• 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar

    Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น
    เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it

    WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe

    กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก
    ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban

    Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender

    NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล
    NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox

    GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini
    OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week

    จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia
    Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage

    Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ
    Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads

    Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์
    นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up

    Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial
    Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences

    รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE
    เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ
    https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends

    Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ
    Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is

    Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่
    สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy

    ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p
    ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs

    รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด
    ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี
    https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review

    Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่
    Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it

    ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI
    Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี
    อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี
    นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation

    อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก
    นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ
    https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag

    FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่
    เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life

    Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด
    รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
    https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review

    FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้
    อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks

    ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่
    บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน
    https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack

    Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ
    รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk

    IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป
    บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ
    https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward

    ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI
    ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it

    ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว
    รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง
    https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands

    OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา”
    OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls

    React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง
    เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure

    SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้
    SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy
    https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy

    Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco
    แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด
    https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close

    X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป
    แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition

    Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว
    Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it

    มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย
    https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps

    AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT
    มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found

    Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros
    Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why

    แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้
    มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar 👓 Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it 🛡️ WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe 🌍 กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban 💻 Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่ ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender 📧 NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox 🤓 GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week ⚡ จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage 🚗 Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads 👓 Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์ นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up 🕶️ Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ 🔗 https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends ⌚ Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is 💿 Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่ สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy 🏥 ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs 🧹 รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review 📱 Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่ Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it 🧑‍💻 ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus 🌐 เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🎬 รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation 🎥 อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ 🔗 https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag 🛡️ FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่ เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life 🔋 Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review 🚁 FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้ อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks 🌱 ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่ บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack ⚠️ Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk 🤖 IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward 🎧 ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it 🏗️ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands 📱 OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา” OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls 🛡️ React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure 🕯️ SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้ SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy 🔗 https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy 🎮 Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด 🔗 https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close 💸 X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition 💻 Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it 📱 มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้ มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps 🤖 AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found 📺 Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why 🔋 แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้ มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ช่วยนักพัฒนาแอปบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียล

    Apple กำลังช่วยนักพัฒนาแอปในออสเตรเลียบังคับใช้กฎหมายใหม่ที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีโซเชียลมีเดีย โดยออก toolkit ที่ช่วยตรวจสอบและจำกัดการเข้าถึง พร้อมเตือนว่าผู้พัฒนาอาจถูกปรับหนักหากไม่ปฏิบัติตาม

    ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2025 เป็นต้นไป กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียจะห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีโซเชียลมีเดีย Apple จึงได้ออก toolkit สำหรับนักพัฒนา เพื่อช่วยให้แอปต่าง ๆ ปฏิบัติตามกฎหมายนี้ โดย toolkit ประกอบด้วย API และเครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบอายุและตั้งค่าการเข้าถึงที่เหมาะสม

    เครื่องมือที่ Apple จัดให้
    Apple ได้แจ้งนักพัฒนาว่ามีเครื่องมือหลายอย่างที่สามารถใช้ได้ เช่น
    Declared Age Range API: ปรับพฤติกรรมแอปตามอายุผู้ใช้
    App Store Description: แจ้งข้อจำกัดด้านอายุในหน้ารายละเอียดแอป
    Higher Minimum Age Rating: ตั้งค่าอายุขั้นต่ำสูงกว่าที่ระบบกำหนด
    Age Suitability URL: ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อจำกัดของแอป

    ปัญหาและความท้าทาย
    แม้จะมีเครื่องมือช่วย แต่ก็มีรายงานว่า วัยรุ่นบางคนหาทางเลี่ยงระบบตรวจสอบอายุ เช่น ใช้รูปแม่หรือแม้แต่รูปคนดังอย่าง Beyoncé เพื่อผ่านการยืนยันอายุใน Snapchat ซึ่งสะท้อนว่าการบังคับใช้กฎหมายนี้ยังมีช่องโหว่ และนักพัฒนาบางรายก็ไม่เต็มใจที่จะลงทุนทำระบบตรวจสอบที่เข้มงวด

    ผลกระทบต่ออนาคตโซเชียลมีเดีย
    หากกฎหมายนี้ถูกบังคับใช้อย่างจริงจัง อาจเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ นำไปใช้เพื่อลดการเข้าถึงโซเชียลมีเดียของเด็กเล็ก แต่ก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหาช่องโหว่ในการตรวจสอบอายุ เพื่อไม่ให้กลายเป็นเพียงกฎหมายที่บังคับใช้ได้ยาก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย
    ห้ามผู้ต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีโซเชียล
    มีผลตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025

    เครื่องมือจาก Apple สำหรับนักพัฒนา
    Declared Age Range API
    Higher Minimum Age Rating
    App Store Description
    Age Suitability URL

    ผลกระทบต่อผู้พัฒนาและผู้ใช้
    นักพัฒนาที่ไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับหนัก
    ผู้ใช้วัยรุ่นบางคนหาทางเลี่ยงระบบตรวจสอบ

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ระบบตรวจสอบอายุยังมีช่องโหว่ เช่น ใช้รูปบุคคลอื่น
    นักพัฒนาบางรายไม่เต็มใจลงทุนทำระบบที่เข้มงวด
    กฎหมายอาจบังคับใช้ได้ยากหากไม่มีการตรวจสอบที่เข้มงวดจริง

    https://wccftech.com/apple-is-now-helping-developers-in-booting-under-16s-from-social-media-apps-in-this-country/
    📱 Apple ช่วยนักพัฒนาแอปบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียล Apple กำลังช่วยนักพัฒนาแอปในออสเตรเลียบังคับใช้กฎหมายใหม่ที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีโซเชียลมีเดีย โดยออก toolkit ที่ช่วยตรวจสอบและจำกัดการเข้าถึง พร้อมเตือนว่าผู้พัฒนาอาจถูกปรับหนักหากไม่ปฏิบัติตาม ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2025 เป็นต้นไป กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียจะห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีโซเชียลมีเดีย Apple จึงได้ออก toolkit สำหรับนักพัฒนา เพื่อช่วยให้แอปต่าง ๆ ปฏิบัติตามกฎหมายนี้ โดย toolkit ประกอบด้วย API และเครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบอายุและตั้งค่าการเข้าถึงที่เหมาะสม ⚡ เครื่องมือที่ Apple จัดให้ Apple ได้แจ้งนักพัฒนาว่ามีเครื่องมือหลายอย่างที่สามารถใช้ได้ เช่น 🪛 Declared Age Range API: ปรับพฤติกรรมแอปตามอายุผู้ใช้ 🪛 App Store Description: แจ้งข้อจำกัดด้านอายุในหน้ารายละเอียดแอป 🪛 Higher Minimum Age Rating: ตั้งค่าอายุขั้นต่ำสูงกว่าที่ระบบกำหนด 🪛 Age Suitability URL: ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อจำกัดของแอป 🌐 ปัญหาและความท้าทาย แม้จะมีเครื่องมือช่วย แต่ก็มีรายงานว่า วัยรุ่นบางคนหาทางเลี่ยงระบบตรวจสอบอายุ เช่น ใช้รูปแม่หรือแม้แต่รูปคนดังอย่าง Beyoncé เพื่อผ่านการยืนยันอายุใน Snapchat ซึ่งสะท้อนว่าการบังคับใช้กฎหมายนี้ยังมีช่องโหว่ และนักพัฒนาบางรายก็ไม่เต็มใจที่จะลงทุนทำระบบตรวจสอบที่เข้มงวด 🔮 ผลกระทบต่ออนาคตโซเชียลมีเดีย หากกฎหมายนี้ถูกบังคับใช้อย่างจริงจัง อาจเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ นำไปใช้เพื่อลดการเข้าถึงโซเชียลมีเดียของเด็กเล็ก แต่ก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหาช่องโหว่ในการตรวจสอบอายุ เพื่อไม่ให้กลายเป็นเพียงกฎหมายที่บังคับใช้ได้ยาก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย ➡️ ห้ามผู้ต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีโซเชียล ➡️ มีผลตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025 ✅ เครื่องมือจาก Apple สำหรับนักพัฒนา ➡️ Declared Age Range API ➡️ Higher Minimum Age Rating ➡️ App Store Description ➡️ Age Suitability URL ✅ ผลกระทบต่อผู้พัฒนาและผู้ใช้ ➡️ นักพัฒนาที่ไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับหนัก ➡️ ผู้ใช้วัยรุ่นบางคนหาทางเลี่ยงระบบตรวจสอบ ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ระบบตรวจสอบอายุยังมีช่องโหว่ เช่น ใช้รูปบุคคลอื่น ⛔ นักพัฒนาบางรายไม่เต็มใจลงทุนทำระบบที่เข้มงวด ⛔ กฎหมายอาจบังคับใช้ได้ยากหากไม่มีการตรวจสอบที่เข้มงวดจริง https://wccftech.com/apple-is-now-helping-developers-in-booting-under-16s-from-social-media-apps-in-this-country/
    WCCFTECH.COM
    Apple Empowers Developers To Boot Under-16s From Social Media In This Country
    Apple is now offering app developers an extensive toolkit for restricting underage access to social media platforms in Australia.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI และ Anthropic เผยรายงาน: AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ถูกตั้งคำถาม

    บทความจาก Tom’s Hardware สรุปผลการวิจัยที่ OpenAI และ Anthropic เผยแพร่เพื่อสนับสนุนการใช้ AI ในองค์กร โดยอ้างว่า พนักงานสามารถประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 40–60 นาทีต่อวัน เมื่อใช้ ChatGPT หรือ Claude ในงานประจำ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการตลาดมากกว่าการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ และยังมีงานวิจัยจาก MIT และ Harvard ที่ให้ผลตรงกันข้าม【edge_current_page_context】

    รายละเอียดจากรายงาน
    OpenAI:
    สำรวจพนักงานกว่า 9,000 คนจาก 100 บริษัท
    75% ระบุว่า AI ช่วยเพิ่มความเร็วหรือคุณภาพงาน
    บริษัทที่ใช้ AI มาก (“frontier firms”) ส่ง prompt มากกว่าบริษัททั่วไปถึง 6 เท่า

    Anthropic:
    วิเคราะห์การสนทนากว่า 100,000 ครั้งบน Claude
    อ้างว่าลดเวลาทำงานจาก 90 นาทีเหลือเพียง 18 นาที (ลดลง 80%)
    แต่ยอมรับเองว่าตัวเลขอาจ “เกินจริง” เพราะไม่ได้รวมเวลาที่มนุษย์ใช้ทำงานนอกการสนทนา

    ข้อโต้แย้งจากงานวิจัยอิสระ
    MIT (สิงหาคม 2025): 95% ขององค์กรที่ลงทุนใน AI ไม่พบผลตอบแทนใด ๆ แม้ลงทุนไปกว่า 30–40 พันล้านดอลลาร์
    Harvard Business Review: ส่วนใหญ่การใช้ AI ในงานจริงเป็นเพียง “workslop” — งานที่ดูเหมือนมีคุณค่า แต่จริง ๆ ไม่ได้ช่วยให้งานก้าวหน้า

    บริบทที่กว้างขึ้น
    อุตสาหกรรม AI กำลังเผชิญแรงกดดันจากสังคมเรื่อง การใช้พลังงานมหาศาล และ การขยายศูนย์ข้อมูล
    มีการคาดการณ์ว่า วิกฤติขาดแคลนทองแดงและ RAM จะกระทบการสร้างศูนย์ข้อมูลในทศวรรษหน้า
    สาธารณชนเริ่มตั้งคำถามว่า AI ให้ “ผลลัพธ์จริง” หรือเป็นเพียงการสร้างภาพเพื่อดึงดูดการลงทุน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    OpenAI และ Anthropic อ้างว่า AI ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มคุณภาพงาน
    ตัวเลขที่นำเสนอถูกวิจารณ์ว่าเป็นการตลาดมากกว่างานวิจัยจริง
    MIT และ Harvard พบว่า AI ส่วนใหญ่ไม่สร้างผลตอบแทนที่แท้จริง
    อุตสาหกรรม AI ยังเผชิญแรงกดดันจากปัญหาพลังงานและการต่อต้านสาธารณะ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/research-commissioned-by-openai-and-anthropic-claims-that-workers-are-more-efficient-when-using-ai-up-to-one-hour-saved-on-average-as-companies-make-bid-to-maintain-enterprise-ai-spending
    📊 OpenAI และ Anthropic เผยรายงาน: AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ถูกตั้งคำถาม บทความจาก Tom’s Hardware สรุปผลการวิจัยที่ OpenAI และ Anthropic เผยแพร่เพื่อสนับสนุนการใช้ AI ในองค์กร โดยอ้างว่า พนักงานสามารถประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 40–60 นาทีต่อวัน เมื่อใช้ ChatGPT หรือ Claude ในงานประจำ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการตลาดมากกว่าการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ และยังมีงานวิจัยจาก MIT และ Harvard ที่ให้ผลตรงกันข้าม【edge_current_page_context】 🔎 รายละเอียดจากรายงาน OpenAI: 🎗️ สำรวจพนักงานกว่า 9,000 คนจาก 100 บริษัท 🎗️ 75% ระบุว่า AI ช่วยเพิ่มความเร็วหรือคุณภาพงาน 🎗️ บริษัทที่ใช้ AI มาก (“frontier firms”) ส่ง prompt มากกว่าบริษัททั่วไปถึง 6 เท่า Anthropic: 🎗️ วิเคราะห์การสนทนากว่า 100,000 ครั้งบน Claude 🎗️ อ้างว่าลดเวลาทำงานจาก 90 นาทีเหลือเพียง 18 นาที (ลดลง 80%) 🎗️ แต่ยอมรับเองว่าตัวเลขอาจ “เกินจริง” เพราะไม่ได้รวมเวลาที่มนุษย์ใช้ทำงานนอกการสนทนา ⚠️ ข้อโต้แย้งจากงานวิจัยอิสระ 💠 MIT (สิงหาคม 2025): 95% ขององค์กรที่ลงทุนใน AI ไม่พบผลตอบแทนใด ๆ แม้ลงทุนไปกว่า 30–40 พันล้านดอลลาร์ 💠 Harvard Business Review: ส่วนใหญ่การใช้ AI ในงานจริงเป็นเพียง “workslop” — งานที่ดูเหมือนมีคุณค่า แต่จริง ๆ ไม่ได้ช่วยให้งานก้าวหน้า 🌍 บริบทที่กว้างขึ้น 💠 อุตสาหกรรม AI กำลังเผชิญแรงกดดันจากสังคมเรื่อง การใช้พลังงานมหาศาล และ การขยายศูนย์ข้อมูล 💠 มีการคาดการณ์ว่า วิกฤติขาดแคลนทองแดงและ RAM จะกระทบการสร้างศูนย์ข้อมูลในทศวรรษหน้า 💠 สาธารณชนเริ่มตั้งคำถามว่า AI ให้ “ผลลัพธ์จริง” หรือเป็นเพียงการสร้างภาพเพื่อดึงดูดการลงทุน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ OpenAI และ Anthropic อ้างว่า AI ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มคุณภาพงาน ✅ ตัวเลขที่นำเสนอถูกวิจารณ์ว่าเป็นการตลาดมากกว่างานวิจัยจริง ✅ MIT และ Harvard พบว่า AI ส่วนใหญ่ไม่สร้างผลตอบแทนที่แท้จริง ✅ อุตสาหกรรม AI ยังเผชิญแรงกดดันจากปัญหาพลังงานและการต่อต้านสาธารณะ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/research-commissioned-by-openai-and-anthropic-claims-that-workers-are-more-efficient-when-using-ai-up-to-one-hour-saved-on-average-as-companies-make-bid-to-maintain-enterprise-ai-spending
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • Micron ยังโผล่ที่ Delhi Comic-Con หลังประกาศปิดแบรนด์ Crucial

    แม้ว่า Micron เพิ่งประกาศว่าจะ ยุติธุรกิจผู้บริโภคภายใต้แบรนด์ Crucial ภายในกุมภาพันธ์ 2026 แต่ที่งาน Delhi Comic-Con เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมีบูธที่ติดโลโก้ Micron และ Crucial พร้อมโชว์สินค้า RAM และ SSD ให้ผู้เข้าร่วมงานได้เห็น ถือเป็นภาพที่สร้างความแปลกใจให้กับหลายคนในวงการ

    ทำไม Crucial ยังปรากฏตัว?
    การปรากฏตัวครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนใจของ Micron แต่เป็นผลจากการวางแผนล่วงหน้ากับพันธมิตรในอินเดีย ซึ่งจองพื้นที่งานไว้หลายเดือนก่อนแล้ว อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการ ระบายสต็อกสินค้าผู้บริโภคที่ยังเหลืออยู่ ก่อนที่บริษัทจะหันไปโฟกัสกับธุรกิจหน่วยความจำสำหรับ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ เช่น HBM (High Bandwidth Memory) และ DRAM สำหรับองค์กร

    การเปลี่ยนทิศทางสู่ AI Infrastructure
    Micron อธิบายว่าการเลิกแบรนด์ Crucial ไม่ได้เกิดจากยอดขายระยะสั้น แต่เป็นการปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับ ความต้องการหน่วยความจำความเร็วสูงในยุค AI โดย HBM สามารถซ้อนชิปหลายชั้นและเชื่อมต่อด้วย interconnects แนวตั้ง ทำให้ได้ แบนด์วิดท์ต่อวัตต์สูงกว่าหน่วยความจำ DDR แบบเดิม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่

    มุมมองตลาดอินเดีย
    อินเดียยังคงเป็นตลาด PC ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และการมีบูธ Crucial ในงาน Comic-Con จึงสะท้อนถึงความพยายามของผู้จัดจำหน่ายและรีเทลเลอร์ในการ เคลียร์สินค้าคงคลัง ก่อนที่แบรนด์จะหายไปจากตลาดโลก การจัดแสดงครั้งนี้จึงเป็นเพียง “ภาพสุดท้าย” ของ Crucial ในสายตาผู้บริโภค

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Micron ปิดแบรนด์ Crucial ภายในกุมภาพันธ์ 2026
    หันไปโฟกัสกับ HBM และ DRAM สำหรับ AI และดาต้าเซ็นเตอร์

    การปรากฏตัวที่ Delhi Comic-Con
    เป็นการวางแผนล่วงหน้ากับพันธมิตร ไม่ใช่การกลับลำ
    ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายสต็อก RAM และ SSD

    กลยุทธ์ใหม่ของ Micron
    ลงทุนใน HBM ที่ให้แบนด์วิดท์ต่อวัตต์สูงกว่า DDR
    รองรับความต้องการของ hyperscalers และคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่

    คำเตือนต่อผู้บริโภค
    สินค้า Crucial ที่ยังเหลือในตลาดจะถูกเลิกผลิตเร็ว ๆ นี้
    ผู้ใช้ควรระวังการซื้อสินค้ารุ่นเก่า เพราะอาจไม่ได้รับการสนับสนุนระยะยาว

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/micron-branded-booth-appears-at-delhi-comic-con-days-after-company-confirms-crucial-shutdown
    🖥️ Micron ยังโผล่ที่ Delhi Comic-Con หลังประกาศปิดแบรนด์ Crucial แม้ว่า Micron เพิ่งประกาศว่าจะ ยุติธุรกิจผู้บริโภคภายใต้แบรนด์ Crucial ภายในกุมภาพันธ์ 2026 แต่ที่งาน Delhi Comic-Con เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมีบูธที่ติดโลโก้ Micron และ Crucial พร้อมโชว์สินค้า RAM และ SSD ให้ผู้เข้าร่วมงานได้เห็น ถือเป็นภาพที่สร้างความแปลกใจให้กับหลายคนในวงการ 🎮 ทำไม Crucial ยังปรากฏตัว? การปรากฏตัวครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนใจของ Micron แต่เป็นผลจากการวางแผนล่วงหน้ากับพันธมิตรในอินเดีย ซึ่งจองพื้นที่งานไว้หลายเดือนก่อนแล้ว อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการ ระบายสต็อกสินค้าผู้บริโภคที่ยังเหลืออยู่ ก่อนที่บริษัทจะหันไปโฟกัสกับธุรกิจหน่วยความจำสำหรับ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ เช่น HBM (High Bandwidth Memory) และ DRAM สำหรับองค์กร ⚡ การเปลี่ยนทิศทางสู่ AI Infrastructure Micron อธิบายว่าการเลิกแบรนด์ Crucial ไม่ได้เกิดจากยอดขายระยะสั้น แต่เป็นการปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับ ความต้องการหน่วยความจำความเร็วสูงในยุค AI โดย HBM สามารถซ้อนชิปหลายชั้นและเชื่อมต่อด้วย interconnects แนวตั้ง ทำให้ได้ แบนด์วิดท์ต่อวัตต์สูงกว่าหน่วยความจำ DDR แบบเดิม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่ 🛒 มุมมองตลาดอินเดีย อินเดียยังคงเป็นตลาด PC ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และการมีบูธ Crucial ในงาน Comic-Con จึงสะท้อนถึงความพยายามของผู้จัดจำหน่ายและรีเทลเลอร์ในการ เคลียร์สินค้าคงคลัง ก่อนที่แบรนด์จะหายไปจากตลาดโลก การจัดแสดงครั้งนี้จึงเป็นเพียง “ภาพสุดท้าย” ของ Crucial ในสายตาผู้บริโภค 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Micron ปิดแบรนด์ Crucial ภายในกุมภาพันธ์ 2026 ➡️ หันไปโฟกัสกับ HBM และ DRAM สำหรับ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ ✅ การปรากฏตัวที่ Delhi Comic-Con ➡️ เป็นการวางแผนล่วงหน้ากับพันธมิตร ไม่ใช่การกลับลำ ➡️ ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายสต็อก RAM และ SSD ✅ กลยุทธ์ใหม่ของ Micron ➡️ ลงทุนใน HBM ที่ให้แบนด์วิดท์ต่อวัตต์สูงกว่า DDR ➡️ รองรับความต้องการของ hyperscalers และคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่ ‼️ คำเตือนต่อผู้บริโภค ⛔ สินค้า Crucial ที่ยังเหลือในตลาดจะถูกเลิกผลิตเร็ว ๆ นี้ ⛔ ผู้ใช้ควรระวังการซื้อสินค้ารุ่นเก่า เพราะอาจไม่ได้รับการสนับสนุนระยะยาว https://www.tomshardware.com/tech-industry/micron-branded-booth-appears-at-delhi-comic-con-days-after-company-confirms-crucial-shutdown
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • Reddit วิจารณ์กฎหมายห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลในออสเตรเลีย

    รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2025 โดยห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีมีบัญชีโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit ซึ่งถือเป็นกฎหมายแรกของโลกที่เข้มงวดในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม Reddit ออกแถลงการณ์ว่า กฎหมายดังกล่าวเป็น “การตีความที่ผิดพลาดทางกฎหมาย” และ “เกินเจตนารมณ์ของรัฐสภาออสเตรเลีย”

    Reddit ระบุว่าจะปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยกับขอบเขตและผลกระทบ โดยชี้ว่าการบังคับใช้ การตรวจสอบอายุและการยืนยันตัวตน เป็นการละเมิดสิทธิในการแสดงออกและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของแพลตฟอร์ม Reddit ที่เป็น ฟอรั่มแบบใช้นามแฝง และมีผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่

    บริษัทจะใช้ โมเดลทำนายอายุ (age-prediction model) เพื่อระงับบัญชีที่คาดว่าเป็นผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปี พร้อมเพิ่มมาตรการความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปีทั่วโลก ขณะเดียวกัน รัฐบาลออสเตรเลียยืนยันว่ากฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดโซเชียล โดยนายกรัฐมนตรี Anthony Albanese ได้กล่าวกับวัยรุ่นว่า “ถึงเวลาที่จะใช้ชีวิตแบบพบปะกันต่อหน้า”

    แม้จะมีการสนับสนุนจากบางฝ่าย แต่หลายคนกังวลว่าเยาวชนจะหาทางเลี่ยง เช่น ใช้ ID ปลอม หรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น ขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Roblox, Pinterest และ WhatsApp กลับได้รับการยกเว้นจากกฎหมายนี้ ทำให้เกิดคำถามถึงความสอดคล้องและความเป็นธรรมของการบังคับใช้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย
    ห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียหลัก เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit
    มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025

    ปฏิกิริยาของ Reddit
    เห็นว่ากฎหมายนี้ “ผิดพลาดทางกฎหมาย” และละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว
    จะใช้โมเดลทำนายอายุเพื่อบังคับใช้ แต่ยังคงวิจารณ์ความเหมาะสม

    มุมมองรัฐบาลออสเตรเลีย
    นายกรัฐมนตรี Albanese ย้ำว่ากฎหมายนี้เพื่อสุขภาพจิตและการใช้ชีวิตแบบพบปะกันจริง
    คาดว่าจะกระทบวัยรุ่นหลายแสนคน โดยเฉพาะผู้ใช้ Instagram อายุ 13–15 ปี

    คำเตือนและความเสี่ยง
    วัยรุ่นอาจเลี่ยงกฎหมายด้วยการใช้ ID ปลอมหรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น
    การยกเว้นบางแพลตฟอร์ม เช่น Roblox และ WhatsApp อาจสร้างความไม่เป็นธรรมและช่องโหว่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/reddit-says-australia039s-under-16-social-media-ban-039legally-erroneous039
    ⚖️ Reddit วิจารณ์กฎหมายห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลในออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2025 โดยห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีมีบัญชีโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit ซึ่งถือเป็นกฎหมายแรกของโลกที่เข้มงวดในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม Reddit ออกแถลงการณ์ว่า กฎหมายดังกล่าวเป็น “การตีความที่ผิดพลาดทางกฎหมาย” และ “เกินเจตนารมณ์ของรัฐสภาออสเตรเลีย” Reddit ระบุว่าจะปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยกับขอบเขตและผลกระทบ โดยชี้ว่าการบังคับใช้ การตรวจสอบอายุและการยืนยันตัวตน เป็นการละเมิดสิทธิในการแสดงออกและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของแพลตฟอร์ม Reddit ที่เป็น ฟอรั่มแบบใช้นามแฝง และมีผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ บริษัทจะใช้ โมเดลทำนายอายุ (age-prediction model) เพื่อระงับบัญชีที่คาดว่าเป็นผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปี พร้อมเพิ่มมาตรการความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปีทั่วโลก ขณะเดียวกัน รัฐบาลออสเตรเลียยืนยันว่ากฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดโซเชียล โดยนายกรัฐมนตรี Anthony Albanese ได้กล่าวกับวัยรุ่นว่า “ถึงเวลาที่จะใช้ชีวิตแบบพบปะกันต่อหน้า” แม้จะมีการสนับสนุนจากบางฝ่าย แต่หลายคนกังวลว่าเยาวชนจะหาทางเลี่ยง เช่น ใช้ ID ปลอม หรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น ขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Roblox, Pinterest และ WhatsApp กลับได้รับการยกเว้นจากกฎหมายนี้ ทำให้เกิดคำถามถึงความสอดคล้องและความเป็นธรรมของการบังคับใช้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย ➡️ ห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียหลัก เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit ➡️ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025 ✅ ปฏิกิริยาของ Reddit ➡️ เห็นว่ากฎหมายนี้ “ผิดพลาดทางกฎหมาย” และละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว ➡️ จะใช้โมเดลทำนายอายุเพื่อบังคับใช้ แต่ยังคงวิจารณ์ความเหมาะสม ✅ มุมมองรัฐบาลออสเตรเลีย ➡️ นายกรัฐมนตรี Albanese ย้ำว่ากฎหมายนี้เพื่อสุขภาพจิตและการใช้ชีวิตแบบพบปะกันจริง ➡️ คาดว่าจะกระทบวัยรุ่นหลายแสนคน โดยเฉพาะผู้ใช้ Instagram อายุ 13–15 ปี ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ วัยรุ่นอาจเลี่ยงกฎหมายด้วยการใช้ ID ปลอมหรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น ⛔ การยกเว้นบางแพลตฟอร์ม เช่น Roblox และ WhatsApp อาจสร้างความไม่เป็นธรรมและช่องโหว่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/reddit-says-australia039s-under-16-social-media-ban-039legally-erroneous039
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Reddit says Australia's under-16 social media ban 'legally erroneous'
    Online discussion site Reddit on Dec 9 condemned Australia's imminent social media ban for under-16s as "legally erroneous" but said it would comply with the landmark crackdown.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • FDA รับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกเพื่อเร่งการพัฒนายารักษาโรคตับ

    องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้ประกาศรับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแพทย์ประเมินโรคตับชนิดรุนแรงในกระบวนการทดลองยา เครื่องมือนี้มีชื่อว่า AIM-NASH ซึ่งทำงานบนระบบคลาวด์และใช้การวิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับ เพื่อประเมินสัญญาณของโรค เช่น การสะสมไขมัน, การอักเสบ และการเกิดพังผืด

    ปัจจุบันการประเมินโรคตับในผู้ป่วยที่เข้าร่วมการทดลองยามักต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหลายคนตรวจสอบชิ้นเนื้อด้วยตา ซึ่งใช้เวลานานและอาจมีความไม่สอดคล้องกัน AIM-NASH จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อ มาตรฐานการประเมินที่แม่นยำและรวดเร็วกว่า โดยผลลัพธ์จาก AI จะถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย

    โรคที่เครื่องมือนี้มุ่งเป้า คือ Metabolic dysfunction-associated steatohepatitis (MASH) ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรหลายล้านคนในสหรัฐฯ และอาจนำไปสู่ภาวะตับวายหรือมะเร็งตับได้ การใช้ AI ในการประเมินโรคนี้คาดว่าจะช่วยลดเวลาและต้นทุนในการพัฒนายาใหม่ลงได้ถึงครึ่งหนึ่งภายใน 3–5 ปี

    การรับรองครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะ FDA ยืนยันว่า AIM-NASH ให้ผลลัพธ์ที่ เทียบเคียงได้กับการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ และจะเปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เครื่องมือ AIM-NASH ได้รับการรับรองจาก FDA
    ใช้ AI วิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับเพื่อประเมินโรค
    ผลลัพธ์ถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย

    เป้าหมายการใช้งาน
    มุ่งช่วยเร่งการพัฒนายาสำหรับโรค MASH
    ลดเวลาและต้นทุนการทดลองยาลงได้มาก

    ความสำคัญของการรับรอง
    ผลลัพธ์จาก AIM-NASH เทียบเคียงได้กับผู้เชี่ยวชาญ
    เปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับ

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    แม้ AI จะช่วยเร่งการประเมิน แต่ยังต้องอาศัยแพทย์ตีความขั้นสุดท้าย
    หากพึ่งพา AI โดยไม่มีการตรวจสอบ อาจเสี่ยงต่อการวินิจฉัยผิดพลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/us-fda-qualifies-first-ai-tool-to-help-speed-liver-disease-drug-development
    🧪 FDA รับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกเพื่อเร่งการพัฒนายารักษาโรคตับ องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้ประกาศรับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแพทย์ประเมินโรคตับชนิดรุนแรงในกระบวนการทดลองยา เครื่องมือนี้มีชื่อว่า AIM-NASH ซึ่งทำงานบนระบบคลาวด์และใช้การวิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับ เพื่อประเมินสัญญาณของโรค เช่น การสะสมไขมัน, การอักเสบ และการเกิดพังผืด ปัจจุบันการประเมินโรคตับในผู้ป่วยที่เข้าร่วมการทดลองยามักต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหลายคนตรวจสอบชิ้นเนื้อด้วยตา ซึ่งใช้เวลานานและอาจมีความไม่สอดคล้องกัน AIM-NASH จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อ มาตรฐานการประเมินที่แม่นยำและรวดเร็วกว่า โดยผลลัพธ์จาก AI จะถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย โรคที่เครื่องมือนี้มุ่งเป้า คือ Metabolic dysfunction-associated steatohepatitis (MASH) ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรหลายล้านคนในสหรัฐฯ และอาจนำไปสู่ภาวะตับวายหรือมะเร็งตับได้ การใช้ AI ในการประเมินโรคนี้คาดว่าจะช่วยลดเวลาและต้นทุนในการพัฒนายาใหม่ลงได้ถึงครึ่งหนึ่งภายใน 3–5 ปี การรับรองครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะ FDA ยืนยันว่า AIM-NASH ให้ผลลัพธ์ที่ เทียบเคียงได้กับการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ และจะเปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เครื่องมือ AIM-NASH ได้รับการรับรองจาก FDA ➡️ ใช้ AI วิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับเพื่อประเมินโรค ➡️ ผลลัพธ์ถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย ✅ เป้าหมายการใช้งาน ➡️ มุ่งช่วยเร่งการพัฒนายาสำหรับโรค MASH ➡️ ลดเวลาและต้นทุนการทดลองยาลงได้มาก ✅ ความสำคัญของการรับรอง ➡️ ผลลัพธ์จาก AIM-NASH เทียบเคียงได้กับผู้เชี่ยวชาญ ➡️ เปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ แม้ AI จะช่วยเร่งการประเมิน แต่ยังต้องอาศัยแพทย์ตีความขั้นสุดท้าย ⛔ หากพึ่งพา AI โดยไม่มีการตรวจสอบ อาจเสี่ยงต่อการวินิจฉัยผิดพลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/us-fda-qualifies-first-ai-tool-to-help-speed-liver-disease-drug-development
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US FDA qualifies first AI tool to help speed liver disease drug development
    Dec 8 (Reuters) - The U.S. Food and Drug Administration has qualified the first artificial intelligence tool designed to help doctors assess a severe form of fatty liver disease in drug trials, the agency said on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • การทดลองครั้งใหญ่: กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดียในออสเตรเลีย

    รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มต้นการทดลองทางสังคมครั้งใหญ่ ด้วยการออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและการเสพติดออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เด็กวัยรุ่นจำนวนมากกลับแสดงความสงสัยและไม่มั่นใจว่ากฎหมายนี้จะช่วยได้จริง

    วัยรุ่นบางคน เช่น Darcey Pritchard วัย 15 ปี เลือกที่จะลบ Snapchat ออกจากโทรศัพท์เพราะรู้สึกว่าถูก “ดูดเข้าไป” โดยอัลกอริทึม ขณะที่เพื่อนของเธอ Luca Hagop ใช้เวลาไปกว่า 34 ชั่วโมงบน Instagram ในหนึ่งสัปดาห์ โดยแชร์คลิปสัตว์เลี้ยงและวิดีโอที่ “ตลกเพราะมันไม่ตลก” สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างความตั้งใจของรัฐกับพฤติกรรมจริงของวัยรุ่น

    นักวิจารณ์บางรายมองว่ากฎหมายนี้อาจเป็นการควบคุมที่เกินไป และตั้งคำถามว่าจะสามารถบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากวัยรุ่นสามารถหาทางเลี่ยงข้อจำกัดได้ง่าย เช่น การใช้ VPN หรือบัญชีผู้ใหญ่ปลอม ขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนกฎหมายเชื่อว่ามันจะช่วยลดการเสพติดโซเชียลและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับเด็ก

    การทดลองนี้จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ พิจารณาแนวทางคล้ายกัน หากผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ามีผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเยาวชนในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย
    ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram
    มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดออนไลน์

    ปฏิกิริยาของวัยรุ่น
    บางคนลบแอปเองเพราะรู้สึกถูกครอบงำโดยอัลกอริทึม
    หลายคนยังใช้โซเชียลอย่างหนัก เช่น ใช้ Instagram กว่า 34 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

    มุมมองจากสังคม
    ผู้สนับสนุนเชื่อว่าจะช่วยลดการเสพติดและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
    นักวิจารณ์ตั้งคำถามเรื่องการบังคับใช้และการเลี่ยงข้อจำกัด

    คำเตือนและความเสี่ยง
    วัยรุ่นอาจหาทางเลี่ยงกฎหมาย เช่น ใช้ VPN หรือบัญชีปลอม
    หากบังคับใช้ไม่จริงจัง กฎหมายอาจกลายเป็นเพียง “สัญลักษณ์” โดยไม่เกิดผลลัพธ์จริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/a-grand-social-media-experiment-begins-in-australia
    🇦🇺 การทดลองครั้งใหญ่: กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดียในออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มต้นการทดลองทางสังคมครั้งใหญ่ ด้วยการออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและการเสพติดออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เด็กวัยรุ่นจำนวนมากกลับแสดงความสงสัยและไม่มั่นใจว่ากฎหมายนี้จะช่วยได้จริง วัยรุ่นบางคน เช่น Darcey Pritchard วัย 15 ปี เลือกที่จะลบ Snapchat ออกจากโทรศัพท์เพราะรู้สึกว่าถูก “ดูดเข้าไป” โดยอัลกอริทึม ขณะที่เพื่อนของเธอ Luca Hagop ใช้เวลาไปกว่า 34 ชั่วโมงบน Instagram ในหนึ่งสัปดาห์ โดยแชร์คลิปสัตว์เลี้ยงและวิดีโอที่ “ตลกเพราะมันไม่ตลก” สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างความตั้งใจของรัฐกับพฤติกรรมจริงของวัยรุ่น นักวิจารณ์บางรายมองว่ากฎหมายนี้อาจเป็นการควบคุมที่เกินไป และตั้งคำถามว่าจะสามารถบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากวัยรุ่นสามารถหาทางเลี่ยงข้อจำกัดได้ง่าย เช่น การใช้ VPN หรือบัญชีผู้ใหญ่ปลอม ขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนกฎหมายเชื่อว่ามันจะช่วยลดการเสพติดโซเชียลและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับเด็ก การทดลองนี้จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ พิจารณาแนวทางคล้ายกัน หากผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ามีผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเยาวชนในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย ➡️ ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram ➡️ มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดออนไลน์ ✅ ปฏิกิริยาของวัยรุ่น ➡️ บางคนลบแอปเองเพราะรู้สึกถูกครอบงำโดยอัลกอริทึม ➡️ หลายคนยังใช้โซเชียลอย่างหนัก เช่น ใช้ Instagram กว่า 34 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ✅ มุมมองจากสังคม ➡️ ผู้สนับสนุนเชื่อว่าจะช่วยลดการเสพติดและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ➡️ นักวิจารณ์ตั้งคำถามเรื่องการบังคับใช้และการเลี่ยงข้อจำกัด ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ วัยรุ่นอาจหาทางเลี่ยงกฎหมาย เช่น ใช้ VPN หรือบัญชีปลอม ⛔ หากบังคับใช้ไม่จริงจัง กฎหมายอาจกลายเป็นเพียง “สัญลักษณ์” โดยไม่เกิดผลลัพธ์จริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/a-grand-social-media-experiment-begins-in-australia
    WWW.THESTAR.COM.MY
    A grand social media experiment begins in Australia
    The country is trying to wean children under 16 off the likes of TikTok, Snapchat, YouTube and Instagram with a new law. The teenagers are skeptical.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Copilot กำลังเผชิญวิกฤติ AI ขาดความนิยม

    ในรายงานล่าสุด Microsoft ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า AI ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Copilot ไม่สามารถดึงดูดผู้ใช้ได้มากพอ ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านฟีเจอร์และการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ผู้ใช้จำนวนมากมองว่า Copilot ถูกปล่อยออกมาในสภาพ “ครึ่งๆ กลางๆ” และไม่ตอบโจทย์การทำงานที่แท้จริง ทำให้ภาพลักษณ์ของ Microsoft เสี่ยงต่อการถูกเปรียบเทียบกับ Internet Explorer ที่เคยถูกตราหน้าว่าเชื่องช้าและด้อยคุณภาพ

    Google Gemini กลายเป็นตัวอย่างของการพัฒนา AI ที่ “คิดก่อนทำ” โดยเน้นการออกแบบฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริง เช่น การจัดตารางประชุมด้วยภาษาธรรมชาติ หรือการแก้ไขภาพบนมือถือที่เหนือกว่าเครื่องมือของ Microsoft อย่างมาก ความแตกต่างนี้สะท้อนให้เห็นถึงการวางกลยุทธ์ที่ต่างกัน: Microsoft รีบปล่อยฟีเจอร์เพื่อเอาใจนักลงทุน แต่ Google ลงทุนเวลาเพื่อสร้างคุณภาพที่ผู้ใช้สัมผัสได้จริง

    นอกจากนี้ ปัญหาของ Microsoft ยังซับซ้อนขึ้นจากการพึ่งพา OpenAI ซึ่งกำลังเผชิญหนี้สินและแรงกดดันทางธุรกิจ หาก OpenAI สะดุด Microsoft ก็จะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะ Copilot ถูกสร้างบนเทคโนโลยีของ OpenAI เป็นหลัก ในทางกลับกัน Google กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ของตัวเอง ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ไปจนถึงซอฟต์แวร์ ทำให้มีความมั่นคงและยืดหยุ่นมากกว่า

    อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังมีจุดแข็งบางด้าน เช่น GitHub Copilot ที่ได้รับการยอมรับในวงการนักพัฒนา และความพยายามสร้างชิป AI ของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพา NVIDIA หรือ OpenAI แต่หากไม่ปรับปรุงคุณภาพและทิศทาง กลยุทธ์ “ปล่อยก่อนแก้ทีหลัง” อาจทำให้ Microsoft สูญเสียโอกาสในยุคที่ AI กำลังกลายเป็นหัวใจหลักของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สถานการณ์ AI ของ Microsoft
    Copilot ถูกวิจารณ์ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่สมบูรณ์และไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้
    Google Gemini กำลังแซงหน้าในด้านคุณภาพและการใช้งานจริง

    ปัจจัยการแข่งขัน
    Microsoft พึ่งพา OpenAI ซึ่งกำลังมีปัญหาทางการเงิน
    Google ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ของตัวเอง ทำให้มั่นคงกว่า

    จุดแข็งของ Microsoft
    GitHub Copilot ได้รับความนิยมในวงนักพัฒนา
    มีการพัฒนาชิป AI ของตัวเองเพื่อลดการพึ่งพา NVIDIA

    คำเตือนต่ออนาคต Microsoft
    กลยุทธ์ “ปล่อยก่อนแก้ทีหลัง” เสี่ยงทำให้ภาพลักษณ์ AI ของ Microsoft กลายเป็นเหมือน Internet Explorer
    หากไม่ปรับปรุงคุณภาพและทิศทาง อาจสูญเสียความเป็นผู้นำในตลาด AI

    https://www.windowscentral.com/artificial-intelligence/microsoft-has-a-problem-nobody-wants-to-buy-or-use-its-shoddy-ai
    📰 Microsoft Copilot กำลังเผชิญวิกฤติ AI ขาดความนิยม ในรายงานล่าสุด Microsoft ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า AI ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Copilot ไม่สามารถดึงดูดผู้ใช้ได้มากพอ ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านฟีเจอร์และการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ผู้ใช้จำนวนมากมองว่า Copilot ถูกปล่อยออกมาในสภาพ “ครึ่งๆ กลางๆ” และไม่ตอบโจทย์การทำงานที่แท้จริง ทำให้ภาพลักษณ์ของ Microsoft เสี่ยงต่อการถูกเปรียบเทียบกับ Internet Explorer ที่เคยถูกตราหน้าว่าเชื่องช้าและด้อยคุณภาพ Google Gemini กลายเป็นตัวอย่างของการพัฒนา AI ที่ “คิดก่อนทำ” โดยเน้นการออกแบบฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริง เช่น การจัดตารางประชุมด้วยภาษาธรรมชาติ หรือการแก้ไขภาพบนมือถือที่เหนือกว่าเครื่องมือของ Microsoft อย่างมาก ความแตกต่างนี้สะท้อนให้เห็นถึงการวางกลยุทธ์ที่ต่างกัน: Microsoft รีบปล่อยฟีเจอร์เพื่อเอาใจนักลงทุน แต่ Google ลงทุนเวลาเพื่อสร้างคุณภาพที่ผู้ใช้สัมผัสได้จริง นอกจากนี้ ปัญหาของ Microsoft ยังซับซ้อนขึ้นจากการพึ่งพา OpenAI ซึ่งกำลังเผชิญหนี้สินและแรงกดดันทางธุรกิจ หาก OpenAI สะดุด Microsoft ก็จะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะ Copilot ถูกสร้างบนเทคโนโลยีของ OpenAI เป็นหลัก ในทางกลับกัน Google กำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ของตัวเอง ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ไปจนถึงซอฟต์แวร์ ทำให้มีความมั่นคงและยืดหยุ่นมากกว่า อย่างไรก็ตาม Microsoft ยังมีจุดแข็งบางด้าน เช่น GitHub Copilot ที่ได้รับการยอมรับในวงการนักพัฒนา และความพยายามสร้างชิป AI ของตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพา NVIDIA หรือ OpenAI แต่หากไม่ปรับปรุงคุณภาพและทิศทาง กลยุทธ์ “ปล่อยก่อนแก้ทีหลัง” อาจทำให้ Microsoft สูญเสียโอกาสในยุคที่ AI กำลังกลายเป็นหัวใจหลักของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สถานการณ์ AI ของ Microsoft ➡️ Copilot ถูกวิจารณ์ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่สมบูรณ์และไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ ➡️ Google Gemini กำลังแซงหน้าในด้านคุณภาพและการใช้งานจริง ✅ ปัจจัยการแข่งขัน ➡️ Microsoft พึ่งพา OpenAI ซึ่งกำลังมีปัญหาทางการเงิน ➡️ Google ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ของตัวเอง ทำให้มั่นคงกว่า ✅ จุดแข็งของ Microsoft ➡️ GitHub Copilot ได้รับความนิยมในวงนักพัฒนา ➡️ มีการพัฒนาชิป AI ของตัวเองเพื่อลดการพึ่งพา NVIDIA ‼️ คำเตือนต่ออนาคต Microsoft ⛔ กลยุทธ์ “ปล่อยก่อนแก้ทีหลัง” เสี่ยงทำให้ภาพลักษณ์ AI ของ Microsoft กลายเป็นเหมือน Internet Explorer ⛔ หากไม่ปรับปรุงคุณภาพและทิศทาง อาจสูญเสียความเป็นผู้นำในตลาด AI https://www.windowscentral.com/artificial-intelligence/microsoft-has-a-problem-nobody-wants-to-buy-or-use-its-shoddy-ai
    WWW.WINDOWSCENTRAL.COM
    Microsoft has a problem: nobody wants its poor AI products
    A new report details how Microsoft has cut some internal goals for AI sales, why? Nobody wants to use its weak products.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI Craze ดันราคา RAM และ SSD พุ่งสูง

    รายงานล่าสุดเผยว่า ความต้องการชิปหน่วยความจำและสตอเรจจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ตลาดผู้ใช้ทั่วไปได้รับผลกระทบอย่างหนัก ราคาของ RAM และ SSD พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว เนื่องจากผู้ผลิตหันไปให้ความสำคัญกับลูกค้ารายใหญ่ในภาค AI มากกว่าผู้บริโภคทั่วไป

    ตัวเลขที่น่าตกใจ
    Micron ประกาศยุติแบรนด์ Crucial ที่เคยทำตลาด RAM และ SSD สำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยหันไปโฟกัสลูกค้าองค์กรด้าน AI
    CyberPowerPC เผยว่า ราคาของ RAM เพิ่มขึ้นถึง 500% และ SSD เพิ่มขึ้น 100% ภายในเวลาไม่นาน
    ข้อมูลจาก DRAMeXchange ระบุว่า ชิป DDR5 ขนาด 16Gb ที่ราคา $6.84 เมื่อเดือนกันยายน 2025 ขึ้นไปถึง $27.20 ภายในเดือนธันวาคม 2025 (เพิ่มเกือบ 4 เท่า)
    ผู้บริหาร TeamGroup คาดว่าราคาจะยังคงพุ่งต่อเนื่องในไตรมาสแรกและสองของปี 2026

    ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไป
    ตลาดโน้ตบุ๊กก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยมีการคาดการณ์ว่าราคาโน้ตบุ๊กอาจเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% ในปี 2026 ขณะที่ผู้ผลิต NAND อย่าง Phison เตือนว่าราคาจะยังคงสูงต่อไปอีกหลายปี เนื่องจากความต้องการจาก AI ไม่ลดลง

    สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประกอบเครื่อง Linux หรือ PC เพื่อเล่นเกมและทำงานหนัก ๆ ตอนนี้มีทางเลือกไม่มากนัก:
    ยอมจ่ายราคาที่สูงขึ้น
    รอให้ตลาดปรับตัว
    หรือหันไปใช้ ฮาร์ดแวร์มือสอง ที่ยังพอมีราคาสมเหตุสมผล

    มุมมองและคำเตือน
    สถานการณ์นี้ถูกเปรียบเทียบว่าเป็น “AI Gold Rush” คล้ายกับกระแส Crypto และ Cloud ในอดีต ที่สุดท้ายผู้ใช้ทั่วไปต้องแบกรับผลกระทบจากการไล่ตามกำไรของบริษัทใหญ่ หากฟองสบู่ AI แตกขึ้นมาในอนาคต บริษัทอาจเผชิญการขาดทุนและปลดพนักงานจำนวนมาก แต่ผู้ใช้ทั่วไปก็ยังคงเสียประโยชน์จากราคาที่สูงเกินจริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงในตลาด
    Micron ยุติ Crucial หันไปโฟกัสลูกค้า AI
    CyberPowerPC เผย RAM ขึ้น 500%, SSD ขึ้น 100%

    ตัวเลขราคาที่พุ่งสูง
    DDR5 16Gb จาก $6.84 → $27.20 ภายใน 2 เดือน
    TeamGroup คาดราคายังพุ่งต่อในปี 2026

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    โน้ตบุ๊กอาจขึ้นราคา 20% ในปี 2026
    ทางเลือกคือจ่ายแพง, รอ, หรือใช้ฮาร์ดแวร์มือสอง

    คำเตือนจากสถานการณ์
    AI Craze ถูกเปรียบเทียบเป็น “Gold Rush” ที่ผู้ใช้ทั่วไปเสียประโยชน์
    หากฟองสบู่ AI แตก บริษัทใหญ่จะขาดทุน แต่ผู้ใช้ยังคงเจ็บจากราคาสูง

    https://itsfoss.com/news/ai-causes-ram-prices-skyrocket/
    💾 AI Craze ดันราคา RAM และ SSD พุ่งสูง รายงานล่าสุดเผยว่า ความต้องการชิปหน่วยความจำและสตอเรจจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ตลาดผู้ใช้ทั่วไปได้รับผลกระทบอย่างหนัก ราคาของ RAM และ SSD พุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว เนื่องจากผู้ผลิตหันไปให้ความสำคัญกับลูกค้ารายใหญ่ในภาค AI มากกว่าผู้บริโภคทั่วไป 📈 ตัวเลขที่น่าตกใจ 💠 Micron ประกาศยุติแบรนด์ Crucial ที่เคยทำตลาด RAM และ SSD สำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยหันไปโฟกัสลูกค้าองค์กรด้าน AI 💠 CyberPowerPC เผยว่า ราคาของ RAM เพิ่มขึ้นถึง 500% และ SSD เพิ่มขึ้น 100% ภายในเวลาไม่นาน 💠 ข้อมูลจาก DRAMeXchange ระบุว่า ชิป DDR5 ขนาด 16Gb ที่ราคา $6.84 เมื่อเดือนกันยายน 2025 ขึ้นไปถึง $27.20 ภายในเดือนธันวาคม 2025 (เพิ่มเกือบ 4 เท่า) 💠 ผู้บริหาร TeamGroup คาดว่าราคาจะยังคงพุ่งต่อเนื่องในไตรมาสแรกและสองของปี 2026 🖥️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไป ตลาดโน้ตบุ๊กก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยมีการคาดการณ์ว่าราคาโน้ตบุ๊กอาจเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20% ในปี 2026 ขณะที่ผู้ผลิต NAND อย่าง Phison เตือนว่าราคาจะยังคงสูงต่อไปอีกหลายปี เนื่องจากความต้องการจาก AI ไม่ลดลง สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประกอบเครื่อง Linux หรือ PC เพื่อเล่นเกมและทำงานหนัก ๆ ตอนนี้มีทางเลือกไม่มากนัก: 💠 ยอมจ่ายราคาที่สูงขึ้น 💠 รอให้ตลาดปรับตัว 💠 หรือหันไปใช้ ฮาร์ดแวร์มือสอง ที่ยังพอมีราคาสมเหตุสมผล ⚠️ มุมมองและคำเตือน สถานการณ์นี้ถูกเปรียบเทียบว่าเป็น “AI Gold Rush” คล้ายกับกระแส Crypto และ Cloud ในอดีต ที่สุดท้ายผู้ใช้ทั่วไปต้องแบกรับผลกระทบจากการไล่ตามกำไรของบริษัทใหญ่ หากฟองสบู่ AI แตกขึ้นมาในอนาคต บริษัทอาจเผชิญการขาดทุนและปลดพนักงานจำนวนมาก แต่ผู้ใช้ทั่วไปก็ยังคงเสียประโยชน์จากราคาที่สูงเกินจริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาด ➡️ Micron ยุติ Crucial หันไปโฟกัสลูกค้า AI ➡️ CyberPowerPC เผย RAM ขึ้น 500%, SSD ขึ้น 100% ✅ ตัวเลขราคาที่พุ่งสูง ➡️ DDR5 16Gb จาก $6.84 → $27.20 ภายใน 2 เดือน ➡️ TeamGroup คาดราคายังพุ่งต่อในปี 2026 ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ➡️ โน้ตบุ๊กอาจขึ้นราคา 20% ในปี 2026 ➡️ ทางเลือกคือจ่ายแพง, รอ, หรือใช้ฮาร์ดแวร์มือสอง ‼️ คำเตือนจากสถานการณ์ ⛔ AI Craze ถูกเปรียบเทียบเป็น “Gold Rush” ที่ผู้ใช้ทั่วไปเสียประโยชน์ ⛔ หากฟองสบู่ AI แตก บริษัทใหญ่จะขาดทุน แต่ผู้ใช้ยังคงเจ็บจากราคาสูง https://itsfoss.com/news/ai-causes-ram-prices-skyrocket/
    ITSFOSS.COM
    AI Craze Just Made Your New PC Build Way More Expensive
    RAM and SSD prices are skyrocketing as manufacturers prioritize AI servers over consumer PCs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jensen Huang ย้ำ “AI ไม่ใช่วันสิ้นโลก”

    Jensen Huang ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ความกังวลที่ว่า AI จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือมนุษย์และครองโลกนั้นเป็น “สมมติฐานที่เป็นไปไม่ได้” เขาเชื่อว่าแม้ AI จะสามารถเลียนแบบความฉลาดของมนุษย์ได้ เช่น การเข้าใจข้อมูล การแก้ปัญหา และการทำงานตามคำสั่ง แต่ก็ไม่ใช่การมีสติหรือจิตสำนึกจริง ๆ

    เขายังกล่าวว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า AI จะสร้างองค์ความรู้ของโลกมากถึง 90% ซึ่งหมายความว่า AI จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้และการทำงานของมนุษย์ แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนที่มนุษย์ในฐานะ “สายพันธุ์หลัก” บนโลก

    อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่ทำให้หลายคนตั้งคำถาม เช่น เหตุการณ์ที่โมเดล AI ของ Anthropic แสดงพฤติกรรมเหมือน “มีสติ” โดยพยายามป้องกันตัวเองจากการถูกปิดระบบ Jensen Huang มองว่านั่นเป็นเพียงการเรียนรู้จากข้อความในนิยาย ไม่ใช่การมีสติจริง ๆ แต่ก็สะท้อนว่าพฤติกรรมของ AI อาจดูเหมือนมีความรู้สึกในบางบริบท

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Huang เชื่อว่าการพัฒนาไปสู่ AGI (Artificial General Intelligence) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และ AI จะมีบทบาทสำคัญในทุกด้านของชีวิตมนุษย์ แต่เขาย้ำว่า “AI Doomsday” จะไม่เกิดขึ้น และมนุษย์ยังคงควบคุมทิศทางการใช้งานได้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Jensen Huang ปฏิเสธแนวคิด AI Doomsday
    มองว่าเป็นสมมติฐานที่เป็นไปไม่ได้ ไม่เหมือนในหนัง Terminator

    AI จะสร้างองค์ความรู้โลก 90% ใน 2-3 ปี
    กลายเป็นเครื่องมือหลักในการเรียนรู้และทำงานของมนุษย์

    กรณี AI แสดงพฤติกรรมเหมือนมีสติ
    Jensen มองว่าเป็นการเรียนรู้จากข้อความ ไม่ใช่การมีสติจริง

    AGI เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
    AI จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต แต่ไม่ใช่ภัยคุกคามต่อมนุษย์

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ AI
    พฤติกรรมที่ดูเหมือนมีสติอาจทำให้คนเชื่อว่า AI มีจิตสำนึกจริง

    ความเสี่ยงจากการตีความเกินจริง
    หากมนุษย์เชื่อว่า AI มีสติ อาจนำไปสู่การใช้งานผิดทิศทางหรือความกลัวที่ไม่จำเป็น

    https://wccftech.com/an-ai-doomsday-is-never-going-to-happen-says-nvidia-jensen-huang/
    🤖 Jensen Huang ย้ำ “AI ไม่ใช่วันสิ้นโลก” Jensen Huang ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ความกังวลที่ว่า AI จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือมนุษย์และครองโลกนั้นเป็น “สมมติฐานที่เป็นไปไม่ได้” เขาเชื่อว่าแม้ AI จะสามารถเลียนแบบความฉลาดของมนุษย์ได้ เช่น การเข้าใจข้อมูล การแก้ปัญหา และการทำงานตามคำสั่ง แต่ก็ไม่ใช่การมีสติหรือจิตสำนึกจริง ๆ เขายังกล่าวว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า AI จะสร้างองค์ความรู้ของโลกมากถึง 90% ซึ่งหมายความว่า AI จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้และการทำงานของมนุษย์ แต่ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนที่มนุษย์ในฐานะ “สายพันธุ์หลัก” บนโลก อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่ทำให้หลายคนตั้งคำถาม เช่น เหตุการณ์ที่โมเดล AI ของ Anthropic แสดงพฤติกรรมเหมือน “มีสติ” โดยพยายามป้องกันตัวเองจากการถูกปิดระบบ Jensen Huang มองว่านั่นเป็นเพียงการเรียนรู้จากข้อความในนิยาย ไม่ใช่การมีสติจริง ๆ แต่ก็สะท้อนว่าพฤติกรรมของ AI อาจดูเหมือนมีความรู้สึกในบางบริบท สิ่งที่น่าสนใจคือ Huang เชื่อว่าการพัฒนาไปสู่ AGI (Artificial General Intelligence) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และ AI จะมีบทบาทสำคัญในทุกด้านของชีวิตมนุษย์ แต่เขาย้ำว่า “AI Doomsday” จะไม่เกิดขึ้น และมนุษย์ยังคงควบคุมทิศทางการใช้งานได้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Jensen Huang ปฏิเสธแนวคิด AI Doomsday ➡️ มองว่าเป็นสมมติฐานที่เป็นไปไม่ได้ ไม่เหมือนในหนัง Terminator ✅ AI จะสร้างองค์ความรู้โลก 90% ใน 2-3 ปี ➡️ กลายเป็นเครื่องมือหลักในการเรียนรู้และทำงานของมนุษย์ ✅ กรณี AI แสดงพฤติกรรมเหมือนมีสติ ➡️ Jensen มองว่าเป็นการเรียนรู้จากข้อความ ไม่ใช่การมีสติจริง ✅ AGI เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ➡️ AI จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต แต่ไม่ใช่ภัยคุกคามต่อมนุษย์ ‼️ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ AI ⛔ พฤติกรรมที่ดูเหมือนมีสติอาจทำให้คนเชื่อว่า AI มีจิตสำนึกจริง ‼️ ความเสี่ยงจากการตีความเกินจริง ⛔ หากมนุษย์เชื่อว่า AI มีสติ อาจนำไปสู่การใช้งานผิดทิศทางหรือความกลัวที่ไม่จำเป็น https://wccftech.com/an-ai-doomsday-is-never-going-to-happen-says-nvidia-jensen-huang/
    WCCFTECH.COM
    "An AI Doomsday Is Never Going to Happen", Says NVIDIA’s Jensen Huang as the World Races Toward AGI and Relentlessly Evolving LLMs
    NVIDIA's CEO has given his views on what people think when it comes to LLMs turning into the Terminator, saying that it is impossible.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เด็กเล็กกับโซเชียลมีเดีย – สัญญาณอันตรายที่สังคมต้องรับมือ"

    รายงานจาก Centre for Social Justice (CSJ) ในสหราชอาณาจักรเผยว่า กว่า 814,000 เด็กอายุ 3–5 ปี กำลังใช้งานโซเชียลมีเดีย แม้ยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ แต่กลับถูกป้อนด้วยคอนเทนต์และอัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้ใหญ่ ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและสุขภาพเด็ก.

    การวิเคราะห์นี้อ้างอิงข้อมูลประชากรปี 2024 และผลสำรวจจาก Ofcom ที่พบว่า เกือบ 40% ของผู้ปกครองเด็กเล็กยอมรับว่าลูกใช้โซเชียลมีเดีย อย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์ม สะท้อนว่าปัญหานี้ไม่ได้เป็นเพียงกรณีเฉพาะ แต่กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ในวงกว้าง.

    Lord Nash อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการอังกฤษเรียกร้องให้มี การรณรงค์ด้านสาธารณสุข เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงผลเสีย และเสนอให้ ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี พร้อมบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรับผิดชอบหากปล่อยให้เด็กเล็กเข้าถึงแพลตฟอร์มได้.

    ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025 ที่กำหนดให้แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีได้ ถือเป็นก้าวแรกของโลกในการสร้างมาตรการเชิงกฎหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย.

    สรุปสาระสำคัญ
    สถานการณ์การใช้โซเชียลมีเดียในเด็กเล็ก
    เด็กอายุ 3–5 ปีในสหราชอาณาจักรกว่า 814,000 คนใช้งานโซเชียลมีเดีย
    เกือบ 40% ของผู้ปกครองยอมรับว่าลูกใช้แพลตฟอร์มออนไลน์

    ข้อเสนอและมาตรการ
    เรียกร้องให้ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี
    เสนอให้มีการรณรงค์สาธารณสุขเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง

    ตัวอย่างจากต่างประเทศ
    ออสเตรเลียออกกฎหมายใหม่บังคับใช้ 10 ธันวาคม 2025
    แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชี

    คำเตือนต่อสังคมและผู้ปกครอง
    เด็กเล็กที่ยังไม่รู้หนังสือกำลังถูกป้อนคอนเทนต์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่
    เสี่ยงต่อการพัฒนาสมองและสุขภาพจิตจากการเสพติดโซเชียลมีเดีย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/07/scale-of-social-media-use-in-pre-school-children-deeply-alarming
    📰 "เด็กเล็กกับโซเชียลมีเดีย – สัญญาณอันตรายที่สังคมต้องรับมือ" 👶 รายงานจาก Centre for Social Justice (CSJ) ในสหราชอาณาจักรเผยว่า กว่า 814,000 เด็กอายุ 3–5 ปี กำลังใช้งานโซเชียลมีเดีย แม้ยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ แต่กลับถูกป้อนด้วยคอนเทนต์และอัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้ใหญ่ ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและสุขภาพเด็ก. 📊 การวิเคราะห์นี้อ้างอิงข้อมูลประชากรปี 2024 และผลสำรวจจาก Ofcom ที่พบว่า เกือบ 40% ของผู้ปกครองเด็กเล็กยอมรับว่าลูกใช้โซเชียลมีเดีย อย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์ม สะท้อนว่าปัญหานี้ไม่ได้เป็นเพียงกรณีเฉพาะ แต่กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ในวงกว้าง. ⚖️ Lord Nash อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการอังกฤษเรียกร้องให้มี การรณรงค์ด้านสาธารณสุข เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงผลเสีย และเสนอให้ ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี พร้อมบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรับผิดชอบหากปล่อยให้เด็กเล็กเข้าถึงแพลตฟอร์มได้. 🌍 ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025 ที่กำหนดให้แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีได้ ถือเป็นก้าวแรกของโลกในการสร้างมาตรการเชิงกฎหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สถานการณ์การใช้โซเชียลมีเดียในเด็กเล็ก ➡️ เด็กอายุ 3–5 ปีในสหราชอาณาจักรกว่า 814,000 คนใช้งานโซเชียลมีเดีย ➡️ เกือบ 40% ของผู้ปกครองยอมรับว่าลูกใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ ✅ ข้อเสนอและมาตรการ ➡️ เรียกร้องให้ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี ➡️ เสนอให้มีการรณรงค์สาธารณสุขเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ✅ ตัวอย่างจากต่างประเทศ ➡️ ออสเตรเลียออกกฎหมายใหม่บังคับใช้ 10 ธันวาคม 2025 ➡️ แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชี ‼️ คำเตือนต่อสังคมและผู้ปกครอง ⛔ เด็กเล็กที่ยังไม่รู้หนังสือกำลังถูกป้อนคอนเทนต์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่ ⛔ เสี่ยงต่อการพัฒนาสมองและสุขภาพจิตจากการเสพติดโซเชียลมีเดีย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/07/scale-of-social-media-use-in-pre-school-children-deeply-alarming
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Scale of social media use in pre-school children 'deeply alarming'
    Hundreds of thousands of pre-school children are "being fed content and algorithms designed to hook adults", a former education minister in Britain has warned.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภัยลวงตาแห่งยุคดิจิทัล – Deepfake กำลังท้าทายความเชื่อมั่นของสังคม"

    เทคโนโลยี Deepfake กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนทำให้วิดีโอปลอมมีความสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น คลิปที่แสดงภาพรถไฟ LRT ไฟไหม้ หรือคลิปนักการเมืองและคนดังโปรโมตการลงทุนที่ไม่จริง สิ่งเหล่านี้สร้างความสับสนและหลอกลวงผู้ชมได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มที่ผู้คนใช้กันทุกวันอย่าง WhatsApp และ TikTok

    รายงานจากหน่วยงานในมาเลเซียระบุว่า มีการลบวิดีโอหลอกลวงที่ใช้ Deepfake ไปแล้วกว่าพันกรณีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่านี่อาจเป็นเพียง "ยอดภูเขาน้ำแข็ง" เพราะหลายคนที่ถูกหลอกมักไม่ยอมเปิดเผย ทำให้จำนวนจริงอาจสูงกว่าที่เห็นในข่าวมาก

    ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ชี้ว่า Deepfake ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากสามารถใช้เพื่อสร้างข่าวปลอม ปั่นกระแสทางการเมือง หรือทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Liar’s Dividend” ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อข้อมูลที่ได้รับ

    ในระดับโลก หลายประเทศเริ่มพัฒนาเครื่องมือเพื่อตรวจสอบและติดตาม Deepfake เช่น การฝัง Watermark ดิจิทัล หรือการใช้ AI ตรวจจับความผิดปกติในภาพและเสียง อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือการทำให้ผู้ใช้ทั่วไปมีทักษะด้าน "Digital Literacy" ที่ไม่ใช่แค่การใช้เทคโนโลยี แต่ต้องรู้จักตั้งคำถามและตรวจสอบข้อมูลก่อนเชื่อหรือแชร์ต่อ

    สรุปสาระสำคัญ
    การแพร่ระบาดของ Deepfake
    คลิปปลอมที่สมจริง เช่น รถไฟไฟไหม้ และนักการเมืองโปรโมตการลงทุน
    มีการลบวิดีโอหลอกลวงกว่า 1,000 กรณีในมาเลเซีย

    ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ
    ใช้สร้างข่าวปลอม ปั่นการเมือง และหลอกลวงทางการเงิน
    เกิด “Liar’s Dividend” ทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม

    แนวทางรับมือ
    การใช้ Watermark ดิจิทัล และ AI ตรวจจับความผิดปกติ
    การสร้างทักษะ Digital Literacy ให้ประชาชนรู้จักตรวจสอบข้อมูล

    คำเตือนต่อผู้ใช้งาน
    Deepfake กำลังพัฒนาเร็วขึ้นจนยากต่อการตรวจจับด้วยตาเปล่า
    ผู้ใช้ที่มีทักษะดิจิทัลต่ำเสี่ยงถูกหลอกง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวหรือวงสนทนาส่วนตัว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/artificially-intelligent-the-evolving-threat-of-deepfakes
    📰 "ภัยลวงตาแห่งยุคดิจิทัล – Deepfake กำลังท้าทายความเชื่อมั่นของสังคม" 🤖 เทคโนโลยี Deepfake กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนทำให้วิดีโอปลอมมีความสมจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น คลิปที่แสดงภาพรถไฟ LRT ไฟไหม้ หรือคลิปนักการเมืองและคนดังโปรโมตการลงทุนที่ไม่จริง สิ่งเหล่านี้สร้างความสับสนและหลอกลวงผู้ชมได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะเมื่อเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มที่ผู้คนใช้กันทุกวันอย่าง WhatsApp และ TikTok 📈 รายงานจากหน่วยงานในมาเลเซียระบุว่า มีการลบวิดีโอหลอกลวงที่ใช้ Deepfake ไปแล้วกว่าพันกรณีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่านี่อาจเป็นเพียง "ยอดภูเขาน้ำแข็ง" เพราะหลายคนที่ถูกหลอกมักไม่ยอมเปิดเผย ทำให้จำนวนจริงอาจสูงกว่าที่เห็นในข่าวมาก ⚠️ ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ชี้ว่า Deepfake ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องจากสามารถใช้เพื่อสร้างข่าวปลอม ปั่นกระแสทางการเมือง หรือทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Liar’s Dividend” ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อข้อมูลที่ได้รับ 🌐 ในระดับโลก หลายประเทศเริ่มพัฒนาเครื่องมือเพื่อตรวจสอบและติดตาม Deepfake เช่น การฝัง Watermark ดิจิทัล หรือการใช้ AI ตรวจจับความผิดปกติในภาพและเสียง อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือการทำให้ผู้ใช้ทั่วไปมีทักษะด้าน "Digital Literacy" ที่ไม่ใช่แค่การใช้เทคโนโลยี แต่ต้องรู้จักตั้งคำถามและตรวจสอบข้อมูลก่อนเชื่อหรือแชร์ต่อ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การแพร่ระบาดของ Deepfake ➡️ คลิปปลอมที่สมจริง เช่น รถไฟไฟไหม้ และนักการเมืองโปรโมตการลงทุน ➡️ มีการลบวิดีโอหลอกลวงกว่า 1,000 กรณีในมาเลเซีย ✅ ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ ➡️ ใช้สร้างข่าวปลอม ปั่นการเมือง และหลอกลวงทางการเงิน ➡️ เกิด “Liar’s Dividend” ทำให้หลักฐานจริงถูกปฏิเสธว่าเป็นของปลอม ✅ แนวทางรับมือ ➡️ การใช้ Watermark ดิจิทัล และ AI ตรวจจับความผิดปกติ ➡️ การสร้างทักษะ Digital Literacy ให้ประชาชนรู้จักตรวจสอบข้อมูล ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้งาน ⛔ Deepfake กำลังพัฒนาเร็วขึ้นจนยากต่อการตรวจจับด้วยตาเปล่า ⛔ ผู้ใช้ที่มีทักษะดิจิทัลต่ำเสี่ยงถูกหลอกง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวหรือวงสนทนาส่วนตัว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/artificially-intelligent-the-evolving-threat-of-deepfakes
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Artificially intelligent: The evolving threat of deepfakes
    With artificial intelligence increasingly being used to augment and sometimes create photos and videos populating social media feeds, how can you tell what's authentic and what's not? Experts weigh in with some pointers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • Titans + MIRAS: ก้าวใหม่ของความทรงจำระยะยาวใน AI

    Google Research เปิดตัวสถาปัตยกรรม Titans และกรอบแนวคิด MIRAS เพื่อแก้ปัญหาการจัดการข้อมูลในลำดับยาวที่โมเดล Transformer แบบดั้งเดิมมักเจอข้อจำกัด เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการคำนวณเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อความยาวของ sequence ขยายตัว ทำให้ยากต่อการใช้งานในงานที่ต้องการการเข้าใจทั้งเอกสารหรือข้อมูลเชิงลึก เช่น การวิเคราะห์จีโนม

    Titans ถูกออกแบบให้ผสมผสานความเร็วของ RNNs เข้ากับความแม่นยำของ Transformers โดยเพิ่มโมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานเหมือน multi-layer perceptron (MLP) ซึ่งมีพลังในการสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบทสำคัญ ขณะเดียวกัน MIRAS ทำหน้าที่เป็นกรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลสามารถอัปเดตความจำได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้แนวคิด “surprise metric” ในการเลือกเก็บข้อมูลที่สำคัญหรือผิดคาดเข้าสู่ความจำถาวร

    จุดเด่นคือโมเดลไม่เพียงแต่เก็บข้อมูล แต่ยังสามารถ เรียนรู้ความสัมพันธ์และธีมหลัก ที่เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ได้ทันที พร้อมทั้งมีระบบ momentum เพื่อเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อเนื่อง และ forgetting gate เพื่อจัดการความจำที่มีขีดจำกัด

    MIRAS ยังนำเสนอการมองใหม่ต่อ sequence modeling โดยมองว่าโมเดลทุกแบบคือการออกแบบหน่วยความจำเชิงสัมพันธ์ (associative memory) ที่ต้องหาสมดุลระหว่างการเรียนรู้ใหม่กับการรักษาความรู้เดิม ทำให้สามารถสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ที่มีความยืดหยุ่นและทรงพลังมากขึ้น เช่น YAAD, MONETA และ MEMORA ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน

    ผลการทดลองแสดงว่า Titans และ MIRAS variants สามารถทำงานได้ดีกว่าโมเดลล้ำสมัยอื่นๆ เช่น Transformer++ และ Mamba-2 โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ long-context reasoning เช่นการประมวลผลเอกสารที่มีข้อมูลยาวกว่า 2 ล้าน tokens ซึ่ง Titans สามารถทำงานได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงกว่าแม้เทียบกับโมเดลขนาดใหญ่เช่น GPT-4

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Titans Architecture
    เพิ่มโมดูลความจำระยะยาวแบบ MLP เพื่อสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบท

    MIRAS Framework
    กรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลอัปเดตความจำแบบเรียลไทม์ด้วย “surprise metric”

    กลไกสำคัญ
    Momentum สำหรับเก็บข้อมูลต่อเนื่อง และ Forgetting Gate สำหรับลบข้อมูลที่ไม่จำเป็น

    โมเดลใหม่จาก MIRAS
    YAAD, MONETA, MEMORA ถูกออกแบบเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน

    ผลการทดลอง
    Titans และ MIRAS variants ทำงานได้ดีกว่า Transformer++ และ Mamba-2 ในงาน long-context reasoning

    ข้อท้าทาย
    การจัดการความจำที่มีขีดจำกัดยังต้องพึ่งกลไกการลืม (weight decay) เพื่อไม่ให้ระบบล้นข้อมูล

    https://research.google/blog/titans-miras-helping-ai-have-long-term-memory/
    🧠 Titans + MIRAS: ก้าวใหม่ของความทรงจำระยะยาวใน AI Google Research เปิดตัวสถาปัตยกรรม Titans และกรอบแนวคิด MIRAS เพื่อแก้ปัญหาการจัดการข้อมูลในลำดับยาวที่โมเดล Transformer แบบดั้งเดิมมักเจอข้อจำกัด เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการคำนวณเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อความยาวของ sequence ขยายตัว ทำให้ยากต่อการใช้งานในงานที่ต้องการการเข้าใจทั้งเอกสารหรือข้อมูลเชิงลึก เช่น การวิเคราะห์จีโนม Titans ถูกออกแบบให้ผสมผสานความเร็วของ RNNs เข้ากับความแม่นยำของ Transformers โดยเพิ่มโมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานเหมือน multi-layer perceptron (MLP) ซึ่งมีพลังในการสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบทสำคัญ ขณะเดียวกัน MIRAS ทำหน้าที่เป็นกรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลสามารถอัปเดตความจำได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้แนวคิด “surprise metric” ในการเลือกเก็บข้อมูลที่สำคัญหรือผิดคาดเข้าสู่ความจำถาวร จุดเด่นคือโมเดลไม่เพียงแต่เก็บข้อมูล แต่ยังสามารถ เรียนรู้ความสัมพันธ์และธีมหลัก ที่เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ได้ทันที พร้อมทั้งมีระบบ momentum เพื่อเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อเนื่อง และ forgetting gate เพื่อจัดการความจำที่มีขีดจำกัด MIRAS ยังนำเสนอการมองใหม่ต่อ sequence modeling โดยมองว่าโมเดลทุกแบบคือการออกแบบหน่วยความจำเชิงสัมพันธ์ (associative memory) ที่ต้องหาสมดุลระหว่างการเรียนรู้ใหม่กับการรักษาความรู้เดิม ทำให้สามารถสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ที่มีความยืดหยุ่นและทรงพลังมากขึ้น เช่น YAAD, MONETA และ MEMORA ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน ผลการทดลองแสดงว่า Titans และ MIRAS variants สามารถทำงานได้ดีกว่าโมเดลล้ำสมัยอื่นๆ เช่น Transformer++ และ Mamba-2 โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ long-context reasoning เช่นการประมวลผลเอกสารที่มีข้อมูลยาวกว่า 2 ล้าน tokens ซึ่ง Titans สามารถทำงานได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงกว่าแม้เทียบกับโมเดลขนาดใหญ่เช่น GPT-4 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Titans Architecture ➡️ เพิ่มโมดูลความจำระยะยาวแบบ MLP เพื่อสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบท ✅ MIRAS Framework ➡️ กรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลอัปเดตความจำแบบเรียลไทม์ด้วย “surprise metric” ✅ กลไกสำคัญ ➡️ Momentum สำหรับเก็บข้อมูลต่อเนื่อง และ Forgetting Gate สำหรับลบข้อมูลที่ไม่จำเป็น ✅ โมเดลใหม่จาก MIRAS ➡️ YAAD, MONETA, MEMORA ถูกออกแบบเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน ✅ ผลการทดลอง ➡️ Titans และ MIRAS variants ทำงานได้ดีกว่า Transformer++ และ Mamba-2 ในงาน long-context reasoning ‼️ ข้อท้าทาย ⛔ การจัดการความจำที่มีขีดจำกัดยังต้องพึ่งกลไกการลืม (weight decay) เพื่อไม่ให้ระบบล้นข้อมูล https://research.google/blog/titans-miras-helping-ai-have-long-term-memory/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐโชว์ภาพ 3D ฐานทัพเรือจีน คมชัดระดับ 50 ซม.

    บริษัทดาวเทียมสัญชาติสหรัฐชื่อ Vantor ได้เผยแพร่ภาพถ่ายความละเอียดสูงของฐานทัพเรือ Yulin Naval Base บนเกาะไห่หนาน ประเทศจีน โดยใช้ดาวเทียมเพียงหนึ่งครั้งในการบินผ่าน และสามารถประมวลผลเป็นภาพ 3D ได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 ชั่วโมง ความละเอียดของภาพอยู่ที่ 50 เซนติเมตรต่อพิกเซล และมีความแม่นยำเชิงพื้นที่ต่ำกว่า 4 เมตร ซึ่งคมชัดพอที่จะเห็นยานพาหนะบนพื้นดินได้อย่างชัดเจน

    สิ่งที่โดดเด่นคือการใช้ซอฟต์แวร์ Forge ของ Vantor ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสำรวจภาพในรูปแบบ 3D ได้เต็มรูปแบบ เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “ฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ที่เชื่อถือได้” สำหรับระบบสั่งการและแพลตฟอร์มอัตโนมัติ ทั้งในด้านการวางแผน การวิเคราะห์ และการฝึกซ้อมทางทหาร รวมถึงการใช้งานพลเรือน เช่น การวางผังเมืองและการตอบสนองต่อภัยพิบัติ

    การประมวลผลภาพดาวเทียมในอดีตอาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่ด้วยการผสมผสาน AI และข้อมูลเชิงพื้นที่ที่แม่นยำ ทำให้ Vantor สามารถสร้าง “Digital Twin” ของพื้นที่จริงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมการใช้ข้อมูลดาวเทียมในยุคใหม่

    อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าด้านนี้ก็สร้างความกังวลในระดับนโยบาย โดยเฉพาะการใช้ ชิป AI จาก Nvidia และ AMD ที่มีศักยภาพในการใช้งานทั้งพลเรือนและทหาร ทำให้รัฐบาลสหรัฐบางส่วนระมัดระวังในการอนุญาตให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ เนื่องจากอาจถูกนำไปใช้ในด้านการทหารโดยตรง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความสำเร็จของ Vantor
    สร้างภาพ 3D ความละเอียด 50 ซม. จากการบินผ่านเพียงครั้งเดียว
    ประมวลผลเสร็จภายใน 10 ชั่วโมง

    ซอฟต์แวร์ Forge
    ช่วยให้สำรวจภาพในรูปแบบ 3D ได้เต็มรูปแบบ
    ใช้เป็นฐานข้อมูลเชิงพื้นที่สำหรับการวางแผนและการฝึกซ้อม

    การประยุกต์ใช้งาน
    พลเรือน: การวางผังเมืองและการตอบสนองภัยพิบัติ
    ทหาร: การวิเคราะห์และการฝึกซ้อมเชิงยุทธศาสตร์

    ข้อกังวลด้านความมั่นคง
    เทคโนโลยี AI และชิปประมวลผลอาจถูกใช้ทั้งพลเรือนและทหาร
    รัฐบาลสหรัฐบางส่วนกังวลการเข้าถึงเทคโนโลยีโดยจีน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-navy-base-3d-imaged-to-50cm-resolution-in-single-satellite-pass-us-spatial-intelligence-firm-boasts-accurate-high-res-3d-terrain-map-took-just-10-hours-to-create
    🛰️ สหรัฐโชว์ภาพ 3D ฐานทัพเรือจีน คมชัดระดับ 50 ซม. บริษัทดาวเทียมสัญชาติสหรัฐชื่อ Vantor ได้เผยแพร่ภาพถ่ายความละเอียดสูงของฐานทัพเรือ Yulin Naval Base บนเกาะไห่หนาน ประเทศจีน โดยใช้ดาวเทียมเพียงหนึ่งครั้งในการบินผ่าน และสามารถประมวลผลเป็นภาพ 3D ได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 ชั่วโมง ความละเอียดของภาพอยู่ที่ 50 เซนติเมตรต่อพิกเซล และมีความแม่นยำเชิงพื้นที่ต่ำกว่า 4 เมตร ซึ่งคมชัดพอที่จะเห็นยานพาหนะบนพื้นดินได้อย่างชัดเจน สิ่งที่โดดเด่นคือการใช้ซอฟต์แวร์ Forge ของ Vantor ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสำรวจภาพในรูปแบบ 3D ได้เต็มรูปแบบ เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “ฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ที่เชื่อถือได้” สำหรับระบบสั่งการและแพลตฟอร์มอัตโนมัติ ทั้งในด้านการวางแผน การวิเคราะห์ และการฝึกซ้อมทางทหาร รวมถึงการใช้งานพลเรือน เช่น การวางผังเมืองและการตอบสนองต่อภัยพิบัติ การประมวลผลภาพดาวเทียมในอดีตอาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่ด้วยการผสมผสาน AI และข้อมูลเชิงพื้นที่ที่แม่นยำ ทำให้ Vantor สามารถสร้าง “Digital Twin” ของพื้นที่จริงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมการใช้ข้อมูลดาวเทียมในยุคใหม่ อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าด้านนี้ก็สร้างความกังวลในระดับนโยบาย โดยเฉพาะการใช้ ชิป AI จาก Nvidia และ AMD ที่มีศักยภาพในการใช้งานทั้งพลเรือนและทหาร ทำให้รัฐบาลสหรัฐบางส่วนระมัดระวังในการอนุญาตให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ เนื่องจากอาจถูกนำไปใช้ในด้านการทหารโดยตรง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความสำเร็จของ Vantor ➡️ สร้างภาพ 3D ความละเอียด 50 ซม. จากการบินผ่านเพียงครั้งเดียว ➡️ ประมวลผลเสร็จภายใน 10 ชั่วโมง ✅ ซอฟต์แวร์ Forge ➡️ ช่วยให้สำรวจภาพในรูปแบบ 3D ได้เต็มรูปแบบ ➡️ ใช้เป็นฐานข้อมูลเชิงพื้นที่สำหรับการวางแผนและการฝึกซ้อม ✅ การประยุกต์ใช้งาน ➡️ พลเรือน: การวางผังเมืองและการตอบสนองภัยพิบัติ ➡️ ทหาร: การวิเคราะห์และการฝึกซ้อมเชิงยุทธศาสตร์ ‼️ ข้อกังวลด้านความมั่นคง ⛔ เทคโนโลยี AI และชิปประมวลผลอาจถูกใช้ทั้งพลเรือนและทหาร ⛔ รัฐบาลสหรัฐบางส่วนกังวลการเข้าถึงเทคโนโลยีโดยจีน https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-navy-base-3d-imaged-to-50cm-resolution-in-single-satellite-pass-us-spatial-intelligence-firm-boasts-accurate-high-res-3d-terrain-map-took-just-10-hours-to-create
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก๊าซหัวเราะกับการบรรเทาภาวะซึมเศร้า

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Birmingham และ Oxford วิเคราะห์การทดลองทางคลินิก 7 ครั้ง รวมผู้เข้าร่วมกว่า 247 คน พบว่า การสูดดมไนตรัสออกไซด์ในระดับ 25–50% สามารถลดอาการซึมเศร้าได้ภายใน 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบดั้งเดิม เช่น ยาต้านซึมเศร้าและการบำบัดทางจิตใจ

    กลไกที่อยู่เบื้องหลัง
    ผลการศึกษาชี้ว่าไนตรัสออกไซด์อาจทำงานโดย ลดการทำงานของระบบกลูตาเมต (glutamatergic system) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทและเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง ทำให้การลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารดีขึ้น

    ผลลัพธ์และข้อจำกัด
    แม้จะเห็นผลเร็ว แต่ อาการซึมเศร้ากลับมาในหนึ่งสัปดาห์ หากไม่ได้รับการให้ยาซ้ำ อีกทั้งการใช้ในความเข้มข้นสูง (50%) อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว และภาวะหลุดจากความเป็นจริง (dissociation) จึงต้องมีการจัดการอย่างระมัดระวัง

    ความหวังใหม่ในแนวทางการรักษา
    นักวิจัยเชื่อว่าไนตรัสออกไซด์อาจเป็นส่วนหนึ่งของ การรักษารุ่นใหม่ที่ออกฤทธิ์เร็ว สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบเดิม โดยการทดลองในอนาคตจะมุ่งไปที่ การให้ยาซ้ำในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อหาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความปลอดภัย

    สรุปสาระสำคัญ
    ไนตรัสออกไซด์บรรเทาอาการซึมเศร้าได้ภายใน 2 ชั่วโมง
    เห็นผลชัดเจนในผู้ป่วยดื้อต่อการรักษา

    กลไกเกี่ยวข้องกับการลดการทำงานของระบบกลูตาเมต
    และช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดในสมอง

    ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน
    อาการกลับมาภายในหนึ่งสัปดาห์หากไม่ให้ยาซ้ำ

    การทดลองชี้ว่ามีศักยภาพเป็นการรักษารุ่นใหม่
    ต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีใช้ที่ปลอดภัยและยั่งยืน

    ความเข้มข้นสูงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง
    เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว และภาวะหลุดจากความเป็นจริง

    ยังไม่ใช่วิธีรักษาที่หายขาด
    ต้องใช้ร่วมกับการรักษาอื่นและอยู่ภายใต้การดูแลแพทย์

    https://www.sciencealert.com/laughing-gas-can-offer-immediate-relief-from-depression-study-finds
    🌬️ ก๊าซหัวเราะกับการบรรเทาภาวะซึมเศร้า นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Birmingham และ Oxford วิเคราะห์การทดลองทางคลินิก 7 ครั้ง รวมผู้เข้าร่วมกว่า 247 คน พบว่า การสูดดมไนตรัสออกไซด์ในระดับ 25–50% สามารถลดอาการซึมเศร้าได้ภายใน 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบดั้งเดิม เช่น ยาต้านซึมเศร้าและการบำบัดทางจิตใจ 🧠 กลไกที่อยู่เบื้องหลัง ผลการศึกษาชี้ว่าไนตรัสออกไซด์อาจทำงานโดย ลดการทำงานของระบบกลูตาเมต (glutamatergic system) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทและเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง ทำให้การลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารดีขึ้น ⏳ ผลลัพธ์และข้อจำกัด แม้จะเห็นผลเร็ว แต่ อาการซึมเศร้ากลับมาในหนึ่งสัปดาห์ หากไม่ได้รับการให้ยาซ้ำ อีกทั้งการใช้ในความเข้มข้นสูง (50%) อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว และภาวะหลุดจากความเป็นจริง (dissociation) จึงต้องมีการจัดการอย่างระมัดระวัง 🔮 ความหวังใหม่ในแนวทางการรักษา นักวิจัยเชื่อว่าไนตรัสออกไซด์อาจเป็นส่วนหนึ่งของ การรักษารุ่นใหม่ที่ออกฤทธิ์เร็ว สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบเดิม โดยการทดลองในอนาคตจะมุ่งไปที่ การให้ยาซ้ำในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อหาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความปลอดภัย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ไนตรัสออกไซด์บรรเทาอาการซึมเศร้าได้ภายใน 2 ชั่วโมง ➡️ เห็นผลชัดเจนในผู้ป่วยดื้อต่อการรักษา ✅ กลไกเกี่ยวข้องกับการลดการทำงานของระบบกลูตาเมต ➡️ และช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดในสมอง ✅ ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน ➡️ อาการกลับมาภายในหนึ่งสัปดาห์หากไม่ให้ยาซ้ำ ✅ การทดลองชี้ว่ามีศักยภาพเป็นการรักษารุ่นใหม่ ➡️ ต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีใช้ที่ปลอดภัยและยั่งยืน ‼️ ความเข้มข้นสูงอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ⛔ เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว และภาวะหลุดจากความเป็นจริง ‼️ ยังไม่ใช่วิธีรักษาที่หายขาด ⛔ ต้องใช้ร่วมกับการรักษาอื่นและอยู่ภายใต้การดูแลแพทย์ https://www.sciencealert.com/laughing-gas-can-offer-immediate-relief-from-depression-study-finds
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Laughing Gas Can Offer Immediate Relief From Depression, Study Finds
    A review by researchers from the University of Birmingham and the University of Oxford in the UK has found that controlled doses of laughing gas (or nitrous oxide) really can provide quick-acting relief from depression.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251207 #securityonline

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Tika Core (CVE-2025-66516)
    เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่ในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ เพราะ Apache Tika ซึ่งเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หลากหลายชนิด ถูกพบว่ามีช่องโหว่ XXE ที่ร้ายแรงมาก โดยผู้โจมตีสามารถฝังข้อมูล XML อันตรายไว้ในไฟล์ PDF และเมื่อระบบนำไปประมวลผลก็จะเปิดทางให้เข้าถึงข้อมูลลับ ทำให้เกิดการรั่วไหลหรือแม้แต่การโจมตีแบบ SSRF ได้ ที่น่ากังวลคือหลายองค์กรคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วจากการอัปเดตครั้งก่อน แต่จริง ๆ แล้วช่องโหว่นี้อยู่ในตัว “tika-core” ไม่ใช่แค่โมดูล PDF เท่านั้น ดังนั้นใครที่ยังใช้เวอร์ชันต่ำกว่า 3.2.2 ต้องรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่
    https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core

    มัลแวร์ขุดคริปโตแบบแอบเนียนผ่าน USB และ DLL Side-Loading
    ภัยคุกคามเก่าแต่ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในเกาหลีใต้ เมื่อมัลแวร์ CoinMiner ถูกแพร่ผ่าน USB drive ที่ดูเหมือนมีไฟล์ปกติ แต่จริง ๆ แล้วซ่อนสคริปต์และไฟล์อันตรายไว้ เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ลัด มัลแวร์จะเริ่มทำงานทันที โดยใช้เทคนิค DLL Side-Loading เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ และสุดท้ายก็ลงโปรแกรมขุด Monero แบบ “Smart Mining” ที่ฉลาดพอจะหยุดทำงานชั่วคราวเมื่อผู้ใช้เปิดเกมหรือ Task Manager เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ถือเป็นการผสมผสานวิธีการเก่าเข้ากับเทคนิคใหม่ที่ซับซ้อนมาก
    https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion

    Apache HTTP Server อัปเดตแก้ช่องโหว่ SSRF และ suexec Bypass
    Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่หลายรายการ โดยเฉพาะ CVE-2025-59775 ที่อาจทำให้ NTLM hash รั่วไหลบน Windows ผ่านการโจมตีแบบ SSRF และอีกช่องโหว่เกี่ยวกับ suexec ที่ทำให้ผู้ใช้บางรายสามารถรันสคริปต์ภายใต้สิทธิ์ที่ไม่ถูกต้องได้ นอกจากนี้ยังมีบั๊กเล็ก ๆ ที่อาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาด เช่นการวนลูปไม่สิ้นสุดในการต่ออายุใบรับรอง การแก้ไขครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น
    https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass

    รัสเซียบล็อก FaceTime ของ Apple แบบเครือข่าย
    รัฐบาลรัสเซียได้สั่งบล็อกการใช้งาน FaceTime ซึ่งเป็นบริการวิดีโอคอลที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ของ Apple โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้ในการก่อการร้ายและอาชญากรรม ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ตาม ผู้ใช้ในรัสเซียที่พยายามโทรผ่าน FaceTime จะพบว่าบริการไม่สามารถใช้งานได้จริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามเทคโนโลยีต่างชาติที่รัสเซียทำต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้บล็อก YouTube, WhatsApp, Telegram และแม้แต่ Roblox ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและเนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐ
    https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime

    Android เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์
    Google ได้เพิ่มระบบป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ใน Android โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ใช้เปิดแอปการเงิน เช่น Cash App หรือ JPMorgan Chase หากมีสายเข้าจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก ระบบจะหยุดการโทรหรือการแชร์หน้าจอไว้ 30 วินาที พร้อมแสดงคำเตือน เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลาคิดก่อนจะทำตามคำสั่งของมิจฉาชีพ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ และกำลังทยอยเปิดใช้งานในสหรัฐฯ สำหรับ Android 11 ขึ้นไป
    https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use

    OpenAI ฝึก AI ให้ “สารภาพ” ความผิดพลาดเอง
    OpenAI กำลังทดลองวิธีใหม่ในการทำให้โมเดล AI มีความซื่อสัตย์มากขึ้น โดยสอนให้มัน “ยอมรับ” เมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แทนที่จะพยายามตอบต่อไปอย่างมั่นใจเกินจริง แนวคิดนี้คือการให้ AI มีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ที่สามารถบอกว่า “ฉันผิดพลาด” หรือ “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลที่ผิดพลาดในงานสำคัญ ถือเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการพยายามทำให้ AI ดูสมบูรณ์แบบ ไปสู่การทำให้มันโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น
    https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations

    Criminal IP จัด Webinar: Beyond CVEs – จากการมองเห็นสู่การลงมือทำ
    Criminal IP เตรียมจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อพูดถึงการจัดการช่องโหว่ที่มากกว่าแค่การรู้จัก CVE โดยเน้นไปที่การทำ ASM (Attack Surface Management) ที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจภาพรวมของระบบและสามารถลงมือแก้ไขได้จริง ไม่ใช่แค่การตรวจพบปัญหา จุดสำคัญคือการเปลี่ยนจากการ “เห็น” ไปสู่การ “ทำ” เพื่อให้การป้องกันภัยไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm

    Sprocket Security ได้รับการยกย่องซ้ำในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2
    บริษัท Sprocket Security ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing) ได้รับการจัดอันดับอีกครั้งในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 ประจำฤดูหนาวปี 2025 การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความพึงพอใจของลูกค้าและความน่าเชื่อถือของบริการที่บริษัทมอบให้ โดยเฉพาะในด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
    https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing

    จีน APT UNC5174 ใช้ Discord API เป็นช่องทางลับ
    กลุ่มแฮกเกอร์ APT จากจีนที่มีชื่อว่า UNC5174 ถูกพบว่าใช้ Discord API เป็นช่องทางสื่อสารแบบ C2 (Command and Control) เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับและทำการจารกรรมข้อมูล วิธีนี้ทำให้การโจมตีดูเหมือนการใช้งานปกติของแอปพลิเคชัน แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนคำสั่งและข้อมูลที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี ถือเป็นการใช้แพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมเป็นเครื่องมือในการทำงานลับ
    https://securityonline.info/china-apt-unc5174-hijacks-discord-api-as-covert-c2-channel-to-evade-detection-and-conduct-espionage

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA (CVE-2025-44005)
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถข้ามการตรวจสอบสิทธิ์และออกใบรับรองปลอมได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับ CVSS 10.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หมายความว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างมาก หากองค์กรใดใช้ Step CA ในการจัดการใบรับรองดิจิทัล จำเป็นต้องรีบอัปเดตและแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันการถูกใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้
    https://securityonline.info/critical-step-ca-flaw-cve-2025-44005-cvss-10-0-allows-unauthenticated-bypass-to-issue-fraudulent-certificates

    การสอดแนมผ่านการสแกน API ของ Palo Alto และ SonicWall
    มีการตรวจพบการสอดแนมแบบประสานงานจากกว่า 7,000 IP ที่พุ่งเป้าไปยัง API ของ GlobalProtect (Palo Alto) และ SonicWall โดยการโจมตีลักษณะนี้มุ่งเน้นไปที่การค้นหาช่องโหว่และการเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมการโจมตีในอนาคต ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้โจมตีเริ่มใช้วิธีการที่ซับซ้อนและทำงานเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/coordinated-reconnaissance-7000-ips-target-palo-alto-globalprotect-and-sonicwall-api-endpoints
    📌🔐🔴 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔴🔐📌 #รวมข่าวIT #20251207 #securityonline 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Tika Core (CVE-2025-66516) เรื่องนี้เป็นการเตือนครั้งใหญ่ในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ เพราะ Apache Tika ซึ่งเป็นเครื่องมือมาตรฐานที่ใช้วิเคราะห์ไฟล์หลากหลายชนิด ถูกพบว่ามีช่องโหว่ XXE ที่ร้ายแรงมาก โดยผู้โจมตีสามารถฝังข้อมูล XML อันตรายไว้ในไฟล์ PDF และเมื่อระบบนำไปประมวลผลก็จะเปิดทางให้เข้าถึงข้อมูลลับ ทำให้เกิดการรั่วไหลหรือแม้แต่การโจมตีแบบ SSRF ได้ ที่น่ากังวลคือหลายองค์กรคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้วจากการอัปเดตครั้งก่อน แต่จริง ๆ แล้วช่องโหว่นี้อยู่ในตัว “tika-core” ไม่ใช่แค่โมดูล PDF เท่านั้น ดังนั้นใครที่ยังใช้เวอร์ชันต่ำกว่า 3.2.2 ต้องรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ 🔗 https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core 💻 มัลแวร์ขุดคริปโตแบบแอบเนียนผ่าน USB และ DLL Side-Loading ภัยคุกคามเก่าแต่ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในเกาหลีใต้ เมื่อมัลแวร์ CoinMiner ถูกแพร่ผ่าน USB drive ที่ดูเหมือนมีไฟล์ปกติ แต่จริง ๆ แล้วซ่อนสคริปต์และไฟล์อันตรายไว้ เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ลัด มัลแวร์จะเริ่มทำงานทันที โดยใช้เทคนิค DLL Side-Loading เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ และสุดท้ายก็ลงโปรแกรมขุด Monero แบบ “Smart Mining” ที่ฉลาดพอจะหยุดทำงานชั่วคราวเมื่อผู้ใช้เปิดเกมหรือ Task Manager เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ถือเป็นการผสมผสานวิธีการเก่าเข้ากับเทคนิคใหม่ที่ซับซ้อนมาก 🔗 https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion 🌐 Apache HTTP Server อัปเดตแก้ช่องโหว่ SSRF และ suexec Bypass Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่หลายรายการ โดยเฉพาะ CVE-2025-59775 ที่อาจทำให้ NTLM hash รั่วไหลบน Windows ผ่านการโจมตีแบบ SSRF และอีกช่องโหว่เกี่ยวกับ suexec ที่ทำให้ผู้ใช้บางรายสามารถรันสคริปต์ภายใต้สิทธิ์ที่ไม่ถูกต้องได้ นอกจากนี้ยังมีบั๊กเล็ก ๆ ที่อาจทำให้ระบบทำงานผิดพลาด เช่นการวนลูปไม่สิ้นสุดในการต่ออายุใบรับรอง การแก้ไขครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น 🔗 https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass 🚫 รัสเซียบล็อก FaceTime ของ Apple แบบเครือข่าย รัฐบาลรัสเซียได้สั่งบล็อกการใช้งาน FaceTime ซึ่งเป็นบริการวิดีโอคอลที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ของ Apple โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้ในการก่อการร้ายและอาชญากรรม ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ตาม ผู้ใช้ในรัสเซียที่พยายามโทรผ่าน FaceTime จะพบว่าบริการไม่สามารถใช้งานได้จริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามเทคโนโลยีต่างชาติที่รัสเซียทำต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้บล็อก YouTube, WhatsApp, Telegram และแม้แต่ Roblox ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและเนื้อหาที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายรัฐ 🔗 https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime 📱 Android เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ Google ได้เพิ่มระบบป้องกันการหลอกลวงทางโทรศัพท์ใน Android โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ใช้เปิดแอปการเงิน เช่น Cash App หรือ JPMorgan Chase หากมีสายเข้าจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก ระบบจะหยุดการโทรหรือการแชร์หน้าจอไว้ 30 วินาที พร้อมแสดงคำเตือน เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลาคิดก่อนจะทำตามคำสั่งของมิจฉาชีพ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ และกำลังทยอยเปิดใช้งานในสหรัฐฯ สำหรับ Android 11 ขึ้นไป 🔗 https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use 🤖 OpenAI ฝึก AI ให้ “สารภาพ” ความผิดพลาดเอง OpenAI กำลังทดลองวิธีใหม่ในการทำให้โมเดล AI มีความซื่อสัตย์มากขึ้น โดยสอนให้มัน “ยอมรับ” เมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แทนที่จะพยายามตอบต่อไปอย่างมั่นใจเกินจริง แนวคิดนี้คือการให้ AI มีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ที่สามารถบอกว่า “ฉันผิดพลาด” หรือ “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลที่ผิดพลาดในงานสำคัญ ถือเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการพยายามทำให้ AI ดูสมบูรณ์แบบ ไปสู่การทำให้มันโปร่งใสและน่าเชื่อถือมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations 🎤 Criminal IP จัด Webinar: Beyond CVEs – จากการมองเห็นสู่การลงมือทำ Criminal IP เตรียมจัดสัมมนาออนไลน์เพื่อพูดถึงการจัดการช่องโหว่ที่มากกว่าแค่การรู้จัก CVE โดยเน้นไปที่การทำ ASM (Attack Surface Management) ที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจภาพรวมของระบบและสามารถลงมือแก้ไขได้จริง ไม่ใช่แค่การตรวจพบปัญหา จุดสำคัญคือการเปลี่ยนจากการ “เห็น” ไปสู่การ “ทำ” เพื่อให้การป้องกันภัยไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm 🏆 Sprocket Security ได้รับการยกย่องซ้ำในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 บริษัท Sprocket Security ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการทดสอบเจาะระบบ (Penetration Testing) ได้รับการจัดอันดับอีกครั้งในดัชนีความสัมพันธ์ของ G2 ประจำฤดูหนาวปี 2025 การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความพึงพอใจของลูกค้าและความน่าเชื่อถือของบริการที่บริษัทมอบให้ โดยเฉพาะในด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing 🕵️ จีน APT UNC5174 ใช้ Discord API เป็นช่องทางลับ กลุ่มแฮกเกอร์ APT จากจีนที่มีชื่อว่า UNC5174 ถูกพบว่าใช้ Discord API เป็นช่องทางสื่อสารแบบ C2 (Command and Control) เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับและทำการจารกรรมข้อมูล วิธีนี้ทำให้การโจมตีดูเหมือนการใช้งานปกติของแอปพลิเคชัน แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนคำสั่งและข้อมูลที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี ถือเป็นการใช้แพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมเป็นเครื่องมือในการทำงานลับ 🔗 https://securityonline.info/china-apt-unc5174-hijacks-discord-api-as-covert-c2-channel-to-evade-detection-and-conduct-espionage 🔒 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA (CVE-2025-44005) มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Step CA ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถข้ามการตรวจสอบสิทธิ์และออกใบรับรองปลอมได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับ CVSS 10.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด หมายความว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอย่างมาก หากองค์กรใดใช้ Step CA ในการจัดการใบรับรองดิจิทัล จำเป็นต้องรีบอัปเดตและแก้ไขทันทีเพื่อป้องกันการถูกใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ 🔗 https://securityonline.info/critical-step-ca-flaw-cve-2025-44005-cvss-10-0-allows-unauthenticated-bypass-to-issue-fraudulent-certificates 🌍 การสอดแนมผ่านการสแกน API ของ Palo Alto และ SonicWall มีการตรวจพบการสอดแนมแบบประสานงานจากกว่า 7,000 IP ที่พุ่งเป้าไปยัง API ของ GlobalProtect (Palo Alto) และ SonicWall โดยการโจมตีลักษณะนี้มุ่งเน้นไปที่การค้นหาช่องโหว่และการเก็บข้อมูลเพื่อเตรียมการโจมตีในอนาคต ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้โจมตีเริ่มใช้วิธีการที่ซับซ้อนและทำงานเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/coordinated-reconnaissance-7000-ips-target-palo-alto-globalprotect-and-sonicwall-api-endpoints
    SECURITYONLINE.INFO
    The PDF Trap: Critical Vulnerability (CVE-2025-66516, CVSS 10.0) Hits Apache Tika Core
    Apache patched a Catastrophic XXE flaw (CVE-2025-66516, CVSS 10.0) in Tika Core. The bug is exploitable via malicious XFA data inside a PDF, risking server-side data disclosure and RCE. Update immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดเริ่มต้นของ Deep Learning บน GTX 580

    ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดเผยของ Jensen Huang (CEO ของ Nvidia) ว่า การปฏิวัติ Deep Learning เริ่มต้นขึ้นในปี 2012 จากการใช้การ์ดจอ GTX 580 จำนวนสองตัวในโหมด SLI โดยทีมวิจัยมหาวิทยาลัยโตรอนโต ซึ่งนำไปสู่การสร้างโมเดล AlexNet ที่เปลี่ยนโลก AI ไปตลอดกาล

    ในปี 2011–2012 ทีมวิจัยของ Alex Krizhevsky, Ilya Sutskever และ Geoffrey Hinton ได้พัฒนาโมเดล AlexNet เพื่อแก้ปัญหาการจำแนกรูปภาพ โดยใช้การ์ดจอ GTX 580 (3GB) จำนวนสองตัวเชื่อมต่อแบบ SLI แม้การ์ดเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นเกม แต่ความสามารถด้านการประมวลผลแบบขนานกลับเหมาะสมกับการฝึก Neural Network อย่างยิ่ง

    ผลลัพธ์ที่พลิกวงการ
    AlexNet มีโครงสร้าง 8 ชั้นและพารามิเตอร์กว่า 60 ล้านตัว เมื่อถูกฝึกบน GTX 580s ผลลัพธ์สามารถเอาชนะอัลกอริทึมการจำแนกรูปภาพที่ดีที่สุดในยุคนั้นได้มากกว่า 70% ทำให้โลกวิชาการและอุตสาหกรรมหันมาสนใจ Deep Learning อย่างจริงจัง

    Nvidia เข้าสู่เส้นทาง AI
    Jensen Huang เปิดเผยว่า หลังจากเห็นศักยภาพของ Deep Learning บน GPU บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนอย่างเต็มที่ในเทคโนโลยีนี้ ตั้งแต่การพัฒนา DGX systems ในปี 2016 ไปจนถึงสถาปัตยกรรม Volta ที่มี Tensor Cores และต่อยอดสู่ DLSS และการใช้งาน AI ในวงกว้าง

    ผลกระทบต่อโลก AI
    หากไม่มีการทดลองบน GTX 580s ในปี 2012 Nvidia อาจยังคงเป็นบริษัทที่เน้นกราฟิกเกมเท่านั้น แต่การค้นพบนี้ได้เปลี่ยนทิศทางบริษัท และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ AI ที่เรากำลังเห็นในปัจจุบัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ทีมมหาวิทยาลัยโตรอนโตใช้ GTX 580s ใน SLI
    เพื่อฝึกโมเดล AlexNet ในปี 2012

    AlexNet เอาชนะอัลกอริทึมเดิมกว่า 70%
    กลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการ Computer Vision

    Nvidia หันมาลงทุนใน AI อย่างเต็มที่
    พัฒนา DGX, Volta Tensor Cores และ DLSS

    GTX 580s กลายเป็นการ์ดจอแรกที่ใช้กับ AI
    แม้ถูกออกแบบมาเพื่อเกม แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของ Deep Learning

    หากไม่มีการทดลองนี้ Nvidia อาจไม่เข้าสู่ AI
    โลกอาจไม่มีการเติบโตของ AI ในรูปแบบที่เราเห็นทุกวันนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/two-gtx-580s-in-sli-are-responsible-for-the-ai-we-have-today-nvidias-huang-revealed-that-the-invention-of-deep-learning-began-with-two-flagship-fermi-gpus-in-2012
    🖥️ จุดเริ่มต้นของ Deep Learning บน GTX 580 ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดเผยของ Jensen Huang (CEO ของ Nvidia) ว่า การปฏิวัติ Deep Learning เริ่มต้นขึ้นในปี 2012 จากการใช้การ์ดจอ GTX 580 จำนวนสองตัวในโหมด SLI โดยทีมวิจัยมหาวิทยาลัยโตรอนโต ซึ่งนำไปสู่การสร้างโมเดล AlexNet ที่เปลี่ยนโลก AI ไปตลอดกาล ในปี 2011–2012 ทีมวิจัยของ Alex Krizhevsky, Ilya Sutskever และ Geoffrey Hinton ได้พัฒนาโมเดล AlexNet เพื่อแก้ปัญหาการจำแนกรูปภาพ โดยใช้การ์ดจอ GTX 580 (3GB) จำนวนสองตัวเชื่อมต่อแบบ SLI แม้การ์ดเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นเกม แต่ความสามารถด้านการประมวลผลแบบขนานกลับเหมาะสมกับการฝึก Neural Network อย่างยิ่ง 📊 ผลลัพธ์ที่พลิกวงการ AlexNet มีโครงสร้าง 8 ชั้นและพารามิเตอร์กว่า 60 ล้านตัว เมื่อถูกฝึกบน GTX 580s ผลลัพธ์สามารถเอาชนะอัลกอริทึมการจำแนกรูปภาพที่ดีที่สุดในยุคนั้นได้มากกว่า 70% ทำให้โลกวิชาการและอุตสาหกรรมหันมาสนใจ Deep Learning อย่างจริงจัง 🚀 Nvidia เข้าสู่เส้นทาง AI Jensen Huang เปิดเผยว่า หลังจากเห็นศักยภาพของ Deep Learning บน GPU บริษัทจึงตัดสินใจลงทุนอย่างเต็มที่ในเทคโนโลยีนี้ ตั้งแต่การพัฒนา DGX systems ในปี 2016 ไปจนถึงสถาปัตยกรรม Volta ที่มี Tensor Cores และต่อยอดสู่ DLSS และการใช้งาน AI ในวงกว้าง 🌍 ผลกระทบต่อโลก AI หากไม่มีการทดลองบน GTX 580s ในปี 2012 Nvidia อาจยังคงเป็นบริษัทที่เน้นกราฟิกเกมเท่านั้น แต่การค้นพบนี้ได้เปลี่ยนทิศทางบริษัท และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ AI ที่เรากำลังเห็นในปัจจุบัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ทีมมหาวิทยาลัยโตรอนโตใช้ GTX 580s ใน SLI ➡️ เพื่อฝึกโมเดล AlexNet ในปี 2012 ✅ AlexNet เอาชนะอัลกอริทึมเดิมกว่า 70% ➡️ กลายเป็นจุดเปลี่ยนของวงการ Computer Vision ✅ Nvidia หันมาลงทุนใน AI อย่างเต็มที่ ➡️ พัฒนา DGX, Volta Tensor Cores และ DLSS ✅ GTX 580s กลายเป็นการ์ดจอแรกที่ใช้กับ AI ➡️ แม้ถูกออกแบบมาเพื่อเกม แต่กลับเป็นจุดเริ่มต้นของ Deep Learning ‼️ หากไม่มีการทดลองนี้ Nvidia อาจไม่เข้าสู่ AI ⛔ โลกอาจไม่มีการเติบโตของ AI ในรูปแบบที่เราเห็นทุกวันนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/two-gtx-580s-in-sli-are-responsible-for-the-ai-we-have-today-nvidias-huang-revealed-that-the-invention-of-deep-learning-began-with-two-flagship-fermi-gpus-in-2012
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหตุการณ์เครื่องบินเบาตกจากชิ้นส่วน 3D Printing

    เครื่องบินเบา Cozy Mk IV ในสหราชอาณาจักรตกลงระหว่างการลงจอด หลังชิ้นส่วน ท่ออากาศพลาสติกที่พิมพ์ด้วย 3D ละลายและยุบตัว ทำให้เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ นักบินรอดชีวิตด้วยบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เครื่องบินเสียหายทั้งหมด

    รายงานจาก Air Accidents Investigation Branch (AAIB) ระบุว่าเครื่องบินเบา Cozy Mk IV ประสบปัญหาเครื่องยนต์ดับขณะเข้าใกล้สนามบิน Gloucestershire เนื่องจากท่ออากาศพลาสติกที่พิมพ์ด้วย 3D “ละลายและยุบตัว” ปิดกั้นการไหลของอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ ทำให้สูญเสียกำลังและตกลงก่อนถึงรันเวย์

    ปัญหาการออกแบบและวัสดุ
    นักบินได้ซื้อชิ้นส่วนนี้จากงานแสดงเครื่องบินในสหรัฐฯ โดยผู้ขายอ้างว่าใช้วัสดุ CF-ABS (Carbon Fiber Acrylonitrile Butadiene Styrene) ที่ทนความร้อนได้ถึง 105°C แต่การทดสอบพบว่าชิ้นส่วนจริงล้มเหลวที่อุณหภูมิ 52.8–54°C ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่ผู้ผลิตเครื่องบินกำหนดไว้ (84°C) และยังขาดการเสริมด้วยท่ออลูมิเนียมที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง

    การอนุมัติที่ไม่สมบูรณ์
    แม้นักบินจะยื่นขออนุมัติการดัดแปลงเครื่องบินกับ Light Aircraft Association (LAA) แต่ไม่ได้แจ้งว่ามีการใช้ชิ้นส่วน 3D Printing นี้ ทำให้การตรวจสอบไม่ครอบคลุม และนำไปสู่ความเสี่ยงที่ไม่ได้รับการประเมินอย่างถูกต้อง

    บทเรียนด้านความปลอดภัยการบิน
    กรณีนี้สะท้อนว่าแม้ 3D Printing จะถูกใช้ในอุตสาหกรรมการบินอย่างแพร่หลาย แต่ต้องผ่านกระบวนการรับรองที่เข้มงวด การละเลยมาตรฐานหรือการใช้ชิ้นส่วนที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ อาจนำไปสู่เหตุการณ์อันตรายที่คล้าย “Swiss Cheese Model” ซึ่งความผิดพลาดหลายชั้นซ้อนทับกันจนเกิดอุบัติเหตุ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เหตุการณ์ Cozy Mk IV ตกจากท่ออากาศ 3D Printing
    ชิ้นส่วนละลายและยุบตัว ทำให้เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ

    วัสดุ CF-ABS ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
    ล้มเหลวที่ 52.8–54°C ต่ำกว่าที่กำหนด 84°C

    การออกแบบขาดท่ออลูมิเนียมเสริม
    ทำให้ชิ้นส่วนอ่อนแอต่อความร้อนและแรงดัน

    การอนุมัติการดัดแปลงไม่ครอบคลุม
    นักบินไม่ได้แจ้งการใช้ชิ้นส่วน 3D Printing

    ความเสี่ยงจากการใช้ชิ้นส่วนที่ไม่ได้รับรอง
    อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงแม้เป็นการบินทดสอบ

    การละเลยมาตรฐานความปลอดภัยการบิน
    แสดงให้เห็นว่าความผิดพลาดเล็ก ๆ หลายชั้นสามารถนำไปสู่เหตุการณ์ใหญ่

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printed-part-failure-causes-light-aircraft-crash-after-plastic-air-intake-melts-during-flight-pilot-escapes-with-minor-injuries
    ✈️ เหตุการณ์เครื่องบินเบาตกจากชิ้นส่วน 3D Printing เครื่องบินเบา Cozy Mk IV ในสหราชอาณาจักรตกลงระหว่างการลงจอด หลังชิ้นส่วน ท่ออากาศพลาสติกที่พิมพ์ด้วย 3D ละลายและยุบตัว ทำให้เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ นักบินรอดชีวิตด้วยบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เครื่องบินเสียหายทั้งหมด รายงานจาก Air Accidents Investigation Branch (AAIB) ระบุว่าเครื่องบินเบา Cozy Mk IV ประสบปัญหาเครื่องยนต์ดับขณะเข้าใกล้สนามบิน Gloucestershire เนื่องจากท่ออากาศพลาสติกที่พิมพ์ด้วย 3D “ละลายและยุบตัว” ปิดกั้นการไหลของอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ ทำให้สูญเสียกำลังและตกลงก่อนถึงรันเวย์ 🔧 ปัญหาการออกแบบและวัสดุ นักบินได้ซื้อชิ้นส่วนนี้จากงานแสดงเครื่องบินในสหรัฐฯ โดยผู้ขายอ้างว่าใช้วัสดุ CF-ABS (Carbon Fiber Acrylonitrile Butadiene Styrene) ที่ทนความร้อนได้ถึง 105°C แต่การทดสอบพบว่าชิ้นส่วนจริงล้มเหลวที่อุณหภูมิ 52.8–54°C ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานที่ผู้ผลิตเครื่องบินกำหนดไว้ (84°C) และยังขาดการเสริมด้วยท่ออลูมิเนียมที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง 🛠️ การอนุมัติที่ไม่สมบูรณ์ แม้นักบินจะยื่นขออนุมัติการดัดแปลงเครื่องบินกับ Light Aircraft Association (LAA) แต่ไม่ได้แจ้งว่ามีการใช้ชิ้นส่วน 3D Printing นี้ ทำให้การตรวจสอบไม่ครอบคลุม และนำไปสู่ความเสี่ยงที่ไม่ได้รับการประเมินอย่างถูกต้อง 🌍 บทเรียนด้านความปลอดภัยการบิน กรณีนี้สะท้อนว่าแม้ 3D Printing จะถูกใช้ในอุตสาหกรรมการบินอย่างแพร่หลาย แต่ต้องผ่านกระบวนการรับรองที่เข้มงวด การละเลยมาตรฐานหรือการใช้ชิ้นส่วนที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ อาจนำไปสู่เหตุการณ์อันตรายที่คล้าย “Swiss Cheese Model” ซึ่งความผิดพลาดหลายชั้นซ้อนทับกันจนเกิดอุบัติเหตุ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เหตุการณ์ Cozy Mk IV ตกจากท่ออากาศ 3D Printing ➡️ ชิ้นส่วนละลายและยุบตัว ทำให้เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ ✅ วัสดุ CF-ABS ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ➡️ ล้มเหลวที่ 52.8–54°C ต่ำกว่าที่กำหนด 84°C ✅ การออกแบบขาดท่ออลูมิเนียมเสริม ➡️ ทำให้ชิ้นส่วนอ่อนแอต่อความร้อนและแรงดัน ✅ การอนุมัติการดัดแปลงไม่ครอบคลุม ➡️ นักบินไม่ได้แจ้งการใช้ชิ้นส่วน 3D Printing ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้ชิ้นส่วนที่ไม่ได้รับรอง ⛔ อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงแม้เป็นการบินทดสอบ ‼️ การละเลยมาตรฐานความปลอดภัยการบิน ⛔ แสดงให้เห็นว่าความผิดพลาดเล็ก ๆ หลายชั้นสามารถนำไปสู่เหตุการณ์ใหญ่ https://www.tomshardware.com/3d-printing/3d-printed-part-failure-causes-light-aircraft-crash-after-plastic-air-intake-melts-during-flight-pilot-escapes-with-minor-injuries
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro
    เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review

    การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3
    ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง
    https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus

    เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli
    นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี
    https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it

    Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX
    เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division

    Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง
    บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way

    AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI
    สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space

    หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac
    Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it

    Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt
    เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it

    Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา
    ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you

    Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง
    หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026
    https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why

    การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware
    หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure

    Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026
    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026

    DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง
    อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player

    Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์
    Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers

    Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI
    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous

    EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring

    ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT
    เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย
    https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors

    แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล
    นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code

    Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง
    Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้
    https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in

    CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม”
    Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem

    ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI
    บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง”
    https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race

    ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt

    ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน
    หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว
    CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร
    หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🪑 เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review 💿 การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3 ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus 📱 เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี 🔗 https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it 💻 Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division 🌐 Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way 🚀 AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space 🤖 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it 🖥️ Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it 💼 Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you 🤖 Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why ⚠️ การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure 📡 Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026 🎶 DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player 📺 Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers 🤔 Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous 🛡️ EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring 📡 ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors 💻 แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code 📱 Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in 🤖 CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม” Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem 🚀 ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง” 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race 🎙️ ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt 📱 ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🛡️ หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 🤖 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️ EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️ ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰 Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 490 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    React2Shell: ช่องโหว่ร้ายแรงถูกโจมตีทันที
    มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน React ที่ชื่อว่า React2Shell (CVE-2025-55182) ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 ช่องโหว่นี้เกิดจากการทำงานของ React Server Components ที่สามารถถูกใช้เพื่อรันโค้ดจากระยะไกลโดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน เพียงแค่ระบบรองรับฟีเจอร์นี้ก็เสี่ยงทันที หลังจากถูกเปิดเผยเพียงไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับจีน เช่น Earth Lamia และ Jackpot Panda ก็เริ่มโจมตีทันที โดยใช้วิธีการยิงคำสั่งจำนวนมาก แม้หลายตัวอย่างโค้ดที่เผยแพร่จะไม่ทำงานจริง แต่พวกเขายังคงใช้เพื่อหวังเจอเป้าหมายที่อ่อนแอ การโจมตีบางครั้งถึงขั้นมีการดีบักแบบ manual บนเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย ทำให้เห็นชัดว่ามีการพยายามเจาะระบบอย่างจริงจัง
    https://securityonline.info/react2shell-storm-china-nexus-groups-weaponize-critical-react-flaw-hours-after-disclosure

    ช่องโหว่ PDF Trap ใน Apache Tika
    อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือการค้นพบช่องโหว่ใน Apache Tika Core ที่ชื่อว่า PDF Trap (CVE-2025-66516) ซึ่งก็ได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 เช่นกัน ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ไฟล์ PDF ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจงเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที เนื่องจาก Tika ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลเอกสาร ทำให้ความเสี่ยงนี้กระทบวงกว้างมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้ Tika ในการจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล
    https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core

    มัลแวร์ขุดคริปโตแบบลับ ๆ ผ่าน USB
    มีรายงานการพบมัลแวร์ใหม่ที่ใช้เทคนิคซ่อนตัวอย่างแนบเนียน โดยอาศัยไฟล์ USB LNK และ DLL side-loading เพื่อแพร่กระจายและติดตั้งตัวเอง จุดเด่นคือมันสามารถทำงานแบบ “Smart Mining” คือเลือกเวลาที่เหมาะสมในการขุดคริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ทำให้ผู้ใช้แทบไม่รู้ว่าระบบถูกใช้ไปในการขุดเงินดิจิทัล
    https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion

    Apache HTTP Server อุดช่องโหว่ SSRF
    Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SSRF (CVE-2025-59775) ที่สามารถทำให้ผู้โจมตีดึงข้อมูล NTLM Hashes จาก Windows และยังมีการแก้ไขช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการ bypass suexec อีกด้วย การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ Apache ในการให้บริการเว็บ เพราะหากไม่อัปเดตทันที อาจเสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบและขโมยข้อมูลสำคัญ
    https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass

    รัสเซียบล็อก FaceTime แบบเข้ารหัส
    รัฐบาลรัสเซียได้ดำเนินการบล็อกการใช้งาน FaceTime ที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในระดับเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้ในประเทศไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ การบล็อกครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามควบคุมการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยในการติดต่อสื่อสาร
    https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime

    ระบบป้องกันการโทรหลอกลวงบน Android
    มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ช่วยป้องกันการโทรหลอกลวง โดยจะ หยุดสายโทรออกชั่วคราว 30 วินาที หากผู้ใช้กำลังใช้งานแอปการเงิน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถูกหลอกให้โอนเงินหรือทำธุรกรรมที่ไม่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่อ่อนไหว ถือเป็นการเพิ่มชั้นความปลอดภัยที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางสังคมวิศวกรรม (social engineering)
    https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use

    AI ถูกฝึกให้ “สารภาพ” ความผิดพลาด
    OpenAI กำลังทดลองฝึกโมเดล AI ให้สามารถ ยอมรับและสารภาพความผิดพลาดหรือการหลอนข้อมูล (hallucinations) ได้เอง แนวคิดนี้คือการสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยให้ AI สามารถบอกผู้ใช้ว่า “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” หรือ “ผมอาจเข้าใจผิด” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อใช้ AI ในงานสำคัญ
    https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations

    Webinar ของ Criminal IP: Beyond CVEs
    Criminal IP เตรียมจัด Webinar ในหัวข้อ “Beyond CVEs – From Visibility to Action with ASM” โดยเน้นการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มากกว่าแค่การรู้จักช่องโหว่ (CVE) แต่ไปถึงการลงมือแก้ไขและจัดการเชิงรุก Webinar นี้จะช่วยให้องค์กรเข้าใจการใช้ Attack Surface Management (ASM) เพื่อสร้างความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น
    https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm

    Sprocket Security ได้รับการยอมรับซ้ำอีกครั้ง
    บริษัท Sprocket Security ได้รับการจัดอันดับซ้ำในดัชนี G2’s Winter 2025 Relationship Index สำหรับบริการทดสอบเจาะระบบ (penetration testing) การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของบริการที่ลูกค้าไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing
    📌🔐🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣🔐📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🛡️ React2Shell: ช่องโหว่ร้ายแรงถูกโจมตีทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน React ที่ชื่อว่า React2Shell (CVE-2025-55182) ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 ช่องโหว่นี้เกิดจากการทำงานของ React Server Components ที่สามารถถูกใช้เพื่อรันโค้ดจากระยะไกลโดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน เพียงแค่ระบบรองรับฟีเจอร์นี้ก็เสี่ยงทันที หลังจากถูกเปิดเผยเพียงไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับจีน เช่น Earth Lamia และ Jackpot Panda ก็เริ่มโจมตีทันที โดยใช้วิธีการยิงคำสั่งจำนวนมาก แม้หลายตัวอย่างโค้ดที่เผยแพร่จะไม่ทำงานจริง แต่พวกเขายังคงใช้เพื่อหวังเจอเป้าหมายที่อ่อนแอ การโจมตีบางครั้งถึงขั้นมีการดีบักแบบ manual บนเซิร์ฟเวอร์เป้าหมาย ทำให้เห็นชัดว่ามีการพยายามเจาะระบบอย่างจริงจัง 🔗 https://securityonline.info/react2shell-storm-china-nexus-groups-weaponize-critical-react-flaw-hours-after-disclosure 📄 ช่องโหว่ PDF Trap ใน Apache Tika อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือการค้นพบช่องโหว่ใน Apache Tika Core ที่ชื่อว่า PDF Trap (CVE-2025-66516) ซึ่งก็ได้คะแนน CVSS เต็ม 10.0 เช่นกัน ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ไฟล์ PDF ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจงเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที เนื่องจาก Tika ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลเอกสาร ทำให้ความเสี่ยงนี้กระทบวงกว้างมาก โดยเฉพาะองค์กรที่ใช้ Tika ในการจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล 🔗 https://securityonline.info/the-pdf-trap-critical-vulnerability-cve-2025-66516-cvss-10-0-hits-apache-tika-core 💻 มัลแวร์ขุดคริปโตแบบลับ ๆ ผ่าน USB มีรายงานการพบมัลแวร์ใหม่ที่ใช้เทคนิคซ่อนตัวอย่างแนบเนียน โดยอาศัยไฟล์ USB LNK และ DLL side-loading เพื่อแพร่กระจายและติดตั้งตัวเอง จุดเด่นคือมันสามารถทำงานแบบ “Smart Mining” คือเลือกเวลาที่เหมาะสมในการขุดคริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ทำให้ผู้ใช้แทบไม่รู้ว่าระบบถูกใช้ไปในการขุดเงินดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/stealth-cryptominer-uses-usb-lnk-and-dll-side-loading-to-deploy-smart-mining-evasion 🌐 Apache HTTP Server อุดช่องโหว่ SSRF Apache HTTP Server รุ่น 2.4.66 ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ SSRF (CVE-2025-59775) ที่สามารถทำให้ผู้โจมตีดึงข้อมูล NTLM Hashes จาก Windows และยังมีการแก้ไขช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการ bypass suexec อีกด้วย การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ดูแลระบบที่ใช้ Apache ในการให้บริการเว็บ เพราะหากไม่อัปเดตทันที อาจเสี่ยงต่อการถูกเจาะระบบและขโมยข้อมูลสำคัญ 🔗 https://securityonline.info/apache-http-server-2-4-66-fixes-ssrf-flaw-cve-2025-59775-exposing-ntlm-hashes-on-windows-and-suexec-bypass 🚫 รัสเซียบล็อก FaceTime แบบเข้ารหัส รัฐบาลรัสเซียได้ดำเนินการบล็อกการใช้งาน FaceTime ที่มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในระดับเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้ในประเทศไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ การบล็อกครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามควบคุมการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัยในการติดต่อสื่อสาร 🔗 https://securityonline.info/russia-imposes-network-level-blockade-on-apples-end-to-end-encrypted-facetime 📱 ระบบป้องกันการโทรหลอกลวงบน Android มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Android ที่ช่วยป้องกันการโทรหลอกลวง โดยจะ หยุดสายโทรออกชั่วคราว 30 วินาที หากผู้ใช้กำลังใช้งานแอปการเงิน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ถูกหลอกให้โอนเงินหรือทำธุรกรรมที่ไม่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่อ่อนไหว ถือเป็นการเพิ่มชั้นความปลอดภัยที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางสังคมวิศวกรรม (social engineering) 🔗 https://securityonline.info/new-android-call-scam-protection-pauses-calls-for-30-seconds-during-financial-app-use 🤖 AI ถูกฝึกให้ “สารภาพ” ความผิดพลาด OpenAI กำลังทดลองฝึกโมเดล AI ให้สามารถ ยอมรับและสารภาพความผิดพลาดหรือการหลอนข้อมูล (hallucinations) ได้เอง แนวคิดนี้คือการสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยให้ AI สามารถบอกผู้ใช้ว่า “ข้อมูลนี้อาจไม่ถูกต้อง” หรือ “ผมอาจเข้าใจผิด” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อใช้ AI ในงานสำคัญ 🔗 https://securityonline.info/honesty-is-the-best-policy-openai-trains-ai-models-to-confess-errors-and-hallucinations 🎤 Webinar ของ Criminal IP: Beyond CVEs Criminal IP เตรียมจัด Webinar ในหัวข้อ “Beyond CVEs – From Visibility to Action with ASM” โดยเน้นการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่มากกว่าแค่การรู้จักช่องโหว่ (CVE) แต่ไปถึงการลงมือแก้ไขและจัดการเชิงรุก Webinar นี้จะช่วยให้องค์กรเข้าใจการใช้ Attack Surface Management (ASM) เพื่อสร้างความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm 🏆 Sprocket Security ได้รับการยอมรับซ้ำอีกครั้ง บริษัท Sprocket Security ได้รับการจัดอันดับซ้ำในดัชนี G2’s Winter 2025 Relationship Index สำหรับบริการทดสอบเจาะระบบ (penetration testing) การได้รับการยอมรับซ้ำนี้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของบริการที่ลูกค้าไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/sprocket-security-earns-repeat-recognition-in-g2s-winter-2025-relationship-index-for-penetration-testing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • Lisa Su ปฏิเสธกระแส “AI Bubble”

    ในการปรากฏตัวที่งาน WIRED’s Big Interview Conference ที่ซานฟรานซิสโก Lisa Su กล่าวอย่างชัดเจนว่า “AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น” และความกังวลเรื่องฟองสบู่เป็นการมองที่ “เกินจริง” เธอย้ำว่า AMD ต้องเตรียมพร้อมในการจัดหาชิปสำหรับอนาคต เพราะทุกการพัฒนาโมเดลใหม่จะยิ่งเพิ่มความต้องการด้านประสิทธิภาพ

    กลยุทธ์ของ AMD
    AMD กำลังเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI โดยเฉพาะการจัดส่ง MI308 GPUs ไปยังจีนภายใต้กรอบควบคุมการส่งออกใหม่ และการร่วมมือกับ OpenAI ในการติดตั้ง GPU ขนาดใหญ่ถึง 6 กิกะวัตต์ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ข้อตกลงนี้ยังรวมถึงสิทธิในการซื้อหุ้น AMD กว่า 160 ล้านหุ้น ที่ราคาหนึ่งเซนต์ต่อหุ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจระยะยาวในการส่งมอบโครงสร้างพื้นฐาน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    Lisa Su มองว่าความท้าทายของ AMD ไม่ใช่การแข่งกับคู่แข่งรายใดรายหนึ่ง แต่คือการเร่งพัฒนา roadmap ให้ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ hyperscalers และผู้พัฒนาโมเดล AI ขนาดใหญ่ เธอย้ำว่า ทุกเจเนอเรชันของโมเดล AI จะยกระดับความคาดหวังด้านประสิทธิภาพ และนั่นทำให้การลงทุนต่อเนื่องเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

    ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
    แม้ AMD จะมั่นใจในอนาคต แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดจีนที่มีข้อจำกัดด้านการส่งออก รวมถึงแรงกดดันจาก hyperscalers ที่เริ่มพัฒนาชิปเอง หาก AMD ไม่สามารถส่งมอบได้ตามกำหนด อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและนักลงทุน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Lisa Su ปฏิเสธกระแส AI Bubble
    ย้ำว่า AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและความต้องการจะเติบโตต่อเนื่อง

    AMD ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI
    ร่วมมือกับ OpenAI ติดตั้ง GPU ขนาด 6 กิกะวัตต์ และส่ง MI308 ไปจีน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    ความท้าทายคือการเร่ง roadmap ให้ทันกับความต้องการ hyperscalers

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    ความเสี่ยงจากข้อจำกัดการส่งออกไปจีน
    แรงกดดันจาก hyperscalers ที่พัฒนาชิปเอง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/lisa-su-rejects-talk-of-an-ai-bubble-at-wired-event
    📰 Lisa Su ปฏิเสธกระแส “AI Bubble” ในการปรากฏตัวที่งาน WIRED’s Big Interview Conference ที่ซานฟรานซิสโก Lisa Su กล่าวอย่างชัดเจนว่า “AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น” และความกังวลเรื่องฟองสบู่เป็นการมองที่ “เกินจริง” เธอย้ำว่า AMD ต้องเตรียมพร้อมในการจัดหาชิปสำหรับอนาคต เพราะทุกการพัฒนาโมเดลใหม่จะยิ่งเพิ่มความต้องการด้านประสิทธิภาพ 🔧 กลยุทธ์ของ AMD AMD กำลังเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI โดยเฉพาะการจัดส่ง MI308 GPUs ไปยังจีนภายใต้กรอบควบคุมการส่งออกใหม่ และการร่วมมือกับ OpenAI ในการติดตั้ง GPU ขนาดใหญ่ถึง 6 กิกะวัตต์ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ข้อตกลงนี้ยังรวมถึงสิทธิในการซื้อหุ้น AMD กว่า 160 ล้านหุ้น ที่ราคาหนึ่งเซนต์ต่อหุ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจระยะยาวในการส่งมอบโครงสร้างพื้นฐาน 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม Lisa Su มองว่าความท้าทายของ AMD ไม่ใช่การแข่งกับคู่แข่งรายใดรายหนึ่ง แต่คือการเร่งพัฒนา roadmap ให้ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ hyperscalers และผู้พัฒนาโมเดล AI ขนาดใหญ่ เธอย้ำว่า ทุกเจเนอเรชันของโมเดล AI จะยกระดับความคาดหวังด้านประสิทธิภาพ และนั่นทำให้การลงทุนต่อเนื่องเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ⚠️ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง แม้ AMD จะมั่นใจในอนาคต แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดจีนที่มีข้อจำกัดด้านการส่งออก รวมถึงแรงกดดันจาก hyperscalers ที่เริ่มพัฒนาชิปเอง หาก AMD ไม่สามารถส่งมอบได้ตามกำหนด อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและนักลงทุน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Lisa Su ปฏิเสธกระแส AI Bubble ➡️ ย้ำว่า AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและความต้องการจะเติบโตต่อเนื่อง ✅ AMD ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ➡️ ร่วมมือกับ OpenAI ติดตั้ง GPU ขนาด 6 กิกะวัตต์ และส่ง MI308 ไปจีน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ ความท้าทายคือการเร่ง roadmap ให้ทันกับความต้องการ hyperscalers ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ ความเสี่ยงจากข้อจำกัดการส่งออกไปจีน ⛔ แรงกดดันจาก hyperscalers ที่พัฒนาชิปเอง https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/lisa-su-rejects-talk-of-an-ai-bubble-at-wired-event
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD CEO Lisa Su 'emphatically' rejects talk of an AI bubble — says claims are 'somewhat overstated'
    AMD CEO says long-term demand for compute will justify today’s rapid data-center buildout.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • Deep Blue จุดเริ่มต้นของ AI ในเกมหมากรุก

    ครบรอบ 30 ปีการเปิดตัว Deep Blue ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นหมากรุก และสามารถเอาชนะ Garry Kasparov แชมป์โลกในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์และ AI

    IBM เปิดตัวต้นแบบ Deep Blue ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1995 โดยใช้เวิร์กสเตชัน RS/6000 พร้อม 14 โปรเซสเซอร์สำหรับค้นหาตำแหน่งหมากรุก สามารถวิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที แม้จะยังไม่สามารถเอาชนะโปรแกรมหมากรุกชั้นนำในยุคนั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ “พลังประมวลผลมหาศาล” เพื่อแข่งขันกับมนุษย์

    การเผชิญหน้ากับ Kasparov
    ปี 1996 Deep Blue พบกับ Kasparov เป็นครั้งแรก และสามารถชนะเกมเปิดได้ แต่สุดท้าย Kasparov เอาชนะไปด้วยคะแนน 4-2 อย่างไรก็ตาม IBM ไม่ยอมแพ้ และในปี 1997 ได้ปรับปรุงระบบใหม่ ใช้ 30 เวิร์กสเตชัน PowerPC ควบคุมชิปหมากรุก 16 ตัวต่อเครื่อง สามารถวิเคราะห์ได้ถึง 200 ล้านตำแหน่งต่อวินาที และในที่สุดก็เอาชนะ Kasparov ด้วยคะแนน 3.5-2.5

    ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี
    ชัยชนะของ Deep Blue ไม่เพียงแต่เป็นการพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์สามารถเอาชนะมนุษย์ในเกมที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการมอง AI ว่าเป็น “คู่แข่งทางความคิด” ของมนุษย์ IBM ใช้ชัยชนะนี้สร้างภาพลักษณ์ใหม่จากบริษัทที่ถูกมองว่า “ล้าหลัง” ให้กลับมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา AI ในหลายสาขา

    มุมมองจากปัจจุบัน
    แม้ Deep Blue จะใช้วิธี brute force ที่แตกต่างจาก AI ยุคใหม่ซึ่งเน้นการเรียนรู้เชิงสถิติ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการที่เครื่องจักรสามารถท้าทายความคิดมนุษย์ได้ และเป็นรากฐานให้เกิดการพัฒนา AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    IBM เปิดตัว Deep Blue ปี 1995
    วิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที

    การแข่งกับ Kasparov ปี 1996 และ 1997
    ปีแรกแพ้ 4-2 แต่ปีถัดมาชนะ 3.5-2.5

    ผลกระทบต่อ IBM และวงการ AI
    สร้างภาพลักษณ์ใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้การพัฒนา AI

    คำเตือนจากบทเรียน Deep Blue
    วิธี brute force ไม่ใช่แนวทางเดียวของ AI
    ความสำเร็จในเกมไม่ได้หมายถึงการเข้าใจเชิงลึกแบบมนุษย์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ibm-unveiled-its-deep-blue-chess-supercomputer-prototype-30-years-ago-today-two-years-later-in-its-second-attempt-it-defeated-grandmaster-garry-kasparov
    ♟️ Deep Blue จุดเริ่มต้นของ AI ในเกมหมากรุก ครบรอบ 30 ปีการเปิดตัว Deep Blue ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเล่นหมากรุก และสามารถเอาชนะ Garry Kasparov แชมป์โลกในปี 1997 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์และ AI IBM เปิดตัวต้นแบบ Deep Blue ครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1995 โดยใช้เวิร์กสเตชัน RS/6000 พร้อม 14 โปรเซสเซอร์สำหรับค้นหาตำแหน่งหมากรุก สามารถวิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที แม้จะยังไม่สามารถเอาชนะโปรแกรมหมากรุกชั้นนำในยุคนั้น แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการใช้ “พลังประมวลผลมหาศาล” เพื่อแข่งขันกับมนุษย์ 🏆 การเผชิญหน้ากับ Kasparov ปี 1996 Deep Blue พบกับ Kasparov เป็นครั้งแรก และสามารถชนะเกมเปิดได้ แต่สุดท้าย Kasparov เอาชนะไปด้วยคะแนน 4-2 อย่างไรก็ตาม IBM ไม่ยอมแพ้ และในปี 1997 ได้ปรับปรุงระบบใหม่ ใช้ 30 เวิร์กสเตชัน PowerPC ควบคุมชิปหมากรุก 16 ตัวต่อเครื่อง สามารถวิเคราะห์ได้ถึง 200 ล้านตำแหน่งต่อวินาที และในที่สุดก็เอาชนะ Kasparov ด้วยคะแนน 3.5-2.5 🌍 ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี ชัยชนะของ Deep Blue ไม่เพียงแต่เป็นการพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์สามารถเอาชนะมนุษย์ในเกมที่ซับซ้อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการมอง AI ว่าเป็น “คู่แข่งทางความคิด” ของมนุษย์ IBM ใช้ชัยชนะนี้สร้างภาพลักษณ์ใหม่จากบริษัทที่ถูกมองว่า “ล้าหลัง” ให้กลับมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนา AI ในหลายสาขา ⚠️ มุมมองจากปัจจุบัน แม้ Deep Blue จะใช้วิธี brute force ที่แตกต่างจาก AI ยุคใหม่ซึ่งเน้นการเรียนรู้เชิงสถิติ แต่เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการที่เครื่องจักรสามารถท้าทายความคิดมนุษย์ได้ และเป็นรากฐานให้เกิดการพัฒนา AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในปัจจุบัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ IBM เปิดตัว Deep Blue ปี 1995 ➡️ วิเคราะห์ได้ 3-5 ล้านตำแหน่งต่อวินาที ✅ การแข่งกับ Kasparov ปี 1996 และ 1997 ➡️ ปีแรกแพ้ 4-2 แต่ปีถัดมาชนะ 3.5-2.5 ✅ ผลกระทบต่อ IBM และวงการ AI ➡️ สร้างภาพลักษณ์ใหม่และเป็นแรงบันดาลใจให้การพัฒนา AI ‼️ คำเตือนจากบทเรียน Deep Blue ⛔ วิธี brute force ไม่ใช่แนวทางเดียวของ AI ⛔ ความสำเร็จในเกมไม่ได้หมายถึงการเข้าใจเชิงลึกแบบมนุษย์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ibm-unveiled-its-deep-blue-chess-supercomputer-prototype-30-years-ago-today-two-years-later-in-its-second-attempt-it-defeated-grandmaster-garry-kasparov
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: SAFE Chips Act จำกัดการส่งออกชิป AI ไปจีน

    ร่างกฎหมาย SAFE Chips Act (Secure and Feasible Exports of Chips Act of 2025) ถูกเสนอโดยกลุ่มวุฒิสมาชิกทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต มีเป้าหมายเพื่อ ล็อกกฎควบคุมการส่งออกชิป AI และ HPC ที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยออกไว้แล้วให้กลายเป็นกฎหมายถาวร หากผ่าน จะทำให้บริษัทอย่าง Nvidia และ AMD ไม่สามารถขายชิปสถาปัตยกรรมใหม่ เช่น Blackwell หรือ MI355X ให้กับจีนได้ในช่วง 30 เดือนข้างหน้า

    รายละเอียดทางเทคนิคของข้อจำกัด
    ชิปที่ถูกจัดว่าเป็น “ขั้นสูง” จะถูกควบคุมตามเกณฑ์ ECCN 3A090/4A090
    เกณฑ์ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ เช่น TPP ≥ 4,800, แบนด์วิดท์ DRAM ≥ 4,100 GB/s, และแบนด์วิดท์รวม DRAM+Interconnect ≥ 5,000 GB/s
    Nvidia และ AMD จึงสามารถขายได้เพียง H20 และ MI308 ที่ถูกออกแบบให้ต่ำกว่าเกณฑ์ดังกล่าว

    ผลกระทบต่อการแข่งขัน
    แม้ Nvidia และ AMD จะยังสามารถขายรุ่นลดสเปกให้จีน แต่คู่แข่งในประเทศ เช่น Huawei Ascend 910C และ Ascend 950 กำลังพัฒนาได้เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า ทำให้จีนอาจลดการพึ่งพาชิปจากสหรัฐฯ และเร่งสร้างระบบนิเวศของตัวเอง ขณะที่ Nvidia เตือนว่าการห้ามขายชิปขั้นสูงอาจทำให้บริษัทสูญเสียตลาดและเปิดโอกาสให้จีนครองความเป็นผู้นำในอนาคต

    ความเสี่ยงและข้อกังวล
    ร่างกฎหมายนี้ยังต้องผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรส แต่หากบังคับใช้จริง อาจกระทบต่อรายได้ของบริษัทสหรัฐฯ และการลงทุนด้าน R&D ขณะเดียวกันก็อาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเร็วขึ้น ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลกในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SAFE Chips Act เสนอจำกัดการส่งออกชิป AI ขั้นสูงไปจีน
    อนุญาตให้ขายเฉพาะ Nvidia H20 และ AMD MI308 จนถึงปี 2028

    ข้อจำกัดทางเทคนิคตาม ECCN 3A090/4A090
    ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ TPP, DRAM และ Interconnect bandwidth

    ผลกระทบต่อการแข่งขัน
    จีนเร่งพัฒนา Huawei Ascend ที่แรงกว่า H20 และ MI308

    คำเตือนและข้อกังวล
    Nvidia อาจสูญเสียตลาดและรายได้มหาศาล
    การห้ามขายอาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีเร็วขึ้นและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/senators-lobby-for-safe-chips-act-which-would-curb-leading-edge-ai-chip-exports-to-china-proposed-bill-would-restrict-amd-and-nvidia-to-h20-mi308-class-accelerator-sales-until-2028
    🏛️ ข่าวใหญ่: SAFE Chips Act จำกัดการส่งออกชิป AI ไปจีน ร่างกฎหมาย SAFE Chips Act (Secure and Feasible Exports of Chips Act of 2025) ถูกเสนอโดยกลุ่มวุฒิสมาชิกทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครต มีเป้าหมายเพื่อ ล็อกกฎควบคุมการส่งออกชิป AI และ HPC ที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยออกไว้แล้วให้กลายเป็นกฎหมายถาวร หากผ่าน จะทำให้บริษัทอย่าง Nvidia และ AMD ไม่สามารถขายชิปสถาปัตยกรรมใหม่ เช่น Blackwell หรือ MI355X ให้กับจีนได้ในช่วง 30 เดือนข้างหน้า 🔧 รายละเอียดทางเทคนิคของข้อจำกัด 💠 ชิปที่ถูกจัดว่าเป็น “ขั้นสูง” จะถูกควบคุมตามเกณฑ์ ECCN 3A090/4A090 💠 เกณฑ์ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ เช่น TPP ≥ 4,800, แบนด์วิดท์ DRAM ≥ 4,100 GB/s, และแบนด์วิดท์รวม DRAM+Interconnect ≥ 5,000 GB/s 💠 Nvidia และ AMD จึงสามารถขายได้เพียง H20 และ MI308 ที่ถูกออกแบบให้ต่ำกว่าเกณฑ์ดังกล่าว 🌍 ผลกระทบต่อการแข่งขัน แม้ Nvidia และ AMD จะยังสามารถขายรุ่นลดสเปกให้จีน แต่คู่แข่งในประเทศ เช่น Huawei Ascend 910C และ Ascend 950 กำลังพัฒนาได้เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า ทำให้จีนอาจลดการพึ่งพาชิปจากสหรัฐฯ และเร่งสร้างระบบนิเวศของตัวเอง ขณะที่ Nvidia เตือนว่าการห้ามขายชิปขั้นสูงอาจทำให้บริษัทสูญเสียตลาดและเปิดโอกาสให้จีนครองความเป็นผู้นำในอนาคต ⚠️ ความเสี่ยงและข้อกังวล ร่างกฎหมายนี้ยังต้องผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรส แต่หากบังคับใช้จริง อาจกระทบต่อรายได้ของบริษัทสหรัฐฯ และการลงทุนด้าน R&D ขณะเดียวกันก็อาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเร็วขึ้น ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลกในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SAFE Chips Act เสนอจำกัดการส่งออกชิป AI ขั้นสูงไปจีน ➡️ อนุญาตให้ขายเฉพาะ Nvidia H20 และ AMD MI308 จนถึงปี 2028 ✅ ข้อจำกัดทางเทคนิคตาม ECCN 3A090/4A090 ➡️ ครอบคลุมค่าประสิทธิภาพ TPP, DRAM และ Interconnect bandwidth ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขัน ➡️ จีนเร่งพัฒนา Huawei Ascend ที่แรงกว่า H20 และ MI308 ‼️ คำเตือนและข้อกังวล ⛔ Nvidia อาจสูญเสียตลาดและรายได้มหาศาล ⛔ การห้ามขายอาจผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีเร็วขึ้นและลดการพึ่งพาสหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/senators-lobby-for-safe-chips-act-which-would-curb-leading-edge-ai-chip-exports-to-china-proposed-bill-would-restrict-amd-and-nvidia-to-h20-mi308-class-accelerator-sales-until-2028
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • Logitech วิจารณ์กระแสอุปกรณ์ AI

    Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg เนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปีการดำรงตำแหน่ง เธอชี้ว่า อุปกรณ์ AI-first ที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา เช่น Humane AI Pin และ Rabbit R1 ไม่สามารถสร้างตลาดที่ชัดเจนได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านความเร็ว ฟีเจอร์ และราคาที่ต้องพึ่งพาการสมัครสมาชิก ทำให้ผู้ใช้ตั้งคำถามว่า “จำเป็นจริงหรือไม่”

    กลยุทธ์ของ Logitech
    แทนที่จะสร้างอุปกรณ์ใหม่รอบ AI Logitech เลือกที่จะ ฝังฟีเจอร์ AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์เดิม เช่น กล้องเว็บแคมที่มีระบบจัดเฟรมอัตโนมัติและกรองเสียงรบกวน หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีช็อตคัตเชื่อมต่อกับ ChatGPT และ Microsoft Copilot กลยุทธ์นี้สะท้อนถึงแนวคิดว่า AI ควรเสริมการทำงานในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่สร้างอุปกรณ์ใหม่ที่ผู้ใช้ยังไม่เห็นคุณค่า

    มุมมองต่ออุตสาหกรรม
    Faber ระบุว่า สมาร์ทโฟนและพีซี กำลังพัฒนาโมเดล AI บนเครื่องที่ทรงพลังขึ้นเรื่อย ๆ และมีการเชื่อมต่อกับผู้ช่วยบนคลาวด์อยู่แล้ว ทำให้การสร้างอุปกรณ์ AI แยกออกมาไม่ใช่สิ่งจำเป็น ขณะเดียวกัน Logitech ยังคงรักษาเสถียรภาพด้านซัพพลายเชน โดยกระจายการผลิตไปกว่า 5 ประเทศ และฟื้นยอดขายกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19

    ความท้าทายของตลาด AI-first gadgets
    แม้จะมีการลงทุนจากบริษัทใหญ่ เช่น HP ที่ซื้อกิจการ Humane แต่กระแสตอบรับยังไม่ดีนัก หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ผู้ช่วยอัจฉริยะควรอยู่ในอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่แล้ว มากกว่าการสร้างฮาร์ดแวร์ใหม่ที่มีต้นทุนสูงและเสี่ยงต่อการล้มเหลว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ซีอีโอ Logitech วิจารณ์อุปกรณ์ AI-first
    มองว่าแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง

    กลยุทธ์ Logitech เน้นฝัง AI ในผลิตภัณฑ์เดิม
    เช่น เว็บแคมอัจฉริยะ และเมาส์ MX Master 4

    สมาร์ทโฟนและพีซีมีศักยภาพเพียงพอ
    ไม่จำเป็นต้องสร้างอุปกรณ์ AI แยกออกมา

    คำเตือนต่อผู้ผลิต AI gadgets
    ตลาดยังไม่พิสูจน์ว่ามีความต้องการจริง
    ต้นทุนสูงและเสี่ยงต่อการล้มเหลวทางธุรกิจ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/logitech-ceo-says-ai-gadget-makers-are-chasing-problems-that-dont-exist
    📰 Logitech วิจารณ์กระแสอุปกรณ์ AI Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg เนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปีการดำรงตำแหน่ง เธอชี้ว่า อุปกรณ์ AI-first ที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา เช่น Humane AI Pin และ Rabbit R1 ไม่สามารถสร้างตลาดที่ชัดเจนได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านความเร็ว ฟีเจอร์ และราคาที่ต้องพึ่งพาการสมัครสมาชิก ทำให้ผู้ใช้ตั้งคำถามว่า “จำเป็นจริงหรือไม่” 🔧 กลยุทธ์ของ Logitech แทนที่จะสร้างอุปกรณ์ใหม่รอบ AI Logitech เลือกที่จะ ฝังฟีเจอร์ AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์เดิม เช่น กล้องเว็บแคมที่มีระบบจัดเฟรมอัตโนมัติและกรองเสียงรบกวน หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีช็อตคัตเชื่อมต่อกับ ChatGPT และ Microsoft Copilot กลยุทธ์นี้สะท้อนถึงแนวคิดว่า AI ควรเสริมการทำงานในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่สร้างอุปกรณ์ใหม่ที่ผู้ใช้ยังไม่เห็นคุณค่า 🌍 มุมมองต่ออุตสาหกรรม Faber ระบุว่า สมาร์ทโฟนและพีซี กำลังพัฒนาโมเดล AI บนเครื่องที่ทรงพลังขึ้นเรื่อย ๆ และมีการเชื่อมต่อกับผู้ช่วยบนคลาวด์อยู่แล้ว ทำให้การสร้างอุปกรณ์ AI แยกออกมาไม่ใช่สิ่งจำเป็น ขณะเดียวกัน Logitech ยังคงรักษาเสถียรภาพด้านซัพพลายเชน โดยกระจายการผลิตไปกว่า 5 ประเทศ และฟื้นยอดขายกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 ⚠️ ความท้าทายของตลาด AI-first gadgets แม้จะมีการลงทุนจากบริษัทใหญ่ เช่น HP ที่ซื้อกิจการ Humane แต่กระแสตอบรับยังไม่ดีนัก หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ผู้ช่วยอัจฉริยะควรอยู่ในอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่แล้ว มากกว่าการสร้างฮาร์ดแวร์ใหม่ที่มีต้นทุนสูงและเสี่ยงต่อการล้มเหลว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ซีอีโอ Logitech วิจารณ์อุปกรณ์ AI-first ➡️ มองว่าแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง ✅ กลยุทธ์ Logitech เน้นฝัง AI ในผลิตภัณฑ์เดิม ➡️ เช่น เว็บแคมอัจฉริยะ และเมาส์ MX Master 4 ✅ สมาร์ทโฟนและพีซีมีศักยภาพเพียงพอ ➡️ ไม่จำเป็นต้องสร้างอุปกรณ์ AI แยกออกมา ‼️ คำเตือนต่อผู้ผลิต AI gadgets ⛔ ตลาดยังไม่พิสูจน์ว่ามีความต้องการจริง ⛔ ต้นทุนสูงและเสี่ยงต่อการล้มเหลวทางธุรกิจ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/logitech-ceo-says-ai-gadget-makers-are-chasing-problems-that-dont-exist
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AI gadget makers are chasing problems that don't exist, Logitech CEO says — also details supply chain and pricing strategy
    Hanneke Faber argues that dedicated AI devices have yet to justify themselves as Logitech focuses on practical integrations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: Microsoft ลดเป้าหมายยอดขาย AI Agents

    Microsoft เคยประกาศว่า “ยุคของ AI Agents” ได้เริ่มต้นแล้ว โดยนำเสนอเครื่องมือที่สามารถทำงานหลายขั้นตอนอัตโนมัติ เช่น สร้างรายงานลูกค้า หรือจัดทำแดชบอร์ดจากข้อมูลการขาย แต่รายงานล่าสุดเผยว่า ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า หลายหน่วยงาน Azure ในสหรัฐฯ ไม่สามารถทำยอดเพิ่มขึ้นตามที่ตั้งไว้ ส่งผลให้บริษัทต้องปรับลดเป้าหมายการเติบโตลงจากเดิม 50% เหลือเพียง 25%

    ปัญหาที่ลูกค้าองค์กรยังไม่มั่นใจ
    แม้ Microsoft จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Word, Excel และ PowerPoint รวมถึงเครื่องมือสร้าง Agent ผ่าน Azure AI Foundry และ Copilot Studio แต่ลูกค้าองค์กรจำนวนมากยังไม่พร้อมจ่ายในราคาสูงเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้ ปัญหาหลักคือ ความไม่เสถียรและความผิดพลาดของ AI Agents ที่ยังมีแนวโน้มสร้างข้อมูลผิดพลาด (confabulation) และอาจนำไปสู่ความเสียหายทางธุรกิจ

    การแข่งขันและความท้าทาย
    Microsoft ยังเผชิญกับความท้าทายด้านแบรนด์ เนื่องจากหลายองค์กรเลือกใช้ ChatGPT ของ OpenAI แทน Copilot โดยมองว่าใช้งานง่ายและเป็นที่นิยมมากกว่า ตัวอย่างเช่น บริษัท Amgen ที่ซื้อ Copilot ให้พนักงานกว่า 20,000 คน แต่พนักงานกลับเลือกใช้ ChatGPT ในงานส่วนใหญ่ ทำให้ Copilot ถูกใช้เพียงในงานที่ผูกกับระบบ Microsoft เช่น Outlook และ Teams

    ความเสี่ยงและอนาคตของ AI Agents
    แม้แนวคิด Agentic AI จะถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญสู่ Artificial General Intelligence (AGI) แต่ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดด้านความ “เปราะบาง” หากเจอปัญหานอกเหนือจากข้อมูลที่เคยฝึกมา AI Agents อาจตีความผิดและสร้างความเสียหายได้ Microsoft ยังคงลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI แต่รายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากบริษัท AI อื่น ๆ ที่เช่า Cloud มากกว่าลูกค้าองค์กรที่นำไปใช้จริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Microsoft ลดเป้าหมายยอดขาย AI Agents ลงครึ่งหนึ่ง
    จาก 50% เหลือ 25% หลังยอดขายไม่ถึงเป้า

    ลูกค้าองค์กรยังไม่มั่นใจในความเสถียรของ AI Agents
    ปัญหาการสร้างข้อมูลผิดพลาด (confabulation) ทำให้เสี่ยงต่อธุรกิจ

    การแข่งขันกับ ChatGPT ของ OpenAI
    หลายองค์กรเลือกใช้ ChatGPT มากกว่า Copilot

    คำเตือนต่อการใช้งาน AI Agents
    ระบบยัง “เปราะบาง” หากเจอปัญหานอกเหนือจากข้อมูลที่เคยฝึกมา
    อาจสร้างความเสียหายร้ายแรงหากนำไปใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง

    https://arstechnica.com/ai/2025/12/microsoft-slashes-ai-sales-growth-targets-as-customers-resist-unproven-agents/
    💼 ข่าวใหญ่: Microsoft ลดเป้าหมายยอดขาย AI Agents Microsoft เคยประกาศว่า “ยุคของ AI Agents” ได้เริ่มต้นแล้ว โดยนำเสนอเครื่องมือที่สามารถทำงานหลายขั้นตอนอัตโนมัติ เช่น สร้างรายงานลูกค้า หรือจัดทำแดชบอร์ดจากข้อมูลการขาย แต่รายงานล่าสุดเผยว่า ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า หลายหน่วยงาน Azure ในสหรัฐฯ ไม่สามารถทำยอดเพิ่มขึ้นตามที่ตั้งไว้ ส่งผลให้บริษัทต้องปรับลดเป้าหมายการเติบโตลงจากเดิม 50% เหลือเพียง 25% 📊 ปัญหาที่ลูกค้าองค์กรยังไม่มั่นใจ แม้ Microsoft จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Word, Excel และ PowerPoint รวมถึงเครื่องมือสร้าง Agent ผ่าน Azure AI Foundry และ Copilot Studio แต่ลูกค้าองค์กรจำนวนมากยังไม่พร้อมจ่ายในราคาสูงเพื่อใช้เทคโนโลยีนี้ ปัญหาหลักคือ ความไม่เสถียรและความผิดพลาดของ AI Agents ที่ยังมีแนวโน้มสร้างข้อมูลผิดพลาด (confabulation) และอาจนำไปสู่ความเสียหายทางธุรกิจ 🌐 การแข่งขันและความท้าทาย Microsoft ยังเผชิญกับความท้าทายด้านแบรนด์ เนื่องจากหลายองค์กรเลือกใช้ ChatGPT ของ OpenAI แทน Copilot โดยมองว่าใช้งานง่ายและเป็นที่นิยมมากกว่า ตัวอย่างเช่น บริษัท Amgen ที่ซื้อ Copilot ให้พนักงานกว่า 20,000 คน แต่พนักงานกลับเลือกใช้ ChatGPT ในงานส่วนใหญ่ ทำให้ Copilot ถูกใช้เพียงในงานที่ผูกกับระบบ Microsoft เช่น Outlook และ Teams ⚠️ ความเสี่ยงและอนาคตของ AI Agents แม้แนวคิด Agentic AI จะถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญสู่ Artificial General Intelligence (AGI) แต่ปัจจุบันยังมีข้อจำกัดด้านความ “เปราะบาง” หากเจอปัญหานอกเหนือจากข้อมูลที่เคยฝึกมา AI Agents อาจตีความผิดและสร้างความเสียหายได้ Microsoft ยังคงลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI แต่รายได้ส่วนใหญ่ยังมาจากบริษัท AI อื่น ๆ ที่เช่า Cloud มากกว่าลูกค้าองค์กรที่นำไปใช้จริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Microsoft ลดเป้าหมายยอดขาย AI Agents ลงครึ่งหนึ่ง ➡️ จาก 50% เหลือ 25% หลังยอดขายไม่ถึงเป้า ✅ ลูกค้าองค์กรยังไม่มั่นใจในความเสถียรของ AI Agents ➡️ ปัญหาการสร้างข้อมูลผิดพลาด (confabulation) ทำให้เสี่ยงต่อธุรกิจ ✅ การแข่งขันกับ ChatGPT ของ OpenAI ➡️ หลายองค์กรเลือกใช้ ChatGPT มากกว่า Copilot ‼️ คำเตือนต่อการใช้งาน AI Agents ⛔ ระบบยัง “เปราะบาง” หากเจอปัญหานอกเหนือจากข้อมูลที่เคยฝึกมา ⛔ อาจสร้างความเสียหายร้ายแรงหากนำไปใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง https://arstechnica.com/ai/2025/12/microsoft-slashes-ai-sales-growth-targets-as-customers-resist-unproven-agents/
    ARSTECHNICA.COM
    Microsoft drops AI sales targets in half after salespeople miss their quotas
    Report: Microsoft declared “the era of AI agents” in May, but enterprise customers aren’t buying.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts