• Song : Under the Crimson Leaves (เพลงเพื่อโปรโมทย์นิยายนะคะ)
    Lyrics Writer : Cirrus Halo
    Vocal&Instrument : SUNO
    Song : Under the Crimson Leaves (เพลงเพื่อโปรโมทย์นิยายนะคะ) Lyrics Writer : Cirrus Halo Vocal&Instrument : SUNO
    0 Comments 0 Shares 12 Views 0 0 Reviews
  • https://youtube.com/shorts/NlUt3gnLp3Y?si=0ADXRes-JcA7QRK1
    https://youtube.com/shorts/NlUt3gnLp3Y?si=0ADXRes-JcA7QRK1
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • GCC 16 รองรับ Zen 6 แล้ว

    ทีมพัฒนา GCC (GNU Compiler Collection) ได้เพิ่ม Zen 6 target เข้าไปในเวอร์ชัน 16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2026 การอัปเดตนี้ช่วยให้ซอฟต์แวร์สามารถปรับแต่งการคอมไพล์ให้เหมาะสมกับสถาปัตยกรรม Zen 6 ได้ทันทีที่ฮาร์ดแวร์ออกสู่ตลาด ถือเป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ Linux

    ความสำคัญของการรองรับล่วงหน้า
    การเพิ่ม target ใน GCC มีความสำคัญมาก เพราะ GCC เป็นหนึ่งในคอมไพเลอร์หลักของโลกโอเพ่นซอร์ส การรองรับ Zen 6 ล่วงหน้าช่วยให้ ecosystem ของ Linux และ HPC (High-Performance Computing) สามารถใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมใหม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว โดยเฉพาะ workloads ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI, cloud และ supercomputing

    บริบทของ Zen 6
    Zen 6 คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm) และอาจมาพร้อมกับการปรับปรุงด้าน cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญต่อจาก Zen 5 ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2024 การที่ GCC รองรับแล้วจึงเป็นสัญญาณว่า AMD กำลังเดินหน้าเข้าสู่การทดสอบและเตรียมการผลิตจริง

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    แม้ GCC จะรองรับแล้ว แต่ยังไม่มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับ instruction set หรือ optimization ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ Zen 6 การใช้งานจริงอาจต้องรอการปรับปรุงเพิ่มเติมเมื่อ AMD เปิดเผยข้อมูลเต็มรูปแบบ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การอัปเดต GCC 16
    เพิ่ม target สำหรับ AMD Zen 6
    เปิดทางให้ Linux และ HPC ใช้งานได้ทันทีเมื่อเปิดตัว

    ความสำคัญต่อ ecosystem
    GCC เป็นคอมไพเลอร์หลักของโอเพ่นซอร์ส
    รองรับล่วงหน้าช่วยให้ AI, cloud และ supercomputing ใช้งานได้เร็วขึ้น

    บริบทของ Zen 6
    คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm)
    ปรับปรุง cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่มีรายละเอียด instruction set เฉพาะของ Zen 6
    การปรับแต่ง optimization ต้องรอข้อมูลจาก AMD เพิ่มเติม

    https://wccftech.com/amd-zen-6-support-added-to-gcc-16-ahead-of-launch/
    🖥️ GCC 16 รองรับ Zen 6 แล้ว ทีมพัฒนา GCC (GNU Compiler Collection) ได้เพิ่ม Zen 6 target เข้าไปในเวอร์ชัน 16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2026 การอัปเดตนี้ช่วยให้ซอฟต์แวร์สามารถปรับแต่งการคอมไพล์ให้เหมาะสมกับสถาปัตยกรรม Zen 6 ได้ทันทีที่ฮาร์ดแวร์ออกสู่ตลาด ถือเป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ Linux ⚡ ความสำคัญของการรองรับล่วงหน้า การเพิ่ม target ใน GCC มีความสำคัญมาก เพราะ GCC เป็นหนึ่งในคอมไพเลอร์หลักของโลกโอเพ่นซอร์ส การรองรับ Zen 6 ล่วงหน้าช่วยให้ ecosystem ของ Linux และ HPC (High-Performance Computing) สามารถใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมใหม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว โดยเฉพาะ workloads ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI, cloud และ supercomputing 🌐 บริบทของ Zen 6 Zen 6 คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm) และอาจมาพร้อมกับการปรับปรุงด้าน cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญต่อจาก Zen 5 ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2024 การที่ GCC รองรับแล้วจึงเป็นสัญญาณว่า AMD กำลังเดินหน้าเข้าสู่การทดสอบและเตรียมการผลิตจริง ⚠️ ผลกระทบและข้อควรระวัง แม้ GCC จะรองรับแล้ว แต่ยังไม่มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับ instruction set หรือ optimization ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ Zen 6 การใช้งานจริงอาจต้องรอการปรับปรุงเพิ่มเติมเมื่อ AMD เปิดเผยข้อมูลเต็มรูปแบบ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การอัปเดต GCC 16 ➡️ เพิ่ม target สำหรับ AMD Zen 6 ➡️ เปิดทางให้ Linux และ HPC ใช้งานได้ทันทีเมื่อเปิดตัว ✅ ความสำคัญต่อ ecosystem ➡️ GCC เป็นคอมไพเลอร์หลักของโอเพ่นซอร์ส ➡️ รองรับล่วงหน้าช่วยให้ AI, cloud และ supercomputing ใช้งานได้เร็วขึ้น ✅ บริบทของ Zen 6 ➡️ คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm) ➡️ ปรับปรุง cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่มีรายละเอียด instruction set เฉพาะของ Zen 6 ⛔ การปรับแต่ง optimization ต้องรอข้อมูลจาก AMD เพิ่มเติม https://wccftech.com/amd-zen-6-support-added-to-gcc-16-ahead-of-launch/
    WCCFTECH.COM
    AMD Zen 6 Support Added To GCC 16 Ahead Of Launch
    AMD's upcoming Zen 6 architecture is now officially added in the GCC 16 open-source compiler, making a significant progress.
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • MS-PC Farm B860I Mini-ITX รุ่นแรกที่มี 4 DIMM

    Maxsun เปิดตัวเมนบอร์ด MS-PC Farm B860I ซึ่งเป็น Mini-ITX รุ่นแรกในตลาด consumer ที่มี 4 DIMM slots รองรับหน่วยความจำ DDR5 สูงสุดถึง 256GB พร้อมฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ เช่น IPMI remote management และ PCIe 5.0 MCIO expansion

    โดยปกติเมนบอร์ด Mini-ITX จะมีเพียง 2 DIMM slots ทำให้จำกัดความจุหน่วยความจำ แต่ Maxsun ได้สร้างความแตกต่างด้วย MS-PC Farm B860I ที่มีถึง 4 DIMM slots ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในตลาด consumer ที่พบในฟอร์มแฟกเตอร์นี้. สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งหน่วยความจำ DDR5 ได้สูงสุดถึง 256GB ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นไปได้เฉพาะในเมนบอร์ดขนาดใหญ่หรือรุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์

    ฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ในบอร์ด consumer
    นอกจากความจุหน่วยความจำที่มากขึ้นแล้ว บอร์ดนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ปกติพบในเซิร์ฟเวอร์ เช่น IPMI remote management ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบและควบคุมเมนบอร์ดจากระยะไกลได้ รวมถึง MCIO connection ที่รองรับการขยาย PCIe 5.0 สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลความเร็วสูง.

    การใช้งานและกลุ่มเป้าหมาย
    Maxsun เปิดตัวบอร์ดนี้ภายใต้ซีรีส์ “Farm” โดยเน้นตลาด internet cafes และ eSports ที่ต้องการเครื่องขนาดเล็กแต่ทรงพลัง การออกแบบระบบระบายความร้อนก็ถูกปรับปรุงเพื่อรองรับการทำงานหนักต่อเนื่อง เช่น การเล่นเกมหรือการประมวลผลที่ใช้หน่วยความจำสูง.

    จุดเด่นและข้อควรระวัง
    แม้จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Mini-ITX แต่การเพิ่ม DIMM slots อาจทำให้การจัดการพื้นที่ PCB ซับซ้อนขึ้น และผู้ใช้ต้องพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายของ DDR5 ความจุสูง รวมถึงความเข้ากันได้กับระบบที่ใช้งานอยู่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    คุณสมบัติหลักของ MS-PC Farm B860I
    Mini-ITX รุ่นแรกในตลาด consumer ที่มี 4 DIMM slots
    รองรับ DDR5 สูงสุด 256GB

    ฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์
    IPMI remote management สำหรับควบคุมจากระยะไกล
    MCIO connection รองรับ PCIe 5.0 expansion

    กลุ่มเป้าหมายและการใช้งาน
    เน้น internet cafes และ eSports
    ระบบระบายความร้อนปรับปรุงเพื่อรองรับ workload หนัก

    ข้อควรระวัง
    ค่าใช้จ่ายสูงสำหรับ DDR5 ความจุใหญ่
    ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับระบบที่ใช้งานอยู่

    https://wccftech.com/maxsun-debuts-ms-pc-farm-b860i/
    🖥️ MS-PC Farm B860I Mini-ITX รุ่นแรกที่มี 4 DIMM Maxsun เปิดตัวเมนบอร์ด MS-PC Farm B860I ซึ่งเป็น Mini-ITX รุ่นแรกในตลาด consumer ที่มี 4 DIMM slots รองรับหน่วยความจำ DDR5 สูงสุดถึง 256GB พร้อมฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ เช่น IPMI remote management และ PCIe 5.0 MCIO expansion โดยปกติเมนบอร์ด Mini-ITX จะมีเพียง 2 DIMM slots ทำให้จำกัดความจุหน่วยความจำ แต่ Maxsun ได้สร้างความแตกต่างด้วย MS-PC Farm B860I ที่มีถึง 4 DIMM slots ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในตลาด consumer ที่พบในฟอร์มแฟกเตอร์นี้. สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งหน่วยความจำ DDR5 ได้สูงสุดถึง 256GB ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นไปได้เฉพาะในเมนบอร์ดขนาดใหญ่หรือรุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ ⚡ ฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ในบอร์ด consumer นอกจากความจุหน่วยความจำที่มากขึ้นแล้ว บอร์ดนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ปกติพบในเซิร์ฟเวอร์ เช่น IPMI remote management ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบและควบคุมเมนบอร์ดจากระยะไกลได้ รวมถึง MCIO connection ที่รองรับการขยาย PCIe 5.0 สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลความเร็วสูง. 🌐 การใช้งานและกลุ่มเป้าหมาย Maxsun เปิดตัวบอร์ดนี้ภายใต้ซีรีส์ “Farm” โดยเน้นตลาด internet cafes และ eSports ที่ต้องการเครื่องขนาดเล็กแต่ทรงพลัง การออกแบบระบบระบายความร้อนก็ถูกปรับปรุงเพื่อรองรับการทำงานหนักต่อเนื่อง เช่น การเล่นเกมหรือการประมวลผลที่ใช้หน่วยความจำสูง. ⚠️ จุดเด่นและข้อควรระวัง แม้จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Mini-ITX แต่การเพิ่ม DIMM slots อาจทำให้การจัดการพื้นที่ PCB ซับซ้อนขึ้น และผู้ใช้ต้องพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายของ DDR5 ความจุสูง รวมถึงความเข้ากันได้กับระบบที่ใช้งานอยู่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ คุณสมบัติหลักของ MS-PC Farm B860I ➡️ Mini-ITX รุ่นแรกในตลาด consumer ที่มี 4 DIMM slots ➡️ รองรับ DDR5 สูงสุด 256GB ✅ ฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ ➡️ IPMI remote management สำหรับควบคุมจากระยะไกล ➡️ MCIO connection รองรับ PCIe 5.0 expansion ✅ กลุ่มเป้าหมายและการใช้งาน ➡️ เน้น internet cafes และ eSports ➡️ ระบบระบายความร้อนปรับปรุงเพื่อรองรับ workload หนัก ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ค่าใช้จ่ายสูงสำหรับ DDR5 ความจุใหญ่ ⛔ ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับระบบที่ใช้งานอยู่ https://wccftech.com/maxsun-debuts-ms-pc-farm-b860i/
    WCCFTECH.COM
    Maxsun Debuts MS-PC Farm B860I, A Rare Four DIMM Mini ITX Motherboard
    Motherboard maker Maxsun has launched a few new Intel motherboards including a model called MS-PC Farm B860I with 4 DIMMs.
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • หน่วยความจำ DDR5 รุ่นใหม่ที่ผ่านการรับรองจาก Intel

    SK hynix ประกาศว่าโมดูล DDR5 RDIMM ขนาด 256GB ที่ใช้ชิปหน่วยความจำ 32Gb บนกระบวนการผลิต 1b (5th Gen 10nm-class) ได้รับการรับรองจาก Intel Data Center Certified เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม จุดเด่นคือการรวมความจุสูงเข้ากับการใช้พลังงานต่ำและประสิทธิภาพสูง ซึ่งเหมาะกับเซิร์ฟเวอร์ AI และระบบ hyperscale cloud ที่ต้องการทั้งความเร็วและความคุ้มค่า

    ประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
    โมดูล DDR5 รุ่นใหม่นี้สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 18% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ 256GB รุ่นก่อนหน้า โดยเฉลี่ยแล้วจะช่วยลดการใช้พลังงานได้ 32.4W ต่อเครื่อง Xeon 6 แบบ single-CPU ซึ่งหากนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูลที่มีเครื่องนับหมื่นเครื่อง จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปี

    ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูลและ AI workloads
    AI servers ใช้หน่วยความจำจำนวนมหาศาลทั้ง HBM และ DDR5 SDRAM การลดพลังงานในระดับโมดูลจึงมีผลกระทบมหาศาลต่อการดำเนินงาน โดยเฉพาะ hyperscale data centers ที่ต้องการทั้ง throughput สูงและการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ การรับรองจาก Intel ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ให้บริการคลาวด์และองค์กรที่ต้องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    แม้จะมีการประหยัดพลังงานที่ชัดเจน แต่การใช้โมดูลความจุสูงเช่นนี้ยังมีต้นทุนที่สูง และอาจไม่เหมาะกับ workload ที่ไม่ได้ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่ นอกจากนี้ การเปลี่ยนไปใช้ DDR5 รุ่นใหม่ยังต้องพิจารณาความเข้ากันได้กับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การรับรองจาก Intel
    SK hynix 256GB DDR5 RDIMM ผ่าน Intel Data Center Certified
    ใช้ชิป 32Gb บนกระบวนการผลิต 1b

    ประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
    ลดการใช้พลังงานได้ 18% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
    ประหยัดได้ 32.4W ต่อเครื่อง Xeon 6

    ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูล
    ลดค่าใช้จ่ายมหาศาลใน hyperscale data centers
    เหมาะกับ AI workloads ที่ต้องการ throughput สูง

    ข้อควรระวัง
    ราคาสูง อาจไม่เหมาะกับ workload ที่ไม่ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่
    ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/intel-certified-256-gb-ddr5-stick-could-cut-xeon-memory-power-by-18-percent-saving-millions-of-dollars-a-32w-per-socket-reduction-could-save-millions-per-hyperscale-data-center
    🖥️ หน่วยความจำ DDR5 รุ่นใหม่ที่ผ่านการรับรองจาก Intel SK hynix ประกาศว่าโมดูล DDR5 RDIMM ขนาด 256GB ที่ใช้ชิปหน่วยความจำ 32Gb บนกระบวนการผลิต 1b (5th Gen 10nm-class) ได้รับการรับรองจาก Intel Data Center Certified เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม จุดเด่นคือการรวมความจุสูงเข้ากับการใช้พลังงานต่ำและประสิทธิภาพสูง ซึ่งเหมาะกับเซิร์ฟเวอร์ AI และระบบ hyperscale cloud ที่ต้องการทั้งความเร็วและความคุ้มค่า ⚡ ประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน โมดูล DDR5 รุ่นใหม่นี้สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 18% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ 256GB รุ่นก่อนหน้า โดยเฉลี่ยแล้วจะช่วยลดการใช้พลังงานได้ 32.4W ต่อเครื่อง Xeon 6 แบบ single-CPU ซึ่งหากนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูลที่มีเครื่องนับหมื่นเครื่อง จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปี 🌐 ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูลและ AI workloads AI servers ใช้หน่วยความจำจำนวนมหาศาลทั้ง HBM และ DDR5 SDRAM การลดพลังงานในระดับโมดูลจึงมีผลกระทบมหาศาลต่อการดำเนินงาน โดยเฉพาะ hyperscale data centers ที่ต้องการทั้ง throughput สูงและการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ การรับรองจาก Intel ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ให้บริการคลาวด์และองค์กรที่ต้องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ⚠️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด แม้จะมีการประหยัดพลังงานที่ชัดเจน แต่การใช้โมดูลความจุสูงเช่นนี้ยังมีต้นทุนที่สูง และอาจไม่เหมาะกับ workload ที่ไม่ได้ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่ นอกจากนี้ การเปลี่ยนไปใช้ DDR5 รุ่นใหม่ยังต้องพิจารณาความเข้ากันได้กับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การรับรองจาก Intel ➡️ SK hynix 256GB DDR5 RDIMM ผ่าน Intel Data Center Certified ➡️ ใช้ชิป 32Gb บนกระบวนการผลิต 1b ✅ ประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน ➡️ ลดการใช้พลังงานได้ 18% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ➡️ ประหยัดได้ 32.4W ต่อเครื่อง Xeon 6 ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูล ➡️ ลดค่าใช้จ่ายมหาศาลใน hyperscale data centers ➡️ เหมาะกับ AI workloads ที่ต้องการ throughput สูง ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ราคาสูง อาจไม่เหมาะกับ workload ที่ไม่ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่ ⛔ ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/intel-certified-256-gb-ddr5-stick-could-cut-xeon-memory-power-by-18-percent-saving-millions-of-dollars-a-32w-per-socket-reduction-could-save-millions-per-hyperscale-data-center
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • ช่องโหว่เมนบอร์ดเปิดทางโกงเกม

    Riot Games ตรวจพบว่ามีบั๊กในระบบ IOMMU (Input-Output Memory Management Unit) ของเมนบอร์ดจาก Asus, Gigabyte, MSI และ ASRock ที่ไม่ถูกเปิดใช้งานเต็มที่ตั้งแต่บูตเครื่อง แม้ BIOS จะแสดงว่ามีการเปิด Pre-Boot DMA Protection แต่จริง ๆ แล้วระบบยังไม่ถูกป้องกันเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้ DMA devices แทรกโค้ดเข้าไปใน RAM ได้โดยตรง และหลบเลี่ยงระบบ anti-cheat ของเกม Valorant

    วิธีการโกงที่ซับซ้อน
    DMA devices เป็นอุปกรณ์ที่เสียบเข้ากับ PCIe slot และสามารถเข้าถึงหน่วยความจำโดยตรงโดยไม่ผ่านระบบปฏิบัติการหรือซีพียู เทคนิคนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นทั่วไปใช้ แต่เป็นวิธีการของผู้เล่นระดับแข่งขันที่ต้องการความได้เปรียบใน eSports โดยเฉพาะเมื่อมีเงินรางวัลเข้ามาเกี่ยวข้อง การใช้ช่องโหว่นี้ทำให้สามารถแก้ไขข้อมูลเกมได้โดยไม่ถูกตรวจจับ

    การตอบสนองของ Riot และผู้ผลิต
    เมื่อพบช่องโหว่ Riot Games ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตเมนบอร์ดเพื่อออก BIOS update ปิดช่องโหว่ดังกล่าวทันที หากผู้เล่นไม่อัปเดต BIOS จะถูกบล็อกไม่ให้เข้าเกม Valorant โดย Riot แนะนำให้เปิดใช้งานฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น Secure Boot, VBS และ IOMMU ให้ทำงานอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการถูก exploit

    ผลกระทบและคำเตือน
    แม้การอัปเดต BIOS อาจไม่ใช่เรื่องที่ผู้ใช้ทั่วไปให้ความสำคัญ แต่ในกรณีนี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันการโกงและรักษาความยุติธรรมในเกม การละเลยอัปเดตอาจทำให้ผู้เล่นถูกบล็อกจากเกม และยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากมัลแวร์ที่ใช้ช่องโหว่เดียวกัน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ช่องโหว่ที่ค้นพบ
    IOMMU ไม่ถูกเปิดใช้งานเต็มที่ตั้งแต่บูตเครื่อง
    เปิดทางให้ DMA devices เข้าถึง RAM โดยตรง

    ผลกระทบต่อเกม Valorant
    ผู้เล่นสามารถโกงโดยไม่ถูกตรวจจับจาก anti-cheat
    Riot บังคับให้อัปเดต BIOS ก่อนเข้าเกม

    การแก้ไขจากผู้ผลิต
    Asus, Gigabyte, MSI และ ASRock ออก BIOS update
    Riot แนะนำเปิด Secure Boot, VBS และ IOMMU

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/critical-motherboard-flaw-allows-game-cheats-riot-games-blocks-valorant-players-that-dont-update-bios-security-patches-pushed-live-by-all-major-motherboard-vendors
    🎮 ช่องโหว่เมนบอร์ดเปิดทางโกงเกม Riot Games ตรวจพบว่ามีบั๊กในระบบ IOMMU (Input-Output Memory Management Unit) ของเมนบอร์ดจาก Asus, Gigabyte, MSI และ ASRock ที่ไม่ถูกเปิดใช้งานเต็มที่ตั้งแต่บูตเครื่อง แม้ BIOS จะแสดงว่ามีการเปิด Pre-Boot DMA Protection แต่จริง ๆ แล้วระบบยังไม่ถูกป้องกันเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้ DMA devices แทรกโค้ดเข้าไปใน RAM ได้โดยตรง และหลบเลี่ยงระบบ anti-cheat ของเกม Valorant ⚡ วิธีการโกงที่ซับซ้อน DMA devices เป็นอุปกรณ์ที่เสียบเข้ากับ PCIe slot และสามารถเข้าถึงหน่วยความจำโดยตรงโดยไม่ผ่านระบบปฏิบัติการหรือซีพียู เทคนิคนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นทั่วไปใช้ แต่เป็นวิธีการของผู้เล่นระดับแข่งขันที่ต้องการความได้เปรียบใน eSports โดยเฉพาะเมื่อมีเงินรางวัลเข้ามาเกี่ยวข้อง การใช้ช่องโหว่นี้ทำให้สามารถแก้ไขข้อมูลเกมได้โดยไม่ถูกตรวจจับ 🛡️ การตอบสนองของ Riot และผู้ผลิต เมื่อพบช่องโหว่ Riot Games ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตเมนบอร์ดเพื่อออก BIOS update ปิดช่องโหว่ดังกล่าวทันที หากผู้เล่นไม่อัปเดต BIOS จะถูกบล็อกไม่ให้เข้าเกม Valorant โดย Riot แนะนำให้เปิดใช้งานฟีเจอร์ความปลอดภัย เช่น Secure Boot, VBS และ IOMMU ให้ทำงานอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการถูก exploit ⚠️ ผลกระทบและคำเตือน แม้การอัปเดต BIOS อาจไม่ใช่เรื่องที่ผู้ใช้ทั่วไปให้ความสำคัญ แต่ในกรณีนี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันการโกงและรักษาความยุติธรรมในเกม การละเลยอัปเดตอาจทำให้ผู้เล่นถูกบล็อกจากเกม และยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากมัลแวร์ที่ใช้ช่องโหว่เดียวกัน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ช่องโหว่ที่ค้นพบ ➡️ IOMMU ไม่ถูกเปิดใช้งานเต็มที่ตั้งแต่บูตเครื่อง ➡️ เปิดทางให้ DMA devices เข้าถึง RAM โดยตรง ✅ ผลกระทบต่อเกม Valorant ➡️ ผู้เล่นสามารถโกงโดยไม่ถูกตรวจจับจาก anti-cheat ➡️ Riot บังคับให้อัปเดต BIOS ก่อนเข้าเกม ✅ การแก้ไขจากผู้ผลิต ➡️ Asus, Gigabyte, MSI และ ASRock ออก BIOS update ➡️ Riot แนะนำเปิด Secure Boot, VBS และ IOMMU https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/critical-motherboard-flaw-allows-game-cheats-riot-games-blocks-valorant-players-that-dont-update-bios-security-patches-pushed-live-by-all-major-motherboard-vendors
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • Kdenlive 25.12: Video Editor รุ่นใหม่ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม

    Kdenlive 25.12 เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม 2025 โดยทีม KDE Gear พร้อมการเปลี่ยนแปลงสำคัญใน ระบบ Docking ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าต่างและเครื่องมือได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลาก–วาง panels หรือการจัดเรียง workspace ให้เหมาะกับสไตล์การทำงานของแต่ละคน ฟีเจอร์นี้ถือเป็นการยกระดับ usability ที่ผู้ใช้มืออาชีพรอคอย

    Welcome Screen และ Layout แนวตั้ง
    อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่คือ Welcome Screen ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงโปรเจกต์ล่าสุด, เทมเพลต, และการตั้งค่าเริ่มต้นได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมี Vertical Layout ที่ออกแบบมาเพื่อการตัดต่อวิดีโอแนวตั้ง เช่น TikTok หรือ Instagram Reels โดยเฉพาะ ซึ่งสะท้อนถึงการปรับตัวของ Kdenlive เข้ากับยุคสื่อสังคมออนไลน์

    Safe Areas และการปรับปรุงระบบตัดต่อ
    Kdenlive 25.12 ยังเพิ่ม Safe Areas สำหรับวิดีโอ 9:16 เพื่อให้ผู้สร้างคอนเทนต์มั่นใจได้ว่าข้อความหรือองค์ประกอบสำคัญจะไม่ถูกตัดออกเมื่อเผยแพร่บนแพลตฟอร์มมือถือ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบ Guide/Marker และ Effects Panel เพื่อให้การจัดการ timeline และเอฟเฟกต์มีความชัดเจนและใช้งานง่ายขึ้น

    ความสำคัญต่อผู้ใช้และชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทีม KDE ในการทำให้ Kdenlive เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้มือใหม่และมืออาชีพ โดยเฉพาะผู้สร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มสมัยใหม่ การเพิ่มฟีเจอร์ที่รองรับวิดีโอแนวตั้งและ Safe Areas ถือเป็นการเชื่อมช่องว่างระหว่าง งานตัดต่อแบบดั้งเดิม และ การผลิตคอนเทนต์โซเชียลมีเดีย

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    ระบบ Docking ใหม่
    ปรับแต่ง panels และ workspace ได้ยืดหยุ่นมากขึ้น

    Welcome Screen
    เข้าถึงโปรเจกต์ล่าสุดและการตั้งค่าเริ่มต้นได้รวดเร็ว

    Vertical Layout สำหรับวิดีโอ 9:16
    รองรับการตัดต่อคอนเทนต์โซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram

    Safe Areas
    ป้องกันข้อความ/องค์ประกอบสำคัญไม่ให้ถูกตัดออกบนมือถือ

    ปรับปรุง Guide/Marker และ Effects Panel
    ทำให้ timeline และเอฟเฟกต์ใช้งานง่ายขึ้น

    คำเตือนต่อผู้ใช้ที่อัปเดตทันที
    ควรสำรองโปรเจกต์เดิมก่อน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลง layout อาจทำให้ workflow เดิมไม่เข้ากัน

    ความเสี่ยงด้านการใช้งานบนเครื่องสเปกต่ำ
    ฟีเจอร์ใหม่อาจทำให้การโหลดโปรเจกต์ใหญ่ใช้ทรัพยากรมากขึ้น

    https://9to5linux.com/kdenlive-25-12-video-editor-adds-new-docking-system-welcome-screen-and-more
    🎬 Kdenlive 25.12: Video Editor รุ่นใหม่ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม Kdenlive 25.12 เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม 2025 โดยทีม KDE Gear พร้อมการเปลี่ยนแปลงสำคัญใน ระบบ Docking ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าต่างและเครื่องมือได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลาก–วาง panels หรือการจัดเรียง workspace ให้เหมาะกับสไตล์การทำงานของแต่ละคน ฟีเจอร์นี้ถือเป็นการยกระดับ usability ที่ผู้ใช้มืออาชีพรอคอย 🖥️ Welcome Screen และ Layout แนวตั้ง อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่คือ Welcome Screen ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงโปรเจกต์ล่าสุด, เทมเพลต, และการตั้งค่าเริ่มต้นได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมี Vertical Layout ที่ออกแบบมาเพื่อการตัดต่อวิดีโอแนวตั้ง เช่น TikTok หรือ Instagram Reels โดยเฉพาะ ซึ่งสะท้อนถึงการปรับตัวของ Kdenlive เข้ากับยุคสื่อสังคมออนไลน์ 📐 Safe Areas และการปรับปรุงระบบตัดต่อ Kdenlive 25.12 ยังเพิ่ม Safe Areas สำหรับวิดีโอ 9:16 เพื่อให้ผู้สร้างคอนเทนต์มั่นใจได้ว่าข้อความหรือองค์ประกอบสำคัญจะไม่ถูกตัดออกเมื่อเผยแพร่บนแพลตฟอร์มมือถือ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบ Guide/Marker และ Effects Panel เพื่อให้การจัดการ timeline และเอฟเฟกต์มีความชัดเจนและใช้งานง่ายขึ้น 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้และชุมชนโอเพ่นซอร์ส การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทีม KDE ในการทำให้ Kdenlive เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้มือใหม่และมืออาชีพ โดยเฉพาะผู้สร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มสมัยใหม่ การเพิ่มฟีเจอร์ที่รองรับวิดีโอแนวตั้งและ Safe Areas ถือเป็นการเชื่อมช่องว่างระหว่าง งานตัดต่อแบบดั้งเดิม และ การผลิตคอนเทนต์โซเชียลมีเดีย 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ ระบบ Docking ใหม่ ➡️ ปรับแต่ง panels และ workspace ได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ✅ Welcome Screen ➡️ เข้าถึงโปรเจกต์ล่าสุดและการตั้งค่าเริ่มต้นได้รวดเร็ว ✅ Vertical Layout สำหรับวิดีโอ 9:16 ➡️ รองรับการตัดต่อคอนเทนต์โซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram ✅ Safe Areas ➡️ ป้องกันข้อความ/องค์ประกอบสำคัญไม่ให้ถูกตัดออกบนมือถือ ✅ ปรับปรุง Guide/Marker และ Effects Panel ➡️ ทำให้ timeline และเอฟเฟกต์ใช้งานง่ายขึ้น ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ที่อัปเดตทันที ⛔ ควรสำรองโปรเจกต์เดิมก่อน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลง layout อาจทำให้ workflow เดิมไม่เข้ากัน ‼️ ความเสี่ยงด้านการใช้งานบนเครื่องสเปกต่ำ ⛔ ฟีเจอร์ใหม่อาจทำให้การโหลดโปรเจกต์ใหญ่ใช้ทรัพยากรมากขึ้น https://9to5linux.com/kdenlive-25-12-video-editor-adds-new-docking-system-welcome-screen-and-more
    9TO5LINUX.COM
    Kdenlive 25.12 Video Editor Adds New Docking System, Welcome Screen, and More - 9to5Linux
    Kdenlive 25.12 open-source video editor is now available for download with a new and flexible docking system, a new Welcome Screen, and more.
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • OpenZFS 2.4: รองรับ Linux 6.18 LTS พร้อมฟีเจอร์ใหม่

    OpenZFS 2.4 ได้รับการปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยเป็นการอัปเดตใหญ่ที่เพิ่มการรองรับ Linux Kernel 6.18 LTS และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการจัดการระบบไฟล์ ZFS ซึ่งเป็นที่นิยมในงานเซิร์ฟเวอร์และระบบจัดเก็บข้อมูล

    ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ
    Uncached I/O: เพิ่มกลไก fallback สำหรับ direct I/O ที่ไม่จัด alignment โดยใช้ lightweight uncached I/O ช่วยให้การอ่าน–เขียนข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้นในบาง workload
    Quota Improvements: ปรับปรุงระบบ quota ให้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในระบบที่มีผู้ใช้หลายราย
    Fragmentation Algorithm ใหม่: ใช้อัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อลดการ fragmentation ของ vdev ทำให้การจัดเก็บข้อมูลมีความเสถียรมากขึ้น

    การแก้ไขและปรับปรุงเพิ่มเติม
    นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว OpenZFS 2.4 ยังแก้ไขบั๊กและปรับปรุงหลายจุด เช่น การทำงานร่วมกับระบบ RAIDZ, การจัดการ deduplication และการปรับปรุงประสิทธิภาพของ snapshot รวมถึงการรองรับการอัปเดตจากเวอร์ชันก่อนหน้าได้อย่างราบรื่น

    ความสำคัญต่อผู้ใช้และองค์กร
    การรองรับ Linux 6.18 LTS ทำให้ OpenZFS 2.4 เป็นตัวเลือกที่มั่นคงสำหรับองค์กรที่ต้องการระบบไฟล์ที่มีความเสถียรและปลอดภัยในระยะยาว ฟีเจอร์ใหม่อย่าง uncached I/O และ quota improvements ยังช่วยตอบโจทย์ workload ที่ซับซ้อน เช่น ระบบฐานข้อมูลและคลาวด์สตอเรจ

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รองรับ Linux Kernel 6.18 LTS
    ทำให้ OpenZFS ใช้งานได้กับระบบล่าสุดที่มีการสนับสนุนระยะยาว

    เพิ่มฟีเจอร์ Uncached I/O
    ช่วยให้ direct I/O ที่ไม่ align ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ปรับปรุงระบบ Quota และ Fragmentation Algorithm
    ลดปัญหา fragmentation และเพิ่มความแม่นยำในการจัดการ quota

    แก้ไขบั๊กและปรับปรุง RAIDZ, deduplication, snapshot
    เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพโดยรวมของระบบไฟล์

    คำเตือนต่อผู้ใช้ที่อัปเดตทันที
    ควรทดสอบบนระบบ staging ก่อนนำไปใช้จริงใน production

    ความเสี่ยงจากการ migration
    หากอัปเดตจากเวอร์ชันเก่าโดยไม่ตรวจสอบ compatibility อาจเกิดปัญหากับ workload เฉพาะทาง

    https://9to5linux.com/openzfs-2-4-released-with-linux-6-18-lts-support-quotas-uncached-io-and-more
    💾 OpenZFS 2.4: รองรับ Linux 6.18 LTS พร้อมฟีเจอร์ใหม่ OpenZFS 2.4 ได้รับการปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยเป็นการอัปเดตใหญ่ที่เพิ่มการรองรับ Linux Kernel 6.18 LTS และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการจัดการระบบไฟล์ ZFS ซึ่งเป็นที่นิยมในงานเซิร์ฟเวอร์และระบบจัดเก็บข้อมูล ⚙️ ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ 🎗️ Uncached I/O: เพิ่มกลไก fallback สำหรับ direct I/O ที่ไม่จัด alignment โดยใช้ lightweight uncached I/O ช่วยให้การอ่าน–เขียนข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้นในบาง workload 🎗️ Quota Improvements: ปรับปรุงระบบ quota ให้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในระบบที่มีผู้ใช้หลายราย 🎗️ Fragmentation Algorithm ใหม่: ใช้อัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อลดการ fragmentation ของ vdev ทำให้การจัดเก็บข้อมูลมีความเสถียรมากขึ้น 🛠️ การแก้ไขและปรับปรุงเพิ่มเติม นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว OpenZFS 2.4 ยังแก้ไขบั๊กและปรับปรุงหลายจุด เช่น การทำงานร่วมกับระบบ RAIDZ, การจัดการ deduplication และการปรับปรุงประสิทธิภาพของ snapshot รวมถึงการรองรับการอัปเดตจากเวอร์ชันก่อนหน้าได้อย่างราบรื่น 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้และองค์กร การรองรับ Linux 6.18 LTS ทำให้ OpenZFS 2.4 เป็นตัวเลือกที่มั่นคงสำหรับองค์กรที่ต้องการระบบไฟล์ที่มีความเสถียรและปลอดภัยในระยะยาว ฟีเจอร์ใหม่อย่าง uncached I/O และ quota improvements ยังช่วยตอบโจทย์ workload ที่ซับซ้อน เช่น ระบบฐานข้อมูลและคลาวด์สตอเรจ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รองรับ Linux Kernel 6.18 LTS ➡️ ทำให้ OpenZFS ใช้งานได้กับระบบล่าสุดที่มีการสนับสนุนระยะยาว ✅ เพิ่มฟีเจอร์ Uncached I/O ➡️ ช่วยให้ direct I/O ที่ไม่ align ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ปรับปรุงระบบ Quota และ Fragmentation Algorithm ➡️ ลดปัญหา fragmentation และเพิ่มความแม่นยำในการจัดการ quota ✅ แก้ไขบั๊กและปรับปรุง RAIDZ, deduplication, snapshot ➡️ เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพโดยรวมของระบบไฟล์ ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ที่อัปเดตทันที ⛔ ควรทดสอบบนระบบ staging ก่อนนำไปใช้จริงใน production ‼️ ความเสี่ยงจากการ migration ⛔ หากอัปเดตจากเวอร์ชันเก่าโดยไม่ตรวจสอบ compatibility อาจเกิดปัญหากับ workload เฉพาะทาง https://9to5linux.com/openzfs-2-4-released-with-linux-6-18-lts-support-quotas-uncached-io-and-more
    9TO5LINUX.COM
    OpenZFS 2.4 Released with Linux 6.18 LTS Support, Quotas, Uncached IO, and More - 9to5Linux
    OpenZFS 2.4 file system and volume manager is now available for download with support for Linux kernel 6.18 LTS and several new features.
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • PhotoPrism: ทางเลือกใหม่แทน Google Photos

    PhotoPrism เป็นแอปจัดการรูปภาพที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวในบ้าน (homelab) โดยใช้ Docker Compose จุดเด่นคือ การประมวลผลทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเครื่องของผู้ใช้ ทำให้รูปถ่ายไม่ถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลฝึกโมเดลธุรกิจของบริษัทอื่น ภาพถ่ายจึงยังคงเป็น “ความทรงจำของคุณ” ภายใต้การควบคุมของคุณเอง

    ขั้นตอนการติดตั้งและการตั้งค่า
    การติดตั้ง PhotoPrism ต้องมีพื้นฐานการใช้ Linux command line และ Docker โดยเริ่มจากการสร้างโฟลเดอร์โปรเจกต์ ดาวน์โหลดไฟล์ docker-compose.yml และแก้ไขค่าที่สำคัญ เช่น รหัสผ่าน admin, ตำแหน่งโฟลเดอร์ภาพต้นฉบับ, และ พอร์ตการเชื่อมต่อ หลังจากนั้นใช้คำสั่ง docker compose up -d เพื่อรันระบบใน background

    เมื่อระบบเริ่มทำงาน ผู้ใช้สามารถเข้าผ่านเว็บอินเทอร์เฟซที่ http://localhost:2342 และสั่งให้ PhotoPrism ทำการ index รูปภาพทั้งหมด เพื่อสร้าง metadata, thumbnails และวิเคราะห์ด้วย AI เช่น การจดจำใบหน้าและวัตถุ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหากมีคลังภาพขนาดใหญ่ แต่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งแรกเท่านั้น

    ความเป็นส่วนตัวและการดูแลระบบ
    PhotoPrism มีตัวเลือกการตั้งค่าหลากหลาย เช่น ปิดการจดจำใบหน้าเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือปรับคุณภาพ thumbnail เพื่อประหยัดพื้นที่ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า reverse proxy เช่น Nginx หรือ Caddy เพื่อให้เข้าถึงจากภายนอก LAN ได้อย่างปลอดภัย ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเรื่อง การสำรองข้อมูลและการอัปเดตระบบเอง ซึ่งถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการได้สิทธิ์ควบคุมข้อมูลอย่างเต็มที่

    การใช้งานบนมือถือและการขยายระบบ
    PhotoPrism รองรับการเข้าถึงผ่าน Progressive Web App (PWA) ที่สามารถติดตั้งเป็น shortcut บนมือถือ รวมถึงแอปเสริมอย่าง Gallery for PhotoPrism (Android) และ PhotoSync (Android/iOS) เพื่อซิงค์ภาพได้สะดวก ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นจากคลังภาพเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ขยายระบบ homelab ให้รองรับคลังภาพขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการ

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    PhotoPrism เป็นทางเลือกแทน Google Photos
    ทำงานแบบ self-hosted และเน้นความเป็นส่วนตัว

    ติดตั้งผ่าน Docker Compose
    ต้องแก้ไขค่าใน docker-compose.yml เช่นรหัสผ่านและโฟลเดอร์ภาพ

    ระบบ AI ช่วยจัดการภาพ
    มีการจดจำใบหน้าและวัตถุ แต่สามารถปิดได้เพื่อความเป็นส่วนตัว

    รองรับการใช้งานบนมือถือ
    ผ่าน PWA และแอปเสริมเช่น PhotoSync

    คำเตือนเรื่องการดูแลระบบเอง
    ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบการสำรองข้อมูลและอัปเดตระบบ

    ข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์
    หากเครื่องมี RAM หรือ CPU ต่ำ อาจทำให้การ index ใช้เวลานานมาก

    https://itsfoss.com/self-hosting-photoprism/
    🖼️ PhotoPrism: ทางเลือกใหม่แทน Google Photos PhotoPrism เป็นแอปจัดการรูปภาพที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวในบ้าน (homelab) โดยใช้ Docker Compose จุดเด่นคือ การประมวลผลทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเครื่องของผู้ใช้ ทำให้รูปถ่ายไม่ถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลฝึกโมเดลธุรกิจของบริษัทอื่น ภาพถ่ายจึงยังคงเป็น “ความทรงจำของคุณ” ภายใต้การควบคุมของคุณเอง ⚙️ ขั้นตอนการติดตั้งและการตั้งค่า การติดตั้ง PhotoPrism ต้องมีพื้นฐานการใช้ Linux command line และ Docker โดยเริ่มจากการสร้างโฟลเดอร์โปรเจกต์ ดาวน์โหลดไฟล์ docker-compose.yml และแก้ไขค่าที่สำคัญ เช่น รหัสผ่าน admin, ตำแหน่งโฟลเดอร์ภาพต้นฉบับ, และ พอร์ตการเชื่อมต่อ หลังจากนั้นใช้คำสั่ง docker compose up -d เพื่อรันระบบใน background เมื่อระบบเริ่มทำงาน ผู้ใช้สามารถเข้าผ่านเว็บอินเทอร์เฟซที่ http://localhost:2342 และสั่งให้ PhotoPrism ทำการ index รูปภาพทั้งหมด เพื่อสร้าง metadata, thumbnails และวิเคราะห์ด้วย AI เช่น การจดจำใบหน้าและวัตถุ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหากมีคลังภาพขนาดใหญ่ แต่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งแรกเท่านั้น 🔒 ความเป็นส่วนตัวและการดูแลระบบ PhotoPrism มีตัวเลือกการตั้งค่าหลากหลาย เช่น ปิดการจดจำใบหน้าเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือปรับคุณภาพ thumbnail เพื่อประหยัดพื้นที่ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า reverse proxy เช่น Nginx หรือ Caddy เพื่อให้เข้าถึงจากภายนอก LAN ได้อย่างปลอดภัย ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเรื่อง การสำรองข้อมูลและการอัปเดตระบบเอง ซึ่งถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการได้สิทธิ์ควบคุมข้อมูลอย่างเต็มที่ 📱 การใช้งานบนมือถือและการขยายระบบ PhotoPrism รองรับการเข้าถึงผ่าน Progressive Web App (PWA) ที่สามารถติดตั้งเป็น shortcut บนมือถือ รวมถึงแอปเสริมอย่าง Gallery for PhotoPrism (Android) และ PhotoSync (Android/iOS) เพื่อซิงค์ภาพได้สะดวก ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นจากคลังภาพเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ขยายระบบ homelab ให้รองรับคลังภาพขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ PhotoPrism เป็นทางเลือกแทน Google Photos ➡️ ทำงานแบบ self-hosted และเน้นความเป็นส่วนตัว ✅ ติดตั้งผ่าน Docker Compose ➡️ ต้องแก้ไขค่าใน docker-compose.yml เช่นรหัสผ่านและโฟลเดอร์ภาพ ✅ ระบบ AI ช่วยจัดการภาพ ➡️ มีการจดจำใบหน้าและวัตถุ แต่สามารถปิดได้เพื่อความเป็นส่วนตัว ✅ รองรับการใช้งานบนมือถือ ➡️ ผ่าน PWA และแอปเสริมเช่น PhotoSync ‼️ คำเตือนเรื่องการดูแลระบบเอง ⛔ ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบการสำรองข้อมูลและอัปเดตระบบ ‼️ ข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ⛔ หากเครื่องมี RAM หรือ CPU ต่ำ อาจทำให้การ index ใช้เวลานานมาก https://itsfoss.com/self-hosting-photoprism/
    ITSFOSS.COM
    What Google Photos? Self-Hosting Photo Storage with PhotoPrism Using Docker in My Homelab
    PhotoPrism offers one path toward that goal of data ownership. With PhotoPrism, your vacation photos don’t become training data for someone else’s business model. They remain what they actually are, your memories, under your control.
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • รูปปั้นกรีก–โรมัน: สีสันที่หายไปและการตีความใหม่

    งานศิลป์กรีกและโรมันที่เราคุ้นเคยในพิพิธภัณฑ์มักเป็นหินอ่อนสีขาวสะอาด แต่หลักฐานทางโบราณคดีชี้ชัดว่ารูปปั้นเหล่านี้เคยถูกทาสีอย่างสดใส (polychromy) เพียงแต่สีเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา เมื่อมีการทำ reconstruction เช่นในนิทรรศการ Gods in Color ของ Vinzenz Brinkmann ผลลัพธ์กลับทำให้ผู้ชมรู้สึกว่ารูปปั้นดู “น่าเกลียด” และผิดธรรมชาติ

    บทความชี้ว่าคำอธิบายที่นิยมคือ “รสนิยมต่างยุค” — เราในยุคปัจจุบันชอบความขาวสะอาด ขณะที่ชาวกรีก–โรมันชอบสีสด แต่ผู้เขียนโต้แย้งว่า หลักฐานจากภาพวาดและโมเสกโบราณกลับแสดงให้เห็นการใช้สีที่ละเอียดอ่อนและเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ฉูดฉาดเหมือน reconstruction ที่เราเห็นในปัจจุบัน

    ทฤษฎีใหม่: ปัญหาคือการทาสีที่ไม่ดี
    ผู้เขียนเสนอว่า เหตุผลที่ reconstruction ดูแย่ไม่ใช่เพราะรสนิยมต่างยุค แต่เพราะการทาสีใหม่ทำได้ “ไม่ดี” — ขาดความละเอียดอ่อนที่ศิลปินโบราณมี และถูกจำกัดด้วยหลักการอนุรักษ์ที่ไม่อนุญาตให้เติมสิ่งที่ไม่มีหลักฐานตรง ๆ ทำให้เหลือเพียงการทาสีตาม pigment ชั้นล่างที่พบ ซึ่งไม่สะท้อนงานจริงที่เสร็จสมบูรณ์

    ตัวอย่างจากศิลปะอียิปต์ เนปาล หรือยุโรปยุคกลาง–บาโรก แสดงให้เห็นว่ารูปปั้นทาสีสามารถดูงดงามและน่าขนลุกในเชิงพิธีกรรม แต่ไม่ถึงขั้น “น่าเกลียด” แบบ reconstruction ของกรีก–โรมันในปัจจุบัน

    มิติทางสังคมและการสื่อสาร
    บทความยังตั้งข้อสังเกตว่า ความสนใจมหาศาลที่เกิดขึ้นอาจมาจาก “ความน่าเกลียด” เองที่ดึงดูดผู้ชม และบางทีนักวิชาการอาจใช้สิ่งนี้เป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างการรับรู้ว่ารูปปั้นโบราณเคยถูกทาสีจริง ๆ อย่างไรก็ตาม การนำเสนอที่ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดว่า “นี่คือหน้าตาที่แท้จริง” อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อผู้เชี่ยวชาญในระยะยาว

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รูปปั้นกรีก–โรมันเคยถูกทาสีจริง
    หลักฐานจาก pigment และภาพวาดโบราณยืนยันการใช้ polychromy

    Reconstruction สมัยใหม่ดูน่าเกลียด
    ตัวอย่างเช่น Augustus of Prima Porta ที่ถูกทาสีใหม่

    ทฤษฎี “รสนิยมต่างยุค” ถูกตั้งคำถาม
    ภาพวาดและโมเสกโบราณแสดงการใช้สีที่ละเอียดอ่อน ไม่ฉูดฉาด

    ทฤษฎีใหม่: ปัญหาคือการทาสีที่ไม่ดี
    Reconstruction อิง pigment ชั้นล่าง ไม่ใช่งานเสร็จสมบูรณ์

    คำเตือนต่อการสื่อสารวิชาการ
    การนำเสนอ reconstruction แบบ garish อาจทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดและลดความเชื่อมั่นต่อผู้เชี่ยวชาญ

    https://worksinprogress.co/issue/were-classical-statues-painted-horribly/
    🎨 รูปปั้นกรีก–โรมัน: สีสันที่หายไปและการตีความใหม่ งานศิลป์กรีกและโรมันที่เราคุ้นเคยในพิพิธภัณฑ์มักเป็นหินอ่อนสีขาวสะอาด แต่หลักฐานทางโบราณคดีชี้ชัดว่ารูปปั้นเหล่านี้เคยถูกทาสีอย่างสดใส (polychromy) เพียงแต่สีเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา เมื่อมีการทำ reconstruction เช่นในนิทรรศการ Gods in Color ของ Vinzenz Brinkmann ผลลัพธ์กลับทำให้ผู้ชมรู้สึกว่ารูปปั้นดู “น่าเกลียด” และผิดธรรมชาติ บทความชี้ว่าคำอธิบายที่นิยมคือ “รสนิยมต่างยุค” — เราในยุคปัจจุบันชอบความขาวสะอาด ขณะที่ชาวกรีก–โรมันชอบสีสด แต่ผู้เขียนโต้แย้งว่า หลักฐานจากภาพวาดและโมเสกโบราณกลับแสดงให้เห็นการใช้สีที่ละเอียดอ่อนและเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ฉูดฉาดเหมือน reconstruction ที่เราเห็นในปัจจุบัน 🖌️ ทฤษฎีใหม่: ปัญหาคือการทาสีที่ไม่ดี ผู้เขียนเสนอว่า เหตุผลที่ reconstruction ดูแย่ไม่ใช่เพราะรสนิยมต่างยุค แต่เพราะการทาสีใหม่ทำได้ “ไม่ดี” — ขาดความละเอียดอ่อนที่ศิลปินโบราณมี และถูกจำกัดด้วยหลักการอนุรักษ์ที่ไม่อนุญาตให้เติมสิ่งที่ไม่มีหลักฐานตรง ๆ ทำให้เหลือเพียงการทาสีตาม pigment ชั้นล่างที่พบ ซึ่งไม่สะท้อนงานจริงที่เสร็จสมบูรณ์ ตัวอย่างจากศิลปะอียิปต์ เนปาล หรือยุโรปยุคกลาง–บาโรก แสดงให้เห็นว่ารูปปั้นทาสีสามารถดูงดงามและน่าขนลุกในเชิงพิธีกรรม แต่ไม่ถึงขั้น “น่าเกลียด” แบบ reconstruction ของกรีก–โรมันในปัจจุบัน 🤔 มิติทางสังคมและการสื่อสาร บทความยังตั้งข้อสังเกตว่า ความสนใจมหาศาลที่เกิดขึ้นอาจมาจาก “ความน่าเกลียด” เองที่ดึงดูดผู้ชม และบางทีนักวิชาการอาจใช้สิ่งนี้เป็นกลยุทธ์เพื่อสร้างการรับรู้ว่ารูปปั้นโบราณเคยถูกทาสีจริง ๆ อย่างไรก็ตาม การนำเสนอที่ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดว่า “นี่คือหน้าตาที่แท้จริง” อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อผู้เชี่ยวชาญในระยะยาว 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รูปปั้นกรีก–โรมันเคยถูกทาสีจริง ➡️ หลักฐานจาก pigment และภาพวาดโบราณยืนยันการใช้ polychromy ✅ Reconstruction สมัยใหม่ดูน่าเกลียด ➡️ ตัวอย่างเช่น Augustus of Prima Porta ที่ถูกทาสีใหม่ ✅ ทฤษฎี “รสนิยมต่างยุค” ถูกตั้งคำถาม ➡️ ภาพวาดและโมเสกโบราณแสดงการใช้สีที่ละเอียดอ่อน ไม่ฉูดฉาด ✅ ทฤษฎีใหม่: ปัญหาคือการทาสีที่ไม่ดี ➡️ Reconstruction อิง pigment ชั้นล่าง ไม่ใช่งานเสร็จสมบูรณ์ ‼️ คำเตือนต่อการสื่อสารวิชาการ ⛔ การนำเสนอ reconstruction แบบ garish อาจทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดและลดความเชื่อมั่นต่อผู้เชี่ยวชาญ https://worksinprogress.co/issue/were-classical-statues-painted-horribly/
    WORKSINPROGRESS.CO
    Were classical statues painted horribly? - Works in Progress Magazine
    Many claim that modern viewers dislike painted reconstructions of Greek and Roman statues because our taste differs from theirs.
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • Gift Card Roulette: ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ใน Apple Gift Cards

    กรณีล่าสุดที่ถูกพูดถึงในวงการเทคโนโลยีคือเหตุการณ์ของ Paris Buttfield-Addison ผู้ใช้ที่สูญเสียการเข้าถึงบัญชี iCloud และคลังสื่อดิจิทัลทั้งหมด หลังจากพยายามใช้ Apple Gift Card มูลค่า 500 ดอลลาร์ที่ถูกดัดแปลง เขาซื้อจากร้านค้าปลีกใหญ่ แต่กลับกลายเป็นว่าการ์ดนั้นเป็นของปลอมและทำให้บัญชีถูกล็อกทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบที่ควรจะปลอดภัยที่สุด

    สิ่งที่น่ากังวลคือแม้ Apple จะมีทีม Executive Relations ซึ่งเป็นหน่วยสนับสนุนระดับสูงเข้ามาตรวจสอบ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที ทำให้ผู้ใช้ต้องเผชิญกับการสูญเสียข้อมูลและสิทธิ์การเข้าถึงที่สำคัญ เหตุการณ์นี้จึงถูกเปรียบเทียบว่าเหมือน “Russian Roulette ดิจิทัล” เพราะผู้ใช้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าการ์ดที่ได้รับจะปลอดภัยหรือไม่

    จากมุมมองที่กว้างขึ้น ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัลโดยทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะ Apple เท่านั้น หลายแพลตฟอร์มเคยเจอกรณีบัตรถูกปลอมแปลงหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน ทำให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังมากขึ้นในการซื้อหรือรับบัตรของขวัญ โดยเฉพาะเมื่อซื้อจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการ

    ในเชิงกลยุทธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำว่าบริษัทเทคโนโลยีควรสร้างระบบตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น เช่น การยืนยันรหัสแบบหลายชั้น หรือการจำกัดวงเงินที่สามารถใช้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    เหตุการณ์ผู้ใช้ Apple Gift Card ถูกล็อกบัญชี
    Paris Buttfield-Addison สูญเสียการเข้าถึง iCloud และคลังสื่อหลังใช้บัตรที่ถูกดัดแปลง

    การตรวจสอบจากทีม Executive Relations ของ Apple
    แม้ทีมสนับสนุนระดับสูงเข้ามา แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที

    ความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัล
    ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะ Apple แต่เกิดขึ้นในหลายแพลตฟอร์ม

    ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    การตรวจสอบรหัสหลายชั้น และการจำกัดวงเงินเป็นแนวทางที่ควรนำมาใช้

    คำเตือนต่อผู้บริโภค
    การซื้อบัตรจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการอาจเสี่ยงต่อการถูกปลอมแปลง

    ความเสี่ยงในการให้บัตรเป็นของขวัญ
    ผู้รับอาจสูญเสียบัญชีหรือข้อมูลสำคัญหากบัตรถูกดัดแปลง

    https://daringfireball.net/linked/2025/12/17/are-apple-gift-cards-safe-to-redeem
    🛡️ Gift Card Roulette: ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ใน Apple Gift Cards กรณีล่าสุดที่ถูกพูดถึงในวงการเทคโนโลยีคือเหตุการณ์ของ Paris Buttfield-Addison ผู้ใช้ที่สูญเสียการเข้าถึงบัญชี iCloud และคลังสื่อดิจิทัลทั้งหมด หลังจากพยายามใช้ Apple Gift Card มูลค่า 500 ดอลลาร์ที่ถูกดัดแปลง เขาซื้อจากร้านค้าปลีกใหญ่ แต่กลับกลายเป็นว่าการ์ดนั้นเป็นของปลอมและทำให้บัญชีถูกล็อกทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบที่ควรจะปลอดภัยที่สุด สิ่งที่น่ากังวลคือแม้ Apple จะมีทีม Executive Relations ซึ่งเป็นหน่วยสนับสนุนระดับสูงเข้ามาตรวจสอบ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที ทำให้ผู้ใช้ต้องเผชิญกับการสูญเสียข้อมูลและสิทธิ์การเข้าถึงที่สำคัญ เหตุการณ์นี้จึงถูกเปรียบเทียบว่าเหมือน “Russian Roulette ดิจิทัล” เพราะผู้ใช้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าการ์ดที่ได้รับจะปลอดภัยหรือไม่ จากมุมมองที่กว้างขึ้น ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัลโดยทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะ Apple เท่านั้น หลายแพลตฟอร์มเคยเจอกรณีบัตรถูกปลอมแปลงหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน ทำให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังมากขึ้นในการซื้อหรือรับบัตรของขวัญ โดยเฉพาะเมื่อซื้อจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการ ในเชิงกลยุทธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำว่าบริษัทเทคโนโลยีควรสร้างระบบตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น เช่น การยืนยันรหัสแบบหลายชั้น หรือการจำกัดวงเงินที่สามารถใช้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ เหตุการณ์ผู้ใช้ Apple Gift Card ถูกล็อกบัญชี ➡️ Paris Buttfield-Addison สูญเสียการเข้าถึง iCloud และคลังสื่อหลังใช้บัตรที่ถูกดัดแปลง ✅ การตรวจสอบจากทีม Executive Relations ของ Apple ➡️ แม้ทีมสนับสนุนระดับสูงเข้ามา แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที ✅ ความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัล ➡️ ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะ Apple แต่เกิดขึ้นในหลายแพลตฟอร์ม ✅ ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ➡️ การตรวจสอบรหัสหลายชั้น และการจำกัดวงเงินเป็นแนวทางที่ควรนำมาใช้ ‼️ คำเตือนต่อผู้บริโภค ⛔ การซื้อบัตรจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการอาจเสี่ยงต่อการถูกปลอมแปลง ‼️ ความเสี่ยงในการให้บัตรเป็นของขวัญ ⛔ ผู้รับอาจสูญเสียบัญชีหรือข้อมูลสำคัญหากบัตรถูกดัดแปลง https://daringfireball.net/linked/2025/12/17/are-apple-gift-cards-safe-to-redeem
    DARINGFIREBALL.NET
    Are Apple Gift Cards Safe to Redeem?
    Link to: https://tidbits.com/2025/12/17/compromised-apple-gift-card-leads-to-apple-account-lockout/
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251219 #securityonline

    FreeBSD เจอช่องโหว่ร้ายแรงจาก IPv6
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในระบบเครือข่ายของ FreeBSD ที่อันตรายมาก เพราะแค่มีคนส่งแพ็กเก็ต IPv6 ที่ถูกปรับแต่งมาอย่างเจาะจง ก็สามารถทำให้เครื่องเป้าหมายรันคำสั่งของผู้โจมตีได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่โปรแกรม rtsol และ rtsold ซึ่งใช้จัดการการตั้งค่า IPv6 แบบอัตโนมัติ ไปส่งข้อมูลต่อให้กับ resolvconf โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง ผลคือคำสั่งที่แฝงมาในข้อมูลสามารถถูกประมวลผลเหมือนเป็นคำสั่ง shell จริง ๆ แม้การโจมตีจะจำกัดอยู่ในเครือข่ายท้องถิ่น เช่น Wi-Fi สาธารณะหรือ LAN ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ถือว่าเสี่ยงมาก ผู้ใช้ที่เปิด IPv6 และยังไม่ได้อัปเดตต้องรีบแพตช์ทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง
    https://securityonline.info/freebsd-network-alert-malicious-ipv6-packets-can-trigger-remote-code-execution-via-resolvconf-cve-2025-14558

    ช่องโหว่ใหม่ใน Roundcube Webmail
    ระบบอีเมลโอเพนซอร์สชื่อดัง Roundcube ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงสองจุดที่อาจทำให้ผู้โจมตีแอบรันสคริปต์หรือดึงข้อมูลจากกล่องอีเมลได้ ช่องโหว่แรกคือ XSS ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ SVG โดยใช้แท็ก animate ทำให้เมื่อผู้ใช้เปิดอีเมลที่มีภาพ SVG ที่ถูกปรับแต่ง JavaScript ก็จะทำงานทันที อีกช่องโหว่คือการจัดการ CSS ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงตัวกรองและดึงข้อมูลจากอินเทอร์เฟซเว็บเมลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดระดับความรุนแรงสูง ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Roundcube 1.6 และ 1.5 LTS เพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/roundcube-alert-high-severity-svg-xss-and-css-sanitizer-flaws-threaten-webmail-privacy

    YouTube Ghost Network และมัลแวร์ GachiLoader
    นักวิจัยจาก Check Point Research พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ YouTube เป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ โดยกลุ่มผู้โจมตีจะยึดบัญชี YouTube ที่มีชื่อเสียง แล้วอัปโหลดวิดีโอที่โฆษณาซอฟต์แวร์เถื่อนหรือสูตรโกงเกม พร้อมใส่ลิงก์ดาวน์โหลดที่แท้จริงคือมัลแวร์ GachiLoader เขียนด้วย Node.js ที่ถูกทำให้ซับซ้อนเพื่อหลบการตรวจจับ เมื่อรันแล้วจะโหลดตัวขโมยข้อมูล Rhadamanthys เข้ามาเพื่อดึงรหัสผ่านและข้อมูลสำคัญ จุดเด่นคือเทคนิคการฉีดโค้ดผ่าน DLL โดยใช้ Vectored Exception Handling ทำให้ยากต่อการตรวจจับ ผู้ใช้ควรระวังการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ฟรีจากลิงก์ใน YouTube เพราะอาจเป็นกับดักที่ซ่อนมัลแวร์ไว้
    https://securityonline.info/youtube-ghost-network-the-new-gachiloader-malware-hiding-in-your-favorite-video-links

    Supply Chain Attack บน NuGet: Nethereum.All ปลอม
    มีการค้นพบแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อนซึ่งมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนา .NET ที่ทำงานกับคริปโต โดยผู้โจมตีสร้างแพ็กเกจปลอมชื่อ Nethereum.All เลียนแบบไลบรารีจริงที่ใช้เชื่อมต่อ Ethereum และเผยแพร่บน NuGet พร้อมตัวเลขดาวน์โหลดปลอมกว่า 10 ล้านครั้งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ภายในโค้ดมีฟังก์ชันแอบซ่อนเพื่อขโมยเงินจากธุรกรรมหรือดึงข้อมูลลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจปลอมอื่น ๆ เช่น NBitcoin.Unified และ SolnetAll ที่เลียนแบบไลบรารีของ Bitcoin และ Solana การโจมตีนี้ใช้เทคนิคการปลอมแปลงอย่างแนบเนียน ทำให้นักพัฒนาที่ไม่ตรวจสอบผู้เขียนแพ็กเกจอาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
    https://securityonline.info/poisoned-dependencies-how-nethereum-all-and-10m-fake-downloads-looted-net-crypto-developers

    ช่องโหว่ UEFI บนเมนบอร์ด
    ASRock, ASUS, MSI CERT/CCเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ที่เกิดขึ้นในเฟิร์มแวร์ UEFI ของหลายผู้ผลิต เช่น ASRock, ASUS, GIGABYTE และ MSI โดยปัญหาคือระบบรายงานว่ามีการเปิดการป้องกัน DMA แล้ว แต่จริง ๆ IOMMU ไม่ได้ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง ทำให้ในช่วง early-boot ผู้โจมตีที่มีอุปกรณ์ PCIe สามารถเข้าถึงและแก้ไขหน่วยความจำได้ก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ผลคือสามารถฉีดโค้ดหรือดึงข้อมูลลับออกมาได้โดยที่ซอฟต์แวร์ป้องกันไม่สามารถตรวจจับได้ ช่องโหว่นี้มีความรุนแรงสูงและต้องรีบอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที โดยเฉพาะในองค์กรที่ไม่สามารถควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพได้อย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/early-boot-attack-uefi-flaw-in-asrock-asus-msi-boards-lets-hackers-bypass-os-security-via-pcie

    VPN Betrayal: ส่วนขยาย VPN ฟรีที่หักหลังผู้ใช้
    เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงครั้งใหญ่จากบริษัทด้านความปลอดภัย KOI ที่พบว่า Urban VPN Proxy และส่วนขยาย VPN ฟรีอื่น ๆ กำลังแอบเก็บข้อมูลการสนทนาของผู้ใช้กับแพลตฟอร์ม AI โดยตรง ทั้งข้อความที่ผู้ใช้พิมพ์และคำตอบที่ AI ตอบกลับมา ถูกส่งต่อไปยังบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและการตลาดเพื่อใช้ยิงโฆษณาเจาะจงพฤติกรรมผู้ใช้ แม้ผู้ใช้จะปิดฟังก์ชัน VPN หรือการบล็อกโฆษณา แต่สคริปต์ที่ฝังไว้ก็ยังทำงานอยู่ วิธีเดียวที่จะหยุดได้คือการถอนการติดตั้งออกไปเลย เหตุการณ์นี้กระทบแพลตฟอร์ม AI แทบทั้งหมด ตั้งแต่ ChatGPT, Claude, Gemini, Copilot ไปจนถึง Meta AI และ Perplexity ทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
    https://securityonline.info/vpn-betrayal-popular-free-extensions-caught-siphoning-8-million-users-private-ai-chats

    The Final Cut: ออสการ์ย้ายบ้านไป YouTube ในปี 2029
    วงการภาพยนตร์กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ Academy Awards หรือออสการ์ประกาศว่าจะยุติการถ่ายทอดสดทาง ABC หลังครบรอบ 100 ปีในปี 2028 และตั้งแต่ปี 2029 เป็นต้นไปจะถ่ายทอดสดผ่าน YouTube เพียงช่องทางเดียว การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแพลตฟอร์ม แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ชมทั่วโลกเข้าถึงได้ฟรีและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นผ่านฟีเจอร์ของ YouTube นอกจากนี้ Google Arts & Culture จะเข้ามาช่วยดิจิไทซ์คลังภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ของ Academy เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะ ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่หันไปเสพสื่อออนไลน์มากกว่าทีวี
    https://securityonline.info/the-final-cut-why-the-oscars-are-leaving-abc-for-a-youtube-only-future-in-2029

    Phantom v3.5: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Adobe Update
    ภัยใหม่มาในรูปแบบที่ดูเหมือนธรรมดา Phantom v3.5 แฝงตัวเป็นไฟล์ติดตั้ง Adobe เวอร์ชันปลอม เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ มันจะรันสคริปต์ที่ดึง Payload จากโดเมนอันตราย แล้วเริ่มดูดข้อมูลทุกอย่าง ตั้งแต่รหัสผ่าน คุกกี้ เบราว์เซอร์ ไปจนถึงกระเป๋าเงินคริปโต ความพิเศษคือมันไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบทั่วไป แต่ส่งข้อมูลออกไปผ่านอีเมล SMTP โดยตรง ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ใช้ระวังการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ และตรวจสอบเวอร์ชันหรือไฟล์ที่อ้างว่าเป็น Installer ให้ดี
    https://securityonline.info/phantom-v3-5-alert-new-info-stealer-disguised-as-adobe-update-uses-smtp-to-loot-digital-lives

    Kubernetes Alert: ช่องโหว่ Headlamp เสี่ยงถูกยึด Cluster
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Headlamp ซึ่งเป็น UI สำหรับ Kubernetes ที่ทำให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้รับสิทธิ์สามารถใช้ Credential ที่ถูกแคชไว้เพื่อเข้าถึงฟังก์ชัน Helm ได้โดยตรง หากผู้ดูแลระบบเคยใช้งาน Helm ผ่าน Headlamp แล้ว Credential ถูกเก็บไว้ ผู้โจมตีที่เข้าถึง Dashboard สามารถสั่ง Deploy หรือแก้ไข Release ได้ทันทีโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.8 และกระทบเวอร์ชัน v0.38.0 ลงไป ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์ v0.39.0 เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรอัปเดตทันทีหรือปิดการเข้าถึงสาธารณะเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/kubernetes-alert-headlamp-flaw-cve-2025-14269-lets-unauthenticated-users-hijack-helm-clusters

    WatchGuard Under Siege: ช่องโหว่ Zero-Day รุนแรง CVSS 9.3 ถูกโจมตีจริงเพื่อยึดครอง Firewall
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน WatchGuard Firebox ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-14733 มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ทำให้แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน และเข้าควบคุมระบบไฟร์วอลล์ได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการผิดพลาดในกระบวนการ IKEv2 ของ VPN ที่ทำให้เกิดการเขียนข้อมูลเกินขอบเขต (Out-of-bounds Write) ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายลงไปในระบบได้ แม้ผู้ดูแลระบบจะปิดการใช้งาน VPN แบบ Mobile User หรือ Branch Office ไปแล้ว แต่หากมีการตั้งค่าเก่าอยู่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอยู่ดี WatchGuard ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ก็เตือนว่าผู้ที่ถูกโจมตีไปแล้วควรเปลี่ยนรหัสผ่านและคีย์ทั้งหมด เพราะข้อมูลอาจถูกขโมยไปก่อนหน้านี้แล้ว
    https://securityonline.info/watchguard-under-siege-critical-cvss-9-3-zero-day-exploited-in-the-wild-to-hijack-corporate-firewalls

    Log4j’s Security Blind Spot: ช่องโหว่ TLS ใหม่เปิดทางให้ดักข้อมูล Log
    Apache ได้ออกอัปเดตแก้ไขช่องโหว่ใน Log4j ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-68161 ซึ่งเกิดจากการตรวจสอบ TLS hostname verification ที่ผิดพลาด แม้ผู้ดูแลระบบจะตั้งค่าให้ตรวจสอบชื่อโฮสต์แล้ว แต่ระบบกลับไม่ทำตาม ทำให้ผู้โจมตีสามารถแทรกตัวกลาง (Man-in-the-Middle) และดักข้อมูล log ที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีรายละเอียดการทำงานของระบบหรือกิจกรรมผู้ใช้ที่สำคัญ ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.25.3 และผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันที หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ก็มีวิธีแก้ชั่วคราวคือการจำกัด trust root ให้เฉพาะใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้จริง
    https://securityonline.info/log4js-security-blind-spot-new-tls-flaw-lets-attackers-intercept-sensitive-logs-despite-encryption

    Visualizations Weaponized: ช่องโหว่ใหม่ใน Kibana เปิดทางโจมตี XSS ผ่าน Vega Charts
    Elastic ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-68385 ที่มีคะแนนความรุนแรง 7.2 ซึ่งเกิดขึ้นใน Kibana โดยเฉพาะฟีเจอร์ Vega Visualization ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างกราฟและแผนภาพแบบกำหนดเอง ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถฝังโค้ดอันตรายลงไปในกราฟได้ และเมื่อผู้ใช้คนอื่นเปิดดูกราฟนั้น โค้ดก็จะทำงานในเบราว์เซอร์ทันที ส่งผลให้เกิดการขโมย session หรือสั่งการที่ไม่ได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชันตั้งแต่ 7.x จนถึง 9.x Elastic ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตโดยด่วน https://securityonline.info/visualizations-weaponized-new-kibana-flaw-allows-xss-attacks-via-vega-charts

    Rust’s First Breach: ช่องโหว่แรกของ Rust ใน Linux Kernel
    นี่คือครั้งแรกที่โค้ด Rust ใน Linux Kernel ถูกระบุช่องโหว่อย่างเป็นทางการ โดย CVE-2025-68260 เกิดขึ้นใน Android Binder driver ที่ถูกเขียนใหม่ด้วย Rust ปัญหาคือการจัดการ linked list ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิด race condition เมื่อหลาย thread เข้ามาจัดการพร้อมกัน ส่งผลให้ pointer เสียหายและทำให้ระบบ crash ได้ การแก้ไขคือการปรับปรุงโค้ด Node::release ให้จัดการกับ list โดยตรงแทนการใช้ list ชั่วคราว ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วใน Linux 6.18.1 และ 6.19-rc1 ผู้ใช้ควรอัปเดต kernel เวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/rusts-first-breach-cve-2025-68260-marks-the-first-rust-vulnerability-in-the-linux-kernel

    The Grand Divorce: TikTok เซ็นสัญญา Landmark Deal ส่งมอบการควบคุมในสหรัฐให้กลุ่ม Oracle
    TikTok ได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการแยกกิจการในสหรัฐ โดยจะตั้งบริษัทใหม่ชื่อ TikTok US Data Security Joint Venture LLC ซึ่งจะดูแลข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐ การรักษาความปลอดภัยของอัลกอริทึม และการตรวจสอบเนื้อหา โครงสร้างใหม่จะทำให้กลุ่มนักลงทุนในสหรัฐถือหุ้น 45% นักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ ByteDance ถือ 30% และ ByteDance เองถือ 20% ทำให้การควบคุมหลักอยู่ในมือของสหรัฐ ข้อตกลงนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 22 มกราคม 2026 ถือเป็นการปิดฉากความขัดแย้งยืดเยื้อเรื่องการควบคุม TikTok ในสหรัฐ
    https://securityonline.info/the-grand-divorce-tiktok-signs-landmark-deal-to-hand-u-s-control-to-oracle-led-group

    Fusion of Power: Trump Media จับมือ TAE Technologies สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชัน
    เรื่องนี้เล่ากันเหมือนเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ของ Trump Media ที่เดิมทีเป็นบริษัทแม่ของ Truth Social และมือถือ Trump T1 แต่กลับหันมาจับมือกับ TAE Technologies ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านพลังงานฟิวชันที่มี Google และ Chevron หนุนหลัง การควบรวมครั้งนี้มีมูลค่าถึง 6 พันล้านดอลลาร์ เป้าหมายคือการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชันเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกภายใน 5 ปี แม้แวดวงวิทยาศาสตร์ยังคงสงสัยว่าฟิวชันจะพร้อมใช้งานจริงได้เร็วขนาดนั้นหรือไม่ แต่ดีลนี้ก็ทำให้หุ้น Trump Media พุ่งขึ้นทันที หลายคนมองว่าพลังที่แท้จริงอาจไม่ใช่ฟิวชัน แต่คืออิทธิพลทางการเมืองที่ช่วยเปิดทางให้ทุนและการอนุมัติจากรัฐบาล
    https://securityonline.info/fusion-of-power-trump-media-inks-6-billion-merger-to-build-worlds-first-fusion-power-plant

    The AI Super App: OpenAI เปิดตัว ChatGPT App Directory
    OpenAI กำลังผลักดัน ChatGPT ให้กลายเป็น “ซูเปอร์แอป” โดยเปิดตัว App Directory ที่เชื่อมต่อกับบริการภายนอกอย่าง Spotify, Dropbox, Apple Music และ DoorDash ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านการสนทนา เช่น ให้สรุปรายงานจาก Google Drive หรือสร้างเพลย์ลิสต์เพลงใน Apple Music ได้ทันที นี่คือการเปลี่ยน ChatGPT จากเครื่องมือสร้างข้อความให้กลายเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนเราได้จริง นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนาภายนอกสร้างแอปเข้ามาในระบบ พร้อมแนวทางหารายได้ที่อาจคล้ายกับ App Store ของ Apple จุดสำคัญคือการยกระดับ AI จากการ “ตอบคำถาม” ไปสู่การ “ทำงานแทน”
    https://securityonline.info/the-ai-super-app-arrives-openai-launches-chatgpt-app-directory-to-rule-your-digital-life

    Pay to Post: Meta ทดลองจำกัดการแชร์ลิงก์บน Facebook
    Meta กำลังทดสอบนโยบายใหม่ที่อาจทำให้ผู้สร้างคอนเทนต์บน Facebook ต้องจ่ายเงินเพื่อแชร์ลิงก์ โดยผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครบริการยืนยันตัวตน (blue-check) จะถูกจำกัดให้โพสต์ลิงก์ได้เพียง 2 ครั้งต่อเดือน หากต้องการมากกว่านั้นต้องจ่ายค่าสมัครรายเดือน 14.99 ดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องการควบคุมการ “ไหลออกของทราฟฟิก” และหันไปหารายได้จากการบังคับให้ผู้ใช้จ่ายเพื่อสิทธิ์ที่เคยฟรีมาก่อน หลายคนมองว่านี่คือการผลัก Facebook เข้าสู่ระบบ “pay-to-play” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจทำให้ผู้สร้างรายเล็กๆ ต้องคิดหนักว่าจะอยู่ต่อหรือย้ายออก
    https://securityonline.info/pay-to-post-meta-tests-2-link-monthly-limit-for-unverified-facebook-creators

    Criminal IP จับมือ Palo Alto Networks Cortex XSOAR เสริมการตอบสนองภัยไซเบอร์ด้วย AI
    Criminal IP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม threat intelligence ที่ใช้ AI ได้เข้ารวมกับ Cortex XSOAR ของ Palo Alto Networks เพื่อยกระดับการตอบสนองเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย จุดเด่นคือการเพิ่มข้อมูลเชิงลึกจากภายนอก เช่น พฤติกรรมของ IP, ประวัติการโจมตี, การเชื่อมโยงกับมัลแวร์ และการสแกนหลายขั้นตอนแบบอัตโนมัติ ทำให้ทีม SOC สามารถจัดการเหตุการณ์ได้เร็วและแม่นยำขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการตรวจสอบแบบ manual การผสานนี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ของโลกไซเบอร์ที่กำลังเดินหน้าไปสู่ “การป้องกันอัตโนมัติ” ที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก
    https://securityonline.info/criminal-ip-and-palo-alto-networks-cortex-xsoar-integrate-to-bring-ai-driven-exposure-intelligence-to-automated-incident-response

    FIFA ร่วมมือ Netflix เปิดเกมฟุตบอลใหม่รับบอลโลก 2026
    หลังจากแยกทางกับ EA ที่สร้าง FIFA มานานเกือบ 30 ปี องค์กร FIFA ก็ยังไม่สามารถหาคู่หูที่สร้างเกมฟุตบอลระดับเรือธงได้ จนล่าสุด Netflix ประกาศว่าจะเปิดตัวเกมฟุตบอลใหม่ภายใต้แบรนด์ FIFA ในปี 2026 โดยให้ Delphi Interactive เป็นผู้พัฒนา จุดต่างสำคัญคือเกมนี้จะใช้สมาร์ทโฟนเป็นคอนโทรลเลอร์ ทำให้เล่นง่ายและเข้าถึงผู้เล่นทั่วไปมากขึ้น แทนที่จะเน้นความสมจริงแบบ EA Sports FC การจับมือกับ Netflix แสดงให้เห็นว่า FIFA เลือกเส้นทางใหม่ที่ไม่ชนตรงกับ EA แต่หันไปสร้างประสบการณ์แบบ “เกมปาร์ตี้” ที่เข้ากับแนวทางของ Netflix Games ซึ่งกำลังมุ่งไปที่เกมที่เล่นง่ายและเชื่อมโยงกับผู้ชมจำนวนมาก
    https://securityonline.info/fifas-post-ea-comeback-netflix-to-launch-a-reimagined-football-game-for-the-2026-world-cup

    Mario’s Deadly Upgrade: RansomHouse เปิดตัว Dual-Key Encryption
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ Jolly Scorpius ซึ่งอยู่เบื้องหลังบริการ RansomHouse (ransomware-as-a-service) ได้ปรับปรุงเครื่องมือเข้ารหัสหลักของพวกเขาที่ชื่อ “Mario” จากเดิมที่ใช้วิธีเข้ารหัสแบบเส้นตรงธรรมดา กลายเป็นระบบที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ Mario เวอร์ชันใหม่ไม่เพียงแค่เข้ารหัสไฟล์แบบตรงๆ แต่ใช้วิธี chunked processing คือแบ่งไฟล์ออกเป็นชิ้นๆ ที่มีขนาดเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การวิเคราะห์ย้อนกลับยากขึ้นมากสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และที่น่ากังวลที่สุดคือการเพิ่ม dual-key encryption ซึ่งทำงานเหมือนระบบความปลอดภัยจริงๆ ที่ต้องใช้กุญแจสองชุดในการถอดรหัส หากผู้ป้องกันได้กุญแจเพียงชุดเดียว ข้อมูลก็ยังคงถูกล็อกแน่นหนา
    https://securityonline.info/marios-deadly-upgrade-ransomhouse-unveils-dual-key-encryption-to-defeat-backups-and-recovery/
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251219 #securityonline 🛡️ FreeBSD เจอช่องโหว่ร้ายแรงจาก IPv6 เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในระบบเครือข่ายของ FreeBSD ที่อันตรายมาก เพราะแค่มีคนส่งแพ็กเก็ต IPv6 ที่ถูกปรับแต่งมาอย่างเจาะจง ก็สามารถทำให้เครื่องเป้าหมายรันคำสั่งของผู้โจมตีได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่โปรแกรม rtsol และ rtsold ซึ่งใช้จัดการการตั้งค่า IPv6 แบบอัตโนมัติ ไปส่งข้อมูลต่อให้กับ resolvconf โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง ผลคือคำสั่งที่แฝงมาในข้อมูลสามารถถูกประมวลผลเหมือนเป็นคำสั่ง shell จริง ๆ แม้การโจมตีจะจำกัดอยู่ในเครือข่ายท้องถิ่น เช่น Wi-Fi สาธารณะหรือ LAN ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ถือว่าเสี่ยงมาก ผู้ใช้ที่เปิด IPv6 และยังไม่ได้อัปเดตต้องรีบแพตช์ทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง 🔗 https://securityonline.info/freebsd-network-alert-malicious-ipv6-packets-can-trigger-remote-code-execution-via-resolvconf-cve-2025-14558 📧 ช่องโหว่ใหม่ใน Roundcube Webmail ระบบอีเมลโอเพนซอร์สชื่อดัง Roundcube ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงสองจุดที่อาจทำให้ผู้โจมตีแอบรันสคริปต์หรือดึงข้อมูลจากกล่องอีเมลได้ ช่องโหว่แรกคือ XSS ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ SVG โดยใช้แท็ก animate ทำให้เมื่อผู้ใช้เปิดอีเมลที่มีภาพ SVG ที่ถูกปรับแต่ง JavaScript ก็จะทำงานทันที อีกช่องโหว่คือการจัดการ CSS ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงตัวกรองและดึงข้อมูลจากอินเทอร์เฟซเว็บเมลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดระดับความรุนแรงสูง ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Roundcube 1.6 และ 1.5 LTS เพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/roundcube-alert-high-severity-svg-xss-and-css-sanitizer-flaws-threaten-webmail-privacy 🎥 YouTube Ghost Network และมัลแวร์ GachiLoader นักวิจัยจาก Check Point Research พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ YouTube เป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ โดยกลุ่มผู้โจมตีจะยึดบัญชี YouTube ที่มีชื่อเสียง แล้วอัปโหลดวิดีโอที่โฆษณาซอฟต์แวร์เถื่อนหรือสูตรโกงเกม พร้อมใส่ลิงก์ดาวน์โหลดที่แท้จริงคือมัลแวร์ GachiLoader เขียนด้วย Node.js ที่ถูกทำให้ซับซ้อนเพื่อหลบการตรวจจับ เมื่อรันแล้วจะโหลดตัวขโมยข้อมูล Rhadamanthys เข้ามาเพื่อดึงรหัสผ่านและข้อมูลสำคัญ จุดเด่นคือเทคนิคการฉีดโค้ดผ่าน DLL โดยใช้ Vectored Exception Handling ทำให้ยากต่อการตรวจจับ ผู้ใช้ควรระวังการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ฟรีจากลิงก์ใน YouTube เพราะอาจเป็นกับดักที่ซ่อนมัลแวร์ไว้ 🔗 https://securityonline.info/youtube-ghost-network-the-new-gachiloader-malware-hiding-in-your-favorite-video-links 💰 Supply Chain Attack บน NuGet: Nethereum.All ปลอม มีการค้นพบแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อนซึ่งมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนา .NET ที่ทำงานกับคริปโต โดยผู้โจมตีสร้างแพ็กเกจปลอมชื่อ Nethereum.All เลียนแบบไลบรารีจริงที่ใช้เชื่อมต่อ Ethereum และเผยแพร่บน NuGet พร้อมตัวเลขดาวน์โหลดปลอมกว่า 10 ล้านครั้งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ภายในโค้ดมีฟังก์ชันแอบซ่อนเพื่อขโมยเงินจากธุรกรรมหรือดึงข้อมูลลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจปลอมอื่น ๆ เช่น NBitcoin.Unified และ SolnetAll ที่เลียนแบบไลบรารีของ Bitcoin และ Solana การโจมตีนี้ใช้เทคนิคการปลอมแปลงอย่างแนบเนียน ทำให้นักพัฒนาที่ไม่ตรวจสอบผู้เขียนแพ็กเกจอาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย 🔗 https://securityonline.info/poisoned-dependencies-how-nethereum-all-and-10m-fake-downloads-looted-net-crypto-developers 💻 ช่องโหว่ UEFI บนเมนบอร์ด ASRock, ASUS, MSI CERT/CCเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ที่เกิดขึ้นในเฟิร์มแวร์ UEFI ของหลายผู้ผลิต เช่น ASRock, ASUS, GIGABYTE และ MSI โดยปัญหาคือระบบรายงานว่ามีการเปิดการป้องกัน DMA แล้ว แต่จริง ๆ IOMMU ไม่ได้ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง ทำให้ในช่วง early-boot ผู้โจมตีที่มีอุปกรณ์ PCIe สามารถเข้าถึงและแก้ไขหน่วยความจำได้ก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ผลคือสามารถฉีดโค้ดหรือดึงข้อมูลลับออกมาได้โดยที่ซอฟต์แวร์ป้องกันไม่สามารถตรวจจับได้ ช่องโหว่นี้มีความรุนแรงสูงและต้องรีบอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที โดยเฉพาะในองค์กรที่ไม่สามารถควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพได้อย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/early-boot-attack-uefi-flaw-in-asrock-asus-msi-boards-lets-hackers-bypass-os-security-via-pcie 🛡️ VPN Betrayal: ส่วนขยาย VPN ฟรีที่หักหลังผู้ใช้ เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงครั้งใหญ่จากบริษัทด้านความปลอดภัย KOI ที่พบว่า Urban VPN Proxy และส่วนขยาย VPN ฟรีอื่น ๆ กำลังแอบเก็บข้อมูลการสนทนาของผู้ใช้กับแพลตฟอร์ม AI โดยตรง ทั้งข้อความที่ผู้ใช้พิมพ์และคำตอบที่ AI ตอบกลับมา ถูกส่งต่อไปยังบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและการตลาดเพื่อใช้ยิงโฆษณาเจาะจงพฤติกรรมผู้ใช้ แม้ผู้ใช้จะปิดฟังก์ชัน VPN หรือการบล็อกโฆษณา แต่สคริปต์ที่ฝังไว้ก็ยังทำงานอยู่ วิธีเดียวที่จะหยุดได้คือการถอนการติดตั้งออกไปเลย เหตุการณ์นี้กระทบแพลตฟอร์ม AI แทบทั้งหมด ตั้งแต่ ChatGPT, Claude, Gemini, Copilot ไปจนถึง Meta AI และ Perplexity ทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง 🔗 https://securityonline.info/vpn-betrayal-popular-free-extensions-caught-siphoning-8-million-users-private-ai-chats 🎬 The Final Cut: ออสการ์ย้ายบ้านไป YouTube ในปี 2029 วงการภาพยนตร์กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ Academy Awards หรือออสการ์ประกาศว่าจะยุติการถ่ายทอดสดทาง ABC หลังครบรอบ 100 ปีในปี 2028 และตั้งแต่ปี 2029 เป็นต้นไปจะถ่ายทอดสดผ่าน YouTube เพียงช่องทางเดียว การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแพลตฟอร์ม แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ชมทั่วโลกเข้าถึงได้ฟรีและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นผ่านฟีเจอร์ของ YouTube นอกจากนี้ Google Arts & Culture จะเข้ามาช่วยดิจิไทซ์คลังภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ของ Academy เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะ ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่หันไปเสพสื่อออนไลน์มากกว่าทีวี 🔗 https://securityonline.info/the-final-cut-why-the-oscars-are-leaving-abc-for-a-youtube-only-future-in-2029 ⚠️ Phantom v3.5: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Adobe Update ภัยใหม่มาในรูปแบบที่ดูเหมือนธรรมดา Phantom v3.5 แฝงตัวเป็นไฟล์ติดตั้ง Adobe เวอร์ชันปลอม เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ มันจะรันสคริปต์ที่ดึง Payload จากโดเมนอันตราย แล้วเริ่มดูดข้อมูลทุกอย่าง ตั้งแต่รหัสผ่าน คุกกี้ เบราว์เซอร์ ไปจนถึงกระเป๋าเงินคริปโต ความพิเศษคือมันไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบทั่วไป แต่ส่งข้อมูลออกไปผ่านอีเมล SMTP โดยตรง ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ใช้ระวังการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ และตรวจสอบเวอร์ชันหรือไฟล์ที่อ้างว่าเป็น Installer ให้ดี 🔗 https://securityonline.info/phantom-v3-5-alert-new-info-stealer-disguised-as-adobe-update-uses-smtp-to-loot-digital-lives ☸️ Kubernetes Alert: ช่องโหว่ Headlamp เสี่ยงถูกยึด Cluster มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Headlamp ซึ่งเป็น UI สำหรับ Kubernetes ที่ทำให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้รับสิทธิ์สามารถใช้ Credential ที่ถูกแคชไว้เพื่อเข้าถึงฟังก์ชัน Helm ได้โดยตรง หากผู้ดูแลระบบเคยใช้งาน Helm ผ่าน Headlamp แล้ว Credential ถูกเก็บไว้ ผู้โจมตีที่เข้าถึง Dashboard สามารถสั่ง Deploy หรือแก้ไข Release ได้ทันทีโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.8 และกระทบเวอร์ชัน v0.38.0 ลงไป ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์ v0.39.0 เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรอัปเดตทันทีหรือปิดการเข้าถึงสาธารณะเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/kubernetes-alert-headlamp-flaw-cve-2025-14269-lets-unauthenticated-users-hijack-helm-clusters 🛡️ WatchGuard Under Siege: ช่องโหว่ Zero-Day รุนแรง CVSS 9.3 ถูกโจมตีจริงเพื่อยึดครอง Firewall เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน WatchGuard Firebox ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-14733 มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ทำให้แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน และเข้าควบคุมระบบไฟร์วอลล์ได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการผิดพลาดในกระบวนการ IKEv2 ของ VPN ที่ทำให้เกิดการเขียนข้อมูลเกินขอบเขต (Out-of-bounds Write) ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายลงไปในระบบได้ แม้ผู้ดูแลระบบจะปิดการใช้งาน VPN แบบ Mobile User หรือ Branch Office ไปแล้ว แต่หากมีการตั้งค่าเก่าอยู่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอยู่ดี WatchGuard ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ก็เตือนว่าผู้ที่ถูกโจมตีไปแล้วควรเปลี่ยนรหัสผ่านและคีย์ทั้งหมด เพราะข้อมูลอาจถูกขโมยไปก่อนหน้านี้แล้ว 🔗 https://securityonline.info/watchguard-under-siege-critical-cvss-9-3-zero-day-exploited-in-the-wild-to-hijack-corporate-firewalls 🔒 Log4j’s Security Blind Spot: ช่องโหว่ TLS ใหม่เปิดทางให้ดักข้อมูล Log Apache ได้ออกอัปเดตแก้ไขช่องโหว่ใน Log4j ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-68161 ซึ่งเกิดจากการตรวจสอบ TLS hostname verification ที่ผิดพลาด แม้ผู้ดูแลระบบจะตั้งค่าให้ตรวจสอบชื่อโฮสต์แล้ว แต่ระบบกลับไม่ทำตาม ทำให้ผู้โจมตีสามารถแทรกตัวกลาง (Man-in-the-Middle) และดักข้อมูล log ที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีรายละเอียดการทำงานของระบบหรือกิจกรรมผู้ใช้ที่สำคัญ ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.25.3 และผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันที หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ก็มีวิธีแก้ชั่วคราวคือการจำกัด trust root ให้เฉพาะใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้จริง 🔗 https://securityonline.info/log4js-security-blind-spot-new-tls-flaw-lets-attackers-intercept-sensitive-logs-despite-encryption 📊 Visualizations Weaponized: ช่องโหว่ใหม่ใน Kibana เปิดทางโจมตี XSS ผ่าน Vega Charts Elastic ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-68385 ที่มีคะแนนความรุนแรง 7.2 ซึ่งเกิดขึ้นใน Kibana โดยเฉพาะฟีเจอร์ Vega Visualization ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างกราฟและแผนภาพแบบกำหนดเอง ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถฝังโค้ดอันตรายลงไปในกราฟได้ และเมื่อผู้ใช้คนอื่นเปิดดูกราฟนั้น โค้ดก็จะทำงานในเบราว์เซอร์ทันที ส่งผลให้เกิดการขโมย session หรือสั่งการที่ไม่ได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชันตั้งแต่ 7.x จนถึง 9.x Elastic ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/visualizations-weaponized-new-kibana-flaw-allows-xss-attacks-via-vega-charts 🦀 Rust’s First Breach: ช่องโหว่แรกของ Rust ใน Linux Kernel นี่คือครั้งแรกที่โค้ด Rust ใน Linux Kernel ถูกระบุช่องโหว่อย่างเป็นทางการ โดย CVE-2025-68260 เกิดขึ้นใน Android Binder driver ที่ถูกเขียนใหม่ด้วย Rust ปัญหาคือการจัดการ linked list ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิด race condition เมื่อหลาย thread เข้ามาจัดการพร้อมกัน ส่งผลให้ pointer เสียหายและทำให้ระบบ crash ได้ การแก้ไขคือการปรับปรุงโค้ด Node::release ให้จัดการกับ list โดยตรงแทนการใช้ list ชั่วคราว ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วใน Linux 6.18.1 และ 6.19-rc1 ผู้ใช้ควรอัปเดต kernel เวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/rusts-first-breach-cve-2025-68260-marks-the-first-rust-vulnerability-in-the-linux-kernel 🇺🇸 The Grand Divorce: TikTok เซ็นสัญญา Landmark Deal ส่งมอบการควบคุมในสหรัฐให้กลุ่ม Oracle TikTok ได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการแยกกิจการในสหรัฐ โดยจะตั้งบริษัทใหม่ชื่อ TikTok US Data Security Joint Venture LLC ซึ่งจะดูแลข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐ การรักษาความปลอดภัยของอัลกอริทึม และการตรวจสอบเนื้อหา โครงสร้างใหม่จะทำให้กลุ่มนักลงทุนในสหรัฐถือหุ้น 45% นักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ ByteDance ถือ 30% และ ByteDance เองถือ 20% ทำให้การควบคุมหลักอยู่ในมือของสหรัฐ ข้อตกลงนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 22 มกราคม 2026 ถือเป็นการปิดฉากความขัดแย้งยืดเยื้อเรื่องการควบคุม TikTok ในสหรัฐ 🔗 https://securityonline.info/the-grand-divorce-tiktok-signs-landmark-deal-to-hand-u-s-control-to-oracle-led-group ⚡ Fusion of Power: Trump Media จับมือ TAE Technologies สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชัน เรื่องนี้เล่ากันเหมือนเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ของ Trump Media ที่เดิมทีเป็นบริษัทแม่ของ Truth Social และมือถือ Trump T1 แต่กลับหันมาจับมือกับ TAE Technologies ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านพลังงานฟิวชันที่มี Google และ Chevron หนุนหลัง การควบรวมครั้งนี้มีมูลค่าถึง 6 พันล้านดอลลาร์ เป้าหมายคือการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชันเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกภายใน 5 ปี แม้แวดวงวิทยาศาสตร์ยังคงสงสัยว่าฟิวชันจะพร้อมใช้งานจริงได้เร็วขนาดนั้นหรือไม่ แต่ดีลนี้ก็ทำให้หุ้น Trump Media พุ่งขึ้นทันที หลายคนมองว่าพลังที่แท้จริงอาจไม่ใช่ฟิวชัน แต่คืออิทธิพลทางการเมืองที่ช่วยเปิดทางให้ทุนและการอนุมัติจากรัฐบาล 🔗 https://securityonline.info/fusion-of-power-trump-media-inks-6-billion-merger-to-build-worlds-first-fusion-power-plant 🤖 The AI Super App: OpenAI เปิดตัว ChatGPT App Directory OpenAI กำลังผลักดัน ChatGPT ให้กลายเป็น “ซูเปอร์แอป” โดยเปิดตัว App Directory ที่เชื่อมต่อกับบริการภายนอกอย่าง Spotify, Dropbox, Apple Music และ DoorDash ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านการสนทนา เช่น ให้สรุปรายงานจาก Google Drive หรือสร้างเพลย์ลิสต์เพลงใน Apple Music ได้ทันที นี่คือการเปลี่ยน ChatGPT จากเครื่องมือสร้างข้อความให้กลายเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนเราได้จริง นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนาภายนอกสร้างแอปเข้ามาในระบบ พร้อมแนวทางหารายได้ที่อาจคล้ายกับ App Store ของ Apple จุดสำคัญคือการยกระดับ AI จากการ “ตอบคำถาม” ไปสู่การ “ทำงานแทน” 🔗 https://securityonline.info/the-ai-super-app-arrives-openai-launches-chatgpt-app-directory-to-rule-your-digital-life 💸 Pay to Post: Meta ทดลองจำกัดการแชร์ลิงก์บน Facebook Meta กำลังทดสอบนโยบายใหม่ที่อาจทำให้ผู้สร้างคอนเทนต์บน Facebook ต้องจ่ายเงินเพื่อแชร์ลิงก์ โดยผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครบริการยืนยันตัวตน (blue-check) จะถูกจำกัดให้โพสต์ลิงก์ได้เพียง 2 ครั้งต่อเดือน หากต้องการมากกว่านั้นต้องจ่ายค่าสมัครรายเดือน 14.99 ดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องการควบคุมการ “ไหลออกของทราฟฟิก” และหันไปหารายได้จากการบังคับให้ผู้ใช้จ่ายเพื่อสิทธิ์ที่เคยฟรีมาก่อน หลายคนมองว่านี่คือการผลัก Facebook เข้าสู่ระบบ “pay-to-play” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจทำให้ผู้สร้างรายเล็กๆ ต้องคิดหนักว่าจะอยู่ต่อหรือย้ายออก 🔗 https://securityonline.info/pay-to-post-meta-tests-2-link-monthly-limit-for-unverified-facebook-creators 🛡️ Criminal IP จับมือ Palo Alto Networks Cortex XSOAR เสริมการตอบสนองภัยไซเบอร์ด้วย AI Criminal IP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม threat intelligence ที่ใช้ AI ได้เข้ารวมกับ Cortex XSOAR ของ Palo Alto Networks เพื่อยกระดับการตอบสนองเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย จุดเด่นคือการเพิ่มข้อมูลเชิงลึกจากภายนอก เช่น พฤติกรรมของ IP, ประวัติการโจมตี, การเชื่อมโยงกับมัลแวร์ และการสแกนหลายขั้นตอนแบบอัตโนมัติ ทำให้ทีม SOC สามารถจัดการเหตุการณ์ได้เร็วและแม่นยำขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการตรวจสอบแบบ manual การผสานนี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ของโลกไซเบอร์ที่กำลังเดินหน้าไปสู่ “การป้องกันอัตโนมัติ” ที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-and-palo-alto-networks-cortex-xsoar-integrate-to-bring-ai-driven-exposure-intelligence-to-automated-incident-response 🎮 FIFA ร่วมมือ Netflix เปิดเกมฟุตบอลใหม่รับบอลโลก 2026 หลังจากแยกทางกับ EA ที่สร้าง FIFA มานานเกือบ 30 ปี องค์กร FIFA ก็ยังไม่สามารถหาคู่หูที่สร้างเกมฟุตบอลระดับเรือธงได้ จนล่าสุด Netflix ประกาศว่าจะเปิดตัวเกมฟุตบอลใหม่ภายใต้แบรนด์ FIFA ในปี 2026 โดยให้ Delphi Interactive เป็นผู้พัฒนา จุดต่างสำคัญคือเกมนี้จะใช้สมาร์ทโฟนเป็นคอนโทรลเลอร์ ทำให้เล่นง่ายและเข้าถึงผู้เล่นทั่วไปมากขึ้น แทนที่จะเน้นความสมจริงแบบ EA Sports FC การจับมือกับ Netflix แสดงให้เห็นว่า FIFA เลือกเส้นทางใหม่ที่ไม่ชนตรงกับ EA แต่หันไปสร้างประสบการณ์แบบ “เกมปาร์ตี้” ที่เข้ากับแนวทางของ Netflix Games ซึ่งกำลังมุ่งไปที่เกมที่เล่นง่ายและเชื่อมโยงกับผู้ชมจำนวนมาก 🔗 https://securityonline.info/fifas-post-ea-comeback-netflix-to-launch-a-reimagined-football-game-for-the-2026-world-cup 🔒 Mario’s Deadly Upgrade: RansomHouse เปิดตัว Dual-Key Encryption กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ Jolly Scorpius ซึ่งอยู่เบื้องหลังบริการ RansomHouse (ransomware-as-a-service) ได้ปรับปรุงเครื่องมือเข้ารหัสหลักของพวกเขาที่ชื่อ “Mario” จากเดิมที่ใช้วิธีเข้ารหัสแบบเส้นตรงธรรมดา กลายเป็นระบบที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ Mario เวอร์ชันใหม่ไม่เพียงแค่เข้ารหัสไฟล์แบบตรงๆ แต่ใช้วิธี chunked processing คือแบ่งไฟล์ออกเป็นชิ้นๆ ที่มีขนาดเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การวิเคราะห์ย้อนกลับยากขึ้นมากสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และที่น่ากังวลที่สุดคือการเพิ่ม dual-key encryption ซึ่งทำงานเหมือนระบบความปลอดภัยจริงๆ ที่ต้องใช้กุญแจสองชุดในการถอดรหัส หากผู้ป้องกันได้กุญแจเพียงชุดเดียว ข้อมูลก็ยังคงถูกล็อกแน่นหนา 🔗 https://securityonline.info/marios-deadly-upgrade-ransomhouse-unveils-dual-key-encryption-to-defeat-backups-and-recovery/
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
  • Professional Fire Door Maintenance Services
    City Fire Proofing provides certified fire door maintenance services nationwide, ensuring doors remain compliant, safe, and fully functional. Our experienced team carries out inspections, repairs, and ongoing maintenance for internal and external fire doors in residential and commercial buildings. Regular fire door maintenance helps meet legal requirements, extend door lifespan, and maintain effective fire protection throughout your property. For more visit here - https://www.cityfp.co.uk/fire-doors
    Professional Fire Door Maintenance Services City Fire Proofing provides certified fire door maintenance services nationwide, ensuring doors remain compliant, safe, and fully functional. Our experienced team carries out inspections, repairs, and ongoing maintenance for internal and external fire doors in residential and commercial buildings. Regular fire door maintenance helps meet legal requirements, extend door lifespan, and maintain effective fire protection throughout your property. For more visit here - https://www.cityfp.co.uk/fire-doors
    WWW.CITYFP.CO.UK
    Certified Fire Door Maintenance, Installation and Inspection Companies
    CityFP is one of the trusted fire door maintenance companies, delivering certified fire door maintenance, inspections, and installation to ensure safety, compliance, and long-term durability.
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • -devilray-
    FB and bsky - dfaxtory

    #dfaxtory #devilray
    #RightToSelfDefense
    #CambodiaOpenedFire
    #CambodiaScamArmy
    #NeutralizeTheThreat
    #SMARTSoldiersStronARMY
    #สดุดีทหารกล้า
    #ยุทธการศตวรรษ
    #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    -devilray- FB and bsky - dfaxtory #dfaxtory #devilray #RightToSelfDefense #CambodiaOpenedFire #CambodiaScamArmy #NeutralizeTheThreat #SMARTSoldiersStronARMY #สดุดีทหารกล้า #ยุทธการศตวรรษ #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    0 Comments 1 Shares 97 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar

    มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้
    เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า
    https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about

    ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว
    Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน
    https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix

    สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI
    บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots

    ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน
    CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe

    กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+
    Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น
    https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting

    ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว
    Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day

    รีวิว Agile CRM ปี 2026
    Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้
    https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review

    จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ
    บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ
    https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront

    โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์
    รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา
    https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output

    รีวิว Geekom AX8 Max mini PC
    Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง
    https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review

    Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini
    ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted

    Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์
    Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน
    https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity

    คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel
    ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน
    https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated

    Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว
    รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง
    https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review

    ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails

    Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้
    มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe

    Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น
    Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices

    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar 🖥️ มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้ เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า 🔗 https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about ⚠️ ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix 🤖 สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots 🔒 ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe 🏠 กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+ Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day 📊 รีวิว Agile CRM ปี 2026 Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review 🌐 จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront 🐞 โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์ รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output 💻 รีวิว Geekom AX8 Max mini PC Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง 🔗 https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review 🗺️ Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted 🔋 Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์ Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity 📈 คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated 🎮 Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง 🔗 https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review 💳 ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails 🌐 Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้ มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe 🐧 Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline


    Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI
    Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge
    https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse

    Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน
    Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก
    https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่
    https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover

    หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน
    ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account

    Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows
    ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน
    https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users

    OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon
    มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์
    https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch

    Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19%
    รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์
    https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge

    Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด
    https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining

    Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT
    รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ
    https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures

    “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้
    https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls

    Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม
    กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ
    https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes

    Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ
    นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์
    https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports

    GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner
    เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้
    https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry

    ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที
    Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่
    https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers

    CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains

    แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email
    Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น
    https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit

    SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root
    SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline 🦊 Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge 🔗 https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse 🔒 Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์ เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover 🚦 หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account 💻 Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users 💰 OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch 🌐 Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19% รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์ 🔗 https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge 🖥️ Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด 🔗 https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining 📧 Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ 🔗 https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures 🔐 “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้ 🔗 https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls 🐉 Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ 🔗 https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes 📚 Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports 🛠️ GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้ 🔗 https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers 🚨 CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 🔗 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains 🐚 แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น 🔗 https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit 🔒 SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    0 Comments 0 Shares 278 Views 0 Reviews
  • Intel Nova Lake: CPU รุ่นใหม่พร้อมแคชขนาดใหญ่ bLLC

    รายงานจาก Wccftech เผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ Intel Nova Lake Desktop CPUs ที่จะเปิดตัวในอนาคต โดยมีการยืนยันว่าชิปจะมาพร้อมกับ Big Last Level Cache (bLLC) ซึ่งเป็นการออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล โดยจะมีหลายรุ่นให้เลือกตั้งแต่ 52, 42, 28 และ 24 คอร์ พร้อมแคชขนาดใหญ่ถึง 288MB สำหรับ Core Ultra 9 และ 144MB สำหรับ Core Ultra 7

    การเพิ่มแคชในระดับนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงสถาปัตยกรรมที่สำคัญ เพราะช่วยลดการเข้าถึงหน่วยความจำหลักที่ช้ากว่า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแอปพลิเคชันที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก เช่น เกม, งาน AI, และการประมวลผลข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมความสามารถในการทำงานแบบมัลติทาสก์และเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน

    Intel ตั้งเป้าว่า Nova Lake จะเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่หลังจากสถาปัตยกรรม Meteor Lake และ Arrow Lake โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ และการจัดการพลังงานที่ดีกว่าเดิม ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดที่ต้องการ CPU ที่ทรงพลังแต่ยังคงประหยัดพลังงานสำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์กสเตชัน

    อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดยังคงดุเดือด เนื่องจาก AMD กำลังพัฒนา Zen 6 และ Zen 7 ที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีแคชและการผลิตที่เล็กกว่า 3nm ซึ่งอาจทำให้ Intel ต้องเร่งสร้างความแตกต่างด้วยการใช้ bLLC และจำนวนคอร์ที่สูงขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    Nova Lake มาพร้อม bLLC
    มีรุ่น 52, 42, 28 และ 24 คอร์ พร้อมแคช 288MB และ 144MB

    การปรับปรุงเชิงสถาปัตยกรรม
    ลดการเข้าถึงหน่วยความจำหลัก เพิ่มประสิทธิภาพงาน AI และเกม

    เป้าหมายของ Intel
    เน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์และการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น

    การแข่งขันกับ AMD
    ต้องเผชิญกับ Zen 6 และ Zen 7 ที่ใช้กระบวนการผลิตเล็กกว่า 3nm

    คำเตือนด้านการแข่งขันและการผลิต
    หาก Intel ไม่สามารถจัดการต้นทุนและการผลิตได้ อาจเสียเปรียบ AMD
    การพึ่งพา bLLC และจำนวนคอร์สูงอาจไม่เพียงพอ หากซอฟต์แวร์ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์เต็มที่

    https://wccftech.com/intel-nova-lake-desktop-cpus-big-cache-bllc-52-42-28-24-core-288-mb-144-mb/
    ⚙️ Intel Nova Lake: CPU รุ่นใหม่พร้อมแคชขนาดใหญ่ bLLC รายงานจาก Wccftech เผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ Intel Nova Lake Desktop CPUs ที่จะเปิดตัวในอนาคต โดยมีการยืนยันว่าชิปจะมาพร้อมกับ Big Last Level Cache (bLLC) ซึ่งเป็นการออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล โดยจะมีหลายรุ่นให้เลือกตั้งแต่ 52, 42, 28 และ 24 คอร์ พร้อมแคชขนาดใหญ่ถึง 288MB สำหรับ Core Ultra 9 และ 144MB สำหรับ Core Ultra 7 การเพิ่มแคชในระดับนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงสถาปัตยกรรมที่สำคัญ เพราะช่วยลดการเข้าถึงหน่วยความจำหลักที่ช้ากว่า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแอปพลิเคชันที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก เช่น เกม, งาน AI, และการประมวลผลข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมความสามารถในการทำงานแบบมัลติทาสก์และเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน Intel ตั้งเป้าว่า Nova Lake จะเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่หลังจากสถาปัตยกรรม Meteor Lake และ Arrow Lake โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ และการจัดการพลังงานที่ดีกว่าเดิม ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดที่ต้องการ CPU ที่ทรงพลังแต่ยังคงประหยัดพลังงานสำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์กสเตชัน อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดยังคงดุเดือด เนื่องจาก AMD กำลังพัฒนา Zen 6 และ Zen 7 ที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีแคชและการผลิตที่เล็กกว่า 3nm ซึ่งอาจทำให้ Intel ต้องเร่งสร้างความแตกต่างด้วยการใช้ bLLC และจำนวนคอร์ที่สูงขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Nova Lake มาพร้อม bLLC ➡️ มีรุ่น 52, 42, 28 และ 24 คอร์ พร้อมแคช 288MB และ 144MB ✅ การปรับปรุงเชิงสถาปัตยกรรม ➡️ ลดการเข้าถึงหน่วยความจำหลัก เพิ่มประสิทธิภาพงาน AI และเกม ✅ เป้าหมายของ Intel ➡️ เน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์และการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ✅ การแข่งขันกับ AMD ➡️ ต้องเผชิญกับ Zen 6 และ Zen 7 ที่ใช้กระบวนการผลิตเล็กกว่า 3nm ‼️ คำเตือนด้านการแข่งขันและการผลิต ⛔ หาก Intel ไม่สามารถจัดการต้นทุนและการผลิตได้ อาจเสียเปรียบ AMD ⛔ การพึ่งพา bLLC และจำนวนคอร์สูงอาจไม่เพียงพอ หากซอฟต์แวร์ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์เต็มที่ https://wccftech.com/intel-nova-lake-desktop-cpus-big-cache-bllc-52-42-28-24-core-288-mb-144-mb/
    WCCFTECH.COM
    Intel Nova Lake Desktop CPUs With Big Cache 'bLLC" To Feature Four Flavors In 52, 42, 28, 24 Cores, 288 MB "Core Ultra 9" & 144 MB "Core Ultra 7"
    Intel's next-gen Nova Lake Desktop CPUs will include four SKU flavors with the highly anticipated "bLLC" big cache, and up to 52 cores.
    0 Comments 0 Shares 128 Views 0 Reviews
  • Amazon จับได้พนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือด้วย Keystroke Lag

    Amazon เปิดเผยกรณีการตรวจจับพนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือที่พยายามแฝงตัวเข้ามาทำงานในฝ่าย IT ของบริษัทในสหรัฐฯ โดยใช้วิธีการ Remote Control ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในอเมริกา แต่จริง ๆ แล้วถูกควบคุมจากต่างประเทศ ความผิดปกติที่นำไปสู่การจับได้คือ ความหน่วงในการพิมพ์ (Keystroke Lag) ที่มากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งสูงกว่าค่าปกติของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่มักอยู่ในระดับไม่กี่สิบมิลลิวินาที

    Stephen Schmidt, Chief Security Officer ของ Amazon ระบุว่า บริษัทได้สกัดกั้นความพยายามแฝงตัวของเกาหลีเหนือมากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และจำนวนความพยายามยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส การแฝงตัวเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ รวมถึงอาจใช้เพื่อการจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม

    การตรวจจับครั้งนี้เกิดขึ้นจากระบบเฝ้าระวังที่แจ้งเตือนพฤติกรรมผิดปกติของพนักงานใหม่ ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยตรวจสอบและพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ ถูกควบคุมจากระยะไกลโดยบุคคลในเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังพบผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้กับแรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกไปก่อนหน้านี้

    กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของการแฝงตัวในองค์กรขนาดใหญ่ และความสำคัญของการตรวจสอบพฤติกรรมดิจิทัลที่ละเอียดอ่อน เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษาและสำนวนที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถเป็นเบาะแสสำคัญในการตรวจจับผู้แฝงตัว

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การตรวจจับด้วย Keystroke Lag
    พบความหน่วงมากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งผิดปกติสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ

    จำนวนความพยายามแฝงตัว
    Amazon สกัดกั้นได้มากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และยังเพิ่มขึ้น 27% ต่อไตรมาส

    เป้าหมายของการแฝงตัว
    เพื่อสร้างรายได้ให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ และอาจใช้เพื่อจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม

    การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง
    ผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้แรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกแล้ว

    คำเตือนด้านความปลอดภัยองค์กร
    การแฝงตัวอาจเกิดขึ้นได้แม้ในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด
    พฤติกรรมดิจิทัลเล็ก ๆ เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษา อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/north-korean-infiltrator-caught-working-in-amazon-it-department-thanks-to-lag-110ms-keystroke-input-raises-red-flags-over-true-location
    🛡️ Amazon จับได้พนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือด้วย Keystroke Lag Amazon เปิดเผยกรณีการตรวจจับพนักงานปลอมจากเกาหลีเหนือที่พยายามแฝงตัวเข้ามาทำงานในฝ่าย IT ของบริษัทในสหรัฐฯ โดยใช้วิธีการ Remote Control ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในอเมริกา แต่จริง ๆ แล้วถูกควบคุมจากต่างประเทศ ความผิดปกติที่นำไปสู่การจับได้คือ ความหน่วงในการพิมพ์ (Keystroke Lag) ที่มากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งสูงกว่าค่าปกติของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่มักอยู่ในระดับไม่กี่สิบมิลลิวินาที Stephen Schmidt, Chief Security Officer ของ Amazon ระบุว่า บริษัทได้สกัดกั้นความพยายามแฝงตัวของเกาหลีเหนือมากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และจำนวนความพยายามยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส การแฝงตัวเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ รวมถึงอาจใช้เพื่อการจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม การตรวจจับครั้งนี้เกิดขึ้นจากระบบเฝ้าระวังที่แจ้งเตือนพฤติกรรมผิดปกติของพนักงานใหม่ ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยตรวจสอบและพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ ถูกควบคุมจากระยะไกลโดยบุคคลในเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังพบผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้กับแรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกไปก่อนหน้านี้ กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของการแฝงตัวในองค์กรขนาดใหญ่ และความสำคัญของการตรวจสอบพฤติกรรมดิจิทัลที่ละเอียดอ่อน เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษาและสำนวนที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งสามารถเป็นเบาะแสสำคัญในการตรวจจับผู้แฝงตัว 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การตรวจจับด้วย Keystroke Lag ➡️ พบความหน่วงมากกว่า 110 มิลลิวินาที ซึ่งผิดปกติสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ ✅ จำนวนความพยายามแฝงตัว ➡️ Amazon สกัดกั้นได้มากกว่า 1,800 ครั้งตั้งแต่ปี 2024 และยังเพิ่มขึ้น 27% ต่อไตรมาส ✅ เป้าหมายของการแฝงตัว ➡️ เพื่อสร้างรายได้ให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ และอาจใช้เพื่อจารกรรมหรือก่อวินาศกรรม ✅ การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง ➡️ ผู้หญิงชาวอเมริกันที่ช่วยจัดหางานให้แรงงานเกาหลีเหนือถูกตัดสินจำคุกแล้ว ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัยองค์กร ⛔ การแฝงตัวอาจเกิดขึ้นได้แม้ในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ⛔ พฤติกรรมดิจิทัลเล็ก ๆ เช่น ความหน่วงของการพิมพ์ หรือการใช้ภาษา อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/north-korean-infiltrator-caught-working-in-amazon-it-department-thanks-to-lag-110ms-keystroke-input-raises-red-flags-over-true-location
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • วิกฤติหน่วยความจำ: Micron เตือน DRAM ขาดตลาดยาวถึงปี 2026

    Micron รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 พร้อมยืนยันว่าแม้จะปิดแบรนด์ Crucial ไปแล้ว แต่ความต้องการ DRAM และ NAND ยังคงสูงมาก โดยเฉพาะจากศูนย์ข้อมูล AI ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว บริษัททำรายได้สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 57% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ก็ยอมรับว่าจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้เต็มที่ และคาดว่าการขาดแคลนจะยืดเยื้อต่อไปหลังปี 2026

    หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการเติบโตของ HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึงสามเท่า ทำให้ทรัพยากรการผลิตตึงตัวมากขึ้น Micron คาดว่าตลาด HBM จะมีมูลค่าถึง 100 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 ซึ่งจะกลายเป็นตลาดใหญ่กว่าทั้ง DRAM ในปี 2024 การแข่งขันด้านการผลิตจึงเข้มข้นขึ้น และผู้ผลิตหลายรายเริ่มทำสัญญาระยะยาวเพื่อรักษาซัพพลาย

    Micron กำลังลงทุนสร้างโรงงานใหม่ในไอดาโฮและนิวยอร์ก โดยโรงงานแรกจะเริ่มผลิตกลางปี 2027 ส่วนอีกแห่งจะเริ่มก่อสร้างในปี 2026 และคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการขยายกำลังผลิต บริษัทก็ยังคาดว่าจะสามารถตอบสนองได้เพียงครึ่งถึงสองในสามของความต้องการลูกค้าหลักเท่านั้น

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคเริ่มเห็นชัดเจนแล้ว ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตบางรายเช่น Kingston เตือนว่าราคาจะยังคงปรับขึ้น ส่วน Sapphire คาดว่าราคาจะเริ่มทรงตัวในอีก 6–8 เดือน แต่ก็อาจไม่ใช่ระดับราคาที่ผู้ใช้ต้องการ นอกจากนี้ยังมีปัญหาสินค้าปลอมและการฉ้อโกงในตลาดออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    ผลประกอบการ Micron
    รายได้ไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 57%

    การขาดแคลน DRAM ต่อเนื่อง
    Micron คาดว่าปัญหาจะยืดเยื้อไปหลังปี 2026 และตอบสนองได้เพียง 50–66% ของความต้องการ

    การเติบโตของตลาด HBM
    ใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึง 3 เท่า และคาดว่ามูลค่าตลาดจะถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2028

    การลงทุนโรงงานใหม่
    โรงงานในไอดาโฮจะเริ่มผลิตปี 2027 และโรงงานนิวยอร์กคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030

    ผลกระทบต่อผู้บริโภค
    ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้น และผู้ผลิตบางรายเตือนว่าราคาจะยังคงเพิ่มต่อไป

    คำเตือนด้านราคาและตลาด
    ราคาหน่วยความจำอาจไม่กลับไปสู่ระดับที่ผู้ใช้คาดหวัง แม้จะเริ่มทรงตัว
    ความเสี่ยงจากสินค้าปลอมและการฉ้อโกงออนไลน์เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-outlines-grim-outlook-for-dram-supply-in-first-earnings-call-since-killing-crucial-memory-and-ssd-brand-ceo-says-it-can-only-meet-half-to-two-thirds-of-demand
    🖥️ วิกฤติหน่วยความจำ: Micron เตือน DRAM ขาดตลาดยาวถึงปี 2026 Micron รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 พร้อมยืนยันว่าแม้จะปิดแบรนด์ Crucial ไปแล้ว แต่ความต้องการ DRAM และ NAND ยังคงสูงมาก โดยเฉพาะจากศูนย์ข้อมูล AI ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว บริษัททำรายได้สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 57% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ก็ยอมรับว่าจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้เต็มที่ และคาดว่าการขาดแคลนจะยืดเยื้อต่อไปหลังปี 2026 หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการเติบโตของ HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึงสามเท่า ทำให้ทรัพยากรการผลิตตึงตัวมากขึ้น Micron คาดว่าตลาด HBM จะมีมูลค่าถึง 100 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 ซึ่งจะกลายเป็นตลาดใหญ่กว่าทั้ง DRAM ในปี 2024 การแข่งขันด้านการผลิตจึงเข้มข้นขึ้น และผู้ผลิตหลายรายเริ่มทำสัญญาระยะยาวเพื่อรักษาซัพพลาย Micron กำลังลงทุนสร้างโรงงานใหม่ในไอดาโฮและนิวยอร์ก โดยโรงงานแรกจะเริ่มผลิตกลางปี 2027 ส่วนอีกแห่งจะเริ่มก่อสร้างในปี 2026 และคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการขยายกำลังผลิต บริษัทก็ยังคาดว่าจะสามารถตอบสนองได้เพียงครึ่งถึงสองในสามของความต้องการลูกค้าหลักเท่านั้น ผลกระทบต่อผู้บริโภคเริ่มเห็นชัดเจนแล้ว ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตบางรายเช่น Kingston เตือนว่าราคาจะยังคงปรับขึ้น ส่วน Sapphire คาดว่าราคาจะเริ่มทรงตัวในอีก 6–8 เดือน แต่ก็อาจไม่ใช่ระดับราคาที่ผู้ใช้ต้องการ นอกจากนี้ยังมีปัญหาสินค้าปลอมและการฉ้อโกงในตลาดออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ ผลประกอบการ Micron ➡️ รายได้ไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 57% ✅ การขาดแคลน DRAM ต่อเนื่อง ➡️ Micron คาดว่าปัญหาจะยืดเยื้อไปหลังปี 2026 และตอบสนองได้เพียง 50–66% ของความต้องการ ✅ การเติบโตของตลาด HBM ➡️ ใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึง 3 เท่า และคาดว่ามูลค่าตลาดจะถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2028 ✅ การลงทุนโรงงานใหม่ ➡️ โรงงานในไอดาโฮจะเริ่มผลิตปี 2027 และโรงงานนิวยอร์กคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030 ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภค ➡️ ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้น และผู้ผลิตบางรายเตือนว่าราคาจะยังคงเพิ่มต่อไป ‼️ คำเตือนด้านราคาและตลาด ⛔ ราคาหน่วยความจำอาจไม่กลับไปสู่ระดับที่ผู้ใช้คาดหวัง แม้จะเริ่มทรงตัว ⛔ ความเสี่ยงจากสินค้าปลอมและการฉ้อโกงออนไลน์เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-outlines-grim-outlook-for-dram-supply-in-first-earnings-call-since-killing-crucial-memory-and-ssd-brand-ceo-says-it-can-only-meet-half-to-two-thirds-of-demand
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • LibreOffice 25.8.4 – รุ่นบำรุงรักษาพร้อมแก้บั๊กกว่า 70 จุด

    The Document Foundation (TDF) ประกาศเปิดตัว LibreOffice 25.8.4 ซึ่งเป็นรุ่นบำรุงรักษาล่าสุดในซีรีส์ 25.8 โดยเน้นการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงเสถียรภาพมากกว่าการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รุ่นนี้แก้ไขปัญหามากกว่า 70 รายการ ที่ถูกรายงานจากผู้ใช้และนักพัฒนาในชุมชน ทำให้การใช้งานทั้ง Writer, Calc, Impress และ Draw มีความเสถียรมากขึ้น.

    การอัปเดตนี้ถือเป็นรุ่นที่สี่ในซีรีส์ 25.8 และยังคงยืนยันว่า LibreOffice เป็นหนึ่งในชุดโปรแกรมสำนักงานโอเพนซอร์สที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดย TDF แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงบั๊กที่อาจกระทบต่อการทำงาน โดยเฉพาะผู้ใช้ในองค์กรที่ต้องการความมั่นคงของระบบ.

    นอกจากนี้ LibreOffice 25.8.4 ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้ผู้ใช้ทั่วไปหันมาใช้ LibreOffice Community Edition ขณะที่องค์กรที่ต้องการการสนับสนุนระยะยาวและบริการเชิงพาณิชย์สามารถเลือกใช้ LibreOffice Enterprise จากพันธมิตรที่ได้รับการรับรอง ซึ่งเป็นโมเดลที่ช่วยให้โครงการมีความยั่งยืนและสามารถพัฒนาต่อไปได้.

    ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด LibreOffice 25.8.4 ได้จากเว็บไซต์ทางการของ TDF ทั้งในรูปแบบ binary สำหรับ Windows, macOS และ Linux รวมถึง source code สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการปรับแต่งเพิ่มเติม.

    สรุปสาระสำคัญ
    LibreOffice 25.8.4 เปิดตัวแล้ว
    เป็นรุ่นบำรุงรักษาในซีรีส์ 25.8
    แก้ไขบั๊กกว่า 70 รายการ

    การปรับปรุงหลัก
    เพิ่มเสถียรภาพใน Writer, Calc, Impress และ Draw
    เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร

    โมเดลการใช้งาน
    LibreOffice Community Edition สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    LibreOffice Enterprise สำหรับองค์กรที่ต้องการการสนับสนุน

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากยังใช้เวอร์ชันเก่า อาจเจอบั๊กที่กระทบต่อการทำงาน
    ควรอัปเดตเป็น 25.8.4 ทันทีเพื่อความปลอดภัยและเสถียรภาพ

    https://9to5linux.com/libreoffice-25-8-4-is-now-available-for-download-with-more-than-70-bug-fixes
    📝 LibreOffice 25.8.4 – รุ่นบำรุงรักษาพร้อมแก้บั๊กกว่า 70 จุด The Document Foundation (TDF) ประกาศเปิดตัว LibreOffice 25.8.4 ซึ่งเป็นรุ่นบำรุงรักษาล่าสุดในซีรีส์ 25.8 โดยเน้นการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงเสถียรภาพมากกว่าการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ รุ่นนี้แก้ไขปัญหามากกว่า 70 รายการ ที่ถูกรายงานจากผู้ใช้และนักพัฒนาในชุมชน ทำให้การใช้งานทั้ง Writer, Calc, Impress และ Draw มีความเสถียรมากขึ้น. การอัปเดตนี้ถือเป็นรุ่นที่สี่ในซีรีส์ 25.8 และยังคงยืนยันว่า LibreOffice เป็นหนึ่งในชุดโปรแกรมสำนักงานโอเพนซอร์สที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดย TDF แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงบั๊กที่อาจกระทบต่อการทำงาน โดยเฉพาะผู้ใช้ในองค์กรที่ต้องการความมั่นคงของระบบ. นอกจากนี้ LibreOffice 25.8.4 ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้ผู้ใช้ทั่วไปหันมาใช้ LibreOffice Community Edition ขณะที่องค์กรที่ต้องการการสนับสนุนระยะยาวและบริการเชิงพาณิชย์สามารถเลือกใช้ LibreOffice Enterprise จากพันธมิตรที่ได้รับการรับรอง ซึ่งเป็นโมเดลที่ช่วยให้โครงการมีความยั่งยืนและสามารถพัฒนาต่อไปได้. ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด LibreOffice 25.8.4 ได้จากเว็บไซต์ทางการของ TDF ทั้งในรูปแบบ binary สำหรับ Windows, macOS และ Linux รวมถึง source code สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการปรับแต่งเพิ่มเติม. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ LibreOffice 25.8.4 เปิดตัวแล้ว ➡️ เป็นรุ่นบำรุงรักษาในซีรีส์ 25.8 ➡️ แก้ไขบั๊กกว่า 70 รายการ ✅ การปรับปรุงหลัก ➡️ เพิ่มเสถียรภาพใน Writer, Calc, Impress และ Draw ➡️ เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร ✅ โมเดลการใช้งาน ➡️ LibreOffice Community Edition สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ➡️ LibreOffice Enterprise สำหรับองค์กรที่ต้องการการสนับสนุน ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากยังใช้เวอร์ชันเก่า อาจเจอบั๊กที่กระทบต่อการทำงาน ⛔ ควรอัปเดตเป็น 25.8.4 ทันทีเพื่อความปลอดภัยและเสถียรภาพ https://9to5linux.com/libreoffice-25-8-4-is-now-available-for-download-with-more-than-70-bug-fixes
    9TO5LINUX.COM
    LibreOffice 25.8.4 Is Now Available for Download with More Than 70 Bug Fixes - 9to5Linux
    LibreOffice 25.8.4 is now available for download as the fourth maintenance update to the latest LibreOffice 25.8 office suite series with more than 70 bug fixes.
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • มุมมองใหม่ต่อ “Fragmentation” ของ Linux – ความหลากหลายคือพลัง

    บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่า การที่ Linux ถูกมองว่ามี “fragmentation” หรือแตกเป็นหลายส่วน ไม่ใช่จุดอ่อน แต่กลับเป็นจุดแข็งของระบบนิเวศโอเพนซอร์สนี้ เพราะ Linux ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียว แต่เป็น ecosystem ที่ประกอบด้วยหลายแพลตฟอร์มย่อย เช่น ดิสโทร (Ubuntu, Fedora, Arch), เดสก์ท็อปเอนจิน (GNOME, KDE, XFCE), และระบบแพ็กเกจ (Flatpak, Snap, AppImage) ซึ่งทั้งหมดร่วมกันสร้างความยืดหยุ่นและทางเลือกให้ผู้ใช้.

    ผู้เขียนอธิบายว่า ความหลากหลายนี้ทำให้ Linux สามารถทดลองสิ่งใหม่ ๆ ได้โดยไม่เสี่ยงต่อการล่มสลายของทั้ง ecosystem เช่น เมื่อ GNOME 3 และ KDE 4 เปิดตัว แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่ก็เกิดเดสก์ท็อปใหม่ ๆ อย่าง Cinnamon, MATE และ Cosmic ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ นี่คือพลังของการกระจายตัวที่ไม่ทำลาย แต่กลับสร้างนวัตกรรมต่อเนื่อง.

    แน่นอนว่า fragmentation ก็มีข้อเสีย เช่น ความสับสนสำหรับผู้ใช้ใหม่, ปัญหาการสื่อสารแบรนด์ “Linux” ที่ไม่ชัดเจน, และความไม่สอดคล้องกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างเดสก์ท็อป (เช่น ธีมไม่ตรงกัน, ปัญหา tray icon, หรือ portal quirks) แต่ชุมชนกำลังแก้ไขด้วยมาตรฐานร่วม เช่น FreeDesktop.org specifications, การใช้ systemd และ PipeWire เป็นฐานกลาง รวมถึงการผลักดัน Wayland ให้เป็นมาตรฐานการแสดงผล.

    บทสรุปคือ Linux ไม่ได้ “แตกเป็นชิ้นส่วนที่เสียหาย” แต่เป็นระบบที่หลากหลายโดยตั้งใจ ความหลากหลายนี้ทำให้ Linux ยืดหยุ่น แข็งแรง และเปิดกว้างต่อผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะต้องการความเสถียร ความทันสมัย หรือการปรับแต่งขั้นสูง ก็มีดิสโทรและเดสก์ท็อปที่ตอบโจทย์.

    สรุปสาระสำคัญ
    Linux คือ ecosystem ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียว
    ประกอบด้วยดิสโทร, เดสก์ท็อปเอนจิน, ระบบแพ็กเกจ
    แต่ละส่วนพัฒนาไปตามแนวทางของตัวเอง

    Fragmentation สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ
    GNOME 3 และ KDE 4 จุดประกาย Cinnamon, MATE, Cosmic
    ความหลากหลายทำให้ผู้ใช้เลือกสิ่งที่เหมาะกับตนเอง

    การแก้ปัญหาความไม่สอดคล้อง
    ใช้มาตรฐาน FreeDesktop.org
    รวมศูนย์ด้วย systemd, PipeWire และ Wayland

    คำเตือนและข้อท้าทาย
    ผู้ใช้ใหม่อาจสับสนกับดิสโทรและเดสก์ท็อปที่หลากหลาย
    การสื่อสารแบรนด์ “Linux” ยังไม่ชัดเจนและอาจลดการยอมรับในตลาดหลัก

    https://itsfoss.com/linux-fragmentation-as-positive/
    🐧 มุมมองใหม่ต่อ “Fragmentation” ของ Linux – ความหลากหลายคือพลัง บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่า การที่ Linux ถูกมองว่ามี “fragmentation” หรือแตกเป็นหลายส่วน ไม่ใช่จุดอ่อน แต่กลับเป็นจุดแข็งของระบบนิเวศโอเพนซอร์สนี้ เพราะ Linux ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียว แต่เป็น ecosystem ที่ประกอบด้วยหลายแพลตฟอร์มย่อย เช่น ดิสโทร (Ubuntu, Fedora, Arch), เดสก์ท็อปเอนจิน (GNOME, KDE, XFCE), และระบบแพ็กเกจ (Flatpak, Snap, AppImage) ซึ่งทั้งหมดร่วมกันสร้างความยืดหยุ่นและทางเลือกให้ผู้ใช้. ผู้เขียนอธิบายว่า ความหลากหลายนี้ทำให้ Linux สามารถทดลองสิ่งใหม่ ๆ ได้โดยไม่เสี่ยงต่อการล่มสลายของทั้ง ecosystem เช่น เมื่อ GNOME 3 และ KDE 4 เปิดตัว แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่ก็เกิดเดสก์ท็อปใหม่ ๆ อย่าง Cinnamon, MATE และ Cosmic ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ นี่คือพลังของการกระจายตัวที่ไม่ทำลาย แต่กลับสร้างนวัตกรรมต่อเนื่อง. แน่นอนว่า fragmentation ก็มีข้อเสีย เช่น ความสับสนสำหรับผู้ใช้ใหม่, ปัญหาการสื่อสารแบรนด์ “Linux” ที่ไม่ชัดเจน, และความไม่สอดคล้องกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างเดสก์ท็อป (เช่น ธีมไม่ตรงกัน, ปัญหา tray icon, หรือ portal quirks) แต่ชุมชนกำลังแก้ไขด้วยมาตรฐานร่วม เช่น FreeDesktop.org specifications, การใช้ systemd และ PipeWire เป็นฐานกลาง รวมถึงการผลักดัน Wayland ให้เป็นมาตรฐานการแสดงผล. บทสรุปคือ Linux ไม่ได้ “แตกเป็นชิ้นส่วนที่เสียหาย” แต่เป็นระบบที่หลากหลายโดยตั้งใจ ความหลากหลายนี้ทำให้ Linux ยืดหยุ่น แข็งแรง และเปิดกว้างต่อผู้ใช้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะต้องการความเสถียร ความทันสมัย หรือการปรับแต่งขั้นสูง ก็มีดิสโทรและเดสก์ท็อปที่ตอบโจทย์. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Linux คือ ecosystem ไม่ใช่แพลตฟอร์มเดียว ➡️ ประกอบด้วยดิสโทร, เดสก์ท็อปเอนจิน, ระบบแพ็กเกจ ➡️ แต่ละส่วนพัฒนาไปตามแนวทางของตัวเอง ✅ Fragmentation สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ➡️ GNOME 3 และ KDE 4 จุดประกาย Cinnamon, MATE, Cosmic ➡️ ความหลากหลายทำให้ผู้ใช้เลือกสิ่งที่เหมาะกับตนเอง ✅ การแก้ปัญหาความไม่สอดคล้อง ➡️ ใช้มาตรฐาน FreeDesktop.org ➡️ รวมศูนย์ด้วย systemd, PipeWire และ Wayland ‼️ คำเตือนและข้อท้าทาย ⛔ ผู้ใช้ใหม่อาจสับสนกับดิสโทรและเดสก์ท็อปที่หลากหลาย ⛔ การสื่อสารแบรนด์ “Linux” ยังไม่ชัดเจนและอาจลดการยอมรับในตลาดหลัก https://itsfoss.com/linux-fragmentation-as-positive/
    ITSFOSS.COM
    Linux Desktop is Fragmented (And That's NOT a Bad Thing)
    Linux desktop is often described as fragmented, but with the right perspective, it becomes clear that this description only makes sense if you see Linux as a single, unified product, and expect it act like one. It isn't, and so it doesn't.
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • Armbian Imager – เครื่องมือแฟลช OS สำหรับ SBC กว่า 300 รุ่น

    ผู้ใช้ Raspberry Pi คุ้นเคยกับ Raspberry Pi Imager ที่ช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวก แต่สำหรับผู้ใช้บอร์ด SBC อื่น ๆ เช่น ArmSom AIM7 ตอนนี้มีทางเลือกใหม่คือ Armbian Imager ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีม Armbian เพื่อให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน โดยรองรับบอร์ดกว่า 300 รุ่นจาก 70+ ผู้ผลิต.

    Armbian Imager ทำงานแบบครบวงจร ตั้งแต่เลือกบอร์ด เลือกประเภท image (desktop, server, minimal) ไปจนถึงดาวน์โหลดและแฟลชลง SD card พร้อมตรวจสอบความถูกต้องด้วย SHA256 checksum เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับ custom images ในหลายรูปแบบ เช่น .img, .img.xz, .img.gz, .img.bz2, และ .img.zst.

    สิ่งที่โดดเด่นคือ Armbian Imager ถูกสร้างด้วย Tauri และ Rust แทนที่จะใช้ Electron ทำให้ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเพียง ~15 MB ซึ่งเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับแอป Electron ที่มักมีขนาด 150–200 MB เนื่องจากต้องบรรจุ Chromium มาด้วย ฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์มก็ถูกใส่มา เช่น UDisks2 + pkexec บน Linux, UAC prompt บน Windows และ Touch ID บน macOS.

    แม้ยังอยู่ในช่วง Public Preview และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก GitHub แล้วทดลองใช้งานได้ทันที จุดนี้สะท้อนว่า Armbian กำลังทดสอบตลาดก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ และเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ SBC ที่ไม่ใช่ Raspberry Pi มีเครื่องมือแฟลช OS ที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น.

    สรุปสาระสำคัญ
    Armbian Imager เปิดตัวสำหรับ SBC
    รองรับกว่า 300 บอร์ดจาก 70+ ผู้ผลิต
    เลือก image ได้ทั้ง desktop, server, minimal

    ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความสะดวก
    ตรวจสอบไฟล์ด้วย SHA256 checksum
    รองรับ custom image หลายรูปแบบ

    เทคโนโลยีเบาและทันสมัย
    ใช้ Tauri + Rust ทำให้ไฟล์ติดตั้งเพียง ~15 MB
    มีฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์ม เช่น UAC, Touch ID

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    ยังอยู่ในช่วง Public Preview อาจมีบั๊กหรือปัญหาการใช้งาน
    ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและติดตามอัปเดตจากทีม Armbian

    https://itsfoss.com/news/armbian-imager-quietly-debuts/
    🛠️ Armbian Imager – เครื่องมือแฟลช OS สำหรับ SBC กว่า 300 รุ่น ผู้ใช้ Raspberry Pi คุ้นเคยกับ Raspberry Pi Imager ที่ช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งระบบปฏิบัติการได้สะดวก แต่สำหรับผู้ใช้บอร์ด SBC อื่น ๆ เช่น ArmSom AIM7 ตอนนี้มีทางเลือกใหม่คือ Armbian Imager ซึ่งถูกพัฒนาโดยทีม Armbian เพื่อให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกัน โดยรองรับบอร์ดกว่า 300 รุ่นจาก 70+ ผู้ผลิต. Armbian Imager ทำงานแบบครบวงจร ตั้งแต่เลือกบอร์ด เลือกประเภท image (desktop, server, minimal) ไปจนถึงดาวน์โหลดและแฟลชลง SD card พร้อมตรวจสอบความถูกต้องด้วย SHA256 checksum เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังรองรับ custom images ในหลายรูปแบบ เช่น .img, .img.xz, .img.gz, .img.bz2, และ .img.zst. สิ่งที่โดดเด่นคือ Armbian Imager ถูกสร้างด้วย Tauri และ Rust แทนที่จะใช้ Electron ทำให้ไฟล์ติดตั้งมีขนาดเพียง ~15 MB ซึ่งเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับแอป Electron ที่มักมีขนาด 150–200 MB เนื่องจากต้องบรรจุ Chromium มาด้วย ฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์มก็ถูกใส่มา เช่น UDisks2 + pkexec บน Linux, UAC prompt บน Windows และ Touch ID บน macOS. แม้ยังอยู่ในช่วง Public Preview และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก GitHub แล้วทดลองใช้งานได้ทันที จุดนี้สะท้อนว่า Armbian กำลังทดสอบตลาดก่อนเปิดตัวเต็มรูปแบบ และเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ SBC ที่ไม่ใช่ Raspberry Pi มีเครื่องมือแฟลช OS ที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Armbian Imager เปิดตัวสำหรับ SBC ➡️ รองรับกว่า 300 บอร์ดจาก 70+ ผู้ผลิต ➡️ เลือก image ได้ทั้ง desktop, server, minimal ✅ ฟีเจอร์ความปลอดภัยและความสะดวก ➡️ ตรวจสอบไฟล์ด้วย SHA256 checksum ➡️ รองรับ custom image หลายรูปแบบ ✅ เทคโนโลยีเบาและทันสมัย ➡️ ใช้ Tauri + Rust ทำให้ไฟล์ติดตั้งเพียง ~15 MB ➡️ มีฟีเจอร์เฉพาะแพลตฟอร์ม เช่น UAC, Touch ID ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ ยังอยู่ในช่วง Public Preview อาจมีบั๊กหรือปัญหาการใช้งาน ⛔ ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและติดตามอัปเดตจากทีม Armbian https://itsfoss.com/news/armbian-imager-quietly-debuts/
    ITSFOSS.COM
    The Upcoming Armbian Imager Tool is a Godsend for Non-Raspberry Pi SBC Owners
    Official Armbian utility supports over 300 boards with smart image filtering and verified writes.
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • Thin Desires กำลังกัดกินชีวิตเรา

    บทความ Thin Desires Are Eating Your Life ของ Joan Westenberg วิเคราะห์ว่าโลกยุคดิจิทัลกำลังทำให้เราติดอยู่กับ “thin desires” หรือความปรารถนาที่ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตจริง เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพโซเชียลมีเดีย แทนที่จะลงทุนใน “thick desires” ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและความหมาย เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่หรือการสร้างชุมชน.

    Westenberg อธิบายว่า thin desires คือความปรารถนาที่ให้ความพึงพอใจชั่วคราวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวตน เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพคอนเทนต์ออนไลน์ ในทางตรงกันข้าม thick desires อย่างการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การฝึกฝนงานฝีมือ หรือการสร้างความสัมพันธ์จริง จะเปลี่ยนแปลงผู้คนในระยะยาว ทำให้พวกเขามีความสามารถและมุมมองใหม่ ๆ.

    ธุรกิจเทคโนโลยีจำนวนมากใช้โมเดลที่ “แยกชิ้นส่วน” ความปรารถนาแบบหนา แล้วส่งมอบเฉพาะส่วนที่ให้รางวัลทางสมอง เช่น โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง, สื่อลามกให้ความพึงพอใจทางเพศโดยไม่ต้องมีความสัมพันธ์, แอป productivity ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง สิ่งเหล่านี้ง่ายต่อการทำซ้ำ ขยาย และทำเงิน แต่กลับทำให้ผู้ใช้ติดอยู่กับวงจรความว่างเปล่า.

    ผลลัพธ์คือสังคมที่เต็มไปด้วยความเหงา ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า แม้เราจะ “เชื่อมต่อ” กันมากกว่าที่เคย แต่กลับรู้สึกขาดความหมาย Westenberg ชี้ว่า thick desires ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทันที ต้องใช้เวลา ความพยายาม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกทำลายลงเรื่อย ๆ เช่น การหายไปของเวิร์กช็อป การลดลงของการฝึกงาน และการแทนที่พื้นที่สาธารณะด้วยการใช้ชีวิตคนเดียวกับอุปกรณ์.

    ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็ก ๆ ในการต่อต้าน เช่น การอบขนมปังที่ไม่สามารถเร่งเวลาได้, การเขียนจดหมายด้วยมือที่ไม่สามารถแก้ไขหรือ unsend ได้, หรือการสร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อนหนึ่งคน สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถ scale หรือ monetize ได้ แต่ช่วยให้เรากลับมาสัมผัสกับความอดทน ความหมาย และความสัมพันธ์ที่แท้จริง.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    แนวคิด Thin vs Thick Desires
    Thin = ความพึงพอใจชั่วคราว ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิต
    Thick = ความปรารถนาที่เปลี่ยนแปลงตัวตนและสร้างความหมาย

    ธุรกิจเทคโนโลยีใช้ Thin Desires
    โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง
    Productivity apps ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง

    ผลกระทบต่อสังคม
    ความเหงา วิตกกังวล และซึมเศร้าเพิ่มขึ้น
    โครงสร้างสนับสนุน Thick Desires ถูกทำลาย เช่น เวิร์กช็อปและชุมชน

    แนวทางต่อต้าน Thin Desires
    อบขนมปัง ใช้เวลาและความอดทน
    เขียนจดหมายด้วยมือ สื่อสารนอกระบบ metrics
    สร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อน

    คำเตือน
    การเสพ Thin Desires อย่างต่อเนื่องทำให้ชีวิตว่างเปล่าและขาดความหมาย
    หากไม่สร้าง Thick Desires เราจะสูญเสียความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และความอดทน

    https://www.joanwestenberg.com/thin-desires-are-eating-your-life/
    📱 Thin Desires กำลังกัดกินชีวิตเรา บทความ Thin Desires Are Eating Your Life ของ Joan Westenberg วิเคราะห์ว่าโลกยุคดิจิทัลกำลังทำให้เราติดอยู่กับ “thin desires” หรือความปรารถนาที่ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตจริง เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพโซเชียลมีเดีย แทนที่จะลงทุนใน “thick desires” ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและความหมาย เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่หรือการสร้างชุมชน. Westenberg อธิบายว่า thin desires คือความปรารถนาที่ให้ความพึงพอใจชั่วคราวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวตน เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพคอนเทนต์ออนไลน์ ในทางตรงกันข้าม thick desires อย่างการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การฝึกฝนงานฝีมือ หรือการสร้างความสัมพันธ์จริง จะเปลี่ยนแปลงผู้คนในระยะยาว ทำให้พวกเขามีความสามารถและมุมมองใหม่ ๆ. ธุรกิจเทคโนโลยีจำนวนมากใช้โมเดลที่ “แยกชิ้นส่วน” ความปรารถนาแบบหนา แล้วส่งมอบเฉพาะส่วนที่ให้รางวัลทางสมอง เช่น โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง, สื่อลามกให้ความพึงพอใจทางเพศโดยไม่ต้องมีความสัมพันธ์, แอป productivity ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง สิ่งเหล่านี้ง่ายต่อการทำซ้ำ ขยาย และทำเงิน แต่กลับทำให้ผู้ใช้ติดอยู่กับวงจรความว่างเปล่า. ผลลัพธ์คือสังคมที่เต็มไปด้วยความเหงา ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า แม้เราจะ “เชื่อมต่อ” กันมากกว่าที่เคย แต่กลับรู้สึกขาดความหมาย Westenberg ชี้ว่า thick desires ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทันที ต้องใช้เวลา ความพยายาม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกทำลายลงเรื่อย ๆ เช่น การหายไปของเวิร์กช็อป การลดลงของการฝึกงาน และการแทนที่พื้นที่สาธารณะด้วยการใช้ชีวิตคนเดียวกับอุปกรณ์. ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็ก ๆ ในการต่อต้าน เช่น การอบขนมปังที่ไม่สามารถเร่งเวลาได้, การเขียนจดหมายด้วยมือที่ไม่สามารถแก้ไขหรือ unsend ได้, หรือการสร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อนหนึ่งคน สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถ scale หรือ monetize ได้ แต่ช่วยให้เรากลับมาสัมผัสกับความอดทน ความหมาย และความสัมพันธ์ที่แท้จริง. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ แนวคิด Thin vs Thick Desires ➡️ Thin = ความพึงพอใจชั่วคราว ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิต ➡️ Thick = ความปรารถนาที่เปลี่ยนแปลงตัวตนและสร้างความหมาย ✅ ธุรกิจเทคโนโลยีใช้ Thin Desires ➡️ โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง ➡️ Productivity apps ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง ✅ ผลกระทบต่อสังคม ➡️ ความเหงา วิตกกังวล และซึมเศร้าเพิ่มขึ้น ➡️ โครงสร้างสนับสนุน Thick Desires ถูกทำลาย เช่น เวิร์กช็อปและชุมชน ✅ แนวทางต่อต้าน Thin Desires ➡️ อบขนมปัง ใช้เวลาและความอดทน ➡️ เขียนจดหมายด้วยมือ สื่อสารนอกระบบ metrics ➡️ สร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อน ‼️ คำเตือน ⛔ การเสพ Thin Desires อย่างต่อเนื่องทำให้ชีวิตว่างเปล่าและขาดความหมาย ⛔ หากไม่สร้าง Thick Desires เราจะสูญเสียความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และความอดทน https://www.joanwestenberg.com/thin-desires-are-eating-your-life/
    WWW.JOANWESTENBERG.COM
    Thin Desires Are Eating Your Life
    The defining experience of our age seems to be hunger. We're hungry for more, but we have more than we need. We're hungry for less, while more accumulates and multiplies. We're hungry and we don't have words to articulate why. We're hungry, and we're lacking and we're wanting. We are
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • แนวคิด “No Graphics API” – ลดความซับซ้อนของกราฟิก API

    Sebastian Aaltonen นักพัฒนาเกมที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี อธิบายว่าการเปลี่ยนผ่านจาก DirectX 11 และ OpenGL ไปสู่ API รุ่นใหม่อย่าง DirectX 12, Vulkan และ Metal เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของ AAA games ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามคาด หลายเกมเมื่อพอร์ตไปยัง API ใหม่กลับมีประสิทธิภาพลดลง เพราะโครงสร้างของ engine เดิมไม่สอดคล้องกับ persistent objects ที่ API ใหม่บังคับใช้.

    เขาชี้ว่า GPU ปัจจุบันมีวิวัฒนาการไปไกล เช่น coherent last-level caches, bindless texture samplers และการรองรับ 64-bit GPU pointers ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ retained mode objects ที่ซับซ้อนอีกต่อไป ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ PSO permutation explosion ที่ทำให้ cache ของผู้ใช้กินพื้นที่มากกว่า 100GB และต้องพึ่งพา cloud servers ของ vendor เพื่อเก็บ pipeline state objects.

    Aaltonen เสนอว่าหากออกแบบ API ใหม่โดยยึดตามสถาปัตยกรรม GPU ปัจจุบัน เราสามารถลดความซับซ้อนลงอย่างมาก เช่น ใช้ pointer-based memory management แบบ CUDA และ Metal, รองรับ wide loads และ coherent memory โดยตรง รวมถึงการจัดการ descriptor heap ที่โปร่งใสและง่ายต่อการเขียน shader.

    แนวคิด “No Graphics API” จึงไม่ใช่การลบ API ออกไปทั้งหมด แต่เป็นการลด abstraction ที่ไม่จำเป็น และให้ GPU ทำงานตรงกับหน่วยความจำและ pointer โดยตรง เพื่อแก้ปัญหาประสิทธิภาพและความซับซ้อนที่สะสมมานานกว่า 20 ปีในวงการกราฟิก API.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ปัญหาของ API รุ่นใหม่ (DX12/Vulkan/Metal)
    ซับซ้อนเกินไปสำหรับ engine เดิม
    เกิด PSO permutation explosion และ cache ขนาดมหาศาล

    วิวัฒนาการของ GPU ปัจจุบัน
    มี coherent caches และ bindless samplers
    รองรับ 64-bit GPU pointers และ direct memory access

    แนวคิด “No Graphics API”
    ลด abstraction ที่ไม่จำเป็น
    ใช้ pointer-based memory และ descriptor heap ที่โปร่งใส

    คำเตือนต่ออุตสาหกรรม
    หากยังยึดติดกับ API รุ่นเก่า จะสร้างภาระ cache และ pipeline state ที่ไม่จำเป็น
    ความซับซ้อนที่สะสมอาจทำให้การพัฒนาเกมและกราฟิกช้าลงและสิ้นเปลืองทรัพยากร

    https://www.sebastianaaltonen.com/blog/no-graphics-api
    🖥️ แนวคิด “No Graphics API” – ลดความซับซ้อนของกราฟิก API Sebastian Aaltonen นักพัฒนาเกมที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี อธิบายว่าการเปลี่ยนผ่านจาก DirectX 11 และ OpenGL ไปสู่ API รุ่นใหม่อย่าง DirectX 12, Vulkan และ Metal เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของ AAA games ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามคาด หลายเกมเมื่อพอร์ตไปยัง API ใหม่กลับมีประสิทธิภาพลดลง เพราะโครงสร้างของ engine เดิมไม่สอดคล้องกับ persistent objects ที่ API ใหม่บังคับใช้. เขาชี้ว่า GPU ปัจจุบันมีวิวัฒนาการไปไกล เช่น coherent last-level caches, bindless texture samplers และการรองรับ 64-bit GPU pointers ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ retained mode objects ที่ซับซ้อนอีกต่อไป ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ PSO permutation explosion ที่ทำให้ cache ของผู้ใช้กินพื้นที่มากกว่า 100GB และต้องพึ่งพา cloud servers ของ vendor เพื่อเก็บ pipeline state objects. Aaltonen เสนอว่าหากออกแบบ API ใหม่โดยยึดตามสถาปัตยกรรม GPU ปัจจุบัน เราสามารถลดความซับซ้อนลงอย่างมาก เช่น ใช้ pointer-based memory management แบบ CUDA และ Metal, รองรับ wide loads และ coherent memory โดยตรง รวมถึงการจัดการ descriptor heap ที่โปร่งใสและง่ายต่อการเขียน shader. แนวคิด “No Graphics API” จึงไม่ใช่การลบ API ออกไปทั้งหมด แต่เป็นการลด abstraction ที่ไม่จำเป็น และให้ GPU ทำงานตรงกับหน่วยความจำและ pointer โดยตรง เพื่อแก้ปัญหาประสิทธิภาพและความซับซ้อนที่สะสมมานานกว่า 20 ปีในวงการกราฟิก API. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ปัญหาของ API รุ่นใหม่ (DX12/Vulkan/Metal) ➡️ ซับซ้อนเกินไปสำหรับ engine เดิม ➡️ เกิด PSO permutation explosion และ cache ขนาดมหาศาล ✅ วิวัฒนาการของ GPU ปัจจุบัน ➡️ มี coherent caches และ bindless samplers ➡️ รองรับ 64-bit GPU pointers และ direct memory access ✅ แนวคิด “No Graphics API” ➡️ ลด abstraction ที่ไม่จำเป็น ➡️ ใช้ pointer-based memory และ descriptor heap ที่โปร่งใส ‼️ คำเตือนต่ออุตสาหกรรม ⛔ หากยังยึดติดกับ API รุ่นเก่า จะสร้างภาระ cache และ pipeline state ที่ไม่จำเป็น ⛔ ความซับซ้อนที่สะสมอาจทำให้การพัฒนาเกมและกราฟิกช้าลงและสิ้นเปลืองทรัพยากร https://www.sebastianaaltonen.com/blog/no-graphics-api
    WWW.SEBASTIANAALTONEN.COM
    No Graphics API — Sebastian Aaltonen
    Graphics APIs and shader languages have significantly increased in complexity over the past decade. It’s time to start discussing how to strip down the abstractions to simplify development, improve performance, and prepare for future GPU workloads.
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • Astral เปิดตัว ty – Type Checker ที่เร็วที่สุดสำหรับ Python

    Astral ผู้พัฒนาเครื่องมือดังอย่าง uv (package manager) และ Ruff (linter/formatter) ประกาศเปิดตัว ty ในสถานะ Beta รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเป็น extremely fast Python type checker และ language server เขียนด้วย Rust เพื่อเป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright และ Pylance โดยทีมงานยืนยันว่าได้ใช้ ty ในโปรเจกต์จริงแล้ว และพร้อมแนะนำให้ผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงนำไปใช้ใน production.

    จุดเด่นของ ty คือ ความเร็วเหนือชั้น โดยไม่ใช้ caching ก็ยังเร็วกว่า mypy และ Pyright ถึง 10–60 เท่า และเมื่อใช้งานใน editor ความต่างยิ่งชัดเจน เช่น การแก้ไขไฟล์สำคัญใน PyTorch repository ty ใช้เวลาเพียง 4.7ms ในการ recompute diagnostics เทียบกับ Pyright ที่ใช้ 386ms และ Pyrefly ที่ใช้ 2.38 วินาที นั่นหมายถึงการตอบสนองแบบ real-time ที่แทบไม่สะดุดสำหรับนักพัฒนา.

    นอกจากความเร็วแล้ว ty ยังมาพร้อม ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีขั้นสูง เช่น intersection types, type narrowing และ reachability analysis ที่ช่วยลด false positives และให้ feedback ที่แม่นยำกว่าเดิม ระบบ diagnostic ได้แรงบันดาลใจจาก Rust compiler โดยสามารถอธิบายปัญหาแบบ cross-file และเสนอแนวทางแก้ไข ทำให้ผู้ใช้เข้าใจได้ทั้ง “อะไรผิด” และ “ทำไมผิด”.

    ty รองรับ Language Server Protocol เต็มรูปแบบ เช่น Go to Definition, Auto-Complete, Semantic Highlighting และ Inlay Hints พร้อม extension สำหรับ VS Code และ Cursor ทีม Astral ตั้งเป้าออก Stable release ในปีหน้า โดยจะเพิ่มการรองรับ third-party libraries อย่าง Pydantic และ Django รวมถึงฟีเจอร์เชิง semantic เช่น dead code elimination, CVE reachability analysis และ type-aware linting เพื่อผลักดัน Python ให้เป็น ecosystem ที่ productive ที่สุด.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เปิดตัว ty Beta โดย Astral
    เขียนด้วย Rust เป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright, Pylance
    ใช้งานจริงแล้วในโปรเจกต์ของทีม Astral

    ความเร็วเหนือคู่แข่ง
    เร็วกว่า mypy และ Pyright 10–60 เท่า
    Recompute diagnostics ใน PyTorch repository เพียง 4.7ms

    ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีและระบบ Diagnostic
    Intersection types, type narrowing, reachability analysis
    Diagnostic อธิบายปัญหาแบบ cross-file พร้อมแนวทางแก้ไข

    รองรับการใช้งานใน Editor และ Ecosystem
    รองรับ LSP เต็มรูปแบบ (Auto-Complete, Go to Definition ฯลฯ)
    เตรียมเพิ่มการรองรับ Pydantic, Django และฟีเจอร์ semantic อื่น ๆ

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    ยังอยู่ในสถานะ Beta อาจมีบั๊กและต้องการเสถียรภาพเพิ่ม
    การใช้งานกับ third-party libraries ยังไม่สมบูรณ์ ต้องรอ Stable release

    https://astral.sh/blog/ty
    🚀 Astral เปิดตัว ty – Type Checker ที่เร็วที่สุดสำหรับ Python Astral ผู้พัฒนาเครื่องมือดังอย่าง uv (package manager) และ Ruff (linter/formatter) ประกาศเปิดตัว ty ในสถานะ Beta รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเป็น extremely fast Python type checker และ language server เขียนด้วย Rust เพื่อเป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright และ Pylance โดยทีมงานยืนยันว่าได้ใช้ ty ในโปรเจกต์จริงแล้ว และพร้อมแนะนำให้ผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงนำไปใช้ใน production. จุดเด่นของ ty คือ ความเร็วเหนือชั้น โดยไม่ใช้ caching ก็ยังเร็วกว่า mypy และ Pyright ถึง 10–60 เท่า และเมื่อใช้งานใน editor ความต่างยิ่งชัดเจน เช่น การแก้ไขไฟล์สำคัญใน PyTorch repository ty ใช้เวลาเพียง 4.7ms ในการ recompute diagnostics เทียบกับ Pyright ที่ใช้ 386ms และ Pyrefly ที่ใช้ 2.38 วินาที นั่นหมายถึงการตอบสนองแบบ real-time ที่แทบไม่สะดุดสำหรับนักพัฒนา. นอกจากความเร็วแล้ว ty ยังมาพร้อม ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีขั้นสูง เช่น intersection types, type narrowing และ reachability analysis ที่ช่วยลด false positives และให้ feedback ที่แม่นยำกว่าเดิม ระบบ diagnostic ได้แรงบันดาลใจจาก Rust compiler โดยสามารถอธิบายปัญหาแบบ cross-file และเสนอแนวทางแก้ไข ทำให้ผู้ใช้เข้าใจได้ทั้ง “อะไรผิด” และ “ทำไมผิด”. ty รองรับ Language Server Protocol เต็มรูปแบบ เช่น Go to Definition, Auto-Complete, Semantic Highlighting และ Inlay Hints พร้อม extension สำหรับ VS Code และ Cursor ทีม Astral ตั้งเป้าออก Stable release ในปีหน้า โดยจะเพิ่มการรองรับ third-party libraries อย่าง Pydantic และ Django รวมถึงฟีเจอร์เชิง semantic เช่น dead code elimination, CVE reachability analysis และ type-aware linting เพื่อผลักดัน Python ให้เป็น ecosystem ที่ productive ที่สุด. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เปิดตัว ty Beta โดย Astral ➡️ เขียนด้วย Rust เป็นทางเลือกแทน mypy, Pyright, Pylance ➡️ ใช้งานจริงแล้วในโปรเจกต์ของทีม Astral ✅ ความเร็วเหนือคู่แข่ง ➡️ เร็วกว่า mypy และ Pyright 10–60 เท่า ➡️ Recompute diagnostics ใน PyTorch repository เพียง 4.7ms ✅ ฟีเจอร์เชิงทฤษฎีและระบบ Diagnostic ➡️ Intersection types, type narrowing, reachability analysis ➡️ Diagnostic อธิบายปัญหาแบบ cross-file พร้อมแนวทางแก้ไข ✅ รองรับการใช้งานใน Editor และ Ecosystem ➡️ รองรับ LSP เต็มรูปแบบ (Auto-Complete, Go to Definition ฯลฯ) ➡️ เตรียมเพิ่มการรองรับ Pydantic, Django และฟีเจอร์ semantic อื่น ๆ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ ยังอยู่ในสถานะ Beta อาจมีบั๊กและต้องการเสถียรภาพเพิ่ม ⛔ การใช้งานกับ third-party libraries ยังไม่สมบูรณ์ ต้องรอ Stable release https://astral.sh/blog/ty
    ASTRAL.SH
    ty: An extremely fast Python type checker and language server
    ty is an extremely fast Python type checker and language server, written in Rust, and designed as an alternative to mypy, Pyright, and Pylance.
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
More Results