• ASRock X870 LiveMixer WiFi: เมนบอร์ดสาย Creator ที่มาพร้อมพอร์ต USB ถึง 25 ช่อง — แต่ยังมีจุดอ่อนที่ไม่ควรมองข้าม

    ในยุคที่อุปกรณ์ต่อพ่วงมีมากมายเกินกว่าจะนับนิ้วได้ ASRock ได้เปิดตัวเมนบอร์ดรุ่นใหม่ X870 LiveMixer WiFi ที่มาพร้อมพอร์ต USB มากถึง 25 ช่อง ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ “มากที่สุดในตลาด” ณ ปี 2025 โดยออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ใช้งานระดับ Creator ที่ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์หลากหลาย เช่น กล้อง, ไมโครโฟน, DAC, SSD, และอุปกรณ์สตรีมมิ่งต่าง ๆ

    เมนบอร์ดนี้รองรับซีพียู AMD Ryzen รุ่นใหม่ตั้งแต่ซีรีส์ 7000 ถึง 9000 ผ่านซ็อกเก็ต AM5 พร้อมรองรับแรม DDR5 สูงสุดถึง 256GB และความเร็วทะลุ 8000MT/s โดยมีระบบ VRM แบบ 16+2+1 เฟส พร้อมคาปาซิเตอร์ระดับ 20K เพื่อความเสถียรในการโอเวอร์คล็อก

    จุดเด่นที่สุดคือพอร์ต USB ที่แบ่งเป็น:
    - USB4 จำนวน 2 ช่อง
    - USB 3.2 Gen2x2 ความเร็ว 20Gbps จำนวน 1 ช่อง
    - USB 3.2 Gen1 ความเร็ว 5Gbps จำนวน 12 ช่อง
    - USB 2.0 จำนวน 10 ช่อง

    แม้จะดูน่าตื่นเต้น แต่การใส่ USB 2.0 ถึง 10 ช่องในปี 2025 ก็ถูกวิจารณ์ว่า “ย้อนยุคเกินไป” เพราะความเร็วต่ำและไม่เหมาะกับอุปกรณ์สมัยใหม่ อย่างไรก็ตาม หากคุณยังใช้อุปกรณ์เก่าอยู่ ก็อาจเป็นข้อดีที่หาได้ยากในเมนบอร์ดรุ่นใหม่

    ด้านการเชื่อมต่ออื่น ๆ ก็จัดเต็มเช่นกัน ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, LAN 5Gbps, HDMI 2.1, และระบบเสียง Realtek ALC4082 พร้อม Nahimic Audio

    ASRock เปิดตัวเมนบอร์ด X870 LiveMixer WiFi
    รองรับซีพียู AMD Ryzen 7000–9000 ผ่านซ็อกเก็ต AM5
    รองรับแรม DDR5 สูงสุด 256GB ความเร็วถึง 8000MT/s
    ระบบ VRM แบบ 16+2+1 เฟส พร้อมคาปาซิเตอร์ 20K

    จุดเด่นคือพอร์ต USB มากถึง 25 ช่อง
    USB4 จำนวน 2 ช่อง
    USB 3.2 Gen2x2 (20Gbps) จำนวน 1 ช่อง
    USB 3.2 Gen1 (5Gbps) จำนวน 12 ช่อง
    USB 2.0 จำนวน 10 ช่อง

    การเชื่อมต่ออื่น ๆ ครบครัน
    LAN 5Gbps, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4
    HDMI 2.1, ระบบเสียง Realtek ALC4082 + Nahimic
    รองรับ PCIe 5.0 สำหรับกราฟิกและ SSD

    เหมาะสำหรับ Creator และผู้ใช้งานที่ต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก
    รองรับอุปกรณ์สตรีมมิ่ง, กล้อง, DAC, และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
    ลดความจำเป็นในการใช้ USB hub ภายนอก

    https://www.techradar.com/pro/you-can-plug-25-usb-devices-into-this-asrock-atx-motherboard-yes-25-shame-10-of-them-are-usb-2-0-an-abomination-in-2025
    📰 ASRock X870 LiveMixer WiFi: เมนบอร์ดสาย Creator ที่มาพร้อมพอร์ต USB ถึง 25 ช่อง — แต่ยังมีจุดอ่อนที่ไม่ควรมองข้าม ในยุคที่อุปกรณ์ต่อพ่วงมีมากมายเกินกว่าจะนับนิ้วได้ ASRock ได้เปิดตัวเมนบอร์ดรุ่นใหม่ X870 LiveMixer WiFi ที่มาพร้อมพอร์ต USB มากถึง 25 ช่อง ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ “มากที่สุดในตลาด” ณ ปี 2025 โดยออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ใช้งานระดับ Creator ที่ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์หลากหลาย เช่น กล้อง, ไมโครโฟน, DAC, SSD, และอุปกรณ์สตรีมมิ่งต่าง ๆ เมนบอร์ดนี้รองรับซีพียู AMD Ryzen รุ่นใหม่ตั้งแต่ซีรีส์ 7000 ถึง 9000 ผ่านซ็อกเก็ต AM5 พร้อมรองรับแรม DDR5 สูงสุดถึง 256GB และความเร็วทะลุ 8000MT/s โดยมีระบบ VRM แบบ 16+2+1 เฟส พร้อมคาปาซิเตอร์ระดับ 20K เพื่อความเสถียรในการโอเวอร์คล็อก จุดเด่นที่สุดคือพอร์ต USB ที่แบ่งเป็น: - USB4 จำนวน 2 ช่อง - USB 3.2 Gen2x2 ความเร็ว 20Gbps จำนวน 1 ช่อง - USB 3.2 Gen1 ความเร็ว 5Gbps จำนวน 12 ช่อง - USB 2.0 จำนวน 10 ช่อง แม้จะดูน่าตื่นเต้น แต่การใส่ USB 2.0 ถึง 10 ช่องในปี 2025 ก็ถูกวิจารณ์ว่า “ย้อนยุคเกินไป” เพราะความเร็วต่ำและไม่เหมาะกับอุปกรณ์สมัยใหม่ อย่างไรก็ตาม หากคุณยังใช้อุปกรณ์เก่าอยู่ ก็อาจเป็นข้อดีที่หาได้ยากในเมนบอร์ดรุ่นใหม่ ด้านการเชื่อมต่ออื่น ๆ ก็จัดเต็มเช่นกัน ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, LAN 5Gbps, HDMI 2.1, และระบบเสียง Realtek ALC4082 พร้อม Nahimic Audio ✅ ASRock เปิดตัวเมนบอร์ด X870 LiveMixer WiFi ➡️ รองรับซีพียู AMD Ryzen 7000–9000 ผ่านซ็อกเก็ต AM5 ➡️ รองรับแรม DDR5 สูงสุด 256GB ความเร็วถึง 8000MT/s ➡️ ระบบ VRM แบบ 16+2+1 เฟส พร้อมคาปาซิเตอร์ 20K ✅ จุดเด่นคือพอร์ต USB มากถึง 25 ช่อง ➡️ USB4 จำนวน 2 ช่อง ➡️ USB 3.2 Gen2x2 (20Gbps) จำนวน 1 ช่อง ➡️ USB 3.2 Gen1 (5Gbps) จำนวน 12 ช่อง ➡️ USB 2.0 จำนวน 10 ช่อง ✅ การเชื่อมต่ออื่น ๆ ครบครัน ➡️ LAN 5Gbps, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 ➡️ HDMI 2.1, ระบบเสียง Realtek ALC4082 + Nahimic ➡️ รองรับ PCIe 5.0 สำหรับกราฟิกและ SSD ✅ เหมาะสำหรับ Creator และผู้ใช้งานที่ต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก ➡️ รองรับอุปกรณ์สตรีมมิ่ง, กล้อง, DAC, และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ➡️ ลดความจำเป็นในการใช้ USB hub ภายนอก https://www.techradar.com/pro/you-can-plug-25-usb-devices-into-this-asrock-atx-motherboard-yes-25-shame-10-of-them-are-usb-2-0-an-abomination-in-2025
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • “AMD EPYC Embedded 4005: ซีพียูขอบระบบที่ไม่ธรรมดา — Zen 5 บน AM5 เพื่อโลกที่ต้องการความเร็วและความเสถียร”

    AMD เปิดตัวซีพียูตระกูล EPYC Embedded 4005 อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2025 โดยมุ่งเป้าไปที่ตลาด edge computing, ระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่าย และเซิร์ฟเวอร์อุตสาหกรรมระดับเริ่มต้น จุดเด่นของซีรีส์นี้คือการนำสถาปัตยกรรม Zen 5 มาใช้บนแพลตฟอร์ม AM5 ซึ่งเป็นซ็อกเก็ตเดียวกับ Ryzen รุ่นทั่วไป แต่ปรับแต่งให้เหมาะกับงานฝังตัวที่ต้องการความเสถียรและอายุการใช้งานยาวนาน

    EPYC Embedded 4005 ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ chiplet ขนาด 4 นาโนเมตร รองรับสูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด พร้อม L3 cache สูงสุด 128MB และ TDP ที่ปรับได้ตั้งแต่ 65W ถึง 170W เพื่อให้เหมาะกับงานที่หลากหลาย ตั้งแต่ไฟร์วอลล์รุ่นใหม่ไปจนถึงระบบควบคุมแบบเรียลไทม์ในโรงงาน

    ซีพียูรุ่นนี้รองรับ DDR5-5600 แบบ ECC, PCIe Gen 5 จำนวน 28 เลน และชุดคำสั่ง AVX-512 แบบเต็ม 512 บิต ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล AI inference และงานที่ต้องการ vector computing เช่น การวิเคราะห์ภาพ, การประมวลผล JSON หรือฐานข้อมูล PostgreSQL

    จุดแข็งอีกด้านคือการรับประกันการผลิตนานถึง 7 ปี พร้อมฟีเจอร์ RAS (Reliability, Availability, Serviceability) เช่น ECC บน DRAM และ PCIe, parity บนชิป และการตรวจจับข้อผิดพลาดแบบ built-in ซึ่งเหมาะกับระบบที่ต้องการ uptime สูงและการบำรุงรักษาต่ำ

    AMD ยังออกแบบให้ EPYC Embedded 4005 ใช้ซ็อกเก็ต AM5 ร่วมกับซีพียู Ryzen ทำให้สามารถใช้เมนบอร์ดเดิมได้ ลดต้นทุนการออกแบบ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการอัปเกรดระบบในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่ม SMB และผู้ให้บริการ hosting ที่ต้องการระบบที่คุ้มค่าแต่มีความสามารถระดับองค์กร

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    AMD เปิดตัว EPYC Embedded 4005 สำหรับงาน edge และระบบฝังตัว
    ใช้ Zen 5 บนแพลตฟอร์ม AM5 พร้อมเทคโนโลยี chiplet ขนาด 4 นาโนเมตร
    รองรับสูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด, L3 cache สูงสุด 128MB
    TDP ปรับได้ตั้งแต่ 65W ถึง 170W เพื่อรองรับงานหลากหลาย

    จุดเด่นด้านเทคโนโลยี
    รองรับ DDR5-5600 ECC และ PCIe Gen 5 จำนวน 28 เลน
    มีชุดคำสั่ง AVX-512 แบบเต็ม 512 บิต สำหรับงาน AI และ HPC
    รับประกันการผลิตนานถึง 7 ปี พร้อมฟีเจอร์ RAS ครบถ้วน
    ใช้ซ็อกเก็ต AM5 ร่วมกับ Ryzen ทำให้ลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    EPYC 4005 เป็นรุ่นต่อยอดจาก EPYC 4004 โดยเพิ่มความเร็วแรมและชุดคำสั่ง
    มีรุ่น 16 คอร์ TDP 65W สำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพแต่ประหยัดพลังงาน
    เหมาะกับงานไฟร์วอลล์, NAS, เซิร์ฟเวอร์ SMB และระบบควบคุมอุตสาหกรรม
    แข่งกับ Intel Xeon E และ Xeon 6300P ซึ่งยังจำกัดที่ 8 คอร์และ DDR5-4800

    คำเตือนและข้อจำกัด
    แม้จะใช้ AM5 แต่ EPYC Embedded 4005 ต้องใช้ BIOS ที่รองรับ ECC และฟีเจอร์ RAS
    ชุดคำสั่ง AVX-512 อาจไม่ถูกใช้งานเต็มประสิทธิภาพในซอฟต์แวร์ทั่วไป
    การใช้งานในระบบฝังตัวต้องพิจารณาเรื่องความร้อนและการระบายอากาศอย่างรอบคอบ
    แม้จะรับประกันการผลิต 7 ปี แต่การสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตเมนบอร์ด
    ราคาของรุ่นสูงสุดอาจใกล้เคียงกับ Xeon ระดับกลาง ทำให้ต้องเปรียบเทียบอย่างละเอียดก่อนเลือกใช้งาน

    https://www.techpowerup.com/341063/amd-introduces-epyc-embedded-4005-processors-for-low-latency-applications-at-the-edge
    🧩 “AMD EPYC Embedded 4005: ซีพียูขอบระบบที่ไม่ธรรมดา — Zen 5 บน AM5 เพื่อโลกที่ต้องการความเร็วและความเสถียร” AMD เปิดตัวซีพียูตระกูล EPYC Embedded 4005 อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2025 โดยมุ่งเป้าไปที่ตลาด edge computing, ระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่าย และเซิร์ฟเวอร์อุตสาหกรรมระดับเริ่มต้น จุดเด่นของซีรีส์นี้คือการนำสถาปัตยกรรม Zen 5 มาใช้บนแพลตฟอร์ม AM5 ซึ่งเป็นซ็อกเก็ตเดียวกับ Ryzen รุ่นทั่วไป แต่ปรับแต่งให้เหมาะกับงานฝังตัวที่ต้องการความเสถียรและอายุการใช้งานยาวนาน EPYC Embedded 4005 ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ chiplet ขนาด 4 นาโนเมตร รองรับสูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด พร้อม L3 cache สูงสุด 128MB และ TDP ที่ปรับได้ตั้งแต่ 65W ถึง 170W เพื่อให้เหมาะกับงานที่หลากหลาย ตั้งแต่ไฟร์วอลล์รุ่นใหม่ไปจนถึงระบบควบคุมแบบเรียลไทม์ในโรงงาน ซีพียูรุ่นนี้รองรับ DDR5-5600 แบบ ECC, PCIe Gen 5 จำนวน 28 เลน และชุดคำสั่ง AVX-512 แบบเต็ม 512 บิต ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล AI inference และงานที่ต้องการ vector computing เช่น การวิเคราะห์ภาพ, การประมวลผล JSON หรือฐานข้อมูล PostgreSQL จุดแข็งอีกด้านคือการรับประกันการผลิตนานถึง 7 ปี พร้อมฟีเจอร์ RAS (Reliability, Availability, Serviceability) เช่น ECC บน DRAM และ PCIe, parity บนชิป และการตรวจจับข้อผิดพลาดแบบ built-in ซึ่งเหมาะกับระบบที่ต้องการ uptime สูงและการบำรุงรักษาต่ำ AMD ยังออกแบบให้ EPYC Embedded 4005 ใช้ซ็อกเก็ต AM5 ร่วมกับซีพียู Ryzen ทำให้สามารถใช้เมนบอร์ดเดิมได้ ลดต้นทุนการออกแบบ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการอัปเกรดระบบในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่ม SMB และผู้ให้บริการ hosting ที่ต้องการระบบที่คุ้มค่าแต่มีความสามารถระดับองค์กร ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ AMD เปิดตัว EPYC Embedded 4005 สำหรับงาน edge และระบบฝังตัว ➡️ ใช้ Zen 5 บนแพลตฟอร์ม AM5 พร้อมเทคโนโลยี chiplet ขนาด 4 นาโนเมตร ➡️ รองรับสูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด, L3 cache สูงสุด 128MB ➡️ TDP ปรับได้ตั้งแต่ 65W ถึง 170W เพื่อรองรับงานหลากหลาย ✅ จุดเด่นด้านเทคโนโลยี ➡️ รองรับ DDR5-5600 ECC และ PCIe Gen 5 จำนวน 28 เลน ➡️ มีชุดคำสั่ง AVX-512 แบบเต็ม 512 บิต สำหรับงาน AI และ HPC ➡️ รับประกันการผลิตนานถึง 7 ปี พร้อมฟีเจอร์ RAS ครบถ้วน ➡️ ใช้ซ็อกเก็ต AM5 ร่วมกับ Ryzen ทำให้ลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ EPYC 4005 เป็นรุ่นต่อยอดจาก EPYC 4004 โดยเพิ่มความเร็วแรมและชุดคำสั่ง ➡️ มีรุ่น 16 คอร์ TDP 65W สำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพแต่ประหยัดพลังงาน ➡️ เหมาะกับงานไฟร์วอลล์, NAS, เซิร์ฟเวอร์ SMB และระบบควบคุมอุตสาหกรรม ➡️ แข่งกับ Intel Xeon E และ Xeon 6300P ซึ่งยังจำกัดที่ 8 คอร์และ DDR5-4800 ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ แม้จะใช้ AM5 แต่ EPYC Embedded 4005 ต้องใช้ BIOS ที่รองรับ ECC และฟีเจอร์ RAS ⛔ ชุดคำสั่ง AVX-512 อาจไม่ถูกใช้งานเต็มประสิทธิภาพในซอฟต์แวร์ทั่วไป ⛔ การใช้งานในระบบฝังตัวต้องพิจารณาเรื่องความร้อนและการระบายอากาศอย่างรอบคอบ ⛔ แม้จะรับประกันการผลิต 7 ปี แต่การสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตเมนบอร์ด ⛔ ราคาของรุ่นสูงสุดอาจใกล้เคียงกับ Xeon ระดับกลาง ทำให้ต้องเปรียบเทียบอย่างละเอียดก่อนเลือกใช้งาน https://www.techpowerup.com/341063/amd-introduces-epyc-embedded-4005-processors-for-low-latency-applications-at-the-edge
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Introduces EPYC Embedded 4005 Processors for Low-Latency Applications at the Edge
    AMD today announced the EPYC Embedded 4005 Series processors, purpose-built to address rising demand for real-time compute performance, optimized system costs and extended deployment lifecycles in network security appliances and entry-level industrial edge servers. Built on proven AMD server technol...
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • “AMD เปิดตัว Ryzen 9700F, 9500F, 7400 และ 5600F — ซีพียูรุ่นประหยัดที่ซ่อนพลังไว้มากกว่าที่คิด”

    AMD เปิดตัวซีพียูใหม่ 4 รุ่นแบบเงียบ ๆ โดยไม่จัดงานแถลงข่าวหรือประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เพิ่มข้อมูลลงในเว็บไซต์ ได้แก่ Ryzen 7 9700F, Ryzen 5 9500F, Ryzen 5 7400 และ Ryzen 5 5600F ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่สถาปัตยกรรม Zen 5, Zen 4 ไปจนถึง Zen 3 โดยเน้นกลุ่มผู้ใช้ระดับเริ่มต้นและตลาดต่างประเทศ

    Ryzen 7 9700F และ Ryzen 5 9500F เป็นชิป Zen 5 แบบไม่มีกราฟิกในตัว (iGPU-less) โดย 9700F มี 8 คอร์ 16 เธรด, L3 cache 32MB, TDP 65W และบูสต์สูงสุด 5.5GHz ส่วน 9500F มี 6 คอร์ 12 เธรด และบูสต์สูงสุด 5.0GHz ทั้งคู่ใช้แพลตฟอร์ม AM5 และรองรับ PCIe Gen5 รวมถึง DDR5 สูงสุด 192GB

    Ryzen 5 7400 เป็น Zen 4 รุ่นใหม่ที่มี 6 คอร์ 12 เธรด แต่มี L3 cache เพียง 16MB ซึ่งผิดปกติสำหรับชิปที่ใช้โครงสร้าง chiplet แบบ Raphael โดยคาดว่า AMD ปิดการทำงานของ cache บางส่วนเพื่อใช้ชิปที่มีตำหนิจากการผลิต ลดการสูญเปล่าและต้นทุน

    Ryzen 5 5600F เป็น Zen 3 รุ่นสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในตลาด โดยมี 6 คอร์ 12 เธรด, L3 cache 32MB และบูสต์สูงสุด 4.0GHz แม้จะใช้ชื่อ F-series แต่จริง ๆ แล้ว Zen 3 ไม่มี iGPU อยู่แล้ว จึงเป็นการรีแบรนด์เพื่อขายในตลาดเอเชียโดยเฉพาะ

    ชิปเหล่านี้ส่วนใหญ่จะวางขายเฉพาะในภูมิภาค เช่น 9700F ในอเมริกาเหนือ, 5600F ในเอเชียแปซิฟิก และ 7400F เฉพาะในจีน โดยมีเพียง 9500F ที่มีวางจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งสะท้อนกลยุทธ์ของ AMD ที่เน้นการใช้ชิปที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในแต่ละตลาด

    ข้อมูลซีพียูใหม่จาก AMD
    Ryzen 7 9700F: Zen 5, 8 คอร์, 5.5GHz boost, ไม่มี iGPU
    Ryzen 5 9500F: Zen 5, 6 คอร์, 5.0GHz boost, ไม่มี iGPU
    Ryzen 5 7400: Zen 4, 6 คอร์, L3 cache 16MB, ลดต้นทุนจากชิปที่มีตำหนิ
    Ryzen 5 5600F: Zen 3, 6 คอร์, ไม่มี iGPU โดยธรรมชาติ

    จุดเด่นและกลยุทธ์
    ใช้แพลตฟอร์ม AM5 รองรับ PCIe Gen5 และ DDR5 สูงสุด 192GB
    เปิดตัวแบบเงียบ ๆ โดยเพิ่มข้อมูลลงในเว็บไซต์เท่านั้น
    F-series คือรุ่นไม่มีกราฟิกในตัว และบางรุ่นมีสเปกใกล้เคียงกับรุ่น X
    วางจำหน่ายแบบจำกัดภูมิภาคตามความเหมาะสมของตลาด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Ryzen 5 9500F คาดว่าราคาอยู่ที่ประมาณ $218 และ 9700F ที่ $294
    Zen 5 มีการปรับปรุงด้าน branch prediction, ALU และ cache hierarchy
    Ryzen 5 7400F มี L3 cache 32MB และบูสต์สูงกว่า 7400 ถึง 400MHz
    Intel ก็ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน โดยนำชิปเก่ากลับมารีแบรนด์ใน Ultra Series 1

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-launches-four-new-ryzen-cpus-including-cutdown-zen-4-and-zen-3-models-most-only-available-in-global-markets
    🧠 “AMD เปิดตัว Ryzen 9700F, 9500F, 7400 และ 5600F — ซีพียูรุ่นประหยัดที่ซ่อนพลังไว้มากกว่าที่คิด” AMD เปิดตัวซีพียูใหม่ 4 รุ่นแบบเงียบ ๆ โดยไม่จัดงานแถลงข่าวหรือประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เพิ่มข้อมูลลงในเว็บไซต์ ได้แก่ Ryzen 7 9700F, Ryzen 5 9500F, Ryzen 5 7400 และ Ryzen 5 5600F ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่สถาปัตยกรรม Zen 5, Zen 4 ไปจนถึง Zen 3 โดยเน้นกลุ่มผู้ใช้ระดับเริ่มต้นและตลาดต่างประเทศ Ryzen 7 9700F และ Ryzen 5 9500F เป็นชิป Zen 5 แบบไม่มีกราฟิกในตัว (iGPU-less) โดย 9700F มี 8 คอร์ 16 เธรด, L3 cache 32MB, TDP 65W และบูสต์สูงสุด 5.5GHz ส่วน 9500F มี 6 คอร์ 12 เธรด และบูสต์สูงสุด 5.0GHz ทั้งคู่ใช้แพลตฟอร์ม AM5 และรองรับ PCIe Gen5 รวมถึง DDR5 สูงสุด 192GB Ryzen 5 7400 เป็น Zen 4 รุ่นใหม่ที่มี 6 คอร์ 12 เธรด แต่มี L3 cache เพียง 16MB ซึ่งผิดปกติสำหรับชิปที่ใช้โครงสร้าง chiplet แบบ Raphael โดยคาดว่า AMD ปิดการทำงานของ cache บางส่วนเพื่อใช้ชิปที่มีตำหนิจากการผลิต ลดการสูญเปล่าและต้นทุน Ryzen 5 5600F เป็น Zen 3 รุ่นสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในตลาด โดยมี 6 คอร์ 12 เธรด, L3 cache 32MB และบูสต์สูงสุด 4.0GHz แม้จะใช้ชื่อ F-series แต่จริง ๆ แล้ว Zen 3 ไม่มี iGPU อยู่แล้ว จึงเป็นการรีแบรนด์เพื่อขายในตลาดเอเชียโดยเฉพาะ ชิปเหล่านี้ส่วนใหญ่จะวางขายเฉพาะในภูมิภาค เช่น 9700F ในอเมริกาเหนือ, 5600F ในเอเชียแปซิฟิก และ 7400F เฉพาะในจีน โดยมีเพียง 9500F ที่มีวางจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งสะท้อนกลยุทธ์ของ AMD ที่เน้นการใช้ชิปที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในแต่ละตลาด ✅ ข้อมูลซีพียูใหม่จาก AMD ➡️ Ryzen 7 9700F: Zen 5, 8 คอร์, 5.5GHz boost, ไม่มี iGPU ➡️ Ryzen 5 9500F: Zen 5, 6 คอร์, 5.0GHz boost, ไม่มี iGPU ➡️ Ryzen 5 7400: Zen 4, 6 คอร์, L3 cache 16MB, ลดต้นทุนจากชิปที่มีตำหนิ ➡️ Ryzen 5 5600F: Zen 3, 6 คอร์, ไม่มี iGPU โดยธรรมชาติ ✅ จุดเด่นและกลยุทธ์ ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม AM5 รองรับ PCIe Gen5 และ DDR5 สูงสุด 192GB ➡️ เปิดตัวแบบเงียบ ๆ โดยเพิ่มข้อมูลลงในเว็บไซต์เท่านั้น ➡️ F-series คือรุ่นไม่มีกราฟิกในตัว และบางรุ่นมีสเปกใกล้เคียงกับรุ่น X ➡️ วางจำหน่ายแบบจำกัดภูมิภาคตามความเหมาะสมของตลาด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Ryzen 5 9500F คาดว่าราคาอยู่ที่ประมาณ $218 และ 9700F ที่ $294 ➡️ Zen 5 มีการปรับปรุงด้าน branch prediction, ALU และ cache hierarchy ➡️ Ryzen 5 7400F มี L3 cache 32MB และบูสต์สูงกว่า 7400 ถึง 400MHz ➡️ Intel ก็ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน โดยนำชิปเก่ากลับมารีแบรนด์ใน Ultra Series 1 https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-launches-four-new-ryzen-cpus-including-cutdown-zen-4-and-zen-3-models-most-only-available-in-global-markets
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • https://youtube.com/shorts/AM5XdxcO3pw?si=FqgGZSHKUaRK_veg
    https://youtube.com/shorts/AM5XdxcO3pw?si=FqgGZSHKUaRK_veg
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Nova Lake-S ถึง Zen 6: เมื่อ HWiNFO กลายเป็นผู้เปิดประตูสู่ยุคใหม่ของ CPU สายเดสก์ท็อป

    ใน release notes ของ HWiNFO เวอร์ชัน 8.31 มีการระบุว่าซอฟต์แวร์จะรองรับแพลตฟอร์มใหม่จากทั้ง Intel และ AMD โดยฝั่ง Intel คือ Nova Lake-S ซึ่งเป็นซีพียูเดสก์ท็อปที่ใช้ซ็อกเก็ตใหม่ LGA 1954 และมีรุ่นสูงสุดถึง 52 คอร์ ส่วนฝั่ง AMD คือ “Next-Gen Platform” ที่คาดว่าจะเป็นซีรีส์ 900 สำหรับ Zen 6 บนซ็อกเก็ต AM5 เช่นเดิม

    Nova Lake-S ถูกออกแบบมาให้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของ Intel ในรอบหลายปี โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ multi-tile ที่ประกอบด้วย 16 P-cores, 32 E-cores และ 4 LP-E cores รวมเป็น 52 คอร์ในรุ่นสูงสุด โดยไม่มี SMT บน P-core และใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบผสมระหว่าง Intel 14A และ TSMC N2 สำหรับบางส่วนของ SoC

    ซ็อกเก็ต LGA 1954 มีขนาดเท่ากับ LGA 1700 เดิม (45 × 37.5 มม.) แต่เพิ่มจำนวนขาเพื่อรองรับพลังงานและแบนด์วิดธ์ที่สูงขึ้น พร้อมเปิดตัวคู่กับชิปเซ็ต 900-series เช่น Z990 และ H970 ที่รองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 และ Thunderbolt 5

    ฝั่ง AMD ก็ไม่น้อยหน้า โดย Zen 6 จะใช้ CCD บน TSMC N2P และ IOD บน N3P ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับ 2nm และ 3nm ตามลำดับ โดยยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 และคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับเมนบอร์ดซีรีส์ 900 เช่น X970, B950 และ B940 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2026

    การที่ HWiNFO เพิ่มการรองรับล่วงหน้า แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ใกล้เข้าสู่ช่วง Pre-QS หรือการทดสอบก่อนผลิตจริง และจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันรอบใหม่ระหว่าง Intel และ AMD ในตลาดเดสก์ท็อประดับสูง

    การอัปเดตของ HWiNFO
    เวอร์ชัน 8.31 จะรองรับ Intel Nova Lake-S และ AMD Next-Gen Platform
    เป็นครั้งแรกที่ Nova Lake-S ถูกระบุใน release notes ของซอฟต์แวร์

    Intel Nova Lake-S และซ็อกเก็ต LGA 1954
    ใช้สถาปัตยกรรม multi-tile: 16 P-cores + 32 E-cores + 4 LP-E cores
    ไม่มี SMT บน P-core และใช้ Intel 14A + TSMC N2
    ซ็อกเก็ต LGA 1954 มีขนาดเท่าเดิมแต่เพิ่มจำนวนขา
    เปิดตัวพร้อมชิปเซ็ต Z990, H970 รองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Thunderbolt 5

    AMD Zen 6 และแพลตฟอร์ม 900-series
    ใช้ CCD บน TSMC N2P และ IOD บน N3P
    ยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 และเปิดตัวพร้อม X970, B950, B940
    คาดว่าจะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2026

    ความหมายต่อวงการเดสก์ท็อป
    เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและ I/O
    HWiNFO เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบสเปกและการทดสอบเบื้องต้น
    จุดเริ่มต้นของการแข่งขันรอบใหม่ระหว่าง Intel และ AMD

    https://wccftech.com/hwinfo-to-add-support-for-nova-lake-s-and-next-gen-amd-platform-likely-hinting-towards-amd-900-series-for-zen-6/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Nova Lake-S ถึง Zen 6: เมื่อ HWiNFO กลายเป็นผู้เปิดประตูสู่ยุคใหม่ของ CPU สายเดสก์ท็อป ใน release notes ของ HWiNFO เวอร์ชัน 8.31 มีการระบุว่าซอฟต์แวร์จะรองรับแพลตฟอร์มใหม่จากทั้ง Intel และ AMD โดยฝั่ง Intel คือ Nova Lake-S ซึ่งเป็นซีพียูเดสก์ท็อปที่ใช้ซ็อกเก็ตใหม่ LGA 1954 และมีรุ่นสูงสุดถึง 52 คอร์ ส่วนฝั่ง AMD คือ “Next-Gen Platform” ที่คาดว่าจะเป็นซีรีส์ 900 สำหรับ Zen 6 บนซ็อกเก็ต AM5 เช่นเดิม Nova Lake-S ถูกออกแบบมาให้เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของ Intel ในรอบหลายปี โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ multi-tile ที่ประกอบด้วย 16 P-cores, 32 E-cores และ 4 LP-E cores รวมเป็น 52 คอร์ในรุ่นสูงสุด โดยไม่มี SMT บน P-core และใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบผสมระหว่าง Intel 14A และ TSMC N2 สำหรับบางส่วนของ SoC ซ็อกเก็ต LGA 1954 มีขนาดเท่ากับ LGA 1700 เดิม (45 × 37.5 มม.) แต่เพิ่มจำนวนขาเพื่อรองรับพลังงานและแบนด์วิดธ์ที่สูงขึ้น พร้อมเปิดตัวคู่กับชิปเซ็ต 900-series เช่น Z990 และ H970 ที่รองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 และ Thunderbolt 5 ฝั่ง AMD ก็ไม่น้อยหน้า โดย Zen 6 จะใช้ CCD บน TSMC N2P และ IOD บน N3P ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับ 2nm และ 3nm ตามลำดับ โดยยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 และคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับเมนบอร์ดซีรีส์ 900 เช่น X970, B950 และ B940 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2026 การที่ HWiNFO เพิ่มการรองรับล่วงหน้า แสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ใกล้เข้าสู่ช่วง Pre-QS หรือการทดสอบก่อนผลิตจริง และจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันรอบใหม่ระหว่าง Intel และ AMD ในตลาดเดสก์ท็อประดับสูง ✅ การอัปเดตของ HWiNFO ➡️ เวอร์ชัน 8.31 จะรองรับ Intel Nova Lake-S และ AMD Next-Gen Platform ➡️ เป็นครั้งแรกที่ Nova Lake-S ถูกระบุใน release notes ของซอฟต์แวร์ ✅ Intel Nova Lake-S และซ็อกเก็ต LGA 1954 ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม multi-tile: 16 P-cores + 32 E-cores + 4 LP-E cores ➡️ ไม่มี SMT บน P-core และใช้ Intel 14A + TSMC N2 ➡️ ซ็อกเก็ต LGA 1954 มีขนาดเท่าเดิมแต่เพิ่มจำนวนขา ➡️ เปิดตัวพร้อมชิปเซ็ต Z990, H970 รองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Thunderbolt 5 ✅ AMD Zen 6 และแพลตฟอร์ม 900-series ➡️ ใช้ CCD บน TSMC N2P และ IOD บน N3P ➡️ ยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 และเปิดตัวพร้อม X970, B950, B940 ➡️ คาดว่าจะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2026 ✅ ความหมายต่อวงการเดสก์ท็อป ➡️ เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและ I/O ➡️ HWiNFO เตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบสเปกและการทดสอบเบื้องต้น ➡️ จุดเริ่มต้นของการแข่งขันรอบใหม่ระหว่าง Intel และ AMD https://wccftech.com/hwinfo-to-add-support-for-nova-lake-s-and-next-gen-amd-platform-likely-hinting-towards-amd-900-series-for-zen-6/
    WCCFTECH.COM
    HWiNFO To Add Support For Nova Lake-S And "Next-Gen" AMD Platform, Likely Hinting Towards AMD 900-Series For Zen 6
    The upcoming HWiNFO version 8.31 will add support for the next-gen Intel Nova Lake-S and AMD's next-gen platform support.
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 Reviews
  • เมื่อ BIOS กลายเป็นตัวจุดไฟ – เบื้องหลังปัญหา AM5 socket ไหม้

    ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้ใช้ Ryzen 9000 โดยเฉพาะรุ่น 9800X3D เริ่มรายงานปัญหาซีพียู “ไหม้” หรือ “burnout” บนเมนบอร์ด AM5 ของ ASRock จนเกิดความเสียหายทางกายภาพกับตัว socket และทำให้ซีพียูใช้งานไม่ได้

    AMD ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า สาเหตุหลักเกิดจาก BIOS ที่ไม่เป็นไปตามค่าที่ AMD แนะนำ โดยเฉพาะจาก ODM (Original Design Manufacturer) ที่ปรับแต่งค่า PBO (Precision Boost Overdrive), EDC, TDC และ “shadow voltage” เกินขอบเขตที่ปลอดภัย แม้จะเป็นการปรับเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดความร้อนสะสมจน socket เสียหายได้

    ASRock ได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 และ 3.30 เพื่อแก้ไขปัญหา โดยลดค่าการจ่ายไฟและปรับการฝึกหน่วยความจำ DDR5 ให้เสถียรมากขึ้น ซึ่งช่วยลดจำนวนเคสที่เกิด burnout ได้อย่างชัดเจน แต่ยังมีผู้ใช้บางรายที่พบปัญหาอยู่

    นอกจากนี้ยังพบว่า การเปิดใช้ EXPO (โปรไฟล์โอเวอร์คล็อกแรมของ AMD) บนเมนบอร์ด ASRock อาจทำให้ PBO ทำงานรุนแรงขึ้น แม้ในระบบที่ใช้แรมแบบ stock ก็ยังพบปัญหา ทำให้หลายคนเลือกปิดฟีเจอร์นี้เพื่อความปลอดภัย

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    AMD ยืนยันปัญหา AM5 socket burnout เกิดจาก BIOS ที่ไม่เป็นไปตามค่าที่แนะนำ
    เมนบอร์ด ASRock เป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะกับ Ryzen 9800X3D
    ปัญหาเกิดจากการปรับแต่งค่า PBO, EDC, TDC และ shadow voltage เกินขอบเขต
    ASRock ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 และ 3.30 เพื่อแก้ไขปัญหา
    BIOS ใหม่ลดแรงดันไฟฟ้าและปรับการฝึกหน่วยความจำให้เสถียรขึ้น
    AMD แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต BIOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    ปัญหาลดลงอย่างชัดเจนหลัง BIOS ใหม่ แต่ยังไม่หมดไปทั้งหมด
    Reddit มีการตั้ง megathread เพื่อรวบรวมเคสที่เกิดปัญหา
    AMD ทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว
    ผู้ใช้บางรายพบว่า CPU ที่เคย “ตาย” กลับมาใช้งานได้เมื่อเปลี่ยนเมนบอร์ด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ASRock ยอมรับว่า EXPO และ auto PBO บน BIOS เดิมมีความรุนแรงเกินไป
    AGESA คือชุดคำสั่งที่ AMD ให้กับผู้ผลิตเมนบอร์ดเพื่อควบคุมการทำงานของ CPU
    การฝึกหน่วยความจำ DDR5 ที่ไม่เสถียรอาจทำให้ VSOC ต่ำเกินไป
    เมนบอร์ดจากแบรนด์อื่น เช่น Asus, MSI, Gigabyte พบปัญหาน้อยกว่ามาก
    การ rollback BIOS ไปเวอร์ชันก่อนหน้าอาจช่วยให้ CPU ที่ “bricked” กลับมาใช้งานได้
    AMD เคยออกคำเตือนเรื่อง BIOS ไม่ตรงมาตรฐานมาแล้วหลายครั้งในอดีต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-comments-on-burning-am5-socket-chipmaker-blames-motherboard-vendors-for-not-following-official-bios-guidelines
    🎙️ เมื่อ BIOS กลายเป็นตัวจุดไฟ – เบื้องหลังปัญหา AM5 socket ไหม้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้ใช้ Ryzen 9000 โดยเฉพาะรุ่น 9800X3D เริ่มรายงานปัญหาซีพียู “ไหม้” หรือ “burnout” บนเมนบอร์ด AM5 ของ ASRock จนเกิดความเสียหายทางกายภาพกับตัว socket และทำให้ซีพียูใช้งานไม่ได้ AMD ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า สาเหตุหลักเกิดจาก BIOS ที่ไม่เป็นไปตามค่าที่ AMD แนะนำ โดยเฉพาะจาก ODM (Original Design Manufacturer) ที่ปรับแต่งค่า PBO (Precision Boost Overdrive), EDC, TDC และ “shadow voltage” เกินขอบเขตที่ปลอดภัย แม้จะเป็นการปรับเล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดความร้อนสะสมจน socket เสียหายได้ ASRock ได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 และ 3.30 เพื่อแก้ไขปัญหา โดยลดค่าการจ่ายไฟและปรับการฝึกหน่วยความจำ DDR5 ให้เสถียรมากขึ้น ซึ่งช่วยลดจำนวนเคสที่เกิด burnout ได้อย่างชัดเจน แต่ยังมีผู้ใช้บางรายที่พบปัญหาอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่า การเปิดใช้ EXPO (โปรไฟล์โอเวอร์คล็อกแรมของ AMD) บนเมนบอร์ด ASRock อาจทำให้ PBO ทำงานรุนแรงขึ้น แม้ในระบบที่ใช้แรมแบบ stock ก็ยังพบปัญหา ทำให้หลายคนเลือกปิดฟีเจอร์นี้เพื่อความปลอดภัย 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ AMD ยืนยันปัญหา AM5 socket burnout เกิดจาก BIOS ที่ไม่เป็นไปตามค่าที่แนะนำ ➡️ เมนบอร์ด ASRock เป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะกับ Ryzen 9800X3D ➡️ ปัญหาเกิดจากการปรับแต่งค่า PBO, EDC, TDC และ shadow voltage เกินขอบเขต ➡️ ASRock ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 และ 3.30 เพื่อแก้ไขปัญหา ➡️ BIOS ใหม่ลดแรงดันไฟฟ้าและปรับการฝึกหน่วยความจำให้เสถียรขึ้น ➡️ AMD แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต BIOS เป็นเวอร์ชันล่าสุด ➡️ ปัญหาลดลงอย่างชัดเจนหลัง BIOS ใหม่ แต่ยังไม่หมดไปทั้งหมด ➡️ Reddit มีการตั้ง megathread เพื่อรวบรวมเคสที่เกิดปัญหา ➡️ AMD ทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว ➡️ ผู้ใช้บางรายพบว่า CPU ที่เคย “ตาย” กลับมาใช้งานได้เมื่อเปลี่ยนเมนบอร์ด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ASRock ยอมรับว่า EXPO และ auto PBO บน BIOS เดิมมีความรุนแรงเกินไป ➡️ AGESA คือชุดคำสั่งที่ AMD ให้กับผู้ผลิตเมนบอร์ดเพื่อควบคุมการทำงานของ CPU ➡️ การฝึกหน่วยความจำ DDR5 ที่ไม่เสถียรอาจทำให้ VSOC ต่ำเกินไป ➡️ เมนบอร์ดจากแบรนด์อื่น เช่น Asus, MSI, Gigabyte พบปัญหาน้อยกว่ามาก ➡️ การ rollback BIOS ไปเวอร์ชันก่อนหน้าอาจช่วยให้ CPU ที่ “bricked” กลับมาใช้งานได้ ➡️ AMD เคยออกคำเตือนเรื่อง BIOS ไม่ตรงมาตรฐานมาแล้วหลายครั้งในอดีต https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-comments-on-burning-am5-socket-chipmaker-blames-motherboard-vendors-for-not-following-official-bios-guidelines
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD comments on burning AM5 sockets — chipmaker blames motherboard vendors for not following official BIOS guidelines
    AMD provides an official response to the latest AM5 burnout/failure issues primarily affecting ASRock motherboards.
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • เมื่อชิปโน้ตบุ๊กถูกปลดปล่อยสู่โลกเดสก์ท็อป – และมันแรงกว่าที่คิด

    ในโลกของฮาร์ดแวร์พีซี มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก: การนำซีพียูโมบายมาใช้ในเมนบอร์ดเดสก์ท็อปอย่างเป็นทางการ แต่ Aoostar ผู้ผลิตจากจีนได้เปิดตัวเมนบอร์ด MoDT (Mobile on Desktop) รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ Ryzen 9 9955HX และ 9955HX3D ซึ่งเป็นชิปโมบายระดับสูงสุดของ AMD ในปี 2025

    ทั้งสองรุ่นเป็นซีพียู 16 คอร์ 32 เธรด บนสถาปัตยกรรม Zen 5 โดยรุ่น 9955HX3D มาพร้อมกับ 3D V-Cache ขนาด 144MB ซึ่งมากกว่ารุ่นธรรมดาถึงสองเท่า และมี boost clock สูงสุดที่ 5.4GHz พร้อม TDP เริ่มต้นที่ 54–55W แต่สามารถปรับได้ถึง 75W เมื่อใช้ระบบระบายความร้อนแบบเดสก์ท็อป

    เมนบอร์ดของ Aoostar มาในขนาด microATX พร้อม PCIe 5.0 x16 สำหรับการ์ดจอ, M.2 Gen5 x4 สองช่องสำหรับ SSD, และรองรับ DDR5 แบบ dual-channel สูงสุด 128GB โดยใช้ DIMM มาตรฐาน ไม่ใช่ SO-DIMM แบบโน้ตบุ๊ก

    แม้ซีพียูจะถูกบัดกรีติดกับเมนบอร์ด (ไม่สามารถเปลี่ยนได้) แต่ทุกอย่างอื่นเป็นมาตรฐานเดสก์ท็อป เช่น พอร์ต SATA, ระบบเสียง 7.1 channel, และการใช้พาวเวอร์ซัพพลายแบบ ATX ปกติ

    ราคาของชุดนี้ถือว่าน่าสนใจมาก: รุ่น 9955HX อยู่ที่ประมาณ $530 ส่วนรุ่น 9955HX3D อยู่ที่ $670 ซึ่งถูกกว่าการซื้อซีพียูเดสก์ท็อป Ryzen 9 9950X3D แยกต่างหาก และยังได้เมนบอร์ดมาด้วย

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Aoostar เปิดตัวเมนบอร์ด MoDT ที่มาพร้อม Ryzen 9 9955HX และ 9955HX3D
    ทั้งสองรุ่นเป็นซีพียู 16 คอร์ 32 เธรด บนสถาปัตยกรรม Zen 5
    รุ่น 9955HX3D มี 3D V-Cache ขนาด 144MB ส่วนรุ่นธรรมดามี 72MB
    Boost clock สูงสุด 5.4GHz และ TDP เริ่มต้นที่ 54–55W ปรับได้ถึง 75W
    เมนบอร์ดขนาด microATX พร้อม PCIe 5.0 x16 และ M.2 Gen5 x4 สองช่อง
    รองรับ DDR5 dual-channel สูงสุด 128GB แบบ DIMM มาตรฐาน
    ใช้พาวเวอร์ซัพพลายแบบ ATX และมีระบบเสียง 7.1 channel
    มีระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber ติดมากับซีพียู
    ราคาชุด 9955HX อยู่ที่ $530 ส่วนรุ่น 9955HX3D อยู่ที่ $670
    ถูกกว่าซีพียูเดสก์ท็อป Ryzen 9 9950X3D ที่ขายแยก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    MoDT (Mobile on Desktop) เป็นแนวทางที่นิยมในจีนเพื่อประหยัดงบ
    Aoostar เคยผลิต mini PC และเมนบอร์ดขนาดเล็กมาก่อน
    Ryzen 9 9955HX3D ใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache รุ่นที่สอง
    เมนบอร์ดใช้ VRM แบบ 10-phase ซึ่งเทียบได้กับ B650 ระดับกลาง
    ใช้ retention bracket แบบ AM5 ทำให้รองรับฮีตซิงก์ทั่วไปในตลาด
    มีพอร์ต SATA III และ USB หลากหลาย รวมถึงพอร์ตเสียงแบบแยก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-unleashes-the-power-of-mobile-fire-range-chips-on-a-desktop-pc-motherboard-ryzen-9-9955hx-and-ryzen-9-9955hx3d-debut-on-aoostar-board
    🎙️ เมื่อชิปโน้ตบุ๊กถูกปลดปล่อยสู่โลกเดสก์ท็อป – และมันแรงกว่าที่คิด ในโลกของฮาร์ดแวร์พีซี มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก: การนำซีพียูโมบายมาใช้ในเมนบอร์ดเดสก์ท็อปอย่างเป็นทางการ แต่ Aoostar ผู้ผลิตจากจีนได้เปิดตัวเมนบอร์ด MoDT (Mobile on Desktop) รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ Ryzen 9 9955HX และ 9955HX3D ซึ่งเป็นชิปโมบายระดับสูงสุดของ AMD ในปี 2025 ทั้งสองรุ่นเป็นซีพียู 16 คอร์ 32 เธรด บนสถาปัตยกรรม Zen 5 โดยรุ่น 9955HX3D มาพร้อมกับ 3D V-Cache ขนาด 144MB ซึ่งมากกว่ารุ่นธรรมดาถึงสองเท่า และมี boost clock สูงสุดที่ 5.4GHz พร้อม TDP เริ่มต้นที่ 54–55W แต่สามารถปรับได้ถึง 75W เมื่อใช้ระบบระบายความร้อนแบบเดสก์ท็อป เมนบอร์ดของ Aoostar มาในขนาด microATX พร้อม PCIe 5.0 x16 สำหรับการ์ดจอ, M.2 Gen5 x4 สองช่องสำหรับ SSD, และรองรับ DDR5 แบบ dual-channel สูงสุด 128GB โดยใช้ DIMM มาตรฐาน ไม่ใช่ SO-DIMM แบบโน้ตบุ๊ก แม้ซีพียูจะถูกบัดกรีติดกับเมนบอร์ด (ไม่สามารถเปลี่ยนได้) แต่ทุกอย่างอื่นเป็นมาตรฐานเดสก์ท็อป เช่น พอร์ต SATA, ระบบเสียง 7.1 channel, และการใช้พาวเวอร์ซัพพลายแบบ ATX ปกติ ราคาของชุดนี้ถือว่าน่าสนใจมาก: รุ่น 9955HX อยู่ที่ประมาณ $530 ส่วนรุ่น 9955HX3D อยู่ที่ $670 ซึ่งถูกกว่าการซื้อซีพียูเดสก์ท็อป Ryzen 9 9950X3D แยกต่างหาก และยังได้เมนบอร์ดมาด้วย 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Aoostar เปิดตัวเมนบอร์ด MoDT ที่มาพร้อม Ryzen 9 9955HX และ 9955HX3D ➡️ ทั้งสองรุ่นเป็นซีพียู 16 คอร์ 32 เธรด บนสถาปัตยกรรม Zen 5 ➡️ รุ่น 9955HX3D มี 3D V-Cache ขนาด 144MB ส่วนรุ่นธรรมดามี 72MB ➡️ Boost clock สูงสุด 5.4GHz และ TDP เริ่มต้นที่ 54–55W ปรับได้ถึง 75W ➡️ เมนบอร์ดขนาด microATX พร้อม PCIe 5.0 x16 และ M.2 Gen5 x4 สองช่อง ➡️ รองรับ DDR5 dual-channel สูงสุด 128GB แบบ DIMM มาตรฐาน ➡️ ใช้พาวเวอร์ซัพพลายแบบ ATX และมีระบบเสียง 7.1 channel ➡️ มีระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber ติดมากับซีพียู ➡️ ราคาชุด 9955HX อยู่ที่ $530 ส่วนรุ่น 9955HX3D อยู่ที่ $670 ➡️ ถูกกว่าซีพียูเดสก์ท็อป Ryzen 9 9950X3D ที่ขายแยก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ MoDT (Mobile on Desktop) เป็นแนวทางที่นิยมในจีนเพื่อประหยัดงบ ➡️ Aoostar เคยผลิต mini PC และเมนบอร์ดขนาดเล็กมาก่อน ➡️ Ryzen 9 9955HX3D ใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache รุ่นที่สอง ➡️ เมนบอร์ดใช้ VRM แบบ 10-phase ซึ่งเทียบได้กับ B650 ระดับกลาง ➡️ ใช้ retention bracket แบบ AM5 ทำให้รองรับฮีตซิงก์ทั่วไปในตลาด ➡️ มีพอร์ต SATA III และ USB หลากหลาย รวมถึงพอร์ตเสียงแบบแยก https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-unleashes-the-power-of-mobile-fire-range-chips-on-a-desktop-pc-motherboard-ryzen-9-9955hx-and-ryzen-9-9955hx3d-debut-on-aoostar-board
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • AMD ปิดตำนาน B650 – เปิดทางสู่ B850 ที่แรงกว่าแต่แพงขึ้น

    ในโลกของฮาร์ดแวร์ที่เปลี่ยนแปลงเร็วเหมือนกระแสไฟ AMD ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะยุติการผลิตชิปเซ็ต B650 ซึ่งเคยเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ใช้งานระดับกลางที่ต้องการเข้าสู่แพลตฟอร์ม AM5 โดยราคาที่เคยเริ่มต้นราว $125 และลดลงต่ำกว่า $100 ทำให้ B650 เป็นขวัญใจสายประกอบคอมงบจำกัด

    แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้า AMD ก็ต้องปรับตัว โดยเปิดตัวชิปเซ็ต B850 และ B840 ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี 2025 โดย B850 มาพร้อมกับการรองรับ PCIe 5.0 ที่กว้างขึ้น ทั้งในช่องเสียบ GPU และ M.2 NVMe ซึ่งใน B650 นั้นยังเป็นตัวเลือกเสริม ไม่ได้บังคับให้มี

    AMD ระบุว่าการเปลี่ยนผ่านนี้จะช่วยให้แพลตฟอร์ม AM5 พร้อมสำหรับอนาคต ทั้งในด้านการเชื่อมต่อ ความเร็วในการจัดเก็บข้อมูล และการขยายระบบ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งาน Ryzen 9000 และรุ่นใหม่ ๆ ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

    แม้จะมีข่าวดีเรื่องฟีเจอร์ใหม่ แต่ก็มีผลกระทบตามมา เพราะ B850 มีราคาสูงกว่า B650 และผู้ผลิตเมนบอร์ดไม่สามารถสั่งซื้อ B650 เพิ่มได้อีกแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานที่ต้องการประกอบคอมราคาประหยัดต้องรีบคว้า B650 ที่ยังเหลืออยู่ในตลาดก่อนหมด

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    AMD ประกาศยุติการผลิตชิปเซ็ต B650 อย่างเป็นทางการ
    ผู้ผลิตเมนบอร์ดไม่สามารถสั่งซื้อ B650 เพิ่มได้อีก
    AMD แนะนำให้เปลี่ยนผ่านไปใช้ B850 และ B840 แทน
    B850 รองรับ PCIe 5.0 สำหรับ M.2 NVMe แบบบังคับ และ GPU แบบเลือกได้
    B650 รองรับ PCIe 5.0 เฉพาะบางรุ่น และไม่บังคับในช่อง GPU
    B850 ใช้ชิป Promontory 21 เหมือนกับ B650 แต่มีฟีเจอร์ที่ปรับปรุง
    B650 เปิดตัวในปี 2022 และได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานระดับกลาง
    B850 เปิดตัวต้นปี 2025 พร้อมฟีเจอร์ใหม่และรองรับ Ryzen 9000
    AMD ยืนยันว่าเมนบอร์ด B650 ที่มีอยู่ยังสามารถใช้งานกับ CPU รุ่นใหม่ได้
    ผู้ผลิตเมนบอร์ดกำลังทยอยขายสต็อก B650 ให้หมดภายในไตรมาส 3–4 ปี 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ราคาของ B650 เคยลดลงต่ำกว่า $100 ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยม
    B850 มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะรุ่นที่รองรับ PCIe 5.0 เต็มรูปแบบ
    ผู้ใช้งานที่ต้องการประกอบคอมขนาดเล็กควรรีบซื้อ B650 ก่อนหมดตลาด
    B850 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ GPU และ SSD รุ่นใหม่ได้เต็มประสิทธิภาพ
    การเปลี่ยนผ่านนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรีเฟรชแพลตฟอร์ม AM5 ในปี 2024–2025

    https://www.tomshardware.com/pc-components/chipsets/amd-discontinues-b650-chipset-to-transition-to-the-newer-b850-chipset-affordable-am5-motherboards-just-got-a-bit-pricier
    🎙️ AMD ปิดตำนาน B650 – เปิดทางสู่ B850 ที่แรงกว่าแต่แพงขึ้น ในโลกของฮาร์ดแวร์ที่เปลี่ยนแปลงเร็วเหมือนกระแสไฟ AMD ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะยุติการผลิตชิปเซ็ต B650 ซึ่งเคยเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ใช้งานระดับกลางที่ต้องการเข้าสู่แพลตฟอร์ม AM5 โดยราคาที่เคยเริ่มต้นราว $125 และลดลงต่ำกว่า $100 ทำให้ B650 เป็นขวัญใจสายประกอบคอมงบจำกัด แต่เมื่อเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้า AMD ก็ต้องปรับตัว โดยเปิดตัวชิปเซ็ต B850 และ B840 ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี 2025 โดย B850 มาพร้อมกับการรองรับ PCIe 5.0 ที่กว้างขึ้น ทั้งในช่องเสียบ GPU และ M.2 NVMe ซึ่งใน B650 นั้นยังเป็นตัวเลือกเสริม ไม่ได้บังคับให้มี AMD ระบุว่าการเปลี่ยนผ่านนี้จะช่วยให้แพลตฟอร์ม AM5 พร้อมสำหรับอนาคต ทั้งในด้านการเชื่อมต่อ ความเร็วในการจัดเก็บข้อมูล และการขยายระบบ โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งาน Ryzen 9000 และรุ่นใหม่ ๆ ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด แม้จะมีข่าวดีเรื่องฟีเจอร์ใหม่ แต่ก็มีผลกระทบตามมา เพราะ B850 มีราคาสูงกว่า B650 และผู้ผลิตเมนบอร์ดไม่สามารถสั่งซื้อ B650 เพิ่มได้อีกแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานที่ต้องการประกอบคอมราคาประหยัดต้องรีบคว้า B650 ที่ยังเหลืออยู่ในตลาดก่อนหมด 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ AMD ประกาศยุติการผลิตชิปเซ็ต B650 อย่างเป็นทางการ ➡️ ผู้ผลิตเมนบอร์ดไม่สามารถสั่งซื้อ B650 เพิ่มได้อีก ➡️ AMD แนะนำให้เปลี่ยนผ่านไปใช้ B850 และ B840 แทน ➡️ B850 รองรับ PCIe 5.0 สำหรับ M.2 NVMe แบบบังคับ และ GPU แบบเลือกได้ ➡️ B650 รองรับ PCIe 5.0 เฉพาะบางรุ่น และไม่บังคับในช่อง GPU ➡️ B850 ใช้ชิป Promontory 21 เหมือนกับ B650 แต่มีฟีเจอร์ที่ปรับปรุง ➡️ B650 เปิดตัวในปี 2022 และได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานระดับกลาง ➡️ B850 เปิดตัวต้นปี 2025 พร้อมฟีเจอร์ใหม่และรองรับ Ryzen 9000 ➡️ AMD ยืนยันว่าเมนบอร์ด B650 ที่มีอยู่ยังสามารถใช้งานกับ CPU รุ่นใหม่ได้ ➡️ ผู้ผลิตเมนบอร์ดกำลังทยอยขายสต็อก B650 ให้หมดภายในไตรมาส 3–4 ปี 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ราคาของ B650 เคยลดลงต่ำกว่า $100 ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยม ➡️ B850 มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะรุ่นที่รองรับ PCIe 5.0 เต็มรูปแบบ ➡️ ผู้ใช้งานที่ต้องการประกอบคอมขนาดเล็กควรรีบซื้อ B650 ก่อนหมดตลาด ➡️ B850 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ GPU และ SSD รุ่นใหม่ได้เต็มประสิทธิภาพ ➡️ การเปลี่ยนผ่านนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรีเฟรชแพลตฟอร์ม AM5 ในปี 2024–2025 https://www.tomshardware.com/pc-components/chipsets/amd-discontinues-b650-chipset-to-transition-to-the-newer-b850-chipset-affordable-am5-motherboards-just-got-a-bit-pricier
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 Reviews
  • Ryzen 5 9500F – ชิปประหยัดรุ่นใหม่จาก AMD ที่แรงเกินราคา

    AMD กำลังขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ Ryzen 9000 ด้วยรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Ryzen 5 9500F ซึ่งหลุดข้อมูลผ่าน Geekbench โดยมีสเปกใกล้เคียงกับ Ryzen 5 9600 แต่ไม่มีกราฟิกในตัว (iGPU) ทำให้ราคาน่าจะต่ำกว่า $200

    Ryzen 5 9500F ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 “Granite Ridge” มี 6 คอร์ 12 เธรด พร้อม L3 cache ขนาด 32MB และ L2 cache 6MB ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 3.8GHz และบูสต์ได้สูงสุดถึง 5.0GHz ซึ่งใกล้เคียงกับ Ryzen 5 9600 ที่บูสต์ได้ 5.2GHz

    ผลการทดสอบ Geekbench 6 แสดงให้เห็นว่า Ryzen 5 9500F ทำคะแนน single-core ได้ 3,122 และ multi-core ได้ 14,369 ซึ่งแทบไม่ต่างจาก Ryzen 5 9600 ที่ทำได้ 3,166 / 14,257 แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกันมาก

    แม้ AMD ยังไม่ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่มีข้อมูลจากผู้ผลิตเมนบอร์ดว่า AGESA เวอร์ชันล่าสุดรองรับชิปรุ่นนี้แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเปิดตัวเร็ว ๆ นี้

    ข้อมูลในข่าว
    Ryzen 5 9500F เป็นซีพียู Zen 5 รุ่นใหม่ที่ไม่มี iGPU
    มี 6 คอร์ 12 เธรด พร้อม L3 cache 32MB และ L2 cache 6MB
    ความเร็วพื้นฐาน 3.8GHz และบูสต์สูงสุด 5.0GHz
    ใช้สถาปัตยกรรม Granite Ridge เหมือน Ryzen 5 9600
    คะแนน Geekbench: 3,122 (single-core) / 14,369 (multi-core)
    ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Ryzen 5 9600 ที่มี iGPU
    คาดว่าจะมีราคาไม่เกิน $179 ซึ่งต่ำกว่า Ryzen 5 9600X
    AGESA เวอร์ชันล่าสุดรองรับ Ryzen 5 9500F แล้ว
    ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการกราฟิกในตัว เช่น เกมเมอร์ที่ใช้การ์ดจอแยก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Ryzen 5 9500F เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาประหยัด
    การไม่มี iGPU ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน
    Granite Ridge ใช้เทคโนโลยีการผลิต 4nm จาก TSMC
    รองรับ DDR5 และ PCIe 5.0 บนแพลตฟอร์ม AM5
    เหมาะกับเมนบอร์ด B850 และ X870 ที่เปิดตัวในปี 2025
    การแข่งขันในตลาดซีพียูระดับกลางยังคงดุเดือด โดย Intel เตรียมเปิดตัว Core i5-14600

    https://wccftech.com/amd-ryzen-5-9500f-spotted-on-geekbench/
    💻 Ryzen 5 9500F – ชิปประหยัดรุ่นใหม่จาก AMD ที่แรงเกินราคา AMD กำลังขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ Ryzen 9000 ด้วยรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Ryzen 5 9500F ซึ่งหลุดข้อมูลผ่าน Geekbench โดยมีสเปกใกล้เคียงกับ Ryzen 5 9600 แต่ไม่มีกราฟิกในตัว (iGPU) ทำให้ราคาน่าจะต่ำกว่า $200 Ryzen 5 9500F ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 “Granite Ridge” มี 6 คอร์ 12 เธรด พร้อม L3 cache ขนาด 32MB และ L2 cache 6MB ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 3.8GHz และบูสต์ได้สูงสุดถึง 5.0GHz ซึ่งใกล้เคียงกับ Ryzen 5 9600 ที่บูสต์ได้ 5.2GHz ผลการทดสอบ Geekbench 6 แสดงให้เห็นว่า Ryzen 5 9500F ทำคะแนน single-core ได้ 3,122 และ multi-core ได้ 14,369 ซึ่งแทบไม่ต่างจาก Ryzen 5 9600 ที่ทำได้ 3,166 / 14,257 แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกันมาก แม้ AMD ยังไม่ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่มีข้อมูลจากผู้ผลิตเมนบอร์ดว่า AGESA เวอร์ชันล่าสุดรองรับชิปรุ่นนี้แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Ryzen 5 9500F เป็นซีพียู Zen 5 รุ่นใหม่ที่ไม่มี iGPU ➡️ มี 6 คอร์ 12 เธรด พร้อม L3 cache 32MB และ L2 cache 6MB ➡️ ความเร็วพื้นฐาน 3.8GHz และบูสต์สูงสุด 5.0GHz ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Granite Ridge เหมือน Ryzen 5 9600 ➡️ คะแนน Geekbench: 3,122 (single-core) / 14,369 (multi-core) ➡️ ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Ryzen 5 9600 ที่มี iGPU ➡️ คาดว่าจะมีราคาไม่เกิน $179 ซึ่งต่ำกว่า Ryzen 5 9600X ➡️ AGESA เวอร์ชันล่าสุดรองรับ Ryzen 5 9500F แล้ว ➡️ ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการกราฟิกในตัว เช่น เกมเมอร์ที่ใช้การ์ดจอแยก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Ryzen 5 9500F เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาประหยัด ➡️ การไม่มี iGPU ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน ➡️ Granite Ridge ใช้เทคโนโลยีการผลิต 4nm จาก TSMC ➡️ รองรับ DDR5 และ PCIe 5.0 บนแพลตฟอร์ม AM5 ➡️ เหมาะกับเมนบอร์ด B850 และ X870 ที่เปิดตัวในปี 2025 ➡️ การแข่งขันในตลาดซีพียูระดับกลางยังคงดุเดือด โดย Intel เตรียมเปิดตัว Core i5-14600 https://wccftech.com/amd-ryzen-5-9500f-spotted-on-geekbench/
    WCCFTECH.COM
    AMD Ryzen 5 9500F Leaked: Another Budget Zen 5 CPU With Six Cores And Base Clock Of 3.8 GHz
    AMD has prepared a new Ryzen 9000 CPU as spotted on Geekbench. The CPU is the Ryzen 5 9500F, which is a 6-core/12-thread SKU.
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/JMNtlEiAfKY?si=JCB-HdJoaM5uLopQ
    https://youtu.be/JMNtlEiAfKY?si=JCB-HdJoaM5uLopQ
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกซีพียู: AM6 ซ็อกเก็ตใหม่จาก AMD ที่อัดแน่นด้วยขา 2,100 จุดในขนาดเดิม

    AMD กำลังเตรียมเปิดตัวซ็อกเก็ตรุ่นใหม่ชื่อว่า AM6 ซึ่งจะมาแทนที่ AM5 ในอนาคต โดยมีจุดเด่นคือจำนวนขาที่เพิ่มขึ้นจาก 1,718 เป็น 2,100 ขา หรือเพิ่มขึ้นถึง 22% โดยยังคงขนาดเท่าเดิม ทำให้สามารถใช้ชุดระบายความร้อนเดิมของ AM5 และ AM4 ได้

    การเพิ่มจำนวนขานี้ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะมันเปิดโอกาสให้รองรับการจ่ายไฟมากกว่า 200 วัตต์, เพิ่มช่องทางรับส่งข้อมูล และเตรียมพร้อมสำหรับเทคโนโลยี PCIe 6.0 และ DDR6 ที่จะมาในอนาคต ซึ่ง PCIe 6.0 จะมีแบนด์วิดธ์สูงถึง 256 GB/s และ DDR6 จะมีความเร็วสูงสุดถึง 17,600 MT/s

    แม้จะยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า AM6 จะเปิดตัวพร้อมกับซีพียู Zen 7 ในปี 2028 ส่วน AM5 จะยังรองรับ Zen 6 ไปอีกประมาณ 3 ปี ทำให้ผู้ใช้ยังไม่ต้องรีบเปลี่ยนแพลตฟอร์มทันที

    PCIe 6.0 มีแบนด์วิดธ์สูงสุดถึง 256 GB/s สำหรับช่อง x16
    เพิ่มขึ้นจาก PCIe 5.0 ที่มี 128 GB/s

    DDR6 จะมีความเร็วเริ่มต้นที่ 12,800 MT/s และสูงสุดถึง 17,600 MT/s
    แบนด์วิดธ์เพิ่มขึ้นเป็น 135 GB/s เทียบกับ DDR5 ที่ 67 GB/s

    การเพิ่มจำนวนขาในซ็อกเก็ตช่วยให้รองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้มากขึ้น
    เช่น ช่องทางข้อมูลเพิ่มเติม, การเชื่อมต่อ USB4, และการควบคุมหน่วยความจำ

    การรักษาขนาดซ็อกเก็ตเดิมช่วยลดต้นทุนผู้ใช้ในการอัปเกรด
    โดยไม่ต้องซื้อชุดระบายความร้อนใหม่

    https://www.techpowerup.com/339636/amds-next-gen-am6-socket-expected-to-boost-pin-count-to-2100-while-matching-am5-size
    🧩⚙️ เรื่องเล่าจากโลกซีพียู: AM6 ซ็อกเก็ตใหม่จาก AMD ที่อัดแน่นด้วยขา 2,100 จุดในขนาดเดิม AMD กำลังเตรียมเปิดตัวซ็อกเก็ตรุ่นใหม่ชื่อว่า AM6 ซึ่งจะมาแทนที่ AM5 ในอนาคต โดยมีจุดเด่นคือจำนวนขาที่เพิ่มขึ้นจาก 1,718 เป็น 2,100 ขา หรือเพิ่มขึ้นถึง 22% โดยยังคงขนาดเท่าเดิม ทำให้สามารถใช้ชุดระบายความร้อนเดิมของ AM5 และ AM4 ได้ การเพิ่มจำนวนขานี้ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะมันเปิดโอกาสให้รองรับการจ่ายไฟมากกว่า 200 วัตต์, เพิ่มช่องทางรับส่งข้อมูล และเตรียมพร้อมสำหรับเทคโนโลยี PCIe 6.0 และ DDR6 ที่จะมาในอนาคต ซึ่ง PCIe 6.0 จะมีแบนด์วิดธ์สูงถึง 256 GB/s และ DDR6 จะมีความเร็วสูงสุดถึง 17,600 MT/s แม้จะยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า AM6 จะเปิดตัวพร้อมกับซีพียู Zen 7 ในปี 2028 ส่วน AM5 จะยังรองรับ Zen 6 ไปอีกประมาณ 3 ปี ทำให้ผู้ใช้ยังไม่ต้องรีบเปลี่ยนแพลตฟอร์มทันที ✅ PCIe 6.0 มีแบนด์วิดธ์สูงสุดถึง 256 GB/s สำหรับช่อง x16 ➡️ เพิ่มขึ้นจาก PCIe 5.0 ที่มี 128 GB/s ✅ DDR6 จะมีความเร็วเริ่มต้นที่ 12,800 MT/s และสูงสุดถึง 17,600 MT/s ➡️ แบนด์วิดธ์เพิ่มขึ้นเป็น 135 GB/s เทียบกับ DDR5 ที่ 67 GB/s ✅ การเพิ่มจำนวนขาในซ็อกเก็ตช่วยให้รองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ➡️ เช่น ช่องทางข้อมูลเพิ่มเติม, การเชื่อมต่อ USB4, และการควบคุมหน่วยความจำ ✅ การรักษาขนาดซ็อกเก็ตเดิมช่วยลดต้นทุนผู้ใช้ในการอัปเกรด ➡️ โดยไม่ต้องซื้อชุดระบายความร้อนใหม่ https://www.techpowerup.com/339636/amds-next-gen-am6-socket-expected-to-boost-pin-count-to-2100-while-matching-am5-size
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD's Next-Gen AM6 Socket Expected to Boost Pin Count to 2100 While Matching AM5 Size
    AMD's next AM6 socket will have a much higher pin count while still working with current cooling systems. New patents filed by AMD (US 20250149248) and reports from Bits&Chips cited by Wccftech show that the socket will have 2100 pins up from AM5's 1718 pins. This 22% jump in pins could lead to bett...
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากห้องแล็บ: เมื่อ AMD ส่งชิป “PRO” และ “F” ลงตลาดเพื่อจับกลุ่มใหม่

    ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 มีข้อมูลหลุดจากเว็บไซต์ ASUS ที่เผยให้เห็นว่า AMD เตรียมเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ในตระกูล Ryzen 9000 ได้แก่:

    Ryzen 7 9700F: เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ Zen 5 ที่ไม่มี iGPU (กราฟิกในตัว) โดยมีสเปกใกล้เคียงกับ 9700X คือ 8 คอร์ 16 เธรด, L3 cache 32MB, base clock 3.8GHz และ TDP 65W เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีการ์ดจอแยกอยู่แล้ว

    Ryzen PRO 9000 Series: เป็นซีพียูสำหรับองค์กรขนาดเล็กหรือเวิร์กสเตชันระดับเริ่มต้น โดยมี 3 รุ่นย่อย:
    - PRO 9 9945: 12 คอร์ 24 เธรด, base clock 3.4GHz, L3 cache 64MB
    - PRO 7 9745: 8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8GHz, L3 cache 32MB
    - PRO 5 9645: 6 คอร์ 12 เธรด, base clock 3.9GHz, L3 cache 32MB

    ทั้งหมดมี TDP 65W และใช้สถาปัตยกรรม Granite Ridge (Zen 5) เหมือนกับรุ่นคอนซูเมอร์ แต่เน้นความเสถียรและการจัดการสำหรับองค์กร

    Ryzen 7 9700F เป็นซีพียู Zen 5 รุ่นแรกที่ไม่มี iGPU
    ต้องใช้การ์ดจอแยกในการแสดงผล
    สเปกใกล้เคียงกับ 9700X แต่ราคาถูกกว่า

    PRO 9000 Series เป็นรุ่นสำหรับองค์กรขนาดเล็ก
    มี 3 รุ่นย่อย: PRO 9 9945, PRO 7 9745, PRO 5 9645
    ใช้สเปกใกล้เคียงกับรุ่นคอนซูเมอร์แต่เน้นความเสถียร

    PRO 9 9945 มีสเปกเท่ากับ Ryzen 9 9900X แต่ clock ต่ำกว่า
    ลด TDP จาก 120W เหลือ 65W เพื่อความประหยัดพลังงาน
    เหมาะกับองค์กรที่ต้องการประสิทธิภาพแต่ควบคุมความร้อน

    PRO 7 9745 มีสเปกเหมือนกับ Ryzen 7 9700F
    เหมาะสำหรับเวิร์กสเตชันระดับกลาง
    ใช้ได้กับเมนบอร์ด AM5 ที่รองรับ Zen 5

    PRO 5 9645 ใกล้เคียงกับ Ryzen 5 9600X
    ยังไม่มีข้อมูล boost clock
    เหมาะสำหรับงานทั่วไปในองค์กร

    https://wccftech.com/amd-prepares-granite-ridge-pro-chips-and-ryzen-7-9700f-for-consumers-as-spotted-on-asus-website-core-clock-cache-and-tdp-leaked/
    🎙️ เรื่องเล่าจากห้องแล็บ: เมื่อ AMD ส่งชิป “PRO” และ “F” ลงตลาดเพื่อจับกลุ่มใหม่ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 มีข้อมูลหลุดจากเว็บไซต์ ASUS ที่เผยให้เห็นว่า AMD เตรียมเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ในตระกูล Ryzen 9000 ได้แก่: ➡️ Ryzen 7 9700F: เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ Zen 5 ที่ไม่มี iGPU (กราฟิกในตัว) โดยมีสเปกใกล้เคียงกับ 9700X คือ 8 คอร์ 16 เธรด, L3 cache 32MB, base clock 3.8GHz และ TDP 65W เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีการ์ดจอแยกอยู่แล้ว ➡️ Ryzen PRO 9000 Series: เป็นซีพียูสำหรับองค์กรขนาดเล็กหรือเวิร์กสเตชันระดับเริ่มต้น โดยมี 3 รุ่นย่อย: - PRO 9 9945: 12 คอร์ 24 เธรด, base clock 3.4GHz, L3 cache 64MB - PRO 7 9745: 8 คอร์ 16 เธรด, base clock 3.8GHz, L3 cache 32MB - PRO 5 9645: 6 คอร์ 12 เธรด, base clock 3.9GHz, L3 cache 32MB ทั้งหมดมี TDP 65W และใช้สถาปัตยกรรม Granite Ridge (Zen 5) เหมือนกับรุ่นคอนซูเมอร์ แต่เน้นความเสถียรและการจัดการสำหรับองค์กร ✅ Ryzen 7 9700F เป็นซีพียู Zen 5 รุ่นแรกที่ไม่มี iGPU ➡️ ต้องใช้การ์ดจอแยกในการแสดงผล ➡️ สเปกใกล้เคียงกับ 9700X แต่ราคาถูกกว่า ✅ PRO 9000 Series เป็นรุ่นสำหรับองค์กรขนาดเล็ก ➡️ มี 3 รุ่นย่อย: PRO 9 9945, PRO 7 9745, PRO 5 9645 ➡️ ใช้สเปกใกล้เคียงกับรุ่นคอนซูเมอร์แต่เน้นความเสถียร ✅ PRO 9 9945 มีสเปกเท่ากับ Ryzen 9 9900X แต่ clock ต่ำกว่า ➡️ ลด TDP จาก 120W เหลือ 65W เพื่อความประหยัดพลังงาน ➡️ เหมาะกับองค์กรที่ต้องการประสิทธิภาพแต่ควบคุมความร้อน ✅ PRO 7 9745 มีสเปกเหมือนกับ Ryzen 7 9700F ➡️ เหมาะสำหรับเวิร์กสเตชันระดับกลาง ➡️ ใช้ได้กับเมนบอร์ด AM5 ที่รองรับ Zen 5 ✅ PRO 5 9645 ใกล้เคียงกับ Ryzen 5 9600X ➡️ ยังไม่มีข้อมูล boost clock ➡️ เหมาะสำหรับงานทั่วไปในองค์กร https://wccftech.com/amd-prepares-granite-ridge-pro-chips-and-ryzen-7-9700f-for-consumers-as-spotted-on-asus-website-core-clock-cache-and-tdp-leaked/
    WCCFTECH.COM
    AMD Prepares Granite Ridge PRO Chips And Ryzen 7 9700F For Consumers As Spotted On ASUS Website; Core Clock, Cache, And TDP Leaked
    AMD is reportedly preparing more Ryzen 9000 series processors, including the PRO variants for enterprises and the Ryzen 7 9700F without an iGPU.
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 Reviews
  • AMD Zen 6 – แรงทะลุ 7 GHz พร้อม 24 คอร์ในเดสก์ท็อป

    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Zen 6 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับ Ryzen desktop CPUs โดยมีข้อมูลหลุดจากแหล่งวงในอย่าง Yuri Bubily (ผู้สร้าง Hydra tuning software) และช่อง YouTube Moore’s Law Is Dead ที่เผยว่า Zen 6 จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดมากกว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด

    จุดเด่นของ Zen 6 ได้แก่:
    - รองรับสูงสุด 12 คอร์ต่อ CCD (Core Complex Die) และ 24 คอร์ 48 เธรดต่อชิป
    - เพิ่มแคช L3 ต่อ CCD เป็น 48 MB และอาจมีรุ่นที่ใช้ 3D V-Cache หลายชั้น รวมสูงสุดถึง 240 MB
    - ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงจาก TSMC เช่น N2X (2nm enhanced) สำหรับรุ่นท็อป
    - ความเร็วสัญญาณนาฬิกาอาจทะลุ 7 GHz ในรุ่นเดสก์ท็อประดับสูง
    - ยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 ทำให้ผู้ใช้ Ryzen รุ่นปัจจุบันสามารถอัปเกรดได้ง่าย
    - ปรับปรุง memory controller เป็นแบบ dual IMC แต่ยังใช้ DDR5 แบบ dual-channel
    - ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระบบ Boost และ Curve Optimizer ทำให้การปรับแต่งยังคงเหมือนเดิม

    Zen 6 ยังมีรุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ (Venice-class EPYC) และ APU (Medusa Point) ที่ใช้เทคโนโลยี N2P หรือ N3P ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์มากกว่าความเร็วสูงสุด

    คาดว่า Zen 6 จะเปิดตัวช่วงกลางถึงปลายปี 2026 พร้อมชนกับ Intel Nova Lake-S ที่จะใช้ซ็อกเก็ตใหม่และมีจำนวนคอร์สูงถึง 52 คอร์

    https://www.techspot.com/news/108646-amd-zen-6-could-hit-7-ghz-24.html
    AMD Zen 6 – แรงทะลุ 7 GHz พร้อม 24 คอร์ในเดสก์ท็อป AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Zen 6 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่สำหรับ Ryzen desktop CPUs โดยมีข้อมูลหลุดจากแหล่งวงในอย่าง Yuri Bubily (ผู้สร้าง Hydra tuning software) และช่อง YouTube Moore’s Law Is Dead ที่เผยว่า Zen 6 จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดมากกว่าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งหมด จุดเด่นของ Zen 6 ได้แก่: - รองรับสูงสุด 12 คอร์ต่อ CCD (Core Complex Die) และ 24 คอร์ 48 เธรดต่อชิป - เพิ่มแคช L3 ต่อ CCD เป็น 48 MB และอาจมีรุ่นที่ใช้ 3D V-Cache หลายชั้น รวมสูงสุดถึง 240 MB - ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงจาก TSMC เช่น N2X (2nm enhanced) สำหรับรุ่นท็อป - ความเร็วสัญญาณนาฬิกาอาจทะลุ 7 GHz ในรุ่นเดสก์ท็อประดับสูง - ยังคงใช้ซ็อกเก็ต AM5 ทำให้ผู้ใช้ Ryzen รุ่นปัจจุบันสามารถอัปเกรดได้ง่าย - ปรับปรุง memory controller เป็นแบบ dual IMC แต่ยังใช้ DDR5 แบบ dual-channel - ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระบบ Boost และ Curve Optimizer ทำให้การปรับแต่งยังคงเหมือนเดิม Zen 6 ยังมีรุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ (Venice-class EPYC) และ APU (Medusa Point) ที่ใช้เทคโนโลยี N2P หรือ N3P ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์มากกว่าความเร็วสูงสุด คาดว่า Zen 6 จะเปิดตัวช่วงกลางถึงปลายปี 2026 พร้อมชนกับ Intel Nova Lake-S ที่จะใช้ซ็อกเก็ตใหม่และมีจำนวนคอร์สูงถึง 52 คอร์ https://www.techspot.com/news/108646-amd-zen-6-could-hit-7-ghz-24.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD Zen 6 could hit 7 GHz and 24 cores in desktop CPUs
    Yuri Bubily, creator of the Hydra tuning software, revealed on his official Discord that engineering samples of Zen 6-based Ryzen CPUs have already reached AMD's industry partners....
    0 Comments 0 Shares 364 Views 0 Reviews
  • AMD อัปเดต AGESA 1.2.0.3e: รองรับ Ryzen 9000F และแก้ไขช่องโหว่ TPM
    AMD กำลังเตรียมปล่อย AGESA microcode update 1.2.0.3e ซึ่งมีข่าวลือว่าอาจรองรับ Ryzen 9000F-series โดยเฉพาะ Ryzen 7 9700F ที่ไม่มีกราฟิกในตัว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ Pluton TPM และ fTPM ที่อาจถูกใช้โจมตีเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ.

    รายละเอียดการอัปเดต
    AGESA 1.2.0.3e อาจรองรับ Ryzen 9000F-series ซึ่งเป็นซีพียูที่ไม่มีกราฟิกในตัว.
    Ryzen 7 9700F อาจเป็นรุ่นที่สูงสุดของ F-series โดยมี 8 คอร์ Zen 5 และ 32MB L3 Cache.
    AMD ใช้โมเดล F-series เพื่อรีไซเคิลชิปที่มีกราฟิกเสียหาย ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต.
    การอัปเดตนี้ยังแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ TPM ที่อาจถูกใช้โจมตีเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    Ryzen 9000F อาจไม่มีประสิทธิภาพด้านกราฟิก ทำให้ต้องใช้ GPU แยกสำหรับการเล่นเกมหรือทำงานด้านกราฟิก.
    ช่องโหว่ TPM อาจถูกใช้เพื่อโจมตีระบบ หากไม่ได้รับการอัปเดตอย่างเหมาะสม.
    การอัปเดต BIOS อาจมีความเสี่ยง หากไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง อาจทำให้ระบบไม่สามารถบูตได้.

    แนวทางการอัปเดตและการใช้งาน
    ตรวจสอบว่าเมนบอร์ดรองรับ AGESA 1.2.0.3e ก่อนทำการอัปเดต.
    ใช้ GPU แยกหากต้องการประสิทธิภาพด้านกราฟิก เนื่องจาก Ryzen 9000F ไม่มีกราฟิกในตัว.
    ติดตามการอัปเดตด้านความปลอดภัยของ TPM เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ryzen 9000 และ AGESA
    AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G-series ในไตรมาส 4 ปี 2025 สำหรับเมนบอร์ด AM5.
    Zen 6 Ryzen ถูกพบในฐานข้อมูล AIDA64 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการพัฒนา CPU รุ่นใหม่.
    การอัปเดต BIOS ควรทำด้วยความระมัดระวัง และสำรองข้อมูลก่อนดำเนินการ.

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/gpu-disabled-ryzen-9000f-support-suspected-in-agesa-firmware-update
    AMD อัปเดต AGESA 1.2.0.3e: รองรับ Ryzen 9000F และแก้ไขช่องโหว่ TPM AMD กำลังเตรียมปล่อย AGESA microcode update 1.2.0.3e ซึ่งมีข่าวลือว่าอาจรองรับ Ryzen 9000F-series โดยเฉพาะ Ryzen 7 9700F ที่ไม่มีกราฟิกในตัว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ Pluton TPM และ fTPM ที่อาจถูกใช้โจมตีเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ. รายละเอียดการอัปเดต ✅ AGESA 1.2.0.3e อาจรองรับ Ryzen 9000F-series ซึ่งเป็นซีพียูที่ไม่มีกราฟิกในตัว. ✅ Ryzen 7 9700F อาจเป็นรุ่นที่สูงสุดของ F-series โดยมี 8 คอร์ Zen 5 และ 32MB L3 Cache. ✅ AMD ใช้โมเดล F-series เพื่อรีไซเคิลชิปที่มีกราฟิกเสียหาย ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต. ✅ การอัปเดตนี้ยังแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ TPM ที่อาจถูกใช้โจมตีเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ Ryzen 9000F อาจไม่มีประสิทธิภาพด้านกราฟิก ทำให้ต้องใช้ GPU แยกสำหรับการเล่นเกมหรือทำงานด้านกราฟิก. ‼️ ช่องโหว่ TPM อาจถูกใช้เพื่อโจมตีระบบ หากไม่ได้รับการอัปเดตอย่างเหมาะสม. ‼️ การอัปเดต BIOS อาจมีความเสี่ยง หากไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง อาจทำให้ระบบไม่สามารถบูตได้. แนวทางการอัปเดตและการใช้งาน ✅ ตรวจสอบว่าเมนบอร์ดรองรับ AGESA 1.2.0.3e ก่อนทำการอัปเดต. ✅ ใช้ GPU แยกหากต้องการประสิทธิภาพด้านกราฟิก เนื่องจาก Ryzen 9000F ไม่มีกราฟิกในตัว. ✅ ติดตามการอัปเดตด้านความปลอดภัยของ TPM เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ryzen 9000 และ AGESA ✅ AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G-series ในไตรมาส 4 ปี 2025 สำหรับเมนบอร์ด AM5. ✅ Zen 6 Ryzen ถูกพบในฐานข้อมูล AIDA64 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการพัฒนา CPU รุ่นใหม่. ‼️ การอัปเดต BIOS ควรทำด้วยความระมัดระวัง และสำรองข้อมูลก่อนดำเนินการ. https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/gpu-disabled-ryzen-9000f-support-suspected-in-agesa-firmware-update
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    GPU-disabled Ryzen 9000F support suspected in AGESA firmware update
    The upcoming 1.2.0.3e AGESA microcode update also rectifies a TPM security vulnerability
    0 Comments 0 Shares 329 Views 0 Reviews
  • แผ่นระบายความร้อนกราฟีนสำหรับ CPU AMD: ประสิทธิภาพเหนือกว่าซิลิโคนถึง 17 เท่า
    บริษัท Coracer จากจีนได้เปิดตัว GPE-01 graphene thermal pad สำหรับ โปรเซสเซอร์ AMD AM5 ซึ่งให้ ค่าการนำความร้อนสูงถึง 130 W/m·K และมี อายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี

    ก่อนหน้านี้ GPE-01 รองรับเฉพาะ Intel LGA1851 และ LGA1700 แต่ล่าสุดได้มีรุ่นสำหรับ AMD AM5 ซึ่งมีขนาด 32 x 32 มม. และออกแบบให้ ครอบคลุม IHS ของ CPU ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

    วัสดุของแผ่นนี้เป็น กราฟีนผสมซิลิโคน ซึ่งช่วยให้ การนำความร้อนสูงกว่าซิลิโคนทั่วไปถึง 17 เท่า และ สูงกว่าของ Thermal Grizzly Conductonaut ถึง 2 เท่า

    นอกจากนี้ GPE-01 ยังถูกห่อหุ้มด้วยวัสดุฉนวน เพื่อป้องกัน การลัดวงจรระหว่างกราฟีนกับตัวโปรเซสเซอร์

    ข้อมูลจากข่าว
    - GPE-01 graphene thermal pad รองรับ AMD AM5 และมีค่าการนำความร้อนสูงถึง 130 W/m·K
    - มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี
    - ออกแบบให้ครอบคลุม IHS ของ CPU ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
    - วัสดุเป็นกราฟีนผสมซิลิโคน ช่วยให้การนำความร้อนสูงกว่าซิลิโคนทั่วไปถึง 17 เท่า
    - สูงกว่าของ Thermal Grizzly Conductonaut ถึง 2 เท่า

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ว่าค่าการนำความร้อนจะสูง แต่ต้องติดตามผลการทดสอบจริงว่ามีประสิทธิภาพตามที่ระบุหรือไม่
    - Coracer ยังไม่ได้เปิดเผยราคาหรือวันวางจำหน่ายของ GPE-01 รุ่น AMD AM5
    - ต้องตรวจสอบว่าการใช้แผ่นกราฟีนนี้จะมีผลกระทบต่ออุณหภูมิของ CPU ในระยะยาวหรือไม่
    - การติดตั้งต้องระมัดระวัง เนื่องจากกราฟีนเป็นวัสดุที่นำไฟฟ้าได้

    หาก GPE-01 สามารถทำงานได้ตามที่ระบุ อาจเป็นตัวเลือกใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าซิลิโคนและโลหะเหลว อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามผลการทดสอบจริงและการตอบรับจากผู้ใช้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-paste/graphene-thermal-pad-for-amd-cpus-promises-17x-better-conductivity-than-thermal-paste-2x-improvement-over-thermal-grizzly
    🔥 แผ่นระบายความร้อนกราฟีนสำหรับ CPU AMD: ประสิทธิภาพเหนือกว่าซิลิโคนถึง 17 เท่า บริษัท Coracer จากจีนได้เปิดตัว GPE-01 graphene thermal pad สำหรับ โปรเซสเซอร์ AMD AM5 ซึ่งให้ ค่าการนำความร้อนสูงถึง 130 W/m·K และมี อายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี ก่อนหน้านี้ GPE-01 รองรับเฉพาะ Intel LGA1851 และ LGA1700 แต่ล่าสุดได้มีรุ่นสำหรับ AMD AM5 ซึ่งมีขนาด 32 x 32 มม. และออกแบบให้ ครอบคลุม IHS ของ CPU ได้อย่างสมบูรณ์แบบ วัสดุของแผ่นนี้เป็น กราฟีนผสมซิลิโคน ซึ่งช่วยให้ การนำความร้อนสูงกว่าซิลิโคนทั่วไปถึง 17 เท่า และ สูงกว่าของ Thermal Grizzly Conductonaut ถึง 2 เท่า นอกจากนี้ GPE-01 ยังถูกห่อหุ้มด้วยวัสดุฉนวน เพื่อป้องกัน การลัดวงจรระหว่างกราฟีนกับตัวโปรเซสเซอร์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - GPE-01 graphene thermal pad รองรับ AMD AM5 และมีค่าการนำความร้อนสูงถึง 130 W/m·K - มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี - ออกแบบให้ครอบคลุม IHS ของ CPU ได้อย่างสมบูรณ์แบบ - วัสดุเป็นกราฟีนผสมซิลิโคน ช่วยให้การนำความร้อนสูงกว่าซิลิโคนทั่วไปถึง 17 เท่า - สูงกว่าของ Thermal Grizzly Conductonaut ถึง 2 เท่า ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ว่าค่าการนำความร้อนจะสูง แต่ต้องติดตามผลการทดสอบจริงว่ามีประสิทธิภาพตามที่ระบุหรือไม่ - Coracer ยังไม่ได้เปิดเผยราคาหรือวันวางจำหน่ายของ GPE-01 รุ่น AMD AM5 - ต้องตรวจสอบว่าการใช้แผ่นกราฟีนนี้จะมีผลกระทบต่ออุณหภูมิของ CPU ในระยะยาวหรือไม่ - การติดตั้งต้องระมัดระวัง เนื่องจากกราฟีนเป็นวัสดุที่นำไฟฟ้าได้ หาก GPE-01 สามารถทำงานได้ตามที่ระบุ อาจเป็นตัวเลือกใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าซิลิโคนและโลหะเหลว อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามผลการทดสอบจริงและการตอบรับจากผู้ใช้ https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-paste/graphene-thermal-pad-for-amd-cpus-promises-17x-better-conductivity-than-thermal-paste-2x-improvement-over-thermal-grizzly
    0 Comments 0 Shares 169 Views 0 Reviews
  • ลุงรออยู่พอดี รีบๆ ออกมาขายนะ !!

    AMD Ryzen 9000G APUs: สัญญาณการเปิดตัวที่ใกล้เข้ามา
    Gigabyte ได้อัปเดต หน้าความเข้ากันได้ของหน่วยความจำสำหรับเมนบอร์ด B650 โดยเปลี่ยนจาก Ryzen 9000 series เป็น Ryzen 9000G series ซึ่งเป็นสัญญาณว่า AMD อาจเตรียมเปิดตัว Ryzen 9000G APUs อย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 4 ปี 2025

    Ryzen 9000G APUs คาดว่าจะใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 iGPU ซึ่งแตกต่างจาก Ryzen 9000 รุ่นปกติที่มี iGPU เพียงเพื่อการแสดงผลพื้นฐาน

    นอกจากนี้ มีข่าวลือว่า Ryzen 9000G อาจมาพร้อมกับ Radeon 890M ซึ่งเป็น iGPU ที่ใช้ใน Windows gaming handhelds หลายรุ่น ทำให้สามารถเล่นเกม e-sports และเกมที่ใช้ทรัพยากรต่ำได้

    ข้อมูลจากข่าว
    - Gigabyte อัปเดตข้อมูลเมนบอร์ด B650 โดยเพิ่ม Ryzen 9000G series
    - Ryzen 9000G คาดว่าจะใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 iGPU
    - iGPU ใน Ryzen 9000G อาจรองรับการเล่นเกม e-sports และเกมเบา ๆ
    - AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G ในไตรมาสที่ 4 ปี 2025
    - Radeon 890M อาจเป็น iGPU ที่ใช้ใน Ryzen 9000G

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีการยืนยันจาก AMD เกี่ยวกับสเปกของ Ryzen 9000G
    - การเปลี่ยนแปลงข้อมูลของ Gigabyte อาจเป็นเพียงการเตรียมความพร้อม ไม่ใช่การยืนยันการเปิดตัว
    - Ryzen 9000G อาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับ CPU ที่ใช้ GPU แยก
    - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและวันวางจำหน่าย

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    หาก AMD เปิดตัว Ryzen 9000G พร้อม iGPU ที่มีประสิทธิภาพสูง อาจช่วยให้ตลาด APUs สำหรับเกมเมอร์และผู้ใช้ทั่วไป มีตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าประสิทธิภาพของ RDNA 3.5 iGPU จะสามารถแข่งขันกับ GPU แยกได้หรือไม่

    AMD กำลังเตรียมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ของตน และ Ryzen 9000G อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ APU ที่สามารถเล่นเกมได้โดยไม่ต้องใช้ GPU แยก

    https://www.techpowerup.com/337466/amd-ryzen-9000g-apus-appear-in-gigabyte-am5-motherboard-leak
    ลุงรออยู่พอดี รีบๆ ออกมาขายนะ !! 🔥 AMD Ryzen 9000G APUs: สัญญาณการเปิดตัวที่ใกล้เข้ามา Gigabyte ได้อัปเดต หน้าความเข้ากันได้ของหน่วยความจำสำหรับเมนบอร์ด B650 โดยเปลี่ยนจาก Ryzen 9000 series เป็น Ryzen 9000G series ซึ่งเป็นสัญญาณว่า AMD อาจเตรียมเปิดตัว Ryzen 9000G APUs อย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 4 ปี 2025 Ryzen 9000G APUs คาดว่าจะใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 iGPU ซึ่งแตกต่างจาก Ryzen 9000 รุ่นปกติที่มี iGPU เพียงเพื่อการแสดงผลพื้นฐาน นอกจากนี้ มีข่าวลือว่า Ryzen 9000G อาจมาพร้อมกับ Radeon 890M ซึ่งเป็น iGPU ที่ใช้ใน Windows gaming handhelds หลายรุ่น ทำให้สามารถเล่นเกม e-sports และเกมที่ใช้ทรัพยากรต่ำได้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Gigabyte อัปเดตข้อมูลเมนบอร์ด B650 โดยเพิ่ม Ryzen 9000G series - Ryzen 9000G คาดว่าจะใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 iGPU - iGPU ใน Ryzen 9000G อาจรองรับการเล่นเกม e-sports และเกมเบา ๆ - AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G ในไตรมาสที่ 4 ปี 2025 - Radeon 890M อาจเป็น iGPU ที่ใช้ใน Ryzen 9000G ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีการยืนยันจาก AMD เกี่ยวกับสเปกของ Ryzen 9000G - การเปลี่ยนแปลงข้อมูลของ Gigabyte อาจเป็นเพียงการเตรียมความพร้อม ไม่ใช่การยืนยันการเปิดตัว - Ryzen 9000G อาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับ CPU ที่ใช้ GPU แยก - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและวันวางจำหน่าย 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม หาก AMD เปิดตัว Ryzen 9000G พร้อม iGPU ที่มีประสิทธิภาพสูง อาจช่วยให้ตลาด APUs สำหรับเกมเมอร์และผู้ใช้ทั่วไป มีตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าประสิทธิภาพของ RDNA 3.5 iGPU จะสามารถแข่งขันกับ GPU แยกได้หรือไม่ AMD กำลังเตรียมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ของตน และ Ryzen 9000G อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ APU ที่สามารถเล่นเกมได้โดยไม่ต้องใช้ GPU แยก https://www.techpowerup.com/337466/amd-ryzen-9000g-apus-appear-in-gigabyte-am5-motherboard-leak
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Ryzen 9000G APUs Appear in Gigabyte AM5 Motherboard Leak
    It seems as though an official international launch for the elusive AMD Ryzen 9000G APUs might still be on the cards for later this year, after all. While an announcement was expected at Computex 2025, along with a full-scale retail launch later this year, AMD was suspiciously quiet about its CPUs a...
    0 Comments 0 Shares 314 Views 0 Reviews
  • ASRock ยืนยันปัญหา BIOS ทำให้ Ryzen 9000 เสียหาย
    ASRock ได้ออกมายอมรับว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ซึ่งทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย โดยบริษัทได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 เพื่อแก้ไขปัญหานี้

    ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับ Precision Boost Overdrive (PBO) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU โดย ASRock ตั้งค่า Electric Design Current (EDC), Thermal Design Current (TDC) และ shadow voltages สูงเกินไปใน BIOS เวอร์ชันก่อนหน้า ทำให้ CPU บางตัวเสียหาย

    ASRock ยืนยันว่า AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ และบริษัทจะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA (Return Merchandise Authorization) ของเมนบอร์ดที่ได้รับผลกระทบ

    ข้อมูลจากข่าว
    - ASRock ยืนยันว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย
    - BIOS เวอร์ชัน 3.25 ได้รับการปรับปรุง เพื่อลดค่าของ EDC, TDC และ shadow voltages
    - AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ ASRock รับผิดชอบทั้งหมด
    - ASRock จะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA ของเมนบอร์ด
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 ถูกติดตั้งบนเมนบอร์ดใหม่

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมี BIOS เวอร์ชันใหม่ แต่ยังมีรายงานว่า Ryzen 7 9800X3D บางตัวเสียหาย
    - ASRock เคยแก้ไขปัญหานี้มาก่อน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่า PBO ด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
    - ต้องจับตาดูว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 จะสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม
    การตั้งค่า BIOS ที่ผิดพลาดของ ASRock ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Ryzen 9000 และอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ ความน่าเชื่อถือของเมนบอร์ด ASRock ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทออกมายอมรับและเสนอการแก้ไขปัญหาแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค

    หากคุณใช้ AM5 ASRock motherboard ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชันล่าสุดถูกติดตั้งแล้ว และหากพบปัญหา ควรติดต่อ ASRock เพื่อดำเนินการ RMA

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asrock-confirms-its-bios-settings-are-killing-ryzen-cpus-is-fully-committed-to-fixing-any-damaged-motherboards
    🔧 ASRock ยืนยันปัญหา BIOS ทำให้ Ryzen 9000 เสียหาย ASRock ได้ออกมายอมรับว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ซึ่งทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย โดยบริษัทได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับ Precision Boost Overdrive (PBO) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU โดย ASRock ตั้งค่า Electric Design Current (EDC), Thermal Design Current (TDC) และ shadow voltages สูงเกินไปใน BIOS เวอร์ชันก่อนหน้า ทำให้ CPU บางตัวเสียหาย ASRock ยืนยันว่า AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ และบริษัทจะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA (Return Merchandise Authorization) ของเมนบอร์ดที่ได้รับผลกระทบ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ASRock ยืนยันว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย - BIOS เวอร์ชัน 3.25 ได้รับการปรับปรุง เพื่อลดค่าของ EDC, TDC และ shadow voltages - AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ ASRock รับผิดชอบทั้งหมด - ASRock จะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA ของเมนบอร์ด - ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 ถูกติดตั้งบนเมนบอร์ดใหม่ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมี BIOS เวอร์ชันใหม่ แต่ยังมีรายงานว่า Ryzen 7 9800X3D บางตัวเสียหาย - ASRock เคยแก้ไขปัญหานี้มาก่อน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์ - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่า PBO ด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม - ต้องจับตาดูว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 จะสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่ 🔎 ผลกระทบต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม การตั้งค่า BIOS ที่ผิดพลาดของ ASRock ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Ryzen 9000 และอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ ความน่าเชื่อถือของเมนบอร์ด ASRock ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทออกมายอมรับและเสนอการแก้ไขปัญหาแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค หากคุณใช้ AM5 ASRock motherboard ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชันล่าสุดถูกติดตั้งแล้ว และหากพบปัญหา ควรติดต่อ ASRock เพื่อดำเนินการ RMA https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asrock-confirms-its-bios-settings-are-killing-ryzen-cpus-is-fully-committed-to-fixing-any-damaged-motherboards
    0 Comments 0 Shares 441 Views 0 Reviews
  • วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับวลีรักคลาสสิกที่ได้ยินกันบ่อยในหลายละครและนิยายจีน

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ความหมายของโคมไฟใบเดียวนี้คือ ขอเพียงคนใจเดียว อีกทั้งยามนี้หิมะตกปกคลุมดูเหมือนศีรษะขาว รวมกันหมายถึง ปรารถนาคนใจเดียว เคียงข้างจนผมขาวมิร้างลา” จื่อจ๊านกล่าวต่อตี้ซวี่...
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ไข่มุกเคียงบัลลังก์> (Storyฯ แปลเองจ้า)

    วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ (愿得一心人,白头不相离) นี้ยกมาจากบทกวีที่ชื่อว่า ‘ป๋ายโถวอิ๋น’ (白头吟 /ลำนำผมขาว) ซึ่งกล่าวขานว่าเป็นบทประพันธ์ของจั๋วเหวินจวิน แต่มีคนเคยตั้งข้อสังเกตว่าดูจากสไตล์ภาษาแล้วไม่น่าจะใช่ อีกทั้งบทกวีนี้เมื่อแรกปรากฏในบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งนั้น ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง

    จั๋วเหวินจวินคือใคร เพื่อนเพจคุ้นชื่อนี้บ้างหรือไม่? เธอถูกยกย่องเป็น “ไฉหนี่ว์” (คือหญิงที่มากด้วยพรสวรรค์) ที่เลื่องชื่อด้านโคลงกลอนและพิณ เป็นผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจของการวาดคิ้วแบบ ‘หย่วนซานเหมย’ ยอดนิยม (ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเกี่ยวกับการเขียนคิ้ว) และเพื่อนเพจบางท่านอาจคุ้นชื่อของเธอจากเรื่องราวของเพลงหงษ์วอนหาคู่ เพราะเธอคือภรรยาของซือหม่าเซียงหรู (กวีเอกสมัยราชวงศ์ฮั่น เจ้าของบทประพันธ์ซ่างหลินฟู่ที่ Storyฯ เคยเขียนถึง)

    ‘ลำนำผมขาว’ เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวความรักระหว่างจั๋วเหวินจวินและซือหม่าเซียงหรูนั่นเอง

    ตำนานรักของเขามีอยู่ว่า ซือหม่าเซียงหรูสมัยที่ยังเป็นบัณฑิตไส้แห้ง ได้บรรเลงเพลงพิณหงส์วอนหาคู่ เป็นที่ต้องตาต้องใจของจั๋วเหวินจวินซึ่งเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐี จนเธอหนีตามเขาไป ทั้งสองคนเปิดร้านเหล้าช่วยกันทำมาหากินอย่างยากลำบาก จนในที่สุดจั๋วหวางซุนผู้เป็นพ่อก็ใจอ่อน ยกที่และเงินจำนวนไม่น้อยรับขวัญลูกเขยคนนี้

    ต่อมาซือหม่าเซียงหรูเข้ารับราชการจนเติบใหญ่ได้ดีอยู่ในเมืองหลวง ในขณะที่จั๋วเหวินจวินยังอยู่ที่บ้านเกิด อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ยินข่าวว่าเขาอยากจะแต่งอนุภรรยา เธอเสียใจมากและยอมรับไม่ได้ เลยแต่งบทกวีนี้ส่งให้เขาเพื่อกล่าวตัดสัมพันธ์

    มีคน ‘ถอดรหัส’บทกวีนี้ Storyฯ เลยเอามาแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆ... รักของเรานั้นเคยบริสุทธิ์ดุจหิมะขาวบนยอดเขา ดุจดวงจันทร์กลางกลีบเมฆ ครั้นได้ยินว่าท่านมีรักใหม่ ข้าจึงจะจบเรื่องราวของเรา วันนี้เราร่วมดื่มสุราเป็นครั้งสุดท้าย วันพรุ่งก็ทางใครทางมัน แรกเริ่มที่ข้าติดตามท่านนั้น ชีวิตยากลำบาก ทว่าตั้งแต่แต่งงานมาก็ไม่เคยบ่น ขอเพียงมีคนใจเดียวอยู่ด้วยกันจนผมขาวไม่ร้างลา มีรักหวานชื่น อันชายนั้นควรหนักแน่นกับความสัมพันธ์ ความรักเมื่อสูญหายแล้ว เงินทองก็ชดเชยให้ไม่ได้ (บทกวีฉบับจีนดูได้จากในรูป)

    ว่ากันว่า ซือหม่าเซียงหรูเมื่ออ่านบทกวีนี้ก็รำลึกถึงความรักที่เคยมีและวันเวลาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา และเปลี่ยนใจไม่แต่งงานใหม่ จวบจนบั้นปลายชีวิตก็มีจั๋วเหวินจวินเพียงคนเดียว

    บทกวีลำนำผมขาวนี้โด่งดังมาตลอด เพราะมุมมองที่ให้ความสำคัญของผัวเดียวเมียเดียวในยุคสมัยที่มีค่านิยมว่าชายมีเมียได้หลายคน และเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดอันเด็ดเดี่ยวของสตรี

    วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ นี้จึงกลายมาเป็นคำบอกรักยอดนิยมเพื่อสะท้อนถึงรักที่มั่นคงไม่ผันแปร แม้ที่มาจะเศร้าไปหน่อย แต่ก็จบลงด้วยดี

    แต่ปัจจุบันมีคนนำไปเขียนเพี้ยนไปก็มี จุดที่เพี้ยนหลักคือการสลับอักษรจาก ‘คนใจเดียว’( 一心人) ไปเป็น ‘ใจรักจากคนคนหนึ่ง’ (一人心) .... สลับอักษรแล้วความหมายแตกต่างมากเลย เพื่อนเพจว่าไหม?

    สุขสันต์วันวาเลนไทน์ย้อนหลังค่ะ

    หมายเหตุ 1: ‘ลำนำผมขาว’ เป็นชื่อที่แปลโดยคุณกนกพร นุ่มทอง จากหนังสือ < 100 ยอดหญิงแห่งประวัติศาสตร์จีน> แต่ Storyฯ แปลฉบับ ‘ถอดรหัส’ ให้ตามข้างต้นเพื่อความง่ายในการเข้าใจ
    หมายเหตุ 2: คำว่า ‘อิ๋น’ ในชื่อของบทกวีนี้ จริงๆ แล้วมีความหมายหลากหลาย รวมถึงเสียงร้องเพรียกของนก หรือการอ่านแบบมีจังหวะจะโคน หรือเสียงถอนหายใจ โดยส่วนตัว Storyฯ คิดว่าจริงๆ แล้วน่าจะหมายถึงเสียงถอนหายใจในบริบทนี้ แต่... ขอใช้ตามที่มีคนเคยแปลไว้ว่า ‘ลำนำผมขาว’ เผื่อเพื่อนเพจที่เคยผ่านตาบทกวีนี้จะได้ไม่สับสน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก: https://www.hk01.com/即時娛樂/705041/斛珠夫人-陳小紜曬素顏樣盡現氣質-曾承認整容將近十次非常痛
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.chinatoday.com.cn/zw2018/bktg/202104/t20210407_800242850.html
    http://www.exam58.com/gushi/4582.html
    https://www.sohu.com/a/402043209_99929216
    https://baike.baidu.com/item/白头吟/6866957

    #ไข่มุกเคียงบัลลังก์ #ป๋ายโถวอิ๋น #ลำนำผมขาว #กวีจีนโบราณ #จั๋วเหวินจวิน #ซือหม่าเซียงหรู
    วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับวลีรักคลาสสิกที่ได้ยินกันบ่อยในหลายละครและนิยายจีน ความมีอยู่ว่า ... “ความหมายของโคมไฟใบเดียวนี้คือ ขอเพียงคนใจเดียว อีกทั้งยามนี้หิมะตกปกคลุมดูเหมือนศีรษะขาว รวมกันหมายถึง ปรารถนาคนใจเดียว เคียงข้างจนผมขาวมิร้างลา” จื่อจ๊านกล่าวต่อตี้ซวี่... - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ไข่มุกเคียงบัลลังก์> (Storyฯ แปลเองจ้า) วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ (愿得一心人,白头不相离) นี้ยกมาจากบทกวีที่ชื่อว่า ‘ป๋ายโถวอิ๋น’ (白头吟 /ลำนำผมขาว) ซึ่งกล่าวขานว่าเป็นบทประพันธ์ของจั๋วเหวินจวิน แต่มีคนเคยตั้งข้อสังเกตว่าดูจากสไตล์ภาษาแล้วไม่น่าจะใช่ อีกทั้งบทกวีนี้เมื่อแรกปรากฏในบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งนั้น ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง จั๋วเหวินจวินคือใคร เพื่อนเพจคุ้นชื่อนี้บ้างหรือไม่? เธอถูกยกย่องเป็น “ไฉหนี่ว์” (คือหญิงที่มากด้วยพรสวรรค์) ที่เลื่องชื่อด้านโคลงกลอนและพิณ เป็นผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจของการวาดคิ้วแบบ ‘หย่วนซานเหมย’ ยอดนิยม (ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเกี่ยวกับการเขียนคิ้ว) และเพื่อนเพจบางท่านอาจคุ้นชื่อของเธอจากเรื่องราวของเพลงหงษ์วอนหาคู่ เพราะเธอคือภรรยาของซือหม่าเซียงหรู (กวีเอกสมัยราชวงศ์ฮั่น เจ้าของบทประพันธ์ซ่างหลินฟู่ที่ Storyฯ เคยเขียนถึง) ‘ลำนำผมขาว’ เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวความรักระหว่างจั๋วเหวินจวินและซือหม่าเซียงหรูนั่นเอง ตำนานรักของเขามีอยู่ว่า ซือหม่าเซียงหรูสมัยที่ยังเป็นบัณฑิตไส้แห้ง ได้บรรเลงเพลงพิณหงส์วอนหาคู่ เป็นที่ต้องตาต้องใจของจั๋วเหวินจวินซึ่งเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐี จนเธอหนีตามเขาไป ทั้งสองคนเปิดร้านเหล้าช่วยกันทำมาหากินอย่างยากลำบาก จนในที่สุดจั๋วหวางซุนผู้เป็นพ่อก็ใจอ่อน ยกที่และเงินจำนวนไม่น้อยรับขวัญลูกเขยคนนี้ ต่อมาซือหม่าเซียงหรูเข้ารับราชการจนเติบใหญ่ได้ดีอยู่ในเมืองหลวง ในขณะที่จั๋วเหวินจวินยังอยู่ที่บ้านเกิด อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ยินข่าวว่าเขาอยากจะแต่งอนุภรรยา เธอเสียใจมากและยอมรับไม่ได้ เลยแต่งบทกวีนี้ส่งให้เขาเพื่อกล่าวตัดสัมพันธ์ มีคน ‘ถอดรหัส’บทกวีนี้ Storyฯ เลยเอามาแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆ... รักของเรานั้นเคยบริสุทธิ์ดุจหิมะขาวบนยอดเขา ดุจดวงจันทร์กลางกลีบเมฆ ครั้นได้ยินว่าท่านมีรักใหม่ ข้าจึงจะจบเรื่องราวของเรา วันนี้เราร่วมดื่มสุราเป็นครั้งสุดท้าย วันพรุ่งก็ทางใครทางมัน แรกเริ่มที่ข้าติดตามท่านนั้น ชีวิตยากลำบาก ทว่าตั้งแต่แต่งงานมาก็ไม่เคยบ่น ขอเพียงมีคนใจเดียวอยู่ด้วยกันจนผมขาวไม่ร้างลา มีรักหวานชื่น อันชายนั้นควรหนักแน่นกับความสัมพันธ์ ความรักเมื่อสูญหายแล้ว เงินทองก็ชดเชยให้ไม่ได้ (บทกวีฉบับจีนดูได้จากในรูป) ว่ากันว่า ซือหม่าเซียงหรูเมื่ออ่านบทกวีนี้ก็รำลึกถึงความรักที่เคยมีและวันเวลาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา และเปลี่ยนใจไม่แต่งงานใหม่ จวบจนบั้นปลายชีวิตก็มีจั๋วเหวินจวินเพียงคนเดียว บทกวีลำนำผมขาวนี้โด่งดังมาตลอด เพราะมุมมองที่ให้ความสำคัญของผัวเดียวเมียเดียวในยุคสมัยที่มีค่านิยมว่าชายมีเมียได้หลายคน และเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดอันเด็ดเดี่ยวของสตรี วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ นี้จึงกลายมาเป็นคำบอกรักยอดนิยมเพื่อสะท้อนถึงรักที่มั่นคงไม่ผันแปร แม้ที่มาจะเศร้าไปหน่อย แต่ก็จบลงด้วยดี แต่ปัจจุบันมีคนนำไปเขียนเพี้ยนไปก็มี จุดที่เพี้ยนหลักคือการสลับอักษรจาก ‘คนใจเดียว’( 一心人) ไปเป็น ‘ใจรักจากคนคนหนึ่ง’ (一人心) .... สลับอักษรแล้วความหมายแตกต่างมากเลย เพื่อนเพจว่าไหม? สุขสันต์วันวาเลนไทน์ย้อนหลังค่ะ หมายเหตุ 1: ‘ลำนำผมขาว’ เป็นชื่อที่แปลโดยคุณกนกพร นุ่มทอง จากหนังสือ < 100 ยอดหญิงแห่งประวัติศาสตร์จีน> แต่ Storyฯ แปลฉบับ ‘ถอดรหัส’ ให้ตามข้างต้นเพื่อความง่ายในการเข้าใจ หมายเหตุ 2: คำว่า ‘อิ๋น’ ในชื่อของบทกวีนี้ จริงๆ แล้วมีความหมายหลากหลาย รวมถึงเสียงร้องเพรียกของนก หรือการอ่านแบบมีจังหวะจะโคน หรือเสียงถอนหายใจ โดยส่วนตัว Storyฯ คิดว่าจริงๆ แล้วน่าจะหมายถึงเสียงถอนหายใจในบริบทนี้ แต่... ขอใช้ตามที่มีคนเคยแปลไว้ว่า ‘ลำนำผมขาว’ เผื่อเพื่อนเพจที่เคยผ่านตาบทกวีนี้จะได้ไม่สับสน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.hk01.com/即時娛樂/705041/斛珠夫人-陳小紜曬素顏樣盡現氣質-曾承認整容將近十次非常痛 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.chinatoday.com.cn/zw2018/bktg/202104/t20210407_800242850.html http://www.exam58.com/gushi/4582.html https://www.sohu.com/a/402043209_99929216 https://baike.baidu.com/item/白头吟/6866957 #ไข่มุกเคียงบัลลังก์ #ป๋ายโถวอิ๋น #ลำนำผมขาว #กวีจีนโบราณ #จั๋วเหวินจวิน #ซือหม่าเซียงหรู
    WWW.HK01.COM
    香港01|hk01.com 倡議型媒體
    香港01是一家互聯網企業,核心業務為倡議型媒體,主要傳播平台是手機應用程式和網站。企業研發各種互動數碼平台,開發由知識與科技帶動的多元化生活。
    1 Comments 0 Shares 979 Views 0 Reviews
  • AMD เปิดตัว EPYC 4005-Series: ขยายตลาด Zen 5 สู่ธุรกิจขนาดเล็ก

    AMD ได้เปิดตัว EPYC 4005-Series ซึ่งเป็น ซีพียู Zen 5 สำหรับเซิร์ฟเวอร์ระดับเริ่มต้น โดยออกแบบมาเพื่อ ธุรกิจขนาดเล็ก, การใช้งาน Edge Computing และผู้ให้บริการโฮสติ้ง ซีพียูรุ่นใหม่นี้ใช้ ซ็อกเก็ต AM5 และมี สูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด

    EPYC 4005-Series ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และรองรับ Windows Server 2025
    - ออกแบบมาเพื่อ ธุรกิจขนาดเล็กและเซิร์ฟเวอร์แบบ Uniprocessor

    มีสูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด พร้อมแคช L3 สูงสุด 128MB
    - รุ่น EPYC 4585PX มี 3D V-Cache ขนาด 64MB

    รองรับหน่วยความจำ DDR5-5600 สูงสุด 192GB พร้อม ECC
    - ใช้ dual-channel memory controller

    มีค่า TDP ตั้งแต่ 65W ถึง 170W ขึ้นอยู่กับรุ่น
    - รุ่น EPYC 4545P มีค่า TDP ต่ำสุดที่ 65W

    รองรับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น TrustZone, Secure Boot และ TPM 2.0
    - มี การเข้ารหัสหน่วยความจำเพื่อป้องกันการโจมตี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/zen-5-comes-to-small-businesses-amd-unveils-epyc-4005-series-processors
    AMD เปิดตัว EPYC 4005-Series: ขยายตลาด Zen 5 สู่ธุรกิจขนาดเล็ก AMD ได้เปิดตัว EPYC 4005-Series ซึ่งเป็น ซีพียู Zen 5 สำหรับเซิร์ฟเวอร์ระดับเริ่มต้น โดยออกแบบมาเพื่อ ธุรกิจขนาดเล็ก, การใช้งาน Edge Computing และผู้ให้บริการโฮสติ้ง ซีพียูรุ่นใหม่นี้ใช้ ซ็อกเก็ต AM5 และมี สูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด ✅ EPYC 4005-Series ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 และรองรับ Windows Server 2025 - ออกแบบมาเพื่อ ธุรกิจขนาดเล็กและเซิร์ฟเวอร์แบบ Uniprocessor ✅ มีสูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด พร้อมแคช L3 สูงสุด 128MB - รุ่น EPYC 4585PX มี 3D V-Cache ขนาด 64MB ✅ รองรับหน่วยความจำ DDR5-5600 สูงสุด 192GB พร้อม ECC - ใช้ dual-channel memory controller ✅ มีค่า TDP ตั้งแต่ 65W ถึง 170W ขึ้นอยู่กับรุ่น - รุ่น EPYC 4545P มีค่า TDP ต่ำสุดที่ 65W ✅ รองรับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น TrustZone, Secure Boot และ TPM 2.0 - มี การเข้ารหัสหน่วยความจำเพื่อป้องกันการโจมตี https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/zen-5-comes-to-small-businesses-amd-unveils-epyc-4005-series-processors
    0 Comments 0 Shares 224 Views 0 Reviews
  • AMD ยืนยันว่าแพลตฟอร์ม AM5 รองรับ CUDIMMs แต่ยังไม่มีกำหนดการเปิดตัว

    AMD ได้ประกาศว่า แพลตฟอร์ม AM5 มีโครงสร้างที่สามารถรองรับ CUDIMMs ได้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหน่วยความจำที่มี clock driver บนโมดูลเพื่อเพิ่มความเสถียรและความเร็วในการส่งข้อมูล อย่างไรก็ตาม Ryzen 7000-series ไม่สามารถใช้งาน CUDIMMs ได้เลย ส่วน Ryzen 8000 และ 9000-series สามารถใช้งานได้ในโหมด fallback เท่านั้น

    CUDIMMs เป็นมาตรฐานของ JEDEC สำหรับหน่วยความจำที่มีความเร็ว 6400 MT/s ขึ้นไป
    - มี clock driver บนโมดูลเพื่อช่วยให้สัญญาณมีความเสถียรและรองรับความเร็วสูง

    Ryzen 7000-series ไม่สามารถใช้งาน CUDIMMs ได้เลย
    - หากติดตั้ง ระบบจะไม่สามารถบูตได้

    Ryzen 8000 และ 9000-series สามารถใช้งาน CUDIMMs ได้ในโหมด bypass เท่านั้น
    - หมายความว่า clock driver บนโมดูลจะถูกปิดใช้งาน และต้องปรับแต่งความเร็วด้วยตนเอง

    MSI ยืนยันว่า Ryzen 8000 และ 9000-series จะรองรับ CUDIMMs บน X870 และ X870E motherboards
    - เมนบอร์ดรุ่นใหม่มี การปรับปรุงสัญญาณเพื่อรองรับหน่วยความจำความเร็วสูง

    Intel Arrow Lake-S รองรับ CUDIMMs ที่ความเร็วสูงถึง 9200 MT/s
    - AMD ยังไม่ได้ประกาศว่า Ryzen 8000 และ 9000-series จะสามารถแข่งขันกับ Intel ในด้านนี้ได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-says-am5-platforms-can-support-cudimms-but-wont-commit-to-a-release-date
    AMD ยืนยันว่าแพลตฟอร์ม AM5 รองรับ CUDIMMs แต่ยังไม่มีกำหนดการเปิดตัว AMD ได้ประกาศว่า แพลตฟอร์ม AM5 มีโครงสร้างที่สามารถรองรับ CUDIMMs ได้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหน่วยความจำที่มี clock driver บนโมดูลเพื่อเพิ่มความเสถียรและความเร็วในการส่งข้อมูล อย่างไรก็ตาม Ryzen 7000-series ไม่สามารถใช้งาน CUDIMMs ได้เลย ส่วน Ryzen 8000 และ 9000-series สามารถใช้งานได้ในโหมด fallback เท่านั้น ✅ CUDIMMs เป็นมาตรฐานของ JEDEC สำหรับหน่วยความจำที่มีความเร็ว 6400 MT/s ขึ้นไป - มี clock driver บนโมดูลเพื่อช่วยให้สัญญาณมีความเสถียรและรองรับความเร็วสูง ✅ Ryzen 7000-series ไม่สามารถใช้งาน CUDIMMs ได้เลย - หากติดตั้ง ระบบจะไม่สามารถบูตได้ ✅ Ryzen 8000 และ 9000-series สามารถใช้งาน CUDIMMs ได้ในโหมด bypass เท่านั้น - หมายความว่า clock driver บนโมดูลจะถูกปิดใช้งาน และต้องปรับแต่งความเร็วด้วยตนเอง ✅ MSI ยืนยันว่า Ryzen 8000 และ 9000-series จะรองรับ CUDIMMs บน X870 และ X870E motherboards - เมนบอร์ดรุ่นใหม่มี การปรับปรุงสัญญาณเพื่อรองรับหน่วยความจำความเร็วสูง ✅ Intel Arrow Lake-S รองรับ CUDIMMs ที่ความเร็วสูงถึง 9200 MT/s - AMD ยังไม่ได้ประกาศว่า Ryzen 8000 และ 9000-series จะสามารถแข่งขันกับ Intel ในด้านนี้ได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-says-am5-platforms-can-support-cudimms-but-wont-commit-to-a-release-date
    0 Comments 0 Shares 169 Views 0 Reviews
  • Gigabyte ได้เปิดตัว X870 Aorus Stealth ICE motherboard ซึ่งเป็น เมนบอร์ด AM5 รุ่นแรกที่มีชิป BIOS ขนาด 64MB ซึ่งใหญ่กว่ามาตรฐานเดิมที่ใช้ 16MB โดย BIOS รุ่นใหม่นี้มี Driver BIOS ที่ช่วยให้ Wi-Fi driver ถูกติดตั้งมาพร้อมกับเมนบอร์ด ทำให้การตั้งค่าคอมพิวเตอร์ใหม่สะดวกขึ้น

    เป็นเมนบอร์ด AM5 รุ่นแรกที่มี BIOS ขนาด 64MB
    - ใหญ่กว่ามาตรฐานเดิมที่ใช้ 16MB

    Driver BIOS ช่วยให้ Wi-Fi driver ถูกติดตั้งมาพร้อมกับเมนบอร์ด
    - ทำให้ การตั้งค่าคอมพิวเตอร์ใหม่สะดวกขึ้น

    มีฟีเจอร์ Wi-Fi EZ-Plug ที่รวมเสาอากาศเข้ากับอแดปเตอร์เดียว
    - ช่วยให้ ติดตั้งง่ายขึ้นและดูเรียบร้อยกว่าเดิม

    มาพร้อม EZ-Latch ที่ช่วยให้ติดตั้ง PCIe และ M.2 SSD ได้ง่ายขึ้น
    - ลดความยุ่งยากในการ ถอดและใส่ฮาร์ดแวร์

    มี EZ Debug Zone ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดของเมนบอร์ดได้ง่ายขึ้น
    - ทำให้ การแก้ไขปัญหาทำได้รวดเร็วขึ้น

    ใช้แผ่นระบายความร้อนแบบกดแรงดันสำหรับ M.2 SSD
    - ลดอุณหภูมิได้สูงสุด 12°C

    https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/gigabyte-incorporates-64mb-bios-chip-on-x870-motherboard-to-integrate-the-wifi-driver
    Gigabyte ได้เปิดตัว X870 Aorus Stealth ICE motherboard ซึ่งเป็น เมนบอร์ด AM5 รุ่นแรกที่มีชิป BIOS ขนาด 64MB ซึ่งใหญ่กว่ามาตรฐานเดิมที่ใช้ 16MB โดย BIOS รุ่นใหม่นี้มี Driver BIOS ที่ช่วยให้ Wi-Fi driver ถูกติดตั้งมาพร้อมกับเมนบอร์ด ทำให้การตั้งค่าคอมพิวเตอร์ใหม่สะดวกขึ้น ✅ เป็นเมนบอร์ด AM5 รุ่นแรกที่มี BIOS ขนาด 64MB - ใหญ่กว่ามาตรฐานเดิมที่ใช้ 16MB ✅ Driver BIOS ช่วยให้ Wi-Fi driver ถูกติดตั้งมาพร้อมกับเมนบอร์ด - ทำให้ การตั้งค่าคอมพิวเตอร์ใหม่สะดวกขึ้น ✅ มีฟีเจอร์ Wi-Fi EZ-Plug ที่รวมเสาอากาศเข้ากับอแดปเตอร์เดียว - ช่วยให้ ติดตั้งง่ายขึ้นและดูเรียบร้อยกว่าเดิม ✅ มาพร้อม EZ-Latch ที่ช่วยให้ติดตั้ง PCIe และ M.2 SSD ได้ง่ายขึ้น - ลดความยุ่งยากในการ ถอดและใส่ฮาร์ดแวร์ ✅ มี EZ Debug Zone ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบข้อผิดพลาดของเมนบอร์ดได้ง่ายขึ้น - ทำให้ การแก้ไขปัญหาทำได้รวดเร็วขึ้น ✅ ใช้แผ่นระบายความร้อนแบบกดแรงดันสำหรับ M.2 SSD - ลดอุณหภูมิได้สูงสุด 12°C https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/gigabyte-incorporates-64mb-bios-chip-on-x870-motherboard-to-integrate-the-wifi-driver
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Gigabyte incorporates 64MB BIOS chip on X870 motherboard to integrate the WiFi driver
    This makes it easier for you to create a Microsoft account for the first time.
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews
  • AMD กำลังพัฒนา Ryzen 9000G "Gorgon Point" สำหรับ AM5 socket และ Medusa Point ซึ่งเป็นซีพียู Zen 6 สำหรับ FP10 socket โดยข้อมูลนี้มาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ซึ่งพบรายละเอียดใน repository ของ AMD

    ซีพียู Gorgon Point จะมีทั้งเวอร์ชันสำหรับเดสก์ท็อปและแล็ปท็อป โดยรุ่นเดสก์ท็อปจะใช้ AM5 socket และเป็นรุ่นต่อจาก Ryzen 8000G ส่วนรุ่นแล็ปท็อปจะใช้ FP8 socket และมีสามเวอร์ชัน ได้แก่ Gorgon Point 1, Gorgon Point 2 และ Gorgon Point 3

    นอกจากนี้ AMD ยังมีแผนเปิดตัว Threadripper 9000 series "Shimada Peak" ซึ่งจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 หรือในงาน Advancing AI ในเดือนมิถุนายน

    Ryzen 9000G "Gorgon Point"
    - ใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 graphics
    - รุ่นเดสก์ท็อปใช้ AM5 socket
    - รุ่นแล็ปท็อปใช้ FP8 socket และมีสามเวอร์ชัน

    Medusa Point และ Zen 6
    - ใช้ FP10 socket ซึ่งไม่สามารถใช้ร่วมกับแพลตฟอร์มปัจจุบันได้
    - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีหน้า

    Threadripper 9000 "Shimada Peak"
    - คาดว่าจะเปิดตัวใน Computex 2025 หรือ Advancing AI
    - มีรุ่น 900WX สำหรับตลาดระดับสูง

    แผนการพัฒนาของ AMD
    - มีการพัฒนา Kraken Point 2 ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของ Kraken Point
    - กำลังพัฒนา Soundwave series ซึ่งเป็นซีพียู Arm-based สำหรับ FF5 socket

    https://www.techspot.com/news/107758-amd-working-ryzen-9000g-gorgon-point-am5-socket.html
    AMD กำลังพัฒนา Ryzen 9000G "Gorgon Point" สำหรับ AM5 socket และ Medusa Point ซึ่งเป็นซีพียู Zen 6 สำหรับ FP10 socket โดยข้อมูลนี้มาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ซึ่งพบรายละเอียดใน repository ของ AMD ซีพียู Gorgon Point จะมีทั้งเวอร์ชันสำหรับเดสก์ท็อปและแล็ปท็อป โดยรุ่นเดสก์ท็อปจะใช้ AM5 socket และเป็นรุ่นต่อจาก Ryzen 8000G ส่วนรุ่นแล็ปท็อปจะใช้ FP8 socket และมีสามเวอร์ชัน ได้แก่ Gorgon Point 1, Gorgon Point 2 และ Gorgon Point 3 นอกจากนี้ AMD ยังมีแผนเปิดตัว Threadripper 9000 series "Shimada Peak" ซึ่งจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 หรือในงาน Advancing AI ในเดือนมิถุนายน ✅ Ryzen 9000G "Gorgon Point" - ใช้ Zen 5 CPU cores และ RDNA 3.5 graphics - รุ่นเดสก์ท็อปใช้ AM5 socket - รุ่นแล็ปท็อปใช้ FP8 socket และมีสามเวอร์ชัน ✅ Medusa Point และ Zen 6 - ใช้ FP10 socket ซึ่งไม่สามารถใช้ร่วมกับแพลตฟอร์มปัจจุบันได้ - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีหน้า ✅ Threadripper 9000 "Shimada Peak" - คาดว่าจะเปิดตัวใน Computex 2025 หรือ Advancing AI - มีรุ่น 900WX สำหรับตลาดระดับสูง ✅ แผนการพัฒนาของ AMD - มีการพัฒนา Kraken Point 2 ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของ Kraken Point - กำลังพัฒนา Soundwave series ซึ่งเป็นซีพียู Arm-based สำหรับ FF5 socket https://www.techspot.com/news/107758-amd-working-ryzen-9000g-gorgon-point-am5-socket.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD working on Ryzen 9000G "Gorgon Point" for AM5 socket, "Medusa Point" Zen 6 CPUs for FP10
    Noted tipster Olrak29 first identified the next-gen Threadripper 9000 series, codenamed Shimada Peak, in a now-deleted X post. Some details surfaced earlier when Gigabyte and Asus added...
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Ryzen 9000G และ EPYC 4005 ซึ่งเป็นซีพียูรุ่นใหม่สำหรับแพลตฟอร์ม AM5 โดยใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

    ซีพียู Ryzen 9000G ใช้โค้ดเนม Gorgon Point ซึ่งเป็นการรีแบรนด์จาก Strix Point โดยมี 12 คอร์แบบไฮบริด (4x Zen 5 + 8x Zen 5c) และกราฟิก RDNA 3.5 พร้อม 16 Compute Units (Radeon 890M) คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

    ส่วน EPYC 4005 ใช้โค้ดเนม Grado ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก EPYC 4004 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้สถาปัตยกรรม Granite Ridge (Ryzen 9000) และคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ Ryzen 9000WX (Shimada Peak) สำหรับเวิร์กสเตชันในงาน Computex

    นอกจากนี้ AMD ยังมีแผนเปิดตัว Krackan2 ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของ Krackan Point และ GorgonPoint2 ซึ่งเป็นรุ่นลดสเปกของ GorgonPoint1 รวมถึง Soundwave ซึ่งเป็นชิป ARM-based ที่ใช้กราฟิก Radeon สำหรับอุปกรณ์พลังงานต่ำ

    Ryzen 9000G (Gorgon Point)
    - ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5
    - มี 12 คอร์แบบไฮบริด (4x Zen 5 + 8x Zen 5c)
    - กราฟิก RDNA 3.5 พร้อม 16 Compute Units (Radeon 890M)
    - คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

    EPYC 4005 (Grado)
    - รุ่นต่อจาก EPYC 4004
    - ใช้สถาปัตยกรรม Granite Ridge (Ryzen 9000)
    - คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex

    Krackan2 และ GorgonPoint2
    - Krackan2 เป็นรุ่นปรับปรุงของ Krackan Point
    - GorgonPoint2 เป็นรุ่นลดสเปกของ GorgonPoint1

    Soundwave – ชิป ARM-based
    - ใช้กราฟิก Radeon
    - ออกแบบสำหรับอุปกรณ์พลังงานต่ำ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-is-reportedly-readying-ryzen-9000g-gorgon-point-and-epyc-4005-grado-cpus-for-am5
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Ryzen 9000G และ EPYC 4005 ซึ่งเป็นซีพียูรุ่นใหม่สำหรับแพลตฟอร์ม AM5 โดยใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซีพียู Ryzen 9000G ใช้โค้ดเนม Gorgon Point ซึ่งเป็นการรีแบรนด์จาก Strix Point โดยมี 12 คอร์แบบไฮบริด (4x Zen 5 + 8x Zen 5c) และกราฟิก RDNA 3.5 พร้อม 16 Compute Units (Radeon 890M) คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ส่วน EPYC 4005 ใช้โค้ดเนม Grado ซึ่งเป็นรุ่นต่อจาก EPYC 4004 ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยใช้สถาปัตยกรรม Granite Ridge (Ryzen 9000) และคาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ Ryzen 9000WX (Shimada Peak) สำหรับเวิร์กสเตชันในงาน Computex นอกจากนี้ AMD ยังมีแผนเปิดตัว Krackan2 ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของ Krackan Point และ GorgonPoint2 ซึ่งเป็นรุ่นลดสเปกของ GorgonPoint1 รวมถึง Soundwave ซึ่งเป็นชิป ARM-based ที่ใช้กราฟิก Radeon สำหรับอุปกรณ์พลังงานต่ำ ✅ Ryzen 9000G (Gorgon Point) - ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 - มี 12 คอร์แบบไฮบริด (4x Zen 5 + 8x Zen 5c) - กราฟิก RDNA 3.5 พร้อม 16 Compute Units (Radeon 890M) - คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ✅ EPYC 4005 (Grado) - รุ่นต่อจาก EPYC 4004 - ใช้สถาปัตยกรรม Granite Ridge (Ryzen 9000) - คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex ✅ Krackan2 และ GorgonPoint2 - Krackan2 เป็นรุ่นปรับปรุงของ Krackan Point - GorgonPoint2 เป็นรุ่นลดสเปกของ GorgonPoint1 ✅ Soundwave – ชิป ARM-based - ใช้กราฟิก Radeon - ออกแบบสำหรับอุปกรณ์พลังงานต่ำ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-is-reportedly-readying-ryzen-9000g-gorgon-point-and-epyc-4005-grado-cpus-for-am5
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • AMD ได้เปิดตัว ไดรเวอร์ชิปเซ็ตเวอร์ชัน 7.04.09.545 สำหรับแพลตฟอร์มเดสก์ท็อป AM5 และ AM4 รวมถึงแพลตฟอร์มมือถือ โดยไดรเวอร์นี้รองรับซีพียู Ryzen ตั้งแต่รุ่น 9000 (Zen 5) ไปจนถึง 1000 (Zen 1) แม้ว่าไดรเวอร์ใหม่นี้จะไม่มีโปรแกรมหรือไดรเวอร์ใหม่เพิ่มเข้ามา แต่มีการแก้ไขข้อบกพร่องและให้วิธีแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการกลับไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้า

    รองรับซีพียู Ryzen ตั้งแต่ Zen 1 ถึง Zen 5
    - ไดรเวอร์นี้รองรับซีพียู Ryzen 9000, 8000, 7000, 5000, 3000 และ 1000
    - รองรับทั้งแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปและมือถือ

    ไม่มีโปรแกรมหรือไดรเวอร์ใหม่เพิ่มเข้ามา
    - การอัปเดตนี้เน้นการแก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงประสิทธิภาพ

    วิธีแก้ไขปัญหาสำหรับการกลับไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้า
    - ผู้ใช้สามารถถอนการติดตั้งเวอร์ชัน 7.xx.xx.xx และลบโฟลเดอร์ Qt_Dependencies เพื่อกลับไปใช้เวอร์ชัน 6.xx.xx.xx

    การปรับปรุงในไดรเวอร์บางตัว
    - เช่น AMD PSP Driver และ AMD PPM Provisioning File Driver ที่ได้รับการแก้ไขข้อบกพร่อง

    https://www.neowin.net/news/amd-releases-new-windows-1110-chipset-driver-for-ryzen-9000-8000-7000-5000-3000-more-2/
    AMD ได้เปิดตัว ไดรเวอร์ชิปเซ็ตเวอร์ชัน 7.04.09.545 สำหรับแพลตฟอร์มเดสก์ท็อป AM5 และ AM4 รวมถึงแพลตฟอร์มมือถือ โดยไดรเวอร์นี้รองรับซีพียู Ryzen ตั้งแต่รุ่น 9000 (Zen 5) ไปจนถึง 1000 (Zen 1) แม้ว่าไดรเวอร์ใหม่นี้จะไม่มีโปรแกรมหรือไดรเวอร์ใหม่เพิ่มเข้ามา แต่มีการแก้ไขข้อบกพร่องและให้วิธีแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการกลับไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้า ✅ รองรับซีพียู Ryzen ตั้งแต่ Zen 1 ถึง Zen 5 - ไดรเวอร์นี้รองรับซีพียู Ryzen 9000, 8000, 7000, 5000, 3000 และ 1000 - รองรับทั้งแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปและมือถือ ✅ ไม่มีโปรแกรมหรือไดรเวอร์ใหม่เพิ่มเข้ามา - การอัปเดตนี้เน้นการแก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงประสิทธิภาพ ✅ วิธีแก้ไขปัญหาสำหรับการกลับไปใช้เวอร์ชันก่อนหน้า - ผู้ใช้สามารถถอนการติดตั้งเวอร์ชัน 7.xx.xx.xx และลบโฟลเดอร์ Qt_Dependencies เพื่อกลับไปใช้เวอร์ชัน 6.xx.xx.xx ✅ การปรับปรุงในไดรเวอร์บางตัว - เช่น AMD PSP Driver และ AMD PPM Provisioning File Driver ที่ได้รับการแก้ไขข้อบกพร่อง https://www.neowin.net/news/amd-releases-new-windows-1110-chipset-driver-for-ryzen-9000-8000-7000-5000-3000-more-2/
    WWW.NEOWIN.NET
    AMD releases new Windows 11/10 chipset driver for Ryzen 9000, 8000, 7000, 5000, 3000, more
    AMD has released a new chipset driver package for Windows 11 and Windows 10. The driver is compatible with Ryzen 9000, 7000, 8000, 5000, 3000, and more.
    0 Comments 0 Shares 146 Views 0 Reviews
  • AMD ได้ยืนยันว่า ซีพียู Zen 5 รุ่นใหม่ยังคงมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เรียกว่า EntrySign ซึ่งเป็นข้อบกพร่องในระบบตรวจสอบลายเซ็นสำหรับการอัปเดตไมโครโค้ด โดยช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้เพื่อรันโค้ดที่เป็นอันตรายได้

    ช่องโหว่ EntrySign:
    - EntrySign เป็นข้อบกพร่องที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถข้ามการตรวจสอบลายเซ็นของไมโครโค้ดบนซีพียู AMD ตั้งแต่ Zen 1 ถึง Zen 5
    - ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อซีพียูหลายรุ่น เช่น Ryzen 9000, EPYC 9005, Ryzen AI 300 และ Ryzen 9000HX

    การแก้ไขปัญหา:
    - AMD ได้ปล่อยการอัปเดต BIOS ผ่าน ComboAM5PI 1.2.0.3c AGESA เพื่อแก้ไขปัญหาสำหรับซีพียู Ryzen และ EPYC รุ่นเก่า
    - สำหรับซีพียู EPYC Turin รุ่นใหม่ การแก้ไขจะถูกปล่อยในปลายเดือนนี้

    ความเสี่ยงและผลกระทบ:
    - การโจมตีต้องการสิทธิ์ระดับ kernel (ring 0) และไมโครโค้ดที่เป็นอันตรายจะถูกลบเมื่อระบบรีสตาร์ท
    - แม้ความเสี่ยงสำหรับผู้ใช้ทั่วไปจะต่ำ แต่ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้ในศูนย์ข้อมูลและระบบคลาวด์

    การตอบสนองของ AMD:
    - AMD และพันธมิตรกำลังเร่งดำเนินการเพื่อป้องกันการใช้ช่องโหว่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง

    https://www.techspot.com/news/107497-amd-confirms-zen-5-silicon-also-vulnerable-entrysign.html
    AMD ได้ยืนยันว่า ซีพียู Zen 5 รุ่นใหม่ยังคงมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เรียกว่า EntrySign ซึ่งเป็นข้อบกพร่องในระบบตรวจสอบลายเซ็นสำหรับการอัปเดตไมโครโค้ด โดยช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้เพื่อรันโค้ดที่เป็นอันตรายได้ ✅ ช่องโหว่ EntrySign: - EntrySign เป็นข้อบกพร่องที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถข้ามการตรวจสอบลายเซ็นของไมโครโค้ดบนซีพียู AMD ตั้งแต่ Zen 1 ถึง Zen 5 - ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อซีพียูหลายรุ่น เช่น Ryzen 9000, EPYC 9005, Ryzen AI 300 และ Ryzen 9000HX ✅ การแก้ไขปัญหา: - AMD ได้ปล่อยการอัปเดต BIOS ผ่าน ComboAM5PI 1.2.0.3c AGESA เพื่อแก้ไขปัญหาสำหรับซีพียู Ryzen และ EPYC รุ่นเก่า - สำหรับซีพียู EPYC Turin รุ่นใหม่ การแก้ไขจะถูกปล่อยในปลายเดือนนี้ ✅ ความเสี่ยงและผลกระทบ: - การโจมตีต้องการสิทธิ์ระดับ kernel (ring 0) และไมโครโค้ดที่เป็นอันตรายจะถูกลบเมื่อระบบรีสตาร์ท - แม้ความเสี่ยงสำหรับผู้ใช้ทั่วไปจะต่ำ แต่ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้ในศูนย์ข้อมูลและระบบคลาวด์ ✅ การตอบสนองของ AMD: - AMD และพันธมิตรกำลังเร่งดำเนินการเพื่อป้องกันการใช้ช่องโหว่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูง https://www.techspot.com/news/107497-amd-confirms-zen-5-silicon-also-vulnerable-entrysign.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD confirms Zen 5 silicon is also vulnerable to "EntrySign" BIOS microcode bug
    The core problem is a flaw in AMD's signature verification for microcode updates – low-level patches chipmakers deploy after CPUs ship to fix bugs or security issues....
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
More Results