• 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar

    Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น
    เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it

    WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe

    กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก
    ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban

    Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender

    NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล
    NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox

    GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini
    OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week

    จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia
    Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage

    Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ
    Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads

    Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์
    นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up

    Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial
    Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences

    รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE
    เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ
    https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends

    Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ
    Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is

    Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่
    สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy

    ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p
    ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs

    รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด
    ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี
    https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review

    Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่
    Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it

    ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI
    Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี
    อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี
    นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation

    อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก
    นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ
    https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag

    FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่
    เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life

    Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด
    รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
    https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review

    FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้
    อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks

    ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่
    บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน
    https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack

    Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ
    รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk

    IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป
    บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ
    https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward

    ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI
    ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it

    ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว
    รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง
    https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands

    OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา”
    OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls

    React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง
    เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure

    SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้
    SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy
    https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy

    Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco
    แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด
    https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close

    X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป
    แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition

    Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว
    Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it

    มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย
    https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps

    AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT
    มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found

    Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros
    Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why

    แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้
    มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar 👓 Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it 🛡️ WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe 🌍 กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban 💻 Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่ ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender 📧 NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox 🤓 GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week ⚡ จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage 🚗 Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads 👓 Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์ นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up 🕶️ Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ 🔗 https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends ⌚ Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is 💿 Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่ สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy 🏥 ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs 🧹 รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review 📱 Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่ Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it 🧑‍💻 ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus 🌐 เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🎬 รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation 🎥 อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ 🔗 https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag 🛡️ FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่ เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life 🔋 Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review 🚁 FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้ อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks 🌱 ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่ บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack ⚠️ Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk 🤖 IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward 🎧 ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it 🏗️ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands 📱 OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา” OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls 🛡️ React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure 🕯️ SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้ SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy 🔗 https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy 🎮 Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด 🔗 https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close 💸 X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition 💻 Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it 📱 มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้ มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps 🤖 AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found 📺 Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why 🔋 แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้ มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: Android Canary Build ช่วยย้ายไป iPhone ได้ง่ายขึ้น

    Google และ Apple กำลังร่วมมือกันเพื่อทำให้การย้ายข้อมูลจาก Android ไป iPhone ง่ายขึ้น โดยมีการทดสอบใน Android Canary build สำหรับ Pixel ขณะที่ iOS 26.2 กำลังจะเปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง แต่ยังไม่รวมการย้ายข้อมูลกลับไป Android

    Google ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Android Canary 2512 build สำหรับ Pixel ที่ทำให้การย้ายข้อมูลไปยัง iPhone เป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยฟีเจอร์นี้จะทำงานในขั้นตอนการตั้งค่าเครื่องใหม่ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถโอนย้ายไฟล์ส่วนตัวได้อย่างราบรื่น ถือเป็นความร่วมมือที่น่าสนใจระหว่าง Google และ Apple ในการเพิ่มความเข้ากันได้ระหว่างสองระบบ

    iOS 26.2 ใกล้เปิดตัว แต่ยังไม่มีฟีเจอร์ย้ายข้อมูล
    แม้ว่า Android จะเริ่มทดสอบฟีเจอร์นี้แล้ว แต่ iOS 26.2 ที่กำลังจะเปิดตัวในสัปดาห์นี้ยังไม่รวมการย้ายข้อมูลจาก iPhone ไป Android โดย Apple เพิ่งปล่อย Release Candidate (RC) ที่สอง ซึ่งบ่งชี้ว่าเวอร์ชันเต็มใกล้จะพร้อมใช้งานแล้ว

    ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26.2
    iOS 26.2 มาพร้อมการปรับปรุงหลายอย่าง เช่น
    Podcast app: เพิ่มระบบ chapter อัตโนมัติ, ฟีเจอร์ “From This Episode” สำหรับเข้าถึงลิงก์ที่แชร์ในตอนนั้น
    Apple News app: เพิ่มหมวดใหม่ ได้แก่ Sports, Puzzles, Politics, Food
    Apple Games app: ปรับปรุงการกรองเกม, เพิ่มการอัปเดตคะแนนแบบเรียลไทม์, รองรับ controller ดีขึ้น
    CarPlay และ Lock Screen: สามารถลบ pinned messages และปรับแต่งนาฬิกาด้วย Liquid Glass slider
    Reminders app: ตั้งปลุกพร้อมตัวเลือก snooze หรือ mark as complete
    Sleep Score: เปลี่ยนระดับสูงสุดจาก “Excellent” เป็น “Very High”
    AirDrop และ EU users: แชร์ไฟล์กับผู้ใช้ที่ไม่อยู่ใน contact ได้ 30 วัน และเลือก digital assistant อื่นแทน Siri ได้

    ความหมายต่อผู้ใช้
    การร่วมมือกันครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของทั้งสองบริษัทในการทำให้ ecosystem ของตนเปิดกว้างขึ้น แม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็เป็นสัญญาณว่าการย้ายข้ามแพลตฟอร์มจะง่ายขึ้นในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ใช้ที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนสมาร์ทโฟน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน Android Canary Build
    ทำให้การย้ายข้อมูลจาก Pixel ไป iPhone ง่ายขึ้น
    ทำงานในขั้นตอนการตั้งค่าเครื่องใหม่

    สถานะของ iOS 26.2
    ใกล้เปิดตัวพร้อม Release Candidate ที่สอง
    ยังไม่รวมฟีเจอร์ย้ายข้อมูลไป Android

    ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26.2
    Podcast app เพิ่ม chapter และลิงก์จากตอน
    Apple News เพิ่ม 4 หมวดใหม่
    Apple Games ปรับปรุงระบบกรองและ controller
    CarPlay, Lock Screen และ Reminders ได้ฟีเจอร์ใหม่
    Sleep Score เปลี่ยนระดับสูงสุด
    EU users เลือก digital assistant อื่นแทน Siri ได้

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ฟีเจอร์ย้ายข้อมูลยังไม่พร้อมใน iOS 26.2
    การทำงานร่วมกันของ Quick Share และ AirDrop อาจถูก Apple ปิดช่องทางได้
    ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างอาจใช้ได้เฉพาะในบางภูมิภาค เช่น EU

    https://wccftech.com/a-new-android-build-makes-it-a-breeze-to-switch-to-an-iphone-as-ios-26-2-nears-release/
    📱 ข่าวใหญ่: Android Canary Build ช่วยย้ายไป iPhone ได้ง่ายขึ้น Google และ Apple กำลังร่วมมือกันเพื่อทำให้การย้ายข้อมูลจาก Android ไป iPhone ง่ายขึ้น โดยมีการทดสอบใน Android Canary build สำหรับ Pixel ขณะที่ iOS 26.2 กำลังจะเปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง แต่ยังไม่รวมการย้ายข้อมูลกลับไป Android Google ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Android Canary 2512 build สำหรับ Pixel ที่ทำให้การย้ายข้อมูลไปยัง iPhone เป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยฟีเจอร์นี้จะทำงานในขั้นตอนการตั้งค่าเครื่องใหม่ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถโอนย้ายไฟล์ส่วนตัวได้อย่างราบรื่น ถือเป็นความร่วมมือที่น่าสนใจระหว่าง Google และ Apple ในการเพิ่มความเข้ากันได้ระหว่างสองระบบ ⚡ iOS 26.2 ใกล้เปิดตัว แต่ยังไม่มีฟีเจอร์ย้ายข้อมูล แม้ว่า Android จะเริ่มทดสอบฟีเจอร์นี้แล้ว แต่ iOS 26.2 ที่กำลังจะเปิดตัวในสัปดาห์นี้ยังไม่รวมการย้ายข้อมูลจาก iPhone ไป Android โดย Apple เพิ่งปล่อย Release Candidate (RC) ที่สอง ซึ่งบ่งชี้ว่าเวอร์ชันเต็มใกล้จะพร้อมใช้งานแล้ว 🎧 ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26.2 iOS 26.2 มาพร้อมการปรับปรุงหลายอย่าง เช่น 🎗️ Podcast app: เพิ่มระบบ chapter อัตโนมัติ, ฟีเจอร์ “From This Episode” สำหรับเข้าถึงลิงก์ที่แชร์ในตอนนั้น 🎗️ Apple News app: เพิ่มหมวดใหม่ ได้แก่ Sports, Puzzles, Politics, Food 🎗️ Apple Games app: ปรับปรุงการกรองเกม, เพิ่มการอัปเดตคะแนนแบบเรียลไทม์, รองรับ controller ดีขึ้น 🎗️ CarPlay และ Lock Screen: สามารถลบ pinned messages และปรับแต่งนาฬิกาด้วย Liquid Glass slider 🎗️ Reminders app: ตั้งปลุกพร้อมตัวเลือก snooze หรือ mark as complete 🎗️ Sleep Score: เปลี่ยนระดับสูงสุดจาก “Excellent” เป็น “Very High” 🎗️ AirDrop และ EU users: แชร์ไฟล์กับผู้ใช้ที่ไม่อยู่ใน contact ได้ 30 วัน และเลือก digital assistant อื่นแทน Siri ได้ 🌍 ความหมายต่อผู้ใช้ การร่วมมือกันครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของทั้งสองบริษัทในการทำให้ ecosystem ของตนเปิดกว้างขึ้น แม้จะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็เป็นสัญญาณว่าการย้ายข้ามแพลตฟอร์มจะง่ายขึ้นในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ใช้ที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนสมาร์ทโฟน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Android Canary Build ➡️ ทำให้การย้ายข้อมูลจาก Pixel ไป iPhone ง่ายขึ้น ➡️ ทำงานในขั้นตอนการตั้งค่าเครื่องใหม่ ✅ สถานะของ iOS 26.2 ➡️ ใกล้เปิดตัวพร้อม Release Candidate ที่สอง ➡️ ยังไม่รวมฟีเจอร์ย้ายข้อมูลไป Android ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26.2 ➡️ Podcast app เพิ่ม chapter และลิงก์จากตอน ➡️ Apple News เพิ่ม 4 หมวดใหม่ ➡️ Apple Games ปรับปรุงระบบกรองและ controller ➡️ CarPlay, Lock Screen และ Reminders ได้ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ Sleep Score เปลี่ยนระดับสูงสุด ➡️ EU users เลือก digital assistant อื่นแทน Siri ได้ ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ฟีเจอร์ย้ายข้อมูลยังไม่พร้อมใน iOS 26.2 ⛔ การทำงานร่วมกันของ Quick Share และ AirDrop อาจถูก Apple ปิดช่องทางได้ ⛔ ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างอาจใช้ได้เฉพาะในบางภูมิภาค เช่น EU https://wccftech.com/a-new-android-build-makes-it-a-breeze-to-switch-to-an-iphone-as-ios-26-2-nears-release/
    WCCFTECH.COM
    Android's Next Build Makes Switching to An iPhone Surprisingly Easy
    The new Pixel Canary build includes a Google-Apple device switchover collaboration, but Apple has yet to implement its part in the iOS 26.2.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA เปิดตัว CUDA Tile – จุดเปลี่ยนของ GPU Programming

    NVIDIA เปิดตัว CUDA Tile ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในซอฟต์แวร์ CUDA โดยใช้แนวคิด tile-based programming ทำให้การพัฒนา AI kernels ง่ายขึ้น และอาจลดความเป็น “กำแพงผูกขาด” ของ CUDA ตามที่ Jim Keller กล่าว แต่ก็ยังมีข้อถกเถียงว่าแท้จริงแล้วอาจยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับ NVIDIA

    NVIDIA ได้อัปเดต CUDA ครั้งใหญ่ด้วยการเปิดตัว CUDA Tile ซึ่งเปลี่ยนจากโมเดล SIMT แบบเดิมไปสู่ tile-based programming model พร้อมกับ Tile IR (Intermediate Representation) ที่มอง GPU เป็น tile processor สิ่งนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสที่ core logic โดยไม่ต้องจัดการกับรายละเอียดเชิงสถาปัตยกรรมของ GPU มากนัก

    Jim Keller มองว่า CUDA Moat อาจสิ้นสุด
    Jim Keller สถาปนิกชิปชื่อดัง แสดงความคิดเห็นว่า การใช้ tile-based approach ทำให้ การพอร์ตโค้ดจาก CUDA ไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น AMD หรือ Triton ง่ายขึ้น เนื่องจากแนวทางนี้เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมอยู่แล้ว การยกระดับ abstraction ยังช่วยลดความจำเป็นในการเขียนโค้ดที่เจาะจงกับสถาปัตยกรรม NVIDIA โดยตรง

    มุมมองอีกด้าน: CUDA ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
    แม้จะดูเหมือนว่า CUDA จะเปิดกว้างขึ้น แต่หลายคนมองว่า Tile IR ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับฮาร์ดแวร์ของ NVIDIA โดยเฉพาะ ซึ่งหมายความว่า แม้การพอร์ตโค้ดจะง่ายขึ้น แต่การใช้งานจริงบนแพลตฟอร์มอื่นยังคงซับซ้อนอยู่ การอัปเดตนี้จึงอาจเป็นการ “ล็อกอิน” นักพัฒนาให้อยู่ใน ecosystem ของ NVIDIA มากกว่า

    ผลกระทบต่ออนาคต AI และ GPU
    การทำให้ GPU programming ง่ายขึ้นจะช่วยให้นักพัฒนาจำนวนมากเข้าถึงการสร้าง AI workflows ได้โดยไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกด้านสถาปัตยกรรม GPU สิ่งนี้อาจเร่งการพัฒนา AI ในวงกว้าง แต่ก็ยังต้องจับตาว่า NVIDIA จะเปิดกว้างจริงหรือยังคงรักษา “moat” ของตนไว้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    CUDA Tile คืออะไร
    เปลี่ยนจาก SIMT ไปสู่ tile-based programming
    ใช้ Tile IR เพื่อจัดการ GPU เป็น tile processor
    ลดความซับซ้อนในการเขียนโค้ด GPU

    มุมมองของ Jim Keller
    การพอร์ตโค้ดไป AMD และ Triton จะง่ายขึ้น
    ยกระดับ abstraction ลดการเขียนโค้ดเฉพาะสถาปัตยกรรม

    ข้อดีต่อวงการ AI
    นักพัฒนาจำนวนมากเข้าถึง GPU programming ได้ง่ายขึ้น
    ลดความจำเป็นในการปรับแต่งเชิงลึก

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    Tile IR ถูกออกแบบมาเพื่อ NVIDIA โดยเฉพาะ
    การใช้งานจริงบนแพลตฟอร์มอื่นยังคงซับซ้อน
    อาจเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับ CUDA ecosystem มากกว่าการเปิดกว้าง

    https://wccftech.com/nvidia-might-end-the-cuda-moat-with-its-latest-update-says-jim-keller/
    🖥️ NVIDIA เปิดตัว CUDA Tile – จุดเปลี่ยนของ GPU Programming NVIDIA เปิดตัว CUDA Tile ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในซอฟต์แวร์ CUDA โดยใช้แนวคิด tile-based programming ทำให้การพัฒนา AI kernels ง่ายขึ้น และอาจลดความเป็น “กำแพงผูกขาด” ของ CUDA ตามที่ Jim Keller กล่าว แต่ก็ยังมีข้อถกเถียงว่าแท้จริงแล้วอาจยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับ NVIDIA NVIDIA ได้อัปเดต CUDA ครั้งใหญ่ด้วยการเปิดตัว CUDA Tile ซึ่งเปลี่ยนจากโมเดล SIMT แบบเดิมไปสู่ tile-based programming model พร้อมกับ Tile IR (Intermediate Representation) ที่มอง GPU เป็น tile processor สิ่งนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสที่ core logic โดยไม่ต้องจัดการกับรายละเอียดเชิงสถาปัตยกรรมของ GPU มากนัก ⚡ Jim Keller มองว่า CUDA Moat อาจสิ้นสุด Jim Keller สถาปนิกชิปชื่อดัง แสดงความคิดเห็นว่า การใช้ tile-based approach ทำให้ การพอร์ตโค้ดจาก CUDA ไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น AMD หรือ Triton ง่ายขึ้น เนื่องจากแนวทางนี้เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมอยู่แล้ว การยกระดับ abstraction ยังช่วยลดความจำเป็นในการเขียนโค้ดที่เจาะจงกับสถาปัตยกรรม NVIDIA โดยตรง 🌐 มุมมองอีกด้าน: CUDA ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น แม้จะดูเหมือนว่า CUDA จะเปิดกว้างขึ้น แต่หลายคนมองว่า Tile IR ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับฮาร์ดแวร์ของ NVIDIA โดยเฉพาะ ซึ่งหมายความว่า แม้การพอร์ตโค้ดจะง่ายขึ้น แต่การใช้งานจริงบนแพลตฟอร์มอื่นยังคงซับซ้อนอยู่ การอัปเดตนี้จึงอาจเป็นการ “ล็อกอิน” นักพัฒนาให้อยู่ใน ecosystem ของ NVIDIA มากกว่า 🔮 ผลกระทบต่ออนาคต AI และ GPU การทำให้ GPU programming ง่ายขึ้นจะช่วยให้นักพัฒนาจำนวนมากเข้าถึงการสร้าง AI workflows ได้โดยไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกด้านสถาปัตยกรรม GPU สิ่งนี้อาจเร่งการพัฒนา AI ในวงกว้าง แต่ก็ยังต้องจับตาว่า NVIDIA จะเปิดกว้างจริงหรือยังคงรักษา “moat” ของตนไว้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ CUDA Tile คืออะไร ➡️ เปลี่ยนจาก SIMT ไปสู่ tile-based programming ➡️ ใช้ Tile IR เพื่อจัดการ GPU เป็น tile processor ➡️ ลดความซับซ้อนในการเขียนโค้ด GPU ✅ มุมมองของ Jim Keller ➡️ การพอร์ตโค้ดไป AMD และ Triton จะง่ายขึ้น ➡️ ยกระดับ abstraction ลดการเขียนโค้ดเฉพาะสถาปัตยกรรม ✅ ข้อดีต่อวงการ AI ➡️ นักพัฒนาจำนวนมากเข้าถึง GPU programming ได้ง่ายขึ้น ➡️ ลดความจำเป็นในการปรับแต่งเชิงลึก ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ Tile IR ถูกออกแบบมาเพื่อ NVIDIA โดยเฉพาะ ⛔ การใช้งานจริงบนแพลตฟอร์มอื่นยังคงซับซ้อน ⛔ อาจเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับ CUDA ecosystem มากกว่าการเปิดกว้าง https://wccftech.com/nvidia-might-end-the-cuda-moat-with-its-latest-update-says-jim-keller/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA Might End the ‘CUDA Moat’ With Its Latest Update, Says Chip Architect Jim Keller
    NVIDIA has introduced one of the biggest upgrades to CUDA, and Jim Keller believes that it might mark the end of the software's exclusivity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • Hygon C86 – CPU จีนที่ท้าทาย Intel และ AMD

    Hygon C86 เป็นซีพียูที่ถูกพัฒนาขึ้นในจีน โดยมีจุดเด่นคือ 16 คอร์ 32 เธรด, L3 Cache 32MB, รองรับ DDR5 และ PCIe Gen 5.0 พร้อมค่า TDP เพียง 95W ซึ่งถือว่าต่ำมากสำหรับชิปที่มีจำนวนคอร์สูงเช่นนี้ ทำให้มันเหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กและเดสก์ท็อปที่ต้องการประสิทธิภาพควบคู่กับการประหยัดพลังงาน

    การแข่งขันกับ Intel และ AMD
    รายงานเบื้องต้นระบุว่า Hygon C86 สามารถทำงานแบบ multi-threaded ได้ใกล้เคียงกับ Intel Core i7 รุ่น Raptor Lake แต่ยังมีข้อจำกัดในงาน single-threaded ที่ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับคู่แข่งได้ อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า จีนกำลังพัฒนาชิป x86 ของตนเองอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก

    บริบทการพัฒนา CPU ในจีน
    นอกจาก Hygon แล้ว จีนยังมีบริษัทอย่าง Zhaoxin และ Loongson ที่กำลังพัฒนา CPU รุ่นใหม่ เช่น Zhaoxin KH-50000 ที่มีถึง 96 คอร์ โดยใช้เทคโนโลยี chiplet design เพื่อแข่งขันกับ AMD EPYC และ Intel Xeon สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก และสร้าง ecosystem ด้านฮาร์ดแวร์ที่เป็นของตนเอง

    ความหมายต่ออนาคตตลาด CPU
    หาก Hygon และผู้ผลิตจีนรายอื่นสามารถพัฒนา CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในงาน single-threaded และการรองรับซอฟต์แวร์สากลได้ดีขึ้น ก็อาจทำให้ตลาด CPU มีผู้เล่นใหม่ที่แข็งแกร่ง และสร้างแรงกดดันต่อ Intel และ AMD ในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สเปกของ Hygon C86
    16 คอร์ 32 เธรด, L3 Cache 32MB
    รองรับ DDR5 และ PCIe Gen 5.0
    Boost Clock 3.0 GHz, TDP 95W

    ประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
    Multi-threaded ใกล้เคียง Intel Core i7 Raptor Lake
    Single-threaded ยังด้อยกว่า AMD และ Intel

    บริบทการพัฒนา CPU ในจีน
    Zhaoxin เปิดตัว KH-50000 ที่มี 96 คอร์
    Loongson พัฒนา CPU รุ่นใหม่สำหรับตลาดเซิร์ฟเวอร์

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    Single-threaded performance ยังไม่ดีพอสำหรับงานบางประเภท
    Ecosystem ซอฟต์แวร์ยังต้องใช้เวลาในการปรับตัว
    ยังไม่มีข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Hygon เกี่ยวกับการวางจำหน่าย

    https://wccftech.com/16-core-hygon-c86-cpu-reportedly-boasts-3-0-ghz-boost-clock-and-95-tdp/
    🖥️ Hygon C86 – CPU จีนที่ท้าทาย Intel และ AMD Hygon C86 เป็นซีพียูที่ถูกพัฒนาขึ้นในจีน โดยมีจุดเด่นคือ 16 คอร์ 32 เธรด, L3 Cache 32MB, รองรับ DDR5 และ PCIe Gen 5.0 พร้อมค่า TDP เพียง 95W ซึ่งถือว่าต่ำมากสำหรับชิปที่มีจำนวนคอร์สูงเช่นนี้ ทำให้มันเหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กและเดสก์ท็อปที่ต้องการประสิทธิภาพควบคู่กับการประหยัดพลังงาน ⚡ การแข่งขันกับ Intel และ AMD รายงานเบื้องต้นระบุว่า Hygon C86 สามารถทำงานแบบ multi-threaded ได้ใกล้เคียงกับ Intel Core i7 รุ่น Raptor Lake แต่ยังมีข้อจำกัดในงาน single-threaded ที่ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับคู่แข่งได้ อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า จีนกำลังพัฒนาชิป x86 ของตนเองอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก 🌏 บริบทการพัฒนา CPU ในจีน นอกจาก Hygon แล้ว จีนยังมีบริษัทอย่าง Zhaoxin และ Loongson ที่กำลังพัฒนา CPU รุ่นใหม่ เช่น Zhaoxin KH-50000 ที่มีถึง 96 คอร์ โดยใช้เทคโนโลยี chiplet design เพื่อแข่งขันกับ AMD EPYC และ Intel Xeon สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก และสร้าง ecosystem ด้านฮาร์ดแวร์ที่เป็นของตนเอง 🔮 ความหมายต่ออนาคตตลาด CPU หาก Hygon และผู้ผลิตจีนรายอื่นสามารถพัฒนา CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในงาน single-threaded และการรองรับซอฟต์แวร์สากลได้ดีขึ้น ก็อาจทำให้ตลาด CPU มีผู้เล่นใหม่ที่แข็งแกร่ง และสร้างแรงกดดันต่อ Intel และ AMD ในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สเปกของ Hygon C86 ➡️ 16 คอร์ 32 เธรด, L3 Cache 32MB ➡️ รองรับ DDR5 และ PCIe Gen 5.0 ➡️ Boost Clock 3.0 GHz, TDP 95W ✅ ประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ➡️ Multi-threaded ใกล้เคียง Intel Core i7 Raptor Lake ➡️ Single-threaded ยังด้อยกว่า AMD และ Intel ✅ บริบทการพัฒนา CPU ในจีน ➡️ Zhaoxin เปิดตัว KH-50000 ที่มี 96 คอร์ ➡️ Loongson พัฒนา CPU รุ่นใหม่สำหรับตลาดเซิร์ฟเวอร์ ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ Single-threaded performance ยังไม่ดีพอสำหรับงานบางประเภท ⛔ Ecosystem ซอฟต์แวร์ยังต้องใช้เวลาในการปรับตัว ⛔ ยังไม่มีข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Hygon เกี่ยวกับการวางจำหน่าย https://wccftech.com/16-core-hygon-c86-cpu-reportedly-boasts-3-0-ghz-boost-clock-and-95-tdp/
    WCCFTECH.COM
    16-Core Hygon C86 CPU Reportedly Boasts 3.0 GHz Boost Clock And 95 W TDP
    As per the latest leak, the Chinese Hygon C86 CPU reportedly boasts a max boost clock of 3.0 GHz and a TDP of 95 W.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar

    โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max
    ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review

    ลำโพง Marshall Middleton II
    Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review

    iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ
    แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า
    https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update

    ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้
    โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้
    https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers

    Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ
    นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน
    https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review

    กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag
    สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก
    https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review

    มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า
    จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea

    ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก
    เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev

    รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR
    มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review

    ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ
    มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
    https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021

    แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027
    Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses

    แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น
    นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly

    ชิปจีนท้าชน Nvidia
    บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น
    https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ
    เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review

    Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น
    ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum

    UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก
    UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง
    https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means

    AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน
    AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review

    ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด
    ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend

    Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค
    ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar 🎥 โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review 🔊 ลำโพง Marshall Middleton II Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review 📱 iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update 🛡️ ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้ โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers 💻 Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review 🎒 กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review 🏍️ มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea 🚗 ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev 📱 รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review 📷 ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021 🥽 แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027 Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses 🌿 แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly 💻 ชิปจีนท้าชน Nvidia บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 📱 รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review 💻 Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🧹 เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum 🖥️ UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means 🔥 AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review 🔔 ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend 🛡️ Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Caligra c100 – คอมพิวเตอร์เพื่อการสร้างสรรค์ ไม่ใช่การเสพ"

    บริษัท Caligra จากลอนดอนได้เปิดตัว c100 Developer Terminal ที่ออกแบบมาเพื่อผู้สร้างสรรค์โดยเฉพาะ ตัวเครื่องมีดีไซน์แบบ retro wedge ทำจากโลหะ bead-blasted ดูคลาสสิก แต่ภายในซ่อนพลังสมัยใหม่ด้วย AMD Ryzen 9 7940HS, แรม 96GB DDR5, และ SSD M.2 ขนาด 1TB ถือเป็นสเปกที่แรงพอสำหรับงานวิศวกรรม การออกแบบ ไปจนถึงงานศิลปะดิจิทัล. 【edge_current_page_context】

    จุดเด่นอีกอย่างคือระบบปฏิบัติการใหม่ชื่อ Workbench ซึ่งแม้จะยืมชื่อจาก GUI ของ Amiga ยุคเก่า แต่จริงๆ แล้วเป็น Linux-based OS ที่ตั้งใจทำให้ “เบา” และ “สะอาด” โดยตัดฟีเจอร์ที่รบกวนออกไป เพื่อให้ผู้ใช้โฟกัสกับงานสร้างสรรค์มากกว่าการเสพคอนเทนต์หรือถูกดึงความสนใจจาก AI และ Cloud services. 【edge_current_page_context】

    Workbench ใช้แกน rpm-based และรองรับการติดตั้งแพ็กเกจจาก Fedora รวมถึงการใช้ distrobox เพื่อนำซอฟต์แวร์จากดิสโทรอื่นมาใช้งานได้ ทำให้แม้จะเป็นระบบใหม่ แต่ก็ยังเปิดกว้างต่อ ecosystem ของ Linux และสามารถปรับตัวเข้ากับเครื่องมือที่นักพัฒนาคุ้นเคย. 【edge_current_page_context】

    ราคาเปิดตัวอยู่ที่ $1,999 โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบในเดือนมกราคม 2026 การคำนวณต้นทุนฮาร์ดแวร์พบว่า หากประกอบเองอาจอยู่ราว $1,200–$1,500 ดังนั้นส่วนต่างราคาจึงสะท้อนถึงคุณค่าของการออกแบบ ระบบซอฟต์แวร์ และการสนับสนุนที่ Caligra มอบให้ ถือเป็นการวางตำแหน่งที่ชัดเจนว่า c100 ไม่ใช่เครื่องสำหรับทุกคน แต่สำหรับ “นักสร้าง” ที่ต้องการพื้นที่ทำงานที่ปราศจากสิ่งรบกวน. 【edge_current_page_context】

    สรุปสาระสำคัญ
    ฮาร์ดแวร์และดีไซน์
    AMD Ryzen 9 7940HS, RAM 96GB DDR5, SSD 1TB
    ดีไซน์ retro wedge โลหะ bead-blasted พกพาได้

    ระบบปฏิบัติการ Workbench
    Linux-based OS ที่เน้น “ทำงาน” มากกว่า “เสพคอนเทนต์”
    ใช้ rpm-based core รองรับ Fedora และ distrobox

    ราคาและการวางตลาด
    เปิดตัว $1,999 พร้อมส่งมอบมกราคม 2026
    ต้นทุนฮาร์ดแวร์ราว $1,200–$1,500 ส่วนต่างคือค่าออกแบบและซอฟต์แวร์

    คำเตือนและข้อสังเกต
    แม้จะเป็นระบบใหม่ แต่หาก Workbench หยุดพัฒนา ผู้ใช้ยังต้องพึ่ง Linux หรือ Windows
    ราคา $1,999 อาจสูงเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการเครื่องเฉพาะทาง

    https://www.tomshardware.com/software/linux/new-computing-platform-is-made-for-making-caligra-c100-developer-terminal-targets-creators-with-distraction-free-computer-for-experts
    📰 "Caligra c100 – คอมพิวเตอร์เพื่อการสร้างสรรค์ ไม่ใช่การเสพ" 💻 บริษัท Caligra จากลอนดอนได้เปิดตัว c100 Developer Terminal ที่ออกแบบมาเพื่อผู้สร้างสรรค์โดยเฉพาะ ตัวเครื่องมีดีไซน์แบบ retro wedge ทำจากโลหะ bead-blasted ดูคลาสสิก แต่ภายในซ่อนพลังสมัยใหม่ด้วย AMD Ryzen 9 7940HS, แรม 96GB DDR5, และ SSD M.2 ขนาด 1TB ถือเป็นสเปกที่แรงพอสำหรับงานวิศวกรรม การออกแบบ ไปจนถึงงานศิลปะดิจิทัล. 【edge_current_page_context】 🖥️ จุดเด่นอีกอย่างคือระบบปฏิบัติการใหม่ชื่อ Workbench ซึ่งแม้จะยืมชื่อจาก GUI ของ Amiga ยุคเก่า แต่จริงๆ แล้วเป็น Linux-based OS ที่ตั้งใจทำให้ “เบา” และ “สะอาด” โดยตัดฟีเจอร์ที่รบกวนออกไป เพื่อให้ผู้ใช้โฟกัสกับงานสร้างสรรค์มากกว่าการเสพคอนเทนต์หรือถูกดึงความสนใจจาก AI และ Cloud services. 【edge_current_page_context】 ⚙️ Workbench ใช้แกน rpm-based และรองรับการติดตั้งแพ็กเกจจาก Fedora รวมถึงการใช้ distrobox เพื่อนำซอฟต์แวร์จากดิสโทรอื่นมาใช้งานได้ ทำให้แม้จะเป็นระบบใหม่ แต่ก็ยังเปิดกว้างต่อ ecosystem ของ Linux และสามารถปรับตัวเข้ากับเครื่องมือที่นักพัฒนาคุ้นเคย. 【edge_current_page_context】 💲 ราคาเปิดตัวอยู่ที่ $1,999 โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบในเดือนมกราคม 2026 การคำนวณต้นทุนฮาร์ดแวร์พบว่า หากประกอบเองอาจอยู่ราว $1,200–$1,500 ดังนั้นส่วนต่างราคาจึงสะท้อนถึงคุณค่าของการออกแบบ ระบบซอฟต์แวร์ และการสนับสนุนที่ Caligra มอบให้ ถือเป็นการวางตำแหน่งที่ชัดเจนว่า c100 ไม่ใช่เครื่องสำหรับทุกคน แต่สำหรับ “นักสร้าง” ที่ต้องการพื้นที่ทำงานที่ปราศจากสิ่งรบกวน. 【edge_current_page_context】 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฮาร์ดแวร์และดีไซน์ ➡️ AMD Ryzen 9 7940HS, RAM 96GB DDR5, SSD 1TB ➡️ ดีไซน์ retro wedge โลหะ bead-blasted พกพาได้ ✅ ระบบปฏิบัติการ Workbench ➡️ Linux-based OS ที่เน้น “ทำงาน” มากกว่า “เสพคอนเทนต์” ➡️ ใช้ rpm-based core รองรับ Fedora และ distrobox ✅ ราคาและการวางตลาด ➡️ เปิดตัว $1,999 พร้อมส่งมอบมกราคม 2026 ➡️ ต้นทุนฮาร์ดแวร์ราว $1,200–$1,500 ส่วนต่างคือค่าออกแบบและซอฟต์แวร์ ‼️ คำเตือนและข้อสังเกต ⛔ แม้จะเป็นระบบใหม่ แต่หาก Workbench หยุดพัฒนา ผู้ใช้ยังต้องพึ่ง Linux หรือ Windows ⛔ ราคา $1,999 อาจสูงเกินไปสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการเครื่องเฉพาะทาง https://www.tomshardware.com/software/linux/new-computing-platform-is-made-for-making-caligra-c100-developer-terminal-targets-creators-with-distraction-free-computer-for-experts
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    New computing platform is ‘Made for Making’ — Caligra c100 Developer Terminal targets creators with distraction-free ‘computer for experts’
    The lovely bead-blasted metal wedge design of this computer will win retro-fans. But its AMD Ryzen 9 7940HS, 96GB DDR5 RAM and ‘Workbench’ Linux-based OS are also strong draws at $1,999.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google TPU อาจแรงสุดขีด แต่ติดคอขวดการขยายใช้งาน

    Google กำลังผลักดันชิป TPU (Tensor Processing Unit) รุ่นใหม่ที่มีสมรรถนะสูงมาก แต่รายงานล่าสุดชี้ว่ามี “คอขวด” สำคัญที่อาจทำให้การขยายใช้งานภายนอกหยุดชะงักได้ โดยปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวชิปโดยตรง แต่เกิดจากข้อจำกัดในระบบซัพพลายเชนและโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการใช้งานภายนอก.

    TPU ของ Google ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น การฝึกโมเดลภาษาขนาดมหึมา และการประมวลผลข้อมูลเชิงลึกที่ต้องใช้พลังมหาศาล จุดเด่นคือการทำงานแบบ parallel computing ที่สามารถเร่งความเร็วได้เหนือกว่าชิป GPU ในบางงาน อย่างไรก็ตาม การนำไปใช้ในวงกว้างนอกศูนย์ข้อมูลของ Google กลับเจออุปสรรค เพราะระบบเชื่อมต่อและการจัดการทรัพยากรยังไม่พร้อมรองรับการขยายตัว.

    นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ TPU จะมีประสิทธิภาพสูง แต่การใช้งานจริงในองค์กรภายนอกยังติดปัญหาเรื่อง การกระจายทรัพยากร, การจัดการเครือข่าย, และการรองรับซอฟต์แวร์ ซึ่งต่างจาก GPU ที่มี ecosystem แข็งแรงและแพร่หลายอยู่แล้ว ทำให้ TPU อาจถูกจำกัดอยู่ในระบบปิดของ Google เป็นหลัก.

    สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า การแข่งขันด้าน AI hardware ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแรงของชิปเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นกับ ความสามารถในการขยายใช้งาน, ความเข้ากันได้กับระบบอื่น, และความพร้อมของซัพพลายเชน หาก Google ไม่สามารถแก้คอขวดนี้ได้ TPU อาจกลายเป็นเทคโนโลยีที่ทรงพลังแต่ถูกจำกัดการใช้งานในวงแคบ.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สมรรถนะของ Google TPU
    ออกแบบมาเพื่อเร่งงาน AI ขนาดใหญ่
    ทำงานแบบ parallel computing เร็วกว่า GPU ในบางงาน

    ข้อได้เปรียบเชิงเทคนิค
    เหมาะกับการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่
    ประสิทธิภาพสูงในงาน deep learning

    คอขวดที่พบ
    การขยายใช้งานภายนอกติดปัญหาซัพพลายเชนและโครงสร้างพื้นฐาน
    Ecosystem ของ TPU ยังไม่แข็งแรงเท่า GPU

    ผลกระทบเชิงกลยุทธ์
    อาจทำให้ TPU ถูกจำกัดอยู่ในระบบปิดของ Google
    การแข่งขันด้าน AI hardware ต้องพึ่งทั้งชิปและ ecosystem ที่รองรับ

    https://wccftech.com/google-tpu-may-deliver-impressive-performance-but-one-overlooked-bottleneck-could-bring-external-scaling-to-a-halt/
    ⚙️ Google TPU อาจแรงสุดขีด แต่ติดคอขวดการขยายใช้งาน Google กำลังผลักดันชิป TPU (Tensor Processing Unit) รุ่นใหม่ที่มีสมรรถนะสูงมาก แต่รายงานล่าสุดชี้ว่ามี “คอขวด” สำคัญที่อาจทำให้การขยายใช้งานภายนอกหยุดชะงักได้ โดยปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวชิปโดยตรง แต่เกิดจากข้อจำกัดในระบบซัพพลายเชนและโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการใช้งานภายนอก. TPU ของ Google ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น การฝึกโมเดลภาษาขนาดมหึมา และการประมวลผลข้อมูลเชิงลึกที่ต้องใช้พลังมหาศาล จุดเด่นคือการทำงานแบบ parallel computing ที่สามารถเร่งความเร็วได้เหนือกว่าชิป GPU ในบางงาน อย่างไรก็ตาม การนำไปใช้ในวงกว้างนอกศูนย์ข้อมูลของ Google กลับเจออุปสรรค เพราะระบบเชื่อมต่อและการจัดการทรัพยากรยังไม่พร้อมรองรับการขยายตัว. นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ TPU จะมีประสิทธิภาพสูง แต่การใช้งานจริงในองค์กรภายนอกยังติดปัญหาเรื่อง การกระจายทรัพยากร, การจัดการเครือข่าย, และการรองรับซอฟต์แวร์ ซึ่งต่างจาก GPU ที่มี ecosystem แข็งแรงและแพร่หลายอยู่แล้ว ทำให้ TPU อาจถูกจำกัดอยู่ในระบบปิดของ Google เป็นหลัก. สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า การแข่งขันด้าน AI hardware ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแรงของชิปเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นกับ ความสามารถในการขยายใช้งาน, ความเข้ากันได้กับระบบอื่น, และความพร้อมของซัพพลายเชน หาก Google ไม่สามารถแก้คอขวดนี้ได้ TPU อาจกลายเป็นเทคโนโลยีที่ทรงพลังแต่ถูกจำกัดการใช้งานในวงแคบ. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สมรรถนะของ Google TPU ➡️ ออกแบบมาเพื่อเร่งงาน AI ขนาดใหญ่ ➡️ ทำงานแบบ parallel computing เร็วกว่า GPU ในบางงาน ✅ ข้อได้เปรียบเชิงเทคนิค ➡️ เหมาะกับการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่ ➡️ ประสิทธิภาพสูงในงาน deep learning ‼️ คอขวดที่พบ ⛔ การขยายใช้งานภายนอกติดปัญหาซัพพลายเชนและโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ Ecosystem ของ TPU ยังไม่แข็งแรงเท่า GPU ‼️ ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ ⛔ อาจทำให้ TPU ถูกจำกัดอยู่ในระบบปิดของ Google ⛔ การแข่งขันด้าน AI hardware ต้องพึ่งทั้งชิปและ ecosystem ที่รองรับ https://wccftech.com/google-tpu-may-deliver-impressive-performance-but-one-overlooked-bottleneck-could-bring-external-scaling-to-a-halt/
    WCCFTECH.COM
    Google’s TPUs May Deliver ‘Impressive’ Performance, But One Overlooked Bottleneck Could Bring External Scaling to a Halt Before It Even Begins
    Google's AI chips face a critical bottleneck in external adoption, which is derived from the constraints within the supply chain.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก๊าซหัวเราะกับการบรรเทาภาวะซึมเศร้า

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Birmingham และ Oxford วิเคราะห์การทดลองทางคลินิก 7 ครั้ง รวมผู้เข้าร่วมกว่า 247 คน พบว่า การสูดดมไนตรัสออกไซด์ในระดับ 25–50% สามารถลดอาการซึมเศร้าได้ภายใน 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบดั้งเดิม เช่น ยาต้านซึมเศร้าและการบำบัดทางจิตใจ

    กลไกที่อยู่เบื้องหลัง
    ผลการศึกษาชี้ว่าไนตรัสออกไซด์อาจทำงานโดย ลดการทำงานของระบบกลูตาเมต (glutamatergic system) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทและเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง ทำให้การลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารดีขึ้น

    ผลลัพธ์และข้อจำกัด
    แม้จะเห็นผลเร็ว แต่ อาการซึมเศร้ากลับมาในหนึ่งสัปดาห์ หากไม่ได้รับการให้ยาซ้ำ อีกทั้งการใช้ในความเข้มข้นสูง (50%) อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว และภาวะหลุดจากความเป็นจริง (dissociation) จึงต้องมีการจัดการอย่างระมัดระวัง

    ความหวังใหม่ในแนวทางการรักษา
    นักวิจัยเชื่อว่าไนตรัสออกไซด์อาจเป็นส่วนหนึ่งของ การรักษารุ่นใหม่ที่ออกฤทธิ์เร็ว สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบเดิม โดยการทดลองในอนาคตจะมุ่งไปที่ การให้ยาซ้ำในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อหาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความปลอดภัย

    สรุปสาระสำคัญ
    ไนตรัสออกไซด์บรรเทาอาการซึมเศร้าได้ภายใน 2 ชั่วโมง
    เห็นผลชัดเจนในผู้ป่วยดื้อต่อการรักษา

    กลไกเกี่ยวข้องกับการลดการทำงานของระบบกลูตาเมต
    และช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดในสมอง

    ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน
    อาการกลับมาภายในหนึ่งสัปดาห์หากไม่ให้ยาซ้ำ

    การทดลองชี้ว่ามีศักยภาพเป็นการรักษารุ่นใหม่
    ต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีใช้ที่ปลอดภัยและยั่งยืน

    ความเข้มข้นสูงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง
    เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว และภาวะหลุดจากความเป็นจริง

    ยังไม่ใช่วิธีรักษาที่หายขาด
    ต้องใช้ร่วมกับการรักษาอื่นและอยู่ภายใต้การดูแลแพทย์

    https://www.sciencealert.com/laughing-gas-can-offer-immediate-relief-from-depression-study-finds
    🌬️ ก๊าซหัวเราะกับการบรรเทาภาวะซึมเศร้า นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Birmingham และ Oxford วิเคราะห์การทดลองทางคลินิก 7 ครั้ง รวมผู้เข้าร่วมกว่า 247 คน พบว่า การสูดดมไนตรัสออกไซด์ในระดับ 25–50% สามารถลดอาการซึมเศร้าได้ภายใน 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบดั้งเดิม เช่น ยาต้านซึมเศร้าและการบำบัดทางจิตใจ 🧠 กลไกที่อยู่เบื้องหลัง ผลการศึกษาชี้ว่าไนตรัสออกไซด์อาจทำงานโดย ลดการทำงานของระบบกลูตาเมต (glutamatergic system) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทและเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง ทำให้การลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารดีขึ้น ⏳ ผลลัพธ์และข้อจำกัด แม้จะเห็นผลเร็ว แต่ อาการซึมเศร้ากลับมาในหนึ่งสัปดาห์ หากไม่ได้รับการให้ยาซ้ำ อีกทั้งการใช้ในความเข้มข้นสูง (50%) อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว และภาวะหลุดจากความเป็นจริง (dissociation) จึงต้องมีการจัดการอย่างระมัดระวัง 🔮 ความหวังใหม่ในแนวทางการรักษา นักวิจัยเชื่อว่าไนตรัสออกไซด์อาจเป็นส่วนหนึ่งของ การรักษารุ่นใหม่ที่ออกฤทธิ์เร็ว สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบเดิม โดยการทดลองในอนาคตจะมุ่งไปที่ การให้ยาซ้ำในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อหาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความปลอดภัย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ไนตรัสออกไซด์บรรเทาอาการซึมเศร้าได้ภายใน 2 ชั่วโมง ➡️ เห็นผลชัดเจนในผู้ป่วยดื้อต่อการรักษา ✅ กลไกเกี่ยวข้องกับการลดการทำงานของระบบกลูตาเมต ➡️ และช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดในสมอง ✅ ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน ➡️ อาการกลับมาภายในหนึ่งสัปดาห์หากไม่ให้ยาซ้ำ ✅ การทดลองชี้ว่ามีศักยภาพเป็นการรักษารุ่นใหม่ ➡️ ต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีใช้ที่ปลอดภัยและยั่งยืน ‼️ ความเข้มข้นสูงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ⛔ เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว และภาวะหลุดจากความเป็นจริง ‼️ ยังไม่ใช่วิธีรักษาที่หายขาด ⛔ ต้องใช้ร่วมกับการรักษาอื่นและอยู่ภายใต้การดูแลแพทย์ https://www.sciencealert.com/laughing-gas-can-offer-immediate-relief-from-depression-study-finds
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Laughing Gas Can Offer Immediate Relief From Depression, Study Finds
    A review by researchers from the University of Birmingham and the University of Oxford in the UK has found that controlled doses of laughing gas (or nitrous oxide) really can provide quick-acting relief from depression.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Immich – ทางเลือกใหม่ในการ Self-hosted Photo Management"

    Michael Stapelberg เผชิญปัญหาเมื่อเครื่องมือ gphotos-sync หยุดทำงานหลัง Google จำกัด OAuth scopes ในปี 2025 ทำให้เขาต้องหาทางเลือกใหม่สำหรับการจัดการรูปภาพส่วนตัว สุดท้ายเลือกใช้ Immich ซึ่งเป็นแอป self-hosted ที่สามารถทำงานได้รวดเร็วและมีฟีเจอร์ครบถ้วน โดยติดตั้งบน Ryzen 7 Mini PC (ASRock DeskMini X600) ที่ใช้พลังงานต่ำแต่ทรงพลัง

    เขาใช้ Proxmox เพื่อสร้าง VM สำหรับ Immich โดยติดตั้ง NixOS แบบ declarative และเปิดใช้งาน Immich ผ่าน Tailscale VPN แทนการเปิด firewall ตรง ๆ ทำให้สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างปลอดภัยจากทุกอุปกรณ์ผ่าน MagicDNS และ TLS ของ Tailscale

    ในขั้นตอนการนำเข้ารูปภาพ เขาพบว่าเครื่องมือ immich-cli มีปัญหา timeout เนื่องจาก background jobs เช่น thumbnail creation และ face detection ทำงานพร้อมกัน จึงเปลี่ยนไปใช้ immich-go ซึ่งสามารถจัดการ Google Takeout archives ได้ดีกว่า โดยหยุด background jobs ชั่วคราวและอ่าน metadata JSON ได้ครบถ้วน

    นอกจากนี้ เขายังติดตั้งแอป Immich บน iPhone เพื่อเปิดใช้งาน automatic backup ของรูปใหม่ พร้อมตั้งค่า systemd timer + rsync เพื่อทำ 3-2-1 backup scheme ของข้อมูลทั้งหมดใน /var/lib/immich แม้ Immich ยังไม่มีฟีเจอร์แก้ไขภาพในตัว แต่เขาใช้ GIMP สำหรับงานนั้น และยังอัปโหลดบางรูปไป Google Photos เมื่อจำเป็นต้องแชร์กับผู้อื่น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การติดตั้งและโครงสร้างระบบ
    ใช้ Ryzen 7 Mini PC + Proxmox VM + NixOS
    Immich เปิดใช้งานผ่าน Tailscale VPN เพื่อความปลอดภัย

    การนำเข้ารูปภาพ
    immich-cli มีปัญหา timeout จาก background jobs
    immich-go จัดการ Google Takeout archives ได้ดีกว่า

    การใช้งานจริง
    แอป Immich บน iPhone รองรับ auto backup
    ใช้ rsync + systemd timer ทำ 3-2-1 backup scheme
    ใช้ GIMP สำหรับแก้ไขภาพ และ Google Photos สำหรับแชร์บางส่วน

    ข้อควรระวัง
    Immich ยังไม่มีฟีเจอร์แก้ไขภาพในตัว
    การตั้งค่า auto backup บน iPhone อาจซับซ้อน
    การอัปโหลดครั้งแรกอาจล้มเหลวหากไม่ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม

    https://michael.stapelberg.ch/posts/2025-11-29-self-hosting-photos-with-immich/
    🖼️ "Immich – ทางเลือกใหม่ในการ Self-hosted Photo Management" Michael Stapelberg เผชิญปัญหาเมื่อเครื่องมือ gphotos-sync หยุดทำงานหลัง Google จำกัด OAuth scopes ในปี 2025 ทำให้เขาต้องหาทางเลือกใหม่สำหรับการจัดการรูปภาพส่วนตัว สุดท้ายเลือกใช้ Immich ซึ่งเป็นแอป self-hosted ที่สามารถทำงานได้รวดเร็วและมีฟีเจอร์ครบถ้วน โดยติดตั้งบน Ryzen 7 Mini PC (ASRock DeskMini X600) ที่ใช้พลังงานต่ำแต่ทรงพลัง เขาใช้ Proxmox เพื่อสร้าง VM สำหรับ Immich โดยติดตั้ง NixOS แบบ declarative และเปิดใช้งาน Immich ผ่าน Tailscale VPN แทนการเปิด firewall ตรง ๆ ทำให้สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างปลอดภัยจากทุกอุปกรณ์ผ่าน MagicDNS และ TLS ของ Tailscale ในขั้นตอนการนำเข้ารูปภาพ เขาพบว่าเครื่องมือ immich-cli มีปัญหา timeout เนื่องจาก background jobs เช่น thumbnail creation และ face detection ทำงานพร้อมกัน จึงเปลี่ยนไปใช้ immich-go ซึ่งสามารถจัดการ Google Takeout archives ได้ดีกว่า โดยหยุด background jobs ชั่วคราวและอ่าน metadata JSON ได้ครบถ้วน นอกจากนี้ เขายังติดตั้งแอป Immich บน iPhone เพื่อเปิดใช้งาน automatic backup ของรูปใหม่ พร้อมตั้งค่า systemd timer + rsync เพื่อทำ 3-2-1 backup scheme ของข้อมูลทั้งหมดใน /var/lib/immich แม้ Immich ยังไม่มีฟีเจอร์แก้ไขภาพในตัว แต่เขาใช้ GIMP สำหรับงานนั้น และยังอัปโหลดบางรูปไป Google Photos เมื่อจำเป็นต้องแชร์กับผู้อื่น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การติดตั้งและโครงสร้างระบบ ➡️ ใช้ Ryzen 7 Mini PC + Proxmox VM + NixOS ➡️ Immich เปิดใช้งานผ่าน Tailscale VPN เพื่อความปลอดภัย ✅ การนำเข้ารูปภาพ ➡️ immich-cli มีปัญหา timeout จาก background jobs ➡️ immich-go จัดการ Google Takeout archives ได้ดีกว่า ✅ การใช้งานจริง ➡️ แอป Immich บน iPhone รองรับ auto backup ➡️ ใช้ rsync + systemd timer ทำ 3-2-1 backup scheme ➡️ ใช้ GIMP สำหรับแก้ไขภาพ และ Google Photos สำหรับแชร์บางส่วน ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ Immich ยังไม่มีฟีเจอร์แก้ไขภาพในตัว ⛔ การตั้งค่า auto backup บน iPhone อาจซับซ้อน ⛔ การอัปโหลดครั้งแรกอาจล้มเหลวหากไม่ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม https://michael.stapelberg.ch/posts/2025-11-29-self-hosting-photos-with-immich/
    MICHAEL.STAPELBERG.CH
    Self-hosting my photos with Immich
    For every cloud service I use, I want to have a local copy of my data for backup purposes and independence. Unfortunately, the gphotos-sync tool stopped working in March 2025 when Google restricted the OAuth scopes, so I needed an alternative for my existing Google Photos setup. In this post, I describe how I have set up Immich, a self-hostable photo manager.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • "UniFi เปิดตัว U5G Max และไลน์อัป 5G รุ่นใหม่"

    Ubiquiti ได้เปิดตัว UniFi 5G รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ U5G Max และอุปกรณ์ในตระกูล 5G ที่ออกแบบมาเพื่อการเชื่อมต่อที่ง่ายและมีประสิทธิภาพสูง จุดเด่นคือการ ติดตั้งที่ง่ายดาย (effortless setup) ความเร็วระดับ ultra fast speeds และตัวเลือกสำหรับการใช้งานกลางแจ้งที่ทนทาน (rugged outdoor options)

    อุปกรณ์ในไลน์อัปใหม่นี้ยังมาพร้อมกับ การผสานเข้ากับระบบ UniFi อย่างสมบูรณ์ ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการเครือข่ายได้จากแพลตฟอร์มเดียว ไม่ว่าจะเป็นการควบคุม Wi-Fi, LAN หรือ 5G ทั้งหมดใน ecosystem เดียวกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและลดความซับซ้อนในการดูแลระบบเครือข่าย

    นอกจากนี้ UniFi 5G ยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่บ้านพักอาศัย ธุรกิจขนาดเล็ก ไปจนถึงองค์กรที่ต้องการโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายที่มีความเสถียรและปลอดภัย โดยมีตัวเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะกับการใช้งานทั้งในร่มและกลางแจ้ง

    การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ Ubiquiti ที่จะขยาย ecosystem ของ UniFi ให้ครอบคลุมทุกการเชื่อมต่อ ตั้งแต่ Wi-Fi, wired network ไปจนถึง 5G เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ครบวงจรและตอบโจทย์ผู้ใช้ในยุคดิจิทัล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    จุดเด่นของ UniFi 5G
    ติดตั้งง่าย (effortless setup)
    ความเร็วสูงระดับ ultra fast speeds
    ตัวเลือกกลางแจ้งที่ทนทาน (rugged outdoor options)

    การผสานเข้ากับระบบ UniFi
    จัดการ Wi-Fi, LAN และ 5G จากแพลตฟอร์มเดียว
    ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบเครือข่าย

    การใช้งานที่หลากหลาย
    รองรับทั้งบ้านพักอาศัย ธุรกิจ และองค์กร
    มีอุปกรณ์สำหรับทั้งในร่มและกลางแจ้ง

    ข้อควรระวัง
    การใช้งาน 5G อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเชื่อมต่อทั่วไป
    ความครอบคลุมสัญญาณขึ้นอยู่กับพื้นที่และผู้ให้บริการ

    https://blog.ui.com/article/introducing-unifi-5g
    📡 "UniFi เปิดตัว U5G Max และไลน์อัป 5G รุ่นใหม่" Ubiquiti ได้เปิดตัว UniFi 5G รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ U5G Max และอุปกรณ์ในตระกูล 5G ที่ออกแบบมาเพื่อการเชื่อมต่อที่ง่ายและมีประสิทธิภาพสูง จุดเด่นคือการ ติดตั้งที่ง่ายดาย (effortless setup) ความเร็วระดับ ultra fast speeds และตัวเลือกสำหรับการใช้งานกลางแจ้งที่ทนทาน (rugged outdoor options) อุปกรณ์ในไลน์อัปใหม่นี้ยังมาพร้อมกับ การผสานเข้ากับระบบ UniFi อย่างสมบูรณ์ ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการเครือข่ายได้จากแพลตฟอร์มเดียว ไม่ว่าจะเป็นการควบคุม Wi-Fi, LAN หรือ 5G ทั้งหมดใน ecosystem เดียวกัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกและลดความซับซ้อนในการดูแลระบบเครือข่าย นอกจากนี้ UniFi 5G ยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่บ้านพักอาศัย ธุรกิจขนาดเล็ก ไปจนถึงองค์กรที่ต้องการโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายที่มีความเสถียรและปลอดภัย โดยมีตัวเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะกับการใช้งานทั้งในร่มและกลางแจ้ง การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของ Ubiquiti ที่จะขยาย ecosystem ของ UniFi ให้ครอบคลุมทุกการเชื่อมต่อ ตั้งแต่ Wi-Fi, wired network ไปจนถึง 5G เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ครบวงจรและตอบโจทย์ผู้ใช้ในยุคดิจิทัล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ จุดเด่นของ UniFi 5G ➡️ ติดตั้งง่าย (effortless setup) ➡️ ความเร็วสูงระดับ ultra fast speeds ➡️ ตัวเลือกกลางแจ้งที่ทนทาน (rugged outdoor options) ✅ การผสานเข้ากับระบบ UniFi ➡️ จัดการ Wi-Fi, LAN และ 5G จากแพลตฟอร์มเดียว ➡️ ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบเครือข่าย ✅ การใช้งานที่หลากหลาย ➡️ รองรับทั้งบ้านพักอาศัย ธุรกิจ และองค์กร ➡️ มีอุปกรณ์สำหรับทั้งในร่มและกลางแจ้ง ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การใช้งาน 5G อาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการเชื่อมต่อทั่วไป ⛔ ความครอบคลุมสัญญาณขึ้นอยู่กับพื้นที่และผู้ให้บริการ https://blog.ui.com/article/introducing-unifi-5g
    BLOG.UI.COM
    Introducing UniFi 5G
    Discover the U5G Max and UniFi’s next generation 5G lineup featuring effortless setup, ultra fast speeds, rugged outdoor options, and advanced UniFi integration for unmatched performance.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • "5 ฟีเจอร์สำคัญที่ Smart TV รุ่นใหม่ต้องมี"

    Smart TV กลายเป็นอุปกรณ์หลักในบ้านยุคดิจิทัล แต่การเลือกซื้อไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตลาดเต็มไปด้วยคำย่ออย่าง OLED, QLED, Mini-LED และระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย บทความนี้แนะนำ 5 ฟีเจอร์ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้การลงทุนคุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนาน

    1️⃣ ระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้งานง่าย เช่น Google TV ที่โดดเด่นด้วยการค้นหาเนื้อหาที่สะดวก การเชื่อมต่อกับ Android ecosystem และการสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้หลายคน ทำให้การใช้งานเหมาะกับครอบครัวที่มีหลายความชอบในการดูคอนเทนต์

    2️⃣ คุณภาพภาพขั้นสูง ไม่ใช่แค่ 4K แต่ต้องเลือกแผงจอที่เหมาะสม เช่น OLED ที่ให้สีดำสนิทและคอนทราสต์สูง หรือ Mini-LED ที่เหมาะกับห้องที่มีแสงมาก พร้อมรองรับ HDR มาตรฐานใหม่อย่าง Dolby Vision และ HDR10+ เพื่อให้ภาพสมจริงยิ่งขึ้น

    3️⃣ พลังประมวลผลและรีเฟรชเรตสูง ปัจจุบันทีวีรองรับถึง 120Hz หรือ 144Hz ซึ่งจำเป็นสำหรับคอนเทนต์ที่เคลื่อนไหวเร็ว เช่น กีฬาและเกม พร้อมฟีเจอร์ AI Upscaling ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัดแม้ต้นฉบับไม่ใช่ความละเอียดสูง

    4️⃣ ระบบเสียงล้ำสมัย เช่น Dolby Atmos, Samsung OTS หรือ LG AI Sound Pro ที่ทำให้เสียงสมจริงรอบทิศทาง และต้องมีพอร์ต HDMI eARC สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบเสียงภายนอกแบบไม่บีบอัด

    5️⃣ การเชื่อมต่อกับ Smart Home และ AI Integration ที่ช่วยให้ทีวีเป็นศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์ในบ้าน เช่น ไฟ กล้อง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมฟีเจอร์ AI ที่ช่วยปรับภาพ เสียง และแม้แต่แปลซับไตเติลอัตโนมัติ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ฟีเจอร์ที่ควรมีใน Smart TV
    ระบบปฏิบัติการใช้งานง่าย เช่น Google TV
    จอ OLED หรือ Mini-LED รองรับ HDR มาตรฐานใหม่
    รีเฟรชเรตสูง 120–144Hz พร้อม AI Upscaling
    ระบบเสียง Dolby Atmos, OTS, AI Sound Pro + HDMI eARC
    Smart Home และ AI Integration

    ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ
    ทีวีที่มี OS ช้า หรือ UI ซับซ้อน อาจทำให้ประสบการณ์ใช้งานแย่
    OLED ไม่เหมาะกับห้องที่มีแสงจ้า ควรเลือก Mini-LED แทน
    Processor ที่อ่อนเกินไปอาจทำให้ภาพกระตุกและเสียงไม่สมจริง

    https://www.slashgear.com/2043223/dont-buy-new-smart-tv-without-these-features/
    📺 "5 ฟีเจอร์สำคัญที่ Smart TV รุ่นใหม่ต้องมี" Smart TV กลายเป็นอุปกรณ์หลักในบ้านยุคดิจิทัล แต่การเลือกซื้อไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตลาดเต็มไปด้วยคำย่ออย่าง OLED, QLED, Mini-LED และระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย บทความนี้แนะนำ 5 ฟีเจอร์ที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้การลงทุนคุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนาน 1️⃣ ระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้งานง่าย เช่น Google TV ที่โดดเด่นด้วยการค้นหาเนื้อหาที่สะดวก การเชื่อมต่อกับ Android ecosystem และการสร้างโปรไฟล์ผู้ใช้หลายคน ทำให้การใช้งานเหมาะกับครอบครัวที่มีหลายความชอบในการดูคอนเทนต์ 2️⃣ คุณภาพภาพขั้นสูง ไม่ใช่แค่ 4K แต่ต้องเลือกแผงจอที่เหมาะสม เช่น OLED ที่ให้สีดำสนิทและคอนทราสต์สูง หรือ Mini-LED ที่เหมาะกับห้องที่มีแสงมาก พร้อมรองรับ HDR มาตรฐานใหม่อย่าง Dolby Vision และ HDR10+ เพื่อให้ภาพสมจริงยิ่งขึ้น 3️⃣ พลังประมวลผลและรีเฟรชเรตสูง ปัจจุบันทีวีรองรับถึง 120Hz หรือ 144Hz ซึ่งจำเป็นสำหรับคอนเทนต์ที่เคลื่อนไหวเร็ว เช่น กีฬาและเกม พร้อมฟีเจอร์ AI Upscaling ที่ช่วยปรับภาพให้คมชัดแม้ต้นฉบับไม่ใช่ความละเอียดสูง 4️⃣ ระบบเสียงล้ำสมัย เช่น Dolby Atmos, Samsung OTS หรือ LG AI Sound Pro ที่ทำให้เสียงสมจริงรอบทิศทาง และต้องมีพอร์ต HDMI eARC สำหรับการเชื่อมต่อกับระบบเสียงภายนอกแบบไม่บีบอัด 5️⃣ การเชื่อมต่อกับ Smart Home และ AI Integration ที่ช่วยให้ทีวีเป็นศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์ในบ้าน เช่น ไฟ กล้อง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมฟีเจอร์ AI ที่ช่วยปรับภาพ เสียง และแม้แต่แปลซับไตเติลอัตโนมัติ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ที่ควรมีใน Smart TV ➡️ ระบบปฏิบัติการใช้งานง่าย เช่น Google TV ➡️ จอ OLED หรือ Mini-LED รองรับ HDR มาตรฐานใหม่ ➡️ รีเฟรชเรตสูง 120–144Hz พร้อม AI Upscaling ➡️ ระบบเสียง Dolby Atmos, OTS, AI Sound Pro + HDMI eARC ➡️ Smart Home และ AI Integration ‼️ ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ ⛔ ทีวีที่มี OS ช้า หรือ UI ซับซ้อน อาจทำให้ประสบการณ์ใช้งานแย่ ⛔ OLED ไม่เหมาะกับห้องที่มีแสงจ้า ควรเลือก Mini-LED แทน ⛔ Processor ที่อ่อนเกินไปอาจทำให้ภาพกระตุกและเสียงไม่สมจริง https://www.slashgear.com/2043223/dont-buy-new-smart-tv-without-these-features/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Don't Buy A New Smart TV Without These 5 Features - SlashGear
    When buying a new smart TV, look for features like a solid OS, good sound and picture quality, high processing power, and smart home integration.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Proton Sheets – สเปรดชีตเข้ารหัส ปลอดภัย ใช้ง่าย เป็นทางเลือกแทน Google Docs"

    Proton บริษัทจากสวิตเซอร์แลนด์ที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว ได้เปิดตัว Proton Sheets ซึ่งเป็นเครื่องมือสเปรดชีตออนไลน์ที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ทำงานบน Proton Drive จุดเด่นคือ Proton ไม่สามารถเห็นข้อมูลของผู้ใช้ และผู้ใช้สามารถควบคุมการแชร์ได้เองทั้งหมด นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ Proton มีชุดเครื่องมือครบทั้งอีเมล ปฏิทิน เอกสาร และสเปรดชีต

    Proton Sheets มาพร้อมฟีเจอร์ที่ผู้ใช้คุ้นเคย เช่น การทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ การรองรับสูตรคำนวณ การนำเข้าและส่งออกไฟล์ CSV/XLS และระบบควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงที่แข็งแรง อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้บนหลายอุปกรณ์ ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างปลอดภัยทุกที่ทุกเวลา

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Proton Sheets มีการออกแบบที่ใส่ใจผู้ใช้ เช่น การแจ้งเตือนเมื่อหน้าต่างเบราว์เซอร์เล็กเกินไป เพื่อป้องกันการทำงานผิดพลาด แม้บางครั้งอาจสร้างความรำคาญ แต่ก็สะท้อนถึงความตั้งใจในการดูแลประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดีที่สุด

    เมื่อรวมกับบริการอื่น ๆ เช่น Proton Mail, Proton Calendar, Proton Pass และ Proton VPN ทำให้ Proton Ecosystem กลายเป็นทางเลือกที่จริงจังสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยง Big Tech และมองหาชุดเครื่องมือที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    จุดเด่นของ Proton Sheets
    เข้ารหัส end-to-end ปลอดภัย Proton ไม่สามารถเห็นข้อมูล
    รองรับการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ และสูตรคำนวณ
    นำเข้า/ส่งออก CSV และ XLS ได้สะดวก

    Ecosystem ของ Proton
    ครบทั้ง Mail, Calendar, Drive, Docs, Sheets
    เสริมด้วย Proton Pass และ Proton VPN

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    การแจ้งเตือนหน้าต่างเบราว์เซอร์เล็กเกินไป อาจสร้างความรำคาญ
    ฟีเจอร์บางอย่างยังอยู่ในช่วงทยอยเปิดให้ผู้ใช้ อาจยังไม่ครบทุกบัญชี

    https://itsfoss.com/news/proton-sheets/
    📊 "Proton Sheets – สเปรดชีตเข้ารหัส ปลอดภัย ใช้ง่าย เป็นทางเลือกแทน Google Docs" Proton บริษัทจากสวิตเซอร์แลนด์ที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว ได้เปิดตัว Proton Sheets ซึ่งเป็นเครื่องมือสเปรดชีตออนไลน์ที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ทำงานบน Proton Drive จุดเด่นคือ Proton ไม่สามารถเห็นข้อมูลของผู้ใช้ และผู้ใช้สามารถควบคุมการแชร์ได้เองทั้งหมด นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ Proton มีชุดเครื่องมือครบทั้งอีเมล ปฏิทิน เอกสาร และสเปรดชีต Proton Sheets มาพร้อมฟีเจอร์ที่ผู้ใช้คุ้นเคย เช่น การทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ การรองรับสูตรคำนวณ การนำเข้าและส่งออกไฟล์ CSV/XLS และระบบควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงที่แข็งแรง อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้บนหลายอุปกรณ์ ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างปลอดภัยทุกที่ทุกเวลา สิ่งที่น่าสนใจคือ Proton Sheets มีการออกแบบที่ใส่ใจผู้ใช้ เช่น การแจ้งเตือนเมื่อหน้าต่างเบราว์เซอร์เล็กเกินไป เพื่อป้องกันการทำงานผิดพลาด แม้บางครั้งอาจสร้างความรำคาญ แต่ก็สะท้อนถึงความตั้งใจในการดูแลประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดีที่สุด เมื่อรวมกับบริการอื่น ๆ เช่น Proton Mail, Proton Calendar, Proton Pass และ Proton VPN ทำให้ Proton Ecosystem กลายเป็นทางเลือกที่จริงจังสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยง Big Tech และมองหาชุดเครื่องมือที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ จุดเด่นของ Proton Sheets ➡️ เข้ารหัส end-to-end ปลอดภัย Proton ไม่สามารถเห็นข้อมูล ➡️ รองรับการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ และสูตรคำนวณ ➡️ นำเข้า/ส่งออก CSV และ XLS ได้สะดวก ✅ Ecosystem ของ Proton ➡️ ครบทั้ง Mail, Calendar, Drive, Docs, Sheets ➡️ เสริมด้วย Proton Pass และ Proton VPN ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ การแจ้งเตือนหน้าต่างเบราว์เซอร์เล็กเกินไป อาจสร้างความรำคาญ ⛔ ฟีเจอร์บางอย่างยังอยู่ในช่วงทยอยเปิดให้ผู้ใช้ อาจยังไม่ครบทุกบัญชี https://itsfoss.com/news/proton-sheets/
    ITSFOSS.COM
    With This New Feature, Proton Has Made it Even Easier to Move Away from Gmail and Google Docs
    The missing piece is here. There is no excuse to stick with Big Tech now.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดเริ่มต้นของ Deep Learning บน GTX 580

    ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดเผยของ Jensen Huang (CEO ของ Nvidia) ว่า การปฏิวัติ Deep Learning เริ่มต้นขึ้นในปี 2012 จากการใช้การ์ดจอ GTX 580 จำนวนสองตัวในโหมด SLI โดยทีมวิจัยมหาวิทยาลัยโตรอนโต ซึ่งนำไปสู่การสร้างโมเดล AlexNet ที่เปลี่ยนโลก AI ไปตลอดกาล

    ในปี 2011–2012 ทีมวิจัยของ Alex Krizhevsky, Ilya Sutskever และ Geoffrey Hinton ได้พัฒนาโมเดล AlexNet เพื่อแก้ปัญหาการจำแนกรูปภาพ โดยใช้การ์ดจอ GTX 580 (3GB) จำนวนสองตัวเชื่อมต่อแบบ SLI แม้การ์ดเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นเกม แต่ความสามารถด้านการประมวลผลแบบขนานกลับเหมาะสมกับการฝึก Neural Network อย่างยิ่ง

    ผลลัพธ์ที่พลิกวงการ
    AlexNet มีโครงสร้าง 8 ชั้นและพารามิเตอร์กว่า 60 ล้านตัว เมื่อถูกฝึกบน GTX 580s ผลลัพธ์สามารถเอาชนะอัลกอริทึมการจำแนกรูปภาพที่ดีที่สุดในยุคนั้นได้มากกว่า 70% ทำให้โลกวิชาการและอุตสาหกรรมหันมาสนใจ Deep Learning อย่างจริงจัง

    Nvidia เข้าสู่เส้นทาง AI
    Jensen Huang เปิดเผยว่า หลังจากเห็นศักยภาพของ Deep Learning บน GPU บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนอย่างเต็มที่ในเทคโนโลยีนี้ ตั้งแต่การพัฒนา DGX systems ในปี 2016 ไปจนถึงสถาปัตยกรรม Volta ที่มี Tensor Cores และต่อยอดสู่ DLSS และการใช้งาน AI ในวงกว้าง

    ผลกระทบต่อโลก AI
    หากไม่มีการทดลองบน GTX 580s ในปี 2012 Nvidia อาจยังคงเป็นบริษัทที่เน้นกราฟิกเกมเท่านั้น แต่การค้นพบนี้ได้เปลี่ยนทิศทางบริษัท และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ AI ที่เรากำลังเห็นในปัจจุบัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ทีมมหาวิทยาลัยโตรอนโตใช้ GTX 580s ใน SLI
    เพื่อฝึกโมเดล AlexNet ในปี 2012

    AlexNet เอาชนะอัลกอริทึมเดิมกว่า 70%
    กลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการ Computer Vision

    Nvidia หันมาลงทุนใน AI อย่างเต็มที่
    พัฒนา DGX, Volta Tensor Cores และ DLSS

    GTX 580s กลายเป็นการ์ดจอแรกที่ใช้กับ AI
    แม้ถูกออกแบบมาเพื่อเกม แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของ Deep Learning

    หากไม่มีการทดลองนี้ Nvidia อาจไม่เข้าสู่ AI
    โลกอาจไม่มีการเติบโตของ AI ในรูปแบบที่เราเห็นทุกวันนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/two-gtx-580s-in-sli-are-responsible-for-the-ai-we-have-today-nvidias-huang-revealed-that-the-invention-of-deep-learning-began-with-two-flagship-fermi-gpus-in-2012
    🖥️ จุดเริ่มต้นของ Deep Learning บน GTX 580 ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดเผยของ Jensen Huang (CEO ของ Nvidia) ว่า การปฏิวัติ Deep Learning เริ่มต้นขึ้นในปี 2012 จากการใช้การ์ดจอ GTX 580 จำนวนสองตัวในโหมด SLI โดยทีมวิจัยมหาวิทยาลัยโตรอนโต ซึ่งนำไปสู่การสร้างโมเดล AlexNet ที่เปลี่ยนโลก AI ไปตลอดกาล ในปี 2011–2012 ทีมวิจัยของ Alex Krizhevsky, Ilya Sutskever และ Geoffrey Hinton ได้พัฒนาโมเดล AlexNet เพื่อแก้ปัญหาการจำแนกรูปภาพ โดยใช้การ์ดจอ GTX 580 (3GB) จำนวนสองตัวเชื่อมต่อแบบ SLI แม้การ์ดเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นเกม แต่ความสามารถด้านการประมวลผลแบบขนานกลับเหมาะสมกับการฝึก Neural Network อย่างยิ่ง 📊 ผลลัพธ์ที่พลิกวงการ AlexNet มีโครงสร้าง 8 ชั้นและพารามิเตอร์กว่า 60 ล้านตัว เมื่อถูกฝึกบน GTX 580s ผลลัพธ์สามารถเอาชนะอัลกอริทึมการจำแนกรูปภาพที่ดีที่สุดในยุคนั้นได้มากกว่า 70% ทำให้โลกวิชาการและอุตสาหกรรมหันมาสนใจ Deep Learning อย่างจริงจัง 🚀 Nvidia เข้าสู่เส้นทาง AI Jensen Huang เปิดเผยว่า หลังจากเห็นศักยภาพของ Deep Learning บน GPU บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนอย่างเต็มที่ในเทคโนโลยีนี้ ตั้งแต่การพัฒนา DGX systems ในปี 2016 ไปจนถึงสถาปัตยกรรม Volta ที่มี Tensor Cores และต่อยอดสู่ DLSS และการใช้งาน AI ในวงกว้าง 🌍 ผลกระทบต่อโลก AI หากไม่มีการทดลองบน GTX 580s ในปี 2012 Nvidia อาจยังคงเป็นบริษัทที่เน้นกราฟิกเกมเท่านั้น แต่การค้นพบนี้ได้เปลี่ยนทิศทางบริษัท และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ AI ที่เรากำลังเห็นในปัจจุบัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ทีมมหาวิทยาลัยโตรอนโตใช้ GTX 580s ใน SLI ➡️ เพื่อฝึกโมเดล AlexNet ในปี 2012 ✅ AlexNet เอาชนะอัลกอริทึมเดิมกว่า 70% ➡️ กลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการ Computer Vision ✅ Nvidia หันมาลงทุนใน AI อย่างเต็มที่ ➡️ พัฒนา DGX, Volta Tensor Cores และ DLSS ✅ GTX 580s กลายเป็นการ์ดจอแรกที่ใช้กับ AI ➡️ แม้ถูกออกแบบมาเพื่อเกม แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของ Deep Learning ‼️ หากไม่มีการทดลองนี้ Nvidia อาจไม่เข้าสู่ AI ⛔ โลกอาจไม่มีการเติบโตของ AI ในรูปแบบที่เราเห็นทุกวันนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/two-gtx-580s-in-sli-are-responsible-for-the-ai-we-have-today-nvidias-huang-revealed-that-the-invention-of-deep-learning-began-with-two-flagship-fermi-gpus-in-2012
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • iMac G3 กลับมาในร่าง M4-powered

    นักโมดิฟาย YouTube ชื่อ Zac Builds ได้สร้างโปรเจกต์สุดเจ๋ง โดยนำ iMac G3 รุ่นคลาสสิกจากยุค 90s มาดัดแปลงใหม่ให้กลายเป็น M4 iMac G3 ที่ใช้งานได้จริง ด้วยการใส่ Mac mini รุ่นใหม่, จอ 4K OLED และชิ้นส่วน 3D-printed เพื่อเสริมความแข็งแรง

    โปรเจกต์นี้เริ่มจากการรื้อ iMac G3 ออกทั้งหมด เหลือเพียงโครงและเคสใสสีขาว จากนั้น Zac ใช้เครื่องพิมพ์ 3D สร้างชิ้นส่วนเสริมเพื่อให้โครงแข็งแรงขึ้น ก่อนจะติดตั้ง Mac mini รุ่น M4 เป็นสมองหลักของเครื่อง พร้อมระบบไฟที่ดัดแปลงจาก power supply เดิมของ G3

    การปรับแต่งและอัปเกรด
    เพิ่ม ลำโพงใหม่ พร้อมแอมป์ดิจิทัล 200 วัตต์ เพื่อแทนที่ลำโพงเดิมที่เสียหาย
    ติดตั้ง Dock SSD เพื่อขยายความจุโดยไม่ต้องจ่ายแพงให้ Apple
    สร้างพอร์ตใหม่ เช่น Thunderbolt, USB-C, USB-A และ Ethernet ผ่านชิ้นส่วน 3D-printed
    ใส่ จอ 14 นิ้ว 4K OLED พร้อมตัวแปลงที่ทำให้หน้าจอเข้ากับเคสโค้งของ G3 ได้อย่างลงตัว

    ความหมายและผลกระทบ
    โปรเจกต์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความ nostalgia ให้กับผู้ใช้ที่เคยสัมผัส iMac G3 ในยุค 90s แต่ยังสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่าง ดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ทำให้เครื่องใช้งานได้จริงในปัจจุบัน แม้ภายในจะเต็มไปด้วยสายไฟที่ดูยุ่งเหยิง แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการรีไซเคิลและการสร้างสรรค์ในวงการ maker

    ข้อควรระวัง
    แม้โปรเจกต์นี้จะน่าสนใจ แต่การดัดแปลงลักษณะนี้ต้องใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D ขั้นสูง หากทำผิดพลาดอาจทำให้เครื่องเสียหายหรือเกิดอันตรายจากไฟฟ้าได้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Zac Builds ดัดแปลง iMac G3 เป็น M4 iMac G3
    ใช้ Mac mini รุ่นใหม่และจอ 4K OLED

    การปรับแต่งด้วย 3D Printing และอุปกรณ์ใหม่
    เพิ่มพอร์ต, ลำโพง, SSD dock และแอมป์ดิจิทัล

    ความหมายเชิง nostalgia และการรีไซเคิล
    ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่

    คำเตือนสำหรับผู้ที่อยากทำตาม
    ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D
    เสี่ยงต่อความเสียหายและอันตรายจากไฟฟ้าหากทำผิดพลาด

    https://www.tomshardware.com/maker-stem/intrepid-modder-builds-an-m4-powered-4k-imac-g3-with-3d-printed-parts-guts-90s-all-in-one-and-replaces-internals-with-a-mac-mini-and-an-oled-screen
    🖥️ iMac G3 กลับมาในร่าง M4-powered นักโมดิฟาย YouTube ชื่อ Zac Builds ได้สร้างโปรเจกต์สุดเจ๋ง โดยนำ iMac G3 รุ่นคลาสสิกจากยุค 90s มาดัดแปลงใหม่ให้กลายเป็น M4 iMac G3 ที่ใช้งานได้จริง ด้วยการใส่ Mac mini รุ่นใหม่, จอ 4K OLED และชิ้นส่วน 3D-printed เพื่อเสริมความแข็งแรง โปรเจกต์นี้เริ่มจากการรื้อ iMac G3 ออกทั้งหมด เหลือเพียงโครงและเคสใสสีขาว จากนั้น Zac ใช้เครื่องพิมพ์ 3D สร้างชิ้นส่วนเสริมเพื่อให้โครงแข็งแรงขึ้น ก่อนจะติดตั้ง Mac mini รุ่น M4 เป็นสมองหลักของเครื่อง พร้อมระบบไฟที่ดัดแปลงจาก power supply เดิมของ G3 🔧 การปรับแต่งและอัปเกรด 💠 เพิ่ม ลำโพงใหม่ พร้อมแอมป์ดิจิทัล 200 วัตต์ เพื่อแทนที่ลำโพงเดิมที่เสียหาย 💠 ติดตั้ง Dock SSD เพื่อขยายความจุโดยไม่ต้องจ่ายแพงให้ Apple 💠 สร้างพอร์ตใหม่ เช่น Thunderbolt, USB-C, USB-A และ Ethernet ผ่านชิ้นส่วน 3D-printed 💠 ใส่ จอ 14 นิ้ว 4K OLED พร้อมตัวแปลงที่ทำให้หน้าจอเข้ากับเคสโค้งของ G3 ได้อย่างลงตัว 🌍 ความหมายและผลกระทบ โปรเจกต์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความ nostalgia ให้กับผู้ใช้ที่เคยสัมผัส iMac G3 ในยุค 90s แต่ยังสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่าง ดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ทำให้เครื่องใช้งานได้จริงในปัจจุบัน แม้ภายในจะเต็มไปด้วยสายไฟที่ดูยุ่งเหยิง แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการรีไซเคิลและการสร้างสรรค์ในวงการ maker ⚠️ ข้อควรระวัง แม้โปรเจกต์นี้จะน่าสนใจ แต่การดัดแปลงลักษณะนี้ต้องใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D ขั้นสูง หากทำผิดพลาดอาจทำให้เครื่องเสียหายหรือเกิดอันตรายจากไฟฟ้าได้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Zac Builds ดัดแปลง iMac G3 เป็น M4 iMac G3 ➡️ ใช้ Mac mini รุ่นใหม่และจอ 4K OLED ✅ การปรับแต่งด้วย 3D Printing และอุปกรณ์ใหม่ ➡️ เพิ่มพอร์ต, ลำโพง, SSD dock และแอมป์ดิจิทัล ✅ ความหมายเชิง nostalgia และการรีไซเคิล ➡️ ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ที่อยากทำตาม ⛔ ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการพิมพ์ 3D ⛔ เสี่ยงต่อความเสียหายและอันตรายจากไฟฟ้าหากทำผิดพลาด https://www.tomshardware.com/maker-stem/intrepid-modder-builds-an-m4-powered-4k-imac-g3-with-3d-printed-parts-guts-90s-all-in-one-and-replaces-internals-with-a-mac-mini-and-an-oled-screen
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าว: ClayRat Android Spyware รุ่นใหม่ – ยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ

    นักวิจัยจาก Zimperium พบว่า ClayRat Android spyware ได้พัฒนาความสามารถใหม่จนสามารถยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ โดยใช้การหลอกให้ผู้ใช้เปิด Accessibility Services เพื่อขโมย PIN, บันทึกหน้าจอ และปิดระบบความปลอดภัยอย่าง Google Play Protect

    ClayRat รุ่นล่าสุดสามารถ บันทึกหน้าจอทั้งหมด, ขโมยรหัส PIN/Password/Pattern, และ ปิดการทำงานของ Google Play Protect ผ่านการสร้างหน้าจอปลอม เช่น “System Update” เพื่อหลอกผู้ใช้ให้กดอนุญาต ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่องได้เหมือนเจ้าของจริง

    วิธีการแพร่กระจาย
    มัลแวร์นี้ยังคงใช้วิธีปลอมตัวเป็นแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp, Google Photos, TikTok, YouTube รวมถึงบริการท้องถิ่นอย่างแอปแท็กซี่และที่จอดรถในรัสเซีย นอกจากนี้ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางกระจายไฟล์ และมีโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่งที่เลียนแบบแอปต่าง ๆ

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจ
    เนื่องจากพนักงานจำนวนมากใช้มือถือส่วนตัวทำงาน หากเครื่องติด ClayRat ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง อีเมลบริษัท, แอปแชท, และข้อมูลธุรกิจ ได้ทันที Zimperium พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ที่ถูกปล่อยออกมา แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการโจมตี

    วิธีป้องกัน
    ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น และตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง โดยเฉพาะ Accessibility Services ก่อนอนุญาต หากพบพฤติกรรมผิดปกติ เช่น แอปที่ขอสิทธิ์มากเกินไป ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ของ ClayRat
    บันทึกหน้าจอและขโมย PIN/Password
    ปิด Google Play Protect ด้วยหน้าจอปลอม

    วิธีแพร่กระจาย
    ปลอมเป็นแอปยอดนิยมและบริการท้องถิ่น
    ใช้ Dropbox และโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่ง

    ความเสี่ยงต่อธุรกิจ
    เข้าถึงอีเมลและข้อมูลบริษัทผ่านมือถือพนักงาน
    พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat

    วิธีป้องกัน
    ติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น
    ตรวจสอบสิทธิ์ Accessibility Services อย่างรอบคอบ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การอนุญาต Accessibility Services โดยไม่ตรวจสอบเสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่อง
    แอปที่ปลอมตัวอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจรั่วไหล

    https://hackread.com/clayrat-android-spyware-variant-device-control/
    📰 ข่าว: ClayRat Android Spyware รุ่นใหม่ – ยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยจาก Zimperium พบว่า ClayRat Android spyware ได้พัฒนาความสามารถใหม่จนสามารถยึดเครื่องได้เต็มรูปแบบ โดยใช้การหลอกให้ผู้ใช้เปิด Accessibility Services เพื่อขโมย PIN, บันทึกหน้าจอ และปิดระบบความปลอดภัยอย่าง Google Play Protect ClayRat รุ่นล่าสุดสามารถ บันทึกหน้าจอทั้งหมด, ขโมยรหัส PIN/Password/Pattern, และ ปิดการทำงานของ Google Play Protect ผ่านการสร้างหน้าจอปลอม เช่น “System Update” เพื่อหลอกผู้ใช้ให้กดอนุญาต ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่องได้เหมือนเจ้าของจริง 🎭 วิธีการแพร่กระจาย มัลแวร์นี้ยังคงใช้วิธีปลอมตัวเป็นแอปยอดนิยม เช่น WhatsApp, Google Photos, TikTok, YouTube รวมถึงบริการท้องถิ่นอย่างแอปแท็กซี่และที่จอดรถในรัสเซีย นอกจากนี้ยังใช้ Dropbox เป็นช่องทางกระจายไฟล์ และมีโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่งที่เลียนแบบแอปต่าง ๆ 🏢 ความเสี่ยงต่อธุรกิจ เนื่องจากพนักงานจำนวนมากใช้มือถือส่วนตัวทำงาน หากเครื่องติด ClayRat ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง อีเมลบริษัท, แอปแชท, และข้อมูลธุรกิจ ได้ทันที Zimperium พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ที่ถูกปล่อยออกมา แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของการโจมตี 🔒 วิธีป้องกัน ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น และตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึง โดยเฉพาะ Accessibility Services ก่อนอนุญาต หากพบพฤติกรรมผิดปกติ เช่น แอปที่ขอสิทธิ์มากเกินไป ควรลบออกทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ของ ClayRat ➡️ บันทึกหน้าจอและขโมย PIN/Password ➡️ ปิด Google Play Protect ด้วยหน้าจอปลอม ✅ วิธีแพร่กระจาย ➡️ ปลอมเป็นแอปยอดนิยมและบริการท้องถิ่น ➡️ ใช้ Dropbox และโดเมนฟิชชิงกว่า 25 แห่ง ✅ ความเสี่ยงต่อธุรกิจ ➡️ เข้าถึงอีเมลและข้อมูลบริษัทผ่านมือถือพนักงาน ➡️ พบแล้วกว่า 700 เวอร์ชันของ ClayRat ✅ วิธีป้องกัน ➡️ ติดตั้งแอปจาก Google Play Store เท่านั้น ➡️ ตรวจสอบสิทธิ์ Accessibility Services อย่างรอบคอบ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การอนุญาต Accessibility Services โดยไม่ตรวจสอบเสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่อง ⛔ แอปที่ปลอมตัวอาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวและธุรกิจรั่วไหล https://hackread.com/clayrat-android-spyware-variant-device-control/
    HACKREAD.COM
    New Variant of ClayRat Android Spyware Seize Full Device Control
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • Criminal IP Webinar – Beyond CVEs สู่การจัดการ Attack Surface

    Criminal IP เตรียมจัด Webinar วันที่ 16 ธันวาคม 2025 เวลา 11:00 AM PT โดยเน้นการเปลี่ยนมุมมองจากการพึ่งพา CVEs ไปสู่การจัดการช่องโหว่ที่เกิดจาก exposed digital assets ผ่านแพลตฟอร์ม Attack Surface Management (ASM) ที่ใช้ AI และ Threat Intelligence

    การโจมตีสมัยใหม่จำนวนมากไม่ได้เริ่มจากช่องโหว่ซอฟต์แวร์ที่มี CVE แต่เกิดจาก ทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจ เช่น cloud instances ที่ถูกลืม, API ที่เปิดสาธารณะ, storage ที่ตั้งค่าผิด หรือบริการที่เข้าถึงได้โดยไม่ป้องกัน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการโจมตีจริงในองค์กร

    Attack Surface Management (ASM) คือคำตอบ
    Criminal IP ASM ใช้ AI และ Threat Intelligence เพื่อช่วยทีมรักษาความปลอดภัย ตรวจจับและมองเห็นความเสี่ยงก่อนที่จะเกิดเหตุ โดยสามารถระบุเส้นทางการโจมตีที่ซ่อนอยู่, ลดการเปิดเผยข้อมูล และทำให้การป้องกันเชิงรุกเป็นไปได้จริง

    เนื้อหาที่จะนำเสนอใน Webinar
    ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้:
    ทำไมการพึ่งพา CVEs เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ
    ตัวอย่างจริงของการเปิดเผย cloud และบริการที่ถูกโจมตี
    วิธีที่ผู้โจมตีประเมินและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่เปิดเผย
    กรณีศึกษา ASM ที่ช่วยป้องกันเหตุการณ์ร้ายแรง

    ความร่วมมือและการเข้าถึง
    Criminal IP เป็นแพลตฟอร์ม Threat Intelligence ที่ใช้งานในกว่า 150 ประเทศ และมีพันธมิตรกับ Cisco, VirusTotal และ Quad9 รวมถึงให้บริการข้อมูลผ่าน AWS, Microsoft Azure และ Snowflake เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลภัยคุกคามได้ทั่วโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    Webinar วันที่ 16 ธันวาคม 2025
    เวลา 11:00 AM PT
    ฟรีสำหรับผู้เข้าร่วม

    ทำไม CVEs ไม่พอ
    การโจมตีเริ่มจากทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผย
    ตัวอย่างเช่น cloud, API, storage misconfig

    ASM ของ Criminal IP
    ใช้ AI และ Threat Intelligence
    ตรวจจับเส้นทางโจมตีและลดการเปิดเผย

    เนื้อหา Webinar
    กรณีศึกษา ASM
    วิธีคิดของผู้โจมตีต่อ exposed assets

    Ecosystem ของ Criminal IP
    ใช้งานในกว่า 150 ประเทศ
    พันธมิตรกับ Cisco, VirusTotal, Quad9

    คำเตือนสำหรับองค์กร
    การพึ่งพา CVEs อย่างเดียวเสี่ยงต่อการโจมตีสมัยใหม่
    หากไม่จัดการทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผย อาจเกิดเหตุร้ายแรงได้

    https://hackread.com/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm/
    📰 Criminal IP Webinar – Beyond CVEs สู่การจัดการ Attack Surface Criminal IP เตรียมจัด Webinar วันที่ 16 ธันวาคม 2025 เวลา 11:00 AM PT โดยเน้นการเปลี่ยนมุมมองจากการพึ่งพา CVEs ไปสู่การจัดการช่องโหว่ที่เกิดจาก exposed digital assets ผ่านแพลตฟอร์ม Attack Surface Management (ASM) ที่ใช้ AI และ Threat Intelligence การโจมตีสมัยใหม่จำนวนมากไม่ได้เริ่มจากช่องโหว่ซอฟต์แวร์ที่มี CVE แต่เกิดจาก ทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจ เช่น cloud instances ที่ถูกลืม, API ที่เปิดสาธารณะ, storage ที่ตั้งค่าผิด หรือบริการที่เข้าถึงได้โดยไม่ป้องกัน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการโจมตีจริงในองค์กร 🧠 Attack Surface Management (ASM) คือคำตอบ Criminal IP ASM ใช้ AI และ Threat Intelligence เพื่อช่วยทีมรักษาความปลอดภัย ตรวจจับและมองเห็นความเสี่ยงก่อนที่จะเกิดเหตุ โดยสามารถระบุเส้นทางการโจมตีที่ซ่อนอยู่, ลดการเปิดเผยข้อมูล และทำให้การป้องกันเชิงรุกเป็นไปได้จริง 📚 เนื้อหาที่จะนำเสนอใน Webinar ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้: 💠 ทำไมการพึ่งพา CVEs เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ 💠 ตัวอย่างจริงของการเปิดเผย cloud และบริการที่ถูกโจมตี 💠 วิธีที่ผู้โจมตีประเมินและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่เปิดเผย 💠 กรณีศึกษา ASM ที่ช่วยป้องกันเหตุการณ์ร้ายแรง 🌐 ความร่วมมือและการเข้าถึง Criminal IP เป็นแพลตฟอร์ม Threat Intelligence ที่ใช้งานในกว่า 150 ประเทศ และมีพันธมิตรกับ Cisco, VirusTotal และ Quad9 รวมถึงให้บริการข้อมูลผ่าน AWS, Microsoft Azure และ Snowflake เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลภัยคุกคามได้ทั่วโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Webinar วันที่ 16 ธันวาคม 2025 ➡️ เวลา 11:00 AM PT ➡️ ฟรีสำหรับผู้เข้าร่วม ✅ ทำไม CVEs ไม่พอ ➡️ การโจมตีเริ่มจากทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผย ➡️ ตัวอย่างเช่น cloud, API, storage misconfig ✅ ASM ของ Criminal IP ➡️ ใช้ AI และ Threat Intelligence ➡️ ตรวจจับเส้นทางโจมตีและลดการเปิดเผย ✅ เนื้อหา Webinar ➡️ กรณีศึกษา ASM ➡️ วิธีคิดของผู้โจมตีต่อ exposed assets ✅ Ecosystem ของ Criminal IP ➡️ ใช้งานในกว่า 150 ประเทศ ➡️ พันธมิตรกับ Cisco, VirusTotal, Quad9 ‼️ คำเตือนสำหรับองค์กร ⛔ การพึ่งพา CVEs อย่างเดียวเสี่ยงต่อการโจมตีสมัยใหม่ ⛔ หากไม่จัดการทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผย อาจเกิดเหตุร้ายแรงได้ https://hackread.com/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm/
    HACKREAD.COM
    Criminal IP to Host Webinar: Beyond CVEs – From Visibility to Action with ASM
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • PromptPwnd – ช่องโหว่ AI ที่ทำให้ข้อมูลรั่วไหล

    ช่องโหว่ใหม่ชื่อ PromptPwnd ถูกค้นพบในระบบ CI/CD ที่ใช้ AI เช่น GitHub Actions และ GitLab โดยนักวิจัยจาก Aikido Security พบว่าแฮกเกอร์สามารถใช้เทคนิค prompt injection เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญอย่าง security keys และปรับเปลี่ยน workflow ได้

    PromptPwnd เกิดขึ้นเมื่อ AI agent ที่ทำงานในระบบอัตโนมัติ (เช่น Gemini CLI, Claude Code Actions, OpenAI Codex Actions) ถูกป้อนข้อความที่มีคำสั่งแฝงอยู่ใน bug report หรือ input อื่น ๆ ทำให้ AI เข้าใจผิดและรันคำสั่งที่มีสิทธิ์สูงโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง GITHUB_TOKEN หรือข้อมูลลับอื่น ๆ ได้

    บริษัทใหญ่ได้รับผลกระทบ
    Aikido Security ยืนยันว่ามีอย่างน้อย 5 บริษัท Fortune 500 ที่ถูกเปิดเผยต่อความเสี่ยงนี้ และในกรณีของ Google ช่องโหว่ถูกพบใน Gemini CLI repository ซึ่งถูกแก้ไขภายใน 4 วันหลังจากได้รับรายงาน ถือเป็นครั้งแรกที่มีการยืนยันว่า prompt injection สามารถทำลายระบบซอฟต์แวร์ที่สำคัญได้จริง

    การแก้ไขและแนวทางป้องกัน
    Aikido Security ได้เปิดซอร์ส Opengrep rules เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถตรวจสอบโค้ดของตัวเองว่ามีช่องโหว่หรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ จำกัดสิทธิ์ของ AI agents และหลีกเลี่ยงการใส่ข้อความจากผู้ใช้โดยตรงเข้าไปใน prompt โดยไม่กรอง

    ผลกระทบต่อวงการ AI Automation
    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้ AI จะช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงาน แต่ก็สร้างความเสี่ยงใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน หากไม่มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด ระบบอัตโนมัติที่ใช้ AI อาจกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหลได้

    สรุปสาระสำคัญ
    ช่องโหว่ PromptPwnd
    เกิดจาก prompt injection ในระบบ CI/CD
    ทำให้ AI agent รันคำสั่งที่มีสิทธิ์สูงโดยไม่ได้ตั้งใจ

    บริษัทที่ได้รับผลกระทบ
    อย่างน้อย 5 บริษัท Fortune 500
    Google Gemini CLI repository ถูกแก้ไขภายใน 4 วัน

    การแก้ไขและป้องกัน
    ใช้ Opengrep rules ตรวจสอบโค้ด
    จำกัดสิทธิ์ AI agents และกรอง input

    ผลกระทบต่อวงการ AI Automation
    แสดงให้เห็นความเสี่ยงใหม่จากการใช้ AI
    ระบบอัตโนมัติอาจกลายเป็นจุดอ่อนขององค์กร

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้และองค์กร
    การใช้ AI โดยไม่กรอง input อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหล
    การปิด safety rules ในระบบอัตโนมัติยิ่งเพิ่มความเสี่ยง

    https://hackread.com/promptpwnd-vulnerabilit-ai-systems-data-theft/
    📰 PromptPwnd – ช่องโหว่ AI ที่ทำให้ข้อมูลรั่วไหล ช่องโหว่ใหม่ชื่อ PromptPwnd ถูกค้นพบในระบบ CI/CD ที่ใช้ AI เช่น GitHub Actions และ GitLab โดยนักวิจัยจาก Aikido Security พบว่าแฮกเกอร์สามารถใช้เทคนิค prompt injection เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญอย่าง security keys และปรับเปลี่ยน workflow ได้ PromptPwnd เกิดขึ้นเมื่อ AI agent ที่ทำงานในระบบอัตโนมัติ (เช่น Gemini CLI, Claude Code Actions, OpenAI Codex Actions) ถูกป้อนข้อความที่มีคำสั่งแฝงอยู่ใน bug report หรือ input อื่น ๆ ทำให้ AI เข้าใจผิดและรันคำสั่งที่มีสิทธิ์สูงโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง GITHUB_TOKEN หรือข้อมูลลับอื่น ๆ ได้ 🏢 บริษัทใหญ่ได้รับผลกระทบ Aikido Security ยืนยันว่ามีอย่างน้อย 5 บริษัท Fortune 500 ที่ถูกเปิดเผยต่อความเสี่ยงนี้ และในกรณีของ Google ช่องโหว่ถูกพบใน Gemini CLI repository ซึ่งถูกแก้ไขภายใน 4 วันหลังจากได้รับรายงาน ถือเป็นครั้งแรกที่มีการยืนยันว่า prompt injection สามารถทำลายระบบซอฟต์แวร์ที่สำคัญได้จริง 🛠️ การแก้ไขและแนวทางป้องกัน Aikido Security ได้เปิดซอร์ส Opengrep rules เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถตรวจสอบโค้ดของตัวเองว่ามีช่องโหว่หรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ จำกัดสิทธิ์ของ AI agents และหลีกเลี่ยงการใส่ข้อความจากผู้ใช้โดยตรงเข้าไปใน prompt โดยไม่กรอง 🌐 ผลกระทบต่อวงการ AI Automation เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้ AI จะช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงาน แต่ก็สร้างความเสี่ยงใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน หากไม่มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด ระบบอัตโนมัติที่ใช้ AI อาจกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหลได้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ช่องโหว่ PromptPwnd ➡️ เกิดจาก prompt injection ในระบบ CI/CD ➡️ ทำให้ AI agent รันคำสั่งที่มีสิทธิ์สูงโดยไม่ได้ตั้งใจ ✅ บริษัทที่ได้รับผลกระทบ ➡️ อย่างน้อย 5 บริษัท Fortune 500 ➡️ Google Gemini CLI repository ถูกแก้ไขภายใน 4 วัน ✅ การแก้ไขและป้องกัน ➡️ ใช้ Opengrep rules ตรวจสอบโค้ด ➡️ จำกัดสิทธิ์ AI agents และกรอง input ✅ ผลกระทบต่อวงการ AI Automation ➡️ แสดงให้เห็นความเสี่ยงใหม่จากการใช้ AI ➡️ ระบบอัตโนมัติอาจกลายเป็นจุดอ่อนขององค์กร ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้และองค์กร ⛔ การใช้ AI โดยไม่กรอง input อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหล ⛔ การปิด safety rules ในระบบอัตโนมัติยิ่งเพิ่มความเสี่ยง https://hackread.com/promptpwnd-vulnerabilit-ai-systems-data-theft/
    HACKREAD.COM
    PromptPwnd Vulnerability Exposes AI driven build systems to Data Theft
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัปเดตระบบ Android ธันวาคม 2025

    Google ปล่อย Android System Update เดือนธันวาคม 2025 แล้ว โดยเน้นปรับปรุงเสถียรภาพ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store และแก้ไขบั๊ก พร้อมคำแนะนำวิธีอัปเดตสำหรับผู้ใช้ Samsung และ Pixel

    Google ระบุว่าแพตช์ล่าสุดได้อัปเดต system management services เพื่อปรับปรุง Device Performance และ Stability ทำให้เครื่องทำงานได้ลื่นไหลขึ้น ลดปัญหาการค้างหรือการทำงานผิดพลาดที่ผู้ใช้บางรายเคยเจอ

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store
    มีการเพิ่ม คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ Play Protect เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระวังแอปที่อาจไม่ปลอดภัย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถ กลับไปดู/อ่าน/ฟังคอนเทนต์จากแอปที่ติดตั้งไว้ได้โดยตรงจาก Play Store ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

    การกระจายฟีเจอร์แบบค่อยเป็นค่อยไป
    Google ย้ำว่าแม้ฟีเจอร์ใหม่จะปรากฏใน changelog แต่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ใช้ทันที เพราะบางฟีเจอร์ต้องใช้เวลาสักระยะในการปล่อย เช่น การออกแบบใหม่ของ QR code scanner ที่ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ แต่กลับมาให้ใช้งานอีกครั้งในบางอุปกรณ์

    วิธีอัปเดตระบบ
    ขั้นตอนการอัปเดตแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ เช่น บน Samsung
    Galaxy S24 ผู้ใช้ต้องเข้าไปที่
    Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services แล้วเลือกอัปเดต

    ส่วนบน Google Pixel 10 Pro Fold จะต้องเข้าไปที่ Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services
    การอัปเดตใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีและไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง

    สรุปสาระสำคัญ
    การปรับปรุงระบบ
    เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพของอุปกรณ์
    ลดปัญหาการค้างและบั๊ก

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Play Store
    คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่าน Play Protect
    ฟีเจอร์ resume content จากแอปที่ติดตั้ง

    การกระจายฟีเจอร์
    ฟีเจอร์ใหม่อาจไม่พร้อมใช้งานทันที
    ตัวอย่างเช่น QR code scanner redesign

    วิธีอัปเดต
    Samsung Galaxy S24: Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services
    Pixel 10 Pro Fold: Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างอาจยังไม่ปรากฏในอุปกรณ์ของคุณ
    ควรตรวจสอบการอัปเดตด้วยตนเองเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด

    https://www.slashgear.com/2043607/google-system-updates-android-december-2025/
    📰 อัปเดตระบบ Android ธันวาคม 2025 Google ปล่อย Android System Update เดือนธันวาคม 2025 แล้ว โดยเน้นปรับปรุงเสถียรภาพ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store และแก้ไขบั๊ก พร้อมคำแนะนำวิธีอัปเดตสำหรับผู้ใช้ Samsung และ Pixel Google ระบุว่าแพตช์ล่าสุดได้อัปเดต system management services เพื่อปรับปรุง Device Performance และ Stability ทำให้เครื่องทำงานได้ลื่นไหลขึ้น ลดปัญหาการค้างหรือการทำงานผิดพลาดที่ผู้ใช้บางรายเคยเจอ 🛡️ ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Play Store มีการเพิ่ม คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ Play Protect เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระวังแอปที่อาจไม่ปลอดภัย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถ กลับไปดู/อ่าน/ฟังคอนเทนต์จากแอปที่ติดตั้งไว้ได้โดยตรงจาก Play Store ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน 📲 การกระจายฟีเจอร์แบบค่อยเป็นค่อยไป Google ย้ำว่าแม้ฟีเจอร์ใหม่จะปรากฏใน changelog แต่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ใช้ทันที เพราะบางฟีเจอร์ต้องใช้เวลาสักระยะในการปล่อย เช่น การออกแบบใหม่ของ QR code scanner ที่ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ แต่กลับมาให้ใช้งานอีกครั้งในบางอุปกรณ์ 🔧 วิธีอัปเดตระบบ ขั้นตอนการอัปเดตแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ เช่น บน Samsung Galaxy S24 ผู้ใช้ต้องเข้าไปที่ Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services แล้วเลือกอัปเดต ส่วนบน Google Pixel 10 Pro Fold จะต้องเข้าไปที่ Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services การอัปเดตใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีและไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การปรับปรุงระบบ ➡️ เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ➡️ ลดปัญหาการค้างและบั๊ก ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Play Store ➡️ คำเตือนสำหรับแอปที่ไม่ผ่าน Play Protect ➡️ ฟีเจอร์ resume content จากแอปที่ติดตั้ง ✅ การกระจายฟีเจอร์ ➡️ ฟีเจอร์ใหม่อาจไม่พร้อมใช้งานทันที ➡️ ตัวอย่างเช่น QR code scanner redesign ✅ วิธีอัปเดต ➡️ Samsung Galaxy S24: Settings → Google → All Services → Privacy & Security → System Services ➡️ Pixel 10 Pro Fold: Settings → Google Services → All Services → Privacy & Security → System Services ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างอาจยังไม่ปรากฏในอุปกรณ์ของคุณ ⛔ ควรตรวจสอบการอัปเดตด้วยตนเองเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด https://www.slashgear.com/2043607/google-system-updates-android-december-2025/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Check Your Android Device: Google's December 2025 System Update Is Live - SlashGear
    If you have an Android device, a system update might be waiting for you. Here's what the update includes and how you can download it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Intel เก็บ NEX ไว้ในบริษัท – เสริมพลังการบูรณาการเพื่ออนาคต AI และดาต้าเซ็นเตอร์"

    Intel เคยพิจารณาขายหรือแยกแผนก Networking and Communications (NEX) ออกมาเป็นธุรกิจอิสระ แต่หลังการประเมินเชิงกลยุทธ์ บริษัทตัดสินใจเก็บไว้ภายใน โดยให้เหตุผลว่า การบูรณาการระหว่างซิลิคอน ซอฟต์แวร์ และระบบ จะสร้างคุณค่าให้ลูกค้าได้มากกว่า และช่วยเพิ่มรายได้ต่อระบบที่ขาย.

    NEX เป็นหนึ่งใน “อัญมณี” ของ Intel ที่แม้ไม่โด่งดังเท่าซีพียู แต่มีบทบาทสำคัญในตลาด เช่น Ethernet controllers, Wi-Fi controllers, IPUs (Infrastructure Processing Units), และซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย ซึ่งถูกใช้งานตั้งแต่พีซีทั่วไปไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์.

    แม้ NEX จะสร้างรายได้กว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปี 2024 แต่การเติบโตยังชะลอตัว อย่างไรก็ตาม Intel มองว่าการเก็บไว้จะช่วยเสริม ecosystem ของบริษัท โดยเฉพาะเมื่อสามารถขายซีพียู Xeon ควบคู่กับ Ethernet และ IPU ได้ในแพ็กเกจเดียว เพิ่มมูลค่าต่อระบบ.

    การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง Intel ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 8.9 พันล้านดอลลาร์จากรัฐบาลสหรัฐฯ และอีกหลายพันล้านจาก SoftBank และ Nvidia ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอโดยไม่จำเป็นต้องขาย NEX เพื่อหาเงินสดในระยะสั้น.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Intel ตัดสินใจไม่ขายแผนก NEX หลังการประเมินเชิงกลยุทธ์
    NEX ผลิต Ethernet, Wi-Fi, IPU และซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย
    รายได้ Q4 2024 อยู่ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ กำไร 300 ล้านดอลลาร์
    Intel ได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตร ทำให้ไม่จำเป็นต้องขาย

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาด Ethernet และ IPU กำลังเติบโตตามความต้องการ AI และ Cloud Computing
    คู่แข่งสำคัญในตลาดนี้คือ Broadcom, Marvell และ Nvidia (ผ่าน Mellanox)
    การบูรณาการเครือข่ายกับซีพียูเป็นแนวทางที่ช่วยเพิ่มรายได้ต่อระบบให้ผู้ผลิตชิป

    คำเตือนจากข่าว
    NEX ยังเติบโตช้าเมื่อเทียบกับธุรกิจหลักของ Intel
    หากการบูรณาการไม่สร้างผลลัพธ์จริง อาจกลายเป็นภาระต้นทุน
    ตลาดเครือข่ายแข่งขันสูง อาจทำให้ Intel ต้องลงทุนเพิ่มเพื่อรักษาส่วนแบ่ง

    https://www.tomshardware.com/networking/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division-says-keeping-nex-in-house-will-strengthen-integration-and-customer-offerings
    🌐 "Intel เก็บ NEX ไว้ในบริษัท – เสริมพลังการบูรณาการเพื่ออนาคต AI และดาต้าเซ็นเตอร์" Intel เคยพิจารณาขายหรือแยกแผนก Networking and Communications (NEX) ออกมาเป็นธุรกิจอิสระ แต่หลังการประเมินเชิงกลยุทธ์ บริษัทตัดสินใจเก็บไว้ภายใน โดยให้เหตุผลว่า การบูรณาการระหว่างซิลิคอน ซอฟต์แวร์ และระบบ จะสร้างคุณค่าให้ลูกค้าได้มากกว่า และช่วยเพิ่มรายได้ต่อระบบที่ขาย. NEX เป็นหนึ่งใน “อัญมณี” ของ Intel ที่แม้ไม่โด่งดังเท่าซีพียู แต่มีบทบาทสำคัญในตลาด เช่น Ethernet controllers, Wi-Fi controllers, IPUs (Infrastructure Processing Units), และซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย ซึ่งถูกใช้งานตั้งแต่พีซีทั่วไปไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์. แม้ NEX จะสร้างรายได้กว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปี 2024 แต่การเติบโตยังชะลอตัว อย่างไรก็ตาม Intel มองว่าการเก็บไว้จะช่วยเสริม ecosystem ของบริษัท โดยเฉพาะเมื่อสามารถขายซีพียู Xeon ควบคู่กับ Ethernet และ IPU ได้ในแพ็กเกจเดียว เพิ่มมูลค่าต่อระบบ. การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง Intel ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 8.9 พันล้านดอลลาร์จากรัฐบาลสหรัฐฯ และอีกหลายพันล้านจาก SoftBank และ Nvidia ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอโดยไม่จำเป็นต้องขาย NEX เพื่อหาเงินสดในระยะสั้น. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Intel ตัดสินใจไม่ขายแผนก NEX หลังการประเมินเชิงกลยุทธ์ ➡️ NEX ผลิต Ethernet, Wi-Fi, IPU และซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย ➡️ รายได้ Q4 2024 อยู่ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ กำไร 300 ล้านดอลลาร์ ➡️ Intel ได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตร ทำให้ไม่จำเป็นต้องขาย ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาด Ethernet และ IPU กำลังเติบโตตามความต้องการ AI และ Cloud Computing ➡️ คู่แข่งสำคัญในตลาดนี้คือ Broadcom, Marvell และ Nvidia (ผ่าน Mellanox) ➡️ การบูรณาการเครือข่ายกับซีพียูเป็นแนวทางที่ช่วยเพิ่มรายได้ต่อระบบให้ผู้ผลิตชิป ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ NEX ยังเติบโตช้าเมื่อเทียบกับธุรกิจหลักของ Intel ⛔ หากการบูรณาการไม่สร้างผลลัพธ์จริง อาจกลายเป็นภาระต้นทุน ⛔ ตลาดเครือข่ายแข่งขันสูง อาจทำให้ Intel ต้องลงทุนเพิ่มเพื่อรักษาส่วนแบ่ง https://www.tomshardware.com/networking/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division-says-keeping-nex-in-house-will-strengthen-integration-and-customer-offerings
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • "การ์ดจอ 3dfx Voodoo2 ปี 1998 กลับมามีชีวิตบน Ryzen 9 และ Windows 11"

    นักรีวิวจาก YouTube ช่อง Omores ได้ทดลองนำ Creative 3dfx Voodoo2 12MB ซึ่งเป็นการ์ดจอจากปี 1998 มาทำงานบนเครื่อง PC รุ่นใหม่ที่ใช้ AMD Ryzen 9 9900X และระบบปฏิบัติการ Windows 11 การเชื่อมต่อทำผ่านอุปกรณ์ PCI-E to PCI enclosure ของ StarTech เพื่อให้การ์ดเก่าทำงานร่วมกับเมนบอร์ด AM5 รุ่นใหม่.

    การทดสอบเริ่มจากการติดตั้ง Windows 98 และ Windows 10 แบบ 32-bit ซึ่งสามารถทำงานได้ด้วยไดรเวอร์จากชุมชนผู้พัฒนา ต่อมา Omores ใช้ไดรเวอร์ทดลองจากปี 2006 ที่พัฒนาสำหรับ Windows NT และปรับแก้ให้ทำงานบน Windows 10/11 แบบ 64-bit ผลคือสามารถรันเกมคลาสสิกอย่าง Quake II และ 3DMark 2001 SE ได้สำเร็จ.

    แม้จะทำงานได้ แต่เมื่อ Omores พยายามใช้การ์ด Voodoo2 สองตัวในโหมด SLI (Scan-Line Interleave) ระบบกลับล้มเหลว เนื่องจากการ์ดรุ่น Joytech Apollo 3D Fast II 12MB มีบั๊กและไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเสถียร ทำให้การทดลองต้องหยุดที่การ์ดเดี่ยว.

    การทดลองนี้สะท้อนว่า แม้เทคโนโลยีเก่าจะถูกทิ้งไปนาน แต่ด้วยความพยายามและการปรับแต่งไดรเวอร์ ก็ยังสามารถนำกลับมาใช้งานได้ในระบบใหม่ เป็นการผสมผสานระหว่าง ความ怀旧 (nostalgia) และ ความท้าทายทางเทคนิค ที่ดึงดูดใจนักเล่นฮาร์ดแวร์สายวินเทจ.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    ใช้การ์ดจอ 3dfx Voodoo2 12MB บน Ryzen 9 9900X และ Windows 11
    เชื่อมต่อผ่าน StarTech PCI-E to PCI enclosure
    ใช้ไดรเวอร์ทดลองจากปี 2006 เพื่อรันบน Windows 64-bit
    รันเกม Quake II และ 3DMark 2001 SE ได้สำเร็จ
    การทดลอง SLI ล้มเหลวเพราะการ์ดตัวที่สองมีบั๊ก

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    3dfx Voodoo2 เปิดตัวปี 1998 และเป็นการ์ดจอที่ได้รับความนิยมสูงในยุคนั้น
    เทคโนโลยี SLI ของ 3dfx เป็นต้นแบบให้กับ Nvidia ในเวลาต่อมา
    ปัจจุบันมีชุมชนออนไลน์ที่ยังคงพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์สำหรับการ์ดจอวินเทจ

    คำเตือนจากข่าว
    การใช้การ์ดเก่าบนระบบใหม่อาจเสี่ยงต่อความไม่เสถียรและบั๊ก
    การระบายความร้อนและการใช้พลังงานอาจไม่เหมาะสมกับสถาปัตยกรรมใหม่
    การพยายามใช้ SLI กับการ์ดรุ่นเก่าอาจทำให้ระบบล้มเหลว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/ancient-3dfx-voodoo2-graphics-card-coaxed-into-working-in-modern-amd-ryzen-9-9900x-powered-windows-11-system
    🕹️ "การ์ดจอ 3dfx Voodoo2 ปี 1998 กลับมามีชีวิตบน Ryzen 9 และ Windows 11" นักรีวิวจาก YouTube ช่อง Omores ได้ทดลองนำ Creative 3dfx Voodoo2 12MB ซึ่งเป็นการ์ดจอจากปี 1998 มาทำงานบนเครื่อง PC รุ่นใหม่ที่ใช้ AMD Ryzen 9 9900X และระบบปฏิบัติการ Windows 11 การเชื่อมต่อทำผ่านอุปกรณ์ PCI-E to PCI enclosure ของ StarTech เพื่อให้การ์ดเก่าทำงานร่วมกับเมนบอร์ด AM5 รุ่นใหม่. การทดสอบเริ่มจากการติดตั้ง Windows 98 และ Windows 10 แบบ 32-bit ซึ่งสามารถทำงานได้ด้วยไดรเวอร์จากชุมชนผู้พัฒนา ต่อมา Omores ใช้ไดรเวอร์ทดลองจากปี 2006 ที่พัฒนาสำหรับ Windows NT และปรับแก้ให้ทำงานบน Windows 10/11 แบบ 64-bit ผลคือสามารถรันเกมคลาสสิกอย่าง Quake II และ 3DMark 2001 SE ได้สำเร็จ. แม้จะทำงานได้ แต่เมื่อ Omores พยายามใช้การ์ด Voodoo2 สองตัวในโหมด SLI (Scan-Line Interleave) ระบบกลับล้มเหลว เนื่องจากการ์ดรุ่น Joytech Apollo 3D Fast II 12MB มีบั๊กและไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเสถียร ทำให้การทดลองต้องหยุดที่การ์ดเดี่ยว. การทดลองนี้สะท้อนว่า แม้เทคโนโลยีเก่าจะถูกทิ้งไปนาน แต่ด้วยความพยายามและการปรับแต่งไดรเวอร์ ก็ยังสามารถนำกลับมาใช้งานได้ในระบบใหม่ เป็นการผสมผสานระหว่าง ความ怀旧 (nostalgia) และ ความท้าทายทางเทคนิค ที่ดึงดูดใจนักเล่นฮาร์ดแวร์สายวินเทจ. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ใช้การ์ดจอ 3dfx Voodoo2 12MB บน Ryzen 9 9900X และ Windows 11 ➡️ เชื่อมต่อผ่าน StarTech PCI-E to PCI enclosure ➡️ ใช้ไดรเวอร์ทดลองจากปี 2006 เพื่อรันบน Windows 64-bit ➡️ รันเกม Quake II และ 3DMark 2001 SE ได้สำเร็จ ➡️ การทดลอง SLI ล้มเหลวเพราะการ์ดตัวที่สองมีบั๊ก ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ 3dfx Voodoo2 เปิดตัวปี 1998 และเป็นการ์ดจอที่ได้รับความนิยมสูงในยุคนั้น ➡️ เทคโนโลยี SLI ของ 3dfx เป็นต้นแบบให้กับ Nvidia ในเวลาต่อมา ➡️ ปัจจุบันมีชุมชนออนไลน์ที่ยังคงพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์สำหรับการ์ดจอวินเทจ ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ การใช้การ์ดเก่าบนระบบใหม่อาจเสี่ยงต่อความไม่เสถียรและบั๊ก ⛔ การระบายความร้อนและการใช้พลังงานอาจไม่เหมาะสมกับสถาปัตยกรรมใหม่ ⛔ การพยายามใช้ SLI กับการ์ดรุ่นเก่าอาจทำให้ระบบล้มเหลว https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/ancient-3dfx-voodoo2-graphics-card-coaxed-into-working-in-modern-amd-ryzen-9-9900x-powered-windows-11-system
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Valve เปิดวิสัยทัศน์ – เกม PC สู่โลก Arm ผ่าน SteamOS"

    Valve กำลังพัฒนาโครงการที่ทำให้ เกม Windows บน PC สามารถรันได้บนอุปกรณ์ Arm โดยไม่ต้องรอให้ผู้พัฒนาเกมทำการพอร์ตเอง เทคโนโลยีนี้ใช้การผสมผสานระหว่าง Proton (ชั้นความเข้ากันได้ Windows-to-Linux) และ FEX Emulator (แปลงสถาปัตยกรรม x86 เป็น Arm) ซึ่งช่วยให้เกมที่สร้างขึ้นสำหรับ Windows สามารถทำงานบน Linux และ Arm ได้อย่างราบรื่น

    Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่าเป้าหมายคือการทำให้ SteamOS และ Steam Machine ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครื่องคอนโซล แต่สามารถขยายไปสู่ สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก Arm ได้ในอนาคต ตัวอย่างเช่น เกมดังอย่าง Hollow Knight: Silksong แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android แต่สามารถเล่นได้แล้วบนมือถือ Samsung Galaxy ผ่านเทคโนโลยีใหม่นี้

    Valve ยังเปิดตัวชื่ออย่างเป็นทางการของเลเยอร์ความเข้ากันได้สำหรับ Android คือ Lepton พร้อมโลโก้รูปกบ ซึ่งสะท้อนความตั้งใจที่จะสร้าง ecosystem ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และนักพัฒนา โดย Lepton จะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเกม PC ให้เข้าถึงผู้ใช้มือถือหลายพันล้านคนทั่วโลก

    แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ Valve ยืนยันว่าจะไม่ อุดหนุนราคาของ Steam Machine เพื่อแข่งขันกับคอนโซลรายใหญ่ เน้นการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งอาจเป็นการวางรากฐานให้เกม PC กลายเป็น “แพลตฟอร์มไร้พรมแดน” ที่สามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Valve ใช้ Proton + FEX Emulator เพื่อรันเกม Windows บน Arm
    เกม Hollow Knight: Silksong เล่นได้บนมือถือ Samsung Galaxy แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android
    เปิดตัว Lepton เป็น compatibility layer สำหรับ Android พร้อมโลโก้กบ
    Valve จะไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาดสมาร์ทโฟน Arm มีผู้ใช้งานมากกว่า 6 พันล้านเครื่องทั่วโลก
    การเล่นเกม PC บนมือถืออาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เล่นและตลาดเกมพกพา
    นักพัฒนาหลายรายเริ่มสนใจการใช้ Proton และ Emulator เพื่อขยายฐานผู้เล่น

    คำเตือนจากข่าว
    การรันเกม PC บนมือถืออาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพและแบตเตอรี่
    หากไม่มีการสนับสนุนจากนักพัฒนา อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ในบางเกม
    การไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine อาจทำให้แข่งขันกับคอนโซลยากขึ้น

    https://www.theverge.com/report/820656/valve-interview-arm-gaming-steamos-pierre-loup-griffais
    🎮 "Valve เปิดวิสัยทัศน์ – เกม PC สู่โลก Arm ผ่าน SteamOS" Valve กำลังพัฒนาโครงการที่ทำให้ เกม Windows บน PC สามารถรันได้บนอุปกรณ์ Arm โดยไม่ต้องรอให้ผู้พัฒนาเกมทำการพอร์ตเอง เทคโนโลยีนี้ใช้การผสมผสานระหว่าง Proton (ชั้นความเข้ากันได้ Windows-to-Linux) และ FEX Emulator (แปลงสถาปัตยกรรม x86 เป็น Arm) ซึ่งช่วยให้เกมที่สร้างขึ้นสำหรับ Windows สามารถทำงานบน Linux และ Arm ได้อย่างราบรื่น Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่าเป้าหมายคือการทำให้ SteamOS และ Steam Machine ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครื่องคอนโซล แต่สามารถขยายไปสู่ สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก Arm ได้ในอนาคต ตัวอย่างเช่น เกมดังอย่าง Hollow Knight: Silksong แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android แต่สามารถเล่นได้แล้วบนมือถือ Samsung Galaxy ผ่านเทคโนโลยีใหม่นี้ Valve ยังเปิดตัวชื่ออย่างเป็นทางการของเลเยอร์ความเข้ากันได้สำหรับ Android คือ Lepton พร้อมโลโก้รูปกบ ซึ่งสะท้อนความตั้งใจที่จะสร้าง ecosystem ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และนักพัฒนา โดย Lepton จะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเกม PC ให้เข้าถึงผู้ใช้มือถือหลายพันล้านคนทั่วโลก แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ Valve ยืนยันว่าจะไม่ อุดหนุนราคาของ Steam Machine เพื่อแข่งขันกับคอนโซลรายใหญ่ เน้นการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งอาจเป็นการวางรากฐานให้เกม PC กลายเป็น “แพลตฟอร์มไร้พรมแดน” ที่สามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Valve ใช้ Proton + FEX Emulator เพื่อรันเกม Windows บน Arm ➡️ เกม Hollow Knight: Silksong เล่นได้บนมือถือ Samsung Galaxy แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android ➡️ เปิดตัว Lepton เป็น compatibility layer สำหรับ Android พร้อมโลโก้กบ ➡️ Valve จะไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาดสมาร์ทโฟน Arm มีผู้ใช้งานมากกว่า 6 พันล้านเครื่องทั่วโลก ➡️ การเล่นเกม PC บนมือถืออาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เล่นและตลาดเกมพกพา ➡️ นักพัฒนาหลายรายเริ่มสนใจการใช้ Proton และ Emulator เพื่อขยายฐานผู้เล่น ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ การรันเกม PC บนมือถืออาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพและแบตเตอรี่ ⛔ หากไม่มีการสนับสนุนจากนักพัฒนา อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ในบางเกม ⛔ การไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine อาจทำให้แข่งขันกับคอนโซลยากขึ้น https://www.theverge.com/report/820656/valve-interview-arm-gaming-steamos-pierre-loup-griffais
    WWW.THEVERGE.COM
    Steam Machine today, Steam Phones tomorrow
    The Steam Frame is a Trojan horse carrying Arm’s gaming future.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ชุมชนโปรแกรมเมอร์เรียกร้อง Oracle ปล่อยสิทธิ์เครื่องหมายการค้า JavaScript"

    จดหมายเปิดผนึกนี้ถูกลงนามโดยบุคคลสำคัญในวงการ เช่น Brendan Eich (ผู้สร้าง JavaScript) และ Ryan Dahl (ผู้สร้าง Node.js) พร้อมด้วยนักพัฒนาอีกหลายหมื่นคน พวกเขาเรียกร้องให้ Oracle ยุติการถือครองเครื่องหมายการค้า “JavaScript” ซึ่งปัจจุบันถูกมองว่าเป็นการละเลยและไม่สอดคล้องกับการใช้งานจริงในโลกของนักพัฒนา

    ตามกฎหมายเครื่องหมายการค้าในสหรัฐฯ หากเครื่องหมายไม่ได้ถูกใช้อย่างต่อเนื่อง หรือกลายเป็นคำทั่วไปในสังคม จะถือว่า “ถูกละทิ้ง” ซึ่งในกรณีของ JavaScript ทั้งสองเงื่อนไขนี้เกิดขึ้นจริง เนื่องจาก Oracle ไม่เคยมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชื่อ JavaScript โดยตรง และคำว่า “JavaScript” ก็ถูกใช้ทั่วไปโดยนักพัฒนาและองค์กรทั่วโลก

    การถือครองเครื่องหมายการค้านี้สร้างความสับสนอย่างมาก เช่น การจัดงานประชุมหรือการเผยแพร่มาตรฐานต้องหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อ “JavaScript” โดยตรง และหันไปใช้คำว่า ECMAScript แทน ซึ่งแม้จะเป็นชื่อทางการ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักพัฒนา ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างการใช้งานจริงกับข้อกฎหมาย

    ชุมชนโปรแกรมเมอร์จึงเสนอให้ Oracle ปล่อยสิทธิ์นี้สู่สาธารณะ เพื่อให้ JavaScript กลายเป็นคำที่ทุกคนสามารถใช้ได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อกฎหมาย พร้อมทั้งเตือนว่าหาก Oracle ไม่ดำเนินการ อาจมีการยื่นคำร้องต่อ USPTO (สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งสหรัฐฯ) เพื่อยกเลิกสิทธิ์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Oracle ถือครองเครื่องหมายการค้า “JavaScript” มาตั้งแต่การซื้อกิจการ Sun Microsystems ในปี 2009
    Brendan Eich และ Ryan Dahl พร้อมนักพัฒนาหลายหมื่นคนร่วมลงนามเรียกร้องให้ปล่อยสิทธิ์
    การใช้ชื่อ “JavaScript” ในงานประชุมหรือมาตรฐานต้องเลี่ยงไปใช้ “ECMAScript”

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    JavaScript เป็นภาษาที่ใช้มากที่สุดในโลก มีผู้พัฒนาหลายล้านคน
    มาตรฐาน ECMAScript ถูกกำหนดโดยคณะกรรมการ TC39 ซึ่งมีตัวแทนจาก Google, Apple, Mozilla และอื่น ๆ
    การใช้ชื่อ ECMAScript ถูกวิจารณ์ว่าไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และไม่สะท้อนความนิยมจริง

    คำเตือนจากข่าว
    การถือครองเครื่องหมายการค้าโดยไม่ใช้งานจริง อาจถูกตีความว่า “ละทิ้งสิทธิ์”
    หาก Oracle ไม่ปล่อยสิทธิ์ อาจถูกยื่นคำร้องต่อ USPTO เพื่อยกเลิกเครื่องหมายการค้า
    ความสับสนในชุมชนอาจทำให้การพัฒนาและการจัดงานเกี่ยวกับ JavaScript ถูกจำกัดทางกฎหมาย

    https://javascript.tm/letter
    ⚖️ "ชุมชนโปรแกรมเมอร์เรียกร้อง Oracle ปล่อยสิทธิ์เครื่องหมายการค้า JavaScript" จดหมายเปิดผนึกนี้ถูกลงนามโดยบุคคลสำคัญในวงการ เช่น Brendan Eich (ผู้สร้าง JavaScript) และ Ryan Dahl (ผู้สร้าง Node.js) พร้อมด้วยนักพัฒนาอีกหลายหมื่นคน พวกเขาเรียกร้องให้ Oracle ยุติการถือครองเครื่องหมายการค้า “JavaScript” ซึ่งปัจจุบันถูกมองว่าเป็นการละเลยและไม่สอดคล้องกับการใช้งานจริงในโลกของนักพัฒนา ตามกฎหมายเครื่องหมายการค้าในสหรัฐฯ หากเครื่องหมายไม่ได้ถูกใช้อย่างต่อเนื่อง หรือกลายเป็นคำทั่วไปในสังคม จะถือว่า “ถูกละทิ้ง” ซึ่งในกรณีของ JavaScript ทั้งสองเงื่อนไขนี้เกิดขึ้นจริง เนื่องจาก Oracle ไม่เคยมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชื่อ JavaScript โดยตรง และคำว่า “JavaScript” ก็ถูกใช้ทั่วไปโดยนักพัฒนาและองค์กรทั่วโลก การถือครองเครื่องหมายการค้านี้สร้างความสับสนอย่างมาก เช่น การจัดงานประชุมหรือการเผยแพร่มาตรฐานต้องหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อ “JavaScript” โดยตรง และหันไปใช้คำว่า ECMAScript แทน ซึ่งแม้จะเป็นชื่อทางการ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักพัฒนา ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างการใช้งานจริงกับข้อกฎหมาย ชุมชนโปรแกรมเมอร์จึงเสนอให้ Oracle ปล่อยสิทธิ์นี้สู่สาธารณะ เพื่อให้ JavaScript กลายเป็นคำที่ทุกคนสามารถใช้ได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องข้อกฎหมาย พร้อมทั้งเตือนว่าหาก Oracle ไม่ดำเนินการ อาจมีการยื่นคำร้องต่อ USPTO (สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งสหรัฐฯ) เพื่อยกเลิกสิทธิ์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Oracle ถือครองเครื่องหมายการค้า “JavaScript” มาตั้งแต่การซื้อกิจการ Sun Microsystems ในปี 2009 ➡️ Brendan Eich และ Ryan Dahl พร้อมนักพัฒนาหลายหมื่นคนร่วมลงนามเรียกร้องให้ปล่อยสิทธิ์ ➡️ การใช้ชื่อ “JavaScript” ในงานประชุมหรือมาตรฐานต้องเลี่ยงไปใช้ “ECMAScript” ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ JavaScript เป็นภาษาที่ใช้มากที่สุดในโลก มีผู้พัฒนาหลายล้านคน ➡️ มาตรฐาน ECMAScript ถูกกำหนดโดยคณะกรรมการ TC39 ซึ่งมีตัวแทนจาก Google, Apple, Mozilla และอื่น ๆ ➡️ การใช้ชื่อ ECMAScript ถูกวิจารณ์ว่าไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และไม่สะท้อนความนิยมจริง ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ การถือครองเครื่องหมายการค้าโดยไม่ใช้งานจริง อาจถูกตีความว่า “ละทิ้งสิทธิ์” ⛔ หาก Oracle ไม่ปล่อยสิทธิ์ อาจถูกยื่นคำร้องต่อ USPTO เพื่อยกเลิกเครื่องหมายการค้า ⛔ ความสับสนในชุมชนอาจทำให้การพัฒนาและการจัดงานเกี่ยวกับ JavaScript ถูกจำกัดทางกฎหมาย https://javascript.tm/letter
    JAVASCRIPT.TM
    JavaScript™
    We need your help to continue our fight over Oracle's claim to the JavaScript trademark. Here's where we are now and what you can do to help.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟีเจอร์ใหม่ใน Raspberry Pi OS

    การอัปเดตล่าสุดของ Raspberry Pi OS (Debian 13 “Trixie”) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ถอด HDD และ NVMe Drive ที่เชื่อมต่อผ่าน USB ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูล ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้เรียกร้องมานาน เนื่องจาก Raspberry Pi ถูกใช้เป็นเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กและระบบจัดเก็บข้อมูลอยู่บ่อยครั้ง

    การปรับปรุงอื่น ๆ
    เพิ่ม Alt+F2 shortcut สำหรับเปิด Run dialog ใน Wayland (Labwc-based session)
    ปรับปรุง Screens control panel ไม่ให้สร้างไฟล์ kanshi config โดยอัตโนมัติ

    แก้ไขบั๊กหลายจุด เช่น:
    Crash เมื่อใช้ mounted drives หรือ wastebasket ใน Places view
    Crash เมื่อ unload System Monitor plugin
    Crash เมื่อ power-cycle อุปกรณ์เสียง
    Crash ใน file manager เมื่อสลับไปยัง TTY
    แก้ไขการแสดงผล icon Bluetooth บนอุปกรณ์ที่ไม่มีฮาร์ดแวร์ Bluetooth

    ความเสถียรและการรองรับ
    ใช้ Linux Kernel 6.12.47 เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า
    รองรับ Raspberry Pi ทุกรุ่น ตั้งแต่ Pi 1A+, 1B+ ไปจนถึง Pi 500 และ Zero 2 W
    ผู้ใช้สามารถอัปเดตได้ง่าย ๆ ผ่านคำสั่ง:

    sudo apt update && sudo apt full-upgrade

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยให้ Raspberry Pi เป็นมิตรต่อการใช้งานในฐานะ NAS (Network Attached Storage) และระบบที่ต้องการการจัดการดิสก์ที่ปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้การใช้งานใน Wayland มีความสะดวกและเสถียรมากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Raspberry Pi OS รุ่นใหม่ออกเมื่อ 4 ธันวาคม 2025
    เพิ่มฟีเจอร์การถอด HDD/NVMe Drive ผ่าน USB ได้อย่างปลอดภัย
    เพิ่ม Alt+F2 shortcut และปรับปรุง Screens control panel
    แก้ไขบั๊กหลายจุดที่ทำให้ระบบ crash
    ใช้ Linux Kernel 6.12.47 และรองรับ Raspberry Pi ทุกรุ่น

    คำเตือนจากข่าว
    หากไม่อัปเดต อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลเมื่อถอดดิสก์ USB
    บั๊กที่ยังไม่ได้แก้ไขอาจทำให้ระบบ crash ได้
    การละเลยการอัปเดตอาจทำให้ระบบไม่เสถียรและไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่

    https://9to5linux.com/raspberry-pi-os-now-lets-you-safely-eject-hdd-and-nvme-drives-connected-via-usb
    💻 ฟีเจอร์ใหม่ใน Raspberry Pi OS การอัปเดตล่าสุดของ Raspberry Pi OS (Debian 13 “Trixie”) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ถอด HDD และ NVMe Drive ที่เชื่อมต่อผ่าน USB ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูล ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์ที่ผู้ใช้เรียกร้องมานาน เนื่องจาก Raspberry Pi ถูกใช้เป็นเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กและระบบจัดเก็บข้อมูลอยู่บ่อยครั้ง ⚙️ การปรับปรุงอื่น ๆ 💠 เพิ่ม Alt+F2 shortcut สำหรับเปิด Run dialog ใน Wayland (Labwc-based session) 💠 ปรับปรุง Screens control panel ไม่ให้สร้างไฟล์ kanshi config โดยอัตโนมัติ แก้ไขบั๊กหลายจุด เช่น: 🪛 Crash เมื่อใช้ mounted drives หรือ wastebasket ใน Places view 🪛 Crash เมื่อ unload System Monitor plugin 🪛 Crash เมื่อ power-cycle อุปกรณ์เสียง 🪛 Crash ใน file manager เมื่อสลับไปยัง TTY 🪛 แก้ไขการแสดงผล icon Bluetooth บนอุปกรณ์ที่ไม่มีฮาร์ดแวร์ Bluetooth 🛡️ ความเสถียรและการรองรับ 💠 ใช้ Linux Kernel 6.12.47 เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้า 💠 รองรับ Raspberry Pi ทุกรุ่น ตั้งแต่ Pi 1A+, 1B+ ไปจนถึง Pi 500 และ Zero 2 W 💠 ผู้ใช้สามารถอัปเดตได้ง่าย ๆ ผ่านคำสั่ง: ◼️ sudo apt update && sudo apt full-upgrade 🌍 ผลกระทบต่อผู้ใช้ ฟีเจอร์ใหม่นี้ช่วยให้ Raspberry Pi เป็นมิตรต่อการใช้งานในฐานะ NAS (Network Attached Storage) และระบบที่ต้องการการจัดการดิสก์ที่ปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้การใช้งานใน Wayland มีความสะดวกและเสถียรมากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Raspberry Pi OS รุ่นใหม่ออกเมื่อ 4 ธันวาคม 2025 ➡️ เพิ่มฟีเจอร์การถอด HDD/NVMe Drive ผ่าน USB ได้อย่างปลอดภัย ➡️ เพิ่ม Alt+F2 shortcut และปรับปรุง Screens control panel ➡️ แก้ไขบั๊กหลายจุดที่ทำให้ระบบ crash ➡️ ใช้ Linux Kernel 6.12.47 และรองรับ Raspberry Pi ทุกรุ่น ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ หากไม่อัปเดต อาจเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลเมื่อถอดดิสก์ USB ⛔ บั๊กที่ยังไม่ได้แก้ไขอาจทำให้ระบบ crash ได้ ⛔ การละเลยการอัปเดตอาจทำให้ระบบไม่เสถียรและไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่ https://9to5linux.com/raspberry-pi-os-now-lets-you-safely-eject-hdd-and-nvme-drives-connected-via-usb
    9TO5LINUX.COM
    Raspberry Pi OS Now Lets You Safely Eject HDD and NVMe Drives Connected via USB - 9to5Linux
    Raspberry Pi OS 2025-12-04 is now available for download with the ability to safely eject HDD and NVMe drives connected via USB.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาวฤกษ์สองดวงจากกลุ่มดาว Canis Major (สุนัขใหญ่) เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะของเราในระยะเพียง 32 ปีแสง

    นักดาราศาสตร์พบหลักฐานว่าเมื่อราว 4.5 ล้านปีก่อน ดาวฤกษ์สองดวงจากกลุ่มดาว Canis Major (สุนัขใหญ่) เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะของเราในระยะเพียง 32 ปีแสง และผลกระทบจากการผ่านครั้งนั้นยังคงเห็นได้ในปัจจุบัน

    ดาวฤกษ์ Epsilon Canis Majoris และ Beta Canis Majoris ซึ่งปัจจุบันอยู่ห่างออกไป 400–500 ปีแสง เคยเคลื่อนผ่านใกล้ระบบสุริยะเมื่อหลายล้านปีก่อน ตอนนั้นพวกมันสว่างกว่าดาวซิริอุส (ดาวที่สว่างที่สุดในท้องฟ้า) ถึง 4–6 เท่า ทำให้ท้องฟ้าในยุคนั้นสว่างไสวอย่างน่าทึ่ง

    ผลกระทบต่อเมฆก๊าซรอบระบบสุริยะ
    การผ่านใกล้ของดาวฤกษ์ร้อนทั้งสองดวงได้ปล่อยพลังงานมหาศาล ทำให้ก๊าซไฮโดรเจนและฮีเลียมใน Local Interstellar Clouds รอบระบบสุริยะเกิดการแตกตัวเป็นไอออนในระดับสูง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เคยสงสัยว่าเกิดจากอะไร การค้นพบนี้จึงช่วยเติมเต็ม “จิ๊กซอว์” ของปริศนาการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจักรวาลใกล้โลก

    การเคลื่อนที่ของดวงดาวและระบบสุริยะ
    นักวิจัยเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือน “จิ๊กซอว์ที่ทุกชิ้นเคลื่อนไหว” เพราะทั้งดวงอาทิตย์ ดาวฤกษ์ และเมฆก๊าซต่างเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ การจำลองแสดงให้เห็นว่าพลังงานจากดาว Canis Major มีส่วนสำคัญต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ระบบสุริยะอาศัยอยู่ในปัจจุบัน

    อนาคตของระบบสุริยะ
    นักวิทยาศาสตร์คาดว่าในอีกไม่ถึง 2,000 ปี ระบบสุริยะจะเคลื่อนออกจาก Local Interstellar Clouds ซึ่งอาจทำให้โลกได้รับรังสีจากสภาพแวดล้อมจักรวาลมากขึ้น การศึกษาครั้งนี้จึงไม่เพียงย้อนอดีต แต่ยังช่วยทำนายอนาคตของสภาพแวดล้อมที่โลกจะต้องเผชิญ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ดาวฤกษ์จากกลุ่ม Canis Major เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะ
    ระยะใกล้ที่สุดเพียง 32 ปีแสงเมื่อ 4.5 ล้านปีก่อน

    ความสว่างมหาศาลในอดีต
    สว่างกว่าดาวซิริอุส 4–6 เท่า

    พลังงานจากดาวฤกษ์ทำให้ก๊าซรอบระบบสุริยะเกิดการแตกตัวเป็นไอออน
    อธิบายปริศนาการเปลี่ยนแปลงใน Local Interstellar Clouds

    การเคลื่อนที่ของดวงดาวคือจิ๊กซอว์ที่เปลี่ยนตลอดเวลา
    ดาวและเมฆก๊าซต่างเคลื่อนที่และส่งผลต่อกัน

    ระบบสุริยะจะออกจาก Local Interstellar Clouds ในอนาคตอันใกล้
    โลกอาจได้รับรังสีจักรวาลมากขึ้น

    https://www.sciencealert.com/close-brush-with-cosmic-dog-may-still-be-seen-at-solar-systems-edge
    ✨ ดาวฤกษ์สองดวงจากกลุ่มดาว Canis Major (สุนัขใหญ่) เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะของเราในระยะเพียง 32 ปีแสง นักดาราศาสตร์พบหลักฐานว่าเมื่อราว 4.5 ล้านปีก่อน ดาวฤกษ์สองดวงจากกลุ่มดาว Canis Major (สุนัขใหญ่) เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะของเราในระยะเพียง 32 ปีแสง และผลกระทบจากการผ่านครั้งนั้นยังคงเห็นได้ในปัจจุบัน ดาวฤกษ์ Epsilon Canis Majoris และ Beta Canis Majoris ซึ่งปัจจุบันอยู่ห่างออกไป 400–500 ปีแสง เคยเคลื่อนผ่านใกล้ระบบสุริยะเมื่อหลายล้านปีก่อน ตอนนั้นพวกมันสว่างกว่าดาวซิริอุส (ดาวที่สว่างที่สุดในท้องฟ้า) ถึง 4–6 เท่า ทำให้ท้องฟ้าในยุคนั้นสว่างไสวอย่างน่าทึ่ง 🔬 ผลกระทบต่อเมฆก๊าซรอบระบบสุริยะ การผ่านใกล้ของดาวฤกษ์ร้อนทั้งสองดวงได้ปล่อยพลังงานมหาศาล ทำให้ก๊าซไฮโดรเจนและฮีเลียมใน Local Interstellar Clouds รอบระบบสุริยะเกิดการแตกตัวเป็นไอออนในระดับสูง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เคยสงสัยว่าเกิดจากอะไร การค้นพบนี้จึงช่วยเติมเต็ม “จิ๊กซอว์” ของปริศนาการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจักรวาลใกล้โลก 🧩 การเคลื่อนที่ของดวงดาวและระบบสุริยะ นักวิจัยเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือน “จิ๊กซอว์ที่ทุกชิ้นเคลื่อนไหว” เพราะทั้งดวงอาทิตย์ ดาวฤกษ์ และเมฆก๊าซต่างเคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ การจำลองแสดงให้เห็นว่าพลังงานจากดาว Canis Major มีส่วนสำคัญต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่ระบบสุริยะอาศัยอยู่ในปัจจุบัน 🚀 อนาคตของระบบสุริยะ นักวิทยาศาสตร์คาดว่าในอีกไม่ถึง 2,000 ปี ระบบสุริยะจะเคลื่อนออกจาก Local Interstellar Clouds ซึ่งอาจทำให้โลกได้รับรังสีจากสภาพแวดล้อมจักรวาลมากขึ้น การศึกษาครั้งนี้จึงไม่เพียงย้อนอดีต แต่ยังช่วยทำนายอนาคตของสภาพแวดล้อมที่โลกจะต้องเผชิญ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ดาวฤกษ์จากกลุ่ม Canis Major เคยเฉียดใกล้ระบบสุริยะ ➡️ ระยะใกล้ที่สุดเพียง 32 ปีแสงเมื่อ 4.5 ล้านปีก่อน ✅ ความสว่างมหาศาลในอดีต ➡️ สว่างกว่าดาวซิริอุส 4–6 เท่า ✅ พลังงานจากดาวฤกษ์ทำให้ก๊าซรอบระบบสุริยะเกิดการแตกตัวเป็นไอออน ➡️ อธิบายปริศนาการเปลี่ยนแปลงใน Local Interstellar Clouds ✅ การเคลื่อนที่ของดวงดาวคือจิ๊กซอว์ที่เปลี่ยนตลอดเวลา ➡️ ดาวและเมฆก๊าซต่างเคลื่อนที่และส่งผลต่อกัน ‼️ ระบบสุริยะจะออกจาก Local Interstellar Clouds ในอนาคตอันใกล้ ⛔ โลกอาจได้รับรังสีจักรวาลมากขึ้น https://www.sciencealert.com/close-brush-with-cosmic-dog-may-still-be-seen-at-solar-systems-edge
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Close Brush With 'Cosmic Dog' May Still Be Seen at Solar System's Edge
    About 4.5 million years ago, a great cosmic dog kicked past our Solar System – and its effects may still be seen today.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • MSI ปล่อย AGESA BIOS 1.2.8.0

    MSI ได้เปิดตัว BIOS รุ่นใหม่ที่ใช้ AGESA 1.2.8.0 บนเมนบอร์ดซีรีส์ X870E และ B850 โดยมีการระบุว่า ปรับปรุงความเข้ากันได้ของหน่วยความจำ (Memory Compatibility) แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาด ผู้ใช้บางรายรายงานว่าเครื่องไม่สามารถเข้าสู่ BIOS ได้เลยหลังจากอัปเดต ซึ่งถือเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานต่อเนื่อง

    ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังอัปเดต
    รายงานจากชุมชนผู้ใช้ เช่น Chiphell ระบุว่า หลังติดตั้ง BIOS รุ่นใหม่บน X870E Carbon WiFi เครื่องไม่สามารถบูตเข้าสู่ระบบได้ และเกิดการแครชซ้ำ ๆ ซึ่งบ่งชี้ถึงปัญหาด้านเสถียรภาพของเวอร์ชันนี้ ขณะเดียวกัน ASUS ก็มีการถอด BIOS รุ่น 1804 ที่ใช้ AGESA 1.2.7.0 ออก และแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ 1805 เนื่องจากพบปัญหาคล้ายกัน

    สถานการณ์ในผู้ผลิตรายอื่น
    ASRock เลือกที่จะข้ามเวอร์ชัน 1.2.7.0 และกระโดดไปใช้ 1.2.8.0 โดยตรง แต่ยังอยู่ในสถานะ Beta ซึ่งสะท้อนว่า เวอร์ชัน 1.2.7.0 และ 1.2.8.0 อาจมีปัญหาพื้นฐาน ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ ทำให้ผู้ใช้เมนบอร์ดซีรีส์ 800 ของ AMD ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้
    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ไม่ควรรีบอัปเดต BIOS เวอร์ชันใหม่ทันที ควรรอให้ผู้ผลิตแก้ไขและปล่อยเวอร์ชันที่เสถียรกว่านี้ เนื่องจากการอัปเดต BIOS ที่มีปัญหาอาจทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งานได้เลย และต้องเสียเวลาในการย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้า

    สรุปสาระสำคัญ
    MSI ปล่อย AGESA BIOS 1.2.8.0
    รองรับเมนบอร์ด X870E และ B850
    ระบุว่าเพิ่มความเข้ากันได้ของหน่วยความจำ

    รายงานปัญหาจากผู้ใช้
    ไม่สามารถเข้าสู่ BIOS หรือระบบปฏิบัติการได้
    เครื่องเกิดการแครชซ้ำ ๆ หลังอัปเดต

    สถานการณ์ผู้ผลิตรายอื่น
    ASUS ถอด BIOS รุ่น 1804 และแทนด้วย 1805
    ASRock ข้ามเวอร์ชัน 1.2.7.0 ไปใช้ 1.2.8.0 แบบ Beta

    คำเตือนต่อผู้ใช้เมนบอร์ด AMD ซีรีส์ 800
    ไม่ควรรีบอัปเดต BIOS เวอร์ชันใหม่ทันที
    เสี่ยงต่อการใช้งานไม่ได้และต้องย้อนกลับเวอร์ชัน

    https://wccftech.com/msi-rolls-out-agesa-bios-1-2-8-0-but-may-block-system-to-enter-even-bios-screen/
    🖥️ MSI ปล่อย AGESA BIOS 1.2.8.0 MSI ได้เปิดตัว BIOS รุ่นใหม่ที่ใช้ AGESA 1.2.8.0 บนเมนบอร์ดซีรีส์ X870E และ B850 โดยมีการระบุว่า ปรับปรุงความเข้ากันได้ของหน่วยความจำ (Memory Compatibility) แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาด ผู้ใช้บางรายรายงานว่าเครื่องไม่สามารถเข้าสู่ BIOS ได้เลยหลังจากอัปเดต ซึ่งถือเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานต่อเนื่อง ⚠️ ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังอัปเดต รายงานจากชุมชนผู้ใช้ เช่น Chiphell ระบุว่า หลังติดตั้ง BIOS รุ่นใหม่บน X870E Carbon WiFi เครื่องไม่สามารถบูตเข้าสู่ระบบได้ และเกิดการแครชซ้ำ ๆ ซึ่งบ่งชี้ถึงปัญหาด้านเสถียรภาพของเวอร์ชันนี้ ขณะเดียวกัน ASUS ก็มีการถอด BIOS รุ่น 1804 ที่ใช้ AGESA 1.2.7.0 ออก และแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ 1805 เนื่องจากพบปัญหาคล้ายกัน 🔄 สถานการณ์ในผู้ผลิตรายอื่น ASRock เลือกที่จะข้ามเวอร์ชัน 1.2.7.0 และกระโดดไปใช้ 1.2.8.0 โดยตรง แต่ยังอยู่ในสถานะ Beta ซึ่งสะท้อนว่า เวอร์ชัน 1.2.7.0 และ 1.2.8.0 อาจมีปัญหาพื้นฐาน ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ ทำให้ผู้ใช้เมนบอร์ดซีรีส์ 800 ของ AMD ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ 🔮 คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ไม่ควรรีบอัปเดต BIOS เวอร์ชันใหม่ทันที ควรรอให้ผู้ผลิตแก้ไขและปล่อยเวอร์ชันที่เสถียรกว่านี้ เนื่องจากการอัปเดต BIOS ที่มีปัญหาอาจทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งานได้เลย และต้องเสียเวลาในการย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ MSI ปล่อย AGESA BIOS 1.2.8.0 ➡️ รองรับเมนบอร์ด X870E และ B850 ➡️ ระบุว่าเพิ่มความเข้ากันได้ของหน่วยความจำ ✅ รายงานปัญหาจากผู้ใช้ ➡️ ไม่สามารถเข้าสู่ BIOS หรือระบบปฏิบัติการได้ ➡️ เครื่องเกิดการแครชซ้ำ ๆ หลังอัปเดต ✅ สถานการณ์ผู้ผลิตรายอื่น ➡️ ASUS ถอด BIOS รุ่น 1804 และแทนด้วย 1805 ➡️ ASRock ข้ามเวอร์ชัน 1.2.7.0 ไปใช้ 1.2.8.0 แบบ Beta ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้เมนบอร์ด AMD ซีรีส์ 800 ⛔ ไม่ควรรีบอัปเดต BIOS เวอร์ชันใหม่ทันที ⛔ เสี่ยงต่อการใช้งานไม่ได้และต้องย้อนกลับเวอร์ชัน https://wccftech.com/msi-rolls-out-agesa-bios-1-2-8-0-but-may-block-system-to-enter-even-bios-screen/
    WCCFTECH.COM
    MSI Rolls Out AGESA BIOS 1.2.8.0 Update That Reportedly Prevents System From Entering BIOS Screen
    MSI has rolled out a new AGESA BIOS version 1.2.8.0 for X870E, which offers improved memory compatibility, but users are facing critical issues.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts