• 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷
    #รวมข่าวIT #20251216 #TechRadar

    LG เปิดตัวทีวี Micro RGB evo ที่ CES 2026
    LG กำลังสร้างความฮือฮาในงาน CES 2026 ด้วยการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Micro RGB evo ซึ่งเปลี่ยนหลอดไฟ LED แบบเดิมไปเป็นหลอดไฟสีแดง เขียว และน้ำเงินขนาดจิ๋ว เพื่อควบคุมแสงและสีได้ละเอียดขึ้น ผลลัพธ์คือภาพที่สว่างสดใสและสีสันจัดเต็มใกล้เคียง OLED แต่ยังคงความสว่างสูงของ LCD จุดเด่นคือการครอบคลุมสีครบทั้ง BT.2020, DCI-P3 และ Adobe RGB พร้อมระบบประมวลผล α11 AI Gen 3 ที่ช่วยอัปสเกลภาพให้คมชัดขึ้น ถือเป็นการพยายามปิดช่องว่างระหว่าง LCD และ OLED ที่น่าสนใจมากสำหรับคนรักภาพคมชัดและสีสดใส
    https://www.techradar.com/televisions/lg-reveals-micro-rgb-evo-tv-with-bold-claims-of-perfect-color

    Netflix เลิกใช้ Google Cast แต่ Apple TV บน Android นำกลับมาอีกครั้ง
    Netflix เคยยกเลิกฟีเจอร์ Google Cast ที่ให้ผู้ใช้ส่งภาพจากมือถือขึ้นจอทีวี แต่ล่าสุด Apple TV บน Android กลับนำฟีเจอร์นี้กลับมา ทำให้ผู้ใช้สามารถสตรีมคอนเทนต์จากมือถือไปยังทีวีได้อีกครั้ง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งที่ยังคงดุเดือด และการที่ Apple พยายามทำให้บริการของตนเข้าถึงผู้ใช้ Android ได้สะดวกขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/apple-tv-plus/netflix-dropped-google-cast-now-apple-tv-for-android-just-brought-it-back

    NAS พกพาใส่ SSD 4 ตัว พร้อมพลัง Intel N150
    มีการเปิดตัวอุปกรณ์ NAS ขนาดเล็กที่ดูเหมือนวิทยุทรานซิสเตอร์เก่า แต่ภายในบรรจุ SSD ได้ถึง 4 ตัว ใช้พลังจาก Intel N150 และมีพอร์ต LAN 2.5Gb สองช่อง รวมถึง RAM 12GB จุดขายคือความสามารถในการพกพาและเก็บข้อมูลได้มาก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกินความคาดหมาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลที่คล่องตัวและมีสไตล์ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/is-that-your-grandads-transistor-radio-no-its-a-4-ssd-nas-with-two-2-5gb-lan-ports-12gb-ram-and-a-cracking-name-the-orange-colored-youyeetoo-nestdisk

    นักพัฒนาสร้างกล่องสำรองข้อมูล iPhone แบบออฟไลน์
    นักพัฒนารายหนึ่งได้สร้างอุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ที่ไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ แต่ใช้การเชื่อมต่อผ่าน USB และเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเก็บไว้ในเครื่องโดยตรง ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายค่าบริการ iCloud หรือกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ แม้จะยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงความต้องการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/want-to-back-up-your-iphone-securely-without-paying-the-apple-tax-theres-a-hack-for-that-but-it-isnt-for-everyone-yet

    วิกฤติ RAM อาจกระทบหนักต่อโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง
    ตลาดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติ RAM ที่อาจทำให้เครื่องเล่นเกมประสิทธิภาพสูงมีราคาสูงขึ้นและหายากขึ้น เหตุผลมาจากความต้องการหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทั้งจาก AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กเกมมิ่งต้องปรับตัวและอาจทำให้ผู้เล่นเกมต้องจ่ายแพงกว่าเดิมเพื่อได้เครื่องที่แรงพอ
    https://www.techradar.com/computing/memory/the-ram-crisis-will-be-a-disaster-for-gaming-laptops-heres-why

    Slop: คำแห่งปีที่สะท้อนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยขยะดิจิทัล
    ปีนี้ Merriam-Webster เลือกคำว่า “Slop” เป็น Word of the Year 2025 เพื่ออธิบายเนื้อหาดิจิทัลคุณภาพต่ำที่ถูกผลิตขึ้นอย่างมหาศาลด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นบทความ ภาพ วิดีโอ หรือพอดแคสต์ หลายอย่างดูเหมือนจะสร้างได้ง่ายแต่กลับทำให้โลกออนไลน์เต็มไปด้วยสิ่งที่คนเรียกว่า “AI slop” จนยากจะแยกออกว่าอะไรคือผลงานมนุษย์จริงๆ และอะไรคือสิ่งที่เครื่องจักรสร้างขึ้นมา เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของเครื่องมือ AI ถูกส่งถึงมือผู้ใช้เร็วเกินไปโดยที่ยังไม่ทันคิดถึงผลกระทบ ทำให้เราต้องเผชิญกับทะเลข้อมูลที่ปะปนทั้งคุณภาพและขยะไปพร้อมกัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/we-filled-the-internet-with-garbage-and-now-slop-is-the-word-of-the-year-nice-going-ai

    Super X: แท็บเล็ตลูกผสมที่แรงระดับเดสก์ท็อป
    OneXPlayer เปิดตัว Super X อุปกรณ์ลูกผสมที่รวมแท็บเล็ตกับพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อป หน้าจอใหญ่ถึง 14 นิ้ว มาพร้อมซีพียู 16 คอร์ GPU ระดับ 5060-class และ RAM สูงสุด 128GB จุดเด่นคือการออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้เครื่องเล็กแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เหมาะกับคนที่อยากได้ความแรงแบบ PC แต่ยังพกพาได้สะดวก แม้ราคาคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 2000 ดอลลาร์ แต่ถือเป็นการยกระดับแท็บเล็ตให้ก้าวไปอีกขั้น
    https://www.techradar.com/pro/a-water-cooled-amd-ai-14-inch-tablet-with-16-cpu-cores-a-5060-class-gpu-and-128gb-ram-is-exactly-what-i-need-for-christmas-i-dont-think-it-will-cost-less-than-usd2000-though

    SSD จิ๋วแต่แรง: Samsung เปิดตัว PCIe Gen5 รุ่นใหม่
    Samsung เผยโฉม SSD รุ่น PM9E1 ที่มาในขนาดเล็กเพียง 22 x 42 มม. แต่รองรับมาตรฐาน PCIe Gen5 ทำให้ได้ความเร็วสูงและความจุที่จริงจัง แม้จะมาแบบเงียบๆ แต่ถือเป็นการขยายตลาดสู่กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กแต่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพ เหมาะกับโน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์พกพาที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุดในพื้นที่จำกัด
    https://www.techradar.com/pro/samsungs-surprising-stealth-superfast-ssd-surfaces-silently-pm9e1-turns-out-to-be-a-mini-9100-pro-measuring-just-22-x-42mm-with-pcie-gen5-capabilities

    DoomScroll: เว็บไซต์ใหม่รวมแผนที่ Doom แบบไม่รู้จบ
    แฟนเกม Doom ได้เฮ เมื่อมีเว็บไซต์ใหม่ชื่อ DoomScroll ที่รวบรวมแผนที่เกม Doom ไว้ให้เลือกเล่นได้ไม่รู้จบผ่านเบราว์เซอร์ ผู้เล่นสามารถเข้าไปเลือกแผนที่ที่ชอบแล้วเล่นได้ทันที ถือเป็นการเปิดคลังเกมคลาสสิกให้เข้าถึงง่ายขึ้น และยังทำให้ชุมชนผู้เล่นสามารถแชร์ผลงานกันได้สะดวกขึ้นด้วย
    https://www.techradar.com/gaming/pc-gaming/new-doomscroll-website-is-an-endless-library-of-doom-maps-you-can-pick-from-and-play-in-your-browser

    หน่วยความจำแห่งอนาคต: Kioxia พัฒนา 3D DRAM
    Kioxia ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยี 3D DRAM โดยใช้ stacked oxide-semiconductors ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความหนาแน่นของหน่วยความจำ แม้จะยังไม่พร้อมสู่ตลาดผู้บริโภคในทันที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมหน่วยความจำในทศวรรษหน้า ทำให้คาดหวังได้ว่าอนาคตเราจะได้เห็น RAM ที่เร็วขึ้นและราคาถูกลง
    https://www.techradar.com/pro/crying-over-expensive-ram-kioxia-may-have-cracked-the-3d-ram-puzzle-paving-the-way-for-cheaper-faster-memory-but-it-probably-wont-reach-the-market-till-the-next-decade

    Apple อุดช่องโหว่ Zero-Day สุดอันตราย
    Apple ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงใน WebKit ที่ถูกใช้โจมตีแบบเจาะจงบุคคลระดับสูง โดยช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ ทีม Google TAG และ Apple ร่วมกันค้นพบและแก้ไข ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก การอัปเดตครอบคลุมทั้ง iOS, iPadOS, macOS, watchOS, tvOS, visionOS และ Safari ผู้ใช้ทั่วไปแม้จะไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่ก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตเพื่อความปลอดภัยทันที
    https://www.techradar.com/pro/security/apple-says-it-fixed-zero-day-flaws-used-for-sophisticated-attacks

    CEO Windscribe วิจารณ์การแบน VPN สำหรับเด็ก
    Windscribe ผู้ให้บริการ VPN ออกมาแสดงความเห็นว่าการห้ามเด็กใช้ VPN เป็น “วิธีแก้ที่แย่ที่สุด” เพราะ VPN ไม่ใช่เครื่องมืออันตราย แต่กลับเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย การแบนอาจทำให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และยังไม่แก้ปัญหาที่แท้จริงของการใช้งานออนไลน์
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/banning-vpns-for-kids-is-the-dumbest-possible-fix-windscribe-ceo

    กล้องวงจรปิดแบตเตอรี่ไร้ขีดจำกัด
    มีการเปิดตัวกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ที่ชูจุดขายเรื่อง “แบตเตอรี่ไม่จำกัด” สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อย ๆ ราคาก็ไม่สูงอย่างที่คิด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น กล้องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยต่อเนื่องโดยไม่ต้องยุ่งยากกับการบำรุงรักษาแบตเตอรี่
    https://www.techradar.com/home/smart-home/this-home-security-cam-monitors-your-property-24-7-with-unlimited-battery-life-and-it-costs-less-than-you-might-expect

    Garmin เผลอหลุดข้อมูล Vivosmart 6
    Garmin มีข่าวหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทแทร็กเกอร์รุ่นใหม่ Vivosmart 6 ที่คาดว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดสำคัญเหนือรุ่นก่อน แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม แต่คาดว่าจะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำขึ้น การหลุดครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ติดตามอุปกรณ์สวมใส่ของ Garmin อยู่แล้ว
    https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-trackers/garmin-just-leaked-its-vivosmart-6-tracker-and-it-might-come-with-one-major-upgrade-over-its-predecessor

    แอป Freedom Chat ทำข้อมูลผู้ใช้หลุด
    มีรายงานว่าแอปแชทชื่อ Freedom Chat เผยข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งหมายเลขโทรศัพท์และรายละเอียดอื่น ๆ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แอปนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดมาตรการป้องกันที่รัดกุม และอาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือการละเมิดข้อมูล
    https://www.techradar.com/pro/security/messaging-app-freedom-chat-exposes-user-phone-numbers-and-more-heres-what-we-know

    Google เปิดฟีเจอร์แปลสดผ่านหูฟัง
    Google กำลังยกระดับการสื่อสารข้ามภาษาให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ “Live Translation” ที่สามารถใช้งานได้กับหูฟังทุกยี่ห้อ ไม่จำกัดเฉพาะ Pixel Buds อีกต่อไป โดยเริ่มทดสอบในสหรัฐฯ เม็กซิโก และอินเดีย ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแค่แปลคำต่อคำ แต่ยังรักษาน้ำเสียง จังหวะ และอารมณ์ของผู้พูด ทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ Google ยังปรับปรุงระบบ Gemini ให้เข้าใจสำนวนและภาษาพูด เช่น “stealing my thunder” ที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องมือช่วยเรียนภาษา เช่น การให้คำแนะนำด้านการออกเสียง และระบบติดตามความก้าวหน้า ฟีเจอร์นี้รองรับกว่า 70 ภาษา และมีแผนจะขยายไปยัง iOS ในปี 2026
    https://www.techradar.com/computing/software/google-smashes-language-barriers-with-live-translation-for-any-earbuds-on-android-heres-how-it-works

    อีเมลไม่ใช่จุดอ่อน แต่การตั้งค่าคลาวด์ต่างหาก
    หลายครั้งที่เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล อีเมลมักถูกมองว่าเป็นตัวการ แต่จริง ๆ แล้วปัญหามาจากการตั้งค่าคลาวด์ที่ผิดพลาดมากกว่า กว่า 99% ของความล้มเหลวด้านความปลอดภัยเกิดจากผู้ใช้เอง เช่น คลิกลิงก์ฟิชชิ่ง ใช้รหัสผ่านซ้ำ หรือจัดการข้อมูลผิดพลาด การโทษอีเมลจึงเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากต้นเหตุที่แท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการป้องกันควรเริ่มจากการเข้ารหัสข้อมูล การเสริมความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ และการฝึกอบรมผู้ใช้ให้รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ เมื่อผู้ใช้มีความรู้และระบบถูกเข้ารหัสอย่างดี อีเมลก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/your-email-app-isnt-the-weak-link-but-your-cloud-configuration-probably-is

    Microsoft ขยายโครงการ Bug Bounty
    Microsoft ประกาศปรับโครงการ Bug Bounty ครั้งใหญ่ เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถส่งรายงานช่องโหว่ได้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์และบริการ แม้บางโปรแกรมจะไม่มีการตั้งค่ารางวัลอย่างเป็นทางการก็ตาม แนวทางใหม่นี้เรียกว่า “In Scope by Default” ซึ่งหมายความว่าหากช่องโหว่มีผลกระทบต่อบริการออนไลน์ของ Microsoft ก็จะได้รับเงินรางวัลตามระดับความรุนแรง โดยปีที่ผ่านมา Microsoft จ่ายเงินรางวัลไปกว่า 17 ล้านดอลลาร์ มากกว่า Google ที่จ่ายราว 11.8 ล้านดอลลาร์ การขยายนี้ครอบคลุมทั้งโค้ดของ Microsoft โค้ดจากบุคคลที่สาม และโอเพ่นซอร์ส ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบความปลอดภัยในวงกว้างยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-will-expand-bug-bounties-even-on-programs-without-official-payouts

    Oracle ทุ่มมหาศาลกับดีลศูนย์ข้อมูล
    Oracle กำลังเดินเกมครั้งใหญ่ในโลกคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าได้ทำสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูลและคลาวด์รวมมูลค่าถึง 248 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทยอยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2026 ไปจนถึง 2028 และกินเวลายาวนานถึง 15–19 ปี การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าใหญ่ ๆ อย่าง Meta, Nvidia และ OpenAI ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 300 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ Oracle ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าและลงทุนเพิ่มหนี้อีกหลายหมื่นล้าน แม้จะเป็นภาระ แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทกำลังเดิมพันอนาคตไว้กับการเติบโตของตลาด AI และคลาวด์อย่างเต็มที่
    https://www.techradar.com/pro/oracle-reportedly-signs-major-huge-cloud-data-center-deals-in-the-last-quarter-nearly-usd250-billion-in-new-commitments-revealed

    ChatGPT 5.2 vs Gemini 3
    มีการทดสอบเปรียบเทียบสองแชตบอทที่โด่งดังที่สุดในโลกตอนนี้ คือ ChatGPT 5.2 และ Gemini 3 ผู้เขียนลองใช้งานจริงเพื่อดูว่าใครตอบโจทย์ได้ดีกว่า ผลลัพธ์ออกมาน่าสนใจเพราะแต่ละตัวมีจุดแข็งต่างกัน ChatGPT 5.2 โดดเด่นเรื่องการให้คำตอบที่ละเอียดและมีความคิดเชิงลึก ส่วน Gemini 3 เน้นความเร็วและความกระชับในการสื่อสาร การแข่งขันนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังร้อนแรง และผู้ใช้ก็มีทางเลือกมากขึ้นตามสไตล์ที่ต้องการ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-5-2-vs-gemini-3-i-tried-the-worlds-most-popular-chatbots-to-see-which-is-best-and-the-result-might-surprise-you

    โลกเสมือนที่มีหัวใจมนุษย์
    เรื่องราวของ Victoria Fard ศิลปินที่ใช้พลังของคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon สร้างโลกเสมือนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความเป็นมนุษย์ เธอไม่ได้มองเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ แต่ใช้มันเพื่อถ่ายทอดความทรงจำ ความรู้สึก และเรื่องราวที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ผลงานของเธอจึงไม่ใช่แค่ภาพสวย ๆ แต่เป็นการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนสามารถสัมผัสความเป็นมนุษย์ผ่านโลกดิจิทัลได้อย่างลึกซึ้ง
    https://www.techradar.com/tech/memories-in-pixel-how-victoria-fard-uses-a-pc-powered-by-snapdragon-to-build-worlds-that-are-deeply-human

    ซีอีโอยังเดินหน้าลงทุน AI แม้ผลลัพธ์ไม่ชัด
    แม้หลายบริษัทจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการลงทุนใน AI แต่ซีอีโอจำนวนมากก็ยังคงเดินหน้าทุ่มงบต่อไป เหตุผลคือพวกเขามองว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และหากหยุดลงทุนอาจเสียโอกาสในอนาคต ถึงแม้จะมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน แต่การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าการลงทุนใน AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันระยะยาว
    https://www.techradar.com/pro/ceos-seem-determined-to-keep-spending-on-ai-despite-mixed-success

    ศาลรัสเซียสั่งอายัดทรัพย์ Google ในฝรั่งเศส
    มีข่าวใหญ่จากยุโรป เมื่อศาลรัสเซียมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ Google ในฝรั่งเศสมูลค่ากว่า 129 ล้านดอลลาร์ สาเหตุเกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางกฎหมายและการดำเนินธุรกิจที่ซับซ้อนในหลายประเทศ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญในระดับโลก ทั้งจากกฎระเบียบและความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-court-ruling-could-see-usd129-million-freeze-on-some-of-googles-french-assets

    Microsoft เจอศึกใหญ่เรื่อง Cloud Licensing ในสหราชอาณาจักร
    เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Microsoft ถูกกล่าวหาว่ากำหนดเงื่อนไขการใช้งาน Windows Server บน Cloud ของคู่แข่งอย่าง AWS และ Google Cloud ให้ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูง จนทำให้หลายองค์กรในสหราชอาณาจักรเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก คดีนี้ถูกยื่นต่อศาล Competition Appeal Tribunal โดยมีองค์กรกว่า 59,000 แห่งเข้าร่วมเป็นกลุ่มฟ้องร้อง หาก Microsoft ถูกตัดสินว่าผิดจริง อาจต้องจ่ายค่าชดเชยสูงถึง 2 พันล้านปอนด์ ขณะที่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นเพียงการกล่าวหาเกินจริงจากกลุ่มทนายและผู้สนับสนุน แต่แรงกดดันก็ยังคงมีต่อเนื่อง เพราะ Google เองก็เคยร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ EU มาก่อนแล้ว
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-is-back-in-court-in-the-uk-over-unfair-cloud-licensing-claims

    UGreen เปิดตัว eGPU Dock ท้าชน Razer ในตลาด eGPU ที่กำลังร้อนแรง
    UGreen ได้เปิดตัว Linkstation eGPU Dock ที่มาพร้อมพลังงานในตัวถึง 850W และพอร์ตเชื่อมต่อใหม่อย่าง Oculink และ USB4 จุดเด่นคือราคาประมาณ 325 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับ Razer Core X V2 แต่เหนือกว่าตรงที่มี PSU ในตัวและรองรับการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 370 มม. อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ของ UGreen ยังเปิดโล่งมากกว่า Razer ที่มีโครงสร้างปิด ทำให้บางคนกังวลเรื่องความปลอดภัยของการ์ดจอ ถึงอย่างนั้น นี่ก็ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ที่น่าจับตามองของ UGreen ที่เดิมทำอุปกรณ์เสริมอย่าง Dock และ Charger
    https://www.techradar.com/computing/gpu/its-a-great-time-to-buy-an-egpu-and-ugreens-new-razer-rival-has-two-major-tricks-up-its-sleeve

    วิกฤติ RAM อาจทำให้สมาร์ทโฟนถอยหลังในปี 2026
    นักวิเคราะห์เตือนว่าความต้องการ RAM ที่สูงขึ้นจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ราคาพุ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องลดสเปกลง แทนที่จะเพิ่ม RAM เป็น 16GB ในรุ่นเรือธงใหม่ อาจยังคงอยู่ที่ 12GB หรือบางรุ่นอาจลดลงเหลือ 8GB สำหรับรุ่นกลาง และ 4GB สำหรับรุ่นล่าง ทั้งนี้แม้จะเป็นการคาดการณ์ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะตลาด AI กำลังดูดซับทรัพยากรไปอย่างมหาศาล ซึ่งอาจย้อนแย้งกับการพัฒนา AI บนมือถือที่ต้องใช้ RAM มากเช่นกัน
    https://www.techradar.com/phones/the-ram-crisis-will-see-smartphone-specs-go-backwards-in-2026-experts-warn-heres-why

    Apple ควรทำ Smart Ring เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากของ Smartwatch
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าแม้ Apple Watch จะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม แต่ก็สร้างความลำบากใจเพราะเขาเป็นคนรักนาฬิกากลไกและไม่อยากละทิ้งการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม จนต้องใส่นาฬิกาสองเรือนบนข้อมือเดียวกัน ซึ่งทั้งไม่สะดวกและน่าขัน เขาจึงเสนอว่า Apple ควรทำ Smart Ring ที่สามารถติดตามสุขภาพได้เหมือน Apple Watch แต่เล็กกะทัดรัดและไม่รบกวนการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม หาก Apple ทำจริงก็อาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่พลิกเกมในปี 2026
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/apple-needs-to-make-a-smart-ring-to-save-me-from-this-ridiculous-situation

    รีวิวซอฟต์แวร์ Idea Spectrum Realtime Landscaping Pro 2025
    นี่คือโปรแกรมออกแบบภูมิทัศน์ที่ให้คุณสร้างสวนเสมือนจริงได้จากคอมพิวเตอร์ Windows จุดเด่นคืออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีคลังพืชกว่า 6,000 ชนิด และวัตถุสามมิติหลากหลาย ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงรถยนต์ พร้อมระบบแอนิเมชันที่ทำให้งานออกแบบดูมีชีวิตชีวา โปรแกรมยังมี Wizard ที่ช่วยให้การสร้างบ้าน สระน้ำ หรือสวนทำได้รวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดว่าใช้ได้เฉพาะ Windows และอาจหน่วงเมื่อโปรเจ็กต์ซับซ้อน แต่ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ
    https://www.techradar.com/pro/software-services/idea-spectrum-realtime-landscaping-pro-review

    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251216 #TechRadar 🖥️ LG เปิดตัวทีวี Micro RGB evo ที่ CES 2026 LG กำลังสร้างความฮือฮาในงาน CES 2026 ด้วยการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Micro RGB evo ซึ่งเปลี่ยนหลอดไฟ LED แบบเดิมไปเป็นหลอดไฟสีแดง เขียว และน้ำเงินขนาดจิ๋ว เพื่อควบคุมแสงและสีได้ละเอียดขึ้น ผลลัพธ์คือภาพที่สว่างสดใสและสีสันจัดเต็มใกล้เคียง OLED แต่ยังคงความสว่างสูงของ LCD จุดเด่นคือการครอบคลุมสีครบทั้ง BT.2020, DCI-P3 และ Adobe RGB พร้อมระบบประมวลผล α11 AI Gen 3 ที่ช่วยอัปสเกลภาพให้คมชัดขึ้น ถือเป็นการพยายามปิดช่องว่างระหว่าง LCD และ OLED ที่น่าสนใจมากสำหรับคนรักภาพคมชัดและสีสดใส 🔗 https://www.techradar.com/televisions/lg-reveals-micro-rgb-evo-tv-with-bold-claims-of-perfect-color 📺 Netflix เลิกใช้ Google Cast แต่ Apple TV บน Android นำกลับมาอีกครั้ง Netflix เคยยกเลิกฟีเจอร์ Google Cast ที่ให้ผู้ใช้ส่งภาพจากมือถือขึ้นจอทีวี แต่ล่าสุด Apple TV บน Android กลับนำฟีเจอร์นี้กลับมา ทำให้ผู้ใช้สามารถสตรีมคอนเทนต์จากมือถือไปยังทีวีได้อีกครั้ง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งที่ยังคงดุเดือด และการที่ Apple พยายามทำให้บริการของตนเข้าถึงผู้ใช้ Android ได้สะดวกขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/apple-tv-plus/netflix-dropped-google-cast-now-apple-tv-for-android-just-brought-it-back 💾 NAS พกพาใส่ SSD 4 ตัว พร้อมพลัง Intel N150 มีการเปิดตัวอุปกรณ์ NAS ขนาดเล็กที่ดูเหมือนวิทยุทรานซิสเตอร์เก่า แต่ภายในบรรจุ SSD ได้ถึง 4 ตัว ใช้พลังจาก Intel N150 และมีพอร์ต LAN 2.5Gb สองช่อง รวมถึง RAM 12GB จุดขายคือความสามารถในการพกพาและเก็บข้อมูลได้มาก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกินความคาดหมาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลที่คล่องตัวและมีสไตล์ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-that-your-grandads-transistor-radio-no-its-a-4-ssd-nas-with-two-2-5gb-lan-ports-12gb-ram-and-a-cracking-name-the-orange-colored-youyeetoo-nestdisk 🔐 นักพัฒนาสร้างกล่องสำรองข้อมูล iPhone แบบออฟไลน์ นักพัฒนารายหนึ่งได้สร้างอุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ที่ไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ แต่ใช้การเชื่อมต่อผ่าน USB และเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเก็บไว้ในเครื่องโดยตรง ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายค่าบริการ iCloud หรือกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ แม้จะยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงความต้องการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/want-to-back-up-your-iphone-securely-without-paying-the-apple-tax-theres-a-hack-for-that-but-it-isnt-for-everyone-yet 🎮 วิกฤติ RAM อาจกระทบหนักต่อโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง ตลาดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติ RAM ที่อาจทำให้เครื่องเล่นเกมประสิทธิภาพสูงมีราคาสูงขึ้นและหายากขึ้น เหตุผลมาจากความต้องการหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทั้งจาก AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กเกมมิ่งต้องปรับตัวและอาจทำให้ผู้เล่นเกมต้องจ่ายแพงกว่าเดิมเพื่อได้เครื่องที่แรงพอ 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/the-ram-crisis-will-be-a-disaster-for-gaming-laptops-heres-why 🗑️ Slop: คำแห่งปีที่สะท้อนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยขยะดิจิทัล ปีนี้ Merriam-Webster เลือกคำว่า “Slop” เป็น Word of the Year 2025 เพื่ออธิบายเนื้อหาดิจิทัลคุณภาพต่ำที่ถูกผลิตขึ้นอย่างมหาศาลด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นบทความ ภาพ วิดีโอ หรือพอดแคสต์ หลายอย่างดูเหมือนจะสร้างได้ง่ายแต่กลับทำให้โลกออนไลน์เต็มไปด้วยสิ่งที่คนเรียกว่า “AI slop” จนยากจะแยกออกว่าอะไรคือผลงานมนุษย์จริงๆ และอะไรคือสิ่งที่เครื่องจักรสร้างขึ้นมา เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของเครื่องมือ AI ถูกส่งถึงมือผู้ใช้เร็วเกินไปโดยที่ยังไม่ทันคิดถึงผลกระทบ ทำให้เราต้องเผชิญกับทะเลข้อมูลที่ปะปนทั้งคุณภาพและขยะไปพร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/we-filled-the-internet-with-garbage-and-now-slop-is-the-word-of-the-year-nice-going-ai 💻 Super X: แท็บเล็ตลูกผสมที่แรงระดับเดสก์ท็อป OneXPlayer เปิดตัว Super X อุปกรณ์ลูกผสมที่รวมแท็บเล็ตกับพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อป หน้าจอใหญ่ถึง 14 นิ้ว มาพร้อมซีพียู 16 คอร์ GPU ระดับ 5060-class และ RAM สูงสุด 128GB จุดเด่นคือการออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้เครื่องเล็กแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เหมาะกับคนที่อยากได้ความแรงแบบ PC แต่ยังพกพาได้สะดวก แม้ราคาคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 2000 ดอลลาร์ แต่ถือเป็นการยกระดับแท็บเล็ตให้ก้าวไปอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/a-water-cooled-amd-ai-14-inch-tablet-with-16-cpu-cores-a-5060-class-gpu-and-128gb-ram-is-exactly-what-i-need-for-christmas-i-dont-think-it-will-cost-less-than-usd2000-though 💾 SSD จิ๋วแต่แรง: Samsung เปิดตัว PCIe Gen5 รุ่นใหม่ Samsung เผยโฉม SSD รุ่น PM9E1 ที่มาในขนาดเล็กเพียง 22 x 42 มม. แต่รองรับมาตรฐาน PCIe Gen5 ทำให้ได้ความเร็วสูงและความจุที่จริงจัง แม้จะมาแบบเงียบๆ แต่ถือเป็นการขยายตลาดสู่กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กแต่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพ เหมาะกับโน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์พกพาที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุดในพื้นที่จำกัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/samsungs-surprising-stealth-superfast-ssd-surfaces-silently-pm9e1-turns-out-to-be-a-mini-9100-pro-measuring-just-22-x-42mm-with-pcie-gen5-capabilities 🎮 DoomScroll: เว็บไซต์ใหม่รวมแผนที่ Doom แบบไม่รู้จบ แฟนเกม Doom ได้เฮ เมื่อมีเว็บไซต์ใหม่ชื่อ DoomScroll ที่รวบรวมแผนที่เกม Doom ไว้ให้เลือกเล่นได้ไม่รู้จบผ่านเบราว์เซอร์ ผู้เล่นสามารถเข้าไปเลือกแผนที่ที่ชอบแล้วเล่นได้ทันที ถือเป็นการเปิดคลังเกมคลาสสิกให้เข้าถึงง่ายขึ้น และยังทำให้ชุมชนผู้เล่นสามารถแชร์ผลงานกันได้สะดวกขึ้นด้วย 🔗 https://www.techradar.com/gaming/pc-gaming/new-doomscroll-website-is-an-endless-library-of-doom-maps-you-can-pick-from-and-play-in-your-browser 🧠 หน่วยความจำแห่งอนาคต: Kioxia พัฒนา 3D DRAM Kioxia ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยี 3D DRAM โดยใช้ stacked oxide-semiconductors ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความหนาแน่นของหน่วยความจำ แม้จะยังไม่พร้อมสู่ตลาดผู้บริโภคในทันที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมหน่วยความจำในทศวรรษหน้า ทำให้คาดหวังได้ว่าอนาคตเราจะได้เห็น RAM ที่เร็วขึ้นและราคาถูกลง 🔗 https://www.techradar.com/pro/crying-over-expensive-ram-kioxia-may-have-cracked-the-3d-ram-puzzle-paving-the-way-for-cheaper-faster-memory-but-it-probably-wont-reach-the-market-till-the-next-decade 🛡️ Apple อุดช่องโหว่ Zero-Day สุดอันตราย Apple ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงใน WebKit ที่ถูกใช้โจมตีแบบเจาะจงบุคคลระดับสูง โดยช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ ทีม Google TAG และ Apple ร่วมกันค้นพบและแก้ไข ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก การอัปเดตครอบคลุมทั้ง iOS, iPadOS, macOS, watchOS, tvOS, visionOS และ Safari ผู้ใช้ทั่วไปแม้จะไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่ก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตเพื่อความปลอดภัยทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/apple-says-it-fixed-zero-day-flaws-used-for-sophisticated-attacks 🌐 CEO Windscribe วิจารณ์การแบน VPN สำหรับเด็ก Windscribe ผู้ให้บริการ VPN ออกมาแสดงความเห็นว่าการห้ามเด็กใช้ VPN เป็น “วิธีแก้ที่แย่ที่สุด” เพราะ VPN ไม่ใช่เครื่องมืออันตราย แต่กลับเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย การแบนอาจทำให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และยังไม่แก้ปัญหาที่แท้จริงของการใช้งานออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/banning-vpns-for-kids-is-the-dumbest-possible-fix-windscribe-ceo 📷 กล้องวงจรปิดแบตเตอรี่ไร้ขีดจำกัด มีการเปิดตัวกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ที่ชูจุดขายเรื่อง “แบตเตอรี่ไม่จำกัด” สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อย ๆ ราคาก็ไม่สูงอย่างที่คิด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น กล้องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยต่อเนื่องโดยไม่ต้องยุ่งยากกับการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/this-home-security-cam-monitors-your-property-24-7-with-unlimited-battery-life-and-it-costs-less-than-you-might-expect ⌚ Garmin เผลอหลุดข้อมูล Vivosmart 6 Garmin มีข่าวหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทแทร็กเกอร์รุ่นใหม่ Vivosmart 6 ที่คาดว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดสำคัญเหนือรุ่นก่อน แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม แต่คาดว่าจะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำขึ้น การหลุดครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ติดตามอุปกรณ์สวมใส่ของ Garmin อยู่แล้ว 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-trackers/garmin-just-leaked-its-vivosmart-6-tracker-and-it-might-come-with-one-major-upgrade-over-its-predecessor 🔒 แอป Freedom Chat ทำข้อมูลผู้ใช้หลุด มีรายงานว่าแอปแชทชื่อ Freedom Chat เผยข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งหมายเลขโทรศัพท์และรายละเอียดอื่น ๆ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แอปนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดมาตรการป้องกันที่รัดกุม และอาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือการละเมิดข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/messaging-app-freedom-chat-exposes-user-phone-numbers-and-more-heres-what-we-know 🎧 Google เปิดฟีเจอร์แปลสดผ่านหูฟัง Google กำลังยกระดับการสื่อสารข้ามภาษาให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ “Live Translation” ที่สามารถใช้งานได้กับหูฟังทุกยี่ห้อ ไม่จำกัดเฉพาะ Pixel Buds อีกต่อไป โดยเริ่มทดสอบในสหรัฐฯ เม็กซิโก และอินเดีย ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแค่แปลคำต่อคำ แต่ยังรักษาน้ำเสียง จังหวะ และอารมณ์ของผู้พูด ทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ Google ยังปรับปรุงระบบ Gemini ให้เข้าใจสำนวนและภาษาพูด เช่น “stealing my thunder” ที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องมือช่วยเรียนภาษา เช่น การให้คำแนะนำด้านการออกเสียง และระบบติดตามความก้าวหน้า ฟีเจอร์นี้รองรับกว่า 70 ภาษา และมีแผนจะขยายไปยัง iOS ในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/google-smashes-language-barriers-with-live-translation-for-any-earbuds-on-android-heres-how-it-works 📧 อีเมลไม่ใช่จุดอ่อน แต่การตั้งค่าคลาวด์ต่างหาก หลายครั้งที่เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล อีเมลมักถูกมองว่าเป็นตัวการ แต่จริง ๆ แล้วปัญหามาจากการตั้งค่าคลาวด์ที่ผิดพลาดมากกว่า กว่า 99% ของความล้มเหลวด้านความปลอดภัยเกิดจากผู้ใช้เอง เช่น คลิกลิงก์ฟิชชิ่ง ใช้รหัสผ่านซ้ำ หรือจัดการข้อมูลผิดพลาด การโทษอีเมลจึงเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากต้นเหตุที่แท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการป้องกันควรเริ่มจากการเข้ารหัสข้อมูล การเสริมความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ และการฝึกอบรมผู้ใช้ให้รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ เมื่อผู้ใช้มีความรู้และระบบถูกเข้ารหัสอย่างดี อีเมลก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/your-email-app-isnt-the-weak-link-but-your-cloud-configuration-probably-is 🛡️ Microsoft ขยายโครงการ Bug Bounty Microsoft ประกาศปรับโครงการ Bug Bounty ครั้งใหญ่ เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถส่งรายงานช่องโหว่ได้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์และบริการ แม้บางโปรแกรมจะไม่มีการตั้งค่ารางวัลอย่างเป็นทางการก็ตาม แนวทางใหม่นี้เรียกว่า “In Scope by Default” ซึ่งหมายความว่าหากช่องโหว่มีผลกระทบต่อบริการออนไลน์ของ Microsoft ก็จะได้รับเงินรางวัลตามระดับความรุนแรง โดยปีที่ผ่านมา Microsoft จ่ายเงินรางวัลไปกว่า 17 ล้านดอลลาร์ มากกว่า Google ที่จ่ายราว 11.8 ล้านดอลลาร์ การขยายนี้ครอบคลุมทั้งโค้ดของ Microsoft โค้ดจากบุคคลที่สาม และโอเพ่นซอร์ส ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบความปลอดภัยในวงกว้างยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-will-expand-bug-bounties-even-on-programs-without-official-payouts 🏢 Oracle ทุ่มมหาศาลกับดีลศูนย์ข้อมูล Oracle กำลังเดินเกมครั้งใหญ่ในโลกคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าได้ทำสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูลและคลาวด์รวมมูลค่าถึง 248 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทยอยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2026 ไปจนถึง 2028 และกินเวลายาวนานถึง 15–19 ปี การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าใหญ่ ๆ อย่าง Meta, Nvidia และ OpenAI ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 300 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ Oracle ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าและลงทุนเพิ่มหนี้อีกหลายหมื่นล้าน แม้จะเป็นภาระ แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทกำลังเดิมพันอนาคตไว้กับการเติบโตของตลาด AI และคลาวด์อย่างเต็มที่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/oracle-reportedly-signs-major-huge-cloud-data-center-deals-in-the-last-quarter-nearly-usd250-billion-in-new-commitments-revealed 🤖 ChatGPT 5.2 vs Gemini 3 มีการทดสอบเปรียบเทียบสองแชตบอทที่โด่งดังที่สุดในโลกตอนนี้ คือ ChatGPT 5.2 และ Gemini 3 ผู้เขียนลองใช้งานจริงเพื่อดูว่าใครตอบโจทย์ได้ดีกว่า ผลลัพธ์ออกมาน่าสนใจเพราะแต่ละตัวมีจุดแข็งต่างกัน ChatGPT 5.2 โดดเด่นเรื่องการให้คำตอบที่ละเอียดและมีความคิดเชิงลึก ส่วน Gemini 3 เน้นความเร็วและความกระชับในการสื่อสาร การแข่งขันนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังร้อนแรง และผู้ใช้ก็มีทางเลือกมากขึ้นตามสไตล์ที่ต้องการ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-5-2-vs-gemini-3-i-tried-the-worlds-most-popular-chatbots-to-see-which-is-best-and-the-result-might-surprise-you 🎨 โลกเสมือนที่มีหัวใจมนุษย์ เรื่องราวของ Victoria Fard ศิลปินที่ใช้พลังของคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon สร้างโลกเสมือนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความเป็นมนุษย์ เธอไม่ได้มองเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ แต่ใช้มันเพื่อถ่ายทอดความทรงจำ ความรู้สึก และเรื่องราวที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ผลงานของเธอจึงไม่ใช่แค่ภาพสวย ๆ แต่เป็นการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนสามารถสัมผัสความเป็นมนุษย์ผ่านโลกดิจิทัลได้อย่างลึกซึ้ง 🔗 https://www.techradar.com/tech/memories-in-pixel-how-victoria-fard-uses-a-pc-powered-by-snapdragon-to-build-worlds-that-are-deeply-human 💼 ซีอีโอยังเดินหน้าลงทุน AI แม้ผลลัพธ์ไม่ชัด แม้หลายบริษัทจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการลงทุนใน AI แต่ซีอีโอจำนวนมากก็ยังคงเดินหน้าทุ่มงบต่อไป เหตุผลคือพวกเขามองว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และหากหยุดลงทุนอาจเสียโอกาสในอนาคต ถึงแม้จะมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน แต่การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าการลงทุนใน AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/pro/ceos-seem-determined-to-keep-spending-on-ai-despite-mixed-success ⚖️ ศาลรัสเซียสั่งอายัดทรัพย์ Google ในฝรั่งเศส มีข่าวใหญ่จากยุโรป เมื่อศาลรัสเซียมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ Google ในฝรั่งเศสมูลค่ากว่า 129 ล้านดอลลาร์ สาเหตุเกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางกฎหมายและการดำเนินธุรกิจที่ซับซ้อนในหลายประเทศ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญในระดับโลก ทั้งจากกฎระเบียบและความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-court-ruling-could-see-usd129-million-freeze-on-some-of-googles-french-assets 📰 Microsoft เจอศึกใหญ่เรื่อง Cloud Licensing ในสหราชอาณาจักร เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Microsoft ถูกกล่าวหาว่ากำหนดเงื่อนไขการใช้งาน Windows Server บน Cloud ของคู่แข่งอย่าง AWS และ Google Cloud ให้ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูง จนทำให้หลายองค์กรในสหราชอาณาจักรเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก คดีนี้ถูกยื่นต่อศาล Competition Appeal Tribunal โดยมีองค์กรกว่า 59,000 แห่งเข้าร่วมเป็นกลุ่มฟ้องร้อง หาก Microsoft ถูกตัดสินว่าผิดจริง อาจต้องจ่ายค่าชดเชยสูงถึง 2 พันล้านปอนด์ ขณะที่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นเพียงการกล่าวหาเกินจริงจากกลุ่มทนายและผู้สนับสนุน แต่แรงกดดันก็ยังคงมีต่อเนื่อง เพราะ Google เองก็เคยร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ EU มาก่อนแล้ว 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-is-back-in-court-in-the-uk-over-unfair-cloud-licensing-claims 🎮 UGreen เปิดตัว eGPU Dock ท้าชน Razer ในตลาด eGPU ที่กำลังร้อนแรง UGreen ได้เปิดตัว Linkstation eGPU Dock ที่มาพร้อมพลังงานในตัวถึง 850W และพอร์ตเชื่อมต่อใหม่อย่าง Oculink และ USB4 จุดเด่นคือราคาประมาณ 325 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับ Razer Core X V2 แต่เหนือกว่าตรงที่มี PSU ในตัวและรองรับการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 370 มม. อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ของ UGreen ยังเปิดโล่งมากกว่า Razer ที่มีโครงสร้างปิด ทำให้บางคนกังวลเรื่องความปลอดภัยของการ์ดจอ ถึงอย่างนั้น นี่ก็ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ที่น่าจับตามองของ UGreen ที่เดิมทำอุปกรณ์เสริมอย่าง Dock และ Charger 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/its-a-great-time-to-buy-an-egpu-and-ugreens-new-razer-rival-has-two-major-tricks-up-its-sleeve 📱 วิกฤติ RAM อาจทำให้สมาร์ทโฟนถอยหลังในปี 2026 นักวิเคราะห์เตือนว่าความต้องการ RAM ที่สูงขึ้นจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ราคาพุ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องลดสเปกลง แทนที่จะเพิ่ม RAM เป็น 16GB ในรุ่นเรือธงใหม่ อาจยังคงอยู่ที่ 12GB หรือบางรุ่นอาจลดลงเหลือ 8GB สำหรับรุ่นกลาง และ 4GB สำหรับรุ่นล่าง ทั้งนี้แม้จะเป็นการคาดการณ์ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะตลาด AI กำลังดูดซับทรัพยากรไปอย่างมหาศาล ซึ่งอาจย้อนแย้งกับการพัฒนา AI บนมือถือที่ต้องใช้ RAM มากเช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/phones/the-ram-crisis-will-see-smartphone-specs-go-backwards-in-2026-experts-warn-heres-why 💍 Apple ควรทำ Smart Ring เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากของ Smartwatch ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าแม้ Apple Watch จะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม แต่ก็สร้างความลำบากใจเพราะเขาเป็นคนรักนาฬิกากลไกและไม่อยากละทิ้งการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม จนต้องใส่นาฬิกาสองเรือนบนข้อมือเดียวกัน ซึ่งทั้งไม่สะดวกและน่าขัน เขาจึงเสนอว่า Apple ควรทำ Smart Ring ที่สามารถติดตามสุขภาพได้เหมือน Apple Watch แต่เล็กกะทัดรัดและไม่รบกวนการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม หาก Apple ทำจริงก็อาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่พลิกเกมในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/apple-needs-to-make-a-smart-ring-to-save-me-from-this-ridiculous-situation 🌳 รีวิวซอฟต์แวร์ Idea Spectrum Realtime Landscaping Pro 2025 นี่คือโปรแกรมออกแบบภูมิทัศน์ที่ให้คุณสร้างสวนเสมือนจริงได้จากคอมพิวเตอร์ Windows จุดเด่นคืออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีคลังพืชกว่า 6,000 ชนิด และวัตถุสามมิติหลากหลาย ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงรถยนต์ พร้อมระบบแอนิเมชันที่ทำให้งานออกแบบดูมีชีวิตชีวา โปรแกรมยังมี Wizard ที่ช่วยให้การสร้างบ้าน สระน้ำ หรือสวนทำได้รวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดว่าใช้ได้เฉพาะ Windows และอาจหน่วงเมื่อโปรเจ็กต์ซับซ้อน แต่ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/idea-spectrum-realtime-landscaping-pro-review
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 872 มุมมอง 0 รีวิว
  • Aircela: น้ำมันเบนซินจากอากาศ

    บริษัท Aircela จากนิวยอร์กกำลังสร้างนวัตกรรมที่ดูเหมือนฝัน คือเครื่องจักรที่สามารถดึง คาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ แล้วเปลี่ยนเป็น น้ำมันเบนซินปลอดฟอสซิล เครื่องนี้มีขนาดประมาณ 6 ฟุตสูง และ 3 ฟุตกว้าง ใช้สารละลายน้ำผสมโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ในการจับ CO₂ ก่อนจะแยกน้ำเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน แล้วนำไฮโดรเจนกับ CO₂ มาสร้างเป็นเมทานอล และสุดท้ายแปรสภาพเป็นน้ำมันเบนซินที่ไม่มีสารพิษอย่างกำมะถันหรือโลหะหนัก

    ประสิทธิภาพและการทำงาน
    เครื่อง Aircela สามารถจับ CO₂ ได้ราว 10 กิโลกรัมต่อวัน และผลิตน้ำมันเบนซินได้ประมาณ 1 แกลลอนต่อวัน โดยมีถังเก็บเชื้อเพลิงได้ถึง 17 แกลลอน ซึ่งหมายความว่าต้องใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ในการผลิตน้ำมันเต็มถังสำหรับรถยนต์ทั่วไป แม้จะยังไม่เร็วพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเชื้อเพลิงสะอาด

    ผลกระทบและความเป็นไปได้
    หากเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมาก จุดเด่นคือสามารถติดตั้งได้ทั้งในบ้านหรือพื้นที่ห่างไกลที่เข้าถึงน้ำมันเชื้อเพลิงยาก คล้ายกับการใช้ แผงโซลาร์เซลล์แบบโมดูลาร์ ที่สามารถเชื่อมต่อหลายเครื่องเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต

    แผนการในอนาคต
    Aircela ตั้งเป้าที่จะเปิดตัวเชิงพาณิชย์ในปี 2026 และหวังให้เชื้อเพลิงที่ผลิตได้มีราคาสมเหตุสมผลใกล้เคียงกับน้ำมันเบนซินทั่วไป หากสำเร็จ จะเป็นการปฏิวัติวงการพลังงานและการเดินทาง โดยเฉพาะในยุคที่โลกกำลังมองหาทางออกจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศ

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Aircela พัฒนาเครื่องผลิตน้ำมันเบนซินจากอากาศ น้ำ และคาร์บอน
    เครื่องจับ CO₂ ได้ 10 กก./วัน ผลิตน้ำมัน 1 แกลลอน/วัน
    ถังเก็บได้ 17 แกลลอน ใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ในการผลิตเต็มถัง

    ผลกระทบ
    ลดการพึ่งพาน้ำมันฟอสซิล
    ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
    ใช้งานได้ทั้งบ้านและพื้นที่ห่างไกล

    อนาคต
    ตั้งเป้าเปิดตัวเชิงพาณิชย์ในปี 2026
    ราคาน้ำมันสะอาดใกล้เคียงกับน้ำมันทั่วไป

    คำเตือน
    ปริมาณการผลิตยังน้อย ไม่เหมาะกับการใช้งานจริงในตอนนี้
    ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้เชื้อเพลิงเต็มถัง
    ยังไม่เปิดเผยต้นทุนเครื่องและราคาน้ำมันที่ผลิตได้

    https://www.slashgear.com/2048896/ev-alternative-clean-fuel-aircela-gas-from-air-water-carbon/
    🌱 Aircela: น้ำมันเบนซินจากอากาศ บริษัท Aircela จากนิวยอร์กกำลังสร้างนวัตกรรมที่ดูเหมือนฝัน คือเครื่องจักรที่สามารถดึง คาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ แล้วเปลี่ยนเป็น น้ำมันเบนซินปลอดฟอสซิล เครื่องนี้มีขนาดประมาณ 6 ฟุตสูง และ 3 ฟุตกว้าง ใช้สารละลายน้ำผสมโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ในการจับ CO₂ ก่อนจะแยกน้ำเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน แล้วนำไฮโดรเจนกับ CO₂ มาสร้างเป็นเมทานอล และสุดท้ายแปรสภาพเป็นน้ำมันเบนซินที่ไม่มีสารพิษอย่างกำมะถันหรือโลหะหนัก ⚙️ ประสิทธิภาพและการทำงาน เครื่อง Aircela สามารถจับ CO₂ ได้ราว 10 กิโลกรัมต่อวัน และผลิตน้ำมันเบนซินได้ประมาณ 1 แกลลอนต่อวัน โดยมีถังเก็บเชื้อเพลิงได้ถึง 17 แกลลอน ซึ่งหมายความว่าต้องใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ในการผลิตน้ำมันเต็มถังสำหรับรถยนต์ทั่วไป แม้จะยังไม่เร็วพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเชื้อเพลิงสะอาด 🌐 ผลกระทบและความเป็นไปได้ หากเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมาก จุดเด่นคือสามารถติดตั้งได้ทั้งในบ้านหรือพื้นที่ห่างไกลที่เข้าถึงน้ำมันเชื้อเพลิงยาก คล้ายกับการใช้ แผงโซลาร์เซลล์แบบโมดูลาร์ ที่สามารถเชื่อมต่อหลายเครื่องเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต 🔮 แผนการในอนาคต Aircela ตั้งเป้าที่จะเปิดตัวเชิงพาณิชย์ในปี 2026 และหวังให้เชื้อเพลิงที่ผลิตได้มีราคาสมเหตุสมผลใกล้เคียงกับน้ำมันเบนซินทั่วไป หากสำเร็จ จะเป็นการปฏิวัติวงการพลังงานและการเดินทาง โดยเฉพาะในยุคที่โลกกำลังมองหาทางออกจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Aircela พัฒนาเครื่องผลิตน้ำมันเบนซินจากอากาศ น้ำ และคาร์บอน ➡️ เครื่องจับ CO₂ ได้ 10 กก./วัน ผลิตน้ำมัน 1 แกลลอน/วัน ➡️ ถังเก็บได้ 17 แกลลอน ใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ในการผลิตเต็มถัง ✅ ผลกระทบ ➡️ ลดการพึ่งพาน้ำมันฟอสซิล ➡️ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ➡️ ใช้งานได้ทั้งบ้านและพื้นที่ห่างไกล ✅ อนาคต ➡️ ตั้งเป้าเปิดตัวเชิงพาณิชย์ในปี 2026 ➡️ ราคาน้ำมันสะอาดใกล้เคียงกับน้ำมันทั่วไป ‼️ คำเตือน ⛔ ปริมาณการผลิตยังน้อย ไม่เหมาะกับการใช้งานจริงในตอนนี้ ⛔ ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้เชื้อเพลิงเต็มถัง ⛔ ยังไม่เปิดเผยต้นทุนเครื่องและราคาน้ำมันที่ผลิตได้ https://www.slashgear.com/2048896/ev-alternative-clean-fuel-aircela-gas-from-air-water-carbon/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Ambitious Startup Says Its Machine Can Make Gasoline Out Of Thin Air - SlashGear
    A New York-based company called Aircela says its machine is able to capture 10 kilograms of CO2 and convert it into one gallon of gasoline each day.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia H200: ความต้องการล้นตลาด

    หลังจากสหรัฐฯ อนุญาตให้ส่งออก H200 GPU ไปยังจีนภายใต้กรอบที่มีค่าธรรมเนียม 25% ความต้องการจากบริษัทใหญ่ เช่น Alibaba และ ByteDance พุ่งสูงทันที จนเกินกำลังผลิตที่ Nvidia มีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้บริษัทต้องพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อ

    ข้อจำกัดด้านการผลิต
    แม้ H200 จะเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดในตระกูล Hopper แต่กำลังการผลิตยังจำกัด เนื่องจาก Nvidia กำลังทุ่มทรัพยากรไปที่ Blackwell GPUs และ Rubin platform ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูงกว่าและเป็นอนาคตของบริษัท การแข่งขันด้านทรัพยากรที่โรงงาน TSMC ทำให้การเพิ่มกำลังผลิต H200 ไม่ใช่เรื่องง่าย

    ความเสี่ยงด้านนโยบายและการส่งออก
    แม้สหรัฐฯ จะเปิดไฟเขียว แต่เส้นทางการส่งออกยังไม่ชัดเจน เพราะจีนยังไม่ได้อนุมัติการนำเข้าอย่างเป็นทางการ และมีการหารือว่าจะจำกัดปริมาณการซื้อของบริษัทจีนตามสัดส่วนการใช้ชิปในประเทศ เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตท้องถิ่น ความไม่แน่นอนนี้ทำให้ Nvidia ต้องระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มกำลังผลิต

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    H200 ถือเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดที่จีนสามารถเข้าถึงได้อย่างถูกกฎหมาย โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า H20 (รุ่นเฉพาะตลาดจีน) ถึง 2–3 เท่า ทำให้ความต้องการยังคงแรง แม้จะมีความเสี่ยงด้านนโยบาย หาก Nvidia สามารถขยายการผลิตได้ จะช่วยรักษาตลาดจีนและเสริมความแข็งแกร่งของ CUDA ecosystem ในภูมิภาค

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความต้องการสูง
    Alibaba และ ByteDance สั่งซื้อจำนวนมาก
    ความต้องการเกินกำลังผลิตปัจจุบัน

    ข้อจำกัดการผลิต
    ทรัพยากรแข่งขันกับ Blackwell และ Rubin
    กำลังการผลิตที่ TSMC มีจำกัด

    ความเสี่ยงด้านนโยบาย
    สหรัฐฯ อนุญาตส่งออกพร้อมค่าธรรมเนียม 25%
    จีนยังไม่อนุมัติการนำเข้าอย่างเป็นทางการ

    ผลกระทบเชิงบวก
    H200 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า H20 ถึง 2–3 เท่า
    เสริมความแข็งแกร่งของ CUDA ecosystem ในจีน

    คำเตือนและข้อจำกัด
    ความไม่แน่นอนด้านนโยบายจีน-สหรัฐฯ
    การแข่งขันทรัพยากรกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Nvidia

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/nvidia-weighs-expanding-h200-production-as-demand-outstrips-supply
    ⚡ Nvidia H200: ความต้องการล้นตลาด หลังจากสหรัฐฯ อนุญาตให้ส่งออก H200 GPU ไปยังจีนภายใต้กรอบที่มีค่าธรรมเนียม 25% ความต้องการจากบริษัทใหญ่ เช่น Alibaba และ ByteDance พุ่งสูงทันที จนเกินกำลังผลิตที่ Nvidia มีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้บริษัทต้องพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อ 🏭 ข้อจำกัดด้านการผลิต แม้ H200 จะเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดในตระกูล Hopper แต่กำลังการผลิตยังจำกัด เนื่องจาก Nvidia กำลังทุ่มทรัพยากรไปที่ Blackwell GPUs และ Rubin platform ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูงกว่าและเป็นอนาคตของบริษัท การแข่งขันด้านทรัพยากรที่โรงงาน TSMC ทำให้การเพิ่มกำลังผลิต H200 ไม่ใช่เรื่องง่าย 🌐 ความเสี่ยงด้านนโยบายและการส่งออก แม้สหรัฐฯ จะเปิดไฟเขียว แต่เส้นทางการส่งออกยังไม่ชัดเจน เพราะจีนยังไม่ได้อนุมัติการนำเข้าอย่างเป็นทางการ และมีการหารือว่าจะจำกัดปริมาณการซื้อของบริษัทจีนตามสัดส่วนการใช้ชิปในประเทศ เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตท้องถิ่น ความไม่แน่นอนนี้ทำให้ Nvidia ต้องระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มกำลังผลิต 🔮 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI H200 ถือเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดที่จีนสามารถเข้าถึงได้อย่างถูกกฎหมาย โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า H20 (รุ่นเฉพาะตลาดจีน) ถึง 2–3 เท่า ทำให้ความต้องการยังคงแรง แม้จะมีความเสี่ยงด้านนโยบาย หาก Nvidia สามารถขยายการผลิตได้ จะช่วยรักษาตลาดจีนและเสริมความแข็งแกร่งของ CUDA ecosystem ในภูมิภาค 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความต้องการสูง ➡️ Alibaba และ ByteDance สั่งซื้อจำนวนมาก ➡️ ความต้องการเกินกำลังผลิตปัจจุบัน ✅ ข้อจำกัดการผลิต ➡️ ทรัพยากรแข่งขันกับ Blackwell และ Rubin ➡️ กำลังการผลิตที่ TSMC มีจำกัด ✅ ความเสี่ยงด้านนโยบาย ➡️ สหรัฐฯ อนุญาตส่งออกพร้อมค่าธรรมเนียม 25% ➡️ จีนยังไม่อนุมัติการนำเข้าอย่างเป็นทางการ ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ H200 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า H20 ถึง 2–3 เท่า ➡️ เสริมความแข็งแกร่งของ CUDA ecosystem ในจีน ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ ความไม่แน่นอนด้านนโยบายจีน-สหรัฐฯ ⛔ การแข่งขันทรัพยากรกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Nvidia https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/nvidia-weighs-expanding-h200-production-as-demand-outstrips-supply
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nintendo Switch 2 เจอวิกฤติหน่วยความจำ

    ราคาชิปหน่วยความจำที่ใช้ใน Nintendo Switch 2 พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะ RAM ขนาด 12 GB ที่เพิ่มขึ้นถึง 41% ในไตรมาสเดียว และ NAND flash ที่เพิ่มขึ้นอีก 8% ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทันที หุ้นของ Nintendo ร่วงลงกว่า 4.7% และมูลค่าตลาดหายไปกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่ากำไรจากการขายเครื่องอาจลดลงจนบางตลาดขายแทบไม่มีกำไร

    ตลาดโลก DRAM และ NAND กำลังร้อนแรง
    ข้อมูลจากนักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาด DRAM และ NAND ทั่วโลกกำลังขาดแคลน เนื่องจากความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI ที่เพิ่มขึ้นมหาศาล ทำให้ราคาสัญญาซื้อขาย DRAM และ NAND ขยับขึ้นต่อเนื่อง 15–30% ในหลายเซกเมนต์ ขณะเดียวกันการผลิต DRAM รุ่นเก่าลดลง เพราะผู้ผลิตหันไปลงทุนใน HBM และ DDR5 ที่ทำกำไรสูงกว่า ส่งผลให้สินค้ารุ่นที่ยังใช้ DDR4 หรือ LPDDR4X ขาดตลาดหนัก

    ผลกระทบต่อกำไรและกลยุทธ์ Nintendo
    Nintendo ยอมรับว่า Switch 2 มี margin ต่ำกว่า Switch รุ่นแรก เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้นจากจอภาพที่ดีขึ้น, ชิปใหม่ที่รองรับ 4K และหน่วยความจำที่แพงขึ้น แม้ยอดขายเปิดตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่กำไรต่อเครื่องลดลงอย่างชัดเจน บริษัทจึงพยายามชดเชยด้วยการขายเกมและคอนเทนต์เสริม ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักที่มี margin สูงกว่า

    แนวโน้มปี 2026 และคำเตือน
    นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาหน่วยความจำจะยังคงสูงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026 เนื่องจากผู้ผลิตยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตใหม่ และความต้องการจาก AI ยังคงรุนแรง ผู้บริโภคอาจต้องเจอกับราคาคอนโซลและอุปกรณ์เสริมที่แพงขึ้น รวมถึง microSD card ที่จำเป็นต่อการเล่นเกมก็มีแนวโน้มขาดตลาดและแพงขึ้นเช่นกัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง
    RAM ขนาด 12 GB เพิ่มขึ้น 41%
    NAND flash เพิ่มขึ้น 8%

    ผลกระทบต่อ Nintendo
    หุ้นร่วง 4.7% มูลค่าตลาดหายไป 14 พันล้านดอลลาร์
    กำไรต่อเครื่อง Switch 2 ต่ำกว่ารุ่นแรก

    ตลาดโลกหน่วยความจำ
    DRAM และ NAND ขาดแคลนจากความต้องการ AI
    ผู้ผลิตหันไปผลิต HBM และ DDR5 มากขึ้น

    กลยุทธ์ Nintendo
    เน้นรายได้จากเกมและคอนเทนต์เสริม
    ใช้โปรโมชั่น เช่น bundle Mario Kart World

    คำเตือนต่อผู้บริโภค
    ราคาคอนโซลและอุปกรณ์เสริมอาจแพงขึ้น
    microSD card มีแนวโน้มขาดตลาดและจำเป็นต่อการเล่นเกม

    https://www.tomshardware.com/video-games/nintendo/nintendo-switch-2-ram-prices-rise-41-percent-nand-flash-up-8-percent-console-giant-shares-nosedive-in-face-of-increased-cost-warnings
    🎮 Nintendo Switch 2 เจอวิกฤติหน่วยความจำ ราคาชิปหน่วยความจำที่ใช้ใน Nintendo Switch 2 พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะ RAM ขนาด 12 GB ที่เพิ่มขึ้นถึง 41% ในไตรมาสเดียว และ NAND flash ที่เพิ่มขึ้นอีก 8% ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทันที หุ้นของ Nintendo ร่วงลงกว่า 4.7% และมูลค่าตลาดหายไปกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่ากำไรจากการขายเครื่องอาจลดลงจนบางตลาดขายแทบไม่มีกำไร 💾 ตลาดโลก DRAM และ NAND กำลังร้อนแรง ข้อมูลจากนักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาด DRAM และ NAND ทั่วโลกกำลังขาดแคลน เนื่องจากความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI ที่เพิ่มขึ้นมหาศาล ทำให้ราคาสัญญาซื้อขาย DRAM และ NAND ขยับขึ้นต่อเนื่อง 15–30% ในหลายเซกเมนต์ ขณะเดียวกันการผลิต DRAM รุ่นเก่าลดลง เพราะผู้ผลิตหันไปลงทุนใน HBM และ DDR5 ที่ทำกำไรสูงกว่า ส่งผลให้สินค้ารุ่นที่ยังใช้ DDR4 หรือ LPDDR4X ขาดตลาดหนัก 📉 ผลกระทบต่อกำไรและกลยุทธ์ Nintendo Nintendo ยอมรับว่า Switch 2 มี margin ต่ำกว่า Switch รุ่นแรก เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้นจากจอภาพที่ดีขึ้น, ชิปใหม่ที่รองรับ 4K และหน่วยความจำที่แพงขึ้น แม้ยอดขายเปิดตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่กำไรต่อเครื่องลดลงอย่างชัดเจน บริษัทจึงพยายามชดเชยด้วยการขายเกมและคอนเทนต์เสริม ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักที่มี margin สูงกว่า 🌐 แนวโน้มปี 2026 และคำเตือน นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาหน่วยความจำจะยังคงสูงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026 เนื่องจากผู้ผลิตยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตใหม่ และความต้องการจาก AI ยังคงรุนแรง ผู้บริโภคอาจต้องเจอกับราคาคอนโซลและอุปกรณ์เสริมที่แพงขึ้น รวมถึง microSD card ที่จำเป็นต่อการเล่นเกมก็มีแนวโน้มขาดตลาดและแพงขึ้นเช่นกัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง ➡️ RAM ขนาด 12 GB เพิ่มขึ้น 41% ➡️ NAND flash เพิ่มขึ้น 8% ✅ ผลกระทบต่อ Nintendo ➡️ หุ้นร่วง 4.7% มูลค่าตลาดหายไป 14 พันล้านดอลลาร์ ➡️ กำไรต่อเครื่อง Switch 2 ต่ำกว่ารุ่นแรก ✅ ตลาดโลกหน่วยความจำ ➡️ DRAM และ NAND ขาดแคลนจากความต้องการ AI ➡️ ผู้ผลิตหันไปผลิต HBM และ DDR5 มากขึ้น ✅ กลยุทธ์ Nintendo ➡️ เน้นรายได้จากเกมและคอนเทนต์เสริม ➡️ ใช้โปรโมชั่น เช่น bundle Mario Kart World ‼️ คำเตือนต่อผู้บริโภค ⛔ ราคาคอนโซลและอุปกรณ์เสริมอาจแพงขึ้น ⛔ microSD card มีแนวโน้มขาดตลาดและจำเป็นต่อการเล่นเกม https://www.tomshardware.com/video-games/nintendo/nintendo-switch-2-ram-prices-rise-41-percent-nand-flash-up-8-percent-console-giant-shares-nosedive-in-face-of-increased-cost-warnings
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar

    US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน
    Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป
    https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million

    ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI)
    หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI
    การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament

    Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น
    รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark

    ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ
    ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน
    https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets

    Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง
    หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี
    https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated

    หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้
    แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า
    https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt

    Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ
    Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่
    https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone

    โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง
    TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป
    https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you

    ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า
    Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ
    https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง
    ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง
    https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track

    รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K
    จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review

    แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้
    นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles

    ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600
    มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged

    รีวิว TerraMaster F2-425 NAS
    อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง
    https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review

    ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB

    นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่
    https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd

    Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว
    ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon

    Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6
    การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you

    ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life

      ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม
    การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar 📱🔒 US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 👵👩‍💻 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️📲 EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️💻 ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰🕵️ Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million 📱📡 ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI) หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🎲🤖 OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament ⚠️📂 Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark 🖥️ ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets 🎵 Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี 🔗 https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated 🪟 หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้ แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt 📱 Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone 🎮 โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป 🔗 https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you ⚙️ ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 🪟 Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🚀 5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track 🖥️ รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review 🎶 แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้ นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles 📱 ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600 มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged 💾 รีวิว TerraMaster F2-425 NAS อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง 🔗 https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review 💽 ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd 📱📖 Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon 🔊 Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6 การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you 🔋 ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life 🎬  ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้ ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1061 มุมมอง 0 รีวิว
  • "แนวโน้มราคาหน่วยความจำ DDR4 และ DDR5 – สัญญาณตลาดฮาร์ดแวร์ปี 2025"

    เว็บไซต์ PCPartPicker ได้รวบรวมข้อมูลราคา RAM รุ่นต่าง ๆ เช่น DDR4-3200, DDR4-3600, DDR5-4800, DDR5-6000 ทั้งแบบ 2x8GB, 2x16GB และ 2x32GB โดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 18 เดือน กราฟแสดงเส้นสีดำหนาเป็นค่าเฉลี่ยราคา และแถบสีเทาเป็นช่วงราคาต่ำสุด–สูงสุด ขณะที่จุดสีฟ้าอ่อนคือราคาจริงของสินค้าแต่ละตัว

    ข้อมูลเผยให้เห็นว่า DDR4 มีราคาค่อนข้างคงที่ โดยเฉพาะรุ่น 2x8GB และ 2x16GB ที่ราคาลดลงเล็กน้อยตามรอบการผลิตและโปรโมชั่น ส่วน DDR5 มีความผันผวนสูงกว่า โดยเฉพาะรุ่นความเร็วสูงอย่าง DDR5-6000 ที่ราคามีการแกว่งตัวตามความต้องการของตลาดและการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ที่รองรับ

    การลดลงของราคาต่ำสุดในบางช่วงสะท้อนถึง โปรโมชั่นและดีลพิเศษ เช่น การลดราคาช่วงเทศกาล หรือความผิดพลาดด้านการตั้งราคาของร้านค้า ซึ่งทำให้ผู้บริโภคที่ติดตามแนวโน้มราคาอย่างใกล้ชิดสามารถซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่า

    โดยรวมแล้ว แนวโน้มราคาชี้ว่า DDR4 กำลังเข้าสู่ช่วงอิ่มตัว และอาจไม่ลดลงมากนักอีกต่อไป ขณะที่ DDR5 กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ แต่ราคายังสูงและผันผวน การเลือกซื้อจึงขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและงบประมาณของผู้ใช้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    กราฟแสดงค่าเฉลี่ยราคาด้วยเส้นดำหนา และช่วงราคาด้วยแถบสีเทา
    DDR4 ราคาค่อนข้างคงที่ โดยเฉพาะรุ่น 2x8GB และ 2x16GBpcpartpicker.com
    DDR5 ราคาผันผวน โดยเฉพาะรุ่น DDR5-6000
    ราคาต่ำสุดบางช่วงเกิดจากโปรโมชั่นหรือการตั้งราคาผิดพลาดpcpartpicker.com

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาด RAM ทั่วโลกคาดว่า DDR5 จะครองสัดส่วนมากกว่า 60% ภายในปี 2026
    การเปิดตัวซีพียู Intel และ AMD รุ่นใหม่ที่รองรับ DDR5 ช่วยผลักดันความต้องการ
    ผู้ผลิต RAM รายใหญ่ เช่น Micron และ Samsung กำลังเพิ่มกำลังการผลิต DDR5

    คำเตือนจากข่าว
    ราคาที่ลดลงอย่างมากอาจเกิดจากดีลชั่วคราว ไม่ใช่แนวโน้มระยะยาว
    การซื้อ DDR5 รุ่นความเร็วสูงเกินความจำเป็นอาจไม่คุ้มค่า หากระบบไม่รองรับเต็มที่
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของเมนบอร์ดและซีพียูก่อนซื้อ RAM รุ่นใหม่

    https://pcpartpicker.com/trends/price/memory/
    💻 "แนวโน้มราคาหน่วยความจำ DDR4 และ DDR5 – สัญญาณตลาดฮาร์ดแวร์ปี 2025" เว็บไซต์ PCPartPicker ได้รวบรวมข้อมูลราคา RAM รุ่นต่าง ๆ เช่น DDR4-3200, DDR4-3600, DDR5-4800, DDR5-6000 ทั้งแบบ 2x8GB, 2x16GB และ 2x32GB โดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 18 เดือน กราฟแสดงเส้นสีดำหนาเป็นค่าเฉลี่ยราคา และแถบสีเทาเป็นช่วงราคาต่ำสุด–สูงสุด ขณะที่จุดสีฟ้าอ่อนคือราคาจริงของสินค้าแต่ละตัว ข้อมูลเผยให้เห็นว่า DDR4 มีราคาค่อนข้างคงที่ โดยเฉพาะรุ่น 2x8GB และ 2x16GB ที่ราคาลดลงเล็กน้อยตามรอบการผลิตและโปรโมชั่น ส่วน DDR5 มีความผันผวนสูงกว่า โดยเฉพาะรุ่นความเร็วสูงอย่าง DDR5-6000 ที่ราคามีการแกว่งตัวตามความต้องการของตลาดและการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ที่รองรับ การลดลงของราคาต่ำสุดในบางช่วงสะท้อนถึง โปรโมชั่นและดีลพิเศษ เช่น การลดราคาช่วงเทศกาล หรือความผิดพลาดด้านการตั้งราคาของร้านค้า ซึ่งทำให้ผู้บริโภคที่ติดตามแนวโน้มราคาอย่างใกล้ชิดสามารถซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่า โดยรวมแล้ว แนวโน้มราคาชี้ว่า DDR4 กำลังเข้าสู่ช่วงอิ่มตัว และอาจไม่ลดลงมากนักอีกต่อไป ขณะที่ DDR5 กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ แต่ราคายังสูงและผันผวน การเลือกซื้อจึงขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานและงบประมาณของผู้ใช้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ กราฟแสดงค่าเฉลี่ยราคาด้วยเส้นดำหนา และช่วงราคาด้วยแถบสีเทา ➡️ DDR4 ราคาค่อนข้างคงที่ โดยเฉพาะรุ่น 2x8GB และ 2x16GBpcpartpicker.com ➡️ DDR5 ราคาผันผวน โดยเฉพาะรุ่น DDR5-6000 ➡️ ราคาต่ำสุดบางช่วงเกิดจากโปรโมชั่นหรือการตั้งราคาผิดพลาดpcpartpicker.com ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาด RAM ทั่วโลกคาดว่า DDR5 จะครองสัดส่วนมากกว่า 60% ภายในปี 2026 ➡️ การเปิดตัวซีพียู Intel และ AMD รุ่นใหม่ที่รองรับ DDR5 ช่วยผลักดันความต้องการ ➡️ ผู้ผลิต RAM รายใหญ่ เช่น Micron และ Samsung กำลังเพิ่มกำลังการผลิต DDR5 ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ราคาที่ลดลงอย่างมากอาจเกิดจากดีลชั่วคราว ไม่ใช่แนวโน้มระยะยาว ⛔ การซื้อ DDR5 รุ่นความเร็วสูงเกินความจำเป็นอาจไม่คุ้มค่า หากระบบไม่รองรับเต็มที่ ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบความเข้ากันได้ของเมนบอร์ดและซีพียูก่อนซื้อ RAM รุ่นใหม่ https://pcpartpicker.com/trends/price/memory/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • การลงทุนครั้งใหญ่ของ Foxconn

    ข่าวนี้เล่าถึงการที่ Foxconn ได้รับอนุมัติให้ลงทุนเพิ่มอีก 549 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายโรงงานในรัฐวิสคอนซิน สหรัฐฯ โดยเปลี่ยนจากการผลิตจอ LCD มาสู่การสร้าง AI Data Servers เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI และ Data Center

    Foxconn ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ (เช่น iPhone ให้ Apple) ได้รับการอนุมัติจาก Wisconsin Economic Development Corporation (WEDC) ให้ลงทุนเพิ่ม 549 ล้านดอลลาร์ในโรงงานที่ Racine County การลงทุนนี้จะช่วยสร้างงานใหม่กว่า 1,374 ตำแหน่ง และเพิ่มกำลังการผลิต AI Servers เพื่อตอบสนองตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

    ความต้องการ AI และ Data Center
    ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลและ AI กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Microsoft และ TSMC กำลังเร่งสร้าง Data Center และโรงงานผลิตชิปเพื่อรองรับการใช้งาน GPU และหน่วยความจำความเร็วสูง การลงทุนของ Foxconn จึงเป็นส่วนหนึ่งของกระแสการขยายตัวครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้

    ผลกระทบต่อชุมชนและเศรษฐกิจ
    การลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มกำลังการผลิต แต่ยังสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนในวิสคอนซิน โรงงานที่เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการผลิต LCD มูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ กลับถูกปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการใหม่ในตลาด AI ซึ่งอาจทำให้โครงการนี้มีเสถียรภาพมากขึ้นในระยะยาว

    ความเสี่ยงและความท้าทาย
    แม้การลงทุนครั้งนี้จะเป็นข่าวดี แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าตลาด AI อาจกำลังอยู่ในภาวะ “ฟองสบู่” หากความต้องการลดลงในอนาคต Foxconn และผู้ผลิตรายอื่นอาจเผชิญกับปัญหาการลงทุนเกินความจำเป็น และความเสี่ยงด้านซัพพลายเชนที่ยังคงเป็นประเด็นสำคัญ

    สรุปสาระสำคัญ
    Foxconn ลงทุนเพิ่ม 549 ล้านดอลลาร์ในวิสคอนซิน
    ได้รับอนุมัติจาก WEDC
    สร้างงานใหม่กว่า 1,374 ตำแหน่ง

    ความต้องการ AI และ Data Center
    ตลาดโลกต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลเพิ่มขึ้น
    บริษัทเทคโนโลยีเร่งสร้างโรงงานและ Data Center

    ผลกระทบต่อชุมชน
    สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใน Racine County
    โรงงาน LCD เดิมถูกปรับเปลี่ยนเป็น AI Server

    ความหมายเชิงกลยุทธ์
    Foxconn ปรับตัวตามกระแส AI
    เพิ่มความมั่นคงของโครงการในระยะยาว

    คำเตือนต่ออุตสาหกรรม AI
    ตลาด AI อาจอยู่ในภาวะฟองสบู่
    การลงทุนเกินความจำเป็นอาจสร้างความเสี่ยงในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/foxconn-to-expand-u-s-operations-at-wisconsin-site-with-usd549-million-investment-taiwanese-company-gets-approval-for-more-ai-data-center-industry-in-racine-county
    🏭 การลงทุนครั้งใหญ่ของ Foxconn ข่าวนี้เล่าถึงการที่ Foxconn ได้รับอนุมัติให้ลงทุนเพิ่มอีก 549 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายโรงงานในรัฐวิสคอนซิน สหรัฐฯ โดยเปลี่ยนจากการผลิตจอ LCD มาสู่การสร้าง AI Data Servers เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม AI และ Data Center Foxconn ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ (เช่น iPhone ให้ Apple) ได้รับการอนุมัติจาก Wisconsin Economic Development Corporation (WEDC) ให้ลงทุนเพิ่ม 549 ล้านดอลลาร์ในโรงงานที่ Racine County การลงทุนนี้จะช่วยสร้างงานใหม่กว่า 1,374 ตำแหน่ง และเพิ่มกำลังการผลิต AI Servers เพื่อตอบสนองตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ⚡ ความต้องการ AI และ Data Center ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลและ AI กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Microsoft และ TSMC กำลังเร่งสร้าง Data Center และโรงงานผลิตชิปเพื่อรองรับการใช้งาน GPU และหน่วยความจำความเร็วสูง การลงทุนของ Foxconn จึงเป็นส่วนหนึ่งของกระแสการขยายตัวครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ 🌍 ผลกระทบต่อชุมชนและเศรษฐกิจ การลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มกำลังการผลิต แต่ยังสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนในวิสคอนซิน โรงงานที่เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการผลิต LCD มูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ กลับถูกปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการใหม่ในตลาด AI ซึ่งอาจทำให้โครงการนี้มีเสถียรภาพมากขึ้นในระยะยาว 🔒 ความเสี่ยงและความท้าทาย แม้การลงทุนครั้งนี้จะเป็นข่าวดี แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าตลาด AI อาจกำลังอยู่ในภาวะ “ฟองสบู่” หากความต้องการลดลงในอนาคต Foxconn และผู้ผลิตรายอื่นอาจเผชิญกับปัญหาการลงทุนเกินความจำเป็น และความเสี่ยงด้านซัพพลายเชนที่ยังคงเป็นประเด็นสำคัญ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Foxconn ลงทุนเพิ่ม 549 ล้านดอลลาร์ในวิสคอนซิน ➡️ ได้รับอนุมัติจาก WEDC ➡️ สร้างงานใหม่กว่า 1,374 ตำแหน่ง ✅ ความต้องการ AI และ Data Center ➡️ ตลาดโลกต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลเพิ่มขึ้น ➡️ บริษัทเทคโนโลยีเร่งสร้างโรงงานและ Data Center ✅ ผลกระทบต่อชุมชน ➡️ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใน Racine County ➡️ โรงงาน LCD เดิมถูกปรับเปลี่ยนเป็น AI Server ✅ ความหมายเชิงกลยุทธ์ ➡️ Foxconn ปรับตัวตามกระแส AI ➡️ เพิ่มความมั่นคงของโครงการในระยะยาว ‼️ คำเตือนต่ออุตสาหกรรม AI ⛔ ตลาด AI อาจอยู่ในภาวะฟองสบู่ ⛔ การลงทุนเกินความจำเป็นอาจสร้างความเสี่ยงในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/foxconn-to-expand-u-s-operations-at-wisconsin-site-with-usd549-million-investment-taiwanese-company-gets-approval-for-more-ai-data-center-industry-in-racine-county
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • Foxconn เร่งผลิต AI Racks 1,000 ชุดต่อสัปดาห์

    Foxconn ประกาศว่าสามารถผลิต AI server racks ได้มากกว่า 1,000 ชุดต่อสัปดาห์ และมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่พุ่งสูงจากบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกที่กำลังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI

    รายละเอียดจาก Chairman Liu Young-way
    Liu Young-way ประธาน Foxconn เปิดเผยว่า ความต้องการ AI server racks มาจากการขยายตัวของ ศูนย์ข้อมูล (datacenter) ที่ใช้สำหรับการประมวลผลโมเดล AI ขนาดใหญ่ โดย Foxconn ได้ลงทุนในสายการผลิตและการจัดหาชิ้นส่วนสำคัญ เช่น GPU และระบบระบายความร้อน เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    บริบทตลาดโลก
    การเติบโตของ AI ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Microsoft และ Amazon ต้องเร่งสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ ส่งผลให้ซัพพลายเชนของอุปกรณ์ AI server racks มีความสำคัญมากขึ้น Foxconn ในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่จึงกลายเป็นผู้เล่นหลักที่ช่วยผลักดันการขยายตัวของตลาดนี้ โดยเฉพาะในเอเชียที่มีฐานการผลิตและแรงงานจำนวนมาก

    ความท้าทายและความเสี่ยง
    แม้ Foxconn จะเร่งผลิต แต่ก็ยังเผชิญกับความท้าทาย เช่น การขาดแคลน GPU, ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และแรงกดดันจากคู่แข่งรายอื่นในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI หากไม่สามารถจัดการซัพพลายเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจกระทบต่อการส่งมอบและความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กำลังการผลิตของ Foxconn
    ผลิต AI racks ได้มากกว่า 1,000 ชุดต่อสัปดาห์
    มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า

    แรงผลักดันจากตลาด
    ความต้องการสูงจากการสร้างศูนย์ข้อมูล AI
    บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    การขาดแคลน GPU และต้นทุนพลังงานสูง
    แรงกดดันจากคู่แข่งในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/foxconn-can-make-1000-ai-racks-a-week-to-increase-next-year-chairman-says
    🏭 Foxconn เร่งผลิต AI Racks 1,000 ชุดต่อสัปดาห์ Foxconn ประกาศว่าสามารถผลิต AI server racks ได้มากกว่า 1,000 ชุดต่อสัปดาห์ และมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่พุ่งสูงจากบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกที่กำลังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ⚙️ รายละเอียดจาก Chairman Liu Young-way Liu Young-way ประธาน Foxconn เปิดเผยว่า ความต้องการ AI server racks มาจากการขยายตัวของ ศูนย์ข้อมูล (datacenter) ที่ใช้สำหรับการประมวลผลโมเดล AI ขนาดใหญ่ โดย Foxconn ได้ลงทุนในสายการผลิตและการจัดหาชิ้นส่วนสำคัญ เช่น GPU และระบบระบายความร้อน เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 🌍 บริบทตลาดโลก การเติบโตของ AI ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Microsoft และ Amazon ต้องเร่งสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ ส่งผลให้ซัพพลายเชนของอุปกรณ์ AI server racks มีความสำคัญมากขึ้น Foxconn ในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่จึงกลายเป็นผู้เล่นหลักที่ช่วยผลักดันการขยายตัวของตลาดนี้ โดยเฉพาะในเอเชียที่มีฐานการผลิตและแรงงานจำนวนมาก ⚠️ ความท้าทายและความเสี่ยง แม้ Foxconn จะเร่งผลิต แต่ก็ยังเผชิญกับความท้าทาย เช่น การขาดแคลน GPU, ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และแรงกดดันจากคู่แข่งรายอื่นในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI หากไม่สามารถจัดการซัพพลายเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจกระทบต่อการส่งมอบและความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กำลังการผลิตของ Foxconn ➡️ ผลิต AI racks ได้มากกว่า 1,000 ชุดต่อสัปดาห์ ➡️ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า ✅ แรงผลักดันจากตลาด ➡️ ความต้องการสูงจากการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ➡️ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ การขาดแคลน GPU และต้นทุนพลังงานสูง ⛔ แรงกดดันจากคู่แข่งในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/foxconn-can-make-1000-ai-racks-a-week-to-increase-next-year-chairman-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Foxconn can make 1,000 AI racks a week, to increase next year, chairman says
    TAIPEI (Reuters) -Foxconn Chairman Young Liu said on Friday the company now had the capability to manufacture 1,000 artificial intelligence racks per week, and it expected that rate to increase next year.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ดันความต้องการ LPDDR5X สะเทือนตลาดหน่วยความจำ

    รายงานจาก Counterpoint Research ระบุว่า ราคาหน่วยความจำ DRAM เพิ่มขึ้นแล้วกว่า 50% ในปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มอีก 30% ในไตรมาส 4 ก่อนจะพุ่งขึ้นอีก 20% ในต้นปี 2026 หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป ราคาหน่วยความจำ DDR5 สำหรับเซิร์ฟเวอร์อาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในสิ้นปี 2026 การที่ Nvidia ใช้ LPDDR5X ในซีพียู Grace และ Vera ทำให้ความต้องการหน่วยความจำระดับสมาร์ทโฟนพุ่งสูงผิดปกติ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    แต่ละซีพียู Grace ใช้ LPDDR5X ถึง 480GB ในขณะที่สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมใช้เพียง 16GB เท่านั้น การขยายตัวของแพลตฟอร์ม Vera ที่จะใช้หน่วยความจำมากขึ้นยิ่งทำให้ซัพพลายตึงตัว นักวิเคราะห์เตือนว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อาจต้องเผชิญต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 25% ซึ่งจะกระทบทั้งราคาขายและกำไรของผู้ผลิต

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และเซิร์ฟเวอร์
    ไม่เพียงแต่สมาร์ทโฟนเท่านั้น อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้ DRAM ในระบบควบคุมและความปลอดภัยก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน SMIC ผู้ผลิตชิปจากจีนเตือนว่าการขาดแคลน DRAM อาจกระทบยอดขายชิปตรรกะในภาคยานยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในปีหน้า

    ความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของตลาดหน่วยความจำ
    การที่ Nvidia กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ในระดับเดียวกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ถือเป็น “การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง” ที่ห่วงโซ่อุปทานไม่สามารถรองรับได้ทันที หากผู้ผลิตหน่วยความจำไม่เร่งลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต ความเสี่ยงต่อการขาดแคลนและราคาที่สูงขึ้นจะยังคงอยู่ต่อเนื่อง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ราคาหน่วยความจำ DRAM พุ่งสูง
    เพิ่มขึ้นแล้วกว่า 50% ในปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มอีก 30% ในไตรมาส 4

    Nvidia ใช้ LPDDR5X ใน Grace และ Vera CPUs
    ความต้องการหน่วยความจำระดับสมาร์ทโฟนพุ่งสูงผิดปกติ

    ผลกระทบต่อสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    ต้นทุนอาจเพิ่มขึ้นราว 25% ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และเซิร์ฟเวอร์
    การขาดแคลน DRAM อาจกระทบยอดขายชิปตรรกะและระบบควบคุม

    ความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของตลาดหน่วยความจำ
    Nvidia กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ในระดับเดียวกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ทำให้ซัพพลายตึงตัว

    การลงทุนผลิตไม่ทันความต้องการ
    หากผู้ผลิตหน่วยความจำไม่เร่งขยายกำลังการผลิต ราคาจะยังคงพุ่งต่อเนื่อง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/nvidias-demand-for-lpddr5x-could-double-smartphone-and-server-memory-prices-in-2026-seismic-shift-means-even-smartphone-class-memory-isnt-safe-from-ai-induced-crunch
    💾 Nvidia ดันความต้องการ LPDDR5X สะเทือนตลาดหน่วยความจำ รายงานจาก Counterpoint Research ระบุว่า ราคาหน่วยความจำ DRAM เพิ่มขึ้นแล้วกว่า 50% ในปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มอีก 30% ในไตรมาส 4 ก่อนจะพุ่งขึ้นอีก 20% ในต้นปี 2026 หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป ราคาหน่วยความจำ DDR5 สำหรับเซิร์ฟเวอร์อาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในสิ้นปี 2026 การที่ Nvidia ใช้ LPDDR5X ในซีพียู Grace และ Vera ทำให้ความต้องการหน่วยความจำระดับสมาร์ทโฟนพุ่งสูงผิดปกติ ⚡ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ละซีพียู Grace ใช้ LPDDR5X ถึง 480GB ในขณะที่สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมใช้เพียง 16GB เท่านั้น การขยายตัวของแพลตฟอร์ม Vera ที่จะใช้หน่วยความจำมากขึ้นยิ่งทำให้ซัพพลายตึงตัว นักวิเคราะห์เตือนว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อาจต้องเผชิญต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 25% ซึ่งจะกระทบทั้งราคาขายและกำไรของผู้ผลิต 🚗 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และเซิร์ฟเวอร์ ไม่เพียงแต่สมาร์ทโฟนเท่านั้น อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้ DRAM ในระบบควบคุมและความปลอดภัยก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน SMIC ผู้ผลิตชิปจากจีนเตือนว่าการขาดแคลน DRAM อาจกระทบยอดขายชิปตรรกะในภาคยานยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในปีหน้า 🌐 ความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของตลาดหน่วยความจำ การที่ Nvidia กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ในระดับเดียวกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ถือเป็น “การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง” ที่ห่วงโซ่อุปทานไม่สามารถรองรับได้ทันที หากผู้ผลิตหน่วยความจำไม่เร่งลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต ความเสี่ยงต่อการขาดแคลนและราคาที่สูงขึ้นจะยังคงอยู่ต่อเนื่อง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ราคาหน่วยความจำ DRAM พุ่งสูง ➡️ เพิ่มขึ้นแล้วกว่า 50% ในปีนี้ และคาดว่าจะเพิ่มอีก 30% ในไตรมาส 4 ✅ Nvidia ใช้ LPDDR5X ใน Grace และ Vera CPUs ➡️ ความต้องการหน่วยความจำระดับสมาร์ทโฟนพุ่งสูงผิดปกติ ✅ ผลกระทบต่อสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ➡️ ต้นทุนอาจเพิ่มขึ้นราว 25% ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และเซิร์ฟเวอร์ ➡️ การขาดแคลน DRAM อาจกระทบยอดขายชิปตรรกะและระบบควบคุม ‼️ ความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของตลาดหน่วยความจำ ⛔ Nvidia กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ในระดับเดียวกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ทำให้ซัพพลายตึงตัว ‼️ การลงทุนผลิตไม่ทันความต้องการ ⛔ หากผู้ผลิตหน่วยความจำไม่เร่งขยายกำลังการผลิต ราคาจะยังคงพุ่งต่อเนื่อง https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/nvidias-demand-for-lpddr5x-could-double-smartphone-and-server-memory-prices-in-2026-seismic-shift-means-even-smartphone-class-memory-isnt-safe-from-ai-induced-crunch
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤติ DRAM จากกระแส AI

    ตลาด DRAM กำลังเผชิญภาวะตึงตัวอย่างหนัก เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำจากการพัฒนา AI และเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ราคาหน่วยความจำจึงพุ่งสูงกว่า 100% ภายในปีเดียว ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างมาก

    ผลกระทบต่อผู้ผลิตรายใหญ่
    Morgan Stanley ได้ปรับลดอันดับหุ้นของหลายบริษัท เช่น Dell จาก Overweight เป็น Underweight เนื่องจาก Dell มีธุรกิจเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ DRAM ปริมาณมหาศาล ขณะที่ HP, Asus และ Pegatron ถูกปรับลดเป็น Equal-weight ส่วน Acer และ Compal ถูกจัดอันดับต่ำอยู่แล้ว การปรับลดนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่กำไรของบริษัทจะถูกบีบจากต้นทุนหน่วยความจำที่สูงขึ้น

    Apple รอดพ้นวิกฤติ
    ในทางกลับกัน Apple ยังคงได้อันดับ Overweight เพราะบริษัทได้วางแผนล่วงหน้า ซื้อ DRAM จำนวนมากก่อนที่วิกฤติจะเกิดขึ้น และยังมีสัญญาระยะยาวกับผู้ผลิตหน่วยความจำอย่าง Kioxia ทำให้สินค้าของ Apple เช่น Mac, iPad และ iPhone ได้รับผลกระทบน้อยกว่าคู่แข่ง

    แนวโน้มในอนาคต
    นักวิเคราะห์คาดว่าภาวะขาดแคลน DRAM จะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายปี เนื่องจากผู้ผลิตหน่วยความจำยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตอย่างจริงจัง ขณะที่ความต้องการจาก AI และเซิร์ฟเวอร์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้อาจทำให้ราคาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

    สรุปสาระสำคัญ
    ราคาหน่วยความจำ DRAM เพิ่มขึ้นกว่า 100%
    เกิดจากความต้องการ AI และเซิร์ฟเวอร์ที่สูงขึ้น

    Morgan Stanley ปรับลดอันดับหุ้นผู้ผลิตรายใหญ่
    Dell, HP, Asus, Pegatron ได้รับผลกระทบหนัก

    Apple วางแผนล่วงหน้าและรอดพ้นวิกฤติ
    ซื้อ DRAM ล่วงหน้าและมีสัญญากับ Kioxia

    ต้นทุนเซิร์ฟเวอร์สูงขึ้นอย่างมาก
    DRAM คิดเป็น 30–40% ของต้นทุนรวมของเซิร์ฟเวอร์

    ความเสี่ยงต่อกำไรของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์
    ต้นทุนสูงอาจบีบกำไรและทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น

    แนวโน้มวิกฤติจะยืดเยื้อ
    ผู้ผลิตหน่วยความจำยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตในระยะสั้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr5/ai-led-dram-supply-crunch-reportedly-has-morgan-stanley-downgrading-major-oems-skyrocketing-memory-prices-could-erode-server-and-pc-margins
    💾 วิกฤติ DRAM จากกระแส AI ตลาด DRAM กำลังเผชิญภาวะตึงตัวอย่างหนัก เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำจากการพัฒนา AI และเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ราคาหน่วยความจำจึงพุ่งสูงกว่า 100% ภายในปีเดียว ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างมาก 📉 ผลกระทบต่อผู้ผลิตรายใหญ่ Morgan Stanley ได้ปรับลดอันดับหุ้นของหลายบริษัท เช่น Dell จาก Overweight เป็น Underweight เนื่องจาก Dell มีธุรกิจเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ DRAM ปริมาณมหาศาล ขณะที่ HP, Asus และ Pegatron ถูกปรับลดเป็น Equal-weight ส่วน Acer และ Compal ถูกจัดอันดับต่ำอยู่แล้ว การปรับลดนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่กำไรของบริษัทจะถูกบีบจากต้นทุนหน่วยความจำที่สูงขึ้น 🍎 Apple รอดพ้นวิกฤติ ในทางกลับกัน Apple ยังคงได้อันดับ Overweight เพราะบริษัทได้วางแผนล่วงหน้า ซื้อ DRAM จำนวนมากก่อนที่วิกฤติจะเกิดขึ้น และยังมีสัญญาระยะยาวกับผู้ผลิตหน่วยความจำอย่าง Kioxia ทำให้สินค้าของ Apple เช่น Mac, iPad และ iPhone ได้รับผลกระทบน้อยกว่าคู่แข่ง 🔮 แนวโน้มในอนาคต นักวิเคราะห์คาดว่าภาวะขาดแคลน DRAM จะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายปี เนื่องจากผู้ผลิตหน่วยความจำยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตอย่างจริงจัง ขณะที่ความต้องการจาก AI และเซิร์ฟเวอร์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้อาจทำให้ราคาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ราคาหน่วยความจำ DRAM เพิ่มขึ้นกว่า 100% ➡️ เกิดจากความต้องการ AI และเซิร์ฟเวอร์ที่สูงขึ้น ✅ Morgan Stanley ปรับลดอันดับหุ้นผู้ผลิตรายใหญ่ ➡️ Dell, HP, Asus, Pegatron ได้รับผลกระทบหนัก ✅ Apple วางแผนล่วงหน้าและรอดพ้นวิกฤติ ➡️ ซื้อ DRAM ล่วงหน้าและมีสัญญากับ Kioxia ✅ ต้นทุนเซิร์ฟเวอร์สูงขึ้นอย่างมาก ➡️ DRAM คิดเป็น 30–40% ของต้นทุนรวมของเซิร์ฟเวอร์ ‼️ ความเสี่ยงต่อกำไรของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ ⛔ ต้นทุนสูงอาจบีบกำไรและทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น ‼️ แนวโน้มวิกฤติจะยืดเยื้อ ⛔ ผู้ผลิตหน่วยความจำยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตในระยะสั้น https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr5/ai-led-dram-supply-crunch-reportedly-has-morgan-stanley-downgrading-major-oems-skyrocketing-memory-prices-could-erode-server-and-pc-margins
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung ขึ้นราคาชิปหน่วยความจำ

    รายงานระบุว่า Samsung ได้ปรับราคาชิปหน่วยความจำขึ้นมากถึง 60% ตั้งแต่เดือนกันยายน โดยเฉพาะ DDR5 ขนาด 32GB ที่ราคาสัญญาเพิ่มจาก 149 ดอลลาร์ เป็น 239 ดอลลาร์ การปรับขึ้นครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากตลาดที่ต้องการหน่วยความจำจำนวนมากเพื่อรองรับการประมวลผล AI

    AI Data Center จุดชนวนความต้องการ
    การสร้างศูนย์ข้อมูล AI ทั่วโลกเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ความต้องการหน่วยความจำพุ่งสูง ผู้ผลิตไม่เร่งเพิ่มกำลังการผลิต เพราะกังวลว่าความต้องการอาจลดลงในอนาคต ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนและราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรม
    ราคาที่สูงขึ้นไม่ได้กระทบแค่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ DIY แต่ยังส่งผลต่อ สมาร์ทโฟน, โน้ตบุ๊ก, IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ต้องใช้ DRAM และ NAND การขาดแคลนทำให้บางตลาดเกิดการ “panic buying” หรือการสั่งซื้อเกินความต้องการเพื่อกักตุนสินค้า

    แนวโน้มในอนาคต
    นักวิเคราะห์เตือนว่าภาวะขาดแคลนอาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 และอาจกินเวลานานถึง 10 ปี หากอุตสาหกรรมยังไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันกับการเติบโตของ AI ที่ต้องใช้หน่วยความจำจำนวนมหาศาล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Samsung ปรับขึ้นราคาชิปหน่วยความจำสูงสุด 60%
    DDR5 32GB ราคาพุ่งจาก 149 ดอลลาร์เป็น 239 ดอลลาร์

    AI Data Center เป็นตัวการหลัก
    ความต้องการหน่วยความจำเพิ่มขึ้นมหาศาลจากการสร้างศูนย์ข้อมูล AI

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรม
    สมาร์ทโฟน, โน้ตบุ๊ก, IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะได้รับผลกระทบ

    ความเสี่ยงจากการขาดแคลนยาวนาน
    อาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 และกินเวลานานถึง 10 ปี

    การกักตุนสินค้า (panic buying)
    ทำให้ตลาดตึงเครียดและราคายิ่งพุ่งสูงขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/samsung-raises-memory-chip-prices-by-up-to-60-percent-since-september-according-to-reports-ai-data-center-build-out-strangles-supply
    💾 Samsung ขึ้นราคาชิปหน่วยความจำ รายงานระบุว่า Samsung ได้ปรับราคาชิปหน่วยความจำขึ้นมากถึง 60% ตั้งแต่เดือนกันยายน โดยเฉพาะ DDR5 ขนาด 32GB ที่ราคาสัญญาเพิ่มจาก 149 ดอลลาร์ เป็น 239 ดอลลาร์ การปรับขึ้นครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากตลาดที่ต้องการหน่วยความจำจำนวนมากเพื่อรองรับการประมวลผล AI 🏗️ AI Data Center จุดชนวนความต้องการ การสร้างศูนย์ข้อมูล AI ทั่วโลกเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ความต้องการหน่วยความจำพุ่งสูง ผู้ผลิตไม่เร่งเพิ่มกำลังการผลิต เพราะกังวลว่าความต้องการอาจลดลงในอนาคต ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนและราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง 📈 ผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรม ราคาที่สูงขึ้นไม่ได้กระทบแค่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ DIY แต่ยังส่งผลต่อ สมาร์ทโฟน, โน้ตบุ๊ก, IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ต้องใช้ DRAM และ NAND การขาดแคลนทำให้บางตลาดเกิดการ “panic buying” หรือการสั่งซื้อเกินความต้องการเพื่อกักตุนสินค้า 🔮 แนวโน้มในอนาคต นักวิเคราะห์เตือนว่าภาวะขาดแคลนอาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 และอาจกินเวลานานถึง 10 ปี หากอุตสาหกรรมยังไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันกับการเติบโตของ AI ที่ต้องใช้หน่วยความจำจำนวนมหาศาล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Samsung ปรับขึ้นราคาชิปหน่วยความจำสูงสุด 60% ➡️ DDR5 32GB ราคาพุ่งจาก 149 ดอลลาร์เป็น 239 ดอลลาร์ ✅ AI Data Center เป็นตัวการหลัก ➡️ ความต้องการหน่วยความจำเพิ่มขึ้นมหาศาลจากการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรม ➡️ สมาร์ทโฟน, โน้ตบุ๊ก, IoT และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะได้รับผลกระทบ ‼️ ความเสี่ยงจากการขาดแคลนยาวนาน ⛔ อาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 และกินเวลานานถึง 10 ปี ‼️ การกักตุนสินค้า (panic buying) ⛔ ทำให้ตลาดตึงเครียดและราคายิ่งพุ่งสูงขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/samsung-raises-memory-chip-prices-by-up-to-60-percent-since-september-according-to-reports-ai-data-center-build-out-strangles-supply
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • Micron ปรับแผนครั้งใหญ่: ชะลอโรงงานผลิตชิปในนิวยอร์ก 5 ปี แต่เร่งสร้างแห่งใหม่ในไอดาโฮ

    Micron ประกาศเปลี่ยนแผนการลงทุนครั้งสำคัญ โดยเลื่อนการเปิดโรงงานผลิตชิปในนิวยอร์กออกไปถึงปี 2033 พร้อมเร่งสร้างโรงงานแห่งที่สองในไอดาโฮ และปรับการใช้เงินสนับสนุนจาก CHIPS Act ใหม่

    Micron เคยวางแผนสร้างโรงงานผลิต DRAM ขนาดใหญ่ในเมือง Clay รัฐนิวยอร์ก โดยเริ่มผลิตในปี 2025 แต่ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าโครงการนี้จะล่าช้าออกไปถึงปี 2030 สำหรับโรงงานแรก และโรงงานสุดท้ายจะเสร็จในปี 2045 — ช้ากว่ากำหนดเดิมถึง 5 ปี

    ในขณะเดียวกัน Micron กลับเร่งสร้างโรงงานแห่งที่สองในไอดาโฮ โดยปรับแผนการใช้เงินจาก CHIPS Act มูลค่า 6.1 พันล้านดอลลาร์ โดยย้ายงบประมาณราว 1.2 พันล้านดอลลาร์จากนิวยอร์กไปยังไอดาโฮ เพื่อให้โรงงานในไอดาโฮเสร็จเร็วขึ้นและเริ่มผลิตก่อน

    เหตุผลหลักที่ทำให้โครงการในนิวยอร์กล่าช้า คือปัญหาขาดแคลนแรงงานและระยะเวลาก่อสร้างที่ยาวนานขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาทั่วไปในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ

    แม้จะล่าช้า แต่ Micron ยังยืนยันเป้าหมายเดิมในการผลิต DRAM ให้ได้ 40% ภายในสหรัฐฯ โดยการเร่งสร้างโรงงานในไอดาโฮจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิต HBM (High Bandwidth Memory) และเทคโนโลยีการแพ็กเกจขั้นสูงที่จำเป็นสำหรับยุค AI

    Micron เลื่อนแผนสร้างโรงงานในนิวยอร์กออกไป
    โรงงานแรก (Fab 1) จะเริ่มผลิตในปี 2030 แทนปี 2025
    โรงงานสุดท้าย (Fab 4) จะเสร็จในปี 2045

    โรงงานในไอดาโฮถูกเร่งสร้างให้เสร็จก่อน
    Micron ปรับแผนการใช้เงินจาก CHIPS Act
    ย้ายงบประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์จากนิวยอร์กไปไอดาโฮ

    ปัญหาหลักคือแรงงานและระยะเวลาก่อสร้าง
    การก่อสร้างโรงงานใช้เวลานานขึ้นกว่าที่คาด
    ส่งผลให้ต้องปรับแผนการดำเนินงานและการจ้างงาน

    Micron ยังยืนยันเป้าหมายผลิต DRAM ในสหรัฐฯ
    ตั้งเป้าผลิต DRAM ให้ได้ 40% ภายในประเทศ
    โรงงานในไอดาโฮจะช่วยเพิ่มกำลังผลิต HBM และเทคโนโลยีแพ็กเกจขั้นสูง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/microns-new-york-chipmaking-fabs-by-five-years-but-accelerates-second-fab-in-idaho-and-reallocates-chips-act-funding
    🏭 Micron ปรับแผนครั้งใหญ่: ชะลอโรงงานผลิตชิปในนิวยอร์ก 5 ปี แต่เร่งสร้างแห่งใหม่ในไอดาโฮ 🏭⚡ Micron ประกาศเปลี่ยนแผนการลงทุนครั้งสำคัญ โดยเลื่อนการเปิดโรงงานผลิตชิปในนิวยอร์กออกไปถึงปี 2033 พร้อมเร่งสร้างโรงงานแห่งที่สองในไอดาโฮ และปรับการใช้เงินสนับสนุนจาก CHIPS Act ใหม่ Micron เคยวางแผนสร้างโรงงานผลิต DRAM ขนาดใหญ่ในเมือง Clay รัฐนิวยอร์ก โดยเริ่มผลิตในปี 2025 แต่ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าโครงการนี้จะล่าช้าออกไปถึงปี 2030 สำหรับโรงงานแรก และโรงงานสุดท้ายจะเสร็จในปี 2045 — ช้ากว่ากำหนดเดิมถึง 5 ปี ในขณะเดียวกัน Micron กลับเร่งสร้างโรงงานแห่งที่สองในไอดาโฮ โดยปรับแผนการใช้เงินจาก CHIPS Act มูลค่า 6.1 พันล้านดอลลาร์ โดยย้ายงบประมาณราว 1.2 พันล้านดอลลาร์จากนิวยอร์กไปยังไอดาโฮ เพื่อให้โรงงานในไอดาโฮเสร็จเร็วขึ้นและเริ่มผลิตก่อน เหตุผลหลักที่ทำให้โครงการในนิวยอร์กล่าช้า คือปัญหาขาดแคลนแรงงานและระยะเวลาก่อสร้างที่ยาวนานขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาทั่วไปในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ แม้จะล่าช้า แต่ Micron ยังยืนยันเป้าหมายเดิมในการผลิต DRAM ให้ได้ 40% ภายในสหรัฐฯ โดยการเร่งสร้างโรงงานในไอดาโฮจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิต HBM (High Bandwidth Memory) และเทคโนโลยีการแพ็กเกจขั้นสูงที่จำเป็นสำหรับยุค AI ✅ Micron เลื่อนแผนสร้างโรงงานในนิวยอร์กออกไป ➡️ โรงงานแรก (Fab 1) จะเริ่มผลิตในปี 2030 แทนปี 2025 ➡️ โรงงานสุดท้าย (Fab 4) จะเสร็จในปี 2045 ✅ โรงงานในไอดาโฮถูกเร่งสร้างให้เสร็จก่อน ➡️ Micron ปรับแผนการใช้เงินจาก CHIPS Act ➡️ ย้ายงบประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์จากนิวยอร์กไปไอดาโฮ ✅ ปัญหาหลักคือแรงงานและระยะเวลาก่อสร้าง ➡️ การก่อสร้างโรงงานใช้เวลานานขึ้นกว่าที่คาด ➡️ ส่งผลให้ต้องปรับแผนการดำเนินงานและการจ้างงาน ✅ Micron ยังยืนยันเป้าหมายผลิต DRAM ในสหรัฐฯ ➡️ ตั้งเป้าผลิต DRAM ให้ได้ 40% ภายในประเทศ ➡️ โรงงานในไอดาโฮจะช่วยเพิ่มกำลังผลิต HBM และเทคโนโลยีแพ็กเกจขั้นสูง https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/microns-new-york-chipmaking-fabs-by-five-years-but-accelerates-second-fab-in-idaho-and-reallocates-chips-act-funding
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • “SanDisk ขึ้นราคาหน่วยความจำ 50% – AI ดันตลาดร้อนแรงจนผู้ผลิตต้องหยุดส่งของ!”

    SanDisk ปรับราคาหน่วยความจำขึ้น 50%! ตลาด NAND และ DRAM ร้อนแรงจากความต้องการ AI SanDisk ขึ้นราคาสัญญา NAND flash ถึง 50% ในเดือนพฤศจิกายน 2025 สะท้อนภาวะตลาดหน่วยความจำที่ตึงตัวจากความต้องการของศูนย์ข้อมูล AI และการผลิตที่จำกัด

    ในเดือนพฤศจิกายน 2025 SanDisk ได้ปรับราคาสัญญา NAND flash ขึ้นถึง 50% ตามรายงานของ DigiTimes Asia โดยมีสาเหตุหลักจากความต้องการหน่วยความจำที่พุ่งสูงจากศูนย์ข้อมูล AI และการผลิตที่จำกัดจากโรงงาน wafer fabs

    การปรับราคานี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อซัพพลายเชน โดยผู้ผลิตโมดูลหน่วยความจำอย่าง Transcend, Innodisk และ Apacer ต้องหยุดการเสนอราคาและการจัดส่งชั่วคราวเพื่อประเมินสถานการณ์ใหม่ Transcend ถึงขั้นหยุดส่งของตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน พร้อมคาดการณ์ว่าราคาจะยังคงปรับขึ้นต่อไป

    รายงานยังเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของผู้ผลิตเหล่านี้ที่เติบโตอย่างมาก เช่น Transcend มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 334% จากปีก่อน ขณะที่ Innodisk และ Apacer ก็มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว สะท้อนว่าผู้ผลิตหน่วยความจำกำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากภาวะขาดแคลน

    โรงงานผลิตชิปกำลังหันไปผลิต DRAM ประสิทธิภาพสูง เช่น DDR5 และ HBM สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI และ HPC ทำให้ DDR4 ซึ่งยังจำเป็นต่อระบบอุตสาหกรรมและองค์กร ขาดตลาดและราคาพุ่งตามไปด้วย

    สถานการณ์นี้อาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 หากความต้องการจาก AI ยังคงสูง และผู้ผลิตไม่เพิ่มกำลังการผลิตในเร็ววัน

    SanDisk ปรับราคาสัญญา NAND flash ขึ้น 50%
    มีผลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2025
    สาเหตุจากความต้องการสูงและการผลิตจำกัด
    ส่งผลให้ผู้ผลิตโมดูลหยุดเสนอราคาและจัดส่ง

    ผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ได้รับผลดี
    Transcend กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 334%
    Innodisk รายได้เพิ่ม 64% และกำไรเพิ่ม 250%
    Apacer รายได้เพิ่ม 70% จากปีก่อน

    โรงงาน wafer fabs หันไปผลิต DRAM ประสิทธิภาพสูง
    เน้น DDR5 และ HBM สำหรับ AI และ HPC
    ทำให้ DDR4 ขาดตลาดและราคาพุ่ง

    แนวโน้มตลาดหน่วยความจำ
    ราคายังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ
    อาจยืดเยื้อถึงปี 2026 หาก AI ยังขยายตัว

    คำเตือนสำหรับผู้บริโภคและองค์กร
    ราคาหน่วยความจำอาจยังไม่ลดในระยะสั้น
    การอัปเกรดหรือขยายระบบควรรีบตัดสินใจก่อนราคาขึ้นอีก

    ความเสี่ยงจากการขาดแคลน DDR4
    อาจกระทบระบบอุตสาหกรรมที่ยังใช้ DDR4
    การเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ต้องปรับระบบและงบประมาณ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/sandisk-reportedly-jacks-up-flash-prices-by-50-percent-as-memory-makers-cash-in-on-ai-fueled-demand
    💸 “SanDisk ขึ้นราคาหน่วยความจำ 50% – AI ดันตลาดร้อนแรงจนผู้ผลิตต้องหยุดส่งของ!” SanDisk ปรับราคาหน่วยความจำขึ้น 50%! ตลาด NAND และ DRAM ร้อนแรงจากความต้องการ AI SanDisk ขึ้นราคาสัญญา NAND flash ถึง 50% ในเดือนพฤศจิกายน 2025 สะท้อนภาวะตลาดหน่วยความจำที่ตึงตัวจากความต้องการของศูนย์ข้อมูล AI และการผลิตที่จำกัด ในเดือนพฤศจิกายน 2025 SanDisk ได้ปรับราคาสัญญา NAND flash ขึ้นถึง 50% ตามรายงานของ DigiTimes Asia โดยมีสาเหตุหลักจากความต้องการหน่วยความจำที่พุ่งสูงจากศูนย์ข้อมูล AI และการผลิตที่จำกัดจากโรงงาน wafer fabs การปรับราคานี้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อซัพพลายเชน โดยผู้ผลิตโมดูลหน่วยความจำอย่าง Transcend, Innodisk และ Apacer ต้องหยุดการเสนอราคาและการจัดส่งชั่วคราวเพื่อประเมินสถานการณ์ใหม่ Transcend ถึงขั้นหยุดส่งของตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน พร้อมคาดการณ์ว่าราคาจะยังคงปรับขึ้นต่อไป รายงานยังเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของผู้ผลิตเหล่านี้ที่เติบโตอย่างมาก เช่น Transcend มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 334% จากปีก่อน ขณะที่ Innodisk และ Apacer ก็มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว สะท้อนว่าผู้ผลิตหน่วยความจำกำลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากภาวะขาดแคลน โรงงานผลิตชิปกำลังหันไปผลิต DRAM ประสิทธิภาพสูง เช่น DDR5 และ HBM สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI และ HPC ทำให้ DDR4 ซึ่งยังจำเป็นต่อระบบอุตสาหกรรมและองค์กร ขาดตลาดและราคาพุ่งตามไปด้วย สถานการณ์นี้อาจยืดเยื้อไปถึงปี 2026 หากความต้องการจาก AI ยังคงสูง และผู้ผลิตไม่เพิ่มกำลังการผลิตในเร็ววัน ✅ SanDisk ปรับราคาสัญญา NAND flash ขึ้น 50% ➡️ มีผลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2025 ➡️ สาเหตุจากความต้องการสูงและการผลิตจำกัด ➡️ ส่งผลให้ผู้ผลิตโมดูลหยุดเสนอราคาและจัดส่ง ✅ ผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ได้รับผลดี ➡️ Transcend กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 334% ➡️ Innodisk รายได้เพิ่ม 64% และกำไรเพิ่ม 250% ➡️ Apacer รายได้เพิ่ม 70% จากปีก่อน ✅ โรงงาน wafer fabs หันไปผลิต DRAM ประสิทธิภาพสูง ➡️ เน้น DDR5 และ HBM สำหรับ AI และ HPC ➡️ ทำให้ DDR4 ขาดตลาดและราคาพุ่ง ✅ แนวโน้มตลาดหน่วยความจำ ➡️ ราคายังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ ➡️ อาจยืดเยื้อถึงปี 2026 หาก AI ยังขยายตัว ‼️ คำเตือนสำหรับผู้บริโภคและองค์กร ⛔ ราคาหน่วยความจำอาจยังไม่ลดในระยะสั้น ⛔ การอัปเกรดหรือขยายระบบควรรีบตัดสินใจก่อนราคาขึ้นอีก ‼️ ความเสี่ยงจากการขาดแคลน DDR4 ⛔ อาจกระทบระบบอุตสาหกรรมที่ยังใช้ DDR4 ⛔ การเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ต้องปรับระบบและงบประมาณ https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/sandisk-reportedly-jacks-up-flash-prices-by-50-percent-as-memory-makers-cash-in-on-ai-fueled-demand
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    SanDisk reportedly jacks up flash prices by 50% as memory makers cash in on AI-fueled demand
    This move underscores a rapidly tightening memory market, affecting both flash and DRAM.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่นเร่งขยายกำลังผลิตวัสดุโฟโตเรซิสและ MOR รองรับเทคโนโลยีลิธอกราฟี EUV ขนาด 2 นาโนเมตร

    ญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อรองรับยุคใหม่ของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับ 2 นาโนเมตร ด้วยการลงทุนขยายโรงงานผลิตวัสดุโฟโตเรซิส (Photoresist) และโลหะออกไซด์เรซิส (MOR) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการลิธอกราฟีแบบ EUV (Extreme Ultraviolet Lithography)

    บริษัทชั้นนำอย่าง Tokyo Ohka Kogyo (TOK), Adeka และ JSR ต่างทุ่มงบประมาณหลายหมื่นล้านเยนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและพัฒนาคุณภาพของวัสดุที่ใช้ในกระบวนการนี้ โดยเฉพาะ MOR ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในการดูดซับแสง EUV ได้ดีขึ้น ช่วยให้การถ่ายโอนลวดลายบนเวเฟอร์มีความแม่นยำและทนต่อการกัดกร่อนมากขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในสารเคมีความบริสุทธิ์สูง เช่น ตัวทำละลาย น้ำยาทำความสะอาด และสารลดแรงตึงผิว ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการปนเปื้อนและการระเหยในกระบวนการ EUV ที่ละเอียดอ่อน

    จุดที่น่าสนใจเพิ่มเติม:
    MOR เป็นวัสดุที่มีส่วนผสมของโลหะ ซึ่งช่วยเพิ่มการดูดซับแสง EUV ได้มากกว่าวัสดุอินทรีย์ทั่วไป
    ญี่ปุ่นครองส่วนแบ่งตลาดโฟโตเรซิสระดับสูงถึง 91% ทั่วโลก
    การผลิต EUV ต้องการความแม่นยำสูงมาก เพราะแม้แต่การปนเปื้อนเล็กน้อยก็อาจทำให้เวเฟอร์เสียหาย

    ญี่ปุ่นลงทุนขยายกำลังผลิตวัสดุสำหรับ EUV
    TOK ลงทุน ¥20 พันล้านในโรงงานใหม่ที่เกาหลีใต้ และอีก ¥12 พันล้านในโรงงานสารเคมีบริสุทธิ์
    Adeka ลงทุน ¥3.2 พันล้านเพื่อผลิต MOR ที่โรงงานอิบารากิ เริ่มผลิตปี 2028
    JSR เตรียมเปิดโรงงาน MOR ในเกาหลีใต้ภายในปี 2026

    วัสดุ MOR มีบทบาทสำคัญในเทคโนโลยี EUV
    เพิ่มการดูดซับแสง EUV ลดปริมาณแสงที่ต้องใช้
    ช่วยให้ลวดลายมีความคมชัดและทนต่อการกัดกร่อน

    สารเคมีบริสุทธิ์มีความสำคัญต่อกระบวนการ EUV
    ใช้ควบคุมการปนเปื้อนและการระเหยที่อาจส่งผลต่อคุณภาพเวเฟอร์

    ญี่ปุ่นมีความได้เปรียบในตลาดโฟโตเรซิส
    ครองส่วนแบ่งตลาดระดับสูงถึง 91% ทั่วโลก

    ความท้าทายของเทคโนโลยี EUV
    ความไวของเรซิสต่อแสง EUV อาจลดความละเอียดของลวดลาย
    การควบคุมการปนเปื้อนต้องแม่นยำสูง เพราะส่งผลต่ออายุการใช้งานของหน้ากากและคุณภาพเวเฟอร์

    ประเทศอื่นยังตามหลังในด้าน MOR และสารเคมี EUV
    แม้จะพัฒนาเทคโนโลยี i-line/KrF ได้ดี แต่ยังไม่สามารถแข่งขันในระดับ EUV ได้

    https://www.techpowerup.com/342676/japan-ramps-up-photoresist-and-mor-capacity-for-2-nm-euv-lithography
    🧪 ญี่ปุ่นเร่งขยายกำลังผลิตวัสดุโฟโตเรซิสและ MOR รองรับเทคโนโลยีลิธอกราฟี EUV ขนาด 2 นาโนเมตร ญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อรองรับยุคใหม่ของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับ 2 นาโนเมตร ด้วยการลงทุนขยายโรงงานผลิตวัสดุโฟโตเรซิส (Photoresist) และโลหะออกไซด์เรซิส (MOR) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการลิธอกราฟีแบบ EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) บริษัทชั้นนำอย่าง Tokyo Ohka Kogyo (TOK), Adeka และ JSR ต่างทุ่มงบประมาณหลายหมื่นล้านเยนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและพัฒนาคุณภาพของวัสดุที่ใช้ในกระบวนการนี้ โดยเฉพาะ MOR ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในการดูดซับแสง EUV ได้ดีขึ้น ช่วยให้การถ่ายโอนลวดลายบนเวเฟอร์มีความแม่นยำและทนต่อการกัดกร่อนมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในสารเคมีความบริสุทธิ์สูง เช่น ตัวทำละลาย น้ำยาทำความสะอาด และสารลดแรงตึงผิว ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการปนเปื้อนและการระเหยในกระบวนการ EUV ที่ละเอียดอ่อน 📌 จุดที่น่าสนใจเพิ่มเติม: 💠 MOR เป็นวัสดุที่มีส่วนผสมของโลหะ ซึ่งช่วยเพิ่มการดูดซับแสง EUV ได้มากกว่าวัสดุอินทรีย์ทั่วไป 💠 ญี่ปุ่นครองส่วนแบ่งตลาดโฟโตเรซิสระดับสูงถึง 91% ทั่วโลก 💠 การผลิต EUV ต้องการความแม่นยำสูงมาก เพราะแม้แต่การปนเปื้อนเล็กน้อยก็อาจทำให้เวเฟอร์เสียหาย ✅ ญี่ปุ่นลงทุนขยายกำลังผลิตวัสดุสำหรับ EUV ➡️ TOK ลงทุน ¥20 พันล้านในโรงงานใหม่ที่เกาหลีใต้ และอีก ¥12 พันล้านในโรงงานสารเคมีบริสุทธิ์ ➡️ Adeka ลงทุน ¥3.2 พันล้านเพื่อผลิต MOR ที่โรงงานอิบารากิ เริ่มผลิตปี 2028 ➡️ JSR เตรียมเปิดโรงงาน MOR ในเกาหลีใต้ภายในปี 2026 ✅ วัสดุ MOR มีบทบาทสำคัญในเทคโนโลยี EUV ➡️ เพิ่มการดูดซับแสง EUV ลดปริมาณแสงที่ต้องใช้ ➡️ ช่วยให้ลวดลายมีความคมชัดและทนต่อการกัดกร่อน ✅ สารเคมีบริสุทธิ์มีความสำคัญต่อกระบวนการ EUV ➡️ ใช้ควบคุมการปนเปื้อนและการระเหยที่อาจส่งผลต่อคุณภาพเวเฟอร์ ✅ ญี่ปุ่นมีความได้เปรียบในตลาดโฟโตเรซิส ➡️ ครองส่วนแบ่งตลาดระดับสูงถึง 91% ทั่วโลก ‼️ ความท้าทายของเทคโนโลยี EUV ⛔ ความไวของเรซิสต่อแสง EUV อาจลดความละเอียดของลวดลาย ⛔ การควบคุมการปนเปื้อนต้องแม่นยำสูง เพราะส่งผลต่ออายุการใช้งานของหน้ากากและคุณภาพเวเฟอร์ ‼️ ประเทศอื่นยังตามหลังในด้าน MOR และสารเคมี EUV ⛔ แม้จะพัฒนาเทคโนโลยี i-line/KrF ได้ดี แต่ยังไม่สามารถแข่งขันในระดับ EUV ได้ https://www.techpowerup.com/342676/japan-ramps-up-photoresist-and-mor-capacity-for-2-nm-euv-lithography
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Japan Ramps Up Photoresist and MOR Capacity for 2 nm EUV Lithography
    As the 2 nm-class nodes are starting to enter volume production, Japanese material suppliers are expanding the capacity of EUV-capable resists and high-purity process chemicals, according to Nikkei. Tokyo Ohka Kogyo (TOK), Adeka, and JSR are building or upgrading fabs for photoresists and metal-oxid...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tesla เปิดตัวชิป AI5 รุ่นใหม่ – เร็วกว่าเดิม 40 เท่า พร้อมผลิตโดย Samsung และ TSMC

    Elon Musk ประกาศว่า Tesla ได้พัฒนาชิป AI5 รุ่นใหม่สำหรับระบบปัญญาประดิษฐ์ในรถยนต์ โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนถึง 40 เท่า! ชิปนี้จะถูกผลิตโดยสองยักษ์ใหญ่ในวงการเซมิคอนดักเตอร์คือ Samsung และ TSMC ซึ่งถือเป็นการยกระดับเทคโนโลยีของ Tesla ไปอีกขั้น

    ชิป AI5 รุ่นใหม่นี้จะถูกนำไปใช้ในระบบ Full Self-Driving (FSD) และ Dojo ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มฝึกโมเดล AI ของ Tesla โดยเน้นการประมวลผลแบบ edge computing ที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพา cloud ตลอดเวลา ชิปนี้ยังถูกออกแบบให้รองรับการประมวลผลแบบ real-time สำหรับการขับขี่อัตโนมัติ และการวิเคราะห์ภาพจากกล้องหลายตัวในรถ

    การร่วมมือกับ Samsung และ TSMC ไม่เพียงแต่ช่วยให้ Tesla สามารถผลิตชิปได้ในปริมาณมาก แต่ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงด้าน supply chain ในช่วงที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกยังเผชิญกับความไม่แน่นอน

    การเปิดตัวชิป AI5 รุ่นใหม่ของ Tesla
    มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนถึง 40 เท่า
    ใช้ในระบบ Full Self-Driving (FSD) และ Dojo
    รองรับการประมวลผลแบบ edge computing และ real-time
    ออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์ภาพจากกล้องหลายตัวในรถ

    ความร่วมมือกับผู้ผลิตชิป
    ผลิตโดย Samsung และ TSMC
    ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตและลดความเสี่ยงด้าน supply chain
    ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เช่น 2nm และ 3nm

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์
    ยกระดับความสามารถของรถยนต์ Tesla ในการขับขี่อัตโนมัติ
    เพิ่มความแม่นยำและความเร็วในการประมวลผลข้อมูลจากเซนเซอร์
    อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการแข่งขันด้าน AI ในรถยนต์

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    การผลิตชิปขั้นสูงต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง
    ความล่าช้าในการผลิตอาจกระทบต่อการเปิดตัวรถรุ่นใหม่
    การพึ่งพาผู้ผลิตภายนอกอาจมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ supply chain
    หากระบบ FSD ยังไม่ผ่านการรับรองในหลายประเทศ อาจจำกัดการใช้งานจริง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/elon-musk-claims-teslas-new-ai5-chip-is-40x-more-performant-than-previous-gen-ai5-next-gen-custom-silicon-for-vehicle-ai-to-now-be-built-by-samsung-and-tsmc
    🚗 Tesla เปิดตัวชิป AI5 รุ่นใหม่ – เร็วกว่าเดิม 40 เท่า พร้อมผลิตโดย Samsung และ TSMC Elon Musk ประกาศว่า Tesla ได้พัฒนาชิป AI5 รุ่นใหม่สำหรับระบบปัญญาประดิษฐ์ในรถยนต์ โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนถึง 40 เท่า! ชิปนี้จะถูกผลิตโดยสองยักษ์ใหญ่ในวงการเซมิคอนดักเตอร์คือ Samsung และ TSMC ซึ่งถือเป็นการยกระดับเทคโนโลยีของ Tesla ไปอีกขั้น ชิป AI5 รุ่นใหม่นี้จะถูกนำไปใช้ในระบบ Full Self-Driving (FSD) และ Dojo ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มฝึกโมเดล AI ของ Tesla โดยเน้นการประมวลผลแบบ edge computing ที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพา cloud ตลอดเวลา ชิปนี้ยังถูกออกแบบให้รองรับการประมวลผลแบบ real-time สำหรับการขับขี่อัตโนมัติ และการวิเคราะห์ภาพจากกล้องหลายตัวในรถ การร่วมมือกับ Samsung และ TSMC ไม่เพียงแต่ช่วยให้ Tesla สามารถผลิตชิปได้ในปริมาณมาก แต่ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงด้าน supply chain ในช่วงที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกยังเผชิญกับความไม่แน่นอน ✅ การเปิดตัวชิป AI5 รุ่นใหม่ของ Tesla ➡️ มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนถึง 40 เท่า ➡️ ใช้ในระบบ Full Self-Driving (FSD) และ Dojo ➡️ รองรับการประมวลผลแบบ edge computing และ real-time ➡️ ออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์ภาพจากกล้องหลายตัวในรถ ✅ ความร่วมมือกับผู้ผลิตชิป ➡️ ผลิตโดย Samsung และ TSMC ➡️ ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตและลดความเสี่ยงด้าน supply chain ➡️ ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง เช่น 2nm และ 3nm ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ ➡️ ยกระดับความสามารถของรถยนต์ Tesla ในการขับขี่อัตโนมัติ ➡️ เพิ่มความแม่นยำและความเร็วในการประมวลผลข้อมูลจากเซนเซอร์ ➡️ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการแข่งขันด้าน AI ในรถยนต์ ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ การผลิตชิปขั้นสูงต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง ⛔ ความล่าช้าในการผลิตอาจกระทบต่อการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ⛔ การพึ่งพาผู้ผลิตภายนอกอาจมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงของ supply chain ⛔ หากระบบ FSD ยังไม่ผ่านการรับรองในหลายประเทศ อาจจำกัดการใช้งานจริง https://www.tomshardware.com/tech-industry/elon-musk-claims-teslas-new-ai5-chip-is-40x-more-performant-than-previous-gen-ai5-next-gen-custom-silicon-for-vehicle-ai-to-now-be-built-by-samsung-and-tsmc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แว่นตาอัจฉริยะจะมาแทนสมาร์ตโฟน? EssilorLuxottica และ Meta เดินหน้าผลิต 10 ล้านชิ้นต่อปี แม้ตลาดยังไม่พร้อม”

    Francesco Milleri ซีอีโอของ EssilorLuxottica ผู้ผลิตแว่นตารายใหญ่ของโลกและพันธมิตรหลักของ Meta ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า “แว่นตาอัจฉริยะจะกลายเป็นอุปกรณ์หลักในชีวิตของผู้คน และอาจแทนที่สมาร์ตโฟนในอนาคตอันใกล้” โดยเขาเชื่อว่าเราจะได้เห็น “ชุมชนขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันผ่านแว่นตาอัจฉริยะหลายร้อยล้านชิ้น”

    เพื่อเตรียมรับความต้องการนี้ EssilorLuxottica ได้เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 10 ล้านชิ้นต่อปีภายในสิ้นปี 2026 โดยไม่เพียงรองรับ Meta เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแว่นตา Nuance Audio ที่มีฟังก์ชันช่วยการได้ยินด้วย

    อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า “ความฝันนี้ยังห่างไกลจากความเป็นจริง” เพราะยอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลกยังสูงมาก เช่น Apple ขาย iPhone ได้ถึง 232 ล้านเครื่องในปี 2024 ขณะที่ตลาดรวมของแว่นตาอัจฉริยะคาดว่าจะอยู่ที่ 60 ล้านชิ้นภายในปี 2035 เท่านั้น

    Meta เองก็เร่งพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่ เช่น Ray-Ban Display ที่มีหน้าจอในตัว ความสว่างสูงถึง 5,000 nits และระบบควบคุมผ่าน EMG (electromyography) ที่ตรวจจับสัญญาณจากมือเพื่อสั่งงานด้วยท่าทาง โดยแว่นตารุ่นนี้วางขายแล้วในราคา $799

    Apple ถึงกับหยุดพัฒนา Vision Pro รุ่นใหม่ เพื่อหันมาโฟกัสกับแว่นตาอัจฉริยะที่ใช้ AI เช่นกัน ซึ่งสะท้อนว่าเทรนด์นี้กำลังมาแรง แม้จะยังไม่พร้อมแทนที่สมาร์ตโฟนในเร็ววัน

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    EssilorLuxottica เพิ่มกำลังการผลิตแว่นตาอัจฉริยะเป็น 10 ล้านชิ้นต่อปีภายในปี 2026
    Francesco Milleri เชื่อว่าแว่นตาอัจฉริยะจะมาแทนสมาร์ตโฟนในอนาคต
    Nuance Audio เป็นแว่นตาที่รวมเทคโนโลยีช่วยการได้ยิน
    ตลาดรวมของแว่นตาอัจฉริยะคาดว่าจะอยู่ที่ 60 ล้านชิ้นภายในปี 2035
    Apple ขาย iPhone ได้ 232 ล้านเครื่องในปี 2024
    Meta เปิดตัว Ray-Ban Display ที่มีหน้าจอในตัวและระบบควบคุมด้วย EMG
    Ray-Ban Display วางขายแล้วในราคา $799
    Apple หยุดพัฒนา Vision Pro รุ่นใหม่เพื่อหันไปโฟกัสกับแว่นตา AI

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    EMG คือเทคโนโลยีที่ตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อเพื่อควบคุมอุปกรณ์
    Ray-Ban Meta Gen 2 มีแบตเตอรี่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง และกล้อง 12MP ถ่ายวิดีโอ 3K
    Oakley Meta Vanguard เป็นแว่นตาอัจฉริยะสำหรับนักกีฬา พร้อมลำโพงและกล้องมุมกว้าง
    แว่นตาอัจฉริยะสามารถใช้เลนส์สายตาแบบ Transitions Gen S ได้
    Meta และ EssilorLuxottica มีแผนขยายผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มแฟชั่นและสุขภาพ

    https://wccftech.com/essilorluxottica-ceo-sees-smart-glasses-replacing-smartphones-but-there-is-a-disconnect-in-the-numbers/
    👓 “แว่นตาอัจฉริยะจะมาแทนสมาร์ตโฟน? EssilorLuxottica และ Meta เดินหน้าผลิต 10 ล้านชิ้นต่อปี แม้ตลาดยังไม่พร้อม” Francesco Milleri ซีอีโอของ EssilorLuxottica ผู้ผลิตแว่นตารายใหญ่ของโลกและพันธมิตรหลักของ Meta ได้ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า “แว่นตาอัจฉริยะจะกลายเป็นอุปกรณ์หลักในชีวิตของผู้คน และอาจแทนที่สมาร์ตโฟนในอนาคตอันใกล้” โดยเขาเชื่อว่าเราจะได้เห็น “ชุมชนขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกันผ่านแว่นตาอัจฉริยะหลายร้อยล้านชิ้น” เพื่อเตรียมรับความต้องการนี้ EssilorLuxottica ได้เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 10 ล้านชิ้นต่อปีภายในสิ้นปี 2026 โดยไม่เพียงรองรับ Meta เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแว่นตา Nuance Audio ที่มีฟังก์ชันช่วยการได้ยินด้วย อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า “ความฝันนี้ยังห่างไกลจากความเป็นจริง” เพราะยอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลกยังสูงมาก เช่น Apple ขาย iPhone ได้ถึง 232 ล้านเครื่องในปี 2024 ขณะที่ตลาดรวมของแว่นตาอัจฉริยะคาดว่าจะอยู่ที่ 60 ล้านชิ้นภายในปี 2035 เท่านั้น Meta เองก็เร่งพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่ เช่น Ray-Ban Display ที่มีหน้าจอในตัว ความสว่างสูงถึง 5,000 nits และระบบควบคุมผ่าน EMG (electromyography) ที่ตรวจจับสัญญาณจากมือเพื่อสั่งงานด้วยท่าทาง โดยแว่นตารุ่นนี้วางขายแล้วในราคา $799 Apple ถึงกับหยุดพัฒนา Vision Pro รุ่นใหม่ เพื่อหันมาโฟกัสกับแว่นตาอัจฉริยะที่ใช้ AI เช่นกัน ซึ่งสะท้อนว่าเทรนด์นี้กำลังมาแรง แม้จะยังไม่พร้อมแทนที่สมาร์ตโฟนในเร็ววัน ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ EssilorLuxottica เพิ่มกำลังการผลิตแว่นตาอัจฉริยะเป็น 10 ล้านชิ้นต่อปีภายในปี 2026 ➡️ Francesco Milleri เชื่อว่าแว่นตาอัจฉริยะจะมาแทนสมาร์ตโฟนในอนาคต ➡️ Nuance Audio เป็นแว่นตาที่รวมเทคโนโลยีช่วยการได้ยิน ➡️ ตลาดรวมของแว่นตาอัจฉริยะคาดว่าจะอยู่ที่ 60 ล้านชิ้นภายในปี 2035 ➡️ Apple ขาย iPhone ได้ 232 ล้านเครื่องในปี 2024 ➡️ Meta เปิดตัว Ray-Ban Display ที่มีหน้าจอในตัวและระบบควบคุมด้วย EMG ➡️ Ray-Ban Display วางขายแล้วในราคา $799 ➡️ Apple หยุดพัฒนา Vision Pro รุ่นใหม่เพื่อหันไปโฟกัสกับแว่นตา AI ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ EMG คือเทคโนโลยีที่ตรวจจับสัญญาณไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อเพื่อควบคุมอุปกรณ์ ➡️ Ray-Ban Meta Gen 2 มีแบตเตอรี่ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง และกล้อง 12MP ถ่ายวิดีโอ 3K ➡️ Oakley Meta Vanguard เป็นแว่นตาอัจฉริยะสำหรับนักกีฬา พร้อมลำโพงและกล้องมุมกว้าง ➡️ แว่นตาอัจฉริยะสามารถใช้เลนส์สายตาแบบ Transitions Gen S ได้ ➡️ Meta และ EssilorLuxottica มีแผนขยายผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มแฟชั่นและสุขภาพ https://wccftech.com/essilorluxottica-ceo-sees-smart-glasses-replacing-smartphones-but-there-is-a-disconnect-in-the-numbers/
    WCCFTECH.COM
    EssilorLuxottica CEO Sees Smart Glasses Replacing Smartphones, But There Is A Disconnect In The Numbers
    Most analyst see the TAM for smart glasses rising to 60 million units by 2035, which pales in comparison to the global smartphone sales.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัพเกรดโรงงานของคุณด้วยเครื่องขอดเกล็ดปลา 3HP ตัวจริง!
    เครื่องของเราถูกออกแบบมาเพื่อ สู้กับงานหนักต่อเนื่อง ตอบโจทย์ทุกธุรกิจแปรรูปปลา:

    แรงทะลุพิกัด: มอเตอร์ 3 แรงม้า ใช้ไฟ 380V (3 เฟส) มั่นใจได้ว่าขอดเกล็ดปลาจำนวนมากได้ไวและต่อเนื่อง ไม่มีงอแง!
    ระบบลูกกลิ้งขอดเกล็ดปลาทำงานร่วมกันอย่างทรงพลัง ทำให้เกล็ดหลุดมากกว่า 80%
    มาตรฐานระดับโลก: เครื่องจักรผลิตจาก สแตนเลส 304 ทั้งตัว ได้รับการรับรอง CE และรองรับ GMP/HACCP มั่นใจเรื่องความสะอาด ถูกสุขอนามัย
    บำรุงรักษาง่าย: ออกแบบให้ ถอดประกอบทำความสะอาดง่าย และมีช่องเซอร์วิสพร้อมคำแนะนำการหล่อลื่น เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

    สเปคเครื่อง (YFS-700-HBX-S):
    กำลังไฟ: 3 HP
    ขนาด: 1250 x 550 x 850 mm
    น้ำหนัก: 150 KG

    หยุดใช้แรงงานคน แล้วมาใช้ขุมพลังของเครื่องจักรคุณภาพ! ประหยัดเวลา ลดต้นทุน เพิ่มกำลังการผลิตทันที!

    อย่ารอช้า! มาดูเครื่องจริงและปรึกษาเราได้เลย:

    ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.)
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    แชท: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com

    #ปลานิล #ขอดเกล็ดปลานิล #เครื่องขอดเกล็ดปลา #เครื่องขอดเกล็ดอัตโนมัติ #Tilapia #TilapiaProcessing #FishScalingMachine #เครื่องแปรรูปปลา #โรงงานแปรรูปปลา #ฟาร์มปลานิล #การเลี้ยงปลานิล #ธุรกิจอาหารทะเล #ตลาดปลา #ร้านอาหารปลา #เตรียมปลา #ทำความสะอาดปลา #วิธีขอดเกล็ดปลา #ปลาสด #อุตสาหกรรมปลา #เครื่องจักรขอดเกล็ด #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #ประหยัดแรงงาน #เพิ่มกำลังการผลิต #เครื่องครัวสแตนเลส #ย่งฮะเฮง #SUS304 #เครื่องมือประมง #ลดขั้นตอนการทำปลา #ครัวมืออาชีพ #พร้อมใช้งาน
    ✨ อัพเกรดโรงงานของคุณด้วยเครื่องขอดเกล็ดปลา 3HP ตัวจริง! ✨ เครื่องของเราถูกออกแบบมาเพื่อ สู้กับงานหนักต่อเนื่อง ตอบโจทย์ทุกธุรกิจแปรรูปปลา: ✅ แรงทะลุพิกัด: มอเตอร์ 3 แรงม้า ใช้ไฟ 380V (3 เฟส) มั่นใจได้ว่าขอดเกล็ดปลาจำนวนมากได้ไวและต่อเนื่อง ไม่มีงอแง! ✅ ระบบลูกกลิ้งขอดเกล็ดปลาทำงานร่วมกันอย่างทรงพลัง ทำให้เกล็ดหลุดมากกว่า 80% ✅ มาตรฐานระดับโลก: เครื่องจักรผลิตจาก สแตนเลส 304 ทั้งตัว ได้รับการรับรอง CE และรองรับ GMP/HACCP มั่นใจเรื่องความสะอาด ถูกสุขอนามัย ✅ บำรุงรักษาง่าย: ออกแบบให้ ถอดประกอบทำความสะอาดง่าย และมีช่องเซอร์วิสพร้อมคำแนะนำการหล่อลื่น เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน สเปคเครื่อง (YFS-700-HBX-S): กำลังไฟ: 3 HP ขนาด: 1250 x 550 x 850 mm น้ำหนัก: 150 KG หยุดใช้แรงงานคน แล้วมาใช้ขุมพลังของเครื่องจักรคุณภาพ! ประหยัดเวลา ลดต้นทุน เพิ่มกำลังการผลิตทันที! 🛒 อย่ารอช้า! มาดูเครื่องจริงและปรึกษาเราได้เลย: ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.) แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 แชท: m.me/yonghahheng LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com #ปลานิล #ขอดเกล็ดปลานิล #เครื่องขอดเกล็ดปลา #เครื่องขอดเกล็ดอัตโนมัติ #Tilapia #TilapiaProcessing #FishScalingMachine #เครื่องแปรรูปปลา #โรงงานแปรรูปปลา #ฟาร์มปลานิล #การเลี้ยงปลานิล #ธุรกิจอาหารทะเล #ตลาดปลา #ร้านอาหารปลา #เตรียมปลา #ทำความสะอาดปลา #วิธีขอดเกล็ดปลา #ปลาสด #อุตสาหกรรมปลา #เครื่องจักรขอดเกล็ด #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #ประหยัดแรงงาน #เพิ่มกำลังการผลิต #เครื่องครัวสแตนเลส #ย่งฮะเฮง #SUS304 #เครื่องมือประมง #ลดขั้นตอนการทำปลา #ครัวมืออาชีพ #พร้อมใช้งาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1536 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI กินไม่หยุด — ตลาด HDD และ SSD ขาดแคลนทั่วโลก หลังความต้องการเก็บข้อมูลพุ่งทะลุเพดาน”

    ในขณะที่โลกกำลังตื่นเต้นกับการเติบโตของ AI โดยเฉพาะด้าน GPU ที่เป็นหัวใจของการประมวลผล แต่สิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามคือ “พื้นที่จัดเก็บข้อมูล” ที่กำลังถูก AI กลืนกินอย่างเงียบ ๆ ทั้ง HDD และ SSD กำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่ม nearline HDD ที่ใช้เก็บข้อมูลแบบ “อุ่น” — ไม่ต้องเข้าถึงตลอดเวลา แต่ก็ต้องพร้อมใช้งานเมื่อจำเป็น

    Western Digital ส่งจดหมายแจ้งลูกค้าว่าความต้องการ HDD ทุกขนาดพุ่งสูงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และประกาศขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ทันที เพื่อ “รองรับการเติบโต” ซึ่งแน่นอนว่าก็ช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทไปด้วยในตัว

    TrendForce รายงานว่าเวลารอสินค้าสำหรับ nearline HDD ตอนนี้ยาวถึง 52 สัปดาห์ — เกินหนึ่งปีเต็ม ซึ่งสะท้อนว่าผู้ผลิตไม่ได้เพิ่มกำลังการผลิตมานานนับทศวรรษ ขณะที่ AI โดยเฉพาะ generative AI ต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมหาศาล ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์จากโมเดล แต่รวมถึงชุดข้อมูลสำหรับเทรน, checkpoint, log, และข้อมูลย้อนหลังที่ต้องเก็บไว้เพื่อการตรวจสอบและปรับปรุงโมเดลในอนาคต

    เมื่อ HDD ไม่พอใช้ ผู้ให้บริการคลาวด์ (CSPs) จึงหันไปใช้ SSD โดยเฉพาะ QLC SSD สำหรับงาน cold data แม้จะมีต้นทุนสูงกว่า HDD ถึง 4–5 เท่า แต่ก็มีข้อดีเรื่องความเร็ว ความหนาแน่น และการใช้พลังงานที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไปใช้ SSD ยังต้องปรับระบบจัดการข้อมูลใหม่ทั้งหมด และอาจทำให้ราคาของ SSD โดยเฉพาะรุ่นสำหรับองค์กรพุ่งขึ้นอีก 5–10% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2025

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ความต้องการ HDD และ SSD พุ่งสูงจากการเติบโตของ AI โดยเฉพาะ generative AI
    Western Digital แจ้งลูกค้าเรื่องการขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ HDD
    เวลารอ nearline HDD ยาวถึง 52 สัปดาห์ — สะท้อนปัญหากำลังการผลิต
    AI ต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมหาศาล ทั้งผลลัพธ์และข้อมูลเบื้องหลัง

    การเปลี่ยนแปลงในตลาดและผลกระทบ
    CSPs หันไปใช้ QLC SSD สำหรับ cold data แทน HDD ที่ขาดแคลน
    SSD มีข้อดีเรื่องความเร็ว ความหนาแน่น และการใช้พลังงานต่ำ
    การเปลี่ยนไปใช้ SSD ต้องปรับระบบจัดการข้อมูลใหม่ทั้งหมด
    ราคาของ SSD สำหรับองค์กรอาจเพิ่มขึ้น 5–10% ในไตรมาส 4 ปี 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    QLC SSD มีอัตราการใช้พลังงานต่ำกว่าฮาร์ดดิสก์ประมาณ 30%
    HDD ยังเป็นตัวเลือกหลักสำหรับ cold storage เพราะราคาต่อ GB ต่ำกว่า SSD
    การขาดแคลน HDD เกิดจากการลดกำลังผลิตในปี 2023 เพื่อควบคุมราคาตลาด
    จอภาพ 1000Hz ยังไม่รองรับการใช้งานเฟรมเรตสูงจากการประมวลผล AI

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/expect-hdd-ssd-shortages-as-ai-rewrites-the-rules-of-storage-hierarchy-multiple-companies-announce-price-hikes-too
    📦 “AI กินไม่หยุด — ตลาด HDD และ SSD ขาดแคลนทั่วโลก หลังความต้องการเก็บข้อมูลพุ่งทะลุเพดาน” ในขณะที่โลกกำลังตื่นเต้นกับการเติบโตของ AI โดยเฉพาะด้าน GPU ที่เป็นหัวใจของการประมวลผล แต่สิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามคือ “พื้นที่จัดเก็บข้อมูล” ที่กำลังถูก AI กลืนกินอย่างเงียบ ๆ ทั้ง HDD และ SSD กำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่ม nearline HDD ที่ใช้เก็บข้อมูลแบบ “อุ่น” — ไม่ต้องเข้าถึงตลอดเวลา แต่ก็ต้องพร้อมใช้งานเมื่อจำเป็น Western Digital ส่งจดหมายแจ้งลูกค้าว่าความต้องการ HDD ทุกขนาดพุ่งสูงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และประกาศขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ทันที เพื่อ “รองรับการเติบโต” ซึ่งแน่นอนว่าก็ช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทไปด้วยในตัว TrendForce รายงานว่าเวลารอสินค้าสำหรับ nearline HDD ตอนนี้ยาวถึง 52 สัปดาห์ — เกินหนึ่งปีเต็ม ซึ่งสะท้อนว่าผู้ผลิตไม่ได้เพิ่มกำลังการผลิตมานานนับทศวรรษ ขณะที่ AI โดยเฉพาะ generative AI ต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมหาศาล ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์จากโมเดล แต่รวมถึงชุดข้อมูลสำหรับเทรน, checkpoint, log, และข้อมูลย้อนหลังที่ต้องเก็บไว้เพื่อการตรวจสอบและปรับปรุงโมเดลในอนาคต เมื่อ HDD ไม่พอใช้ ผู้ให้บริการคลาวด์ (CSPs) จึงหันไปใช้ SSD โดยเฉพาะ QLC SSD สำหรับงาน cold data แม้จะมีต้นทุนสูงกว่า HDD ถึง 4–5 เท่า แต่ก็มีข้อดีเรื่องความเร็ว ความหนาแน่น และการใช้พลังงานที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไปใช้ SSD ยังต้องปรับระบบจัดการข้อมูลใหม่ทั้งหมด และอาจทำให้ราคาของ SSD โดยเฉพาะรุ่นสำหรับองค์กรพุ่งขึ้นอีก 5–10% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2025 ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ความต้องการ HDD และ SSD พุ่งสูงจากการเติบโตของ AI โดยเฉพาะ generative AI ➡️ Western Digital แจ้งลูกค้าเรื่องการขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ HDD ➡️ เวลารอ nearline HDD ยาวถึง 52 สัปดาห์ — สะท้อนปัญหากำลังการผลิต ➡️ AI ต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมหาศาล ทั้งผลลัพธ์และข้อมูลเบื้องหลัง ✅ การเปลี่ยนแปลงในตลาดและผลกระทบ ➡️ CSPs หันไปใช้ QLC SSD สำหรับ cold data แทน HDD ที่ขาดแคลน ➡️ SSD มีข้อดีเรื่องความเร็ว ความหนาแน่น และการใช้พลังงานต่ำ ➡️ การเปลี่ยนไปใช้ SSD ต้องปรับระบบจัดการข้อมูลใหม่ทั้งหมด ➡️ ราคาของ SSD สำหรับองค์กรอาจเพิ่มขึ้น 5–10% ในไตรมาส 4 ปี 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ QLC SSD มีอัตราการใช้พลังงานต่ำกว่าฮาร์ดดิสก์ประมาณ 30% ➡️ HDD ยังเป็นตัวเลือกหลักสำหรับ cold storage เพราะราคาต่อ GB ต่ำกว่า SSD ➡️ การขาดแคลน HDD เกิดจากการลดกำลังผลิตในปี 2023 เพื่อควบคุมราคาตลาด ➡️ จอภาพ 1000Hz ยังไม่รองรับการใช้งานเฟรมเรตสูงจากการประมวลผล AI https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/expect-hdd-ssd-shortages-as-ai-rewrites-the-rules-of-storage-hierarchy-multiple-companies-announce-price-hikes-too
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Expect HDD, SSD shortages as AI rewrites the rules of storage hierarchy — multiple companies announce price hikes, too
    AI isn't just consuming the GPU market. It's eating storage, too — and the shockwaves are likely to hit both HDD and SSD markets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำธุรกิจต้องไว! เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ตัวเดียวจบทุกงาน!
    การทำผงวัตถุดิบแห้งให้ได้คุณภาพไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ช่วยให้การทำงานของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
    - ทรงพลัง: กำลังไฟ 1,400W บดได้ละเอียดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร เมล็ดกาแฟ หรือธัญพืช
    - รวดเร็ว: ความเร็ว 25,000 รอบ/นาที ประหยัดเวลาทำงาน เพิ่มกำลังการผลิต
    - คุ้มค่า: ความจุ 500g เหมาะสำหรับงานหลากหลาย ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง
    ลงทุนครั้งเดียว แต่คุ้มค่าเกินราคาแน่นอน!
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    แชท Facebook: m.me/yonghahheng
    LINE Business ID: @588okjbj (มี @ ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    E-mail: sales@yoryonghahheng.com และ yonghahheng@gmail.com
    เวลาเปิดทำการ:
    จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น.
    เสาร์: 8.00 - 16.00 น.
    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY #เครื่องบดสมุนไพร #บดแห้ง #เครื่องบดยา #ผงสมุนไพร #เครื่องบดอาหารแห้ง #เครื่องบดความเร็วสูง #ธุรกิจขนาดเล็ก #อุปกรณ์ทำอาหาร #สมุนไพร #เครื่องเทศ #เครื่องบดละเอียด #เครื่องบดอเนกประสงค์ #เครื่องบดพริก #เครื่องบดกาแฟ #เครื่องบดธัญพืช #เครื่องบดสมุนไพรผง #เครื่องบดสแตนเลส #เครื่องบดไฟฟ้า #เครื่องบดเมล็ดพืช #เครื่องบดวัตถุดิบ #เครื่องบดเครื่องเทศ #บดผง #อุปกรณ์ทำครัว #เครื่องบด #เครื่องบดอาหาร #ของแห้ง
    ทำธุรกิจต้องไว! 🚀 เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ตัวเดียวจบทุกงาน! การทำผงวัตถุดิบแห้งให้ได้คุณภาพไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ช่วยให้การทำงานของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว 💨 - ทรงพลัง: กำลังไฟ 1,400W บดได้ละเอียดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร เมล็ดกาแฟ หรือธัญพืช 🌾 - รวดเร็ว: ความเร็ว 25,000 รอบ/นาที ประหยัดเวลาทำงาน เพิ่มกำลังการผลิต 📈 - คุ้มค่า: ความจุ 500g เหมาะสำหรับงานหลากหลาย ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง 👍 ลงทุนครั้งเดียว แต่คุ้มค่าเกินราคาแน่นอน! ✨ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 📍 แชท Facebook: m.me/yonghahheng 💬 LINE Business ID: @588okjbj (มี @ ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp 📱 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098 📞 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 💻 E-mail: sales@yoryonghahheng.com และ yonghahheng@gmail.com 📧 เวลาเปิดทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น. เสาร์: 8.00 - 16.00 น. #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY #เครื่องบดสมุนไพร #บดแห้ง #เครื่องบดยา #ผงสมุนไพร #เครื่องบดอาหารแห้ง #เครื่องบดความเร็วสูง #ธุรกิจขนาดเล็ก #อุปกรณ์ทำอาหาร #สมุนไพร #เครื่องเทศ #เครื่องบดละเอียด #เครื่องบดอเนกประสงค์ #เครื่องบดพริก #เครื่องบดกาแฟ #เครื่องบดธัญพืช #เครื่องบดสมุนไพรผง #เครื่องบดสแตนเลส #เครื่องบดไฟฟ้า #เครื่องบดเมล็ดพืช #เครื่องบดวัตถุดิบ #เครื่องบดเครื่องเทศ #บดผง #อุปกรณ์ทำครัว #เครื่องบด #เครื่องบดอาหาร #ของแห้ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1394 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลืมการปอกหอมแดงแบบเดิมๆ ไปได้เลย!
    ปัญหาโลกแตกของพ่อค้าแม่ค้าอาหารและโรงงานแปรรูป คือการต้องมานั่งปอกและหั่นหอมแดงทีละลูกให้แสบตา เสียเวลา เสียแรงงาน

    แต่ถ้ามีวิธีที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นล่ะ?

    ขอแนะนำ "เครื่องหั่นมันฝรั่งและสไลด์หอมแดงอเนกประสงค์" จาก ย.ย่งฮะเฮง

    เครื่องนี้จะเปลี่ยนงานที่น่าเบื่อให้กลายเป็นเรื่องง่าย! เพราะคุณสามารถสไลด์หอมแดงได้เลย ไม่ต้องปอกเปลือก!

    เพียงแค่ใส่หอมแดงทั้งหัวเข้าเครื่อง ก็ได้ชิ้นสไลด์บางสวย พร้อมนำไปใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นหอมเจียว หรือวัตถุดิบทำน้ำพริก ประหยัดเวลาได้มหาศาล! เพิ่มกำลังการผลิตให้ธุรกิจโตแบบก้าวกระโดด!

    ทำไมเครื่องนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ?
    ประหยัดเวลาและแรงงาน: หั่นได้ 100-300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง
    สารพัดประโยชน์: หั่นได้ทั้งมันฝรั่ง แครอท กระชาย ขิง และหอมแดง
    คุณภาพสม่ำเสมอ: ได้ชิ้นงานสวยเท่ากันทุกชิ้น
    ปรับความหนาได้: ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเมนูอาหาร

    รายละเอียดทางเทคนิคของรุ่น
    - กำลังมอเตอร์: 1 HP
    - แรงดันไฟฟ้า: 220 V.
    - ขนาด: 78 x 74 x 99 ซม.
    - น้ำหนัก: 45 กก.

    เปลี่ยนงานหนักให้เป็นงานง่ายได้แล้ววันนี้!

    สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามเพิ่มเติม:
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098
    Facebook Messenger: m.me/yonghahheng
    LINE Official Account: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com

    เวลาทำการ:
    จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น.
    เสาร์: 8.00 - 16.00 น.

    แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/4ppsHfy3NYb1uPPu6

    #เครื่องหั่น #เครื่องสไลด์ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นหอมแดง #เครื่องครัว #เครื่องครัวมืออาชีพ #อุปกรณ์ทำอาหาร #ธุรกิจอาหาร #ร้านอาหาร #โรงงานแปรรูป #หอมเจียว #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #สแตนเลส #ยงฮะเฮง #yoryonghahheng #foodprocessor #foodcutter
    🔥🔥 ลืมการปอกหอมแดงแบบเดิมๆ ไปได้เลย! 🔥🔥 ปัญหาโลกแตกของพ่อค้าแม่ค้าอาหารและโรงงานแปรรูป คือการต้องมานั่งปอกและหั่นหอมแดงทีละลูกให้แสบตา เสียเวลา เสียแรงงาน แต่ถ้ามีวิธีที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นล่ะ? ขอแนะนำ "เครื่องหั่นมันฝรั่งและสไลด์หอมแดงอเนกประสงค์" จาก ย.ย่งฮะเฮง เครื่องนี้จะเปลี่ยนงานที่น่าเบื่อให้กลายเป็นเรื่องง่าย! เพราะคุณสามารถสไลด์หอมแดงได้เลย ไม่ต้องปอกเปลือก! เพียงแค่ใส่หอมแดงทั้งหัวเข้าเครื่อง ก็ได้ชิ้นสไลด์บางสวย พร้อมนำไปใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นหอมเจียว หรือวัตถุดิบทำน้ำพริก ⏱️ ประหยัดเวลาได้มหาศาล! เพิ่มกำลังการผลิตให้ธุรกิจโตแบบก้าวกระโดด! ทำไมเครื่องนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ? ✅ ประหยัดเวลาและแรงงาน: หั่นได้ 100-300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ✅ สารพัดประโยชน์: หั่นได้ทั้งมันฝรั่ง แครอท กระชาย ขิง และหอมแดง ✅ คุณภาพสม่ำเสมอ: ได้ชิ้นงานสวยเท่ากันทุกชิ้น ✅ ปรับความหนาได้: ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเมนูอาหาร รายละเอียดทางเทคนิคของรุ่น - กำลังมอเตอร์: 1 HP - แรงดันไฟฟ้า: 220 V. - ขนาด: 78 x 74 x 99 ซม. - น้ำหนัก: 45 กก. เปลี่ยนงานหนักให้เป็นงานง่ายได้แล้ววันนี้! สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามเพิ่มเติม: โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098 Facebook Messenger: m.me/yonghahheng LINE Official Account: @yonghahheng (มี @ ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com อีเมล: sales@yoryonghahheng.com, yonghahheng@gmail.com เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น. เสาร์: 8.00 - 16.00 น. แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/4ppsHfy3NYb1uPPu6 #เครื่องหั่น #เครื่องสไลด์ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นหอมแดง #เครื่องครัว #เครื่องครัวมืออาชีพ #อุปกรณ์ทำอาหาร #ธุรกิจอาหาร #ร้านอาหาร #โรงงานแปรรูป #หอมเจียว #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #สแตนเลส #ยงฮะเฮง #yoryonghahheng #foodprocessor #foodcutter
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1437 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโรงงานชิป: เมื่อ TSMC ต้องเร่งผลิตชิปเล็กที่สุดในโลกให้ทันความต้องการ

    TSMC เริ่มผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตรในปี 2025 โดยตั้งเป้าเริ่มต้นที่ 40,000 แผ่นเวเฟอร์ต่อเดือน และจะเพิ่มเป็น 100,000 แผ่นในปี 2026 — แต่ด้วยความต้องการจากบริษัทอย่าง Apple, NVIDIA, Intel, AMD และ MediaTek ที่ใช้ชิปเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ AI, มือถือ และเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ TSMC อาจต้องเพิ่มกำลังการผลิตถึง 5 เท่าในปี 2027

    หากแผนนี้สำเร็จ:
    - จะเป็นการผลิตชิปขนาด sub-7nm ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ TSMC
    - ต้องใช้โรงงานถึง 8 แห่ง โดยมีโรงงานหลักอยู่ที่ F22 ในเมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน

    แม้ Samsung จะมีเทคโนโลยีใกล้เคียง แต่ TSMC ยังครองตลาดด้วยอัตราการผลิตที่สูงกว่าและ yield ที่ดีกว่า — ทำให้กลายเป็นผู้ผลิตชิประดับสูงสำหรับลูกค้าภายนอกเพียงรายเดียวในโลก

    TSMC อาจเพิ่มกำลังผลิตชิป 2nm เป็น 200,000 แผ่นเวเฟอร์ต่อเดือนภายในปี 2027
    เริ่มต้นที่ 40,000 แผ่นในปี 2025 และเพิ่มเป็น 100,000 แผ่นในปี 2026

    ความต้องการมาจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ เช่น Apple, NVIDIA, Intel, AMD และ MediaTek
    ใช้ในผลิตภัณฑ์ AI, มือถือ, เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์ประมวลผลขั้นสูง

    Apple มักได้รับล็อตแรกของชิปใหม่ เพราะไม่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด
    ส่วน AMD และ NVIDIA จะใช้หลังจาก TSMC ปรับปรุงการผลิตให้เสถียร

    หากผลิตถึง 200,000 แผ่น จะเป็นระดับสูงสุดในกลุ่ม sub-7nm ของ TSMC
    ต้องใช้โรงงานถึง 8 แห่ง โดยโรงงานหลักคือ F22 ที่เกาสง

    TSMC เป็นผู้ผลิตชิป 2nm รายเดียวที่ให้บริการภายนอกด้วย yield สูง
    Samsung มีเทคโนโลยีใกล้เคียงแต่ yield ยังต่ำกว่า

    https://wccftech.com/tsmc-worlds-largest-contract-chipmaker-nvidia-ai-supplier-could-boost-output-to-200000-wafers-per-month-report/
    🎙️ เรื่องเล่าจากโรงงานชิป: เมื่อ TSMC ต้องเร่งผลิตชิปเล็กที่สุดในโลกให้ทันความต้องการ TSMC เริ่มผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตรในปี 2025 โดยตั้งเป้าเริ่มต้นที่ 40,000 แผ่นเวเฟอร์ต่อเดือน และจะเพิ่มเป็น 100,000 แผ่นในปี 2026 — แต่ด้วยความต้องการจากบริษัทอย่าง Apple, NVIDIA, Intel, AMD และ MediaTek ที่ใช้ชิปเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ AI, มือถือ และเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ TSMC อาจต้องเพิ่มกำลังการผลิตถึง 5 เท่าในปี 2027 หากแผนนี้สำเร็จ: - จะเป็นการผลิตชิปขนาด sub-7nm ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ TSMC - ต้องใช้โรงงานถึง 8 แห่ง โดยมีโรงงานหลักอยู่ที่ F22 ในเมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน แม้ Samsung จะมีเทคโนโลยีใกล้เคียง แต่ TSMC ยังครองตลาดด้วยอัตราการผลิตที่สูงกว่าและ yield ที่ดีกว่า — ทำให้กลายเป็นผู้ผลิตชิประดับสูงสำหรับลูกค้าภายนอกเพียงรายเดียวในโลก ✅ TSMC อาจเพิ่มกำลังผลิตชิป 2nm เป็น 200,000 แผ่นเวเฟอร์ต่อเดือนภายในปี 2027 ➡️ เริ่มต้นที่ 40,000 แผ่นในปี 2025 และเพิ่มเป็น 100,000 แผ่นในปี 2026 ✅ ความต้องการมาจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ เช่น Apple, NVIDIA, Intel, AMD และ MediaTek ➡️ ใช้ในผลิตภัณฑ์ AI, มือถือ, เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์ประมวลผลขั้นสูง ✅ Apple มักได้รับล็อตแรกของชิปใหม่ เพราะไม่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ➡️ ส่วน AMD และ NVIDIA จะใช้หลังจาก TSMC ปรับปรุงการผลิตให้เสถียร ✅ หากผลิตถึง 200,000 แผ่น จะเป็นระดับสูงสุดในกลุ่ม sub-7nm ของ TSMC ➡️ ต้องใช้โรงงานถึง 8 แห่ง โดยโรงงานหลักคือ F22 ที่เกาสง ✅ TSMC เป็นผู้ผลิตชิป 2nm รายเดียวที่ให้บริการภายนอกด้วย yield สูง ➡️ Samsung มีเทคโนโลยีใกล้เคียงแต่ yield ยังต่ำกว่า https://wccftech.com/tsmc-worlds-largest-contract-chipmaker-nvidia-ai-supplier-could-boost-output-to-200000-wafers-per-month-report/
    WCCFTECH.COM
    TSMC, World's Largest Contract Chipmaker & NVIDIA AI Supplier, Could Boost Output To 200,000 Wafers Per Month - Report
    TSMC may expand 2-nanometer wafer production to 200,000 per month by 2027 due to strong demand from Apple, NVIDIA, and Intel.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกชิป AI: NVIDIA เตรียมใช้ SOCAMM กว่า 800,000 ชิ้นในปีนี้

    NVIDIA กำลังเตรียมผลิตและนำโมดูลหน่วยความจำแบบใหม่ที่ชื่อว่า SOCAMM มาใช้ในผลิตภัณฑ์ AI ของตนมากถึง 800,000 ชิ้นภายในปี 2025 โดย SOCAMM เป็นหน่วยความจำแบบ LPDDR ที่มีความสามารถพิเศษคือ “ถอดเปลี่ยนได้” ต่างจาก LPDDR5X หรือ HBM ที่มักถูกบัดกรีติดกับบอร์ด

    SOCAMM ถูกออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด ใช้พลังงานต่ำ และมีแบนด์วิดท์สูงถึง 150–250 GB/s ซึ่งเหมาะกับอุปกรณ์ AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ยังคงประหยัดพลังงาน เช่น AI PC และ AI Server

    โมดูลนี้ถูกพัฒนาโดย Micron และเริ่มใช้งานในแพลตฟอร์ม GB300 Blackwell ของ NVIDIA ซึ่งเป็นสัญญาณว่า NVIDIA กำลังเปลี่ยนไปใช้รูปแบบหน่วยความจำใหม่ในผลิตภัณฑ์ AI หลายรุ่น โดยในอนาคต SOCAMM 2 จะถูกเปิดตัวเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและประสิทธิภาพอีกขั้น

    NVIDIA เตรียมใช้ SOCAMM memory modules มากถึง 800,000 ชิ้นในปี 2025
    เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงาน

    SOCAMM เป็นหน่วยความจำแบบ LPDDR ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้
    ติดตั้งด้วยสกรู 3 ตัว ไม่ต้องบัดกรีติดกับ PCB

    SOCAMM มีแบนด์วิดท์สูงถึง 150–250 GB/s
    เหนือกว่า RDIMM, LPDDR5X และ LPCAMM ในหลายด้าน

    เริ่มใช้งานในแพลตฟอร์ม GB300 Blackwell ของ NVIDIA
    เป็นการเปลี่ยนผ่านจาก HBM ไปสู่หน่วยความจำแบบใหม่

    Micron เป็นผู้ผลิตหลักของ SOCAMM ในปัจจุบัน
    Samsung และ SK Hynix กำลังเจรจาเพื่อร่วมผลิตในอนาคต

    SOCAMM 2 จะเปิดตัวในปีหน้าเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต
    คาดว่าจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับอุปกรณ์ AI พลังต่ำ

    จำนวน 800,000 ชิ้นยังน้อยเมื่อเทียบกับ HBM ที่ใช้ในปีเดียวกัน
    SOCAMM ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการนำไปใช้งานในวงกว้าง

    SOCAMM ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคด้านประสิทธิภาพพลังงานที่ชัดเจน
    ต้องรอการทดสอบจริงเพื่อยืนยันข้อดีเหนือ RDIMM และ LPDDR5X

    การเปลี่ยนไปใช้ SOCAMM อาจต้องปรับโครงสร้างฮาร์ดแวร์เดิม
    โดยเฉพาะในระบบที่ออกแบบมาเพื่อใช้ HBM หรือ LPDDR แบบบัดกรี

    การพึ่งพาผู้ผลิตรายเดียว (Micron) อาจเป็นความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน
    หาก Samsung และ SK Hynix ยังไม่เข้าร่วมในระยะสั้น

    https://wccftech.com/nvidia-to-deploy-up-to-800000-units-of-its-socamm-modules-this-year-in-its-ai-products/
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกชิป AI: NVIDIA เตรียมใช้ SOCAMM กว่า 800,000 ชิ้นในปีนี้ NVIDIA กำลังเตรียมผลิตและนำโมดูลหน่วยความจำแบบใหม่ที่ชื่อว่า SOCAMM มาใช้ในผลิตภัณฑ์ AI ของตนมากถึง 800,000 ชิ้นภายในปี 2025 โดย SOCAMM เป็นหน่วยความจำแบบ LPDDR ที่มีความสามารถพิเศษคือ “ถอดเปลี่ยนได้” ต่างจาก LPDDR5X หรือ HBM ที่มักถูกบัดกรีติดกับบอร์ด SOCAMM ถูกออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด ใช้พลังงานต่ำ และมีแบนด์วิดท์สูงถึง 150–250 GB/s ซึ่งเหมาะกับอุปกรณ์ AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ยังคงประหยัดพลังงาน เช่น AI PC และ AI Server โมดูลนี้ถูกพัฒนาโดย Micron และเริ่มใช้งานในแพลตฟอร์ม GB300 Blackwell ของ NVIDIA ซึ่งเป็นสัญญาณว่า NVIDIA กำลังเปลี่ยนไปใช้รูปแบบหน่วยความจำใหม่ในผลิตภัณฑ์ AI หลายรุ่น โดยในอนาคต SOCAMM 2 จะถูกเปิดตัวเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและประสิทธิภาพอีกขั้น ✅ NVIDIA เตรียมใช้ SOCAMM memory modules มากถึง 800,000 ชิ้นในปี 2025 ➡️ เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงาน ✅ SOCAMM เป็นหน่วยความจำแบบ LPDDR ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ➡️ ติดตั้งด้วยสกรู 3 ตัว ไม่ต้องบัดกรีติดกับ PCB ✅ SOCAMM มีแบนด์วิดท์สูงถึง 150–250 GB/s ➡️ เหนือกว่า RDIMM, LPDDR5X และ LPCAMM ในหลายด้าน ✅ เริ่มใช้งานในแพลตฟอร์ม GB300 Blackwell ของ NVIDIA ➡️ เป็นการเปลี่ยนผ่านจาก HBM ไปสู่หน่วยความจำแบบใหม่ ✅ Micron เป็นผู้ผลิตหลักของ SOCAMM ในปัจจุบัน ➡️ Samsung และ SK Hynix กำลังเจรจาเพื่อร่วมผลิตในอนาคต ✅ SOCAMM 2 จะเปิดตัวในปีหน้าเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ➡️ คาดว่าจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับอุปกรณ์ AI พลังต่ำ ‼️ จำนวน 800,000 ชิ้นยังน้อยเมื่อเทียบกับ HBM ที่ใช้ในปีเดียวกัน ⛔ SOCAMM ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการนำไปใช้งานในวงกว้าง ‼️ SOCAMM ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคด้านประสิทธิภาพพลังงานที่ชัดเจน ⛔ ต้องรอการทดสอบจริงเพื่อยืนยันข้อดีเหนือ RDIMM และ LPDDR5X ‼️ การเปลี่ยนไปใช้ SOCAMM อาจต้องปรับโครงสร้างฮาร์ดแวร์เดิม ⛔ โดยเฉพาะในระบบที่ออกแบบมาเพื่อใช้ HBM หรือ LPDDR แบบบัดกรี ‼️ การพึ่งพาผู้ผลิตรายเดียว (Micron) อาจเป็นความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน ⛔ หาก Samsung และ SK Hynix ยังไม่เข้าร่วมในระยะสั้น https://wccftech.com/nvidia-to-deploy-up-to-800000-units-of-its-socamm-modules-this-year-in-its-ai-products/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA To Deploy Up To 800,000 Units Of Its SOCAMM Modules This Year In Its AI Products
    As per a report, NVIDIA is expected to produce up to 800,000 SOCAMM memory units this year to deliver high efficiency and performance for its AI products.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • RealSense แยกตัวจาก Intel – รับทุน 50 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างอนาคต AI และหุ่นยนต์

    RealSense ซึ่งเป็นแบรนด์ที่รู้จักกันดีด้านกล้องตรวจจับความลึก (depth cameras) ได้ประกาศแยกตัวออกจาก Intel อย่างเป็นทางการ และจะดำเนินธุรกิจในฐานะบริษัทอิสระ โดยยังคงใช้ชื่อเดิม “RealSense”

    บริษัทได้รับเงินลงทุน Series A จำนวน 50 ล้านดอลลาร์จาก Intel Capital และ MediaTek Innovation Fund เพื่อขยายตลาดและเพิ่มกำลังการผลิต โดยเน้นไปที่เทคโนโลยี AI, หุ่นยนต์, ไบโอเมตริกซ์ และระบบคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision)

    CEO ของ RealSense, Nadav Orbach กล่าวว่า “เราจะใช้ความเป็นอิสระนี้เพื่อเร่งนวัตกรรมและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็ว” พร้อมระบุว่าเทคโนโลยีของบริษัทถูกใช้งานใน 60% ของหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติและหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ทั่วโลก

    RealSense มีลูกค้ากว่า 3,000 รายทั่วโลก และถือครองสิทธิบัตรด้าน computer vision มากกว่า 80 รายการ โดยมีพันธมิตรสำคัญ เช่น ANYbotics, Eyesynth, Fit:Match และ Unitree Robotics

    บริษัทกำลังขยายทีมวิศวกรด้าน AI และหุ่นยนต์ รวมถึงทีมขายและการตลาด เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาด edge AI และระบบจดจำใบหน้าในสถานที่สาธารณะ

    ผลิตภัณฑ์ล่าสุดคือกล้อง D555 ที่รองรับ Power over Ethernet และใช้ชิป Vision SoC V5 ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการนำไปใช้งานในอุปกรณ์จำนวนมาก

    ข้อมูลจากข่าว
    - RealSense แยกตัวจาก Intel และกลายเป็นบริษัทอิสระ
    - ได้รับเงินลงทุน Series A จำนวน 50 ล้านดอลลาร์จาก Intel Capital และ MediaTek
    - มุ่งเน้นด้าน AI, หุ่นยนต์, ไบโอเมตริกซ์ และ computer vision
    - เทคโนโลยีของ RealSense ถูกใช้ใน 60% ของหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติและหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ทั่วโลก
    - มีลูกค้ากว่า 3,000 ราย และถือครองสิทธิบัตรกว่า 80 รายการ
    - พันธมิตรสำคัญ ได้แก่ ANYbotics, Eyesynth, Fit:Match และ Unitree Robotics
    - ผลิตภัณฑ์ล่าสุดคือกล้อง D555 ที่ใช้ Vision SoC V5 และรองรับ PoE
    - บริษัทกำลังขยายทีมวิศวกรและทีมขายเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การแยกตัวจาก Intel อาจทำให้ RealSenseต้องเผชิญกับความท้าทายด้านทรัพยากรและการบริหารจัดการ
    - การแข่งขันในตลาด computer vision และ edge AI รุนแรงขึ้น โดยมีผู้เล่นรายใหญ่หลายราย
    - การนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้าไปใช้ในพื้นที่สาธารณะอาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของประชาชน
    - การพึ่งพาเงินลงทุนจากบริษัทใหญ่ อาจมีข้อจำกัดด้านทิศทางธุรกิจในอนาคต
    - การนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนมากต้องใช้เวลาและการทดสอบที่เข้มงวด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/realsense-completes-spin-out-from-intel-gets-usd50-million-in-funding-from-intel-capital-and-mediatek
    RealSense แยกตัวจาก Intel – รับทุน 50 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างอนาคต AI และหุ่นยนต์ RealSense ซึ่งเป็นแบรนด์ที่รู้จักกันดีด้านกล้องตรวจจับความลึก (depth cameras) ได้ประกาศแยกตัวออกจาก Intel อย่างเป็นทางการ และจะดำเนินธุรกิจในฐานะบริษัทอิสระ โดยยังคงใช้ชื่อเดิม “RealSense” บริษัทได้รับเงินลงทุน Series A จำนวน 50 ล้านดอลลาร์จาก Intel Capital และ MediaTek Innovation Fund เพื่อขยายตลาดและเพิ่มกำลังการผลิต โดยเน้นไปที่เทคโนโลยี AI, หุ่นยนต์, ไบโอเมตริกซ์ และระบบคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision) CEO ของ RealSense, Nadav Orbach กล่าวว่า “เราจะใช้ความเป็นอิสระนี้เพื่อเร่งนวัตกรรมและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็ว” พร้อมระบุว่าเทคโนโลยีของบริษัทถูกใช้งานใน 60% ของหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติและหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ทั่วโลก RealSense มีลูกค้ากว่า 3,000 รายทั่วโลก และถือครองสิทธิบัตรด้าน computer vision มากกว่า 80 รายการ โดยมีพันธมิตรสำคัญ เช่น ANYbotics, Eyesynth, Fit:Match และ Unitree Robotics บริษัทกำลังขยายทีมวิศวกรด้าน AI และหุ่นยนต์ รวมถึงทีมขายและการตลาด เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาด edge AI และระบบจดจำใบหน้าในสถานที่สาธารณะ ผลิตภัณฑ์ล่าสุดคือกล้อง D555 ที่รองรับ Power over Ethernet และใช้ชิป Vision SoC V5 ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการนำไปใช้งานในอุปกรณ์จำนวนมาก ✅ ข้อมูลจากข่าว - RealSense แยกตัวจาก Intel และกลายเป็นบริษัทอิสระ - ได้รับเงินลงทุน Series A จำนวน 50 ล้านดอลลาร์จาก Intel Capital และ MediaTek - มุ่งเน้นด้าน AI, หุ่นยนต์, ไบโอเมตริกซ์ และ computer vision - เทคโนโลยีของ RealSense ถูกใช้ใน 60% ของหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติและหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ทั่วโลก - มีลูกค้ากว่า 3,000 ราย และถือครองสิทธิบัตรกว่า 80 รายการ - พันธมิตรสำคัญ ได้แก่ ANYbotics, Eyesynth, Fit:Match และ Unitree Robotics - ผลิตภัณฑ์ล่าสุดคือกล้อง D555 ที่ใช้ Vision SoC V5 และรองรับ PoE - บริษัทกำลังขยายทีมวิศวกรและทีมขายเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การแยกตัวจาก Intel อาจทำให้ RealSenseต้องเผชิญกับความท้าทายด้านทรัพยากรและการบริหารจัดการ - การแข่งขันในตลาด computer vision และ edge AI รุนแรงขึ้น โดยมีผู้เล่นรายใหญ่หลายราย - การนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้าไปใช้ในพื้นที่สาธารณะอาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของประชาชน - การพึ่งพาเงินลงทุนจากบริษัทใหญ่ อาจมีข้อจำกัดด้านทิศทางธุรกิจในอนาคต - การนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนมากต้องใช้เวลาและการทดสอบที่เข้มงวด https://www.tomshardware.com/tech-industry/realsense-completes-spin-out-from-intel-gets-usd50-million-in-funding-from-intel-capital-and-mediatek
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 582 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025
    การเติบโตของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังสร้างผลกระทบต่อ โครงสร้างพลังงานโลก โดยมีการคาดการณ์ว่า AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025

    การขยายตัวของ Generative AI ทำให้เกิดการลงทุนมหาศาลใน ศูนย์ข้อมูลและฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะ AI accelerators จาก Nvidia และ AMD ซึ่งมีการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    นักวิจัย Alex de Vries-Gao จาก Vrije Universiteit Amsterdam วิเคราะห์ข้อมูลจาก สเปกอุปกรณ์, การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และรายงานของบริษัท เพื่อประเมิน ปริมาณการผลิตและการใช้พลังงานของฮาร์ดแวร์ AI

    ข้อมูลจากข่าว
    - AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025
    - AI คาดว่าจะใช้พลังงานเกือบครึ่งหนึ่งของศูนย์ข้อมูลทั้งหมดภายในปีหน้า
    - Nvidia H100 AI accelerator ใช้พลังงาน 700 วัตต์ต่อหน่วย
    - ฮาร์ดแวร์ AI ที่ผลิตในปี 2023-2024 อาจต้องใช้พลังงานระหว่าง 5.3 ถึง 9.4 กิกะวัตต์
    - TSMC วางแผนเพิ่มกำลังการผลิต CoWoS packaging technology เป็นสองเท่าในปี 2025

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การเติบโตของ AI อาจทำให้การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในสองปี
    - บางโครงการกำลังใช้โครงสร้างพื้นฐานพลังงานฟอสซิล เช่น โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 4.5 กิกะวัตต์ เพื่อรองรับ AI
    - การใช้พลังงานของ AI ขึ้นอยู่กับแหล่งพลังงาน หากใช้พลังงานจากฟอสซิล อาจเพิ่มการปล่อยคาร์บอน
    - บริษัทเทคโนโลยีมักไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงานของ AI ซึ่งอาจส่งผลต่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม

    การเติบโตของ AI อาจทำให้ ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และส่งผลต่อ นโยบายพลังงานและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก อย่างไรก็ตาม

    https://www.techspot.com/news/108140-ai-could-soon-consume-more-electricity-than-bitcoin.html
    ⚡ AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025 การเติบโตของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังสร้างผลกระทบต่อ โครงสร้างพลังงานโลก โดยมีการคาดการณ์ว่า AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025 การขยายตัวของ Generative AI ทำให้เกิดการลงทุนมหาศาลใน ศูนย์ข้อมูลและฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะ AI accelerators จาก Nvidia และ AMD ซึ่งมีการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นักวิจัย Alex de Vries-Gao จาก Vrije Universiteit Amsterdam วิเคราะห์ข้อมูลจาก สเปกอุปกรณ์, การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และรายงานของบริษัท เพื่อประเมิน ปริมาณการผลิตและการใช้พลังงานของฮาร์ดแวร์ AI ✅ ข้อมูลจากข่าว - AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025 - AI คาดว่าจะใช้พลังงานเกือบครึ่งหนึ่งของศูนย์ข้อมูลทั้งหมดภายในปีหน้า - Nvidia H100 AI accelerator ใช้พลังงาน 700 วัตต์ต่อหน่วย - ฮาร์ดแวร์ AI ที่ผลิตในปี 2023-2024 อาจต้องใช้พลังงานระหว่าง 5.3 ถึง 9.4 กิกะวัตต์ - TSMC วางแผนเพิ่มกำลังการผลิต CoWoS packaging technology เป็นสองเท่าในปี 2025 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การเติบโตของ AI อาจทำให้การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในสองปี - บางโครงการกำลังใช้โครงสร้างพื้นฐานพลังงานฟอสซิล เช่น โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 4.5 กิกะวัตต์ เพื่อรองรับ AI - การใช้พลังงานของ AI ขึ้นอยู่กับแหล่งพลังงาน หากใช้พลังงานจากฟอสซิล อาจเพิ่มการปล่อยคาร์บอน - บริษัทเทคโนโลยีมักไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงานของ AI ซึ่งอาจส่งผลต่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม การเติบโตของ AI อาจทำให้ ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และส่งผลต่อ นโยบายพลังงานและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก อย่างไรก็ตาม https://www.techspot.com/news/108140-ai-could-soon-consume-more-electricity-than-bitcoin.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI could soon consume more electricity than Bitcoin mining and entire countries
    The rapid expansion of generative AI has triggered a boom in data center construction and hardware production. As AI applications become more complex and are more widely...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 591 มุมมอง 0 รีวิว
  • SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปชั้นนำของจีน กำลังเผชิญกับ ปัญหาด้านผลผลิตและอัตราการได้ชิปที่ลดลง เนื่องจาก ข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ รายได้ในไตรมาสที่สองของปี 2025

    ปัญหาหลักเกิดจาก เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปี ซึ่งทำให้ กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำและอัตราการได้ชิปลดลง นอกจากนี้ การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข ทำให้เกิด ความผันผวนของผลผลิตเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน

    SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์
    - ส่งผลให้ รายได้ในไตรมาสที่สองลดลงถึง 6%

    เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปีทำให้กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำ
    - ส่งผลให้ อัตราการได้ชิปลดลง

    การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข
    - ทำให้ ผลผลิตลดลงเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน

    SMIC ต้องเบี่ยงงบประมาณด้าน R&D ไปใช้แก้ไขปัญหาการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่
    - ส่งผลให้ งบ R&D ลดลงจาก 180-225 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 150 ล้านดอลลาร์

    SMIC คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 7.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้
    - แม้จะเผชิญปัญหา แต่ยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/smic-faces-chip-yield-woes-as-equipment-maintenance-and-validation-efforts-stall
    SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปชั้นนำของจีน กำลังเผชิญกับ ปัญหาด้านผลผลิตและอัตราการได้ชิปที่ลดลง เนื่องจาก ข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ รายได้ในไตรมาสที่สองของปี 2025 ปัญหาหลักเกิดจาก เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปี ซึ่งทำให้ กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำและอัตราการได้ชิปลดลง นอกจากนี้ การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข ทำให้เกิด ความผันผวนของผลผลิตเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน ✅ SMIC เผชิญปัญหาด้านผลผลิตชิปจากข้อจำกัดในการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ - ส่งผลให้ รายได้ในไตรมาสที่สองลดลงถึง 6% ✅ เหตุขัดข้องระหว่างการบำรุงรักษาประจำปีทำให้กระบวนการผลิตขาดความแม่นยำ - ส่งผลให้ อัตราการได้ชิปลดลง ✅ การตรวจสอบอุปกรณ์ใหม่พบข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข - ทำให้ ผลผลิตลดลงเป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน ✅ SMIC ต้องเบี่ยงงบประมาณด้าน R&D ไปใช้แก้ไขปัญหาการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ - ส่งผลให้ งบ R&D ลดลงจาก 180-225 ล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 150 ล้านดอลลาร์ ✅ SMIC คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 7.5 พันล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้ - แม้จะเผชิญปัญหา แต่ยังคงเดินหน้าขยายกำลังการผลิต https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/smic-faces-chip-yield-woes-as-equipment-maintenance-and-validation-efforts-stall
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts