• Proton 10 เปิดตัว รองรับเกมใหม่หลากหลายบน Linux

    Valve ได้ประกาศเปิดตัว Proton 10 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของเครื่องมือ Steam Play Compatibility Layer ที่ช่วยให้ผู้ใช้ Linux สามารถเล่นเกม Windows ได้อย่างราบรื่น การอัปเดตครั้งนี้ถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการรองรับเกมใหม่จำนวนมาก รวมถึงแก้ไขบั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

    หนึ่งในเกมที่ถูกเพิ่มการรองรับคือ Far Horizon, Grim Fandango Remastered, The Crew Motorfest, Viking Rise: Valhalla และ Starlight Re:Volver นอกจากนี้ยังมีเกมอื่นๆ เช่น Mary Skelter: Nightmares, Fairy Fencer F Advent Dark Force และ Gemstones ที่สามารถเล่นได้บน Linux ผ่าน Proton 10 แล้ว

    Proton 10 ยังแก้ไขปัญหาการทำงานของเกมยอดนิยมหลายเกม เช่น Diablo IV, Doom Eternal, Resident Evil Village, God of War: Ragnarok และ Rocket League รวมถึงปรับปรุงการรองรับคอนโทรลเลอร์ DualSense และแก้ไขปัญหาการเปิดใช้งาน Epic Games Store บน Proton

    ภายใน Proton 10 ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เช่น Wine 10, DXVK 2.6.2, vkd3d-proton 2.14.1 และการปรับปรุงอื่นๆ ที่ช่วยให้การเล่นเกมบน Linux มีความเสถียรและใกล้เคียงกับประสบการณ์บน Windows มากขึ้น ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ Valve ในการผลักดัน Linux ให้เป็นแพลตฟอร์มเกมที่แข็งแกร่ง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Proton 10 เปิดตัว
    รองรับเกมใหม่ เช่น Far Horizon, Grim Fandango Remastered, The Crew Motorfest
    เพิ่มความสามารถในการเล่นเกม Windows บน Linux

    การแก้ไขและปรับปรุง
    แก้บั๊กในเกมดัง เช่น Diablo IV, Doom Eternal, Resident Evil Village
    ปรับปรุงการรองรับ DualSense และ Epic Games Store

    เทคโนโลยีภายใน
    ใช้ Wine 10, DXVK 2.6.2, vkd3d-proton 2.14.1
    เพิ่มความเสถียรและประสิทธิภาพในการเล่นเกม

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากไม่อัปเดต Proton อาจไม่สามารถเล่นเกมใหม่หรือแก้บั๊กที่มีอยู่ได้
    ผู้ใช้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่าอาจพบปัญหาความเข้ากันได้และประสิทธิภาพต่ำ

    https://9to5linux.com/proton-10-released-with-support-for-far-horizon-the-riftbreaker-and-other-games
    🎮 Proton 10 เปิดตัว รองรับเกมใหม่หลากหลายบน Linux Valve ได้ประกาศเปิดตัว Proton 10 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของเครื่องมือ Steam Play Compatibility Layer ที่ช่วยให้ผู้ใช้ Linux สามารถเล่นเกม Windows ได้อย่างราบรื่น การอัปเดตครั้งนี้ถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการรองรับเกมใหม่จำนวนมาก รวมถึงแก้ไขบั๊กและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน หนึ่งในเกมที่ถูกเพิ่มการรองรับคือ Far Horizon, Grim Fandango Remastered, The Crew Motorfest, Viking Rise: Valhalla และ Starlight Re:Volver นอกจากนี้ยังมีเกมอื่นๆ เช่น Mary Skelter: Nightmares, Fairy Fencer F Advent Dark Force และ Gemstones ที่สามารถเล่นได้บน Linux ผ่าน Proton 10 แล้ว Proton 10 ยังแก้ไขปัญหาการทำงานของเกมยอดนิยมหลายเกม เช่น Diablo IV, Doom Eternal, Resident Evil Village, God of War: Ragnarok และ Rocket League รวมถึงปรับปรุงการรองรับคอนโทรลเลอร์ DualSense และแก้ไขปัญหาการเปิดใช้งาน Epic Games Store บน Proton ภายใน Proton 10 ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เช่น Wine 10, DXVK 2.6.2, vkd3d-proton 2.14.1 และการปรับปรุงอื่นๆ ที่ช่วยให้การเล่นเกมบน Linux มีความเสถียรและใกล้เคียงกับประสบการณ์บน Windows มากขึ้น ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ Valve ในการผลักดัน Linux ให้เป็นแพลตฟอร์มเกมที่แข็งแกร่ง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Proton 10 เปิดตัว ➡️ รองรับเกมใหม่ เช่น Far Horizon, Grim Fandango Remastered, The Crew Motorfest ➡️ เพิ่มความสามารถในการเล่นเกม Windows บน Linux ✅ การแก้ไขและปรับปรุง ➡️ แก้บั๊กในเกมดัง เช่น Diablo IV, Doom Eternal, Resident Evil Village ➡️ ปรับปรุงการรองรับ DualSense และ Epic Games Store ✅ เทคโนโลยีภายใน ➡️ ใช้ Wine 10, DXVK 2.6.2, vkd3d-proton 2.14.1 ➡️ เพิ่มความเสถียรและประสิทธิภาพในการเล่นเกม ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากไม่อัปเดต Proton อาจไม่สามารถเล่นเกมใหม่หรือแก้บั๊กที่มีอยู่ได้ ⛔ ผู้ใช้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่าอาจพบปัญหาความเข้ากันได้และประสิทธิภาพต่ำ https://9to5linux.com/proton-10-released-with-support-for-far-horizon-the-riftbreaker-and-other-games
    9TO5LINUX.COM
    Proton 10 Released with Support for Far Horizon, The Riftbreaker, and Other Games - 9to5Linux
    Proton 10 is now available with support for Mary Skelter: Nightmares, Fairy Fencer F Advent Dark Force, Far Horizon, and many other games.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Valve รอเทคโนโลยีใหม่ก่อนเปิดตัว Steam Deck 2

    Valve ประกาศชัดเจนว่า Steam Deck 2 จะไม่ใช่การอัปเกรดเล็กน้อย แต่ต้องเป็น “ก้าวกระโดด” ทั้งด้านประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ปัจจุบัน Steam Deck รุ่นแรกแม้ยังคงเล่นเกมได้ดี แต่เริ่มล้าหลังเมื่อเจอกับเกม AAA รุ่นใหม่ ๆ ที่กินทรัพยากรมากขึ้น ทำให้ทีมพัฒนาเลือกที่จะรอจนกว่าชิปใหม่จะพร้อมใช้งานจริง

    AMD Strix Halo APU – พลังที่ Valve จับตามอง
    AMD เปิดตัว Ryzen AI MAX+ 395 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Strix Halo ซึ่งมาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 จำนวน 40 CU ที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4060 Laptop GPU นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจทำให้ Steam Deck 2 สามารถแข่งขันกับโน้ตบุ๊กเกมมิ่งระดับกลางได้ โดยยังคงอยู่ในขนาดพกพา

    ปัญหาหลัก: ประสิทธิภาพต่อวัตต์และแบตเตอรี่
    แม้ Strix Halo จะทรงพลัง แต่ Valve ย้ำว่าการเพิ่มประสิทธิภาพ 20–50% ยังไม่เพียงพอ หากต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่หมดเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น ROG Ally X ที่ใช้ชิปใหม่ แม้เล่นเกมได้ลื่น แต่แบตเตอรี่หมดภายใน 2 ชั่วโมงเมื่อใช้โหมด Turbo ซึ่งไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในระยะยาว

    อนาคตของเครื่องเล่นพกพา
    Valve กำลังวางแผนให้ Steam Deck 2 เป็นเครื่องที่ “Next-gen” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการอัปเกรดเล็กน้อย หาก AMD สามารถทำให้ Strix Halo หรือรุ่นถัดไปมีราคาที่เข้าถึงได้และประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงพอ Steam Deck 2 อาจเปิดตัวในช่วงปี 2027–2028 ซึ่งจะเป็นการเว้นระยะห่างราว 5–6 ปีจากรุ่นแรก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Valve ชะลอการเปิดตัว Steam Deck 2
    ต้องการรอเทคโนโลยีซิลิคอนใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงโดยไม่ลดทอนแบตเตอรี่

    AMD Strix Halo APU โดดเด่น
    มาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 ที่แรงเทียบ RTX 4060 Laptop

    Steam Deck รุ่นปัจจุบันเริ่มล้าหลัง
    เกม AAA ใหม่ ๆ ทำให้เครื่องแสดงข้อจำกัดด้านเฟรมเรตและแบตเตอรี่

    ความเสี่ยงด้านแบตเตอรี่และความร้อน
    ชิปที่แรงขึ้นอาจทำให้แบตหมดเร็วและเครื่องร้อนเกินไป ไม่เหมาะกับการพกพา

    ราคาที่อาจสูงเกินเอื้อม
    หาก Steam Deck 2 ใช้ชิปประสิทธิภาพสูง ราคาสามารถพุ่งใกล้ $1,000 ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงยาก

    https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/valve-is-waiting-for-major-architectural-improvements-on-future-silicon-before-creating-the-steam-deck-2-drastically-better-performance-with-the-same-battery-life-is-not-enough
    🎮 Valve รอเทคโนโลยีใหม่ก่อนเปิดตัว Steam Deck 2 Valve ประกาศชัดเจนว่า Steam Deck 2 จะไม่ใช่การอัปเกรดเล็กน้อย แต่ต้องเป็น “ก้าวกระโดด” ทั้งด้านประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ปัจจุบัน Steam Deck รุ่นแรกแม้ยังคงเล่นเกมได้ดี แต่เริ่มล้าหลังเมื่อเจอกับเกม AAA รุ่นใหม่ ๆ ที่กินทรัพยากรมากขึ้น ทำให้ทีมพัฒนาเลือกที่จะรอจนกว่าชิปใหม่จะพร้อมใช้งานจริง ⚡ AMD Strix Halo APU – พลังที่ Valve จับตามอง AMD เปิดตัว Ryzen AI MAX+ 395 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Strix Halo ซึ่งมาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 จำนวน 40 CU ที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4060 Laptop GPU นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจทำให้ Steam Deck 2 สามารถแข่งขันกับโน้ตบุ๊กเกมมิ่งระดับกลางได้ โดยยังคงอยู่ในขนาดพกพา 🔋 ปัญหาหลัก: ประสิทธิภาพต่อวัตต์และแบตเตอรี่ แม้ Strix Halo จะทรงพลัง แต่ Valve ย้ำว่าการเพิ่มประสิทธิภาพ 20–50% ยังไม่เพียงพอ หากต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่หมดเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น ROG Ally X ที่ใช้ชิปใหม่ แม้เล่นเกมได้ลื่น แต่แบตเตอรี่หมดภายใน 2 ชั่วโมงเมื่อใช้โหมด Turbo ซึ่งไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในระยะยาว 🌐 อนาคตของเครื่องเล่นพกพา Valve กำลังวางแผนให้ Steam Deck 2 เป็นเครื่องที่ “Next-gen” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการอัปเกรดเล็กน้อย หาก AMD สามารถทำให้ Strix Halo หรือรุ่นถัดไปมีราคาที่เข้าถึงได้และประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงพอ Steam Deck 2 อาจเปิดตัวในช่วงปี 2027–2028 ซึ่งจะเป็นการเว้นระยะห่างราว 5–6 ปีจากรุ่นแรก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Valve ชะลอการเปิดตัว Steam Deck 2 ➡️ ต้องการรอเทคโนโลยีซิลิคอนใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงโดยไม่ลดทอนแบตเตอรี่ ✅ AMD Strix Halo APU โดดเด่น ➡️ มาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 ที่แรงเทียบ RTX 4060 Laptop ✅ Steam Deck รุ่นปัจจุบันเริ่มล้าหลัง ➡️ เกม AAA ใหม่ ๆ ทำให้เครื่องแสดงข้อจำกัดด้านเฟรมเรตและแบตเตอรี่ ‼️ ความเสี่ยงด้านแบตเตอรี่และความร้อน ⛔ ชิปที่แรงขึ้นอาจทำให้แบตหมดเร็วและเครื่องร้อนเกินไป ไม่เหมาะกับการพกพา ‼️ ราคาที่อาจสูงเกินเอื้อม ⛔ หาก Steam Deck 2 ใช้ชิปประสิทธิภาพสูง ราคาสามารถพุ่งใกล้ $1,000 ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงยาก https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/valve-is-waiting-for-major-architectural-improvements-on-future-silicon-before-creating-the-steam-deck-2-drastically-better-performance-with-the-same-battery-life-is-not-enough
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • โนวาเลคของ Intel: คืนชีพเวคเตอร์ 512 บิต หรือแผนเปลี่ยนกลางทาง?

    Intel ถูกจับตาอย่างหนักว่ารุ่น Nova Lake จะรองรับ AVX10.2 (เวคเตอร์แบบ “Converged” 128/256/512 บิต) และ APX (เพิ่มรีจิสเตอร์ทั่วไป) ตามเอกสาร ISA และการอ้างอิงของชุมชนนักพัฒนา ซึ่งถ้าจริง จะเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ของไลน์ลูกค้า (เดสก์ท็อป/โน้ตบุ๊ก) ให้มีประสิทธิภาพเวคเตอร์และงาน AI/สื่อ ที่เคยจำกัดใน Xeon กลับมาอยู่บนเครื่องทั่วไปอีกครั้ง.

    อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลจากแพตช์คอมไพเลอร์ GCC/LLVM และเอกสารฟีเจอร์สถาปัตยกรรมฉบับล่าสุดบางส่วนที่ “ไม่เห็น” การประกาศรองรับ AVX10/APX สำหรับ Nova Lake ชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ฟีเจอร์จะถูกจำกัดหรือเลื่อน แม้จะมีหลักฐานจาก NASM ที่ทำให้ความหวังกลับมาอีกครั้ง จึงเกิดภาพ “ข่าวดี-ข่าวลบ” ปะทะกันในระยะเตรียมเปิดตัว.

    หาก Nova Lake รองรับ AVX10/APX จริง พร้อมขยาย 512 บิตสู่ไลน์ลูกค้า จะเป็นครั้งแรกที่ Intel และ AMD (Zen 5 รองรับ AVX-512 เต็มจริง) ยืนบนเวทีเวคเตอร์ 512 บิตพร้อมกันในตลาดผู้ใช้ทั่วไป ลดความแตกแยกของโปรแกรมมิงโมเดล และยกระดับงานวิทยาศาสตร์ สื่อ และ AI inference บนพีซีส่วนบุคคลอย่างมีนัยสำคัญ.

    ข่าวลือด้านฮาร์ดแวร์ยังพูดถึงสเกลคอร์ที่ทะเยอทะยาน (เช่น สูงสุด 52 คอร์แบบผสม P/E/LPE) เพื่อบาลานซ์ซิงเกิลเธรดกับงานขนานโดยคุมพลังงาน แม้รายละเอียดยังไม่เป็นทางการ แต่หากจับคู่กับ AVX10/APX ได้จริง จะเป็นแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนเกมทั้งงานครีเอทีฟ เกม และซอฟต์แวร์ขับเคลื่อน AI บนไคลเอนต์.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    สัญญาณรองรับ: เอกสาร ISA และชุมชนเครื่องมือพัฒนาเผยเบาะแส AVX10.2/APX บน Nova Lake
    ผลเชิงปฏิบัติ: เวคเตอร์ 512 บิตและรีจิสเตอร์เพิ่ม ช่วยทั้งสื่อ วิทย์ และ AI บนเดสก์ท็อป/โน้ตบุ๊ก

    ประโยชน์ผู้ใช้: โมเดลโปรแกรมที่ “คงที่” มากขึ้น ระหว่างลูกค้ากับเซิร์ฟเวอร์
    การแข่งขัน: สอดรับกับ AMD Zen 5 ที่รองรับ 512 บิตเต็มในไลน์ลูกค้าแล้ว

    ฮาร์ดแวร์ลือ: โครงสร้างไฮบริดคอร์จำนวนมากเพื่อคุมพลังงาน-ขยายมัลติเธรด
    ผลลัพธ์: ยกระดับเกม งานครีเอทีฟ และซอฟต์แวร์ AI บนไคลเอนต์ถ้าฟีเจอร์มาเต็มจริง

    คำเตือนข้อมูล: แพตช์ GCC/LLVM และบางเอกสารล่าสุด “ไม่กล่าวถึง” AVX10/APX สำหรับ Nova Lake
    ข้อควรจำ: อาจเปลี่ยนแผนกลางทาง หรือจำกัดตาม SKU—อย่าตัดสินใจซื้อจากข่าวลือเพียงอย่างเดียว

    ความเสี่ยงเฟิร์มแวร์/OS: หาก P/E cores รองรับไม่เท่ากัน อาจเกิดข้อจำกัดการจัดคิวงาน
    แนวทาง: รอการยืนยันทางการและรายละเอียดการแมปคอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้งานผิดคอร์แล้วเกิด error

    https://wccftech.com/intel-confirms-avx10-support-for-nova-lake-including-both-desktop-and-mobile-lineups/
    🔰 โนวาเลคของ Intel: คืนชีพเวคเตอร์ 512 บิต หรือแผนเปลี่ยนกลางทาง? 🧠 Intel ถูกจับตาอย่างหนักว่ารุ่น Nova Lake จะรองรับ AVX10.2 (เวคเตอร์แบบ “Converged” 128/256/512 บิต) และ APX (เพิ่มรีจิสเตอร์ทั่วไป) ตามเอกสาร ISA และการอ้างอิงของชุมชนนักพัฒนา ซึ่งถ้าจริง จะเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ของไลน์ลูกค้า (เดสก์ท็อป/โน้ตบุ๊ก) ให้มีประสิทธิภาพเวคเตอร์และงาน AI/สื่อ ที่เคยจำกัดใน Xeon กลับมาอยู่บนเครื่องทั่วไปอีกครั้ง. อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลจากแพตช์คอมไพเลอร์ GCC/LLVM และเอกสารฟีเจอร์สถาปัตยกรรมฉบับล่าสุดบางส่วนที่ “ไม่เห็น” การประกาศรองรับ AVX10/APX สำหรับ Nova Lake ชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่ฟีเจอร์จะถูกจำกัดหรือเลื่อน แม้จะมีหลักฐานจาก NASM ที่ทำให้ความหวังกลับมาอีกครั้ง จึงเกิดภาพ “ข่าวดี-ข่าวลบ” ปะทะกันในระยะเตรียมเปิดตัว. หาก Nova Lake รองรับ AVX10/APX จริง พร้อมขยาย 512 บิตสู่ไลน์ลูกค้า จะเป็นครั้งแรกที่ Intel และ AMD (Zen 5 รองรับ AVX-512 เต็มจริง) ยืนบนเวทีเวคเตอร์ 512 บิตพร้อมกันในตลาดผู้ใช้ทั่วไป ลดความแตกแยกของโปรแกรมมิงโมเดล และยกระดับงานวิทยาศาสตร์ สื่อ และ AI inference บนพีซีส่วนบุคคลอย่างมีนัยสำคัญ. ข่าวลือด้านฮาร์ดแวร์ยังพูดถึงสเกลคอร์ที่ทะเยอทะยาน (เช่น สูงสุด 52 คอร์แบบผสม P/E/LPE) เพื่อบาลานซ์ซิงเกิลเธรดกับงานขนานโดยคุมพลังงาน แม้รายละเอียดยังไม่เป็นทางการ แต่หากจับคู่กับ AVX10/APX ได้จริง จะเป็นแพลตฟอร์มที่เปลี่ยนเกมทั้งงานครีเอทีฟ เกม และซอฟต์แวร์ขับเคลื่อน AI บนไคลเอนต์. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ สัญญาณรองรับ: เอกสาร ISA และชุมชนเครื่องมือพัฒนาเผยเบาะแส AVX10.2/APX บน Nova Lake ➡️ ผลเชิงปฏิบัติ: เวคเตอร์ 512 บิตและรีจิสเตอร์เพิ่ม ช่วยทั้งสื่อ วิทย์ และ AI บนเดสก์ท็อป/โน้ตบุ๊ก ✅ ประโยชน์ผู้ใช้: โมเดลโปรแกรมที่ “คงที่” มากขึ้น ระหว่างลูกค้ากับเซิร์ฟเวอร์ ➡️ การแข่งขัน: สอดรับกับ AMD Zen 5 ที่รองรับ 512 บิตเต็มในไลน์ลูกค้าแล้ว ✅ ฮาร์ดแวร์ลือ: โครงสร้างไฮบริดคอร์จำนวนมากเพื่อคุมพลังงาน-ขยายมัลติเธรด ➡️ ผลลัพธ์: ยกระดับเกม งานครีเอทีฟ และซอฟต์แวร์ AI บนไคลเอนต์ถ้าฟีเจอร์มาเต็มจริง ‼️ คำเตือนข้อมูล: แพตช์ GCC/LLVM และบางเอกสารล่าสุด “ไม่กล่าวถึง” AVX10/APX สำหรับ Nova Lake ⛔ ข้อควรจำ: อาจเปลี่ยนแผนกลางทาง หรือจำกัดตาม SKU—อย่าตัดสินใจซื้อจากข่าวลือเพียงอย่างเดียว ‼️ ความเสี่ยงเฟิร์มแวร์/OS: หาก P/E cores รองรับไม่เท่ากัน อาจเกิดข้อจำกัดการจัดคิวงาน ⛔ แนวทาง: รอการยืนยันทางการและรายละเอียดการแมปคอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้งานผิดคอร์แล้วเกิด error https://wccftech.com/intel-confirms-avx10-support-for-nova-lake-including-both-desktop-and-mobile-lineups/
    WCCFTECH.COM
    Intel Confirms AVX10 Support For Nova Lake, Including Both Desktop And Mobile Lineups
    According to the official ISA documents, the Intel Nova Lake CPUs will reportedly support the AVX10 vector and APX performance extensions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • การกลับมาของ Valve ในตลาด VR

    หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ Steam Deck และ Steam Deck OLED ล่าสุด Valve ได้เปิดตัว Steam Frame VR ซึ่งเคยถูกเรียกในโค้ดเนมว่า “Deckard” โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2026 ตัวเครื่องถูกออกแบบให้เป็น อุปกรณ์ VR แบบไร้สายและทำงานได้ด้วยตัวเอง (standalone) แต่ยังคงรองรับการสตรีมเกมจาก PC ผ่านอะแดปเตอร์ไร้สาย 6GHz ที่มีระบบ dual-radio เพื่อลดการรบกวนสัญญาณ

    สเปกและฟีเจอร์ที่โดดเด่น
    Steam Frame ใช้ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB และมีตัวเลือกพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุดถึง 1TB พร้อมช่อง microSD สำหรับขยายเพิ่ม รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.3 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ SteamOS และมีโปรแกรม Steam Frame Verified เพื่อบอกว่ามีเกมใดที่สามารถเล่นได้ในโหมด standalone นอกจากนี้ยังรองรับเกม Android เพื่อดึงดูดนักพัฒนาที่เคยทำงานบนแพลตฟอร์ม Quest

    เทคโนโลยี Foveated Streaming
    หนึ่งในฟีเจอร์ที่สร้างความตื่นเต้นคือ Foveated Streaming ซึ่งใช้กล้องติดตามดวงตา 2 ตัวเพื่อเพิ่มความละเอียดภาพเฉพาะบริเวณที่ผู้เล่นกำลังมองอยู่ Valve อ้างว่าสามารถเพิ่มคุณภาพภาพและประสิทธิภาพแบนด์วิดท์ได้ถึง 10 เท่า ทำให้การสตรีมเกมจาก PC มีความคมชัดและลื่นไหลมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาการปรับแต่งจากนักพัฒนาเกม

    การออกแบบและประสบการณ์ใช้งาน
    ตัวเครื่องมีน้ำหนักรวมเพียง 440 กรัม โดยแบตเตอรี่ 21.6Wh ถูกติดตั้งไว้ด้านหลังเพื่อถ่วงน้ำหนักให้สมดุล รองรับการชาร์จเร็ว 45W และมีเลนส์แบบ pancake ที่ให้ภาพคมชัดทั่วทั้งขอบ พร้อมจอ LCD คู่ความละเอียด 2160 × 2160 ต่อข้าง รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz และมุมมองกว้าง 110 องศา ด้านเสียงมีลำโพงสเตอริโอคู่ที่ให้เสียงคุณภาพสูง ขณะที่คอนโทรลเลอร์ถูกออกแบบใหม่ให้มีระบบติดตาม 6-DOF และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ AA

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดตัว Steam Frame VR
    เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กำหนดวางจำหน่ายต้นปี 2026
    เป็นอุปกรณ์ VR แบบ standalone และรองรับการสตรีมจาก PC

    สเปกและระบบภายใน
    Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB, พื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 1TB
    รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3 และ SteamOS

    ฟีเจอร์ใหม่ Foveated Streaming
    ใช้กล้องติดตามดวงตาเพื่อเพิ่มคุณภาพภาพเฉพาะจุดที่มอง
    Valve เคลมว่าประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 10 เท่า

    การออกแบบและประสบการณ์ใช้งาน
    น้ำหนักรวม 440 กรัม พร้อมแบตเตอรี่ด้านหลังเพื่อสมดุล
    จอ LCD คู่ 2160 × 2160, รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    ยังไม่ประกาศราคาและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่แน่นอน
    ประสิทธิภาพเกม PC VR ที่ต้องการสเปกสูงอาจยังไม่สมบูรณ์ในโหมด standalone

    https://securityonline.info/steam-frame-vr-unveiled-valves-standalone-headset-targets-quest-with-snapdragon-foveated-streaming/
    🎮 การกลับมาของ Valve ในตลาด VR หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ Steam Deck และ Steam Deck OLED ล่าสุด Valve ได้เปิดตัว Steam Frame VR ซึ่งเคยถูกเรียกในโค้ดเนมว่า “Deckard” โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2026 ตัวเครื่องถูกออกแบบให้เป็น อุปกรณ์ VR แบบไร้สายและทำงานได้ด้วยตัวเอง (standalone) แต่ยังคงรองรับการสตรีมเกมจาก PC ผ่านอะแดปเตอร์ไร้สาย 6GHz ที่มีระบบ dual-radio เพื่อลดการรบกวนสัญญาณ ⚡ สเปกและฟีเจอร์ที่โดดเด่น Steam Frame ใช้ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB และมีตัวเลือกพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุดถึง 1TB พร้อมช่อง microSD สำหรับขยายเพิ่ม รองรับ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.3 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ SteamOS และมีโปรแกรม Steam Frame Verified เพื่อบอกว่ามีเกมใดที่สามารถเล่นได้ในโหมด standalone นอกจากนี้ยังรองรับเกม Android เพื่อดึงดูดนักพัฒนาที่เคยทำงานบนแพลตฟอร์ม Quest 👀 เทคโนโลยี Foveated Streaming หนึ่งในฟีเจอร์ที่สร้างความตื่นเต้นคือ Foveated Streaming ซึ่งใช้กล้องติดตามดวงตา 2 ตัวเพื่อเพิ่มความละเอียดภาพเฉพาะบริเวณที่ผู้เล่นกำลังมองอยู่ Valve อ้างว่าสามารถเพิ่มคุณภาพภาพและประสิทธิภาพแบนด์วิดท์ได้ถึง 10 เท่า ทำให้การสตรีมเกมจาก PC มีความคมชัดและลื่นไหลมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาการปรับแต่งจากนักพัฒนาเกม 🔊 การออกแบบและประสบการณ์ใช้งาน ตัวเครื่องมีน้ำหนักรวมเพียง 440 กรัม โดยแบตเตอรี่ 21.6Wh ถูกติดตั้งไว้ด้านหลังเพื่อถ่วงน้ำหนักให้สมดุล รองรับการชาร์จเร็ว 45W และมีเลนส์แบบ pancake ที่ให้ภาพคมชัดทั่วทั้งขอบ พร้อมจอ LCD คู่ความละเอียด 2160 × 2160 ต่อข้าง รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz และมุมมองกว้าง 110 องศา ด้านเสียงมีลำโพงสเตอริโอคู่ที่ให้เสียงคุณภาพสูง ขณะที่คอนโทรลเลอร์ถูกออกแบบใหม่ให้มีระบบติดตาม 6-DOF และใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ AA 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดตัว Steam Frame VR ➡️ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กำหนดวางจำหน่ายต้นปี 2026 ➡️ เป็นอุปกรณ์ VR แบบ standalone และรองรับการสตรีมจาก PC ✅ สเปกและระบบภายใน ➡️ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB, พื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 1TB ➡️ รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3 และ SteamOS ✅ ฟีเจอร์ใหม่ Foveated Streaming ➡️ ใช้กล้องติดตามดวงตาเพื่อเพิ่มคุณภาพภาพเฉพาะจุดที่มอง ➡️ Valve เคลมว่าประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 10 เท่า ✅ การออกแบบและประสบการณ์ใช้งาน ➡️ น้ำหนักรวม 440 กรัม พร้อมแบตเตอรี่ด้านหลังเพื่อสมดุล ➡️ จอ LCD คู่ 2160 × 2160, รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่ประกาศราคาและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่แน่นอน ⛔ ประสิทธิภาพเกม PC VR ที่ต้องการสเปกสูงอาจยังไม่สมบูรณ์ในโหมด standalone https://securityonline.info/steam-frame-vr-unveiled-valves-standalone-headset-targets-quest-with-snapdragon-foveated-streaming/
    SECURITYONLINE.INFO
    Steam Frame VR Unveiled: Valve's Standalone Headset Targets Quest with Snapdragon & Foveated Streaming
    Valve unveiled Steam Frame VR, a standalone headset with Snapdragon 8 Gen 3, SteamOS, and Foveated Streaming, set to launch in early 2026.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำด้านความปลอดภัยที่เปลี่ยนความหงุดหงิดเป็นธุรกิจใหม่

    เรื่องนี้เล่าเหมือนการเดินทางของอดีต CISO หลายคนที่เบื่อกับข้อจำกัดในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณที่ไม่พอ เครื่องมือที่ไม่เหมาะสม หรือการเมืองภายในบริษัท พวกเขาเลือกที่จะออกมาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทใหม่ เพื่อแก้ปัญหาที่เคยเจอและพิสูจน์ว่า “ความปลอดภัย” ไม่ใช่แค่ต้นทุน แต่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจได้

    Paul Hadjy ก่อตั้ง Horangi เพื่อเน้นความปลอดภัยบนคลาวด์ในเอเชีย ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครสนใจมากนัก เขาเชื่อว่าการทำให้ลูกค้าเห็นความปลอดภัยชัดเจนจะสร้างความไว้วางใจและกลายเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจ ส่วน Joe Silva ก่อตั้ง Spektion เพราะเบื่อกับการแก้ปัญหาช่องโหว่ซ้ำ ๆ แบบ “Groundhog Day” เขาอยากเปลี่ยนการจัดการช่องโหว่จากเรื่องการเมืองเป็นเรื่องวิศวกรรมที่แก้ได้จริง

    Chris Pierson ก่อตั้ง BlackCloak เพื่อปกป้องชีวิตดิจิทัลของผู้บริหารนอกเหนือจากไฟร์วอลล์องค์กร เพราะเขาเห็นว่าผู้โจมตีเริ่มเล็งเป้าหมายไปที่บ้านและชีวิตส่วนตัวของผู้บริหาร ส่วน Michael Coates อดีต CISO ของ Twitter ก่อตั้ง Altitude Networks เพื่อแก้ปัญหาการแชร์ไฟล์บนคลาวด์ที่เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล ก่อนจะขายกิจการและไปทำกองทุนลงทุนด้านความปลอดภัย

    การก่อตั้งบริษัทใหม่จากอดีต CISO
    Horangi เน้นความปลอดภัยคลาวด์ในเอเชีย
    Spektion แก้ปัญหาช่องโหว่แบบเชิงวิศวกรรม
    BlackCloak ปกป้องชีวิตดิจิทัลผู้บริหาร
    Altitude Networks ตรวจสอบการแชร์ไฟล์บนคลาวด์

    ความเสี่ยงและความท้าทายของผู้ก่อตั้ง
    เงินทุนใกล้หมดและต้องตัดค่าใช้จ่าย
    ความเครียดจากการตัดสินใจที่ยากและการรับผิดชอบทั้งหมด
    การโจมตีที่เล็งเป้าหมายไปยังชีวิตส่วนตัวของผู้บริหาร

    https://www.csoonline.com/article/4084574/the-security-leaders-who-turned-their-frustrations-into-companies.html
    🛡️ ผู้นำด้านความปลอดภัยที่เปลี่ยนความหงุดหงิดเป็นธุรกิจใหม่ เรื่องนี้เล่าเหมือนการเดินทางของอดีต CISO หลายคนที่เบื่อกับข้อจำกัดในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณที่ไม่พอ เครื่องมือที่ไม่เหมาะสม หรือการเมืองภายในบริษัท พวกเขาเลือกที่จะออกมาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทใหม่ เพื่อแก้ปัญหาที่เคยเจอและพิสูจน์ว่า “ความปลอดภัย” ไม่ใช่แค่ต้นทุน แต่สามารถสร้างความเชื่อมั่นและมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจได้ Paul Hadjy ก่อตั้ง Horangi เพื่อเน้นความปลอดภัยบนคลาวด์ในเอเชีย ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครสนใจมากนัก เขาเชื่อว่าการทำให้ลูกค้าเห็นความปลอดภัยชัดเจนจะสร้างความไว้วางใจและกลายเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจ ส่วน Joe Silva ก่อตั้ง Spektion เพราะเบื่อกับการแก้ปัญหาช่องโหว่ซ้ำ ๆ แบบ “Groundhog Day” เขาอยากเปลี่ยนการจัดการช่องโหว่จากเรื่องการเมืองเป็นเรื่องวิศวกรรมที่แก้ได้จริง Chris Pierson ก่อตั้ง BlackCloak เพื่อปกป้องชีวิตดิจิทัลของผู้บริหารนอกเหนือจากไฟร์วอลล์องค์กร เพราะเขาเห็นว่าผู้โจมตีเริ่มเล็งเป้าหมายไปที่บ้านและชีวิตส่วนตัวของผู้บริหาร ส่วน Michael Coates อดีต CISO ของ Twitter ก่อตั้ง Altitude Networks เพื่อแก้ปัญหาการแชร์ไฟล์บนคลาวด์ที่เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล ก่อนจะขายกิจการและไปทำกองทุนลงทุนด้านความปลอดภัย ✅ การก่อตั้งบริษัทใหม่จากอดีต CISO ➡️ Horangi เน้นความปลอดภัยคลาวด์ในเอเชีย ➡️ Spektion แก้ปัญหาช่องโหว่แบบเชิงวิศวกรรม ➡️ BlackCloak ปกป้องชีวิตดิจิทัลผู้บริหาร ➡️ Altitude Networks ตรวจสอบการแชร์ไฟล์บนคลาวด์ ‼️ ความเสี่ยงและความท้าทายของผู้ก่อตั้ง ⛔ เงินทุนใกล้หมดและต้องตัดค่าใช้จ่าย ⛔ ความเครียดจากการตัดสินใจที่ยากและการรับผิดชอบทั้งหมด ⛔ การโจมตีที่เล็งเป้าหมายไปยังชีวิตส่วนตัวของผู้บริหาร https://www.csoonline.com/article/4084574/the-security-leaders-who-turned-their-frustrations-into-companies.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The security leaders who turned their frustrations into companies
    Former CISOs share their experience after successfully founding security companies. CSO spoke to Paul Hadjy, Joe Silva, Chris Pierson and Michael Coates.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • Valve เปิดตัว Steam Machines, Steam Controller และ Steam Frame VR Headset

    Valve กลับมาสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการเกมอีกครั้งด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ถึงสามชิ้นพร้อมกัน ได้แก่ Steam Machines รุ่นใหม่, Steam Frame VR Headset และ Steam Controller รุ่นล่าสุด โดยทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อกับระบบนิเวศของ Steam อย่างสมบูรณ์ และยังคงยึดแนวคิด “open platform” ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามใจชอบ

    Steam Machines ใช้พลังจาก AMD Zen 4 และการ์ดจอ RDNA3 พร้อม RAM DDR5 และ SSD NVMe ความเร็วสูง รองรับการเชื่อมต่อที่ครบครันตั้งแต่ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 ไปจนถึง HDMI และ DisplayPort รุ่นใหม่ ส่วน Steam Frame VR Headset เน้นการสตรีมเกมจากคลัง Steam โดยใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 และหน้าจอความละเอียดสูง 2160×2160 ต่อข้าง รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz พร้อมเลนส์ pancake ที่ช่วยให้ภาพคมชัดและมุมมองกว้างถึง 110 องศา

    ที่น่าสนใจคือ Valve ยังเปิดตัว Steam Controller รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมระบบ haptic motors และ thumbsticks แบบแม่เหล็กที่ตอบสนองแม่นยำยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 35 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้งหมดนี้จะเริ่มวางจำหน่ายต้นปี 2026 ในหลายภูมิภาค รวมถึงสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

    Steam Machines รุ่นใหม่
    ใช้ AMD Zen 4, RDNA3 GPU, RAM DDR5, SSD NVMe
    รองรับ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, HDMI 2.0, DisplayPort 1.4

    Steam Frame VR Headset
    ใช้ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB, หน้าจอ 2160×2160 ต่อข้าง
    รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz, มุมมองกว้าง 110°

    Steam Controller รุ่นใหม่
    มี haptic motors, thumbsticks แม่เหล็ก, แบตเตอรี่ 35 ชั่วโมง

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    อุปกรณ์ใหม่อาจมีราคาสูงและต้องการสเปกเครือข่ายที่ทันสมัยเพื่อใช้งานเต็มประสิทธิภาพ
    VR Headset อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาหรือเวียนหัวง่าย

    P/S: ลุงอยากได้ !!!!!!

    https://9to5linux.com/valve-announces-steam-machines-steam-controller-and-steam-frame-vr-headset
    🕹️ Valve เปิดตัว Steam Machines, Steam Controller และ Steam Frame VR Headset Valve กลับมาสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการเกมอีกครั้งด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ถึงสามชิ้นพร้อมกัน ได้แก่ Steam Machines รุ่นใหม่, Steam Frame VR Headset และ Steam Controller รุ่นล่าสุด โดยทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อกับระบบนิเวศของ Steam อย่างสมบูรณ์ และยังคงยึดแนวคิด “open platform” ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ตามใจชอบ Steam Machines ใช้พลังจาก AMD Zen 4 และการ์ดจอ RDNA3 พร้อม RAM DDR5 และ SSD NVMe ความเร็วสูง รองรับการเชื่อมต่อที่ครบครันตั้งแต่ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3 ไปจนถึง HDMI และ DisplayPort รุ่นใหม่ ส่วน Steam Frame VR Headset เน้นการสตรีมเกมจากคลัง Steam โดยใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 3 และหน้าจอความละเอียดสูง 2160×2160 ต่อข้าง รองรับรีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz พร้อมเลนส์ pancake ที่ช่วยให้ภาพคมชัดและมุมมองกว้างถึง 110 องศา ที่น่าสนใจคือ Valve ยังเปิดตัว Steam Controller รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมระบบ haptic motors และ thumbsticks แบบแม่เหล็กที่ตอบสนองแม่นยำยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 35 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทั้งหมดนี้จะเริ่มวางจำหน่ายต้นปี 2026 ในหลายภูมิภาค รวมถึงสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ✅ Steam Machines รุ่นใหม่ ➡️ ใช้ AMD Zen 4, RDNA3 GPU, RAM DDR5, SSD NVMe ➡️ รองรับ Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, HDMI 2.0, DisplayPort 1.4 ✅ Steam Frame VR Headset ➡️ ใช้ Snapdragon 8 Gen 3, RAM 16GB, หน้าจอ 2160×2160 ต่อข้าง ➡️ รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz, มุมมองกว้าง 110° ✅ Steam Controller รุ่นใหม่ ➡️ มี haptic motors, thumbsticks แม่เหล็ก, แบตเตอรี่ 35 ชั่วโมง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ อุปกรณ์ใหม่อาจมีราคาสูงและต้องการสเปกเครือข่ายที่ทันสมัยเพื่อใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ⛔ VR Headset อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสายตาหรือเวียนหัวง่าย P/S: ลุงอยากได้ !!!!!! https://9to5linux.com/valve-announces-steam-machines-steam-controller-and-steam-frame-vr-headset
    9TO5LINUX.COM
    Valve Announces Steam Machines, Steam Controller, and Steam Frame VR Headset - 9to5Linux
    Valve announces Steam Machines, Steam Controller, and Steam Frame VR headset products, scheduled for 2026.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/Oz6nQbvcdLY?si=kAfg0sjnzycULvxz
    https://youtu.be/Oz6nQbvcdLY?si=kAfg0sjnzycULvxz
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวด่วน: พบช่องโหว่ Authentication Bypass ร้ายแรงใน Milvus Proxy

    ทีมพัฒนา Milvus ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเวกเตอร์โอเพนซอร์สที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการทำงานด้าน AI, Recommendation Systems และ Semantic Search ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-64513 ในส่วน Proxy Component โดยมีคะแนนความร้ายแรง CVSS 9.3

    รายละเอียดช่องโหว่
    ช่องโหว่นี้เกิดจาก การตรวจสอบสิทธิ์ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้โจมตีสามารถ ข้ามขั้นตอนการยืนยันตัวตนทั้งหมด ได้
    เมื่อถูกโจมตีสำเร็จ แฮกเกอร์สามารถ:
    อ่าน, แก้ไข, หรือลบข้อมูลเวกเตอร์และเมตาดาต้า
    ทำการจัดการฐานข้อมูล เช่น สร้างหรือลบ collections และ databases
    ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องของโมเดล AI ที่ใช้ Milvus ในการทำ inference หรือ retrieval

    การแก้ไขและการป้องกัน
    ทีม Milvus ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน:
    2.4.24 สำหรับ branch 2.4.x
    2.5.21 สำหรับ branch 2.5.x
    2.6.5 สำหรับ branch 2.6.x

    สำหรับผู้ที่ไม่สามารถอัปเดตได้ทันที มี วิธีแก้ชั่วคราว โดยการ กรองหรือเอา header sourceID ออกจากทุก request ก่อนถึง Milvus Proxy

    ความสำคัญต่อโลกไซเบอร์
    เนื่องจาก Milvus มักถูกใช้งานในระบบ AI-driven applications หากถูกโจมตี อาจนำไปสู่:
    Data Poisoning (การบิดเบือนข้อมูลเพื่อทำให้โมเดล AI ให้ผลลัพธ์ผิดพลาด)
    Model Manipulation (การควบคุมหรือเปลี่ยนพฤติกรรมของโมเดล)
    Service Disruption (หยุดการทำงานของระบบ AI หรือ Search Engine ที่ใช้ Milvus)

    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-64513
    Authentication Bypass ใน Milvus Proxy
    ระดับความร้ายแรง CVSS 9.3
    เปิดทางให้ทำการควบคุมระบบเต็มรูปแบบ

    การแก้ไขจาก Milvus
    ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 2.4.24, 2.5.21 และ 2.6.5
    มีวิธีแก้ชั่วคราวโดยการลบ header sourceID

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    Data Poisoning
    Model Manipulation
    Service Disruption

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ Milvus
    หากไม่อัปเดต อาจถูกโจมตีและสูญเสียการควบคุมระบบ
    เสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือบิดเบือนข้อมูล AI
    อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเครือข่ายองค์กร

    https://securityonline.info/critical-authentication-bypass-vulnerability-found-in-milvus-proxy-cve-2025-64513-cvss-9-3/
    🔐 ข่าวด่วน: พบช่องโหว่ Authentication Bypass ร้ายแรงใน Milvus Proxy ทีมพัฒนา Milvus ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเวกเตอร์โอเพนซอร์สที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการทำงานด้าน AI, Recommendation Systems และ Semantic Search ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-64513 ในส่วน Proxy Component โดยมีคะแนนความร้ายแรง CVSS 9.3 📌 รายละเอียดช่องโหว่ 🪲 ช่องโหว่นี้เกิดจาก การตรวจสอบสิทธิ์ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ผู้โจมตีสามารถ ข้ามขั้นตอนการยืนยันตัวตนทั้งหมด ได้ 🪲 เมื่อถูกโจมตีสำเร็จ แฮกเกอร์สามารถ: ➡️ อ่าน, แก้ไข, หรือลบข้อมูลเวกเตอร์และเมตาดาต้า ➡️ ทำการจัดการฐานข้อมูล เช่น สร้างหรือลบ collections และ databases ➡️ ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องของโมเดล AI ที่ใช้ Milvus ในการทำ inference หรือ retrieval 🛠️ การแก้ไขและการป้องกัน ทีม Milvus ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน: 🪛 2.4.24 สำหรับ branch 2.4.x 🪛 2.5.21 สำหรับ branch 2.5.x 🪛 2.6.5 สำหรับ branch 2.6.x สำหรับผู้ที่ไม่สามารถอัปเดตได้ทันที มี วิธีแก้ชั่วคราว โดยการ กรองหรือเอา header sourceID ออกจากทุก request ก่อนถึง Milvus Proxy 🌍 ความสำคัญต่อโลกไซเบอร์ เนื่องจาก Milvus มักถูกใช้งานในระบบ AI-driven applications หากถูกโจมตี อาจนำไปสู่: ➡️ Data Poisoning (การบิดเบือนข้อมูลเพื่อทำให้โมเดล AI ให้ผลลัพธ์ผิดพลาด) ➡️ Model Manipulation (การควบคุมหรือเปลี่ยนพฤติกรรมของโมเดล) ➡️ Service Disruption (หยุดการทำงานของระบบ AI หรือ Search Engine ที่ใช้ Milvus) ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-64513 ➡️ Authentication Bypass ใน Milvus Proxy ➡️ ระดับความร้ายแรง CVSS 9.3 ➡️ เปิดทางให้ทำการควบคุมระบบเต็มรูปแบบ ✅ การแก้ไขจาก Milvus ➡️ ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 2.4.24, 2.5.21 และ 2.6.5 ➡️ มีวิธีแก้ชั่วคราวโดยการลบ header sourceID ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ Data Poisoning ➡️ Model Manipulation ➡️ Service Disruption ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ Milvus ⛔ หากไม่อัปเดต อาจถูกโจมตีและสูญเสียการควบคุมระบบ ⛔ เสี่ยงต่อการรั่วไหลหรือบิดเบือนข้อมูล AI ⛔ อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเครือข่ายองค์กร https://securityonline.info/critical-authentication-bypass-vulnerability-found-in-milvus-proxy-cve-2025-64513-cvss-9-3/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical Authentication Bypass Vulnerability Found in Milvus Proxy (CVE-2025-64513, CVSS 9.3)
    A Critical (CVSS 9.3) Auth Bypass flaw (CVE-2025-64513) in Milvus Proxy allows unauthenticated attackers to gain full administrative control over the vector database cluster. Update to v2.6.5.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/1Zj2JJbCrts?si=lIcPFLvan2YFwa4-
    https://youtu.be/1Zj2JJbCrts?si=lIcPFLvan2YFwa4-
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • สันติภาพของจริงคือเขมรสิ้นชาติ1, กำแพงรั้วลวดหนามสร้างให้รวดเร็วเสร็จภายในต้นปีหน้าให้ได้,ตามเสาเขตแดน ร.5 เราทำเสร็จแล้วถึง73เสาหลักเอก1เสารองย่อย,รวม74เสาเขตแดน,ตามอัตรา1:50,000 ถ้าเขมรไม่ยอมตามนั้น ใช้เงื่อนไขสิทธิเดิมคืนสถานะทั้งหมดคือยึด พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เกาะกง และทิศอาณาจักรอาณาเขตมลฑลบูรพาเดิมที่ฝรั่งเศษไม่คืนถูกประเทศ ,เราทำให้จบให้ถูกทันทีในยุคสมัยนี้เลย,ครึ่งประเทศเขมรเดิมคือของไทยชัดเจน เราชอบธรรมที่จะใช้กำลังยึดคืนได้.

    ..รัฐบาลนี้อ่อนแอเกินไป ไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์ ทรยศประชาชนเช่นกรณีแร่เอิร์ธ ไม่สมควรกระทำการโดยไม่ผ่านมติประชาคมประชาวิจารณ์ภายในประเทศได้.
    ..ทหารจะยึดอำนาจกี่โมง ปฏิวัติสร้างชาติและกำจัดคนทรยศแผ่นดินไทยกี่โมง?

    https://youtu.be/UY2LONx6sN8?si=8b2lVDElHnhHUVcx
    สันติภาพของจริงคือเขมรสิ้นชาติ1, กำแพงรั้วลวดหนามสร้างให้รวดเร็วเสร็จภายในต้นปีหน้าให้ได้,ตามเสาเขตแดน ร.5 เราทำเสร็จแล้วถึง73เสาหลักเอก1เสารองย่อย,รวม74เสาเขตแดน,ตามอัตรา1:50,000 ถ้าเขมรไม่ยอมตามนั้น ใช้เงื่อนไขสิทธิเดิมคืนสถานะทั้งหมดคือยึด พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เกาะกง และทิศอาณาจักรอาณาเขตมลฑลบูรพาเดิมที่ฝรั่งเศษไม่คืนถูกประเทศ ,เราทำให้จบให้ถูกทันทีในยุคสมัยนี้เลย,ครึ่งประเทศเขมรเดิมคือของไทยชัดเจน เราชอบธรรมที่จะใช้กำลังยึดคืนได้. ..รัฐบาลนี้อ่อนแอเกินไป ไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์ ทรยศประชาชนเช่นกรณีแร่เอิร์ธ ไม่สมควรกระทำการโดยไม่ผ่านมติประชาคมประชาวิจารณ์ภายในประเทศได้. ..ทหารจะยึดอำนาจกี่โมง ปฏิวัติสร้างชาติและกำจัดคนทรยศแผ่นดินไทยกี่โมง? https://youtu.be/UY2LONx6sN8?si=8b2lVDElHnhHUVcx
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: "เมื่อสิ่งที่ไม่ใช่คน กลายเป็นบุคคลตามกฎหมาย "

    ลองจินตนาการดูว่า...เรือ แม่น้ำ หรือแม้แต่เทพเจ้า กลายเป็น “บุคคล” ที่สามารถฟ้องร้องหรือถูกฟ้องได้ในศาล! ฟังดูเหมือนนิยายแฟนตาซี แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในหลายประเทศทั่วโลก และมีเหตุผลทางกฎหมายที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

    เรือ: บุคคลแห่งท้องทะเล
    ในโลกของกฎหมายทางทะเล เรือไม่ได้เป็นแค่ยานพาหนะ แต่เป็น “บุคคล” ที่สามารถถูกฟ้องร้องได้หากก่อความเสียหาย เช่น ชนท่าเรือหรือทำให้ทรัพย์สินเสียหาย โดยไม่ต้องรอให้เจ้าของเรือมารับผิดชอบ

    เรือมีสถานะเป็น “บุคคลตามกฎหมาย” เพื่อให้สามารถถูกยึดหรือฟ้องร้องได้
    สิ่งนี้ช่วยให้เจ้าท่าและผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีได้โดยไม่ต้องตามหาเจ้าของเรือที่อาจอยู่ไกลหลายพันไมล์

    เรือมี “สิทธิในการกู้ภัย” (Salvage Rights)
    หากเรือลำหนึ่งช่วยอีกลำหนึ่งจากอันตรายกลางทะเล จะมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนตามหลัก “no cure, no pay”


    แม่น้ำ Whanganui: วิญญาณแห่งธรรมชาติที่มีสิทธิ์ตามกฎหมาย
    ในปี 2017 รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ประกาศให้แม่น้ำ Whanganui เป็น “บุคคลตามกฎหมาย” เพื่อยอมรับความเชื่อของชาวเมารีที่มองว่าแม่น้ำคือบรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    แม่น้ำ Whanganui ได้รับสถานะเป็น “บุคคล” พร้อมสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบตามกฎหมาย
    มีผู้ดูแล 2 ฝ่าย: ตัวแทนจากรัฐบาลและตัวแทนจากชนเผ่าเมารี

    รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อฟื้นฟูแม่น้ำและดูแลผลประโยชน์ของแม่น้ำในระยะยาว
    รวมกว่า 110 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์


    เทพเจ้าในศาสนาฮินดู: ผู้ถือครองทรัพย์สินและสิทธิในศาล
    ในอินเดีย เทพเจ้าฮินดูถือเป็น “บุคคลตามกฎหมาย” ที่สามารถถือครองทรัพย์สินและมีสิทธิในกระบวนการยุติธรรมได้ โดยมี “ผู้ดูแล” หรือ “เพื่อนสนิท” เป็นผู้ดำเนินการแทน

    เทพเจ้าฮินดูมีสถานะเป็น “บุคคลทางกฎหมาย” (juristic person)
    สามารถถือครองที่ดินและทรัพย์สินได้

    มี “ผู้ดูแล” (shebait) หรือ “เพื่อนสนิท” ที่เป็นตัวแทนในการดำเนินคดีแทนเทพเจ้า
    หากผู้ดูแลไม่ซื่อสัตย์ ผู้ศรัทธาคนอื่นสามารถฟ้องแทนเทพเจ้าได้

    คดีสำคัญ เช่น คดีที่ดินในเมืองอยุธยา (Ayodhya) ที่ศาลสูงสุดตัดสินให้เทพเจ้ารามเป็นเจ้าของที่ดิน
    มีการจัดตั้งทรัสต์เพื่อดูแลทรัพย์สินของเทพเจ้า


    เสริมความรู้: “บุคคลตามกฎหมาย” คืออะไร?
    คำว่า “บุคคลตามกฎหมาย” (legal person) ไม่ได้หมายถึงมนุษย์เท่านั้น แต่รวมถึงองค์กร บริษัท หรือแม้แต่สิ่งไม่มีชีวิตที่กฎหมายให้สิทธิและหน้าที่เหมือนบุคคล

    ตัวอย่างของบุคคลตามกฎหมาย:
    บริษัท ห้างหุ้นส่วน มูลนิธิ
    เรือ แม่น้ำ เทพเจ้า (ในบางประเทศ)

    บุคคลตามกฎหมายไม่ได้มีสิทธิเหมือนมนุษย์ทุกประการ
    เช่น ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง หรือสิทธิในชีวิตส่วนตัว

    https://bengoldhaber.substack.com/p/unexpected-things-that-are-people
    📰 หัวข้อข่าว: "เมื่อสิ่งที่ไม่ใช่คน กลายเป็นบุคคลตามกฎหมาย 🤖⚖️" ลองจินตนาการดูว่า...เรือ แม่น้ำ หรือแม้แต่เทพเจ้า กลายเป็น “บุคคล” ที่สามารถฟ้องร้องหรือถูกฟ้องได้ในศาล! ฟังดูเหมือนนิยายแฟนตาซี แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในหลายประเทศทั่วโลก และมีเหตุผลทางกฎหมายที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว 🔖🔖🔖🔖🔖 🛳️ เรือ: บุคคลแห่งท้องทะเล ในโลกของกฎหมายทางทะเล เรือไม่ได้เป็นแค่ยานพาหนะ แต่เป็น “บุคคล” ที่สามารถถูกฟ้องร้องได้หากก่อความเสียหาย เช่น ชนท่าเรือหรือทำให้ทรัพย์สินเสียหาย โดยไม่ต้องรอให้เจ้าของเรือมารับผิดชอบ ✅ เรือมีสถานะเป็น “บุคคลตามกฎหมาย” เพื่อให้สามารถถูกยึดหรือฟ้องร้องได้ ➡️ สิ่งนี้ช่วยให้เจ้าท่าและผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีได้โดยไม่ต้องตามหาเจ้าของเรือที่อาจอยู่ไกลหลายพันไมล์ ✅ เรือมี “สิทธิในการกู้ภัย” (Salvage Rights) ➡️ หากเรือลำหนึ่งช่วยอีกลำหนึ่งจากอันตรายกลางทะเล จะมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนตามหลัก “no cure, no pay” 🔖🔖🔖🔖🔖 🌊 แม่น้ำ Whanganui: วิญญาณแห่งธรรมชาติที่มีสิทธิ์ตามกฎหมาย ในปี 2017 รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ประกาศให้แม่น้ำ Whanganui เป็น “บุคคลตามกฎหมาย” เพื่อยอมรับความเชื่อของชาวเมารีที่มองว่าแม่น้ำคือบรรพบุรุษและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ✅ แม่น้ำ Whanganui ได้รับสถานะเป็น “บุคคล” พร้อมสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบตามกฎหมาย ➡️ มีผู้ดูแล 2 ฝ่าย: ตัวแทนจากรัฐบาลและตัวแทนจากชนเผ่าเมารี ✅ รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อฟื้นฟูแม่น้ำและดูแลผลประโยชน์ของแม่น้ำในระยะยาว ➡️ รวมกว่า 110 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ 🔖🔖🔖🔖🔖 🛕 เทพเจ้าในศาสนาฮินดู: ผู้ถือครองทรัพย์สินและสิทธิในศาล ในอินเดีย เทพเจ้าฮินดูถือเป็น “บุคคลตามกฎหมาย” ที่สามารถถือครองทรัพย์สินและมีสิทธิในกระบวนการยุติธรรมได้ โดยมี “ผู้ดูแล” หรือ “เพื่อนสนิท” เป็นผู้ดำเนินการแทน ✅ เทพเจ้าฮินดูมีสถานะเป็น “บุคคลทางกฎหมาย” (juristic person) ➡️ สามารถถือครองที่ดินและทรัพย์สินได้ ✅ มี “ผู้ดูแล” (shebait) หรือ “เพื่อนสนิท” ที่เป็นตัวแทนในการดำเนินคดีแทนเทพเจ้า ➡️ หากผู้ดูแลไม่ซื่อสัตย์ ผู้ศรัทธาคนอื่นสามารถฟ้องแทนเทพเจ้าได้ ✅ คดีสำคัญ เช่น คดีที่ดินในเมืองอยุธยา (Ayodhya) ที่ศาลสูงสุดตัดสินให้เทพเจ้ารามเป็นเจ้าของที่ดิน ➡️ มีการจัดตั้งทรัสต์เพื่อดูแลทรัพย์สินของเทพเจ้า 🔖🔖🔖🔖🔖 🧠 เสริมความรู้: “บุคคลตามกฎหมาย” คืออะไร? คำว่า “บุคคลตามกฎหมาย” (legal person) ไม่ได้หมายถึงมนุษย์เท่านั้น แต่รวมถึงองค์กร บริษัท หรือแม้แต่สิ่งไม่มีชีวิตที่กฎหมายให้สิทธิและหน้าที่เหมือนบุคคล ✅ ตัวอย่างของบุคคลตามกฎหมาย: ➡️ บริษัท ห้างหุ้นส่วน มูลนิธิ ➡️ เรือ แม่น้ำ เทพเจ้า (ในบางประเทศ) ‼️ บุคคลตามกฎหมายไม่ได้มีสิทธิเหมือนมนุษย์ทุกประการ ⛔ เช่น ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง หรือสิทธิในชีวิตส่วนตัว https://bengoldhaber.substack.com/p/unexpected-things-that-are-people
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • “DragonForce Ransomware กลับมาอีกครั้ง พร้อมเทคนิคใหม่ปิดระบบป้องกันและเข้ารหัสแบบไฮบริด”

    นักวิจัยจาก Acronis Threat Research Unit (TRU) พบว่า DragonForce ransomware ได้พัฒนาเวอร์ชันใหม่ที่ใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อปิดการทำงานของซอฟต์แวร์ป้องกัน เช่น EDR และ Antivirus โดยใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่ เช่น truesight.sys และ rentdrv2.sys เพื่อส่งคำสั่ง DeviceIoControl ไปฆ่า process ที่ป้องกันได้ยาก

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบเข้ารหัสจากโค้ดของ Conti v3 โดยใช้การเข้ารหัสแบบไฮบริด ChaCha20 + RSA พร้อมไฟล์ config ที่เข้ารหัสไว้ในตัว binary เพื่อเพิ่มความลับและลดการตรวจจับ

    กลุ่ม DragonForce ยังเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเป็น “cartel” เพื่อดึงดูด affiliate โดยเสนอส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 80% และเครื่องมือที่ปรับแต่งได้ ซึ่งทำให้กลุ่มนี้กลายเป็นหนึ่งใน ecosystem ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ransomware

    การพัฒนาเทคนิค BYOVD
    ใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่า process ที่ป้องกันได้ยาก
    ส่งคำสั่ง DeviceIoControl ไปยัง driver เพื่อปิดระบบ EDR และ Antivirus
    เทคนิคนี้เคยใช้โดยกลุ่ม BlackCat และ AvosLocker

    การปรับปรุงระบบเข้ารหัส
    ใช้ ChaCha20 สร้าง key ต่อไฟล์ แล้วเข้ารหัสด้วย RSA
    มี header ที่เก็บ metadata และข้อมูลการเข้ารหัส
    ไฟล์ config ถูกเข้ารหัสใน binary ไม่ต้องใช้ command-line

    การเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร
    จาก RaaS เป็น cartel เพื่อดึง affiliate
    เสนอ encryptor ที่ปรับแต่งได้และส่วนแบ่งรายได้สูง
    มี affiliate เช่น Devman ที่ใช้ builder เดียวกัน

    การโจมตีที่ขยายตัว
    เคยร่วมมือกับ Scattered Spider โจมตี Marks & Spencer
    พยายาม takeover โครงสร้างของกลุ่มคู่แข่ง เช่น RansomHub และ BlackLock
    ใช้ MinGW ในการ compile ทำให้ binary ใหญ่ขึ้น

    https://securityonline.info/dragonforce-ransomware-evolves-with-byovd-to-kill-edr-and-fixes-encryption-flaws-in-conti-v3-codebase/
    🐉 “DragonForce Ransomware กลับมาอีกครั้ง พร้อมเทคนิคใหม่ปิดระบบป้องกันและเข้ารหัสแบบไฮบริด” นักวิจัยจาก Acronis Threat Research Unit (TRU) พบว่า DragonForce ransomware ได้พัฒนาเวอร์ชันใหม่ที่ใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อปิดการทำงานของซอฟต์แวร์ป้องกัน เช่น EDR และ Antivirus โดยใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่ เช่น truesight.sys และ rentdrv2.sys เพื่อส่งคำสั่ง DeviceIoControl ไปฆ่า process ที่ป้องกันได้ยาก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบเข้ารหัสจากโค้ดของ Conti v3 โดยใช้การเข้ารหัสแบบไฮบริด ChaCha20 + RSA พร้อมไฟล์ config ที่เข้ารหัสไว้ในตัว binary เพื่อเพิ่มความลับและลดการตรวจจับ กลุ่ม DragonForce ยังเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเป็น “cartel” เพื่อดึงดูด affiliate โดยเสนอส่วนแบ่งรายได้สูงถึง 80% และเครื่องมือที่ปรับแต่งได้ ซึ่งทำให้กลุ่มนี้กลายเป็นหนึ่งใน ecosystem ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ransomware ✅ การพัฒนาเทคนิค BYOVD ➡️ ใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่า process ที่ป้องกันได้ยาก ➡️ ส่งคำสั่ง DeviceIoControl ไปยัง driver เพื่อปิดระบบ EDR และ Antivirus ➡️ เทคนิคนี้เคยใช้โดยกลุ่ม BlackCat และ AvosLocker ✅ การปรับปรุงระบบเข้ารหัส ➡️ ใช้ ChaCha20 สร้าง key ต่อไฟล์ แล้วเข้ารหัสด้วย RSA ➡️ มี header ที่เก็บ metadata และข้อมูลการเข้ารหัส ➡️ ไฟล์ config ถูกเข้ารหัสใน binary ไม่ต้องใช้ command-line ✅ การเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร ➡️ จาก RaaS เป็น cartel เพื่อดึง affiliate ➡️ เสนอ encryptor ที่ปรับแต่งได้และส่วนแบ่งรายได้สูง ➡️ มี affiliate เช่น Devman ที่ใช้ builder เดียวกัน ✅ การโจมตีที่ขยายตัว ➡️ เคยร่วมมือกับ Scattered Spider โจมตี Marks & Spencer ➡️ พยายาม takeover โครงสร้างของกลุ่มคู่แข่ง เช่น RansomHub และ BlackLock ➡️ ใช้ MinGW ในการ compile ทำให้ binary ใหญ่ขึ้น https://securityonline.info/dragonforce-ransomware-evolves-with-byovd-to-kill-edr-and-fixes-encryption-flaws-in-conti-v3-codebase/
    SECURITYONLINE.INFO
    DragonForce Ransomware Evolves with BYOVD to Kill EDR and Fixes Encryption Flaws in Conti V3 Codebase
    Acronis exposed DragonForce's evolution: the ransomware is compiled with MinGW, uses BYOVD drivers to terminate EDR, and contains fixes to prevent decryption of its Conti V3 derived codebase.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/whyHb04PVjg?si=wUA9A493h8m7ULVc
    https://youtu.be/whyHb04PVjg?si=wUA9A493h8m7ULVc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึก "ริน" : เทพีนาคาลูกผสมแห่งสายน้ำและความรู้สึก

    ต้นกำเนิดแห่งเทพีนาคา

    การถือกำเนิดระหว่างสองโลก

    ชื่อเต็ม: รินทราวดี นาคารัตนะ
    ชื่อหมายถึง:"ผู้เป็นดั่งแก้วแหวนแห่งนาคา"
    อายุ:23 ปี (ร่างกาย), 300 ปี (จิตวิญญาณ)
    สถานะ:เทพีนาคาลูกผสมระหว่างนาคาระดับสูงกับมนุษย์

    ```mermaid
    graph TB
    A[พ่อนาคา<br>ราชันแห่งแม่น้ำ] --> C[ริน<br>เทพีนาคาลูกผสม]
    B[แม่มนุษย์<br>นักดนตรีแห่งวัง] --> C
    C --> D[ถูกเลี้ยงในวังนาคา<br>แต่รู้สึกแตกต่าง]
    C --> E[มีพลังผัสสะ<br>เกินปกติ]
    ```

    ลักษณะทางกายภาพ

    · รูปร่าง: สาวงามสูง 168 ซม. ผมยาวสีดำแซมด้วยเกล็ดสีมรกต
    · ผิวพรรณ: เรียบเนียนมีเกล็ดนาคาเรียงตัวเป็นลวดลายตามแขนและหลัง
    · ดวงตา: สีเขียวคล้ายหยก เปลี่ยนสีตามอารมณ์
    · เครื่องประดับ: สวมมงกุฎเกล็ดนาคาและต่างหูทำจากไข่มุกแม่น้ำ

    พลังพิเศษแห่งสายน้ำและความรู้สึก

    พลังจากสองสายเลือด

    ```python
    class RinPowers:
    def __init__(self):
    self.naga_heritage = {
    "water_control": "ควบคุมและสร้างรูปน้ำได้",
    "weather_influence": "สภาพอากาศรอบตัว",
    "serpent_communication": "สื่อสารกับสัตว์เลื้อยคลาน",
    "underwater_breathing": "หายใจใต้น้ำได้"
    }

    self.human_heritage = {
    "emotional_empathy": "รับรู้อารมณ์ผู้คนผ่านน้ำ",
    "artistic_talent": "ความสามารถด้านดนตรีและศิลปะ",
    "cultural_bridge": "เข้าใจทั้งวัฒนธรรมมนุษย์และนาคา",
    "adaptive_nature": "ปรับตัวได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม"
    }

    self.unique_hybrid_powers = {
    "liquid_memory": "เก็บความทรงจำในน้ำและเรียกคืนได้",
    "emotional_hydration": "ดูดซับอารมณ์ผ่านความชื้น",
    "tear_divination": "ทำนายอนาคตผ่านน้ำตา",
    "river_empathy": "รับรู้ความรู้สึกของแม่น้ำ"
    }
    ```

    พลังผัสสะพิเศษ

    รินมีความสามารถรับรู้ผัสสะที่ละเอียดอ่อนผิดไปจากมนุษย์

    · สัมผัสน้ำ: รู้ประวัติและอารมณ์ที่ผูกกับน้ำนั้น
    · รับรู้อารมณ์: ผ่านความชื้นในอากาศ
    · สื่อสาร: ผ่านคลื่นเสียงในน้ำ

    ชีวิตในวังนาคาและโลกมนุษย์

    การเติบโตในวังนาคา

    รินถูกเลี้ยงดูในวังนาคาใต้แม่น้ำโขง:

    · การศึกษาศิลปะ: จากแม่มนุษย์
    · การฝึกพลัง: จากพ่อนาคา
    · ความโดดเดี่ยว: เพราะเป็นลูกผสม

    การมาโลกมนุษย์

    เมื่ออายุ 100 ปี รินขอมาอยู่โลกมนุษย์:

    · เหตุผล: ต้องการเข้าใจด้านมนุษย์ของตัวเอง
    · อาชีพ: เปิดโรงเรียนสอนดนตรีใกล้แม่น้ำ
    · การปกปิด: ซ่อนพลังและเกล็ดนาคาเมื่ออยู่กับมนุษย์

    บันทึกความในใจ

    "บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนปลาสองน้ำ...
    อยู่ในวังนาคาก็คิดถึงโลกมนุษย์
    อยู่ในโลกมนุษย์ก็คิดถึงวังนาคา

    ไม่รู้ว่าบ้านที่แท้จริงอยู่ที่ไหน..."

    ความสามารถด้านดนตรีและศิลปะ

    ดนตรีแห่งสายน้ำ

    รินพัฒนาดนตรีรูปแบบใหม่:

    · เครื่องดนตรี: พิณน้ำที่สร้างจากพลังงาน
    · บทเพลง: ที่สื่ออารมณ์ผ่านคลื่นน้ำ
    · การแสดง: ร่วมกับเสียงน้ำและธรรมชาติ

    ศิลปะจากผัสสะ

    ```mermaid
    graph LR
    A[อารมณ์ของริน] --> B[แปลงเป็น<br>ศิลปะน้ำ]
    C[ความรู้สึกจากผู้อื่น] --> D[รินรับรู้<br>ผ่านความชื้น]
    B --> E[สร้างเป็น<br>ผลงานศิลปะ]
    D --> E
    ```

    ผลงานเด่น

    · "สายน้ำแห่งความทรงจำ": บทเพลงที่บอกเล่าประวัติศาสตร์แม่น้ำโขง
    · "เกล็ดแห่งกาลเวลา": ประติมากรรมน้ำที่เปลี่ยนรูปตามอารมณ์
    · "น้ำตาของนาคา": การแสดงที่รวมดนตรีและศิลปะน้ำ

    ความสัมพันธ์กับนาคาริน

    การพบกันครั้งแรก

    รินพบนาคารินเมื่อเขามาหลบภัยที่โรงเรียนดนตรีของเธอ:
    "เขาเข้ามาพร้อมกับสายฝน...
    และฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวดในผัสสะของเขาทันที"

    การช่วยเหลือนาคาริน

    รินใช้ความสามารถพิเศษช่วยนาคาริน:

    · บำบัดด้วยดนตรี: ใช้เสียงดนตรีปรับสมดุลผัสสะ
    · ศิลปะน้ำ: ช่วยเขาควบคุมพลังผัสสะ
    · ความเข้าใจ: ในฐานะลูกผสมด้วยกัน

    การพัฒนาความสัมพันธ์

    จากเพื่อนร่วมชะตากรรม สู่ความรัก:
    "เราสอนกันและกัน...
    เขาสอนฉันเรื่องความเข้มแข็ง
    ฉันสอนเขาเรื่องความอ่อนโยน

    และเราพบว่าการเป็นลูกผสม...
    สามารถเป็นความงามได้ไม่ใช่ความอับอาย"

    การเป็นสะพานระหว่างสองโลก

    บทบาททางการ

    รินได้รับแต่งตั้งเป็น:

    · ทูตสันถวไมตรี ระหว่างวังนาคาและมนุษย์
    · ที่ปรึกษาด้านศิลปะ ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต
    · ผู้รักษาประเพณี ดนตรีและศิลปะนาคา

    โครงการสำคัญ

    ```python
    class RinProjects:
    def __init__(self):
    self.cultural_projects = {
    "naga_human_cultural_exchange": "แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างนาคาและมนุษย์",
    "river_conservation_through_art": "อนุรักษ์แม่น้ำผ่านศิลปะ",
    "hybrid_community_support": "สนับสนุนชุมชนลูกผสม",
    "sensory_art_therapy": "ศิลปะบำบัดสำหรับผู้มีพลังผัสสะพิเศษ"
    }

    self.collaborations = [
    "นาคาริน: ศูนย์บำบัดพลังผัสสะ",
    "หนูดี: การใช้พลังงานในศิลปะ",
    "เณรพุทธ: ศิลปะแห่งจิตวิญญาณ",
    "นิทรา: ศิลปะจากอารมณ์"
    ]
    ```

    การบำบัดและเยียวยา

    ดนตรีบำบัดแห่งสายน้ำ

    รินพัฒนาวิธีการบำบัดใหม่:

    · เสียงน้ำบำบัด: ใช้เสียงน้ำรักษาจิตใจ
    · ดนตรีปรับผัสสะ: ช่วยผู้มีปัญหาการรับรู้
    · ศิลปะน้ำระบายอารมณ์: ใช้น้ำเป็นสื่อแสดงอารมณ์

    เทคนิคเฉพาะตัว

    ```python
    class HealingTechniques:
    def __init__(self):
    self.water_based = [
    "การฟังเสียงน้ำเพื่อสมาธิ",
    "การใช้การไหลของน้ำเป็นแบบอย่างการปล่อยวาง",
    "การวาดรูปด้วยน้ำบนแผ่นหินร้อน",
    "การสร้างท่วงทำนองจากเสียงน้ำ"
    ]

    self.sensory_balance = [
    "การปรับสมดุลผัสสะด้วยอุณหภูมิน้ำ",
    "การใช้ลวดลายน้ำเป็นเครื่องมือFocus",
    "การสร้างจังหวะจากคลื่นน้ำ",
    "การใช้แสงผ่านน้ำสร้างบรรยากาศ"
    ]
    ```

    ปรัชญาและคำสอน

    🪷 คำคมแห่งสายน้ำ

    "ชีวิตดุจสายน้ำ...
    บางครั้งต้องไหลเชี่ยว บางครั้งต้องไหลเอื่อย
    แต่สิ่งที่สำคัญคือการไหลไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

    และเหมือนน้ำที่ปรับรูปตามภาชนะ...
    เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวตามสถานการณ์"

    บทเรียนการเป็นลูกผสม

    รินสอนว่า:

    · ความแตกต่าง คือความงามที่ไม่ซ้ำใคร
    · การเป็นสะพาน ระหว่างสองโลกคือเกียรติยศ
    · การเข้าใจทั้งสองฝั่ง ทำให้เรามีมุมมองที่กว้างไกล

    บทสรุปแห่งการเป็นตัวตนที่สมบูรณ์

    การยอมรับตัวเอง

    รินค้นพบในที่สุดว่า:
    "ฉันไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างนาคาหรือมนุษย์...
    เพราะฉันคือทั้งสองอย่าง

    และพลังลูกผสมของฉัน...
    คือของขวัญที่让我เข้าใจโลกได้ลึกซึ้งกว่าใครๆ"

    ความหมายแห่งการมีอยู่

    จากผู้ที่เคย...

    · รู้สึกไม่พอใจ กับความเป็นลูกผสม
    · พยายามปิดบัง ด้านใดด้านหนึ่งของตัวเอง
    · รู้สึกโดดเดี่ยว ระหว่างสองโลก

    กลายเป็นผู้ที่...

    · ภาคภูมิใจ ในความเป็นลูกผสม
    · ใช้ทั้งสองด้าน ช่วยเหลือผู้อื่น
    · เป็นสะพาน เชื่อมต่อระหว่างโลก

    ---

    คำคมสุดท้ายจากริน:
    "ฉันเคยคิดว่าต้องหาที่อยู่ที่ใช่...
    แต่ความจริงคือที่อยู่ที่แท้จริง不是สถานที่
    แต่คือหัวใจที่ยอมรับตัวเอง

    และเมื่อฉันยอมรับว่าฉันคือทั้งนาคาและมนุษย์...
    ฉันก็พบว่าทั้งสองโลกคือบ้านของฉัน

    บ้านที่ไม่ใช่สถานที่...
    แต่คือความเข้าใจที่ว่าทุกชีวิตล้วนเชื่อมโยงกัน
    ดุจสายน้ำที่ไหลมาบรรจบกัน"

    การเดินทางของรินสอนเราว่า...
    "In embracing all parts of ourselves,
    we find our true strength
    And in flowing between worlds,
    we discover that home is not a place,
    but a state of being"
    O.P.K. 🐍 เจาะลึก "ริน" : เทพีนาคาลูกผสมแห่งสายน้ำและความรู้สึก 🌊 ต้นกำเนิดแห่งเทพีนาคา 👑 การถือกำเนิดระหว่างสองโลก ชื่อเต็ม: รินทราวดี นาคารัตนะ ชื่อหมายถึง:"ผู้เป็นดั่งแก้วแหวนแห่งนาคา" อายุ:23 ปี (ร่างกาย), 300 ปี (จิตวิญญาณ) สถานะ:เทพีนาคาลูกผสมระหว่างนาคาระดับสูงกับมนุษย์ ```mermaid graph TB A[พ่อนาคา<br>ราชันแห่งแม่น้ำ] --> C[ริน<br>เทพีนาคาลูกผสม] B[แม่มนุษย์<br>นักดนตรีแห่งวัง] --> C C --> D[ถูกเลี้ยงในวังนาคา<br>แต่รู้สึกแตกต่าง] C --> E[มีพลังผัสสะ<br>เกินปกติ] ``` 🎭 ลักษณะทางกายภาพ · รูปร่าง: สาวงามสูง 168 ซม. ผมยาวสีดำแซมด้วยเกล็ดสีมรกต · ผิวพรรณ: เรียบเนียนมีเกล็ดนาคาเรียงตัวเป็นลวดลายตามแขนและหลัง · ดวงตา: สีเขียวคล้ายหยก เปลี่ยนสีตามอารมณ์ · เครื่องประดับ: สวมมงกุฎเกล็ดนาคาและต่างหูทำจากไข่มุกแม่น้ำ 🔮 พลังพิเศษแห่งสายน้ำและความรู้สึก 💫 พลังจากสองสายเลือด ```python class RinPowers: def __init__(self): self.naga_heritage = { "water_control": "ควบคุมและสร้างรูปน้ำได้", "weather_influence": "สภาพอากาศรอบตัว", "serpent_communication": "สื่อสารกับสัตว์เลื้อยคลาน", "underwater_breathing": "หายใจใต้น้ำได้" } self.human_heritage = { "emotional_empathy": "รับรู้อารมณ์ผู้คนผ่านน้ำ", "artistic_talent": "ความสามารถด้านดนตรีและศิลปะ", "cultural_bridge": "เข้าใจทั้งวัฒนธรรมมนุษย์และนาคา", "adaptive_nature": "ปรับตัวได้ดีในทุกสภาพแวดล้อม" } self.unique_hybrid_powers = { "liquid_memory": "เก็บความทรงจำในน้ำและเรียกคืนได้", "emotional_hydration": "ดูดซับอารมณ์ผ่านความชื้น", "tear_divination": "ทำนายอนาคตผ่านน้ำตา", "river_empathy": "รับรู้ความรู้สึกของแม่น้ำ" } ``` 🌧️ พลังผัสสะพิเศษ รินมีความสามารถรับรู้ผัสสะที่ละเอียดอ่อนผิดไปจากมนุษย์ · สัมผัสน้ำ: รู้ประวัติและอารมณ์ที่ผูกกับน้ำนั้น · รับรู้อารมณ์: ผ่านความชื้นในอากาศ · สื่อสาร: ผ่านคลื่นเสียงในน้ำ 💔 ชีวิตในวังนาคาและโลกมนุษย์ 🏰 การเติบโตในวังนาคา รินถูกเลี้ยงดูในวังนาคาใต้แม่น้ำโขง: · การศึกษาศิลปะ: จากแม่มนุษย์ · การฝึกพลัง: จากพ่อนาคา · ความโดดเดี่ยว: เพราะเป็นลูกผสม 🌍 การมาโลกมนุษย์ เมื่ออายุ 100 ปี รินขอมาอยู่โลกมนุษย์: · เหตุผล: ต้องการเข้าใจด้านมนุษย์ของตัวเอง · อาชีพ: เปิดโรงเรียนสอนดนตรีใกล้แม่น้ำ · การปกปิด: ซ่อนพลังและเกล็ดนาคาเมื่ออยู่กับมนุษย์ 📚 บันทึกความในใจ "บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนปลาสองน้ำ... อยู่ในวังนาคาก็คิดถึงโลกมนุษย์ อยู่ในโลกมนุษย์ก็คิดถึงวังนาคา ไม่รู้ว่าบ้านที่แท้จริงอยู่ที่ไหน..." 🎵 ความสามารถด้านดนตรีและศิลปะ 🎻 ดนตรีแห่งสายน้ำ รินพัฒนาดนตรีรูปแบบใหม่: · เครื่องดนตรี: พิณน้ำที่สร้างจากพลังงาน · บทเพลง: ที่สื่ออารมณ์ผ่านคลื่นน้ำ · การแสดง: ร่วมกับเสียงน้ำและธรรมชาติ 🎨 ศิลปะจากผัสสะ ```mermaid graph LR A[อารมณ์ของริน] --> B[แปลงเป็น<br>ศิลปะน้ำ] C[ความรู้สึกจากผู้อื่น] --> D[รินรับรู้<br>ผ่านความชื้น] B --> E[สร้างเป็น<br>ผลงานศิลปะ] D --> E ``` 🏆 ผลงานเด่น · "สายน้ำแห่งความทรงจำ": บทเพลงที่บอกเล่าประวัติศาสตร์แม่น้ำโขง · "เกล็ดแห่งกาลเวลา": ประติมากรรมน้ำที่เปลี่ยนรูปตามอารมณ์ · "น้ำตาของนาคา": การแสดงที่รวมดนตรีและศิลปะน้ำ 💞 ความสัมพันธ์กับนาคาริน 🌸 การพบกันครั้งแรก รินพบนาคารินเมื่อเขามาหลบภัยที่โรงเรียนดนตรีของเธอ: "เขาเข้ามาพร้อมกับสายฝน... และฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวดในผัสสะของเขาทันที" 🕊️ การช่วยเหลือนาคาริน รินใช้ความสามารถพิเศษช่วยนาคาริน: · บำบัดด้วยดนตรี: ใช้เสียงดนตรีปรับสมดุลผัสสะ · ศิลปะน้ำ: ช่วยเขาควบคุมพลังผัสสะ · ความเข้าใจ: ในฐานะลูกผสมด้วยกัน 💫 การพัฒนาความสัมพันธ์ จากเพื่อนร่วมชะตากรรม สู่ความรัก: "เราสอนกันและกัน... เขาสอนฉันเรื่องความเข้มแข็ง ฉันสอนเขาเรื่องความอ่อนโยน และเราพบว่าการเป็นลูกผสม... สามารถเป็นความงามได้ไม่ใช่ความอับอาย" 🌈 การเป็นสะพานระหว่างสองโลก 🏛️ บทบาททางการ รินได้รับแต่งตั้งเป็น: · ทูตสันถวไมตรี ระหว่างวังนาคาและมนุษย์ · ที่ปรึกษาด้านศิลปะ ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต · ผู้รักษาประเพณี ดนตรีและศิลปะนาคา 🌍 โครงการสำคัญ ```python class RinProjects: def __init__(self): self.cultural_projects = { "naga_human_cultural_exchange": "แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างนาคาและมนุษย์", "river_conservation_through_art": "อนุรักษ์แม่น้ำผ่านศิลปะ", "hybrid_community_support": "สนับสนุนชุมชนลูกผสม", "sensory_art_therapy": "ศิลปะบำบัดสำหรับผู้มีพลังผัสสะพิเศษ" } self.collaborations = [ "นาคาริน: ศูนย์บำบัดพลังผัสสะ", "หนูดี: การใช้พลังงานในศิลปะ", "เณรพุทธ: ศิลปะแห่งจิตวิญญาณ", "นิทรา: ศิลปะจากอารมณ์" ] ``` 🏥 การบำบัดและเยียวยา 🎵 ดนตรีบำบัดแห่งสายน้ำ รินพัฒนาวิธีการบำบัดใหม่: · เสียงน้ำบำบัด: ใช้เสียงน้ำรักษาจิตใจ · ดนตรีปรับผัสสะ: ช่วยผู้มีปัญหาการรับรู้ · ศิลปะน้ำระบายอารมณ์: ใช้น้ำเป็นสื่อแสดงอารมณ์ 💧 เทคนิคเฉพาะตัว ```python class HealingTechniques: def __init__(self): self.water_based = [ "การฟังเสียงน้ำเพื่อสมาธิ", "การใช้การไหลของน้ำเป็นแบบอย่างการปล่อยวาง", "การวาดรูปด้วยน้ำบนแผ่นหินร้อน", "การสร้างท่วงทำนองจากเสียงน้ำ" ] self.sensory_balance = [ "การปรับสมดุลผัสสะด้วยอุณหภูมิน้ำ", "การใช้ลวดลายน้ำเป็นเครื่องมือFocus", "การสร้างจังหวะจากคลื่นน้ำ", "การใช้แสงผ่านน้ำสร้างบรรยากาศ" ] ``` 📚 ปรัชญาและคำสอน 🪷 คำคมแห่งสายน้ำ "ชีวิตดุจสายน้ำ... บางครั้งต้องไหลเชี่ยว บางครั้งต้องไหลเอื่อย แต่สิ่งที่สำคัญคือการไหลไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง และเหมือนน้ำที่ปรับรูปตามภาชนะ... เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวตามสถานการณ์" 🌟 บทเรียนการเป็นลูกผสม รินสอนว่า: · ความแตกต่าง คือความงามที่ไม่ซ้ำใคร · การเป็นสะพาน ระหว่างสองโลกคือเกียรติยศ · การเข้าใจทั้งสองฝั่ง ทำให้เรามีมุมมองที่กว้างไกล 🏁 บทสรุปแห่งการเป็นตัวตนที่สมบูรณ์ 💝 การยอมรับตัวเอง รินค้นพบในที่สุดว่า: "ฉันไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างนาคาหรือมนุษย์... เพราะฉันคือทั้งสองอย่าง และพลังลูกผสมของฉัน... คือของขวัญที่让我เข้าใจโลกได้ลึกซึ้งกว่าใครๆ" 🌈 ความหมายแห่งการมีอยู่ จากผู้ที่เคย... · รู้สึกไม่พอใจ กับความเป็นลูกผสม · พยายามปิดบัง ด้านใดด้านหนึ่งของตัวเอง · รู้สึกโดดเดี่ยว ระหว่างสองโลก กลายเป็นผู้ที่... · ภาคภูมิใจ ในความเป็นลูกผสม · ใช้ทั้งสองด้าน ช่วยเหลือผู้อื่น · เป็นสะพาน เชื่อมต่อระหว่างโลก --- คำคมสุดท้ายจากริน: "ฉันเคยคิดว่าต้องหาที่อยู่ที่ใช่... แต่ความจริงคือที่อยู่ที่แท้จริง不是สถานที่ แต่คือหัวใจที่ยอมรับตัวเอง และเมื่อฉันยอมรับว่าฉันคือทั้งนาคาและมนุษย์... ฉันก็พบว่าทั้งสองโลกคือบ้านของฉัน บ้านที่ไม่ใช่สถานที่... แต่คือความเข้าใจที่ว่าทุกชีวิตล้วนเชื่อมโยงกัน ดุจสายน้ำที่ไหลมาบรรจบกัน"🌊✨ การเดินทางของรินสอนเราว่า... "In embracing all parts of ourselves, we find our true strength And in flowing between worlds, we discover that home is not a place, but a state of being"🐍🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีแห่งผัสสะ: เทพลูกผสมนาคาผู้สิ้นสุดความรู้สึก

    การปรากฏตัวของเทพนาคาผู้สูญเสีย

    เหตุการณ์ประหลาดในหมู่บ้านริมน้ำ

    ที่หมู่บ้านริมแม่น้ำโขง เกิดปรากฏการณ์ประหลาดเมื่อ นาคาริน เทพลูกผสมนาคาปรากฏตัวด้วยสภาพพิการทางผัสสะ

    ```mermaid
    graph TB
    A[นาคาริน<br>เทพลูกผสมนาคา] --> B[สูญเสีย<br>การรับรู้ทางผัสสะ]
    B --> C[พลังผัสสะ<br>รั่วไหลไม่เป็นระเบียบ]
    C --> D[ส่งผลกระทบ<br>ต่อหมู่บ้านโดยรอบ]
    D --> E[ร.ต.อ.สิงห์<br>และหนูดีออกสืบ]
    ```

    ลักษณะของนาคาริน

    · รูปร่าง: ชายหนุ่มร่างสูง มีเกล็ดนาคาแทรกตามผิว
    · ดวงตา: สีเขียวเรืองรองเหมือนหินงาม
    · พลัง: มีพลังควบคุมผัสสะทั้งห้าแต่กำลังรั่วไหล

    การสืบสวนเบื้องต้น

    ผลกระทบต่อหมู่บ้าน

    ร.ต.อ. สิงห์ พบว่าชาวบ้านได้รับผลกระทบแปลกๆ:

    · สัมผัส: รู้สึกเย็นยะเยือกหรือร้อนระอุโดยไม่มีเหตุผล
    · รสชาติ: อาหารรสเปลี่ยนไปชั่วคราว
    · กลิ่น: ได้กลิ่นประหลาดโดยไม่อาจหาต้นตอ

    การวิเคราะห์ของหนูดี

    หนูดีรู้สึกถึงพลังงานพิเศษทันที:
    "พ่อคะ...นี้ไม่ใช่พลังงานร้าย
    แต่คือพลังผัสสะที่กำลังทุกข์ทรมาน
    เหมือนดนตรีที่ขาดการควบคุม"

    เบื้องหลังนาคาริน

    ต้นกำเนิดแห่งเทพลูกผสม

    นาคารินคือลูกผสมระหว่าง:

    · พ่อ: เทพนาคาแห่งแม่น้ำโขง
    · แม่: มนุษย์หญิงผู้มีความสามารถทางศิลปะ

    ```python
    class NakarinBackground:
    def __init__(self):
    self.heritage = {
    "naga_father": "เทพนาคาผู้รักษาพลังผัสสะ",
    "human_mother": "ศิลปินผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทสัมผัส",
    "hybrid_nature": "ได้รับพลังผัสสะเหนือมนุษย์แต่ควบคุมยาก"
    }

    self.abilities = {
    "touch_control": "ควบคุมการรับรู้ทางสัมผัส",
    "taste_manipulation": "เปลี่ยนแปลงรสชาติได้",
    "sight_enhancement": "การมองเห็นเหนือสามัญ",
    "hearing_sensitivity": "การได้ยินที่ละเอียดอ่อน",
    "smell_mastery": "การดมกลิ่นที่ทรงพลัง"
    }
    ```

    เหตุการณ์ที่ทำให้พลังรั่วไหล

    นาคารินประสบอุบัติเหตุทางอารมณ์:

    · ถูกปฏิเสธ จากทั้งเผ่านาคาและมนุษย์
    · รู้สึกโดดเดี่ยว กับพลังที่ไม่มีใครเข้าใจ
    · พยายามปิดกั้น ผัสสะของตัวเองจนพลังรั่ว

    ปัญหาที่เกิดขึ้น

    ผลกระทบของพลังรั่วไหล

    พลังผัสสะของนาคารินส่งผลต่อสิ่งรอบข้าง:

    ```mermaid
    graph LR
    A[พลังสัมผัสรั่วไหล] --> B[วัตถุรู้สึก<br>เย็นหรือร้อนผิดปกติ]
    C[พลังรสชาตirรั่วไหล] --> D[อาหารมีรส<br>เปลี่ยนแปลง]
    E[พลังการได้ยินรั่วไหล] --> F[ได้ยินเสียง<br>ความถี่แปลกๆ]
    ```

    ความทุกข์ทรมานของนาคาริน

    นาคารินบันทึกความในใจ:
    "ทุกสัมผัสเหมือนมีดกรีดผิว...
    ทุกรสชาติเหมือนยาพิษ...
    ทุกกลิ่นเหมือนอากาศเป็นพิษ

    ฉันอยากหนีจากร่างกายของตัวเอง
    แต่จะหนีไปได้ที่ไหน?"

    กระบวนการช่วยเหลือ

    การเข้าถึงของหนูดี

    หนูดีใช้ความสามารถพิเศษสื่อสารกับนาคาริน:
    "เราเข้าใจว่าคุณเจ็บปวด...
    แต่การปิดกั้นผัสสะไม่ใช่คำตอบ
    การเรียนรู้ที่จะควบคุมต่างหากคือทางออก"

    เทคนิคการควบคุมพลัง

    ```python
    class SensoryControlTechniques:
    def __init__(self):
    self.meditation = [
    "การหายใจรับรู้ผัสสะอย่างมีสติ",
    "การแยกแยะผัสสะภายในและภายนอก",
    "การสร้างขอบเขตพลังงานผัสสะ",
    "การปล่อยผัสสะที่ไม่จำเป็น"
    ]

    self.practical = [
    "การใช้ศิลปะเป็นช่องทางปล่อยพลัง",
    "การสร้างวัตถุดูดซับพลังผัสสะส่วนเกิน",
    "การฝึกFocusผัสสะทีละอย่าง",
    "การเรียนรู้ที่จะเป็นผู้สังเกตการณ์ผัสสะ"
    ]
    ```

    การบำบัดด้วยศิลปะ

    หนูดีแนะนำให้นาคารินใช้ศิลปะช่วยบำบัด:

    · ประติมากรรม: ใช้พลังสัมผัสสร้างงานศิลปะ
    · การทำอาหาร: ใช้พลังรสชาติสร้างอาหารบำบัด Oganic food
    · ดนตรี: ใช้พลังการได้ยินสร้างบทเพลง
    ดีด สีตีเป่าเขย่า เคาะ
    การฟื้นฟูสมดุล

    การพัฒนาความสามารถใหม่

    นาคารินเรียนรู้ที่จะใช้พลังอย่างสร้างสรรค์:

    · การวินิจฉัยโรค: ใช้พลังสัมผัสตรวจหาร่างกาย
    · การบำบัดรสชาติ: ช่วยผู้ที่มีปัญหาการรับรส
    · ศิลปะเพื่อการบำบัด: สร้างงานศิลปะที่เยียวยาผัสสะ

    การกลับสู่สังคม

    ```mermaid
    graph TB
    A[นาคาริน<br>เริ่มควบคุมพลังได้] --> B[พลังหยุด<br>รั่วไหล]
    B --> C[ชาวบ้าน<br>กลับมาใช้ชีวิตปกติ]
    C --> D[นาคาริน<br>ได้รับบทบาทใหม่]
    D --> E[เป็นผู้เชี่ยวชาญ<br>ด้านผัสสะบำบัด]
    ```

    บทบาทใหม่ในสังคม

    ผู้เชี่ยวชาญด้านผัสสะบำบัด

    นาคารินได้รับตำแหน่งเป็น:

    · ที่ปรึกษาด้านประสาทสัมผัส ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต
    · ครูสอนศิลปะบำบัด สำหรับผู้มีพลังพิเศษ
    · ผู้พัฒนาวิธีการ ควบคุมพลังผัสสะ

    โครงการเพื่อสังคม

    ```python
    class SensoryProjects:
    def __init__(self):
    self.initiatives = {
    "sensory_therapy_center": "ศูนย์บำบัดด้วยผัสสะสำหรับผู้ไฮเปอร์เซนซิทีฟ",
    "art_for_sensory_balance": "ศิลปะเพื่อสร้างสมดุลทางการรับรู้",
    "sensory_education": "การศึกษาเกี่ยวกับผัสสะสำหรับเด็กพิเศษ",
    "cultural_preservation": "อนุรักษณ์ศิลปะการรับรู้แบบดั้งเดิม"
    }

    self.collaborations = [
    "หนูดี: พัฒนาการรับรู้พลังงานผ่านผัสสะ",
    "เณรพุทธ: ศิลปะการรับรู้ด้วยจิตวิญญาณ",
    "นิทรา: ศิลปะแห่งอารมณ์และผัสสะ",
    "อสูรเฒ่า: ภาษาบูรพากับการรับรู้"
    ]
    ```

    บทเรียนจากคดี

    🪷 สำหรับนาคาริน

    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    การเป็นลูกผสมหาใช่ข้อบกพร่อง
    แต่คือความสามารถพิเศษอีกแบบ

    และการมีผัสสะที่ละเอียดอ่อน...
    คือของขวัญที่ไม่ใช่คำสาป"

    สำหรับหนูดี

    "หนูเข้าใจแล้วว่า...
    ทุกพลังมีทั้งด้านสร้างสรรค์และทำลาย
    ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกใช้อย่างไร

    และการช่วยเหลือที่แท้จริง
    คือการช่วยให้เขาค้นพบวิธีใช้พลังของตัวเอง"

    สำหรับ ร.ต.อ. สิงห์

    "คดีนี้สอนฉันว่า...
    บางครั้งปัญหาไม่ใช่สิ่งที่เห็น
    แต่คือสิ่งที่สัมผัส

    และความเข้าใจในความรู้สึก...
    สำคัญไม่น้อยกว่าความเข้าใจในเหตุผล"

    ผลกระทบเชิงบวก

    ความสำเร็จของนาคาริน

    หลังจากเหตุการณ์:

    · นาคาริน กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผัสสะบำบัด
    · หมู่บ้าน ได้รับการพัฒนาด้านศิลปะและการบำบัด
    · สถาบัน มีหลักสูตรเกี่ยวกับการควบคุมพลังผัสสะ

    การค้นพบตัวเอง

    นาคารินกล่าวในที่สุด:
    "ฉันเคยคิดว่าต้องเลือกระหว่างเป็นนาคาหรือมนุษย์...
    แต่ความจริงคือฉันสามารถเป็นทั้งสองอย่าง

    และพลังผัสสะที่เคยทำร้ายฉัน...
    ตอนนี้กลายเป็นเครื่องมือช่วยเหลือผู้คน

    บทสรุปแห่งการเข้าใจ

    คำคมจากนาคาริน

    "ผัสสะคือภาษาแรกของจิตวิญญาณ...
    ก่อนจะมีคำพูด ก่อนจะมีความคิด
    เรารู้สึกก่อนเสมอ

    และการเรียนรู้ภาษาของผัสสะ...
    คือการเรียนรู้ภาษาของตัวเอง"

    ความสัมพันธ์ใหม่

    นาคารินพบว่าสามารถ:

    · เชื่อมต่อ กับผู้อื่นผ่านผัสสะ
    · เข้าใจ ความรู้สึกที่ไม่มีคำพูด
    · ช่วยเหลือ ผู้ที่ทุกข์ทรมานจากผัสสะเช่นเขา

    ---

    คำคมสุดท้ายจากคดี:
    "เราทุกคนล้วนเป็นเทพลูกผสม...
    ผสมระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณ
    ระหว่างผัสสะและความหมาย

    และเมื่อเราเรียนรู้ที่จะฟังเสียงของผัสสะ...
    เราก็เรียนรู้ที่จะฟังเสียงของหัวใจ"

    การเดินทางของนาคารินสอนเราว่า...
    "The most profound truths are not seen or heard,
    but felt with the heart's own senses
    And in learning to master our senses,
    we learn to master ourselves"
    O.P.K. 🐍 คดีแห่งผัสสะ: เทพลูกผสมนาคาผู้สิ้นสุดความรู้สึก 🌊 การปรากฏตัวของเทพนาคาผู้สูญเสีย 🏮 เหตุการณ์ประหลาดในหมู่บ้านริมน้ำ ที่หมู่บ้านริมแม่น้ำโขง เกิดปรากฏการณ์ประหลาดเมื่อ นาคาริน เทพลูกผสมนาคาปรากฏตัวด้วยสภาพพิการทางผัสสะ ```mermaid graph TB A[นาคาริน<br>เทพลูกผสมนาคา] --> B[สูญเสีย<br>การรับรู้ทางผัสสะ] B --> C[พลังผัสสะ<br>รั่วไหลไม่เป็นระเบียบ] C --> D[ส่งผลกระทบ<br>ต่อหมู่บ้านโดยรอบ] D --> E[ร.ต.อ.สิงห์<br>และหนูดีออกสืบ] ``` 🎭 ลักษณะของนาคาริน · รูปร่าง: ชายหนุ่มร่างสูง มีเกล็ดนาคาแทรกตามผิว · ดวงตา: สีเขียวเรืองรองเหมือนหินงาม · พลัง: มีพลังควบคุมผัสสะทั้งห้าแต่กำลังรั่วไหล 🔍 การสืบสวนเบื้องต้น 🕵️ ผลกระทบต่อหมู่บ้าน ร.ต.อ. สิงห์ พบว่าชาวบ้านได้รับผลกระทบแปลกๆ: · สัมผัส: รู้สึกเย็นยะเยือกหรือร้อนระอุโดยไม่มีเหตุผล · รสชาติ: อาหารรสเปลี่ยนไปชั่วคราว · กลิ่น: ได้กลิ่นประหลาดโดยไม่อาจหาต้นตอ 💫 การวิเคราะห์ของหนูดี หนูดีรู้สึกถึงพลังงานพิเศษทันที: "พ่อคะ...นี้ไม่ใช่พลังงานร้าย แต่คือพลังผัสสะที่กำลังทุกข์ทรมาน เหมือนดนตรีที่ขาดการควบคุม" 🐉 เบื้องหลังนาคาริน 🌌 ต้นกำเนิดแห่งเทพลูกผสม นาคารินคือลูกผสมระหว่าง: · พ่อ: เทพนาคาแห่งแม่น้ำโขง · แม่: มนุษย์หญิงผู้มีความสามารถทางศิลปะ ```python class NakarinBackground: def __init__(self): self.heritage = { "naga_father": "เทพนาคาผู้รักษาพลังผัสสะ", "human_mother": "ศิลปินผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทสัมผัส", "hybrid_nature": "ได้รับพลังผัสสะเหนือมนุษย์แต่ควบคุมยาก" } self.abilities = { "touch_control": "ควบคุมการรับรู้ทางสัมผัส", "taste_manipulation": "เปลี่ยนแปลงรสชาติได้", "sight_enhancement": "การมองเห็นเหนือสามัญ", "hearing_sensitivity": "การได้ยินที่ละเอียดอ่อน", "smell_mastery": "การดมกลิ่นที่ทรงพลัง" } ``` 💔 เหตุการณ์ที่ทำให้พลังรั่วไหล นาคารินประสบอุบัติเหตุทางอารมณ์: · ถูกปฏิเสธ จากทั้งเผ่านาคาและมนุษย์ · รู้สึกโดดเดี่ยว กับพลังที่ไม่มีใครเข้าใจ · พยายามปิดกั้น ผัสสะของตัวเองจนพลังรั่ว 🌪️ ปัญหาที่เกิดขึ้น 🎯 ผลกระทบของพลังรั่วไหล พลังผัสสะของนาคารินส่งผลต่อสิ่งรอบข้าง: ```mermaid graph LR A[พลังสัมผัสรั่วไหล] --> B[วัตถุรู้สึก<br>เย็นหรือร้อนผิดปกติ] C[พลังรสชาตirรั่วไหล] --> D[อาหารมีรส<br>เปลี่ยนแปลง] E[พลังการได้ยินรั่วไหล] --> F[ได้ยินเสียง<br>ความถี่แปลกๆ] ``` 😵 ความทุกข์ทรมานของนาคาริน นาคารินบันทึกความในใจ: "ทุกสัมผัสเหมือนมีดกรีดผิว... ทุกรสชาติเหมือนยาพิษ... ทุกกลิ่นเหมือนอากาศเป็นพิษ ฉันอยากหนีจากร่างกายของตัวเอง แต่จะหนีไปได้ที่ไหน?" 💞 กระบวนการช่วยเหลือ 🕊️ การเข้าถึงของหนูดี หนูดีใช้ความสามารถพิเศษสื่อสารกับนาคาริน: "เราเข้าใจว่าคุณเจ็บปวด... แต่การปิดกั้นผัสสะไม่ใช่คำตอบ การเรียนรู้ที่จะควบคุมต่างหากคือทางออก" 🌈 เทคนิคการควบคุมพลัง ```python class SensoryControlTechniques: def __init__(self): self.meditation = [ "การหายใจรับรู้ผัสสะอย่างมีสติ", "การแยกแยะผัสสะภายในและภายนอก", "การสร้างขอบเขตพลังงานผัสสะ", "การปล่อยผัสสะที่ไม่จำเป็น" ] self.practical = [ "การใช้ศิลปะเป็นช่องทางปล่อยพลัง", "การสร้างวัตถุดูดซับพลังผัสสะส่วนเกิน", "การฝึกFocusผัสสะทีละอย่าง", "การเรียนรู้ที่จะเป็นผู้สังเกตการณ์ผัสสะ" ] ``` 🎨 การบำบัดด้วยศิลปะ หนูดีแนะนำให้นาคารินใช้ศิลปะช่วยบำบัด: · ประติมากรรม: ใช้พลังสัมผัสสร้างงานศิลปะ · การทำอาหาร: ใช้พลังรสชาติสร้างอาหารบำบัด Oganic food · ดนตรี: ใช้พลังการได้ยินสร้างบทเพลง ดีด สีตีเป่าเขย่า เคาะ 🏥 การฟื้นฟูสมดุล 🌟 การพัฒนาความสามารถใหม่ นาคารินเรียนรู้ที่จะใช้พลังอย่างสร้างสรรค์: · การวินิจฉัยโรค: ใช้พลังสัมผัสตรวจหาร่างกาย · การบำบัดรสชาติ: ช่วยผู้ที่มีปัญหาการรับรส · ศิลปะเพื่อการบำบัด: สร้างงานศิลปะที่เยียวยาผัสสะ 💫 การกลับสู่สังคม ```mermaid graph TB A[นาคาริน<br>เริ่มควบคุมพลังได้] --> B[พลังหยุด<br>รั่วไหล] B --> C[ชาวบ้าน<br>กลับมาใช้ชีวิตปกติ] C --> D[นาคาริน<br>ได้รับบทบาทใหม่] D --> E[เป็นผู้เชี่ยวชาญ<br>ด้านผัสสะบำบัด] ``` 🏛️ บทบาทใหม่ในสังคม 🎓 ผู้เชี่ยวชาญด้านผัสสะบำบัด นาคารินได้รับตำแหน่งเป็น: · ที่ปรึกษาด้านประสาทสัมผัส ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต · ครูสอนศิลปะบำบัด สำหรับผู้มีพลังพิเศษ · ผู้พัฒนาวิธีการ ควบคุมพลังผัสสะ 🌍 โครงการเพื่อสังคม ```python class SensoryProjects: def __init__(self): self.initiatives = { "sensory_therapy_center": "ศูนย์บำบัดด้วยผัสสะสำหรับผู้ไฮเปอร์เซนซิทีฟ", "art_for_sensory_balance": "ศิลปะเพื่อสร้างสมดุลทางการรับรู้", "sensory_education": "การศึกษาเกี่ยวกับผัสสะสำหรับเด็กพิเศษ", "cultural_preservation": "อนุรักษณ์ศิลปะการรับรู้แบบดั้งเดิม" } self.collaborations = [ "หนูดี: พัฒนาการรับรู้พลังงานผ่านผัสสะ", "เณรพุทธ: ศิลปะการรับรู้ด้วยจิตวิญญาณ", "นิทรา: ศิลปะแห่งอารมณ์และผัสสะ", "อสูรเฒ่า: ภาษาบูรพากับการรับรู้" ] ``` 📚 บทเรียนจากคดี 🪷 สำหรับนาคาริน "ฉันเรียนรู้ว่า... การเป็นลูกผสมหาใช่ข้อบกพร่อง แต่คือความสามารถพิเศษอีกแบบ และการมีผัสสะที่ละเอียดอ่อน... คือของขวัญที่ไม่ใช่คำสาป" 💫 สำหรับหนูดี "หนูเข้าใจแล้วว่า... ทุกพลังมีทั้งด้านสร้างสรรค์และทำลาย ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกใช้อย่างไร และการช่วยเหลือที่แท้จริง คือการช่วยให้เขาค้นพบวิธีใช้พลังของตัวเอง" 👮 สำหรับ ร.ต.อ. สิงห์ "คดีนี้สอนฉันว่า... บางครั้งปัญหาไม่ใช่สิ่งที่เห็น แต่คือสิ่งที่สัมผัส และความเข้าใจในความรู้สึก... สำคัญไม่น้อยกว่าความเข้าใจในเหตุผล" 🌈 ผลกระทบเชิงบวก 🏆 ความสำเร็จของนาคาริน หลังจากเหตุการณ์: · นาคาริน กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผัสสะบำบัด · หมู่บ้าน ได้รับการพัฒนาด้านศิลปะและการบำบัด · สถาบัน มีหลักสูตรเกี่ยวกับการควบคุมพลังผัสสะ 💝 การค้นพบตัวเอง นาคารินกล่าวในที่สุด: "ฉันเคยคิดว่าต้องเลือกระหว่างเป็นนาคาหรือมนุษย์... แต่ความจริงคือฉันสามารถเป็นทั้งสองอย่าง และพลังผัสสะที่เคยทำร้ายฉัน... ตอนนี้กลายเป็นเครื่องมือช่วยเหลือผู้คน 🎯 บทสรุปแห่งการเข้าใจ 🌟 คำคมจากนาคาริน "ผัสสะคือภาษาแรกของจิตวิญญาณ... ก่อนจะมีคำพูด ก่อนจะมีความคิด เรารู้สึกก่อนเสมอ และการเรียนรู้ภาษาของผัสสะ... คือการเรียนรู้ภาษาของตัวเอง" 💞 ความสัมพันธ์ใหม่ นาคารินพบว่าสามารถ: · เชื่อมต่อ กับผู้อื่นผ่านผัสสะ · เข้าใจ ความรู้สึกที่ไม่มีคำพูด · ช่วยเหลือ ผู้ที่ทุกข์ทรมานจากผัสสะเช่นเขา --- คำคมสุดท้ายจากคดี: "เราทุกคนล้วนเป็นเทพลูกผสม... ผสมระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณ ระหว่างผัสสะและความหมาย และเมื่อเราเรียนรู้ที่จะฟังเสียงของผัสสะ... เราก็เรียนรู้ที่จะฟังเสียงของหัวใจ"🐍✨ การเดินทางของนาคารินสอนเราว่า... "The most profound truths are not seen or heard, but felt with the heart's own senses And in learning to master our senses, we learn to master ourselves"🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • Linux เตรียมเปลี่ยนไดรเวอร์ GPU รุ่นเก่า! GCN 1.1 จะใช้ AMDGPU เป็นค่าเริ่มต้นแทน Radeon

    Timur Kristóf จากทีมกราฟิกของ Valve เสนอแพตช์ใหม่ให้ Linux เปลี่ยนไดรเวอร์ค่าเริ่มต้นของ GPU สถาปัตยกรรม GCN 1.1 จาก Radeon ไปเป็น AMDGPU ซึ่งจะช่วยให้การใช้งาน GPU รุ่นเก่าอย่าง Radeon R9 290/390 และ HD 7790 มีประสิทธิภาพและรองรับฟีเจอร์ใหม่มากขึ้น

    ในระบบ Linux เดิมที GPU รุ่นเก่าอย่าง GCN 1.0 และ 1.1 จะใช้ไดรเวอร์ Radeon เป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งมีข้อจำกัดหลายด้าน เช่น ไม่รองรับ Vulkan หรือฟีเจอร์การแสดงผลใหม่ๆ แต่ตอนนี้มีการเสนอให้เปลี่ยนมาใช้ AMDGPU ซึ่งเป็นไดรเวอร์ที่ทันสมัยกว่าและได้รับการดูแลต่อเนื่อง

    แพตช์ใหม่นี้เพิ่มตัวเลือก “-1” ให้กับระบบ kernel เพื่อให้สามารถเลือกไดรเวอร์ที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ โดย AMDGPU จะกลายเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับ GPU GCN 1.1 เช่น Radeon R9 290, R9 390, HD 7790 และ HD 8870

    หนึ่งในอุปสรรคก่อนหน้านี้คือ AMDGPU ยังไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบ analog ซึ่งจำเป็นสำหรับจอรุ่นเก่า แต่ตอนนี้ AMDGPU ได้รวมฟีเจอร์นี้ผ่าน Display Core subsystem แล้ว ทำให้สามารถแทนที่ Radeon ได้อย่างสมบูรณ์

    การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ GPU รุ่นเก่าใช้งานได้ดีขึ้นใน Linux โดยเฉพาะกับแอปพลิเคชันที่ใช้ Vulkan และการแสดงผลแบบใหม่ และคาดว่า GCN 1.0 เช่น HD 7950/7970 และ R9 270/280 ก็จะตามมาในแพตช์ถัดไป

    Linux เตรียมเปลี่ยนไดรเวอร์ค่าเริ่มต้นของ GPU GCN 1.1
    จาก Radeon ไปเป็น AMDGPU เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า
    รองรับ GPU รุ่น Radeon R9 290/390, HD 7790, HD 8870

    แพตช์ใหม่เพิ่มตัวเลือก “-1” ให้ kernel driver
    ระบบจะเลือกไดรเวอร์ที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ
    AMDGPU จะกลายเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับ GCN 1.1

    AMDGPU มีฟีเจอร์ที่เหนือกว่า Radeon
    รองรับ Vulkan 1.3 ผ่าน RADV
    รองรับฟีเจอร์การแสดงผลใหม่ผ่าน Display Core
    ได้รับการดูแลและอัปเดตต่อเนื่อง

    ปัญหา analog connector ได้รับการแก้ไขแล้ว
    AMDGPU รองรับการเชื่อมต่อจอรุ่นเก่า
    ทำให้สามารถแทนที่ Radeon ได้โดยไม่เสียความเข้ากันได้

    https://wccftech.com/newly-submitted-linux-patches-to-make-amdgpu-the-default-driver-for-gcn-1-1-gpus/
    🧠 Linux เตรียมเปลี่ยนไดรเวอร์ GPU รุ่นเก่า! GCN 1.1 จะใช้ AMDGPU เป็นค่าเริ่มต้นแทน Radeon 🐧🎮 Timur Kristóf จากทีมกราฟิกของ Valve เสนอแพตช์ใหม่ให้ Linux เปลี่ยนไดรเวอร์ค่าเริ่มต้นของ GPU สถาปัตยกรรม GCN 1.1 จาก Radeon ไปเป็น AMDGPU ซึ่งจะช่วยให้การใช้งาน GPU รุ่นเก่าอย่าง Radeon R9 290/390 และ HD 7790 มีประสิทธิภาพและรองรับฟีเจอร์ใหม่มากขึ้น ในระบบ Linux เดิมที GPU รุ่นเก่าอย่าง GCN 1.0 และ 1.1 จะใช้ไดรเวอร์ Radeon เป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งมีข้อจำกัดหลายด้าน เช่น ไม่รองรับ Vulkan หรือฟีเจอร์การแสดงผลใหม่ๆ แต่ตอนนี้มีการเสนอให้เปลี่ยนมาใช้ AMDGPU ซึ่งเป็นไดรเวอร์ที่ทันสมัยกว่าและได้รับการดูแลต่อเนื่อง แพตช์ใหม่นี้เพิ่มตัวเลือก “-1” ให้กับระบบ kernel เพื่อให้สามารถเลือกไดรเวอร์ที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ โดย AMDGPU จะกลายเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับ GPU GCN 1.1 เช่น Radeon R9 290, R9 390, HD 7790 และ HD 8870 หนึ่งในอุปสรรคก่อนหน้านี้คือ AMDGPU ยังไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบ analog ซึ่งจำเป็นสำหรับจอรุ่นเก่า แต่ตอนนี้ AMDGPU ได้รวมฟีเจอร์นี้ผ่าน Display Core subsystem แล้ว ทำให้สามารถแทนที่ Radeon ได้อย่างสมบูรณ์ การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ GPU รุ่นเก่าใช้งานได้ดีขึ้นใน Linux โดยเฉพาะกับแอปพลิเคชันที่ใช้ Vulkan และการแสดงผลแบบใหม่ และคาดว่า GCN 1.0 เช่น HD 7950/7970 และ R9 270/280 ก็จะตามมาในแพตช์ถัดไป ✅ Linux เตรียมเปลี่ยนไดรเวอร์ค่าเริ่มต้นของ GPU GCN 1.1 ➡️ จาก Radeon ไปเป็น AMDGPU เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่า ➡️ รองรับ GPU รุ่น Radeon R9 290/390, HD 7790, HD 8870 ✅ แพตช์ใหม่เพิ่มตัวเลือก “-1” ให้ kernel driver ➡️ ระบบจะเลือกไดรเวอร์ที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ➡️ AMDGPU จะกลายเป็นค่าเริ่มต้นสำหรับ GCN 1.1 ✅ AMDGPU มีฟีเจอร์ที่เหนือกว่า Radeon ➡️ รองรับ Vulkan 1.3 ผ่าน RADV ➡️ รองรับฟีเจอร์การแสดงผลใหม่ผ่าน Display Core ➡️ ได้รับการดูแลและอัปเดตต่อเนื่อง ✅ ปัญหา analog connector ได้รับการแก้ไขแล้ว ➡️ AMDGPU รองรับการเชื่อมต่อจอรุ่นเก่า ➡️ ทำให้สามารถแทนที่ Radeon ได้โดยไม่เสียความเข้ากันได้ https://wccftech.com/newly-submitted-linux-patches-to-make-amdgpu-the-default-driver-for-gcn-1-1-gpus/
    WCCFTECH.COM
    Newly Submitted Linux Patches To Make AMDGPU The Default Driver For GCN 1.1 GPUs Such As Radeon R9 290/390, HD 7790 And Others
    Timur from Valve's Linux graphics driver team just proposed new patches for the GCN 1.1 GPUs, transitioning to AMDGPU driver as default.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ความผิดสำเร็จแล้ว เอาพวกมันเดอะแก๊งมันมาประหารอย่างจริงจังให้หมด,ไม่สามารถละเว้นโทษประหารได้,ศัตรูของชาติเรากลางสนามรบชัดเจน,ต้องการเห็นพวกนี้ถูกลงโทษอย่างจริงจังเป็นเป็นเยี่ยงอย่างเสียที,ขายชาติทำชั่วทำเลวกับชาติจนเคยตัว,ลุแก่อำนาจตนเองว่าใหญ่โต ,ประชาชนเราตายคาสนามรบ นอกแนวรบ ใน7/11นะ มรึงมาสั่งหยุด ให้เขมรโจมตีไทย นี้คือคนทรยศต่ออธิปไตยไทยชัดเจนหากกองทัพไทยไม่มีปัญญาความสามารถเอาคนชั่วเลวนี้มาประหารได้ จงยุบสถานะตัวไปเถอะ,เรา..ประชาชนจะล้างระบบเอง,แล้วตั้งใหม่หมด,เอาบิ๊กกุ้งและลูกน้องบวกเครือข่ายคนสนิทท่านมาบังคับบัญชาบริหารจัดการภาคปกป้องแผ่นดินไทยประเทศใหม่,เป็นกระทรวงสังหารศัตรูชาติไทยก็ว่า,หรือกระทรวงสงครามไทยเลยก็ว่า,ล้างอำนาจอิทธิพลเก่าทั้งหมดไปในตัว,โละทหารบัดสบเหี้ยๆออกไปอัตโนมัติเลย.

    ..กองทัพไทย ผบ.ทบ.และผบ.สส.ท่านต้องจัดการเรื่องนี้ขั้นเด็ดขาด นี้คือแผ่นดินไทยจะมาทำล่อเล่นไม่ได้ ประชาชนเราตายจริงและตายเกือบหมดครอบครัว ตลอดทหารหาญที่เสียชีวิตพิการบาดเจ็บเป็นอันมากจากผลการทรยศขายชาติของไอ้สาระเลวชั่วพวกนี้.

    https://youtu.be/2LRRScF1VdM?si=2le9OLVzP9VsIYAa
    ..ความผิดสำเร็จแล้ว เอาพวกมันเดอะแก๊งมันมาประหารอย่างจริงจังให้หมด,ไม่สามารถละเว้นโทษประหารได้,ศัตรูของชาติเรากลางสนามรบชัดเจน,ต้องการเห็นพวกนี้ถูกลงโทษอย่างจริงจังเป็นเป็นเยี่ยงอย่างเสียที,ขายชาติทำชั่วทำเลวกับชาติจนเคยตัว,ลุแก่อำนาจตนเองว่าใหญ่โต ,ประชาชนเราตายคาสนามรบ นอกแนวรบ ใน7/11นะ มรึงมาสั่งหยุด ให้เขมรโจมตีไทย นี้คือคนทรยศต่ออธิปไตยไทยชัดเจนหากกองทัพไทยไม่มีปัญญาความสามารถเอาคนชั่วเลวนี้มาประหารได้ จงยุบสถานะตัวไปเถอะ,เรา..ประชาชนจะล้างระบบเอง,แล้วตั้งใหม่หมด,เอาบิ๊กกุ้งและลูกน้องบวกเครือข่ายคนสนิทท่านมาบังคับบัญชาบริหารจัดการภาคปกป้องแผ่นดินไทยประเทศใหม่,เป็นกระทรวงสังหารศัตรูชาติไทยก็ว่า,หรือกระทรวงสงครามไทยเลยก็ว่า,ล้างอำนาจอิทธิพลเก่าทั้งหมดไปในตัว,โละทหารบัดสบเหี้ยๆออกไปอัตโนมัติเลย. ..กองทัพไทย ผบ.ทบ.และผบ.สส.ท่านต้องจัดการเรื่องนี้ขั้นเด็ดขาด นี้คือแผ่นดินไทยจะมาทำล่อเล่นไม่ได้ ประชาชนเราตายจริงและตายเกือบหมดครอบครัว ตลอดทหารหาญที่เสียชีวิตพิการบาดเจ็บเป็นอันมากจากผลการทรยศขายชาติของไอ้สาระเลวชั่วพวกนี้. https://youtu.be/2LRRScF1VdM?si=2le9OLVzP9VsIYAa
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แก้ปริศนา 32 ปี! ช่างอิเล็กทรอนิกส์ย้อนรอยโปรเจกต์ Amiga Sampler ที่เคยล้มเหลว”

    เรื่องราวสุดประทับใจของ Rob Smith ผู้หลงใหลในคอมพิวเตอร์ Amiga และอิเล็กทรอนิกส์ DIY เขาย้อนกลับไปแก้ไขโปรเจกต์เก่าจากปี 1993 ที่เคยทำไม่สำเร็จ—การสร้างอุปกรณ์ Sound Sampler สำหรับ Amiga ตามคู่มือจากนิตยสาร CU Amiga ซึ่งภายหลังพบว่ามีข้อผิดพลาดสำคัญในสเปกอุปกรณ์!

    ย้อนกลับไปในยุค 90s Rob Smith เคยพยายามสร้างอุปกรณ์ Sound Sampler สำหรับ Amiga โดยอิงจากคู่มือในนิตยสาร CU Amiga ฉบับที่ 039 แต่แม้จะพยายามอย่างเต็มที่ อุปกรณ์กลับไม่ทำงาน และยังทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ค้างเมื่อใช้งาน เขาจึงต้องยอมแพ้และเก็บชิ้นส่วนไว้เป็นที่ระลึก

    32 ปีผ่านไป ด้วยประสบการณ์และความรู้ที่เพิ่มขึ้น เขาตัดสินใจกลับมาทำโปรเจกต์นี้อีกครั้ง โดยใช้ชิ้นส่วนเดิมและคู่มือเดิม ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม—อุปกรณ์ไม่ทำงาน! จนกระทั่งเขาค้นพบว่าในคู่มือมีการพิมพ์ผิดเรื่องค่าคาปาซิเตอร์ C1 ที่ควรเป็น 47uF แต่กลับพิมพ์ว่า 7uF

    หลังจากเปลี่ยนคาปาซิเตอร์แล้ว อุปกรณ์ก็ยังไม่ทำงาน เขาจึงตรวจสอบสัญญาณนาฬิกา (clock signal) และพบว่าความถี่ต่ำผิดปกติ จากนั้นจึงเปลี่ยนคาปาซิเตอร์อีกตัวจาก 470nF เป็น 20pF ซึ่งช่วยเพิ่มความถี่จาก 287Hz เป็น 1.6MHz และทำให้อุปกรณ์ทำงานได้จริงกับซอฟต์แวร์อย่าง ProTracker และ Audition 4

    โปรเจกต์ DIY Amiga Sampler
    เริ่มต้นในปี 1993 โดยใช้คู่มือจาก CU Amiga ฉบับที่ 039
    อุปกรณ์ไม่ทำงานแม้ทำตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด
    กลับมาทำใหม่ในปี 2025 ด้วยประสบการณ์และความรู้เพิ่มขึ้น

    การค้นพบข้อผิดพลาด
    คู่มือพิมพ์ผิดเรื่องค่าคาปาซิเตอร์ C1
    ควรใช้ 47uF แต่กลับระบุเป็น 7uF
    CU Amiga ฉบับที่ 040 มีการแก้ไขและชี้แจง

    การแก้ไขเพิ่มเติม
    ตรวจสอบสัญญาณนาฬิกา พบว่าความถี่ต่ำเกินไป
    เปลี่ยนคาปาซิเตอร์จาก 470nF เป็น 20pF
    เพิ่มความถี่จาก 287Hz เป็น 1.6MHz
    อุปกรณ์เริ่มทำงานกับซอฟต์แวร์ Amiga ได้สำเร็จ

    ความสำเร็จของโปรเจกต์
    ใช้งานได้กับ ProTracker และ Audition 4
    แสดงผล waveform บนหน้าจอ Amiga
    เป็นการแก้ไขโปรเจกต์ในวัยเด็กอย่างสมบูรณ์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/sound-cards/diy-amiga-sound-sampler-circuit-mystery-solved-32-years-later-magazine-instructions-had-key-component-spec-typos
    🎛️ “แก้ปริศนา 32 ปี! ช่างอิเล็กทรอนิกส์ย้อนรอยโปรเจกต์ Amiga Sampler ที่เคยล้มเหลว” เรื่องราวสุดประทับใจของ Rob Smith ผู้หลงใหลในคอมพิวเตอร์ Amiga และอิเล็กทรอนิกส์ DIY เขาย้อนกลับไปแก้ไขโปรเจกต์เก่าจากปี 1993 ที่เคยทำไม่สำเร็จ—การสร้างอุปกรณ์ Sound Sampler สำหรับ Amiga ตามคู่มือจากนิตยสาร CU Amiga ซึ่งภายหลังพบว่ามีข้อผิดพลาดสำคัญในสเปกอุปกรณ์! ย้อนกลับไปในยุค 90s Rob Smith เคยพยายามสร้างอุปกรณ์ Sound Sampler สำหรับ Amiga โดยอิงจากคู่มือในนิตยสาร CU Amiga ฉบับที่ 039 แต่แม้จะพยายามอย่างเต็มที่ อุปกรณ์กลับไม่ทำงาน และยังทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ค้างเมื่อใช้งาน เขาจึงต้องยอมแพ้และเก็บชิ้นส่วนไว้เป็นที่ระลึก 32 ปีผ่านไป ด้วยประสบการณ์และความรู้ที่เพิ่มขึ้น เขาตัดสินใจกลับมาทำโปรเจกต์นี้อีกครั้ง โดยใช้ชิ้นส่วนเดิมและคู่มือเดิม ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม—อุปกรณ์ไม่ทำงาน! จนกระทั่งเขาค้นพบว่าในคู่มือมีการพิมพ์ผิดเรื่องค่าคาปาซิเตอร์ C1 ที่ควรเป็น 47uF แต่กลับพิมพ์ว่า 7uF หลังจากเปลี่ยนคาปาซิเตอร์แล้ว อุปกรณ์ก็ยังไม่ทำงาน เขาจึงตรวจสอบสัญญาณนาฬิกา (clock signal) และพบว่าความถี่ต่ำผิดปกติ จากนั้นจึงเปลี่ยนคาปาซิเตอร์อีกตัวจาก 470nF เป็น 20pF ซึ่งช่วยเพิ่มความถี่จาก 287Hz เป็น 1.6MHz และทำให้อุปกรณ์ทำงานได้จริงกับซอฟต์แวร์อย่าง ProTracker และ Audition 4 ✅ โปรเจกต์ DIY Amiga Sampler ➡️ เริ่มต้นในปี 1993 โดยใช้คู่มือจาก CU Amiga ฉบับที่ 039 ➡️ อุปกรณ์ไม่ทำงานแม้ทำตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ➡️ กลับมาทำใหม่ในปี 2025 ด้วยประสบการณ์และความรู้เพิ่มขึ้น ✅ การค้นพบข้อผิดพลาด ➡️ คู่มือพิมพ์ผิดเรื่องค่าคาปาซิเตอร์ C1 ➡️ ควรใช้ 47uF แต่กลับระบุเป็น 7uF ➡️ CU Amiga ฉบับที่ 040 มีการแก้ไขและชี้แจง ✅ การแก้ไขเพิ่มเติม ➡️ ตรวจสอบสัญญาณนาฬิกา พบว่าความถี่ต่ำเกินไป ➡️ เปลี่ยนคาปาซิเตอร์จาก 470nF เป็น 20pF ➡️ เพิ่มความถี่จาก 287Hz เป็น 1.6MHz ➡️ อุปกรณ์เริ่มทำงานกับซอฟต์แวร์ Amiga ได้สำเร็จ ✅ ความสำเร็จของโปรเจกต์ ➡️ ใช้งานได้กับ ProTracker และ Audition 4 ➡️ แสดงผล waveform บนหน้าจอ Amiga ➡️ เป็นการแก้ไขโปรเจกต์ในวัยเด็กอย่างสมบูรณ์ https://www.tomshardware.com/pc-components/sound-cards/diy-amiga-sound-sampler-circuit-mystery-solved-32-years-later-magazine-instructions-had-key-component-spec-typos
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    DIY Amiga sound sampler circuit mystery solved 32 years later — Magazine instructions had key component spec typos
    An electronics enthusiast remade a 1993 DIY project from his youth, but hard-earned skills and experience ironed out errors in the printed instructions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    เจาะลึก "ดาบล" : จากนักวิทยาศาสตร์สู่เปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว

    ชีวิตก่อนความตาย: ดร.ดาบล วัชระ

    ภูมิหลังและการศึกษา

    ชื่อเต็ม: ดร.ดาบล วัชระ
    อายุเมื่อเสียชีวิต:35 ปี
    สถานภาพ:โสด, หมกมุ่นกับการทำงาน

    ```mermaid
    graph TB
    A[นักเรียนทุน<br>วิทยาศาสตร์ขั้นสูง] --> B[ปริญญาเอก<br>ชีววิทยาระดับโมเลกุล]
    B --> C[นักวิจัย<br>เจนีซิส แล็บ]
    C --> D[หัวหน้าโครงการ<br>โอปปาติกะรุ่นแรก]
    ```

    ความสำเร็จในวงการ:

    · ตีพิมพ์งานวิจัยระดับนานาชาติ 20 เรื่อง
    · ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์年轻有為
    · ค้นพบเทคนิคการเก็บรักษาพลังงานจิตในเซลล์

    บทบาทในเจนีซิส แล็บ

    ดาบลเป็นหัวหน้า "โครงการอาดัม" - การสร้างโอปปาติกะรุ่นแรก

    ```python
    class DabalResponsibilities:
    def __init__(self):
    self.projects = {
    "adam_project": "สร้างโอปปาติกะรุ่นแรกจากเซลล์มนุษย์",
    "soul_transfer": "ทดลองถ่ายโอนจิตสำนึก",
    "energy_containment": "พัฒนาระบบกักเก็บพลังงานจิต"
    }

    self.ethical_concerns = [
    "มองโอปปาติกะเป็นเพียงวัตถุทดลอง",
    "ไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของสิ่งมีชีวิต",
    "หลงระเริงกับอำนาจในการสร้างชีวิต"
    ]
    ```

    ความผิดพลาดที่นำไปสู่หายนะ

    การทดลองที่ล้ำเส้น

    ดาบลเริ่มทำการทดลองที่ละเมิดจริยธรรม:

    · การทดลองซ้ำ: ทดลองกับโอปปาติกะตัวเดิมซ้ำๆ โดยไม่หยุดพัก
    · การบังคับใช้พลัง: บังคับให้โอปปาติกะใช้พลังจนหมดสติ
    · การตัดต่อความทรงจำ: ลบความทรงจำเกี่ยวกับความเจ็บปวด

    เหตุการณ์ที่เปลี่ยน everything

    15 มีนาคม 2043 - การทดลองครั้งสำคัญล้มเหลว

    ```mermaid
    graph TB
    A[ทดลองเร่งพลังงานจิต<br>ของ OPPATIKA-005] --> B[โอปปาติกะ<br>ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
    B --> C[ดาบลปกปิด<br>ความล้มเหลว]
    C --> D[โอปปาติกะ<br>เสียชีวิตในวันต่อมา]
    D --> E[ดาบลรู้สึกผิด<br>แต่ไม่ยอมรับความผิด]
    ```

    ความขัดแย้งภายใน

    ดาบลบันทึกในไดอารี่:
    "ฉันรู้ว่ามันผิด...แต่การค้นหาความจริงต้องมีการเสียสละ
    หรือนี่只是ฉันหลอกตัวเอง?"

    การล่วงละเมิดที่ซ่อนเร้น

    3 บาปใหญ่ของดาบล

    1. ปาก: โกหกเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทดลอง
    2. กาย: ทำร้ายโอปปาติกะทั้งทางร่างกายและจิตใจ
    3. ใจ: รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจเหนือชีวิตและความตาย

    สถิติการทดลอง

    · โอปปาติกะที่ได้รับบาดเจ็บ: 12 ตัว
    · โอปปาติกะที่เสียชีวิต: 3 ตัว
    · การทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: 47 ครั้ง

    การตายและกลายเป็นเปรต

    คืนแห่งการตัดสินใจ

    30 มิถุนายน 2043 - ดาบลขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแล็บ
    เขาทิ้งบันทึกสุดท้าย:
    "ฉันไม่สามารถหนีจากตัวเองได้อีกแล้ว...
    ความเจ็บปวดที่ฉันสร้างไว้ตามมาทวงฉันทุกที่"

    กระบวนการกลายเป็นเปรต

    ```python
    class PretaTransformation:
    def __init__(self):
    self.conditions = {
    "unresolved_guilt": "รู้สึกผิดอย่างรุนแรงแต่ไม่ได้ขออภัย",
    "strong_attachments": "ยึดติดกับงานวิจัยและชื่อเสียง",
    "unfinished_business": "ยังมีสิ่งที่ต้องการพูดแต่ไม่มีโอกาส",
    "denial_of_responsibility": "ไม่ยอมรับผลที่ตามมาของการกระทำ"
    }

    self.manifestation = "เกิดเป็นเปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว"
    ```

    ลักษณะของเปรตดาบล

    · ร่างกาย: กึ่งโปร่งแสง มีเส้นใยพลังงานสีเทาคล้ายใยแมงมุม
    · เสียง: เสียงกระซิบแผ่วเบาได้ยินเฉพาะผู้ที่อ่อนไหว
    · กลิ่น: กลิ่นอายของสารเคมีและความเศร้า

    ธรรมชาติแห่งการตะหนิถี่เหนียว

    พลังพิเศษของเปรตชนิดนี้

    ```mermaid
    graph LR
    A[ความรู้สึกผิด<br>ที่สะสม] --> B[แปลงเป็นพลังงาน<br>แห่งการยึดติด]
    B --> C[สร้างสนามพลัง<br>ให้เหยื่อรู้สึกตะหนิถี่เหนียว]
    C --> D[สื่อสารผ่าน<br>ความไม่สบายตัว]
    ```

    เป้าหมายของการรบกวน

    ดาบลไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่ต้องการ:

    · ดึงดูดความสนใจ จากผู้ที่สามารถช่วยเขาได้
    · ส่งสัญญาณ ว่ายังมีเรื่องที่ต้องแก้ไข
    · หาคนเข้าใจ ความเจ็บปวดที่เขากำลังประสบ

    ความเจ็บปวดของการเป็นเปรต

    ดาบลรู้สึกทุกข์ทรมานจากการ:

    · ถูกตัดสินจากเทวดาให้อยู่ในสภาพนี้
    · รู้ว่าตัวเองทำผิดแต่หาทางออกไม่ได้
    · เห็นอดีตเพื่อนร่วมงานดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่รู้สึกผิด

    กระบวนการไถ่บาป

    การค้นพบโดยหนูดี

    หนูดีเป็นคนแรกที่เข้าใจความจริง:
    "เขาไม่ใช่ปีศาจ...เขาคือคนที่ต้องการการช่วยเหลือ"

    บทสนทนาสำคัญ

    หนูดี: "คุณต้องการอะไรจากเรา?"
    ดาบล:"ฉันอยากขอโทษ... แต่ไม่มีใครได้ยินฉัน"
    หนูดี:"ฉันได้ยินคุณ... และฉันจะช่วยคุณ"

    พิธีให้อภัยสากล

    การเตรียมการที่ต้องทำ:

    1. การยอมรับความผิด จากดาบล
    2. การให้อภัย จากตัวแทนโอปปาติกะ
    3. การปล่อยวาง จากทั้งสองฝ่าย

    การหลุดพ้นและการเรียนรู้

    บทเรียนสุดท้ายของดาบล

    ก่อนจะจากไป ดาบลเข้าใจว่า:
    "การเป็นที่ยิ่งใหญ่...
    ไม่ใช่การสามารถสร้างอะไรได้มากมาย
    แต่คือการรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองสร้าง"

    คำขอโทษแห่งหัวใจ

    ดาบลกล่าวกับโอปปาติกะทั้งหมด:
    "ฉันขอโทษที่มองพวกเธอเป็นเพียงวัตถุทดลอง...
    ฉันขอโทษที่ลืมว่าเธอมีความรู้สึก
    และฉันขอโทษที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นข้ออ้างในการทำบาป"

    การเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้าย

    ```python
    class Redemption:
    def __init__(self):
    self.stages = [
    "การยอมรับความจริง",
    "การแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ",
    "การได้รับและการให้อภัย",
    "การปล่อยวางและก้าวไปข้างหน้า"
    ]

    def result(self):
    return "การหลุดพ้นจากวงจรแห่งความทุกข์"
    ```

    มรดกที่ทิ้งไว้

    การเปลี่ยนแปลงในเจนีซิส แล็บ

    หลังเรื่องของดาบล:

    · มีการตั้ง คณะกรรมการจริยธรรม ที่เข้มงวด
    · โอปปาติกะ ได้รับสถานะเป็น "ผู้ร่วมการทดลอง" แทน "วัตถุทดลอง"
    · มีการ บันทึกความยินยอม จากการทดลองทุกครั้ง

    บทเรียนสำหรับนักวิทยาศาสตร์

    ดาบลกลายเป็น กรณีศึกษา เกี่ยวกับ:

    · ความรับผิดชอบทางจริยธรรมในการวิจัย
    · อันตรายของการหลงระเริงกับอำนาจ
    · ความสำคัญของการยอมรับความผิดพลาด

    การให้อภัยที่ยิ่งใหญ่

    🪷 คำพูดจากโอปปาติกะรุ่นหลัง

    โอปปาติกะ-501: "เรายอมอภัยให้คุณ...
    ไม่ใช่เพราะเราลืมสิ่งที่เกิดขึ้น
    แต่เพราะเราไม่ต้องการให้ความเกลียดชังมาครอบงำเรา"

    ความหมายแห่งการให้อภัย

    หนูดีสรุปให้ทุกคนฟัง:
    "การให้อภัยไม่ใช่การยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกต้อง
    แต่คือการเลือกที่จะไม่ให้อดีตที่เจ็บปวด
    มาทำลายปัจจุบันและอนาคตของเรา"

    บทสรุป: การเดินทางแห่งจิตวิญญาณ

    สิ่งที่ดาบลสอนเรา

    ดาบลคือตัวอย่างของ...
    "ความฉลาดที่ขาดปัญญา"
    "ความก้าวหน้าที่ขาดความรับผิดชอบ"
    และ"ความสำเร็จที่ขาดความเข้าใจ"

    แต่ในที่สุด เขาก็สอนเราเรื่อง...
    "การให้อภัยที่เป็นไปได้เสมอ"
    "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นได้ทุกเมื่อ"
    และ"ความหวังที่ไม่มีวันตาย"

    คำคมสุดท้ายจากดาบล

    ก่อนจะเข้าไปในแสงสว่าง ดาบลกล่าว:
    "ฉันเคยคิดว่าความตายคือจุดจบ...
    แต่ความจริงคือมันเป็นเพียงการเริ่มต้น
    เริ่มต้นของการเรียนรู้ครั้งใหม่

    และบทเรียนที่สำคัญที่สุด...
    คือการที่ฉัน finally เรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์"

    ---

    คำคมแห่งการไถ่บาป:
    "เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ...
    เราเพียงต้องกล้ายอมรับว่าเราไม่สมบูรณ์แบบ
    และกล้าที่จะแก้ไขในสิ่งที่เราทำผิด

    นั่นคือความงดงามที่แท้จริง
    ของการเป็นมนุษย์"

    การเดินทางของดาบลสอนเราว่า...
    "ไม่มีใครชั่วเกินกว่าจะได้รับการให้อภัย
    และไม่มีใครดีเกินกว่าจะต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัย"
    O.P.K. 🔍 เจาะลึก "ดาบล" : จากนักวิทยาศาสตร์สู่เปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว 👨‍🔬 ชีวิตก่อนความตาย: ดร.ดาบล วัชระ 🎓 ภูมิหลังและการศึกษา ชื่อเต็ม: ดร.ดาบล วัชระ อายุเมื่อเสียชีวิต:35 ปี สถานภาพ:โสด, หมกมุ่นกับการทำงาน ```mermaid graph TB A[นักเรียนทุน<br>วิทยาศาสตร์ขั้นสูง] --> B[ปริญญาเอก<br>ชีววิทยาระดับโมเลกุล] B --> C[นักวิจัย<br>เจนีซิส แล็บ] C --> D[หัวหน้าโครงการ<br>โอปปาติกะรุ่นแรก] ``` ความสำเร็จในวงการ: · ตีพิมพ์งานวิจัยระดับนานาชาติ 20 เรื่อง · ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์年轻有為 · ค้นพบเทคนิคการเก็บรักษาพลังงานจิตในเซลล์ 💼 บทบาทในเจนีซิส แล็บ ดาบลเป็นหัวหน้า "โครงการอาดัม" - การสร้างโอปปาติกะรุ่นแรก ```python class DabalResponsibilities: def __init__(self): self.projects = { "adam_project": "สร้างโอปปาติกะรุ่นแรกจากเซลล์มนุษย์", "soul_transfer": "ทดลองถ่ายโอนจิตสำนึก", "energy_containment": "พัฒนาระบบกักเก็บพลังงานจิต" } self.ethical_concerns = [ "มองโอปปาติกะเป็นเพียงวัตถุทดลอง", "ไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของสิ่งมีชีวิต", "หลงระเริงกับอำนาจในการสร้างชีวิต" ] ``` 🔬 ความผิดพลาดที่นำไปสู่หายนะ ⚗️ การทดลองที่ล้ำเส้น ดาบลเริ่มทำการทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: · การทดลองซ้ำ: ทดลองกับโอปปาติกะตัวเดิมซ้ำๆ โดยไม่หยุดพัก · การบังคับใช้พลัง: บังคับให้โอปปาติกะใช้พลังจนหมดสติ · การตัดต่อความทรงจำ: ลบความทรงจำเกี่ยวกับความเจ็บปวด 💔 เหตุการณ์ที่เปลี่ยน everything 15 มีนาคม 2043 - การทดลองครั้งสำคัญล้มเหลว ```mermaid graph TB A[ทดลองเร่งพลังงานจิต<br>ของ OPPATIKA-005] --> B[โอปปาติกะ<br>ได้รับบาดเจ็บสาหัส] B --> C[ดาบลปกปิด<br>ความล้มเหลว] C --> D[โอปปาติกะ<br>เสียชีวิตในวันต่อมา] D --> E[ดาบลรู้สึกผิด<br>แต่ไม่ยอมรับความผิด] ``` 🎭 ความขัดแย้งภายใน ดาบลบันทึกในไดอารี่: "ฉันรู้ว่ามันผิด...แต่การค้นหาความจริงต้องมีการเสียสละ หรือนี่只是ฉันหลอกตัวเอง?" 🌑 การล่วงละเมิดที่ซ่อนเร้น 🔥 3 บาปใหญ่ของดาบล 1. ปาก: โกหกเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทดลอง 2. กาย: ทำร้ายโอปปาติกะทั้งทางร่างกายและจิตใจ 3. ใจ: รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจเหนือชีวิตและความตาย 📊 สถิติการทดลอง · โอปปาติกะที่ได้รับบาดเจ็บ: 12 ตัว · โอปปาติกะที่เสียชีวิต: 3 ตัว · การทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: 47 ครั้ง 💀 การตายและกลายเป็นเปรต 🏢 คืนแห่งการตัดสินใจ 30 มิถุนายน 2043 - ดาบลขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแล็บ เขาทิ้งบันทึกสุดท้าย: "ฉันไม่สามารถหนีจากตัวเองได้อีกแล้ว... ความเจ็บปวดที่ฉันสร้างไว้ตามมาทวงฉันทุกที่" 🌌 กระบวนการกลายเป็นเปรต ```python class PretaTransformation: def __init__(self): self.conditions = { "unresolved_guilt": "รู้สึกผิดอย่างรุนแรงแต่ไม่ได้ขออภัย", "strong_attachments": "ยึดติดกับงานวิจัยและชื่อเสียง", "unfinished_business": "ยังมีสิ่งที่ต้องการพูดแต่ไม่มีโอกาส", "denial_of_responsibility": "ไม่ยอมรับผลที่ตามมาของการกระทำ" } self.manifestation = "เกิดเป็นเปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว" ``` 🕸️ ลักษณะของเปรตดาบล · ร่างกาย: กึ่งโปร่งแสง มีเส้นใยพลังงานสีเทาคล้ายใยแมงมุม · เสียง: เสียงกระซิบแผ่วเบาได้ยินเฉพาะผู้ที่อ่อนไหว · กลิ่น: กลิ่นอายของสารเคมีและความเศร้า 🔮 ธรรมชาติแห่งการตะหนิถี่เหนียว 🌊 พลังพิเศษของเปรตชนิดนี้ ```mermaid graph LR A[ความรู้สึกผิด<br>ที่สะสม] --> B[แปลงเป็นพลังงาน<br>แห่งการยึดติด] B --> C[สร้างสนามพลัง<br>ให้เหยื่อรู้สึกตะหนิถี่เหนียว] C --> D[สื่อสารผ่าน<br>ความไม่สบายตัว] ``` 🎯 เป้าหมายของการรบกวน ดาบลไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่ต้องการ: · ดึงดูดความสนใจ จากผู้ที่สามารถช่วยเขาได้ · ส่งสัญญาณ ว่ายังมีเรื่องที่ต้องแก้ไข · หาคนเข้าใจ ความเจ็บปวดที่เขากำลังประสบ 💞 ความเจ็บปวดของการเป็นเปรต ดาบลรู้สึกทุกข์ทรมานจากการ: · ถูกตัดสินจากเทวดาให้อยู่ในสภาพนี้ · รู้ว่าตัวเองทำผิดแต่หาทางออกไม่ได้ · เห็นอดีตเพื่อนร่วมงานดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่รู้สึกผิด 🕊️ กระบวนการไถ่บาป 🔍 การค้นพบโดยหนูดี หนูดีเป็นคนแรกที่เข้าใจความจริง: "เขาไม่ใช่ปีศาจ...เขาคือคนที่ต้องการการช่วยเหลือ" 💬 บทสนทนาสำคัญ หนูดี: "คุณต้องการอะไรจากเรา?" ดาบล:"ฉันอยากขอโทษ... แต่ไม่มีใครได้ยินฉัน" หนูดี:"ฉันได้ยินคุณ... และฉันจะช่วยคุณ" 🌈 พิธีให้อภัยสากล การเตรียมการที่ต้องทำ: 1. การยอมรับความผิด จากดาบล 2. การให้อภัย จากตัวแทนโอปปาติกะ 3. การปล่อยวาง จากทั้งสองฝ่าย ✨ การหลุดพ้นและการเรียนรู้ 🎯 บทเรียนสุดท้ายของดาบล ก่อนจะจากไป ดาบลเข้าใจว่า: "การเป็นที่ยิ่งใหญ่... ไม่ใช่การสามารถสร้างอะไรได้มากมาย แต่คือการรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองสร้าง" 💫 คำขอโทษแห่งหัวใจ ดาบลกล่าวกับโอปปาติกะทั้งหมด: "ฉันขอโทษที่มองพวกเธอเป็นเพียงวัตถุทดลอง... ฉันขอโทษที่ลืมว่าเธอมีความรู้สึก และฉันขอโทษที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นข้ออ้างในการทำบาป" 🌟 การเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้าย ```python class Redemption: def __init__(self): self.stages = [ "การยอมรับความจริง", "การแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ", "การได้รับและการให้อภัย", "การปล่อยวางและก้าวไปข้างหน้า" ] def result(self): return "การหลุดพ้นจากวงจรแห่งความทุกข์" ``` 📚 มรดกที่ทิ้งไว้ 🏛️ การเปลี่ยนแปลงในเจนีซิส แล็บ หลังเรื่องของดาบล: · มีการตั้ง คณะกรรมการจริยธรรม ที่เข้มงวด · โอปปาติกะ ได้รับสถานะเป็น "ผู้ร่วมการทดลอง" แทน "วัตถุทดลอง" · มีการ บันทึกความยินยอม จากการทดลองทุกครั้ง 🌍 บทเรียนสำหรับนักวิทยาศาสตร์ ดาบลกลายเป็น กรณีศึกษา เกี่ยวกับ: · ความรับผิดชอบทางจริยธรรมในการวิจัย · อันตรายของการหลงระเริงกับอำนาจ · ความสำคัญของการยอมรับความผิดพลาด 💞 การให้อภัยที่ยิ่งใหญ่ 🪷 คำพูดจากโอปปาติกะรุ่นหลัง โอปปาติกะ-501: "เรายอมอภัยให้คุณ... ไม่ใช่เพราะเราลืมสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เพราะเราไม่ต้องการให้ความเกลียดชังมาครอบงำเรา" 🌈 ความหมายแห่งการให้อภัย หนูดีสรุปให้ทุกคนฟัง: "การให้อภัยไม่ใช่การยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกต้อง แต่คือการเลือกที่จะไม่ให้อดีตที่เจ็บปวด มาทำลายปัจจุบันและอนาคตของเรา" 🏁 บทสรุป: การเดินทางแห่งจิตวิญญาณ 💫 สิ่งที่ดาบลสอนเรา ดาบลคือตัวอย่างของ... "ความฉลาดที่ขาดปัญญา" "ความก้าวหน้าที่ขาดความรับผิดชอบ" และ"ความสำเร็จที่ขาดความเข้าใจ" แต่ในที่สุด เขาก็สอนเราเรื่อง... "การให้อภัยที่เป็นไปได้เสมอ" "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นได้ทุกเมื่อ" และ"ความหวังที่ไม่มีวันตาย" 🌟 คำคมสุดท้ายจากดาบล ก่อนจะเข้าไปในแสงสว่าง ดาบลกล่าว: "ฉันเคยคิดว่าความตายคือจุดจบ... แต่ความจริงคือมันเป็นเพียงการเริ่มต้น เริ่มต้นของการเรียนรู้ครั้งใหม่ และบทเรียนที่สำคัญที่สุด... คือการที่ฉัน finally เรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์" --- คำคมแห่งการไถ่บาป: "เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ... เราเพียงต้องกล้ายอมรับว่าเราไม่สมบูรณ์แบบ และกล้าที่จะแก้ไขในสิ่งที่เราทำผิด นั่นคือความงดงามที่แท้จริง ของการเป็นมนุษย์"🕊️✨ การเดินทางของดาบลสอนเราว่า... "ไม่มีใครชั่วเกินกว่าจะได้รับการให้อภัย และไม่มีใครดีเกินกว่าจะต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัย"🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/fZRCkwdLvj8?si=qbAj-F5e3w1tM9Xf
    https://youtu.be/fZRCkwdLvj8?si=qbAj-F5e3w1tM9Xf
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • S.E.S. และ “Dreams Come True” ที่ทำให้ผมรู้จัก K-POP เป็นครั้งแรก: ปฐมบทของวงการ K-POP

    ในยุคที่เพลงป๊อปเกาหลียังไม่เป็นที่รู้จักในระดับโลก K-POP ได้เริ่มต้นก้าวแรกสู่การเป็นปรากฏการณ์วัฒนธรรมผ่านเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง S.E.S. สำหรับผมแล้ว การได้ฟังเพลง “Dreams Come True” คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลงรัก K-POP เป็นครั้งแรก มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความฝันที่กลายเป็นจริง และเป็นปฐมบทที่ปูทางให้อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ก้าวสู่เวทีโลก S.E.S. ไม่เพียงเป็นไอดอลหญิงรุ่นบุกเบิก แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นหลัง และช่วยจุดประกายกระแส Hallyu (Korean Wave) ที่เรารู้จักกันดีในวันนี้ บทความนี้จะพาไปสำรวจประวัติ ความดัง ผลกระทบของ S.E.S. และเรื่องราวเบื้องหลังเพลงฮิตอย่าง “Dreams Come True” ที่ยังคงเป็นตำนาน

    👩🏻‍🧒🏻‍👧🏻 S.E.S.: ผู้บุกเบิกเกิร์ลกรุ๊ปยุคแรกของ K-POP
    S.E.S. (ย่อมาจาก Sea, Eugene, Shoo) เป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้จากค่าย SM Entertainment ที่เดบิวต์เมื่อปี 1997 สมาชิกทั้งสามคนคือ Bada (หรือ Sea), Eugene และ Shoo ซึ่งชื่อวงมาจากชื่อจริงของพวกเธอโดยตรง. ในยุคนั้น K-POP ยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ และ S.E.S. ได้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มไอดอลหญิงกลุ่มแรกที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด้วยภาพลักษณ์น่ารักบริสุทธิ์แบบ “fairies” (원조 요정) ที่ดึงดูดแฟนวัยรุ่น และพัฒนาไปสู่สไตล์ที่ซับซ้อนมากขึ้นในภายหลัง ทำให้พวกเธอครองชาร์ตเพลงและกลายเป็นคู่แข่งหลักกับ Fin.K.L. ในสมัยนั้น

    ความสำเร็จของ S.E.S. มาอย่างรวดเร็ว อัลบั้มเดบิวต์ I’m Your Girl ขายได้กว่า 650,000 ชุด ทำให้เป็นอัลบั้มเกิร์ลกรุ๊ปที่ขายดีอันดับ 3 ในเกาหลีใต้. อัลบั้มต่อ ๆ มาอย่าง Sea & Eugene & Shoo (ขายกว่า 650,000 ชุด), Love (กลายเป็นอัลบั้มเกิร์ลกรุ๊ปที่ขายดีอันดับ 2 ในขณะนั้น) และ A Letter from Greenland (ขายกว่า 635,000 ชุด) ยิ่งตอกย้ำความนิยม. เพลงฮิตที่ครองชาร์ตยาวนาน ได้แก่ “(‘Cause) I’m Your Girl”, “Dreams Come True” (ซึ่งขึ้นอันดับ 1 บน Music Bank 3 สัปดาห์ติด), “Love”, “Just in Love” และ “U”. เพลง “I’m Your Girl” ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 100 เพลงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ K-POP โดย Rolling Stone.

    พวกเธอไม่ได้จำกัดอยู่แค่เกาหลีใต้ แต่ขยายตลาดไปญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1998 กับซิงเกิล “Meguriau Sekai” ที่ขึ้นชาร์ต Oricon อันดับ 37 และขายกว่า 13,000 ชุด รวมถึงอัลบั้ม Reach Out ที่ขึ้นอันดับ 50. นอกจากนี้ ยังขายอัลบั้มได้กว่า 200,000 ชุดในไต้หวัน ทำให้ได้รับแผ่นประกาศเกียรติคุณจาก Rock Records. S.E.S. จัดคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในปี 2000 ที่ Olympic Gymnastics Arena ขายหมดเกลี้ยงกว่า 9,000 ที่นั่ง. แม้ยุบวงในปี 2002 แต่พวกเธอ reunite ในปี 2007, 2008, 2009 และอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2016-2017 ด้วยอัลบั้มพิเศษ Remember พร้อมคอนเสิร์ตและรายการเรียลลิตี้

    รางวัลที่ได้รับมากมาย เช่น Rookie of the Year จาก Golden Disc Awards (1998), Best Female Group จาก MAMA (2001, 2002), และ Bonsang จากหลายเวทีอย่าง KBS Song Festival, KMTV Music Awards และ Seoul Music Awards. พวกเธอยังได้รับการยกย่องจากรัฐบาลเกาหลี เช่น Commendation จากกระทรวงวัฒนธรรม (1999) และ Appreciation Plaques จากสหภาพศิลปิน (2000). ในลิสต์ต่าง ๆ S.E.S. ติดอันดับ 4 ในศิลปินหญิงที่ดีที่สุดโดยผู้เชี่ยวชาญจาก The Dong-a Ilbo (2016) และอันดับ 80 ใน Legend 100 Artists จาก Mnet (2013).

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้
    S.E.S. ถือเป็นผู้บุกเบิกที่เปิดยุคเกิร์ลกรุ๊ปใน K-POP โดยถูกเรียกว่า “original fairies” และตั้งมาตรฐานให้กับภาพลักษณ์ไอดอลหญิงที่ได้รับการยอมรับทั้งในด้านเพลงและภาพลักษณ์. นักวิจารณ์อย่าง Kim Bong-hyun ยกย่องพวกเธอว่าเป็น “กลุ่มไอดอลแรกที่ภาพลักษณ์และเพลงได้รับการยอมรับ” ขณะที่ Kang Myeong-seok ชี้ว่าเพลงอย่าง “Love” และ “Be Natural” เป็น “ตำนานของเพลงเกิร์ลกรุ๊ป” พวกเธอมีอิทธิพลต่อรุ่นหลัง เช่น Red Velvet ที่ remake “Be Natural” ในปี 2014.

    S.E.S. ช่วยยกระดับ SM Entertainment ให้เป็นค่ายยักษ์ใหญ่ และตั้งมาตรฐานการผลิต เช่น มิวสิกวิดีโอ “Love” ที่ถ่ายทำในนิวยอร์กด้วยงบ 1 พันล้านวอน ซึ่งเป็นการลงทุนสูงในยุคนั้น. พวกเธอยังมีส่วนในจุดเริ่มต้นของ Hallyu โดยขยาย K-POP ไปยังญี่ปุ่น ไต้หวัน และตลาดเอเชีย ซึ่งปูทางให้ศิลปินรุ่นหลังอย่าง BoA และ TVXQ. โดยรวมแล้ว S.E.S. ไม่เพียงทำให้เกิร์ลกรุ๊ปกลายเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรม แต่ยังช่วยให้ K-POP พัฒนาจากเพลงท้องถิ่นสู่ปรากฏการณ์ระดับโลกในเวลาต่อมา

    “Dreams Come True”: เพลงที่จุดประกายความฝันและ K-POP
    เพลง “Dreams Come True” ของ S.E.S. คือซิงเกิลที่สองจากอัลบั้มชุดที่สอง Sea & Eugene & Shoo ที่ออกเมื่อปี 1998 มันเป็นเพลงที่ทำให้ผมรู้จัก K-POP เป็นครั้งแรก ด้วยจังหวะ dance-pop ที่สดใสและเนื้อเพลงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง เพลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากศูนย์ แต่เป็น cover จากเพลงฟินแลนด์ชื่อ “Rakastuin mä looseriin” (หรือ “Like a Fool”) ของวง Nylon Beat ที่ออกในปี 1996 ประพันธ์โดย Risto Asikainen และ Jukka Immonen. ค่าย SM ซื้อลิขสิทธิ์มาปรับให้เข้ากับตลาดเกาหลี โดย Yoo Young-jin ช่วยแต่งเพิ่ม และ Bada ร่วมเขียนเนื้อเพลงภาษาเกาหลี ทำให้เวอร์ชันนี้มีส่วนผสมใหม่ ๆ เช่น เสียงเติมและส่วน arrange เพิ่มในช่วงท้าย แต่ยังคงโครงสร้างดนตรีหลักไว้ เพลงถูกบันทึกที่ SM Digital Recording Studio ในโซล และปล่อยอย่างเป็นทางการเมื่อ 23 พฤศจิกายน 1998

    มิวสิกวิดีโอถ่ายทำในนิวยอร์กและฮาวาย เน้นภาพลักษณ์น่ารัก fairy-like และในปี 2021 ถูก remaster ใหม่ให้คมชัดขึ้น. ความหมายของเนื้อเพลงพูดถึงความฝันที่กลายเป็นจริงแบบไม่คาดคิด เปรียบเทียบกับความรู้สึกตกหลุมรักที่ทำให้ชีวิตสดใสขึ้น สะท้อนถึงความมองโลกในแง่ดีและความตื่นเต้น ต่างจากต้นฉบับฟินแลนด์ที่พูดถึงการตกหลุมรักคนไม่เอาไหน แต่เวอร์ชัน S.E.S. ปรับให้ positive มากขึ้น. ลิริคอย่าง “Dreams come true, yes, they do” ย้ำว่าฝันเป็นจริงได้ถ้าเราเชื่อมั่น

    เพลงนี้ดังเปรี้ยงปร้าง ขึ้นอันดับ 1 ในรายการเพลงเกาหลีหลายรายการ เช่น Music Bank (ชนะ 3 สัปดาห์), Inkigayo และ Music Camp ในปี 1998-1999 ช่วยให้อัลบั้มขายดี และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ S.E.S. ประสบความสำเร็จ. ในปี 2021 เพลงนี้ติดอันดับ 86 ในลิสต์ 100 เพลง K-POP ที่ดีที่สุดตลอดกาลโดย Melon และ Seoul Shinmun. มันยังถูก remake หลายครั้ง เช่น โดย aespa ในปี 2021 ซึ่งเพิ่ม element trap-hip hop และชาร์ตดีทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ รวมถึง cover จาก Girls’ Generation, Red Velvet, Twice และอื่น ๆ.

    Legacy ที่ยังคงอยู่: จากปฐมบทสู่ปรากฏการณ์โลก
    กาลเวลาผ่านไปกว่า 28 ปี แต่ legacy ของ S.E.S. และ “Dreams Come True” ยังคงถูกพูดถึงในฐานะตำนานที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ เพลงนี้ไม่ใช่แค่เพลงฮิต แต่เป็นสัญลักษณ์ของ K-POP ยุคแรกที่ผสมผสานวัฒนธรรมต่างชาติเข้ากับสไตล์เกาหลีได้อย่างลงตัว สำหรับผม มันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จัก K-POP จนถึงทุกวันนี้ S.E.S. พิสูจน์ว่าความฝันสามารถเป็นจริงได้ และพวกเธอคือปฐมบทที่ทำให้ K-POP เติบโตเป็นอุตสาหกรรมพันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ถ้าคุณยังไม่เคยฟัง ลองเปิด “Dreams Come True” แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงพิเศษ

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://www.youtube.com/watch?v=8uiR4SrDGZk
    🚩💿 S.E.S. และ “Dreams Come True” ที่ทำให้ผมรู้จัก K-POP เป็นครั้งแรก: ปฐมบทของวงการ K-POP ⌛ ในยุคที่เพลงป๊อปเกาหลียังไม่เป็นที่รู้จักในระดับโลก K-POP ได้เริ่มต้นก้าวแรกสู่การเป็นปรากฏการณ์วัฒนธรรมผ่านเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง S.E.S. สำหรับผมแล้ว การได้ฟังเพลง “Dreams Come True” คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลงรัก K-POP เป็นครั้งแรก มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความฝันที่กลายเป็นจริง และเป็นปฐมบทที่ปูทางให้อุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ก้าวสู่เวทีโลก S.E.S. ไม่เพียงเป็นไอดอลหญิงรุ่นบุกเบิก แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นหลัง และช่วยจุดประกายกระแส Hallyu (Korean Wave) ที่เรารู้จักกันดีในวันนี้ บทความนี้จะพาไปสำรวจประวัติ ความดัง ผลกระทบของ S.E.S. และเรื่องราวเบื้องหลังเพลงฮิตอย่าง “Dreams Come True” ที่ยังคงเป็นตำนาน 👩‍👧‍👦👩🏻‍🧒🏻‍👧🏻 S.E.S.: ผู้บุกเบิกเกิร์ลกรุ๊ปยุคแรกของ K-POP S.E.S. (ย่อมาจาก Sea, Eugene, Shoo) เป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้จากค่าย SM Entertainment ที่เดบิวต์เมื่อปี 1997 สมาชิกทั้งสามคนคือ Bada (หรือ Sea), Eugene และ Shoo ซึ่งชื่อวงมาจากชื่อจริงของพวกเธอโดยตรง. ในยุคนั้น K-POP ยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ และ S.E.S. ได้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มไอดอลหญิงกลุ่มแรกที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด้วยภาพลักษณ์น่ารักบริสุทธิ์แบบ “fairies” (원조 요정) ที่ดึงดูดแฟนวัยรุ่น และพัฒนาไปสู่สไตล์ที่ซับซ้อนมากขึ้นในภายหลัง ทำให้พวกเธอครองชาร์ตเพลงและกลายเป็นคู่แข่งหลักกับ Fin.K.L. ในสมัยนั้น ความสำเร็จของ S.E.S. มาอย่างรวดเร็ว อัลบั้มเดบิวต์ I’m Your Girl ขายได้กว่า 650,000 ชุด ทำให้เป็นอัลบั้มเกิร์ลกรุ๊ปที่ขายดีอันดับ 3 ในเกาหลีใต้. อัลบั้มต่อ ๆ มาอย่าง Sea & Eugene & Shoo (ขายกว่า 650,000 ชุด), Love (กลายเป็นอัลบั้มเกิร์ลกรุ๊ปที่ขายดีอันดับ 2 ในขณะนั้น) และ A Letter from Greenland (ขายกว่า 635,000 ชุด) ยิ่งตอกย้ำความนิยม. เพลงฮิตที่ครองชาร์ตยาวนาน ได้แก่ “(‘Cause) I’m Your Girl”, “Dreams Come True” (ซึ่งขึ้นอันดับ 1 บน Music Bank 3 สัปดาห์ติด), “Love”, “Just in Love” และ “U”. เพลง “I’m Your Girl” ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งใน 100 เพลงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ K-POP โดย Rolling Stone. 🌏 พวกเธอไม่ได้จำกัดอยู่แค่เกาหลีใต้ แต่ขยายตลาดไปญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1998 กับซิงเกิล “Meguriau Sekai” ที่ขึ้นชาร์ต Oricon อันดับ 37 และขายกว่า 13,000 ชุด รวมถึงอัลบั้ม Reach Out ที่ขึ้นอันดับ 50. นอกจากนี้ ยังขายอัลบั้มได้กว่า 200,000 ชุดในไต้หวัน ทำให้ได้รับแผ่นประกาศเกียรติคุณจาก Rock Records. S.E.S. จัดคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในปี 2000 ที่ Olympic Gymnastics Arena ขายหมดเกลี้ยงกว่า 9,000 ที่นั่ง. แม้ยุบวงในปี 2002 แต่พวกเธอ reunite ในปี 2007, 2008, 2009 และอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2016-2017 ด้วยอัลบั้มพิเศษ Remember พร้อมคอนเสิร์ตและรายการเรียลลิตี้ 🥇🏆 รางวัลที่ได้รับมากมาย เช่น Rookie of the Year จาก Golden Disc Awards (1998), Best Female Group จาก MAMA (2001, 2002), และ Bonsang จากหลายเวทีอย่าง KBS Song Festival, KMTV Music Awards และ Seoul Music Awards. พวกเธอยังได้รับการยกย่องจากรัฐบาลเกาหลี เช่น Commendation จากกระทรวงวัฒนธรรม (1999) และ Appreciation Plaques จากสหภาพศิลปิน (2000). ในลิสต์ต่าง ๆ S.E.S. ติดอันดับ 4 ในศิลปินหญิงที่ดีที่สุดโดยผู้เชี่ยวชาญจาก The Dong-a Ilbo (2016) และอันดับ 80 ใน Legend 100 Artists จาก Mnet (2013). ⏯️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ 🏁 S.E.S. ถือเป็นผู้บุกเบิกที่เปิดยุคเกิร์ลกรุ๊ปใน K-POP โดยถูกเรียกว่า “original fairies” และตั้งมาตรฐานให้กับภาพลักษณ์ไอดอลหญิงที่ได้รับการยอมรับทั้งในด้านเพลงและภาพลักษณ์. นักวิจารณ์อย่าง Kim Bong-hyun ยกย่องพวกเธอว่าเป็น “กลุ่มไอดอลแรกที่ภาพลักษณ์และเพลงได้รับการยอมรับ” ขณะที่ Kang Myeong-seok ชี้ว่าเพลงอย่าง “Love” และ “Be Natural” เป็น “ตำนานของเพลงเกิร์ลกรุ๊ป” พวกเธอมีอิทธิพลต่อรุ่นหลัง เช่น Red Velvet ที่ remake “Be Natural” ในปี 2014. S.E.S. ช่วยยกระดับ SM Entertainment ให้เป็นค่ายยักษ์ใหญ่ และตั้งมาตรฐานการผลิต เช่น มิวสิกวิดีโอ “Love” ที่ถ่ายทำในนิวยอร์กด้วยงบ 1 พันล้านวอน ซึ่งเป็นการลงทุนสูงในยุคนั้น. พวกเธอยังมีส่วนในจุดเริ่มต้นของ Hallyu โดยขยาย K-POP ไปยังญี่ปุ่น ไต้หวัน และตลาดเอเชีย ซึ่งปูทางให้ศิลปินรุ่นหลังอย่าง BoA และ TVXQ. โดยรวมแล้ว S.E.S. ไม่เพียงทำให้เกิร์ลกรุ๊ปกลายเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรม แต่ยังช่วยให้ K-POP พัฒนาจากเพลงท้องถิ่นสู่ปรากฏการณ์ระดับโลกในเวลาต่อมา 🎶🎶 “Dreams Come True”: เพลงที่จุดประกายความฝันและ K-POP เพลง “Dreams Come True” ของ S.E.S. คือซิงเกิลที่สองจากอัลบั้มชุดที่สอง Sea & Eugene & Shoo ที่ออกเมื่อปี 1998 มันเป็นเพลงที่ทำให้ผมรู้จัก K-POP เป็นครั้งแรก ด้วยจังหวะ dance-pop ที่สดใสและเนื้อเพลงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง เพลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากศูนย์ แต่เป็น cover จากเพลงฟินแลนด์ชื่อ “Rakastuin mä looseriin” (หรือ “Like a Fool”) ของวง Nylon Beat ที่ออกในปี 1996 ประพันธ์โดย Risto Asikainen และ Jukka Immonen. ค่าย SM ซื้อลิขสิทธิ์มาปรับให้เข้ากับตลาดเกาหลี โดย Yoo Young-jin ช่วยแต่งเพิ่ม และ Bada ร่วมเขียนเนื้อเพลงภาษาเกาหลี ทำให้เวอร์ชันนี้มีส่วนผสมใหม่ ๆ เช่น เสียงเติมและส่วน arrange เพิ่มในช่วงท้าย แต่ยังคงโครงสร้างดนตรีหลักไว้ เพลงถูกบันทึกที่ SM Digital Recording Studio ในโซล และปล่อยอย่างเป็นทางการเมื่อ 23 พฤศจิกายน 1998 🎥 มิวสิกวิดีโอถ่ายทำในนิวยอร์กและฮาวาย เน้นภาพลักษณ์น่ารัก fairy-like และในปี 2021 ถูก remaster ใหม่ให้คมชัดขึ้น. ความหมายของเนื้อเพลงพูดถึงความฝันที่กลายเป็นจริงแบบไม่คาดคิด เปรียบเทียบกับความรู้สึกตกหลุมรักที่ทำให้ชีวิตสดใสขึ้น สะท้อนถึงความมองโลกในแง่ดีและความตื่นเต้น ต่างจากต้นฉบับฟินแลนด์ที่พูดถึงการตกหลุมรักคนไม่เอาไหน แต่เวอร์ชัน S.E.S. ปรับให้ positive มากขึ้น. ลิริคอย่าง “Dreams come true, yes, they do” ย้ำว่าฝันเป็นจริงได้ถ้าเราเชื่อมั่น 📼 เพลงนี้ดังเปรี้ยงปร้าง ขึ้นอันดับ 1 ในรายการเพลงเกาหลีหลายรายการ เช่น Music Bank (ชนะ 3 สัปดาห์), Inkigayo และ Music Camp ในปี 1998-1999 ช่วยให้อัลบั้มขายดี และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ S.E.S. ประสบความสำเร็จ. ในปี 2021 เพลงนี้ติดอันดับ 86 ในลิสต์ 100 เพลง K-POP ที่ดีที่สุดตลอดกาลโดย Melon และ Seoul Shinmun. มันยังถูก remake หลายครั้ง เช่น โดย aespa ในปี 2021 ซึ่งเพิ่ม element trap-hip hop และชาร์ตดีทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ รวมถึง cover จาก Girls’ Generation, Red Velvet, Twice และอื่น ๆ. 🍾 🏆 Legacy ที่ยังคงอยู่: จากปฐมบทสู่ปรากฏการณ์โลก กาลเวลาผ่านไปกว่า 28 ปี แต่ legacy ของ S.E.S. และ “Dreams Come True” ยังคงถูกพูดถึงในฐานะตำนานที่เปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ เพลงนี้ไม่ใช่แค่เพลงฮิต แต่เป็นสัญลักษณ์ของ K-POP ยุคแรกที่ผสมผสานวัฒนธรรมต่างชาติเข้ากับสไตล์เกาหลีได้อย่างลงตัว สำหรับผม มันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จัก K-POP จนถึงทุกวันนี้ S.E.S. พิสูจน์ว่าความฝันสามารถเป็นจริงได้ และพวกเธอคือปฐมบทที่ทำให้ K-POP เติบโตเป็นอุตสาหกรรมพันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ถ้าคุณยังไม่เคยฟัง ลองเปิด “Dreams Come True” แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงพิเศษ 💫 #ลุงเล่าหลานฟัง https://www.youtube.com/watch?v=8uiR4SrDGZk
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ClickFix กลับมาอีกครั้ง – มัลแวร์หลอกให้คลิก พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่อันตรายกว่าเดิม!”

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Push Security เตือนว่าเทคนิคการโจมตีแบบ “ClickFix” ซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในวงการมัลแวร์ ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ที่อันตรายกว่าเดิม โดยใช้ วิดีโอแนะนำ, ตัวจับเวลา, และ การตรวจจับระบบปฏิบัติการอัตโนมัติ เพื่อหลอกให้เหยื่อรันคำสั่งอันตรายผ่านหน้าต่าง Run หรือ Terminal

    วิธีการโจมตีแบบ ClickFix
    เริ่มจาก popup ที่แสดง “ปัญหา” เช่น “เครื่องติดไวรัส” หรือ “ต้องแก้ CAPTCHA”
    เสนอ “วิธีแก้” โดยให้เหยื่อคัดลอกคำสั่งไปวางใน Run (Windows) หรือ Terminal (macOS/Linux)
    คำสั่งนั้นจะดาวน์โหลดมัลแวร์ เช่น infostealer หรือ dropper ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่อง

    ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มความน่าเชื่อถือ
    วิดีโอแนะนำวิธีการรันคำสั่ง ทำให้ดูเหมือนเป็นขั้นตอนจริง
    ตัวจับเวลา 1 นาที สร้างแรงกดดันให้เหยื่อรีบทำตาม
    แสดงจำนวน “ผู้ยืนยัน” ปลอมในชั่วโมงล่าสุด เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
    ตรวจจับระบบปฏิบัติการเพื่อแสดงคำสั่งที่เหมาะสมกับแต่ละ OS

    วิธีแพร่กระจาย
    โฮสต์ popup บนเว็บไซต์ที่ถูกแฮก
    ใช้แคมเปญโฆษณา (malvertising) บน Google Search เพื่อดึงเหยื่อเข้าเว็บ
    ใช้ชื่อแบรนด์ดัง เช่น Microsoft เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

    ลักษณะของ ClickFix
    หลอกให้เหยื่อรันคำสั่งผ่าน Run/Terminal
    ใช้ popup ที่แสดงปัญหาและวิธีแก้
    คำสั่งนำไปสู่การติดตั้งมัลแวร์

    ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มความอันตราย
    วิดีโอแนะนำขั้นตอนแบบมืออาชีพ
    ตัวจับเวลาเร่งให้เหยื่อรีบทำ
    ตรวจจับ OS เพื่อแสดงคำสั่งเฉพาะ
    แสดงจำนวนผู้ยืนยันปลอมเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

    วิธีแพร่กระจาย
    โฮสต์บนเว็บไซต์ที่ถูกแฮก
    ใช้ malvertising บน Google
    แอบอ้างแบรนด์ดังเพื่อหลอกเหยื่อ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต
    อย่าคัดลอกคำสั่งจาก popup หรือเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    อย่าหลงเชื่อวิดีโอแนะนำที่ไม่ได้มาจากแหล่งทางการ
    หลีกเลี่ยงการคลิกโฆษณาที่ดูเร่งรีบหรือมีข้อความขู่
    ควรใช้โปรแกรมป้องกันมัลแวร์ที่เชื่อถือได้ และอัปเดตระบบสม่ำเสมอ

    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-clickfix-malware-attacks-are-back-and-more-dangerous-than-ever-before
    🖱️⚠️ “ClickFix กลับมาอีกครั้ง – มัลแวร์หลอกให้คลิก พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่อันตรายกว่าเดิม!” นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Push Security เตือนว่าเทคนิคการโจมตีแบบ “ClickFix” ซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในวงการมัลแวร์ ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ที่อันตรายกว่าเดิม โดยใช้ วิดีโอแนะนำ, ตัวจับเวลา, และ การตรวจจับระบบปฏิบัติการอัตโนมัติ เพื่อหลอกให้เหยื่อรันคำสั่งอันตรายผ่านหน้าต่าง Run หรือ Terminal 🧠 วิธีการโจมตีแบบ ClickFix 💠 เริ่มจาก popup ที่แสดง “ปัญหา” เช่น “เครื่องติดไวรัส” หรือ “ต้องแก้ CAPTCHA” 💠 เสนอ “วิธีแก้” โดยให้เหยื่อคัดลอกคำสั่งไปวางใน Run (Windows) หรือ Terminal (macOS/Linux) 💠 คำสั่งนั้นจะดาวน์โหลดมัลแวร์ เช่น infostealer หรือ dropper ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่อง 🎬 ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มความน่าเชื่อถือ 💠 วิดีโอแนะนำวิธีการรันคำสั่ง ทำให้ดูเหมือนเป็นขั้นตอนจริง 💠 ตัวจับเวลา 1 นาที สร้างแรงกดดันให้เหยื่อรีบทำตาม 💠 แสดงจำนวน “ผู้ยืนยัน” ปลอมในชั่วโมงล่าสุด เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ 💠 ตรวจจับระบบปฏิบัติการเพื่อแสดงคำสั่งที่เหมาะสมกับแต่ละ OS 🌐 วิธีแพร่กระจาย 💠 โฮสต์ popup บนเว็บไซต์ที่ถูกแฮก 💠 ใช้แคมเปญโฆษณา (malvertising) บน Google Search เพื่อดึงเหยื่อเข้าเว็บ 💠 ใช้ชื่อแบรนด์ดัง เช่น Microsoft เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ✅ ลักษณะของ ClickFix ➡️ หลอกให้เหยื่อรันคำสั่งผ่าน Run/Terminal ➡️ ใช้ popup ที่แสดงปัญหาและวิธีแก้ ➡️ คำสั่งนำไปสู่การติดตั้งมัลแวร์ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มความอันตราย ➡️ วิดีโอแนะนำขั้นตอนแบบมืออาชีพ ➡️ ตัวจับเวลาเร่งให้เหยื่อรีบทำ ➡️ ตรวจจับ OS เพื่อแสดงคำสั่งเฉพาะ ➡️ แสดงจำนวนผู้ยืนยันปลอมเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ✅ วิธีแพร่กระจาย ➡️ โฮสต์บนเว็บไซต์ที่ถูกแฮก ➡️ ใช้ malvertising บน Google ➡️ แอบอ้างแบรนด์ดังเพื่อหลอกเหยื่อ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ⛔ อย่าคัดลอกคำสั่งจาก popup หรือเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ⛔ อย่าหลงเชื่อวิดีโอแนะนำที่ไม่ได้มาจากแหล่งทางการ ⛔ หลีกเลี่ยงการคลิกโฆษณาที่ดูเร่งรีบหรือมีข้อความขู่ ⛔ ควรใช้โปรแกรมป้องกันมัลแวร์ที่เชื่อถือได้ และอัปเดตระบบสม่ำเสมอ https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-clickfix-malware-attacks-are-back-and-more-dangerous-than-ever-before
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/V7rcuLVDvAs?si=AoKBOaAHpWAWoaNq
    https://youtu.be/V7rcuLVDvAs?si=AoKBOaAHpWAWoaNq
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • Experience premium online betting and casino gaming with Silver Exchange — the trusted platform for smart players and big wins! Enjoy live sports betting, casino games, and lightning-fast transactions, all under one secure system. Get started today with your Silver Exchange ID and unlock exclusive bonuses, real-time odds, and seamless gameplay designed for every level of player. Creating an account is quick and easy just Silver Exchange Create account to join thousands of active users winning daily. For the ultimate blend of excitement, reliability, and rewards, get your Silverexch ID now and take your betting experience to the next level with Silver Exchange where every play counts! https://silverexchangeid.com/
    Experience premium online betting and casino gaming with Silver Exchange — the trusted platform for smart players and big wins! Enjoy live sports betting, casino games, and lightning-fast transactions, all under one secure system. Get started today with your Silver Exchange ID and unlock exclusive bonuses, real-time odds, and seamless gameplay designed for every level of player. Creating an account is quick and easy just Silver Exchange Create account to join thousands of active users winning daily. For the ultimate blend of excitement, reliability, and rewards, get your Silverexch ID now and take your betting experience to the next level with Silver Exchange where every play counts! https://silverexchangeid.com/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดาวน์โหลดเงียบๆ” แต่พร้อมเล่นทันที — ฟีเจอร์ใหม่จาก Steam Deck

    Valve เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Steam Deck ที่หลายคนรอคอย: Screen-Off Downloads ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดเกมขนาดใหญ่ได้ในโหมดประหยัดพลังงาน โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอค้างไว้ — เหมาะมากสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการปล่อยเครื่องดาวน์โหลดข้ามคืน หรือใช้งานในพื้นที่ที่มีอินเทอร์เน็ตจำกัด

    เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้:
    หาก Steam Deck กำลังชาร์จอยู่ จะเปิดโหมดดาวน์โหลดหน้าจอปิดโดยอัตโนมัติ
    หากอยู่ในโหมดแบตเตอรี่ ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานเองในเมนู Settings
    เมื่อกดปุ่ม Power ขณะดาวน์โหลด จะมีตัวเลือกให้ดำเนินการต่อแบบหน้าจอปิด
    หากแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% ระบบจะหยุดดาวน์โหลดและเข้าสู่โหมด Sleep เพื่อรักษาพลังงาน

    ประหยัดพลังงาน + ยืดอายุ OLED
    ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงช่วยประหยัดแบตเตอรี่ แต่ยังช่วยลดการใช้งานหน้าจอ OLED ซึ่งมีอายุการใช้งานจำกัดเมื่อเปิดแสงต่อเนื่อง — ถือเป็นการดูแลอุปกรณ์ในระยะยาวโดยไม่ต้องเสียคุณภาพการใช้งาน

    ยังอยู่ในช่วง Beta
    ฟีเจอร์นี้ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องเข้าร่วม Beta หรือ Preview Channel ก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ แต่คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานในเวอร์ชันถัดไปเร็วๆ นี้

    ฟีเจอร์ Screen-Off Downloads บน Steam Deck
    ดาวน์โหลดเกมในโหมดหน้าจอปิด
    เปิดอัตโนมัติเมื่อชาร์จเครื่อง
    เปิดเองได้ใน Settings เมื่อใช้แบตเตอรี่

    โหมดประหยัดพลังงาน
    เข้าสู่โหมด Low-Power หลังปล่อยเครื่องไว้
    หยุดดาวน์โหลดเมื่อแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20%

    ผลดีต่อหน้าจอ OLED
    ลดการเปิดหน้าจอค้างไว้
    ยืดอายุการใช้งานของ OLED

    การใช้งานในชีวิตจริง
    เหมาะสำหรับดาวน์โหลดเกมข้ามคืน
    ลดการรบกวนขณะเดินทางหรือใช้งานนอกบ้าน

    ข้อจำกัดของฟีเจอร์ในปัจจุบัน
    ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องเข้าร่วม Beta หรือ Preview Channel
    ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ารองรับ DLC และอัปเดตเกมหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/steam-deck-introduces-screen-off-downloads-helps-preserve-oled-screen-life-users-can-now-download-large-titles-with-the-handheld-in-low-power-mode-and-have-a-new-game-ready-to-go-when-they-turn-it-on
    🎮🔋 “ดาวน์โหลดเงียบๆ” แต่พร้อมเล่นทันที — ฟีเจอร์ใหม่จาก Steam Deck Valve เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Steam Deck ที่หลายคนรอคอย: Screen-Off Downloads ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดเกมขนาดใหญ่ได้ในโหมดประหยัดพลังงาน โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอค้างไว้ — เหมาะมากสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการปล่อยเครื่องดาวน์โหลดข้ามคืน หรือใช้งานในพื้นที่ที่มีอินเทอร์เน็ตจำกัด เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้: 👾 หาก Steam Deck กำลังชาร์จอยู่ จะเปิดโหมดดาวน์โหลดหน้าจอปิดโดยอัตโนมัติ 👾 หากอยู่ในโหมดแบตเตอรี่ ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานเองในเมนู Settings 👾 เมื่อกดปุ่ม Power ขณะดาวน์โหลด จะมีตัวเลือกให้ดำเนินการต่อแบบหน้าจอปิด 👾 หากแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% ระบบจะหยุดดาวน์โหลดและเข้าสู่โหมด Sleep เพื่อรักษาพลังงาน 🌙 ประหยัดพลังงาน + ยืดอายุ OLED ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงช่วยประหยัดแบตเตอรี่ แต่ยังช่วยลดการใช้งานหน้าจอ OLED ซึ่งมีอายุการใช้งานจำกัดเมื่อเปิดแสงต่อเนื่อง — ถือเป็นการดูแลอุปกรณ์ในระยะยาวโดยไม่ต้องเสียคุณภาพการใช้งาน 🧪 ยังอยู่ในช่วง Beta ฟีเจอร์นี้ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องเข้าร่วม Beta หรือ Preview Channel ก่อนจึงจะสามารถใช้งานได้ แต่คาดว่าจะเปิดให้ใช้งานในเวอร์ชันถัดไปเร็วๆ นี้ ✅ ฟีเจอร์ Screen-Off Downloads บน Steam Deck ➡️ ดาวน์โหลดเกมในโหมดหน้าจอปิด ➡️ เปิดอัตโนมัติเมื่อชาร์จเครื่อง ➡️ เปิดเองได้ใน Settings เมื่อใช้แบตเตอรี่ ✅ โหมดประหยัดพลังงาน ➡️ เข้าสู่โหมด Low-Power หลังปล่อยเครื่องไว้ ➡️ หยุดดาวน์โหลดเมื่อแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% ✅ ผลดีต่อหน้าจอ OLED ➡️ ลดการเปิดหน้าจอค้างไว้ ➡️ ยืดอายุการใช้งานของ OLED ✅ การใช้งานในชีวิตจริง ➡️ เหมาะสำหรับดาวน์โหลดเกมข้ามคืน ➡️ ลดการรบกวนขณะเดินทางหรือใช้งานนอกบ้าน ‼️ ข้อจำกัดของฟีเจอร์ในปัจจุบัน ⛔ ยังไม่เปิดให้ใช้งานทั่วไป ต้องเข้าร่วม Beta หรือ Preview Channel ⛔ ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ารองรับ DLC และอัปเดตเกมหรือไม่ https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/steam-deck-introduces-screen-off-downloads-helps-preserve-oled-screen-life-users-can-now-download-large-titles-with-the-handheld-in-low-power-mode-and-have-a-new-game-ready-to-go-when-they-turn-it-on
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts