• ถ้าคุณกำลังมองหาการ์ดจอเกมมิ่งในตลาดตอนนี้ AMD RX 9070 XT อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า ด้วยราคาที่ถูกกว่าถึง 17% และประสิทธิภาพที่ใกล้เคียง RTX 5070 Ti ในหลายเกม แม้ว่า NVIDIA จะยังได้เปรียบในด้าน Ray Tracing และการรองรับฟีเจอร์ใหม่ แต่ AMD ได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่น่าประทับใจอย่างมากใน FSR 4 และประสิทธิภาพรวมที่สูง

    เกมที่โดดเด่นทั้งสองค่าย:
    - ในบางเกม เช่น Rocket League RX 9070 XT เร็วกว่า RTX 5070 Ti ถึง 41% ในขณะที่เกมอย่าง GTA V Enhanced RTX 5070 Ti นำ RX 9070 XT ถึง 29% แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในแต่ละซอฟต์แวร์.

    การพัฒนาเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพ (Upscaling):
    - AMD FSR 4 ถือว่าเป็นก้าวกระโดดที่ใหญ่เมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้า โดยให้ผลใกล้เคียงกับ DLSS 4 ของ NVIDIA แม้ AMD จะยังมีข้อจำกัดด้านการรองรับเกมบางเกม.

    การใช้งาน Ray Tracing:
    - NVIDIA ยังคงเป็นผู้นำในด้าน Ray Tracing แต่ RX 9070 XT สามารถทำงานได้อย่างน่าประทับใจเมื่อเปิดใช้งาน FSR เพื่อช่วยเสริมการประมวลผล.

    ราคากับประสิทธิภาพ:
    - RX 9070 XT มีราคาถูกกว่า 5070 Ti และให้ค่าคุ้มค่าประมาณ 15% หากราคาของทั้งสองใกล้เคียงกัน NVIDIA อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในบางแง่ เช่น การรองรับ Ray Tracing และการประมวลผลเร็วกว่าในหลายเกม.

    https://www.techspot.com/review/2970-amd-radeon-9070-xt-vs-nvidia-rtx-5070-ti/
    ถ้าคุณกำลังมองหาการ์ดจอเกมมิ่งในตลาดตอนนี้ AMD RX 9070 XT อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า ด้วยราคาที่ถูกกว่าถึง 17% และประสิทธิภาพที่ใกล้เคียง RTX 5070 Ti ในหลายเกม แม้ว่า NVIDIA จะยังได้เปรียบในด้าน Ray Tracing และการรองรับฟีเจอร์ใหม่ แต่ AMD ได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่น่าประทับใจอย่างมากใน FSR 4 และประสิทธิภาพรวมที่สูง เกมที่โดดเด่นทั้งสองค่าย: - ในบางเกม เช่น Rocket League RX 9070 XT เร็วกว่า RTX 5070 Ti ถึง 41% ในขณะที่เกมอย่าง GTA V Enhanced RTX 5070 Ti นำ RX 9070 XT ถึง 29% แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในแต่ละซอฟต์แวร์. การพัฒนาเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพ (Upscaling): - AMD FSR 4 ถือว่าเป็นก้าวกระโดดที่ใหญ่เมื่อเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้า โดยให้ผลใกล้เคียงกับ DLSS 4 ของ NVIDIA แม้ AMD จะยังมีข้อจำกัดด้านการรองรับเกมบางเกม. การใช้งาน Ray Tracing: - NVIDIA ยังคงเป็นผู้นำในด้าน Ray Tracing แต่ RX 9070 XT สามารถทำงานได้อย่างน่าประทับใจเมื่อเปิดใช้งาน FSR เพื่อช่วยเสริมการประมวลผล. ราคากับประสิทธิภาพ: - RX 9070 XT มีราคาถูกกว่า 5070 Ti และให้ค่าคุ้มค่าประมาณ 15% หากราคาของทั้งสองใกล้เคียงกัน NVIDIA อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในบางแง่ เช่น การรองรับ Ray Tracing และการประมวลผลเร็วกว่าในหลายเกม. https://www.techspot.com/review/2970-amd-radeon-9070-xt-vs-nvidia-rtx-5070-ti/
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD Radeon RX 9070 XT vs. Nvidia GeForce RTX 5070 Ti
    AMD's RX 9070 XT is off to a blazing start, already outselling Nvidia's GeForce 50 series. With the RTX 5070 Ti now in the spotlight, we're diving...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ant Group ประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนการฝึก AI ด้วยการใช้ชิปจากจีน เช่น ชิปของ Alibaba และ Huawei นี่เป็นการปรับตัวท่ามกลางข้อจำกัดจากสหรัฐฯ ในการใช้ชิป NVIDIA ผลลัพธ์นี้ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังสะท้อนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศที่ก้าวไกล อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามว่าชิปเหล่านี้จะสามารถแข่งขันในระยะยาวได้ดีเพียงใด

    การตอบสนองต่อข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี:
    - การเปลี่ยนมาใช้ชิปที่ผลิตในประเทศจีนเกิดขึ้นเนื่องจากข้อจำกัดจากสหรัฐฯ ในการเข้าถึง GPU ระดับสูงของ NVIDIA ส่งผลให้บริษัทจีนต้องหาทางเลือกที่เหมาะสม และนี่ถือเป็นความพยายามสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก.

    ความหลากหลายในฮาร์ดแวร์:
    - นอกจากใช้ชิปของ Alibaba และ Huawei แล้ว Ant Group ยังพึ่งพาชิปจาก AMD และผู้ผลิตรายอื่น ๆ เพื่อสร้างโมเดล AI ใหม่ โดยยังคงใช้ฮาร์ดแวร์ NVIDIA ในบางกระบวนการ.

    ศักยภาพของเทคโนโลยีจีน:
    - ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงศักยภาพในการแข่งขันด้าน AI ของจีน และสอดคล้องกับความสำเร็จล่าสุดของ DeepSeek AI ที่สามารถทำผลงานได้ดีกว่า GPT-4 ของ OpenAI ในบางเกณฑ์.

    ความท้าทายระยะยาว:
    - แม้ผลลัพธ์ครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ก็ยังมีคำถามว่าชิปจากจีนและผู้ผลิตรายอื่น ๆ เช่น AMD จะสามารถแข่งขันและรองรับการทำงานในระยะยาวได้เทียบเท่ากับ NVIDIA หรือไม่.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-fintech-company-uses-domestic-semiconductors-for-ai-breakthrough
    Ant Group ประสบความสำเร็จในการลดต้นทุนการฝึก AI ด้วยการใช้ชิปจากจีน เช่น ชิปของ Alibaba และ Huawei นี่เป็นการปรับตัวท่ามกลางข้อจำกัดจากสหรัฐฯ ในการใช้ชิป NVIDIA ผลลัพธ์นี้ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังสะท้อนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศที่ก้าวไกล อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามว่าชิปเหล่านี้จะสามารถแข่งขันในระยะยาวได้ดีเพียงใด การตอบสนองต่อข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี: - การเปลี่ยนมาใช้ชิปที่ผลิตในประเทศจีนเกิดขึ้นเนื่องจากข้อจำกัดจากสหรัฐฯ ในการเข้าถึง GPU ระดับสูงของ NVIDIA ส่งผลให้บริษัทจีนต้องหาทางเลือกที่เหมาะสม และนี่ถือเป็นความพยายามสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก. ความหลากหลายในฮาร์ดแวร์: - นอกจากใช้ชิปของ Alibaba และ Huawei แล้ว Ant Group ยังพึ่งพาชิปจาก AMD และผู้ผลิตรายอื่น ๆ เพื่อสร้างโมเดล AI ใหม่ โดยยังคงใช้ฮาร์ดแวร์ NVIDIA ในบางกระบวนการ. ศักยภาพของเทคโนโลยีจีน: - ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงศักยภาพในการแข่งขันด้าน AI ของจีน และสอดคล้องกับความสำเร็จล่าสุดของ DeepSeek AI ที่สามารถทำผลงานได้ดีกว่า GPT-4 ของ OpenAI ในบางเกณฑ์. ความท้าทายระยะยาว: - แม้ผลลัพธ์ครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ก็ยังมีคำถามว่าชิปจากจีนและผู้ผลิตรายอื่น ๆ เช่น AMD จะสามารถแข่งขันและรองรับการทำงานในระยะยาวได้เทียบเท่ากับ NVIDIA หรือไม่. https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-fintech-company-uses-domestic-semiconductors-for-ai-breakthrough
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Ant Group reportedly reduces AI costs 20% with Chinese chips
    The company still uses Nvidia but now relies mainly on Chinese chips
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เปิดตัว Gaia แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งาน LLMs บนเครื่อง PC โดยเฉพาะ Gaia ไม่เพียงเพิ่มความเร็วและแม่นยำ แต่ยังช่วยให้ใช้งาน LLMs ได้แบบออฟไลน์ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความปลอดภัยและการประมวลผลข้อมูลในเครื่องส่วนตัว

    ฟีเจอร์เด่นของ Gaia:
    - Gaia มีตัวเลือกเอเจนต์ เช่น Simple Prompt Completion สำหรับการทดสอบโมเดล, Chaty ซึ่งเป็นแชตบ็อตสำหรับโต้ตอบกับผู้ใช้, Clip ที่มีฟีเจอร์ค้นหาใน YouTube, และ Joker ซึ่งเพิ่มมิติความสนุกด้วยการเล่าเรื่องตลก.
    - การทำงานรวมกับระบบ Retrieval-Augmented Generation (RAG) ช่วยให้ Gaia เพิ่มความแม่นยำและความเกี่ยวข้องของผลลัพธ์

    ประโยชน์ของการรัน LLMs แบบโลคอล:
    - ลดเวลาแฝง (latency) และเพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลไม่ได้ส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก.
    - สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดทางการเชื่อมต่อ.

    ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่น ๆ:
    - Gaia มีตัวเลือกติดตั้งสองแบบคือ Mainstream Installer ซึ่งรองรับ PC ทุกรุ่น และ Hybrid Installer ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Ryzen AI PCs เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล.

    ข้อได้เปรียบเหนือโซลูชันคลาวด์:
    - ความสามารถของ Gaia ในการประมวลผลแบบออฟไลน์และรองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น การสรุปข้อมูลและการตอบคำถามเชิงลึก อาจดึงดูดผู้ใช้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-launches-gaia-open-source-project-for-running-llms-locally-on-any-pc
    AMD เปิดตัว Gaia แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งาน LLMs บนเครื่อง PC โดยเฉพาะ Gaia ไม่เพียงเพิ่มความเร็วและแม่นยำ แต่ยังช่วยให้ใช้งาน LLMs ได้แบบออฟไลน์ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความปลอดภัยและการประมวลผลข้อมูลในเครื่องส่วนตัว ฟีเจอร์เด่นของ Gaia: - Gaia มีตัวเลือกเอเจนต์ เช่น Simple Prompt Completion สำหรับการทดสอบโมเดล, Chaty ซึ่งเป็นแชตบ็อตสำหรับโต้ตอบกับผู้ใช้, Clip ที่มีฟีเจอร์ค้นหาใน YouTube, และ Joker ซึ่งเพิ่มมิติความสนุกด้วยการเล่าเรื่องตลก. - การทำงานรวมกับระบบ Retrieval-Augmented Generation (RAG) ช่วยให้ Gaia เพิ่มความแม่นยำและความเกี่ยวข้องของผลลัพธ์ ประโยชน์ของการรัน LLMs แบบโลคอล: - ลดเวลาแฝง (latency) และเพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลไม่ได้ส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก. - สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดทางการเชื่อมต่อ. ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่น ๆ: - Gaia มีตัวเลือกติดตั้งสองแบบคือ Mainstream Installer ซึ่งรองรับ PC ทุกรุ่น และ Hybrid Installer ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับ Ryzen AI PCs เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล. ข้อได้เปรียบเหนือโซลูชันคลาวด์: - ความสามารถของ Gaia ในการประมวลผลแบบออฟไลน์และรองรับการใช้งานหลากหลาย เช่น การสรุปข้อมูลและการตอบคำถามเชิงลึก อาจดึงดูดผู้ใช้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว. https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-launches-gaia-open-source-project-for-running-llms-locally-on-any-pc
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD launches Gaia open source project for running LLMs locally on any PC
    Gaia runs faster on Ryzen AI PCs, using the XDNA NPU and RDNA iGPU.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำหรับใครที่ทำงานเกี่ยวกับ AI หรือกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงาน AI บน Ryzen 9000 Series Asus ได้ออกฟีเจอร์ AI Cache Boost ที่ช่วยให้การประมวลผล AI เร็วขึ้นถึง 19% เหมาะสำหรับการใช้งานในงานที่เกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่และต้องการความเร็วสูง ฟีเจอร์นี้ยังมีการปรับแต่งได้หลากหลาย เพียงแค่ระวังการตั้งค่าที่อาจกระทบความเสถียรของระบบ

    ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด:
    - เมื่อเปิดใช้ AI Cache Boost บนโปรเซสเซอร์ Ryzen 9000 Series ที่มี AMD 3D V-Cache พบว่าประสิทธิภาพการประมวลผล AI เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 19% โดยเฉพาะในงานที่ไม่ใช้ multithreading เต็มที่.
    - ตัวอย่างการปรับปรุงที่วัดได้: ในการทดสอบ Geekbench AI คะแนน Single Precision เพิ่มขึ้น 3.4% - 8% และคะแนน Half Precision เพิ่มขึ้นถึง 7.93% ในบางรุ่น เช่น Ryzen 7 9800X3D.

    การใช้งานร่วมกับโหมดอื่น:
    - หากเปิด AI Cache Boost พร้อม Turbo Game Mode และปรับการตั้งค่าหยุด multi-threading ผลลัพธ์การเร่งประสิทธิภาพอาจสูงขึ้นกว่าเดิม เช่น Ryzen 9 9950X3D มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 19.35%.

    ประโยชน์สำหรับนักพัฒนาและนักวิจัย:
    - ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์งาน AI โดยเฉพาะ เช่น การประมวลผลชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้เหมาะสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ AI หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับ LLM โดยตรง.

    ข้อควรระวัง:
    - Asus ย้ำว่า AI Cache Boost ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม และอาจส่งผลต่อความเสถียรของระบบหากเปิดใช้งานพร้อมการตั้งค่าอื่น ๆ ที่ไม่เหมาะสม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asus-unveils-ai-cache-boost-claims-up-to-19-percent-faster-ai-workloads-on-ryzen-9000-series
    สำหรับใครที่ทำงานเกี่ยวกับ AI หรือกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงาน AI บน Ryzen 9000 Series Asus ได้ออกฟีเจอร์ AI Cache Boost ที่ช่วยให้การประมวลผล AI เร็วขึ้นถึง 19% เหมาะสำหรับการใช้งานในงานที่เกี่ยวกับข้อมูลขนาดใหญ่และต้องการความเร็วสูง ฟีเจอร์นี้ยังมีการปรับแต่งได้หลากหลาย เพียงแค่ระวังการตั้งค่าที่อาจกระทบความเสถียรของระบบ ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด: - เมื่อเปิดใช้ AI Cache Boost บนโปรเซสเซอร์ Ryzen 9000 Series ที่มี AMD 3D V-Cache พบว่าประสิทธิภาพการประมวลผล AI เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 19% โดยเฉพาะในงานที่ไม่ใช้ multithreading เต็มที่. - ตัวอย่างการปรับปรุงที่วัดได้: ในการทดสอบ Geekbench AI คะแนน Single Precision เพิ่มขึ้น 3.4% - 8% และคะแนน Half Precision เพิ่มขึ้นถึง 7.93% ในบางรุ่น เช่น Ryzen 7 9800X3D. การใช้งานร่วมกับโหมดอื่น: - หากเปิด AI Cache Boost พร้อม Turbo Game Mode และปรับการตั้งค่าหยุด multi-threading ผลลัพธ์การเร่งประสิทธิภาพอาจสูงขึ้นกว่าเดิม เช่น Ryzen 9 9950X3D มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 19.35%. ประโยชน์สำหรับนักพัฒนาและนักวิจัย: - ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์งาน AI โดยเฉพาะ เช่น การประมวลผลชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้เหมาะสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ AI หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับ LLM โดยตรง. ข้อควรระวัง: - Asus ย้ำว่า AI Cache Boost ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม และอาจส่งผลต่อความเสถียรของระบบหากเปิดใช้งานพร้อมการตั้งค่าอื่น ๆ ที่ไม่เหมาะสม https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asus-unveils-ai-cache-boost-claims-up-to-19-percent-faster-ai-workloads-on-ryzen-9000-series
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ลดราคาชิป Ryzen 9 9900X ลงถึง 25% ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มที่สุดตั้งแต่เปิดตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชิปประสิทธิภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยความเร็วสูงสุด 5.6GHz และค่าความคุ้มค่าต่อเงินที่ยอดเยี่ยม นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาเกมหรือผู้ที่ต้องการพลังประมวลผลสำหรับงานหนัก

    ประสิทธิภาพและจุดเด่น:
    - Ryzen 9 9900X มี 12 คอร์ ความเร็วพื้นฐาน 4.4GHz และความเร็วสูงสุดถึง 5.6GHz พร้อมแคช L3 12MB ซึ่งมอบประสิทธิภาพที่โดดเด่นในงานที่ต้องการการประมวลผลหนัก.

    ความคุ้มค่า:
    - ชิปตัวนี้มีค่าความคุ้มค่าต่อเงินที่สูงถึง 146 คะแนนต่อดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับซีรีส์อื่น ๆ โดยเฉพาะรุ่น Threadripper PRO 7995WX ซึ่งมีค่าเพียง 15 คะแนนต่อดอลลาร์.

    ราคาต่อคอร์:
    - ราคาต่อคอร์ของ Ryzen 9 9900X ลดลงมาเหลือเพียง $31.23 ซึ่งทำให้มันเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่ามากที่สุดในกลุ่ม Zen 5 CPUs.

    เปรียบเทียบกับ Ryzen รุ่นอื่น:
    - ในกลุ่ม Zen 5 Ryzen CPUs Ryzen 9 9900X ยังให้ความคุ้มค่ามากกว่า Ryzen 9 9950X (ซึ่งมี 16 คอร์) และ Ryzen 9 9950X3D ทั้งด้านประสิทธิภาพและราคาต่อคอร์.

    https://www.techradar.com/pro/i-analysed-25-amd-zen-4-and-zen-5-cpus-and-the-ryzen-9-9900x-is-the-best-of-them-all-right-now-heres-why
    AMD ลดราคาชิป Ryzen 9 9900X ลงถึง 25% ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มที่สุดตั้งแต่เปิดตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการชิปประสิทธิภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยความเร็วสูงสุด 5.6GHz และค่าความคุ้มค่าต่อเงินที่ยอดเยี่ยม นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาเกมหรือผู้ที่ต้องการพลังประมวลผลสำหรับงานหนัก ประสิทธิภาพและจุดเด่น: - Ryzen 9 9900X มี 12 คอร์ ความเร็วพื้นฐาน 4.4GHz และความเร็วสูงสุดถึง 5.6GHz พร้อมแคช L3 12MB ซึ่งมอบประสิทธิภาพที่โดดเด่นในงานที่ต้องการการประมวลผลหนัก. ความคุ้มค่า: - ชิปตัวนี้มีค่าความคุ้มค่าต่อเงินที่สูงถึง 146 คะแนนต่อดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับที่ยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับซีรีส์อื่น ๆ โดยเฉพาะรุ่น Threadripper PRO 7995WX ซึ่งมีค่าเพียง 15 คะแนนต่อดอลลาร์. ราคาต่อคอร์: - ราคาต่อคอร์ของ Ryzen 9 9900X ลดลงมาเหลือเพียง $31.23 ซึ่งทำให้มันเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุ้มค่ามากที่สุดในกลุ่ม Zen 5 CPUs. เปรียบเทียบกับ Ryzen รุ่นอื่น: - ในกลุ่ม Zen 5 Ryzen CPUs Ryzen 9 9900X ยังให้ความคุ้มค่ามากกว่า Ryzen 9 9950X (ซึ่งมี 16 คอร์) และ Ryzen 9 9950X3D ทั้งด้านประสิทธิภาพและราคาต่อคอร์. https://www.techradar.com/pro/i-analysed-25-amd-zen-4-and-zen-5-cpus-and-the-ryzen-9-9900x-is-the-best-of-them-all-right-now-heres-why
    WWW.TECHRADAR.COM
    Looking at performance per dollar, the Ryzen 9 9900X is the one that you must buy. Here's why
    The Ryzen 9 9900X is the best value for money CPU from AMD's stable for a wide variety of workloads
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arm เปิดตัว Accuracy Super Resolution ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตของเกมบนสมาร์ทโฟนและลดการใช้พลังงาน เทคโนโลยีนี้สร้างจาก AMD FSR 2 และมุ่งเน้นการใช้งานในอุปกรณ์พลังงานต่ำ นักพัฒนาสามารถปรับแต่งโค้ดได้แบบโอเพ่นซอร์ส อีกทั้งยังมีการเตรียมปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับตลาดเกมมือถือ

    การพัฒนาแบบเปิดเผยข้อมูล:
    - ASR เปิดตัวเป็นโค้ดโอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้อย่างอิสระ.
    - มีแผนปล่อยปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine ภายในสิ้นปี เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นสำหรับเกมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้.

    เปรียบเทียบกับคู่แข่ง:
    - ใช้วิธีการ temporal upscaling ที่ผสมผสานข้อมูลหลายเฟรม ช่วยสร้างภาพคุณภาพสูงกว่าระบบ spatial upscaling ของ Qualcomm Game Super Resolution (GSR).
    - ASR จับคู่กับชิปเซ็ตอย่าง MediaTek Dimensity 9300 ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้เล่นเกม.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมือถือ:
    - การเดโมใน GDC 2025 แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพถึง 30% ในการรันเกมผ่าน Unreal Engine 5 โดยไม่ลดคุณภาพกราฟิก.

    ความกว้างขวางในการใช้งาน:
    - ASR สามารถใช้งานได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น MediaTek Dimensity, Qualcomm Snapdragon, Samsung Exynos และแม้แต่ในแล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X ซีรีส์.

    https://www.techpowerup.com/334562/arm-releases-open-source-asr-upscaler-based-on-amd-fsr-2-technology
    Arm เปิดตัว Accuracy Super Resolution ที่ช่วยเพิ่มเฟรมเรตของเกมบนสมาร์ทโฟนและลดการใช้พลังงาน เทคโนโลยีนี้สร้างจาก AMD FSR 2 และมุ่งเน้นการใช้งานในอุปกรณ์พลังงานต่ำ นักพัฒนาสามารถปรับแต่งโค้ดได้แบบโอเพ่นซอร์ส อีกทั้งยังมีการเตรียมปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับตลาดเกมมือถือ การพัฒนาแบบเปิดเผยข้อมูล: - ASR เปิดตัวเป็นโค้ดโอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้อย่างอิสระ. - มีแผนปล่อยปลั๊กอินสำหรับ Unity และ Unreal Engine ภายในสิ้นปี เพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นสำหรับเกมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้. เปรียบเทียบกับคู่แข่ง: - ใช้วิธีการ temporal upscaling ที่ผสมผสานข้อมูลหลายเฟรม ช่วยสร้างภาพคุณภาพสูงกว่าระบบ spatial upscaling ของ Qualcomm Game Super Resolution (GSR). - ASR จับคู่กับชิปเซ็ตอย่าง MediaTek Dimensity 9300 ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้เล่นเกม. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมมือถือ: - การเดโมใน GDC 2025 แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพถึง 30% ในการรันเกมผ่าน Unreal Engine 5 โดยไม่ลดคุณภาพกราฟิก. ความกว้างขวางในการใช้งาน: - ASR สามารถใช้งานได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น MediaTek Dimensity, Qualcomm Snapdragon, Samsung Exynos และแม้แต่ในแล็ปท็อปที่ใช้ Snapdragon X ซีรีส์. https://www.techpowerup.com/334562/arm-releases-open-source-asr-upscaler-based-on-amd-fsr-2-technology
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Arm Releases Open-Source ASR Upscaler Based on AMD FSR 2 Technology
    Arm has officially unveiled its Accuracy Super Resolution (ASR) upscaling technology at Game Developer Conference 2025, delivering an open-source upscaling solution for mobile and low-power devices. Built upon AMD's FidelityFX Super Resolution 2 (FSR 2) framework, ASR promises up to 53% higher frame...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เปิดตัว DirectX Raytracing (DXR) 1.2 และ Neural Rendering ที่ช่วยเพิ่มความเร็วของ GPU จาก AMD, Intel, และ NVIDIA สูงสุด 10 เท่า เทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยให้ภาพในเกมและหนัง 3D ดูสมจริงขึ้น โดยลดการใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์และทำให้เล่นเกมไหลลื่นกว่าเดิม นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับวงการกราฟิกที่กำลังมองหาเทคโนโลยีที่เร็วขึ้นและคุ้มค่า

    เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโฉมวงการ:
    - Microsoft ได้นำเสนอ Opacity Micromaps (OMM) ซึ่งช่วยลดการคำนวณในงานกราฟิกที่เกี่ยวกับพื้นผิวแบบโปร่งใส โดยการเก็บข้อมูลการโปร่งใสล่วงหน้า.
    - อีกนวัตกรรมคือ Neural Rendering ซึ่งใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อเร่งการสร้างภาพให้เร็วขึ้นและลดการใช้ทรัพยากร GPU.

    ประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน:
    - เทคโนโลยีใหม่ช่วยปรับปรุงเฟรมเรตในเกมแบบเรียลไทม์ และลดปัญหาการสะดุด (stuttering) ในกราฟิกที่ซับซ้อน.
    - นักพัฒนาสามารถสร้างภาพในเกมที่ดูสมจริงขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีราคาแพงเกินไป.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
    - นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับนักพัฒนาเกมและสตูดิโอภาพยนตร์ที่ต้องการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความคมชัดของภาพ.
    - NVIDIA และ AMD เตรียมปรับปรุงไดรเวอร์ให้เข้ากับ DXR 1.2 เพื่อดึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาได้เต็มที่

    https://www.techpowerup.com/334455/microsoft-directx-raytracing-1-2-and-neural-rendering-brings-up-to-10x-speedup-for-amd-intel-and-nvidia-gpus
    Microsoft เปิดตัว DirectX Raytracing (DXR) 1.2 และ Neural Rendering ที่ช่วยเพิ่มความเร็วของ GPU จาก AMD, Intel, และ NVIDIA สูงสุด 10 เท่า เทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยให้ภาพในเกมและหนัง 3D ดูสมจริงขึ้น โดยลดการใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์และทำให้เล่นเกมไหลลื่นกว่าเดิม นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับวงการกราฟิกที่กำลังมองหาเทคโนโลยีที่เร็วขึ้นและคุ้มค่า เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโฉมวงการ: - Microsoft ได้นำเสนอ Opacity Micromaps (OMM) ซึ่งช่วยลดการคำนวณในงานกราฟิกที่เกี่ยวกับพื้นผิวแบบโปร่งใส โดยการเก็บข้อมูลการโปร่งใสล่วงหน้า. - อีกนวัตกรรมคือ Neural Rendering ซึ่งใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อเร่งการสร้างภาพให้เร็วขึ้นและลดการใช้ทรัพยากร GPU. ประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน: - เทคโนโลยีใหม่ช่วยปรับปรุงเฟรมเรตในเกมแบบเรียลไทม์ และลดปัญหาการสะดุด (stuttering) ในกราฟิกที่ซับซ้อน. - นักพัฒนาสามารถสร้างภาพในเกมที่ดูสมจริงขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีราคาแพงเกินไป. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม: - นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับนักพัฒนาเกมและสตูดิโอภาพยนตร์ที่ต้องการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความคมชัดของภาพ. - NVIDIA และ AMD เตรียมปรับปรุงไดรเวอร์ให้เข้ากับ DXR 1.2 เพื่อดึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาได้เต็มที่ https://www.techpowerup.com/334455/microsoft-directx-raytracing-1-2-and-neural-rendering-brings-up-to-10x-speedup-for-amd-intel-and-nvidia-gpus
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Microsoft DirectX Raytracing 1.2 and Neural Rendering Brings up to 10x Speedup for AMD, Intel, and NVIDIA GPUs
    Microsoft's DirectX Raytracing (DXR) 1.2 announcement at GDC 2025 introduces two technical innovations that address fundamental ray tracing performance bottlenecks. Opacity micromaps (OMM) reduce the computational overhead in alpha-tested geometry by storing pre-computed opacity data, eliminating re...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เตรียมส่ง APU ใหม่ในชื่อ Gorgon Point "Ryzen AI" ที่ออกแบบมาสำหรับโน้ตบุ๊กพรีเมียม มีประสิทธิภาพสูงขึ้นพร้อมกำลังประมวลผล AI ที่เหนือกว่าเดิม ซีรีส์นี้ยังใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ RDNA 3.5 ในขณะที่ Medusa "Ryzen AI MAX" จะมาถึงปีหน้า พร้อม Zen 6 และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอีกขั้น ใครที่กำลังมองหา APU สำหรับงานหนักหรือการประมวลผล AI ต้องไม่พลาดการเปิดตัวครั้งนี้

    https://wccftech.com/amd-gorgon-point-ryzen-ai-refresh-apu-lineup-leak-higher-clocks-55-tops-npu-ryzen-ai-max-medusa-zen-6-confirmed/
    AMD เตรียมส่ง APU ใหม่ในชื่อ Gorgon Point "Ryzen AI" ที่ออกแบบมาสำหรับโน้ตบุ๊กพรีเมียม มีประสิทธิภาพสูงขึ้นพร้อมกำลังประมวลผล AI ที่เหนือกว่าเดิม ซีรีส์นี้ยังใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และ RDNA 3.5 ในขณะที่ Medusa "Ryzen AI MAX" จะมาถึงปีหน้า พร้อม Zen 6 และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอีกขั้น ใครที่กำลังมองหา APU สำหรับงานหนักหรือการประมวลผล AI ต้องไม่พลาดการเปิดตัวครั้งนี้ https://wccftech.com/amd-gorgon-point-ryzen-ai-refresh-apu-lineup-leak-higher-clocks-55-tops-npu-ryzen-ai-max-medusa-zen-6-confirmed/
    WCCFTECH.COM
    AMD Gorgon Point "Ryzen AI" Refresh APU Lineup Leaks Out With Higher Clocks & Over 55 TOPS NPU, Ryzen AI MAX "Medusa/Zen 6" Series Confirmed
    AMD's refreshed Gorgon Point "Ryzen AI" APUs have leaked out, with the company also confirming next-gen Medusa "Ryzen AI MAX" Halo chips.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Threadripper PRO 9000 รุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยี Zen 5 และกระบวนการผลิต 4nm ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน โมเดลที่ถูกเผยคือ 9965WX (24 คอร์) และ 9975WX (32 คอร์) ที่มาพร้อมกับ TDP 350W และยังมีรุ่นอื่น ๆ ที่ทรงพลังมากขึ้น เช่น 9995WX ซึ่งมี 96 คอร์ ใครที่สนใจซีพียูสำหรับงานหนักต้องจับตาดูการเปิดตัวครั้งนี้

    https://wccftech.com/amd-threadripper-pro-9975wx-and-9965wx-leaked-in-shipping-logs/
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Threadripper PRO 9000 รุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยี Zen 5 และกระบวนการผลิต 4nm ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน โมเดลที่ถูกเผยคือ 9965WX (24 คอร์) และ 9975WX (32 คอร์) ที่มาพร้อมกับ TDP 350W และยังมีรุ่นอื่น ๆ ที่ทรงพลังมากขึ้น เช่น 9995WX ซึ่งมี 96 คอร์ ใครที่สนใจซีพียูสำหรับงานหนักต้องจับตาดูการเปิดตัวครั้งนี้ https://wccftech.com/amd-threadripper-pro-9975wx-and-9965wx-leaked-in-shipping-logs/
    WCCFTECH.COM
    AMD Threadripper PRO 9975WX And 9965WX Leaked In Shipping Logs, Feature 32 And 24 Cores Respectively With 350W TDP
    AMD's upcoming Threadripper 9000 series was spotted in a shipping manifest, revealing TDP of up to 350W. Not much has been revealed in the logs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวล่าสุดเผยว่า AMD เตรียมเปิดตัว APU รุ่นใหม่ที่ชื่อ Medusa Point แต่จะใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3.5 แทน RDNA 4 ซึ่งถูกใช้งานเฉพาะบนการ์ดจอแยกเท่านั้น หมายความว่าเทคโนโลยีปรับภาพใหม่อย่าง FSR 4 อาจไม่สามารถใช้งานบน APU ได้ แต่ยังคงมีศักยภาพในด้านประสิทธิภาพเกมด้วย Zen 6 และ RDNA 3.5 อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้บางคนผิดหวังที่หวังเห็นฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในอุปกรณ์พกพา

    https://www.techradar.com/computing/cpu/its-not-looking-bright-for-next-gen-systems-using-amds-medusa-point-apus-they-reportedly-wont-use-rdna-4-architecture-potentially-meaning-no-fsr-4
    ข่าวล่าสุดเผยว่า AMD เตรียมเปิดตัว APU รุ่นใหม่ที่ชื่อ Medusa Point แต่จะใช้สถาปัตยกรรม RDNA 3.5 แทน RDNA 4 ซึ่งถูกใช้งานเฉพาะบนการ์ดจอแยกเท่านั้น หมายความว่าเทคโนโลยีปรับภาพใหม่อย่าง FSR 4 อาจไม่สามารถใช้งานบน APU ได้ แต่ยังคงมีศักยภาพในด้านประสิทธิภาพเกมด้วย Zen 6 และ RDNA 3.5 อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้บางคนผิดหวังที่หวังเห็นฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในอุปกรณ์พกพา https://www.techradar.com/computing/cpu/its-not-looking-bright-for-next-gen-systems-using-amds-medusa-point-apus-they-reportedly-wont-use-rdna-4-architecture-potentially-meaning-no-fsr-4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้ปล่อย SDK XeSS 2.0 ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเพิ่มความละเอียด สร้างเฟรมใหม่ และลดความล่าช้าในเกมได้ง่ายขึ้น ผ่านปลั๊กอินที่พร้อมใช้กับ Unreal Engine และ Unity อย่างไรก็ตาม XeSS ยังไม่เปิดซอร์ส ทำให้นักพัฒนาต้องพึ่งพาไฟล์ไบนารีจาก Intel เท่านั้น และรองรับแค่ Windows ซึ่งอาจทำให้สูญเสียข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง FSR ของ AMD ที่ยืดหยุ่นกว่า Intel มีความตั้งใจที่จะเร่งพัฒนาเทคโนโลยีนี้ แต่ต้องดูกันต่อไปว่า XeSS จะสามารถขยายการใช้งานได้มากขึ้นหรือไม่ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/intel-finally-releases-the-xess-2-0-sdk-for-developers-technology-still-gated-by-closed-source-barriers
    Intel ได้ปล่อย SDK XeSS 2.0 ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเพิ่มความละเอียด สร้างเฟรมใหม่ และลดความล่าช้าในเกมได้ง่ายขึ้น ผ่านปลั๊กอินที่พร้อมใช้กับ Unreal Engine และ Unity อย่างไรก็ตาม XeSS ยังไม่เปิดซอร์ส ทำให้นักพัฒนาต้องพึ่งพาไฟล์ไบนารีจาก Intel เท่านั้น และรองรับแค่ Windows ซึ่งอาจทำให้สูญเสียข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง FSR ของ AMD ที่ยืดหยุ่นกว่า Intel มีความตั้งใจที่จะเร่งพัฒนาเทคโนโลยีนี้ แต่ต้องดูกันต่อไปว่า XeSS จะสามารถขยายการใช้งานได้มากขึ้นหรือไม่ในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/intel-finally-releases-the-xess-2-0-sdk-for-developers-technology-still-gated-by-closed-source-barriers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ทำเซอร์ไพรส์อีกครั้งหลังเปิดตัวการ์ดจอซีรีส์ Radeon RX 9000 โดยขายออกไปกว่า 200,000 ชิ้นในเวลาอันสั้น แต่ความต้องการที่สูงเกินคาดทำให้การ์ดเหล่านี้หายาก ราคาพุ่งสูงกว่าที่ AMD ตั้งไว้ถึงสองเท่า แม้จะมีเสียงตำหนิเรื่องราคา แต่ AMD ก็ยืนยันว่าจะเร่งกำลังผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งคาดว่าเราจะเห็นสถานการณ์ดีขึ้นหลังเดือนพฤษภาคม

    https://www.techspot.com/news/107212-amd-has-sold-over-200000-radeon-rx-9000.html
    AMD ทำเซอร์ไพรส์อีกครั้งหลังเปิดตัวการ์ดจอซีรีส์ Radeon RX 9000 โดยขายออกไปกว่า 200,000 ชิ้นในเวลาอันสั้น แต่ความต้องการที่สูงเกินคาดทำให้การ์ดเหล่านี้หายาก ราคาพุ่งสูงกว่าที่ AMD ตั้งไว้ถึงสองเท่า แม้จะมีเสียงตำหนิเรื่องราคา แต่ AMD ก็ยืนยันว่าจะเร่งกำลังผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งคาดว่าเราจะเห็นสถานการณ์ดีขึ้นหลังเดือนพฤษภาคม https://www.techspot.com/news/107212-amd-has-sold-over-200000-radeon-rx-9000.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD says it's sold over 200,000 Radeon RX 9000 series graphics cards since launch
    At the AI PC summit in Beijing, AMD claimed that its board partners have shipped more than 200,000 of its Radeon RX 9070 and Radeon RX 9070...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/K1CJLOX3-QQ?si=9FamD8UJdjt2eaPJ
    https://youtu.be/K1CJLOX3-QQ?si=9FamD8UJdjt2eaPJ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • GMKtec กำลังเขย่าวงการเกมด้วยต้นแบบมินิพีซีตัวใหม่ที่ใช้ชิป AMD Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งสามารถรันเกมดัง ๆ อย่าง Cyberpunk 2077 และ God of War ได้ที่ความละเอียด 1440p และเฟรมเรตสูงโดยไม่ต้องพึ่งกราฟิกการ์ดแยก ถือว่าเป็นก้าวใหญ่ของเทคโนโลยี APU ที่แสดงถึงความสามารถล้ำสมัยในอุปกรณ์ขนาดจิ๋ว เรียกได้ว่าใครที่มองหาเครื่องเกมพกพาที่ทรงพลังและไม่กินพื้นที่ น่าจะถูกใจเจ้าตัวนี้แน่นอน

    https://www.techradar.com/computing/gpu/this-prototype-mini-pc-demonstrates-a-massive-leap-forward-for-integrated-graphics-in-a-console-form-factor
    GMKtec กำลังเขย่าวงการเกมด้วยต้นแบบมินิพีซีตัวใหม่ที่ใช้ชิป AMD Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งสามารถรันเกมดัง ๆ อย่าง Cyberpunk 2077 และ God of War ได้ที่ความละเอียด 1440p และเฟรมเรตสูงโดยไม่ต้องพึ่งกราฟิกการ์ดแยก ถือว่าเป็นก้าวใหญ่ของเทคโนโลยี APU ที่แสดงถึงความสามารถล้ำสมัยในอุปกรณ์ขนาดจิ๋ว เรียกได้ว่าใครที่มองหาเครื่องเกมพกพาที่ทรงพลังและไม่กินพื้นที่ น่าจะถูกใจเจ้าตัวนี้แน่นอน https://www.techradar.com/computing/gpu/this-prototype-mini-pc-demonstrates-a-massive-leap-forward-for-integrated-graphics-in-a-console-form-factor
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • Minisforum AI X1 เป็นมินิพีซีขนาดจิ๋วที่มาพร้อมความสามารถอันทรงพลัง รองรับการแสดงผล 8K พร้อมกันถึง 4 จอ ใช้ชิป AMD Ryzen 7 260 พร้อม RAM สูงสุด 96GB และพื้นที่เก็บข้อมูลถึง 16TB อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Wi-Fi 7 และ Ethernet 2.5G สำหรับการใช้งานทั้งในสำนักงานหรือด้านสร้างสรรค์ ขนาดเล็กแต่จิ๋วแจ๋ว ราคาน่าสนใจ เริ่มจัดส่งเมษายนนี้ ใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ตัวจิ๋วแต่แรงเกินตัว ต้องไม่พลาด

    ประสิทธิภาพการทำงานสูง:
    - ใช้ CPU Ryzen 7 260 แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.1 GHz และมี GPU Radeon 780M ที่รองรับ Ray Tracing เพื่อการใช้งานที่หนัก เช่น เกมและการเรนเดอร์กราฟิก.
    - รองรับ RAM DDR5 ได้ถึง 96GB และ SSD ความจุรวมสูงสุด 16TB ช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการใช้งาน.

    การเชื่อมต่อหลากหลาย:
    - มีพอร์ต HDMI 2.1, DisplayPort 2.0 และ USB4 รวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายด้วย Ethernet 2.5G สองพอร์ต และ Wi-Fi 7 ช่วยให้การรับส่งข้อมูลรวดเร็วและเสถียร.
    - รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดถึง 40Gbps ผ่าน USB4.

    ออกแบบเพื่อความทนทานและพกพา:
    - น้ำหนักเบาเพียง 0.6 กิโลกรัม และขนาด 128×126×52 มม. พร้อมระบบระบายความร้อนที่ทันสมัย ทั้งพัดลมขนาดใหญ่ และท่อทองแดงระบายความร้อน.

    ราคาและการเปิดตัว:
    - วางขายในราคาเริ่มต้น $439 (ลดจาก $549) โดยการจัดส่งจะเริ่มต้นวันที่ 8 เมษายนนี้

    https://www.techradar.com/pro/tiny-mac-mini-rival-can-power-four-8k-monitors-and-is-first-mini-pc-to-receive-amds-powerful-ryzen-7-260-apu
    Minisforum AI X1 เป็นมินิพีซีขนาดจิ๋วที่มาพร้อมความสามารถอันทรงพลัง รองรับการแสดงผล 8K พร้อมกันถึง 4 จอ ใช้ชิป AMD Ryzen 7 260 พร้อม RAM สูงสุด 96GB และพื้นที่เก็บข้อมูลถึง 16TB อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Wi-Fi 7 และ Ethernet 2.5G สำหรับการใช้งานทั้งในสำนักงานหรือด้านสร้างสรรค์ ขนาดเล็กแต่จิ๋วแจ๋ว ราคาน่าสนใจ เริ่มจัดส่งเมษายนนี้ ใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ตัวจิ๋วแต่แรงเกินตัว ต้องไม่พลาด ประสิทธิภาพการทำงานสูง: - ใช้ CPU Ryzen 7 260 แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.1 GHz และมี GPU Radeon 780M ที่รองรับ Ray Tracing เพื่อการใช้งานที่หนัก เช่น เกมและการเรนเดอร์กราฟิก. - รองรับ RAM DDR5 ได้ถึง 96GB และ SSD ความจุรวมสูงสุด 16TB ช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการใช้งาน. การเชื่อมต่อหลากหลาย: - มีพอร์ต HDMI 2.1, DisplayPort 2.0 และ USB4 รวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายด้วย Ethernet 2.5G สองพอร์ต และ Wi-Fi 7 ช่วยให้การรับส่งข้อมูลรวดเร็วและเสถียร. - รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดถึง 40Gbps ผ่าน USB4. ออกแบบเพื่อความทนทานและพกพา: - น้ำหนักเบาเพียง 0.6 กิโลกรัม และขนาด 128×126×52 มม. พร้อมระบบระบายความร้อนที่ทันสมัย ทั้งพัดลมขนาดใหญ่ และท่อทองแดงระบายความร้อน. ราคาและการเปิดตัว: - วางขายในราคาเริ่มต้น $439 (ลดจาก $549) โดยการจัดส่งจะเริ่มต้นวันที่ 8 เมษายนนี้ https://www.techradar.com/pro/tiny-mac-mini-rival-can-power-four-8k-monitors-and-is-first-mini-pc-to-receive-amds-powerful-ryzen-7-260-apu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • Qualcomm เปิดตัวชิปสำหรับเกมพกพารุ่นใหม่ในซีรีส์ Snapdragon G ที่ไม่ใช่แค่แรงกว่า แต่ยังรองรับเทคโนโลยีล้ำ ๆ อย่าง Ray Tracing และ QHD+ กับ Refresh Rate สูงสุด 144 Hz อุปกรณ์ใหม่จาก Ayaneo และ Retroid Pocket ที่ใช้ชิปเหล่านี้ยังออกแบบมาอย่างน่าประทับใจ โดยตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์ที่เน้นประสิทธิภาพและคนที่ชอบอุปกรณ์สไตล์ Retro เห็นได้ชัดว่า Qualcomm ตั้งเป้าจะท้าชนทั้ง Intel และ AMD ในตลาดนี้เลย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/qualcomm-debuts-new-snapdragon-g-handheld-gaming-pc-chips-to-compete-with-intel-and-amd
    Qualcomm เปิดตัวชิปสำหรับเกมพกพารุ่นใหม่ในซีรีส์ Snapdragon G ที่ไม่ใช่แค่แรงกว่า แต่ยังรองรับเทคโนโลยีล้ำ ๆ อย่าง Ray Tracing และ QHD+ กับ Refresh Rate สูงสุด 144 Hz อุปกรณ์ใหม่จาก Ayaneo และ Retroid Pocket ที่ใช้ชิปเหล่านี้ยังออกแบบมาอย่างน่าประทับใจ โดยตอบโจทย์ทั้งเกมเมอร์ที่เน้นประสิทธิภาพและคนที่ชอบอุปกรณ์สไตล์ Retro เห็นได้ชัดว่า Qualcomm ตั้งเป้าจะท้าชนทั้ง Intel และ AMD ในตลาดนี้เลย https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/qualcomm-debuts-new-snapdragon-g-handheld-gaming-pc-chips-to-compete-with-intel-and-amd
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Qualcomm debuts new Snapdragon G handheld gaming PC chips to compete with Intel and AMD
    Snapdragon G3 Gen 3, Snapdragon G2 Gen 2, and Snapdragon G1 Gen 2 enter the ring.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เพิ่งเปิดตัวชิป Ryzen AI Max+ 395 ที่ทำให้หลายคนต้องเหลียวมอง เพราะประสิทธิภาพด้าน AI ของมันสูงมากจนเหนือกว่า Intel Lunar Lake ถึง 12 เท่า แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็เหมาะกับโน้ตบุ๊กแบบบางเบา จุดแข็งของมันอยู่ที่การรวมพลังจาก Zen 5 และกราฟิก RDNA 3.5 ที่ช่วยให้มันแข็งแกร่งเหมือนกราฟิกการ์ดแยก นี่อาจเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญที่ทำให้ AMD แข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Intel และ NVIDIA ได้อย่างน่าจับตามอง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-boasts-its-ryzen-ai-max-395-is-up-to-12-2x-faster-than-lunar-lake-in-ai-workloads
    AMD เพิ่งเปิดตัวชิป Ryzen AI Max+ 395 ที่ทำให้หลายคนต้องเหลียวมอง เพราะประสิทธิภาพด้าน AI ของมันสูงมากจนเหนือกว่า Intel Lunar Lake ถึง 12 เท่า แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็เหมาะกับโน้ตบุ๊กแบบบางเบา จุดแข็งของมันอยู่ที่การรวมพลังจาก Zen 5 และกราฟิก RDNA 3.5 ที่ช่วยให้มันแข็งแกร่งเหมือนกราฟิกการ์ดแยก นี่อาจเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญที่ทำให้ AMD แข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Intel และ NVIDIA ได้อย่างน่าจับตามอง https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-boasts-its-ryzen-ai-max-395-is-up-to-12-2x-faster-than-lunar-lake-in-ai-workloads
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD boasts its Ryzen AI Max+ 395 is up to 12.2x faster than Lunar Lake in AI workloads
    Ryzen chip consumes more than 3x the power, but fits in the same thin-and-light form factor as Lunar Lake competition.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Huawei กำลังนำเสนอชิปรุ่นใหม่ที่ชื่อ Kirin X90 ซึ่งเป็นชิปที่คาดว่าจะมาแทนที่รุ่นเก่า Kunpeng 920 และถูกออกแบบให้ใช้กับทั้งเซิร์ฟเวอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล. ชิปนี้ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีในประเทศจีนเอง ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ. สิ่งที่น่าสนใจคือ Huawei มีแผนจะใช้ชิปนี้กับระบบ HarmonyOS ที่พัฒนาเองด้วย เพื่อให้แล็ปท็อปทำงานได้แบบไหลลื่นเหมือนกับแนวทางที่ Apple ทำกับ MacBooks แต่แน่นอนว่าคงต้องรอติดตามกันว่าเมื่อเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้จะทำได้ตามที่คาดหวังไว้หรือไม่

    พัฒนาการด้านเทคโนโลยี:
    - Kirin X90 อาจผลิตโดยใช้เทคโนโลยีขนาด 7 นาโนเมตรของ SMIC ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกควบคุมโดยมาตรการห้ามค้าของสหรัฐฯ.
    - ชิปนี้ใช้แกนประมวลผล Taishan V120 ซึ่งอ้างว่ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Zen 3 ของ AMD.

    การใช้งานและระบบปฏิบัติการ:
    - Huawei เตรียมนำชิปรุ่นใหม่นี้มาใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้ระบบ HarmonyOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาเอง.
    - แม้ยังมีปัญหาเรื่องการรองรับซอฟต์แวร์และการพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มเติม แต่ Huawei คาดว่าจะทำให้การใช้งานบนแล็ปท็อปราบรื่นยิ่งขึ้น.

    เปรียบเทียบกับคู่แข่ง:
    - Kirin X90 มีความคล้ายคลึงกับแนวทางการรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบที่ Apple ทำกับ MacBooks.
    - อย่างไรก็ตาม ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของชิปยังคงต้องรอดูจากการเปิดตัวในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-huawei-kirin-x90-chip-revealed-in-state-report-possibly-set-to-replace-the-aging-kunpeng-920-design
    "Huawei กำลังนำเสนอชิปรุ่นใหม่ที่ชื่อ Kirin X90 ซึ่งเป็นชิปที่คาดว่าจะมาแทนที่รุ่นเก่า Kunpeng 920 และถูกออกแบบให้ใช้กับทั้งเซิร์ฟเวอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล. ชิปนี้ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีในประเทศจีนเอง ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ. สิ่งที่น่าสนใจคือ Huawei มีแผนจะใช้ชิปนี้กับระบบ HarmonyOS ที่พัฒนาเองด้วย เพื่อให้แล็ปท็อปทำงานได้แบบไหลลื่นเหมือนกับแนวทางที่ Apple ทำกับ MacBooks แต่แน่นอนว่าคงต้องรอติดตามกันว่าเมื่อเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้จะทำได้ตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ พัฒนาการด้านเทคโนโลยี: - Kirin X90 อาจผลิตโดยใช้เทคโนโลยีขนาด 7 นาโนเมตรของ SMIC ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกควบคุมโดยมาตรการห้ามค้าของสหรัฐฯ. - ชิปนี้ใช้แกนประมวลผล Taishan V120 ซึ่งอ้างว่ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Zen 3 ของ AMD. การใช้งานและระบบปฏิบัติการ: - Huawei เตรียมนำชิปรุ่นใหม่นี้มาใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้ระบบ HarmonyOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาเอง. - แม้ยังมีปัญหาเรื่องการรองรับซอฟต์แวร์และการพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มเติม แต่ Huawei คาดว่าจะทำให้การใช้งานบนแล็ปท็อปราบรื่นยิ่งขึ้น. เปรียบเทียบกับคู่แข่ง: - Kirin X90 มีความคล้ายคลึงกับแนวทางการรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบที่ Apple ทำกับ MacBooks. - อย่างไรก็ตาม ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของชิปยังคงต้องรอดูจากการเปิดตัวในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-huawei-kirin-x90-chip-revealed-in-state-report-possibly-set-to-replace-the-aging-kunpeng-920-design
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงความคืบหน้าที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับ SteamOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Valve เพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ มีรายงานว่า Valve อาจเปิดตัว SteamOS สำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปในเร็ว ๆ นี้ หลังจากได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจาก Steam Deck อุปกรณ์เกมพกพาของบริษัท โดย SteamOS ที่มีอยู่ในปัจจุบันสร้างความประทับใจด้วยอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย ไม่มีซอฟต์แวร์ที่ไม่จำเป็น (bloatware) และสามารถใช้งานร่วมกับเกมหลายประเภทผ่านเทคโนโลยี Proton ที่ทำให้เกมจาก Windows รันบน Linux ได้อย่างราบรื่น

    == จุดเด่นที่น่าสนใจของ SteamOS ==
    1) อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับเกมเมอร์: ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะ SteamOS จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นโดยไม่ต้องวุ่นวายกับการอัปเดตหรือซอฟต์แวร์ที่ไม่จำเป็นในระบบปฏิบัติการทั่วไปอย่าง Windows

    2) ปราศจากปัญหา bloatware: SteamOS ถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ให้ประสิทธิภาพดีกว่า เพราะไม่ได้กินทรัพยากรคอมพิวเตอร์เหมือน Windows 10 และ 11 ที่มีซอฟต์แวร์หลายตัวที่ไม่จำเป็น

    3)รองรับการเล่นเกมผ่าน Proton: แม้ว่าจะยังคงมีข้อจำกัดในบางเกม แต่ Proton ทำให้เกมส่วนใหญ่ทำงานได้ดีบน SteamOS โดยการปิดช่องว่างด้านประสิทธิภาพและความเข้ากันได้ระหว่าง Windows และ Linux

    Valve กำลังพยายามขยายการใช้งาน SteamOS ออกจากอุปกรณ์พกพาอย่าง Steam Deck และ Legion Go S ไปสู่คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป เพื่อให้ผู้ใช้งานที่ต้องการหลีกเลี่ยงระบบปฏิบัติการที่ซับซ้อนและมีปัญหา เช่น Windows มีทางเลือกใหม่สำหรับการเล่นเกม

    แม้ว่า SteamOS จะมีความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังมีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้กับการ์ดจอ NVIDIA เมื่อเทียบกับ AMD และ Intel ที่ทำงานได้ดีกว่าในปัจจุบัน นอกจากนี้ เวอร์ชันสำหรับเดสก์ท็อปยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและยังไม่สามารถใช้กับ Steam Deck ได้ในตอนนี้

    https://wccftech.com/valve-rumored-to-launch-steamos-for-desktop/
    ข่าวนี้พูดถึงความคืบหน้าที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับ SteamOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Valve เพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ มีรายงานว่า Valve อาจเปิดตัว SteamOS สำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปในเร็ว ๆ นี้ หลังจากได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจาก Steam Deck อุปกรณ์เกมพกพาของบริษัท โดย SteamOS ที่มีอยู่ในปัจจุบันสร้างความประทับใจด้วยอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย ไม่มีซอฟต์แวร์ที่ไม่จำเป็น (bloatware) และสามารถใช้งานร่วมกับเกมหลายประเภทผ่านเทคโนโลยี Proton ที่ทำให้เกมจาก Windows รันบน Linux ได้อย่างราบรื่น == จุดเด่นที่น่าสนใจของ SteamOS == 1) อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับเกมเมอร์: ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายและมุ่งเน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะ SteamOS จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นโดยไม่ต้องวุ่นวายกับการอัปเดตหรือซอฟต์แวร์ที่ไม่จำเป็นในระบบปฏิบัติการทั่วไปอย่าง Windows 2) ปราศจากปัญหา bloatware: SteamOS ถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ให้ประสิทธิภาพดีกว่า เพราะไม่ได้กินทรัพยากรคอมพิวเตอร์เหมือน Windows 10 และ 11 ที่มีซอฟต์แวร์หลายตัวที่ไม่จำเป็น 3)รองรับการเล่นเกมผ่าน Proton: แม้ว่าจะยังคงมีข้อจำกัดในบางเกม แต่ Proton ทำให้เกมส่วนใหญ่ทำงานได้ดีบน SteamOS โดยการปิดช่องว่างด้านประสิทธิภาพและความเข้ากันได้ระหว่าง Windows และ Linux Valve กำลังพยายามขยายการใช้งาน SteamOS ออกจากอุปกรณ์พกพาอย่าง Steam Deck และ Legion Go S ไปสู่คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป เพื่อให้ผู้ใช้งานที่ต้องการหลีกเลี่ยงระบบปฏิบัติการที่ซับซ้อนและมีปัญหา เช่น Windows มีทางเลือกใหม่สำหรับการเล่นเกม แม้ว่า SteamOS จะมีความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังมีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้กับการ์ดจอ NVIDIA เมื่อเทียบกับ AMD และ Intel ที่ทำงานได้ดีกว่าในปัจจุบัน นอกจากนี้ เวอร์ชันสำหรับเดสก์ท็อปยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและยังไม่สามารถใช้กับ Steam Deck ได้ในตอนนี้ https://wccftech.com/valve-rumored-to-launch-steamos-for-desktop/
    WCCFTECH.COM
    Valve Rumored To Launch SteamOS For Desktop PCs Soon; Is Time For A Bloatware-Free OS Near?
    Valve is rumored to launch SteamOS for PCs as well. After launching the Deck with SteamOS, it is said to have almost finalized the work.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ในซีรีส์ Radeon RX 9070 และ RX 9070 XT แล้วได้รับความสนใจจากตลาดอย่างล้นหลาม การตอบรับของผู้บริโภคในครั้งนี้ถูกเรียกว่าเป็น "ความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ทำให้การหาซื้อการ์ดจอรุ่นนี้ในราคาที่ตรงกับคำแนะนำ (MSRP) กลายเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ในขณะนี้

    รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการ์ดจอนี้คือ:
    - RX 9070 XT เปิดตัวที่ราคา $599 และ RX 9070 ที่ $549
    - อย่างไรก็ตาม การ์ดเหล่านี้ขายหมดเกลี้ยงทันทีในร้านค้าชั้นนำ เช่น Newegg และ Best Buy โดยบางร้านขายการ์ดในราคาสูงถึง $859 ซึ่งเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้

    David McAfee รองประธานของ AMD ได้กล่าวว่าบริษัทกำลังพยายามเพิ่มปริมาณการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยการจัดหาส่วนประกอบให้กับพันธมิตรผู้ผลิตการ์ด (AIB partners) เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น McAfee ยืนยันว่า AMD ตั้งเป้าหมายให้ผู้ใช้งานสามารถหาซื้อการ์ดจอในราคาที่เหมาะสมได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

    การที่ตลาดตอบรับ Radeon RX 9070 และ RX 9070 XT อย่างดีเยี่ยมนั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความต้องการในตลาดกราฟิกการ์ดที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีการแข่งขันสูงจากคู่แข่งเช่น Nvidia ที่เผชิญปัญหาราคาสินค้าที่สูงกว่าราคาที่แนะนำในตลาดเช่นกัน

    ในมุมของอุตสาหกรรม ความสำเร็จนี้บ่งบอกถึงความท้าทายของ AMD และผู้ผลิตการ์ดจอรายอื่น ๆ ในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้โดยไม่ปล่อยให้ราคาพุ่งสูงเกินไป

    https://www.techspot.com/news/107150-amd-calls-demand-rx-9070-rx-9070-xt.html
    AMD เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ในซีรีส์ Radeon RX 9070 และ RX 9070 XT แล้วได้รับความสนใจจากตลาดอย่างล้นหลาม การตอบรับของผู้บริโภคในครั้งนี้ถูกเรียกว่าเป็น "ความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ทำให้การหาซื้อการ์ดจอรุ่นนี้ในราคาที่ตรงกับคำแนะนำ (MSRP) กลายเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ในขณะนี้ รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการ์ดจอนี้คือ: - RX 9070 XT เปิดตัวที่ราคา $599 และ RX 9070 ที่ $549 - อย่างไรก็ตาม การ์ดเหล่านี้ขายหมดเกลี้ยงทันทีในร้านค้าชั้นนำ เช่น Newegg และ Best Buy โดยบางร้านขายการ์ดในราคาสูงถึง $859 ซึ่งเกินกว่าราคาที่กำหนดไว้ David McAfee รองประธานของ AMD ได้กล่าวว่าบริษัทกำลังพยายามเพิ่มปริมาณการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยการจัดหาส่วนประกอบให้กับพันธมิตรผู้ผลิตการ์ด (AIB partners) เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น McAfee ยืนยันว่า AMD ตั้งเป้าหมายให้ผู้ใช้งานสามารถหาซื้อการ์ดจอในราคาที่เหมาะสมได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ การที่ตลาดตอบรับ Radeon RX 9070 และ RX 9070 XT อย่างดีเยี่ยมนั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความต้องการในตลาดกราฟิกการ์ดที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีการแข่งขันสูงจากคู่แข่งเช่น Nvidia ที่เผชิญปัญหาราคาสินค้าที่สูงกว่าราคาที่แนะนำในตลาดเช่นกัน ในมุมของอุตสาหกรรม ความสำเร็จนี้บ่งบอกถึงความท้าทายของ AMD และผู้ผลิตการ์ดจอรายอื่น ๆ ในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้โดยไม่ปล่อยให้ราคาพุ่งสูงเกินไป https://www.techspot.com/news/107150-amd-calls-demand-rx-9070-rx-9070-xt.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD calls demand for Radeon 9070 and 9070 XT "unprecedented," says restocking at MSRP is priority number one
    The AMD RX 9070 XT and RX 9070 launched on March 6. We liked the former card, awarding it a score of 85 and praising its solid...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงความน่าสนใจของโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดจาก AMD รุ่น Ryzen 9 9950X3D ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับนักเล่นเกมและนักสร้างคอนเทนต์ อย่างไรก็ตาม การทดสอบล่าสุดพบว่าชิปนี้กลับทำงานได้ดีกว่าบน Windows 10 เมื่อเทียบกับ Windows 11 โดยเฉพาะในเกมที่ต้องใช้การประมวลผลจาก CPU อย่างเข้มข้น

    การทดสอบโดย Tech YES City พบว่า Ryzen 9 9950X3D ทำเฟรมเรตได้สูงกว่าใน Windows 10 ในเกมยอดนิยม เช่น CS2 ที่ความละเอียด 1080p โดยใน Windows 10 เฉลี่ยที่ 745fps แต่ใน Windows 11 เฉลี่ยลดลงมาเป็น 729fps และตกลงไปถึง 710fps เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ VBS (Virtualization-based Security) ซึ่งแสดงถึงความแตกต่างถึง 9.2% ในบางกรณี เช่น เกม Fortnite ในการตั้งค่าต่ำสุด

    ปัญหานี้เกิดขึ้นแม้แต่กับ Windows 11 รุ่นปรับแต่ง (custom-tuned version) แสดงให้เห็นว่าปัญหาความเข้ากันได้นี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขในระดับที่ดีพอ ข่าวนี้จึงสะท้อนถึงความกังวลว่า Windows 11 อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกเพียงปีเศษก่อนที่ Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในปี 2025

    https://www.techradar.com/computing/cpu/amds-most-powerful-processor-ever-actually-runs-better-on-windows-10-than-windows-11
    ข่าวนี้พูดถึงความน่าสนใจของโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดจาก AMD รุ่น Ryzen 9 9950X3D ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับนักเล่นเกมและนักสร้างคอนเทนต์ อย่างไรก็ตาม การทดสอบล่าสุดพบว่าชิปนี้กลับทำงานได้ดีกว่าบน Windows 10 เมื่อเทียบกับ Windows 11 โดยเฉพาะในเกมที่ต้องใช้การประมวลผลจาก CPU อย่างเข้มข้น การทดสอบโดย Tech YES City พบว่า Ryzen 9 9950X3D ทำเฟรมเรตได้สูงกว่าใน Windows 10 ในเกมยอดนิยม เช่น CS2 ที่ความละเอียด 1080p โดยใน Windows 10 เฉลี่ยที่ 745fps แต่ใน Windows 11 เฉลี่ยลดลงมาเป็น 729fps และตกลงไปถึง 710fps เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ VBS (Virtualization-based Security) ซึ่งแสดงถึงความแตกต่างถึง 9.2% ในบางกรณี เช่น เกม Fortnite ในการตั้งค่าต่ำสุด ปัญหานี้เกิดขึ้นแม้แต่กับ Windows 11 รุ่นปรับแต่ง (custom-tuned version) แสดงให้เห็นว่าปัญหาความเข้ากันได้นี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขในระดับที่ดีพอ ข่าวนี้จึงสะท้อนถึงความกังวลว่า Windows 11 อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกเพียงปีเศษก่อนที่ Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในปี 2025 https://www.techradar.com/computing/cpu/amds-most-powerful-processor-ever-actually-runs-better-on-windows-10-than-windows-11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่เกี่ยวกับ Framework Desktop ที่นำขุมพลังจากชิป AMD Ryzen AI Max มาพัฒนาจนกลายเป็นระบบที่ทรงพลังสำหรับเกม การทำงานระดับสูง และการประมวลผล AI โดยเฉพาะ

    จุดเด่นของ Ryzen AI Max คือการผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำในสามด้าน ได้แก่ Zen 5 CPU แบบ 16 คอร์ที่ประมวลผลเร็วสุดขั้ว, GPU RDNA 3.5 พร้อมหน่วยคำนวณถึง 40 ชุดที่รองรับกราฟิกคุณภาพสูง และ LPDDR5x Memory Bus 256 บิต ที่รองรับความจุได้สูงถึง 128GB ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างน่าประทับใจ ความสามารถนี้เหมาะสำหรับการจัดการโหลดงาน AI อย่างการฝึกฝนโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ซึ่งจำเป็นต้องใช้หน่วยความจำที่รวดเร็วและทรงพลัง

    Framework Desktop ยังมาพร้อมกับการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม โดยใช้ชุดฮีตไปป์ 6 เส้นและพัดลมขนาด 120 มม. ทำให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของ Ryzen AI Max ได้อย่างเต็มที่โดยไม่เกิดปัญหาความร้อนสูงเกินไป นอกจากนี้ ระบบยังมีการเชื่อมต่อที่ครบครัน เช่น USB4, DisplayPort และ PCIe เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย

    สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
    - การเลือกใช้ RAM แบบบัดกรีเพื่อรองรับความเร็วสูง แม้จะแลกมากับการลดความยืดหยุ่นในการอัปเกรด แต่ก็ยังมีข้อดีในแง่ของประสิทธิภาพ
    - ตัวผลิตภัณฑ์ออกแบบมาในรูปแบบโมดูล ที่สามารถถอดประกอบและใส่เข้ากับโครงเคส Mini-ITX ได้อย่างง่ายดาย

    https://www.techpowerup.com/334069/framework-dives-deep-into-desktop-models-deployment-of-ryzen-ai-max
    ข่าวนี้เล่าถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่เกี่ยวกับ Framework Desktop ที่นำขุมพลังจากชิป AMD Ryzen AI Max มาพัฒนาจนกลายเป็นระบบที่ทรงพลังสำหรับเกม การทำงานระดับสูง และการประมวลผล AI โดยเฉพาะ จุดเด่นของ Ryzen AI Max คือการผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำในสามด้าน ได้แก่ Zen 5 CPU แบบ 16 คอร์ที่ประมวลผลเร็วสุดขั้ว, GPU RDNA 3.5 พร้อมหน่วยคำนวณถึง 40 ชุดที่รองรับกราฟิกคุณภาพสูง และ LPDDR5x Memory Bus 256 บิต ที่รองรับความจุได้สูงถึง 128GB ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างน่าประทับใจ ความสามารถนี้เหมาะสำหรับการจัดการโหลดงาน AI อย่างการฝึกฝนโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ซึ่งจำเป็นต้องใช้หน่วยความจำที่รวดเร็วและทรงพลัง Framework Desktop ยังมาพร้อมกับการระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม โดยใช้ชุดฮีตไปป์ 6 เส้นและพัดลมขนาด 120 มม. ทำให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของ Ryzen AI Max ได้อย่างเต็มที่โดยไม่เกิดปัญหาความร้อนสูงเกินไป นอกจากนี้ ระบบยังมีการเชื่อมต่อที่ครบครัน เช่น USB4, DisplayPort และ PCIe เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติม: - การเลือกใช้ RAM แบบบัดกรีเพื่อรองรับความเร็วสูง แม้จะแลกมากับการลดความยืดหยุ่นในการอัปเกรด แต่ก็ยังมีข้อดีในแง่ของประสิทธิภาพ - ตัวผลิตภัณฑ์ออกแบบมาในรูปแบบโมดูล ที่สามารถถอดประกอบและใส่เข้ากับโครงเคส Mini-ITX ได้อย่างง่ายดาย https://www.techpowerup.com/334069/framework-dives-deep-into-desktop-models-deployment-of-ryzen-ai-max
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Framework Dives Deep into Desktop Model's Deployment of Ryzen AI Max
    We dedicated a lot of our launch presentation of Framework Desktop to the Ryzen AI Max processor it uses, and for a good reason. These truly unique, ultra-high-performance parts are the culmination of decades of technology and architecture investments that AMD has made, going all the way back to the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงการประกาศผลการทดสอบประสิทธิภาพของการ์ดจอ AMD RDNA 3 รุ่นมืออาชีพ ที่มาพร้อมกับ VRAM ขนาดใหญ่ถึง 48GB ซึ่งได้รับการเปรียบเทียบกับการ์ดจอของ Nvidia รุ่น RTX 4090 และพบว่ามีประสิทธิภาพที่น่าทึ่งในงานที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะในงานประมวลผลโมเดลภาษาใหญ่ (LLM)

    AMD แสดงให้เห็นว่าการ์ดจอ Radeon Pro W7800 และ W7900 สามารถทำความเร็วได้สูงกว่า RTX 4090 ถึง 7.3 เท่าในบางกรณี เช่น การประมวลผลโมเดล Distill Qwen 32B และ Distill Llama 70B โดยข้อมูลนี้อ้างอิงจากการทดสอบในชุด DeepSeek R1

    จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ขนาดของ VRAM เพราะการประมวลผลโมเดลใหญ่ต้องใช้หน่วยความจำมหาศาล เช่น โมเดล LLM ที่ต้องการ VRAM เพียงพอสำหรับจัดเก็บและประมวลผลพารามิเตอร์ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การ์ดจอ Radeon Pro รุ่นนี้มีราคาสูงถึง $3,500 ซึ่งแพงกว่า RTX 4090 ถึงสองเท่า แต่ยังถูกกว่าการ์ดจอ Nvidia รุ่นระดับโปรที่มี VRAM ใกล้เคียงกัน

    นอกจากนี้ ตลาดการ์ดจอยังแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดย Nvidia มีการ์ด RTX 5090 รุ่นใหม่ที่มี VRAM 32GB ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็มีประสิทธิภาพการประมวลผลที่อาจจะเป็นตัวท้าชน AMD ในอนาคต

    การ์ดจอที่มี VRAM ขนาดใหญ่ไม่เพียงตอบโจทย์งาน AI แต่ยังเปิดประตูให้กับแอปพลิเคชันยุคใหม่ เช่น การสร้างโมเดลเชิงลึกและการพัฒนา AI ขั้นสูง หากคุณกำลังวางแผนงานเกี่ยวกับ AI อุปกรณ์เหล่านี้อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในแง่ของการลงทุนระยะยาว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-rdna-3-professional-gpus-with-48gb-can-beat-nvidia-24gb-cards-in-ai-putting-the-large-in-llm
    ข่าวนี้พูดถึงการประกาศผลการทดสอบประสิทธิภาพของการ์ดจอ AMD RDNA 3 รุ่นมืออาชีพ ที่มาพร้อมกับ VRAM ขนาดใหญ่ถึง 48GB ซึ่งได้รับการเปรียบเทียบกับการ์ดจอของ Nvidia รุ่น RTX 4090 และพบว่ามีประสิทธิภาพที่น่าทึ่งในงานที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะในงานประมวลผลโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) AMD แสดงให้เห็นว่าการ์ดจอ Radeon Pro W7800 และ W7900 สามารถทำความเร็วได้สูงกว่า RTX 4090 ถึง 7.3 เท่าในบางกรณี เช่น การประมวลผลโมเดล Distill Qwen 32B และ Distill Llama 70B โดยข้อมูลนี้อ้างอิงจากการทดสอบในชุด DeepSeek R1 จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ขนาดของ VRAM เพราะการประมวลผลโมเดลใหญ่ต้องใช้หน่วยความจำมหาศาล เช่น โมเดล LLM ที่ต้องการ VRAM เพียงพอสำหรับจัดเก็บและประมวลผลพารามิเตอร์ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม การ์ดจอ Radeon Pro รุ่นนี้มีราคาสูงถึง $3,500 ซึ่งแพงกว่า RTX 4090 ถึงสองเท่า แต่ยังถูกกว่าการ์ดจอ Nvidia รุ่นระดับโปรที่มี VRAM ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ ตลาดการ์ดจอยังแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดย Nvidia มีการ์ด RTX 5090 รุ่นใหม่ที่มี VRAM 32GB ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็มีประสิทธิภาพการประมวลผลที่อาจจะเป็นตัวท้าชน AMD ในอนาคต การ์ดจอที่มี VRAM ขนาดใหญ่ไม่เพียงตอบโจทย์งาน AI แต่ยังเปิดประตูให้กับแอปพลิเคชันยุคใหม่ เช่น การสร้างโมเดลเชิงลึกและการพัฒนา AI ขั้นสูง หากคุณกำลังวางแผนงานเกี่ยวกับ AI อุปกรณ์เหล่านี้อาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในแง่ของการลงทุนระยะยาว https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-rdna-3-professional-gpus-with-48gb-can-beat-nvidia-24gb-cards-in-ai-putting-the-large-in-llm
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD RDNA 3 professional GPUs with 48GB can beat Nvidia 24GB cards in AI — putting the 'Large' in LLM
    Radeon Pro W7800/7900 48GB up to 7x faster in DeepSeek R1 benchmarks, but don't ask about the 5090.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดตัว Edge AI Mini-PC จากบริษัท Sapphire ซึ่งมาพร้อมกับ APU (Accelerated Processing Unit) รุ่นใหม่ของ AMD อย่าง Ryzen AI 300 หรือชื่อรหัสว่า "Krackan Point" การออกแบบ Mini-PC นี้เน้นที่ความกะทัดรัดและการพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพที่เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการการประมวลผลสูงและการใช้งาน AI

    คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Edge AI Mini-PC:
    1) ขนาดเล็กพิเศษ: ด้วยขนาดเพียง 117 x 111 x 30 มม. ทำให้สามารถพกพาได้ง่ายและไม่เปลืองพื้นที่จัดวาง

    2) ฮาร์ดแวร์ทรงพลัง: มีตัวเลือกโปรเซสเซอร์ Ryzen AI 7 350 หรือ Ryzen AI 5 340 ที่มีมากถึง 8 คอร์และ 16 เธรด พร้อมกับกราฟิก RDNA 3.5 แบบในตัวที่รองรับงานกราฟิกแบบเบาถึงกลาง

    3) หน่วยความจำและการจัดเก็บ:
    - รุ่น Ryzen AI 7 350 มาพร้อม RAM ขนาด 32GB
    - รุ่น Ryzen AI 5 340 มี RAM 16GB
    - รองรับ SSD สูงสุด 2 ตัว (ผ่านสล็อต M.2 2280 และ 2242)

    4) การเชื่อมต่อที่ครบครัน: มีพอร์ต USB 4.0, HDMI, DisplayPort และพอร์ต LAN ความเร็ว 2.5 GbE รวมถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth

    5) การออกแบบที่ทันสมัย: ตัวเคสมาพร้อมฝาแม่เหล็กที่สามารถเปิดได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

    Edge AI Mini-PC เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI), การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), และการเล่นเกมที่ไม่ต้องการกราฟิกหนัก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นโซลูชันสำหรับผู้ที่มองหาคอมพิวเตอร์ที่ประหยัดพื้นที่และสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ

    Sapphire วางแผนที่จะเปิดตัว Mini-PC รุ่นนี้ในเดือนเมษายน โดยราคาที่คาดการณ์จะอยู่ต่ำกว่า $1,000 ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนา

    https://wccftech.com/sapphire-edge-ai-mini-pcs-amd-ryzen-ai-300-krackan-point/
    เปิดตัว Edge AI Mini-PC จากบริษัท Sapphire ซึ่งมาพร้อมกับ APU (Accelerated Processing Unit) รุ่นใหม่ของ AMD อย่าง Ryzen AI 300 หรือชื่อรหัสว่า "Krackan Point" การออกแบบ Mini-PC นี้เน้นที่ความกะทัดรัดและการพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพที่เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการการประมวลผลสูงและการใช้งาน AI คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Edge AI Mini-PC: 1) ขนาดเล็กพิเศษ: ด้วยขนาดเพียง 117 x 111 x 30 มม. ทำให้สามารถพกพาได้ง่ายและไม่เปลืองพื้นที่จัดวาง 2) ฮาร์ดแวร์ทรงพลัง: มีตัวเลือกโปรเซสเซอร์ Ryzen AI 7 350 หรือ Ryzen AI 5 340 ที่มีมากถึง 8 คอร์และ 16 เธรด พร้อมกับกราฟิก RDNA 3.5 แบบในตัวที่รองรับงานกราฟิกแบบเบาถึงกลาง 3) หน่วยความจำและการจัดเก็บ: - รุ่น Ryzen AI 7 350 มาพร้อม RAM ขนาด 32GB - รุ่น Ryzen AI 5 340 มี RAM 16GB - รองรับ SSD สูงสุด 2 ตัว (ผ่านสล็อต M.2 2280 และ 2242) 4) การเชื่อมต่อที่ครบครัน: มีพอร์ต USB 4.0, HDMI, DisplayPort และพอร์ต LAN ความเร็ว 2.5 GbE รวมถึงการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth 5) การออกแบบที่ทันสมัย: ตัวเคสมาพร้อมฝาแม่เหล็กที่สามารถเปิดได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ Edge AI Mini-PC เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI), การประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data), และการเล่นเกมที่ไม่ต้องการกราฟิกหนัก นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นโซลูชันสำหรับผู้ที่มองหาคอมพิวเตอร์ที่ประหยัดพื้นที่และสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ Sapphire วางแผนที่จะเปิดตัว Mini-PC รุ่นนี้ในเดือนเมษายน โดยราคาที่คาดการณ์จะอยู่ต่ำกว่า $1,000 ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและนักพัฒนา https://wccftech.com/sapphire-edge-ai-mini-pcs-amd-ryzen-ai-300-krackan-point/
    WCCFTECH.COM
    Sapphire Intros Edge AI Mini-PCs Powered By AMD "Ryzen AI 300" Krackan Point APUs; Feature Ultra-Compact Form Factor
    Sapphire's new mini PCs lineup introduces AMD's recently launched Ryzen AI 300 APUs and is super-compact for better portability.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel แต่งตั้ง Lip-Bu Tan ผู้เชี่ยวชาญที่เคารพนับถือในวงการเซมิคอนดักเตอร์ เป็น CEO คนใหม่ของ Intel โดยเขาจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 18 มีนาคม หลังจากที่บริษัทเผชิญกับช่วงเวลาท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์

    Intel เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตชิปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างดุเดือดจากคู่แข่ง เช่น AMD และการก้าวขึ้นมาของผู้เล่นในตลาดอย่าง Nvidia ทำให้เกิดแรงกดดันในการฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขัน Lip-Bu Tan ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูงในอุตสาหกรรมนี้ ถูกมองว่าเหมาะสมที่จะเป็นผู้พลิกฟื้นสถานการณ์

    Lip-Bu Tan เคยเป็นสมาชิกบอร์ดบริหารของ Intel และเป็นผู้ก่อตั้ง Walden International บริษัททุนที่มีชื่อเสียงด้านการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ประสบการณ์และความเข้าใจของเขาทั้งในด้านการผลิตและการจัดการบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้เขาเป็นตัวเลือกสำคัญที่ Intel หวังว่าจะพาบริษัทออกจากช่วงเวลาที่ท้าทายได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/13/who-is-new-intel-ceo-lip-bu-tan
    Intel แต่งตั้ง Lip-Bu Tan ผู้เชี่ยวชาญที่เคารพนับถือในวงการเซมิคอนดักเตอร์ เป็น CEO คนใหม่ของ Intel โดยเขาจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 18 มีนาคม หลังจากที่บริษัทเผชิญกับช่วงเวลาท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ Intel เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตชิปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างดุเดือดจากคู่แข่ง เช่น AMD และการก้าวขึ้นมาของผู้เล่นในตลาดอย่าง Nvidia ทำให้เกิดแรงกดดันในการฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขัน Lip-Bu Tan ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์สูงในอุตสาหกรรมนี้ ถูกมองว่าเหมาะสมที่จะเป็นผู้พลิกฟื้นสถานการณ์ Lip-Bu Tan เคยเป็นสมาชิกบอร์ดบริหารของ Intel และเป็นผู้ก่อตั้ง Walden International บริษัททุนที่มีชื่อเสียงด้านการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ประสบการณ์และความเข้าใจของเขาทั้งในด้านการผลิตและการจัดการบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้เขาเป็นตัวเลือกสำคัญที่ Intel หวังว่าจะพาบริษัทออกจากช่วงเวลาที่ท้าทายได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/13/who-is-new-intel-ceo-lip-bu-tan
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Who is new Intel CEO Lip-Bu Tan?
    (Reuters) - Intel tapped former board member Lip-Bu Tan as its CEO on Wednesday, as the struggling American chipmaking icon attempts to emerge from one of its bleakest periods.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts