• โกทรมีโอกาสรอด เพราะบทเรียนในอดีตเปิดช่องโหว่
    ถึงเวลาที่โกทร เจ้าพ่อปราจีนจะสิ้นอิสรภาพเข้าไปอยู่ในคู่กับมือปูน ติดตามทั้งหกเนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดี กรณีคดีจ้างวานคิล ที่มีเจ้าพ่ออยู่เบื้องหลังคําสั่งคิล ย่อมผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดี ที่สําคัญหลังเหยื่อตุยคดีความจะเป็นไปในทิศทางไหนก็ต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้วจึงเชื่อกันว่า เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล มีโอกาสที่โกธรจะหลุดจากคดีเนื่องจากมือปืนของโกธร 2 คนให้การสารภาพในลักษณะสมอ้างว่า
    ลงมือรัวคิลสอจอโต้งด้วยเรื่องส่วนตัวเหตุจากความบันดาลโทสะถูก สอจอโต้งตบหัวขณะที่มือปูนอีกสี่คนก็ให้การสอดรับไปในทางเดียวกัน โดยกันตัวโกธรไปจากฉากนองเลือ.ดอ้างว่าตอนเกิดเหตุโกธรเข้าไปนอนแล้วไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แม้ในทางสืบสวนรูปคดีส่อเค้าว่าการสังหาน สจโต้งคือการวางแผน รวมค่ายอย่างแยบยลถึงขั้นลงทุนใช้บ้านตัวเองเป็นสถานที่ลงมือ
    แต่การพิสูจน์ในศาลเป็นอีกเรื่องหนึ่งการนําเสนอให้ศาลเชื่อในน้ำหนักของพยานหลักฐานในเมื่อพยานทุกคนในที่เกิดเหตุให้การไปในทางเดียวกัน ในลักษณะเตี๊ยมกันมาแล้วเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรที่จะสาวไปถึงคนบงการโดยเฉพาะสองมือปูนของโกธรพร้อมจะรับการติดคุกเองด้วยการยอมรับผิดเอง ไม่ยอมเปิดปากซัดทอดใครทั้งสิ้น
    ในอดีตก็เคยมีคดีดังซึ่งมือปูนยอมติดคุกเอง ไม่ยอมพาดพิงถึงผู้จ้างวานเป็นผลให้กฎหมายทําอะไรคนสั่งการไม่ได้ต่อให้รู้ทั้งรู้ก็ตาม ย้อนไปเมื่อปี2533 เคยเกิดคดีดังสนั่นเมือง
    เมื่อนายบุญสิทธิ์อายุ 47 ปีเจ้าของกิจการบางกอกแฮมตราหมูตัวเดียว ถูกมือปูนชุดยีนส์รัวคิลด้วยปูนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่ม กระสุ.นเจาะเกราะ รถเปอโย ขณะเสี่ยบางกอกแฮมนั่งรถของทนายความประจําตัวออกจากบ้าน มือปูนสาดกระสูนจากกระจกหน้าต่างฝั่งซ้ายกระสูนเจาะร่างเสี่ยดัง
    ทั้งที่ปกติเสี่ยบุญสิทธิ์ระวังตัวมาตลอดเพราะรู้ว่าอริจ้องเอาชีวิต ถึงขั้นเตรียมกระเป๋าเจมส์บอนด์เสริมเหล็กไว้ป้องกันกระสูนปูนแต่วันนั้นไม่ทันยกกันเลยจบชีวิต
    หลังการลงมือตํารวจนครบาลรู้ในทันที สาเหตุเป็นเรื่องการคิลล้างแค้นอย่างแน่นอนเป็นผลต่อเนื่องมาจากคดียิ..งป๋าตงเจ็บ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทฟลาวเวอร์เอ็กซ์เพรสส่งออกดอกไม้ประดิษฐ์คู่แข่งอีกธุรกิจของเสี่ยบุญสิทธิ์ จึงทำให้นายบุญสิทธิ์ใช้ปูนเป็นเครื่องมือกําจัดคู่แข่ง ส่งมือปูนสองคนใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ ปืนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่มเป็นอาวุธถล่มยิ.งป๋าตง ใจกลางกรุงกระสุนเจาะขมับป๋าตงแม้ไม่ถึงตุย
    แต่ก็พิการตาบอดสนิททั้งสองข้างต้องอยู่ในโลกมืดไปชั่วชีวิตต่อมาตํารวจจับมือปูนและคนบงการได้ซึ่งก็คือน้องชายของนายบุญสิทธิ์ ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์มวยชื่อดังรวมถึงตัวนายบุญสิทธิ์เองด้วย แต่มือปูนไม่ซัดทอดศาลก็เลยยกฟ้องในส่วนของคนจ้างวานจากปี 2530 มาถึงปี 2531 ดังนั้นเหตุการณ์ของโกทร ก็คงไม่แตกต่างกับเรื่องในอดีตอย่างแน่นอน
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ

    โกทรมีโอกาสรอด เพราะบทเรียนในอดีตเปิดช่องโหว่ ถึงเวลาที่โกทร เจ้าพ่อปราจีนจะสิ้นอิสรภาพเข้าไปอยู่ในคู่กับมือปูน ติดตามทั้งหกเนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดี กรณีคดีจ้างวานคิล ที่มีเจ้าพ่ออยู่เบื้องหลังคําสั่งคิล ย่อมผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดี ที่สําคัญหลังเหยื่อตุยคดีความจะเป็นไปในทิศทางไหนก็ต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้วจึงเชื่อกันว่า เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล มีโอกาสที่โกธรจะหลุดจากคดีเนื่องจากมือปืนของโกธร 2 คนให้การสารภาพในลักษณะสมอ้างว่า ลงมือรัวคิลสอจอโต้งด้วยเรื่องส่วนตัวเหตุจากความบันดาลโทสะถูก สอจอโต้งตบหัวขณะที่มือปูนอีกสี่คนก็ให้การสอดรับไปในทางเดียวกัน โดยกันตัวโกธรไปจากฉากนองเลือ.ดอ้างว่าตอนเกิดเหตุโกธรเข้าไปนอนแล้วไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แม้ในทางสืบสวนรูปคดีส่อเค้าว่าการสังหาน สจโต้งคือการวางแผน รวมค่ายอย่างแยบยลถึงขั้นลงทุนใช้บ้านตัวเองเป็นสถานที่ลงมือ แต่การพิสูจน์ในศาลเป็นอีกเรื่องหนึ่งการนําเสนอให้ศาลเชื่อในน้ำหนักของพยานหลักฐานในเมื่อพยานทุกคนในที่เกิดเหตุให้การไปในทางเดียวกัน ในลักษณะเตี๊ยมกันมาแล้วเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรที่จะสาวไปถึงคนบงการโดยเฉพาะสองมือปูนของโกธรพร้อมจะรับการติดคุกเองด้วยการยอมรับผิดเอง ไม่ยอมเปิดปากซัดทอดใครทั้งสิ้น ในอดีตก็เคยมีคดีดังซึ่งมือปูนยอมติดคุกเอง ไม่ยอมพาดพิงถึงผู้จ้างวานเป็นผลให้กฎหมายทําอะไรคนสั่งการไม่ได้ต่อให้รู้ทั้งรู้ก็ตาม ย้อนไปเมื่อปี2533 เคยเกิดคดีดังสนั่นเมือง เมื่อนายบุญสิทธิ์อายุ 47 ปีเจ้าของกิจการบางกอกแฮมตราหมูตัวเดียว ถูกมือปูนชุดยีนส์รัวคิลด้วยปูนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่ม กระสุ.นเจาะเกราะ รถเปอโย ขณะเสี่ยบางกอกแฮมนั่งรถของทนายความประจําตัวออกจากบ้าน มือปูนสาดกระสูนจากกระจกหน้าต่างฝั่งซ้ายกระสูนเจาะร่างเสี่ยดัง ทั้งที่ปกติเสี่ยบุญสิทธิ์ระวังตัวมาตลอดเพราะรู้ว่าอริจ้องเอาชีวิต ถึงขั้นเตรียมกระเป๋าเจมส์บอนด์เสริมเหล็กไว้ป้องกันกระสูนปูนแต่วันนั้นไม่ทันยกกันเลยจบชีวิต หลังการลงมือตํารวจนครบาลรู้ในทันที สาเหตุเป็นเรื่องการคิลล้างแค้นอย่างแน่นอนเป็นผลต่อเนื่องมาจากคดียิ..งป๋าตงเจ็บ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทฟลาวเวอร์เอ็กซ์เพรสส่งออกดอกไม้ประดิษฐ์คู่แข่งอีกธุรกิจของเสี่ยบุญสิทธิ์ จึงทำให้นายบุญสิทธิ์ใช้ปูนเป็นเครื่องมือกําจัดคู่แข่ง ส่งมือปูนสองคนใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ ปืนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่มเป็นอาวุธถล่มยิ.งป๋าตง ใจกลางกรุงกระสุนเจาะขมับป๋าตงแม้ไม่ถึงตุย แต่ก็พิการตาบอดสนิททั้งสองข้างต้องอยู่ในโลกมืดไปชั่วชีวิตต่อมาตํารวจจับมือปูนและคนบงการได้ซึ่งก็คือน้องชายของนายบุญสิทธิ์ ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์มวยชื่อดังรวมถึงตัวนายบุญสิทธิ์เองด้วย แต่มือปูนไม่ซัดทอดศาลก็เลยยกฟ้องในส่วนของคนจ้างวานจากปี 2530 มาถึงปี 2531 ดังนั้นเหตุการณ์ของโกทร ก็คงไม่แตกต่างกับเรื่องในอดีตอย่างแน่นอน ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Sad
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • กี่ปีผ่านไป วิถีก็เหมือนเดิม จุดจบนักเลงตัวตึง
    หลายคนอาจคิดว่าเจ้าพ่อมาเฟียเมืองไทย ไม่มีแล้วในพศ. นี้ แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นจากฝันไปตามๆ กันเพราะคดีสังห..าร สจโต้ง ปราจีนบุรี เป็นหลักฐานยืนยันชัดเจนเจ้าพ่อเมืองไทยยังอยู่ยังไม่ไปไหน เมื่อความขัดแย้งเดินมาถึงจุดที่คุยกันไม่รู้เรื่องก็ต้องใช้อํานาจปื.น ผ่าทางตัน
    เมื่อเจ้าพ่อปราจีนอย่าง โกธร จําต้องใช้บ้านของตัวเองเป็นสถานที่ปิดประตูตีแมว อย่างไม่มีทางเลี่ยงเพราะถ้าปล่อย สจ โต้งก้าวพ้นประตูบ้านไปในคืนนั้นก็จะเหมือนปล่อยเสือเข้าป่า
    การสังหา.รอริในบ้านตัวเอง มีดีกรีความอุกอาจสมศักดิ์ศรีเจ้าพ่อทุกประการ ใครไม่เคยรู้จักตัวตนแท้จริงของ โกธร ก็ได้รู้กันคราวนี้ เทียบเคียงกับคดีเก่าๆ ที่เกิดขึ้นตามประกาศิตสั่งตุยจากเจ้าพ่อ ก็จะเห็นถึงความดุเดือดเลือดพล่านท้าทายกฎหมายไม่ต่างกัน
    ย้อนไปเมื่อปี 2531เจ้าพ่อน้อยดาวรุ่งอย่างโหงว ห้าพลังถูกมือปื..นยิ.งถล่มเบ้าตาทะลุ คาสนามมวยลุมพินีระหว่างการพักยกสี่ของมวยคู่เอก เกิดการดวลปูนกันสนั่นหวั่นไหวระหว่างกลุ่มมือปูนสังหานกับมือปูนคุ้มกันโหงว 5 พลังราวกับเมืองไทยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่..อน
    ก่อนถูกสั่งเก็บโหงว 5พลัง เพิ่งขึ้นเวทีมวยไปจับไมโครโฟนยืนร่วมกับเจ้าพ่อนครบาลอย่างเฮียเหลา นายแคล้ว ธนิกุล โดยโหงวมีตําแหน่งเป็นนายกสมาคมมวยอาชีพ
    ส่วนแคล้วเป็นนายกสมาคมมวยสมัครเล่น แต่พอลงจากเวทีไม่เท่าไหร่มือปูนก็ถล่มโหงวห้าพลังกันตรงนั้นเลย ไม่รอไปจัดการกันข้างนอกสนามมวยตํารวจจับมือปูนในที่เกิดเหตุได้สองคนล้วนแต่เป็นคนของแคล้ว ธนิกุล แต่แคล้วปฏิเสธไม่รู้เห็นใดๆทั้งสิ้น ทั้งหลุดคําพูดว่าโหงวไม่ได้วัดรอยเท้าผม ผมช่วยเค้าทุกอย่างผมรักโหงวเหมือนน้อง และเขาก็รักผมเหมือนพี่
    คําพูดแบบนี้แทบจะเหมือนกันเป๊ะกับคําพูดของโกธรที่พูดออกมาหลังตกเป็นผู้ต้องหาค่าสจ โต้ง โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยโกธร กล่าวถึง สจ โต้ง ว่ารักเหมือนลูกหลาน จะคิลทําไมบ้าบอ ผมอุตส่าห์ช่วยเขามาตลอดจะว่าโกธรจงใจก๊อปปี้คําพูดของเฮียเหลาก็คงไม่ใช่
    ต้องบอกว่า วงจรกลุ่มมือปูน ดูท่าจะคล้ายๆกันไปหมด ไม่ว่าจะเป้นการยืมมือลูกน้องจัดการ เหตุผลของเงิน อำนาจ บารมี ล้วนแล้วแต่เป็นจุดแตกหักของวิถีนักเลง มือปูนไม่ว่าจะผ่านมาสักกี่ยุคก็ตาม ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    กี่ปีผ่านไป วิถีก็เหมือนเดิม จุดจบนักเลงตัวตึง หลายคนอาจคิดว่าเจ้าพ่อมาเฟียเมืองไทย ไม่มีแล้วในพศ. นี้ แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นจากฝันไปตามๆ กันเพราะคดีสังห..าร สจโต้ง ปราจีนบุรี เป็นหลักฐานยืนยันชัดเจนเจ้าพ่อเมืองไทยยังอยู่ยังไม่ไปไหน เมื่อความขัดแย้งเดินมาถึงจุดที่คุยกันไม่รู้เรื่องก็ต้องใช้อํานาจปื.น ผ่าทางตัน เมื่อเจ้าพ่อปราจีนอย่าง โกธร จําต้องใช้บ้านของตัวเองเป็นสถานที่ปิดประตูตีแมว อย่างไม่มีทางเลี่ยงเพราะถ้าปล่อย สจ โต้งก้าวพ้นประตูบ้านไปในคืนนั้นก็จะเหมือนปล่อยเสือเข้าป่า การสังหา.รอริในบ้านตัวเอง มีดีกรีความอุกอาจสมศักดิ์ศรีเจ้าพ่อทุกประการ ใครไม่เคยรู้จักตัวตนแท้จริงของ โกธร ก็ได้รู้กันคราวนี้ เทียบเคียงกับคดีเก่าๆ ที่เกิดขึ้นตามประกาศิตสั่งตุยจากเจ้าพ่อ ก็จะเห็นถึงความดุเดือดเลือดพล่านท้าทายกฎหมายไม่ต่างกัน ย้อนไปเมื่อปี 2531เจ้าพ่อน้อยดาวรุ่งอย่างโหงว ห้าพลังถูกมือปื..นยิ.งถล่มเบ้าตาทะลุ คาสนามมวยลุมพินีระหว่างการพักยกสี่ของมวยคู่เอก เกิดการดวลปูนกันสนั่นหวั่นไหวระหว่างกลุ่มมือปูนสังหานกับมือปูนคุ้มกันโหงว 5 พลังราวกับเมืองไทยเป็นบ้านป่าเมืองเถื่..อน ก่อนถูกสั่งเก็บโหงว 5พลัง เพิ่งขึ้นเวทีมวยไปจับไมโครโฟนยืนร่วมกับเจ้าพ่อนครบาลอย่างเฮียเหลา นายแคล้ว ธนิกุล โดยโหงวมีตําแหน่งเป็นนายกสมาคมมวยอาชีพ ส่วนแคล้วเป็นนายกสมาคมมวยสมัครเล่น แต่พอลงจากเวทีไม่เท่าไหร่มือปูนก็ถล่มโหงวห้าพลังกันตรงนั้นเลย ไม่รอไปจัดการกันข้างนอกสนามมวยตํารวจจับมือปูนในที่เกิดเหตุได้สองคนล้วนแต่เป็นคนของแคล้ว ธนิกุล แต่แคล้วปฏิเสธไม่รู้เห็นใดๆทั้งสิ้น ทั้งหลุดคําพูดว่าโหงวไม่ได้วัดรอยเท้าผม ผมช่วยเค้าทุกอย่างผมรักโหงวเหมือนน้อง และเขาก็รักผมเหมือนพี่ คําพูดแบบนี้แทบจะเหมือนกันเป๊ะกับคําพูดของโกธรที่พูดออกมาหลังตกเป็นผู้ต้องหาค่าสจ โต้ง โดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยโกธร กล่าวถึง สจ โต้ง ว่ารักเหมือนลูกหลาน จะคิลทําไมบ้าบอ ผมอุตส่าห์ช่วยเขามาตลอดจะว่าโกธรจงใจก๊อปปี้คําพูดของเฮียเหลาก็คงไม่ใช่ ต้องบอกว่า วงจรกลุ่มมือปูน ดูท่าจะคล้ายๆกันไปหมด ไม่ว่าจะเป้นการยืมมือลูกน้องจัดการ เหตุผลของเงิน อำนาจ บารมี ล้วนแล้วแต่เป็นจุดแตกหักของวิถีนักเลง มือปูนไม่ว่าจะผ่านมาสักกี่ยุคก็ตาม ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • อำนาจ บารมี บุญคุณ จุดจบสุดเศร้าของ สจ.โต้ง
    ความตายของ สจ.โต้ง ในคฤหาสน์ของโกธร จะเป็นปฏิบัติการเจ้าพ่อใหญ่เด็ดปีกเจ้าพ่อน้อย ในสภาพมือเปล่าไร้อาวุธ และคนติดตาม เหมือนเดินเข้าไปติดกับ เข้าไปแบบมีลมหายใจแต่กลับออกมาเป็นร่างไร้วิญญาณ
    เหตุการณ์นี้ โชกโชนในยุทธจักรนักเลงมือปืนปราจีนบุรี คนที่ผงาดขึ้นมาเป็น สจ มีกลุ่มก้อนนักการเมืองท้องถิ่นของตัว กําลังเป็นขาขึ้นทางการเมืองใน วัย49 แต่ สจโต้ง ก็ประเมินนักเลงเก่าวัย 85 ต่ําเกินไป เมื่อคิดว่าการเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ของโกธร ซึ่งเคยเป็นแหล่งอันซุกหัวนอนของตัวเองมาก่อน คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเขา
    พวกลูกน้องคนติดตาม ให้รออยู่หน้าบ้าน พอพูดคุยเจรจากันเสร็จ ก็กลับออกมาสบายสบาย ที่ไหนได้ สอจอ โต้ง อีทลูกปืนจนร่างพรุนถึง 22 เม็ดโดนทั้งปืนลูกซองทั้งเก้ามอมอ
    ที่ผ่านมา โกธร มีมือตีนสําหรับงานสีเทามาตลอด อย่างสอจอโต้งเองก็เคยติดคุกเพราะทํางานรับใช้ โกธรมาก่อน เช่นกัน หลังสิ้นเสียงปืนมีสองคนรับสารภาพ อ้างเป็นมือสังหารและอ้างตรงกันว่า โกธรไม่รู้เรื่อง นอนหลับ ไม่รู้ ไม่เห็น
    เบาะแสสําคัญ ก็คือคลิปลับ บันทึกเสียงการเจรจากันตอนก่อนเกิดเหตุฉายภาพให้เห็นเลยว่า สจ โต้ง เป็นบุตรบุญธรรมของ โกธร ซึ่งก็แค่ในอดีต แต่ปัจจุบัน สจโต้งดันตัวเองขึ้นมาทาบบารมีเจ้านายเก่า อย่างไม่มีเกรงใจกัน แล้วพูดจาด้วยน้ําเสียงเกรี้ยวกราด มีการลําเลิกบุญคุณเก่า ที่ทํางานสกปรกให้โกธรมา14 15คดี ถึงขั้น โกธร ด่าสจโต้ง ว่ากําลังเป็น คนหลงอํานาจคิดจะฆ่ากูหรือเปล่า ซึ่งสอจอโต้งกล่าว อย่างชัดเจนหาก โกธร ส่งใครมาชิงตําแหน่งนายกอบจ ปราจีนบุรี แข่งกับภรรยาสุดที่รักของเขาจะต้องมีการตายเกิดขึ้นแน่นอน
    ว่ากันว่า เมื่อปี 2555 มีการเปิดปฏิบัติการใหญ่ ปราจีนโมเดลลุยกวาดล้างมือปืนปราจีนส่งคนมาโดนลุยตรวจค้นทั้งจังหวัด ผลก็คือ สจโต้ง ตกเป็นผู้ต้องหาไปด้วยต้องไปสู้คดีอยู่ในคุกหลายปีจนรอดคดีมาได้เมื่อปี 2558
    เนื่องจากศาลยกฟ้องออกคุกมาคราวนี้ สจโต้ง รู้สึกติดลบโกธรเจ้านายของตัวเองอย่างรุนแรงเพราะรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งในคุกอย่างไม่เหลียวแล ตรงตามคําพูดเกรี้ยวกราดในคลิปลับก่อนเกิดเหตุที่สจโต้ง งัดเรื่องนี้มาด่าโกธร อย่างดุเดือด เปรียบตัวเองเป็นหมาที่ทํางานรับใช้ด้วยความภักดีกลับถูกนายทอดทิ้งจนครอบครัวลําบากตาม ๆ กัน สจโต้งจึงแยกตัวเป็นไทยจากบ้านใหญ่ของโกธร จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมา ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ

    อำนาจ บารมี บุญคุณ จุดจบสุดเศร้าของ สจ.โต้ง ความตายของ สจ.โต้ง ในคฤหาสน์ของโกธร จะเป็นปฏิบัติการเจ้าพ่อใหญ่เด็ดปีกเจ้าพ่อน้อย ในสภาพมือเปล่าไร้อาวุธ และคนติดตาม เหมือนเดินเข้าไปติดกับ เข้าไปแบบมีลมหายใจแต่กลับออกมาเป็นร่างไร้วิญญาณ เหตุการณ์นี้ โชกโชนในยุทธจักรนักเลงมือปืนปราจีนบุรี คนที่ผงาดขึ้นมาเป็น สจ มีกลุ่มก้อนนักการเมืองท้องถิ่นของตัว กําลังเป็นขาขึ้นทางการเมืองใน วัย49 แต่ สจโต้ง ก็ประเมินนักเลงเก่าวัย 85 ต่ําเกินไป เมื่อคิดว่าการเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ของโกธร ซึ่งเคยเป็นแหล่งอันซุกหัวนอนของตัวเองมาก่อน คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเขา พวกลูกน้องคนติดตาม ให้รออยู่หน้าบ้าน พอพูดคุยเจรจากันเสร็จ ก็กลับออกมาสบายสบาย ที่ไหนได้ สอจอ โต้ง อีทลูกปืนจนร่างพรุนถึง 22 เม็ดโดนทั้งปืนลูกซองทั้งเก้ามอมอ ที่ผ่านมา โกธร มีมือตีนสําหรับงานสีเทามาตลอด อย่างสอจอโต้งเองก็เคยติดคุกเพราะทํางานรับใช้ โกธรมาก่อน เช่นกัน หลังสิ้นเสียงปืนมีสองคนรับสารภาพ อ้างเป็นมือสังหารและอ้างตรงกันว่า โกธรไม่รู้เรื่อง นอนหลับ ไม่รู้ ไม่เห็น เบาะแสสําคัญ ก็คือคลิปลับ บันทึกเสียงการเจรจากันตอนก่อนเกิดเหตุฉายภาพให้เห็นเลยว่า สจ โต้ง เป็นบุตรบุญธรรมของ โกธร ซึ่งก็แค่ในอดีต แต่ปัจจุบัน สจโต้งดันตัวเองขึ้นมาทาบบารมีเจ้านายเก่า อย่างไม่มีเกรงใจกัน แล้วพูดจาด้วยน้ําเสียงเกรี้ยวกราด มีการลําเลิกบุญคุณเก่า ที่ทํางานสกปรกให้โกธรมา14 15คดี ถึงขั้น โกธร ด่าสจโต้ง ว่ากําลังเป็น คนหลงอํานาจคิดจะฆ่ากูหรือเปล่า ซึ่งสอจอโต้งกล่าว อย่างชัดเจนหาก โกธร ส่งใครมาชิงตําแหน่งนายกอบจ ปราจีนบุรี แข่งกับภรรยาสุดที่รักของเขาจะต้องมีการตายเกิดขึ้นแน่นอน ว่ากันว่า เมื่อปี 2555 มีการเปิดปฏิบัติการใหญ่ ปราจีนโมเดลลุยกวาดล้างมือปืนปราจีนส่งคนมาโดนลุยตรวจค้นทั้งจังหวัด ผลก็คือ สจโต้ง ตกเป็นผู้ต้องหาไปด้วยต้องไปสู้คดีอยู่ในคุกหลายปีจนรอดคดีมาได้เมื่อปี 2558 เนื่องจากศาลยกฟ้องออกคุกมาคราวนี้ สจโต้ง รู้สึกติดลบโกธรเจ้านายของตัวเองอย่างรุนแรงเพราะรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งในคุกอย่างไม่เหลียวแล ตรงตามคําพูดเกรี้ยวกราดในคลิปลับก่อนเกิดเหตุที่สจโต้ง งัดเรื่องนี้มาด่าโกธร อย่างดุเดือด เปรียบตัวเองเป็นหมาที่ทํางานรับใช้ด้วยความภักดีกลับถูกนายทอดทิ้งจนครอบครัวลําบากตาม ๆ กัน สจโต้งจึงแยกตัวเป็นไทยจากบ้านใหญ่ของโกธร จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมา ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สจ.จอย" ได้มอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัว ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.ขอความเป็นธรรมและให้โอนคดียิง "สจ.โต้ง" มาให้กองปราบรับผิดชอบ เผยหลังยื่นกองปรายเมื่อ 13 ธงค.จนขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาล่าสุดเปลี่ยนใจไม่ถอนตัวจากศึก อบจ.แล้ว หวังทำความฝันของสามีให้สำเร็จ

    วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความส่วนตัวของ สจ.จอย ได้เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและขอให้โอนย้ายคดีมาที่กองบังคับการปราบปรามกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยเจ้าตัวเผยว่าเนื่องจาก ผบ.ตร. เป็นผู้บังคับการสูงสุดของตำรวจ จึงได้ทำหนังสือฉบับเดียวกันกับที่ยื่นให้กองปราบมาถึง ผบ.ตร. อีกฉบับ

    นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากยื่นหนังสือไปที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาว่าสำนวนคดีได้ถูกย้ายมาในความรับผิดชอบของกองปราบ ทำให้ทาง สจ.จอย มีความกังวล เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ปรึกษากับตนว่าควรทำยังไงต่อดี ตนเลยแนะนำว่าให้มายื่นหนังสืออีกรอบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สจ.จอย จึงได้มอบอำนาจให้ตนมาแทน เนื่องจาก สจ.จอย ต้องจัดการเรื่องงานศพ สจ.โต้ง ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีพิธีใหญ่ในการเก็บร่างไว้ไม่ได้ฌาปนกิจตามกำหนดการเดิม

    ในส่วนของการลงเล่นการเมือง ในวันพรุ่งนี้ทาง สจ.จอย จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ หลังเสร็จสิ้นพิธีเก็บร่าง ซึ่งจากการพูดคุยกับทนายความจับสัญญาณได้ว่าจะไม่ถอนตัวแล้ว เพราะอยากทำตามความฝันของผู้เป็นสามีให้สำเร็จ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000120544

    #MGROnline #สจโต้ง
    "สจ.จอย" ได้มอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัว ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.ขอความเป็นธรรมและให้โอนคดียิง "สจ.โต้ง" มาให้กองปราบรับผิดชอบ เผยหลังยื่นกองปรายเมื่อ 13 ธงค.จนขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาล่าสุดเปลี่ยนใจไม่ถอนตัวจากศึก อบจ.แล้ว หวังทำความฝันของสามีให้สำเร็จ • วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความส่วนตัวของ สจ.จอย ได้เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและขอให้โอนย้ายคดีมาที่กองบังคับการปราบปรามกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยเจ้าตัวเผยว่าเนื่องจาก ผบ.ตร. เป็นผู้บังคับการสูงสุดของตำรวจ จึงได้ทำหนังสือฉบับเดียวกันกับที่ยื่นให้กองปราบมาถึง ผบ.ตร. อีกฉบับ • นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากยื่นหนังสือไปที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาว่าสำนวนคดีได้ถูกย้ายมาในความรับผิดชอบของกองปราบ ทำให้ทาง สจ.จอย มีความกังวล เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ปรึกษากับตนว่าควรทำยังไงต่อดี ตนเลยแนะนำว่าให้มายื่นหนังสืออีกรอบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สจ.จอย จึงได้มอบอำนาจให้ตนมาแทน เนื่องจาก สจ.จอย ต้องจัดการเรื่องงานศพ สจ.โต้ง ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีพิธีใหญ่ในการเก็บร่างไว้ไม่ได้ฌาปนกิจตามกำหนดการเดิม • ในส่วนของการลงเล่นการเมือง ในวันพรุ่งนี้ทาง สจ.จอย จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ หลังเสร็จสิ้นพิธีเก็บร่าง ซึ่งจากการพูดคุยกับทนายความจับสัญญาณได้ว่าจะไม่ถอนตัวแล้ว เพราะอยากทำตามความฝันของผู้เป็นสามีให้สำเร็จ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000120544 • #MGROnline #สจโต้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อัจฉริยะ" เมีย "ส.จ.โต้ง" ร้องกองปราบรับโอนสำนวนคดีคลี่ปมการตาย พร้อมขอกำลังคุ้มครองพยาน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อ "โกทร" อยู่เบื้องหลังบงการฆ่า

    วันนี้ (13 ธ.ค. ) ที่ กองปราบปราม น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมนหรือ ส.จ.จอย ภรรยา นาย​ชัยเมศร์​ สิทธิสนิทพงศ์​ หรือ ส.จ.โต้งที่ถูกยิงเสียชีวิต และ บุตรชาย พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือ ทนายเอี้ยง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ขอให้รับโอนสำนวนคดีการเสียชีวิตของ นายชัยเมศร์ หรือ ส.จ.โต้ง ที่ถูกยิงตายในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี มาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจกองปราบปรามเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จ.ปราจีนบุรี

    นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า อดีตตนเคยเป็นทนายความให้กับ ส.จ.โต้ง หลังเกิดเหตุ น.ส.ณภาภัช หรือ ส.จ.จอย ได้ติดต่อมาหา เพราะเขาอยู่ในพื้นที่ เป็นกังวลเรื่องความปลอดภัย และ เกรงว่าคดีจะโดนแทรกแซงทางจากผู้มีอิทธิพล ไม่ใช่ว่าตำรวจท้องที่ทำงานไม่ได้ ซึ่งเราก็ชื่นชมเพราะหลังเกิดเหตุสามารถจับกุมคนร้ายได้ทันควัน แต่เนื่องจากคดีนี้มีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีความคุ้นเคยกับตำรวจท้องที่ ทาง น.ส.ณภาภัช จึงอยากให้กองปราบที่เป็นหน่วยงานจากส่วนกลางรับโอนสำนวนคดีมาดำเนินการแทน ผิดถูกว่าไปตามข้อเท็จจริง ใครที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินคดีให้หมด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000119808

    #MGROnline #สจโต้ง #สจปราจีนบุรี
    "อัจฉริยะ" เมีย "ส.จ.โต้ง" ร้องกองปราบรับโอนสำนวนคดีคลี่ปมการตาย พร้อมขอกำลังคุ้มครองพยาน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อ "โกทร" อยู่เบื้องหลังบงการฆ่า วันนี้ (13 ธ.ค. ) ที่ กองปราบปราม น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมนหรือ ส.จ.จอย ภรรยา นาย​ชัยเมศร์​ สิทธิสนิทพงศ์​ หรือ ส.จ.โต้งที่ถูกยิงเสียชีวิต และ บุตรชาย พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือ ทนายเอี้ยง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ขอให้รับโอนสำนวนคดีการเสียชีวิตของ นายชัยเมศร์ หรือ ส.จ.โต้ง ที่ถูกยิงตายในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี มาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจกองปราบปรามเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จ.ปราจีนบุรี นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า อดีตตนเคยเป็นทนายความให้กับ ส.จ.โต้ง หลังเกิดเหตุ น.ส.ณภาภัช หรือ ส.จ.จอย ได้ติดต่อมาหา เพราะเขาอยู่ในพื้นที่ เป็นกังวลเรื่องความปลอดภัย และ เกรงว่าคดีจะโดนแทรกแซงทางจากผู้มีอิทธิพล ไม่ใช่ว่าตำรวจท้องที่ทำงานไม่ได้ ซึ่งเราก็ชื่นชมเพราะหลังเกิดเหตุสามารถจับกุมคนร้ายได้ทันควัน แต่เนื่องจากคดีนี้มีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีความคุ้นเคยกับตำรวจท้องที่ ทาง น.ส.ณภาภัช จึงอยากให้กองปราบที่เป็นหน่วยงานจากส่วนกลางรับโอนสำนวนคดีมาดำเนินการแทน ผิดถูกว่าไปตามข้อเท็จจริง ใครที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินคดีให้หมด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000119808 • #MGROnline #สจโต้ง #สจปราจีนบุรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปราจีนบุรี -​ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ลงพื้นที่ปราจีนบุรี ติดตามการคลี่คลายคดียิง ส.จ.โต้ง เสียชีวิต ย้ำตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพราะเหตุใดจึงเสียทั้งเมือง เช่นเดียวกับกล้องวงจรปิดภายในบ้านเกิดเหตุ ส่วนกรณีมีตำรวจเกี่ยวข้องอยู่ระหว่างสอบสวน

    เมื่อเวลา 9.30 น.วันนี้ (13 ธ.ค.)​ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่ลานจอด สภ.เมืองปราจีนบุรี พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงแนวทางในการคลี่คลายคดียิง ส.จ.โต้ง จนเสียชีวิตในบ้านพักของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ บุตรสาว นายสุนทร วิ​ลา​วัลย์​ ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันว่า ในส่วนของกล้องวงจรปิดที่เสียทั้งเมืองโดยเฉพาะกล้องภายในบ้านจุดเกิดเหตุนั้น จะต้องส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานทำการค้นหา

    "เรามีข้อมูลอยู่พอสมควร และต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่ากล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่จะบอกได้ว่ามือยิงคือคนในบ้านหรือคนนอกบ้าน อีกทั้งยังต้องพิสูจน์ทราบเขม่าดินปืนที่ได้มีการเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว ส่วนกรณีที่ว่าผู้ตายไม่มีอาวุธเข้าไป แต่คนที่ติดตามมีตำรวจอยู่ด้วยนั้น ต้องสอบสวนอย่างละเอียดด้วยเช่นกัน"

    จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบร่องรอยหลักฐานที่บ้าน "โกทร" หรือนายสุนทร วิลาลัลย์ ก่อนจะเดินทางกลับมาที่ สภ.เมืองจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อทำการสอบสวนผู้ต้องหาอีกครั้ง ท่ามกลางกองทัพผู้สื่อข่าวจากสำนักต่างๆ ที่มารอทำข่าวกันเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับญาติของ "โกทร" ที่เดินทางมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000119673

    #MGROnline #สจโต้ง
    ปราจีนบุรี -​ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ลงพื้นที่ปราจีนบุรี ติดตามการคลี่คลายคดียิง ส.จ.โต้ง เสียชีวิต ย้ำตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพราะเหตุใดจึงเสียทั้งเมือง เช่นเดียวกับกล้องวงจรปิดภายในบ้านเกิดเหตุ ส่วนกรณีมีตำรวจเกี่ยวข้องอยู่ระหว่างสอบสวน • เมื่อเวลา 9.30 น.วันนี้ (13 ธ.ค.)​ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่ลานจอด สภ.เมืองปราจีนบุรี พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงแนวทางในการคลี่คลายคดียิง ส.จ.โต้ง จนเสียชีวิตในบ้านพักของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ บุตรสาว นายสุนทร วิ​ลา​วัลย์​ ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันว่า ในส่วนของกล้องวงจรปิดที่เสียทั้งเมืองโดยเฉพาะกล้องภายในบ้านจุดเกิดเหตุนั้น จะต้องส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานทำการค้นหา • "เรามีข้อมูลอยู่พอสมควร และต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่ากล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่จะบอกได้ว่ามือยิงคือคนในบ้านหรือคนนอกบ้าน อีกทั้งยังต้องพิสูจน์ทราบเขม่าดินปืนที่ได้มีการเก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว ส่วนกรณีที่ว่าผู้ตายไม่มีอาวุธเข้าไป แต่คนที่ติดตามมีตำรวจอยู่ด้วยนั้น ต้องสอบสวนอย่างละเอียดด้วยเช่นกัน" • จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบร่องรอยหลักฐานที่บ้าน "โกทร" หรือนายสุนทร วิลาลัลย์ ก่อนจะเดินทางกลับมาที่ สภ.เมืองจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อทำการสอบสวนผู้ต้องหาอีกครั้ง ท่ามกลางกองทัพผู้สื่อข่าวจากสำนักต่างๆ ที่มารอทำข่าวกันเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับญาติของ "โกทร" ที่เดินทางมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000119673 • #MGROnline #สจโต้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลชันสูตรศพ “สจ.โต้ง” พบกระสุนปืนกว่า 10 นัด เจาะเข้าที่กะโหลก หน้าอก และบริเวณร่างกาย กระสุนทำลายอวัยวะทำให้เสียชีวิต ชี้ ถูกยิงระยะประชิด ไม่ทราบปมทะเลาะวิวาท

    วันนี้ (12 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.20 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ น.ส.ณภาภัช อัญชาสาณิชมน หรือ สจ.จอย ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี ภรรยา นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ได้นำเอกสารเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับศพสามีกลับไปบำเพ็ญกุศล

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ น.ส.ณภาภัช ได้เดินทางเข้าไปดูศพของสามี เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ สามีเคยทะเลาะกันมาก่อนหรือไม่ น.ส.ณภาภัช ตอบว่า ไม่ทราบ

    เมื่อถามว่า ตอนสามีไปบ้านของนายสุนทร รู้หรือไม่ น.ส.ณภาภัช ตอบว่า รู้ว่าไปเรื่องธุระเท่านั้น

    ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผลชันสูตรศพ สจ.โต้ง พบกระสุนปืนมากกว่า 10 นัด เจาะเข้าที่กะโหลกและหน้าอกและบริเวณร่างกาย ในลักษณะถูกยิงระยะประชิด เป็นเหตุให้กระสุนปืนทำลายอวัยวะ เป็นเหตุให้เสียชีวิต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000119349

    #MGROnline #สจโต้ง
    ผลชันสูตรศพ “สจ.โต้ง” พบกระสุนปืนกว่า 10 นัด เจาะเข้าที่กะโหลก หน้าอก และบริเวณร่างกาย กระสุนทำลายอวัยวะทำให้เสียชีวิต ชี้ ถูกยิงระยะประชิด ไม่ทราบปมทะเลาะวิวาท • วันนี้ (12 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.20 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ น.ส.ณภาภัช อัญชาสาณิชมน หรือ สจ.จอย ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี ภรรยา นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ได้นำเอกสารเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับศพสามีกลับไปบำเพ็ญกุศล • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ น.ส.ณภาภัช ได้เดินทางเข้าไปดูศพของสามี เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ สามีเคยทะเลาะกันมาก่อนหรือไม่ น.ส.ณภาภัช ตอบว่า ไม่ทราบ • เมื่อถามว่า ตอนสามีไปบ้านของนายสุนทร รู้หรือไม่ น.ส.ณภาภัช ตอบว่า รู้ว่าไปเรื่องธุระเท่านั้น • ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผลชันสูตรศพ สจ.โต้ง พบกระสุนปืนมากกว่า 10 นัด เจาะเข้าที่กะโหลกและหน้าอกและบริเวณร่างกาย ในลักษณะถูกยิงระยะประชิด เป็นเหตุให้กระสุนปืนทำลายอวัยวะ เป็นเหตุให้เสียชีวิต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000119349 • #MGROnline #สจโต้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิเสธไม่ได้ว่า สจ.โต้ง เป็นเจ้าพ่อวงการมวย ยุคดิจิทัล ซึ่งอาจเทียบเคียงได้กับ เจ้าพ่อวงการมวยในอดีต อย่างแคล้ว ธนิกุล หรือเฮียเหลา ซึ่งพบจุดจบ ในลักษณะเดียวกัน

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #สจโต้ง #ขาใหญ่ปราจีนบุรี #เจ้าพ่อวงการมวย
    ปฏิเสธไม่ได้ว่า สจ.โต้ง เป็นเจ้าพ่อวงการมวย ยุคดิจิทัล ซึ่งอาจเทียบเคียงได้กับ เจ้าพ่อวงการมวยในอดีต อย่างแคล้ว ธนิกุล หรือเฮียเหลา ซึ่งพบจุดจบ ในลักษณะเดียวกัน #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #สจโต้ง #ขาใหญ่ปราจีนบุรี #เจ้าพ่อวงการมวย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 681 มุมมอง 34 0 รีวิว