• Non-Binary RAM Kits ทางเลือกใหม่ฝ่าวิกฤติราคา DDR5

    ตลาดหน่วยความจำ DDR5 กำลังเผชิญวิกฤติราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุดมีการค้นพบว่า Non-Binary RAM Kits เช่นขนาด 48GB หรือ 96GB อาจเป็นทางออกที่ช่วยให้ผู้บริโภคได้ความจุสูงกว่าในราคาที่ถูกกว่าชุด 32GB หรือ 64GB แบบดั้งเดิม

    รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่าในช่วงเทศกาลลดราคาล่าสุด มีการเปลี่ยนแปลงจากชุด RAM ขนาดมาตรฐานไปสู่ชุด non-binary ที่ให้ความจุแปลกใหม่ เช่น 48GB และ 96GB โดยบางรุ่นสามารถแข่งขันด้านราคาได้ดีกว่าชุด 32GB แม้จะมีความเร็วที่ต่ำกว่าเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น Corsair Vengeance RGB 48GB DDR5-5200 CL38 มีราคาถูกกว่าชุด 32GB DDR5-6000 แม้ความเร็วจะต่ำกว่า แต่ให้ความจุที่มากกว่าในราคาที่ใกล้เคียงกัน

    นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกจาก Team Group T-Create Expert 48GB DDR5-6400 CL32 ที่ให้ latency ต่ำกว่าและความเร็วสูงกว่าในราคาที่ใกล้เคียงกับชุด 32GB ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า non-binary kits อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าในตลาดที่ราคากำลังพุ่งสูง

    นักวิเคราะห์ชี้ว่า non-binary kits ใช้ 24Gb dies ซึ่งได้รับผลกระทบจากต้นทุน DRAM น้อยกว่า 16Gb dies ที่ใช้ใน binary kits ทำให้ราคายังไม่พุ่งแรงเท่ากับชุดมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรตรวจสอบความเข้ากันได้กับเมนบอร์ดและอาจต้องอัปเดต BIOS เพื่อใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Non-Binary RAM Kits เป็นทางเลือกใหม่
    ขนาด 48GB และ 96GB ให้ความจุสูงกว่าชุดมาตรฐาน
    ราคาบางรุ่นถูกกว่าชุด 32GB หรือ 64GB

    ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ
    Corsair Vengeance RGB 48GB DDR5-5200 CL38 ราคาถูกกว่าชุด 32GB DDR5-6000
    Team Group T-Create Expert 48GB DDR5-6400 CL32 latency ต่ำและราคาคุ้มค่า

    ข้อได้เปรียบเชิงเทคนิค
    ใช้ 24Gb dies ที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุน DRAM น้อยกว่า
    สามารถช่วยลดต้นทุนต่อ GB ในช่วงราคาพุ่งสูง

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    อาจต้องอัปเดต BIOS เพื่อรองรับ non-binary kits
    ความเร็วบางรุ่นต่ำกว่าชุด binary มาตรฐาน
    ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ดต้องตรวจสอบก่อนซื้อ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/non-binary-ram-kits-might-be-the-secret-to-skirt-surging-ddr5-prices-get-48gb-of-memory-for-less-than-32gb
    💻 Non-Binary RAM Kits ทางเลือกใหม่ฝ่าวิกฤติราคา DDR5 ตลาดหน่วยความจำ DDR5 กำลังเผชิญวิกฤติราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุดมีการค้นพบว่า Non-Binary RAM Kits เช่นขนาด 48GB หรือ 96GB อาจเป็นทางออกที่ช่วยให้ผู้บริโภคได้ความจุสูงกว่าในราคาที่ถูกกว่าชุด 32GB หรือ 64GB แบบดั้งเดิม รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่าในช่วงเทศกาลลดราคาล่าสุด มีการเปลี่ยนแปลงจากชุด RAM ขนาดมาตรฐานไปสู่ชุด non-binary ที่ให้ความจุแปลกใหม่ เช่น 48GB และ 96GB โดยบางรุ่นสามารถแข่งขันด้านราคาได้ดีกว่าชุด 32GB แม้จะมีความเร็วที่ต่ำกว่าเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น Corsair Vengeance RGB 48GB DDR5-5200 CL38 มีราคาถูกกว่าชุด 32GB DDR5-6000 แม้ความเร็วจะต่ำกว่า แต่ให้ความจุที่มากกว่าในราคาที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกจาก Team Group T-Create Expert 48GB DDR5-6400 CL32 ที่ให้ latency ต่ำกว่าและความเร็วสูงกว่าในราคาที่ใกล้เคียงกับชุด 32GB ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า non-binary kits อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าในตลาดที่ราคากำลังพุ่งสูง นักวิเคราะห์ชี้ว่า non-binary kits ใช้ 24Gb dies ซึ่งได้รับผลกระทบจากต้นทุน DRAM น้อยกว่า 16Gb dies ที่ใช้ใน binary kits ทำให้ราคายังไม่พุ่งแรงเท่ากับชุดมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรตรวจสอบความเข้ากันได้กับเมนบอร์ดและอาจต้องอัปเดต BIOS เพื่อใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Non-Binary RAM Kits เป็นทางเลือกใหม่ ➡️ ขนาด 48GB และ 96GB ให้ความจุสูงกว่าชุดมาตรฐาน ➡️ ราคาบางรุ่นถูกกว่าชุด 32GB หรือ 64GB ✅ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ➡️ Corsair Vengeance RGB 48GB DDR5-5200 CL38 ราคาถูกกว่าชุด 32GB DDR5-6000 ➡️ Team Group T-Create Expert 48GB DDR5-6400 CL32 latency ต่ำและราคาคุ้มค่า ✅ ข้อได้เปรียบเชิงเทคนิค ➡️ ใช้ 24Gb dies ที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุน DRAM น้อยกว่า ➡️ สามารถช่วยลดต้นทุนต่อ GB ในช่วงราคาพุ่งสูง ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ อาจต้องอัปเดต BIOS เพื่อรองรับ non-binary kits ⛔ ความเร็วบางรุ่นต่ำกว่าชุด binary มาตรฐาน ⛔ ความเข้ากันได้กับเมนบอร์ดต้องตรวจสอบก่อนซื้อ https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/non-binary-ram-kits-might-be-the-secret-to-skirt-surging-ddr5-prices-get-48gb-of-memory-for-less-than-32gb
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • Ubuntu Touch OTA-1.1 มอบ VoLTE ให้ Fairphone 4 และ Volla Phone 22

    UBports Foundation ได้ปล่อยอัปเดต Ubuntu Touch OTA-1.1 สำหรับผู้ใช้บนฐาน Ubuntu 24.04 LTS และ OTA-11 สำหรับผู้ใช้บนฐาน Ubuntu 20.04 LTS โดยมีการปรับปรุงสำคัญทั้งด้านฟีเจอร์และความปลอดภัย ไฮไลต์หลักคือการเพิ่ม VoLTE (Voice over LTE) ให้กับ Fairphone 4 และ Volla Phone 22 ซึ่งช่วยให้การโทรศัพท์มีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นและรองรับเครือข่าย 4G อย่างเต็มรูปแบบ

    นอกจาก VoLTE แล้ว OTA-1.1 ยังปรับปรุง เวลาเริ่มต้นระบบหลังการอัปเกรด, การจัดการ Wi-Fi และ VPN ที่ถูกลบแล้วจะไม่กลับมาอีกหลังรีบูต, รวมถึงการปรับปรุง Wi-Fi hotspot บนอุปกรณ์บางรุ่น อีกทั้งยังแก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น การ crash ของแอป Messaging เมื่อเปิดไฟล์แนบวิดีโอ/เสียง, ปัญหาปฏิทินผิดพลาดในเมนู pull-down, และการไม่แสดง notification badges บน launcher สำหรับ Phone และ Messaging apps

    ด้านความปลอดภัย OTA-1.1 และ OTA-11 ได้แก้ไขช่องโหว่ใน GStreamer multimedia framework ที่อาจถูกใช้โจมตีระบบ จึงแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ OTA-11 ยังเพิ่มการรองรับ USB-C headset และแก้ไขปัญหาเสียงไม่หยุดเล่นเมื่อถอดหูฟัง Bluetooth ออก

    การอัปเดตนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ UBports ในการทำให้ Ubuntu Touch เป็นระบบปฏิบัติการมือถือที่มีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น พร้อมรองรับอุปกรณ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์สสำหรับมือถือให้แข่งขันได้ในตลาดที่ถูกครองโดย Android และ iOS

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน OTA-1.1
    เพิ่ม VoLTE ให้ Fairphone 4 และ Volla Phone 22
    ปรับปรุงเวลาเริ่มต้นระบบหลังอัปเกรด
    แก้ไขการจัดการ Wi-Fi/VPN และ Wi-Fi hotspot

    การแก้ไขบั๊ก
    แก้ crash ของ Messaging app เมื่อเปิดไฟล์แนบ
    แก้ปัญหาปฏิทินผิดพลาดในเมนู pull-down
    แก้ notification badges ไม่แสดงใน launcher

    การปรับปรุงด้านความปลอดภัย
    แก้ช่องโหว่ใน GStreamer multimedia framework
    OTA-11 เพิ่มการรองรับ USB-C headset และแก้ไขเสียง Bluetooth

    ข้อควรระวัง
    การ rollout OTA อาจใช้เวลาหลายวัน ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับอัปเดตพร้อมกัน
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่าและสำรองข้อมูลก่อนอัปเดตเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา

    https://9to5linux.com/ubuntu-touch-ota-1-1-rolls-out-with-volte-support-for-fairphone-4-volla-phone-22
    📱 Ubuntu Touch OTA-1.1 มอบ VoLTE ให้ Fairphone 4 และ Volla Phone 22 UBports Foundation ได้ปล่อยอัปเดต Ubuntu Touch OTA-1.1 สำหรับผู้ใช้บนฐาน Ubuntu 24.04 LTS และ OTA-11 สำหรับผู้ใช้บนฐาน Ubuntu 20.04 LTS โดยมีการปรับปรุงสำคัญทั้งด้านฟีเจอร์และความปลอดภัย ไฮไลต์หลักคือการเพิ่ม VoLTE (Voice over LTE) ให้กับ Fairphone 4 และ Volla Phone 22 ซึ่งช่วยให้การโทรศัพท์มีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นและรองรับเครือข่าย 4G อย่างเต็มรูปแบบ นอกจาก VoLTE แล้ว OTA-1.1 ยังปรับปรุง เวลาเริ่มต้นระบบหลังการอัปเกรด, การจัดการ Wi-Fi และ VPN ที่ถูกลบแล้วจะไม่กลับมาอีกหลังรีบูต, รวมถึงการปรับปรุง Wi-Fi hotspot บนอุปกรณ์บางรุ่น อีกทั้งยังแก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น การ crash ของแอป Messaging เมื่อเปิดไฟล์แนบวิดีโอ/เสียง, ปัญหาปฏิทินผิดพลาดในเมนู pull-down, และการไม่แสดง notification badges บน launcher สำหรับ Phone และ Messaging apps ด้านความปลอดภัย OTA-1.1 และ OTA-11 ได้แก้ไขช่องโหว่ใน GStreamer multimedia framework ที่อาจถูกใช้โจมตีระบบ จึงแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ OTA-11 ยังเพิ่มการรองรับ USB-C headset และแก้ไขปัญหาเสียงไม่หยุดเล่นเมื่อถอดหูฟัง Bluetooth ออก การอัปเดตนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ UBports ในการทำให้ Ubuntu Touch เป็นระบบปฏิบัติการมือถือที่มีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น พร้อมรองรับอุปกรณ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์สสำหรับมือถือให้แข่งขันได้ในตลาดที่ถูกครองโดย Android และ iOS 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน OTA-1.1 ➡️ เพิ่ม VoLTE ให้ Fairphone 4 และ Volla Phone 22 ➡️ ปรับปรุงเวลาเริ่มต้นระบบหลังอัปเกรด ➡️ แก้ไขการจัดการ Wi-Fi/VPN และ Wi-Fi hotspot ✅ การแก้ไขบั๊ก ➡️ แก้ crash ของ Messaging app เมื่อเปิดไฟล์แนบ ➡️ แก้ปัญหาปฏิทินผิดพลาดในเมนู pull-down ➡️ แก้ notification badges ไม่แสดงใน launcher ✅ การปรับปรุงด้านความปลอดภัย ➡️ แก้ช่องโหว่ใน GStreamer multimedia framework ➡️ OTA-11 เพิ่มการรองรับ USB-C headset และแก้ไขเสียง Bluetooth ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การ rollout OTA อาจใช้เวลาหลายวัน ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับอัปเดตพร้อมกัน ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่าและสำรองข้อมูลก่อนอัปเดตเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา https://9to5linux.com/ubuntu-touch-ota-1-1-rolls-out-with-volte-support-for-fairphone-4-volla-phone-22
    9TO5LINUX.COM
    Ubuntu Touch OTA-1.1 Rolls Out with VoLTE Support for Fairphone 4, Volla Phone 22 - 9to5Linux
    Ubuntu Touch OTA 1.1 update is now rolling out with VoLTE support for Fairphone 4 and Volla Phone 22 devices.
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • Fwupd 2.0.18 เสริมพลัง Linux รองรับ Lenovo Legion Go 2

    Fwupd 2.0.18 ถือเป็นการอัปเดตครั้งสำคัญของเครื่องมือ Linux Firmware Updater ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและอัปเดตเฟิร์มแวร์อุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย โดยในเวอร์ชันนี้ได้เพิ่มการรองรับ Lenovo Legion Go 2 ซึ่งเป็นเครื่องเกมพกพารุ่นใหม่ รวมถึงอุปกรณ์เสริมอย่าง HP USB-C 4K HDMI Hub และ Synaptics HapticsPad ทำให้ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ใหม่ ๆ จะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

    นอกจากการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่แล้ว Fwupd 2.0.18 ยังมีการปรับปรุงระบบ เช่น การสร้างไฟล์ reboot-required เมื่อเฟิร์มแวร์ต้องการรีบูต, การบันทึกสถานะระบบสำหรับการจำลอง composite, และ การอัปเดตเฟิร์มแวร์ USI docking station โดยไม่ต้องถอดเสียบใหม่ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้การอัปเดตเฟิร์มแวร์มีความราบรื่นและลดความยุ่งยากสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    ในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ Fwupd ได้เพิ่มการตรวจสอบ Intel SPI BIOS lock, ปรับปรุงความเร็วในการค้นหา firmware stream, และแก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น การ parsing USB BOS descriptors และการ crash ที่เกิดขึ้นระหว่างการจำลอง i2c นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงให้ทำงานได้ดีขึ้นบนระบบที่ไม่รองรับ Secure Boot และเพิ่มการรองรับสถาปัตยกรรม RISC-V อีกด้วย

    การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโครงการ Fwupd ที่จะทำให้ Linux เป็นระบบที่สามารถจัดการเฟิร์มแวร์ได้อย่างมีมาตรฐานและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ Linux มีประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับระบบเชิงพาณิชย์ในด้านการดูแลอุปกรณ์

    สรุปสาระสำคัญ
    การรองรับอุปกรณ์ใหม่
    Lenovo Legion Go 2
    HP Portable USB-C 4K HDMI Hub
    Synaptics HapticsPad

    ฟีเจอร์ใหม่และปรับปรุง
    สร้างไฟล์ reboot-required เมื่อจำเป็น
    บันทึกสถานะระบบสำหรับ composite emulation
    อัปเดต USI docking station โดยไม่ต้อง replug

    การปรับปรุงด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ
    ตรวจสอบ Intel SPI BIOS lock
    ปรับปรุงความเร็ว firmware stream searching
    รองรับสถาปัตยกรรม RISC-V

    ข้อควรระวัง
    ผู้ใช้ควรอัปเดตจาก repository ที่เชื่อถือได้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความปลอดภัย
    ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างอาจยังไม่เสถียรบนบางดิสโทร ควรทดสอบก่อนใช้งานจริง

    https://9to5linux.com/fwupd-2-0-18-linux-firmware-updater-adds-support-for-lenovo-legion-go-2
    🔧 Fwupd 2.0.18 เสริมพลัง Linux รองรับ Lenovo Legion Go 2 Fwupd 2.0.18 ถือเป็นการอัปเดตครั้งสำคัญของเครื่องมือ Linux Firmware Updater ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและอัปเดตเฟิร์มแวร์อุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย โดยในเวอร์ชันนี้ได้เพิ่มการรองรับ Lenovo Legion Go 2 ซึ่งเป็นเครื่องเกมพกพารุ่นใหม่ รวมถึงอุปกรณ์เสริมอย่าง HP USB-C 4K HDMI Hub และ Synaptics HapticsPad ทำให้ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ใหม่ ๆ จะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง นอกจากการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่แล้ว Fwupd 2.0.18 ยังมีการปรับปรุงระบบ เช่น การสร้างไฟล์ reboot-required เมื่อเฟิร์มแวร์ต้องการรีบูต, การบันทึกสถานะระบบสำหรับการจำลอง composite, และ การอัปเดตเฟิร์มแวร์ USI docking station โดยไม่ต้องถอดเสียบใหม่ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้การอัปเดตเฟิร์มแวร์มีความราบรื่นและลดความยุ่งยากสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ Fwupd ได้เพิ่มการตรวจสอบ Intel SPI BIOS lock, ปรับปรุงความเร็วในการค้นหา firmware stream, และแก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น การ parsing USB BOS descriptors และการ crash ที่เกิดขึ้นระหว่างการจำลอง i2c นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงให้ทำงานได้ดีขึ้นบนระบบที่ไม่รองรับ Secure Boot และเพิ่มการรองรับสถาปัตยกรรม RISC-V อีกด้วย การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโครงการ Fwupd ที่จะทำให้ Linux เป็นระบบที่สามารถจัดการเฟิร์มแวร์ได้อย่างมีมาตรฐานและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ Linux มีประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับระบบเชิงพาณิชย์ในด้านการดูแลอุปกรณ์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การรองรับอุปกรณ์ใหม่ ➡️ Lenovo Legion Go 2 ➡️ HP Portable USB-C 4K HDMI Hub ➡️ Synaptics HapticsPad ✅ ฟีเจอร์ใหม่และปรับปรุง ➡️ สร้างไฟล์ reboot-required เมื่อจำเป็น ➡️ บันทึกสถานะระบบสำหรับ composite emulation ➡️ อัปเดต USI docking station โดยไม่ต้อง replug ✅ การปรับปรุงด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ➡️ ตรวจสอบ Intel SPI BIOS lock ➡️ ปรับปรุงความเร็ว firmware stream searching ➡️ รองรับสถาปัตยกรรม RISC-V ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ผู้ใช้ควรอัปเดตจาก repository ที่เชื่อถือได้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความปลอดภัย ⛔ ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างอาจยังไม่เสถียรบนบางดิสโทร ควรทดสอบก่อนใช้งานจริง https://9to5linux.com/fwupd-2-0-18-linux-firmware-updater-adds-support-for-lenovo-legion-go-2
    9TO5LINUX.COM
    Fwupd 2.0.18 Linux Firmware Updater Adds Support for Lenovo Legion Go 2 - 9to5Linux
    Fwupd 2.0.18 Linux firmware updater is now available for download with support for Lenovo Legion Go 2 and HP Portable USB-C 4K HDMI hub.
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • ข่าววิทยาศาสตร์: “เชื้อราจากเชอร์โนบิลอาจใช้รังสีเป็นพลังงานได้”

    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบเชื้อราสีดำชนิดหนึ่งชื่อ Cladosporium sphaerospermum ที่เติบโตได้ดีภายในเขตเชอร์โนบิล ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีรังสีสูงที่สุดในโลก เชื้อรานี้มีเม็ดสีเมลานินเข้มที่อาจทำหน้าที่คล้ายคลอโรฟิลล์ในพืช โดยมีสมมติฐานว่าเมลานินสามารถ “เก็บเกี่ยว” พลังงานจากรังสีไอออไนซ์ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า radiosynthesis ซึ่งเปรียบเสมือนการสังเคราะห์แสง แต่ใช้รังสีแทนแสงอาทิตย์

    การค้นพบเริ่มต้นตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทีมนักวิจัยยูเครนพบชุมชนเชื้อรามากถึง 37 สายพันธุ์ในบริเวณรอบเตาปฏิกรณ์ที่เสียหาย โดย C. sphaerospermum เป็นสายพันธุ์ที่โดดเด่นที่สุดและทนต่อการปนเปื้อนรังสีสูงอย่างน่าประหลาดใจ ต่อมาในปี 2008 นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐฯ พบว่าเชื้อรานี้ไม่เพียงทนต่อรังสี แต่ยังเจริญเติบโตได้ดีกว่าเมื่อสัมผัสรังสีไอออไนซ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปกติจะทำลาย DNA ของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

    การทดลองล่าสุดในปี 2022 ที่นำเชื้อรานี้ไปติดตั้งบนผิวด้านนอกของสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) พบว่าเชื้อราสามารถลดปริมาณรังสีที่ทะลุผ่านได้จริง ทำให้เกิดแนวคิดว่าอาจใช้เชื้อรานี้เป็น เกราะชีวภาพป้องกันรังสีในภารกิจอวกาศ อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเชื้อรานี้เปลี่ยนรังสีเป็นพลังงานทางชีวภาพจริงหรือไม่ หรือเพียงแค่ใช้เมลานินเป็นเกราะป้องกัน

    แม้ยังเป็นปริศนา แต่การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่า ชีวิตสามารถหาทางอยู่รอดแม้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายที่สุดต่อมนุษย์ และอาจเปิดประตูสู่การใช้สิ่งมีชีวิตเป็นเครื่องมือใหม่ในการป้องกันรังสีทั้งบนโลกและในอวกาศ

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบเชื้อราที่เชอร์โนบิล
    พบเชื้อรา Cladosporium sphaerospermum เจริญเติบโตในพื้นที่รังสีสูง
    มีเม็ดสีเมลานินที่อาจใช้รังสีเป็นพลังงาน

    หลักฐานการทดลอง
    เชื้อรานี้เติบโตได้ดีกว่าเมื่อสัมผัสรังสีไอออไนซ์
    การทดลองบน ISS พบว่าสามารถลดปริมาณรังสีที่ทะลุผ่านได้

    ความเป็นไปได้ในอนาคต
    อาจใช้เป็นเกราะชีวภาพป้องกันรังสีในภารกิจอวกาศ
    เป็นตัวอย่างของการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเชื้อรานี้เปลี่ยนรังสีเป็นพลังงานจริง
    พฤติกรรมนี้ไม่พบในเชื้อรามีเมลานินทุกชนิด จึงไม่ใช่คุณสมบัติทั่วไป

    https://www.sciencealert.com/chernobyl-fungus-appears-to-have-evolved-an-incredible-ability
    ☢️ ข่าววิทยาศาสตร์: “เชื้อราจากเชอร์โนบิลอาจใช้รังสีเป็นพลังงานได้” นักวิทยาศาสตร์ค้นพบเชื้อราสีดำชนิดหนึ่งชื่อ Cladosporium sphaerospermum ที่เติบโตได้ดีภายในเขตเชอร์โนบิล ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีรังสีสูงที่สุดในโลก เชื้อรานี้มีเม็ดสีเมลานินเข้มที่อาจทำหน้าที่คล้ายคลอโรฟิลล์ในพืช โดยมีสมมติฐานว่าเมลานินสามารถ “เก็บเกี่ยว” พลังงานจากรังสีไอออไนซ์ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า radiosynthesis ซึ่งเปรียบเสมือนการสังเคราะห์แสง แต่ใช้รังสีแทนแสงอาทิตย์ การค้นพบเริ่มต้นตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1990 เมื่อทีมนักวิจัยยูเครนพบชุมชนเชื้อรามากถึง 37 สายพันธุ์ในบริเวณรอบเตาปฏิกรณ์ที่เสียหาย โดย C. sphaerospermum เป็นสายพันธุ์ที่โดดเด่นที่สุดและทนต่อการปนเปื้อนรังสีสูงอย่างน่าประหลาดใจ ต่อมาในปี 2008 นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐฯ พบว่าเชื้อรานี้ไม่เพียงทนต่อรังสี แต่ยังเจริญเติบโตได้ดีกว่าเมื่อสัมผัสรังสีไอออไนซ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปกติจะทำลาย DNA ของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ การทดลองล่าสุดในปี 2022 ที่นำเชื้อรานี้ไปติดตั้งบนผิวด้านนอกของสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) พบว่าเชื้อราสามารถลดปริมาณรังสีที่ทะลุผ่านได้จริง ทำให้เกิดแนวคิดว่าอาจใช้เชื้อรานี้เป็น เกราะชีวภาพป้องกันรังสีในภารกิจอวกาศ อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเชื้อรานี้เปลี่ยนรังสีเป็นพลังงานทางชีวภาพจริงหรือไม่ หรือเพียงแค่ใช้เมลานินเป็นเกราะป้องกัน แม้ยังเป็นปริศนา แต่การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่า ชีวิตสามารถหาทางอยู่รอดแม้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายที่สุดต่อมนุษย์ และอาจเปิดประตูสู่การใช้สิ่งมีชีวิตเป็นเครื่องมือใหม่ในการป้องกันรังสีทั้งบนโลกและในอวกาศ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบเชื้อราที่เชอร์โนบิล ➡️ พบเชื้อรา Cladosporium sphaerospermum เจริญเติบโตในพื้นที่รังสีสูง ➡️ มีเม็ดสีเมลานินที่อาจใช้รังสีเป็นพลังงาน ✅ หลักฐานการทดลอง ➡️ เชื้อรานี้เติบโตได้ดีกว่าเมื่อสัมผัสรังสีไอออไนซ์ ➡️ การทดลองบน ISS พบว่าสามารถลดปริมาณรังสีที่ทะลุผ่านได้ ✅ ความเป็นไปได้ในอนาคต ➡️ อาจใช้เป็นเกราะชีวภาพป้องกันรังสีในภารกิจอวกาศ ➡️ เป็นตัวอย่างของการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเชื้อรานี้เปลี่ยนรังสีเป็นพลังงานจริง ⛔ พฤติกรรมนี้ไม่พบในเชื้อรามีเมลานินทุกชนิด จึงไม่ใช่คุณสมบัติทั่วไป https://www.sciencealert.com/chernobyl-fungus-appears-to-have-evolved-an-incredible-ability
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Chernobyl Fungus Appears to Have Evolved an Incredible Ability
    The Chernobyl exclusion zone may be off-limits to humans, but ever since the Unit Four reactor at the Chernobyl Nuclear Power Plant exploded nearly 40 years ago, other forms of life have not only moved in but survived, adapted, and appeared to thrive.
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • BIOS 2000W ของ ASUS RTX 5090 รั่วไหล

    มีผู้ใช้ในฟอรั่ม Overclock เผยแพร่ BIOS รุ่นพิเศษที่เดิมทีสร้างขึ้นสำหรับ ASUS GeForce Astral RTX 5090 D ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว BIOS นี้ปลดล็อกเพดานพลังงานสูงสุดถึง 2002W แม้การ์ดจริงจะไม่สามารถดึงพลังงานได้มากขนาดนั้น แต่ก็มีรายงานว่า RTX 5090 รุ่นปกติสามารถดึงไฟได้ถึง 1000W เมื่อแฟลช BIOS ดังกล่าว

    ผลการทดสอบและประสิทธิภาพ
    ผู้ใช้ที่ทดลองแฟลช BIOS บน Gigabyte RTX 5090 สามารถทำคะแนนได้กว่า 18,173 คะแนนใน 3DMark Steel Nomad DX12 ซึ่งติดอันดับ Top 25 ของโลก ขณะที่ YouTuber ชื่อดัง Jayztwocents ก็เคยทดสอบและได้คะแนนใกล้เคียงกันที่ 18,186 คะแนน โดยประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นราว 10% แต่ต้องแลกกับการใช้พลังงานสูงถึง 900W

    ความเสี่ยงและคำเตือน
    แม้จะเพิ่ม FPS ได้ 10–20 เฟรม แต่การดันพลังงานสูงเกินไปทำให้ สายไฟและคอนเน็กเตอร์เสี่ยงต่อการหลอมละลาย ซึ่งอาจนำไปสู่ไฟไหม้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายมาก ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแม้ BIOS 800W ของ ASUS Matrix ก็ถือว่ามากเกินไปสำหรับการ์ดส่วนใหญ่แล้ว การใช้งาน BIOS 2000W จึงเป็นเรื่องที่อันตรายและไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เหตุการณ์ในข่าว
    BIOS ASUS RTX 5090 XOC 2000W ถูกเผยแพร่ในฟอรั่ม Overclock
    เดิมที BIOS นี้สร้างขึ้นสำหรับรุ่น Astral RTX 5090 D ที่ถูกยกเลิก
    ผู้ใช้แฟลชแล้วทำคะแนน 3DMark Steel Nomad DX12 ได้กว่า 18,000 คะแนน

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    Jayztwocents เคยทดสอบ BIOS นี้และได้คะแนนใกล้เคียง Top 20 ของโลก
    ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นราว 10% แต่ต้องใช้พลังงานสูงถึง 900W–1000W

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การใช้ BIOS 2000W เสี่ยงต่อการหลอมละลายของสายไฟและคอนเน็กเตอร์
    อาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไฟไหม้ได้ง่าย
    แม้ BIOS 800W ก็ถือว่ามากเกินไปสำหรับการ์ดส่วนใหญ่แล้ว

    https://wccftech.com/asus-rtx-5090-2000w-xoc-bios-leaked/
    ⚡ BIOS 2000W ของ ASUS RTX 5090 รั่วไหล มีผู้ใช้ในฟอรั่ม Overclock เผยแพร่ BIOS รุ่นพิเศษที่เดิมทีสร้างขึ้นสำหรับ ASUS GeForce Astral RTX 5090 D ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว BIOS นี้ปลดล็อกเพดานพลังงานสูงสุดถึง 2002W แม้การ์ดจริงจะไม่สามารถดึงพลังงานได้มากขนาดนั้น แต่ก็มีรายงานว่า RTX 5090 รุ่นปกติสามารถดึงไฟได้ถึง 1000W เมื่อแฟลช BIOS ดังกล่าว 🖥️ ผลการทดสอบและประสิทธิภาพ ผู้ใช้ที่ทดลองแฟลช BIOS บน Gigabyte RTX 5090 สามารถทำคะแนนได้กว่า 18,173 คะแนนใน 3DMark Steel Nomad DX12 ซึ่งติดอันดับ Top 25 ของโลก ขณะที่ YouTuber ชื่อดัง Jayztwocents ก็เคยทดสอบและได้คะแนนใกล้เคียงกันที่ 18,186 คะแนน โดยประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นราว 10% แต่ต้องแลกกับการใช้พลังงานสูงถึง 900W 🔥 ความเสี่ยงและคำเตือน แม้จะเพิ่ม FPS ได้ 10–20 เฟรม แต่การดันพลังงานสูงเกินไปทำให้ สายไฟและคอนเน็กเตอร์เสี่ยงต่อการหลอมละลาย ซึ่งอาจนำไปสู่ไฟไหม้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายมาก ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแม้ BIOS 800W ของ ASUS Matrix ก็ถือว่ามากเกินไปสำหรับการ์ดส่วนใหญ่แล้ว การใช้งาน BIOS 2000W จึงเป็นเรื่องที่อันตรายและไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เหตุการณ์ในข่าว ➡️ BIOS ASUS RTX 5090 XOC 2000W ถูกเผยแพร่ในฟอรั่ม Overclock ➡️ เดิมที BIOS นี้สร้างขึ้นสำหรับรุ่น Astral RTX 5090 D ที่ถูกยกเลิก ➡️ ผู้ใช้แฟลชแล้วทำคะแนน 3DMark Steel Nomad DX12 ได้กว่า 18,000 คะแนน ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ Jayztwocents เคยทดสอบ BIOS นี้และได้คะแนนใกล้เคียง Top 20 ของโลก ➡️ ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นราว 10% แต่ต้องใช้พลังงานสูงถึง 900W–1000W ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การใช้ BIOS 2000W เสี่ยงต่อการหลอมละลายของสายไฟและคอนเน็กเตอร์ ⛔ อาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไฟไหม้ได้ง่าย ⛔ แม้ BIOS 800W ก็ถือว่ามากเกินไปสำหรับการ์ดส่วนใหญ่แล้ว https://wccftech.com/asus-rtx-5090-2000w-xoc-bios-leaked/
    WCCFTECH.COM
    ASUS RTX 5090 2000W XOC BIOS Leaked; Use At Your Own Risk
    A user on the Overclock forums have uploaded the ASUS RTX 5090 2000W XOC BIOS, which unlocks inane power limit for the RTX 5090.
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • การ์ดจอราคาถูกที่ไม่ใช่สิ่งที่คิด

    ข่าวนี้เล่าเรื่องผู้ซื้อการ์ดจอ GTX 1060 ราคาถูกเพียง 5 ดอลลาร์ แต่กลับได้การ์ดรุ่นเก่า GTX 560 Ti แทน พร้อมเสริมข้อมูลจากโลกออนไลน์ว่าตลาด GPU มีการหลอกลวงและการ์ดปลอมมากขึ้นเรื่อย ๆ

    ในช่วง Black Friday มีผู้ซื้อรายหนึ่งพบการ์ดจอ MSI GTX 1060 ที่วางขายในร้านมือสอง Salvation Army ในราคาเพียง 10 ดอลลาร์ และลดครึ่งราคาเหลือ 5 ดอลลาร์ แต่เมื่อเปิดกล่องกลับพบว่าเป็น Gigabyte GTX 560 Ti ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2011 ทำให้ความหวังที่จะขายต่อเพื่อกำไรเล็กน้อยพังทลายทันที

    สาระเพิ่มเติม: ตลาด GPU ปลอมและหลอกลวง
    จากข้อมูลล่าสุด การ์ดจอปลอมและการหลอกขาย GPU ราคาถูกกำลังแพร่หลายมากขึ้น โดยมักใช้วิธี ใส่การ์ดรุ่นเก่าในกล่องรุ่นใหม่ หรือแม้กระทั่ง แฟลช BIOS ให้ระบบเข้าใจผิดว่าเป็นรุ่นใหม่กว่า เช่น GTX 1050 Ti ที่แท้จริงคือ GTX 550 Ti สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ซื้อที่หวังจะได้การ์ดแรงราคาถูกต้องผิดหวัง และบางครั้งอาจเสี่ยงต่อการเสียหายของเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยgpusniper.com+1

    เปรียบเทียบ GTX 1060 vs GTX 560 Ti
    หากดูตามประสิทธิภาพจริง GTX 1060 เร็วกว่าถึง 245% ในการเล่นเกมและงานกราฟิก เมื่อเทียบกับ GTX 560 Ti โดย GTX 1060 มีหน่วยความจำสูงสุด 6GB และสถาปัตยกรรม Pascal ที่ทันสมัยกว่า ในขณะที่ GTX 560 Ti มีเพียง 1GB และใช้สถาปัตยกรรม Fermi ที่ล้าสมัยTechnical City+1 ดังนั้นการได้การ์ดรุ่นเก่าแทนรุ่นใหม่ถือว่าเสียโอกาสอย่างมาก แม้ราคาจะถูกก็ตาม

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เหตุการณ์ในข่าว
    ผู้ซื้อเจอการ์ดจอ GTX 1060 ราคาถูกเพียง 5 ดอลลาร์ แต่ในกล่องกลับเป็น GTX 560 Ti
    เหตุเกิดในร้าน Salvation Army ช่วง Black Friday

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาด GPU มีการหลอกลวง เช่น การใส่การ์ดรุ่นเก่าในกล่องใหม่ หรือแฟลช BIOS ให้แสดงผลผิด
    GTX 1060 มีประสิทธิภาพสูงกว่า GTX 560 Ti ถึงกว่า 200% ในหลายการทดสอบ

    คำเตือนสำหรับผู้ซื้อการ์ดจอ
    ราคาที่ถูกเกินจริง เช่น RTX 4090 ราคา 149 ดอลลาร์ มักเป็นการหลอกลวง
    การ์ดปลอมอาจทำให้เครื่องคอมเสียหาย เช่น ไฟฟ้าลัดวงจรหรือ PSU ทำงานหนักเกินไป
    ควรตรวจสอบกล่อง, serial number, และพอร์ตเชื่อมต่อให้ตรงกับมาตรฐานรุ่นจริง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gtx-1060-bought-for-usd5-turned-out-to-be-a-gtx-560-ti-black-friday-shopper-learns-the-hard-way-to-always-check-whats-in-the-box-before-walking-out-the-door
    🖥️ การ์ดจอราคาถูกที่ไม่ใช่สิ่งที่คิด ข่าวนี้เล่าเรื่องผู้ซื้อการ์ดจอ GTX 1060 ราคาถูกเพียง 5 ดอลลาร์ แต่กลับได้การ์ดรุ่นเก่า GTX 560 Ti แทน พร้อมเสริมข้อมูลจากโลกออนไลน์ว่าตลาด GPU มีการหลอกลวงและการ์ดปลอมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง Black Friday มีผู้ซื้อรายหนึ่งพบการ์ดจอ MSI GTX 1060 ที่วางขายในร้านมือสอง Salvation Army ในราคาเพียง 10 ดอลลาร์ และลดครึ่งราคาเหลือ 5 ดอลลาร์ แต่เมื่อเปิดกล่องกลับพบว่าเป็น Gigabyte GTX 560 Ti ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2011 ทำให้ความหวังที่จะขายต่อเพื่อกำไรเล็กน้อยพังทลายทันที ⚠️ สาระเพิ่มเติม: ตลาด GPU ปลอมและหลอกลวง จากข้อมูลล่าสุด การ์ดจอปลอมและการหลอกขาย GPU ราคาถูกกำลังแพร่หลายมากขึ้น โดยมักใช้วิธี ใส่การ์ดรุ่นเก่าในกล่องรุ่นใหม่ หรือแม้กระทั่ง แฟลช BIOS ให้ระบบเข้าใจผิดว่าเป็นรุ่นใหม่กว่า เช่น GTX 1050 Ti ที่แท้จริงคือ GTX 550 Ti สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ซื้อที่หวังจะได้การ์ดแรงราคาถูกต้องผิดหวัง และบางครั้งอาจเสี่ยงต่อการเสียหายของเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยgpusniper.com+1 ⚡ เปรียบเทียบ GTX 1060 vs GTX 560 Ti หากดูตามประสิทธิภาพจริง GTX 1060 เร็วกว่าถึง 245% ในการเล่นเกมและงานกราฟิก เมื่อเทียบกับ GTX 560 Ti โดย GTX 1060 มีหน่วยความจำสูงสุด 6GB และสถาปัตยกรรม Pascal ที่ทันสมัยกว่า ในขณะที่ GTX 560 Ti มีเพียง 1GB และใช้สถาปัตยกรรม Fermi ที่ล้าสมัยTechnical City+1 ดังนั้นการได้การ์ดรุ่นเก่าแทนรุ่นใหม่ถือว่าเสียโอกาสอย่างมาก แม้ราคาจะถูกก็ตาม 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เหตุการณ์ในข่าว ➡️ ผู้ซื้อเจอการ์ดจอ GTX 1060 ราคาถูกเพียง 5 ดอลลาร์ แต่ในกล่องกลับเป็น GTX 560 Ti ➡️ เหตุเกิดในร้าน Salvation Army ช่วง Black Friday ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาด GPU มีการหลอกลวง เช่น การใส่การ์ดรุ่นเก่าในกล่องใหม่ หรือแฟลช BIOS ให้แสดงผลผิด ➡️ GTX 1060 มีประสิทธิภาพสูงกว่า GTX 560 Ti ถึงกว่า 200% ในหลายการทดสอบ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ซื้อการ์ดจอ ⛔ ราคาที่ถูกเกินจริง เช่น RTX 4090 ราคา 149 ดอลลาร์ มักเป็นการหลอกลวง ⛔ การ์ดปลอมอาจทำให้เครื่องคอมเสียหาย เช่น ไฟฟ้าลัดวงจรหรือ PSU ทำงานหนักเกินไป ⛔ ควรตรวจสอบกล่อง, serial number, และพอร์ตเชื่อมต่อให้ตรงกับมาตรฐานรุ่นจริง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gtx-1060-bought-for-usd5-turned-out-to-be-a-gtx-560-ti-black-friday-shopper-learns-the-hard-way-to-always-check-whats-in-the-box-before-walking-out-the-door
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251130 #TechRadar

    ChatGPT ครบรอบ 3 ปี เผยฟีเจอร์ยอดนิยมที่คนใช้จริง
    ChatGPT จาก OpenAI เดินทางมาถึงปีที่ 3 แล้ว และข้อมูลใหม่ที่ถูกเปิดเผยทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะสิ่งที่คนใช้มากที่สุดไม่ใช่การสร้างภาพใหม่ แต่กลับเป็นการ “อัปโหลดภาพ” เพื่อให้ AI ช่วยปรับปรุงหรือแก้ไข นอกจากนี้งานหลักที่คนใช้ในที่ทำงานคือการแก้ไขและวิจารณ์ข้อความ มากกว่าการเขียนใหม่ทั้งหมด ฟีเจอร์ยอดนิยมที่ถูกใช้ทั่วโลกยังรวมถึงการค้นหาข้อมูล การใช้โมเดลเหตุผล การวิเคราะห์ข้อมูล และการพูดเป็นข้อความ ซึ่งสะท้อนว่าผู้ใช้มอง ChatGPT เป็นเครื่องมือช่วยงานจริงจัง ไม่ใช่แค่ของเล่นทดลองอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-reveals-chatgpts-most-popular-features-and-the-top-one-might-surprise-you

    FBI เตือนภัย! แฮกเกอร์ใช้ AI หลอกขโมยเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์
    ปี 2025 กลายเป็นปีที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ AI สร้างแคมเปญหลอกลวงได้สมจริงยิ่งขึ้น FBI รายงานว่ามีการสูญเสียเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์จากการยึดบัญชีผู้ใช้ผ่านการหลอกให้เปิดเผยรหัสผ่านหรือ OTP เมื่อได้ข้อมูลแล้ว แฮกเกอร์สามารถรีเซ็ตรหัสและโอนเงินไปยังบัญชีที่ควบคุมเอง บ่อยครั้งเงินถูกเปลี่ยนเป็นคริปโตเพื่อปกปิดร่องรอย การโจมตีมักมาในรูปแบบอีเมล ปลอมเป็นธนาคาร หรือแม้แต่เว็บไซต์ช้อปปิ้งปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ จุดอันตรายคือผู้ใช้เองเป็นคนกดยืนยันธุรกรรม ทำให้การป้องกันยิ่งยากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/fbi-says-hackers-have-stolen-usd262-million-in-account-takeover-scams-in-2025-so-far-heres-how-you-can-stay-safe

    Meta จ่อดีลใหญ่กับ Google TPU สะเทือนตลาดชิป AI
    ความต้องการชิป AI พุ่งสูงจน Meta ต้องหันไปเจรจากับ Google เพื่อใช้ TPU ของ Google Cloud ในปี 2026 และอาจซื้อโดยตรงในปี 2027 ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนเกม เพราะ Google แต่เดิมใช้ TPU ภายในเท่านั้น ขณะที่ Meta เคยพึ่งพาหลายเจ้า รวมถึง Nvidia การเจรจานี้ทำให้มูลค่า Alphabet พุ่งขึ้นทันที และนักลงทุนเริ่มกังวลว่า Nvidia อาจเสียส่วนแบ่งตลาดมหาศาล ความตึงเครียดในซัพพลายเชนยังคงสูง เพราะความต้องการชิป AI เกินกำลังการผลิตทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/meta-and-google-could-be-about-to-sign-a-mega-ai-chip-deal-and-it-could-change-everything-in-the-tech-space

    IBM เปิดตัวระบบเก็บข้อมูลใหม่ รองรับสูงสุด 47 เพตะไบต์ต่อแร็ค
    IBM ขยายศักยภาพระบบ Storage Scale System 6000 ด้วย All-Flash Expansion Enclosures ที่ใช้ไดรฟ์ QLC ขนาด 122TB ทำให้รองรับข้อมูลได้ถึง 47PB ต่อแร็ค เหมาะกับงานที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาล เช่น AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานหลายงานพร้อมกันโดยไม่เกิดคอขวด และยังเชื่อมต่อกับ GPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดยังเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนและการอ่านให้สูงขึ้น เพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อนในระดับองค์กรใหญ่
    https://www.techradar.com/pro/talk-about-a-triple-threat-ibm-says-it-can-now-support-up-to-47pb-on-a-full-rack-so-load-it-up

    โน้ตบุ๊ก RAM 128GB และ 256GB ปี 2025 สำหรับงานโหดสุดๆ
    โน้ตบุ๊กที่มาพร้อม RAM 128GB หรือแม้แต่ 256GB ไม่ใช่ของสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่ถูกออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ต้องการพลังประมวลผลสูงสุด เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ หรือผู้ทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่ รายชื่อรุ่นที่มีให้เลือกในปี 2025 ครอบคลุมแบรนด์ดังอย่าง Dell, HP, Lenovo, MSI, Asus, Alienware และ Razer ราคามีตั้งแต่ประมาณ 1,599 ดอลลาร์ไปจนถึงกว่า 7,000 ดอลลาร์ รุ่นที่รองรับ 256GB ยังมีไม่มาก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของตลาดโน้ตบุ๊กที่กำลังผลักดันขีดจำกัดของการใช้งานพกพา
    https://www.techradar.com/pro/best-256gb-and-128gb-ram-laptops

    การกำกับดูแลโลกไซเบอร์-กายภาพ กลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับรัฐบาลท้องถิ่น
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการบริหารจัดการระบบไซเบอร์ที่เชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และการขนส่ง ไม่ใช่เรื่อง “nice to have” อีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น รัฐบาลท้องถิ่นต้องมีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการโจมตีไซเบอร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของประชาชน แนวคิดนี้กำลังถูกผลักดันให้เป็นมาตรฐานใหม่ในการบริหารเมืองอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ
    https://www.techradar.com/pro/cyber-physical-governance-isnt-a-nice-to-have-for-state-and-local-government-its-essential

    หูฟังที่ดีที่สุดสำหรับทุกงบประมาณ ผ่านการทดสอบจริง
    ทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทดสอบหูฟังหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนถึงระดับพรีเมียม เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมกับผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบครอบหู ไร้สาย หรือแบบอินเอียร์ จุดเด่นคือการทดสอบในสถานการณ์จริง ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าคุณภาพเสียง ความสบาย และความทนทานได้รับการตรวจสอบแล้ว รายการนี้ช่วยให้ผู้ใช้เลือกหูฟังที่ตรงกับความต้องการโดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเอง
    https://www.techradar.com/audio/headphones/the-best-headphones

    กล้องสำหรับมือใหม่ปี 2025 ตัวเลือกที่เหมาะที่สุด
    สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นถ่ายภาพ บทความนี้แนะนำกล้องที่ใช้งานง่าย ราคาสมเหตุสมผล และมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เรียนรู้ได้เร็ว ไม่ว่าจะเป็นกล้อง DSLR หรือ Mirrorless ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้เริ่มต้น จุดสำคัญคือการเลือกกล้องที่ไม่ซับซ้อนเกินไป แต่ยังมีคุณภาพภาพถ่ายที่ดีพอจะต่อยอดไปสู่การถ่ายภาพจริงจังในอนาคต
    https://www.techradar.com/cameras/the-best-camera-for-beginners

    รีวิว Panasonic HC-X1200 กล้องวิดีโอที่ซูมได้สุดประทับใจ
    Panasonic HC-X1200 ทำให้หลายคนทึ่งกับความสามารถในการซูมที่ทรงพลัง จนแทบจะทำให้กล้องวิดีโอแบบเต็มรูปแบบกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง คุณภาพภาพและระบบกันสั่นที่ดี ทำให้การถ่ายวิดีโอทั้งงานมืออาชีพและงานส่วนตัวมีความคมชัดและเสถียร จุดขายหลักคือการซูมที่เหนือกว่ากล้องทั่วไปในตลาด
    https://www.techradar.com/cameras/video-cameras/panasonic-hc-x1200-review

    ฟีเจอร์ AirDrop ใหม่บน Google Pixel 10 มีปัญหากับผู้ใช้บางราย
    Google Pixel 10 มาพร้อมฟีเจอร์ AirDrop ที่ตั้งใจให้แชร์ไฟล์ได้สะดวกขึ้น แต่ผู้ใช้บางรายพบว่าฟีเจอร์นี้ยังมีบั๊ก ทำให้การส่งไฟล์ไม่เสถียรหรือเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ปัญหานี้กำลังถูกพูดถึงในชุมชนผู้ใช้ และคาดว่า Google จะต้องออกอัปเดตแก้ไขในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ฟีเจอร์ทำงานได้สมบูรณ์ตามที่ตั้งใจ
    https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/the-new-airdrop-feature-on-the-google-pixel-10-is-proving-buggy-for-some-users

    ปัญหากวนใจใน iOS 26 และวิธีแก้
    อัปเดต iOS 26 ที่หลายคนรอคอย กลับมาพร้อมทั้งฟีเจอร์ใหม่และความเปลี่ยนแปลงที่บางอย่างทำให้ผู้ใช้หงุดหงิดไม่น้อย เช่น “Liquid Glass” ที่ทำให้หน้าจอดูโปร่งใสเกินไปจนอ่านยาก หลายคนเลือกปิดด้วยการตั้งค่า Reduce Transparency เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น อีกเรื่องคือการถ่ายภาพหน้าจอที่เปลี่ยนไปจากเดิม กลายเป็นเต็มจอพร้อมเครื่องมือแก้ไขทันที ซึ่งบางคนไม่ชอบ จึงไปตั้งค่าให้กลับมาเป็นแบบเดิมที่แค่โชว์ตัวอย่างเล็ก ๆ แล้วปัดทิ้งได้สะดวกกว่า Safari ก็ถูกปรับแถบเครื่องมือใหม่จนดูอึดอัดและต้องกดหลายขั้นตอนกว่าจะได้ฟังก์ชันที่เคยง่าย ๆ ผู้ใช้บางคนเลยเลือกปรับกลับให้เหมือนเดิม ส่วนการพิมพ์แบบ “slide-to-type” ที่บางครั้งเผลอไปลากนิ้วแล้วกลายเป็นคำไม่ตั้งใจ ก็สามารถปิดได้ในเมนู Keyboard และสุดท้ายคือการตั้งปลุกที่เคยบังคับ snooze 9 นาที ตอนนี้สามารถเลือกได้เองตั้งแต่ 1–15 นาที ทำให้ชีวิตยืดหยุ่นขึ้นมาก
    https://www.techradar.com/phones/the-5-most-frustrating-things-about-ios-26-and-how-I-fixed-them

    Cyber Resilience: ธุรกิจต้องปรับตัว
    โลกธุรกิจอังกฤษกำลังเผชิญภัยไซเบอร์ครั้งใหญ่ เหตุการณ์โจมตี Jaguar Land Rover ทำความเสียหายมหาศาลกว่า 1.9 พันล้านปอนด์ และยังมีกรณี Marks & Spencer กับ Co-Op ที่โดนโจมตีเช่นกัน รัฐบาลอังกฤษจึงเสนอแนวทางห้ามจ่ายค่าไถ่ ransomware สำหรับหน่วยงานรัฐและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เพื่อไม่ให้คนร้ายได้ผลประโยชน์ แต่ผลข้างเคียงคือเอกชนอาจกลายเป็นเป้าหมายหลักแทน สิ่งที่ธุรกิจต้องทำคือสร้าง “ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์” โดยเริ่มจากการพัฒนาทักษะบุคลากร เพราะรายงานล่าสุดชี้ว่ามีช่องว่างทักษะด้านนี้สูงมาก การฝึกอบรมต้องไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ต้องฝังอยู่ในงานประจำทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ฝ่ายการเงินจนถึงบริการลูกค้า เพื่อให้ทุกคนรู้จักรับมือภัย เช่น phishing ที่ยังเป็นช่องทางโจมตีหลัก และที่สำคัญคือบอร์ดบริหารต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เทียบเท่ากับผลประกอบการ เพราะภัยไซเบอร์วันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่คือความอยู่รอดของธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/cyber-resilience-is-a-business-imperative-skills-and-strategy-must-evolve

    Cybersecurity Burnout: เมื่อทีมงานหมดแรง
    งานด้านความปลอดภัยไซเบอร์เป็นงานที่ต้องวิ่งแข่งกับภัยคุกคามตลอดเวลา จนทำให้คนทำงานจำนวนมากเกิดภาวะ “burnout” หรือหมดแรง ล่าสุดมีตัวเลขว่ากว่า 76% ของผู้เชี่ยวชาญด้านนี้รู้สึกเหนื่อยล้า และ 69% บอกว่าหนักขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักคือการโจมตีที่ไม่หยุดพัก กฎระเบียบใหม่ ๆ ที่ต้องตามให้ทัน และการขาดบุคลากรที่เพียงพอ ผลกระทบไม่ใช่แค่สุขภาพจิต แต่ยังทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง เสี่ยงต่อการเกิดช่องโหว่และความเสียหายทางการเงิน บริษัทจึงต้องหาทางแก้ เช่น การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนพนักงาน การลงทุนในเครื่องมือที่ช่วยแบ่งเบาภาระ รวมถึงการใช้บริการภายนอกอย่าง Managed Detection and Response (MDR) ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าได้จริง และที่สำคัญคือการให้โอกาสเติบโตในสายงาน เพื่อให้คนทำงานรู้สึกว่ามีอนาคต ไม่ใช่แค่ทำงานไปวัน ๆ
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/tackling-cybersecurity-burnout-once-and-for-all
    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251130 #TechRadar 🧠 ChatGPT ครบรอบ 3 ปี เผยฟีเจอร์ยอดนิยมที่คนใช้จริง ChatGPT จาก OpenAI เดินทางมาถึงปีที่ 3 แล้ว และข้อมูลใหม่ที่ถูกเปิดเผยทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะสิ่งที่คนใช้มากที่สุดไม่ใช่การสร้างภาพใหม่ แต่กลับเป็นการ “อัปโหลดภาพ” เพื่อให้ AI ช่วยปรับปรุงหรือแก้ไข นอกจากนี้งานหลักที่คนใช้ในที่ทำงานคือการแก้ไขและวิจารณ์ข้อความ มากกว่าการเขียนใหม่ทั้งหมด ฟีเจอร์ยอดนิยมที่ถูกใช้ทั่วโลกยังรวมถึงการค้นหาข้อมูล การใช้โมเดลเหตุผล การวิเคราะห์ข้อมูล และการพูดเป็นข้อความ ซึ่งสะท้อนว่าผู้ใช้มอง ChatGPT เป็นเครื่องมือช่วยงานจริงจัง ไม่ใช่แค่ของเล่นทดลองอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-reveals-chatgpts-most-popular-features-and-the-top-one-might-surprise-you 🛡️ FBI เตือนภัย! แฮกเกอร์ใช้ AI หลอกขโมยเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์ ปี 2025 กลายเป็นปีที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ AI สร้างแคมเปญหลอกลวงได้สมจริงยิ่งขึ้น FBI รายงานว่ามีการสูญเสียเงินกว่า 262 ล้านดอลลาร์จากการยึดบัญชีผู้ใช้ผ่านการหลอกให้เปิดเผยรหัสผ่านหรือ OTP เมื่อได้ข้อมูลแล้ว แฮกเกอร์สามารถรีเซ็ตรหัสและโอนเงินไปยังบัญชีที่ควบคุมเอง บ่อยครั้งเงินถูกเปลี่ยนเป็นคริปโตเพื่อปกปิดร่องรอย การโจมตีมักมาในรูปแบบอีเมล ปลอมเป็นธนาคาร หรือแม้แต่เว็บไซต์ช้อปปิ้งปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ จุดอันตรายคือผู้ใช้เองเป็นคนกดยืนยันธุรกรรม ทำให้การป้องกันยิ่งยากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/fbi-says-hackers-have-stolen-usd262-million-in-account-takeover-scams-in-2025-so-far-heres-how-you-can-stay-safe 💻 Meta จ่อดีลใหญ่กับ Google TPU สะเทือนตลาดชิป AI ความต้องการชิป AI พุ่งสูงจน Meta ต้องหันไปเจรจากับ Google เพื่อใช้ TPU ของ Google Cloud ในปี 2026 และอาจซื้อโดยตรงในปี 2027 ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนเกม เพราะ Google แต่เดิมใช้ TPU ภายในเท่านั้น ขณะที่ Meta เคยพึ่งพาหลายเจ้า รวมถึง Nvidia การเจรจานี้ทำให้มูลค่า Alphabet พุ่งขึ้นทันที และนักลงทุนเริ่มกังวลว่า Nvidia อาจเสียส่วนแบ่งตลาดมหาศาล ความตึงเครียดในซัพพลายเชนยังคงสูง เพราะความต้องการชิป AI เกินกำลังการผลิตทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/meta-and-google-could-be-about-to-sign-a-mega-ai-chip-deal-and-it-could-change-everything-in-the-tech-space 💾 IBM เปิดตัวระบบเก็บข้อมูลใหม่ รองรับสูงสุด 47 เพตะไบต์ต่อแร็ค IBM ขยายศักยภาพระบบ Storage Scale System 6000 ด้วย All-Flash Expansion Enclosures ที่ใช้ไดรฟ์ QLC ขนาด 122TB ทำให้รองรับข้อมูลได้ถึง 47PB ต่อแร็ค เหมาะกับงานที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาล เช่น AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานหลายงานพร้อมกันโดยไม่เกิดคอขวด และยังเชื่อมต่อกับ GPU ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดยังเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนและการอ่านให้สูงขึ้น เพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อนในระดับองค์กรใหญ่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/talk-about-a-triple-threat-ibm-says-it-can-now-support-up-to-47pb-on-a-full-rack-so-load-it-up 💻 โน้ตบุ๊ก RAM 128GB และ 256GB ปี 2025 สำหรับงานโหดสุดๆ โน้ตบุ๊กที่มาพร้อม RAM 128GB หรือแม้แต่ 256GB ไม่ใช่ของสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่ถูกออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ต้องการพลังประมวลผลสูงสุด เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักสร้างสรรค์คอนเทนต์ หรือผู้ทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่ รายชื่อรุ่นที่มีให้เลือกในปี 2025 ครอบคลุมแบรนด์ดังอย่าง Dell, HP, Lenovo, MSI, Asus, Alienware และ Razer ราคามีตั้งแต่ประมาณ 1,599 ดอลลาร์ไปจนถึงกว่า 7,000 ดอลลาร์ รุ่นที่รองรับ 256GB ยังมีไม่มาก แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของตลาดโน้ตบุ๊กที่กำลังผลักดันขีดจำกัดของการใช้งานพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/best-256gb-and-128gb-ram-laptops 🌐 การกำกับดูแลโลกไซเบอร์-กายภาพ กลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับรัฐบาลท้องถิ่น บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการบริหารจัดการระบบไซเบอร์ที่เชื่อมโยงกับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และการขนส่ง ไม่ใช่เรื่อง “nice to have” อีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น รัฐบาลท้องถิ่นต้องมีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการโจมตีไซเบอร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของประชาชน แนวคิดนี้กำลังถูกผลักดันให้เป็นมาตรฐานใหม่ในการบริหารเมืองอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ 🔗 https://www.techradar.com/pro/cyber-physical-governance-isnt-a-nice-to-have-for-state-and-local-government-its-essential 🎧 หูฟังที่ดีที่สุดสำหรับทุกงบประมาณ ผ่านการทดสอบจริง ทีมผู้เชี่ยวชาญได้ทดสอบหูฟังหลากหลายรุ่น ตั้งแต่ราคาประหยัดไปจนถึงระดับพรีเมียม เพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมกับผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบครอบหู ไร้สาย หรือแบบอินเอียร์ จุดเด่นคือการทดสอบในสถานการณ์จริง ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าคุณภาพเสียง ความสบาย และความทนทานได้รับการตรวจสอบแล้ว รายการนี้ช่วยให้ผู้ใช้เลือกหูฟังที่ตรงกับความต้องการโดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเอง 🔗 https://www.techradar.com/audio/headphones/the-best-headphones 📷 กล้องสำหรับมือใหม่ปี 2025 ตัวเลือกที่เหมาะที่สุด สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นถ่ายภาพ บทความนี้แนะนำกล้องที่ใช้งานง่าย ราคาสมเหตุสมผล และมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เรียนรู้ได้เร็ว ไม่ว่าจะเป็นกล้อง DSLR หรือ Mirrorless ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้เริ่มต้น จุดสำคัญคือการเลือกกล้องที่ไม่ซับซ้อนเกินไป แต่ยังมีคุณภาพภาพถ่ายที่ดีพอจะต่อยอดไปสู่การถ่ายภาพจริงจังในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/cameras/the-best-camera-for-beginners 🎥 รีวิว Panasonic HC-X1200 กล้องวิดีโอที่ซูมได้สุดประทับใจ Panasonic HC-X1200 ทำให้หลายคนทึ่งกับความสามารถในการซูมที่ทรงพลัง จนแทบจะทำให้กล้องวิดีโอแบบเต็มรูปแบบกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง คุณภาพภาพและระบบกันสั่นที่ดี ทำให้การถ่ายวิดีโอทั้งงานมืออาชีพและงานส่วนตัวมีความคมชัดและเสถียร จุดขายหลักคือการซูมที่เหนือกว่ากล้องทั่วไปในตลาด 🔗 https://www.techradar.com/cameras/video-cameras/panasonic-hc-x1200-review 📱 ฟีเจอร์ AirDrop ใหม่บน Google Pixel 10 มีปัญหากับผู้ใช้บางราย Google Pixel 10 มาพร้อมฟีเจอร์ AirDrop ที่ตั้งใจให้แชร์ไฟล์ได้สะดวกขึ้น แต่ผู้ใช้บางรายพบว่าฟีเจอร์นี้ยังมีบั๊ก ทำให้การส่งไฟล์ไม่เสถียรหรือเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ปัญหานี้กำลังถูกพูดถึงในชุมชนผู้ใช้ และคาดว่า Google จะต้องออกอัปเดตแก้ไขในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ฟีเจอร์ทำงานได้สมบูรณ์ตามที่ตั้งใจ 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/the-new-airdrop-feature-on-the-google-pixel-10-is-proving-buggy-for-some-users 📱 ปัญหากวนใจใน iOS 26 และวิธีแก้ อัปเดต iOS 26 ที่หลายคนรอคอย กลับมาพร้อมทั้งฟีเจอร์ใหม่และความเปลี่ยนแปลงที่บางอย่างทำให้ผู้ใช้หงุดหงิดไม่น้อย เช่น “Liquid Glass” ที่ทำให้หน้าจอดูโปร่งใสเกินไปจนอ่านยาก หลายคนเลือกปิดด้วยการตั้งค่า Reduce Transparency เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น อีกเรื่องคือการถ่ายภาพหน้าจอที่เปลี่ยนไปจากเดิม กลายเป็นเต็มจอพร้อมเครื่องมือแก้ไขทันที ซึ่งบางคนไม่ชอบ จึงไปตั้งค่าให้กลับมาเป็นแบบเดิมที่แค่โชว์ตัวอย่างเล็ก ๆ แล้วปัดทิ้งได้สะดวกกว่า Safari ก็ถูกปรับแถบเครื่องมือใหม่จนดูอึดอัดและต้องกดหลายขั้นตอนกว่าจะได้ฟังก์ชันที่เคยง่าย ๆ ผู้ใช้บางคนเลยเลือกปรับกลับให้เหมือนเดิม ส่วนการพิมพ์แบบ “slide-to-type” ที่บางครั้งเผลอไปลากนิ้วแล้วกลายเป็นคำไม่ตั้งใจ ก็สามารถปิดได้ในเมนู Keyboard และสุดท้ายคือการตั้งปลุกที่เคยบังคับ snooze 9 นาที ตอนนี้สามารถเลือกได้เองตั้งแต่ 1–15 นาที ทำให้ชีวิตยืดหยุ่นขึ้นมาก 🔗 https://www.techradar.com/phones/the-5-most-frustrating-things-about-ios-26-and-how-I-fixed-them 🛡️ Cyber Resilience: ธุรกิจต้องปรับตัว โลกธุรกิจอังกฤษกำลังเผชิญภัยไซเบอร์ครั้งใหญ่ เหตุการณ์โจมตี Jaguar Land Rover ทำความเสียหายมหาศาลกว่า 1.9 พันล้านปอนด์ และยังมีกรณี Marks & Spencer กับ Co-Op ที่โดนโจมตีเช่นกัน รัฐบาลอังกฤษจึงเสนอแนวทางห้ามจ่ายค่าไถ่ ransomware สำหรับหน่วยงานรัฐและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เพื่อไม่ให้คนร้ายได้ผลประโยชน์ แต่ผลข้างเคียงคือเอกชนอาจกลายเป็นเป้าหมายหลักแทน สิ่งที่ธุรกิจต้องทำคือสร้าง “ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์” โดยเริ่มจากการพัฒนาทักษะบุคลากร เพราะรายงานล่าสุดชี้ว่ามีช่องว่างทักษะด้านนี้สูงมาก การฝึกอบรมต้องไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ต้องฝังอยู่ในงานประจำทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ฝ่ายการเงินจนถึงบริการลูกค้า เพื่อให้ทุกคนรู้จักรับมือภัย เช่น phishing ที่ยังเป็นช่องทางโจมตีหลัก และที่สำคัญคือบอร์ดบริหารต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เทียบเท่ากับผลประกอบการ เพราะภัยไซเบอร์วันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่คือความอยู่รอดของธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/cyber-resilience-is-a-business-imperative-skills-and-strategy-must-evolve 😓 Cybersecurity Burnout: เมื่อทีมงานหมดแรง งานด้านความปลอดภัยไซเบอร์เป็นงานที่ต้องวิ่งแข่งกับภัยคุกคามตลอดเวลา จนทำให้คนทำงานจำนวนมากเกิดภาวะ “burnout” หรือหมดแรง ล่าสุดมีตัวเลขว่ากว่า 76% ของผู้เชี่ยวชาญด้านนี้รู้สึกเหนื่อยล้า และ 69% บอกว่าหนักขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักคือการโจมตีที่ไม่หยุดพัก กฎระเบียบใหม่ ๆ ที่ต้องตามให้ทัน และการขาดบุคลากรที่เพียงพอ ผลกระทบไม่ใช่แค่สุขภาพจิต แต่ยังทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง เสี่ยงต่อการเกิดช่องโหว่และความเสียหายทางการเงิน บริษัทจึงต้องหาทางแก้ เช่น การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนพนักงาน การลงทุนในเครื่องมือที่ช่วยแบ่งเบาภาระ รวมถึงการใช้บริการภายนอกอย่าง Managed Detection and Response (MDR) ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าได้จริง และที่สำคัญคือการให้โอกาสเติบโตในสายงาน เพื่อให้คนทำงานรู้สึกว่ามีอนาคต ไม่ใช่แค่ทำงานไปวัน ๆ ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/tackling-cybersecurity-burnout-once-and-for-all
    0 Comments 0 Shares 287 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251129 #securityonline

    Google เร่งพัฒนาแว่นตา AI เตรียมเปิดตัวปลายปี 2026
    Google กำลังกลับมาลุยตลาดแว่นตาอัจฉริยะอีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้จับมือกับ Foxconn ในการผลิตฮาร์ดแวร์ และใช้การออกแบบจาก Samsung พร้อมชิป Qualcomm เป็นหัวใจหลักของอุปกรณ์ รุ่นใหม่นี้จะใช้ระบบเลนส์ waveguide และมีกล้องในตัวเพื่อรองรับการทำงานด้าน AI ขั้นสูง โครงการนี้ไม่ใช่การต่อยอดจาก Project Aura ที่เคยเปิดตัว แต่เป็นอีกเส้นทางที่เดินคู่ขนานกันไป ขณะนี้อยู่ในขั้นทดสอบการผลิตจำนวนเล็ก และหากทุกอย่างราบรื่น คาดว่าจะเปิดตัวได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2026 จุดแข็งของ Google คือการผสาน Gemini AI เข้ากับ Android XR ทำให้ ecosystem สมบูรณ์และพร้อมแข่งขันกับ Meta, Apple และค่ายอื่น ๆ ที่กำลังเตรียมแว่นตา AI เช่นกัน
    https://securityonline.info/google-assembles-foxconn-samsung-supply-chain-for-q4-2026-ai-glasses-launch

    EU เปิดสอบ Apple Maps และ Apple Ads อาจเข้าข่าย Gatekeeper
    หลังจากที่ Safari, iOS, iPadOS และ App Store ถูกจัดอยู่ในสถานะ Gatekeeper ภายใต้กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป ตอนนี้ Apple Maps และ Apple Ads กำลังถูกตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีผู้ใช้งานถึงเกณฑ์หรือไม่ หากถูกจัดเป็น Gatekeeper จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเข้มงวด เช่น ห้ามเอื้อประโยชน์ให้บริการตัวเอง และห้ามผูกขาดผู้ใช้ใน ecosystem ของ Apple อย่างไรก็ตาม Apple ไม่เห็นด้วย โดยยืนยันว่า Apple Maps มีผู้ใช้น้อยมากในยุโรป และ Apple Ads ก็ไม่ได้มีอิทธิพลในตลาดเทียบกับ Google หรือ Meta การสอบสวนนี้จะใช้เวลา 45 วันก่อนจะมีการตัดสินใจ
    https://securityonline.info/eu-launches-probe-are-apple-maps-apple-ads-next-for-dma-gatekeeper-status

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Kvrocks เสี่ยงถูกยึดสิทธิ์ Admin
    Apache ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในฐานข้อมูล Kvrocks ซึ่งเป็น NoSQL ที่ทำงานคล้าย Redis โดยมีช่องโหว่สำคัญ CVE-2025-59790 ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้คำสั่ง RESET เพื่อยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น Admin ได้ทันที นอกจากนี้ยังมี CVE-2025-59792 ที่ทำให้คำสั่ง MONITOR เผยข้อมูลรหัสผ่านแบบ plaintext ของผู้ใช้รายอื่น ช่องโหว่นี้กระทบตั้งแต่เวอร์ชัน 1.0.0 ถึง 2.13.0 และได้รับการแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.14.0 ความเสี่ยงนี้ถือว่าร้ายแรงเพราะอาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลและระบบถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต
    https://securityonline.info/critical-alert-apache-kvrocks-reset-command-flaw-grants-admin-privileges

    CISA เตือนช่องโหว่ OpenPLC ถูกโจมตีจริงในระบบอุตสาหกรรม
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2021-26829 เข้าไปในรายการ Known Exploited Vulnerabilities หลังพบว่ามีการโจมตีจริงในระบบควบคุมอุตสาหกรรม ช่องโหว่นี้เป็น Stored XSS ที่อยู่ใน OpenPLC ScadaBR ทำให้แฮกเกอร์สามารถฝังโค้ดอันตรายไว้ในระบบ และเมื่อผู้ดูแลเปิดหน้าการตั้งค่า โค้ดจะทำงานทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุม session ของผู้ดูแลและอาจแทรกแซงกระบวนการอุตสาหกรรมได้ CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องแก้ไขภายใน 19 ธันวาคม 2025 และแนะนำให้ทุกองค์กรที่ใช้ระบบ SCADA รีบอัปเดตเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://securityonline.info/cisa-flags-actively-exploited-openplc-flaw-cve-2021-26829

    ข้อมูลผู้ใช้ OpenAI API รั่วจากเหตุ Mixpanel ถูกแฮก
    OpenAI ยืนยันว่ามีข้อมูลผู้ใช้ API รั่วไหล แต่ไม่ใช่จากระบบของตนเองโดยตรง ต้นเหตุเกิดจาก Mixpanel บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลที่ OpenAI ใช้สำหรับติดตามการใช้งาน API โดยแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงและดึงข้อมูลออกไปได้ ข้อมูลที่รั่วประกอบด้วยชื่อ อีเมล ข้อมูลตำแหน่งโดยประมาณ และรายละเอียดเบราว์เซอร์ แต่ไม่มีรหัสผ่าน API key หรือข้อมูลการชำระเงินรั่วไหล OpenAI ได้ยุติการใช้บริการ Mixpanel ทันที และเตือนผู้ใช้ให้ระวังการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่อาจตามมา เนื่องจากข้อมูลที่รั่วสามารถถูกนำไปใช้สร้างอีเมลปลอมที่ดูน่าเชื่อถือได้
    https://securityonline.info/openai-api-users-exposed-in-mixpanel-security-breach

    Google ลดโควตาฟรีรายวันสำหรับโมเดล Gemini 3 Pro และ Nano Banana Pro
    Google ประกาศปรับนโยบายการใช้งาน API ของโมเดล AI โดยลดโควตาฟรีรายวันลง ทำให้ผู้ใช้งานต้องพิจารณาเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงต้นทุนการให้บริการที่สูงขึ้นและความต้องการจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน Google ยังคงผลักดัน Gemini ให้เป็นแกนหลักของ ecosystem AI ที่เชื่อมโยงกับบริการต่าง ๆ ของบริษัท
    https://securityonline.info/google-cuts-free-daily-quota-for-gemini-3-pro-and-nano-banana-pro-ai-models

    Pixel 10 เปิดโหมดนำทางประหยัดพลังงานใน Google Maps
    Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Pixel 10 โดยเพิ่มโหมดนำทางแบบประหยัดพลังงานใน Google Maps ที่ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ถึง 4 ชั่วโมง ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องเดินทางไกลและไม่สะดวกชาร์จมือถือบ่อย ๆ ถือเป็นการพัฒนาที่ตอบโจทย์ผู้ใช้สมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความสะดวกและความทนทานของแบตเตอรี่
    https://securityonline.info/pixel-10-exclusive-google-maps-launches-power-saving-navigation-mode-for-4-hour-battery-boost

    AWS เปิดตัว Route 53 Accelerated Recovery รับประกันกู้คืนภายใน 60 นาที
    Amazon Web Services (AWS) เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Route 53 ที่ชื่อ Accelerated Recovery โดยรับประกันการกู้คืนระบบ DNS ภายในเวลาไม่เกิน 60 นาที ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับองค์กรที่ต้องพึ่งพาบริการออนไลน์ตลอดเวลา ลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของระบบ และเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการของ AWS ในตลาดคลาวด์
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/aws-guarantees-60-minute-recovery-time-with-new-route-53-accelerated-recovery
    📌🔐🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣🔐📌 #รวมข่าวIT #20251129 #securityonline 🕶️ Google เร่งพัฒนาแว่นตา AI เตรียมเปิดตัวปลายปี 2026 Google กำลังกลับมาลุยตลาดแว่นตาอัจฉริยะอีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้จับมือกับ Foxconn ในการผลิตฮาร์ดแวร์ และใช้การออกแบบจาก Samsung พร้อมชิป Qualcomm เป็นหัวใจหลักของอุปกรณ์ รุ่นใหม่นี้จะใช้ระบบเลนส์ waveguide และมีกล้องในตัวเพื่อรองรับการทำงานด้าน AI ขั้นสูง โครงการนี้ไม่ใช่การต่อยอดจาก Project Aura ที่เคยเปิดตัว แต่เป็นอีกเส้นทางที่เดินคู่ขนานกันไป ขณะนี้อยู่ในขั้นทดสอบการผลิตจำนวนเล็ก และหากทุกอย่างราบรื่น คาดว่าจะเปิดตัวได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2026 จุดแข็งของ Google คือการผสาน Gemini AI เข้ากับ Android XR ทำให้ ecosystem สมบูรณ์และพร้อมแข่งขันกับ Meta, Apple และค่ายอื่น ๆ ที่กำลังเตรียมแว่นตา AI เช่นกัน 🔗 https://securityonline.info/google-assembles-foxconn-samsung-supply-chain-for-q4-2026-ai-glasses-launch 🇪🇺 EU เปิดสอบ Apple Maps และ Apple Ads อาจเข้าข่าย Gatekeeper หลังจากที่ Safari, iOS, iPadOS และ App Store ถูกจัดอยู่ในสถานะ Gatekeeper ภายใต้กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป ตอนนี้ Apple Maps และ Apple Ads กำลังถูกตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีผู้ใช้งานถึงเกณฑ์หรือไม่ หากถูกจัดเป็น Gatekeeper จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเข้มงวด เช่น ห้ามเอื้อประโยชน์ให้บริการตัวเอง และห้ามผูกขาดผู้ใช้ใน ecosystem ของ Apple อย่างไรก็ตาม Apple ไม่เห็นด้วย โดยยืนยันว่า Apple Maps มีผู้ใช้น้อยมากในยุโรป และ Apple Ads ก็ไม่ได้มีอิทธิพลในตลาดเทียบกับ Google หรือ Meta การสอบสวนนี้จะใช้เวลา 45 วันก่อนจะมีการตัดสินใจ 🔗 https://securityonline.info/eu-launches-probe-are-apple-maps-apple-ads-next-for-dma-gatekeeper-status ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Kvrocks เสี่ยงถูกยึดสิทธิ์ Admin Apache ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในฐานข้อมูล Kvrocks ซึ่งเป็น NoSQL ที่ทำงานคล้าย Redis โดยมีช่องโหว่สำคัญ CVE-2025-59790 ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้คำสั่ง RESET เพื่อยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น Admin ได้ทันที นอกจากนี้ยังมี CVE-2025-59792 ที่ทำให้คำสั่ง MONITOR เผยข้อมูลรหัสผ่านแบบ plaintext ของผู้ใช้รายอื่น ช่องโหว่นี้กระทบตั้งแต่เวอร์ชัน 1.0.0 ถึง 2.13.0 และได้รับการแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.14.0 ความเสี่ยงนี้ถือว่าร้ายแรงเพราะอาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลและระบบถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/critical-alert-apache-kvrocks-reset-command-flaw-grants-admin-privileges 🏭 CISA เตือนช่องโหว่ OpenPLC ถูกโจมตีจริงในระบบอุตสาหกรรม หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2021-26829 เข้าไปในรายการ Known Exploited Vulnerabilities หลังพบว่ามีการโจมตีจริงในระบบควบคุมอุตสาหกรรม ช่องโหว่นี้เป็น Stored XSS ที่อยู่ใน OpenPLC ScadaBR ทำให้แฮกเกอร์สามารถฝังโค้ดอันตรายไว้ในระบบ และเมื่อผู้ดูแลเปิดหน้าการตั้งค่า โค้ดจะทำงานทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุม session ของผู้ดูแลและอาจแทรกแซงกระบวนการอุตสาหกรรมได้ CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องแก้ไขภายใน 19 ธันวาคม 2025 และแนะนำให้ทุกองค์กรที่ใช้ระบบ SCADA รีบอัปเดตเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/cisa-flags-actively-exploited-openplc-flaw-cve-2021-26829 🔐 ข้อมูลผู้ใช้ OpenAI API รั่วจากเหตุ Mixpanel ถูกแฮก OpenAI ยืนยันว่ามีข้อมูลผู้ใช้ API รั่วไหล แต่ไม่ใช่จากระบบของตนเองโดยตรง ต้นเหตุเกิดจาก Mixpanel บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลที่ OpenAI ใช้สำหรับติดตามการใช้งาน API โดยแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงและดึงข้อมูลออกไปได้ ข้อมูลที่รั่วประกอบด้วยชื่อ อีเมล ข้อมูลตำแหน่งโดยประมาณ และรายละเอียดเบราว์เซอร์ แต่ไม่มีรหัสผ่าน API key หรือข้อมูลการชำระเงินรั่วไหล OpenAI ได้ยุติการใช้บริการ Mixpanel ทันที และเตือนผู้ใช้ให้ระวังการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่อาจตามมา เนื่องจากข้อมูลที่รั่วสามารถถูกนำไปใช้สร้างอีเมลปลอมที่ดูน่าเชื่อถือได้ 🔗 https://securityonline.info/openai-api-users-exposed-in-mixpanel-security-breach 🤖 Google ลดโควตาฟรีรายวันสำหรับโมเดล Gemini 3 Pro และ Nano Banana Pro Google ประกาศปรับนโยบายการใช้งาน API ของโมเดล AI โดยลดโควตาฟรีรายวันลง ทำให้ผู้ใช้งานต้องพิจารณาเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงต้นทุนการให้บริการที่สูงขึ้นและความต้องการจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน Google ยังคงผลักดัน Gemini ให้เป็นแกนหลักของ ecosystem AI ที่เชื่อมโยงกับบริการต่าง ๆ ของบริษัท 🔗 https://securityonline.info/google-cuts-free-daily-quota-for-gemini-3-pro-and-nano-banana-pro-ai-models 🗺️ Pixel 10 เปิดโหมดนำทางประหยัดพลังงานใน Google Maps Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Pixel 10 โดยเพิ่มโหมดนำทางแบบประหยัดพลังงานใน Google Maps ที่ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ถึง 4 ชั่วโมง ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องเดินทางไกลและไม่สะดวกชาร์จมือถือบ่อย ๆ ถือเป็นการพัฒนาที่ตอบโจทย์ผู้ใช้สมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความสะดวกและความทนทานของแบตเตอรี่ 🔗 https://securityonline.info/pixel-10-exclusive-google-maps-launches-power-saving-navigation-mode-for-4-hour-battery-boost ☁️ AWS เปิดตัว Route 53 Accelerated Recovery รับประกันกู้คืนภายใน 60 นาที Amazon Web Services (AWS) เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Route 53 ที่ชื่อ Accelerated Recovery โดยรับประกันการกู้คืนระบบ DNS ภายในเวลาไม่เกิน 60 นาที ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับองค์กรที่ต้องพึ่งพาบริการออนไลน์ตลอดเวลา ลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของระบบ และเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการของ AWS ในตลาดคลาวด์ ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/aws-guarantees-60-minute-recovery-time-with-new-route-53-accelerated-recovery
    0 Comments 0 Shares 245 Views 0 Reviews
  • “Apple เตรียมแก้จุดอ่อนใหญ่ด้วย iOS 27 และอัปเดต Siri”

    รายงานล่าสุดเผยว่า iOS 27 จะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาคุณภาพและเสถียรภาพ หลังจากผู้ใช้จำนวนมากบ่นว่า iOS 26 มีปัญหา เช่น เครื่องร้อนผิดปกติ แบตเตอรี่หมดเร็ว คีย์บอร์ดล้มเหลว และแอปเด้งบ่อย Apple จึงวางแผนให้ iOS 27 เป็นการอัปเดตเชิง “Snow Leopard” ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพมากกว่าการเพิ่มฟีเจอร์派

    Siri และ AI Features
    หนึ่งในจุดอ่อนใหญ่ของ Apple คือการพัฒนา AI ที่ล่าช้าและไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง รายงานระบุว่า Apple จะปล่อย อัปเดต Siri ครั้งใหญ่ ก่อน iOS 27 โดย Siri จะสามารถเชื่อมต่อและทำงานกับ ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา AI-powered Health app และ AI search ร่วมกับ Google เพื่อเพิ่มความสามารถด้านการวิเคราะห์และการค้นหา

    ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26
    แม้ iOS 26 จะถูกวิจารณ์เรื่องบั๊ก แต่ก็มีการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ด้วยดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า Liquid Glass พร้อมฟีเจอร์อย่างปุ่มบันทึกการโทร การทำโพลในข้อความ และ “Visual Intelligence” ที่ให้ผู้ใช้ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ รวมถึงการแปลข้อความในตัว

    ผลกระทบต่ออนาคต Apple
    การมุ่งเน้นแก้ไขคุณภาพใน iOS 27 และการเสริม Siri ด้วย AI ถือเป็นการตอบโจทย์จุดอ่อนที่ Apple ถูกวิจารณ์มานาน หากทำได้สำเร็จ อาจช่วยให้ Apple กลับมาแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด AI ได้อย่างจริงจัง และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้มากขึ้นในระยะยาว

    สรุปสาระสำคัญ
    iOS 27 เน้นคุณภาพ
    แก้ปัญหาเครื่องร้อน แบตหมดเร็ว และแอปเด้ง
    แนวทางคล้าย Snow Leopard ที่เน้นเสถียรภาพ

    อัปเดต Siri และ AI
    Siri จะทำงานกับข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ได้ลึกขึ้น
    พัฒนา Health app และ AI search ร่วมกับ Google

    ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26
    ดีไซน์ Liquid Glass
    ปุ่มบันทึกการโทร, โพลในข้อความ, Visual Intelligence

    ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
    หากแก้บั๊กไม่สำเร็จ อาจกระทบความเชื่อมั่นผู้ใช้
    การพัฒนา AI ยังตามหลังคู่แข่ง อาจเสียโอกาสทางตลาด

    ผลกระทบระยะยาว
    Apple ต้องพิสูจน์ว่า AI ของตนมีคุณภาพจริง
    ความสำเร็จของ iOS 27 จะเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของแบรนด์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/29/apples-next-ios-updates-will-address-one-of-the-companys-biggest-weaknesses
    📰 “Apple เตรียมแก้จุดอ่อนใหญ่ด้วย iOS 27 และอัปเดต Siri” รายงานล่าสุดเผยว่า iOS 27 จะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาคุณภาพและเสถียรภาพ หลังจากผู้ใช้จำนวนมากบ่นว่า iOS 26 มีปัญหา เช่น เครื่องร้อนผิดปกติ แบตเตอรี่หมดเร็ว คีย์บอร์ดล้มเหลว และแอปเด้งบ่อย Apple จึงวางแผนให้ iOS 27 เป็นการอัปเดตเชิง “Snow Leopard” ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพมากกว่าการเพิ่มฟีเจอร์派 🤖 Siri และ AI Features หนึ่งในจุดอ่อนใหญ่ของ Apple คือการพัฒนา AI ที่ล่าช้าและไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง รายงานระบุว่า Apple จะปล่อย อัปเดต Siri ครั้งใหญ่ ก่อน iOS 27 โดย Siri จะสามารถเชื่อมต่อและทำงานกับ ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ ได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา AI-powered Health app และ AI search ร่วมกับ Google เพื่อเพิ่มความสามารถด้านการวิเคราะห์และการค้นหา 🎨 ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26 แม้ iOS 26 จะถูกวิจารณ์เรื่องบั๊ก แต่ก็มีการเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ด้วยดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า Liquid Glass พร้อมฟีเจอร์อย่างปุ่มบันทึกการโทร การทำโพลในข้อความ และ “Visual Intelligence” ที่ให้ผู้ใช้ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ รวมถึงการแปลข้อความในตัว 🌍 ผลกระทบต่ออนาคต Apple การมุ่งเน้นแก้ไขคุณภาพใน iOS 27 และการเสริม Siri ด้วย AI ถือเป็นการตอบโจทย์จุดอ่อนที่ Apple ถูกวิจารณ์มานาน หากทำได้สำเร็จ อาจช่วยให้ Apple กลับมาแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด AI ได้อย่างจริงจัง และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้มากขึ้นในระยะยาว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ iOS 27 เน้นคุณภาพ ➡️ แก้ปัญหาเครื่องร้อน แบตหมดเร็ว และแอปเด้ง ➡️ แนวทางคล้าย Snow Leopard ที่เน้นเสถียรภาพ ✅ อัปเดต Siri และ AI ➡️ Siri จะทำงานกับข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ได้ลึกขึ้น ➡️ พัฒนา Health app และ AI search ร่วมกับ Google ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26 ➡️ ดีไซน์ Liquid Glass ➡️ ปุ่มบันทึกการโทร, โพลในข้อความ, Visual Intelligence ‼️ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง ⛔ หากแก้บั๊กไม่สำเร็จ อาจกระทบความเชื่อมั่นผู้ใช้ ⛔ การพัฒนา AI ยังตามหลังคู่แข่ง อาจเสียโอกาสทางตลาด ‼️ ผลกระทบระยะยาว ⛔ Apple ต้องพิสูจน์ว่า AI ของตนมีคุณภาพจริง ⛔ ความสำเร็จของ iOS 27 จะเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของแบรนด์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/29/apples-next-ios-updates-will-address-one-of-the-companys-biggest-weaknesses
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Apple’s next iOS updates will address one of the company’s biggest weaknesses
    iPhone users can look forward to bug fixes and some badly needed improvements to Siri and AI, according to a new report.
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • Pebble กลับมาในรูปแบบโอเพ่นซอร์สเต็มตัว
    Pebble ซึ่งเคยเป็นสมาร์ตวอทช์ที่สร้างกระแสบน Kickstarter ในปี 2012 และถูก Fitbit ซื้อแล้วปิดตัวในปี 2016 ได้กลับมาอีกครั้งในปี 2025 โดย Eric Migicovsky ผู้สร้างดั้งเดิม เขาเปิดตัวบริษัท Core Devices LLC และแบรนด์ rePebble หลังจาก Google ตัดสินใจเปิดซอร์ส PebbleOS เมื่อต้นปี 2025

    ซอฟต์แวร์และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา
    PebbleOS และ companion apps (Android/iOS) ถูกปล่อยเป็นโอเพ่นซอร์สบน GitHub
    เครื่องมือพัฒนาใหม่เป็น browser-based workflow แทน VirtualBox เดิม ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปบน Pebble ได้ง่ายขึ้น
    ใช้ libpebble3 (Kotlin multiplatform library) สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Pebble

    ฮาร์ดแวร์และการซ่อมแซม
    ไฟล์ schematics และ KiCad project files ของ Pebble 2 Duo ถูกปล่อยให้สาธารณะ สามารถสร้างอุปกรณ์ที่เข้ากันได้เอง
    รุ่นใหม่ Pebble Time 2 คาดว่าจะออกช่วงมีนาคม–เมษายน 2026 โดยออกแบบให้ ผู้ใช้เปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้ ด้วยฝาหลังแบบขันสกรู

    ระบบนิเวศและชุมชน
    แอปสโตร์ใหม่รองรับ multiple feeds คล้าย Linux package managers (APT/AUR)
    Core Devices มี feed ของตัวเองที่สำรองไปยัง Internet Archive เพื่อเก็บ watchfaces และแอปเก่า ๆ
    นักพัฒนายังสามารถสร้างรายได้ผ่าน KiezelPay แม้ระบบจะเป็นโอเพ่นซอร์ส

    เหตุผลที่เปิดซอร์สทุกอย่าง
    Migicovsky อธิบายว่าเมื่อ Pebble ถูกปิดในปี 2016 ชุมชนไม่สามารถพัฒนาอะไรต่อได้เพราะ companion apps ไม่เปิดซอร์ส คราวนี้เขาจึงเลือกเปิดทุกอย่างเพื่อให้ ไม่มี single point of failure หากบริษัทหายไป ชุมชนยังคงสามารถใช้งานและพัฒนา Pebble ต่อได้

    สรุปสาระสำคัญ
    PebbleOS และ companion apps เปิดซอร์ส 100%
    พร้อมเครื่องมือพัฒนาใหม่แบบ browser-based

    ฮาร์ดแวร์ Pebble 2 Duo และ Pebble Time 2
    มีไฟล์ schematics สาธารณะ และออกแบบให้ซ่อมแบตเตอรี่เองได้

    ระบบนิเวศใหม่รองรับหลาย app store feeds
    สำรองข้อมูลไปยัง Internet Archive และรองรับการสร้างรายได้

    ยังมีบางส่วนที่ไม่ฟรี
    เช่น heart rate sensor library, crash reporting, speech recognition

    หากไม่อัปเดตหรือใช้เวอร์ชันโอเพ่นซอร์ส
    อาจเสี่ยงต่อการพึ่งพา proprietary components ที่หยุดพัฒนาในอนาคต

    https://itsfoss.com/news/pebble-returns-as-open-source/
    ⌚ Pebble กลับมาในรูปแบบโอเพ่นซอร์สเต็มตัว Pebble ซึ่งเคยเป็นสมาร์ตวอทช์ที่สร้างกระแสบน Kickstarter ในปี 2012 และถูก Fitbit ซื้อแล้วปิดตัวในปี 2016 ได้กลับมาอีกครั้งในปี 2025 โดย Eric Migicovsky ผู้สร้างดั้งเดิม เขาเปิดตัวบริษัท Core Devices LLC และแบรนด์ rePebble หลังจาก Google ตัดสินใจเปิดซอร์ส PebbleOS เมื่อต้นปี 2025 🛠️ ซอฟต์แวร์และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา 🎗️ PebbleOS และ companion apps (Android/iOS) ถูกปล่อยเป็นโอเพ่นซอร์สบน GitHub 🎗️ เครื่องมือพัฒนาใหม่เป็น browser-based workflow แทน VirtualBox เดิม ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปบน Pebble ได้ง่ายขึ้น 🎗️ ใช้ libpebble3 (Kotlin multiplatform library) สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Pebble 📐 ฮาร์ดแวร์และการซ่อมแซม 💠 ไฟล์ schematics และ KiCad project files ของ Pebble 2 Duo ถูกปล่อยให้สาธารณะ สามารถสร้างอุปกรณ์ที่เข้ากันได้เอง 💠 รุ่นใหม่ Pebble Time 2 คาดว่าจะออกช่วงมีนาคม–เมษายน 2026 โดยออกแบบให้ ผู้ใช้เปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้ ด้วยฝาหลังแบบขันสกรู 🌐 ระบบนิเวศและชุมชน 💠 แอปสโตร์ใหม่รองรับ multiple feeds คล้าย Linux package managers (APT/AUR) 💠 Core Devices มี feed ของตัวเองที่สำรองไปยัง Internet Archive เพื่อเก็บ watchfaces และแอปเก่า ๆ 💠 นักพัฒนายังสามารถสร้างรายได้ผ่าน KiezelPay แม้ระบบจะเป็นโอเพ่นซอร์ส 🔍 เหตุผลที่เปิดซอร์สทุกอย่าง Migicovsky อธิบายว่าเมื่อ Pebble ถูกปิดในปี 2016 ชุมชนไม่สามารถพัฒนาอะไรต่อได้เพราะ companion apps ไม่เปิดซอร์ส คราวนี้เขาจึงเลือกเปิดทุกอย่างเพื่อให้ ไม่มี single point of failure หากบริษัทหายไป ชุมชนยังคงสามารถใช้งานและพัฒนา Pebble ต่อได้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ PebbleOS และ companion apps เปิดซอร์ส 100% ➡️ พร้อมเครื่องมือพัฒนาใหม่แบบ browser-based ✅ ฮาร์ดแวร์ Pebble 2 Duo และ Pebble Time 2 ➡️ มีไฟล์ schematics สาธารณะ และออกแบบให้ซ่อมแบตเตอรี่เองได้ ✅ ระบบนิเวศใหม่รองรับหลาย app store feeds ➡️ สำรองข้อมูลไปยัง Internet Archive และรองรับการสร้างรายได้ ‼️ ยังมีบางส่วนที่ไม่ฟรี ⛔ เช่น heart rate sensor library, crash reporting, speech recognition ‼️ หากไม่อัปเดตหรือใช้เวอร์ชันโอเพ่นซอร์ส ⛔ อาจเสี่ยงต่อการพึ่งพา proprietary components ที่หยุดพัฒนาในอนาคต https://itsfoss.com/news/pebble-returns-as-open-source/
    ITSFOSS.COM
    After Fitbit Killed it in 2016, Pebble Returns with 100% Open Source Software and Hardware
    Creator Eric Migicovsky releases hardware schematics and mobile apps.
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • EU บังคับ Apple ใช้มาตรฐาน Wi-Fi ใหม่ เปิดทาง Android รองรับ AirDrop

    สหภาพยุโรป (EU) ได้บังคับให้ Apple ต้องปรับเปลี่ยนมาตรฐาน Wi-Fi ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดใหม่ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบการแชร์ไฟล์ไร้สาย โดยผลลัพธ์ที่ตามมาคือ Android สามารถรองรับฟีเจอร์แบบ AirDrop ได้แล้ว ซึ่งถือเป็นการลดข้อจำกัดระหว่างแพลตฟอร์มและเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งาน.

    การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
    ก่อนหน้านี้ AirDrop เป็นฟีเจอร์เฉพาะของ Apple ที่ใช้เทคโนโลยี Wi-Fi และ Bluetooth ในการส่งไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ iOS และ macOS แต่ด้วยการบังคับใช้มาตรฐานใหม่ ทำให้ระบบการเชื่อมต่อไร้สายมีความเป็นสากลมากขึ้น และเปิดโอกาสให้ Android สามารถใช้วิธีการแชร์ไฟล์ที่ใกล้เคียงกับ AirDrop ได้โดยตรง.

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ได้ง่ายขึ้น ลดความยุ่งยากที่เคยต้องพึ่งพาแอปพลิเคชันเสริม เช่น Google Drive หรือการส่งผ่านแอปแชท นอกจากนี้ยังช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ต่างระบบเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น โดยเฉพาะในยุโรปที่มีการบังคับใช้ข้อกำหนดนี้.

    ความหมายต่ออนาคต
    การที่ EU กำหนดมาตรฐาน Wi-Fi ใหม่ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อ Apple แต่ยังเป็นการสร้างแรงกดดันให้ผู้ผลิตอุปกรณ์รายอื่นต้องปรับตัวตามมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ การเชื่อมต่อไร้สายที่เป็นสากลมากขึ้นทั่วโลก และลดการแบ่งแยกระหว่างระบบนิเวศของแต่ละบริษัท.

    สรุปสาระสำคัญ
    EU บังคับ Apple ใช้มาตรฐาน Wi-Fi ใหม่
    ส่งผลให้ Android รองรับฟีเจอร์แบบ AirDrop

    AirDrop เดิมเป็นฟีเจอร์เฉพาะของ Apple
    ใช้ Wi-Fi และ Bluetooth ในการส่งไฟล์

    การเปลี่ยนแปลงช่วยให้แชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ง่ายขึ้น
    ลดการพึ่งพาแอปเสริม เช่น Google Drive

    สร้างแรงกดดันให้ผู้ผลิตอุปกรณ์รายอื่นปรับตัวตามมาตรฐานเดียวกัน
    อาจนำไปสู่การเชื่อมต่อไร้สายที่เป็นสากลทั่วโลก

    การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ผู้ใช้บางรายต้องปรับตัว
    แอปหรือบริการที่เคยใช้ในการแชร์ไฟล์อาจถูกลดความสำคัญ

    ผู้ผลิตที่ไม่ปรับตามมาตรฐานใหม่เสี่ยงต่อการถูกจำกัดตลาดในยุโรป
    อาจกระทบต่อยอดขายและการเข้าถึงผู้ใช้

    https://arstechnica.com/gadgets/2025/11/the-eu-made-apple-adopt-new-wi-fi-standards-and-now-android-can-support-airdrop/
    📡 EU บังคับ Apple ใช้มาตรฐาน Wi-Fi ใหม่ เปิดทาง Android รองรับ AirDrop สหภาพยุโรป (EU) ได้บังคับให้ Apple ต้องปรับเปลี่ยนมาตรฐาน Wi-Fi ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดใหม่ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบการแชร์ไฟล์ไร้สาย โดยผลลัพธ์ที่ตามมาคือ Android สามารถรองรับฟีเจอร์แบบ AirDrop ได้แล้ว ซึ่งถือเป็นการลดข้อจำกัดระหว่างแพลตฟอร์มและเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งาน. 🔄 การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ก่อนหน้านี้ AirDrop เป็นฟีเจอร์เฉพาะของ Apple ที่ใช้เทคโนโลยี Wi-Fi และ Bluetooth ในการส่งไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ iOS และ macOS แต่ด้วยการบังคับใช้มาตรฐานใหม่ ทำให้ระบบการเชื่อมต่อไร้สายมีความเป็นสากลมากขึ้น และเปิดโอกาสให้ Android สามารถใช้วิธีการแชร์ไฟล์ที่ใกล้เคียงกับ AirDrop ได้โดยตรง. 📱 ผลกระทบต่อผู้ใช้ การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ได้ง่ายขึ้น ลดความยุ่งยากที่เคยต้องพึ่งพาแอปพลิเคชันเสริม เช่น Google Drive หรือการส่งผ่านแอปแชท นอกจากนี้ยังช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ต่างระบบเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น โดยเฉพาะในยุโรปที่มีการบังคับใช้ข้อกำหนดนี้. 🌍 ความหมายต่ออนาคต การที่ EU กำหนดมาตรฐาน Wi-Fi ใหม่ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อ Apple แต่ยังเป็นการสร้างแรงกดดันให้ผู้ผลิตอุปกรณ์รายอื่นต้องปรับตัวตามมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ การเชื่อมต่อไร้สายที่เป็นสากลมากขึ้นทั่วโลก และลดการแบ่งแยกระหว่างระบบนิเวศของแต่ละบริษัท. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ EU บังคับ Apple ใช้มาตรฐาน Wi-Fi ใหม่ ➡️ ส่งผลให้ Android รองรับฟีเจอร์แบบ AirDrop ✅ AirDrop เดิมเป็นฟีเจอร์เฉพาะของ Apple ➡️ ใช้ Wi-Fi และ Bluetooth ในการส่งไฟล์ ✅ การเปลี่ยนแปลงช่วยให้แชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ง่ายขึ้น ➡️ ลดการพึ่งพาแอปเสริม เช่น Google Drive ✅ สร้างแรงกดดันให้ผู้ผลิตอุปกรณ์รายอื่นปรับตัวตามมาตรฐานเดียวกัน ➡️ อาจนำไปสู่การเชื่อมต่อไร้สายที่เป็นสากลทั่วโลก ‼️ การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ผู้ใช้บางรายต้องปรับตัว ⛔ แอปหรือบริการที่เคยใช้ในการแชร์ไฟล์อาจถูกลดความสำคัญ ‼️ ผู้ผลิตที่ไม่ปรับตามมาตรฐานใหม่เสี่ยงต่อการถูกจำกัดตลาดในยุโรป ⛔ อาจกระทบต่อยอดขายและการเข้าถึงผู้ใช้ https://arstechnica.com/gadgets/2025/11/the-eu-made-apple-adopt-new-wi-fi-standards-and-now-android-can-support-airdrop/
    ARSTECHNICA.COM
    The EU made Apple adopt new Wi-Fi standards, and now Android can support AirDrop
    Google’s Pixel 10 works with AirDrop, and other phones should follow later.
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar

    รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025
    ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก
    https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops

    Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่
    ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น
    https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change

    นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ
    เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย
    https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data

    ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ
    รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference

    Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว
    Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges

    Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง
    Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ
    https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review

    AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด
    ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า
    https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought

    Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS
    Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ
    https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos

    Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ
    รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies

    Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ
    หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats

    การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง
    บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI
    https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment

    ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง
    TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย
    https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday

    ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect

    Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่
    Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy

    ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่
    อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know

    อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance

    Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา
    มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ
    https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker

    จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน
    งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล
    https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan

    Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก
    บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected

    รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า
    RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด
    https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review

    มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว
    มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know

    กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์
    Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก
    https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features

    รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก
    TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras

    บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ
    บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check

    Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว
    Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar 💻 รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025 ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops 📱 Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่ ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change 🔐 นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data 🤖 ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference ⚡ Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges 📱 Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review ☁️ AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought 💻 Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos 🔒 Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies 🇪🇺 Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats 🌐 การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment 📱 ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday 🎙️ ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect 📝 Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่ Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy 🔊 ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่ อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know 🏞️ อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance 💻 Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker 🚁 จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล 🔗 https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan 🖥️ Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected 📱 รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review 🔒 มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know 📸 กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์ Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features 📷 รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras 🤖 บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check 🔊 Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    0 Comments 0 Shares 612 Views 0 Reviews
  • งวงยุงกับการพิมพ์ 3D

    ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย McGill ที่นำ งวงดูดเลือดของยุงตัวเมียที่ตายแล้ว (proboscis) มาใช้เป็นหัวฉีดสำหรับเครื่องพิมพ์ 3D ความละเอียดสูง ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ละเอียดกว่าเทคโนโลยีหัวฉีดที่มนุษย์สร้างขึ้น ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของการพิมพ์ 3D ที่เรียกว่า “Necroprinting”

    นักวิจัยพบว่าโครงสร้างงวงของยุงมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 20 ไมโครเมตร ซึ่งเล็กกว่าหัวฉีดที่มนุษย์สร้างขึ้นถึง 100% ทำให้สามารถพิมพ์วัตถุที่มีพื้นผิวเรียบและละเอียดมาก เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การบินอวกาศ ทันตกรรม และชีวการแพทย์

    การเปรียบเทียบกับหัวฉีดทั่วไป
    หัวฉีดเชิงพาณิชย์ที่ใช้ในปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยราว 80 ดอลลาร์ต่อหัว และทำจากพลาสติกหรือโลหะที่ไม่ย่อยสลาย ขณะที่งวงยุงมีคุณสมบัติ ตรงและทนแรงดันได้ถึง 60 กิโลพาสคาล อีกทั้งยัง ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทำให้เป็นวัสดุที่มีศักยภาพทั้งด้านต้นทุนและสิ่งแวดล้อม

    ความหมายเชิงวิทยาศาสตร์
    ก่อนหน้านี้นักวิจัยเคยทดลองใช้ เหล็กในของแมลง สายรากพืช และเขี้ยวงู แต่พบว่างวงยุงมีความเหมาะสมที่สุด การค้นพบนี้สะท้อนถึงการนำโครงสร้างทางชีววิทยาที่วิวัฒนาการมาหลายล้านปีมาใช้ในเทคโนโลยีสมัยใหม่ และอาจนำไปสู่การพัฒนา หัวฉีดชีวภาพรุ่นใหม่ ที่มีความละเอียดสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ความท้าทายและอนาคต
    แม้งานวิจัยนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง แต่ทีม McGill กำลังพัฒนา โครงสร้างเสริม (bioscaffold) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของงวงยุงที่เปราะบาง หากสำเร็จ อาจนำไปสู่การผลิตหัวฉีดชีวภาพในเชิงพาณิชย์ และเปิดทางให้การพิมพ์ 3D ก้าวไปอีกขั้น

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบใหม่
    ใช้งวงยุงตัวเมียเป็นหัวฉีด 3D
    เส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 20 ไมโครเมตร

    การเปรียบเทียบกับหัวฉีดทั่วไป
    หัวฉีดเชิงพาณิชย์ราคา ~80 ดอลลาร์
    งวงยุงตรง ทนแรงดัน และย่อยสลายได้

    ความหมายเชิงวิทยาศาสตร์
    เคยทดลองใช้เขี้ยวงูและเหล็กในแมลง แต่ไม่เหมาะสม
    งวงยุงเป็นวัสดุที่มีศักยภาพสูงสุด

    ความท้าทายและอนาคต
    ต้องพัฒนา bioscaffold เพื่อเพิ่มความแข็งแรง
    อาจนำไปสู่หัวฉีดชีวภาพเชิงพาณิชย์

    คำเตือนต่อการใช้งาน
    งวงยุงมีความเปราะบาง อาจไม่ทนต่อการใช้งานหนัก
    ยังอยู่ในขั้นทดลอง ไม่พร้อมใช้เชิงอุตสาหกรรม

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/dead-mosquito-proboscis-used-for-high-resolution-3d-printing-nozzle-scientists-boast-of-the-extremely-fine-output-from-necroprinting
    🦟 งวงยุงกับการพิมพ์ 3D ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย McGill ที่นำ งวงดูดเลือดของยุงตัวเมียที่ตายแล้ว (proboscis) มาใช้เป็นหัวฉีดสำหรับเครื่องพิมพ์ 3D ความละเอียดสูง ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ละเอียดกว่าเทคโนโลยีหัวฉีดที่มนุษย์สร้างขึ้น ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของการพิมพ์ 3D ที่เรียกว่า “Necroprinting” นักวิจัยพบว่าโครงสร้างงวงของยุงมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 20 ไมโครเมตร ซึ่งเล็กกว่าหัวฉีดที่มนุษย์สร้างขึ้นถึง 100% ทำให้สามารถพิมพ์วัตถุที่มีพื้นผิวเรียบและละเอียดมาก เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การบินอวกาศ ทันตกรรม และชีวการแพทย์ 🏭 การเปรียบเทียบกับหัวฉีดทั่วไป หัวฉีดเชิงพาณิชย์ที่ใช้ในปัจจุบันมีราคาเฉลี่ยราว 80 ดอลลาร์ต่อหัว และทำจากพลาสติกหรือโลหะที่ไม่ย่อยสลาย ขณะที่งวงยุงมีคุณสมบัติ ตรงและทนแรงดันได้ถึง 60 กิโลพาสคาล อีกทั้งยัง ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทำให้เป็นวัสดุที่มีศักยภาพทั้งด้านต้นทุนและสิ่งแวดล้อม 🌍 ความหมายเชิงวิทยาศาสตร์ ก่อนหน้านี้นักวิจัยเคยทดลองใช้ เหล็กในของแมลง สายรากพืช และเขี้ยวงู แต่พบว่างวงยุงมีความเหมาะสมที่สุด การค้นพบนี้สะท้อนถึงการนำโครงสร้างทางชีววิทยาที่วิวัฒนาการมาหลายล้านปีมาใช้ในเทคโนโลยีสมัยใหม่ และอาจนำไปสู่การพัฒนา หัวฉีดชีวภาพรุ่นใหม่ ที่มีความละเอียดสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 🔒 ความท้าทายและอนาคต แม้งานวิจัยนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง แต่ทีม McGill กำลังพัฒนา โครงสร้างเสริม (bioscaffold) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของงวงยุงที่เปราะบาง หากสำเร็จ อาจนำไปสู่การผลิตหัวฉีดชีวภาพในเชิงพาณิชย์ และเปิดทางให้การพิมพ์ 3D ก้าวไปอีกขั้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบใหม่ ➡️ ใช้งวงยุงตัวเมียเป็นหัวฉีด 3D ➡️ เส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 20 ไมโครเมตร ✅ การเปรียบเทียบกับหัวฉีดทั่วไป ➡️ หัวฉีดเชิงพาณิชย์ราคา ~80 ดอลลาร์ ➡️ งวงยุงตรง ทนแรงดัน และย่อยสลายได้ ✅ ความหมายเชิงวิทยาศาสตร์ ➡️ เคยทดลองใช้เขี้ยวงูและเหล็กในแมลง แต่ไม่เหมาะสม ➡️ งวงยุงเป็นวัสดุที่มีศักยภาพสูงสุด ✅ ความท้าทายและอนาคต ➡️ ต้องพัฒนา bioscaffold เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ➡️ อาจนำไปสู่หัวฉีดชีวภาพเชิงพาณิชย์ ‼️ คำเตือนต่อการใช้งาน ⛔ งวงยุงมีความเปราะบาง อาจไม่ทนต่อการใช้งานหนัก ⛔ ยังอยู่ในขั้นทดลอง ไม่พร้อมใช้เชิงอุตสาหกรรม https://www.tomshardware.com/3d-printing/dead-mosquito-proboscis-used-for-high-resolution-3d-printing-nozzle-scientists-boast-of-the-extremely-fine-output-from-necroprinting
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • โทรศัพท์ถูกแฮ็ก: สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

    สมาร์ทโฟนในปัจจุบันถูกใช้ทั้งการสื่อสาร การเงิน และข้อมูลส่วนตัว ทำให้เป็นเป้าหมายสำคัญของแฮกเกอร์ แม้ระบบ Android และ iOS จะมีการพัฒนาเรื่องความปลอดภัย แต่การโจมตีผ่าน social engineering เช่น phishing ยังคงเป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุด ผู้ใช้จึงควรระวังพฤติกรรมผิดปกติที่อาจบ่งบอกว่าเครื่องถูกเจาะระบบแล้ว.

    อาการที่บ่งบอกว่าเครื่องอาจถูกเจาะ
    หนึ่งในสัญญาณที่พบบ่อยคือ แอปที่ไม่รู้จักโผล่มาเอง หรือโฆษณาป๊อปอัพที่น่ารำคาญ ซึ่งอาจเป็น adware หรือ trojan ที่ขโมยข้อมูลส่วนตัว นอกจากนี้ แบตหมดเร็วและเครื่องทำงานช้า อาจเกิดจาก malware ที่แอบใช้พลังประมวลผลเพื่อขุดคริปโต (cryptojacking) หรือ spyware ที่ทำงานเบื้องหลังโดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว.

    ข้อความและการเข้าสู่ระบบที่น่าสงสัย
    อีกสัญญาณที่ควรจับตาคือ ข้อความหรืออีเมลที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะที่มีลิงก์ให้กด ซึ่งเป็นวิธี phishing ที่ทำให้ผู้ใช้หลงกรอกข้อมูลส่วนตัว รวมถึงการแจ้งเตือนเข้าสู่ระบบที่ไม่ได้ร้องขอ หากผู้ใช้เผลอกด “Allow” อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงบัญชีได้ทันที.

    วิธีรับมือและป้องกัน
    หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบ ลบแอปต้องสงสัย เปลี่ยนรหัสผ่าน และตรวจสอบการตั้งค่าเครื่อง Android มี Google Play Protect ที่ช่วยสแกนแอป ส่วน iOS แม้จะปลอดภัยกว่า แต่ก็ยังต้องอัปเดตระบบให้ทันสมัยเสมอ หากยังสงสัยว่ามีมัลแวร์ ควรทำ factory reset เพื่อคืนค่าเครื่องให้สะอาดและปลอดภัย.

    สรุปสาระสำคัญ
    สัญญาณที่บ่งบอกว่าเครื่องถูกเจาะ
    แอปไม่รู้จัก, โฆษณาป๊อปอัพ, เครื่องช้า, แบตหมดเร็ว, ข้อความน่าสงสัย

    วิธีตรวจสอบเบื้องต้น
    ใช้ Google Play Protect, ตรวจสอบการใช้แบต, สังเกตการแจ้งเตือนเข้าสู่ระบบ

    การป้องกันที่ควรทำ
    อัปเดตระบบ, ใช้แอนติไวรัส, หลีกเลี่ยงการกดลิงก์จากแหล่งไม่รู้จัก

    ความเสี่ยงจากมัลแวร์
    Cryptojacking ใช้พลังเครื่องขุดคริปโต, Spyware และ Keylogger แอบเก็บข้อมูล

    ความเสี่ยงจาก phishing
    ข้อความหลอกลวงอาจทำให้ผู้ใช้เสียรหัสผ่านและข้อมูลการเงิน

    https://www.slashgear.com/2034632/signs-your-phone-hacked/
    📱 โทรศัพท์ถูกแฮ็ก: สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม สมาร์ทโฟนในปัจจุบันถูกใช้ทั้งการสื่อสาร การเงิน และข้อมูลส่วนตัว ทำให้เป็นเป้าหมายสำคัญของแฮกเกอร์ แม้ระบบ Android และ iOS จะมีการพัฒนาเรื่องความปลอดภัย แต่การโจมตีผ่าน social engineering เช่น phishing ยังคงเป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุด ผู้ใช้จึงควรระวังพฤติกรรมผิดปกติที่อาจบ่งบอกว่าเครื่องถูกเจาะระบบแล้ว. ⚡ อาการที่บ่งบอกว่าเครื่องอาจถูกเจาะ หนึ่งในสัญญาณที่พบบ่อยคือ แอปที่ไม่รู้จักโผล่มาเอง หรือโฆษณาป๊อปอัพที่น่ารำคาญ ซึ่งอาจเป็น adware หรือ trojan ที่ขโมยข้อมูลส่วนตัว นอกจากนี้ แบตหมดเร็วและเครื่องทำงานช้า อาจเกิดจาก malware ที่แอบใช้พลังประมวลผลเพื่อขุดคริปโต (cryptojacking) หรือ spyware ที่ทำงานเบื้องหลังโดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว. 📩 ข้อความและการเข้าสู่ระบบที่น่าสงสัย อีกสัญญาณที่ควรจับตาคือ ข้อความหรืออีเมลที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะที่มีลิงก์ให้กด ซึ่งเป็นวิธี phishing ที่ทำให้ผู้ใช้หลงกรอกข้อมูลส่วนตัว รวมถึงการแจ้งเตือนเข้าสู่ระบบที่ไม่ได้ร้องขอ หากผู้ใช้เผลอกด “Allow” อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงบัญชีได้ทันที. 🛡️ วิธีรับมือและป้องกัน หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบ ลบแอปต้องสงสัย เปลี่ยนรหัสผ่าน และตรวจสอบการตั้งค่าเครื่อง Android มี Google Play Protect ที่ช่วยสแกนแอป ส่วน iOS แม้จะปลอดภัยกว่า แต่ก็ยังต้องอัปเดตระบบให้ทันสมัยเสมอ หากยังสงสัยว่ามีมัลแวร์ ควรทำ factory reset เพื่อคืนค่าเครื่องให้สะอาดและปลอดภัย. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สัญญาณที่บ่งบอกว่าเครื่องถูกเจาะ ➡️ แอปไม่รู้จัก, โฆษณาป๊อปอัพ, เครื่องช้า, แบตหมดเร็ว, ข้อความน่าสงสัย ✅ วิธีตรวจสอบเบื้องต้น ➡️ ใช้ Google Play Protect, ตรวจสอบการใช้แบต, สังเกตการแจ้งเตือนเข้าสู่ระบบ ✅ การป้องกันที่ควรทำ ➡️ อัปเดตระบบ, ใช้แอนติไวรัส, หลีกเลี่ยงการกดลิงก์จากแหล่งไม่รู้จัก ‼️ ความเสี่ยงจากมัลแวร์ ⛔ Cryptojacking ใช้พลังเครื่องขุดคริปโต, Spyware และ Keylogger แอบเก็บข้อมูล ‼️ ความเสี่ยงจาก phishing ⛔ ข้อความหลอกลวงอาจทำให้ผู้ใช้เสียรหัสผ่านและข้อมูลการเงิน https://www.slashgear.com/2034632/signs-your-phone-hacked/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    6 Signs Your Phone Was Hacked - SlashGear
    If your'e worried about the prospect of someone gaining access to your phone without your authorization, look for these tell-tale signs of a hack.
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • ข่าวเด่น: “Everest Ransomware โจมตี Iberia และ Air Miles España”

    กลุ่ม Everest ransomware ได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ dark web ว่า สามารถเจาะระบบของ Iberia สายการบินแห่งชาติสเปน และขโมยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 596 GB พร้อมไฟล์อีเมลที่เกี่ยวข้องกับการจองกว่า 430 GB ข้อมูลที่ถูกขโมยครอบคลุมตั้งแต่ ข้อมูลระบุตัวตน, รายละเอียดสมาชิกสะสมไมล์ Avios, ประวัติการเดินทาง, หมายเลขตั๋ว, โครงสร้างการจอง, เนื้อหาอีเมล และข้อมูลการชำระเงินจาก IberiaPay

    Everest ยังอ้างว่ามีการเข้าถึงระบบในระยะยาว ทำให้สามารถ เปลี่ยนข้อมูลติดต่อ, ปรับที่นั่ง, อาหาร, รายละเอียดฉุกเฉิน และแม้แต่ยกเลิกตั๋ว ได้ตามกฎเกณฑ์การจอง พวกเขากำลังรอการตอบสนองจาก Iberia ก่อนเริ่มเจรจา แต่จากประวัติที่ผ่านมา หากการเจรจาล้มเหลว Everest มักจะปล่อยข้อมูลทั้งหมดสู่สาธารณะ

    นอกจาก Iberia แล้ว Everest ยังอ้างว่าได้โจมตี Air Miles España, S.A. ผู้ให้บริการโปรแกรมสะสมแต้ม Travel Club ของสเปน โดยขโมยข้อมูลกว่า 131 GB และล็อกระบบภายใน การโจมตีนี้เป็นรูปแบบ double extortion คือขโมยไฟล์แล้วเข้ารหัสระบบเพื่อบังคับให้เหยื่อจ่ายค่าไถ่ หากไม่จ่าย Everest จะเผยแพร่ข้อมูลทั้งหมด

    ข้อมูลที่ถูกขโมยจาก Travel Club อาจรวมถึง ชื่อ, ที่อยู่, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์, หมายเลขบัญชีสะสมแต้ม, ยอดคะแนน, ประวัติการซื้อ และโปรไฟล์การตลาด ซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อการ ฟิชชิ่งและขโมยข้อมูลส่วนบุคคล อย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อ Travel Club มีพันธมิตรหลายราย เช่น Repsol, Eroski และ Iberia

    สรุปสาระสำคัญ
    การโจมตี Iberia
    ขโมยข้อมูลกว่า 596 GB และไฟล์อีเมล 430 GB
    ข้อมูลครอบคลุมการจอง, การชำระเงิน และข้อมูลส่วนบุคคล
    สามารถแก้ไขหรือยกเลิกการจองได้

    การโจมตี Air Miles España (Travel Club)
    ขโมยข้อมูลกว่า 131 GB และล็อกระบบภายใน
    ข้อมูลสมาชิกสะสมแต้มและโปรไฟล์การตลาดถูกเปิดเผย
    กระทบผู้ใช้หลายล้านคนทั่วสเปน

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้
    เสี่ยงต่อการฟิชชิ่งและขโมยข้อมูลส่วนบุคคล
    ข้อมูลการชำระเงินและการเดินทางอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด
    หากการเจรจาล้มเหลว Everest อาจปล่อยข้อมูลทั้งหมดสู่สาธารณะ

    คำแนะนำเร่งด่วน
    ผู้ใช้ควรเปลี่ยนรหัสผ่านทันที
    ตรวจสอบบัญชีสะสมแต้มและธุรกรรมการชำระเงินอย่างใกล้ชิด
    องค์กรที่เกี่ยวข้องต้องแจ้งหน่วยงานกำกับดูแลตาม GDPR มิฉะนั้นอาจถูกปรับหนัก

    https://hackread.com/everest-ransomware-spai-airline-iberia-breach/
    ✈️ ข่าวเด่น: “Everest Ransomware โจมตี Iberia และ Air Miles España” กลุ่ม Everest ransomware ได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ dark web ว่า สามารถเจาะระบบของ Iberia สายการบินแห่งชาติสเปน และขโมยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 596 GB พร้อมไฟล์อีเมลที่เกี่ยวข้องกับการจองกว่า 430 GB ข้อมูลที่ถูกขโมยครอบคลุมตั้งแต่ ข้อมูลระบุตัวตน, รายละเอียดสมาชิกสะสมไมล์ Avios, ประวัติการเดินทาง, หมายเลขตั๋ว, โครงสร้างการจอง, เนื้อหาอีเมล และข้อมูลการชำระเงินจาก IberiaPay Everest ยังอ้างว่ามีการเข้าถึงระบบในระยะยาว ทำให้สามารถ เปลี่ยนข้อมูลติดต่อ, ปรับที่นั่ง, อาหาร, รายละเอียดฉุกเฉิน และแม้แต่ยกเลิกตั๋ว ได้ตามกฎเกณฑ์การจอง พวกเขากำลังรอการตอบสนองจาก Iberia ก่อนเริ่มเจรจา แต่จากประวัติที่ผ่านมา หากการเจรจาล้มเหลว Everest มักจะปล่อยข้อมูลทั้งหมดสู่สาธารณะ นอกจาก Iberia แล้ว Everest ยังอ้างว่าได้โจมตี Air Miles España, S.A. ผู้ให้บริการโปรแกรมสะสมแต้ม Travel Club ของสเปน โดยขโมยข้อมูลกว่า 131 GB และล็อกระบบภายใน การโจมตีนี้เป็นรูปแบบ double extortion คือขโมยไฟล์แล้วเข้ารหัสระบบเพื่อบังคับให้เหยื่อจ่ายค่าไถ่ หากไม่จ่าย Everest จะเผยแพร่ข้อมูลทั้งหมด ข้อมูลที่ถูกขโมยจาก Travel Club อาจรวมถึง ชื่อ, ที่อยู่, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์, หมายเลขบัญชีสะสมแต้ม, ยอดคะแนน, ประวัติการซื้อ และโปรไฟล์การตลาด ซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อการ ฟิชชิ่งและขโมยข้อมูลส่วนบุคคล อย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อ Travel Club มีพันธมิตรหลายราย เช่น Repsol, Eroski และ Iberia 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การโจมตี Iberia ➡️ ขโมยข้อมูลกว่า 596 GB และไฟล์อีเมล 430 GB ➡️ ข้อมูลครอบคลุมการจอง, การชำระเงิน และข้อมูลส่วนบุคคล ➡️ สามารถแก้ไขหรือยกเลิกการจองได้ ✅ การโจมตี Air Miles España (Travel Club) ➡️ ขโมยข้อมูลกว่า 131 GB และล็อกระบบภายใน ➡️ ข้อมูลสมาชิกสะสมแต้มและโปรไฟล์การตลาดถูกเปิดเผย ➡️ กระทบผู้ใช้หลายล้านคนทั่วสเปน ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ ⛔ เสี่ยงต่อการฟิชชิ่งและขโมยข้อมูลส่วนบุคคล ⛔ ข้อมูลการชำระเงินและการเดินทางอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ⛔ หากการเจรจาล้มเหลว Everest อาจปล่อยข้อมูลทั้งหมดสู่สาธารณะ ‼️ คำแนะนำเร่งด่วน ⛔ ผู้ใช้ควรเปลี่ยนรหัสผ่านทันที ⛔ ตรวจสอบบัญชีสะสมแต้มและธุรกรรมการชำระเงินอย่างใกล้ชิด ⛔ องค์กรที่เกี่ยวข้องต้องแจ้งหน่วยงานกำกับดูแลตาม GDPR มิฉะนั้นอาจถูกปรับหนัก https://hackread.com/everest-ransomware-spai-airline-iberia-breach/
    HACKREAD.COM
    Everest ransomware claims breach at Spain’s national airline Iberia with 596 GB data theft
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • Google Aluminium OS: ระบบปฏิบัติการใหม่

    Google กำลังพัฒนา Aluminium OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่รวม Android และ ChromeOS เข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อแทนที่ ChromeOS ในอนาคต และรองรับอุปกรณ์หลายประเภทตั้งแต่โน้ตบุ๊กไปจนถึงแท็บเล็ต

    จากประกาศรับสมัครงานล่าสุด Aluminium OS ถูกระบุว่าเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐาน Android แต่จะถูกออกแบบให้ทำงานได้กับอุปกรณ์หลากหลาย เช่น Laptop, Detachable Notebook, Tablet และ Mini-PCs จุดเด่นคือการรวมความสามารถของ Android ที่มี ecosystem แข็งแกร่ง เข้ากับ ChromeOS ที่เคยถูกใช้ใน Chromebook เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเดียวที่ครอบคลุมมากขึ้น

    โครงสร้างและการแบ่งระดับ
    Aluminium OS จะมีหลายระดับ ได้แก่ Entry, Mass Premium และ Premium ซึ่งคล้ายกับการแบ่งชั้นบริการ subscription แม้ยังไม่ชัดเจนว่ามีความหมายเชิงฟีเจอร์หรือราคา แต่สะท้อนว่า Google อาจต้องการสร้างระบบที่ยืดหยุ่นและปรับใช้ได้ตามกลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน

    เป้าหมายระยะยาว
    แม้ Google ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ Aluminium OS ถูกมองว่าเป็นการวางรากฐานเพื่อ แทนที่ ChromeOS ในอนาคต โดยในช่วงแรกจะยังคงมีการใช้งานคู่กันไปก่อน การเปลี่ยนผ่านนี้คล้ายกับการที่ Google ใช้ชื่อโครงการจากตารางธาตุ เช่น Chromium และ Aluminium เพื่อสื่อถึงการสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด
    หาก Aluminium OS เปิดตัวจริง จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานและใช้งานแอป Android ได้อย่างราบรื่นบน Chromebook และอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้ ecosystem ของ Google แข็งแกร่งขึ้น และแข่งขันกับ Apple ที่มีระบบปฏิบัติการแบบ unified ระหว่าง iOS และ macOS ได้มากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Aluminium OS คือระบบใหม่จาก Google
    รวม Android และ ChromeOS เข้าด้วยกัน

    รองรับหลายอุปกรณ์
    Laptop, Tablet, Detachable Notebook, Mini-PCs

    มีการแบ่งระดับระบบ
    Entry, Mass Premium, Premium

    เป้าหมายระยะยาว
    แทนที่ ChromeOS และสร้าง ecosystem ที่แข็งแกร่งขึ้น

    ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน
    Google ยังไม่ประกาศ timeline หรือฟีเจอร์ที่แน่นอน

    https://securityonline.info/googles-new-merged-os-revealed-job-listing-points-to-aluminium-os/
    💻 Google Aluminium OS: ระบบปฏิบัติการใหม่ Google กำลังพัฒนา Aluminium OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่รวม Android และ ChromeOS เข้าด้วยกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อแทนที่ ChromeOS ในอนาคต และรองรับอุปกรณ์หลายประเภทตั้งแต่โน้ตบุ๊กไปจนถึงแท็บเล็ต จากประกาศรับสมัครงานล่าสุด Aluminium OS ถูกระบุว่าเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐาน Android แต่จะถูกออกแบบให้ทำงานได้กับอุปกรณ์หลากหลาย เช่น Laptop, Detachable Notebook, Tablet และ Mini-PCs จุดเด่นคือการรวมความสามารถของ Android ที่มี ecosystem แข็งแกร่ง เข้ากับ ChromeOS ที่เคยถูกใช้ใน Chromebook เพื่อสร้างแพลตฟอร์มเดียวที่ครอบคลุมมากขึ้น 🔧 โครงสร้างและการแบ่งระดับ Aluminium OS จะมีหลายระดับ ได้แก่ Entry, Mass Premium และ Premium ซึ่งคล้ายกับการแบ่งชั้นบริการ subscription แม้ยังไม่ชัดเจนว่ามีความหมายเชิงฟีเจอร์หรือราคา แต่สะท้อนว่า Google อาจต้องการสร้างระบบที่ยืดหยุ่นและปรับใช้ได้ตามกลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน 🚀 เป้าหมายระยะยาว แม้ Google ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ Aluminium OS ถูกมองว่าเป็นการวางรากฐานเพื่อ แทนที่ ChromeOS ในอนาคต โดยในช่วงแรกจะยังคงมีการใช้งานคู่กันไปก่อน การเปลี่ยนผ่านนี้คล้ายกับการที่ Google ใช้ชื่อโครงการจากตารางธาตุ เช่น Chromium และ Aluminium เพื่อสื่อถึงการสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น 🌐 ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด หาก Aluminium OS เปิดตัวจริง จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานและใช้งานแอป Android ได้อย่างราบรื่นบน Chromebook และอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้ ecosystem ของ Google แข็งแกร่งขึ้น และแข่งขันกับ Apple ที่มีระบบปฏิบัติการแบบ unified ระหว่าง iOS และ macOS ได้มากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Aluminium OS คือระบบใหม่จาก Google ➡️ รวม Android และ ChromeOS เข้าด้วยกัน ✅ รองรับหลายอุปกรณ์ ➡️ Laptop, Tablet, Detachable Notebook, Mini-PCs ✅ มีการแบ่งระดับระบบ ➡️ Entry, Mass Premium, Premium ✅ เป้าหมายระยะยาว ➡️ แทนที่ ChromeOS และสร้าง ecosystem ที่แข็งแกร่งขึ้น ‼️ ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน ⛔ Google ยังไม่ประกาศ timeline หรือฟีเจอร์ที่แน่นอน https://securityonline.info/googles-new-merged-os-revealed-job-listing-points-to-aluminium-os/
    SECURITYONLINE.INFO
    Google’s New Merged OS Revealed? Job Listing Points to ‘Aluminium OS’
    A job posting revealed the codename 'Aluminium OS' for Google's project to merge Android and ChromeOS into a single platform for laptops, tablets, and mini-PCs.
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • Google เตรียมเปิดตัว Universal Clipboard บน Android และ Chromebook

    Google วางแผนเพิ่มฟีเจอร์ ซิงก์คลิปบอร์ดแบบเนทีฟ ระหว่างอุปกรณ์ Android และ Chromebook โดยอาจทำงานผ่าน Google Play Services ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถคัดลอกข้อความหรือข้อมูลจากมือถือ แล้วนำไปวางบน Chromebook ได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาแอปเสริม เช่น SwiftKey หรือ Microsoft Phone Link

    ความเป็นมาของข้อจำกัดด้าน Clipboard บน Android
    ตั้งแต่ Android 10 เป็นต้นมา Google ได้จำกัดการเข้าถึงคลิปบอร์ดเพื่อป้องกันการเก็บข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอนุญาตเฉพาะคีย์บอร์ดเริ่มต้นและแอปที่ใช้งานอยู่เท่านั้นที่จะอ่านข้อมูลได้ ต่อมาใน Android 13 มีการเพิ่มระบบล้างประวัติคลิปบอร์ดอัตโนมัติภายใน 1 ชั่วโมง และแจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้

    การเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มที่สะดวกขึ้น
    ก่อนหน้านี้ Google ได้เปิดตัว Quick Share ที่สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iOS สะดวกขึ้น การเพิ่ม Universal Clipboard จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ Android ecosystem มีประสบการณ์ใกล้เคียงกับ Apple ecosystem ที่มีการซิงก์คลิปบอร์ดและแท็บ Safari ข้ามอุปกรณ์

    แนวโน้มการใช้งานและผลกระทบ
    หากฟีเจอร์นี้เปิดตัวจริง จะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ต่อเนื่องมากขึ้น เช่น คัดลอกข้อความจากมือถือไปวางในเอกสารบน Chromebook หรือแชร์รหัส OTP ได้สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องจับตาด้าน ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ว่าจะมีมาตรการป้องกันการโจมตีหรือการดักจับข้อมูลอย่างไร

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Google พัฒนา Universal Clipboard สำหรับ Android และ Chromebook
    ใช้งานผ่าน Google Play Services เพื่อซิงก์ข้อมูลข้ามอุปกรณ์

    ข้อจำกัดเดิมของ Android Clipboard
    เข้าถึงได้เฉพาะคีย์บอร์ดหลักและแอปที่ใช้งานอยู่, ล้างข้อมูลอัตโนมัติใน 1 ชั่วโมง

    การเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มที่ดีขึ้น
    Quick Share ทำงานร่วมกับ AirDrop, Universal Clipboard จะเพิ่มความสะดวกอีกขั้น

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
    หากไม่มีมาตรการเข้มงวด อาจถูกใช้เพื่อดักจับข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือ OTP

    https://securityonline.info/android-getting-native-universal-clipboard-seamless-sync-coming-to-phones-chromebooks/
    📱 Google เตรียมเปิดตัว Universal Clipboard บน Android และ Chromebook Google วางแผนเพิ่มฟีเจอร์ ซิงก์คลิปบอร์ดแบบเนทีฟ ระหว่างอุปกรณ์ Android และ Chromebook โดยอาจทำงานผ่าน Google Play Services ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถคัดลอกข้อความหรือข้อมูลจากมือถือ แล้วนำไปวางบน Chromebook ได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาแอปเสริม เช่น SwiftKey หรือ Microsoft Phone Link 🔒 ความเป็นมาของข้อจำกัดด้าน Clipboard บน Android ตั้งแต่ Android 10 เป็นต้นมา Google ได้จำกัดการเข้าถึงคลิปบอร์ดเพื่อป้องกันการเก็บข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอนุญาตเฉพาะคีย์บอร์ดเริ่มต้นและแอปที่ใช้งานอยู่เท่านั้นที่จะอ่านข้อมูลได้ ต่อมาใน Android 13 มีการเพิ่มระบบล้างประวัติคลิปบอร์ดอัตโนมัติภายใน 1 ชั่วโมง และแจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้ ⚡ การเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มที่สะดวกขึ้น ก่อนหน้านี้ Google ได้เปิดตัว Quick Share ที่สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iOS สะดวกขึ้น การเพิ่ม Universal Clipboard จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ Android ecosystem มีประสบการณ์ใกล้เคียงกับ Apple ecosystem ที่มีการซิงก์คลิปบอร์ดและแท็บ Safari ข้ามอุปกรณ์ 🤖 แนวโน้มการใช้งานและผลกระทบ หากฟีเจอร์นี้เปิดตัวจริง จะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ต่อเนื่องมากขึ้น เช่น คัดลอกข้อความจากมือถือไปวางในเอกสารบน Chromebook หรือแชร์รหัส OTP ได้สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องจับตาด้าน ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ว่าจะมีมาตรการป้องกันการโจมตีหรือการดักจับข้อมูลอย่างไร 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Google พัฒนา Universal Clipboard สำหรับ Android และ Chromebook ➡️ ใช้งานผ่าน Google Play Services เพื่อซิงก์ข้อมูลข้ามอุปกรณ์ ✅ ข้อจำกัดเดิมของ Android Clipboard ➡️ เข้าถึงได้เฉพาะคีย์บอร์ดหลักและแอปที่ใช้งานอยู่, ล้างข้อมูลอัตโนมัติใน 1 ชั่วโมง ✅ การเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มที่ดีขึ้น ➡️ Quick Share ทำงานร่วมกับ AirDrop, Universal Clipboard จะเพิ่มความสะดวกอีกขั้น ‼️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ⛔ หากไม่มีมาตรการเข้มงวด อาจถูกใช้เพื่อดักจับข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือ OTP https://securityonline.info/android-getting-native-universal-clipboard-seamless-sync-coming-to-phones-chromebooks/
    SECURITYONLINE.INFO
    Android Getting Native Universal Clipboard: Seamless Sync Coming to Phones & Chromebooks
    Google is preparing a native Universal Clipboard feature for Android and Chromebooks to allow seamless copy-paste across devices, expected to debut in Android 17.
    0 Comments 0 Shares 177 Views 0 Reviews
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷
    #รวมข่าวIT #20251125 #securityonline

    จีน-นexus Autumn Dragon ใช้ช่องโหว่ WinRAR ปล่อยมัลแวร์ผ่าน Telegram
    เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงปฏิบัติการจารกรรมไซเบอร์ชื่อ “Autumn Dragon” ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ฝั่งจีน พวกเขาใช้ไฟล์ RAR ที่ฝังช่องโหว่ของ WinRAR (CVE-2025-8088) ส่งไปยังเป้าหมายผ่านอีเมลหลอกลวง เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะถูกฝังสคริปต์ที่ทำงานต่อเนื่องเพื่อดึงมัลแวร์ขั้นต่อไปจาก Dropbox และซ่อนตัวผ่าน DLL sideloading โดยมีการควบคุมผ่าน Telegram ตัวมัลแวร์นี้สามารถสั่งงานได้ เช่น เปิด shell, ถ่าย screenshot และอัปโหลดไฟล์ จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบให้ฟังก์ชันน้อยเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับง่าย เป้าหมายหลักคือหน่วยงานรัฐบาลและสื่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    https://securityonline.info/china-nexus-autumn-dragon-apt-exploits-winrar-flaw-to-deploy-telegram-c2-backdoor

    Notepad เพิ่มฟีเจอร์ Markdown Table และ Copilot Streaming
    จากเดิมที่ Notepad เป็นเพียงโปรแกรมจดข้อความธรรมดา ตอนนี้ Microsoft ได้ยกระดับให้รองรับการสร้างตารางในรูปแบบ Markdown ผู้ใช้สามารถเลือกจำนวนแถวคอลัมน์ได้ง่าย ๆ คล้ายกับการใส่ตารางใน Word และยังสามารถแก้ไขขยายหรือลดขนาดได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot โดยเพิ่มความสามารถในการเขียนใหม่และสรุปข้อความแบบ “streaming” คือผลลัพธ์จะปรากฏทันทีโดยไม่ต้องรอจนเสร็จทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad กลายเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์นักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น
    https://securityonline.info/notepad-update-adds-markdown-table-support-streaming-copilot-ai-responses

    Microsoft แก้ปัญหา File Explorer ช้าใน Windows 11 ด้วย Preloading
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่า File Explorer เปิดช้า โดยเฉพาะเมื่อโหลดโฟลเดอร์ที่มีรูปภาพเยอะ ๆ Microsoft จึงออกฟีเจอร์ใหม่ใน Build 26220.7271 ที่เรียกว่า “preloading” ซึ่งจะโหลด Explorer เข้าหน่วยความจำล่วงหน้า ทำให้การเปิดใช้งานเร็วขึ้น แม้จะยังไม่แก้ปัญหาการหน่วงหลังเปิดไฟล์ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยลดเวลารอไปหลายร้อยมิลลิวินาที ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้หากไม่ต้องการ แต่โดยทั่วไปมันใช้ RAM น้อยและช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมาก
    https://securityonline.info/microsoft-tries-to-fix-windows-11-file-explorer-lag-with-new-preloading-feature

      Qualcomm ยืนยัน Quick Share ใช้งานร่วมกับ AirDrop ได้บนมือถือ Snapdragon
    หลังจาก Google ประกาศว่า Pixel 10 จะสามารถส่งไฟล์ผ่าน Quick Share ไปยัง iPhone ได้เหมือน AirDrop ล่าสุด Qualcomm ก็ออกมายืนยันว่า ฟีเจอร์นี้จะไม่จำกัดเฉพาะ Pixel แต่จะขยายไปยังมือถือ Android ที่ใช้ชิป Snapdragon ด้วย หมายความว่าผู้ใช้ Android และ iOS จะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอปเสริม ถือเป็นการเชื่อมโลกสองฝั่งที่เคยถูกแบ่งแยกมานาน คาดว่า Samsung Galaxy S26 จะเป็นรุ่นแรก ๆ ที่นำมาใช้ และนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแชร์ไฟล์ข้ามระบบนิเวศ
    https://securityonline.info/qualcomm-confirms-quick-share-airdrop-interoperability-coming-to-all-snapdragon-phones

    ทีมไซเบอร์ระดับโลกเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M
    Blast Security คือสตาร์ทอัพใหม่จาก Tel Aviv ที่ก่อตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์จาก Solebit และหน่วย IDF พวกเขาเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Preemptive Cloud Defense” ที่เน้นการป้องกันเชิงรุกแทนการตรวจจับและแก้ไขทีหลัง จุดเด่นคือการสร้างระบบป้องกันที่ทำงานต่อเนื่อง ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์ และลดความเสี่ยงได้กว่า 90% การลงทุนรอบ seed ได้เงินทุนถึง 10 ล้านดอลลาร์จาก 10D และ MizMaa Ventures เป้าหมายคือการทำให้ “การป้องกัน” กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยบนคลาวด์
    https://securityonline.info/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention

    CISA เตือนภัยสปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีแอปแชทด้วย Zero-Click และ QR Code อันตราย
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเร่งด่วนว่ามีการใช้สปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีผู้ใช้งานแอปแชทยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Signal โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย ผ่านช่องโหว่แบบ Zero-Click และการหลอกให้สแกน QR Code ที่เชื่อมบัญชีไปยังเครื่องของแฮกเกอร์ เมื่อถูกเจาะแล้ว ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ เปิดไมโครโฟน และติดตามตำแหน่งได้ทันที เป้าหมายหลักคือบุคคลสำคัญ นักข่าว และองค์กรภาคประชาสังคมในหลายภูมิภาคทั่วโลก
    https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps

    ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress (CVE-2025-6389)
    เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเว็บได้ทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ระดับวิกฤติในปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ และยึดครองเว็บไซต์ได้ทันที นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วหลายร้อยครั้งในเวลาเพียงวันเดียว ผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไข แต่ใครที่ยังไม่อัปเดตถือว่าเสี่ยงสูงมาก
    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce

    ช่องโหว่กล้อง Vivotek รุ่นเก่า เปิดช่องให้สั่งรันคำสั่งได้โดยไม่ต้องล็อกอิน
    ทีมวิจัยจาก Akamai พบช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในกล้อง IP ของ Vivotek รุ่นที่หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ช่องโหว่นี้อยู่ในไฟล์ eventtask.cgi ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งคำสั่งไปยังระบบโดยตรงโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ทำให้สามารถเข้าควบคุมกล้องได้เต็มรูปแบบ ปัญหาคือเฟิร์มแวร์รุ่นที่มีช่องโหว่นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีแพตช์แก้ไข ผู้ใช้งานจึงถูกแนะนำให้รีบแยกอุปกรณ์ออกจากเครือข่ายหรือเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่แทน
    https://securityonline.info/critical-unpatched-flaw-vivotek-eol-ip-cameras-exposed-to-unauthenticated-rce-via-command-injection

    CVE-2025-63207: ช่องโหว่ยึดระบบออกอากาศ R.V.R Elettronica TEX ได้ทั้งหมด
    นักวิจัยเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในอุปกรณ์ออกอากาศ TEX ของ R.V.R Elettronica ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ทุกระดับ รวมถึงแอดมิน ได้ด้วยคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องล็อกอิน เมื่อรีเซ็ตรหัสผ่านแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบและอาจเปลี่ยนการตั้งค่าออกอากาศหรือเจาะลึกไปยังระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่ ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์แก้ไข จึงแนะนำให้ผู้ดูแลจำกัดการเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งานอย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/cve-2025-63207-cvss-9-8-critical-broken-access-control-flaw-exposes-r-v-r-elettronica-tex-devices-to-full-system-takeover

    ToddyCat APT โจมตี Microsoft 365 ขโมยอีเมลผ่านการดูด OAuth Token และไฟล์ OST ที่ถูกล็อก
    รายงานจาก Kaspersky เผยว่า ToddyCat กลุ่มแฮกเกอร์สายสอดแนมได้พัฒนาวิธีใหม่ในการเจาะระบบอีเมลองค์กร ทั้งแบบ on-premises และบนคลาวด์ โดยใช้เครื่องมือ PowerShell และ C++ เพื่อขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ ไฟล์อีเมล Outlook ที่ถูกล็อก และที่น่ากังวลที่สุดคือการดูด OAuth Token จากหน่วยความจำของแอป Microsoft 365 ทำให้สามารถเข้าถึงอีเมลได้จากภายนอกโดยไม่ถูกตรวจจับ วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลย้อนหลังหลายปีและเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างแนบเนียน
    https://securityonline.info/toddycat-apt-steals-microsoft-365-cloud-email-by-dumping-oauth-tokens-from-memory-and-copying-locked-ost-files

    Kimsuky APT ใช้สองเวอร์ชันของ KimJongRAT เลี่ยงการตรวจจับ Windows Defender
    กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky จากเกาหลีเหนือถูกพบว่ากำลังใช้กลยุทธ์ใหม่ โดยปล่อยมัลแวร์ KimJongRAT สองรูปแบบ ทั้งไฟล์ PE และสคริปต์ PowerShell เพื่อเลือกใช้งานตามสถานะของ Windows Defender หาก Defender เปิดอยู่ พวกเขาจะใช้ PowerShell ที่พรางตัวได้ดีกว่า แต่ถ้า Defender ถูกปิด ก็จะใช้ไฟล์ PE ที่ทำงานตรงไปตรงมา วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลและควบคุมระบบได้โดยลดโอกาสถูกตรวจจับลงอย่างมาก
    https://securityonline.info/kimsuky-apt-deploys-dual-kimjongrat-payloads-switching-between-pe-powershell-based-on-windows-defender-status

    โทรจันธนาคารบราซิลแพร่ผ่าน WhatsApp ด้วย Python Worm
    นักวิจัยพบโทรจันธนาคารสายพันธุ์ใหม่จากบราซิลที่ใช้วิธีแพร่กระจายผ่าน WhatsApp โดยเขียนด้วย Python และทำงานแบบ worm สามารถส่งต่อไฟล์อันตรายไปยังผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน IMAP เพื่อดึงข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้สามารถขโมยรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบได้ทันทีโดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ ถือเป็นการผสมผสานเทคนิคที่ทั้งแพร่กระจายได้รวดเร็วและซ่อนตัวได้แนบเนียน
    https://securityonline.info/brazilian-banking-trojan-uses-python-whatsapp-worm-and-imap-c2-for-in-memory-credential-theft

    ปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือโจมตียุโรปด้วย WhatsApp Job Lure
    มีการเปิดเผยว่าปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือได้พัฒนาแคมเปญใหม่ในยุโรป โดยใช้ข้อความหลอกลวงผ่าน WhatsApp เสนอ “งานในฝัน” เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดมัลแวร์รุ่นใหม่ชื่อ MISTPEN และ BURNBOOK ซึ่งเป็น backdoor ที่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ วิธีการนี้ต่อยอดจากการโจมตี LinkedIn ในอดีต แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมใช้ WhatsApp ในการติดต่อหางาน ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น
    https://securityonline.info/north-koreas-operation-dreamjob-hits-europe-whatsapp-job-lure-delivers-evolved-mistpen-burnbook-backdoors

    📌🔒🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔒📌 #รวมข่าวIT #20251125 #securityonline 🐉 จีน-นexus Autumn Dragon ใช้ช่องโหว่ WinRAR ปล่อยมัลแวร์ผ่าน Telegram เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงปฏิบัติการจารกรรมไซเบอร์ชื่อ “Autumn Dragon” ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ฝั่งจีน พวกเขาใช้ไฟล์ RAR ที่ฝังช่องโหว่ของ WinRAR (CVE-2025-8088) ส่งไปยังเป้าหมายผ่านอีเมลหลอกลวง เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะถูกฝังสคริปต์ที่ทำงานต่อเนื่องเพื่อดึงมัลแวร์ขั้นต่อไปจาก Dropbox และซ่อนตัวผ่าน DLL sideloading โดยมีการควบคุมผ่าน Telegram ตัวมัลแวร์นี้สามารถสั่งงานได้ เช่น เปิด shell, ถ่าย screenshot และอัปโหลดไฟล์ จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบให้ฟังก์ชันน้อยเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับง่าย เป้าหมายหลักคือหน่วยงานรัฐบาลและสื่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 🔗 https://securityonline.info/china-nexus-autumn-dragon-apt-exploits-winrar-flaw-to-deploy-telegram-c2-backdoor 📝 Notepad เพิ่มฟีเจอร์ Markdown Table และ Copilot Streaming จากเดิมที่ Notepad เป็นเพียงโปรแกรมจดข้อความธรรมดา ตอนนี้ Microsoft ได้ยกระดับให้รองรับการสร้างตารางในรูปแบบ Markdown ผู้ใช้สามารถเลือกจำนวนแถวคอลัมน์ได้ง่าย ๆ คล้ายกับการใส่ตารางใน Word และยังสามารถแก้ไขขยายหรือลดขนาดได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot โดยเพิ่มความสามารถในการเขียนใหม่และสรุปข้อความแบบ “streaming” คือผลลัพธ์จะปรากฏทันทีโดยไม่ต้องรอจนเสร็จทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad กลายเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์นักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/notepad-update-adds-markdown-table-support-streaming-copilot-ai-responses 💻 Microsoft แก้ปัญหา File Explorer ช้าใน Windows 11 ด้วย Preloading ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่า File Explorer เปิดช้า โดยเฉพาะเมื่อโหลดโฟลเดอร์ที่มีรูปภาพเยอะ ๆ Microsoft จึงออกฟีเจอร์ใหม่ใน Build 26220.7271 ที่เรียกว่า “preloading” ซึ่งจะโหลด Explorer เข้าหน่วยความจำล่วงหน้า ทำให้การเปิดใช้งานเร็วขึ้น แม้จะยังไม่แก้ปัญหาการหน่วงหลังเปิดไฟล์ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยลดเวลารอไปหลายร้อยมิลลิวินาที ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้หากไม่ต้องการ แต่โดยทั่วไปมันใช้ RAM น้อยและช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมาก 🔗 https://securityonline.info/microsoft-tries-to-fix-windows-11-file-explorer-lag-with-new-preloading-feature 📱  Qualcomm ยืนยัน Quick Share ใช้งานร่วมกับ AirDrop ได้บนมือถือ Snapdragon หลังจาก Google ประกาศว่า Pixel 10 จะสามารถส่งไฟล์ผ่าน Quick Share ไปยัง iPhone ได้เหมือน AirDrop ล่าสุด Qualcomm ก็ออกมายืนยันว่า ฟีเจอร์นี้จะไม่จำกัดเฉพาะ Pixel แต่จะขยายไปยังมือถือ Android ที่ใช้ชิป Snapdragon ด้วย หมายความว่าผู้ใช้ Android และ iOS จะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอปเสริม ถือเป็นการเชื่อมโลกสองฝั่งที่เคยถูกแบ่งแยกมานาน คาดว่า Samsung Galaxy S26 จะเป็นรุ่นแรก ๆ ที่นำมาใช้ และนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแชร์ไฟล์ข้ามระบบนิเวศ 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-confirms-quick-share-airdrop-interoperability-coming-to-all-snapdragon-phones ☁️ ทีมไซเบอร์ระดับโลกเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M Blast Security คือสตาร์ทอัพใหม่จาก Tel Aviv ที่ก่อตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์จาก Solebit และหน่วย IDF พวกเขาเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Preemptive Cloud Defense” ที่เน้นการป้องกันเชิงรุกแทนการตรวจจับและแก้ไขทีหลัง จุดเด่นคือการสร้างระบบป้องกันที่ทำงานต่อเนื่อง ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์ และลดความเสี่ยงได้กว่า 90% การลงทุนรอบ seed ได้เงินทุนถึง 10 ล้านดอลลาร์จาก 10D และ MizMaa Ventures เป้าหมายคือการทำให้ “การป้องกัน” กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยบนคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention 🛡️ CISA เตือนภัยสปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีแอปแชทด้วย Zero-Click และ QR Code อันตราย หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเร่งด่วนว่ามีการใช้สปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีผู้ใช้งานแอปแชทยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Signal โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย ผ่านช่องโหว่แบบ Zero-Click และการหลอกให้สแกน QR Code ที่เชื่อมบัญชีไปยังเครื่องของแฮกเกอร์ เมื่อถูกเจาะแล้ว ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ เปิดไมโครโฟน และติดตามตำแหน่งได้ทันที เป้าหมายหลักคือบุคคลสำคัญ นักข่าว และองค์กรภาคประชาสังคมในหลายภูมิภาคทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps 💻 ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress (CVE-2025-6389) เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเว็บได้ทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ระดับวิกฤติในปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ และยึดครองเว็บไซต์ได้ทันที นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วหลายร้อยครั้งในเวลาเพียงวันเดียว ผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไข แต่ใครที่ยังไม่อัปเดตถือว่าเสี่ยงสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce 📷 ช่องโหว่กล้อง Vivotek รุ่นเก่า เปิดช่องให้สั่งรันคำสั่งได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทีมวิจัยจาก Akamai พบช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในกล้อง IP ของ Vivotek รุ่นที่หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ช่องโหว่นี้อยู่ในไฟล์ eventtask.cgi ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งคำสั่งไปยังระบบโดยตรงโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ทำให้สามารถเข้าควบคุมกล้องได้เต็มรูปแบบ ปัญหาคือเฟิร์มแวร์รุ่นที่มีช่องโหว่นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีแพตช์แก้ไข ผู้ใช้งานจึงถูกแนะนำให้รีบแยกอุปกรณ์ออกจากเครือข่ายหรือเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่แทน 🔗 https://securityonline.info/critical-unpatched-flaw-vivotek-eol-ip-cameras-exposed-to-unauthenticated-rce-via-command-injection 📡 CVE-2025-63207: ช่องโหว่ยึดระบบออกอากาศ R.V.R Elettronica TEX ได้ทั้งหมด นักวิจัยเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในอุปกรณ์ออกอากาศ TEX ของ R.V.R Elettronica ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ทุกระดับ รวมถึงแอดมิน ได้ด้วยคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องล็อกอิน เมื่อรีเซ็ตรหัสผ่านแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบและอาจเปลี่ยนการตั้งค่าออกอากาศหรือเจาะลึกไปยังระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่ ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์แก้ไข จึงแนะนำให้ผู้ดูแลจำกัดการเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งานอย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-63207-cvss-9-8-critical-broken-access-control-flaw-exposes-r-v-r-elettronica-tex-devices-to-full-system-takeover 📧 ToddyCat APT โจมตี Microsoft 365 ขโมยอีเมลผ่านการดูด OAuth Token และไฟล์ OST ที่ถูกล็อก รายงานจาก Kaspersky เผยว่า ToddyCat กลุ่มแฮกเกอร์สายสอดแนมได้พัฒนาวิธีใหม่ในการเจาะระบบอีเมลองค์กร ทั้งแบบ on-premises และบนคลาวด์ โดยใช้เครื่องมือ PowerShell และ C++ เพื่อขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ ไฟล์อีเมล Outlook ที่ถูกล็อก และที่น่ากังวลที่สุดคือการดูด OAuth Token จากหน่วยความจำของแอป Microsoft 365 ทำให้สามารถเข้าถึงอีเมลได้จากภายนอกโดยไม่ถูกตรวจจับ วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลย้อนหลังหลายปีและเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างแนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/toddycat-apt-steals-microsoft-365-cloud-email-by-dumping-oauth-tokens-from-memory-and-copying-locked-ost-files 🖥️ Kimsuky APT ใช้สองเวอร์ชันของ KimJongRAT เลี่ยงการตรวจจับ Windows Defender กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky จากเกาหลีเหนือถูกพบว่ากำลังใช้กลยุทธ์ใหม่ โดยปล่อยมัลแวร์ KimJongRAT สองรูปแบบ ทั้งไฟล์ PE และสคริปต์ PowerShell เพื่อเลือกใช้งานตามสถานะของ Windows Defender หาก Defender เปิดอยู่ พวกเขาจะใช้ PowerShell ที่พรางตัวได้ดีกว่า แต่ถ้า Defender ถูกปิด ก็จะใช้ไฟล์ PE ที่ทำงานตรงไปตรงมา วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลและควบคุมระบบได้โดยลดโอกาสถูกตรวจจับลงอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/kimsuky-apt-deploys-dual-kimjongrat-payloads-switching-between-pe-powershell-based-on-windows-defender-status 💰 โทรจันธนาคารบราซิลแพร่ผ่าน WhatsApp ด้วย Python Worm นักวิจัยพบโทรจันธนาคารสายพันธุ์ใหม่จากบราซิลที่ใช้วิธีแพร่กระจายผ่าน WhatsApp โดยเขียนด้วย Python และทำงานแบบ worm สามารถส่งต่อไฟล์อันตรายไปยังผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน IMAP เพื่อดึงข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้สามารถขโมยรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบได้ทันทีโดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ ถือเป็นการผสมผสานเทคนิคที่ทั้งแพร่กระจายได้รวดเร็วและซ่อนตัวได้แนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/brazilian-banking-trojan-uses-python-whatsapp-worm-and-imap-c2-for-in-memory-credential-theft 🎭 ปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือโจมตียุโรปด้วย WhatsApp Job Lure มีการเปิดเผยว่าปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือได้พัฒนาแคมเปญใหม่ในยุโรป โดยใช้ข้อความหลอกลวงผ่าน WhatsApp เสนอ “งานในฝัน” เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดมัลแวร์รุ่นใหม่ชื่อ MISTPEN และ BURNBOOK ซึ่งเป็น backdoor ที่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ วิธีการนี้ต่อยอดจากการโจมตี LinkedIn ในอดีต แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมใช้ WhatsApp ในการติดต่อหางาน ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-operation-dreamjob-hits-europe-whatsapp-job-lure-delivers-evolved-mistpen-burnbook-backdoors
    0 Comments 0 Shares 537 Views 0 Reviews
  • Pebble Watch Software เปิด Open Source เต็มรูปแบบ

    Pebble ประกาศว่า ซอฟต์แวร์ทั้งหมดของ Pebble Watch ตอนนี้เปิดเป็น Open Source 100% รวมถึง PebbleOS, แอปมือถือ และ Developer Tools พร้อมทั้งเปิดตัวระบบ Appstore แบบ decentralized เพื่อให้ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้อย่างยั่งยืน

    หลังจากที่ Pebble เคยเปิดซอร์สโค้ดบางส่วน (~95%) ตอนนี้ทีม Core Devices ได้ประกาศว่า ทุกส่วนของซอฟต์แวร์ Pebble Watch เปิดเป็น Open Source แล้ว ตั้งแต่ PebbleOS ที่รันบนตัวนาฬิกา, แอปมือถือ companion สำหรับ iOS และ Android, ไปจนถึง Developer Tools และ Appstore ที่ชุมชนสามารถเข้าถึงและปรับปรุงได้เอง

    รายละเอียดการเปลี่ยนแปลง
    PebbleOS: เปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub สามารถดาวน์โหลด, คอมไพล์ และติดตั้งผ่าน Bluetooth ได้
    Mobile Companion App: แอปใหม่ที่สร้างด้วย Kotlin Multiplatform เปิดซอร์สโค้ดเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้ iPhone และ Android สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง
    Developer Tools & Appstore: อัปเดต SDK และ dev tools ให้ทำงานบนเครื่องสมัยใหม่ พร้อมระบบ Appstore แบบ decentralized ที่รองรับหลาย feed และมีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org เพื่อป้องกันการสูญหาย

    ฮาร์ดแวร์และการผลิต
    Core Devices ยืนยันว่าจะยังคงผลิตนาฬิกา Pebble ต่อไป โดยเน้นการออกแบบที่ ซ่อมง่ายกว่าเดิม เช่น Pebble Time 2 ที่สามารถถอดฝาหลังและเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง รวมถึงการเผยแพร่ไฟล์ออกแบบทางไฟฟ้าและกลไกของ Pebble 2 Duo เพื่อให้ชุมชนสามารถสร้างอุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับ PebbleOS

    สรุปสาระสำคัญ
    ซอฟต์แวร์ Pebble เปิด Open Source 100%
    ครอบคลุม PebbleOS, Mobile App และ Developer Tools
    ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้

    ระบบ Appstore แบบใหม่
    รองรับหลาย feed และ decentralized
    มีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org

    ฮาร์ดแวร์ที่ซ่อมง่ายขึ้น
    Pebble Time 2 สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง
    เผยแพร่ไฟล์ออกแบบ Pebble 2 Duo บน GitHub

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนา
    บางส่วนยังมี binary blobs และ non-free components (เช่น heart rate sensor, Memfault library)
    การผลิต Pebble Time 2 อาจล่าช้าเพราะปัจจัยโรงงานและเทศกาลตรุษจีน
    ระบบ Appstore ใหม่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจไม่ครอบคลุมทุก watchface/app ทันที

    https://ericmigi.com/blog/pebble-watch-software-is-now-100percent-open-source
    🕰️ Pebble Watch Software เปิด Open Source เต็มรูปแบบ Pebble ประกาศว่า ซอฟต์แวร์ทั้งหมดของ Pebble Watch ตอนนี้เปิดเป็น Open Source 100% รวมถึง PebbleOS, แอปมือถือ และ Developer Tools พร้อมทั้งเปิดตัวระบบ Appstore แบบ decentralized เพื่อให้ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้อย่างยั่งยืน หลังจากที่ Pebble เคยเปิดซอร์สโค้ดบางส่วน (~95%) ตอนนี้ทีม Core Devices ได้ประกาศว่า ทุกส่วนของซอฟต์แวร์ Pebble Watch เปิดเป็น Open Source แล้ว ตั้งแต่ PebbleOS ที่รันบนตัวนาฬิกา, แอปมือถือ companion สำหรับ iOS และ Android, ไปจนถึง Developer Tools และ Appstore ที่ชุมชนสามารถเข้าถึงและปรับปรุงได้เอง ⚙️ รายละเอียดการเปลี่ยนแปลง ⭐ PebbleOS: เปิดซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub สามารถดาวน์โหลด, คอมไพล์ และติดตั้งผ่าน Bluetooth ได้ ⭐ Mobile Companion App: แอปใหม่ที่สร้างด้วย Kotlin Multiplatform เปิดซอร์สโค้ดเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้ iPhone และ Android สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง ⭐ Developer Tools & Appstore: อัปเดต SDK และ dev tools ให้ทำงานบนเครื่องสมัยใหม่ พร้อมระบบ Appstore แบบ decentralized ที่รองรับหลาย feed และมีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org เพื่อป้องกันการสูญหาย 🔧 ฮาร์ดแวร์และการผลิต Core Devices ยืนยันว่าจะยังคงผลิตนาฬิกา Pebble ต่อไป โดยเน้นการออกแบบที่ ซ่อมง่ายกว่าเดิม เช่น Pebble Time 2 ที่สามารถถอดฝาหลังและเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง รวมถึงการเผยแพร่ไฟล์ออกแบบทางไฟฟ้าและกลไกของ Pebble 2 Duo เพื่อให้ชุมชนสามารถสร้างอุปกรณ์ที่เข้ากันได้กับ PebbleOS 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ซอฟต์แวร์ Pebble เปิด Open Source 100% ➡️ ครอบคลุม PebbleOS, Mobile App และ Developer Tools ➡️ ชุมชนสามารถพัฒนาและใช้งานต่อไปได้ ✅ ระบบ Appstore แบบใหม่ ➡️ รองรับหลาย feed และ decentralized ➡️ มีการสำรองข้อมูลไปยัง Archive.org ✅ ฮาร์ดแวร์ที่ซ่อมง่ายขึ้น ➡️ Pebble Time 2 สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง ➡️ เผยแพร่ไฟล์ออกแบบ Pebble 2 Duo บน GitHub ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนา ⛔ บางส่วนยังมี binary blobs และ non-free components (เช่น heart rate sensor, Memfault library) ⛔ การผลิต Pebble Time 2 อาจล่าช้าเพราะปัจจัยโรงงานและเทศกาลตรุษจีน ⛔ ระบบ Appstore ใหม่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจไม่ครอบคลุมทุก watchface/app ทันที https://ericmigi.com/blog/pebble-watch-software-is-now-100percent-open-source
    ERICMIGI.COM
    Pebble Watch Software Is Now 100% Open Source + Tick Talk #4 - PT2 Demos!
    Pebble Watch Software Is Now 100% Open Source + Tick Talk #4 - PT2 Demos!
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • Sora 2 ก้าวกระโดดเหนือ Sora รุ่นแรก

    OpenAI เปิดตัว Sora 2 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญจาก Sora รุ่นแรก โดยเพิ่มความสามารถด้าน เสียง (Audio) และปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอที่สร้างขึ้น ทำให้ Sora 2 ถูกมองว่าเป็น “GPT-3.5 moment” ของวงการวิดีโอ AI เพราะสามารถทำสิ่งที่ก่อนหน้านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ในโมเดลรุ่นก่อน

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2
    Audio Integration: เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์ที่ซิงก์กับภาพได้อย่างแม่นยำ
    Improved Realism: ลดปัญหาวิดีโอที่ไม่สอดคล้องกับกฎฟิสิกส์ เช่น การเคลื่อนไหวที่ไม่สมจริง
    Cameos Feature: ผู้ใช้สามารถใส่ตัวเอง (หรือสัตว์/วัตถุ) ลงในวิดีโอที่สร้างขึ้นได้ โดยใช้การบันทึกสั้น ๆ เพื่อยืนยันตัวตน
    iOS App Integration: เปิดตัวพร้อมแอป Sora บน iOS ที่รองรับการใช้งาน Cameos

    การเปิดตัวและการเข้าถึง
    Sora 2 เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only ก่อนจะขยายไปยังเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไทย, เวียดนาม และไต้หวัน ผู้ใช้ต้องเข้าร่วม waitlist บน iOS app เพื่อใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐาน ส่วนรุ่น Sora 2 Pro จะเปิดให้เฉพาะผู้สมัครสมาชิก ChatGPT Pro ($200/เดือน) โดยรองรับการสร้างวิดีโอคุณภาพสูงและจำนวนครั้งมากกว่า

    โครงสร้างราคาและเครดิต
    Sora 2 Standard (ฟรีสำหรับ invitees)
    วิดีโอ 10 วินาที = 10 credits (1 generation)
    วิดีโอ 15 วินาที = 20 credits (2 generations)

    Sora 2 Pro (รวมใน ChatGPT Pro)
    วิดีโอ 10 วินาที = 40 credits (4 generations)
    วิดีโอ 15 วินาที = 80 credits (8 generations)
    วิดีโอ 25 วินาที = 120 credits (12 generations)
    วิดีโอความละเอียดสูง 10–15 วินาที = 250–500 credits (25–50 generations)

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2
    เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์
    ปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอ
    ฟีเจอร์ Cameos ใส่ตัวเองลงในวิดีโอ

    การเปิดตัวและการเข้าถึง
    เริ่มในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only
    ขยายไปยังหลายประเทศในเอเชีย
    ใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐานผ่าน iOS waitlist

    โครงสร้างราคาและเครดิต
    Standard: 10–20 credits ต่อวิดีโอ
    Pro: 40–500 credits ต่อวิดีโอ ขึ้นกับความยาวและความละเอียด

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    รุ่น Pro ใช้งานได้เฉพาะผู้สมัคร ChatGPT Pro ($200/เดือน)
    ระบบยังอยู่ในช่วง invite-only ไม่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงทันที
    วิดีโอความละเอียดสูงใช้เครดิตจำนวนมาก

    https://www.slashgear.com/2031927/sora-vs-sora-2-ai-video-capabilities-explained/
    🎬 Sora 2 ก้าวกระโดดเหนือ Sora รุ่นแรก OpenAI เปิดตัว Sora 2 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญจาก Sora รุ่นแรก โดยเพิ่มความสามารถด้าน เสียง (Audio) และปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอที่สร้างขึ้น ทำให้ Sora 2 ถูกมองว่าเป็น “GPT-3.5 moment” ของวงการวิดีโอ AI เพราะสามารถทำสิ่งที่ก่อนหน้านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้ในโมเดลรุ่นก่อน 🔊 ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2 🎗️ Audio Integration: เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์ที่ซิงก์กับภาพได้อย่างแม่นยำ 🎗️ Improved Realism: ลดปัญหาวิดีโอที่ไม่สอดคล้องกับกฎฟิสิกส์ เช่น การเคลื่อนไหวที่ไม่สมจริง 🎗️ Cameos Feature: ผู้ใช้สามารถใส่ตัวเอง (หรือสัตว์/วัตถุ) ลงในวิดีโอที่สร้างขึ้นได้ โดยใช้การบันทึกสั้น ๆ เพื่อยืนยันตัวตน 🎗️ iOS App Integration: เปิดตัวพร้อมแอป Sora บน iOS ที่รองรับการใช้งาน Cameos 🌍 การเปิดตัวและการเข้าถึง Sora 2 เปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only ก่อนจะขยายไปยังเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไทย, เวียดนาม และไต้หวัน ผู้ใช้ต้องเข้าร่วม waitlist บน iOS app เพื่อใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐาน ส่วนรุ่น Sora 2 Pro จะเปิดให้เฉพาะผู้สมัครสมาชิก ChatGPT Pro ($200/เดือน) โดยรองรับการสร้างวิดีโอคุณภาพสูงและจำนวนครั้งมากกว่า 💰 โครงสร้างราคาและเครดิต ⭐ Sora 2 Standard (ฟรีสำหรับ invitees) ➡️ วิดีโอ 10 วินาที = 10 credits (1 generation) ➡️ วิดีโอ 15 วินาที = 20 credits (2 generations) ⭐ Sora 2 Pro (รวมใน ChatGPT Pro) ➡️ วิดีโอ 10 วินาที = 40 credits (4 generations) ➡️ วิดีโอ 15 วินาที = 80 credits (8 generations) ➡️ วิดีโอ 25 วินาที = 120 credits (12 generations) ➡️ วิดีโอความละเอียดสูง 10–15 วินาที = 250–500 credits (25–50 generations) 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Sora 2 ➡️ เพิ่มเสียงพูดและเอฟเฟกต์ ➡️ ปรับปรุงความสมจริงของวิดีโอ ➡️ ฟีเจอร์ Cameos ใส่ตัวเองลงในวิดีโอ ✅ การเปิดตัวและการเข้าถึง ➡️ เริ่มในสหรัฐฯ และแคนาดาแบบ invite-only ➡️ ขยายไปยังหลายประเทศในเอเชีย ➡️ ใช้งานฟรีในรุ่นมาตรฐานผ่าน iOS waitlist ✅ โครงสร้างราคาและเครดิต ➡️ Standard: 10–20 credits ต่อวิดีโอ ➡️ Pro: 40–500 credits ต่อวิดีโอ ขึ้นกับความยาวและความละเอียด ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ รุ่น Pro ใช้งานได้เฉพาะผู้สมัคร ChatGPT Pro ($200/เดือน) ⛔ ระบบยังอยู่ในช่วง invite-only ไม่เปิดให้ทุกคนเข้าถึงทันที ⛔ วิดีโอความละเอียดสูงใช้เครดิตจำนวนมาก https://www.slashgear.com/2031927/sora-vs-sora-2-ai-video-capabilities-explained/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Sora Vs Sora 2: Here's What OpenAI's Newest Video Model Can Do - SlashGear
    OpenAI's video generator, Sora, has rapidly grown in popularity since it's release, but now, users can access the newest model. Here's what you need to know.
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • Microsoft ปิดฉาก WINS หลัง Windows Server 2025

    WINS หรือ Windows Internet Name Service เปิดตัวครั้งแรกในปี 1994 เพื่อแก้ปัญหาการแปลงชื่อ NetBIOS เป็น IP Address ในยุคที่ DNS ยังไม่แพร่หลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป DNS กลายเป็นมาตรฐานสากลที่มีความปลอดภัยและรองรับการขยายตัวได้ดีกว่า ทำให้ WINS ค่อย ๆ ถูกลดบทบาทลง และในที่สุด Microsoft ประกาศว่า Windows Server 2025 จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังคงมี WINS ให้ใช้งาน

    องค์กรที่ยังพึ่งพา WINS จะยังได้รับการสนับสนุนต่อไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2034 ภายใต้ Fixed Lifecycle Policy แต่หลังจากนั้น Microsoft จะหยุดการอัปเดตด้านความปลอดภัยและบั๊กทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าการใช้งาน WINS ต่อไปจะเสี่ยงต่อการโจมตีและไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเครือข่ายสมัยใหม่

    ทำไมต้องเปลี่ยนไปใช้ DNS
    DNS ไม่เพียงแต่เป็นมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก แต่ยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่า เช่น DNSSEC ที่ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ spoofing และ cache poisoning ซึ่ง WINS ไม่สามารถทำได้ อีกทั้ง DNS ยังรองรับ IPv6 และการทำงานร่วมกับบริการคลาวด์และ Active Directory ได้อย่างราบรื่น ต่างจาก WINS ที่ยังคงยึดติดกับ IPv4 และโครงสร้างแบบ centralized replication ที่ไม่เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่

    การเปลี่ยนผ่านไปใช้ DNS จึงไม่ใช่แค่การอัปเกรด แต่เป็นการลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและลดภาระการดูแลระบบที่ซับซ้อนจากการคงไว้ซึ่งเทคโนโลยีเก่า

    ผลกระทบต่อองค์กรและแนวทางการปรับตัว
    องค์กรที่ยังมีระบบหรือแอปพลิเคชันเก่าที่พึ่งพา WINS จำเป็นต้องเร่งตรวจสอบและวางแผนการย้ายไปใช้ DNS โดยเฉพาะในกรณีที่ยังมีการใช้ NetBIOS หรือระบบที่ต้องการ short-name resolution หากไม่ปรับตัวทันเวลา อาจเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ การค้นหาทรัพยากรในเครือข่าย และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่รุนแรงขึ้น

    Microsoft แนะนำให้ใช้วิธีการอย่าง conditional forwarders, split-brain DNS และ DNS suffix search lists เพื่อทดแทนการทำงานของ WINS รวมถึงการปรับปรุงหรือเลิกใช้งานแอปพลิเคชันที่ยังคงพึ่งพาเทคโนโลยีนี้

    สรุปสาระสำคัญ
    การประกาศยุติ WINS
    Windows Server 2025 เป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังมี WINS
    การสนับสนุนจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน 2034

    ข้อดีของ DNS เทียบกับ WINS
    รองรับ IPv6 และการทำงานกับ Active Directory
    มีระบบความปลอดภัย DNSSEC ป้องกันการโจมตี
    โครงสร้างแบบ distributed และ scalable

    แนวทางการปรับตัวขององค์กร
    ตรวจสอบระบบที่ยังพึ่งพา WINS
    ใช้ conditional forwarders และ DNS suffix lists
    ปรับปรุงหรือเลิกใช้แอปพลิเคชันเก่า

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    หลังปี 2034 จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัย
    ระบบที่ยังใช้ WINS อาจถูกโจมตีด้วย NetBIOS spoofing
    การพึ่งพา WINS ทำให้ไม่สอดคล้องกับ Zero Trust และ Cloud-native architectures

    https://securityonline.info/wins-is-dead-microsoft-to-fully-retire-wins-name-resolution-from-windows-server-post-2025/
    🖥️ Microsoft ปิดฉาก WINS หลัง Windows Server 2025 WINS หรือ Windows Internet Name Service เปิดตัวครั้งแรกในปี 1994 เพื่อแก้ปัญหาการแปลงชื่อ NetBIOS เป็น IP Address ในยุคที่ DNS ยังไม่แพร่หลาย แต่เมื่อเวลาผ่านไป DNS กลายเป็นมาตรฐานสากลที่มีความปลอดภัยและรองรับการขยายตัวได้ดีกว่า ทำให้ WINS ค่อย ๆ ถูกลดบทบาทลง และในที่สุด Microsoft ประกาศว่า Windows Server 2025 จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังคงมี WINS ให้ใช้งาน องค์กรที่ยังพึ่งพา WINS จะยังได้รับการสนับสนุนต่อไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2034 ภายใต้ Fixed Lifecycle Policy แต่หลังจากนั้น Microsoft จะหยุดการอัปเดตด้านความปลอดภัยและบั๊กทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าการใช้งาน WINS ต่อไปจะเสี่ยงต่อการโจมตีและไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเครือข่ายสมัยใหม่ 🔐 ทำไมต้องเปลี่ยนไปใช้ DNS DNS ไม่เพียงแต่เป็นมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก แต่ยังมีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เหนือกว่า เช่น DNSSEC ที่ช่วยป้องกันการโจมตีแบบ spoofing และ cache poisoning ซึ่ง WINS ไม่สามารถทำได้ อีกทั้ง DNS ยังรองรับ IPv6 และการทำงานร่วมกับบริการคลาวด์และ Active Directory ได้อย่างราบรื่น ต่างจาก WINS ที่ยังคงยึดติดกับ IPv4 และโครงสร้างแบบ centralized replication ที่ไม่เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่ การเปลี่ยนผ่านไปใช้ DNS จึงไม่ใช่แค่การอัปเกรด แต่เป็นการลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและลดภาระการดูแลระบบที่ซับซ้อนจากการคงไว้ซึ่งเทคโนโลยีเก่า ⚠️ ผลกระทบต่อองค์กรและแนวทางการปรับตัว องค์กรที่ยังมีระบบหรือแอปพลิเคชันเก่าที่พึ่งพา WINS จำเป็นต้องเร่งตรวจสอบและวางแผนการย้ายไปใช้ DNS โดยเฉพาะในกรณีที่ยังมีการใช้ NetBIOS หรือระบบที่ต้องการ short-name resolution หากไม่ปรับตัวทันเวลา อาจเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ การค้นหาทรัพยากรในเครือข่าย และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่รุนแรงขึ้น Microsoft แนะนำให้ใช้วิธีการอย่าง conditional forwarders, split-brain DNS และ DNS suffix search lists เพื่อทดแทนการทำงานของ WINS รวมถึงการปรับปรุงหรือเลิกใช้งานแอปพลิเคชันที่ยังคงพึ่งพาเทคโนโลยีนี้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การประกาศยุติ WINS ➡️ Windows Server 2025 เป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังมี WINS ➡️ การสนับสนุนจะสิ้นสุดในเดือนพฤศจิกายน 2034 ✅ ข้อดีของ DNS เทียบกับ WINS ➡️ รองรับ IPv6 และการทำงานกับ Active Directory ➡️ มีระบบความปลอดภัย DNSSEC ป้องกันการโจมตี ➡️ โครงสร้างแบบ distributed และ scalable ✅ แนวทางการปรับตัวขององค์กร ➡️ ตรวจสอบระบบที่ยังพึ่งพา WINS ➡️ ใช้ conditional forwarders และ DNS suffix lists ➡️ ปรับปรุงหรือเลิกใช้แอปพลิเคชันเก่า ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ หลังปี 2034 จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัย ⛔ ระบบที่ยังใช้ WINS อาจถูกโจมตีด้วย NetBIOS spoofing ⛔ การพึ่งพา WINS ทำให้ไม่สอดคล้องกับ Zero Trust และ Cloud-native architectures https://securityonline.info/wins-is-dead-microsoft-to-fully-retire-wins-name-resolution-from-windows-server-post-2025/
    SECURITYONLINE.INFO
    WINS is Dead: Microsoft to Fully Retire WINS Name Resolution from Windows Server Post-2025
    Microsoft will fully retire the WINS name-resolution service after Windows Server 2025. Support for existing deployments ends in 2034, urging migration to DNS now.
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251124 #securityonline

    PyPI ปลอมแพ็กเกจ Python แฝง RAT หลายชั้น
    นักวิจัยจาก HelixGuard พบแพ็กเกจอันตรายบน PyPI ที่ชื่อว่า spellcheckers ซึ่งพยายามเลียนแบบไลบรารีจริง “pyspellchecker” ที่มีคนใช้มากกว่า 18 ล้านครั้ง แต่ตัวปลอมนี้แอบซ่อน Remote Access Trojan (RAT) หลายชั้นไว้ภายใน นี่เป็นการโจมตี supply chain ที่อันตราย เพราะนักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจนี้อาจถูกเจาะระบบโดยไม่รู้ตัว และมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยใช้วิธีหลอกเป็น “Recruiter” เพื่อขโมยคริปโตมาก่อน
    url: https://securityonline.info/pypi-typosquat-delivers-multi-layer-python-rat-bypassing-scanners-with-xor-encryption

    Tsundere Botnet: Node.js + Blockchain C2
    นักวิจัยจาก Kaspersky พบ บอทเน็ตใหม่ชื่อ Tsundere ที่เติบโตเร็วมากและมีลูกเล่นแปลกใหม่ ใช้ Node.js implants และดึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) จาก Ethereum smart contract ทำให้แทบจะ “ฆ่าไม่ตาย” เพราะข้อมูลบนบล็อกเชนลบไม่ได้ กระจายตัวผ่าน เกมเถื่อน และการใช้ Remote Monitoring & Management (RMM) และที่น่ากลัวคือมันสามารถรันโค้ด JavaScript จากระยะไกล ทำให้แฮกเกอร์สั่งขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์เพิ่ม, หรือใช้เครื่องเหยื่อเป็น proxy ได้
    url: https://securityonline.info/tsundere-botnet-uncovered-node-js-malware-uses-ethereum-smart-contract-for-unkillable-c2-and-runs-cybercrime-marketplace

    ความโปร่งใสบนโลกโซเชียล แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เพิ่มเครื่องมือใหม่ชื่อว่า “About This Account” เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชีต่าง ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเบื้องหลัง เช่น ประเทศที่สร้างบัญชี, วิธีการเข้าถึง (ผ่านเว็บหรือแอป), และจำนวนครั้งที่เปลี่ยนชื่อบัญชี ฟีเจอร์นี้ยังมีระบบตรวจจับ VPN เพื่อแจ้งเตือนว่าข้อมูลประเทศอาจไม่ถูกต้อง จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นว่าเนื้อหาที่เห็นมาจากใครจริง ๆ
    https://securityonline.info/x-launches-about-this-account-tool-to-boost-transparency-and-fight-fakes

    Apple ยังอยู่ภายใต้การนำของ Cook มีรายงานจาก Financial Times ว่า Tim Cook อาจก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Apple ในปี 2026 แต่ Mark Gurman จาก Bloomberg ออกมายืนยันว่าไม่จริง และไม่มีสัญญาณใด ๆ จากภายในบริษัท Cook ซึ่งเข้ามาเป็น CEO ตั้งแต่ปี 2011 ได้พา Apple เติบโตจากมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ ไปสู่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ เขายังมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง โดยผู้สืบทอดที่ถูกจับตามองคือ John Ternus หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์
    https://securityonline.info/tim-cook-stepping-down-next-year-rumors-firmly-dismissed-by-mark-gurman

    การต่อสู้ด้านกฎหมายครั้งใหญ่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคดีผูกขาดธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ผู้พิพากษา Leonie Brinkema แสดงท่าทีว่าจะตัดสินเร็ว โดย DOJ กล่าวหาว่า Google ครองตลาดอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ Google โต้ว่า การบังคับให้ขายธุรกิจโฆษณาออกไปเป็นการแก้ไขที่รุนแรงเกินไป นอกจากนี้ Google ยังถูกปรับกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในยุโรปจากคดีคล้ายกัน ทำให้บริษัทเผชิญแรงกดดันจากหลายประเทศพร้อมกัน
    https://securityonline.info/doj-vs-google-ad-tech-antitrust-battle-enters-final-stage-with-quick-ruling-expected

    ปีแห่งการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ หลังจาก iOS 26 เปิดตัวดีไซน์ “Liquid Glass” ที่หวือหวา Apple ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทาง โดย iOS 27 และ macOS 27 ที่จะออกในปี 2026 จะเน้นการแก้บั๊ก ปรับปรุงประสิทธิภาพ และทำให้ระบบเสถียรมากขึ้น คล้ายกับการอัปเดต Snow Leopard ในอดีต อย่างไรก็ตาม Apple ยังเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ด้าน AI เช่น Health Agent และระบบค้นหาใหม่ รวมถึงปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ Liquid Glass ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/ios-27-macos-27-apple-shifts-to-stability-and-performance-over-new-features

    มัลแวร์ปลอมตัวเป็นแอปจริง หน่วยวิจัยของ Acronis พบการโจมตีครั้งใหญ่ชื่อว่า “TamperedChef” ที่ใช้โฆษณาและ SEO หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปปลอม เช่น โปรแกรมอ่านคู่มือหรือเกมง่าย ๆ แอปเหล่านี้ถูกเซ็นด้วยใบรับรองจริงที่ซื้อผ่านบริษัทเชลล์ในสหรัฐฯ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง แอปจะสร้างงานตามเวลาและฝัง backdoor ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนเพื่อควบคุมเครื่องระยะยาว เหยื่อส่วนใหญ่พบในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ ก่อสร้าง และการผลิต
    https://securityonline.info/tamperedchef-malvertising-uses-us-shell-companies-to-sign-trojanized-apps-with-valid-certificates-deploying-stealth-backdoor

    AI Framework เจอช่องโหว่ร้ายแรง มีการค้นพบช่องโหว่ใน vLLM ซึ่งเป็น framework สำหรับการทำงานของโมเดลภาษา ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่ง prompt embeddings ที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อรันโค้ดอันตรายบนระบบ (Remote Code Execution) โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบจากภายนอก นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้งานควรอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/vllm-flaw-cve-2025-62164-risks-remote-code-execution-via-malicious-prompt-embeddings

    การโจมตีไซเบอร์ข้ามพรมแดน กลุ่มแฮกเกอร์ APT24 จากจีนถูกเปิดโปงว่าใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ “BADAUDIO” แฝงตัวผ่านซัพพลายเชนของไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อกว่า 1,000 โดเมน มัลแวร์นี้มีความสามารถในการซ่อนตัวและควบคุมระบบจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของไต้หวันอย่างมาก
    https://securityonline.info/chinas-apt24-launches-stealth-badaudio-malware-hitting-1000-domains-via-taiwanese-supply-chain-hack

    มัลแวร์แพร่กระจายผ่านแชท มีการค้นพบ worm ที่แพร่กระจายบน WhatsApp โดยใช้ข้อความหลอกว่าเป็น “View Once” เพื่อให้ผู้ใช้เปิดดู เมื่อเหยื่อคลิก มัลแวร์จะขโมย session และติดตั้ง Astaroth Banking Trojan เพื่อเจาะข้อมูลทางการเงิน จุดเด่นคือ worm นี้สามารถส่งต่อไปยังรายชื่อผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ ทำให้แพร่กระจายได้รวดเร็ว
    https://securityonline.info/sophisticated-whatsapp-worm-uses-fake-view-once-lure-to-hijack-sessions-and-deploy-astaroth-banking-trojan

    ภัยคุกคามต่ออุปกรณ์เครือข่ายบ้านและองค์กร CERT/CC ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ command injection ในเราเตอร์ Tenda รุ่น 4G03 Pro และ N300 (CVE-2025-13207, CVE-2024-24481) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้ปิดการใช้งาน remote management และติดตามการอัปเดต firmware อย่างใกล้ชิด
    https://securityonline.info/cert-cc-warns-of-unpatched-root-level-command-injection-flaws-in-tenda-4g03-pro-and-n300-routers-cve-2025-13207-cve-2024-24481

    ภัยต่อระบบอุตสาหกรรม ABB แจ้งเตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน Edgenius Management Portal (เวอร์ชัน 3.2.0.0 และ 3.2.1.1) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่งข้อความพิเศษเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน สามารถติดตั้ง/ถอนการติดตั้งแอป และแก้ไขการตั้งค่าได้เต็มที่ ถือเป็นภัยใหญ่ต่อระบบ OT ในโรงงานและอุตสาหกรรม ABB ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 3.2.2.0 และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอัปเดตไม่ได้ปิดการใช้งาน Portal ชั่วคราว
    https://securityonline.info/critical-abb-flaw-cve-2025-10571-cvss-9-6-allows-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-edgenius



    📌🔒🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔒📌 #รวมข่าวIT #20251124 #securityonline 🐍 PyPI ปลอมแพ็กเกจ Python แฝง RAT หลายชั้น นักวิจัยจาก HelixGuard พบแพ็กเกจอันตรายบน PyPI ที่ชื่อว่า spellcheckers ซึ่งพยายามเลียนแบบไลบรารีจริง “pyspellchecker” ที่มีคนใช้มากกว่า 18 ล้านครั้ง แต่ตัวปลอมนี้แอบซ่อน Remote Access Trojan (RAT) หลายชั้นไว้ภายใน นี่เป็นการโจมตี supply chain ที่อันตราย เพราะนักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจนี้อาจถูกเจาะระบบโดยไม่รู้ตัว และมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยใช้วิธีหลอกเป็น “Recruiter” เพื่อขโมยคริปโตมาก่อน 🔗 url: https://securityonline.info/pypi-typosquat-delivers-multi-layer-python-rat-bypassing-scanners-with-xor-encryption 💻 Tsundere Botnet: Node.js + Blockchain C2 นักวิจัยจาก Kaspersky พบ บอทเน็ตใหม่ชื่อ Tsundere ที่เติบโตเร็วมากและมีลูกเล่นแปลกใหม่ ใช้ Node.js implants และดึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) จาก Ethereum smart contract ทำให้แทบจะ “ฆ่าไม่ตาย” เพราะข้อมูลบนบล็อกเชนลบไม่ได้ กระจายตัวผ่าน เกมเถื่อน และการใช้ Remote Monitoring & Management (RMM) และที่น่ากลัวคือมันสามารถรันโค้ด JavaScript จากระยะไกล ทำให้แฮกเกอร์สั่งขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์เพิ่ม, หรือใช้เครื่องเหยื่อเป็น proxy ได้ 🔗 url: https://securityonline.info/tsundere-botnet-uncovered-node-js-malware-uses-ethereum-smart-contract-for-unkillable-c2-and-runs-cybercrime-marketplace 🛡️ ความโปร่งใสบนโลกโซเชียล แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เพิ่มเครื่องมือใหม่ชื่อว่า “About This Account” เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชีต่าง ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเบื้องหลัง เช่น ประเทศที่สร้างบัญชี, วิธีการเข้าถึง (ผ่านเว็บหรือแอป), และจำนวนครั้งที่เปลี่ยนชื่อบัญชี ฟีเจอร์นี้ยังมีระบบตรวจจับ VPN เพื่อแจ้งเตือนว่าข้อมูลประเทศอาจไม่ถูกต้อง จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นว่าเนื้อหาที่เห็นมาจากใครจริง ๆ 🔗 https://securityonline.info/x-launches-about-this-account-tool-to-boost-transparency-and-fight-fakes 🍏 Apple ยังอยู่ภายใต้การนำของ Cook มีรายงานจาก Financial Times ว่า Tim Cook อาจก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Apple ในปี 2026 แต่ Mark Gurman จาก Bloomberg ออกมายืนยันว่าไม่จริง และไม่มีสัญญาณใด ๆ จากภายในบริษัท Cook ซึ่งเข้ามาเป็น CEO ตั้งแต่ปี 2011 ได้พา Apple เติบโตจากมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ ไปสู่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ เขายังมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง โดยผู้สืบทอดที่ถูกจับตามองคือ John Ternus หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ 🔗 https://securityonline.info/tim-cook-stepping-down-next-year-rumors-firmly-dismissed-by-mark-gurman ⚖️ การต่อสู้ด้านกฎหมายครั้งใหญ่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคดีผูกขาดธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ผู้พิพากษา Leonie Brinkema แสดงท่าทีว่าจะตัดสินเร็ว โดย DOJ กล่าวหาว่า Google ครองตลาดอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ Google โต้ว่า การบังคับให้ขายธุรกิจโฆษณาออกไปเป็นการแก้ไขที่รุนแรงเกินไป นอกจากนี้ Google ยังถูกปรับกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในยุโรปจากคดีคล้ายกัน ทำให้บริษัทเผชิญแรงกดดันจากหลายประเทศพร้อมกัน 🔗 https://securityonline.info/doj-vs-google-ad-tech-antitrust-battle-enters-final-stage-with-quick-ruling-expected 📱💻 ปีแห่งการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ หลังจาก iOS 26 เปิดตัวดีไซน์ “Liquid Glass” ที่หวือหวา Apple ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทาง โดย iOS 27 และ macOS 27 ที่จะออกในปี 2026 จะเน้นการแก้บั๊ก ปรับปรุงประสิทธิภาพ และทำให้ระบบเสถียรมากขึ้น คล้ายกับการอัปเดต Snow Leopard ในอดีต อย่างไรก็ตาม Apple ยังเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ด้าน AI เช่น Health Agent และระบบค้นหาใหม่ รวมถึงปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ Liquid Glass ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/ios-27-macos-27-apple-shifts-to-stability-and-performance-over-new-features 🕵️ มัลแวร์ปลอมตัวเป็นแอปจริง หน่วยวิจัยของ Acronis พบการโจมตีครั้งใหญ่ชื่อว่า “TamperedChef” ที่ใช้โฆษณาและ SEO หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปปลอม เช่น โปรแกรมอ่านคู่มือหรือเกมง่าย ๆ แอปเหล่านี้ถูกเซ็นด้วยใบรับรองจริงที่ซื้อผ่านบริษัทเชลล์ในสหรัฐฯ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง แอปจะสร้างงานตามเวลาและฝัง backdoor ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนเพื่อควบคุมเครื่องระยะยาว เหยื่อส่วนใหญ่พบในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ ก่อสร้าง และการผลิต 🔗 https://securityonline.info/tamperedchef-malvertising-uses-us-shell-companies-to-sign-trojanized-apps-with-valid-certificates-deploying-stealth-backdoor ⚙️ AI Framework เจอช่องโหว่ร้ายแรง มีการค้นพบช่องโหว่ใน vLLM ซึ่งเป็น framework สำหรับการทำงานของโมเดลภาษา ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่ง prompt embeddings ที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อรันโค้ดอันตรายบนระบบ (Remote Code Execution) โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบจากภายนอก นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้งานควรอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/vllm-flaw-cve-2025-62164-risks-remote-code-execution-via-malicious-prompt-embeddings 🐉 การโจมตีไซเบอร์ข้ามพรมแดน กลุ่มแฮกเกอร์ APT24 จากจีนถูกเปิดโปงว่าใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ “BADAUDIO” แฝงตัวผ่านซัพพลายเชนของไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อกว่า 1,000 โดเมน มัลแวร์นี้มีความสามารถในการซ่อนตัวและควบคุมระบบจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของไต้หวันอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/chinas-apt24-launches-stealth-badaudio-malware-hitting-1000-domains-via-taiwanese-supply-chain-hack 📲 มัลแวร์แพร่กระจายผ่านแชท มีการค้นพบ worm ที่แพร่กระจายบน WhatsApp โดยใช้ข้อความหลอกว่าเป็น “View Once” เพื่อให้ผู้ใช้เปิดดู เมื่อเหยื่อคลิก มัลแวร์จะขโมย session และติดตั้ง Astaroth Banking Trojan เพื่อเจาะข้อมูลทางการเงิน จุดเด่นคือ worm นี้สามารถส่งต่อไปยังรายชื่อผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ ทำให้แพร่กระจายได้รวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-whatsapp-worm-uses-fake-view-once-lure-to-hijack-sessions-and-deploy-astaroth-banking-trojan 📡 ภัยคุกคามต่ออุปกรณ์เครือข่ายบ้านและองค์กร CERT/CC ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ command injection ในเราเตอร์ Tenda รุ่น 4G03 Pro และ N300 (CVE-2025-13207, CVE-2024-24481) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้ปิดการใช้งาน remote management และติดตามการอัปเดต firmware อย่างใกล้ชิด 🔗 https://securityonline.info/cert-cc-warns-of-unpatched-root-level-command-injection-flaws-in-tenda-4g03-pro-and-n300-routers-cve-2025-13207-cve-2024-24481 🏭 ภัยต่อระบบอุตสาหกรรม ABB แจ้งเตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน Edgenius Management Portal (เวอร์ชัน 3.2.0.0 และ 3.2.1.1) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่งข้อความพิเศษเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน สามารถติดตั้ง/ถอนการติดตั้งแอป และแก้ไขการตั้งค่าได้เต็มที่ ถือเป็นภัยใหญ่ต่อระบบ OT ในโรงงานและอุตสาหกรรม ABB ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 3.2.2.0 และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอัปเดตไม่ได้ปิดการใช้งาน Portal ชั่วคราว 🔗 https://securityonline.info/critical-abb-flaw-cve-2025-10571-cvss-9-6-allows-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-edgenius
    0 Comments 0 Shares 558 Views 0 Reviews
  • แอปฟรีที่ควรติดตั้งทันทีบน Chromebook
    Chromebook แม้จะมีระบบที่เบาและเร็ว แต่ก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้นด้วยแอปฟรีที่ช่วยให้ใช้งานสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น บทความจาก SlashGear ได้แนะนำแอปที่ควรมีติดเครื่องทันทีหลังซื้อ Chromebook

    เริ่มกันเลย:

    LocalSend – ส่งไฟล์ไร้สายแบบปลอดภัย
    LocalSend เป็นแอปที่ช่วยให้คุณส่งไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต ใช้เพียง Wi-Fi หรือ LAN ก็สามารถโอนย้ายไฟล์ได้ทันที ข้อดีคือ ไม่มีโฆษณา, ไม่ติดตามข้อมูล, และเข้ารหัสการส่งไฟล์ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

    Tor Browser – เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการท่องเว็บ
    แม้ Tor Browser จะไม่ได้มีเวอร์ชัน Chromebook โดยตรง แต่สามารถติดตั้งผ่าน Android ได้ จุดเด่นคือการใช้ onion routing เพื่อปกปิดตัวตนและเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกได้ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัยและการไม่ถูกติดตามออนไลน์

    Proton VPN – ปลอดภัยทุกครั้งที่เชื่อมต่อ
    Proton VPN เป็นบริการ VPN ฟรีที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงคอนเทนต์ที่ถูกจำกัดพื้นที่ พร้อมปกปิด IP และกิจกรรมออนไลน์ จุดเด่นคือ ไม่มีโฆษณาแม้ในเวอร์ชันฟรี และรองรับหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่ Windows, macOS, Android, iOS ไปจนถึง Chromebook

    VLC Player – เล่นไฟล์สื่อได้ทุกชนิด
    VLC Player เป็นแอปเล่นสื่อที่รองรับไฟล์เกือบทุกประเภท ทั้งวิดีโอและเสียง รวมถึงสามารถเล่นจาก external drive หรือ network storage ได้ จุดเด่นคือความเสถียรและการอัปเดตต่อเนื่อง เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องมือเล่นสื่อที่ครบครัน

    ChatGPT – ผู้ช่วย AI บน Chromebook
    แม้จะไม่มีเวอร์ชัน ChromeOS โดยตรง แต่สามารถติดตั้งผ่าน Android ได้ ChatGPT ช่วยในงานต่าง ๆ เช่น สรุปเอกสาร, brainstorm ไอเดีย, เขียนสคริปต์, และสร้างงานศิลป์ ถือเป็นเครื่องมือที่เพิ่มความสะดวกทั้งสำหรับนักเรียนและคนทำงาน

    https://www.slashgear.com/2029515/free-apps-to-install-asap-chromebook/
    💻 แอปฟรีที่ควรติดตั้งทันทีบน Chromebook Chromebook แม้จะมีระบบที่เบาและเร็ว แต่ก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้นด้วยแอปฟรีที่ช่วยให้ใช้งานสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น บทความจาก SlashGear ได้แนะนำแอปที่ควรมีติดเครื่องทันทีหลังซื้อ Chromebook ⭐ เริ่มกันเลย: 📤 LocalSend – ส่งไฟล์ไร้สายแบบปลอดภัย LocalSend เป็นแอปที่ช่วยให้คุณส่งไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต ใช้เพียง Wi-Fi หรือ LAN ก็สามารถโอนย้ายไฟล์ได้ทันที ข้อดีคือ ไม่มีโฆษณา, ไม่ติดตามข้อมูล, และเข้ารหัสการส่งไฟล์ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว 🕶️ Tor Browser – เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการท่องเว็บ แม้ Tor Browser จะไม่ได้มีเวอร์ชัน Chromebook โดยตรง แต่สามารถติดตั้งผ่าน Android ได้ จุดเด่นคือการใช้ onion routing เพื่อปกปิดตัวตนและเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกได้ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความปลอดภัยและการไม่ถูกติดตามออนไลน์ 🔒 Proton VPN – ปลอดภัยทุกครั้งที่เชื่อมต่อ Proton VPN เป็นบริการ VPN ฟรีที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงคอนเทนต์ที่ถูกจำกัดพื้นที่ พร้อมปกปิด IP และกิจกรรมออนไลน์ จุดเด่นคือ ไม่มีโฆษณาแม้ในเวอร์ชันฟรี และรองรับหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่ Windows, macOS, Android, iOS ไปจนถึง Chromebook 🎵 VLC Player – เล่นไฟล์สื่อได้ทุกชนิด VLC Player เป็นแอปเล่นสื่อที่รองรับไฟล์เกือบทุกประเภท ทั้งวิดีโอและเสียง รวมถึงสามารถเล่นจาก external drive หรือ network storage ได้ จุดเด่นคือความเสถียรและการอัปเดตต่อเนื่อง เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องมือเล่นสื่อที่ครบครัน 🤖 ChatGPT – ผู้ช่วย AI บน Chromebook แม้จะไม่มีเวอร์ชัน ChromeOS โดยตรง แต่สามารถติดตั้งผ่าน Android ได้ ChatGPT ช่วยในงานต่าง ๆ เช่น สรุปเอกสาร, brainstorm ไอเดีย, เขียนสคริปต์, และสร้างงานศิลป์ ถือเป็นเครื่องมือที่เพิ่มความสะดวกทั้งสำหรับนักเรียนและคนทำงาน https://www.slashgear.com/2029515/free-apps-to-install-asap-chromebook/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Free Apps You Should Install ASAP On Any Chromebook - SlashGear
    A clean, simple overview of the apps that bring real utility to a Chromebook, with tools for privacy, productivity, sharing, and more.
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • O.P.K. เจาะลึก ดร.ก้องภพ วิธาน: จากนักอุดมการณ์สู่จอมผีดิบ




    ชื่อเต็ม: ดร.ก้องภพ วิธาน
    อายุ:42 ปี
    สถานภาพ:สมรส มีบุตร 1 คน

    ```mermaid
    graph TB
    A[นักเรียนทุน<br>เก่งวิทยาศาสตร์] --> B[ปริญญาเอก<br>ชีววิทยาโมเลกุล]
    B --> C[นักวิจัย<br>สถาบันชีวการแพทย์]
    C --> D[ได้ตำแหน่ง<br>หัวหน้าโครงการอสรพิษ]
    ```

    ความสำเร็จในวงการ

    ดร.ก้องภพเคยเป็นดาวเด่นของวงการ:

    · ตีพิมพ์งานวิจัย: 35 เรื่องในวารสารระดับโลก
    · รางวัลนักวิทยาศาสตร์年轻有為: จากราชบัณฑิตยสถาน
    · การค้นพบสำคัญ: เทคนิคการดัดแปลงพันธุกรรมแบบใหม่

    ชีวิตครอบครัว

    ```python
    class FamilyLife:
    def __init__(self):
    self.wife = "ศิริพร วิธาน - ครูโรงเรียนนานาชาติ"
    self.daughter = "น้ำตาล วิธาน - อายุ 8 ขวบ"
    self.home = "บ้านในโครงการฯ สุขุมวิท"

    self.routine = {
    "morning": "ส่งลูกไปโรงเรียน",
    "day": "ทำงานวิจัย",
    "evening": "เล่นกับลูกและสอนการบ้าน",
    "weekend": "พาครอบครัวเที่ยวพิพิธภัณฑ์"
    }
    ```





    ดร.ก้องภพพัฒนาความเชื่อว่า:
    "มนุษย์มีข้อบกพร่องมากเกินไป...
    การเจ็บป่วย ความแก่ความตาย ล้วนเป็นความอ่อนแอ"

    โครงการอสรพิษ

    ```python
    class ProjectOscrop:
    def __init__(self):
    self.original_goal = "พัฒนาทหารสมรรถนะสูงเพื่อปกป้องประเทศ"
    self.funding_source = "กองทัพและทุนลับจากต่างชาติ"
    self.facility = "ห้องทดลองใต้ดินในปทุมธานี"

    self.ethical_concerns = [
    "ทดลองกับสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต",
    "ละเมิดกฎหมายชีวจริยธรรม",
    "ปกปิดผลข้างเคียงจากผู้บริหาร",
    "หลงระเริงกับอำนาจในการสร้างชีวิต"
    ]
    ```



    15 มีนาคม 2043 - คืนแห่งการตัดสินใจ:

    ```mermaid
    graph LR
    A[การทดลองกับลิง<br>ได้ผลน่าทึ่ง] --> B[ทีมวิจัย<br>ขอหยุดเพื่อความปลอดภัย]
    B --> C[ดร.ก้องภพ<br>ตัดสินใจทดลองกับตัวเอง]
    C --> D[ปรสิตกลายพันธุ์<br>เกินคาดหมาย]
    D --> E[สูญเสียการควบคุม<br>และกลายพันธุ์]
    ```



    3 แรงขับเคลื่อนหลัก

    ```python
    class Motivation:
    def __init__(self):
    self.conscious_motives = {
    "desire_for_perfection": "ต้องการสร้างมนุษย์สมบูรณ์แบบ",
    "fear_of_death": "กลัวการตายและความเจ็บป่วย",
    "scientific_curiosity": "อยากรู้ว่ามนุษย์จะก้าวข้ามขีดจำกัดได้ไหม"
    }

    self.subconscious_motives = {
    "childhood_trauma": "เห็นพ่อตายด้วยโรคมะเร็ง",
    "inferiority_complex": "รู้สึกไม่ดีพอตั้งแต่เด็ก",
    "messiah_complex": "อยากเป็นผู้กอบกู้มนุษยชาติ"
    }
    ```

    ความขัดแย้งภายใน

    ดร.ก้องภพบันทึกในไดอารี่ลับ:
    "บางครั้งฉันเฝ้าดูน้ำตาลลูกสาวนอน...
    และสงสัยว่าฉันกำลังสร้างโลกแบบไหนให้เธอ

    แต่แล้วฉันก็เห็นภาพพ่อตายในอ้อมแขนฉัน...
    และความสงสัยนั้นก็หายไป"

    การเปลี่ยนแปลงหลังติดเชื้อ

    การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ

    ```mermaid
    graph TB
    A[สัปดาห์ที่ 1<br>พลังกายเพิ่มขึ้น] --> B[สัปดาห์ที่ 2<br>ผิวคล้ำและตาดำ]
    B --> C[สัปดาห์ที่ 3<br>สามารถควบคุมผู้อื่นได้]
    C --> D[สัปดาห์ที่ 4<br>กลายเป็นจอมผีดิบอย่างสมบูรณ์]
    ```

    การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม

    ```python
    class PhysicalChanges:
    def __init__(self):
    self.enhancements = {
    "strength": "เพิ่มขึ้น 5 เท่า",
    "speed": "เพิ่มขึ้น 3 เท่า",
    "healing": "หายจากบาดแผลในไม่กี่ชั่วโมง",
    "senses": "การได้ยินและการดมกลิ่นดีขึ้นอย่างมาก"
    }

    side_effects = {
    "emotional_blunting": "ไม่สามารถรู้สึกความรักได้เหมือนเดิม",
    "memory_fragmentation": "ความทรงจำเก่าค่อยๆ เลือนลาง",
    "physical_disfigurement": "ผิวหนังคล้ำและหนาขึ้น",
    "dietary_changes": "ต้องบริโภคเลือดสำหรับพลังงาน"
    }
    ```

    ชีวิตคู่ขนาน

    ครอบครัวที่ไม่รู้ความจริง

    ดร.ก้องภพพยายามปกปิดการเปลี่ยนแปลง:

    · ใช้เครื่องสำอาง: ปกปิดผิวหนังที่คล้ำ
    · ใส่คอนแทคเลนส์: ปกปิดตาที่ดำสนิท
    · หลีกเลี่ยงการสัมผัส: กอดลูกและภรรยาน้อยลง

    บันทึกความในใจ

    "ทุกครั้งที่น้ำตาลเรียก 'พ่อ'...
    หัวใจที่แทบไม่เต้นแล้วกลับรู้สึกอะไรบางอย่าง

    แต่แล้วเสียงของหมู่คณะในหัวก็ดังขึ้น...
    และความอบอุ่นนั้นก็หายไป"

    ความขัดแย้งทางจริยธรรม

    การเผชิญหน้ากับทีมวิจัย

    ดร.สมศรี (เพื่อนร่วมงาน): "เราต้องหยุด! นี่ผิดจริยธรรม!"
    ดร.ก้องภพ:"ความก้าวหน้าต้องการการเสียสละ!"
    ดร.สมศรี:"แต่นี่มันไม่ใช่การเสียสละ... นี่คือการทำลายล้าง!"

    การตัดสินใจครั้งสำคัญ

    ```python
    class CriticalDecisions:
    def __init__(self):
    self.crossroads = [
    "เลือกระหว่างครอบครัวกับอุดมการณ์",
    "เลือกระหว่างความเป็นมนุษย์กับความอมตะ",
    "เลือกระหว่างความรักกับอำนาจ",
    "เลือกระหว่างจริยธรรมกับความก้าวหน้า"
    ]

    self.regrets = [
    "ไม่ฟังคำเตือนของทีมงาน",
    "หลงระเริงกับพลังจนลืมมนุษย์ธรรมดา",
    "ทำให้ครอบครัวต้องทุกข์ใจ",
    "สร้างความเสียหายให้สังคม"
    ]
    ```



    หนูดี: "ท่านยังรักครอบครัวท่านไหม?"
    ดร.ก้องภพ:"รัก... แต่ความรักนั้นเจ็บปวดเกินไป"
    หนูดี:"นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์..."

    ช่วงเวลาแห่งการตระหนัก

    ขณะมองรูปครอบครัวในห้องทำงาน
    "ฉันนึกถึงวันที่น้ำตาลเกิด...
    น้ำตาที่ฉันเคยมีที่จะรู้สึก

    และฉันก็เข้าใจว่า...
    การเป็นอมตะที่ไม่มีความรู้สึก
    就是การตายชนิดที่เลวร้ายที่สุด"

    กระบวนการบำบัด

    การรักษาด้วยสมุนไพร

    ```mermaid
    graph TB
    A[ยอมรับการรักษา] --> B[ได้รับสมุนไพร<br>ฟ้าทะลายโจรและขมิ้นชัน]
    B --> C[ปรสิตค่อยๆ<br>อ่อนกำลังลง]
    C --> D[จิตสำนึกเดิม<br>ค่อยๆ กลับมา]
    D --> E[สามารถควบคุม<br>พลังได้บางส่วน]
    ```

    การกลับสู่ครอบครัว

    หลังการบำบัดบางส่วน:

    · สามารถกอดลูกได้: โดยไม่ทำร้ายเธอ
    · ความรู้สึกกลับมา: แม้จะไม่สมบูรณ์
    · เริ่มเสียใจ: กับการตัดสินใจในอดีต

    บทเรียนชีวิต

    🪷 คำสอนจากดร.ก้องภพ

    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    ความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์
    ไม่ใช่จุดอ่อนแต่คือความงาม

    และการมีชีวิตที่จำกัด...
    ทำให้ทุกช่วงเวลามีคุณค่า"

    การให้อภัยตัวเอง

    "ฉันต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง...
    สำหรับความผิดพลาดทั้งหมด

    และใช้สิ่งที่เรียนรู้...
    เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้เดินทางเดียวกับฉัน"

    อนาคตใหม่

    บทบาทใหม่ในสังคม

    ดร.ก้องภพในบทบาทใหม่:

    · ที่ปรึกษาด้านชีวจริยธรรม: เตือนภัยการทดลองที่เสี่ยงเกินไป
    · ผู้ช่วยทางการแพทย์: ใช้ความรู้ในการรักษาผู้ติดเชื้อ
    · พ่อและสามี: ที่พยายามชดเชยเวลาที่เสียไป

    โครงการใหม่

    ```python
    class NewProjects:
    def __init__(self):
    self.initiatives = {
    "ethics_education": "สอนจริยธรรมการวิจัยให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่",
    "zombie_rehabilitation": "ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อให้กลับสู่สังคม",
    "family_support": "สนับสนุนครอบครัวของผู้ติดเชื้อ",
    "prevention_program": "โปรแกรมป้องกันการระบาดครั้งใหม่"
    }
    ```

    ---

    คำคมสุดท้ายจากดร.ก้องภพ:
    "ฉันเคยคิดว่าความสมบูรณ์แบบคือคำตอบ...
    แต่ความจริงคือความไม่สมบูรณ์แบบต่างหากที่ทำให้เรามนุษย์

    และฉันเคยเชื่อว่าความตายคือศัตรู...
    แต่ความจริงคือมันคือเพื่อนที่ทำให้ชีวิตมีค่า

    บัดนี้ฉันเข้าใจแล้วว่า...
    การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์หาใช่การไร้ข้อบกพร่อง
    แต่คือการยอมรับข้อบกพร่องและยังคงเดินหน้าต่อไป"

    บทเรียนแห่งการเป็นมนุษย์:
    "จากนักอุดมการณ์สู่จอมผีดิบ...
    และจากจอมผีดิบกลับสู่ความเป็นมนุษย์

    การเดินทางนี้สอนเราว่า...
    ไม่ว่าคุณจะหลงทางไปไกลแค่ไหน
    ทางกลับบ้านยังคงรอคุณอยู่เสมอ"
    O.P.K. 🔬 เจาะลึก ดร.ก้องภพ วิธาน: จากนักอุดมการณ์สู่จอมผีดิบ ชื่อเต็ม: ดร.ก้องภพ วิธาน อายุ:42 ปี สถานภาพ:สมรส มีบุตร 1 คน ```mermaid graph TB A[นักเรียนทุน<br>เก่งวิทยาศาสตร์] --> B[ปริญญาเอก<br>ชีววิทยาโมเลกุล] B --> C[นักวิจัย<br>สถาบันชีวการแพทย์] C --> D[ได้ตำแหน่ง<br>หัวหน้าโครงการอสรพิษ] ``` 🏆 ความสำเร็จในวงการ ดร.ก้องภพเคยเป็นดาวเด่นของวงการ: · ตีพิมพ์งานวิจัย: 35 เรื่องในวารสารระดับโลก · รางวัลนักวิทยาศาสตร์年轻有為: จากราชบัณฑิตยสถาน · การค้นพบสำคัญ: เทคนิคการดัดแปลงพันธุกรรมแบบใหม่ 💞 ชีวิตครอบครัว ```python class FamilyLife: def __init__(self): self.wife = "ศิริพร วิธาน - ครูโรงเรียนนานาชาติ" self.daughter = "น้ำตาล วิธาน - อายุ 8 ขวบ" self.home = "บ้านในโครงการฯ สุขุมวิท" self.routine = { "morning": "ส่งลูกไปโรงเรียน", "day": "ทำงานวิจัย", "evening": "เล่นกับลูกและสอนการบ้าน", "weekend": "พาครอบครัวเที่ยวพิพิธภัณฑ์" } ``` ดร.ก้องภพพัฒนาความเชื่อว่า: "มนุษย์มีข้อบกพร่องมากเกินไป... การเจ็บป่วย ความแก่ความตาย ล้วนเป็นความอ่อนแอ" 🧪 โครงการอสรพิษ ```python class ProjectOscrop: def __init__(self): self.original_goal = "พัฒนาทหารสมรรถนะสูงเพื่อปกป้องประเทศ" self.funding_source = "กองทัพและทุนลับจากต่างชาติ" self.facility = "ห้องทดลองใต้ดินในปทุมธานี" self.ethical_concerns = [ "ทดลองกับสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต", "ละเมิดกฎหมายชีวจริยธรรม", "ปกปิดผลข้างเคียงจากผู้บริหาร", "หลงระเริงกับอำนาจในการสร้างชีวิต" ] ``` 15 มีนาคม 2043 - คืนแห่งการตัดสินใจ: ```mermaid graph LR A[การทดลองกับลิง<br>ได้ผลน่าทึ่ง] --> B[ทีมวิจัย<br>ขอหยุดเพื่อความปลอดภัย] B --> C[ดร.ก้องภพ<br>ตัดสินใจทดลองกับตัวเอง] C --> D[ปรสิตกลายพันธุ์<br>เกินคาดหมาย] D --> E[สูญเสียการควบคุม<br>และกลายพันธุ์] ``` 🎯 3 แรงขับเคลื่อนหลัก ```python class Motivation: def __init__(self): self.conscious_motives = { "desire_for_perfection": "ต้องการสร้างมนุษย์สมบูรณ์แบบ", "fear_of_death": "กลัวการตายและความเจ็บป่วย", "scientific_curiosity": "อยากรู้ว่ามนุษย์จะก้าวข้ามขีดจำกัดได้ไหม" } self.subconscious_motives = { "childhood_trauma": "เห็นพ่อตายด้วยโรคมะเร็ง", "inferiority_complex": "รู้สึกไม่ดีพอตั้งแต่เด็ก", "messiah_complex": "อยากเป็นผู้กอบกู้มนุษยชาติ" } ``` 💔 ความขัดแย้งภายใน ดร.ก้องภพบันทึกในไดอารี่ลับ: "บางครั้งฉันเฝ้าดูน้ำตาลลูกสาวนอน... และสงสัยว่าฉันกำลังสร้างโลกแบบไหนให้เธอ แต่แล้วฉันก็เห็นภาพพ่อตายในอ้อมแขนฉัน... และความสงสัยนั้นก็หายไป" 🧟‍♂️ การเปลี่ยนแปลงหลังติดเชื้อ 🔄 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ```mermaid graph TB A[สัปดาห์ที่ 1<br>พลังกายเพิ่มขึ้น] --> B[สัปดาห์ที่ 2<br>ผิวคล้ำและตาดำ] B --> C[สัปดาห์ที่ 3<br>สามารถควบคุมผู้อื่นได้] C --> D[สัปดาห์ที่ 4<br>กลายเป็นจอมผีดิบอย่างสมบูรณ์] ``` 🧬 การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ```python class PhysicalChanges: def __init__(self): self.enhancements = { "strength": "เพิ่มขึ้น 5 เท่า", "speed": "เพิ่มขึ้น 3 เท่า", "healing": "หายจากบาดแผลในไม่กี่ชั่วโมง", "senses": "การได้ยินและการดมกลิ่นดีขึ้นอย่างมาก" } side_effects = { "emotional_blunting": "ไม่สามารถรู้สึกความรักได้เหมือนเดิม", "memory_fragmentation": "ความทรงจำเก่าค่อยๆ เลือนลาง", "physical_disfigurement": "ผิวหนังคล้ำและหนาขึ้น", "dietary_changes": "ต้องบริโภคเลือดสำหรับพลังงาน" } ``` 🎭 ชีวิตคู่ขนาน 🏠 ครอบครัวที่ไม่รู้ความจริง ดร.ก้องภพพยายามปกปิดการเปลี่ยนแปลง: · ใช้เครื่องสำอาง: ปกปิดผิวหนังที่คล้ำ · ใส่คอนแทคเลนส์: ปกปิดตาที่ดำสนิท · หลีกเลี่ยงการสัมผัส: กอดลูกและภรรยาน้อยลง 📖 บันทึกความในใจ "ทุกครั้งที่น้ำตาลเรียก 'พ่อ'... หัวใจที่แทบไม่เต้นแล้วกลับรู้สึกอะไรบางอย่าง แต่แล้วเสียงของหมู่คณะในหัวก็ดังขึ้น... และความอบอุ่นนั้นก็หายไป" ⚖️ ความขัดแย้งทางจริยธรรม 🔥 การเผชิญหน้ากับทีมวิจัย ดร.สมศรี (เพื่อนร่วมงาน): "เราต้องหยุด! นี่ผิดจริยธรรม!" ดร.ก้องภพ:"ความก้าวหน้าต้องการการเสียสละ!" ดร.สมศรี:"แต่นี่มันไม่ใช่การเสียสละ... นี่คือการทำลายล้าง!" 💔 การตัดสินใจครั้งสำคัญ ```python class CriticalDecisions: def __init__(self): self.crossroads = [ "เลือกระหว่างครอบครัวกับอุดมการณ์", "เลือกระหว่างความเป็นมนุษย์กับความอมตะ", "เลือกระหว่างความรักกับอำนาจ", "เลือกระหว่างจริยธรรมกับความก้าวหน้า" ] self.regrets = [ "ไม่ฟังคำเตือนของทีมงาน", "หลงระเริงกับพลังจนลืมมนุษย์ธรรมดา", "ทำให้ครอบครัวต้องทุกข์ใจ", "สร้างความเสียหายให้สังคม" ] ``` หนูดี: "ท่านยังรักครอบครัวท่านไหม?" ดร.ก้องภพ:"รัก... แต่ความรักนั้นเจ็บปวดเกินไป" หนูดี:"นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์..." 💫 ช่วงเวลาแห่งการตระหนัก ขณะมองรูปครอบครัวในห้องทำงาน "ฉันนึกถึงวันที่น้ำตาลเกิด... น้ำตาที่ฉันเคยมีที่จะรู้สึก และฉันก็เข้าใจว่า... การเป็นอมตะที่ไม่มีความรู้สึก 就是การตายชนิดที่เลวร้ายที่สุด" 🏥 กระบวนการบำบัด 🌿 การรักษาด้วยสมุนไพร ```mermaid graph TB A[ยอมรับการรักษา] --> B[ได้รับสมุนไพร<br>ฟ้าทะลายโจรและขมิ้นชัน] B --> C[ปรสิตค่อยๆ<br>อ่อนกำลังลง] C --> D[จิตสำนึกเดิม<br>ค่อยๆ กลับมา] D --> E[สามารถควบคุม<br>พลังได้บางส่วน] ``` 💞 การกลับสู่ครอบครัว หลังการบำบัดบางส่วน: · สามารถกอดลูกได้: โดยไม่ทำร้ายเธอ · ความรู้สึกกลับมา: แม้จะไม่สมบูรณ์ · เริ่มเสียใจ: กับการตัดสินใจในอดีต 📚 บทเรียนชีวิต 🪷 คำสอนจากดร.ก้องภพ "ฉันเรียนรู้ว่า... ความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์ ไม่ใช่จุดอ่อนแต่คือความงาม และการมีชีวิตที่จำกัด... ทำให้ทุกช่วงเวลามีคุณค่า" 💝 การให้อภัยตัวเอง "ฉันต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง... สำหรับความผิดพลาดทั้งหมด และใช้สิ่งที่เรียนรู้... เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้เดินทางเดียวกับฉัน" 🔮 อนาคตใหม่ 🎯 บทบาทใหม่ในสังคม ดร.ก้องภพในบทบาทใหม่: · ที่ปรึกษาด้านชีวจริยธรรม: เตือนภัยการทดลองที่เสี่ยงเกินไป · ผู้ช่วยทางการแพทย์: ใช้ความรู้ในการรักษาผู้ติดเชื้อ · พ่อและสามี: ที่พยายามชดเชยเวลาที่เสียไป 🌟 โครงการใหม่ ```python class NewProjects: def __init__(self): self.initiatives = { "ethics_education": "สอนจริยธรรมการวิจัยให้นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่", "zombie_rehabilitation": "ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อให้กลับสู่สังคม", "family_support": "สนับสนุนครอบครัวของผู้ติดเชื้อ", "prevention_program": "โปรแกรมป้องกันการระบาดครั้งใหม่" } ``` --- คำคมสุดท้ายจากดร.ก้องภพ: "ฉันเคยคิดว่าความสมบูรณ์แบบคือคำตอบ... แต่ความจริงคือความไม่สมบูรณ์แบบต่างหากที่ทำให้เรามนุษย์ และฉันเคยเชื่อว่าความตายคือศัตรู... แต่ความจริงคือมันคือเพื่อนที่ทำให้ชีวิตมีค่า บัดนี้ฉันเข้าใจแล้วว่า... การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์หาใช่การไร้ข้อบกพร่อง แต่คือการยอมรับข้อบกพร่องและยังคงเดินหน้าต่อไป"🔬✨ บทเรียนแห่งการเป็นมนุษย์: "จากนักอุดมการณ์สู่จอมผีดิบ... และจากจอมผีดิบกลับสู่ความเป็นมนุษย์ การเดินทางนี้สอนเราว่า... ไม่ว่าคุณจะหลงทางไปไกลแค่ไหน ทางกลับบ้านยังคงรอคุณอยู่เสมอ"🌈
    0 Comments 0 Shares 496 Views 0 Reviews
  • บริษัท Tuxedo Computers ผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก Linux ประกาศยุติโครงการพัฒนาเครื่องที่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon X1 Elite

    Tuxedo Computers ระบุว่าการพัฒนา Linux บน Snapdragon X1E ใช้เวลานานเกินไป และพบปัญหาหลักหลายด้าน เช่น
    การจัดการพลังงานและอายุแบตเตอรี่ไม่สามารถเทียบกับ Windows ได้
    การอัปเดต BIOS บน Linux ทำได้ยาก
    การควบคุมพัดลม, การรองรับ KVM virtualization และการโอนถ่ายข้อมูล USB4 ความเร็วสูงยังไม่สมบูรณ์
    การถอดรหัสวิดีโอแม้จะรองรับในเชิงเทคนิค แต่ไม่สามารถใช้งานได้กับหลายแอปพลิเคชัน

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ Linux
    ปัญหาเหล่านี้ทำให้เครื่องแทบจะใช้งานจริงไม่ได้ และหากแก้ไขได้ก็จะใช้เวลาหลายเดือน ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น Snapdragon X2 Elite จะเข้าสู่ตลาดแล้ว ทำให้ X1E กลายเป็นรุ่นตกยุคทันที

    ความหวังกับ Snapdragon X2 Elite
    แม้จะยุติโครงการ X1E แต่ Tuxedo Computers ยืนยันว่าจะยังติดตามการพัฒนา Snapdragon X2 Elite และอาจกลับมาพัฒนาโน้ตบุ๊ก Linux อีกครั้ง หากสามารถนำงานที่ทำไว้กับ X1E มาปรับใช้ได้ และหากชิปใหม่ตอบโจทย์การทำงานกับระบบเปิดมากกว่า

    ความหมายต่อวงการ Linux
    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ ARM-based laptops จะมีศักยภาพสูงใน Windows แต่การนำมาใช้กับ Linux ยังมีอุปสรรคด้านไดรเวอร์และการสนับสนุนจากผู้ผลิตชิป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการยอมรับในตลาด

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การยุติโครงการ
    Tuxedo Computers หยุดพัฒนาโน้ตบุ๊ก Snapdragon X1E
    ใช้เวลาพัฒนากว่า 18 เดือนแต่ยังไม่สมบูรณ์

    ปัญหาที่พบ
    อายุแบตเตอรี่ด้อยกว่า Windows
    BIOS update, fan control, virtualization, USB4 ยังไม่รองรับเต็มที่
    การถอดรหัสวิดีโอไม่ทำงานกับหลายแอป

    ผลกระทบ
    เครื่องแทบใช้งานจริงไม่ได้
    จะล้าสมัยทันทีเมื่อ Snapdragon X2 Elite เปิดตัว

    ความหวังในอนาคต
    อาจกลับมาพัฒนาบน Snapdragon X2 Elite
    ขึ้นอยู่กับความเข้ากันได้กับ Linux

    คำเตือนจากกรณีนี้
    ARM laptops อาจไม่พร้อมสำหรับ Linux ในเชิงใช้งานจริง
    การสนับสนุนไดรเวอร์จากผู้ผลิตชิปยังเป็นข้อจำกัดใหญ่

    https://www.tomshardware.com/software/linux/snapdragon-x1-elite-linux-laptop-cancelled-due-to-performance-concerns-linux-pc-maker-says-qualcomm-is-less-suitable-for-linux-than-expected
    🐧 บริษัท Tuxedo Computers ผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก Linux ประกาศยุติโครงการพัฒนาเครื่องที่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon X1 Elite Tuxedo Computers ระบุว่าการพัฒนา Linux บน Snapdragon X1E ใช้เวลานานเกินไป และพบปัญหาหลักหลายด้าน เช่น ‼️ การจัดการพลังงานและอายุแบตเตอรี่ไม่สามารถเทียบกับ Windows ได้ ‼️ การอัปเดต BIOS บน Linux ทำได้ยาก ‼️ การควบคุมพัดลม, การรองรับ KVM virtualization และการโอนถ่ายข้อมูล USB4 ความเร็วสูงยังไม่สมบูรณ์ ‼️ การถอดรหัสวิดีโอแม้จะรองรับในเชิงเทคนิค แต่ไม่สามารถใช้งานได้กับหลายแอปพลิเคชัน ⚡ ผลกระทบต่อผู้ใช้ Linux ปัญหาเหล่านี้ทำให้เครื่องแทบจะใช้งานจริงไม่ได้ และหากแก้ไขได้ก็จะใช้เวลาหลายเดือน ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น Snapdragon X2 Elite จะเข้าสู่ตลาดแล้ว ทำให้ X1E กลายเป็นรุ่นตกยุคทันที 🔮 ความหวังกับ Snapdragon X2 Elite แม้จะยุติโครงการ X1E แต่ Tuxedo Computers ยืนยันว่าจะยังติดตามการพัฒนา Snapdragon X2 Elite และอาจกลับมาพัฒนาโน้ตบุ๊ก Linux อีกครั้ง หากสามารถนำงานที่ทำไว้กับ X1E มาปรับใช้ได้ และหากชิปใหม่ตอบโจทย์การทำงานกับระบบเปิดมากกว่า 🌐 ความหมายต่อวงการ Linux เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ ARM-based laptops จะมีศักยภาพสูงใน Windows แต่การนำมาใช้กับ Linux ยังมีอุปสรรคด้านไดรเวอร์และการสนับสนุนจากผู้ผลิตชิป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการยอมรับในตลาด 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การยุติโครงการ ➡️ Tuxedo Computers หยุดพัฒนาโน้ตบุ๊ก Snapdragon X1E ➡️ ใช้เวลาพัฒนากว่า 18 เดือนแต่ยังไม่สมบูรณ์ ✅ ปัญหาที่พบ ➡️ อายุแบตเตอรี่ด้อยกว่า Windows ➡️ BIOS update, fan control, virtualization, USB4 ยังไม่รองรับเต็มที่ ➡️ การถอดรหัสวิดีโอไม่ทำงานกับหลายแอป ✅ ผลกระทบ ➡️ เครื่องแทบใช้งานจริงไม่ได้ ➡️ จะล้าสมัยทันทีเมื่อ Snapdragon X2 Elite เปิดตัว ✅ ความหวังในอนาคต ➡️ อาจกลับมาพัฒนาบน Snapdragon X2 Elite ➡️ ขึ้นอยู่กับความเข้ากันได้กับ Linux ‼️ คำเตือนจากกรณีนี้ ⛔ ARM laptops อาจไม่พร้อมสำหรับ Linux ในเชิงใช้งานจริง ⛔ การสนับสนุนไดรเวอร์จากผู้ผลิตชิปยังเป็นข้อจำกัดใหญ่ https://www.tomshardware.com/software/linux/snapdragon-x1-elite-linux-laptop-cancelled-due-to-performance-concerns-linux-pc-maker-says-qualcomm-is-less-suitable-for-linux-than-expected
    0 Comments 0 Shares 195 Views 0 Reviews
More Results