• Windhawk ซึ่งเป็นเครื่องมือปรับแต่ง Windows 11 ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ที่รองรับ Arm64 ทำให้ผู้ใช้ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Snapdragon สามารถปรับแต่งระบบปฏิบัติการได้มากขึ้น

    ก่อนหน้านี้ Windhawk รองรับเฉพาะ AMD และ Intel CPUs แต่เวอร์ชัน 1.6 ได้รับการปรับแต่งให้ทำงานบน Windows 11 Arm64 อย่างไรก็ตาม บางม็อดอาจต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์บนระบบ Arm

    Windhawk เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เลือกและติดตั้งม็อดต่างๆ เพื่อปรับแต่ง Windows 11 เช่น การเปลี่ยนแปลงแถบงาน, ปรับแต่งเมนู Start หรือใช้ธีม Windows Vista เพื่อให้ระบบมีรูปลักษณ์ย้อนยุค

    ✅ การรองรับ Arm64
    - Windhawk เวอร์ชัน 1.6 รองรับ Windows 11 Arm64
    - ผู้ใช้ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Snapdragon สามารถติดตั้งและใช้งานได้

    ✅ การปรับแต่ง Windows 11
    - สามารถเปลี่ยนแปลง แถบงาน, เมนู Start และธีม
    - มีธีม Windows Vista สำหรับผู้ที่ต้องการรูปลักษณ์ย้อนยุค

    ✅ ข้อจำกัดของเวอร์ชัน Arm64
    - บางม็อดอาจต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้ทำงานได้บนระบบ Arm
    - การปรับแต่งโปรแกรม x86 และ x64 บน Windows 11 Arm64 ยังมีข้อจำกัด

    ✅ ข้อควรระวังในการติดตั้ง
    - Windhawk เป็น ซอฟต์แวร์จากบุคคลที่สาม ผู้ใช้ควรตรวจสอบความปลอดภัยก่อนติดตั้ง
    - การใช้ม็อดอาจส่งผลต่อ การอัปเดต Windows 11 และอาจทำให้เกิดปัญหากับแพตช์ของ Microsoft

    https://www.techradar.com/computing/windows/copilot-pcs-with-snapdragon-cpus-can-now-install-popular-tool-that-lets-you-customize-windows-11-and-improve-the-start-menu-in-ways-that-microsoft-wont-entertain
    Windhawk ซึ่งเป็นเครื่องมือปรับแต่ง Windows 11 ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ที่รองรับ Arm64 ทำให้ผู้ใช้ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Snapdragon สามารถปรับแต่งระบบปฏิบัติการได้มากขึ้น ก่อนหน้านี้ Windhawk รองรับเฉพาะ AMD และ Intel CPUs แต่เวอร์ชัน 1.6 ได้รับการปรับแต่งให้ทำงานบน Windows 11 Arm64 อย่างไรก็ตาม บางม็อดอาจต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์บนระบบ Arm Windhawk เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เลือกและติดตั้งม็อดต่างๆ เพื่อปรับแต่ง Windows 11 เช่น การเปลี่ยนแปลงแถบงาน, ปรับแต่งเมนู Start หรือใช้ธีม Windows Vista เพื่อให้ระบบมีรูปลักษณ์ย้อนยุค ✅ การรองรับ Arm64 - Windhawk เวอร์ชัน 1.6 รองรับ Windows 11 Arm64 - ผู้ใช้ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Snapdragon สามารถติดตั้งและใช้งานได้ ✅ การปรับแต่ง Windows 11 - สามารถเปลี่ยนแปลง แถบงาน, เมนู Start และธีม - มีธีม Windows Vista สำหรับผู้ที่ต้องการรูปลักษณ์ย้อนยุค ✅ ข้อจำกัดของเวอร์ชัน Arm64 - บางม็อดอาจต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้ทำงานได้บนระบบ Arm - การปรับแต่งโปรแกรม x86 และ x64 บน Windows 11 Arm64 ยังมีข้อจำกัด ✅ ข้อควรระวังในการติดตั้ง - Windhawk เป็น ซอฟต์แวร์จากบุคคลที่สาม ผู้ใช้ควรตรวจสอบความปลอดภัยก่อนติดตั้ง - การใช้ม็อดอาจส่งผลต่อ การอัปเดต Windows 11 และอาจทำให้เกิดปัญหากับแพตช์ของ Microsoft https://www.techradar.com/computing/windows/copilot-pcs-with-snapdragon-cpus-can-now-install-popular-tool-that-lets-you-customize-windows-11-and-improve-the-start-menu-in-ways-that-microsoft-wont-entertain
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • Meta กำลังเตรียมเปิดตัว Ray-Ban Smart Glasses รุ่นใหม่ ในช่วงปลายปีนี้ โดย Mark Zuckerberg ยืนยันว่ามี "เทคโนโลยีใหม่" ที่จะถูกเพิ่มเข้ามา และจะมีการเปิดตัวหลายรุ่น

    ยอดขายของ Ray-Ban Smart Glasses เพิ่มขึ้น 3 เท่า ในปีที่ผ่านมา และมีผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทำให้ Meta ต้องการขยายตลาดด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ที่มี หน้าจอในเลนส์

    นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า Meta อาจเปิดตัว แว่นตาสำหรับนักกีฬา ที่พัฒนาร่วมกับ Oakley ซึ่งจะมี กล้องที่อยู่ตรงกลางแว่น และอาจมีฟีเจอร์ช่วยเหลือสำหรับการวิ่งหรือปั่นจักรยาน

    ✅ การเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่
    - Mark Zuckerberg ยืนยันว่าจะมี "เทคโนโลยีใหม่"
    - มีการเปิดตัวหลายรุ่น

    ✅ ยอดขายและการเติบโตของตลาด
    - ยอดขายเพิ่มขึ้น 3 เท่า ในปีที่ผ่านมา
    - ผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้น 4 เท่า

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่คาดว่าจะมี
    - หน้าจอในเลนส์ สำหรับแสดงข้อมูล
    - อาจมี แว่นตาสำหรับนักกีฬา ที่พัฒนาร่วมกับ Oakley

    ✅ แนวโน้มของตลาดแว่นตาอัจฉริยะ
    - Meta อาจเปิดตัว Meta Camerasbuds ซึ่งเป็นหูฟังที่มีกล้อง
    - อาจมีการเปิดตัว Meta Smartwatch เพื่อควบคุมแว่นตา

    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/mark-zuckerberg-confirms-new-ray-ban-smart-glasses-are-coming-later-this-year-here-are-the-3-pairs-i-think-well-see
    Meta กำลังเตรียมเปิดตัว Ray-Ban Smart Glasses รุ่นใหม่ ในช่วงปลายปีนี้ โดย Mark Zuckerberg ยืนยันว่ามี "เทคโนโลยีใหม่" ที่จะถูกเพิ่มเข้ามา และจะมีการเปิดตัวหลายรุ่น ยอดขายของ Ray-Ban Smart Glasses เพิ่มขึ้น 3 เท่า ในปีที่ผ่านมา และมีผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทำให้ Meta ต้องการขยายตลาดด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ที่มี หน้าจอในเลนส์ นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า Meta อาจเปิดตัว แว่นตาสำหรับนักกีฬา ที่พัฒนาร่วมกับ Oakley ซึ่งจะมี กล้องที่อยู่ตรงกลางแว่น และอาจมีฟีเจอร์ช่วยเหลือสำหรับการวิ่งหรือปั่นจักรยาน ✅ การเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่ - Mark Zuckerberg ยืนยันว่าจะมี "เทคโนโลยีใหม่" - มีการเปิดตัวหลายรุ่น ✅ ยอดขายและการเติบโตของตลาด - ยอดขายเพิ่มขึ้น 3 เท่า ในปีที่ผ่านมา - ผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้น 4 เท่า ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่คาดว่าจะมี - หน้าจอในเลนส์ สำหรับแสดงข้อมูล - อาจมี แว่นตาสำหรับนักกีฬา ที่พัฒนาร่วมกับ Oakley ✅ แนวโน้มของตลาดแว่นตาอัจฉริยะ - Meta อาจเปิดตัว Meta Camerasbuds ซึ่งเป็นหูฟังที่มีกล้อง - อาจมีการเปิดตัว Meta Smartwatch เพื่อควบคุมแว่นตา https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/mark-zuckerberg-confirms-new-ray-ban-smart-glasses-are-coming-later-this-year-here-are-the-3-pairs-i-think-well-see
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • มีเทรนด์ใหม่ที่กำลังเป็นไวรัลในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการใช้ ChatGPT เพื่อสร้างภาพซ้ำ ๆ โดยผู้ใช้บน Reddit ได้ทดลองให้ AI สร้างภาพของ Dwayne "The Rock" Johnson ซ้ำถึง 101 ครั้ง ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายกลายเป็น งานศิลปะแนวแอบสแตรกต์ ที่แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม

    เทรนด์นี้เริ่มจากการใช้คำสั่ง "สร้างภาพที่เหมือนต้นฉบับทุกประการ อย่าเปลี่ยนแปลงอะไรเลย" แต่เมื่อ AI สร้างภาพใหม่ซ้ำไปเรื่อย ๆ รายละเอียดของภาพเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย จนสุดท้ายกลายเป็นภาพที่ดูเหมือน ศิลปะแนวทดลอง มากกว่าภาพต้นฉบับ

    อย่างไรก็ตาม เทรนด์นี้กำลังเผชิญกับ กระแสต่อต้าน เนื่องจากการสร้างภาพซ้ำ ๆ จำนวนมากใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมหาศาล โดยมีผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งคำนวณว่า การสร้างภาพ 100 ครั้งใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1 kWh ซึ่งเทียบเท่ากับ การเปิดตู้เย็นทั้งวัน หรือการชงกาแฟ 20 แก้ว

    ✅ การทดลองสร้างภาพซ้ำ 101 ครั้ง
    - ผู้ใช้ Reddit ทดลองให้ AI สร้างภาพของ Dwayne "The Rock" Johnson ซ้ำหลายครั้ง
    - ผลลัพธ์สุดท้ายกลายเป็น งานศิลปะแนวแอบสแตรกต์

    ✅ กระบวนการเปลี่ยนแปลงของภาพ
    - AI เปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อยในแต่ละครั้ง
    - สุดท้ายภาพต้นฉบับแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม

    ✅ กระแสความนิยมของเทรนด์นี้
    - มีผู้ใช้ Reddit กว่า 42,000 คน กดถูกใจโพสต์นี้
    - มีความคิดเห็นกว่า 3,000 รายการ

    ✅ ผลกระทบต่อการใช้พลังงาน
    - การสร้างภาพ 100 ครั้งใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1 kWh
    - เทียบเท่ากับ การเปิดตู้เย็นทั้งวัน หรือการชงกาแฟ 20 แก้ว

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/viral-chatgpt-trend-gone-wrong-the-rock-is-turned-into-horrible-abstract-art-after-reddit-user-recreates-image-101-times
    มีเทรนด์ใหม่ที่กำลังเป็นไวรัลในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการใช้ ChatGPT เพื่อสร้างภาพซ้ำ ๆ โดยผู้ใช้บน Reddit ได้ทดลองให้ AI สร้างภาพของ Dwayne "The Rock" Johnson ซ้ำถึง 101 ครั้ง ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายกลายเป็น งานศิลปะแนวแอบสแตรกต์ ที่แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม เทรนด์นี้เริ่มจากการใช้คำสั่ง "สร้างภาพที่เหมือนต้นฉบับทุกประการ อย่าเปลี่ยนแปลงอะไรเลย" แต่เมื่อ AI สร้างภาพใหม่ซ้ำไปเรื่อย ๆ รายละเอียดของภาพเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย จนสุดท้ายกลายเป็นภาพที่ดูเหมือน ศิลปะแนวทดลอง มากกว่าภาพต้นฉบับ อย่างไรก็ตาม เทรนด์นี้กำลังเผชิญกับ กระแสต่อต้าน เนื่องจากการสร้างภาพซ้ำ ๆ จำนวนมากใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมหาศาล โดยมีผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งคำนวณว่า การสร้างภาพ 100 ครั้งใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1 kWh ซึ่งเทียบเท่ากับ การเปิดตู้เย็นทั้งวัน หรือการชงกาแฟ 20 แก้ว ✅ การทดลองสร้างภาพซ้ำ 101 ครั้ง - ผู้ใช้ Reddit ทดลองให้ AI สร้างภาพของ Dwayne "The Rock" Johnson ซ้ำหลายครั้ง - ผลลัพธ์สุดท้ายกลายเป็น งานศิลปะแนวแอบสแตรกต์ ✅ กระบวนการเปลี่ยนแปลงของภาพ - AI เปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อยในแต่ละครั้ง - สุดท้ายภาพต้นฉบับแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ✅ กระแสความนิยมของเทรนด์นี้ - มีผู้ใช้ Reddit กว่า 42,000 คน กดถูกใจโพสต์นี้ - มีความคิดเห็นกว่า 3,000 รายการ ✅ ผลกระทบต่อการใช้พลังงาน - การสร้างภาพ 100 ครั้งใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1 kWh - เทียบเท่ากับ การเปิดตู้เย็นทั้งวัน หรือการชงกาแฟ 20 แก้ว https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/viral-chatgpt-trend-gone-wrong-the-rock-is-turned-into-horrible-abstract-art-after-reddit-user-recreates-image-101-times
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • WhatsApp ได้เพิ่ม Perplexity AI เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการสนทนา AI ภายในแอป โดยผู้ใช้สามารถพูดคุยกับ Perplexity AI ได้โดยเพิ่มหมายเลข +1 (833) 436-3285 ลงในรายชื่อผู้ติดต่อ

    นอกจากนี้ WhatsApp ยังรองรับ ChatGPT ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยเพิ่มหมายเลข +1 (800) 242-8478 ลงในแอป ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกมากขึ้นในการสนทนากับ AI

    อย่างไรก็ตาม การเพิ่ม AI ลงใน WhatsApp ทำให้เกิดข้อกังวลด้าน ความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะหลังจากที่ Aravind Srinivas ซีอีโอของ Perplexity เปิดเผยว่า Comet Browser ของบริษัทอาจรวบรวมข้อมูลผู้ใช้และขายให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด

    ✅ การเพิ่ม Perplexity AI ใน WhatsApp
    - ผู้ใช้สามารถพูดคุยกับ Perplexity AI ได้โดยเพิ่มหมายเลข +1 (833) 436-3285
    - รองรับการให้คำตอบ, แหล่งข้อมูล และการสร้างภาพ

    ✅ การรองรับ ChatGPT ใน WhatsApp
    - สามารถเข้าถึงได้โดยเพิ่มหมายเลข +1 (800) 242-8478
    - รองรับการสนทนาและการจดจำบริบทจากการสนทนาก่อนหน้า

    ✅ ข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว
    - Perplexity อาจรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ผ่าน Comet Browser
    - ข้อมูลอาจถูกขายให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด

    ✅ การตอบสนองของ WhatsApp
    - Meta ได้เพิ่ม Meta AI ลงในแอปเป็นปุ่มถาวรที่มุมล่างขวา
    - ผู้ใช้สามารถปิดการใช้งาน Meta AI ได้หากไม่ต้องการใช้

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/forget-meta-ai-whatsapp-now-lets-you-talk-directly-to-perplexity-and-chatgpt-in-the-app-heres-how
    WhatsApp ได้เพิ่ม Perplexity AI เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการสนทนา AI ภายในแอป โดยผู้ใช้สามารถพูดคุยกับ Perplexity AI ได้โดยเพิ่มหมายเลข +1 (833) 436-3285 ลงในรายชื่อผู้ติดต่อ นอกจากนี้ WhatsApp ยังรองรับ ChatGPT ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยเพิ่มหมายเลข +1 (800) 242-8478 ลงในแอป ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกมากขึ้นในการสนทนากับ AI อย่างไรก็ตาม การเพิ่ม AI ลงใน WhatsApp ทำให้เกิดข้อกังวลด้าน ความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะหลังจากที่ Aravind Srinivas ซีอีโอของ Perplexity เปิดเผยว่า Comet Browser ของบริษัทอาจรวบรวมข้อมูลผู้ใช้และขายให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด ✅ การเพิ่ม Perplexity AI ใน WhatsApp - ผู้ใช้สามารถพูดคุยกับ Perplexity AI ได้โดยเพิ่มหมายเลข +1 (833) 436-3285 - รองรับการให้คำตอบ, แหล่งข้อมูล และการสร้างภาพ ✅ การรองรับ ChatGPT ใน WhatsApp - สามารถเข้าถึงได้โดยเพิ่มหมายเลข +1 (800) 242-8478 - รองรับการสนทนาและการจดจำบริบทจากการสนทนาก่อนหน้า ✅ ข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว - Perplexity อาจรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ผ่าน Comet Browser - ข้อมูลอาจถูกขายให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด ✅ การตอบสนองของ WhatsApp - Meta ได้เพิ่ม Meta AI ลงในแอปเป็นปุ่มถาวรที่มุมล่างขวา - ผู้ใช้สามารถปิดการใช้งาน Meta AI ได้หากไม่ต้องการใช้ https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/forget-meta-ai-whatsapp-now-lets-you-talk-directly-to-perplexity-and-chatgpt-in-the-app-heres-how
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • Nvidia ได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกชิป AI โดย Jensen Huang ซีอีโอของบริษัทระบุว่ากฎระเบียบปัจจุบัน ขัดขวางการเข้าถึงตลาดโลก และอาจทำให้บริษัทอเมริกันเสียเปรียบในการแข่งขันกับจีน

    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของ Donald Trump กำลังพิจารณา เพิ่มความเข้มงวด ในข้อจำกัดการส่งออกชิป AI โดยอาจเปลี่ยนระบบ Tiered Model เป็น Global Licensing Regime ซึ่งจะทำให้การส่งออกขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างรัฐบาลแทนที่จะเป็นข้อกำหนดทั่วไป

    ภายใต้กฎปัจจุบัน ประเทศพันธมิตร (Tier 1) สามารถนำเข้าชิป AI ได้ไม่จำกัด ขณะที่ ประเทศในกลุ่ม Tier 2 เช่น อินเดียและบราซิล ถูกจำกัดที่ 50,000 หน่วยต่อปี และต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล ส่วน ประเทศที่อยู่ภายใต้การคว่ำบาตร (Tier 3) เช่น จีนและรัสเซีย ถูกห้ามนำเข้าชิป AI ขั้นสูงเกือบทั้งหมด

    Huang เตือนว่าหากสหรัฐฯ ยังคงจำกัดการส่งออก อาจทำให้จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง โดย Huawei ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน กำลังพัฒนาโปรเซสเซอร์ AI ที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ และอาจกลายเป็นคู่แข่งสำคัญในอนาคต

    ✅ ข้อเรียกร้องของ Nvidia
    - Jensen Huang เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกชิป AI
    - ระบุว่ากฎระเบียบปัจจุบันขัดขวางการเข้าถึงตลาดโลก

    ✅ แนวทางของรัฐบาลสหรัฐฯ
    - รัฐบาล Trump กำลังพิจารณาเพิ่มความเข้มงวดในข้อจำกัด
    - อาจเปลี่ยนระบบ Tiered Model เป็น Global Licensing Regime

    ✅ ข้อจำกัดการส่งออกภายใต้กฎปัจจุบัน
    - Tier 1 (ประเทศพันธมิตร) สามารถนำเข้าชิป AI ได้ไม่จำกัด
    - Tier 2 (อินเดีย, บราซิล) ถูกจำกัดที่ 50,000 หน่วยต่อปี
    - Tier 3 (จีน, รัสเซีย) ถูกห้ามนำเข้าชิป AI ขั้นสูงเกือบทั้งหมด

    ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันกับจีน
    - Huawei กำลังพัฒนาโปรเซสเซอร์ AI ที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia
    - หากสหรัฐฯ ยังคงจำกัดการส่งออก อาจทำให้จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-asks-us-government-to-ease-ai-gpu-export-rules-but-trump-administration-plans-tighter-controls
    Nvidia ได้เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกชิป AI โดย Jensen Huang ซีอีโอของบริษัทระบุว่ากฎระเบียบปัจจุบัน ขัดขวางการเข้าถึงตลาดโลก และอาจทำให้บริษัทอเมริกันเสียเปรียบในการแข่งขันกับจีน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของ Donald Trump กำลังพิจารณา เพิ่มความเข้มงวด ในข้อจำกัดการส่งออกชิป AI โดยอาจเปลี่ยนระบบ Tiered Model เป็น Global Licensing Regime ซึ่งจะทำให้การส่งออกขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างรัฐบาลแทนที่จะเป็นข้อกำหนดทั่วไป ภายใต้กฎปัจจุบัน ประเทศพันธมิตร (Tier 1) สามารถนำเข้าชิป AI ได้ไม่จำกัด ขณะที่ ประเทศในกลุ่ม Tier 2 เช่น อินเดียและบราซิล ถูกจำกัดที่ 50,000 หน่วยต่อปี และต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล ส่วน ประเทศที่อยู่ภายใต้การคว่ำบาตร (Tier 3) เช่น จีนและรัสเซีย ถูกห้ามนำเข้าชิป AI ขั้นสูงเกือบทั้งหมด Huang เตือนว่าหากสหรัฐฯ ยังคงจำกัดการส่งออก อาจทำให้จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง โดย Huawei ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน กำลังพัฒนาโปรเซสเซอร์ AI ที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ และอาจกลายเป็นคู่แข่งสำคัญในอนาคต ✅ ข้อเรียกร้องของ Nvidia - Jensen Huang เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกชิป AI - ระบุว่ากฎระเบียบปัจจุบันขัดขวางการเข้าถึงตลาดโลก ✅ แนวทางของรัฐบาลสหรัฐฯ - รัฐบาล Trump กำลังพิจารณาเพิ่มความเข้มงวดในข้อจำกัด - อาจเปลี่ยนระบบ Tiered Model เป็น Global Licensing Regime ✅ ข้อจำกัดการส่งออกภายใต้กฎปัจจุบัน - Tier 1 (ประเทศพันธมิตร) สามารถนำเข้าชิป AI ได้ไม่จำกัด - Tier 2 (อินเดีย, บราซิล) ถูกจำกัดที่ 50,000 หน่วยต่อปี - Tier 3 (จีน, รัสเซีย) ถูกห้ามนำเข้าชิป AI ขั้นสูงเกือบทั้งหมด ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันกับจีน - Huawei กำลังพัฒนาโปรเซสเซอร์ AI ที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia - หากสหรัฐฯ ยังคงจำกัดการส่งออก อาจทำให้จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-asks-us-government-to-ease-ai-gpu-export-rules-but-trump-administration-plans-tighter-controls
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • TSMC ได้เริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Fab 21 phase 3 ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา โรงงานนี้จะสามารถผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี N2, N2P (2nm-class) และ A16 (1.6nm-class) เมื่อเสร็จสมบูรณ์ระหว่างปี 2028-2030

    การลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผน มูลค่า 165 พันล้านดอลลาร์ ที่ TSMC ประกาศในเดือนมีนาคม โดย Fab 21 จะมีทั้งหมด 6 โมดูล ซึ่งโมดูลที่ 3 และ 4 จะใช้เทคโนโลยี 2nm-class ส่วนโมดูลที่ 5 และ 6 จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า เช่น A14 (1.4nm-class)

    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไต้หวันได้ออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ TSMC ต้องได้รับอนุญาตก่อนที่จะลงทุนในโครงการต่างประเทศ และไม่สามารถส่งออกเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดไปยังโรงงานในต่างประเทศได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของ TSMC

    นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเงื่อนไขในการให้เงินสนับสนุนภายใต้ CHIPS and Science Act โดยอาจกำหนดให้บริษัทต่างชาติที่ต้องการรับเงินสนับสนุนต้องเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ

    ✅ การก่อสร้าง Fab 21 phase 3
    - ตั้งอยู่ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา
    - จะสามารถผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี N2, N2P และ A16

    ✅ แผนการลงทุนของ TSMC
    - มูลค่า 165 พันล้านดอลลาร์
    - Fab 21 จะมีทั้งหมด 6 โมดูล

    ✅ ข้อจำกัดจากรัฐบาลไต้หวัน
    - TSMC ต้องได้รับอนุญาตก่อนลงทุนในต่างประเทศ
    - ไม่สามารถส่งออกเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดไปยังโรงงานในต่างประเทศ

    ✅ การสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ
    - อาจกำหนดเงื่อนไขให้บริษัทต่างชาติที่ต้องการรับเงินสนับสนุนต้องเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-starts-construction-its-1-6nm-and-2nm-capable-u-s-fab-fab-21-phase-3
    TSMC ได้เริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Fab 21 phase 3 ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา โรงงานนี้จะสามารถผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี N2, N2P (2nm-class) และ A16 (1.6nm-class) เมื่อเสร็จสมบูรณ์ระหว่างปี 2028-2030 การลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผน มูลค่า 165 พันล้านดอลลาร์ ที่ TSMC ประกาศในเดือนมีนาคม โดย Fab 21 จะมีทั้งหมด 6 โมดูล ซึ่งโมดูลที่ 3 และ 4 จะใช้เทคโนโลยี 2nm-class ส่วนโมดูลที่ 5 และ 6 จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า เช่น A14 (1.4nm-class) อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไต้หวันได้ออกกฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ TSMC ต้องได้รับอนุญาตก่อนที่จะลงทุนในโครงการต่างประเทศ และไม่สามารถส่งออกเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดไปยังโรงงานในต่างประเทศได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของ TSMC นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเงื่อนไขในการให้เงินสนับสนุนภายใต้ CHIPS and Science Act โดยอาจกำหนดให้บริษัทต่างชาติที่ต้องการรับเงินสนับสนุนต้องเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ ✅ การก่อสร้าง Fab 21 phase 3 - ตั้งอยู่ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา - จะสามารถผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี N2, N2P และ A16 ✅ แผนการลงทุนของ TSMC - มูลค่า 165 พันล้านดอลลาร์ - Fab 21 จะมีทั้งหมด 6 โมดูล ✅ ข้อจำกัดจากรัฐบาลไต้หวัน - TSMC ต้องได้รับอนุญาตก่อนลงทุนในต่างประเทศ - ไม่สามารถส่งออกเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดไปยังโรงงานในต่างประเทศ ✅ การสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ - อาจกำหนดเงื่อนไขให้บริษัทต่างชาติที่ต้องการรับเงินสนับสนุนต้องเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-starts-construction-its-1-6nm-and-2nm-capable-u-s-fab-fab-21-phase-3
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • Microsoft กำลังใช้ AI ในการเขียนโค้ดมากขึ้น โดย Satya Nadella ซีอีโอของบริษัทเปิดเผยว่า 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI และบางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด

    Nadella ได้เข้าร่วมงาน LlamaCon ร่วมกับ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI และการมีส่วนร่วมในระบบโอเพ่นซอร์ส โดยเขาระบุว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากและมีรูปแบบที่คาดเดาได้

    แม้ว่า AI จะช่วยให้การพัฒนาโค้ดมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ เนื่องจาก AI สามารถลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง อย่างไรก็ตาม Nadella ย้ำว่า AI ยังต้องการการตรวจสอบจากนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าโค้ดที่สร้างขึ้นสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง

    Microsoft พบว่า AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++ เนื่องจาก Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่า, รองรับ dynamic typing และมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า ขณะที่ C++ เป็นภาษาที่เกี่ยวข้องกับโค้ดระดับต่ำ ซึ่งยากต่อการทำให้เป็นอัตโนมัติ

    ✅ AI เขียนโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft
    - 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI
    - บางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด

    ✅ การพัฒนา AI ในระบบโอเพ่นซอร์ส
    - Nadella และ Zuckerberg พูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI ในงาน LlamaCon
    - AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะงานที่มีรูปแบบที่คาดเดาได้

    ✅ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่
    - AI อาจลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง
    - นักพัฒนาที่มีประสบการณ์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบโค้ด

    ✅ ความแตกต่างระหว่าง Python และ C++ ในการใช้ AI
    - AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++
    - Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่าและมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsofts-ceo-reveals-that-ai-writes-up-to-30-percent-of-its-code-some-projects-may-have-all-of-its-code-written-by-ai
    Microsoft กำลังใช้ AI ในการเขียนโค้ดมากขึ้น โดย Satya Nadella ซีอีโอของบริษัทเปิดเผยว่า 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI และบางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด Nadella ได้เข้าร่วมงาน LlamaCon ร่วมกับ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI และการมีส่วนร่วมในระบบโอเพ่นซอร์ส โดยเขาระบุว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมากและมีรูปแบบที่คาดเดาได้ แม้ว่า AI จะช่วยให้การพัฒนาโค้ดมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ เนื่องจาก AI สามารถลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง อย่างไรก็ตาม Nadella ย้ำว่า AI ยังต้องการการตรวจสอบจากนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าโค้ดที่สร้างขึ้นสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง Microsoft พบว่า AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++ เนื่องจาก Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่า, รองรับ dynamic typing และมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า ขณะที่ C++ เป็นภาษาที่เกี่ยวข้องกับโค้ดระดับต่ำ ซึ่งยากต่อการทำให้เป็นอัตโนมัติ ✅ AI เขียนโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft - 20-30% ของโค้ดในโปรเจ็กต์ของ Microsoft ถูกเขียนโดย AI - บางโปรเจ็กต์อาจใช้ AI ในการเขียนโค้ดทั้งหมด ✅ การพัฒนา AI ในระบบโอเพ่นซอร์ส - Nadella และ Zuckerberg พูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนา AI ในงาน LlamaCon - AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด โดยเฉพาะงานที่มีรูปแบบที่คาดเดาได้ ✅ ผลกระทบต่อโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ - AI อาจลดจำนวนงานระดับเริ่มต้นลง - นักพัฒนาที่มีประสบการณ์ยังคงมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบโค้ด ✅ ความแตกต่างระหว่าง Python และ C++ ในการใช้ AI - AI สามารถสร้างโค้ด Python ได้ดีกว่า C++ - Python มีโครงสร้างที่ง่ายกว่าและมีระบบจัดการหน่วยความจำที่ดีกว่า https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsofts-ceo-reveals-that-ai-writes-up-to-30-percent-of-its-code-some-projects-may-have-all-of-its-code-written-by-ai
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • Google ได้ปรับปรุง Google Voice ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การโทรสะดวกขึ้น โดยเพิ่ม การโทรแบบสามสาย (Three-way calling) และ ปรับปรุงอินเทอร์เฟซการโทร ให้ใช้งานง่ายขึ้น

    ฟีเจอร์ Three-way calling ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวมสายสองสายเข้าด้วยกันเพื่อสนทนาแบบกลุ่ม ซึ่งมีประโยชน์ในหลายสถานการณ์ เช่น การสนทนาแบบหลายภาษา, การประชุมทางกฎหมาย, หรือ การโอนสายที่ราบรื่นขึ้น ผู้ใช้สามารถเพิ่มบุคคลที่สามได้โดยกดปุ่ม "Add" แล้วเลือก "Merge" เพื่อรวมสาย

    นอกจากนี้ Google Voice ยังได้รับ การออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่ ให้มีความสอดคล้องกับ Google Meet โดยวางปุ่มควบคุมสายโทรในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายขึ้น เช่น ปุ่มกดหมายเลข, ปุ่มปิดเสียง, และ ปุ่มโอนสาย

    อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Three-way calling จะเปิดให้ใช้งานเฉพาะ ลูกค้า Google Workspace ที่มีแพ็กเกจ Voice Starter, Voice Standard หรือ Voice Premier รวมถึงผู้ใช้ที่มี SIP Link Standard และ SIP Link Premier ส่วนอินเทอร์เฟซใหม่จะเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ Google Voice ทุกคน

    ✅ การโทรแบบสามสาย (Three-way calling)
    - สามารถรวมสายสองสายเข้าด้วยกันเพื่อสนทนาแบบกลุ่ม
    - มีประโยชน์สำหรับการสนทนาแบบหลายภาษา, การประชุมทางกฎหมาย และการโอนสาย

    ✅ การออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่
    - ปรับปรุงให้มีความสอดคล้องกับ Google Meet
    - วางปุ่มควบคุมสายโทรในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายขึ้น

    ✅ การเปิดใช้งานฟีเจอร์ใหม่
    - Three-way calling เปิดให้ใช้งานเฉพาะลูกค้า Google Workspace ที่มีแพ็กเกจ Voice Starter, Voice Standard หรือ Voice Premier
    - อินเทอร์เฟซใหม่เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ Google Voice ทุกคน

    ✅ กำหนดการเปิดตัว
    - เริ่มเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2025
    - อาจใช้เวลามากกว่า 15 วัน กว่าที่ผู้ใช้ทุกคนจะได้รับการอัปเดต

    https://www.neowin.net/news/google-voice-gets-a-call-interface-makeover-and-three-way-support/
    Google ได้ปรับปรุง Google Voice ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การโทรสะดวกขึ้น โดยเพิ่ม การโทรแบบสามสาย (Three-way calling) และ ปรับปรุงอินเทอร์เฟซการโทร ให้ใช้งานง่ายขึ้น ฟีเจอร์ Three-way calling ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวมสายสองสายเข้าด้วยกันเพื่อสนทนาแบบกลุ่ม ซึ่งมีประโยชน์ในหลายสถานการณ์ เช่น การสนทนาแบบหลายภาษา, การประชุมทางกฎหมาย, หรือ การโอนสายที่ราบรื่นขึ้น ผู้ใช้สามารถเพิ่มบุคคลที่สามได้โดยกดปุ่ม "Add" แล้วเลือก "Merge" เพื่อรวมสาย นอกจากนี้ Google Voice ยังได้รับ การออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่ ให้มีความสอดคล้องกับ Google Meet โดยวางปุ่มควบคุมสายโทรในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายขึ้น เช่น ปุ่มกดหมายเลข, ปุ่มปิดเสียง, และ ปุ่มโอนสาย อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Three-way calling จะเปิดให้ใช้งานเฉพาะ ลูกค้า Google Workspace ที่มีแพ็กเกจ Voice Starter, Voice Standard หรือ Voice Premier รวมถึงผู้ใช้ที่มี SIP Link Standard และ SIP Link Premier ส่วนอินเทอร์เฟซใหม่จะเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ Google Voice ทุกคน ✅ การโทรแบบสามสาย (Three-way calling) - สามารถรวมสายสองสายเข้าด้วยกันเพื่อสนทนาแบบกลุ่ม - มีประโยชน์สำหรับการสนทนาแบบหลายภาษา, การประชุมทางกฎหมาย และการโอนสาย ✅ การออกแบบอินเทอร์เฟซใหม่ - ปรับปรุงให้มีความสอดคล้องกับ Google Meet - วางปุ่มควบคุมสายโทรในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายขึ้น ✅ การเปิดใช้งานฟีเจอร์ใหม่ - Three-way calling เปิดให้ใช้งานเฉพาะลูกค้า Google Workspace ที่มีแพ็กเกจ Voice Starter, Voice Standard หรือ Voice Premier - อินเทอร์เฟซใหม่เปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ Google Voice ทุกคน ✅ กำหนดการเปิดตัว - เริ่มเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2025 - อาจใช้เวลามากกว่า 15 วัน กว่าที่ผู้ใช้ทุกคนจะได้รับการอัปเดต https://www.neowin.net/news/google-voice-gets-a-call-interface-makeover-and-three-way-support/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Voice gets a call interface makeover and three-way support
    Google has shipped an update for its Voice service that brings three-way merging of calls and an updated appearance for the call screen.
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึง 14 ใบรับรองด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม และมีผลต่อโอกาสในการทำงาน รวมถึงระดับเงินเดือนของผู้ถือใบรับรอง

    ใบรับรองเหล่านี้ถูกคัดเลือกโดยพิจารณาจาก การยอมรับในอุตสาหกรรม, เครือข่ายมืออาชีพ, และ ผลตอบแทนทางการเงิน โดยใช้ข้อมูลจาก CyberSeek, Skillsoft, และ Foote Partners เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด

    ใบรับรองที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุด ได้แก่ AWS Certified Security — Specialty, Certified Cloud Security Professional (CCSP), Certified Ethical Hacker (C|EH), Certified Information Security Manager (CISM), และ Certified Information Systems Security Professional (CISSP) ซึ่งแต่ละใบรับรองมีข้อกำหนดและข้อดีที่แตกต่างกัน

    นอกจากนี้ บทความยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีเลือกใบรับรองที่เหมาะสมกับเป้าหมายอาชีพของแต่ละบุคคล โดยเน้นไปที่ ความต้องการของตลาด, โอกาสในการสร้างเครือข่าย, และ ผลตอบแทนทางการเงิน

    ✅ ใบรับรองที่ได้รับการยอมรับสูงสุด
    - AWS Certified Security — Specialty
    - Certified Cloud Security Professional (CCSP)
    - Certified Ethical Hacker (C|EH)
    - Certified Information Privacy Professional (CIPP)
    - Certified Information Security Manager (CISM)
    - Certified Information Systems Auditor (CISA)
    - Certified Information Systems Security Professional (CISSP)
    - Certified in Risk and Information Systems Control (CRISC)
    - Cisco Certified Network Professional (CCNP) Security
    - CompTIA Advanced Security Practitioner (CASP+)
    - CompTIA Security+
    - GIAC Security Essentials Certification (GSEC)
    - Offensive Security Certified Professional (OSCP)
    - Systems Security Certified Practitioner (SSCP)

    ✅ เกณฑ์การคัดเลือกใบรับรอง
    - การยอมรับในอุตสาหกรรม
    - เครือข่ายมืออาชีพและโอกาสในการสร้างเครือข่าย
    - ผลตอบแทนทางการเงินและระดับเงินเดือน

    ✅ แนวโน้มของตลาดใบรับรอง
    - ใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับ Cloud Security กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น
    - ใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับ Risk Management มีผลต่อโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง

    ✅ คำแนะนำในการเลือกใบรับรอง
    - ควรเลือกใบรับรองที่สอดคล้องกับเป้าหมายอาชีพ
    - พิจารณาค่าใช้จ่ายและระยะเวลาที่ต้องใช้ในการสอบ

    https://www.csoonline.com/article/3970107/the-14-most-valuable-cybersecurity-certifications.html
    บทความนี้กล่าวถึง 14 ใบรับรองด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม และมีผลต่อโอกาสในการทำงาน รวมถึงระดับเงินเดือนของผู้ถือใบรับรอง ใบรับรองเหล่านี้ถูกคัดเลือกโดยพิจารณาจาก การยอมรับในอุตสาหกรรม, เครือข่ายมืออาชีพ, และ ผลตอบแทนทางการเงิน โดยใช้ข้อมูลจาก CyberSeek, Skillsoft, และ Foote Partners เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด ใบรับรองที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุด ได้แก่ AWS Certified Security — Specialty, Certified Cloud Security Professional (CCSP), Certified Ethical Hacker (C|EH), Certified Information Security Manager (CISM), และ Certified Information Systems Security Professional (CISSP) ซึ่งแต่ละใบรับรองมีข้อกำหนดและข้อดีที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ บทความยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีเลือกใบรับรองที่เหมาะสมกับเป้าหมายอาชีพของแต่ละบุคคล โดยเน้นไปที่ ความต้องการของตลาด, โอกาสในการสร้างเครือข่าย, และ ผลตอบแทนทางการเงิน ✅ ใบรับรองที่ได้รับการยอมรับสูงสุด - AWS Certified Security — Specialty - Certified Cloud Security Professional (CCSP) - Certified Ethical Hacker (C|EH) - Certified Information Privacy Professional (CIPP) - Certified Information Security Manager (CISM) - Certified Information Systems Auditor (CISA) - Certified Information Systems Security Professional (CISSP) - Certified in Risk and Information Systems Control (CRISC) - Cisco Certified Network Professional (CCNP) Security - CompTIA Advanced Security Practitioner (CASP+) - CompTIA Security+ - GIAC Security Essentials Certification (GSEC) - Offensive Security Certified Professional (OSCP) - Systems Security Certified Practitioner (SSCP) ✅ เกณฑ์การคัดเลือกใบรับรอง - การยอมรับในอุตสาหกรรม - เครือข่ายมืออาชีพและโอกาสในการสร้างเครือข่าย - ผลตอบแทนทางการเงินและระดับเงินเดือน ✅ แนวโน้มของตลาดใบรับรอง - ใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับ Cloud Security กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น - ใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับ Risk Management มีผลต่อโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง ✅ คำแนะนำในการเลือกใบรับรอง - ควรเลือกใบรับรองที่สอดคล้องกับเป้าหมายอาชีพ - พิจารณาค่าใช้จ่ายและระยะเวลาที่ต้องใช้ในการสอบ https://www.csoonline.com/article/3970107/the-14-most-valuable-cybersecurity-certifications.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The 14 most valuable cybersecurity certifications
    Widely recognized across the industry, these blue-chip certs are highly valued by employers, offer competitive salaries, and are backed by strong professional communities.
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • AnduinOS 1.3 เป็นระบบปฏิบัติการ Linux ที่ออกแบบมาให้มีลักษณะคล้าย Windows 11 โดยใช้ GNOME 48 ซึ่งมีการปรับแต่งให้คล้ายกับ Windows เช่น ปุ่ม Start ที่อยู่ตรงกลาง และ แอปที่ปักหมุด เพื่อให้ผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ Windows สามารถปรับตัวได้ง่ายขึ้น

    ระบบปฏิบัติการนี้ใช้พื้นฐานจาก Ubuntu 25.04 ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจนถึงเดือนมกราคม 2026 และมาพร้อมกับ GNOME Software และ Flatpak เพื่อให้การติดตั้งแอปพลิเคชันเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ เช่น Super + V สำหรับดูประวัติคลิปบอร์ด และ การรองรับ HDR

    แม้ว่า AnduinOS จะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก (ไม่ได้อยู่ใน Top 100 ของ Distrowatch) แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการระบบ Linux ที่มีลักษณะคล้าย Windows โดยสามารถทดลองใช้งานใน Virtual Machine หรือบนคอมพิวเตอร์สำรอง

    ✅ พื้นฐานของระบบปฏิบัติการ
    - ใช้ Ubuntu 25.04 และได้รับการสนับสนุนจนถึงเดือนมกราคม 2026
    - มีการปรับแต่ง GNOME ให้คล้ายกับ Windows 11

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
    - GNOME 48 พร้อมการปรับแต่ง UI ให้คล้าย Windows
    - รองรับ GNOME Software และ Flatpak เพื่อการติดตั้งแอปที่ง่ายขึ้น
    - เพิ่ม Super + V สำหรับดูประวัติคลิปบอร์ด
    - รองรับ HDR

    ✅ ความนิยมและการใช้งาน
    - ยังไม่ติดอันดับใน Distrowatch แต่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ Windows
    - เหมาะสำหรับการทดลองใช้งานใน Virtual Machine หรือบนคอมพิวเตอร์สำรอง

    ✅ ข้อจำกัดของระบบ
    - ไม่สามารถอัปเกรดเวอร์ชันแบบ in-place upgrade ได้
    - ทีมพัฒนากำลังหาทางแก้ไขปัญหานี้

    https://www.neowin.net/news/arduinos-13-is-a-linux-distro-that-looks-like-windows-11-now-with-gnome-48-and-hdr-support/
    AnduinOS 1.3 เป็นระบบปฏิบัติการ Linux ที่ออกแบบมาให้มีลักษณะคล้าย Windows 11 โดยใช้ GNOME 48 ซึ่งมีการปรับแต่งให้คล้ายกับ Windows เช่น ปุ่ม Start ที่อยู่ตรงกลาง และ แอปที่ปักหมุด เพื่อให้ผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ Windows สามารถปรับตัวได้ง่ายขึ้น ระบบปฏิบัติการนี้ใช้พื้นฐานจาก Ubuntu 25.04 ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนจนถึงเดือนมกราคม 2026 และมาพร้อมกับ GNOME Software และ Flatpak เพื่อให้การติดตั้งแอปพลิเคชันเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ เช่น Super + V สำหรับดูประวัติคลิปบอร์ด และ การรองรับ HDR แม้ว่า AnduinOS จะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก (ไม่ได้อยู่ใน Top 100 ของ Distrowatch) แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการระบบ Linux ที่มีลักษณะคล้าย Windows โดยสามารถทดลองใช้งานใน Virtual Machine หรือบนคอมพิวเตอร์สำรอง ✅ พื้นฐานของระบบปฏิบัติการ - ใช้ Ubuntu 25.04 และได้รับการสนับสนุนจนถึงเดือนมกราคม 2026 - มีการปรับแต่ง GNOME ให้คล้ายกับ Windows 11 ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา - GNOME 48 พร้อมการปรับแต่ง UI ให้คล้าย Windows - รองรับ GNOME Software และ Flatpak เพื่อการติดตั้งแอปที่ง่ายขึ้น - เพิ่ม Super + V สำหรับดูประวัติคลิปบอร์ด - รองรับ HDR ✅ ความนิยมและการใช้งาน - ยังไม่ติดอันดับใน Distrowatch แต่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ Windows - เหมาะสำหรับการทดลองใช้งานใน Virtual Machine หรือบนคอมพิวเตอร์สำรอง ✅ ข้อจำกัดของระบบ - ไม่สามารถอัปเกรดเวอร์ชันแบบ in-place upgrade ได้ - ทีมพัฒนากำลังหาทางแก้ไขปัญหานี้ https://www.neowin.net/news/arduinos-13-is-a-linux-distro-that-looks-like-windows-11-now-with-gnome-48-and-hdr-support/
    WWW.NEOWIN.NET
    AnduinOS 1.3 is a Linux distro that looks like Windows 11, now with GNOME 48 and HDR support
    A new update of AnduinOS is now out. Version 1.3 is based on Ubuntu 25.04 but has been heavily themed to look like Windows 11 out of the box.
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • Elon Musk ได้ออกมาตอบโต้รายงานของ Wall Street Journal (WSJ) ที่อ้างว่า คณะกรรมการของ Tesla กำลังมองหาซีอีโอคนใหม่ โดย Musk ระบุว่าข่าวดังกล่าวเป็น "บทความที่จงใจให้ข้อมูลเท็จ" และเป็น "การละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง"

    WSJ รายงานว่าคณะกรรมการของ Tesla ได้ติดต่อบริษัทจัดหาผู้บริหารเพื่อเริ่มกระบวนการค้นหาซีอีโอคนใหม่ อย่างไรก็ตาม Robyn Denholm ประธานคณะกรรมการของ Tesla ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้ผ่านบัญชี X ของบริษัท โดยระบุว่า "ข่าวนี้เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง และเราได้แจ้งไปยังสื่อก่อนที่รายงานจะถูกเผยแพร่"

    รายงานของ WSJ เกิดขึ้นในช่วงที่ Tesla กำลังเผชิญกับ ยอดขายและกำไรที่ลดลง รวมถึงการสูญเสียตำแหน่ง ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ให้กับ BYD จากจีน นอกจากนี้ หุ้นของ Tesla ก็ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี

    อีกหนึ่งประเด็นที่ WSJ กล่าวถึงคือ บทบาททางการเมืองของ Musk ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Tesla โดย Musk ได้แสดงการสนับสนุน Donald Trump และมีส่วนร่วมในโครงการ Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสหรัฐฯ และยุโรป

    นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับ เวลาที่ Musk ใช้กับ Tesla เนื่องจากเขามีบทบาทสำคัญใน SpaceX, Neuralink และ X ทำให้นักลงทุนตั้งคำถามว่าเขายังสามารถให้ความสำคัญกับ Tesla ได้มากพอหรือไม่

    ✅ การตอบโต้ของ Elon Musk และ Tesla
    - Musk ระบุว่ารายงานของ WSJ เป็น "บทความที่จงใจให้ข้อมูลเท็จ"
    - Robyn Denholm ประธานคณะกรรมการของ Tesla ปฏิเสธข่าวนี้ผ่านบัญชี X

    ✅ สถานการณ์ทางธุรกิจของ Tesla
    - Tesla มียอดขายและกำไรลดลงในไตรมาสแรกของปี 2025
    - สูญเสียตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดให้กับ BYD จากจีน

    ✅ บทบาททางการเมืองของ Musk
    - Musk สนับสนุน Donald Trump และมีส่วนร่วมในโครงการ DOGE
    - ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Tesla ในสหรัฐฯ และยุโรป

    ✅ ข้อกังวลเกี่ยวกับเวลาที่ Musk ใช้กับ Tesla
    - นักลงทุนตั้งคำถามว่า Musk ยังสามารถให้ความสำคัญกับ Tesla ได้มากพอหรือไม่
    - Musk ระบุว่าเขาจะ เพิ่มเวลาที่ใช้กับ Tesla ตั้งแต่เดือนหน้า

    https://www.neowin.net/news/elon-musk-accuses-wsj-of-lying-about-tesla-looking-for-a-new-ceo/
    Elon Musk ได้ออกมาตอบโต้รายงานของ Wall Street Journal (WSJ) ที่อ้างว่า คณะกรรมการของ Tesla กำลังมองหาซีอีโอคนใหม่ โดย Musk ระบุว่าข่าวดังกล่าวเป็น "บทความที่จงใจให้ข้อมูลเท็จ" และเป็น "การละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง" WSJ รายงานว่าคณะกรรมการของ Tesla ได้ติดต่อบริษัทจัดหาผู้บริหารเพื่อเริ่มกระบวนการค้นหาซีอีโอคนใหม่ อย่างไรก็ตาม Robyn Denholm ประธานคณะกรรมการของ Tesla ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้ผ่านบัญชี X ของบริษัท โดยระบุว่า "ข่าวนี้เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง และเราได้แจ้งไปยังสื่อก่อนที่รายงานจะถูกเผยแพร่" รายงานของ WSJ เกิดขึ้นในช่วงที่ Tesla กำลังเผชิญกับ ยอดขายและกำไรที่ลดลง รวมถึงการสูญเสียตำแหน่ง ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ให้กับ BYD จากจีน นอกจากนี้ หุ้นของ Tesla ก็ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี อีกหนึ่งประเด็นที่ WSJ กล่าวถึงคือ บทบาททางการเมืองของ Musk ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Tesla โดย Musk ได้แสดงการสนับสนุน Donald Trump และมีส่วนร่วมในโครงการ Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสหรัฐฯ และยุโรป นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับ เวลาที่ Musk ใช้กับ Tesla เนื่องจากเขามีบทบาทสำคัญใน SpaceX, Neuralink และ X ทำให้นักลงทุนตั้งคำถามว่าเขายังสามารถให้ความสำคัญกับ Tesla ได้มากพอหรือไม่ ✅ การตอบโต้ของ Elon Musk และ Tesla - Musk ระบุว่ารายงานของ WSJ เป็น "บทความที่จงใจให้ข้อมูลเท็จ" - Robyn Denholm ประธานคณะกรรมการของ Tesla ปฏิเสธข่าวนี้ผ่านบัญชี X ✅ สถานการณ์ทางธุรกิจของ Tesla - Tesla มียอดขายและกำไรลดลงในไตรมาสแรกของปี 2025 - สูญเสียตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดให้กับ BYD จากจีน ✅ บทบาททางการเมืองของ Musk - Musk สนับสนุน Donald Trump และมีส่วนร่วมในโครงการ DOGE - ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Tesla ในสหรัฐฯ และยุโรป ✅ ข้อกังวลเกี่ยวกับเวลาที่ Musk ใช้กับ Tesla - นักลงทุนตั้งคำถามว่า Musk ยังสามารถให้ความสำคัญกับ Tesla ได้มากพอหรือไม่ - Musk ระบุว่าเขาจะ เพิ่มเวลาที่ใช้กับ Tesla ตั้งแต่เดือนหน้า https://www.neowin.net/news/elon-musk-accuses-wsj-of-lying-about-tesla-looking-for-a-new-ceo/
    WWW.NEOWIN.NET
    Elon Musk accuses WSJ of lying about Tesla looking for a new CEO
    A recent report claimed that the Tesla board was seeking to replace its CEO. Now, Tesla's chair and Elon Musk have called this report false.
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • Winhance ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับปรับแต่งและปรับปรุง Windows 11 และ 10 ได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่ โดยเปลี่ยนจาก PowerShell GUI เป็น C# เพื่อให้มีการติดตั้งและถอนการติดตั้งที่ง่ายขึ้น รวมถึงรองรับเวอร์ชันพกพา

    การอัปเดตนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงด้าน UI และฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น การใช้ Google Material Symbols แทน Windows Fonts เพื่อให้มีความสม่ำเสมอระหว่าง Windows 10 และ 11 นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม ปุ่มบันทึกและนำเข้าค่าการตั้งค่า เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจัดการการตั้งค่าได้สะดวกขึ้น

    Winhance ยังได้เพิ่ม ฟีเจอร์ใหม่ในหลายหมวดหมู่ เช่น การจัดการแอปพลิเคชัน Windows, การปรับแต่งระบบ, การเพิ่มประสิทธิภาพ และการตั้งค่าพลังงาน โดยมีการแยกหมวดหมู่ให้ชัดเจนขึ้นเพื่อให้ใช้งานง่าย

    ✅ เปลี่ยนจาก PowerShell GUI เป็น C#
    - รองรับการติดตั้งและถอนการติดตั้งที่ง่ายขึ้น
    - มีเวอร์ชันพกพาสำหรับใช้งานโดยไม่ต้องติดตั้ง

    ✅ การปรับปรุง UI และฟีเจอร์ใหม่
    - ใช้ Google Material Symbols แทน Windows Fonts
    - เพิ่มปุ่มบันทึกและนำเข้าค่าการตั้งค่า

    ✅ การจัดการแอปพลิเคชัน Windows
    - เพิ่มหมวดหมู่ใหม่สำหรับแอป Windows, Legacy Capabilities และ Optional Features
    - สามารถติดตั้งและลบแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น

    ✅ การปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพระบบ
    - เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่ง Taskbar, Start Menu และ Explorer

    https://www.neowin.net/news/this-unofficial-powershell-gui-windows-1110-customization-and-tweaking-app-gets-big-upgrade/
    Winhance ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับปรับแต่งและปรับปรุง Windows 11 และ 10 ได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่ โดยเปลี่ยนจาก PowerShell GUI เป็น C# เพื่อให้มีการติดตั้งและถอนการติดตั้งที่ง่ายขึ้น รวมถึงรองรับเวอร์ชันพกพา การอัปเดตนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงด้าน UI และฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น การใช้ Google Material Symbols แทน Windows Fonts เพื่อให้มีความสม่ำเสมอระหว่าง Windows 10 และ 11 นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม ปุ่มบันทึกและนำเข้าค่าการตั้งค่า เพื่อให้ผู้ใช้สามารถจัดการการตั้งค่าได้สะดวกขึ้น Winhance ยังได้เพิ่ม ฟีเจอร์ใหม่ในหลายหมวดหมู่ เช่น การจัดการแอปพลิเคชัน Windows, การปรับแต่งระบบ, การเพิ่มประสิทธิภาพ และการตั้งค่าพลังงาน โดยมีการแยกหมวดหมู่ให้ชัดเจนขึ้นเพื่อให้ใช้งานง่าย ✅ เปลี่ยนจาก PowerShell GUI เป็น C# - รองรับการติดตั้งและถอนการติดตั้งที่ง่ายขึ้น - มีเวอร์ชันพกพาสำหรับใช้งานโดยไม่ต้องติดตั้ง ✅ การปรับปรุง UI และฟีเจอร์ใหม่ - ใช้ Google Material Symbols แทน Windows Fonts - เพิ่มปุ่มบันทึกและนำเข้าค่าการตั้งค่า ✅ การจัดการแอปพลิเคชัน Windows - เพิ่มหมวดหมู่ใหม่สำหรับแอป Windows, Legacy Capabilities และ Optional Features - สามารถติดตั้งและลบแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้น ✅ การปรับแต่งและเพิ่มประสิทธิภาพระบบ - เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่ง Taskbar, Start Menu และ Explorer https://www.neowin.net/news/this-unofficial-powershell-gui-windows-1110-customization-and-tweaking-app-gets-big-upgrade/
    WWW.NEOWIN.NET
    This unofficial PowerShell GUI Windows 11/10 customization and tweaking app gets big upgrade
    Winhance, an unofficial, third-party app for Windows 11/10 tweaking and customisation, has received its latest update, and it's a major one.
    0 Comments 0 Shares 38 Views 0 Reviews
  • Goodnight my sweet heart 💖🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my sweet heart 💖🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • วันนี้กลับมาคุยกันต่อกับเรื่องราวที่ Storyฯ เห็นจากละครเรื่อง <ร้อยรักปักดวงใจ> ในตอนที่มีการรับลูกนอกสมรสกลับเข้าตระกูล

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ถึงกาลมงคล พิธีรับเข้าตระกูลของตระกูลสวี อัญเชิญหนังสือตระกูล” เสียงประกาศเริ่มพิธีดังขึ้น สวีลิ่งเซวียนคุกเข่าลงต่อหน้าป้ายบูชาบรรพบุรุษแล้วกล่าว “สวีซื่อเจี้ย เดิมเป็นบุตรที่ร่อนเร่อาศัยอยู่ข้างนอกของตระกูลเรา ตอนนี้รับกลับเข้าตระกูลเป็นบุตรของสวีลิ่งอัน ขอบรรพบุรุษปกป้องลูกหลานสกุลสวี”...
    - ถอดบทสนทนาจากละคร <ร้อยรักปักดวงใจ> (ตามซับไทยเลยจ้า)

    ในละครข้างต้น ก่อนจะมาถึงพิธีการนี้ เนื้อเรื่องกล่าวถึงความคิดของตัวละครต่างๆ ที่ถกกันว่าจะรับเด็กมาเป็นลูกใครดี? ความเดิมของบทสนทนาในภาษาจีนคือ “จะบันทึกชื่อเด็กคนนี้ใต้ชื่อใคร?” ซึ่งการคุยในลักษณะนี้เป็นการสะท้อนถึงความสำคัญของหนังสือตระกูล วันนี้เลยมาคุยให้ฟังเกี่ยวกับหนังสือตระกูลหรือที่เรียกว่า ‘เจียผู่’ (家谱) หรือ ‘จู๋ผู่’ (族谱) นี้

    การบันทึกข้อมูลในเจียผู่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เว่ย และเนื่องจากสมัยนั้นมีการแตกสกุลมาจากเชื้อพระวงศ์เป็นจำนวนมาก ทางการจึงมีบทบาทสำคัญในการดูแลและปรับปรุงเจียผู่ของตระกูลเหล่านั้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักคือบันทึกสายสกุลเพื่อประโยชน์ในการคัดสรรและแต่งตั้งขุนนาง ต่อมาเมื่อผ่านพ้นราชวงศ์ถัง ข้อมูลเหล่านี้สูญหายไปในสงครามเสียเป็นส่วนใหญ่ และการเข้ารับราชการก็ดำเนินการผ่านการสอบราชบัณฑิต อีกทั้งอำนาจของเหล่าสื้อเจียตระกูลขุนนางก็เสื่อมลง ทางการจึงไม่ได้เข้ามายุ่งเรื่องการทำเจียผู่อีก ดังนั้นนับแต่สมัยซ่งมา เจียผู่ส่วนใหญ่ถูกจัดทำขึ้นมาใหม่และอยู่ในการดูแลของคนในตระกูลเอง (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนเกี่ยวกับสื้อเจียไปแล้ว หาอ่านย้อนหลังนะคะ)

    เพื่อนเพจอาจนึกภาพว่าเจียผู่เป็นพงศาวลีหรือผังลำดับญาติ แต่คนที่เคยลองวาดผังแบบนี้จะรู้ว่า หากจะวาดให้ดีต้องรู้ว่าควรเผื่อเนื้อที่ตรงไหนอย่างไร แต่เจียผู่เป็นบันทึกจากรุ่นสู่รุ่น ดังนั้นการบันทึกจริงๆ คือเขียนข้อมูลเติมไปแต่ละรุ่น (ดูตัวอย่างตามรูปประกอบ หน้านี้บันทึกการสืบเชื้อสายของบุตรชายคนโต) หากมีการวาดผังลำดับญาติโดยปกติจะวาดเพียง 5 รุ่นแล้วก็ขึ้นผังใหม่

    แล้วเจียผู่บันทึกอะไรบ้าง?

    ก่อนอื่นคือต้องมีการเขียน ‘ขอบเขต’ - ใครเป็นต้นตระกูล? เราเป็นสายใดของตระกูล? ตราสัญลักษณ์ของตระกูล (ถ้ามี) ภูมิลำเนาเดิม ประวัติของสกุล ที่ตั้งและแผนผังของวัดบรรพบุรุษ เป็นต้น

    จากนั้นก็เป็นบันทึกเกี่ยวกับคนในแต่ละรุ่น ซึ่งจะระบุว่าเป็นรุ่นที่เท่าไหร่ ลำดับในรุ่น ชื่อ วันเดือนปีเกิดและตาย สรุปชีวประวัติ ลักษณะเด่นหรือวีรกรรมโดยคร่าว (เช่น เคยไปรบชนะสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลในศึกไหน?) บรรดาศักดิ์หรือรางวัลเกียรติยศที่เคยได้รับ ชื่อคู่สมรสและบุตรชาย ฯลฯ ในบางเจียผู่จะมีการกล่าวถึงสินทรัพย์อันเป็นมรดกตกทอดของตระกูล เช่น ที่ตั้งและขนาดของที่ดินและอาคารบ้านเรือน และการบริหารสินทรัพย์ ฯลฯ

    แต่... ไม่ใช่บุตรและภรรยาทุกคนจะได้รับการบันทึกชื่อลงในเจียผู่ ใครบ้างที่ไม่มีชื่อ?
    1. ลูกสาว – ในวัฒนธรรมจีนโบราณ ลูกสาวเมื่อแต่งงานออกไปก็ถือว่าเป็นคนของครอบครัวอื่น จึงไม่มีการบันทึกชื่อลูกสาวในเจียผู่ของตัวเอง ลูกสาวที่แต่งออกไปก็จะไปมีชื่ออยู่ในเจียผู่ของสามี (แต่จากตัวอย่างที่ Storyฯ เห็น จะบันทึกเพียงสกุลเดิมไม่มีชื่อ เช่น นางสกุลหลี่) ธรรมเนียมนี้มีมาจนถึงสมัยจีนยุคใหม่ (หลังราชวงศ์ชิง) จึงมีการใส่ชื่อลูกสาวเข้าไป
    2. อนุภรรยา – สตรีที่แต่งงานไปจะถูกบันทึกชื่ออยู่ในเจียผู่ของสามีเฉพาะคนที่เป็นภรรยาเอกเท่านั้น คนที่เป็นอนุจะไม่มีการบันทึกถึง ยกเว้นในกรณีที่ต่อมาบุตรชายของนางมีคุณงามความชอบอย่างโดดเด่น สร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูล จึงจะมีการแก้ไขเอาชื่อของเขาเข้าเจียผู่และจะมีการบันทึกชื่อผู้เป็นมารดาด้วย (ป.ล. หากเพื่อนเพจได้ดูละคร <ร้อยรักปักดวงใจ> ในฉากที่กล่าวข้างต้น จะเห็นว่าสตรีที่เข้าร่วมพิธีที่เกี่ยวกับหนังสือตระกูลนั้น มีเพียงสะใภ้ที่เป็นภรรยาเอกเท่านั้น)
    3. ลูกอนุ - สายของอนุทั้งสายจะไม่ได้ลงบันทึกไว้ เว้นแต่กรณีที่กล่าวมาข้างต้นว่ามีการแก้ไขบันทึกย้อนหลัง

    เห็นแล้วก็พอจะเข้าใจถึงหัวอกของบรรดาอนุและลูกอนุ เราจึงเห็นเรื่องราวในนิยายและละครจีนโบราณไม่น้อยที่มีปูมหลังมาจากความน้อยเนื้อต่ำใจหรือความทะเยอทะยานของเหล่าอนุและลูกอนุทั้งหลาย Storyฯ เชื่อว่าเพื่อนเพจเข้าใจในบริบทนี้แล้วจะดูละคร/อ่านนิยายจีนโบราณได้มีอรรถรสยิ่งขึ้นค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.sohu.com/a/452104168_114988
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/31488773
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.52lishi.com/article/65523.html
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/30411974
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/31488773
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/54546409
    https://www.163.com/dy/article/H14J0MG10552QJB7.html

    #ร้อยรักปักดวงใจ #เจียผู่ #จู๋ผู่ #หนังสือตระกูล #บันทึกตระกูลจีนโบราณ #พงศาวลีจีนโบราณ
    วันนี้กลับมาคุยกันต่อกับเรื่องราวที่ Storyฯ เห็นจากละครเรื่อง <ร้อยรักปักดวงใจ> ในตอนที่มีการรับลูกนอกสมรสกลับเข้าตระกูล ความมีอยู่ว่า ... “ถึงกาลมงคล พิธีรับเข้าตระกูลของตระกูลสวี อัญเชิญหนังสือตระกูล” เสียงประกาศเริ่มพิธีดังขึ้น สวีลิ่งเซวียนคุกเข่าลงต่อหน้าป้ายบูชาบรรพบุรุษแล้วกล่าว “สวีซื่อเจี้ย เดิมเป็นบุตรที่ร่อนเร่อาศัยอยู่ข้างนอกของตระกูลเรา ตอนนี้รับกลับเข้าตระกูลเป็นบุตรของสวีลิ่งอัน ขอบรรพบุรุษปกป้องลูกหลานสกุลสวี”... - ถอดบทสนทนาจากละคร <ร้อยรักปักดวงใจ> (ตามซับไทยเลยจ้า) ในละครข้างต้น ก่อนจะมาถึงพิธีการนี้ เนื้อเรื่องกล่าวถึงความคิดของตัวละครต่างๆ ที่ถกกันว่าจะรับเด็กมาเป็นลูกใครดี? ความเดิมของบทสนทนาในภาษาจีนคือ “จะบันทึกชื่อเด็กคนนี้ใต้ชื่อใคร?” ซึ่งการคุยในลักษณะนี้เป็นการสะท้อนถึงความสำคัญของหนังสือตระกูล วันนี้เลยมาคุยให้ฟังเกี่ยวกับหนังสือตระกูลหรือที่เรียกว่า ‘เจียผู่’ (家谱) หรือ ‘จู๋ผู่’ (族谱) นี้ การบันทึกข้อมูลในเจียผู่มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เว่ย และเนื่องจากสมัยนั้นมีการแตกสกุลมาจากเชื้อพระวงศ์เป็นจำนวนมาก ทางการจึงมีบทบาทสำคัญในการดูแลและปรับปรุงเจียผู่ของตระกูลเหล่านั้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักคือบันทึกสายสกุลเพื่อประโยชน์ในการคัดสรรและแต่งตั้งขุนนาง ต่อมาเมื่อผ่านพ้นราชวงศ์ถัง ข้อมูลเหล่านี้สูญหายไปในสงครามเสียเป็นส่วนใหญ่ และการเข้ารับราชการก็ดำเนินการผ่านการสอบราชบัณฑิต อีกทั้งอำนาจของเหล่าสื้อเจียตระกูลขุนนางก็เสื่อมลง ทางการจึงไม่ได้เข้ามายุ่งเรื่องการทำเจียผู่อีก ดังนั้นนับแต่สมัยซ่งมา เจียผู่ส่วนใหญ่ถูกจัดทำขึ้นมาใหม่และอยู่ในการดูแลของคนในตระกูลเอง (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนเกี่ยวกับสื้อเจียไปแล้ว หาอ่านย้อนหลังนะคะ) เพื่อนเพจอาจนึกภาพว่าเจียผู่เป็นพงศาวลีหรือผังลำดับญาติ แต่คนที่เคยลองวาดผังแบบนี้จะรู้ว่า หากจะวาดให้ดีต้องรู้ว่าควรเผื่อเนื้อที่ตรงไหนอย่างไร แต่เจียผู่เป็นบันทึกจากรุ่นสู่รุ่น ดังนั้นการบันทึกจริงๆ คือเขียนข้อมูลเติมไปแต่ละรุ่น (ดูตัวอย่างตามรูปประกอบ หน้านี้บันทึกการสืบเชื้อสายของบุตรชายคนโต) หากมีการวาดผังลำดับญาติโดยปกติจะวาดเพียง 5 รุ่นแล้วก็ขึ้นผังใหม่ แล้วเจียผู่บันทึกอะไรบ้าง? ก่อนอื่นคือต้องมีการเขียน ‘ขอบเขต’ - ใครเป็นต้นตระกูล? เราเป็นสายใดของตระกูล? ตราสัญลักษณ์ของตระกูล (ถ้ามี) ภูมิลำเนาเดิม ประวัติของสกุล ที่ตั้งและแผนผังของวัดบรรพบุรุษ เป็นต้น จากนั้นก็เป็นบันทึกเกี่ยวกับคนในแต่ละรุ่น ซึ่งจะระบุว่าเป็นรุ่นที่เท่าไหร่ ลำดับในรุ่น ชื่อ วันเดือนปีเกิดและตาย สรุปชีวประวัติ ลักษณะเด่นหรือวีรกรรมโดยคร่าว (เช่น เคยไปรบชนะสร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลในศึกไหน?) บรรดาศักดิ์หรือรางวัลเกียรติยศที่เคยได้รับ ชื่อคู่สมรสและบุตรชาย ฯลฯ ในบางเจียผู่จะมีการกล่าวถึงสินทรัพย์อันเป็นมรดกตกทอดของตระกูล เช่น ที่ตั้งและขนาดของที่ดินและอาคารบ้านเรือน และการบริหารสินทรัพย์ ฯลฯ แต่... ไม่ใช่บุตรและภรรยาทุกคนจะได้รับการบันทึกชื่อลงในเจียผู่ ใครบ้างที่ไม่มีชื่อ? 1. ลูกสาว – ในวัฒนธรรมจีนโบราณ ลูกสาวเมื่อแต่งงานออกไปก็ถือว่าเป็นคนของครอบครัวอื่น จึงไม่มีการบันทึกชื่อลูกสาวในเจียผู่ของตัวเอง ลูกสาวที่แต่งออกไปก็จะไปมีชื่ออยู่ในเจียผู่ของสามี (แต่จากตัวอย่างที่ Storyฯ เห็น จะบันทึกเพียงสกุลเดิมไม่มีชื่อ เช่น นางสกุลหลี่) ธรรมเนียมนี้มีมาจนถึงสมัยจีนยุคใหม่ (หลังราชวงศ์ชิง) จึงมีการใส่ชื่อลูกสาวเข้าไป 2. อนุภรรยา – สตรีที่แต่งงานไปจะถูกบันทึกชื่ออยู่ในเจียผู่ของสามีเฉพาะคนที่เป็นภรรยาเอกเท่านั้น คนที่เป็นอนุจะไม่มีการบันทึกถึง ยกเว้นในกรณีที่ต่อมาบุตรชายของนางมีคุณงามความชอบอย่างโดดเด่น สร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูล จึงจะมีการแก้ไขเอาชื่อของเขาเข้าเจียผู่และจะมีการบันทึกชื่อผู้เป็นมารดาด้วย (ป.ล. หากเพื่อนเพจได้ดูละคร <ร้อยรักปักดวงใจ> ในฉากที่กล่าวข้างต้น จะเห็นว่าสตรีที่เข้าร่วมพิธีที่เกี่ยวกับหนังสือตระกูลนั้น มีเพียงสะใภ้ที่เป็นภรรยาเอกเท่านั้น) 3. ลูกอนุ - สายของอนุทั้งสายจะไม่ได้ลงบันทึกไว้ เว้นแต่กรณีที่กล่าวมาข้างต้นว่ามีการแก้ไขบันทึกย้อนหลัง เห็นแล้วก็พอจะเข้าใจถึงหัวอกของบรรดาอนุและลูกอนุ เราจึงเห็นเรื่องราวในนิยายและละครจีนโบราณไม่น้อยที่มีปูมหลังมาจากความน้อยเนื้อต่ำใจหรือความทะเยอทะยานของเหล่าอนุและลูกอนุทั้งหลาย Storyฯ เชื่อว่าเพื่อนเพจเข้าใจในบริบทนี้แล้วจะดูละคร/อ่านนิยายจีนโบราณได้มีอรรถรสยิ่งขึ้นค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/452104168_114988 https://zhuanlan.zhihu.com/p/31488773 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.52lishi.com/article/65523.html https://zhuanlan.zhihu.com/p/30411974 https://zhuanlan.zhihu.com/p/31488773 https://zhuanlan.zhihu.com/p/54546409 https://www.163.com/dy/article/H14J0MG10552QJB7.html #ร้อยรักปักดวงใจ #เจียผู่ #จู๋ผู่ #หนังสือตระกูล #บันทึกตระกูลจีนโบราณ #พงศาวลีจีนโบราณ
    WWW.SOHU.COM
    钟汉良谭松韵领衔主演《锦心似玉》定档2月26日_荻雁
    新京报讯 2月23日,钟汉良、谭松韵领衔主演的电视剧《锦心似玉》宣布定档。该剧将于2月26日起在腾讯视频全网独播,周五至周三连续六天,每日20点更新2集;3月1日起每周一、二、三20点更新2集,会员抢先看。 …
    1 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • สงครามชิป AI ร้อนระอุ จีนดัน Huawei ผลิตชิปสู้ NVIDIA
    .
    ผลกระทบของ "สงครามการค้า" ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้บริษัทไอที และโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง "หัวเว่ย" หันมาเร่งพัฒนา และดำเนินการผลิตชิป AI ขึ้นมาทดแทนชิปจากบริษัทอเมริกันบ้างแล้ว
    .
    ล่าสุดมีข่าวว่า "หัวเว่ย" กำลังเปิดทดสอบชิป AI รุ่น Ascend 910B เพื่อมาแข่งขันกับชิป AI รุ่น H100 ของ NVIDIA โดย "หัวเว่ย" ทยอยนำชิป 910B นี้ไปให้บริษัทไอทีจีนต่าง ๆ ทดลองใช้งานแล้ว
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #NVIDIA #Huawei #หัวเว่ย #สงครามการค้า #ชิปAI #AI #ArtificialIntelligence #ปัญญาประดิษฐ์ #Ascend910B
    สงครามชิป AI ร้อนระอุ จีนดัน Huawei ผลิตชิปสู้ NVIDIA . ผลกระทบของ "สงครามการค้า" ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้บริษัทไอที และโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง "หัวเว่ย" หันมาเร่งพัฒนา และดำเนินการผลิตชิป AI ขึ้นมาทดแทนชิปจากบริษัทอเมริกันบ้างแล้ว . ล่าสุดมีข่าวว่า "หัวเว่ย" กำลังเปิดทดสอบชิป AI รุ่น Ascend 910B เพื่อมาแข่งขันกับชิป AI รุ่น H100 ของ NVIDIA โดย "หัวเว่ย" ทยอยนำชิป 910B นี้ไปให้บริษัทไอทีจีนต่าง ๆ ทดลองใช้งานแล้ว . #บูรพาไม่แพ้ #NVIDIA #Huawei #หัวเว่ย #สงครามการค้า #ชิปAI #AI #ArtificialIntelligence #ปัญญาประดิษฐ์ #Ascend910B
    @thedongfangbubai

    สงครามชิป AI ร้อนระอุ จีนดัน Huawei ผลิตชิปสู้ NVIDIA . ผลกระทบของ "สงครามการค้า" ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้บริษัทไอที และโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง "หัวเว่ย" หันมาเร่งพัฒนา และดำเนินการผลิตชิป AI ขึ้นมาทดแทนชิปจากบริษัทอเมริกันบ้างแล้ว . ล่าสุดมีข่าวว่า "หัวเว่ย" กำลังเปิดทดสอบชิป AI รุ่น Ascend 910B เพื่อมาแข่งขันกับชิป AI รุ่น H100 ของ NVIDIA โดย "หัวเว่ย" ทยอยนำชิป 910B นี้ไปให้บริษัทไอทีจีนต่าง ๆ ทดลองใช้งานแล้ว . #บูรพาไม่แพ้ #NVIDIA #Huawei #หัวเว่ย #สงครามการค้า #ชิปAI #AI #ArtificialIntelligence #ปัญญาประดิษฐ์ #Ascend910B

    ♬ original sound - บูรพาไม่แพ้ - บูรพาไม่แพ้
    Like
    2
    0 Comments 1 Shares 115 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการโจมตีทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนและแพร่หลายต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอิหร่าน ซึ่งถูกป้องกันได้สำเร็จโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ แม้ว่ารายละเอียดของการโจมตีจะยังไม่ถูกเปิดเผย แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอิหร่านยืนยันว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดและซับซ้อนที่สุดที่เคยเกิดขึ้น

    การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มสูงขึ้น โดยโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โทรคมนาคม การขนส่ง พลังงาน และน้ำ ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มผู้โจมตีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐและอาชญากรไซเบอร์

    ✅ การโจมตีที่ซับซ้อนและแพร่หลาย
    - โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอิหร่านถูกโจมตีทางไซเบอร์
    - การโจมตีถูกป้องกันได้สำเร็จโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ เป้าหมายของการโจมตี
    - โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โทรคมนาคม การขนส่ง พลังงาน และน้ำ
    - การโจมตีที่ส่งผลกระทบต่อบริการที่สำคัญและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต

    ✅ การตอบสนองของรัฐบาลอิหร่าน
    - เจ้าหน้าที่ระดับสูงยืนยันความสำเร็จในการป้องกันการโจมตี
    - การโจมตีครั้งนี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดและซับซ้อนที่สุด

    ✅ ความสำคัญของการป้องกันภัยไซเบอร์
    - ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้โครงสร้างพื้นฐานสำคัญเป็นเป้าหมายหลัก

    https://www.techradar.com/pro/security/widespread-cyberattack-against-national-infrastructure-thwarted-iranian-government-claims
    บทความนี้กล่าวถึงการโจมตีทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนและแพร่หลายต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอิหร่าน ซึ่งถูกป้องกันได้สำเร็จโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศ แม้ว่ารายละเอียดของการโจมตีจะยังไม่ถูกเปิดเผย แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอิหร่านยืนยันว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดและซับซ้อนที่สุดที่เคยเกิดขึ้น การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มสูงขึ้น โดยโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โทรคมนาคม การขนส่ง พลังงาน และน้ำ ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของกลุ่มผู้โจมตีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐและอาชญากรไซเบอร์ ✅ การโจมตีที่ซับซ้อนและแพร่หลาย - โครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอิหร่านถูกโจมตีทางไซเบอร์ - การโจมตีถูกป้องกันได้สำเร็จโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ เป้าหมายของการโจมตี - โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โทรคมนาคม การขนส่ง พลังงาน และน้ำ - การโจมตีที่ส่งผลกระทบต่อบริการที่สำคัญและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ✅ การตอบสนองของรัฐบาลอิหร่าน - เจ้าหน้าที่ระดับสูงยืนยันความสำเร็จในการป้องกันการโจมตี - การโจมตีครั้งนี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดและซับซ้อนที่สุด ✅ ความสำคัญของการป้องกันภัยไซเบอร์ - ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้โครงสร้างพื้นฐานสำคัญเป็นเป้าหมายหลัก https://www.techradar.com/pro/security/widespread-cyberattack-against-national-infrastructure-thwarted-iranian-government-claims
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • Huawei ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์ AI รุ่นใหม่ Ascend 910D ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ GPU รุ่น Blackwell และ Rubin ของ Nvidia โดย Ascend 910D ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia H100 ในการประมวลผล AI แม้ว่าในระดับชิปเดี่ยวจะยังช้ากว่า Blackwell B200 และ B300 รวมถึง Rubin GPUs ที่จะเปิดตัวในปีหน้า

    Huawei ใช้กลยุทธ์การสร้างระบบที่มีโปรเซสเซอร์หลายร้อยตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระดับระบบ โดย Ascend 910D จะเริ่มการทดสอบในเดือนพฤษภาคม และมีแผนการจัดส่งโปรเซสเซอร์ Ascend 910C แบบสองชิปให้กับลูกค้าชาวจีนในเดือนหน้า

    อย่างไรก็ตาม Huawei ยังคงเผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาชิปที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ในระดับประสิทธิภาพต่อวัตต์ เนื่องจากข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการผลิตที่เกิดจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

    ✅ การเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Ascend 910D
    - Ascend 910D ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia H100
    - ใช้กลยุทธ์การสร้างระบบที่มีโปรเซสเซอร์หลายร้อยตัว

    ✅ การทดสอบและการจัดส่ง
    - Ascend 910D จะเริ่มการทดสอบในเดือนพฤษภาคม
    - Ascend 910C แบบสองชิปจะเริ่มจัดส่งในเดือนหน้า

    ✅ ความสำคัญของ Ascend 910D
    - เป็นโปรเซสเซอร์ AI ที่มีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดจีน
    - มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา AI ในประเทศจีน

    ✅ ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการผลิต
    - Huawei เผชิญกับข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการผลิตจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/huawei-ascend-ai-910d-processor-designed-to-take-on-nvidias-blackwell-and-rubin-gpus
    Huawei ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์ AI รุ่นใหม่ Ascend 910D ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ GPU รุ่น Blackwell และ Rubin ของ Nvidia โดย Ascend 910D ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia H100 ในการประมวลผล AI แม้ว่าในระดับชิปเดี่ยวจะยังช้ากว่า Blackwell B200 และ B300 รวมถึง Rubin GPUs ที่จะเปิดตัวในปีหน้า Huawei ใช้กลยุทธ์การสร้างระบบที่มีโปรเซสเซอร์หลายร้อยตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระดับระบบ โดย Ascend 910D จะเริ่มการทดสอบในเดือนพฤษภาคม และมีแผนการจัดส่งโปรเซสเซอร์ Ascend 910C แบบสองชิปให้กับลูกค้าชาวจีนในเดือนหน้า อย่างไรก็ตาม Huawei ยังคงเผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาชิปที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ในระดับประสิทธิภาพต่อวัตต์ เนื่องจากข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการผลิตที่เกิดจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ✅ การเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Ascend 910D - Ascend 910D ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia H100 - ใช้กลยุทธ์การสร้างระบบที่มีโปรเซสเซอร์หลายร้อยตัว ✅ การทดสอบและการจัดส่ง - Ascend 910D จะเริ่มการทดสอบในเดือนพฤษภาคม - Ascend 910C แบบสองชิปจะเริ่มจัดส่งในเดือนหน้า ✅ ความสำคัญของ Ascend 910D - เป็นโปรเซสเซอร์ AI ที่มีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดจีน - มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา AI ในประเทศจีน ✅ ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการผลิต - Huawei เผชิญกับข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีการผลิตจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/huawei-ascend-ai-910d-processor-designed-to-take-on-nvidias-blackwell-and-rubin-gpus
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • Elon Musk ได้ประกาศการอัปเดตใหม่สำหรับ Grok 3.5 ซึ่งเป็นระบบ AI ที่พัฒนาโดย xAI โดยมีความสามารถในการให้คำตอบที่ไม่พึ่งพาข้อมูลจากแหล่งอินเทอร์เน็ต แต่ใช้โมเดลการให้เหตุผล (Reasoning Model) เพื่อสร้างคำตอบที่มีความแม่นยำและไม่ซ้ำใคร โดยเฉพาะในหัวข้อที่ซับซ้อน เช่น อิเล็กโทรเคมีและเครื่องยนต์จรวด

    การอัปเดตนี้ยังอยู่ในช่วงเบต้าและจะเปิดให้ผู้ใช้ SuperGrok ได้ทดลองใช้งานในสัปดาห์หน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบคำถามที่ซับซ้อนและลดความเสี่ยงของการละเมิดลิขสิทธิ์จากการดึงข้อมูลจากแหล่งภายนอก

    นอกจากนี้ Musk ยังมีแผนที่จะระดมทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่ใช้ GPU หนึ่งล้านตัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการขยายศักยภาพการประมวลผลของ xAI

    ✅ ความสามารถของ Grok 3.5
    - ใช้โมเดลการให้เหตุผลเพื่อสร้างคำตอบที่ไม่พึ่งพาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
    - รองรับหัวข้อที่ซับซ้อน เช่น อิเล็กโทรเคมีและเครื่องยนต์จรวด

    ✅ การเปิดตัวเบต้า
    - เปิดให้ผู้ใช้ SuperGrok ทดลองใช้งานในสัปดาห์หน้า
    - ยังไม่มีการยืนยันวันที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    ✅ แผนการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI
    - Musk มีแผนระดมทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI
    - ใช้ GPU หนึ่งล้านตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพการประมวลผล

    ✅ เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีอื่น
    - Grok 3.5 มีความคล้ายคลึงกับ DeepSeek R1 ที่ใช้โมเดลการให้เหตุผล

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musk-says-grok-3-5-will-provide-answers-that-arent-from-internet-sources
    Elon Musk ได้ประกาศการอัปเดตใหม่สำหรับ Grok 3.5 ซึ่งเป็นระบบ AI ที่พัฒนาโดย xAI โดยมีความสามารถในการให้คำตอบที่ไม่พึ่งพาข้อมูลจากแหล่งอินเทอร์เน็ต แต่ใช้โมเดลการให้เหตุผล (Reasoning Model) เพื่อสร้างคำตอบที่มีความแม่นยำและไม่ซ้ำใคร โดยเฉพาะในหัวข้อที่ซับซ้อน เช่น อิเล็กโทรเคมีและเครื่องยนต์จรวด การอัปเดตนี้ยังอยู่ในช่วงเบต้าและจะเปิดให้ผู้ใช้ SuperGrok ได้ทดลองใช้งานในสัปดาห์หน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบคำถามที่ซับซ้อนและลดความเสี่ยงของการละเมิดลิขสิทธิ์จากการดึงข้อมูลจากแหล่งภายนอก นอกจากนี้ Musk ยังมีแผนที่จะระดมทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่ใช้ GPU หนึ่งล้านตัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการขยายศักยภาพการประมวลผลของ xAI ✅ ความสามารถของ Grok 3.5 - ใช้โมเดลการให้เหตุผลเพื่อสร้างคำตอบที่ไม่พึ่งพาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต - รองรับหัวข้อที่ซับซ้อน เช่น อิเล็กโทรเคมีและเครื่องยนต์จรวด ✅ การเปิดตัวเบต้า - เปิดให้ผู้ใช้ SuperGrok ทดลองใช้งานในสัปดาห์หน้า - ยังไม่มีการยืนยันวันที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ✅ แผนการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI - Musk มีแผนระดมทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI - ใช้ GPU หนึ่งล้านตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพการประมวลผล ✅ เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีอื่น - Grok 3.5 มีความคล้ายคลึงกับ DeepSeek R1 ที่ใช้โมเดลการให้เหตุผล https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/elon-musk-says-grok-3-5-will-provide-answers-that-arent-from-internet-sources
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Elon Musk says Grok 3.5 will provide answers that aren't from internet sources
    Grok 3.5 beta release to SuperGrok subscribers slated for next week.
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • Intel ได้ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในแผนงานการผลิตชิป โดยเปิดตัวกระบวนการผลิตใหม่ที่เรียกว่า 18A-PT ซึ่งรองรับเทคโนโลยีการซ้อนชิปแบบ 3D (Foveros Direct 3D) และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด (Hybrid Bonding) ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นของการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพการทำงานของชิป นอกจากนี้ Intel ยังได้เริ่มการผลิตแบบเสี่ยง (Risk Production) สำหรับกระบวนการ 18A และเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากภายในสิ้นปีนี้

    Intel ยังได้เปิดตัวกระบวนการผลิต 14A ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก 18A โดยใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม และมีการพัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน

    ในขณะเดียวกัน Intel ได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เช่น EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิปที่มีมาตรฐานสูง

    ✅ กระบวนการผลิต 18A และ 18A-PT
    - 18A-PT รองรับการซ้อนชิปแบบ 3D และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด
    - 18A เริ่มการผลิตแบบเสี่ยงและเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมาก

    ✅ กระบวนการผลิต 14A
    - ใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม
    - พัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน

    ✅ การขยายความร่วมมือในอุตสาหกรรม
    - ร่วมมือกับ EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิป
    - ขยายโปรแกรม Intel Foundry Accelerator Alliance

    ✅ ความสำคัญของการพัฒนา
    - Intel เป็นผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เพียงรายเดียวที่มีเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-foundry-roadmap-update-new-18a-pt-variant-that-enables-3d-die-stacking-14a-process-node-enablement
    Intel ได้ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในแผนงานการผลิตชิป โดยเปิดตัวกระบวนการผลิตใหม่ที่เรียกว่า 18A-PT ซึ่งรองรับเทคโนโลยีการซ้อนชิปแบบ 3D (Foveros Direct 3D) และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด (Hybrid Bonding) ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นของการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพการทำงานของชิป นอกจากนี้ Intel ยังได้เริ่มการผลิตแบบเสี่ยง (Risk Production) สำหรับกระบวนการ 18A และเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากภายในสิ้นปีนี้ Intel ยังได้เปิดตัวกระบวนการผลิต 14A ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก 18A โดยใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม และมีการพัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน ในขณะเดียวกัน Intel ได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เช่น EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิปที่มีมาตรฐานสูง ✅ กระบวนการผลิต 18A และ 18A-PT - 18A-PT รองรับการซ้อนชิปแบบ 3D และการเชื่อมต่อแบบไฮบริด - 18A เริ่มการผลิตแบบเสี่ยงและเตรียมเข้าสู่การผลิตในปริมาณมาก ✅ กระบวนการผลิต 14A - ใช้เทคโนโลยี High-NA EUV Lithography เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม - พัฒนาเทคโนโลยี PowerDirect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายพลังงาน ✅ การขยายความร่วมมือในอุตสาหกรรม - ร่วมมือกับ EDA และ IP Partners เพื่อสนับสนุนการออกแบบชิป - ขยายโปรแกรม Intel Foundry Accelerator Alliance ✅ ความสำคัญของการพัฒนา - Intel เป็นผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เพียงรายเดียวที่มีเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-foundry-roadmap-update-new-18a-pt-variant-that-enables-3d-die-stacking-14a-process-node-enablement
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • Electronic Arts (EA) ได้ประกาศปลดพนักงานหลายร้อยคนและยกเลิกการพัฒนาเกม Titanfall ที่อยู่ในขั้นตอนการสร้างโดยทีมงาน Respawn Entertainment การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายระยะยาวของบริษัท

    Respawn Entertainment ซึ่งเป็นทีมพัฒนาเกมในเครือ EA ได้ยืนยันว่ามีการยกเลิกโครงการเกมในระยะเริ่มต้นสองโครงการ และปรับเปลี่ยนการทำงานในเกม Apex Legends และ Star Wars Jedi โดย Respawn ยังคงพัฒนาเนื้อหาใหม่สำหรับ Apex Legends และตั้งเป้าหมายที่จะยกระดับการเล่าเรื่องและการเล่นเกมในซีรีส์ Star Wars Jedi

    ในเดือนมกราคม EA ได้ปรับลดประมาณการรายได้ประจำปี เนื่องจากการใช้จ่ายในเกมลดลงและการเปิดตัวเกมใหม่อย่าง Dragon Age ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

    ✅ การปลดพนักงานและยกเลิกโครงการ
    - EA ปลดพนักงานประมาณ 300-400 คน รวมถึง 100 คนใน Respawn Entertainment
    - ยกเลิกการพัฒนาเกม Titanfall และโครงการเกมในระยะเริ่มต้นสองโครงการ

    ✅ การปรับเปลี่ยนการทำงานในเกม
    - Respawn ยังคงพัฒนาเนื้อหาใหม่สำหรับ Apex Legends
    - ตั้งเป้าหมายยกระดับการเล่าเรื่องและการเล่นเกมในซีรีส์ Star Wars Jedi

    ✅ ผลกระทบต่อรายได้ของ EA
    - EA ปรับลดประมาณการรายได้ประจำปี เนื่องจากการใช้จ่ายในเกมลดลง
    - การเปิดตัวเกมใหม่อย่าง Dragon Age ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

    ✅ การตอบสนองของ EA
    - EA มุ่งเน้นการจัดสรรทรัพยากรเพื่อการเติบโตในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/electronic-arts-lays-off-hundreds-cancels-039titanfall039-game-bloomberg-news-reports
    Electronic Arts (EA) ได้ประกาศปลดพนักงานหลายร้อยคนและยกเลิกการพัฒนาเกม Titanfall ที่อยู่ในขั้นตอนการสร้างโดยทีมงาน Respawn Entertainment การตัดสินใจนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายระยะยาวของบริษัท Respawn Entertainment ซึ่งเป็นทีมพัฒนาเกมในเครือ EA ได้ยืนยันว่ามีการยกเลิกโครงการเกมในระยะเริ่มต้นสองโครงการ และปรับเปลี่ยนการทำงานในเกม Apex Legends และ Star Wars Jedi โดย Respawn ยังคงพัฒนาเนื้อหาใหม่สำหรับ Apex Legends และตั้งเป้าหมายที่จะยกระดับการเล่าเรื่องและการเล่นเกมในซีรีส์ Star Wars Jedi ในเดือนมกราคม EA ได้ปรับลดประมาณการรายได้ประจำปี เนื่องจากการใช้จ่ายในเกมลดลงและการเปิดตัวเกมใหม่อย่าง Dragon Age ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ✅ การปลดพนักงานและยกเลิกโครงการ - EA ปลดพนักงานประมาณ 300-400 คน รวมถึง 100 คนใน Respawn Entertainment - ยกเลิกการพัฒนาเกม Titanfall และโครงการเกมในระยะเริ่มต้นสองโครงการ ✅ การปรับเปลี่ยนการทำงานในเกม - Respawn ยังคงพัฒนาเนื้อหาใหม่สำหรับ Apex Legends - ตั้งเป้าหมายยกระดับการเล่าเรื่องและการเล่นเกมในซีรีส์ Star Wars Jedi ✅ ผลกระทบต่อรายได้ของ EA - EA ปรับลดประมาณการรายได้ประจำปี เนื่องจากการใช้จ่ายในเกมลดลง - การเปิดตัวเกมใหม่อย่าง Dragon Age ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ✅ การตอบสนองของ EA - EA มุ่งเน้นการจัดสรรทรัพยากรเพื่อการเติบโตในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/electronic-arts-lays-off-hundreds-cancels-039titanfall039-game-bloomberg-news-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Electronic Arts lays off hundreds, cancels 'Titanfall' game, Bloomberg News reports
    (Reuters) -Electronic Arts is laying off hundreds of workers and is canceling a Titanfall game that was in development at its Respawn Entertainment unit, Bloomberg News reported on Tuesday.
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • Super Micro Computer ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ได้ปรับลดประมาณการรายได้และกำไรในไตรมาสที่สามของปี 2025 เนื่องจากการชะลอการใช้จ่ายของลูกค้า ซึ่งส่งผลให้หุ้นของบริษัทลดลงถึง 16% การปรับลดนี้เกิดขึ้นหลังจากปัญหาด้านบัญชีที่อาจนำไปสู่การเพิกถอนหุ้น ทำให้ความเชื่อมั่นของลูกค้าและนักลงทุนลดลง

    Super Micro ระบุว่าการตัดสินใจของลูกค้าเกี่ยวกับแพลตฟอร์มล่าช้า ทำให้ยอดขายถูกเลื่อนไปยังไตรมาสที่สี่ โดยประมาณการรายได้ใหม่อยู่ที่ 4.5-4.6 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 5-6 พันล้านดอลลาร์ ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

    นักวิเคราะห์มองว่าการชะลอตัวของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น เศรษฐกิจที่อ่อนแอ ภาษีศุลกากร และความล่าช้าในการส่งมอบชิป Blackwell ของ Nvidia

    ✅ การปรับลดประมาณการรายได้และกำไร
    - รายได้ใหม่คาดการณ์อยู่ที่ 4.5-4.6 พันล้านดอลลาร์
    - กำไรต่อหุ้นปรับลดเหลือ 29-31 เซนต์ จาก 46-62 เซนต์

    ✅ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการชะลอตัว
    - การตัดสินใจของลูกค้าเกี่ยวกับแพลตฟอร์มล่าช้า
    - เศรษฐกิจที่อ่อนแอและภาษีศุลกากร

    ✅ ผลกระทบต่อหุ้นและคู่แข่ง
    - หุ้นของ Super Micro ลดลง 16%
    - หุ้นของ Dell และ Hewlett Packard Enterprise ลดลง 4.6% และ 1.5% ตามลำดับ

    ✅ การตอบสนองของบริษัท
    - Super Micro จะจัดการประชุมทางโทรศัพท์ในวันที่ 6 พฤษภาคม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/server-maker-super-micro-cuts-quarterly-forecasts-fanning-ai-spending-worries
    Super Micro Computer ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ได้ปรับลดประมาณการรายได้และกำไรในไตรมาสที่สามของปี 2025 เนื่องจากการชะลอการใช้จ่ายของลูกค้า ซึ่งส่งผลให้หุ้นของบริษัทลดลงถึง 16% การปรับลดนี้เกิดขึ้นหลังจากปัญหาด้านบัญชีที่อาจนำไปสู่การเพิกถอนหุ้น ทำให้ความเชื่อมั่นของลูกค้าและนักลงทุนลดลง Super Micro ระบุว่าการตัดสินใจของลูกค้าเกี่ยวกับแพลตฟอร์มล่าช้า ทำให้ยอดขายถูกเลื่อนไปยังไตรมาสที่สี่ โดยประมาณการรายได้ใหม่อยู่ที่ 4.5-4.6 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 5-6 พันล้านดอลลาร์ ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์มองว่าการชะลอตัวของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น เศรษฐกิจที่อ่อนแอ ภาษีศุลกากร และความล่าช้าในการส่งมอบชิป Blackwell ของ Nvidia ✅ การปรับลดประมาณการรายได้และกำไร - รายได้ใหม่คาดการณ์อยู่ที่ 4.5-4.6 พันล้านดอลลาร์ - กำไรต่อหุ้นปรับลดเหลือ 29-31 เซนต์ จาก 46-62 เซนต์ ✅ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการชะลอตัว - การตัดสินใจของลูกค้าเกี่ยวกับแพลตฟอร์มล่าช้า - เศรษฐกิจที่อ่อนแอและภาษีศุลกากร ✅ ผลกระทบต่อหุ้นและคู่แข่ง - หุ้นของ Super Micro ลดลง 16% - หุ้นของ Dell และ Hewlett Packard Enterprise ลดลง 4.6% และ 1.5% ตามลำดับ ✅ การตอบสนองของบริษัท - Super Micro จะจัดการประชุมทางโทรศัพท์ในวันที่ 6 พฤษภาคม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/server-maker-super-micro-cuts-quarterly-forecasts-fanning-ai-spending-worries
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Server maker Super Micro fans AI spending worries with cuts to revenue, profit estimates
    (Reuters) -AI server maker Super Micro Computer on Tuesday cut its third-quarter revenue and profit expectations due to delays in customer spending, amplifying worries of a pullback in AI-linked investments and pushing its shares down 16%.
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการรายงานของ CISO (Chief Information Security Officer) จากการรายงานต่อ CIO (Chief Information Officer) ไปเป็น CFO (Chief Financial Officer) ซึ่งช่วยให้ CISO สามารถเชื่อมโยงความปลอดภัยทางไซเบอร์กับความเสี่ยงทางธุรกิจได้ดีขึ้น และลดความขัดแย้งระหว่างหน้าที่ของ CISO และ CIO

    การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ CISO สามารถสื่อสารความเสี่ยงในเชิงธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น และได้รับการสนับสนุนจาก CFO ในการจัดการงบประมาณและทรัพยากร นอกจากนี้ยังช่วยให้ CISO มีบทบาทที่กว้างขึ้นในองค์กร เช่น การจัดการความเสี่ยงองค์กร (Enterprise Risk Management)

    ✅ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการรายงาน
    - CISO รายงานต่อ CFO แทน CIO
    - ช่วยให้การสื่อสารความเสี่ยงในเชิงธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ ผลกระทบต่อบทบาทของ CISO
    - CISO มีบทบาทที่กว้างขึ้น เช่น การจัดการความเสี่ยงองค์กร
    - ลดความขัดแย้งระหว่างหน้าที่ของ CISO และ CIO

    ✅ การสนับสนุนจาก CFO
    - CFO ช่วยให้ CISO เข้าใจการจัดการงบประมาณและทรัพยากร
    - ช่วยให้การลงทุนในความปลอดภัยทางไซเบอร์มีความชัดเจนและมีเป้าหมาย

    ✅ การปรับตัวของ CISO
    - CISO ต้องเรียนรู้คำศัพท์และแนวคิดทางการเงิน เช่น EPS, EBIT และ OPEX/CAPEX

    https://www.csoonline.com/article/3964405/reporting-lines-could-separating-from-it-help-cisos.html
    บทความนี้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการรายงานของ CISO (Chief Information Security Officer) จากการรายงานต่อ CIO (Chief Information Officer) ไปเป็น CFO (Chief Financial Officer) ซึ่งช่วยให้ CISO สามารถเชื่อมโยงความปลอดภัยทางไซเบอร์กับความเสี่ยงทางธุรกิจได้ดีขึ้น และลดความขัดแย้งระหว่างหน้าที่ของ CISO และ CIO การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ CISO สามารถสื่อสารความเสี่ยงในเชิงธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น และได้รับการสนับสนุนจาก CFO ในการจัดการงบประมาณและทรัพยากร นอกจากนี้ยังช่วยให้ CISO มีบทบาทที่กว้างขึ้นในองค์กร เช่น การจัดการความเสี่ยงองค์กร (Enterprise Risk Management) ✅ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการรายงาน - CISO รายงานต่อ CFO แทน CIO - ช่วยให้การสื่อสารความเสี่ยงในเชิงธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ ผลกระทบต่อบทบาทของ CISO - CISO มีบทบาทที่กว้างขึ้น เช่น การจัดการความเสี่ยงองค์กร - ลดความขัดแย้งระหว่างหน้าที่ของ CISO และ CIO ✅ การสนับสนุนจาก CFO - CFO ช่วยให้ CISO เข้าใจการจัดการงบประมาณและทรัพยากร - ช่วยให้การลงทุนในความปลอดภัยทางไซเบอร์มีความชัดเจนและมีเป้าหมาย ✅ การปรับตัวของ CISO - CISO ต้องเรียนรู้คำศัพท์และแนวคิดทางการเงิน เช่น EPS, EBIT และ OPEX/CAPEX https://www.csoonline.com/article/3964405/reporting-lines-could-separating-from-it-help-cisos.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Reporting lines: Could separating from IT help CISOs?
    CISOs who report to the CFO find that the shift away from IT can improve their ability to translate risk into business terms, communicate more effectively with executives, and avoid conflicts of interest with IT.
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงโครงการ Secure by Design ของ CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ แม้ว่าโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ชั้นนำถึง 68 ราย แต่ปัจจุบันโครงการกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในทีมงานและการลดงบประมาณ

    Secure by Design เป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งบริหารด้านความมั่นคงไซเบอร์ของประธานาธิบดีไบเดนในปี 2021 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตาม การลาออกของผู้บริหารสำคัญในโครงการ เช่น Lauren Zabierek และ Bob Lord ทำให้เกิดคำถามว่าโครงการนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร

    แม้ว่า CISA อาจลดบทบาทในโครงการนี้ แต่แนวคิด Secure by Design ยังคงได้รับการสนับสนุนในภาคเอกชน โดยเฉพาะจากบริษัทที่ต้องการสร้างซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัยและตอบสนองความต้องการของลูกค้า

    ✅ เป้าหมายของโครงการ
    - ลดข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ก่อนเข้าสู่ตลาด
    - ส่งเสริมการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ

    ✅ การสนับสนุนจากภาคเอกชน
    - บริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำ 68 รายลงนามสนับสนุนโครงการ
    - แนวคิด Secure by Design ยังคงมีบทบาทในภาคเอกชน

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
    - การปรับปรุงความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์
    - การใช้ OWASP Top 10 เป็นมาตรฐานช่วยเพิ่มความโปร่งใสในอุตสาหกรรม

    ✅ ความสำเร็จที่ผ่านมาของโครงการ
    - รายงานจาก Veracode แสดงให้เห็นว่าความปลอดภัยของซอฟต์แวร์มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

    https://www.csoonline.com/article/3971375/secure-by-design-is-likely-dead-at-cisa-will-the-private-sector-make-good-on-its-pledge.html
    บทความนี้กล่าวถึงโครงการ Secure by Design ของ CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ แม้ว่าโครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ชั้นนำถึง 68 ราย แต่ปัจจุบันโครงการกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในทีมงานและการลดงบประมาณ Secure by Design เป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งบริหารด้านความมั่นคงไซเบอร์ของประธานาธิบดีไบเดนในปี 2021 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ก่อนที่จะเข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตาม การลาออกของผู้บริหารสำคัญในโครงการ เช่น Lauren Zabierek และ Bob Lord ทำให้เกิดคำถามว่าโครงการนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร แม้ว่า CISA อาจลดบทบาทในโครงการนี้ แต่แนวคิด Secure by Design ยังคงได้รับการสนับสนุนในภาคเอกชน โดยเฉพาะจากบริษัทที่ต้องการสร้างซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัยและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ✅ เป้าหมายของโครงการ - ลดข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ก่อนเข้าสู่ตลาด - ส่งเสริมการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ✅ การสนับสนุนจากภาคเอกชน - บริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำ 68 รายลงนามสนับสนุนโครงการ - แนวคิด Secure by Design ยังคงมีบทบาทในภาคเอกชน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ - การปรับปรุงความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ - การใช้ OWASP Top 10 เป็นมาตรฐานช่วยเพิ่มความโปร่งใสในอุตสาหกรรม ✅ ความสำเร็จที่ผ่านมาของโครงการ - รายงานจาก Veracode แสดงให้เห็นว่าความปลอดภัยของซอฟต์แวร์มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง https://www.csoonline.com/article/3971375/secure-by-design-is-likely-dead-at-cisa-will-the-private-sector-make-good-on-its-pledge.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Secure by Design is likely dead at CISA. Will the private sector make good on its pledge?
    CISA’s high-profile proselytizing of its Secure by Design program will likely end, but some experts think the idea still has momentum in the private sector, while others have become disillusioned altogether.
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงแนวโน้มการโจมตีทางไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปี 2024 โดยรายงานจาก Mandiant และ Verizon พบว่า การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย และ การโจมตีผ่านช่องโหว่ของระบบ กลายเป็นวิธีการเข้าถึงระบบที่นิยมมากที่สุด แทนที่การโจมตีแบบ phishing ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

    รายงานระบุว่า 33% ของการโจมตีเริ่มต้นจากช่องโหว่ของระบบ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่อยู่ในเครือข่าย เช่น VPN และอุปกรณ์ความปลอดภัย ขณะที่ 16% ของการโจมตีมาจากข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2023

    นอกจากนี้ การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับ ransomware ยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ โดยคิดเป็น 21% ของการโจมตีทั้งหมด และมีการใช้วิธีการใหม่ เช่น การขายสิทธิ์การเข้าถึงระบบให้กับกลุ่มอื่น

    ✅ การโจมตีผ่านช่องโหว่ของระบบ
    - 33% ของการโจมตีเริ่มต้นจากช่องโหว่ของระบบ
    - อุปกรณ์เครือข่าย เช่น VPN และอุปกรณ์ความปลอดภัย ถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ zero-day

    ✅ การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย
    - 16% ของการโจมตีมาจากข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย
    - ข้อมูลถูกขโมยผ่าน keyloggers, infostealers และการซื้อขายในตลาดมืด

    ✅ การโจมตีแบบ ransomware
    - คิดเป็น 21% ของการโจมตีทั้งหมด
    - ใช้วิธี brute-force, การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย และการโจมตีผ่านช่องโหว่

    ✅ การลดระยะเวลาการตรวจพบการโจมตี
    - ระยะเวลาการตรวจพบการโจมตีลดลงเหลือเฉลี่ย 11 วัน

    https://www.csoonline.com/article/3970097/the-state-of-intrusions-stolen-credentials-and-perimeter-exploits-on-the-rise-as-phishing-wanes.html
    บทความนี้กล่าวถึงแนวโน้มการโจมตีทางไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปี 2024 โดยรายงานจาก Mandiant และ Verizon พบว่า การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย และ การโจมตีผ่านช่องโหว่ของระบบ กลายเป็นวิธีการเข้าถึงระบบที่นิยมมากที่สุด แทนที่การโจมตีแบบ phishing ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง รายงานระบุว่า 33% ของการโจมตีเริ่มต้นจากช่องโหว่ของระบบ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่อยู่ในเครือข่าย เช่น VPN และอุปกรณ์ความปลอดภัย ขณะที่ 16% ของการโจมตีมาจากข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 10% ในปี 2023 นอกจากนี้ การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับ ransomware ยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ โดยคิดเป็น 21% ของการโจมตีทั้งหมด และมีการใช้วิธีการใหม่ เช่น การขายสิทธิ์การเข้าถึงระบบให้กับกลุ่มอื่น ✅ การโจมตีผ่านช่องโหว่ของระบบ - 33% ของการโจมตีเริ่มต้นจากช่องโหว่ของระบบ - อุปกรณ์เครือข่าย เช่น VPN และอุปกรณ์ความปลอดภัย ถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ zero-day ✅ การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย - 16% ของการโจมตีมาจากข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย - ข้อมูลถูกขโมยผ่าน keyloggers, infostealers และการซื้อขายในตลาดมืด ✅ การโจมตีแบบ ransomware - คิดเป็น 21% ของการโจมตีทั้งหมด - ใช้วิธี brute-force, การใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย และการโจมตีผ่านช่องโหว่ ✅ การลดระยะเวลาการตรวจพบการโจมตี - ระยะเวลาการตรวจพบการโจมตีลดลงเหลือเฉลี่ย 11 วัน https://www.csoonline.com/article/3970097/the-state-of-intrusions-stolen-credentials-and-perimeter-exploits-on-the-rise-as-phishing-wanes.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The state of intrusions: Stolen credentials and perimeter exploits on the rise, as phishing wanes
    Cybercriminals also likely to leverage tools present within the targeted environment rather than to construct new malware or configure post-exploitation tools, according to Mandiant’s incident observations.
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • Google ได้ขยายฟีเจอร์ Audio Overviews ใน NotebookLM ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI สำหรับการวิจัยและจดบันทึก โดยเพิ่มการรองรับมากกว่า 50 ภาษา ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟังสรุปเนื้อหาจากเอกสาร สไลด์ หรือแผนภูมิในรูปแบบเสียงที่มีการสนทนาระหว่าง AI สองตัว ซึ่งเหมาะสำหรับการเรียนรู้ขณะเดินทาง

    ฟีเจอร์นี้เคยรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ แต่ตอนนี้ผู้ใช้สามารถเลือกภาษาที่ต้องการได้จากเมนู Settings > Output Language ใน NotebookLM โดยฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานในหลายแผนของ Google Workspace เช่น Business Starter, Nonprofits และ Education Fundamentals

    อย่างไรก็ตาม โหมดการสนทนาแบบโต้ตอบกับ AI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Audio Overviews ยังคงอยู่ในช่วงเบต้าและรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ

    ✅ การขยายการรองรับภาษา
    - รองรับมากกว่า 50 ภาษา
    - ผู้ใช้สามารถเลือกภาษาที่ต้องการได้จากเมนู Settings

    ✅ ฟีเจอร์ Audio Overviews
    - สรุปเนื้อหาในรูปแบบเสียงที่มีการสนทนาระหว่าง AI สองตัว
    - เหมาะสำหรับการเรียนรู้ขณะเดินทาง

    ✅ การใช้งานใน Google Workspace
    - มีให้ใช้งานในแผน Business Starter, Nonprofits และ Education Fundamentals
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การเรียนรู้และการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ โหมดการสนทนาแบบโต้ตอบ
    - ยังคงอยู่ในช่วงเบต้าและรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ

    https://www.neowin.net/news/google-is-expanding-audio-overviews-in-notebooklm-to-more-than-50-languages/
    Google ได้ขยายฟีเจอร์ Audio Overviews ใน NotebookLM ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI สำหรับการวิจัยและจดบันทึก โดยเพิ่มการรองรับมากกว่า 50 ภาษา ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟังสรุปเนื้อหาจากเอกสาร สไลด์ หรือแผนภูมิในรูปแบบเสียงที่มีการสนทนาระหว่าง AI สองตัว ซึ่งเหมาะสำหรับการเรียนรู้ขณะเดินทาง ฟีเจอร์นี้เคยรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ แต่ตอนนี้ผู้ใช้สามารถเลือกภาษาที่ต้องการได้จากเมนู Settings > Output Language ใน NotebookLM โดยฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานในหลายแผนของ Google Workspace เช่น Business Starter, Nonprofits และ Education Fundamentals อย่างไรก็ตาม โหมดการสนทนาแบบโต้ตอบกับ AI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Audio Overviews ยังคงอยู่ในช่วงเบต้าและรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ ✅ การขยายการรองรับภาษา - รองรับมากกว่า 50 ภาษา - ผู้ใช้สามารถเลือกภาษาที่ต้องการได้จากเมนู Settings ✅ ฟีเจอร์ Audio Overviews - สรุปเนื้อหาในรูปแบบเสียงที่มีการสนทนาระหว่าง AI สองตัว - เหมาะสำหรับการเรียนรู้ขณะเดินทาง ✅ การใช้งานใน Google Workspace - มีให้ใช้งานในแผน Business Starter, Nonprofits และ Education Fundamentals - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การเรียนรู้และการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ โหมดการสนทนาแบบโต้ตอบ - ยังคงอยู่ในช่วงเบต้าและรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ https://www.neowin.net/news/google-is-expanding-audio-overviews-in-notebooklm-to-more-than-50-languages/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google is expanding Audio Overviews in NotebookLM to more than 50 languages
    NotebookLM is Google Labs' AI research and note-taking tool for documents. Now, Google is bringing more language support to one of the service's star features, Audio Overviews.
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
More Results