• อุทาหรณ์ห้องเช่า สาวยูเครนวัยใสพังยับ

    กลายเป็นที่ฮือฮาบนโซเชียลฯ เมื่อเจ้าของห้องชุดให้เช่ารายหนึ่ง โพสต์ภาพอุทาหรณ์ห้องเช่า ระบุว่า ซื้อห้องมาฝากตัวแทน (เอเจนท์) ปล่อยเช่าได้ 1 ปี พบว่าลูกค้าชาวยูเครนทำลายห้องเสียหาย จากภาพจะเห็นว่าผู้เช่ารายดังกล่าว ใช้ปากกาเมจิกขีดเขียนผนัง เฟอร์นิเจอร์ พร้อมกับทำลายข้าวของ เฟอร์นิเจอร์ ฝาผนังห้อง เพดานห้อง เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 350,000 บาท เหตุเกิดที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ชั้น 8 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ใกล้ห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต โดยเอเจนท์ได้ลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวิชิต จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา

    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เช่ารายดังกล่าว เช่าห้องกับเอเจนท์มาตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. 2567 เป็นเวลา 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ผู้เช่าไม่ยอมย้ายออกจากห้อง กลับอยู่ต่อ กระทั่งวันที่ 29 เม.ย. ได้นัดเอเจนท์ส่งมอบห้องดังกล่าวคืน เวลา 16.00 น. แต่เวลา 15.00 น. ได้ส่งข้อความแจ้งว่า ได้ออกจากห้องมาแล้ว นำกุญแจมาทิ้งไว้ที่ถังขยะ เอเจนท์จึงเข้าไปที่คอนโดมิเนียมดังกล่าวพร้อมกับเพื่อนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดมิเนียม ก่อนเรียกช่างกุญแจมาเปิดประตูห้อง พบว่าสภาพห้องได้รับความเสียหายดังกล่าว

    ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.วิชิต ร่วมกันสืบสวนและประสานด่าน ตม. ระงับการเดินทางเข้าออกผู้เช่ารายนี้ กระทั่งเช้าวันที่ 10 พ.ค. ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ต ควบคุมตัวผู้เช่ารายดังกล่าว คือ น.ส.อนาสตาเซีย ฟีดาเนี่ยน (Mrs. Anastasiia Fidanian) อายุ 20 ปี สัญชาติยูเครน ขณะกำลังเดินทางออกนอกประเทศ ที่ ตม.ขาออก เจ้าตัวรับสารภาพว่าได้ทำลายทรัพย์สินภายในห้องจริง เนื่องจากไม่ได้รับเงินค่ามัดจำห้องคืน 32,000 บาท และกำลังตั้งครรภ์ ทำให้เกิดภาวะเครียดและได้กระทำการดังกล่าวไป

    ด้านการซ่อมแซมห้องที่ได้รับความเสียหาย พบว่าเจ้าของห้องได้ว่าจ้างทีมงาน World Clean Phuket ทำความสะอาดห้องที่เกิดเหตุให้สะอาดในระดับหนึ่งแล้ว แม้จะมีร่องรอยความเสียหายที่ทำความสะอาดไม่ออก หรือโซฟาที่ถูกทำลายเสียหายก็ตาม ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าไม่คืนค่ามัดจำห้องนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตามสัญญามีสิทธิที่จะไม่คืนด้วยซ้ำ เพราะผู้เช่าไม่ได้แจ้งล่วงหน้าก่อนย้ายออก 1 เดือน อีกทั้งผิดนัดชำระค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟที่ค้างจ่าย และค่าใช้จ่ายตามสัญญา ซึ่งจะต้องหักออกก่อนที่จะคืน ไม่สามารถจ่ายคืนเต็มจำนวนได้

    #Newskit
    อุทาหรณ์ห้องเช่า สาวยูเครนวัยใสพังยับ กลายเป็นที่ฮือฮาบนโซเชียลฯ เมื่อเจ้าของห้องชุดให้เช่ารายหนึ่ง โพสต์ภาพอุทาหรณ์ห้องเช่า ระบุว่า ซื้อห้องมาฝากตัวแทน (เอเจนท์) ปล่อยเช่าได้ 1 ปี พบว่าลูกค้าชาวยูเครนทำลายห้องเสียหาย จากภาพจะเห็นว่าผู้เช่ารายดังกล่าว ใช้ปากกาเมจิกขีดเขียนผนัง เฟอร์นิเจอร์ พร้อมกับทำลายข้าวของ เฟอร์นิเจอร์ ฝาผนังห้อง เพดานห้อง เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 350,000 บาท เหตุเกิดที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ชั้น 8 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ใกล้ห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมืองภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมืองฯ จ.ภูเก็ต โดยเอเจนท์ได้ลงบันทึกประจำวันไว้กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวิชิต จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เช่ารายดังกล่าว เช่าห้องกับเอเจนท์มาตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย. 2567 เป็นเวลา 1 ปี สิ้นสุดวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ผู้เช่าไม่ยอมย้ายออกจากห้อง กลับอยู่ต่อ กระทั่งวันที่ 29 เม.ย. ได้นัดเอเจนท์ส่งมอบห้องดังกล่าวคืน เวลา 16.00 น. แต่เวลา 15.00 น. ได้ส่งข้อความแจ้งว่า ได้ออกจากห้องมาแล้ว นำกุญแจมาทิ้งไว้ที่ถังขยะ เอเจนท์จึงเข้าไปที่คอนโดมิเนียมดังกล่าวพร้อมกับเพื่อนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดมิเนียม ก่อนเรียกช่างกุญแจมาเปิดประตูห้อง พบว่าสภาพห้องได้รับความเสียหายดังกล่าว ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.วิชิต ร่วมกันสืบสวนและประสานด่าน ตม. ระงับการเดินทางเข้าออกผู้เช่ารายนี้ กระทั่งเช้าวันที่ 10 พ.ค. ตม.ท่าอากาศยานภูเก็ต ควบคุมตัวผู้เช่ารายดังกล่าว คือ น.ส.อนาสตาเซีย ฟีดาเนี่ยน (Mrs. Anastasiia Fidanian) อายุ 20 ปี สัญชาติยูเครน ขณะกำลังเดินทางออกนอกประเทศ ที่ ตม.ขาออก เจ้าตัวรับสารภาพว่าได้ทำลายทรัพย์สินภายในห้องจริง เนื่องจากไม่ได้รับเงินค่ามัดจำห้องคืน 32,000 บาท และกำลังตั้งครรภ์ ทำให้เกิดภาวะเครียดและได้กระทำการดังกล่าวไป ด้านการซ่อมแซมห้องที่ได้รับความเสียหาย พบว่าเจ้าของห้องได้ว่าจ้างทีมงาน World Clean Phuket ทำความสะอาดห้องที่เกิดเหตุให้สะอาดในระดับหนึ่งแล้ว แม้จะมีร่องรอยความเสียหายที่ทำความสะอาดไม่ออก หรือโซฟาที่ถูกทำลายเสียหายก็ตาม ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าไม่คืนค่ามัดจำห้องนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตามสัญญามีสิทธิที่จะไม่คืนด้วยซ้ำ เพราะผู้เช่าไม่ได้แจ้งล่วงหน้าก่อนย้ายออก 1 เดือน อีกทั้งผิดนัดชำระค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟที่ค้างจ่าย และค่าใช้จ่ายตามสัญญา ซึ่งจะต้องหักออกก่อนที่จะคืน ไม่สามารถจ่ายคืนเต็มจำนวนได้ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานีต่อไป กรุงเทพอภิวัฒน์ - KL Sentral

    การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เข้าพบ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ของมาเลเซีย จะร่วมกันกลับมาเปิดให้บริการรถไฟ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-ปาดังเบซาร์-บัตเตอร์เวิร์ธ รัฐปีนัง ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม คาดว่าจะเปิดให้บริการเที่ยวแรกภายในเดือน ก.ค. 2568 เป็นผลมาจากการประชุมร่วมระหว่าง ร.ฟ.ท. และ KTM Berhad ครั้งที่ 42 (KTMB-SRT Joint Conference) เมื่อเดือน ส.ค.2567

    ถือเป็นการฟื้นการเดินรถไฟสายกรุงเทพฯ-ปีนัง กลับมาอีกครั้ง หลังเคยเปิดการเดินรถมาตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2465 เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 94 ปี ก่อนยกเลิกจำหน่ายตั๋วรถไฟไปสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2559 เป็นต้นมา หลังจากประเทศมาเลเซียได้ปรับปรุงทางรถไฟทางคู่ระบบปิด ก่อนให้บริการรถไฟแบบ ETS ซึ่งเป็นรถไฟด่วนพิเศษ และ KTM Komuter ซึ่งเป็นรถไฟธรรมดา ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ขบวนรถที่ 45/46 จากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ปลายทางของรถไฟทางไกลในปัจจุบัน ไปยังสถานีปลายทางปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส เท่านั้น

    ที่น่าสนใจก็คือ รายงานข่าวจากสำนักข่าวเบอร์นามา (Bernama) ของมาเลเซีย นายโลค เปิดเผยว่า มีแผนจะกลับมาเปิดให้บริการรถไฟทางไกล ระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย กับกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย อีกครั้งในปี 2568 ซึ่ง KTM Berhad และ ร.ฟ.ท. จะใช้เวลาเตรียมการเบื้องต้น 3 เดือน แม้การดำเนินการดังกล่าวไม่จำเป็นต้องสร้างเส้นทางรถไฟใหม่ แต่จำเป็นต้องมีการประสานงาน การทำการตลาดร่วมกัน และการออกตั๋วโดยสารร่วมกันระหว่างสองประเทศ

    ขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยได้เสนอให้ขยายบริการรถไฟทางไกล จากสถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) และเมืองปาเซร์มัส (Pasir Mas) รัฐกลันตันในมาเลเซีย ซึ่งตนยินดีรับข้อเสนอนี้ เนื่องจากถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่มีศักยภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น และปรับปรุงคุณภาพชีวิตในพื้นที่ชายแดน แต่จะต้องใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมเพื่อฟื้นฟูเส้นทางรถไฟระหว่างสุไหงโก-ลก รันเตาปันยัง และปาเซร์มัส เนื่องจากต้องมีการบูรณะรางรถไฟที่ไม่ได้ใช้งานมานานในเมืองรันเตาปันยังและสุไหงโก-ลก

    ปัจจุบัน สถานีปาดังเบซาร์ ประเทศมาเลเซีย มีบริการรถไฟ ETS (Electric Train Service) ไปยังสถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ วันละ 5 ขบวน ปลายทางไกลที่สุดคือสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์

    #Newskit

    หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 12 พ.ค. 2568
    สถานีต่อไป กรุงเทพอภิวัฒน์ - KL Sentral การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เข้าพบ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ของมาเลเซีย จะร่วมกันกลับมาเปิดให้บริการรถไฟ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-ปาดังเบซาร์-บัตเตอร์เวิร์ธ รัฐปีนัง ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม คาดว่าจะเปิดให้บริการเที่ยวแรกภายในเดือน ก.ค. 2568 เป็นผลมาจากการประชุมร่วมระหว่าง ร.ฟ.ท. และ KTM Berhad ครั้งที่ 42 (KTMB-SRT Joint Conference) เมื่อเดือน ส.ค.2567 ถือเป็นการฟื้นการเดินรถไฟสายกรุงเทพฯ-ปีนัง กลับมาอีกครั้ง หลังเคยเปิดการเดินรถมาตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2465 เป็นระยะเวลายาวนานกว่า 94 ปี ก่อนยกเลิกจำหน่ายตั๋วรถไฟไปสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2559 เป็นต้นมา หลังจากประเทศมาเลเซียได้ปรับปรุงทางรถไฟทางคู่ระบบปิด ก่อนให้บริการรถไฟแบบ ETS ซึ่งเป็นรถไฟด่วนพิเศษ และ KTM Komuter ซึ่งเป็นรถไฟธรรมดา ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ขบวนรถที่ 45/46 จากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ปลายทางของรถไฟทางไกลในปัจจุบัน ไปยังสถานีปลายทางปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส เท่านั้น ที่น่าสนใจก็คือ รายงานข่าวจากสำนักข่าวเบอร์นามา (Bernama) ของมาเลเซีย นายโลค เปิดเผยว่า มีแผนจะกลับมาเปิดให้บริการรถไฟทางไกล ระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย กับกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย อีกครั้งในปี 2568 ซึ่ง KTM Berhad และ ร.ฟ.ท. จะใช้เวลาเตรียมการเบื้องต้น 3 เดือน แม้การดำเนินการดังกล่าวไม่จำเป็นต้องสร้างเส้นทางรถไฟใหม่ แต่จำเป็นต้องมีการประสานงาน การทำการตลาดร่วมกัน และการออกตั๋วโดยสารร่วมกันระหว่างสองประเทศ ขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยได้เสนอให้ขยายบริการรถไฟทางไกล จากสถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) และเมืองปาเซร์มัส (Pasir Mas) รัฐกลันตันในมาเลเซีย ซึ่งตนยินดีรับข้อเสนอนี้ เนื่องจากถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่มีศักยภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น และปรับปรุงคุณภาพชีวิตในพื้นที่ชายแดน แต่จะต้องใช้เวลาในการเตรียมความพร้อมเพื่อฟื้นฟูเส้นทางรถไฟระหว่างสุไหงโก-ลก รันเตาปันยัง และปาเซร์มัส เนื่องจากต้องมีการบูรณะรางรถไฟที่ไม่ได้ใช้งานมานานในเมืองรันเตาปันยังและสุไหงโก-ลก ปัจจุบัน สถานีปาดังเบซาร์ ประเทศมาเลเซีย มีบริการรถไฟ ETS (Electric Train Service) ไปยังสถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ วันละ 5 ขบวน ปลายทางไกลที่สุดคือสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ #Newskit หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 12 พ.ค. 2568
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI ขยายการรองรับ Data Residency ใน 4 ประเทศเอเชีย OpenAI ประกาศว่า ChatGPT Enterprise, ChatGPT Edu และ API Platform จะรองรับ Data Residency ใน ญี่ปุ่น, อินเดีย, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ซึ่งช่วยให้ องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศของตน ตามข้อกำหนดด้าน Data Sovereignty

    นอกจากนี้ OpenAI ยังเน้นย้ำถึง มาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูล เช่น การเข้ารหัสขั้นสูง, การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล และการไม่ใช้ข้อมูลลูกค้าในการฝึกโมเดล AI

    ✅ OpenAI รองรับ Data Residency ในญี่ปุ่น, อินเดีย, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้
    - ช่วยให้ องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศของตน

    ✅ Data Residency รองรับ ChatGPT Enterprise, ChatGPT Edu และ API Platform
    - ลูกค้าสามารถ เลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำหรับ API Platform ได้

    ✅ OpenAI ใช้การเข้ารหัส AES-256 สำหรับข้อมูลที่จัดเก็บ และ TLS 1.2+ สำหรับข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่าย
    - ช่วยให้ ข้อมูลมีความปลอดภัยทั้งขณะจัดเก็บและขณะส่งผ่านเครือข่าย

    ✅ OpenAI ไม่ใช้ข้อมูลจาก ChatGPT Business Plans หรือ API ในการฝึกโมเดล AI
    - ยกเว้นกรณีที่ ลูกค้าเลือกแชร์ข้อมูลกับ OpenAI

    ✅ OpenAI ปฏิบัติตามมาตรฐาน GDPR, CCPA และ CSA STAR
    - ช่วยให้ องค์กรสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัว

    https://www.neowin.net/news/openai-announces-data-residency-support-in-asian-countries/
    OpenAI ขยายการรองรับ Data Residency ใน 4 ประเทศเอเชีย OpenAI ประกาศว่า ChatGPT Enterprise, ChatGPT Edu และ API Platform จะรองรับ Data Residency ใน ญี่ปุ่น, อินเดีย, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ซึ่งช่วยให้ องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศของตน ตามข้อกำหนดด้าน Data Sovereignty นอกจากนี้ OpenAI ยังเน้นย้ำถึง มาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูล เช่น การเข้ารหัสขั้นสูง, การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล และการไม่ใช้ข้อมูลลูกค้าในการฝึกโมเดล AI ✅ OpenAI รองรับ Data Residency ในญี่ปุ่น, อินเดีย, สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ - ช่วยให้ องค์กรสามารถจัดเก็บข้อมูลภายในประเทศของตน ✅ Data Residency รองรับ ChatGPT Enterprise, ChatGPT Edu และ API Platform - ลูกค้าสามารถ เลือกพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำหรับ API Platform ได้ ✅ OpenAI ใช้การเข้ารหัส AES-256 สำหรับข้อมูลที่จัดเก็บ และ TLS 1.2+ สำหรับข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่าย - ช่วยให้ ข้อมูลมีความปลอดภัยทั้งขณะจัดเก็บและขณะส่งผ่านเครือข่าย ✅ OpenAI ไม่ใช้ข้อมูลจาก ChatGPT Business Plans หรือ API ในการฝึกโมเดล AI - ยกเว้นกรณีที่ ลูกค้าเลือกแชร์ข้อมูลกับ OpenAI ✅ OpenAI ปฏิบัติตามมาตรฐาน GDPR, CCPA และ CSA STAR - ช่วยให้ องค์กรสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัว https://www.neowin.net/news/openai-announces-data-residency-support-in-asian-countries/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI announces data residency support in Asian countries
    This allows organizations in these regions to store their data locally, helping them comply with data sovereignty regulations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung เข้าซื้อกิจการ Bowers & Wilkins, Denon, Marantz ด้วยมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ Samsung และบริษัทในเครือ Harman International ได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ เพื่อเข้าซื้อ ธุรกิจเครื่องเสียงของ Masimo Corporation ซึ่งรวมถึงแบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่าง Bowers & Wilkins, Denon, Marantz, Polk Audio และ Definitive Technology

    การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็น ก้าวสำคัญของ Samsung ในตลาดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม โดยบริษัทคาดว่า ตลาดเครื่องเสียงทั่วโลกจะเติบโตเป็น 70 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029

    ✅ Samsung และ Harman International เข้าซื้อธุรกิจเครื่องเสียงของ Masimo Corporation
    - รวมถึงแบรนด์ Bowers & Wilkins, Denon, Marantz, Polk Audio และ Definitive Technology

    ✅ การเข้าซื้อกิจการช่วยให้ Samsung ขยายตลาดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม
    - คาดว่าตลาดเครื่องเสียงทั่วโลกจะ เติบโตเป็น 70 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029

    ✅ Harman International เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำอยู่แล้ว
    - เช่น JBL, Harman Kardon, AKG, Arcam, Mark Levinson และ Revel

    ✅ Samsung วางแผนรวมเทคโนโลยีจากแบรนด์เหล่านี้เข้ากับผลิตภัณฑ์ของตน
    - เช่น สมาร์ทโฟน, ทีวี, ซาวด์บาร์ และหูฟังไร้สาย

    ✅ Masimo Corporation จะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจเทคโนโลยีทางการแพทย์
    - หลังจากแพ้คดีเกี่ยวกับเทคโนโลยีวัดออกซิเจนใน Apple Watch

    https://www.techspot.com/news/107850-samsung-acquires-bowers-wilkins-denon-marantz-350m-audio.html
    Samsung เข้าซื้อกิจการ Bowers & Wilkins, Denon, Marantz ด้วยมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ Samsung และบริษัทในเครือ Harman International ได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ เพื่อเข้าซื้อ ธุรกิจเครื่องเสียงของ Masimo Corporation ซึ่งรวมถึงแบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่าง Bowers & Wilkins, Denon, Marantz, Polk Audio และ Definitive Technology การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้เป็น ก้าวสำคัญของ Samsung ในตลาดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม โดยบริษัทคาดว่า ตลาดเครื่องเสียงทั่วโลกจะเติบโตเป็น 70 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029 ✅ Samsung และ Harman International เข้าซื้อธุรกิจเครื่องเสียงของ Masimo Corporation - รวมถึงแบรนด์ Bowers & Wilkins, Denon, Marantz, Polk Audio และ Definitive Technology ✅ การเข้าซื้อกิจการช่วยให้ Samsung ขยายตลาดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม - คาดว่าตลาดเครื่องเสียงทั่วโลกจะ เติบโตเป็น 70 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2029 ✅ Harman International เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำอยู่แล้ว - เช่น JBL, Harman Kardon, AKG, Arcam, Mark Levinson และ Revel ✅ Samsung วางแผนรวมเทคโนโลยีจากแบรนด์เหล่านี้เข้ากับผลิตภัณฑ์ของตน - เช่น สมาร์ทโฟน, ทีวี, ซาวด์บาร์ และหูฟังไร้สาย ✅ Masimo Corporation จะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจเทคโนโลยีทางการแพทย์ - หลังจากแพ้คดีเกี่ยวกับเทคโนโลยีวัดออกซิเจนใน Apple Watch https://www.techspot.com/news/107850-samsung-acquires-bowers-wilkins-denon-marantz-350m-audio.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Samsung acquires Bowers & Wilkins, Denon, Marantz, in $350M audio deal
    This move supercharges Samsung's ambitions in the premium audio space. Harman already owns a stable of respected audio brands, including JBL, Harman Kardon, AKG, Arcam, Mark Levinson,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ปรับปรุงแอป Move to iOS ให้โอนข้อมูลจาก Android ไป iPhone ได้ง่ายขึ้น Apple ได้อัปเดต แอป Move to iOS ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ โอนข้อมูลจากสมาร์ทโฟน Android ไปยัง iPhone ได้รวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่ม การรองรับประวัติการโทร, ไฟล์เสียง และป้ายกำกับ Dual SIM

    นอกจากนี้ แอปยัง รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ และ USB-C to Lightning สำหรับรุ่นเก่า ทำให้การโอนข้อมูล มีความเร็วสูงขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ

    ✅ Move to iOS รองรับการโอนข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น
    - สามารถ โอนรายชื่อ, ประวัติข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, บุ๊กมาร์กเว็บ, บัญชีอีเมล และปฏิทิน
    - รองรับ แอปที่เข้ากันได้ รวมถึงเนื้อหา WhatsApp

    ✅ เพิ่มการรองรับประวัติการโทรและไฟล์เสียง
    - สามารถ โอนข้อมูลไปยังแอป Voice Memos หรือ Files ได้โดยตรง

    ✅ รองรับการโอนป้ายกำกับ Dual SIM
    - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ใช้สองซิมสามารถรักษาชื่อที่ตั้งค่าไว้ได้

    ✅ รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C และ USB-C to Lightning
    - ทำให้ การโอนข้อมูลเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ

    ✅ Google มีแอป Switch to Android สำหรับการโอนข้อมูลจาก iPhone ไป Android
    - ใช้ QR Code เพื่อโอนรายชื่อ, ปฏิทิน, รูปภาพ และวิดีโอ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/09/switching-from-an-android-handset-to-an-iphone-has-never-been-easier
    Apple ปรับปรุงแอป Move to iOS ให้โอนข้อมูลจาก Android ไป iPhone ได้ง่ายขึ้น Apple ได้อัปเดต แอป Move to iOS ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ โอนข้อมูลจากสมาร์ทโฟน Android ไปยัง iPhone ได้รวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่ม การรองรับประวัติการโทร, ไฟล์เสียง และป้ายกำกับ Dual SIM นอกจากนี้ แอปยัง รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C สำหรับ iPhone รุ่นใหม่ และ USB-C to Lightning สำหรับรุ่นเก่า ทำให้การโอนข้อมูล มีความเร็วสูงขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ ✅ Move to iOS รองรับการโอนข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้น - สามารถ โอนรายชื่อ, ประวัติข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, บุ๊กมาร์กเว็บ, บัญชีอีเมล และปฏิทิน - รองรับ แอปที่เข้ากันได้ รวมถึงเนื้อหา WhatsApp ✅ เพิ่มการรองรับประวัติการโทรและไฟล์เสียง - สามารถ โอนข้อมูลไปยังแอป Voice Memos หรือ Files ได้โดยตรง ✅ รองรับการโอนป้ายกำกับ Dual SIM - ช่วยให้ ผู้ใช้ที่ใช้สองซิมสามารถรักษาชื่อที่ตั้งค่าไว้ได้ ✅ รองรับการโอนข้อมูลผ่านสาย USB-C และ USB-C to Lightning - ทำให้ การโอนข้อมูลเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อ ✅ Google มีแอป Switch to Android สำหรับการโอนข้อมูลจาก iPhone ไป Android - ใช้ QR Code เพื่อโอนรายชื่อ, ปฏิทิน, รูปภาพ และวิดีโอ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/09/switching-from-an-android-handset-to-an-iphone-has-never-been-easier
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Switching from an Android handset to an iPhone has never been easier
    Apple has announced a major update to its Move to iOS mobile application which, as the name suggests, lets you transfer your personal data from an old Android smartphone to a new iPhone. The manufacturer now promises a faster, more comprehensive switchover.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ปรับปรุงระบบแชร์ไฟล์ใน Microsoft 365 ให้ปลอดภัยและใช้งานง่ายขึ้น Microsoft ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการแชร์ไฟล์ใน Microsoft 365 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ จัดการสิทธิ์การเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และ เพิ่มความปลอดภัยในการแชร์เอกสาร

    ฟีเจอร์ใหม่นี้รวมถึง Hero Links ซึ่งเป็น ลิงก์หลักที่ควบคุมการเข้าถึงไฟล์ โดยไม่ว่าผู้ใช้จะ คัดลอกลิงก์จากแถบที่อยู่ในเบราว์เซอร์, กด "Copy Link" หรือแนบไฟล์ในอีเมล ก็จะได้รับ ลิงก์เดียวกัน เพื่อให้การแชร์ไฟล์เป็นไปอย่างราบรื่น

    นอกจากนี้ Microsoft ยังเพิ่ม การอัปเดตสิทธิ์แบบกลุ่ม และ การตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม เพื่อให้ ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าถึงไฟล์ได้ดีขึ้น

    ✅ Microsoft 365 เพิ่มฟีเจอร์ Hero Links เพื่อให้การแชร์ไฟล์ง่ายขึ้น
    - ทุกไฟล์จะมี ลิงก์หลักที่ควบคุมการเข้าถึง
    - ไม่ว่าผู้ใช้จะ คัดลอกลิงก์จากแหล่งใด ก็จะได้รับลิงก์เดียวกัน

    ✅ สามารถแก้ไขสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ได้ง่ายขึ้น
    - ผู้ใช้สามารถ ให้สิทธิ์ทุกคนในองค์กรเข้าถึงไฟล์ได้ด้วยคลิกเดียว
    - สามารถ ล็อกไฟล์ให้เข้าถึงได้เฉพาะบุคคลที่กำหนด

    ✅ เพิ่มการตั้งค่าความปลอดภัยในการแชร์ไฟล์
    - ระบบจะแสดง แท็กสำหรับบุคคลภายนอกองค์กรที่ได้รับสิทธิ์เข้าถึงไฟล์
    - ผู้ดูแลระบบสามารถ กำหนดว่าใครสามารถเพิ่มบุคคลหรือเปลี่ยนสิทธิ์การเข้าถึงได้

    ✅ Copilot ถูกนำมาใช้ในระบบแชร์ไฟล์
    - ผู้ใช้สามารถ ให้ AI สร้างสรุปเอกสารและแนบไปกับอีเมลได้
    - สามารถ เลือกได้ว่าจะส่งการแจ้งเตือนให้ผู้รับไฟล์หรือไม่

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่จะเปิดตัวใน Microsoft 365 ช่วงปลายปี 2025
    - Microsoft จะเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัปเกรดในปีนี้

    https://www.neowin.net/news/microsoft-makes-it-easier-smarter-and-more-secure-to-share-files-in-microsoft-365/
    Microsoft ปรับปรุงระบบแชร์ไฟล์ใน Microsoft 365 ให้ปลอดภัยและใช้งานง่ายขึ้น Microsoft ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการแชร์ไฟล์ใน Microsoft 365 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ จัดการสิทธิ์การเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และ เพิ่มความปลอดภัยในการแชร์เอกสาร ฟีเจอร์ใหม่นี้รวมถึง Hero Links ซึ่งเป็น ลิงก์หลักที่ควบคุมการเข้าถึงไฟล์ โดยไม่ว่าผู้ใช้จะ คัดลอกลิงก์จากแถบที่อยู่ในเบราว์เซอร์, กด "Copy Link" หรือแนบไฟล์ในอีเมล ก็จะได้รับ ลิงก์เดียวกัน เพื่อให้การแชร์ไฟล์เป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ Microsoft ยังเพิ่ม การอัปเดตสิทธิ์แบบกลุ่ม และ การตั้งค่าความปลอดภัยเพิ่มเติม เพื่อให้ ผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมการเข้าถึงไฟล์ได้ดีขึ้น ✅ Microsoft 365 เพิ่มฟีเจอร์ Hero Links เพื่อให้การแชร์ไฟล์ง่ายขึ้น - ทุกไฟล์จะมี ลิงก์หลักที่ควบคุมการเข้าถึง - ไม่ว่าผู้ใช้จะ คัดลอกลิงก์จากแหล่งใด ก็จะได้รับลิงก์เดียวกัน ✅ สามารถแก้ไขสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ได้ง่ายขึ้น - ผู้ใช้สามารถ ให้สิทธิ์ทุกคนในองค์กรเข้าถึงไฟล์ได้ด้วยคลิกเดียว - สามารถ ล็อกไฟล์ให้เข้าถึงได้เฉพาะบุคคลที่กำหนด ✅ เพิ่มการตั้งค่าความปลอดภัยในการแชร์ไฟล์ - ระบบจะแสดง แท็กสำหรับบุคคลภายนอกองค์กรที่ได้รับสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ - ผู้ดูแลระบบสามารถ กำหนดว่าใครสามารถเพิ่มบุคคลหรือเปลี่ยนสิทธิ์การเข้าถึงได้ ✅ Copilot ถูกนำมาใช้ในระบบแชร์ไฟล์ - ผู้ใช้สามารถ ให้ AI สร้างสรุปเอกสารและแนบไปกับอีเมลได้ - สามารถ เลือกได้ว่าจะส่งการแจ้งเตือนให้ผู้รับไฟล์หรือไม่ ✅ ฟีเจอร์ใหม่จะเปิดตัวใน Microsoft 365 ช่วงปลายปี 2025 - Microsoft จะเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัปเกรดในปีนี้ https://www.neowin.net/news/microsoft-makes-it-easier-smarter-and-more-secure-to-share-files-in-microsoft-365/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft makes it easier, smarter, and more secure to share files in Microsoft 365
    Microsoft is revamping the file-sharing experience in Microsoft 365 to make it simpler, safer, and smarter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • การคอร์รัปชันระดับโลก (Global Corruption) เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่มักมีระบบตรวจสอบและกลไกต่อต้านคอร์รัปชันที่อ่อนแอ

    ### **รูปแบบของการคอร์รัปชันระดับโลก**
    1. **การทุจริตข้ามชาติ (Transnational Corruption)**
    - การติดสินบนระหว่างประเทศ (เช่น บริษัทข้ามชาติให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อชนะโครงการใหญ่)
    - การฟอกเงินผ่านระบบการเงินระหว่างประเทศ

    2. **การหลีกเลี่ยงภาษี (Tax Evasion)**
    - การใช้บัญชีธนาคารลับในต่างประเทศ (เช่น เอกสารลับ Panama Papers, Paradise Papers)
    - การโอนผลกำไรไปยังประเทศที่มีภาษีต่ำ (Tax Havens)

    3. **การคอร์รัปชันในองค์กรระหว่างประเทศ**
    - การทุจริตในโครงการช่วยเหลือของสหประชาชาติ (UN) หรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
    - การใช้อำนาจในองค์กรโลกบาลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

    4. **การคอร์รัปชันในห่วงโซ่อุปทานโลก**
    - การใช้แรงงานบังคับหรือการจ่ายเงินใต้โต๊ะในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงาน

    ### **กรณีศึกษาที่โดดเด่น**
    - **Panama Papers (2016)** – เอกสารรั่วไหลเผยให้เห็นว่าผู้นำโลกและคนรวยใช้บริษัทหลอกเพื่อซ่อนทรัพย์สิน
    - **Operation Car Wash (巴西洗车行动)** – คดีทุจริตใหญ่ในบราซิลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมัน Petrobras และนักการเมืองหลายประเทศ
    - **1MDB Scandal (มาเลเซีย)** – อดีตนายกฯ นาจิบ ราซัก ถูกกล่าวหาลักลอบใช้เงินกองทุนรัฐ

    ### **ผลกระทบ**
    - **เศรษฐกิจ** : สร้างความเสียหายมหาศาล ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน
    - **สังคม** : เพิ่มความเหลื่อมล้ำ ทำลายระบบสวัสดิการ
    - **การเมือง** : บ่อนทำลายประชาธิปไตย สร้างระบอบอำนาจนิยม

    ### **ความพยายามต่อต้านคอร์รัปชันระดับโลก**
    - **UN Convention Against Corruption (UNCAC)** – ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามคอร์รัปชัน
    - **OECD Anti-Bribery Convention** – ควบคุมการติดสินบนข้ามชาติของบริษัท
    - **Transparency International** – องค์กรนอกภาครัฐที่จัดดัชนีชี้วัดความโปร่งใส (CPI)

    ### **ความท้าทาย**
    - การบังคับใช้กฎหมายในบางประเทศยังอ่อนแอ
    - การใช้เทคโนโลยี (Cryptocurrency, Shell Companies) ทำให้การตรวจจับยากขึ้น

    การแก้ปัญหาคอร์รัปชันระดับโลกต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และการสร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสในภาครัฐและเอกชน
    การคอร์รัปชันระดับโลก (Global Corruption) เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาที่มักมีระบบตรวจสอบและกลไกต่อต้านคอร์รัปชันที่อ่อนแอ ### **รูปแบบของการคอร์รัปชันระดับโลก** 1. **การทุจริตข้ามชาติ (Transnational Corruption)** - การติดสินบนระหว่างประเทศ (เช่น บริษัทข้ามชาติให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อชนะโครงการใหญ่) - การฟอกเงินผ่านระบบการเงินระหว่างประเทศ 2. **การหลีกเลี่ยงภาษี (Tax Evasion)** - การใช้บัญชีธนาคารลับในต่างประเทศ (เช่น เอกสารลับ Panama Papers, Paradise Papers) - การโอนผลกำไรไปยังประเทศที่มีภาษีต่ำ (Tax Havens) 3. **การคอร์รัปชันในองค์กรระหว่างประเทศ** - การทุจริตในโครงการช่วยเหลือของสหประชาชาติ (UN) หรือกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) - การใช้อำนาจในองค์กรโลกบาลเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว 4. **การคอร์รัปชันในห่วงโซ่อุปทานโลก** - การใช้แรงงานบังคับหรือการจ่ายเงินใต้โต๊ะในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงาน ### **กรณีศึกษาที่โดดเด่น** - **Panama Papers (2016)** – เอกสารรั่วไหลเผยให้เห็นว่าผู้นำโลกและคนรวยใช้บริษัทหลอกเพื่อซ่อนทรัพย์สิน - **Operation Car Wash (巴西洗车行动)** – คดีทุจริตใหญ่ในบราซิลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทน้ำมัน Petrobras และนักการเมืองหลายประเทศ - **1MDB Scandal (มาเลเซีย)** – อดีตนายกฯ นาจิบ ราซัก ถูกกล่าวหาลักลอบใช้เงินกองทุนรัฐ ### **ผลกระทบ** - **เศรษฐกิจ** : สร้างความเสียหายมหาศาล ทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน - **สังคม** : เพิ่มความเหลื่อมล้ำ ทำลายระบบสวัสดิการ - **การเมือง** : บ่อนทำลายประชาธิปไตย สร้างระบอบอำนาจนิยม ### **ความพยายามต่อต้านคอร์รัปชันระดับโลก** - **UN Convention Against Corruption (UNCAC)** – ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อปราบปรามคอร์รัปชัน - **OECD Anti-Bribery Convention** – ควบคุมการติดสินบนข้ามชาติของบริษัท - **Transparency International** – องค์กรนอกภาครัฐที่จัดดัชนีชี้วัดความโปร่งใส (CPI) ### **ความท้าทาย** - การบังคับใช้กฎหมายในบางประเทศยังอ่อนแอ - การใช้เทคโนโลยี (Cryptocurrency, Shell Companies) ทำให้การตรวจจับยากขึ้น การแก้ปัญหาคอร์รัปชันระดับโลกต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และการสร้างวัฒนธรรมความโปร่งใสในภาครัฐและเอกชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI ถูกใช้เพื่อให้เหยื่อฆาตกรรมกล่าวคำแถลงในศาล ในรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้เพื่อให้เหยื่อฆาตกรรมสามารถกล่าวคำแถลงต่อฆาตกรของเขาในศาล ซึ่งถือเป็น ครั้งแรกที่ AI ถูกใช้ในกระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างคำแถลงของเหยื่อ

    Christopher Pelkey ทหารผ่านศึกวัย 37 ปี ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์ ความรุนแรงบนท้องถนนในปี 2021 โดย Gabriel Horcasitas ขณะที่ Pelkey กำลังเดินกลับไปที่รถของ Horcasitas หลังจากออกจากรถของตัวเอง

    ✅ AI ถูกใช้เพื่อสร้างคำแถลงของเหยื่อฆาตกรรมในศาล
    - เป็น ครั้งแรกที่ AI ถูกนำมาใช้ในกระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างคำแถลงของเหยื่อ
    - ช่วยให้ เหยื่อสามารถกล่าวคำแถลงแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว

    ✅ Christopher Pelkey ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์ความรุนแรงบนท้องถนนในปี 2021
    - Gabriel Horcasitas ถูกตัดสินจำคุก 10 ปีครึ่งในข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

    ✅ AI สร้างภาพจำลองของ Pelkey และให้เขากล่าวคำแถลงต่อฆาตกรของเขา
    - คำแถลงของ Pelkey เน้นเรื่อง การให้อภัยและความเชื่อในพระเจ้า
    - ผู้พิพากษา Todd Lang ยอมรับการใช้ AI และกล่าวว่า "ฉันชอบ AI นี้ ขอบคุณสำหรับสิ่งนี้"

    ✅ ครอบครัวของ Pelkey รู้สึกพอใจกับการใช้ AI ในศาล
    - น้องสาวของ Pelkey เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้เพื่อให้พี่ชายของเธอสามารถกล่าวคำแถลงได้
    - พี่ชายของ Pelkey กล่าวว่าการเห็นใบหน้าของพี่ชายทำให้เขารู้สึกถึง "คลื่นแห่งการเยียวยา"

    ‼️ การใช้ AI ในศาลอาจนำไปสู่ข้อกังวลด้านจริยธรรม
    - ต้องมี มาตรฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ AI ในกระบวนการยุติธรรม

    ‼️ AI อาจถูกใช้ในทางที่ผิด เช่น การสร้างคำแถลงปลอมเพื่อโน้มน้าวศาล
    - ต้องมี การตรวจสอบและควบคุมการใช้เทคโนโลยีนี้อย่างเข้มงวด

    https://www.techspot.com/news/107831-ai-murder-victim-address-killer-arizona-courtroom.html
    AI ถูกใช้เพื่อให้เหยื่อฆาตกรรมกล่าวคำแถลงในศาล ในรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้เพื่อให้เหยื่อฆาตกรรมสามารถกล่าวคำแถลงต่อฆาตกรของเขาในศาล ซึ่งถือเป็น ครั้งแรกที่ AI ถูกใช้ในกระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างคำแถลงของเหยื่อ Christopher Pelkey ทหารผ่านศึกวัย 37 ปี ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์ ความรุนแรงบนท้องถนนในปี 2021 โดย Gabriel Horcasitas ขณะที่ Pelkey กำลังเดินกลับไปที่รถของ Horcasitas หลังจากออกจากรถของตัวเอง ✅ AI ถูกใช้เพื่อสร้างคำแถลงของเหยื่อฆาตกรรมในศาล - เป็น ครั้งแรกที่ AI ถูกนำมาใช้ในกระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างคำแถลงของเหยื่อ - ช่วยให้ เหยื่อสามารถกล่าวคำแถลงแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว ✅ Christopher Pelkey ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์ความรุนแรงบนท้องถนนในปี 2021 - Gabriel Horcasitas ถูกตัดสินจำคุก 10 ปีครึ่งในข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ✅ AI สร้างภาพจำลองของ Pelkey และให้เขากล่าวคำแถลงต่อฆาตกรของเขา - คำแถลงของ Pelkey เน้นเรื่อง การให้อภัยและความเชื่อในพระเจ้า - ผู้พิพากษา Todd Lang ยอมรับการใช้ AI และกล่าวว่า "ฉันชอบ AI นี้ ขอบคุณสำหรับสิ่งนี้" ✅ ครอบครัวของ Pelkey รู้สึกพอใจกับการใช้ AI ในศาล - น้องสาวของ Pelkey เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้เพื่อให้พี่ชายของเธอสามารถกล่าวคำแถลงได้ - พี่ชายของ Pelkey กล่าวว่าการเห็นใบหน้าของพี่ชายทำให้เขารู้สึกถึง "คลื่นแห่งการเยียวยา" ‼️ การใช้ AI ในศาลอาจนำไปสู่ข้อกังวลด้านจริยธรรม - ต้องมี มาตรฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ AI ในกระบวนการยุติธรรม ‼️ AI อาจถูกใช้ในทางที่ผิด เช่น การสร้างคำแถลงปลอมเพื่อโน้มน้าวศาล - ต้องมี การตรวจสอบและควบคุมการใช้เทคโนโลยีนี้อย่างเข้มงวด https://www.techspot.com/news/107831-ai-murder-victim-address-killer-arizona-courtroom.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI lets murder victim address his killer in Arizona courtroom
    37-year-old army veteran Christopher Pelkey was killed by Gabriel Horcasitas at a red light in 2021 in Chandler, Arizona. Pelkey had left his vehicle and was walking...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศ ขยายเวลาการรองรับ Basic Authentication สำหรับ High Volume Email (HVE) ใน Microsoft 365 ไปจนถึง กันยายน 2028 เพื่อให้ธุรกิจมีเวลามากขึ้นในการเปลี่ยนไปใช้ Modern Authentication เช่น OAuth

    นอกจากนี้ Microsoft ยัง ปรับเปลี่ยนการใช้งาน HVE โดยตั้งแต่เดือนหน้า HVE จะใช้ได้เฉพาะการส่งอีเมลภายในองค์กรเท่านั้น และ ไม่สามารถใช้ส่งอีเมลไปยังผู้รับภายนอกได้อีกต่อไป

    ✅ Microsoft ขยายเวลาการรองรับ Basic Authentication สำหรับ HVE ไปจนถึงกันยายน 2028
    - ให้ธุรกิจมีเวลามากขึ้นในการเปลี่ยนไปใช้ Modern Authentication เช่น OAuth
    - Microsoft แนะนำให้ องค์กรเปลี่ยนไปใช้ระบบที่ปลอดภัยกว่าโดยเร็วที่สุด

    ✅ HVE จะใช้ได้เฉพาะการส่งอีเมลภายในองค์กรเท่านั้น
    - ตั้งแต่เดือนหน้า ไม่สามารถใช้ส่งอีเมลไปยังผู้รับภายนอกได้อีกต่อไป
    - Microsoft แนะนำให้ใช้ Azure Communication Services (ACS) สำหรับการส่งอีเมลไปยังผู้รับภายนอก

    ✅ Microsoft ยกเลิกข้อจำกัดบางอย่างของ HVE
    - สามารถสร้าง 100 HVE accounts ได้
    - ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับอัตราการส่งอีเมลภายในองค์กรอีกต่อไป

    ✅ Microsoft ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ระบบอีเมลมีความปลอดภัยมากขึ้น
    - ลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่ใช้ Basic Authentication

    ‼️ องค์กรที่ยังใช้ Basic Authentication ควรเร่งเปลี่ยนไปใช้ Modern Authentication
    - Microsoft แนะนำให้ เปลี่ยนโดยเร็วที่สุดเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

    ‼️ ธุรกิจที่ต้องส่งอีเมลไปยังผู้รับภายนอกต้องเปลี่ยนไปใช้ Azure Communication Services
    - อาจต้อง ปรับโครงสร้างระบบอีเมลเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้

    https://www.neowin.net/news/microsoft-365-introduces-changes-to-high-volume-email-and-extends-basic-authentication/
    Microsoft ได้ประกาศ ขยายเวลาการรองรับ Basic Authentication สำหรับ High Volume Email (HVE) ใน Microsoft 365 ไปจนถึง กันยายน 2028 เพื่อให้ธุรกิจมีเวลามากขึ้นในการเปลี่ยนไปใช้ Modern Authentication เช่น OAuth นอกจากนี้ Microsoft ยัง ปรับเปลี่ยนการใช้งาน HVE โดยตั้งแต่เดือนหน้า HVE จะใช้ได้เฉพาะการส่งอีเมลภายในองค์กรเท่านั้น และ ไม่สามารถใช้ส่งอีเมลไปยังผู้รับภายนอกได้อีกต่อไป ✅ Microsoft ขยายเวลาการรองรับ Basic Authentication สำหรับ HVE ไปจนถึงกันยายน 2028 - ให้ธุรกิจมีเวลามากขึ้นในการเปลี่ยนไปใช้ Modern Authentication เช่น OAuth - Microsoft แนะนำให้ องค์กรเปลี่ยนไปใช้ระบบที่ปลอดภัยกว่าโดยเร็วที่สุด ✅ HVE จะใช้ได้เฉพาะการส่งอีเมลภายในองค์กรเท่านั้น - ตั้งแต่เดือนหน้า ไม่สามารถใช้ส่งอีเมลไปยังผู้รับภายนอกได้อีกต่อไป - Microsoft แนะนำให้ใช้ Azure Communication Services (ACS) สำหรับการส่งอีเมลไปยังผู้รับภายนอก ✅ Microsoft ยกเลิกข้อจำกัดบางอย่างของ HVE - สามารถสร้าง 100 HVE accounts ได้ - ไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับอัตราการส่งอีเมลภายในองค์กรอีกต่อไป ✅ Microsoft ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ระบบอีเมลมีความปลอดภัยมากขึ้น - ลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่ใช้ Basic Authentication ‼️ องค์กรที่ยังใช้ Basic Authentication ควรเร่งเปลี่ยนไปใช้ Modern Authentication - Microsoft แนะนำให้ เปลี่ยนโดยเร็วที่สุดเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ‼️ ธุรกิจที่ต้องส่งอีเมลไปยังผู้รับภายนอกต้องเปลี่ยนไปใช้ Azure Communication Services - อาจต้อง ปรับโครงสร้างระบบอีเมลเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ https://www.neowin.net/news/microsoft-365-introduces-changes-to-high-volume-email-and-extends-basic-authentication/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft 365 introduces changes to High Volume Email and extends Basic Authentication
    Microsoft 365 has received changes to High Volume Email (HVE) and has extended the deadline to switch from Basic Authentication.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปากีสถานประกาศพร้อมเจรจาหยุดยิง แต่อินเดียจะต้องเริ่มก่อน

    รัฐมนตรีกลาโหมคาวาจา อาซิฟ (Khawaja Asif) ประกาศว่าอิสลามาบัด "ไม่ได้ต้องการสงคราม" และ "พร้อมที่จะใช้ความอดกลั้น" แต่อินเดียต้องร่วมมือด้วย

    คำประกาศของปากีสถานมีขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยอินเดียเปิดฉากโจมตี 9 เป้าหมายในปากีสถาน โดยอ้างว่าเป็นตำแหน่งของกลุ่มก่อการร้าย ขณะที่ปากีสถานตอบโต้ด้วยการยิงเครื่องบินขับไล่ของอินเดียตกอย่างน้อย 6 ลำ

    นี่คือการเผชิญหน้ากันระหว่างอินเดียและปากีสถานด้วยอาวุธที่มีลายเซ็นต์ของมหาอำนาจโลกอยู่เต็มไปหมด "อินเดีย" กำลังทุ่มสุดตัวกับอุปกรณ์ของสหรัฐฯ และยุโรป ในขณะที่อาวุธของ "ปากีสถาน" ถูกประทับตราว่าผลิตในจีน

    หลายฝ่ายพยายามช่วยให้ทั้งคู่เข้าสู่การเจรจาโดยเร็ว เพราไม่มีใครอยากฝันร้ายในเรื่อง "นิวเคลียร์"
    ปากีสถานประกาศพร้อมเจรจาหยุดยิง แต่อินเดียจะต้องเริ่มก่อน รัฐมนตรีกลาโหมคาวาจา อาซิฟ (Khawaja Asif) ประกาศว่าอิสลามาบัด "ไม่ได้ต้องการสงคราม" และ "พร้อมที่จะใช้ความอดกลั้น" แต่อินเดียต้องร่วมมือด้วย คำประกาศของปากีสถานมีขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์รุนแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยอินเดียเปิดฉากโจมตี 9 เป้าหมายในปากีสถาน โดยอ้างว่าเป็นตำแหน่งของกลุ่มก่อการร้าย ขณะที่ปากีสถานตอบโต้ด้วยการยิงเครื่องบินขับไล่ของอินเดียตกอย่างน้อย 6 ลำ นี่คือการเผชิญหน้ากันระหว่างอินเดียและปากีสถานด้วยอาวุธที่มีลายเซ็นต์ของมหาอำนาจโลกอยู่เต็มไปหมด "อินเดีย" กำลังทุ่มสุดตัวกับอุปกรณ์ของสหรัฐฯ และยุโรป ในขณะที่อาวุธของ "ปากีสถาน" ถูกประทับตราว่าผลิตในจีน หลายฝ่ายพยายามช่วยให้ทั้งคู่เข้าสู่การเจรจาโดยเร็ว เพราไม่มีใครอยากฝันร้ายในเรื่อง "นิวเคลียร์"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย

    เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง

    ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต

    ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก

    The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต

    1. การวิเคราะห์สถานการณ์
    บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้:

    สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ

    ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม.
    ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล

    ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต.

    อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ

    กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง:

    กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ.

    กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย.

    กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน.

    กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล.

    แนวโน้มในอนาคต:
    การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา.

    ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่.

    ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว.

    ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ.

    ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว

    รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม

    ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia.

    การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook

    การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง

    แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024.
    ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์

    ท่าทีของไทย
    ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ:

    การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC.

    ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center

    การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction.

    มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News.

    นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น.

    การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera.

    ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network.

    ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure.

    ข้อสรุป
    สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ


    การอ้างอิง:
    Laotian Civil War - Wikipedia
    Insurgency in Laos - Wikipedia
    Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations
    Assessment for Hmong in Laos | Refworld
    Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica
    From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters
    Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR
    Laos country profile - BBC News
    Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations
    Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post
    Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic
    Laos | AP News






    ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต 1. การวิเคราะห์สถานการณ์ บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้: สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม. ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต. อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง: กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ. กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย. กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน. กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล. แนวโน้มในอนาคต: การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา. ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่. ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว. ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia. การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024. ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์ ท่าทีของไทย ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ: การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC. ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction. มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News. นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น. การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network. ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure. ข้อสรุป สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ การอ้างอิง: Laotian Civil War - Wikipedia Insurgency in Laos - Wikipedia Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations Assessment for Hmong in Laos | Refworld Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR Laos country profile - BBC News Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic Laos | AP News
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้วิเคราะห์แนวโน้มของ การนำ Custom ASIC มาใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยตั้งคำถามว่าเราอาจกำลังเข้าใกล้ จุดสูงสุดของการพัฒนาและการนำไปใช้ หรือไม่

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรง ได้เริ่มออกแบบชิปของตัวเองแทนที่จะซื้อจากผู้ผลิตทั่วไป เช่น Apple และ Google ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางบริษัทเริ่ม ทบทวนกลยุทธ์และลดขอบเขตของการพัฒนา

    แม้ว่าบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Microsoft และ Meta จะยังคงพัฒนา Custom ASIC แต่พวกเขากำลังเผชิญกับ ความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด นอกจากนี้ Google ซึ่งมีเครื่องมือออกแบบชิปของตัวเอง ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่

    ✅ บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรงเริ่มออกแบบชิปของตัวเอง
    - ตัวอย่างเช่น Apple และ Google
    - ช่วยให้สามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น

    ✅ ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้น
    - ค่าใช้จ่ายด้าน บุคลากร, สิทธิบัตร และการผลิต เพิ่มขึ้น
    - ทำให้บางบริษัท เริ่มลดขอบเขตของการพัฒนา

    ✅ Microsoft และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด
    - อาจต้อง ปรับกลยุทธ์เพื่อให้สามารถแข่งขันได้
    - Google ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่

    ✅ แนวโน้มของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและยานยนต์
    - Samsung ลดการใช้ ชิปที่ออกแบบเอง
    - ผู้ผลิตรถยนต์ยังคง พิจารณาว่าควรพัฒนา Custom ASIC หรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107803-opinion-nearing-peak-custom-asic-adoption.html
    บทความนี้วิเคราะห์แนวโน้มของ การนำ Custom ASIC มาใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยตั้งคำถามว่าเราอาจกำลังเข้าใกล้ จุดสูงสุดของการพัฒนาและการนำไปใช้ หรือไม่ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรง ได้เริ่มออกแบบชิปของตัวเองแทนที่จะซื้อจากผู้ผลิตทั่วไป เช่น Apple และ Google ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางบริษัทเริ่ม ทบทวนกลยุทธ์และลดขอบเขตของการพัฒนา แม้ว่าบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Microsoft และ Meta จะยังคงพัฒนา Custom ASIC แต่พวกเขากำลังเผชิญกับ ความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด นอกจากนี้ Google ซึ่งมีเครื่องมือออกแบบชิปของตัวเอง ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ ✅ บริษัทที่ไม่ใช่ผู้ผลิตชิปโดยตรงเริ่มออกแบบชิปของตัวเอง - ตัวอย่างเช่น Apple และ Google - ช่วยให้สามารถ ควบคุมประสิทธิภาพและการทำงานของผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น ✅ ต้นทุนในการออกแบบและผลิตชิปเฉพาะทางสูงขึ้น - ค่าใช้จ่ายด้าน บุคลากร, สิทธิบัตร และการผลิต เพิ่มขึ้น - ทำให้บางบริษัท เริ่มลดขอบเขตของการพัฒนา ✅ Microsoft และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายในการนำชิปออกสู่ตลาด - อาจต้อง ปรับกลยุทธ์เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ - Google ก็เริ่ม ชะลอการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ ✅ แนวโน้มของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและยานยนต์ - Samsung ลดการใช้ ชิปที่ออกแบบเอง - ผู้ผลิตรถยนต์ยังคง พิจารณาว่าควรพัฒนา Custom ASIC หรือไม่ https://www.techspot.com/news/107803-opinion-nearing-peak-custom-asic-adoption.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Opinion: Are we nearing the peak of custom ASIC adoption?
    We think it is important to remember that the case for custom silicon is an economic choice, not a technical one.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านเปิดตัวขีปนาวุธ Qassem Basir ที่มีความแม่นยำ และ ‘หลบเลี่ยงสงครามอิเล็กทรอนิกส์’ ได้อย่างดีเยี่ยม

    การเปิดตัวขีปนาวุธใหม่ของอิหร่านเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐประกาศว่า อิหร่านต้องยุติโครงการขีปนาวุธพิสัยใกล้

    คุณสมบัติบางอย่างที่มีการกล่าวถึงของขีปนาวุธใหม่:

    👉 ขีปนาวุธดังกล่าวได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อหลบเลี่ยงระบบป้องกัน THAAD ของสหรัฐ รวมทั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธอื่นๆด้วย

    👉 มีพิสัยการบิน 1,300 กม. ซึ่งครอบคลุมดินแดนทั้งหมดของอิสราเอล

    👉 ใช้เทคโนโลยีล่องหนขั้นสูง: ตัวขีปนาวุธทำจากวัสดุคอมโพสิตคาร์บอน สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของเรดาร์ได้อย่างดี ซึ่งเบากว่า เร็วกว่า และดูดซับเรดาร์ได้

    👉 ไม่ใช้ระบบ GPS ทำให้ล้มเหลวในการสกัดกั้นด้วยดาวเทียม แม้แต่ระบบป้องกันบนอวกาศก็ไม่สามารถติดตามหัวรบได้

    👉ขีปนาวุธนี้โจมตีเป้าหมายโดยเบี่ยงเบนศูนย์ (ไม่ถึงหนึ่งเมตร) โดยไม่ต้องพึ่งระบบนำทาง GPS
    อิหร่านเปิดตัวขีปนาวุธ Qassem Basir ที่มีความแม่นยำ และ ‘หลบเลี่ยงสงครามอิเล็กทรอนิกส์’ ได้อย่างดีเยี่ยม การเปิดตัวขีปนาวุธใหม่ของอิหร่านเกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐประกาศว่า อิหร่านต้องยุติโครงการขีปนาวุธพิสัยใกล้ คุณสมบัติบางอย่างที่มีการกล่าวถึงของขีปนาวุธใหม่: 👉 ขีปนาวุธดังกล่าวได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อหลบเลี่ยงระบบป้องกัน THAAD ของสหรัฐ รวมทั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธอื่นๆด้วย 👉 มีพิสัยการบิน 1,300 กม. ซึ่งครอบคลุมดินแดนทั้งหมดของอิสราเอล 👉 ใช้เทคโนโลยีล่องหนขั้นสูง: ตัวขีปนาวุธทำจากวัสดุคอมโพสิตคาร์บอน สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของเรดาร์ได้อย่างดี ซึ่งเบากว่า เร็วกว่า และดูดซับเรดาร์ได้ 👉 ไม่ใช้ระบบ GPS ทำให้ล้มเหลวในการสกัดกั้นด้วยดาวเทียม แม้แต่ระบบป้องกันบนอวกาศก็ไม่สามารถติดตามหัวรบได้ 👉ขีปนาวุธนี้โจมตีเป้าหมายโดยเบี่ยงเบนศูนย์ (ไม่ถึงหนึ่งเมตร) โดยไม่ต้องพึ่งระบบนำทาง GPS
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • ศูนย์ข้อมูล AI ในจีนกำลัง รื้อถอนและขายต่อ การ์ดจอ Nvidia RTX 4090D ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ โดยการ์ดเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของจีน แต่ปัจจุบันถูกนำออกจากชั้นวางและขายในตลาดเปิด

    รายงานจาก DigiTimes Asia ระบุว่าผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลพบว่า การขายต่อ GPU ให้ผลตอบแทนเร็วกว่า การรอคืนนทุนจากการให้เช่า GPU ซึ่งอาจใช้เวลาถึง 3-5 ปี

    การ์ด RTX 4090D แต่ละใบขายในราคาประมาณ 20,000-40,000 หยวน (ประมาณ 2,735-5,470 ดอลลาร์สหรัฐฯ) และต้องมีการปรับแต่งก่อนนำไปขายให้ผู้ใช้ทั่วไป เช่น เปลี่ยนระบบระบายความร้อนจากแบบพัดลมเป็นแบบ blower-style

    นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าการขายต่อเหล่านี้เกิดจาก ภาวะโอเวอร์แคปาซิตี้ เนื่องจากจีนเร่งสร้างศูนย์ข้อมูล AI ตามนโยบายของรัฐ แต่ความต้องการใช้งานจริงกลับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

    นอกจากนี้ ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ เช่น การห้ามส่งออกชิป Nvidia H20 อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลจีนต้องปรับตัว โดยเปลี่ยนจากระบบที่เน้นการฝึกโมเดล AI ไปเป็นระบบที่รองรับ การประมวลผลแบบเรียลไทม์ (real-time inference)

    ✅ เหตุผลในการรื้อถอนและขายต่อ
    - ศูนย์ข้อมูลพบว่า การขายต่อ GPU ให้ผลตอบแทนเร็วกว่า การรอคืนนทุนจากการให้เช่า
    - ราคาขายต่ออยู่ที่ 20,000-40,000 หยวน (ประมาณ 2,735-5,470 ดอลลาร์สหรัฐฯ)

    ✅ การปรับแต่งก่อนขายให้ผู้ใช้ทั่วไป
    - ต้องเปลี่ยนระบบระบายความร้อนจาก แบบพัดลมเป็นแบบ blower-style
    - การ์ดที่ถูกใช้งานแล้วต้องผ่านการรีเฟอร์บิชก่อนขาย

    ✅ ภาวะโอเวอร์แคปาซิตี้ของศูนย์ข้อมูล AI ในจีน
    - จีนเร่งสร้างศูนย์ข้อมูล AI ตามนโยบายของรัฐ
    - ความต้องการใช้งานจริงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

    ✅ ผลกระทบจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ
    - การห้ามส่งออกชิป Nvidia H20 ทำให้ศูนย์ข้อมูลจีนต้องปรับตัว
    - เปลี่ยนจากระบบที่เน้นการฝึกโมเดล AI ไปเป็น การประมวลผลแบบเรียลไทม์

    https://www.techradar.com/pro/data-centers-in-china-are-dumping-rare-48gb-nvidia-rtx-4090d-gpus-for-nearly-usd6-000-but-the-exact-reason-remains-a-mystery
    ศูนย์ข้อมูล AI ในจีนกำลัง รื้อถอนและขายต่อ การ์ดจอ Nvidia RTX 4090D ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ โดยการ์ดเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ของจีน แต่ปัจจุบันถูกนำออกจากชั้นวางและขายในตลาดเปิด รายงานจาก DigiTimes Asia ระบุว่าผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลพบว่า การขายต่อ GPU ให้ผลตอบแทนเร็วกว่า การรอคืนนทุนจากการให้เช่า GPU ซึ่งอาจใช้เวลาถึง 3-5 ปี การ์ด RTX 4090D แต่ละใบขายในราคาประมาณ 20,000-40,000 หยวน (ประมาณ 2,735-5,470 ดอลลาร์สหรัฐฯ) และต้องมีการปรับแต่งก่อนนำไปขายให้ผู้ใช้ทั่วไป เช่น เปลี่ยนระบบระบายความร้อนจากแบบพัดลมเป็นแบบ blower-style นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าการขายต่อเหล่านี้เกิดจาก ภาวะโอเวอร์แคปาซิตี้ เนื่องจากจีนเร่งสร้างศูนย์ข้อมูล AI ตามนโยบายของรัฐ แต่ความต้องการใช้งานจริงกลับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ เช่น การห้ามส่งออกชิป Nvidia H20 อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลจีนต้องปรับตัว โดยเปลี่ยนจากระบบที่เน้นการฝึกโมเดล AI ไปเป็นระบบที่รองรับ การประมวลผลแบบเรียลไทม์ (real-time inference) ✅ เหตุผลในการรื้อถอนและขายต่อ - ศูนย์ข้อมูลพบว่า การขายต่อ GPU ให้ผลตอบแทนเร็วกว่า การรอคืนนทุนจากการให้เช่า - ราคาขายต่ออยู่ที่ 20,000-40,000 หยวน (ประมาณ 2,735-5,470 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ✅ การปรับแต่งก่อนขายให้ผู้ใช้ทั่วไป - ต้องเปลี่ยนระบบระบายความร้อนจาก แบบพัดลมเป็นแบบ blower-style - การ์ดที่ถูกใช้งานแล้วต้องผ่านการรีเฟอร์บิชก่อนขาย ✅ ภาวะโอเวอร์แคปาซิตี้ของศูนย์ข้อมูล AI ในจีน - จีนเร่งสร้างศูนย์ข้อมูล AI ตามนโยบายของรัฐ - ความต้องการใช้งานจริงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ✅ ผลกระทบจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ - การห้ามส่งออกชิป Nvidia H20 ทำให้ศูนย์ข้อมูลจีนต้องปรับตัว - เปลี่ยนจากระบบที่เน้นการฝึกโมเดล AI ไปเป็น การประมวลผลแบบเรียลไทม์ https://www.techradar.com/pro/data-centers-in-china-are-dumping-rare-48gb-nvidia-rtx-4090d-gpus-for-nearly-usd6-000-but-the-exact-reason-remains-a-mystery
    WWW.TECHRADAR.COM
    Too many GPUs, not enough demand: China’s AI centers start flipping rare Nvidia RTX 4090Ds
    It could be a bid to make easy money, or they could be preparing to upgrade
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google รายงานว่าในปี 2024 มีการใช้ช่องโหว่ zero-day จำนวน 75 รายการ โดยส่วนใหญ่ถูกใช้ใน การโจมตีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเฉพาะจาก จีนและเกาหลีเหนือ

    แม้ว่าจำนวนช่องโหว่ zero-day จะลดลงจาก 98 รายการในปี 2023 แต่แนวโน้มในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า การใช้ช่องโหว่เหล่านี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    Google พบว่า 44% ของช่องโหว่ zero-day ในปี 2024 ถูกใช้กับผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 37% ในปี 2023 โดยเฉพาะช่องโหว่ใน ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์เครือข่าย

    นอกจากนี้ รัฐบาลเป็นผู้ใช้ช่องโหว่ zero-day มากที่สุด โดย 50% ของช่องโหว่ที่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ถูกใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลหรือบริษัทที่ให้บริการสอดแนม

    ✅ จำนวนช่องโหว่ zero-day ที่พบ
    - พบ 75 รายการ ลดลงจาก 98 รายการในปี 2023
    - แนวโน้มในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าการใช้ช่องโหว่ยังคงเพิ่มขึ้น

    ✅ เป้าหมายของการโจมตี
    - 44% ของช่องโหว่ zero-day ถูกใช้กับผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร
    - ช่องโหว่ใน ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์เครือข่าย เป็นเป้าหมายหลัก

    ✅ บทบาทของรัฐบาลในการใช้ช่องโหว่
    - 50% ของช่องโหว่ที่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ถูกใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
    - จีนและเกาหลีเหนือ เป็นประเทศที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด

    ✅ แนวโน้มของช่องโหว่ในระบบปฏิบัติการ
    - ช่องโหว่ใน Windows เพิ่มขึ้นเป็น 22 รายการ จาก 16 รายการในปี 2023
    - ช่องโหว่ใน Safari และ iOS ลดลงจาก 11 และ 9 รายการ เหลือ 3 และ 2 รายการ

    https://www.techradar.com/pro/security/75-zero-day-exploitations-spotted-by-google-governments-increasingly-responsible-for-attacks
    Google รายงานว่าในปี 2024 มีการใช้ช่องโหว่ zero-day จำนวน 75 รายการ โดยส่วนใหญ่ถูกใช้ใน การโจมตีที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเฉพาะจาก จีนและเกาหลีเหนือ แม้ว่าจำนวนช่องโหว่ zero-day จะลดลงจาก 98 รายการในปี 2023 แต่แนวโน้มในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า การใช้ช่องโหว่เหล่านี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง Google พบว่า 44% ของช่องโหว่ zero-day ในปี 2024 ถูกใช้กับผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 37% ในปี 2023 โดยเฉพาะช่องโหว่ใน ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์เครือข่าย นอกจากนี้ รัฐบาลเป็นผู้ใช้ช่องโหว่ zero-day มากที่สุด โดย 50% ของช่องโหว่ที่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ถูกใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลหรือบริษัทที่ให้บริการสอดแนม ✅ จำนวนช่องโหว่ zero-day ที่พบ - พบ 75 รายการ ลดลงจาก 98 รายการในปี 2023 - แนวโน้มในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าการใช้ช่องโหว่ยังคงเพิ่มขึ้น ✅ เป้าหมายของการโจมตี - 44% ของช่องโหว่ zero-day ถูกใช้กับผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร - ช่องโหว่ใน ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์เครือข่าย เป็นเป้าหมายหลัก ✅ บทบาทของรัฐบาลในการใช้ช่องโหว่ - 50% ของช่องโหว่ที่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ถูกใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล - จีนและเกาหลีเหนือ เป็นประเทศที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด ✅ แนวโน้มของช่องโหว่ในระบบปฏิบัติการ - ช่องโหว่ใน Windows เพิ่มขึ้นเป็น 22 รายการ จาก 16 รายการในปี 2023 - ช่องโหว่ใน Safari และ iOS ลดลงจาก 11 และ 9 รายการ เหลือ 3 และ 2 รายการ https://www.techradar.com/pro/security/75-zero-day-exploitations-spotted-by-google-governments-increasingly-responsible-for-attacks
    WWW.TECHRADAR.COM
    75 zero-day exploitations spotted by Google, governments increasingly responsible for attacks
    Of all the zero-days abused in 2024, the majority were used in state-sponsored attacks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชื่อว่าเพื่อนเพจที่ดูละครจีนหลายคนต้องเคยเห็นเสื้อที่ทำจากผ้าต่อหรือที่เรียกว่า ‘patchwork’ หรือบางคนอาจเรียกเล่นๆ แถวบ้านว่า ‘เสื้อพรรคกระยาจก’! วันนี้เรามาคุยกันเกี่ยวกับประเพณีดั้งเดิมที่เกี่ยวกับเสื้อที่ทำจากผ้าต่อและความหมายของมัน

    ในละครเรื่อง <นิติเวชสาวยอดนักสืบ> มีอยู่ตอนหนึ่งที่เซียวซ่ง ซื่อหลางแห่งกรมอาญา สืบเรื่องถึงหมอตำแยคนหนึ่งชื่อ เว่ยซื่อเหนียง จากบทสนทนากับลูกค้าของนางคนหนึ่งได้ความว่านางจะแนะนำให้เด็กแรกเกิดใส่เสื้อ ‘ไป่เจียอี’ โดยมีการพูดถึงว่าต้องใส่เป็นเวลาสามวัน ผ่านสามวันต้องทำพิธี ‘สี่ซานหลี่’ แล้วจึงจะถอดเสื้อนั้นออกได้ และในพิธีดังกล่าวต้องมีการเลี้ยงสุราและใช้เครื่องประดับทองคำ ซึ่งองค์ประกอบนี้กลายมาเป็นเบาะแสให้สืบต่อไป

    เสื้อ ‘ไป่เจียอี’ (百家衣) นั้นแปลตรงตัวว่า ‘เสื้อร้อยครอบครัว’ มีชื่อเรียกอื่นที่หลากหลาย เช่น ไป่ซุ่ยอี/百岁衣 ไป๋เป่าอี/百保衣 เป็นเสื้อที่ทำขึ้นจากผ้าที่เอาผ้าหลายชิ้นมาเย็บต่อกันขึ้นเป็นลวดลายสวยงาม มักมีสีสันฉูดฉาดเพราะเป็นเสื้อเด็ก

    ทำไมต้องใส่เสื้อไป่เจียอี? ในสมัยโบราณนั้น อัตราการตายของทารกและเด็กเล็กสูงมาก ดังนั้นจึงมีการแก้เคล็ดด้วยการเอาเสื้อผ้าเก่าของเด็กที่แข็งแรงจากหลายครอบครัวมาเย็บติดกันแล้วทำขึ้นเป็นเสื้อให้เด็กใส่ เพื่อว่าเด็กจะได้มีสุขภาพดีแคล้วคลาดจากโรคภัย

    ขออธิบายเพิ่มว่า แม้จะใช้คำว่า ‘ไป่’ ที่แปลว่าหนึ่งร้อย แต่จริงๆ แล้วไม่ได้หมายความว่าต้องนับให้ได้ถึงหนึ่งร้อยจริงๆ ค่ะ คำนี้เป็นวัฒนธรรมทางภาษาของจีนที่ต้องการสื่อถึงความหมายว่ามีจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน มักปรากฏในวลีในนิยายหรือคำคมจีนเช่น ผ้าปักร้อยอักษร รักกันร้อยปี ได้ยินร้อยครั้ง ฯลฯ

    ส่วน ‘สี่ซานหลี่’ (洗三礼)นั้นก็คือการทำพิธีอาบน้ำให้กับทารกในวันที่สามหลังจากเกิดมา พิธีนี้มีมาแต่เมื่อใดไม่แน่ชัด แต่ได้มีการกล่าวถึงไว้ในบทประพันธ์ต่างๆ สมัยถังและซ่ง สรุปพิธีโดยคร่าวคือ
    1. ญาติสนิทจะมาร่วมกันรับประทานอาหารกลางวัน อาหารจานหลักจะเป็นบะหมี่ (สัญลักษณ์ของความอายุยืน)
    2. เสร็จแล้วหมอตำแยจะเป็นคนเริ่มประกอบพิธี โดยเริ่มจากกราบไหว้เทพยดา (แน่นอนว่าจะต้องมีหลักการว่าเป็นเทพยดาองค์ใดบ้าง แต่ Storyฯ ขอไม่กล่าวถึงเพราะจะยาวมาก)
    3. จากนั้นญาติสนิทก็จะเติมน้ำคนละช้อนลงในกาละมังที่มีน้ำสมุนไพรอยู่แล้ว แล้วก็เติมของขวัญซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญทองและของมงคลอย่างเช่นเมล็ดพืชผลไม้ที่มีชื่อมงคลอย่างเช่นพุทราจีนลงไปในกาละมังเดียวกันนั้น (แต่หากเป็นตั๋วเงินให้วางแยก) ใครใส่อะไร หมอตำแยก็จะเอ่ยเป็นคำอวยพรที่พ้องเสียงกับของสิ่งนั้น
    4. เสร็จแล้วหมอตำแยก็จะใช้น้ำนั้นอาบน้ำให้ทารก ระหว่างอาบก็จะเอ่ยคำอวยพรไปตลอด
    5. เสร็จแล้วนำเครื่องประดับเงินทอง (หากไม่มีให้ใช้เครื่องประดับสีขาวสีเหลือง) มาวางทาบกับทารกเป็นนัยว่าให้อนาคตรุ่งเรืองร่ำรวย
    แน่นอนว่า Storyฯ เล่าอย่างซูเปอร์ย่อ พิธีกรรมจริงๆ ละเอียดกว่านี้มาก

    กลับมาที่ไป่เจียอีต่อ

    ว่ากันว่าไป่เจียอีนี้ เดิมเป็นชุดที่นักบวชนิยมใส่ (เรียกว่าไป่น่าอี) มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น ต่อมาจึงนำมาทำเป็นเสื้อเด็ก เสื้อผู้ใหญ่ก็ยังนิยมอยู่ในกลุ่มนักบวช แต่ในสมัยหมิงและชิงกลายมาเป็นแฟชั่นที่นิยมมากในกลุ่มสตรีสามัญชน มีการปักเย็บลวดลายประณีตและสีสันสวยงาม เรียกว่าชุด ‘สุ่ยเถียนอี’ (水田衣 แปลตรงตัวว่า ‘ชุดนาข้าว’ ดูรูปขวา) ความนิยมนี้ว่ากันว่าเป็นเพราะองค์จูหยวนจาง (ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง) และพระมเหสีต่างทรงมีนิสัยมัธยัสถ์ ทรงเคยบริจาคผ้าห่มและเสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นด้ายและผ้าที่เหลือใช้ แม้แต่องค์หญิงและสนมในวังยังเคยทรงพระราชทานให้ใส่ จึงทำให้สุ่ยเถียนอีเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย ต่อมากลายเป็นการประชันความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบลายเสื้อของสตรี

    ธรรมเนียมการให้เด็กใส่เสื้อผ้าต่อไป่เจียอีนี้มีการกล่าวถึงตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง และปฏิบัติกันมาทุกระดับชนชั้น แม้แต่ในบันทึกเกี่ยวกับประวัติของฮ่องเต้สมัยราชวงศ์ชิงในยุคสมัยของคังซีและเฉียนหลงยังมีกล่าวถึงการให้องค์ชายและราชนิกูลสวมเสื้อไป่เจียอีในตอนเด็ก และธรรมเนียมนี้ยังมีอยู่ในปัจจุบัน เป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นในหลายพื้นที่ของจีน

    เป็นอย่างไรบ้าง? ‘เสื้อพรรคกระยาจก’ เขาก็มีความเป็นมานะเออ! ของไทยมีอะไรคล้ายคลึงอย่างนี้บ้างไหมคะ? Storyฯ ไม่สันทัด หากเพื่อนเพจท่านใดผ่านตาก็เล่าสู่กันฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.myvideo.net.tw/details/3/12499
    https://nicecasio.pixnet.net/blog/post/467691023

    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://kknews.cc/news/gpevjl.html
    https://www.lishiziliao.com/jiemi/21683.html
    https://www.hanspub.org/journal/PaperInformation.aspx?paperID=25060
    https://new.qq.com/omn/20200819/20200819A0D3IY00.html?pc
    https:// baike.baidu.com/item/洗三/912561

    #นิติเวชสาวยอดนักสืบ #นิติเวชสาวราชวงศ์ถัง #ผ้าต่อจีน #ผ้าปะจีน #ไป่ซุ่ยอี #ไป่น่าอี #สุ่ยเถียนอี #พิธีอาบน้ำทารก #สี่ซานหลี่
    เชื่อว่าเพื่อนเพจที่ดูละครจีนหลายคนต้องเคยเห็นเสื้อที่ทำจากผ้าต่อหรือที่เรียกว่า ‘patchwork’ หรือบางคนอาจเรียกเล่นๆ แถวบ้านว่า ‘เสื้อพรรคกระยาจก’! วันนี้เรามาคุยกันเกี่ยวกับประเพณีดั้งเดิมที่เกี่ยวกับเสื้อที่ทำจากผ้าต่อและความหมายของมัน ในละครเรื่อง <นิติเวชสาวยอดนักสืบ> มีอยู่ตอนหนึ่งที่เซียวซ่ง ซื่อหลางแห่งกรมอาญา สืบเรื่องถึงหมอตำแยคนหนึ่งชื่อ เว่ยซื่อเหนียง จากบทสนทนากับลูกค้าของนางคนหนึ่งได้ความว่านางจะแนะนำให้เด็กแรกเกิดใส่เสื้อ ‘ไป่เจียอี’ โดยมีการพูดถึงว่าต้องใส่เป็นเวลาสามวัน ผ่านสามวันต้องทำพิธี ‘สี่ซานหลี่’ แล้วจึงจะถอดเสื้อนั้นออกได้ และในพิธีดังกล่าวต้องมีการเลี้ยงสุราและใช้เครื่องประดับทองคำ ซึ่งองค์ประกอบนี้กลายมาเป็นเบาะแสให้สืบต่อไป เสื้อ ‘ไป่เจียอี’ (百家衣) นั้นแปลตรงตัวว่า ‘เสื้อร้อยครอบครัว’ มีชื่อเรียกอื่นที่หลากหลาย เช่น ไป่ซุ่ยอี/百岁衣 ไป๋เป่าอี/百保衣 เป็นเสื้อที่ทำขึ้นจากผ้าที่เอาผ้าหลายชิ้นมาเย็บต่อกันขึ้นเป็นลวดลายสวยงาม มักมีสีสันฉูดฉาดเพราะเป็นเสื้อเด็ก ทำไมต้องใส่เสื้อไป่เจียอี? ในสมัยโบราณนั้น อัตราการตายของทารกและเด็กเล็กสูงมาก ดังนั้นจึงมีการแก้เคล็ดด้วยการเอาเสื้อผ้าเก่าของเด็กที่แข็งแรงจากหลายครอบครัวมาเย็บติดกันแล้วทำขึ้นเป็นเสื้อให้เด็กใส่ เพื่อว่าเด็กจะได้มีสุขภาพดีแคล้วคลาดจากโรคภัย ขออธิบายเพิ่มว่า แม้จะใช้คำว่า ‘ไป่’ ที่แปลว่าหนึ่งร้อย แต่จริงๆ แล้วไม่ได้หมายความว่าต้องนับให้ได้ถึงหนึ่งร้อยจริงๆ ค่ะ คำนี้เป็นวัฒนธรรมทางภาษาของจีนที่ต้องการสื่อถึงความหมายว่ามีจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน มักปรากฏในวลีในนิยายหรือคำคมจีนเช่น ผ้าปักร้อยอักษร รักกันร้อยปี ได้ยินร้อยครั้ง ฯลฯ ส่วน ‘สี่ซานหลี่’ (洗三礼)นั้นก็คือการทำพิธีอาบน้ำให้กับทารกในวันที่สามหลังจากเกิดมา พิธีนี้มีมาแต่เมื่อใดไม่แน่ชัด แต่ได้มีการกล่าวถึงไว้ในบทประพันธ์ต่างๆ สมัยถังและซ่ง สรุปพิธีโดยคร่าวคือ 1. ญาติสนิทจะมาร่วมกันรับประทานอาหารกลางวัน อาหารจานหลักจะเป็นบะหมี่ (สัญลักษณ์ของความอายุยืน) 2. เสร็จแล้วหมอตำแยจะเป็นคนเริ่มประกอบพิธี โดยเริ่มจากกราบไหว้เทพยดา (แน่นอนว่าจะต้องมีหลักการว่าเป็นเทพยดาองค์ใดบ้าง แต่ Storyฯ ขอไม่กล่าวถึงเพราะจะยาวมาก) 3. จากนั้นญาติสนิทก็จะเติมน้ำคนละช้อนลงในกาละมังที่มีน้ำสมุนไพรอยู่แล้ว แล้วก็เติมของขวัญซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญทองและของมงคลอย่างเช่นเมล็ดพืชผลไม้ที่มีชื่อมงคลอย่างเช่นพุทราจีนลงไปในกาละมังเดียวกันนั้น (แต่หากเป็นตั๋วเงินให้วางแยก) ใครใส่อะไร หมอตำแยก็จะเอ่ยเป็นคำอวยพรที่พ้องเสียงกับของสิ่งนั้น 4. เสร็จแล้วหมอตำแยก็จะใช้น้ำนั้นอาบน้ำให้ทารก ระหว่างอาบก็จะเอ่ยคำอวยพรไปตลอด 5. เสร็จแล้วนำเครื่องประดับเงินทอง (หากไม่มีให้ใช้เครื่องประดับสีขาวสีเหลือง) มาวางทาบกับทารกเป็นนัยว่าให้อนาคตรุ่งเรืองร่ำรวย แน่นอนว่า Storyฯ เล่าอย่างซูเปอร์ย่อ พิธีกรรมจริงๆ ละเอียดกว่านี้มาก กลับมาที่ไป่เจียอีต่อ ว่ากันว่าไป่เจียอีนี้ เดิมเป็นชุดที่นักบวชนิยมใส่ (เรียกว่าไป่น่าอี) มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น ต่อมาจึงนำมาทำเป็นเสื้อเด็ก เสื้อผู้ใหญ่ก็ยังนิยมอยู่ในกลุ่มนักบวช แต่ในสมัยหมิงและชิงกลายมาเป็นแฟชั่นที่นิยมมากในกลุ่มสตรีสามัญชน มีการปักเย็บลวดลายประณีตและสีสันสวยงาม เรียกว่าชุด ‘สุ่ยเถียนอี’ (水田衣 แปลตรงตัวว่า ‘ชุดนาข้าว’ ดูรูปขวา) ความนิยมนี้ว่ากันว่าเป็นเพราะองค์จูหยวนจาง (ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง) และพระมเหสีต่างทรงมีนิสัยมัธยัสถ์ ทรงเคยบริจาคผ้าห่มและเสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากเส้นด้ายและผ้าที่เหลือใช้ แม้แต่องค์หญิงและสนมในวังยังเคยทรงพระราชทานให้ใส่ จึงทำให้สุ่ยเถียนอีเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย ต่อมากลายเป็นการประชันความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบลายเสื้อของสตรี ธรรมเนียมการให้เด็กใส่เสื้อผ้าต่อไป่เจียอีนี้มีการกล่าวถึงตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง และปฏิบัติกันมาทุกระดับชนชั้น แม้แต่ในบันทึกเกี่ยวกับประวัติของฮ่องเต้สมัยราชวงศ์ชิงในยุคสมัยของคังซีและเฉียนหลงยังมีกล่าวถึงการให้องค์ชายและราชนิกูลสวมเสื้อไป่เจียอีในตอนเด็ก และธรรมเนียมนี้ยังมีอยู่ในปัจจุบัน เป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นในหลายพื้นที่ของจีน เป็นอย่างไรบ้าง? ‘เสื้อพรรคกระยาจก’ เขาก็มีความเป็นมานะเออ! ของไทยมีอะไรคล้ายคลึงอย่างนี้บ้างไหมคะ? Storyฯ ไม่สันทัด หากเพื่อนเพจท่านใดผ่านตาก็เล่าสู่กันฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.myvideo.net.tw/details/3/12499 https://nicecasio.pixnet.net/blog/post/467691023 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://kknews.cc/news/gpevjl.html https://www.lishiziliao.com/jiemi/21683.html https://www.hanspub.org/journal/PaperInformation.aspx?paperID=25060 https://new.qq.com/omn/20200819/20200819A0D3IY00.html?pc https:// baike.baidu.com/item/洗三/912561 #นิติเวชสาวยอดนักสืบ #นิติเวชสาวราชวงศ์ถัง #ผ้าต่อจีน #ผ้าปะจีน #ไป่ซุ่ยอี #ไป่น่าอี #สุ่ยเถียนอี #พิธีอาบน้ำทารก #สี่ซานหลี่
    WWW.MYVIDEO.NET.TW
    大唐女法醫線上看-陸劇、浪漫愛情劇-戲劇-MyVideo|陪你每一刻
    《大唐女法醫》描述18歲落魄貴女冉顏為了查明母親自殺真相,從小開始學習驗屍絕學,成人後巧遇刑部侍郎蕭頌、絕命殺手蘇伏和天才書生桑辰,解開一個又一個殺人情案,在探求真相的過程中遇到真愛的故事。大唐女法醫線上看-陸劇、浪漫愛情劇-戲劇-MyVideo|陪你每一刻 標籤:劇情,古裝,推理懸疑...
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กำลังเผชิญกับความท้าทายในการย้ายฐานการผลิต iPhone ไปยังสหรัฐฯ เนื่องจากอุปกรณ์นี้มีชิ้นส่วนมากถึง 2,700 รายการ จาก 187 ซัพพลายเออร์ ใน 28 ประเทศ โดยจีนเป็นแหล่งผลิตหลักของชิ้นส่วนเหล่านี้ และมีเพียง 30 ซัพพลายเออร์ เท่านั้นที่ดำเนินงานนอกประเทศจีน

    แม้ว่าจะมีชิ้นส่วนบางอย่างที่ผลิตในสหรัฐฯ เช่น กระจกหน้าจอและเลเซอร์สำหรับ Face ID แต่ส่วนประกอบสำคัญ เช่น ชั้นแบ็คไลท์ของหน้าจอ ยังคงต้องพึ่งพาการผลิตจากจีน นอกจากนี้ การประกอบ iPhone ส่วนใหญ่ดำเนินการโดย Foxconn ซึ่งมีโรงงานหลายแห่งในจีน

    Apple กำลังเร่งย้ายการประกอบ iPhone สำหรับตลาดสหรัฐฯ ไปยัง อินเดีย ภายในปี 2026 แต่การผลิต iPhone ที่เป็น 100% ผลิตในสหรัฐฯ นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ และหากเกิดขึ้นจริง ราคาของ iPhone อาจสูงถึง $3,500

    ✅ จำนวนชิ้นส่วนและซัพพลายเออร์
    - iPhone มีชิ้นส่วนมากถึง 2,700 รายการ
    - ใช้ซัพพลายเออร์ 187 รายจาก 28 ประเทศ

    ✅ บทบาทของจีนในกระบวนการผลิต
    - จีนเป็นแหล่งผลิตหลักของชิ้นส่วน iPhone
    - มีเพียง 30 ซัพพลายเออร์ที่ดำเนินงานนอกประเทศจีน

    ✅ การผลิตชิ้นส่วนในสหรัฐฯ
    - มีบางชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐฯ เช่น กระจกหน้าจอและเลเซอร์สำหรับ Face ID
    - ส่วนประกอบสำคัญ เช่น ชั้นแบ็คไลท์ของหน้าจอ ยังคงต้องพึ่งพาจีน

    ✅ การประกอบ iPhone
    - 85% ของ iPhone ถูกประกอบโดย Foxconn ในจีน
    - Apple กำลังเร่งย้ายการประกอบ iPhone สำหรับตลาดสหรัฐฯ ไปยังอินเดียภายในปี 2026

    https://www.techspot.com/news/107720-why-apple-cant-easily-move-iphone-production-us.html
    Apple กำลังเผชิญกับความท้าทายในการย้ายฐานการผลิต iPhone ไปยังสหรัฐฯ เนื่องจากอุปกรณ์นี้มีชิ้นส่วนมากถึง 2,700 รายการ จาก 187 ซัพพลายเออร์ ใน 28 ประเทศ โดยจีนเป็นแหล่งผลิตหลักของชิ้นส่วนเหล่านี้ และมีเพียง 30 ซัพพลายเออร์ เท่านั้นที่ดำเนินงานนอกประเทศจีน แม้ว่าจะมีชิ้นส่วนบางอย่างที่ผลิตในสหรัฐฯ เช่น กระจกหน้าจอและเลเซอร์สำหรับ Face ID แต่ส่วนประกอบสำคัญ เช่น ชั้นแบ็คไลท์ของหน้าจอ ยังคงต้องพึ่งพาการผลิตจากจีน นอกจากนี้ การประกอบ iPhone ส่วนใหญ่ดำเนินการโดย Foxconn ซึ่งมีโรงงานหลายแห่งในจีน Apple กำลังเร่งย้ายการประกอบ iPhone สำหรับตลาดสหรัฐฯ ไปยัง อินเดีย ภายในปี 2026 แต่การผลิต iPhone ที่เป็น 100% ผลิตในสหรัฐฯ นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ และหากเกิดขึ้นจริง ราคาของ iPhone อาจสูงถึง $3,500 ✅ จำนวนชิ้นส่วนและซัพพลายเออร์ - iPhone มีชิ้นส่วนมากถึง 2,700 รายการ - ใช้ซัพพลายเออร์ 187 รายจาก 28 ประเทศ ✅ บทบาทของจีนในกระบวนการผลิต - จีนเป็นแหล่งผลิตหลักของชิ้นส่วน iPhone - มีเพียง 30 ซัพพลายเออร์ที่ดำเนินงานนอกประเทศจีน ✅ การผลิตชิ้นส่วนในสหรัฐฯ - มีบางชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐฯ เช่น กระจกหน้าจอและเลเซอร์สำหรับ Face ID - ส่วนประกอบสำคัญ เช่น ชั้นแบ็คไลท์ของหน้าจอ ยังคงต้องพึ่งพาจีน ✅ การประกอบ iPhone - 85% ของ iPhone ถูกประกอบโดย Foxconn ในจีน - Apple กำลังเร่งย้ายการประกอบ iPhone สำหรับตลาดสหรัฐฯ ไปยังอินเดียภายในปี 2026 https://www.techspot.com/news/107720-why-apple-cant-easily-move-iphone-production-us.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Why Apple can't easily move iPhone production to the US: 2,700+ parts, 187 suppliers, 28 countries
    Donald Trump believes the huge tariffs implemented on goods imported from China and other countries will encourage US firms to manufacture their devices domestically. That's easier said...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • Match Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแพลตฟอร์มหาคู่ชื่อดัง เช่น Tinder, Hinge และ OkCupid ได้บรรลุข้อตกลงกับ Anson Funds ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นที่เคยเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารของบริษัท โดยข้อตกลงนี้รวมถึงการแต่งตั้ง Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock เป็นกรรมการบริษัท และการเปลี่ยนแปลงนโยบายให้กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี

    Anson Funds ซึ่งถือหุ้นประมาณ 0.6% ของ Match Group ได้ผลักดันให้มีการเลือกตั้งกรรมการใหม่สามคนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างบริหารที่พวกเขามองว่า ล้าสมัยและขาดความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงที่เกิดขึ้นช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถหาทางออกที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง และอาจนำไปสู่การปรับปรุงกลยุทธ์ทางธุรกิจ เช่น การจัดสรรเงินทุนใหม่ การลดต้นทุน และการพิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia

    Match Group ประสบปัญหาหุ้นตกลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้ถือหุ้นต้องการการเปลี่ยนแปลง

    ✅ การแต่งตั้งกรรมการใหม่
    - Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัท
    - Alan Spoon ซึ่งเป็นกรรมการเดิมจะไม่เข้ารับการเลือกตั้งใหม่

    ✅ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหาร
    - กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี
    - ลดความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นและบริษัท

    ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจ
    - อาจมีการปรับปรุงการจัดสรรเงินทุนและการลดต้นทุน
    - พิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia

    ✅ สถานการณ์หุ้นของ Match Group
    - หุ้นของบริษัทลดลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/match-settles-dispute-with-anson-funds-adds-new-director-to-board
    Match Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแพลตฟอร์มหาคู่ชื่อดัง เช่น Tinder, Hinge และ OkCupid ได้บรรลุข้อตกลงกับ Anson Funds ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นที่เคยเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารของบริษัท โดยข้อตกลงนี้รวมถึงการแต่งตั้ง Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock เป็นกรรมการบริษัท และการเปลี่ยนแปลงนโยบายให้กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี Anson Funds ซึ่งถือหุ้นประมาณ 0.6% ของ Match Group ได้ผลักดันให้มีการเลือกตั้งกรรมการใหม่สามคนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างบริหารที่พวกเขามองว่า ล้าสมัยและขาดความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงที่เกิดขึ้นช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถหาทางออกที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง และอาจนำไปสู่การปรับปรุงกลยุทธ์ทางธุรกิจ เช่น การจัดสรรเงินทุนใหม่ การลดต้นทุน และการพิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia Match Group ประสบปัญหาหุ้นตกลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้ถือหุ้นต้องการการเปลี่ยนแปลง ✅ การแต่งตั้งกรรมการใหม่ - Kelly Campbell อดีตประธานของ NBCUniversal Peacock ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัท - Alan Spoon ซึ่งเป็นกรรมการเดิมจะไม่เข้ารับการเลือกตั้งใหม่ ✅ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหาร - กรรมการทุกคนต้องเข้ารับการเลือกตั้งใหม่ทุกปี - ลดความขัดแย้งระหว่างผู้ถือหุ้นและบริษัท ✅ ผลกระทบต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจ - อาจมีการปรับปรุงการจัดสรรเงินทุนและการลดต้นทุน - พิจารณาทิศทางของธุรกิจ MG Asia ✅ สถานการณ์หุ้นของ Match Group - หุ้นของบริษัทลดลงเกือบ 70% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/match-settles-dispute-with-anson-funds-adds-new-director-to-board
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Match settles dispute with Anson Funds, adds new director to board
    (Reuters) - Online dating company Match Group will add a consumer-technology executive to its board and lay the groundwork for all directors to stand for election annually, ending a dispute with shareholder Anson Funds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • Commodore OS Vision 3.0 เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นโดยแฟนๆ ซึ่งใช้พื้นฐานจาก Linux และออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์แบรนด์ Commodore โดยเฉพาะ เช่น Commodore 64x ระบบนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อฟื้นฟูประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุคเก่า โดยนำฮาร์ดแวร์สมัยใหม่มาใส่ในเคสแบบย้อนยุค

    ระบบปฏิบัติการนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ เช่น Commodore OS Central ซึ่งเป็นศูนย์รวมแหล่งข้อมูลและเครื่องมือสำคัญ รวมถึง Settings Manager ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งระบบได้อย่างละเอียด เช่น การเปลี่ยนวอลเปเปอร์ เพิ่มแอนิเมชัน และปรับแต่งเสียงเพลงสำหรับฟังก์ชันต่างๆ นอกจากนี้ยังรองรับการตั้งค่าตัวเลือกระบบ เช่น โปรโตคอลการเริ่มต้นและการตั้งค่าอีมูเลเตอร์

    Commodore OS Vision 3.0 ยังมีเกมที่ติดตั้งมาให้เล่นได้ทันที รวมถึงตัวแก้ไข BASIC รุ่นใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบแอปและเกมของตนเองได้ โดยรองรับกราฟิก 2D และ 3D รวมถึงฟิสิกส์

    ✅ การออกแบบและการใช้งาน
    - ระบบปฏิบัติการ Linux ที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์แบรนด์ Commodore
    - ฟื้นฟูประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุคเก่า

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่
    - Commodore OS Central เป็นศูนย์รวมแหล่งข้อมูลและเครื่องมือสำคัญ
    - Settings Manager ช่วยปรับแต่งระบบ เช่น วอลเปเปอร์ แอนิเมชัน และเสียงเพลง

    ✅ การสนับสนุนเกมและการพัฒนา
    - มีเกมที่ติดตั้งมาให้เล่นได้ทันที
    - ตัวแก้ไข BASIC รุ่นใหม่ช่วยออกแบบแอปและเกม รองรับกราฟิก 2D และ 3D

    ✅ เป้าหมายของระบบปฏิบัติการ
    - สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ผสมผสานระหว่างความย้อนยุคและความทันสมัย

    https://www.tomshardware.com/software/linux/commodore-os-vision-3-0-linux-based-os-arrives-to-spruce-up-retro-builds
    Commodore OS Vision 3.0 เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นโดยแฟนๆ ซึ่งใช้พื้นฐานจาก Linux และออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์แบรนด์ Commodore โดยเฉพาะ เช่น Commodore 64x ระบบนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อฟื้นฟูประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุคเก่า โดยนำฮาร์ดแวร์สมัยใหม่มาใส่ในเคสแบบย้อนยุค ระบบปฏิบัติการนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ เช่น Commodore OS Central ซึ่งเป็นศูนย์รวมแหล่งข้อมูลและเครื่องมือสำคัญ รวมถึง Settings Manager ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งระบบได้อย่างละเอียด เช่น การเปลี่ยนวอลเปเปอร์ เพิ่มแอนิเมชัน และปรับแต่งเสียงเพลงสำหรับฟังก์ชันต่างๆ นอกจากนี้ยังรองรับการตั้งค่าตัวเลือกระบบ เช่น โปรโตคอลการเริ่มต้นและการตั้งค่าอีมูเลเตอร์ Commodore OS Vision 3.0 ยังมีเกมที่ติดตั้งมาให้เล่นได้ทันที รวมถึงตัวแก้ไข BASIC รุ่นใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบแอปและเกมของตนเองได้ โดยรองรับกราฟิก 2D และ 3D รวมถึงฟิสิกส์ ✅ การออกแบบและการใช้งาน - ระบบปฏิบัติการ Linux ที่ออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์แบรนด์ Commodore - ฟื้นฟูประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ในยุคเก่า ✅ ฟีเจอร์ใหม่ - Commodore OS Central เป็นศูนย์รวมแหล่งข้อมูลและเครื่องมือสำคัญ - Settings Manager ช่วยปรับแต่งระบบ เช่น วอลเปเปอร์ แอนิเมชัน และเสียงเพลง ✅ การสนับสนุนเกมและการพัฒนา - มีเกมที่ติดตั้งมาให้เล่นได้ทันที - ตัวแก้ไข BASIC รุ่นใหม่ช่วยออกแบบแอปและเกม รองรับกราฟิก 2D และ 3D ✅ เป้าหมายของระบบปฏิบัติการ - สร้างประสบการณ์การใช้งานที่ผสมผสานระหว่างความย้อนยุคและความทันสมัย https://www.tomshardware.com/software/linux/commodore-os-vision-3-0-linux-based-os-arrives-to-spruce-up-retro-builds
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Commodore OS Vision 3.0 Linux-based OS arrives to spruce up retro builds
    This fan-made Linux-based OS was just released for Commodore-branded devices.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • Afghanization, Finlandization, And The Politic-ization Of Place Names

    Recent news has been filled with analysis that attempts to make sense of current events by comparing them to past moments in history—and applying some of the terminology that originated in the midst or aftermath of those earlier events. Prominent examples include terms based on the combination of a place name and the ending -ization, such as Afghanization (in the context of the withdrawal of US forces from Afghanistan) and Finlandization (in the context of the Russian invasion of Ukraine).

    Not only are such terms used in fraught political discussions, use of the words themselves is often controversial due to debates about what they mean exactly as well as how—or whether—they should be used.

    Add context to your reading of current events with this list of some of the -ization terms you’re most likely to encounter in historical analysis, along with explanations about the different meanings they can have.

    Afghanization
    The term Afghanization is most prominently used in the context of US forces in Afghanistan, particularly in the lead-up to and during the withdrawal of those forces in 2021. Specifically, it refers to the US strategy of attempting to return political and military control to Afghan forces. The term is also used separately to refer to ethnic and language assimilation within the country.

    Africanization
    The term Africanization can be used in a variety of ways. It can mean “to bring under African, especially Black African, influence or to adapt to African needs” or more specifically, “to make African, especially to give control of (policy, government, etc.) to Africans.” It is commonly used to discuss postcolonial Africa and post-apartheid South Africa. In this context, Africanization refers to restoring political, economic, and civil power to Black Africans.

    Americanization
    The word Americanization is used to refer to two separate ideas. In the early 1900s, many advocated for “Americanizing” the large number of new immigrants who were entering the United States at the time as a way to instill cultural values considered quintessentially “American.” During and after, this approach has faced criticism for forcing the loss of immigrants’ original cultures.

    More currently, the word Americanization is often used to refer to the spread of American culture across the world, especially through American media and popular culture. This term can refer to the wide availability of American pop culture, which has been noted for its influence on many other nations’ cultures.

    Arabization
    The word Arabization is used to refer to a process of promoting Arabic language and Arabic culture in education, government, and media. In particular, Arabization is often used to describe government policies that enforce this process in countries that were formerly under the control of non-Arab colonizers.

    balkanization
    The term balkanization is sometimes applied when a large place or country divides up into smaller, more homogenous communities. It can also refer to conflict between various ethnic groups in one state. The term balkanization makes reference to the Balkans, also known as the Balkan Peninsula, which split into many small countries first after the fall of the Ottoman Empire and again after the fall of the Soviet Union and the breakup of Yugoslavia.

    Dubaization
    Dubaization refers to a rapid period of development of a city or area with futuristic architecture. Dubaization takes its name from the city of Dubai in the United Arab Emirates, which is known for its architectural development dating back to the 1990s.

    Finlandization
    Finlandization refers to the process by which a smaller country maintains a neutral or favorable policy toward a larger country due to influence from that larger country. Coined by political scientist Richard Lowenthal in the 1960s, the term references Finland’s neutrality toward the Soviet Union during the Cold War. A 1948 treaty stipulated Finland would remain neutral during the Cold War if in turn the Soviet Union refrained from invading the country. The term can have negative connotations, as it can imply one country is under the thumb of a more powerful one and has opted for neutrality under undue pressure.

    Japanization
    In economics, the term Japanization is used to refer to a period of deflation and economic stagnation in a country. The term references the nation of Japan, whose economic stagnation in the 1990s led to a severe financial crisis in what is now often referred to as the Lost Decade.

    Latinization
    The term Latinization has several distinct senses:

    - Latinization can refer to the act of rendering a language into a script that uses the Latin alphabet. For example, a translator might Latinize a text by taking Chinese or Hindi characters and converting them to Latin letters.
    - In religious context, Latinization can refer to the process by which non-Latin Christian churches were made to conform to the practices of the Latin and Roman Catholic Church, primarily during the Middle Ages.
    - Latinization can also refer to a place becoming similar to places in Latin America. For example, US cities with large Hispanic populations, such as Miami, have been described as being Latinized.

    Mongolization
    The term Mongolization is often used to refer to the assimilation of language and culture that occurred by peoples who were conquered by the Mongol Empire. For many peoples, this process occurred over a long period of time and often involved their traditional culture slowly blending with Mongol culture.

    Ottomanization
    Ottomanization refers to the adoption of the culture of the Ottoman Empire by the peoples and places under its rule. Historically, this term has referred to the transition from the Christian, Greek traditions of the Byzantines to the Islamic, Turkish traditions and culture of the Ottomans.

    Romanization
    The term Romanization is often used to refer to the cultural influence practiced by the Roman Empire. At its peak, the Roman Empire encompassed an incredibly diverse range of countries and cultures, which allowed for a large-scale Romanization, the influence of which can still be seen today in the many languages, architecture, and cultures retaining Roman influences.

    Sinicization
    Sinicization refers to the spreading of Chinese culture, religion, and politics. The term Sinicization has also been used, including by the Chinese government, to refer to China’s policy of enforcing the assimilation of ethnic and religious minorities to Chinese practices. The beginning of the term is a version of Sino-, which comes from a Latin word referring to China and is used in many other terms referring to China or Chinese culture (such as Sinology).

    Vietnamization
    Vietnamization is the name given to a strategy employed by the Nixon administration as an attempt to end US involvement in the highly unpopular Vietnam War. The strategy intended for the US to transfer all military responsibility to South Vietnamese forces and prepare South Vietnam to fight North Vietnam. The process called Afghanization is sometimes likened to Vietnamization due to similarities in the failures and other aspects of the respective conflicts.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Afghanization, Finlandization, And The Politic-ization Of Place Names Recent news has been filled with analysis that attempts to make sense of current events by comparing them to past moments in history—and applying some of the terminology that originated in the midst or aftermath of those earlier events. Prominent examples include terms based on the combination of a place name and the ending -ization, such as Afghanization (in the context of the withdrawal of US forces from Afghanistan) and Finlandization (in the context of the Russian invasion of Ukraine). Not only are such terms used in fraught political discussions, use of the words themselves is often controversial due to debates about what they mean exactly as well as how—or whether—they should be used. Add context to your reading of current events with this list of some of the -ization terms you’re most likely to encounter in historical analysis, along with explanations about the different meanings they can have. Afghanization The term Afghanization is most prominently used in the context of US forces in Afghanistan, particularly in the lead-up to and during the withdrawal of those forces in 2021. Specifically, it refers to the US strategy of attempting to return political and military control to Afghan forces. The term is also used separately to refer to ethnic and language assimilation within the country. Africanization The term Africanization can be used in a variety of ways. It can mean “to bring under African, especially Black African, influence or to adapt to African needs” or more specifically, “to make African, especially to give control of (policy, government, etc.) to Africans.” It is commonly used to discuss postcolonial Africa and post-apartheid South Africa. In this context, Africanization refers to restoring political, economic, and civil power to Black Africans. Americanization The word Americanization is used to refer to two separate ideas. In the early 1900s, many advocated for “Americanizing” the large number of new immigrants who were entering the United States at the time as a way to instill cultural values considered quintessentially “American.” During and after, this approach has faced criticism for forcing the loss of immigrants’ original cultures. More currently, the word Americanization is often used to refer to the spread of American culture across the world, especially through American media and popular culture. This term can refer to the wide availability of American pop culture, which has been noted for its influence on many other nations’ cultures. Arabization The word Arabization is used to refer to a process of promoting Arabic language and Arabic culture in education, government, and media. In particular, Arabization is often used to describe government policies that enforce this process in countries that were formerly under the control of non-Arab colonizers. balkanization The term balkanization is sometimes applied when a large place or country divides up into smaller, more homogenous communities. It can also refer to conflict between various ethnic groups in one state. The term balkanization makes reference to the Balkans, also known as the Balkan Peninsula, which split into many small countries first after the fall of the Ottoman Empire and again after the fall of the Soviet Union and the breakup of Yugoslavia. Dubaization Dubaization refers to a rapid period of development of a city or area with futuristic architecture. Dubaization takes its name from the city of Dubai in the United Arab Emirates, which is known for its architectural development dating back to the 1990s. Finlandization Finlandization refers to the process by which a smaller country maintains a neutral or favorable policy toward a larger country due to influence from that larger country. Coined by political scientist Richard Lowenthal in the 1960s, the term references Finland’s neutrality toward the Soviet Union during the Cold War. A 1948 treaty stipulated Finland would remain neutral during the Cold War if in turn the Soviet Union refrained from invading the country. The term can have negative connotations, as it can imply one country is under the thumb of a more powerful one and has opted for neutrality under undue pressure. Japanization In economics, the term Japanization is used to refer to a period of deflation and economic stagnation in a country. The term references the nation of Japan, whose economic stagnation in the 1990s led to a severe financial crisis in what is now often referred to as the Lost Decade. Latinization The term Latinization has several distinct senses: - Latinization can refer to the act of rendering a language into a script that uses the Latin alphabet. For example, a translator might Latinize a text by taking Chinese or Hindi characters and converting them to Latin letters. - In religious context, Latinization can refer to the process by which non-Latin Christian churches were made to conform to the practices of the Latin and Roman Catholic Church, primarily during the Middle Ages. - Latinization can also refer to a place becoming similar to places in Latin America. For example, US cities with large Hispanic populations, such as Miami, have been described as being Latinized. Mongolization The term Mongolization is often used to refer to the assimilation of language and culture that occurred by peoples who were conquered by the Mongol Empire. For many peoples, this process occurred over a long period of time and often involved their traditional culture slowly blending with Mongol culture. Ottomanization Ottomanization refers to the adoption of the culture of the Ottoman Empire by the peoples and places under its rule. Historically, this term has referred to the transition from the Christian, Greek traditions of the Byzantines to the Islamic, Turkish traditions and culture of the Ottomans. Romanization The term Romanization is often used to refer to the cultural influence practiced by the Roman Empire. At its peak, the Roman Empire encompassed an incredibly diverse range of countries and cultures, which allowed for a large-scale Romanization, the influence of which can still be seen today in the many languages, architecture, and cultures retaining Roman influences. Sinicization Sinicization refers to the spreading of Chinese culture, religion, and politics. The term Sinicization has also been used, including by the Chinese government, to refer to China’s policy of enforcing the assimilation of ethnic and religious minorities to Chinese practices. The beginning of the term is a version of Sino-, which comes from a Latin word referring to China and is used in many other terms referring to China or Chinese culture (such as Sinology). Vietnamization Vietnamization is the name given to a strategy employed by the Nixon administration as an attempt to end US involvement in the highly unpopular Vietnam War. The strategy intended for the US to transfer all military responsibility to South Vietnamese forces and prepare South Vietnam to fight North Vietnam. The process called Afghanization is sometimes likened to Vietnamization due to similarities in the failures and other aspects of the respective conflicts. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 566 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยในปี 2024 ผู้เสียหายจากการหลอกลวงในภูมิภาคนี้สูญเสียเงินรวมกว่า 688 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการสูญเสียทั่วโลก

    Google ได้จัดงาน Online Safety Dialogue ในไต้หวัน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อพัฒนาการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการหลอกลวง การประสานงานระหว่างประเทศ การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับขั้นสูง และการลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง

    นอกจากนี้ Google.org ยังได้จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ได้มอบเงินทุน 2 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในไต้หวัน

    Google ยังได้ขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 เพื่อแบ่งปันสัญญาณและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงแบบเรียลไทม์ โดยมีพันธมิตร 20 รายที่ร่วมแบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ

    สุดท้าย Google เตรียมเปิดตัวเกม ShieldUp! ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 ซึ่งเป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นเรียนรู้วิธีป้องกันการหลอกลวงผ่านการจำลองสถานการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ

    ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค
    - Google ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อแบ่งปันข้อมูลและพัฒนาเครื่องมือตรวจจับ
    - การลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง

    ✅ การจัดสรรเงินทุน
    - Google.org จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในปี 2025
    - เงินทุนก่อนหน้านี้รวมถึง 2 ล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ในไต้หวัน

    ✅ การขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE)
    - แพลตฟอร์ม GSE มีพันธมิตร 20 รายที่แบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ
    - การขยายแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์

    ✅ การเปิดตัวเกม ShieldUp!
    - เกม ShieldUp! จะเปิดตัวในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025

    https://www.neowin.net/news/google-bolsters-its-anti-scam-efforts-across-asia-pacific/
    Google ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยในปี 2024 ผู้เสียหายจากการหลอกลวงในภูมิภาคนี้สูญเสียเงินรวมกว่า 688 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการสูญเสียทั่วโลก Google ได้จัดงาน Online Safety Dialogue ในไต้หวัน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อพัฒนาการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการหลอกลวง การประสานงานระหว่างประเทศ การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับขั้นสูง และการลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง นอกจากนี้ Google.org ยังได้จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ได้มอบเงินทุน 2 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในไต้หวัน Google ยังได้ขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 เพื่อแบ่งปันสัญญาณและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงแบบเรียลไทม์ โดยมีพันธมิตร 20 รายที่ร่วมแบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ สุดท้าย Google เตรียมเปิดตัวเกม ShieldUp! ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 ซึ่งเป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นเรียนรู้วิธีป้องกันการหลอกลวงผ่านการจำลองสถานการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค - Google ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อแบ่งปันข้อมูลและพัฒนาเครื่องมือตรวจจับ - การลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง ✅ การจัดสรรเงินทุน - Google.org จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในปี 2025 - เงินทุนก่อนหน้านี้รวมถึง 2 ล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ในไต้หวัน ✅ การขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) - แพลตฟอร์ม GSE มีพันธมิตร 20 รายที่แบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ - การขยายแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์ ✅ การเปิดตัวเกม ShieldUp! - เกม ShieldUp! จะเปิดตัวในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 https://www.neowin.net/news/google-bolsters-its-anti-scam-efforts-across-asia-pacific/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google bolsters its anti-scam efforts across Asia-Pacific
    In 2024, customers across Asia-Pacific lost 688 billion USD to scams. At Taiwan's Online Safety Dialogue, Google unveiled new partnerships, grants, and real-time tools to fight back.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • "การเมืองโรมาเนียเพิ่มระดับความวุ่ยวายขึ้นไปอีก!!"

    ศาลอุทธรณ์ในเมืองโปลเยสตี มีคำตัดสินยกเลิก คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งโรมาเนียในการยกเลิกการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว!!!

    ผู้พิพากษาอเล็กซานดรู วาสิเล (Alexandru Vasile) แห่งศาลอุทธรณ์เมืองโปลเยสตี มีคำสั่งสั่งระงับการบังคับใช้คำตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งศาลอุทธรณ์ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

    ในคำประกาศของศาลอุทธรณ์ระบุว่า “ระงับการบังคับใช้คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีขั้นสุดท้าย โดยการยอมรับการยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำตัดสินดังกล่าวจากศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024”

    จากประกาศของศาลอุทธรณ์ ทำให้เกิดกระแสการพูดถึงอย่างมากมายในโซเชียลของโรมาเนีย ถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ "คาลิน จอร์เจสคู" กลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สองต่อไป

    ศาลอุทธรณ์ให้เวลา 5 วัน ในการยื่นเรื่องคัดค้านคำตัดสินนี้

    ทางด้านสื่อของโรมาเนีย รายงานว่า เหตุผลของคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการยกเลิกการเลือกตั้ง หลังจากได้ให้การรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนนั้นแล้ว

    นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถพิสูจหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาผู้สมัครที่ได้รับชัยชนะ จนนำไปสู่การตัดสินระงับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเอกสารหลักฐานต่างๆในการอ้างอิงเพื่อระงับการเลือกตั้ง จะต้องได้รับการพิจารณาโดยฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่โดยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความคลางแคลงใจในกระบวนการพิจรณาดังกล่าว

    จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ออกมา การเมืองโรมาเนียจะไปในทิศทางใด และ Calin Georgescu ซึ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก จะได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกหรือไม่
    "การเมืองโรมาเนียเพิ่มระดับความวุ่ยวายขึ้นไปอีก!!" ศาลอุทธรณ์ในเมืองโปลเยสตี มีคำตัดสินยกเลิก คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งโรมาเนียในการยกเลิกการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว!!! ผู้พิพากษาอเล็กซานดรู วาสิเล (Alexandru Vasile) แห่งศาลอุทธรณ์เมืองโปลเยสตี มีคำสั่งสั่งระงับการบังคับใช้คำตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งศาลอุทธรณ์ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ในคำประกาศของศาลอุทธรณ์ระบุว่า “ระงับการบังคับใช้คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีขั้นสุดท้าย โดยการยอมรับการยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำตัดสินดังกล่าวจากศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024” จากประกาศของศาลอุทธรณ์ ทำให้เกิดกระแสการพูดถึงอย่างมากมายในโซเชียลของโรมาเนีย ถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ "คาลิน จอร์เจสคู" กลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สองต่อไป ศาลอุทธรณ์ให้เวลา 5 วัน ในการยื่นเรื่องคัดค้านคำตัดสินนี้ ทางด้านสื่อของโรมาเนีย รายงานว่า เหตุผลของคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการยกเลิกการเลือกตั้ง หลังจากได้ให้การรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนนั้นแล้ว นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถพิสูจหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาผู้สมัครที่ได้รับชัยชนะ จนนำไปสู่การตัดสินระงับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเอกสารหลักฐานต่างๆในการอ้างอิงเพื่อระงับการเลือกตั้ง จะต้องได้รับการพิจารณาโดยฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่โดยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความคลางแคลงใจในกระบวนการพิจรณาดังกล่าว จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ออกมา การเมืองโรมาเนียจะไปในทิศทางใด และ Calin Georgescu ซึ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก จะได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกหรือไม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจาก Mandiant เปิดเผยว่ากลุ่มแฮกเกอร์ในปี 2024 มีแรงจูงใจทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 55% ของกลุ่มภัยคุกคามมุ่งเน้นการขโมยหรือรีดไถเงินจากเหยื่อ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับแรนซัมแวร์คิดเป็น 21% ของการบุกรุกทั้งหมด และเกือบสองในสามของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้

    วิธีการโจมตีที่นิยมมากที่สุดคือการใช้ช่องโหว่ (33%) ตามด้วยการใช้ข้อมูลรับรองที่ถูกขโมย (16%) การฟิชชิง (14%) การบุกรุกเว็บไซต์ (9%) และการใช้ช่องโหว่ที่มีอยู่ก่อนหน้า (8%)

    อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุดคือการเงิน (17%) ตามด้วยธุรกิจและบริการวิชาชีพ (11%) อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง (10%) รัฐบาล (10%) และการดูแลสุขภาพ (9%)

    นักวิจัยเตือนว่า AI กำลังเพิ่มความซับซ้อนและความสามารถในการโจมตี โดยช่วยให้แฮกเกอร์สามารถดำเนินการโจมตีที่มีเป้าหมายและหลบหลีกได้มากขึ้น

    ✅ แรงจูงใจทางการเงินของกลุ่มแฮกเกอร์
    - 55% ของกลุ่มภัยคุกคามมุ่งเน้นการขโมยหรือรีดไถเงินจากเหยื่อ
    - การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับแรนซัมแวร์คิดเป็น 21% ของการบุกรุกทั้งหมด

    ✅ วิธีการโจมตีที่นิยม
    - การใช้ช่องโหว่ (33%)
    - การใช้ข้อมูลรับรองที่ถูกขโมย (16%)
    - การฟิชชิง (14%)

    ✅ อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุด
    - การเงิน (17%)
    - ธุรกิจและบริการวิชาชีพ (11%)
    - รัฐบาล (10%)

    ✅ ผลกระทบจาก AI
    - AI เพิ่มความซับซ้อนและความสามารถในการโจมตี

    https://www.techradar.com/pro/security/hacking-groups-are-now-increasingly-in-it-for-the-money-not-the-chaos
    รายงานจาก Mandiant เปิดเผยว่ากลุ่มแฮกเกอร์ในปี 2024 มีแรงจูงใจทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 55% ของกลุ่มภัยคุกคามมุ่งเน้นการขโมยหรือรีดไถเงินจากเหยื่อ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับแรนซัมแวร์คิดเป็น 21% ของการบุกรุกทั้งหมด และเกือบสองในสามของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้ วิธีการโจมตีที่นิยมมากที่สุดคือการใช้ช่องโหว่ (33%) ตามด้วยการใช้ข้อมูลรับรองที่ถูกขโมย (16%) การฟิชชิง (14%) การบุกรุกเว็บไซต์ (9%) และการใช้ช่องโหว่ที่มีอยู่ก่อนหน้า (8%) อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุดคือการเงิน (17%) ตามด้วยธุรกิจและบริการวิชาชีพ (11%) อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง (10%) รัฐบาล (10%) และการดูแลสุขภาพ (9%) นักวิจัยเตือนว่า AI กำลังเพิ่มความซับซ้อนและความสามารถในการโจมตี โดยช่วยให้แฮกเกอร์สามารถดำเนินการโจมตีที่มีเป้าหมายและหลบหลีกได้มากขึ้น ✅ แรงจูงใจทางการเงินของกลุ่มแฮกเกอร์ - 55% ของกลุ่มภัยคุกคามมุ่งเน้นการขโมยหรือรีดไถเงินจากเหยื่อ - การโจมตีที่เกี่ยวข้องกับแรนซัมแวร์คิดเป็น 21% ของการบุกรุกทั้งหมด ✅ วิธีการโจมตีที่นิยม - การใช้ช่องโหว่ (33%) - การใช้ข้อมูลรับรองที่ถูกขโมย (16%) - การฟิชชิง (14%) ✅ อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุด - การเงิน (17%) - ธุรกิจและบริการวิชาชีพ (11%) - รัฐบาล (10%) ✅ ผลกระทบจาก AI - AI เพิ่มความซับซ้อนและความสามารถในการโจมตี https://www.techradar.com/pro/security/hacking-groups-are-now-increasingly-in-it-for-the-money-not-the-chaos
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ปรับปรุงฟีเจอร์ Comments ใน PowerPoint เพื่อให้การทำงานร่วมกันง่ายขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถย้ายหรือคัดลอกเนื้อหาที่มีความคิดเห็นแนบอยู่ได้โดยที่ความคิดเห็นจะติดตามไปยังตำแหน่งใหม่โดยอัตโนมัติ การอัปเดตนี้ช่วยลดความสับสนเมื่อมีการแก้ไขสไลด์และความคิดเห็นสูญเสียบริบท นอกจากนี้ Microsoft ยังได้ปรับปรุงฟีเจอร์อื่นๆ ใน Office เช่น การอ้างอิงใน Word และการบันทึกเสียงในรูปแบบเอกสารผ่าน Copilot

    ✅ การย้ายหรือคัดลอกเนื้อหาพร้อมความคิดเห็น
    - ผู้ใช้งานสามารถย้ายข้อความ กล่องข้อความ ตาราง รูปร่าง และ SmartArt พร้อมความคิดเห็นไปยังตำแหน่งใหม่ได้
    - ความคิดเห็นสำหรับเนื้อหาที่ไม่ได้ถูกย้ายหรือถูกลบจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม

    ✅ การใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ
    - ย้ายเนื้อหาในสไลด์เดียวกัน: ความคิดเห็นจะติดตามเนื้อหาไปยังตำแหน่งใหม่
    - ย้ายเนื้อหาระหว่างสไลด์: ความคิดเห็นจะย้ายไปยังสไลด์ใหม่
    - คัดลอกเนื้อหา: ความคิดเห็นจะยังคงอยู่กับเนื้อหาต้นฉบับ แต่เนื้อหาที่คัดลอกจะไม่มีความคิดเห็น

    ✅ การอัปเดตในแพลตฟอร์มต่างๆ
    - ฟีเจอร์นี้เริ่มใช้งานใน PowerPoint บนเว็บ Windows (เวอร์ชัน 2503) และ macOS (เวอร์ชัน 16.96)

    ✅ การปรับปรุงฟีเจอร์อื่นๆ ใน Office
    - Word มีการปรับปรุงการอ้างอิงเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
    - Copilot สามารถถอดเสียงบันทึกเป็นเอกสารที่มีคุณภาพสูง

    https://www.neowin.net/news/microsoft-makes-it-easier-to-keep-comments-when-editing-powerpoint-presentations/
    Microsoft ได้ปรับปรุงฟีเจอร์ Comments ใน PowerPoint เพื่อให้การทำงานร่วมกันง่ายขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถย้ายหรือคัดลอกเนื้อหาที่มีความคิดเห็นแนบอยู่ได้โดยที่ความคิดเห็นจะติดตามไปยังตำแหน่งใหม่โดยอัตโนมัติ การอัปเดตนี้ช่วยลดความสับสนเมื่อมีการแก้ไขสไลด์และความคิดเห็นสูญเสียบริบท นอกจากนี้ Microsoft ยังได้ปรับปรุงฟีเจอร์อื่นๆ ใน Office เช่น การอ้างอิงใน Word และการบันทึกเสียงในรูปแบบเอกสารผ่าน Copilot ✅ การย้ายหรือคัดลอกเนื้อหาพร้อมความคิดเห็น - ผู้ใช้งานสามารถย้ายข้อความ กล่องข้อความ ตาราง รูปร่าง และ SmartArt พร้อมความคิดเห็นไปยังตำแหน่งใหม่ได้ - ความคิดเห็นสำหรับเนื้อหาที่ไม่ได้ถูกย้ายหรือถูกลบจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม ✅ การใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ - ย้ายเนื้อหาในสไลด์เดียวกัน: ความคิดเห็นจะติดตามเนื้อหาไปยังตำแหน่งใหม่ - ย้ายเนื้อหาระหว่างสไลด์: ความคิดเห็นจะย้ายไปยังสไลด์ใหม่ - คัดลอกเนื้อหา: ความคิดเห็นจะยังคงอยู่กับเนื้อหาต้นฉบับ แต่เนื้อหาที่คัดลอกจะไม่มีความคิดเห็น ✅ การอัปเดตในแพลตฟอร์มต่างๆ - ฟีเจอร์นี้เริ่มใช้งานใน PowerPoint บนเว็บ Windows (เวอร์ชัน 2503) และ macOS (เวอร์ชัน 16.96) ✅ การปรับปรุงฟีเจอร์อื่นๆ ใน Office - Word มีการปรับปรุงการอ้างอิงเพื่อความสะดวกในการใช้งาน - Copilot สามารถถอดเสียงบันทึกเป็นเอกสารที่มีคุณภาพสูง https://www.neowin.net/news/microsoft-makes-it-easier-to-keep-comments-when-editing-powerpoint-presentations/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft makes it easier to keep comments when editing PowerPoint presentations
    Microsoft is adding a welcome change to PowerPoint for those who often leave comments when editing or collaborating on presentations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ AI Generative ในการสร้างการหลอกลวงออนไลน์ โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ไม่หวังดีสามารถสร้างเว็บไซต์ปลอม รีวิวสินค้า และแชทบอทที่หลอกลวงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีการใช้ Deepfake ในการสร้างการหลอกลวงที่ซับซ้อน เช่น การปลอมแปลงการสัมภาษณ์งานผ่านวิดีโอ

    ✅ AI ช่วยลดความซับซ้อนในการสร้างการหลอกลวงออนไลน์
    - ผู้ไม่หวังดีสามารถสร้างเว็บไซต์ปลอมและแบรนด์อีคอมเมิร์ซปลอมได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
    - ใช้ AI ในการสร้างรีวิวสินค้าและประวัติธุรกิจที่ดูน่าเชื่อถือ

    ✅ Deepfake ถูกใช้ในการหลอกลวงที่ซับซ้อน
    - การปลอมแปลงการสัมภาษณ์งานผ่านวิดีโอและการสร้างการรับรองจากคนดังปลอม
    - Microsoft แนะนำให้สังเกตความผิดปกติ เช่น การเคลื่อนไหวของริมฝีปากที่ไม่ตรงกับเสียง

    ✅ Microsoft เพิ่มการป้องกันในเครื่องมือ Quick Assist
    - เพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการแชร์หน้าจอ
    - แนะนำให้ใช้ Remote Help แทน Quick Assist สำหรับการสนับสนุนภายใน

    ✅ Microsoft ป้องกันการหลอกลวงมูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
    - ปฏิเสธการสมัครสมาชิกปลอมกว่า 49,000 รายการ
    - บล็อกการสมัครสมาชิกบอทประมาณ 1.6 ล้านครั้งต่อชั่วโมง

    https://www.techspot.com/news/107641-microsoft-warns-ai-making-faster-easier-create-online.html
    Microsoft ได้เตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ AI Generative ในการสร้างการหลอกลวงออนไลน์ โดยเทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ไม่หวังดีสามารถสร้างเว็บไซต์ปลอม รีวิวสินค้า และแชทบอทที่หลอกลวงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีการใช้ Deepfake ในการสร้างการหลอกลวงที่ซับซ้อน เช่น การปลอมแปลงการสัมภาษณ์งานผ่านวิดีโอ ✅ AI ช่วยลดความซับซ้อนในการสร้างการหลอกลวงออนไลน์ - ผู้ไม่หวังดีสามารถสร้างเว็บไซต์ปลอมและแบรนด์อีคอมเมิร์ซปลอมได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที - ใช้ AI ในการสร้างรีวิวสินค้าและประวัติธุรกิจที่ดูน่าเชื่อถือ ✅ Deepfake ถูกใช้ในการหลอกลวงที่ซับซ้อน - การปลอมแปลงการสัมภาษณ์งานผ่านวิดีโอและการสร้างการรับรองจากคนดังปลอม - Microsoft แนะนำให้สังเกตความผิดปกติ เช่น การเคลื่อนไหวของริมฝีปากที่ไม่ตรงกับเสียง ✅ Microsoft เพิ่มการป้องกันในเครื่องมือ Quick Assist - เพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงในการแชร์หน้าจอ - แนะนำให้ใช้ Remote Help แทน Quick Assist สำหรับการสนับสนุนภายใน ✅ Microsoft ป้องกันการหลอกลวงมูลค่ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา - ปฏิเสธการสมัครสมาชิกปลอมกว่า 49,000 รายการ - บล็อกการสมัครสมาชิกบอทประมาณ 1.6 ล้านครั้งต่อชั่วโมง https://www.techspot.com/news/107641-microsoft-warns-ai-making-faster-easier-create-online.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI is enabling cybercriminals to act quickly - and with little technical knowledge, Microsoft warns
    In its latest edition of the Cyber Signals report, Microsoft writes that AI has started to lower the technical bar for fraud and cybercrime actors looking for...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts