• GlobalFoundries ซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry

    GlobalFoundries ประกาศการเข้าซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry (AMF) บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้าน silicon photonics ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงแทนสัญญาณไฟฟ้าในการส่งข้อมูลภายในชิปและระหว่างเซิร์ฟเวอร์ การเข้าซื้อครั้งนี้ทำให้ GlobalFoundries กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลกด้าน silicon photonics และเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Nvidia และ AMD

    Silicon photonics กำลังถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของ AI data centers เนื่องจากสามารถลดการใช้พลังงานและเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลได้อย่างมหาศาล Nvidia เองก็มีแผนจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่ เพื่อรองรับการทำงานของ GPU นับล้านตัวในคลัสเตอร์เดียว ขณะที่ AMD ก็ลงทุนกว่า 300 ล้านดอลลาร์ในศูนย์ R&D ที่ไต้หวัน และเข้าซื้อบริษัท Enosemi เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้เช่นกัน

    นอกจากการใช้งานใน AI แล้ว silicon photonics ยังมีบทบาทสำคัญใน quantum computing เพราะสามารถใช้แสงในการประมวลผลโดยไม่ต้องพึ่งพาการทำงานที่อุณหภูมิต่ำมาก (cryogenic cooling) ทำให้การสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมมีต้นทุนต่ำลงและใช้งานได้จริงมากขึ้น

    การเข้าซื้อ AMF ของ GlobalFoundries จึงไม่ใช่แค่การขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตของการประมวลผลที่ต้องการทั้ง ความเร็ว ความแม่นยำ และประสิทธิภาพด้านพลังงาน ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนา AI และเทคโนโลยีขั้นสูงในทศวรรษหน้า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    GlobalFoundries ซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry (AMF)
    ทำให้กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิต silicon photonics รายใหญ่ที่สุดในโลก

    Silicon photonics ใช้แสงแทนสัญญาณไฟฟ้า
    เพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลและลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI

    Nvidia และ AMD ลงทุนในเทคโนโลยีนี้เช่นกัน
    Nvidia เตรียมใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่, AMD ลงทุน R&D และซื้อ Enosemi

    มีบทบาทสำคัญต่อ quantum computing
    ลดต้นทุนและความซับซ้อนในการสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัม

    การแข่งขันในตลาด silicon photonics รุนแรงขึ้น
    บริษัทที่ไม่ลงทุนอาจเสียเปรียบในยุค AI และ quantum computing

    การพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ยังมีความเสี่ยง
    ต้องใช้เวลาและเงินลงทุนมหาศาลในการพัฒนาและปรับใช้จริง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/globalfoundries-buys-silicon-photonics-firm-advanced-micro-foundry-for-undisclosed-amount-move-makes-chipmaker-one-of-the-largest-silicon-photonics-manufacturers
    💡 GlobalFoundries ซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry GlobalFoundries ประกาศการเข้าซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry (AMF) บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่เชี่ยวชาญด้าน silicon photonics ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงแทนสัญญาณไฟฟ้าในการส่งข้อมูลภายในชิปและระหว่างเซิร์ฟเวอร์ การเข้าซื้อครั้งนี้ทำให้ GlobalFoundries กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลกด้าน silicon photonics และเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Nvidia และ AMD Silicon photonics กำลังถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของ AI data centers เนื่องจากสามารถลดการใช้พลังงานและเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลได้อย่างมหาศาล Nvidia เองก็มีแผนจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่ เพื่อรองรับการทำงานของ GPU นับล้านตัวในคลัสเตอร์เดียว ขณะที่ AMD ก็ลงทุนกว่า 300 ล้านดอลลาร์ในศูนย์ R&D ที่ไต้หวัน และเข้าซื้อบริษัท Enosemi เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้เช่นกัน นอกจากการใช้งานใน AI แล้ว silicon photonics ยังมีบทบาทสำคัญใน quantum computing เพราะสามารถใช้แสงในการประมวลผลโดยไม่ต้องพึ่งพาการทำงานที่อุณหภูมิต่ำมาก (cryogenic cooling) ทำให้การสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมมีต้นทุนต่ำลงและใช้งานได้จริงมากขึ้น การเข้าซื้อ AMF ของ GlobalFoundries จึงไม่ใช่แค่การขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคตของการประมวลผลที่ต้องการทั้ง ความเร็ว ความแม่นยำ และประสิทธิภาพด้านพลังงาน ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนา AI และเทคโนโลยีขั้นสูงในทศวรรษหน้า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ GlobalFoundries ซื้อกิจการ Advanced Micro Foundry (AMF) ➡️ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิต silicon photonics รายใหญ่ที่สุดในโลก ✅ Silicon photonics ใช้แสงแทนสัญญาณไฟฟ้า ➡️ เพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลและลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI ✅ Nvidia และ AMD ลงทุนในเทคโนโลยีนี้เช่นกัน ➡️ Nvidia เตรียมใช้ในเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่, AMD ลงทุน R&D และซื้อ Enosemi ✅ มีบทบาทสำคัญต่อ quantum computing ➡️ ลดต้นทุนและความซับซ้อนในการสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัม ‼️ การแข่งขันในตลาด silicon photonics รุนแรงขึ้น ⛔ บริษัทที่ไม่ลงทุนอาจเสียเปรียบในยุค AI และ quantum computing ‼️ การพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ยังมีความเสี่ยง ⛔ ต้องใช้เวลาและเงินลงทุนมหาศาลในการพัฒนาและปรับใช้จริง https://www.tomshardware.com/tech-industry/globalfoundries-buys-silicon-photonics-firm-advanced-micro-foundry-for-undisclosed-amount-move-makes-chipmaker-one-of-the-largest-silicon-photonics-manufacturers
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน
    #20251115 #techradar

    SanDisk เปิดตัวแฟลชไดรฟ์ 1TB ขนาดจิ๋ว
    SanDisk ออกแฟลชไดรฟ์ USB-C รุ่นใหม่ Extreme Fit ที่มีความจุสูงสุดถึง 1TB แต่ตัวเล็กมากจนสามารถเสียบติดเครื่องไว้ตลอดเวลาโดยไม่เกะกะ เหมาะกับคนที่ใช้โน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตบ่อย ๆ ต้องการพื้นที่เพิ่มโดยไม่ต้องพกฮาร์ดดิสก์พกพา ความเร็วอ่านสูงสุด 400MB/s ใกล้เคียง SSD ราคาก็จับต้องได้ เริ่มต้นเพียงสิบกว่าดอลลาร์ ไปจนถึงรุ่นท็อป 1TB ราวร้อยดอลลาร์ ถือเป็นการผสมผสานความสะดวกกับประสิทธิภาพในอุปกรณ์เล็ก ๆ

    PNY ยกเลิกดีล Black Friday สะท้อนวิกฤตวงการชิป
    ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายใหญ่ PNY ประกาศหยุดโปรโมชันลดราคาสินค้าจัดเก็บข้อมูลในช่วง Black Friday เพราะต้นทุน NAND และ DRAM พุ่งสูงขึ้นมากจนกระทบตลาด SSD และแฟลชไดรฟ์ สถานการณ์นี้สะท้อนว่าตลาดหน่วยความจำกำลังตึงตัวอย่างหนัก และอาจทำให้การประกอบคอมพิวเตอร์หรืออัปเกรดเครื่องมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในปีถัดไป

    IBM เปิดตัวชิปควอนตัมใหม่ Nighthawk และ Loon
    IBM ก้าวหน้าอีกขั้นในเส้นทางควอนตัมคอมพิวติ้ง ด้วยการเปิดตัวชิป Nighthawk ที่มี 120 qubits และสามารถทำงานซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม 30% พร้อมชิป Loon ที่ทดลองสถาปัตยกรรมใหม่เพื่อรองรับการแก้ไขข้อผิดพลาดในระดับใหญ่ จุดมุ่งหมายคือการทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้งานได้จริงในธุรกิจและวิทยาศาสตร์ภายในทศวรรษนี้

    CTO บริษัท Checkout.com ปฏิเสธจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์
    บริษัท Checkout.com ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์ ShinyHunters เจาะระบบเก่าและเรียกค่าไถ่ แต่ CTO ตัดสินใจไม่จ่ายเงินให้คนร้าย กลับนำเงินจำนวนดังกล่าวไปบริจาคให้มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon และ Oxford เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่สนับสนุนอาชญากรรมออนไลน์

    ExpressVPN จับมือ Brooklyn Nets มอบดีลพิเศษแฟนบาส
    ExpressVPN กลายเป็นพาร์ทเนอร์ด้านความเป็นส่วนตัวดิจิทัลของทีมบาส NBA Brooklyn Nets พร้อมมอบส่วนลดสูงสุดถึง 73% ให้แฟน ๆ ถือเป็นการนำโลกไซเบอร์กับกีฬาเข้ามาเชื่อมโยงกัน และช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงการป้องกันข้อมูลในราคาที่คุ้มค่า

    Apple เปิดตัว Digital ID จุดประกายกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว
    Apple เพิ่มฟีเจอร์ Digital ID ในแอป Wallet ให้ผู้ใช้แสดงพาสปอร์ตผ่านมือถือที่สนามบินในสหรัฐฯ แม้จะสะดวก แต่หลายฝ่ายกังวลว่าการใช้ข้อมูลอัตลักษณ์ดิจิทัลอาจนำไปสู่การถูกติดตามหรือการละเมิดความเป็นส่วนตัว Apple ยืนยันว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในเครื่องเท่านั้นและใช้การเข้ารหัสขั้นสูง แต่เสียงวิจารณ์ก็ยังดังอยู่

    Intel Panther Lake CPU หลุดผลทดสอบ กราฟิกแรงเกินคาด
    มีข้อมูลหลุดของซีพียู Intel Panther Lake รุ่น Core Ultra X7 358H ที่มาพร้อมกราฟิก Xe3 ในตัว ผลทดสอบออกมาดีกว่า GPU แยกอย่าง RTX 3050 ถึงกว่า 10% ทำให้โน้ตบุ๊กบางเบาและเครื่องเกมพกพาในอนาคตอาจไม่ต้องพึ่งการ์ดจอแยกอีกต่อไป ทั้งแรงและประหยัดพลังงานมากขึ้น

    Akira Ransomware ขยายโจมตี Nutanix VMs
    แรนซัมแวร์ Akira ถูกพบว่าเริ่มโจมตีระบบ Nutanix AHV VM โดยใช้ช่องโหว่ SonicWall และ Veeam เพื่อเข้าถึงและเข้ารหัสไฟล์ ทำให้บริษัทต่าง ๆ เสียหายหนัก ยอดเงินที่คนร้ายรีดไถได้รวมแล้วกว่า 240 ล้านดอลลาร์ หน่วยงานความปลอดภัยเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตระบบและเปิดใช้การยืนยันตัวตนหลายชั้น

    Operation Endgame 3.0 ยึดเซิร์ฟเวอร์อาชญากรรมไซเบอร์
    Europol และหน่วยงานยุโรปเปิดปฏิบัติการ Endgame 3.0 ปราบปรามเครือข่ายมัลแวร์ใหญ่ เช่น Rhadamanthys, VenomRAT และ Elysium ยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 1,000 เครื่อง และโดเมนกว่า 20 แห่ง พร้อมจับผู้ต้องสงสัยหนึ่งราย แม้จะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากไม่มีการจับกุมต่อเนื่อง เครือข่ายเหล่านี้อาจกลับมาอีก
    📰📌 รวมข่าวจาก TechRadar ประจำวัน 📌 📰 #20251115 #techradar 🗂️ SanDisk เปิดตัวแฟลชไดรฟ์ 1TB ขนาดจิ๋ว SanDisk ออกแฟลชไดรฟ์ USB-C รุ่นใหม่ Extreme Fit ที่มีความจุสูงสุดถึง 1TB แต่ตัวเล็กมากจนสามารถเสียบติดเครื่องไว้ตลอดเวลาโดยไม่เกะกะ เหมาะกับคนที่ใช้โน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ตบ่อย ๆ ต้องการพื้นที่เพิ่มโดยไม่ต้องพกฮาร์ดดิสก์พกพา ความเร็วอ่านสูงสุด 400MB/s ใกล้เคียง SSD ราคาก็จับต้องได้ เริ่มต้นเพียงสิบกว่าดอลลาร์ ไปจนถึงรุ่นท็อป 1TB ราวร้อยดอลลาร์ ถือเป็นการผสมผสานความสะดวกกับประสิทธิภาพในอุปกรณ์เล็ก ๆ 💸 PNY ยกเลิกดีล Black Friday สะท้อนวิกฤตวงการชิป ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายใหญ่ PNY ประกาศหยุดโปรโมชันลดราคาสินค้าจัดเก็บข้อมูลในช่วง Black Friday เพราะต้นทุน NAND และ DRAM พุ่งสูงขึ้นมากจนกระทบตลาด SSD และแฟลชไดรฟ์ สถานการณ์นี้สะท้อนว่าตลาดหน่วยความจำกำลังตึงตัวอย่างหนัก และอาจทำให้การประกอบคอมพิวเตอร์หรืออัปเกรดเครื่องมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในปีถัดไป ⚛️ IBM เปิดตัวชิปควอนตัมใหม่ Nighthawk และ Loon IBM ก้าวหน้าอีกขั้นในเส้นทางควอนตัมคอมพิวติ้ง ด้วยการเปิดตัวชิป Nighthawk ที่มี 120 qubits และสามารถทำงานซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม 30% พร้อมชิป Loon ที่ทดลองสถาปัตยกรรมใหม่เพื่อรองรับการแก้ไขข้อผิดพลาดในระดับใหญ่ จุดมุ่งหมายคือการทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้งานได้จริงในธุรกิจและวิทยาศาสตร์ภายในทศวรรษนี้ 🔐 CTO บริษัท Checkout.com ปฏิเสธจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ บริษัท Checkout.com ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์ ShinyHunters เจาะระบบเก่าและเรียกค่าไถ่ แต่ CTO ตัดสินใจไม่จ่ายเงินให้คนร้าย กลับนำเงินจำนวนดังกล่าวไปบริจาคให้มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon และ Oxford เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่สนับสนุนอาชญากรรมออนไลน์ 🏀 ExpressVPN จับมือ Brooklyn Nets มอบดีลพิเศษแฟนบาส ExpressVPN กลายเป็นพาร์ทเนอร์ด้านความเป็นส่วนตัวดิจิทัลของทีมบาส NBA Brooklyn Nets พร้อมมอบส่วนลดสูงสุดถึง 73% ให้แฟน ๆ ถือเป็นการนำโลกไซเบอร์กับกีฬาเข้ามาเชื่อมโยงกัน และช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงการป้องกันข้อมูลในราคาที่คุ้มค่า 🍏 Apple เปิดตัว Digital ID จุดประกายกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว Apple เพิ่มฟีเจอร์ Digital ID ในแอป Wallet ให้ผู้ใช้แสดงพาสปอร์ตผ่านมือถือที่สนามบินในสหรัฐฯ แม้จะสะดวก แต่หลายฝ่ายกังวลว่าการใช้ข้อมูลอัตลักษณ์ดิจิทัลอาจนำไปสู่การถูกติดตามหรือการละเมิดความเป็นส่วนตัว Apple ยืนยันว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในเครื่องเท่านั้นและใช้การเข้ารหัสขั้นสูง แต่เสียงวิจารณ์ก็ยังดังอยู่ 💻 Intel Panther Lake CPU หลุดผลทดสอบ กราฟิกแรงเกินคาด มีข้อมูลหลุดของซีพียู Intel Panther Lake รุ่น Core Ultra X7 358H ที่มาพร้อมกราฟิก Xe3 ในตัว ผลทดสอบออกมาดีกว่า GPU แยกอย่าง RTX 3050 ถึงกว่า 10% ทำให้โน้ตบุ๊กบางเบาและเครื่องเกมพกพาในอนาคตอาจไม่ต้องพึ่งการ์ดจอแยกอีกต่อไป ทั้งแรงและประหยัดพลังงานมากขึ้น 🦠 Akira Ransomware ขยายโจมตี Nutanix VMs แรนซัมแวร์ Akira ถูกพบว่าเริ่มโจมตีระบบ Nutanix AHV VM โดยใช้ช่องโหว่ SonicWall และ Veeam เพื่อเข้าถึงและเข้ารหัสไฟล์ ทำให้บริษัทต่าง ๆ เสียหายหนัก ยอดเงินที่คนร้ายรีดไถได้รวมแล้วกว่า 240 ล้านดอลลาร์ หน่วยงานความปลอดภัยเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตระบบและเปิดใช้การยืนยันตัวตนหลายชั้น 🚔 Operation Endgame 3.0 ยึดเซิร์ฟเวอร์อาชญากรรมไซเบอร์ Europol และหน่วยงานยุโรปเปิดปฏิบัติการ Endgame 3.0 ปราบปรามเครือข่ายมัลแวร์ใหญ่ เช่น Rhadamanthys, VenomRAT และ Elysium ยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 1,000 เครื่อง และโดเมนกว่า 20 แห่ง พร้อมจับผู้ต้องสงสัยหนึ่งราย แม้จะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากไม่มีการจับกุมต่อเนื่อง เครือข่ายเหล่านี้อาจกลับมาอีก
    0 Comments 0 Shares 235 Views 0 Reviews
  • Valve รอเทคโนโลยีใหม่ก่อนเปิดตัว Steam Deck 2

    Valve ประกาศชัดเจนว่า Steam Deck 2 จะไม่ใช่การอัปเกรดเล็กน้อย แต่ต้องเป็น “ก้าวกระโดด” ทั้งด้านประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ปัจจุบัน Steam Deck รุ่นแรกแม้ยังคงเล่นเกมได้ดี แต่เริ่มล้าหลังเมื่อเจอกับเกม AAA รุ่นใหม่ ๆ ที่กินทรัพยากรมากขึ้น ทำให้ทีมพัฒนาเลือกที่จะรอจนกว่าชิปใหม่จะพร้อมใช้งานจริง

    AMD Strix Halo APU – พลังที่ Valve จับตามอง
    AMD เปิดตัว Ryzen AI MAX+ 395 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Strix Halo ซึ่งมาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 จำนวน 40 CU ที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4060 Laptop GPU นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจทำให้ Steam Deck 2 สามารถแข่งขันกับโน้ตบุ๊กเกมมิ่งระดับกลางได้ โดยยังคงอยู่ในขนาดพกพา

    ปัญหาหลัก: ประสิทธิภาพต่อวัตต์และแบตเตอรี่
    แม้ Strix Halo จะทรงพลัง แต่ Valve ย้ำว่าการเพิ่มประสิทธิภาพ 20–50% ยังไม่เพียงพอ หากต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่หมดเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น ROG Ally X ที่ใช้ชิปใหม่ แม้เล่นเกมได้ลื่น แต่แบตเตอรี่หมดภายใน 2 ชั่วโมงเมื่อใช้โหมด Turbo ซึ่งไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในระยะยาว

    อนาคตของเครื่องเล่นพกพา
    Valve กำลังวางแผนให้ Steam Deck 2 เป็นเครื่องที่ “Next-gen” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการอัปเกรดเล็กน้อย หาก AMD สามารถทำให้ Strix Halo หรือรุ่นถัดไปมีราคาที่เข้าถึงได้และประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงพอ Steam Deck 2 อาจเปิดตัวในช่วงปี 2027–2028 ซึ่งจะเป็นการเว้นระยะห่างราว 5–6 ปีจากรุ่นแรก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Valve ชะลอการเปิดตัว Steam Deck 2
    ต้องการรอเทคโนโลยีซิลิคอนใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงโดยไม่ลดทอนแบตเตอรี่

    AMD Strix Halo APU โดดเด่น
    มาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 ที่แรงเทียบ RTX 4060 Laptop

    Steam Deck รุ่นปัจจุบันเริ่มล้าหลัง
    เกม AAA ใหม่ ๆ ทำให้เครื่องแสดงข้อจำกัดด้านเฟรมเรตและแบตเตอรี่

    ความเสี่ยงด้านแบตเตอรี่และความร้อน
    ชิปที่แรงขึ้นอาจทำให้แบตหมดเร็วและเครื่องร้อนเกินไป ไม่เหมาะกับการพกพา

    ราคาที่อาจสูงเกินเอื้อม
    หาก Steam Deck 2 ใช้ชิปประสิทธิภาพสูง ราคาสามารถพุ่งใกล้ $1,000 ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงยาก

    https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/valve-is-waiting-for-major-architectural-improvements-on-future-silicon-before-creating-the-steam-deck-2-drastically-better-performance-with-the-same-battery-life-is-not-enough
    🎮 Valve รอเทคโนโลยีใหม่ก่อนเปิดตัว Steam Deck 2 Valve ประกาศชัดเจนว่า Steam Deck 2 จะไม่ใช่การอัปเกรดเล็กน้อย แต่ต้องเป็น “ก้าวกระโดด” ทั้งด้านประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ปัจจุบัน Steam Deck รุ่นแรกแม้ยังคงเล่นเกมได้ดี แต่เริ่มล้าหลังเมื่อเจอกับเกม AAA รุ่นใหม่ ๆ ที่กินทรัพยากรมากขึ้น ทำให้ทีมพัฒนาเลือกที่จะรอจนกว่าชิปใหม่จะพร้อมใช้งานจริง ⚡ AMD Strix Halo APU – พลังที่ Valve จับตามอง AMD เปิดตัว Ryzen AI MAX+ 395 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Strix Halo ซึ่งมาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 จำนวน 40 CU ที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4060 Laptop GPU นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจทำให้ Steam Deck 2 สามารถแข่งขันกับโน้ตบุ๊กเกมมิ่งระดับกลางได้ โดยยังคงอยู่ในขนาดพกพา 🔋 ปัญหาหลัก: ประสิทธิภาพต่อวัตต์และแบตเตอรี่ แม้ Strix Halo จะทรงพลัง แต่ Valve ย้ำว่าการเพิ่มประสิทธิภาพ 20–50% ยังไม่เพียงพอ หากต้องแลกกับแบตเตอรี่ที่หมดเร็วเกินไป ตัวอย่างเช่น ROG Ally X ที่ใช้ชิปใหม่ แม้เล่นเกมได้ลื่น แต่แบตเตอรี่หมดภายใน 2 ชั่วโมงเมื่อใช้โหมด Turbo ซึ่งไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในระยะยาว 🌐 อนาคตของเครื่องเล่นพกพา Valve กำลังวางแผนให้ Steam Deck 2 เป็นเครื่องที่ “Next-gen” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการอัปเกรดเล็กน้อย หาก AMD สามารถทำให้ Strix Halo หรือรุ่นถัดไปมีราคาที่เข้าถึงได้และประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงพอ Steam Deck 2 อาจเปิดตัวในช่วงปี 2027–2028 ซึ่งจะเป็นการเว้นระยะห่างราว 5–6 ปีจากรุ่นแรก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Valve ชะลอการเปิดตัว Steam Deck 2 ➡️ ต้องการรอเทคโนโลยีซิลิคอนใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูงโดยไม่ลดทอนแบตเตอรี่ ✅ AMD Strix Halo APU โดดเด่น ➡️ มาพร้อม 16 คอร์ Zen 5 และ GPU RDNA 3.5 ที่แรงเทียบ RTX 4060 Laptop ✅ Steam Deck รุ่นปัจจุบันเริ่มล้าหลัง ➡️ เกม AAA ใหม่ ๆ ทำให้เครื่องแสดงข้อจำกัดด้านเฟรมเรตและแบตเตอรี่ ‼️ ความเสี่ยงด้านแบตเตอรี่และความร้อน ⛔ ชิปที่แรงขึ้นอาจทำให้แบตหมดเร็วและเครื่องร้อนเกินไป ไม่เหมาะกับการพกพา ‼️ ราคาที่อาจสูงเกินเอื้อม ⛔ หาก Steam Deck 2 ใช้ชิปประสิทธิภาพสูง ราคาสามารถพุ่งใกล้ $1,000 ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงยาก https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/valve-is-waiting-for-major-architectural-improvements-on-future-silicon-before-creating-the-steam-deck-2-drastically-better-performance-with-the-same-battery-life-is-not-enough
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • Operation Endgame – ปฏิบัติการระดับโลกยึดเซิร์ฟเวอร์ 1,025 เครื่อง ปราบสามแก๊งมัลแวร์

    ในเดือนพฤศจิกายน 2025 หน่วยงาน Europol และพันธมิตรจาก 11 ประเทศ ได้ร่วมกันเปิดปฏิบัติการ Operation Endgame ที่สามารถยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 1,025 เครื่อง และจับกุมผู้ต้องสงสัยรายสำคัญในกรีซ การปฏิบัติการนี้มุ่งเป้าไปที่กลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใช้เครื่องมือมัลแวร์ชื่อดัง ได้แก่ Rhadamanthys (Infostealer), VenomRAT (Remote Access Tool) และ Elysium Botnet

    การเข้าจู่โจมครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยึดโดเมนที่ใช้โจมตี แต่ยังค้นพบข้อมูลที่ถูกขโมยมหาศาล เช่น รหัสล็อกอินหลายล้านรายการ และกระเป๋าเงินคริปโตมากกว่า 100,000 ใบที่ถูกควบคุมโดยผู้ต้องสงสัย ซึ่งอาจมีมูลค่าหลายล้านยูโร

    สิ่งที่น่าสนใจคือการร่วมมือกันของทั้งหน่วยงานรัฐและบริษัทเอกชน เช่น CrowdStrike, Proofpoint และ Bitdefender ที่ช่วยสนับสนุนการสืบสวนและปิดระบบที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติการนี้ยังต่อยอดจากการปราบปรามก่อนหน้า เช่น Smokeloader และ IcedID ในปี 2024–2025 แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานกำลังไล่ล่าทั้งผู้สร้างและผู้ใช้บริการมัลแวร์อย่างจริงจัง

    ประชาชนทั่วไปที่กังวลว่าตัวเองอาจถูกติดมัลแวร์ สามารถตรวจสอบได้ผ่านเครื่องมือฟรีที่ตำรวจยุโรปเผยแพร่ เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจว่าระบบของตนปลอดภัยจากการโจมตี

    สรุปเป็นหัวข้อ:
    รายละเอียดของ Operation Endgame
    ยึดเซิร์ฟเวอร์ 1,025 เครื่อง, จับผู้ต้องสงสัยในกรีซ

    มัลแวร์ที่ถูกปราบปราม
    Rhadamanthys, VenomRAT, Elysium Botnet

    ความร่วมมือระหว่างประเทศและเอกชน
    Europol, CrowdStrike, Proofpoint, Bitdefender

    ความเสี่ยงที่ผู้ใช้ทั่วไปควรตรวจสอบ
    ใช้เครื่องมือฟรีตรวจสอบ, ระวังข้อมูลล็อกอินและกระเป๋าเงินคริปโตถูกขโมย

    https://hackread.com/operation-endgame-rhadamanthys-venomrat-elysium-malware/
    🌐 Operation Endgame – ปฏิบัติการระดับโลกยึดเซิร์ฟเวอร์ 1,025 เครื่อง ปราบสามแก๊งมัลแวร์ ในเดือนพฤศจิกายน 2025 หน่วยงาน Europol และพันธมิตรจาก 11 ประเทศ ได้ร่วมกันเปิดปฏิบัติการ Operation Endgame ที่สามารถยึดเซิร์ฟเวอร์กว่า 1,025 เครื่อง และจับกุมผู้ต้องสงสัยรายสำคัญในกรีซ การปฏิบัติการนี้มุ่งเป้าไปที่กลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใช้เครื่องมือมัลแวร์ชื่อดัง ได้แก่ Rhadamanthys (Infostealer), VenomRAT (Remote Access Tool) และ Elysium Botnet การเข้าจู่โจมครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยึดโดเมนที่ใช้โจมตี แต่ยังค้นพบข้อมูลที่ถูกขโมยมหาศาล เช่น รหัสล็อกอินหลายล้านรายการ และกระเป๋าเงินคริปโตมากกว่า 100,000 ใบที่ถูกควบคุมโดยผู้ต้องสงสัย ซึ่งอาจมีมูลค่าหลายล้านยูโร สิ่งที่น่าสนใจคือการร่วมมือกันของทั้งหน่วยงานรัฐและบริษัทเอกชน เช่น CrowdStrike, Proofpoint และ Bitdefender ที่ช่วยสนับสนุนการสืบสวนและปิดระบบที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติการนี้ยังต่อยอดจากการปราบปรามก่อนหน้า เช่น Smokeloader และ IcedID ในปี 2024–2025 แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานกำลังไล่ล่าทั้งผู้สร้างและผู้ใช้บริการมัลแวร์อย่างจริงจัง ประชาชนทั่วไปที่กังวลว่าตัวเองอาจถูกติดมัลแวร์ สามารถตรวจสอบได้ผ่านเครื่องมือฟรีที่ตำรวจยุโรปเผยแพร่ เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจว่าระบบของตนปลอดภัยจากการโจมตี 📌 สรุปเป็นหัวข้อ: ✅ รายละเอียดของ Operation Endgame ➡️ ยึดเซิร์ฟเวอร์ 1,025 เครื่อง, จับผู้ต้องสงสัยในกรีซ ✅ มัลแวร์ที่ถูกปราบปราม ➡️ Rhadamanthys, VenomRAT, Elysium Botnet ✅ ความร่วมมือระหว่างประเทศและเอกชน ➡️ Europol, CrowdStrike, Proofpoint, Bitdefender ‼️ ความเสี่ยงที่ผู้ใช้ทั่วไปควรตรวจสอบ ⛔ ใช้เครื่องมือฟรีตรวจสอบ, ระวังข้อมูลล็อกอินและกระเป๋าเงินคริปโตถูกขโมย https://hackread.com/operation-endgame-rhadamanthys-venomrat-elysium-malware/
    HACKREAD.COM
    Operation Endgame Hits Rhadamanthys, VenomRAT, Elysium Malware, seize 1025 servers
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • yt-dlp ต้องใช้ JavaScript Runtime ภายนอกเพื่อโหลด YouTube

    ในโลกของนักโหลดวิดีโอจาก YouTube มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่! yt-dlp ซึ่งเป็นเครื่องมือยอดนิยมสำหรับดาวน์โหลดวิดีโอ ได้ประกาศว่าตั้งแต่เวอร์ชันใหม่ ผู้ใช้จำเป็นต้องติดตั้ง JavaScript runtime ภายนอก เช่น Deno, Node.js หรือ QuickJS เพื่อให้การดาวน์โหลดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพราะ YouTube มีการปรับระบบที่ซับซ้อนขึ้น ทำให้การดึงข้อมูลวิดีโอจำเป็นต้องใช้ runtime เพื่อแก้ไขการเข้ารหัสและการตรวจสอบสิทธิ์ หากไม่ติดตั้ง ผู้ใช้ยังพอโหลดได้ แต่คุณภาพและรูปแบบไฟล์จะถูกจำกัด และในอนาคตอาจโหลดไม่ได้เลย

    แม้จะเป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ใช้ แต่ก็ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยและความเสถียรของระบบ นักพัฒนาแนะนำให้ใช้ Deno เป็นตัวเลือกหลัก เพราะมีความเร็วและปลอดภัยสูงสุด การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสะท้อนถึงการที่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง YouTube พยายามปิดช่องโหว่การเข้าถึงข้อมูลโดยตรง

    yt-dlp เวอร์ชันใหม่ต้องใช้ JavaScript runtime ภายนอก
    ตัวเลือกหลักคือ Deno, Node.js, QuickJS, Bun

    การใช้ runtime ช่วยแก้ปัญหาการเข้ารหัสและเพิ่มความปลอดภัย
    ทำให้การดาวน์โหลดมีคุณภาพและเสถียรมากขึ้น

    หากไม่ติดตั้ง runtime อาจโหลดวิดีโอได้ไม่ครบหรือคุณภาพต่ำ
    ในอนาคตอาจไม่สามารถโหลดได้เลย

    https://github.com/yt-dlp/yt-dlp/issues/15012
    💻 yt-dlp ต้องใช้ JavaScript Runtime ภายนอกเพื่อโหลด YouTube ในโลกของนักโหลดวิดีโอจาก YouTube มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่! yt-dlp ซึ่งเป็นเครื่องมือยอดนิยมสำหรับดาวน์โหลดวิดีโอ ได้ประกาศว่าตั้งแต่เวอร์ชันใหม่ ผู้ใช้จำเป็นต้องติดตั้ง JavaScript runtime ภายนอก เช่น Deno, Node.js หรือ QuickJS เพื่อให้การดาวน์โหลดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพราะ YouTube มีการปรับระบบที่ซับซ้อนขึ้น ทำให้การดึงข้อมูลวิดีโอจำเป็นต้องใช้ runtime เพื่อแก้ไขการเข้ารหัสและการตรวจสอบสิทธิ์ หากไม่ติดตั้ง ผู้ใช้ยังพอโหลดได้ แต่คุณภาพและรูปแบบไฟล์จะถูกจำกัด และในอนาคตอาจโหลดไม่ได้เลย แม้จะเป็นการเพิ่มภาระให้ผู้ใช้ แต่ก็ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยและความเสถียรของระบบ นักพัฒนาแนะนำให้ใช้ Deno เป็นตัวเลือกหลัก เพราะมีความเร็วและปลอดภัยสูงสุด การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสะท้อนถึงการที่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง YouTube พยายามปิดช่องโหว่การเข้าถึงข้อมูลโดยตรง ✅ yt-dlp เวอร์ชันใหม่ต้องใช้ JavaScript runtime ภายนอก ➡️ ตัวเลือกหลักคือ Deno, Node.js, QuickJS, Bun ✅ การใช้ runtime ช่วยแก้ปัญหาการเข้ารหัสและเพิ่มความปลอดภัย ➡️ ทำให้การดาวน์โหลดมีคุณภาพและเสถียรมากขึ้น ‼️ หากไม่ติดตั้ง runtime อาจโหลดวิดีโอได้ไม่ครบหรือคุณภาพต่ำ ⛔ ในอนาคตอาจไม่สามารถโหลดได้เลย https://github.com/yt-dlp/yt-dlp/issues/15012
    GITHUB.COM
    [Announcement] External JavaScript runtime now required for full YouTube support · Issue #15012 · yt-dlp/yt-dlp
    This is a follow-up to #14404, which announced that yt-dlp will soon require an external JavaScript runtime (e.g. Deno) in order to fully support downloading from YouTube. With the release of yt-dl...
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • หลุม ตอนที่ 3 – 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม”

    ตอน 3

    คุณช๊อกโกแลต ไปได้ยาโด๊ปมาจากไหนไม่ทราบแน่ แต่ต้องถอยหลังไปเล่าบางเรื่องของยูเครน เมื่อปลายปี ค.ศ.2014 เสียหน่อย เผื่อจะหาแหล่งขายยาโด๊ปเจอ

    ปลายเดือนตุลาคม 2014 คุณช๊อกโกแลต ประธานาธืบดียูเครน จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อคัดเด็กในคาถาเข้าสภาตามใจนายใหญ่ เพราะว่าสมาชิกสภาชุดที่มีอยู่ มันสั่งให้ยกมือกางแขนนอนกลิ้งยาก และกว่าจะหมดวาระ ว่าเข้าไปถึงปี 2017 โน่น ไม่ทันการแน่ ข่าวว่าการให้จัดเลือกตั้งใหม่ เป็นใบสั่งของนางเหยี่ยว Victoria Nuland เจ้าของวลีอันโด่งดัง **** the EU แห่งกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา (อ่านรายละเอียดของสาเหตุการให้ F ของนางเหยี่ยวได้ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง )

    เขาสั่งได้ จัดได้กันจริงๆ แล้วยูเครนก็ได้สมาชิกสภาใหม่ ที่อยู่ในแถว ภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่หน้าเก่า เด็กในกระเป๋าใส่เศษสตางค์ของนางเหยี่ยว ชื่อนาย Arseniy Yatsenyuk หนุ่มยิวหน้ามน อดีตนายกรัฐมนตรียูเครนสมัยหนึ่ง ที่นางเหยี่ยวเป็นผู้เลือกกับมือ ตัดหน้าอียู และเป็นอดีตรัฐมนตรีคลังอีกสมัย เรียกว่าเป็นตัวโปรดตัวจริงของนางเหยี่ยว ซึ่งข่าวบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน ชื่อ “Church of Scientology” ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรอง แขนงหนึ่งของอเมริกา อีกด้วย

    นาย Yats ไม่มาคนเดียว เขาเสนอชื่อรัฐมนตรีน่าสนใจ 3 คน

    คนแรก ชื่อ นาง Natalie Jaresko ให้เป็นรัฐมนตรีการคลัง

    คุณนาย Ja แม้จะพูดภาษายูเครนคล่องปรื้อ เพราะมาอยู่เมืองเคียฟ ( Kyiv) ต้ังแต่ปี 1992 ในฐานะเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกัน ใช่ครับสถานทูตอเมริกัน ก็คุณนายเป็นคนอเมริกัน แม้จะอ้างว่ามีรากเหง้างอกจากยูเครน แต่คุณนาย Ja ก็ถือสัญชาติอเมริกัน เรียนจบ ป โท จาก ฮาร์วาด
    ปี 1995 คุณนาย Ja ลาออกจากสถานทูต ไปคุมกองทุนชื่อ Western NIS Enterprise Fund (WNISEF) ซึ่งเป็นของรัฐบาลอเมริกัน ตั้งโดยสภาสูงของอเมริกัน และเป็นเงินทุนอุดหนุนผ่าน USAID มีขนาดเงินกองทุน จำนวน 150 ล้านเหรียญ
    นอกจากนี้ คุณนาย Ja ยังบริหารกองทุน ชื่อ Horizon Capital Associates, LLC. (ไม่รู้ขนาดของกองทุน)

    ทั้ง 2 กองทุน มีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในธุรกิจบริการ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจด้านของกินของใช้ โดยจะลงทุนในบริษัทขนาดกลาง ทั้งในยูเครน เบลาลุส และมอนโดวา เรียกว่า เป็นรายการกวาดกิจการ แถบยูเครนเข้ากระเป๋า ดูๆ ก็ไม่ต่างกับการบังคับให้แปรรูปรัฐวิสากิจ แต่ยูเครนไม่ค่อยมีรัฐวิสาหกิจจะให้แปร เลยต้องใช้กองทุนเข้าไปซื้อบริษัทแบบดื้อๆ ด้านๆ ง่ายกว่าแยะ

    เมื่อคุณนาย Ja แถลงรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง คุณนายบอกว่า ทีมเราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้มีความโปร่งใส และขจัดทุจริต ฟังคุ้นหูดีไหมครับ สงสัยพวกโพยนี่ เขาอัดโรเนียวแจกทั่วโลก และไอ้พฤติกรรมที่ทำ กับคำพูดนี่ มันก็สับปรับเหมือนกันหมด

    ผู้คนสงสัย แล้วคนอเมริกันไปเป็นรัฐมนตรีที่ยูเครนได้ยังไง เขียนมั่วหรือเปล่า ไม่มั่วครับ

    1 วันก่อนการสาบานตัวเข้ารับตำแหน่ง คุณช๊อกโกแลต ก็จัดการออกสัญชาติยูเครนให้คุณนาย Ja ก็แค่นั้นเอง คุณนายก็ถือ 2 สัญชาติควบ มีปัญหาอะไรไหม

    โปรดเชื่อมั่นในความเป็นประชาธิปไตย ของอเมริกา ที่จะเข้าไปล้วง ไปขุด ไปออกเสียง สั่งการที่ไหน แม้แต่ไปอยู่ในรัฐบาลประเทศอื่น ก็ได้ในโลก เยี่ยมจังพี่ ผมไม่เคยเห็นใครตวัดได้เก่งอย่างนี้เลย เขียนชมขนาดนี้แล้วจะเลิกป่วน เพจผมไหมครับ ไอ้เรื่องทำให้เครื่องค้าง กดอะไรไม่ได้เลย สลับข้อความ ข้อความหายนี่ ฯลฯ เล่นแบบนี้มานานแล้วนะ เบื่อฉิบหายเลย ให้มันสร้างสรรกว่านี้ได้ไหมครับ

    ส่งคุณนาย Ja มาคนเดียว คงกลัวจ่ายตลาดไม่ทัน นาย Yats เลยเสนอชื่อ นาย Aviras Abromavicius นักการเงินชาวลิทัวเนีย ให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นาย Ab นี่ เป็นหุ้นส่วนและผู้จัดการกองทุน ชื่อ East Capital ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสวีเดน มีกองทุนอยู่ใน ประเทศตลาดเกิดใหม่ 25 ประเทศ ขนาดของแต่กองทุน ประมาณ 100 ล้านเหรียญขึ้นไป

    ถ้าผมเป็นชาวยูเครน ผมจะยุให้มีการอารยะขัดขืน (ฮา) ไม่จ่ายภาษีจนกว่า บรรดารัฐมนตรีต่างชาตินี่ จะออกไปให้พ้นจากคณะรัฐบาล เพราะมันเป็นการดูหมิ่นประชาชนในชาติมาก ที่เอาคนต่างชาติมาบริหารชาติตนเองน่ะ ชาวยูเครนทนได้ยังไงครับ

    แล้วคุณช๊อกโกแลต ก็ออกสัญชาติยูเครนให้ นาย Ab พร้อมๆกับ คุณนาย Ja ไม่มีปัญหากับประชาธิปไตยของยูเครน แม้แต่น้อย และไม่มีไอ้พวกใบตองแห้ง มาด่าวันละ 3 เวลาหลังอาหาร เพราะมันเป็นคนจัดมาให้ (ฮา และ โห่) ต้องการประชาธิปไตยอย่างนี้ใช่ไหม ใช่ไหม ใช่ไหม

    ยังครับ ยัง ยังไม่เป็นประชาธิปไตยพอ นาย Yats เลยไปสรรหามาอีกหนึ่ง คราวนี้ได้ชาวจอร์เจีย ชื่อ Alexander Kvitashvili เขาเป็นอดีตรัฐมนตรีสาธารณะสุข ของจอร์เจีย สมัยที่ นาย Saak, Mikheil Saakashvili เป็นประธานาธิบดี ของ จอร์เจีย ( Georgia)
    นาย Kvit นี่น่าชื่นชมที่สุด ถือว่าเป็นผู้กล้าหาญจริง เป็นคนต่างชาติ ยังไม่พอ พูดภาษายูเครนไม่ได้ ฟังไม่ออกแม้แต่คำเดียว แต่รับหน้าที่จะมาปราบการทุจริต ในวงการสาธารณสุขของยูเครน ถ้าทำงานนี้สำเร็จ ควรต้องตกรางวัล ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนาย Yats เสียเลย ถ้านางเหยี่ยว Nuland ยอม

    อ้อ ตกความไปหน่อย นายKvit นี่ก็เรียนจบ ป โทที่อเมริกา และทำงานที่ Atlanta Medical Center ในอเมริกาอยู่พักหนึ่ง ก่อนกลับมาทำงานกับ United Nations Development Program ที่จอร์เจีย และทำงานร่วมกับหลายองค์กรทางด้านสาธารณสุขของอเมริกา

    ช่างเลือกกันดีนะครับ

    ##############
    ตอน 4

    เห็นแหล่งส่งยาโด๊ปของคุณช๊อกโกแลตแวบแวบ แต่ มันยังไม่ชัดเจน

    Loli Kantor เป็นนักข่าวประเภท ทั้งถ่าย(รูป)ทั้งเล่า ชาวอิสราเอล/อเมริกัน เล่าว่า เธอเดินทางไปโปแลนด์ เมื่อปี ค.ศ.2004 เพื่อไปค้นหาด้วยตัวเอง ว่าเกิดอะไรกับครอบครัวของตัวบ้างระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

    Kantor บอกว่า พ่อแม่ของเธอรอดตายจาก Holocaust แต่ก็เห็นชื่อปู่ยาตายาย ลุงป้า ตายเกลี้ยง ตามรายชื่อที่พวกนาซีรวบรวมไว้ เธอบอกว่า ชื่อคนตาย มีแต่ ยิว ยิว ยิว ฉันเดินไปถ่ายรูปสถานที่ฆ่าหมู่ชาวยิวทั้งหลาย ฉันถามตัวเองว่า แล้วชาวยิว ที่ยังเป็นๆอยู่ในยุโรปตะวันออกมีไหม เขาอยู่ที่ไหนกัน แล้วฉันก็พบพวกเขาที่ยูเครน หลังจากน้ันเจ้าตัวก็เทียวไปเทียวมายูเครนต่อมาอีก 8 ปี และเขียนหนังสือ ชื่อ Beyond the Forest ที่มีรูปภาพเกี่ยวกับชีวิตชาวยิวรุ่นเก่า

    ระหว่างที่ถ่ายรูปทำหนังสือ Kantor ก็ได้เห็นการเกิดใหม่ของชุมชน ชาวยิว rebirth of Jewish communities ในยูเครน Kantor ตื่นเต้น เธอกลับไปคุยกับ David Fisherman ศาสตราจารย์ชาวยิว ที่ Theological Seminary of America ซึ่งก็สอนที่มหาวิทยาลัย Kiew ของยูเครนด้วย
    ท่าน ศจ บอกว่า ตอนนี้ เหมือนเป็นช่วงเวลาของการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ของชาวยิวกับยูเครน ไม่เคยมีช่วงไหนที่ดีอย่างนี้มาก่อนเลย มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ Kantor ถ้าจะตกข่าวแยะ

    ท่าน ศจ บอกว่า มันคงมีส่วน มาจากการพุ่งเป็นพลุ ของนาย Ihor Kolomoyski มหาเศรษฐีใหญ่ชาวยิวนั่นแหละ ซึ่งได้รับเลือก ตั้งแต่ปีก่อน ให้เป็นผู้ว่าการเมือง Dnipropetrovsk (ถ้าสะกดผิดก็ขออำไพนะครับ เขียนยากชะมัด) ซึ่งเป็นเสมือนเมือง ศูนย์กลางของยูเครนเลยนะ ก่อนหน้านั้น นาย มอยสกี้ (Kolomoyski) สร้างศูนย์สันทนาการ มูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญ ขึ้นที่กลางเมือง ต้ังชื่อว่า Menorah Center (menorah คือเชิงเทียน 7 กิ่ง ที่ใช้ในพิธีของชาวยิว และเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาชาวยิว) มีของทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิว รวมทั้ง Holocaust Museum เรียกว่า เป็นศูนย์สันทนาการของชาวยิว ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้าใจไหม… อ้อ อย่างนี้นี่เอง อันนี้ผมรำพึง

    นายมอยสกี้นี่ เป็นคนพูดจาไม่อ้อมค้อม เสียงดังฟังชัด ก็ทั้งรวย ทั้งเป็นผู้ว่าฯ เราๆก็น่าจะคุ้นกับการพูดแบบนี้ของคนอย่างนี้นะครับ เขาบอกว่า เมืองนี้ ไม่มีที่ให้สำหรับพวกที่อยากไปอยู่กับรัสเซีย …เด็ดขาดจริง

    ท่าน ศจ บอก เขาพูดแบบนี้ มันเลยทำให้ภาพพจน์ของรัฐบาลใหม่ ออกกลิ่นยิวแรงไปหน่อย ไม่หน่อยหรอก ท่าน ศจ คุณประธานาธิบดี ช๊อกโกแลต เองก็เพิ่งจัดงานรำลึก 70 ปี ของ Auschwitz แถมตั้งนาย Vladimir Grossman ซึ่งเป็นชาวยิว ให้เป็นประธานสภาใหม่เอี่ยมนี่ด้วย

    Kantor ยังไม่แน่ใจ เธอไปถาม Igor Shchupak หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ Holocaust ว่า ตกลงตอนนี้ พวกยิวที่นี่มีความสุขมากเลยใช่ไหม หัวหน้า บอก ใช่แล้ว มันเป็น golden age ของชาวยิวในยูเครนเชียวล่ะ มันเป็นฝีมือเขาละ ฝีมือของนายมอยสกี้

    นายมอยสกี้ เป็นใครมาจากไหน ข่าวบอกเขารวยมาจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดในแถบนั้น เป็นเจ้าของสื่อ เจ้าของโรงแรม สาระพัด ฯลฯ แต่เรื่องรวย สำหรับบางคนมันอาจจะน่าตื่นเต้น แต่สำหรับชาวยิว เรื่องรวย คงไม่ใช่เป็นเรื่องต้องตื่นเต้น รวยและมีอำนาจต่างหาก ที่เป็นเรื่องจำเป็น เป็นสูตรบังคับ นายมอยสกี้จึงตั้งตัวเป็นมาเฟียใหญ่ประจำยูเครน ถนัดในการเก็บกวาดฝ่ายตรงกันข้าม ธุรกิจสีเทาอยู่ในมือเขาทั้งนั้น นายกเล็กของเมืองที่อยู่ฝั่งที่เชียร์รัสเซีย อีก 2 คน ที่ชาวบ้านเรียกชื่อว่า Dopa กับ Gepa ซึ่งแม้จะเป็นชาวยิวด้วยกัน แต่เมื่ออุดมการณ์ต่างกับเจ้าพ่อมอยสกี้ ผลปรากฏว่า คนหนึ่งจึงถูกยิง และอีกคนถูกจับติดคุก ยิวด้วยกัน ยังเล่นดุขนาดนี้
    เรื่องของนายมอยสกี้ ยังมีที่น่าสนใจ เกี่ยวพันกับสถานการณ์ปัจจุบันของยูเครนคือ นอกจากเป็นผู้ว่าการนครที่เป็นศูนย์กลางของยูเครน เป็นผู้ก่อตั้งสหภาพชาวยิวยุโรป (European Jewish Union) และประกาศชัดเจนว่าไม่เอารัสเซียแล้ว ยังมีข่าวว่า เขามีกองกำลังของตัวเอง จัดตั้งแบบพวกนาซีเยอรมัน (แต่ไม่เกี่ยวกับนาซีเยอรมัน) จำนวนประมาณ 2 หมื่นคน มีนโยบายชัดเจนว่า ถ้าอยู่คนละฝ่าย หรือไม่พอใจ ก็อย่าอยู่ร่วมกัน และนโยบายของเขาคือไม่เอารัสเซียแค่นั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเตรียมกองกำลังนี้ไว้ทำอะไร

    ยาโด๊ป ยี่ห้อ นาย Saak นายYats นายมอยสกี้ นี่เองหรือ ที่ทำให้ คุณช๊อกโกแลต เกิดฟิตจัด คิดขุดหลุมล่อรัสเซีย

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    14 มิ.ย. 2558
    หลุม ตอนที่ 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม” ตอน 3 คุณช๊อกโกแลต ไปได้ยาโด๊ปมาจากไหนไม่ทราบแน่ แต่ต้องถอยหลังไปเล่าบางเรื่องของยูเครน เมื่อปลายปี ค.ศ.2014 เสียหน่อย เผื่อจะหาแหล่งขายยาโด๊ปเจอ ปลายเดือนตุลาคม 2014 คุณช๊อกโกแลต ประธานาธืบดียูเครน จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อคัดเด็กในคาถาเข้าสภาตามใจนายใหญ่ เพราะว่าสมาชิกสภาชุดที่มีอยู่ มันสั่งให้ยกมือกางแขนนอนกลิ้งยาก และกว่าจะหมดวาระ ว่าเข้าไปถึงปี 2017 โน่น ไม่ทันการแน่ ข่าวว่าการให้จัดเลือกตั้งใหม่ เป็นใบสั่งของนางเหยี่ยว Victoria Nuland เจ้าของวลีอันโด่งดัง Fuck the EU แห่งกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา (อ่านรายละเอียดของสาเหตุการให้ F ของนางเหยี่ยวได้ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง ) เขาสั่งได้ จัดได้กันจริงๆ แล้วยูเครนก็ได้สมาชิกสภาใหม่ ที่อยู่ในแถว ภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่หน้าเก่า เด็กในกระเป๋าใส่เศษสตางค์ของนางเหยี่ยว ชื่อนาย Arseniy Yatsenyuk หนุ่มยิวหน้ามน อดีตนายกรัฐมนตรียูเครนสมัยหนึ่ง ที่นางเหยี่ยวเป็นผู้เลือกกับมือ ตัดหน้าอียู และเป็นอดีตรัฐมนตรีคลังอีกสมัย เรียกว่าเป็นตัวโปรดตัวจริงของนางเหยี่ยว ซึ่งข่าวบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน ชื่อ “Church of Scientology” ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรอง แขนงหนึ่งของอเมริกา อีกด้วย นาย Yats ไม่มาคนเดียว เขาเสนอชื่อรัฐมนตรีน่าสนใจ 3 คน คนแรก ชื่อ นาง Natalie Jaresko ให้เป็นรัฐมนตรีการคลัง คุณนาย Ja แม้จะพูดภาษายูเครนคล่องปรื้อ เพราะมาอยู่เมืองเคียฟ ( Kyiv) ต้ังแต่ปี 1992 ในฐานะเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกัน ใช่ครับสถานทูตอเมริกัน ก็คุณนายเป็นคนอเมริกัน แม้จะอ้างว่ามีรากเหง้างอกจากยูเครน แต่คุณนาย Ja ก็ถือสัญชาติอเมริกัน เรียนจบ ป โท จาก ฮาร์วาด ปี 1995 คุณนาย Ja ลาออกจากสถานทูต ไปคุมกองทุนชื่อ Western NIS Enterprise Fund (WNISEF) ซึ่งเป็นของรัฐบาลอเมริกัน ตั้งโดยสภาสูงของอเมริกัน และเป็นเงินทุนอุดหนุนผ่าน USAID มีขนาดเงินกองทุน จำนวน 150 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ คุณนาย Ja ยังบริหารกองทุน ชื่อ Horizon Capital Associates, LLC. (ไม่รู้ขนาดของกองทุน) ทั้ง 2 กองทุน มีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในธุรกิจบริการ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจด้านของกินของใช้ โดยจะลงทุนในบริษัทขนาดกลาง ทั้งในยูเครน เบลาลุส และมอนโดวา เรียกว่า เป็นรายการกวาดกิจการ แถบยูเครนเข้ากระเป๋า ดูๆ ก็ไม่ต่างกับการบังคับให้แปรรูปรัฐวิสากิจ แต่ยูเครนไม่ค่อยมีรัฐวิสาหกิจจะให้แปร เลยต้องใช้กองทุนเข้าไปซื้อบริษัทแบบดื้อๆ ด้านๆ ง่ายกว่าแยะ เมื่อคุณนาย Ja แถลงรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง คุณนายบอกว่า ทีมเราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้มีความโปร่งใส และขจัดทุจริต ฟังคุ้นหูดีไหมครับ สงสัยพวกโพยนี่ เขาอัดโรเนียวแจกทั่วโลก และไอ้พฤติกรรมที่ทำ กับคำพูดนี่ มันก็สับปรับเหมือนกันหมด ผู้คนสงสัย แล้วคนอเมริกันไปเป็นรัฐมนตรีที่ยูเครนได้ยังไง เขียนมั่วหรือเปล่า ไม่มั่วครับ 1 วันก่อนการสาบานตัวเข้ารับตำแหน่ง คุณช๊อกโกแลต ก็จัดการออกสัญชาติยูเครนให้คุณนาย Ja ก็แค่นั้นเอง คุณนายก็ถือ 2 สัญชาติควบ มีปัญหาอะไรไหม โปรดเชื่อมั่นในความเป็นประชาธิปไตย ของอเมริกา ที่จะเข้าไปล้วง ไปขุด ไปออกเสียง สั่งการที่ไหน แม้แต่ไปอยู่ในรัฐบาลประเทศอื่น ก็ได้ในโลก เยี่ยมจังพี่ ผมไม่เคยเห็นใครตวัดได้เก่งอย่างนี้เลย เขียนชมขนาดนี้แล้วจะเลิกป่วน เพจผมไหมครับ ไอ้เรื่องทำให้เครื่องค้าง กดอะไรไม่ได้เลย สลับข้อความ ข้อความหายนี่ ฯลฯ เล่นแบบนี้มานานแล้วนะ เบื่อฉิบหายเลย ให้มันสร้างสรรกว่านี้ได้ไหมครับ ส่งคุณนาย Ja มาคนเดียว คงกลัวจ่ายตลาดไม่ทัน นาย Yats เลยเสนอชื่อ นาย Aviras Abromavicius นักการเงินชาวลิทัวเนีย ให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นาย Ab นี่ เป็นหุ้นส่วนและผู้จัดการกองทุน ชื่อ East Capital ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสวีเดน มีกองทุนอยู่ใน ประเทศตลาดเกิดใหม่ 25 ประเทศ ขนาดของแต่กองทุน ประมาณ 100 ล้านเหรียญขึ้นไป ถ้าผมเป็นชาวยูเครน ผมจะยุให้มีการอารยะขัดขืน (ฮา) ไม่จ่ายภาษีจนกว่า บรรดารัฐมนตรีต่างชาตินี่ จะออกไปให้พ้นจากคณะรัฐบาล เพราะมันเป็นการดูหมิ่นประชาชนในชาติมาก ที่เอาคนต่างชาติมาบริหารชาติตนเองน่ะ ชาวยูเครนทนได้ยังไงครับ แล้วคุณช๊อกโกแลต ก็ออกสัญชาติยูเครนให้ นาย Ab พร้อมๆกับ คุณนาย Ja ไม่มีปัญหากับประชาธิปไตยของยูเครน แม้แต่น้อย และไม่มีไอ้พวกใบตองแห้ง มาด่าวันละ 3 เวลาหลังอาหาร เพราะมันเป็นคนจัดมาให้ (ฮา และ โห่) ต้องการประชาธิปไตยอย่างนี้ใช่ไหม ใช่ไหม ใช่ไหม ยังครับ ยัง ยังไม่เป็นประชาธิปไตยพอ นาย Yats เลยไปสรรหามาอีกหนึ่ง คราวนี้ได้ชาวจอร์เจีย ชื่อ Alexander Kvitashvili เขาเป็นอดีตรัฐมนตรีสาธารณะสุข ของจอร์เจีย สมัยที่ นาย Saak, Mikheil Saakashvili เป็นประธานาธิบดี ของ จอร์เจีย ( Georgia) นาย Kvit นี่น่าชื่นชมที่สุด ถือว่าเป็นผู้กล้าหาญจริง เป็นคนต่างชาติ ยังไม่พอ พูดภาษายูเครนไม่ได้ ฟังไม่ออกแม้แต่คำเดียว แต่รับหน้าที่จะมาปราบการทุจริต ในวงการสาธารณสุขของยูเครน ถ้าทำงานนี้สำเร็จ ควรต้องตกรางวัล ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนาย Yats เสียเลย ถ้านางเหยี่ยว Nuland ยอม อ้อ ตกความไปหน่อย นายKvit นี่ก็เรียนจบ ป โทที่อเมริกา และทำงานที่ Atlanta Medical Center ในอเมริกาอยู่พักหนึ่ง ก่อนกลับมาทำงานกับ United Nations Development Program ที่จอร์เจีย และทำงานร่วมกับหลายองค์กรทางด้านสาธารณสุขของอเมริกา ช่างเลือกกันดีนะครับ ############## ตอน 4 เห็นแหล่งส่งยาโด๊ปของคุณช๊อกโกแลตแวบแวบ แต่ มันยังไม่ชัดเจน Loli Kantor เป็นนักข่าวประเภท ทั้งถ่าย(รูป)ทั้งเล่า ชาวอิสราเอล/อเมริกัน เล่าว่า เธอเดินทางไปโปแลนด์ เมื่อปี ค.ศ.2004 เพื่อไปค้นหาด้วยตัวเอง ว่าเกิดอะไรกับครอบครัวของตัวบ้างระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 Kantor บอกว่า พ่อแม่ของเธอรอดตายจาก Holocaust แต่ก็เห็นชื่อปู่ยาตายาย ลุงป้า ตายเกลี้ยง ตามรายชื่อที่พวกนาซีรวบรวมไว้ เธอบอกว่า ชื่อคนตาย มีแต่ ยิว ยิว ยิว ฉันเดินไปถ่ายรูปสถานที่ฆ่าหมู่ชาวยิวทั้งหลาย ฉันถามตัวเองว่า แล้วชาวยิว ที่ยังเป็นๆอยู่ในยุโรปตะวันออกมีไหม เขาอยู่ที่ไหนกัน แล้วฉันก็พบพวกเขาที่ยูเครน หลังจากน้ันเจ้าตัวก็เทียวไปเทียวมายูเครนต่อมาอีก 8 ปี และเขียนหนังสือ ชื่อ Beyond the Forest ที่มีรูปภาพเกี่ยวกับชีวิตชาวยิวรุ่นเก่า ระหว่างที่ถ่ายรูปทำหนังสือ Kantor ก็ได้เห็นการเกิดใหม่ของชุมชน ชาวยิว rebirth of Jewish communities ในยูเครน Kantor ตื่นเต้น เธอกลับไปคุยกับ David Fisherman ศาสตราจารย์ชาวยิว ที่ Theological Seminary of America ซึ่งก็สอนที่มหาวิทยาลัย Kiew ของยูเครนด้วย ท่าน ศจ บอกว่า ตอนนี้ เหมือนเป็นช่วงเวลาของการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ของชาวยิวกับยูเครน ไม่เคยมีช่วงไหนที่ดีอย่างนี้มาก่อนเลย มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ Kantor ถ้าจะตกข่าวแยะ ท่าน ศจ บอกว่า มันคงมีส่วน มาจากการพุ่งเป็นพลุ ของนาย Ihor Kolomoyski มหาเศรษฐีใหญ่ชาวยิวนั่นแหละ ซึ่งได้รับเลือก ตั้งแต่ปีก่อน ให้เป็นผู้ว่าการเมือง Dnipropetrovsk (ถ้าสะกดผิดก็ขออำไพนะครับ เขียนยากชะมัด) ซึ่งเป็นเสมือนเมือง ศูนย์กลางของยูเครนเลยนะ ก่อนหน้านั้น นาย มอยสกี้ (Kolomoyski) สร้างศูนย์สันทนาการ มูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญ ขึ้นที่กลางเมือง ต้ังชื่อว่า Menorah Center (menorah คือเชิงเทียน 7 กิ่ง ที่ใช้ในพิธีของชาวยิว และเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาชาวยิว) มีของทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิว รวมทั้ง Holocaust Museum เรียกว่า เป็นศูนย์สันทนาการของชาวยิว ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้าใจไหม… อ้อ อย่างนี้นี่เอง อันนี้ผมรำพึง นายมอยสกี้นี่ เป็นคนพูดจาไม่อ้อมค้อม เสียงดังฟังชัด ก็ทั้งรวย ทั้งเป็นผู้ว่าฯ เราๆก็น่าจะคุ้นกับการพูดแบบนี้ของคนอย่างนี้นะครับ เขาบอกว่า เมืองนี้ ไม่มีที่ให้สำหรับพวกที่อยากไปอยู่กับรัสเซีย …เด็ดขาดจริง ท่าน ศจ บอก เขาพูดแบบนี้ มันเลยทำให้ภาพพจน์ของรัฐบาลใหม่ ออกกลิ่นยิวแรงไปหน่อย ไม่หน่อยหรอก ท่าน ศจ คุณประธานาธิบดี ช๊อกโกแลต เองก็เพิ่งจัดงานรำลึก 70 ปี ของ Auschwitz แถมตั้งนาย Vladimir Grossman ซึ่งเป็นชาวยิว ให้เป็นประธานสภาใหม่เอี่ยมนี่ด้วย Kantor ยังไม่แน่ใจ เธอไปถาม Igor Shchupak หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ Holocaust ว่า ตกลงตอนนี้ พวกยิวที่นี่มีความสุขมากเลยใช่ไหม หัวหน้า บอก ใช่แล้ว มันเป็น golden age ของชาวยิวในยูเครนเชียวล่ะ มันเป็นฝีมือเขาละ ฝีมือของนายมอยสกี้ นายมอยสกี้ เป็นใครมาจากไหน ข่าวบอกเขารวยมาจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดในแถบนั้น เป็นเจ้าของสื่อ เจ้าของโรงแรม สาระพัด ฯลฯ แต่เรื่องรวย สำหรับบางคนมันอาจจะน่าตื่นเต้น แต่สำหรับชาวยิว เรื่องรวย คงไม่ใช่เป็นเรื่องต้องตื่นเต้น รวยและมีอำนาจต่างหาก ที่เป็นเรื่องจำเป็น เป็นสูตรบังคับ นายมอยสกี้จึงตั้งตัวเป็นมาเฟียใหญ่ประจำยูเครน ถนัดในการเก็บกวาดฝ่ายตรงกันข้าม ธุรกิจสีเทาอยู่ในมือเขาทั้งนั้น นายกเล็กของเมืองที่อยู่ฝั่งที่เชียร์รัสเซีย อีก 2 คน ที่ชาวบ้านเรียกชื่อว่า Dopa กับ Gepa ซึ่งแม้จะเป็นชาวยิวด้วยกัน แต่เมื่ออุดมการณ์ต่างกับเจ้าพ่อมอยสกี้ ผลปรากฏว่า คนหนึ่งจึงถูกยิง และอีกคนถูกจับติดคุก ยิวด้วยกัน ยังเล่นดุขนาดนี้ เรื่องของนายมอยสกี้ ยังมีที่น่าสนใจ เกี่ยวพันกับสถานการณ์ปัจจุบันของยูเครนคือ นอกจากเป็นผู้ว่าการนครที่เป็นศูนย์กลางของยูเครน เป็นผู้ก่อตั้งสหภาพชาวยิวยุโรป (European Jewish Union) และประกาศชัดเจนว่าไม่เอารัสเซียแล้ว ยังมีข่าวว่า เขามีกองกำลังของตัวเอง จัดตั้งแบบพวกนาซีเยอรมัน (แต่ไม่เกี่ยวกับนาซีเยอรมัน) จำนวนประมาณ 2 หมื่นคน มีนโยบายชัดเจนว่า ถ้าอยู่คนละฝ่าย หรือไม่พอใจ ก็อย่าอยู่ร่วมกัน และนโยบายของเขาคือไม่เอารัสเซียแค่นั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเตรียมกองกำลังนี้ไว้ทำอะไร ยาโด๊ป ยี่ห้อ นาย Saak นายYats นายมอยสกี้ นี่เองหรือ ที่ทำให้ คุณช๊อกโกแลต เกิดฟิตจัด คิดขุดหลุมล่อรัสเซีย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 14 มิ.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 494 Views 0 Reviews
  • ข่าวด่วน: Apache OpenOffice ออกแพตช์แก้ 7 ช่องโหว่ร้ายแรง

    Apache OpenOffice ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 4.1.16 เพื่อแก้ไขช่องโหว่รวม 7 จุด ทั้งการ Memory Corruption และการโหลดเนื้อหาจากภายนอกโดยไม่แจ้งผู้ใช้ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกโจมตีและขโมยข้อมูล ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันที

    Apache OpenOffice ซึ่งเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์สำนักงานโอเพนซอร์สยอดนิยม ได้ปล่อยอัปเดต เวอร์ชัน 4.1.16 เพื่อแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยถึง 7 จุด โดยมีทั้งระดับ Important และ Moderate ที่อาจถูกใช้โจมตีได้

    รายละเอียดช่องโหว่
    CVE-2025-64406: ช่องโหว่ Out-of-Bounds Write ระหว่างการนำเข้าไฟล์ CSV สามารถทำให้โปรแกรมแครชหรือเขียนทับหน่วยความจำอื่น
    CVE-2025-64407: ช่องโหว่ Missing Authorization ที่เปิดทางให้เอกสารที่ถูกสร้างขึ้นสามารถโหลดข้อมูลระบบโดยไม่แจ้งผู้ใช้ เช่น ค่าในไฟล์ INI หรือ Environment Variables
    ช่องโหว่อื่น ๆ อีก 5 จุดเกี่ยวข้องกับการโหลดเนื้อหาภายนอกโดยไม่แจ้งผู้ใช้ เช่น การใช้ DDE, OLE, IFrame, External Data Sources และ Background Images

    การแก้ไข
    ผู้ใช้ที่ยังใช้เวอร์ชัน 4.1.15 หรือต่ำกว่า ควรรีบอัปเดตเป็น 4.1.16
    การอัปเดตนี้จะป้องกันการโจมตีที่อาจใช้ช่องโหว่เพื่อขโมยข้อมูลหรือโหลดโค้ดอันตรายจากภายนอก

    ความสำคัญต่อโลกไซเบอร์
    ช่องโหว่ประเภท Unauthorized Remote Content Loading ถือว่าอันตราย เพราะสามารถใช้เป็นช่องทางในการส่งข้อมูลออกนอกระบบโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว
    หากถูกโจมตี อาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ หรือการใช้เป็นฐานโจมตีเครือข่ายองค์กร

    รายละเอียดช่องโหว่ที่พบ
    CVE-2025-64406: Out-of-Bounds Write ในการนำเข้า CSV
    CVE-2025-64407: Missing Authorization ทำให้โหลดข้อมูลระบบโดยไม่แจ้งผู้ใช้
    ช่องโหว่อื่น ๆ อีก 5 จุดเกี่ยวข้องกับการโหลดเนื้อหาภายนอก

    การแก้ไขจาก Apache OpenOffice
    ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 4.1.16
    ทุกเวอร์ชันก่อนหน้า (≤ 4.1.15) ได้รับผลกระทบ

    ความสำคัญของการอัปเดต
    ป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้โปรแกรมแครชหรือรั่วไหลข้อมูล
    ลดความเสี่ยงจากการโหลดโค้ดอันตรายโดยไม่แจ้งผู้ใช้

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ OpenOffice
    หากไม่อัปเดต อาจถูกโจมตีผ่านเอกสารที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ
    เสี่ยงต่อการรั่วไหลข้อมูลระบบ เช่น ค่า Environment Variables
    อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเครือข่ายองค์กร

    https://securityonline.info/apache-openoffice-fixes-7-flaws-memory-corruption-and-unprompted-remote-content-loading/
    📝 ข่าวด่วน: Apache OpenOffice ออกแพตช์แก้ 7 ช่องโหว่ร้ายแรง Apache OpenOffice ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 4.1.16 เพื่อแก้ไขช่องโหว่รวม 7 จุด ทั้งการ Memory Corruption และการโหลดเนื้อหาจากภายนอกโดยไม่แจ้งผู้ใช้ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกโจมตีและขโมยข้อมูล ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันที Apache OpenOffice ซึ่งเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์สำนักงานโอเพนซอร์สยอดนิยม ได้ปล่อยอัปเดต เวอร์ชัน 4.1.16 เพื่อแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยถึง 7 จุด โดยมีทั้งระดับ Important และ Moderate ที่อาจถูกใช้โจมตีได้ 📌 รายละเอียดช่องโหว่ 🪲 CVE-2025-64406: ช่องโหว่ Out-of-Bounds Write ระหว่างการนำเข้าไฟล์ CSV สามารถทำให้โปรแกรมแครชหรือเขียนทับหน่วยความจำอื่น 🪲 CVE-2025-64407: ช่องโหว่ Missing Authorization ที่เปิดทางให้เอกสารที่ถูกสร้างขึ้นสามารถโหลดข้อมูลระบบโดยไม่แจ้งผู้ใช้ เช่น ค่าในไฟล์ INI หรือ Environment Variables 🪲 ช่องโหว่อื่น ๆ อีก 5 จุดเกี่ยวข้องกับการโหลดเนื้อหาภายนอกโดยไม่แจ้งผู้ใช้ เช่น การใช้ DDE, OLE, IFrame, External Data Sources และ Background Images 🛠️ การแก้ไข 🪛 ผู้ใช้ที่ยังใช้เวอร์ชัน 4.1.15 หรือต่ำกว่า ควรรีบอัปเดตเป็น 4.1.16 🪛 การอัปเดตนี้จะป้องกันการโจมตีที่อาจใช้ช่องโหว่เพื่อขโมยข้อมูลหรือโหลดโค้ดอันตรายจากภายนอก 🌍 ความสำคัญต่อโลกไซเบอร์ 🔰 ช่องโหว่ประเภท Unauthorized Remote Content Loading ถือว่าอันตราย เพราะสามารถใช้เป็นช่องทางในการส่งข้อมูลออกนอกระบบโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว 🔰 หากถูกโจมตี อาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลสำคัญ หรือการใช้เป็นฐานโจมตีเครือข่ายองค์กร ✅ รายละเอียดช่องโหว่ที่พบ ➡️ CVE-2025-64406: Out-of-Bounds Write ในการนำเข้า CSV ➡️ CVE-2025-64407: Missing Authorization ทำให้โหลดข้อมูลระบบโดยไม่แจ้งผู้ใช้ ➡️ ช่องโหว่อื่น ๆ อีก 5 จุดเกี่ยวข้องกับการโหลดเนื้อหาภายนอก ✅ การแก้ไขจาก Apache OpenOffice ➡️ ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 4.1.16 ➡️ ทุกเวอร์ชันก่อนหน้า (≤ 4.1.15) ได้รับผลกระทบ ✅ ความสำคัญของการอัปเดต ➡️ ป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้โปรแกรมแครชหรือรั่วไหลข้อมูล ➡️ ลดความเสี่ยงจากการโหลดโค้ดอันตรายโดยไม่แจ้งผู้ใช้ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ OpenOffice ⛔ หากไม่อัปเดต อาจถูกโจมตีผ่านเอกสารที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ ⛔ เสี่ยงต่อการรั่วไหลข้อมูลระบบ เช่น ค่า Environment Variables ⛔ อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเครือข่ายองค์กร https://securityonline.info/apache-openoffice-fixes-7-flaws-memory-corruption-and-unprompted-remote-content-loading/
    SECURITYONLINE.INFO
    Apache OpenOffice Fixes 7 Flaws: Memory Corruption and Unprompted Remote Content Loading
    Apache OpenOffice 4.1.16 fixes seven security flaws, including a memory corruption bug and six issues that allow unprompted loading of remote content via documents, risking system info leak and malware delivery.
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • Lenovo เปิดวิสัยทัศน์สุดล้ำ: ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคตจะลอยฟ้า แช่น้ำร้อน และอยู่ใต้ดิน!

    Lenovo เผยแนวคิดสุดล้ำสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคต ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่รวมถึงการออกแบบเพื่อความยั่งยืนและประสิทธิภาพด้านพลังงาน โดยเสนอ 3 รูปแบบใหม่ ได้แก่ “Floating Cloud” ลอยเหนือพื้นโลก, “Data Spa” แช่น้ำร้อนจากพลังงานใต้พิภพ และ “Data Center Bunker” ฝังใต้ดินเพื่อความปลอดภัยและการระบายความร้อนตามธรรมชาติ

    แนวคิดเหล่านี้เกิดจากความต้องการเร่งด่วนในการรองรับการเติบโตของ AI และการใช้พลังงานมหาศาลของระบบประมวลผลยุคใหม่ ซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป

    Floating Cloud: ดาต้าเซ็นเตอร์ลอยฟ้า
    ลอยอยู่ระหว่าง 20–30 กม.เหนือพื้นโลก ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100%
    ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแรงดันสูง
    ลดการใช้พื้นที่บนดิน แต่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากการโจมตีทางอากาศ

    Data Spa: ดาต้าเซ็นเตอร์แช่น้ำร้อน
    ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำพุร้อนหรือพลังงานใต้พิภพ
    ผสมผสานธรรมชาติกับเทคโนโลยีอย่างกลมกลืน
    เสี่ยงต่อความปลอดภัยจากการอยู่ใกล้แหล่งน้ำและผู้คน

    Data Center Bunker: ดาต้าเซ็นเตอร์ใต้ดิน
    ใช้พื้นที่รกร้าง เช่น อุโมงค์เก่า หรือสถานีรถไฟใต้ดิน
    ได้เปรียบด้านการระบายความร้อนตามธรรมชาติและความปลอดภัย
    อาจมีข้อจำกัดด้านอุณหภูมิใต้ดินที่ไม่เหมาะสม

    Neptune Liquid Cooling: เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่ของ Lenovo
    ดึงความร้อนออกจากแหล่งกำเนิดได้ถึง 98%
    ลดการใช้พลังงานเมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ

    แรงผลักดันจาก AI และกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม
    ความต้องการประมวลผล AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    กฎด้านการปล่อยคาร์บอนและความมั่นคงของข้อมูลผลักดันให้ต้องออกแบบใหม่

    คำเตือน: ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    Floating Cloud อาจถูกโจมตีหรือควบคุมได้ยาก
    Data Spa เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลและอุบัติเหตุจากน้ำ

    คำเตือน: ความท้าทายด้านการใช้งานจริง
    แนวคิดเหล่านี้ยังเป็นต้นแบบ ไม่พร้อมใช้งานในเชิงพาณิชย์
    ต้องใช้การลงทุนสูงและการทดสอบด้านวิศวกรรมอย่างเข้มข้น

    https://www.techradar.com/pro/lenovo-goes-literal-with-its-view-of-the-future-of-the-cloud-heres-what-it-thinks-future-data-centers-will-really-look-like
    ☁️ Lenovo เปิดวิสัยทัศน์สุดล้ำ: ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคตจะลอยฟ้า แช่น้ำร้อน และอยู่ใต้ดิน! Lenovo เผยแนวคิดสุดล้ำสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคต ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่รวมถึงการออกแบบเพื่อความยั่งยืนและประสิทธิภาพด้านพลังงาน โดยเสนอ 3 รูปแบบใหม่ ได้แก่ “Floating Cloud” ลอยเหนือพื้นโลก, “Data Spa” แช่น้ำร้อนจากพลังงานใต้พิภพ และ “Data Center Bunker” ฝังใต้ดินเพื่อความปลอดภัยและการระบายความร้อนตามธรรมชาติ แนวคิดเหล่านี้เกิดจากความต้องการเร่งด่วนในการรองรับการเติบโตของ AI และการใช้พลังงานมหาศาลของระบบประมวลผลยุคใหม่ ซึ่งดาต้าเซ็นเตอร์แบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป ✅ Floating Cloud: ดาต้าเซ็นเตอร์ลอยฟ้า ➡️ ลอยอยู่ระหว่าง 20–30 กม.เหนือพื้นโลก ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100% ➡️ ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแรงดันสูง ➡️ ลดการใช้พื้นที่บนดิน แต่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากการโจมตีทางอากาศ ✅ Data Spa: ดาต้าเซ็นเตอร์แช่น้ำร้อน ➡️ ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำพุร้อนหรือพลังงานใต้พิภพ ➡️ ผสมผสานธรรมชาติกับเทคโนโลยีอย่างกลมกลืน ➡️ เสี่ยงต่อความปลอดภัยจากการอยู่ใกล้แหล่งน้ำและผู้คน ✅ Data Center Bunker: ดาต้าเซ็นเตอร์ใต้ดิน ➡️ ใช้พื้นที่รกร้าง เช่น อุโมงค์เก่า หรือสถานีรถไฟใต้ดิน ➡️ ได้เปรียบด้านการระบายความร้อนตามธรรมชาติและความปลอดภัย ➡️ อาจมีข้อจำกัดด้านอุณหภูมิใต้ดินที่ไม่เหมาะสม ✅ Neptune Liquid Cooling: เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่ของ Lenovo ➡️ ดึงความร้อนออกจากแหล่งกำเนิดได้ถึง 98% ➡️ ลดการใช้พลังงานเมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ✅ แรงผลักดันจาก AI และกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม ➡️ ความต้องการประมวลผล AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ➡️ กฎด้านการปล่อยคาร์บอนและความมั่นคงของข้อมูลผลักดันให้ต้องออกแบบใหม่ ‼️ คำเตือน: ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ⛔ Floating Cloud อาจถูกโจมตีหรือควบคุมได้ยาก ⛔ Data Spa เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลและอุบัติเหตุจากน้ำ ‼️ คำเตือน: ความท้าทายด้านการใช้งานจริง ⛔ แนวคิดเหล่านี้ยังเป็นต้นแบบ ไม่พร้อมใช้งานในเชิงพาณิชย์ ⛔ ต้องใช้การลงทุนสูงและการทดสอบด้านวิศวกรรมอย่างเข้มข้น https://www.techradar.com/pro/lenovo-goes-literal-with-its-view-of-the-future-of-the-cloud-heres-what-it-thinks-future-data-centers-will-really-look-like
    WWW.TECHRADAR.COM
    Lenovo designs floating, underground, and geothermal data centers
    AI tools are driving data demand far beyond current infrastructure capabilities
    0 Comments 0 Shares 219 Views 0 Reviews
  • AMD เร่งเครื่อง AI ด้วยการซื้อ MK1: เสริมพลังการประมวลผลแบบ “Inference & Reasoning” บน Instinct GPU

    AMD ประกาศเข้าซื้อกิจการ MK1 สตาร์ทอัพด้าน AI ที่เชี่ยวชาญการประมวลผลแบบ inference และ reasoning โดยเฉพาะบนสเกลขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ NVIDIA ในตลาด AI infrastructure ที่กำลังร้อนแรง

    MK1 ก่อตั้งโดยอดีตทีมงาน Neuralink ของ Elon Musk ได้แก่ Paul Merolla และ Thong Wei Koh ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการออกแบบชิปและการประมวลผลสัญญาณสมอง โดยเทคโนโลยี Flywheel ของ MK1 สามารถให้บริการได้มากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน และออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากสถาปัตยกรรมหน่วยความจำของ AMD Instinct GPU

    AMD เข้าซื้อ MK1 เพื่อเสริมกลยุทธ์ AI
    MK1 เชี่ยวชาญด้าน inference และ reasoning สำหรับ AI ขนาดใหญ่
    เทคโนโลยี Flywheel รองรับการประมวลผลมากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน

    ทีมงาน MK1 จะเข้าร่วมกลุ่ม AI ของ AMD
    เพื่อพัฒนา software stack ด้าน inference และ enterprise AI
    ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ AI เพื่อจัดการกระบวนการธุรกิจที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การผสาน MK1 กับ Instinct GPU
    ช่วยให้สามารถ reasoning ได้อย่างแม่นยำ คุ้มค่า และตรวจสอบย้อนกลับได้
    เป็นหัวใจสำคัญของ agentic AI ที่ต้องการการตัดสินใจแบบอัตโนมัติในระดับองค์กร

    AMD เดินหน้าซื้อกิจการต่อเนื่อง
    ก่อนหน้านี้ซื้อ Enosemi (silicon photonics), Brium (AI compiler), และทีมจาก Untether AI
    เสริมความสามารถด้านชิป ระบบ และซอฟต์แวร์เพื่อแข่งกับ NVIDIA

    ดีลใหญ่กับ OpenAI
    AMD ตกลงส่งมอบ compute infrastructure ขนาด 6 กิกะวัตต์ให้ OpenAI
    ใช้ Instinct GPU เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนระบบ AI ขนาดใหญ่

    คำเตือน: การแข่งขันในตลาด AI รุนแรงขึ้น
    NVIDIA ยังครองตลาดด้วย CUDA ecosystem ที่แข็งแกร่ง
    AMD ต้องเร่งสร้าง ecosystem ที่ครบวงจรเพื่อดึงดูดนักพัฒนาและลูกค้าองค์กร

    ความท้าทายด้านการผลิตและทรัพยากร
    การผลิต GPU และระบบ AI ขนาดใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก
    ความเสี่ยงจาก supply chain และต้นทุนอาจกระทบต่อการขยายตัว

    https://wccftech.com/amd-advances-ai-strategy-acquires-mk1-high-speed-inference-reasoning-instinct-gpus/
    🚀 AMD เร่งเครื่อง AI ด้วยการซื้อ MK1: เสริมพลังการประมวลผลแบบ “Inference & Reasoning” บน Instinct GPU AMD ประกาศเข้าซื้อกิจการ MK1 สตาร์ทอัพด้าน AI ที่เชี่ยวชาญการประมวลผลแบบ inference และ reasoning โดยเฉพาะบนสเกลขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ NVIDIA ในตลาด AI infrastructure ที่กำลังร้อนแรง MK1 ก่อตั้งโดยอดีตทีมงาน Neuralink ของ Elon Musk ได้แก่ Paul Merolla และ Thong Wei Koh ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการออกแบบชิปและการประมวลผลสัญญาณสมอง โดยเทคโนโลยี Flywheel ของ MK1 สามารถให้บริการได้มากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน และออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากสถาปัตยกรรมหน่วยความจำของ AMD Instinct GPU ✅ AMD เข้าซื้อ MK1 เพื่อเสริมกลยุทธ์ AI ➡️ MK1 เชี่ยวชาญด้าน inference และ reasoning สำหรับ AI ขนาดใหญ่ ➡️ เทคโนโลยี Flywheel รองรับการประมวลผลมากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน ✅ ทีมงาน MK1 จะเข้าร่วมกลุ่ม AI ของ AMD ➡️ เพื่อพัฒนา software stack ด้าน inference และ enterprise AI ➡️ ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ AI เพื่อจัดการกระบวนการธุรกิจที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ การผสาน MK1 กับ Instinct GPU ➡️ ช่วยให้สามารถ reasoning ได้อย่างแม่นยำ คุ้มค่า และตรวจสอบย้อนกลับได้ ➡️ เป็นหัวใจสำคัญของ agentic AI ที่ต้องการการตัดสินใจแบบอัตโนมัติในระดับองค์กร ✅ AMD เดินหน้าซื้อกิจการต่อเนื่อง ➡️ ก่อนหน้านี้ซื้อ Enosemi (silicon photonics), Brium (AI compiler), และทีมจาก Untether AI ➡️ เสริมความสามารถด้านชิป ระบบ และซอฟต์แวร์เพื่อแข่งกับ NVIDIA ✅ ดีลใหญ่กับ OpenAI ➡️ AMD ตกลงส่งมอบ compute infrastructure ขนาด 6 กิกะวัตต์ให้ OpenAI ➡️ ใช้ Instinct GPU เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนระบบ AI ขนาดใหญ่ ‼️ คำเตือน: การแข่งขันในตลาด AI รุนแรงขึ้น ⛔ NVIDIA ยังครองตลาดด้วย CUDA ecosystem ที่แข็งแกร่ง ⛔ AMD ต้องเร่งสร้าง ecosystem ที่ครบวงจรเพื่อดึงดูดนักพัฒนาและลูกค้าองค์กร ‼️ ความท้าทายด้านการผลิตและทรัพยากร ⛔ การผลิต GPU และระบบ AI ขนาดใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ⛔ ความเสี่ยงจาก supply chain และต้นทุนอาจกระทบต่อการขยายตัว https://wccftech.com/amd-advances-ai-strategy-acquires-mk1-high-speed-inference-reasoning-instinct-gpus/
    WCCFTECH.COM
    AMD Acquires New AI Startup in Its Bid to Finally Fix Its "CUDA Problem"
    AMD has strengthened its AI strategy with the acquisition of MK1, who bring high-speed inference & Reasoning tech for Instinct GPUs.
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • ไม่น่าเชื่อ! Hacker เปลี่ยนหลอดไฟราคาถูกให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft ขนาดจิ๋ว

    นี่คือเรื่องราวสุดเจ๋งของนักพัฒนาอิสระชื่อ Vimpo ที่สามารถเปลี่ยนหลอดไฟ LED ราคาถูกจาก AliExpress ให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft ได้สำเร็จ โดยใช้เพียงไมโครคอนโทรลเลอร์ RISC-V BL602 ที่มีแรมแค่ 276KB และรันโลกขนาด 90KB ได้อย่างน่าทึ่ง

    Vimpo เริ่มต้นด้วยการผ่าหลอดไฟ LED ออกมาอย่างระมัดระวัง แล้วถอดไมโครคอนโทรลเลอร์ BL602 ออกมา ซึ่งเป็นชิป RISC-V แบบ single-core ความเร็ว 192 MHz พร้อม RAM 276KB และ ROM 128KB จากนั้นเขาเชื่อมสายไฟเข้ากับขา I/O ของชิป และต่อเข้ากับ USB-to-serial adapter เพื่อควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์

    แต่ความเจ๋งไม่ได้อยู่แค่ฮาร์ดแวร์ — ซอฟต์แวร์ที่ใช้คือ “Ucraft” ซึ่งเป็น implementation ของ Minecraft server ที่มีขนาดเล็กมาก โดย binary มีขนาดเพียง 46KB (หรือ 90KB หากเปิดระบบ authentication) และสามารถรองรับผู้เล่นได้สูงสุดถึง 10 คน แม้จะมีข้อจำกัดด้านฟีเจอร์เมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ Minecraft แบบปกติ

    นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของการนำเกม Minecraft มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการทดลองทางวิศวกรรมและการเขียนโปรแกรม เช่นเดียวกับที่เคยมีคนรัน Minecraft บน GPU เก่า 8MB หรือใช้โค้ด COBOL อายุ 63 ปีสร้างเซิร์ฟเวอร์ Minecraft มาก่อนหน้านี้

    หลอดไฟ LED ราคาถูกถูกดัดแปลงให้เป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft
    ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ BL602 ที่มี RISC-V core ความเร็ว 192 MHz
    RAM เพียง 276KB และ ROM 128KB

    ซอฟต์แวร์ที่ใช้คือ Ucraft ซึ่งมีขนาดเล็กมาก
    Binary ขนาด 46KB (90KB หากเปิด authentication)
    รองรับผู้เล่นได้สูงสุด 10 คน

    การเชื่อมต่อทำผ่าน USB-to-serial adapter
    ใช้สายไฟเชื่อมขา I/O เพื่อควบคุมการเปิด/ปิดหลอดไฟ
    สร้างระบบควบคุมที่สามารถรันเซิร์ฟเวอร์ได้

    โปรเจกต์นี้เป็นตัวอย่างของการทดลองสุดล้ำในวงการ maker
    คล้ายกับโปรเจกต์ Minecraft บน GPU 8MB หรือเซิร์ฟเวอร์ COBOL
    แสดงให้เห็นว่า Minecraft กลายเป็นเครื่องมือทดลองทางวิศวกรรมที่ทรงพลัง

    เซิร์ฟเวอร์ Ucraft ยังขาดฟีเจอร์จาก Minecraft เวอร์ชันปกติ
    ไม่รองรับระบบ gameplay เต็มรูปแบบ
    เหมาะสำหรับการทดลองมากกว่าการเล่นจริง

    การใช้งานไมโครคอนโทรลเลอร์ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์
    ต้องเข้าใจการเชื่อมต่อ I/O และการสื่อสารผ่าน serial
    ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่มีพื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์

    https://www.tomshardware.com/maker-stem/microcontrollers/hardware-hacker-installs-minecraft-server-on-a-cheap-smart-lightbulb-single-192-mhz-risc-v-core-with-276kb-of-ram-enough-to-run-tiny-90k-byte-world
    💡 ไม่น่าเชื่อ! Hacker เปลี่ยนหลอดไฟราคาถูกให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft ขนาดจิ๋ว 🕹️🔧 นี่คือเรื่องราวสุดเจ๋งของนักพัฒนาอิสระชื่อ Vimpo ที่สามารถเปลี่ยนหลอดไฟ LED ราคาถูกจาก AliExpress ให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft ได้สำเร็จ โดยใช้เพียงไมโครคอนโทรลเลอร์ RISC-V BL602 ที่มีแรมแค่ 276KB และรันโลกขนาด 90KB ได้อย่างน่าทึ่ง Vimpo เริ่มต้นด้วยการผ่าหลอดไฟ LED ออกมาอย่างระมัดระวัง แล้วถอดไมโครคอนโทรลเลอร์ BL602 ออกมา ซึ่งเป็นชิป RISC-V แบบ single-core ความเร็ว 192 MHz พร้อม RAM 276KB และ ROM 128KB จากนั้นเขาเชื่อมสายไฟเข้ากับขา I/O ของชิป และต่อเข้ากับ USB-to-serial adapter เพื่อควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์ แต่ความเจ๋งไม่ได้อยู่แค่ฮาร์ดแวร์ — ซอฟต์แวร์ที่ใช้คือ “Ucraft” ซึ่งเป็น implementation ของ Minecraft server ที่มีขนาดเล็กมาก โดย binary มีขนาดเพียง 46KB (หรือ 90KB หากเปิดระบบ authentication) และสามารถรองรับผู้เล่นได้สูงสุดถึง 10 คน แม้จะมีข้อจำกัดด้านฟีเจอร์เมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ Minecraft แบบปกติ นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างของการนำเกม Minecraft มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการทดลองทางวิศวกรรมและการเขียนโปรแกรม เช่นเดียวกับที่เคยมีคนรัน Minecraft บน GPU เก่า 8MB หรือใช้โค้ด COBOL อายุ 63 ปีสร้างเซิร์ฟเวอร์ Minecraft มาก่อนหน้านี้ ✅ หลอดไฟ LED ราคาถูกถูกดัดแปลงให้เป็นเซิร์ฟเวอร์ Minecraft ➡️ ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ BL602 ที่มี RISC-V core ความเร็ว 192 MHz ➡️ RAM เพียง 276KB และ ROM 128KB ✅ ซอฟต์แวร์ที่ใช้คือ Ucraft ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ➡️ Binary ขนาด 46KB (90KB หากเปิด authentication) ➡️ รองรับผู้เล่นได้สูงสุด 10 คน ✅ การเชื่อมต่อทำผ่าน USB-to-serial adapter ➡️ ใช้สายไฟเชื่อมขา I/O เพื่อควบคุมการเปิด/ปิดหลอดไฟ ➡️ สร้างระบบควบคุมที่สามารถรันเซิร์ฟเวอร์ได้ ✅ โปรเจกต์นี้เป็นตัวอย่างของการทดลองสุดล้ำในวงการ maker ➡️ คล้ายกับโปรเจกต์ Minecraft บน GPU 8MB หรือเซิร์ฟเวอร์ COBOL ➡️ แสดงให้เห็นว่า Minecraft กลายเป็นเครื่องมือทดลองทางวิศวกรรมที่ทรงพลัง ‼️ เซิร์ฟเวอร์ Ucraft ยังขาดฟีเจอร์จาก Minecraft เวอร์ชันปกติ ⛔ ไม่รองรับระบบ gameplay เต็มรูปแบบ ⛔ เหมาะสำหรับการทดลองมากกว่าการเล่นจริง ‼️ การใช้งานไมโครคอนโทรลเลอร์ต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์ ⛔ ต้องเข้าใจการเชื่อมต่อ I/O และการสื่อสารผ่าน serial ⛔ ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่มีพื้นฐานด้านฮาร์ดแวร์ https://www.tomshardware.com/maker-stem/microcontrollers/hardware-hacker-installs-minecraft-server-on-a-cheap-smart-lightbulb-single-192-mhz-risc-v-core-with-276kb-of-ram-enough-to-run-tiny-90k-byte-world
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • โปรเจกต์สุดล้ำ! เปลี่ยนขยะบุหรี่ไฟฟ้า 500 ชิ้นให้กลายเป็นแบตเตอรี่พลังสูงจ่ายไฟให้บ้านทั้งหลังได้

    YouTuber ชาวอังกฤษ Chris Doel สร้างแรงบันดาลใจให้วงการรีไซเคิล ด้วยการนำแบตเตอรี่จากบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งจำนวน 500 ชิ้น มาสร้างเป็น Powerwall ที่สามารถจ่ายไฟให้บ้านได้ถึง 8 ชั่วโมง หรือเวิร์กช็อปของเขาได้นานถึง 3 วันเต็ม!

    ในยุคที่ขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งที่ถูกทิ้งมากถึง 8.2 ล้านชิ้นต่อสัปดาห์ในสหราชอาณาจักร Chris Doel มองเห็นโอกาสจากวิกฤตนี้ เขาเริ่มเก็บรวบรวมบุหรี่ไฟฟ้าที่ลูกค้านำกลับมาคืนร้าน แล้วค่อย ๆ แกะ แยกวงจร และทดสอบแบตเตอรี่แต่ละก้อนอย่างพิถีพิถัน

    เขาใช้เทคนิค DIY อย่างการพ่นลมเข้าไปในตัวบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบว่ามีไฟเหลือหรือไม่ จากนั้นจึงนำแบตเตอรี่ที่ยังดีมาทดสอบความจุ และจัดกลุ่มตามแรงดันไฟฟ้าเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อแบบขนานได้อย่างปลอดภัย

    เมื่อได้แบตเตอรี่ที่ผ่านการคัดกรองแล้ว เขาใช้โมดูล 3D-printed และรางอลูมิเนียมในการจัดเรียงและเชื่อมต่อแบตเตอรี่เข้าด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ พร้อมติดตั้งระบบ BMS (Battery Management System) และฟิวส์เพื่อความปลอดภัย ก่อนจะต่อเข้ากับอินเวอร์เตอร์แปลงไฟจาก DC 50V เป็น AC 240V เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ในบ้าน

    ผลลัพธ์คือระบบแบตเตอรี่ที่สามารถจ่ายไฟให้บ้านทั้งหลังได้ถึง 8 ชั่วโมง หรือเวิร์กช็อปของเขาได้นานถึง 3 วัน ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้งาน ถือเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นพลังงานอย่างยั่งยืน

    ปัญหาขยะบุหรี่ไฟฟ้าในสหราชอาณาจักร
    มีการทิ้งบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 8.2 ล้านชิ้นต่อสัปดาห์
    ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง

    แนวทางของ Chris Doel
    แกะและแยกแบตเตอรี่จากบุหรี่ไฟฟ้า
    ใช้เทคนิค DIY ตรวจสอบแรงดันและความจุ
    คัดเลือกเฉพาะแบตเตอรี่ที่ยังใช้งานได้
    ใช้โมดูล 3D-printed และรางอลูมิเนียมในการประกอบ
    ติดตั้งระบบ BMS และฟิวส์เพื่อความปลอดภัย
    เชื่อมต่อกับอินเวอร์เตอร์เพื่อแปลงไฟใช้งานจริง

    ผลลัพธ์ของโปรเจกต์
    ใช้แบตเตอรี่ 500 ก้อน
    จ่ายไฟให้บ้านได้ 8 ชั่วโมง
    หรือจ่ายไฟให้เวิร์กช็อปได้ 3 วัน
    ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และสร้างพลังงานหมุนเวียน

    ความเสี่ยงจากการทำงานกับแบตเตอรี่ลิเธียม
    หากแรงดันต่ำกว่า 3V แบตเตอรี่อาจไม่ปลอดภัย
    การเชื่อมต่อผิดพลาดอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร
    ต้องมีความรู้ด้านไฟฟ้าและความปลอดภัยสูง
    ไม่แนะนำให้ทำตามหากไม่มีประสบการณ์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/500-disposable-vapes-recycled-into-a-powerwall-to-power-a-house-and-workshop-enough-juice-for-up-to-eight-hours-of-home-usage-or-three-days-of-work
    🔋 โปรเจกต์สุดล้ำ! เปลี่ยนขยะบุหรี่ไฟฟ้า 500 ชิ้นให้กลายเป็นแบตเตอรี่พลังสูงจ่ายไฟให้บ้านทั้งหลังได้ YouTuber ชาวอังกฤษ Chris Doel สร้างแรงบันดาลใจให้วงการรีไซเคิล ด้วยการนำแบตเตอรี่จากบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งจำนวน 500 ชิ้น มาสร้างเป็น Powerwall ที่สามารถจ่ายไฟให้บ้านได้ถึง 8 ชั่วโมง หรือเวิร์กช็อปของเขาได้นานถึง 3 วันเต็ม! ในยุคที่ขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งที่ถูกทิ้งมากถึง 8.2 ล้านชิ้นต่อสัปดาห์ในสหราชอาณาจักร Chris Doel มองเห็นโอกาสจากวิกฤตนี้ เขาเริ่มเก็บรวบรวมบุหรี่ไฟฟ้าที่ลูกค้านำกลับมาคืนร้าน แล้วค่อย ๆ แกะ แยกวงจร และทดสอบแบตเตอรี่แต่ละก้อนอย่างพิถีพิถัน เขาใช้เทคนิค DIY อย่างการพ่นลมเข้าไปในตัวบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบว่ามีไฟเหลือหรือไม่ จากนั้นจึงนำแบตเตอรี่ที่ยังดีมาทดสอบความจุ และจัดกลุ่มตามแรงดันไฟฟ้าเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อแบบขนานได้อย่างปลอดภัย เมื่อได้แบตเตอรี่ที่ผ่านการคัดกรองแล้ว เขาใช้โมดูล 3D-printed และรางอลูมิเนียมในการจัดเรียงและเชื่อมต่อแบตเตอรี่เข้าด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่ พร้อมติดตั้งระบบ BMS (Battery Management System) และฟิวส์เพื่อความปลอดภัย ก่อนจะต่อเข้ากับอินเวอร์เตอร์แปลงไฟจาก DC 50V เป็น AC 240V เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ในบ้าน ผลลัพธ์คือระบบแบตเตอรี่ที่สามารถจ่ายไฟให้บ้านทั้งหลังได้ถึง 8 ชั่วโมง หรือเวิร์กช็อปของเขาได้นานถึง 3 วัน ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้งาน ถือเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของการเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นพลังงานอย่างยั่งยืน ✅ ปัญหาขยะบุหรี่ไฟฟ้าในสหราชอาณาจักร ➡️ มีการทิ้งบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 8.2 ล้านชิ้นต่อสัปดาห์ ➡️ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง ✅ แนวทางของ Chris Doel ➡️ แกะและแยกแบตเตอรี่จากบุหรี่ไฟฟ้า ➡️ ใช้เทคนิค DIY ตรวจสอบแรงดันและความจุ ➡️ คัดเลือกเฉพาะแบตเตอรี่ที่ยังใช้งานได้ ➡️ ใช้โมดูล 3D-printed และรางอลูมิเนียมในการประกอบ ➡️ ติดตั้งระบบ BMS และฟิวส์เพื่อความปลอดภัย ➡️ เชื่อมต่อกับอินเวอร์เตอร์เพื่อแปลงไฟใช้งานจริง ✅ ผลลัพธ์ของโปรเจกต์ ➡️ ใช้แบตเตอรี่ 500 ก้อน ➡️ จ่ายไฟให้บ้านได้ 8 ชั่วโมง ➡️ หรือจ่ายไฟให้เวิร์กช็อปได้ 3 วัน ➡️ ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และสร้างพลังงานหมุนเวียน ‼️ ความเสี่ยงจากการทำงานกับแบตเตอรี่ลิเธียม ⛔ หากแรงดันต่ำกว่า 3V แบตเตอรี่อาจไม่ปลอดภัย ⛔ การเชื่อมต่อผิดพลาดอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ⛔ ต้องมีความรู้ด้านไฟฟ้าและความปลอดภัยสูง ⛔ ไม่แนะนำให้ทำตามหากไม่มีประสบการณ์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/500-disposable-vapes-recycled-into-a-powerwall-to-power-a-house-and-workshop-enough-juice-for-up-to-eight-hours-of-home-usage-or-three-days-of-work
    0 Comments 0 Shares 190 Views 0 Reviews
  • ซามูไรแบกถาด ตอนที่ 2
    “ซามูไรแบกถาด”

    ตอน 2

    หลังจากสอบสัมภาษณ์เสร็จเมื่อปลายเดือนเมษายน คุณพี่อาเบะ ก็รีบเดินทางกลับญี่ปุ่น แกต้องมาจัดการเแก้ไข เรื่องภายในของญี่ปุ่นอีกหลายเรื่อง เพื่อให้บทบาทของหัวหมู่ทะลวงฟัน ดำเนินการได้ครบถ้วน ตามที่กำหนดไว้ใน Grand Strategy อย่างเรียบร้อยโดยไม่มีอุปสรรค รัฐบาลของคุณพี่อาเบะ ต้องเสนอร่างกฏหมาย 2 ฉบับเข้าสภา มันเป็นกฏหมายเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศทั้ง 2 ฉบับ

    กฏหมายฉบับหนึ่ง จะเป็นการแก้ไข กฏหมายอีก 10 ฉบับ ที่เกี่ยวโยงกัน เพื่อยกเลิกข้อจำกัด เกี่ยวกับการปกป้องตนเองของญี่ปุ่น Self Defence Forces (SDF) และ สิทธิที่จะใช้กองกำลังของประเทศ ช่วยเหลือประเทศ “อื่น” ที่ถูกโจมตี “ใน” อาณาเขตของญี่ปุ่น ส่วนกฏหมายอีกฉบับ เป็นการสร้างอำนาจให้กับรัฐบาล ที่จะเอากองกำลังของประเทศ ไปใช้ต่อสู้ “นอก” อาณาเขตของญี่ปุ่นได้ มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นก็ทำตามใบสั่งโดยไม่เกี่ยง ไม่งอน น่ารักซะไม่มีล่ะ

    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพของญี่ปุ่นทั้งหมด ถูกให้ยกเลิก และอเมริกา โดยนายพลดักกลาส แมคอาเธอร์ ผู้บัญชาการกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นแปซิฟิก ก็จัดการให้ญี่ปุ่น จัดทำรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1947 และมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญ เขียนไว้อย่างสวยหรู ตามถ้อยคำ ที่กำกับโดยท่านนายพล อ่านกันให้ซึ้งนะครับ

    ” ด้วยความปรารถนาอย่างจริงใจ ที่จะให้เกิดสันติภาพที่มีแบบแผนขึ้นในสากล เราประชาชนชาวญี่ปุ่น จึงขอปฏิเสธตลอดกาล ต่อการใช้อำนาจโดยชาติใดและการข่มขู่ใด หรือการใช้กำลังใด เพื่อตัดสินข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ และเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ ดังกล่าวข้างต้น เราจะไม่ดำรงกองกำลัง ไม่ว่า ทางบก ทางทะเล และทางอากาศ รวมทั้งไม่สร้างสงครามใด และจะไม่ถือสิทธิใดของรัฐ ที่จะก่อสงคราม”
    (“Aspiring sincerely to an international peace based on order, the Japanese people forever renounce war as a sovereign right of the nation and the threat or use of force as means of settling international disputes. In order to accomplish the aim of the preceding paragraph, land, sea and airforces, as well as other war potential, will never be maintained. The right of belligerency of the state will not be recognized.”)

    “ตลอดกาล” หรือ forever ของญี่ปุ่น ก็ไม่นานเท่าไหร่หรอก

    เมื่อเกิดสงครามเย็น และสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นก็ชักหน้าจ๋อย ขอผมมีกองกำลังไว้ป้องกันประเทศสักหน่อย ได้ไหมครับท่านนายพล การแสดงความปรารถนา อย่างตลอดกาลของญี่ปุ่น ตามมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญดังกล่าวข้างต้น จึงได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการออกกฏหมายใน ปี ค.ศ.1954 ให้ญี่ปุ่นสามารถมีกองกำลังเพียงพอ ที่จะดูแลปกป้องตัวเองได้ Self Defence Forces (SDF) หลังจากนั้น ญี่ปุ่นพยายามแก้รัฐธรรมนูญ มาตรานี้มาหลายครั้ง เพื่อขยายกองกำลังขึ้นอีก แต่ไม่เคยมีรัฐบาลใดทำสำเร็จ เพราะประชาชนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ไม่สนับสนุน ชาวญี่ปุ่นยังเข็ดขยาดกับสงคราม

    แต่ครั้งนี้ นายอาเบะไม่รู้ไปกินอะไรมา กำลังภายในสูงส่งมาก กฏหมายทั้ง 2 ฉบับ ที่จะนำทางไปสู่การแก้มาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นด้วยนั้น สภาผู้แทนของญี่ปุ่น ว่าง่ายผ่านร่างกฏหมายทั้ง 2 ฉบับนี้เรียบร้อยไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมนี้เอง กฏหมายนี้ยังจะต้องส่งเข้าสภาสูงเพื่อพิจารณาด้วย โดยมีกำหนดการพิจารณาในฤดูร้อนของญี่ปุ่น (ประมาณเดือนกรกฏาคม) ข่าวว่า เดิมสภาสูงของญี่ปุ่น จะปิดสมัยประชุม สิ้นเดือนมิถุนายนนี้ แต่เนื่องจากจะต้องผ่านกฏหมายสำคัญนี้ จึงจะมีการยืดสมัยประชุมออกไป เพื่อรอพิจารณากฏหมายดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น เพื่อให้กองทัพของญี่ปุ่นร่อนไปทำทั่วโลกได้
    ทั้งหมดนี้ ไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณพี่อาเบะ ทุกอย่างเดินหน้าตามใบสั่ง สภาจะปิด ก็เปิดได้ แหม… ทำไมมันว่าง่ายกันยังนี้หนอ ไม่รู้จักเจ็บ ไม่รู้จักจำมั่งหรือไร เขาทิ้งบอมบ์จนประชาชนคนชาติเดียวกันตายหมู่ที่ละเป็นแสนๆ นี่เขาหลอกเอาขึ้นแท่นเป็นหัวหมู่ ให้ไปตายแทน ไม่ใช่แต่ในเอเซีย ในตะวันออกกลาง ก็อาจจะต้องไปล้างปั้ม ชิงปั้ม ให้เขา ก็ยังรีบร้อนเดินหน้าทำให้เขาอีก เออ ผมละงงจริงๆ บุญหนักหนา ที่มันตัดขาดเรา ไม่ต้องเป็นขี้ข้า หัวซุกหัวซุนวิ่งรับใช้มัน ทำทุกอย่างตามที่มันต้องการ รวมทั้งไปตายแทนมัน…

    ผมเป็นอเมริกา ผมต้องตกรางวัลนายอาเบะเต็มอัตราเลย เพราะก่อนหน้าจะเอาร่างกฏหมายทั้งหลายนี่เข้าสภา นายอาเบะ ลงทุนเชิญนายทหารระดับสูงจากอเมริกา และยุโรปมาชมแสนยานุภาพของญี่ปุ่น อาวุธสุดทันสมัย ที่กองทัพเรือญี่ปุ่น “เตรียมพร้อม” ที่จะซื้อ ทันทีที่รัฐสภาญี่ปุ่นอนุมัติ ทำงานล่วงหน้าแบบนี่ ไม่ให้โบนัส ก็ใจจืดไปหน่อย

    ยังไม่หมดครับ ย้อนไปก่อนหน้านี้ นายอาเบะ ได้ขอให้สภาอนุมัติเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคง โดยเฉพาะ เพื่อตั้งฐานทัพติดตั้งเรดาร์ที่เกาะ Yonaguni ซึ่งเป็นดินแดนของญี่ปุ่น ที่อยู่ใกล้ที่สุดกับจีน และตั้งหน่วยสะเทื้อนน้ำสะเทื้อนบก ตามรูปแบบของอังกฤษ ตามยุทธศาสตร์เอาติดแดนที่ถูกศัตรูยึดไปกลับคืน นี่กะดูถึงขนจมูกอาเฮียเลยซินะ

    อังกฤษ และญี่ปุ่น มีสภาพเป็นเกาะเหมือนกัน ท่านนายพล Richard Spencer อดีตผู้บัญชาการ กองทัพเรือของสหภาพยุโรป แต่ปัจจุบัน มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาให้กับ Self Defense Force (SDF) ของญี่ปุ่น ยุทธศาสตร์ที่เราแนะนำ เหมาะสมแล้ว …อ้อ นี่ เขาจัดส่งเป็นแพ๊กเกจเลยนะ เพื่อปั้นกองทัพเดนตายให้ญี่ปุ่น

    กองทัพญี่ปุ่นไม่ได้ยิงกระสุนอีกเลย แม้แต่นัดเดียว นับตั้งแต่ถูกอเมริกายึดครองในปี ค.ศ.1945 บริษัทผลิตอาวุธของญี่ปุ่นเอง หลายบริษัท ผันตัวเองไปผลิตสินค้า เพื่อความสดวกสบายของชีวิต แทนการผลิตอาวุธ และการผลิตอาวุธเพื่อส่งออกของญี่ปุ่น ถูกห้ามโดยเด็ดขาด และเปลี่ยนเป็นการผลิต รถถัง เครื่องบินรบ เรือรบ เรือดำน้ำ เฉพาะตามโครงการ SDF เท่านั้น
    แต่ในปีที่แล้ว นายอาเบะ ก็ปรับนโยบายด้านความมั่นคงของญี่ปุ่นใหม่ ด้วยการเริ่มติดต่อกับผู้ผลิตอาวุธต่างประเทศ รวมทั้ง เครื่องบินรบ และเรือรบ เขาบอกว่า ยุทธศาสตร์การสร้างสันติภาพของญี่ปุ่น จำเป็นต้องใช้ร่วมกับการป้องกันด้วยอาวุธทางทหาร… ยุทธศาสตร์เดียวกับลูกพี่เป๊ะเลย รักษาสันติภาพในตะวันออกกลาง เสียจนทะลายราบเกือบหมดประเทศ

    เมื่อต้นปี ญี่ปุ่นเปิดตัวเรือรบลำใหม่ ชื่อ Izumo เป็นเรือรบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 มีรันเวย์ยาวถึง 250 เมตร บรรทุกเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เต็มอัตรา Izumo ยังมีพี่เลี้ยงประกบข้างอีก 2 ลำ เป็นเรือรบชนิดบรรทุกเครื่องบิน รายงานข่าวอ้างว่า ขณะนี้ กองทัพเรือของญี่ปุ่น ใหญ่กว่ากองทัพเรือของฝรั่งเศสบวกกับอังกฤษเสียด้วยซ้ำ …น่าสนใจ ไม่รู้ข่าวนี้ใส่สีเข้มหรือเปล่า ต้องกรองหน่อยนะครับ

    ถนนทุกสายกำลังมุ่งไปสู่โตเกียว!

    MAST บริษัทนายหน้าค้าอาวุธใหญ่ของอังกฤษ ตีปีกฉีกยิ้ม กับนโยบายใหม่ของนาย อาเบะ หรือ ของ ไอ้สุดกร่าง CFR นั่นแหละ MAST รับหน้าที่ จัดรายการเชิญพ่อค้าขายอาวุธ มาแลกเปลียนความคิด ว่าจะ (ต้ม) ขายอาวุธให้ญี่ปุ่นอย่างไรดี ส่วนใหญ่ เห็นพ้องกันว่า ญี่ปุ่นเรื้อเวทีมานาน 70 ปี เราต้องใช้ นโยบายว่า อาวุธที่ญี่ปุ่นสร้างขึ้นมาตอนหลัง ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ในการรบจริงเลยนะ ว่ามันจะใช้การได้ขนาดไหน นอกจากนี้พวกเขายังเล็งเหยื่อ ไปทั้งแถบ ตั้งแต่ เวียตนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ….อ้อ ไม่มีชื่อ ไทยแลนด์

    ท่านที่ปรึกษาใหญ่ นายพล Spencer บอกว่า การเปลี่ยนนโยบายของญี่ปุ่นด้านความมั่นคงนี้ อย่ามองว่าเป็นแค่การเปิดประตู ให้พวกนักค้าอาวุธเข้ามานะ มันเป็นการเปิดประตูของญี่ปุ่น ที่พาตัวเองออกไปสู่บทบาท ด้านการทหารระดับโลกต่างหาก… เยี่ยมครับ สมเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เขาส่งคน(ต้ม) มาถูกงานจริงๆ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    24 พ.ค. 2558
    ซามูไรแบกถาด ตอนที่ 2 “ซามูไรแบกถาด” ตอน 2 หลังจากสอบสัมภาษณ์เสร็จเมื่อปลายเดือนเมษายน คุณพี่อาเบะ ก็รีบเดินทางกลับญี่ปุ่น แกต้องมาจัดการเแก้ไข เรื่องภายในของญี่ปุ่นอีกหลายเรื่อง เพื่อให้บทบาทของหัวหมู่ทะลวงฟัน ดำเนินการได้ครบถ้วน ตามที่กำหนดไว้ใน Grand Strategy อย่างเรียบร้อยโดยไม่มีอุปสรรค รัฐบาลของคุณพี่อาเบะ ต้องเสนอร่างกฏหมาย 2 ฉบับเข้าสภา มันเป็นกฏหมายเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศทั้ง 2 ฉบับ กฏหมายฉบับหนึ่ง จะเป็นการแก้ไข กฏหมายอีก 10 ฉบับ ที่เกี่ยวโยงกัน เพื่อยกเลิกข้อจำกัด เกี่ยวกับการปกป้องตนเองของญี่ปุ่น Self Defence Forces (SDF) และ สิทธิที่จะใช้กองกำลังของประเทศ ช่วยเหลือประเทศ “อื่น” ที่ถูกโจมตี “ใน” อาณาเขตของญี่ปุ่น ส่วนกฏหมายอีกฉบับ เป็นการสร้างอำนาจให้กับรัฐบาล ที่จะเอากองกำลังของประเทศ ไปใช้ต่อสู้ “นอก” อาณาเขตของญี่ปุ่นได้ มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นก็ทำตามใบสั่งโดยไม่เกี่ยง ไม่งอน น่ารักซะไม่มีล่ะ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพของญี่ปุ่นทั้งหมด ถูกให้ยกเลิก และอเมริกา โดยนายพลดักกลาส แมคอาเธอร์ ผู้บัญชาการกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นแปซิฟิก ก็จัดการให้ญี่ปุ่น จัดทำรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1947 และมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญ เขียนไว้อย่างสวยหรู ตามถ้อยคำ ที่กำกับโดยท่านนายพล อ่านกันให้ซึ้งนะครับ ” ด้วยความปรารถนาอย่างจริงใจ ที่จะให้เกิดสันติภาพที่มีแบบแผนขึ้นในสากล เราประชาชนชาวญี่ปุ่น จึงขอปฏิเสธตลอดกาล ต่อการใช้อำนาจโดยชาติใดและการข่มขู่ใด หรือการใช้กำลังใด เพื่อตัดสินข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ และเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ ดังกล่าวข้างต้น เราจะไม่ดำรงกองกำลัง ไม่ว่า ทางบก ทางทะเล และทางอากาศ รวมทั้งไม่สร้างสงครามใด และจะไม่ถือสิทธิใดของรัฐ ที่จะก่อสงคราม” (“Aspiring sincerely to an international peace based on order, the Japanese people forever renounce war as a sovereign right of the nation and the threat or use of force as means of settling international disputes. In order to accomplish the aim of the preceding paragraph, land, sea and airforces, as well as other war potential, will never be maintained. The right of belligerency of the state will not be recognized.”) “ตลอดกาล” หรือ forever ของญี่ปุ่น ก็ไม่นานเท่าไหร่หรอก เมื่อเกิดสงครามเย็น และสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นก็ชักหน้าจ๋อย ขอผมมีกองกำลังไว้ป้องกันประเทศสักหน่อย ได้ไหมครับท่านนายพล การแสดงความปรารถนา อย่างตลอดกาลของญี่ปุ่น ตามมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญดังกล่าวข้างต้น จึงได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการออกกฏหมายใน ปี ค.ศ.1954 ให้ญี่ปุ่นสามารถมีกองกำลังเพียงพอ ที่จะดูแลปกป้องตัวเองได้ Self Defence Forces (SDF) หลังจากนั้น ญี่ปุ่นพยายามแก้รัฐธรรมนูญ มาตรานี้มาหลายครั้ง เพื่อขยายกองกำลังขึ้นอีก แต่ไม่เคยมีรัฐบาลใดทำสำเร็จ เพราะประชาชนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ไม่สนับสนุน ชาวญี่ปุ่นยังเข็ดขยาดกับสงคราม แต่ครั้งนี้ นายอาเบะไม่รู้ไปกินอะไรมา กำลังภายในสูงส่งมาก กฏหมายทั้ง 2 ฉบับ ที่จะนำทางไปสู่การแก้มาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นด้วยนั้น สภาผู้แทนของญี่ปุ่น ว่าง่ายผ่านร่างกฏหมายทั้ง 2 ฉบับนี้เรียบร้อยไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมนี้เอง กฏหมายนี้ยังจะต้องส่งเข้าสภาสูงเพื่อพิจารณาด้วย โดยมีกำหนดการพิจารณาในฤดูร้อนของญี่ปุ่น (ประมาณเดือนกรกฏาคม) ข่าวว่า เดิมสภาสูงของญี่ปุ่น จะปิดสมัยประชุม สิ้นเดือนมิถุนายนนี้ แต่เนื่องจากจะต้องผ่านกฏหมายสำคัญนี้ จึงจะมีการยืดสมัยประชุมออกไป เพื่อรอพิจารณากฏหมายดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น เพื่อให้กองทัพของญี่ปุ่นร่อนไปทำทั่วโลกได้ ทั้งหมดนี้ ไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณพี่อาเบะ ทุกอย่างเดินหน้าตามใบสั่ง สภาจะปิด ก็เปิดได้ แหม… ทำไมมันว่าง่ายกันยังนี้หนอ ไม่รู้จักเจ็บ ไม่รู้จักจำมั่งหรือไร เขาทิ้งบอมบ์จนประชาชนคนชาติเดียวกันตายหมู่ที่ละเป็นแสนๆ นี่เขาหลอกเอาขึ้นแท่นเป็นหัวหมู่ ให้ไปตายแทน ไม่ใช่แต่ในเอเซีย ในตะวันออกกลาง ก็อาจจะต้องไปล้างปั้ม ชิงปั้ม ให้เขา ก็ยังรีบร้อนเดินหน้าทำให้เขาอีก เออ ผมละงงจริงๆ บุญหนักหนา ที่มันตัดขาดเรา ไม่ต้องเป็นขี้ข้า หัวซุกหัวซุนวิ่งรับใช้มัน ทำทุกอย่างตามที่มันต้องการ รวมทั้งไปตายแทนมัน… ผมเป็นอเมริกา ผมต้องตกรางวัลนายอาเบะเต็มอัตราเลย เพราะก่อนหน้าจะเอาร่างกฏหมายทั้งหลายนี่เข้าสภา นายอาเบะ ลงทุนเชิญนายทหารระดับสูงจากอเมริกา และยุโรปมาชมแสนยานุภาพของญี่ปุ่น อาวุธสุดทันสมัย ที่กองทัพเรือญี่ปุ่น “เตรียมพร้อม” ที่จะซื้อ ทันทีที่รัฐสภาญี่ปุ่นอนุมัติ ทำงานล่วงหน้าแบบนี่ ไม่ให้โบนัส ก็ใจจืดไปหน่อย ยังไม่หมดครับ ย้อนไปก่อนหน้านี้ นายอาเบะ ได้ขอให้สภาอนุมัติเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคง โดยเฉพาะ เพื่อตั้งฐานทัพติดตั้งเรดาร์ที่เกาะ Yonaguni ซึ่งเป็นดินแดนของญี่ปุ่น ที่อยู่ใกล้ที่สุดกับจีน และตั้งหน่วยสะเทื้อนน้ำสะเทื้อนบก ตามรูปแบบของอังกฤษ ตามยุทธศาสตร์เอาติดแดนที่ถูกศัตรูยึดไปกลับคืน นี่กะดูถึงขนจมูกอาเฮียเลยซินะ อังกฤษ และญี่ปุ่น มีสภาพเป็นเกาะเหมือนกัน ท่านนายพล Richard Spencer อดีตผู้บัญชาการ กองทัพเรือของสหภาพยุโรป แต่ปัจจุบัน มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาให้กับ Self Defense Force (SDF) ของญี่ปุ่น ยุทธศาสตร์ที่เราแนะนำ เหมาะสมแล้ว …อ้อ นี่ เขาจัดส่งเป็นแพ๊กเกจเลยนะ เพื่อปั้นกองทัพเดนตายให้ญี่ปุ่น กองทัพญี่ปุ่นไม่ได้ยิงกระสุนอีกเลย แม้แต่นัดเดียว นับตั้งแต่ถูกอเมริกายึดครองในปี ค.ศ.1945 บริษัทผลิตอาวุธของญี่ปุ่นเอง หลายบริษัท ผันตัวเองไปผลิตสินค้า เพื่อความสดวกสบายของชีวิต แทนการผลิตอาวุธ และการผลิตอาวุธเพื่อส่งออกของญี่ปุ่น ถูกห้ามโดยเด็ดขาด และเปลี่ยนเป็นการผลิต รถถัง เครื่องบินรบ เรือรบ เรือดำน้ำ เฉพาะตามโครงการ SDF เท่านั้น แต่ในปีที่แล้ว นายอาเบะ ก็ปรับนโยบายด้านความมั่นคงของญี่ปุ่นใหม่ ด้วยการเริ่มติดต่อกับผู้ผลิตอาวุธต่างประเทศ รวมทั้ง เครื่องบินรบ และเรือรบ เขาบอกว่า ยุทธศาสตร์การสร้างสันติภาพของญี่ปุ่น จำเป็นต้องใช้ร่วมกับการป้องกันด้วยอาวุธทางทหาร… ยุทธศาสตร์เดียวกับลูกพี่เป๊ะเลย รักษาสันติภาพในตะวันออกกลาง เสียจนทะลายราบเกือบหมดประเทศ เมื่อต้นปี ญี่ปุ่นเปิดตัวเรือรบลำใหม่ ชื่อ Izumo เป็นเรือรบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 มีรันเวย์ยาวถึง 250 เมตร บรรทุกเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เต็มอัตรา Izumo ยังมีพี่เลี้ยงประกบข้างอีก 2 ลำ เป็นเรือรบชนิดบรรทุกเครื่องบิน รายงานข่าวอ้างว่า ขณะนี้ กองทัพเรือของญี่ปุ่น ใหญ่กว่ากองทัพเรือของฝรั่งเศสบวกกับอังกฤษเสียด้วยซ้ำ …น่าสนใจ ไม่รู้ข่าวนี้ใส่สีเข้มหรือเปล่า ต้องกรองหน่อยนะครับ ถนนทุกสายกำลังมุ่งไปสู่โตเกียว! MAST บริษัทนายหน้าค้าอาวุธใหญ่ของอังกฤษ ตีปีกฉีกยิ้ม กับนโยบายใหม่ของนาย อาเบะ หรือ ของ ไอ้สุดกร่าง CFR นั่นแหละ MAST รับหน้าที่ จัดรายการเชิญพ่อค้าขายอาวุธ มาแลกเปลียนความคิด ว่าจะ (ต้ม) ขายอาวุธให้ญี่ปุ่นอย่างไรดี ส่วนใหญ่ เห็นพ้องกันว่า ญี่ปุ่นเรื้อเวทีมานาน 70 ปี เราต้องใช้ นโยบายว่า อาวุธที่ญี่ปุ่นสร้างขึ้นมาตอนหลัง ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ในการรบจริงเลยนะ ว่ามันจะใช้การได้ขนาดไหน นอกจากนี้พวกเขายังเล็งเหยื่อ ไปทั้งแถบ ตั้งแต่ เวียตนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ….อ้อ ไม่มีชื่อ ไทยแลนด์ ท่านที่ปรึกษาใหญ่ นายพล Spencer บอกว่า การเปลี่ยนนโยบายของญี่ปุ่นด้านความมั่นคงนี้ อย่ามองว่าเป็นแค่การเปิดประตู ให้พวกนักค้าอาวุธเข้ามานะ มันเป็นการเปิดประตูของญี่ปุ่น ที่พาตัวเองออกไปสู่บทบาท ด้านการทหารระดับโลกต่างหาก… เยี่ยมครับ สมเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เขาส่งคน(ต้ม) มาถูกงานจริงๆ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 24 พ.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 378 Views 0 Reviews
  • คดีฉ้อโกงคริปโต 25 ล้านดอลลาร์ของสองพี่น้อง MIT จบลงด้วยการพิจารณาคดีเป็นโมฆะ หลังคณะลูกขุนไม่สามารถตัดสินได้

    คดีที่ถูกจับตามองอย่างมากในวงการคริปโตและเทคโนโลยีสิ้นสุดลงด้วยความไม่แน่นอน เมื่อศาลสหรัฐฯ ประกาศให้การพิจารณาคดีของสองพี่น้องจาก MIT ที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินคริปโตมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เป็น “โมฆะ” หลังคณะลูกขุนไม่สามารถลงความเห็นร่วมกันได้

    Anton และ James Peraire-Bueno สองพี่น้องที่จบจาก MIT ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงินจากการใช้เทคนิค “bait-and-switch” ความเร็วสูง เพื่อหลอกล่อบอตเทรดคริปโตให้ติดกับดัก และดูดเงินจากบัญชีของนักเทรดรายอื่นภายในเวลาเพียง 12 วินาที

    อัยการกล่าวว่าทั้งคู่ใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ MEV-boost ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ validator บนเครือข่าย Ethereum ใช้ในการตรวจสอบธุรกรรม โดยพวกเขา “ปลูก” ธุรกรรมที่ดูเหมือนปกติ แต่แฝงกลไกที่ทำให้เหยื่อติดกับดัก

    ฝ่ายจำเลยโต้แย้งว่า กลยุทธ์นี้เป็นเพียงการใช้เทคนิคที่ชาญฉลาดในตลาดที่แข่งขันสูง และไม่ใช่การฉ้อโกงตามกฎหมาย

    แม้รัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดี Donald Trump จะมีแนวทางสนับสนุนคริปโตมากขึ้น แต่คดีนี้ยังคงถูกดำเนินการต่อเนื่องจนถึงการพิจารณาคดี ซึ่งจบลงด้วยการประกาศ “mistrial” โดยผู้พิพากษา Jessica Clarke

    รายละเอียดของคดี
    สองพี่น้อง MIT ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงคริปโตมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์
    ใช้ช่องโหว่ใน MEV-boost บน Ethereum blockchain
    กลยุทธ์ “bait-and-switch” หลอกบอตเทรดให้ติดกับดัก
    การดำเนินคดีเกิดขึ้นแม้รัฐบาลมีแนวทางสนับสนุนคริปโต

    ผลการพิจารณาคดี
    คณะลูกขุนไม่สามารถลงความเห็นร่วมกันได้
    ผู้พิพากษาประกาศให้คดีเป็นโมฆะ (mistrial)
    อาจมีการพิจารณาคดีใหม่ในอนาคต

    คำเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบบล็อกเชน
    ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ validator อาจถูกใช้ในการโจมตี
    การเทรดคริปโตผ่านบอตอาจมีความเสี่ยงจากกลยุทธ์ซับซ้อน
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบความปลอดภัยของระบบก่อนทำธุรกรรม
    การใช้เทคนิคที่ดูเหมือนถูกกฎหมาย อาจเข้าข่ายฉ้อโกงได้หากมีเจตนาแฝง

    คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบคริปโตที่แม้จะใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็ยังมีช่องโหว่ที่สามารถถูกใช้ในการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังท้าทายขอบเขตของกฎหมายในยุคดิจิทัล.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/08/mistrial-declared-for-mit-educated-brothers-accused-of-25-million-cryptocurrency-heist
    ⚖️ คดีฉ้อโกงคริปโต 25 ล้านดอลลาร์ของสองพี่น้อง MIT จบลงด้วยการพิจารณาคดีเป็นโมฆะ หลังคณะลูกขุนไม่สามารถตัดสินได้ คดีที่ถูกจับตามองอย่างมากในวงการคริปโตและเทคโนโลยีสิ้นสุดลงด้วยความไม่แน่นอน เมื่อศาลสหรัฐฯ ประกาศให้การพิจารณาคดีของสองพี่น้องจาก MIT ที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินคริปโตมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เป็น “โมฆะ” หลังคณะลูกขุนไม่สามารถลงความเห็นร่วมกันได้ Anton และ James Peraire-Bueno สองพี่น้องที่จบจาก MIT ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงินจากการใช้เทคนิค “bait-and-switch” ความเร็วสูง เพื่อหลอกล่อบอตเทรดคริปโตให้ติดกับดัก และดูดเงินจากบัญชีของนักเทรดรายอื่นภายในเวลาเพียง 12 วินาที อัยการกล่าวว่าทั้งคู่ใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ MEV-boost ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ validator บนเครือข่าย Ethereum ใช้ในการตรวจสอบธุรกรรม โดยพวกเขา “ปลูก” ธุรกรรมที่ดูเหมือนปกติ แต่แฝงกลไกที่ทำให้เหยื่อติดกับดัก ฝ่ายจำเลยโต้แย้งว่า กลยุทธ์นี้เป็นเพียงการใช้เทคนิคที่ชาญฉลาดในตลาดที่แข่งขันสูง และไม่ใช่การฉ้อโกงตามกฎหมาย แม้รัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดี Donald Trump จะมีแนวทางสนับสนุนคริปโตมากขึ้น แต่คดีนี้ยังคงถูกดำเนินการต่อเนื่องจนถึงการพิจารณาคดี ซึ่งจบลงด้วยการประกาศ “mistrial” โดยผู้พิพากษา Jessica Clarke ✅ รายละเอียดของคดี ➡️ สองพี่น้อง MIT ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงคริปโตมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ ➡️ ใช้ช่องโหว่ใน MEV-boost บน Ethereum blockchain ➡️ กลยุทธ์ “bait-and-switch” หลอกบอตเทรดให้ติดกับดัก ➡️ การดำเนินคดีเกิดขึ้นแม้รัฐบาลมีแนวทางสนับสนุนคริปโต ✅ ผลการพิจารณาคดี ➡️ คณะลูกขุนไม่สามารถลงความเห็นร่วมกันได้ ➡️ ผู้พิพากษาประกาศให้คดีเป็นโมฆะ (mistrial) ➡️ อาจมีการพิจารณาคดีใหม่ในอนาคต ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบบล็อกเชน ⛔ ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ validator อาจถูกใช้ในการโจมตี ⛔ การเทรดคริปโตผ่านบอตอาจมีความเสี่ยงจากกลยุทธ์ซับซ้อน ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบความปลอดภัยของระบบก่อนทำธุรกรรม ⛔ การใช้เทคนิคที่ดูเหมือนถูกกฎหมาย อาจเข้าข่ายฉ้อโกงได้หากมีเจตนาแฝง คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบคริปโตที่แม้จะใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็ยังมีช่องโหว่ที่สามารถถูกใช้ในการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังท้าทายขอบเขตของกฎหมายในยุคดิจิทัล. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/08/mistrial-declared-for-mit-educated-brothers-accused-of-25-million-cryptocurrency-heist
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Mistrial declared for MIT-educated brothers accused of $25 million cryptocurrency heist
    (Reuters) -A federal judge on Friday declared a mistrial in the case of two Massachusetts Institute of Technology-educated brothers charged with carrying out a novel scheme to steal $25 million worth of cryptocurrency in 12 seconds that prosecutors said exploited the Ethereum blockchain's integrity.
    0 Comments 0 Shares 192 Views 0 Reviews
  • Akira Ransomware อ้างเจาะระบบ OpenOffice — แต่ Apache ปฏิเสธ พร้อมชี้แจงว่า “ไม่มีข้อมูลให้ขโมย”

    กลุ่มแฮกเกอร์ Akira Ransomware ได้อ้างว่าเจาะระบบของ Apache OpenOffice และขโมยข้อมูลกว่า 23GB ซึ่งรวมถึงข้อมูลพนักงาน, รายงานปัญหา, และไฟล์ลับภายในองค์กร พร้อมประกาศว่าจะปล่อยข้อมูลเหล่านี้ในเร็วๆ นี้

    แต่ทาง Apache Software Foundation ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธอย่างชัดเจนว่า ไม่มีการโจมตีเกิดขึ้น และสิ่งที่ Akira อ้างนั้น “ไม่สมเหตุสมผล” เพราะ OpenOffice เป็นโครงการโอเพ่นซอร์สที่ไม่มีพนักงานประจำ และไม่มีข้อมูลส่วนตัวหรือไฟล์ลับใดๆ ให้ขโมย

    โครงการโอเพ่นซอร์สที่โปร่งใส
    Apache OpenOffice เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่พัฒนาโดยอาสาสมัครทั่วโลก ไม่มีพนักงานประจำ ไม่มีฐานข้อมูลส่วนตัว และทุกการพูดคุยเกี่ยวกับบั๊กหรือฟีเจอร์ใหม่ๆ ก็ถูกเผยแพร่ผ่านเมลลิสต์สาธารณะอยู่แล้ว

    ทาง Apache ยังระบุว่าไม่มีการเรียกค่าไถ่เกิดขึ้น และไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่ามีการเจาะระบบจริง จึงไม่ได้แจ้งตำรวจหรือดำเนินการใดๆ นอกจากการตรวจสอบภายใน

    Akira Ransomware อ้างเจาะระบบ OpenOffice
    อ้างว่าขโมยข้อมูล 23GB รวมถึงข้อมูลพนักงานและไฟล์ลับ
    เตรียมปล่อยข้อมูลในเร็วๆ นี้

    Apache ปฏิเสธการโจมตี
    ไม่มีพนักงานประจำหรือข้อมูลส่วนตัวให้ขโมย
    ไม่มีการเรียกค่าไถ่หรือหลักฐานการเจาะระบบ

    โครงการโอเพ่นซอร์สที่โปร่งใส
    พัฒนาโดยอาสาสมัคร ไม่มีโครงสร้างองค์กรแบบบริษัท
    การพูดคุยเรื่องบั๊กและฟีเจอร์เป็นสาธารณะ

    ความเสี่ยงจากการอ้างเท็จของแฮกเกอร์
    อาจสร้างความเข้าใจผิดในสาธารณะ
    ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความกังวลโดยไม่จำเป็น

    ความท้าทายในการตรวจสอบความจริง
    ต้องใช้เวลาตรวจสอบภายในเพื่อยืนยันว่าไม่มีการเจาะระบบ
    การตอบโต้ข่าวลือต้องใช้ความชัดเจนและโปร่งใส

    https://www.techradar.com/pro/security/apache-openoffice-says-it-wasnt-hit-by-cyberattack-despite-hacker-claims
    🛡️💻 Akira Ransomware อ้างเจาะระบบ OpenOffice — แต่ Apache ปฏิเสธ พร้อมชี้แจงว่า “ไม่มีข้อมูลให้ขโมย” กลุ่มแฮกเกอร์ Akira Ransomware ได้อ้างว่าเจาะระบบของ Apache OpenOffice และขโมยข้อมูลกว่า 23GB ซึ่งรวมถึงข้อมูลพนักงาน, รายงานปัญหา, และไฟล์ลับภายในองค์กร พร้อมประกาศว่าจะปล่อยข้อมูลเหล่านี้ในเร็วๆ นี้ แต่ทาง Apache Software Foundation ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธอย่างชัดเจนว่า ไม่มีการโจมตีเกิดขึ้น และสิ่งที่ Akira อ้างนั้น “ไม่สมเหตุสมผล” เพราะ OpenOffice เป็นโครงการโอเพ่นซอร์สที่ไม่มีพนักงานประจำ และไม่มีข้อมูลส่วนตัวหรือไฟล์ลับใดๆ ให้ขโมย 🔍 โครงการโอเพ่นซอร์สที่โปร่งใส Apache OpenOffice เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่พัฒนาโดยอาสาสมัครทั่วโลก ไม่มีพนักงานประจำ ไม่มีฐานข้อมูลส่วนตัว และทุกการพูดคุยเกี่ยวกับบั๊กหรือฟีเจอร์ใหม่ๆ ก็ถูกเผยแพร่ผ่านเมลลิสต์สาธารณะอยู่แล้ว ทาง Apache ยังระบุว่าไม่มีการเรียกค่าไถ่เกิดขึ้น และไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่ามีการเจาะระบบจริง จึงไม่ได้แจ้งตำรวจหรือดำเนินการใดๆ นอกจากการตรวจสอบภายใน ✅ Akira Ransomware อ้างเจาะระบบ OpenOffice ➡️ อ้างว่าขโมยข้อมูล 23GB รวมถึงข้อมูลพนักงานและไฟล์ลับ ➡️ เตรียมปล่อยข้อมูลในเร็วๆ นี้ ✅ Apache ปฏิเสธการโจมตี ➡️ ไม่มีพนักงานประจำหรือข้อมูลส่วนตัวให้ขโมย ➡️ ไม่มีการเรียกค่าไถ่หรือหลักฐานการเจาะระบบ ✅ โครงการโอเพ่นซอร์สที่โปร่งใส ➡️ พัฒนาโดยอาสาสมัคร ไม่มีโครงสร้างองค์กรแบบบริษัท ➡️ การพูดคุยเรื่องบั๊กและฟีเจอร์เป็นสาธารณะ ‼️ ความเสี่ยงจากการอ้างเท็จของแฮกเกอร์ ⛔ อาจสร้างความเข้าใจผิดในสาธารณะ ⛔ ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความกังวลโดยไม่จำเป็น ‼️ ความท้าทายในการตรวจสอบความจริง ⛔ ต้องใช้เวลาตรวจสอบภายในเพื่อยืนยันว่าไม่มีการเจาะระบบ ⛔ การตอบโต้ข่าวลือต้องใช้ความชัดเจนและโปร่งใส https://www.techradar.com/pro/security/apache-openoffice-says-it-wasnt-hit-by-cyberattack-despite-hacker-claims
    0 Comments 0 Shares 228 Views 0 Reviews
  • “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำสุดแกร่งจาก Amazon เชื่อมอเมริกาสู่อินเตอร์เน็ตความเร็วแสง

    ลองจินตนาการถึงการสตรีมภาพยนตร์ความละเอียดสูง (HD) พร้อมกันถึง 12.5 ล้านเรื่องในเวลาเดียวกัน — นั่นคือพลังของ “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำใหม่ล่าสุดจาก Amazon ที่กำลังจะเชื่อมต่อสหรัฐอเมริกากับไอร์แลนด์ผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 320 เทราบิตต่อวินาที (Tbps)!

    Amazon ไม่ได้แค่ขายของออนไลน์หรือให้บริการคลาวด์เท่านั้น แต่ยังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกเพื่อรองรับการเติบโตของบริการ AWS และความต้องการข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ

    เคเบิลใต้น้ำที่ “หุ้มเกราะ” ป้องกันการโจมตี
    Fastnet ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ยัง “แกร่ง” ด้วยการหุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง เพื่อป้องกันการถูกตัดหรือทำลาย ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจริงในหลายพื้นที่ เช่น เหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลแดงถูกตัดเมื่อไม่นานมานี้

    Amazon ยังออกแบบให้สายเคเบิลนี้มีจุดขึ้นฝั่งที่ “หลีกเลี่ยงเส้นทางเดิมๆ” อย่างสหราชอาณาจักรหรือฝรั่งเศส เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเส้นทางข้อมูล ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์

    ขยายอาณาจักร AWS พร้อมแผนพัฒนาอนาคต
    นอกจาก Fastnet แล้ว Amazon ยังมีแผนเพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง และเปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการใช้งานคลาวด์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจและ AI

    เกร็ดน่ารู้: ทำไมสายเคเบิลใต้น้ำถึงสำคัญ?
    แม้เราจะใช้ Wi-Fi หรือ 5G กันทุกวัน แต่ความจริงแล้วกว่า 95% ของข้อมูลอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศยังคงเดินทางผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ! สายเคเบิลเหล่านี้จึงเป็น “เส้นเลือดใหญ่” ของโลกดิจิทัล และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนี้คือการวางรากฐานให้กับอนาคต

    Fastnet: สายเคเบิลใต้น้ำใหม่จาก Amazon
    เชื่อมต่อ Maryland, สหรัฐฯ กับ County Cork, ไอร์แลนด์
    ความเร็วสูงสุด 320 Tbps – เทียบเท่าการสตรีมหนัง HD 12.5 ล้านเรื่องพร้อมกัน
    พร้อมใช้งานในปี 2028

    โครงสร้างที่แข็งแกร่งและปลอดภัย
    หุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง
    ออกแบบให้หลีกเลี่ยงเส้นทางสายเคเบิลเดิม เพื่อความหลากหลายและปลอดภัย

    รองรับการเติบโตของ AWS
    เพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง
    เปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก

    การมีส่วนร่วมกับชุมชน
    จัดตั้ง Community Benefit Funds ใน Maryland และ County Cork
    สนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา และความเป็นอยู่ของชุมชน

    ความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางภูมิรัฐศาสตร์
    สายเคเบิลใต้น้ำเคยถูกตัดในทะเลแดง ส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    ความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจส่งผลต่อเส้นทางการวางสายเคเบิล

    ความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
    แม้จะมีการป้องกัน แต่สายเคเบิลใต้น้ำยังคงเป็นเป้าหมายที่อ่อนไหว
    การโจมตีหรือความเสียหายอาจส่งผลกระทบต่อบริการทั่วโลก

    https://www.tomshardware.com/networking/amazons-new-armored-undersea-cable-is-fast-enough-to-stream-12-5-million-hd-films-simultaneously-between-the-us-and-ireland-fastnet-to-deliver-320-terabits-per-second-across-the-atlantic
    🌊🔌 “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำสุดแกร่งจาก Amazon เชื่อมอเมริกาสู่อินเตอร์เน็ตความเร็วแสง ลองจินตนาการถึงการสตรีมภาพยนตร์ความละเอียดสูง (HD) พร้อมกันถึง 12.5 ล้านเรื่องในเวลาเดียวกัน — นั่นคือพลังของ “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำใหม่ล่าสุดจาก Amazon ที่กำลังจะเชื่อมต่อสหรัฐอเมริกากับไอร์แลนด์ผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 320 เทราบิตต่อวินาที (Tbps)! Amazon ไม่ได้แค่ขายของออนไลน์หรือให้บริการคลาวด์เท่านั้น แต่ยังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกเพื่อรองรับการเติบโตของบริการ AWS และความต้องการข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ 🛡️ เคเบิลใต้น้ำที่ “หุ้มเกราะ” ป้องกันการโจมตี Fastnet ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ยัง “แกร่ง” ด้วยการหุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง เพื่อป้องกันการถูกตัดหรือทำลาย ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจริงในหลายพื้นที่ เช่น เหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลแดงถูกตัดเมื่อไม่นานมานี้ Amazon ยังออกแบบให้สายเคเบิลนี้มีจุดขึ้นฝั่งที่ “หลีกเลี่ยงเส้นทางเดิมๆ” อย่างสหราชอาณาจักรหรือฝรั่งเศส เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเส้นทางข้อมูล ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ 🌍 ขยายอาณาจักร AWS พร้อมแผนพัฒนาอนาคต นอกจาก Fastnet แล้ว Amazon ยังมีแผนเพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง และเปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการใช้งานคลาวด์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจและ AI 💡 เกร็ดน่ารู้: ทำไมสายเคเบิลใต้น้ำถึงสำคัญ? แม้เราจะใช้ Wi-Fi หรือ 5G กันทุกวัน แต่ความจริงแล้วกว่า 95% ของข้อมูลอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศยังคงเดินทางผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ! สายเคเบิลเหล่านี้จึงเป็น “เส้นเลือดใหญ่” ของโลกดิจิทัล และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนี้คือการวางรากฐานให้กับอนาคต ✅ Fastnet: สายเคเบิลใต้น้ำใหม่จาก Amazon ➡️ เชื่อมต่อ Maryland, สหรัฐฯ กับ County Cork, ไอร์แลนด์ ➡️ ความเร็วสูงสุด 320 Tbps – เทียบเท่าการสตรีมหนัง HD 12.5 ล้านเรื่องพร้อมกัน ➡️ พร้อมใช้งานในปี 2028 ✅ โครงสร้างที่แข็งแกร่งและปลอดภัย ➡️ หุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง ➡️ ออกแบบให้หลีกเลี่ยงเส้นทางสายเคเบิลเดิม เพื่อความหลากหลายและปลอดภัย ✅ รองรับการเติบโตของ AWS ➡️ เพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง ➡️ เปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก ✅ การมีส่วนร่วมกับชุมชน ➡️ จัดตั้ง Community Benefit Funds ใน Maryland และ County Cork ➡️ สนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา และความเป็นอยู่ของชุมชน ‼️ ความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ สายเคเบิลใต้น้ำเคยถูกตัดในทะเลแดง ส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ⛔ ความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจส่งผลต่อเส้นทางการวางสายเคเบิล ‼️ ความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ⛔ แม้จะมีการป้องกัน แต่สายเคเบิลใต้น้ำยังคงเป็นเป้าหมายที่อ่อนไหว ⛔ การโจมตีหรือความเสียหายอาจส่งผลกระทบต่อบริการทั่วโลก https://www.tomshardware.com/networking/amazons-new-armored-undersea-cable-is-fast-enough-to-stream-12-5-million-hd-films-simultaneously-between-the-us-and-ireland-fastnet-to-deliver-320-terabits-per-second-across-the-atlantic
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • ปี 2026 กับ 8 เครื่องมือรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชันที่องค์กรไม่ควรมองข้าม

    ในยุคที่แอปพลิเคชันกลายเป็นหัวใจของธุรกิจทุกประเภท ความปลอดภัยจึงไม่ใช่แค่ “ตัวเลือก” แต่เป็น “ข้อบังคับ” Hackread ได้รวบรวม 8 เครื่องมือรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชันที่โดดเด่นที่สุดในปี 2026 ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การสแกนช่องโหว่ไปจนถึงการจัดการความเสี่ยงเชิงธุรกิจและการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างครบวงจร

    Apiiro – เครื่องมือที่เน้นการเชื่อมโยงช่องโหว่กับความเสี่ยงทางธุรกิจ
    มี Dynamic Risk Mapping, Shift-Left Security และ Compliance Dashboard อัตโนมัติ

    Acunetix – สแกนเว็บแอปแบบลึกและแม่นยำ
    รองรับ SPAs, GraphQL, WebSockets และมีระบบลด false positives

    Detectify – ใช้ข้อมูลจากนักเจาะระบบทั่วโลก
    มี Attack Surface Mapping และการสแกนแบบอัตโนมัติที่อัปเดตตามภัยคุกคามใหม่

    Burp Suite – เครื่องมือยอดนิยมของนักเจาะระบบ
    มี Proxy, Repeater, Intruder และระบบปลั๊กอินที่ปรับแต่งได้

    Veracode – แพลตฟอร์มรวม SAST, DAST, SCA และการฝึกอบรมนักพัฒนา
    มีระบบคะแนนความเสี่ยงและการบังคับใช้นโยบายอัตโนมัติ

    Nikto – เครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับตรวจสอบเว็บเซิร์ฟเวอร์
    ตรวจพบไฟล์ต้องสงสัย, การตั้งค่าที่ไม่ปลอดภัย และมีฐานข้อมูลช่องโหว่ขนาดใหญ่

    Strobes – ระบบจัดการช่องโหว่แบบรวมศูนย์
    รวมผลจากหลายแหล่ง, จัดลำดับความเสี่ยง และเชื่อมต่อกับ Jira, Slack, ServiceNow

    Invicti (Netsparker) – สแกนช่องโหว่แบบ “พิสูจน์ได้”
    ลด false positives โดยการทดลองเจาะจริงในสภาพแวดล้อมควบคุม

    เกณฑ์การเลือกเครื่องมือที่ดี
    ตรวจพบช่องโหว่ได้ลึกและหลากหลาย
    รวมถึงช่องโหว่เชิงตรรกะและการตั้งค่าคลาวด์ผิดพลาด

    ครอบคลุมทุกส่วนของระบบ
    ตั้งแต่ API, serverless, mobile backend ไปจนถึง container

    เชื่อมต่อกับ DevOps ได้ดี
    รองรับ pipeline, IDE และระบบ version control

    ให้คำแนะนำที่นักพัฒนานำไปใช้ได้จริง
    ลดการพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย

    ขยายได้ตามขนาดองค์กร
    ใช้ได้ทั้งกับแอปขนาดเล็กและระบบขนาดใหญ่

    เครื่องมือที่มี false positives มากเกินไปจะลดประสิทธิภาพทีม
    ทำให้ทีมพัฒนาไม่เชื่อถือผลลัพธ์และละเลยช่องโหว่จริง

    เครื่องมือที่ไม่รองรับการอัปเดตภัยคุกคามใหม่อาจล้าสมัยเร็ว
    เสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากช่องโหว่ล่าสุดที่ยังไม่ถูกตรวจพบ

    https://hackread.com/top-application-security-tools-2026/
    🛡️ ปี 2026 กับ 8 เครื่องมือรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชันที่องค์กรไม่ควรมองข้าม ในยุคที่แอปพลิเคชันกลายเป็นหัวใจของธุรกิจทุกประเภท ความปลอดภัยจึงไม่ใช่แค่ “ตัวเลือก” แต่เป็น “ข้อบังคับ” Hackread ได้รวบรวม 8 เครื่องมือรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชันที่โดดเด่นที่สุดในปี 2026 ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การสแกนช่องโหว่ไปจนถึงการจัดการความเสี่ยงเชิงธุรกิจและการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างครบวงจร ✅ Apiiro – เครื่องมือที่เน้นการเชื่อมโยงช่องโหว่กับความเสี่ยงทางธุรกิจ ➡️ มี Dynamic Risk Mapping, Shift-Left Security และ Compliance Dashboard อัตโนมัติ ✅ Acunetix – สแกนเว็บแอปแบบลึกและแม่นยำ ➡️ รองรับ SPAs, GraphQL, WebSockets และมีระบบลด false positives ✅ Detectify – ใช้ข้อมูลจากนักเจาะระบบทั่วโลก ➡️ มี Attack Surface Mapping และการสแกนแบบอัตโนมัติที่อัปเดตตามภัยคุกคามใหม่ ✅ Burp Suite – เครื่องมือยอดนิยมของนักเจาะระบบ ➡️ มี Proxy, Repeater, Intruder และระบบปลั๊กอินที่ปรับแต่งได้ ✅ Veracode – แพลตฟอร์มรวม SAST, DAST, SCA และการฝึกอบรมนักพัฒนา ➡️ มีระบบคะแนนความเสี่ยงและการบังคับใช้นโยบายอัตโนมัติ ✅ Nikto – เครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับตรวจสอบเว็บเซิร์ฟเวอร์ ➡️ ตรวจพบไฟล์ต้องสงสัย, การตั้งค่าที่ไม่ปลอดภัย และมีฐานข้อมูลช่องโหว่ขนาดใหญ่ ✅ Strobes – ระบบจัดการช่องโหว่แบบรวมศูนย์ ➡️ รวมผลจากหลายแหล่ง, จัดลำดับความเสี่ยง และเชื่อมต่อกับ Jira, Slack, ServiceNow ✅ Invicti (Netsparker) – สแกนช่องโหว่แบบ “พิสูจน์ได้” ➡️ ลด false positives โดยการทดลองเจาะจริงในสภาพแวดล้อมควบคุม 📌 เกณฑ์การเลือกเครื่องมือที่ดี ✅ ตรวจพบช่องโหว่ได้ลึกและหลากหลาย ➡️ รวมถึงช่องโหว่เชิงตรรกะและการตั้งค่าคลาวด์ผิดพลาด ✅ ครอบคลุมทุกส่วนของระบบ ➡️ ตั้งแต่ API, serverless, mobile backend ไปจนถึง container ✅ เชื่อมต่อกับ DevOps ได้ดี ➡️ รองรับ pipeline, IDE และระบบ version control ✅ ให้คำแนะนำที่นักพัฒนานำไปใช้ได้จริง ➡️ ลดการพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ✅ ขยายได้ตามขนาดองค์กร ➡️ ใช้ได้ทั้งกับแอปขนาดเล็กและระบบขนาดใหญ่ ‼️ เครื่องมือที่มี false positives มากเกินไปจะลดประสิทธิภาพทีม ⛔ ทำให้ทีมพัฒนาไม่เชื่อถือผลลัพธ์และละเลยช่องโหว่จริง ‼️ เครื่องมือที่ไม่รองรับการอัปเดตภัยคุกคามใหม่อาจล้าสมัยเร็ว ⛔ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากช่องโหว่ล่าสุดที่ยังไม่ถูกตรวจพบ https://hackread.com/top-application-security-tools-2026/
    HACKREAD.COM
    8 Top Application Security Tools (2026 Edition)
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 177 Views 0 Reviews
  • Satya Nadella เผยปัญหาใหญ่ของยุค AI: ชิปมีพร้อม แต่ไฟฟ้าไม่พอเสียบ!

    CEO ของ Microsoft เปิดใจในพอดแคสต์ล่าสุดว่า บริษัทมี GPU สำหรับงาน AI อยู่เต็มคลัง แต่ไม่สามารถติดตั้งใช้งานได้ เพราะขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการใช้พลังงานมหาศาลของศูนย์ข้อมูลยุคใหม่

    Satya Nadella พูดในรายการ Bg2 Podcast ร่วมกับ Sam Altman (CEO ของ OpenAI) ว่า ปัญหาหลักของอุตสาหกรรม AI ตอนนี้ไม่ใช่การขาดแคลนชิป แต่เป็น “การไม่มีไฟฟ้าเพียงพอ” ที่จะเปิดใช้งานชิปเหล่านั้น

    เขาเปรียบเทียบว่า “มีชิปอยู่เต็มคลัง แต่ไม่มีที่เสียบ” เพราะศูนย์ข้อมูลต้องการพลังงานมหาศาลในการติดตั้ง GPU รุ่นใหม่อย่าง Nvidia H100 หรือ Blackwell ซึ่งกินไฟมากกว่ารุ่นก่อนถึง 100 เท่า

    หลายบริษัทกำลังหาทางออก เช่น การลงทุนในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) หรือการใช้พลังงานหมุนเวียน แต่ก็ยังไม่ทันกับความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

    OpenAI ถึงกับเสนอให้รัฐบาลสหรัฐสร้างกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มถึง 100 กิกะวัตต์ต่อปี เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้าน AI แข่งกับจีน ซึ่งมีความได้เปรียบด้านพลังงานจากเขื่อนและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่

    ปัญหาหลักของ Microsoft ในการขยาย AI
    มี GPU อยู่ในคลังจำนวนมาก แต่ไม่สามารถติดตั้งได้
    ขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน
    Nadella กล่าวว่า “ไม่มี warm shells ให้เสียบชิป”
    ปัญหาไม่ใช่ compute glut แต่เป็น power glut
    ความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
    Nvidia Blackwell rack-scale TDP สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 100 เท่า

    ความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรม AI
    OpenAI เสนอให้รัฐบาลสร้างกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 100 GW ต่อปี
    บริษัทเทคโนโลยีเริ่มลงทุนใน SMR และพลังงานหมุนเวียน
    การแข่งขันกับจีนที่มีโครงสร้างพลังงานพร้อมกว่า
    ความเสี่ยงที่ชิปจะกลายเป็นสินค้าค้างคลังถาวร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsoft-ceo-says-the-company-doesnt-have-enough-electricity-to-install-all-the-ai-gpus-in-its-inventory-you-may-actually-have-a-bunch-of-chips-sitting-in-inventory-that-i-cant-plug-in
    ⚡ Satya Nadella เผยปัญหาใหญ่ของยุค AI: ชิปมีพร้อม แต่ไฟฟ้าไม่พอเสียบ! CEO ของ Microsoft เปิดใจในพอดแคสต์ล่าสุดว่า บริษัทมี GPU สำหรับงาน AI อยู่เต็มคลัง แต่ไม่สามารถติดตั้งใช้งานได้ เพราะขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการใช้พลังงานมหาศาลของศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ Satya Nadella พูดในรายการ Bg2 Podcast ร่วมกับ Sam Altman (CEO ของ OpenAI) ว่า ปัญหาหลักของอุตสาหกรรม AI ตอนนี้ไม่ใช่การขาดแคลนชิป แต่เป็น “การไม่มีไฟฟ้าเพียงพอ” ที่จะเปิดใช้งานชิปเหล่านั้น เขาเปรียบเทียบว่า “มีชิปอยู่เต็มคลัง แต่ไม่มีที่เสียบ” เพราะศูนย์ข้อมูลต้องการพลังงานมหาศาลในการติดตั้ง GPU รุ่นใหม่อย่าง Nvidia H100 หรือ Blackwell ซึ่งกินไฟมากกว่ารุ่นก่อนถึง 100 เท่า หลายบริษัทกำลังหาทางออก เช่น การลงทุนในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) หรือการใช้พลังงานหมุนเวียน แต่ก็ยังไม่ทันกับความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว OpenAI ถึงกับเสนอให้รัฐบาลสหรัฐสร้างกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มถึง 100 กิกะวัตต์ต่อปี เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้าน AI แข่งกับจีน ซึ่งมีความได้เปรียบด้านพลังงานจากเขื่อนและโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ ✅ ปัญหาหลักของ Microsoft ในการขยาย AI ➡️ มี GPU อยู่ในคลังจำนวนมาก แต่ไม่สามารถติดตั้งได้ ➡️ ขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ Nadella กล่าวว่า “ไม่มี warm shells ให้เสียบชิป” ➡️ ปัญหาไม่ใช่ compute glut แต่เป็น power glut ➡️ ความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ➡️ Nvidia Blackwell rack-scale TDP สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 100 เท่า ✅ ความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรม AI ➡️ OpenAI เสนอให้รัฐบาลสร้างกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 100 GW ต่อปี ➡️ บริษัทเทคโนโลยีเริ่มลงทุนใน SMR และพลังงานหมุนเวียน ➡️ การแข่งขันกับจีนที่มีโครงสร้างพลังงานพร้อมกว่า ➡️ ความเสี่ยงที่ชิปจะกลายเป็นสินค้าค้างคลังถาวร https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/microsoft-ceo-says-the-company-doesnt-have-enough-electricity-to-install-all-the-ai-gpus-in-its-inventory-you-may-actually-have-a-bunch-of-chips-sitting-in-inventory-that-i-cant-plug-in
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • Windows 7 ขนาด 69MB! นักพัฒนาโชว์เวอร์ชันมินิมอลที่บูตได้จริง แต่ยังใช้งานแทบไม่ได้

    นักพัฒนาในชุมชน Windows Insider ชื่อ Xeno สร้าง Windows 7 เวอร์ชันพิเศษที่มีขนาดเพียง 69MB โดยตัดไฟล์ระบบออกเกือบทั้งหมดเพื่อโชว์ว่า “ระบบปฏิบัติการที่บูตได้” สามารถเล็กแค่ไหน แม้ยังไม่สามารถใช้งานจริงได้ แต่ถือเป็น proof-of-concept ที่น่าทึ่ง

    Xeno แชร์ผลงานผ่าน Twitter พร้อมภาพหน้าจอของ Windows 7 ที่บูตขึ้นมาได้จริงจากไฟล์ ISO ขนาด 69MB ซึ่งถูกบีบอัดเหลือ 40.4MB ด้วย 7zip และภายในประกอบด้วย virtual disk ขนาดเล็กสำหรับ VMware และไฟล์ config

    แม้ระบบจะบูตได้ แต่แทบไม่มีฟีเจอร์ใดใช้งานได้เลย เพราะไฟล์สำคัญอย่าง common controls และ dialog boxes ถูกลบออกหมด ทำให้ “แทบไม่มีโปรแกรมใดรันได้” และยังขึ้นข้อความว่า “This copy of Windows is not genuine” เพราะระบบตรวจสอบลิขสิทธิ์ยังทำงานอยู่

    Xeno ระบุว่า “คุณต้องใส่ไฟล์ระบบเอง หากต้องการให้โปรแกรมพื้นฐานทำงาน” และมีแผนจะพัฒนาเวอร์ชันที่ใช้งานได้จริงสำหรับผู้ที่สนใจเล่นเกมเก่า ๆ หรือใช้งานแบบ retro โดยอาจเพิ่มไฟล์ระบบบางส่วนกลับเข้าไป

    รายละเอียดของ Windows 7 ขนาด 69MB
    สร้างโดย Xeno นักพัฒนาในชุมชน Windows Insider
    ขนาด ISO 69MB บีบอัดเหลือ 40.4MB ด้วย 7zip
    ภายในมี virtual disk และ config สำหรับ VMware
    ระบบสามารถบูตได้จริง แต่ใช้งานแทบไม่ได้

    จุดเด่นและข้อจำกัด
    ตัดไฟล์ระบบออกเกือบทั้งหมด เช่น common controls
    ไม่มีโปรแกรมพื้นฐานทำงานได้
    ระบบยังตรวจสอบลิขสิทธิ์และขึ้นข้อความ “not genuine”
    ต้องใส่ไฟล์ระบบเองหากต้องการใช้งานจริง

    แผนในอนาคตของผู้พัฒนา
    อาจเพิ่มไฟล์ระบบบางส่วนเพื่อให้ใช้งานได้มากขึ้น
    ตั้งเป้าให้รองรับเกมเก่าและแอป retro
    มีความสนใจจากชุมชนที่อาจผลักดันให้เกิดเวอร์ชัน “Tiny7” แบบใช้งานได้จริง

    https://www.tomshardware.com/software/windows/veteran-windows-insider-creates-windows-7-install-measuring-just-69mb-in-size-system-boots-but-has-been-pruned-so-severely-virtually-nothing-can-run-for-now
    💾🧪 Windows 7 ขนาด 69MB! นักพัฒนาโชว์เวอร์ชันมินิมอลที่บูตได้จริง แต่ยังใช้งานแทบไม่ได้ นักพัฒนาในชุมชน Windows Insider ชื่อ Xeno สร้าง Windows 7 เวอร์ชันพิเศษที่มีขนาดเพียง 69MB โดยตัดไฟล์ระบบออกเกือบทั้งหมดเพื่อโชว์ว่า “ระบบปฏิบัติการที่บูตได้” สามารถเล็กแค่ไหน แม้ยังไม่สามารถใช้งานจริงได้ แต่ถือเป็น proof-of-concept ที่น่าทึ่ง Xeno แชร์ผลงานผ่าน Twitter พร้อมภาพหน้าจอของ Windows 7 ที่บูตขึ้นมาได้จริงจากไฟล์ ISO ขนาด 69MB ซึ่งถูกบีบอัดเหลือ 40.4MB ด้วย 7zip และภายในประกอบด้วย virtual disk ขนาดเล็กสำหรับ VMware และไฟล์ config แม้ระบบจะบูตได้ แต่แทบไม่มีฟีเจอร์ใดใช้งานได้เลย เพราะไฟล์สำคัญอย่าง common controls และ dialog boxes ถูกลบออกหมด ทำให้ “แทบไม่มีโปรแกรมใดรันได้” และยังขึ้นข้อความว่า “This copy of Windows is not genuine” เพราะระบบตรวจสอบลิขสิทธิ์ยังทำงานอยู่ Xeno ระบุว่า “คุณต้องใส่ไฟล์ระบบเอง หากต้องการให้โปรแกรมพื้นฐานทำงาน” และมีแผนจะพัฒนาเวอร์ชันที่ใช้งานได้จริงสำหรับผู้ที่สนใจเล่นเกมเก่า ๆ หรือใช้งานแบบ retro โดยอาจเพิ่มไฟล์ระบบบางส่วนกลับเข้าไป ✅ รายละเอียดของ Windows 7 ขนาด 69MB ➡️ สร้างโดย Xeno นักพัฒนาในชุมชน Windows Insider ➡️ ขนาด ISO 69MB บีบอัดเหลือ 40.4MB ด้วย 7zip ➡️ ภายในมี virtual disk และ config สำหรับ VMware ➡️ ระบบสามารถบูตได้จริง แต่ใช้งานแทบไม่ได้ ✅ จุดเด่นและข้อจำกัด ➡️ ตัดไฟล์ระบบออกเกือบทั้งหมด เช่น common controls ➡️ ไม่มีโปรแกรมพื้นฐานทำงานได้ ➡️ ระบบยังตรวจสอบลิขสิทธิ์และขึ้นข้อความ “not genuine” ➡️ ต้องใส่ไฟล์ระบบเองหากต้องการใช้งานจริง ✅ แผนในอนาคตของผู้พัฒนา ➡️ อาจเพิ่มไฟล์ระบบบางส่วนเพื่อให้ใช้งานได้มากขึ้น ➡️ ตั้งเป้าให้รองรับเกมเก่าและแอป retro ➡️ มีความสนใจจากชุมชนที่อาจผลักดันให้เกิดเวอร์ชัน “Tiny7” แบบใช้งานได้จริง https://www.tomshardware.com/software/windows/veteran-windows-insider-creates-windows-7-install-measuring-just-69mb-in-size-system-boots-but-has-been-pruned-so-severely-virtually-nothing-can-run-for-now
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Windows insider creates Windows 7 install measuring just 69MB — system boots, but has been pruned so severely ‘virtually nothing can run’ for now
    Tinkerer explains this was ‘a fun proof of concept’ but hints work may be done to make it usable for retro enthusiasts.
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • Intel เปิด Pop-up Store 5 เมืองทั่วโลก โชว์พลัง AI PC พร้อมเผยโฉมชิป Panther Lake ที่มิวนิก!

    Intel เปิดตัว “AI Experience Store” ใน 5 เมืองใหญ่ทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส มิวนิก และโซล เพื่อโปรโมตโน้ตบุ๊ก AI จากแบรนด์ชั้นนำช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปี โดยมีทั้ง Asus, Acer, Dell, HP, Lenovo, LG, Microsoft, MSI, Samsung และ Google ร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์

    ร้าน Pop-up ของ Intel ไม่ได้มีแค่โน้ตบุ๊กทำงานทั่วไปหรือ Chromebook เท่านั้น แต่ยังมีโซนเกมที่ให้ผู้เข้าชมทดลองเล่นเกมดังอย่าง Clair Obscur: Expedition 33, Marvel Rivals และ Battlefield 6 บนเครื่องที่ใช้ชิป AI รุ่นล่าสุด

    แม้ร้านในนิวยอร์กจะเน้นโชว์เครื่องที่มีวางขายอยู่แล้ว แต่ที่มิวนิกกลับมีเซอร์ไพรส์ เมื่อ YouTuber สายเทคโนโลยี “High Yield” พบโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป “Panther Lake” ซึ่งยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    Panther Lake คือชิปรุ่นใหม่ของ Intel ที่ใช้กระบวนการผลิต 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดของบริษัท คาดว่าจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า Lunar Lake ถึง 50% ที่ระดับพลังงานเท่ากัน และจะเป็นหัวใจสำคัญของโน้ตบุ๊ก AI รุ่นถัดไป

    อย่างไรก็ตาม แม้ Intel จะพยายามผลักดันแบรนด์ “AI PC” อย่างหนัก แต่ยอดขายกลับยังไม่เป็นไปตามคาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับชิปรุ่นเก่าอย่าง Raptor Lake ที่ยังขายดีกว่า และการสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ที่ควรเป็นแรงผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนเครื่องใหม่ กลับกลายเป็นว่าผู้บริโภคจำนวนมากเลือกหันไปใช้ Mac แทน

    Intel เปิด Pop-up Store ใน 5 เมืองใหญ่ทั่วโลก
    นิวยอร์ก, ลอนดอน, ปารีส, มิวนิก, โซล
    จัดแสดงโน้ตบุ๊ก AI จากแบรนด์ชั้นนำ
    มีโซนเกมให้ทดลองเล่นเกมใหม่ล่าสุด

    การพบชิป Panther Lake ที่มิวนิก
    พบในโน้ตบุ๊กบางรุ่นที่จัดแสดง
    ใช้กระบวนการผลิต 18A ของ Intel
    ประสิทธิภาพสูงกว่า Lunar Lake ถึง 50% ที่พลังงานเท่ากัน

    ความพยายามของ Intel ในการโปรโมต AI PC
    ใช้แบรนด์ “AI Experience” เพื่อดึงดูดผู้บริโภค
    ชูจุดขายด้านการทำงาน, การเรียนรู้, การสร้างสรรค์ และการเล่นเกม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-opens-pop-up-stores-across-five-cities-featuring-ai-pcs-from-laptop-manufacturers-we-stopped-by-the-nyc-store-and-one-visitor-in-munich-found-panther-lake
    🏬💻 Intel เปิด Pop-up Store 5 เมืองทั่วโลก โชว์พลัง AI PC พร้อมเผยโฉมชิป Panther Lake ที่มิวนิก! Intel เปิดตัว “AI Experience Store” ใน 5 เมืองใหญ่ทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส มิวนิก และโซล เพื่อโปรโมตโน้ตบุ๊ก AI จากแบรนด์ชั้นนำช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปี โดยมีทั้ง Asus, Acer, Dell, HP, Lenovo, LG, Microsoft, MSI, Samsung และ Google ร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ ร้าน Pop-up ของ Intel ไม่ได้มีแค่โน้ตบุ๊กทำงานทั่วไปหรือ Chromebook เท่านั้น แต่ยังมีโซนเกมที่ให้ผู้เข้าชมทดลองเล่นเกมดังอย่าง Clair Obscur: Expedition 33, Marvel Rivals และ Battlefield 6 บนเครื่องที่ใช้ชิป AI รุ่นล่าสุด แม้ร้านในนิวยอร์กจะเน้นโชว์เครื่องที่มีวางขายอยู่แล้ว แต่ที่มิวนิกกลับมีเซอร์ไพรส์ เมื่อ YouTuber สายเทคโนโลยี “High Yield” พบโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป “Panther Lake” ซึ่งยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Panther Lake คือชิปรุ่นใหม่ของ Intel ที่ใช้กระบวนการผลิต 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดของบริษัท คาดว่าจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า Lunar Lake ถึง 50% ที่ระดับพลังงานเท่ากัน และจะเป็นหัวใจสำคัญของโน้ตบุ๊ก AI รุ่นถัดไป อย่างไรก็ตาม แม้ Intel จะพยายามผลักดันแบรนด์ “AI PC” อย่างหนัก แต่ยอดขายกลับยังไม่เป็นไปตามคาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับชิปรุ่นเก่าอย่าง Raptor Lake ที่ยังขายดีกว่า และการสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ที่ควรเป็นแรงผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนเครื่องใหม่ กลับกลายเป็นว่าผู้บริโภคจำนวนมากเลือกหันไปใช้ Mac แทน ✅ Intel เปิด Pop-up Store ใน 5 เมืองใหญ่ทั่วโลก ➡️ นิวยอร์ก, ลอนดอน, ปารีส, มิวนิก, โซล ➡️ จัดแสดงโน้ตบุ๊ก AI จากแบรนด์ชั้นนำ ➡️ มีโซนเกมให้ทดลองเล่นเกมใหม่ล่าสุด ✅ การพบชิป Panther Lake ที่มิวนิก ➡️ พบในโน้ตบุ๊กบางรุ่นที่จัดแสดง ➡️ ใช้กระบวนการผลิต 18A ของ Intel ➡️ ประสิทธิภาพสูงกว่า Lunar Lake ถึง 50% ที่พลังงานเท่ากัน ✅ ความพยายามของ Intel ในการโปรโมต AI PC ➡️ ใช้แบรนด์ “AI Experience” เพื่อดึงดูดผู้บริโภค ➡️ ชูจุดขายด้านการทำงาน, การเรียนรู้, การสร้างสรรค์ และการเล่นเกม https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-opens-pop-up-stores-across-five-cities-featuring-ai-pcs-from-laptop-manufacturers-we-stopped-by-the-nyc-store-and-one-visitor-in-munich-found-panther-lake
    0 Comments 0 Shares 261 Views 0 Reviews
  • Akira Ransomware อ้างขโมยข้อมูล 23GB จาก Apache OpenOffice — ยังไม่มีการยืนยันจากทาง Apache

    กลุ่มแฮกเกอร์ Akira Ransomware ได้ออกมาอ้างว่าได้เจาะระบบของ Apache OpenOffice และขโมยข้อมูลภายในองค์กรกว่า 23GB ซึ่งรวมถึงข้อมูลพนักงาน เช่น ที่อยู่ เบอร์โทร เลขบัตรประชาชน หมายเลขบัตรเครดิต และเอกสารการเงินภายในองค์กร

    Akira เป็นกลุ่ม ransomware-as-a-service (RaaS) ที่เริ่มปรากฏตัวในปี 2023 และมีชื่อเสียงจากการใช้กลยุทธ์ “double extortion” คือขโมยข้อมูลก่อน แล้วจึงเข้ารหัสระบบเพื่อเรียกค่าไถ่ โดยในกรณีนี้ พวกเขาโพสต์ข้อความบน dark web ว่าจะเผยแพร่เอกสารทั้งหมดในเร็ว ๆ นี้

    อย่างไรก็ตาม ทาง Apache Software Foundation ยังไม่ออกมายืนยันว่ามีการเจาะระบบจริงหรือไม่ และไม่มีหลักฐานว่าการแจกจ่ายซอฟต์แวร์ของ OpenOffice ถูกกระทบ

    Akira ยังมีพฤติกรรมที่น่าสนใจ เช่น:
    ใช้ ransomware ที่ตรวจสอบ layout ของคีย์บอร์ดเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีในประเทศที่ใช้ภาษารัสเซีย
    เคยถูกพบว่ามีการแฮกกล้องเว็บแคมของเหยื่อเพื่อเพิ่มแรงกดดันในการเรียกค่าไถ่

    ข้อมูลที่ถูกอ้างว่าถูกขโมย
    ข้อมูลพนักงาน: ที่อยู่ เบอร์โทร วันเกิด เลขบัตรประชาชน
    ข้อมูลการเงินและเอกสารภายในองค์กร
    รายงานปัญหาการใช้งานซอฟต์แวร์

    พฤติกรรมของ Akira Ransomware
    ใช้กลยุทธ์ double extortion
    มี ransomware สำหรับ Windows และ Linux/VMware ESXi
    ตรวจสอบ layout คีย์บอร์ดเพื่อหลีกเลี่ยงประเทศรัสเซีย
    เคยแฮกกล้องเว็บแคมของเหยื่อ

    สถานะปัจจุบัน
    Apache ยังไม่ยืนยันว่ามีการเจาะระบบ
    ไม่มีผลกระทบต่อระบบแจกจ่ายซอฟต์แวร์ของ OpenOffice
    ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลด OpenOffice ได้จากเว็บไซต์ทางการ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน
    อย่าดาวน์โหลด OpenOffice จากลิงก์ที่แชร์ในโซเชียลหรือฟอรั่ม
    ควรติดตามประกาศจาก Apache Software Foundation อย่างใกล้ชิด
    หากใช้งานในองค์กร ควรตรวจสอบระบบภายในและอัปเดตมาตรการรักษาความปลอดภัย

    https://hackread.com/akira-ransomware-stole-apache-openoffice-data/
    🕵️ Akira Ransomware อ้างขโมยข้อมูล 23GB จาก Apache OpenOffice — ยังไม่มีการยืนยันจากทาง Apache กลุ่มแฮกเกอร์ Akira Ransomware ได้ออกมาอ้างว่าได้เจาะระบบของ Apache OpenOffice และขโมยข้อมูลภายในองค์กรกว่า 23GB ซึ่งรวมถึงข้อมูลพนักงาน เช่น ที่อยู่ เบอร์โทร เลขบัตรประชาชน หมายเลขบัตรเครดิต และเอกสารการเงินภายในองค์กร Akira เป็นกลุ่ม ransomware-as-a-service (RaaS) ที่เริ่มปรากฏตัวในปี 2023 และมีชื่อเสียงจากการใช้กลยุทธ์ “double extortion” คือขโมยข้อมูลก่อน แล้วจึงเข้ารหัสระบบเพื่อเรียกค่าไถ่ โดยในกรณีนี้ พวกเขาโพสต์ข้อความบน dark web ว่าจะเผยแพร่เอกสารทั้งหมดในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ทาง Apache Software Foundation ยังไม่ออกมายืนยันว่ามีการเจาะระบบจริงหรือไม่ และไม่มีหลักฐานว่าการแจกจ่ายซอฟต์แวร์ของ OpenOffice ถูกกระทบ 🔐 Akira ยังมีพฤติกรรมที่น่าสนใจ เช่น: 💠 ใช้ ransomware ที่ตรวจสอบ layout ของคีย์บอร์ดเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีในประเทศที่ใช้ภาษารัสเซีย 💠 เคยถูกพบว่ามีการแฮกกล้องเว็บแคมของเหยื่อเพื่อเพิ่มแรงกดดันในการเรียกค่าไถ่ ✅ ข้อมูลที่ถูกอ้างว่าถูกขโมย ➡️ ข้อมูลพนักงาน: ที่อยู่ เบอร์โทร วันเกิด เลขบัตรประชาชน ➡️ ข้อมูลการเงินและเอกสารภายในองค์กร ➡️ รายงานปัญหาการใช้งานซอฟต์แวร์ ✅ พฤติกรรมของ Akira Ransomware ➡️ ใช้กลยุทธ์ double extortion ➡️ มี ransomware สำหรับ Windows และ Linux/VMware ESXi ➡️ ตรวจสอบ layout คีย์บอร์ดเพื่อหลีกเลี่ยงประเทศรัสเซีย ➡️ เคยแฮกกล้องเว็บแคมของเหยื่อ ✅ สถานะปัจจุบัน ➡️ Apache ยังไม่ยืนยันว่ามีการเจาะระบบ ➡️ ไม่มีผลกระทบต่อระบบแจกจ่ายซอฟต์แวร์ของ OpenOffice ➡️ ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลด OpenOffice ได้จากเว็บไซต์ทางการ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งาน ⛔ อย่าดาวน์โหลด OpenOffice จากลิงก์ที่แชร์ในโซเชียลหรือฟอรั่ม ⛔ ควรติดตามประกาศจาก Apache Software Foundation อย่างใกล้ชิด ⛔ หากใช้งานในองค์กร ควรตรวจสอบระบบภายในและอัปเดตมาตรการรักษาความปลอดภัย https://hackread.com/akira-ransomware-stole-apache-openoffice-data/
    HACKREAD.COM
    Akira Ransomware Claims It Stole 23GB from Apache OpenOffice
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • “987654321 / 123456789 ≈ 8” — เมื่อเลขเรียงกลายเป็นเวทมนตร์ทางคณิตศาสตร์

    John D. Cook ได้หยิบยกตัวเลขที่ดูธรรมดาอย่าง 987654321 และ 123456789 มาหารกัน แล้วพบว่าได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับเลข 8 อย่างน่าทึ่ง — คือ 8.0000000729 ซึ่งนำไปสู่การตั้งคำถามว่า “มีอะไรพิเศษในเลขฐาน 10 หรือไม่?”

    ลองจินตนาการว่าคุณเอาตัวเลขที่เรียงจากมากไปน้อย (9 ถึง 1) มาหารด้วยตัวเลขที่เรียงจากน้อยไปมาก (1 ถึง 9) แล้วได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับจำนวนเต็ม — นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากโครงสร้างของเลขในแต่ละฐาน

    Cook ทดลองกับเลขในฐานอื่น เช่น:
    ฐาน 6: 54321₆ / 12345₆ ≈ 4.00268
    ฐาน 16: 0xFEDCBA987654321 / 0x123456789ABCDEF ≈ 14

    จากนั้นเขาสร้างสูตรทั่วไปโดยนิยาม:
    num(b): ตัวเลขที่เรียงจากมากไปน้อยในฐาน b
    denom(b): ตัวเลขที่เรียงจากน้อยไปมากในฐาน b

    ผลลัพธ์คือ:
    num(b) / denom(b) ≈ b − 2 + (b − 1)³ / bᵇ

    ซึ่งหมายความว่าในทุกฐาน b > 2 การหารตัวเลขเรียงกลับกับเรียงตรงจะให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับ b − 2 เสมอ และเศษส่วนที่เหลือจะเล็กมาก — เล็กจน floating point ในคอมพิวเตอร์อาจมองไม่เห็น!

    การทดลองตัวเลขเรียงในฐาน 10
    987654321 / 123456789 ≈ 8.0000000729
    ใกล้เคียงกับ 8 + 9³ / 10¹⁰

    การทดลองในฐานอื่น
    ฐาน 6: ผลลัพธ์ ≈ 4.00268
    ฐาน 16: ผลลัพธ์ ≈ 14

    นิยามทั่วไปของตัวเลขเรียง
    num(b): ตัวเลขเรียงจากมากไปน้อยในฐาน b
    denom(b): ตัวเลขเรียงจากน้อยไปมากในฐาน b

    สูตรประมาณค่า
    num(b) / denom(b) ≈ b − 2 + (b − 1)³ / bᵇ
    เศษส่วนที่เหลือ ≈ 1 / bᵇ⁻²

    การพิสูจน์ด้วย Python
    ใช้การคำนวณเชิงโปรแกรมแทนการพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์
    ตรวจสอบความถูกต้องของสูตรในฐานตั้งแต่ 3 ถึง 1000

    คำเตือนสำหรับการใช้ floating point
    floating point มีความแม่นยำจำกัด (53 bits)
    อาจมองไม่เห็นเศษส่วนเล็กมากในผลลัพธ์

    https://www.johndcook.com/blog/2025/10/26/987654321/
    🔢 “987654321 / 123456789 ≈ 8” — เมื่อเลขเรียงกลายเป็นเวทมนตร์ทางคณิตศาสตร์ John D. Cook ได้หยิบยกตัวเลขที่ดูธรรมดาอย่าง 987654321 และ 123456789 มาหารกัน แล้วพบว่าได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับเลข 8 อย่างน่าทึ่ง — คือ 8.0000000729 ซึ่งนำไปสู่การตั้งคำถามว่า “มีอะไรพิเศษในเลขฐาน 10 หรือไม่?” ลองจินตนาการว่าคุณเอาตัวเลขที่เรียงจากมากไปน้อย (9 ถึง 1) มาหารด้วยตัวเลขที่เรียงจากน้อยไปมาก (1 ถึง 9) แล้วได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับจำนวนเต็ม — นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลจากโครงสร้างของเลขในแต่ละฐาน Cook ทดลองกับเลขในฐานอื่น เช่น: 📍 ฐาน 6: 54321₆ / 12345₆ ≈ 4.00268 📍 ฐาน 16: 0xFEDCBA987654321 / 0x123456789ABCDEF ≈ 14 จากนั้นเขาสร้างสูตรทั่วไปโดยนิยาม: 📍 num(b): ตัวเลขที่เรียงจากมากไปน้อยในฐาน b 📍 denom(b): ตัวเลขที่เรียงจากน้อยไปมากในฐาน b ผลลัพธ์คือ: 📍 num(b) / denom(b) ≈ b − 2 + (b − 1)³ / bᵇ ซึ่งหมายความว่าในทุกฐาน b > 2 การหารตัวเลขเรียงกลับกับเรียงตรงจะให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับ b − 2 เสมอ และเศษส่วนที่เหลือจะเล็กมาก — เล็กจน floating point ในคอมพิวเตอร์อาจมองไม่เห็น! ✅ การทดลองตัวเลขเรียงในฐาน 10 ➡️ 987654321 / 123456789 ≈ 8.0000000729 ➡️ ใกล้เคียงกับ 8 + 9³ / 10¹⁰ ✅ การทดลองในฐานอื่น ➡️ ฐาน 6: ผลลัพธ์ ≈ 4.00268 ➡️ ฐาน 16: ผลลัพธ์ ≈ 14 ✅ นิยามทั่วไปของตัวเลขเรียง ➡️ num(b): ตัวเลขเรียงจากมากไปน้อยในฐาน b ➡️ denom(b): ตัวเลขเรียงจากน้อยไปมากในฐาน b ✅ สูตรประมาณค่า ➡️ num(b) / denom(b) ≈ b − 2 + (b − 1)³ / bᵇ ➡️ เศษส่วนที่เหลือ ≈ 1 / bᵇ⁻² ✅ การพิสูจน์ด้วย Python ➡️ ใช้การคำนวณเชิงโปรแกรมแทนการพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ ➡️ ตรวจสอบความถูกต้องของสูตรในฐานตั้งแต่ 3 ถึง 1000 ‼️ คำเตือนสำหรับการใช้ floating point ⛔ floating point มีความแม่นยำจำกัด (53 bits) ⛔ อาจมองไม่เห็นเศษส่วนเล็กมากในผลลัพธ์ https://www.johndcook.com/blog/2025/10/26/987654321/
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • Examples Of Every Letter Being Silent, With The Exception Of…

    You probably already know that English features many, many words with silent letters—letters that appear in the word but aren’t pronounced and often make us wonder what they are even doing there. For example, the letter B in the words debt and thumb. Or whatever the heck is going on in the words colonel, queue, and bourgeoisie.

    Even though you’re probably already familiar with silent letters, you might not realize just how many words in English actually use them. To demonstrate just how common these silent letters actually are, we quietly gathered up a list of as many examples of silent letters as we could find.

    It should be noted that silent letters often depend on pronunciation and regional accents, which we have noted at points in our list.

    Silent A words

    The letter A is silent in a bunch of words that include -ea, such as bread, dread, head, thread, and spread. The letter A also remains quiet in a bunch of adverbs that end in -ically, such as basically, stoically, logically, frantically, fanatically, magically, and tragically. A few words also have a silent A at the beginning that doesn’t seem to do much of anything, such as aisle and aesthetic.

    Silent B words

    The letter B likes to silently follow the letter M at the end of many words, such as in dumb, plumb, crumb, thumb, numb, succumb, lamb, limb, climb, tomb, comb, bomb, and womb. The letter B also seems to also slip in silently before the letter T in words like debt, doubt, and subtle.

    Silent C words

    When it comes to the letter C, it seems to remain silent when it follows the letter S. There are many examples of this, such as science, scissors, scent, ascent, crescent, descent, descend, disciple, scene, obscene, fluorescent, abscess, fascinate, and muscle.

    The silent C also shows up in a few other weird words such as czar, acquire, indict, and yacht. Yacht is so fancy that it even slips a silent H in there too.

    Silent D words

    The letter D is silent in some words that pair it up with the letter G, as in bridge, ridge, edge, ledge, and hedge. It also doesn’t have much to say in some pronunciations of the words handsome and handkerchief. Lastly, the first D in the word Wednesday seems to have taken the day off.

    Silent E words

    The letter E quietly resides in the middle of the word vegetable. However, there are tons and tons more silent E‘s out there. The letter E often goes unpronounced at the end of many, many words that include but are certainly not limited to the words imagine, plaque, brute, debate, excite, make, due, true, crime, grace, goose, axe, die, dye, bike, eke, pie, use, toe, cage, dude, mute, candle, and adore.

    Silent F words

    This one will depend on how you pronounce the word fifth, which has two common pronunciations: one in which both F‘s are pronounced and one in which the second F is not (as if it were spelled “fith”). As far as we know, this silent F pronunciation of fifth is the only example in English of a word with a silent F.

    Silent G words

    For whatever reason, the letter G likes to stay quiet when it is paired up with the letter N. Examples include gnaw, gnarly, gnostic, gnat, gnash, gnome, champagne, cologne, align, assign, benign, sign, feign, foreign, and reign. The letter G also often keeps quiet when it sees the letter H, as in sigh, high, sight, light, bright, night, fight, though, and thorough.

    Silent H words

    We have already listed quite a few words with silent Hs but there are plenty more to find. The letter H is sometimes silent when placed at the beginning of words such as hour, heir, honor, herb, homage, and honest. The letter H is silent in many words where it follows the letter C, such as anchor, archive, chaos, character, Christmas, charisma, chemical, choreography, chorus, choir, and echo. The letter H is also silent in words where it follows the letter W, as in when, where, which, why, whine, whistle, and white. Finally, the letter H doesn’t seem to be doing much at all in the words ghost and rhyme.

    Silent I words

    Compared to the other vowels, the letter I seems to love to be heard. We could only find a few words that feature a silent I, such as business, suit, and fruit.

    Silent J words

    Based on our, ahem, totally professional research, the only English word to have a silent J is … marijuana. And interestingly, it’s tough to find a language with a silent J. J just loves to be heard.

    Silent K words

    The letter K is silent at the beginning of lots of words where it is followed by the letter N. Some examples of this include knife, knight, knob, knock, knit, knuckle, knee, kneel, knick-knack, knowledge, know, knot, and knoll.

    Silent L words

    The letter L is silent in the words including should, could, would, half, calf, chalk, talk, walk, folk, and yolk. The silent L in the word salmon is also pretty fishy.

    Silent M words

    After looking high and low, the only words we could find with a silent M are ones that begin with mn, such as mnemonic and similarly derived terms, but maybe we just need something to help us remember others.

    Silent N words

    The letter N seems to be shy around the letter M as it doesn’t speak up in words like autumn, column, condemn, solemn, and hymn.

    Silent O words

    The letter O is silent in some words that pair it with fellow vowels E and U, such as people, jeopardy, leopard, rough, tough, enough, trouble, and double.

    Silent P words

    The letter P is often silent in words that pair it with the letter S, as in psalm, psyche, psychology, pseudoscience, pseudonym, and corps. It is also silent in many technical words that include the prefixes pneumato-, pneumano-, and pneumo-, such as pneumonia and pneumatic. The letter P is also silent in a few other oddball words such as raspberry, receipt, and pterodactyl.

    Silent Q words

    The letter Q mostly makes its presence felt whenever it appears. The word lacquer seems to be the sole example of a word with a silent Q that we could manage to find.

    Silent R words

    Besides the common pronunciation of the word February that leaves out the first R, the existence (or nonexistence) of silent R’s largely depends on whether you have a rhotic or non-rhotic accent. For example, a person with a non-rhotic Boston accent will likely employ several silent R’s following vowels in the sentence My sister parked her car near Harvard Yard.

    Silent S words

    The Silent S appears in several different words, including island, isle, aisle, apropos, debris, bourgeois, and viscount.

    Silent T words

    One pattern we could find for the Silent T occurs when it is paired with the letter L in words like whistle, bristle, thistle, bustle, hustle, and castle. The letter T is also silent in a lot of French loanwords such as ballet, gourmet, rapport, ricochet, buffet, crochet, valet, debut, and beret. Besides that, the silent T appears in a random assortment of other words, such as asthma, mortgage, tsunami, soften, listen, fasten, glisten, and moisten.

    Silent U words

    U must get nervous around G‘s because it can’t seem to say anything when it comes after them in words like guard, guide, guilt, guitar, guess, disguise, guest, guilt, guise, baguette, dialogue, monologue, league, colleague, rogue, vague, and tongue. You can also find a silent U in words like build, biscuit, circuit, and laugh.

    Silent V words

    We looked as hard as we could for words with a silent V, but we sadly came up empty. Some sources claim that V is the only letter in English that is never silent, and we couldn’t find any examples to prove that claim wrong. Poetic contractions like e’er and ne’er do cut it right out, though.

    Silent W words

    The letter W gets tongue-tied around the letter R and is often silent when placed before it in words like wrack, wrench, wreath, wrestle, wrangle, wrist, wrong, wring, wrought, write, writ, wrinkle, wraith, wrap, wrath, wretch, wreck, writhe, wry, wrapper, and playwright. A handful of other words also feature a silent W, such as answer, sword, two, and who.

    Silent X words

    Unless we made an embarrassing mistake, we are pretty sure the letter X is silent in the words faux and faux pas. As it is in other French-derived words, such as roux and doux and some plurals, like choux and reseaux (the plurals of chou and reseau, respectively).

    Silent Y words

    The letter Y is another one that depends on pronunciation to be silent. For example, one pronunciation of the word beyond [ bee-ond ] could be considered to contain a silent Y.

    Silent Z Words

    A handful of French loanwords have that special je ne sais quoi of a silent Z, including rendezvous and laissez-faire.

    สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    Examples Of Every Letter Being Silent, With The Exception Of… You probably already know that English features many, many words with silent letters—letters that appear in the word but aren’t pronounced and often make us wonder what they are even doing there. For example, the letter B in the words debt and thumb. Or whatever the heck is going on in the words colonel, queue, and bourgeoisie. Even though you’re probably already familiar with silent letters, you might not realize just how many words in English actually use them. To demonstrate just how common these silent letters actually are, we quietly gathered up a list of as many examples of silent letters as we could find. It should be noted that silent letters often depend on pronunciation and regional accents, which we have noted at points in our list. Silent A words The letter A is silent in a bunch of words that include -ea, such as bread, dread, head, thread, and spread. The letter A also remains quiet in a bunch of adverbs that end in -ically, such as basically, stoically, logically, frantically, fanatically, magically, and tragically. A few words also have a silent A at the beginning that doesn’t seem to do much of anything, such as aisle and aesthetic. Silent B words The letter B likes to silently follow the letter M at the end of many words, such as in dumb, plumb, crumb, thumb, numb, succumb, lamb, limb, climb, tomb, comb, bomb, and womb. The letter B also seems to also slip in silently before the letter T in words like debt, doubt, and subtle. Silent C words When it comes to the letter C, it seems to remain silent when it follows the letter S. There are many examples of this, such as science, scissors, scent, ascent, crescent, descent, descend, disciple, scene, obscene, fluorescent, abscess, fascinate, and muscle. The silent C also shows up in a few other weird words such as czar, acquire, indict, and yacht. Yacht is so fancy that it even slips a silent H in there too. Silent D words The letter D is silent in some words that pair it up with the letter G, as in bridge, ridge, edge, ledge, and hedge. It also doesn’t have much to say in some pronunciations of the words handsome and handkerchief. Lastly, the first D in the word Wednesday seems to have taken the day off. Silent E words The letter E quietly resides in the middle of the word vegetable. However, there are tons and tons more silent E‘s out there. The letter E often goes unpronounced at the end of many, many words that include but are certainly not limited to the words imagine, plaque, brute, debate, excite, make, due, true, crime, grace, goose, axe, die, dye, bike, eke, pie, use, toe, cage, dude, mute, candle, and adore. Silent F words This one will depend on how you pronounce the word fifth, which has two common pronunciations: one in which both F‘s are pronounced and one in which the second F is not (as if it were spelled “fith”). As far as we know, this silent F pronunciation of fifth is the only example in English of a word with a silent F. Silent G words For whatever reason, the letter G likes to stay quiet when it is paired up with the letter N. Examples include gnaw, gnarly, gnostic, gnat, gnash, gnome, champagne, cologne, align, assign, benign, sign, feign, foreign, and reign. The letter G also often keeps quiet when it sees the letter H, as in sigh, high, sight, light, bright, night, fight, though, and thorough. Silent H words We have already listed quite a few words with silent Hs but there are plenty more to find. The letter H is sometimes silent when placed at the beginning of words such as hour, heir, honor, herb, homage, and honest. The letter H is silent in many words where it follows the letter C, such as anchor, archive, chaos, character, Christmas, charisma, chemical, choreography, chorus, choir, and echo. The letter H is also silent in words where it follows the letter W, as in when, where, which, why, whine, whistle, and white. Finally, the letter H doesn’t seem to be doing much at all in the words ghost and rhyme. Silent I words Compared to the other vowels, the letter I seems to love to be heard. We could only find a few words that feature a silent I, such as business, suit, and fruit. Silent J words Based on our, ahem, totally professional research, the only English word to have a silent J is … marijuana. And interestingly, it’s tough to find a language with a silent J. J just loves to be heard. Silent K words The letter K is silent at the beginning of lots of words where it is followed by the letter N. Some examples of this include knife, knight, knob, knock, knit, knuckle, knee, kneel, knick-knack, knowledge, know, knot, and knoll. Silent L words The letter L is silent in the words including should, could, would, half, calf, chalk, talk, walk, folk, and yolk. The silent L in the word salmon is also pretty fishy. Silent M words After looking high and low, the only words we could find with a silent M are ones that begin with mn, such as mnemonic and similarly derived terms, but maybe we just need something to help us remember others. Silent N words The letter N seems to be shy around the letter M as it doesn’t speak up in words like autumn, column, condemn, solemn, and hymn. Silent O words The letter O is silent in some words that pair it with fellow vowels E and U, such as people, jeopardy, leopard, rough, tough, enough, trouble, and double. Silent P words The letter P is often silent in words that pair it with the letter S, as in psalm, psyche, psychology, pseudoscience, pseudonym, and corps. It is also silent in many technical words that include the prefixes pneumato-, pneumano-, and pneumo-, such as pneumonia and pneumatic. The letter P is also silent in a few other oddball words such as raspberry, receipt, and pterodactyl. Silent Q words The letter Q mostly makes its presence felt whenever it appears. The word lacquer seems to be the sole example of a word with a silent Q that we could manage to find. Silent R words Besides the common pronunciation of the word February that leaves out the first R, the existence (or nonexistence) of silent R’s largely depends on whether you have a rhotic or non-rhotic accent. For example, a person with a non-rhotic Boston accent will likely employ several silent R’s following vowels in the sentence My sister parked her car near Harvard Yard. Silent S words The Silent S appears in several different words, including island, isle, aisle, apropos, debris, bourgeois, and viscount. Silent T words One pattern we could find for the Silent T occurs when it is paired with the letter L in words like whistle, bristle, thistle, bustle, hustle, and castle. The letter T is also silent in a lot of French loanwords such as ballet, gourmet, rapport, ricochet, buffet, crochet, valet, debut, and beret. Besides that, the silent T appears in a random assortment of other words, such as asthma, mortgage, tsunami, soften, listen, fasten, glisten, and moisten. Silent U words U must get nervous around G‘s because it can’t seem to say anything when it comes after them in words like guard, guide, guilt, guitar, guess, disguise, guest, guilt, guise, baguette, dialogue, monologue, league, colleague, rogue, vague, and tongue. You can also find a silent U in words like build, biscuit, circuit, and laugh. Silent V words We looked as hard as we could for words with a silent V, but we sadly came up empty. Some sources claim that V is the only letter in English that is never silent, and we couldn’t find any examples to prove that claim wrong. Poetic contractions like e’er and ne’er do cut it right out, though. Silent W words The letter W gets tongue-tied around the letter R and is often silent when placed before it in words like wrack, wrench, wreath, wrestle, wrangle, wrist, wrong, wring, wrought, write, writ, wrinkle, wraith, wrap, wrath, wretch, wreck, writhe, wry, wrapper, and playwright. A handful of other words also feature a silent W, such as answer, sword, two, and who. Silent X words Unless we made an embarrassing mistake, we are pretty sure the letter X is silent in the words faux and faux pas. As it is in other French-derived words, such as roux and doux and some plurals, like choux and reseaux (the plurals of chou and reseau, respectively). Silent Y words The letter Y is another one that depends on pronunciation to be silent. For example, one pronunciation of the word beyond [ bee-ond ] could be considered to contain a silent Y. Silent Z Words A handful of French loanwords have that special je ne sais quoi of a silent Z, including rendezvous and laissez-faire. สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    0 Comments 0 Shares 371 Views 0 Reviews
  • Lenovo Legion บน Linux เตรียมได้โหมด Extreme ที่แท้จริง — แก้ปัญหาพลังงานผิดพลาด พร้อมระบบอนุญาตเฉพาะรุ่นที่รองรับ

    บทความจาก Tom’s Hardware รายงานว่า Lenovo Legion ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux กำลังจะได้รับการอัปเดตใหม่ที่เพิ่มโหมด “Extreme” สำหรับการใช้งานประสิทธิภาพสูง โดยจะมีการตรวจสอบรุ่นก่อนอนุญาตให้ใช้งาน เพื่อป้องกันปัญหาความร้อนและการใช้พลังงานเกินขีดจำกัด

    ก่อนหน้านี้ Legion บน Linux มีปัญหาเรื่อง power profile ที่ไม่ตรงกับความสามารถของเครื่อง เช่น โหมด Extreme ถูกเปิดใช้งานในรุ่นที่ไม่รองรับ ทำให้เกิดความไม่เสถียรและอาจทำให้แบตเตอรี่เสียหาย

    นักพัฒนาอิสระ Derek Clark ได้เสนอ patch ใหม่ให้กับ Lenovo WMI GameZone driver ซึ่งเป็นตัวควบคุมโหมดพลังงานบน Linux โดยเปลี่ยนจากระบบ “deny list” เป็น “allow list” หมายความว่า เฉพาะรุ่นที่ผ่านการตรวจสอบแล้วเท่านั้นที่จะสามารถเปิดใช้งานโหมด Extreme ได้

    โหมดนี้จะตั้งค่า PPT/SPL สูงสุด ทำให้ CPU ใช้พลังงานเต็มที่ เหมาะสำหรับการใช้งานขณะเสียบปลั๊กเท่านั้น เพราะอาจกินพลังงานเกินที่แบตเตอรี่จะรับไหว

    ปัญหาเดิมบน Linux
    โหมด Extreme เปิดใช้งานในรุ่นที่ไม่รองรับ
    ทำให้ระบบไม่เสถียรและแบตเตอรี่เสียหาย

    การแก้ไขด้วย patch ใหม่
    เปลี่ยนจาก deny list เป็น allow list
    เฉพาะรุ่นที่ผ่านการตรวจสอบเท่านั้นที่เปิด Extreme ได้
    ใช้กับ Lenovo WMI GameZone driver บน Linux

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    โหมด Extreme ใช้พลังงานสูงมาก
    เหมาะกับการใช้งานแบบเสียบปลั๊กเท่านั้น
    ยังไม่มีรุ่นใดที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ Linux บน Legion
    อย่าเปิดโหมด Extreme หากเครื่องยังไม่อยู่ใน allow list
    ตรวจสอบ patch และรุ่นที่รองรับก่อนใช้งาน
    ใช้โหมดนี้เฉพาะเมื่อต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและมีระบบระบายความร้อนเพียงพอ

    https://www.tomshardware.com/software/linux/lenovo-legion-devices-running-linux-set-to-get-new-extreme-mode-that-fixes-previously-broken-power-limits-only-approved-devices-will-be-able-to-run-the-maximum-performance-mode
    ⚡ Lenovo Legion บน Linux เตรียมได้โหมด Extreme ที่แท้จริง — แก้ปัญหาพลังงานผิดพลาด พร้อมระบบอนุญาตเฉพาะรุ่นที่รองรับ บทความจาก Tom’s Hardware รายงานว่า Lenovo Legion ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux กำลังจะได้รับการอัปเดตใหม่ที่เพิ่มโหมด “Extreme” สำหรับการใช้งานประสิทธิภาพสูง โดยจะมีการตรวจสอบรุ่นก่อนอนุญาตให้ใช้งาน เพื่อป้องกันปัญหาความร้อนและการใช้พลังงานเกินขีดจำกัด ก่อนหน้านี้ Legion บน Linux มีปัญหาเรื่อง power profile ที่ไม่ตรงกับความสามารถของเครื่อง เช่น โหมด Extreme ถูกเปิดใช้งานในรุ่นที่ไม่รองรับ ทำให้เกิดความไม่เสถียรและอาจทำให้แบตเตอรี่เสียหาย นักพัฒนาอิสระ Derek Clark ได้เสนอ patch ใหม่ให้กับ Lenovo WMI GameZone driver ซึ่งเป็นตัวควบคุมโหมดพลังงานบน Linux โดยเปลี่ยนจากระบบ “deny list” เป็น “allow list” หมายความว่า เฉพาะรุ่นที่ผ่านการตรวจสอบแล้วเท่านั้นที่จะสามารถเปิดใช้งานโหมด Extreme ได้ โหมดนี้จะตั้งค่า PPT/SPL สูงสุด ทำให้ CPU ใช้พลังงานเต็มที่ เหมาะสำหรับการใช้งานขณะเสียบปลั๊กเท่านั้น เพราะอาจกินพลังงานเกินที่แบตเตอรี่จะรับไหว ✅ ปัญหาเดิมบน Linux ➡️ โหมด Extreme เปิดใช้งานในรุ่นที่ไม่รองรับ ➡️ ทำให้ระบบไม่เสถียรและแบตเตอรี่เสียหาย ✅ การแก้ไขด้วย patch ใหม่ ➡️ เปลี่ยนจาก deny list เป็น allow list ➡️ เฉพาะรุ่นที่ผ่านการตรวจสอบเท่านั้นที่เปิด Extreme ได้ ➡️ ใช้กับ Lenovo WMI GameZone driver บน Linux ✅ ข้อควรระวังในการใช้งาน ➡️ โหมด Extreme ใช้พลังงานสูงมาก ➡️ เหมาะกับการใช้งานแบบเสียบปลั๊กเท่านั้น ➡️ ยังไม่มีรุ่นใดที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ Linux บน Legion ⛔ อย่าเปิดโหมด Extreme หากเครื่องยังไม่อยู่ใน allow list ⛔ ตรวจสอบ patch และรุ่นที่รองรับก่อนใช้งาน ⛔ ใช้โหมดนี้เฉพาะเมื่อต้องการประสิทธิภาพสูงสุดและมีระบบระบายความร้อนเพียงพอ https://www.tomshardware.com/software/linux/lenovo-legion-devices-running-linux-set-to-get-new-extreme-mode-that-fixes-previously-broken-power-limits-only-approved-devices-will-be-able-to-run-the-maximum-performance-mode
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • "สถาบันกษัตริย์จะอยู่คู่กับอังกฤษตลอดไป"

    นี่คือเรื่องราวบางส่วนของ "ลิซ ทรัสส์" (Liz Truss) อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ผู้ที่ในอดีตเคยเรียกร้องให้ยกเลิกสถาบันกษัตริย์ หลังผ่านไป 30 ปี เธอก็ยังไม่สามารถทำได้

    นอกจากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของเธอแล้ว เธอยังต้องปฏิบัติตามราชประเพณีที่สืบสานกันมาตั้งแต่อดีตอีกด้วย นับเป็นความพ่ายแพ้ของบรรดาผู้ที่ต้องการจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์อย่างแท้จริง

    "ลิซ ทรัสส์" เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่อยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง คือ 49 วัน
    (เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษวันที่ 6 กันยายน 2022 จนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2022 และรักษาการต่อจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2022 ซึ่งเป็นวันที่ริชี ซูนัคเข้ารับตำแหน่งต่ออย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 49 วัน)


    เปิดเผยตัวตนเป็นผู้ต่อต้าน
    คลิปวิดีโอที่ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน "ลิซ ทรัสส์" ในวัย 19 ปี “นักศึกษาหญิงหัวก้าวหน้า” ที่ชื่นชอบแนวคิดของพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democrats) จนได้รับโอกาสกล่าวบนเวทีปราศรัยของพรรค ในวันนั้นเธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนระบอบสาธารณรัฐ (republicanism) และเรียกร้องให้ “ยกเลิกสถาบันกษัตริย์” อย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด

    การแสดงออกของเธออย่างอย่างแข็งกร้าวในวันนั้น สะท้อนถึงอุดมการณ์อันแรงกล้าต่อความเชื่อใน “ความเท่าเทียม” และ “สิทธิของประชาชนที่มีอย่างเท่าเทียมกัน” โดยเธอปฏิเสธหลักการปกครองแบบสืบทอดทางสายเลือด (เช่น ระบบกษัตริย์ หรือชนชั้นสูงที่สืบทอดอำนาจ) โดยเชื่อว่าสถานะทางสังคมหรือสิทธิในการปกครองไม่ควรถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิด

    และประชาชนไม่ควรถูกบังคับให้ยอมรับการตัดสินใจของผู้มีอำนาจแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตของพวกเขาแต่ควรมาจากความสามารถหรือการได้รับความยินยอมจากประชาชน

    “เราเชื่อในความยุติธรรมและสามัญสำนึก เราไม่เชื่อว่าจะมีคนใดเกิดมาเพื่อปกครอง หรือต้องถูกบังคับให้เงียบต่อการตัดสินใจที่กระทบต่อชีวิตของพวกเขา” (We do not believe that people should be born to rule or that they should put up and shut up about decisions that affect their everyday lives.)

    “พวกเราพรรคเสรีประชาธิปไตยเชื่อในโอกาสสำหรับทุกคน เราไม่เชื่อว่าผู้คนเกิดมาเพื่อปกครอง” (We Liberal Democrats believe in opportunity for all. We do not believe people are born to rule.)

    ในระหว่างปราศรัยวันนั้น เธอยังเสริมอีกว่า:
    เราได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ด้านนอกงาน เกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ คุณรู้ไหมว่าพวกเขาพูดอะไร? พวกเขาตอบว่า 'ยกเลิกพวกเขา เราพอแล้ว' (They said abolish them, we’ve had enough) "เราไม่พบคนที่นิยมราชาธิปไตยสักคนเดียวนอก Royal Pavilion"

    คำพูดเหล่านั้นถูกจดจำในฐานะ “จุดยืนแห่งการต่อต้านสถาบัน” ที่ชัดเจนที่สุดครั้งหนึ่งจากนักการเมืองอังกฤษรุ่นใหม่ในยุคนั้น
    .
    แต่เมื่อเวลาผ่านไป อุดมการณ์ที่เคยแรงราวไฟเผา กลับถูกกลืนด้วยความเป็นจริงของอำนาจ ซึ่งพ่ายแพ้ให้กับความเป็นจริงด้วยการ "จุมพิตพระหัตถ์ราชินี"

    ต่อมา ทรัสส์ได้เปลี่ยนเส้นทางการเมือง โดยเข้าร่วมกับพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservative Party) ซึ่งเป็นพรรคที่สนับสนุนสถาบันกษัตริย์อย่างแข็งขัน
    และนั่นทำให้มุมมองของเธอค่อยๆ เปลี่ยนไปอีกครั้ง

    ในช่วงปี 2022 ผู้สื่อข่าวถามถึงมุมมองในอดีตของเธอเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ทรัสส์ตอบว่าแนวคิดทางการเมืองของเธอ “พัฒนาไปตามวัย”
    เธอกล่าวกับ Sky News ว่า:

    “ฉันได้พบกับราชินีแล้ว และเธอก็สุภาพเกินกว่าจะยกประเด็นสมัยนั้นขึ้นมา”
    (I have met the Queen, and she was far too polite to raise the issue.)
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเธอจะขอโทษหรือไม่ หากราชินีพูดถึงเรื่องนี้ เธอตอบว่า

    “ฉันเคยผิดพลาดที่พูดสิ่งเหล่านั้นในเวลานั้น”
    (I was wrong to say what I did at the time.)

    นิก โรบินสัน” แห่ง BBC ได้ซักถามเกี่ยวกับความคิดเห็นก่อนหน้านี้ของเธอ ซึ่งทรัสส์ตอบว่า:
    “ฉันเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมอังกฤษถึงประสบความสำเร็จ และส่วนหนึ่งของความสำเร็จของเราคือระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญที่สนับสนุนประชาธิปไตยเสรี”
    (I have come to understand more about why Britain is successful — and part of that success is our constitutional monarchy that underpins a free democracy.)

    ท้ายที่สุด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2022 ลิซ ทรัสส์ ได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการโดยการเข้าเฝ้าและรับการแต่งตั้งจาก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ณ พระตำหนักบัลมอรัลในสกอตแลนด์

    ภาพของหญิงสาวผู้เคยเรียกร้องให้ “ล้มเลิกสถาบันกษัตริย์” เมื่อวัยเยาว์ กลับต้องค้อมศีรษะและ “จุมพิตพระหัตถ์” ของราชินีผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งระบอบที่เธอเคยปฏิเสธ

    และเพียง 49 วัน หลังจากนั้น เธอก็ต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทิ้งไว้เพียงภาพอันน่าขบขันของ “อดีตนักล้มล้าง” ที่ลงเอยด้วยการอยู่ภายใต้ระบอบเดิมที่เธอเคยพยายามโค่นล้มด้วยถ้อยคำรุนแรงของเธอเอง
    .
    https://www.yahoo.com/news/liz-truss-queen-monarchy-abolished-video-114714959.html

    https://www.abc.net.au/news/2022-09-06/who-is-liz-truss-britains-next-prime-minister/101404932

    https://www.independent.co.uk/tv/news/liz-truss-monarchy-republicanism-abolish-b2128076.html
    "สถาบันกษัตริย์จะอยู่คู่กับอังกฤษตลอดไป" นี่คือเรื่องราวบางส่วนของ "ลิซ ทรัสส์" (Liz Truss) อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ผู้ที่ในอดีตเคยเรียกร้องให้ยกเลิกสถาบันกษัตริย์ หลังผ่านไป 30 ปี เธอก็ยังไม่สามารถทำได้ นอกจากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของเธอแล้ว เธอยังต้องปฏิบัติตามราชประเพณีที่สืบสานกันมาตั้งแต่อดีตอีกด้วย นับเป็นความพ่ายแพ้ของบรรดาผู้ที่ต้องการจะล้มล้างสถาบันกษัตริย์อย่างแท้จริง "ลิซ ทรัสส์" เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษที่อยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง คือ 49 วัน (เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษวันที่ 6 กันยายน 2022 จนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2022 และรักษาการต่อจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2022 ซึ่งเป็นวันที่ริชี ซูนัคเข้ารับตำแหน่งต่ออย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 49 วัน) 👉เปิดเผยตัวตนเป็นผู้ต่อต้าน คลิปวิดีโอที่ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน "ลิซ ทรัสส์" ในวัย 19 ปี “นักศึกษาหญิงหัวก้าวหน้า” ที่ชื่นชอบแนวคิดของพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democrats) จนได้รับโอกาสกล่าวบนเวทีปราศรัยของพรรค ในวันนั้นเธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนระบอบสาธารณรัฐ (republicanism) และเรียกร้องให้ “ยกเลิกสถาบันกษัตริย์” อย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด การแสดงออกของเธออย่างอย่างแข็งกร้าวในวันนั้น สะท้อนถึงอุดมการณ์อันแรงกล้าต่อความเชื่อใน “ความเท่าเทียม” และ “สิทธิของประชาชนที่มีอย่างเท่าเทียมกัน” โดยเธอปฏิเสธหลักการปกครองแบบสืบทอดทางสายเลือด (เช่น ระบบกษัตริย์ หรือชนชั้นสูงที่สืบทอดอำนาจ) โดยเชื่อว่าสถานะทางสังคมหรือสิทธิในการปกครองไม่ควรถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิด และประชาชนไม่ควรถูกบังคับให้ยอมรับการตัดสินใจของผู้มีอำนาจแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตของพวกเขาแต่ควรมาจากความสามารถหรือการได้รับความยินยอมจากประชาชน “เราเชื่อในความยุติธรรมและสามัญสำนึก เราไม่เชื่อว่าจะมีคนใดเกิดมาเพื่อปกครอง หรือต้องถูกบังคับให้เงียบต่อการตัดสินใจที่กระทบต่อชีวิตของพวกเขา” (We do not believe that people should be born to rule or that they should put up and shut up about decisions that affect their everyday lives.) “พวกเราพรรคเสรีประชาธิปไตยเชื่อในโอกาสสำหรับทุกคน เราไม่เชื่อว่าผู้คนเกิดมาเพื่อปกครอง” (We Liberal Democrats believe in opportunity for all. We do not believe people are born to rule.) ในระหว่างปราศรัยวันนั้น เธอยังเสริมอีกว่า: เราได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ด้านนอกงาน เกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ คุณรู้ไหมว่าพวกเขาพูดอะไร? พวกเขาตอบว่า 'ยกเลิกพวกเขา เราพอแล้ว' (They said abolish them, we’ve had enough) "เราไม่พบคนที่นิยมราชาธิปไตยสักคนเดียวนอก Royal Pavilion" คำพูดเหล่านั้นถูกจดจำในฐานะ “จุดยืนแห่งการต่อต้านสถาบัน” ที่ชัดเจนที่สุดครั้งหนึ่งจากนักการเมืองอังกฤษรุ่นใหม่ในยุคนั้น . 👉แต่เมื่อเวลาผ่านไป อุดมการณ์ที่เคยแรงราวไฟเผา กลับถูกกลืนด้วยความเป็นจริงของอำนาจ ซึ่งพ่ายแพ้ให้กับความเป็นจริงด้วยการ "จุมพิตพระหัตถ์ราชินี" ต่อมา ทรัสส์ได้เปลี่ยนเส้นทางการเมือง โดยเข้าร่วมกับพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservative Party) ซึ่งเป็นพรรคที่สนับสนุนสถาบันกษัตริย์อย่างแข็งขัน และนั่นทำให้มุมมองของเธอค่อยๆ เปลี่ยนไปอีกครั้ง ในช่วงปี 2022 ผู้สื่อข่าวถามถึงมุมมองในอดีตของเธอเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ทรัสส์ตอบว่าแนวคิดทางการเมืองของเธอ “พัฒนาไปตามวัย” เธอกล่าวกับ Sky News ว่า: “ฉันได้พบกับราชินีแล้ว และเธอก็สุภาพเกินกว่าจะยกประเด็นสมัยนั้นขึ้นมา” (I have met the Queen, and she was far too polite to raise the issue.) เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเธอจะขอโทษหรือไม่ หากราชินีพูดถึงเรื่องนี้ เธอตอบว่า “ฉันเคยผิดพลาดที่พูดสิ่งเหล่านั้นในเวลานั้น” (I was wrong to say what I did at the time.) นิก โรบินสัน” แห่ง BBC ได้ซักถามเกี่ยวกับความคิดเห็นก่อนหน้านี้ของเธอ ซึ่งทรัสส์ตอบว่า: “ฉันเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมอังกฤษถึงประสบความสำเร็จ และส่วนหนึ่งของความสำเร็จของเราคือระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญที่สนับสนุนประชาธิปไตยเสรี” (I have come to understand more about why Britain is successful — and part of that success is our constitutional monarchy that underpins a free democracy.) 👉ท้ายที่สุด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2022 ลิซ ทรัสส์ ได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการโดยการเข้าเฝ้าและรับการแต่งตั้งจาก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ณ พระตำหนักบัลมอรัลในสกอตแลนด์ ภาพของหญิงสาวผู้เคยเรียกร้องให้ “ล้มเลิกสถาบันกษัตริย์” เมื่อวัยเยาว์ กลับต้องค้อมศีรษะและ “จุมพิตพระหัตถ์” ของราชินีผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งระบอบที่เธอเคยปฏิเสธ และเพียง 49 วัน หลังจากนั้น เธอก็ต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทิ้งไว้เพียงภาพอันน่าขบขันของ “อดีตนักล้มล้าง” ที่ลงเอยด้วยการอยู่ภายใต้ระบอบเดิมที่เธอเคยพยายามโค่นล้มด้วยถ้อยคำรุนแรงของเธอเอง . https://www.yahoo.com/news/liz-truss-queen-monarchy-abolished-video-114714959.html https://www.abc.net.au/news/2022-09-06/who-is-liz-truss-britains-next-prime-minister/101404932 https://www.independent.co.uk/tv/news/liz-truss-monarchy-republicanism-abolish-b2128076.html
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 501 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯ เตรียมแบนการส่งออกสินค้าที่มีซอฟต์แวร์อเมริกันไปจีน – ตอบโต้การควบคุมแร่หายากของปักกิ่ง

    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพิจารณามาตรการตอบโต้จีนอย่างรุนแรง ด้วยการแบนการส่งออกสินค้าที่ผลิตด้วยหรือมีซอฟต์แวร์จากสหรัฐฯ ไปยังจีน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ซอฟต์แวร์เฉพาะทางไปจนถึงระบบปฏิบัติการยอดนิยมอย่าง Windows, Android, iOS และ macOS

    มาตรการนี้เป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯ มองว่าเหมาะสม หลังจากจีนประกาศควบคุมการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ยืนยันว่า “ทุกทางเลือกยังอยู่บนโต๊ะ” และหากมีการดำเนินการจริง จะร่วมมือกับประเทศพันธมิตรในกลุ่ม G7

    แม้ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่มาตรการนี้อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการค้าระหว่างสองประเทศ เพราะแทบทุกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในจีนล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์จากสหรัฐฯ การแบนครั้งนี้อาจทำให้จีนต้องเร่งพัฒนาซอฟต์แวร์ของตัวเอง เช่น HarmonyOS, openKylin และมาตรฐานใหม่อย่าง UBIOS ที่เพิ่งเปิดตัว

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการดำเนินการเช่นนี้อาจส่งผลย้อนกลับต่ออุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เอง และอาจเร่งให้จีนพัฒนาระบบของตัวเองจนสามารถแข่งขันได้ในอนาคต

    แผนการแบนสินค้าจากสหรัฐฯ ไปจีน
    ครอบคลุมสินค้าที่ผลิตด้วยหรือมีซอฟต์แวร์จากสหรัฐฯ
    รวมถึงระบบปฏิบัติการยอดนิยม เช่น Windows, Android, iOS, macOS
    เป็นมาตรการตอบโต้การควบคุมแร่หายากของจีน
    อาจดำเนินการร่วมกับพันธมิตรในกลุ่ม G7

    ผลกระทบต่อจีน
    อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ในจีนใช้ซอฟต์แวร์จากสหรัฐฯ
    จีนต้องเร่งพัฒนาซอฟต์แวร์ของตัวเอง เช่น HarmonyOS, openKylin, UBIOS
    อาจทำให้จีนอยู่ในสถานะเสียเปรียบในระยะสั้น แต่เร่งการพึ่งพาตนเองในระยะยาว

    ความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้
    สหรัฐฯ เคยแบนซอฟต์แวร์ออกแบบชิป (EDA) ไปยังจีน
    ส่งผลให้บริษัทจีนอย่าง Xiaomi และ Lenovo ไม่สามารถออกแบบชิปกับ TSMC ได้
    มาตรการถูกยกเลิกหลังจีนยอมผ่อนปรนการส่งออกแร่หายาก

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    การแบนอาจกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่มีตลาดใหญ่ในจีน
    อาจเร่งให้จีนพัฒนาระบบที่ไม่พึ่งพาสหรัฐฯ และกลายเป็นคู่แข่งในอนาคต
    การดำเนินการอาจซับซ้อนและมีผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
    อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีระหว่างสองประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/trump-considering-china-export-ban-on-items-made-with-or-containing-u-s-software-sweeping-restriction-to-hit-hard-in-response-to-beijings-rare-earth-embargo-in-major-trade-war-escalation
    🇺🇸 สหรัฐฯ เตรียมแบนการส่งออกสินค้าที่มีซอฟต์แวร์อเมริกันไปจีน – ตอบโต้การควบคุมแร่หายากของปักกิ่ง รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพิจารณามาตรการตอบโต้จีนอย่างรุนแรง ด้วยการแบนการส่งออกสินค้าที่ผลิตด้วยหรือมีซอฟต์แวร์จากสหรัฐฯ ไปยังจีน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ซอฟต์แวร์เฉพาะทางไปจนถึงระบบปฏิบัติการยอดนิยมอย่าง Windows, Android, iOS และ macOS มาตรการนี้เป็นการตอบโต้ที่สหรัฐฯ มองว่าเหมาะสม หลังจากจีนประกาศควบคุมการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ยืนยันว่า “ทุกทางเลือกยังอยู่บนโต๊ะ” และหากมีการดำเนินการจริง จะร่วมมือกับประเทศพันธมิตรในกลุ่ม G7 แม้ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่มาตรการนี้อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการค้าระหว่างสองประเทศ เพราะแทบทุกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในจีนล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์จากสหรัฐฯ การแบนครั้งนี้อาจทำให้จีนต้องเร่งพัฒนาซอฟต์แวร์ของตัวเอง เช่น HarmonyOS, openKylin และมาตรฐานใหม่อย่าง UBIOS ที่เพิ่งเปิดตัว อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการดำเนินการเช่นนี้อาจส่งผลย้อนกลับต่ออุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เอง และอาจเร่งให้จีนพัฒนาระบบของตัวเองจนสามารถแข่งขันได้ในอนาคต ✅ แผนการแบนสินค้าจากสหรัฐฯ ไปจีน ➡️ ครอบคลุมสินค้าที่ผลิตด้วยหรือมีซอฟต์แวร์จากสหรัฐฯ ➡️ รวมถึงระบบปฏิบัติการยอดนิยม เช่น Windows, Android, iOS, macOS ➡️ เป็นมาตรการตอบโต้การควบคุมแร่หายากของจีน ➡️ อาจดำเนินการร่วมกับพันธมิตรในกลุ่ม G7 ✅ ผลกระทบต่อจีน ➡️ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ในจีนใช้ซอฟต์แวร์จากสหรัฐฯ ➡️ จีนต้องเร่งพัฒนาซอฟต์แวร์ของตัวเอง เช่น HarmonyOS, openKylin, UBIOS ➡️ อาจทำให้จีนอยู่ในสถานะเสียเปรียบในระยะสั้น แต่เร่งการพึ่งพาตนเองในระยะยาว ✅ ความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ➡️ สหรัฐฯ เคยแบนซอฟต์แวร์ออกแบบชิป (EDA) ไปยังจีน ➡️ ส่งผลให้บริษัทจีนอย่าง Xiaomi และ Lenovo ไม่สามารถออกแบบชิปกับ TSMC ได้ ➡️ มาตรการถูกยกเลิกหลังจีนยอมผ่อนปรนการส่งออกแร่หายาก ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ การแบนอาจกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่มีตลาดใหญ่ในจีน ⛔ อาจเร่งให้จีนพัฒนาระบบที่ไม่พึ่งพาสหรัฐฯ และกลายเป็นคู่แข่งในอนาคต ⛔ การดำเนินการอาจซับซ้อนและมีผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ⛔ อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีระหว่างสองประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/trump-considering-china-export-ban-on-items-made-with-or-containing-u-s-software-sweeping-restriction-to-hit-hard-in-response-to-beijings-rare-earth-embargo-in-major-trade-war-escalation
    0 Comments 0 Shares 340 Views 0 Reviews
More Results