• ข่าวนี้พูดถึงงานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review D ซึ่งเสนอแนวคิดว่า “จุดกำเนิดของจักรวาล” อาจไม่ใช่ Big Bang อย่างที่เราเคยเชื่อกัน แต่เป็นการ “ดีดตัวกลับ” (bounce) จากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ—เป็นการพลิกมุมมองต่อจักรวาลอย่างสิ้นเชิง

    นักฟิสิกส์จาก The Conversation และสถาบันวิจัยต่าง ๆ เสนอโมเดลใหม่ที่อธิบายว่าจักรวาลของเราอาจเกิดจากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ ไม่ใช่จากการระเบิดของจุดเอกฐาน (singularity) แบบ Big Bang ที่เราเคยเชื่อ

    แนวคิดนี้ใช้หลักฟิสิกส์ควอนตัม โดยเฉพาะ “หลักการกีดกันของเฟอร์มิออน” (quantum exclusion principle) ซึ่งระบุว่าอนุภาคที่เหมือนกันไม่สามารถอยู่ในสถานะควอนตัมเดียวกันได้ ทำให้การยุบตัวของมวลไม่สามารถดำเนินต่อไปได้เรื่อย ๆ และเกิดการ “ดีดตัวกลับ” หรือ bounce

    หลังจาก bounce จักรวาลจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีแรงดันภายในทำหน้าที่คล้ายกับพลังงานมืดและการขยายตัวในยุค inflation ตามทฤษฎีดั้งเดิม

    โมเดลนี้ยังทำนายว่า:
    - จักรวาลมีความโค้งเล็กน้อย (Ωₖ ≈ −0.07 ± 0.02)
    - การดีดตัวเกิดภายในรัศมีความโน้มถ่วง r_S = 2GM ซึ่งทำหน้าที่คล้ายค่าคงที่จักรวาล (Λ)
    - ภายนอกยังดูเหมือนหลุมดำ Schwarzschild ปกติ

    ภารกิจในอนาคต เช่น Euclid และ Arrakihs อาจช่วยตรวจสอบความโค้งของจักรวาลและโครงสร้างที่หลงเหลือจากการดีดตัว เช่น เฮโลของดาวฤกษ์และกาแล็กซีบริวาร

    https://www.neowin.net/news/our-universes-origin-is-indeed-a-black-hole-and-not-the-big-bang-reckons-this-new-study/
    ข่าวนี้พูดถึงงานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review D ซึ่งเสนอแนวคิดว่า “จุดกำเนิดของจักรวาล” อาจไม่ใช่ Big Bang อย่างที่เราเคยเชื่อกัน แต่เป็นการ “ดีดตัวกลับ” (bounce) จากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ—เป็นการพลิกมุมมองต่อจักรวาลอย่างสิ้นเชิง 🕳️🌌 นักฟิสิกส์จาก The Conversation และสถาบันวิจัยต่าง ๆ เสนอโมเดลใหม่ที่อธิบายว่าจักรวาลของเราอาจเกิดจากการยุบตัวของมวลมหาศาลภายในหลุมดำ ไม่ใช่จากการระเบิดของจุดเอกฐาน (singularity) แบบ Big Bang ที่เราเคยเชื่อ แนวคิดนี้ใช้หลักฟิสิกส์ควอนตัม โดยเฉพาะ “หลักการกีดกันของเฟอร์มิออน” (quantum exclusion principle) ซึ่งระบุว่าอนุภาคที่เหมือนกันไม่สามารถอยู่ในสถานะควอนตัมเดียวกันได้ ทำให้การยุบตัวของมวลไม่สามารถดำเนินต่อไปได้เรื่อย ๆ และเกิดการ “ดีดตัวกลับ” หรือ bounce หลังจาก bounce จักรวาลจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีแรงดันภายในทำหน้าที่คล้ายกับพลังงานมืดและการขยายตัวในยุค inflation ตามทฤษฎีดั้งเดิม โมเดลนี้ยังทำนายว่า: - จักรวาลมีความโค้งเล็กน้อย (Ωₖ ≈ −0.07 ± 0.02) - การดีดตัวเกิดภายในรัศมีความโน้มถ่วง r_S = 2GM ซึ่งทำหน้าที่คล้ายค่าคงที่จักรวาล (Λ) - ภายนอกยังดูเหมือนหลุมดำ Schwarzschild ปกติ ภารกิจในอนาคต เช่น Euclid และ Arrakihs อาจช่วยตรวจสอบความโค้งของจักรวาลและโครงสร้างที่หลงเหลือจากการดีดตัว เช่น เฮโลของดาวฤกษ์และกาแล็กซีบริวาร https://www.neowin.net/news/our-universes-origin-is-indeed-a-black-hole-and-not-the-big-bang-reckons-this-new-study/
    WWW.NEOWIN.NET
    Our Universe's origin is indeed a Black Hole and not the Big Bang, reckons this new study
    The Big Bang may not be the beginning—new research suggests our universe could have bounced from a collapsing black hole.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • Vassily Nebenzia (วาซิลี เนเบนเซีย) ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ:

    เป็นเรื่องแปลกมากสำหรับเราที่ "อิสราเอล" นั่งอยู่ที่นี่ โดยที่พวกเขา ไม่ได้ลงนามใน NPT ทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นี่ นี่เป็นความเสแสร้งอย่างแท้จริง ถึงเวลาที่อิสราเอลต้องลงนามใน NPT อย่างแท้จริง

    .

    NPT (Treaty on the Non-Proliferation of Nuclear Weapons) หรือ สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ เป็นสนธิสัญญาที่มุ่งเน้นการป้องกันการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์, ส่งเสริมการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ, และผลักดันการลดอาวุธนิวเคลียร์. สนธิสัญญานี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 1970 และมีรัฐภาคี 188 ประเทศ. 
    Vassily Nebenzia (วาซิลี เนเบนเซีย) ผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ: เป็นเรื่องแปลกมากสำหรับเราที่ "อิสราเอล" นั่งอยู่ที่นี่ โดยที่พวกเขา ไม่ได้ลงนามใน NPT ทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นี่ นี่เป็นความเสแสร้งอย่างแท้จริง ถึงเวลาที่อิสราเอลต้องลงนามใน NPT อย่างแท้จริง . NPT (Treaty on the Non-Proliferation of Nuclear Weapons) หรือ สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ เป็นสนธิสัญญาที่มุ่งเน้นการป้องกันการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์, ส่งเสริมการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ, และผลักดันการลดอาวุธนิวเคลียร์. สนธิสัญญานี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 1970 และมีรัฐภาคี 188 ประเทศ. 
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! มีรายงานอิสราเอลเพิ่งโจมตีเมืองบูเชห์ร (Bushehr) ของอิหร่าน สื่อในพื้นที่รายงานเกิดการระเบิดหลายครั้งในหลายพื้นที่

    เบื้องต้นมีรายงานการโจมตีที่สนามบินบูเชห์รของอิหร่าน (Iran’s Bushehr Airport) ซึ่งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บูเชห์ร (Bushehr Nuclear Power Plant) เพียงไม่กี่กิโลเมตร

    หากส่งผลกระทบและเกิดการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีบนเครื่องปฏิกรณ์อาจเป็นอันตรายต่อผู้คนหลายล้านคนในอ่าวเปอร์เซีย
    ด่วน! มีรายงานอิสราเอลเพิ่งโจมตีเมืองบูเชห์ร (Bushehr) ของอิหร่าน สื่อในพื้นที่รายงานเกิดการระเบิดหลายครั้งในหลายพื้นที่ เบื้องต้นมีรายงานการโจมตีที่สนามบินบูเชห์รของอิหร่าน (Iran’s Bushehr Airport) ซึ่งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บูเชห์ร (Bushehr Nuclear Power Plant) เพียงไม่กี่กิโลเมตร หากส่งผลกระทบและเกิดการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีบนเครื่องปฏิกรณ์อาจเป็นอันตรายต่อผู้คนหลายล้านคนในอ่าวเปอร์เซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนคิดว่า GPU ต้องพึ่งพาแค่ไฟจากรัฐ แต่จริง ๆ แล้ว Jensen Huang แห่ง NVIDIA รู้ดีว่าในอนาคต “ไฟ” จะกลายเป็นปัจจัยจำกัดการเติบโตของ AI — ไม่ใช่ชิปอีกต่อไป

    ล่าสุด NVIDIA (ผ่านบริษัทลูกด้านลงทุน NVentures) ร่วมลงเงินกับ Bill Gates และ HD Hyundai ในรอบ funding ล่าสุดกว่า $650 ล้าน ให้กับ TerraPower บริษัทที่ Gates ก่อตั้งเพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบ SMR (Small Modular Reactor)

    โปรเจกต์แรกของ TerraPower คือโรงไฟฟ้า Natrium กำลัง 345 เมกะวัตต์ ที่ใช้โซเดียมเหลวระบายความร้อน และมี ระบบเก็บพลังงานด้วยเกลือหลอมเหลว ที่สะสมพลังงานได้ถึง 1 กิกะวัตต์ เพื่อป้อนโหลดพีคแบบ AI ได้ทันเวลา

    แม้จะยังรอใบอนุญาตจากหน่วยงานนิวเคลียร์ในสหรัฐ (คาดว่าได้ปี 2026) แต่ตอนนี้เริ่มสร้างโครงสร้างส่วนที่ไม่ใช่นิวเคลียร์แล้วในรัฐไวโอมิง

    NVIDIA ไม่ได้โดดเดี่ยว — Oracle, Microsoft, Google และ Amazon ต่างเร่งลงทุนด้านนิวเคลียร์คล้ายกัน เช่น Oracle ขออนุญาตสร้าง SMR 3 ชุด, Microsoft เตรียมรีสตาร์ตโรงไฟฟ้าเก่าใน Pennsylvania, Amazon ทุ่มเงินในหลายสตาร์ตอัปด้านพลังงาน

    เทรนด์นี้มาแรงเพราะ AI server ต้องการไฟมากเกินที่โครงข่ายจะรองรับไหว — AMD เผยว่าแค่ zettascale supercomputer จะใช้ไฟถึง 500 เมกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่าบ้าน 375,000 หลังเลยทีเดียว

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-goes-nuclear-company-joins-bill-gates-in-backing-terrapower-a-company-building-nuclear-reactors-for-powering-data-centers
    หลายคนคิดว่า GPU ต้องพึ่งพาแค่ไฟจากรัฐ แต่จริง ๆ แล้ว Jensen Huang แห่ง NVIDIA รู้ดีว่าในอนาคต “ไฟ” จะกลายเป็นปัจจัยจำกัดการเติบโตของ AI — ไม่ใช่ชิปอีกต่อไป ล่าสุด NVIDIA (ผ่านบริษัทลูกด้านลงทุน NVentures) ร่วมลงเงินกับ Bill Gates และ HD Hyundai ในรอบ funding ล่าสุดกว่า $650 ล้าน ให้กับ TerraPower บริษัทที่ Gates ก่อตั้งเพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบ SMR (Small Modular Reactor) โปรเจกต์แรกของ TerraPower คือโรงไฟฟ้า Natrium กำลัง 345 เมกะวัตต์ ที่ใช้โซเดียมเหลวระบายความร้อน และมี ระบบเก็บพลังงานด้วยเกลือหลอมเหลว ที่สะสมพลังงานได้ถึง 1 กิกะวัตต์ เพื่อป้อนโหลดพีคแบบ AI ได้ทันเวลา แม้จะยังรอใบอนุญาตจากหน่วยงานนิวเคลียร์ในสหรัฐ (คาดว่าได้ปี 2026) แต่ตอนนี้เริ่มสร้างโครงสร้างส่วนที่ไม่ใช่นิวเคลียร์แล้วในรัฐไวโอมิง NVIDIA ไม่ได้โดดเดี่ยว — Oracle, Microsoft, Google และ Amazon ต่างเร่งลงทุนด้านนิวเคลียร์คล้ายกัน เช่น Oracle ขออนุญาตสร้าง SMR 3 ชุด, Microsoft เตรียมรีสตาร์ตโรงไฟฟ้าเก่าใน Pennsylvania, Amazon ทุ่มเงินในหลายสตาร์ตอัปด้านพลังงาน เทรนด์นี้มาแรงเพราะ AI server ต้องการไฟมากเกินที่โครงข่ายจะรองรับไหว — AMD เผยว่าแค่ zettascale supercomputer จะใช้ไฟถึง 500 เมกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่าบ้าน 375,000 หลังเลยทีเดียว https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-goes-nuclear-company-joins-bill-gates-in-backing-terrapower-a-company-building-nuclear-reactors-for-powering-data-centers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    กองทัพอิสราเอลโจมตีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่ได้ใช้งานในเขตเมืองอารักของอิหร่าน (Inactive nuclear reactor in Arak) จนเกิดเพลิงลุกไหม้กลุ่มควันลอยออกไปในอากาศ แม้ว่าที่นี่จะเป็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่ได้ใช้งาน แต่ยังมีความเสี่ยงหากเกิดการรั่วไหล

    — ยังไม่มีรายงานการตรวจพบกัมมันตภาพรังสี
    — และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

    นอกจากนี้กองกำลังอิสราเอลยังโจมตไปที่โรงงานนิวเคลียร์ Khandab ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตพลูโตเนียม

    2/ กองทัพอิสราเอลโจมตีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่ได้ใช้งานในเขตเมืองอารักของอิหร่าน (Inactive nuclear reactor in Arak) จนเกิดเพลิงลุกไหม้กลุ่มควันลอยออกไปในอากาศ แม้ว่าที่นี่จะเป็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่ได้ใช้งาน แต่ยังมีความเสี่ยงหากเกิดการรั่วไหล — ยังไม่มีรายงานการตรวจพบกัมมันตภาพรังสี — และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้กองกำลังอิสราเอลยังโจมตไปที่โรงงานนิวเคลียร์ Khandab ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตพลูโตเนียม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • 1/
    กองทัพอิสราเอลโจมตีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่ได้ใช้งานในเขตเมืองอารักของอิหร่าน (Inactive nuclear reactor in Arak) จนเกิดเพลิงลุกไหม้กลุ่มควันลอยออกไปในอากาศ แม้ว่าที่นี่จะเป็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่ได้ใช้งาน แต่ยังมีความเสี่ยงหากเกิดการรั่วไหล

    — ยังไม่มีรายงานการตรวจพบกัมมันตภาพรังสี
    — และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

    นอกจากนี้กองกำลังอิสราเอลยังโจมตไปที่โรงงานนิวเคลียร์ Khandab ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตพลูโตเนียม

    1/ กองทัพอิสราเอลโจมตีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่ได้ใช้งานในเขตเมืองอารักของอิหร่าน (Inactive nuclear reactor in Arak) จนเกิดเพลิงลุกไหม้กลุ่มควันลอยออกไปในอากาศ แม้ว่าที่นี่จะเป็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่ได้ใช้งาน แต่ยังมีความเสี่ยงหากเกิดการรั่วไหล — ยังไม่มีรายงานการตรวจพบกัมมันตภาพรังสี — และไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้กองกำลังอิสราเอลยังโจมตไปที่โรงงานนิวเคลียร์ Khandab ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตพลูโตเนียม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านกล่าวโทษอิสราเอลที่ทำให้การเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ล้มเหลว

    อับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวกับนักการทูตในกรุงเตหะรานว่า อิหร่านมี "ความตั้งมั่นอย่างแน่วแน่ และทำให้เห็นมาตลอดที่จะไม่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์" นอกจากนี้อิหร่านยังพร้อมที่จะให้คำมั่นในการเจรจากับสหรัฐฯในเรื่องเหล่านี้

    น่าเสียดายที่การเจรจาถูกยกเลิกไปแล้ว โดยอิสราเอลเป็นผู้บ่อนทำลายการทูตนั้น

    อาราฆชียังเรียกร้องให้วอชิงตันประณามการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่าน (ซึ่งพวกเราจะไม่มีวันได้เห็นการประณามนั้นอย่างแน่นอน)

    อาราฆชียังกล่าวอีกว่า อิหร่านไม่ยอมรับถึงคำปฏิเสธของสหรัฐว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ ซึ่งเป็นโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่สำคัญของอิหร่าน

    ที่มา: Al Jazeera

    ข้อมูลเพิ่มเติม:
    อิหร่าน เป็นภาคีของสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Treaty on the Non-Proliferation of Nuclear Weapons หรือเรียกทั่วไปว่า Non-Proliferation Treaty หรือ NPT) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการกระจายของอาวุธนิวเคลียร์และเทคโนโลยีอาวุธ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ

    แต่อิสราเอลไม่ยอมเข้าร่วมในสนธิสัญญา NPT นี้!!! และไม่ยอมรับมาตรการป้องกันของ IAEA สำหรับกิจกรรมนิวเคลียร์หลักบางประการของประเทศ นอกจากนี้อิสราเอลยังไม่เคยเปิดเผยข้อมูลนิวเคลียร์ของอิสราเอลโดยที่ไม่มีประเทศใดคว่ำบาตรหรือกดดันอิสราเอลแม้แต่นิดเดียว!
    อิหร่านกล่าวโทษอิสราเอลที่ทำให้การเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ล้มเหลว อับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวกับนักการทูตในกรุงเตหะรานว่า อิหร่านมี "ความตั้งมั่นอย่างแน่วแน่ และทำให้เห็นมาตลอดที่จะไม่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์" นอกจากนี้อิหร่านยังพร้อมที่จะให้คำมั่นในการเจรจากับสหรัฐฯในเรื่องเหล่านี้ น่าเสียดายที่การเจรจาถูกยกเลิกไปแล้ว โดยอิสราเอลเป็นผู้บ่อนทำลายการทูตนั้น อาราฆชียังเรียกร้องให้วอชิงตันประณามการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่าน (ซึ่งพวกเราจะไม่มีวันได้เห็นการประณามนั้นอย่างแน่นอน) อาราฆชียังกล่าวอีกว่า อิหร่านไม่ยอมรับถึงคำปฏิเสธของสหรัฐว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ ซึ่งเป็นโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่สำคัญของอิหร่าน ที่มา: Al Jazeera ข้อมูลเพิ่มเติม: 👉อิหร่าน เป็นภาคีของสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (Treaty on the Non-Proliferation of Nuclear Weapons หรือเรียกทั่วไปว่า Non-Proliferation Treaty หรือ NPT) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการกระจายของอาวุธนิวเคลียร์และเทคโนโลยีอาวุธ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ 👉แต่อิสราเอลไม่ยอมเข้าร่วมในสนธิสัญญา NPT นี้!!! และไม่ยอมรับมาตรการป้องกันของ IAEA สำหรับกิจกรรมนิวเคลียร์หลักบางประการของประเทศ นอกจากนี้อิสราเอลยังไม่เคยเปิดเผยข้อมูลนิวเคลียร์ของอิสราเอลโดยที่ไม่มีประเทศใดคว่ำบาตรหรือกดดันอิสราเอลแม้แต่นิดเดียว!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่โดย 'Maxar' ​​วันนี้:

    รูป1 - เผยให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายที่มองเห็นได้ที่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิหร่านที่ Arak หรือที่เรียกอีกอย่างว่า 'Arak Nuclear Complex'

    รูป2 - ภาพถ่ายดาวเทียมวันนี้เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับอาคารหลักในโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility)
    ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่โดย 'Maxar' ​​วันนี้: รูป1 - เผยให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายที่มองเห็นได้ที่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิหร่านที่ Arak หรือที่เรียกอีกอย่างว่า 'Arak Nuclear Complex' รูป2 - ภาพถ่ายดาวเทียมวันนี้เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับอาคารหลักในโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านออกมายอมรับว่าโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ (Fordow nuclear facility) ถูกโจมตี แต่ได้รับความเสียหายในระดับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
    อิหร่านออกมายอมรับว่าโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ (Fordow nuclear facility) ถูกโจมตี แต่ได้รับความเสียหายในระดับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน!

    องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (Atomic Energy Organization of Iran) ประกาศว่าตรวจพบการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสีภายในโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ (Natanz Nuclear Facility) ในอิหร่านตอนกลาง แต่ยังไม่มีการตรวจพบร่องรอยของกัมมันตภาพรังสีนอกเขตพื้นที่ดังกล่าว
    ด่วน! องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (Atomic Energy Organization of Iran) ประกาศว่าตรวจพบการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสีภายในโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ (Natanz Nuclear Facility) ในอิหร่านตอนกลาง แต่ยังไม่มีการตรวจพบร่องรอยของกัมมันตภาพรังสีนอกเขตพื้นที่ดังกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อแห่งรัฐของอิหร่านรายงานบริเวณนอกโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ (Natanz Nuclear Facility) ในอิหร่านตอนกลาง ยืนยันว่าโรงงานแห่งนี้ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของอิสราเอลเมื่อคืนนี้

    "แต่ยังไม่สามารถระบุถึงขอบเขตความเสียหายได้"
    สื่อแห่งรัฐของอิหร่านรายงานบริเวณนอกโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ (Natanz Nuclear Facility) ในอิหร่านตอนกลาง ยืนยันว่าโรงงานแห่งนี้ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของอิสราเอลเมื่อคืนนี้ "แต่ยังไม่สามารถระบุถึงขอบเขตความเสียหายได้"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sandia เปิดตัว SpiNNaker 2: ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบสมองมนุษย์
    Sandia National Laboratories ได้เปิดตัว SpiNNaker 2 ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบให้ทำงานเหมือนสมองมนุษย์ โดย ไม่มีระบบปฏิบัติการและไม่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน

    SpiNNaker 2 ใช้สถาปัตยกรรม neuromorphic ซึ่งช่วยให้ สามารถประมวลผลแบบขนานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ข้อมูลจากข่าว
    - SpiNNaker 2 ใช้สถาปัตยกรรม neuromorphic เพื่อเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์
    - ไม่มีระบบปฏิบัติการและไม่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน
    - ใช้ 152 คอร์ต่อชิป และมี 48 ชิปต่อเซิร์ฟเวอร์บอร์ด
    - ระบบเต็มรูปแบบมี 1,440 บอร์ด, 69,120 ชิป และ 138,240 เทราไบต์ของ DRAM
    - ข้อมูลถูกเก็บไว้ใน SRAM และ DRAM เพื่อเพิ่มความเร็วในการประมวลผล

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    SpiNNaker 2 อาจเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบการทำงานของสมอง และ ช่วยให้สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาดิสก์

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ว่าระบบนี้จะสามารถจำลองเซลล์ประสาทได้ 150-180 ล้านเซลล์ แต่ยังห่างไกลจากสมองมนุษย์ที่มี 100 พันล้านเซลล์
    - ต้องติดตามว่า SpiNNaker 2 จะสามารถนำไปใช้ในงานด้านความมั่นคงแห่งชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
    - การไม่มีระบบปฏิบัติการอาจทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับระบบนี้มีข้อจำกัด
    - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถแข่งขันกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมได้หรือไม่

    อนาคตของ SpiNNaker 2 และการประมวลผลแบบ neuromorphic
    SpiNNaker 2 อาจเป็นก้าวแรกในการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบสมองมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าระบบนี้จะสามารถนำไปใช้ในงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

    https://www.techradar.com/pro/a-system-inspired-by-the-human-brain-has-quietly-been-activated-at-a-us-nuclear-lab-and-it-has-no-operating-system-or-storage
    🧠 Sandia เปิดตัว SpiNNaker 2: ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบสมองมนุษย์ Sandia National Laboratories ได้เปิดตัว SpiNNaker 2 ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบให้ทำงานเหมือนสมองมนุษย์ โดย ไม่มีระบบปฏิบัติการและไม่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน SpiNNaker 2 ใช้สถาปัตยกรรม neuromorphic ซึ่งช่วยให้ สามารถประมวลผลแบบขนานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ข้อมูลจากข่าว - SpiNNaker 2 ใช้สถาปัตยกรรม neuromorphic เพื่อเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ - ไม่มีระบบปฏิบัติการและไม่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน - ใช้ 152 คอร์ต่อชิป และมี 48 ชิปต่อเซิร์ฟเวอร์บอร์ด - ระบบเต็มรูปแบบมี 1,440 บอร์ด, 69,120 ชิป และ 138,240 เทราไบต์ของ DRAM - ข้อมูลถูกเก็บไว้ใน SRAM และ DRAM เพื่อเพิ่มความเร็วในการประมวลผล 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซูเปอร์คอมพิวเตอร์ SpiNNaker 2 อาจเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบการทำงานของสมอง และ ช่วยให้สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาดิสก์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ว่าระบบนี้จะสามารถจำลองเซลล์ประสาทได้ 150-180 ล้านเซลล์ แต่ยังห่างไกลจากสมองมนุษย์ที่มี 100 พันล้านเซลล์ - ต้องติดตามว่า SpiNNaker 2 จะสามารถนำไปใช้ในงานด้านความมั่นคงแห่งชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ - การไม่มีระบบปฏิบัติการอาจทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับระบบนี้มีข้อจำกัด - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถแข่งขันกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมได้หรือไม่ 🚀 อนาคตของ SpiNNaker 2 และการประมวลผลแบบ neuromorphic SpiNNaker 2 อาจเป็นก้าวแรกในการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบสมองมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าระบบนี้จะสามารถนำไปใช้ในงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ https://www.techradar.com/pro/a-system-inspired-by-the-human-brain-has-quietly-been-activated-at-a-us-nuclear-lab-and-it-has-no-operating-system-or-storage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อท้องถิ่นเผยแพร่วิดีโอเพลิงลุกไหม้ในทิศทางโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ (Natanz Nuclear Facility) ของอิหร่าน
    สื่อท้องถิ่นเผยแพร่วิดีโอเพลิงลุกไหม้ในทิศทางโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ (Natanz Nuclear Facility) ของอิหร่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • How To Write A Professional Email: Tips & Examples

    During your professional career, you’ll need to write plenty of emails. While writing an email to a friend is pretty simple, writing an email to your boss or a person you have never met before requires a bit more thought if you want to be professional. Ideally, you want your emails to be clear, concise, and persuasive. If that is your goal, then you’ll get there in no time at all if you follow our tips on crafting professional emails.

    What to include in a professional email
    When writing an effective email, there are several things that should never be left out. Let’s walk through each major part of an email so you’ll know exactly how to write one.

    Subject line
    In most email programs, the subject line is entered into the box under the recipient’s email address. Besides your name and email address, the subject line is the first thing someone will see when they receive your email. The subject line should be a short summary of the purpose of your email. Some examples of subject lines include “Plans for Fall Product Lineup,” “Thank You for the Referral,” or “Question About Next Week’s Meeting.”

    If you are responding to or forwarding someone else’s email, an email program will typically fill in a subject line for you such as “Re: New Employee Training.” Generally, it is fine to keep these subject lines as doing so will make it easier for the original sender to keep track of potentially long email chains.

    Greeting
    The greeting is the first line of the email and is a salutation that establishes the tone of your email. Every professional email you send must have a greeting tailored toward the receiver. If you know the receiver’s name and title, you should use it. Avoid referring to anyone as “Mr.” “Mrs.” or “Ms.” unless you already know that person prefers one of those titles. For professional emails, formal greetings such as “Greetings,” “Dear,” or “Good morning/afternoon/evening” are preferred. If you do not know the identity of the person receiving your email, you can exclude a name or use the general greeting of “To Whom It May Concern.” Informal greetings such as “Hi” or “Yo” should be avoided.

    Body
    The body is the largest part of the email and where your actual message will be. You should begin the body by immediately saying what the purpose of the email is and expressing what you are trying to achieve by sending it. The body of the email should be concise, informative, and straight to the point. You should always be polite and use proper grammar in professional emails. Whether the body is a single sentence or several paragraphs, it should provide all the information a person needs to respond to your needs or take whatever actions you want them to.

    Closing
    The closing is the last line of the email before your name or signature. A closing is necessary to ensure proper etiquette and not having one is often seen as rude or inconsiderate. The closing can be very short and use formal words like “Best” or “Thank you.” The closing can also include a restatement of the main topic or a repeat of a request, such as “I look forward to hearing back from you regarding my proposal. Thank you!”

    What not to include in a professional email
    Now that we’ve looked at what should be in your emails, let’s take a look at what you should leave out if you want to come across as a professional.

    Decorative or distracting fonts
    Professional emails should use traditional fonts such as Times New Roman, Arial, or whatever font the email program uses as a standard. Decorative fonts such as Comic Sans are distracting and inappropriate, so they should not be used in your professional emails.

    Excessive punctuation
    Punctuation should follow the rules of proper grammar. It is fine to use question marks, commas, quotation marks, colons, and semicolons as long as you know how to properly use them. Exclamation points should be used sparingly, usually only in the closing or to emphasize a need for immediate action. Excessive, unnecessary use of punctuation is distracting and will make your email look unprofessional.

    Emoticons
    Unless you are emailing someone you have a friendly, informal relationship with, your email should not include emoji, emoticons, gifs, or memes. All of these things are distracting and typically seen as unprofessional, so you should not use them in an email that is supposed to be professional.

    Tips for writing a professional email
    We’ve covered everything that needs to go in an email and what should stay on the cutting room floor. Next, let’s review some general tips that will improve all of the emails you’ll need to write.

    Be concise
    A professional email should be short and to the point. At the same time, you should still use complete sentences and proper grammar. Avoid going on tangents or telling long stories in emails. Each sentence should have a purpose and should provide information that the receiver needs to respond or perform whatever action you need them to take. Avoid asking many questions or making several requests if possible. You can use followup emails to make further requests or ask additional questions if you need to.

    Convey a clear purpose
    A professional email should get straight to the point. Avoid wasting a person’s time by burying your main point deep in the body of an email. The very first line of the body should clearly state what the purpose of the email is and what action you want the receiver to take. The subject line should also establish the purpose of the email. The rest of the email should support the main point by including necessary information or important details that the receiver needs to be aware of.

    Proofread using Grammar Coach™
    A professional email should have proper grammar, punctuation, and spelling. To that end, you should thoroughly proofread your emails for any errors. To ensure that all of your emails are perfect, you can use our fantastic Grammar Coach™ that will review all of your emails for common errors and grammar mistakes. With Grammar Coach™ at your side, your emails will be error-free and have an air of professionalism that cannot be matched!

    Examples of professional emails
    Let’s finish things off by bringing it all together and taking a look at some different types of emails that effectively use all of our tips and advice.

    Example #1: Relationship building
    The following example shows how you could write an email with the intent of trying to establish a relationship with someone in order to add them to your growing network of professional contacts:

    Subject: Fantastic Lecture

    Dear Dr. Smith,

    I attended your Wednesday lecture on ancient Roman military tactics, and I wanted to express my gratitude for you coming to speak to our university. The lecture was extremely informative and your theories on Julius Caesar’s troop movements were something I had never considered. I am writing a dissertation on Caesar’s campaigns during the Gallic Wars, and your ideas have inspired me to view Caesar’s decisions from a new perspective. I plan on attending your upcoming lecture on the Punic Wars, and I know it will be just as illuminating. I look forward to hearing your views on the Roman war strategy!

    Thank you once again,
    Jane Doe

    Example #2: Referral requests
    When seeking a new career opportunity, having a referral or two will often give you a major advantage when it comes to submitting a job application. When asking another person for a referral via email, it is important to be polite and accommodating. The following example shows how you might ask for a referral through email:

    Subject: Referral Request – Zachary Adams

    Dear Professor Delgado,

    I hope you are well and wanted to thank you again for the instruction and guidance during my time at East Virginia University. I am applying for a position at the Research Institute Laboratories and was wondering if you would be willing to provide me with a referral.

    The position requires many of the same skills and lab work I performed during my time under your tutelage. Thanks to your instruction, I was able to excel in my studies and gain crucial experience using a nuclear fusion reactor. Due to your expertise and renown in the field, I know your referral would greatly improve my application.

    Thank you for considering my inquiry. I have attached a copy of my cover letter, resume, and the job posting for your review. Please let me know if you need anything else from me as you consider my request.

    Sincerely,
    Zachary Adams
    zadams@fakemail.abc
    (123) 456-7890

    Example #3: Resignation
    When leaving a job, you’ll need to submit a resignation letter. Your resignation email should be courteous and professional–even if you are looking forward to leaving your job. You never know if you might need to contact your former company for referrals or references, so it is important to remain professional and cordial even in your letter of resignation. The following example shows one possible approach you could take in your resignation email:

    Subject: Resignation – Laura Nores

    Dear Mrs. Smith,

    This email is my formal notification that I am resigning from my position as Head Marketing Consultant at Boxmart. My final day of employment will be April 1.

    I am grateful that I have had the opportunity to lead the marketing department at Boxmart for the past seven years. I’ve learned a lot about developing marketing campaigns and conducting demographic research during my time with the company. I’ve enjoyed being a member of the Boxmart team and appreciated the opportunities I’ve had to make the Boxmart brand a household name in the minds of customers worldwide. I will take everything I learned with me as I continue in my marketing career.

    During my final weeks with the company, I will ensure my team is prepared for the transition and will complete any outstanding responsibilities I have as Head Marketing Consultant. Please let me know if there is anything I need to do to assist in the transition.

    I hope Boxmart continues to be a market leader and that we remain in contact in the future.

    Best,
    Laura Nores

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    How To Write A Professional Email: Tips & Examples During your professional career, you’ll need to write plenty of emails. While writing an email to a friend is pretty simple, writing an email to your boss or a person you have never met before requires a bit more thought if you want to be professional. Ideally, you want your emails to be clear, concise, and persuasive. If that is your goal, then you’ll get there in no time at all if you follow our tips on crafting professional emails. What to include in a professional email When writing an effective email, there are several things that should never be left out. Let’s walk through each major part of an email so you’ll know exactly how to write one. Subject line In most email programs, the subject line is entered into the box under the recipient’s email address. Besides your name and email address, the subject line is the first thing someone will see when they receive your email. The subject line should be a short summary of the purpose of your email. Some examples of subject lines include “Plans for Fall Product Lineup,” “Thank You for the Referral,” or “Question About Next Week’s Meeting.” If you are responding to or forwarding someone else’s email, an email program will typically fill in a subject line for you such as “Re: New Employee Training.” Generally, it is fine to keep these subject lines as doing so will make it easier for the original sender to keep track of potentially long email chains. Greeting The greeting is the first line of the email and is a salutation that establishes the tone of your email. Every professional email you send must have a greeting tailored toward the receiver. If you know the receiver’s name and title, you should use it. Avoid referring to anyone as “Mr.” “Mrs.” or “Ms.” unless you already know that person prefers one of those titles. For professional emails, formal greetings such as “Greetings,” “Dear,” or “Good morning/afternoon/evening” are preferred. If you do not know the identity of the person receiving your email, you can exclude a name or use the general greeting of “To Whom It May Concern.” Informal greetings such as “Hi” or “Yo” should be avoided. Body The body is the largest part of the email and where your actual message will be. You should begin the body by immediately saying what the purpose of the email is and expressing what you are trying to achieve by sending it. The body of the email should be concise, informative, and straight to the point. You should always be polite and use proper grammar in professional emails. Whether the body is a single sentence or several paragraphs, it should provide all the information a person needs to respond to your needs or take whatever actions you want them to. Closing The closing is the last line of the email before your name or signature. A closing is necessary to ensure proper etiquette and not having one is often seen as rude or inconsiderate. The closing can be very short and use formal words like “Best” or “Thank you.” The closing can also include a restatement of the main topic or a repeat of a request, such as “I look forward to hearing back from you regarding my proposal. Thank you!” What not to include in a professional email Now that we’ve looked at what should be in your emails, let’s take a look at what you should leave out if you want to come across as a professional. Decorative or distracting fonts Professional emails should use traditional fonts such as Times New Roman, Arial, or whatever font the email program uses as a standard. Decorative fonts such as Comic Sans are distracting and inappropriate, so they should not be used in your professional emails. Excessive punctuation Punctuation should follow the rules of proper grammar. It is fine to use question marks, commas, quotation marks, colons, and semicolons as long as you know how to properly use them. Exclamation points should be used sparingly, usually only in the closing or to emphasize a need for immediate action. Excessive, unnecessary use of punctuation is distracting and will make your email look unprofessional. Emoticons Unless you are emailing someone you have a friendly, informal relationship with, your email should not include emoji, emoticons, gifs, or memes. All of these things are distracting and typically seen as unprofessional, so you should not use them in an email that is supposed to be professional. Tips for writing a professional email We’ve covered everything that needs to go in an email and what should stay on the cutting room floor. Next, let’s review some general tips that will improve all of the emails you’ll need to write. Be concise A professional email should be short and to the point. At the same time, you should still use complete sentences and proper grammar. Avoid going on tangents or telling long stories in emails. Each sentence should have a purpose and should provide information that the receiver needs to respond or perform whatever action you need them to take. Avoid asking many questions or making several requests if possible. You can use followup emails to make further requests or ask additional questions if you need to. Convey a clear purpose A professional email should get straight to the point. Avoid wasting a person’s time by burying your main point deep in the body of an email. The very first line of the body should clearly state what the purpose of the email is and what action you want the receiver to take. The subject line should also establish the purpose of the email. The rest of the email should support the main point by including necessary information or important details that the receiver needs to be aware of. Proofread using Grammar Coach™ A professional email should have proper grammar, punctuation, and spelling. To that end, you should thoroughly proofread your emails for any errors. To ensure that all of your emails are perfect, you can use our fantastic Grammar Coach™ that will review all of your emails for common errors and grammar mistakes. With Grammar Coach™ at your side, your emails will be error-free and have an air of professionalism that cannot be matched! Examples of professional emails Let’s finish things off by bringing it all together and taking a look at some different types of emails that effectively use all of our tips and advice. Example #1: Relationship building The following example shows how you could write an email with the intent of trying to establish a relationship with someone in order to add them to your growing network of professional contacts: Subject: Fantastic Lecture Dear Dr. Smith, I attended your Wednesday lecture on ancient Roman military tactics, and I wanted to express my gratitude for you coming to speak to our university. The lecture was extremely informative and your theories on Julius Caesar’s troop movements were something I had never considered. I am writing a dissertation on Caesar’s campaigns during the Gallic Wars, and your ideas have inspired me to view Caesar’s decisions from a new perspective. I plan on attending your upcoming lecture on the Punic Wars, and I know it will be just as illuminating. I look forward to hearing your views on the Roman war strategy! Thank you once again, Jane Doe Example #2: Referral requests When seeking a new career opportunity, having a referral or two will often give you a major advantage when it comes to submitting a job application. When asking another person for a referral via email, it is important to be polite and accommodating. The following example shows how you might ask for a referral through email: Subject: Referral Request – Zachary Adams Dear Professor Delgado, I hope you are well and wanted to thank you again for the instruction and guidance during my time at East Virginia University. I am applying for a position at the Research Institute Laboratories and was wondering if you would be willing to provide me with a referral. The position requires many of the same skills and lab work I performed during my time under your tutelage. Thanks to your instruction, I was able to excel in my studies and gain crucial experience using a nuclear fusion reactor. Due to your expertise and renown in the field, I know your referral would greatly improve my application. Thank you for considering my inquiry. I have attached a copy of my cover letter, resume, and the job posting for your review. Please let me know if you need anything else from me as you consider my request. Sincerely, Zachary Adams zadams@fakemail.abc (123) 456-7890 Example #3: Resignation When leaving a job, you’ll need to submit a resignation letter. Your resignation email should be courteous and professional–even if you are looking forward to leaving your job. You never know if you might need to contact your former company for referrals or references, so it is important to remain professional and cordial even in your letter of resignation. The following example shows one possible approach you could take in your resignation email: Subject: Resignation – Laura Nores Dear Mrs. Smith, This email is my formal notification that I am resigning from my position as Head Marketing Consultant at Boxmart. My final day of employment will be April 1. I am grateful that I have had the opportunity to lead the marketing department at Boxmart for the past seven years. I’ve learned a lot about developing marketing campaigns and conducting demographic research during my time with the company. I’ve enjoyed being a member of the Boxmart team and appreciated the opportunities I’ve had to make the Boxmart brand a household name in the minds of customers worldwide. I will take everything I learned with me as I continue in my marketing career. During my final weeks with the company, I will ensure my team is prepared for the transition and will complete any outstanding responsibilities I have as Head Marketing Consultant. Please let me know if there is anything I need to do to assist in the transition. I hope Boxmart continues to be a market leader and that we remain in contact in the future. Best, Laura Nores © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 806 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในขณะสหรัฐกดดันอิหร่านและทั่วโลกไม่ให้มีนิวเคลียร์ แต่กระทรวงพลังงานสหรัฐเพิ่งประกาศข่าวดี สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 รุ่นใหม่สำเร็จแล้ว

    กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า Pantex ซึ่งเป็นโรงงานถอดประกอบอาวุธนิวเคลียร์แห่งแรกของสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 รุ่นใหม่ครั้งแรกเสร็จสิ้นเร็วกว่ากำหนดประมาณ 1 ปี

    ระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 ได้รับการพัฒนาจากระเบิดนิวเคลียร์ B61-12 รุ่นก่อนหน้า แต่ให้ผลการทำลายที่สูงกว่า จากแหล่งข่าวระบุว่า พลังระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์รุ่นใหม่ B61-13 มากกว่าระเบิดที่ฮิโรชิม่าถึง 24 เท่า และยังมีศักยภาพเพิ่มเติมที่สำคัญในการทำลายเป้าหมายที่แข็งแกร่ง เช่น ศูนย์บัญชาการและควบคุมที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน รวมทั้งเป้าหมายที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่

    ระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 ออกแบบมาสำหรับเครื่องบินเจ็ทขั้นสูงและเครื่องบินทิ้งระเบิด B-21 นับเป็นการอัปเกรดครั้งที่หกของซีรีส์ B61 ตั้งแต่ปี 1968

    .

    รายละเอียดข่าว
    https://www.twz.com/air/far-more-powerful-b61-13-guided-nuclear-bomb-variant-joins-u-s-stockpile

    วิดีโอ1
    https://www.youtube.com/watch?v=tpN73mm6_RY
    ในขณะสหรัฐกดดันอิหร่านและทั่วโลกไม่ให้มีนิวเคลียร์ แต่กระทรวงพลังงานสหรัฐเพิ่งประกาศข่าวดี สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 รุ่นใหม่สำเร็จแล้ว กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า Pantex ซึ่งเป็นโรงงานถอดประกอบอาวุธนิวเคลียร์แห่งแรกของสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 รุ่นใหม่ครั้งแรกเสร็จสิ้นเร็วกว่ากำหนดประมาณ 1 ปี ระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 ได้รับการพัฒนาจากระเบิดนิวเคลียร์ B61-12 รุ่นก่อนหน้า แต่ให้ผลการทำลายที่สูงกว่า จากแหล่งข่าวระบุว่า พลังระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์รุ่นใหม่ B61-13 มากกว่าระเบิดที่ฮิโรชิม่าถึง 24 เท่า และยังมีศักยภาพเพิ่มเติมที่สำคัญในการทำลายเป้าหมายที่แข็งแกร่ง เช่น ศูนย์บัญชาการและควบคุมที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน รวมทั้งเป้าหมายที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ขนาดใหญ่ ระเบิดนิวเคลียร์ B61-13 ออกแบบมาสำหรับเครื่องบินเจ็ทขั้นสูงและเครื่องบินทิ้งระเบิด B-21 นับเป็นการอัปเกรดครั้งที่หกของซีรีส์ B61 ตั้งแต่ปี 1968 . รายละเอียดข่าว https://www.twz.com/air/far-more-powerful-b61-13-guided-nuclear-bomb-variant-joins-u-s-stockpile วิดีโอ1 https://www.youtube.com/watch?v=tpN73mm6_RY
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • CERN ทดสอบการขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นครั้งแรก

    นักวิจัยจาก CERN (European Organization for Nuclear Research) ได้ทำการทดลอง ขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยใช้ อุปกรณ์กักเก็บพิเศษที่ไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาปฏิสสารนอกห้องทดลอง

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการทดลองขนส่งปฏิสสาร
    ปฏิสสารเป็นอนุภาคที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับสสารปกติ
    - พบได้จาก การชนกันของรังสีคอสมิกหรือการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี

    CERN เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งบนโลกที่สามารถผลิตปฏิสสารได้เป็นประจำ
    - ใช้ เครื่องเร่งอนุภาคพลังงานสูงเพื่อสร้างปฏิสสารจากการชนกันของอนุภาค

    นักวิจัยพัฒนาอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารขนาด 2 เมตร
    - สามารถ กักเก็บอนุภาคปฏิสสารได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก

    ทดลองขนส่งอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร
    - หลังจากเดินทาง นักวิจัยยืนยันว่าอนุภาคปฏิสสารยังคงอยู่ในอุปกรณ์

    การทดลองนี้พิสูจน์ว่าปฏิสสารสามารถขนส่งไปยังห้องทดลองภายนอกได้
    - อาจช่วยให้ สามารถศึกษาปฏิสสารได้แม่นยำขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวนน้อยกว่า

    CERN เตรียมส่งปฏิสสารไปยังมหาวิทยาลัย Heinrich Heine ในเยอรมนี
    - อนุภาคจะเดินทาง เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตรเพื่อการทดลองเพิ่มเติม

    https://www.techspot.com/news/108031-cern-researchers-took-few-antimatter-particles-walk-unprecedented.html
    CERN ทดสอบการขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นครั้งแรก นักวิจัยจาก CERN (European Organization for Nuclear Research) ได้ทำการทดลอง ขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยใช้ อุปกรณ์กักเก็บพิเศษที่ไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาปฏิสสารนอกห้องทดลอง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการทดลองขนส่งปฏิสสาร ✅ ปฏิสสารเป็นอนุภาคที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับสสารปกติ - พบได้จาก การชนกันของรังสีคอสมิกหรือการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี ✅ CERN เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งบนโลกที่สามารถผลิตปฏิสสารได้เป็นประจำ - ใช้ เครื่องเร่งอนุภาคพลังงานสูงเพื่อสร้างปฏิสสารจากการชนกันของอนุภาค ✅ นักวิจัยพัฒนาอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารขนาด 2 เมตร - สามารถ กักเก็บอนุภาคปฏิสสารได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ✅ ทดลองขนส่งอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร - หลังจากเดินทาง นักวิจัยยืนยันว่าอนุภาคปฏิสสารยังคงอยู่ในอุปกรณ์ ✅ การทดลองนี้พิสูจน์ว่าปฏิสสารสามารถขนส่งไปยังห้องทดลองภายนอกได้ - อาจช่วยให้ สามารถศึกษาปฏิสสารได้แม่นยำขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวนน้อยกว่า ✅ CERN เตรียมส่งปฏิสสารไปยังมหาวิทยาลัย Heinrich Heine ในเยอรมนี - อนุภาคจะเดินทาง เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตรเพื่อการทดลองเพิ่มเติม https://www.techspot.com/news/108031-cern-researchers-took-few-antimatter-particles-walk-unprecedented.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    CERN researchers took a few antimatter particles for a walk in an unprecedented transportation test
    The European Organization for Nuclear Research, better known as CERN, is one of the few places on Earth capable of routinely producing antimatter from high-energy collisions with...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • WATCH: India vs Pakistan — military power comparison

    Both have nuclear weapons

    India’s advantage undeniable?
    WATCH: India vs Pakistan — military power comparison Both have nuclear weapons India’s advantage undeniable?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เมื่อคืนตั้ม เล่าว่านายกจะไปกัมพูชา เดือนเมษา

    ซาตานบอก 50:50 เพื่อนบ้าน บอกจะเอาคืน
    หยิบบ่อนมายังไม่ได้ ก็ไปหยิบพลัง ดูซิ เอามันทุกเม็ด ลูกๆ หลานๆ ไทย จะรอต่างชาติเบ่งลูก คนชั่วขายแผ่นดิน แล้วพวกมรึง จะเหลืออะไร

    https://www.youtube.com/live/VZZ3VCt8NoM?si=uClDjUrX64Oe5kWD
    เมื่อคืนตั้ม เล่าว่านายกจะไปกัมพูชา เดือนเมษา ซาตานบอก 50:50 เพื่อนบ้าน บอกจะเอาคืน หยิบบ่อนมายังไม่ได้ ก็ไปหยิบพลัง ดูซิ เอามันทุกเม็ด ลูกๆ หลานๆ ไทย จะรอต่างชาติเบ่งลูก คนชั่วขายแผ่นดิน แล้วพวกมรึง จะเหลืออะไร https://www.youtube.com/live/VZZ3VCt8NoM?si=uClDjUrX64Oe5kWD
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • นอกจาก “แร่หายาก” 7 ชนิด ที่จีนใช้เป็นอาวุธในการตอบโต้ทรัมป์ จีนยังได้ประกาศยกเลิกการสั่งเนื้อวัวจากสหรัฐ และหันไปซื้อจากออสเตรเลียสูงถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    แร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งจีนผลิตได้ประมาณ 70% ของโลก ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยแร่หายากทั้ง 7 ชนิด ได้แก่:

    Samarium (ซาแมเรียม) ใช้ในแม่เหล็ก (magnets), เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (nuclear reactors), และการรักษามะเร็ง (cancer treatments)

    Gadolinium (แกโดลิเนียม) ใช้ในตัวแทนความคมชัดของ MRI (MRI contrast agents), การป้องกันรังสีนิวเคลียร์ (nuclear shielding), และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics)

    Terbium (เทอร์เบียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในระบบแสงสว่าง (phosphors in lighting), จอแสดงผล (displays), และการผลิตแม่เหล็ก (magnet production)

    Dysprosium (ดิสโพรเซียม) ใช้ในแม่เหล็กประสิทธิภาพสูงสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (high-performance magnets for electric vehicles) และกังหันลม (wind turbines)

    Lutetium (ลูทีเซียม) ใช้ในการถ่ายภาพทางการแพทย์ (medical imaging), การรักษามะเร็ง (cancer therapy), และตัวเร่งปฏิกิริยา (catalysts)

    Scandium (สแกนเดียม) ใช้ในเพิ่มความแข็งแรงในโลหะผสมอะลูมิเนียมสำหรับการบินและอวกาศ (enhances strength in aluminum alloys for aerospace) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics)

    Yttrium (อิตเทรียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในไฟ LED (phosphors in LEDs), เลเซอร์ (lasers), และตัวนำยิ่งยวด (superconductors)

    นอกจากนี้ จีนเพิ่งลงนามข้อตกลงกับออสเตรเลียในการนำเข้าเนื้อวัวมูลค่า 2,500 ล้านเหรียญ แต่ราคาเนื้อวัวของออสเตรเลียมีราคาแพงกว่าเนื้อวัวที่นำเข้าจากสหรัฐ คงต้องติดตามดูต่อไปว่าจีนจะสามารถรักษาราคาเนื้อวัวในประเทศให้อนู่ในระดับที่ไม่กระทบต่อประชาชนได้หรือไม่
    นอกจาก “แร่หายาก” 7 ชนิด ที่จีนใช้เป็นอาวุธในการตอบโต้ทรัมป์ จีนยังได้ประกาศยกเลิกการสั่งเนื้อวัวจากสหรัฐ และหันไปซื้อจากออสเตรเลียสูงถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งจีนผลิตได้ประมาณ 70% ของโลก ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยแร่หายากทั้ง 7 ชนิด ได้แก่: 👉Samarium (ซาแมเรียม) ใช้ในแม่เหล็ก (magnets), เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (nuclear reactors), และการรักษามะเร็ง (cancer treatments) 👉Gadolinium (แกโดลิเนียม) ใช้ในตัวแทนความคมชัดของ MRI (MRI contrast agents), การป้องกันรังสีนิวเคลียร์ (nuclear shielding), และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics) 👉Terbium (เทอร์เบียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในระบบแสงสว่าง (phosphors in lighting), จอแสดงผล (displays), และการผลิตแม่เหล็ก (magnet production) 👉Dysprosium (ดิสโพรเซียม) ใช้ในแม่เหล็กประสิทธิภาพสูงสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (high-performance magnets for electric vehicles) และกังหันลม (wind turbines) 👉Lutetium (ลูทีเซียม) ใช้ในการถ่ายภาพทางการแพทย์ (medical imaging), การรักษามะเร็ง (cancer therapy), และตัวเร่งปฏิกิริยา (catalysts) 👉Scandium (สแกนเดียม) ใช้ในเพิ่มความแข็งแรงในโลหะผสมอะลูมิเนียมสำหรับการบินและอวกาศ (enhances strength in aluminum alloys for aerospace) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics) 👉Yttrium (อิตเทรียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในไฟ LED (phosphors in LEDs), เลเซอร์ (lasers), และตัวนำยิ่งยวด (superconductors) นอกจากนี้ จีนเพิ่งลงนามข้อตกลงกับออสเตรเลียในการนำเข้าเนื้อวัวมูลค่า 2,500 ล้านเหรียญ แต่ราคาเนื้อวัวของออสเตรเลียมีราคาแพงกว่าเนื้อวัวที่นำเข้าจากสหรัฐ คงต้องติดตามดูต่อไปว่าจีนจะสามารถรักษาราคาเนื้อวัวในประเทศให้อนู่ในระดับที่ไม่กระทบต่อประชาชนได้หรือไม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 704 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก Argonne National Laboratory ได้พัฒนา PRO-AID ซึ่งเป็นระบบ AI ที่ช่วยตรวจสอบและบริหารจัดการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    PRO-AID: ระบบ AI สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
    - ใช้ AI ในการตรวจสอบสถานะของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบเรียลไทม์
    - สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและแจ้งเตือนปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
    - ช่วยให้โรงไฟฟ้าสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้

    การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมนิวเคลียร์
    - PRO-AID สามารถช่วยออกแบบและปรับปรุงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งใหม่และเก่า
    - ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางคณิตศาสตร์เพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำงานของโรงไฟฟ้า

    ผลกระทบต่อบุคลากรในอุตสาหกรรม
    - ระบบสามารถช่วยลดภาระงานของพนักงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องตรวจสอบข้อมูลจำนวนมาก
    - อาจช่วยลดความจำเป็นในการจ้างงานใหม่เมื่อพนักงานเกษียณ

    ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ความเสี่ยงของการใช้ AI ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
    - แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างเข้มงวด
    - อาจเกิดข้อผิดพลาดหากระบบ AI ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

    ผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรม
    - การนำ AI มาใช้แทนพนักงานบางตำแหน่ง อาจส่งผลต่อการจ้างงานในอนาคต
    - ต้องมีการวางแผนเพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่

    แนวโน้มการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมพลังงาน
    - อาจมีการนำ AI มาใช้ในโรงไฟฟ้าประเภทอื่น เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
    - เทคโนโลยี AI อาจช่วยให้การบริหารจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/government-funded-ai-tool-developed-to-help-monitor-and-manage-nuclear-reactors
    นักวิจัยจาก Argonne National Laboratory ได้พัฒนา PRO-AID ซึ่งเป็นระบบ AI ที่ช่วยตรวจสอบและบริหารจัดการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ PRO-AID: ระบบ AI สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ - ใช้ AI ในการตรวจสอบสถานะของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบเรียลไทม์ - สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและแจ้งเตือนปัญหาที่อาจเกิดขึ้น - ช่วยให้โรงไฟฟ้าสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ ✅ การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ - PRO-AID สามารถช่วยออกแบบและปรับปรุงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งใหม่และเก่า - ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางคณิตศาสตร์เพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำงานของโรงไฟฟ้า ✅ ผลกระทบต่อบุคลากรในอุตสาหกรรม - ระบบสามารถช่วยลดภาระงานของพนักงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องตรวจสอบข้อมูลจำนวนมาก - อาจช่วยลดความจำเป็นในการจ้างงานใหม่เมื่อพนักงานเกษียณ ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ความเสี่ยงของการใช้ AI ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ - แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างเข้มงวด - อาจเกิดข้อผิดพลาดหากระบบ AI ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ℹ️ ผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรม - การนำ AI มาใช้แทนพนักงานบางตำแหน่ง อาจส่งผลต่อการจ้างงานในอนาคต - ต้องมีการวางแผนเพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ℹ️ แนวโน้มการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมพลังงาน - อาจมีการนำ AI มาใช้ในโรงไฟฟ้าประเภทอื่น เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน - เทคโนโลยี AI อาจช่วยให้การบริหารจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/government-funded-ai-tool-developed-to-help-monitor-and-manage-nuclear-reactors
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอไฮโอได้พัฒนาแบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่ใช้รังสีจากกากนิวเคลียร์ในการผลิตไฟฟ้า โดยแบตเตอรี่นี้มีศักยภาพในการใช้งานในพื้นที่ที่มีรังสีสูง เช่น โรงเก็บกากนิวเคลียร์ หรือระบบสำรวจอวกาศและใต้น้ำ

    การทำงานของแบตเตอรี่:
    - ใช้คริสตัลชนิดพิเศษที่เรียกว่า Scintillator Crystals ซึ่งสามารถเปลี่ยนรังสีแกมมาให้กลายเป็นแสง
    - แสงที่เกิดขึ้นจะถูกเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าผ่านเซลล์แสงอาทิตย์

    การทดสอบวัสดุ:
    - ทดสอบกับวัสดุที่มีรังสี เช่น Cesium-137 และ Cobalt-60
    - Cesium-137 ผลิตไฟฟ้าได้ 288 นาโนวัตต์ ส่วน Cobalt-60 ผลิตไฟฟ้าได้ 1.5 ไมโครวัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับเซ็นเซอร์ขนาดเล็ก

    ความปลอดภัย:
    - แบตเตอรี่ไม่มีวัสดุกัมมันตรังสีในตัว ทำให้ปลอดภัยต่อการสัมผัส

    การพัฒนาในอนาคต:
    - นักวิจัยเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้สามารถขยายขนาดเพื่อผลิตไฟฟ้าในปริมาณมากขึ้น
    - การผลิตในระดับอุตสาหกรรมอาจมีค่าใช้จ่ายสูง แต่มีศักยภาพในการใช้งานระยะยาวโดยไม่ก่อมลพิษ

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ความท้าทายด้านการผลิต:
    - การผลิตแบตเตอรี่ในระดับอุตสาหกรรมอาจมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องการการพัฒนาเพิ่มเติม

    การใช้งานในพื้นที่เฉพาะ:
    - แบตเตอรี่นี้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีรังสีสูงเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป

    https://www.neowin.net/news/scientists-create-new-battery-powered-by-chernobyl-like-nuclear-wastelands-and-light/
    นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอไฮโอได้พัฒนาแบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่ใช้รังสีจากกากนิวเคลียร์ในการผลิตไฟฟ้า โดยแบตเตอรี่นี้มีศักยภาพในการใช้งานในพื้นที่ที่มีรังสีสูง เช่น โรงเก็บกากนิวเคลียร์ หรือระบบสำรวจอวกาศและใต้น้ำ ✅ การทำงานของแบตเตอรี่: - ใช้คริสตัลชนิดพิเศษที่เรียกว่า Scintillator Crystals ซึ่งสามารถเปลี่ยนรังสีแกมมาให้กลายเป็นแสง - แสงที่เกิดขึ้นจะถูกเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าผ่านเซลล์แสงอาทิตย์ ✅ การทดสอบวัสดุ: - ทดสอบกับวัสดุที่มีรังสี เช่น Cesium-137 และ Cobalt-60 - Cesium-137 ผลิตไฟฟ้าได้ 288 นาโนวัตต์ ส่วน Cobalt-60 ผลิตไฟฟ้าได้ 1.5 ไมโครวัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับเซ็นเซอร์ขนาดเล็ก ✅ ความปลอดภัย: - แบตเตอรี่ไม่มีวัสดุกัมมันตรังสีในตัว ทำให้ปลอดภัยต่อการสัมผัส ✅ การพัฒนาในอนาคต: - นักวิจัยเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้สามารถขยายขนาดเพื่อผลิตไฟฟ้าในปริมาณมากขึ้น - การผลิตในระดับอุตสาหกรรมอาจมีค่าใช้จ่ายสูง แต่มีศักยภาพในการใช้งานระยะยาวโดยไม่ก่อมลพิษ == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความท้าทายด้านการผลิต: - การผลิตแบตเตอรี่ในระดับอุตสาหกรรมอาจมีค่าใช้จ่ายสูงและต้องการการพัฒนาเพิ่มเติม ⚠️ การใช้งานในพื้นที่เฉพาะ: - แบตเตอรี่นี้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีรังสีสูงเท่านั้น ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป https://www.neowin.net/news/scientists-create-new-battery-powered-by-chernobyl-like-nuclear-wastelands-and-light/
    WWW.NEOWIN.NET
    Scientists create new battery powered by Chernobyl-like nuclear wastelands and light
    Scientists recently developed a novel battery technology that can use atomic or nuclear waste to convert electricity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาตรการภาษีตอบโต้ที่ทรัมป์ประกาศ เป็นเพียงหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก ไทยและอาเซียนกำลังเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ต่อจากมิติการค้าการลงทุนซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน (แต่ผู้นำไทยก็ยังล่าช้า ไม่เท่าทัน) ในระยะกลาง มิติความมั่นคงจะกลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น และไทยต้องชิงเล่นบทบาทนำ เพื่อชดเชยกับความล่าช้าล้าหลังที่เราเสียตำแหน่งผู้นำอาเซียนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
    .
    ASEAN ZOPFAN และ Bangkok Treaty of 1995 ที่ประกาศให้อาเซียนเป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ต้องได้รับการ upgrade
    .
    “ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปรากฎการณ์ ‘กฎแห่งป่า’ (Law of the Jungle) อำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา (Might is Right) รัฐที่มีพลังอำนาจเหนือกว่าสามารถเข้ายึดครอง ครอบครอง และกำหนดชะตากรรมของรัฐที่มีพลังอำนาจอ่อนด้อยกว่า และเมื่อกลไกสถาบันระหว่างประเทศไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ประชาคมอาเซียนที่รัฐสมาชิกส่วนใหญ่เป็นประเทศขนาดเล็กและขนาดกลางมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึ่งพากฎกติกาแบบเสรีนิยม”
    .
    ในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่ ปิติ ศรีแสงนาม ชวนหาที่ทางของประชาคมอาเซียนในมิติความเป็นศูนย์กลางด้านความมั่นคงในภูมิภาค
    .
    อ่านได้ที่: https://www.the101.world/amidst-the-two-oceans-3/
    .
    “แน่นอนว่า เมื่อกฎแห่งป่าและพลังอำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา ฉากทัศน์ที่น่าห่วงกังวลมากที่สุดคือ แต่ละประเทศมุ่งหน้าพัฒนา ผลิต และสะสมเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มีศักยภาพทางการทหาร เพราะนี่คือแนวทางที่พิสูจน์มาแล้วในทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่าเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจในการต่อรองสูงสุด โดยเฉพาะเมื่อต้องต่อรองกับมหาอำนาจ”
    .
    “อาเซียนเองมีการลงนามและบังคับใช้ปฏิญญาว่าด้วยเขตสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลาง (Declaration on the Zone of Peace, Freedom, and Neutrality: ZOPFAN) มาตั้งแต่ปี 1971 เมื่อไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ (สมาชิกอาเซียน ณ ขณะนั้น) เห็นการแทรกแซงกิจการภายในของ เวียดนาม ลาว และกัมพูชา โดยมหาอำนาจภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน และหลายประเทศในยุโรป จนลุกลามใหญ่โตกลายเป็นสงครามที่ล้างผลาญชีวิตคนจำนวนมาก และเมื่อการสะสมอาวุธนิวเคลียร์กลายเป็นปรากฏการณ์ที่นำความสุ่มเสี่ยงไปทั่วโลก อาเซียนโดยการผลักดันของประเทศไทยก็สามารถลงนามในสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Southeast Asia Nuclear Weapon-Free Zone: SEANWFZ) ได้สำเร็จในปี 1995”
    .
    “ข้อตกลงที่เอ่ยถึงนี้ถือเป็นความสำเร็จในอดีตที่อาเซียนต้องทบทวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยกำลังเดินหน้าเพื่อครอบครองเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เมียนมาและเวียดนามกำลังเดินหน้าเพื่อการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 2 แห่งแรกในภูมิภาค แน่นอนว่าด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสันติ เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน และคาดว่าทั้ง 2 ประเทศจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรัสเซีย”
    .
    “แน่นอนว่าเมื่อพิจารณามิติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติร่วมกับการสร้างและใช้งานโครงข่ายพลังงานอาเซียน (ASEAN Power Grid) อาเซียนจะมีความมั่นคงทางพลังงานสูงขึ้น แต่การมีเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เตาปฏิกรณ์ และการเสริมสร้างสารตั้งต้นของปฏิกิริยานิวเคลียร์ ล้วนแล้วแต่ทำให้ศักย์สงคราม (War Capability) ของประเทศนั้นๆ สูงขึ้น”
    .
    “ลองนึกถึงข้อจำกัดทางทรัพยากรมนุษย์ที่อาจต้องทำให้โรงงานเหล่านี้ดำเนินการโดยวิศวกรและทีมเทคนิคต่างชาติ ลงทุนโดยต่างชาติ และควบคุมตรวจสอบโดยต่างชาติ ร่วมกับเงินทุนที่มีจำกัด เช่น อาจสร้างเตาปฏิกรณ์ในประเทศ และระบบกำจัดกากของเสียจากเตาปฏิกรณ์ต้องส่งออกไปทำลายในต่างประเทศ เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความไม่สบายใจได้ว่า ประเทศอาเซียนจะกลายเป็นแหล่งส่งออกวัตถุดิบต้นน้ำสำหรับการประกอบอาวุธนิวเคลียร์ได้หรือไม่”
    .
    “ในวันที่ระเบียบโลกกำลังมีความซัดส่ายอย่างยิ่ง สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยเคยทำสำเร็จมาแล้วและต้องเร่งผลักดัน คือการคำนึงถึงว่าจะเป็นการดีหรือไม่ หากต้องมีการปรับปรุงแก้ไขสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) ให้ประเทศคู่เจรจาที่ต้องการเป็นมิตรและแสวงหาประโยชร์ร่วมกันอย่างยั่งยืนกับอาเซียนต้องยอมรับเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ของอาเซียนด้วย”
    .
    ภาพประกอบ: พิรุฬพร นามมูลน้อย
    มาตรการภาษีตอบโต้ที่ทรัมป์ประกาศ เป็นเพียงหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก ไทยและอาเซียนกำลังเผชิญกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ต่อจากมิติการค้าการลงทุนซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน (แต่ผู้นำไทยก็ยังล่าช้า ไม่เท่าทัน) ในระยะกลาง มิติความมั่นคงจะกลายเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น และไทยต้องชิงเล่นบทบาทนำ เพื่อชดเชยกับความล่าช้าล้าหลังที่เราเสียตำแหน่งผู้นำอาเซียนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา . ASEAN ZOPFAN และ Bangkok Treaty of 1995 ที่ประกาศให้อาเซียนเป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ต้องได้รับการ upgrade . “ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปรากฎการณ์ ‘กฎแห่งป่า’ (Law of the Jungle) อำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา (Might is Right) รัฐที่มีพลังอำนาจเหนือกว่าสามารถเข้ายึดครอง ครอบครอง และกำหนดชะตากรรมของรัฐที่มีพลังอำนาจอ่อนด้อยกว่า และเมื่อกลไกสถาบันระหว่างประเทศไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น ประชาคมอาเซียนที่รัฐสมาชิกส่วนใหญ่เป็นประเทศขนาดเล็กและขนาดกลางมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึ่งพากฎกติกาแบบเสรีนิยม” . ในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่ ปิติ ศรีแสงนาม ชวนหาที่ทางของประชาคมอาเซียนในมิติความเป็นศูนย์กลางด้านความมั่นคงในภูมิภาค . อ่านได้ที่: https://www.the101.world/amidst-the-two-oceans-3/ . “แน่นอนว่า เมื่อกฎแห่งป่าและพลังอำนาจกลายเป็นความถูกต้องในการกำหนดกติกา ฉากทัศน์ที่น่าห่วงกังวลมากที่สุดคือ แต่ละประเทศมุ่งหน้าพัฒนา ผลิต และสะสมเทคโนโลยีนิวเคลียร์ที่มีศักยภาพทางการทหาร เพราะนี่คือแนวทางที่พิสูจน์มาแล้วในทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่าเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจในการต่อรองสูงสุด โดยเฉพาะเมื่อต้องต่อรองกับมหาอำนาจ” . “อาเซียนเองมีการลงนามและบังคับใช้ปฏิญญาว่าด้วยเขตสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลาง (Declaration on the Zone of Peace, Freedom, and Neutrality: ZOPFAN) มาตั้งแต่ปี 1971 เมื่อไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ (สมาชิกอาเซียน ณ ขณะนั้น) เห็นการแทรกแซงกิจการภายในของ เวียดนาม ลาว และกัมพูชา โดยมหาอำนาจภายนอก ไม่ว่าจะเป็นสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน และหลายประเทศในยุโรป จนลุกลามใหญ่โตกลายเป็นสงครามที่ล้างผลาญชีวิตคนจำนวนมาก และเมื่อการสะสมอาวุธนิวเคลียร์กลายเป็นปรากฏการณ์ที่นำความสุ่มเสี่ยงไปทั่วโลก อาเซียนโดยการผลักดันของประเทศไทยก็สามารถลงนามในสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Southeast Asia Nuclear Weapon-Free Zone: SEANWFZ) ได้สำเร็จในปี 1995” . “ข้อตกลงที่เอ่ยถึงนี้ถือเป็นความสำเร็จในอดีตที่อาเซียนต้องทบทวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยกำลังเดินหน้าเพื่อครอบครองเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เมียนมาและเวียดนามกำลังเดินหน้าเพื่อการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 2 แห่งแรกในภูมิภาค แน่นอนว่าด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสันติ เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน และคาดว่าทั้ง 2 ประเทศจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรัสเซีย” . “แน่นอนว่าเมื่อพิจารณามิติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติร่วมกับการสร้างและใช้งานโครงข่ายพลังงานอาเซียน (ASEAN Power Grid) อาเซียนจะมีความมั่นคงทางพลังงานสูงขึ้น แต่การมีเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เตาปฏิกรณ์ และการเสริมสร้างสารตั้งต้นของปฏิกิริยานิวเคลียร์ ล้วนแล้วแต่ทำให้ศักย์สงคราม (War Capability) ของประเทศนั้นๆ สูงขึ้น” . “ลองนึกถึงข้อจำกัดทางทรัพยากรมนุษย์ที่อาจต้องทำให้โรงงานเหล่านี้ดำเนินการโดยวิศวกรและทีมเทคนิคต่างชาติ ลงทุนโดยต่างชาติ และควบคุมตรวจสอบโดยต่างชาติ ร่วมกับเงินทุนที่มีจำกัด เช่น อาจสร้างเตาปฏิกรณ์ในประเทศ และระบบกำจัดกากของเสียจากเตาปฏิกรณ์ต้องส่งออกไปทำลายในต่างประเทศ เหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความไม่สบายใจได้ว่า ประเทศอาเซียนจะกลายเป็นแหล่งส่งออกวัตถุดิบต้นน้ำสำหรับการประกอบอาวุธนิวเคลียร์ได้หรือไม่” . “ในวันที่ระเบียบโลกกำลังมีความซัดส่ายอย่างยิ่ง สิ่งหนึ่งที่ประเทศไทยเคยทำสำเร็จมาแล้วและต้องเร่งผลักดัน คือการคำนึงถึงว่าจะเป็นการดีหรือไม่ หากต้องมีการปรับปรุงแก้ไขสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) ให้ประเทศคู่เจรจาที่ต้องการเป็นมิตรและแสวงหาประโยชร์ร่วมกันอย่างยั่งยืนกับอาเซียนต้องยอมรับเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ของอาเซียนด้วย” . ภาพประกอบ: พิรุฬพร นามมูลน้อย
    WWW.THE101.WORLD
    Amidst the Two Oceans ตอนที่ 3: ประชาคมอาเซียนในระเบียบโลกใหม่
    ปิติ ศรีแสงนาม ชวนหาที่ทางของประชาคมอาเซียนในมิติความเป็นศูนย์กลางด้านความมั่นคงในภูมิภาค ในวันที่โลกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระเบียบโลกใหม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 953 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sunbird คือจรวดที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันซึ่งสามารถลดระยะเวลาเดินทางในอวกาศได้อย่างมหาศาล เช่น การเดินทางไปดาวพลูโตในเวลาเพียง 4 ปี เทียบกับกว่า 10 ปีของจรวดเคมีทั่วไป แม้โครงการนี้จะเผชิญความท้าทายในด้านการจัดหา Helium-3 และข้อกำหนดด้านความปลอดภัย แต่หากสำเร็จ Sunbird อาจเป็นจรวดที่เปลี่ยนแปลงอนาคตของการสำรวจอวกาศ

    ขับเคลื่อนด้วย Dual Direct Fusion Drive (DDFD)
    - DDFD คือเครื่องยนต์นิวเคลียร์ฟิวชันขนาดกะทัดรัดที่ให้พลังงานทั้งในรูปแบบ แรงขับเคลื่อน (Thrust) และ พลังงานไฟฟ้า
    - ระบบนี้ใช้การหลอมรวม Helium-3 และ Deuterium เพื่อปล่อยพลังงาน และแตกต่างจากระบบฟิวชันทั่วไปที่แปลงพลังงานเป็นไฟฟ้าก่อนจะสร้างแรงขับ

    ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเทคโนโลยีปัจจุบัน
    - Sunbird มีค่า specific impulse สูงถึง 10,000–15,000 วินาที ซึ่งแสดงถึงการใช้เชื้อเพลิงที่ประหยัดกว่าและรองรับภารกิจระยะยาว
    - ตัวเครื่องยังสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 2 เมกะวัตต์ เพื่อใช้สำหรับระบบบนยานอวกาศหรือเครื่องมือวิทยาศาสตร์

    ลดเวลาเดินทางในอวกาศได้อย่างมหาศาล
    - จรวด Sunbird สามารถนำยานน้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม (เทียบเท่าผู้ใหญ่ 12 คน) ไปยังดาวพลูโตได้ใน 4 ปี
    - ยังสามารถลดเวลาเดินทางไปดาวอังคารลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งอาจมีบทบาทสำคัญต่อภารกิจสำรวจในอนาคต

    == ความท้าทายของโครงการ ==
    การควบคุมปฏิกิริยาฟิวชัน
    - การทำให้นิวเคลียร์ฟิวชันเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนและควบคุมได้ในสภาพแวดล้อมที่มีแรงดันต่ำของอวกาศยังเป็นเรื่องซับซ้อน

    การจัดหา Helium-3
    - Helium-3 เป็นธาตุหายากบนโลกและต้องสกัดจากดินผิวดวงจันทร์หรือแหล่งในอวกาศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก

    ความปลอดภัยและกฎระเบียบ
    - การใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในอวกาศต้องมีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด และต้องผ่านข้อกำหนดทางกฎหมายระหว่างประเทศ

    Pulsar Fusion มีแผนจะเริ่มทดสอบเทคโนโลยีหลักในปี 2025 และอาจมีการสาธิตการใช้งานในวงโคจร (in-orbit) ภายในปี 2027 ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าจรวดนี้สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับการสำรวจอวกาศได้จริงหรือไม่

    https://www.neowin.net/news/nuclear-rocket-pulsar-fusion-sunbird-could-fly-12-grown-men-to-pluto-in-just-four-years/
    Sunbird คือจรวดที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันซึ่งสามารถลดระยะเวลาเดินทางในอวกาศได้อย่างมหาศาล เช่น การเดินทางไปดาวพลูโตในเวลาเพียง 4 ปี เทียบกับกว่า 10 ปีของจรวดเคมีทั่วไป แม้โครงการนี้จะเผชิญความท้าทายในด้านการจัดหา Helium-3 และข้อกำหนดด้านความปลอดภัย แต่หากสำเร็จ Sunbird อาจเป็นจรวดที่เปลี่ยนแปลงอนาคตของการสำรวจอวกาศ ✅ ขับเคลื่อนด้วย Dual Direct Fusion Drive (DDFD) - DDFD คือเครื่องยนต์นิวเคลียร์ฟิวชันขนาดกะทัดรัดที่ให้พลังงานทั้งในรูปแบบ แรงขับเคลื่อน (Thrust) และ พลังงานไฟฟ้า - ระบบนี้ใช้การหลอมรวม Helium-3 และ Deuterium เพื่อปล่อยพลังงาน และแตกต่างจากระบบฟิวชันทั่วไปที่แปลงพลังงานเป็นไฟฟ้าก่อนจะสร้างแรงขับ ✅ ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเทคโนโลยีปัจจุบัน - Sunbird มีค่า specific impulse สูงถึง 10,000–15,000 วินาที ซึ่งแสดงถึงการใช้เชื้อเพลิงที่ประหยัดกว่าและรองรับภารกิจระยะยาว - ตัวเครื่องยังสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 2 เมกะวัตต์ เพื่อใช้สำหรับระบบบนยานอวกาศหรือเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ✅ ลดเวลาเดินทางในอวกาศได้อย่างมหาศาล - จรวด Sunbird สามารถนำยานน้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม (เทียบเท่าผู้ใหญ่ 12 คน) ไปยังดาวพลูโตได้ใน 4 ปี - ยังสามารถลดเวลาเดินทางไปดาวอังคารลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งอาจมีบทบาทสำคัญต่อภารกิจสำรวจในอนาคต == ความท้าทายของโครงการ == ✅ การควบคุมปฏิกิริยาฟิวชัน - การทำให้นิวเคลียร์ฟิวชันเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนและควบคุมได้ในสภาพแวดล้อมที่มีแรงดันต่ำของอวกาศยังเป็นเรื่องซับซ้อน ✅ การจัดหา Helium-3 - Helium-3 เป็นธาตุหายากบนโลกและต้องสกัดจากดินผิวดวงจันทร์หรือแหล่งในอวกาศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ✅ ความปลอดภัยและกฎระเบียบ - การใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ในอวกาศต้องมีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด และต้องผ่านข้อกำหนดทางกฎหมายระหว่างประเทศ Pulsar Fusion มีแผนจะเริ่มทดสอบเทคโนโลยีหลักในปี 2025 และอาจมีการสาธิตการใช้งานในวงโคจร (in-orbit) ภายในปี 2027 ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าจรวดนี้สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับการสำรวจอวกาศได้จริงหรือไม่ https://www.neowin.net/news/nuclear-rocket-pulsar-fusion-sunbird-could-fly-12-grown-men-to-pluto-in-just-four-years/
    WWW.NEOWIN.NET
    Nuclear rocket Pulsar Fusion Sunbird could fly 12 grown men to Pluto in just four years
    Pulsar Fusion's Sunbird project was shown off recently, which will be a nuclear-powered rocket concept capable of carrying up to 12 grown men to Pluto in just four years.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทุกประเภท 10% และเพิ่มภาษีสินค้าจาก 60 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จีนโดนหนักสุดด้วยภาษีนำเข้ารวมกว่า 54% หุ้นเทคโนโลยีตกหนัก โดยเฉพาะ Apple, Nvidia และ Tesla นักวิเคราะห์เตือนว่าการขึ้นภาษีครั้งนี้อาจนำไปสู่ สงครามการค้าครั้งใหญ่ และราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจพุ่งสูงขึ้น

    เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
    - นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้อาจกระตุ้นสงครามการค้าแบบตอบโต้
    - มีการคาดการณ์ว่าหลายประเทศ อาจต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในปีหน้า

    ตลาดหุ้นร่วงหนัก หลังข่าวภาษีใหม่ประกาศออกมา
    - หุ้นเทคโนโลยีร่วงอย่างหนัก โดย Apple ลดลง 9% และ Nasdaq Composite ลดลงกว่า 5%
    - Microsoft และ Alphabet ลดลงประมาณ 2% ขณะที่ Nvidia และ Tesla ลดลง 5%

    ภาษีสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี—ชิปคอมพิวเตอร์รอดจากภาษี แต่เพียงชั่วคราว
    - ชิปคอมพิวเตอร์และทองแดง ยังคงได้รับการยกเว้น แต่คาดว่า ภาษีสำหรับเซมิคอนดักเตอร์จะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง
    - หุ้นของ Marvell, Arm และ Micron ลดลงกว่า 8% ขณะที่ AMD ลดลง 4%

    ภาษีสูงสุดสำหรับประเทศคู่ค้า—จีนโดนหนักสุด
    - สินค้าจากจีนจะต้องเผชิญกับ อัตราภาษีรวมกว่า 54% ซึ่งสูงกว่าภาษีนำเข้าเดิมอย่างมาก
    - ประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ เวียดนาม (46%) และกัมพูชา (49%)

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีและผู้บริโภค
    - สินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน, แล็ปท็อป, ทีวี และคอมพิวเตอร์ อาจมีราคาสูงขึ้น
    - Amazon อาจได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจาก ทรัมป์เตรียมยกเลิกข้อยกเว้นสินค้าราคาต่ำกว่า $800 ที่เคยได้รับการปลอดภาษี

    การตอบโต้จาก EU และจีน
    - ทั้ง สหภาพยุโรปและจีนเตรียมดำเนินมาตรการตอบโต้ แต่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประเทศอื่น ยอมรับการขึ้นภาษีเป็นมาตรฐานใหม่

    https://www.techspot.com/news/107402-trump-tariffs-could-prove-nuclear-bomb-international-trade.html
    ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทุกประเภท 10% และเพิ่มภาษีสินค้าจาก 60 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จีนโดนหนักสุดด้วยภาษีนำเข้ารวมกว่า 54% หุ้นเทคโนโลยีตกหนัก โดยเฉพาะ Apple, Nvidia และ Tesla นักวิเคราะห์เตือนว่าการขึ้นภาษีครั้งนี้อาจนำไปสู่ สงครามการค้าครั้งใหญ่ และราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจพุ่งสูงขึ้น ✅ เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย - นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้อาจกระตุ้นสงครามการค้าแบบตอบโต้ - มีการคาดการณ์ว่าหลายประเทศ อาจต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในปีหน้า ✅ ตลาดหุ้นร่วงหนัก หลังข่าวภาษีใหม่ประกาศออกมา - หุ้นเทคโนโลยีร่วงอย่างหนัก โดย Apple ลดลง 9% และ Nasdaq Composite ลดลงกว่า 5% - Microsoft และ Alphabet ลดลงประมาณ 2% ขณะที่ Nvidia และ Tesla ลดลง 5% ✅ ภาษีสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี—ชิปคอมพิวเตอร์รอดจากภาษี แต่เพียงชั่วคราว - ชิปคอมพิวเตอร์และทองแดง ยังคงได้รับการยกเว้น แต่คาดว่า ภาษีสำหรับเซมิคอนดักเตอร์จะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง - หุ้นของ Marvell, Arm และ Micron ลดลงกว่า 8% ขณะที่ AMD ลดลง 4% ✅ ภาษีสูงสุดสำหรับประเทศคู่ค้า—จีนโดนหนักสุด - สินค้าจากจีนจะต้องเผชิญกับ อัตราภาษีรวมกว่า 54% ซึ่งสูงกว่าภาษีนำเข้าเดิมอย่างมาก - ประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ เวียดนาม (46%) และกัมพูชา (49%) ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีและผู้บริโภค - สินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน, แล็ปท็อป, ทีวี และคอมพิวเตอร์ อาจมีราคาสูงขึ้น - Amazon อาจได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจาก ทรัมป์เตรียมยกเลิกข้อยกเว้นสินค้าราคาต่ำกว่า $800 ที่เคยได้รับการปลอดภาษี ✅ การตอบโต้จาก EU และจีน - ทั้ง สหภาพยุโรปและจีนเตรียมดำเนินมาตรการตอบโต้ แต่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประเทศอื่น ยอมรับการขึ้นภาษีเป็นมาตรฐานใหม่ https://www.techspot.com/news/107402-trump-tariffs-could-prove-nuclear-bomb-international-trade.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump's tariffs could prove to be a "nuclear bomb" on international trade and tech imports, experts warn
    This aggressive escalation of Trump's trade wars could mean higher prices on virtually every product Americans purchase from overseas. Worse, analysts predict the tariffs could trigger recessions...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 508 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตวิศวกร Apple Kong Long และ Wang Huanyu ตัดสินใจกลับจีนเพื่อเข้าร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดย Kong ได้รับตำแหน่งเป็นนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Fudan และ Wang ร่วมงานกับมหาวิทยาลัย Huazhong แนวโน้มนี้เกิดขึ้นขณะที่ จีนเร่งพัฒนาการผลิตชิปในประเทศ และสหรัฐฯ มีมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีให้จีน

    ใครคือ Kong Long—อดีตวิศวกร Apple ที่กลับจีน?
    - Kong Long เคยทำงานด้าน ชิปไร้สาย (Wireless Semiconductor) ที่ Apple
    - ล่าสุดเข้าร่วมเป็น นักวิจัยและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย Fudan ในด้าน การออกแบบวงจรรวม RF และคอมพิวเตอร์ดิจิตอล-อนาล็อกแบบไฮบริด

    แนวโน้มวิศวกรจีนกลับประเทศเพิ่มขึ้น
    - หลายปีที่ผ่านมา วิศวกรที่ทำงานในสหรัฐฯ เริ่มกลับจีน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปของประเทศ
    - นโยบาย ควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ทำให้จีนต้องเร่งพึ่งพาความสามารถภายในประเทศ

    การศึกษาของ Kong Long บ่งบอกถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยี
    - จบการศึกษาด้าน Microelectronics จาก Shanghai Jiao Tong University
    - ได้ ปริญญาเอกด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจาก University of California, Los Angeles (UCLA)
    - เคยทำงานที่ Oracle ในด้าน Mixed-Signal IC Design ก่อนเข้าสู่วงการเซมิคอนดักเตอร์ที่ Apple

    อดีตวิศวกร Apple อีกคนก็เพิ่งกลับจีนเพื่อเข้าร่วมการพัฒนาเทคโนโลยีชิป
    - Wang Huanyu ผู้พัฒนา ชิป Apple M3 และ M4 ลาออกจาก Apple เพื่อร่วมงานกับ School of Integrated Circuits ที่ Huazhong University of Science and Technology
    - การกลับมาของวิศวกรระดับสูงอาจเป็น สัญญาณว่าจีนกำลังเร่งขยายทีมงานภายในประเทศ

    ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนอาจมีผลต่อการตัดสินใจของวิศวกรเหล่านี้
    - นักวิเคราะห์มองว่า แรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้วิศวกรจีนที่ทำงานในบริษัทต่างชาติ ตัดสินใจลาออกและกลับประเทศ
    - อาจเป็นผลจากความตึงเครียดของ นโยบายป้องกันจีนจากการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง

    https://wccftech.com/ex-apple-engineer-returns-to-china-after-seven-years-to-fulfill-chipmaking-ambitions/
    อดีตวิศวกร Apple Kong Long และ Wang Huanyu ตัดสินใจกลับจีนเพื่อเข้าร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดย Kong ได้รับตำแหน่งเป็นนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Fudan และ Wang ร่วมงานกับมหาวิทยาลัย Huazhong แนวโน้มนี้เกิดขึ้นขณะที่ จีนเร่งพัฒนาการผลิตชิปในประเทศ และสหรัฐฯ มีมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีให้จีน ✅ ใครคือ Kong Long—อดีตวิศวกร Apple ที่กลับจีน? - Kong Long เคยทำงานด้าน ชิปไร้สาย (Wireless Semiconductor) ที่ Apple - ล่าสุดเข้าร่วมเป็น นักวิจัยและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย Fudan ในด้าน การออกแบบวงจรรวม RF และคอมพิวเตอร์ดิจิตอล-อนาล็อกแบบไฮบริด ✅ แนวโน้มวิศวกรจีนกลับประเทศเพิ่มขึ้น - หลายปีที่ผ่านมา วิศวกรที่ทำงานในสหรัฐฯ เริ่มกลับจีน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปของประเทศ - นโยบาย ควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ทำให้จีนต้องเร่งพึ่งพาความสามารถภายในประเทศ ✅ การศึกษาของ Kong Long บ่งบอกถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยี - จบการศึกษาด้าน Microelectronics จาก Shanghai Jiao Tong University - ได้ ปริญญาเอกด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจาก University of California, Los Angeles (UCLA) - เคยทำงานที่ Oracle ในด้าน Mixed-Signal IC Design ก่อนเข้าสู่วงการเซมิคอนดักเตอร์ที่ Apple ✅ อดีตวิศวกร Apple อีกคนก็เพิ่งกลับจีนเพื่อเข้าร่วมการพัฒนาเทคโนโลยีชิป - Wang Huanyu ผู้พัฒนา ชิป Apple M3 และ M4 ลาออกจาก Apple เพื่อร่วมงานกับ School of Integrated Circuits ที่ Huazhong University of Science and Technology - การกลับมาของวิศวกรระดับสูงอาจเป็น สัญญาณว่าจีนกำลังเร่งขยายทีมงานภายในประเทศ ✅ ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนอาจมีผลต่อการตัดสินใจของวิศวกรเหล่านี้ - นักวิเคราะห์มองว่า แรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้วิศวกรจีนที่ทำงานในบริษัทต่างชาติ ตัดสินใจลาออกและกลับประเทศ - อาจเป็นผลจากความตึงเครียดของ นโยบายป้องกันจีนจากการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง https://wccftech.com/ex-apple-engineer-returns-to-china-after-seven-years-to-fulfill-chipmaking-ambitions/
    WCCFTECH.COM
    Former Apple Chip Engineer Returns To China And Joins The Country’s Silicon-Manufacturing Ambitions After Seven Years Of Working With The Trillion-Dollar Firm
    After working with Apple for seven years, a chip engineer has departed back to China, where he works on fulfilling the country’s chipmaking goals
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts