• ตลาดรถกระบะไฟฟ้ากำลังกลายเป็น สมรภูมิใหม่ของอุตสาหกรรม EV โดยล่าสุด Isuzu ได้ประกาศเปิดตัว D-Max EV ในปี 2026 ซึ่งจะมีสมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล

    ก่อนหน้านี้ Slate Auto ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ก็ได้ประกาศแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า ทำให้การแข่งขันในตลาดนี้เริ่มเข้มข้นขึ้น

    แม้ว่าผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Ford และ Chevrolet จะมียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า แต่การมาถึงของ D-Max EV และรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดจากจีน อาจทำให้ตลาดนี้กลายเป็น จุดแข่งขันสำคัญของอุตสาหกรรม EV

    ✅ การเปิดตัว D-Max EV ของ Isuzu
    - เปิดตัวในปี 2026
    - สมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล
    - รองรับน้ำหนักบรรทุก 1,000 กิโลกรัม และลากจูง 3,500 กิโลกรัม

    ✅ การแข่งขันในตลาดรถกระบะไฟฟ้า
    - Slate Auto เตรียมผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า
    - Ford และ Chevrolet มียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า

    ✅ เทคโนโลยีของ D-Max EV
    - ใช้แบตเตอรี่ 66.9kWh ติดตั้งใต้พื้นรถ
    - มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร พร้อมมอเตอร์ที่เพลาหน้าและหลัง

    ✅ แนวโน้มของตลาดรถกระบะไฟฟ้า
    - คาดว่าตลาดรถบรรทุกไฟฟ้าทั่วโลกจะมีมูลค่า 78 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2033

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/first-slate-auto-and-now-isuzu-why-electric-pick-up-trucks-could-be-the-next-big-ev-battleground
    ตลาดรถกระบะไฟฟ้ากำลังกลายเป็น สมรภูมิใหม่ของอุตสาหกรรม EV โดยล่าสุด Isuzu ได้ประกาศเปิดตัว D-Max EV ในปี 2026 ซึ่งจะมีสมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล ก่อนหน้านี้ Slate Auto ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ก็ได้ประกาศแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า ทำให้การแข่งขันในตลาดนี้เริ่มเข้มข้นขึ้น แม้ว่าผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Ford และ Chevrolet จะมียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า แต่การมาถึงของ D-Max EV และรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดจากจีน อาจทำให้ตลาดนี้กลายเป็น จุดแข่งขันสำคัญของอุตสาหกรรม EV ✅ การเปิดตัว D-Max EV ของ Isuzu - เปิดตัวในปี 2026 - สมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล - รองรับน้ำหนักบรรทุก 1,000 กิโลกรัม และลากจูง 3,500 กิโลกรัม ✅ การแข่งขันในตลาดรถกระบะไฟฟ้า - Slate Auto เตรียมผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า - Ford และ Chevrolet มียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า ✅ เทคโนโลยีของ D-Max EV - ใช้แบตเตอรี่ 66.9kWh ติดตั้งใต้พื้นรถ - มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร พร้อมมอเตอร์ที่เพลาหน้าและหลัง ✅ แนวโน้มของตลาดรถกระบะไฟฟ้า - คาดว่าตลาดรถบรรทุกไฟฟ้าทั่วโลกจะมีมูลค่า 78 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2033 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/first-slate-auto-and-now-isuzu-why-electric-pick-up-trucks-could-be-the-next-big-ev-battleground
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลสูงรัฐกรณาฏกะของอินเดียได้มีคำสั่งให้รัฐบาลอินเดีย บล็อก Proton Mail ซึ่งเป็นบริการอีเมลเข้ารหัสจากสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากบริษัทในกรุงนิวเดลีร้องเรียนว่ามีผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนส่ง อีเมลที่มีเนื้อหาหมิ่นประมาทและภาพ deepfake ไปยังพนักงานหญิงของบริษัท

    คำสั่งบล็อกนี้ออกภายใต้ มาตรา 69 ของพระราชบัญญัติเทคโนโลยีสารสนเทศปี 2008 ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลอินเดีย บล็อกเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม Proton Mail ระบุว่า รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์กำลังเจรจากับทางการอินเดีย เพื่อป้องกันการบล็อกบริการนี้

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Proton Mail ถูกขู่ว่าจะถูกบล็อกในอินเดีย ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มีข้อเสนอให้บล็อกบริการนี้หลังจากพบว่า มีการใช้ Proton Mail ในการส่งคำขู่ระเบิดปลอม

    ✅ เหตุผลในการบล็อก Proton Mail
    - บริษัทในกรุงนิวเดลีร้องเรียนว่ามีผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนส่ง อีเมลที่มีเนื้อหาหมิ่นประมาทและภาพ deepfake ไปยังพนักงานหญิง
    - คำสั่งบล็อกออกภายใต้ มาตรา 69 ของพระราชบัญญัติเทคโนโลยีสารสนเทศปี 2008

    ✅ การตอบสนองของ Proton Mail
    - Proton Mail ระบุว่า รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์กำลังเจรจากับทางการอินเดีย เพื่อป้องกันการบล็อก
    - บริการยังสามารถเข้าถึงได้ในอินเดีย ณ วันที่ 30 เมษายน 2025

    ✅ เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้
    - ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มีข้อเสนอให้บล็อก Proton Mail หลังจากพบว่า มีการใช้บริการนี้ในการส่งคำขู่ระเบิดปลอม

    ✅ Proton Mail และบริการอื่นๆ
    - Proton Mail เป็นบริการอีเมลเข้ารหัสที่ได้รับความนิยม
    - บริษัทยังให้บริการ Proton VPN, Proton Drive และ Proton Calendar

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/proton-mail-hit-with-blocking-order-in-india-heres-everything-we-know-so-far
    ศาลสูงรัฐกรณาฏกะของอินเดียได้มีคำสั่งให้รัฐบาลอินเดีย บล็อก Proton Mail ซึ่งเป็นบริการอีเมลเข้ารหัสจากสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากบริษัทในกรุงนิวเดลีร้องเรียนว่ามีผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนส่ง อีเมลที่มีเนื้อหาหมิ่นประมาทและภาพ deepfake ไปยังพนักงานหญิงของบริษัท คำสั่งบล็อกนี้ออกภายใต้ มาตรา 69 ของพระราชบัญญัติเทคโนโลยีสารสนเทศปี 2008 ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลอินเดีย บล็อกเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม Proton Mail ระบุว่า รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์กำลังเจรจากับทางการอินเดีย เพื่อป้องกันการบล็อกบริการนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Proton Mail ถูกขู่ว่าจะถูกบล็อกในอินเดีย ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มีข้อเสนอให้บล็อกบริการนี้หลังจากพบว่า มีการใช้ Proton Mail ในการส่งคำขู่ระเบิดปลอม ✅ เหตุผลในการบล็อก Proton Mail - บริษัทในกรุงนิวเดลีร้องเรียนว่ามีผู้ใช้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนส่ง อีเมลที่มีเนื้อหาหมิ่นประมาทและภาพ deepfake ไปยังพนักงานหญิง - คำสั่งบล็อกออกภายใต้ มาตรา 69 ของพระราชบัญญัติเทคโนโลยีสารสนเทศปี 2008 ✅ การตอบสนองของ Proton Mail - Proton Mail ระบุว่า รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์กำลังเจรจากับทางการอินเดีย เพื่อป้องกันการบล็อก - บริการยังสามารถเข้าถึงได้ในอินเดีย ณ วันที่ 30 เมษายน 2025 ✅ เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ - ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 มีข้อเสนอให้บล็อก Proton Mail หลังจากพบว่า มีการใช้บริการนี้ในการส่งคำขู่ระเบิดปลอม ✅ Proton Mail และบริการอื่นๆ - Proton Mail เป็นบริการอีเมลเข้ารหัสที่ได้รับความนิยม - บริษัทยังให้บริการ Proton VPN, Proton Drive และ Proton Calendar https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/proton-mail-hit-with-blocking-order-in-india-heres-everything-we-know-so-far
    WWW.TECHRADAR.COM
    Proton Mail hit with blocking order in India - here's everything we know so far
    Proton Mail could soon stop working in India after a court ruling
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังพัฒนา การแก้ไขปัญหาหลายรายการใน Outlook และ SharePoint Online หลังจากพบข้อบกพร่องที่ส่งผลกระทบต่อการค้นหาและการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ

    ปัญหาหลักที่พบคือ การค้นหาใน Outlook บนเว็บและ SharePoint Onlineล่าช้าและล้มเหลว ซึ่ง Microsoft ระบุว่าเกิดจาก โครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่บริษัทยังคง เฝ้าติดตามประสิทธิภาพของระบบ เพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์

    นอกจากนี้ Microsoft ยังพบ ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับฟีเจอร์ Paste Special ใน Outlook รุ่นคลาสสิก โดยเมื่อผู้ใช้กด Ctrl+Alt+V เพื่อใช้ฟีเจอร์นี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งบริษัทได้แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้ต้องรอการอัปเดตในช่วง ต้นเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม ขึ้นอยู่กับช่องทางการอัปเดตที่ใช้งาน

    Microsoft เคยเผชิญกับปัญหาคล้ายกันในอดีต เช่น ข้อผิดพลาดในการค้นหาใน Outlook.com ในเดือนกรกฎาคม 2023 และ การหยุดให้บริการของ Exchange Online ในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปัญหาด้านเสถียรภาพของบริการออนไลน์ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง

    ✅ ปัญหาการค้นหาใน Outlook และ SharePoint Online
    - การค้นหาล่าช้าและล้มเหลว
    - เกิดจากโครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

    ✅ การแก้ไขและการเฝ้าติดตามของ Microsoft
    - มีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว
    - บริษัทยังคงเฝ้าติดตามประสิทธิภาพของระบบ

    ✅ ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับฟีเจอร์ Paste Special ใน Outlook
    - เมื่อกด Ctrl+Alt+V ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    - แก้ไขแล้ว แต่ต้องรอการอัปเดตในช่วง ต้นเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม

    ✅ ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
    - ข้อผิดพลาดในการค้นหาใน Outlook.com ในเดือนกรกฎาคม 2023
    - การหยุดให้บริการของ Exchange Online ในเดือนมีนาคม 2025

    https://www.techradar.com/pro/microsoft-developing-fixes-for-multiple-outlook-and-sharepoint-online-bugs-and-outage
    Microsoft กำลังพัฒนา การแก้ไขปัญหาหลายรายการใน Outlook และ SharePoint Online หลังจากพบข้อบกพร่องที่ส่งผลกระทบต่อการค้นหาและการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ปัญหาหลักที่พบคือ การค้นหาใน Outlook บนเว็บและ SharePoint Onlineล่าช้าและล้มเหลว ซึ่ง Microsoft ระบุว่าเกิดจาก โครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่บริษัทยังคง เฝ้าติดตามประสิทธิภาพของระบบ เพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ Microsoft ยังพบ ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับฟีเจอร์ Paste Special ใน Outlook รุ่นคลาสสิก โดยเมื่อผู้ใช้กด Ctrl+Alt+V เพื่อใช้ฟีเจอร์นี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งบริษัทได้แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้ต้องรอการอัปเดตในช่วง ต้นเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม ขึ้นอยู่กับช่องทางการอัปเดตที่ใช้งาน Microsoft เคยเผชิญกับปัญหาคล้ายกันในอดีต เช่น ข้อผิดพลาดในการค้นหาใน Outlook.com ในเดือนกรกฎาคม 2023 และ การหยุดให้บริการของ Exchange Online ในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปัญหาด้านเสถียรภาพของบริการออนไลน์ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง ✅ ปัญหาการค้นหาใน Outlook และ SharePoint Online - การค้นหาล่าช้าและล้มเหลว - เกิดจากโครงสร้างพื้นฐานที่ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ✅ การแก้ไขและการเฝ้าติดตามของ Microsoft - มีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว - บริษัทยังคงเฝ้าติดตามประสิทธิภาพของระบบ ✅ ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับฟีเจอร์ Paste Special ใน Outlook - เมื่อกด Ctrl+Alt+V ไม่มีอะไรเกิดขึ้น - แก้ไขแล้ว แต่ต้องรอการอัปเดตในช่วง ต้นเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนกรกฎาคม ✅ ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต - ข้อผิดพลาดในการค้นหาใน Outlook.com ในเดือนกรกฎาคม 2023 - การหยุดให้บริการของ Exchange Online ในเดือนมีนาคม 2025 https://www.techradar.com/pro/microsoft-developing-fixes-for-multiple-outlook-and-sharepoint-online-bugs-and-outage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักพัฒนา NSG650 ได้สร้างโปรเจ็กต์ LinuxInExcel ซึ่งทำให้สามารถรัน Linux ภายใน Microsoft Excel ได้ โดยใช้ RISC-V emulator และ Microsoft VBA macro เพื่อเรียกใช้งานอีมูเลเตอร์ใน DLL และแสดงผลในเซลล์ของสเปรดชีต

    แม้ว่าการรัน Linux ใน Excel จะเป็นไปได้ แต่ก็มีข้อจำกัดด้าน ประสิทธิภาพและเสถียรภาพ โดย NSG650 ยอมรับว่าโปรเจ็กต์นี้ "มีบั๊กเยอะมาก" และทำขึ้นเพื่อความสนุกเป็นหลัก

    นอกจากนี้ Enderman ซึ่งเป็น YouTuber ได้เพิ่ม ระบบรองรับอินพุต ให้กับ LinuxInExcel ทำให้สามารถโต้ตอบกับระบบได้มากขึ้น และเผยแพร่วิดีโอสาธิตการติดตั้งและใช้งานบน YouTube

    ✅ การรัน Linux ใน Microsoft Excel
    - ใช้ RISC-V emulator และ Microsoft VBA macro
    - แสดงผลในเซลล์ของสเปรดชีต

    ✅ ข้อจำกัดของโปรเจ็กต์
    - ประสิทธิภาพต่ำและมีบั๊กจำนวนมาก
    - ทำขึ้นเพื่อความสนุกเป็นหลัก

    ✅ การพัฒนาเพิ่มเติมโดย Enderman
    - เพิ่มระบบรองรับอินพุตให้กับ LinuxInExcel
    - เผยแพร่วิดีโอสาธิตการติดตั้งและใช้งาน

    ✅ ความสนใจจากชุมชนออนไลน์
    - โปรเจ็กต์ถูกอัปโหลดบน GitHub และได้รับความสนใจจากนักพัฒนา

    https://www.tomshardware.com/software/linux/developer-gets-linux-running-inside-microsoft-excel-mostly-for-fun
    นักพัฒนา NSG650 ได้สร้างโปรเจ็กต์ LinuxInExcel ซึ่งทำให้สามารถรัน Linux ภายใน Microsoft Excel ได้ โดยใช้ RISC-V emulator และ Microsoft VBA macro เพื่อเรียกใช้งานอีมูเลเตอร์ใน DLL และแสดงผลในเซลล์ของสเปรดชีต แม้ว่าการรัน Linux ใน Excel จะเป็นไปได้ แต่ก็มีข้อจำกัดด้าน ประสิทธิภาพและเสถียรภาพ โดย NSG650 ยอมรับว่าโปรเจ็กต์นี้ "มีบั๊กเยอะมาก" และทำขึ้นเพื่อความสนุกเป็นหลัก นอกจากนี้ Enderman ซึ่งเป็น YouTuber ได้เพิ่ม ระบบรองรับอินพุต ให้กับ LinuxInExcel ทำให้สามารถโต้ตอบกับระบบได้มากขึ้น และเผยแพร่วิดีโอสาธิตการติดตั้งและใช้งานบน YouTube ✅ การรัน Linux ใน Microsoft Excel - ใช้ RISC-V emulator และ Microsoft VBA macro - แสดงผลในเซลล์ของสเปรดชีต ✅ ข้อจำกัดของโปรเจ็กต์ - ประสิทธิภาพต่ำและมีบั๊กจำนวนมาก - ทำขึ้นเพื่อความสนุกเป็นหลัก ✅ การพัฒนาเพิ่มเติมโดย Enderman - เพิ่มระบบรองรับอินพุตให้กับ LinuxInExcel - เผยแพร่วิดีโอสาธิตการติดตั้งและใช้งาน ✅ ความสนใจจากชุมชนออนไลน์ - โปรเจ็กต์ถูกอัปโหลดบน GitHub และได้รับความสนใจจากนักพัฒนา https://www.tomshardware.com/software/linux/developer-gets-linux-running-inside-microsoft-excel-mostly-for-fun
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดย Kevin Zhang รองประธานอาวุโสของบริษัทเปิดเผยว่า TSMC จะนำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น AI, HPC และอุปกรณ์ผู้บริโภค

    ในอดีต อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ขับเคลื่อนโดย โปรเซสเซอร์สำหรับพีซี แต่เมื่อสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาท เทคโนโลยีการผลิตก็ต้องปรับตัวให้เหมาะสมกับ SoC สำหรับมือถือ และปัจจุบัน AI และ HPC กำลังกลายเป็นกลุ่มที่ต้องการเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุด

    TSMC วางแผนที่จะนำเสนอ N3P, N2, N2P และ A14 สำหรับอุปกรณ์มือถือและพีซี ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์โดยไม่ต้องใช้ backside power delivery ขณะที่ A16 และ A14P จะถูกออกแบบมาสำหรับ AI และ HPC โดยใช้ Super Power Rail Backside Power Delivery Network (BSPDN)

    นอกจากนี้ TSMC กำลังขยายเทคโนโลยี multi-chiplet packaging เพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล โดยมีการพัฒนา silicon photonics และ embedded power components เพื่อสร้างระบบที่มีแบนด์วิดธ์สูงและประหยัดพลังงาน

    ✅ การปรับตัวของ TSMC ต่อความต้องการของตลาด
    - นำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันสำหรับ AI, HPC และอุปกรณ์ผู้บริโภค
    - ขยายเทคโนโลยี multi-chiplet packaging เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล

    ✅ เทคโนโลยีสำหรับอุปกรณ์มือถือและพีซี
    - ใช้ N3P, N2, N2P และ A14 ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์
    - ไม่ต้องใช้ backside power delivery

    ✅ เทคโนโลยีสำหรับ AI และ HPC
    - ใช้ A16 และ A14P พร้อม Super Power Rail Backside Power Delivery Network (BSPDN)
    - รองรับการใช้พลังงานสูงในศูนย์ข้อมูล

    ✅ การพัฒนา multi-chiplet packaging
    - รวม silicon photonics และ embedded power components
    - สร้างระบบที่มีแบนด์วิดธ์สูงและประหยัดพลังงาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-svp-kevin-zhang-opens-up-on-process-technology-development-and-evolving-demands-interview
    TSMC กำลังปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดย Kevin Zhang รองประธานอาวุโสของบริษัทเปิดเผยว่า TSMC จะนำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น AI, HPC และอุปกรณ์ผู้บริโภค ในอดีต อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ขับเคลื่อนโดย โปรเซสเซอร์สำหรับพีซี แต่เมื่อสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาท เทคโนโลยีการผลิตก็ต้องปรับตัวให้เหมาะสมกับ SoC สำหรับมือถือ และปัจจุบัน AI และ HPC กำลังกลายเป็นกลุ่มที่ต้องการเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุด TSMC วางแผนที่จะนำเสนอ N3P, N2, N2P และ A14 สำหรับอุปกรณ์มือถือและพีซี ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์โดยไม่ต้องใช้ backside power delivery ขณะที่ A16 และ A14P จะถูกออกแบบมาสำหรับ AI และ HPC โดยใช้ Super Power Rail Backside Power Delivery Network (BSPDN) นอกจากนี้ TSMC กำลังขยายเทคโนโลยี multi-chiplet packaging เพื่อรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล โดยมีการพัฒนา silicon photonics และ embedded power components เพื่อสร้างระบบที่มีแบนด์วิดธ์สูงและประหยัดพลังงาน ✅ การปรับตัวของ TSMC ต่อความต้องการของตลาด - นำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันสำหรับ AI, HPC และอุปกรณ์ผู้บริโภค - ขยายเทคโนโลยี multi-chiplet packaging เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล ✅ เทคโนโลยีสำหรับอุปกรณ์มือถือและพีซี - ใช้ N3P, N2, N2P และ A14 ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์ - ไม่ต้องใช้ backside power delivery ✅ เทคโนโลยีสำหรับ AI และ HPC - ใช้ A16 และ A14P พร้อม Super Power Rail Backside Power Delivery Network (BSPDN) - รองรับการใช้พลังงานสูงในศูนย์ข้อมูล ✅ การพัฒนา multi-chiplet packaging - รวม silicon photonics และ embedded power components - สร้างระบบที่มีแบนด์วิดธ์สูงและประหยัดพลังงาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-svp-kevin-zhang-opens-up-on-process-technology-development-and-evolving-demands-interview
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักพัฒนา Ibrahim Diallo ได้คิดค้นวิธีป้องกันบล็อกของเขาจากบอทที่เป็นอันตราย โดยใช้ Zip Bombs ซึ่งเป็นไฟล์บีบอัดขนาดเล็กที่สามารถขยายตัวเป็นไฟล์ขนาดมหาศาลเมื่อถูกเปิดออก

    Diallo พบว่าบอทบางตัวพยายามโจมตีเซิร์ฟเวอร์ของเขาด้วยการฉีดโค้ดที่เป็นอันตรายหรือสแกนหาช่องโหว่ ดังนั้นเขาจึงสร้าง Zip Bombs ที่มีขนาด 1MB แต่สามารถขยายเป็น 1GB และ 10MB ที่สามารถขยายเป็น 10GB เพื่อทำให้บอทเหล่านั้นล่ม

    เมื่อเซิร์ฟเวอร์ของเขาตรวจพบบอทที่เป็นอันตราย ระบบจะส่ง 200 OK Response พร้อมกับไฟล์ Zip Bomb ซึ่งบอทจะเปิดไฟล์เพื่อพยายามดึงข้อมูล แต่เนื่องจากไฟล์มีขนาดใหญ่เกินไป บอทจะใช้ทรัพยากรหน่วยความจำจนหมดและล่มไป

    Diallo เตือนว่าการใช้ Zip Bombs ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะหากเปิดไฟล์โดยไม่ได้ตั้งใจ อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์ของตัวเองล่มได้เช่นกัน นอกจากนี้ บอทบางตัวสามารถตรวจจับและหลีกเลี่ยง Zip Bombs ได้

    ✅ Zip Bombs คืออะไร?
    - ไฟล์บีบอัดขนาดเล็กที่สามารถขยายตัวเป็นไฟล์ขนาดมหาศาลเมื่อถูกเปิดออก
    - ใช้เพื่อทำให้บอทที่เป็นอันตรายล่มโดยใช้ทรัพยากรหน่วยความจำจนหมด

    ✅ วิธีการทำงานของระบบป้องกันบอท
    - เซิร์ฟเวอร์ตรวจพบบอทที่เป็นอันตรายและส่งไฟล์ Zip Bomb
    - บอทเปิดไฟล์เพื่อพยายามดึงข้อมูล แต่ไฟล์มีขนาดใหญ่เกินไป ทำให้ระบบของบอทล่ม

    ✅ ตัวอย่าง Zip Bombs ที่ใช้
    - 1MB ที่สามารถขยายเป็น 1GB
    - 10MB ที่สามารถขยายเป็น 10GB

    ✅ ข้อจำกัดของ Zip Bombs
    - บอทบางตัวสามารถตรวจจับและหลีกเลี่ยง Zip Bombs ได้
    - หากเปิดไฟล์โดยไม่ได้ตั้งใจ อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์ของตัวเองล่มได้

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/software-dev-fortifies-his-blog-with-zip-bombs-attacking-bots-meet-their-end-with-explosive-data-package
    นักพัฒนา Ibrahim Diallo ได้คิดค้นวิธีป้องกันบล็อกของเขาจากบอทที่เป็นอันตราย โดยใช้ Zip Bombs ซึ่งเป็นไฟล์บีบอัดขนาดเล็กที่สามารถขยายตัวเป็นไฟล์ขนาดมหาศาลเมื่อถูกเปิดออก Diallo พบว่าบอทบางตัวพยายามโจมตีเซิร์ฟเวอร์ของเขาด้วยการฉีดโค้ดที่เป็นอันตรายหรือสแกนหาช่องโหว่ ดังนั้นเขาจึงสร้าง Zip Bombs ที่มีขนาด 1MB แต่สามารถขยายเป็น 1GB และ 10MB ที่สามารถขยายเป็น 10GB เพื่อทำให้บอทเหล่านั้นล่ม เมื่อเซิร์ฟเวอร์ของเขาตรวจพบบอทที่เป็นอันตราย ระบบจะส่ง 200 OK Response พร้อมกับไฟล์ Zip Bomb ซึ่งบอทจะเปิดไฟล์เพื่อพยายามดึงข้อมูล แต่เนื่องจากไฟล์มีขนาดใหญ่เกินไป บอทจะใช้ทรัพยากรหน่วยความจำจนหมดและล่มไป Diallo เตือนว่าการใช้ Zip Bombs ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะหากเปิดไฟล์โดยไม่ได้ตั้งใจ อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์ของตัวเองล่มได้เช่นกัน นอกจากนี้ บอทบางตัวสามารถตรวจจับและหลีกเลี่ยง Zip Bombs ได้ ✅ Zip Bombs คืออะไร? - ไฟล์บีบอัดขนาดเล็กที่สามารถขยายตัวเป็นไฟล์ขนาดมหาศาลเมื่อถูกเปิดออก - ใช้เพื่อทำให้บอทที่เป็นอันตรายล่มโดยใช้ทรัพยากรหน่วยความจำจนหมด ✅ วิธีการทำงานของระบบป้องกันบอท - เซิร์ฟเวอร์ตรวจพบบอทที่เป็นอันตรายและส่งไฟล์ Zip Bomb - บอทเปิดไฟล์เพื่อพยายามดึงข้อมูล แต่ไฟล์มีขนาดใหญ่เกินไป ทำให้ระบบของบอทล่ม ✅ ตัวอย่าง Zip Bombs ที่ใช้ - 1MB ที่สามารถขยายเป็น 1GB - 10MB ที่สามารถขยายเป็น 10GB ✅ ข้อจำกัดของ Zip Bombs - บอทบางตัวสามารถตรวจจับและหลีกเลี่ยง Zip Bombs ได้ - หากเปิดไฟล์โดยไม่ได้ตั้งใจ อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์ของตัวเองล่มได้ https://www.tomshardware.com/desktops/servers/software-dev-fortifies-his-blog-with-zip-bombs-attacking-bots-meet-their-end-with-explosive-data-package
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังพัฒนา ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบตรง สำหรับ ซีพียูที่ใช้พลังงานสูงถึง 1,000 วัตต์ โดยใช้ แพ็กเกจระดับไมโครแชนแนล ที่ช่วยให้การไหลของของเหลวมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ระบบนี้ไม่ใช่การระบายความร้อนโดยตรงบน die ของซีพียู แต่ใช้ บล็อกระบายความร้อนขนาดกะทัดรัด ที่มี ช่องทางขนาดเล็กที่ทำจากทองแดง เพื่อควบคุมการไหลของของเหลวไปยังจุดที่มีความร้อนสูงสุด ซึ่งช่วยให้สามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้น

    Intel ระบุว่าระบบนี้สามารถ กระจายความร้อนได้สูงถึง 1,000 วัตต์ ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้พลังงานสูง เช่น AI, HPC (High Performance Computing) และเวิร์กสเตชัน

    นอกจากนี้ Intel ยังใช้ TIM (Thermal Interface Material) แบบโลหะเหลวหรือแบบบัดกรี ซึ่งให้การสัมผัสที่ดีกว่า TIM แบบโพลิเมอร์ และช่วยให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนดีขึ้น 15-20% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบเดิม

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีระบายความร้อน
    - ใช้แพ็กเกจระดับไมโครแชนแนลเพื่อควบคุมการไหลของของเหลว
    - สามารถกระจายความร้อนได้สูงถึง 1,000 วัตต์

    ✅ การออกแบบระบบระบายความร้อน
    - ไม่ใช่การระบายความร้อนโดยตรงบน die ของซีพียู
    - ใช้บล็อกระบายความร้อนที่มีช่องทางขนาดเล็กทำจากทองแดง

    ✅ การใช้ TIM แบบโลหะเหลวหรือแบบบัดกรี
    - ให้การสัมผัสที่ดีกว่า TIM แบบโพลิเมอร์
    - เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน 15-20%

    ✅ การนำไปใช้ในงานที่ต้องใช้พลังงานสูง
    - เหมาะสำหรับ AI, HPC และเวิร์กสเตชัน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/intel-experimenting-with-direct-liquid-cooling-for-up-to-1000w-cpus-package-level-approach-maximizes-performance-reduces-size-and-complexity
    Intel กำลังพัฒนา ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบตรง สำหรับ ซีพียูที่ใช้พลังงานสูงถึง 1,000 วัตต์ โดยใช้ แพ็กเกจระดับไมโครแชนแนล ที่ช่วยให้การไหลของของเหลวมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบนี้ไม่ใช่การระบายความร้อนโดยตรงบน die ของซีพียู แต่ใช้ บล็อกระบายความร้อนขนาดกะทัดรัด ที่มี ช่องทางขนาดเล็กที่ทำจากทองแดง เพื่อควบคุมการไหลของของเหลวไปยังจุดที่มีความร้อนสูงสุด ซึ่งช่วยให้สามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้น Intel ระบุว่าระบบนี้สามารถ กระจายความร้อนได้สูงถึง 1,000 วัตต์ ซึ่งเหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้พลังงานสูง เช่น AI, HPC (High Performance Computing) และเวิร์กสเตชัน นอกจากนี้ Intel ยังใช้ TIM (Thermal Interface Material) แบบโลหะเหลวหรือแบบบัดกรี ซึ่งให้การสัมผัสที่ดีกว่า TIM แบบโพลิเมอร์ และช่วยให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนดีขึ้น 15-20% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบเดิม ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีระบายความร้อน - ใช้แพ็กเกจระดับไมโครแชนแนลเพื่อควบคุมการไหลของของเหลว - สามารถกระจายความร้อนได้สูงถึง 1,000 วัตต์ ✅ การออกแบบระบบระบายความร้อน - ไม่ใช่การระบายความร้อนโดยตรงบน die ของซีพียู - ใช้บล็อกระบายความร้อนที่มีช่องทางขนาดเล็กทำจากทองแดง ✅ การใช้ TIM แบบโลหะเหลวหรือแบบบัดกรี - ให้การสัมผัสที่ดีกว่า TIM แบบโพลิเมอร์ - เพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน 15-20% ✅ การนำไปใช้ในงานที่ต้องใช้พลังงานสูง - เหมาะสำหรับ AI, HPC และเวิร์กสเตชัน https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/intel-experimenting-with-direct-liquid-cooling-for-up-to-1000w-cpus-package-level-approach-maximizes-performance-reduces-size-and-complexity
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังใช้ AI ในการเขียนโค้ดมากขึ้น โดย Satya Nadella ซีอีโอของบริษัทเปิดเผยว่า 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI และบางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด

    Nadella ได้เข้าร่วมงาน LlamaCon ร่วมกับ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI และการมีส่วนร่วมในระบบโอเพ่นซอร์ส โดยเขาระบุว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากและมีรูปแบบที่คาดเดาได้

    แม้ว่า AI จะช่วยให้การพัฒนาโค้ดมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ เนื่องจาก AI สามารถลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง อย่างไรก็ตาม Nadella ย้ำว่า AI ยังต้องการการตรวจสอบจากนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าโค้ดที่สร้างขึ้นสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง

    Microsoft พบว่า AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++ เนื่องจาก Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่า, รองรับ dynamic typing และมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า ขณะที่ C++ เป็นภาษาที่เกี่ยวข้องกับโค้ดระดับต่ำ ซึ่งยากต่อการทำให้เป็นอัตโนมัติ

    ✅ AI เขียนโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft
    - 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI
    - บางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด

    ✅ การพัฒนา AI ในระบบโอเพ่นซอร์ส
    - Nadella และ Zuckerberg พูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI ในงาน LlamaCon
    - AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะงานที่มีรูปแบบที่คาดเดาได้

    ✅ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่
    - AI อาจลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง
    - นักพัฒนาที่มีประสบการณ์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบโค้ด

    ✅ ความแตกต่างระหว่าง Python และ C++ ในการใช้ AI
    - AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++
    - Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่าและมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsofts-ceo-reveals-that-ai-writes-up-to-30-percent-of-its-code-some-projects-may-have-all-of-its-code-written-by-ai
    Microsoft กำลังใช้ AI ในการเขียนโค้ดมากขึ้น โดย Satya Nadella ซีอีโอของบริษัทเปิดเผยว่า 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI และบางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด Nadella ได้เข้าร่วมงาน LlamaCon ร่วมกับ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI และการมีส่วนร่วมในระบบโอเพ่นซอร์ส โดยเขาระบุว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากและมีรูปแบบที่คาดเดาได้ แม้ว่า AI จะช่วยให้การพัฒนาโค้ดมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ เนื่องจาก AI สามารถลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง อย่างไรก็ตาม Nadella ย้ำว่า AI ยังต้องการการตรวจสอบจากนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าโค้ดที่สร้างขึ้นสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง Microsoft พบว่า AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++ เนื่องจาก Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่า, รองรับ dynamic typing และมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า ขณะที่ C++ เป็นภาษาที่เกี่ยวข้องกับโค้ดระดับต่ำ ซึ่งยากต่อการทำให้เป็นอัตโนมัติ ✅ AI เขียนโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft - 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI - บางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด ✅ การพัฒนา AI ในระบบโอเพ่นซอร์ส - Nadella และ Zuckerberg พูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI ในงาน LlamaCon - AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะงานที่มีรูปแบบที่คาดเดาได้ ✅ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ - AI อาจลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง - นักพัฒนาที่มีประสบการณ์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบโค้ด ✅ ความแตกต่างระหว่าง Python และ C++ ในการใช้ AI - AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++ - Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่าและมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsofts-ceo-reveals-that-ai-writes-up-to-30-percent-of-its-code-some-projects-may-have-all-of-its-code-written-by-ai
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • การค้นหาข้อมูลทางการแพทย์บนอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อ AI มีบทบาทมากขึ้นในการให้คำตอบ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการค้นหาข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น และอาจนำไปสู่การวินิจฉัยที่ผิดพลาด

    แพทย์แนะนำให้ผู้ใช้เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น Mayo Clinic หรือ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) แทนที่จะคลิกที่ลิงก์แรกที่ปรากฏในผลการค้นหา เนื่องจากบางเว็บไซต์อาจได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณาและไม่ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง

    นอกจากนี้ การใช้ AI เพื่อค้นหาข้อมูลทางการแพทย์ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจาก AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง หรือเกิด "hallucinations" ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

    แพทย์ยังแนะนำให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคด้วยตนเอง เช่น ควรถามว่า "อะไรเป็นสาเหตุของก้อนเนื้อใต้ผิวหนัง?" แทนที่จะถามว่า "ก้อนเนื้อใต้ผิวหนังเป็นมะเร็งหรือไม่?" เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น

    ✅ เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
    - ใช้เว็บไซต์ของ Mayo Clinic หรือ CDC
    - หลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่ได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณา

    ✅ ข้อควรระวังในการใช้ AI
    - AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง
    - ระวัง hallucinations ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลผิดพลาด

    ✅ วิธีการค้นหาข้อมูลที่ถูกต้อง
    - ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคเอง
    - ใช้คำถามที่เปิดกว้าง เช่น "อะไรเป็นสาเหตุของอาการนี้?"

    ✅ สถานการณ์ที่ควรไปพบแพทย์ทันที
    - อาการเจ็บหน้าอก
    - เวียนศีรษะรุนแรง
    - สัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/whats-that-rash-put-some-thought-into-asking-google-for-medical-help
    การค้นหาข้อมูลทางการแพทย์บนอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อ AI มีบทบาทมากขึ้นในการให้คำตอบ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการค้นหาข้อมูลที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น และอาจนำไปสู่การวินิจฉัยที่ผิดพลาด แพทย์แนะนำให้ผู้ใช้เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น Mayo Clinic หรือ Centers for Disease Control and Prevention (CDC) แทนที่จะคลิกที่ลิงก์แรกที่ปรากฏในผลการค้นหา เนื่องจากบางเว็บไซต์อาจได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณาและไม่ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง นอกจากนี้ การใช้ AI เพื่อค้นหาข้อมูลทางการแพทย์ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจาก AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง หรือเกิด "hallucinations" ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แพทย์ยังแนะนำให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคด้วยตนเอง เช่น ควรถามว่า "อะไรเป็นสาเหตุของก้อนเนื้อใต้ผิวหนัง?" แทนที่จะถามว่า "ก้อนเนื้อใต้ผิวหนังเป็นมะเร็งหรือไม่?" เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น ✅ เลือกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ - ใช้เว็บไซต์ของ Mayo Clinic หรือ CDC - หลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่ได้รับการโปรโมตผ่านโฆษณา ✅ ข้อควรระวังในการใช้ AI - AI อาจสร้างข้อมูลที่ไม่มีแหล่งอ้างอิง - ระวัง hallucinations ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้ AI สร้างข้อมูลผิดพลาด ✅ วิธีการค้นหาข้อมูลที่ถูกต้อง - ค้นหาข้อมูลตามอาการแทนที่จะพยายามวินิจฉัยโรคเอง - ใช้คำถามที่เปิดกว้าง เช่น "อะไรเป็นสาเหตุของอาการนี้?" ✅ สถานการณ์ที่ควรไปพบแพทย์ทันที - อาการเจ็บหน้าอก - เวียนศีรษะรุนแรง - สัญญาณของโรคหลอดเลือดสมอง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/whats-that-rash-put-some-thought-into-asking-google-for-medical-help
    WWW.THESTAR.COM.MY
    What's that rash? Put some thought into asking Google for medical help
    Dr Google is often on call for worried patients, but it may not give the best advice.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Reddit คาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยอาศัยการเติบโตของ โฆษณาดิจิทัล แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับงบประมาณด้านการตลาด

    หุ้นของ Reddit พุ่งขึ้น 20% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด ก่อนลดลงมาอยู่ที่ 7% หลังจาก Steve Huffman ซีอีโอของบริษัทกล่าวว่า Google Search อาจส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้ใช้รายวัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอัลกอริธึมของ Google ทำให้ Reddit มีความผันผวนด้านปริมาณการเข้าชม

    Reddit ได้ลงทุนใน เทคโนโลยีโฆษณา เพื่อดึงดูดนักโฆษณาในช่วงที่แพลตฟอร์มอื่น เช่น Facebook และ Instagram เผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณโฆษณา โดย Reddit ใช้ Conversation Placement Ads ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถโฆษณาโดยตรงในกระทู้สนทนา

    Jen Wong ซีโอโอของ Reddit เปิดเผยว่า จำนวนผู้ลงโฆษณาเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025 และบริษัทคาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองอยู่ที่ 410-430 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าค่าประมาณของนักวิเคราะห์ที่ 395.5 ล้านดอลลาร์

    แม้ว่า Reddit จะเติบโตในด้านโฆษณา แต่หุ้นของบริษัทลดลง 27% ตั้งแต่ต้นปี 2025 อย่างไรก็ตาม รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 61% ในไตรมาสแรกเป็น 392.4 ล้านดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 13 เซนต์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

    ✅ การเติบโตของรายได้และโฆษณา
    - คาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองอยู่ที่ 410-430 ล้านดอลลาร์
    - จำนวนผู้ลงโฆษณาเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในไตรมาสแรก

    ✅ ผลกระทบจาก Google Search
    - การเปลี่ยนแปลงอัลกอริธึมของ Google อาจส่งผลต่อจำนวนผู้ใช้รายวันของ Reddit
    - Reddit เคยเผชิญกับความผันผวนด้านปริมาณการเข้าชมจากการเปลี่ยนแปลงของ Google

    ✅ กลยุทธ์ด้านโฆษณาของ Reddit
    - ใช้ Conversation Placement Ads เพื่อให้แบรนด์สามารถโฆษณาโดยตรงในกระทู้สนทนา
    - ดึงดูดนักโฆษณาในช่วงที่แพลตฟอร์มอื่นเผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณ

    ✅ สถานะของหุ้น Reddit
    - หุ้นลดลง 27% ตั้งแต่ต้นปี 2025
    - รายได้ไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 61% เป็น 392.4 ล้านดอลลาร์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/reddit-forecasts-revenue-above-estimates-as-digital-ad-spend-grows-shares-surge
    Reddit คาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยอาศัยการเติบโตของ โฆษณาดิจิทัล แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับงบประมาณด้านการตลาด หุ้นของ Reddit พุ่งขึ้น 20% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด ก่อนลดลงมาอยู่ที่ 7% หลังจาก Steve Huffman ซีอีโอของบริษัทกล่าวว่า Google Search อาจส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้ใช้รายวัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอัลกอริธึมของ Google ทำให้ Reddit มีความผันผวนด้านปริมาณการเข้าชม Reddit ได้ลงทุนใน เทคโนโลยีโฆษณา เพื่อดึงดูดนักโฆษณาในช่วงที่แพลตฟอร์มอื่น เช่น Facebook และ Instagram เผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณโฆษณา โดย Reddit ใช้ Conversation Placement Ads ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถโฆษณาโดยตรงในกระทู้สนทนา Jen Wong ซีโอโอของ Reddit เปิดเผยว่า จำนวนผู้ลงโฆษณาเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในไตรมาสแรกของปี 2025 และบริษัทคาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองอยู่ที่ 410-430 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าค่าประมาณของนักวิเคราะห์ที่ 395.5 ล้านดอลลาร์ แม้ว่า Reddit จะเติบโตในด้านโฆษณา แต่หุ้นของบริษัทลดลง 27% ตั้งแต่ต้นปี 2025 อย่างไรก็ตาม รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 61% ในไตรมาสแรกเป็น 392.4 ล้านดอลลาร์ และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 13 เซนต์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ✅ การเติบโตของรายได้และโฆษณา - คาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองอยู่ที่ 410-430 ล้านดอลลาร์ - จำนวนผู้ลงโฆษณาเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในไตรมาสแรก ✅ ผลกระทบจาก Google Search - การเปลี่ยนแปลงอัลกอริธึมของ Google อาจส่งผลต่อจำนวนผู้ใช้รายวันของ Reddit - Reddit เคยเผชิญกับความผันผวนด้านปริมาณการเข้าชมจากการเปลี่ยนแปลงของ Google ✅ กลยุทธ์ด้านโฆษณาของ Reddit - ใช้ Conversation Placement Ads เพื่อให้แบรนด์สามารถโฆษณาโดยตรงในกระทู้สนทนา - ดึงดูดนักโฆษณาในช่วงที่แพลตฟอร์มอื่นเผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณ ✅ สถานะของหุ้น Reddit - หุ้นลดลง 27% ตั้งแต่ต้นปี 2025 - รายได้ไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 61% เป็น 392.4 ล้านดอลลาร์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/reddit-forecasts-revenue-above-estimates-as-digital-ad-spend-grows-shares-surge
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Reddit's strong revenue forecast signals advertising strength
    (Reuters) -Reddit forecast second-quarter revenue above Wall Street estimates on Thursday, betting on growing digital advertising spend on the social media platform despite uncertainty over marketing budgets.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี 2025 โดยมีรายได้รวม 95.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% จากปีที่แล้ว และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 29.58 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ Apple ยังประกาศโครงการ ซื้อหุ้นคืนมูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มเงินปันผลเป็น 0.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น

    Apple เปิดเผยว่าจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ทั่วโลกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในทุกหมวดหมู่ อย่างไรก็ตาม รายได้จาก iPhone เพิ่มขึ้นเพียง 2% ขณะที่ Mac เติบโต 7% และ iPad เพิ่มขึ้น 15% ส่วนรายได้จาก Wearables, Home และ Accessories ลดลง 5%

    ธุรกิจ Apple Services ทำสถิติรายได้สูงสุดที่ 26.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากปีที่แล้ว แต่อนาคตของธุรกิจนี้อาจเผชิญความไม่แน่นอน เนื่องจากคำสั่งศาลล่าสุดที่กำหนดให้ Apple ต้องอนุญาตให้นักพัฒนาใช้ระบบชำระเงินภายนอก ซึ่งอาจส่งผลให้ Apple สูญเสียค่าคอมมิชชั่น 30%

    Tim Cook ซีอีโอของ Apple กล่าวถึงผลประกอบการว่า "เรารู้สึกภูมิใจที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนลง 60% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา" และเตือนว่าภาษีนำเข้าที่กำหนดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ อาจเพิ่มต้นทุนของ Apple ถึง 900 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสหน้า

    ✅ รายได้และกำไรของ Apple
    - รายได้รวม 95.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% จากปีที่แล้ว
    - กำไรจากการดำเนินงาน 29.58 พันล้านดอลลาร์

    ✅ การเติบโตของผลิตภัณฑ์ต่างๆ
    - iPhone เพิ่มขึ้น 2%
    - Mac เติบโต 7%
    - iPad เพิ่มขึ้น 15%
    - Wearables, Home และ Accessories ลดลง 5%

    ✅ ธุรกิจ Apple Services
    - รายได้ 26.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12%
    - อาจได้รับผลกระทบจากคำสั่งศาลเกี่ยวกับระบบชำระเงินภายนอก

    ✅ โครงการซื้อหุ้นคืนและเงินปันผล
    - Apple ประกาศซื้อหุ้นคืนมูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์
    - เพิ่มเงินปันผลเป็น 0.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น

    https://www.neowin.net/news/apple-services-revenue-reach-historic-high-future-in-jeopardy-after-court-order/
    Apple รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี 2025 โดยมีรายได้รวม 95.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% จากปีที่แล้ว และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 29.58 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ Apple ยังประกาศโครงการ ซื้อหุ้นคืนมูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มเงินปันผลเป็น 0.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น Apple เปิดเผยว่าจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ทั่วโลกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในทุกหมวดหมู่ อย่างไรก็ตาม รายได้จาก iPhone เพิ่มขึ้นเพียง 2% ขณะที่ Mac เติบโต 7% และ iPad เพิ่มขึ้น 15% ส่วนรายได้จาก Wearables, Home และ Accessories ลดลง 5% ธุรกิจ Apple Services ทำสถิติรายได้สูงสุดที่ 26.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% จากปีที่แล้ว แต่อนาคตของธุรกิจนี้อาจเผชิญความไม่แน่นอน เนื่องจากคำสั่งศาลล่าสุดที่กำหนดให้ Apple ต้องอนุญาตให้นักพัฒนาใช้ระบบชำระเงินภายนอก ซึ่งอาจส่งผลให้ Apple สูญเสียค่าคอมมิชชั่น 30% Tim Cook ซีอีโอของ Apple กล่าวถึงผลประกอบการว่า "เรารู้สึกภูมิใจที่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนลง 60% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา" และเตือนว่าภาษีนำเข้าที่กำหนดโดยรัฐบาลสหรัฐฯ อาจเพิ่มต้นทุนของ Apple ถึง 900 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสหน้า ✅ รายได้และกำไรของ Apple - รายได้รวม 95.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% จากปีที่แล้ว - กำไรจากการดำเนินงาน 29.58 พันล้านดอลลาร์ ✅ การเติบโตของผลิตภัณฑ์ต่างๆ - iPhone เพิ่มขึ้น 2% - Mac เติบโต 7% - iPad เพิ่มขึ้น 15% - Wearables, Home และ Accessories ลดลง 5% ✅ ธุรกิจ Apple Services - รายได้ 26.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% - อาจได้รับผลกระทบจากคำสั่งศาลเกี่ยวกับระบบชำระเงินภายนอก ✅ โครงการซื้อหุ้นคืนและเงินปันผล - Apple ประกาศซื้อหุ้นคืนมูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ - เพิ่มเงินปันผลเป็น 0.26 ดอลลาร์ต่อหุ้น https://www.neowin.net/news/apple-services-revenue-reach-historic-high-future-in-jeopardy-after-court-order/
    WWW.NEOWIN.NET
    Apple Services revenue reach historic high, future in jeopardy after court order
    While the installed base hit a record high, potential challenges loom from a recent court ruling and estimated $900 million in costs due to tariffs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • Epic Games ได้ประกาศแนวทางใหม่สำหรับนักพัฒนาในการหลีกเลี่ยง Apple Tax อย่างสมบูรณ์ หลังจากที่ศาลสหรัฐฯ ตัดสินว่า Apple ต้องอนุญาตให้นักพัฒนาแอปสามารถชี้นำผู้ใช้ไปยังระบบชำระเงินภายนอกได้

    Epic เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป นักพัฒนาที่ใช้ Epic Games Store จะไม่ต้องแบ่งรายได้ให้ Epic จนกว่าจะถึง 1 ล้านดอลลาร์ หลังจากนั้นจะมีการแบ่งรายได้ตามอัตราเดิมคือ 88%-12%

    การต่อสู้ระหว่าง Epic และ Apple เริ่มขึ้นในปี 2021 เมื่อศาลตัดสินว่า Apple ไม่สามารถจำกัดนักพัฒนาแอปจากการใช้ปุ่มหรือลิงก์ภายนอกเพื่อชี้นำผู้ใช้ไปยังระบบชำระเงินอื่นได้ อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงตามคำสั่งศาล ทำให้ Epic ต้องกลับไปฟ้องร้องอีกครั้ง

    เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2025 ผู้พิพากษา Yvonne Gonzalez-Rogers ตัดสินว่า Apple "จงใจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล" และสร้างอุปสรรคใหม่เพื่อกีดกันการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่า Alex Roman รองประธานฝ่ายการเงินของ Apple ให้การเท็จ เกี่ยวกับค่าธรรมเนียม 27% สำหรับการซื้อสินค้าผ่านระบบภายนอก

    Epic ยังประกาศว่า Fortnite จะกลับเข้าสู่ App Store ในสหรัฐฯ และนักพัฒนาจะสามารถเปิด "เว็บช็อป" บน Epic Games Store เพื่อให้ผู้เล่นซื้อสินค้าโดยตรงจากเว็บไซต์ แทนที่จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงให้ Apple หรือ Google

    ✅ การเปลี่ยนแปลงใน Epic Games Store
    - นักพัฒนาจะไม่ต้องแบ่งรายได้ให้ Epic จนกว่าจะถึง 1 ล้านดอลลาร์
    - หลังจากนั้นจะมีการแบ่งรายได้ตามอัตรา 88%-12%

    ✅ คำตัดสินของศาลสหรัฐฯ
    - Apple ต้องอนุญาตให้นักพัฒนาใช้ระบบชำระเงินภายนอก
    - Apple ถูกตัดสินว่าจงใจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล

    ✅ การกลับมาของ Fortnite บน iOS
    - Epic ประกาศว่า Fortnite จะกลับเข้าสู่ App Store ในสหรัฐฯ
    - นักพัฒนาสามารถเปิดเว็บช็อปบน Epic Games Store เพื่อขายสินค้าโดยตรง

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมและแอปพลิเคชัน
    - นักพัฒนาจะมีทางเลือกมากขึ้นในการจัดการรายได้
    - อาจส่งผลให้ Apple ต้องปรับนโยบายค่าธรรมเนียมในอนาคต

    https://www.neowin.net/news/epic-games-announces-new-way-for-developers-to-bypass-apple-tax-completely/
    Epic Games ได้ประกาศแนวทางใหม่สำหรับนักพัฒนาในการหลีกเลี่ยง Apple Tax อย่างสมบูรณ์ หลังจากที่ศาลสหรัฐฯ ตัดสินว่า Apple ต้องอนุญาตให้นักพัฒนาแอปสามารถชี้นำผู้ใช้ไปยังระบบชำระเงินภายนอกได้ Epic เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป นักพัฒนาที่ใช้ Epic Games Store จะไม่ต้องแบ่งรายได้ให้ Epic จนกว่าจะถึง 1 ล้านดอลลาร์ หลังจากนั้นจะมีการแบ่งรายได้ตามอัตราเดิมคือ 88%-12% การต่อสู้ระหว่าง Epic และ Apple เริ่มขึ้นในปี 2021 เมื่อศาลตัดสินว่า Apple ไม่สามารถจำกัดนักพัฒนาแอปจากการใช้ปุ่มหรือลิงก์ภายนอกเพื่อชี้นำผู้ใช้ไปยังระบบชำระเงินอื่นได้ อย่างไรก็ตาม Apple ไม่ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงตามคำสั่งศาล ทำให้ Epic ต้องกลับไปฟ้องร้องอีกครั้ง เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2025 ผู้พิพากษา Yvonne Gonzalez-Rogers ตัดสินว่า Apple "จงใจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล" และสร้างอุปสรรคใหม่เพื่อกีดกันการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่า Alex Roman รองประธานฝ่ายการเงินของ Apple ให้การเท็จ เกี่ยวกับค่าธรรมเนียม 27% สำหรับการซื้อสินค้าผ่านระบบภายนอก Epic ยังประกาศว่า Fortnite จะกลับเข้าสู่ App Store ในสหรัฐฯ และนักพัฒนาจะสามารถเปิด "เว็บช็อป" บน Epic Games Store เพื่อให้ผู้เล่นซื้อสินค้าโดยตรงจากเว็บไซต์ แทนที่จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงให้ Apple หรือ Google ✅ การเปลี่ยนแปลงใน Epic Games Store - นักพัฒนาจะไม่ต้องแบ่งรายได้ให้ Epic จนกว่าจะถึง 1 ล้านดอลลาร์ - หลังจากนั้นจะมีการแบ่งรายได้ตามอัตรา 88%-12% ✅ คำตัดสินของศาลสหรัฐฯ - Apple ต้องอนุญาตให้นักพัฒนาใช้ระบบชำระเงินภายนอก - Apple ถูกตัดสินว่าจงใจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ✅ การกลับมาของ Fortnite บน iOS - Epic ประกาศว่า Fortnite จะกลับเข้าสู่ App Store ในสหรัฐฯ - นักพัฒนาสามารถเปิดเว็บช็อปบน Epic Games Store เพื่อขายสินค้าโดยตรง ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมและแอปพลิเคชัน - นักพัฒนาจะมีทางเลือกมากขึ้นในการจัดการรายได้ - อาจส่งผลให้ Apple ต้องปรับนโยบายค่าธรรมเนียมในอนาคต https://www.neowin.net/news/epic-games-announces-new-way-for-developers-to-bypass-apple-tax-completely/
    WWW.NEOWIN.NET
    Epic Games announces new way for developers to bypass Apple Tax completely
    Epic Games has announced an alternative way for iOS app developers to process external payments with a zero percent revenue split, as the court rules Apple must allow external payments.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ev #mgep #banpong #ratchaburi สุขสันต์วันแรงงาน
    #ev #mgep #banpong #ratchaburi สุขสันต์วันแรงงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • UPCOMING TODAY MAY 1, 2025

    🌌 Movement IV – The Symphony of Life 🌌

    Life is not simply lived — it is created with every thought, every decision, and every silence we choose to honor.

    This piece invites you to pause, reflect, and take Conscientious Responsibility for the life you are shaping — not only for yourself but for all life interconnected with yours.

    "The Symphony of Life" is not a soundtrack to escape life, but a reminder to listen to it more deeply.

    🎵 The journey continues on May 1, 2025.
    Pre-save now and be ready to walk into the sound of your own becoming.

    https://distrokid.com/hyperfollow/sweetnationfathermotherdaughterandson/movement-iv-eternal-genesis

    Sweet Nation: Father mother daughter & son
    UPCOMING TODAY MAY 1, 2025 🌌 Movement IV – The Symphony of Life 🌌 Life is not simply lived — it is created with every thought, every decision, and every silence we choose to honor. This piece invites you to pause, reflect, and take Conscientious Responsibility for the life you are shaping — not only for yourself but for all life interconnected with yours. "The Symphony of Life" is not a soundtrack to escape life, but a reminder to listen to it more deeply. 🎵 The journey continues on May 1, 2025. Pre-save now and be ready to walk into the sound of your own becoming. ➤ https://distrokid.com/hyperfollow/sweetnationfathermotherdaughterandson/movement-iv-eternal-genesis Sweet Nation: Father mother daughter & son
    DISTROKID.COM
    Movement IV-Eternal Genesis by Sweet Nation: Father, mother, daughter & son
    Stream and Save Movement IV-Eternal Genesis - Distributed by DistroKid
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชื่อว่าเพื่อนเพจที่ดูละครจีนหลายคนต้องเคยเห็นเสื้อที่ทำจากผ้าต่อหรือที่เรียกว่า ‘patchwork’ หรือบางคนอาจเรียกเล่นๆ แถวบ้านว่า ‘เสื้อพรรคกระยาจก’! วันนี้เรามาคุยกันเกี่ยวกับประเพณีดั้งเดิมที่เกี่ยวกับเสื้อที่ทำจากผ้าต่อและความหมายของมัน

    ในละครเรื่อง <นิติเวชสาวยอดนักสืบ> มีอยู่ตอนหนึ่งที่เซียวซ่ง ซื่อหลางแห่งกรมอาญา สืบเรื่องถึงหมอตำแยคนหนึ่งชื่อ เว่ยซื่อเหนียง จากบทสนทนากับลูกค้าของนางคนหนึ่งได้ความว่านางจะแนะนำให้เด็กแรกเกิดใส่เสื้อ ‘ไป่เจียอี’ โดยมีการพูดถึงว่าต้องใส่เป็นเวลาสามวัน ผ่านสามวันต้องทำพิธี ‘สี่ซานหลี่’ แล้วจึงจะถอดเสื้อนั้นออกได้ และในพิธีดังกล่าวต้องมีการเลี้ยงสุราและใช้เครื่องประดับทองคำ ซึ่งองค์ประกอบนี้กลายมาเป็นเบาะแสให้สืบต่อไป

    เสื้อ ‘ไป่เจียอี’ (百家衣) นั้นแปลตรงตัวว่า ‘เสื้อร้อยครอบครัว’ มีชื่อเรียกอื่นที่หลากหลาย เช่น ไป่ซุ่ยอี/百岁衣 ไป๋เป่าอี/百保衣 เป็นเสื้อที่ทำขึ้นจากผ้าที่เอาผ้าหลายชิ้นมาเย็บต่อกันขึ้นเป็นลวดลายสวยงาม มักมีสีสันฉูดฉาดเพราะเป็นเสื้อเด็ก

    ทำไมต้องใส่เสื้อไป่เจียอี? ในสมัยโบราณนั้น อัตราการตายของทารกและเด็กเล็กสูงมาก ดังนั้นจึงมีการแก้เคล็ดด้วยการเอาเสื้อผ้าเก่าของเด็กที่แข็งแรงจากหลายครอบครัวมาเย็บติดกันแล้วทำขึ้นเป็นเสื้อให้เด็กใส่ เพื่อว่าเด็กจะได้มีสุขภาพดีแคล้วคลาดจากโรคภัย

    ขออธิบายเพิ่มว่า แม้จะใช้คำว่า ‘ไป่’ ที่แปลว่าหนึ่งร้อย แต่จริงๆ แล้วไม่ได้หมายความว่าต้องนับให้ได้ถึงหนึ่งร้อยจริงๆ ค่ะ คำนี้เป็นวัฒนธรรมทางภาษาของจีนที่ต้องการสื่อถึงความหมายว่ามีจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน มักปรากฏในวลีในนิยายหรือคำคมจีนเช่น ผ้าปักร้อยอักษร รักกันร้อยปี ได้ยินร้อยครั้ง ฯลฯ

    ส่วน ‘สี่ซานหลี่’ (洗三礼)นั้นก็คือการทำพิธีอาบน้ำให้กับทารกในวันที่สามหลังจากเกิดมา พิธีนี้มีมาแต่เมื่อใดไม่แน่ชัด แต่ได้มีการกล่าวถึงไว้ในบทประพันธ์ต่างๆ สมัยถังและซ่ง สรุปพิธีโดยคร่าวคือ
    1. ญาติสนิทจะมาร่วมกันรับประทานอาหารกลางวัน อาหารจานหลักจะเป็นบะหมี่ (สัญลักษณ์ของความอายุยืน)
    2. เสร็จแล้วหมอตำแยจะเป็นคนเริ่มประกอบพิธี โดยเริ่มจากกราบไหว้เทพยดา (แน่นอนว่าจะต้องมีหลักการว่าเป็นเทพยดาองค์ใดบ้าง แต่ Storyฯ ขอไม่กล่าวถึงเพราะจะยาวมาก)
    3. จากนั้นญาติสนิทก็จะเติมน้ำคนละช้อนลงในกาละมังที่มีน้ำสมุนไพรอยู่แล้ว แล้วก็เติมของขวัญซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญทองและของมงคลอย่างเช่นเมล็ดพืชผลไม้ที่มีชื่อมงคลอย่างเช่นพุทราจีนลงไปในกาละมังเดียวกันนั้น (แต่หากเป็นตั๋วเงินให้วางแยก) ใครใส่อะไร หมอตำแยก็จะเอ่ยเป็นคำอวยพรที่พ้องเสียงกับของสิ่งนั้น
    4. เสร็จแล้วหมอตำแยก็จะใช้น้ำนั้นอาบน้ำให้ทารก ระหว่างอาบก็จะเอ่ยคำอวยพรไปตลอด
    5. เสร็จแล้วนำเครื่องประดับเงินทอง (หากไม่มีให้ใช้เครื่องประดับสีขาวสีเหลือง) มาวางทาบกับทารกเป็นนัยว่าให้อนาคตรุ่งเรืองร่ำรวย
    แน่นอนว่า Storyฯ เล่าอย่างซูเปอร์ย่อ พิธีกรรมจริงๆ ละเอียดกว่านี้มาก

    กลับมาที่ไป่เจียอีต่อ

    ว่ากันว่าไป่เจียอีนี้ เดิมเป็นชุดที่นักบวชนิยมใส่ (เรียกว่าไป่น่าอี) มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น ต่อมาจึงนำมาทำเป็นเสื้อเด็ก เสื้อผู้ใหญ่ก็ยังนิยมอยู่ในกลุ่มนักบวช แต่ในสมัยหมิงและชิงกลายมาเป็นแฟชั่นที่นิยมมากในกลุ่มสตรีสามัญชน มีการปักเย็บลวดลายประณีตและสีสันสวยงาม เรียกว่าชุด ‘สุ่ยเถียนอี’ (水田衣 แปลตรงตัวว่า ‘ชุดนาข้าว’ ดูรูปขวา) ความนิยมนี้ว่ากันว่าเป็นเพราะองค์จูหยวนจาง (ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง) และพระมเหสีต่างทรงมีนิสัยมัธยัสถ์ ทรงเคยบริจาคผ้าห่มและเสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นด้ายและผ้าที่เหลือใช้ แม้แต่องค์หญิงและสนมในวังยังเคยทรงพระราชทานให้ใส่ จึงทำให้สุ่ยเถียนอีเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย ต่อมากลายเป็นการประชันความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบลายเสื้อของสตรี

    ธรรมเนียมการให้เด็กใส่เสื้อผ้าต่อไป่เจียอีนี้มีการกล่าวถึงตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง และปฏิบัติกันมาทุกระดับชนชั้น แม้แต่ในบันทึกเกี่ยวกับประวัติของฮ่องเต้สมัยราชวงศ์ชิงในยุคสมัยของคังซีและเฉียนหลงยังมีกล่าวถึงการให้องค์ชายและราชนิกูลสวมเสื้อไป่เจียอีในตอนเด็ก และธรรมเนียมนี้ยังมีอยู่ในปัจจุบัน เป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นในหลายพื้นที่ของจีน

    เป็นอย่างไรบ้าง? ‘เสื้อพรรคกระยาจก’ เขาก็มีความเป็นมานะเออ! ของไทยมีอะไรคล้ายคลึงอย่างนี้บ้างไหมคะ? Storyฯ ไม่สันทัด หากเพื่อนเพจท่านใดผ่านตาก็เล่าสู่กันฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.myvideo.net.tw/details/3/12499
    https://nicecasio.pixnet.net/blog/post/467691023

    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://kknews.cc/news/gpevjl.html
    https://www.lishiziliao.com/jiemi/21683.html
    https://www.hanspub.org/journal/PaperInformation.aspx?paperID=25060
    https://new.qq.com/omn/20200819/20200819A0D3IY00.html?pc
    https:// baike.baidu.com/item/洗三/912561

    #นิติเวชสาวยอดนักสืบ #นิติเวชสาวราชวงศ์ถัง #ผ้าต่อจีน #ผ้าปะจีน #ไป่ซุ่ยอี #ไป่น่าอี #สุ่ยเถียนอี #พิธีอาบน้ำทารก #สี่ซานหลี่
    เชื่อว่าเพื่อนเพจที่ดูละครจีนหลายคนต้องเคยเห็นเสื้อที่ทำจากผ้าต่อหรือที่เรียกว่า ‘patchwork’ หรือบางคนอาจเรียกเล่นๆ แถวบ้านว่า ‘เสื้อพรรคกระยาจก’! วันนี้เรามาคุยกันเกี่ยวกับประเพณีดั้งเดิมที่เกี่ยวกับเสื้อที่ทำจากผ้าต่อและความหมายของมัน ในละครเรื่อง <นิติเวชสาวยอดนักสืบ> มีอยู่ตอนหนึ่งที่เซียวซ่ง ซื่อหลางแห่งกรมอาญา สืบเรื่องถึงหมอตำแยคนหนึ่งชื่อ เว่ยซื่อเหนียง จากบทสนทนากับลูกค้าของนางคนหนึ่งได้ความว่านางจะแนะนำให้เด็กแรกเกิดใส่เสื้อ ‘ไป่เจียอี’ โดยมีการพูดถึงว่าต้องใส่เป็นเวลาสามวัน ผ่านสามวันต้องทำพิธี ‘สี่ซานหลี่’ แล้วจึงจะถอดเสื้อนั้นออกได้ และในพิธีดังกล่าวต้องมีการเลี้ยงสุราและใช้เครื่องประดับทองคำ ซึ่งองค์ประกอบนี้กลายมาเป็นเบาะแสให้สืบต่อไป เสื้อ ‘ไป่เจียอี’ (百家衣) นั้นแปลตรงตัวว่า ‘เสื้อร้อยครอบครัว’ มีชื่อเรียกอื่นที่หลากหลาย เช่น ไป่ซุ่ยอี/百岁衣 ไป๋เป่าอี/百保衣 เป็นเสื้อที่ทำขึ้นจากผ้าที่เอาผ้าหลายชิ้นมาเย็บต่อกันขึ้นเป็นลวดลายสวยงาม มักมีสีสันฉูดฉาดเพราะเป็นเสื้อเด็ก ทำไมต้องใส่เสื้อไป่เจียอี? ในสมัยโบราณนั้น อัตราการตายของทารกและเด็กเล็กสูงมาก ดังนั้นจึงมีการแก้เคล็ดด้วยการเอาเสื้อผ้าเก่าของเด็กที่แข็งแรงจากหลายครอบครัวมาเย็บติดกันแล้วทำขึ้นเป็นเสื้อให้เด็กใส่ เพื่อว่าเด็กจะได้มีสุขภาพดีแคล้วคลาดจากโรคภัย ขออธิบายเพิ่มว่า แม้จะใช้คำว่า ‘ไป่’ ที่แปลว่าหนึ่งร้อย แต่จริงๆ แล้วไม่ได้หมายความว่าต้องนับให้ได้ถึงหนึ่งร้อยจริงๆ ค่ะ คำนี้เป็นวัฒนธรรมทางภาษาของจีนที่ต้องการสื่อถึงความหมายว่ามีจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน มักปรากฏในวลีในนิยายหรือคำคมจีนเช่น ผ้าปักร้อยอักษร รักกันร้อยปี ได้ยินร้อยครั้ง ฯลฯ ส่วน ‘สี่ซานหลี่’ (洗三礼)นั้นก็คือการทำพิธีอาบน้ำให้กับทารกในวันที่สามหลังจากเกิดมา พิธีนี้มีมาแต่เมื่อใดไม่แน่ชัด แต่ได้มีการกล่าวถึงไว้ในบทประพันธ์ต่างๆ สมัยถังและซ่ง สรุปพิธีโดยคร่าวคือ 1. ญาติสนิทจะมาร่วมกันรับประทานอาหารกลางวัน อาหารจานหลักจะเป็นบะหมี่ (สัญลักษณ์ของความอายุยืน) 2. เสร็จแล้วหมอตำแยจะเป็นคนเริ่มประกอบพิธี โดยเริ่มจากกราบไหว้เทพยดา (แน่นอนว่าจะต้องมีหลักการว่าเป็นเทพยดาองค์ใดบ้าง แต่ Storyฯ ขอไม่กล่าวถึงเพราะจะยาวมาก) 3. จากนั้นญาติสนิทก็จะเติมน้ำคนละช้อนลงในกาละมังที่มีน้ำสมุนไพรอยู่แล้ว แล้วก็เติมของขวัญซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญทองและของมงคลอย่างเช่นเมล็ดพืชผลไม้ที่มีชื่อมงคลอย่างเช่นพุทราจีนลงไปในกาละมังเดียวกันนั้น (แต่หากเป็นตั๋วเงินให้วางแยก) ใครใส่อะไร หมอตำแยก็จะเอ่ยเป็นคำอวยพรที่พ้องเสียงกับของสิ่งนั้น 4. เสร็จแล้วหมอตำแยก็จะใช้น้ำนั้นอาบน้ำให้ทารก ระหว่างอาบก็จะเอ่ยคำอวยพรไปตลอด 5. เสร็จแล้วนำเครื่องประดับเงินทอง (หากไม่มีให้ใช้เครื่องประดับสีขาวสีเหลือง) มาวางทาบกับทารกเป็นนัยว่าให้อนาคตรุ่งเรืองร่ำรวย แน่นอนว่า Storyฯ เล่าอย่างซูเปอร์ย่อ พิธีกรรมจริงๆ ละเอียดกว่านี้มาก กลับมาที่ไป่เจียอีต่อ ว่ากันว่าไป่เจียอีนี้ เดิมเป็นชุดที่นักบวชนิยมใส่ (เรียกว่าไป่น่าอี) มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น ต่อมาจึงนำมาทำเป็นเสื้อเด็ก เสื้อผู้ใหญ่ก็ยังนิยมอยู่ในกลุ่มนักบวช แต่ในสมัยหมิงและชิงกลายมาเป็นแฟชั่นที่นิยมมากในกลุ่มสตรีสามัญชน มีการปักเย็บลวดลายประณีตและสีสันสวยงาม เรียกว่าชุด ‘สุ่ยเถียนอี’ (水田衣 แปลตรงตัวว่า ‘ชุดนาข้าว’ ดูรูปขวา) ความนิยมนี้ว่ากันว่าเป็นเพราะองค์จูหยวนจาง (ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง) และพระมเหสีต่างทรงมีนิสัยมัธยัสถ์ ทรงเคยบริจาคผ้าห่มและเสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นด้ายและผ้าที่เหลือใช้ แม้แต่องค์หญิงและสนมในวังยังเคยทรงพระราชทานให้ใส่ จึงทำให้สุ่ยเถียนอีเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย ต่อมากลายเป็นการประชันความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบลายเสื้อของสตรี ธรรมเนียมการให้เด็กใส่เสื้อผ้าต่อไป่เจียอีนี้มีการกล่าวถึงตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง และปฏิบัติกันมาทุกระดับชนชั้น แม้แต่ในบันทึกเกี่ยวกับประวัติของฮ่องเต้สมัยราชวงศ์ชิงในยุคสมัยของคังซีและเฉียนหลงยังมีกล่าวถึงการให้องค์ชายและราชนิกูลสวมเสื้อไป่เจียอีในตอนเด็ก และธรรมเนียมนี้ยังมีอยู่ในปัจจุบัน เป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นในหลายพื้นที่ของจีน เป็นอย่างไรบ้าง? ‘เสื้อพรรคกระยาจก’ เขาก็มีความเป็นมานะเออ! ของไทยมีอะไรคล้ายคลึงอย่างนี้บ้างไหมคะ? Storyฯ ไม่สันทัด หากเพื่อนเพจท่านใดผ่านตาก็เล่าสู่กันฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.myvideo.net.tw/details/3/12499 https://nicecasio.pixnet.net/blog/post/467691023 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://kknews.cc/news/gpevjl.html https://www.lishiziliao.com/jiemi/21683.html https://www.hanspub.org/journal/PaperInformation.aspx?paperID=25060 https://new.qq.com/omn/20200819/20200819A0D3IY00.html?pc https:// baike.baidu.com/item/洗三/912561 #นิติเวชสาวยอดนักสืบ #นิติเวชสาวราชวงศ์ถัง #ผ้าต่อจีน #ผ้าปะจีน #ไป่ซุ่ยอี #ไป่น่าอี #สุ่ยเถียนอี #พิธีอาบน้ำทารก #สี่ซานหลี่
    WWW.MYVIDEO.NET.TW
    大唐女法醫線上看-陸劇、浪漫愛情劇-戲劇-MyVideo|陪你每一刻
    《大唐女法醫》描述18歲落魄貴女冉顏為了查明母親自殺真相,從小開始學習驗屍絕學,成人後巧遇刑部侍郎蕭頌、絕命殺手蘇伏和天才書生桑辰,解開一個又一個殺人情案,在探求真相的過程中遇到真愛的故事。大唐女法醫線上看-陸劇、浪漫愛情劇-戲劇-MyVideo|陪你每一刻 標籤:劇情,古裝,推理懸疑...
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⭕️ไกด์น่ารักมากค่ะ วิวสวยมาก แต่นั่งรถนาน ถ้ามีรถไฟความเร็วสูงคงดี ที่พักสะอาดค่ะ ไม่เหม็นบุหรี่ หมาล่าอร่อย ⭕️

    💜 #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #จีน #เมืองเฉิงตู จากคุณธนัชชานะคะ💜 เมื่อวันที่ 14 - 18 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมานะคะ📍
    ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘

    LINE ID: @eTravelWay.sky 78s.me/321c98
    Facebook: etravelway.inth 78s.me/6ea88d
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    ☎️Tel: 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    ⭕️ไกด์น่ารักมากค่ะ วิวสวยมาก แต่นั่งรถนาน ถ้ามีรถไฟความเร็วสูงคงดี ที่พักสะอาดค่ะ ไม่เหม็นบุหรี่ หมาล่าอร่อย ⭕️ 💜 #รีวิว #REVIEW เส้นทาง #จีน #เมืองเฉิงตู จากคุณธนัชชานะคะ💜 เมื่อวันที่ 14 - 18 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมานะคะ📍 ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘 LINE ID: @eTravelWay.sky 78s.me/321c98 Facebook: etravelway.inth 78s.me/6ea88d Tiktok : https://78s.me/543eb9 ☎️Tel: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • SAP ได้เปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยระดับสูงสุดใน NetWeaver Visual Composer ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันธุรกิจ โดยช่องโหว่นี้ถูกเรียกว่า CVE-2025-31324 และมีคะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 เนื่องจากผู้โจมตีสามารถอัปโหลดไฟล์ที่เป็นอันตรายได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน

    ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ Metadata Uploader ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ Visual Composer ไม่มีการป้องกันด้วยการอนุญาตที่เหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถอัปโหลดไฟล์ที่เป็นอันตราย เช่น web shells ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่มีช่องโหว่ได้

    SAP ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้ในปลายเดือนเมษายน และแนะนำให้ผู้ใช้ดำเนินการอัปเดตโดยเร็วที่สุด เนื่องจากมีรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีจริง โดยมีองค์กรกว่า 1,200 แห่ง ที่อาจได้รับผลกระทบ รวมถึงบริษัทในกลุ่ม Fortune 500

    ✅ ช่องโหว่ใน NetWeaver Visual Composer
    - CVE-2025-31324 มีคะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10
    - ผู้โจมตีสามารถอัปโหลดไฟล์ที่เป็นอันตรายได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน

    ✅ ผลกระทบต่อองค์กร
    - มีองค์กรกว่า 1,200 แห่งที่อาจได้รับผลกระทบ
    - รวมถึงบริษัทในกลุ่ม Fortune 500

    ✅ การตอบสนองของ SAP
    - SAP ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ในปลายเดือนเมษายน
    - แนะนำให้ผู้ใช้ดำเนินการอัปเดตโดยเร็วที่สุด

    ✅ การโจมตีที่เกิดขึ้นจริง
    - ผู้โจมตีใช้ช่องโหว่เพื่ออัปโหลด web shells ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่มีช่องโหว่

    https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-vulnerability-puts-over-1200-sap-netweaver-servers-at-risk-of-hijacking
    SAP ได้เปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยระดับสูงสุดใน NetWeaver Visual Composer ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันธุรกิจ โดยช่องโหว่นี้ถูกเรียกว่า CVE-2025-31324 และมีคะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 เนื่องจากผู้โจมตีสามารถอัปโหลดไฟล์ที่เป็นอันตรายได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ Metadata Uploader ซึ่งเป็นส่วนประกอบของ Visual Composer ไม่มีการป้องกันด้วยการอนุญาตที่เหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถอัปโหลดไฟล์ที่เป็นอันตราย เช่น web shells ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่มีช่องโหว่ได้ SAP ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้ในปลายเดือนเมษายน และแนะนำให้ผู้ใช้ดำเนินการอัปเดตโดยเร็วที่สุด เนื่องจากมีรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีจริง โดยมีองค์กรกว่า 1,200 แห่ง ที่อาจได้รับผลกระทบ รวมถึงบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 ✅ ช่องโหว่ใน NetWeaver Visual Composer - CVE-2025-31324 มีคะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 - ผู้โจมตีสามารถอัปโหลดไฟล์ที่เป็นอันตรายได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ✅ ผลกระทบต่อองค์กร - มีองค์กรกว่า 1,200 แห่งที่อาจได้รับผลกระทบ - รวมถึงบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 ✅ การตอบสนองของ SAP - SAP ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ในปลายเดือนเมษายน - แนะนำให้ผู้ใช้ดำเนินการอัปเดตโดยเร็วที่สุด ✅ การโจมตีที่เกิดขึ้นจริง - ผู้โจมตีใช้ช่องโหว่เพื่ออัปโหลด web shells ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่มีช่องโหว่ https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-vulnerability-puts-over-1200-sap-netweaver-servers-at-risk-of-hijacking
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • XConn Technologies ได้แสดงการสาธิตการจัดสรรหน่วยความจำแบบไดนามิกโดยใช้เทคโนโลยี Compute Express Link (CXL) Switch ร่วมกับ AMD ในงาน CXL DevCon 2025 การสาธิตนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านความยืดหยุ่นของหน่วยความจำ โดยใช้ XConn Apollo CXL Switch ซึ่งเป็นชิปตัวแรกในอุตสาหกรรมที่รองรับทั้ง CXL 2.0 และ PCIe 5.0

    เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถขยายหน่วยความจำในระดับเทราไบต์ด้วยความหน่วงต่ำและการเข้าถึงหน่วยความจำที่สอดคล้องกันระหว่าง CPU, GPU และตัวเร่งความเร็ว รวมถึงโปรเซสเซอร์ AMD EPYC รุ่นที่ 5 โดยการจัดสรรหน่วยความจำแบบไดนามิกนี้ช่วยลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) และเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับงานด้าน AI, HPC และฐานข้อมูลในหน่วยความจำ

    ✅ การจัดสรรหน่วยความจำแบบไดนามิก
    - ใช้ XConn Apollo CXL Switch เพื่อจัดสรรหน่วยความจำแบบเรียลไทม์
    - ลดการจัดสรรหน่วยความจำเกินความจำเป็นและเพิ่มประสิทธิภาพ

    ✅ การรองรับเทคโนโลยี CXL 2.0 และ PCIe 5.0
    - XConn Apollo CXL Switch รองรับทั้ง CXL 2.0 และ PCIe 5.0 บนชิปเดียว
    - ช่วยให้การขยายหน่วยความจำในระดับเทราไบต์มีความหน่วงต่ำ

    ✅ การใช้งานร่วมกับ AMD EPYC รุ่นที่ 5
    - รองรับการเข้าถึงหน่วยความจำที่สอดคล้องกันระหว่าง CPU, GPU และตัวเร่งความเร็ว
    - เหมาะสำหรับงานด้าน AI, HPC และฐานข้อมูลในหน่วยความจำ

    ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูล
    - ลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) และเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับงานด้านข้อมูล

    https://www.techpowerup.com/336103/xconn-technologies-demonstrates-dynamic-memory-allocation-using-cxl-switch-and-amd-technologies-at-cxl-devcon-2025
    XConn Technologies ได้แสดงการสาธิตการจัดสรรหน่วยความจำแบบไดนามิกโดยใช้เทคโนโลยี Compute Express Link (CXL) Switch ร่วมกับ AMD ในงาน CXL DevCon 2025 การสาธิตนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านความยืดหยุ่นของหน่วยความจำ โดยใช้ XConn Apollo CXL Switch ซึ่งเป็นชิปตัวแรกในอุตสาหกรรมที่รองรับทั้ง CXL 2.0 และ PCIe 5.0 เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถขยายหน่วยความจำในระดับเทราไบต์ด้วยความหน่วงต่ำและการเข้าถึงหน่วยความจำที่สอดคล้องกันระหว่าง CPU, GPU และตัวเร่งความเร็ว รวมถึงโปรเซสเซอร์ AMD EPYC รุ่นที่ 5 โดยการจัดสรรหน่วยความจำแบบไดนามิกนี้ช่วยลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) และเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับงานด้าน AI, HPC และฐานข้อมูลในหน่วยความจำ ✅ การจัดสรรหน่วยความจำแบบไดนามิก - ใช้ XConn Apollo CXL Switch เพื่อจัดสรรหน่วยความจำแบบเรียลไทม์ - ลดการจัดสรรหน่วยความจำเกินความจำเป็นและเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ การรองรับเทคโนโลยี CXL 2.0 และ PCIe 5.0 - XConn Apollo CXL Switch รองรับทั้ง CXL 2.0 และ PCIe 5.0 บนชิปเดียว - ช่วยให้การขยายหน่วยความจำในระดับเทราไบต์มีความหน่วงต่ำ ✅ การใช้งานร่วมกับ AMD EPYC รุ่นที่ 5 - รองรับการเข้าถึงหน่วยความจำที่สอดคล้องกันระหว่าง CPU, GPU และตัวเร่งความเร็ว - เหมาะสำหรับงานด้าน AI, HPC และฐานข้อมูลในหน่วยความจำ ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูล - ลดต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) และเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับงานด้านข้อมูล https://www.techpowerup.com/336103/xconn-technologies-demonstrates-dynamic-memory-allocation-using-cxl-switch-and-amd-technologies-at-cxl-devcon-2025
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    XConn Technologies Demonstrates Dynamic Memory Allocation Using CXL Switch and AMD Technologies at CXL DevCon 2025
    XConn Technologies, the innovation leader in next-generation interconnect technology for the future of high-performance computing and AI applications, today announced a groundbreaking demonstration of dynamic memory allocation using Compute Express Link (CXL) switch technology at CXL DevCon 2025, ta...
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ลำพูนโมเดล" ปลุกเชียงใหม่! ธนาธร ชูผลงาน อบจ. พรรคประชาชน ดันน้ำประปาดื่มได้-รถเมล์ EV หาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรี
    https://www.thai-tai.tv/news/18414/
    "ลำพูนโมเดล" ปลุกเชียงใหม่! ธนาธร ชูผลงาน อบจ. พรรคประชาชน ดันน้ำประปาดื่มได้-รถเมล์ EV หาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรี https://www.thai-tai.tv/news/18414/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • Evertop DIY PC เป็นระบบคอมพิวเตอร์ย้อนยุคที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานระบบปฏิบัติการ DOS และซอฟต์แวร์ยุค 1980 ได้อย่างเต็มที่ โดยมีจุดเด่นที่ความประหยัดพลังงานและการรองรับฮาร์ดแวร์ที่หลากหลาย

    Eric Jenott ผู้พัฒนา Evertop ได้ออกแบบระบบนี้ให้เป็นโอเพ่นซอร์สและสามารถใช้งานได้กับแหล่งพลังงานสามรูปแบบ ได้แก่ แบตเตอรี่สองก้อนขนาด 10,000mAh แผงโซลาร์เซลล์ในตัว และพอร์ต USB พร้อมมาตรการประหยัดพลังงานขั้นสูง

    Evertop รองรับระบบปฏิบัติการคลาสสิก เช่น DOS และ Minix รวมถึงซอฟต์แวร์ยุค 1980 เช่น Windows 3.0 และเกมคลาสสิกอย่าง Doom แม้ว่าเกมจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็สร้างความสนุกสนานในรูปแบบย้อนยุค

    ✅ การออกแบบและพลังงาน
    - ระบบโอเพ่นซอร์สที่รองรับแหล่งพลังงานสามรูปแบบ
    - ใช้แบตเตอรี่สองก้อนขนาด 10,000mAh แผงโซลาร์เซลล์ และพอร์ต USB

    ✅ การรองรับระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์
    - รองรับระบบปฏิบัติการคลาสสิก เช่น DOS และ Minix
    - สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ยุค 1980 เช่น Windows 3.0 และเกมคลาสสิก

    ✅ การแสดงผลและเสียง
    - ใช้หน้าจอ e-ink ขนาด 5.83 นิ้ว ความละเอียด 648x480
    - รองรับโหมดวิดีโอ CGA, Hercules, MCGA และบางส่วนของ EGA/VGA

    ✅ การเชื่อมต่อและการใช้งาน
    - รองรับ PS/2, Serial, SD Card, USB, Ethernet, Wi-Fi และ LoRa Radio
    - ยังไม่มีการเปิดใช้งาน Bluetooth

    https://www.techspot.com/news/107725-evertop-diy-pc-give-you-hundreds-hours-dos.html
    Evertop DIY PC เป็นระบบคอมพิวเตอร์ย้อนยุคที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานระบบปฏิบัติการ DOS และซอฟต์แวร์ยุค 1980 ได้อย่างเต็มที่ โดยมีจุดเด่นที่ความประหยัดพลังงานและการรองรับฮาร์ดแวร์ที่หลากหลาย Eric Jenott ผู้พัฒนา Evertop ได้ออกแบบระบบนี้ให้เป็นโอเพ่นซอร์สและสามารถใช้งานได้กับแหล่งพลังงานสามรูปแบบ ได้แก่ แบตเตอรี่สองก้อนขนาด 10,000mAh แผงโซลาร์เซลล์ในตัว และพอร์ต USB พร้อมมาตรการประหยัดพลังงานขั้นสูง Evertop รองรับระบบปฏิบัติการคลาสสิก เช่น DOS และ Minix รวมถึงซอฟต์แวร์ยุค 1980 เช่น Windows 3.0 และเกมคลาสสิกอย่าง Doom แม้ว่าเกมจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็สร้างความสนุกสนานในรูปแบบย้อนยุค ✅ การออกแบบและพลังงาน - ระบบโอเพ่นซอร์สที่รองรับแหล่งพลังงานสามรูปแบบ - ใช้แบตเตอรี่สองก้อนขนาด 10,000mAh แผงโซลาร์เซลล์ และพอร์ต USB ✅ การรองรับระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ - รองรับระบบปฏิบัติการคลาสสิก เช่น DOS และ Minix - สามารถใช้งานซอฟต์แวร์ยุค 1980 เช่น Windows 3.0 และเกมคลาสสิก ✅ การแสดงผลและเสียง - ใช้หน้าจอ e-ink ขนาด 5.83 นิ้ว ความละเอียด 648x480 - รองรับโหมดวิดีโอ CGA, Hercules, MCGA และบางส่วนของ EGA/VGA ✅ การเชื่อมต่อและการใช้งาน - รองรับ PS/2, Serial, SD Card, USB, Ethernet, Wi-Fi และ LoRa Radio - ยังไม่มีการเปิดใช้งาน Bluetooth https://www.techspot.com/news/107725-evertop-diy-pc-give-you-hundreds-hours-dos.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Evertop DIY PC will give you hundreds of hours of DOS fun on a single charge
    Custom-built devices for running vintage PC software are trending, with new models embracing different approaches to retro emulation. Unlike the Book 8088, which featured a genuine 8088...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ใช่แค่รัฐบาลไทยที่โทษเกมนะครับ ฮา...

    บทความนี้กล่าวถึงการที่รัฐบาลรัสเซียได้กล่าวหาว่าเกม World of Tanks และบริษัทผู้พัฒนา Wargaming มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ถูกมองว่าเป็น "กลุ่มหัวรุนแรง" โดยมีการข่มขู่ที่จะยึดทรัพย์สินของบริษัทในรัสเซีย แม้ว่า Wargaming จะยืนยันว่าได้ถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุสตั้งแต่ปี 2022 หลังจากการรุกรานยูเครน

    Wargaming ซึ่งเป็นบริษัทที่มีต้นกำเนิดในเบลารุสและปัจจุบันตั้งอยู่ในไซปรัส ได้โอนการดำเนินงานในรัสเซียให้กับบริษัท Lesta Games โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และยืนยันว่าไม่มีทรัพย์สินใดในรัสเซียที่สามารถถูกยึดได้

    นอกจากนี้ Wargaming ยังได้แสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนอย่างชัดเจน โดยบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับกาชาดยูเครนเพื่อช่วยเหลือด้านการแพทย์และการขนส่ง

    ✅ การถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุส
    - Wargaming ถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุสตั้งแต่ปี 2022
    - โอนการดำเนินงานในรัสเซียให้กับ Lesta Games โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

    ✅ ข้อกล่าวหาจากรัฐบาลรัสเซีย
    - รัฐบาลรัสเซียกล่าวหาว่า Wargaming มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมหัวรุนแรง
    - มีการข่มขู่ที่จะยึดทรัพย์สินของบริษัทในรัสเซีย

    ✅ การสนับสนุนยูเครน
    - Wargaming บริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับกาชาดยูเครน
    - เกม World of Tanks ได้รับความนิยมในหมู่ทหารยูเครน

    ✅ ผลกระทบต่อบริษัท
    - Wargaming สูญเสียรายได้กว่า 30% ของตลาดหลังถอนตัวจากรัสเซีย

    https://www.techspot.com/news/107729-russian-authorities-threaten-world-tanks-developer-alleged-extremist.html
    ไม่ใช่แค่รัฐบาลไทยที่โทษเกมนะครับ ฮา... บทความนี้กล่าวถึงการที่รัฐบาลรัสเซียได้กล่าวหาว่าเกม World of Tanks และบริษัทผู้พัฒนา Wargaming มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ถูกมองว่าเป็น "กลุ่มหัวรุนแรง" โดยมีการข่มขู่ที่จะยึดทรัพย์สินของบริษัทในรัสเซีย แม้ว่า Wargaming จะยืนยันว่าได้ถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุสตั้งแต่ปี 2022 หลังจากการรุกรานยูเครน Wargaming ซึ่งเป็นบริษัทที่มีต้นกำเนิดในเบลารุสและปัจจุบันตั้งอยู่ในไซปรัส ได้โอนการดำเนินงานในรัสเซียให้กับบริษัท Lesta Games โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และยืนยันว่าไม่มีทรัพย์สินใดในรัสเซียที่สามารถถูกยึดได้ นอกจากนี้ Wargaming ยังได้แสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนอย่างชัดเจน โดยบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับกาชาดยูเครนเพื่อช่วยเหลือด้านการแพทย์และการขนส่ง ✅ การถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุส - Wargaming ถอนตัวจากตลาดรัสเซียและเบลารุสตั้งแต่ปี 2022 - โอนการดำเนินงานในรัสเซียให้กับ Lesta Games โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ✅ ข้อกล่าวหาจากรัฐบาลรัสเซีย - รัฐบาลรัสเซียกล่าวหาว่า Wargaming มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมหัวรุนแรง - มีการข่มขู่ที่จะยึดทรัพย์สินของบริษัทในรัสเซีย ✅ การสนับสนุนยูเครน - Wargaming บริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ให้กับกาชาดยูเครน - เกม World of Tanks ได้รับความนิยมในหมู่ทหารยูเครน ✅ ผลกระทบต่อบริษัท - Wargaming สูญเสียรายได้กว่า 30% ของตลาดหลังถอนตัวจากรัสเซีย https://www.techspot.com/news/107729-russian-authorities-threaten-world-tanks-developer-alleged-extremist.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Russian authorities threaten World of Tanks developer for its alleged "extremist activities"
    Russian authorities have branded World of Tanks-related operations "extremist" and are threatening to confiscate property held by Wargaming executives. The case involves Lesta Games, a Moscow-based studio...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้เล่าถึงความสำเร็จของนักพัฒนาที่สามารถนำโมเดล Llama 2 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) มาทำงานบนระบบปฏิบัติการ DOS ซึ่งเป็นระบบที่เก่าแก่ โดยใช้เวลาเพียงสุดสัปดาห์เดียวในการพัฒนา แม้จะเป็นความท้าทายที่ยากลำบาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเทคโนโลยี AI ในการปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มที่หลากหลาย

    นักพัฒนาชื่อ Yeo Kheng Meng ได้ใช้โค้ดโอเพ่นซอร์สจากโปรเจกต์ llama2.c เพื่อปรับแต่งให้โมเดล Llama 2 สามารถทำงานบน DOS ได้ โดยเขาต้องปรับปรุงกระบวนการคอมไพล์และเลือก DOS extender ที่เหมาะสมเพื่อเข้าถึงหน่วยความจำที่ใหญ่ขึ้น

    Meng ได้ทดสอบระบบบนคอมพิวเตอร์หลากหลายรุ่น ตั้งแต่เครื่องเก่าอย่าง Toshiba Satellite 315CDT (1996) ไปจนถึงเครื่องใหม่ที่ใช้ซีพียู Ryzen โดยผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเครื่องใหม่สามารถประมวลผลได้เร็วกว่าอย่างชัดเจน

    ✅ การใช้โค้ดโอเพ่นซอร์ส
    - ใช้โค้ดจากโปรเจกต์ llama2.c เพื่อปรับแต่งให้ทำงานบน DOS
    - ต้องปรับปรุงกระบวนการคอมไพล์และเลือก DOS extender ที่เหมาะสม

    ✅ การทดสอบบนคอมพิวเตอร์หลากหลายรุ่น
    - ทดสอบบนเครื่องเก่า เช่น Toshiba Satellite 315CDT (1996)
    - ทดสอบบนเครื่องใหม่ที่ใช้ซีพียู Ryzen

    ✅ ผลลัพธ์ที่ได้
    - เครื่องใหม่สามารถประมวลผลได้เร็วกว่าเครื่องเก่าอย่างชัดเจน
    - แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ AI ในการปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มที่หลากหลาย

    ✅ การสนับสนุนจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    - Meng ขอบคุณ Andrej Karpathy ที่เปิดโค้ด llama2.c ให้ใช้งาน

    https://www.techspot.com/news/107718-programmer-develops-method-run-llama-2-locally-dos.html
    บทความนี้เล่าถึงความสำเร็จของนักพัฒนาที่สามารถนำโมเดล Llama 2 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) มาทำงานบนระบบปฏิบัติการ DOS ซึ่งเป็นระบบที่เก่าแก่ โดยใช้เวลาเพียงสุดสัปดาห์เดียวในการพัฒนา แม้จะเป็นความท้าทายที่ยากลำบาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเทคโนโลยี AI ในการปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มที่หลากหลาย นักพัฒนาชื่อ Yeo Kheng Meng ได้ใช้โค้ดโอเพ่นซอร์สจากโปรเจกต์ llama2.c เพื่อปรับแต่งให้โมเดล Llama 2 สามารถทำงานบน DOS ได้ โดยเขาต้องปรับปรุงกระบวนการคอมไพล์และเลือก DOS extender ที่เหมาะสมเพื่อเข้าถึงหน่วยความจำที่ใหญ่ขึ้น Meng ได้ทดสอบระบบบนคอมพิวเตอร์หลากหลายรุ่น ตั้งแต่เครื่องเก่าอย่าง Toshiba Satellite 315CDT (1996) ไปจนถึงเครื่องใหม่ที่ใช้ซีพียู Ryzen โดยผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเครื่องใหม่สามารถประมวลผลได้เร็วกว่าอย่างชัดเจน ✅ การใช้โค้ดโอเพ่นซอร์ส - ใช้โค้ดจากโปรเจกต์ llama2.c เพื่อปรับแต่งให้ทำงานบน DOS - ต้องปรับปรุงกระบวนการคอมไพล์และเลือก DOS extender ที่เหมาะสม ✅ การทดสอบบนคอมพิวเตอร์หลากหลายรุ่น - ทดสอบบนเครื่องเก่า เช่น Toshiba Satellite 315CDT (1996) - ทดสอบบนเครื่องใหม่ที่ใช้ซีพียู Ryzen ✅ ผลลัพธ์ที่ได้ - เครื่องใหม่สามารถประมวลผลได้เร็วกว่าเครื่องเก่าอย่างชัดเจน - แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ AI ในการปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ✅ การสนับสนุนจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส - Meng ขอบคุณ Andrej Karpathy ที่เปิดโค้ด llama2.c ให้ใช้งาน https://www.techspot.com/news/107718-programmer-develops-method-run-llama-2-locally-dos.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Developer ports compact Llama 2 LLM to DOS in weekend hackathon
    Yeo Kheng Meng, a programmer previously known for creating a DOS client for ChatGPT, has recently embarked on a new AI-related project focused on the prompt-based computing...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึง Take It Down Act ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ และกำลังรอการลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับปัญหาภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมที่ถูกเผยแพร่โดยไม่ได้รับความยินยอม รวมถึงภาพที่ถูกสร้างหรือแก้ไขโดย AI

    กฎหมายนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี deepfake และการล้างแค้นผ่านภาพลักษณ์ (revenge porn) กลายเป็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น

    ✅ การทำให้การเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมเป็นอาชญากรรม
    - กฎหมายกำหนดให้การเผยแพร่หรือข่มขู่เผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นอาชญากรรม
    - รวมถึงภาพที่ถูกแก้ไขโดย AI ให้ดูเหมือนเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม

    ✅ ข้อกำหนดการลบภาพภายใน 48 ชั่วโมง
    - แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องลบภาพที่ได้รับการร้องเรียนภายใน 48 ชั่วโมง
    - ต้องดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ภาพเดียวกันปรากฏอีก

    ✅ บทบาทของ FTC ในการบังคับใช้กฎหมาย
    - FTC มีหน้าที่ตรวจสอบและลงโทษแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด
    - ใช้อำนาจภายใต้กฎหมายการค้าหลอกลวงเพื่อดำเนินการ

    ✅ การสนับสนุนจากหลายฝ่าย
    - กฎหมายได้รับการสนับสนุนจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน
    - มีการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยี เช่น Meta, Snap และ Google

    https://computercity.com/wiki/take-it-down-act
    บทความนี้กล่าวถึง Take It Down Act ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ และกำลังรอการลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับปัญหาภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมที่ถูกเผยแพร่โดยไม่ได้รับความยินยอม รวมถึงภาพที่ถูกสร้างหรือแก้ไขโดย AI กฎหมายนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยี deepfake และการล้างแค้นผ่านภาพลักษณ์ (revenge porn) กลายเป็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น ✅ การทำให้การเผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมเป็นอาชญากรรม - กฎหมายกำหนดให้การเผยแพร่หรือข่มขู่เผยแพร่ภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นอาชญากรรม - รวมถึงภาพที่ถูกแก้ไขโดย AI ให้ดูเหมือนเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม ✅ ข้อกำหนดการลบภาพภายใน 48 ชั่วโมง - แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องลบภาพที่ได้รับการร้องเรียนภายใน 48 ชั่วโมง - ต้องดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ภาพเดียวกันปรากฏอีก ✅ บทบาทของ FTC ในการบังคับใช้กฎหมาย - FTC มีหน้าที่ตรวจสอบและลงโทษแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด - ใช้อำนาจภายใต้กฎหมายการค้าหลอกลวงเพื่อดำเนินการ ✅ การสนับสนุนจากหลายฝ่าย - กฎหมายได้รับการสนับสนุนจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน - มีการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยี เช่น Meta, Snap และ Google https://computercity.com/wiki/take-it-down-act
    COMPUTERCITY.COM
    Take It Down Act: What You Need To Know
    The Take It Down Act (S.4569), recently passed by Congress and awaiting President Trump's signature, is a groundbreaking piece of legislation designed to
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการปรับปรุงฟีเจอร์ การค้นหาของ ChatGPT ซึ่ง OpenAI ได้เพิ่มความสามารถใหม่หลายอย่างเพื่อให้การค้นหาข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    หนึ่งในฟีเจอร์ที่สำคัญคือ การปรับปรุงระบบอ้างอิง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยตอนนี้ แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง และเมื่อผู้ใช้เลื่อนเมาส์ไปที่อ้างอิง ระบบจะแสดงส่วนของข้อความที่เกี่ยวข้อง

    นอกจากนี้ OpenAI ยังได้พัฒนา ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา ฟีเจอร์นี้คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดตัว

    อีกหนึ่งการปรับปรุงที่สำคัญคือ ระบบความจำที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้ ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน และนำมาใช้ในการค้นหาครั้งต่อไป ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องอธิบายข้อมูลเดิมซ้ำๆ เช่น หากผู้ใช้ไม่ต้องการเห็นผลลัพธ์จากแบรนด์ใด ChatGPT จะจดจำและกรองผลลัพธ์ให้

    ✅ ระบบอ้างอิงที่ดีขึ้น
    - แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง
    - ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ง่ายขึ้น

    ✅ ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์
    - แสดงคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา
    - คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google

    ✅ ระบบความจำที่ดีขึ้น
    - ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน
    - ช่วยให้การค้นหาครั้งต่อไปมีความแม่นยำมากขึ้น

    ✅ การรวมเข้ากับ WhatsApp
    - ผู้ใช้สามารถเพิ่ม ChatGPT เป็นรายชื่อใน WhatsApp และสนทนาได้โดยตรง

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-just-powered-up-search-for-everyone-here-are-all-the-new-features
    บทความนี้กล่าวถึงการปรับปรุงฟีเจอร์ การค้นหาของ ChatGPT ซึ่ง OpenAI ได้เพิ่มความสามารถใหม่หลายอย่างเพื่อให้การค้นหาข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น หนึ่งในฟีเจอร์ที่สำคัญคือ การปรับปรุงระบบอ้างอิง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยตอนนี้ แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง และเมื่อผู้ใช้เลื่อนเมาส์ไปที่อ้างอิง ระบบจะแสดงส่วนของข้อความที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ OpenAI ยังได้พัฒนา ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา ฟีเจอร์นี้คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดตัว อีกหนึ่งการปรับปรุงที่สำคัญคือ ระบบความจำที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยให้ ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน และนำมาใช้ในการค้นหาครั้งต่อไป ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องอธิบายข้อมูลเดิมซ้ำๆ เช่น หากผู้ใช้ไม่ต้องการเห็นผลลัพธ์จากแบรนด์ใด ChatGPT จะจดจำและกรองผลลัพธ์ให้ ✅ ระบบอ้างอิงที่ดีขึ้น - แต่ละย่อหน้าสามารถมีหลายแหล่งอ้างอิง - ผู้ใช้สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ง่ายขึ้น ✅ ระบบแนะนำคำค้นหาแบบเรียลไทม์ - แสดงคำแนะนำที่เกี่ยวข้องขณะพิมพ์ข้อความค้นหา - คล้ายกับระบบ autocomplete ของ Google ✅ ระบบความจำที่ดีขึ้น - ChatGPT สามารถจดจำข้อมูลที่ผู้ใช้เคยค้นหามาก่อน - ช่วยให้การค้นหาครั้งต่อไปมีความแม่นยำมากขึ้น ✅ การรวมเข้ากับ WhatsApp - ผู้ใช้สามารถเพิ่ม ChatGPT เป็นรายชื่อใน WhatsApp และสนทนาได้โดยตรง https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/chatgpt-just-powered-up-search-for-everyone-here-are-all-the-new-features
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับ AI Factory โดยใช้ DOCA Argus ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กที่ช่วยตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ โดยทำงานบน NVIDIA BlueField ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI

    DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ และสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันทั่วไปถึง 1,000 เท่า นอกจากนี้ยังสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ทำให้มัลแวร์ไม่สามารถตรวจจับหรือปิดการทำงานของระบบได้

    Cisco ได้ร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนา Secure AI Factory ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น

    ✅ การเปิดตัว DOCA Argus
    - เฟรมเวิร์กสำหรับตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
    - ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ

    ✅ การทำงานบน NVIDIA BlueField
    - ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI
    - ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์

    ✅ ความร่วมมือกับ Cisco
    - พัฒนา Secure AI Factory เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    - ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techpowerup.com/336079/nvidia-bringing-cybersecurity-platform-to-every-ai-factory
    NVIDIA ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับ AI Factory โดยใช้ DOCA Argus ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กที่ช่วยตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ โดยทำงานบน NVIDIA BlueField ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายที่ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI DOCA Argus ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ และสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วกว่าโซลูชันทั่วไปถึง 1,000 เท่า นอกจากนี้ยังสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ทำให้มัลแวร์ไม่สามารถตรวจจับหรือปิดการทำงานของระบบได้ Cisco ได้ร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนา Secure AI Factory ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น ✅ การเปิดตัว DOCA Argus - เฟรมเวิร์กสำหรับตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ - ใช้เทคนิค memory forensics เพื่อวิเคราะห์ภัยคุกคามโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ ✅ การทำงานบน NVIDIA BlueField - ช่วยปกป้องข้อมูลและการประมวลผล AI - ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโฮสต์ ✅ ความร่วมมือกับ Cisco - พัฒนา Secure AI Factory เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถปกป้องโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ตั้งแต่เริ่มต้น ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI - ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techpowerup.com/336079/nvidia-bringing-cybersecurity-platform-to-every-ai-factory
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    NVIDIA Bringing Cybersecurity Platform to Every AI Factory
    As enterprises increasingly adopt AI, securing AI factories—where complex, agentic workflows are executed—has never been more critical. NVIDIA is bringing runtime cybersecurity to every AI factory with a new NVIDIA DOCA software framework, part of the NVIDIA cybersecurity AI platform. Running on the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts