• สาวอิสราเอลที่กำลังเป็นข่าวดังตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากคลิปวิดีโอที่เธอกำลังโต้เถียงกับใครบางคนและใช้คำพูดที่ว่า "เงินฉันสร้างประเทศของคุณ"

    ตอนนี้เธอกำลังเจอทัวร์ลงยับ ๆ ในทุกแพลตฟอร์ม และเพิ่งออกมาเคลื่อนไหว โดยแปลได้ประมาณนี้ครับ
    "สวัสดี ฉันคือผู้หญิงในวิดีโอ"

    "ก่อนอื่นขอชี้แจงว่า ประโยคที่พูดนั้นไม่ได้ถูกใช้ในบริบทที่ถูกต้อง ความตั้งใจของฉันคือการบอกว่า ชาวอิสราเอลมีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทย"

    "นั่นเพราะฉันได้รับประสบการณ์ความรุนแรงทั้งทางกายและทางวาจา ที่เกิดจากความโกรธแค้นชาวอิสราเอลทุกคนที่มาท่องเที่ยวในไทย"

    "คนถ่ายวิดีโอไม่ใช่พนักงานในร้านอาหารแต่เป็นแขก ในคาเฟ่ฉันได้รับอนุญาตให้ใส่รองเท้าเพราะฉันเจ็บเท้า"

    "คนถ่ายวิดีโอและเพื่อนของเธอใช้ความรุนแรงเพื่อไล่ฉันออกจากคาเฟ่ แม้ว่าฉันจะออกจากร้านเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวก็ตาม"

    "วิดีโอนี้ถูกบิดเบือนและไม่ได้แสดงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับฉันเลย"

    https://web.facebook.com/share/p/1AFP7wUb8A/
    สาวอิสราเอลที่กำลังเป็นข่าวดังตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังจากคลิปวิดีโอที่เธอกำลังโต้เถียงกับใครบางคนและใช้คำพูดที่ว่า "เงินฉันสร้างประเทศของคุณ" ตอนนี้เธอกำลังเจอทัวร์ลงยับ ๆ ในทุกแพลตฟอร์ม และเพิ่งออกมาเคลื่อนไหว โดยแปลได้ประมาณนี้ครับ "สวัสดี ฉันคือผู้หญิงในวิดีโอ" "ก่อนอื่นขอชี้แจงว่า ประโยคที่พูดนั้นไม่ได้ถูกใช้ในบริบทที่ถูกต้อง ความตั้งใจของฉันคือการบอกว่า ชาวอิสราเอลมีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทย" "นั่นเพราะฉันได้รับประสบการณ์ความรุนแรงทั้งทางกายและทางวาจา ที่เกิดจากความโกรธแค้นชาวอิสราเอลทุกคนที่มาท่องเที่ยวในไทย" "คนถ่ายวิดีโอไม่ใช่พนักงานในร้านอาหารแต่เป็นแขก ในคาเฟ่ฉันได้รับอนุญาตให้ใส่รองเท้าเพราะฉันเจ็บเท้า" "คนถ่ายวิดีโอและเพื่อนของเธอใช้ความรุนแรงเพื่อไล่ฉันออกจากคาเฟ่ แม้ว่าฉันจะออกจากร้านเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวก็ตาม" "วิดีโอนี้ถูกบิดเบือนและไม่ได้แสดงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับฉันเลย" https://web.facebook.com/share/p/1AFP7wUb8A/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 241 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/live/QafpDUFxjo4?si=RF0hAdGYsthCWD1m
    https://www.youtube.com/live/QafpDUFxjo4?si=RF0hAdGYsthCWD1m
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลเสนอเงินและวีซ่าแก่ชาวปาเลสไตน์เพื่อไปสหภาพยุโรปและมาเลเซีย



    อิสราเอลเสนอเงิน 5,000 ดอลลาร์ พร้อมรับปากจะจัดหาที่อยู่อาศัย งาน วีซ่า และเงินเดือนแก่ชาวปาเลสไตน์เพื่อให้พวกเขาย้ายออกจากดินแดนบรรพบุรุษตนเอง โดยมีตัวเลือกในการตั้งถิ่นฐานใหม่ในฝรั่งเศส กรีซ หรือมาเลเซีย

    โดยมีเงื่อนไขว่า พวกเขาต้องยอมสละสัญชาติปาเลสไตน์ ที่ดิน และสิทธิในการกลับคืนสู่บ้านเกิดในฐานะชาวปาเลสไตน์

    - AFP รายงาน
    อิสราเอลเสนอเงินและวีซ่าแก่ชาวปาเลสไตน์เพื่อไปสหภาพยุโรปและมาเลเซีย อิสราเอลเสนอเงิน 5,000 ดอลลาร์ พร้อมรับปากจะจัดหาที่อยู่อาศัย งาน วีซ่า และเงินเดือนแก่ชาวปาเลสไตน์เพื่อให้พวกเขาย้ายออกจากดินแดนบรรพบุรุษตนเอง โดยมีตัวเลือกในการตั้งถิ่นฐานใหม่ในฝรั่งเศส กรีซ หรือมาเลเซีย โดยมีเงื่อนไขว่า พวกเขาต้องยอมสละสัญชาติปาเลสไตน์ ที่ดิน และสิทธิในการกลับคืนสู่บ้านเกิดในฐานะชาวปาเลสไตน์ - AFP รายงาน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 227 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/m36waFPzs1E?si=rS_i859hnk7Q2Hjd
    https://youtu.be/m36waFPzs1E?si=rS_i859hnk7Q2Hjd
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • 4 ปี ทุ่งสังหาร “พะโค” ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หงสาวดี 82 ศพ แสงไฟฉายจากมือถือ ฤาจะสู้เปลวไฟจากไรเฟิล บทบาทของโลกที่เงียบงัน

    ✍️ เหตุการณ์ที่พะโคเมื่อ 9 เมษายน 2564 คือหนึ่งในความรุนแรง หลังรัฐประหารเมียนมา ที่โลกไม่ควรลืม กับการสังหารหมู่พลเรือน 82 ราย ภายใต้เงียบสงัดของประชาคมโลก และการประท้วงด้วยแสงไฟจากมือถือ ที่ไม่อาจสู้เปลวไฟจากปืนไรเฟิลได้ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 🔥

    🧭 เสียงเงียบที่กลบเสียงปืน เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564 ประชาชนในเมืองพะโค ประเทศเมียนมา ตื่นขึ้นมาท่ามกลางเสียงปืนดังสนั่น 🚨 ไม่นานจากเหตุการณ์รัฐประหารในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ กองทัพพม่าเริ่มปฏิบัติการ กวาดล้างการต่อต้านอย่างรุนแรง เหตุการณ์ที่เมืองพะโคในวันนั้น กลายเป็นการสังหารหมู่ที่ร้ายแรงที่สุดในช่วงหลังรัฐประหาร ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 82 ศพ ในวันเดียว 😢

    แต่สิ่งที่เจ็บปวดยิ่งกว่ากระสุน คือ “ความเงียบ” ของโลก 🌍 ที่ไม่มีเสียงเรียกร้องความยุติธรรมที่เพียงพอ

    🏞️ "พะโค" (Bago) หรือหงสาวดี เป็นเมืองสำคัญทางภาคใต้ของเมียนมา ห่างจากย่างกุ้งเพียง 91 กิโลเมตร 🌏 เคยเป็นเมืองหลวง ของอาณาจักรมอญและตองอู ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่สำคัญ อยู่ใกล้เส้นทางยุทธศาสตร์ และง่ายต่อการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพ

    จุดยุทธศาสตร์นี้เอง ทำให้พะโคกลายเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ประชาชนใช้ประท้วง และกองทัพใช้เพื่อ “แสดงพลัง” 💣

    🔫 เหตุการณ์ 9 เมษายน 2564 วันที่ไฟจากไรเฟิลกลืนชีวิต

    ⏰ เวลาเริ่มต้น ตี 4 กองทัพเมียนมาส่งทหาร 250 นาย เข้าบุกบ้านเรือนในย่านชินสอบู, นันตอว์ยา, มอว์กัน และปนนาซู ใกล้พระราชวังกัมโพชธานี

    ⚔️ เวลา 05.00 น. ทหาร 5 หน่วย เริ่มกราดยิงผู้ชุมนุมโดยไม่เลือกหน้า ใช้อาวุธสงครามเต็มรูปแบบ ประชาชนสู้กลับด้วยระเบิดปิงปอง และขว้างสิ่งของ ✊

    เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์ได้ในช่วง 10.00 น.

    🩸 ผลที่ตามมา มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 82 ราย บุคลากรแพทย์ถูกขัดขวาง ไม่ให้เข้าช่วยเหลือ บางศพถูกกองรวมไว้ในเจดีย์เสยะมุนี บางศพถูกเผาทิ้ง...เพื่อปิดบังหลักฐาน

    📈 ลำดับเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    9 เม.ย. 64 ช่วงเช้า ทหารบุกบ้านเรือน ยิงสดประชาชน
    9 เม.ย. 64 ช่วงสาย นำศพมากองรวมในเจดีย์ ปิดล้อมพื้นที่
    10 เม.ย. 64 เอเอพีพีรายงานยอดเสียชีวิต 82 ราย
    11 เม.ย. 64 UN เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงทันที

    💣 อาวุธที่ใช้: ปืนไรเฟิล, ระเบิดแรงสูง, ยิงใส่ผู้ชุมนุมแบบสุ่ม

    📷 วิดีโอจาก AFP แสดงให้เห็นผู้ชุมนุม ใช้กระสอบทรายเป็นเกราะกำบัง

    💡 บทบาทของชาวพะโค และการต่อต้านด้วย “แสงไฟ” เมื่ออาวุธหนักเป็นของทหาร... แต่ประชาชนมีเพียงโทรศัพท์มือถือ พวกเขาเลือกใช้ แสงไฟแฟลช 📱 เป็นเครื่องมือแห่งการต่อต้าน ✨ Flash Strike หรือ “การชุมนุมเงียบ” ในช่วงค่ำคืน

    คนเมียนมาเปิดไฟฉายมือถือ ร้องเพลงต้านรัฐประหาร เป็นสัญลักษณ์ของ “แสงแห่งเสรีภาพ” ที่สู้กับ “เปลวไฟจากกระสุน” แม้รู้ว่าจะโดนยิง...แต่ยังคงยืนหยัด

    🧯 การตอบสนองของรัฐบาลทหาร ปฏิเสธข้อเท็จจริง

    📺 ทางการเมียนมารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง “1 ราย” ในเหตุการณ์พะโค

    📵 อินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด ข้อมูลถูกปิดกั้น

    ⛔ ความจริงที่พยายามลบล้าง ขัดขวางไม่ให้หน่วยแพทย์เข้าถึงพื้นที่ ขนศพขึ้นรถบรรทุกไปซ่อน เผาศพทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน นี่คือการบิดเบือนความจริง อย่างเป็นระบบ 🧠

    🧊 ความเงียบของประชาคมโลก = การสมรู้ร่วมคิด? แม้มีหลักฐานจำนวนมากจากคลิปวิดีโอ 📹 และรายงานจาก NGOs แต่… ประชาคมโลกกลับเลือก “นิ่งเงียบ” 🫥

    🌐 คำถามที่คาใจ
    ทำไมไม่มีการแทรกแซงจาก UN?
    การเรียกร้องความช่วยเหลือถูกละเลยหรือไม่?
    การคว่ำบาตรเศรษฐกิจเพียงพอหรือเปล่า?

    เสียงจากคนตาย...อาจเงียบ แต่ “ความเงียบของโลก” ดังกว่า

    🌍 องค์กรสิทธิมนุษยชน และความพยายามในการเปิดโปงความจริง องค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น AAPP หรือสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง, Myanmar Now, AFP, BBC Burmese, Amnesty International 📣 ได้รายงานเหตุการณ์นี้ให้โลกได้รับรู้ แต่ยังขาด “กลไกที่มีผลบังคับ” ในการดำเนินคดี ต่อผู้นำกองทัพเมียนมา

    🕯️ พะโคในความทรงจำของชาวเมียนมา “แสงจากมือถือ...อาจไม่ชนะไฟจากปืน แต่แสงนั้นจะไม่มีวันดับในใจเรา” ผู้ประท้วงนิรนามในพะโค

    พะโคกลายเป็น “สัญลักษณ์แห่งการเสียสละ” เป็นคำเตือนว่า เสรีภาพไม่ได้ได้มาโดยง่าย และไม่ควรถูกลืม

    ✅ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 4 ปีผ่านไป...ความยุติธรรมยังไม่มา 🕰️ แต่ความหวังยังอยู่ในแสงแฟลชของประชาชน

    พะโคไม่ใช่แค่ “เหตุการณ์” แต่คือ “หน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ต้องเขียนด้วยความจริง”

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 090953 เม.ย. 2568

    📱 #พะโค #เมียนมา #FlashStrike #รัฐประหารเมียนมา #สังหารหมู่ #สิทธิมนุษยชน #ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ #UN #SaveMyanmar #BagoMassacre
    4 ปี ทุ่งสังหาร “พะโค” ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หงสาวดี 82 ศพ แสงไฟฉายจากมือถือ ฤาจะสู้เปลวไฟจากไรเฟิล บทบาทของโลกที่เงียบงัน ✍️ เหตุการณ์ที่พะโคเมื่อ 9 เมษายน 2564 คือหนึ่งในความรุนแรง หลังรัฐประหารเมียนมา ที่โลกไม่ควรลืม กับการสังหารหมู่พลเรือน 82 ราย ภายใต้เงียบสงัดของประชาคมโลก และการประท้วงด้วยแสงไฟจากมือถือ ที่ไม่อาจสู้เปลวไฟจากปืนไรเฟิลได้ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 🔥 🧭 เสียงเงียบที่กลบเสียงปืน เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564 ประชาชนในเมืองพะโค ประเทศเมียนมา ตื่นขึ้นมาท่ามกลางเสียงปืนดังสนั่น 🚨 ไม่นานจากเหตุการณ์รัฐประหารในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ กองทัพพม่าเริ่มปฏิบัติการ กวาดล้างการต่อต้านอย่างรุนแรง เหตุการณ์ที่เมืองพะโคในวันนั้น กลายเป็นการสังหารหมู่ที่ร้ายแรงที่สุดในช่วงหลังรัฐประหาร ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 82 ศพ ในวันเดียว 😢 แต่สิ่งที่เจ็บปวดยิ่งกว่ากระสุน คือ “ความเงียบ” ของโลก 🌍 ที่ไม่มีเสียงเรียกร้องความยุติธรรมที่เพียงพอ 🏞️ "พะโค" (Bago) หรือหงสาวดี เป็นเมืองสำคัญทางภาคใต้ของเมียนมา ห่างจากย่างกุ้งเพียง 91 กิโลเมตร 🌏 เคยเป็นเมืองหลวง ของอาณาจักรมอญและตองอู ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่สำคัญ อยู่ใกล้เส้นทางยุทธศาสตร์ และง่ายต่อการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพ จุดยุทธศาสตร์นี้เอง ทำให้พะโคกลายเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ประชาชนใช้ประท้วง และกองทัพใช้เพื่อ “แสดงพลัง” 💣 🔫 เหตุการณ์ 9 เมษายน 2564 วันที่ไฟจากไรเฟิลกลืนชีวิต ⏰ เวลาเริ่มต้น ตี 4 กองทัพเมียนมาส่งทหาร 250 นาย เข้าบุกบ้านเรือนในย่านชินสอบู, นันตอว์ยา, มอว์กัน และปนนาซู ใกล้พระราชวังกัมโพชธานี ⚔️ เวลา 05.00 น. ทหาร 5 หน่วย เริ่มกราดยิงผู้ชุมนุมโดยไม่เลือกหน้า ใช้อาวุธสงครามเต็มรูปแบบ ประชาชนสู้กลับด้วยระเบิดปิงปอง และขว้างสิ่งของ ✊ เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์ได้ในช่วง 10.00 น. 🩸 ผลที่ตามมา มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 82 ราย บุคลากรแพทย์ถูกขัดขวาง ไม่ให้เข้าช่วยเหลือ บางศพถูกกองรวมไว้ในเจดีย์เสยะมุนี บางศพถูกเผาทิ้ง...เพื่อปิดบังหลักฐาน 📈 ลำดับเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 9 เม.ย. 64 ช่วงเช้า ทหารบุกบ้านเรือน ยิงสดประชาชน 9 เม.ย. 64 ช่วงสาย นำศพมากองรวมในเจดีย์ ปิดล้อมพื้นที่ 10 เม.ย. 64 เอเอพีพีรายงานยอดเสียชีวิต 82 ราย 11 เม.ย. 64 UN เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงทันที 💣 อาวุธที่ใช้: ปืนไรเฟิล, ระเบิดแรงสูง, ยิงใส่ผู้ชุมนุมแบบสุ่ม 📷 วิดีโอจาก AFP แสดงให้เห็นผู้ชุมนุม ใช้กระสอบทรายเป็นเกราะกำบัง 💡 บทบาทของชาวพะโค และการต่อต้านด้วย “แสงไฟ” เมื่ออาวุธหนักเป็นของทหาร... แต่ประชาชนมีเพียงโทรศัพท์มือถือ พวกเขาเลือกใช้ แสงไฟแฟลช 📱 เป็นเครื่องมือแห่งการต่อต้าน ✨ Flash Strike หรือ “การชุมนุมเงียบ” ในช่วงค่ำคืน คนเมียนมาเปิดไฟฉายมือถือ ร้องเพลงต้านรัฐประหาร เป็นสัญลักษณ์ของ “แสงแห่งเสรีภาพ” ที่สู้กับ “เปลวไฟจากกระสุน” แม้รู้ว่าจะโดนยิง...แต่ยังคงยืนหยัด 🧯 การตอบสนองของรัฐบาลทหาร ปฏิเสธข้อเท็จจริง 📺 ทางการเมียนมารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง “1 ราย” ในเหตุการณ์พะโค 📵 อินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด ข้อมูลถูกปิดกั้น ⛔ ความจริงที่พยายามลบล้าง ขัดขวางไม่ให้หน่วยแพทย์เข้าถึงพื้นที่ ขนศพขึ้นรถบรรทุกไปซ่อน เผาศพทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน นี่คือการบิดเบือนความจริง อย่างเป็นระบบ 🧠 🧊 ความเงียบของประชาคมโลก = การสมรู้ร่วมคิด? แม้มีหลักฐานจำนวนมากจากคลิปวิดีโอ 📹 และรายงานจาก NGOs แต่… ประชาคมโลกกลับเลือก “นิ่งเงียบ” 🫥 🌐 คำถามที่คาใจ ทำไมไม่มีการแทรกแซงจาก UN? การเรียกร้องความช่วยเหลือถูกละเลยหรือไม่? การคว่ำบาตรเศรษฐกิจเพียงพอหรือเปล่า? เสียงจากคนตาย...อาจเงียบ แต่ “ความเงียบของโลก” ดังกว่า 🌍 องค์กรสิทธิมนุษยชน และความพยายามในการเปิดโปงความจริง องค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น AAPP หรือสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง, Myanmar Now, AFP, BBC Burmese, Amnesty International 📣 ได้รายงานเหตุการณ์นี้ให้โลกได้รับรู้ แต่ยังขาด “กลไกที่มีผลบังคับ” ในการดำเนินคดี ต่อผู้นำกองทัพเมียนมา 🕯️ พะโคในความทรงจำของชาวเมียนมา “แสงจากมือถือ...อาจไม่ชนะไฟจากปืน แต่แสงนั้นจะไม่มีวันดับในใจเรา” ผู้ประท้วงนิรนามในพะโค พะโคกลายเป็น “สัญลักษณ์แห่งการเสียสละ” เป็นคำเตือนว่า เสรีภาพไม่ได้ได้มาโดยง่าย และไม่ควรถูกลืม ✅ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 4 ปีผ่านไป...ความยุติธรรมยังไม่มา 🕰️ แต่ความหวังยังอยู่ในแสงแฟลชของประชาชน พะโคไม่ใช่แค่ “เหตุการณ์” แต่คือ “หน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ต้องเขียนด้วยความจริง” ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 090953 เม.ย. 2568 📱 #พะโค #เมียนมา #FlashStrike #รัฐประหารเมียนมา #สังหารหมู่ #สิทธิมนุษยชน #ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ #UN #SaveMyanmar #BagoMassacre
    0 Comments 0 Shares 650 Views 0 Reviews
  • สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 545 Views 0 Reviews
  • Map showing the current distribution of Siamese crocodiles in Southeast Asia as a years-long effort has brought the endangered animal back from the brink of extinction, with 10 of the reptiles being released by Fauna and Flora into the wild in Cambodia's Virachey national park.
    Read more: https://u.afp.com/Sw4E
    Map showing the current distribution of Siamese crocodiles in Southeast Asia as a years-long effort has brought the endangered animal back from the brink of extinction, with 10 of the reptiles being released by Fauna and Flora into the wild in Cambodia's Virachey national park. Read more: https://u.afp.com/Sw4E
    0 Comments 0 Shares 374 Views 0 Reviews
  • พาเวล ดูรอฟ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Telegram ได้รับอนุญาตจากทางการฝรั่งเศสให้เดินทางออกจากประเทศเป็นการชั่วคราว หลังจากที่เขาถูกตรวจสอบเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำความผิดทางอาญาบนแพลตฟอร์ม Telegram โดยเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสและรัสเซีย และก่อให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องเสรีภาพในการพูดและการบังคับใช้กฎหมายบนโลกอินเทอร์เน็ต

    ดูรอฟถูกจับกุมในเดือนสิงหาคมปีที่แล้วที่สนามบินใกล้ปารีส และถูกจำกัดให้อยู่ในฝรั่งเศสระหว่างกระบวนการสอบสวน อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเขาได้รับอนุญาตจากผู้พิพากษาให้เดินทางออกนอกประเทศได้เป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ โดยเขาคาดว่าจะเดินทางไปยังดูไบ ทางอัยการฝรั่งเศสระบุว่าดูรอฟถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการกระทำผิด เช่น การค้ายาเสพติดและการฟอกเงิน ซึ่งเขายังต้องวางเงินประกันเป็นจำนวน 5 ล้านยูโร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/16/telegram039s-durov-allowed-to-leave-france-amid-probe-afp-reports
    พาเวล ดูรอฟ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Telegram ได้รับอนุญาตจากทางการฝรั่งเศสให้เดินทางออกจากประเทศเป็นการชั่วคราว หลังจากที่เขาถูกตรวจสอบเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำความผิดทางอาญาบนแพลตฟอร์ม Telegram โดยเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสและรัสเซีย และก่อให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องเสรีภาพในการพูดและการบังคับใช้กฎหมายบนโลกอินเทอร์เน็ต ดูรอฟถูกจับกุมในเดือนสิงหาคมปีที่แล้วที่สนามบินใกล้ปารีส และถูกจำกัดให้อยู่ในฝรั่งเศสระหว่างกระบวนการสอบสวน อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเขาได้รับอนุญาตจากผู้พิพากษาให้เดินทางออกนอกประเทศได้เป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ โดยเขาคาดว่าจะเดินทางไปยังดูไบ ทางอัยการฝรั่งเศสระบุว่าดูรอฟถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการกระทำผิด เช่น การค้ายาเสพติดและการฟอกเงิน ซึ่งเขายังต้องวางเงินประกันเป็นจำนวน 5 ล้านยูโร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/16/telegram039s-durov-allowed-to-leave-france-amid-probe-afp-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Telegram's Durov allowed to leave France amid probe, AFP reports
    PARIS (Reuters) - French authorities have allowed Pavel Durov, the Russian-born founder and CEO of Telegram, to leave France temporarily in a loosening of his obligations under a probe into criminal activities on the messaging app, the French news agency AFP reported on Saturday.
    0 Comments 0 Shares 481 Views 0 Reviews
  • จูลานี ผู้นำซีเรียประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการ 'อิสระ' เพื่อสืบสวนการสังหารพลเรือนนับพันคนในเขตลาตาเกีย เมืองชายฝั่งตะวันตกของซีเรีย

    คณะกรรมการจะประกอบด้วยบุคลากร 7 คน ได้แก่ ผู้พิพากษา ทนายความ และบุคลากรทางทหาร ซึ่งมีหน้าที่สืบสวนหา “สาเหตุและสถานการณ์” ของการกวาดล้างชาติพันธุ์เมื่อวันที่ 5 และ 6 มีนาคม และนำตัวผู้ที่ทรมานและสังหารพลเรือนอย่างโหดร้ายมาลงโทษ

    ทางด้านสำนักข่าว AP รายงานโดยอ้างตัวเลขจากกลุ่มสังเกตการซีเรียเพื่อมนุษยธรรม SOHR ที่มีฐานในอังกฤษรายงานยอดเสียชีวิตในการปะทะอยู่ที่ 1,130 คน แยกเป็นพลเรือน 830 คน

    ขณะที่สำนักข่าว BBC ของอังกฤษรายงานตัวเลขที่อาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน เบื้องต้นเป็นพลเรือน 973 คน

    ส่วนสำนักข่าว AFP ให้รายงานตัวเลขมากกว่า 1,300 คน
    จูลานี ผู้นำซีเรียประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการ 'อิสระ' เพื่อสืบสวนการสังหารพลเรือนนับพันคนในเขตลาตาเกีย เมืองชายฝั่งตะวันตกของซีเรีย คณะกรรมการจะประกอบด้วยบุคลากร 7 คน ได้แก่ ผู้พิพากษา ทนายความ และบุคลากรทางทหาร ซึ่งมีหน้าที่สืบสวนหา “สาเหตุและสถานการณ์” ของการกวาดล้างชาติพันธุ์เมื่อวันที่ 5 และ 6 มีนาคม และนำตัวผู้ที่ทรมานและสังหารพลเรือนอย่างโหดร้ายมาลงโทษ ทางด้านสำนักข่าว AP รายงานโดยอ้างตัวเลขจากกลุ่มสังเกตการซีเรียเพื่อมนุษยธรรม SOHR ที่มีฐานในอังกฤษรายงานยอดเสียชีวิตในการปะทะอยู่ที่ 1,130 คน แยกเป็นพลเรือน 830 คน ขณะที่สำนักข่าว BBC ของอังกฤษรายงานตัวเลขที่อาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน เบื้องต้นเป็นพลเรือน 973 คน ส่วนสำนักข่าว AFP ให้รายงานตัวเลขมากกว่า 1,300 คน
    0 Comments 0 Shares 360 Views 0 Reviews
  • ความขัดแย้งระหว่างพ่อกับลูกของหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศแห่งนี้ และมีความเป็นและความตายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของสิงคโปร์อย่าง City Developments Ltd (CDL) เป็นเดิมพัน ได้ปะทุขึ้นต่อหน้าสาธารณชนในสัปดาห์นี้ การโต้เถียงกันระหว่างประธานบริหารของ CDL คือ กัวลิ่งหมิง (Kwek Leng Beng) และลูกชายของเขา คือ กัวอี้จื้อ (Sherman Kwek) ได้เปิดเผยถึงรอยร้าวที่ลึกซึ้งภายในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับสี่ของสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในอันดับมหาเศรษฐฐีชั้นนำที่จัดอันดับโดย Forbesศึกสายเลือกครั้งนี้เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาเรื่องความผิดพลาดขององค์กร การละเมิดการกำกับดูแล และความสัมพันธ์ส่วนตัวกำลังคุกคามที่จะยกระดับเป็นการต่อสู้ในศาลเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งในอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เรื่องพิพาทของทั้งคู่เดิมทีเป็นเรื่องในบริษัท แต่ปรากฏต่อสาธารณชนครั้งแรกของปัญหาเกิดขึ้นเมื่อวันพุธ เมื่อ CDL ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี Straits Times ของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เรียกร้องให้หยุดการซื้อขายกะทันหัน ตามด้วยแถลงการณ์ยกเลิกการสรุปผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2024 ที่กำหนดไว้จากนั้นก็เกิดเรื่องที่น่าตกตะลึง นั่นคือ กัวลิ่งหมิง (Kwek Leng Beng) ผู้นำตระกูลวัย 84 ปี กล่าวหาลูกชายและซีอีโอของ CDL ต่อสาธารณะว่าวางแผน "พยายามก่อรัฐประหารในระดับคณะกรรมการ"ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า กัวอี้จื้อ (Sherman Kwek) ลูกชายคนเล็ก พร้อมด้วยคณะกรรมการส่วนใหญ่ ได้แต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติมอีก 2 คนเพื่อ "รวมอำนาจการควบคุมคณะกรรมการ" และ CDL เพื่อขัดขวางการแย่งชิงอำนาจ กัวลิ่งหมิง ผู้เป็นพ่อได้ยื่นฟ้องและต่อมาประกาศว่าเขาได้รับคำสั่งศาลให้หยุดการเปลี่ยนแปลงในคณะกรรมการและฝ่ายบริหารของ CDL Groupกัวอี้จื้อ วัย 49 ปี ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบอสตัน ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยกล่าวว่า "เราไม่ได้พยายามขับไล่ประธาน"เขาเรียกการเคลื่อนไหวของพ่อว่าเป็นการ "ซุ่มโจมตี" แต่กลับชี้ไปที่ที่มาชองความตึงเครียดที่ลึกซึ้งกว่า นั่นคือ แคเธอรีน วู (Catherine Wu) ที่ปรึกษาคณะกรรมการของบริษัทลูก CDL แต่ลูกชายของเขากล่าวหาว่าแทรกแซงกิจการของบริษัทกัวอี้จื้อ กล่าวว่า "เธอแทรกแซงในเรื่องต่างๆ มากเกินกว่าขอบเขตของเธอ และเธอมีอิทธิพลมหาศาล เรื่องเหล่านี้สร้างปัญหาให้กับเราในฐานะกรรมการ""เนื่องจากความสัมพันธ์อันยาวนานของเธอกับประธานบริษัท (ผู้เป็นพ่อ) ความพยายามในการจัดการสถานการณ์จึงทำไปด้วยความอ่อนไหว แต่ก็ไร้ผล" กัวอี้จื้อ ผู้เป็นลูก กล่าวข้อพิพาทดังกล่าวได้เปิดเผยถึงการแย่งชิงอำนาจภายใน CDL ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ตามมูลค่าตลาด และตระกูลกัว ซึ่งอาณาจักรของพวกเขามีมูลค่า 11,500 ล้านดอลลาร์ตามการจัดอันดับของนิตยสาร Forbesในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ กัวลิ่งหมิง ได้ยื่นคำร้องให้ กัวอี้จื้อ ออกจากตำแหน่ง CEO โดยระบุว่าลูกชายกระทำการให้เกิด "ความผิดพลาดหลายครั้ง" โดยอ้างถึงการขาดทุนมหาศาล 1.4 พันล้านดอลลาร์ใน "ความล้มเหลว" ในปี 2020 และการตัดสินใจลงทุนที่ผิดพลาดในสหราชอาณาจักรราคาหุ้นของ CDL ยัง "ทำผลงานได้ต่ำกว่าคู่แข่งอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ (กัวอี้จื้อ) เข้ารับตำแหน่งผู้นำในปี 2018" กัวลิ่งหมิง ผู้ก่อตั้งบริษัทกล่าว"(คนหนุ่มสาว) อาจทำผิดพลาดในอาชีพการงานได้ และนั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่การหลีกเลี่ยงกฎหมายการกำกับดูแลกิจการถือเป็นการล้ำเส้น" กัวลิ่งหมิง กล่าว"ในฐานะพ่อ การไล่ลูกชายออกไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย" แต่ผลที่ตามมา "ก็สูงเกินไปที่จะปล่อยให้การยึดอำนาจโดยไม่คิดหน้าคิดหลังมาทำให้บริษัทไม่มั่นคง" เขากล่าวหุ้นของบริษัทมูลค่า 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐยังคงถูกระงับ และ CDL ถูกปรับลดระดับโดยบริษัทต่างๆ รวมถึง JPMorgan Chase & Co ตามรายงานของ Bloomberg'การกระทำที่ไม่รอบคอบ'CDL เริ่มต้นจากธุรกิจที่ขาดทุนตอนที่ กัวลิ่งหมิง พ่อของเขา กัวฟางเฟิง (Kwek Hong Png) และพี่ชายของเขา กัวลิ่วอวี้ (Kwek Leng Joo) ซื้อกิจการในปี 1971ภายใต้การบริหารของ กัวลิ่งหมิง บริษัทได้ขยายตัวอย่างมาก โดยปัจจุบันพอร์ตโฟลิโอของบริษัทครอบคลุมถึงที่พักอาศัย สำนักงาน โรงแรม ศูนย์การค้า และการพัฒนาแบบบูรณาการในสิงคโปร์ รวมถึงจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และทั่วทั้งยุโรปการที่บริษัทเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมทำให้บริษัทในเครือ Millennium & Copthorne Hotels กลายเป็นกลุ่มโรงแรมระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในศูนย์กลางการเงิน โดยมีทรัพย์สินรวมถึงโรงแรม The Biltmore ในย่าน Mayfair ของลอนดอน และ Millennium ในย่าน Wall Street และ Times Square ของนิวยอร์กกัวลิ่งหมิง กล่าวว่าการรักษามรดกของเขาไว้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาต่อสู้กับลูกชายและพันธมิตรในห้องประชุมของเขา“การกระทำที่ไร้ความรอบคอบของกลุ่มที่พยายามจะรวมอำนาจควบคุมที่ไร้การควบคุมเข้าด้วยกันนั้นไม่เพียงแต่ทำลายรากฐานของการปกครองของ CDL เท่านั้น แต่ยังทำให้มรดกที่เราสร้างมาตลอดหลายทศวรรษตกอยู่ในความเสี่ยงอีกด้วย” กัวลิ่งหมิง กล่าวขณะนี้ศาลเข้ามาเกี่ยวข้องและผู้นำของ CDL ก็ตกเป็นเป้าหมาย ความขัดแย้งในครอบครัวที่ขมขื่นนี้ยังไม่จบสิ้นกัวอี้จื้อ ได้ปกป้องการเคลื่อนไหวของเขาในการปลด แคเทอรีน วู ออกจากคณะกรรมการบริษัท Millennium & Copthorne เนื่องจาก "จำเป็น" สำหรับผลประโยชน์ของ CDL โดยเสริมว่ากรรมการส่วนใหญ่จะยังคง "รักษาการกำกับดูแลกิจการและความรับผิดชอบขององค์กรต่อไป"กัวลิ่งหมิง พ่อของเขาซึ่งไม่ได้กล่าวถึง วู ในคำตอบของตนยืนยันว่า "การลิดรอนอำนาจที่สำคัญใดๆ ของประธานบริหารถือเป็นการก่อรัฐประหาร"“ตอนนี้เป็นเรื่องของศาล และผมจะปล่อยให้ศาลตัดสิน ความยุติธรรมย่อมมีชัยเสมอ” กัวลิ่งหมิง กล่าวAgence France-PressePhoto Kwek Leng Beng by Roslan RAHMAN / AFP
    ความขัดแย้งระหว่างพ่อกับลูกของหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศแห่งนี้ และมีความเป็นและความตายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของสิงคโปร์อย่าง City Developments Ltd (CDL) เป็นเดิมพัน ได้ปะทุขึ้นต่อหน้าสาธารณชนในสัปดาห์นี้ การโต้เถียงกันระหว่างประธานบริหารของ CDL คือ กัวลิ่งหมิง (Kwek Leng Beng) และลูกชายของเขา คือ กัวอี้จื้อ (Sherman Kwek) ได้เปิดเผยถึงรอยร้าวที่ลึกซึ้งภายในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับสี่ของสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในอันดับมหาเศรษฐฐีชั้นนำที่จัดอันดับโดย Forbesศึกสายเลือกครั้งนี้เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาเรื่องความผิดพลาดขององค์กร การละเมิดการกำกับดูแล และความสัมพันธ์ส่วนตัวกำลังคุกคามที่จะยกระดับเป็นการต่อสู้ในศาลเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งในอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เรื่องพิพาทของทั้งคู่เดิมทีเป็นเรื่องในบริษัท แต่ปรากฏต่อสาธารณชนครั้งแรกของปัญหาเกิดขึ้นเมื่อวันพุธ เมื่อ CDL ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี Straits Times ของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เรียกร้องให้หยุดการซื้อขายกะทันหัน ตามด้วยแถลงการณ์ยกเลิกการสรุปผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2024 ที่กำหนดไว้จากนั้นก็เกิดเรื่องที่น่าตกตะลึง นั่นคือ กัวลิ่งหมิง (Kwek Leng Beng) ผู้นำตระกูลวัย 84 ปี กล่าวหาลูกชายและซีอีโอของ CDL ต่อสาธารณะว่าวางแผน "พยายามก่อรัฐประหารในระดับคณะกรรมการ"ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า กัวอี้จื้อ (Sherman Kwek) ลูกชายคนเล็ก พร้อมด้วยคณะกรรมการส่วนใหญ่ ได้แต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติมอีก 2 คนเพื่อ "รวมอำนาจการควบคุมคณะกรรมการ" และ CDL เพื่อขัดขวางการแย่งชิงอำนาจ กัวลิ่งหมิง ผู้เป็นพ่อได้ยื่นฟ้องและต่อมาประกาศว่าเขาได้รับคำสั่งศาลให้หยุดการเปลี่ยนแปลงในคณะกรรมการและฝ่ายบริหารของ CDL Groupกัวอี้จื้อ วัย 49 ปี ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบอสตัน ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยกล่าวว่า "เราไม่ได้พยายามขับไล่ประธาน"เขาเรียกการเคลื่อนไหวของพ่อว่าเป็นการ "ซุ่มโจมตี" แต่กลับชี้ไปที่ที่มาชองความตึงเครียดที่ลึกซึ้งกว่า นั่นคือ แคเธอรีน วู (Catherine Wu) ที่ปรึกษาคณะกรรมการของบริษัทลูก CDL แต่ลูกชายของเขากล่าวหาว่าแทรกแซงกิจการของบริษัทกัวอี้จื้อ กล่าวว่า "เธอแทรกแซงในเรื่องต่างๆ มากเกินกว่าขอบเขตของเธอ และเธอมีอิทธิพลมหาศาล เรื่องเหล่านี้สร้างปัญหาให้กับเราในฐานะกรรมการ""เนื่องจากความสัมพันธ์อันยาวนานของเธอกับประธานบริษัท (ผู้เป็นพ่อ) ความพยายามในการจัดการสถานการณ์จึงทำไปด้วยความอ่อนไหว แต่ก็ไร้ผล" กัวอี้จื้อ ผู้เป็นลูก กล่าวข้อพิพาทดังกล่าวได้เปิดเผยถึงการแย่งชิงอำนาจภายใน CDL ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ตามมูลค่าตลาด และตระกูลกัว ซึ่งอาณาจักรของพวกเขามีมูลค่า 11,500 ล้านดอลลาร์ตามการจัดอันดับของนิตยสาร Forbesในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ กัวลิ่งหมิง ได้ยื่นคำร้องให้ กัวอี้จื้อ ออกจากตำแหน่ง CEO โดยระบุว่าลูกชายกระทำการให้เกิด "ความผิดพลาดหลายครั้ง" โดยอ้างถึงการขาดทุนมหาศาล 1.4 พันล้านดอลลาร์ใน "ความล้มเหลว" ในปี 2020 และการตัดสินใจลงทุนที่ผิดพลาดในสหราชอาณาจักรราคาหุ้นของ CDL ยัง "ทำผลงานได้ต่ำกว่าคู่แข่งอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ (กัวอี้จื้อ) เข้ารับตำแหน่งผู้นำในปี 2018" กัวลิ่งหมิง ผู้ก่อตั้งบริษัทกล่าว"(คนหนุ่มสาว) อาจทำผิดพลาดในอาชีพการงานได้ และนั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่การหลีกเลี่ยงกฎหมายการกำกับดูแลกิจการถือเป็นการล้ำเส้น" กัวลิ่งหมิง กล่าว"ในฐานะพ่อ การไล่ลูกชายออกไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย" แต่ผลที่ตามมา "ก็สูงเกินไปที่จะปล่อยให้การยึดอำนาจโดยไม่คิดหน้าคิดหลังมาทำให้บริษัทไม่มั่นคง" เขากล่าวหุ้นของบริษัทมูลค่า 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐยังคงถูกระงับ และ CDL ถูกปรับลดระดับโดยบริษัทต่างๆ รวมถึง JPMorgan Chase & Co ตามรายงานของ Bloomberg'การกระทำที่ไม่รอบคอบ'CDL เริ่มต้นจากธุรกิจที่ขาดทุนตอนที่ กัวลิ่งหมิง พ่อของเขา กัวฟางเฟิง (Kwek Hong Png) และพี่ชายของเขา กัวลิ่วอวี้ (Kwek Leng Joo) ซื้อกิจการในปี 1971ภายใต้การบริหารของ กัวลิ่งหมิง บริษัทได้ขยายตัวอย่างมาก โดยปัจจุบันพอร์ตโฟลิโอของบริษัทครอบคลุมถึงที่พักอาศัย สำนักงาน โรงแรม ศูนย์การค้า และการพัฒนาแบบบูรณาการในสิงคโปร์ รวมถึงจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และทั่วทั้งยุโรปการที่บริษัทเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมทำให้บริษัทในเครือ Millennium & Copthorne Hotels กลายเป็นกลุ่มโรงแรมระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในศูนย์กลางการเงิน โดยมีทรัพย์สินรวมถึงโรงแรม The Biltmore ในย่าน Mayfair ของลอนดอน และ Millennium ในย่าน Wall Street และ Times Square ของนิวยอร์กกัวลิ่งหมิง กล่าวว่าการรักษามรดกของเขาไว้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาต่อสู้กับลูกชายและพันธมิตรในห้องประชุมของเขา“การกระทำที่ไร้ความรอบคอบของกลุ่มที่พยายามจะรวมอำนาจควบคุมที่ไร้การควบคุมเข้าด้วยกันนั้นไม่เพียงแต่ทำลายรากฐานของการปกครองของ CDL เท่านั้น แต่ยังทำให้มรดกที่เราสร้างมาตลอดหลายทศวรรษตกอยู่ในความเสี่ยงอีกด้วย” กัวลิ่งหมิง กล่าวขณะนี้ศาลเข้ามาเกี่ยวข้องและผู้นำของ CDL ก็ตกเป็นเป้าหมาย ความขัดแย้งในครอบครัวที่ขมขื่นนี้ยังไม่จบสิ้นกัวอี้จื้อ ได้ปกป้องการเคลื่อนไหวของเขาในการปลด แคเทอรีน วู ออกจากคณะกรรมการบริษัท Millennium & Copthorne เนื่องจาก "จำเป็น" สำหรับผลประโยชน์ของ CDL โดยเสริมว่ากรรมการส่วนใหญ่จะยังคง "รักษาการกำกับดูแลกิจการและความรับผิดชอบขององค์กรต่อไป"กัวลิ่งหมิง พ่อของเขาซึ่งไม่ได้กล่าวถึง วู ในคำตอบของตนยืนยันว่า "การลิดรอนอำนาจที่สำคัญใดๆ ของประธานบริหารถือเป็นการก่อรัฐประหาร"“ตอนนี้เป็นเรื่องของศาล และผมจะปล่อยให้ศาลตัดสิน ความยุติธรรมย่อมมีชัยเสมอ” กัวลิ่งหมิง กล่าวAgence France-PressePhoto Kwek Leng Beng by Roslan RAHMAN / AFP
    0 Comments 0 Shares 887 Views 0 Reviews
  • ไต้หวันในวันอาทิตย์(16ก.พ.) ยกย่องถ้อยคำที่ "เป็นพวกและเป็นมิตร" เกี่ยวกับเกาะแห่งนี้บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯที่มีการอัพเดทใหม่ ซึ่งถอดข้อความที่ว่าวอชิงตัน "ไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป

    สหรัฐฯเป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญที่สุดของไต้หวันมาช้านาน แม้พวกเขาถอนการรับรองทางการทูตเกาะปกครองตนเองแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1979 แล้วหันไปสถาปนาความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีอิทธิพลมากกว่าแทน

    ภาษาอย่างเป็นทางการที่ใช้จำกัดความความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ไต้หวัน เป็นประเด็นที่อ่อนไหวอย่างมากและความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ต่อการเปลี่ยนแปลงในเอกสารข้อเท็จจริงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเกี่ยวกับเกาะไต้หวัน เคยโหมกระพือการตอบโต้ด้วยความเดือดดาลมาจากจีน ซึ่งอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน

    นอกจากปรับแต่งข้อความอื่นๆแล้ว ในการอัทเดทล่าสุดของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้ลบบรรทัดที่มีการเน้นย้ำว่า "เราไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป เอเอฟพีวิเคราะห์ข้อความบนเพจกระทวงการต่างประเทศสหรัฐฯเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้านี้

    อย่างไรก็ตามบนเพจยังคงเน้นย้ำว่าวอชิงตันยอมรับเพียงปักกิ่ง ในฐานะรัฐบาลจีนภายใต้ "นโยบายจีนเดียวที่ยืดถือมานาน" และคัดค้านการ "เปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่ว่าจากฝ่ายใดก็ตาม"

    กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันบอกว่าถ้อยคำ "ที่เป็นบวกและเป็นมิตร" ในเอกสารข้อเท็จจริงที่อัพเดทเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สะท้อนถึงความใกล้ชิดและเป็นมิตรในความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ

    หลิน เชีย-ลัง รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน ขอบคุณรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ "สำหรับคำมั่้นสัญญาต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน เศรษฐกิจไต้หวัน-อเมริกา ความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าและเทคโนโลยี รวมถึงด้านอวกาศนานาชาติของไต้หวัน" กระทรวงการต่างประเทศระบุ

    สถาบันอเมริกาในไต้หวัน(AIT) ซึ่งถือเป็นสถานทูตโดยพฤตินัยของสหรัฐฯ บอกว่าการอัพเดทดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติ "เราเน้นย้ำมาช้านานว่าเราคัดค้านการเปลี่ยนแปลงแต่เพียงฝ่ายเดียวจากทั้ง 2 ฝ่าย ต่อสถานภาพในปัจจุบัน" โฆษกของ AIT ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ต่อเอเอฟพี

    "เราไม่ขอแสดงความคิดเห็นกับทุกสมมุติฐานต่างๆที่จีนนำเสนอ หนึ่งเดียวที่เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน" ถ้อยแถลงระบุ

    ไต้หวัน พยายามหาทางอยู่ฝ่ายเดียวกับ ทรัมป์ ผู้ซึ่งสไตล์ทางการทูตก่อความกังวลเกี่ยวกับความตั้งใจของเขาในการปกป้องเกาะแห่งนี้จากจีน

    ทรัมป์ เคยก่อความวิตกกังวลแก่ไต้หวัน ด้วยการบ่งชี้ว่าไทเปควรจ่ายเงินตอบแทนแก่สหรัฐฯ สำหรับเป็นค่าปกป้องและกล่าวหาเกาะแห่งนี้ขโมยอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา

    ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ประกาศกร้าวเมื่อวันศุกร์(14ก.พ.) ว่าจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯและด้านการป้องกันตนเอง หลัง ทรัมป์ ขู่รีดภาษี 100% ต่อชิปเซเมคอนดัคเตอร์ของเกาะแห่งนี้

    ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯถอดข้อความเกี่ยวกับการไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวันออกไป โดยในเดือนพฤษภาคม 2022 รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ณ ขณะนั้น ได้ถอดข้อความดังกล่าว ซึ่งก่อความเดือดดาลแก่จีน ก่อคืนสถานะมันกลับมาหลังจากนั้น

    ข้อพิพาทระหว่างจีนกับไต้หวัน ต้องย้อนกลับไปใน 1949 ครั้งที่กองกำลังชาตินิยมก๊กมินตั๋งของเจียงไคเช็ค หลบหนีไปยังไต้หวัน หลังพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองแก่กองกำลังคอมมิวนิสต์ของเหมา เจ๋อตง

    หต้หวัน ซึ่งมีรัฐบาล กองทัพและค่าเงินเป็นของตนเอง เรียกตัวเองว่าเป็นชาติอธิปไตย แต่ไม่ถึงขั้นประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเส้นตายที่ปักกิ่งขีดไว้

    (ที่มา:เอเอฟพี)
    https://factcheck.afp.com/doc.afp.com.36XB67E
    ไต้หวันในวันอาทิตย์(16ก.พ.) ยกย่องถ้อยคำที่ "เป็นพวกและเป็นมิตร" เกี่ยวกับเกาะแห่งนี้บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯที่มีการอัพเดทใหม่ ซึ่งถอดข้อความที่ว่าวอชิงตัน "ไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป สหรัฐฯเป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญที่สุดของไต้หวันมาช้านาน แม้พวกเขาถอนการรับรองทางการทูตเกาะปกครองตนเองแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1979 แล้วหันไปสถาปนาความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีอิทธิพลมากกว่าแทน ภาษาอย่างเป็นทางการที่ใช้จำกัดความความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ไต้หวัน เป็นประเด็นที่อ่อนไหวอย่างมากและความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ต่อการเปลี่ยนแปลงในเอกสารข้อเท็จจริงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเกี่ยวกับเกาะไต้หวัน เคยโหมกระพือการตอบโต้ด้วยความเดือดดาลมาจากจีน ซึ่งอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน นอกจากปรับแต่งข้อความอื่นๆแล้ว ในการอัทเดทล่าสุดของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้ลบบรรทัดที่มีการเน้นย้ำว่า "เราไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวัน" ออกไป เอเอฟพีวิเคราะห์ข้อความบนเพจกระทวงการต่างประเทศสหรัฐฯเทียบกับเวอร์ชันก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามบนเพจยังคงเน้นย้ำว่าวอชิงตันยอมรับเพียงปักกิ่ง ในฐานะรัฐบาลจีนภายใต้ "นโยบายจีนเดียวที่ยืดถือมานาน" และคัดค้านการ "เปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบันแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่ว่าจากฝ่ายใดก็ตาม" กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันบอกว่าถ้อยคำ "ที่เป็นบวกและเป็นมิตร" ในเอกสารข้อเท็จจริงที่อัพเดทเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สะท้อนถึงความใกล้ชิดและเป็นมิตรในความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ หลิน เชีย-ลัง รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน ขอบคุณรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ "สำหรับคำมั่้นสัญญาต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน เศรษฐกิจไต้หวัน-อเมริกา ความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าและเทคโนโลยี รวมถึงด้านอวกาศนานาชาติของไต้หวัน" กระทรวงการต่างประเทศระบุ สถาบันอเมริกาในไต้หวัน(AIT) ซึ่งถือเป็นสถานทูตโดยพฤตินัยของสหรัฐฯ บอกว่าการอัพเดทดังกล่าวถือเป็นเรื่องปกติ "เราเน้นย้ำมาช้านานว่าเราคัดค้านการเปลี่ยนแปลงแต่เพียงฝ่ายเดียวจากทั้ง 2 ฝ่าย ต่อสถานภาพในปัจจุบัน" โฆษกของ AIT ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ต่อเอเอฟพี "เราไม่ขอแสดงความคิดเห็นกับทุกสมมุติฐานต่างๆที่จีนนำเสนอ หนึ่งเดียวที่เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน" ถ้อยแถลงระบุ ไต้หวัน พยายามหาทางอยู่ฝ่ายเดียวกับ ทรัมป์ ผู้ซึ่งสไตล์ทางการทูตก่อความกังวลเกี่ยวกับความตั้งใจของเขาในการปกป้องเกาะแห่งนี้จากจีน ทรัมป์ เคยก่อความวิตกกังวลแก่ไต้หวัน ด้วยการบ่งชี้ว่าไทเปควรจ่ายเงินตอบแทนแก่สหรัฐฯ สำหรับเป็นค่าปกป้องและกล่าวหาเกาะแห่งนี้ขโมยอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา ไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ประกาศกร้าวเมื่อวันศุกร์(14ก.พ.) ว่าจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯและด้านการป้องกันตนเอง หลัง ทรัมป์ ขู่รีดภาษี 100% ต่อชิปเซเมคอนดัคเตอร์ของเกาะแห่งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯถอดข้อความเกี่ยวกับการไม่สนับสนุนเอกราชไต้หวันออกไป โดยในเดือนพฤษภาคม 2022 รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ณ ขณะนั้น ได้ถอดข้อความดังกล่าว ซึ่งก่อความเดือดดาลแก่จีน ก่อคืนสถานะมันกลับมาหลังจากนั้น ข้อพิพาทระหว่างจีนกับไต้หวัน ต้องย้อนกลับไปใน 1949 ครั้งที่กองกำลังชาตินิยมก๊กมินตั๋งของเจียงไคเช็ค หลบหนีไปยังไต้หวัน หลังพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองแก่กองกำลังคอมมิวนิสต์ของเหมา เจ๋อตง หต้หวัน ซึ่งมีรัฐบาล กองทัพและค่าเงินเป็นของตนเอง เรียกตัวเองว่าเป็นชาติอธิปไตย แต่ไม่ถึงขั้นประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นเส้นตายที่ปักกิ่งขีดไว้ (ที่มา:เอเอฟพี) https://factcheck.afp.com/doc.afp.com.36XB67E
    FACTCHECK.AFP.COM
    Posts falsely claim Trump administration changed Taiwan webpage
    Various US government websites have been scrubbed of key information since Donald Trump began his second term, but the State Department has not overhauled its Taiwan factsheet webpage as of February 14. Social media posts alleging the page had been altered falsely shared a screenshot from an older version of the site that was changed under former president Joe Biden.
    0 Comments 0 Shares 460 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/live/5QzSMEsjSh4?si=BRN1WdQ81NoZafPY
    https://www.youtube.com/live/5QzSMEsjSh4?si=BRN1WdQ81NoZafPY
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
  • https://youtube.com/live/-5eUGIgpzGw?si=3JrAfpUjiU0GsOy_
    https://youtube.com/live/-5eUGIgpzGw?si=3JrAfpUjiU0GsOy_
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • งามหน้าฝรั่งเศส ..นักกีฬาที่ได้รับรางวัลเหรียญกีฬาโอลิมปิก 2024 ไม่พอใจแห่คืนกว่า100เหรียญรางวัลที่เสื่อมสภาพชำรุดไวทั้งหลุดร่อนแตก เพราะโรงกษาปณ์แห่งชาติฝรั่งเศสผลิตด้วยคุณภาพต่ำและงานหยาบ

    ประเด็นเหรียญโอลิมปิก2024เสื่อมสภาพ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่เมืองปารีส กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Monnaie de Paris (โรงกษาปณ์แห่งฝรั่งเศส) ซึ่งเป็นสถาบันที่รับผิดชอบในการผลิตและควบคุมคุณภาพของเหรียญรางวัล เพื่อประเมินข้อร้องเรียนใดๆ ที่เกี่ยวกับเหรียญรางวัล รวมถึงเพื่อทำความเข้าใจถึงสถานการณ์และสาเหตุของความเสียหาย” IOC กล่าว

    “เหรียญที่ชำรุดจะถูกแทนที่โดย Monnaie de Paris อย่างเป็นระบบและแกะสลักให้เหมือนกันทุกประการ

    “กระบวนการทดแทนควรจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้”

    เมื่อได้รับการติดต่อจาก AFP โฆษกของ Monnaie de Paris ได้ออกมาปฏิเสธคำว่า "มีข้อบกพร่อง" และกล่าวว่าเหรียญรางวัลที่นักกีฬาระบุว่า "ได้รับความเสียหาย" มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมนั้นก็ได้รับการทดแทนไปแล้ว

    “เราได้เปลี่ยนเหรียญที่เสียหายทั้งหมดไปแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม และเราจะยังคงดำเนินการต่อไปในลักษณะมืออาชีพเช่นเดิม” โฆษกกล่าว พร้อมเสริมว่าขณะนี้กำลังดำเนินการเปลี่ยนเหรียญใหม่ “ตามคำร้องขอที่เข้ามา”

    ตามรายงานของสื่อออนไลน์ของฝรั่งเศส La Lettre ระบุว่า "นักกีฬาที่ไม่พอใจได้ส่งคืนเหรียญรางวัลที่ชำรุดมากกว่า 100 เหรียญ" และพบว่ารางวัลที่ได้รับนั้นเสื่อมลง

    นักกีฬาโอลิมปิกบางคนจากการแข่งขันที่ปารีสได้ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแบ่งปันภาพเหรียญรางวัลของตน

    นักกีฬาคนหนึ่งคือ Nyjah Huston นักสเก็ตบอร์ดชาวอเมริกัน ซึ่งคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันสเก็ตบอร์ดแนวสตรีทเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม

    สิบวันต่อมา เขาได้โพสต์รูปเหรียญรางวัลของเขา พร้อมบ่นถึงคุณภาพของมัน

    “เหรียญรางวัลโอลิมปิกเหล่านี้ดูดีเยี่ยมเมื่อยังใหม่ แต่หลังจากที่ปล่อยให้มันเกาะบนผิวหนังพร้อมกับเหงื่ออยู่สักพักแล้วให้เพื่อนๆ สวมใส่ในช่วงสุดสัปดาห์ ดูเหมือนว่าเหรียญรางวัลเหล่านั้นจะไม่มีคุณภาพสูงเท่าที่คิด” เขากล่าว

    “มันดูหยาบมาก แม้แต่ด้านหน้าก็เริ่มแตกออกเล็กน้อยแล้ว”

    ตามที่ La Lettre กล่าวไว้ เหรียญรางวัล "จะต้องรับภาระหนักจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นำมาใช้" เนื่องจากกฎระเบียบใหม่ห้ามใช้ส่วนประกอบของวานิชที่เคยใช้มาก่อนและ "ต้องเปลี่ยนใหม่ในระยะเวลาอันสั้น"

    เหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงจำนวน 5,084 เหรียญสำหรับการแข่งขันปารีส 2024 ได้รับการออกแบบโดยบริษัทเครื่องประดับและนาฬิกาสุดหรู Chaumet (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ กลุ่ม บริษัท LVMH ) และผลิตโดย Monnaie de Paris

    แต่ละเหรียญจะมีชิ้นส่วนเล็กๆ ของหอไอเฟลซึ่งนำมาจากหุ้นของบริษัทดำเนินงานอนุสาวรีย์แห่งปารีส
    งามหน้าฝรั่งเศส ..นักกีฬาที่ได้รับรางวัลเหรียญกีฬาโอลิมปิก 2024 ไม่พอใจแห่คืนกว่า100เหรียญรางวัลที่เสื่อมสภาพชำรุดไวทั้งหลุดร่อนแตก เพราะโรงกษาปณ์แห่งชาติฝรั่งเศสผลิตด้วยคุณภาพต่ำและงานหยาบ ประเด็นเหรียญโอลิมปิก2024เสื่อมสภาพ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่เมืองปารีส กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Monnaie de Paris (โรงกษาปณ์แห่งฝรั่งเศส) ซึ่งเป็นสถาบันที่รับผิดชอบในการผลิตและควบคุมคุณภาพของเหรียญรางวัล เพื่อประเมินข้อร้องเรียนใดๆ ที่เกี่ยวกับเหรียญรางวัล รวมถึงเพื่อทำความเข้าใจถึงสถานการณ์และสาเหตุของความเสียหาย” IOC กล่าว “เหรียญที่ชำรุดจะถูกแทนที่โดย Monnaie de Paris อย่างเป็นระบบและแกะสลักให้เหมือนกันทุกประการ “กระบวนการทดแทนควรจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้” เมื่อได้รับการติดต่อจาก AFP โฆษกของ Monnaie de Paris ได้ออกมาปฏิเสธคำว่า "มีข้อบกพร่อง" และกล่าวว่าเหรียญรางวัลที่นักกีฬาระบุว่า "ได้รับความเสียหาย" มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมนั้นก็ได้รับการทดแทนไปแล้ว “เราได้เปลี่ยนเหรียญที่เสียหายทั้งหมดไปแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม และเราจะยังคงดำเนินการต่อไปในลักษณะมืออาชีพเช่นเดิม” โฆษกกล่าว พร้อมเสริมว่าขณะนี้กำลังดำเนินการเปลี่ยนเหรียญใหม่ “ตามคำร้องขอที่เข้ามา” ตามรายงานของสื่อออนไลน์ของฝรั่งเศส La Lettre ระบุว่า "นักกีฬาที่ไม่พอใจได้ส่งคืนเหรียญรางวัลที่ชำรุดมากกว่า 100 เหรียญ" และพบว่ารางวัลที่ได้รับนั้นเสื่อมลง นักกีฬาโอลิมปิกบางคนจากการแข่งขันที่ปารีสได้ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแบ่งปันภาพเหรียญรางวัลของตน นักกีฬาคนหนึ่งคือ Nyjah Huston นักสเก็ตบอร์ดชาวอเมริกัน ซึ่งคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันสเก็ตบอร์ดแนวสตรีทเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม สิบวันต่อมา เขาได้โพสต์รูปเหรียญรางวัลของเขา พร้อมบ่นถึงคุณภาพของมัน “เหรียญรางวัลโอลิมปิกเหล่านี้ดูดีเยี่ยมเมื่อยังใหม่ แต่หลังจากที่ปล่อยให้มันเกาะบนผิวหนังพร้อมกับเหงื่ออยู่สักพักแล้วให้เพื่อนๆ สวมใส่ในช่วงสุดสัปดาห์ ดูเหมือนว่าเหรียญรางวัลเหล่านั้นจะไม่มีคุณภาพสูงเท่าที่คิด” เขากล่าว “มันดูหยาบมาก แม้แต่ด้านหน้าก็เริ่มแตกออกเล็กน้อยแล้ว” ตามที่ La Lettre กล่าวไว้ เหรียญรางวัล "จะต้องรับภาระหนักจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นำมาใช้" เนื่องจากกฎระเบียบใหม่ห้ามใช้ส่วนประกอบของวานิชที่เคยใช้มาก่อนและ "ต้องเปลี่ยนใหม่ในระยะเวลาอันสั้น" เหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงจำนวน 5,084 เหรียญสำหรับการแข่งขันปารีส 2024 ได้รับการออกแบบโดยบริษัทเครื่องประดับและนาฬิกาสุดหรู Chaumet (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ กลุ่ม บริษัท LVMH ) และผลิตโดย Monnaie de Paris แต่ละเหรียญจะมีชิ้นส่วนเล็กๆ ของหอไอเฟลซึ่งนำมาจากหุ้นของบริษัทดำเนินงานอนุสาวรีย์แห่งปารีส
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 633 Views 0 Reviews
  • ยังคงตราตรึง และมันคือเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นแล้ว สำหรับการมาโชว์ตัวในงานเคานต์ดาวน์ระดับประเทศของ “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ที่ขอความเป็นไอคอนิคมาโชว์บนเวทีเคานต์ดาวน์บนผืนแผ่นดินไทยเป็นครั้งแรก สำหรับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เรียกได้ว่าสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วไทย ดังไกลระดับโลก ทุบสถิติผู้ชมกว่า 30 ล้านคนผ่านการถ่ายทอดสดกว่า 20 ช่องทางรวมถึง CNN, BBC, AP, AFP, Reuters, ABC, CCTV, South China Morning Post, MBN TV ก็ให้ความสนใจ โดยเฉพาะ CNN ยังได้สัมภาษณ์เปิดใจก่อนขึ้นเวทีถึงแพลนปี 2025 อีกด้วย

    และอีกสิ่งนึงที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากก็ในเรื่องของชุดที่โชว์ สีแดงดำ ทรงพลังแบบต้องตะโกน เป็นเสื้อบราครอปแขนยาว และกางเกงขาสั้นที่ปักเพชรไล่สีแดงดำทั้งตัว ซึ่งแบรนด์ Unkuniya (อันคุนิยะ) เป็นคนออกแบบ เพราะแบรนด์นี้โดดเด่นในด้านการปัก หรือปักตาแตก และชุดที่ร้านนี้ดีไซน์ขึ้น มักจะเป็นมิตรกับแสงไฟบนเวที จึงไม่แปลกใจทำไมทั้งชุด ทั้งคน ส่งให้โชว์ปังส่งท้ายปีแบบไม่มีอะไรมากั้น

    โดยแบรนด์ Unkuniya (อันคุนิยะ) เป็นของ “อัน วุฒิชัย แก้วหล้า” สไตลิสต์และดีไซเนอร์ เจ้าตัวเริ่มเดินทางในสายอาชีพนี้ ด้วยการเป็นสไตลิสต์ให้กับศิลปิน อาทิ D2B , กระแต , ใบเตย อาร์สยาม ฯลฯ รวมถึงดารา ไม่ว่าจะเป็นชุดเดินพรมแดง ชุดออกอีเวนต์ต่างๆ จากนั้นก็มาดีไซน์ให้กับนางงามในเวทีต่างๆ

    #MGROnline #LISAxICONSIAM #COUNTDOWNatICONSIAM2025 #Unkuniya
    ยังคงตราตรึง และมันคือเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นแล้ว สำหรับการมาโชว์ตัวในงานเคานต์ดาวน์ระดับประเทศของ “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ที่ขอความเป็นไอคอนิคมาโชว์บนเวทีเคานต์ดาวน์บนผืนแผ่นดินไทยเป็นครั้งแรก สำหรับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เรียกได้ว่าสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วไทย ดังไกลระดับโลก ทุบสถิติผู้ชมกว่า 30 ล้านคนผ่านการถ่ายทอดสดกว่า 20 ช่องทางรวมถึง CNN, BBC, AP, AFP, Reuters, ABC, CCTV, South China Morning Post, MBN TV ก็ให้ความสนใจ โดยเฉพาะ CNN ยังได้สัมภาษณ์เปิดใจก่อนขึ้นเวทีถึงแพลนปี 2025 อีกด้วย • และอีกสิ่งนึงที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากก็ในเรื่องของชุดที่โชว์ สีแดงดำ ทรงพลังแบบต้องตะโกน เป็นเสื้อบราครอปแขนยาว และกางเกงขาสั้นที่ปักเพชรไล่สีแดงดำทั้งตัว ซึ่งแบรนด์ Unkuniya (อันคุนิยะ) เป็นคนออกแบบ เพราะแบรนด์นี้โดดเด่นในด้านการปัก หรือปักตาแตก และชุดที่ร้านนี้ดีไซน์ขึ้น มักจะเป็นมิตรกับแสงไฟบนเวที จึงไม่แปลกใจทำไมทั้งชุด ทั้งคน ส่งให้โชว์ปังส่งท้ายปีแบบไม่มีอะไรมากั้น • โดยแบรนด์ Unkuniya (อันคุนิยะ) เป็นของ “อัน วุฒิชัย แก้วหล้า” สไตลิสต์และดีไซเนอร์ เจ้าตัวเริ่มเดินทางในสายอาชีพนี้ ด้วยการเป็นสไตลิสต์ให้กับศิลปิน อาทิ D2B , กระแต , ใบเตย อาร์สยาม ฯลฯ รวมถึงดารา ไม่ว่าจะเป็นชุดเดินพรมแดง ชุดออกอีเวนต์ต่างๆ จากนั้นก็มาดีไซน์ให้กับนางงามในเวทีต่างๆ • #MGROnline #LISAxICONSIAM #COUNTDOWNatICONSIAM2025 #Unkuniya
    0 Comments 0 Shares 1027 Views 0 Reviews
  • โดนใจ💘
    อยากให้คนเราเข้าใจตามนี้จัง
    โลกจะได้สงบสุข🌎
    #เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สู่สังคม
    #ตัวแทนพลังบุญ
    #ที่ปรึกษาประกันชีวิตและประกันวินาศภัย
    #ประกันชีวิตควบการลงทุน
    #ที่ปรึกษาการลงทุน
    #ประสบการณ์ด้านการประกันกว่า20ปี
    #ThaiTimes

    https://www.facebook.com/100000682746436/posts/pfbid0rpVHFkT6RnscMKkasSNGPg4DEmGF7XSeo5ZydbcUTdAFp3Eb6fc2zcUwJf9o5kgl/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
    โดนใจ💘 อยากให้คนเราเข้าใจตามนี้จัง โลกจะได้สงบสุข🌎 #เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สู่สังคม #ตัวแทนพลังบุญ #ที่ปรึกษาประกันชีวิตและประกันวินาศภัย #ประกันชีวิตควบการลงทุน #ที่ปรึกษาการลงทุน #ประสบการณ์ด้านการประกันกว่า20ปี #ThaiTimes https://www.facebook.com/100000682746436/posts/pfbid0rpVHFkT6RnscMKkasSNGPg4DEmGF7XSeo5ZydbcUTdAFp3Eb6fc2zcUwJf9o5kgl/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
    Like
    Love
    3
    0 Comments 1 Shares 1109 Views 0 Reviews
  • วันที่ 13 ตุลาคม 2567
    วันนวมินทรมหาราช
    ขึ้นทางด่วนฟรี!

    ที่มา เพจ LivingPop https://www.facebook.com/share/p/DafpqwrTx2m6u1nK/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    วันที่ 13 ตุลาคม 2567 วันนวมินทรมหาราช ขึ้นทางด่วนฟรี! ที่มา เพจ LivingPop https://www.facebook.com/share/p/DafpqwrTx2m6u1nK/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 665 Views 0 Reviews
  • บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า

    “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ

    แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย

    ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก

    เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด

    ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้

    ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง

    เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว”

    แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

    ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี

    ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก

    สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว

    จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้

    แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม

    ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture

    ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media

    เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก

    พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง

    ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้

    จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”

    https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/

    #Thaitimes
    บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้ ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้ แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้ จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/ #Thaitimes
    WWW.SALIKA.CO
    UGC เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”
    User-Generated Content (UGC) หมายถึง Story ที่ผู้บริโภค หรือลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย สร้างขึ้นมาเอง โดยผู้คนเหล่านั้น จะพูดถึงเรื่องราวที่พวกเขาประทับใจ หรือให้ความสนใจ โดยที่ต้นเรื่องไม่ต้องเสียเงินจ้างแม้แต่บาทเดียว
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 1471 Views 0 Reviews
  • AFP ตีข่าว ถนนไทยอันตรายอันดับ 2 ของเอเชีย ชี้ปัญหาส่วนหนึ่งจากเหตุทุจริตตรวจยานพาหนะ

    @สำนักข่าวอิศรา

    https://www.isranews.org/article/isranews-news/132274-isranews-ASIAA.html?fbclid=IwY2xjawFrSiFleHRuA2FlbQIxMQABHSOB7F3pVf-ZbbeJp169XkUQfVL5cjlbnkVD-zJJ7jNSUO58pRaezkPktA_aem_IqwIA5eouEh34AJMWOXbhA
    AFP ตีข่าว ถนนไทยอันตรายอันดับ 2 ของเอเชีย ชี้ปัญหาส่วนหนึ่งจากเหตุทุจริตตรวจยานพาหนะ @สำนักข่าวอิศรา https://www.isranews.org/article/isranews-news/132274-isranews-ASIAA.html?fbclid=IwY2xjawFrSiFleHRuA2FlbQIxMQABHSOB7F3pVf-ZbbeJp169XkUQfVL5cjlbnkVD-zJJ7jNSUO58pRaezkPktA_aem_IqwIA5eouEh34AJMWOXbhA
    WWW.ISRANEWS.ORG
    AFP ตีข่าว ถนนไทยอันตรายอันดับ 2 ของเอเชีย ชี้ปัญหาส่วนหนึ่งจากเหตุทุจริตตรวจยานพาหนะ
    AFP อ้างข้อมูล WHO ชี้ถนนไทยอันตราย 2 ของเอเชีย เสียชีวิตจากเหตุบนท้องถนนอันดับ 16 ของโลก -ปัญหาส่วนมากจากเมาแล้วขับ ออกแบบถนนไม่ดี เหตุทุจริตตรวจประสิทธิภาพยานพาหนะ ยกข่าว จนท.ทล.รับสินบนเป็นตัวอย่าง ขณะ รพ.ไทยแม้ประสิทธิภาพจะดี แต่การบริการฉุกเฉินในต่างจังหวัดยังเป็นปัญหา
    Like
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • ติ่ง 🇺🇦 🇺🇸 🇬🇧 🇪🇺 คิดได้ไงว่ารัสเซีย จ๊น จน จน จน😁😆

    🇷🇺 รัสเซียวางแผนเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านกลาโหม 30% ในปี 2568
    .
    🔴🔴 30 ก.ย. 67 #AFP เปิดเผย : แผนการใช้จ่ายเพิ่มล่าสุดที่วางแผนไว้ จะส่งผลให้งบประมาณกลาโหมของรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 13.5 ล้านล้านรูเบิล ในปี 2568 ตามเอกสารร่างงบประมาณที่เผยแพร่เมื่อ 30 ก.ย. บนเว็บไซต์ของรัฐสภา
    • หรือ 145,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    • หรือ งบกลาโหมรัสเซีย ในปี 68 อยู่ที่ 4.73 ล้านล้านบาท เอง😁
    • ตัวเลขนี้ ยังไม่รวมทรัพยากรอื่นๆ ที่ถูกใช้ไปกับสงคราม เช่น การใช้จ่ายที่รัสเซียเรียกว่า "ความมั่นคงภายในประเทศ" "domestic security"
    .
    อันตัน ซิลูอานอฟ Anton Siluanov รมว.คลังรัสเซีย กล่าวในการประชุมรัฐบาลทางโทรทัศน์ เมื่อ 1 ต.ค.
    • ในปี 2568 “ลำดับความสำคัญสูงสุด” ของงบประมาณคือ “การสนับสนุนทางสังคมสำหรับประชาชน”

    • ประการที่สอง คือ การจัดสรรงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ และความมั่นคง จัดสรรทรัพยากรสำหรับปฏิบัติการพิเศษทางทหาร และ 📍 "สนับสนุนครอบครัวของผู้เข้าร่วมปฏิบัติการพิเศษทางทหาร”
    • การใช้จ่ายรวมด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง จะคิดเป็นประมาณ 40% ของการใช้จ่ายของรัฐบาลรัสเซียทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 41.5 ล้านล้านรูเบิล หรือ 447,000 ล้านดอลลาร์
    .
    🔴🔴 30 ก.ย. 67 #รัสเซีย เตรียมปรับเพิ่มงบประมาณกลาโหม 25 - 30% ขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 13.5 ล้านล้านรูเบิล ในปี 2568😆
    • งบประมาณด้านกลาโหมที่จัดสรรไว้ในปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด กว่าเมื่อปีก่อนอยู่ราว 3 ล้านล้านรูเบิล
    .
    🔘 งบประมาณปี 2568 แสดงให้เห็นว่า : ปูตินได้นำเอาสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่า "แนวคิดเคนส์ทางการทหาร" “military Keynesianism” มาใช้ ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ :
    • การใช้จ่ายด้านการทหารที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงให้เกิดสงครามในยูเครน
    • กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
    • ผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น
    • การเพิ่มขึ้นนี้เป็นการยืนยันว่า : #เศรษฐกิจ ได้เปลี่ยนไปสู่การเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม
    .
    📍 ตามร่างงบประมาณ คาดว่าการใช้จ่ายด้านสังคมจะลดลง 16% จาก 7.7 ล้านล้านรูเบิล ในปี 67 เป็น 6.5 ล้านล้านรูเบิล ในปี 68
    .
    🇷🇺 🇷🇺 🇷🇺 #การลงทุนมหาศาล ของรัสเซีย ในด้านการทหาร

    🔘 ทำให้ผู้วางแผนสงครามในยุโรปเกิดความกังวล โดยระบุว่า :
    #NATO ประเมินความสามารถของรัสเซียในการทำสงครามระยะยาวต่ำเกินไป
    • ในขณะเดียวกัน #ยูเครน กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระดับการสนับสนุนในอนาคต จากพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด😆
    .
    🔴🔴 15 ก.พ. 67 "สูงกว่าที่เราคาดไว้มาก" : การผลิตอาวุธของรัสเซียทำให้ผู้วางแผนสงครามของยุโรปเป็นกังวล😁

    🇷🇺 #มอสโกว์ ได้ขยายอุตสาหกรรมของตนอย่างมหาศาล ทำให้ได้เปรียบในยูเครน และนำไปสู่การกระจายความมั่งคั่งใหม่😆

    🔘 ค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศโดยรวม ได้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ7.5% ของ GDP ของรัสเซีย
    • โรงงานผลิตกระสุน ยานพาหนะ และอุปกรณ์ต่างๆ ทำงานตลอดเวลา โดยมักจะทำงานกะละ 12 ชั่วโมง พร้อมล่วงเวลา 2 เท่า
    • มีการสร้างงานใหม่ 520,000 ตำแหน่ง ในกลุ่มอุตสาหกรรมการทหาร
    • ช่างเครื่องและช่างเชื่อมในโรงงานของรัสเซีย ที่ผลิตอุปกรณ์ทางการทหาร มีรายได้มากกว่าผู้จัดการ และทนายความทั่วไปหลายคน


    Noraseth Tuntasiri
    ติ่ง 🇺🇦 🇺🇸 🇬🇧 🇪🇺 คิดได้ไงว่ารัสเซีย จ๊น จน จน จน😁😆 🇷🇺 รัสเซียวางแผนเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านกลาโหม 30% ในปี 2568 . 🔴🔴 30 ก.ย. 67 #AFP เปิดเผย : แผนการใช้จ่ายเพิ่มล่าสุดที่วางแผนไว้ จะส่งผลให้งบประมาณกลาโหมของรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 13.5 ล้านล้านรูเบิล ในปี 2568 ตามเอกสารร่างงบประมาณที่เผยแพร่เมื่อ 30 ก.ย. บนเว็บไซต์ของรัฐสภา • หรือ 145,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ • หรือ งบกลาโหมรัสเซีย ในปี 68 อยู่ที่ 4.73 ล้านล้านบาท เอง😁 • ตัวเลขนี้ ยังไม่รวมทรัพยากรอื่นๆ ที่ถูกใช้ไปกับสงคราม เช่น การใช้จ่ายที่รัสเซียเรียกว่า "ความมั่นคงภายในประเทศ" "domestic security" . อันตัน ซิลูอานอฟ Anton Siluanov รมว.คลังรัสเซีย กล่าวในการประชุมรัฐบาลทางโทรทัศน์ เมื่อ 1 ต.ค. • ในปี 2568 “ลำดับความสำคัญสูงสุด” ของงบประมาณคือ “การสนับสนุนทางสังคมสำหรับประชาชน” • ประการที่สอง คือ การจัดสรรงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ และความมั่นคง จัดสรรทรัพยากรสำหรับปฏิบัติการพิเศษทางทหาร และ 📍 "สนับสนุนครอบครัวของผู้เข้าร่วมปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” • การใช้จ่ายรวมด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง จะคิดเป็นประมาณ 40% ของการใช้จ่ายของรัฐบาลรัสเซียทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 41.5 ล้านล้านรูเบิล หรือ 447,000 ล้านดอลลาร์ . 🔴🔴 30 ก.ย. 67 #รัสเซีย เตรียมปรับเพิ่มงบประมาณกลาโหม 25 - 30% ขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 13.5 ล้านล้านรูเบิล ในปี 2568😆 • งบประมาณด้านกลาโหมที่จัดสรรไว้ในปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด กว่าเมื่อปีก่อนอยู่ราว 3 ล้านล้านรูเบิล . 🔘 งบประมาณปี 2568 แสดงให้เห็นว่า : ปูตินได้นำเอาสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่า "แนวคิดเคนส์ทางการทหาร" “military Keynesianism” มาใช้ ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ : • การใช้จ่ายด้านการทหารที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงให้เกิดสงครามในยูเครน • กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น • ผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น • การเพิ่มขึ้นนี้เป็นการยืนยันว่า : #เศรษฐกิจ ได้เปลี่ยนไปสู่การเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม . 📍 ตามร่างงบประมาณ คาดว่าการใช้จ่ายด้านสังคมจะลดลง 16% จาก 7.7 ล้านล้านรูเบิล ในปี 67 เป็น 6.5 ล้านล้านรูเบิล ในปี 68 . 🇷🇺 🇷🇺 🇷🇺 #การลงทุนมหาศาล ของรัสเซีย ในด้านการทหาร 🔘 ทำให้ผู้วางแผนสงครามในยุโรปเกิดความกังวล โดยระบุว่า : • #NATO ประเมินความสามารถของรัสเซียในการทำสงครามระยะยาวต่ำเกินไป • ในขณะเดียวกัน #ยูเครน กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระดับการสนับสนุนในอนาคต จากพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด😆 . 🔴🔴 15 ก.พ. 67 "สูงกว่าที่เราคาดไว้มาก" : การผลิตอาวุธของรัสเซียทำให้ผู้วางแผนสงครามของยุโรปเป็นกังวล😁 🇷🇺 #มอสโกว์ ได้ขยายอุตสาหกรรมของตนอย่างมหาศาล ทำให้ได้เปรียบในยูเครน และนำไปสู่การกระจายความมั่งคั่งใหม่😆 🔘 ค่าใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศโดยรวม ได้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ7.5% ของ GDP ของรัสเซีย • โรงงานผลิตกระสุน ยานพาหนะ และอุปกรณ์ต่างๆ ทำงานตลอดเวลา โดยมักจะทำงานกะละ 12 ชั่วโมง พร้อมล่วงเวลา 2 เท่า • มีการสร้างงานใหม่ 520,000 ตำแหน่ง ในกลุ่มอุตสาหกรรมการทหาร • ช่างเครื่องและช่างเชื่อมในโรงงานของรัสเซีย ที่ผลิตอุปกรณ์ทางการทหาร มีรายได้มากกว่าผู้จัดการ และทนายความทั่วไปหลายคน Noraseth Tuntasiri
    0 Comments 0 Shares 290 Views 0 Reviews
  • 🇺🇦 🇺🇸 เซเลนสกี กล่าวว่า : ความช่วยเหลือทางทหารล่าสุดของสหรัฐฯ จะช่วยให้บรรลุชัยชนะ😁
    .
    #Zelensky กล่าวใน X : ความช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 7,900 ล้านดอลลาร์ ที่สหรัฐประกาศเมื่อ 26 ก.ย. จะช่วยให้ยูเครนได้รับชัยชนะเหนือรัสเซีย😆

    📄ในโพสต์บน #X Zelenskyy เขียนว่า : ขอบคุณโจ ไบเดน รัฐสภาสหรัฐฯ และพรรคการเมืองทั้งสองฝ่าย ตลอดจนคนอเมริกันทั้งหมด สำหรับการประกาศในวันนี้เกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านการป้องกันประเทศครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ สำหรับยูเครนเป็นมูลค่ารวม 7,900 ล้านดอลลาร์ .......

    ....... ขอชื่นชมการตัดสินใจขยายโครงการ เพื่อฝึกนักบินของเราให้บินเครื่องบิน F-16 มากขึ้น
    .
    🇺🇸 ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับคำมั่นสัญญาของโจ ไบเดน ที่จะมอบความช่วยเหลือด้านการทหาร 7,900 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน ผ่าน Agence France-Presse (AFP)

    🔺 จำนวนเงินดังกล่าวรวมถึง #PDA (Presidential Drawdown Authority) หรือ อำนาจเบิกถอนของประธานาธิบดี 5,500 ล้านดอลลาร์ที่ต้องอนุมัติก่อนจะหมดอายุลงในช่วงสิ้นปีงบประมาณของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ที่ 30 ก.ย.
    • PDA จะเปิดทางให้เพนตากอนส่งทุกอย่างจากคลังอาวุธของกองทัพสหรัฐฯ ให้ยูเครนโดยตรงได้

    ◉ เพนตากอนเปิดเผยว่า กำลังทำงานร่วมกับสภาคองเกรสเพื่อขยายอำนาจการใช้งบก้อนที่เหลือในช่วงปีงบประมาณหน้าซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 ต.ค.
    • มีการเตรียมแผนสำรอง ในกรณีที่สภาคองเกรสไม่อนุมัติการยืดอายุเวลาการใช้งบช่วยเหลือยูเครนไปปีหน้าแล้วด้วย
    .
    🔺 มีการให้คำมั่นเงินอีก 2,400 ล้านดอลลาร์ผ่านทาง #USAI (โครงการความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยของยูเครน )
    • ซึ่งหมายความว่า : "เงินจำนวนนี้จะไม่ถูกส่งไปยังสนามรบทันที" เนื่องจาก 📍 อาวุธจะต้องได้รับการจัดหาจากอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ หรือหุ้นส่วน .... ไม่ใช่มาจากคลังอาวุธของสหรัฐฯ😆
    • ไบเดนยังประกาศด้วยว่า : วอชิงตันจะจัดหาอาวุธระยะไกล Joint Standoff Weapon (JSOW) ให้กับยูเครน "เพื่อเสริมศักยภาพในการโจมตีระยะไกลของยูเครน"
    #AGM-154 (JSOW) : อาวุธปล่อยนำวิถี เป็นขีปนาวุธอากาศสู่พื้น
    ระยะปฏิบัติการ 130 ก.ม.
    .
    🇺🇸 #สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทางทหาร และเศรษฐกิจแก่ยูเครน ในช่วงสงครามไปแล้ว ราว ๆ
    💸••• 175,000 ล้านดอลลาร์💸 หรือ 5.69 ล้านล้านบาท •••😆
    .
    เมื่อ 25 ก.ย. #ทรัมป์ เรียกโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ว่า : “#อาจเป็นนักขายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” 🤣🤣🤣



    Noraseth Tuntasiri
    🇺🇦 🇺🇸 เซเลนสกี กล่าวว่า : ความช่วยเหลือทางทหารล่าสุดของสหรัฐฯ จะช่วยให้บรรลุชัยชนะ😁 . #Zelensky กล่าวใน X : ความช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 7,900 ล้านดอลลาร์ ที่สหรัฐประกาศเมื่อ 26 ก.ย. จะช่วยให้ยูเครนได้รับชัยชนะเหนือรัสเซีย😆 📄ในโพสต์บน #X Zelenskyy เขียนว่า : ขอบคุณโจ ไบเดน รัฐสภาสหรัฐฯ และพรรคการเมืองทั้งสองฝ่าย ตลอดจนคนอเมริกันทั้งหมด สำหรับการประกาศในวันนี้เกี่ยวกับความช่วยเหลือด้านการป้องกันประเทศครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ สำหรับยูเครนเป็นมูลค่ารวม 7,900 ล้านดอลลาร์ ....... ....... ขอชื่นชมการตัดสินใจขยายโครงการ เพื่อฝึกนักบินของเราให้บินเครื่องบิน F-16 มากขึ้น . 🇺🇸 ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับคำมั่นสัญญาของโจ ไบเดน ที่จะมอบความช่วยเหลือด้านการทหาร 7,900 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครน ผ่าน Agence France-Presse (AFP) 🔺 จำนวนเงินดังกล่าวรวมถึง #PDA (Presidential Drawdown Authority) หรือ อำนาจเบิกถอนของประธานาธิบดี 5,500 ล้านดอลลาร์ที่ต้องอนุมัติก่อนจะหมดอายุลงในช่วงสิ้นปีงบประมาณของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ที่ 30 ก.ย. • PDA จะเปิดทางให้เพนตากอนส่งทุกอย่างจากคลังอาวุธของกองทัพสหรัฐฯ ให้ยูเครนโดยตรงได้ ◉ เพนตากอนเปิดเผยว่า กำลังทำงานร่วมกับสภาคองเกรสเพื่อขยายอำนาจการใช้งบก้อนที่เหลือในช่วงปีงบประมาณหน้าซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 ต.ค. • มีการเตรียมแผนสำรอง ในกรณีที่สภาคองเกรสไม่อนุมัติการยืดอายุเวลาการใช้งบช่วยเหลือยูเครนไปปีหน้าแล้วด้วย . 🔺 มีการให้คำมั่นเงินอีก 2,400 ล้านดอลลาร์ผ่านทาง #USAI (โครงการความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยของยูเครน ) • ซึ่งหมายความว่า : "เงินจำนวนนี้จะไม่ถูกส่งไปยังสนามรบทันที" เนื่องจาก 📍 อาวุธจะต้องได้รับการจัดหาจากอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ หรือหุ้นส่วน .... ไม่ใช่มาจากคลังอาวุธของสหรัฐฯ😆 • ไบเดนยังประกาศด้วยว่า : วอชิงตันจะจัดหาอาวุธระยะไกล Joint Standoff Weapon (JSOW) ให้กับยูเครน "เพื่อเสริมศักยภาพในการโจมตีระยะไกลของยูเครน" • #AGM-154 (JSOW) : อาวุธปล่อยนำวิถี เป็นขีปนาวุธอากาศสู่พื้น ระยะปฏิบัติการ 130 ก.ม. . 🇺🇸 #สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทางทหาร และเศรษฐกิจแก่ยูเครน ในช่วงสงครามไปแล้ว ราว ๆ 💸••• 175,000 ล้านดอลลาร์💸 หรือ 5.69 ล้านล้านบาท •••😆 . เมื่อ 25 ก.ย. #ทรัมป์ เรียกโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ว่า : “#อาจเป็นนักขายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” 🤣🤣🤣 Noraseth Tuntasiri
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 359 Views 0 Reviews
  • แส่ทุกเรื่อง!!

    PETA ชวนบอยคอต ‘สวนสัตว์เขาเขียว’
    อ้างเอา “หมูเด้ง” มาหากิน
    ชาวเน็ตสวนกลับ อเมริกาไม่มีสวนสัตว์เหรอ ?
    .
    นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นเดือดที่ทำเอาคนไทยหัวร้อนมากทีเดียว หลัง PETA องค์กรพิทักษ์สัตว์ ไม่แสวงผลกำไรด้านสิทธิสัตว์ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความชวนผู้คนบอยคอต “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” หลังความน่ารักของ “น้องหมูเด้ง” ลูกฮิปโปแคระประจำสวนสัตว์กลายเป็นไวรัลดัง จนถึงขั้นที่ไม่ว่าจะสื่อเล็ก สื่อใหญ่ หรือสื่อระดับตำนาน ต่างก็หยิบยกเรื่องราวของน้องหมูเด้งไปนำเสนอจนเจ้าหมูเด้ง พี่เบนซ์ ผู้ทำหน้าที่ดูแลเจ้าหมูเด้ง และสวนสัตว์เขาเขียวของประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
    .
    โดย PETA ระบุว่า “TikTok ทำให้หมูเด้งกลายเป็นเซเลปดัง แต่ความจริงกลับไม่ได้น่ารักแบบนั้น เพราะสวนสัตว์ในประเทศไทยกำลังหาประโยชน์จากหมูเด้ง เพื่อแสวงหากำไร โดยโชว์หมูเด้งราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้ง ๆ ที่บ้านของฮิปโป คือ ป่าในธรรมชาติ ขอชวนมาบอตคอต (Boycott) สวนสัตว์ที่กักขังสัตว์ป่ากัน!!”
    .
    แน่นอนว่าหลังจากเรื่องนี้ไปเข้าหูเข้าตาชาวเน็ต หลายคนต่างก็มองว่า ประเทศไหน ๆ ก็มีสวนสัตว์ทั้งนั้น หรืออเมริกาไม่มีสวนสัตว์ ?
    .
    อีกทั้งต่างก็พูดถึงการทำงานของทาง PETA ที่ควรรีเสิร์ชข้อมูลให้มากกว่านี้ก่อนจะออกมาโจมตีหรือชวนคนบอยคอตทางสวนสัตว์ เพราะทาง Zookeeper ประจำสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ไม่ได้เลี้ยงดูสัตว์เหล่านั้นเพราะเป็นแค่เพียงอาชีพหรือหน้าที่ แต่พวกเขาต่างก็เลี้ยงสัตว์เหล่านั้นด้วยความรัก ดูแลสัตว์ในความดูแลของตัวเองประดุจคนในครอบครัว ถึงขนาดที่ Zookeeper บางท่านแม้จะเกษียณอายุการทำงานไปแล้ว ก็ยังหาเวลากลับมาดูแลสัตว์ที่ตนเคยเลี้ยงและดูแล เพราะมันคือความผูกพันที่ดูแลกันมาหลายปี
    .
    @ThePublisher

    https://www.facebook.com/share/p/mPPuEJUAFPkyc9tF/?mibextid=oFDknk
    แส่ทุกเรื่อง!! PETA ชวนบอยคอต ‘สวนสัตว์เขาเขียว’ อ้างเอา “หมูเด้ง” มาหากิน ชาวเน็ตสวนกลับ อเมริกาไม่มีสวนสัตว์เหรอ ? . นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นเดือดที่ทำเอาคนไทยหัวร้อนมากทีเดียว หลัง PETA องค์กรพิทักษ์สัตว์ ไม่แสวงผลกำไรด้านสิทธิสัตว์ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความชวนผู้คนบอยคอต “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” หลังความน่ารักของ “น้องหมูเด้ง” ลูกฮิปโปแคระประจำสวนสัตว์กลายเป็นไวรัลดัง จนถึงขั้นที่ไม่ว่าจะสื่อเล็ก สื่อใหญ่ หรือสื่อระดับตำนาน ต่างก็หยิบยกเรื่องราวของน้องหมูเด้งไปนำเสนอจนเจ้าหมูเด้ง พี่เบนซ์ ผู้ทำหน้าที่ดูแลเจ้าหมูเด้ง และสวนสัตว์เขาเขียวของประเทศไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก . โดย PETA ระบุว่า “TikTok ทำให้หมูเด้งกลายเป็นเซเลปดัง แต่ความจริงกลับไม่ได้น่ารักแบบนั้น เพราะสวนสัตว์ในประเทศไทยกำลังหาประโยชน์จากหมูเด้ง เพื่อแสวงหากำไร โดยโชว์หมูเด้งราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้ง ๆ ที่บ้านของฮิปโป คือ ป่าในธรรมชาติ ขอชวนมาบอตคอต (Boycott) สวนสัตว์ที่กักขังสัตว์ป่ากัน!!” . แน่นอนว่าหลังจากเรื่องนี้ไปเข้าหูเข้าตาชาวเน็ต หลายคนต่างก็มองว่า ประเทศไหน ๆ ก็มีสวนสัตว์ทั้งนั้น หรืออเมริกาไม่มีสวนสัตว์ ? . อีกทั้งต่างก็พูดถึงการทำงานของทาง PETA ที่ควรรีเสิร์ชข้อมูลให้มากกว่านี้ก่อนจะออกมาโจมตีหรือชวนคนบอยคอตทางสวนสัตว์ เพราะทาง Zookeeper ประจำสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ไม่ได้เลี้ยงดูสัตว์เหล่านั้นเพราะเป็นแค่เพียงอาชีพหรือหน้าที่ แต่พวกเขาต่างก็เลี้ยงสัตว์เหล่านั้นด้วยความรัก ดูแลสัตว์ในความดูแลของตัวเองประดุจคนในครอบครัว ถึงขนาดที่ Zookeeper บางท่านแม้จะเกษียณอายุการทำงานไปแล้ว ก็ยังหาเวลากลับมาดูแลสัตว์ที่ตนเคยเลี้ยงและดูแล เพราะมันคือความผูกพันที่ดูแลกันมาหลายปี . @ThePublisher https://www.facebook.com/share/p/mPPuEJUAFPkyc9tF/?mibextid=oFDknk
    Haha
    Yay
    3
    0 Comments 1 Shares 977 Views 0 Reviews
  • ใบอนุญาต IP Invesment Planner , IC complex , IC plain และ คุณวุฒิวิชาชีพ นักวางแผนการเงิน CFP , ที่ปรึกษาการเงิน AFPT คืออะไร และทำไรได้บ้าง แตกต่างกันอย่างไร
    .
    #PlanWise
    ใบอนุญาต IP Invesment Planner , IC complex , IC plain และ คุณวุฒิวิชาชีพ นักวางแผนการเงิน CFP , ที่ปรึกษาการเงิน AFPT คืออะไร และทำไรได้บ้าง แตกต่างกันอย่างไร . #PlanWise
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 490 Views 0 Reviews
  • ยิวไซออนิสต์กำลังทำอะไรในขณะนี้?

    ยิวไซออนิสต์ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลอเมริกากำลังสั่งให้สื่อกระแสหลักของอเมริกาปล่อยข่าวเท็จว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังก้าวก่ายการเลือกตั้งในอเมริกา เพื่อปกปิดข่าวจริงที่ว่า

    ๑.แท้จริงแล้ว ยิวไซออนิสต์/อิสราเอลก้าวก่ายการเลือกตั้งในอเมริกา เพราะยิวไซออนิสต์/อิสราเอลต้องการควบคุมรัฐบาลอเมริกา ขณะนี้ ยิวไซออนิสต์ใช้เงินจาก AIPAC ซื้อตัวนักการเมืองเกือบทุกคนแล้ว

    ๒.รัฐบาลอเมริกาต่างหากที่เข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ได้รัฐบาลที่เป็นหุ่นเชิดของตนตามมา

    นอกจาก BBC CNN FoxNews NYT WaPo AP AFP Reuters ฯลฯ แล้ว สำนักข่าว VOA คือสื่อโฆษณาชวนเชื่อของอเมริกาที่ปล่อยข่าวเท็จ โจมตีประเทศฝ่ายตรงข้ามให้ผู้คนสับสนบ่อยๆ เช่นข่าวข้างล่างนี้

    https://www.voathai.com/a/us-accuses-rus…


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    ยิวไซออนิสต์กำลังทำอะไรในขณะนี้? ยิวไซออนิสต์ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลอเมริกากำลังสั่งให้สื่อกระแสหลักของอเมริกาปล่อยข่าวเท็จว่ารัฐบาลรัสเซียกำลังก้าวก่ายการเลือกตั้งในอเมริกา เพื่อปกปิดข่าวจริงที่ว่า ๑.แท้จริงแล้ว ยิวไซออนิสต์/อิสราเอลก้าวก่ายการเลือกตั้งในอเมริกา เพราะยิวไซออนิสต์/อิสราเอลต้องการควบคุมรัฐบาลอเมริกา ขณะนี้ ยิวไซออนิสต์ใช้เงินจาก AIPAC ซื้อตัวนักการเมืองเกือบทุกคนแล้ว ๒.รัฐบาลอเมริกาต่างหากที่เข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ได้รัฐบาลที่เป็นหุ่นเชิดของตนตามมา นอกจาก BBC CNN FoxNews NYT WaPo AP AFP Reuters ฯลฯ แล้ว สำนักข่าว VOA คือสื่อโฆษณาชวนเชื่อของอเมริกาที่ปล่อยข่าวเท็จ โจมตีประเทศฝ่ายตรงข้ามให้ผู้คนสับสนบ่อยๆ เช่นข่าวข้างล่างนี้ https://www.voathai.com/a/us-accuses-rus… ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 376 Views 0 Reviews
  • 🟠Data Center ยุคใหม่ ต้องเร่งเตรียม Network ให้พร้อมรับการใช้ AI ในอนาคต🟠

    https://www.techtalkthai.com/modern-data-centers-have-to-quickly-prepare-networks-to-support-future-ai-usage/?fbclid=IwY2xjawEn87dleHRuA2FlbQIxMQABHYH-VAFpumy4d_JX0PNGH2LjyvenMe2p4vgnULBf1W10wJL6CJXQppfuCQ_aem_h5uVXf1ldfxvOmvp9qyCQw
    🟠Data Center ยุคใหม่ ต้องเร่งเตรียม Network ให้พร้อมรับการใช้ AI ในอนาคต🟠 https://www.techtalkthai.com/modern-data-centers-have-to-quickly-prepare-networks-to-support-future-ai-usage/?fbclid=IwY2xjawEn87dleHRuA2FlbQIxMQABHYH-VAFpumy4d_JX0PNGH2LjyvenMe2p4vgnULBf1W10wJL6CJXQppfuCQ_aem_h5uVXf1ldfxvOmvp9qyCQw
    Like
    2
    0 Comments 1 Shares 610 Views 0 Reviews
More Results