• เนทันยาฮูยังไม่ละความพยายามในการโน้มน้าวให้สรัฐเข้าร่วมการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน เนื่องจากมีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่สามารถทิ้งระเบิดใส่โรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านได้

    การโจมตีครั้งล่าสุดของอิสราเอลส่งผลกระทบอย่างรุนแรง แต่ยังไม่รุนแรงพอที่จะทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา

    เครื่องทำลายบังเกอร์ที่ดีที่สุดของอิสราเอล เช่น GBU-28 ที่สหรัฐอเมริกาจัดหาให้ สามารถเจาะทะลุคอนกรีตหนา 6 เมตรได้ แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับการเจาะเข้าไปที่โรงงานฟอร์โดว์

    อาวุธชนิดเดียวที่สามารถทำได้คือ ระเบิด Bunker Buster ขนาด 30,000 ปอนด์ GBU-57 MOP (Massive Ordnance Penetrator) ที่เชื่อกันว่าสามารถเจาะคอนกรีตได้ลึกมากกว่า 60 เมตร ก่อนจะระเบิดตัวเอง จึงสามารถโจมตีและทำลายเป้าหมายที่อยู่ลึกใต้ดินได้เป็นอย่างดี

    แต่มีเพียงเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 เท่านั้นในขณะนี้ที่สามารถติดตั้งระเบิดประเภทนี้ได้ ซึ่งมีเพียงกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่มีเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ประจำการอยู่
    เนทันยาฮูยังไม่ละความพยายามในการโน้มน้าวให้สรัฐเข้าร่วมการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน เนื่องจากมีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่สามารถทิ้งระเบิดใส่โรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านได้ การโจมตีครั้งล่าสุดของอิสราเอลส่งผลกระทบอย่างรุนแรง แต่ยังไม่รุนแรงพอที่จะทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา เครื่องทำลายบังเกอร์ที่ดีที่สุดของอิสราเอล เช่น GBU-28 ที่สหรัฐอเมริกาจัดหาให้ สามารถเจาะทะลุคอนกรีตหนา 6 เมตรได้ แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับการเจาะเข้าไปที่โรงงานฟอร์โดว์ อาวุธชนิดเดียวที่สามารถทำได้คือ ระเบิด Bunker Buster ขนาด 30,000 ปอนด์ GBU-57 MOP (Massive Ordnance Penetrator) ที่เชื่อกันว่าสามารถเจาะคอนกรีตได้ลึกมากกว่า 60 เมตร ก่อนจะระเบิดตัวเอง จึงสามารถโจมตีและทำลายเป้าหมายที่อยู่ลึกใต้ดินได้เป็นอย่างดี แต่มีเพียงเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 เท่านั้นในขณะนี้ที่สามารถติดตั้งระเบิดประเภทนี้ได้ ซึ่งมีเพียงกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่มีเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ประจำการอยู่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลขอการสนับสนุนทางการทหารจากสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในการโจมตีอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอความช่วยเหลือในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดิน เช่น โรงงานเสริมสมรรถนะเชื้อเพลิงฟอร์ดอว์ (FFEP - Fordow Fuel Enrichment Plant )

    โรงงานฟอร์ดอว์แห่งนี้ตั้งอยู่ลึกลงไปใต้ดินมากเกินกว่าที่อาวุธของอิสราเอลมีอยู่ตอนนี้จะทำลายได้
    มีเพียงสหรัฐฯ เท่านั้นที่มีอาวุธทำลายล้าง เช่น GBU-57A/B Massive Ordnance Penetrator ซึ่งเป็นอาวุธหนัก 30,000 ปอนด์ที่สร้างขึ้นเพื่อภารกิจนี้การทำลายสิ่งก่อนสร้างใต้ดินโดยเฉพาะ

    👉หากสหรัฐฯ ตกลง สหรัฐฯ นั่นจะไม่ใช่เพียงแค่ "สนับสนุน" อิสราเอลเท่านั้น แต่สหรัฐจะกลายมาเป็น "ผู้เล่น" ร่วมกับอิสราเอลทันที
    .
    อาวุธนิวเคลียร์จะใช้ไอโซโทปของ "ยูเรเนียม" ผลิต uranium-235

    ในธรรมชาติ ยูเรเนียมจะประกอบด้วยไอโซโทป uranium-238 เกือบทั้งหมด และมี uranium-235 ที่ต้องการไม่ถึง 1%

    ทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม (Enrichment) ให้ได้ความเข้มข้นของ uranium-235 เพิ่มขึ้น ด้วยการเข้าเครื่องหมุนเหวี่ยง (Centrifuge)

    ฐานนิวเคลียร์ คือ ฐานที่ติดตั้งเครื่องหมุนเหวี่ยง (Centrifuge) ซึ่งมีอยู่ที่โรงงานเสริมสมรรถนะเชื้อเพลิงฟอร์ดอว์ (FFEP - Fordow Fuel Enrichment Plant)
    อิสราเอลขอการสนับสนุนทางการทหารจากสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในการโจมตีอิหร่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอความช่วยเหลือในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดิน เช่น โรงงานเสริมสมรรถนะเชื้อเพลิงฟอร์ดอว์ (FFEP - Fordow Fuel Enrichment Plant ) โรงงานฟอร์ดอว์แห่งนี้ตั้งอยู่ลึกลงไปใต้ดินมากเกินกว่าที่อาวุธของอิสราเอลมีอยู่ตอนนี้จะทำลายได้ มีเพียงสหรัฐฯ เท่านั้นที่มีอาวุธทำลายล้าง เช่น GBU-57A/B Massive Ordnance Penetrator ซึ่งเป็นอาวุธหนัก 30,000 ปอนด์ที่สร้างขึ้นเพื่อภารกิจนี้การทำลายสิ่งก่อนสร้างใต้ดินโดยเฉพาะ 👉หากสหรัฐฯ ตกลง สหรัฐฯ นั่นจะไม่ใช่เพียงแค่ "สนับสนุน" อิสราเอลเท่านั้น แต่สหรัฐจะกลายมาเป็น "ผู้เล่น" ร่วมกับอิสราเอลทันที . อาวุธนิวเคลียร์จะใช้ไอโซโทปของ "ยูเรเนียม" ผลิต uranium-235 ในธรรมชาติ ยูเรเนียมจะประกอบด้วยไอโซโทป uranium-238 เกือบทั้งหมด และมี uranium-235 ที่ต้องการไม่ถึง 1% ทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม (Enrichment) ให้ได้ความเข้มข้นของ uranium-235 เพิ่มขึ้น ด้วยการเข้าเครื่องหมุนเหวี่ยง (Centrifuge) ฐานนิวเคลียร์ คือ ฐานที่ติดตั้งเครื่องหมุนเหวี่ยง (Centrifuge) ซึ่งมีอยู่ที่โรงงานเสริมสมรรถนะเชื้อเพลิงฟอร์ดอว์ (FFEP - Fordow Fuel Enrichment Plant)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่โดย 'Maxar' ​​วันนี้:

    รูป1 - เผยให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายที่มองเห็นได้ที่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิหร่านที่ Arak หรือที่เรียกอีกอย่างว่า 'Arak Nuclear Complex'

    รูป2 - ภาพถ่ายดาวเทียมวันนี้เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับอาคารหลักในโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility)
    ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่โดย 'Maxar' ​​วันนี้: รูป1 - เผยให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายที่มองเห็นได้ที่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิหร่านที่ Arak หรือที่เรียกอีกอย่างว่า 'Arak Nuclear Complex' รูป2 - ภาพถ่ายดาวเทียมวันนี้เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับอาคารหลักในโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • From Trainee To Bias: The Big 16 K-Pop Slang Terms To Know

    K-pop is the name of a pop music sensation that originated in South Korea and is sweeping the globe. From its energetic choreography and music to the beauty of its idols, K-pop (or K for Korea combined with pop) has entranced international and Korean fans alike—and chances are you’ve heard it, hummed it, or danced to it. (Did you catch BTS’ “Friends” playing in the Marvel movie Eternals? And who knew Clifford the Dog was also a K-pop stan? At least, his trailer made it seem so.)

    Emerging from the 1990s, K-pop has created a unique fandom culture along the way. Fans have indulged fully in this media, creating their own celebrations, traditions, and—of course—slang. All of this can overwhelm the casual listener trying out K-pop sounds, and I have to admit, I once thought this fandom was a little over the top. But I’ve since been won over—after all, being a fan of a group like Red Velvet is no different from being a fan of Ariana Grande.

    To get you started, I am providing a short guide to K-pop’s complex terminology. Whether you’re interested in K-pop, saw BTS on the news, or have friends who listen to all of the above, here are a few terms to know.

    Please note: these words are used mainly by English-speaking international fans and are found across fan Twitters, Instagrams, TikToks and Tumblrs.

    bias
    In K-pop slang, a bias is a member in a group that you like or relate to the most. K-pop fans collect merchandise—for example, photocards (more on that later)—of their biases. Fans use this term to learn more about other fans.

    Example: Who is your Twice bias? (And you’d answer with your favorite.)

    biaswrecker
    Although fans have their fundamental biases, it doesn’t mean that a bias is monogamous. Most fans with biases will have their biaswreckers, too. These wreckers are members in a group that make you question who your true bias is.

    sasaeng
    One group of people widely looked down upon are sasaengs (사생팬) or sasaeng fans. This slang derives from a Korean word (sa for “private” and saeng for “life”) that refers to an obsessive fan who stalks or otherwise violates the privacy of a Korean idol. Sasaengs tend to own fan pages, and some say they operate much like the American tabloids of the 2000s.

    comeback
    When an idol group releases new music, it’s called a comeback. Comebacks usually take place every few months and include new promotions, hair colors, styles, music, etc. Era is another word used in this fandom to describe a comeback.

    Example: Did you hear that BTS are having a comeback in June?

    nugu
    This word literally means “Who?” in Korean, and is used by fans to describe small and relatively unknown idol groups. A group like IVE would not be described as a nugu (누구) but the girl group Weki Meki would.

    visual
    In K-pop, there are roles for each idol in a group, including a role as visual. The visual role is assigned by the company to the member or members in a group who best fit a strict Korean beauty standard. Fans also debate who they believe the visual to be in each group. For example, Jin is the official visual of the group BTS, but many consider Taehyung to fit the role. This harsh beauty standard prizes small facial features, cuteness, and specific measurements of the face, body, eyes, and much more.

    aegyo
    Aegyo (애교) can be used to describe K-pop idols (both male and female) who are acting cute and childlike. Aegyo moves require specific word choices, vocal tones, and both facial and body gestures. Aegyo (often translated as “cuteness”) is usually meant to show a flirtatious side of idols and is also used by the general Korean population.

    Example: The judges made Felix do aegyo as a punishment for losing the game.

    maknae
    Another Korean word that has been adopted into international fan spaces is maknae (막내) or “youngest person.” This slang is used to describe the youngest member of a group. The term maknae, much like visual, is a role a member takes on.

    trainee
    When an idol is training before they debut, they are considered a trainee. These trainees usually take part in promotions, trying to gain popularity before their debut. Trainees typically are under contract and fulfill years of rigorous training to be able to match the abilities of many idols you see today.

    subunit
    In some idol groups subunits are formed. These units comprise a few members in a group who create their own music or albums. Some groups, such as LOONA and NCT, use subunits as their concept. This term can also describe two or three members in a group who have a similar skill or talent (like a vocal or dance unit).

    antis
    Anti or anti-fan is used to describe people who hate an artist or group so much that they seem to follow their activities and content as much or more than a fan would. Some of these antis display sasaeng behavior, dedicating themselves completely to taking down or hate speech idols. These hate campaigns contain criticizing and insulting language. Shockingly, some antis have gone so far as hurting idols in real life.

    delulu
    This term is short for delusional, and it’s used to mock fans who believe they’ll date, marry, or befriend their favorite idol. The word can describe a fan who devotes an unhealthy amount of time and energy to an idol. You could say becoming a delulu is a first step on the pipeline towards sasaeng and usually includes behavior similar to said sasaeng.

    Example: Did you see that guy talking about how he and Nayeon are dating? He’s such a delulu.

    solo stan
    When a fan of an idol group only stans a single member, they are a self-proclaimed solo stan or are labeled as such by others in the community. A solo stan might hate other members in a group, which is why the term has a negative connotation in the community. The word solo stan also can describe someone who’s a fan of a singular idol (like Sunmi or IU) who does not participate in idol groups.

    photocard
    Photocards (or pocas or PCs) are typically 3” by 2” pieces of glossy paper photos included in a K-pop albums and prized by fans. They may not sound like much to the average joe, but to the average Jimin fan, these pictures are worth hundreds to thousands of dollars.

    the Big 3
    In Korea, idols are contracted under companies. The Big 3 describes the main three corporations that famous idols usually sign under. These three companies are HYBE Entertainment (previously known as BigHit Entertainment), with groups like BTS and TXT; SM Entertainment, with groups like Girls Generation and Aespa; and YG Entertainment, producing groups like BLACKPINK and iKON. The Big 3 not only produce idols but also sign and manage actors. JYP Entertainment can also be considered as part of the Big 3 (HYBE is a relative newcomer to the list), leading some to use the term “Big 4.”

    netizen
    The term netizen does generally mean an internet user, but it’s used in K-pop to refer to Korean fans who are online intensively. These fans or anti-fans are internet sleuths and usually the ones to create scandals and/or help in proving rumors wrong or right about specific idols. Netizens (or also K-netizens) hold power in the idol industry; companies want these internet personas to view their idols in a positive light and do their best to prevent scandals that might mobilize netizens.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    From Trainee To Bias: The Big 16 K-Pop Slang Terms To Know K-pop is the name of a pop music sensation that originated in South Korea and is sweeping the globe. From its energetic choreography and music to the beauty of its idols, K-pop (or K for Korea combined with pop) has entranced international and Korean fans alike—and chances are you’ve heard it, hummed it, or danced to it. (Did you catch BTS’ “Friends” playing in the Marvel movie Eternals? And who knew Clifford the Dog was also a K-pop stan? At least, his trailer made it seem so.) Emerging from the 1990s, K-pop has created a unique fandom culture along the way. Fans have indulged fully in this media, creating their own celebrations, traditions, and—of course—slang. All of this can overwhelm the casual listener trying out K-pop sounds, and I have to admit, I once thought this fandom was a little over the top. But I’ve since been won over—after all, being a fan of a group like Red Velvet is no different from being a fan of Ariana Grande. To get you started, I am providing a short guide to K-pop’s complex terminology. Whether you’re interested in K-pop, saw BTS on the news, or have friends who listen to all of the above, here are a few terms to know. Please note: these words are used mainly by English-speaking international fans and are found across fan Twitters, Instagrams, TikToks and Tumblrs. bias In K-pop slang, a bias is a member in a group that you like or relate to the most. K-pop fans collect merchandise—for example, photocards (more on that later)—of their biases. Fans use this term to learn more about other fans. Example: Who is your Twice bias? (And you’d answer with your favorite.) biaswrecker Although fans have their fundamental biases, it doesn’t mean that a bias is monogamous. Most fans with biases will have their biaswreckers, too. These wreckers are members in a group that make you question who your true bias is. sasaeng One group of people widely looked down upon are sasaengs (사생팬) or sasaeng fans. This slang derives from a Korean word (sa for “private” and saeng for “life”) that refers to an obsessive fan who stalks or otherwise violates the privacy of a Korean idol. Sasaengs tend to own fan pages, and some say they operate much like the American tabloids of the 2000s. comeback When an idol group releases new music, it’s called a comeback. Comebacks usually take place every few months and include new promotions, hair colors, styles, music, etc. Era is another word used in this fandom to describe a comeback. Example: Did you hear that BTS are having a comeback in June? nugu This word literally means “Who?” in Korean, and is used by fans to describe small and relatively unknown idol groups. A group like IVE would not be described as a nugu (누구) but the girl group Weki Meki would. visual In K-pop, there are roles for each idol in a group, including a role as visual. The visual role is assigned by the company to the member or members in a group who best fit a strict Korean beauty standard. Fans also debate who they believe the visual to be in each group. For example, Jin is the official visual of the group BTS, but many consider Taehyung to fit the role. This harsh beauty standard prizes small facial features, cuteness, and specific measurements of the face, body, eyes, and much more. aegyo Aegyo (애교) can be used to describe K-pop idols (both male and female) who are acting cute and childlike. Aegyo moves require specific word choices, vocal tones, and both facial and body gestures. Aegyo (often translated as “cuteness”) is usually meant to show a flirtatious side of idols and is also used by the general Korean population. Example: The judges made Felix do aegyo as a punishment for losing the game. maknae Another Korean word that has been adopted into international fan spaces is maknae (막내) or “youngest person.” This slang is used to describe the youngest member of a group. The term maknae, much like visual, is a role a member takes on. trainee When an idol is training before they debut, they are considered a trainee. These trainees usually take part in promotions, trying to gain popularity before their debut. Trainees typically are under contract and fulfill years of rigorous training to be able to match the abilities of many idols you see today. subunit In some idol groups subunits are formed. These units comprise a few members in a group who create their own music or albums. Some groups, such as LOONA and NCT, use subunits as their concept. This term can also describe two or three members in a group who have a similar skill or talent (like a vocal or dance unit). antis Anti or anti-fan is used to describe people who hate an artist or group so much that they seem to follow their activities and content as much or more than a fan would. Some of these antis display sasaeng behavior, dedicating themselves completely to taking down or hate speech idols. These hate campaigns contain criticizing and insulting language. Shockingly, some antis have gone so far as hurting idols in real life. delulu This term is short for delusional, and it’s used to mock fans who believe they’ll date, marry, or befriend their favorite idol. The word can describe a fan who devotes an unhealthy amount of time and energy to an idol. You could say becoming a delulu is a first step on the pipeline towards sasaeng and usually includes behavior similar to said sasaeng. Example: Did you see that guy talking about how he and Nayeon are dating? He’s such a delulu. solo stan When a fan of an idol group only stans a single member, they are a self-proclaimed solo stan or are labeled as such by others in the community. A solo stan might hate other members in a group, which is why the term has a negative connotation in the community. The word solo stan also can describe someone who’s a fan of a singular idol (like Sunmi or IU) who does not participate in idol groups. photocard Photocards (or pocas or PCs) are typically 3” by 2” pieces of glossy paper photos included in a K-pop albums and prized by fans. They may not sound like much to the average joe, but to the average Jimin fan, these pictures are worth hundreds to thousands of dollars. the Big 3 In Korea, idols are contracted under companies. The Big 3 describes the main three corporations that famous idols usually sign under. These three companies are HYBE Entertainment (previously known as BigHit Entertainment), with groups like BTS and TXT; SM Entertainment, with groups like Girls Generation and Aespa; and YG Entertainment, producing groups like BLACKPINK and iKON. The Big 3 not only produce idols but also sign and manage actors. JYP Entertainment can also be considered as part of the Big 3 (HYBE is a relative newcomer to the list), leading some to use the term “Big 4.” netizen The term netizen does generally mean an internet user, but it’s used in K-pop to refer to Korean fans who are online intensively. These fans or anti-fans are internet sleuths and usually the ones to create scandals and/or help in proving rumors wrong or right about specific idols. Netizens (or also K-netizens) hold power in the idol industry; companies want these internet personas to view their idols in a positive light and do their best to prevent scandals that might mobilize netizens. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านออกมายอมรับว่าโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ (Fordow nuclear facility) ถูกโจมตี แต่ได้รับความเสียหายในระดับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
    อิหร่านออกมายอมรับว่าโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ (Fordow nuclear facility) ถูกโจมตี แต่ได้รับความเสียหายในระดับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌍 ARM และ Nvidia วิจารณ์มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ
    Rene Haas, CEO ของ ARM ได้เข้าร่วมกับ Jensen Huang, CEO ของ Nvidia ในการวิจารณ์ มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ โดยระบุว่า ข้อจำกัดเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมและผู้บริโภค

    Haas กล่าวในงาน Founders Forum Global ที่ Oxford ว่า การจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจะทำให้ตลาดเล็กลงและส่งผลเสียต่อผู้บริโภค

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ARM CEO Rene Haas และ Nvidia CEO Jensen Huang วิจารณ์มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ
    - Haas ระบุว่าการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจะทำให้ตลาดเล็กลงและส่งผลเสียต่อผู้บริโภค
    - สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI ไปยังจีนตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ซึ่งส่งผลให้ Nvidia สูญเสียรายได้กว่า 8 พันล้านดอลลาร์
    - Huang เตือนว่าหากข้อจำกัดยังคงดำเนินต่อไป Huawei อาจใช้โอกาสนี้ในการเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI
    - Haas เปิดเผยว่าเขาใช้เวลามากขึ้นในการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อหาทางออกที่สมดุล

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    ข้อจำกัดของสหรัฐฯ อาจทำให้บริษัทจีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง และ ลดการพึ่งพาชิปจากบริษัทตะวันตก

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ข้อจำกัดอาจส่งผลให้บริษัทจีน เช่น Huawei เร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI และกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้น
    - Nvidia สูญเสียรายได้กว่า 8 พันล้านดอลลาร์จากมาตรการนี้ และอาจต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ
    - ต้องติดตามว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะปรับเปลี่ยนนโยบายหรือไม่ หลังจากการวิจารณ์จากผู้นำอุตสาหกรรม
    - การแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในด้าน AI อาจทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต

    🚀 อนาคตของตลาดชิป AI
    ARM และ Nvidia กำลังผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ ทบทวนมาตรการควบคุมการส่งออก โดยเชื่อว่า การเปิดตลาดจะช่วยให้เทคโนโลยีเติบโตได้เร็วขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/arm-ceo-joins-nvidia-in-stance-against-us-export-controls-rene-haas-says-narrower-access-not-good-for-industry-or-consumer
    🌍 ARM และ Nvidia วิจารณ์มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ Rene Haas, CEO ของ ARM ได้เข้าร่วมกับ Jensen Huang, CEO ของ Nvidia ในการวิจารณ์ มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ โดยระบุว่า ข้อจำกัดเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมและผู้บริโภค Haas กล่าวในงาน Founders Forum Global ที่ Oxford ว่า การจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจะทำให้ตลาดเล็กลงและส่งผลเสียต่อผู้บริโภค ✅ ข้อมูลจากข่าว - ARM CEO Rene Haas และ Nvidia CEO Jensen Huang วิจารณ์มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ - Haas ระบุว่าการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจะทำให้ตลาดเล็กลงและส่งผลเสียต่อผู้บริโภค - สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI ไปยังจีนตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ซึ่งส่งผลให้ Nvidia สูญเสียรายได้กว่า 8 พันล้านดอลลาร์ - Huang เตือนว่าหากข้อจำกัดยังคงดำเนินต่อไป Huawei อาจใช้โอกาสนี้ในการเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI - Haas เปิดเผยว่าเขาใช้เวลามากขึ้นในการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อหาทางออกที่สมดุล 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ข้อจำกัดของสหรัฐฯ อาจทำให้บริษัทจีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง และ ลดการพึ่งพาชิปจากบริษัทตะวันตก ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ข้อจำกัดอาจส่งผลให้บริษัทจีน เช่น Huawei เร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI และกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้น - Nvidia สูญเสียรายได้กว่า 8 พันล้านดอลลาร์จากมาตรการนี้ และอาจต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ - ต้องติดตามว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะปรับเปลี่ยนนโยบายหรือไม่ หลังจากการวิจารณ์จากผู้นำอุตสาหกรรม - การแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในด้าน AI อาจทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต 🚀 อนาคตของตลาดชิป AI ARM และ Nvidia กำลังผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ ทบทวนมาตรการควบคุมการส่งออก โดยเชื่อว่า การเปิดตลาดจะช่วยให้เทคโนโลยีเติบโตได้เร็วขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/arm-ceo-joins-nvidia-in-stance-against-us-export-controls-rene-haas-says-narrower-access-not-good-for-industry-or-consumer
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    ARM CEO joins Nvidia in stance against US export controls — Rene Haas says narrower access 'not good' for industry or consumer
    “If you narrow access to technology and you force other ecosystems to grow up, it’s not good."
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧠 IonQ เข้าซื้อ Oxford Ionics มูลค่า 1.08 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายการวิจัยควอนตัมคอมพิวติ้ง
    IonQ ซึ่งเป็นบริษัทควอนตัมคอมพิวติ้งจากสหรัฐฯ ได้ประกาศเข้าซื้อ Oxford Ionics ซึ่งเป็นบริษัทจากอังกฤษ ด้วยมูลค่า 1.08 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัม

    🔍 เหตุผลที่ IonQ เข้าซื้อ Oxford Ionics
    Oxford Ionics เป็นบริษัทที่ เชี่ยวชาญด้านการควบคุม qubits ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานของควอนตัมคอมพิวเตอร์ โดยมีผู้ก่อตั้งคือ Chris Balance และ Tom Harty ซึ่งเป็นนักวิจัยในสาขานี้ ทั้งสองจะยังคงทำงานกับ IonQ หลังการเข้าซื้อกิจการ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - IonQ เข้าซื้อ Oxford Ionics มูลค่า 1.08 พันล้านดอลลาร์
    - Oxford Ionics เชี่ยวชาญด้านการควบคุม qubits ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง
    - Chris Balance และ Tom Harty ผู้ก่อตั้ง Oxford Ionics จะยังคงทำงานกับ IonQ
    - การเข้าซื้อกิจการเป็นแบบเงินสดและหุ้น โดยจำนวนหุ้นที่ออกจะขึ้นอยู่กับราคาหุ้นของ IonQ ในช่วง 20 วันก่อนปิดดีล
    - IonQ มีมูลค่าตลาด 10.15 พันล้านดอลลาร์ และหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 4% หลังประกาศดีล

    🔥 การแข่งขันในตลาดควอนตัมคอมพิวติ้ง
    ควอนตัมคอมพิวเตอร์ได้รับความสนใจจาก Microsoft, Google และ IBM ซึ่งลงทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยีนี้ IonQ เองก็ ขยายธุรกิจผ่านการเข้าซื้อกิจการ เช่น Lightsynq ซึ่งเชี่ยวชาญด้าน quantum memory

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ว่าควอนตัมคอมพิวติ้งจะมีศักยภาพสูง แต่รายได้ของบริษัทในอุตสาหกรรมนี้ยังค่อนข้างต่ำ
    - เทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงพัฒนา และอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีจนกว่าจะใช้งานได้จริงในระดับอุตสาหกรรม
    - ต้องติดตามว่าการเข้าซื้อ Oxford Ionics จะช่วยให้ IonQ แข่งขันกับบริษัทใหญ่อย่าง Google และ IBM ได้หรือไม่
    - Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำด้าน AI chips กำลังเปิดศูนย์วิจัยควอนตัมคอมพิวติ้ง อาจเป็นคู่แข่งสำคัญในอนาคต

    การเข้าซื้อ Oxford Ionics อาจช่วยให้ IonQ มีเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งขึ้น และ สามารถแข่งขันกับบริษัทใหญ่อย่าง Google และ IBM ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทได้หรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/09/quantum-computing-firm-ionq-to-acquire-uk-based-oxford-ionics-for-108-billion
    🧠 IonQ เข้าซื้อ Oxford Ionics มูลค่า 1.08 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายการวิจัยควอนตัมคอมพิวติ้ง IonQ ซึ่งเป็นบริษัทควอนตัมคอมพิวติ้งจากสหรัฐฯ ได้ประกาศเข้าซื้อ Oxford Ionics ซึ่งเป็นบริษัทจากอังกฤษ ด้วยมูลค่า 1.08 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัม 🔍 เหตุผลที่ IonQ เข้าซื้อ Oxford Ionics Oxford Ionics เป็นบริษัทที่ เชี่ยวชาญด้านการควบคุม qubits ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานของควอนตัมคอมพิวเตอร์ โดยมีผู้ก่อตั้งคือ Chris Balance และ Tom Harty ซึ่งเป็นนักวิจัยในสาขานี้ ทั้งสองจะยังคงทำงานกับ IonQ หลังการเข้าซื้อกิจการ ✅ ข้อมูลจากข่าว - IonQ เข้าซื้อ Oxford Ionics มูลค่า 1.08 พันล้านดอลลาร์ - Oxford Ionics เชี่ยวชาญด้านการควบคุม qubits ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง - Chris Balance และ Tom Harty ผู้ก่อตั้ง Oxford Ionics จะยังคงทำงานกับ IonQ - การเข้าซื้อกิจการเป็นแบบเงินสดและหุ้น โดยจำนวนหุ้นที่ออกจะขึ้นอยู่กับราคาหุ้นของ IonQ ในช่วง 20 วันก่อนปิดดีล - IonQ มีมูลค่าตลาด 10.15 พันล้านดอลลาร์ และหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 4% หลังประกาศดีล 🔥 การแข่งขันในตลาดควอนตัมคอมพิวติ้ง ควอนตัมคอมพิวเตอร์ได้รับความสนใจจาก Microsoft, Google และ IBM ซึ่งลงทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยีนี้ IonQ เองก็ ขยายธุรกิจผ่านการเข้าซื้อกิจการ เช่น Lightsynq ซึ่งเชี่ยวชาญด้าน quantum memory ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ว่าควอนตัมคอมพิวติ้งจะมีศักยภาพสูง แต่รายได้ของบริษัทในอุตสาหกรรมนี้ยังค่อนข้างต่ำ - เทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงพัฒนา และอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีจนกว่าจะใช้งานได้จริงในระดับอุตสาหกรรม - ต้องติดตามว่าการเข้าซื้อ Oxford Ionics จะช่วยให้ IonQ แข่งขันกับบริษัทใหญ่อย่าง Google และ IBM ได้หรือไม่ - Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำด้าน AI chips กำลังเปิดศูนย์วิจัยควอนตัมคอมพิวติ้ง อาจเป็นคู่แข่งสำคัญในอนาคต การเข้าซื้อ Oxford Ionics อาจช่วยให้ IonQ มีเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งขึ้น และ สามารถแข่งขันกับบริษัทใหญ่อย่าง Google และ IBM ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัทได้หรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/09/quantum-computing-firm-ionq-to-acquire-uk-based-oxford-ionics-for-108-billion
    WWW.THESTAR.COM.MY
    IonQ to buy Oxford Ionics for $1.08 billion to expand quantum computing research
    (Reuters) -IonQ will acquire its British peer Oxford Ionics for $1.08 billion, the companies said on Monday, helping the U.S.-based quantum computing firm deepen its research expertise in the complex technology that is seeing booming investor interest.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 AMD เปิดตัว Ryzen AI Max 385: ตัวเลือกที่เข้าถึงได้มากขึ้นในตระกูล Strix Halo
    AMD กำลังขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ Ryzen AI Max 385 ซึ่งเป็นรุ่นที่มี 8 คอร์ และ 16 เธรด ในตระกูล Strix Halo โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาด แล็ปท็อปและมินิพีซี ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น

    Ryzen AI Max 385 ใช้ สถาปัตยกรรม Zen 5 พร้อม 32 Compute Units ใน Radeon 8050S GPU และ NPU ที่รองรับ 50 TOPS ซึ่งช่วยให้สามารถประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    แม้ว่าจะมี ความเร็วสูงสุด 5 GHz ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นเรือธง Ryzen AI Max+ 395 แต่ผลการทดสอบ Geekbench กลับแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพ ต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยทำคะแนน 2,489 (single-core) และ 14,136 (multi-core) ซึ่งต่ำกว่ารุ่น 395 ที่ทำได้ 2,900-3,000 คะแนน

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Ryzen AI Max 385 มี 8 คอร์ และ 16 เธรด ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5
    - มาพร้อมกับ Radeon 8050S GPU ที่มี 32 Compute Units และ NPU 50 TOPS
    - ความเร็วสูงสุด 5 GHz ใกล้เคียงกับ Ryzen AI Max+ 395
    - ผลทดสอบ Geekbench แสดงคะแนน 2,489 (single-core) และ 14,136 (multi-core)
    - HP ZBook Ultra G1a เป็นหนึ่งในแล็ปท็อปที่ใช้ Ryzen AI Max 385 และมีราคาเริ่มต้นที่ $2,599

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผลทดสอบ Geekbench อาจไม่สะท้อนประสิทธิภาพจริง เนื่องจากขึ้นอยู่กับการตั้งค่าพลังงานของแล็ปท็อป
    - Ryzen AI Max 385 อาจไม่สามารถแข่งขันกับรุ่นเรือธงในด้านประสิทธิภาพ AI ได้
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำ Ryzen AI Max 385 ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนหรือไม่
    - ราคาของแล็ปท็อปที่ใช้ชิปนี้ยังค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นในตลาด

    Ryzen AI Max 385 อาจช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องซื้อรุ่นเรือธง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพจริงจะสามารถตอบโจทย์ตลาดได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/more-affordable-strix-halo-model-emerges-early-ryzen-ai-max-385-geekbench-result-reveals-an-eight-core-option
    🚀 AMD เปิดตัว Ryzen AI Max 385: ตัวเลือกที่เข้าถึงได้มากขึ้นในตระกูล Strix Halo AMD กำลังขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ Ryzen AI Max 385 ซึ่งเป็นรุ่นที่มี 8 คอร์ และ 16 เธรด ในตระกูล Strix Halo โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาด แล็ปท็อปและมินิพีซี ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น Ryzen AI Max 385 ใช้ สถาปัตยกรรม Zen 5 พร้อม 32 Compute Units ใน Radeon 8050S GPU และ NPU ที่รองรับ 50 TOPS ซึ่งช่วยให้สามารถประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมี ความเร็วสูงสุด 5 GHz ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นเรือธง Ryzen AI Max+ 395 แต่ผลการทดสอบ Geekbench กลับแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพ ต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยทำคะแนน 2,489 (single-core) และ 14,136 (multi-core) ซึ่งต่ำกว่ารุ่น 395 ที่ทำได้ 2,900-3,000 คะแนน ✅ ข้อมูลจากข่าว - Ryzen AI Max 385 มี 8 คอร์ และ 16 เธรด ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 - มาพร้อมกับ Radeon 8050S GPU ที่มี 32 Compute Units และ NPU 50 TOPS - ความเร็วสูงสุด 5 GHz ใกล้เคียงกับ Ryzen AI Max+ 395 - ผลทดสอบ Geekbench แสดงคะแนน 2,489 (single-core) และ 14,136 (multi-core) - HP ZBook Ultra G1a เป็นหนึ่งในแล็ปท็อปที่ใช้ Ryzen AI Max 385 และมีราคาเริ่มต้นที่ $2,599 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผลทดสอบ Geekbench อาจไม่สะท้อนประสิทธิภาพจริง เนื่องจากขึ้นอยู่กับการตั้งค่าพลังงานของแล็ปท็อป - Ryzen AI Max 385 อาจไม่สามารถแข่งขันกับรุ่นเรือธงในด้านประสิทธิภาพ AI ได้ - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำ Ryzen AI Max 385 ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนหรือไม่ - ราคาของแล็ปท็อปที่ใช้ชิปนี้ยังค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นในตลาด Ryzen AI Max 385 อาจช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องซื้อรุ่นเรือธง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพจริงจะสามารถตอบโจทย์ตลาดได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/more-affordable-strix-halo-model-emerges-early-ryzen-ai-max-385-geekbench-result-reveals-an-eight-core-option
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตั้งแต่ปี 2004... ผมได้พบกุญแจไขสิ่งที่ผมอยากรู้จากคำเพียงคำเดียว "Cultural Transmission" มันนำพาผมไปพบกับงานของศาสตราจารย์ Luigi Luca Cavalli-Sforza และลูกศิษย์ของเขาที่ Standford ชื่อ Spencer Wells… มันได้เปิดโลกทัศน์ของผมในการมองสิ่งต่างๆ ผ่านการพิจารณาหลายๆ ศาสตร์ควบคู่กับความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมมนุษย์และการอพยพย้ายถิ่น เมื่อเรารู้ว่าที่แท้แล้วเราเป็นใคร สิ่งต่างๆ ก็เชื่อมโยงกัน
    .
    ในปีเดียวกันนั้น Bill Clinton ประกาศที่ทำเนียบขาวถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ แผนที่ดีเอ็นเออันแรกของมนุษย์ถูกทำสำเร็จ ความลับของสายพันธุ์มนุษย์ถูกไข ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ลูกา ที่มุ่งมั่นเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมาก่อนหน้านั้นกว่าสามสิบปีเพราะเชื่อมั่นว่ามันซ่อนความลับของมนุษย์ไว้ ทันทีที่แผนที่ดีเอ็นเอสำเร็จ เสปนเซอร์ซึ่งเป็นทายาทรับช่วงงานวิจัยต่อจาก ศจ.ลูกา ก็นำเสนออีกแผนที่หนึ่ง คือแผนที่การอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์ย้อนหลังกว่าแสนปีจากแอฟริกา และสาแหรกพันธุกรรมมนุษย์ย้อนถอยไปถึงบรรพบุรุษคนแรกที่เป็นรากลึกที่สุด
    .
    ในเวลานั้น ไม่มีใครหรือสาขาวิชาใดมองความรู้ของมนุษย์ผ่านวิสัยทัศน์นี้ มันเป็นเรื่องใหม่ แต่ความฉงนสนเท่ห์ของผมที่มีกับตัวอย่างดนตรีของไท-ไทยและชาติพันธ์อื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนตอนใต้และประเทศไทย ทำให้ผมเอามานั่งคิด ผลจากการคิดวิเคราะห์ ผมรู้สึกว่ามันเป็นดนตรีชนิดเดียวหรือพูดให้ชัดกว่านั้น มันน่าจะเป็นวัฒนธรรมที่มีรากเหง้าร่วมกัน อาจจัดเป็นสกุลเดียวกันคล้ายๆ กับภาษา และถ้าสิ่งที่นักมานุษยวิทยาเชื่อกันมาเนิ่นนานจนบัดนี้ว่า ดนตรีเกิดมาจากภาษา ว่ามันเริ่มมาจากจุดนั้น มันก็จะต้องมีส่วนสัมพันธ์กับการส่งต่อทางวัฒนธรรม ซึ่งผมแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็นสามลักษณะหลักๆ
    .
    หนึ่งคือ สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น เป็นเหมือนมรดกทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณี / สองคือ รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากดินแดนอื่น-ชนชาติอื่นที่รุ่งเรืองกว่าหรือต่างดินแดนที่คบค้าไปมาหาสู่กันยาวนาน จึงรับเอาธรรมเนียมเขามานิยม / สามคือ เกิดจากการถูกพิชิตให้อยู่ในอาณัตหรือถูกบังคับให้รับวัฒนธรรมผู้อื่นมาเป็นของตน อาจจะยังดำเนินขนบทางวัฒนธรรมเดิมอยู่ได้ขณะที่ต้องยอมรับวัฒนธรรมอื่นเป็นหลัก หรืออาจถูกบังคับให้เลิกวัฒนธรรมของตนแล้วรับเอาวัฒนธรรมของชาติที่พิชิตเป็นของตนแทน
    .
    ในกรณีแรก วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจะมีอัตลักษณ์ที่จำแนกได้ชัดเจนเหมือนภาษาที่จัดเป็นสกุลหรือ phyla ได้ | กรณีที่สอง ย่อมมีการแทรกของวัฒนธรรมสกุลอื่นเข้ามาผสมผสาน แต่เนื่องจากการเชื่อมโยงกันเป็นไปอย่างละมุนละม่อมจึงไม่มีอะไรถูกทำลาย จะนำไปสู่ความหลากหลายมากขึ้นได้หลายปัจจัย แต่จะยังคงแยกแยะลักษณะของอัตลักษณ์แต่ละสกุลได้ | กรณีที่สาม ไม่ต่างอะไรกับขุดรากถอนโคน วัฒนธรรมสกุลเดิมถูกทำลายไป อาจมีบางคนที่ต่อต้านและต้องการรักษาขนบเก่าไว้อย่างหลบซ่อน ซึ่งจะทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามหรือตาบู แต่ก็อาจมีโอกาสที่วันหนึ่งจะถูกฟื้นฟูขึ้น
    .
    ตั้งแต่ปี 2004 ผมหมกมุ่นเรื่องนี้นานนับสิบปี อ่านหนังสือมากมาย ไปเก็บตัวอย่างจากภาคสนาม เสาะหาข้อมูลเสียงจากทุกที่ที่ได้เบาะแส ผมนึกอยู่เวียนวนจนได้สมมุติฐานอันนึงขึ้นมา "เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าเรามีสายเลือดที่เชื่อมโยงกันทั้งโลกอย่างที่ ศจ.ลูกา และ เสปนเซอร์ นำเสนอ เราก็น่าจะมีวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันโดยที่สอดคล้องกับสาแหรกพันธุกรรมด้วย และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็น่าจะแยกแยะดนตรีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์ออกเป็นวงศ์ตระกูลได้ในลักษณะเดียวกัน ในเวลาต่อมา ผมพบบทความหนึ่งที่เขียนโดย ศจ. Victor Grauer หัวข้อเรื่อง Music Family ผมจำชื่อเขาได้ทันที เพราะผมเรียนหนังสือเล่มหนึ่งของ Alan Lomax นักมานุษยวิทยาดนตรีที่เป็นตำนานของโลก มันเกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ดนตรีพื้นเมืองที่เขาคิดค้นขึ้นเรียกว่า Cantomatrics และอาจารย์วิคเตอร์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอลันมีส่วนในการคิดค้นนี้
    .
    ผมเขียนอีเมล์ไปหาอาจารย์วิคเตอร์ตามอีเมล์ที่ปรากฏบนบทความของแก บอกว่าผมอ่าน Music Family แล้วคิดว่าน่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกับที่ผมคิด แล้วเล่า Hypothesis ของผมให้แกฟัง บอกว่าผมจะเทรซจากดีเอ็นเอและการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์เป็นวิธีวิจัย แกตอบมาว่าเห็นด้วย นี่เป็นเรื่องใหม่และตื่นเต้นมาก อยากให้ผมแชร์ข้อมูลกับแก จากจุดนี้ไปคือการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของผมกับโครงการ Genomusicology ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ยี่สิบปีแล้ว
    .
    ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความสนใจของผมในเรื่องนี้มาเรื่อย และบางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวกับดนตรีแต่เป็นเรื่องอื่น ผมรู้แต่ตอนนั้นว่าความรู้อะไรก็ตามหากมันขัดกับวิทยาศาสตร์นี้ ไม่ว่าจะสาขาวิชาอะไร มันมีแนวโน้มจะผิดพลาด ตัวอย่างเช่นประวัติศาสตร์ ยิ่งถ้าคุณเปิดหน้าต่างหลายๆ ศาสตร์พร้อมกันโดยไม่ยึดติดกับทัศนะของสำนักคิดเดิม คุณจะพบกับหนทางที่กว้างไกลกว่า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณหาคำตอบทางประวัติศาสตร์ คุณลองทาบมันกับชีววิทยาพันธุกรรม ขณะเดียวกันก็ทาบมันกับโบราณคดี ภาษาศาสตร์ ธรณีวิทยา นิรุกติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปรัมปราคติ ศาสนาเทววิทยา...ฯลฯ มันจะนำคุณไปสู่คำตอบที่หนักแน่นกว่าที่คุณจะจมอยู่กับข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว
    .
    หลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีหลายสาขาวิชาที่หันมาใช้แผนที่แผ่นเดียวกับผม ที่ผมเห็นคือนักภาษาศาสตร์ในต่างประเทศมาก่อนเป็นพวกแรก ในไทยที่เริ่มก่อนคือนักโบราณคดีอย่างเช่น อาจารย์รัศมี ชูทรงเดช ท่านล้ำมาก ศึกษาซากบรรพชีวินแล้วเริ่มใช้ข้อมูลดีเอ็นเอมาก่อนที่จะมีนักชีววิทยารุ่นใหม่ที่สนใจด้านนี้เริ่มเอามาใช้ผนวกกับสาขามานุษยวิทยา ช่วงสี่ห้าปีหลังเริ่มมีงานวิจัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของคนไทยออกมาให้เห็นจากนักวิชาการไทยหลายคน
    .
    ถ้าจำเรื่องเก่าๆ ที่ผมเคยเขียนได้บ้างจะเห็นว่าผมพูดอยู่หลายครั้ง "ความแบ่งแยกเป็นความคิดของปีศาจ" และมันเป็นต้นตอความขัดแย้งที่ลุกลามกลายเป็นสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ได้ ผมชี้ให้เห็นเสมอๆ ว่าคนเอเชียนั้นเป็นพี่น้องครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นลูกหลานของทายาทแห่งอาดัม (ในทางวิทยาศาสตร์) สองคนคือ Hg O และ Hg C และทายาทแห่งอีฟ (ในทางวิทยาศาสตร์) สี่คนคือ Hg B-M-F-D ดังนั้นพวกเขาไม่ว่าจะเรียกชื่อสมมุติตัวเองว่าอะไร ข้อเท็จจริงก็คือพวกเขาคือพี่น้องกันทั้งสิ้น เก่าใหม่ อ่อนแก่ ตามกาลเวลา
    .
    ด้วยเหตุนี้ ในปี 2008 ผมเขียนบทความหนึ่ง เรื่อง "ชื่อและชนเผ่า" และผมพยายามอธิบายความสมมุติที่ว่านี้ด้วยความพยายามยิ่งที่จะบอกความเป็นมาเป็นไปและความเกี่ยวโยงของแต่ละชาติพันธ์ ผมแบ่งกลุ่มพวกเขาออกเป็นสองกลุ่มง่ายๆ คือพวกเท้าเปียกและพวกเท้าแห้ง พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและทั้งหมดอยู่บนดินแดนเอเชียนี้มาตั้งแต่สามหมื่นกว่าปีที่แล้ว แต่พวกเท้าเปียกคือพวกที่อยู่บนซุนดาตอนล่าง ต้องผจญชะตากรรมน้ำท่วมโลกซึ่งหนักกว่าโนอาห์แน่นอน เพราะธรณีวิทยาบอกว่ามีที่เดียวบนโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์แสนกว่าปี ที่คุณจะเรียกว่าน้ำท่วมโลกได้จริงๆ คือดินแดนซุนดาแห่งนี้ ไม่ใช่ในดินแดนเสี้ยวจันทร์หรือแถวเทือกเขาอารารัต มันท่วมที่นี่สามครั้งหลังยุคน้ำแข็งสิ้นสุด ทั้งสามครั้งรวมแล้วประมาณร้อยยี่สิบเมตร!.. ส่วนพวกเท้าแห้งก็คือพวกที่อยู่เหนือขึ้นไปในเมนแลนด์เอเชีย ซึ่งก็ได้เป็นสักขีพยานภัยพิบัตินี้เช่นกัน แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับผลจากภัยพิบัติ
    .
    ดังนั้น สำหรับผม ไม่ว่าจะเอ่ยชื่อไหนมันก็คือสิ่งสมมุติ บรรดาพี่น้องในสาแหรกเท้าเปียกในอุษาคเนย์นับจากโบราณจนกระทั่งบัดนี้ อย่างที่บอก พวกเขาล้วนมาจากอัสเลียน แม้ต่อมาพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นมอญ เป็นข่า เป็นละว้า เป็นขอมทวารวดี เป็นขอมละโว้ เป็นพนม เป็นสยาม เป็นศรีโพธิ์ เป็นมลายู เป็นนุสันทารา เป็นลาว เป็นจามปา เป็นเจนละ เป็นเขมร เป็นญวน... แต่หากคุณแล่เนื้อเถือหนังออกมา โครงสร้างทางโปรตีนของพวกเขาก็มีดีเอ็นเอที่มาจากบรรพบุรุษจากสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น..
    .
    การที่คุณแครี่วายโครโมโซมแฮพโพลกรุ๊พโอ หมายถึงคุณคลานตามกันมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน การย่อยออกเป็น sub group ต่างๆ เช่น O1 O1a O1b O1c O2 O2a O2b O2c... คือซับมิวเทชั่นในสกุลเดียวกัน แม้แตกแขนงออกไปแต่คุณยังคงมีสายเลือดที่โยงใยกันอยู่ จีนที่ซึ่งในการวิจัยช่วงแรกถูกจัดเป็น O3 (ปัจจุบันปรับเป็น O2) ยอมรับกันว่าเป็นชนชาติที่มีระบบบันทึกประวัติศาสตร์ดีที่สุดและเก่ากว่าทุกชนชาติในเอเชีย ถอยหลังไปถึงสี่พันกว่าปี แต่พันธุกรรมบอกว่าพวกเขาเป็นน้องเล็กที่สุด มียีนอายุน้อยที่สุดในสาแหรกวงศ์ตระกูล (เรียงจากหลักน้อยไปหามาก O > O1 > O2 หลักน้อยคือเก่ากว่า) ข้อนี้ยิ่งยืนยันว่าสาแหรก Y DNA Hg O มีรากเหง้าที่เก่าแก่ยาวไกลเพียงใด ในโลกนี้พวกเขาเก่ารองจากพวกออสตราอะบอริจิ้น และพวกซาฮารันโบราณ มียีนเป็นพี่ของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด ยกเว้นพวกบาสก์ในอุสกาดี สเปน และพวกซามิแถวแลปแลนด์ ฟินด์แลนด์
    .
    Cultural Transmission ที่ส่งผ่านกันไปมานานนับหมื่นปี ทำให้ลักษณะที่ร่วมกันแต่โบราณจากวัฒนธรรมที่พื้นฐานที่สุดไปสู่วัฒนธรรมที่ซับซ้อนที่สุด ยังคงทิ้งเบาะแสความเกี่ยวโยงของพวกเขาเอาไว้ในทุกมิติทุกบริบท มันไม่ได้หายไปไหนและเรามองเห็นมันได้ แบบเดียวกับที่ผมเห็นผ่านดนตรี ตัวอย่างเช่น เราเป็นมนุษย์ที่ยุคบรรพกาลนับถือแม่เป็นใหญ่ เราจึงมีเทวี เจ้าแม่ พระแม่เต็มไปหมด ในดนตรีพื้นเมืองของเราผู้หญิงร้องเสียงสูงและดังทะลุทะลวง เพราะนางมีสถานะที่ได้รับการเคารพไม่ใช่ถูกกดไว้ นอกจากนั้นพวกนางยังมีการประสานเสียง มีพลังแข็งแรงและมั่นใจขณะขับร้อง นางสามารถยืนหยัดเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญได้ภายในสังคม แม้ทุกวันนี้ ผู้หญิงก็ยังคงเป็นใหญ่ในบ้าน ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมหาได้ก็ต้องส่งมอบให้ภรรยาด้วยความเคารพ
    .
    เวลาที่มองภาพต่อทางประวัติศาสตร์ มุมมองของผมจึงเปลี่ยนไป ผมหยิบความรู้อื่นๆ เท่าที่อ้างอิงเชื่อถือได้มาประกบเข้าด้วยกันเสมอ... ทำไมกษัตริย์เขมรโบราณจะขึ้นครองราชย์ต้องแต่งกับนาค? สำหรับผม นี่คือปรัมปราคติที่สะท้อนการเมืองโบราณ เศรษฐีจากต่างถิ่น (ตัวขาวใส่เสื้อผ้าสวยงาม) จะมาปกครองคนท้องถิ่นที่เป็นคนพื้นเมือง (แก้ผ้า อยู่กับป่าฝนและมรสุม) ก็ต้องดองกับคนท้องถิ่น หลักฐานเจเนติคก็พบว่าพ้องกันว่า ผู้ชายบรรพบุรุษของพวกเรา (Y DNA Hg O) ซึ่งอพยพมาด้วยเส้นทางสายเอเชียกลาง อากาศดี อาหารสมบูรณ์ตลอดทาง พวกเขาคงหล่อเร้าใจไม่น้อยเมื่อเดินทางมาถึงซุนดา พวกผู้หญิงอะบอริจิ้น (mt DNA Hg B / M) พากันเลือกบรรพบุรุษของเราเป็นพ่อพันธ์ อุปมาดังหงส์ทองครองคู่กับนาคยังไงยังงั้น ทำให้ผู้ชายอะบอริจิ้นต้องถอยห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ การได้แม่สายงูมาเป็นแม่พันธ์อีกสองแม่ ทำให้ลูกหลานพวก Hg O ออกลูกมาเต็มดินแดน มันคือการผสมกันของนกกับงู แต่พวก Hg C ที่ผู้หญิงไม่เลือกลูกหลานก็เลยน้อยกว่า แรงงานที่จะพัฒนาชุมชนและเป็นกำลังรบจึงน้อย ถ้าผู้หญิงของเขาไม่เลือกพวก Hg O และมีจำนวนประชากรพอๆ กัน พวกอัสเลียนกับอะบอริจิ้นคงรบกันแหลกราญตายไปข้างหนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว...
    .
    พระนางจามเทวีแห่งละโว้ หรือจะเรียกละโว้ ละว้า ว้า ลั๊วะ ก็คือกัน เป็นข่า เป็นอัสเลียนที่ยังมีความเป็นชนพื้นเมือง เมื่อเทียบชายหนุ่มในเผ่าของนางกับหนุ่มเท้าแห้งพี่น้องสาแหรกเดียวกันแต่ขาวผ่องกว่าเพราะอาศัยอยู่ดินแดนทางเหนือขึ้นไป อากาศแสนดี แต่งตัวหล่อ เหตุฉะนี้ พระนางทำเหมือนบรรพบุรุษอะบอริจิ้นข้างแม่ ไม่เลือกพวกเดียวกันเอง แต่ไปเลือกหนุ่มทางเหนือแถวหริภุญชัยสายไป่เยว่ ทำเอานักรบหนุ่มละว้าถึงกับไม่พอใจทำไมไม่เลือกฉันไปเลือกไอ้ละอ่อนสำอางทางเหนือ เลยท้าพระนางจามพุ่งหอกแข่งกัน ถ้าแพ้ต้องแต่งกับเขา และพระนางจามเทวีชนะนักรบนะ! แปลว่าพระนางจามของเรานี้ก็ยังคงมีทักษะแบบที่ชนเผ่าในสมัยบรรพกาลมี คือโตมานี่ยังรบและล่าสัตว์อยู่ แม่หญิงธรรมดาที่ไหนจะพุ่งหอกชนะ พระนางคงเห็นว่าการแต่งกับหนุ่มทางเหนือเป็นการปรับปรุงสายพันธุ์และทำให้การเมืองมีหนทางที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าที่เคยเป็น เพราะการดองลักษณะนี้ พวกเท้าเปียกและเท้าแห้งก็จะมี Cultural Transmission ที่ถ่ายเทต่อกันอย่างละมุนละม่อม ต่างกับพวกยุโรปที่ไปปล้นพวกเมาริ ยึดแผ่นดินพวกเขา แล้วบังคับให้ดีดอะคูเลเล่และเข้าโบสถ์ไปร้องประสานเสียง
    .
    หันมองเครือญาติข้างบ้าน ยุคสมัยแห่งเขมรพระนครนั้นล่มสลายไปนานแล้ว กัมพูชาอยู่ในปกครองของอยุธยายาวนานมาจนรัตนโกสินทร์ ตอนที่พวกอาณานิคมฝรั่งเศสบุกมายึดครอง แล้วฝรั่งพวกนี้ไปเจอนครวัดอยู่ในป่าดงดิบ คนเขมรส่วนใหญ่ในตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีปราสาทโบราณอยู่ตรงนั้น มันถูกต้นไม้กลืนจนหายไป รากและกิ่งใบเลื้อยพันฝังรากลงไปในตัวปราสาทจนมองไม่เห็น หลังเป็นอิสระจากอาณานิคมฝรั่งเศสพวกกษัตริย์เขมรนั้นมาโตมาเรียนอยู่ที่สยามทั้งนั้น ประวัติศาสตร์บอกชัดไม่ต้องบรรยายอีก Cultural Transmission ถูกส่งผ่านอย่างละมุนละม่อม ไม่ใช่เพราะถูกพิชิตถูกบังคับให้ทำตาม แต่เพราะรากเหง้าเดิมของเขมรเสื่อมสลายไปหมดนานแล้ว และเจ้านายเขมรนิยมชมชอบในขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบไทยจึงรับและเรียนไป จนกระทั่งมันวินาศย่อยยับไปอีกครั้งในยุคเขมรแดง เพราะศิลปิน ปราชญ์ราชบัณฑิต ครู กวี ปัญญาชน...ถูกเขมรแดงฆ่าจนสิ้น
    .
    ผมก็รำคาญนะ พวกเขมรเคลมโบเดียน่ะ แต่ก็คิดว่ามันน่าสงสาร ยังไงก็พี่น้องสาแหรกเดียวกัน แล้วคนฉลาดๆ ของเขาก็ตายไปหมดแล้วตอนยุคเขมรแดงทุ่งสังหาร ที่พอจะรอดมาได้ก็หนีไปอเมริกา-ยุโรปไม่กลับมาอีก อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกอยู่ในโลกก็บอกเรื่องราวของสยามและเขมรชัดแจ้งอยู่ มันจะเคลมยังไงก็ไม่มีใครเขาเชื่อ แล้วก็ไม่มีพิษสงอะไรหรอก นอกจากสร้างความรำคาญ ส่งพวกทหารพรานไปเป่าข้าวหลามสักสิบบ้องก็คงหยุดแล้ว
    .
    แต่ไอ้ที่เลวแท้ก็คือไอ้พวกตัวเป็นไทยใจเป็นเขมรนี่แหละ ไอ้ที่ส่งลูกไปปี้กับเขมรก็พอเข้าใจที่มันเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน แต่ไอ้พวกที่ไม่ได้ดองอะไรแต่เสือกไปรับใช้เขมร อันนี้เรียกขายชาติ ในดีเอ็นเอมีพันธุกรรมสุนัขแทรกอยู่เลยเลือกกินอาจม ไม่กินผัดไทย
    .
    เรื่องที่ผมเขียนให้อ่านนี่มันยาก ผมเข้าใจนะ แต่หากคนเราในทุกวันนี้เข้าใจในข้อนี้ตรงกัน บางทีความขัดแย้งในโลกอาจลดลงจนหมดไปได้ และเราอาจก้าวไปสู่สังคมอุดมคติแบบที่เราไฝ่ฝันถึง "We're All Connected"
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (2568) -
    .
    https://youtu.be/RdW1HNA5uSc?si=3E1WAUxHdLhSdVsw
    ตั้งแต่ปี 2004... ผมได้พบกุญแจไขสิ่งที่ผมอยากรู้จากคำเพียงคำเดียว "Cultural Transmission" มันนำพาผมไปพบกับงานของศาสตราจารย์ Luigi Luca Cavalli-Sforza และลูกศิษย์ของเขาที่ Standford ชื่อ Spencer Wells… มันได้เปิดโลกทัศน์ของผมในการมองสิ่งต่างๆ ผ่านการพิจารณาหลายๆ ศาสตร์ควบคู่กับความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมมนุษย์และการอพยพย้ายถิ่น เมื่อเรารู้ว่าที่แท้แล้วเราเป็นใคร สิ่งต่างๆ ก็เชื่อมโยงกัน . ในปีเดียวกันนั้น Bill Clinton ประกาศที่ทำเนียบขาวถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ แผนที่ดีเอ็นเออันแรกของมนุษย์ถูกทำสำเร็จ ความลับของสายพันธุ์มนุษย์ถูกไข ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ลูกา ที่มุ่งมั่นเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมาก่อนหน้านั้นกว่าสามสิบปีเพราะเชื่อมั่นว่ามันซ่อนความลับของมนุษย์ไว้ ทันทีที่แผนที่ดีเอ็นเอสำเร็จ เสปนเซอร์ซึ่งเป็นทายาทรับช่วงงานวิจัยต่อจาก ศจ.ลูกา ก็นำเสนออีกแผนที่หนึ่ง คือแผนที่การอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์ย้อนหลังกว่าแสนปีจากแอฟริกา และสาแหรกพันธุกรรมมนุษย์ย้อนถอยไปถึงบรรพบุรุษคนแรกที่เป็นรากลึกที่สุด . ในเวลานั้น ไม่มีใครหรือสาขาวิชาใดมองความรู้ของมนุษย์ผ่านวิสัยทัศน์นี้ มันเป็นเรื่องใหม่ แต่ความฉงนสนเท่ห์ของผมที่มีกับตัวอย่างดนตรีของไท-ไทยและชาติพันธ์อื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนตอนใต้และประเทศไทย ทำให้ผมเอามานั่งคิด ผลจากการคิดวิเคราะห์ ผมรู้สึกว่ามันเป็นดนตรีชนิดเดียวหรือพูดให้ชัดกว่านั้น มันน่าจะเป็นวัฒนธรรมที่มีรากเหง้าร่วมกัน อาจจัดเป็นสกุลเดียวกันคล้ายๆ กับภาษา และถ้าสิ่งที่นักมานุษยวิทยาเชื่อกันมาเนิ่นนานจนบัดนี้ว่า ดนตรีเกิดมาจากภาษา ว่ามันเริ่มมาจากจุดนั้น มันก็จะต้องมีส่วนสัมพันธ์กับการส่งต่อทางวัฒนธรรม ซึ่งผมแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็นสามลักษณะหลักๆ . หนึ่งคือ สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น เป็นเหมือนมรดกทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณี / สองคือ รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากดินแดนอื่น-ชนชาติอื่นที่รุ่งเรืองกว่าหรือต่างดินแดนที่คบค้าไปมาหาสู่กันยาวนาน จึงรับเอาธรรมเนียมเขามานิยม / สามคือ เกิดจากการถูกพิชิตให้อยู่ในอาณัตหรือถูกบังคับให้รับวัฒนธรรมผู้อื่นมาเป็นของตน อาจจะยังดำเนินขนบทางวัฒนธรรมเดิมอยู่ได้ขณะที่ต้องยอมรับวัฒนธรรมอื่นเป็นหลัก หรืออาจถูกบังคับให้เลิกวัฒนธรรมของตนแล้วรับเอาวัฒนธรรมของชาติที่พิชิตเป็นของตนแทน . ในกรณีแรก วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจะมีอัตลักษณ์ที่จำแนกได้ชัดเจนเหมือนภาษาที่จัดเป็นสกุลหรือ phyla ได้ | กรณีที่สอง ย่อมมีการแทรกของวัฒนธรรมสกุลอื่นเข้ามาผสมผสาน แต่เนื่องจากการเชื่อมโยงกันเป็นไปอย่างละมุนละม่อมจึงไม่มีอะไรถูกทำลาย จะนำไปสู่ความหลากหลายมากขึ้นได้หลายปัจจัย แต่จะยังคงแยกแยะลักษณะของอัตลักษณ์แต่ละสกุลได้ | กรณีที่สาม ไม่ต่างอะไรกับขุดรากถอนโคน วัฒนธรรมสกุลเดิมถูกทำลายไป อาจมีบางคนที่ต่อต้านและต้องการรักษาขนบเก่าไว้อย่างหลบซ่อน ซึ่งจะทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามหรือตาบู แต่ก็อาจมีโอกาสที่วันหนึ่งจะถูกฟื้นฟูขึ้น . ตั้งแต่ปี 2004 ผมหมกมุ่นเรื่องนี้นานนับสิบปี อ่านหนังสือมากมาย ไปเก็บตัวอย่างจากภาคสนาม เสาะหาข้อมูลเสียงจากทุกที่ที่ได้เบาะแส ผมนึกอยู่เวียนวนจนได้สมมุติฐานอันนึงขึ้นมา "เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าเรามีสายเลือดที่เชื่อมโยงกันทั้งโลกอย่างที่ ศจ.ลูกา และ เสปนเซอร์ นำเสนอ เราก็น่าจะมีวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันโดยที่สอดคล้องกับสาแหรกพันธุกรรมด้วย และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็น่าจะแยกแยะดนตรีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์ออกเป็นวงศ์ตระกูลได้ในลักษณะเดียวกัน ในเวลาต่อมา ผมพบบทความหนึ่งที่เขียนโดย ศจ. Victor Grauer หัวข้อเรื่อง Music Family ผมจำชื่อเขาได้ทันที เพราะผมเรียนหนังสือเล่มหนึ่งของ Alan Lomax นักมานุษยวิทยาดนตรีที่เป็นตำนานของโลก มันเกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ดนตรีพื้นเมืองที่เขาคิดค้นขึ้นเรียกว่า Cantomatrics และอาจารย์วิคเตอร์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอลันมีส่วนในการคิดค้นนี้ . ผมเขียนอีเมล์ไปหาอาจารย์วิคเตอร์ตามอีเมล์ที่ปรากฏบนบทความของแก บอกว่าผมอ่าน Music Family แล้วคิดว่าน่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกับที่ผมคิด แล้วเล่า Hypothesis ของผมให้แกฟัง บอกว่าผมจะเทรซจากดีเอ็นเอและการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์เป็นวิธีวิจัย แกตอบมาว่าเห็นด้วย นี่เป็นเรื่องใหม่และตื่นเต้นมาก อยากให้ผมแชร์ข้อมูลกับแก จากจุดนี้ไปคือการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของผมกับโครงการ Genomusicology ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ยี่สิบปีแล้ว . ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความสนใจของผมในเรื่องนี้มาเรื่อย และบางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวกับดนตรีแต่เป็นเรื่องอื่น ผมรู้แต่ตอนนั้นว่าความรู้อะไรก็ตามหากมันขัดกับวิทยาศาสตร์นี้ ไม่ว่าจะสาขาวิชาอะไร มันมีแนวโน้มจะผิดพลาด ตัวอย่างเช่นประวัติศาสตร์ ยิ่งถ้าคุณเปิดหน้าต่างหลายๆ ศาสตร์พร้อมกันโดยไม่ยึดติดกับทัศนะของสำนักคิดเดิม คุณจะพบกับหนทางที่กว้างไกลกว่า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณหาคำตอบทางประวัติศาสตร์ คุณลองทาบมันกับชีววิทยาพันธุกรรม ขณะเดียวกันก็ทาบมันกับโบราณคดี ภาษาศาสตร์ ธรณีวิทยา นิรุกติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปรัมปราคติ ศาสนาเทววิทยา...ฯลฯ มันจะนำคุณไปสู่คำตอบที่หนักแน่นกว่าที่คุณจะจมอยู่กับข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว . หลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีหลายสาขาวิชาที่หันมาใช้แผนที่แผ่นเดียวกับผม ที่ผมเห็นคือนักภาษาศาสตร์ในต่างประเทศมาก่อนเป็นพวกแรก ในไทยที่เริ่มก่อนคือนักโบราณคดีอย่างเช่น อาจารย์รัศมี ชูทรงเดช ท่านล้ำมาก ศึกษาซากบรรพชีวินแล้วเริ่มใช้ข้อมูลดีเอ็นเอมาก่อนที่จะมีนักชีววิทยารุ่นใหม่ที่สนใจด้านนี้เริ่มเอามาใช้ผนวกกับสาขามานุษยวิทยา ช่วงสี่ห้าปีหลังเริ่มมีงานวิจัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของคนไทยออกมาให้เห็นจากนักวิชาการไทยหลายคน . ถ้าจำเรื่องเก่าๆ ที่ผมเคยเขียนได้บ้างจะเห็นว่าผมพูดอยู่หลายครั้ง "ความแบ่งแยกเป็นความคิดของปีศาจ" และมันเป็นต้นตอความขัดแย้งที่ลุกลามกลายเป็นสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ได้ ผมชี้ให้เห็นเสมอๆ ว่าคนเอเชียนั้นเป็นพี่น้องครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นลูกหลานของทายาทแห่งอาดัม (ในทางวิทยาศาสตร์) สองคนคือ Hg O และ Hg C และทายาทแห่งอีฟ (ในทางวิทยาศาสตร์) สี่คนคือ Hg B-M-F-D ดังนั้นพวกเขาไม่ว่าจะเรียกชื่อสมมุติตัวเองว่าอะไร ข้อเท็จจริงก็คือพวกเขาคือพี่น้องกันทั้งสิ้น เก่าใหม่ อ่อนแก่ ตามกาลเวลา . ด้วยเหตุนี้ ในปี 2008 ผมเขียนบทความหนึ่ง เรื่อง "ชื่อและชนเผ่า" และผมพยายามอธิบายความสมมุติที่ว่านี้ด้วยความพยายามยิ่งที่จะบอกความเป็นมาเป็นไปและความเกี่ยวโยงของแต่ละชาติพันธ์ ผมแบ่งกลุ่มพวกเขาออกเป็นสองกลุ่มง่ายๆ คือพวกเท้าเปียกและพวกเท้าแห้ง พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและทั้งหมดอยู่บนดินแดนเอเชียนี้มาตั้งแต่สามหมื่นกว่าปีที่แล้ว แต่พวกเท้าเปียกคือพวกที่อยู่บนซุนดาตอนล่าง ต้องผจญชะตากรรมน้ำท่วมโลกซึ่งหนักกว่าโนอาห์แน่นอน เพราะธรณีวิทยาบอกว่ามีที่เดียวบนโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์แสนกว่าปี ที่คุณจะเรียกว่าน้ำท่วมโลกได้จริงๆ คือดินแดนซุนดาแห่งนี้ ไม่ใช่ในดินแดนเสี้ยวจันทร์หรือแถวเทือกเขาอารารัต มันท่วมที่นี่สามครั้งหลังยุคน้ำแข็งสิ้นสุด ทั้งสามครั้งรวมแล้วประมาณร้อยยี่สิบเมตร!.. ส่วนพวกเท้าแห้งก็คือพวกที่อยู่เหนือขึ้นไปในเมนแลนด์เอเชีย ซึ่งก็ได้เป็นสักขีพยานภัยพิบัตินี้เช่นกัน แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับผลจากภัยพิบัติ . ดังนั้น สำหรับผม ไม่ว่าจะเอ่ยชื่อไหนมันก็คือสิ่งสมมุติ บรรดาพี่น้องในสาแหรกเท้าเปียกในอุษาคเนย์นับจากโบราณจนกระทั่งบัดนี้ อย่างที่บอก พวกเขาล้วนมาจากอัสเลียน แม้ต่อมาพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นมอญ เป็นข่า เป็นละว้า เป็นขอมทวารวดี เป็นขอมละโว้ เป็นพนม เป็นสยาม เป็นศรีโพธิ์ เป็นมลายู เป็นนุสันทารา เป็นลาว เป็นจามปา เป็นเจนละ เป็นเขมร เป็นญวน... แต่หากคุณแล่เนื้อเถือหนังออกมา โครงสร้างทางโปรตีนของพวกเขาก็มีดีเอ็นเอที่มาจากบรรพบุรุษจากสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น.. . การที่คุณแครี่วายโครโมโซมแฮพโพลกรุ๊พโอ หมายถึงคุณคลานตามกันมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน การย่อยออกเป็น sub group ต่างๆ เช่น O1 O1a O1b O1c O2 O2a O2b O2c... คือซับมิวเทชั่นในสกุลเดียวกัน แม้แตกแขนงออกไปแต่คุณยังคงมีสายเลือดที่โยงใยกันอยู่ จีนที่ซึ่งในการวิจัยช่วงแรกถูกจัดเป็น O3 (ปัจจุบันปรับเป็น O2) ยอมรับกันว่าเป็นชนชาติที่มีระบบบันทึกประวัติศาสตร์ดีที่สุดและเก่ากว่าทุกชนชาติในเอเชีย ถอยหลังไปถึงสี่พันกว่าปี แต่พันธุกรรมบอกว่าพวกเขาเป็นน้องเล็กที่สุด มียีนอายุน้อยที่สุดในสาแหรกวงศ์ตระกูล (เรียงจากหลักน้อยไปหามาก O > O1 > O2 หลักน้อยคือเก่ากว่า) ข้อนี้ยิ่งยืนยันว่าสาแหรก Y DNA Hg O มีรากเหง้าที่เก่าแก่ยาวไกลเพียงใด ในโลกนี้พวกเขาเก่ารองจากพวกออสตราอะบอริจิ้น และพวกซาฮารันโบราณ มียีนเป็นพี่ของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด ยกเว้นพวกบาสก์ในอุสกาดี สเปน และพวกซามิแถวแลปแลนด์ ฟินด์แลนด์ . Cultural Transmission ที่ส่งผ่านกันไปมานานนับหมื่นปี ทำให้ลักษณะที่ร่วมกันแต่โบราณจากวัฒนธรรมที่พื้นฐานที่สุดไปสู่วัฒนธรรมที่ซับซ้อนที่สุด ยังคงทิ้งเบาะแสความเกี่ยวโยงของพวกเขาเอาไว้ในทุกมิติทุกบริบท มันไม่ได้หายไปไหนและเรามองเห็นมันได้ แบบเดียวกับที่ผมเห็นผ่านดนตรี ตัวอย่างเช่น เราเป็นมนุษย์ที่ยุคบรรพกาลนับถือแม่เป็นใหญ่ เราจึงมีเทวี เจ้าแม่ พระแม่เต็มไปหมด ในดนตรีพื้นเมืองของเราผู้หญิงร้องเสียงสูงและดังทะลุทะลวง เพราะนางมีสถานะที่ได้รับการเคารพไม่ใช่ถูกกดไว้ นอกจากนั้นพวกนางยังมีการประสานเสียง มีพลังแข็งแรงและมั่นใจขณะขับร้อง นางสามารถยืนหยัดเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญได้ภายในสังคม แม้ทุกวันนี้ ผู้หญิงก็ยังคงเป็นใหญ่ในบ้าน ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมหาได้ก็ต้องส่งมอบให้ภรรยาด้วยความเคารพ . เวลาที่มองภาพต่อทางประวัติศาสตร์ มุมมองของผมจึงเปลี่ยนไป ผมหยิบความรู้อื่นๆ เท่าที่อ้างอิงเชื่อถือได้มาประกบเข้าด้วยกันเสมอ... ทำไมกษัตริย์เขมรโบราณจะขึ้นครองราชย์ต้องแต่งกับนาค? สำหรับผม นี่คือปรัมปราคติที่สะท้อนการเมืองโบราณ เศรษฐีจากต่างถิ่น (ตัวขาวใส่เสื้อผ้าสวยงาม) จะมาปกครองคนท้องถิ่นที่เป็นคนพื้นเมือง (แก้ผ้า อยู่กับป่าฝนและมรสุม) ก็ต้องดองกับคนท้องถิ่น หลักฐานเจเนติคก็พบว่าพ้องกันว่า ผู้ชายบรรพบุรุษของพวกเรา (Y DNA Hg O) ซึ่งอพยพมาด้วยเส้นทางสายเอเชียกลาง อากาศดี อาหารสมบูรณ์ตลอดทาง พวกเขาคงหล่อเร้าใจไม่น้อยเมื่อเดินทางมาถึงซุนดา พวกผู้หญิงอะบอริจิ้น (mt DNA Hg B / M) พากันเลือกบรรพบุรุษของเราเป็นพ่อพันธ์ อุปมาดังหงส์ทองครองคู่กับนาคยังไงยังงั้น ทำให้ผู้ชายอะบอริจิ้นต้องถอยห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ การได้แม่สายงูมาเป็นแม่พันธ์อีกสองแม่ ทำให้ลูกหลานพวก Hg O ออกลูกมาเต็มดินแดน มันคือการผสมกันของนกกับงู แต่พวก Hg C ที่ผู้หญิงไม่เลือกลูกหลานก็เลยน้อยกว่า แรงงานที่จะพัฒนาชุมชนและเป็นกำลังรบจึงน้อย ถ้าผู้หญิงของเขาไม่เลือกพวก Hg O และมีจำนวนประชากรพอๆ กัน พวกอัสเลียนกับอะบอริจิ้นคงรบกันแหลกราญตายไปข้างหนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว... . พระนางจามเทวีแห่งละโว้ หรือจะเรียกละโว้ ละว้า ว้า ลั๊วะ ก็คือกัน เป็นข่า เป็นอัสเลียนที่ยังมีความเป็นชนพื้นเมือง เมื่อเทียบชายหนุ่มในเผ่าของนางกับหนุ่มเท้าแห้งพี่น้องสาแหรกเดียวกันแต่ขาวผ่องกว่าเพราะอาศัยอยู่ดินแดนทางเหนือขึ้นไป อากาศแสนดี แต่งตัวหล่อ เหตุฉะนี้ พระนางทำเหมือนบรรพบุรุษอะบอริจิ้นข้างแม่ ไม่เลือกพวกเดียวกันเอง แต่ไปเลือกหนุ่มทางเหนือแถวหริภุญชัยสายไป่เยว่ ทำเอานักรบหนุ่มละว้าถึงกับไม่พอใจทำไมไม่เลือกฉันไปเลือกไอ้ละอ่อนสำอางทางเหนือ เลยท้าพระนางจามพุ่งหอกแข่งกัน ถ้าแพ้ต้องแต่งกับเขา และพระนางจามเทวีชนะนักรบนะ! แปลว่าพระนางจามของเรานี้ก็ยังคงมีทักษะแบบที่ชนเผ่าในสมัยบรรพกาลมี คือโตมานี่ยังรบและล่าสัตว์อยู่ แม่หญิงธรรมดาที่ไหนจะพุ่งหอกชนะ พระนางคงเห็นว่าการแต่งกับหนุ่มทางเหนือเป็นการปรับปรุงสายพันธุ์และทำให้การเมืองมีหนทางที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าที่เคยเป็น เพราะการดองลักษณะนี้ พวกเท้าเปียกและเท้าแห้งก็จะมี Cultural Transmission ที่ถ่ายเทต่อกันอย่างละมุนละม่อม ต่างกับพวกยุโรปที่ไปปล้นพวกเมาริ ยึดแผ่นดินพวกเขา แล้วบังคับให้ดีดอะคูเลเล่และเข้าโบสถ์ไปร้องประสานเสียง . หันมองเครือญาติข้างบ้าน ยุคสมัยแห่งเขมรพระนครนั้นล่มสลายไปนานแล้ว กัมพูชาอยู่ในปกครองของอยุธยายาวนานมาจนรัตนโกสินทร์ ตอนที่พวกอาณานิคมฝรั่งเศสบุกมายึดครอง แล้วฝรั่งพวกนี้ไปเจอนครวัดอยู่ในป่าดงดิบ คนเขมรส่วนใหญ่ในตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีปราสาทโบราณอยู่ตรงนั้น มันถูกต้นไม้กลืนจนหายไป รากและกิ่งใบเลื้อยพันฝังรากลงไปในตัวปราสาทจนมองไม่เห็น หลังเป็นอิสระจากอาณานิคมฝรั่งเศสพวกกษัตริย์เขมรนั้นมาโตมาเรียนอยู่ที่สยามทั้งนั้น ประวัติศาสตร์บอกชัดไม่ต้องบรรยายอีก Cultural Transmission ถูกส่งผ่านอย่างละมุนละม่อม ไม่ใช่เพราะถูกพิชิตถูกบังคับให้ทำตาม แต่เพราะรากเหง้าเดิมของเขมรเสื่อมสลายไปหมดนานแล้ว และเจ้านายเขมรนิยมชมชอบในขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบไทยจึงรับและเรียนไป จนกระทั่งมันวินาศย่อยยับไปอีกครั้งในยุคเขมรแดง เพราะศิลปิน ปราชญ์ราชบัณฑิต ครู กวี ปัญญาชน...ถูกเขมรแดงฆ่าจนสิ้น . ผมก็รำคาญนะ พวกเขมรเคลมโบเดียน่ะ แต่ก็คิดว่ามันน่าสงสาร ยังไงก็พี่น้องสาแหรกเดียวกัน แล้วคนฉลาดๆ ของเขาก็ตายไปหมดแล้วตอนยุคเขมรแดงทุ่งสังหาร ที่พอจะรอดมาได้ก็หนีไปอเมริกา-ยุโรปไม่กลับมาอีก อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกอยู่ในโลกก็บอกเรื่องราวของสยามและเขมรชัดแจ้งอยู่ มันจะเคลมยังไงก็ไม่มีใครเขาเชื่อ แล้วก็ไม่มีพิษสงอะไรหรอก นอกจากสร้างความรำคาญ ส่งพวกทหารพรานไปเป่าข้าวหลามสักสิบบ้องก็คงหยุดแล้ว . แต่ไอ้ที่เลวแท้ก็คือไอ้พวกตัวเป็นไทยใจเป็นเขมรนี่แหละ ไอ้ที่ส่งลูกไปปี้กับเขมรก็พอเข้าใจที่มันเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน แต่ไอ้พวกที่ไม่ได้ดองอะไรแต่เสือกไปรับใช้เขมร อันนี้เรียกขายชาติ ในดีเอ็นเอมีพันธุกรรมสุนัขแทรกอยู่เลยเลือกกินอาจม ไม่กินผัดไทย . เรื่องที่ผมเขียนให้อ่านนี่มันยาก ผมเข้าใจนะ แต่หากคนเราในทุกวันนี้เข้าใจในข้อนี้ตรงกัน บางทีความขัดแย้งในโลกอาจลดลงจนหมดไปได้ และเราอาจก้าวไปสู่สังคมอุดมคติแบบที่เราไฝ่ฝันถึง "We're All Connected" . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (2568) - . https://youtu.be/RdW1HNA5uSc?si=3E1WAUxHdLhSdVsw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 535 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tesla Cybertruck ยอดขายร่วงหนัก พร้อมรับเทรดอินด้วยราคาตกต่ำ

    Tesla กำลังเผชิญกับปัญหายอดขายที่ลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ Cybertruck ซึ่งมีอัตราการเสื่อมราคาสูงถึง 34% ภายในปีแรก ส่งผลให้ บริษัทเริ่มรับเทรดอิน แต่ให้ราคาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับยอดขาย Cybertruck
    ✅ Tesla มียอดขายลดลงอย่างมากในไตรมาสแรกของปี 2025
    - ยอดขายในยุโรปลดลง 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
    - ในเยอรมนี ยอดขายลดลงถึง 70%
    - ในจีน ลดลง 49% และเป็นตัวเลขต่ำสุดตั้งแต่ปี 2022

    ✅ Cybertruck มีสต็อกค้างขายมากกว่า 10,000 คัน มูลค่ารวมกว่า 808 ล้านดอลลาร์
    - บ่งชี้ถึง ความต้องการที่ลดลงอย่างมาก

    ✅ Ford F-150 Lightning แซงหน้า Cybertruck เป็นรถกระบะไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในไตรมาสแรกของปี 2025
    - แสดงให้เห็นว่า Tesla กำลังสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มรถกระบะไฟฟ้า

    ✅ Tesla เริ่มรับเทรดอิน Cybertruck แต่ให้ราคาต่ำมาก
    - เจ้าของรถรายหนึ่งได้รับข้อเสนอ $65,400 สำหรับรุ่นปี 2024 ที่วิ่งไปแล้ว 6,211 ไมล์
    - เท่ากับ อัตราการเสื่อมราคาถึง 34% ภายในปีเดียว

    ✅ ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขาย Tesla ได้แก่ การเมืองของ Elon Musk
    - Musk มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดี Donald Trump
    - การดำเนินนโยบายของ Musk ทำให้เกิดกระแสต่อต้าน Tesla ในหลายประเทศ

    https://www.techspot.com/news/108032-tesla-sales-plummet-company-begins-accepting-cybertruck-trade.html
    Tesla Cybertruck ยอดขายร่วงหนัก พร้อมรับเทรดอินด้วยราคาตกต่ำ Tesla กำลังเผชิญกับปัญหายอดขายที่ลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ Cybertruck ซึ่งมีอัตราการเสื่อมราคาสูงถึง 34% ภายในปีแรก ส่งผลให้ บริษัทเริ่มรับเทรดอิน แต่ให้ราคาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับยอดขาย Cybertruck ✅ Tesla มียอดขายลดลงอย่างมากในไตรมาสแรกของปี 2025 - ยอดขายในยุโรปลดลง 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว - ในเยอรมนี ยอดขายลดลงถึง 70% - ในจีน ลดลง 49% และเป็นตัวเลขต่ำสุดตั้งแต่ปี 2022 ✅ Cybertruck มีสต็อกค้างขายมากกว่า 10,000 คัน มูลค่ารวมกว่า 808 ล้านดอลลาร์ - บ่งชี้ถึง ความต้องการที่ลดลงอย่างมาก ✅ Ford F-150 Lightning แซงหน้า Cybertruck เป็นรถกระบะไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในไตรมาสแรกของปี 2025 - แสดงให้เห็นว่า Tesla กำลังสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มรถกระบะไฟฟ้า ✅ Tesla เริ่มรับเทรดอิน Cybertruck แต่ให้ราคาต่ำมาก - เจ้าของรถรายหนึ่งได้รับข้อเสนอ $65,400 สำหรับรุ่นปี 2024 ที่วิ่งไปแล้ว 6,211 ไมล์ - เท่ากับ อัตราการเสื่อมราคาถึง 34% ภายในปีเดียว ✅ ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขาย Tesla ได้แก่ การเมืองของ Elon Musk - Musk มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดี Donald Trump - การดำเนินนโยบายของ Musk ทำให้เกิดกระแสต่อต้าน Tesla ในหลายประเทศ https://www.techspot.com/news/108032-tesla-sales-plummet-company-begins-accepting-cybertruck-trade.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Tesla Cybertruck sales collapse, company accepts trade-ins with extreme depreciation
    Multiple signs from the last two quarters indicate that sales of Tesla vehicles are declining more sharply than ever. The company is struggling to sell the Cybertruck...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าของ Tesla ติดตั้งระบบเปิดประตูฉุกเฉิน DIY หลังพบปัญหาประตูไฟฟ้า

    Tesla ออกแบบรถยนต์ให้ใช้ระบบเปิดประตูไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ซึ่งมี กลไกเปิดฉุกเฉินในกรณีที่รถสูญเสียพลังงาน อย่างไรก็ตาม เจ้าของรถหลายรายพบว่าระบบฉุกเฉินนี้เข้าถึงได้ยาก ทำให้เกิดตลาดสำหรับ อุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้เปิดประตูได้ง่ายขึ้น

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับปัญหาประตูไฟฟ้าของ Tesla
    ✅ Tesla ใช้ระบบเปิดประตูไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์และลดน้ำหนักรถ
    - ช่วยให้ รถมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและลดการใช้พลังงาน

    ✅ มีระบบเปิดฉุกเฉิน แต่ตำแหน่งของกลไกนี้ถูกซ่อนไว้ ทำให้ผู้ใช้บางคนไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
    - ตัวอย่างเช่น Model Y มีกลไกเปิดฉุกเฉินอยู่ใต้แถบที่ไม่มีเครื่องหมายใกล้สวิตช์หน้าต่าง

    ✅ เจ้าของรถบางรายติดตั้งสายดึง (rip cords) เพื่อให้สามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ง่ายขึ้น
    - บางคน ใช้แท็บที่มีเครื่องหมายชัดเจนเพื่อให้มองเห็นได้ง่าย

    ✅ บริษัท EV Dynamics ผลิตสายดึงฉุกเฉินที่มี Velcro และตัวล็อกแบบ snap-on ในราคา $22
    - แสดงให้เห็นว่า มีความต้องการอุปกรณ์เสริมนี้ในตลาด

    ✅ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น เช่น Audi, Ford และ Fisker มีระบบเปิดฉุกเฉินที่ใช้งานง่ายกว่า
    - สามารถ เปิดประตูได้โดยการดึงมือจับแรง ๆ หรือดึงสองครั้ง

    https://www.techspot.com/news/107995-tesla-owners-install-diy-rip-cords-avoid-trapped.html
    เจ้าของ Tesla ติดตั้งระบบเปิดประตูฉุกเฉิน DIY หลังพบปัญหาประตูไฟฟ้า Tesla ออกแบบรถยนต์ให้ใช้ระบบเปิดประตูไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ซึ่งมี กลไกเปิดฉุกเฉินในกรณีที่รถสูญเสียพลังงาน อย่างไรก็ตาม เจ้าของรถหลายรายพบว่าระบบฉุกเฉินนี้เข้าถึงได้ยาก ทำให้เกิดตลาดสำหรับ อุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้เปิดประตูได้ง่ายขึ้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับปัญหาประตูไฟฟ้าของ Tesla ✅ Tesla ใช้ระบบเปิดประตูไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์และลดน้ำหนักรถ - ช่วยให้ รถมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและลดการใช้พลังงาน ✅ มีระบบเปิดฉุกเฉิน แต่ตำแหน่งของกลไกนี้ถูกซ่อนไว้ ทำให้ผู้ใช้บางคนไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย - ตัวอย่างเช่น Model Y มีกลไกเปิดฉุกเฉินอยู่ใต้แถบที่ไม่มีเครื่องหมายใกล้สวิตช์หน้าต่าง ✅ เจ้าของรถบางรายติดตั้งสายดึง (rip cords) เพื่อให้สามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ง่ายขึ้น - บางคน ใช้แท็บที่มีเครื่องหมายชัดเจนเพื่อให้มองเห็นได้ง่าย ✅ บริษัท EV Dynamics ผลิตสายดึงฉุกเฉินที่มี Velcro และตัวล็อกแบบ snap-on ในราคา $22 - แสดงให้เห็นว่า มีความต้องการอุปกรณ์เสริมนี้ในตลาด ✅ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น เช่น Audi, Ford และ Fisker มีระบบเปิดฉุกเฉินที่ใช้งานง่ายกว่า - สามารถ เปิดประตูได้โดยการดึงมือจับแรง ๆ หรือดึงสองครั้ง https://www.techspot.com/news/107995-tesla-owners-install-diy-rip-cords-avoid-trapped.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Tesla owners install DIY rip cords to avoid being trapped behind all-electric doors
    Numerous deadly incidents have occurred in which Tesla drivers and passengers were trapped inside their vehicles following a crash or fire. In many cases, survivors were rescued...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • Chuwi เปิดตัว GameBook 9955HX: แล็ปท็อปเกมมิ่ง Ryzen 9 พร้อม RTX 5070 Ti

    Chuwi เปิดตัว GameBook 9955HX ซึ่งเป็นแล็ปท็อปเกมมิ่งที่ใช้ AMD Ryzen 9 9955HX และการ์ดจอ RTX 5070 Ti โดยมีจุดเด่นที่ หน้าจอ 300Hz, หน่วยความจำ GDDR7 และราคาที่คาดว่าจะต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง MSI และ Asus

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Chuwi GameBook 9955HX
    ✅ ใช้ AMD Ryzen 9 9955HX พร้อม 16 คอร์ 32 เธรด และความเร็วสูงสุด 5.4GHz
    - มี แคช L3 ขนาด 64MB และ TDP สูงสุด 55W

    ✅ การ์ดจอ RTX 5070 Ti พร้อม VRAM 12GB GDDR7 และ TGP 140W
    - รองรับ Ray Tracing, DLSS 4 และ Multi Frame Generation

    ✅ หน้าจอ IPS 2.5K ขนาด 16 นิ้ว พร้อมรีเฟรชเรต 300Hz และความสว่างสูงสุด 500 nits
    - รองรับ 100% sRGB และอัตราส่วน 16:10

    ✅ RAM 32GB DDR5 5600MHz (อัปเกรดได้ถึง 64GB) และ SSD PCIe 4.0 ขนาด 1TB
    - มี ช่อง M.2 เพิ่มเติม รองรับ PCIe 5.0

    ✅ พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน รวมถึง Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2, USB-C 100W และ 140W
    - มี HDMI 2.1, Mini DisplayPort 2.1a และพอร์ต Ethernet 2.5Gb

    https://www.techradar.com/pro/acer-partner-unveils-ryzen-9-laptop-with-a-5070-ti-gpu-that-will-get-creators-excited-but-i-just-hope-it-is-affordable
    Chuwi เปิดตัว GameBook 9955HX: แล็ปท็อปเกมมิ่ง Ryzen 9 พร้อม RTX 5070 Ti Chuwi เปิดตัว GameBook 9955HX ซึ่งเป็นแล็ปท็อปเกมมิ่งที่ใช้ AMD Ryzen 9 9955HX และการ์ดจอ RTX 5070 Ti โดยมีจุดเด่นที่ หน้าจอ 300Hz, หน่วยความจำ GDDR7 และราคาที่คาดว่าจะต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง MSI และ Asus 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Chuwi GameBook 9955HX ✅ ใช้ AMD Ryzen 9 9955HX พร้อม 16 คอร์ 32 เธรด และความเร็วสูงสุด 5.4GHz - มี แคช L3 ขนาด 64MB และ TDP สูงสุด 55W ✅ การ์ดจอ RTX 5070 Ti พร้อม VRAM 12GB GDDR7 และ TGP 140W - รองรับ Ray Tracing, DLSS 4 และ Multi Frame Generation ✅ หน้าจอ IPS 2.5K ขนาด 16 นิ้ว พร้อมรีเฟรชเรต 300Hz และความสว่างสูงสุด 500 nits - รองรับ 100% sRGB และอัตราส่วน 16:10 ✅ RAM 32GB DDR5 5600MHz (อัปเกรดได้ถึง 64GB) และ SSD PCIe 4.0 ขนาด 1TB - มี ช่อง M.2 เพิ่มเติม รองรับ PCIe 5.0 ✅ พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน รวมถึง Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.2, USB-C 100W และ 140W - มี HDMI 2.1, Mini DisplayPort 2.1a และพอร์ต Ethernet 2.5Gb https://www.techradar.com/pro/acer-partner-unveils-ryzen-9-laptop-with-a-5070-ti-gpu-that-will-get-creators-excited-but-i-just-hope-it-is-affordable
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • GM เปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ใหม่: เพิ่มระยะทางและลดต้นทุนการผลิตภายในปี 2028

    General Motors (GM) และ LG Energy Solution กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ลิเธียมแมงกานีส (LMR) รุ่นใหม่ ซึ่งมีศักยภาพในการ เพิ่มระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้าและลดต้นทุนการผลิต โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028

    ✅ GM และ LG Energy Solution พัฒนาแบตเตอรี่ LMR เพื่อใช้ในรถบรรทุกไฟฟ้าและ SUV
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ GM แข่งขันกับ Tesla และ Ford ในตลาด EV ระดับพรีเมียม

    ✅ แบตเตอรี่ LMR มีความหนาแน่นพลังงานสูงกว่าลิเธียมไอออนฟอสเฟตถึง 33%
    - ลดการใช้โคบอลต์ ซึ่งมีราคาสูงและไม่ยั่งยืน

    ✅ GM วางแผนเริ่มผลิตแบตเตอรี่ LMR ในสหรัฐฯ ปี 2027 และผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028
    - ใช้แบรนด์ Ultium Cells และทดสอบที่ศูนย์พัฒนาแบตเตอรี่ในมิชิแกน

    ✅ แบตเตอรี่ LMR ใช้ดีไซน์แบบปริซึมแทนแบบซอง
    - ช่วยให้ บรรจุพลังงานได้มากขึ้นและลดต้นทุนการผลิต

    ✅ GM ตั้งเป้าให้รถบรรทุกไฟฟ้า เช่น Chevrolet Silverado EV มีระยะทางเกิน 400 ไมล์
    - เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Ford และ Tesla

    ‼️ แบตเตอรี่ LMR เคยมีปัญหาด้านความเสถียร เช่น การเสื่อมสภาพของแรงดันไฟฟ้า
    - GM ใช้เวลากว่า 10 ปีในการแก้ไขปัญหานี้

    ‼️ Ford วางแผนเปิดตัวแบตเตอรี่ LMR ในปี 2030 ซึ่งอาจทำให้ GM ได้เปรียบในตลาด
    - ต้องติดตามว่า Ford จะเร่งการพัฒนาเพื่อแข่งขันหรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107911-new-gm-ev-battery-tech-promises-extended-range.html
    GM เปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ใหม่: เพิ่มระยะทางและลดต้นทุนการผลิตภายในปี 2028 General Motors (GM) และ LG Energy Solution กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ลิเธียมแมงกานีส (LMR) รุ่นใหม่ ซึ่งมีศักยภาพในการ เพิ่มระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้าและลดต้นทุนการผลิต โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028 ✅ GM และ LG Energy Solution พัฒนาแบตเตอรี่ LMR เพื่อใช้ในรถบรรทุกไฟฟ้าและ SUV - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ GM แข่งขันกับ Tesla และ Ford ในตลาด EV ระดับพรีเมียม ✅ แบตเตอรี่ LMR มีความหนาแน่นพลังงานสูงกว่าลิเธียมไอออนฟอสเฟตถึง 33% - ลดการใช้โคบอลต์ ซึ่งมีราคาสูงและไม่ยั่งยืน ✅ GM วางแผนเริ่มผลิตแบตเตอรี่ LMR ในสหรัฐฯ ปี 2027 และผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2028 - ใช้แบรนด์ Ultium Cells และทดสอบที่ศูนย์พัฒนาแบตเตอรี่ในมิชิแกน ✅ แบตเตอรี่ LMR ใช้ดีไซน์แบบปริซึมแทนแบบซอง - ช่วยให้ บรรจุพลังงานได้มากขึ้นและลดต้นทุนการผลิต ✅ GM ตั้งเป้าให้รถบรรทุกไฟฟ้า เช่น Chevrolet Silverado EV มีระยะทางเกิน 400 ไมล์ - เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Ford และ Tesla ‼️ แบตเตอรี่ LMR เคยมีปัญหาด้านความเสถียร เช่น การเสื่อมสภาพของแรงดันไฟฟ้า - GM ใช้เวลากว่า 10 ปีในการแก้ไขปัญหานี้ ‼️ Ford วางแผนเปิดตัวแบตเตอรี่ LMR ในปี 2030 ซึ่งอาจทำให้ GM ได้เปรียบในตลาด - ต้องติดตามว่า Ford จะเร่งการพัฒนาเพื่อแข่งขันหรือไม่ https://www.techspot.com/news/107911-new-gm-ev-battery-tech-promises-extended-range.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New GM EV battery tech promises extended range and lower production costs by 2028
    General Motors and LG Energy Solution are poised to launch a new era for electric vehicles with the commercial release of lithium manganese-rich (LMR) prismatic battery cells....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เตรียมยุติฟีเจอร์ Organization Data Types ใน Excel เนื่องจากต้นทุนสูง

    Microsoft ได้ประกาศว่า ฟีเจอร์ Organization Data Types ใน Excel จะถูกยกเลิกในวันที่ 31 กรกฎาคม 2025 เนื่องจากมี ต้นทุนการพัฒนาสูงและมีผู้ใช้งานน้อย โดยแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ ฟีเจอร์ Get Data > From Power BI แทน

    ✅ Microsoft จะยุติฟีเจอร์ Organization Data Types ใน Excel ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2025
    - ฟีเจอร์นี้มี ต้นทุนการพัฒนาสูงและมีผู้ใช้งานน้อย

    ✅ Microsoft แนะนำให้ใช้ฟีเจอร์ Get Data > From Power BI แทน
    - สามารถ นำเข้าข้อมูลจาก Power BI เพื่อสร้าง Entity ที่กำหนดเอง

    ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับ Excel บน Windows, Mac, Web และ iOS/Android
    - หลังจากวันที่ 31 กรกฎาคม 2025 ผู้ใช้จะไม่สามารถแปลงค่าข้อมูลเป็น Organization Data Types ได้อีกต่อไป

    ✅ ข้อมูลที่ใช้ Organization Data Types ในไฟล์ Excel จะยังคงอยู่ แต่จะไม่สามารถรีเฟรชได้
    - ไม่มีผลกระทบต่อ Bing Data Types ซึ่งยังคงได้รับการสนับสนุนต่อไป

    ✅ Microsoft ได้เผยแพร่ประกาศนี้ใน M365 Admin Center ภายใต้ ID MC1072405
    - ผู้ดูแลระบบสามารถ ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก Admin Center

    https://www.neowin.net/news/a-windows-mac-excel-feature-is-being-removed-as-its-too-expensive-for-microsoft-to-afford/
    Microsoft เตรียมยุติฟีเจอร์ Organization Data Types ใน Excel เนื่องจากต้นทุนสูง Microsoft ได้ประกาศว่า ฟีเจอร์ Organization Data Types ใน Excel จะถูกยกเลิกในวันที่ 31 กรกฎาคม 2025 เนื่องจากมี ต้นทุนการพัฒนาสูงและมีผู้ใช้งานน้อย โดยแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ ฟีเจอร์ Get Data > From Power BI แทน ✅ Microsoft จะยุติฟีเจอร์ Organization Data Types ใน Excel ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2025 - ฟีเจอร์นี้มี ต้นทุนการพัฒนาสูงและมีผู้ใช้งานน้อย ✅ Microsoft แนะนำให้ใช้ฟีเจอร์ Get Data > From Power BI แทน - สามารถ นำเข้าข้อมูลจาก Power BI เพื่อสร้าง Entity ที่กำหนดเอง ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับ Excel บน Windows, Mac, Web และ iOS/Android - หลังจากวันที่ 31 กรกฎาคม 2025 ผู้ใช้จะไม่สามารถแปลงค่าข้อมูลเป็น Organization Data Types ได้อีกต่อไป ✅ ข้อมูลที่ใช้ Organization Data Types ในไฟล์ Excel จะยังคงอยู่ แต่จะไม่สามารถรีเฟรชได้ - ไม่มีผลกระทบต่อ Bing Data Types ซึ่งยังคงได้รับการสนับสนุนต่อไป ✅ Microsoft ได้เผยแพร่ประกาศนี้ใน M365 Admin Center ภายใต้ ID MC1072405 - ผู้ดูแลระบบสามารถ ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก Admin Center https://www.neowin.net/news/a-windows-mac-excel-feature-is-being-removed-as-its-too-expensive-for-microsoft-to-afford/
    WWW.NEOWIN.NET
    A Windows, Mac Excel feature is being removed as it's too expensive for Microsoft to afford
    Microsoft is killing a feature inside Excel for Windows, Mac, Android and more, citing that it's too expensive to afford development.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรณีมายาเกวซ (Mayaguez incident) เป็นปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ที่รวดเร็ว เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 12-15 พฤษภาคม พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) ในเกาะตาง (កោះតាង,Koh Tang) ใกล้กับเมืองพระสีหนุ/กำปงโสม (ក្រុងព្រះសីហនុ,កំពង់សោម;Sihanoukville) จังหวัดพระสีหนุ (ព្រះសីហនុ) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกัมพูชา

    เวลาประมาณ 15.20 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) เรือบรรทุกสินค้าซึ่งใช้บรรทุกเวชภัณฑ์และเสบียงสัญชาติอเมริกาชื่อ เอสเอส มายาเกวซ (SS Mayaguez) ซึ่งแล่นระหว่างฮ่องกงกับประเทศไทย ขณะที่แล่นอยู่ห่างจากชายฝั่งของประเทศกัมพูชา 60 ไมล์ ซึ่งถือเป็นเขตน่านน้ำสากล ได้ถูกเรือปืนจำนวนหลายลำของเขมรแดง (ខ្មែរក្រហម,Khmer Rouge) เข้าล้อมและบุกยึด จับตัวประกันซึ่งเป็นกัปตันและลูกเรือไว้ได้ทั้งหมด 39 คน จากนั้นได้ลากไปจอดลอยลำทิ้งสมอไว้ที่เกาะตาง (កោះតាង,Koh Tang) ใกล้กับเมืองกำปงโสม (เมืองพระสีหนุในปัจจุบัน)

    รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำโดยน.ท.เจอรัลด์ ฟอร์ด (Gerald Rudolph Ford Jr.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 38 (9 สิงหาคม พ.ศ.2517-20 มกราคม พ.ศ.2520) ได้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วนส่งกองกำลังทหารซึ่งส่วนมากเป็นนาวิกโยธินสหรัฐฯ ประมาณ 1,000 นาย (ประกอบด้วยกองพันที่ 1,กรมนาวิกโยธินที่ 4,กองพันที่ 2,กรมนาวิกโยธินที่ 9,กองบินปฏิบัติการพิเศษที่ 21,ฝูงบินกู้ภัยและฟื้นฟูการบินและอากาศที่ 40,ฝูงบินสนับสนุนทางอากาศทางยุทธวิธีที่ 23,กองบินรบทางยุทธวิธีที่ 3,เรือยูเอสเอส เฮนรี่ บี. วิลสัน,เรือยูเอสเอส แฮโรลด์ อี. โฮลต์,เรือยูเอสเอส คอรัลซี ฝูงบินบรรทุกเรือเครื่องบินที่ 15) จากเกาะโอกินาว่าและอ่าวซูบิก เข้าประจำการที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา (U-Tapao Rayong-Pattaya International Airport) ในพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานในการปฏิบัติการบุกยึดเรือและตัวประกันคืน ในวันที่ 13 พฤษภาคม โดยปฏิบัติการเริ่มขึ้นในเช้ามืดของวันที่ 14 พฤษภาคม โดยมีเครื่องบินรบจากฐานทัพสหรัฐฯที่จังหวัดอุดรธานีและนครราชสีมา (โคราช) ออกปฏิบัติการร่วมด้วย และประสบความสำเร็จในเวลาประมาณ 11.00 น. โดยสามารถจมเรือปืนของเขมรแดงลงได้ 3 ลำ มีความสูญเสียด้วยกันของทั้งสองฝ่าย แต่สามารถช่วยเหลือตัวประกัน รวมถึงลูกเรือประมงของไทยจำนวน 5 คนออกมาได้

    ทว่าปฏิบัติการดังกล่าว ทางการสหรัฐใช้ฐานบินอู่ตะเภาทั้งที่รัฐบาลไทยขณะนั้นไม่อนุญาตอย่างชัดแจ้ง ในวันที่ 17 พฤษภาคม ได้มีกลุ่มนักศึกษาและประชาชน 30,000 คน นำโดยธีรยุทธ บุญมี ประท้วงที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย (Embassy of the United States, Bangkok) ฝ่ายรัฐบาลไทยเรียกว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และให้สหรัฐถอนทหารออกจากอู่ตะเภาในทันที

    ในที่สุดเหตุการณ์จบลงในวันที่ 19 พฤษภาคม หลังจากการชุมนุมยืดเยื้อนานถึง 3 วัน เมื่ออุปทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยได้ส่งสาสน์แสดงความเสียใจต่อการกระทำดังกล่าว สุดท้ายสหรัฐฯถอนกำลังทหารออกจากประเทศไทยหมดสิ้นในปี 2519 (1976)
    กรณีมายาเกวซ (Mayaguez incident) เป็นปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ที่รวดเร็ว เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 12-15 พฤษภาคม พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) ในเกาะตาง (កោះតាង,Koh Tang) ใกล้กับเมืองพระสีหนุ/กำปงโสม (ក្រុងព្រះសីហនុ,កំពង់សោម;Sihanoukville) จังหวัดพระสีหนุ (ព្រះសីហនុ) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกัมพูชา เวลาประมาณ 15.20 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) เรือบรรทุกสินค้าซึ่งใช้บรรทุกเวชภัณฑ์และเสบียงสัญชาติอเมริกาชื่อ เอสเอส มายาเกวซ (SS Mayaguez) ซึ่งแล่นระหว่างฮ่องกงกับประเทศไทย ขณะที่แล่นอยู่ห่างจากชายฝั่งของประเทศกัมพูชา 60 ไมล์ ซึ่งถือเป็นเขตน่านน้ำสากล ได้ถูกเรือปืนจำนวนหลายลำของเขมรแดง (ខ្មែរក្រហម,Khmer Rouge) เข้าล้อมและบุกยึด จับตัวประกันซึ่งเป็นกัปตันและลูกเรือไว้ได้ทั้งหมด 39 คน จากนั้นได้ลากไปจอดลอยลำทิ้งสมอไว้ที่เกาะตาง (កោះតាង,Koh Tang) ใกล้กับเมืองกำปงโสม (เมืองพระสีหนุในปัจจุบัน) รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำโดยน.ท.เจอรัลด์ ฟอร์ด (Gerald Rudolph Ford Jr.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 38 (9 สิงหาคม พ.ศ.2517-20 มกราคม พ.ศ.2520) ได้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วนส่งกองกำลังทหารซึ่งส่วนมากเป็นนาวิกโยธินสหรัฐฯ ประมาณ 1,000 นาย (ประกอบด้วยกองพันที่ 1,กรมนาวิกโยธินที่ 4,กองพันที่ 2,กรมนาวิกโยธินที่ 9,กองบินปฏิบัติการพิเศษที่ 21,ฝูงบินกู้ภัยและฟื้นฟูการบินและอากาศที่ 40,ฝูงบินสนับสนุนทางอากาศทางยุทธวิธีที่ 23,กองบินรบทางยุทธวิธีที่ 3,เรือยูเอสเอส เฮนรี่ บี. วิลสัน,เรือยูเอสเอส แฮโรลด์ อี. โฮลต์,เรือยูเอสเอส คอรัลซี ฝูงบินบรรทุกเรือเครื่องบินที่ 15) จากเกาะโอกินาว่าและอ่าวซูบิก เข้าประจำการที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา (U-Tapao Rayong-Pattaya International Airport) ในพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานในการปฏิบัติการบุกยึดเรือและตัวประกันคืน ในวันที่ 13 พฤษภาคม โดยปฏิบัติการเริ่มขึ้นในเช้ามืดของวันที่ 14 พฤษภาคม โดยมีเครื่องบินรบจากฐานทัพสหรัฐฯที่จังหวัดอุดรธานีและนครราชสีมา (โคราช) ออกปฏิบัติการร่วมด้วย และประสบความสำเร็จในเวลาประมาณ 11.00 น. โดยสามารถจมเรือปืนของเขมรแดงลงได้ 3 ลำ มีความสูญเสียด้วยกันของทั้งสองฝ่าย แต่สามารถช่วยเหลือตัวประกัน รวมถึงลูกเรือประมงของไทยจำนวน 5 คนออกมาได้ ทว่าปฏิบัติการดังกล่าว ทางการสหรัฐใช้ฐานบินอู่ตะเภาทั้งที่รัฐบาลไทยขณะนั้นไม่อนุญาตอย่างชัดแจ้ง ในวันที่ 17 พฤษภาคม ได้มีกลุ่มนักศึกษาและประชาชน 30,000 คน นำโดยธีรยุทธ บุญมี ประท้วงที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย (Embassy of the United States, Bangkok) ฝ่ายรัฐบาลไทยเรียกว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และให้สหรัฐถอนทหารออกจากอู่ตะเภาในทันที ในที่สุดเหตุการณ์จบลงในวันที่ 19 พฤษภาคม หลังจากการชุมนุมยืดเยื้อนานถึง 3 วัน เมื่ออุปทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยได้ส่งสาสน์แสดงความเสียใจต่อการกระทำดังกล่าว สุดท้ายสหรัฐฯถอนกำลังทหารออกจากประเทศไทยหมดสิ้นในปี 2519 (1976)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 494 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย

    เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง

    ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต

    ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก

    The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต

    1. การวิเคราะห์สถานการณ์
    บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้:

    สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ

    ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม.
    ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล

    ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต.

    อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ

    กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง:

    กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ.

    กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย.

    กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน.

    กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล.

    แนวโน้มในอนาคต:
    การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา.

    ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่.

    ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว.

    ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ.

    ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว

    รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม

    ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia.

    การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook

    การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง

    แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024.
    ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์

    ท่าทีของไทย
    ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ:

    การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC.

    ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center

    การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction.

    มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News.

    นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น.

    การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera.

    ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network.

    ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure.

    ข้อสรุป
    สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ


    การอ้างอิง:
    Laotian Civil War - Wikipedia
    Insurgency in Laos - Wikipedia
    Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations
    Assessment for Hmong in Laos | Refworld
    Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica
    From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters
    Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR
    Laos country profile - BBC News
    Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations
    Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post
    Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic
    Laos | AP News






    ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต 1. การวิเคราะห์สถานการณ์ บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้: สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม. ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต. อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง: กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ. กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย. กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน. กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล. แนวโน้มในอนาคต: การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา. ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่. ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว. ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia. การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024. ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์ ท่าทีของไทย ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ: การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC. ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction. มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News. นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น. การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network. ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure. ข้อสรุป สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ การอ้างอิง: Laotian Civil War - Wikipedia Insurgency in Laos - Wikipedia Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations Assessment for Hmong in Laos | Refworld Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR Laos country profile - BBC News Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic Laos | AP News
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 981 มุมมอง 0 รีวิว
  • Neuralink ได้สร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในเทคโนโลยี Brain-Computer Interface (BCI) โดยผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตสามารถ ตัดต่อวิดีโอ YouTube และบรรยายด้วยเสียงของตัวเองผ่าน AI

    Bradford Smith ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่สามที่ได้รับการปลูกถ่าย BCI สามารถ ควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิดของเขาเอง โดยใช้ Neuralink ที่เชื่อมต่อกับ MacBook Pro ผ่าน Bluetooth

    ✅ ผู้ป่วยอัมพาตสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิด
    - Bradford Smith ใช้ Neuralink BCI เพื่อ ตัดต่อวิดีโอ YouTube
    - ใช้ AI เพื่อ สร้างเสียงบรรยายจากคลิปเสียงเก่าของเขา

    ✅ เทคโนโลยีของ Neuralink
    - อุปกรณ์มีขนาดเท่ากับ เหรียญห้าเหรียญซ้อนกัน
    - ใช้ เส้นใยอิเล็กโทรดขนาดเล็ก ที่ฝังในสมอง

    ✅ การเชื่อมต่อและการใช้งาน
    - เชื่อมต่อกับ MacBook Pro ผ่าน Bluetooth
    - ใช้ การเคลื่อนไหวของลิ้น เพื่อควบคุมเคอร์เซอร์

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ป่วยอัมพาต
    - ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถ ใช้คอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริม
    - อาจช่วยให้ ผู้ป่วย ALS และอัมพาตมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/brain-interface-used-to-edit-youtube-video-paralyzed-neuralink-patient-also-uses-ai-to-narrate-with-his-own-voice
    Neuralink ได้สร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในเทคโนโลยี Brain-Computer Interface (BCI) โดยผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตสามารถ ตัดต่อวิดีโอ YouTube และบรรยายด้วยเสียงของตัวเองผ่าน AI Bradford Smith ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่สามที่ได้รับการปลูกถ่าย BCI สามารถ ควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิดของเขาเอง โดยใช้ Neuralink ที่เชื่อมต่อกับ MacBook Pro ผ่าน Bluetooth ✅ ผู้ป่วยอัมพาตสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิด - Bradford Smith ใช้ Neuralink BCI เพื่อ ตัดต่อวิดีโอ YouTube - ใช้ AI เพื่อ สร้างเสียงบรรยายจากคลิปเสียงเก่าของเขา ✅ เทคโนโลยีของ Neuralink - อุปกรณ์มีขนาดเท่ากับ เหรียญห้าเหรียญซ้อนกัน - ใช้ เส้นใยอิเล็กโทรดขนาดเล็ก ที่ฝังในสมอง ✅ การเชื่อมต่อและการใช้งาน - เชื่อมต่อกับ MacBook Pro ผ่าน Bluetooth - ใช้ การเคลื่อนไหวของลิ้น เพื่อควบคุมเคอร์เซอร์ ✅ ผลกระทบต่อผู้ป่วยอัมพาต - ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถ ใช้คอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริม - อาจช่วยให้ ผู้ป่วย ALS และอัมพาตมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/brain-interface-used-to-edit-youtube-video-paralyzed-neuralink-patient-also-uses-ai-to-narrate-with-his-own-voice
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึง AI Chatbots และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการพึ่งพา AI มากเกินไป โดยนักวิจัยจาก Oxford Internet Institute และ Google DeepMind เตือนว่า AI assistants อาจกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของผู้คน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมทางสังคม

    นอกจากนี้ ยังมีตัวอย่างของแอป Botify AI ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักเนื่องจากมี อวตารของนักแสดงหนุ่มสาวที่แชร์ภาพ "ร้อนแรง" ในแชทที่มีเนื้อหาเชิงชู้สาว รวมถึงแอป Grindr ที่กำลังพัฒนา AI partners ที่สามารถจีบ, ส่งข้อความเชิงชู้สาว และสร้างความสัมพันธ์ดิจิทัลกับผู้ใช้ที่จ่ายเงิน

    ✅ AI assistants อาจกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของผู้คน
    - นักวิจัยเตือนว่า AI อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมทางสังคม
    - AI ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์อาจทำให้ผู้ใช้ รู้สึกผูกพันมากเกินไป

    ✅ ตัวอย่างของ AI ที่มีเนื้อหาเชิงชู้สาว
    - Botify AI ถูกวิจารณ์เนื่องจากมี อวตารของนักแสดงที่แชร์ภาพ "ร้อนแรง"
    - Grindr กำลังพัฒนา AI partners ที่สามารถจีบและสร้างความสัมพันธ์ดิจิทัล

    ✅ ความท้าทายในการกำกับดูแล AI
    - ปัจจุบัน AI ที่สร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ ยังไม่มีข้อบังคับที่ชัดเจน
    - นักวิจัยเรียกร้องให้มี มาตรการกำกับดูแลเพื่อป้องกันผลกระทบทางจิตใจ

    ✅ แนวโน้มของการพัฒนา AI ในอนาคต
    - AI อาจถูกนำมาใช้ใน การให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาและการสนับสนุนทางอารมณ์
    - นักพัฒนาอาจต้อง ออกแบบ AI ให้มีความสมดุลระหว่างความเป็นมิตรและความเป็นกลาง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/03/opinion-ai-chatbots-want-you-hooked---maybe-too-hooked
    บทความนี้กล่าวถึง AI Chatbots และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการพึ่งพา AI มากเกินไป โดยนักวิจัยจาก Oxford Internet Institute และ Google DeepMind เตือนว่า AI assistants อาจกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของผู้คน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมทางสังคม นอกจากนี้ ยังมีตัวอย่างของแอป Botify AI ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักเนื่องจากมี อวตารของนักแสดงหนุ่มสาวที่แชร์ภาพ "ร้อนแรง" ในแชทที่มีเนื้อหาเชิงชู้สาว รวมถึงแอป Grindr ที่กำลังพัฒนา AI partners ที่สามารถจีบ, ส่งข้อความเชิงชู้สาว และสร้างความสัมพันธ์ดิจิทัลกับผู้ใช้ที่จ่ายเงิน ✅ AI assistants อาจกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของผู้คน - นักวิจัยเตือนว่า AI อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมทางสังคม - AI ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์อาจทำให้ผู้ใช้ รู้สึกผูกพันมากเกินไป ✅ ตัวอย่างของ AI ที่มีเนื้อหาเชิงชู้สาว - Botify AI ถูกวิจารณ์เนื่องจากมี อวตารของนักแสดงที่แชร์ภาพ "ร้อนแรง" - Grindr กำลังพัฒนา AI partners ที่สามารถจีบและสร้างความสัมพันธ์ดิจิทัล ✅ ความท้าทายในการกำกับดูแล AI - ปัจจุบัน AI ที่สร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ ยังไม่มีข้อบังคับที่ชัดเจน - นักวิจัยเรียกร้องให้มี มาตรการกำกับดูแลเพื่อป้องกันผลกระทบทางจิตใจ ✅ แนวโน้มของการพัฒนา AI ในอนาคต - AI อาจถูกนำมาใช้ใน การให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาและการสนับสนุนทางอารมณ์ - นักพัฒนาอาจต้อง ออกแบบ AI ให้มีความสมดุลระหว่างความเป็นมิตรและความเป็นกลาง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/03/opinion-ai-chatbots-want-you-hooked---maybe-too-hooked
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: AI chatbots want you hooked – maybe too hooked
    One 2022 study found that people who were lonely or had poor relationships tended to have the strongest AI attachments.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตลาดรถกระบะไฟฟ้ากำลังกลายเป็น สมรภูมิใหม่ของอุตสาหกรรม EV โดยล่าสุด Isuzu ได้ประกาศเปิดตัว D-Max EV ในปี 2026 ซึ่งจะมีสมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล

    ก่อนหน้านี้ Slate Auto ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ก็ได้ประกาศแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า ทำให้การแข่งขันในตลาดนี้เริ่มเข้มข้นขึ้น

    แม้ว่าผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Ford และ Chevrolet จะมียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า แต่การมาถึงของ D-Max EV และรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดจากจีน อาจทำให้ตลาดนี้กลายเป็น จุดแข่งขันสำคัญของอุตสาหกรรม EV

    ✅ การเปิดตัว D-Max EV ของ Isuzu
    - เปิดตัวในปี 2026
    - สมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล
    - รองรับน้ำหนักบรรทุก 1,000 กิโลกรัม และลากจูง 3,500 กิโลกรัม

    ✅ การแข่งขันในตลาดรถกระบะไฟฟ้า
    - Slate Auto เตรียมผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า
    - Ford และ Chevrolet มียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า

    ✅ เทคโนโลยีของ D-Max EV
    - ใช้แบตเตอรี่ 66.9kWh ติดตั้งใต้พื้นรถ
    - มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร พร้อมมอเตอร์ที่เพลาหน้าและหลัง

    ✅ แนวโน้มของตลาดรถกระบะไฟฟ้า
    - คาดว่าตลาดรถบรรทุกไฟฟ้าทั่วโลกจะมีมูลค่า 78 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2033

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/first-slate-auto-and-now-isuzu-why-electric-pick-up-trucks-could-be-the-next-big-ev-battleground
    ตลาดรถกระบะไฟฟ้ากำลังกลายเป็น สมรภูมิใหม่ของอุตสาหกรรม EV โดยล่าสุด Isuzu ได้ประกาศเปิดตัว D-Max EV ในปี 2026 ซึ่งจะมีสมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล ก่อนหน้านี้ Slate Auto ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ก็ได้ประกาศแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า ทำให้การแข่งขันในตลาดนี้เริ่มเข้มข้นขึ้น แม้ว่าผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Ford และ Chevrolet จะมียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า แต่การมาถึงของ D-Max EV และรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดจากจีน อาจทำให้ตลาดนี้กลายเป็น จุดแข่งขันสำคัญของอุตสาหกรรม EV ✅ การเปิดตัว D-Max EV ของ Isuzu - เปิดตัวในปี 2026 - สมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล - รองรับน้ำหนักบรรทุก 1,000 กิโลกรัม และลากจูง 3,500 กิโลกรัม ✅ การแข่งขันในตลาดรถกระบะไฟฟ้า - Slate Auto เตรียมผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า - Ford และ Chevrolet มียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า ✅ เทคโนโลยีของ D-Max EV - ใช้แบตเตอรี่ 66.9kWh ติดตั้งใต้พื้นรถ - มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร พร้อมมอเตอร์ที่เพลาหน้าและหลัง ✅ แนวโน้มของตลาดรถกระบะไฟฟ้า - คาดว่าตลาดรถบรรทุกไฟฟ้าทั่วโลกจะมีมูลค่า 78 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2033 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/first-slate-auto-and-now-isuzu-why-electric-pick-up-trucks-could-be-the-next-big-ev-battleground
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทย เกิดจากนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย. มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทยจากสถานะ “ทรงตัว” เป็น “โน้มลง” ถึงแม้ระดับเรตติ้งจะคงเดิมก็ตาม (Baa1)นักวิเคราะห์บางคนเข้าใจว่า เกิดจากปัจจัยภาษีทรัมป์ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาล โดยอาจดูจากคำบรรยาย[The already announced US tariffs are likely to weigh significantly on global trade and global economic growth, and which will affect Thailand's open economy. In addition, there remains significant uncertainty as to whether the US will implement additional tariffs on Thailand and other countries, after the 90-day pause elapse.][ภาษีทรัมป์จะกระทบเศรษฐกิจการค้าโลก และจะกระทบไทยเนื่องจากมีการส่งออกมาก รวมทั้งไม่ชัดเจนว่า เมื่อครบ 90 วัน สหรัฐจะยังเก็บภาษีตอบโต้เท่าใด]**แต่ในข้อเท็จจริง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ใช้พิจารณานั้น อยู่ที่นโยบายรัฐบาล ดังเห็นได้ว่า คำอธิบายเหตุผลเริ่มต้นว่า[The decision to change the outlook to negative from stable captures the risks that Thailand's economic and fiscal strength will weaken further.][เหตุผลที่เราลดอันดับ เนื่องจากไทยมีความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและฐานะการคลังมีแนวโน้มจะเลวลง][This shock exacerbates Thailand's already sluggish economic recovery post-pandemic, and risk aggravating the trend decline in the country's potential growth. Material downward pressures on Thailand's growth raises risks of further weakening in the government's fiscal position, which has already deteriorated since the pandemic.][เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดอย่างอืดอาด และศักยภาพการเติบโตมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งจะยิ่งทำให้ฐานะการคลังที่อ่อนแออยู่แล้วตั้งแต่โควิด จะเลวลงไปอีก]**นี่เอง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ลดอันดับอนาคตไทย ก็เนื่องจากความเป็นห่วงในฐานะการคลัง **ซึ่งรัฐบาลมีรายจ่ายเกินรายได้ > ทำให้ขาดดุลงบประมาณทุกปี > ประกอบกับรัฐบาลนี้และรัฐบาลก่อนหน้ากู้เงินมาแจกหมื่น > เพื่อกินใช้รายวัน > โดยไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน > ถึงแม้ จีดีพีเพิ่มบ้างเล็กน้อยก็เป็นแบบไฟไหม้ฟาง วูบเดียวก็หมดไป**อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ ให้คะแนน 3 ปัจจัยบวกหนึ่ง แบงค์ชาติและระบบราชการน่าเชื่อถือ[The affirmation of the Baa1 ratings reflects the country's moderately strong institutions and governance which support sound monetary and macroeconomic policies.][เรายังคงอันดับเครดิตไว้ที่ Baa1 เพราะองค์กรด้านนโยบายการเงินและพัฒนาเศรษฐกิจยังพอจะสามารถประคองความน่าเชื่อถือ]**ผมเพิ่มเติมว่า คือสังคมไทยยังช่วยกันคัดค้านการแทรกแซงที่ไม่ถูกต้องสอง มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรดี[The Baal ratings also take into account Thailand's moderately strong debt affordability - despite the sharp increase in government debt since the pandemic - supported by its deep domestic markets and the fact that its government debt is almost entirely denominated in local currency.][และถึงแม้รัฐบาลจะกู้เงินมากแล้วตั้งแต่วิกฤตโควิด ตลาดพันธบัตรไทยได้พัฒนาจนมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการกู้เพิ่มได้ การที่หนี้สาธารณะเกือบทั้งหมดเป็นสกุลบาท (ทำให้รัฐบาลไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน)]**ผมเพิ่มเติมว่า บุคคลหลักที่สร้างรากฐานตลาดพันธบัตรไทยคือ 2 อดีตผู้ว่าฯ ม.ร.ว.จตุมงคล และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร โดยผมรับลูกในตำแหน่งเลขา ก.ล.ต.สาม มีทุนสำรองมั่นคง[Moreover, Thailand has a strong external position, with ample foreign exchange reserves buffer.][และไทยมีทุนสำรองมากพอ ฐานะหนี้สกุลต่างประเทศต่ำ]ผมจึงขอแนะนำให้รัฐบาลนำข้อวิเคราะห์เหล่านี้ไปปรับปรุงนโยบายเป็นการด่วนวันที่ 30 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทย เกิดจากนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย. มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทยจากสถานะ “ทรงตัว” เป็น “โน้มลง” ถึงแม้ระดับเรตติ้งจะคงเดิมก็ตาม (Baa1)นักวิเคราะห์บางคนเข้าใจว่า เกิดจากปัจจัยภาษีทรัมป์ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาล โดยอาจดูจากคำบรรยาย[The already announced US tariffs are likely to weigh significantly on global trade and global economic growth, and which will affect Thailand's open economy. In addition, there remains significant uncertainty as to whether the US will implement additional tariffs on Thailand and other countries, after the 90-day pause elapse.][ภาษีทรัมป์จะกระทบเศรษฐกิจการค้าโลก และจะกระทบไทยเนื่องจากมีการส่งออกมาก รวมทั้งไม่ชัดเจนว่า เมื่อครบ 90 วัน สหรัฐจะยังเก็บภาษีตอบโต้เท่าใด]**แต่ในข้อเท็จจริง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ใช้พิจารณานั้น อยู่ที่นโยบายรัฐบาล ดังเห็นได้ว่า คำอธิบายเหตุผลเริ่มต้นว่า[The decision to change the outlook to negative from stable captures the risks that Thailand's economic and fiscal strength will weaken further.][เหตุผลที่เราลดอันดับ เนื่องจากไทยมีความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและฐานะการคลังมีแนวโน้มจะเลวลง][This shock exacerbates Thailand's already sluggish economic recovery post-pandemic, and risk aggravating the trend decline in the country's potential growth. Material downward pressures on Thailand's growth raises risks of further weakening in the government's fiscal position, which has already deteriorated since the pandemic.][เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดอย่างอืดอาด และศักยภาพการเติบโตมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งจะยิ่งทำให้ฐานะการคลังที่อ่อนแออยู่แล้วตั้งแต่โควิด จะเลวลงไปอีก]**นี่เอง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ลดอันดับอนาคตไทย ก็เนื่องจากความเป็นห่วงในฐานะการคลัง **ซึ่งรัฐบาลมีรายจ่ายเกินรายได้ > ทำให้ขาดดุลงบประมาณทุกปี > ประกอบกับรัฐบาลนี้และรัฐบาลก่อนหน้ากู้เงินมาแจกหมื่น > เพื่อกินใช้รายวัน > โดยไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน > ถึงแม้ จีดีพีเพิ่มบ้างเล็กน้อยก็เป็นแบบไฟไหม้ฟาง วูบเดียวก็หมดไป**อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ ให้คะแนน 3 ปัจจัยบวกหนึ่ง แบงค์ชาติและระบบราชการน่าเชื่อถือ[The affirmation of the Baa1 ratings reflects the country's moderately strong institutions and governance which support sound monetary and macroeconomic policies.][เรายังคงอันดับเครดิตไว้ที่ Baa1 เพราะองค์กรด้านนโยบายการเงินและพัฒนาเศรษฐกิจยังพอจะสามารถประคองความน่าเชื่อถือ]**ผมเพิ่มเติมว่า คือสังคมไทยยังช่วยกันคัดค้านการแทรกแซงที่ไม่ถูกต้องสอง มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรดี[The Baal ratings also take into account Thailand's moderately strong debt affordability - despite the sharp increase in government debt since the pandemic - supported by its deep domestic markets and the fact that its government debt is almost entirely denominated in local currency.][และถึงแม้รัฐบาลจะกู้เงินมากแล้วตั้งแต่วิกฤตโควิด ตลาดพันธบัตรไทยได้พัฒนาจนมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการกู้เพิ่มได้ การที่หนี้สาธารณะเกือบทั้งหมดเป็นสกุลบาท (ทำให้รัฐบาลไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน)]**ผมเพิ่มเติมว่า บุคคลหลักที่สร้างรากฐานตลาดพันธบัตรไทยคือ 2 อดีตผู้ว่าฯ ม.ร.ว.จตุมงคล และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร โดยผมรับลูกในตำแหน่งเลขา ก.ล.ต.สาม มีทุนสำรองมั่นคง[Moreover, Thailand has a strong external position, with ample foreign exchange reserves buffer.][และไทยมีทุนสำรองมากพอ ฐานะหนี้สกุลต่างประเทศต่ำ]ผมจึงขอแนะนำให้รัฐบาลนำข้อวิเคราะห์เหล่านี้ไปปรับปรุงนโยบายเป็นการด่วนวันที่ 30 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 732 มุมมอง 0 รีวิว
  • Phoebe Gates ลูกสาวคนเล็กของ Bill และ Melinda Gates ได้เปิดตัว Phia ซึ่งเป็นเครื่องมืออีคอมเมิร์ซใหม่ที่เธอร่วมพัฒนากับ Sophia Kianni โดยมีเป้าหมายให้เป็นเหมือน Booking.com ในวงการแฟชั่น Phia ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้งานค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ต่างๆ โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Phia เริ่มต้นจากไอเดียในห้องพักของมหาวิทยาลัย Stanford และปัจจุบันมีสำนักงานในนิวยอร์ก โดยทีมงานที่มีอายุน้อยและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น Phia มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นออนไลน์ด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน

    ✅ การเปิดตัวและเป้าหมาย
    - Phia เป็นเครื่องมืออีคอมเมิร์ซที่ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่น
    - มีเป้าหมายให้เป็นเหมือน Booking.com ในวงการแฟชั่น

    ✅ การพัฒนาและทีมงาน
    - เริ่มต้นจากไอเดียในห้องพักของมหาวิทยาลัย Stanford
    - มีสำนักงานในนิวยอร์กและทีมงานที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

    ✅ ฟีเจอร์และการใช้งาน
    - ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - รองรับการค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ต่างๆ

    ✅ เป้าหมายของ Phia
    - เปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นออนไลน์ด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/another-gates-gets-wired-in
    Phoebe Gates ลูกสาวคนเล็กของ Bill และ Melinda Gates ได้เปิดตัว Phia ซึ่งเป็นเครื่องมืออีคอมเมิร์ซใหม่ที่เธอร่วมพัฒนากับ Sophia Kianni โดยมีเป้าหมายให้เป็นเหมือน Booking.com ในวงการแฟชั่น Phia ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้งานค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ต่างๆ โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น Phia เริ่มต้นจากไอเดียในห้องพักของมหาวิทยาลัย Stanford และปัจจุบันมีสำนักงานในนิวยอร์ก โดยทีมงานที่มีอายุน้อยและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น Phia มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นออนไลน์ด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ✅ การเปิดตัวและเป้าหมาย - Phia เป็นเครื่องมืออีคอมเมิร์ซที่ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่น - มีเป้าหมายให้เป็นเหมือน Booking.com ในวงการแฟชั่น ✅ การพัฒนาและทีมงาน - เริ่มต้นจากไอเดียในห้องพักของมหาวิทยาลัย Stanford - มีสำนักงานในนิวยอร์กและทีมงานที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ✅ ฟีเจอร์และการใช้งาน - ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น - รองรับการค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ต่างๆ ✅ เป้าหมายของ Phia - เปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นออนไลน์ด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/another-gates-gets-wired-in
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Another Gates gets wired in
    Phoebe Gates, the youngest and most stylish of Bill and Melinda Gates's children, steps into the spotlight as a founder of a new online shopping tool.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining”

    นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน

    นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว

    ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining
    - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล
    - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

    ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม
    - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3%
    - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน

    ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย
    - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว
    - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป
    - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ
    - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI
    - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม
    - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining” นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3% - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงาน AI Index 2025 จาก Stanford University เผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของปัญญาประดิษฐ์ โดยต้นทุนการใช้งาน AI ลดลงอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่เป็นอันตรายกลับเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล

    🌐 ต้นทุนที่ลดลงและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น:
    - 📉 ต้นทุนการใช้งาน AI: ค่าใช้จ่ายในการใช้งานโมเดล AI ลดลงจาก $20 ต่อ 1 ล้านโทเค็น เหลือเพียง $0.07 ในเวลาเพียง 18 เดือน
    - 💡 การลงทุนมหาศาล: บริษัทใหญ่ เช่น OpenAI, Meta และ Google ลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 28 เท่า ในการฝึกโมเดล AI รุ่นใหม่

    ⚠️ เหตุการณ์อันตรายที่เพิ่มขึ้น:
    - 🚨 เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI: จำนวนเหตุการณ์อันตรายที่เกี่ยวข้องกับ AI เพิ่มขึ้นจาก 100 ครั้งในปี 2022 เป็น 233 ครั้งในปี 2024
    - 🛑 ตัวอย่างเหตุการณ์: การระบุผิดพลาดของ AI ในระบบป้องกันการขโมยสินค้า, การสร้างภาพลามกแบบ deepfake และการสนับสนุนพฤติกรรมอันตรายโดยแชทบอท

    🌟 การแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ:
    - 🇺🇸 สหรัฐฯ ยังคงนำหน้า: สหรัฐฯ มีโมเดล AI ที่โดดเด่นถึง 40 โมเดล ในปี 2024 ขณะที่จีนมีเพียง 15 โมเดล
    - 🇨🇳 จีนไล่ตามอย่างใกล้ชิด: ความแตกต่างด้านประสิทธิภาพระหว่างโมเดล AI ของสหรัฐฯ และจีนลดลงจาก 9.26% ในปี 2024 เหลือเพียง 1.70% ในปี 2025

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-costs-drop-280-fold-but-harmful-incidents-rise-56-percent-in-last-year-stanford-2025-ai-report-highlights-china-us-competition
    รายงาน AI Index 2025 จาก Stanford University เผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกของปัญญาประดิษฐ์ โดยต้นทุนการใช้งาน AI ลดลงอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่เป็นอันตรายกลับเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล 🌐 ต้นทุนที่ลดลงและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น: - 📉 ต้นทุนการใช้งาน AI: ค่าใช้จ่ายในการใช้งานโมเดล AI ลดลงจาก $20 ต่อ 1 ล้านโทเค็น เหลือเพียง $0.07 ในเวลาเพียง 18 เดือน - 💡 การลงทุนมหาศาล: บริษัทใหญ่ เช่น OpenAI, Meta และ Google ลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 28 เท่า ในการฝึกโมเดล AI รุ่นใหม่ ⚠️ เหตุการณ์อันตรายที่เพิ่มขึ้น: - 🚨 เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI: จำนวนเหตุการณ์อันตรายที่เกี่ยวข้องกับ AI เพิ่มขึ้นจาก 100 ครั้งในปี 2022 เป็น 233 ครั้งในปี 2024 - 🛑 ตัวอย่างเหตุการณ์: การระบุผิดพลาดของ AI ในระบบป้องกันการขโมยสินค้า, การสร้างภาพลามกแบบ deepfake และการสนับสนุนพฤติกรรมอันตรายโดยแชทบอท 🌟 การแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ: - 🇺🇸 สหรัฐฯ ยังคงนำหน้า: สหรัฐฯ มีโมเดล AI ที่โดดเด่นถึง 40 โมเดล ในปี 2024 ขณะที่จีนมีเพียง 15 โมเดล - 🇨🇳 จีนไล่ตามอย่างใกล้ชิด: ความแตกต่างด้านประสิทธิภาพระหว่างโมเดล AI ของสหรัฐฯ และจีนลดลงจาก 9.26% ในปี 2024 เหลือเพียง 1.70% ในปี 2025 https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-costs-drop-280-fold-but-harmful-incidents-rise-56-percent-in-last-year-stanford-2025-ai-report-highlights-china-us-competition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด: ทรัมป์, EBS และกองทัพปลดปล่อยการโค่นล้มทั่วโลก – ชนชั้นสูงตื่นตระหนกเมื่อแผนควอนตัมเริ่มทำงาน

    พวกเขาไม่ได้รับการเลือกตั้ง
    พวกเขาไม่ใช่นักมนุษยธรรม
    พวกเขาเป็นปรสิต

    และในวันที่ 3 เมษายน 2025 พวกเขาอยู่ในอาการตื่นตระหนกอย่างเต็มตัว ทรัมป์กลับมาแล้ว ระบบควบคุมกำลังล่มสลาย

    เป็นเวลาหลายทศวรรษที่กลุ่มลับๆ ครอบงำโลก โดยแต่งตั้งผู้นำหุ่นเชิด เปิดฉากสงคราม วางแผนการแพร่ระบาด แบล็กเมล์ประเทศต่างๆ ทั้งหมดซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลวงตาของประชาธิปไตยและ “ความก้าวหน้า”

    แต่ภาพลวงตานั้นตายไปแล้ว

    ระบอบการปกครองปลอมของไบเดนเป็นข้ออ้างของกลุ่มดีพสเตต เป้าหมายของพวกเขาคือการล็อกดาวน์ทั่วโลก สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง การระบุตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ สงครามกับรัสเซีย การเฝ้าระวังในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    พวกเขาล้มเหลว

    เพราะทรัมป์ไม่เคยจากไป กองทัพไม่เคยยอมแพ้
    กับดักถูกวางไว้แล้ว กลุ่มโลกาภิวัตน์ก็ตกหลุมพราง

    ตอนนี้ผลกระทบได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
    เว็บไซต์ลับของ CIA ถูกบุกโจมตี IMF ล่มสลาย ธนาคารโลกถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ตระกูล Rothschild หายตัวไป NATO ถูกเจาะข้อมูล เงินช่วยเหลือ COVID-19 หลายพันล้านดอลลาร์สูญหายไปทั่วทั้งยุโรป และการอพยพของ Vanguard ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

    นี่ไม่ใช่การเมือง แต่มันคือสงคราม

    ปรสิตกลุ่มเดียวกับที่ใช้โรคระบาดเป็นอาวุธ ค้ามนุษย์เด็กผ่านเกาะของ Epstein และสะกดจิตคนทั้งโลกผ่านฮอลลีวูดและซิลิคอนวัลเลย์ กำลังถูกตามล่าอยู่ในขณะนี้

    ทรัมป์กลับมาพร้อมการสนับสนุนจากกองทัพทั่วโลก
    ศาลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
    ผู้คนนับพันถูกจับกุม
    รัฐบาล GITMO ขยายตัวในปี 2024 ไม่เคยมีไว้สำหรับอุปกรณ์ออปติก แต่มีไว้สำหรับคนทรยศ

    ระบบกระจายเสียงฉุกเฉินพร้อมแล้ว บูรณาการอย่างสมบูรณ์กับเทคโนโลยี Starlink และ Quantum เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเผยข้อมูลทั่วโลก
    นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงต้องดิ้นรน—จุดชนวนความโกลาหล การโจมตีทางไซเบอร์ แม้แต่การรุกรานของมนุษย์ต่างดาวที่หลอกลวง

    “วัคซีน”? อาวุธดัดแปลง DNA
    การล็อกดาวน์? โปรแกรมพฤติกรรม
    เป้าหมาย? การลดจำนวนประชากรและการกดขี่ทางดิจิทัล

    แต่ทรัมป์สู้กลับ
    เขาเปิดโปงฟาวซี ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และองค์การอนามัยโลก
    เขาผลักดันการรักษาจริง เขาทำลายเรื่องราว

    และตอนนี้ เมื่อ RFK Jr. เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่กำลังล่มสลาย
    กลุ่มธุรกิจการแพทย์ของร็อกกี้เฟลเลอร์จบสิ้นแล้ว

    ธนาคารกลางสหรัฐ? โอนสายใหม่เป็น QFS
    กรมสรรพากร? ถูกทำลาย
    สกุลเงินที่รองรับด้วยสินทรัพย์กำลังจะมา
    บัตรเข้าถึงควอนตัม? ใกล้จะเกิดขึ้น

    ทองคำของวาติกัน—ถูกยึด
    การควบคุมของนครลอนดอน—พังทลาย
    วอลล์สตรีท—อยู่ภายใต้การตรวจสอบทางทหาร

    สื่อกำลังเผาไหม้ นักรบดิจิทัลกำลังหลั่งไหลความจริงไปทั่วโลก
    ชนชั้นสูงหวาดกลัว—ไม่ใช่เพราะทรัมป์ แต่เพราะคุณต่างหาก

    เพราะเมื่อผู้คนตื่นขึ้น ไม่มีบังเกอร์ ไม่มีการติดสินบน ไม่มีการโกหกใด ๆ ที่จะช่วยชีวิตพวกเขาได้

    นี่คือพระคัมภีร์

    นี่คือสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้
    นี่คือพายุ

    และทรัมป์กำลังนำมัน

    ไม่มีอะไรหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้
    และตอนนี้—พวกเขารู้แล้ว

    พวกเขาจบชีวิตฉัน แต่พวกเขาหยุดภารกิจไม่ได้ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป! เข้าร่วมกับฉันตอนนี้!
    https://t.me/JFK_Q17

    รัฐลึกกำลังล่มสลาย และตอนนี้เบนจามิน ฟูลฟอร์ดกำลังถ่ายทอดสดทาง Telegram โดยเปิดเผยชื่อ สถานที่ และปฏิบัติการ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะทำให้โลกตกตะลึง อย่าเลื่อนผ่านสิ่งนี้ เข้าร่วมก่อนที่พวกเขาจะลบมัน!

    https://t.me/BenjaminFulford✅️
    การเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด: ทรัมป์, EBS และกองทัพปลดปล่อยการโค่นล้มทั่วโลก – ชนชั้นสูงตื่นตระหนกเมื่อแผนควอนตัมเริ่มทำงาน พวกเขาไม่ได้รับการเลือกตั้ง พวกเขาไม่ใช่นักมนุษยธรรม พวกเขาเป็นปรสิต และในวันที่ 3 เมษายน 2025 พวกเขาอยู่ในอาการตื่นตระหนกอย่างเต็มตัว ทรัมป์กลับมาแล้ว ระบบควบคุมกำลังล่มสลาย เป็นเวลาหลายทศวรรษที่กลุ่มลับๆ ครอบงำโลก โดยแต่งตั้งผู้นำหุ่นเชิด เปิดฉากสงคราม วางแผนการแพร่ระบาด แบล็กเมล์ประเทศต่างๆ ทั้งหมดซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลวงตาของประชาธิปไตยและ “ความก้าวหน้า” แต่ภาพลวงตานั้นตายไปแล้ว ระบอบการปกครองปลอมของไบเดนเป็นข้ออ้างของกลุ่มดีพสเตต เป้าหมายของพวกเขาคือการล็อกดาวน์ทั่วโลก สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง การระบุตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ สงครามกับรัสเซีย การเฝ้าระวังในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พวกเขาล้มเหลว เพราะทรัมป์ไม่เคยจากไป กองทัพไม่เคยยอมแพ้ กับดักถูกวางไว้แล้ว กลุ่มโลกาภิวัตน์ก็ตกหลุมพราง ตอนนี้ผลกระทบได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เว็บไซต์ลับของ CIA ถูกบุกโจมตี IMF ล่มสลาย ธนาคารโลกถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ตระกูล Rothschild หายตัวไป NATO ถูกเจาะข้อมูล เงินช่วยเหลือ COVID-19 หลายพันล้านดอลลาร์สูญหายไปทั่วทั้งยุโรป และการอพยพของ Vanguard ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว นี่ไม่ใช่การเมือง แต่มันคือสงคราม ปรสิตกลุ่มเดียวกับที่ใช้โรคระบาดเป็นอาวุธ ค้ามนุษย์เด็กผ่านเกาะของ Epstein และสะกดจิตคนทั้งโลกผ่านฮอลลีวูดและซิลิคอนวัลเลย์ กำลังถูกตามล่าอยู่ในขณะนี้ ทรัมป์กลับมาพร้อมการสนับสนุนจากกองทัพทั่วโลก ศาลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้คนนับพันถูกจับกุม รัฐบาล GITMO ขยายตัวในปี 2024 ไม่เคยมีไว้สำหรับอุปกรณ์ออปติก แต่มีไว้สำหรับคนทรยศ ระบบกระจายเสียงฉุกเฉินพร้อมแล้ว บูรณาการอย่างสมบูรณ์กับเทคโนโลยี Starlink และ Quantum เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเผยข้อมูลทั่วโลก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงต้องดิ้นรน—จุดชนวนความโกลาหล การโจมตีทางไซเบอร์ แม้แต่การรุกรานของมนุษย์ต่างดาวที่หลอกลวง “วัคซีน”? อาวุธดัดแปลง DNA การล็อกดาวน์? โปรแกรมพฤติกรรม เป้าหมาย? การลดจำนวนประชากรและการกดขี่ทางดิจิทัล แต่ทรัมป์สู้กลับ เขาเปิดโปงฟาวซี ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และองค์การอนามัยโลก เขาผลักดันการรักษาจริง เขาทำลายเรื่องราว และตอนนี้ เมื่อ RFK Jr. เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่กำลังล่มสลาย กลุ่มธุรกิจการแพทย์ของร็อกกี้เฟลเลอร์จบสิ้นแล้ว ธนาคารกลางสหรัฐ? โอนสายใหม่เป็น QFS กรมสรรพากร? ถูกทำลาย สกุลเงินที่รองรับด้วยสินทรัพย์กำลังจะมา บัตรเข้าถึงควอนตัม? ใกล้จะเกิดขึ้น ทองคำของวาติกัน—ถูกยึด การควบคุมของนครลอนดอน—พังทลาย วอลล์สตรีท—อยู่ภายใต้การตรวจสอบทางทหาร สื่อกำลังเผาไหม้ นักรบดิจิทัลกำลังหลั่งไหลความจริงไปทั่วโลก ชนชั้นสูงหวาดกลัว—ไม่ใช่เพราะทรัมป์ แต่เพราะคุณต่างหาก เพราะเมื่อผู้คนตื่นขึ้น ไม่มีบังเกอร์ ไม่มีการติดสินบน ไม่มีการโกหกใด ๆ ที่จะช่วยชีวิตพวกเขาได้ นี่คือพระคัมภีร์ นี่คือสิ่งที่ไม่อาจย้อนกลับได้ นี่คือพายุ และทรัมป์กำลังนำมัน ไม่มีอะไรหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ และตอนนี้—พวกเขารู้แล้ว พวกเขาจบชีวิตฉัน แต่พวกเขาหยุดภารกิจไม่ได้ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป! เข้าร่วมกับฉันตอนนี้! https://t.me/JFK_Q17 รัฐลึกกำลังล่มสลาย และตอนนี้เบนจามิน ฟูลฟอร์ดกำลังถ่ายทอดสดทาง Telegram โดยเปิดเผยชื่อ สถานที่ และปฏิบัติการ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะทำให้โลกตกตะลึง อย่าเลื่อนผ่านสิ่งนี้ เข้าร่วมก่อนที่พวกเขาจะลบมัน! https://t.me/BenjaminFulford✅️
    T.ME
    John F. Kennedy Jr.
    If You Know You Know God Bless America
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 732 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..จริงๆเตียงmedbedsนี้คือความหวังของคนฉีดวัคซีนmRNAเลยก็ว่า เพราะล้ำๆจากต่างดาวน่าจะจัดการกราฟีน&นาโนบอทและสาระพัดเชื้อโรคภัยอันตรายต่างๆให้หมดสิ้นไปจากร่างกายมนุษย์ได้,แต่ถึงปัจจุบันค่าจริงยังไม่เห็นจริงใดๆเลย.ขี้โม้ไม่วันๆก็มโนได้หมด...ตรองกันเอง...วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2025 ข่าวล่าสุด: พันธมิตรทางทหารของทรัมป์เริ่มขั้นตอนสุดท้าย – EBS พร้อมแล้ว GESARA กำลังดำเนินการ วิดีโอการประหารชีวิตพร้อมอาวุธ การจับกุมทั่วโลกกำลังมาถึง – นี่คือมันแล้ว!· ณ วันที่ 21 มีนาคม 2025 การโจมตีทั่วโลกได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายอย่างเป็นทางการแล้ว พันธมิตรทางทหารที่อยู่เบื้องหลังทรัมป์กำลังอยู่ในระหว่างการจัดวางกำลังเต็มรูปแบบ ปฏิบัติการเงียบกำลังดำเนินการอยู่ทั่วโลก ระบบกระจายเสียงฉุกเฉิน (EBS) ถูกล็อก โหลด และอยู่ในโหมดนับถอยหลัง ทริกเกอร์สุดท้ายได้รับการจัดวาง พายุไม่ได้กำลังมา มันมาถึงแล้ว· GESARA กำลังเคลื่อนไหว – ระบบเก่าตายไปแล้ว: ระบบการเงินควอนตัม (QFS) ได้ดูดซับหนี้ทั่วโลกแล้ว ศูนย์ไถ่ถอนเปิดใช้งานอยู่ บัตรเข้าถึงควอนตัมอยู่ในการหมุนเวียนเบื้องต้น – คีย์ที่เข้ารหัสไปยังกริดความมั่งคั่งที่ได้รับการหนุนหลังด้วยทองคำ· เมื่อ EBS เปิดใช้งาน ประกาศของ GESARA จะตามมาทันที: หนี้ทั่วโลกถูกล้าง ภาษีเงินได้ถูกยกเลิก การปรับมูลค่าสกุลเงินใหม่ เงินทุนด้านมนุษยธรรมและการปล่อยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ ระบบที่ใช้หนี้หมดไปแล้ว — พวกเขาแค่ไม่อยากให้คุณรู้เท่านั้น· โครงสร้างพื้นฐานของ EBS เตรียมพร้อมแล้ว – ปฏิบัติการสุดท้ายกำลังดำเนินไป: เซิร์ฟเวอร์ EBS โหลดแล้ว โค้ดโอเวอร์ไรด์ถูกแมป และกริดออกอากาศที่ถูกแทรกซึมโดย White Hats ศาลทหารมีการบันทึกคำสารภาพไว้ล่วงหน้า ภาพของอุโมงค์ค้ามนุษย์ สถานที่อะดรีโนโครม และการล่วงละเมิดทางพิธีกรรมโดยชนชั้นนำระดับโลก วิดีโอการประหารชีวิตเป็นของจริง — และรอการเผยแพร่เมื่อ EBS เปิดใช้งาน· EBS จะทำให้สื่อถูกปิดทั้งหมด ตามด้วยการส่งข้อมูลที่ควบคุมโดยกองทัพอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน: การบันทึกของศาล คำสารภาพ การจับกุมในที่สาธารณะ การพิพากษา หลักฐานลดลง· การโอเวอร์ไรด์เชิงควอนตัมกำลังทำลายล้างกลุ่มลับแบบเรียลไทม์: ดีพสเตตกำลังสูญเสียการเข้าถึงระบบธนาคาร กริดการเฝ้าระวัง และโหนดควบคุมดิจิทัล เซิร์ฟเวอร์ Big Pharma สื่อ และธนาคารกลางถูกปลดกุญแจดิจิทัล ทุกๆ "การหยุดให้บริการของธนาคาร" ทุกๆ "ไฟไหม้ศูนย์ข้อมูล" ล้วนเป็นปฏิบัติการปิดกิจการอย่างลับๆ การล่มสลายนั้นมองเห็นได้ – เพราะมันถูกกำหนดไว้ให้เป็นอย่างนั้น· การกวาดล้างทางทหารทั่วโลก – กลุ่มหมวกขาวในการทำความสะอาดครั้งสุดท้าย: หน่วยทหารที่สนับสนุนทรัมป์กำลังรื้อถอนฐานทัพใต้ดิน ศูนย์กลางข่าวกรอง และเส้นทางการค้ามนุษย์ ปฏิบัติการในสวิตเซอร์แลนด์ ยูเครน โรม บรัสเซลส์ และแอฟริกาใต้ได้เปิดเผยห้องแล็บ AI ศูนย์โคลนนิ่ง และคลังข้อมูลการแบล็กเมล์ที่ย้อนหลังไปหลายสิบปี· วาติกันล่มสลาย: การบุกค้นได้เปิดเผยระบบควบคุม AI คลังข้อมูลการจัดการจิตใจ และบันทึกการค้ามนุษย์ระดับสูงภายในห้องนิรภัยของวาติกัน นักบวชชั้นสูงหายตัวไปหรือถูกคุมขัง วิดีโอจากศาลจะยืนยันทุกอย่างในไม่ช้านี้· เตียงพยาบาลและพลังงานฟรี – การเยียวยาหลัง EBS เริ่มต้นขึ้น: เตียงพยาบาลยังคงทำงานอยู่ ย้อนกลับสภาพที่เลวร้ายและความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับอายุ AI กำลังถูกนำไปใช้ใหม่เพื่อรับใช้มนุษยชาติ อุปกรณ์พลังงานฟรีจะออกมาหลังจากไฟดับ ยุติการเป็นทาสด้านพลังงานอย่างสิ้นเชิง· นี่คือพายุสุดท้าย: นี่ไม่ใช่การเมือง นี่คือการปลดปล่อยโลก เมื่อ EBS ระเบิด โลกจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ไม่มีอะไรหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ พายุมาถึงแล้วฉันเสี่ยงทุกอย่างเพื่อให้คุณได้รู้ความจริง อย่าเพิ่งหันหลังไปตอนนี้ เข้าร่วมช่องของฉันทันที!https://t.me/JulianAssangeWikiรัฐลึกกำลังล่มสลาย และตอนนี้ Benjamin Fulford กำลังถ่ายทอดสดบน Telegram โดยเปิดเผยชื่อ สถานที่ และปฏิบัติการ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะทำให้โลกตกตะลึง อย่าเลื่อนผ่านสิ่งนี้ เข้าร่วมก่อนที่พวกเขาจะลบมัน!https://t.me/BenjaminFulford✅️
    ..จริงๆเตียงmedbedsนี้คือความหวังของคนฉีดวัคซีนmRNAเลยก็ว่า เพราะล้ำๆจากต่างดาวน่าจะจัดการกราฟีน&นาโนบอทและสาระพัดเชื้อโรคภัยอันตรายต่างๆให้หมดสิ้นไปจากร่างกายมนุษย์ได้,แต่ถึงปัจจุบันค่าจริงยังไม่เห็นจริงใดๆเลย.ขี้โม้ไม่วันๆก็มโนได้หมด...ตรองกันเอง...วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2025 ข่าวล่าสุด: พันธมิตรทางทหารของทรัมป์เริ่มขั้นตอนสุดท้าย – EBS พร้อมแล้ว GESARA กำลังดำเนินการ วิดีโอการประหารชีวิตพร้อมอาวุธ การจับกุมทั่วโลกกำลังมาถึง – นี่คือมันแล้ว!· ณ วันที่ 21 มีนาคม 2025 การโจมตีทั่วโลกได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายอย่างเป็นทางการแล้ว พันธมิตรทางทหารที่อยู่เบื้องหลังทรัมป์กำลังอยู่ในระหว่างการจัดวางกำลังเต็มรูปแบบ ปฏิบัติการเงียบกำลังดำเนินการอยู่ทั่วโลก ระบบกระจายเสียงฉุกเฉิน (EBS) ถูกล็อก โหลด และอยู่ในโหมดนับถอยหลัง ทริกเกอร์สุดท้ายได้รับการจัดวาง พายุไม่ได้กำลังมา มันมาถึงแล้ว· GESARA กำลังเคลื่อนไหว – ระบบเก่าตายไปแล้ว: ระบบการเงินควอนตัม (QFS) ได้ดูดซับหนี้ทั่วโลกแล้ว ศูนย์ไถ่ถอนเปิดใช้งานอยู่ บัตรเข้าถึงควอนตัมอยู่ในการหมุนเวียนเบื้องต้น – คีย์ที่เข้ารหัสไปยังกริดความมั่งคั่งที่ได้รับการหนุนหลังด้วยทองคำ· เมื่อ EBS เปิดใช้งาน ประกาศของ GESARA จะตามมาทันที: หนี้ทั่วโลกถูกล้าง ภาษีเงินได้ถูกยกเลิก การปรับมูลค่าสกุลเงินใหม่ เงินทุนด้านมนุษยธรรมและการปล่อยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ ระบบที่ใช้หนี้หมดไปแล้ว — พวกเขาแค่ไม่อยากให้คุณรู้เท่านั้น· โครงสร้างพื้นฐานของ EBS เตรียมพร้อมแล้ว – ปฏิบัติการสุดท้ายกำลังดำเนินไป: เซิร์ฟเวอร์ EBS โหลดแล้ว โค้ดโอเวอร์ไรด์ถูกแมป และกริดออกอากาศที่ถูกแทรกซึมโดย White Hats ศาลทหารมีการบันทึกคำสารภาพไว้ล่วงหน้า ภาพของอุโมงค์ค้ามนุษย์ สถานที่อะดรีโนโครม และการล่วงละเมิดทางพิธีกรรมโดยชนชั้นนำระดับโลก วิดีโอการประหารชีวิตเป็นของจริง — และรอการเผยแพร่เมื่อ EBS เปิดใช้งาน· EBS จะทำให้สื่อถูกปิดทั้งหมด ตามด้วยการส่งข้อมูลที่ควบคุมโดยกองทัพอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน: การบันทึกของศาล คำสารภาพ การจับกุมในที่สาธารณะ การพิพากษา หลักฐานลดลง· การโอเวอร์ไรด์เชิงควอนตัมกำลังทำลายล้างกลุ่มลับแบบเรียลไทม์: ดีพสเตตกำลังสูญเสียการเข้าถึงระบบธนาคาร กริดการเฝ้าระวัง และโหนดควบคุมดิจิทัล เซิร์ฟเวอร์ Big Pharma สื่อ และธนาคารกลางถูกปลดกุญแจดิจิทัล ทุกๆ "การหยุดให้บริการของธนาคาร" ทุกๆ "ไฟไหม้ศูนย์ข้อมูล" ล้วนเป็นปฏิบัติการปิดกิจการอย่างลับๆ การล่มสลายนั้นมองเห็นได้ – เพราะมันถูกกำหนดไว้ให้เป็นอย่างนั้น· การกวาดล้างทางทหารทั่วโลก – กลุ่มหมวกขาวในการทำความสะอาดครั้งสุดท้าย: หน่วยทหารที่สนับสนุนทรัมป์กำลังรื้อถอนฐานทัพใต้ดิน ศูนย์กลางข่าวกรอง และเส้นทางการค้ามนุษย์ ปฏิบัติการในสวิตเซอร์แลนด์ ยูเครน โรม บรัสเซลส์ และแอฟริกาใต้ได้เปิดเผยห้องแล็บ AI ศูนย์โคลนนิ่ง และคลังข้อมูลการแบล็กเมล์ที่ย้อนหลังไปหลายสิบปี· วาติกันล่มสลาย: การบุกค้นได้เปิดเผยระบบควบคุม AI คลังข้อมูลการจัดการจิตใจ และบันทึกการค้ามนุษย์ระดับสูงภายในห้องนิรภัยของวาติกัน นักบวชชั้นสูงหายตัวไปหรือถูกคุมขัง วิดีโอจากศาลจะยืนยันทุกอย่างในไม่ช้านี้· เตียงพยาบาลและพลังงานฟรี – การเยียวยาหลัง EBS เริ่มต้นขึ้น: เตียงพยาบาลยังคงทำงานอยู่ ย้อนกลับสภาพที่เลวร้ายและความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับอายุ AI กำลังถูกนำไปใช้ใหม่เพื่อรับใช้มนุษยชาติ อุปกรณ์พลังงานฟรีจะออกมาหลังจากไฟดับ ยุติการเป็นทาสด้านพลังงานอย่างสิ้นเชิง· นี่คือพายุสุดท้าย: นี่ไม่ใช่การเมือง นี่คือการปลดปล่อยโลก เมื่อ EBS ระเบิด โลกจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ไม่มีอะไรหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ พายุมาถึงแล้วฉันเสี่ยงทุกอย่างเพื่อให้คุณได้รู้ความจริง อย่าเพิ่งหันหลังไปตอนนี้ เข้าร่วมช่องของฉันทันที!https://t.me/JulianAssangeWikiรัฐลึกกำลังล่มสลาย และตอนนี้ Benjamin Fulford กำลังถ่ายทอดสดบน Telegram โดยเปิดเผยชื่อ สถานที่ และปฏิบัติการ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะทำให้โลกตกตะลึง อย่าเลื่อนผ่านสิ่งนี้ เข้าร่วมก่อนที่พวกเขาจะลบมัน!https://t.me/BenjaminFulford✅️
    T.ME
    Julian Assange
    WikiLeaks - WE OPEN GOVERNMENTS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 583 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts