• https://www.youtube.com/watch?v=ZB-LhJf8kbI
    บทสนทนาในรถแท็กซี่
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาในรถแท็กซี่
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #taxi

    The conversations from the clip :

    Tourist: Hello, could you take me to the Grand Palace?
    Driver: Yes, of course! Please get in.
    Tourist: Thank you. Can you please turn on the meter?
    Driver: Oh, the Grand Palace is a bit far. How about 300 baht?
    Tourist: I’d prefer to go by meter, please.
    Driver: Alright, I’ll turn on the meter for you.
    Tourist: Thank you. Do you drive here every day?
    Driver: Yes, I drive in Bangkok every day. Lots of tourists like you go to the Grand Palace.
    Tourist: I can imagine! Is it usually busy around this time?
    Driver: Yes, especially in the mornings and evenings. Many people visit the temples.
    Tourist: I see. How long will it take to get there?
    Driver: Maybe 30 to 40 minutes, depending on traffic.
    Tourist: Alright, sounds good. Do you think it will be very crowded?
    Driver: Probably. But if you go early, it’s usually less crowded.
    Tourist: Good to know! Thank you for the advice.
    Driver: You’re welcome! Enjoy your time at the Grand Palace.

    นักท่องเที่ยว: สวัสดีค่ะ พาไปพระบรมมหาราชวังได้ไหมคะ?
    คนขับ: ได้ครับ เชิญขึ้นมาเลยครับ
    นักท่องเที่ยว: ขอบคุณค่ะ เปิดมิเตอร์ให้ด้วยได้ไหมคะ?
    คนขับ: อ๋อ พระบรมมหาราชวังไกลอยู่นะครับ สัก 300 บาทดีไหมครับ?
    นักท่องเที่ยว: ขอไปตามมิเตอร์ดีกว่าค่ะ
    คนขับ: ได้ครับ ผมจะเปิดมิเตอร์ให้นะครับ
    นักท่องเที่ยว: ขอบคุณค่ะ ขับที่นี่ทุกวันเลยหรือคะ?
    คนขับ: ใช่ครับ ผมขับในกรุงเทพทุกวัน มีนักท่องเที่ยวหลายคนที่ไปพระบรมมหาราชวังเหมือนคุณนี่แหละครับ
    นักท่องเที่ยว: คงจะเป็นที่นิยมมากเลยนะคะ ช่วงนี้คนเยอะไหมคะ?
    คนขับ: ครับ ช่วงเช้า ๆ กับเย็น ๆ จะเยอะเป็นพิเศษ เพราะคนไปไหว้พระที่วัดกันเยอะ
    นักท่องเที่ยว: เข้าใจแล้วค่ะ ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะถึงคะ?
    คนขับ: ประมาณ 30 ถึง 40 นาทีครับ ขึ้นอยู่กับการจราจร
    นักท่องเที่ยว: โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ คิดว่าคนจะเยอะมากไหมคะ?
    คนขับ: น่าจะเยอะครับ แต่ถ้าคุณไปเช้า ๆ ก็จะคนน้อยกว่า
    นักท่องเที่ยว: ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
    คนขับ: ยินดีครับ ขอให้สนุกกับการเที่ยวพระบรมมหาราชวังนะครับ

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Palace (พา-ลิซ) n. แปลว่า พระราชวัง
    Meter (มี-เทอะ) n. แปลว่า มิเตอร์
    Tourist (ทัว-ริสท) n. แปลว่า นักท่องเที่ยว
    Driver (ไดร-เวอะ) n. แปลว่า คนขับ
    Traffic (แทรฟ-ฟิค) n. แปลว่า การจราจร
    Temple (เทม-เพิล) n. แปลว่า วัด
    Morning (มอ-นิง) n. แปลว่า ตอนเช้า
    Evening (อีฟ-นิง) n. แปลว่า ตอนเย็น
    Crowded (เครา-ดิด) adj. แปลว่า แออัด, คนเยอะ
    Advice (แอด-ไวซ) n. แปลว่า คำแนะนำ
    Far (ฟาร์) adj. แปลว่า ไกล
    Usually (ยู-ชวล-ลิ) adv. แปลว่า โดยปกติ
    Imagine (อิ-แมจ-จิน) v. แปลว่า จินตนาการ
    Every day (เอฟ-วะ-รี เดย์) adv. แปลว่า ทุกวัน
    Welcome (เวล-คัม) v. แปลว่า ยินดีต้อนรับ
    https://www.youtube.com/watch?v=ZB-LhJf8kbI บทสนทนาในรถแท็กซี่ (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาในรถแท็กซี่ มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #taxi The conversations from the clip : Tourist: Hello, could you take me to the Grand Palace? Driver: Yes, of course! Please get in. Tourist: Thank you. Can you please turn on the meter? Driver: Oh, the Grand Palace is a bit far. How about 300 baht? Tourist: I’d prefer to go by meter, please. Driver: Alright, I’ll turn on the meter for you. Tourist: Thank you. Do you drive here every day? Driver: Yes, I drive in Bangkok every day. Lots of tourists like you go to the Grand Palace. Tourist: I can imagine! Is it usually busy around this time? Driver: Yes, especially in the mornings and evenings. Many people visit the temples. Tourist: I see. How long will it take to get there? Driver: Maybe 30 to 40 minutes, depending on traffic. Tourist: Alright, sounds good. Do you think it will be very crowded? Driver: Probably. But if you go early, it’s usually less crowded. Tourist: Good to know! Thank you for the advice. Driver: You’re welcome! Enjoy your time at the Grand Palace. นักท่องเที่ยว: สวัสดีค่ะ พาไปพระบรมมหาราชวังได้ไหมคะ? คนขับ: ได้ครับ เชิญขึ้นมาเลยครับ นักท่องเที่ยว: ขอบคุณค่ะ เปิดมิเตอร์ให้ด้วยได้ไหมคะ? คนขับ: อ๋อ พระบรมมหาราชวังไกลอยู่นะครับ สัก 300 บาทดีไหมครับ? นักท่องเที่ยว: ขอไปตามมิเตอร์ดีกว่าค่ะ คนขับ: ได้ครับ ผมจะเปิดมิเตอร์ให้นะครับ นักท่องเที่ยว: ขอบคุณค่ะ ขับที่นี่ทุกวันเลยหรือคะ? คนขับ: ใช่ครับ ผมขับในกรุงเทพทุกวัน มีนักท่องเที่ยวหลายคนที่ไปพระบรมมหาราชวังเหมือนคุณนี่แหละครับ นักท่องเที่ยว: คงจะเป็นที่นิยมมากเลยนะคะ ช่วงนี้คนเยอะไหมคะ? คนขับ: ครับ ช่วงเช้า ๆ กับเย็น ๆ จะเยอะเป็นพิเศษ เพราะคนไปไหว้พระที่วัดกันเยอะ นักท่องเที่ยว: เข้าใจแล้วค่ะ ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะถึงคะ? คนขับ: ประมาณ 30 ถึง 40 นาทีครับ ขึ้นอยู่กับการจราจร นักท่องเที่ยว: โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ คิดว่าคนจะเยอะมากไหมคะ? คนขับ: น่าจะเยอะครับ แต่ถ้าคุณไปเช้า ๆ ก็จะคนน้อยกว่า นักท่องเที่ยว: ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ คนขับ: ยินดีครับ ขอให้สนุกกับการเที่ยวพระบรมมหาราชวังนะครับ Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Palace (พา-ลิซ) n. แปลว่า พระราชวัง Meter (มี-เทอะ) n. แปลว่า มิเตอร์ Tourist (ทัว-ริสท) n. แปลว่า นักท่องเที่ยว Driver (ไดร-เวอะ) n. แปลว่า คนขับ Traffic (แทรฟ-ฟิค) n. แปลว่า การจราจร Temple (เทม-เพิล) n. แปลว่า วัด Morning (มอ-นิง) n. แปลว่า ตอนเช้า Evening (อีฟ-นิง) n. แปลว่า ตอนเย็น Crowded (เครา-ดิด) adj. แปลว่า แออัด, คนเยอะ Advice (แอด-ไวซ) n. แปลว่า คำแนะนำ Far (ฟาร์) adj. แปลว่า ไกล Usually (ยู-ชวล-ลิ) adv. แปลว่า โดยปกติ Imagine (อิ-แมจ-จิน) v. แปลว่า จินตนาการ Every day (เอฟ-วะ-รี เดย์) adv. แปลว่า ทุกวัน Welcome (เวล-คัม) v. แปลว่า ยินดีต้อนรับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=HG47r_FVIw8
    บทสนทนานักท่องเที่ยวถามทางไปหาหมูเด้ง
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนานักท่องเที่ยวถามทางไปหาหมูเด้ง
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #หมูเด้ง

    The conversations from the clip :

    Tourist: Hi there! Can you help me, please?
    Student: Sure! What do you need help with?
    Tourist: I want to visit Khao Kheow Open Zoo to see Moo Deng, the superstar hippo.
    Student: That sounds exciting! You can take a train to Chonburi.
    Tourist: Great! Which train station should I go to?
    Student: You should go to Hua Lamphong Station in Bangkok.
    Tourist: How do I get to Hua Lamphong Station from here?
    Student: You can take the MRT subway directly to Hua Lamphong.
    Tourist: How often do the trains run to Chonburi?
    Student: Trains to Chonburi run regularly, about every hour.
    Tourist: How long does the train ride take?
    Student: It usually takes around 2 to 2.5 hours to reach Chonburi.
    Tourist: What do I do after I arrive in Chonburi?
    Student: Once you get to Chonburi, you can take a taxi or a local bus to the zoo.
    Tourist: How long does it take to get from Chonburi to the zoo?
    Student: It takes about 30 minutes by taxi or bus.
    Tourist: Is it easy to find transportation from the train station?
    Student: Yes, there are always taxis available at the station.
    Tourist: Do I need to book my train ticket in advance?
    Student: It's a good idea, especially on weekends, but you can usually buy tickets on the day.
    Tourist: Thank you for all the helpful information!
    Student: You’re welcome! Enjoy your trip to see Moo Deng!

    นักท่องเที่ยว: สวัสดีครับ! ช่วยหน่อยได้ไหมครับ?
    นักศึกษา: ได้เลย! ต้องการความช่วยเหลือเรื่องอะไรคะ?
    นักท่องเที่ยว: ฉันอยากไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเพื่อดู "หมูเด้ง" ฮิปโปซุปเปอร์สตาร์ครับ
    นักศึกษา: ฟังดูน่าตื่นเต้นมากเลย! คุณสามารถนั่งรถไฟไปชลบุรีได้นะคะ
    นักท่องเที่ยว: ดีมากเลย! ฉันควรไปที่สถานีรถไฟไหนครับ?
    นักศึกษา: คุณควรไปที่สถานีหัวลำโพงในกรุงเทพฯ ค่ะ
    นักท่องเที่ยว: แล้วฉันจะไปสถานีหัวลำโพงจากตรงนี้ได้อย่างไรครับ?
    นักศึกษา: คุณสามารถนั่งรถไฟใต้ดิน MRT ตรงไปยังหัวลำโพงได้เลยค่ะ
    นักท่องเที่ยว: รถไฟไปชลบุรีออกบ่อยแค่ไหนครับ?
    นักศึกษา: รถไฟไปชลบุรีมีบ่อยค่ะ ประมาณทุกชั่วโมง
    นักท่องเที่ยว: นั่งรถไฟใช้เวลานานแค่ไหนครับ?
    นักศึกษา: ปกติใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 2.5 ชั่วโมงเพื่อถึงชลบุรีค่ะ
    นักท่องเที่ยว: แล้วหลังจากถึงชลบุรี ฉันควรทำอย่างไรต่อครับ?
    นักศึกษา: เมื่อถึงชลบุรีแล้ว คุณสามารถนั่งแท็กซี่หรือนั่งรถบัสท้องถิ่นไปสวนสัตว์ได้ค่ะ
    นักท่องเที่ยว: จากชลบุรีไปสวนสัตว์ใช้เวลานานแค่ไหนครับ?
    นักศึกษา: ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีโดยแท็กซี่หรือรถบัสค่ะ
    นักท่องเที่ยว: หารถจากสถานีรถไฟไปสวนสัตว์ง่ายไหมครับ?
    นักศึกษา: หาง่ายค่ะ มีแท็กซี่รออยู่ที่สถานีเสมอ
    นักท่องเที่ยว: ฉันต้องจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าไหมครับ?
    นักศึกษา: การจองล่วงหน้าเป็นความคิดที่ดีค่ะ โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่คุณก็สามารถซื้อตั๋วในวันเดินทางได้เช่นกัน
    นักท่องเที่ยว: ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์มาก ๆ ครับ!
    นักศึกษา: ยินดีค่ะ! ขอให้สนุกกับการเที่ยวชม "หมูแดง" นะคะ!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Zoo (ซู) noun. แปลว่า สวนสัตว์
    Train (เทรน) noun. แปลว่า รถไฟ
    Superstar (ซูเปอร์สตาร์) noun. แปลว่า ดาราดัง
    Hippo (ฮิปโป) noun. แปลว่า ฮิปโป
    Station (สเตชัน) noun. แปลว่า สถานี
    Taxi (แท็กซี่) noun. แปลว่า รถแท็กซี่
    Subway (ซับเวย์) noun. แปลว่า รถไฟใต้ดิน
    Ticket (ทิคเก็ต) noun. แปลว่า ตั๋ว
    Hour (อาวเออร์) noun. แปลว่า ชั่วโมง
    Transportation (ทรานสปอร์เทชัน) noun. แปลว่า การขนส่ง
    Tourist (ทัวริสต์) noun. แปลว่า นักท่องเที่ยว
    Exciting (เอ็กไซติง) adjective. แปลว่า น่าตื่นเต้น
    Advance (แอดวานซ์) noun. แปลว่า ล่วงหน้า
    Chonburi (ชลบุรี) noun. แปลว่า ชลบุรี
    https://www.youtube.com/watch?v=HG47r_FVIw8 บทสนทนานักท่องเที่ยวถามทางไปหาหมูเด้ง (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนานักท่องเที่ยวถามทางไปหาหมูเด้ง มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #หมูเด้ง The conversations from the clip : Tourist: Hi there! Can you help me, please? Student: Sure! What do you need help with? Tourist: I want to visit Khao Kheow Open Zoo to see Moo Deng, the superstar hippo. Student: That sounds exciting! You can take a train to Chonburi. Tourist: Great! Which train station should I go to? Student: You should go to Hua Lamphong Station in Bangkok. Tourist: How do I get to Hua Lamphong Station from here? Student: You can take the MRT subway directly to Hua Lamphong. Tourist: How often do the trains run to Chonburi? Student: Trains to Chonburi run regularly, about every hour. Tourist: How long does the train ride take? Student: It usually takes around 2 to 2.5 hours to reach Chonburi. Tourist: What do I do after I arrive in Chonburi? Student: Once you get to Chonburi, you can take a taxi or a local bus to the zoo. Tourist: How long does it take to get from Chonburi to the zoo? Student: It takes about 30 minutes by taxi or bus. Tourist: Is it easy to find transportation from the train station? Student: Yes, there are always taxis available at the station. Tourist: Do I need to book my train ticket in advance? Student: It's a good idea, especially on weekends, but you can usually buy tickets on the day. Tourist: Thank you for all the helpful information! Student: You’re welcome! Enjoy your trip to see Moo Deng! นักท่องเที่ยว: สวัสดีครับ! ช่วยหน่อยได้ไหมครับ? นักศึกษา: ได้เลย! ต้องการความช่วยเหลือเรื่องอะไรคะ? นักท่องเที่ยว: ฉันอยากไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเพื่อดู "หมูเด้ง" ฮิปโปซุปเปอร์สตาร์ครับ นักศึกษา: ฟังดูน่าตื่นเต้นมากเลย! คุณสามารถนั่งรถไฟไปชลบุรีได้นะคะ นักท่องเที่ยว: ดีมากเลย! ฉันควรไปที่สถานีรถไฟไหนครับ? นักศึกษา: คุณควรไปที่สถานีหัวลำโพงในกรุงเทพฯ ค่ะ นักท่องเที่ยว: แล้วฉันจะไปสถานีหัวลำโพงจากตรงนี้ได้อย่างไรครับ? นักศึกษา: คุณสามารถนั่งรถไฟใต้ดิน MRT ตรงไปยังหัวลำโพงได้เลยค่ะ นักท่องเที่ยว: รถไฟไปชลบุรีออกบ่อยแค่ไหนครับ? นักศึกษา: รถไฟไปชลบุรีมีบ่อยค่ะ ประมาณทุกชั่วโมง นักท่องเที่ยว: นั่งรถไฟใช้เวลานานแค่ไหนครับ? นักศึกษา: ปกติใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 2.5 ชั่วโมงเพื่อถึงชลบุรีค่ะ นักท่องเที่ยว: แล้วหลังจากถึงชลบุรี ฉันควรทำอย่างไรต่อครับ? นักศึกษา: เมื่อถึงชลบุรีแล้ว คุณสามารถนั่งแท็กซี่หรือนั่งรถบัสท้องถิ่นไปสวนสัตว์ได้ค่ะ นักท่องเที่ยว: จากชลบุรีไปสวนสัตว์ใช้เวลานานแค่ไหนครับ? นักศึกษา: ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีโดยแท็กซี่หรือรถบัสค่ะ นักท่องเที่ยว: หารถจากสถานีรถไฟไปสวนสัตว์ง่ายไหมครับ? นักศึกษา: หาง่ายค่ะ มีแท็กซี่รออยู่ที่สถานีเสมอ นักท่องเที่ยว: ฉันต้องจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าไหมครับ? นักศึกษา: การจองล่วงหน้าเป็นความคิดที่ดีค่ะ โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่คุณก็สามารถซื้อตั๋วในวันเดินทางได้เช่นกัน นักท่องเที่ยว: ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์มาก ๆ ครับ! นักศึกษา: ยินดีค่ะ! ขอให้สนุกกับการเที่ยวชม "หมูแดง" นะคะ! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Zoo (ซู) noun. แปลว่า สวนสัตว์ Train (เทรน) noun. แปลว่า รถไฟ Superstar (ซูเปอร์สตาร์) noun. แปลว่า ดาราดัง Hippo (ฮิปโป) noun. แปลว่า ฮิปโป Station (สเตชัน) noun. แปลว่า สถานี Taxi (แท็กซี่) noun. แปลว่า รถแท็กซี่ Subway (ซับเวย์) noun. แปลว่า รถไฟใต้ดิน Ticket (ทิคเก็ต) noun. แปลว่า ตั๋ว Hour (อาวเออร์) noun. แปลว่า ชั่วโมง Transportation (ทรานสปอร์เทชัน) noun. แปลว่า การขนส่ง Tourist (ทัวริสต์) noun. แปลว่า นักท่องเที่ยว Exciting (เอ็กไซติง) adjective. แปลว่า น่าตื่นเต้น Advance (แอดวานซ์) noun. แปลว่า ล่วงหน้า Chonburi (ชลบุรี) noun. แปลว่า ชลบุรี
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=dk018KPRm1Y
    บทสนทนานักท่องเที่ยวถามทางในกรุงเทพ
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนานักท่องเที่ยวถามทางในกรุงเทพ
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #basiclistening

    The conversations from the clip :
    Tourist: Excuse me, could you help me? I’m trying to find the Grand Palace.
    Student: Sure! You’re not far from it. Are you walking or taking a taxi?
    Tourist: I’m walking. Is it close by?
    Student: Yes, it’s about a 20-minute walk from here. You need to head straight down this road.
    Tourist: Oh, great! Do I just keep going straight?
    Student: Yes, but after about 10 minutes, you’ll see a big intersection. Turn left there.
    Tourist: Turn left at the intersection, got it. Is there a landmark to look out for?
    Student: Yes, there’s a 7-Eleven on the corner. You can’t miss it.
    Tourist: Perfect, thanks! And from there?
    Student: After you turn left, just follow the road. The entrance to the Grand Palace will be on your right.
    Tourist: That sounds easy enough! How long do you think it will take?
    Student: About 20 minutes if you walk at a normal pace.
    Tourist: Thank you so much for the help!
    Student: No problem! Enjoy your visit to the Grand Palace!
    Tourist: I will! Thanks again. Have a great day!
    Student: You too! Stay safe!

    นักท่องเที่ยว: ขอโทษครับ คุณช่วยผม ผมกำลังหาทางไปพระบรมมหาราชวังครับ
    นักศึกษา: ได้เลยค่ะ คุณอยู่ไม่ไกลจากที่นั่นมากนะค่ะ คุณเดินหรือจะนั่งแท็กซี่ไปค่ะ?
    นักท่องเที่ยว: ผมเดินครับ มันใกล้ไหมครับ?
    นักศึกษา: ใกล้อยู่ค่ะ ประมาณ 20 นาทีเดินจากตรงนี้ค่ะ คุณต้องเดินตรงไปตามถนนเส้นนี้เลยค่ะ
    นักท่องเที่ยว: โอ้ ดีเลยครับ แค่เดินตรงไปอย่างเดียวใช่ไหมครับ?
    นักศึกษา: ใช่ค่ะ แต่พอเดินไปประมาณ 10 นาที คุณจะเจอแยกใหญ่ ให้เลี้ยวซ้ายตรงนั้นค่ะ
    นักท่องเที่ยว: เลี้ยวซ้ายตรงแยกใหญ่ เข้าใจแล้วครับ มีจุดสังเกตอะไรไหมครับ?
    นักศึกษา: มีค่ะ ตรงหัวมุมจะมีร้าน 7-Eleven ค่ะ คุณจะเห็นแน่นอน
    นักท่องเที่ยว: สมบูรณ์แบบ ขอบคุณมากครับ แล้วจากตรงนั้นล่ะครับ?
    นักศึกษา: หลังจากเลี้ยวซ้ายแล้ว ก็เดินตามถนนไปเลยค่ะ ทางเข้าไปพระบรมมหาราชวังจะอยู่ทางขวามือค่ะ
    นักท่องเที่ยว: ฟังดูไม่ยากเลยครับ คิดว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนครับ?
    นักศึกษา: ประมาณ 20 นาที ถ้าเดินตามปกติค่ะ
    นักท่องเที่ยว: ขอบคุณมากนะครับสำหรับความช่วยเหลือ!
    นักศึกษา: ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้เที่ยวพระบรมมหาราชวังอย่างสนุกนะค่ะ!
    นักท่องเที่ยว: ผมจะทำตามนั้นครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ ขอให้คุณมีวันที่ดีนะครับ!
    นักศึกษา: คุณก็เช่นกันค่ะ เดินทางปลอดภัยนะค่ะ!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Palace (พาเลซ) noun. แปลว่า พระราชวัง
    Intersection (อินเทอร์เซคชัน) noun. แปลว่า สี่แยก
    Landmark (แลนด์มาร์ค) noun. แปลว่า จุดสังเกต
    Road (โรด) noun. แปลว่า ถนน
    Entrance (เอนทรานซ์) noun. แปลว่า ทางเข้า
    Corner (คอร์เนอร์) noun. แปลว่า มุมถนน
    Taxi (แท็กซี่) noun. แปลว่า รถแท็กซี่
    Walk (วอล์ค) verb. แปลว่า เดิน
    Turn (เทิร์น) verb. แปลว่า เลี้ยว
    Straight (สเตรท) adverb. แปลว่า ตรง
    Left (เลฟท์) adjective. แปลว่า ซ้าย
    Right (ไรท์) adjective. แปลว่า ขวา
    Head (เฮด) verb. แปลว่า มุ่งหน้า
    Minute (มินิท) noun. แปลว่า นาที
    Safe (เซฟ) adjective. แปลว่า ปลอดภัย
    https://www.youtube.com/watch?v=dk018KPRm1Y บทสนทนานักท่องเที่ยวถามทางในกรุงเทพ (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนานักท่องเที่ยวถามทางในกรุงเทพ มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #basiclistening The conversations from the clip : Tourist: Excuse me, could you help me? I’m trying to find the Grand Palace. Student: Sure! You’re not far from it. Are you walking or taking a taxi? Tourist: I’m walking. Is it close by? Student: Yes, it’s about a 20-minute walk from here. You need to head straight down this road. Tourist: Oh, great! Do I just keep going straight? Student: Yes, but after about 10 minutes, you’ll see a big intersection. Turn left there. Tourist: Turn left at the intersection, got it. Is there a landmark to look out for? Student: Yes, there’s a 7-Eleven on the corner. You can’t miss it. Tourist: Perfect, thanks! And from there? Student: After you turn left, just follow the road. The entrance to the Grand Palace will be on your right. Tourist: That sounds easy enough! How long do you think it will take? Student: About 20 minutes if you walk at a normal pace. Tourist: Thank you so much for the help! Student: No problem! Enjoy your visit to the Grand Palace! Tourist: I will! Thanks again. Have a great day! Student: You too! Stay safe! นักท่องเที่ยว: ขอโทษครับ คุณช่วยผม ผมกำลังหาทางไปพระบรมมหาราชวังครับ นักศึกษา: ได้เลยค่ะ คุณอยู่ไม่ไกลจากที่นั่นมากนะค่ะ คุณเดินหรือจะนั่งแท็กซี่ไปค่ะ? นักท่องเที่ยว: ผมเดินครับ มันใกล้ไหมครับ? นักศึกษา: ใกล้อยู่ค่ะ ประมาณ 20 นาทีเดินจากตรงนี้ค่ะ คุณต้องเดินตรงไปตามถนนเส้นนี้เลยค่ะ นักท่องเที่ยว: โอ้ ดีเลยครับ แค่เดินตรงไปอย่างเดียวใช่ไหมครับ? นักศึกษา: ใช่ค่ะ แต่พอเดินไปประมาณ 10 นาที คุณจะเจอแยกใหญ่ ให้เลี้ยวซ้ายตรงนั้นค่ะ นักท่องเที่ยว: เลี้ยวซ้ายตรงแยกใหญ่ เข้าใจแล้วครับ มีจุดสังเกตอะไรไหมครับ? นักศึกษา: มีค่ะ ตรงหัวมุมจะมีร้าน 7-Eleven ค่ะ คุณจะเห็นแน่นอน นักท่องเที่ยว: สมบูรณ์แบบ ขอบคุณมากครับ แล้วจากตรงนั้นล่ะครับ? นักศึกษา: หลังจากเลี้ยวซ้ายแล้ว ก็เดินตามถนนไปเลยค่ะ ทางเข้าไปพระบรมมหาราชวังจะอยู่ทางขวามือค่ะ นักท่องเที่ยว: ฟังดูไม่ยากเลยครับ คิดว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนครับ? นักศึกษา: ประมาณ 20 นาที ถ้าเดินตามปกติค่ะ นักท่องเที่ยว: ขอบคุณมากนะครับสำหรับความช่วยเหลือ! นักศึกษา: ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้เที่ยวพระบรมมหาราชวังอย่างสนุกนะค่ะ! นักท่องเที่ยว: ผมจะทำตามนั้นครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ ขอให้คุณมีวันที่ดีนะครับ! นักศึกษา: คุณก็เช่นกันค่ะ เดินทางปลอดภัยนะค่ะ! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Palace (พาเลซ) noun. แปลว่า พระราชวัง Intersection (อินเทอร์เซคชัน) noun. แปลว่า สี่แยก Landmark (แลนด์มาร์ค) noun. แปลว่า จุดสังเกต Road (โรด) noun. แปลว่า ถนน Entrance (เอนทรานซ์) noun. แปลว่า ทางเข้า Corner (คอร์เนอร์) noun. แปลว่า มุมถนน Taxi (แท็กซี่) noun. แปลว่า รถแท็กซี่ Walk (วอล์ค) verb. แปลว่า เดิน Turn (เทิร์น) verb. แปลว่า เลี้ยว Straight (สเตรท) adverb. แปลว่า ตรง Left (เลฟท์) adjective. แปลว่า ซ้าย Right (ไรท์) adjective. แปลว่า ขวา Head (เฮด) verb. แปลว่า มุ่งหน้า Minute (มินิท) noun. แปลว่า นาที Safe (เซฟ) adjective. แปลว่า ปลอดภัย
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10-10-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.10 ตอน "NEW WAVE COMING" ยอดสะสมรถอียุ่นปี่ในไทย ลดหวบยับ กว่า 30% ทำไมน่ะรึ? อ้างจีนขยี้ตลาดรถไทย โปรดแหกตาดูทุกปัจจัย รถน้ำมัน ใครจ่ายไหว? ไฮบริคแค่แก้ขัด ระยะยาวจะไปต่อยังไงมิทราบ? เพราะ EV มันไป 1000 กม. แล้ว โคตรพ่อง โคตรแม่ง ขับวันละ 1000 ถึงมุย? เค้ารอให้ทุกอย่างเสถียรก่อน ยังไง EV คืออนาคต ทุกชาติต่างรู้ดี? มรึงหลอกแดร๊กควายไทยมากว่าครึ่งศตวรรษ ดัดแปลงรถกะบะ เสริมแต่งหน่อย ปักป้าย 1.7 ล้าน แม้แต่ควายยังอึ้ง? เจอ BYD มาทีเดียวขาย 700000 ควายถึงจะตื่น? ยุคนี้ น้ำมันแพง เศรษฐกิจต่ำตม รถเกินล้านใครจะซื้อ? ที่มาว่า DEALER ทั่วไทย ย้ายค่าย ปิดกิจการ หันไปขาย EV ดีกว่าค่ายอียุ่นปี่ ใครตายห่าก่อน ตัวแทนอะไหล่ยนต์ไงล่ะ รถสันดาปไปก่อนใครเพื่อน? มันถึงเวลาที่โลกจะเปลี่ยน รับการเปลี่ยนแปลงให้ดีดี รถ EV แค่ปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง ยังมีนวตกรรมอีกมาก ที่กำลังจะเข้ามา? สื่อเสี้ยมตีข่าวจีนตีตลาดไทยยับ โยนบาปให้จีน แต่ผู้บริโภคควายไทยได้ตื่น อะไรที่ถูกและดี แล้วมรึงจะจ่ายแพงกว่าทำไม? รถสันดาปใช้กันมาเป็นศตวรรษแล้ว มรึงจะยังใช้กันต่ออีก 100 ปี เหรอ? ปัจจัยยอดสั่งรถลดลงฮวบ มันมีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ EV เป็นเหตุ คนสรรหาสิ่งที่ดีกว่า ถูกกว่า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ตลาดรถมือสองจะตายเอา เพราะที่ผ่านมา กินส่วนต่างไว้เยอะ งวดนี้ คนไม่ต้องซื้อมือสองใช้ หันไปจ่ายมือ 1 ป้ายแดงได้เลย 400000 ก็มีให้เลือก ผลประโยชน์ผู้บริโภคเต็มตรีน ก็ต้องปรับตัวกันไปตามเศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนแปลงที่จะตามมา? กูบอกเลย อีกหน่อย ในเวลาอันสั้น โดรนส่งสินค้า โดรน TAXI มาแน่ แล้วมรึงจะช็อค! เวลาแสงทำงาน ยามเปลี่ยนแปลงผลัดใบโลก มันมักจะเกิดแรงต่อต้านเสมอ สำหรับช่วงแรก แต่พอนานวัน ทุกความสะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดกว่า ลดมลพิษได้ดีกว่า พลังงานสะอาดมาเต็มตรีน ใครจะไม่เอา? กลับมาสู่โลกสาย HARD CORE กันต่อ : 300 ลูกพร้อมกัน สาแก่ใจอีช้อยเฮซบอเลาะห์เค้าแหละ เละเป็นโจ๊กตามเคย เห่าเก่งแต่ในสื่อหลอกควาย โลกจริง ตายอย่างกะหมาข้างถนน? ซาเฟด แหล่งอุตสาหกรรมทางทหารอียิว แตกกระจุย ที่ใดมีคลังแสง ที่นั่นคือขุมนรก? ระบบป้องกัยภัยแห้วแดร๊กตามเคย มันใช้จริงได้ที่ไหนกันล่ะ? หมายังรู้! ส่งผลให้อาวุธขาดแคลนทันที เมื่อโรงงานผลิตหายวับ มรึงจะรอรับบริจาคจากใครได้อีก? แม่งไม่เหลือเหี้ยอะไรอีกแล้ว หมดตูดกันทั้งกะปิ? อาหรับกำลังจะทำอะไร? ชี้ให้โลกเห็นว่า ลงแขกยิวสบายตรีน ท้าทายอเมริกาให้เข้ามาช่วย จะได้ตายห่าทีเดียว ที่มาว่าทำไม บินทิ้งระเบิดเหี้ยมะกันหันหลังควับ ไม่ตรงต่อไปถล่มเป้าหมายโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน เพราะถูกล็อคเป้าไงจ๊ะ? "คุณหลอกดาวอีกแย้ว" ล่อให้เข้าไปตายห่าสิน่ะ ลงข่าวหน้า 1 บินทิ้งระเบิดตายคาตรีนไฮเปอร์โซนิค แล้วกูจะยังขายเหี้ยอะไรหลอกควายได้อีกล่ะ? อิหร่านมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400/S-350s ถามคำเดียว ยังจะเหลือลำไหนรอดได้อีก? หลังอิหร่านเพิ่งจะทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดิน สะเทือนไปถึงอเมริกา นกรู้กันทั่ว มาดิมรึง? หายไปทั้งเยรูซาเล๋มฝั่งตะวันตก เหี้ยมันเองก็รู้ ว่าไม่มีเครื่องบินลำไหนที่จะผ่าน S-400 รัสเซียได้เลย? ไม่ต้องถามถึง S-500 นั่นมันระดับจักรวาล ยิงดาวเทียมร่วงสบายตรีน เอาไว้ใช้กับสงคราม "STAR WARS" เท่านั้น อียิวมันจนแต้มแล้ว แค่ยื้อเวลาตา่ยให้ช้าลงเท่านั้นเอง แต่เฮซบอเลาะห์บอก กูไม่ว่างรอนานขนาดนั้น เลยจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบทันที NON STOP ฆ่าอย่างเมามันส์ ตายแค่ 10 สื่อตีหลอกควาย เอาที่มรึงสบายใจ ดีออก? ข้ามวิกแป๊บ : ไอ้สัส! เวลาหาแดร๊ก เอาแต่เงิน เสนอหน้ารับงานเพี๊ยบ รอจะถูกเฉ่ง ถูกเชือด หนีหางจุกตูดกันหมด ไอ้อี ดาราทั้งหลาย ที่หลอกแดร๊กคนไทย หวังแค่เศษเงิน แต่ไม่ห่วงทรัพย์สินและชีวิตคนไทยด้วยกัน ถามว่ามรึงรู้มั้ยว่าจะต้องไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ หรือสิ้นค้า ห้างร้านอะไร? สัญญาเค้ามี เจตนาเค้าชัด อีตำหนวดสาวไส้ยาวอยู่แล้ว เพราะกะจะหลอกฟันหนัก อยากรอด ต้องจ่ายคุ้ม จบเกมส์ นี่ไง อีกา(กาลกิณี)กี ตัวจริง เสียงจริง สรุปแผ่นดินนี้ มีอีตำหนวดเป็นโจรแทนซะงั้น ต่อไปคงได้เห็น "โรบินฮู๊ดไทยแลนด์" ที่ออกมาไล่ล่า แฉความเหี้ยของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองซะเอง หลายคนเชื่อ "แผ่นดินนี้ จ่ายหนัก รอดทุกคดี" กูไม่เถียงหากเป็นในกลียุค มันเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อแสงทำงาน วาระสุดท้ายของกลียุคจะหมดไป สิ่งสกปรกจะอยู่ต่อไปไม่ได้อีก การชำระล้างจะตามมา การฆ่าเชื้อชั่วมีแน่ ไม่ต้องห่วง? กลับมาดูเหี้ยตายโหงตายห่ากันต่อ : โดนหนักต่อเนื่อง สนามบิน ท่าเรือ ศูนย์บัญชาการ คลังแสง สถานีสื่อสาร ศูนย์กำลังพลสำรอง แม้แต่เส้นทางลำเลียง โดนหมด! แล้วมรึงล่ะ ทำลายเหี้ยอะไรได้บ้าง? มีแต่ข่าวโจมตีท่าเรือ บ้านเรือน แต่หาได้ทำลายอำนาจแสนยานุภาพฝ่ายตรงข้ามได้เลย เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มรึงเข้าถึงไงล่ะ? สงครามยุคใหม่มันแข่งกันที่ไฮเปอร์โซนิค รัสเซีย-จีน -อิหร่าน-โสมแดง ตีโจทย์แตกเมื่อ 20 ปีก่อนแล้ว ถึงได้มีวันนี้ วันที่ ขั้วใหม่มี ไฮเปอร์โซนิค เป็น 10 ล้านลูก มรึงฟังไม่ผิดดอก ฟังให้ชัดๆ อีกครั้ง จากปากณัชชาน่ะว่า "10000000 ลูก" ไม่ต้องถาม ใครผลิต? ตอนนี้รวยเละเทะ นับเงินล้นทะลักคลัง! แค่ยอดสั่งจองจากอาหรับ ก็แทบรอคิวไปอีก 2 ปี ใครว่ากูจนฟ่ะเนี่ย? JOHN KIM จน จริงดิ? ควายเชื่อ แต่คนขำก๊าก! อะไรน่ะ บุกมาเป็นสัปดาห์แล้ว ไม่คืบหน้าไปไหนเลย ระเหยไปในอากาศเพี๊ยบ ไหนว่ายึดเฮซบอเลาะห์ได้ไงล่ะ อ้าว..หนังคนละม้วน แล้วไอ้ที่นอนตายพะงสาบพะงาบนับร้อย พรมแดนเลบานอนเนี่ย? หมาไอ้อีตัวไหนกันฟ่ะ ผมทองก็มี ผมดำก็เยอะ NATO ทั้งนั้น ควายได้ใจกูจริง! สรุปคือเหี้ยนอนฝันว่ากำลังจะชนะ? อยากไปปลุกมันเชียว ให้มันฝันต่อไป ลืมตาอีกที ตายห่า..หมดแผ่นดิน! โลกเบาขึ้นไปอีกเยอะ?

    ปล.มหากาพย์เรือดำน้ำไทย ใครระบุไปในสัญญาว่าต้องใช้เครื่องยนต์อินทรีเหล็กเท่านั้น? อีเบียร์ไม่ยอมส่งอะไหล่และชิ้นส่วนประกอบให้ เพราะคว่ำบาตรจีนจากคำสั่ง NATO ทำให้ไม่มีนายพลกองทัพเรือหน้าไหน ยอมเสี่ยงตายเพื่อปลดแอกประเทศ? คำตอบมีอยู่ในตัวมันเอง "แผนกั๊ก" ศรีธนญชัยเล่นแร่แปรวิญญานอีกแล้ว หาแดร๊กก็เรื่อง ยุทธศาสตร์ก็เรื่อง แค่เปลี่ยนเครื่องยนต์คือจบทันที แล้วจะได้มีปัญหากับ NATO ต่อไงล่ะ? จีนเองก็รู้ว่า ไทยคิดยังไง? ท่าเรือดำน้ำที่สร้างไป แต่ไม่มีเรือดำน้ำ ใครคิด? 7000 ล้านเอาไปโยนทิ้งลงทะเลอีกตามเคย? นี่ไง เกมส์การเมืองโลก แต่ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 10 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ ซื้อ 1 แถม 3 ตามมาทันที จุดจบของมหากาพย์เรือดำน้ำนี้ จะปิดฉากลงเพราะผบ.ทร.คนล่าสุดเนี่ยแหละ บีบครม.แก้ไขสัญญาบัดซบ? ดอกนี้ "ตายเป็นตาย" ถึงว่า เกมส์โลกกำหนดเกมส์ไทย ไม่สิ ทั้งโลกมากกว่า? โลกไม่จบ ไทยอย่าหวังว่าจะจบ? เชื่อมั่นในพระบารมี อะไรที่มืดแปดด้าน จะถูกปลดล็อคเอง เชื่อกูดิ? จีน รัสเซีย ถ่วงดุลกัน แต่ตอนนี้ ต้องฆ่าเหี้ยให้ตายห่าก่อนเท่านั้น? กูบอกไปแล้วน่ะ ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยน? หากมรึงสังเกตุ และคิดรอบด้านให้ดีดี มีอะไรที่กำลังรอเราอยู่ เราปรับเพื่อสิ่งนั้นไงล่ะ? อีเหี้ยมะกันเละเทะ ฟลอริด้าสยอง เฮอริเคน "มิลตัน" ระดับ 5 ตามมาล้างสิ่งสกปรกโสมมจ๊ะ ประชากรควายโลกเยอะเกินไป เอาออกไปบ้าง! อย่ามามั่วว่าเป็นฝีมือจีน ใช้ควอนตั่ม ดาวเทียม ก่อคลื่นสึนามิ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่โดน พายุ สีนามิ ไฟป่า โรงงานไฟฟ้าดับสนิท(อันนี้ฝีมือไซเบอร์รัสเซีย CONFIRM) เหี้ยยังจะต้องโดนอีกเยอะ สวรรค์ลงโทษไงล่ะ เกิดเป็นคนดีดีไม่ชอบ อยากจะเป็นควายกันให้หมดโลก ถึงเวลาสวรรค์กำหนเอง ใครที่มีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติและโลก จงอยู่ต่อไป ส่วนพวกไร้ประโยชน์ก็ตายห่าตามกันไป จบน่ะ! โลกคัดสรรไว้ดีแล้ว ข่าวฮาแตก! อีแม่บ้านขะแมร์ แห่สาปแช่งอีฮุนเซน อยากจะครองแผ่นดินเบ็ดเสร็จ ถูกขับอัปเปหิ เนรเทศออกนอกประเทศ เมื่ออำนาจมันผูกขาด ก็ต้องเล่นด้วยคาถา อาคม สาปแช่งกันไปเลย ของเค้าแรงน่ะ จะบอกให้? อีฮุนเซน อยู่ได้อีกไม่นานดอก ไม่มีอะไรยั้งยืน ความดี/ชั่ว จะถูกตัดสินในไม่ช้านี้ อีขะแมร์ที่ไปไม่สุด เพราะบาปกรรม มันทำไว้เยอะ เวลาชดใช้ สวรรค์ ถึงได้ไม่ปราณี และเพ่ไทย จะไม่ลดตัวไปยุ่งละครปาหี่อีขะแมร์เด็ดขาด ใครที่ปวดตับ ปวดหัว กับโซเชี่ยลเสี้ยมไทย-ขะแมร์ รายวัน กูถามจริง มรึงจะเสียเวลาไปสนใจสิ่งที่ไม่มีตัวตนทำไม? มันคู่ควรจะมาท้าดวลเราเหรอ? คนละระดับ ไม่ได้บูลลี่ธรรมดา แต่โคตรจะบูลลี่ เลยจ๊ะ ชัดเจนน่ะ กูรำคาญ! ใครขี้ลืมก็หลบไป แต่กูจำได้ดี ว่ามันเคยทำเหี้ยอะไรเอาไว้กับแผ่นดินพ่อกู อย่าไปให้ราคา เพราะมันไม่มีราคา? ไม่แปลกใจดอก อิหร่าน ผ่านร่าง กฎหมายขยายนิวเคลียร์ ชัดพอมั้ย? ผู้นำคนใหม่มา ทำงานเร็วฟ้าผ่าทันที โปรยิวไงล่ะ อียิวถึงได้ตายโหงตายห่าเกลื่อนในสัปดาห์เดียว บ้านไม่มี ลงใต้ดิน มุดถ้ำกันหมด! ดูผลลัพธ์ ดูการกระทำ อย่าดูแค่เค้าเล่าว่า? แล้วจะฉลาดขึ้น? สงครามข่าวสารมันมีเอาไว้หลอกควาย หากไม่อยากเป็นควาย จงใช้สติ ปัญญา คิดให้ดีดี อะไรที่มันไม่ใช่ ย่อมรู้อยู่แก่ใจ? อย่าเชื่อแค่ตาเห็น หูฟัง แต่ใช้สมองคิดก่อนว่า ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้? แผนสับขาหลอกมีหลายชั้น ไม่มีใครเดาได้ถูกหมดดอก ไม่งั้น มันจะเรียกว่าแผนซ้อนแผนเหรอ? ดูข้อเท็จจริง ดูสิ่งที่มีอยู่จริง จะไม่หลงทาง? ขั้วใหม่ชนะไปนานแล้ว เค้าแค่รอเวลา ชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แบบไม่ต้องสูญเสียเกินความจำเป็น นี่แหละ ผู้นำโลกคนใหม่ของพวกเราชาวโลก!

    หมี CNN(สิ่งดีดีกำลังจะเข้ามา ดังนั้น อย่ากังวล หากเชื้อชั่วมันแผลงฤทธิ์ นั่นแหละดี เชื้อชั่วไม่โผล่ จะรักษายังไง? ต้องเชียร์ให้มันออกลาย โชว์เหี้ยให้สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ยิ่งแรงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจบเร็วมากเท่านั้น อย่ากลัวเหี้ย มรึงคือลูกเทวดา จะกลัวเหี้ยไปทำไม? ไอ้อีจัญไรที่เสพอาจม หลอกแดร๊กคนในชาติมาช้านาน ถึงเวลาชดใช้ สภาพอย่างหมาจนตรอก อีเหลี่ยมชั่วหมดมุกแล้ว ยิ่งดิ่น ยิ่งหนีไม่หลุด จ่ายอย่างเดียวคือจบ จบแค่ที่นี่ ออกนอกแผ่นดินเมื่อไหร่ มีคนตามจบชีวิตมรึงอีกเยอะ คงหลับลงดอกน่ะ)
    10 ตุลาคม 67
    11.33 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172853488038405740
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    10-10-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.10 ตอน "NEW WAVE COMING" ยอดสะสมรถอียุ่นปี่ในไทย ลดหวบยับ กว่า 30% ทำไมน่ะรึ? อ้างจีนขยี้ตลาดรถไทย โปรดแหกตาดูทุกปัจจัย รถน้ำมัน ใครจ่ายไหว? ไฮบริคแค่แก้ขัด ระยะยาวจะไปต่อยังไงมิทราบ? เพราะ EV มันไป 1000 กม. แล้ว โคตรพ่อง โคตรแม่ง ขับวันละ 1000 ถึงมุย? เค้ารอให้ทุกอย่างเสถียรก่อน ยังไง EV คืออนาคต ทุกชาติต่างรู้ดี? มรึงหลอกแดร๊กควายไทยมากว่าครึ่งศตวรรษ ดัดแปลงรถกะบะ เสริมแต่งหน่อย ปักป้าย 1.7 ล้าน แม้แต่ควายยังอึ้ง? เจอ BYD มาทีเดียวขาย 700000 ควายถึงจะตื่น? ยุคนี้ น้ำมันแพง เศรษฐกิจต่ำตม รถเกินล้านใครจะซื้อ? ที่มาว่า DEALER ทั่วไทย ย้ายค่าย ปิดกิจการ หันไปขาย EV ดีกว่าค่ายอียุ่นปี่ ใครตายห่าก่อน ตัวแทนอะไหล่ยนต์ไงล่ะ รถสันดาปไปก่อนใครเพื่อน? มันถึงเวลาที่โลกจะเปลี่ยน รับการเปลี่ยนแปลงให้ดีดี รถ EV แค่ปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง ยังมีนวตกรรมอีกมาก ที่กำลังจะเข้ามา? สื่อเสี้ยมตีข่าวจีนตีตลาดไทยยับ โยนบาปให้จีน แต่ผู้บริโภคควายไทยได้ตื่น อะไรที่ถูกและดี แล้วมรึงจะจ่ายแพงกว่าทำไม? รถสันดาปใช้กันมาเป็นศตวรรษแล้ว มรึงจะยังใช้กันต่ออีก 100 ปี เหรอ? ปัจจัยยอดสั่งรถลดลงฮวบ มันมีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ EV เป็นเหตุ คนสรรหาสิ่งที่ดีกว่า ถูกกว่า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ตลาดรถมือสองจะตายเอา เพราะที่ผ่านมา กินส่วนต่างไว้เยอะ งวดนี้ คนไม่ต้องซื้อมือสองใช้ หันไปจ่ายมือ 1 ป้ายแดงได้เลย 400000 ก็มีให้เลือก ผลประโยชน์ผู้บริโภคเต็มตรีน ก็ต้องปรับตัวกันไปตามเศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนแปลงที่จะตามมา? กูบอกเลย อีกหน่อย ในเวลาอันสั้น โดรนส่งสินค้า โดรน TAXI มาแน่ แล้วมรึงจะช็อค! เวลาแสงทำงาน ยามเปลี่ยนแปลงผลัดใบโลก มันมักจะเกิดแรงต่อต้านเสมอ สำหรับช่วงแรก แต่พอนานวัน ทุกความสะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดกว่า ลดมลพิษได้ดีกว่า พลังงานสะอาดมาเต็มตรีน ใครจะไม่เอา? กลับมาสู่โลกสาย HARD CORE กันต่อ : 300 ลูกพร้อมกัน สาแก่ใจอีช้อยเฮซบอเลาะห์เค้าแหละ เละเป็นโจ๊กตามเคย เห่าเก่งแต่ในสื่อหลอกควาย โลกจริง ตายอย่างกะหมาข้างถนน? ซาเฟด แหล่งอุตสาหกรรมทางทหารอียิว แตกกระจุย ที่ใดมีคลังแสง ที่นั่นคือขุมนรก? ระบบป้องกัยภัยแห้วแดร๊กตามเคย มันใช้จริงได้ที่ไหนกันล่ะ? หมายังรู้! ส่งผลให้อาวุธขาดแคลนทันที เมื่อโรงงานผลิตหายวับ มรึงจะรอรับบริจาคจากใครได้อีก? แม่งไม่เหลือเหี้ยอะไรอีกแล้ว หมดตูดกันทั้งกะปิ? อาหรับกำลังจะทำอะไร? ชี้ให้โลกเห็นว่า ลงแขกยิวสบายตรีน ท้าทายอเมริกาให้เข้ามาช่วย จะได้ตายห่าทีเดียว ที่มาว่าทำไม บินทิ้งระเบิดเหี้ยมะกันหันหลังควับ ไม่ตรงต่อไปถล่มเป้าหมายโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน เพราะถูกล็อคเป้าไงจ๊ะ? "คุณหลอกดาวอีกแย้ว" ล่อให้เข้าไปตายห่าสิน่ะ ลงข่าวหน้า 1 บินทิ้งระเบิดตายคาตรีนไฮเปอร์โซนิค แล้วกูจะยังขายเหี้ยอะไรหลอกควายได้อีกล่ะ? อิหร่านมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400/S-350s ถามคำเดียว ยังจะเหลือลำไหนรอดได้อีก? หลังอิหร่านเพิ่งจะทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดิน สะเทือนไปถึงอเมริกา นกรู้กันทั่ว มาดิมรึง? หายไปทั้งเยรูซาเล๋มฝั่งตะวันตก เหี้ยมันเองก็รู้ ว่าไม่มีเครื่องบินลำไหนที่จะผ่าน S-400 รัสเซียได้เลย? ไม่ต้องถามถึง S-500 นั่นมันระดับจักรวาล ยิงดาวเทียมร่วงสบายตรีน เอาไว้ใช้กับสงคราม "STAR WARS" เท่านั้น อียิวมันจนแต้มแล้ว แค่ยื้อเวลาตา่ยให้ช้าลงเท่านั้นเอง แต่เฮซบอเลาะห์บอก กูไม่ว่างรอนานขนาดนั้น เลยจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบทันที NON STOP ฆ่าอย่างเมามันส์ ตายแค่ 10 สื่อตีหลอกควาย เอาที่มรึงสบายใจ ดีออก? ข้ามวิกแป๊บ : ไอ้สัส! เวลาหาแดร๊ก เอาแต่เงิน เสนอหน้ารับงานเพี๊ยบ รอจะถูกเฉ่ง ถูกเชือด หนีหางจุกตูดกันหมด ไอ้อี ดาราทั้งหลาย ที่หลอกแดร๊กคนไทย หวังแค่เศษเงิน แต่ไม่ห่วงทรัพย์สินและชีวิตคนไทยด้วยกัน ถามว่ามรึงรู้มั้ยว่าจะต้องไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ หรือสิ้นค้า ห้างร้านอะไร? สัญญาเค้ามี เจตนาเค้าชัด อีตำหนวดสาวไส้ยาวอยู่แล้ว เพราะกะจะหลอกฟันหนัก อยากรอด ต้องจ่ายคุ้ม จบเกมส์ นี่ไง อีกา(กาลกิณี)กี ตัวจริง เสียงจริง สรุปแผ่นดินนี้ มีอีตำหนวดเป็นโจรแทนซะงั้น ต่อไปคงได้เห็น "โรบินฮู๊ดไทยแลนด์" ที่ออกมาไล่ล่า แฉความเหี้ยของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองซะเอง หลายคนเชื่อ "แผ่นดินนี้ จ่ายหนัก รอดทุกคดี" กูไม่เถียงหากเป็นในกลียุค มันเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อแสงทำงาน วาระสุดท้ายของกลียุคจะหมดไป สิ่งสกปรกจะอยู่ต่อไปไม่ได้อีก การชำระล้างจะตามมา การฆ่าเชื้อชั่วมีแน่ ไม่ต้องห่วง? กลับมาดูเหี้ยตายโหงตายห่ากันต่อ : โดนหนักต่อเนื่อง สนามบิน ท่าเรือ ศูนย์บัญชาการ คลังแสง สถานีสื่อสาร ศูนย์กำลังพลสำรอง แม้แต่เส้นทางลำเลียง โดนหมด! แล้วมรึงล่ะ ทำลายเหี้ยอะไรได้บ้าง? มีแต่ข่าวโจมตีท่าเรือ บ้านเรือน แต่หาได้ทำลายอำนาจแสนยานุภาพฝ่ายตรงข้ามได้เลย เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มรึงเข้าถึงไงล่ะ? สงครามยุคใหม่มันแข่งกันที่ไฮเปอร์โซนิค รัสเซีย-จีน -อิหร่าน-โสมแดง ตีโจทย์แตกเมื่อ 20 ปีก่อนแล้ว ถึงได้มีวันนี้ วันที่ ขั้วใหม่มี ไฮเปอร์โซนิค เป็น 10 ล้านลูก มรึงฟังไม่ผิดดอก ฟังให้ชัดๆ อีกครั้ง จากปากณัชชาน่ะว่า "10000000 ลูก" ไม่ต้องถาม ใครผลิต? ตอนนี้รวยเละเทะ นับเงินล้นทะลักคลัง! แค่ยอดสั่งจองจากอาหรับ ก็แทบรอคิวไปอีก 2 ปี ใครว่ากูจนฟ่ะเนี่ย? JOHN KIM จน จริงดิ? ควายเชื่อ แต่คนขำก๊าก! อะไรน่ะ บุกมาเป็นสัปดาห์แล้ว ไม่คืบหน้าไปไหนเลย ระเหยไปในอากาศเพี๊ยบ ไหนว่ายึดเฮซบอเลาะห์ได้ไงล่ะ อ้าว..หนังคนละม้วน แล้วไอ้ที่นอนตายพะงสาบพะงาบนับร้อย พรมแดนเลบานอนเนี่ย? หมาไอ้อีตัวไหนกันฟ่ะ ผมทองก็มี ผมดำก็เยอะ NATO ทั้งนั้น ควายได้ใจกูจริง! สรุปคือเหี้ยนอนฝันว่ากำลังจะชนะ? อยากไปปลุกมันเชียว ให้มันฝันต่อไป ลืมตาอีกที ตายห่า..หมดแผ่นดิน! โลกเบาขึ้นไปอีกเยอะ? ปล.มหากาพย์เรือดำน้ำไทย ใครระบุไปในสัญญาว่าต้องใช้เครื่องยนต์อินทรีเหล็กเท่านั้น? อีเบียร์ไม่ยอมส่งอะไหล่และชิ้นส่วนประกอบให้ เพราะคว่ำบาตรจีนจากคำสั่ง NATO ทำให้ไม่มีนายพลกองทัพเรือหน้าไหน ยอมเสี่ยงตายเพื่อปลดแอกประเทศ? คำตอบมีอยู่ในตัวมันเอง "แผนกั๊ก" ศรีธนญชัยเล่นแร่แปรวิญญานอีกแล้ว หาแดร๊กก็เรื่อง ยุทธศาสตร์ก็เรื่อง แค่เปลี่ยนเครื่องยนต์คือจบทันที แล้วจะได้มีปัญหากับ NATO ต่อไงล่ะ? จีนเองก็รู้ว่า ไทยคิดยังไง? ท่าเรือดำน้ำที่สร้างไป แต่ไม่มีเรือดำน้ำ ใครคิด? 7000 ล้านเอาไปโยนทิ้งลงทะเลอีกตามเคย? นี่ไง เกมส์การเมืองโลก แต่ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 10 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ ซื้อ 1 แถม 3 ตามมาทันที จุดจบของมหากาพย์เรือดำน้ำนี้ จะปิดฉากลงเพราะผบ.ทร.คนล่าสุดเนี่ยแหละ บีบครม.แก้ไขสัญญาบัดซบ? ดอกนี้ "ตายเป็นตาย" ถึงว่า เกมส์โลกกำหนดเกมส์ไทย ไม่สิ ทั้งโลกมากกว่า? โลกไม่จบ ไทยอย่าหวังว่าจะจบ? เชื่อมั่นในพระบารมี อะไรที่มืดแปดด้าน จะถูกปลดล็อคเอง เชื่อกูดิ? จีน รัสเซีย ถ่วงดุลกัน แต่ตอนนี้ ต้องฆ่าเหี้ยให้ตายห่าก่อนเท่านั้น? กูบอกไปแล้วน่ะ ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยน? หากมรึงสังเกตุ และคิดรอบด้านให้ดีดี มีอะไรที่กำลังรอเราอยู่ เราปรับเพื่อสิ่งนั้นไงล่ะ? อีเหี้ยมะกันเละเทะ ฟลอริด้าสยอง เฮอริเคน "มิลตัน" ระดับ 5 ตามมาล้างสิ่งสกปรกโสมมจ๊ะ ประชากรควายโลกเยอะเกินไป เอาออกไปบ้าง! อย่ามามั่วว่าเป็นฝีมือจีน ใช้ควอนตั่ม ดาวเทียม ก่อคลื่นสึนามิ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่โดน พายุ สีนามิ ไฟป่า โรงงานไฟฟ้าดับสนิท(อันนี้ฝีมือไซเบอร์รัสเซีย CONFIRM) เหี้ยยังจะต้องโดนอีกเยอะ สวรรค์ลงโทษไงล่ะ เกิดเป็นคนดีดีไม่ชอบ อยากจะเป็นควายกันให้หมดโลก ถึงเวลาสวรรค์กำหนเอง ใครที่มีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติและโลก จงอยู่ต่อไป ส่วนพวกไร้ประโยชน์ก็ตายห่าตามกันไป จบน่ะ! โลกคัดสรรไว้ดีแล้ว ข่าวฮาแตก! อีแม่บ้านขะแมร์ แห่สาปแช่งอีฮุนเซน อยากจะครองแผ่นดินเบ็ดเสร็จ ถูกขับอัปเปหิ เนรเทศออกนอกประเทศ เมื่ออำนาจมันผูกขาด ก็ต้องเล่นด้วยคาถา อาคม สาปแช่งกันไปเลย ของเค้าแรงน่ะ จะบอกให้? อีฮุนเซน อยู่ได้อีกไม่นานดอก ไม่มีอะไรยั้งยืน ความดี/ชั่ว จะถูกตัดสินในไม่ช้านี้ อีขะแมร์ที่ไปไม่สุด เพราะบาปกรรม มันทำไว้เยอะ เวลาชดใช้ สวรรค์ ถึงได้ไม่ปราณี และเพ่ไทย จะไม่ลดตัวไปยุ่งละครปาหี่อีขะแมร์เด็ดขาด ใครที่ปวดตับ ปวดหัว กับโซเชี่ยลเสี้ยมไทย-ขะแมร์ รายวัน กูถามจริง มรึงจะเสียเวลาไปสนใจสิ่งที่ไม่มีตัวตนทำไม? มันคู่ควรจะมาท้าดวลเราเหรอ? คนละระดับ ไม่ได้บูลลี่ธรรมดา แต่โคตรจะบูลลี่ เลยจ๊ะ ชัดเจนน่ะ กูรำคาญ! ใครขี้ลืมก็หลบไป แต่กูจำได้ดี ว่ามันเคยทำเหี้ยอะไรเอาไว้กับแผ่นดินพ่อกู อย่าไปให้ราคา เพราะมันไม่มีราคา? ไม่แปลกใจดอก อิหร่าน ผ่านร่าง กฎหมายขยายนิวเคลียร์ ชัดพอมั้ย? ผู้นำคนใหม่มา ทำงานเร็วฟ้าผ่าทันที โปรยิวไงล่ะ อียิวถึงได้ตายโหงตายห่าเกลื่อนในสัปดาห์เดียว บ้านไม่มี ลงใต้ดิน มุดถ้ำกันหมด! ดูผลลัพธ์ ดูการกระทำ อย่าดูแค่เค้าเล่าว่า? แล้วจะฉลาดขึ้น? สงครามข่าวสารมันมีเอาไว้หลอกควาย หากไม่อยากเป็นควาย จงใช้สติ ปัญญา คิดให้ดีดี อะไรที่มันไม่ใช่ ย่อมรู้อยู่แก่ใจ? อย่าเชื่อแค่ตาเห็น หูฟัง แต่ใช้สมองคิดก่อนว่า ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้? แผนสับขาหลอกมีหลายชั้น ไม่มีใครเดาได้ถูกหมดดอก ไม่งั้น มันจะเรียกว่าแผนซ้อนแผนเหรอ? ดูข้อเท็จจริง ดูสิ่งที่มีอยู่จริง จะไม่หลงทาง? ขั้วใหม่ชนะไปนานแล้ว เค้าแค่รอเวลา ชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แบบไม่ต้องสูญเสียเกินความจำเป็น นี่แหละ ผู้นำโลกคนใหม่ของพวกเราชาวโลก! หมี CNN(สิ่งดีดีกำลังจะเข้ามา ดังนั้น อย่ากังวล หากเชื้อชั่วมันแผลงฤทธิ์ นั่นแหละดี เชื้อชั่วไม่โผล่ จะรักษายังไง? ต้องเชียร์ให้มันออกลาย โชว์เหี้ยให้สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ยิ่งแรงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจบเร็วมากเท่านั้น อย่ากลัวเหี้ย มรึงคือลูกเทวดา จะกลัวเหี้ยไปทำไม? ไอ้อีจัญไรที่เสพอาจม หลอกแดร๊กคนในชาติมาช้านาน ถึงเวลาชดใช้ สภาพอย่างหมาจนตรอก อีเหลี่ยมชั่วหมดมุกแล้ว ยิ่งดิ่น ยิ่งหนีไม่หลุด จ่ายอย่างเดียวคือจบ จบแค่ที่นี่ ออกนอกแผ่นดินเมื่อไหร่ มีคนตามจบชีวิตมรึงอีกเยอะ คงหลับลงดอกน่ะ) 10 ตุลาคม 67 11.33 น. https://linevoom.line.me/post/1172853488038405740 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย แนะรัฐตรวจเข้มกลุ่มรถที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมจัดงบฯ – สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ

    เหตุการณ์รถบัสนักเรียนไฟไหม้ ซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สะท้อนความล้มเหลวในการป้องกัน และควบคุมการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนไทย ตอกย้ำสมญานามประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการจราจรมากที่สุด สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และครองแชมป์อันดับ 1 ในอาเซียน
    อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่เพียงชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยง ทั้งในด้านพฤติกรรมการขับขี่ ความรู้ในการเผชิญเหตุฉุกเฉิน ยังได้นำไปสู่การเปิดโปงข้อบกพร่องของ “ระบบตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย” โดยเฉพาะรถทัศนาจร หรือ “รถรับจ้างไม่ประจำทาง” ที่วิ่งให้บริการขวักไขว่ อันเป็นภาพคุ้นชินตาของคนไทย

    ‘ทีดีอาร์ไอ’ เผยมีรถรับจ้างไม่ประจำทางเพียง 5% ผ่าน “มาตรฐานลุกไหม้”
    ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า แม้ว่ากรมการขนส่งทางบก จะมีความพยายามในการปรับปรุงมาตรฐานรถโดยสารขนาดใหญ่ในหลายประเด็น รวมถึงมาตรฐานด้านการลุกไหม้มาตั้งแต่ปี 2559 โดยออกประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่องกำหนดคุณสมบัติด้านการลุกไหม้การลามไฟของวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในรถโดยสาร แต่ปรากฎว่าประกาศดังกล่าวถูกเลื่อนการบังคับใช้อยู่เรื่อย ๆ
    ด้วยเหตุผลเพราะผู้ประกอบการ ไม่มีความพร้อมในการแบกรับต้นทุน จากการเปลี่ยนไปใช้วัสดุกันไฟที่มีราคาแพง จนกระทั่งสุดท้ายเพิ่งบังคับใช้ได้จริงในปี 2565 แต่กลับไม่มีผลย้อนหลัง ซึ่งหมายความว่าใช้บังคับได้เฉพาะกับรถที่จดทะเบียนใหม่ หรือ มีการปรับปรุงตัวถังใหม่ในปี 2565 เท่านั้น “รถคันที่เกิดเหตุก็เป็นหนึ่งในกรณี ที่ไม่เข้าเงื่อนไขของประกาศฉบับนี้ เนื่องจากมีการจดเบียนใหม่ในปี 2561”

    ดร.สุเมธ ระบุว่าปัจจุบันรถทัศนาจรในกลุ่มมาตรฐาน 1 ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับรถคันที่เกิดเหตุ มีจำนวน 5,896 คัน และรถมาตรฐาน 4 หรือรถ 2 ชั้น มีจำนวน 4,972 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในจำนวนทั้งหมดกว่า 1 หมื่นคัน มีจำนวนเพียง 5% เท่านั้น ที่ผ่านมาตรฐานด้านการลุกไหม้ และอนุมานได้ว่าส่วนที่เหลืออีก 95% ที่เป็นรถจดทะเบียนก่อนประกาศดังกล่าวบังคับใช้ ยังไม่ถูกกำหนดให้มีมาตรฐานนี้ ขณะที่ในต่างประเทศเวลากำหนดมาตรฐานในเรื่องเหล่านี้ จะให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังด้วย และต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี

    “คาดว่ามีรถที่ไม่ผ่านหรือไม่ได้มาตรฐานใหม่ ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดเป็นหมื่นคัน แสดงให้เห็นถึงขนาดของปัญหาที่วิ่งอยู่บนท้องถนนตอนนี้ เสมือนกับเป็นระเบิดเวลาที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุขึ้นอีกเมื่อไหร่ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบก ควรติดตามตรวจสอบรถในกลุ่มนี้ ที่ยังวิ่งอยู่ในระบบ เช่น ด้านมาตรฐานทนไฟ การชนด้านหน้า สภาพรถเป็นอย่างไร ติดก๊าซหรือไม่ ฯลฯ โดยเร่งกำหนดมาตรการอย่างเข้มข้นในรถกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงก่อน”

    จี้ ขบ.ตรวจเข้มรถเสี่ยงสูง – เสนอรัฐจัดงบฯหนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ
    ดร.สุเมธ เน้นย้ำว่าเหตุที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ของมาตรฐานความปลอดภัยของรถทัศนาจร ซึ่งความเสี่ยงนี้กระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชน โจทย์ใหญ่ของรัฐคือจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงให้รถเหล่านี้มีมาตรฐานดีขึ้นได้อย่างไร ทั้งการเปลี่ยนวัสดุไวไฟ เช่น เบาะที่นั่ง ม่าน พรม ให้เป็นไปตามมาตรฐาน UNECE ซึ่งคือการใช้วัสดุที่ทนไฟได้ในระดับหนึ่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟลุกไหม้จะไม่เร็วและแรง สามารถช่วยซื้อเวลาให้ผู้โดยสารหนีออกภายนอกตัวรถได้
    “ภาครัฐอาจจะต้องเข้ามาร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานให้ดีขึ้น โดยสร้างแรงจูงใจต่าง ๆ เช่น การให้เงินช่วยเหลือโดยตรงไปยังผู้ประกอบการ หรือ อาจมีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทุนในการปรับปรุงมาตรฐานรถ”

    สำหรับกรณีระยะเวลาการใช้งานของรถคันเกิดเหตุ ที่พบว่ามีการจดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2513 นั้น ดร.สุเมธ กล่าวว่า องค์ประกอบหลักของรถจะมี 2 ส่วน คือ
    ส่วนที่ 1 : โครงหลัก หรือที่เรียกว่า “แชสซี” ที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของรถ ซึ่งอยู่ด้านใต้ตัวรถติดกับโครงล้อ ซึ่งปกติรถขนาดใหญ่จะจดทะเบียนครั้งแรกด้วยแชสซี ซึ่งส่วนนี้มีอายุการใช้งาน 70-80 ปี
    ส่วนที่ 2 : ตัวถังรถ ประกอบไปด้วย หลังคา ประตู เบาะที่นั่ง โดยตัวถังรถมีอายุการใช้งาน 8-10 ปีเท่านั้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นระยะ
    อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะปรับปรุงตัวถังรถหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเป็นหลักว่าต้องการเปลี่ยนหรือไม่ เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีมาตรการกำหนดอายุรถ หรือระยะเวลาการปรับปรุงสภาพรถ มีแต่การตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยกรมการขนส่งทางบก 2 ครั้งต่อปี

    “ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง จะมีการปรับปรุงความเสี่ยงเหล่านี้อย่างไร การตรวจสอบมีความเข้มงวดมากน้อยขนาดไหน ตรงนี้ล้วนเป็นประเด็น เพราะมาตรฐานการติดตั้ง ยังเป็นสิ่งที่มีความท้าทายในการตรวจสอบอยู่ หากการติดตั้งทำโดยช่างผู้ชำนาญการก็จะได้มาตรฐานสูง แต่ถ้าติดตั้งโดยไม่รัดกุมมากนัก ก็จะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ประกายไฟ ได้” ดร.สุเมธ ระบุ

    ยกระดับทัศนศึกษาปลอดภัย ซักซ้อม – วางแผน – ลงรายละเอียด รับมือเหตุไม่คาดคิด

    ด้าน นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถึงเวลาที่กระทรวงศึกษาธิการ ต้องทบทวนเชิงระบบ เพื่อสร้างแนวทางการไปทัศนศึกษาที่ปลอดภัย โดยปัจจุบันการไปทัศนศึกษาของเด็กมีอยู่ 2 รูปแบบ 1. ไปเช้า – เย็นกลับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการทัศนศึกษาในช่วงปิดเทอมหนึ่ง ประมาณเดือนตุลาคม กับ 2. ทัศนศึกษาแบบพักค้างคืนจะอยู่ในช่วงเทอมสอง ซึ่งจะมีการเดินทางช่วงกลางคืน มีการใช้รถบัสสองชั้น การเกิดอุบัติเหตุจึงมักจะเกิดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม

    นพ.ธนะพงศ์ กล่าวว่า คณะผู้จัดกิจกรรมไปทัศนศึกษา ต้องวางแผนโดยการลงรายละเอียด ทั้งการเตรียมครูประจำรถกี่คนต่อจำนวนเด็ก ยิ่งเป็นเด็กเล็กยิ่งต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เช่น อาจจะต้องเป็นครูหนึ่งคนต่อ 10 คน เป็นต้น หรือหากเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ หรือเกิดเพลิงไหม้ คุณครูก็ต้องรู้จักการใช้ถังดับเพลิง และถ้าจำเป็นต้องอพยพ คุณครูจะต้องวางแผนอพยพออกทางไหน ประตูอยู่ตรงจุดไหน เป็นต้น

    เสนอยกเลิกรถสองชั้นเด็ดขาด – เพิ่มวงเงินประกันภัยภาคบังคับ

    นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวถึงข้อเสนอในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยเน้นย้ำการยกเลิกการใช้รถสองชั้นในการรับจ้างแบบไม่ประจำทาง อันเป็นสิ่งที่องค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ ได้มีข้อเสนอเป็นระยะเวลาหลายปี แต่ยังไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง รวมถึงรื้อระบบตรวจสภาพรถบริการขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันตรวจสภาพปีละสองครั้ง แต่ในบางประเทศตรวจทุกไตรมาส ซึ่งจริง ๆ ควรจะดูตามจํานวนการใช้งาน หรือกำหนดเป็นระยะเวลาตายตัวเพียงอย่างเดียว

    นอกจากนี้ เสนอให้ขยายวงเงินประกันภัยภาคบังคับ ของรถโดยสารแบบไม่ประจำทาง โดยเพิ่มวงเงินประกันเป็น 30 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันการทำประกันภัยรถภาคบังคับตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 กำหนดความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน แต่มีข้อกำหนดวงเงินเฉลี่ยจ่ายจากวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง ซึ่งไม่ครอบคลุมความเสียหายเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

    “ความสูญเสียที่เกิดขึ้นต้องนำไปสู่การพัฒนากฎ ระเบียบ มาตรการต่าง ๆ และวิธีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรถโดยสาร” เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าว

    จากอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ สู่ปัญหา “รถโรงเรียนไทยไม่ปลอดภัย”

    ความไม่ปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียนไทย ไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง และเปรียบเทียบมาตรฐานความปลอดภัยของไทยกับต่างประเทศ โดยล่าสุดในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูล รถรับส่งนักเรียนในสหรัฐ มีการควบคุมความปลอดภัยมากกว่ารถปกติถึง 70 เท่า ขณะที่ของญี่ปุ่นกรณีรถบัสทัศนศึกษา นอกจากการตรวจสอบมาตรฐานตัวรถที่เข้มงวด ยังมีการติดตั้ง GPS ควบคุมความเร็วในการขับขี่อีกด้วย

    สำหรับประเทศไทย หากย้อนกลับไปที่ข้อมูลของ ศวปถ. และสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งระบุในคู่มือการจัดระบบรถโรงเรียนให้ปลอดภัยและเป็นธรรม พบว่าระหว่างปี 2562 – 2564 เกิดอุบัติเหตุกับรถโรงเรียนมากถึง 38 ครั้ง มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 431 ราย

    จากการสํารวจข้อมูลรถโรงเรียนทุกภูมิภาค ได้สะท้อนภาพปัญหาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง 3 ปมปัญหาใหญ่ที่รอเวลาเกิดเหตุ ได้แก่

    สภาพรถที่ไม่ได้มาตรฐาน : ดัดแปลงรถ ไม่มั่นคงแข็งแรง รวมถึงขาดอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ควรมี เช่น ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง เป็นต้น

    ผู้ขับประมาทไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร : ใช้ประสบการณ์ความเคยชินขับเร็วเสี่ยงอันตราย ขาดความรู้ความเข้าใจบทบาทการขับรถส่งนักเรียน

    ขาดระบบจัดการรถที่ดี : ขาดระบบกำกับควบคุมผู้ขับขี่ รวมถึงกลไกสนับสนุนเพื่อให้เกิดระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพ

    แม้การเพิ่มมาตรการและความเข้มงวดภายหลังเกิดเหตุ จะหนีไม่พ้นคำพูดที่ว่า “วัวหายล้อมคอก” แต่ในบริบทของประเทศไทย เมื่อเกิดบทเรียนขึ้นแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกันล้อมคอกไม่ให้เกิดเหตุสลด เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

    ที่มา https://thaipublica.org/2024/10/tdri-reveals-95-of-non-regular-taxis-are-ticking-time-bombs-on-thai-roads/

    #Thaitimes
    ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย แนะรัฐตรวจเข้มกลุ่มรถที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมจัดงบฯ – สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ เหตุการณ์รถบัสนักเรียนไฟไหม้ ซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สะท้อนความล้มเหลวในการป้องกัน และควบคุมการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนไทย ตอกย้ำสมญานามประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากการจราจรมากที่สุด สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และครองแชมป์อันดับ 1 ในอาเซียน อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่เพียงชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยง ทั้งในด้านพฤติกรรมการขับขี่ ความรู้ในการเผชิญเหตุฉุกเฉิน ยังได้นำไปสู่การเปิดโปงข้อบกพร่องของ “ระบบตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย” โดยเฉพาะรถทัศนาจร หรือ “รถรับจ้างไม่ประจำทาง” ที่วิ่งให้บริการขวักไขว่ อันเป็นภาพคุ้นชินตาของคนไทย ‘ทีดีอาร์ไอ’ เผยมีรถรับจ้างไม่ประจำทางเพียง 5% ผ่าน “มาตรฐานลุกไหม้” ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัย ด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า แม้ว่ากรมการขนส่งทางบก จะมีความพยายามในการปรับปรุงมาตรฐานรถโดยสารขนาดใหญ่ในหลายประเด็น รวมถึงมาตรฐานด้านการลุกไหม้มาตั้งแต่ปี 2559 โดยออกประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่องกำหนดคุณสมบัติด้านการลุกไหม้การลามไฟของวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในรถโดยสาร แต่ปรากฎว่าประกาศดังกล่าวถูกเลื่อนการบังคับใช้อยู่เรื่อย ๆ ด้วยเหตุผลเพราะผู้ประกอบการ ไม่มีความพร้อมในการแบกรับต้นทุน จากการเปลี่ยนไปใช้วัสดุกันไฟที่มีราคาแพง จนกระทั่งสุดท้ายเพิ่งบังคับใช้ได้จริงในปี 2565 แต่กลับไม่มีผลย้อนหลัง ซึ่งหมายความว่าใช้บังคับได้เฉพาะกับรถที่จดทะเบียนใหม่ หรือ มีการปรับปรุงตัวถังใหม่ในปี 2565 เท่านั้น “รถคันที่เกิดเหตุก็เป็นหนึ่งในกรณี ที่ไม่เข้าเงื่อนไขของประกาศฉบับนี้ เนื่องจากมีการจดเบียนใหม่ในปี 2561” ดร.สุเมธ ระบุว่าปัจจุบันรถทัศนาจรในกลุ่มมาตรฐาน 1 ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับรถคันที่เกิดเหตุ มีจำนวน 5,896 คัน และรถมาตรฐาน 4 หรือรถ 2 ชั้น มีจำนวน 4,972 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าในจำนวนทั้งหมดกว่า 1 หมื่นคัน มีจำนวนเพียง 5% เท่านั้น ที่ผ่านมาตรฐานด้านการลุกไหม้ และอนุมานได้ว่าส่วนที่เหลืออีก 95% ที่เป็นรถจดทะเบียนก่อนประกาศดังกล่าวบังคับใช้ ยังไม่ถูกกำหนดให้มีมาตรฐานนี้ ขณะที่ในต่างประเทศเวลากำหนดมาตรฐานในเรื่องเหล่านี้ จะให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังด้วย และต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี “คาดว่ามีรถที่ไม่ผ่านหรือไม่ได้มาตรฐานใหม่ ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดเป็นหมื่นคัน แสดงให้เห็นถึงขนาดของปัญหาที่วิ่งอยู่บนท้องถนนตอนนี้ เสมือนกับเป็นระเบิดเวลาที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุขึ้นอีกเมื่อไหร่ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบก ควรติดตามตรวจสอบรถในกลุ่มนี้ ที่ยังวิ่งอยู่ในระบบ เช่น ด้านมาตรฐานทนไฟ การชนด้านหน้า สภาพรถเป็นอย่างไร ติดก๊าซหรือไม่ ฯลฯ โดยเร่งกำหนดมาตรการอย่างเข้มข้นในรถกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงก่อน” จี้ ขบ.ตรวจเข้มรถเสี่ยงสูง – เสนอรัฐจัดงบฯหนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ ดร.สุเมธ เน้นย้ำว่าเหตุที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ของมาตรฐานความปลอดภัยของรถทัศนาจร ซึ่งความเสี่ยงนี้กระทบต่อสวัสดิภาพของประชาชน โจทย์ใหญ่ของรัฐคือจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงให้รถเหล่านี้มีมาตรฐานดีขึ้นได้อย่างไร ทั้งการเปลี่ยนวัสดุไวไฟ เช่น เบาะที่นั่ง ม่าน พรม ให้เป็นไปตามมาตรฐาน UNECE ซึ่งคือการใช้วัสดุที่ทนไฟได้ในระดับหนึ่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟลุกไหม้จะไม่เร็วและแรง สามารถช่วยซื้อเวลาให้ผู้โดยสารหนีออกภายนอกตัวรถได้ “ภาครัฐอาจจะต้องเข้ามาร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานให้ดีขึ้น โดยสร้างแรงจูงใจต่าง ๆ เช่น การให้เงินช่วยเหลือโดยตรงไปยังผู้ประกอบการ หรือ อาจมีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทุนในการปรับปรุงมาตรฐานรถ” สำหรับกรณีระยะเวลาการใช้งานของรถคันเกิดเหตุ ที่พบว่ามีการจดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2513 นั้น ดร.สุเมธ กล่าวว่า องค์ประกอบหลักของรถจะมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 : โครงหลัก หรือที่เรียกว่า “แชสซี” ที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของรถ ซึ่งอยู่ด้านใต้ตัวรถติดกับโครงล้อ ซึ่งปกติรถขนาดใหญ่จะจดทะเบียนครั้งแรกด้วยแชสซี ซึ่งส่วนนี้มีอายุการใช้งาน 70-80 ปี ส่วนที่ 2 : ตัวถังรถ ประกอบไปด้วย หลังคา ประตู เบาะที่นั่ง โดยตัวถังรถมีอายุการใช้งาน 8-10 ปีเท่านั้น จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะปรับปรุงตัวถังรถหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเป็นหลักว่าต้องการเปลี่ยนหรือไม่ เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีมาตรการกำหนดอายุรถ หรือระยะเวลาการปรับปรุงสภาพรถ มีแต่การตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยกรมการขนส่งทางบก 2 ครั้งต่อปี “ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง จะมีการปรับปรุงความเสี่ยงเหล่านี้อย่างไร การตรวจสอบมีความเข้มงวดมากน้อยขนาดไหน ตรงนี้ล้วนเป็นประเด็น เพราะมาตรฐานการติดตั้ง ยังเป็นสิ่งที่มีความท้าทายในการตรวจสอบอยู่ หากการติดตั้งทำโดยช่างผู้ชำนาญการก็จะได้มาตรฐานสูง แต่ถ้าติดตั้งโดยไม่รัดกุมมากนัก ก็จะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ประกายไฟ ได้” ดร.สุเมธ ระบุ ยกระดับทัศนศึกษาปลอดภัย ซักซ้อม – วางแผน – ลงรายละเอียด รับมือเหตุไม่คาดคิด ด้าน นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถึงเวลาที่กระทรวงศึกษาธิการ ต้องทบทวนเชิงระบบ เพื่อสร้างแนวทางการไปทัศนศึกษาที่ปลอดภัย โดยปัจจุบันการไปทัศนศึกษาของเด็กมีอยู่ 2 รูปแบบ 1. ไปเช้า – เย็นกลับ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการทัศนศึกษาในช่วงปิดเทอมหนึ่ง ประมาณเดือนตุลาคม กับ 2. ทัศนศึกษาแบบพักค้างคืนจะอยู่ในช่วงเทอมสอง ซึ่งจะมีการเดินทางช่วงกลางคืน มีการใช้รถบัสสองชั้น การเกิดอุบัติเหตุจึงมักจะเกิดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม นพ.ธนะพงศ์ กล่าวว่า คณะผู้จัดกิจกรรมไปทัศนศึกษา ต้องวางแผนโดยการลงรายละเอียด ทั้งการเตรียมครูประจำรถกี่คนต่อจำนวนเด็ก ยิ่งเป็นเด็กเล็กยิ่งต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เช่น อาจจะต้องเป็นครูหนึ่งคนต่อ 10 คน เป็นต้น หรือหากเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ หรือเกิดเพลิงไหม้ คุณครูก็ต้องรู้จักการใช้ถังดับเพลิง และถ้าจำเป็นต้องอพยพ คุณครูจะต้องวางแผนอพยพออกทางไหน ประตูอยู่ตรงจุดไหน เป็นต้น เสนอยกเลิกรถสองชั้นเด็ดขาด – เพิ่มวงเงินประกันภัยภาคบังคับ นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวถึงข้อเสนอในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ โดยเน้นย้ำการยกเลิกการใช้รถสองชั้นในการรับจ้างแบบไม่ประจำทาง อันเป็นสิ่งที่องค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศ ได้มีข้อเสนอเป็นระยะเวลาหลายปี แต่ยังไม่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง รวมถึงรื้อระบบตรวจสภาพรถบริการขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันตรวจสภาพปีละสองครั้ง แต่ในบางประเทศตรวจทุกไตรมาส ซึ่งจริง ๆ ควรจะดูตามจํานวนการใช้งาน หรือกำหนดเป็นระยะเวลาตายตัวเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ เสนอให้ขยายวงเงินประกันภัยภาคบังคับ ของรถโดยสารแบบไม่ประจำทาง โดยเพิ่มวงเงินประกันเป็น 30 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันการทำประกันภัยรถภาคบังคับตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 กำหนดความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน แต่มีข้อกำหนดวงเงินเฉลี่ยจ่ายจากวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อครั้ง ซึ่งไม่ครอบคลุมความเสียหายเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก “ความสูญเสียที่เกิดขึ้นต้องนำไปสู่การพัฒนากฎ ระเบียบ มาตรการต่าง ๆ และวิธีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรถโดยสาร” เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าว จากอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ สู่ปัญหา “รถโรงเรียนไทยไม่ปลอดภัย” ความไม่ปลอดภัยของรถรับส่งนักเรียนไทย ไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง และเปรียบเทียบมาตรฐานความปลอดภัยของไทยกับต่างประเทศ โดยล่าสุดในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ข้อมูล รถรับส่งนักเรียนในสหรัฐ มีการควบคุมความปลอดภัยมากกว่ารถปกติถึง 70 เท่า ขณะที่ของญี่ปุ่นกรณีรถบัสทัศนศึกษา นอกจากการตรวจสอบมาตรฐานตัวรถที่เข้มงวด ยังมีการติดตั้ง GPS ควบคุมความเร็วในการขับขี่อีกด้วย สำหรับประเทศไทย หากย้อนกลับไปที่ข้อมูลของ ศวปถ. และสภาองค์กรของผู้บริโภค ซึ่งระบุในคู่มือการจัดระบบรถโรงเรียนให้ปลอดภัยและเป็นธรรม พบว่าระหว่างปี 2562 – 2564 เกิดอุบัติเหตุกับรถโรงเรียนมากถึง 38 ครั้ง มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บรุนแรงถึงขึ้นเสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 431 ราย จากการสํารวจข้อมูลรถโรงเรียนทุกภูมิภาค ได้สะท้อนภาพปัญหาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง 3 ปมปัญหาใหญ่ที่รอเวลาเกิดเหตุ ได้แก่ สภาพรถที่ไม่ได้มาตรฐาน : ดัดแปลงรถ ไม่มั่นคงแข็งแรง รวมถึงขาดอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ควรมี เช่น ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง เป็นต้น ผู้ขับประมาทไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร : ใช้ประสบการณ์ความเคยชินขับเร็วเสี่ยงอันตราย ขาดความรู้ความเข้าใจบทบาทการขับรถส่งนักเรียน ขาดระบบจัดการรถที่ดี : ขาดระบบกำกับควบคุมผู้ขับขี่ รวมถึงกลไกสนับสนุนเพื่อให้เกิดระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพ แม้การเพิ่มมาตรการและความเข้มงวดภายหลังเกิดเหตุ จะหนีไม่พ้นคำพูดที่ว่า “วัวหายล้อมคอก” แต่ในบริบทของประเทศไทย เมื่อเกิดบทเรียนขึ้นแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบทุกภาคส่วน ต้องร่วมมือกันล้อมคอกไม่ให้เกิดเหตุสลด เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต ที่มา https://thaipublica.org/2024/10/tdri-reveals-95-of-non-regular-taxis-are-ticking-time-bombs-on-thai-roads/ #Thaitimes
    THAIPUBLICA.ORG
    ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย
    ความเสื่อมสร้างความเสี่ยง! ‘ทีดีอาร์ไอ’ ชี้ 95% รถรับจ้างไม่ประจำทาง คือ ระเบิดเวลาบนท้องถนนไทย แนะรัฐตรวจเข้มกลุ่มรถที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมจัดงบฯ - สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หนุนผู้ประกอบการใช้วัสดุทนไฟ
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 754 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sep. 13, 2024

    วันนี้เห็นคลิปทหารทุกหมู่เหล่า หน่วยกู้ภัย มูลนิธิต่างๆ และจิตอาสา ต่างระดมกำลังกัน ช่วยชาวบ้านออกจากพื้นที่อันตราย ส่งข้าว ส่งน้ำ และของประทังชีวิตให้ถึงมือทั้งทางเรือ และทางอากาศ
    https://youtu.be/-jaZXpfHsgo?si=YFcFCL5e6vndU-XQ

    มันช่างต่างกับคลิปบ่ายเบี่ยงของนายกคนลูก และออกไปสร้างภาพช่วยผู้ประสบภัยอีกครั้ง หลังจากนายกคนพ่อไปถ่ายรูปสร้างภาพที่สุโขทัยตอนน้ำสูงเท่าพื้นรองเท้า และจัดฉากให้คนนั่งในเรือยกมือไหว้มันซะด้วย ล่อลวงด้วยนโยบายแจกเงินสกุล digital หมื่นนึง ซึ่งบัดนี้กลายเป็นแจกเงินสดที่เลื่อนวันจ่ายออกไปเรื่อยๆ...มันช่างน่าทุเรศใจเหลือเกิน

    คิดย้อนไปถึงตอนก่อนเราจะกลับจาก New York ช่วงพฤศจิกายน 2022 ตอนนั้น Powerball Lotto คือ lottery game ของรัฐที่เข้าร่วมทั้งหมด 45 รัฐ รางวัลที่ฮือฮามากเมื่อก่อน covid คือเกือบ $700 ล้านเหรียญ ถ้าไม่มีใครถูก รางวัลก็จะทบไปเรื่อยๆ จน Jackpot แตกไปเมื่อวันที่ 7 พย. 2022 คือ $2040 ล้านเหรียญ ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมา และที่สำคัญ Jackpot winner มีคนเดียวด้วย

    ติ๊ต่างว่าเราคือคนๆนั้นนะ และเราเลือกที่จะไม่รับเบี้ยหัวแตก 30 ปี แต่เราเลือกเอาก้อนเดียวเลย เงินรางวัลเราก็จะได้ครึ่งเดียว คือเหลือ $1020 ล้านเหรียญ จากนั้นก่อนจะอุ้มเงินหนีกลับบ้าน คุณจะโดนหัก state & federal tax อีก 37% ก็จะเหลือกลมๆประมาณ $640 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ตอนนั้น ฿35/$1 ก็คือ ฿22,400 ล้านบาทไทย...ก็เอาละวะ

    ตอนกลับมาไทย เราชอบชวน taxi และคนในพื้นที่ที่ภูเก็ตคุย เราก็จะเล่าเรื่องหวยฝรั่งรางวัลใหญ่ให้พี่ๆ taxi และหลายๆคนฟัง แล้วเราก็นึกสนุกขึ้นมา จึงตั้งคำถามกับ taxi และคนที่ภูเก็ตอีกหลายต่อหลายคนว่า...

    "ถ้าหนูมีเงิน $640 ล้านเหรียญ และในเมืองไทยมีคนอยู่ในประเทศ 70 ล้านคนนะ อ้ะๆ ให้ 80 ล้านคนเลย (เผื่อพม่า ลาว เขมรจะวิ่งเข้ามาด้วย) หนูแจกตังให้ฟรีๆคนละ $1 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยคือคนละ ฿35 ล้านบาท) หนูก็จะเหลือตังอีก $560 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยก็เหลืออีกตั้ง ฿19,600 ล้านบาทไทย) แจกแบบนับจำนวนหัว ไม่ดูอายุกันเลยนะ คุณยายจะตายพรุ่งนี้ก็แจก เด็กเกิดใหม่อายุ 1 วันก็ได้นะ แต่หนูไม่แจกคนที่ติดคุกอยู่ และพระสงฆ์ค่ะ...พี่ว่ามันจะดีมั้ยคะ คิดดีๆก่อนตอบนะ ไม่ต้องรีบ ถามคำถามก่อนตอบก็ได้นะ"

    80% เป็นการตอบแบบไม่หยุดคิดก่อนเลยซักวินาทีเดียว
    "ดีสิครับ" "ดีเด่ะพี่" "โห ผมให้เลขบัญชีคนทั้งครอบครัวพี่เดี๋ยวนี้เลย"
    15% มีการยิงคำถามบ้าง แล้วก็ตอบว่า "ดีครับ ควรแจกครับ"
    มีแค่ 5% ที่คิด-ถาม-คิดอีกที จึงตอบว่า
    "ประเทศเละแน่ๆครับ" "ผมว่าพี่อาจจะโดนยิงตายภายใน 3 วัน" "ผมว่าน่าจะมีหลายคนที่ไม่เคยมี และเขาสามารถทำให้เงินหมดได้ภายในเวลาแป๊บเดียวนะ"

    คราวนี้ตาเราถามพวก 80% แรกกลับบ้าง
    "คำถามแรก ทุกคนมีหนี้นอกระบบพะรุงพะรังถูกมั้ยคะ มีใครคิดจะใช้หนี้ให้หมดก่อนมั้ย หรือคิดว่า ก็เจ้าหนี้ ก็ได้ ฿35 ล้านบาทแล้วไง งั้นก็ไม่ต้องใช้คืนก็ได้
    แล้วหนูบอกว่าหนูแจกทุกคนเลยนะ นักโทษฆ่าข่มขืนเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาหนูก็แจกนะ คนที่แอบทำธุรกิจค้ายาค้ามนุษย์ คนบ้าข้างถนน หนูก็แจกนะคะ ถ้าผัวเมียชาวนามีลูก 8 คน ครอบครัวนั้นจะได้เงิน ฿350 ล้านบาทนะคะ
    คำถามต่อไปคือ พี่ว่าชาวนาจะยังปลูกข้าวอยู่มั้ย พี่ว่าพระจะสึกออกมารับเงินกันกี่รูป พี่ว่าคุณลุงคุณป้าที่ทำร้านอาหารอยู่ แล้วอีกวันเขามีเงินรวมกัน ฿70 ล้านบาท เขาจะเปิดร้านต่อมั้ย พี่เข้าไปร้าน 7-11 แล้วจะมีใครทำงานมั้ย พี่ว่าข้าราชการ ครู ตำรวจ ทหาร จะยังอยากรับใช้ประชาชนแบบเช้าชามเย็นชามเพื่อรอเงินบำนาญอยู่มั้ย พี่ว่ารปภ. คนส่ง Grab คนรับจ้างตัดหญ้า คนรับจ้างกรีดยาง คณะละครร้องรำตามงานวัด จะยังอยากทำงานต่อมั้ย งานวัดจะมีอีกมั้ยเพราะคนทำชิงช้าสวรรค์ ขายสายไหม ซุ้มปาเป้า อาจจะไปเที่ยวยุโรปกันหมดแล้ว ไม่มีใครทำงานแล้ว คนต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทย จะยังได้รับรอยยิ้มสยาม และการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนไทยอยู่อีกมั้ย ทำไมต้องมานั่งนวดฝรั่งริมหาดร้อนๆด้วยเนอะ ชาวประมงใส่นาฬิกา 3 ล้านบาทได้เหมือนนักการเมืองแล้วนะ แถมเหลือตังอีกตั้งแยะ เขาจะยังออกไปจับปลามาขายมั้ย...ที่แย่ที่สุดคือ พี่ว่าคนในครอบครัวจะฆ่ากันเองเพราะโลภอยากได้เงินพี่น้องพ่อแม่หรือผัวเมียตัวเองมั้ย
    ...ตกลงพี่ว่าหนูยังควรแจกตังอยู่มั้ยคะ"
    นี่คือความคิดโง่ๆทุเรศๆของเราเล่นๆ แต่มีคนสนับสนุนความคิดบ้องตื้นของเราถึง 80% เพียงเพราะอยากได้เงินก้อนโต

    เวลาผ่านไป 2 ปี มีนักการเมืองเอาความคิดคล้ายๆกัน แต่จะไปกู้เงินมาหยิบยื่นให้ประชาชน แต่ให้แบบเอาไปทำอะไรก็ไม่ได้ ทุกคนเป็นหนี้ท่วมหัวชั่วลูกชั่วหลานหนักกว่าเดิม แต่คนส่วนนึงก็ยังสนับสนุนความคิดนี้อย่างแข็งขัน เพราะอยากได้เงินแค่หมื่นเดียว

    ตอนนี้ผู้ประสบภัยพิบัติมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีนักการเมืองแวะมาดูๆ ถ่ายรูปตอนมอบถุงยังชีพ 2-3 แชะ แล้วหนูน้อยก็บอกว่า "ตอนนี้น้ำแรงมาก เรือท้องแบนเข้าไปไม่ได้ เมื่อน้ำลดลง พวกเราพร้อมจะเข้าช่วยทันที" อ๋ออออ เรือท้องท้องแบนเข้าไปสู้กับน้ำเชี่ยวๆได้แหละเนอะ น้ำไม่ค่อยแรงหรอก ไว้เรือท้องแบนเข้าได้ แล้วค่อยไปก็ได้ คนไทยอดข้าวอดน้ำ 4-5 วันได้ อึฉี่บนหลังคาบ้านก็ได้ เก่งจะตาย ไม่รีบๆ
    https://x.com/Kawaaii13/status/1834174006418964973?t=Qgom67KE-O0gYasaeateSA&s=19

    ลองเข้าไปดู tiktok ของ @tiktok.thailand89 นะคะ ยอดเยี่ยมมากๆเลยค่ะ ขับ jet ski เก่งมากๆทุกคนเลยค่ะ
    https://www.tiktok.com/@tiktok.thailand89?_t=8pghh09pg0q&_r=1

    นายกหนูน้อยคะ นี่ไงคะ แพร่ลดแล้ว สุโขทัยลดแล้ว เมืองพังเละเทะ ที่ว่าพร้อมจะเข้าช่วยทันที ว้า..แย่จัง ตอนนี้ต้องไปช่วยเชียงรายก่อน ไหนจะต้องแอบเร่งทำเรื่องคาสิโนให้ผ่าน ช่วงที่กำลังอลหม่านเรื่องน้ำท่วมนี่แหละ แถมทีม IO ก็ค่อยๆทยอยลงคลิปเสียงคนโน้นคนนี้ ปล่อยข่าวดาราไทยที่โดนดาราชาติอื่นๆหลอก ฯลฯ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้คนด่านายกหนูน้อยเยอะ มุขมันเก่าไปแล้วค่ะ รายการเจาะลึกทั่วไทย เอาคลิปลุงมาสร้างกระแส เอาจริงๆ ลุงหยุมแกก็อยากเป็นใหญ่ ใครๆก็รู้มาตั้งนานแล้วป่ะ คุณมดดำ ก็สร้างกระแส acting ทำเป็นโกรธดาราเกาหลีมากมาย ได้ตังกันไปเท่าไหร่จ๊ะ

    สังเกตุมั้ย ครอบครัวนี้ขึ้นมามีอำนาจทีไร น้ำท่วมใหญ่ทุกที โดนทั้งอา ทั้งหลานเลย มันคือสัญญาณอะไรเอ่ย คล้ายกับธรรมชาติไม่พอใจพฤติกรรมของมนุษย์ จึงส่งภัยพิบัติมาช่วยเบิกเนตรให้คนตาสว่าง งั้นเราขอถามคำถามตอนนี้ว่า

    ติ๊ต่างนะคะ ว่าตอนนี้มีเงินหมื่นบาทลอยเข้า app เป๋าตังเรียบร้อยแล้ว...แต่ไปซื้อของก็ไม่ได้ เพราะน้ำท่วมร้านค้ามิดหลังคาเลย ได้ข้าวสารมา แต่ไม่มีไฟฟ้าให้หุงข้าว จะหุงด้วยฟืน ฟืนก็เปียกน้ำหมด เหลือแต่ตัวกับเงินหมื่นบาทใน app

    ก็น่าจะเป็นที่ประจักษ์ ของวิญญูชนชัดเจนแล้วว่า การเอาเงินมาแจกให้คน ไม่ว่าจะมากหรือน้อย มันไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องค่ะ หากแต่การให้ความรู้แก่ผู้ใฝ่รู้ที่มีความพยายาม ความอดทน และความมุ่งมั่นต่างหาก ที่จะเป็นทางออกที่แท้จริงให้กับประชาชนและประเทศชาติ

    มีชายท่านนึง ท่านเคยศึกษา และทดลองทำอะไร หลายสิ่งหลายอย่าง มีโครงการมากมายที่ได้ผลสำเร็จ และนำเอาความรู้เหล่านั้นมาเผยแพร่ให้ฟรีๆ และยังเป็นศาสตร์ความรู้ที่นำมาใช้ต่อไปได้ไม่จำกัดกาล แต่คนส่วนใหญ่ กลับเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่าต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลมันนานเกินไป จนภัยมาถึงตัวในวันนี้

    และนี่อาจจะเป็นเหตุผลนึง ที่ทำให้คนที่มีเงินเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน ยังเก็บเงินไว้กับตัว เพราะเขาอาจจะต้องการให้สังคมยังมีความเหลื่อมล้ำมากอยู่ตลอดไป ไม่งั้นจะไปหาคนรองมือรองตีนได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะหาลูกหนี้ได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะไปหาเหยื่อที่เห็นเงินตาโตแล้วร้อยไว้ใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ

    ปล.
    ภูเก็ตก็หนักอยู่ เตรียมรับอีกลูกวันที่ 17 จ้ะ
    ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ
    https://www.facebook.com/share/v/YGS8GsJ3YXbtrxjK/?mibextid=D5vuiz
    Sep. 13, 2024 วันนี้เห็นคลิปทหารทุกหมู่เหล่า หน่วยกู้ภัย มูลนิธิต่างๆ และจิตอาสา ต่างระดมกำลังกัน ช่วยชาวบ้านออกจากพื้นที่อันตราย ส่งข้าว ส่งน้ำ และของประทังชีวิตให้ถึงมือทั้งทางเรือ และทางอากาศ https://youtu.be/-jaZXpfHsgo?si=YFcFCL5e6vndU-XQ มันช่างต่างกับคลิปบ่ายเบี่ยงของนายกคนลูก และออกไปสร้างภาพช่วยผู้ประสบภัยอีกครั้ง หลังจากนายกคนพ่อไปถ่ายรูปสร้างภาพที่สุโขทัยตอนน้ำสูงเท่าพื้นรองเท้า และจัดฉากให้คนนั่งในเรือยกมือไหว้มันซะด้วย ล่อลวงด้วยนโยบายแจกเงินสกุล digital หมื่นนึง ซึ่งบัดนี้กลายเป็นแจกเงินสดที่เลื่อนวันจ่ายออกไปเรื่อยๆ...มันช่างน่าทุเรศใจเหลือเกิน คิดย้อนไปถึงตอนก่อนเราจะกลับจาก New York ช่วงพฤศจิกายน 2022 ตอนนั้น Powerball Lotto คือ lottery game ของรัฐที่เข้าร่วมทั้งหมด 45 รัฐ รางวัลที่ฮือฮามากเมื่อก่อน covid คือเกือบ $700 ล้านเหรียญ ถ้าไม่มีใครถูก รางวัลก็จะทบไปเรื่อยๆ จน Jackpot แตกไปเมื่อวันที่ 7 พย. 2022 คือ $2040 ล้านเหรียญ ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมา และที่สำคัญ Jackpot winner มีคนเดียวด้วย ติ๊ต่างว่าเราคือคนๆนั้นนะ และเราเลือกที่จะไม่รับเบี้ยหัวแตก 30 ปี แต่เราเลือกเอาก้อนเดียวเลย เงินรางวัลเราก็จะได้ครึ่งเดียว คือเหลือ $1020 ล้านเหรียญ จากนั้นก่อนจะอุ้มเงินหนีกลับบ้าน คุณจะโดนหัก state & federal tax อีก 37% ก็จะเหลือกลมๆประมาณ $640 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ตอนนั้น ฿35/$1 ก็คือ ฿22,400 ล้านบาทไทย...ก็เอาละวะ ตอนกลับมาไทย เราชอบชวน taxi และคนในพื้นที่ที่ภูเก็ตคุย เราก็จะเล่าเรื่องหวยฝรั่งรางวัลใหญ่ให้พี่ๆ taxi และหลายๆคนฟัง แล้วเราก็นึกสนุกขึ้นมา จึงตั้งคำถามกับ taxi และคนที่ภูเก็ตอีกหลายต่อหลายคนว่า... "ถ้าหนูมีเงิน $640 ล้านเหรียญ และในเมืองไทยมีคนอยู่ในประเทศ 70 ล้านคนนะ อ้ะๆ ให้ 80 ล้านคนเลย (เผื่อพม่า ลาว เขมรจะวิ่งเข้ามาด้วย) หนูแจกตังให้ฟรีๆคนละ $1 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยคือคนละ ฿35 ล้านบาท) หนูก็จะเหลือตังอีก $560 ล้านเหรียญ (เป็นเงินไทยก็เหลืออีกตั้ง ฿19,600 ล้านบาทไทย) แจกแบบนับจำนวนหัว ไม่ดูอายุกันเลยนะ คุณยายจะตายพรุ่งนี้ก็แจก เด็กเกิดใหม่อายุ 1 วันก็ได้นะ แต่หนูไม่แจกคนที่ติดคุกอยู่ และพระสงฆ์ค่ะ...พี่ว่ามันจะดีมั้ยคะ คิดดีๆก่อนตอบนะ ไม่ต้องรีบ ถามคำถามก่อนตอบก็ได้นะ" 80% เป็นการตอบแบบไม่หยุดคิดก่อนเลยซักวินาทีเดียว "ดีสิครับ" "ดีเด่ะพี่" "โห ผมให้เลขบัญชีคนทั้งครอบครัวพี่เดี๋ยวนี้เลย" 15% มีการยิงคำถามบ้าง แล้วก็ตอบว่า "ดีครับ ควรแจกครับ" มีแค่ 5% ที่คิด-ถาม-คิดอีกที จึงตอบว่า "ประเทศเละแน่ๆครับ" "ผมว่าพี่อาจจะโดนยิงตายภายใน 3 วัน" "ผมว่าน่าจะมีหลายคนที่ไม่เคยมี และเขาสามารถทำให้เงินหมดได้ภายในเวลาแป๊บเดียวนะ" คราวนี้ตาเราถามพวก 80% แรกกลับบ้าง "คำถามแรก ทุกคนมีหนี้นอกระบบพะรุงพะรังถูกมั้ยคะ มีใครคิดจะใช้หนี้ให้หมดก่อนมั้ย หรือคิดว่า ก็เจ้าหนี้ ก็ได้ ฿35 ล้านบาทแล้วไง งั้นก็ไม่ต้องใช้คืนก็ได้ แล้วหนูบอกว่าหนูแจกทุกคนเลยนะ นักโทษฆ่าข่มขืนเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาหนูก็แจกนะ คนที่แอบทำธุรกิจค้ายาค้ามนุษย์ คนบ้าข้างถนน หนูก็แจกนะคะ ถ้าผัวเมียชาวนามีลูก 8 คน ครอบครัวนั้นจะได้เงิน ฿350 ล้านบาทนะคะ คำถามต่อไปคือ พี่ว่าชาวนาจะยังปลูกข้าวอยู่มั้ย พี่ว่าพระจะสึกออกมารับเงินกันกี่รูป พี่ว่าคุณลุงคุณป้าที่ทำร้านอาหารอยู่ แล้วอีกวันเขามีเงินรวมกัน ฿70 ล้านบาท เขาจะเปิดร้านต่อมั้ย พี่เข้าไปร้าน 7-11 แล้วจะมีใครทำงานมั้ย พี่ว่าข้าราชการ ครู ตำรวจ ทหาร จะยังอยากรับใช้ประชาชนแบบเช้าชามเย็นชามเพื่อรอเงินบำนาญอยู่มั้ย พี่ว่ารปภ. คนส่ง Grab คนรับจ้างตัดหญ้า คนรับจ้างกรีดยาง คณะละครร้องรำตามงานวัด จะยังอยากทำงานต่อมั้ย งานวัดจะมีอีกมั้ยเพราะคนทำชิงช้าสวรรค์ ขายสายไหม ซุ้มปาเป้า อาจจะไปเที่ยวยุโรปกันหมดแล้ว ไม่มีใครทำงานแล้ว คนต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทย จะยังได้รับรอยยิ้มสยาม และการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนไทยอยู่อีกมั้ย ทำไมต้องมานั่งนวดฝรั่งริมหาดร้อนๆด้วยเนอะ ชาวประมงใส่นาฬิกา 3 ล้านบาทได้เหมือนนักการเมืองแล้วนะ แถมเหลือตังอีกตั้งแยะ เขาจะยังออกไปจับปลามาขายมั้ย...ที่แย่ที่สุดคือ พี่ว่าคนในครอบครัวจะฆ่ากันเองเพราะโลภอยากได้เงินพี่น้องพ่อแม่หรือผัวเมียตัวเองมั้ย ...ตกลงพี่ว่าหนูยังควรแจกตังอยู่มั้ยคะ" นี่คือความคิดโง่ๆทุเรศๆของเราเล่นๆ แต่มีคนสนับสนุนความคิดบ้องตื้นของเราถึง 80% เพียงเพราะอยากได้เงินก้อนโต เวลาผ่านไป 2 ปี มีนักการเมืองเอาความคิดคล้ายๆกัน แต่จะไปกู้เงินมาหยิบยื่นให้ประชาชน แต่ให้แบบเอาไปทำอะไรก็ไม่ได้ ทุกคนเป็นหนี้ท่วมหัวชั่วลูกชั่วหลานหนักกว่าเดิม แต่คนส่วนนึงก็ยังสนับสนุนความคิดนี้อย่างแข็งขัน เพราะอยากได้เงินแค่หมื่นเดียว ตอนนี้ผู้ประสบภัยพิบัติมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีนักการเมืองแวะมาดูๆ ถ่ายรูปตอนมอบถุงยังชีพ 2-3 แชะ แล้วหนูน้อยก็บอกว่า "ตอนนี้น้ำแรงมาก เรือท้องแบนเข้าไปไม่ได้ เมื่อน้ำลดลง พวกเราพร้อมจะเข้าช่วยทันที" อ๋ออออ เรือท้องท้องแบนเข้าไปสู้กับน้ำเชี่ยวๆได้แหละเนอะ น้ำไม่ค่อยแรงหรอก ไว้เรือท้องแบนเข้าได้ แล้วค่อยไปก็ได้ คนไทยอดข้าวอดน้ำ 4-5 วันได้ อึฉี่บนหลังคาบ้านก็ได้ เก่งจะตาย ไม่รีบๆ https://x.com/Kawaaii13/status/1834174006418964973?t=Qgom67KE-O0gYasaeateSA&s=19 ลองเข้าไปดู tiktok ของ @tiktok.thailand89 นะคะ ยอดเยี่ยมมากๆเลยค่ะ ขับ jet ski เก่งมากๆทุกคนเลยค่ะ https://www.tiktok.com/@tiktok.thailand89?_t=8pghh09pg0q&_r=1 นายกหนูน้อยคะ นี่ไงคะ แพร่ลดแล้ว สุโขทัยลดแล้ว เมืองพังเละเทะ ที่ว่าพร้อมจะเข้าช่วยทันที ว้า..แย่จัง ตอนนี้ต้องไปช่วยเชียงรายก่อน ไหนจะต้องแอบเร่งทำเรื่องคาสิโนให้ผ่าน ช่วงที่กำลังอลหม่านเรื่องน้ำท่วมนี่แหละ แถมทีม IO ก็ค่อยๆทยอยลงคลิปเสียงคนโน้นคนนี้ ปล่อยข่าวดาราไทยที่โดนดาราชาติอื่นๆหลอก ฯลฯ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้คนด่านายกหนูน้อยเยอะ มุขมันเก่าไปแล้วค่ะ รายการเจาะลึกทั่วไทย เอาคลิปลุงมาสร้างกระแส เอาจริงๆ ลุงหยุมแกก็อยากเป็นใหญ่ ใครๆก็รู้มาตั้งนานแล้วป่ะ คุณมดดำ ก็สร้างกระแส acting ทำเป็นโกรธดาราเกาหลีมากมาย ได้ตังกันไปเท่าไหร่จ๊ะ สังเกตุมั้ย ครอบครัวนี้ขึ้นมามีอำนาจทีไร น้ำท่วมใหญ่ทุกที โดนทั้งอา ทั้งหลานเลย มันคือสัญญาณอะไรเอ่ย คล้ายกับธรรมชาติไม่พอใจพฤติกรรมของมนุษย์ จึงส่งภัยพิบัติมาช่วยเบิกเนตรให้คนตาสว่าง งั้นเราขอถามคำถามตอนนี้ว่า ติ๊ต่างนะคะ ว่าตอนนี้มีเงินหมื่นบาทลอยเข้า app เป๋าตังเรียบร้อยแล้ว...แต่ไปซื้อของก็ไม่ได้ เพราะน้ำท่วมร้านค้ามิดหลังคาเลย ได้ข้าวสารมา แต่ไม่มีไฟฟ้าให้หุงข้าว จะหุงด้วยฟืน ฟืนก็เปียกน้ำหมด เหลือแต่ตัวกับเงินหมื่นบาทใน app ก็น่าจะเป็นที่ประจักษ์ ของวิญญูชนชัดเจนแล้วว่า การเอาเงินมาแจกให้คน ไม่ว่าจะมากหรือน้อย มันไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องค่ะ หากแต่การให้ความรู้แก่ผู้ใฝ่รู้ที่มีความพยายาม ความอดทน และความมุ่งมั่นต่างหาก ที่จะเป็นทางออกที่แท้จริงให้กับประชาชนและประเทศชาติ มีชายท่านนึง ท่านเคยศึกษา และทดลองทำอะไร หลายสิ่งหลายอย่าง มีโครงการมากมายที่ได้ผลสำเร็จ และนำเอาความรู้เหล่านั้นมาเผยแพร่ให้ฟรีๆ และยังเป็นศาสตร์ความรู้ที่นำมาใช้ต่อไปได้ไม่จำกัดกาล แต่คนส่วนใหญ่ กลับเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เพราะคิดว่าต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลมันนานเกินไป จนภัยมาถึงตัวในวันนี้ และนี่อาจจะเป็นเหตุผลนึง ที่ทำให้คนที่มีเงินเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน ยังเก็บเงินไว้กับตัว เพราะเขาอาจจะต้องการให้สังคมยังมีความเหลื่อมล้ำมากอยู่ตลอดไป ไม่งั้นจะไปหาคนรองมือรองตีนได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะหาลูกหนี้ได้ที่ไหนล่ะ ไม่งั้นจะไปหาเหยื่อที่เห็นเงินตาโตแล้วร้อยไว้ใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ ปล. ภูเก็ตก็หนักอยู่ เตรียมรับอีกลูกวันที่ 17 จ้ะ ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ https://www.facebook.com/share/v/YGS8GsJ3YXbtrxjK/?mibextid=D5vuiz
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 874 มุมมอง 0 รีวิว
  • New Words We Created Because Of Coronavirus

    We’re rounding out 2020, and the coronavirus continues to shape our lives and language. While we once hoped we could toss the year’s coronacoinages out the door, that’s clearly not going to be the case right now: the coronavirus continues to surge to new levels.

    It seems like years (not months) ago that we learned our first COVID-19 terms, like social distancing and flatten the curve. We had to process so much, in so little time; we had to become experts about important differences: epidemic vs. pandemic, quarantine vs. isolation, and respirator vs. ventilators. The conversation continued with contagious vs. infectious and what antibodies do.

    Many of the words we’ve continued to add to our vocabularies address the ongoing nature of our situation. Maybe we long for the Before Times or have embraced cluttercore as we cope. The ups and downs of this life haven’t been easy (it’s a coronacoaster, to be honest), but the new vocabulary has helped us stay safe and informed during these scary times. And what better way to bring some welcome humor and humility to our lives in the bunker than some wordplay?

    Here’s our ongoing roundup of some of the new slang terms born of this unique, unprecedented time in modern life—a time of upheaval that some more jokingly call the coronapocalypse (corona apocalypse) or coronageddon (corona armageddon).


    the Before Times

    Are you walking around in a constant state of nostalgia? Then the term Before Times is for you. This humorous (and yes, dark) take on life pre-pandemic makes it clear that we’ve lived through an apocalyptic rupture point that separates old and new.

    The Before Times has long been a trope in science fiction, and linguist Ben Zimmer traces this specific phrase back to 1960s Star Trek, though some variations (beforetime) appear in early texts like the Bible.

    Example: Remember in the Before Times, when we packed together in movie theaters for a fun time? Seems like a different world now!


    rona

    Rona—often in the phrase the rona—is an informal shortening of coronavirus. Coronavirus is popularly shortened to corona, which was apparently further clipped to rona.

    Rona is often used as a playful or ironic way to refer to COVID-19, especially when commenting on more relatable, humorous challenges of social distancing during the pandemic.

    It is generally not meant, however, to be flippant about the very serious loss and disruption COVID-19 has wreaked—nor diminish the life-saving service of so many essential workers, from grocery clerks to nurses. It’s a bit of gallows humor.

    Some people have personified the virus as Miss Rona or Aunt Rona. And la rona (meant as “the rona”) has emerged in some Spanish-language contexts.

    Other informal shortenings? Just as coronavirus has been shortened to corona and rona, so quarantine has been shortened to quar—and even pandemic to panny.

    Example: Yeah, I don’t know about you, but homeschooling my kids during the rona ends up in a lot of Frozen 2.


    cornteen

    Cornteen is an intentional misspelling of quarantine, often used in ironic commentary on what it’s like to be at home during the coronavirus pandemic. It may have originated as an actual misspelling of quarantine. (Hey, quarantine wasn’t exactly a word most of us used every day until COVID-19.)

    Cornteen is occasionally used to joke about how quarantine is pronounced in various regional accents. Some people visually pun on cornteen by substituting the corn emoji, 🌽, for the corn- part of the word; others pun on the -teen to mean “teenager.”


    doomscrolling

    Life under the rona has meant that it’s even harder to peel our eyes away from our phones and computers, constantly refreshing our feeds for the latest news about the pandemic.

    At least there’s a word for that: doomscrolling, also doomscrolling. The term has been notably used—and popularized in part by her exhortations to a take a break from doing it—by Quartz reporter Karen K. Ho.

    Scrolling refers to scrolling down on our smartphones for the latest posts on social media. And doom … well, a lot of the news we’re seeing online feels full of gloom and doom.

    Example: I was up to 2 a.m. last night doomscrolling about coronavirus news in my state.

    A related slang term is doomsurfing, or compulsively surfing the internet for upsetting news.


    coronasomnia

    Staying up late, again? Waking up at 4am to doomscroll? Can’t remember your last good night of sleep? You’re not the only one. The term coronasomnia refers to—what else?—the insomnia that’s afflicting so many of us during the pandemic.

    Doctors and pharmacists have seen a measurable increase in the number of people suffering symptoms of insomnia or whose symptoms have worsened since the quarantine began. Some estimates suggest some 20 to 30 percent of the population—including children—may be impacted.

    One doctor coined the term “FED UP” to describe the worries of this stressful time. It stands for “financial stress, emotional stress, distance from others, unpredictability, and personal and professional concerns.” Yikes. Sounds like that’s another term for the dictionary.


    coronacoaster

    If you’re suffering from coronasomnia, you’ll likely understand this next word without much of an explanation.

    Coronacoaster is one of the many new COVID-inspired coinages that use corona (short for coronavirus) as a kind of combining form. It blends corona and rollercoaster to describe the emotional experience of life during the pandemic. Did you bake cookies and then sob like a baby while masking up for the 10,000th time? You’re on the coaster!

    Example: The coronacoaster has been exhausting this week. I started crying during my weekly family Zoom and couldn’t stop.


    coronacut

    The hilariously bad haircut we give ourselves under lockdown.

    This was one of the first coronacoinages out there—proving that sometimes we worry most about the little things … or that we’re all pretty vain.

    It feels like so long ago since we first heard this term, which only goes to show how slang changes as our experience of the pandemic changes.


    cluttercore

    A “messy aesthetic,” especially in terms of embracing one’s books, knickknacks, and other stuff at home and sharing it on social media.

    While coronacut reminds us of our struggles during the earliest days of the pandemic, this term reflects the ongoing evolution of quarantine life.

    Cluttercore emerged as a maximalist, anti-Kondo approach in early 2020 before any lockdowns, but the pandemic really helped popularize the term. (As of October, videos with the hashtag #cluttercore had more than two million views.) This combining form blends clutter (“a disorderly heap or assemblage”) with -core, which names a kind of aesthetic, social movement, or lifestyle. Cluttercore is similar to terms like cottagecore, normcore, and gorpcore.

    “The pandemic has forced us to reevaluate what we have, make better use of objects and space … and also see their value, often for the first time,” says Jennifer Howard, author of Clutter: An Untidy History.


    covidiot

    A blend of COVID-19 and idiot, covidiot is a slang insult for someone who disregards healthy and safety guidelines about the novel coronavirus.

    Some signs of covidiocy are: not washing your hands regularly, hanging out in groups of people, standing within six feet of a stranger at the grocery, hoarding items like toilet paper and hand sanitizer all to yourself.

    Example: Don’t be a covidiot by visiting the beach today! It’s super crowded.


    quaranteam

    The (very limited) group of people you see during self-isolation; one of the many slang terms that plays on quarantine.

    Whether you call it a germ pod, a COVID bubble, or your quaranteam, this is the group of people you voluntarily choose to socialize with or even live with during the quarantine. Basically, your pod chooses to isolate together, promising not to have close contact (within six feet) with anyone outside the pod. This form of contact clustering (yet another term used by epidemiologists to describe the situation) allows you to socialize while also staying safe.

    Quaranteam is a blend of quarantine and team, and sounds like quarantine—it’s a punning blend, as we’ve seen throughout this slideshow

    Example: Our quaranteam is going camping next weekend. We’re tired of all the binge-watching and baking.


    moronavirus

    Another term for a covidiot. The wordplay, here, centers on the word moron.

    Example: My roommate is being such a moronavirus. He went down to the beach with a huge group of friends.

    Calling someone a covidiot or moronavirus is a form of quarantine shaming. That’s slang for publicly criticizing someone for not following health and safety guidelines (quarantine being a shorthand for policies in place requiring people to stay at home except where necessary in many places across the country and world).


    quarantini

    How do you take your quarantini? Dirty, dry? Shaken, stirred? Vodka, gin?

    Quarantini is a slang term for a cocktail people drink at home while under quarantine during—and because of—the coronavirus.

    The term is a blend of quarantine and martini, a cocktail made with gin or vodka and dry vermouth, usually served with a green olive or a twist of lemon peel.

    The original quarantini referred to a martini-like cocktail mixed with vitamin C-based dietary supplements—a concoction that predates the novel coronavirus.

    Quarantini has spread as a more general term for alcoholic beverages consumed at home during the pandemic.

    Example: Frozen pizza in the oven? Paw Patrol queued up? Think it’s time for a quarantini.


    coronarita

    The margarita answer to a quarantini—served with, what else, a Corona-brand beer.

    A margarita is a cocktail made of tequila, lime or lemon juice, and an orange-flavored liqueur, usually served in a salt-rimmed glass.


    virtual happy hour

    When someone might drink a quarantini or coronarita.

    Because many people are working from home to help, they are letting off steam at the end of a long day of doomscrolling by holding virtual happy hours over Zoom, FaceTime, Google Hangouts, and other video conferencing or chat applications.

    Happy hour is a cocktail hour or longer period at a bar, during which drinks are served at reduced prices or with free snacks. It’s also used as a shorthand for drinks, generally with colleagues or friends, at the end of the workday, especially near the end of the work week.


    walktail

    When you want to take your quarantini or coronita outside on a walk (not that we’re condoning that), then you’d have a walktail.

    With so many quarantining at home with nothing to do—and nowhere to drink with the bars closed—some people have taken to swigging while sauntering, according to a New York Times article that identified this new trend. A walktail combines the words walk and cocktail, and bar owners are reporting increased alcohol to-go sales as a result. People are drinking and walking their neighborhoods, walking their pets, or just hosting happy hours in the backyard.

    Now, readers, do keep in mind: almost everywhere in the US it’s illegal to carry an “open container,” so most people disguise their walktails in discreet containers. Or you can also go bold, like the woman who dressed up in her bridal gown to dance in the street.


    Zoom-bombing

    This one’s a more serious entry. When using Zoom or similar services, be wary of Zoom-bombing. This is when uninvited guests to a virtual meeting disrupt it with various obscene, violent, or offensive images or words.

    Bombing, here, is based on photobombing, or when people ruin a photograph by appearing in the image without the photographer’s knowledge, often in some dramatic or comical way.


    Zoom mom

    A demographic of moms who are constantly using Zoom.

    They used to be called soccer moms, but COVID-19 changed that. Now, these so-called Zoom moms are described as spending a lot of time using Zoom for work, their children’s schooling, or simply to chat with their friends who are also stuck at home. In a May 22 article, Zoom moms were identified as a potentially powerful voting bloc that could influence the 2020 elections.

    Example: If the updated back to school plans aren’t released soon, the Zoom moms may revolt.


    Zoom fatigue

    The exhaustion that sets in while living life over Zoom.

    Fatigue is a “weariness from bodily or mental exertion,” and people began to cling to the term Zoom fatigue pretty quickly in April. Experts note that this sense of exhaustion is a real phenomenon caused by the amount of information processed face-to-face on Zoom without any non-verbal cues. Conversations and meetings cause conflicting emotions, without allowing people to relax as they would in person.

    Zoom fatigue ties into the larger phenomenon of “pandemic fatigue”: months into the pandemic and we are feeling the emotional, social, and psychological toll even as we try to grasp the loss of our lives and livelihood.


    Zoom town

    A place where housing sales are booming due to buyers who work remotely and are willing to live farther from the office.

    Example: The realtor convinced us to look at several homes in a nearby Zoom town, and I couldn’t help but imagine an idyllic life in the suburbs—complete with backyard barbecues and a two-car garage.

    Competition for homes in Zoom towns in suburbs and areas surrounding city centers is heating up as workers embrace remote work and ditch their commutes. Prices in these areas are often lower than in tighter urban markets. Zoom town is a play on Zoom (which of course, can also mean “to move quickly”) and boom town, a noun meaning “a town that has grown very rapidly as a result of sudden prosperity.”


    quarantine and chill

    Netflix and chill, but for the coronavirus era.

    Quarantine and chill is used for various ways people are hunkering down and spending free time at home during the coronavirus, especially with a romantic partner while marathoning streaming services.

    Be careful when you search for quarantine and chill on social media, though: some people use the phrase when posting revealing selfies.

    Example: My hubby and I are in an epic tournament of Rummy 500. Winner each night gets to pick the movie. #Quarantineandchill


    coronials, quaranteens, coronababies

    When two people get really cozy while quarantine-and-chilling, they may, you know …

    Babies being conceived while people are cooped up at home during the coronavirus have been dubbed coronababies. And when these babies get older, they will become the quaranteens, a pun on quarantine and teen(ager).

    The hypothetical new generation of children conceived during COVID-19 has cleverly been crowned the coronials, a play on corona(virus) and millennials.


    covidivorce

    The experience for other couples under COVID-19 quarantine may not be so snuggly. Being in extended isolation with loved ones can strain a relationship.

    Enter covidivorce, or divorces filed as a result of a couple’s experience during COVID-19.


    zumping

    The experience of COVID-19 isn’t just taxing on couples who live together. People who are dating are also reconsidering their relationships during the pandemic—and sometimes zumping each other.

    A blend of dump and Zoom (the popular video service), zumping is when you break up with someone over a video conferencing service. At least they didn’t just text? (Hey, you can do better, anyways).


    turbo relationship

    While some people are breaking up over Zoom due to quarantining, sheltering in place means others are turbocharging their relationship.

    The quarantine required couples to face a tough choice: break up or, er, shack up. According to some therapists, many couples who sped up the traditional courtship to live together during these conditions are reporting positive relationships and strong levels of commitment.

    Turbo ultimately derives from a Latin word meaning “whirlwind”—and turbo relationships may certainly get people’s minds, and hearts, spinning?


    COVID-10

    For some, quarantining at home during COVID-19 may result in a less movement—and more snacking—than they are used to.

    COVID-10, also referred to as the COVID-15 or even the COVID-19, is a riff on the numerals of COVID-19 and the freshman 15, an expression for the weight some people (are said to) gain during their first year of college. (Hey, gotta stock up on some supplies to help flatten the curve. And gotta take up delicious hobbies to stay engaged!)

    See also the German Coronaspeck, weight gained during the coronavirus pandemic, a play on Kummerspeck, or weight gained as a result of emotional eating.


    coronacation

    Coronavirus-compelled staycations, due to cancelled classes, shifts, and the like. It’s usually an ironic term—just ask parents working from home while teaching their kids.

    Example: My teen thinks he’s getting a coronacation since his school has moved online. Oh, wait until he sees how I am going to keep him busy with the Learning At Home resources.


    drive-by, drive-in

    So if you can’t take that dream vacation you’d always wanted … how about a drive-by birthday party instead?

    Social distancing has inspired a lot of creative adaptations for our celebrations—and equally unique terms for them. We’ve been introduced to drive-by graduations, weddings, and birthdays, as well as drive-in concerts and campaign rallies during the lead up to the election.

    Generally drive-in refers to “a place of business or public facility designed to accommodate patrons who sit in their automobiles.” The adjective is “relating to, or characteristic of such an establishment.” Drive-by is “occurring while driving past a person, object, etc.”

    Example: The four friends jumped in the car and barely made it to the drive-in concert on time.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    New Words We Created Because Of Coronavirus We’re rounding out 2020, and the coronavirus continues to shape our lives and language. While we once hoped we could toss the year’s coronacoinages out the door, that’s clearly not going to be the case right now: the coronavirus continues to surge to new levels. It seems like years (not months) ago that we learned our first COVID-19 terms, like social distancing and flatten the curve. We had to process so much, in so little time; we had to become experts about important differences: epidemic vs. pandemic, quarantine vs. isolation, and respirator vs. ventilators. The conversation continued with contagious vs. infectious and what antibodies do. Many of the words we’ve continued to add to our vocabularies address the ongoing nature of our situation. Maybe we long for the Before Times or have embraced cluttercore as we cope. The ups and downs of this life haven’t been easy (it’s a coronacoaster, to be honest), but the new vocabulary has helped us stay safe and informed during these scary times. And what better way to bring some welcome humor and humility to our lives in the bunker than some wordplay? Here’s our ongoing roundup of some of the new slang terms born of this unique, unprecedented time in modern life—a time of upheaval that some more jokingly call the coronapocalypse (corona apocalypse) or coronageddon (corona armageddon). the Before Times Are you walking around in a constant state of nostalgia? Then the term Before Times is for you. This humorous (and yes, dark) take on life pre-pandemic makes it clear that we’ve lived through an apocalyptic rupture point that separates old and new. The Before Times has long been a trope in science fiction, and linguist Ben Zimmer traces this specific phrase back to 1960s Star Trek, though some variations (beforetime) appear in early texts like the Bible. Example: Remember in the Before Times, when we packed together in movie theaters for a fun time? Seems like a different world now! rona Rona—often in the phrase the rona—is an informal shortening of coronavirus. Coronavirus is popularly shortened to corona, which was apparently further clipped to rona. Rona is often used as a playful or ironic way to refer to COVID-19, especially when commenting on more relatable, humorous challenges of social distancing during the pandemic. It is generally not meant, however, to be flippant about the very serious loss and disruption COVID-19 has wreaked—nor diminish the life-saving service of so many essential workers, from grocery clerks to nurses. It’s a bit of gallows humor. Some people have personified the virus as Miss Rona or Aunt Rona. And la rona (meant as “the rona”) has emerged in some Spanish-language contexts. Other informal shortenings? Just as coronavirus has been shortened to corona and rona, so quarantine has been shortened to quar—and even pandemic to panny. Example: Yeah, I don’t know about you, but homeschooling my kids during the rona ends up in a lot of Frozen 2. cornteen Cornteen is an intentional misspelling of quarantine, often used in ironic commentary on what it’s like to be at home during the coronavirus pandemic. It may have originated as an actual misspelling of quarantine. (Hey, quarantine wasn’t exactly a word most of us used every day until COVID-19.) Cornteen is occasionally used to joke about how quarantine is pronounced in various regional accents. Some people visually pun on cornteen by substituting the corn emoji, 🌽, for the corn- part of the word; others pun on the -teen to mean “teenager.” doomscrolling Life under the rona has meant that it’s even harder to peel our eyes away from our phones and computers, constantly refreshing our feeds for the latest news about the pandemic. At least there’s a word for that: doomscrolling, also doomscrolling. The term has been notably used—and popularized in part by her exhortations to a take a break from doing it—by Quartz reporter Karen K. Ho. Scrolling refers to scrolling down on our smartphones for the latest posts on social media. And doom … well, a lot of the news we’re seeing online feels full of gloom and doom. Example: I was up to 2 a.m. last night doomscrolling about coronavirus news in my state. A related slang term is doomsurfing, or compulsively surfing the internet for upsetting news. coronasomnia Staying up late, again? Waking up at 4am to doomscroll? Can’t remember your last good night of sleep? You’re not the only one. The term coronasomnia refers to—what else?—the insomnia that’s afflicting so many of us during the pandemic. Doctors and pharmacists have seen a measurable increase in the number of people suffering symptoms of insomnia or whose symptoms have worsened since the quarantine began. Some estimates suggest some 20 to 30 percent of the population—including children—may be impacted. One doctor coined the term “FED UP” to describe the worries of this stressful time. It stands for “financial stress, emotional stress, distance from others, unpredictability, and personal and professional concerns.” Yikes. Sounds like that’s another term for the dictionary. coronacoaster If you’re suffering from coronasomnia, you’ll likely understand this next word without much of an explanation. Coronacoaster is one of the many new COVID-inspired coinages that use corona (short for coronavirus) as a kind of combining form. It blends corona and rollercoaster to describe the emotional experience of life during the pandemic. Did you bake cookies and then sob like a baby while masking up for the 10,000th time? You’re on the coaster! Example: The coronacoaster has been exhausting this week. I started crying during my weekly family Zoom and couldn’t stop. coronacut The hilariously bad haircut we give ourselves under lockdown. This was one of the first coronacoinages out there—proving that sometimes we worry most about the little things … or that we’re all pretty vain. It feels like so long ago since we first heard this term, which only goes to show how slang changes as our experience of the pandemic changes. cluttercore A “messy aesthetic,” especially in terms of embracing one’s books, knickknacks, and other stuff at home and sharing it on social media. While coronacut reminds us of our struggles during the earliest days of the pandemic, this term reflects the ongoing evolution of quarantine life. Cluttercore emerged as a maximalist, anti-Kondo approach in early 2020 before any lockdowns, but the pandemic really helped popularize the term. (As of October, videos with the hashtag #cluttercore had more than two million views.) This combining form blends clutter (“a disorderly heap or assemblage”) with -core, which names a kind of aesthetic, social movement, or lifestyle. Cluttercore is similar to terms like cottagecore, normcore, and gorpcore. “The pandemic has forced us to reevaluate what we have, make better use of objects and space … and also see their value, often for the first time,” says Jennifer Howard, author of Clutter: An Untidy History. covidiot A blend of COVID-19 and idiot, covidiot is a slang insult for someone who disregards healthy and safety guidelines about the novel coronavirus. Some signs of covidiocy are: not washing your hands regularly, hanging out in groups of people, standing within six feet of a stranger at the grocery, hoarding items like toilet paper and hand sanitizer all to yourself. Example: Don’t be a covidiot by visiting the beach today! It’s super crowded. quaranteam The (very limited) group of people you see during self-isolation; one of the many slang terms that plays on quarantine. Whether you call it a germ pod, a COVID bubble, or your quaranteam, this is the group of people you voluntarily choose to socialize with or even live with during the quarantine. Basically, your pod chooses to isolate together, promising not to have close contact (within six feet) with anyone outside the pod. This form of contact clustering (yet another term used by epidemiologists to describe the situation) allows you to socialize while also staying safe. Quaranteam is a blend of quarantine and team, and sounds like quarantine—it’s a punning blend, as we’ve seen throughout this slideshow Example: Our quaranteam is going camping next weekend. We’re tired of all the binge-watching and baking. moronavirus Another term for a covidiot. The wordplay, here, centers on the word moron. Example: My roommate is being such a moronavirus. He went down to the beach with a huge group of friends. Calling someone a covidiot or moronavirus is a form of quarantine shaming. That’s slang for publicly criticizing someone for not following health and safety guidelines (quarantine being a shorthand for policies in place requiring people to stay at home except where necessary in many places across the country and world). quarantini How do you take your quarantini? Dirty, dry? Shaken, stirred? Vodka, gin? Quarantini is a slang term for a cocktail people drink at home while under quarantine during—and because of—the coronavirus. The term is a blend of quarantine and martini, a cocktail made with gin or vodka and dry vermouth, usually served with a green olive or a twist of lemon peel. The original quarantini referred to a martini-like cocktail mixed with vitamin C-based dietary supplements—a concoction that predates the novel coronavirus. Quarantini has spread as a more general term for alcoholic beverages consumed at home during the pandemic. Example: Frozen pizza in the oven? Paw Patrol queued up? Think it’s time for a quarantini. coronarita The margarita answer to a quarantini—served with, what else, a Corona-brand beer. A margarita is a cocktail made of tequila, lime or lemon juice, and an orange-flavored liqueur, usually served in a salt-rimmed glass. virtual happy hour When someone might drink a quarantini or coronarita. Because many people are working from home to help, they are letting off steam at the end of a long day of doomscrolling by holding virtual happy hours over Zoom, FaceTime, Google Hangouts, and other video conferencing or chat applications. Happy hour is a cocktail hour or longer period at a bar, during which drinks are served at reduced prices or with free snacks. It’s also used as a shorthand for drinks, generally with colleagues or friends, at the end of the workday, especially near the end of the work week. walktail When you want to take your quarantini or coronita outside on a walk (not that we’re condoning that), then you’d have a walktail. With so many quarantining at home with nothing to do—and nowhere to drink with the bars closed—some people have taken to swigging while sauntering, according to a New York Times article that identified this new trend. A walktail combines the words walk and cocktail, and bar owners are reporting increased alcohol to-go sales as a result. People are drinking and walking their neighborhoods, walking their pets, or just hosting happy hours in the backyard. Now, readers, do keep in mind: almost everywhere in the US it’s illegal to carry an “open container,” so most people disguise their walktails in discreet containers. Or you can also go bold, like the woman who dressed up in her bridal gown to dance in the street. Zoom-bombing This one’s a more serious entry. When using Zoom or similar services, be wary of Zoom-bombing. This is when uninvited guests to a virtual meeting disrupt it with various obscene, violent, or offensive images or words. Bombing, here, is based on photobombing, or when people ruin a photograph by appearing in the image without the photographer’s knowledge, often in some dramatic or comical way. Zoom mom A demographic of moms who are constantly using Zoom. They used to be called soccer moms, but COVID-19 changed that. Now, these so-called Zoom moms are described as spending a lot of time using Zoom for work, their children’s schooling, or simply to chat with their friends who are also stuck at home. In a May 22 article, Zoom moms were identified as a potentially powerful voting bloc that could influence the 2020 elections. Example: If the updated back to school plans aren’t released soon, the Zoom moms may revolt. Zoom fatigue The exhaustion that sets in while living life over Zoom. Fatigue is a “weariness from bodily or mental exertion,” and people began to cling to the term Zoom fatigue pretty quickly in April. Experts note that this sense of exhaustion is a real phenomenon caused by the amount of information processed face-to-face on Zoom without any non-verbal cues. Conversations and meetings cause conflicting emotions, without allowing people to relax as they would in person. Zoom fatigue ties into the larger phenomenon of “pandemic fatigue”: months into the pandemic and we are feeling the emotional, social, and psychological toll even as we try to grasp the loss of our lives and livelihood. Zoom town A place where housing sales are booming due to buyers who work remotely and are willing to live farther from the office. Example: The realtor convinced us to look at several homes in a nearby Zoom town, and I couldn’t help but imagine an idyllic life in the suburbs—complete with backyard barbecues and a two-car garage. Competition for homes in Zoom towns in suburbs and areas surrounding city centers is heating up as workers embrace remote work and ditch their commutes. Prices in these areas are often lower than in tighter urban markets. Zoom town is a play on Zoom (which of course, can also mean “to move quickly”) and boom town, a noun meaning “a town that has grown very rapidly as a result of sudden prosperity.” quarantine and chill Netflix and chill, but for the coronavirus era. Quarantine and chill is used for various ways people are hunkering down and spending free time at home during the coronavirus, especially with a romantic partner while marathoning streaming services. Be careful when you search for quarantine and chill on social media, though: some people use the phrase when posting revealing selfies. Example: My hubby and I are in an epic tournament of Rummy 500. Winner each night gets to pick the movie. #Quarantineandchill coronials, quaranteens, coronababies When two people get really cozy while quarantine-and-chilling, they may, you know … Babies being conceived while people are cooped up at home during the coronavirus have been dubbed coronababies. And when these babies get older, they will become the quaranteens, a pun on quarantine and teen(ager). The hypothetical new generation of children conceived during COVID-19 has cleverly been crowned the coronials, a play on corona(virus) and millennials. covidivorce The experience for other couples under COVID-19 quarantine may not be so snuggly. Being in extended isolation with loved ones can strain a relationship. Enter covidivorce, or divorces filed as a result of a couple’s experience during COVID-19. zumping The experience of COVID-19 isn’t just taxing on couples who live together. People who are dating are also reconsidering their relationships during the pandemic—and sometimes zumping each other. A blend of dump and Zoom (the popular video service), zumping is when you break up with someone over a video conferencing service. At least they didn’t just text? (Hey, you can do better, anyways). turbo relationship While some people are breaking up over Zoom due to quarantining, sheltering in place means others are turbocharging their relationship. The quarantine required couples to face a tough choice: break up or, er, shack up. According to some therapists, many couples who sped up the traditional courtship to live together during these conditions are reporting positive relationships and strong levels of commitment. Turbo ultimately derives from a Latin word meaning “whirlwind”—and turbo relationships may certainly get people’s minds, and hearts, spinning? COVID-10 For some, quarantining at home during COVID-19 may result in a less movement—and more snacking—than they are used to. COVID-10, also referred to as the COVID-15 or even the COVID-19, is a riff on the numerals of COVID-19 and the freshman 15, an expression for the weight some people (are said to) gain during their first year of college. (Hey, gotta stock up on some supplies to help flatten the curve. And gotta take up delicious hobbies to stay engaged!) See also the German Coronaspeck, weight gained during the coronavirus pandemic, a play on Kummerspeck, or weight gained as a result of emotional eating. coronacation Coronavirus-compelled staycations, due to cancelled classes, shifts, and the like. It’s usually an ironic term—just ask parents working from home while teaching their kids. Example: My teen thinks he’s getting a coronacation since his school has moved online. Oh, wait until he sees how I am going to keep him busy with the Learning At Home resources. drive-by, drive-in So if you can’t take that dream vacation you’d always wanted … how about a drive-by birthday party instead? Social distancing has inspired a lot of creative adaptations for our celebrations—and equally unique terms for them. We’ve been introduced to drive-by graduations, weddings, and birthdays, as well as drive-in concerts and campaign rallies during the lead up to the election. Generally drive-in refers to “a place of business or public facility designed to accommodate patrons who sit in their automobiles.” The adjective is “relating to, or characteristic of such an establishment.” Drive-by is “occurring while driving past a person, object, etc.” Example: The four friends jumped in the car and barely made it to the drive-in concert on time. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 893 มุมมอง 0 รีวิว