ดีแล้วที่ผมไม่คิดทำแบบไอ้ไฮโซเก๊ แต่จะทำตามฝันและแนวทางของผม ซึ่งผมกำหนดไว้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ตั้งแต่โควิดผมเริ่มบาดหมางกับครอบครัวเพราะข้ออ้างของคนในครอบครัว พ่อ แม่ หรือใครก็ตามแต่ ไม่อยากให้ผมกลับไปใช้ชีวิตคนเดียว เอาผมมาให้อยู่ในโอวาท และตีกรอบซะเข้มงวด จนผมเสียเพื่อนดีๆที่เคยร่วมโปรเจคและเป็นส่วนให้โปรเจคเสร็จไปได้สวยไป คือตอนลงวิชาโปรเจคก็โดนเพื่อนคนอื่นเมินไม่สนใจผม ผลักให้ผมต้องทำโปรเจคร่วมกับคนที่ชอบสันโดษไม่เอาไหน แต่สุดท้ายแล้วผมกับครอบครัวไม่ลงรอยกันตั้งแต่ยึดห้องส่วนตัวที่ใช้งานคอมพิวเตอร์เพื่อทำชิ้นงานหรือเล่นเอาอรรถรสเป็นห้องพระ ทั้งๆที่ตั้งโมเด็ม จนผมต้องซึมซับสิ่งที่คนในครอบครัวเสพติด ไม่ว่าละครที่กระดากหู สื่อข่าวรายการที่กระดากโสตประสาท จนทำให้ผมรู้สึกจงเกลียดจงชังพี่หนุ่ม พี่มดดำ ป้าอ้อย ป้าฮอด และคนอื่นๆที่ผมไม่อยากดูรายการเขา เพราะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของชีวิตผมและไม่ได้สำคัญอะไรกับชีวิตผมด้วย ผมสำคัญแค่จะเป็นโปรแกรมเมอร์ยอดอัฉริยะและนักพัฒนาเกมส์ให้ได้ แต่ไม่ได้ว่าร้ายพ่อแม่ตัวเองนะ เพราะไม่อยากขยายเลยเถิดไปทะเลาะกันบ้านพัง ไม่ต้องมากำหนดเป้าหมายและทางเลือกชีวิตผมจะได้ไหมครับ เพราะเดี๋ยวนี้ทางเลือกหาเงินทำอาชีพมีนเยอะมาก ยุคโลกาภิวัฒน์แล้วยังจะหัวโบราณและพยายามให้ผมอยู่ใต้โอวาทอีก ถ้าผมต้องเรียนนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ตามที่ทางครอบครัว คนรอบข้างร้องขอนะ ผมคงต้องพิจารณาเอาใบปริญญาตรีกับชุดครุยไปเผาทำลายในกองขยะเสีย ถ้าผมเปลี่ยนครอบครัวไม่ได้ แต่ครอบครัวเปลี่ยนผมให้แย่กว่าเดิมได้ คิดว่าหวังว่าลูกจะได้ดี ที่ไหนได้ ลูกได้แย่ลงๆเพราะเลี้ยงลูกแบบนี้ไง เสพสื่อท็อกซิกแล้วอุปการะเยี่ยงวัวควายจะเอาแบบนี้ใช่ไหม ถ้าผมต้องทำงานด้านกฎหมายตามที่พวกท่านคาดหวังผมจะต้องเผาเกียร์ เผาเสื้อช็อป เผาใบปริญญา เผาวุฒิวิศวกรรมศาสตร์ เผาครุยสามพระจอมที่สั่งตัดซื้อมา ไม่ใช่แค่ขู่ แต่มาบีบบังคับผมเกินเบอร์เมื่อไหร่ ได้เห็นดีกันแน่
คนในครอบครัวโดยเฉพาะ พ่อ แม่ พี่สาว หรือใครก็ตามแต่ เสพสื่อขี้ปากไซออนิสต์มากไป เลยคิดให้ผมไปในเส้นทางที่ผมไม่อยากเดิน มีแต่ท็อกซิกล้วนๆ เลยมีทัศนคติที่ไม่ดีกับผมแบบนี้
คนในครอบครัวโดยเฉพาะ พ่อ แม่ พี่สาว หรือใครก็ตามแต่ เสพสื่อขี้ปากไซออนิสต์มากไป เลยคิดให้ผมไปในเส้นทางที่ผมไม่อยากเดิน มีแต่ท็อกซิกล้วนๆ เลยมีทัศนคติที่ไม่ดีกับผมแบบนี้
ดีแล้วที่ผมไม่คิดทำแบบไอ้ไฮโซเก๊ แต่จะทำตามฝันและแนวทางของผม ซึ่งผมกำหนดไว้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ตั้งแต่โควิดผมเริ่มบาดหมางกับครอบครัวเพราะข้ออ้างของคนในครอบครัว พ่อ แม่ หรือใครก็ตามแต่ ไม่อยากให้ผมกลับไปใช้ชีวิตคนเดียว เอาผมมาให้อยู่ในโอวาท และตีกรอบซะเข้มงวด จนผมเสียเพื่อนดีๆที่เคยร่วมโปรเจคและเป็นส่วนให้โปรเจคเสร็จไปได้สวยไป คือตอนลงวิชาโปรเจคก็โดนเพื่อนคนอื่นเมินไม่สนใจผม ผลักให้ผมต้องทำโปรเจคร่วมกับคนที่ชอบสันโดษไม่เอาไหน แต่สุดท้ายแล้วผมกับครอบครัวไม่ลงรอยกันตั้งแต่ยึดห้องส่วนตัวที่ใช้งานคอมพิวเตอร์เพื่อทำชิ้นงานหรือเล่นเอาอรรถรสเป็นห้องพระ ทั้งๆที่ตั้งโมเด็ม จนผมต้องซึมซับสิ่งที่คนในครอบครัวเสพติด ไม่ว่าละครที่กระดากหู สื่อข่าวรายการที่กระดากโสตประสาท จนทำให้ผมรู้สึกจงเกลียดจงชังพี่หนุ่ม พี่มดดำ ป้าอ้อย ป้าฮอด และคนอื่นๆที่ผมไม่อยากดูรายการเขา เพราะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของชีวิตผมและไม่ได้สำคัญอะไรกับชีวิตผมด้วย ผมสำคัญแค่จะเป็นโปรแกรมเมอร์ยอดอัฉริยะและนักพัฒนาเกมส์ให้ได้ แต่ไม่ได้ว่าร้ายพ่อแม่ตัวเองนะ เพราะไม่อยากขยายเลยเถิดไปทะเลาะกันบ้านพัง ไม่ต้องมากำหนดเป้าหมายและทางเลือกชีวิตผมจะได้ไหมครับ เพราะเดี๋ยวนี้ทางเลือกหาเงินทำอาชีพมีนเยอะมาก ยุคโลกาภิวัฒน์แล้วยังจะหัวโบราณและพยายามให้ผมอยู่ใต้โอวาทอีก ถ้าผมต้องเรียนนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ตามที่ทางครอบครัว คนรอบข้างร้องขอนะ ผมคงต้องพิจารณาเอาใบปริญญาตรีกับชุดครุยไปเผาทำลายในกองขยะเสีย ถ้าผมเปลี่ยนครอบครัวไม่ได้ แต่ครอบครัวเปลี่ยนผมให้แย่กว่าเดิมได้ คิดว่าหวังว่าลูกจะได้ดี ที่ไหนได้ ลูกได้แย่ลงๆเพราะเลี้ยงลูกแบบนี้ไง เสพสื่อท็อกซิกแล้วอุปการะเยี่ยงวัวควายจะเอาแบบนี้ใช่ไหม ถ้าผมต้องทำงานด้านกฎหมายตามที่พวกท่านคาดหวังผมจะต้องเผาเกียร์ เผาเสื้อช็อป เผาใบปริญญา เผาวุฒิวิศวกรรมศาสตร์ เผาครุยสามพระจอมที่สั่งตัดซื้อมา ไม่ใช่แค่ขู่ แต่มาบีบบังคับผมเกินเบอร์เมื่อไหร่ ได้เห็นดีกันแน่
คนในครอบครัวโดยเฉพาะ พ่อ แม่ พี่สาว หรือใครก็ตามแต่ เสพสื่อขี้ปากไซออนิสต์มากไป เลยคิดให้ผมไปในเส้นทางที่ผมไม่อยากเดิน มีแต่ท็อกซิกล้วนๆ เลยมีทัศนคติที่ไม่ดีกับผมแบบนี้
หนุ่มไฮโซเก๊ มีโลกสองใบคู่กรณี “คะน้า ริญญารัตน์” อาศัยช่วงชุลมุน ขณะคุมสอบปากคำ กระโดดจากชั้น 3 ของ สน.โคกคราม
อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033148
อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033148
0 Comments
0 Shares
6 Views
0 Reviews