• ..รัฐบาลอนุทินยอมรับจริงๆว่า ไม่ทำตนเองให้ชัดเจน,ต้องทำตนเองเหมือนอยู่4เดือนเป็น4-5ปีครบวาระสมัยรัฐบาล,เพราะเวลา4เดือนนี้ทำอะไรได้หมด,แถลงนโยบายก็ทำงานได้เลยกรณีทำเพื่อชาติเพื่อบ้านเพื่อเมืองเพื่อประชาชน,แต่คดีอั้วสว. ม.144 คดีเขากระโดง คดีธนาธรและครอบครัวเอาที่ดินป่าไป,หลายๆเรื่องข้าราชการไทยเราดอง ขัดขวางในการจัดการคนผิด เตะถ่วงเวลากันจริงๆ ถูกหรือผิด ข้าราชการไทยเราเองละเว้นการดำเนินการที่ถูกต้องดีงามกำจัดภัยภายในชาติ บ้านเมืองวุ่นวายทุกๆวันนี้ได้มิใช่แค่อำนาจจากนักการเมืองแต่เป็นอำนาจจากข้าราชการเองที่มีในมือด้วย.
    ..ระบบปกครองเราต่างชาติก็แทรกแซงง่าย,มันอ้างว่าระบบประชาธิปไตยต้องแบบนั้นแบบนี้ ตามฝรั่งส่งออกมันบอกมันสร้างทำ,มันกำกับต้องแบบนั้นแบบนี้นะ ไม่เช่นนั้นกูพวกฝรั่งจะจัดการประเทศไทยยึดประเทศนะ เป็นต้น นี้จึงสมควรฉีกระบบปกครองของฝรั่งทิ้งจากคณะกบฎ2475ก่อการสร้างขึ้นจนแม้แต่บ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยฝรั่งเสียส่วนใหญ่มันยึดผ่านกฎหมายระบบระบอบปกครองที่ไทยเอามาปกครองของมัน มันหามันชิงมันปล้นแย่งชิงทรัพยากรมีค่าเร่อย่างหน้าด้านๆที่มันอ้างประชาธิปไตยนี้ล่ะ,จึงเขียนว่าระบบปกครองนี้ใครจะฉีกทำลายไม่ได้แม้แต่พระมหากษัตริย์ไทยเราเองก็ทำลายไม่ได้เพราะบ่อน้ำมันบ่อทองคำของพวกฝรั่งแบบกูจะอ้างประชาธิปไตยกดดันไทยไม่ได้อีก,จึงสมควรยกเลิกระบบปกครองนี้ โดยสถาบันกษัตริย์ไทยเราต้องเปลี่ยนแปลงระบบปกครองฝรั่งทันที ปลดปล่อยประเทศไทยเราเพื่อสร้างชาติไทยเราใหม่ด้วยระบบปกครองวิถีใหม่สไตล์ไทยเรา,ประเทศภายนอกจึงจะกดดันสั่งการแทรกแซงการปกครองแบบออกหน้าออกตาแบบปัจจุบันไม่ได้อีก,คือระบบธรรมาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข.เหมาะสมกับเราที่สุด.ยึดคืนทรัพยากรชาติไทยทั้งหมดกลับมาจากเอกชนผูกขาดไปจากแผ่นดินไทยจะเอกชนไทยและต่างชาติต้องคืนมาก่อนทั้งหมดทันที,เพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่หมด.
    ..นี้คือทางแก้ไขทางรอดที่แท้จริงของประเทศในวิกฤติโลกในปัจจุบันนี้,เราสามารถพึงพาตนเองได้ทันที,มีน้ำมันใช้เอง มีบ่อทองคำขุดตุนสำรองเข้าคลังตนเอง,มีอาหารอุดมสมบูรณ์ดูแลคนไทยเราเอง,เศรษฐกิจภายในประเทศเราออกแบบกำกับดูแลได้,มิร่ำรวยกระจุกยากจนกระจายเต็มประเทศแบบปัจจุบัน ต่างชาติมาแทรกแซงปล้นชิงแย่งชิงความร่ำรวยของคนไทยเราไปด้วยซึ่งผิดวิสัยปกติพึงทำพึงเป็น,เราดำเนอนนโยบายการปกครองที่ผิดทั้งระบบแต่ต้น,จึงต้องเปลี่ยนแปลงทันทีในยุคปัจจุบัน.
    ..สามารถลดการคตโกงทุจริตได้ด้วยเงินดิจิดัลภายในประเทศไทยเราก่อน,ใช้มือถือควอนตัมชำระเงินใช้จ่ายใครมันและรับรายได้ด้วย,เราสามารถติดตามที่มาที่ไปของเงินได้หมด เช่น นายบี ซื้อเสียงนายสี1,000บาทคอยน์กาเบอร์พรรคขายชาติ นายสีจะถูกตรวจพบธุรกรรมเงินเข้าผิดปกติทันทีที่1,000บาทคอยน์ที่เรากำลังมีมาตราการตรวจจับช่วงเลือกตััง และธุรกรรมนั้นเสือกมาจากกระเป๋าตังนายบีคนเดียวที่โอนจ่ายให้คนชาวบ้านทั้งตำบลอำเภอถึง10,000ล้านบาทโอนให้ชาวบ้าน บวกติดตามได้ว่าเงิน10,000ล้านบาทนี้โอนมาจากบัญชีกระเป๋าตังควอนตัมใครๆได้อีก,ต้นทางถึงปลายทางเรา ดัยอนาถแน่นอน,ตลอดตังข้าราชการคนนี้เหตุใดร่ำรวยผิดปกติ เงินเดือนรวมสวัสดิการต่างๆไม่ควรเกิน3-5หมื่นบาทรายได้,แต่รายรับเข้่บัญชีกระเป๋าตังตกเดือนละ1ล้านบาทถึง10ล้านบาทต่อเดือน โยธา งานพัสดุก่อสร้างแบบไหน เจ้าหน้าที่ประมูลอนุมัติงานแบบใดได้ตังมากมายผิดปกติแบบนี้ นี้ตังดิจิดัลสามารถจัดการได้หมด,ฟอกตังแบบใดตามสายกระแสเงินได้หมด,เป็นต้น,แต่ตังกระดาษทำไม่ได้และสันดานชาวบ้านคนไทยไม่รับตังขายเสียงย่อมไม่มี,ใครเอาตังมาแจกมันรับหมด,นี้คือความบัดสบจริงของประชาชนคนไทบ้านด้วย บ้านเมืองมีปัญหาถึงปัจจุบันก็มาจากสิ่งนี้ด้วยแต่มาจากอำนาจข้าราชการไทยคือตัวยืนหนึ่ง,นักการเมืองคือตัวประกอบ,ข้าราชการไม่ทำตามแม้มันเล่นงานถ้ามีระบบปกป้องข้าราชการไทยที่ดีก็สามารถจัดการนักการเมืองเลวชั่วเข้ามาได้เช่นกัน,
    ..เรา..ประเทศไทยต้องจัดการตนเองภายในก่อนทันที,ปัญหาภัยต่างชาติทั้งหมดจะจบทันที,อเมริกาเราไล่ออกจากประเทศก็สามารถทำได้,จีนมิตรดีก็มาร่วมพัฒนาประเทศไทยค้าขายปกติได้,เชิญจีนมาจับจีนเทาไปประหารให้หมดจากแผ่นดินไทยเราก็สามารถทำได้,เอเชียเราอาเชียนเราต้องยืนหนึ่งก่อน สร้างสันติสุขในเอเชียเราก่อน,ฝรั่งมายุ่งวุ่นวายในทวีปเอเชียอาเชียนเรามากเกินไป ปล้นทรัพยากรในเอเชียอาเชียนเรานั้นเอง.,ส่งเสริมสงคราม ก่ออาชญากรรมสนันสนุนสงครามก็ฝรั่งตะวันตกนี้,
    ..งานแรกเราต้องผลักดันต่างชาติแบบชาติฝรั่งออกจากเอเชียอาเชียนให้หมดก่อน.
    ..นโยบายเอเชียอาเชียนเราต้องชัดเจนก่อน,bricsต้องนำทัพ ยืนหนึ่งอ้างอิงเอเชียก่อนว่าเอเชียจะตัดการค้าขายกับชาติฝรั่งทั้งหมดและที่ไม่ใช่สมาชิกbricsซึ่งไทยเป็นสมาชิกbricsแน่นอนถ้าไม่เป็นก็จะเป็นในอนาคตแน่นอน,ถีบกิจการฝรั่งตะวันตกออกจากเอเชียให้หมด,ถีบออกจากไทยด้วย,ต่างชาติที่เป็นคนฝรั่งเชิญออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมด,เราจะทดลองวิจัยดูว่า ถ้าไม่มีฝรั่งต่างชาติบนเอเชียเรา เอเชียเราจะสร้างความสงบสุขสันติจริงไม่ได้.ความวุ่นวายโกลาหลใดๆเราจะระงับเหตุไม่ได้,กิจการใด โหยหาเสียผลประโยชน์มหาศาลอ้างหากค้าขายตัดฝรั่งไปก็ให้ย้ายฐานผลิตไปผลิตเองที่บ้านเมืองฝรั่งนั้นเลย ขายเองเลยไม่ต้องขนส่งให้ลำบากอีก,ยกเลิกใบอนุญาตประกอบการในไทยทั้งหมดทุกๆชนิดประเภทให้ด้วย,ถอนสัญชาติไทยให้อีกต่างหากจะได้สบายใจว่าไปเป็นคนรักสัญชาติฝรั่งเต็มที่.
    ..วิถีปกครองไทย ทหารพระราชาต้องยึดอำนาจปฏิวัติการปกครองทันที,อเมริกาล้มเหลวในระบบปกครองประชาธิปไตยชัดเจน,จีนก็เผด็จการชัดเจนด้วยแม้ภาพที่โชว์ว่าสำเร็จล้ำต่างๆแต่ไส้ในจริงๆจีนล้มเหลวในการปกครองเช่นกัน ประชาชนจีนไม่ต้องการถูกกดขี่เผด็จการแบบนั้นแน่นอนแต่ไร้ทางเลือก,จีนอาจเกิดประชาชนลุกเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ เหมือนอเมริกอาจสิ้นชาติล้มเหลวเร็วๆนี้ อาจเกิดการแยกเป็นประเทศเอกราชตนเองจากรัฐต่างๆไม่น้อย ปกครองตนเองนั้นเอง,เพราะอเมริกามันชั่วเลวมีบาปมีกรรมมหาศาลทำมากมายต่อชาติทั่วโลก.
    ..ทางเดียวที่จะตัดตอนต่างชาติใช้นักการเมืองไทย ใช้ข้าราชการไทยแทรกแซงการปกครองประเทศไทยเราบนโปรแกรมที่มีไวรัสเต็มไปหมดที่มันยื่นมาให้เราเอาไปใช้ตามมันระบบปกครองประชาธิปไตยแบบๆมัน,ทหารพระราชาเราต้องถอดระบบปฏิบัติการโปรแกรมมันทิ้งและเผาทำลายทิ้งเลย สร้างระบบปฏิบัติการโปรแกรมเราเองขึ้นมาใหม่,ไร้ไวรัสสร้างโกลาหลวุ่นวายในประเทศเราแทรกแซงการทำงานเราด้วยให้สงบสุขสำเร็จไปได้ด้วยดีอีก,ทหารพระราชาเราต้องตัดสินใจยึดอำนาจปฏิวัติตัดตอนมันจริงๆ.,คือหนทางเดียว.วิถีทหารพระราชาคือทางออก.

    https://youtube.com/watch?v=IPU7bLdKYV4&si=WkQGItnCUS7iranj
    ..รัฐบาลอนุทินยอมรับจริงๆว่า ไม่ทำตนเองให้ชัดเจน,ต้องทำตนเองเหมือนอยู่4เดือนเป็น4-5ปีครบวาระสมัยรัฐบาล,เพราะเวลา4เดือนนี้ทำอะไรได้หมด,แถลงนโยบายก็ทำงานได้เลยกรณีทำเพื่อชาติเพื่อบ้านเพื่อเมืองเพื่อประชาชน,แต่คดีอั้วสว. ม.144 คดีเขากระโดง คดีธนาธรและครอบครัวเอาที่ดินป่าไป,หลายๆเรื่องข้าราชการไทยเราดอง ขัดขวางในการจัดการคนผิด เตะถ่วงเวลากันจริงๆ ถูกหรือผิด ข้าราชการไทยเราเองละเว้นการดำเนินการที่ถูกต้องดีงามกำจัดภัยภายในชาติ บ้านเมืองวุ่นวายทุกๆวันนี้ได้มิใช่แค่อำนาจจากนักการเมืองแต่เป็นอำนาจจากข้าราชการเองที่มีในมือด้วย. ..ระบบปกครองเราต่างชาติก็แทรกแซงง่าย,มันอ้างว่าระบบประชาธิปไตยต้องแบบนั้นแบบนี้ ตามฝรั่งส่งออกมันบอกมันสร้างทำ,มันกำกับต้องแบบนั้นแบบนี้นะ ไม่เช่นนั้นกูพวกฝรั่งจะจัดการประเทศไทยยึดประเทศนะ เป็นต้น นี้จึงสมควรฉีกระบบปกครองของฝรั่งทิ้งจากคณะกบฎ2475ก่อการสร้างขึ้นจนแม้แต่บ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยฝรั่งเสียส่วนใหญ่มันยึดผ่านกฎหมายระบบระบอบปกครองที่ไทยเอามาปกครองของมัน มันหามันชิงมันปล้นแย่งชิงทรัพยากรมีค่าเร่อย่างหน้าด้านๆที่มันอ้างประชาธิปไตยนี้ล่ะ,จึงเขียนว่าระบบปกครองนี้ใครจะฉีกทำลายไม่ได้แม้แต่พระมหากษัตริย์ไทยเราเองก็ทำลายไม่ได้เพราะบ่อน้ำมันบ่อทองคำของพวกฝรั่งแบบกูจะอ้างประชาธิปไตยกดดันไทยไม่ได้อีก,จึงสมควรยกเลิกระบบปกครองนี้ โดยสถาบันกษัตริย์ไทยเราต้องเปลี่ยนแปลงระบบปกครองฝรั่งทันที ปลดปล่อยประเทศไทยเราเพื่อสร้างชาติไทยเราใหม่ด้วยระบบปกครองวิถีใหม่สไตล์ไทยเรา,ประเทศภายนอกจึงจะกดดันสั่งการแทรกแซงการปกครองแบบออกหน้าออกตาแบบปัจจุบันไม่ได้อีก,คือระบบธรรมาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข.เหมาะสมกับเราที่สุด.ยึดคืนทรัพยากรชาติไทยทั้งหมดกลับมาจากเอกชนผูกขาดไปจากแผ่นดินไทยจะเอกชนไทยและต่างชาติต้องคืนมาก่อนทั้งหมดทันที,เพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่หมด. ..นี้คือทางแก้ไขทางรอดที่แท้จริงของประเทศในวิกฤติโลกในปัจจุบันนี้,เราสามารถพึงพาตนเองได้ทันที,มีน้ำมันใช้เอง มีบ่อทองคำขุดตุนสำรองเข้าคลังตนเอง,มีอาหารอุดมสมบูรณ์ดูแลคนไทยเราเอง,เศรษฐกิจภายในประเทศเราออกแบบกำกับดูแลได้,มิร่ำรวยกระจุกยากจนกระจายเต็มประเทศแบบปัจจุบัน ต่างชาติมาแทรกแซงปล้นชิงแย่งชิงความร่ำรวยของคนไทยเราไปด้วยซึ่งผิดวิสัยปกติพึงทำพึงเป็น,เราดำเนอนนโยบายการปกครองที่ผิดทั้งระบบแต่ต้น,จึงต้องเปลี่ยนแปลงทันทีในยุคปัจจุบัน. ..สามารถลดการคตโกงทุจริตได้ด้วยเงินดิจิดัลภายในประเทศไทยเราก่อน,ใช้มือถือควอนตัมชำระเงินใช้จ่ายใครมันและรับรายได้ด้วย,เราสามารถติดตามที่มาที่ไปของเงินได้หมด เช่น นายบี ซื้อเสียงนายสี1,000บาทคอยน์กาเบอร์พรรคขายชาติ นายสีจะถูกตรวจพบธุรกรรมเงินเข้าผิดปกติทันทีที่1,000บาทคอยน์ที่เรากำลังมีมาตราการตรวจจับช่วงเลือกตััง และธุรกรรมนั้นเสือกมาจากกระเป๋าตังนายบีคนเดียวที่โอนจ่ายให้คนชาวบ้านทั้งตำบลอำเภอถึง10,000ล้านบาทโอนให้ชาวบ้าน บวกติดตามได้ว่าเงิน10,000ล้านบาทนี้โอนมาจากบัญชีกระเป๋าตังควอนตัมใครๆได้อีก,ต้นทางถึงปลายทางเรา ดัยอนาถแน่นอน,ตลอดตังข้าราชการคนนี้เหตุใดร่ำรวยผิดปกติ เงินเดือนรวมสวัสดิการต่างๆไม่ควรเกิน3-5หมื่นบาทรายได้,แต่รายรับเข้่บัญชีกระเป๋าตังตกเดือนละ1ล้านบาทถึง10ล้านบาทต่อเดือน โยธา งานพัสดุก่อสร้างแบบไหน เจ้าหน้าที่ประมูลอนุมัติงานแบบใดได้ตังมากมายผิดปกติแบบนี้ นี้ตังดิจิดัลสามารถจัดการได้หมด,ฟอกตังแบบใดตามสายกระแสเงินได้หมด,เป็นต้น,แต่ตังกระดาษทำไม่ได้และสันดานชาวบ้านคนไทยไม่รับตังขายเสียงย่อมไม่มี,ใครเอาตังมาแจกมันรับหมด,นี้คือความบัดสบจริงของประชาชนคนไทบ้านด้วย บ้านเมืองมีปัญหาถึงปัจจุบันก็มาจากสิ่งนี้ด้วยแต่มาจากอำนาจข้าราชการไทยคือตัวยืนหนึ่ง,นักการเมืองคือตัวประกอบ,ข้าราชการไม่ทำตามแม้มันเล่นงานถ้ามีระบบปกป้องข้าราชการไทยที่ดีก็สามารถจัดการนักการเมืองเลวชั่วเข้ามาได้เช่นกัน, ..เรา..ประเทศไทยต้องจัดการตนเองภายในก่อนทันที,ปัญหาภัยต่างชาติทั้งหมดจะจบทันที,อเมริกาเราไล่ออกจากประเทศก็สามารถทำได้,จีนมิตรดีก็มาร่วมพัฒนาประเทศไทยค้าขายปกติได้,เชิญจีนมาจับจีนเทาไปประหารให้หมดจากแผ่นดินไทยเราก็สามารถทำได้,เอเชียเราอาเชียนเราต้องยืนหนึ่งก่อน สร้างสันติสุขในเอเชียเราก่อน,ฝรั่งมายุ่งวุ่นวายในทวีปเอเชียอาเชียนเรามากเกินไป ปล้นทรัพยากรในเอเชียอาเชียนเรานั้นเอง.,ส่งเสริมสงคราม ก่ออาชญากรรมสนันสนุนสงครามก็ฝรั่งตะวันตกนี้, ..งานแรกเราต้องผลักดันต่างชาติแบบชาติฝรั่งออกจากเอเชียอาเชียนให้หมดก่อน. ..นโยบายเอเชียอาเชียนเราต้องชัดเจนก่อน,bricsต้องนำทัพ ยืนหนึ่งอ้างอิงเอเชียก่อนว่าเอเชียจะตัดการค้าขายกับชาติฝรั่งทั้งหมดและที่ไม่ใช่สมาชิกbricsซึ่งไทยเป็นสมาชิกbricsแน่นอนถ้าไม่เป็นก็จะเป็นในอนาคตแน่นอน,ถีบกิจการฝรั่งตะวันตกออกจากเอเชียให้หมด,ถีบออกจากไทยด้วย,ต่างชาติที่เป็นคนฝรั่งเชิญออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมด,เราจะทดลองวิจัยดูว่า ถ้าไม่มีฝรั่งต่างชาติบนเอเชียเรา เอเชียเราจะสร้างความสงบสุขสันติจริงไม่ได้.ความวุ่นวายโกลาหลใดๆเราจะระงับเหตุไม่ได้,กิจการใด โหยหาเสียผลประโยชน์มหาศาลอ้างหากค้าขายตัดฝรั่งไปก็ให้ย้ายฐานผลิตไปผลิตเองที่บ้านเมืองฝรั่งนั้นเลย ขายเองเลยไม่ต้องขนส่งให้ลำบากอีก,ยกเลิกใบอนุญาตประกอบการในไทยทั้งหมดทุกๆชนิดประเภทให้ด้วย,ถอนสัญชาติไทยให้อีกต่างหากจะได้สบายใจว่าไปเป็นคนรักสัญชาติฝรั่งเต็มที่. ..วิถีปกครองไทย ทหารพระราชาต้องยึดอำนาจปฏิวัติการปกครองทันที,อเมริกาล้มเหลวในระบบปกครองประชาธิปไตยชัดเจน,จีนก็เผด็จการชัดเจนด้วยแม้ภาพที่โชว์ว่าสำเร็จล้ำต่างๆแต่ไส้ในจริงๆจีนล้มเหลวในการปกครองเช่นกัน ประชาชนจีนไม่ต้องการถูกกดขี่เผด็จการแบบนั้นแน่นอนแต่ไร้ทางเลือก,จีนอาจเกิดประชาชนลุกเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ เหมือนอเมริกอาจสิ้นชาติล้มเหลวเร็วๆนี้ อาจเกิดการแยกเป็นประเทศเอกราชตนเองจากรัฐต่างๆไม่น้อย ปกครองตนเองนั้นเอง,เพราะอเมริกามันชั่วเลวมีบาปมีกรรมมหาศาลทำมากมายต่อชาติทั่วโลก. ..ทางเดียวที่จะตัดตอนต่างชาติใช้นักการเมืองไทย ใช้ข้าราชการไทยแทรกแซงการปกครองประเทศไทยเราบนโปรแกรมที่มีไวรัสเต็มไปหมดที่มันยื่นมาให้เราเอาไปใช้ตามมันระบบปกครองประชาธิปไตยแบบๆมัน,ทหารพระราชาเราต้องถอดระบบปฏิบัติการโปรแกรมมันทิ้งและเผาทำลายทิ้งเลย สร้างระบบปฏิบัติการโปรแกรมเราเองขึ้นมาใหม่,ไร้ไวรัสสร้างโกลาหลวุ่นวายในประเทศเราแทรกแซงการทำงานเราด้วยให้สงบสุขสำเร็จไปได้ด้วยดีอีก,ทหารพระราชาเราต้องตัดสินใจยึดอำนาจปฏิวัติตัดตอนมันจริงๆ.,คือหนทางเดียว.วิถีทหารพระราชาคือทางออก. https://youtube.com/watch?v=IPU7bLdKYV4&si=WkQGItnCUS7iranj
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว ตอนที่ 6 – จมูกคนอื่น
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว”
    ตอนที่ 6 “จมูกคนอื่น”
    เมื่อตุรกีออกประกาศเชิญชวนให้บรรดา พวกนักสร้างระบบเครื่องมือรบ ให้มายื่นประมูลเครื่องมือป้องกันตนเอง ที่เรียกว่า Long Range Air and Missle Defense System ใครจะยิงจรวดแบบไหน มาจากทางไหน เครื่องมือนี้จับได้ทำลายหมด ตุรกีบอกฉันควรมีของใช้ส่วนตัวบ้าง ไม่ใช่ยืมจมูกคนอื่นเขาหายใจ ตะบี้ตะบันไปตลอดชาติ ถ้ามันจมูกบี้ไป แล้วตูจะหายใจยังไงวะ เออ ! อันนี้มีเหตุผล ฟังขึ้น แม้ดูจะออกลูกกะล่อนนิด ๆ แต่ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่
    โครงการนี้ยาวนาน ตุรกีคิดมานานแล้ว และทำอย่างเปิดเผย ตอนแรกอเมริกา NATO และ EU ต่างก็หน้างอ ทำไมตุรกีไม่ปรึกษา ทำไมตุรกีไม่ขออนุญาต ตุรกีบอกขอโทษ ตุรกีคิดว่ายังมีอธิปไตยเหนือบ้านเมืองตนเองอยู่นะ แม้กระผมจะยอมนายท่านไปหลายเรื่องก็เถอะ แต่เรื่องหายใจด้วยจมูกของผม นี่มันเรื่องส่วนตัวจริง ๆ
    หลังจากสุมหัวคิดกันดูแล้ว อเมริกาและ EU ก็บอกว่าเอาแบบนี้แล้วกัน พวกเราก็ยื่นประมูลสร้างไอ้เครื่องป้องกันบ้าบอนี้เข้าไปด้วย แล้วเราก็ไปบีบคอมันให้มันเลือกเรา มันจะยากเย็นอะไร
    ตุรกีออกประกาศเชิญชวนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 เกือบ 4 ปีแล้ว พิจารณาอะไร มันถึงใช้เวลานานขนาดนั้น มันควรจะประกาศได้แล้วว่าใครชนะประมูล- แต่ตุรกีก็ไม่ประกาศ อะไรมันปิดปากค้ำคออยู่ หรือตุรกีรอดูอะไร หรือตุรกีกำลังเล่นบท “ตุรกี” ให้ดูอยู่
    ขณะที่ทุกฝ่ายกำลังยุ่งอยู่กับ เรื่องกระทืบซีเรีย เรื่องเส้นทางเดินท่อแก๊ส เรื่องการเลือกตั้ง เรื่องคอรับชั่นในประเทศ เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 ตุรกีกลับใช้ช่วงเวลานั้นประกาศเสียงเรียบ ๆ ว่า ขณะนี้เราได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว เราได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า เบื้องต้นผู้ที่เราน่าจะเลือกให้มาทำเครื่องหายใจของเราเอง น่าจะเป็นบริษัทของประเทศจีน !
    เขาว่าวันนั้น ขนาดเสียงจิ้งจกไต่ผ่านเพดานห้องทำงานรูปไข่ของนาย Obama (หมายถึง Oval Room ครับ ลุงนิทานไม่ได้ทะลึ่ง) ทหารรักษาการณ์ข้างนอกประตูหน้า White House ยังได้ยินเลย ทุกอย่างเงียบสงบ ลมไม่กล้าพัด เจ้าหน้าที่ต้องกลั้นหายใจ เกรงว่าแม้ลมหายใจ ก็จะทำให้เกิดแรงสะเทือนได้ อาการเช่นนี้ไม่ได้เป็นเฉพาะที่ White House หรอก เขาว่าห้องทำงานของท่านนายพลใหญ่ หัวหน้าใหญ่ของ NATO ก็เป็นเหมือนกัน
    ในคำแถลงของตุรกีบอกว่า จีนโดยบริษัท CPMIEC ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีน ยินดีที่จะรับเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องมือ ที่เรียกว่า Long Range Air and Missile Defense System (T-LORAMIDS) ตามคำเชิญชวนของตุรกี เมื่อ ค.ศ. 2009 ที่ให้บุคคลภายนอกเสนอการทำงานแบบ off-the-shelf vesion ของ (T-LORAMIDS) ในระบบที่สามารถเข้ากับอุปกรณ์การทำงานทั้งปวงของตุรกีได้ ในราคาประมาณ 3.4 พันล้านเหรียญ (เท่านั้นเอง) เป็นการสร้างจมูกส่วนตัวของตุรกี ที่ว่าไปแล้วในราคาไม่แพงเลย ฮา
    นาย Murad Bayer เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ การจัดซื้อจัดจ้างของตุรกี แถลงเพิ่มเติมว่าข้อเสนอของ CPMIEC ดีกว่าผู้เข้าแข่งประมูลทั้งหมด รวมทั้ง Raytheon/Lockheed-Martin ของอเมริกา กลุ่ม Italian/French และของรัสเซีย นาย Bayer บอกว่า เขาจะเจรจารายละเอียดขั้นสุดท้ายและสรุปผลกับ CPMIEC ให้เสร็จสิ้นก่อนครั้งแรกของปี ค.ศ. 2014
    จิ้งจกแมงสาบเริ่มออกเดินต่อ หลังจากตัวชากันไปพักใหญ่ วุฒิสมาชิกอเมริกัน ส่งหนังสือลงวันที่ 11 ตุลาคม 2013 ขอให้รัฐมนตรีต่างประเทศ John Kerry และรัฐมนตรีกลาโหม Chuck Hagel ดำเนินการทุกวิถีทาง ทางการฑูต เพื่อกดดันไม่ให้ตุรกีตกลงกับ CPMIEC ทำจมูกให้ตุรกี และแจ้ง NATO ถึงจุดยืนของอเมริกาว่า ต้องยืนยันว่าระบบที่ CPMIEC ทำนั้น ไม่มีวันจะใช้ร่วมกับระบบใด ๆ ทั้งสิ้นของ NATO ได้ และดูว่าจมูกที่จีนเสนอมันเป็นอย่างไรกันแน่ ทำไมพวกเราถึงสร้างจมูกอย่างเขาไม่ได้ ทำไม่ตุรกีไม่ชอบจมูกฝรั่ง แต่ไปชอบจมูกจีน ! ไปหาคำตอบกันมาให้ได้
    4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 จดหมายอีกฉบับถูกส่งไปยังทูตอเมริกา ประจำตุรกี ว่าในกรณีที่ตุรกียังยืนยันจะใช้จมูกจีน แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ของจีนจะต้องมาเดินขวักไขว่ เข้านอกออกในอยู่ในทุกสถานที่และองค์กรต่าง ๆ ของตุรกี ในด้านความมั่นคงจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
    นอกจากการเข้ากันไม่ได้ของระบบที่จีนจะทำ กับระบบของอเมริกาและ NATO แล้ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือการที่จีนจะเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ในระบบของตุรกี ซึ่งเป็นระบบที่เชื่อมโยงกับอเมริกาและ NATO ได้อีกด้วย จีนบอก อั๊วทำจมูกให้ตุรกี แต่อั๊วได้กลิ่นอเมริกา กับยุโรปหมดเลย ฮ่า ฮ่า เอิ้ก
    คำถามสำคัญที่ทุกคนคิดในใจดัง ๆ คือ ตุรกีกำลังคิดอะไร อเมริกาลงทุนกับตุรกีไปขนาดไหน ตุรกีย่อมรู้อยู่แก่ใจ และตุรกีก็คงตอบอยู่ในใจเช่นกันว่า อเมริกาก็คงรู้ดีอยู่แก่ใจเช่นเดียวกัน ว่าตุรกีทำอะไร เพื่ออเมริกาบ้าง
    นับเป็นโจทก์ที่น่าคิดอย่างยิ่ง ตุรกีทำได้อย่างไร โดยเฉพาะในประเด็นว่าตุรกีนั้น เป็นสมาชิกของ NATOแต่จะใช้จีน ซึ่งอยู่นอก NATO มาสร้างระบบที่เชื่อมถึง NATO ได้ และที่สำคัญ CPMIEC เป็นบริษัทที่อยู่ในข่ายการคว่ำ บาตรของอเมริกา ตามกฎหมาย Iran, North Korea and Syria Nonproliferation Act (P.L 106-178 as amended) ตุรกีสมกับเป็นลูกครึ่ง ลูกกลม ลูกกลิ้ง จริง ๆ เอ๊ะ ! หรือนี่คือบทของ นกสองหัว !
    อย่างไรก็ตามประธานาธิบดี Gul ได้ออกมาแถลงว่า เรื่องทำจมูกโดยจีนนี้ ยังไม่ได้เป็นข้อสรุปนะ เราเพียงแค่คัดรายชื่อผู้เสนอทำงานให้เหลือน้อยลง เรารู้ดีเรื่องความเป็นห่วงของ NATO เรารู้ดีเรื่องการเป็นคู่แข่งกันระหว่างตะวันตกกับจีน เราก็เป็น 1 ใน NATO นะ เพราะฉะนั้นใจเย็น ๆ ก่อน
    ในรายงานของ CRS ฉบับวันที่ 27 มี.ค ค.ศ. 2014 ได้มีพูดถึงเรื่องการทำจมูกตุรกี โดยจีนนี้ อย่างยืดยาว ตอนหนึ่งในรายงานระบุว่า แม้แต่ทางกองทัพของตุรกีเอง ก็ไม่พอใจกับการตัดสินใจเช่นนี้ของรัฐบาล ด้วยเกรงว่าจะได้จมูกเก่าที่ใช้แล้ว และไม่เหมาะที่จะนำไปสู่รบกับอะไร ได้ “second – hand, not battle-tested and cheap Chinese missiles” อืม เจ็บมากนะ เด็ก ๆ ของอาเฮียอ่านแล้ว แจ้งให้เจ้านายทราบด้วย
    แล้วประมาณกลางเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 รัฐมนตรีหลายคน รวมทั้งครอบครัว และนักธุรกิจที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี Erdogan รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูง ก็ถูกตั้งข้อกล่าวหา ถูกจับข้อหารับสินบน จากนั้นการเมืองภายในประเทศของตุรกีก็เริ่มร้อนขึ้น แม้ตัวนายกรัฐมนตรี Erdogan เอง ก็ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการโกง สื่อตีข่าวทุกวัน ขนาดมีการปล่อยเสียงการคุยกันระหว่าง นาย Erdogan กับลูกชาย ชื่อ Bilal ถึงการโอนเงินจำนวนใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับตามอง
    นาย Erdogan ให้ข่าวว่า ข้อกล่าวหาตัวเขาและลูกชาย เกี่ยวกับเรื่องการโกงนี้ เป็นการกำกับและจัดฉากของนาย Fethullah Gulen ซึ่งสมคบและเลี้ยงดูโดยอเมริกา สนุกจริง ๆ ตอนนี้ไม่ได้เป็นนิยายรักแล้ว แต่เป็นนิยายชีวิต เข้ม ข้น โหด มัน ฮา (ยังไม่รู้ใครจะได้ฮา)
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
20 กค. 2557
    ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว ตอนที่ 6 – จมูกคนอื่น นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว” ตอนที่ 6 “จมูกคนอื่น” เมื่อตุรกีออกประกาศเชิญชวนให้บรรดา พวกนักสร้างระบบเครื่องมือรบ ให้มายื่นประมูลเครื่องมือป้องกันตนเอง ที่เรียกว่า Long Range Air and Missle Defense System ใครจะยิงจรวดแบบไหน มาจากทางไหน เครื่องมือนี้จับได้ทำลายหมด ตุรกีบอกฉันควรมีของใช้ส่วนตัวบ้าง ไม่ใช่ยืมจมูกคนอื่นเขาหายใจ ตะบี้ตะบันไปตลอดชาติ ถ้ามันจมูกบี้ไป แล้วตูจะหายใจยังไงวะ เออ ! อันนี้มีเหตุผล ฟังขึ้น แม้ดูจะออกลูกกะล่อนนิด ๆ แต่ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ โครงการนี้ยาวนาน ตุรกีคิดมานานแล้ว และทำอย่างเปิดเผย ตอนแรกอเมริกา NATO และ EU ต่างก็หน้างอ ทำไมตุรกีไม่ปรึกษา ทำไมตุรกีไม่ขออนุญาต ตุรกีบอกขอโทษ ตุรกีคิดว่ายังมีอธิปไตยเหนือบ้านเมืองตนเองอยู่นะ แม้กระผมจะยอมนายท่านไปหลายเรื่องก็เถอะ แต่เรื่องหายใจด้วยจมูกของผม นี่มันเรื่องส่วนตัวจริง ๆ หลังจากสุมหัวคิดกันดูแล้ว อเมริกาและ EU ก็บอกว่าเอาแบบนี้แล้วกัน พวกเราก็ยื่นประมูลสร้างไอ้เครื่องป้องกันบ้าบอนี้เข้าไปด้วย แล้วเราก็ไปบีบคอมันให้มันเลือกเรา มันจะยากเย็นอะไร ตุรกีออกประกาศเชิญชวนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 เกือบ 4 ปีแล้ว พิจารณาอะไร มันถึงใช้เวลานานขนาดนั้น มันควรจะประกาศได้แล้วว่าใครชนะประมูล- แต่ตุรกีก็ไม่ประกาศ อะไรมันปิดปากค้ำคออยู่ หรือตุรกีรอดูอะไร หรือตุรกีกำลังเล่นบท “ตุรกี” ให้ดูอยู่ ขณะที่ทุกฝ่ายกำลังยุ่งอยู่กับ เรื่องกระทืบซีเรีย เรื่องเส้นทางเดินท่อแก๊ส เรื่องการเลือกตั้ง เรื่องคอรับชั่นในประเทศ เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 ตุรกีกลับใช้ช่วงเวลานั้นประกาศเสียงเรียบ ๆ ว่า ขณะนี้เราได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว เราได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า เบื้องต้นผู้ที่เราน่าจะเลือกให้มาทำเครื่องหายใจของเราเอง น่าจะเป็นบริษัทของประเทศจีน ! เขาว่าวันนั้น ขนาดเสียงจิ้งจกไต่ผ่านเพดานห้องทำงานรูปไข่ของนาย Obama (หมายถึง Oval Room ครับ ลุงนิทานไม่ได้ทะลึ่ง) ทหารรักษาการณ์ข้างนอกประตูหน้า White House ยังได้ยินเลย ทุกอย่างเงียบสงบ ลมไม่กล้าพัด เจ้าหน้าที่ต้องกลั้นหายใจ เกรงว่าแม้ลมหายใจ ก็จะทำให้เกิดแรงสะเทือนได้ อาการเช่นนี้ไม่ได้เป็นเฉพาะที่ White House หรอก เขาว่าห้องทำงานของท่านนายพลใหญ่ หัวหน้าใหญ่ของ NATO ก็เป็นเหมือนกัน ในคำแถลงของตุรกีบอกว่า จีนโดยบริษัท CPMIEC ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีน ยินดีที่จะรับเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องมือ ที่เรียกว่า Long Range Air and Missile Defense System (T-LORAMIDS) ตามคำเชิญชวนของตุรกี เมื่อ ค.ศ. 2009 ที่ให้บุคคลภายนอกเสนอการทำงานแบบ off-the-shelf vesion ของ (T-LORAMIDS) ในระบบที่สามารถเข้ากับอุปกรณ์การทำงานทั้งปวงของตุรกีได้ ในราคาประมาณ 3.4 พันล้านเหรียญ (เท่านั้นเอง) เป็นการสร้างจมูกส่วนตัวของตุรกี ที่ว่าไปแล้วในราคาไม่แพงเลย ฮา นาย Murad Bayer เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ การจัดซื้อจัดจ้างของตุรกี แถลงเพิ่มเติมว่าข้อเสนอของ CPMIEC ดีกว่าผู้เข้าแข่งประมูลทั้งหมด รวมทั้ง Raytheon/Lockheed-Martin ของอเมริกา กลุ่ม Italian/French และของรัสเซีย นาย Bayer บอกว่า เขาจะเจรจารายละเอียดขั้นสุดท้ายและสรุปผลกับ CPMIEC ให้เสร็จสิ้นก่อนครั้งแรกของปี ค.ศ. 2014 จิ้งจกแมงสาบเริ่มออกเดินต่อ หลังจากตัวชากันไปพักใหญ่ วุฒิสมาชิกอเมริกัน ส่งหนังสือลงวันที่ 11 ตุลาคม 2013 ขอให้รัฐมนตรีต่างประเทศ John Kerry และรัฐมนตรีกลาโหม Chuck Hagel ดำเนินการทุกวิถีทาง ทางการฑูต เพื่อกดดันไม่ให้ตุรกีตกลงกับ CPMIEC ทำจมูกให้ตุรกี และแจ้ง NATO ถึงจุดยืนของอเมริกาว่า ต้องยืนยันว่าระบบที่ CPMIEC ทำนั้น ไม่มีวันจะใช้ร่วมกับระบบใด ๆ ทั้งสิ้นของ NATO ได้ และดูว่าจมูกที่จีนเสนอมันเป็นอย่างไรกันแน่ ทำไมพวกเราถึงสร้างจมูกอย่างเขาไม่ได้ ทำไม่ตุรกีไม่ชอบจมูกฝรั่ง แต่ไปชอบจมูกจีน ! ไปหาคำตอบกันมาให้ได้ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 จดหมายอีกฉบับถูกส่งไปยังทูตอเมริกา ประจำตุรกี ว่าในกรณีที่ตุรกียังยืนยันจะใช้จมูกจีน แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ของจีนจะต้องมาเดินขวักไขว่ เข้านอกออกในอยู่ในทุกสถานที่และองค์กรต่าง ๆ ของตุรกี ในด้านความมั่นคงจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร นอกจากการเข้ากันไม่ได้ของระบบที่จีนจะทำ กับระบบของอเมริกาและ NATO แล้ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือการที่จีนจะเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ในระบบของตุรกี ซึ่งเป็นระบบที่เชื่อมโยงกับอเมริกาและ NATO ได้อีกด้วย จีนบอก อั๊วทำจมูกให้ตุรกี แต่อั๊วได้กลิ่นอเมริกา กับยุโรปหมดเลย ฮ่า ฮ่า เอิ้ก คำถามสำคัญที่ทุกคนคิดในใจดัง ๆ คือ ตุรกีกำลังคิดอะไร อเมริกาลงทุนกับตุรกีไปขนาดไหน ตุรกีย่อมรู้อยู่แก่ใจ และตุรกีก็คงตอบอยู่ในใจเช่นกันว่า อเมริกาก็คงรู้ดีอยู่แก่ใจเช่นเดียวกัน ว่าตุรกีทำอะไร เพื่ออเมริกาบ้าง นับเป็นโจทก์ที่น่าคิดอย่างยิ่ง ตุรกีทำได้อย่างไร โดยเฉพาะในประเด็นว่าตุรกีนั้น เป็นสมาชิกของ NATOแต่จะใช้จีน ซึ่งอยู่นอก NATO มาสร้างระบบที่เชื่อมถึง NATO ได้ และที่สำคัญ CPMIEC เป็นบริษัทที่อยู่ในข่ายการคว่ำ บาตรของอเมริกา ตามกฎหมาย Iran, North Korea and Syria Nonproliferation Act (P.L 106-178 as amended) ตุรกีสมกับเป็นลูกครึ่ง ลูกกลม ลูกกลิ้ง จริง ๆ เอ๊ะ ! หรือนี่คือบทของ นกสองหัว ! อย่างไรก็ตามประธานาธิบดี Gul ได้ออกมาแถลงว่า เรื่องทำจมูกโดยจีนนี้ ยังไม่ได้เป็นข้อสรุปนะ เราเพียงแค่คัดรายชื่อผู้เสนอทำงานให้เหลือน้อยลง เรารู้ดีเรื่องความเป็นห่วงของ NATO เรารู้ดีเรื่องการเป็นคู่แข่งกันระหว่างตะวันตกกับจีน เราก็เป็น 1 ใน NATO นะ เพราะฉะนั้นใจเย็น ๆ ก่อน ในรายงานของ CRS ฉบับวันที่ 27 มี.ค ค.ศ. 2014 ได้มีพูดถึงเรื่องการทำจมูกตุรกี โดยจีนนี้ อย่างยืดยาว ตอนหนึ่งในรายงานระบุว่า แม้แต่ทางกองทัพของตุรกีเอง ก็ไม่พอใจกับการตัดสินใจเช่นนี้ของรัฐบาล ด้วยเกรงว่าจะได้จมูกเก่าที่ใช้แล้ว และไม่เหมาะที่จะนำไปสู่รบกับอะไร ได้ “second – hand, not battle-tested and cheap Chinese missiles” อืม เจ็บมากนะ เด็ก ๆ ของอาเฮียอ่านแล้ว แจ้งให้เจ้านายทราบด้วย แล้วประมาณกลางเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 รัฐมนตรีหลายคน รวมทั้งครอบครัว และนักธุรกิจที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี Erdogan รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูง ก็ถูกตั้งข้อกล่าวหา ถูกจับข้อหารับสินบน จากนั้นการเมืองภายในประเทศของตุรกีก็เริ่มร้อนขึ้น แม้ตัวนายกรัฐมนตรี Erdogan เอง ก็ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการโกง สื่อตีข่าวทุกวัน ขนาดมีการปล่อยเสียงการคุยกันระหว่าง นาย Erdogan กับลูกชาย ชื่อ Bilal ถึงการโอนเงินจำนวนใหญ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับตามอง นาย Erdogan ให้ข่าวว่า ข้อกล่าวหาตัวเขาและลูกชาย เกี่ยวกับเรื่องการโกงนี้ เป็นการกำกับและจัดฉากของนาย Fethullah Gulen ซึ่งสมคบและเลี้ยงดูโดยอเมริกา สนุกจริง ๆ ตอนนี้ไม่ได้เป็นนิยายรักแล้ว แต่เป็นนิยายชีวิต เข้ม ข้น โหด มัน ฮา (ยังไม่รู้ใครจะได้ฮา) สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
20 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 3 Emperor Bush !?

    George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ

    เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย
    นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม

    นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย

    Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ

    และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด
    คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO

    ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า !

    เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด

    คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 3 Emperor Bush !? George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า ! เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 3 Emperor Bush !?

    George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ

    เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย
    นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม

    นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย

    Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ

    และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด
    คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO

    ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า !

    เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด

    คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 3 Emperor Bush !? George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า ! เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • Château Christophe ตอนที่ 2

    นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 2
    Stevens มาเมือง Benghazi ครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2011 เขามาทางเรือบรรทุกสินค้า ซึ่งแล่นมาจาก Malta เป็นเรือเปล่า โดยซ่อนตัวอยู่ในเรือนั้นกับ Nathan Tek เจ้าหน้าด้านความปลอดภัย ทีมงานของ USAID และลูกเรือโดยชาวกรีกและโรมาเนีย ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไร เคยมีคนถามเขาว่ามาทางอื่นไม่ได้หรือไง Stevens บอกว่าเส้นทางนี้มันน่าตื่นเต้นดี เหมือนการผจญภัยในหนังโรแมนติก
    Stevens เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ “Mission” เขาเป็นนักการฑูตที่ใช้ชีวิตการฑูตอยู่แถบตะวันออกกลางและอาฟริกา มาประมาณ 20 ปี เขาเป็นชาวแคลิฟอร์เนีย ท่าทางสบาย ๆ ยิ้มกว้าง เห็นฟันโตเต็มปาก มีชื่อเสียงว่าเป็นคนอดทนและใจเย็น และที่สำคัญเขารู้จักลิเบียอย่างดี เขาเคยเป็นผู้ช่วยฑูตอยู่ที่ Tripoli 2 ปี เมื่อประมาณปี 2007 ตอนนั้นอเมริกายังเป็นมิตรมีไมตรีกับ Qaddafi อยู่
    Stevens เติบโตมาที่ Northern California ย้ายมาเรื่อย จนในที่สุดอยู่ San Francisco เมื่อตอนที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Berkley เขาเลือกเรียนวิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชาเอก รวมทั้งวิชาตรรกวิทยา อิตาเลียน ฯลฯ เพื่อน ๆ บอกไอ้หมอนี้ มันเหมือนตู้หนังสือเดินได้ เขาตัดสินใจตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่ Berkley ว่าจะเป็นนักการฑูต เมื่อเรียนจบก็ไปสอบที่กระทรวงต่างประเทศ แต่ไม่ผ่าน เขาเลยสมัครเป็น Peace Corps และไปสอนภาษาอังกฤษอยู่แถวเมือ งบนภูเขาในโมรอคโค ซึ่งแถบจะไม่มีผู้คน มีแต่พรม และธรรมชาติที่แสนจะงดงาม ทำให้ Stevens หลงรักเมืองแถบอาหรับ เมื่อเขาจบเทอม 2 ปี ของการเป็น Peace Corps เขากลับมา California และเรียนกฎหมายต่อจบได้ปริญญา และทำงานในสำนักงานกฎหมายหรูหรามีชื่อเสียงอยู่ในกรุงวอชิงตัน
    แต่เขาไม่เคยลืมความฝันที่จะเป็นนัการฑูต เขาเลยกลับไปสอบกับกระทรวงต่างประเทศใหม่ คราวนี้สอบผ่าน ค.ศ. 1991 เขาเริ่มฝึกงานและไปประจำอยู่ Riyadh หลังจากนั้นก็ย้ายไปตามเมือง ต่าง ๆ ในแถบทะเลทราย ซึ่งพวกฑูตเรียกกันว่า “Sandbox” เขาเรียนภาษาอารบิคที่ Tunisia หลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่ Cairo, Damacus และ Jeusalem เมื่อย้ายกลับไปอยู่วอชิงตัน เขายังมีหน้าที่ดูแล Iran เขาวนเวียนอยู่แถว Sandbox นี้แหละ
    เขาไม่เคยได้รับตำแหน่งที่มาอยู่แถบ Asia หรือ Scandinavia เลย ระหว่างที่วนเวียนอยู่แถบนั้น เขามีแฟนเป็นชาวยุโรป ชื่อ Henritte ซึ่งเจอกับ Stevens ที่ Jerusarem ตั้งแต่ปี 2003 รักๆเลิกๆอยู่ 9 ปี เธอบอกว่าเมื่อถาม Stevens ว่า เธอชอบฉันตรงไหน Stevens ตอบว่าฉันชอบกลิ่นของเธอ กลิ่นที่ปนอยู่กับกาแฟและถั่ว กลิ่นยาเส้นผสมน้ำแอปเปิ้ล ชอบสีของคนอาหรับ ชอบความรู้สึกเวลาสัมผัสกับพรมและผ้าไหม ชอบเสียงเวลาพวกเขาสวดมนตร์ และชอบวิถีชีวิตที่วุ่นวายสับสนของพวกเขา ชอบทิวทัศน์ของบ้านเมือง ชอบเพลง ชอบภาษา ทั้งหมดนี้มันแสดงให้เห็นรากเหง้าของพวกเขา ที่ยาวนาน เมื่อดูพร้อมกับการเมืองที่วุ่นวายของพวกเขาแล้ว มันเป็นเรื่องยิ่งกว่าน่าสนใจและท้าทาย มันทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา สาวบอกตกลงเธอชอบฉัน หรือชอบเมืองอาหรับกันแน่
    คนเล่านิทาน
    7 มิย. 57
    Château Christophe ตอนที่ 2 นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 2 Stevens มาเมือง Benghazi ครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2011 เขามาทางเรือบรรทุกสินค้า ซึ่งแล่นมาจาก Malta เป็นเรือเปล่า โดยซ่อนตัวอยู่ในเรือนั้นกับ Nathan Tek เจ้าหน้าด้านความปลอดภัย ทีมงานของ USAID และลูกเรือโดยชาวกรีกและโรมาเนีย ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไร เคยมีคนถามเขาว่ามาทางอื่นไม่ได้หรือไง Stevens บอกว่าเส้นทางนี้มันน่าตื่นเต้นดี เหมือนการผจญภัยในหนังโรแมนติก Stevens เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ “Mission” เขาเป็นนักการฑูตที่ใช้ชีวิตการฑูตอยู่แถบตะวันออกกลางและอาฟริกา มาประมาณ 20 ปี เขาเป็นชาวแคลิฟอร์เนีย ท่าทางสบาย ๆ ยิ้มกว้าง เห็นฟันโตเต็มปาก มีชื่อเสียงว่าเป็นคนอดทนและใจเย็น และที่สำคัญเขารู้จักลิเบียอย่างดี เขาเคยเป็นผู้ช่วยฑูตอยู่ที่ Tripoli 2 ปี เมื่อประมาณปี 2007 ตอนนั้นอเมริกายังเป็นมิตรมีไมตรีกับ Qaddafi อยู่ Stevens เติบโตมาที่ Northern California ย้ายมาเรื่อย จนในที่สุดอยู่ San Francisco เมื่อตอนที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Berkley เขาเลือกเรียนวิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชาเอก รวมทั้งวิชาตรรกวิทยา อิตาเลียน ฯลฯ เพื่อน ๆ บอกไอ้หมอนี้ มันเหมือนตู้หนังสือเดินได้ เขาตัดสินใจตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่ Berkley ว่าจะเป็นนักการฑูต เมื่อเรียนจบก็ไปสอบที่กระทรวงต่างประเทศ แต่ไม่ผ่าน เขาเลยสมัครเป็น Peace Corps และไปสอนภาษาอังกฤษอยู่แถวเมือ งบนภูเขาในโมรอคโค ซึ่งแถบจะไม่มีผู้คน มีแต่พรม และธรรมชาติที่แสนจะงดงาม ทำให้ Stevens หลงรักเมืองแถบอาหรับ เมื่อเขาจบเทอม 2 ปี ของการเป็น Peace Corps เขากลับมา California และเรียนกฎหมายต่อจบได้ปริญญา และทำงานในสำนักงานกฎหมายหรูหรามีชื่อเสียงอยู่ในกรุงวอชิงตัน แต่เขาไม่เคยลืมความฝันที่จะเป็นนัการฑูต เขาเลยกลับไปสอบกับกระทรวงต่างประเทศใหม่ คราวนี้สอบผ่าน ค.ศ. 1991 เขาเริ่มฝึกงานและไปประจำอยู่ Riyadh หลังจากนั้นก็ย้ายไปตามเมือง ต่าง ๆ ในแถบทะเลทราย ซึ่งพวกฑูตเรียกกันว่า “Sandbox” เขาเรียนภาษาอารบิคที่ Tunisia หลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่ Cairo, Damacus และ Jeusalem เมื่อย้ายกลับไปอยู่วอชิงตัน เขายังมีหน้าที่ดูแล Iran เขาวนเวียนอยู่แถว Sandbox นี้แหละ เขาไม่เคยได้รับตำแหน่งที่มาอยู่แถบ Asia หรือ Scandinavia เลย ระหว่างที่วนเวียนอยู่แถบนั้น เขามีแฟนเป็นชาวยุโรป ชื่อ Henritte ซึ่งเจอกับ Stevens ที่ Jerusarem ตั้งแต่ปี 2003 รักๆเลิกๆอยู่ 9 ปี เธอบอกว่าเมื่อถาม Stevens ว่า เธอชอบฉันตรงไหน Stevens ตอบว่าฉันชอบกลิ่นของเธอ กลิ่นที่ปนอยู่กับกาแฟและถั่ว กลิ่นยาเส้นผสมน้ำแอปเปิ้ล ชอบสีของคนอาหรับ ชอบความรู้สึกเวลาสัมผัสกับพรมและผ้าไหม ชอบเสียงเวลาพวกเขาสวดมนตร์ และชอบวิถีชีวิตที่วุ่นวายสับสนของพวกเขา ชอบทิวทัศน์ของบ้านเมือง ชอบเพลง ชอบภาษา ทั้งหมดนี้มันแสดงให้เห็นรากเหง้าของพวกเขา ที่ยาวนาน เมื่อดูพร้อมกับการเมืองที่วุ่นวายของพวกเขาแล้ว มันเป็นเรื่องยิ่งกว่าน่าสนใจและท้าทาย มันทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา สาวบอกตกลงเธอชอบฉัน หรือชอบเมืองอาหรับกันแน่ คนเล่านิทาน 7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • มายากลยุทธ ภาค 2 ตอน ผู้ดีขี้ขโมย
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 19 : ผู้ดีขี้ขโมย
    คงจำกันได้ อิหร่านพบน้ำมันตั้งแต่ยังใช้ชื่อประเทศว่าเปอร์เซีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 อังกฤษไม่มีน้ำมันของตนเอง จึงโดดเข้าไปคว้าข้อมือมาทำสัญญา ยังไม่หยุดแค่นั้น กลิ่นน้ำมันมันแรงเกินห้ามใจ อังกฤษบุกเข้าไปในอิหร่าน และบังคับให้อิหร่านให้สัญญาสัมปทานกับ Royal Dutch Shell ซึ่งรัฐบาลอังกฤษถือหุ้นร่วมอยู่ด้วย
    วันดีคืนดี ปี ค.ศ. 1944 คนรักชาติ ชื่อนาย Mohammad Mossadegh ทนไม่ไหว ลุกขึ้นเสนอให้อิหร่านออกกฎหมาย ห้ามเจรจาขายน้ำมันกับบริษัทต่างชาติ (สมันน้อยอ่านเรื่องอิหร่าน หลายหนหน่อยนะ เผื่อต้องใช้) อังกฤษโมโหจนหน้ามืด ยกทัพบุกเข้าไปในอิหร่านต่อสู้กันอยู่พักใหญ่ ค.ศ. 1948 อังกฤษก็ถอนทัพออกมา แต่บอกว่า ประเทศยูอยู่ในความควบคุมของไอแล้วนะ ผ่านการควบคุม โดย Anglo Iranian Oil Company แหล่งน้ำมันอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในโลกขณะนั้น เออ ! หน้าด้าน ๆ แบบนั้นแหละ
    ระหว่างการต่อสู้ ปีค.ศ. 1947 รัฐบาลอิหร่านกระซิบเบา ๆ บอกอังกฤษว่า นายท่าน Venezuela ที่เขาทำสัญญากับ Standard Oil น่ะนะ เขาให้ส่วนแบ่ง 50:50 นะ นายท่านฉุนขาด บังอาจมาก ไม่ตกลงโว้ย คุณ Mossadegh แกก็อดทน รอไว้ก่อนวันหน้ายังมี ก็รบแพ้เขานี่ แล้วแกก็ตัดสินใจเข้าสู่การเมือง
เมื่อได้เป็นผู้แทนก็พยายามอภิปรายหว่านล้อมสภา จนสภามีมติให้ไปเจรจาขอส่วนแบ่ง 50:50 กับอังกฤษต่อ
    อังกฤษปฏิเสธเหมือนเดิม แต่คราวนี้โลกมันคงหมุนกลับทาง คุณ Mossadegh ได้เป็นนายกรัฐมนตรี งานแรกที่คุณ Mossadegh ทำคือ ยึดคืนบริษัท Anglo Iranian Oil Company (คนเล่านิทานขอสดุดี) โดยยอมจ่ายค่าเสียหายให้อังกฤษ (สุภาพบุรุษมาก) แต่อังกฤษไม่เป็นสุภาพบุรุษด้วย กลับใช้วิธีขี้แพ้ชั้นเลวตอบโต้ อังกฤษไม่รอช้า เริ่มใช้วิธีคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอิหร่าน (Economic Sanction) และห้ามการซื้อขายน้ำมันตามมา (Oil Embargo) นอกจากนี้ ทรัพย์สินของอิหร่านที่ฝากอยู่ในธนาคารอังกฤษถูกอายัด ค่ายน้ำมันฝั่ง Anglo – American ต่างสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรของอังกฤษ เศรษฐกิจอิหร่านพังทลาย จากที่มีรายได้จากขายน้ำมัน ในปีค.ศ. 1950 จำนวน 400 ล้านเหรียญ เหลือเพียง 2 ล้าน (อ่านว่าสองล้าน) เหรียญในปีค.ศ. 1951 ! มันโหดจริง ๆ นะ น้ำมันก็ของเขา อยู่ในบ้านเขา พอเขาไม่ยอมให้โกงต่อไป มันก็ใช้อำนาจข่มขู่
    มันไม่ใช่แค่นั้น อเมริกาช่วยส่งนักจัดรายการยี่ห้อ CIA บวก SIS ของอังกฤษเข้าไปร่วมกระชับวงล้อม ผลคงเดากันออก คุณ Mossadegh ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และมีการอุ้ม Shah Reza Pahlavi เข้ามาในตำแหน่งแทน การคว่ำบาตรยกเลิก หงายบาตรรับเงินต่อไป อเมริกาและอังกฤษก็ได้เข้าไปทำการค้าควบคุมเหมือนเดิม ผ่านไป 30 ปี วงจรอุบาทย์ก็กลับมาใหม่ โดยคนกำกับการแสดงรายเก่า นักจัดรายการยี่ห้อเก่า แต่เหยื่อเปลี่ยนจากคุณ Mossadegh เป็นท่าน Shah เฮ้อ ! โลกมันเป็นอย่างนี้แหละ น้ำมันมันมีค่าถึงขนาดนี้เชียวหรือ เรามาพากันรณณรงค์ใช้น้ำมันหมู หรือน้ำมันมะพร้าวกันดีไหม สมันน้อย พวกมันจะได้ไม่ยุ่งกับเรา 555
    เรื่องของอิหร่านไม่จบง่าย ๆ อังกฤษพยายามทำเป็นลืมเรื่อง 50:50 กับอิหร่าน แต่มันก็มีคนมากระตุก ทำให้โลหิตกระอักขึ้นมาใหม่
    ประมาณปีค.ศ. 1957 มีบริษัทน้ำมันอิตาเลี่ยนเกิดขึ้นมาใหม่ ชื่อ Azienda Generale Italiana Petroli ชื่อยาวจัง แต่ที่เรารู้จักเขาในนาม AGIP น่ะ ผู้ก่อตั้งชื่อ Enrico Mattei คุณ Mattei นี้ไม่ธรรมดา แกพยายามหาแหล่งน้ำมันให้ประเทศแก แต่ไม่สำเร็จ เพราะตอนที่ Anglo American คว่ำบาตรอิหร่าน คุณ Mattei แสดงความไม่เห็นด้วย แน่นอนแกย่อมถูกขึ้นบัญชีดำไว้ คุณ Mattei ไม่ย่อท้อ พยายามเดินเรื่องให้มีการออกกฎหมายใหม่ และในที่สุดอิตาลี ก็ตั้งบริษัทน้ำมันแบบรัฐถือหุ้นร่วมด้วย ชื่อ Ente Nazionale Idrocarburi (ENI) โดยมี AGIP เป็นบริษัทลูก
    แล้วคุณ Mattei ก็เดินเข้าไปขอเจรจาขุดเจาะน้ำมันกับอิหร่านโดยเสนอส่วนแบ่งให้อิหร่าน 75 และผู้ขุดเอา 25 มันกลับทางจากที่อิหร่านได้อยู่จากอังกฤษ เป็นไปได้ยังไง ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ พวกเราก็รวยน้อยลงซินะ พวกนายท่านต่างไม่พอใจ เรื่องนี้ต้องจบ เข้าใจไหม
    คุณ Mattei นอกจากบอกว่าไม่เข้าใจ และยังไม่สนใจ เขาเดินหน้าต่อ ท้าทายบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายหนักเข้าไปอีก ด้วยการเข้าไปติดต่อกับแหล่งน้ำมันในประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของนายท่าน ด้วยเงื่อนไขที่ดีกว่านายท่านแบ่งมาให้ ท้าทายแค่นี้คงยังไม่สะใจ (เฮ้อ ! อยากได้คุณ Mattei พันธ์ไทยสักคน)
    ปีค.ศ. 1960 คุณ Mattei ได้กระทำการที่นายท่านบอกว่า พอกันที มันไม่ใช่แค่หยามหน้าเราแล้วนะ แต่มันกำลังเหยียบหน้าเรา เพราะคุณ Mattei เข้าไปเจรจากับโซเวียตเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่นายท่านโคตรรวยทั้งหลายอยากได้แต่ไม่ได้น่ะ เขาทำสัญญาตกลงซื้อน้ำมันดิบปีละ 2.4 ล้านตัน จากโซเวียตเป็นเวลา 5 ปี โดยไม่ต้องจ่ายเป็นเงิน แต่ตกลงจะสร้างท่อส่งน้ำมัน ที่โซเวียตอยากได้หนักหนาแทนให้ มันจะเป็นท่อส่งน้ำมันที่เป็น network ระหว่างน้ำมันในรัสเซียไปยัง Czechoslovakia Poland และ Hungary จำนวน 15 ล้านตันต่อปี เมื่อเสร็จสมบูรณ์
    หลังจากทำสัญญาได้ 1 เดือน คุณ Mattei ก็ตาย ตายจริง ๆ เนื่องจากเครื่องบินส่วนตัวตก หลังจากขึ้นบินไปไม่นาน สัญญาที่คุณ Mattei สร้างประวัติศาสตร์ไว้มีกับ อิหร่าน รัสเซีย โมรอคโค ซูดาน แทนซาเนีย กานา อินเดีย และอาร์เจนตินา แน่นอนสัญญาเหล่านี้ ทำให้พวกโคตรรวย นายท่าน ทั้งหลาย กลายเป็นผู้ร้ายแทนผู้ดีโคตรรวย !

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 2 ตอน ผู้ดีขี้ขโมย นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 19 : ผู้ดีขี้ขโมย คงจำกันได้ อิหร่านพบน้ำมันตั้งแต่ยังใช้ชื่อประเทศว่าเปอร์เซีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 อังกฤษไม่มีน้ำมันของตนเอง จึงโดดเข้าไปคว้าข้อมือมาทำสัญญา ยังไม่หยุดแค่นั้น กลิ่นน้ำมันมันแรงเกินห้ามใจ อังกฤษบุกเข้าไปในอิหร่าน และบังคับให้อิหร่านให้สัญญาสัมปทานกับ Royal Dutch Shell ซึ่งรัฐบาลอังกฤษถือหุ้นร่วมอยู่ด้วย วันดีคืนดี ปี ค.ศ. 1944 คนรักชาติ ชื่อนาย Mohammad Mossadegh ทนไม่ไหว ลุกขึ้นเสนอให้อิหร่านออกกฎหมาย ห้ามเจรจาขายน้ำมันกับบริษัทต่างชาติ (สมันน้อยอ่านเรื่องอิหร่าน หลายหนหน่อยนะ เผื่อต้องใช้) อังกฤษโมโหจนหน้ามืด ยกทัพบุกเข้าไปในอิหร่านต่อสู้กันอยู่พักใหญ่ ค.ศ. 1948 อังกฤษก็ถอนทัพออกมา แต่บอกว่า ประเทศยูอยู่ในความควบคุมของไอแล้วนะ ผ่านการควบคุม โดย Anglo Iranian Oil Company แหล่งน้ำมันอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในโลกขณะนั้น เออ ! หน้าด้าน ๆ แบบนั้นแหละ ระหว่างการต่อสู้ ปีค.ศ. 1947 รัฐบาลอิหร่านกระซิบเบา ๆ บอกอังกฤษว่า นายท่าน Venezuela ที่เขาทำสัญญากับ Standard Oil น่ะนะ เขาให้ส่วนแบ่ง 50:50 นะ นายท่านฉุนขาด บังอาจมาก ไม่ตกลงโว้ย คุณ Mossadegh แกก็อดทน รอไว้ก่อนวันหน้ายังมี ก็รบแพ้เขานี่ แล้วแกก็ตัดสินใจเข้าสู่การเมือง
เมื่อได้เป็นผู้แทนก็พยายามอภิปรายหว่านล้อมสภา จนสภามีมติให้ไปเจรจาขอส่วนแบ่ง 50:50 กับอังกฤษต่อ อังกฤษปฏิเสธเหมือนเดิม แต่คราวนี้โลกมันคงหมุนกลับทาง คุณ Mossadegh ได้เป็นนายกรัฐมนตรี งานแรกที่คุณ Mossadegh ทำคือ ยึดคืนบริษัท Anglo Iranian Oil Company (คนเล่านิทานขอสดุดี) โดยยอมจ่ายค่าเสียหายให้อังกฤษ (สุภาพบุรุษมาก) แต่อังกฤษไม่เป็นสุภาพบุรุษด้วย กลับใช้วิธีขี้แพ้ชั้นเลวตอบโต้ อังกฤษไม่รอช้า เริ่มใช้วิธีคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอิหร่าน (Economic Sanction) และห้ามการซื้อขายน้ำมันตามมา (Oil Embargo) นอกจากนี้ ทรัพย์สินของอิหร่านที่ฝากอยู่ในธนาคารอังกฤษถูกอายัด ค่ายน้ำมันฝั่ง Anglo – American ต่างสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรของอังกฤษ เศรษฐกิจอิหร่านพังทลาย จากที่มีรายได้จากขายน้ำมัน ในปีค.ศ. 1950 จำนวน 400 ล้านเหรียญ เหลือเพียง 2 ล้าน (อ่านว่าสองล้าน) เหรียญในปีค.ศ. 1951 ! มันโหดจริง ๆ นะ น้ำมันก็ของเขา อยู่ในบ้านเขา พอเขาไม่ยอมให้โกงต่อไป มันก็ใช้อำนาจข่มขู่ มันไม่ใช่แค่นั้น อเมริกาช่วยส่งนักจัดรายการยี่ห้อ CIA บวก SIS ของอังกฤษเข้าไปร่วมกระชับวงล้อม ผลคงเดากันออก คุณ Mossadegh ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และมีการอุ้ม Shah Reza Pahlavi เข้ามาในตำแหน่งแทน การคว่ำบาตรยกเลิก หงายบาตรรับเงินต่อไป อเมริกาและอังกฤษก็ได้เข้าไปทำการค้าควบคุมเหมือนเดิม ผ่านไป 30 ปี วงจรอุบาทย์ก็กลับมาใหม่ โดยคนกำกับการแสดงรายเก่า นักจัดรายการยี่ห้อเก่า แต่เหยื่อเปลี่ยนจากคุณ Mossadegh เป็นท่าน Shah เฮ้อ ! โลกมันเป็นอย่างนี้แหละ น้ำมันมันมีค่าถึงขนาดนี้เชียวหรือ เรามาพากันรณณรงค์ใช้น้ำมันหมู หรือน้ำมันมะพร้าวกันดีไหม สมันน้อย พวกมันจะได้ไม่ยุ่งกับเรา 555 เรื่องของอิหร่านไม่จบง่าย ๆ อังกฤษพยายามทำเป็นลืมเรื่อง 50:50 กับอิหร่าน แต่มันก็มีคนมากระตุก ทำให้โลหิตกระอักขึ้นมาใหม่ ประมาณปีค.ศ. 1957 มีบริษัทน้ำมันอิตาเลี่ยนเกิดขึ้นมาใหม่ ชื่อ Azienda Generale Italiana Petroli ชื่อยาวจัง แต่ที่เรารู้จักเขาในนาม AGIP น่ะ ผู้ก่อตั้งชื่อ Enrico Mattei คุณ Mattei นี้ไม่ธรรมดา แกพยายามหาแหล่งน้ำมันให้ประเทศแก แต่ไม่สำเร็จ เพราะตอนที่ Anglo American คว่ำบาตรอิหร่าน คุณ Mattei แสดงความไม่เห็นด้วย แน่นอนแกย่อมถูกขึ้นบัญชีดำไว้ คุณ Mattei ไม่ย่อท้อ พยายามเดินเรื่องให้มีการออกกฎหมายใหม่ และในที่สุดอิตาลี ก็ตั้งบริษัทน้ำมันแบบรัฐถือหุ้นร่วมด้วย ชื่อ Ente Nazionale Idrocarburi (ENI) โดยมี AGIP เป็นบริษัทลูก แล้วคุณ Mattei ก็เดินเข้าไปขอเจรจาขุดเจาะน้ำมันกับอิหร่านโดยเสนอส่วนแบ่งให้อิหร่าน 75 และผู้ขุดเอา 25 มันกลับทางจากที่อิหร่านได้อยู่จากอังกฤษ เป็นไปได้ยังไง ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ พวกเราก็รวยน้อยลงซินะ พวกนายท่านต่างไม่พอใจ เรื่องนี้ต้องจบ เข้าใจไหม คุณ Mattei นอกจากบอกว่าไม่เข้าใจ และยังไม่สนใจ เขาเดินหน้าต่อ ท้าทายบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายหนักเข้าไปอีก ด้วยการเข้าไปติดต่อกับแหล่งน้ำมันในประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของนายท่าน ด้วยเงื่อนไขที่ดีกว่านายท่านแบ่งมาให้ ท้าทายแค่นี้คงยังไม่สะใจ (เฮ้อ ! อยากได้คุณ Mattei พันธ์ไทยสักคน) ปีค.ศ. 1960 คุณ Mattei ได้กระทำการที่นายท่านบอกว่า พอกันที มันไม่ใช่แค่หยามหน้าเราแล้วนะ แต่มันกำลังเหยียบหน้าเรา เพราะคุณ Mattei เข้าไปเจรจากับโซเวียตเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่นายท่านโคตรรวยทั้งหลายอยากได้แต่ไม่ได้น่ะ เขาทำสัญญาตกลงซื้อน้ำมันดิบปีละ 2.4 ล้านตัน จากโซเวียตเป็นเวลา 5 ปี โดยไม่ต้องจ่ายเป็นเงิน แต่ตกลงจะสร้างท่อส่งน้ำมัน ที่โซเวียตอยากได้หนักหนาแทนให้ มันจะเป็นท่อส่งน้ำมันที่เป็น network ระหว่างน้ำมันในรัสเซียไปยัง Czechoslovakia Poland และ Hungary จำนวน 15 ล้านตันต่อปี เมื่อเสร็จสมบูรณ์ หลังจากทำสัญญาได้ 1 เดือน คุณ Mattei ก็ตาย ตายจริง ๆ เนื่องจากเครื่องบินส่วนตัวตก หลังจากขึ้นบินไปไม่นาน สัญญาที่คุณ Mattei สร้างประวัติศาสตร์ไว้มีกับ อิหร่าน รัสเซีย โมรอคโค ซูดาน แทนซาเนีย กานา อินเดีย และอาร์เจนตินา แน่นอนสัญญาเหล่านี้ ทำให้พวกโคตรรวย นายท่าน ทั้งหลาย กลายเป็นผู้ร้ายแทนผู้ดีโคตรรวย ! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 16
    จิ๊กโก๋๋ประกบติดไทยแลนด์สยามเมืองยิ้ม ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงสงครามเวียตนามเลิก (ค.ศ.1950 – 1976) เพราะแผนของจิ๊กโก๋๋ ฉากหน้า กูเป็นจิ๊กโก๋๋ใหญ่ ปกป้องชาวซอย ที่ถูกจิ๊กโก๋๋ตาตี่หน้าเหลือง คือ ระบอบคอมมิวนิสต์ แผ่ขยายมากลืนกินประชาชาติแถบนี้
    แต่ฉากของจริง คือ ไอ้จิ๊กโก๋๋ผมทอง มันกลัวว่า ไอ้ตาตี่มันจะมาชิงลูกค้าเราไป เราจะยอมมันได้ไง หมดสงครามเวียตนาม ความต้องการใช้ไทยแลนด์ แดนสยามก็หยุดลงชั่วคราว
    จิ๊กโก๋๋จำเป็นต้องไปหากินซอยอื่น เพราะว่า การใช้น้ำมันทั่วโลกกำลังพุ่งแรงจากการขยายตัวของอุตสาหกรรม หรือพูดให้ชัดจากทุนนิยมที่เร่งขยายตัว
    จิ๊กโก๋๋ก็ต้องหาทางเอาน้ำมัน มาเป็นของตนเองให้มากที่สุด ก็เลยไปขุดเผือกขุดน้ำมันแถวบ้านคุณอาที่มีน้ำมัน จำได้ไหม แล้วก็เผ่นไปยุ่งถึงอเมริกาใต้ เกิดเรื่องอิหร่าน คอนทร้า (Iran Contra) จนวุ่นไปหมด
    มันไปหมดทุกแห่งที่จะล้วงกระเป๋าเขาได้ มาจนถึงปี ค.ศ.1997 จิ๊กโก๋๋เองขนาดล้วงกระเป๋าเขามา 50 ปี ก็จนเป็นเหมือนกัน เกิดภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ด การเพ่นพ่านของจิ๊กโก๋๋ ก็สงบลงเล็กน้อย เพราะมัวแต่จัดระเบียบบ้านตัวเอง
    ขณะเดียวกันประเทศที่ได้เอกราชใหม่ๆ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่น อินเดีย หรือประเทศที่เปลี่ยน แปลงวิธีบริหารประเทศของตัวเอง เช่น ประเทศจีน ก็ก้มหน้าก้มตาพัฒนาประเทศตัวเอง อย่างเร่งรีบ แต่เงียบเชียบ
    อเมริกาไม่เคยเห็นคนอื่นอยู่ในสายตา จับมืออยู่กันแต่ในกลุ่มหัว 3 เกลอหัวแข็งเท่านั้น บวกเอาญาติโยม และพวกฝ่ายผมทองเข้าไปด้วยเฉพาะที่ เห็นว่าพอจะคุยกันรู้เรื่อง ถึงได้เกิด EU สหภาพยุโรป G7, G8 อะไรนู่น เอาญี่ปุ่นตาตี่ไปรวมด้วย (เพราะเป็นภาระของสหรัฐโดยตรง ก็ทะลึ่งไปบอมบ์เขานี่นะ ก็เลยต้องพ่วงเป็นลูก บุญธรรมไปด้วยตลอดเวลา) ที่เหลือมันเหยื่อนักล่านักล้วงทั้งนั้นแหละ
    อเมริกาเมินภูมิภาคแถบนี้ไปนาน เพราะคิดว่าเหลือแต่ซากหลังสงครามเวียตนาม เหมือนแถบยุโรปตะวันออกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
    หันมาอีกที ต๊กกะใจ ว้าย ตาเถร ไอ้ตาตี่ทำไมมันโตเร็วกลายเป็น อาเฮียพุงพลุ้ยเดินโปรยเงินไปทั่ว จีนโตเร็วและทำท่าจะโตไปเรื่อยๆ บวกกับอินเดียและที่รวมตัวกันเรียกว่า กลุ่มประเทศที่เกิดใหม่ทางเศรษฐกิจ คือ กลุ่ม BRICS บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน อาฟริกาใต้
    คิดง่ายๆ แค่จีนกับอินเดียรวมกันมีประชากร 3 พันกว่าล้านคน ทั้งโลกนี้มีประชากร 7 พันกว่าล้านคน แค่ 2 ประเทศ ก็เกือบครึ่งโลกแล้ว กำลังซื้อมันจะขนาดไหน แค่นัดกระทืบเท้าพร้อมกัน โลกก็เอียงแล้ว (น่าลองดูนะ ซ่ามากๆ ก็ถล่มมันชะเลย)
    จิ๊กโก๋๋คิดแล้วก็หัวหมุนกลับ หันมาไทยแลนด์แดนสยามอีกครั้ง ในปี พ.ศ.2542 /ค.ศ.1999 ตรงกับปีที่เศรษฐกิจจีนเริ่มโตอย่างชัดเจน
    แล้วทำไงดีล่ะ ตัวทิ้งเค้าไปตั้งนาน อยู่ๆ จะกลับมา จ้ะๆ จ๋าๆ เหมือนเดิมกันง่ายๆ แบบนั้น เค้าไม่ใช่ หญิงคนชั่วเร่ขายชาตินะยะ แล้วตัวจำได้มั้ย ตอนเค้าตูดขาดเหลือแต่คลัง เงินไม่มีให้คงไว้น่ะ เพราะรัฐบาลน้าจิ๋ว กะรัฐบาลปี๋ชวนทำซะบักโกรกน่ะ เขาส่งอ้ายน้อยไปหาตัว ตัวทำอะไรกับเขา เขาจำได้นะ ให้ไอ้ IMF มันโหดกะเค้ายังไง ไปถามพวกเจ้าของธนาคาร หวั่งหลี ล่ำซำ หรือคุณป๋าประชัยแห่ง TPI หรือเฮียหวัดเจ้าของวลี ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ดูก็แล้วกันว่าหายช้ำหรือยัง
    อเมริกาจะกลับมาภูมิภาคนี้ใหม่ ก็ต้องกลับมาแบบไม่ให้เสียเชิง ไม่เสียฟอร์มนักทฤษฎี นักสร้างฉาก ลองทายดูซิ จิ๊กโก๋๋จะกลับมาแบบไหน กลับมาแบบเท่ห์ๆ น่ะ ฮา
    ช่วงสงครามเวียตนาม อเมริกาคบกับทหารไทย นักวิ่งผลัดจนรู้เช่นเห็นชาติ ว่าชอบกินอาหารจานด่วนแบบไหน หลอกล่อ ต่อรอง เห่กล่อม อย่างไร ถึงจะไม่งอแง พอเลิกใช้บริการนักวิ่งผลัด พี่เบิ้มก็ไปใช้พวกเด็กในคาถา good boy technocrat
    ดังนั้นเวลาหวนกลับ มันก็ไม่พ้นประตู 2 ช่องนี่แหละ จะพูดกับใครรู้เรื่องไปกว่าพวกที่เคยมือ รู้ใจกัน
    ว่าแล้วจิ๊กโก๋๋ก็เรียก good boy มาสัมภาษณ์ทีละคน โดยทำเป็นเชิญมาทานข้าวบ้าง ดื่มน้ำชาบ้าง ไล่ไปตั้งกะใหญ่โต ระดับองคมนตรี ข้าราชการ นักวิชาการ นักการเมืองทุกค่าย นักธุรกิจ จนถึงสื่อ
    ถามทุกเรื่องลับแบบเจาะลึก ท่านต่างๆ ก็ช่างตอบกันดีนัก อย่างกะขึ้นสังกัดกับเขา บางเรื่องเป็นเรื่องในบ้านเราแท้ๆ ไม่เห็นเกี่ยวกับคนนอกเลย ก็ตอบเขาเอา ตอบเอา (ขอขอบคุณ อภินันทนาการ เอกสารรั่ววิกิลีกส์ ทำให้รู้ว่า ใครช่างจ้อ ขนาดไหน)
    นอกจากนี้ก็ให้พวกซี ในคราบเจ้าหน้าที่สถานทูต เดินไปตามงานเลี้ยงไฮโซต่างๆ เก็บข่าวทุกวัน ใครกำลังขึ้น ใครกำลังลง พระราชวงศ์จะเป็นอย่างไร ใบไม้ใบไหนกำลังออกใหม่ ใบไหนกำลังจะร่วง ถามมันไปหมดทุกเรื่องนะแหละ
    เขาเล่ากันว่าสถานทูตสหรัฐในไทยนะใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อันดับ 1 อยู่ที่อียิปต์ ที่ประเทศไทยนี้มีพนักงานประจำการอยู่กว่า 2 พันคน และที่ไม่ประจำอีกกว่า 2 พันคน โว้ย! มันเอามาทำไรแยะขนาดนี้ กะจะนับใบไม้ทุกใบหรือไงวะ ก็คงตกค้างตั้งกะสมัยรบสงครามเวียตนามน่ะนะ ตอนนั้นใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์ กลางบัญชาการรบ ก็จะให้พวกพี่เขาไปอยู่ที่ไหนล่ะ แถบนี้ ใครมันจะเจริญ แถมแสงสีเสียงครบแบบไทยแลนด์ล่ะ
    หลังจากทั้งซัก ทั้งฟอก เด็กในคาถา เดินสำรวจตามงานหรู ไม่ว่าของราชการ ไฮโซ สปอร์ตคลับฯลฯ หลายรอบ พี่เบิ้มก็ถอนใจ
    อู้ย จากไปไม่เท่าไหร่ ไม่คุมเอง ทำไม ไทยแลนด์ มันไม่ใช่แดนสยามเมืองยิ้ม อย่างเมื่อก่อนนะ นี่มันดันกลายเป็นสนามประลองกีฬาสีนี่นา แต่กีฬาสีนี้มันหนักน่ะ ใครจะอยู่ใครจะไป ไอยังไม่แน่ใจ
    อย่ากระนั้นเลย เอาที่แน่ๆ กลับไปที่นักกีฬาวิ่งผลัดดีกว่า เออ! เพิ่งนึกออก บ้านเรานี่มันนักกีฬาแยะนะ ไม่วิ่งผลัด ก็กีฬาสี 5 5 5
    อเมริกาส่งแม่ทัพเรือภาคที่ 7 ที่ประจำอยู่ที่โอกินาวาของลูกกะเป๋ง มาเยี่ยมไทยแลนด์ ทบทวนความ สัมพันธ์ที่มีมานานกว่า 50 ปี เรียกว่าเป็นมิตรรักระดับเดียวกับ พวกนาโต (NATO) ร่วมซ้อมรบด้วยกัน ทุกปีในนามของคอบบร้า โกลด์ (Cobra Gold) ขึ้นบกทีไร น้องหนูแถวพัทยา ภูเก็ตก็แฮ้ปปี้กระดี้กระด้า นอกจากนั้นในช่วงเกิดเหตุการณ์ ซึนามิ ไทยแลนด์ก็ใจดีให้ใช้อู่ตะเภาเป็นสนามบินที่ใช้ในการช่วยบรรเทาทุก แต่ข่าวที่ไม่เปิดเผยคือ ช่วงรัฐบาลทักษิณ ไทยเราอนุญาตให้เครื่องบินอเมริกัน บินขึ้นลงจากอู่ตะเภาเพื่อไปปฏิบัติการรบในอิรักและอาฟกานิสถานด้วยนะ (สมันน้อยไม่เข็ด!)
    แล้วอเมริกาทำไมถึงอยากกลับมายุ่งในภูมิภาคนี้ใหม่ โดยเฉพาะเข้ามาเดินกร่างในไทยแลนด์เหมือน เดิม แค่เรื่องอาเฮีย จากนั่งแทะเม็ดกวยจี๋ กลายเป็นเจ้าสัวกระเป๋าหนัก มันเกี่ยวอะไรกะสมันน้อยด้วยล่ะ

    คนเล่านิทาน
    ตอน 16 จิ๊กโก๋๋ประกบติดไทยแลนด์สยามเมืองยิ้ม ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงสงครามเวียตนามเลิก (ค.ศ.1950 – 1976) เพราะแผนของจิ๊กโก๋๋ ฉากหน้า กูเป็นจิ๊กโก๋๋ใหญ่ ปกป้องชาวซอย ที่ถูกจิ๊กโก๋๋ตาตี่หน้าเหลือง คือ ระบอบคอมมิวนิสต์ แผ่ขยายมากลืนกินประชาชาติแถบนี้ แต่ฉากของจริง คือ ไอ้จิ๊กโก๋๋ผมทอง มันกลัวว่า ไอ้ตาตี่มันจะมาชิงลูกค้าเราไป เราจะยอมมันได้ไง หมดสงครามเวียตนาม ความต้องการใช้ไทยแลนด์ แดนสยามก็หยุดลงชั่วคราว จิ๊กโก๋๋จำเป็นต้องไปหากินซอยอื่น เพราะว่า การใช้น้ำมันทั่วโลกกำลังพุ่งแรงจากการขยายตัวของอุตสาหกรรม หรือพูดให้ชัดจากทุนนิยมที่เร่งขยายตัว จิ๊กโก๋๋ก็ต้องหาทางเอาน้ำมัน มาเป็นของตนเองให้มากที่สุด ก็เลยไปขุดเผือกขุดน้ำมันแถวบ้านคุณอาที่มีน้ำมัน จำได้ไหม แล้วก็เผ่นไปยุ่งถึงอเมริกาใต้ เกิดเรื่องอิหร่าน คอนทร้า (Iran Contra) จนวุ่นไปหมด มันไปหมดทุกแห่งที่จะล้วงกระเป๋าเขาได้ มาจนถึงปี ค.ศ.1997 จิ๊กโก๋๋เองขนาดล้วงกระเป๋าเขามา 50 ปี ก็จนเป็นเหมือนกัน เกิดภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ด การเพ่นพ่านของจิ๊กโก๋๋ ก็สงบลงเล็กน้อย เพราะมัวแต่จัดระเบียบบ้านตัวเอง ขณะเดียวกันประเทศที่ได้เอกราชใหม่ๆ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่น อินเดีย หรือประเทศที่เปลี่ยน แปลงวิธีบริหารประเทศของตัวเอง เช่น ประเทศจีน ก็ก้มหน้าก้มตาพัฒนาประเทศตัวเอง อย่างเร่งรีบ แต่เงียบเชียบ อเมริกาไม่เคยเห็นคนอื่นอยู่ในสายตา จับมืออยู่กันแต่ในกลุ่มหัว 3 เกลอหัวแข็งเท่านั้น บวกเอาญาติโยม และพวกฝ่ายผมทองเข้าไปด้วยเฉพาะที่ เห็นว่าพอจะคุยกันรู้เรื่อง ถึงได้เกิด EU สหภาพยุโรป G7, G8 อะไรนู่น เอาญี่ปุ่นตาตี่ไปรวมด้วย (เพราะเป็นภาระของสหรัฐโดยตรง ก็ทะลึ่งไปบอมบ์เขานี่นะ ก็เลยต้องพ่วงเป็นลูก บุญธรรมไปด้วยตลอดเวลา) ที่เหลือมันเหยื่อนักล่านักล้วงทั้งนั้นแหละ อเมริกาเมินภูมิภาคแถบนี้ไปนาน เพราะคิดว่าเหลือแต่ซากหลังสงครามเวียตนาม เหมือนแถบยุโรปตะวันออกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หันมาอีกที ต๊กกะใจ ว้าย ตาเถร ไอ้ตาตี่ทำไมมันโตเร็วกลายเป็น อาเฮียพุงพลุ้ยเดินโปรยเงินไปทั่ว จีนโตเร็วและทำท่าจะโตไปเรื่อยๆ บวกกับอินเดียและที่รวมตัวกันเรียกว่า กลุ่มประเทศที่เกิดใหม่ทางเศรษฐกิจ คือ กลุ่ม BRICS บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน อาฟริกาใต้ คิดง่ายๆ แค่จีนกับอินเดียรวมกันมีประชากร 3 พันกว่าล้านคน ทั้งโลกนี้มีประชากร 7 พันกว่าล้านคน แค่ 2 ประเทศ ก็เกือบครึ่งโลกแล้ว กำลังซื้อมันจะขนาดไหน แค่นัดกระทืบเท้าพร้อมกัน โลกก็เอียงแล้ว (น่าลองดูนะ ซ่ามากๆ ก็ถล่มมันชะเลย) จิ๊กโก๋๋คิดแล้วก็หัวหมุนกลับ หันมาไทยแลนด์แดนสยามอีกครั้ง ในปี พ.ศ.2542 /ค.ศ.1999 ตรงกับปีที่เศรษฐกิจจีนเริ่มโตอย่างชัดเจน แล้วทำไงดีล่ะ ตัวทิ้งเค้าไปตั้งนาน อยู่ๆ จะกลับมา จ้ะๆ จ๋าๆ เหมือนเดิมกันง่ายๆ แบบนั้น เค้าไม่ใช่ หญิงคนชั่วเร่ขายชาตินะยะ แล้วตัวจำได้มั้ย ตอนเค้าตูดขาดเหลือแต่คลัง เงินไม่มีให้คงไว้น่ะ เพราะรัฐบาลน้าจิ๋ว กะรัฐบาลปี๋ชวนทำซะบักโกรกน่ะ เขาส่งอ้ายน้อยไปหาตัว ตัวทำอะไรกับเขา เขาจำได้นะ ให้ไอ้ IMF มันโหดกะเค้ายังไง ไปถามพวกเจ้าของธนาคาร หวั่งหลี ล่ำซำ หรือคุณป๋าประชัยแห่ง TPI หรือเฮียหวัดเจ้าของวลี ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ดูก็แล้วกันว่าหายช้ำหรือยัง อเมริกาจะกลับมาภูมิภาคนี้ใหม่ ก็ต้องกลับมาแบบไม่ให้เสียเชิง ไม่เสียฟอร์มนักทฤษฎี นักสร้างฉาก ลองทายดูซิ จิ๊กโก๋๋จะกลับมาแบบไหน กลับมาแบบเท่ห์ๆ น่ะ ฮา ช่วงสงครามเวียตนาม อเมริกาคบกับทหารไทย นักวิ่งผลัดจนรู้เช่นเห็นชาติ ว่าชอบกินอาหารจานด่วนแบบไหน หลอกล่อ ต่อรอง เห่กล่อม อย่างไร ถึงจะไม่งอแง พอเลิกใช้บริการนักวิ่งผลัด พี่เบิ้มก็ไปใช้พวกเด็กในคาถา good boy technocrat ดังนั้นเวลาหวนกลับ มันก็ไม่พ้นประตู 2 ช่องนี่แหละ จะพูดกับใครรู้เรื่องไปกว่าพวกที่เคยมือ รู้ใจกัน ว่าแล้วจิ๊กโก๋๋ก็เรียก good boy มาสัมภาษณ์ทีละคน โดยทำเป็นเชิญมาทานข้าวบ้าง ดื่มน้ำชาบ้าง ไล่ไปตั้งกะใหญ่โต ระดับองคมนตรี ข้าราชการ นักวิชาการ นักการเมืองทุกค่าย นักธุรกิจ จนถึงสื่อ ถามทุกเรื่องลับแบบเจาะลึก ท่านต่างๆ ก็ช่างตอบกันดีนัก อย่างกะขึ้นสังกัดกับเขา บางเรื่องเป็นเรื่องในบ้านเราแท้ๆ ไม่เห็นเกี่ยวกับคนนอกเลย ก็ตอบเขาเอา ตอบเอา (ขอขอบคุณ อภินันทนาการ เอกสารรั่ววิกิลีกส์ ทำให้รู้ว่า ใครช่างจ้อ ขนาดไหน) นอกจากนี้ก็ให้พวกซี ในคราบเจ้าหน้าที่สถานทูต เดินไปตามงานเลี้ยงไฮโซต่างๆ เก็บข่าวทุกวัน ใครกำลังขึ้น ใครกำลังลง พระราชวงศ์จะเป็นอย่างไร ใบไม้ใบไหนกำลังออกใหม่ ใบไหนกำลังจะร่วง ถามมันไปหมดทุกเรื่องนะแหละ เขาเล่ากันว่าสถานทูตสหรัฐในไทยนะใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อันดับ 1 อยู่ที่อียิปต์ ที่ประเทศไทยนี้มีพนักงานประจำการอยู่กว่า 2 พันคน และที่ไม่ประจำอีกกว่า 2 พันคน โว้ย! มันเอามาทำไรแยะขนาดนี้ กะจะนับใบไม้ทุกใบหรือไงวะ ก็คงตกค้างตั้งกะสมัยรบสงครามเวียตนามน่ะนะ ตอนนั้นใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์ กลางบัญชาการรบ ก็จะให้พวกพี่เขาไปอยู่ที่ไหนล่ะ แถบนี้ ใครมันจะเจริญ แถมแสงสีเสียงครบแบบไทยแลนด์ล่ะ หลังจากทั้งซัก ทั้งฟอก เด็กในคาถา เดินสำรวจตามงานหรู ไม่ว่าของราชการ ไฮโซ สปอร์ตคลับฯลฯ หลายรอบ พี่เบิ้มก็ถอนใจ อู้ย จากไปไม่เท่าไหร่ ไม่คุมเอง ทำไม ไทยแลนด์ มันไม่ใช่แดนสยามเมืองยิ้ม อย่างเมื่อก่อนนะ นี่มันดันกลายเป็นสนามประลองกีฬาสีนี่นา แต่กีฬาสีนี้มันหนักน่ะ ใครจะอยู่ใครจะไป ไอยังไม่แน่ใจ อย่ากระนั้นเลย เอาที่แน่ๆ กลับไปที่นักกีฬาวิ่งผลัดดีกว่า เออ! เพิ่งนึกออก บ้านเรานี่มันนักกีฬาแยะนะ ไม่วิ่งผลัด ก็กีฬาสี 5 5 5 อเมริกาส่งแม่ทัพเรือภาคที่ 7 ที่ประจำอยู่ที่โอกินาวาของลูกกะเป๋ง มาเยี่ยมไทยแลนด์ ทบทวนความ สัมพันธ์ที่มีมานานกว่า 50 ปี เรียกว่าเป็นมิตรรักระดับเดียวกับ พวกนาโต (NATO) ร่วมซ้อมรบด้วยกัน ทุกปีในนามของคอบบร้า โกลด์ (Cobra Gold) ขึ้นบกทีไร น้องหนูแถวพัทยา ภูเก็ตก็แฮ้ปปี้กระดี้กระด้า นอกจากนั้นในช่วงเกิดเหตุการณ์ ซึนามิ ไทยแลนด์ก็ใจดีให้ใช้อู่ตะเภาเป็นสนามบินที่ใช้ในการช่วยบรรเทาทุก แต่ข่าวที่ไม่เปิดเผยคือ ช่วงรัฐบาลทักษิณ ไทยเราอนุญาตให้เครื่องบินอเมริกัน บินขึ้นลงจากอู่ตะเภาเพื่อไปปฏิบัติการรบในอิรักและอาฟกานิสถานด้วยนะ (สมันน้อยไม่เข็ด!) แล้วอเมริกาทำไมถึงอยากกลับมายุ่งในภูมิภาคนี้ใหม่ โดยเฉพาะเข้ามาเดินกร่างในไทยแลนด์เหมือน เดิม แค่เรื่องอาเฮีย จากนั่งแทะเม็ดกวยจี๋ กลายเป็นเจ้าสัวกระเป๋าหนัก มันเกี่ยวอะไรกะสมันน้อยด้วยล่ะ คนเล่านิทาน
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 549 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิวเดลีวางแผนสร้างระเบิด GBU-57 Buker Buster ของตัวเองขึ้นมาในยุทธศาสตร์เพื่อความสุดยอดทางการทหารระดับชั้นนำของตัวเองเป้าหมายโจมตีใต้ดินลับหลังสหรัฐฯประสบความสำเร็จโชว์ทั้งโลกโจมตีโรงนิวเคลียร์ใต้ดินของอิหร่าน สื่ออินเดียโว ระเบิด Bunker Buster ของแดนภารตะเวอร์ชันมิสไซล์ชื่อ Agni-5 สามารถทำให้แม้กระทั่งสหรัฐฯอาย มีสมรรถนะไกลสามารถทำลายแล็บวิจัยนิวเคลียร์ลับปากีสถานที่ Kirana Hills ได้ภายในแค่ไม่กี่นาที
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000059988

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    นิวเดลีวางแผนสร้างระเบิด GBU-57 Buker Buster ของตัวเองขึ้นมาในยุทธศาสตร์เพื่อความสุดยอดทางการทหารระดับชั้นนำของตัวเองเป้าหมายโจมตีใต้ดินลับหลังสหรัฐฯประสบความสำเร็จโชว์ทั้งโลกโจมตีโรงนิวเคลียร์ใต้ดินของอิหร่าน สื่ออินเดียโว ระเบิด Bunker Buster ของแดนภารตะเวอร์ชันมิสไซล์ชื่อ Agni-5 สามารถทำให้แม้กระทั่งสหรัฐฯอาย มีสมรรถนะไกลสามารถทำลายแล็บวิจัยนิวเคลียร์ลับปากีสถานที่ Kirana Hills ได้ภายในแค่ไม่กี่นาที . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000059988 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1350 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC) ตกลงที่จะหยุดยิงกับอิสราเอล แต่ก็พร้อมจะตอบโต้กลับอยา่างรุนแรงต่อการรุกรานใดๆที่จะมีขึ้นในอนาคต:

    แถลงการณ์ฉบับเต็มจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC - Iran’s Supreme National Security Council):

    ถึงชาวอิหร่านที่รักและอดทน

    ภายหลังการรุกรานของพวกไซออนิสต์ที่ขี้ขลาด ความกล้าหาญและการเสียสละของบุตรชายของคุณในกองกำลังติดอาวุธแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจการขู่เข็ญและการตอบโต้ที่เด็ดขาดของประเทศ พวกเขาขยายขอบเขตของการตอบโต้และโจมตีศัตรูด้วยความเจ็บปวด การตอบสนองนี้แสดงให้เห็นว่าฐานทัพของอเมริกาและไซออนิสต์ ตั้งแต่เอเชียตะวันตกไปจนถึงดินแดนที่ถูกยึดครอง ล้วนเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย

    การเฝ้าระวัง การใช้โอกาสอย่างมีกลยุทธ์ การต่อต้านอย่างมั่นคง และความสามัคคีของชาติที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ขัดขวางแผนหลักของศัตรู เปลี่ยนภัยคุกคามให้กลายเป็นโอกาส และปูทางให้กับความอดทนของทหารอิสลาม นอกจากนี้ยังเปิดเผยให้โลกเห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของนักสู้ที่ทุ่มเท ซึ่งเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ ความแข็งแกร่งนี้ปรากฏชัดตลอด 12 วันของการต่อต้านอย่างนองเลือด และเตรียมพร้อมเสมอที่จะตอบโต้การรุกรานใดๆ อย่างเหมาะสมและเข้มแข็ง

    ของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าตลอดเส้นทางนี้ พร้อมกับการประพฤติตนที่สมดุล ความเข้าใจอันลึกซึ้ง กลยุทธ์ที่รอบคอบ และความอดทนของนักรบและครอบครัวของผู้พลีชีพและผู้บาดเจ็บ คือชัยชนะเหนือศัตรู การทำลายภาพลักษณ์ของศัตรู การปฏิเสธการยอมแพ้ และการเปิดเส้นทางไปข้างหน้าที่ไม่สามารถย้อนกลับได้

    ดังนั้น สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจึงประกาศอย่างมีสติและมั่นใจว่า กองกำลังของเราซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนนั้นเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะตอบโต้การกระทำการรุกรานหรือการคุกคามใดๆ ของศัตรูอย่างเด็ดขาดในทุกเวลาและทุกสถานที่

    “และชัยชนะนั้นมาจากอัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณเท่านั้น”
    สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC) ตกลงที่จะหยุดยิงกับอิสราเอล แต่ก็พร้อมจะตอบโต้กลับอยา่างรุนแรงต่อการรุกรานใดๆที่จะมีขึ้นในอนาคต: แถลงการณ์ฉบับเต็มจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC - Iran’s Supreme National Security Council): ถึงชาวอิหร่านที่รักและอดทน ภายหลังการรุกรานของพวกไซออนิสต์ที่ขี้ขลาด ความกล้าหาญและการเสียสละของบุตรชายของคุณในกองกำลังติดอาวุธแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจการขู่เข็ญและการตอบโต้ที่เด็ดขาดของประเทศ พวกเขาขยายขอบเขตของการตอบโต้และโจมตีศัตรูด้วยความเจ็บปวด การตอบสนองนี้แสดงให้เห็นว่าฐานทัพของอเมริกาและไซออนิสต์ ตั้งแต่เอเชียตะวันตกไปจนถึงดินแดนที่ถูกยึดครอง ล้วนเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย การเฝ้าระวัง การใช้โอกาสอย่างมีกลยุทธ์ การต่อต้านอย่างมั่นคง และความสามัคคีของชาติที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ขัดขวางแผนหลักของศัตรู เปลี่ยนภัยคุกคามให้กลายเป็นโอกาส และปูทางให้กับความอดทนของทหารอิสลาม นอกจากนี้ยังเปิดเผยให้โลกเห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของนักสู้ที่ทุ่มเท ซึ่งเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ ความแข็งแกร่งนี้ปรากฏชัดตลอด 12 วันของการต่อต้านอย่างนองเลือด และเตรียมพร้อมเสมอที่จะตอบโต้การรุกรานใดๆ อย่างเหมาะสมและเข้มแข็ง ของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าตลอดเส้นทางนี้ พร้อมกับการประพฤติตนที่สมดุล ความเข้าใจอันลึกซึ้ง กลยุทธ์ที่รอบคอบ และความอดทนของนักรบและครอบครัวของผู้พลีชีพและผู้บาดเจ็บ คือชัยชนะเหนือศัตรู การทำลายภาพลักษณ์ของศัตรู การปฏิเสธการยอมแพ้ และการเปิดเส้นทางไปข้างหน้าที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้น สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจึงประกาศอย่างมีสติและมั่นใจว่า กองกำลังของเราซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนนั้นเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะตอบโต้การกระทำการรุกรานหรือการคุกคามใดๆ ของศัตรูอย่างเด็ดขาดในทุกเวลาและทุกสถานที่ “และชัยชนะนั้นมาจากอัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณเท่านั้น”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้อิสราเอลกำลังเผชิญการโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือปฏิบัติการไซเบอร์ หนึ่งในแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามคือ... แฮ็กกล้องวงจรปิดตามบ้านของประชาชน โดยเฉพาะกล้องที่ใช้รหัสผ่านเดิมจากโรงงาน หรือรหัสง่าย ๆ เดาง่าย เช่น “123456”

    สิ่งที่แฮกเกอร์ทำคือ เจาะกล้องเพื่อ ดูว่า “มิสไซล์ที่ยิงไปตกตรงไหน”, มีการเคลื่อนไหวของรถทหารหรือไม่ หรือแม้แต่ตรวจสอบจุดยุทธศาสตร์ที่ถูก blackout ข้อมูลในสื่อ กระทรวงไซเบอร์ของอิสราเอลยอมรับว่า มีความพยายามเจาะระบบกล้องเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่วันหลังการยิงขีปนาวุธ

    ย้อนไปปี 2022 เคยมีการเตือนแล้วว่า “กล้องกว่า 66,000 ตัวในอิสราเอลยังใช้รหัสผ่านเริ่มต้น” — และหลายหมู่บ้านที่ถูกบุกในปีถัดมาก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร จนกลายเป็นปัญหาข้อมูลรั่ววงกว้าง

    รัฐบาลจึงขอให้ประชาชน ปิดกล้องที่ไม่จำเป็น, เปลี่ยนรหัสผ่าน, เปิด two-factor authentication และถ้าเป็นไปได้... อย่าติดตั้งกล้องที่ “สตรีมออนไลน์” ได้เอง เพราะอาจกลายเป็นหน้าต่างเปิดให้ศัตรูมองย้อนกลับมา

    กรณีนี้ไม่ได้เกิดแค่ในอิสราเอล — ในยูเครน เคยมีการแบนกล้องวงจรปิด เพราะพบว่ารัสเซียใช้วิดีโอแบบ live มา “ปรับทิศการโจมตีอากาศ” แบบทันทีได้เช่นกัน

    รัฐบาลอิสราเอลเตือนประชาชนให้ “ปิดกล้องวงจรปิดที่ไม่จำเป็น” หรืออย่างน้อยให้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่  
    • ลดความเสี่ยงที่กลุ่มอิหร่านเจาะเข้าไปดู live feed เพื่อเก็บข้อมูล

    พบว่าแฮกเกอร์จากอิหร่านพยายามแฮกกล้องเพื่อดูผลกระทบของมิสไซล์ และการเคลื่อนไหวทางทหาร  
    • เป็นการเจาะระบบในช่วงสื่อถูกจำกัดการเผยข้อมูล

    เคยมีการเตือนเมื่อปี 2022 ว่ามีกล้อง 66,000 ตัวใช้รหัสผ่านจากโรงงาน (default password)  
    • ส่วนใหญ่ไม่ถูกเปลี่ยนแม้มีคำเตือน

    รัฐบาลสามารถปิดการทำงานของกล้องภาครัฐและส่วนบุคคลในพื้นที่อ่อนไหว เช่น พรมแดน หรือโครงสร้างสำคัญแล้ว
    • ใช้กฎหมายพิเศษในช่วงภัยพิบัติ

    กรณีคล้ายกันเคยเกิดในยูเครน — เมื่อรัสเซียใช้วิดีโอจากกล้องสาธารณะเพื่อเจาะพิกัดเป้าหมาย

    ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เลือกกล้องที่มีระบบความปลอดภัยดี รองรับการตั้งค่ารหัส, การเข้ารหัส และปิดการสตรีมออนไลน์ได้

    https://www.techspot.com/news/108401-israel-urges-citizens-turn-off-home-cameras-iran.html
    ช่วงนี้อิสราเอลกำลังเผชิญการโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือปฏิบัติการไซเบอร์ หนึ่งในแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามคือ... แฮ็กกล้องวงจรปิดตามบ้านของประชาชน โดยเฉพาะกล้องที่ใช้รหัสผ่านเดิมจากโรงงาน หรือรหัสง่าย ๆ เดาง่าย เช่น “123456” สิ่งที่แฮกเกอร์ทำคือ เจาะกล้องเพื่อ ดูว่า “มิสไซล์ที่ยิงไปตกตรงไหน”, มีการเคลื่อนไหวของรถทหารหรือไม่ หรือแม้แต่ตรวจสอบจุดยุทธศาสตร์ที่ถูก blackout ข้อมูลในสื่อ กระทรวงไซเบอร์ของอิสราเอลยอมรับว่า มีความพยายามเจาะระบบกล้องเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่วันหลังการยิงขีปนาวุธ ย้อนไปปี 2022 เคยมีการเตือนแล้วว่า “กล้องกว่า 66,000 ตัวในอิสราเอลยังใช้รหัสผ่านเริ่มต้น” — และหลายหมู่บ้านที่ถูกบุกในปีถัดมาก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร จนกลายเป็นปัญหาข้อมูลรั่ววงกว้าง รัฐบาลจึงขอให้ประชาชน ปิดกล้องที่ไม่จำเป็น, เปลี่ยนรหัสผ่าน, เปิด two-factor authentication และถ้าเป็นไปได้... อย่าติดตั้งกล้องที่ “สตรีมออนไลน์” ได้เอง เพราะอาจกลายเป็นหน้าต่างเปิดให้ศัตรูมองย้อนกลับมา กรณีนี้ไม่ได้เกิดแค่ในอิสราเอล — ในยูเครน เคยมีการแบนกล้องวงจรปิด เพราะพบว่ารัสเซียใช้วิดีโอแบบ live มา “ปรับทิศการโจมตีอากาศ” แบบทันทีได้เช่นกัน ✅ รัฐบาลอิสราเอลเตือนประชาชนให้ “ปิดกล้องวงจรปิดที่ไม่จำเป็น” หรืออย่างน้อยให้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่   • ลดความเสี่ยงที่กลุ่มอิหร่านเจาะเข้าไปดู live feed เพื่อเก็บข้อมูล ✅ พบว่าแฮกเกอร์จากอิหร่านพยายามแฮกกล้องเพื่อดูผลกระทบของมิสไซล์ และการเคลื่อนไหวทางทหาร   • เป็นการเจาะระบบในช่วงสื่อถูกจำกัดการเผยข้อมูล ✅ เคยมีการเตือนเมื่อปี 2022 ว่ามีกล้อง 66,000 ตัวใช้รหัสผ่านจากโรงงาน (default password)   • ส่วนใหญ่ไม่ถูกเปลี่ยนแม้มีคำเตือน ✅ รัฐบาลสามารถปิดการทำงานของกล้องภาครัฐและส่วนบุคคลในพื้นที่อ่อนไหว เช่น พรมแดน หรือโครงสร้างสำคัญแล้ว • ใช้กฎหมายพิเศษในช่วงภัยพิบัติ ✅ กรณีคล้ายกันเคยเกิดในยูเครน — เมื่อรัสเซียใช้วิดีโอจากกล้องสาธารณะเพื่อเจาะพิกัดเป้าหมาย ✅ ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เลือกกล้องที่มีระบบความปลอดภัยดี รองรับการตั้งค่ารหัส, การเข้ารหัส และปิดการสตรีมออนไลน์ได้ https://www.techspot.com/news/108401-israel-urges-citizens-turn-off-home-cameras-iran.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Israel urges citizens to turn off home cameras as Iran hacks surveillance systems
    In the aftermath of recent Iranian missile strikes on Tel Aviv, concerns about the vulnerability of internet-connected cameras have intensified. "We know that in the past two...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 397 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! มีรายงานอิสราเอลเพิ่งโจมตีเมืองบูเชห์ร (Bushehr) ของอิหร่าน สื่อในพื้นที่รายงานเกิดการระเบิดหลายครั้งในหลายพื้นที่

    เบื้องต้นมีรายงานการโจมตีที่สนามบินบูเชห์รของอิหร่าน (Iran’s Bushehr Airport) ซึ่งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บูเชห์ร (Bushehr Nuclear Power Plant) เพียงไม่กี่กิโลเมตร

    หากส่งผลกระทบและเกิดการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีบนเครื่องปฏิกรณ์อาจเป็นอันตรายต่อผู้คนหลายล้านคนในอ่าวเปอร์เซีย
    ด่วน! มีรายงานอิสราเอลเพิ่งโจมตีเมืองบูเชห์ร (Bushehr) ของอิหร่าน สื่อในพื้นที่รายงานเกิดการระเบิดหลายครั้งในหลายพื้นที่ เบื้องต้นมีรายงานการโจมตีที่สนามบินบูเชห์รของอิหร่าน (Iran’s Bushehr Airport) ซึ่งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บูเชห์ร (Bushehr Nuclear Power Plant) เพียงไม่กี่กิโลเมตร หากส่งผลกระทบและเกิดการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีบนเครื่องปฏิกรณ์อาจเป็นอันตรายต่อผู้คนหลายล้านคนในอ่าวเปอร์เซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญา NPT อย่างโจ่งแจ้ง” และกล่าวว่า “การกระทำดังกล่าวจะไม่สามารถหยุดการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติของอิหร่านลงได้”

    .

    แถลงการณ์ฉบับเต็มขององค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI - The Atomic Energy Organization of Iran):

    'หลังจากการโจมตีอย่างโหดร้ายโดยศัตรูไซออนิสต์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์ของประเทศที่ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน ถูกโจมตีเมื่อเช้านี้โดยศัตรูของอิหร่าน ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT)

    การกระทำนี้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศนั้นอย่าง
    ชัดเจน และช่างน่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นท่ามกลางความเฉยเมย และยังเป็นการสมรู้ร่วมคิดของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)

    ศัตรูของเราออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีฐานปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลอย่างต่อเนื่องของ IAEA ตามข้อตกลงการป้องกันและสนธิสัญญา NPT

    เราหวังว่าจะได้เห็นการประณามจากนานาประเทศ และสนับสนุนอิหร่านในการบรรลุสิทธิอันชอบธรรมของตน

    องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านขอรับรองต่อชาติอิหร่านที่ยิ่งใหญ่ว่า แม้จะมีแผนการชั่วร้ายของศัตรู แต่ด้วยความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่ปฏิวัติวงการและกระตือรือร้นนับพันคน องค์การจะไม่ยอมให้การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติซึ่งเป็นผลจากเลือดของผู้พลีชีพเพื่อนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลง
    องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญา NPT อย่างโจ่งแจ้ง” และกล่าวว่า “การกระทำดังกล่าวจะไม่สามารถหยุดการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติของอิหร่านลงได้” . แถลงการณ์ฉบับเต็มขององค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI - The Atomic Energy Organization of Iran): 'หลังจากการโจมตีอย่างโหดร้ายโดยศัตรูไซออนิสต์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์ของประเทศที่ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน ถูกโจมตีเมื่อเช้านี้โดยศัตรูของอิหร่าน ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) การกระทำนี้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศนั้นอย่าง ชัดเจน และช่างน่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นท่ามกลางความเฉยเมย และยังเป็นการสมรู้ร่วมคิดของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ศัตรูของเราออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีฐานปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลอย่างต่อเนื่องของ IAEA ตามข้อตกลงการป้องกันและสนธิสัญญา NPT เราหวังว่าจะได้เห็นการประณามจากนานาประเทศ และสนับสนุนอิหร่านในการบรรลุสิทธิอันชอบธรรมของตน องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านขอรับรองต่อชาติอิหร่านที่ยิ่งใหญ่ว่า แม้จะมีแผนการชั่วร้ายของศัตรู แต่ด้วยความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่ปฏิวัติวงการและกระตือรือร้นนับพันคน องค์การจะไม่ยอมให้การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติซึ่งเป็นผลจากเลือดของผู้พลีชีพเพื่อนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 489 มุมมอง 0 รีวิว
  • BRICS ระเบิด: จากสหภาพธนาคารสู่แกนทหาร — จีนและรัสเซียส่งอาวุธให้อิหร่าน ขณะที่แผนสงครามเริ่มมีผลบังคับใช้ ขีปนาวุธ 800 ลูกพร้อมแล้ว เส้นทางส่งกำลังบำรุงกำลังร้อนระอุ

    ข่าวด่วน: จีนส่งเชื้อเพลิงขีปนาวุธพิสัยไกลให้กับอิหร่านอย่างเงียบๆ — เพียงพอสำหรับหัวรบนิวเคลียร์ 800 ลูก รัสเซียสนับสนุนคลังอาวุธของเตหะราน BRICS กลายเป็นแกนกลางทางการทหาร แนวรบต่อไปไม่ใช่สมมติฐาน แต่เป็นปฏิบัติการเต็มรูปแบบ

    จีน: การเสริมกำลังผ่านห่วงโซ่อุปทานผี!

    อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่: https://amg-news.com/brics-detonated-from-banking-union-to-military-axis-china-russia-arm-iran-as-war-blueprint-goes-live-800-missiles-ready-supply-lines-hot/
    BRICS ระเบิด: จากสหภาพธนาคารสู่แกนทหาร — จีนและรัสเซียส่งอาวุธให้อิหร่าน ขณะที่แผนสงครามเริ่มมีผลบังคับใช้ ขีปนาวุธ 800 ลูกพร้อมแล้ว เส้นทางส่งกำลังบำรุงกำลังร้อนระอุ ข่าวด่วน: จีนส่งเชื้อเพลิงขีปนาวุธพิสัยไกลให้กับอิหร่านอย่างเงียบๆ — เพียงพอสำหรับหัวรบนิวเคลียร์ 800 ลูก รัสเซียสนับสนุนคลังอาวุธของเตหะราน BRICS กลายเป็นแกนกลางทางการทหาร แนวรบต่อไปไม่ใช่สมมติฐาน แต่เป็นปฏิบัติการเต็มรูปแบบ 🟥 จีน: การเสริมกำลังผ่านห่วงโซ่อุปทานผี! 👉 อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่: https://amg-news.com/brics-detonated-from-banking-union-to-military-axis-china-russia-arm-iran-as-war-blueprint-goes-live-800-missiles-ready-supply-lines-hot/
    AMG-NEWS.COM
    BRICS DETONATED: FROM BANKING UNION TO MILITARY AXIS — CHINA & RUSSIA ARM IRAN AS WAR BLUEPRINT GOES LIVE, 800 Missiles Ready. Supply Lines Hot. - amg-news.com - American Media Group
    BREAKING: China is quietly supplying Iran with ballistic missile fuel — enough for 800 warheads. Russia backs Tehran’s arsenal. BRICS morphs into a military axis. The next warfront is not hypothetical — it’s fully operational.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูม! เงินเปื้อนเลือด: ผู้ทรยศผู้นำสูงสุด — เปิดโปงการจ่ายเงิน 1.7 พันล้านเหรียญของโอบามาให้กับอิหร่าน — ทรัมป์เรียกร้องความยุติธรรมในขณะที่กลุ่มใต้ดินซ่อนตัว [วิดีโอ]

    โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ เปิดโปงการจ่ายเงินสด 1.7 พันล้านเหรียญของบารัค โอบามาให้กับอิหร่าน — การกระทำที่เป็นการทรยศโดยตรงที่รัฐสภา เอฟบีไอ และกระทรวงยุติธรรมเพิกเฉย คนทรยศถูกเปิดเผยชื่อ การทรยศนั้นเป็นเรื่องจริง และความยุติธรรมไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป

    วิดีโอนี้ถูกลบออกจากทุกแพลตฟอร์ม (รวมถึง Google) เมื่อหลายปีก่อน ฉันใช้เวลานานมากในการค้นหา

    นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นั่นคือการลบที่ควบคุมได้ มรดกที่แท้จริงของโอบามาไม่เคยเป็น "ความหวังและการเปลี่ยนแปลง" แต่เป็นการหลอกลวงและทรยศ ห่อหุ้มด้วยการบูชาสื่อและการเซ็นเซอร์ของซิลิคอนวัลเลย์

    พวกเขาล้างอินเทอร์เน็ตให้สะอาดเพราะภาพเผยให้เห็นว่าเขาเป็นใครจริงๆ:

    คอมมิวนิสต์ เจ้าหน้าที่ต่อต้านอเมริกา
    ทรัพย์สินของ Deep State ที่ปลอมตัวเป็นประธานาธิบดี

    แต่การลบข้อมูลจำนวนมหาศาลไม่สามารถชำระล้างเงินที่หลั่งไหลมาจากเลือด เงินก้อนโตที่ส่งไปยังอิหร่าน หรือความเงียบที่เขาซื้อมาจากรัฐสภาที่ขายชาติได้

    ดูเหมือนว่าทุกคนจะลืมไปว่าโอบามานั้นต่อต้านอเมริกามากเพียงใด

    เราไม่ลืม ทรัมป์ไม่ลืม และจากนี้ไป โลกก็จะลืมเช่นกัน

    อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่: https://amg-news.com/boom-blood-money-traitor-in-chief-obamas-1-7-billion-payoff-to-iran-exposed-trump-demands-justice-while-the-deep-state-hides/
    บูม! เงินเปื้อนเลือด: ผู้ทรยศผู้นำสูงสุด — เปิดโปงการจ่ายเงิน 1.7 พันล้านเหรียญของโอบามาให้กับอิหร่าน — ทรัมป์เรียกร้องความยุติธรรมในขณะที่กลุ่มใต้ดินซ่อนตัว [วิดีโอ] 🚨 โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ เปิดโปงการจ่ายเงินสด 1.7 พันล้านเหรียญของบารัค โอบามาให้กับอิหร่าน — การกระทำที่เป็นการทรยศโดยตรงที่รัฐสภา เอฟบีไอ และกระทรวงยุติธรรมเพิกเฉย คนทรยศถูกเปิดเผยชื่อ การทรยศนั้นเป็นเรื่องจริง และความยุติธรรมไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป วิดีโอนี้ถูกลบออกจากทุกแพลตฟอร์ม (รวมถึง Google) เมื่อหลายปีก่อน ฉันใช้เวลานานมากในการค้นหา นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นั่นคือการลบที่ควบคุมได้ มรดกที่แท้จริงของโอบามาไม่เคยเป็น "ความหวังและการเปลี่ยนแปลง" แต่เป็นการหลอกลวงและทรยศ ห่อหุ้มด้วยการบูชาสื่อและการเซ็นเซอร์ของซิลิคอนวัลเลย์ พวกเขาล้างอินเทอร์เน็ตให้สะอาดเพราะภาพเผยให้เห็นว่าเขาเป็นใครจริงๆ: คอมมิวนิสต์ เจ้าหน้าที่ต่อต้านอเมริกา ทรัพย์สินของ Deep State ที่ปลอมตัวเป็นประธานาธิบดี แต่การลบข้อมูลจำนวนมหาศาลไม่สามารถชำระล้างเงินที่หลั่งไหลมาจากเลือด เงินก้อนโตที่ส่งไปยังอิหร่าน หรือความเงียบที่เขาซื้อมาจากรัฐสภาที่ขายชาติได้ ดูเหมือนว่าทุกคนจะลืมไปว่าโอบามานั้นต่อต้านอเมริกามากเพียงใด เราไม่ลืม ทรัมป์ไม่ลืม และจากนี้ไป โลกก็จะลืมเช่นกัน 👉 อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่: https://amg-news.com/boom-blood-money-traitor-in-chief-obamas-1-7-billion-payoff-to-iran-exposed-trump-demands-justice-while-the-deep-state-hides/
    AMG-NEWS.COM
    BOOM! BLOOD MONEY: TRAITOR-IN-CHIEF — OBAMA’S $1.7 BILLION PAYOFF TO IRAN EXPOSED — TRUMP DEMANDS JUSTICE WHILE THE DEEP STATE HIDES [VIDEO] - amg-news.com - American Media Group
    Donald J. Trump exposes Barack Obama’s $1.7 billion cash payout to Iran — a direct act of treason ignored by Congress, the FBI, and the DOJ. The traitors are named. The betrayal is real. And justice is no longer optional.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิดีโอแสดงการทำงานของระเบิด "Bunker Buster" GBU-57 MOP (Massive Ordnance Penetrator) ขนาด 30,000 ปอนด์ ที่สหรัฐและอิสราเอล "เชื่อกันว่า" สามารถเทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา

    แต่ระเบิด GBU-57 ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งได้กับเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 เท่านั้น (ติดตั้งได้ 2 ลูก)

    แม้ว่าก่อนหน้านี้ The War Zone เคยระบุไว้ว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 สามารถติดตั้ง GBU-57 ได้ ซึ่งเคยมีการทดสอบแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงการทดสอบในสภาพปัจจัยที่ถูกกำหนดไว้เท่านั้น
    วิดีโอแสดงการทำงานของระเบิด "Bunker Buster" GBU-57 MOP (Massive Ordnance Penetrator) ขนาด 30,000 ปอนด์ ที่สหรัฐและอิสราเอล "เชื่อกันว่า" สามารถเทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา แต่ระเบิด GBU-57 ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งได้กับเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 เท่านั้น (ติดตั้งได้ 2 ลูก) แม้ว่าก่อนหน้านี้ The War Zone เคยระบุไว้ว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 สามารถติดตั้ง GBU-57 ได้ ซึ่งเคยมีการทดสอบแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงการทดสอบในสภาพปัจจัยที่ถูกกำหนดไว้เท่านั้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • "โมฮัมหมัด เอสลามี" ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (Atomic Energy Organisation of Iran - AEOI) กล่าวว่า “โรงงานนิวเคลียร์ยังอยู่ในสภาพดี และขวัญกำลังใจของเพื่อนร่วมงานที่นั่นก็ยอดเยี่ยมมาก พวกเราทุกคนยังทำงานกันหนักมาก”
    "โมฮัมหมัด เอสลามี" ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (Atomic Energy Organisation of Iran - AEOI) กล่าวว่า “โรงงานนิวเคลียร์ยังอยู่ในสภาพดี และขวัญกำลังใจของเพื่อนร่วมงานที่นั่นก็ยอดเยี่ยมมาก พวกเราทุกคนยังทำงานกันหนักมาก”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • Al Jazeera รายงานว่า ขณะนี้เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ของสหรัฐประจำการอยู่ที่ฐานทัพดิเอโก การ์เซีย ซึ่งอยู่ภายในระยะการบินถึงอิหร่านพอดี

    แต่!!
    หากต้องการทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา

    สหรัฐ "เชื่อว่า" มีเพียงระเบิด Bunker Buster GBU-57 MOP (Massive Ordnance Penetrator) ขนาด 30,000 ปอนด์ ที่เจาะคอนกรีตได้ลึกมากกว่า 60 เมตร ก่อนจะระเบิดตัวเอง ที่สามารถโจมตีและทำลายโรงงานนิวเคลียร์แห่งนี้ได้

    แต่ระเบิด GBU-57 ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งได้กับเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 เท่านั้น (ติดตั้งได้ 2 ลูก)

    แม้ว่าก่อนหน้านี้ The War Zone เคยระบุไว้ในอดีตว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 สามารถติดตั้ง GBU-57 ได้ ซึ่งเคยมีการทดสอบแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงการทดสอบในสภาพปัจจัยที่ถูกกำหนดไว้เท่านั้น
    Al Jazeera รายงานว่า ขณะนี้เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ของสหรัฐประจำการอยู่ที่ฐานทัพดิเอโก การ์เซีย ซึ่งอยู่ภายในระยะการบินถึงอิหร่านพอดี แต่!! หากต้องการทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา สหรัฐ "เชื่อว่า" มีเพียงระเบิด Bunker Buster GBU-57 MOP (Massive Ordnance Penetrator) ขนาด 30,000 ปอนด์ ที่เจาะคอนกรีตได้ลึกมากกว่า 60 เมตร ก่อนจะระเบิดตัวเอง ที่สามารถโจมตีและทำลายโรงงานนิวเคลียร์แห่งนี้ได้ แต่ระเบิด GBU-57 ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งได้กับเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 เท่านั้น (ติดตั้งได้ 2 ลูก) แม้ว่าก่อนหน้านี้ The War Zone เคยระบุไว้ในอดีตว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 สามารถติดตั้ง GBU-57 ได้ ซึ่งเคยมีการทดสอบแล้ว แต่นั่นเป็นเพียงการทดสอบในสภาพปัจจัยที่ถูกกำหนดไว้เท่านั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำพูดของทรัมป์ในปี 2011:

    โอบามาจะเริ่มสงครามกับอิหร่าน เพราะเขาไม่มีความสามารถในการเจรจาเลย

    Obama will start a war with Iran, because he has absolutely no ability to negotiate.
    คำพูดของทรัมป์ในปี 2011: โอบามาจะเริ่มสงครามกับอิหร่าน เพราะเขาไม่มีความสามารถในการเจรจาเลย Obama will start a war with Iran, because he has absolutely no ability to negotiate.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • ทำเนียบขาวกำลังหารือกับอิหร่านถึงความเป็นไปได้ของการพบปะกันในสัปดาห์นี้ระหว่างสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนสหรัฐฯ และอับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ตามแหล่งข่าวสี่รายที่ได้รับข้อมูลในประเด็นนี้

    -axios


    วัตถุประสงค์คือการหารือเกี่ยวกับการกลับมาเจรจาทางการทูตที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงนิวเคลียร์และการยุติสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านกันอีกครั้ง เนื่องจากการประชุมยังไม่แล้วเสร็จ และนี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของทรัมป์ที่ต้องการออกจากสงครามและกลับมาสู่การทำข้อตกลง

    คาดว่าทรัมป์จะใช้ระเบิดบังเกอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา เป็นจุดสำคัญในการโน้มน้าวให้อิหร่านบรรลุข้อตกลง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าว

    สำหรับสถานการณ์ขณะนี้ ทรัมป์ยังคงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโดยตรงกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่าน แต่เขาก็ยังยืนยันชัดเจนว่า อิหร่านจะต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
    ทำเนียบขาวกำลังหารือกับอิหร่านถึงความเป็นไปได้ของการพบปะกันในสัปดาห์นี้ระหว่างสตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้แทนสหรัฐฯ และอับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ตามแหล่งข่าวสี่รายที่ได้รับข้อมูลในประเด็นนี้ -axios วัตถุประสงค์คือการหารือเกี่ยวกับการกลับมาเจรจาทางการทูตที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงนิวเคลียร์และการยุติสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านกันอีกครั้ง เนื่องจากการประชุมยังไม่แล้วเสร็จ และนี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของทรัมป์ที่ต้องการออกจากสงครามและกลับมาสู่การทำข้อตกลง คาดว่าทรัมป์จะใช้ระเบิดบังเกอร์ขนาดใหญ่ที่สามารถทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา เป็นจุดสำคัญในการโน้มน้าวให้อิหร่านบรรลุข้อตกลง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าว สำหรับสถานการณ์ขณะนี้ ทรัมป์ยังคงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโดยตรงกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่าน แต่เขาก็ยังยืนยันชัดเจนว่า อิหร่านจะต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อิสราเอลคุกคามสื่ออย่างแท้จริง!!"


    แถลงการณ์จากผู้บริหารสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของอิหร่าน (IRIB - Islamic Republic of Iran Broadcasting) หลังจากถูกอิสราเอลโจมตีทาวอากาศ โดยให้คำมั่นกับสาธารณชนว่าความมุ่งมั่นของพวกเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง และจะออกอากาศต่อไปโดยไม่ลังเล แม้ว่าอาคารจะถูกทิ้งระเบิด 1,000 ครั้งก็ตาม

    เขายังประณามการรุกรานครั้งนี้ และสาบานว่าจะยึดมั่นหน้าที่ของสื่อที่จะเปิดโปงอาชญากรรมของอิสราเอล ไม่ว่าจะมีภัยคุกคามอย่างไรก็ตาม
    "อิสราเอลคุกคามสื่ออย่างแท้จริง!!" แถลงการณ์จากผู้บริหารสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของอิหร่าน (IRIB - Islamic Republic of Iran Broadcasting) หลังจากถูกอิสราเอลโจมตีทาวอากาศ โดยให้คำมั่นกับสาธารณชนว่าความมุ่งมั่นของพวกเขาจะไม่เปลี่ยนแปลง และจะออกอากาศต่อไปโดยไม่ลังเล แม้ว่าอาคารจะถูกทิ้งระเบิด 1,000 ครั้งก็ตาม เขายังประณามการรุกรานครั้งนี้ และสาบานว่าจะยึดมั่นหน้าที่ของสื่อที่จะเปิดโปงอาชญากรรมของอิสราเอล ไม่ว่าจะมีภัยคุกคามอย่างไรก็ตาม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของอิหร่าน (IRIB - Islamic Republic of Iran Broadcasting) ในกรุงเตหะราน กำลังรายงานต่อหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ของสถานีหลังจากเพิ่งถูกโจมตีจากอิสราเอล และตัวเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บ

    นักข่าวรายนี้กล่าวว่า แม้ศัตรูจะโจมตีแกนหลักของงานสื่อของอิหร่าน เพื่อสร้างความหวาดกลัว แต่ “พวกเราจะทำงานต่อไป”
    ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐของอิหร่าน (IRIB - Islamic Republic of Iran Broadcasting) ในกรุงเตหะราน กำลังรายงานต่อหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ของสถานีหลังจากเพิ่งถูกโจมตีจากอิสราเอล และตัวเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บ นักข่าวรายนี้กล่าวว่า แม้ศัตรูจะโจมตีแกนหลักของงานสื่อของอิหร่าน เพื่อสร้างความหวาดกลัว แต่ “พวกเราจะทำงานต่อไป”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนทันยาฮูยังไม่ละความพยายามในการโน้มน้าวให้สรัฐเข้าร่วมการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน เนื่องจากมีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่สามารถทิ้งระเบิดใส่โรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านได้

    การโจมตีครั้งล่าสุดของอิสราเอลส่งผลกระทบอย่างรุนแรง แต่ยังไม่รุนแรงพอที่จะทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา

    เครื่องทำลายบังเกอร์ที่ดีที่สุดของอิสราเอล เช่น GBU-28 ที่สหรัฐอเมริกาจัดหาให้ สามารถเจาะทะลุคอนกรีตหนา 6 เมตรได้ แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับการเจาะเข้าไปที่โรงงานฟอร์โดว์

    อาวุธชนิดเดียวที่สามารถทำได้คือ ระเบิด Bunker Buster ขนาด 30,000 ปอนด์ GBU-57 MOP (Massive Ordnance Penetrator) ที่เชื่อกันว่าสามารถเจาะคอนกรีตได้ลึกมากกว่า 60 เมตร ก่อนจะระเบิดตัวเอง จึงสามารถโจมตีและทำลายเป้าหมายที่อยู่ลึกใต้ดินได้เป็นอย่างดี

    แต่มีเพียงเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 เท่านั้นในขณะนี้ที่สามารถติดตั้งระเบิดประเภทนี้ได้ ซึ่งมีเพียงกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่มีเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ประจำการอยู่
    เนทันยาฮูยังไม่ละความพยายามในการโน้มน้าวให้สรัฐเข้าร่วมการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน เนื่องจากมีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่สามารถทิ้งระเบิดใส่โรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านได้ การโจมตีครั้งล่าสุดของอิสราเอลส่งผลกระทบอย่างรุนแรง แต่ยังไม่รุนแรงพอที่จะทำลายโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility) ซึ่งเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่มีการป้องกันอย่างแข็งแกร่งที่สุดของอิหร่านที่อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขา เครื่องทำลายบังเกอร์ที่ดีที่สุดของอิสราเอล เช่น GBU-28 ที่สหรัฐอเมริกาจัดหาให้ สามารถเจาะทะลุคอนกรีตหนา 6 เมตรได้ แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับการเจาะเข้าไปที่โรงงานฟอร์โดว์ อาวุธชนิดเดียวที่สามารถทำได้คือ ระเบิด Bunker Buster ขนาด 30,000 ปอนด์ GBU-57 MOP (Massive Ordnance Penetrator) ที่เชื่อกันว่าสามารถเจาะคอนกรีตได้ลึกมากกว่า 60 เมตร ก่อนจะระเบิดตัวเอง จึงสามารถโจมตีและทำลายเป้าหมายที่อยู่ลึกใต้ดินได้เป็นอย่างดี แต่มีเพียงเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 เท่านั้นในขณะนี้ที่สามารถติดตั้งระเบิดประเภทนี้ได้ ซึ่งมีเพียงกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่มีเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ประจำการอยู่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่โดย 'Maxar' ​​วันนี้:

    รูป1 - เผยให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายที่มองเห็นได้ที่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิหร่านที่ Arak หรือที่เรียกอีกอย่างว่า 'Arak Nuclear Complex'

    รูป2 - ภาพถ่ายดาวเทียมวันนี้เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับอาคารหลักในโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility)
    ภาพถ่ายดาวเทียมที่เผยแพร่โดย 'Maxar' ​​วันนี้: รูป1 - เผยให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายที่มองเห็นได้ที่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิหร่านที่ Arak หรือที่เรียกอีกอย่างว่า 'Arak Nuclear Complex' รูป2 - ภาพถ่ายดาวเทียมวันนี้เช่นกัน แสดงให้เห็นว่าไม่มีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับอาคารหลักในโรงงานเสริมสมรรถนะฟอร์โดว์ของอิหร่าน (Iran’s Fordow enrichment facility)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นความเสียหายอย่างหนักที่ฐานเรดาร์โซบาชิ (Iran’s Sobashi Radar Site) ของอิหร่าน ซึ่งถูกโจมตีจากอิสราเอลเมื่อวานนี้

    พิกัด 35.18587461242618, 48.270655692587425
    ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นความเสียหายอย่างหนักที่ฐานเรดาร์โซบาชิ (Iran’s Sobashi Radar Site) ของอิหร่าน ซึ่งถูกโจมตีจากอิสราเอลเมื่อวานนี้ พิกัด 35.18587461242618, 48.270655692587425
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน!

    องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (Atomic Energy Organization of Iran) ประกาศว่าตรวจพบการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสีภายในโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ (Natanz Nuclear Facility) ในอิหร่านตอนกลาง แต่ยังไม่มีการตรวจพบร่องรอยของกัมมันตภาพรังสีนอกเขตพื้นที่ดังกล่าว
    ด่วน! องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (Atomic Energy Organization of Iran) ประกาศว่าตรวจพบการปนเปื้อนของกัมมันตภาพรังสีภายในโรงงานนิวเคลียร์นาตันซ์ (Natanz Nuclear Facility) ในอิหร่านตอนกลาง แต่ยังไม่มีการตรวจพบร่องรอยของกัมมันตภาพรังสีนอกเขตพื้นที่ดังกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts