• #ประสบการณ์ขนลุก# สัก 17 ปีก่อน ..ผู้เขียนได้ไปฉลองปีใหม่ ที่ อ.ดอยสะเก็ด กับพรรคพวก ที่ไปจากกรุงเทพฯจำนวนนึง...ขับรถจากกรุงเทพ ถึง รีสอร์ท ตี 4 กว่า..เราก็เข้าห้อง เป็นบ้านหลัง มี 2 ชั้น..มีหลายห้องนอน..เราก็เลือกนอนชั้นล่าง เพราะขี้เกียจขึ้นแล้ว ขับรถมาตั้งหลายชั่วโมง...เอนตัวนอน...ประสาทค้าง...คือ ระวังมาตลอดทาง...ใครขับรถทางไกล จะทราบความรู้สึกนี้...นอนไปสักพัก มีเสียงกระดานไม้ลั่น เหมือนมีคนเดินอยู่บนหัวเรา...ก็เดินไปหาเพื่อนที่มาด้วยกัน ที่เขาอยู่ห้องถัดไป..ข้างล่างเหมือนกัน...มากันแค่ 2 คน...ที่เหลือตามมาทีหลังจองบ้านไว้ 3 หลัง...เราก็ถามเขาบอก มีคนมาเพิ่มแล้วก็เหรอ...เขาก็บอก...ไม่มีนะ..เราก็ถามต่อ...เมื่อกี้ขึ้นไปข้างบนเหรอ...เขาบอกปล่าว...อาบน้ำเพิ่งเสร็จ...เอาละ ความสงสัยเริ่มเกิด...แต่คิด เข้าค่อยว่ากัน...ก็เดินกลับห้องไปนอน...สักพักเดียว มีเสียงไม้เสียดสีกันอีก...บนหัวเรา เหมือนมีคนเดิน (ลืมบอกไป เป็นบ้านไม้ทั้งหลัง) ...เราก็คิดเออ..เช้าค่อยว่ากัน...พอตื่นมา..เดินขึ้นไปสำรวจ...สิ่งที่เจอ...มีโกฏิกระดูกเล็กๆ อยู่ในตู้เสื้อผ้า....เราก็นึก...ทำไมเอามาไว้ที่นี่ ไม่เก็บที่อื่น...แล้วก็ตั้งใจแล้วว่าคืนนี้ เราไม่นอนนี่แน่ กลับไปนอนในเมืองดีกว่า (อ่อในเมืองมีบ้านพักของญาติกันอยู่) ...ก็กินดื่มกันไปยาวจน เราก็เล่าเรื่องเช้ามืดให้ฟัง..แต่ไม่มีใครเชื่อ..จนถึง พอ countdown เสร็จ เที่ยงคืนกว่า..เราบอกขอลงไปนอนในเมือง...ก็ขับรถออกมา...ใครเคยไปดอยสะเก็ดจะทราบว่า ลักษณะจะโค้ง ตามภูเขา...ก็ขับไป...พอออกจากโค้ง เจอศาลเพียงตา..ตั้งอยู่ก็ไม่คิดอะไร....ก็ขับต่อไปอีกสัก 5 นาที...หลุดโค้งมาก็เจอศาลเพียงตาอีก..ก็ยังไม่ฉุกคิดอะไร...ทีนี้ รอบที่ 3 ....เฮ้ย ศาลเพียงตา มันอันเดิมนี่......ไม่ปกติแล้ว...เราเอาสร้อยพระที่คอ...มากำแล้วบอกว่า ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองข้าพเจ้า...เปิดทางให้ที....!! ...อีกแค่เพียง 2 นาที ก็ถึงถนนหลัก...มีไฟถนนชัดเจน...เราก็ดูเวลา...ตั้งแต่จากรีสอร์ทเราใช้เวลาไป 30 กว่านาที...ทั้งๆที่ตอนขาขึ้นไป เราใช้เวลาไม่น่าเกิน 10 นาที....กำหนดการคือ อยู่กัน สองคืน...รวมทั้งคณะ น่าจะประมาณ 10 คน...พอผ่านคืนแรก ..รุ่งขึ้นก็ไปนัดกินข้าวกันในเมือง...เขารีบบอกเลย...ย้ายกันออกมาหมดแล้ว ลงมานอนในเมือง...เราถามเจออะไร? ...เขาบอก..หลายอย่าง..แต่กลับกรุงเทพค่อยเล่า..(แต่หลังจากดลับมาก็ลืมถาม).สรุปบ้าน 3 หลัง ที่จอง 2 คืน..ทิ้งหมด เสียเงินฟรี...#ประสบการณ์ตรงที่เกิดกับตนเอง..
    #ประสบการณ์ขนลุก# สัก 17 ปีก่อน ..ผู้เขียนได้ไปฉลองปีใหม่ ที่ อ.ดอยสะเก็ด กับพรรคพวก ที่ไปจากกรุงเทพฯจำนวนนึง...ขับรถจากกรุงเทพ ถึง รีสอร์ท ตี 4 กว่า..เราก็เข้าห้อง เป็นบ้านหลัง มี 2 ชั้น..มีหลายห้องนอน..เราก็เลือกนอนชั้นล่าง เพราะขี้เกียจขึ้นแล้ว ขับรถมาตั้งหลายชั่วโมง...เอนตัวนอน...ประสาทค้าง...คือ ระวังมาตลอดทาง...ใครขับรถทางไกล จะทราบความรู้สึกนี้...นอนไปสักพัก มีเสียงกระดานไม้ลั่น เหมือนมีคนเดินอยู่บนหัวเรา...ก็เดินไปหาเพื่อนที่มาด้วยกัน ที่เขาอยู่ห้องถัดไป..ข้างล่างเหมือนกัน...มากันแค่ 2 คน...ที่เหลือตามมาทีหลังจองบ้านไว้ 3 หลัง...เราก็ถามเขาบอก มีคนมาเพิ่มแล้วก็เหรอ...เขาก็บอก...ไม่มีนะ..เราก็ถามต่อ...เมื่อกี้ขึ้นไปข้างบนเหรอ...เขาบอกปล่าว...อาบน้ำเพิ่งเสร็จ...เอาละ ความสงสัยเริ่มเกิด...แต่คิด เข้าค่อยว่ากัน...ก็เดินกลับห้องไปนอน...สักพักเดียว มีเสียงไม้เสียดสีกันอีก...บนหัวเรา เหมือนมีคนเดิน (ลืมบอกไป เป็นบ้านไม้ทั้งหลัง) ...เราก็คิดเออ..เช้าค่อยว่ากัน...พอตื่นมา..เดินขึ้นไปสำรวจ...สิ่งที่เจอ...มีโกฏิกระดูกเล็กๆ อยู่ในตู้เสื้อผ้า....เราก็นึก...ทำไมเอามาไว้ที่นี่ ไม่เก็บที่อื่น...แล้วก็ตั้งใจแล้วว่าคืนนี้ เราไม่นอนนี่แน่ กลับไปนอนในเมืองดีกว่า (อ่อในเมืองมีบ้านพักของญาติกันอยู่) ...ก็กินดื่มกันไปยาวจน เราก็เล่าเรื่องเช้ามืดให้ฟัง..แต่ไม่มีใครเชื่อ..จนถึง พอ countdown เสร็จ เที่ยงคืนกว่า..เราบอกขอลงไปนอนในเมือง...ก็ขับรถออกมา...ใครเคยไปดอยสะเก็ดจะทราบว่า ลักษณะจะโค้ง ตามภูเขา...ก็ขับไป...พอออกจากโค้ง เจอศาลเพียงตา..ตั้งอยู่ก็ไม่คิดอะไร....ก็ขับต่อไปอีกสัก 5 นาที...หลุดโค้งมาก็เจอศาลเพียงตาอีก..ก็ยังไม่ฉุกคิดอะไร...ทีนี้ รอบที่ 3 ....เฮ้ย ศาลเพียงตา มันอันเดิมนี่......ไม่ปกติแล้ว...เราเอาสร้อยพระที่คอ...มากำแล้วบอกว่า ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองข้าพเจ้า...เปิดทางให้ที....!! ...อีกแค่เพียง 2 นาที ก็ถึงถนนหลัก...มีไฟถนนชัดเจน...เราก็ดูเวลา...ตั้งแต่จากรีสอร์ทเราใช้เวลาไป 30 กว่านาที...ทั้งๆที่ตอนขาขึ้นไป เราใช้เวลาไม่น่าเกิน 10 นาที....กำหนดการคือ อยู่กัน สองคืน...รวมทั้งคณะ น่าจะประมาณ 10 คน...พอผ่านคืนแรก ..รุ่งขึ้นก็ไปนัดกินข้าวกันในเมือง...เขารีบบอกเลย...ย้ายกันออกมาหมดแล้ว ลงมานอนในเมือง...เราถามเจออะไร? ...เขาบอก..หลายอย่าง..แต่กลับกรุงเทพค่อยเล่า..(แต่หลังจากดลับมาก็ลืมถาม).สรุปบ้าน 3 หลัง ที่จอง 2 คืน..ทิ้งหมด เสียเงินฟรี...#ประสบการณ์ตรงที่เกิดกับตนเอง..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาดูว่าทำไมร้านค้าจึงขาดทุน
    1. ทางเข้าห้างที่ไปเปิดร้าน เปิดประตูเข้าไปเจอกับบันไดเลื่อนลงมา ลิฟท์หรือประตูห้องน้ำ
    2. มีบันไดเลื่อนขวางอยู่หน้าร้าน
    3. ทางเข้าห้างเล็กหรือประตูบานเดียว แต่ทางออกห้างด้านหลังมีหลายประตูและกว้างใหญ่กว่า
    4. หน้าร้านกว้างแต่ตัวร้านตื้น
    5. หน้าร้านกว้างแต่หลังร้านแคบ
    6. ประตูหน้าตรงกับประตูหลัง หรือมองเห็นกัน
    7. ประตูหน้าร้านตรงกับประตูทางออกหลังห้าง
    8. ประตูร้านฝืด,ตก,ติด เปิดลำบาก
    9. ประตูร้านไม่ควรทาสีดำ
    10. ไม่ตั้งหิ้งหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงเกินไป
    11. ไม่วางสิ่งของขวางบังหน้าตี่จู้เอี๊ย
    12. ถนนทางเข้าร้านเป็นหลุมเป็นบ่อ
    13. ถนนหน้าบ้านที่ดี ควรมีความกว้างตั้งแต่ 12 เมตรขึ้นไป
    มาดูว่าทำไมร้านค้าจึงขาดทุน 1. ทางเข้าห้างที่ไปเปิดร้าน เปิดประตูเข้าไปเจอกับบันไดเลื่อนลงมา ลิฟท์หรือประตูห้องน้ำ 2. มีบันไดเลื่อนขวางอยู่หน้าร้าน 3. ทางเข้าห้างเล็กหรือประตูบานเดียว แต่ทางออกห้างด้านหลังมีหลายประตูและกว้างใหญ่กว่า 4. หน้าร้านกว้างแต่ตัวร้านตื้น 5. หน้าร้านกว้างแต่หลังร้านแคบ 6. ประตูหน้าตรงกับประตูหลัง หรือมองเห็นกัน 7. ประตูหน้าร้านตรงกับประตูทางออกหลังห้าง 8. ประตูร้านฝืด,ตก,ติด เปิดลำบาก 9. ประตูร้านไม่ควรทาสีดำ 10. ไม่ตั้งหิ้งหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงเกินไป 11. ไม่วางสิ่งของขวางบังหน้าตี่จู้เอี๊ย 12. ถนนทางเข้าร้านเป็นหลุมเป็นบ่อ 13. ถนนหน้าบ้านที่ดี ควรมีความกว้างตั้งแต่ 12 เมตรขึ้นไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลอดเรือหลวงปู่ทอง แก้ชีวิตติดขัด เปิดทรัพย์รับโชค🤑 วัดลาดบัวขาว (ราชโยธา) #วัดไทย #สายมู #พาเที่ยว #โชคลาภ #ไหว้พระ #สิ่งศักดิ์สิทธิ์ #เทรนด์วันนี้ #thaitimes #kaiaminute
    ลอดเรือหลวงปู่ทอง แก้ชีวิตติดขัด เปิดทรัพย์รับโชค🤑 วัดลาดบัวขาว (ราชโยธา) #วัดไทย #สายมู #พาเที่ยว #โชคลาภ #ไหว้พระ #สิ่งศักดิ์สิทธิ์ #เทรนด์วันนี้ #thaitimes #kaiaminute
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 457 มุมมอง 235 0 รีวิว
  • 7/11/67

    “ปริศนาจากพระพุทธรูป"

    คงไม่มีใครไม่เคยเห็นพระพุทธรูป แต่คงจะมีน้อยคนที่รู้ว่า ลักษณะของพระพุทธรูปที่เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้งนั้น แฝงข้อคิดอันประเสริฐสุดในชีวิตเอาไว้ ถึง 5 ประการ
    คือ

    1. พระเศียรแหลม

    มีคำถามว่า ทำไมพระพุทธรูปจึงมีพระเศียรแหลมในเมื่อพระพุทธเจ้าของเราก็เป็นมนุษย์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คิดเป็นปริศนาธรรม

    พระเศียรแหลมนั้นหมายถึง สติปัญญาที่เฉียบแหลมในการดำเนินชีวิต สอนให้เราใช้ชีวิตและรู้จักแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยสติปัญญาไม่ใช่ใช้แต่อารมณ์

    ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน แล้วความผิดพลาดจะเกิดขึ้นน้อย หรือแม้มันเกิดขึ้น เราก็จะเรียนรู้จากมันได้อย่างรวดเร็ว

    ปัญญาคือ ที่สุดแห่งธรรม หากมีปัญญา ชีวิตจะไม่มีปัญหา เพราะทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาจะกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถนำไปใช้พัฒนาจิตใจได้เสมอ

    2. พระกรรณยาน

    หูยานเป็นปริศนาธรรมให้ชาวพุทธเป็นคนหูหนัก คือ มีความหนักแน่นมั่นคง ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ แต่หมั่นคิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญาอันแยบคาย แล้วจึงเชื่อในหลักฐานและข้อพิสูจน์ที่ตัวเองได้นำไปทดสอบแล้ว

    เราต้องเชื่อมั่นในหลักเหตุและผล (Cause & Effect) เชื่อว่าบุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เชื่อว่าสุดท้าย คน ๆเดียวที่จะสามารถทำให้เราสุขหรือทุกข์ ดีหรือเลวได้คือ ตัวเราเอง และ ชีวิตเราจะเสื่อมทรามหรือเจริญรุ่งเรือง ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจภายนอกหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับความคิด คำพูด และการกระทำของเราเองฉะนั้น ในการใช้ชีวิต ให้มีความสุขุมเยือกเย็น มีสติ และ มีเหตุผลเข้าไว้ อย่าปล่อยใจไปยึดตามสิ่งที่ได้ยิน เชื่อตามคนอื่น หรือตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นจนเกินไป ลองพิสูจน์สิ่งต่าง ๆด้วยตัวเองเสียก่อนจะเชื่อ ตามหลัก “กาลามสูตร” เพื่อฝึกฝนการเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง ดั่งองค์พระพุทธฯ

    3. พระเนตรมองต่ำ

    พระพุทธรูปที่สร้างโดยทั่วไปจะมีพระเนตรมองลงที่พระวรกายของพระองค์ ไม่ได้มองดูหน้าต่าง หรือมองดูประตูพระอุโบสถว่าจะมีใครเข้ามาไหว้บ้าง นี่เป็นปริศนาธรรม

    สอนให้มองตนเองและพิจารณาตนเองเสมอ ตักเตือนแก้ไขตนเองก่อนจะไปคอยจับผิดผู้อื่น ตามปกติคนเรามักจะมองเห็นแต่ความผิดพลาดของบุคคลอื่น โดยลืมมองข้อบกพร่องของตนเอง มัวแต่เอาเวลาไปนินทาว่าร้ายและจ้องแต่จะคอยวิจารณ์หรือเปลี่ยนแปลงคนรอบข้างอย่างเดียว ทำให้สูญเสียโอกาสในการปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ใครเล่าจะตักเตือนตัวเราได้ดีกว่าตัวเราเอง จึงมีพุทธพจน์ตรัสให้เตือนตนเองว่า

    “อตฺตนา โจทยตฺตาน”

    ซึ่งแปลเป็นกลอนได้ว่า...

    “จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด
    ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน
    ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน
    ตนแชเชือนรีบเตือนตนให้พ้นภัย”

    นอกจากนั้น พระเนตรที่มองต่ำคือ การสอนให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่เหม่อมองฟ้าจนฝันเฟื่องถึงเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น หรือ มัวหลงล่องลอยอยู่ในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้วและไม่มีวันหวนกลับมา ตาที่มองลงต่ำจะช่วยย้ำเตือนใจเราว่า “กลับมาก่อนเถิด... กลับบ้านมาอยู่กับลมหายใจที่ปลายจมูก... เพราะนั่นคือ ดินแดนแห่งสวรรค์ที่แท้จริง”

    4. พระพักตร์อันสงบนิ่ง

    ไม่ว่าใครจะด่าว่าพระพุทธรูปอย่างไร ท่านก็ยังสงบนิ่ง ไม่ว่าน้ำจะท่วม แผ่นดินจะไหว หรือใครจะเตะ ต่อย นินทา หรือทำร้ายพระพุทธรูปมากแค่ไหน ท่านก็นิ่งสงบรับแรงกระทบต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างมั่นคง เบิกบาน และไม่หวั่นไหวไปกับปัญหาทั้งเล็กและใหญ่

    ให้ความรู้สึกเย็นสบายต่อผู้พบเห็นอยู่เสมอ ในชีวิตของเรา ไม่ใช่ว่าเราจะต้องยอมคนอยู่เสมอ แต่ถ้าเราสามารถฝึกรับแรงกระแทกทุกรูปแบบด้วยความนิ่งสงบได้ เราก็จะสามารถตอบโต้อย่างสร้างสรรค์และทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เพราะคนบ้าจะโต้ตอบแบบหน้ามืด และคนโง่จะตอบโต้ตอนที่ตัวเองกำลังโกรธ ส่งผลให้ตัวเองและคนอื่นตกตายไปตามกัน

    หากเรารู้จักนิ่งสงบรับแรงกระแทกต่าง ๆ ในชีวิตได้เหมือนพระพุทธรูป ขั้นตอนต่อไปของการตอบโต้จะเกิดจากสติ เกิดจากปัญญา และเกิดจากพลังอันยิ่งใหญ่ที่มาจากใจที่สงบนิ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สร้างบาดแผลให้กับคนอื่นหรือตัวเอง

    5. รอยยิ้มของผู้ที่เข้าใจโลก

    สุดท้าย คือปริศนาจากพระโอษฐ์ที่แย้มยิ้มอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่รักสรรพสิ่ง รักโลก และเข้าใจความจริงของโลก...

    ความจริงที่ว่า... ทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดาความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรแน่นอน
    ความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรคงทนถาวรความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริง

    ความสุขและความทุกข์ เป็นของคู่กันเสมอ ฉะนั้น

    “ผู้ที่เข้าใจความจริง” จะสามารถสงบนิ่งอยู่ได้ในธรรมชาติของสรรพสิ่ง ไม่วิ่งตามกระแสโลกจนเหนื่อยเกินไป และสามารถใช้ชีวิตอย่างเบิกบานได้ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ เพราะมีสัจธรรมเป็นที่พักพิง

    นอกจากนั้นรอยยิ้มของพระพุทธรูป คือ รอยยิ้มของผู้ที่ถ่อมตัว แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจความยิ่งใหญ่และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ รู้ว่าแม้ตัวเองจะเป็นเพียงเศษผงธุลีหนึ่งในจักรวาล แต่ก็เป็นเศษผงธุลีที่สามารถเข้าใจความจริงของจักรวาลได้ จึงทั้งเป็นสิ่งที่พิเศษและไม่พิเศษ ในเวลาเดียวกัน...

    อย่าลืมนะ ว่า ในจิตใจของพวกเราทุกคน มีความเป็นพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) ซ่อนอยู่ โดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะหลายคนอาจไม่ทราบว่า แท้จริงคำว่า “พระพุทธเจ้า” (ผู้ตื่นรู้) ไม่ใช่ “ชื่อ” แต่เป็น “คำนำหน้าชื่อ”

    และในอดีตก็เคยมีพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายพระองค์ โดยองค์ปัจจุบันที่เรารู้จักกันดีมีพระนามว่า

    “โคตมะ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ขับไล่ความมืด (อวิชชา) ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา”

    ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า
    ไม่ว่าใครก็สามารถไปถึงจุดของความเป็น “พุทธะ” ได้ทั้งนั้น หากคนคนนั้นหมั่นใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีปัญญาอยู่เสมอ

    # ฉะนั้น เมื่อใดที่เราก้มลงกราบพระพุทธรูป นอกจากจะระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็อย่าลืมระลึกถึงปรัชญาที่แฝงไว้ด้วย
    7/11/67 “ปริศนาจากพระพุทธรูป" คงไม่มีใครไม่เคยเห็นพระพุทธรูป แต่คงจะมีน้อยคนที่รู้ว่า ลักษณะของพระพุทธรูปที่เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้งนั้น แฝงข้อคิดอันประเสริฐสุดในชีวิตเอาไว้ ถึง 5 ประการ คือ 1. พระเศียรแหลม มีคำถามว่า ทำไมพระพุทธรูปจึงมีพระเศียรแหลมในเมื่อพระพุทธเจ้าของเราก็เป็นมนุษย์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คิดเป็นปริศนาธรรม พระเศียรแหลมนั้นหมายถึง สติปัญญาที่เฉียบแหลมในการดำเนินชีวิต สอนให้เราใช้ชีวิตและรู้จักแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยสติปัญญาไม่ใช่ใช้แต่อารมณ์ ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน แล้วความผิดพลาดจะเกิดขึ้นน้อย หรือแม้มันเกิดขึ้น เราก็จะเรียนรู้จากมันได้อย่างรวดเร็ว ปัญญาคือ ที่สุดแห่งธรรม หากมีปัญญา ชีวิตจะไม่มีปัญหา เพราะทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาจะกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถนำไปใช้พัฒนาจิตใจได้เสมอ 2. พระกรรณยาน หูยานเป็นปริศนาธรรมให้ชาวพุทธเป็นคนหูหนัก คือ มีความหนักแน่นมั่นคง ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ แต่หมั่นคิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญาอันแยบคาย แล้วจึงเชื่อในหลักฐานและข้อพิสูจน์ที่ตัวเองได้นำไปทดสอบแล้ว เราต้องเชื่อมั่นในหลักเหตุและผล (Cause & Effect) เชื่อว่าบุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เชื่อว่าสุดท้าย คน ๆเดียวที่จะสามารถทำให้เราสุขหรือทุกข์ ดีหรือเลวได้คือ ตัวเราเอง และ ชีวิตเราจะเสื่อมทรามหรือเจริญรุ่งเรือง ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจภายนอกหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับความคิด คำพูด และการกระทำของเราเองฉะนั้น ในการใช้ชีวิต ให้มีความสุขุมเยือกเย็น มีสติ และ มีเหตุผลเข้าไว้ อย่าปล่อยใจไปยึดตามสิ่งที่ได้ยิน เชื่อตามคนอื่น หรือตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นจนเกินไป ลองพิสูจน์สิ่งต่าง ๆด้วยตัวเองเสียก่อนจะเชื่อ ตามหลัก “กาลามสูตร” เพื่อฝึกฝนการเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง ดั่งองค์พระพุทธฯ 3. พระเนตรมองต่ำ พระพุทธรูปที่สร้างโดยทั่วไปจะมีพระเนตรมองลงที่พระวรกายของพระองค์ ไม่ได้มองดูหน้าต่าง หรือมองดูประตูพระอุโบสถว่าจะมีใครเข้ามาไหว้บ้าง นี่เป็นปริศนาธรรม สอนให้มองตนเองและพิจารณาตนเองเสมอ ตักเตือนแก้ไขตนเองก่อนจะไปคอยจับผิดผู้อื่น ตามปกติคนเรามักจะมองเห็นแต่ความผิดพลาดของบุคคลอื่น โดยลืมมองข้อบกพร่องของตนเอง มัวแต่เอาเวลาไปนินทาว่าร้ายและจ้องแต่จะคอยวิจารณ์หรือเปลี่ยนแปลงคนรอบข้างอย่างเดียว ทำให้สูญเสียโอกาสในการปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ใครเล่าจะตักเตือนตัวเราได้ดีกว่าตัวเราเอง จึงมีพุทธพจน์ตรัสให้เตือนตนเองว่า “อตฺตนา โจทยตฺตาน” ซึ่งแปลเป็นกลอนได้ว่า... “จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน ตนแชเชือนรีบเตือนตนให้พ้นภัย” นอกจากนั้น พระเนตรที่มองต่ำคือ การสอนให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่เหม่อมองฟ้าจนฝันเฟื่องถึงเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น หรือ มัวหลงล่องลอยอยู่ในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้วและไม่มีวันหวนกลับมา ตาที่มองลงต่ำจะช่วยย้ำเตือนใจเราว่า “กลับมาก่อนเถิด... กลับบ้านมาอยู่กับลมหายใจที่ปลายจมูก... เพราะนั่นคือ ดินแดนแห่งสวรรค์ที่แท้จริง” 4. พระพักตร์อันสงบนิ่ง ไม่ว่าใครจะด่าว่าพระพุทธรูปอย่างไร ท่านก็ยังสงบนิ่ง ไม่ว่าน้ำจะท่วม แผ่นดินจะไหว หรือใครจะเตะ ต่อย นินทา หรือทำร้ายพระพุทธรูปมากแค่ไหน ท่านก็นิ่งสงบรับแรงกระทบต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างมั่นคง เบิกบาน และไม่หวั่นไหวไปกับปัญหาทั้งเล็กและใหญ่ ให้ความรู้สึกเย็นสบายต่อผู้พบเห็นอยู่เสมอ ในชีวิตของเรา ไม่ใช่ว่าเราจะต้องยอมคนอยู่เสมอ แต่ถ้าเราสามารถฝึกรับแรงกระแทกทุกรูปแบบด้วยความนิ่งสงบได้ เราก็จะสามารถตอบโต้อย่างสร้างสรรค์และทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เพราะคนบ้าจะโต้ตอบแบบหน้ามืด และคนโง่จะตอบโต้ตอนที่ตัวเองกำลังโกรธ ส่งผลให้ตัวเองและคนอื่นตกตายไปตามกัน หากเรารู้จักนิ่งสงบรับแรงกระแทกต่าง ๆ ในชีวิตได้เหมือนพระพุทธรูป ขั้นตอนต่อไปของการตอบโต้จะเกิดจากสติ เกิดจากปัญญา และเกิดจากพลังอันยิ่งใหญ่ที่มาจากใจที่สงบนิ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สร้างบาดแผลให้กับคนอื่นหรือตัวเอง 5. รอยยิ้มของผู้ที่เข้าใจโลก สุดท้าย คือปริศนาจากพระโอษฐ์ที่แย้มยิ้มอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่รักสรรพสิ่ง รักโลก และเข้าใจความจริงของโลก... ความจริงที่ว่า... ทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดาความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรแน่นอน ความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรคงทนถาวรความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริง ความสุขและความทุกข์ เป็นของคู่กันเสมอ ฉะนั้น “ผู้ที่เข้าใจความจริง” จะสามารถสงบนิ่งอยู่ได้ในธรรมชาติของสรรพสิ่ง ไม่วิ่งตามกระแสโลกจนเหนื่อยเกินไป และสามารถใช้ชีวิตอย่างเบิกบานได้ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ เพราะมีสัจธรรมเป็นที่พักพิง นอกจากนั้นรอยยิ้มของพระพุทธรูป คือ รอยยิ้มของผู้ที่ถ่อมตัว แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจความยิ่งใหญ่และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ รู้ว่าแม้ตัวเองจะเป็นเพียงเศษผงธุลีหนึ่งในจักรวาล แต่ก็เป็นเศษผงธุลีที่สามารถเข้าใจความจริงของจักรวาลได้ จึงทั้งเป็นสิ่งที่พิเศษและไม่พิเศษ ในเวลาเดียวกัน... อย่าลืมนะ ว่า ในจิตใจของพวกเราทุกคน มีความเป็นพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) ซ่อนอยู่ โดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะหลายคนอาจไม่ทราบว่า แท้จริงคำว่า “พระพุทธเจ้า” (ผู้ตื่นรู้) ไม่ใช่ “ชื่อ” แต่เป็น “คำนำหน้าชื่อ” และในอดีตก็เคยมีพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายพระองค์ โดยองค์ปัจจุบันที่เรารู้จักกันดีมีพระนามว่า “โคตมะ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ขับไล่ความมืด (อวิชชา) ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา” ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่าใครก็สามารถไปถึงจุดของความเป็น “พุทธะ” ได้ทั้งนั้น หากคนคนนั้นหมั่นใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีปัญญาอยู่เสมอ # ฉะนั้น เมื่อใดที่เราก้มลงกราบพระพุทธรูป นอกจากจะระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็อย่าลืมระลึกถึงปรัชญาที่แฝงไว้ด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 436 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩อานิสงส์ผลบุญสร้างวิหารทานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีกินมีใช้ไม่ขาดมือ เป็นที่รักของเทวดา ครอบครัวสุขสันต์ จิตใจสงบ พบพานสิ่งดี มีแต่คนรักใคร่ เจ้านายเมตตา คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา คนพาลแพ้ภัย ฝากแชร์ฝากส่งให้ผู้อยากร่วมบุญถวายกระเบื้องตามแบบเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมทำบุญและครอบครัวและกระเบื้องเหล่านี้จะอยู่เทวาลัยภายในโดมขององค์พ่อตลอดไปเป็น ร้อยๆปี สาธุ สาธุ สาธุ #แลนมาร์คของสายมู อยู่ที่มหาสมบัติเทวาพิฆเนราชสีมา #ไทยไทม์ #หน้าฟีด #Sondhitalk #ลุงสนธิมาโคราชเมื่อไรมาเที่ยวเทวาลัยนะคะ #ตามรอยผู้หญิงสามสิบยังแจ๋วพามู
    🚩อานิสงส์ผลบุญสร้างวิหารทานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีกินมีใช้ไม่ขาดมือ เป็นที่รักของเทวดา ครอบครัวสุขสันต์ จิตใจสงบ พบพานสิ่งดี มีแต่คนรักใคร่ เจ้านายเมตตา คำกล่าวเป็นสัจจ์ ฟ้าดินปราณี ทวยเทพยินดี มิตรสหายปรีดา คนพาลแพ้ภัย ฝากแชร์ฝากส่งให้ผู้อยากร่วมบุญถวายกระเบื้องตามแบบเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมทำบุญและครอบครัวและกระเบื้องเหล่านี้จะอยู่เทวาลัยภายในโดมขององค์พ่อตลอดไปเป็น ร้อยๆปี สาธุ สาธุ สาธุ #แลนมาร์คของสายมู อยู่ที่มหาสมบัติเทวาพิฆเนราชสีมา #ไทยไทม์ #หน้าฟีด #Sondhitalk #ลุงสนธิมาโคราชเมื่อไรมาเที่ยวเทวาลัยนะคะ #ตามรอยผู้หญิงสามสิบยังแจ๋วพามู
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1231 มุมมอง 201 0 รีวิว
  • *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อทองสัมฤทธิ์.....( กรรมการ ).....เลขทุกเหรียญ.....รวมกันได้.....9.....*****
    *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....*****
    *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....*****
    *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....*****
    *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....*****
    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****
    #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อทองสัมฤทธิ์.....( กรรมการ ).....เลขทุกเหรียญ.....รวมกันได้.....9.....***** *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....***** *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....***** *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....***** *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • คติธรรมหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    ๑. ครูอาจารย์ดีๆ มีอยู่มากก็จริง แต่สำคัญที่เราต้องปฏิบัติให้จริง สอนตัวเองให้มาก นั่นแหละจึงจะดี

    ๒. การปฏิบัติ ถ้าหยิบตำราโน้นนี้มาสงสัยถาม มักจะโต้เถียงกันเปล่า โดยมากชอบเอาจากอาจารย์โน่นนี่ว่าอย่างนั้นอย่างนี้มา …การจะปฏิบัติให้รู้ธรรมเห็นธรรม ต้องทำจริง จะได้อยู่ที่ทำจริง เอาให้จริงให้รู้ ถ้าไปเรียนกับครูอาจารย์อื่นโดยยังไม่ทำให้จริงให้รู้ ก็เหมือนดูถูกดูหมิ่นครูบาอาจารย์

    ๓. การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ศีลคือ ดิน สมาธิ คือ ลำต้น ปัญญาคือ ดอกผล เราต้องการให้ต้นไม้เจริญงอกงาม ก็ต้องหมั่นรดน้ำพรวนดิน และต้องคอยระมัดระวังมิให้ตัวหนอนคือ โลภ โกรธ หลง มากัดกิน

    ๔. ถ้าเป็นโลกแล้ว จะมีแต่ส่งออกไปข้างนอกตลอดเวลา แต่ถ้าคิดสิ่งที่เป็นธรรมแล้ว ต้องวกกลับเข้ามาหาตัวเอง เพราะธรรมแท้ๆ ย่อมเกิดในตัวของเรานี้ทั้งนั้น

    ๕. “โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม”
    เรื่องโลกมีแต่เรื่องยุ่งของคนอื่นทั้งนั้นไม่มีที่สิ้นสุด เราไปแก้ ไขเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องธรรมนั้นมีที่สุด มาจบที่ตัวเรา ให้มาไล่ดูตัวเอง แก้ไขที่ตัวเราเอง... ตนของตนเตือนตนด้วยตนเอง

    ๖. ให้พยายามภาวนาไว้เรื่อยๆ ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ทำได้ตลอดเวลาถ้าเราจะทำ ดีกว่านั่งร้องเพลง จะซักผ้า หุงข้าว ต้มแกง นั่งรถ ทำได้ทั้งนั้น เขาเรียกว่า พยายามเกลี่ยจิตใจให้เข้าที่ ถ้าจะรอเวลาปฏิบัติ (นั่งสมาธิภาวนา) ทีเดียวมันยาก เพราะจิตมันแตกมาตลอดวัน

    ๗. ของดีอยู่ที่ตัวเรา ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต

    ๘. คนดีน่ะ เขาไม่ตีใคร

    ๙. ศีล สมาธิ ปัญญา ก็เหมือนรสแกงส้ม
    ศีล เปรียบได้กับรสเปรี้ยว ความเปรี้ยวทำหน้าที่กัดกร่อนความสกปรกออก ทำนองเดียวกัน ศีลจะช่วยขัดเกลาความหยาบออกจากทางกาย วาจา ใจ
    สมาธิ เปรียบได้กับรสเค็ม เพราะความเค็มช่วยรักษาอาหารต่างๆ ไม่ให้เน่าเสีย สมาธิก็เหมือนกัน สามารถรักษาจิตของเราให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดีได้
    ปัญญา เปรียบได้กับรสเผ็ด เพราะปัญญามีลักษณะคิด อ่าน ตริตรอง โลดแล่นไป เพื่อขจัดอวิชชาความหลง

    ๑๐. การปฏิบัติ ถ้าอยากเป็นเร็วๆ มันก็ไม่เป็น หรือไม่อยากให้เป็น มันก็ประมาทเสีย เลยไม่เป็นอีกเหมือนกัน อยากเป็นก็ไม่ว่า ไม่อยากเป็นก็ไม่ว่า ทำใจให้เป็นกลางๆ ตั้งใจให้แน่วแน่ในกรรมฐานที่ตั้งไว้ ภาวนาเรื่อยไป เหมือนกับเรากินข้าว ไม่ต้องอยากให้มันอิ่ม ค่อยๆ กินไป มันก็อิ่มเอง ภาวนาก็เช่นกัน ไม่ต้องไปคาดหวังให้มันสงบ หน้าที่ของเราคือภาวนาไป ก็จะถึงของดีของวิเศษในตัว แล้วเราจะรู้ชัดว่าอะไรเป็นอะไร ให้หมั่นทำเรื่อยไป

    ๑๑. รวยกับซวยมันใกล้กันนะ จะเอารวยน่ะ จะหามายังไงก็ทุกข์ กลัวคนจะมาจี้มาปล้น หมดไปก็เป็นทุกข์อีก ไปคิดดูเถอะ มันไม่จบหรอก มีแต่เรื่องยุ่ง เอา “ดี” ดีกว่า

    ๑๒. ความสำเร็จนั้น มิใช่อยู่ที่การสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มา
    ประทานให้ หากแต่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง ถ้าตั้งใจทำตามแบบแล้วทุกอย่าง
    รับรองว่าต้องสำเร็จ ไม่ใช่จะสำเร็จ พระพุทธเจ้าท่านวางแบบเอาไว้แล้ว ครูบาอาจารย์ทุกองค์มีพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด ก็ได้ทำตามแบบ เป็นตัวอย่างให้เราดูอัฐิของท่านก็เลยกลายเป็นพระธาตุกันหมด

    ๑๓. รอให้แก่เฒ่าหรือจวนตัวแล้วจึงสนใจภาวนา ก็เหมือนคนหัดว่ายน้ำตอนเรือหรือ
    แพใกล้แตก มันจะไม่ทันการณ์

    ๑๔. ที่ว่านิมิต แสงสว่างเป็นกิเลสก็ถูก แต่เบื้องแรกต้องอาศัยกิเลสไปละกิเลส
    (อาศัยกิเลสละเอียดไปละกิเลสอย่างหยาบ) แต่ไม่ได้ให้ติดแสงสว่างหรือหลง
    แสงสว่าง ท่านให้ใช้แสงสว่างให้ถูก ให้เกิดประโยชน์เหมือนอย่างกับเราเดินทางผ่านไปในที่มืด ก็ต้องอาศัยแสงไฟช่วยนำทาง หรืออย่างว่าเราจะข้ามแม่น้ำ ก็ต้องอาศัยเรือ อาศัยแพ เมื่อถึงฝั่งแล้ว เราจะแบกเรือแบกแพขึ้นฝั่งไปด้วยทำไม


    ๑๕. อย่าต้มน้ำทิ้งเปล่า ๆ โดยไม่ได้เอาน้ำร้อนไปใช้ประโยชน์ (หมายถึงอย่าเอาแต่ทำสมาธิโดยไม่พิจารณาธรรม)

    ๑๖. อย่าปฏิบัติแบบไฟไหม้ฟาง (หมายถึงไหม้วูบเดียวแล้วก็ดับ กล่าวคือ ขยันก็ทำ ขี้เกียจก็หยุด อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ต้องทำ (ปฏิบัติธรรม) ให้สม่ำเสมอให้ได้ทั้งในยามขยันและขี้เกียจ)

    🙏🙏🙏
    คติธรรมหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ๑. ครูอาจารย์ดีๆ มีอยู่มากก็จริง แต่สำคัญที่เราต้องปฏิบัติให้จริง สอนตัวเองให้มาก นั่นแหละจึงจะดี ๒. การปฏิบัติ ถ้าหยิบตำราโน้นนี้มาสงสัยถาม มักจะโต้เถียงกันเปล่า โดยมากชอบเอาจากอาจารย์โน่นนี่ว่าอย่างนั้นอย่างนี้มา …การจะปฏิบัติให้รู้ธรรมเห็นธรรม ต้องทำจริง จะได้อยู่ที่ทำจริง เอาให้จริงให้รู้ ถ้าไปเรียนกับครูอาจารย์อื่นโดยยังไม่ทำให้จริงให้รู้ ก็เหมือนดูถูกดูหมิ่นครูบาอาจารย์ ๓. การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้ ศีลคือ ดิน สมาธิ คือ ลำต้น ปัญญาคือ ดอกผล เราต้องการให้ต้นไม้เจริญงอกงาม ก็ต้องหมั่นรดน้ำพรวนดิน และต้องคอยระมัดระวังมิให้ตัวหนอนคือ โลภ โกรธ หลง มากัดกิน ๔. ถ้าเป็นโลกแล้ว จะมีแต่ส่งออกไปข้างนอกตลอดเวลา แต่ถ้าคิดสิ่งที่เป็นธรรมแล้ว ต้องวกกลับเข้ามาหาตัวเอง เพราะธรรมแท้ๆ ย่อมเกิดในตัวของเรานี้ทั้งนั้น ๕. “โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม” เรื่องโลกมีแต่เรื่องยุ่งของคนอื่นทั้งนั้นไม่มีที่สิ้นสุด เราไปแก้ ไขเขาไม่ได้ ส่วนเรื่องธรรมนั้นมีที่สุด มาจบที่ตัวเรา ให้มาไล่ดูตัวเอง แก้ไขที่ตัวเราเอง... ตนของตนเตือนตนด้วยตนเอง ๖. ให้พยายามภาวนาไว้เรื่อยๆ ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ทำได้ตลอดเวลาถ้าเราจะทำ ดีกว่านั่งร้องเพลง จะซักผ้า หุงข้าว ต้มแกง นั่งรถ ทำได้ทั้งนั้น เขาเรียกว่า พยายามเกลี่ยจิตใจให้เข้าที่ ถ้าจะรอเวลาปฏิบัติ (นั่งสมาธิภาวนา) ทีเดียวมันยาก เพราะจิตมันแตกมาตลอดวัน ๗. ของดีอยู่ที่ตัวเรา ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต ๘. คนดีน่ะ เขาไม่ตีใคร ๙. ศีล สมาธิ ปัญญา ก็เหมือนรสแกงส้ม ศีล เปรียบได้กับรสเปรี้ยว ความเปรี้ยวทำหน้าที่กัดกร่อนความสกปรกออก ทำนองเดียวกัน ศีลจะช่วยขัดเกลาความหยาบออกจากทางกาย วาจา ใจ สมาธิ เปรียบได้กับรสเค็ม เพราะความเค็มช่วยรักษาอาหารต่างๆ ไม่ให้เน่าเสีย สมาธิก็เหมือนกัน สามารถรักษาจิตของเราให้ตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดีได้ ปัญญา เปรียบได้กับรสเผ็ด เพราะปัญญามีลักษณะคิด อ่าน ตริตรอง โลดแล่นไป เพื่อขจัดอวิชชาความหลง ๑๐. การปฏิบัติ ถ้าอยากเป็นเร็วๆ มันก็ไม่เป็น หรือไม่อยากให้เป็น มันก็ประมาทเสีย เลยไม่เป็นอีกเหมือนกัน อยากเป็นก็ไม่ว่า ไม่อยากเป็นก็ไม่ว่า ทำใจให้เป็นกลางๆ ตั้งใจให้แน่วแน่ในกรรมฐานที่ตั้งไว้ ภาวนาเรื่อยไป เหมือนกับเรากินข้าว ไม่ต้องอยากให้มันอิ่ม ค่อยๆ กินไป มันก็อิ่มเอง ภาวนาก็เช่นกัน ไม่ต้องไปคาดหวังให้มันสงบ หน้าที่ของเราคือภาวนาไป ก็จะถึงของดีของวิเศษในตัว แล้วเราจะรู้ชัดว่าอะไรเป็นอะไร ให้หมั่นทำเรื่อยไป ๑๑. รวยกับซวยมันใกล้กันนะ จะเอารวยน่ะ จะหามายังไงก็ทุกข์ กลัวคนจะมาจี้มาปล้น หมดไปก็เป็นทุกข์อีก ไปคิดดูเถอะ มันไม่จบหรอก มีแต่เรื่องยุ่ง เอา “ดี” ดีกว่า ๑๒. ความสำเร็จนั้น มิใช่อยู่ที่การสวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มา ประทานให้ หากแต่ต้องลงมือทำด้วยตนเอง ถ้าตั้งใจทำตามแบบแล้วทุกอย่าง รับรองว่าต้องสำเร็จ ไม่ใช่จะสำเร็จ พระพุทธเจ้าท่านวางแบบเอาไว้แล้ว ครูบาอาจารย์ทุกองค์มีพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด ก็ได้ทำตามแบบ เป็นตัวอย่างให้เราดูอัฐิของท่านก็เลยกลายเป็นพระธาตุกันหมด ๑๓. รอให้แก่เฒ่าหรือจวนตัวแล้วจึงสนใจภาวนา ก็เหมือนคนหัดว่ายน้ำตอนเรือหรือ แพใกล้แตก มันจะไม่ทันการณ์ ๑๔. ที่ว่านิมิต แสงสว่างเป็นกิเลสก็ถูก แต่เบื้องแรกต้องอาศัยกิเลสไปละกิเลส (อาศัยกิเลสละเอียดไปละกิเลสอย่างหยาบ) แต่ไม่ได้ให้ติดแสงสว่างหรือหลง แสงสว่าง ท่านให้ใช้แสงสว่างให้ถูก ให้เกิดประโยชน์เหมือนอย่างกับเราเดินทางผ่านไปในที่มืด ก็ต้องอาศัยแสงไฟช่วยนำทาง หรืออย่างว่าเราจะข้ามแม่น้ำ ก็ต้องอาศัยเรือ อาศัยแพ เมื่อถึงฝั่งแล้ว เราจะแบกเรือแบกแพขึ้นฝั่งไปด้วยทำไม ๑๕. อย่าต้มน้ำทิ้งเปล่า ๆ โดยไม่ได้เอาน้ำร้อนไปใช้ประโยชน์ (หมายถึงอย่าเอาแต่ทำสมาธิโดยไม่พิจารณาธรรม) ๑๖. อย่าปฏิบัติแบบไฟไหม้ฟาง (หมายถึงไหม้วูบเดียวแล้วก็ดับ กล่าวคือ ขยันก็ทำ ขี้เกียจก็หยุด อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ต้องทำ (ปฏิบัติธรรม) ให้สม่ำเสมอให้ได้ทั้งในยามขยันและขี้เกียจ) 🙏🙏🙏
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.5

    บัดซบ! แผนเจรจามาเต็ม! อียิวขี้แตก ยูเครนสิ้นชาติ ปากขอคุย แต่เตรียมนุ๊กยิงใส่ รัสเซีย จีน รู้ทัน ไม่ใช่เพื่อนเล่นมรึง กูชิงยิงก่อน ถึงก่อน ชัวร์ มาดิ ไอ้สัส! สมองเทียบไม่ได้ คนละชั้น กึ๋นการรบ เทียบไม่ได้ จบที่อาวุธไฮเทค อิหร่านเริ่มเปิด จีนเริ่มโชว์ รัสเซียเริ่มโหด แม้แต่ JOHN WICK ได้ไฟเขียวเขมือบรวมชาติแล้ว เป็นไปตามคิว เพราะจีนก็จะเขมือบไต้หวันไปพร้อมกัน ในเมื่อมรึงคิดจะเปิดศึกแปซิฟิค ก็ขนมาให้หมดรัง สุสานเหี้ยรอเปิด! แสงโลกสาดส่อง แสงไทยสาดซัด ล่อเหี้ยหัวหมุน ไปไม่เป็น? เหี้ยรู้ชัด! ไม่ว่ามรึงจะเปิดกับใครก่อน? ขั้วใหม่จะส่ง 4 กุมารเข้าประกวดทุกเวที ไม่มียกเว้น มากันเป็นแพ็คคู่ แทคทีม ไหวป่ะ? เงียบกริบไปป่ะ? ทั้งอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง อียุ่นปี่ เพราะรู้ชะตากรรมแล้วว่า หากยังอยู่ในเกมส์กระดานนี้ กูถูกบูชายันต์แน่ แผนลอบกัด หักหลังตามมาทันที อียิวหากมรึงใหญ่จริง ต้องเอาขี้ข้าอยู่ แต่กลายเป็นว่า ขี้ข้าเผ่นหางจุกตูดกันหมด เหตุผลคือ "ขั้วใหม่" แอบตีท้ายครัว คุยหลังไมค์ชาติขี้ข้ายิวหมดเกลี้ยง "อยากตาย หรืออยากรวย อยากรอด" มรึงเลือกเอา? ใครทิ้งอียิว? กูจะพิจารณาหนทางรอดให้! ปูติน สีจิ้นผิง ฉลาดกว่านั้นเยอะ รู้ดี กำจัดอียิวเหี้ยให้สิ้นซาก ต้องถอนรากถอนโคนขี้ข้ามันก่อน ย้ายขั้วคือจบ ย้ายข้างคือชนะใส! โลกรวมตัว ต่อกันติดแล้ว มรึงจะกลายเป็นส่วนเกินทันที ไหวตัวทัน ก็รอด? จอร์แดนสุดทน! รัฐฝ่ายการเมืองออกตัวขี้ข้ายิว แต่ปชช.จอร์แดนจิตวิญญานปาเลสไตน์ จับอาวุธไล่กราดยิงทหารยิวตายห่าคาพรมแดน เปิดศึกภาคประชาชน รัฐไม่สู้ รัฐไม่ช่วย ชาวบ้านสั่งลุยกันเอง งานเข้าแล้วมรึงเอ๋ย? นี่คือปมที่จะบีบให้รัฐบาลขี้ข้ายิวประกาศสงครามกับยิวไงล่ะ เมื่อมรึงอยากจะสิ้นชาติ แต่ปชช.จอร์แดนหัวใจปาเลสไตน์ไม่ยอม รอดู รัฐบาลไปก่อน หรือแผ่นดินจะไปก่อน เพราะอิหรา่นส่งสัญญานแล้วว่า ใครให้อียิวบินผ่าน ใช้ฐานทัพปฎิบัติการโจมตีอิหร่าน มรึงโดนกูล่อทันทีแน่? เฮซบอเลาะห์หยามอียิว ส่งโดรนพิฆาตบินข้ามหัวหย่อนระเบิดลงกลางบัานอีเนรคุณทันยา รู้ว่ามรึงไม่อยู่บ้านดอก แค่ส่งสัญญาน "กูล่าหัวมรึงอยู่" ทำให้อีเนรคุณทันยาต้องย้ายบ้านไปอยู่ใต้ดิน มุดลงรูแทน ชีวิตดี๊ดี ไอ้สัส! ผวาทั้งแผ่นดิน ขนาดตัวผู้นำเหี้ยยังถูกล่อเป้า ชาวบ้านจะเหลือเหรอ? ข้ามวิกแป๊บ : 10000 เฟสแรก แห้วแดร๊ก หายวับ ไร้เงากระตุ้นเศรษฐกิจ ยังเสี้ยนต่อ ส่ง 10000 เฟส 2 ต่อเนื่อง เอาให้สุด ต้องเชียร์ เหี้ยมันทำได้แค่นี้แหละ? ตอนเช็คบิล หายหมดทั้งแผ่นดินแน่ ช่วงโปรไฟไหม้ วังสมนาคุณให้ชาวบ้านควายกระโหลกหนา ล่อไอ้อีคนเซ็นต์ คนวางแผน ผู้สมรู้ร่วมคิด พรรค และหน่วยงานที่แจ้งแท็จ ศาลจ้องไว้นานแล้ว รอแค่คนชง คนตบ จบที่คุกตามสูตร! ดิ ไอ(คอน)สัส มหากาพย์เชือดเหี้ยตัวพ่อ หน้าฉากแค่ดารา หลังฉากเหี้ย C ทั้งนั้น จะบั่นทอนเศรษฐกิจชาติ งานนี้คลัง วัง กองทัพ ประสานมือแน่น เชือดเหี้ยในไทย ให้เหี้ยในวอชิงตันดูคาจอ! กูเคยบอกแล้วน่ะ พ่อร.10 คือยุคพระเดช ไม่พูดเยอะ เชือดอย่างเดียว! กฎทหารมีแค่ ยอม หรือตาย เท่านั้น? งานนี้คือ ไล่ฆ่าเหี้ย ถีบเหี้ยให้เผ่นออกนอกให้หมด นี่คือหมากที่วังวางไว้มานานแล้ว โดยใช้คดีเป็นเงาตามตัว ตัดเส้นทางท่อน้ำเลี้ยง ตัดอำนาจ วาสนา มรึงก็คือหมาตัวนึง หมดประโยชน์ นายใหญ่ที่วอชิงตันก็เขี่ยทิ้ง จะเก็บเมื่อไหร่ก็ได้ หรือจะปล่อยให้ไปตายคาตรีนแทน เพราะไอ้คนจ่อฆ่ามันมีเพี๊ยบ? กลับมาสู่โลกอันโสมม : กูบอกแล้วชิมิ หัวหน้าตัวจริงคือใคร? มรึงจะรู้มุย? ฮามาสได้ผู้นำคนใหม่ทันที ตายจริง ตายปลอม ใครสนกันล่ะ? ตราบใด หัวสมองหลักยังอยู่ครบถ้วน จะเลือกใครมาเป็นหัวผู้นำก็ได้ทั้งนั้น เพราะมีแค่เป้าหมายเดียว คือภารกิจสำเร็จ จัดการศัตรูให้สิ้นซาก ไม่สนวิธีการ? มีแค่สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไม่ได้นั่นคือ KING อย่าง คาเมเนอี คือผู้นำสูงสุดแห่งศรัทธา ผู้นำเปลี่ยนหน้าได้หมด แต่ผู้นำจิตวิญญานมีเพียงหนึ่งเดียว นอกจากหมดวาระหรือเสียชีวิตเท่านั้น หากอียิวมันแน่จริง มันเก่งจริงตามสื่อเล่า มรึงจะรบแพ้ยับ จนผู้นำต้องไปมุดลงใต้ดินแบบวันนี้เหรอ? คิดสิจ๊ะ? ตอแหล ปั่น หลอกควายทั้งนั้น ดูของจริง ข้อเท็จจริง จะได้ไม่หลงทาง? อาเซียนเตรียมแผนรับมือสงครามใหญ่พร้อม หลังร่วมฝึกซ้อมกับรัสเซีย จีน ต่อเนื่อง นัยยะคือ "ถิ่นกู" คนนอกอย่าเสือก? ไทย ลาว อินโด ขะแมร์ เวียดนาม มาเลย์ พม่า บรูไนถือหางขั้วใหม่ คงไม่ต้องถามต่อ หากเหี้ยมันยังจะใช้อีปินส์จุดไฟ เพราะมันจะไม่ได้ผล แต่ผลลัพธ์จะตีกลับไปหาตัวมันเอง เพราะอาเซียนจุดแข็งคือ "ข้าวปลาอาหาร" และแหล่งทรัพยากรโลก มีใครยังไม่รู้? แหล่งพลังงานอยู่ที่นี่มหาศาล น้องๆ อาร์คติค หากอยู่ในมือรัสเซีย จีน จะทำประโยชน์ให้โลกมากมาย เพราะไร้กีดกัน เหี้ยถึงฝันสลาย รอเขมือบไทยมาเกือบ 100 ปี แต่แห้วแดร๊ก เพราะเรามี "กษัตริย์" ไม่งั้น ถูกปชต.ตอแหลรวบแดร๊กไปนานแล้ว! เรื่องไม่เล็ก ราคาเนยพุ่ง 83% ทั่วยุโรป สะเทือนเทศกาลคริสต์มาส เอเซียอุดมสมบูรณ์ ไร้ปัญหาปากท้อง มีเหลือกินเหลือใช้ แต่อีโง่ยุโรปทั้งแผ่นดินกำลังจะอดตาย ตกงาน กิจการล้ม อุตสาหกรรมดับ คนไร้บ้านเกลื่อน ยาทะลัก อีกไม่นาน มุสลิมจะครองทั้งยุโรป ใครล่ะมีเงินพอจะซื้อธุรกิจเน่า และขยายเผ่าพันธุ์ไปทั่วยุโรป ชาวยุโรปจะย้ายถิ่นฐาน ยุโรปจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ชาติเล็กจะหันไปพึ่งพาขั้วใหม่ แกนนำยุโรปจะเปลี่ยนมือ หนี้บานตะไท ปัญหารุมเร้า สุดท้ายหมดราคา ภาพประวัติศาสตร์ที่เคยมี เคยเห็น จะไม่เหมือนเดิมอีกตลอดกาล โลกไปโฟกัสที่เอเซียหมดสิ้น นวตกรรมใหม่จะก่อเกิดจากที่นี่เป็นหลัก ลดบทบาท ยุโรป อเมริกา ชาติตะวันตก ให้กลายเป็นผู้ตามในไม่ช้า เพราะ EGO ตัวเดียว! บทเรียนไม่เคยจำ ก็เป็นได้แค่ "ส่วนเกินโลก"

    ปล.พระมหาชนกคือตัวอย่างแห่งความเพียรพยายาม พ่อร.9 ได้บอกอะไรให้เราฟัง? ท่านรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในแผ่นดินนี้ พระราชินี(พระพันปีหลวง)พูดเรื่อง "กลียุค" ก่อนใคร? ทั้งหมดคือสิ่งที่พ่อ แม่ เตือนเรามาโดยตลอด ใช้ชีวิตไม่ประมาท ดิ ไอ(คอน)สัส นั่นแค่ปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง ยังมีธุรกิจแอบแฝงอีกเยอะ ที่มาจากต้นขั้วเดียวกัน นั่นคือ CIA ทุนมาจากไหน แผนมาจากใคร รวบเอาเงินชาวบ้านตาดำดำมาหาแดร๊ก มรึงคิดว่า แค่ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่กี่ตัว จะมีปัญญาทำใหญ่สะเทือนแผ่นดินแบบนี้ได้เหรอ หากไม่มีแบ็คอัพ? นี่คือที่มา ที่วังสั่งตรงสายด่วน เร่งจัดการ อย่าให้ลามไปจนทำลายเศรษฐกิจหมดไปทั้งแผ่นดิน มันคือการเชือดให้ดูเป็นตัวอย่าง นี่ไม่ใช่ครั้งแรก สิ่งที่เหี้ย C ถนัดและทำบ่อยที่สุด คือปั่นหุ้น ทำลายฐานเศรษฐกิจไทยทางอ้อม เกมส์มันไม่ได้อยู่แค่ว่าเป็นของใคร? แต่มันอยู่ที่เป้าหมายที่แท้จริงทำลายสิ่งใด ต่างหาก? รวยนักชิมิ? มันจ้องไล่ทุบคลังไทยมาช้านานแล้ว ไม่แปลก ที่หลวงตา "มหาบัว" ริเริ่มสั่งตุนทองคำแห่ส่งเข้าคลังหลวง เพราะมองเห็นการณ์ไกล และรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในช่วง WWIII เข้าใจยัง? ไทยเราจัดการปัญหาล่วงหน้าได้เสมอ เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา ฟ้าดิน คุ้มครองภัยเสมอมา ขนาดบ้านเมืองเรายังมีดวงตาทิพย์ แล้วรัสเซีย จีน จะไม่มีเหรอ? ศาสตร์จีนโบราณนับ 5000 ปี มีตำราพิชัยสงคราม ตำราดวงดาว ทั้งหมด มันใช้พยากรณ์คำนวณชะตาชีวิตโลกได้ ไม่แปลกที่จีนรู้ทันแผนเหี้ย ไม่ตกใจที่รัสเซียเดินนำหน้า 2 ก้าวเสมอ เหี้ยถึงได้ไปไม่เป็น ศาสตร์ลี้ลับ ศาสตร์ดวงตาสวรรค์ ใครบอกว่าไม่มีอยู่จริง? ทั้งหมดมันคือ "สถิติ+คณิตศาสตร์" ดวงบ้านเมือง ย่อมมีเกจิ กุนซือ คำนวณไว้ล่วงหน้าแล้ว ชดใช้กรรมเก่าหมด ก็เตรียมขึ้นทะยานสู่ฟากฟ้าได้เลย ไทยเราคือขาขึ้น แบบยาวไป ขั้วใหม่ก็เช่นกัน! ถึงได้บอกไงล่ะว่า เกมส์โลก เกมส์ไทย คือเรื่องเดียวกัน มันจะเดินไปพร้อมกันเสมอ ไทยรอด คืออาเซียนรอด ไม่ได้ยกตนข่มท่าน แต่ไทยสำคัญที่สุดในยุทธศาสตร์อาเซียนสำหรับขั้วใหม่ ทำไมไทยถึงผูกใจกับรัสเซีย จีน มานมนาน เพราะมันมีชะตาเกี่ยวพันกัน ค้ำกันอยู่ไงล่ะ? เกมส์สงครามแค่เปลือกนอก เกมส์จริงให้ดูที่ฐานเศรษฐกิจโลกอยู่ในมือใคร? พลังงาน อาหาร เทคโนโลยี อาวุธ สื่อสาร โลจิสติค คือปัจจัยหลักของผู้นำโลกทุกยุค ทุกสมัย? เม้าท์ก่อนจบ : อีไอโฟนหมดมุก ขุดของเก่ามาขาย คนเอือม อยู่กับที่ หลอกควายไปวันวัน จ่ายแพงเพื่อ? หัวเว่ย แจ่มแจ๋ว นวตกรรม 6G ทะลุดวงดาว ไปจนกู่ไม่กลับ แซงอีไอโฟน ถีบจนไปอยู่หางแถว อีซัมซัม ก็กำลังจะร่วง แบรนด์จีน เร็ว แรง ทะลุนรก ไม่ปรึกษาใคร? ยุคที่ค่าโง่แพงกว่า จ่ายเท่าไหร่ ก็ไม่แพงเท่าถูกหลอก? จีนดาหน้าปูพรมขยี้เศรษฐกิจยุโรป อเมริกา ไม่ไว้หน้า? ห่วยกว่าก็ถอยไป ตะวันออกกลางเงินเยอะ และถอนการลงทุนในอเมริกา ยุโรป หันเข้าหาเอเซียเต็มตรีน เม็ดเงินสะพัดอยู่ในเอเซีย แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เงินไหลออกน้อยกว่าเดิม แต่เงินไหลเข้ามหาศาล จนดอลล่าร์ตายคาตรีน!

    หมี CNN(พ่อพูด พ่อเตือน พ่อสอน หากรู้จักคิด มรึงจะไม่พบกับความล้มเหลว คำพูดสวรรค์ มักจะมีคนฟังน้อย เพราะมันเบา แต่คำพูดของนรก เสียงมันจะดังก้องหู เพราะกิเลส ครอบงำ ตั้งสติ คือมีสติ มีสติ คือไตร่ตรอง และจะไม่ประมาท คนโง่ คนฉลาด ต่างกันตรงนี้ เสพอะไรก็ได้อย่างงั้น นี่คือ FACT เสพสิ่งดี สิ่งดีก็เข้าตัว เสพอาจม สิ่งโสมมก็เปรอะเปื้อน เท่านั้นเอง)
    20 ตุลาคม 67
    00.01 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    20-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.5 บัดซบ! แผนเจรจามาเต็ม! อียิวขี้แตก ยูเครนสิ้นชาติ ปากขอคุย แต่เตรียมนุ๊กยิงใส่ รัสเซีย จีน รู้ทัน ไม่ใช่เพื่อนเล่นมรึง กูชิงยิงก่อน ถึงก่อน ชัวร์ มาดิ ไอ้สัส! สมองเทียบไม่ได้ คนละชั้น กึ๋นการรบ เทียบไม่ได้ จบที่อาวุธไฮเทค อิหร่านเริ่มเปิด จีนเริ่มโชว์ รัสเซียเริ่มโหด แม้แต่ JOHN WICK ได้ไฟเขียวเขมือบรวมชาติแล้ว เป็นไปตามคิว เพราะจีนก็จะเขมือบไต้หวันไปพร้อมกัน ในเมื่อมรึงคิดจะเปิดศึกแปซิฟิค ก็ขนมาให้หมดรัง สุสานเหี้ยรอเปิด! แสงโลกสาดส่อง แสงไทยสาดซัด ล่อเหี้ยหัวหมุน ไปไม่เป็น? เหี้ยรู้ชัด! ไม่ว่ามรึงจะเปิดกับใครก่อน? ขั้วใหม่จะส่ง 4 กุมารเข้าประกวดทุกเวที ไม่มียกเว้น มากันเป็นแพ็คคู่ แทคทีม ไหวป่ะ? เงียบกริบไปป่ะ? ทั้งอีเบียร์ อีเศษฝรั่ง อียุ่นปี่ เพราะรู้ชะตากรรมแล้วว่า หากยังอยู่ในเกมส์กระดานนี้ กูถูกบูชายันต์แน่ แผนลอบกัด หักหลังตามมาทันที อียิวหากมรึงใหญ่จริง ต้องเอาขี้ข้าอยู่ แต่กลายเป็นว่า ขี้ข้าเผ่นหางจุกตูดกันหมด เหตุผลคือ "ขั้วใหม่" แอบตีท้ายครัว คุยหลังไมค์ชาติขี้ข้ายิวหมดเกลี้ยง "อยากตาย หรืออยากรวย อยากรอด" มรึงเลือกเอา? ใครทิ้งอียิว? กูจะพิจารณาหนทางรอดให้! ปูติน สีจิ้นผิง ฉลาดกว่านั้นเยอะ รู้ดี กำจัดอียิวเหี้ยให้สิ้นซาก ต้องถอนรากถอนโคนขี้ข้ามันก่อน ย้ายขั้วคือจบ ย้ายข้างคือชนะใส! โลกรวมตัว ต่อกันติดแล้ว มรึงจะกลายเป็นส่วนเกินทันที ไหวตัวทัน ก็รอด? จอร์แดนสุดทน! รัฐฝ่ายการเมืองออกตัวขี้ข้ายิว แต่ปชช.จอร์แดนจิตวิญญานปาเลสไตน์ จับอาวุธไล่กราดยิงทหารยิวตายห่าคาพรมแดน เปิดศึกภาคประชาชน รัฐไม่สู้ รัฐไม่ช่วย ชาวบ้านสั่งลุยกันเอง งานเข้าแล้วมรึงเอ๋ย? นี่คือปมที่จะบีบให้รัฐบาลขี้ข้ายิวประกาศสงครามกับยิวไงล่ะ เมื่อมรึงอยากจะสิ้นชาติ แต่ปชช.จอร์แดนหัวใจปาเลสไตน์ไม่ยอม รอดู รัฐบาลไปก่อน หรือแผ่นดินจะไปก่อน เพราะอิหรา่นส่งสัญญานแล้วว่า ใครให้อียิวบินผ่าน ใช้ฐานทัพปฎิบัติการโจมตีอิหร่าน มรึงโดนกูล่อทันทีแน่? เฮซบอเลาะห์หยามอียิว ส่งโดรนพิฆาตบินข้ามหัวหย่อนระเบิดลงกลางบัานอีเนรคุณทันยา รู้ว่ามรึงไม่อยู่บ้านดอก แค่ส่งสัญญาน "กูล่าหัวมรึงอยู่" ทำให้อีเนรคุณทันยาต้องย้ายบ้านไปอยู่ใต้ดิน มุดลงรูแทน ชีวิตดี๊ดี ไอ้สัส! ผวาทั้งแผ่นดิน ขนาดตัวผู้นำเหี้ยยังถูกล่อเป้า ชาวบ้านจะเหลือเหรอ? ข้ามวิกแป๊บ : 10000 เฟสแรก แห้วแดร๊ก หายวับ ไร้เงากระตุ้นเศรษฐกิจ ยังเสี้ยนต่อ ส่ง 10000 เฟส 2 ต่อเนื่อง เอาให้สุด ต้องเชียร์ เหี้ยมันทำได้แค่นี้แหละ? ตอนเช็คบิล หายหมดทั้งแผ่นดินแน่ ช่วงโปรไฟไหม้ วังสมนาคุณให้ชาวบ้านควายกระโหลกหนา ล่อไอ้อีคนเซ็นต์ คนวางแผน ผู้สมรู้ร่วมคิด พรรค และหน่วยงานที่แจ้งแท็จ ศาลจ้องไว้นานแล้ว รอแค่คนชง คนตบ จบที่คุกตามสูตร! ดิ ไอ(คอน)สัส มหากาพย์เชือดเหี้ยตัวพ่อ หน้าฉากแค่ดารา หลังฉากเหี้ย C ทั้งนั้น จะบั่นทอนเศรษฐกิจชาติ งานนี้คลัง วัง กองทัพ ประสานมือแน่น เชือดเหี้ยในไทย ให้เหี้ยในวอชิงตันดูคาจอ! กูเคยบอกแล้วน่ะ พ่อร.10 คือยุคพระเดช ไม่พูดเยอะ เชือดอย่างเดียว! กฎทหารมีแค่ ยอม หรือตาย เท่านั้น? งานนี้คือ ไล่ฆ่าเหี้ย ถีบเหี้ยให้เผ่นออกนอกให้หมด นี่คือหมากที่วังวางไว้มานานแล้ว โดยใช้คดีเป็นเงาตามตัว ตัดเส้นทางท่อน้ำเลี้ยง ตัดอำนาจ วาสนา มรึงก็คือหมาตัวนึง หมดประโยชน์ นายใหญ่ที่วอชิงตันก็เขี่ยทิ้ง จะเก็บเมื่อไหร่ก็ได้ หรือจะปล่อยให้ไปตายคาตรีนแทน เพราะไอ้คนจ่อฆ่ามันมีเพี๊ยบ? กลับมาสู่โลกอันโสมม : กูบอกแล้วชิมิ หัวหน้าตัวจริงคือใคร? มรึงจะรู้มุย? ฮามาสได้ผู้นำคนใหม่ทันที ตายจริง ตายปลอม ใครสนกันล่ะ? ตราบใด หัวสมองหลักยังอยู่ครบถ้วน จะเลือกใครมาเป็นหัวผู้นำก็ได้ทั้งนั้น เพราะมีแค่เป้าหมายเดียว คือภารกิจสำเร็จ จัดการศัตรูให้สิ้นซาก ไม่สนวิธีการ? มีแค่สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไม่ได้นั่นคือ KING อย่าง คาเมเนอี คือผู้นำสูงสุดแห่งศรัทธา ผู้นำเปลี่ยนหน้าได้หมด แต่ผู้นำจิตวิญญานมีเพียงหนึ่งเดียว นอกจากหมดวาระหรือเสียชีวิตเท่านั้น หากอียิวมันแน่จริง มันเก่งจริงตามสื่อเล่า มรึงจะรบแพ้ยับ จนผู้นำต้องไปมุดลงใต้ดินแบบวันนี้เหรอ? คิดสิจ๊ะ? ตอแหล ปั่น หลอกควายทั้งนั้น ดูของจริง ข้อเท็จจริง จะได้ไม่หลงทาง? อาเซียนเตรียมแผนรับมือสงครามใหญ่พร้อม หลังร่วมฝึกซ้อมกับรัสเซีย จีน ต่อเนื่อง นัยยะคือ "ถิ่นกู" คนนอกอย่าเสือก? ไทย ลาว อินโด ขะแมร์ เวียดนาม มาเลย์ พม่า บรูไนถือหางขั้วใหม่ คงไม่ต้องถามต่อ หากเหี้ยมันยังจะใช้อีปินส์จุดไฟ เพราะมันจะไม่ได้ผล แต่ผลลัพธ์จะตีกลับไปหาตัวมันเอง เพราะอาเซียนจุดแข็งคือ "ข้าวปลาอาหาร" และแหล่งทรัพยากรโลก มีใครยังไม่รู้? แหล่งพลังงานอยู่ที่นี่มหาศาล น้องๆ อาร์คติค หากอยู่ในมือรัสเซีย จีน จะทำประโยชน์ให้โลกมากมาย เพราะไร้กีดกัน เหี้ยถึงฝันสลาย รอเขมือบไทยมาเกือบ 100 ปี แต่แห้วแดร๊ก เพราะเรามี "กษัตริย์" ไม่งั้น ถูกปชต.ตอแหลรวบแดร๊กไปนานแล้ว! เรื่องไม่เล็ก ราคาเนยพุ่ง 83% ทั่วยุโรป สะเทือนเทศกาลคริสต์มาส เอเซียอุดมสมบูรณ์ ไร้ปัญหาปากท้อง มีเหลือกินเหลือใช้ แต่อีโง่ยุโรปทั้งแผ่นดินกำลังจะอดตาย ตกงาน กิจการล้ม อุตสาหกรรมดับ คนไร้บ้านเกลื่อน ยาทะลัก อีกไม่นาน มุสลิมจะครองทั้งยุโรป ใครล่ะมีเงินพอจะซื้อธุรกิจเน่า และขยายเผ่าพันธุ์ไปทั่วยุโรป ชาวยุโรปจะย้ายถิ่นฐาน ยุโรปจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ชาติเล็กจะหันไปพึ่งพาขั้วใหม่ แกนนำยุโรปจะเปลี่ยนมือ หนี้บานตะไท ปัญหารุมเร้า สุดท้ายหมดราคา ภาพประวัติศาสตร์ที่เคยมี เคยเห็น จะไม่เหมือนเดิมอีกตลอดกาล โลกไปโฟกัสที่เอเซียหมดสิ้น นวตกรรมใหม่จะก่อเกิดจากที่นี่เป็นหลัก ลดบทบาท ยุโรป อเมริกา ชาติตะวันตก ให้กลายเป็นผู้ตามในไม่ช้า เพราะ EGO ตัวเดียว! บทเรียนไม่เคยจำ ก็เป็นได้แค่ "ส่วนเกินโลก" ปล.พระมหาชนกคือตัวอย่างแห่งความเพียรพยายาม พ่อร.9 ได้บอกอะไรให้เราฟัง? ท่านรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในแผ่นดินนี้ พระราชินี(พระพันปีหลวง)พูดเรื่อง "กลียุค" ก่อนใคร? ทั้งหมดคือสิ่งที่พ่อ แม่ เตือนเรามาโดยตลอด ใช้ชีวิตไม่ประมาท ดิ ไอ(คอน)สัส นั่นแค่ปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง ยังมีธุรกิจแอบแฝงอีกเยอะ ที่มาจากต้นขั้วเดียวกัน นั่นคือ CIA ทุนมาจากไหน แผนมาจากใคร รวบเอาเงินชาวบ้านตาดำดำมาหาแดร๊ก มรึงคิดว่า แค่ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่กี่ตัว จะมีปัญญาทำใหญ่สะเทือนแผ่นดินแบบนี้ได้เหรอ หากไม่มีแบ็คอัพ? นี่คือที่มา ที่วังสั่งตรงสายด่วน เร่งจัดการ อย่าให้ลามไปจนทำลายเศรษฐกิจหมดไปทั้งแผ่นดิน มันคือการเชือดให้ดูเป็นตัวอย่าง นี่ไม่ใช่ครั้งแรก สิ่งที่เหี้ย C ถนัดและทำบ่อยที่สุด คือปั่นหุ้น ทำลายฐานเศรษฐกิจไทยทางอ้อม เกมส์มันไม่ได้อยู่แค่ว่าเป็นของใคร? แต่มันอยู่ที่เป้าหมายที่แท้จริงทำลายสิ่งใด ต่างหาก? รวยนักชิมิ? มันจ้องไล่ทุบคลังไทยมาช้านานแล้ว ไม่แปลก ที่หลวงตา "มหาบัว" ริเริ่มสั่งตุนทองคำแห่ส่งเข้าคลังหลวง เพราะมองเห็นการณ์ไกล และรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นในช่วง WWIII เข้าใจยัง? ไทยเราจัดการปัญหาล่วงหน้าได้เสมอ เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา ฟ้าดิน คุ้มครองภัยเสมอมา ขนาดบ้านเมืองเรายังมีดวงตาทิพย์ แล้วรัสเซีย จีน จะไม่มีเหรอ? ศาสตร์จีนโบราณนับ 5000 ปี มีตำราพิชัยสงคราม ตำราดวงดาว ทั้งหมด มันใช้พยากรณ์คำนวณชะตาชีวิตโลกได้ ไม่แปลกที่จีนรู้ทันแผนเหี้ย ไม่ตกใจที่รัสเซียเดินนำหน้า 2 ก้าวเสมอ เหี้ยถึงได้ไปไม่เป็น ศาสตร์ลี้ลับ ศาสตร์ดวงตาสวรรค์ ใครบอกว่าไม่มีอยู่จริง? ทั้งหมดมันคือ "สถิติ+คณิตศาสตร์" ดวงบ้านเมือง ย่อมมีเกจิ กุนซือ คำนวณไว้ล่วงหน้าแล้ว ชดใช้กรรมเก่าหมด ก็เตรียมขึ้นทะยานสู่ฟากฟ้าได้เลย ไทยเราคือขาขึ้น แบบยาวไป ขั้วใหม่ก็เช่นกัน! ถึงได้บอกไงล่ะว่า เกมส์โลก เกมส์ไทย คือเรื่องเดียวกัน มันจะเดินไปพร้อมกันเสมอ ไทยรอด คืออาเซียนรอด ไม่ได้ยกตนข่มท่าน แต่ไทยสำคัญที่สุดในยุทธศาสตร์อาเซียนสำหรับขั้วใหม่ ทำไมไทยถึงผูกใจกับรัสเซีย จีน มานมนาน เพราะมันมีชะตาเกี่ยวพันกัน ค้ำกันอยู่ไงล่ะ? เกมส์สงครามแค่เปลือกนอก เกมส์จริงให้ดูที่ฐานเศรษฐกิจโลกอยู่ในมือใคร? พลังงาน อาหาร เทคโนโลยี อาวุธ สื่อสาร โลจิสติค คือปัจจัยหลักของผู้นำโลกทุกยุค ทุกสมัย? เม้าท์ก่อนจบ : อีไอโฟนหมดมุก ขุดของเก่ามาขาย คนเอือม อยู่กับที่ หลอกควายไปวันวัน จ่ายแพงเพื่อ? หัวเว่ย แจ่มแจ๋ว นวตกรรม 6G ทะลุดวงดาว ไปจนกู่ไม่กลับ แซงอีไอโฟน ถีบจนไปอยู่หางแถว อีซัมซัม ก็กำลังจะร่วง แบรนด์จีน เร็ว แรง ทะลุนรก ไม่ปรึกษาใคร? ยุคที่ค่าโง่แพงกว่า จ่ายเท่าไหร่ ก็ไม่แพงเท่าถูกหลอก? จีนดาหน้าปูพรมขยี้เศรษฐกิจยุโรป อเมริกา ไม่ไว้หน้า? ห่วยกว่าก็ถอยไป ตะวันออกกลางเงินเยอะ และถอนการลงทุนในอเมริกา ยุโรป หันเข้าหาเอเซียเต็มตรีน เม็ดเงินสะพัดอยู่ในเอเซีย แบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เงินไหลออกน้อยกว่าเดิม แต่เงินไหลเข้ามหาศาล จนดอลล่าร์ตายคาตรีน! หมี CNN(พ่อพูด พ่อเตือน พ่อสอน หากรู้จักคิด มรึงจะไม่พบกับความล้มเหลว คำพูดสวรรค์ มักจะมีคนฟังน้อย เพราะมันเบา แต่คำพูดของนรก เสียงมันจะดังก้องหู เพราะกิเลส ครอบงำ ตั้งสติ คือมีสติ มีสติ คือไตร่ตรอง และจะไม่ประมาท คนโง่ คนฉลาด ต่างกันตรงนี้ เสพอะไรก็ได้อย่างงั้น นี่คือ FACT เสพสิ่งดี สิ่งดีก็เข้าตัว เสพอาจม สิ่งโสมมก็เปรอะเปื้อน เท่านั้นเอง) 20 ตุลาคม 67 00.01 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีทั้งหมด 9 ข้อ
    หลายคนเคยสงสัยตัวเองมั้ย ว่าทำไมดูดวงกับหมอดู แล้วไม่ตรง ทั้งๆที่คนอื่นบอกว่าหมอคนนี้แม่นมาก เพราะอะไรลองมาดูกันค่ะ (จากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ) สรุปได้ 9 ข้อ

    1.ดวงไม่สมพงษ์กับหมอดู หรือเราอาจจะไม่มีบุญสัมพันธ์ได้ดูกับหมอดูคนนั้น ดวงอาจจะขัดกัน

    2. มีเจ้ากรรมนายเวรที่ปิดกั้นดวงชะตา ไม่ยอมให้หมอดูแนะนำวิธีแก้ไข หรือเจ้ากรรมนายเวรไม่อยากได้บุญจากเรา ไม่อยากให้เราทำบุญสวดมนต์ไปให้ อยากจองเวร อยากทำให้ชีวิตเราแย่ต่อไป เพราะมีบางคนมาดูดวงแล้ว หมอดูก็จะบอกว่าติดขัดตรงไหน ส่วนใหญ่ก็จะให้ทำบุญสวดมนต์ ...บางคนถามว่าลงทุนแล้วดีไหม? ได้คำทำนายว่า ดีมาก ลงทุนเลย แต่ปรากฏว่าลงทุนแล้วเจ๊ง อาจจะเป็นเพราะดวงเขาต้องเป็นแบบนั้น หมอดูไม่ได้พูดมั่วนะคะ แต่เขาอาจจะเห็นว่าดวงเราเป็นแบบนั้นจริงๆ เหมือนเขาโดนปิดกั้น ไม่ให้บอกคำทำนายที่แท้จริง หรือบางคนนัดกับหมอดูไว้ แล้วต้องมีเหตุการณ์ไม่ได้ดูกะทันหัน ติดธุระ มีเรื่องมีราว ทำให้ต้องเลื่อนนัด จะดูก็ไม่ได้ดูสักที หรือบางคนอาจจะไม่ได้ดูเลยก็ได้

    3. บุคคลที่มาดูดวงคนนั้น อาจจะมีเครื่องรางปิดกั้น ดวง มีการทำพิธีอะไรบางอย่าง เช่น ลงนะ สักยันต์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องเขาไว้ โดยเฉพาะคนที่ เอาดวงของคนอื่นมาดู หรือถามถึงคนอื่นโดยที่ตัวเขาไม่รู้ ไม่ได้ทำการอนุญาต การทำนายดวงอาจจะมีการคลาดเคลื่อน หรืออาจจะเจาะดวงเขาไม่ได้ ยกเว้นว่าถ้าหมอดูคนนั้นอาจจะมีความสามารถจริงๆ เช่น มีการสวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ มีศีลภาวนา มีสัมผัสพิเศษ มีบุญบารมีที่สามารถล่วงรู้ได้มากกว่าบุคคลธรรมดาทั่วไป ก็อาจจะรู้คำตอบ *ดังนั้นเวลาดูดวงทุกครั้ง เราควรที่จะต้องอธิษฐานจิตก่อนว่า...ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเจ้ากรรมนายเวร ช่วยเปิดดวงของเราด้วย เพื่อให้คำทำนายมีความแม่นยำและชัดเจน

    4.การดูดวงเรื่องหุ้น หว.ย ตัวเลข หรือเรื่องที่ผิดศีลธรรม เช่น ธุรกิจสีเทา เรื่องแนวนี้ ...มันจะได้รับคำตอบที่คลาดเคลื่อน เพราะเหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาจะไม่เปิดดวง เพราะถือว่าเป็นอบายมุข การพนัน (มันสามารถทำนายได้ค่ะ แต่มันจะไม่ตรง และอาจจะเป็นบาปกับหมอดูด้วย)

    5. ประสบการณ์ของหมอดูคนนั้นอาจจะยังไม่มากพอ ทำให้การตีความมีการผิดพลาด คลาดเคลื่อน หรือเกี่ยวกับการปฏิบัติตนของหมอดูอาจจะยังไม่ได้อยู่ในศีลเพียงพอ หรือบางคนอาจจะมีหน้าม้า

    6.ถูกปิดกั้นดวงชะตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากมีการทำผิดศีล หรือปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง หรือปฏิบัติตนไม่ถูกทำนองครองธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงไม่เปิดทางให้รู้ดวงชะตาเพื่อให้หาวิธีแก้ไขได้ เพราะต้องการให้เรารับกรรม และชีวิตติดขัดต่อไป หรือ บางคนบนแล้วไม่ได้แก้ ติดสัจจะวาจากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    7.ตัวคนที่มาดูมีองค์เทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณบรรพบุรุษปกป้องดูแลอยู่ หรือถ้ามีบูชาอะไรเป็นพิเศษ ก็จำเป็นต้องขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเปิดดวง

    8.ตัวคนที่มาดูเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด มีการสวดมนต์ไหว้พระอยู่ตลอด รักษาศีลไม่บกพร่อง จนเรียกได้ว่าเป็นคนที่อยู่เหนือดวง หรือบางคนศึกษาเกี่ยวกับเวทมนต์คุณไสยที่มีการท่องคาถากำบังต่างๆ จึงทำให้คนอื่นไม่สามารถดูดวงได้ หรือเจาะดวงชะตาได้ยากมาก

    9. การดูดวงซ้ำๆ ถามคำถามเดิมๆ ในระยะเวลาสั้นๆโดยไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปก่อน แล้วค่อยถามคำถามนั้น ...จะทำให้โดนอาถรรพ์ คำทำนายจะไปในทิศทางที่ไม่ดี และยังทำให้เกิดความสับสนอีกด้วย เพราะถ้าตอนแรกบอกว่าดวงดี แล้วมาดูอีกทีไม่ดี ก็จะทำให้เราไม่รู้ว่าจะเชื่ออันไหน

    #สรุปให้ตรงนี้ค่ะว่าไม่มีหมอดูคนไหนดูได้ 100% แม่นยำ แบบไม่คาดเคลื่อน และหมอดูไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้แบบชัดเจน วันไหน เดือนไหน พ.ศ ไหน เวลาไหน เเบบเป๊ะๆ *แต่อาจจะมีบางส่วนก็ได้นะคะ ที่เขามีพลังบารมีสูงจริงๆ อาจจะหยั่งรู้ได้เหนือมนุษย์คนธรรมดา และการทำนายดวงก็เป็นการดูดวงตามศาสตร์ที่แต่ละคนได้ศึกษามา แต่ถ้าได้ดูแล้วมันมีความแม่นยำ 70% ขึ้นไป หมอก็คิดว่าน่าจะโอเคนะ

    #หวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่อ่านไม่มากก็น้อย ถ้ามีการผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เพราะหมอเขียนตามประสบการณ์ของหมอเท่านั้น ควรใช้วิจารณญาณ
    ------------
    #หมอฝนยิปซี #ดูดวง
    มีทั้งหมด 9 ข้อ หลายคนเคยสงสัยตัวเองมั้ย ว่าทำไมดูดวงกับหมอดู แล้วไม่ตรง ทั้งๆที่คนอื่นบอกว่าหมอคนนี้แม่นมาก เพราะอะไรลองมาดูกันค่ะ (จากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ) สรุปได้ 9 ข้อ 1.ดวงไม่สมพงษ์กับหมอดู หรือเราอาจจะไม่มีบุญสัมพันธ์ได้ดูกับหมอดูคนนั้น ดวงอาจจะขัดกัน 2. มีเจ้ากรรมนายเวรที่ปิดกั้นดวงชะตา ไม่ยอมให้หมอดูแนะนำวิธีแก้ไข หรือเจ้ากรรมนายเวรไม่อยากได้บุญจากเรา ไม่อยากให้เราทำบุญสวดมนต์ไปให้ อยากจองเวร อยากทำให้ชีวิตเราแย่ต่อไป เพราะมีบางคนมาดูดวงแล้ว หมอดูก็จะบอกว่าติดขัดตรงไหน ส่วนใหญ่ก็จะให้ทำบุญสวดมนต์ ...บางคนถามว่าลงทุนแล้วดีไหม? ได้คำทำนายว่า ดีมาก ลงทุนเลย แต่ปรากฏว่าลงทุนแล้วเจ๊ง อาจจะเป็นเพราะดวงเขาต้องเป็นแบบนั้น หมอดูไม่ได้พูดมั่วนะคะ แต่เขาอาจจะเห็นว่าดวงเราเป็นแบบนั้นจริงๆ เหมือนเขาโดนปิดกั้น ไม่ให้บอกคำทำนายที่แท้จริง หรือบางคนนัดกับหมอดูไว้ แล้วต้องมีเหตุการณ์ไม่ได้ดูกะทันหัน ติดธุระ มีเรื่องมีราว ทำให้ต้องเลื่อนนัด จะดูก็ไม่ได้ดูสักที หรือบางคนอาจจะไม่ได้ดูเลยก็ได้ 3. บุคคลที่มาดูดวงคนนั้น อาจจะมีเครื่องรางปิดกั้น ดวง มีการทำพิธีอะไรบางอย่าง เช่น ลงนะ สักยันต์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องเขาไว้ โดยเฉพาะคนที่ เอาดวงของคนอื่นมาดู หรือถามถึงคนอื่นโดยที่ตัวเขาไม่รู้ ไม่ได้ทำการอนุญาต การทำนายดวงอาจจะมีการคลาดเคลื่อน หรืออาจจะเจาะดวงเขาไม่ได้ ยกเว้นว่าถ้าหมอดูคนนั้นอาจจะมีความสามารถจริงๆ เช่น มีการสวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ มีศีลภาวนา มีสัมผัสพิเศษ มีบุญบารมีที่สามารถล่วงรู้ได้มากกว่าบุคคลธรรมดาทั่วไป ก็อาจจะรู้คำตอบ *ดังนั้นเวลาดูดวงทุกครั้ง เราควรที่จะต้องอธิษฐานจิตก่อนว่า...ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเจ้ากรรมนายเวร ช่วยเปิดดวงของเราด้วย เพื่อให้คำทำนายมีความแม่นยำและชัดเจน 4.การดูดวงเรื่องหุ้น หว.ย ตัวเลข หรือเรื่องที่ผิดศีลธรรม เช่น ธุรกิจสีเทา เรื่องแนวนี้ ...มันจะได้รับคำตอบที่คลาดเคลื่อน เพราะเหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาจะไม่เปิดดวง เพราะถือว่าเป็นอบายมุข การพนัน (มันสามารถทำนายได้ค่ะ แต่มันจะไม่ตรง และอาจจะเป็นบาปกับหมอดูด้วย) 5. ประสบการณ์ของหมอดูคนนั้นอาจจะยังไม่มากพอ ทำให้การตีความมีการผิดพลาด คลาดเคลื่อน หรือเกี่ยวกับการปฏิบัติตนของหมอดูอาจจะยังไม่ได้อยู่ในศีลเพียงพอ หรือบางคนอาจจะมีหน้าม้า 6.ถูกปิดกั้นดวงชะตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากมีการทำผิดศีล หรือปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง หรือปฏิบัติตนไม่ถูกทำนองครองธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงไม่เปิดทางให้รู้ดวงชะตาเพื่อให้หาวิธีแก้ไขได้ เพราะต้องการให้เรารับกรรม และชีวิตติดขัดต่อไป หรือ บางคนบนแล้วไม่ได้แก้ ติดสัจจะวาจากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 7.ตัวคนที่มาดูมีองค์เทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณบรรพบุรุษปกป้องดูแลอยู่ หรือถ้ามีบูชาอะไรเป็นพิเศษ ก็จำเป็นต้องขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเปิดดวง 8.ตัวคนที่มาดูเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด มีการสวดมนต์ไหว้พระอยู่ตลอด รักษาศีลไม่บกพร่อง จนเรียกได้ว่าเป็นคนที่อยู่เหนือดวง หรือบางคนศึกษาเกี่ยวกับเวทมนต์คุณไสยที่มีการท่องคาถากำบังต่างๆ จึงทำให้คนอื่นไม่สามารถดูดวงได้ หรือเจาะดวงชะตาได้ยากมาก 9. การดูดวงซ้ำๆ ถามคำถามเดิมๆ ในระยะเวลาสั้นๆโดยไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปก่อน แล้วค่อยถามคำถามนั้น ...จะทำให้โดนอาถรรพ์ คำทำนายจะไปในทิศทางที่ไม่ดี และยังทำให้เกิดความสับสนอีกด้วย เพราะถ้าตอนแรกบอกว่าดวงดี แล้วมาดูอีกทีไม่ดี ก็จะทำให้เราไม่รู้ว่าจะเชื่ออันไหน #สรุปให้ตรงนี้ค่ะว่าไม่มีหมอดูคนไหนดูได้ 100% แม่นยำ แบบไม่คาดเคลื่อน และหมอดูไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้แบบชัดเจน วันไหน เดือนไหน พ.ศ ไหน เวลาไหน เเบบเป๊ะๆ *แต่อาจจะมีบางส่วนก็ได้นะคะ ที่เขามีพลังบารมีสูงจริงๆ อาจจะหยั่งรู้ได้เหนือมนุษย์คนธรรมดา และการทำนายดวงก็เป็นการดูดวงตามศาสตร์ที่แต่ละคนได้ศึกษามา แต่ถ้าได้ดูแล้วมันมีความแม่นยำ 70% ขึ้นไป หมอก็คิดว่าน่าจะโอเคนะ #หวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่อ่านไม่มากก็น้อย ถ้ามีการผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เพราะหมอเขียนตามประสบการณ์ของหมอเท่านั้น ควรใช้วิจารณญาณ ------------ #หมอฝนยิปซี #ดูดวง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมดูดวงแล้วไม่ตรง?
    มีทั้งหมด 9 ข้อ
    หลายคนเคยสงสัยตัวเองมั้ย ว่าทำไมดูดวงกับหมอดู แล้วไม่ตรง ทั้งๆที่คนอื่นบอกว่าหมอคนนี้แม่นมาก เพราะอะไรลองมาดูกันค่ะ (จากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ) สรุปได้ 9 ข้อ

    1.ดวงไม่สมพงษ์กับหมอดู หรือเราอาจจะไม่มีบุญสัมพันธ์ได้ดูกับหมอดูคนนั้น ดวงอาจจะขัดกัน

    2. มีเจ้ากรรมนายเวรที่ปิดกั้นดวงชะตา ไม่ยอมให้หมอดูแนะนำวิธีแก้ไข หรือเจ้ากรรมนายเวรไม่อยากได้บุญจากเรา ไม่อยากให้เราทำบุญสวดมนต์ไปให้ อยากจองเวร อยากทำให้ชีวิตเราแย่ต่อไป เพราะมีบางคนมาดูดวงแล้ว หมอดูก็จะบอกว่าติดขัดตรงไหน ส่วนใหญ่ก็จะให้ทำบุญสวดมนต์ ...บางคนถามว่าลงทุนแล้วดีไหม? ได้คำทำนายว่า ดีมาก ลงทุนเลย แต่ปรากฏว่าลงทุนแล้วเจ๊ง อาจจะเป็นเพราะดวงเขาต้องเป็นแบบนั้น หมอดูไม่ได้พูดมั่วนะคะ แต่เขาอาจจะเห็นว่าดวงเราเป็นแบบนั้นจริงๆ เหมือนเขาโดนปิดกั้น ไม่ให้บอกคำทำนายที่แท้จริง หรือบางคนนัดกับหมอดูไว้ แล้วต้องมีเหตุการณ์ไม่ได้ดูกะทันหัน ติดธุระ มีเรื่องมีราว ทำให้ต้องเลื่อนนัด จะดูก็ไม่ได้ดูสักที หรือบางคนอาจจะไม่ได้ดูเลยก็ได้

    3. บุคคลที่มาดูดวงคนนั้น อาจจะมีเครื่องรางปิดกั้น ดวง มีการทำพิธีอะไรบางอย่าง เช่น ลงนะ สักยันต์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องเขาไว้ โดยเฉพาะคนที่ เอาดวงของคนอื่นมาดู หรือถามถึงคนอื่นโดยที่ตัวเขาไม่รู้ ไม่ได้ทำการอนุญาต การทำนายดวงอาจจะมีการคลาดเคลื่อน หรืออาจจะเจาะดวงเขาไม่ได้ ยกเว้นว่าถ้าหมอดูคนนั้นอาจจะมีความสามารถจริงๆ เช่น มีการสวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ มีศีลภาวนา มีสัมผัสพิเศษ มีบุญบารมีที่สามารถล่วงรู้ได้มากกว่าบุคคลธรรมดาทั่วไป ก็อาจจะรู้คำตอบ *ดังนั้นเวลาดูดวงทุกครั้ง เราควรที่จะต้องอธิษฐานจิตก่อนว่า...ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเจ้ากรรมนายเวร ช่วยเปิดดวงของเราด้วย เพื่อให้คำทำนายมีความแม่นยำและชัดเจน

    4.การดูดวงเรื่องหุ้น หว.ย ตัวเลข หรือเรื่องที่ผิดศีลธรรม เช่น ธุรกิจสีเทา เรื่องแนวนี้ ...มันจะได้รับคำตอบที่คลาดเคลื่อน เพราะเหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาจะไม่เปิดดวง เพราะถือว่าเป็นอบายมุข การพนัน (มันสามารถทำนายได้ค่ะ แต่มันจะไม่ตรง และอาจจะเป็นบาปกับหมอดูด้วย)

    5. ประสบการณ์ของหมอดูคนนั้นอาจจะยังไม่มากพอ ทำให้การตีความมีการผิดพลาด คลาดเคลื่อน หรือเกี่ยวกับการปฏิบัติตนของหมอดูอาจจะยังไม่ได้อยู่ในศีลเพียงพอ หรือบางคนอาจจะมีหน้าม้า

    6.ถูกปิดกั้นดวงชะตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากมีการทำผิดศีล หรือปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง หรือปฏิบัติตนไม่ถูกทำนองครองธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงไม่เปิดทางให้รู้ดวงชะตาเพื่อให้หาวิธีแก้ไขได้ เพราะต้องการให้เรารับกรรม และชีวิตติดขัดต่อไป หรือ บางคนบนแล้วไม่ได้แก้ ติดสัจจะวาจากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    7.ตัวคนที่มาดูมีองค์เทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณบรรพบุรุษปกป้องดูแลอยู่ หรือถ้ามีบูชาอะไรเป็นพิเศษ ก็จำเป็นต้องขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเปิดดวง

    8.ตัวคนที่มาดูเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด มีการสวดมนต์ไหว้พระอยู่ตลอด รักษาศีลไม่บกพร่อง จนเรียกได้ว่าเป็นคนที่อยู่เหนือดวง หรือบางคนศึกษาเกี่ยวกับเวทมนต์คุณไสยที่มีการท่องคาถากำบังต่างๆ จึงทำให้คนอื่นไม่สามารถดูดวงได้ หรือเจาะดวงชะตาได้ยากมาก

    9. การดูดวงซ้ำๆ ถามคำถามเดิมๆ ในระยะเวลาสั้นๆโดยไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปก่อน แล้วค่อยถามคำถามนั้น ...จะทำให้โดนอาถรรพ์ คำทำนายจะไปในทิศทางที่ไม่ดี และยังทำให้เกิดความสับสนอีกด้วย เพราะถ้าตอนแรกบอกว่าดวงดี แล้วมาดูอีกทีไม่ดี ก็จะทำให้เราไม่รู้ว่าจะเชื่ออันไหน

    #สรุปให้ตรงนี้ค่ะว่าไม่มีหมอดูคนไหนดูได้ 100% แม่นยำ แบบไม่คาดเคลื่อน และหมอดูไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้แบบชัดเจน วันไหน เดือนไหน พ.ศ ไหน เวลาไหน เเบบเป๊ะๆ *แต่อาจจะมีบางส่วนก็ได้นะคะ ที่เขามีพลังบารมีสูงจริงๆ อาจจะหยั่งรู้ได้เหนือมนุษย์คนธรรมดา และการทำนายดวงก็เป็นการดูดวงตามศาสตร์ที่แต่ละคนได้ศึกษามา แต่ถ้าได้ดูแล้วมันมีความแม่นยำ 70% ขึ้นไป หมอก็คิดว่าน่าจะโอเคนะ

    #หวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่อ่านไม่มากก็น้อย ถ้ามีการผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เพราะหมอเขียนตามประสบการณ์ของหมอเท่านั้น ควรใช้วิจารณญาณ
    ------------
    #หมอฝนยิปซี #ดูดวง
    ทำไมดูดวงแล้วไม่ตรง? มีทั้งหมด 9 ข้อ หลายคนเคยสงสัยตัวเองมั้ย ว่าทำไมดูดวงกับหมอดู แล้วไม่ตรง ทั้งๆที่คนอื่นบอกว่าหมอคนนี้แม่นมาก เพราะอะไรลองมาดูกันค่ะ (จากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ) สรุปได้ 9 ข้อ 1.ดวงไม่สมพงษ์กับหมอดู หรือเราอาจจะไม่มีบุญสัมพันธ์ได้ดูกับหมอดูคนนั้น ดวงอาจจะขัดกัน 2. มีเจ้ากรรมนายเวรที่ปิดกั้นดวงชะตา ไม่ยอมให้หมอดูแนะนำวิธีแก้ไข หรือเจ้ากรรมนายเวรไม่อยากได้บุญจากเรา ไม่อยากให้เราทำบุญสวดมนต์ไปให้ อยากจองเวร อยากทำให้ชีวิตเราแย่ต่อไป เพราะมีบางคนมาดูดวงแล้ว หมอดูก็จะบอกว่าติดขัดตรงไหน ส่วนใหญ่ก็จะให้ทำบุญสวดมนต์ ...บางคนถามว่าลงทุนแล้วดีไหม? ได้คำทำนายว่า ดีมาก ลงทุนเลย แต่ปรากฏว่าลงทุนแล้วเจ๊ง อาจจะเป็นเพราะดวงเขาต้องเป็นแบบนั้น หมอดูไม่ได้พูดมั่วนะคะ แต่เขาอาจจะเห็นว่าดวงเราเป็นแบบนั้นจริงๆ เหมือนเขาโดนปิดกั้น ไม่ให้บอกคำทำนายที่แท้จริง หรือบางคนนัดกับหมอดูไว้ แล้วต้องมีเหตุการณ์ไม่ได้ดูกะทันหัน ติดธุระ มีเรื่องมีราว ทำให้ต้องเลื่อนนัด จะดูก็ไม่ได้ดูสักที หรือบางคนอาจจะไม่ได้ดูเลยก็ได้ 3. บุคคลที่มาดูดวงคนนั้น อาจจะมีเครื่องรางปิดกั้น ดวง มีการทำพิธีอะไรบางอย่าง เช่น ลงนะ สักยันต์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องเขาไว้ โดยเฉพาะคนที่ เอาดวงของคนอื่นมาดู หรือถามถึงคนอื่นโดยที่ตัวเขาไม่รู้ ไม่ได้ทำการอนุญาต การทำนายดวงอาจจะมีการคลาดเคลื่อน หรืออาจจะเจาะดวงเขาไม่ได้ ยกเว้นว่าถ้าหมอดูคนนั้นอาจจะมีความสามารถจริงๆ เช่น มีการสวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ มีศีลภาวนา มีสัมผัสพิเศษ มีบุญบารมีที่สามารถล่วงรู้ได้มากกว่าบุคคลธรรมดาทั่วไป ก็อาจจะรู้คำตอบ *ดังนั้นเวลาดูดวงทุกครั้ง เราควรที่จะต้องอธิษฐานจิตก่อนว่า...ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเจ้ากรรมนายเวร ช่วยเปิดดวงของเราด้วย เพื่อให้คำทำนายมีความแม่นยำและชัดเจน 4.การดูดวงเรื่องหุ้น หว.ย ตัวเลข หรือเรื่องที่ผิดศีลธรรม เช่น ธุรกิจสีเทา เรื่องแนวนี้ ...มันจะได้รับคำตอบที่คลาดเคลื่อน เพราะเหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาจะไม่เปิดดวง เพราะถือว่าเป็นอบายมุข การพนัน (มันสามารถทำนายได้ค่ะ แต่มันจะไม่ตรง และอาจจะเป็นบาปกับหมอดูด้วย) 5. ประสบการณ์ของหมอดูคนนั้นอาจจะยังไม่มากพอ ทำให้การตีความมีการผิดพลาด คลาดเคลื่อน หรือเกี่ยวกับการปฏิบัติตนของหมอดูอาจจะยังไม่ได้อยู่ในศีลเพียงพอ หรือบางคนอาจจะมีหน้าม้า 6.ถูกปิดกั้นดวงชะตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากมีการทำผิดศีล หรือปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง หรือปฏิบัติตนไม่ถูกทำนองครองธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงไม่เปิดทางให้รู้ดวงชะตาเพื่อให้หาวิธีแก้ไขได้ เพราะต้องการให้เรารับกรรม และชีวิตติดขัดต่อไป หรือ บางคนบนแล้วไม่ได้แก้ ติดสัจจะวาจากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 7.ตัวคนที่มาดูมีองค์เทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณบรรพบุรุษปกป้องดูแลอยู่ หรือถ้ามีบูชาอะไรเป็นพิเศษ ก็จำเป็นต้องขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเปิดดวง 8.ตัวคนที่มาดูเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด มีการสวดมนต์ไหว้พระอยู่ตลอด รักษาศีลไม่บกพร่อง จนเรียกได้ว่าเป็นคนที่อยู่เหนือดวง หรือบางคนศึกษาเกี่ยวกับเวทมนต์คุณไสยที่มีการท่องคาถากำบังต่างๆ จึงทำให้คนอื่นไม่สามารถดูดวงได้ หรือเจาะดวงชะตาได้ยากมาก 9. การดูดวงซ้ำๆ ถามคำถามเดิมๆ ในระยะเวลาสั้นๆโดยไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปก่อน แล้วค่อยถามคำถามนั้น ...จะทำให้โดนอาถรรพ์ คำทำนายจะไปในทิศทางที่ไม่ดี และยังทำให้เกิดความสับสนอีกด้วย เพราะถ้าตอนแรกบอกว่าดวงดี แล้วมาดูอีกทีไม่ดี ก็จะทำให้เราไม่รู้ว่าจะเชื่ออันไหน #สรุปให้ตรงนี้ค่ะว่าไม่มีหมอดูคนไหนดูได้ 100% แม่นยำ แบบไม่คาดเคลื่อน และหมอดูไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้แบบชัดเจน วันไหน เดือนไหน พ.ศ ไหน เวลาไหน เเบบเป๊ะๆ *แต่อาจจะมีบางส่วนก็ได้นะคะ ที่เขามีพลังบารมีสูงจริงๆ อาจจะหยั่งรู้ได้เหนือมนุษย์คนธรรมดา และการทำนายดวงก็เป็นการดูดวงตามศาสตร์ที่แต่ละคนได้ศึกษามา แต่ถ้าได้ดูแล้วมันมีความแม่นยำ 70% ขึ้นไป หมอก็คิดว่าน่าจะโอเคนะ #หวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่อ่านไม่มากก็น้อย ถ้ามีการผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เพราะหมอเขียนตามประสบการณ์ของหมอเท่านั้น ควรใช้วิจารณญาณ ------------ #หมอฝนยิปซี #ดูดวง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • 13-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.4

    หมดเวลาคุย "ฆ่าล้างโคตรยิวระยำสัดกะหมา" เฮซบอเลาะห์และพวกพ้องยังดาหน้าไล่ถล่มขีปนาวุธเละเทะ ร่างกระจุย สมใจนึกวังบูรพายิ่งนัก! เมื่ออียิวเสี้ยนอยากตายโหง 3 ฮอ ไม่รีรอ ส่งไปหายมบาลรายวัน วันละ 1000 ตัว ทุกทิศทั่วประเทศ จนกว่ามันจะหน้ามืดงัดนุ๊กกระจ๊อกออกมาใช้ นั่นคือ "ปิดเกมส์ทันที" รู้เค้ารู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 101 ครั้ง แผนอิหร่านคือบีบให้อียิวเผยธาตุแท้จนหมดเปลือก เลบานอนกลายเป็นแหล่งรวบรวมยอดมนุษย์ไปแล้ว มากันหมดโลกอาหรับ แม้แต่อีไก่งวงส่งเรือรบมาทั้งฝูง อ้างมาหิ้วชาวตุรกีกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย เนียนจุงเบยน่ะ คนมารับเยอะกว่าคนจะไป ไอ้สัส! ชัดเจน บีบอีฟาโรห์ อย่าเล่น 2 หน้า จำใจส่งอีแอบเข้าร่วมกระทืบยิวเบื้องหลัง หาไม่แล้ว พื้นที่กันชนอาจถูกอียิวเขมือบแน่ ความเป็นจริงคือ อียิวมันหมดประโยชน์ต่างหากล่ะ พวกมรึงถึงได้เทกันกระหน่ำเยี่ยงนี้ แม้แต่ UN ก็ช่วยมรึงไม่ได้ เพราะเสือกไปถล่มค่ายทหาร UN โชว์กร่างจนโลกเอือมระอา ทำไมอียิวถึงต้องจัดใหญ่ เล่นแรง กลายร่างเป็นอันธพาลเต็มตัว เหตุผลคือ 1.ย้ายแผ่นดินหาบ้านใหม่ 2.ชักดาบหนี้ที่ไม่มีวันจะจ่ายได้จริง 3.ทำลายเยรูซาเล็มให้สิ้นซาก กูไม่ได้ ใครก็ต้องไม่ได้ คุ้นมั้ย..คำนี้? ด้านเหี้ย C ในไทย ผลงานต่ำตมสุดขีด ประกาศรับสมัครหน่วยข่าวกรองขายชาติ ใครอยากจะล้มวัง ทำลายแผ่นดินทองคำ เชิญมาสมัครได้ กูมีผลตอบแทนเป็นเศากระดาษเปล่าที่ขายใครไม่ได้ เพราะกูพิมพ์แจกไม่อั้น ควายไทยบัดซบ ควายไทขายชาติ แห่กันเข้าสมัคร กองทัพรู้เช่นเห็นชาติ มีรอชื่อรอดักไว้หมดแล้ว งานนี้ถูกชำระล้างครั้งใหญ่แน่ เพราะมรึงเปิดไพ่เสี่ยง ความมั่นคงชาติ ไม่ปล่อยให้ใครมากำแหงในแผ่นดินพ่อ ทุกคดีที่เอี่ยวล้มวัง แยกดินแดน ก่อการร้า มาจากเหี้ย C ทั้งหมด วังรู้ กองทัพรู้ จีน รัสเซีย ก็รู้ เค้าถึงได้วางหมากกับดักรอล่อมรึงอยู่เนี่ยไงล่ะ? เปิดหน้ากันหมดแล้ว เหี้ยขาลง รึจะสู้ขั้วใหม่ไฉไลโลก ไทยเราเดินแผน "กฎหมายสักดิ์สิทธิ์" ล่อทุกองคาพยพ ทั้งหน่วยงานราชการขี้ข้าเหี้ย ทุนนิยมเหี้ยสามานย์ พรรคการเมือง แหล่งฟอกเงินสีเทา ที่เอามาทำลายล้างแผ่นดินพ่อกู เบื้องบนรู้ทุกอย่าง และเตรียมต้อนรับอย่างสาสม เชื่อกูดิ มันส์พะยะค่ะ? ไอ้อีขายชาติ ชังชาติ ตอนนี้ ทะยอยหนีออกนอกกันหมดแล้ว ถึงต้องรับเหี้ยชุดใหม่ แล้วทหารก็ไม่รอช้า ส่งสายลับเข้าไปสมัครกับเค้าด้วยสิ? แฉหมดเปลือก หลักฐานมี พยานมี ภัยความมั่นคง ดอกนี้ระดับชาติ จะไร้หลักฐานมัดแน่นไม่ได้ แต่เมื่อแสงทำงานแล้ว ไม่ว่าอะไร ก็หยุดความจริงไม่ได้เช่นกัน ศาลใหญ่ จะดาหน้ากันลงดาบพายุหมุนกันไปเลยทีเดียว ช้าแต่ชัวร์ ช้าแต่มั่นคง ช้าแต่มีคำตอบให้โลกประจักษ์ได้ว่า การมีอยู่ของอเมริกาทั่วโลก นั่นคือก่อการร้ายที่บั่นทอนความมั่นคงนานาชาติที่ผ่านมา เมื่อจีน รัสเซีย อุ้มไทย ถึงเวลาต้องเปิดหน้าชน ก็จะชนแบบมีสติ ใช้ปัญญา และกฎหมาย ความจริงและความถูกต้อง คือพลังแห่งแสง ที่เอาชนะทุกความอัปรีย์จัญไรได้หมด ไม่นานเกินรอ เพราะมันสุกงอมหมดแล้ว ทั้งเรื่องเกมส์โลก และเกมส์ไทย! ด้าน ดิ ไอคอน ตอนเปิดตัวอลังการ แผน 18 มงกุฎ เข้าข่ายทำลายเศรษฐกิจไทย บั่นทอนความมั่นคง ปากท้องชาวบ้านเสียหายหนัก เพราะโลภ เพราะอยากมี อยากได้ เพราะคิดว่าหาเงินง่าย ก็เป็นเหยื่อไปสิ? งานนี้ เบื้องบนสั่งฟันไม่ไว้หน้าไอ้อีใครทั้งนั้น มันแค่เครื่องมือที่ทหารใช้จัดการทุนมืด ทุนสีเทา แหล่งฟอกเงิน แหล่งรายได้ ที่เอามาทำลายประเทศต่อเนื่องนั่นเอง ทุกโซเชี่ยลที่กูเคยบอก ไอ้ที่อวดรวย โชว์กร่าง นั่นคือขบวนการฟอกเงินทั้งนั้น "หมายังรู้" หน่วยข่าวกรองทำไมจะไม่รู้ เนื่องจากวันนี้ เป็นวันสวรรคตรัชกาลที่ 9 ขอให้มรึงจำจงดี "ความดีที่พ่อทำมาตลอดชีวิต มันคือเกราะคุ้มครองภัย ให้สยามประเทศยั่งยืนยง" เพราะพอเพียง เพราะลด ละ เลิก คือทางรอดเดียวของไทยที่ผ่านมา พ่อเล็งเห็นแล้วว่า จุดจบของทุนนิยมเหี้ยสามานย์จะลากผู้บริสุทธิ์ไปตายห่าเท่าไหร่? ถึงได้เตือนสติเรามาโดยตลอด พอคือสุข ไม่อยากคือหมดทุกข์ พอเพียงคือพอใจ สุขเท่าที่มี กินเท่าที่ใช้ สัจธรรมทั้งนั้น ไม่เบียดเบียนใคร ก็ไร้กังวล พึ่งพาตนเอง อย่าแบมือขอใคร ชัดเจนว่า แม้พ่อท่านจะอยู่บนสรวลสวรรค์แล้ว แต่คำพูดของพ่อยังอยู่ในใจคนทั้งแผ่นดินเสมอมา "คนดีศรีอโยธยามีมากกว่าคนชั่ว" ไม่งั้น แผ่นดินคงจะสิ้นไปนานแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีธรรม มีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี ขอพ่อท่านอย่าได้กังวล เพราะพ่อหลวงองค์ใหม่ ไม่ธรรมดา พระบารมีสูงส่ง ไม่พูดแต่ทำ ไม่ต้องขอ ช่วยทันทีเสมอมา ท่านเดินตามรอยพ่อเป๊ะเด๊ะ แสงจะเปร่งประกายได้เต็มที่ ยามที่คนดีดี ตั้งจิตอธิษฐานส่งใจให้พ่อหลวงทุกพระองค์ที่สร้างแผ่นดินทองคำนี้ขึ้นมา บุญคุณแผ่นดินไม่มีลืมเลือน! กลับมาสู่โลกโหดร้ายกันต่อ : โลกขานรับ ไล่กระทืบมะเร็งร้ายอียิวสลัดหมา พ่วงอีขี้ข้าเหี้ยมะกัน ตายห่ายกโคตร ยืมมือขั้วใหม่เก็บเหี้ยมะกัน ยุโรป เพื่อบ้านใหม่มรึง ขณะที่ขั้วใหม่ ก็ได้กำจัดขี้ข้ามรึงสิ้นซาก แล้วคืนบ้านเก่าให้ปาเลสไตน์เต็มพื้นที่ แต่มรึงรู้มั้ยว่า แขนขามรึงขาดไปแล้ว ยังจะเหลือใครช่วยมรึงได้อีก? โลกอาหรับจึงลงแขกมรึงอย่างสาหัส เป็นไปตามแผนการรบสงครามครูเสดยุคใหม่ไงล่ะ? รัสเซีย จีน จึงไม่ต้องเหนื่อย แค่ส่งอาวุธเติมให้ไม่อั้นก็พอ แล้วรอดูอียิวเหี้ยขี้แตกรายวัน! อิหร่านได้เตรียมปิดเกมส์นี้ไว้นานแล้ว "ไฮเปอร์โซนิค 15 มัค พ่วงหัวรบนิวเคลียร์ 100 ลูก" จบทันที ไม่มีภาคต่อ? อียิวมันก็นกรู้ ถามว่ามันจะยอมตายจริงมั้ย? เกมส์เดินไปตามสเตปของมัน อียิวยังหาบ้านใหม่ไม่ได้ เพราะ CIVIL WAR ยังไม่มา? เหี้ยมะกันมันจ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว สภาพวันนี้ TRUMP LAND vs NEW ZIONIST LAND จะเละเทะทั้งคู่ แผนแตกอเมริกาเกิดจากภายในทั้งสิ้น? การลอบฆ่าจะก่อเกิด ชงสถานการณ์ให้ไปสู่ภาวะฉุกเฉิน แผนอีตาเพนเค้า ล่อคนลงถนน เอาปืนมาไล่ยิงกัน แบบในหนังคาวบอยที่มรึงถนัด! ยุโรปจะถูกมุสลิมกลืนไปอย่างช้าๆ ไอ้อีผิวขาวจะย้ายรกรากมาเอเซียกันเพี๊ยบ ประเทศมหาอำนาจเก่าจะกลายร่างเป็นชาติยากจนซะงั้น เพราะหมดตูดจากสงคราม กว่าจะฟื้นต้องปูอีก 50 ปี เพราะเอเซียแซงหน้าไปไกลแล้ว ต่อไปอียุโรปจะเข้าอาเซียน ต้องถูกคัดกรอง VISA มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรไปหมด แบบที่มรึงไม่เคยคิดมาก่อน?

    ปล.เมื่อระบบป้องกันภัยทางอากาศอิหร่าน และตุรกี ร่วมประสานมือกัน โลกอาหรับได้อานิสงค์ ที่มาว่าทำไม อาหรับใหม่ ไม่กลัวอาวุธเหี้ย NATO อีกต่อไป หลังเฮซบอเลาะห์ ฮูตี ฮามาส ซีเรียบ อิรัก เยเมน โชว์ผลงานมาสเตอร์พีซ ขีปนาวุธเจ๋งกว่าไอ้อีตะวันตก ระบบป้องกันภัยหลายชั้น หลากหลายมากกว่า ยิ่งได้ AI จีน ยิ่งฉลาดล้ำกว่าเก่า เมื่ออียิวนายใหญ่เหี้ยสากลโลก ตายคาตรีนขั้วใหม่ การปลดแอกทั่วโลกจึงจะตามมา และทุกชาติจะเดินไปทิศทางเดียวกันหมด เหมือนที่ BRICS นำโลกอยู่ตอนนี้ อะไรน่ะ? ครม.อียิวชะลอการเอาคืนอิหร่าน จริงดิ? ไอ้ที่มรึงโดนอยู่ทุกนาทีตอนนี้ ยังไม่สาแก่ใจอีกเหรอ? ยังจะมีปัญญาเอาคืนอีกเหรอ? จะเห่าแหกตาดูความจริงหน่อย? มรึงถูกไล่ฆ่า ถูกลงแขก จะเหลือเหี้ยอะไรไปสวนเค้า เค้าบีบให้มรึงใช้นุ๊กไงล่ะ? ใช้สิ จะได้จบเร็วจริง ไม่ต้องรอวันตายนานเกิน? NATO แตกแล้วในเชิงพฤตินัย EU แตกแล้ว ในเชิงความร่วมมือ ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก เดินกันคนละทิศ คนละทาง เพราะไม่มีใครเอาใครอยู่ได้อีกแล้ว? โครแอตออกตัว ออสเตรียออกลาย เชกออกพริ้ว ฮังการี เบลารุส เซอร์เบียนำ ตามกันหมดแล้ว พลังงานยั่งยืนรออยู่ การค้า โลจิสติค ตามมา ใครจะเอา EU ที่ไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก มีแต่จ่าย มีแต่สงคราม ควายยังคิดได้? อิหร่านพร้อม MIG-29 ทั้งฝูง รอต้อนรับบินรบเหี้ยยิวอย่างใจจดใจจ่อ โดนแน่ หากเข้าน่านฟ้าเตหะราน เก็บ SU-35 อัพเกรดเฉพาะกิจ เป็นอาวุธลับ ไม่บอก รัสเซียเติมอะไรเพิ่มให้ คนขับไปฝึกที่มอสโคว์มา 2 ปีเต็ม ครูฝึกรัสเซียตัวพ่อมาเอง ควบคุม กำกับเอง มาดิ ไอ้สัส! F-35 กระจอกงอกง่อย ส่งมาเลย กูกำลังอยากจะหาเป้าซ้อมมือเล่น? อาวุธอิหร่านมีความหลากหลายมากที่สุดในโลกอาหรับ แม้แต่กองทัพใหญ่อย่างอีไก่งวง ยังต้องขอดูผลงานอิหร่าน มันแจ่มถึงใจจุงเบย อีแอร์โดกัน ถูกเหี้ยยิวปั่นภายใน ถึงเวลาต้องออกตัวแรง ซัดกลับอียิว ผ่านเลบานอน ไงล่ะ? เอาคืนทบต้น ทบดอก ให้เกลี้ยง! ข้ามวิกแป๊บ : เป็นไปตามคาด กูรู เตือนแล้ว หลังแจก 10000 ให้ควาย เศรษฐกิจเงียบกริบ คนยากไม่ใช้เงิน เก็บ จ่ายหนี้ จ่ายดอก เงินหายไปไหนกันหมด ไปอยู่กับเจ้าหนี้เงินกู้ไงล่ะ? ควายยังรู้ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ! แจกหมดแล้ว ยังไงต่อ? กระตุ้นเหี้ยอะไรได้อีก? กฎหมายตามมาเช็คบิล เตรียมรอคุกได้เลย แสนล้าน ไม่ใช่เงินมรึง แต่ทรัพย์สินพวกมรึงจะถูกเรียกคืนชัวร์! จ่ายต่ออีกน่ะ หากใจไม่ด้านพอ มรึงตั้งใจอย่างเดียว แค่บ่อนทำลายเศรษฐกิจชาติ บ่อนทำลายวัง เพื่อให้ไทยอ่อนแอ ตามใบสั่ง CIA ทหารเค้ารู้หมดเกลี้ยง ถึงได้ปล่อยให้มรึงเล่นไงล่ะ เพราะผลลัพธ์มันรออยู่ปลายทางแล้ว! จบที่ศาลหมดทุกไอ้อี? อีพ่อเหลี่ยมมรึงสติแตกแล้ว หลังถูกหักหลังรายวัน อะไรที่กร่างไว้ อะไรที่มั่น ตอนนี้ มันพลิกตลบหลัง โดนไล่เช็คบิลทุกดอก พรรคก็ไม่รอด อีลูกสาวร่านก็ไม่เหลือ เข้าตัวทุกดอก โดนทุกเม็ด ได้แต่ยื้อ ทหารไม่รอนาน ส่งศาลฟันลงดาบคือจบทันที! นักการเมืองเหี้ยจะหอบทรัพย์สินหนีตายกันจ้าละหวั่น สภาพสิ้นเนื้อประดาตัว ไฮโซรวยฟอกเงิน ดารารวยเงินสีเทา ทุนมืด ไปหมด ใครมีศีลจะรอด? ใครโลภจะคุก? ศรีธนญชัยเดินเกมส์รัดกุม ไม่รีบเร่ง ไม่ต้องอกตัวเยอะ เดี๋ยวเหี้ยมันดิ้นเอง แฉเอง หลักฐานมาเอง เพราะเหี้ยมันย่อมเอาตัวมันรอดก่อนใคร? ไม่มีมิตรแท้ อีเรืองไกร HOT ยื่นฟ้อง 20 คดี โดนแค่ 1 ก็คุกยาวแล้ว กะไม่ให้ได้ผุดได้เกิดกันเลยเหรอ? แผนบีบเหี้ยเผ่นออกนอกมาเต็ม ไปกันให้หมดน่ะจ๊ะ เข้าใจเกมส์ยัง? มีคนชง ศาลตบ ทหารคุมพื้นที่ แสงทำงานเร็วเสมอ? อีอุ้งอุ้ง ไม่รอด ล่อเด้ง ไม่รอนาน? มาตามสูตร รู้ล่วงหน้าแล้ว แค่ขอเข้า HALL OF FLAME แต่มันไม่จบน่ะสิ เพราะพรรคไปด้วยทั้งกะปิ จะเหลือใครจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวเนี่ย? เข้าสูตรยังล่ะ? ทหารกระดิกตรีนรอ เวลาพวกมรึงใกล้จะหมดแล้ว? เหี้ยให้สุด ระยำให้เต็มที่ได้เลย เวลาโดนมันจะได้ไม่คาใจ? เพราะงานนี้ทหารไม่มียั้งมือ กระทืบซ้ำ เผาส่งขึ้นเมรุทันที!

    หมี CNN(ทำดี คนจำ ทำเหี้ย คนแค้น ทำนิ่ง คนด่า ไม่ทำห่าอะไรเลย คนแช่ง สรุปคือ ผลของการกระทำคือตัววัดชะตากรรมมรึงเอง เกมส์โลกต้องจบ เกมส์ไทยต้องโหด ไม่ใช่เวลาโลกสวย แรงเท่าที่จำเป็น อ่อนเท่าที่จะทำได้ อเมริกาใกล้จุดจบ เลือกตั้งคือ D-DAY เผาอเมริกานั่นเอง รอดูความวินาศฉิบหาย CIVIL WAR มาเต็ม เสี้ยนจะฆ่ากันเต็มเหนี่ยว เอาให้เต็มที่ อียิวเชียร์ใจขาดดิ้น เหยื่อคือควายโง่ดักดาน สู้ให้ตาย มรึงก็ไม่ได้อะไรเลย แค่ขี้ข้า)
    13 ตุลาคม 67
    11.28 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172879387847403322
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    13-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.4 หมดเวลาคุย "ฆ่าล้างโคตรยิวระยำสัดกะหมา" เฮซบอเลาะห์และพวกพ้องยังดาหน้าไล่ถล่มขีปนาวุธเละเทะ ร่างกระจุย สมใจนึกวังบูรพายิ่งนัก! เมื่ออียิวเสี้ยนอยากตายโหง 3 ฮอ ไม่รีรอ ส่งไปหายมบาลรายวัน วันละ 1000 ตัว ทุกทิศทั่วประเทศ จนกว่ามันจะหน้ามืดงัดนุ๊กกระจ๊อกออกมาใช้ นั่นคือ "ปิดเกมส์ทันที" รู้เค้ารู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 101 ครั้ง แผนอิหร่านคือบีบให้อียิวเผยธาตุแท้จนหมดเปลือก เลบานอนกลายเป็นแหล่งรวบรวมยอดมนุษย์ไปแล้ว มากันหมดโลกอาหรับ แม้แต่อีไก่งวงส่งเรือรบมาทั้งฝูง อ้างมาหิ้วชาวตุรกีกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย เนียนจุงเบยน่ะ คนมารับเยอะกว่าคนจะไป ไอ้สัส! ชัดเจน บีบอีฟาโรห์ อย่าเล่น 2 หน้า จำใจส่งอีแอบเข้าร่วมกระทืบยิวเบื้องหลัง หาไม่แล้ว พื้นที่กันชนอาจถูกอียิวเขมือบแน่ ความเป็นจริงคือ อียิวมันหมดประโยชน์ต่างหากล่ะ พวกมรึงถึงได้เทกันกระหน่ำเยี่ยงนี้ แม้แต่ UN ก็ช่วยมรึงไม่ได้ เพราะเสือกไปถล่มค่ายทหาร UN โชว์กร่างจนโลกเอือมระอา ทำไมอียิวถึงต้องจัดใหญ่ เล่นแรง กลายร่างเป็นอันธพาลเต็มตัว เหตุผลคือ 1.ย้ายแผ่นดินหาบ้านใหม่ 2.ชักดาบหนี้ที่ไม่มีวันจะจ่ายได้จริง 3.ทำลายเยรูซาเล็มให้สิ้นซาก กูไม่ได้ ใครก็ต้องไม่ได้ คุ้นมั้ย..คำนี้? ด้านเหี้ย C ในไทย ผลงานต่ำตมสุดขีด ประกาศรับสมัครหน่วยข่าวกรองขายชาติ ใครอยากจะล้มวัง ทำลายแผ่นดินทองคำ เชิญมาสมัครได้ กูมีผลตอบแทนเป็นเศากระดาษเปล่าที่ขายใครไม่ได้ เพราะกูพิมพ์แจกไม่อั้น ควายไทยบัดซบ ควายไทขายชาติ แห่กันเข้าสมัคร กองทัพรู้เช่นเห็นชาติ มีรอชื่อรอดักไว้หมดแล้ว งานนี้ถูกชำระล้างครั้งใหญ่แน่ เพราะมรึงเปิดไพ่เสี่ยง ความมั่นคงชาติ ไม่ปล่อยให้ใครมากำแหงในแผ่นดินพ่อ ทุกคดีที่เอี่ยวล้มวัง แยกดินแดน ก่อการร้า มาจากเหี้ย C ทั้งหมด วังรู้ กองทัพรู้ จีน รัสเซีย ก็รู้ เค้าถึงได้วางหมากกับดักรอล่อมรึงอยู่เนี่ยไงล่ะ? เปิดหน้ากันหมดแล้ว เหี้ยขาลง รึจะสู้ขั้วใหม่ไฉไลโลก ไทยเราเดินแผน "กฎหมายสักดิ์สิทธิ์" ล่อทุกองคาพยพ ทั้งหน่วยงานราชการขี้ข้าเหี้ย ทุนนิยมเหี้ยสามานย์ พรรคการเมือง แหล่งฟอกเงินสีเทา ที่เอามาทำลายล้างแผ่นดินพ่อกู เบื้องบนรู้ทุกอย่าง และเตรียมต้อนรับอย่างสาสม เชื่อกูดิ มันส์พะยะค่ะ? ไอ้อีขายชาติ ชังชาติ ตอนนี้ ทะยอยหนีออกนอกกันหมดแล้ว ถึงต้องรับเหี้ยชุดใหม่ แล้วทหารก็ไม่รอช้า ส่งสายลับเข้าไปสมัครกับเค้าด้วยสิ? แฉหมดเปลือก หลักฐานมี พยานมี ภัยความมั่นคง ดอกนี้ระดับชาติ จะไร้หลักฐานมัดแน่นไม่ได้ แต่เมื่อแสงทำงานแล้ว ไม่ว่าอะไร ก็หยุดความจริงไม่ได้เช่นกัน ศาลใหญ่ จะดาหน้ากันลงดาบพายุหมุนกันไปเลยทีเดียว ช้าแต่ชัวร์ ช้าแต่มั่นคง ช้าแต่มีคำตอบให้โลกประจักษ์ได้ว่า การมีอยู่ของอเมริกาทั่วโลก นั่นคือก่อการร้ายที่บั่นทอนความมั่นคงนานาชาติที่ผ่านมา เมื่อจีน รัสเซีย อุ้มไทย ถึงเวลาต้องเปิดหน้าชน ก็จะชนแบบมีสติ ใช้ปัญญา และกฎหมาย ความจริงและความถูกต้อง คือพลังแห่งแสง ที่เอาชนะทุกความอัปรีย์จัญไรได้หมด ไม่นานเกินรอ เพราะมันสุกงอมหมดแล้ว ทั้งเรื่องเกมส์โลก และเกมส์ไทย! ด้าน ดิ ไอคอน ตอนเปิดตัวอลังการ แผน 18 มงกุฎ เข้าข่ายทำลายเศรษฐกิจไทย บั่นทอนความมั่นคง ปากท้องชาวบ้านเสียหายหนัก เพราะโลภ เพราะอยากมี อยากได้ เพราะคิดว่าหาเงินง่าย ก็เป็นเหยื่อไปสิ? งานนี้ เบื้องบนสั่งฟันไม่ไว้หน้าไอ้อีใครทั้งนั้น มันแค่เครื่องมือที่ทหารใช้จัดการทุนมืด ทุนสีเทา แหล่งฟอกเงิน แหล่งรายได้ ที่เอามาทำลายประเทศต่อเนื่องนั่นเอง ทุกโซเชี่ยลที่กูเคยบอก ไอ้ที่อวดรวย โชว์กร่าง นั่นคือขบวนการฟอกเงินทั้งนั้น "หมายังรู้" หน่วยข่าวกรองทำไมจะไม่รู้ เนื่องจากวันนี้ เป็นวันสวรรคตรัชกาลที่ 9 ขอให้มรึงจำจงดี "ความดีที่พ่อทำมาตลอดชีวิต มันคือเกราะคุ้มครองภัย ให้สยามประเทศยั่งยืนยง" เพราะพอเพียง เพราะลด ละ เลิก คือทางรอดเดียวของไทยที่ผ่านมา พ่อเล็งเห็นแล้วว่า จุดจบของทุนนิยมเหี้ยสามานย์จะลากผู้บริสุทธิ์ไปตายห่าเท่าไหร่? ถึงได้เตือนสติเรามาโดยตลอด พอคือสุข ไม่อยากคือหมดทุกข์ พอเพียงคือพอใจ สุขเท่าที่มี กินเท่าที่ใช้ สัจธรรมทั้งนั้น ไม่เบียดเบียนใคร ก็ไร้กังวล พึ่งพาตนเอง อย่าแบมือขอใคร ชัดเจนว่า แม้พ่อท่านจะอยู่บนสรวลสวรรค์แล้ว แต่คำพูดของพ่อยังอยู่ในใจคนทั้งแผ่นดินเสมอมา "คนดีศรีอโยธยามีมากกว่าคนชั่ว" ไม่งั้น แผ่นดินคงจะสิ้นไปนานแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีธรรม มีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี ขอพ่อท่านอย่าได้กังวล เพราะพ่อหลวงองค์ใหม่ ไม่ธรรมดา พระบารมีสูงส่ง ไม่พูดแต่ทำ ไม่ต้องขอ ช่วยทันทีเสมอมา ท่านเดินตามรอยพ่อเป๊ะเด๊ะ แสงจะเปร่งประกายได้เต็มที่ ยามที่คนดีดี ตั้งจิตอธิษฐานส่งใจให้พ่อหลวงทุกพระองค์ที่สร้างแผ่นดินทองคำนี้ขึ้นมา บุญคุณแผ่นดินไม่มีลืมเลือน! กลับมาสู่โลกโหดร้ายกันต่อ : โลกขานรับ ไล่กระทืบมะเร็งร้ายอียิวสลัดหมา พ่วงอีขี้ข้าเหี้ยมะกัน ตายห่ายกโคตร ยืมมือขั้วใหม่เก็บเหี้ยมะกัน ยุโรป เพื่อบ้านใหม่มรึง ขณะที่ขั้วใหม่ ก็ได้กำจัดขี้ข้ามรึงสิ้นซาก แล้วคืนบ้านเก่าให้ปาเลสไตน์เต็มพื้นที่ แต่มรึงรู้มั้ยว่า แขนขามรึงขาดไปแล้ว ยังจะเหลือใครช่วยมรึงได้อีก? โลกอาหรับจึงลงแขกมรึงอย่างสาหัส เป็นไปตามแผนการรบสงครามครูเสดยุคใหม่ไงล่ะ? รัสเซีย จีน จึงไม่ต้องเหนื่อย แค่ส่งอาวุธเติมให้ไม่อั้นก็พอ แล้วรอดูอียิวเหี้ยขี้แตกรายวัน! อิหร่านได้เตรียมปิดเกมส์นี้ไว้นานแล้ว "ไฮเปอร์โซนิค 15 มัค พ่วงหัวรบนิวเคลียร์ 100 ลูก" จบทันที ไม่มีภาคต่อ? อียิวมันก็นกรู้ ถามว่ามันจะยอมตายจริงมั้ย? เกมส์เดินไปตามสเตปของมัน อียิวยังหาบ้านใหม่ไม่ได้ เพราะ CIVIL WAR ยังไม่มา? เหี้ยมะกันมันจ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว สภาพวันนี้ TRUMP LAND vs NEW ZIONIST LAND จะเละเทะทั้งคู่ แผนแตกอเมริกาเกิดจากภายในทั้งสิ้น? การลอบฆ่าจะก่อเกิด ชงสถานการณ์ให้ไปสู่ภาวะฉุกเฉิน แผนอีตาเพนเค้า ล่อคนลงถนน เอาปืนมาไล่ยิงกัน แบบในหนังคาวบอยที่มรึงถนัด! ยุโรปจะถูกมุสลิมกลืนไปอย่างช้าๆ ไอ้อีผิวขาวจะย้ายรกรากมาเอเซียกันเพี๊ยบ ประเทศมหาอำนาจเก่าจะกลายร่างเป็นชาติยากจนซะงั้น เพราะหมดตูดจากสงคราม กว่าจะฟื้นต้องปูอีก 50 ปี เพราะเอเซียแซงหน้าไปไกลแล้ว ต่อไปอียุโรปจะเข้าอาเซียน ต้องถูกคัดกรอง VISA มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรไปหมด แบบที่มรึงไม่เคยคิดมาก่อน? ปล.เมื่อระบบป้องกันภัยทางอากาศอิหร่าน และตุรกี ร่วมประสานมือกัน โลกอาหรับได้อานิสงค์ ที่มาว่าทำไม อาหรับใหม่ ไม่กลัวอาวุธเหี้ย NATO อีกต่อไป หลังเฮซบอเลาะห์ ฮูตี ฮามาส ซีเรียบ อิรัก เยเมน โชว์ผลงานมาสเตอร์พีซ ขีปนาวุธเจ๋งกว่าไอ้อีตะวันตก ระบบป้องกันภัยหลายชั้น หลากหลายมากกว่า ยิ่งได้ AI จีน ยิ่งฉลาดล้ำกว่าเก่า เมื่ออียิวนายใหญ่เหี้ยสากลโลก ตายคาตรีนขั้วใหม่ การปลดแอกทั่วโลกจึงจะตามมา และทุกชาติจะเดินไปทิศทางเดียวกันหมด เหมือนที่ BRICS นำโลกอยู่ตอนนี้ อะไรน่ะ? ครม.อียิวชะลอการเอาคืนอิหร่าน จริงดิ? ไอ้ที่มรึงโดนอยู่ทุกนาทีตอนนี้ ยังไม่สาแก่ใจอีกเหรอ? ยังจะมีปัญญาเอาคืนอีกเหรอ? จะเห่าแหกตาดูความจริงหน่อย? มรึงถูกไล่ฆ่า ถูกลงแขก จะเหลือเหี้ยอะไรไปสวนเค้า เค้าบีบให้มรึงใช้นุ๊กไงล่ะ? ใช้สิ จะได้จบเร็วจริง ไม่ต้องรอวันตายนานเกิน? NATO แตกแล้วในเชิงพฤตินัย EU แตกแล้ว ในเชิงความร่วมมือ ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก เดินกันคนละทิศ คนละทาง เพราะไม่มีใครเอาใครอยู่ได้อีกแล้ว? โครแอตออกตัว ออสเตรียออกลาย เชกออกพริ้ว ฮังการี เบลารุส เซอร์เบียนำ ตามกันหมดแล้ว พลังงานยั่งยืนรออยู่ การค้า โลจิสติค ตามมา ใครจะเอา EU ที่ไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก มีแต่จ่าย มีแต่สงคราม ควายยังคิดได้? อิหร่านพร้อม MIG-29 ทั้งฝูง รอต้อนรับบินรบเหี้ยยิวอย่างใจจดใจจ่อ โดนแน่ หากเข้าน่านฟ้าเตหะราน เก็บ SU-35 อัพเกรดเฉพาะกิจ เป็นอาวุธลับ ไม่บอก รัสเซียเติมอะไรเพิ่มให้ คนขับไปฝึกที่มอสโคว์มา 2 ปีเต็ม ครูฝึกรัสเซียตัวพ่อมาเอง ควบคุม กำกับเอง มาดิ ไอ้สัส! F-35 กระจอกงอกง่อย ส่งมาเลย กูกำลังอยากจะหาเป้าซ้อมมือเล่น? อาวุธอิหร่านมีความหลากหลายมากที่สุดในโลกอาหรับ แม้แต่กองทัพใหญ่อย่างอีไก่งวง ยังต้องขอดูผลงานอิหร่าน มันแจ่มถึงใจจุงเบย อีแอร์โดกัน ถูกเหี้ยยิวปั่นภายใน ถึงเวลาต้องออกตัวแรง ซัดกลับอียิว ผ่านเลบานอน ไงล่ะ? เอาคืนทบต้น ทบดอก ให้เกลี้ยง! ข้ามวิกแป๊บ : เป็นไปตามคาด กูรู เตือนแล้ว หลังแจก 10000 ให้ควาย เศรษฐกิจเงียบกริบ คนยากไม่ใช้เงิน เก็บ จ่ายหนี้ จ่ายดอก เงินหายไปไหนกันหมด ไปอยู่กับเจ้าหนี้เงินกู้ไงล่ะ? ควายยังรู้ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ! แจกหมดแล้ว ยังไงต่อ? กระตุ้นเหี้ยอะไรได้อีก? กฎหมายตามมาเช็คบิล เตรียมรอคุกได้เลย แสนล้าน ไม่ใช่เงินมรึง แต่ทรัพย์สินพวกมรึงจะถูกเรียกคืนชัวร์! จ่ายต่ออีกน่ะ หากใจไม่ด้านพอ มรึงตั้งใจอย่างเดียว แค่บ่อนทำลายเศรษฐกิจชาติ บ่อนทำลายวัง เพื่อให้ไทยอ่อนแอ ตามใบสั่ง CIA ทหารเค้ารู้หมดเกลี้ยง ถึงได้ปล่อยให้มรึงเล่นไงล่ะ เพราะผลลัพธ์มันรออยู่ปลายทางแล้ว! จบที่ศาลหมดทุกไอ้อี? อีพ่อเหลี่ยมมรึงสติแตกแล้ว หลังถูกหักหลังรายวัน อะไรที่กร่างไว้ อะไรที่มั่น ตอนนี้ มันพลิกตลบหลัง โดนไล่เช็คบิลทุกดอก พรรคก็ไม่รอด อีลูกสาวร่านก็ไม่เหลือ เข้าตัวทุกดอก โดนทุกเม็ด ได้แต่ยื้อ ทหารไม่รอนาน ส่งศาลฟันลงดาบคือจบทันที! นักการเมืองเหี้ยจะหอบทรัพย์สินหนีตายกันจ้าละหวั่น สภาพสิ้นเนื้อประดาตัว ไฮโซรวยฟอกเงิน ดารารวยเงินสีเทา ทุนมืด ไปหมด ใครมีศีลจะรอด? ใครโลภจะคุก? ศรีธนญชัยเดินเกมส์รัดกุม ไม่รีบเร่ง ไม่ต้องอกตัวเยอะ เดี๋ยวเหี้ยมันดิ้นเอง แฉเอง หลักฐานมาเอง เพราะเหี้ยมันย่อมเอาตัวมันรอดก่อนใคร? ไม่มีมิตรแท้ อีเรืองไกร HOT ยื่นฟ้อง 20 คดี โดนแค่ 1 ก็คุกยาวแล้ว กะไม่ให้ได้ผุดได้เกิดกันเลยเหรอ? แผนบีบเหี้ยเผ่นออกนอกมาเต็ม ไปกันให้หมดน่ะจ๊ะ เข้าใจเกมส์ยัง? มีคนชง ศาลตบ ทหารคุมพื้นที่ แสงทำงานเร็วเสมอ? อีอุ้งอุ้ง ไม่รอด ล่อเด้ง ไม่รอนาน? มาตามสูตร รู้ล่วงหน้าแล้ว แค่ขอเข้า HALL OF FLAME แต่มันไม่จบน่ะสิ เพราะพรรคไปด้วยทั้งกะปิ จะเหลือใครจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวเนี่ย? เข้าสูตรยังล่ะ? ทหารกระดิกตรีนรอ เวลาพวกมรึงใกล้จะหมดแล้ว? เหี้ยให้สุด ระยำให้เต็มที่ได้เลย เวลาโดนมันจะได้ไม่คาใจ? เพราะงานนี้ทหารไม่มียั้งมือ กระทืบซ้ำ เผาส่งขึ้นเมรุทันที! หมี CNN(ทำดี คนจำ ทำเหี้ย คนแค้น ทำนิ่ง คนด่า ไม่ทำห่าอะไรเลย คนแช่ง สรุปคือ ผลของการกระทำคือตัววัดชะตากรรมมรึงเอง เกมส์โลกต้องจบ เกมส์ไทยต้องโหด ไม่ใช่เวลาโลกสวย แรงเท่าที่จำเป็น อ่อนเท่าที่จะทำได้ อเมริกาใกล้จุดจบ เลือกตั้งคือ D-DAY เผาอเมริกานั่นเอง รอดูความวินาศฉิบหาย CIVIL WAR มาเต็ม เสี้ยนจะฆ่ากันเต็มเหนี่ยว เอาให้เต็มที่ อียิวเชียร์ใจขาดดิ้น เหยื่อคือควายโง่ดักดาน สู้ให้ตาย มรึงก็ไม่ได้อะไรเลย แค่ขี้ข้า) 13 ตุลาคม 67 11.28 น. https://linevoom.line.me/post/1172879387847403322 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 456 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงโสภณ เป็น สื่อมวลชน "น้ำดี" ฝีปากกล้า ที่ยืนหยัด วิจารณ์ ทุกคน...
    .
    ทั้งยังเป็น "กระบี่มือหนึ่ง" ด้านข่าวต่างประเทศ อีกด้วย
    .
    ใครพอจะมีกำลังก็ช่วยกันครับ
    .
    ส่งกำลังใจให้ ลุงโสภณ กันครับ
    .
    ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ลุงโสภณ ให้ปลอดภัย กลับมาแข็งแรงได้ในเร็ววัน ครับ
    .
    🙏🙏🙏🙏
    ลุงโสภณ เป็น สื่อมวลชน "น้ำดี" ฝีปากกล้า ที่ยืนหยัด วิจารณ์ ทุกคน... . ทั้งยังเป็น "กระบี่มือหนึ่ง" ด้านข่าวต่างประเทศ อีกด้วย . ใครพอจะมีกำลังก็ช่วยกันครับ . ส่งกำลังใจให้ ลุงโสภณ กันครับ . ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ลุงโสภณ ให้ปลอดภัย กลับมาแข็งแรงได้ในเร็ววัน ครับ . 🙏🙏🙏🙏
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอส่งกำลังใจให้พี่โส และครอบครัวนะคะ กราบขอพรคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดลบันดาลให้พี่โสหายป่วยและ สุขภาพแข็งแรงขึ้นไวๆค่ะ 🙏🏻

    https://youtu.be/BWx9-lVrReg?feature=shared
    ขอส่งกำลังใจให้พี่โส และครอบครัวนะคะ กราบขอพรคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดลบันดาลให้พี่โสหายป่วยและ สุขภาพแข็งแรงขึ้นไวๆค่ะ 🙏🏻 https://youtu.be/BWx9-lVrReg?feature=shared
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ลุงโสภณ ให้ ปลอดภัย และ หายเป็นปกติในเร็ววัน นะครับ

    🙏🙏🙏
    ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ลุงโสภณ ให้ ปลอดภัย และ หายเป็นปกติในเร็ววัน นะครับ 🙏🙏🙏
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • บาป 18 ประการ คนตื่นธรรม
    กรณีคนตื่นธรรม สอนธรรมออนไลน์ในสื่อโซเชียล มีลักษณะการใช้คำพูดหยาบคาย ด้อยค่าด่ากราด ไม่ประนีประนอมเพื่อให้คนเข้าถึงธรรมะที่แท้จริง ตื่นรู้จากอวิชชา เดรัจฉานวิชา ปลุกเสก ได้สร้างบาป 18 ประการขึ้น คือในการสอนธรรม มีข้อผิดพลาดที่เป็นปัญหาควรต้องพิจารณาและปรับปรุง เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพุทธสาสนา และสร้างสัทธรรมปฏิรูปขึ้นแก่ชาวพุทธ เป็นบาปใหญ่หลวง

    1. ใช้วจีทุจริต ไม่เป็นสัมมาวาจา ไม่เป็นวาจาสุภาษิต (ตามแนวทางมรรค ๘)
    มีการใช้คำพูดด่า ดูถูก กดข่มผู้ฟัง เช่น มึงมันโง่ ไอ้ปัญญาอ่อน มึงปัญญาอ่อนไง โดยกล่าวอ้างว่า ธรรมแท้ไม่มีประนีประนอม ในหลักของมรรคมีองค์ ๘ ครอบคลุมอยู่ในทุกเรื่องของการกระทำ จึงจะถือว่าเป็นการปฏิบัติตามคำสอนในพระพุทธศาสนา การสอนโดยใช้วาจาไม่เป็นสัมมาวาจานั้น เป็นวจีทุจริต เป็นบาป ผิดหลักมรรคมีองค์ ๘

    2. สอนขัดแย้งกันเอง ยกธรรมตีธรรม เพราะไม่รอบรู้ไม่เข้าใจหลักเหตุผล มักจะเอาธรรมข้อใดข้อหนึ่งยกขึ้นมา ตีธรรมะข้ออื่นในชุดธรรมเดียวกัน หรือชุดอื่น เพื่อสร้างภาพว่าตนรู้ทั่วถึงธรรมวินัยดี อันไหนธรรมแท้ ธรรมถูก เช่น การกล่าวว่าการรู้อดีต รู้อนาคต ไม่ได้ทำให้เข้าใจปัจจุบัน ไม่มีประโยชน์
    ถือเป็นดูหมิ่นด้อยค่า คำสอน วิชชา 3 มี ปุพเพนิวาสนุสสติญาณ จุตูปปาตญาณ อาสวักขยญาณ โดยคำลักษณะนี้เป็นการบอกว่า ญาณ 2 อย่างข้างต้นไม่มีความสำคัญ ในขณะที่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ การระลึกรู้อดีตชาติของพระพุทธเจ้า ได้เป็นการประจักษ์แจ้งการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์ ทำให้รู้จุตูปปาตญาณ รู้ผลของการกระทำกรรม และนำสู่อาสวักขยญาณ ปัญญารู้ทำอาสวะกิเลสให้หมดสิ้นได้ และข้อธรรมอื่นก็คล้ายกัน ไม่รู้จักเหตุผล พุทธเจ้าแสดงธรรมเป็นชุดเหตุผล เป็นลำดับ

    3. พุทธคุณไม่มีอยู่จริง นอกจากพระบริสุทธิคุณ ปัญญาคุณ มหากรุณาคุณ
    ความจริงคุณของพระพุทธเจ้ามีหลายประการ ทั้งนวหรคุณ 9 อย่าง อะระหํ(เป็นพระอรหันต์) สัมมาสัมพุทโธ(ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง) วิชชาจรณสัมปันโน (เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ) เป็นต้น พุทธานุภาพที่เกิดจากอานุภาพบารมีที่สั่งสมแสดงออกอำนวยผล ในหลายลักษณะ ให้เกิดความสวัสดีแก่ผู้นับถือบูชา เช่น การปกป้องคุ้มครองพระภิกษุที่ไปปฏิบัติอยู่ในสถานที่ห่างไกล มักจะปูลาดอาสนะไว้ เมื่อมีภัย หรือเกิดอกุศลวิตก หวาดกลัว เพียงระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระองค์จะเสด็จมาปลอบ สอนธรรม ทำให้พระภิกษุไม่หวาดกลัวที่จะเดินทางไปอยู่ในที่ไกลๆ เพราะพลังแห่งพุทธะคุ้มครอง แม้ในยุคปัจจุบันพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ก็ยังมีพลังพุทธคุณหรือพุทธานุภาพปกป้องคุ้มครองชาวพุทธอยู่ ความเชื่อเหล่านี้จะมีผลได้ต้องปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงธรรมระดับหนึ่งจึงจะสามารถพิสูจน์ได้ การเห็นสุดโต่งปฏิเสธความมีอยู่แห่งพุทธานุภาพจึงเป็นความเห็นผิด อันร้ายแรงอย่างหนึ่ง

    4.พระเครื่องไม่มีพุทธคุณ เป็นความเห็นผิด พุทธเจ้าประทานบทพระปริตรหลายวาระหลายบท เพื่อป้องกัน เพื่อรักษา ไม่เบียดเบียน อยู่สำราญ ของพระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา พุทธานุภาพหรือเขตอำนาจแห่งพุทธเจ้าแผ่ไปใน 3 เรื่อง คือ
    1)ชาติเขต แผ่ไปในหมื่นจักรวาล
    2)อาณาเขต คือ พุทธมนต์ หรือปริตร แผ่ไปในแสนโกฏิจักรวาล
    3)วิสัยเขต แผ่ไปไม่มีขอบเขต
    พุทธคุณหรือพุทธานุภาพ เกิดจากการสวดสาธยายมนต์ มีอำนาจแผ่ไปในแสนโกฏิจักรวาล ช่วยขจัดปัดเป่าอุปัทวันตราย โรคภัย เสนียดจัญไรต่างๆ ได้ มีการสืบทอดคำสอนมาช้านาน
    ดังข้อความว่า
    "ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะจงเล่าเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะ จงทรงจำมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะไว้ ภิกษุทั้งหลาย มนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะนี้ ประกอบด้วยประโยชน์ เพื่อคุ้มครอง เพื่อรักษา เพื่อไม่เบียดเบียน เพื่ออยู่สำราญของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย”
    ข้อความนี้แสดงให้เห็นว่า บทปริตร หรือบทพุทธมนต์ มีพลังอำนาจ คุ้มครองป้องกันรักษา พระพุทธเจ้าจึงให้สวดสาธยาย และเมื่อนำมาใช้ในการสร้างพระพุทธรูป พระเครื่องต่างๆ ย่อมมีคุณตามที่พระพุทธเจ้าตรัส
    คำพูดปฏิเสธพุทธคุณ พุทธรูป สิ่งเคารพทางศาสนา ที่สืบทอดคติความเชื่อจารีตมาช้านานนับพันปี จึงเป็นการบ่อนทำลายความศรัทธาที่มีต่อ พระพุทธเจ้า สิ่งแทนพุทธเจ้า หรือคำสอนที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ไม่ให้ผู้คนมีศรัทธา โดยยกคำสอนเรื่องอริยสัจ มาด้อยค่าคำสอนว่าด้วยเรื่องศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า จึงเป็นการทำลายศาสนา ไปพร้อมกัน อนาคตเด็กยุคใหม่เสพคำสอนนี้ จะไม่นับถือไม่ไหว้พระพุทธเจ้าและไม่เห็นความสำคัญ คุณค่าของพุทธรูปที่สร้างไว้ในฐานะเครื่องยึดเหนี่ยวที่เป็นรูปธรรมนำสุ่พุทธเจ้า รวมทั้งไม่เชื่อในพระพุทธเจ้า

    5. มิจฉาทิฐิ 10 สอนการบูชาที่ไร้ผล สายลัทธิวัดนา สอนไม่ให้กราบไหว้บูชาพระพุทธรูป องค์แทนพุทธเจ้าสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพุทธเจ้า เป็นจารีตนิยมที่ถือมาช้านาน เชื่อมโยงคำสอนในพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ ปีตวิมานวัตถุ
    “ติฏฺฐนฺเต นิพฺพุเต จาปิ, สเม จิตฺเต สมํ ผลํ;
    เจโตปณิธิเหตุ หิ, สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคตึ.
    "พระพุทธเจ้า จะทรงพระชนม์อยู่ หรือแม้จะนิพพานไปแล้วก็ตาม
    ถ้าจิตเสมอกัน ผลก็เสมอกัน สัตว์ทั้งหลายไปสู่สวรรค์ เพราะความเลื่อมใสตั้งมั่นแห่งจิตใจ
    การสอนไม่ให้ไหว้พุทธรูป นับเป็นมิจฉาทิฐิ ข้อที่ ๒ นัตถิ ยิตถัง และข้อที่ ๑๐ พระพุทธเจ้าไม่มีอยู่จริง ในชุดคำสอน มิจฉาทิฐิ ๑๐ ประการ เป็นการสร้างบาปทำลายคำสอน ความศรัทธาที่ชาวพุทธมีต่อพระพุทธเจ้า โดยอ้างว่าให้ยึดคำสอนสูงสุด อริยสัจสี่ เพื่อพ้นทุกข์

    6. คุณไสย ไสยเวทย์ ไม่มี. การปฏิเสธคำสอน ในเรื่องคุณไสย์ วิชาอาคม มนต์ มีพลังอำนาจอยู่จริง หรือไม่ เมื่อไม่สามารถหาคำตอบหรือพิสูจน์ได้ ก็ควรพิจารณาจากหลักฐานในพระไตรปิฎก มีที่ใดบ้าง ข้อความพุทธพจน์วินัยบัญญัติ ดังเรื่องต่อไปนี้
    ๑) พระภิกษุถูกผีสิง อมนุษย์สิง กินเลือดสด เนื้อสด ทรงอนุญาตให้พระภิกษุฉันเลือดและเนื้อสดได้ เพื่อเป็นเภสัช เมื่อฉันแล้วอมนุษย์จะออกไป แสดงให้เห็นว่าบทบัญญัติทางพระวินัย พระพุทธเจ้ายอมรับว่ามีผีหรืออมนุษย์สามารถสิงสู่คนได้ พระภิกษุถูกอมนุษย์สิงได้ และวิธีการรักษา ในครั้งนั้นตามอาการ คือเมื่ออมนุษย์มาสิงเพื่อกินเนื้อสด เลือดสด(ปอบ) ก็อนุญาตให้พระภิกษุกินได้ และไม่ถือว่าต้องอาบัติอะไร เพราะคนที่กิน ไม่ใช่พระ แต่เป็นอมนุษย์ หลักฐานนี้ยอมรับการมีอยู่ การสิงร่างคน ของอมนุษย์ เป็นความรู้ที่ควรต้องมี ไม่ปฏิเสธว่า ผี อมนุษย์ ไม่มี ไสยเวทย์ ไม่มี
    เรื่องเนื้อดิบและเลือดสด
    "อมนุษย์เคี้ยวกินเนื้อดิบและดื่มเลือดสด เพราะเหตุนั้น ภิกษุจึงชื่อว่าไม่ได้เคี้ยวกินเนื้อดิบและดื่มเลือดสดนั้น. อมนุษย์ ครั้นเคี้ยวกินและดื่มแล้วได้ออกไป เพราะเหตุนั้น พระธรรมสังคาหกาจารย์จึงกล่าวว่า อาพาธเกิดแต่อมนุษย์นั้นของเธอย่อมระงับ."
    วินัยปิฎก มหาวรรค ๕/๒๖๔๔๙.
    https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=5&siri=8

    ๒) เรื่องภิกษุโดนยาแฝดดื่มน้ำที่ละลายจากดินติดผาลไถ
    สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธโดนยาแฝด ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบพระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ดื่มน้ำที่เขาละลายดิน รอยไถติดผาล”
    (วินัยปิฎกมหาวรรค. ๕/๒๖๙/๖๑.)

    วิธีการรักษาโรคต่างๆ มีปรากฏอยู่ในตุวฏกสุตตนิทเทสขุททกนิกาย มหานิเทศ ได้กล่าวถึงวิธีการบำบัดโรคไว้ 5 อย่างด้วยกัน คือ
    (๑) การบำบัดด้วยการเสกเป่า (๒) การบำบัดด้วย (๓) การผ่าตัด (๔) การบำบัดด้วยยา (๕) การรักษาที่เกี่ยวข้องกับทางภูตผีหรือไสยศาสตร์ และการบำบัดโรคเด็ก (กุมารเวช)

    7.ปฏิเสธการสวดมนต์ สาธยายมนต์ พระปริตร ว่าไม่มีคุณค่า ไม่ได้ช่วยอะไร
    เป็นการปฏิเสธคำของพระพุทธเจ้า ที่อนุญาตให้พุทธบริษัท ๔ เรียน และสวดสาธยายปริตร ดังข้อความว่า "ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะจงเล่าเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะ จงทรงจำมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะไว้ ภิกษุทั้งหลาย มนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะนี้ ประกอบด้วยประโยชน์เพื่อคุ้มครอง เพื่อรักษา เพื่อไม่เบียดเบียน เพื่ออยู่สำราญของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย”
    (ที.มหา. ๑๑/๒๙๕/๒๖๔.)

    8. เรียนไม่ถึง ตีความเอง ไม่ศึกษาเครื่องมือการศึกษาพระไตรปิฎก คือไวยากรณ์ภาษาบาลี คนตื่นธรรมเป็นศิษย์สำนักวัดนาจึงใช้ทิฏฐิของตน อัตโนมัติ ตัดสินธรรมตามชอบใจ ซึ่งเป็นหลักสำคัญที่สำนักนี้ใช้การตีความแบบนี้มาช้านาน
    โดยใช้หลักการยึดเอาพระไตรปิฎกเฉพาะบางส่วน ที่เห็นว่าเป็นคำพุทธวจนะแท้ จากพระโอษฐ์ โดยใช้ตรรกะง่ายๆ หาข้อความในพระสูตรที่มีคำว่า "ภิกฺขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย" เป็นต้น
    จึงจะเชื่อว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ส่วนคำสอนอื่นที่ไม่มีข้อความตรัสแบบนี้ จะตีความว่าไม่ใช่คำสอน เป็นคำแต่งเติม แต่งใหม่จึงมีส่วนคำสอนที่ถูกสำนักนี้ตัดออกไป เช่น เรื่องสวดปริตร หรือสิกบท 150 ข้อ การตัดสินความเป็นพุทธพจน์แท้ แบบนี้นับเป็นการตีความผิดพลาดอย่างมาก ได้สร้างบาปใหญ่ให้เกิดในสังฆมณฑลมา 20 กว่าปี ศิษย์สำนักนี้เผยแผ่ธรรม ตามการตีความแบบนี้จึงได้เกิด วิวาทะ ปะทะกับชาวพุทธส่วนใหญ่ ถกเถียงกันเรื่อง เดรัจฉานวิชา การทำน้ำมนต์ ปลุกเสก สิกขาบทวินัย ทำให้เกิดความแตกแยก ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ปัญหา ยังคงเป็นปัญหาจนทุกวันนี้ คนตื่นธรรมถือเป็นผลผลิตของวัดนาที่ได้สร้างบาปให้แก่พุทธสาสนา ด้วยการศึกษาเอง ตีความเอง ข่มชาวพุทธ

    9.ศึกษาธรรมวินัยเอง ไม่มีครูอาจารย์ผู้สอน ทำให้ตีความธรรมวินัยผิดพลาด ขัดแย้งกับคำสอนหลายเรื่อง เป็นมิจฉาทิฐิ ในการเล่าเรียนธรรมพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติวิธีการศึกษาพระธรรมวินัยไว้ในสัทธิวิหาริกวัตรว่า
    “อุปชฺฌาเยน, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริโก สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ อุทฺเทเสน ปริปุจฺฉาย โอวาเทน อนุสาสนิยา.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุปัชฌาย์ ต้องสงเคราะห์ อนุเคราะห์ สัทธิวิหาริก(พระลูกศิษย์) ด้วยอุทเทส(พระบาลี) ปริปุจฉา(การทวนสอบอรรถกถา) โอวาท และอนุสาสนีย์
    วินัยปิฎก มหาวรรค.๔/๖๗/๘๘
    https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=4&siri=20
    หลักการนี้ย้ำชัดว่า ในการศึกษาคำสอน ต้องทำอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ที่รอบรู้ในพระธรรมวินัย ไม่สามารถศึกษาเองได้ คนตื่นธรรมหรือสำนักวัดนา ใช้วิธีการอ่านศึกษาธรรมเอง จึงได้เกิดความเห็นผิดขึ้นหลายประการ เรื่องการตีความคำสอนผิดพลาด

    10.ขาดคุณสมบัติของผู้สอนธรรม ๗ ประการ ที่จำเป็นของผู้สอนธรรม ตามพุทธพจน์ที่ตรัสไว้ในอังคุตรนิกาย สัตตกนิบาตว่า
    “ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;
    คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา, โน จฏฺาเน นิโยชโก .
    ๑. เป็นที่รักเป็นที่พอใจ ๒. เป็นที่เคารพ ๓. เป็นที่ยกย่อง
    ๔. เป็นนักพูด ๕. เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ ๖. เป็นผู้พูดถ้อยคำลึกซึ้งได้
    ๗. ไม่ชักนำในอฐานะ
    ภิกษุทั้งหลาย มิตรประกอบด้วยองค์ ๗ ประการนี้แล เป็นผู้ควรเสพ ควรคบ
    ควรเข้าไปนั่งใกล้ แม้จะถูกขับไล่ก็ตาม
    อธิบายความ
    1.ปิโย เป็นที่รักเป็นที่พอใจ ในที่นี้หมายถึงมีลักษณะแห่งกัลยาณมิตร ๘ ประการ คือ (๑) มีศรัทธา คือ เชื่อการตรัสรู้ของพระตถาคต เชื่อกรรมและผลของกรรม (๒) มีศีล คือ เป็นที่รัก เป็นที่เคารพ เป็นที่นับถือของสัตว์ทั้งหลาย (๓) มีสุตะ คือ กล่าวถ้อยคำที่ลึกซึ้งที่สัมปยุตด้วยสัจจะและปฏิจจสมุปบาท (๔) มีจาคะ คือปรารถนาน้อย สันโดษ ชอบสงัด ไม่คลุกคลีด้วยหมู่ (๕) มีความเพียร คือ ปรารภความเพียรในการปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลแก่ตนและเกื้อกูลแก่ผู้อื่น (๖) มีสติ คือ มีสติตั้งมั่น (๗) มีสมาธิ คือ มีจิตตั้งมั่นไม่ฟุ้งซ่าน(๘) มีปัญญา คือ รู้อย่างไม่วิปริต ใช้สติพิจารณาคติแห่งกุศลธรรมและอกุศลธรรม รู้สิ่งที่เกื้อกูลและสิ่งไม่เกื้อกูลแห่งสัตว์ทั้งหลายด้วยปัญญาตามความเป็นจริง มีจิตเป็นหนึ่งในอารมณ์นั้นด้วยสมาธิ เว้นสิ่งที่ไม่เกื้อกูล ประกอบสิ่งที่เกื้อกูลด้วยความเพียร (องฺ.สตฺตก.ฏีกา ๓/๓๗-๔๓/๒๐๓)
    2.ครุ เป็นที่เคารพ สูงส่งหนักแน่นดุจหินผา
    3.ภาวนีโย เป็นที่ยกย่อง น่าเจริญใจ
    4.วัตตา เป็นนักพูด(ผู้สอน) หมายถึงเป็นผู้ฉลาดในการใช้คำพูด (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙)
    5. วจนักขโม อดทนต่อถ้อยคำ หมายถึงปฏิบัติตามโอวาทที่ท่านให้แล้ว (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙)
    6. คัมภีรัญ จะ กถัง กัตตา ถ้อยคำลึกซึ้ง หมายถึงเรื่องเกี่ยวกับฌาน วิปัสสนา มรรค ผล และนิพพาน (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙)
    7. โน จัฏฐาเน นิโยชะโก ไม่ชักนำในอฐานะ หมายถึงป้องกันไม่ให้ทำในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล มีคติเป็นทุกข์ แต่ชักชวนให้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลมีคติเป็นสุข (เทียบ องฺ.สตฺตก.ฏีกา ๓/๓๗/๒๐๓)

    11. ไม่จำแนกแยกแยะ ให้ชัดเจน เหมาะรวม เช่น การสวดมนต์ เจริญพุทธมนต์ ปริตร การอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคล กับเดรัจฉานวิชา เอามายำรวมกัน เป็นของที่ห้าม

    12.ไม่ให้บูชานับถือ สิ่งอื่นนอกเหนือจากพระรัตนตรัย หรือคำสอน บูชาเทวดา ยมยักษ์ ต่างๆ
    ในรายละเอียดเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าแสดงอานิสงส์ของการบูชาเจดีย์ ที่เป็นเหตุแห่งความเจริญไว้ ในมหาปรินิพพานสูตร ตอนราชอปริหานิยธรรม ทีฆนิกาย มหาวรรค ข้อที่ ๖ ว่า
    “อานนท์ เธอได้ยินไหมว่า ‘พวกเจ้าวัชชี สักการะ เคารพ นับถือ บูชา
    เจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชี ทั้งในเมืองและนอกเมือง และไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรม ที่เคยให้เคยกระทำต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป”
    “อานนท์ พวกเจ้าวัชชีพึงหวังได้แต่ความเจริญอย่างเดียว ไม่มีความเสื่อมเลยตราบเท่าที่พวกเจ้าวัชชียังสักการะ เคารพ นับถือ บูชาเจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชีทั้งในเมืองและนอกเมือง และไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรมที่เคยให้เคยกระทำ ต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป”
    (ที.มหา.10/134/78.)
    https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=10&siri=3
    คำว่า เจดีย์ ที่ชาววัชชีบูชา หมายถึง ต้นไม้ใหญ่ ที่มียักษ์สิงสถิตย์ ยักษ์เป็นเทวดาชั้นจาตุม ยกฺข ภาษาบาลีแปลว่า ผู้ที่เขาบูชา เมื่อบุคคลบูชาต้นไม้ใหญ่ หรือยักษ์ ย่อมมีความเจริญ ยักษ์คือเทวดาย่อมปกปักษ์รักษา สอดคล้องกับคำสอนเรื่อง เทวตานุสสติ ในพระพุทธศาสนา ไม่ขัดแย้งกัน
    ย่อมเป็นหลักการยืนยันว่า พระพุทธเจ้ายอมรับว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังอำนาจอำนวยผลให้ผู้คนนับถือบูชา การบูชาเทวดา หรือต้นไม้ใหญ่ ก็มีผลนำความเจริญมาสู่ได้ เป็นหลักการย่อยในหลักการใหญ่ ที่ควรต้องรู้รอบและลึกชัดเจน จึงจะเข้าใจเรื่องนี้

    13. ไม่เข้าใจตัวบทพยัญชนะ ความหมายคำ
    ติรัจฉานวิชชา การสวดปริตร การใช้อิทธิปาฏิหาริย์ที่อนุญาต
    ติรจฺฉานวิชฺชา(อิต.) วิชาขวาง, วิชาขวาง ทางไปนิพพาน, ติรัจฉานวิชา คือความรู้ที่ไร้สาระ ความรู้ที่ไม่เป็นประโยชน์ วิชาที่ไม่ทำตนให้พ้นจากทุกข์ซึ่งพระพุทธเจ้า ทรงห้ามมิให้ภิกษุ - สามเณรศึกษา เช่น วิชาทำเสน่ห์ยาแฝดเป็นต้น.

    14. ไม่เข้าใจ แยกไม่ออกระหว่างการสวดปริตร กับการทำเดรัจฉานวิชา
    ทำให้ โจมตีพระที่สวดปริตร ทำน้ำมนต์ ปลุกเสก ในขณะที่เรื่องการทำวัตถุมงคล พุทธพานิชย์มีรายละเอียดหลายส่วน ต้องพิจารณาว่าพระสงฆ์รูปใดเข้าไปเกี่ยวข้องในลักษณะใดบ้าง ผิดพระวินัยข้อใด การสร้างพระพุทธรูป การสวดปริตร ปลุกเสก ไม่ได้ผิดหลักคำสอนทั้งในส่วนวินัยบัญญัติ หรือสัมมาอาชีวะแต่อย่างใด ส่วนการทำพานิชย์ที่เกี่ยวข้องเป็นหน้าที่ของฆราวาสดำเนินการด้วยมุ่งประโยชน์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสร้างถาวรวัตถุ ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ไม่ใช่การหลอกลวงตามพระวินัย

    15. ไม่มีคารวธรรม คุณธรรม ศึกษาแบบลวกๆ ไม่เคารพในสิกขา การศึกษา ทำให้เข้าใจไม่ถูกต้อง นำสุ่การตีความธรรมวินัยผิด
    การศึกษาธรรมต้องมีความเคารพในสิกขา คือการศึกษาด้วยความเคารพ ข้อใดไม่เข้าใจก็ต้องไปสอบถาม กับอาจารย์ผู้รู้ จนเกิดความเข้าใจ การไม่แสวงหา ไม่ใฝ่หาผู้รู้มาสอบทานความรู้ที่ตนมีจึงเป็นการศึกษาโดยไม่เคารพในพระธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องความเข้าใจไม่ถูกต้อง และเป็นปัญหาชาวพุทธเมื่อนำไปเผยแผ่
    (มี ต่อ 16-18)

    อย่าร่วมกันสร้างบาปให้กับพระพุทธศาสนา คำสอนในพระไตรปิฎกมีความลึกซึ้ง ต้องศึกษาอย่างเคารพ ระมัดระวัง อย่างเป็นระบบ มีกระบวนการ และชาวพุทธควรยึดหลักการในพระไตรปิฎก ไม่สนับสนุนกลุ่มคนที่ทำลายคำสอนด้วยการสอนผิด
    บาป 18 ประการ คนตื่นธรรม กรณีคนตื่นธรรม สอนธรรมออนไลน์ในสื่อโซเชียล มีลักษณะการใช้คำพูดหยาบคาย ด้อยค่าด่ากราด ไม่ประนีประนอมเพื่อให้คนเข้าถึงธรรมะที่แท้จริง ตื่นรู้จากอวิชชา เดรัจฉานวิชา ปลุกเสก ได้สร้างบาป 18 ประการขึ้น คือในการสอนธรรม มีข้อผิดพลาดที่เป็นปัญหาควรต้องพิจารณาและปรับปรุง เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพุทธสาสนา และสร้างสัทธรรมปฏิรูปขึ้นแก่ชาวพุทธ เป็นบาปใหญ่หลวง 1. ใช้วจีทุจริต ไม่เป็นสัมมาวาจา ไม่เป็นวาจาสุภาษิต (ตามแนวทางมรรค ๘) มีการใช้คำพูดด่า ดูถูก กดข่มผู้ฟัง เช่น มึงมันโง่ ไอ้ปัญญาอ่อน มึงปัญญาอ่อนไง โดยกล่าวอ้างว่า ธรรมแท้ไม่มีประนีประนอม ในหลักของมรรคมีองค์ ๘ ครอบคลุมอยู่ในทุกเรื่องของการกระทำ จึงจะถือว่าเป็นการปฏิบัติตามคำสอนในพระพุทธศาสนา การสอนโดยใช้วาจาไม่เป็นสัมมาวาจานั้น เป็นวจีทุจริต เป็นบาป ผิดหลักมรรคมีองค์ ๘ 2. สอนขัดแย้งกันเอง ยกธรรมตีธรรม เพราะไม่รอบรู้ไม่เข้าใจหลักเหตุผล มักจะเอาธรรมข้อใดข้อหนึ่งยกขึ้นมา ตีธรรมะข้ออื่นในชุดธรรมเดียวกัน หรือชุดอื่น เพื่อสร้างภาพว่าตนรู้ทั่วถึงธรรมวินัยดี อันไหนธรรมแท้ ธรรมถูก เช่น การกล่าวว่าการรู้อดีต รู้อนาคต ไม่ได้ทำให้เข้าใจปัจจุบัน ไม่มีประโยชน์ ถือเป็นดูหมิ่นด้อยค่า คำสอน วิชชา 3 มี ปุพเพนิวาสนุสสติญาณ จุตูปปาตญาณ อาสวักขยญาณ โดยคำลักษณะนี้เป็นการบอกว่า ญาณ 2 อย่างข้างต้นไม่มีความสำคัญ ในขณะที่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ การระลึกรู้อดีตชาติของพระพุทธเจ้า ได้เป็นการประจักษ์แจ้งการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์ ทำให้รู้จุตูปปาตญาณ รู้ผลของการกระทำกรรม และนำสู่อาสวักขยญาณ ปัญญารู้ทำอาสวะกิเลสให้หมดสิ้นได้ และข้อธรรมอื่นก็คล้ายกัน ไม่รู้จักเหตุผล พุทธเจ้าแสดงธรรมเป็นชุดเหตุผล เป็นลำดับ 3. พุทธคุณไม่มีอยู่จริง นอกจากพระบริสุทธิคุณ ปัญญาคุณ มหากรุณาคุณ ความจริงคุณของพระพุทธเจ้ามีหลายประการ ทั้งนวหรคุณ 9 อย่าง อะระหํ(เป็นพระอรหันต์) สัมมาสัมพุทโธ(ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง) วิชชาจรณสัมปันโน (เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ) เป็นต้น พุทธานุภาพที่เกิดจากอานุภาพบารมีที่สั่งสมแสดงออกอำนวยผล ในหลายลักษณะ ให้เกิดความสวัสดีแก่ผู้นับถือบูชา เช่น การปกป้องคุ้มครองพระภิกษุที่ไปปฏิบัติอยู่ในสถานที่ห่างไกล มักจะปูลาดอาสนะไว้ เมื่อมีภัย หรือเกิดอกุศลวิตก หวาดกลัว เพียงระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระองค์จะเสด็จมาปลอบ สอนธรรม ทำให้พระภิกษุไม่หวาดกลัวที่จะเดินทางไปอยู่ในที่ไกลๆ เพราะพลังแห่งพุทธะคุ้มครอง แม้ในยุคปัจจุบันพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ก็ยังมีพลังพุทธคุณหรือพุทธานุภาพปกป้องคุ้มครองชาวพุทธอยู่ ความเชื่อเหล่านี้จะมีผลได้ต้องปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงธรรมระดับหนึ่งจึงจะสามารถพิสูจน์ได้ การเห็นสุดโต่งปฏิเสธความมีอยู่แห่งพุทธานุภาพจึงเป็นความเห็นผิด อันร้ายแรงอย่างหนึ่ง 4.พระเครื่องไม่มีพุทธคุณ เป็นความเห็นผิด พุทธเจ้าประทานบทพระปริตรหลายวาระหลายบท เพื่อป้องกัน เพื่อรักษา ไม่เบียดเบียน อยู่สำราญ ของพระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา พุทธานุภาพหรือเขตอำนาจแห่งพุทธเจ้าแผ่ไปใน 3 เรื่อง คือ 1)ชาติเขต แผ่ไปในหมื่นจักรวาล 2)อาณาเขต คือ พุทธมนต์ หรือปริตร แผ่ไปในแสนโกฏิจักรวาล 3)วิสัยเขต แผ่ไปไม่มีขอบเขต พุทธคุณหรือพุทธานุภาพ เกิดจากการสวดสาธยายมนต์ มีอำนาจแผ่ไปในแสนโกฏิจักรวาล ช่วยขจัดปัดเป่าอุปัทวันตราย โรคภัย เสนียดจัญไรต่างๆ ได้ มีการสืบทอดคำสอนมาช้านาน ดังข้อความว่า "ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะจงเล่าเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะ จงทรงจำมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะไว้ ภิกษุทั้งหลาย มนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะนี้ ประกอบด้วยประโยชน์ เพื่อคุ้มครอง เพื่อรักษา เพื่อไม่เบียดเบียน เพื่ออยู่สำราญของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย” ข้อความนี้แสดงให้เห็นว่า บทปริตร หรือบทพุทธมนต์ มีพลังอำนาจ คุ้มครองป้องกันรักษา พระพุทธเจ้าจึงให้สวดสาธยาย และเมื่อนำมาใช้ในการสร้างพระพุทธรูป พระเครื่องต่างๆ ย่อมมีคุณตามที่พระพุทธเจ้าตรัส คำพูดปฏิเสธพุทธคุณ พุทธรูป สิ่งเคารพทางศาสนา ที่สืบทอดคติความเชื่อจารีตมาช้านานนับพันปี จึงเป็นการบ่อนทำลายความศรัทธาที่มีต่อ พระพุทธเจ้า สิ่งแทนพุทธเจ้า หรือคำสอนที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ไม่ให้ผู้คนมีศรัทธา โดยยกคำสอนเรื่องอริยสัจ มาด้อยค่าคำสอนว่าด้วยเรื่องศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า จึงเป็นการทำลายศาสนา ไปพร้อมกัน อนาคตเด็กยุคใหม่เสพคำสอนนี้ จะไม่นับถือไม่ไหว้พระพุทธเจ้าและไม่เห็นความสำคัญ คุณค่าของพุทธรูปที่สร้างไว้ในฐานะเครื่องยึดเหนี่ยวที่เป็นรูปธรรมนำสุ่พุทธเจ้า รวมทั้งไม่เชื่อในพระพุทธเจ้า 5. มิจฉาทิฐิ 10 สอนการบูชาที่ไร้ผล สายลัทธิวัดนา สอนไม่ให้กราบไหว้บูชาพระพุทธรูป องค์แทนพุทธเจ้าสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพุทธเจ้า เป็นจารีตนิยมที่ถือมาช้านาน เชื่อมโยงคำสอนในพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ ปีตวิมานวัตถุ “ติฏฺฐนฺเต นิพฺพุเต จาปิ, สเม จิตฺเต สมํ ผลํ; เจโตปณิธิเหตุ หิ, สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคตึ. "พระพุทธเจ้า จะทรงพระชนม์อยู่ หรือแม้จะนิพพานไปแล้วก็ตาม ถ้าจิตเสมอกัน ผลก็เสมอกัน สัตว์ทั้งหลายไปสู่สวรรค์ เพราะความเลื่อมใสตั้งมั่นแห่งจิตใจ การสอนไม่ให้ไหว้พุทธรูป นับเป็นมิจฉาทิฐิ ข้อที่ ๒ นัตถิ ยิตถัง และข้อที่ ๑๐ พระพุทธเจ้าไม่มีอยู่จริง ในชุดคำสอน มิจฉาทิฐิ ๑๐ ประการ เป็นการสร้างบาปทำลายคำสอน ความศรัทธาที่ชาวพุทธมีต่อพระพุทธเจ้า โดยอ้างว่าให้ยึดคำสอนสูงสุด อริยสัจสี่ เพื่อพ้นทุกข์ 6. คุณไสย ไสยเวทย์ ไม่มี. การปฏิเสธคำสอน ในเรื่องคุณไสย์ วิชาอาคม มนต์ มีพลังอำนาจอยู่จริง หรือไม่ เมื่อไม่สามารถหาคำตอบหรือพิสูจน์ได้ ก็ควรพิจารณาจากหลักฐานในพระไตรปิฎก มีที่ใดบ้าง ข้อความพุทธพจน์วินัยบัญญัติ ดังเรื่องต่อไปนี้ ๑) พระภิกษุถูกผีสิง อมนุษย์สิง กินเลือดสด เนื้อสด ทรงอนุญาตให้พระภิกษุฉันเลือดและเนื้อสดได้ เพื่อเป็นเภสัช เมื่อฉันแล้วอมนุษย์จะออกไป แสดงให้เห็นว่าบทบัญญัติทางพระวินัย พระพุทธเจ้ายอมรับว่ามีผีหรืออมนุษย์สามารถสิงสู่คนได้ พระภิกษุถูกอมนุษย์สิงได้ และวิธีการรักษา ในครั้งนั้นตามอาการ คือเมื่ออมนุษย์มาสิงเพื่อกินเนื้อสด เลือดสด(ปอบ) ก็อนุญาตให้พระภิกษุกินได้ และไม่ถือว่าต้องอาบัติอะไร เพราะคนที่กิน ไม่ใช่พระ แต่เป็นอมนุษย์ หลักฐานนี้ยอมรับการมีอยู่ การสิงร่างคน ของอมนุษย์ เป็นความรู้ที่ควรต้องมี ไม่ปฏิเสธว่า ผี อมนุษย์ ไม่มี ไสยเวทย์ ไม่มี เรื่องเนื้อดิบและเลือดสด "อมนุษย์เคี้ยวกินเนื้อดิบและดื่มเลือดสด เพราะเหตุนั้น ภิกษุจึงชื่อว่าไม่ได้เคี้ยวกินเนื้อดิบและดื่มเลือดสดนั้น. อมนุษย์ ครั้นเคี้ยวกินและดื่มแล้วได้ออกไป เพราะเหตุนั้น พระธรรมสังคาหกาจารย์จึงกล่าวว่า อาพาธเกิดแต่อมนุษย์นั้นของเธอย่อมระงับ." วินัยปิฎก มหาวรรค ๕/๒๖๔๔๙. https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=5&siri=8 ๒) เรื่องภิกษุโดนยาแฝดดื่มน้ำที่ละลายจากดินติดผาลไถ สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธโดนยาแฝด ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบพระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ดื่มน้ำที่เขาละลายดิน รอยไถติดผาล” (วินัยปิฎกมหาวรรค. ๕/๒๖๙/๖๑.) วิธีการรักษาโรคต่างๆ มีปรากฏอยู่ในตุวฏกสุตตนิทเทสขุททกนิกาย มหานิเทศ ได้กล่าวถึงวิธีการบำบัดโรคไว้ 5 อย่างด้วยกัน คือ (๑) การบำบัดด้วยการเสกเป่า (๒) การบำบัดด้วย (๓) การผ่าตัด (๔) การบำบัดด้วยยา (๕) การรักษาที่เกี่ยวข้องกับทางภูตผีหรือไสยศาสตร์ และการบำบัดโรคเด็ก (กุมารเวช) 7.ปฏิเสธการสวดมนต์ สาธยายมนต์ พระปริตร ว่าไม่มีคุณค่า ไม่ได้ช่วยอะไร เป็นการปฏิเสธคำของพระพุทธเจ้า ที่อนุญาตให้พุทธบริษัท ๔ เรียน และสวดสาธยายปริตร ดังข้อความว่า "ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะจงเล่าเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะ จงทรงจำมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะไว้ ภิกษุทั้งหลาย มนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะนี้ ประกอบด้วยประโยชน์เพื่อคุ้มครอง เพื่อรักษา เพื่อไม่เบียดเบียน เพื่ออยู่สำราญของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย” (ที.มหา. ๑๑/๒๙๕/๒๖๔.) 8. เรียนไม่ถึง ตีความเอง ไม่ศึกษาเครื่องมือการศึกษาพระไตรปิฎก คือไวยากรณ์ภาษาบาลี คนตื่นธรรมเป็นศิษย์สำนักวัดนาจึงใช้ทิฏฐิของตน อัตโนมัติ ตัดสินธรรมตามชอบใจ ซึ่งเป็นหลักสำคัญที่สำนักนี้ใช้การตีความแบบนี้มาช้านาน โดยใช้หลักการยึดเอาพระไตรปิฎกเฉพาะบางส่วน ที่เห็นว่าเป็นคำพุทธวจนะแท้ จากพระโอษฐ์ โดยใช้ตรรกะง่ายๆ หาข้อความในพระสูตรที่มีคำว่า "ภิกฺขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย" เป็นต้น จึงจะเชื่อว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ส่วนคำสอนอื่นที่ไม่มีข้อความตรัสแบบนี้ จะตีความว่าไม่ใช่คำสอน เป็นคำแต่งเติม แต่งใหม่จึงมีส่วนคำสอนที่ถูกสำนักนี้ตัดออกไป เช่น เรื่องสวดปริตร หรือสิกบท 150 ข้อ การตัดสินความเป็นพุทธพจน์แท้ แบบนี้นับเป็นการตีความผิดพลาดอย่างมาก ได้สร้างบาปใหญ่ให้เกิดในสังฆมณฑลมา 20 กว่าปี ศิษย์สำนักนี้เผยแผ่ธรรม ตามการตีความแบบนี้จึงได้เกิด วิวาทะ ปะทะกับชาวพุทธส่วนใหญ่ ถกเถียงกันเรื่อง เดรัจฉานวิชา การทำน้ำมนต์ ปลุกเสก สิกขาบทวินัย ทำให้เกิดความแตกแยก ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ปัญหา ยังคงเป็นปัญหาจนทุกวันนี้ คนตื่นธรรมถือเป็นผลผลิตของวัดนาที่ได้สร้างบาปให้แก่พุทธสาสนา ด้วยการศึกษาเอง ตีความเอง ข่มชาวพุทธ 9.ศึกษาธรรมวินัยเอง ไม่มีครูอาจารย์ผู้สอน ทำให้ตีความธรรมวินัยผิดพลาด ขัดแย้งกับคำสอนหลายเรื่อง เป็นมิจฉาทิฐิ ในการเล่าเรียนธรรมพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติวิธีการศึกษาพระธรรมวินัยไว้ในสัทธิวิหาริกวัตรว่า “อุปชฺฌาเยน, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริโก สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ อุทฺเทเสน ปริปุจฺฉาย โอวาเทน อนุสาสนิยา. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุปัชฌาย์ ต้องสงเคราะห์ อนุเคราะห์ สัทธิวิหาริก(พระลูกศิษย์) ด้วยอุทเทส(พระบาลี) ปริปุจฉา(การทวนสอบอรรถกถา) โอวาท และอนุสาสนีย์ วินัยปิฎก มหาวรรค.๔/๖๗/๘๘ https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=4&siri=20 หลักการนี้ย้ำชัดว่า ในการศึกษาคำสอน ต้องทำอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ที่รอบรู้ในพระธรรมวินัย ไม่สามารถศึกษาเองได้ คนตื่นธรรมหรือสำนักวัดนา ใช้วิธีการอ่านศึกษาธรรมเอง จึงได้เกิดความเห็นผิดขึ้นหลายประการ เรื่องการตีความคำสอนผิดพลาด 10.ขาดคุณสมบัติของผู้สอนธรรม ๗ ประการ ที่จำเป็นของผู้สอนธรรม ตามพุทธพจน์ที่ตรัสไว้ในอังคุตรนิกาย สัตตกนิบาตว่า “ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม; คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา, โน จฏฺาเน นิโยชโก . ๑. เป็นที่รักเป็นที่พอใจ ๒. เป็นที่เคารพ ๓. เป็นที่ยกย่อง ๔. เป็นนักพูด ๕. เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ ๖. เป็นผู้พูดถ้อยคำลึกซึ้งได้ ๗. ไม่ชักนำในอฐานะ ภิกษุทั้งหลาย มิตรประกอบด้วยองค์ ๗ ประการนี้แล เป็นผู้ควรเสพ ควรคบ ควรเข้าไปนั่งใกล้ แม้จะถูกขับไล่ก็ตาม อธิบายความ 1.ปิโย เป็นที่รักเป็นที่พอใจ ในที่นี้หมายถึงมีลักษณะแห่งกัลยาณมิตร ๘ ประการ คือ (๑) มีศรัทธา คือ เชื่อการตรัสรู้ของพระตถาคต เชื่อกรรมและผลของกรรม (๒) มีศีล คือ เป็นที่รัก เป็นที่เคารพ เป็นที่นับถือของสัตว์ทั้งหลาย (๓) มีสุตะ คือ กล่าวถ้อยคำที่ลึกซึ้งที่สัมปยุตด้วยสัจจะและปฏิจจสมุปบาท (๔) มีจาคะ คือปรารถนาน้อย สันโดษ ชอบสงัด ไม่คลุกคลีด้วยหมู่ (๕) มีความเพียร คือ ปรารภความเพียรในการปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลแก่ตนและเกื้อกูลแก่ผู้อื่น (๖) มีสติ คือ มีสติตั้งมั่น (๗) มีสมาธิ คือ มีจิตตั้งมั่นไม่ฟุ้งซ่าน(๘) มีปัญญา คือ รู้อย่างไม่วิปริต ใช้สติพิจารณาคติแห่งกุศลธรรมและอกุศลธรรม รู้สิ่งที่เกื้อกูลและสิ่งไม่เกื้อกูลแห่งสัตว์ทั้งหลายด้วยปัญญาตามความเป็นจริง มีจิตเป็นหนึ่งในอารมณ์นั้นด้วยสมาธิ เว้นสิ่งที่ไม่เกื้อกูล ประกอบสิ่งที่เกื้อกูลด้วยความเพียร (องฺ.สตฺตก.ฏีกา ๓/๓๗-๔๓/๒๐๓) 2.ครุ เป็นที่เคารพ สูงส่งหนักแน่นดุจหินผา 3.ภาวนีโย เป็นที่ยกย่อง น่าเจริญใจ 4.วัตตา เป็นนักพูด(ผู้สอน) หมายถึงเป็นผู้ฉลาดในการใช้คำพูด (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙) 5. วจนักขโม อดทนต่อถ้อยคำ หมายถึงปฏิบัติตามโอวาทที่ท่านให้แล้ว (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙) 6. คัมภีรัญ จะ กถัง กัตตา ถ้อยคำลึกซึ้ง หมายถึงเรื่องเกี่ยวกับฌาน วิปัสสนา มรรค ผล และนิพพาน (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙) 7. โน จัฏฐาเน นิโยชะโก ไม่ชักนำในอฐานะ หมายถึงป้องกันไม่ให้ทำในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล มีคติเป็นทุกข์ แต่ชักชวนให้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลมีคติเป็นสุข (เทียบ องฺ.สตฺตก.ฏีกา ๓/๓๗/๒๐๓) 11. ไม่จำแนกแยกแยะ ให้ชัดเจน เหมาะรวม เช่น การสวดมนต์ เจริญพุทธมนต์ ปริตร การอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคล กับเดรัจฉานวิชา เอามายำรวมกัน เป็นของที่ห้าม 12.ไม่ให้บูชานับถือ สิ่งอื่นนอกเหนือจากพระรัตนตรัย หรือคำสอน บูชาเทวดา ยมยักษ์ ต่างๆ ในรายละเอียดเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าแสดงอานิสงส์ของการบูชาเจดีย์ ที่เป็นเหตุแห่งความเจริญไว้ ในมหาปรินิพพานสูตร ตอนราชอปริหานิยธรรม ทีฆนิกาย มหาวรรค ข้อที่ ๖ ว่า “อานนท์ เธอได้ยินไหมว่า ‘พวกเจ้าวัชชี สักการะ เคารพ นับถือ บูชา เจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชี ทั้งในเมืองและนอกเมือง และไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรม ที่เคยให้เคยกระทำต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป” “อานนท์ พวกเจ้าวัชชีพึงหวังได้แต่ความเจริญอย่างเดียว ไม่มีความเสื่อมเลยตราบเท่าที่พวกเจ้าวัชชียังสักการะ เคารพ นับถือ บูชาเจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชีทั้งในเมืองและนอกเมือง และไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรมที่เคยให้เคยกระทำ ต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป” (ที.มหา.10/134/78.) https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=10&siri=3 คำว่า เจดีย์ ที่ชาววัชชีบูชา หมายถึง ต้นไม้ใหญ่ ที่มียักษ์สิงสถิตย์ ยักษ์เป็นเทวดาชั้นจาตุม ยกฺข ภาษาบาลีแปลว่า ผู้ที่เขาบูชา เมื่อบุคคลบูชาต้นไม้ใหญ่ หรือยักษ์ ย่อมมีความเจริญ ยักษ์คือเทวดาย่อมปกปักษ์รักษา สอดคล้องกับคำสอนเรื่อง เทวตานุสสติ ในพระพุทธศาสนา ไม่ขัดแย้งกัน ย่อมเป็นหลักการยืนยันว่า พระพุทธเจ้ายอมรับว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังอำนาจอำนวยผลให้ผู้คนนับถือบูชา การบูชาเทวดา หรือต้นไม้ใหญ่ ก็มีผลนำความเจริญมาสู่ได้ เป็นหลักการย่อยในหลักการใหญ่ ที่ควรต้องรู้รอบและลึกชัดเจน จึงจะเข้าใจเรื่องนี้ 13. ไม่เข้าใจตัวบทพยัญชนะ ความหมายคำ ติรัจฉานวิชชา การสวดปริตร การใช้อิทธิปาฏิหาริย์ที่อนุญาต ติรจฺฉานวิชฺชา(อิต.) วิชาขวาง, วิชาขวาง ทางไปนิพพาน, ติรัจฉานวิชา คือความรู้ที่ไร้สาระ ความรู้ที่ไม่เป็นประโยชน์ วิชาที่ไม่ทำตนให้พ้นจากทุกข์ซึ่งพระพุทธเจ้า ทรงห้ามมิให้ภิกษุ - สามเณรศึกษา เช่น วิชาทำเสน่ห์ยาแฝดเป็นต้น. 14. ไม่เข้าใจ แยกไม่ออกระหว่างการสวดปริตร กับการทำเดรัจฉานวิชา ทำให้ โจมตีพระที่สวดปริตร ทำน้ำมนต์ ปลุกเสก ในขณะที่เรื่องการทำวัตถุมงคล พุทธพานิชย์มีรายละเอียดหลายส่วน ต้องพิจารณาว่าพระสงฆ์รูปใดเข้าไปเกี่ยวข้องในลักษณะใดบ้าง ผิดพระวินัยข้อใด การสร้างพระพุทธรูป การสวดปริตร ปลุกเสก ไม่ได้ผิดหลักคำสอนทั้งในส่วนวินัยบัญญัติ หรือสัมมาอาชีวะแต่อย่างใด ส่วนการทำพานิชย์ที่เกี่ยวข้องเป็นหน้าที่ของฆราวาสดำเนินการด้วยมุ่งประโยชน์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสร้างถาวรวัตถุ ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ไม่ใช่การหลอกลวงตามพระวินัย 15. ไม่มีคารวธรรม คุณธรรม ศึกษาแบบลวกๆ ไม่เคารพในสิกขา การศึกษา ทำให้เข้าใจไม่ถูกต้อง นำสุ่การตีความธรรมวินัยผิด การศึกษาธรรมต้องมีความเคารพในสิกขา คือการศึกษาด้วยความเคารพ ข้อใดไม่เข้าใจก็ต้องไปสอบถาม กับอาจารย์ผู้รู้ จนเกิดความเข้าใจ การไม่แสวงหา ไม่ใฝ่หาผู้รู้มาสอบทานความรู้ที่ตนมีจึงเป็นการศึกษาโดยไม่เคารพในพระธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องความเข้าใจไม่ถูกต้อง และเป็นปัญหาชาวพุทธเมื่อนำไปเผยแผ่ (มี ต่อ 16-18) อย่าร่วมกันสร้างบาปให้กับพระพุทธศาสนา คำสอนในพระไตรปิฎกมีความลึกซึ้ง ต้องศึกษาอย่างเคารพ ระมัดระวัง อย่างเป็นระบบ มีกระบวนการ และชาวพุทธควรยึดหลักการในพระไตรปิฎก ไม่สนับสนุนกลุ่มคนที่ทำลายคำสอนด้วยการสอนผิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 575 มุมมอง 0 รีวิว
  • พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เนื่องในโอกาสครบรอบ 37 ปี ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
    โดยมี คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธี
    ทั้งนี้ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ดำเนินการจัดตั้งเมื่อ วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น และเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2530 ปัจจุบันให้เป็นหน่วยงานในสังกัดสถาบันวัฒนธรรมศึกษา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ภายในศูนย์ฯ ประกอบด้วยอาคารต่าง ๆ เช่น หอประชุมใหญ่และเล็ก โรงละคร ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการภาษา และห้องโสตทัศนูปกรณ์ เป็นต้น ส่วน "หอไทยนิทัศน์" ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคารนิทรรศการและการศึกษา นอกจากนี้ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยยังสามารถรองรับการจัดแสดงนิทรรศการ และการแสดงต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต ละครเวที รวมไปถึงเป็นสถานที่รองรับการจัดประชุมสัมมนาทั้งระดับชาติ และนานาชาติอีกด้วย

    #กรมส่งเสริมวัฒนธรรม #ครบรอบ #ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย #ศรีวัฒนธรรม #สยามโสภา #thaitimes #วัฒนธรรม
    พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เนื่องในโอกาสครบรอบ 37 ปี ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยมี คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธี ทั้งนี้ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ดำเนินการจัดตั้งเมื่อ วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น และเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2530 ปัจจุบันให้เป็นหน่วยงานในสังกัดสถาบันวัฒนธรรมศึกษา กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ภายในศูนย์ฯ ประกอบด้วยอาคารต่าง ๆ เช่น หอประชุมใหญ่และเล็ก โรงละคร ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการภาษา และห้องโสตทัศนูปกรณ์ เป็นต้น ส่วน "หอไทยนิทัศน์" ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคารนิทรรศการและการศึกษา นอกจากนี้ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยยังสามารถรองรับการจัดแสดงนิทรรศการ และการแสดงต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต ละครเวที รวมไปถึงเป็นสถานที่รองรับการจัดประชุมสัมมนาทั้งระดับชาติ และนานาชาติอีกด้วย #กรมส่งเสริมวัฒนธรรม #ครบรอบ #ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย #ศรีวัฒนธรรม #สยามโสภา #thaitimes #วัฒนธรรม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 394 มุมมอง 68 0 รีวิว
  • พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1900 ตรงกับรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย พร้อมกับพระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระเหลือ พระพุทธชินราชได้รับการยอมรับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่งและยังเป็นพระพุทธรูปที่นิยมจำลองกันมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนชาวไทยศรัทธาและนิยมเดินทางมากราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่งด้วย #พระพุทธชินราช #พิษณุโลก #ประเทศไทย #ประวัติศาสตร์ #ไหว้พระ #ขอพร #สายมู #สายมูห้ามพลาด #ทําบุญ #พระพุทธรูป #สิ่งศักดิ์สิทธิ์ #thailand #travel #traveltiktok #travelthailand #วิจิตรศิลป์ #สุโขทัย @เอก เอกรินทร์9559 @เอก เอกรินทร์9559 @เอก เอกรินทร์9559
    พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1900 ตรงกับรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย พร้อมกับพระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระเหลือ พระพุทธชินราชได้รับการยอมรับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่งและยังเป็นพระพุทธรูปที่นิยมจำลองกันมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนชาวไทยศรัทธาและนิยมเดินทางมากราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่งด้วย #พระพุทธชินราช #พิษณุโลก #ประเทศไทย #ประวัติศาสตร์ #ไหว้พระ #ขอพร #สายมู #สายมูห้ามพลาด #ทําบุญ #พระพุทธรูป #สิ่งศักดิ์สิทธิ์ #thailand #travel #traveltiktok #travelthailand #วิจิตรศิลป์ #สุโขทัย @เอก เอกรินทร์9559 @เอก เอกรินทร์9559 @เอก เอกรินทร์9559
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • อาลัยล้น..ผู้ว่าฯ อุทัยธานีนำคณะสัปเหร่อบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลพระราชทาน-เคลื่อนขบวนศพครู-นักเรียนเหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ประกอบพิธีพระราชเพลิงศพชุดแรกแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000095887

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อาลัยล้น..ผู้ว่าฯ อุทัยธานีนำคณะสัปเหร่อบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลพระราชทาน-เคลื่อนขบวนศพครู-นักเรียนเหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ประกอบพิธีพระราชเพลิงศพชุดแรกแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000095887 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    Like
    Yay
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1864 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมว.วธ. เป็นประธานในพิธีบวงสรวง วันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 22 ปี กระทรวงวัฒนธรรม

    วันที่ 3 ตุลาคม 2567 เวลา 07.30 น. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เป็นประธานในพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องในโอกาสวันครบรอบ 22 ปี ของการสถาปนากระทรวงวัฒนธรรม โดยมี ดร.ยุพา ทวีวัฒนกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงร่วมพิธีบวงสรวงในช่วงเช้าที่ผ่านมา บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสงบและศรัทธา มีการจัดเตรียมสถานที่และสิ่งของบวงสรวงอย่างเป็นระเบียบ

    ในการเริ่มต้นพิธีในช่วงเช้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้สักการะพระพุทธสิริวัฒนธรรโมภาส พระสยามเทวาธิราช และศาลตา-ยาย ประจำกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อขอพรให้กระทรวงและบุคลากรมีความเจริญก้าวหน้า ปลอดภัย และประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน ทั้งนี้ การบวงสรวงยังได้รับการประกอบพิธีโดยพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลให้กับกระทรวงวัฒนธรรม และเพื่อระลึกถึงบทบาทที่สำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและส่งเสริมค่านิยมที่ดีงามให้คงอยู่สืบไป

    ต่อมาในเวลา 09.20 น. ได้มีพิธีสวดพุทธชัยมงคลคาถา โดยพระสงฆ์จำนวน 10 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ภายในกระทรวงวัฒนธรรม การสวดพุทธชัยมงคลคาถาเป็นพิธีที่สำคัญและเป็นมงคลในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะในวาระพิเศษเช่นนี้ เพื่อให้เกิดความสบายใจและเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรที่ร่วมกันสร้างสรรค์และอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในพิธีทางศาสนายังได้มีการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับอีกด้วย

    นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล และผู้บริหารกระทรวงฯ ได้ร่วมกันทอดผ้าบังสกุล จำนวน 10 ผืน และกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญกุศลให้กับเด็กนักเรียนในจังหวัดอุทัยธานี ที่ประสบอุบัติเหตุจากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาที่เกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา การกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงถึงความห่วงใยและความเอื้อเฟื้อของกระทรวงวัฒนธรรมต่อประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังสะท้อนถึงบทบาทที่กระทรวงต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสนับสนุนคุณภาพชีวิตของประชาชน การทำบุญให้กับเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตเป็นการสร้างกำลังใจให้กับครอบครัวและผู้ได้รับผลกระทบ

    หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาแล้ว นางสาวสุดาวรรณ และคณะผู้บริหารของกระทรวงวัฒนธรรม ได้ให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ได้เดินทางมาแสดงความยินดีและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงวัฒนธรรมครั้งที่ 22 ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองการก่อตั้งกระทรวงเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานราชการและประชาชนที่เข้ามาร่วมงาน การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการร่วมมือกันในการส่งเสริมวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้กระทรวงวัฒนธรรมสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การถ่ายรูปร่วมกันและการมอบช่อดอกไม้และของที่ระลึกให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงาน สื่อถึงความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การแสดงความยินดีต่อการครบรอบ 22 ปี ของการสถาปนากระทรวงวัฒนธรรมเป็นการยืนยันถึงความสำคัญของงานที่กระทรวงวัฒนธรรมทำเพื่อสังคมและประเทศชาติ โดยมีเป้าหมายในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้คงอยู่และสืบทอดไปสู่คนรุ่นหลัง

    กระทรวงวัฒนธรรมก่อตั้งขึ้นเพื่อดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ ส่งเสริม และพัฒนาวัฒนธรรมไทยให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยและโลก กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมทั้งที่เป็นวัตถุและไม่เป็นวัตถุ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลโบราณสถาน โบราณวัตถุ รวมถึงการส่งเสริมงานศิลปะและการแสดงต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ไทย นอกจากนี้ กระทรวงยังทำหน้าที่ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์วัฒนธรรม ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การประกวด การอบรม และการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม

    ตลอดระยะเวลา 22 ปีที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมได้สร้างผลงานที่โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยมีเป้าหมายในการสร้างสังคมที่มีความสมานฉันท์และภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของตนเอง ทั้งนี้ กระทรวงได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมค่านิยมที่ดีในสังคมไทย เช่น การเคารพผู้ใหญ่ การช่วยเหลือกัน และการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืน

    ในช่วงเวลาปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว กระทรวงวัฒนธรรมยังมีบทบาทในการนำวัฒนธรรมมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของโลกยุคใหม่ การใช้เทคโนโลยีเพื่อการเผยแพร่วัฒนธรรมและการสร้างความเข้าใจในวัฒนธรรมระหว่างประเทศถือเป็นสิ่งสำคัญ กระทรวงได้มีการจัดทำเนื้อหาด้านวัฒนธรรมในรูปแบบดิจิทัล เช่น การสร้างพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ การจัดทำฐานข้อมูลวัฒนธรรม และการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อเผยแพร่ความรู้และกิจกรรมด้านวัฒนธรรม

    กระทรวงวัฒนธรรมมีการดำเนินกิจกรรมและโครงการที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรมไทย กิจกรรมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เช่น โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์โบราณสถานทั่วประเทศ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การสนับสนุนศิลปินพื้นบ้านและศิลปินแห่งชาติ รวมถึงการจัดงานเทศกาลทางวัฒนธรรมต่างๆ ที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมความเข้าใจและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทย

    อีกทั้งกระทรวงยังมีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรมในกลุ่มเยาวชน โดยการนำวัฒนธรรมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอน เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้และเข้าใจถึงรากฐาน

    ภาพ/ข่าว​ โย​ ประเด็นรัฐ
    รมว.วธ. เป็นประธานในพิธีบวงสรวง วันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 22 ปี กระทรวงวัฒนธรรม วันที่ 3 ตุลาคม 2567 เวลา 07.30 น. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เป็นประธานในพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในกระทรวงวัฒนธรรม เนื่องในโอกาสวันครบรอบ 22 ปี ของการสถาปนากระทรวงวัฒนธรรม โดยมี ดร.ยุพา ทวีวัฒนกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงร่วมพิธีบวงสรวงในช่วงเช้าที่ผ่านมา บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสงบและศรัทธา มีการจัดเตรียมสถานที่และสิ่งของบวงสรวงอย่างเป็นระเบียบ ในการเริ่มต้นพิธีในช่วงเช้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้สักการะพระพุทธสิริวัฒนธรรโมภาส พระสยามเทวาธิราช และศาลตา-ยาย ประจำกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อขอพรให้กระทรวงและบุคลากรมีความเจริญก้าวหน้า ปลอดภัย และประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน ทั้งนี้ การบวงสรวงยังได้รับการประกอบพิธีโดยพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลให้กับกระทรวงวัฒนธรรม และเพื่อระลึกถึงบทบาทที่สำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและส่งเสริมค่านิยมที่ดีงามให้คงอยู่สืบไป ต่อมาในเวลา 09.20 น. ได้มีพิธีสวดพุทธชัยมงคลคาถา โดยพระสงฆ์จำนวน 10 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ภายในกระทรวงวัฒนธรรม การสวดพุทธชัยมงคลคาถาเป็นพิธีที่สำคัญและเป็นมงคลในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะในวาระพิเศษเช่นนี้ เพื่อให้เกิดความสบายใจและเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรที่ร่วมกันสร้างสรรค์และอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในพิธีทางศาสนายังได้มีการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ล่วงลับอีกด้วย นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล และผู้บริหารกระทรวงฯ ได้ร่วมกันทอดผ้าบังสกุล จำนวน 10 ผืน และกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญกุศลให้กับเด็กนักเรียนในจังหวัดอุทัยธานี ที่ประสบอุบัติเหตุจากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาที่เกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา การกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงถึงความห่วงใยและความเอื้อเฟื้อของกระทรวงวัฒนธรรมต่อประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังสะท้อนถึงบทบาทที่กระทรวงต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและสนับสนุนคุณภาพชีวิตของประชาชน การทำบุญให้กับเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตเป็นการสร้างกำลังใจให้กับครอบครัวและผู้ได้รับผลกระทบ หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาแล้ว นางสาวสุดาวรรณ และคณะผู้บริหารของกระทรวงวัฒนธรรม ได้ให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ได้เดินทางมาแสดงความยินดีและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงวัฒนธรรมครั้งที่ 22 ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองการก่อตั้งกระทรวงเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานราชการและประชาชนที่เข้ามาร่วมงาน การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการร่วมมือกันในการส่งเสริมวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้กระทรวงวัฒนธรรมสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การถ่ายรูปร่วมกันและการมอบช่อดอกไม้และของที่ระลึกให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงาน สื่อถึงความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การแสดงความยินดีต่อการครบรอบ 22 ปี ของการสถาปนากระทรวงวัฒนธรรมเป็นการยืนยันถึงความสำคัญของงานที่กระทรวงวัฒนธรรมทำเพื่อสังคมและประเทศชาติ โดยมีเป้าหมายในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้คงอยู่และสืบทอดไปสู่คนรุ่นหลัง กระทรวงวัฒนธรรมก่อตั้งขึ้นเพื่อดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ ส่งเสริม และพัฒนาวัฒนธรรมไทยให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยและโลก กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมทั้งที่เป็นวัตถุและไม่เป็นวัตถุ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลโบราณสถาน โบราณวัตถุ รวมถึงการส่งเสริมงานศิลปะและการแสดงต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของเอกลักษณ์ไทย นอกจากนี้ กระทรวงยังทำหน้าที่ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์วัฒนธรรม ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การประกวด การอบรม และการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ตลอดระยะเวลา 22 ปีที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมได้สร้างผลงานที่โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยมีเป้าหมายในการสร้างสังคมที่มีความสมานฉันท์และภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของตนเอง ทั้งนี้ กระทรวงได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมค่านิยมที่ดีในสังคมไทย เช่น การเคารพผู้ใหญ่ การช่วยเหลือกัน และการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและยั่งยืน ในช่วงเวลาปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว กระทรวงวัฒนธรรมยังมีบทบาทในการนำวัฒนธรรมมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของโลกยุคใหม่ การใช้เทคโนโลยีเพื่อการเผยแพร่วัฒนธรรมและการสร้างความเข้าใจในวัฒนธรรมระหว่างประเทศถือเป็นสิ่งสำคัญ กระทรวงได้มีการจัดทำเนื้อหาด้านวัฒนธรรมในรูปแบบดิจิทัล เช่น การสร้างพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ การจัดทำฐานข้อมูลวัฒนธรรม และการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อเผยแพร่ความรู้และกิจกรรมด้านวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมมีการดำเนินกิจกรรมและโครงการที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรมไทย กิจกรรมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เช่น โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์โบราณสถานทั่วประเทศ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การสนับสนุนศิลปินพื้นบ้านและศิลปินแห่งชาติ รวมถึงการจัดงานเทศกาลทางวัฒนธรรมต่างๆ ที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมความเข้าใจและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทย อีกทั้งกระทรวงยังมีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้วัฒนธรรมในกลุ่มเยาวชน โดยการนำวัฒนธรรมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนการสอน เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้และเข้าใจถึงรากฐาน ภาพ/ข่าว​ โย​ ประเด็นรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณติ่งๆคะ………ที่พวกเราผ่านพบเห็นกันมาในเมืองไทย พี่ปูเขาก็ผ่านเส้นทางนี้มาเหมือนกันค่าาาา………!!!

    ตอนยี่สิบ……คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ………แคร์ที่ไหน..?!!!

    ในช่วงที่เมดเวเดฟเป็นประธานาธิบดีนั้น เขาเข้าขากันได้ดีกับบารัค โอบามา ที่มีการลงนามในสัญญาค้าขายต่อกัน เปิดโปรแกรมรับนักลงทุนต่างชาติใหม่ (ที่ปูตินปิดไปเมื่อ 2009)
    ในการประชุม World Trade Organization ที่ Davos ปลายปี 2010 เมดเวเดฟที่เตรียมคำตอบไว้มากมายเกี่ยวกับการตลาดที่จะตอบนักข่าว….
    แต่…เขาโดนถามในสิ่งที่เขาไม่มีความรู้ที่จะตอบให้ นั่นคือ
    ทางรัสเซียมีนโยบายอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องการลุกฮือของกลุ่มชาติอาหรับ (Arab Spring) ที่ต่อต้าน Qaddafi (ลิเบีย) และHosni Mubarak (อียิบต์)
    เขาตอบไปอย่างที่นักประชาธิปไตย ควรจะตอบ นั่นคือ เพราะ
    การที่รัฐบาลไม่ตอบสนองกับความต้องการของประชาชน…!!!

    ซึ่งนั่นคือการผิดพลาดมหันต์……ในฐานะผู้นำรัสเซียที่รัฐบาลเคยผ่านการปราบม๊อบมาสารพัดชนิด และแต่ละรายก็ไม่พ้นการเข้าทุบตี และ จับเข้าคุกไปทุกครั้ง
    คราวนี้จะมาทำโลกสวย….
    เล่นเอา……ปูตินที่กำลังวุ่นอยู่ที่ Sochi ถึงกับกุมขมับ……

    แถม……ข้อความของเมดเวเดฟ……รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (ในเวลานั้น) คือ Joe Biden โดดรับลูกทันที……เขาเอาคำพูดของเมดเวเดฟไปใช้ในอภิปรายที่ Moscow State University ในเดือนมีนาคม 2011 โดยว่า…
    “ประชาชนชาวรัสเซียส่วนใหญ่ย่อมต้องการสิทธิในการเลือกผู้นำเหมือนอย่างชาติอื่นๆ เขาต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ในประเทศที่มีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก และต้องการสื่อที่เป็นกระบอกเสียงในการที่จะต่อสู้กับการคอรัปชั่น…เพราะนั่นคือ การเป็นกิ่งใบของต้นประชาธิปไตย ผมใคร่วิงวอนนักศึกษาในวันนี้อย่ารับความเป็นประชาธิปไตยแบบครึ่งๆกลางๆ อย่าเชื่อในสัญญามาร..(Faustian bargain) …”

    ~~~คงไม่ต้องสงสัยเลยนะคะ ว่า ทำไมปูตินถึงได้แค้นฝังหุ่นกับโจ ไบเดน…และ อเมริกา…

    แต่เบื้องหลังฉาก การมาของโจ ไบเดน คือการหนีบเมดเวเดฟ
    เข้าไปเป็นพวกในสนธิสัญญาร่วมรบ กับกลุ่มนาโต้ เพื่อที่จะส่งทหารไปช่วยในลิเบีย และร่วมในการปิดน่านฟ้า เพื่อขจัด
    กัดดาฟี
    เมดเวเดฟ……ตกบันไดพลอยโจน เพราะคำพูดของตัวเองที่ค้ำคออยู่ จึงตกลงตามนั้น

    ปูตินได้มองเห็นแล้วว่าเมดเวเดฟกำลังตกหลุมพรางของกลุ่มตะวันตก เพราะเขายังอ่อนประสบการณ์ ไม่เคยเป็น KGB เป็นคนโลกสวย และ ชื่นชอบแสงสีวัฒนธรรมตะวันตกอย่าง ฝรั่งเศส อิตาลี และพอมีโอบามาเป็นเกลอเข้าหน่อย เลยเป็นปลื้ม……
    เขาจึงเรียกมาดุแกมเตือนว่า……เรื่องการลุกฮือโดยการปั่นของอเมริกา จะไม่หยุดลงแค่นี้แน่นอน เพราะมันได้กลายเป็นนโนบายหลักของพญาอินทรีย์ที่จะต้องสร้างความแตกแยกในตะวันออกกลาง
    เขาได้บอกกับเมดเวเดฟต่อ……ว่า…
    “ย้อนกลับไปดูอดีตนะ ถ้ามีเวลาค้นคว้า……ว่า กลุ่มชาวอิหร่าน
    ที่ก่อกบฎขึ้นมา ด้วยการนำของโคไมนี่ (Khomeini) แล้วไอ้โคไมนี่คนนี้….เค้าอยู่ที่ไหน…จะบอกให้……เค้านอนเล่นเดินสบายอยู่ที่ฝรั่งเศส
    รอรับนโยบายจากพวกตะวันตกเอามาปั่นยุแยง……แล้วไงล่ะ
    ดาบนั้นคืนสนอง ตอนนี้อิหร่านมีนิวเคลียร์เป็นของตัวเอง…สมน้ำหน้า…และสิ่งที่ตะวันตกทำนั้น ไม่ใช่ว่าจะเรียกร้องประชาธิปไตยให้กับประชาชนเสียเมื่อไหร่ ถ้าดูในประวัติศาสตร์ในยุคกลาง…เขาทำมาแล้ว ในเรื่องชักชวนพวกเพื่อนบ้านออกไปรวมกันแล้วไปตีบ้านอื่น……ในยุคนั้นเขาเรียกว่า Crusade….ตอนนี้ก็เหมือนเดิม เขาเรียกว่า “กองทัพนาโต้”
    ที่มีวัตถุประสงค์ทำเพื่อให้กัดดาฟี่หัวแข็งลงจากอำนาจ
    เพื่อที่จะเอากลุ่มที่ตัวเองสนับสนุนขึ้นมาแทน……มันคือการปล้นประเทศโดยการเปลี่ยนผู้นำเท่านั้น
    แต่…ประชาธิปไตยไม่ได้คืบหน้าไปไหน ประชาชนก็ทำมาหากินแบบอดๆอยากๆเหมือนเดิม ……”

    (~~~ข้อความตรงนี้”โดนใจ” มากค่ะ อธิบายได้หมดถึงความเป็นอเมริกาในทุกวันนี้…)

    ในขณะเดียวกันปูตินก็เริ่มได้กลิ่นไอว่า…สิ่งที่เกิดขึ้นในกลุ่มตะวันออกกลาง……น่าจะเกิดขึ้นในรัสเซียไม่ช้าก็เร็ว…!!!

    แต่เพราะเหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นเรียงเป็นไข่ปลานี้ สภาได้พิจารณาแล้ว เห็นพ้องกันว่า จะขยายอายุเวลาของประธานาธิบดีไปเป็นหกปี เริ่มจากสมัยหน้าของการเลือกตั้ง
    เพราะรัสเซียเป็นประเทศใหญ่ มีพื้นที่ที่ยังต้องพัฒนาอีกมาก

    ในเดือนพฤษภาคม 2011 เป็นสามปีที่เมดเวเดฟได้อยู่ในตำแหน่ง ผลงานเด่นของเขาคือ ศูนย์เทคโนโลยี Skolkovo ที่สร้างเพื่อให้เท่าเทียมหรือเกินหน้า Silicon Valley ที่ California
    และได้ก่อตั้งกลุ่มการเมืองเป็นของตัวเอง ชื่อ All Russia People’s Front แบบรวบรวมคนรุ่นใหม่ หัวทันสมัย ใฝ่ความเจริญทางประชาธิปไตยและเศรษฐกิจขึ้นมา พุ่งเป้าที่กลุ่มคนเพิ่มเริ่มทำงาน
    เพียงแค่ประกาศ…สมาชิกหลั่งไหลเข้ามาสมัครกันอย่างหนาแน่น ทั้งส่วนตัวและองค์กรต่างๆ
    แต่เมื่อเขาถูกสัมภาษณ์ในนิตยสาร The Financial Times
    ที่ถูกถามว่า….เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยที่สองหรือไม่?
    เขาตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ว่า………มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ “คณะ” แต่โดยทั่วไป.……ประธานาธิบดีย่อมต้องการที่จะลงสนามต่อในครั้งต่อไป…”
    คำตอบกำกวมแบบนั้น ได้ชี้ชัดว่า….เมดเวเดฟ……ไม่ใช่ของจริง…!!

    ส่วน”ของจริง” นั้น ไม่ค่อยออกงาน หรือให้สัมภาษณ์บ่อยๆ แต่ยังคงความนิยมชื่นชอบอย่างไม่เคยจาง เพราะเป็นคนที่ถึงลูกถึงคน ยังไปลั้ลลากิจกรรมกับกลุ่มยุวชน Nashi….ไปสวดมนต์
    ในโบสถ์ ……ไปดำน้ำลึกหาวัตถุโบราณ …
    ยังเรียกเสียงกรี๊ดสลบได้ในทุกความเคลื่อนไหว…

    เมื่อตอนหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่มี เมดเวเดฟ, ปูติน ,พรรคคอมมิวนิสต์ และ พรรค Liberal Democrats
    ที่คราวนี้ออกจะดุเดือดเลือดพล่าน เพราะ……กลุ่มใต้ดิน และ บนดินที่ต่อต้านการกลับมาของปูตินได้ผนึกกำลังกันอย่างแข็งขัน แบ่งกันเป็นก๊กเล็กก๊กน้อย
    หัวหน้านำคือ Boris Nemtsov นักฟิสิกส์หัวรุนแรง เคยเป็นนักการเมืองในยุคของเยลซินจนมาสู่ผู้แทนในสภาดูมา, Sergei Mironov หัวหน้าพรรค A Just Russia และ Aleksei Navalny ทนายความนักเคลื่อนไหว ต่อต้านคอร์รัปชั่น
    และทั้งหมด……ต่อต้านปูติน

    การต่อต้านได้เริ่มขยายตัวขึ้น และกล้าขึ้น ถึงขนาดกล้าโห่ไล่ปูตินในงานเปิดกีฬาชกมวยในสเตเดี้ยมที่มอสโคว์
    เรื่องการต่อต้านนั้น ปูตินเจอมาเยอะ แต่คราวนี้ฝ่ายตรงข้ามถึงขั้นทำรายการวิทยุที่ใช้ชื่อรายการว่า “หมดยุคของปูตินได้แล้ว” ดำเนินรายการโดย Alexei Navalny (หรือ AN ที่จะใช้ต่อไป)
    และมีการจัดตั้งการชุมนุม พากันเดินขบวนไปที่นั่นที่นี่
    ตำรวจได้เข้าทำการจับกุม AN ในฐานะสร้างความวุ่นวาย จำคุกไปสิบห้าวัน
    แต่เมื่อออกมา เขาได้จัดขบวนใหญ่กว่าเดิม ระดมคนรุ่นใหม่ นักศึกษาที่มากันมากมาย

    ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2012 สิบกว่าวันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
    ที่โบสถ์ออโธดอกซ์ Cathedral of Christ the Savoir
    มีผู้หญิงสาวห้าคน ที่ขึ้นไปปีนป่ายบนเสาสลัก ถอดเสื้อโค้ท
    ออก ข้างในแต่งกายสไตล์พั้งค์ แต่สวมหน้ากากหลากสี ……ต่างตะโกนพร้อมกับชูกำปั้นกันไปมา
    เสียงที่ตะโกนดังก้องด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย
    หนึ่งในนั้น คือ Yekaterina Samutsevich (นักดนตรี) กำลังจะเอากีตาร์ขึ้นมาดีด แต่การ์ดได้ดึงตัวเธอออกมาก่อน
    ทั้งหมด……ยังไม่หยุดตะโกน……ปูตินออกไป……ปูตินออกไป……!!
    เป็นเรื่องใหญ่ในข่าวภาคค่ำในคืนนั้น ……ที่สาวไปว่า ต้นตอเหตุมากจากกลุ่มเกย์และเลสเบี้ยนที่ต้องการความเท่าเทียม
    และได้มี กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “***** Riot” (ไปแปลกันเองนะคะ แต่ดิฉันจะเรียกว่า PR)

    กลุ่มนี้มีประมาณสิบกว่าคน ที่ไม่เปิดเผยตัวเอง แต่พร้อมที่จะก่อความวุ่นวายต่อต้านปูตินในวันที่เขาจะประกาศตัวลงชิงประธานาธิบดี แนวการต้านคือ การวาดอวัยวะเพศในที่ต่างๆในกรุงเซนต์ และ มอสโคว์ และ การร่วมเพศ เป็นสัญญลักษณ์
    เช่นออกคลิปการร่วมเพศในที่สำคัญๆอย่างโจ่งแจ้ง

    ปูตินแก้เกมด้วยการ…ไม่พูดถึงเรื่องต่อต้าน แต่เขาประชุมผู้นำของทุกศาสนา เช่น ออโธดอกซ์,ยิว, พุทธ, อิสลาม และ คาธอลิก แม้แต่ Seventhday Adventists ให้มาร่วมรับฟังความเห็นที่ Danilov Monastery โดยมีพระอธิการ Kirill เป็นองค์ประธาน
    ที่ทั้งหมดได้แสดงความเสียใจกับการต่อต้านที่หยาบคาย ลบหลู่สถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ เป็นสิ่งที่รับไม่ได้…
    ปูตินไม่ต้องทำอะไร……เพียงแต่ช่วยทำข่าวให้กระจายออกไป
    กลุ่มต่อต้านได้รับคำตำหนิและรังเกียจเดียดฉันท์จากประชาชนกลับไปอย่างมากมาย

    จากนั้น ปูตินยังใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวด้วยการที่จัดกิจกรรมรักชาติ ขึ้นที่โน่นที่นี่
    จนถึงวันที่ 4 มีนาคม วันเลือกตั้ง เขาได้ประกาศชัยชนะด้วยการรับคะแนนเสียงถึง 63%
    นั่นคือ การกลับมาอย่างสง่าผ่าเผยของปูติน ……
    ที่ฝ่ายก่อกวนเจ้าเก่า AN ที่นำผู้ชุมนุมกว่าสองพันคนข้างนอกนั้น ถึงกับหัวเสียด้วยความผิดหวัง
    ส่วน Sergei Udaltsov หัวหอกการต่อต้าน……ไม่ยอมแพ้ เขาสั่งให้ทุกคนเตรียมตัวตั้งเต้นท์นอนบนถนน (ตามแบบการประท้วงที่เคียฟ, ยูเครนในปี 2004)
    ข่าวทางรัฐบาลได้ออกมาอย่างน่ารัก น่าเอ็นดู ……ว่า
    “ผู้ชุมนุมก็เปรียบเสมือนลูกๆที่มีนิสัยเสีย ไม่ได้อะไรดังใจก็ฟาดหัวฟาดหาง เราก็เปรียบเสมือนพ่อแม่ที่ไม่ตามใจ
    เราไม่รีบไปซื้อของเล่นให้ …แต่จะสอนให้ไปสนใจเล่นอย่างอื่นที่มีประโยชน์แทน……”

    ของเล่นที่มีประโยชน์ที่พวกชุมชุมได้รับตอนที่ตั้งเต้นท์ไม่ทันเสร็จ……คือ ตำรวจพร้อมกระบองได้เข้าบุกแบบถึงพริกถึงขิง จับเข้าคุกนับร้อย บาดเจ็บหลายสิบ
    ถนนในมอสโคว์….โล่งสะอาดในวันต่อมา….!!!!


    Wiwanda W. Vichit
    คุณติ่งๆคะ………ที่พวกเราผ่านพบเห็นกันมาในเมืองไทย พี่ปูเขาก็ผ่านเส้นทางนี้มาเหมือนกันค่าาาา………!!! ตอนยี่สิบ……คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ………แคร์ที่ไหน..?!!! ในช่วงที่เมดเวเดฟเป็นประธานาธิบดีนั้น เขาเข้าขากันได้ดีกับบารัค โอบามา ที่มีการลงนามในสัญญาค้าขายต่อกัน เปิดโปรแกรมรับนักลงทุนต่างชาติใหม่ (ที่ปูตินปิดไปเมื่อ 2009) ในการประชุม World Trade Organization ที่ Davos ปลายปี 2010 เมดเวเดฟที่เตรียมคำตอบไว้มากมายเกี่ยวกับการตลาดที่จะตอบนักข่าว…. แต่…เขาโดนถามในสิ่งที่เขาไม่มีความรู้ที่จะตอบให้ นั่นคือ ทางรัสเซียมีนโยบายอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องการลุกฮือของกลุ่มชาติอาหรับ (Arab Spring) ที่ต่อต้าน Qaddafi (ลิเบีย) และHosni Mubarak (อียิบต์) เขาตอบไปอย่างที่นักประชาธิปไตย ควรจะตอบ นั่นคือ เพราะ การที่รัฐบาลไม่ตอบสนองกับความต้องการของประชาชน…!!! ซึ่งนั่นคือการผิดพลาดมหันต์……ในฐานะผู้นำรัสเซียที่รัฐบาลเคยผ่านการปราบม๊อบมาสารพัดชนิด และแต่ละรายก็ไม่พ้นการเข้าทุบตี และ จับเข้าคุกไปทุกครั้ง คราวนี้จะมาทำโลกสวย…. เล่นเอา……ปูตินที่กำลังวุ่นอยู่ที่ Sochi ถึงกับกุมขมับ…… แถม……ข้อความของเมดเวเดฟ……รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (ในเวลานั้น) คือ Joe Biden โดดรับลูกทันที……เขาเอาคำพูดของเมดเวเดฟไปใช้ในอภิปรายที่ Moscow State University ในเดือนมีนาคม 2011 โดยว่า… “ประชาชนชาวรัสเซียส่วนใหญ่ย่อมต้องการสิทธิในการเลือกผู้นำเหมือนอย่างชาติอื่นๆ เขาต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ในประเทศที่มีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก และต้องการสื่อที่เป็นกระบอกเสียงในการที่จะต่อสู้กับการคอรัปชั่น…เพราะนั่นคือ การเป็นกิ่งใบของต้นประชาธิปไตย ผมใคร่วิงวอนนักศึกษาในวันนี้อย่ารับความเป็นประชาธิปไตยแบบครึ่งๆกลางๆ อย่าเชื่อในสัญญามาร..(Faustian bargain) …” ~~~คงไม่ต้องสงสัยเลยนะคะ ว่า ทำไมปูตินถึงได้แค้นฝังหุ่นกับโจ ไบเดน…และ อเมริกา… แต่เบื้องหลังฉาก การมาของโจ ไบเดน คือการหนีบเมดเวเดฟ เข้าไปเป็นพวกในสนธิสัญญาร่วมรบ กับกลุ่มนาโต้ เพื่อที่จะส่งทหารไปช่วยในลิเบีย และร่วมในการปิดน่านฟ้า เพื่อขจัด กัดดาฟี เมดเวเดฟ……ตกบันไดพลอยโจน เพราะคำพูดของตัวเองที่ค้ำคออยู่ จึงตกลงตามนั้น ปูตินได้มองเห็นแล้วว่าเมดเวเดฟกำลังตกหลุมพรางของกลุ่มตะวันตก เพราะเขายังอ่อนประสบการณ์ ไม่เคยเป็น KGB เป็นคนโลกสวย และ ชื่นชอบแสงสีวัฒนธรรมตะวันตกอย่าง ฝรั่งเศส อิตาลี และพอมีโอบามาเป็นเกลอเข้าหน่อย เลยเป็นปลื้ม…… เขาจึงเรียกมาดุแกมเตือนว่า……เรื่องการลุกฮือโดยการปั่นของอเมริกา จะไม่หยุดลงแค่นี้แน่นอน เพราะมันได้กลายเป็นนโนบายหลักของพญาอินทรีย์ที่จะต้องสร้างความแตกแยกในตะวันออกกลาง เขาได้บอกกับเมดเวเดฟต่อ……ว่า… “ย้อนกลับไปดูอดีตนะ ถ้ามีเวลาค้นคว้า……ว่า กลุ่มชาวอิหร่าน ที่ก่อกบฎขึ้นมา ด้วยการนำของโคไมนี่ (Khomeini) แล้วไอ้โคไมนี่คนนี้….เค้าอยู่ที่ไหน…จะบอกให้……เค้านอนเล่นเดินสบายอยู่ที่ฝรั่งเศส รอรับนโยบายจากพวกตะวันตกเอามาปั่นยุแยง……แล้วไงล่ะ ดาบนั้นคืนสนอง ตอนนี้อิหร่านมีนิวเคลียร์เป็นของตัวเอง…สมน้ำหน้า…และสิ่งที่ตะวันตกทำนั้น ไม่ใช่ว่าจะเรียกร้องประชาธิปไตยให้กับประชาชนเสียเมื่อไหร่ ถ้าดูในประวัติศาสตร์ในยุคกลาง…เขาทำมาแล้ว ในเรื่องชักชวนพวกเพื่อนบ้านออกไปรวมกันแล้วไปตีบ้านอื่น……ในยุคนั้นเขาเรียกว่า Crusade….ตอนนี้ก็เหมือนเดิม เขาเรียกว่า “กองทัพนาโต้” ที่มีวัตถุประสงค์ทำเพื่อให้กัดดาฟี่หัวแข็งลงจากอำนาจ เพื่อที่จะเอากลุ่มที่ตัวเองสนับสนุนขึ้นมาแทน……มันคือการปล้นประเทศโดยการเปลี่ยนผู้นำเท่านั้น แต่…ประชาธิปไตยไม่ได้คืบหน้าไปไหน ประชาชนก็ทำมาหากินแบบอดๆอยากๆเหมือนเดิม ……” (~~~ข้อความตรงนี้”โดนใจ” มากค่ะ อธิบายได้หมดถึงความเป็นอเมริกาในทุกวันนี้…) ในขณะเดียวกันปูตินก็เริ่มได้กลิ่นไอว่า…สิ่งที่เกิดขึ้นในกลุ่มตะวันออกกลาง……น่าจะเกิดขึ้นในรัสเซียไม่ช้าก็เร็ว…!!! แต่เพราะเหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นเรียงเป็นไข่ปลานี้ สภาได้พิจารณาแล้ว เห็นพ้องกันว่า จะขยายอายุเวลาของประธานาธิบดีไปเป็นหกปี เริ่มจากสมัยหน้าของการเลือกตั้ง เพราะรัสเซียเป็นประเทศใหญ่ มีพื้นที่ที่ยังต้องพัฒนาอีกมาก ในเดือนพฤษภาคม 2011 เป็นสามปีที่เมดเวเดฟได้อยู่ในตำแหน่ง ผลงานเด่นของเขาคือ ศูนย์เทคโนโลยี Skolkovo ที่สร้างเพื่อให้เท่าเทียมหรือเกินหน้า Silicon Valley ที่ California และได้ก่อตั้งกลุ่มการเมืองเป็นของตัวเอง ชื่อ All Russia People’s Front แบบรวบรวมคนรุ่นใหม่ หัวทันสมัย ใฝ่ความเจริญทางประชาธิปไตยและเศรษฐกิจขึ้นมา พุ่งเป้าที่กลุ่มคนเพิ่มเริ่มทำงาน เพียงแค่ประกาศ…สมาชิกหลั่งไหลเข้ามาสมัครกันอย่างหนาแน่น ทั้งส่วนตัวและองค์กรต่างๆ แต่เมื่อเขาถูกสัมภาษณ์ในนิตยสาร The Financial Times ที่ถูกถามว่า….เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยที่สองหรือไม่? เขาตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ว่า………มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ “คณะ” แต่โดยทั่วไป.……ประธานาธิบดีย่อมต้องการที่จะลงสนามต่อในครั้งต่อไป…” คำตอบกำกวมแบบนั้น ได้ชี้ชัดว่า….เมดเวเดฟ……ไม่ใช่ของจริง…!! ส่วน”ของจริง” นั้น ไม่ค่อยออกงาน หรือให้สัมภาษณ์บ่อยๆ แต่ยังคงความนิยมชื่นชอบอย่างไม่เคยจาง เพราะเป็นคนที่ถึงลูกถึงคน ยังไปลั้ลลากิจกรรมกับกลุ่มยุวชน Nashi….ไปสวดมนต์ ในโบสถ์ ……ไปดำน้ำลึกหาวัตถุโบราณ … ยังเรียกเสียงกรี๊ดสลบได้ในทุกความเคลื่อนไหว… เมื่อตอนหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่มี เมดเวเดฟ, ปูติน ,พรรคคอมมิวนิสต์ และ พรรค Liberal Democrats ที่คราวนี้ออกจะดุเดือดเลือดพล่าน เพราะ……กลุ่มใต้ดิน และ บนดินที่ต่อต้านการกลับมาของปูตินได้ผนึกกำลังกันอย่างแข็งขัน แบ่งกันเป็นก๊กเล็กก๊กน้อย หัวหน้านำคือ Boris Nemtsov นักฟิสิกส์หัวรุนแรง เคยเป็นนักการเมืองในยุคของเยลซินจนมาสู่ผู้แทนในสภาดูมา, Sergei Mironov หัวหน้าพรรค A Just Russia และ Aleksei Navalny ทนายความนักเคลื่อนไหว ต่อต้านคอร์รัปชั่น และทั้งหมด……ต่อต้านปูติน การต่อต้านได้เริ่มขยายตัวขึ้น และกล้าขึ้น ถึงขนาดกล้าโห่ไล่ปูตินในงานเปิดกีฬาชกมวยในสเตเดี้ยมที่มอสโคว์ เรื่องการต่อต้านนั้น ปูตินเจอมาเยอะ แต่คราวนี้ฝ่ายตรงข้ามถึงขั้นทำรายการวิทยุที่ใช้ชื่อรายการว่า “หมดยุคของปูตินได้แล้ว” ดำเนินรายการโดย Alexei Navalny (หรือ AN ที่จะใช้ต่อไป) และมีการจัดตั้งการชุมนุม พากันเดินขบวนไปที่นั่นที่นี่ ตำรวจได้เข้าทำการจับกุม AN ในฐานะสร้างความวุ่นวาย จำคุกไปสิบห้าวัน แต่เมื่อออกมา เขาได้จัดขบวนใหญ่กว่าเดิม ระดมคนรุ่นใหม่ นักศึกษาที่มากันมากมาย ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2012 สิบกว่าวันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ที่โบสถ์ออโธดอกซ์ Cathedral of Christ the Savoir มีผู้หญิงสาวห้าคน ที่ขึ้นไปปีนป่ายบนเสาสลัก ถอดเสื้อโค้ท ออก ข้างในแต่งกายสไตล์พั้งค์ แต่สวมหน้ากากหลากสี ……ต่างตะโกนพร้อมกับชูกำปั้นกันไปมา เสียงที่ตะโกนดังก้องด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หนึ่งในนั้น คือ Yekaterina Samutsevich (นักดนตรี) กำลังจะเอากีตาร์ขึ้นมาดีด แต่การ์ดได้ดึงตัวเธอออกมาก่อน ทั้งหมด……ยังไม่หยุดตะโกน……ปูตินออกไป……ปูตินออกไป……!! เป็นเรื่องใหญ่ในข่าวภาคค่ำในคืนนั้น ……ที่สาวไปว่า ต้นตอเหตุมากจากกลุ่มเกย์และเลสเบี้ยนที่ต้องการความเท่าเทียม และได้มี กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “Pussy Riot” (ไปแปลกันเองนะคะ แต่ดิฉันจะเรียกว่า PR) กลุ่มนี้มีประมาณสิบกว่าคน ที่ไม่เปิดเผยตัวเอง แต่พร้อมที่จะก่อความวุ่นวายต่อต้านปูตินในวันที่เขาจะประกาศตัวลงชิงประธานาธิบดี แนวการต้านคือ การวาดอวัยวะเพศในที่ต่างๆในกรุงเซนต์ และ มอสโคว์ และ การร่วมเพศ เป็นสัญญลักษณ์ เช่นออกคลิปการร่วมเพศในที่สำคัญๆอย่างโจ่งแจ้ง ปูตินแก้เกมด้วยการ…ไม่พูดถึงเรื่องต่อต้าน แต่เขาประชุมผู้นำของทุกศาสนา เช่น ออโธดอกซ์,ยิว, พุทธ, อิสลาม และ คาธอลิก แม้แต่ Seventhday Adventists ให้มาร่วมรับฟังความเห็นที่ Danilov Monastery โดยมีพระอธิการ Kirill เป็นองค์ประธาน ที่ทั้งหมดได้แสดงความเสียใจกับการต่อต้านที่หยาบคาย ลบหลู่สถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ เป็นสิ่งที่รับไม่ได้… ปูตินไม่ต้องทำอะไร……เพียงแต่ช่วยทำข่าวให้กระจายออกไป กลุ่มต่อต้านได้รับคำตำหนิและรังเกียจเดียดฉันท์จากประชาชนกลับไปอย่างมากมาย จากนั้น ปูตินยังใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวด้วยการที่จัดกิจกรรมรักชาติ ขึ้นที่โน่นที่นี่ จนถึงวันที่ 4 มีนาคม วันเลือกตั้ง เขาได้ประกาศชัยชนะด้วยการรับคะแนนเสียงถึง 63% นั่นคือ การกลับมาอย่างสง่าผ่าเผยของปูติน …… ที่ฝ่ายก่อกวนเจ้าเก่า AN ที่นำผู้ชุมนุมกว่าสองพันคนข้างนอกนั้น ถึงกับหัวเสียด้วยความผิดหวัง ส่วน Sergei Udaltsov หัวหอกการต่อต้าน……ไม่ยอมแพ้ เขาสั่งให้ทุกคนเตรียมตัวตั้งเต้นท์นอนบนถนน (ตามแบบการประท้วงที่เคียฟ, ยูเครนในปี 2004) ข่าวทางรัฐบาลได้ออกมาอย่างน่ารัก น่าเอ็นดู ……ว่า “ผู้ชุมนุมก็เปรียบเสมือนลูกๆที่มีนิสัยเสีย ไม่ได้อะไรดังใจก็ฟาดหัวฟาดหาง เราก็เปรียบเสมือนพ่อแม่ที่ไม่ตามใจ เราไม่รีบไปซื้อของเล่นให้ …แต่จะสอนให้ไปสนใจเล่นอย่างอื่นที่มีประโยชน์แทน……” ของเล่นที่มีประโยชน์ที่พวกชุมชุมได้รับตอนที่ตั้งเต้นท์ไม่ทันเสร็จ……คือ ตำรวจพร้อมกระบองได้เข้าบุกแบบถึงพริกถึงขิง จับเข้าคุกนับร้อย บาดเจ็บหลายสิบ ถนนในมอสโคว์….โล่งสะอาดในวันต่อมา….!!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 637 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนเล่นของ เช่น พกเครื่องรางของขลังต่างๆ หรือบางคน ที่มีการลงนะ สักยันต์ เพื่อเสริมดวงในด้านต่างๆ หรือพวกเมตตามหานิยม หรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แรงๆ เช่นท้าวเวสสุวรรณ พญานาค พ่อแก่ พญาครุฑ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ควรจะต้องมีการรักษาศีล 5 เป็นเบื้องต้น และควรสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน ถ้ามิเช่นนั้นแล้วของอาจจะเข้าตัวได้

    ซึ่งทำให้เกิดอาการต่างๆดังนี้

    1.มีอารมณ์หงุดหงิดง่าย เหมือนเป็นไบโพล่า อารมณ์ขึ้นๆลงๆ

    2.จะรู้สึกหงุดหงิด ถ้าไปใกล้ชิดกับคนที่สวดมนต์ไหว้พระ และมีอาการไม่อยากเข้าวัด ไม่อยากสวดมนต์ไหว้พระ

    3.มีอาการชอบเก็บตัว ไม่อยากไปสุงสิงกับใคร

    4.จะเป็นโรคที่ไม่สามารถหาสาเหตุทางการแพทย์ได้ เป็นๆหายๆ ส่วนใหญ่ที่เจอ จะเป็นพวกเนื้องอก ถึงโรค ที่อันตรายร้ายแรง ขึ้นอยู่กับความแรงของของที่บูชา และตัวตนของคนที่บูชา ว่าเป็นคนที่มีศีลมีธรรม และปฏิบัติสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำหรือเปล่า โรคที่เกิดจากสิ่งมองไม่เห็น หรือบางคนมีอาการชอบปวดหัว ปวดท้อง ท้องผูก ระบบขับถ่าย กรดไหลย้อน มีลมในกระเพาะ เป็นแบบไม่รู้สาเหตุ หรือบางคนจะเป็นเกี่ยวกับโรคผิวหนังอยู่ดีๆก็คัน เป็นเม็ดผื่นโดยไม่ทราบสาเหตุ และอาการเหล่านี้จะชัดเจนช่วงวันพระวันโกน

    5.ดวงชะตาจะติดๆขัดๆ เพราะมีสิ่งที่มาปิดกั้นดวงชะตา ทำให้ดำเนินชีวิตได้อย่างไม่ราบรื่น

    6.นอนไม่ค่อยหลับ ชอบตื่นมากลางดึก หรือสะดุ้งตื่น ช่วงตี2 ตี3

    7.จะเจอแต่คนที่เล่นของเข้ามา หรือที่มีพลังงานแบบเรา เพราะมันจะดึงดูดเข้าหากัน

    8.คนที่อยู่ใกล้ตัวใกล้ชิดคนที่เล่นของ จะรู้สึกไม่ชอบเรา ไม่ถูกชะตาเรา เพราะมีพลังงานไม่ดีอยู่กับตัวเรา มันส่งผลกระทบกับเขา เขาจะหงุดหงิดตลอดเวลา หรือหาเรื่องเรา ยิ่งถ้าคนนั้นเป็นคนที่มีเซ้นส์ด้วยเขาก็จะรู้สึกมาก

    9.คนที่อยู่ใกล้ตัวใกล้ชิดคนเล่นของ โดยเฉพาะถ้าคนๆนั้นเป็นคนที่อ่อนแอ ขาดการสวดมนต์ไหว้พระ ขาดการรักษาศีล จะได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่ว่าจะทำให้ดวงชะตาติดขัด หรือเกิดความเจ็บป่วย โรคภัยไข้เจ็บ หรือมีปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ชีวิตไม่ราบรื่น
    -----------
    #คนเล่นของ #ดูดวงแม่นๆ #หมอดูแม่นๆ #อาจารย์เจโดมิโน่จิตสัมผัส #หมอฝนยิปซี
    คนเล่นของ เช่น พกเครื่องรางของขลังต่างๆ หรือบางคน ที่มีการลงนะ สักยันต์ เพื่อเสริมดวงในด้านต่างๆ หรือพวกเมตตามหานิยม หรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แรงๆ เช่นท้าวเวสสุวรรณ พญานาค พ่อแก่ พญาครุฑ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ควรจะต้องมีการรักษาศีล 5 เป็นเบื้องต้น และควรสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน ถ้ามิเช่นนั้นแล้วของอาจจะเข้าตัวได้ ซึ่งทำให้เกิดอาการต่างๆดังนี้ 1.มีอารมณ์หงุดหงิดง่าย เหมือนเป็นไบโพล่า อารมณ์ขึ้นๆลงๆ 2.จะรู้สึกหงุดหงิด ถ้าไปใกล้ชิดกับคนที่สวดมนต์ไหว้พระ และมีอาการไม่อยากเข้าวัด ไม่อยากสวดมนต์ไหว้พระ 3.มีอาการชอบเก็บตัว ไม่อยากไปสุงสิงกับใคร 4.จะเป็นโรคที่ไม่สามารถหาสาเหตุทางการแพทย์ได้ เป็นๆหายๆ ส่วนใหญ่ที่เจอ จะเป็นพวกเนื้องอก ถึงโรค ที่อันตรายร้ายแรง ขึ้นอยู่กับความแรงของของที่บูชา และตัวตนของคนที่บูชา ว่าเป็นคนที่มีศีลมีธรรม และปฏิบัติสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำหรือเปล่า โรคที่เกิดจากสิ่งมองไม่เห็น หรือบางคนมีอาการชอบปวดหัว ปวดท้อง ท้องผูก ระบบขับถ่าย กรดไหลย้อน มีลมในกระเพาะ เป็นแบบไม่รู้สาเหตุ หรือบางคนจะเป็นเกี่ยวกับโรคผิวหนังอยู่ดีๆก็คัน เป็นเม็ดผื่นโดยไม่ทราบสาเหตุ และอาการเหล่านี้จะชัดเจนช่วงวันพระวันโกน 5.ดวงชะตาจะติดๆขัดๆ เพราะมีสิ่งที่มาปิดกั้นดวงชะตา ทำให้ดำเนินชีวิตได้อย่างไม่ราบรื่น 6.นอนไม่ค่อยหลับ ชอบตื่นมากลางดึก หรือสะดุ้งตื่น ช่วงตี2 ตี3 7.จะเจอแต่คนที่เล่นของเข้ามา หรือที่มีพลังงานแบบเรา เพราะมันจะดึงดูดเข้าหากัน 8.คนที่อยู่ใกล้ตัวใกล้ชิดคนที่เล่นของ จะรู้สึกไม่ชอบเรา ไม่ถูกชะตาเรา เพราะมีพลังงานไม่ดีอยู่กับตัวเรา มันส่งผลกระทบกับเขา เขาจะหงุดหงิดตลอดเวลา หรือหาเรื่องเรา ยิ่งถ้าคนนั้นเป็นคนที่มีเซ้นส์ด้วยเขาก็จะรู้สึกมาก 9.คนที่อยู่ใกล้ตัวใกล้ชิดคนเล่นของ โดยเฉพาะถ้าคนๆนั้นเป็นคนที่อ่อนแอ ขาดการสวดมนต์ไหว้พระ ขาดการรักษาศีล จะได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่ว่าจะทำให้ดวงชะตาติดขัด หรือเกิดความเจ็บป่วย โรคภัยไข้เจ็บ หรือมีปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ชีวิตไม่ราบรื่น ----------- #คนเล่นของ #ดูดวงแม่นๆ #หมอดูแม่นๆ #อาจารย์เจโดมิโน่จิตสัมผัส #หมอฝนยิปซี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ออกกำลังกาย พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่ในร้อยเอ็ด@อ่างเก็บน้ำธวัชชัย
    ออกกำลังกาย พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่นี่ในร้อยเอ็ด@อ่างเก็บน้ำธวัชชัย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....*****

    *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....*****

    *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....*****
    *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....*****
    *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....*****

    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****

    #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....***** *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....***** *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....***** *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....***** *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
  • การแก้บนด้วยม้าลายเป็นความเชื่อที่แพร่หลายในสังคมไทย โดยมีที่มาและเหตุผลหลายประการ ดังนี้
    1. #ความเชื่อเรื่องม้าลายช่วยขจัดปัดเป่าอุปสรรค
    * ลายของม้าลาย: เชื่อว่าลายขาวดำของม้าลายเปรียบเสมือนการขจัดสิ่งไม่ดีออกไป และนำพาสิ่งดีๆ เข้ามา ช่วยให้ผู้บนประสบความสำเร็จและราบรื่นในสิ่งที่หวังไว้
    * ความว่องไวของม้าลาย: ม้าลายเป็นสัตว์ที่ว่องไวและแข็งแรง เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้บนผ่านพ้นอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ไปได้อย่างรวดเร็ว
    2. #ความเชื่อเรื่องม้าลายนำโชคลาภ
    * เสียงร้องของม้าลาย: บางคนเชื่อว่าเสียงร้องของม้าลายคล้ายกับเสียงหัวเราะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและโชคลาภ
    * ความหายากของม้าลาย: ม้าลายไม่ใช่สัตว์พื้นเมืองของไทย ทำให้มีความแปลกและหายาก เชื่อว่าการนำม้าลายมาถวายแก้บนจะทำให้คำขอเป็นที่สะดุดตาและได้รับการตอบสนองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    3. #ความเชื่อเรื่องม้าลายช่วยเตือนสติ
    * ลายขาวดำของม้าลาย: เชื่อว่าลายขาวดำของม้าลายเป็นเครื่องเตือนใจให้ระมัดระวังและไม่ประมาท ช่วยให้ผู้บนมีสติและไตร่ตรองก่อนตัดสินใจ
    * การอยู่รวมกันเป็นฝูงของม้าลาย: ม้าลายเป็นสัตว์สังคมที่อยู่รวมกันเป็นฝูง เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
    4. #การบอกเล่าและสืบทอด
    ความเชื่อเรื่องการแก้บนด้วยม้าลายถูกบอกเล่าและสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและความเชื่อของคนไทย
    5. #ความสบายใจและกำลังใจ
    แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน แต่การแก้บนด้วยม้าลายก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บนรู้สึกสบายใจและมีกำลังใจมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ

    #สรุป การแก้บนด้วยม้าลายเป็นความเชื่อที่มีรากฐานมาจากหลายปัจจัย ทั้งความเชื่อเรื่องการขจัดปัดเป่าอุปสรรค การนำโชคลาภ การเตือนสติ และการบอกเล่าสืบทอด แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน แต่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บนรู้สึกสบายใจและมีกำลังใจมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต
    การแก้บนด้วยม้าลายเป็นความเชื่อที่แพร่หลายในสังคมไทย โดยมีที่มาและเหตุผลหลายประการ ดังนี้ 1. #ความเชื่อเรื่องม้าลายช่วยขจัดปัดเป่าอุปสรรค * ลายของม้าลาย: เชื่อว่าลายขาวดำของม้าลายเปรียบเสมือนการขจัดสิ่งไม่ดีออกไป และนำพาสิ่งดีๆ เข้ามา ช่วยให้ผู้บนประสบความสำเร็จและราบรื่นในสิ่งที่หวังไว้ * ความว่องไวของม้าลาย: ม้าลายเป็นสัตว์ที่ว่องไวและแข็งแรง เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้บนผ่านพ้นอุปสรรคและปัญหาต่างๆ ไปได้อย่างรวดเร็ว 2. #ความเชื่อเรื่องม้าลายนำโชคลาภ * เสียงร้องของม้าลาย: บางคนเชื่อว่าเสียงร้องของม้าลายคล้ายกับเสียงหัวเราะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและโชคลาภ * ความหายากของม้าลาย: ม้าลายไม่ใช่สัตว์พื้นเมืองของไทย ทำให้มีความแปลกและหายาก เชื่อว่าการนำม้าลายมาถวายแก้บนจะทำให้คำขอเป็นที่สะดุดตาและได้รับการตอบสนองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3. #ความเชื่อเรื่องม้าลายช่วยเตือนสติ * ลายขาวดำของม้าลาย: เชื่อว่าลายขาวดำของม้าลายเป็นเครื่องเตือนใจให้ระมัดระวังและไม่ประมาท ช่วยให้ผู้บนมีสติและไตร่ตรองก่อนตัดสินใจ * การอยู่รวมกันเป็นฝูงของม้าลาย: ม้าลายเป็นสัตว์สังคมที่อยู่รวมกันเป็นฝูง เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน 4. #การบอกเล่าและสืบทอด ความเชื่อเรื่องการแก้บนด้วยม้าลายถูกบอกเล่าและสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและความเชื่อของคนไทย 5. #ความสบายใจและกำลังใจ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน แต่การแก้บนด้วยม้าลายก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บนรู้สึกสบายใจและมีกำลังใจมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ #สรุป การแก้บนด้วยม้าลายเป็นความเชื่อที่มีรากฐานมาจากหลายปัจจัย ทั้งความเชื่อเรื่องการขจัดปัดเป่าอุปสรรค การนำโชคลาภ การเตือนสติ และการบอกเล่าสืบทอด แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน แต่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บนรู้สึกสบายใจและมีกำลังใจมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว

  • ในระหว่างที่นั่งจิบชาช่วงบ่ายระหว่างทำงาน work from home ได้มีโอกาสครุ่นคิดถึงศาสนาในประเทศไทยซึ่งประชากรกว่า 90% จดทะเบียนว่าเป็นศาสนาพุทธ แต่ความจริงนั้นอาจยากที่จะตอบได้ว่า คนเหล่านี้เป็นพุทธศาสนิกชนที่แท้จริงหรือไม่🧐

    จากประสบการณ์ที่อยู่ในสังคมคนทำงานรุ่น Gen X, Y, และ Z มานานเกือบทศวรรษ ทำให้เข้าใจว่าในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่มักไม่มีศาสนาแบบชัดเจน แต่ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็น Atheist (คนไม่เชื่อในพระเจ้า) หรือ Agnostic (คนที่ไม่เชื่อหรือปฏิเสธการมีอยู่ของสิ่งเหนือธรรมชาติ)ได้เช่นกัน

    เพราะแม้ว่าจะไม่ได้เชื่อในชีวิตหลังความตาย หรือนรกสวรรค์ แต่ผู้คนยังคงหันไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อ "โชคลาภ" หรือทำบุญบริจาคเมื่อ "รู้สึกดวงตก" นั่นแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างความเชื่อกับการปฏิบัติในชีวิตประจำวันของคนในปัจจุบัน😯

    ระหว่างที่กลืนขนมสโคนกับจิบชาเปปเปอร์มิ้นท์ คำถามที่ฉงนใจผุดขึ้นว่า "หากคนที่ไม่เชื่อในศาสนาต้องเผชิญสถานการณ์คับขัน เช่น อยู่บนเครื่องบินที่กำลังจะตกและเหลือเวลาไม่กี่นาทีก่อนจะขิต"พวกเขาเหล่านี้จะหันไปภาวนาหรือสวดกับอะไร? ☠️

    ถ้าไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะสวดหาไอดอลหรือ Life coach ที่ตามอยู่?
    อ้อนวอนขอชีวิตกับยมบาล?
    หรือพวกเขาจะจมอยู่ในความรู้สึกกลัวตายจนไม่มีเวลาคิดถึงอะไรเลย?👿

    มันไม่ผิดหรอกที่ใครบางคนจะไม่เชื่อในศาสนา แต่คำถามที่น่าสงสัยคือ ณ วินาทีที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย เราจะยึดเหนี่ยวสิ่งใด? มนุษย์เมื่อเผชิญความไม่แน่นอนและความตาย มักจะโหยหาสิ่งที่ให้ความหวังเพื่อความสงบใจแห่งจิตใจ🤍

    ไม่ต่างอะไรจากเถาวัลย์โน้มหาต้นไม้ใหญ่หาที่พึ่ง ไม่ว่าจะเป็นศาสนา ความเชื่อทางจิตวิญญาณ หรือแม้กระทั่งความหวังที่เกิดจากการนึกถึงคนที่เรารักและศรัทธา มนุษย์ทุกคนย่อมต้องการ "หลัก" ยึดเหนี่ยว ในการใช้ชีวิต ไปจนถึงช่วงเวลาลมหายใจสุดท้าย #ศาสนาสำคัญไฉน

    While sipping afternoon tea during a work-from-home break, I found myself reflecting on religion in Thailand, where more than 90% of the population is registered as Buddhist. However, it’s difficult to say for certain whether these individuals are truly practicing Buddhists. 🧐

    From my experience in the working society of Gen X, Y, and Z for nearly a decade, it’s become clear that many people today don’t strictly follow a particular religion. Yet, we can’t exactly call them Atheists (those who don’t believe in a god) or Agnostics (those who neither believe nor deny the existence of the supernatural) either.

    Even though they may not believe in an afterlife or heaven and hell, people still turn to sacred entities to pray for "luck" or make merit donations when they "feel unlucky." This shows the complex relationship between belief and daily practices in today’s world. 😯

    While I was munching on a scone and sipping my peppermint tea, a curious question popped into my mind: "If someone who doesn’t believe in religion were in a dire situation, like being on a plane about to crash with only a few minutes left to live," who or what would they turn to in prayer? ☠️

    If not a sacred being, would they pray to their idol or the life coach they follow? Would they plead for their life with the Grim Reaper? Or would they be so consumed by the fear of death that they wouldn’t have time to think of anything at all? 👿

    It’s not wrong for someone not to believe in religion, but the intriguing question is, in the moment when life hangs by a thread, what would we cling to? When humans face uncertainty and death, they often yearn for something that gives them hope and peace of mind. 🤍

    Just like vines reaching out to a large tree for support, whether it’s religion, spiritual beliefs, or even the hope that comes from thinking of the ones we love and cherish, every human seeks a “pillar” to hold onto—both in life and in their final moments. #WhyIsReligionImportant
    ในระหว่างที่นั่งจิบชาช่วงบ่ายระหว่างทำงาน work from home ได้มีโอกาสครุ่นคิดถึงศาสนาในประเทศไทยซึ่งประชากรกว่า 90% จดทะเบียนว่าเป็นศาสนาพุทธ แต่ความจริงนั้นอาจยากที่จะตอบได้ว่า คนเหล่านี้เป็นพุทธศาสนิกชนที่แท้จริงหรือไม่🧐 จากประสบการณ์ที่อยู่ในสังคมคนทำงานรุ่น Gen X, Y, และ Z มานานเกือบทศวรรษ ทำให้เข้าใจว่าในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่มักไม่มีศาสนาแบบชัดเจน แต่ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็น Atheist (คนไม่เชื่อในพระเจ้า) หรือ Agnostic (คนที่ไม่เชื่อหรือปฏิเสธการมีอยู่ของสิ่งเหนือธรรมชาติ)ได้เช่นกัน เพราะแม้ว่าจะไม่ได้เชื่อในชีวิตหลังความตาย หรือนรกสวรรค์ แต่ผู้คนยังคงหันไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อ "โชคลาภ" หรือทำบุญบริจาคเมื่อ "รู้สึกดวงตก" นั่นแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างความเชื่อกับการปฏิบัติในชีวิตประจำวันของคนในปัจจุบัน😯 ระหว่างที่กลืนขนมสโคนกับจิบชาเปปเปอร์มิ้นท์ คำถามที่ฉงนใจผุดขึ้นว่า "หากคนที่ไม่เชื่อในศาสนาต้องเผชิญสถานการณ์คับขัน เช่น อยู่บนเครื่องบินที่กำลังจะตกและเหลือเวลาไม่กี่นาทีก่อนจะขิต"พวกเขาเหล่านี้จะหันไปภาวนาหรือสวดกับอะไร? ☠️ ถ้าไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะสวดหาไอดอลหรือ Life coach ที่ตามอยู่? อ้อนวอนขอชีวิตกับยมบาล? หรือพวกเขาจะจมอยู่ในความรู้สึกกลัวตายจนไม่มีเวลาคิดถึงอะไรเลย?👿 มันไม่ผิดหรอกที่ใครบางคนจะไม่เชื่อในศาสนา แต่คำถามที่น่าสงสัยคือ ณ วินาทีที่ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย เราจะยึดเหนี่ยวสิ่งใด? มนุษย์เมื่อเผชิญความไม่แน่นอนและความตาย มักจะโหยหาสิ่งที่ให้ความหวังเพื่อความสงบใจแห่งจิตใจ🤍 ไม่ต่างอะไรจากเถาวัลย์โน้มหาต้นไม้ใหญ่หาที่พึ่ง ไม่ว่าจะเป็นศาสนา ความเชื่อทางจิตวิญญาณ หรือแม้กระทั่งความหวังที่เกิดจากการนึกถึงคนที่เรารักและศรัทธา มนุษย์ทุกคนย่อมต้องการ "หลัก" ยึดเหนี่ยว ในการใช้ชีวิต ไปจนถึงช่วงเวลาลมหายใจสุดท้าย #ศาสนาสำคัญไฉน While sipping afternoon tea during a work-from-home break, I found myself reflecting on religion in Thailand, where more than 90% of the population is registered as Buddhist. However, it’s difficult to say for certain whether these individuals are truly practicing Buddhists. 🧐 From my experience in the working society of Gen X, Y, and Z for nearly a decade, it’s become clear that many people today don’t strictly follow a particular religion. Yet, we can’t exactly call them Atheists (those who don’t believe in a god) or Agnostics (those who neither believe nor deny the existence of the supernatural) either. Even though they may not believe in an afterlife or heaven and hell, people still turn to sacred entities to pray for "luck" or make merit donations when they "feel unlucky." This shows the complex relationship between belief and daily practices in today’s world. 😯 While I was munching on a scone and sipping my peppermint tea, a curious question popped into my mind: "If someone who doesn’t believe in religion were in a dire situation, like being on a plane about to crash with only a few minutes left to live," who or what would they turn to in prayer? ☠️ If not a sacred being, would they pray to their idol or the life coach they follow? Would they plead for their life with the Grim Reaper? Or would they be so consumed by the fear of death that they wouldn’t have time to think of anything at all? 👿 It’s not wrong for someone not to believe in religion, but the intriguing question is, in the moment when life hangs by a thread, what would we cling to? When humans face uncertainty and death, they often yearn for something that gives them hope and peace of mind. 🤍 Just like vines reaching out to a large tree for support, whether it’s religion, spiritual beliefs, or even the hope that comes from thinking of the ones we love and cherish, every human seeks a “pillar” to hold onto—both in life and in their final moments. #WhyIsReligionImportant
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 604 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts