนอเมริกาและโลก
    .
    เมื่อวันจันทร์ที่20 มกราคม ผมได้นั่งฟังสุนทรพจน์เนื่องในพิธีสาบานตนของนายทรัมป์ ยาวประมาณ 30 นาที เขาบอกว่า“ยุคทองของอเมริกา”กำลังจะเริ่มต้นนับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่โผงผาง นิสัยใจคอคล้ายๆผม สุนทรพจน์สนุก มีสีสัน แล้วผมก็ต้องยอมรับว่า นายคนนี้เป็นตัวป่วนโลกจริงๆ สื่ออเมริการ้ายกาจมากนับเลยว่านายทรัมป์พูดได้ 2,885 คำ หรือยาวเป็นสองเท่า มากกว่าสมัยแรกที่พูดพูด 1,433 คำ
    .
    พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีมหาเศรษฐีเข้าร่วมมากมายเลย หลายคนก็เข้ามาซบ เอาอกเอาใจนายทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นนายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของเฟซบุ๊ก นายเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon ซันดาร์ พิชัย คนอินเดีย ซีอีอีของ Google นายทิม คุก ซีอีโอของ Apple คนเหล่านี้เคยต่อต้านทรัมป์ และสนับสนุนพรรคเดโมแครตอย่างออกหน้าออกตา จนนายทรัมป์ ประกาศว่าจะเช็กบิลกับคนพวกนี้หลังจากเลือกตั้งชนะ พวกนี้ก็เลยกระโดดเข้ามาร่วมวงก่อน มาแสดงความยินดี เพราะจะต้องยอมสยบกับนายทรัมป์ มิหนำซ้ำ ยังบริจาคเงินก้อนโตให้กับนายทรัมป์ แลกกับความอยู่รอดทางธุรกิจ
    .
    พิธีสาบานตนรับตำแหน่งฯของโดนัลด์ ทรัมป์ ระดมทุนได้ถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ8,500ล้านบาท เป็นสถิติใหม่ในการระดมทุนในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดี ก็มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Apple, Meta, Google, Amzaon, Microsoft และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่นๆ ในสหรัฐฯ เมื่ออ่านเกมให้เป็น เงินบริจาคก็เหมือนเป็นค่าต๋ง ค่าคุ้มครอง ถ้าพูดในลักษณะเป็นมาเฟีย เป็นเครื่องบรรณาการซึ่งก็คือเงินสินบนนั่นเอง ใครบอกว่าอเมริกาไม่รับสินบน รับครับ แต่มาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผมเล่าให้ฟังนี้คือ โฉมหน้าที่แท้จริงของการเมืองภายใต้ทุนนิยมของชาวอเมริกันอย่างแท้จริง
    .
    นายทรัมป์ประกาศจะสร้างอเมริกาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่นายทรัมป์กับนโยบายกลับไม่ยอมรับความหลากหลาย ปฏิเสธความร่วมมือ คิดเฉพาะผลประโยชน์ของตัว และทิ้งคุณค่าที่เป็นรากฐานของสังคมอเมริกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯเคยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่นายทรัมป์ กลับหวนกลับไปใช้ จมปลักกับอุตสาหกรรมดั้งเดิมและใช้มาตรการปิดล้อม กีดกันคู่แข่ง ไม่เคยคิดที่จะพัฒนาตัวเอง
    .
    ที่ย้อนแย้งที่สุด คือประชาชนอเมริกันเสียงข้างมาก ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและในวุฒิสภาเลือกคนอย่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นผู้นำประเทศ นี่คือภาวะกบเลือกนาย ที่สุดท้ายแล้วคนที่ได้รับกรรมมากที่สุดก็คือชาวอเมริกันทั้งหลาย
    .
    ทรัมป์พูดบอกว่า เราจะสร้างสังคมที่ไม่แคร์เชื้อชาติ จะเน้นที่คุณสมบัติ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อเมริกาจะมีนโยบายอย่างเป็นทางการที่จะยอมรับบุคคลเพียง 2 เพศ คือ ชายและหญิง ยกเลิกนโยบายต่างๆ ที่มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ
    .
    วันที่ 20 มกราคมในวันรับตำแหน่ง ทรัมป์บ้าเลือดมาก ลงนามยกเลิกคำสั่งบริหารของไบเดน 78 ฉบับ เซ็นยกเลิกๆ เหมือนกับตบหน้านายไบเดน ว่านาทีแรกที่กูเข้ามาเป็นประธานาธิบดี สิ่งที่มึงทำมา กูจะเซ็นออกให้หมด เพราะว่ามันไร้สาระ นั่นคือการตอบโต้ทางการเมือง ในจำนวนนี้รวมถึงคำสั่งสิบกว่าฉบับที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ และต่อต้านการเลือกปฏิบัติต่อเกย์และคนข้ามเพศ ปิดทางไม่ให้นำงบประมาณของรัฐไปใช้โปรโมตอุดมการณ์ทางการเพศ
    .
    นี่ไงล่ะอเมริกาประเทศที่อวดอ้างตัวเองว่าเป็นประเทศต้นฉบับประชาธิปไตย มีสิทธิเสรีภาพ เป็นประเทศในฝัน ดินแดนในอุดมคติของเหล่าพรรคประชาชนและพวกสามกีบ NGO ฝรั่งทั้งหลาย รวมไปถึงพรรคเพื่อไทย ที่พยายามโปรโมตเหลือเกินเรื่อง LGBTQ+ จัด Pride Month สมรสเท่าเทียม ผมก็ฝากไปถึงพรรคประชาชนด้วย คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์และพวกคุณที่เทิดทูนอเมริกาเป็นพ่อ น่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องที่สถานทูตอเมริกานะ บอกว่านโยบายทรัมป์ เป็นการริดลอนสิทธิพลเมือง จำกัดสิทธิเสรีภาพ ล้าหลัง พวกคุณกล้าไหม ตอบผมหน่อยซิ ถ้าไม่กล้ามันก็เป็นข้อเท็จจริงว่าคุณเป็นแค่ทาสรับใช้นักการเมืองและทุนนิยมของตะวันตก
    .
    ผมจะฟันธงว่า อีกไม่นานอเมริกาจะเกิดความวุ่นวาย และกระจายมาทางประเทศต่างๆ แน่นอน บรรดาสามนิ้วที่เทิดทูนอเมริกาว่าเป็นพ่อ จะเอาอย่างไรต่อไป คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผลผลิตจากอเมริกาที่ชอบไปผลักดันเรื่องโน้นเรื่องนี้ ใส่เสื้อสีรุ้ง เอาใจแฟนคลับ จะเอาอย่างไรต่อไป ตอบผมหน่อยซิ
    ถึงเวลา "ทรัมป์ 2.0" ตัวป่วนอเมริกาและโลก . เมื่อวันจันทร์ที่20 มกราคม ผมได้นั่งฟังสุนทรพจน์เนื่องในพิธีสาบานตนของนายทรัมป์ ยาวประมาณ 30 นาที เขาบอกว่า“ยุคทองของอเมริกา”กำลังจะเริ่มต้นนับจากวันนี้เป็นต้นไป ผมต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่โผงผาง นิสัยใจคอคล้ายๆผม สุนทรพจน์สนุก มีสีสัน แล้วผมก็ต้องยอมรับว่า นายคนนี้เป็นตัวป่วนโลกจริงๆ สื่ออเมริการ้ายกาจมากนับเลยว่านายทรัมป์พูดได้ 2,885 คำ หรือยาวเป็นสองเท่า มากกว่าสมัยแรกที่พูดพูด 1,433 คำ . พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีมหาเศรษฐีเข้าร่วมมากมายเลย หลายคนก็เข้ามาซบ เอาอกเอาใจนายทรัมป์ ไม่ว่าจะเป็นนายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าของเฟซบุ๊ก นายเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง Amazon ซันดาร์ พิชัย คนอินเดีย ซีอีอีของ Google นายทิม คุก ซีอีโอของ Apple คนเหล่านี้เคยต่อต้านทรัมป์ และสนับสนุนพรรคเดโมแครตอย่างออกหน้าออกตา จนนายทรัมป์ ประกาศว่าจะเช็กบิลกับคนพวกนี้หลังจากเลือกตั้งชนะ พวกนี้ก็เลยกระโดดเข้ามาร่วมวงก่อน มาแสดงความยินดี เพราะจะต้องยอมสยบกับนายทรัมป์ มิหนำซ้ำ ยังบริจาคเงินก้อนโตให้กับนายทรัมป์ แลกกับความอยู่รอดทางธุรกิจ . พิธีสาบานตนรับตำแหน่งฯของโดนัลด์ ทรัมป์ ระดมทุนได้ถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ8,500ล้านบาท เป็นสถิติใหม่ในการระดมทุนในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดี ก็มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Apple, Meta, Google, Amzaon, Microsoft และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอื่นๆ ในสหรัฐฯ เมื่ออ่านเกมให้เป็น เงินบริจาคก็เหมือนเป็นค่าต๋ง ค่าคุ้มครอง ถ้าพูดในลักษณะเป็นมาเฟีย เป็นเครื่องบรรณาการซึ่งก็คือเงินสินบนนั่นเอง ใครบอกว่าอเมริกาไม่รับสินบน รับครับ แต่มาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ผมเล่าให้ฟังนี้คือ โฉมหน้าที่แท้จริงของการเมืองภายใต้ทุนนิยมของชาวอเมริกันอย่างแท้จริง . นายทรัมป์ประกาศจะสร้างอเมริกาให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่นายทรัมป์กับนโยบายกลับไม่ยอมรับความหลากหลาย ปฏิเสธความร่วมมือ คิดเฉพาะผลประโยชน์ของตัว และทิ้งคุณค่าที่เป็นรากฐานของสังคมอเมริกัน นอกจากนี้ สหรัฐฯเคยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่นายทรัมป์ กลับหวนกลับไปใช้ จมปลักกับอุตสาหกรรมดั้งเดิมและใช้มาตรการปิดล้อม กีดกันคู่แข่ง ไม่เคยคิดที่จะพัฒนาตัวเอง . ที่ย้อนแย้งที่สุด คือประชาชนอเมริกันเสียงข้างมาก ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและในวุฒิสภาเลือกคนอย่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นผู้นำประเทศ นี่คือภาวะกบเลือกนาย ที่สุดท้ายแล้วคนที่ได้รับกรรมมากที่สุดก็คือชาวอเมริกันทั้งหลาย . ทรัมป์พูดบอกว่า เราจะสร้างสังคมที่ไม่แคร์เชื้อชาติ จะเน้นที่คุณสมบัติ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อเมริกาจะมีนโยบายอย่างเป็นทางการที่จะยอมรับบุคคลเพียง 2 เพศ คือ ชายและหญิง ยกเลิกนโยบายต่างๆ ที่มุ่งส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ . วันที่ 20 มกราคมในวันรับตำแหน่ง ทรัมป์บ้าเลือดมาก ลงนามยกเลิกคำสั่งบริหารของไบเดน 78 ฉบับ เซ็นยกเลิกๆ เหมือนกับตบหน้านายไบเดน ว่านาทีแรกที่กูเข้ามาเป็นประธานาธิบดี สิ่งที่มึงทำมา กูจะเซ็นออกให้หมด เพราะว่ามันไร้สาระ นั่นคือการตอบโต้ทางการเมือง ในจำนวนนี้รวมถึงคำสั่งสิบกว่าฉบับที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ และต่อต้านการเลือกปฏิบัติต่อเกย์และคนข้ามเพศ ปิดทางไม่ให้นำงบประมาณของรัฐไปใช้โปรโมตอุดมการณ์ทางการเพศ . นี่ไงล่ะอเมริกาประเทศที่อวดอ้างตัวเองว่าเป็นประเทศต้นฉบับประชาธิปไตย มีสิทธิเสรีภาพ เป็นประเทศในฝัน ดินแดนในอุดมคติของเหล่าพรรคประชาชนและพวกสามกีบ NGO ฝรั่งทั้งหลาย รวมไปถึงพรรคเพื่อไทย ที่พยายามโปรโมตเหลือเกินเรื่อง LGBTQ+ จัด Pride Month สมรสเท่าเทียม ผมก็ฝากไปถึงพรรคประชาชนด้วย คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์และพวกคุณที่เทิดทูนอเมริกาเป็นพ่อ น่าจะเดินทางไปยื่นหนังสือเรียกร้องที่สถานทูตอเมริกานะ บอกว่านโยบายทรัมป์ เป็นการริดลอนสิทธิพลเมือง จำกัดสิทธิเสรีภาพ ล้าหลัง พวกคุณกล้าไหม ตอบผมหน่อยซิ ถ้าไม่กล้ามันก็เป็นข้อเท็จจริงว่าคุณเป็นแค่ทาสรับใช้นักการเมืองและทุนนิยมของตะวันตก . ผมจะฟันธงว่า อีกไม่นานอเมริกาจะเกิดความวุ่นวาย และกระจายมาทางประเทศต่างๆ แน่นอน บรรดาสามนิ้วที่เทิดทูนอเมริกาว่าเป็นพ่อ จะเอาอย่างไรต่อไป คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผลผลิตจากอเมริกาที่ชอบไปผลักดันเรื่องโน้นเรื่องนี้ ใส่เสื้อสีรุ้ง เอาใจแฟนคลับ จะเอาอย่างไรต่อไป ตอบผมหน่อยซิ
    Like
    Love
    Haha
    30
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1867 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia กำลังเตรียมย้ายสถาปัตยกรรม GPU Maxwell, Pascal และ Volta ไปยังสถานะไดรเวอร์รุ่นเก่า ซึ่งหมายความว่า GPU เหล่านี้จะไม่ได้รับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกต่อไป แต่ยังคงได้รับการสนับสนุนด้านไดรเวอร์สำหรับการเล่นเกมอยู่

    การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการที่ Nvidia มุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะในด้าน AI และการเรนเดอร์ภาพแบบ Ray Tracing สถาปัตยกรรม Maxwell เปิดตัวเมื่อ 11 ปีที่แล้ว และ Pascal เปิดตัวในปี 2016 ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านประสิทธิภาพ ส่วน Volta เปิดตัวในปี 2017 โดยเน้นไปที่การใช้งานด้าน AI และองค์กร

    https://www.techspot.com/news/106498-nvidia-prepares-move-maxwell-pascal-volta-gpus-legacy.html
    Nvidia กำลังเตรียมย้ายสถาปัตยกรรม GPU Maxwell, Pascal และ Volta ไปยังสถานะไดรเวอร์รุ่นเก่า ซึ่งหมายความว่า GPU เหล่านี้จะไม่ได้รับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกต่อไป แต่ยังคงได้รับการสนับสนุนด้านไดรเวอร์สำหรับการเล่นเกมอยู่ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการที่ Nvidia มุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะในด้าน AI และการเรนเดอร์ภาพแบบ Ray Tracing สถาปัตยกรรม Maxwell เปิดตัวเมื่อ 11 ปีที่แล้ว และ Pascal เปิดตัวในปี 2016 ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านประสิทธิภาพ ส่วน Volta เปิดตัวในปี 2017 โดยเน้นไปที่การใช้งานด้าน AI และองค์กร https://www.techspot.com/news/106498-nvidia-prepares-move-maxwell-pascal-volta-gpus-legacy.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia prepares to move Maxwell, Pascal, and Volta GPUs to legacy driver status
    Nvidia's CUDA 12.8 release notes indicate that support for the older architectures is now considered "feature-complete" and will be frozen in an upcoming release.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • #“อิงฟ้า” ยอมรับแอบเป็นห่วงน้องๆ นางงามที่เป็นตัวแทน “แตงโม” ไปจำลองกระโดดน้ำ แต่พอทุกคนปลอดภัยก็โล่งใจ เชื่อ “บอส ณวัฒน์” ทำเพราะอยากช่วยหาความจริงมากกว่าการหาแสง ไม่นอยด์คนยังบูลลี่เรื่องตาหอยแคลงไม่เลิก บอกคงไม่ใช่ตาคู่ละ 30 บาทแน่นอน แต่เป็นตาคู่ละ 150 ล้าน

    ออกปากว่าเป็นห่วงน้องๆ นางงามมิสแกรนด์ที่ไปเป็นตัวแทน จำลองการเป็น “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ในการตกน้ำ สำหรับสาว “อิงฟ้า วราหะ” ซึ่งตอนนี้นอกจากจะเป็นรุ่นพี่นางงามแล้ว เจ้าตัวก็ยังเป็นผู้จัดการกองประกวดด้วย โดยอิงฟ้ายอมรับว่าตอนแรกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย แต่พอทุกอย่างเสร็จสิ้น เห็นแล้วว่าไม่เกิดอันตรายกับใครเลยก็โล่งใจ และเชื่อว่าที่ “บอสณวัฒน์ อิสรไกลศีล” ทำ ไม่ใช่เพื่อหาแสง แต่เพราะอยากช่วยหาความจริงเท่านั้น

    “มีได้ดู ก็แอบเป็นห่วงค่ะ อาจควบคุมไม่ได้ทุกอย่าง ค่อนข้างหนาวด้วย แต่ชื่นชมและความกล้าหาญของน้องๆ ที่มีทั้งช่วงที่ใส่เสื้อชูชีพแล้วก็ไม่ได้ใส่ คิดว่ามีส่วนช่วยในรูปคดีนะ อย่างน้อยก็ทำให้เห็นบางช่วง ว่าถ้าเป็นตอนแรกเราอาจมีความเข้าใจว่าการที่เราตกไปโอกาสที่เราจะโดนใบพัดหรือเรือดูดเข้าไป มี 100% เหตุการณ์จำลองมันทำให้เราเห็นว่ามันอาจไม่ใช่ 100% ที่จะโดนใบพัดดูดเข้าไป จากการทดสอบไม่มีใครโดนใบพัดดูดเข้าไป แต่โดนแรงดันเรือผลักออกไป"

    "ที่คนบอกว่าบอสมาเกาะกระแสมาหาแสงกับคดีแตงโมน่ะเหรอ เท่าที่หนูดูบอสสัมภาษณ์ แตงโมเขาเป็นแฟนคลับของมิสแกรนด์ เคยมาดูการประกวดหลายปี เขาคงอยากช่วยหาความจริงมากกว่า คนบอกว่าถ้าคดีไม่คลี่คลายจะให้หนูไปตกน้ำแทนเหรอ น่าจะไม่ค่ะ หนูว่ายน้ำไม่เป็นด้วย คงจะส่งกำลังใจให้ห่างๆ”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000005608

    #MGROnline #อิงฟ้า #แตงโม #บอสณวัฒน์
    #“อิงฟ้า” ยอมรับแอบเป็นห่วงน้องๆ นางงามที่เป็นตัวแทน “แตงโม” ไปจำลองกระโดดน้ำ แต่พอทุกคนปลอดภัยก็โล่งใจ เชื่อ “บอส ณวัฒน์” ทำเพราะอยากช่วยหาความจริงมากกว่าการหาแสง ไม่นอยด์คนยังบูลลี่เรื่องตาหอยแคลงไม่เลิก บอกคงไม่ใช่ตาคู่ละ 30 บาทแน่นอน แต่เป็นตาคู่ละ 150 ล้าน • ออกปากว่าเป็นห่วงน้องๆ นางงามมิสแกรนด์ที่ไปเป็นตัวแทน จำลองการเป็น “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ในการตกน้ำ สำหรับสาว “อิงฟ้า วราหะ” ซึ่งตอนนี้นอกจากจะเป็นรุ่นพี่นางงามแล้ว เจ้าตัวก็ยังเป็นผู้จัดการกองประกวดด้วย โดยอิงฟ้ายอมรับว่าตอนแรกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย แต่พอทุกอย่างเสร็จสิ้น เห็นแล้วว่าไม่เกิดอันตรายกับใครเลยก็โล่งใจ และเชื่อว่าที่ “บอสณวัฒน์ อิสรไกลศีล” ทำ ไม่ใช่เพื่อหาแสง แต่เพราะอยากช่วยหาความจริงเท่านั้น • “มีได้ดู ก็แอบเป็นห่วงค่ะ อาจควบคุมไม่ได้ทุกอย่าง ค่อนข้างหนาวด้วย แต่ชื่นชมและความกล้าหาญของน้องๆ ที่มีทั้งช่วงที่ใส่เสื้อชูชีพแล้วก็ไม่ได้ใส่ คิดว่ามีส่วนช่วยในรูปคดีนะ อย่างน้อยก็ทำให้เห็นบางช่วง ว่าถ้าเป็นตอนแรกเราอาจมีความเข้าใจว่าการที่เราตกไปโอกาสที่เราจะโดนใบพัดหรือเรือดูดเข้าไป มี 100% เหตุการณ์จำลองมันทำให้เราเห็นว่ามันอาจไม่ใช่ 100% ที่จะโดนใบพัดดูดเข้าไป จากการทดสอบไม่มีใครโดนใบพัดดูดเข้าไป แต่โดนแรงดันเรือผลักออกไป" • "ที่คนบอกว่าบอสมาเกาะกระแสมาหาแสงกับคดีแตงโมน่ะเหรอ เท่าที่หนูดูบอสสัมภาษณ์ แตงโมเขาเป็นแฟนคลับของมิสแกรนด์ เคยมาดูการประกวดหลายปี เขาคงอยากช่วยหาความจริงมากกว่า คนบอกว่าถ้าคดีไม่คลี่คลายจะให้หนูไปตกน้ำแทนเหรอ น่าจะไม่ค่ะ หนูว่ายน้ำไม่เป็นด้วย คงจะส่งกำลังใจให้ห่างๆ” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000005608 • #MGROnline #อิงฟ้า #แตงโม #บอสณวัฒน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 579 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts