อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าวิธีการสืบต่อความไม่ประมาทของอริยสาวก
สัทธรรมลำดับที่ : 1025
ชื่อบทธรรม : -วิธีการสืบต่อความไม่ประมาทของอริยสาวก
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1025
เนื้อความทั้งหมด :-
--วิธีการสืบต่อความไม่ประมาทของอริยสาวก
--นันทิยะ ! อริยสาวก เป็นผู้มีปรกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท เป็นอย่างไรเล่า ?
--นันทิยะ ! ในกรณีนี้คือ อริยสาวก เป็นผู้ประกอบด้วย
๑.ความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอย่างไม่หวั่นไหว (พุทเธอเวจจัปปสาเทนะ)
ดังนี้ว่า
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=พุทฺเธ+อเวจฺจปฺปสาเทน
“แม้เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
เป็นผู้ไกลจากกิเลส
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี
เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง
เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานด้วยธรรม
เป็นผู้มีความจำเริญจำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์”
ดังนี้.
อริยสาวกนั้น ไม่มีความพอใจหยุดอยู่
เพียงแค่ความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอย่างไม่หวั่นไหว
แต่พยายามให้ยิ่งขึ้นไป คือ
เพื่อความวิเวกในกลางวัน เพื่อความหลีกเร้นในกลางคืน.
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=ปวิเวกาย+ปฏิสลฺลานาย
+--เมื่ออริยสาวกนั้น เป็นผู้ไม่ประมาทอยู่อย่างนี้,
ปราโมทย์ (ความบันเทิงใจ) ย่อมเกิดขึ้น;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติ (ความอิ่มใจ) ย่อมเกิดขึ้น;
เมื่อมีใจปีติ กายก็สงบระงับ;
ผู้มีกายสงบระงับ ย่อมรู้สึกเป็นสุข;
จิตของ ผู้มีสุข ย่อมตั้งมั่น (เป็นสมาธิ)
เมื่อจิตตั้งมั่น ธรรม (ที่ยังไม่เคยปรากฏ) ย่อมปรากฏ;
เพราะความปรากฏแห่งธรรม อริยสาวกนั้น ย่อมถึงซึ่งการนับ
ได้ว่า
เป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท โดยแท้.
(ในกรณีแห่งโสตาปัตติยังคะ
ที่สอง คือ
๒.ความเลื่อมใสในพระธรรมอย่างไม่หวั่นไหว ก็ดี
ที่สาม คือ
๓.ความเลื่อมใสในพระสงฆ์อย่างไม่หวั่นไหว ก็ดี
ที่สี่ คือ
๔.ความมีศีลอ้นเป็นอริย-ประเสริฐ (อริยกันตศีล--อริยกนฺเตหิ สีเลหิ)
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=อริยกนฺเตหิ+สีเลหิ
ก็ดี ก็ได้ทรงตรัสไว้มีข้อความอย่างเดียวกันกับข้อความข้างบน
ที่กล่าวถึงความ
๑.เลื่อมใสไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า
)
--นันทิยะ ! อย่างนี้แล อริยสาวกชื่อว่า #เป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท.-
(ขอให้สังเกตเห็นใจความสำคัญที่ว่า
แม้จะเป็นเตรียม พระโสดาบัน (คือธัมมานุสารี และสัทธานุสารีก็ตาม)
หรือ เป็นพระโสดาบันแล้วก็ตาม
ยังมีกิจคือความไม่ประมาทที่จะต้องกระทำสืบต่อยิ่งขึ้นไป
ความข้อความในพระสูตรนี้ ให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ด้วยความไม่ประมาทอยู่เสมอ.
ข้อปฏิบัติเหล่านั้นมีใจความสำคัญอยู่ที่ว่า
กลางวันมีวิเวก คือสงัดจากความรบกวนภายนอก
กลางคืนมีปฏิสัลลาณะ คือจิตไม่ฟุ้งซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ
แต่มากำหนดอยู่ที่ธรรมอันควรกำหนดอยู่ตลอดเวลา
จนเกิดผลตามลำดับ นับตั้งแต่ความปราโมทย์
ไปจนถึงความปรากฏแห่งธรรมที่ยังไม่เคยปรากฏ.
อริยสาวกชั้นที่สูงขึ้นไปก็มีหลักปฏิบัติทำนองนี้ คือ
กลางวันมีวิเวิก กลางคืนมีปฏิสัลลาณะ
เพื่อบรรลุธรรมชั้นที่สูงขึ้นไปกว่าที่บรรลุอยู่ จนกระทั่งถึงชั้นพระอรหันต์.
แม้ชั้นพระอรหันต์ซึ่งเป็นชั้นที่ถึงที่สุดแห่งความไม่ประมาทแล้ว
ก็ยังมีวิเวกในกลางวัน มีปฏิสัลลาณะในกลางคืน
เพื่อความอยู่เป็นผาสุกของบุคคลผู้ถึงที่สุดแห่งพรหมจรรย์.
ขอให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการอยู่อย่างมีวิเวกและมีปฏิสัลลาณะ
ว่าเป็นฐานรากในการสืบต่อความไม่ประมาทให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปในตัวเอง
โดยไม่ต้องลำบากมากมายนัก
).
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/359/1602
http://etipitaka.com/read/thai/19/395/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%90%E0%B9%92
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๐๑/๑๖๐๒
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%90%E0%B9%92
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1025
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1025
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89
ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3
สัทธรรมลำดับที่ : 1025
ชื่อบทธรรม : -วิธีการสืบต่อความไม่ประมาทของอริยสาวก
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1025
เนื้อความทั้งหมด :-
--วิธีการสืบต่อความไม่ประมาทของอริยสาวก
--นันทิยะ ! อริยสาวก เป็นผู้มีปรกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท เป็นอย่างไรเล่า ?
--นันทิยะ ! ในกรณีนี้คือ อริยสาวก เป็นผู้ประกอบด้วย
๑.ความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอย่างไม่หวั่นไหว (พุทเธอเวจจัปปสาเทนะ)
ดังนี้ว่า
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=พุทฺเธ+อเวจฺจปฺปสาเทน
“แม้เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
เป็นผู้ไกลจากกิเลส
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี
เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง
เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานด้วยธรรม
เป็นผู้มีความจำเริญจำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์”
ดังนี้.
อริยสาวกนั้น ไม่มีความพอใจหยุดอยู่
เพียงแค่ความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอย่างไม่หวั่นไหว
แต่พยายามให้ยิ่งขึ้นไป คือ
เพื่อความวิเวกในกลางวัน เพื่อความหลีกเร้นในกลางคืน.
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=ปวิเวกาย+ปฏิสลฺลานาย
+--เมื่ออริยสาวกนั้น เป็นผู้ไม่ประมาทอยู่อย่างนี้,
ปราโมทย์ (ความบันเทิงใจ) ย่อมเกิดขึ้น;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติ (ความอิ่มใจ) ย่อมเกิดขึ้น;
เมื่อมีใจปีติ กายก็สงบระงับ;
ผู้มีกายสงบระงับ ย่อมรู้สึกเป็นสุข;
จิตของ ผู้มีสุข ย่อมตั้งมั่น (เป็นสมาธิ)
เมื่อจิตตั้งมั่น ธรรม (ที่ยังไม่เคยปรากฏ) ย่อมปรากฏ;
เพราะความปรากฏแห่งธรรม อริยสาวกนั้น ย่อมถึงซึ่งการนับ
ได้ว่า
เป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท โดยแท้.
(ในกรณีแห่งโสตาปัตติยังคะ
ที่สอง คือ
๒.ความเลื่อมใสในพระธรรมอย่างไม่หวั่นไหว ก็ดี
ที่สาม คือ
๓.ความเลื่อมใสในพระสงฆ์อย่างไม่หวั่นไหว ก็ดี
ที่สี่ คือ
๔.ความมีศีลอ้นเป็นอริย-ประเสริฐ (อริยกันตศีล--อริยกนฺเตหิ สีเลหิ)
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=อริยกนฺเตหิ+สีเลหิ
ก็ดี ก็ได้ทรงตรัสไว้มีข้อความอย่างเดียวกันกับข้อความข้างบน
ที่กล่าวถึงความ
๑.เลื่อมใสไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า
)
--นันทิยะ ! อย่างนี้แล อริยสาวกชื่อว่า #เป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท.-
(ขอให้สังเกตเห็นใจความสำคัญที่ว่า
แม้จะเป็นเตรียม พระโสดาบัน (คือธัมมานุสารี และสัทธานุสารีก็ตาม)
หรือ เป็นพระโสดาบันแล้วก็ตาม
ยังมีกิจคือความไม่ประมาทที่จะต้องกระทำสืบต่อยิ่งขึ้นไป
ความข้อความในพระสูตรนี้ ให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ด้วยความไม่ประมาทอยู่เสมอ.
ข้อปฏิบัติเหล่านั้นมีใจความสำคัญอยู่ที่ว่า
กลางวันมีวิเวก คือสงัดจากความรบกวนภายนอก
กลางคืนมีปฏิสัลลาณะ คือจิตไม่ฟุ้งซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ
แต่มากำหนดอยู่ที่ธรรมอันควรกำหนดอยู่ตลอดเวลา
จนเกิดผลตามลำดับ นับตั้งแต่ความปราโมทย์
ไปจนถึงความปรากฏแห่งธรรมที่ยังไม่เคยปรากฏ.
อริยสาวกชั้นที่สูงขึ้นไปก็มีหลักปฏิบัติทำนองนี้ คือ
กลางวันมีวิเวิก กลางคืนมีปฏิสัลลาณะ
เพื่อบรรลุธรรมชั้นที่สูงขึ้นไปกว่าที่บรรลุอยู่ จนกระทั่งถึงชั้นพระอรหันต์.
แม้ชั้นพระอรหันต์ซึ่งเป็นชั้นที่ถึงที่สุดแห่งความไม่ประมาทแล้ว
ก็ยังมีวิเวกในกลางวัน มีปฏิสัลลาณะในกลางคืน
เพื่อความอยู่เป็นผาสุกของบุคคลผู้ถึงที่สุดแห่งพรหมจรรย์.
ขอให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการอยู่อย่างมีวิเวกและมีปฏิสัลลาณะ
ว่าเป็นฐานรากในการสืบต่อความไม่ประมาทให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปในตัวเอง
โดยไม่ต้องลำบากมากมายนัก
).
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/359/1602
http://etipitaka.com/read/thai/19/395/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%90%E0%B9%92
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๐๑/๑๖๐๒
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%90%E0%B9%92
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1025
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1025
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89
ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3
อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าวิธีการสืบต่อความไม่ประมาทของอริยสาวก
สัทธรรมลำดับที่ : 1025
ชื่อบทธรรม : -วิธีการสืบต่อความไม่ประมาทของอริยสาวก
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1025
เนื้อความทั้งหมด :-
--วิธีการสืบต่อความไม่ประมาทของอริยสาวก
--นันทิยะ ! อริยสาวก เป็นผู้มีปรกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท เป็นอย่างไรเล่า ?
--นันทิยะ ! ในกรณีนี้คือ อริยสาวก เป็นผู้ประกอบด้วย
๑.ความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอย่างไม่หวั่นไหว (พุทเธอเวจจัปปสาเทนะ)
ดังนี้ว่า
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=พุทฺเธ+อเวจฺจปฺปสาเทน
“แม้เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น
เป็นผู้ไกลจากกิเลส
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี
เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง
เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
เป็นครูผู้สอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานด้วยธรรม
เป็นผู้มีความจำเริญจำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์”
ดังนี้.
อริยสาวกนั้น ไม่มีความพอใจหยุดอยู่
เพียงแค่ความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าอย่างไม่หวั่นไหว
แต่พยายามให้ยิ่งขึ้นไป คือ
เพื่อความวิเวกในกลางวัน เพื่อความหลีกเร้นในกลางคืน.
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=ปวิเวกาย+ปฏิสลฺลานาย
+--เมื่ออริยสาวกนั้น เป็นผู้ไม่ประมาทอยู่อย่างนี้,
ปราโมทย์ (ความบันเทิงใจ) ย่อมเกิดขึ้น;
เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติ (ความอิ่มใจ) ย่อมเกิดขึ้น;
เมื่อมีใจปีติ กายก็สงบระงับ;
ผู้มีกายสงบระงับ ย่อมรู้สึกเป็นสุข;
จิตของ ผู้มีสุข ย่อมตั้งมั่น (เป็นสมาธิ)
เมื่อจิตตั้งมั่น ธรรม (ที่ยังไม่เคยปรากฏ) ย่อมปรากฏ;
เพราะความปรากฏแห่งธรรม อริยสาวกนั้น ย่อมถึงซึ่งการนับ
ได้ว่า
เป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท โดยแท้.
(ในกรณีแห่งโสตาปัตติยังคะ
ที่สอง คือ
๒.ความเลื่อมใสในพระธรรมอย่างไม่หวั่นไหว ก็ดี
ที่สาม คือ
๓.ความเลื่อมใสในพระสงฆ์อย่างไม่หวั่นไหว ก็ดี
ที่สี่ คือ
๔.ความมีศีลอ้นเป็นอริย-ประเสริฐ (อริยกันตศีล--อริยกนฺเตหิ สีเลหิ)
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=อริยกนฺเตหิ+สีเลหิ
ก็ดี ก็ได้ทรงตรัสไว้มีข้อความอย่างเดียวกันกับข้อความข้างบน
ที่กล่าวถึงความ
๑.เลื่อมใสไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า
)
--นันทิยะ ! อย่างนี้แล อริยสาวกชื่อว่า #เป็นผู้มีปกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท.-
(ขอให้สังเกตเห็นใจความสำคัญที่ว่า
แม้จะเป็นเตรียม พระโสดาบัน (คือธัมมานุสารี และสัทธานุสารีก็ตาม)
หรือ เป็นพระโสดาบันแล้วก็ตาม
ยังมีกิจคือความไม่ประมาทที่จะต้องกระทำสืบต่อยิ่งขึ้นไป
ความข้อความในพระสูตรนี้ ให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้อยู่ด้วยความไม่ประมาทอยู่เสมอ.
ข้อปฏิบัติเหล่านั้นมีใจความสำคัญอยู่ที่ว่า
กลางวันมีวิเวก คือสงัดจากความรบกวนภายนอก
กลางคืนมีปฏิสัลลาณะ คือจิตไม่ฟุ้งซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ
แต่มากำหนดอยู่ที่ธรรมอันควรกำหนดอยู่ตลอดเวลา
จนเกิดผลตามลำดับ นับตั้งแต่ความปราโมทย์
ไปจนถึงความปรากฏแห่งธรรมที่ยังไม่เคยปรากฏ.
อริยสาวกชั้นที่สูงขึ้นไปก็มีหลักปฏิบัติทำนองนี้ คือ
กลางวันมีวิเวิก กลางคืนมีปฏิสัลลาณะ
เพื่อบรรลุธรรมชั้นที่สูงขึ้นไปกว่าที่บรรลุอยู่ จนกระทั่งถึงชั้นพระอรหันต์.
แม้ชั้นพระอรหันต์ซึ่งเป็นชั้นที่ถึงที่สุดแห่งความไม่ประมาทแล้ว
ก็ยังมีวิเวกในกลางวัน มีปฏิสัลลาณะในกลางคืน
เพื่อความอยู่เป็นผาสุกของบุคคลผู้ถึงที่สุดแห่งพรหมจรรย์.
ขอให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการอยู่อย่างมีวิเวกและมีปฏิสัลลาณะ
ว่าเป็นฐานรากในการสืบต่อความไม่ประมาทให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปในตัวเอง
โดยไม่ต้องลำบากมากมายนัก
).
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/359/1602
http://etipitaka.com/read/thai/19/395/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%90%E0%B9%92
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๐๑/๑๖๐๒
http://etipitaka.com/read/pali/19/501/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%90%E0%B9%92
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1025
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89&id=1025
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=89
ลำดับสาธยายธรรม : 89 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_89.mp3
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
4 มุมมอง
0 รีวิว