• ชายที่แข็งแกร่งทั้งกายและใจ
    #interesting #interestingfacts #uniquefacts #satisfying

    ◆YouTube : https://www.youtube.com/@MrZERO2077
    ◆Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=100095428599918
    ◆Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/MrZERO2077

    💵สนับสนุน ได้ที่🔻

    Wallet (ทรู วอเล็ต) 💸

    [ 092-038-1957 ]
    ชายที่แข็งแกร่งทั้งกายและใจ #interesting #interestingfacts #uniquefacts #satisfying ◆YouTube : https://www.youtube.com/@MrZERO2077 ◆Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=100095428599918 ◆Thaitimes : https://thaitimes.co/pages/MrZERO2077 💵สนับสนุน ได้ที่🔻 Wallet (ทรู วอเล็ต) 💸 [ 092-038-1957 ]
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • จีน-อินเดียจับมือฟื้นสัมพันธ์! หนุนจีนนั่งประธาน SCO 📌พร้อมเปิดเที่ยวบินตรง-แลกเปลี่ยนบุคลากร เล็งฉลอง 75 ปีสถาปนาความสัมพันธ์ปี 2025
    👉Global Times รายงานความคืบหน้าการประชุมระดับรองรัฐมนตรีต่างประเทศจีน-อินเดียที่ปักกิ่ง นำโดยซุน เว่ยตง และวิกรม มิศรี บรรลุฉันทามติหลายประการ โดยอินเดียสนับสนุนจีนดำรงตำแหน่งประธาน SCO พร้อมตกลงเปิดเที่ยวบินตรงและอำนวยความสะดวกแลกเปลี่ยนบุคลากร เตรียมฉลอง 75 ปีสถาปนาความสัมพันธ์ปี 2025 ผ่านกิจกรรมหลากหลาย รวมถึงเปิดเส้นทางแสวงบุญ Kailash Mansarovar ในซีซาง ท่ามกลางการค้าที่แข็งแกร่งแม้อินเดียขาดดุล 85,100 ล้านดอลลาร์ ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้อินเดียเล็งเห็นความสำคัญการฟื้นสัมพันธ์ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ #imctnews รายงาน
    จีน-อินเดียจับมือฟื้นสัมพันธ์! หนุนจีนนั่งประธาน SCO 📌พร้อมเปิดเที่ยวบินตรง-แลกเปลี่ยนบุคลากร เล็งฉลอง 75 ปีสถาปนาความสัมพันธ์ปี 2025 👉Global Times รายงานความคืบหน้าการประชุมระดับรองรัฐมนตรีต่างประเทศจีน-อินเดียที่ปักกิ่ง นำโดยซุน เว่ยตง และวิกรม มิศรี บรรลุฉันทามติหลายประการ โดยอินเดียสนับสนุนจีนดำรงตำแหน่งประธาน SCO พร้อมตกลงเปิดเที่ยวบินตรงและอำนวยความสะดวกแลกเปลี่ยนบุคลากร เตรียมฉลอง 75 ปีสถาปนาความสัมพันธ์ปี 2025 ผ่านกิจกรรมหลากหลาย รวมถึงเปิดเส้นทางแสวงบุญ Kailash Mansarovar ในซีซาง ท่ามกลางการค้าที่แข็งแกร่งแม้อินเดียขาดดุล 85,100 ล้านดอลลาร์ ด้านผู้เชี่ยวชาญชี้อินเดียเล็งเห็นความสำคัญการฟื้นสัมพันธ์ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ #imctnews รายงาน
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออภัยที่มาอัพเรื่องให้อ่านช้า (อีกแล้ว) เพราะ Storyฯ หมดเวลาไปกับการเตรียมทริปเที่ยวหน้าหนาวค่ะ วันนี้ยังคงมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> มาเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องเกี่ยวกับชื่อของนางเอกเฉินเซ่าซาง ที่ในละครมีกล่าวถึงหลายครั้งว่าแปลว่า ‘สายพิณ’ และถึงขนาดองค์ฮองเฮายังตรัสชมว่าเป็นชื่อที่ดี

    เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้รู้สึกงงกันบ้างไหมว่า มีชื่อเป็นสายพิณมันดียังไงคะ?

    แน่นอนว่าเรากำลังคุยกันถึงพิณโบราณของจีนหรือที่เรียกว่า ‘กู่ฉิน’ (古琴) ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ถือกำเนิดมาก่อนยุคสมัยชุนชิวและการดีดพิณถือเป็นศิลปะชั้นสูงที่แฝงไว้ด้วยปรัชญาชีวิต โดยมีการกล่าวถึงปรัชญาเหล่านี้ในบันทึกเกี่ยวกับพิธีการโบราณสมัยราชวงศ์โจว วันนี้ Storyฯ จะกล่าวถึงชื่อเรียกและปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับสายพิณ

    แรกเริ่มเลยกู่ฉินมีเพียงสายพิณห้าเส้น เรียกกันว่า ‘กงซางเจวี๋ยจื่ออวี่’ ซึ่งชื่อเรียกเหล่านี้มาจากดวงดาว สรุปได้ดังนี้
    1. กง (宫) : เป็นเส้นที่ใหญ่สุด เสียงทุ้มหนักแน่น เป็นสัญลักษณ์แห่งราชัน แฝงด้วยปรัชญาแห่งการปกครองและความเป็นเจ้าคนนายคน และจัดเป็นตัวแทนแห่งธาตุดินหรือ ‘ดาวดิน’ (คือชื่อเรียกภาษาจีนของดาวเสาร์) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘โด’ นั่นเอง
    2. ซาง (商) : เป็นสัญลักษณ์ของข้าราชสำนักหรือรัฐบุรุษ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการบริหารงาน และจัดเป็นตัวแทนแห่งธาตุทองหรือ ‘ดาวทอง’ (ดาวศุกร์) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘เร’
    3. เจวี๋ย (角) : เป็นสัญลักษณ์ของประชาชน แฝงด้วยปรัชญาแห่งการเติบโตจากผืนดิน และเป็นตัวแทนแห่งธาตุไม้หรือ ‘ดาวไม้’ (ดาวพฤหัส) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘มี’
    4. จื่อ (徵) : เป็นสัญลักษณ์แห่งทุกสรรพสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการเจริญงอกงาม และเป็นตัวแทนแห่งธาตุไฟหรือ ‘ดาวไฟ’ (ดาวอังคาร) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘ฟา’
    5. อวี่ (羽) : เป็นสัญลักษณ์แห่งทุกสรรพสิ่งที่จับต้องได้ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการหล่อหลอมกลมเกลียวและเป็นตัวแทนแห่งธาตุน้ำหรือ ‘ดาวน้ำ’ (ดาวพุธ) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘ซอล’

    ต่อมากู่ฉินจึงถูกเพิ่มสายพิณขึ้นมาอีกสองเส้น จนครบคีย์ ‘ลา’ และ ‘ที’

    โดยเส้นที่หกเรียกว่า ‘เซ่ากง’ (少宫) เป็นตัวแทนแห่ง ‘ดาวบุ๋น’ (文星 หรือออกเสียงตามจีนกลางว่าดาว ‘เหวิน’ เป็นหนึ่งในดวงดาวในกลุ่มดาวหมีใหญ่) มีตำนานว่าสายพิณเส้นที่หกนี้ถูกเพิ่มเข้ามาโดยองค์โจวเหวินหวาง ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โจว (ปี 1152-1050 ก่อนคริสตกาล) เพื่อเป็นที่ระลึกถึงโอรสที่วายชนม์ไป สายพิณเซ่ากงนี้แฝงด้วยปรัชญาของการใช้ความอ่อนโยนเข้าสยบความแข็งแกร่ง

    และเส้นที่เจ็ดเรียกว่า เซ่าซาง (少商)เป็นตัวแทนแห่ง ‘ดาวบู๊’ (武星 หรือออกเสียงตามจีนกลางว่าดาว ‘อู่’ เป็นอีกหนึ่งในดวงดาวในกลุ่มดาวหมีใหญ่เช่นกัน) มีตำนานว่าสายพิณเส้นที่เจ็ดนี้ถูกเพิ่มเข้ามาโดยองค์โจวอู่หวางแห่งราชวงศ์โจว เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์ที่ล้มราชวงศ์ซางได้สำเร็จ สายพิณเซ่าซางนี้แฝงด้วยปรัชญาของการใช้ความแข็งแกร่งเข้าสยบความอ่อนแอ

    ดังนั้น ชื่อของนางเอกที่คนเขาชมว่าความหมายดีนั้น ก็คือแปลว่าเป็นคนเข้มแข็งเป็นผู้ชนะค่ะ และเพื่อนเพจที่ได้ดูละคร <ดาราจักรรักลำนำใจ> คงพอจำได้ว่านางเอกมีพี่ชายฝาแฝดนามว่า เซ่ากง ที่มีบุคลิกเป็นคนนุ่มนิ่มอยู่หนึ่งคน ทีนี้คงพอเข้าใจถึงความหมายแฝงอันบ่งบอกบุคลิกของสองพี่น้องฝาแฝดคู่นี้อันมาจากชื่อเซ่ากงและเซ่าซางแล้วนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.harpersbazaar.com/tw/culture/drama/g40713266/love-like-the-galaxy-ending/
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/21940180
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    บทความเรื่อง “คัมภีร์พิณ ดนตรีแห่งลมปราณและจิตวิญญาณ” โดย ดร.อัญชลี กิ๊บบินส์
    https://www.jianshu.com/p/11cc57a753ad
    https://baike.baidu.com/item/宫商角徵羽/85388
    https://baike.baidu.com/item/少商/10047831
    https://www.sohu.com/a/566244575_120498438

    #ดาราจักรรักลำนำใจ #สายพิณจีน #เซ่าซาง #เซ่ากง #กู่ฉิน
    ขออภัยที่มาอัพเรื่องให้อ่านช้า (อีกแล้ว) เพราะ Storyฯ หมดเวลาไปกับการเตรียมทริปเที่ยวหน้าหนาวค่ะ วันนี้ยังคงมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> มาเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องเกี่ยวกับชื่อของนางเอกเฉินเซ่าซาง ที่ในละครมีกล่าวถึงหลายครั้งว่าแปลว่า ‘สายพิณ’ และถึงขนาดองค์ฮองเฮายังตรัสชมว่าเป็นชื่อที่ดี เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้รู้สึกงงกันบ้างไหมว่า มีชื่อเป็นสายพิณมันดียังไงคะ? แน่นอนว่าเรากำลังคุยกันถึงพิณโบราณของจีนหรือที่เรียกว่า ‘กู่ฉิน’ (古琴) ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ถือกำเนิดมาก่อนยุคสมัยชุนชิวและการดีดพิณถือเป็นศิลปะชั้นสูงที่แฝงไว้ด้วยปรัชญาชีวิต โดยมีการกล่าวถึงปรัชญาเหล่านี้ในบันทึกเกี่ยวกับพิธีการโบราณสมัยราชวงศ์โจว วันนี้ Storyฯ จะกล่าวถึงชื่อเรียกและปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับสายพิณ แรกเริ่มเลยกู่ฉินมีเพียงสายพิณห้าเส้น เรียกกันว่า ‘กงซางเจวี๋ยจื่ออวี่’ ซึ่งชื่อเรียกเหล่านี้มาจากดวงดาว สรุปได้ดังนี้ 1. กง (宫) : เป็นเส้นที่ใหญ่สุด เสียงทุ้มหนักแน่น เป็นสัญลักษณ์แห่งราชัน แฝงด้วยปรัชญาแห่งการปกครองและความเป็นเจ้าคนนายคน และจัดเป็นตัวแทนแห่งธาตุดินหรือ ‘ดาวดิน’ (คือชื่อเรียกภาษาจีนของดาวเสาร์) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘โด’ นั่นเอง 2. ซาง (商) : เป็นสัญลักษณ์ของข้าราชสำนักหรือรัฐบุรุษ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการบริหารงาน และจัดเป็นตัวแทนแห่งธาตุทองหรือ ‘ดาวทอง’ (ดาวศุกร์) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘เร’ 3. เจวี๋ย (角) : เป็นสัญลักษณ์ของประชาชน แฝงด้วยปรัชญาแห่งการเติบโตจากผืนดิน และเป็นตัวแทนแห่งธาตุไม้หรือ ‘ดาวไม้’ (ดาวพฤหัส) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘มี’ 4. จื่อ (徵) : เป็นสัญลักษณ์แห่งทุกสรรพสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการเจริญงอกงาม และเป็นตัวแทนแห่งธาตุไฟหรือ ‘ดาวไฟ’ (ดาวอังคาร) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘ฟา’ 5. อวี่ (羽) : เป็นสัญลักษณ์แห่งทุกสรรพสิ่งที่จับต้องได้ แฝงด้วยปรัชญาแห่งการหล่อหลอมกลมเกลียวและเป็นตัวแทนแห่งธาตุน้ำหรือ ‘ดาวน้ำ’ (ดาวพุธ) คีย์ของสายพิณเส้นนี้คือ ‘ซอล’ ต่อมากู่ฉินจึงถูกเพิ่มสายพิณขึ้นมาอีกสองเส้น จนครบคีย์ ‘ลา’ และ ‘ที’ โดยเส้นที่หกเรียกว่า ‘เซ่ากง’ (少宫) เป็นตัวแทนแห่ง ‘ดาวบุ๋น’ (文星 หรือออกเสียงตามจีนกลางว่าดาว ‘เหวิน’ เป็นหนึ่งในดวงดาวในกลุ่มดาวหมีใหญ่) มีตำนานว่าสายพิณเส้นที่หกนี้ถูกเพิ่มเข้ามาโดยองค์โจวเหวินหวาง ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โจว (ปี 1152-1050 ก่อนคริสตกาล) เพื่อเป็นที่ระลึกถึงโอรสที่วายชนม์ไป สายพิณเซ่ากงนี้แฝงด้วยปรัชญาของการใช้ความอ่อนโยนเข้าสยบความแข็งแกร่ง และเส้นที่เจ็ดเรียกว่า เซ่าซาง (少商)เป็นตัวแทนแห่ง ‘ดาวบู๊’ (武星 หรือออกเสียงตามจีนกลางว่าดาว ‘อู่’ เป็นอีกหนึ่งในดวงดาวในกลุ่มดาวหมีใหญ่เช่นกัน) มีตำนานว่าสายพิณเส้นที่เจ็ดนี้ถูกเพิ่มเข้ามาโดยองค์โจวอู่หวางแห่งราชวงศ์โจว เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์ที่ล้มราชวงศ์ซางได้สำเร็จ สายพิณเซ่าซางนี้แฝงด้วยปรัชญาของการใช้ความแข็งแกร่งเข้าสยบความอ่อนแอ ดังนั้น ชื่อของนางเอกที่คนเขาชมว่าความหมายดีนั้น ก็คือแปลว่าเป็นคนเข้มแข็งเป็นผู้ชนะค่ะ และเพื่อนเพจที่ได้ดูละคร <ดาราจักรรักลำนำใจ> คงพอจำได้ว่านางเอกมีพี่ชายฝาแฝดนามว่า เซ่ากง ที่มีบุคลิกเป็นคนนุ่มนิ่มอยู่หนึ่งคน ทีนี้คงพอเข้าใจถึงความหมายแฝงอันบ่งบอกบุคลิกของสองพี่น้องฝาแฝดคู่นี้อันมาจากชื่อเซ่ากงและเซ่าซางแล้วนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.harpersbazaar.com/tw/culture/drama/g40713266/love-like-the-galaxy-ending/ https://zhuanlan.zhihu.com/p/21940180 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: บทความเรื่อง “คัมภีร์พิณ ดนตรีแห่งลมปราณและจิตวิญญาณ” โดย ดร.อัญชลี กิ๊บบินส์ https://www.jianshu.com/p/11cc57a753ad https://baike.baidu.com/item/宫商角徵羽/85388 https://baike.baidu.com/item/少商/10047831 https://www.sohu.com/a/566244575_120498438 #ดาราจักรรักลำนำใจ #สายพิณจีน #เซ่าซาง #เซ่ากง #กู่ฉิน
    WWW.HARPERSBAZAAR.COM
    《星漢燦爛》第一部結局趙露思、吳磊定親!「疑商夫婦」高甜名場景回顧,凌不疑化身男友力頂級教科書
    《星漢燦爛》趙露思、吳磊的感情線看得太不過癮,期待《月升滄海》開始大撒糖!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • IBM สามารถทำกำไรได้เกินคาดในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 โดยมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในส่วนของซอฟต์แวร์ เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ได้เพิ่มการใช้จ่ายด้าน IT เพื่อปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่มีการสร้างข้อมูลจำนวนมาก การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์นี้เป็นการเพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในรอบห้าปี

    IBM ยังได้คาดการณ์การเติบโตของรายได้อย่างน้อย 5% ในปีงบประมาณ 2025 ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้น 3% ที่เห็นในปี 2024. นอกจากนี้ IBM ยังได้เปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์สในเดือนพฤษภาคม ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งเช่น Microsoft ที่เรียกเก็บเงินสำหรับการเข้าถึงโมเดลของพวกเขา

    อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาของ IBM ลดลงประมาณ 2% ในไตรมาสนี้ เนื่องจากบริษัทต่างๆ มุ่งเน้นการใช้จ่ายในข้อตกลงที่ปรึกษาระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับการรวม AI เข้ากับธุรกิจของพวกเขา

    การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์และการเปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์ส แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ IBM ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/ibm-beats-profit-estimates-as-software-business-surges-on-ai-shift
    IBM สามารถทำกำไรได้เกินคาดในไตรมาสที่สี่ของปี 2024 โดยมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในส่วนของซอฟต์แวร์ เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ได้เพิ่มการใช้จ่ายด้าน IT เพื่อปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่มีการสร้างข้อมูลจำนวนมาก การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์นี้เป็นการเพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในรอบห้าปี IBM ยังได้คาดการณ์การเติบโตของรายได้อย่างน้อย 5% ในปีงบประมาณ 2025 ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้น 3% ที่เห็นในปี 2024. นอกจากนี้ IBM ยังได้เปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์สในเดือนพฤษภาคม ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งเช่น Microsoft ที่เรียกเก็บเงินสำหรับการเข้าถึงโมเดลของพวกเขา อย่างไรก็ตาม รายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาของ IBM ลดลงประมาณ 2% ในไตรมาสนี้ เนื่องจากบริษัทต่างๆ มุ่งเน้นการใช้จ่ายในข้อตกลงที่ปรึกษาระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับการรวม AI เข้ากับธุรกิจของพวกเขา การเติบโตของรายได้ในส่วนซอฟต์แวร์และการเปิดตัวโมเดล AI ตระกูล "Granite" เป็นโอเพ่นซอร์ส แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ IBM ในการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/30/ibm-beats-profit-estimates-as-software-business-surges-on-ai-shift
    WWW.THESTAR.COM.MY
    IBM beats profit estimates as AI shift boosts software performance, shares surge
    (Reuters) -IBM surpassed fourth-quarter profit estimates on Wednesday, driven by robust demand in its software unit as businesses ramped up IT spending, sending the company's shares soaring about 10% in extended trading.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาโต ปะทะ สหรัฐ (นาโต)!!!

    “พันธมิตรที่แข็งแกร่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีความท้าทายด้านความมั่นคงครั้งใหญ่” - Mette Frederiksen กล่าวในการพบกับเลขาธิการนาโต

    มาร์ค รุตเต(Mark Rutte) เลขาธิการนาโต และ เมตเต เฟรเดอริกเซน (Mette Frederiksen) นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก แสดงความเห็นคล้อยตามกันว่า จำเป็นต้องมุ่งเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการปกป้องอาร์กติก ท่ามกลางการแสดงออกอย่างชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่กระสันอยากผนวกดินแดนของเกาะกรีนแลนด์ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กไว้ในครอบครอง

    เมตเต เฟรเดอริกเซน ยังได้พบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และบอกว่าพวกผู้นำทางการเมืองในยุโรปและที่อื่นๆ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับหลักการแห่งการธำรงไว้ซึ่งความเคารพเขตแดนระหว่างประเทศ

    ทางด้าน เอลินา วัลโทเนน (Elina Valtonen) รมว.ต่างประเทศฟินแลนด์ ยืนยันว่ากรีนแลนด์ได้รับความคุ้มครองภายใต้มาตรา 5 ของนาโต้ ในฐานะดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก หลังทรัมป์แสดงความต้องการยึดครอง

    ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสได้หารือกับเดนมาร์กถึงความเป็นไปได้ในการส่งทหารไปกรีนแลนด์ เพื่อตอบโต้คำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่จะผนวกดินแดนของเดนมาร์ก
    นาโต ปะทะ สหรัฐ (นาโต)!!! “พันธมิตรที่แข็งแกร่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีความท้าทายด้านความมั่นคงครั้งใหญ่” - Mette Frederiksen กล่าวในการพบกับเลขาธิการนาโต มาร์ค รุตเต(Mark Rutte) เลขาธิการนาโต และ เมตเต เฟรเดอริกเซน (Mette Frederiksen) นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก แสดงความเห็นคล้อยตามกันว่า จำเป็นต้องมุ่งเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการปกป้องอาร์กติก ท่ามกลางการแสดงออกอย่างชัดเจนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่กระสันอยากผนวกดินแดนของเกาะกรีนแลนด์ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กไว้ในครอบครอง เมตเต เฟรเดอริกเซน ยังได้พบปะกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และบอกว่าพวกผู้นำทางการเมืองในยุโรปและที่อื่นๆ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่กับหลักการแห่งการธำรงไว้ซึ่งความเคารพเขตแดนระหว่างประเทศ ทางด้าน เอลินา วัลโทเนน (Elina Valtonen) รมว.ต่างประเทศฟินแลนด์ ยืนยันว่ากรีนแลนด์ได้รับความคุ้มครองภายใต้มาตรา 5 ของนาโต้ ในฐานะดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก หลังทรัมป์แสดงความต้องการยึดครอง ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสได้หารือกับเดนมาร์กถึงความเป็นไปได้ในการส่งทหารไปกรีนแลนด์ เพื่อตอบโต้คำขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่จะผนวกดินแดนของเดนมาร์ก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • Logitech International ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ยอดขายประจำปี 2025 หลังจากรายงานยอดขายและกำไรที่สูงขึ้นในไตรมาสก่อนวันหยุดที่สำคัญ โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์สำหรับธุรกิจและเกมเมอร์

    Logitech International ผลิตสินค้าต่างๆ เช่น คีย์บอร์ด เมาส์ และเว็บแคม รายงานว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 7% เป็น 1.34 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ใหญ่ที่สุดของปี ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่ 1.25 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วสำหรับไตรมาสที่สามสิ้นสุดเดือนธันวาคมก็เพิ่มขึ้น 7% เป็น 266 ล้านดอลลาร์

    ซีอีโอของ Logitech, Hanneke Faber กล่าวว่ายอดขายเกมใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในช่วงการระบาดใหญ่ เนื่องจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนวันหยุด "เราส่งมอบยอดขายใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในพอร์ตโฟลิโอ Pro Gaming และ MX ของเรา"

    บริษัทคาดว่ายอดขายในปีงบประมาณ 2025 จะอยู่ในช่วง 4.54 พันล้านดอลลาร์ถึง 4.57 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 4.39 พันล้านดอลลาร์ถึง 4.47 พันล้านดอลลาร์.

    นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงแนวโน้มของตลาดเทคโนโลยีที่ยังคงมีความต้องการสูงสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจและเกมเมอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/29/computer-parts-maker-logitech-raises-2025-forecast
    Logitech International ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ยอดขายประจำปี 2025 หลังจากรายงานยอดขายและกำไรที่สูงขึ้นในไตรมาสก่อนวันหยุดที่สำคัญ โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์สำหรับธุรกิจและเกมเมอร์ Logitech International ผลิตสินค้าต่างๆ เช่น คีย์บอร์ด เมาส์ และเว็บแคม รายงานว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 7% เป็น 1.34 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ใหญ่ที่สุดของปี ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่ 1.25 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วสำหรับไตรมาสที่สามสิ้นสุดเดือนธันวาคมก็เพิ่มขึ้น 7% เป็น 266 ล้านดอลลาร์ ซีอีโอของ Logitech, Hanneke Faber กล่าวว่ายอดขายเกมใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในช่วงการระบาดใหญ่ เนื่องจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนวันหยุด "เราส่งมอบยอดขายใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในพอร์ตโฟลิโอ Pro Gaming และ MX ของเรา" บริษัทคาดว่ายอดขายในปีงบประมาณ 2025 จะอยู่ในช่วง 4.54 พันล้านดอลลาร์ถึง 4.57 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 4.39 พันล้านดอลลาร์ถึง 4.47 พันล้านดอลลาร์. นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงแนวโน้มของตลาดเทคโนโลยีที่ยังคงมีความต้องการสูงสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจและเกมเมอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/29/computer-parts-maker-logitech-raises-2025-forecast
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Computer parts maker Logitech raises 2025 sales forecast on strong demand
    ZURICH (Reuters) -Logitech International raised its full-year forecast on Tuesday, after reporting higher sales and profit for its important pre-holiday quarter, supported by strong demand for computer hardware products for businesses and gamers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft OneDrive for Business ถูกกล่าวหาว่าเก็บข้อมูลที่ได้จากการสแกนภาพ (OCR) ในรูปแบบที่ไม่ปลอดภัย Brian Maloney ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและผู้เขียนบล็อก Malware Malone อ้างว่า OneDrive for Business เก็บข้อมูลที่ได้จากการสแกนภาพในฐานข้อมูลที่ไม่ได้รับการป้องกันบนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้

    การเก็บข้อมูลในเครื่องสำหรับบริการคลาวด์ไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป เพราะช่วยให้เข้าถึงฟังก์ชันบางอย่างและข้อมูลบางส่วนแบบออฟไลน์ได้ และอาจลดการถ่ายโอนข้อมูลไปยังคลาวด์ ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อใช้ข้อมูลโรมมิ่งในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือข้อมูลที่ได้จากการสแกนภาพถูกเก็บในรูปแบบที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าหากผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้ พวกเขาจะสามารถเข้าถึงข้อมูลนั้นได้โดยการถอดฮาร์ดไดรฟ์และติดตั้งในคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น หรือใช้รหัสผ่าน

    การเก็บข้อมูลที่สำคัญในรูปแบบที่ไม่ปลอดภัยไม่ใช่ความคิดที่ดี โดยเฉพาะเมื่อเรากำลังพูดถึงบริการ OneDrive for Business ที่ควรจะมีความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาปัจจัยบางอย่าง เช่น คอมพิวเตอร์ธุรกิจและพาณิชย์มักมีความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และในหลายกรณีมาพร้อมกับ SSD ที่เข้ารหัส นอกจากนี้ คอมพิวเตอร์ธุรกิจที่มีราคาแพงมักใช้เครื่องอ่านลายนิ้วมือที่ไม่สามารถหลอกได้ง่าย และคอมพิวเตอร์ธุรกิจไม่ควรออกจากสถานที่ทำงานที่มีความปลอดภัย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/microsoft-onedrive-for-business-allegedly-keeps-ocred-data-in-an-unprotected-format
    Microsoft OneDrive for Business ถูกกล่าวหาว่าเก็บข้อมูลที่ได้จากการสแกนภาพ (OCR) ในรูปแบบที่ไม่ปลอดภัย Brian Maloney ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและผู้เขียนบล็อก Malware Malone อ้างว่า OneDrive for Business เก็บข้อมูลที่ได้จากการสแกนภาพในฐานข้อมูลที่ไม่ได้รับการป้องกันบนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ การเก็บข้อมูลในเครื่องสำหรับบริการคลาวด์ไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป เพราะช่วยให้เข้าถึงฟังก์ชันบางอย่างและข้อมูลบางส่วนแบบออฟไลน์ได้ และอาจลดการถ่ายโอนข้อมูลไปยังคลาวด์ ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อใช้ข้อมูลโรมมิ่งในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือข้อมูลที่ได้จากการสแกนภาพถูกเก็บในรูปแบบที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าหากผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้ พวกเขาจะสามารถเข้าถึงข้อมูลนั้นได้โดยการถอดฮาร์ดไดรฟ์และติดตั้งในคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น หรือใช้รหัสผ่าน การเก็บข้อมูลที่สำคัญในรูปแบบที่ไม่ปลอดภัยไม่ใช่ความคิดที่ดี โดยเฉพาะเมื่อเรากำลังพูดถึงบริการ OneDrive for Business ที่ควรจะมีความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาปัจจัยบางอย่าง เช่น คอมพิวเตอร์ธุรกิจและพาณิชย์มักมีความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และในหลายกรณีมาพร้อมกับ SSD ที่เข้ารหัส นอกจากนี้ คอมพิวเตอร์ธุรกิจที่มีราคาแพงมักใช้เครื่องอ่านลายนิ้วมือที่ไม่สามารถหลอกได้ง่าย และคอมพิวเตอร์ธุรกิจไม่ควรออกจากสถานที่ทำงานที่มีความปลอดภัย https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/microsoft-onedrive-for-business-allegedly-keeps-ocred-data-in-an-unprotected-format
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • "DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จีนท้าชน OpenAI คว้าอันดับ 1 แอปสหรัฐฯ ด้วยโมเดล R1 โอเพนซอร์ส ต้นทุนพัฒนาเพียง 1 ใน 20 ของคู่แข่ง!"

    ที่มาและความเป็นมาของ DeepSeek

    DeepSeek คือสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ก่อตั้งใน พฤษภาคม 2023 โดย เหลียง เวินเฟิง (Liang Wenfeng) นักลงทุนชื่อดังและผู้เชี่ยวชาญ AI อดีตผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ทีมวิจัยหลักประกอบด้วยบัณฑิตจบใหม่และนักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน เช่น มหาวิทยาลัยปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยชิงหวา

    จุดพลิกเกม
    DeepSeek เปิดตัว โมเดล R1 อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2025 หลังมีข่าวลือตั้งแต่พฤศจิกายน 2024 โดยโมเดลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ OpenAI o1 โดยตรง ด้วยจุดเด่น 3 ด้าน:
    1. ความสามารถเชิงวิเคราะห์: ให้ผลลัพธ์เหนือกว่าในงานคำนวณคณิตศาสตร์-เขียนโปรแกรม และการให้เหตุผลขั้นสูง
    2. ต้นทุนพัฒนาต่ำสุดวงการ: ใช้เงินเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์ เทียบกับคู่แข่งที่ใช้งบหลายร้อยล้าน (ต่ำกว่า 18-20 เท่า)
    3. ระบบโอเพนซอร์สเต็มรูปแบบ: เปิดเผยโค้ดและโครงสร้างโมเดลทั้งหมด ต่างจาก OpenAI ที่ยังปิดบางส่วน

    แม้มีสำนักงานใหญ่ในจีน แต่โมเดล R1 กลับโด่งดังในตลาดสหรัฐฯ ด้วยการขึ้นเป็น แอปฯ อันดับ 1 บน App Store และ Google Play แซงหน้า ChatGPT ภายใน 2 สัปดาห์หลังเปิดตัว

    เบื้องหลังความสำเร็จ
    • เทคโนโลยี MLA + DeepSeekMoESparse: สถาปัตยกรรม AI ที่ลดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ได้ถึง 40%
    • กลยุทธ์ "วิจัยก่อนค้า": เปิด API ฟรีให้ชุมชนนักพัฒนาและวิจัย ทุ่มงบ 80% ของบริษัทเพื่อการวิจัยพื้นฐาน
    • แรงกดดันต่อตลาด: ก่อให้เกิด "สงครามราคา AI" ในจีน บีบให้ Alibaba, Tencent และ Baidu ต้องลดราคาโมเดลตัวเอง 30-50%

    สัญญาณเปลี่ยนสนาม AI โลก
    ความสำเร็จของ DeepSeek ถูกมองว่าเป็นหลักฐานว่า จีนสามารถท้าทายการผูกขาด AI ของสหรัฐฯ ได้ แม้ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ดังที่ The Wall Street Journal วิเคราะห์ว่า
    "R1 คือตัวอย่างชัดเจนที่แสดงว่า มาตรการควบคุมชิปของสหรัฐฯ อาจส่งผลตรงข้าม – กระตุ้นให้จีนสร้างนวัตกรรมแบบ 'คิดนอกกรอบ'"
    ขณะที่ เหลียง เวินเฟิง ให้สัมภาษณ์ว่า
    "เราเชื่อว่า AGI (ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป) ต้องเกิดจากความร่วมมือของมวลมนุษยชาติ ไม่ใช่แค่บริษัทยักษ์ใหญ่ 2-3 แห่ง"

    อนาคตที่จับตาของ DeepSeek
    บริษัทประกาศแผนระยะยาว 3 ด้าน:
    1. พัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ (Large Language Model) รุ่นถัดไปภายในปี 2026
    2. ขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก
    3. ท้าทายเป้าหมายสูงสุด: สร้าง AGI ที่เข้าถึงได้ทุกคน
    ข้อเท็จจริงน่าสนใจ: หลังเปิดตัว R1 มีนักพัฒนาเกือบ 50,000 คน จาก 120 ประเทศ เข้ามาปรับใช้โมเดลนี้ในโครงการของตัวเองภายในเดือนแรก!

    ล่าสุด
    จีน: ประกาศแผนสนับสนุน AI ด้วยเงิน 1 ล้านล้านหยวน (137 พันล้านดอลลาร์)
    เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 ธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) ประกาศแผน "支持人工智能产业链发展行动方案" (แผนปฏิบัติการสนับสนุนห่วงโซ่อุตสาหกรรม AI) โดยจะจัดสรรเงินทุน 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 137 พันล้านดอลลาร์) ในระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรม AI ทั้งในด้านการวิจัยพื้นฐาน การประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ และการสร้างระบบนิเวศ AI ที่แข็งแกร่ง

    ติดตามผู้ก่อตั้งได้ที่
    https://x.com/zizhpan
    https://x.com/deepseek_ai

    ใช้งานฟรีไม่จำกัดได้ที่ (สมัครสมาชิกฟรี):
    https://chat.deepseek.com/

    อ้างอิง: Spring News, Mekha News, https://x.com/kimmonismus
    "DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จีนท้าชน OpenAI คว้าอันดับ 1 แอปสหรัฐฯ ด้วยโมเดล R1 โอเพนซอร์ส ต้นทุนพัฒนาเพียง 1 ใน 20 ของคู่แข่ง!" ที่มาและความเป็นมาของ DeepSeek DeepSeek คือสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ก่อตั้งใน พฤษภาคม 2023 โดย เหลียง เวินเฟิง (Liang Wenfeng) นักลงทุนชื่อดังและผู้เชี่ยวชาญ AI อดีตผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ทีมวิจัยหลักประกอบด้วยบัณฑิตจบใหม่และนักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน เช่น มหาวิทยาลัยปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยชิงหวา จุดพลิกเกม DeepSeek เปิดตัว โมเดล R1 อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2025 หลังมีข่าวลือตั้งแต่พฤศจิกายน 2024 โดยโมเดลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ OpenAI o1 โดยตรง ด้วยจุดเด่น 3 ด้าน: 1. ความสามารถเชิงวิเคราะห์: ให้ผลลัพธ์เหนือกว่าในงานคำนวณคณิตศาสตร์-เขียนโปรแกรม และการให้เหตุผลขั้นสูง 2. ต้นทุนพัฒนาต่ำสุดวงการ: ใช้เงินเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์ เทียบกับคู่แข่งที่ใช้งบหลายร้อยล้าน (ต่ำกว่า 18-20 เท่า) 3. ระบบโอเพนซอร์สเต็มรูปแบบ: เปิดเผยโค้ดและโครงสร้างโมเดลทั้งหมด ต่างจาก OpenAI ที่ยังปิดบางส่วน แม้มีสำนักงานใหญ่ในจีน แต่โมเดล R1 กลับโด่งดังในตลาดสหรัฐฯ ด้วยการขึ้นเป็น แอปฯ อันดับ 1 บน App Store และ Google Play แซงหน้า ChatGPT ภายใน 2 สัปดาห์หลังเปิดตัว เบื้องหลังความสำเร็จ • เทคโนโลยี MLA + DeepSeekMoESparse: สถาปัตยกรรม AI ที่ลดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ได้ถึง 40% • กลยุทธ์ "วิจัยก่อนค้า": เปิด API ฟรีให้ชุมชนนักพัฒนาและวิจัย ทุ่มงบ 80% ของบริษัทเพื่อการวิจัยพื้นฐาน • แรงกดดันต่อตลาด: ก่อให้เกิด "สงครามราคา AI" ในจีน บีบให้ Alibaba, Tencent และ Baidu ต้องลดราคาโมเดลตัวเอง 30-50% สัญญาณเปลี่ยนสนาม AI โลก ความสำเร็จของ DeepSeek ถูกมองว่าเป็นหลักฐานว่า จีนสามารถท้าทายการผูกขาด AI ของสหรัฐฯ ได้ แม้ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ดังที่ The Wall Street Journal วิเคราะห์ว่า "R1 คือตัวอย่างชัดเจนที่แสดงว่า มาตรการควบคุมชิปของสหรัฐฯ อาจส่งผลตรงข้าม – กระตุ้นให้จีนสร้างนวัตกรรมแบบ 'คิดนอกกรอบ'" ขณะที่ เหลียง เวินเฟิง ให้สัมภาษณ์ว่า "เราเชื่อว่า AGI (ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป) ต้องเกิดจากความร่วมมือของมวลมนุษยชาติ ไม่ใช่แค่บริษัทยักษ์ใหญ่ 2-3 แห่ง" อนาคตที่จับตาของ DeepSeek บริษัทประกาศแผนระยะยาว 3 ด้าน: 1. พัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ (Large Language Model) รุ่นถัดไปภายในปี 2026 2. ขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก 3. ท้าทายเป้าหมายสูงสุด: สร้าง AGI ที่เข้าถึงได้ทุกคน ข้อเท็จจริงน่าสนใจ: หลังเปิดตัว R1 มีนักพัฒนาเกือบ 50,000 คน จาก 120 ประเทศ เข้ามาปรับใช้โมเดลนี้ในโครงการของตัวเองภายในเดือนแรก! ล่าสุด จีน: ประกาศแผนสนับสนุน AI ด้วยเงิน 1 ล้านล้านหยวน (137 พันล้านดอลลาร์) เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 ธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) ประกาศแผน "支持人工智能产业链发展行动方案" (แผนปฏิบัติการสนับสนุนห่วงโซ่อุตสาหกรรม AI) โดยจะจัดสรรเงินทุน 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 137 พันล้านดอลลาร์) ในระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรม AI ทั้งในด้านการวิจัยพื้นฐาน การประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ และการสร้างระบบนิเวศ AI ที่แข็งแกร่ง ติดตามผู้ก่อตั้งได้ที่ https://x.com/zizhpan https://x.com/deepseek_ai ใช้งานฟรีไม่จำกัดได้ที่ (สมัครสมาชิกฟรี): https://chat.deepseek.com/ อ้างอิง: Spring News, Mekha News, https://x.com/kimmonismus
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานการณ์ Chasiv Yar

    มีรายงานล่าสุดว่า กองกำลังพิเศษ Akhmat ของเชเชน สามารถเคลียร์ศูนย์บัญชาการชั่วคราวของนาโต้ที่ตั้งอยู่ในป่าทางตะวันออกเฉียงใต้ได้แล้ว

    สถานที่แห่งนี้มีสนามเพลาะและบังเกอร์ที่แข็งแกร่ง รวมทั้งสนามบินสำหรับเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากที่นี่ใช้เป็นศูนย์บัญชาการหลักตั้งแต่ช่วงการต่อสู่เพื่อปลดปล่อย Bakhmut

    ศูนย์บัญชาการแห่งนี้เคยถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander หลายครั้ง และมีรายงานการเสียชีวิตของนายพลชาวโปแลนด์อีกด้วย
    สถานการณ์ Chasiv Yar มีรายงานล่าสุดว่า กองกำลังพิเศษ Akhmat ของเชเชน สามารถเคลียร์ศูนย์บัญชาการชั่วคราวของนาโต้ที่ตั้งอยู่ในป่าทางตะวันออกเฉียงใต้ได้แล้ว สถานที่แห่งนี้มีสนามเพลาะและบังเกอร์ที่แข็งแกร่ง รวมทั้งสนามบินสำหรับเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากที่นี่ใช้เป็นศูนย์บัญชาการหลักตั้งแต่ช่วงการต่อสู่เพื่อปลดปล่อย Bakhmut ศูนย์บัญชาการแห่งนี้เคยถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander หลายครั้ง และมีรายงานการเสียชีวิตของนายพลชาวโปแลนด์อีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามเย็น 'กริพเพน-เอฟ16' กองทัพอากาศ ย้ำจุดยืน เสนอครม.อนุมัติเม.ย.-พ.ค.
    .
    ประเด็นเรื่องการจัดซื้อเครื่องขับไล่ฝูงใหม่ของกองทัพอากาศยังคงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ภายหลังมีความเคลื่อนไหวที่ออกมาจากพล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ซึ่งระบุว่าเงื่อนไขการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของประเทศสวีเดน ยังคงดีที่สุด ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี
    .
    พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการพิจารณาดูในรายละเอียดที่เพิ่มเติมมา ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นแพคเกจหลัก เรื่องขีดความสามารถสมรรถนะส่วนนี้ไม่ได้กังวลอะไร และการชดเชยที่สัมพันธ์กับมูลค่าโครงการโดยตรง (direct offset) การนำเข้าอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาเกี่ยวกับระบบTactical data link ที่จะสามารถต่อยอดไปยังหน่วยงานอื่นได้ โดยนับตั้งแต่คัดเลือกจาก 22 แบบ เหลือ 6 แบบ จาก 6 แบบเหลือ 2 แบบคือ F-16 กับ กริพเพน ซึ่งมีใช้งานอยู่ในกองทัพอากาศ และมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง กำลังพลมีความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก จนมาเหลือ 1 แบบคือกริพเพนซึ่งเรามองว่าเหมาะสมที่สุด เราให้น้ำหนักเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเพิ่มขีดความสามารถเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องชดเชยการนำเข้า โดยตามที่สวีเดนเสนอมานั้นมีมูลค่ากว่าเครื่องบินที่ไทยจะจัดซื้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ก็จำเป็นต้องรอบคอบและละเอียดรวมทั้งมีความชัดเจนในเรื่องการประกอบสัญญาก่อนที่จะลงนาม
    .
    ผบ.ทอ. กล่าวว่า คาดว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จะเสนอเข้า ครม.ให้อนุมัติแบบ เพราะขณะนี้ต้องจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งมีคณะกรรมการที่พูดคุยกับทางสวีเดนอย่างต่อเนื่องทุกวัน และเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพราะยังมีเรื่องเงื่อนไขตอบแทนที่เป็นนามธรรมอยู่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งไทย-สวีเดนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับอยู่แล้ว
    .
    ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นำคณะผู้แทนกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐพลนาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย ผู้แทนเหล่าทัพ และ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ร่วมเดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี
    .
    นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในการเดินทางขึ้นเรือ USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เห็นถึงศักยภาพ และการใช้อาวุธทางยุทธวิธี และแสนยานุภาพ ที่แข็งแกร่ง ของกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยได้ พาตนชมทุกชั้นของเรือ ดูสะพานเดินเรือ ดูห้องบัญชาการของเรือ และได้มีโอกาสดูเครื่องบิน F-16 และ F-35 ที่ประจำอยู่บนเรือ รวมทั้งได้แสดงโชว์ การบินขึ้น-ลงของเครื่องบินรบที่อยู่ประจำบนเรือ
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่อง F-16 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ คุยกันในเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีที่มาเยือนประเทศไทย และการได้มาทำภารกิจต่างๆ
    ..............
    Sondhi X
    สงครามเย็น 'กริพเพน-เอฟ16' กองทัพอากาศ ย้ำจุดยืน เสนอครม.อนุมัติเม.ย.-พ.ค. . ประเด็นเรื่องการจัดซื้อเครื่องขับไล่ฝูงใหม่ของกองทัพอากาศยังคงเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ภายหลังมีความเคลื่อนไหวที่ออกมาจากพล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ซึ่งระบุว่าเงื่อนไขการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของประเทศสวีเดน ยังคงดีที่สุด ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี . พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการพิจารณาดูในรายละเอียดที่เพิ่มเติมมา ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นแพคเกจหลัก เรื่องขีดความสามารถสมรรถนะส่วนนี้ไม่ได้กังวลอะไร และการชดเชยที่สัมพันธ์กับมูลค่าโครงการโดยตรง (direct offset) การนำเข้าอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาเกี่ยวกับระบบTactical data link ที่จะสามารถต่อยอดไปยังหน่วยงานอื่นได้ โดยนับตั้งแต่คัดเลือกจาก 22 แบบ เหลือ 6 แบบ จาก 6 แบบเหลือ 2 แบบคือ F-16 กับ กริพเพน ซึ่งมีใช้งานอยู่ในกองทัพอากาศ และมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง กำลังพลมีความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก จนมาเหลือ 1 แบบคือกริพเพนซึ่งเรามองว่าเหมาะสมที่สุด เราให้น้ำหนักเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเพิ่มขีดความสามารถเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องชดเชยการนำเข้า โดยตามที่สวีเดนเสนอมานั้นมีมูลค่ากว่าเครื่องบินที่ไทยจะจัดซื้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ก็จำเป็นต้องรอบคอบและละเอียดรวมทั้งมีความชัดเจนในเรื่องการประกอบสัญญาก่อนที่จะลงนาม . ผบ.ทอ. กล่าวว่า คาดว่าในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จะเสนอเข้า ครม.ให้อนุมัติแบบ เพราะขณะนี้ต้องจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งมีคณะกรรมการที่พูดคุยกับทางสวีเดนอย่างต่อเนื่องทุกวัน และเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพราะยังมีเรื่องเงื่อนไขตอบแทนที่เป็นนามธรรมอยู่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งไทย-สวีเดนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับอยู่แล้ว . ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นำคณะผู้แทนกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐพลนาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย ผู้แทนเหล่าทัพ และ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ร่วมเดินทางเยี่ยมชมเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งจอดอยู่บริเวณอ่าวไทย จังหวัดชลบุรี . นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในการเดินทางขึ้นเรือ USS Carl Vinson ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เห็นถึงศักยภาพ และการใช้อาวุธทางยุทธวิธี และแสนยานุภาพ ที่แข็งแกร่ง ของกองทัพเรือสหรัฐฯ โดยได้ พาตนชมทุกชั้นของเรือ ดูสะพานเดินเรือ ดูห้องบัญชาการของเรือ และได้มีโอกาสดูเครื่องบิน F-16 และ F-35 ที่ประจำอยู่บนเรือ รวมทั้งได้แสดงโชว์ การบินขึ้น-ลงของเครื่องบินรบที่อยู่ประจำบนเรือ . เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่อง F-16 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ คุยกันในเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีที่มาเยือนประเทศไทย และการได้มาทำภารกิจต่างๆ .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    10
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1049 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล้างบางจีนเทาที่เมียวดี เมืองคนบาป
    .
    ถ้าใครสงสัยว่าทำไม ซิงซิง ถูกแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ล่อลวงไปที่เมียวดี ประเทศพม่า มีอะไรดีที่เมียวดี คำตอบคือว่า ณ เวลานี้ เมียวดีกำลังเป็นเมืองหลวงของแก๊งสแกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งซ่องสุมของบอสจีนเทาที่ชำนาญการหลอกลวงออนไลน์เหยื่อข้ามชาติ คือหลอกคนจีนด้วยกัน และชาติอื่นๆ มาทำงานเยี่ยงทาสอยู่ในเมืองเมียวดี
    .
    ที่น่าตื่นตะลึงก็คือว่า ความแข็งแกร่งของจีนเทาในเมียวดี จากการสนับสนุนของผู้ปกครองเมียวดี ที่กลับไม่ใช่รัฐบาลพม่า หากแต่เป็นชาวกะเหรี่ยง คือชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงเทาผู้มั่งคั่งด้วยเงินทองและเพียบพร้อมด้วยกองกำลังติดอาวุธ เป็นเหมือนรัฐอิสระของคนนอกกฎหมายอันอู้ฟู่ ยากที่รัฐบาลเมียนมาจะปราบปรามได้
    .
    เจ้าพ่อตัวจริงของเมืองเมียวดีวันนี้ คือ พันเอก ซอว์ ชิต ตู (Saw Chit Thu) ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNA มีคฤหาสน์หรูหรา ส่งลูกหลานไปเรียนถึงประเทศสิงคโปร์ รายได้สีเทานำมาจัดซื้ออาวุธทันสมัย เสริมเขี้ยวเล็บให้กองกำลังกะเหรี่ยงของเขา ต้นปี 2567 เขานำกองทัพ DKBA ของเขาแยกตัวออกมาจาก BGF ไม่ยอมขึ้นกับเมียนมาอีก แล้วตั้งชื่อเป็น กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือที่เรียกว่า KNA
    .
    นอกจากนี้ยังมี พลจัตวา ซาย จอ หล่า (Sai Kyaw Hla) หรือ โกซาย ผู้นำหมายเลข 3 ของกะเหรี่ยงพุทธ DKBA มีอิทธิพลอยู่เขตไท่ฉาง ซึ่งเป็นบริเวณที่ดาราจีนซิงซิงถูกล่อลวงไปในเมืองสแกมเมอร์แห่งใหม่ ตรงข้ามกับตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก มีวัตถุประสงค์ไว้รองรับอาชญากร แก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ที่แตกหนีมาจากรัฐฉาน และสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา
    .
    16 มกราคม ที่ผ่านมา นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ออกโรงในเรื่องนี้ โดยพบปะทูต 10 ชาติอาเซียน หารือปราบขบวนการหลอกลวงและพนันออนไลน์ โดยนายหวัง อี้ ย้ำว่า ประเทศที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ จัดการถอนรากถอนโคน เพราะคดีหลอกลวงและการพนันออนไลน์ที่ชายแดนไทย-พม่า เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้ายแรงมาก ทำร้ายชาวจีนและพลเมืองของประเทศต่างๆ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด
    .
    ถ้าเราอ่านความระหว่างบรรทัดของนายหวัง อี้ เราจะตีความได้ว่า หนึ่ง เหตุการณ์ที่คุกคามความปลอดภัยของชาวจีนและประชาชนของประเทศต่างๆ จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด สอง ประเทศที่เกี่ยวข้อง ไทย-พม่า ต้องรับผิดชอบ แต่จะมีประเทศใดบ้าง เรารู้กันดี สาม ประเทศจีนจะมีการปฏิบัติการร่วมกับชาติอาเซียนเพื่อปราบปรามขบวนการผิดกฎหมาย คุ้มครองความปลอดภัยให้ประชาชน และพิทักษ์ความสงบสุขระหว่างประเทศ นี่คือวิธีปฏิบัติของจีนที่เรียกว่า ใช้มารยาทก่อนใช้กำลัง
    .
    ท่านผู้ชมครับ รัฐบาลไทยจะต้องเจรจากับรัฐบาลจีน ท่านทูตหาน จื้อเฉียง ท่านทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งผมรู้จักมักคุ้นสนิทสนมเป็นอย่างดีมาก ท่านเคยพูดกับผมตรงๆ ว่า คุณสนธิ ประเทศจีนไม่พอใจจีนเทามาก พวกนี้เป็นพวกมีปัญหากับสังคมจีน ด้วยเหตุนี้ถึงหนีมาประเทศไทย ท่านใช้ลิ้นการทูตพูด ท่านไม่พูดตรงๆ แต่ท่านบอกว่า พวกนี้อยู่ประเทศไทยสบายกว่าอยู่ประเทศจีน อีกนัยหนึ่งก็คือว่า ทั้งตำรวจ ทั้งทุกคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้น จีนเทามั่นใจว่าซื้อได้
    .
    จีนเทากลัวถูกส่งตัวกลับจีน ถ้าเราส่งตัวจีนเทาพร้อมข้อหาความผิดที่สืบสวนได้ส่งกลับให้จีนจัดการ คนพวกนี้จะกลัวมาก กลัวจริงๆ ที่จะถูกส่งกลับ เพราะจีนเขาจัดการขั้นเด็ดขาด หวัง อี้ ประกาศกร้าวไว้แล้ว ดังที่ผมเล่าให้ฟัง
    .
    ทำไมจีนเทาในประเทศไทยถึงเยอะ ท่านผู้ชมรู้ไหม ? จีนเทาในประเทศไทยมันจะมีขาใหญ่ มันจะชวนพรรคพวกที่สีเทาด้วยกัน มาๆๆ มาเมืองไทย ไม่ต้องกังวลเรื่องตำรวจ กูจัดการเอง ตำรวจไทยหมู เรียกเงินกันทั้งนั้น เอาเงินเข้าไปตัวอ่อน เนื้ออ่อนเลย ตำรวจไทยอายบ้างหรือเปล่า
    .
    ปัญหาอยู่ตรงไหน น่าจะรู้แล้วตอนนี้ ไฟฟ้าก็แอบใช้ของไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทำอย่างไร อินเทอร์เน็ตก็ใช้ของไทย ก็สั่งของกินของใช้ให้คนนับพันที่อำเภอแม่สอดและที่อำเภอพบพระ ซึ่งอยู่ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ภายใต้การบริหารงานของผู้บัญชาการภาค 6 เด็กเส้นใหญ่ แต่ทำงานไม่เป็น
    .
    แล้วตำรวจ พวกคุณทำอะไรอยู่? ผมชี้แหล่ง วิธีการสืบสวนสอบสวนให้พวกคุณ แต่พวกคุณก็ไม่สนใจ สนใจอย่างเดียวว่า คุณจ่ายเงินผมเท่าไร แล้วพวกเราจะทำอย่างไร จะทำอย่างไรกับพวกตำรวจไทย
    ล้างบางจีนเทาที่เมียวดี เมืองคนบาป . ถ้าใครสงสัยว่าทำไม ซิงซิง ถูกแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ล่อลวงไปที่เมียวดี ประเทศพม่า มีอะไรดีที่เมียวดี คำตอบคือว่า ณ เวลานี้ เมียวดีกำลังเป็นเมืองหลวงของแก๊งสแกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งซ่องสุมของบอสจีนเทาที่ชำนาญการหลอกลวงออนไลน์เหยื่อข้ามชาติ คือหลอกคนจีนด้วยกัน และชาติอื่นๆ มาทำงานเยี่ยงทาสอยู่ในเมืองเมียวดี . ที่น่าตื่นตะลึงก็คือว่า ความแข็งแกร่งของจีนเทาในเมียวดี จากการสนับสนุนของผู้ปกครองเมียวดี ที่กลับไม่ใช่รัฐบาลพม่า หากแต่เป็นชาวกะเหรี่ยง คือชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงเทาผู้มั่งคั่งด้วยเงินทองและเพียบพร้อมด้วยกองกำลังติดอาวุธ เป็นเหมือนรัฐอิสระของคนนอกกฎหมายอันอู้ฟู่ ยากที่รัฐบาลเมียนมาจะปราบปรามได้ . เจ้าพ่อตัวจริงของเมืองเมียวดีวันนี้ คือ พันเอก ซอว์ ชิต ตู (Saw Chit Thu) ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNA มีคฤหาสน์หรูหรา ส่งลูกหลานไปเรียนถึงประเทศสิงคโปร์ รายได้สีเทานำมาจัดซื้ออาวุธทันสมัย เสริมเขี้ยวเล็บให้กองกำลังกะเหรี่ยงของเขา ต้นปี 2567 เขานำกองทัพ DKBA ของเขาแยกตัวออกมาจาก BGF ไม่ยอมขึ้นกับเมียนมาอีก แล้วตั้งชื่อเป็น กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือที่เรียกว่า KNA . นอกจากนี้ยังมี พลจัตวา ซาย จอ หล่า (Sai Kyaw Hla) หรือ โกซาย ผู้นำหมายเลข 3 ของกะเหรี่ยงพุทธ DKBA มีอิทธิพลอยู่เขตไท่ฉาง ซึ่งเป็นบริเวณที่ดาราจีนซิงซิงถูกล่อลวงไปในเมืองสแกมเมอร์แห่งใหม่ ตรงข้ามกับตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก มีวัตถุประสงค์ไว้รองรับอาชญากร แก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ที่แตกหนีมาจากรัฐฉาน และสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา . 16 มกราคม ที่ผ่านมา นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ออกโรงในเรื่องนี้ โดยพบปะทูต 10 ชาติอาเซียน หารือปราบขบวนการหลอกลวงและพนันออนไลน์ โดยนายหวัง อี้ ย้ำว่า ประเทศที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ จัดการถอนรากถอนโคน เพราะคดีหลอกลวงและการพนันออนไลน์ที่ชายแดนไทย-พม่า เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้ายแรงมาก ทำร้ายชาวจีนและพลเมืองของประเทศต่างๆ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด . ถ้าเราอ่านความระหว่างบรรทัดของนายหวัง อี้ เราจะตีความได้ว่า หนึ่ง เหตุการณ์ที่คุกคามความปลอดภัยของชาวจีนและประชาชนของประเทศต่างๆ จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด สอง ประเทศที่เกี่ยวข้อง ไทย-พม่า ต้องรับผิดชอบ แต่จะมีประเทศใดบ้าง เรารู้กันดี สาม ประเทศจีนจะมีการปฏิบัติการร่วมกับชาติอาเซียนเพื่อปราบปรามขบวนการผิดกฎหมาย คุ้มครองความปลอดภัยให้ประชาชน และพิทักษ์ความสงบสุขระหว่างประเทศ นี่คือวิธีปฏิบัติของจีนที่เรียกว่า ใช้มารยาทก่อนใช้กำลัง . ท่านผู้ชมครับ รัฐบาลไทยจะต้องเจรจากับรัฐบาลจีน ท่านทูตหาน จื้อเฉียง ท่านทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งผมรู้จักมักคุ้นสนิทสนมเป็นอย่างดีมาก ท่านเคยพูดกับผมตรงๆ ว่า คุณสนธิ ประเทศจีนไม่พอใจจีนเทามาก พวกนี้เป็นพวกมีปัญหากับสังคมจีน ด้วยเหตุนี้ถึงหนีมาประเทศไทย ท่านใช้ลิ้นการทูตพูด ท่านไม่พูดตรงๆ แต่ท่านบอกว่า พวกนี้อยู่ประเทศไทยสบายกว่าอยู่ประเทศจีน อีกนัยหนึ่งก็คือว่า ทั้งตำรวจ ทั้งทุกคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้น จีนเทามั่นใจว่าซื้อได้ . จีนเทากลัวถูกส่งตัวกลับจีน ถ้าเราส่งตัวจีนเทาพร้อมข้อหาความผิดที่สืบสวนได้ส่งกลับให้จีนจัดการ คนพวกนี้จะกลัวมาก กลัวจริงๆ ที่จะถูกส่งกลับ เพราะจีนเขาจัดการขั้นเด็ดขาด หวัง อี้ ประกาศกร้าวไว้แล้ว ดังที่ผมเล่าให้ฟัง . ทำไมจีนเทาในประเทศไทยถึงเยอะ ท่านผู้ชมรู้ไหม ? จีนเทาในประเทศไทยมันจะมีขาใหญ่ มันจะชวนพรรคพวกที่สีเทาด้วยกัน มาๆๆ มาเมืองไทย ไม่ต้องกังวลเรื่องตำรวจ กูจัดการเอง ตำรวจไทยหมู เรียกเงินกันทั้งนั้น เอาเงินเข้าไปตัวอ่อน เนื้ออ่อนเลย ตำรวจไทยอายบ้างหรือเปล่า . ปัญหาอยู่ตรงไหน น่าจะรู้แล้วตอนนี้ ไฟฟ้าก็แอบใช้ของไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทำอย่างไร อินเทอร์เน็ตก็ใช้ของไทย ก็สั่งของกินของใช้ให้คนนับพันที่อำเภอแม่สอดและที่อำเภอพบพระ ซึ่งอยู่ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ภายใต้การบริหารงานของผู้บัญชาการภาค 6 เด็กเส้นใหญ่ แต่ทำงานไม่เป็น . แล้วตำรวจ พวกคุณทำอะไรอยู่? ผมชี้แหล่ง วิธีการสืบสวนสอบสวนให้พวกคุณ แต่พวกคุณก็ไม่สนใจ สนใจอย่างเดียวว่า คุณจ่ายเงินผมเท่าไร แล้วพวกเราจะทำอย่างไร จะทำอย่างไรกับพวกตำรวจไทย
    Like
    Love
    Haha
    Sad
    24
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1188 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนใหม่จาก MIT และ Caltech ที่อาจช่วยป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาในอนาคต! นักวิจัยได้พัฒนาวัคซีนแบบนาโนพาร์ติเคิลที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนาหลายชนิด ไม่เพียงแค่ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 แต่ยังรวมถึงไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาดในสัตว์และอาจแพร่สู่มนุษย์ในอนาคตด้วย

    วัคซีนแบบดั้งเดิมมักจะเน้นที่ส่วนที่เข้าถึงได้ง่ายของไวรัส ซึ่งมักจะเป็นส่วนที่กลายพันธุ์ได้เร็ว แต่วัคซีนใหม่นี้เน้นที่ส่วนที่คงที่ของไวรัส ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก นักวิจัยได้ออกแบบวัคซีนที่แสดงสำเนาของ RBDs จากไวรัสโคโรนาหลายชนิดพร้อมกัน ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถตอบสนองต่อไวรัสหลายชนิดได้พร้อมกัน

    ในการทดสอบกับสัตว์ วัคซีนที่ชื่อว่า "mosaic-7COM" สามารถสร้างการตอบสนองของแอนติบอดีที่แข็งแกร่งต่อไวรัส SARS-CoV-2 หลายสายพันธุ์และไวรัสโคโรนาอื่นๆ จากตระกูล sarbecovirus วัคซีนนี้ยังสามารถป้องกันไวรัสไม่ให้ติดเชื้อในสัตว์ทดลองได้สำเร็จ

    นอกจากนี้ วัคซีน mosaic-7COM ยังแสดงประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในสัตว์ที่เคยได้รับวัคซีน mRNA สำหรับโควิด-19 มาก่อน ซึ่งสะท้อนถึงสถานการณ์ในโลกจริงที่วัคซีนรุ่นต่อไปต้องเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่มีอยู่แล้ว

    การพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้เรามีการป้องกันที่ดีกว่าในอนาคต และอาจช่วยป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

    https://www.techspot.com/news/106489-new-vaccine-mit-caltech-could-prevent-future-coronavirus.html
    มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนใหม่จาก MIT และ Caltech ที่อาจช่วยป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาในอนาคต! นักวิจัยได้พัฒนาวัคซีนแบบนาโนพาร์ติเคิลที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนาหลายชนิด ไม่เพียงแค่ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 แต่ยังรวมถึงไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาดในสัตว์และอาจแพร่สู่มนุษย์ในอนาคตด้วย วัคซีนแบบดั้งเดิมมักจะเน้นที่ส่วนที่เข้าถึงได้ง่ายของไวรัส ซึ่งมักจะเป็นส่วนที่กลายพันธุ์ได้เร็ว แต่วัคซีนใหม่นี้เน้นที่ส่วนที่คงที่ของไวรัส ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก นักวิจัยได้ออกแบบวัคซีนที่แสดงสำเนาของ RBDs จากไวรัสโคโรนาหลายชนิดพร้อมกัน ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถตอบสนองต่อไวรัสหลายชนิดได้พร้อมกัน ในการทดสอบกับสัตว์ วัคซีนที่ชื่อว่า "mosaic-7COM" สามารถสร้างการตอบสนองของแอนติบอดีที่แข็งแกร่งต่อไวรัส SARS-CoV-2 หลายสายพันธุ์และไวรัสโคโรนาอื่นๆ จากตระกูล sarbecovirus วัคซีนนี้ยังสามารถป้องกันไวรัสไม่ให้ติดเชื้อในสัตว์ทดลองได้สำเร็จ นอกจากนี้ วัคซีน mosaic-7COM ยังแสดงประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในสัตว์ที่เคยได้รับวัคซีน mRNA สำหรับโควิด-19 มาก่อน ซึ่งสะท้อนถึงสถานการณ์ในโลกจริงที่วัคซีนรุ่นต่อไปต้องเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่มีอยู่แล้ว การพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้เรามีการป้องกันที่ดีกว่าในอนาคต และอาจช่วยป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ https://www.techspot.com/news/106489-new-vaccine-mit-caltech-could-prevent-future-coronavirus.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New vaccine from MIT and Caltech could prevent future coronavirus outbreaks
    Traditional vaccines typically focus on the most accessible parts of viruses, which are often the rapidly mutating receptor-binding domains. These RBDs enable the virus to latch onto...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta กำลังทดสอบการแสดงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Threads ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น! การทดสอบนี้เริ่มต้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยจะมีโฆษณาภาพปรากฏในฟีดหน้าแรกของ Threads สำหรับผู้ใช้บางส่วน Meta จะติดตามผลการทดสอบอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะขยายการแสดงโฆษณาให้กว้างขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจยังสามารถขยายแคมเปญโฆษณาที่มีอยู่ใน Meta ไปยัง Threads ได้ด้วย

    Meta ยังได้เริ่มทดสอบฟิลเตอร์สำหรับโฆษณาใน Threads ซึ่งใช้ AI เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาสามารถควบคุมระดับความไวของเนื้อหาที่โฆษณาของพวกเขาปรากฏอยู่ข้างๆ การเปิดตัวโฆษณาบน Threads เกิดขึ้นหลังจากที่ Meta ได้ปรับปรุงการตรวจสอบเนื้อหา ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงโฆษณาบางรายกังวล แต่ความไม่แน่นอนที่ TikTok ทำให้แบรนด์ต่างๆ มองหาทางเลือกอื่น และ Meta ก็ไม่พลาดโอกาสที่จะนำ Threads เข้ามาในตลาด

    Threads ถูกเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2023 เพื่อแข่งขันกับ X (เดิมชื่อ Twitter) ในช่วงที่ Elon Musk เข้าซื้อกิจการ แม้ว่า Meta จะไม่คาดหวังว่า Threads จะเป็นแหล่งรายได้หลักในปี 2025 แต่บริษัทมีแผนที่จะใช้เงินสูงถึง 65 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับ OpenAI และ Google

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/25/meta-to-test-ads-on-threads-in-us-and-japan
    Meta กำลังทดสอบการแสดงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Threads ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น! การทดสอบนี้เริ่มต้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยจะมีโฆษณาภาพปรากฏในฟีดหน้าแรกของ Threads สำหรับผู้ใช้บางส่วน Meta จะติดตามผลการทดสอบอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะขยายการแสดงโฆษณาให้กว้างขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจยังสามารถขยายแคมเปญโฆษณาที่มีอยู่ใน Meta ไปยัง Threads ได้ด้วย Meta ยังได้เริ่มทดสอบฟิลเตอร์สำหรับโฆษณาใน Threads ซึ่งใช้ AI เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาสามารถควบคุมระดับความไวของเนื้อหาที่โฆษณาของพวกเขาปรากฏอยู่ข้างๆ การเปิดตัวโฆษณาบน Threads เกิดขึ้นหลังจากที่ Meta ได้ปรับปรุงการตรวจสอบเนื้อหา ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงโฆษณาบางรายกังวล แต่ความไม่แน่นอนที่ TikTok ทำให้แบรนด์ต่างๆ มองหาทางเลือกอื่น และ Meta ก็ไม่พลาดโอกาสที่จะนำ Threads เข้ามาในตลาด Threads ถูกเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2023 เพื่อแข่งขันกับ X (เดิมชื่อ Twitter) ในช่วงที่ Elon Musk เข้าซื้อกิจการ แม้ว่า Meta จะไม่คาดหวังว่า Threads จะเป็นแหล่งรายได้หลักในปี 2025 แต่บริษัทมีแผนที่จะใช้เงินสูงถึง 65 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับ OpenAI และ Google https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/25/meta-to-test-ads-on-threads-in-us-and-japan
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta to test ads on Threads in US and Japan
    (Reuters) - Meta Platforms will begin test launching ads on its social media platform Threads with a few brands in the U.S. and Japan, it said on Friday, as the app hits over 300 million monthly active users.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยากมีจิตใจที่แข็งแกร่ง
    มากกว่านี้ ก็ต้องยอมรับ
    ความแตกต่าง
    ของตัวเองและผู้อื่นให้ได้

    จากหนังสือ |เลิกเป็นมนุษย์คิดเยอะ

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เลิกเป็นมนุษย์คิดเยอะ
    อยากมีจิตใจที่แข็งแกร่ง มากกว่านี้ ก็ต้องยอมรับ ความแตกต่าง ของตัวเองและผู้อื่นให้ได้ จากหนังสือ |เลิกเป็นมนุษย์คิดเยอะ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เลิกเป็นมนุษย์คิดเยอะ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากผู้ว่าที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี เหลือแค่ปากเก่งที่สุดในปฐพี ศึกษามา 2 ปี ทดลองงานมา 3 ปี เต็มที่ก็แก้ปัญหาปลายเหตุ ทำไม่ได้ก็ลาออกไป๊!!!
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ออกไป๊ออกไป๊ออกไป๊
    จากผู้ว่าที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี เหลือแค่ปากเก่งที่สุดในปฐพี ศึกษามา 2 ปี ทดลองงานมา 3 ปี เต็มที่ก็แก้ปัญหาปลายเหตุ ทำไม่ได้ก็ลาออกไป๊!!! #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #ออกไป๊ออกไป๊ออกไป๊
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความสำเร็จของชีวิตเริ่มต้นที่จิตใจ

    สิ่งที่คุณกล่าวมานี้สะท้อนหลักการสำคัญของการพัฒนาชีวิต นั่นคือ ทุกสิ่งเริ่มต้นที่จิตใจ เพราะใจเป็นตัวกำหนดการกระทำ ความคิด และเส้นทางที่ชีวิตจะก้าวไป หากเราปล่อยจิตใจให้ล่องลอย หรือตามใจกิเลสอย่างไร้ขอบเขต ผลที่ตามมาคือการวนเวียนในวงกลมเดิมๆ แต่หากเราฝึกห้ามใจ และเลือกที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องในระยะยาว นั่นคือการสร้างรากฐานชีวิตที่มั่นคง


    ---

    หัวใจสำคัญที่ต้องจดจำ

    1. ทุกเรื่องโยงกัน

    ความคิด การกระทำ และผลลัพธ์ของชีวิตล้วนเชื่อมต่อกัน

    เมื่อเราจมในเรื่องหนึ่ง ความรู้สึกท้อแท้หรือย่อหย่อนในเรื่องนั้นจะส่งผลต่อเรื่องอื่นๆ ในชีวิต



    2. การฝึกห้ามใจ คือการออกกำลังจิต

    ห้ามใจได้ 1 ครั้ง คือการชนะ 1 ขั้น

    ทุกครั้งที่เราหยุดตัวเองจากการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เรากำลังสร้างกำลังใจให้แข็งแกร่งขึ้น

    เริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆ เช่น หยุดคิดฟุ้งซ่าน หยุดโต้ตอบอารมณ์ร้าย



    3. การเลือกชีวิตที่ดี ต้องเริ่มจากจิตใจที่ดี

    หากจิตใจสงบ สุขุม และมั่นคง ชีวิตย่อมดำเนินไปในทางที่สงบสุข

    ความสำเร็จในชีวิตไม่ได้วัดจากความร่ำรวยหรือชื่อเสียง แต่วัดจากความสงบและความสุขในจิตใจ





    ---

    แบบฝึกหัดเพื่อสร้างจิตใจที่แข็งแกร่ง

    1. ตั้งเป้าหมายเล็กๆ แต่ทำให้ได้จริง

    ตื่นเช้ามาทำสิ่งง่ายๆ เช่น สวดมนต์วันละ 3 บท หรือฝึกนั่งสมาธิ 5 นาที

    ทำต่อเนื่องจนกลายเป็นนิสัย



    2. ฝึกห้ามใจในสิ่งเล็กน้อย

    เช่น ห้ามใจไม่โต้ตอบคำพูดที่กระทบอารมณ์

    ฝึกอดทนต่อสิ่งยั่วยวน เช่น การซื้อของที่ไม่จำเป็น



    3. ชื่นชมตัวเองในความสำเร็จเล็กๆ

    ทุกครั้งที่ห้ามใจสำเร็จ ให้รู้สึกภูมิใจและบันทึกไว้ในใจว่า "ฉันทำได้"

    ความรู้สึกปลื้มในความสำเร็จจะเป็นพลังให้ก้าวต่อไป



    4. ระลึกถึงเป้าหมายใหญ่

    ทุกครั้งที่ลังเล ให้ถามตัวเองว่า "สิ่งที่ทำอยู่นี้พาฉันไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นหรือไม่?"

    ใช้เป้าหมายชีวิตเป็นเข็มทิศในการตัดสินใจ





    ---

    ชีวิตที่สมบูรณ์แบบเริ่มจากจิตที่สมบูรณ์แบบ

    อย่ากลัวความล้มเหลว เพราะทุกครั้งที่ล้มคือโอกาสในการเรียนรู้

    อย่าคิดว่าฝืนใจ แต่ให้คิดว่ากำลังปรับตัวเองเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

    ความสุขที่แท้จริง ไม่ได้มาจากการตามใจตัวเอง แต่มาจากการเห็นตัวเองก้าวข้ามข้อจำกัดได้


    จิตดี ชีวิตดี ทุกอย่างเริ่มจากการเลือกที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่วันนี้ครับ!

    ความสำเร็จของชีวิตเริ่มต้นที่จิตใจ สิ่งที่คุณกล่าวมานี้สะท้อนหลักการสำคัญของการพัฒนาชีวิต นั่นคือ ทุกสิ่งเริ่มต้นที่จิตใจ เพราะใจเป็นตัวกำหนดการกระทำ ความคิด และเส้นทางที่ชีวิตจะก้าวไป หากเราปล่อยจิตใจให้ล่องลอย หรือตามใจกิเลสอย่างไร้ขอบเขต ผลที่ตามมาคือการวนเวียนในวงกลมเดิมๆ แต่หากเราฝึกห้ามใจ และเลือกที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องในระยะยาว นั่นคือการสร้างรากฐานชีวิตที่มั่นคง --- หัวใจสำคัญที่ต้องจดจำ 1. ทุกเรื่องโยงกัน ความคิด การกระทำ และผลลัพธ์ของชีวิตล้วนเชื่อมต่อกัน เมื่อเราจมในเรื่องหนึ่ง ความรู้สึกท้อแท้หรือย่อหย่อนในเรื่องนั้นจะส่งผลต่อเรื่องอื่นๆ ในชีวิต 2. การฝึกห้ามใจ คือการออกกำลังจิต ห้ามใจได้ 1 ครั้ง คือการชนะ 1 ขั้น ทุกครั้งที่เราหยุดตัวเองจากการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เรากำลังสร้างกำลังใจให้แข็งแกร่งขึ้น เริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆ เช่น หยุดคิดฟุ้งซ่าน หยุดโต้ตอบอารมณ์ร้าย 3. การเลือกชีวิตที่ดี ต้องเริ่มจากจิตใจที่ดี หากจิตใจสงบ สุขุม และมั่นคง ชีวิตย่อมดำเนินไปในทางที่สงบสุข ความสำเร็จในชีวิตไม่ได้วัดจากความร่ำรวยหรือชื่อเสียง แต่วัดจากความสงบและความสุขในจิตใจ --- แบบฝึกหัดเพื่อสร้างจิตใจที่แข็งแกร่ง 1. ตั้งเป้าหมายเล็กๆ แต่ทำให้ได้จริง ตื่นเช้ามาทำสิ่งง่ายๆ เช่น สวดมนต์วันละ 3 บท หรือฝึกนั่งสมาธิ 5 นาที ทำต่อเนื่องจนกลายเป็นนิสัย 2. ฝึกห้ามใจในสิ่งเล็กน้อย เช่น ห้ามใจไม่โต้ตอบคำพูดที่กระทบอารมณ์ ฝึกอดทนต่อสิ่งยั่วยวน เช่น การซื้อของที่ไม่จำเป็น 3. ชื่นชมตัวเองในความสำเร็จเล็กๆ ทุกครั้งที่ห้ามใจสำเร็จ ให้รู้สึกภูมิใจและบันทึกไว้ในใจว่า "ฉันทำได้" ความรู้สึกปลื้มในความสำเร็จจะเป็นพลังให้ก้าวต่อไป 4. ระลึกถึงเป้าหมายใหญ่ ทุกครั้งที่ลังเล ให้ถามตัวเองว่า "สิ่งที่ทำอยู่นี้พาฉันไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นหรือไม่?" ใช้เป้าหมายชีวิตเป็นเข็มทิศในการตัดสินใจ --- ชีวิตที่สมบูรณ์แบบเริ่มจากจิตที่สมบูรณ์แบบ อย่ากลัวความล้มเหลว เพราะทุกครั้งที่ล้มคือโอกาสในการเรียนรู้ อย่าคิดว่าฝืนใจ แต่ให้คิดว่ากำลังปรับตัวเองเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ความสุขที่แท้จริง ไม่ได้มาจากการตามใจตัวเอง แต่มาจากการเห็นตัวเองก้าวข้ามข้อจำกัดได้ จิตดี ชีวิตดี ทุกอย่างเริ่มจากการเลือกที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่วันนี้ครับ!
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำคมใหม่ แต่เป็นสัจธรรมเก่า 84
    ความแข็งแกร่งไม่ได้มีไว้ ข่มคนอื่น ทำร้ายใคร โอ้อวดใคร ฆ่าแกงใคร แต่มีไว้เพื่อปกป้องตนเอง และผู้อันเป็นที่รัก และผู้อื่นต่างหาก
    คำคมใหม่ แต่เป็นสัจธรรมเก่า 84 ความแข็งแกร่งไม่ได้มีไว้ ข่มคนอื่น ทำร้ายใคร โอ้อวดใคร ฆ่าแกงใคร แต่มีไว้เพื่อปกป้องตนเอง และผู้อันเป็นที่รัก และผู้อื่นต่างหาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • บันทึกบทความจากความรู้สึก 5
    อย่าไปให้ค่าคนที่มันไม่ให้ค่าเรา จำเอาไว้ อย่าไปให้ค่าคนที่มันไม่ให้ค่าเรา
    โลกนี้มันก็แค่มายา แต่โลกหน้าน่ะของจริง
    ผู้คนส่วนใหญ่มันเกลียดชังในตัวตนของฉัน แต่พวกมันกลับหารู้ไม่ว่าพวกมันนั้นเหี้ยชั่วเลวยิ่งกว่าฉัน
    ฉันนี่แหล่ะคือตราชั่งแห่งจิตวิญญาณของทุกดวงวิญญาณ
    ใครที่เกลียดฉันนั้น พวกมันเป็นคนชั่วทั้งนั้น
    ส่วนใครที่รักฉันเข้าใจฉัน ล้วนเป็นคนที่ดีทั้งนั้น
    นี่คือหนึ่งในความสามารถพิเศษของฉัน กระชากทุกหน้ากากดวงวิญญาณของทุกดวงวิญญาณ
    ทำดีย่อมต้องได้ดีสักวัน ทำชั่วมันต้องย่อมได้ชั่วอย่างแน่นอน
    ใครทำอย่างไรก็ย่อมได้อย่างนั้นอย่างแน่นอน
    ตัวตนที่แท้จริงของฉันนั้นแข็งแกร่ง ถ้าหากว่ามันไม่จริง พวกมันคงไม่กล้าที่จะทำลายฉันทางอ้อม ไม่กล้าทำลายฉันตรงๆ
    ใครที่มันกล้าหาเรื่องฉัน มันต้องตายลงนรกกันทุกดวงวิญญาณ
    ฉันเตือนมามากมายหลายครั้งแล้ว และมันถึงเวลาที่ฉันจะแก้แค้นลงทัณฑ์พวกมันกันเสียที เพราะว่าฉันเตือนมามากพอแล้ว
    สักวันมันจะได้ลงนรกกันทุกดวงวิญญาณกันอย่างแน่นอน
    คำไหนคำนั้น ฉันจะอาฆาตทุกดวงวิญญาณให้ถึงที่สุดแห่งจิตวิญญาณอย่างแน่นอน
    สักวันมันคงจะล่มสลายลง โลกที่ถูกลงทัณฑ์ด้วยเบื้องบนเพราะความชั่วของเผ่าพันธ์ุมนุษย์ สักวันมนุษย์จักต้องสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ เพราะความโอหังของพวกมัน ที่ทำลายโลกใบนี้ สักวันคำทำนายจักเป็นจริงอย่างแน่นอน
    จากความเคียดแค้นสุดจิตวิญญาณของฉัน ที่อดทนมามากเกินพอกับสิ่งที่พวกมันได้ทำกับฉัน
    ตายลงนรกให้หมดทุกดวงวิญญาณ
    แดนเจอร์
    1 ใน 6 ผู้เสาหลักผู้พิทักษ์แห่งจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
    ป.ล.ในโลกเหี้ยๆใบนี้ สักวันมันจักล่มสลายลงอย่างแน่นอน
    ไอ้อีเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่แสนโสมมจักสูญสิ้นทั้งเผ่าพันธุ์อย่างแน่นอน
    นี่คือคำทำนายของฉัน...
    บันทึกบทความจากความรู้สึก 5 อย่าไปให้ค่าคนที่มันไม่ให้ค่าเรา จำเอาไว้ อย่าไปให้ค่าคนที่มันไม่ให้ค่าเรา โลกนี้มันก็แค่มายา แต่โลกหน้าน่ะของจริง ผู้คนส่วนใหญ่มันเกลียดชังในตัวตนของฉัน แต่พวกมันกลับหารู้ไม่ว่าพวกมันนั้นเหี้ยชั่วเลวยิ่งกว่าฉัน ฉันนี่แหล่ะคือตราชั่งแห่งจิตวิญญาณของทุกดวงวิญญาณ ใครที่เกลียดฉันนั้น พวกมันเป็นคนชั่วทั้งนั้น ส่วนใครที่รักฉันเข้าใจฉัน ล้วนเป็นคนที่ดีทั้งนั้น นี่คือหนึ่งในความสามารถพิเศษของฉัน กระชากทุกหน้ากากดวงวิญญาณของทุกดวงวิญญาณ ทำดีย่อมต้องได้ดีสักวัน ทำชั่วมันต้องย่อมได้ชั่วอย่างแน่นอน ใครทำอย่างไรก็ย่อมได้อย่างนั้นอย่างแน่นอน ตัวตนที่แท้จริงของฉันนั้นแข็งแกร่ง ถ้าหากว่ามันไม่จริง พวกมันคงไม่กล้าที่จะทำลายฉันทางอ้อม ไม่กล้าทำลายฉันตรงๆ ใครที่มันกล้าหาเรื่องฉัน มันต้องตายลงนรกกันทุกดวงวิญญาณ ฉันเตือนมามากมายหลายครั้งแล้ว และมันถึงเวลาที่ฉันจะแก้แค้นลงทัณฑ์พวกมันกันเสียที เพราะว่าฉันเตือนมามากพอแล้ว สักวันมันจะได้ลงนรกกันทุกดวงวิญญาณกันอย่างแน่นอน คำไหนคำนั้น ฉันจะอาฆาตทุกดวงวิญญาณให้ถึงที่สุดแห่งจิตวิญญาณอย่างแน่นอน สักวันมันคงจะล่มสลายลง โลกที่ถูกลงทัณฑ์ด้วยเบื้องบนเพราะความชั่วของเผ่าพันธ์ุมนุษย์ สักวันมนุษย์จักต้องสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ เพราะความโอหังของพวกมัน ที่ทำลายโลกใบนี้ สักวันคำทำนายจักเป็นจริงอย่างแน่นอน จากความเคียดแค้นสุดจิตวิญญาณของฉัน ที่อดทนมามากเกินพอกับสิ่งที่พวกมันได้ทำกับฉัน ตายลงนรกให้หมดทุกดวงวิญญาณ แดนเจอร์ 1 ใน 6 ผู้เสาหลักผู้พิทักษ์แห่งจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ป.ล.ในโลกเหี้ยๆใบนี้ สักวันมันจักล่มสลายลงอย่างแน่นอน ไอ้อีเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่แสนโสมมจักสูญสิ้นทั้งเผ่าพันธุ์อย่างแน่นอน นี่คือคำทำนายของฉัน...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • องค์ประกอบของความแข็งแกร่ง
    ถ้าหากว่าคุณมีความปรารถนาที่จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งแล้วล่ะก็ คุณก็ควรที่จะมีองค์ประกอบเหล่านี้อยู่กับตัวของคุณนั่นเอง
    องค์ประกอบต่างๆของผู้ที่แข็งแกร่งมีนั้นมีดังต่อไปนี้ คือ
    1. มีพละกำลังร่างกายที่แข็งแรง ถ้าหากว่าคุณไม่มีร่างกายที่พร้อมรบทุกสถานการณ์แล้วล่ะก็คุณก็อาจจะพ่ายแพ้ได้
    2. จิตใจที่เข้มแข็งกล้าหาญ ถ้าหากว่าคุณเป็นพวกขี้กลัวแล้วล่ะก็ คุณก็มีโอกาสที่จะพ่ายแพ้ได้ง่าย ถ้าคุณถูกข่มขู่ให้กลัว คุณก็แพ้เค้าแล้วล่ะ
    3. วิญญาณที่แข็งแกร่ง เพราะถ้าคุณไม่มีวิญญาณที่ดีในตัวของคุณ ซึ่งก็คือการปฏิบัติธรรมนั่นเอง ทำให้คุณสามารถมีวิญญาณที่แข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี
    4. ความดีในตนเอง หรือ โชคดี บุญญาวาสนา นั่นเอง ถ้าคุณไม่ใช่คนดีอยู่แล้วล่ะก็ จะไม่มีใครผู้ใด หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดเค้าเข้ามาช่วยเหลือคุณในยามคับขันได้หรอกนะ
    5. ธรรมะ หรือ คุณธรรม ถ้าหากว่าคุณเป็นเพียงแค่คนชั่วแต่เก่งแล้วไม่มีธรรมอยู่ในหัวใจของตัวของคุณเองแล้วล่ะก็ สักวันเมื่อคุณพลาดท่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุกระการอันใดก็ตามแล้วล่ะก็ จะมีแต่คนอื่นเค้ามาซ้ำเติมคุณให้คุณเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ยิ่งเข้าไปอีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้วคุณจะต้องมีคุณธรรมเอาไว้ด้วย เพื่อเป็นการปกป้องป้องปรามไม่ให้ใครเค้ามาทำร้ายคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น หรือเรียกอีกอย่างว่า มีมิตรสหายคอยช่วยเหลือ ไม่มีศัตรูเข้ามาซ้ำเติมคุณได้
    สุดท้าย ถ้าหากว่าคุณอยาก หรือ ต้องการที่จะแข็งแกร่งอย่างถาวรมั่นคงไปตลอดเวลาแล้วล่ะก็ สิ่งที่คุณต้องเอาชนะให้ได้เลยก็คือ ตัวของคุณเอง เพราะว่า ผู้ที่เอาชนะตัวเองได้นั่นแหล่ะ คือผู้ชนะที่แท้จริงตลอดกาลนั่นเอง
    ถึงแม้ว่าต่อให้คุณชนะใครต่อใครทั่วทั้งมวลมาแล้วก็ตามที แต่ถ้าคุณเอาชนะใจของตนเองไม่ได้แล้วล่ะก็ คุณมันก็แค่ผู้แพ้ยิ่งกว่าศัตรูของคุณที่พ่ายแพ้ให้แก่คุณอยู่ดีนั่นเอง
    องค์ประกอบของความแข็งแกร่ง ถ้าหากว่าคุณมีความปรารถนาที่จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งแล้วล่ะก็ คุณก็ควรที่จะมีองค์ประกอบเหล่านี้อยู่กับตัวของคุณนั่นเอง องค์ประกอบต่างๆของผู้ที่แข็งแกร่งมีนั้นมีดังต่อไปนี้ คือ 1. มีพละกำลังร่างกายที่แข็งแรง ถ้าหากว่าคุณไม่มีร่างกายที่พร้อมรบทุกสถานการณ์แล้วล่ะก็คุณก็อาจจะพ่ายแพ้ได้ 2. จิตใจที่เข้มแข็งกล้าหาญ ถ้าหากว่าคุณเป็นพวกขี้กลัวแล้วล่ะก็ คุณก็มีโอกาสที่จะพ่ายแพ้ได้ง่าย ถ้าคุณถูกข่มขู่ให้กลัว คุณก็แพ้เค้าแล้วล่ะ 3. วิญญาณที่แข็งแกร่ง เพราะถ้าคุณไม่มีวิญญาณที่ดีในตัวของคุณ ซึ่งก็คือการปฏิบัติธรรมนั่นเอง ทำให้คุณสามารถมีวิญญาณที่แข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี 4. ความดีในตนเอง หรือ โชคดี บุญญาวาสนา นั่นเอง ถ้าคุณไม่ใช่คนดีอยู่แล้วล่ะก็ จะไม่มีใครผู้ใด หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดเค้าเข้ามาช่วยเหลือคุณในยามคับขันได้หรอกนะ 5. ธรรมะ หรือ คุณธรรม ถ้าหากว่าคุณเป็นเพียงแค่คนชั่วแต่เก่งแล้วไม่มีธรรมอยู่ในหัวใจของตัวของคุณเองแล้วล่ะก็ สักวันเมื่อคุณพลาดท่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุกระการอันใดก็ตามแล้วล่ะก็ จะมีแต่คนอื่นเค้ามาซ้ำเติมคุณให้คุณเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ยิ่งเข้าไปอีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้วคุณจะต้องมีคุณธรรมเอาไว้ด้วย เพื่อเป็นการปกป้องป้องปรามไม่ให้ใครเค้ามาทำร้ายคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น หรือเรียกอีกอย่างว่า มีมิตรสหายคอยช่วยเหลือ ไม่มีศัตรูเข้ามาซ้ำเติมคุณได้ สุดท้าย ถ้าหากว่าคุณอยาก หรือ ต้องการที่จะแข็งแกร่งอย่างถาวรมั่นคงไปตลอดเวลาแล้วล่ะก็ สิ่งที่คุณต้องเอาชนะให้ได้เลยก็คือ ตัวของคุณเอง เพราะว่า ผู้ที่เอาชนะตัวเองได้นั่นแหล่ะ คือผู้ชนะที่แท้จริงตลอดกาลนั่นเอง ถึงแม้ว่าต่อให้คุณชนะใครต่อใครทั่วทั้งมวลมาแล้วก็ตามที แต่ถ้าคุณเอาชนะใจของตนเองไม่ได้แล้วล่ะก็ คุณมันก็แค่ผู้แพ้ยิ่งกว่าศัตรูของคุณที่พ่ายแพ้ให้แก่คุณอยู่ดีนั่นเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำอธิบายการเป็นราชาผู้พิทักษ์แห่งความมืดของฉัน
    ราชาผู้พิทักษ์มีอยู่สองแบบ คือ
    หนึ่ง เป็นโดยกำเนิด ซึ่งก็คือการที่มีพรสวรรค์ที่พิเศษมาตั้งแต่กำเนิด โดยอาศัยปัจจัยที่สำคัญมากยิ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ บุญญาธิการ หรือ บุญกุศลบุญบารมี ที่เคยได้เคยกระทำมาแล้วในอดีตชาตินั่นเอง
    สอง เป็นโดยความสามรถ ซึ่งก็คือการฝึกฝนอบรมขัดเกลาความสามารถในด้านต่างๆโดยได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้อื่น หรือ โดยบังคับโดยสภาวะแวดล้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจกระทำด้วยตนเองก็ตาม
    ซึ่งโดยในตัวของฉันนั้นเองนั้นเป็นโดยความสามารถนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยในการเป็นราชาผู้พิทักษ์ของฉันนั้น ฉันฝึกฝนตนเองโดยใช้ธรรมะในการฝึกฝนความสามารถพิเศษต่างๆจากการศึกษาหาความรู้จากในหนังสือธรรมะ การปฏิบัติธรรมในรูปแบบต่างๆมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมบุญกุศลบุญบารมีในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล และการภาวนา(สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน นั่งสมาธิ)และก็จะต้องทำทุกวันทุกคืนไม่ได้ขาดเลย เพราะว่าของมันจะเสื่อมลง ยกเว้นตอนป่วย เพราะตอนคนเราป่วยไข้นั้น มันจะทำให้เราไม่สามารถทำได้อย่างสบาย หรือ ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่นัก(ก็คนมันป่วยนี่นะ มันมีคนป่วยที่ไหนมันเดินมันวิ่งได้ล่ะ ไม่มีหรอก ฮ่าๆๆ)ซึ่งแต่ก่อนที่ฉันจะหันมาเข้าสู่ทางธรรมนั้น ฉันก็ได้พลังมาโดยการเป็นบ้า คลั่ง ฟุ้งซ่าน และได้รับพลังมาโดยการถูกมารร้ายเข้าสิงร่าง ซึ่งในตอนนั้นฉันนั้นไม่สามารถควบคุมพลังของมารร้ายได้ และได้รับพลังเข้ามามากจนเกินกำลังความสามารถที่ฉันนั้นจะสามารถควบคุมพลังของมารร้ายตนนั้นได้ ซึ่งอย่าว่าแต่คิดที่จะควบคุมพลังเลย แค่ควบคุมตัวเองฉันยังทำไม่ได้เลย(ให้ตายสิว่ะ)ซึ่งมันก็เหมือนกับคนถูกของสั่งใส่หรือคนถูกผีเข้านั่นแหล่ะ แต่มันจะต่างกันตรงที่คนที่ถูกผีเข้าจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่มีสติ และก็จะจำอะไรไม่ได้เลย ในตอนที่ถูกผีเข้าสิงร่าง แต่การถูกมารร้ายเข้าสิงมันไม่เหมือนกัน มันต่างกันตรงที่มีสติ พูดจารู้เรื่อง แต่จะปวดหัวมาก เหมือนหัวมันจะระเบิดออกมาให้ได้เลยยังไงยังงั้น แต่มันไม่ระเบิดออกมาจริงๆก็เท่านั้นเอง(ถ้าหัวคนเรามันระเบิดออกมาจริงๆ มันก็ตายคาที่ตรงนั้นไปแล้ว)และก็จะต้องระบายอารมณ์ความโกรธเกรี้ยวกราดออกมาเพื่อที่จะทำให้มันหายปวดหัวนั่นเองแหล่ะ มันเหมือนกับการทำให้ตัวเองหายเหนื่อยโดยการพักผ่อนนั่นเอง แต่ตอนนี้มันไม่เป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ ฉันสามารถควบคุมมันและพลังได้แล้ว โดยใช้ธรรมะเป็นตัวควบคุมและเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มพลังความสามารถของฉันให้มีมากขึ้นยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ(ทุกวันนี้ฉันยังไม่เคยใช้พลังของตัวเองที่มีอย่างสูงสุดขีดอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มเลย ไม่มีโอกาสใช้เลยว่ะ)และความสามารถที่แท้จริงของฉันก็ยังไม่ถึงขีดสุดเลย เพราะขีดสูงสุดของพลังที่แท้จริงนั้นมันจะต้องเปิดพลังจักรวาล ซึ่งมีอยู่ทางเดียวนั่นเองก็คือการบรรลุมรรคผลนิพพานเท่านั้น พอถึงจุดนั้นแล้วก็ไม่มีผู้ใดต่อต้านฉันได้อีกต่อไป นอกจากตัวเอง แต่แม้แต่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ยังตายเลย ฉันเองก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่มีใครอยู่ยงค้ำฟ้าไปตลอดกาลหรอก ซึ่งมันก็จะมีคนรุ่นใหม่ๆมาทดแทนเป็นยุคสมัยใหม่ต่อไปนั่นแหล่ะ
    ที่ฉันเป็นราชาได้ไม่ใช่เพราะว่าฉันแข็งแกร่งแต่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ มันต้องมีองค์ประกอบปัจจัยในหลายๆอย่างมันถึงจะแข็งแกร่งได้ เช่น มีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ มีธรรมะ มีความดีงาม มีบุญกุศลบุญบารมี มีคุณธรรม มีศีลธรรม มีปัญญาญาณ และก็ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายหลายอย่างเลยนะ และคนชั่ว คนเลว คนไม่ดี คนไม่มีศีลมีธรรม มันเป็นราชาไม่ได้หรอก เค้าไม่ให้มันเป็น(ฉันหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ)มันจะต้องได้รับความอนุญาตอนุเคราะห์จากเค้าก่อนนะ ถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งจะรับรู้ได้โดยญาณของตนเอง เมื่อฝึกฝนมาเต็มที่เต็มภูมิแล้วนั่นเอง แค่เป็นคนเก่งอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะ มันต้องเป็นคนดีด้วย มันถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งฉันเห็นไอ้พวกที่มันอยากจะเป็นอย่างฉันนั้นมันมีมากมายเยอะแยะกันเสียเหลือเกินนักหนา แต่มันก็เป็นไม่ได้หรอก เผลอๆดีไม่ดีมันจะกลายเป็นบ้ากันไปหมดทุกคนเลยนะ เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มันเป็น แล้วก็อีกอย่างนึงนะ ไอ้พวกนี้มันชอบเลียนแบบฉันกันนักเชียว กะอีแค่ชื่อนามแฝงของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึงชื่อ Dark Danger นะ)ตำแหน่งของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึง The King Of Dark นะ แต่ตำแหน่งนี้มันเป็นแค่ราชาแห่งความมืดธรรมดาทั่วไป)ซึ่งแค่ตำแหน่งมันก็ไม่เท่าไหร่ เพราะว่าผู้ที่มีคุณสมบัติของราชาแห่งความมืดนี้มีถึง หนึ่ง ใน หนึ่งล้าน คน แต่ว่าผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดนั้นมีเพียงแค่ หนึ่ง ใน หนึ่งพันล้าน คน เท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงนั้นมีเพียง หนึ่ง ใน หนึ่งล้านล้าน คน เท่านั้นเอง ซึ่งประชากรในโลกนี้มีเพียงหลายพันล้านคนในปัจจุบัน และฉันก็ปรารถนาที่จะเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงในอนาคตให้จงได้เลย(เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียใจในภายหลังว่าชาติหนึ่งนี้จะไม่ได้เป็น ฉันจะเป็นให้จงได้)ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปในอนาคตอันไกลข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อตัวของฉันเองเพียงแค่คนเดียว เพราะว่าการเป็นราชานั้นมันจะต้องแลกกับการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เป็นราชาแล้วมันดูเท่ ดูดี เป็นแล้วมันสบาย ไม่ใช่อย่างนั้นอย่างแน่นอน มีตำแหน่งก็ต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ใช่ไม่มี ซึ่งมันก็เหมือนกันกับในหนังไอ้แมงมุมและหนังอื่นๆที่ว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ มักจะมากับภาระที่ใหญ่ยิ่ง” นั่นเอง และคนที่เคยได้ไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของตำแหน่งราชาที่แท้จริงก็มีให้เห็นเป็นประจักษ์พยานแล้วอยู่คนหนึ่ง คนที่ทุกคนรักและเทิดทูนบูชายิ่งกว่าราชาทั่วไป ราชาที่แท้จริง ราชาเหนือราชาทั้งปวง แค่เอ่ยแค่นี้ก็คงจะนึกออกได้ทันทีทันใด ถ้ายังนึกไม่ออกก็จะบอกให้ คนๆนั้นก็คือ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั่งเองไง
    “ฉันจะเป็นราชาที่แท้จริงให้จงได้ เป็นให้ได้อย่างท่านให้จงได้ ท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)”
    “ชั่วชีวิตนี้ลูกขอมอบไว้ให้กับพวกท่าน แด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ตราบใดที่ลูกยังอยู่ ลูกจะขอสืบทอดสานต่อซึ่งเจตจำนงบรรพชน อุดมการณ์พันธมิตรฯ และภารกิจของพวกท่านต่อไป และตลอดไป”
    ป.ล.ใครอยากจะเป็นราชาแห่งความมืดก็เป็นไป แต่จงจำไว้อย่างนึง คือ ใครที่มันล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีทางได้ดีมีความสุขอย่างแน่นอน(เผลอๆมันจะตายโหงตายห่าโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่ตายก็ทรมาน เป็นบ้ากัน ทนทุกขเวทนาตลอดชีวิต ตกลงนรกหมกไหม้กันทังเป็นและตายไป)ฉันเตือนแล้วนะ ถ้าไม่อยากเป็นบ้า ก็ขอให้เลิกเป็นซะ แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ
    คำอธิบายการเป็นราชาผู้พิทักษ์แห่งความมืดของฉัน ราชาผู้พิทักษ์มีอยู่สองแบบ คือ หนึ่ง เป็นโดยกำเนิด ซึ่งก็คือการที่มีพรสวรรค์ที่พิเศษมาตั้งแต่กำเนิด โดยอาศัยปัจจัยที่สำคัญมากยิ่ง หนึ่งในนั้นก็คือ บุญญาธิการ หรือ บุญกุศลบุญบารมี ที่เคยได้เคยกระทำมาแล้วในอดีตชาตินั่นเอง สอง เป็นโดยความสามรถ ซึ่งก็คือการฝึกฝนอบรมขัดเกลาความสามารถในด้านต่างๆโดยได้รับการอบรมสั่งสอนจากผู้อื่น หรือ โดยบังคับโดยสภาวะแวดล้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจกระทำด้วยตนเองก็ตาม ซึ่งโดยในตัวของฉันนั้นเองนั้นเป็นโดยความสามารถนั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยในการเป็นราชาผู้พิทักษ์ของฉันนั้น ฉันฝึกฝนตนเองโดยใช้ธรรมะในการฝึกฝนความสามารถพิเศษต่างๆจากการศึกษาหาความรู้จากในหนังสือธรรมะ การปฏิบัติธรรมในรูปแบบต่างๆมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมบุญกุศลบุญบารมีในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล และการภาวนา(สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน นั่งสมาธิ)และก็จะต้องทำทุกวันทุกคืนไม่ได้ขาดเลย เพราะว่าของมันจะเสื่อมลง ยกเว้นตอนป่วย เพราะตอนคนเราป่วยไข้นั้น มันจะทำให้เราไม่สามารถทำได้อย่างสบาย หรือ ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่นัก(ก็คนมันป่วยนี่นะ มันมีคนป่วยที่ไหนมันเดินมันวิ่งได้ล่ะ ไม่มีหรอก ฮ่าๆๆ)ซึ่งแต่ก่อนที่ฉันจะหันมาเข้าสู่ทางธรรมนั้น ฉันก็ได้พลังมาโดยการเป็นบ้า คลั่ง ฟุ้งซ่าน และได้รับพลังมาโดยการถูกมารร้ายเข้าสิงร่าง ซึ่งในตอนนั้นฉันนั้นไม่สามารถควบคุมพลังของมารร้ายได้ และได้รับพลังเข้ามามากจนเกินกำลังความสามารถที่ฉันนั้นจะสามารถควบคุมพลังของมารร้ายตนนั้นได้ ซึ่งอย่าว่าแต่คิดที่จะควบคุมพลังเลย แค่ควบคุมตัวเองฉันยังทำไม่ได้เลย(ให้ตายสิว่ะ)ซึ่งมันก็เหมือนกับคนถูกของสั่งใส่หรือคนถูกผีเข้านั่นแหล่ะ แต่มันจะต่างกันตรงที่คนที่ถูกผีเข้าจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่มีสติ และก็จะจำอะไรไม่ได้เลย ในตอนที่ถูกผีเข้าสิงร่าง แต่การถูกมารร้ายเข้าสิงมันไม่เหมือนกัน มันต่างกันตรงที่มีสติ พูดจารู้เรื่อง แต่จะปวดหัวมาก เหมือนหัวมันจะระเบิดออกมาให้ได้เลยยังไงยังงั้น แต่มันไม่ระเบิดออกมาจริงๆก็เท่านั้นเอง(ถ้าหัวคนเรามันระเบิดออกมาจริงๆ มันก็ตายคาที่ตรงนั้นไปแล้ว)และก็จะต้องระบายอารมณ์ความโกรธเกรี้ยวกราดออกมาเพื่อที่จะทำให้มันหายปวดหัวนั่นเองแหล่ะ มันเหมือนกับการทำให้ตัวเองหายเหนื่อยโดยการพักผ่อนนั่นเอง แต่ตอนนี้มันไม่เป็นอย่างนั้นแล้วล่ะ ฉันสามารถควบคุมมันและพลังได้แล้ว โดยใช้ธรรมะเป็นตัวควบคุมและเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มพลังความสามารถของฉันให้มีมากขึ้นยิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ(ทุกวันนี้ฉันยังไม่เคยใช้พลังของตัวเองที่มีอย่างสูงสุดขีดอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มเลย ไม่มีโอกาสใช้เลยว่ะ)และความสามารถที่แท้จริงของฉันก็ยังไม่ถึงขีดสุดเลย เพราะขีดสูงสุดของพลังที่แท้จริงนั้นมันจะต้องเปิดพลังจักรวาล ซึ่งมีอยู่ทางเดียวนั่นเองก็คือการบรรลุมรรคผลนิพพานเท่านั้น พอถึงจุดนั้นแล้วก็ไม่มีผู้ใดต่อต้านฉันได้อีกต่อไป นอกจากตัวเอง แต่แม้แต่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ยังตายเลย ฉันเองก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่มีใครอยู่ยงค้ำฟ้าไปตลอดกาลหรอก ซึ่งมันก็จะมีคนรุ่นใหม่ๆมาทดแทนเป็นยุคสมัยใหม่ต่อไปนั่นแหล่ะ ที่ฉันเป็นราชาได้ไม่ใช่เพราะว่าฉันแข็งแกร่งแต่เพียงอย่างเดียวหรอกนะ มันต้องมีองค์ประกอบปัจจัยในหลายๆอย่างมันถึงจะแข็งแกร่งได้ เช่น มีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ มีธรรมะ มีความดีงาม มีบุญกุศลบุญบารมี มีคุณธรรม มีศีลธรรม มีปัญญาญาณ และก็ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายหลายอย่างเลยนะ และคนชั่ว คนเลว คนไม่ดี คนไม่มีศีลมีธรรม มันเป็นราชาไม่ได้หรอก เค้าไม่ให้มันเป็น(ฉันหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์นะ)มันจะต้องได้รับความอนุญาตอนุเคราะห์จากเค้าก่อนนะ ถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งจะรับรู้ได้โดยญาณของตนเอง เมื่อฝึกฝนมาเต็มที่เต็มภูมิแล้วนั่นเอง แค่เป็นคนเก่งอย่างเดียวมันไม่พอหรอกนะ มันต้องเป็นคนดีด้วย มันถึงจะเป็นราชากันได้ ซึ่งฉันเห็นไอ้พวกที่มันอยากจะเป็นอย่างฉันนั้นมันมีมากมายเยอะแยะกันเสียเหลือเกินนักหนา แต่มันก็เป็นไม่ได้หรอก เผลอๆดีไม่ดีมันจะกลายเป็นบ้ากันไปหมดทุกคนเลยนะ เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มันเป็น แล้วก็อีกอย่างนึงนะ ไอ้พวกนี้มันชอบเลียนแบบฉันกันนักเชียว กะอีแค่ชื่อนามแฝงของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึงชื่อ Dark Danger นะ)ตำแหน่งของฉันมันก็เอาไป(ฉันหมายถึง The King Of Dark นะ แต่ตำแหน่งนี้มันเป็นแค่ราชาแห่งความมืดธรรมดาทั่วไป)ซึ่งแค่ตำแหน่งมันก็ไม่เท่าไหร่ เพราะว่าผู้ที่มีคุณสมบัติของราชาแห่งความมืดนี้มีถึง หนึ่ง ใน หนึ่งล้าน คน แต่ว่าผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดนั้นมีเพียงแค่ หนึ่ง ใน หนึ่งพันล้าน คน เท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงนั้นมีเพียง หนึ่ง ใน หนึ่งล้านล้าน คน เท่านั้นเอง ซึ่งประชากรในโลกนี้มีเพียงหลายพันล้านคนในปัจจุบัน และฉันก็ปรารถนาที่จะเป็นราชาแห่งความมืดที่แท้จริงในอนาคตให้จงได้เลย(เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียใจในภายหลังว่าชาติหนึ่งนี้จะไม่ได้เป็น ฉันจะเป็นให้จงได้)ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปในอนาคตอันไกลข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อตัวของฉันเองเพียงแค่คนเดียว เพราะว่าการเป็นราชานั้นมันจะต้องแลกกับการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เป็นราชาแล้วมันดูเท่ ดูดี เป็นแล้วมันสบาย ไม่ใช่อย่างนั้นอย่างแน่นอน มีตำแหน่งก็ต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ใช่ไม่มี ซึ่งมันก็เหมือนกันกับในหนังไอ้แมงมุมและหนังอื่นๆที่ว่า “พลังที่ยิ่งใหญ่ มักจะมากับภาระที่ใหญ่ยิ่ง” นั่นเอง และคนที่เคยได้ไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของตำแหน่งราชาที่แท้จริงก็มีให้เห็นเป็นประจักษ์พยานแล้วอยู่คนหนึ่ง คนที่ทุกคนรักและเทิดทูนบูชายิ่งกว่าราชาทั่วไป ราชาที่แท้จริง ราชาเหนือราชาทั้งปวง แค่เอ่ยแค่นี้ก็คงจะนึกออกได้ทันทีทันใด ถ้ายังนึกไม่ออกก็จะบอกให้ คนๆนั้นก็คือ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ นั่งเองไง “ฉันจะเป็นราชาที่แท้จริงให้จงได้ เป็นให้ได้อย่างท่านให้จงได้ ท่านพ่อหลวง(ในหลวงรัชกาลที่ ๙)” “ชั่วชีวิตนี้ลูกขอมอบไว้ให้กับพวกท่าน แด่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ตราบใดที่ลูกยังอยู่ ลูกจะขอสืบทอดสานต่อซึ่งเจตจำนงบรรพชน อุดมการณ์พันธมิตรฯ และภารกิจของพวกท่านต่อไป และตลอดไป” ป.ล.ใครอยากจะเป็นราชาแห่งความมืดก็เป็นไป แต่จงจำไว้อย่างนึง คือ ใครที่มันล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มันไม่มีทางได้ดีมีความสุขอย่างแน่นอน(เผลอๆมันจะตายโหงตายห่าโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่ตายก็ทรมาน เป็นบ้ากัน ทนทุกขเวทนาตลอดชีวิต ตกลงนรกหมกไหม้กันทังเป็นและตายไป)ฉันเตือนแล้วนะ ถ้าไม่อยากเป็นบ้า ก็ขอให้เลิกเป็นซะ แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องกระต่ายกับเต่า(ยุคพระศรีอารย์)
    นิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าที่ผมจะเสนอทุกท่านนี้นั้นจะเป็นไปในแบบที่มีความสุขและเรียบง่ายมาก แต่ทุกคนนั้นมองข้ามในบางสิ่งที่สำคัญมากไป เอ้ามาเริ่มกันเลยเนาะ
    ครั้งหนึ่งมีเจ้ากระต่ายที่ทะนงตนเองอยู่ตัวหนึ่ง กับเจ้าเต่าน้อยที่อ่อนแออีกตัวหนึ่ง พร้อมทั้งเหล่าสหายผองเพื่อนสัตว์ป่าน้อยใหญ่ประเภทต่างๆอีกมากมายอาศัยอยู่ด้วยกันในป่าแห่งหนึ่ง
    ทุกวันนั้นเจ้ากระต่ายมักจะเห็นเจ้าเต่าน้อยที่น่าสงสารแต่น่ารำคาญในสายตาของเจ้ากระต่ายอยู่ทุกวันๆ และเจ้ากระต่ายก็มักจะดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามเจ้าเต่าน้อยอยู่ทุกวันๆว่า
    “เต่าอย่างนายมันดีแต่เดินชักช้าน่ารำคาญไม่ทันใครๆเค้าหรอก จะทำอะไรก็ชักช้าต้วมเตี้ยมๆ แล้วอย่างนี้จะไปทันเค้าเรอะ ฮ่าๆๆ”
    แล้วมีอยู่วันหนึ่งที่เจ้ากระต่ายได้ไปเห็นเจ้าเต่าน้อยที่น่ารำคาญเดินชักช้าต้วมเตี้ยมๆแล้วก็เกิดความคิดอยากที่จะกลั่นแกล้งเจ้าเต่าน้อยให้อับอายขายขี้หน้าประชาชีไปทั่วทั้งป่าให้สะใจตนเองจนถึงที่สุด เลยออกสาส์นท้ารบท้าทายเจ้าเต่าน้อย และอยากที่โอ้อวดตนเองที่มีร่างกายที่ดีกว่าเจ้าเต่าน้อยที่ดีแต่ชักช้าทำอะไรไม่ทันใครเค้าว่า
    “เรามาวิ่งแข่งกัน ถ้าชั้นชนะนาย นายจะต้องกลายมาเป็นเบ้ของชั้นตลอดไป หรือ นายจะต้องออกไปจากป่าแห่งนี้และไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก” “แต่ถ้าชั้นแพ้ นายจะได้รับการยอมรับจากชั้นว่านายไม่ใช่แค่เต่าที่ดีแต่เดินต้วมเตี้ยมๆไปวันๆที่ไม่มีอะไรดีเด่นในตัวเองเลย หรือ นายจะได้อยู่ในป่าแห่งนี้ต่อไป และได้รับการยอมรับจากชั้นว่านายก็มีดีเหมือนกัน และก็จะได้เป็นเจ้าป่าด้วย”
    เต่าน้อยลังเลใจอยู่พักใหญ่ แต่ด้วยความที่เต่าน้อยสุดที่จะอดทนอดกลั้นกับเจ้ากระต่ายที่แสนจะทะนงตนและโอ้อวดนั่นได้ เจ้าเต่าน้อยเลยทำการตกลงที่จะแข่งขันกับเจ้ากระต่าย เพื่อให้เจ้ากระต่ายได้รับรู้กันไปเลยว่า
    “ชั้นไม่ได้เป็นแค่เต่ากระจอกๆที่ใครๆก็จะมาดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามกันได้ง่ายๆ” อย่างที่เจ้ากระต่ายพูดไว้ “ชั้นก็มีดีในตัวเองเหมือนกัน”
    จากนั้นเจ้ากระต่ายก็ได้ประกาศบอกไปกับเหล่าเพื่อนพ้องสหายสัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ในป่าเดียวกันให้ได้รับทราบและรับรู้โดยทั่วกันให้มาเป็นสักขีพยานในการที่เจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าน้อยจะทำการประลองวิ่งแข่งกัน โดยให้จัดเตรียมงานการแข่งขันกันในอีกสามวัน
    ครั้นพอถึงวันที่ได้กำหนดไว้แล้ว เจ้ากระต่ายก็มาก่อนเจ้าเต่า และได้เตรียมพร้อมที่จะทำการประลองแข่งขันในทันที แต่ครั้นพอถึงเวลาที่จะทำการแข่งขันแล้ว แต่เจ้าเต่ากลับยังไม่มาตามที่ได้นัดหมายเอาไว้ เจ้ากระต่ายจึงได้ประกาศเหยียดหยามดูถูกเจ้าเต่าว่า
    “ฮ่าๆๆ ป่านนี้แล้วเจ้าเต่ามันยังไม่โผล่หัวมาที่ลานประลองนี้อีก ดูท่าว่าเจ้าเต่ามันคงจะกลัวหัวหดอยู่ในกระดองหนีไปจากป่านี้แล้วล่ะมั้ง”
    แต่พอเจ้ากระต่ายพูดจบยังไม่ทันขาดคำ เจ้าเต่าน้อยที่น่าสงสารก็มาถึงที่ลานประลองในทันที เจ้ากระต่ายจึงได้พูดเกทับบอกเจ้าเต่าไปว่า
    “นายแน่มากที่มาประลองกับชั้นในวันนี้ทั้งๆที่รู้ว่าแพ้อยู่แล้ว ฮ่าๆๆ”
    เจ้าเต่าน้อยที่น่าสงสารก็เลยบอกกับเจ้ากระต่ายที่ทระนงตนเองว่า “เรายังไม่ทันได้แข่งกันเลย ใครจะไปรู้ว่าบางทีกระต่ายที่แสนรวดเร็วอย่างนายอาจจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในวันนี้ก็เป็นได้ หึๆๆ”
    พอได้เวลาที่จะแข่งขันแล้วเหล่าเพื่อนพ้องสัตว์ป่าน้อยใหญ่ทั้งหลายก็มาเป็นสักขีพยานกันถ้วนหน้า และเชียร์ให้กำลังใจเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าที่มาแข่งขันกันอย่างเอิกเกริกเจี๊ยวจ๊าวเซ็งแซ่ไปทั่วทั้งป่า
    สัญญาณเริ่มการประลองเริ่มดังขึ้น เจ้ากระต่ายออกตัวได้อย่างรวดเร็วแซงหน้าเจ้าเต่าไปอย่างไม่เห็นฝุ่น ตามเส้นทางแข่งขันมีที่อุปสรรคขวากหนามต่างๆมากมาย เจ้ากระต่ายผ่านไปได้หมดได้อย่างง่ายดาย ส่วนเจ้าเต่ากลับทุลักทุเลผ่านไปแทบจะทุกๆด่าน แต่มีอุปสรรคหนึ่งที่เป็นหัวใจในการแข่งขันในครั้งนี้ที่เหล่าผองเพื่อนสัตว์ป่าน้อยใหญ่ได้ตกลงทำกันไว้และคอยลุ้นอยู่อย่างน่าตื่นเต้นเร้าใจที่สุด โดยมีเจ้าป่าราชสีห์เป็นผู้คิดขึ้นมาเพื่อท้าทายเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าเพื่อให้เห็นถึงคุณค่าของการสามัคคีกลมเกลียวรักกันและกัน เพื่อหวังว่าจะให้เจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าได้รับรู้ถึงมิตรภาพและความดีงามในการอยู่ร่วมกันในป่าแห่งนี้ว่า
    “จงเห็นคุณค่าของกันและกัน อย่าดูถูกกัน อย่าแตกสามัคคีกัน จงเห็นใจกันและกัน เข้าใจกันและกัน และยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกัน ทุกคนนั้นล้วนย่อมมีดีในตนเองด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครอยู่เหนือไปกว่ากัน แม้แต่ผู้ที่อ่อนแอที่สุดก็สามารถช่วยเหลือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดได้ ทุกคนย่อมมีดีอยู่ในตัวเองด้วยกันทั้งนั้น”
    ว่าแล้วก็หันไปทางที่เจ้ากระต่ายที่ทุลักทุเลไม่สามารถฝ่าด่านสุดท้ายของราชสีห์และเหล่าเพื่อนพ้องสหายสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่ได้ทำการทดสอบเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าได้ เจ้ากระต่ายหมดแรงหยุดอยู่ที่ด่านนั้น จนฝ่ายเจ้าเต่าน้อยผ่านมาถึงด่านเดียวกันในที่สุด ถึงแม้ว่าจะทุลักทุเลเกือบหมดสภาพดูไม่จืดก็ตามที
    ด่านสุดท้ายที่ว่านี้ก็คือ ด่านที่จะต้องใช้กำลังแรงของทั้งคู่ฟันฝ่าผ่านไปให้ได้เท่านั้น เพียงแค่กำลังสัตว์ตัวคนเดียวนั้นไม่สามารที่จะฟันฝ่าผ่านไปได้เลย
    ว่าแล้วเจ้าเต่าก็บอกกับเจ้ากระต่ายว่า “ไหนนายบอกว่านายแน่จริงไง ไหงนายยังฝ่าด่านนี้ไปไม่ได้” ส่วนฝ่ายเจ้ากระต่ายนั้นก็รู้สึกตัวว่าตนเองผิดที่ชอบดูถูกเจ้าเต่าอยู่เสมอๆ จึงยอมรับว่าตนเองนั้นฝ่าด่านนี้ไปไม่ได้แน่ถ้าไม่มีเจ้าเต่าคอยช่วยเหลือด้วยอีกแรงหนึ่ง และได้ร้องขออ้อนวอนขอโทษเจ้าเต่าอย่างสำนึกในความหลงผิดที่ตัวเองได้เคยทำไม่ดีกับเจ้าเต่าไว้ และขอให้เจ้าเต่าให้อภัยให้กับตน และจะไม่ทำไม่ดีแบบนี้กับเจ้าเต่าอีกต่อไป ส่วนเจ้าเต่าก็ได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเจ้ากระต่ายที่มีต่อตนเองนั้นเป็นของจริง จึงคิดถึงคำที่ราชสีห์และเหล่าเพื่อนพ้องสัตว์ป่าทั้งหลายที่ได้เคยสั่งสอนตนและเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ทั่วทั้งป่าไว้ในตอนที่มีเหล่าสัตว์ป่าสมาชิกใหม่ทุกตัวที่ถือกำเนิดเกิดมาในป่านี้นั้นต้องได้รับการปฏิญาณตนต่อหน้าเจ้าป่าราชสีห์และสัตว์ป่าตัวอื่นๆทุกตัวที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้ว่าจะสืบทอดสานต่อเจตจำนงบรรพชนที่ตายไปที่เคยอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้และได้เฝ้าคอยดูแลรักษาป่าแห่งนี้ไว้ให้กับรุ่นลูกรุ่นหลานในรุ่นหลังว่า
    “พวกเราจะรักษาไว้ซึ่งความดีงามของบรรพชนที่ได้ส่งต่อมาสู่พวกเรารุ่นลูกรุ่นหลาน และเราจะส่งต่อซึ่งความดีงามนี้ไปให้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานข้างหน้าสืบต่อไป”
    ว่าแล้วเจ้าเต่าก็ได้บอกถึงเคล็ดลับวิธีที่จะฟันฝ่าผ่านด่านทดสอบของราชสีห์และเหล่าเพื่อนพ้องสัตว์ป่าน้อยใหญ่ให้กับเจ้ากระต่ายได้ฟัง เจ้ากระต่ายจึงได้รับรู้ถึงเจตจำนงบรรพชนที่ตนเองนั้นได้เคยหลงลืมละเลยไปนานเลยว่า ในตอนที่ตนเองนั้นได้ถือกำเนิดเกิดมาแล้วนั้น และได้อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้นั้น ตนเองได้เคยกระทำอะไรไปบ้างในตอนนั้น ทำให้เจ้ากระต่ายถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลคลออาบแก้ม เพราะได้รับรู้ซึ้งซึ่งเจตจำนงของบรรพชนที่ได้ถ่ายทอดมาสู่รุ่นหลังที่ตนเองได้เคยทำการปฏิญาณตนไปนั่นเอง ดังนั้นแล้วเจ้ากระต่ายจึงได้ทำการร่วมมือกับเจ้าเต่าช่วยกันฟันฝ่าผ่านด่านสุดท้ายนี้ไปได้อย่างง่ายดาย
    เหล่าเพื่อนพ้องสัตว์ป่าทุกตัวล้วนต่างตั้งหน้าตั้งตามารอดูเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าทั้งคู่ที่ทางวิ่งเข้าเส้นชัย ที่ในท้ายที่สุดเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าก็ได้จับมือจูงกันไปจนถึงเส้นชัยไปได้ในที่สุด โดยที่ปลายทางนั้นมีเจ้าป่าราชสีห์เป็นผู้ให้กำลังใจปลอบโยนเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าที่รับรู้ได้ถึงหัวใจของการถูกทดสอบในครั้งนี้และตลอดไป
    สุดท้ายนี้ในท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีใครที่ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และไม่มีใครที่ได้เป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะ เพราะเสมอด้วยกันทั้งคู่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไป คือ เหล่าเพื่อนพ้องสัตว์ป่าน้อยใหญ่ในป่าทุกตัวล้วนอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขสงบ โดยมีเจ้าป่าราชสีห์เป็นผู้นำประมุขสูงสุดอยู่ในป่าแห่งนี้นั่นเอง
    จบบริบูรณ์
    ป.ล.ผมหวังว่าทุกท่านคงจะชอบนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าแบบฉบับนี้กันไม่มากก็น้อยนะครับ
    นิทานเรื่องกระต่ายกับเต่า(ยุคพระศรีอารย์) นิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าที่ผมจะเสนอทุกท่านนี้นั้นจะเป็นไปในแบบที่มีความสุขและเรียบง่ายมาก แต่ทุกคนนั้นมองข้ามในบางสิ่งที่สำคัญมากไป เอ้ามาเริ่มกันเลยเนาะ ครั้งหนึ่งมีเจ้ากระต่ายที่ทะนงตนเองอยู่ตัวหนึ่ง กับเจ้าเต่าน้อยที่อ่อนแออีกตัวหนึ่ง พร้อมทั้งเหล่าสหายผองเพื่อนสัตว์ป่าน้อยใหญ่ประเภทต่างๆอีกมากมายอาศัยอยู่ด้วยกันในป่าแห่งหนึ่ง ทุกวันนั้นเจ้ากระต่ายมักจะเห็นเจ้าเต่าน้อยที่น่าสงสารแต่น่ารำคาญในสายตาของเจ้ากระต่ายอยู่ทุกวันๆ และเจ้ากระต่ายก็มักจะดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามเจ้าเต่าน้อยอยู่ทุกวันๆว่า “เต่าอย่างนายมันดีแต่เดินชักช้าน่ารำคาญไม่ทันใครๆเค้าหรอก จะทำอะไรก็ชักช้าต้วมเตี้ยมๆ แล้วอย่างนี้จะไปทันเค้าเรอะ ฮ่าๆๆ” แล้วมีอยู่วันหนึ่งที่เจ้ากระต่ายได้ไปเห็นเจ้าเต่าน้อยที่น่ารำคาญเดินชักช้าต้วมเตี้ยมๆแล้วก็เกิดความคิดอยากที่จะกลั่นแกล้งเจ้าเต่าน้อยให้อับอายขายขี้หน้าประชาชีไปทั่วทั้งป่าให้สะใจตนเองจนถึงที่สุด เลยออกสาส์นท้ารบท้าทายเจ้าเต่าน้อย และอยากที่โอ้อวดตนเองที่มีร่างกายที่ดีกว่าเจ้าเต่าน้อยที่ดีแต่ชักช้าทำอะไรไม่ทันใครเค้าว่า “เรามาวิ่งแข่งกัน ถ้าชั้นชนะนาย นายจะต้องกลายมาเป็นเบ้ของชั้นตลอดไป หรือ นายจะต้องออกไปจากป่าแห่งนี้และไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก” “แต่ถ้าชั้นแพ้ นายจะได้รับการยอมรับจากชั้นว่านายไม่ใช่แค่เต่าที่ดีแต่เดินต้วมเตี้ยมๆไปวันๆที่ไม่มีอะไรดีเด่นในตัวเองเลย หรือ นายจะได้อยู่ในป่าแห่งนี้ต่อไป และได้รับการยอมรับจากชั้นว่านายก็มีดีเหมือนกัน และก็จะได้เป็นเจ้าป่าด้วย” เต่าน้อยลังเลใจอยู่พักใหญ่ แต่ด้วยความที่เต่าน้อยสุดที่จะอดทนอดกลั้นกับเจ้ากระต่ายที่แสนจะทะนงตนและโอ้อวดนั่นได้ เจ้าเต่าน้อยเลยทำการตกลงที่จะแข่งขันกับเจ้ากระต่าย เพื่อให้เจ้ากระต่ายได้รับรู้กันไปเลยว่า “ชั้นไม่ได้เป็นแค่เต่ากระจอกๆที่ใครๆก็จะมาดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามกันได้ง่ายๆ” อย่างที่เจ้ากระต่ายพูดไว้ “ชั้นก็มีดีในตัวเองเหมือนกัน” จากนั้นเจ้ากระต่ายก็ได้ประกาศบอกไปกับเหล่าเพื่อนพ้องสหายสัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ในป่าเดียวกันให้ได้รับทราบและรับรู้โดยทั่วกันให้มาเป็นสักขีพยานในการที่เจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าน้อยจะทำการประลองวิ่งแข่งกัน โดยให้จัดเตรียมงานการแข่งขันกันในอีกสามวัน ครั้นพอถึงวันที่ได้กำหนดไว้แล้ว เจ้ากระต่ายก็มาก่อนเจ้าเต่า และได้เตรียมพร้อมที่จะทำการประลองแข่งขันในทันที แต่ครั้นพอถึงเวลาที่จะทำการแข่งขันแล้ว แต่เจ้าเต่ากลับยังไม่มาตามที่ได้นัดหมายเอาไว้ เจ้ากระต่ายจึงได้ประกาศเหยียดหยามดูถูกเจ้าเต่าว่า “ฮ่าๆๆ ป่านนี้แล้วเจ้าเต่ามันยังไม่โผล่หัวมาที่ลานประลองนี้อีก ดูท่าว่าเจ้าเต่ามันคงจะกลัวหัวหดอยู่ในกระดองหนีไปจากป่านี้แล้วล่ะมั้ง” แต่พอเจ้ากระต่ายพูดจบยังไม่ทันขาดคำ เจ้าเต่าน้อยที่น่าสงสารก็มาถึงที่ลานประลองในทันที เจ้ากระต่ายจึงได้พูดเกทับบอกเจ้าเต่าไปว่า “นายแน่มากที่มาประลองกับชั้นในวันนี้ทั้งๆที่รู้ว่าแพ้อยู่แล้ว ฮ่าๆๆ” เจ้าเต่าน้อยที่น่าสงสารก็เลยบอกกับเจ้ากระต่ายที่ทระนงตนเองว่า “เรายังไม่ทันได้แข่งกันเลย ใครจะไปรู้ว่าบางทีกระต่ายที่แสนรวดเร็วอย่างนายอาจจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในวันนี้ก็เป็นได้ หึๆๆ” พอได้เวลาที่จะแข่งขันแล้วเหล่าเพื่อนพ้องสัตว์ป่าน้อยใหญ่ทั้งหลายก็มาเป็นสักขีพยานกันถ้วนหน้า และเชียร์ให้กำลังใจเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าที่มาแข่งขันกันอย่างเอิกเกริกเจี๊ยวจ๊าวเซ็งแซ่ไปทั่วทั้งป่า สัญญาณเริ่มการประลองเริ่มดังขึ้น เจ้ากระต่ายออกตัวได้อย่างรวดเร็วแซงหน้าเจ้าเต่าไปอย่างไม่เห็นฝุ่น ตามเส้นทางแข่งขันมีที่อุปสรรคขวากหนามต่างๆมากมาย เจ้ากระต่ายผ่านไปได้หมดได้อย่างง่ายดาย ส่วนเจ้าเต่ากลับทุลักทุเลผ่านไปแทบจะทุกๆด่าน แต่มีอุปสรรคหนึ่งที่เป็นหัวใจในการแข่งขันในครั้งนี้ที่เหล่าผองเพื่อนสัตว์ป่าน้อยใหญ่ได้ตกลงทำกันไว้และคอยลุ้นอยู่อย่างน่าตื่นเต้นเร้าใจที่สุด โดยมีเจ้าป่าราชสีห์เป็นผู้คิดขึ้นมาเพื่อท้าทายเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าเพื่อให้เห็นถึงคุณค่าของการสามัคคีกลมเกลียวรักกันและกัน เพื่อหวังว่าจะให้เจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าได้รับรู้ถึงมิตรภาพและความดีงามในการอยู่ร่วมกันในป่าแห่งนี้ว่า “จงเห็นคุณค่าของกันและกัน อย่าดูถูกกัน อย่าแตกสามัคคีกัน จงเห็นใจกันและกัน เข้าใจกันและกัน และยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกัน ทุกคนนั้นล้วนย่อมมีดีในตนเองด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครอยู่เหนือไปกว่ากัน แม้แต่ผู้ที่อ่อนแอที่สุดก็สามารถช่วยเหลือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดได้ ทุกคนย่อมมีดีอยู่ในตัวเองด้วยกันทั้งนั้น” ว่าแล้วก็หันไปทางที่เจ้ากระต่ายที่ทุลักทุเลไม่สามารถฝ่าด่านสุดท้ายของราชสีห์และเหล่าเพื่อนพ้องสหายสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่ได้ทำการทดสอบเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าได้ เจ้ากระต่ายหมดแรงหยุดอยู่ที่ด่านนั้น จนฝ่ายเจ้าเต่าน้อยผ่านมาถึงด่านเดียวกันในที่สุด ถึงแม้ว่าจะทุลักทุเลเกือบหมดสภาพดูไม่จืดก็ตามที ด่านสุดท้ายที่ว่านี้ก็คือ ด่านที่จะต้องใช้กำลังแรงของทั้งคู่ฟันฝ่าผ่านไปให้ได้เท่านั้น เพียงแค่กำลังสัตว์ตัวคนเดียวนั้นไม่สามารที่จะฟันฝ่าผ่านไปได้เลย ว่าแล้วเจ้าเต่าก็บอกกับเจ้ากระต่ายว่า “ไหนนายบอกว่านายแน่จริงไง ไหงนายยังฝ่าด่านนี้ไปไม่ได้” ส่วนฝ่ายเจ้ากระต่ายนั้นก็รู้สึกตัวว่าตนเองผิดที่ชอบดูถูกเจ้าเต่าอยู่เสมอๆ จึงยอมรับว่าตนเองนั้นฝ่าด่านนี้ไปไม่ได้แน่ถ้าไม่มีเจ้าเต่าคอยช่วยเหลือด้วยอีกแรงหนึ่ง และได้ร้องขออ้อนวอนขอโทษเจ้าเต่าอย่างสำนึกในความหลงผิดที่ตัวเองได้เคยทำไม่ดีกับเจ้าเต่าไว้ และขอให้เจ้าเต่าให้อภัยให้กับตน และจะไม่ทำไม่ดีแบบนี้กับเจ้าเต่าอีกต่อไป ส่วนเจ้าเต่าก็ได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเจ้ากระต่ายที่มีต่อตนเองนั้นเป็นของจริง จึงคิดถึงคำที่ราชสีห์และเหล่าเพื่อนพ้องสัตว์ป่าทั้งหลายที่ได้เคยสั่งสอนตนและเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ทั่วทั้งป่าไว้ในตอนที่มีเหล่าสัตว์ป่าสมาชิกใหม่ทุกตัวที่ถือกำเนิดเกิดมาในป่านี้นั้นต้องได้รับการปฏิญาณตนต่อหน้าเจ้าป่าราชสีห์และสัตว์ป่าตัวอื่นๆทุกตัวที่อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้ว่าจะสืบทอดสานต่อเจตจำนงบรรพชนที่ตายไปที่เคยอาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้และได้เฝ้าคอยดูแลรักษาป่าแห่งนี้ไว้ให้กับรุ่นลูกรุ่นหลานในรุ่นหลังว่า “พวกเราจะรักษาไว้ซึ่งความดีงามของบรรพชนที่ได้ส่งต่อมาสู่พวกเรารุ่นลูกรุ่นหลาน และเราจะส่งต่อซึ่งความดีงามนี้ไปให้ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานข้างหน้าสืบต่อไป” ว่าแล้วเจ้าเต่าก็ได้บอกถึงเคล็ดลับวิธีที่จะฟันฝ่าผ่านด่านทดสอบของราชสีห์และเหล่าเพื่อนพ้องสัตว์ป่าน้อยใหญ่ให้กับเจ้ากระต่ายได้ฟัง เจ้ากระต่ายจึงได้รับรู้ถึงเจตจำนงบรรพชนที่ตนเองนั้นได้เคยหลงลืมละเลยไปนานเลยว่า ในตอนที่ตนเองนั้นได้ถือกำเนิดเกิดมาแล้วนั้น และได้อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้นั้น ตนเองได้เคยกระทำอะไรไปบ้างในตอนนั้น ทำให้เจ้ากระต่ายถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลคลออาบแก้ม เพราะได้รับรู้ซึ้งซึ่งเจตจำนงของบรรพชนที่ได้ถ่ายทอดมาสู่รุ่นหลังที่ตนเองได้เคยทำการปฏิญาณตนไปนั่นเอง ดังนั้นแล้วเจ้ากระต่ายจึงได้ทำการร่วมมือกับเจ้าเต่าช่วยกันฟันฝ่าผ่านด่านสุดท้ายนี้ไปได้อย่างง่ายดาย เหล่าเพื่อนพ้องสัตว์ป่าทุกตัวล้วนต่างตั้งหน้าตั้งตามารอดูเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าทั้งคู่ที่ทางวิ่งเข้าเส้นชัย ที่ในท้ายที่สุดเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าก็ได้จับมือจูงกันไปจนถึงเส้นชัยไปได้ในที่สุด โดยที่ปลายทางนั้นมีเจ้าป่าราชสีห์เป็นผู้ให้กำลังใจปลอบโยนเจ้ากระต่ายกับเจ้าเต่าที่รับรู้ได้ถึงหัวใจของการถูกทดสอบในครั้งนี้และตลอดไป สุดท้ายนี้ในท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีใครที่ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และไม่มีใครที่ได้เป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะ เพราะเสมอด้วยกันทั้งคู่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไป คือ เหล่าเพื่อนพ้องสัตว์ป่าน้อยใหญ่ในป่าทุกตัวล้วนอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขสงบ โดยมีเจ้าป่าราชสีห์เป็นผู้นำประมุขสูงสุดอยู่ในป่าแห่งนี้นั่นเอง จบบริบูรณ์ ป.ล.ผมหวังว่าทุกท่านคงจะชอบนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่าแบบฉบับนี้กันไม่มากก็น้อยนะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความปรารถนาของฉัน
    ความปรารถนาของฉันในชีวิตนี้ชาติหนึ่งนี้มีอะไรบ้างนั้น ทุกคนมาติดตามกันได้ดังนี้จ้า
    ก่อนอื่นจะแบ่งความปรารถนาของฉันเป็นสองทางนะ คือทางธรรมกับทางโลก ฉันจะเริ่มต้นที่ทางธรรมก่อนนะ
    ความปรารถนาทางธรรมของฉันนั้นคือ การได้เป็นผู้พิทักษ์ราชาแห่งความมืดที่แท้จริง คือการได้รับการยอมรับจากเพื่อนพ้องและทุกคนว่าเป็นผู้พิทักษ์ที่ดีที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในหกเสาหลักผู้พิทักษ์ในองค์กร กับ การบรรลุธรรมขั้นสูงสุดของพระพุทธองค์ในศาสนาพุทธ นั่นก็คือการบรรลุมรรคผลนิพพานไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปนั่นเอง
    ความปรารถนาทางโลกของฉันนั้นคือ การที่ได้ก่อตั้งองค์กรลับใต้ดิน ดิ เอลเลเม้นท์ อย่างเป็นรูปธรรม ก็เพื่อค้ำจุนช่วยเหลือประเทศนี้ให้ดำรงอยู่สืบไปชั่วลูกหลาน ซึ่งก็คือการปิดทองหลังพระโดยที่ไม่มีใครรับรู้ว่ามีองค์กรลับนี้อยู่ ที่คอยสนับสนุนช่วยเหลือชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อย่างเต็มที่เต็มกำลังความสามารถ โดยขึ้นตรงกับสถาบันพระมหากษัตริย์แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเปรียบได้กับคณะองคมนตรีนั่นเอง กับ การที่ฉันได้ตายไปแล้วและได้มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลนั่นเอง โดยที่ฉันปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นดั่งวีรบุรุษบรรพชนที่ได้เคยเสียสละตนเองเพื่อคนรุ่นหลังมาแล้วนั่นเอง
    สุดท้ายนี้ความหวังความฝันของฉันจะเป็นจริงหรือไม่ก็ไม่สำคัญเท่ากับมีเพื่อนพ้องที่รักและเข้าใจในตัวฉันอย่างแท้จริง และเมื่อฉันได้ตายไปแล้วนั้น ก็มีคนไปงานศพของฉันเพื่อไว้อาลัยให้กับฉันเป็นครั้งสุดท้าย แค่นี้ฉันก็ดีใจนอนตายตาหลับแล้วล่ะทุกคน
    ความปรารถนาของฉัน ความปรารถนาของฉันในชีวิตนี้ชาติหนึ่งนี้มีอะไรบ้างนั้น ทุกคนมาติดตามกันได้ดังนี้จ้า ก่อนอื่นจะแบ่งความปรารถนาของฉันเป็นสองทางนะ คือทางธรรมกับทางโลก ฉันจะเริ่มต้นที่ทางธรรมก่อนนะ ความปรารถนาทางธรรมของฉันนั้นคือ การได้เป็นผู้พิทักษ์ราชาแห่งความมืดที่แท้จริง คือการได้รับการยอมรับจากเพื่อนพ้องและทุกคนว่าเป็นผู้พิทักษ์ที่ดีที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในหกเสาหลักผู้พิทักษ์ในองค์กร กับ การบรรลุธรรมขั้นสูงสุดของพระพุทธองค์ในศาสนาพุทธ นั่นก็คือการบรรลุมรรคผลนิพพานไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปนั่นเอง ความปรารถนาทางโลกของฉันนั้นคือ การที่ได้ก่อตั้งองค์กรลับใต้ดิน ดิ เอลเลเม้นท์ อย่างเป็นรูปธรรม ก็เพื่อค้ำจุนช่วยเหลือประเทศนี้ให้ดำรงอยู่สืบไปชั่วลูกหลาน ซึ่งก็คือการปิดทองหลังพระโดยที่ไม่มีใครรับรู้ว่ามีองค์กรลับนี้อยู่ ที่คอยสนับสนุนช่วยเหลือชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อย่างเต็มที่เต็มกำลังความสามารถ โดยขึ้นตรงกับสถาบันพระมหากษัตริย์แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเปรียบได้กับคณะองคมนตรีนั่นเอง กับ การที่ฉันได้ตายไปแล้วและได้มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูลนั่นเอง โดยที่ฉันปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นดั่งวีรบุรุษบรรพชนที่ได้เคยเสียสละตนเองเพื่อคนรุ่นหลังมาแล้วนั่นเอง สุดท้ายนี้ความหวังความฝันของฉันจะเป็นจริงหรือไม่ก็ไม่สำคัญเท่ากับมีเพื่อนพ้องที่รักและเข้าใจในตัวฉันอย่างแท้จริง และเมื่อฉันได้ตายไปแล้วนั้น ก็มีคนไปงานศพของฉันเพื่อไว้อาลัยให้กับฉันเป็นครั้งสุดท้าย แค่นี้ฉันก็ดีใจนอนตายตาหลับแล้วล่ะทุกคน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความไว้อาลัยแด่เพื่อนพ้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกๆท่าน ในวันครบรอบ ๗ ตุลา ปีที่ ๓
    ผมอยากจะบอกเพียงประโยคเดียว "คนดีไม่มีวันตาย" ถึงผมจะไม่เคยไปชุมนุมกับเหล่าเพื่อนพ้องพันธมิตรฯ แต่ก็มีจิตวิญญาณร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเหล่าเพื่อนพ้องทุกๆท่าน
    ผมยังดีใจและยังคงภูมิใจเสมอมาที่ได้เป็นพันธมิตรฯ นับตั้งแต่วันแรกที่ได้เป็น ได้ร่วมต่อสู้ไปกับเหล่าเพื่อนพ้องทุกๆท่านทางหน้าจอ และทุกวันนี้ผมก็เฝ้าสวดมนต์ภวานาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองในหลวง,ราชินี,สมเด็จญาณ,พลเอกเปรมและเพื่อนพ้องพันธมิตรฯที่เป็นคนดีอย่างแท้จริงทุกๆท่าน ทั้งที่มีชีวิตอยู่และได้สละชีพร่วงลับไปแล้ว
    ผมเชื่อมั่นว่าผืนแผ่นดินประเทศไทยสยามนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก คนดีเท่านั้นที่อยู่ได้ และมั่นใจอย่างแรงกล้ายิ่ง เพราะเรามีพระโพธิสัตว์อย่างในหลวงและพ่อแม่ครูอาจารย์ทุกๆท่านนั่นเอง
    ผมขอให้เพื่อนพ้องทุกๆท่านมั่นใจได้ว่ามันจะมีสักวันหนึ่งที่เป็นวันของพวกเรา ขอให้ทุกท่านร่วมกันไว้อาลัยแด่วีรชนผู้กล้าหาญทุกๆท่าน ถ้าไม่มีพวกเค้าในวันนั้น ก็คงจะไม่มีพวกเราในวันนี้ เพราะเรามีอดีต เราถึงได้แข็งแกร่งขึ้น จงจำไว้ให้ขึ้นใจเสมอ และอย่าได้ลืมเลือนว่าเพื่อนพ้องเราเสียสละกันมามากแค่ไหน เพราะฉะนั้นอย่าให้พวกเค้าต้องตายอย่างสูญเปล่า และเราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เรายังมีเพื่อนพ้องอยู่ ทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า และเราจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรี่อยๆ แม้คนเพียงคนเดียวก็สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้
    จงเชื่อมั่นในตนเองและเพื่อนพ้องตลอดไป ตราบใดที่เรายังมีอุดมการณ์เดียวกัน พันธมิตรฯก็จะยังคงอยู่ชั่วลูกหลานอย่างแน่นอน
    สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกๆคนโชคดี และสามัคคีกันไว้ตลอดไปนะครับ
    บทความไว้อาลัยแด่เพื่อนพ้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกๆท่าน ในวันครบรอบ ๗ ตุลา ปีที่ ๓ ผมอยากจะบอกเพียงประโยคเดียว "คนดีไม่มีวันตาย" ถึงผมจะไม่เคยไปชุมนุมกับเหล่าเพื่อนพ้องพันธมิตรฯ แต่ก็มีจิตวิญญาณร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเหล่าเพื่อนพ้องทุกๆท่าน ผมยังดีใจและยังคงภูมิใจเสมอมาที่ได้เป็นพันธมิตรฯ นับตั้งแต่วันแรกที่ได้เป็น ได้ร่วมต่อสู้ไปกับเหล่าเพื่อนพ้องทุกๆท่านทางหน้าจอ และทุกวันนี้ผมก็เฝ้าสวดมนต์ภวานาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองในหลวง,ราชินี,สมเด็จญาณ,พลเอกเปรมและเพื่อนพ้องพันธมิตรฯที่เป็นคนดีอย่างแท้จริงทุกๆท่าน ทั้งที่มีชีวิตอยู่และได้สละชีพร่วงลับไปแล้ว ผมเชื่อมั่นว่าผืนแผ่นดินประเทศไทยสยามนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก คนดีเท่านั้นที่อยู่ได้ และมั่นใจอย่างแรงกล้ายิ่ง เพราะเรามีพระโพธิสัตว์อย่างในหลวงและพ่อแม่ครูอาจารย์ทุกๆท่านนั่นเอง ผมขอให้เพื่อนพ้องทุกๆท่านมั่นใจได้ว่ามันจะมีสักวันหนึ่งที่เป็นวันของพวกเรา ขอให้ทุกท่านร่วมกันไว้อาลัยแด่วีรชนผู้กล้าหาญทุกๆท่าน ถ้าไม่มีพวกเค้าในวันนั้น ก็คงจะไม่มีพวกเราในวันนี้ เพราะเรามีอดีต เราถึงได้แข็งแกร่งขึ้น จงจำไว้ให้ขึ้นใจเสมอ และอย่าได้ลืมเลือนว่าเพื่อนพ้องเราเสียสละกันมามากแค่ไหน เพราะฉะนั้นอย่าให้พวกเค้าต้องตายอย่างสูญเปล่า และเราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เรายังมีเพื่อนพ้องอยู่ ทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า และเราจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรี่อยๆ แม้คนเพียงคนเดียวก็สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ จงเชื่อมั่นในตนเองและเพื่อนพ้องตลอดไป ตราบใดที่เรายังมีอุดมการณ์เดียวกัน พันธมิตรฯก็จะยังคงอยู่ชั่วลูกหลานอย่างแน่นอน สุดท้ายนี้ผมขอให้ทุกๆคนโชคดี และสามัคคีกันไว้ตลอดไปนะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • #หลอดเลือดหัวใจตีบ

    ในความเป็นจริงมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากมายและนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานจากจีน

    การศึกษาวิจัยเชื่อมโยงกรดไหลย้อน(GERD)กับปัจจัยเสี่ยงหลอดเลือดหัวใจตีบ(Coronary artery disease)

    การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Translational Internal Medicine ( https://doi.org/10.1515/jtim-2024-0017 ) เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับผลกระทบที่กว้างขึ้นของโรคกรดไหลย้อน (GERD) ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด โดยใช้แนวทางการสุ่มแบบเมนเดเลียน (MR) แบบสองทิศทางที่เข้มงวด การวิจัยนี้ให้หลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า GERD ซึ่งเป็นภาวะที่โดยทั่วไปถือว่าเป็นโรคของระบบย่อยอาหารซึ่งมีลักษณะคือกรดไหลย้อนและอาการเสียดท้อง อาจส่งผลต่อปัจจัยเสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจที่สำคัญ เช่น ความดันโลหิต โปรไฟล์ไขมัน และความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

    ผลการศึกษาที่ก้าวล้ำครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าผลกระทบของกรดไหลย้อนอาจขยายออกไปนอกระบบย่อยอาหาร และอาจมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพหลอดเลือดและหัวใจ "การวิจัยของเราเน้นย้ำว่ากรดไหลย้อนอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเสี่ยงต่อหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้มีมุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้นเกี่ยวกับอิทธิพลของกรดไหลย้อน" Qiang Wu จากแผนกอาวุโสด้านโรคหัวใจที่ศูนย์การแพทย์ที่ 6 ของโรงพยาบาล PLA General Hospital ของจีนในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน กล่าว

    การใช้การสุ่มแบบเมนเดเลียนสองทิศทางให้ข้อได้เปรียบเหนือการศึกษาแบบเดิมในการควบคุมปัจจัยที่ทำให้เกิดความสับสนและจัดการกับความสัมพันธ์เชิงสาเหตุย้อนกลับ แนวทางนี้ซึ่งใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมเพื่อทำการอนุมานเชิงสาเหตุนั้นให้พื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้นสำหรับการทำความเข้าใจว่ากรดไหลย้อนอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ทางหลอดเลือดและหัวใจได้อย่างไร ตัวแปรทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรดไหลย้อนถูกใช้เป็นตัวแปรเครื่องมือ ทำให้นักวิจัยสามารถตรวจสอบบทบาทเชิงสาเหตุที่อาจเกิดขึ้นของกรดไหลย้อนในภาวะหลอดเลือดและหัวใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ตามที่ Qiang Su จากแผนกโรคหัวใจที่โรงพยาบาล Jiangbin ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงกล่าว การศึกษานี้ใช้แนวทาง MR สองตัวอย่าง โดยดึงข้อมูลจากการศึกษาความสัมพันธ์ทั่วทั้งจีโนม (GWAS) ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 600,000 คน รวมถึงผู้ป่วยกรดไหลย้อนที่ได้รับการวินิจฉัย 129,000 ราย ในขณะที่ข้อมูลหลอดเลือดและหัวใจได้มาจากกลุ่มตัวอย่างในยุโรปที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 200,000 คน นักวิจัยเน้นที่ตัวชี้วัดความดันโลหิตที่สำคัญ เช่น ความดันโลหิตซิสโตลิก (SBP) ความดันโลหิตไดแอสโตลิก (DBP) ความดันชีพจร (PP) และความดันโลหิตแดงเฉลี่ย (MAP)

    การศึกษานี้ใช้เทคนิค MR ขั้นสูงหลายวิธี รวมถึงการวิเคราะห์ Inverse Variance Weighted (IVW) การถดถอย MR Egger และแนวทาง Weighted Median วิธีการเหล่านี้ควบคุมผลกระทบแบบ pleiotropic ซึ่งยีนหนึ่งมีผลต่อลักษณะหลายอย่าง จึงทำให้ผลลัพธ์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แนวทางที่เข้มงวดนี้ทำให้ผู้วิจัยสรุปได้ว่า GERD อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อปัจจัยเสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะความดันโลหิตและระดับไขมันในเลือด

    ผลการศึกษาวิจัยที่น่าสนใจที่สุดประการหนึ่งคือ GERD มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับความดันโลหิตสูง นักวิจัยพบว่า GERD ที่คาดการณ์ไว้ทางพันธุกรรมมีความเชื่อมโยงกับความดันโลหิตซิสโตลิก (SBP) ที่สูงขึ้น (β = 0.053, P = 0.036) และความดันโลหิตไดแอสโตลิก (DBP) ที่สูงขึ้น (β = 0.100, P < 0.001) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า GERD อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง

    จากการศึกษาพบว่ากรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์กับระดับคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) ที่เพิ่มขึ้น (β = 0.093, P < 0.001) และไตรกลีเซอไรด์ (β = 0.153, P < 0.001) ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน กรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) (β = -0.115, P = 0.002) ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นคอเลสเตอรอล "ดี" ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ

    นอกจากนี้ งานวิจัยยังแสดงให้เห็นว่ากรดไหลย้อนเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (หัวใจวาย) และความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตราส่วนความน่าจะเป็นของกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันอยู่ที่ 1.272 (95% CI: 1.040 ถึง 1.557, P = 0.019) และสำหรับความดันโลหิตสูงอยู่ที่ 1.357 (95% CI: 1.222 ถึง 1.507, P < 0.001) อย่างไรก็ตาม ไม่พบความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างกรดไหลย้อนและภาวะหัวใจล้มเหลว

    ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่ากรดไหลย้อนอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ การศึกษาของเราได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวินิจฉัย แต่เนิ่นๆ และกลยุทธ์การป้องกันสำหรับโรคกรดไหลย้อนและโรคหลอดเลือดหัวใจ

    Cr. Santi Manadee
    #หลอดเลือดหัวใจตีบ ในความเป็นจริงมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากมายและนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานจากจีน การศึกษาวิจัยเชื่อมโยงกรดไหลย้อน(GERD)กับปัจจัยเสี่ยงหลอดเลือดหัวใจตีบ(Coronary artery disease) การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Translational Internal Medicine ( https://doi.org/10.1515/jtim-2024-0017 ) เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับผลกระทบที่กว้างขึ้นของโรคกรดไหลย้อน (GERD) ต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด โดยใช้แนวทางการสุ่มแบบเมนเดเลียน (MR) แบบสองทิศทางที่เข้มงวด การวิจัยนี้ให้หลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า GERD ซึ่งเป็นภาวะที่โดยทั่วไปถือว่าเป็นโรคของระบบย่อยอาหารซึ่งมีลักษณะคือกรดไหลย้อนและอาการเสียดท้อง อาจส่งผลต่อปัจจัยเสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจที่สำคัญ เช่น ความดันโลหิต โปรไฟล์ไขมัน และความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ผลการศึกษาที่ก้าวล้ำครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าผลกระทบของกรดไหลย้อนอาจขยายออกไปนอกระบบย่อยอาหาร และอาจมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพหลอดเลือดและหัวใจ "การวิจัยของเราเน้นย้ำว่ากรดไหลย้อนอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเสี่ยงต่อหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้มีมุมมองที่ครอบคลุมมากขึ้นเกี่ยวกับอิทธิพลของกรดไหลย้อน" Qiang Wu จากแผนกอาวุโสด้านโรคหัวใจที่ศูนย์การแพทย์ที่ 6 ของโรงพยาบาล PLA General Hospital ของจีนในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน กล่าว การใช้การสุ่มแบบเมนเดเลียนสองทิศทางให้ข้อได้เปรียบเหนือการศึกษาแบบเดิมในการควบคุมปัจจัยที่ทำให้เกิดความสับสนและจัดการกับความสัมพันธ์เชิงสาเหตุย้อนกลับ แนวทางนี้ซึ่งใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมเพื่อทำการอนุมานเชิงสาเหตุนั้นให้พื้นฐานที่แข็งแกร่งขึ้นสำหรับการทำความเข้าใจว่ากรดไหลย้อนอาจส่งผลต่อผลลัพธ์ทางหลอดเลือดและหัวใจได้อย่างไร ตัวแปรทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรดไหลย้อนถูกใช้เป็นตัวแปรเครื่องมือ ทำให้นักวิจัยสามารถตรวจสอบบทบาทเชิงสาเหตุที่อาจเกิดขึ้นของกรดไหลย้อนในภาวะหลอดเลือดและหัวใจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ตามที่ Qiang Su จากแผนกโรคหัวใจที่โรงพยาบาล Jiangbin ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงกล่าว การศึกษานี้ใช้แนวทาง MR สองตัวอย่าง โดยดึงข้อมูลจากการศึกษาความสัมพันธ์ทั่วทั้งจีโนม (GWAS) ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 600,000 คน รวมถึงผู้ป่วยกรดไหลย้อนที่ได้รับการวินิจฉัย 129,000 ราย ในขณะที่ข้อมูลหลอดเลือดและหัวใจได้มาจากกลุ่มตัวอย่างในยุโรปที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 200,000 คน นักวิจัยเน้นที่ตัวชี้วัดความดันโลหิตที่สำคัญ เช่น ความดันโลหิตซิสโตลิก (SBP) ความดันโลหิตไดแอสโตลิก (DBP) ความดันชีพจร (PP) และความดันโลหิตแดงเฉลี่ย (MAP) การศึกษานี้ใช้เทคนิค MR ขั้นสูงหลายวิธี รวมถึงการวิเคราะห์ Inverse Variance Weighted (IVW) การถดถอย MR Egger และแนวทาง Weighted Median วิธีการเหล่านี้ควบคุมผลกระทบแบบ pleiotropic ซึ่งยีนหนึ่งมีผลต่อลักษณะหลายอย่าง จึงทำให้ผลลัพธ์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น แนวทางที่เข้มงวดนี้ทำให้ผู้วิจัยสรุปได้ว่า GERD อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อปัจจัยเสี่ยงต่อหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะความดันโลหิตและระดับไขมันในเลือด ผลการศึกษาวิจัยที่น่าสนใจที่สุดประการหนึ่งคือ GERD มีความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกับความดันโลหิตสูง นักวิจัยพบว่า GERD ที่คาดการณ์ไว้ทางพันธุกรรมมีความเชื่อมโยงกับความดันโลหิตซิสโตลิก (SBP) ที่สูงขึ้น (β = 0.053, P = 0.036) และความดันโลหิตไดแอสโตลิก (DBP) ที่สูงขึ้น (β = 0.100, P < 0.001) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า GERD อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง จากการศึกษาพบว่ากรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์กับระดับคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) ที่เพิ่มขึ้น (β = 0.093, P < 0.001) และไตรกลีเซอไรด์ (β = 0.153, P < 0.001) ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน กรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) (β = -0.115, P = 0.002) ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นคอเลสเตอรอล "ดี" ที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ นอกจากนี้ งานวิจัยยังแสดงให้เห็นว่ากรดไหลย้อนเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (หัวใจวาย) และความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตราส่วนความน่าจะเป็นของกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันอยู่ที่ 1.272 (95% CI: 1.040 ถึง 1.557, P = 0.019) และสำหรับความดันโลหิตสูงอยู่ที่ 1.357 (95% CI: 1.222 ถึง 1.507, P < 0.001) อย่างไรก็ตาม ไม่พบความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างกรดไหลย้อนและภาวะหัวใจล้มเหลว ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่ากรดไหลย้อนอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ การศึกษาของเราได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวินิจฉัย แต่เนิ่นๆ และกลยุทธ์การป้องกันสำหรับโรคกรดไหลย้อนและโรคหลอดเลือดหัวใจ Cr. Santi Manadee
    DOI.ORG
    Gastroesophageal reflux disease influences blood pressure components, lipid profile and cardiovascular diseases: Evidence from a Mendelian randomization study
    Background Gastroesophageal reflux disease (GERD) is a prevalent gastrointestinal disorder associated with a range of cardiovascular and metabolic complications. However, the relationship between GERD and blood pressure components, lipid profile, and cardiovascular diseases remains unclear. Methods Leveraging genetic variants associated with GERD as instrumental variables, we performed this Mendelian randomization (MR) analyses. Blood pressure components, lipid profile parameters, as well as cardiovascular diseases were considered as outcomes. Furthermore, we conducted reverse MR analysis to explore the association of these factors with the risk of GERD. Results Our MR analysis discovered a potential causal influence of GERD on blood pressure components, with genetically predicted GERD positively associated with systolic blood pressure (β = 0.053, P = 0.036), diastolic blood pressure (β = 0.100, P < 0.001), and mean arterial pressure (β = 0.106, P < 0.001). Additionally, genetically predicted GERD showed a significant impact on lipid profile, leading to increased genetically predicted levels of low-density lipoprotein (LDL) cholesterol (β = 0.093, P < 0.001), and triglycerides (β = 0.153, P < 0.001), while having a negative effect on high-density lipoprotein (HDL) cholesterol (β = -0.115, P = 0.002). Furthermore, our study indicated a noteworthy causal association between genetically predicted GERD and increased risk of myocardial infarction [odds ratio (OR) = 1.272, P = 0.019)] and hypertension (OR = 1.357, P < 0.001). No significant association was found between GERD and pulse pressure, total cholesterol, heart failure, and atrial fibrillation ( P > 0.05). Reverse MR analysis indicates that blood pressure components, lipid profile, and cardiovascular diseases do not lead to an increased risk of GERD (all P > 0.05). Furthermore, mediation MR analysis reveals that LDL cholesterol (proportion mediated: 19.99%, 95% CI: 4.49% to 35.50%), HDL cholesterol (proportion mediated: 11.71%, 95% CI: 5.23% to 18.19%), and hypertension (proportion mediated: 35.09%, 95% CI: 24.66% to 45.53%) mediated the effect of GERD on myocardial infarction, while other factors did not participate in this pathway. Conclusions This MR study provides evidence supporting a causal relationship between GERD and alterations in blood pressure components, lipid profile, and increased risk of cardiovascular diseases.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพขีปนาวุธ Iskander-M ของรัสเซีย โจมตีที่โรงงาน "Motor Sich" ในตัวเมืองของภูมิภาคซาโปโรซี (Zaporozhye) เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 18 มกราคม 2568

    โรงงานแห่งนี้มีส่วนร่วมในการพัฒนา การผลิต การซ่อมแซมและการบำรุงรักษาเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงการผลิตเครื่องยนต์สำหรับโดรน Palyanitsa ซึ่งเป็นเครื่องบินไร้คนขับที่ยูเครนใช้โจมตีดินแดนรัสเซียมาตลอด

    ก่อนหน้านี้ โรงงานแห่งนี้ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดการทำงานของโรงงานแห่งนี้ได้ ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต จึงมีความแข็งแกร่งอย่างมาก
    ภาพขีปนาวุธ Iskander-M ของรัสเซีย โจมตีที่โรงงาน "Motor Sich" ในตัวเมืองของภูมิภาคซาโปโรซี (Zaporozhye) เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 18 มกราคม 2568 โรงงานแห่งนี้มีส่วนร่วมในการพัฒนา การผลิต การซ่อมแซมและการบำรุงรักษาเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ รวมถึงการผลิตเครื่องยนต์สำหรับโดรน Palyanitsa ซึ่งเป็นเครื่องบินไร้คนขับที่ยูเครนใช้โจมตีดินแดนรัสเซียมาตลอด ก่อนหน้านี้ โรงงานแห่งนี้ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดการทำงานของโรงงานแห่งนี้ได้ ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต จึงมีความแข็งแกร่งอย่างมาก
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts