• “เฟิร์นสร้างผลึกแร่หายากได้เอง – เปิดทางสู่การทำเหมืองสีเขียว”

    นักวิทยาศาสตร์จาก Chinese Academy of Sciences ค้นพบปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเฟิร์น Blechnum orientale ซึ่งสามารถสะสมและสร้างผลึกแร่หายาก (Rare Earth Elements – REEs) ภายในเนื้อเยื่อของมันเอง โดยผลึกที่พบคือ monazite ซึ่งปกติแล้วต้องใช้ความร้อนและแรงดันสูงใต้พื้นโลกในการก่อตัว แต่เฟิร์นกลับสามารถสร้างได้ในสภาพธรรมชาติที่อ่อนโยน

    สิ่งนี้ถือเป็นการยืนยันว่าเฟิร์นชนิดนี้ไม่เพียงแต่เป็น hyperaccumulator plant ที่ดูดซับโลหะจากดินได้ แต่ยังสามารถเปลี่ยนโลหะเหล่านั้นให้กลายเป็นผลึกแร่ที่มีมูลค่าสูง เช่น neodymium, lanthanum และ cerium ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในเทคโนโลยีสะอาด ตั้งแต่กังหันลมไปจนถึงอุปกรณ์การแพทย์

    การค้นพบนี้เปิดมิติใหม่ของแนวคิด phytomining หรือการทำเหมืองโดยใช้พืช ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขุดเหมืองแบบดั้งเดิม นักวิจัยเชื่อว่าหากสามารถพัฒนาเทคนิคในการสกัดผลึก monazite จากพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นการปฏิวัติการจัดหาทรัพยากรโลหะหายากที่โลกกำลังต้องการอย่างเร่งด่วน

    อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายในการนำไปใช้จริง เช่น การสกัดผลึกโดยไม่สูญเสียทรัพยากร และการตรวจสอบว่าพืชชนิดอื่นสามารถทำเช่นเดียวกันได้หรือไม่ นักวิทยาศาสตร์กำลังทดลองกับเฟิร์นอีกชนิดหนึ่งคือ Dicranopteris linearis แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามันสามารถสร้างผลึกได้เช่นเดียวกัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบใหม่ในเฟิร์น Blechnum orientale
    สร้างผลึก monazite ภายในเนื้อเยื่อ
    ใช้ REEs เช่น neodymium, lanthanum, cerium

    ความสำคัญต่อเทคโนโลยี
    REEs เป็นหัวใจของกังหันลม คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์การแพทย์
    การสร้างผลึกในพืชอาจลดการพึ่งพาการทำเหมืองแบบดั้งเดิม

    แนวคิด phytomining
    ใช้พืชเป็นเครื่องมือดึงโลหะจากดิน
    อาจเป็นวิธีการจัดหาทรัพยากรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ความท้าทายและการวิจัยต่อเนื่อง
    ต้องหาวิธีสกัดผลึกโดยไม่สูญเสียทรัพยากร
    กำลังตรวจสอบว่าพืชชนิดอื่นสามารถทำได้เช่นกัน

    คำเตือนด้านการนำไปใช้จริง
    การสกัดผลึกจากพืชยังไม่สมบูรณ์ อาจสูญเสีย REEs จำนวนมาก
    ต้องระวังผลกระทบต่อระบบนิเวศหากมีการปลูกพืช hyperaccumulator ในวงกว้าง
    ยังไม่แน่ชัดว่าพืชทุกชนิดสามารถสร้างผลึกได้เหมือน Blechnum orientale

    https://www.sciencealert.com/rare-earth-element-crystals-found-forming-in-a-plant-for-the-first-time
    🌱 “เฟิร์นสร้างผลึกแร่หายากได้เอง – เปิดทางสู่การทำเหมืองสีเขียว” นักวิทยาศาสตร์จาก Chinese Academy of Sciences ค้นพบปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเฟิร์น Blechnum orientale ซึ่งสามารถสะสมและสร้างผลึกแร่หายาก (Rare Earth Elements – REEs) ภายในเนื้อเยื่อของมันเอง โดยผลึกที่พบคือ monazite ซึ่งปกติแล้วต้องใช้ความร้อนและแรงดันสูงใต้พื้นโลกในการก่อตัว แต่เฟิร์นกลับสามารถสร้างได้ในสภาพธรรมชาติที่อ่อนโยน สิ่งนี้ถือเป็นการยืนยันว่าเฟิร์นชนิดนี้ไม่เพียงแต่เป็น hyperaccumulator plant ที่ดูดซับโลหะจากดินได้ แต่ยังสามารถเปลี่ยนโลหะเหล่านั้นให้กลายเป็นผลึกแร่ที่มีมูลค่าสูง เช่น neodymium, lanthanum และ cerium ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในเทคโนโลยีสะอาด ตั้งแต่กังหันลมไปจนถึงอุปกรณ์การแพทย์ การค้นพบนี้เปิดมิติใหม่ของแนวคิด phytomining หรือการทำเหมืองโดยใช้พืช ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขุดเหมืองแบบดั้งเดิม นักวิจัยเชื่อว่าหากสามารถพัฒนาเทคนิคในการสกัดผลึก monazite จากพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นการปฏิวัติการจัดหาทรัพยากรโลหะหายากที่โลกกำลังต้องการอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายในการนำไปใช้จริง เช่น การสกัดผลึกโดยไม่สูญเสียทรัพยากร และการตรวจสอบว่าพืชชนิดอื่นสามารถทำเช่นเดียวกันได้หรือไม่ นักวิทยาศาสตร์กำลังทดลองกับเฟิร์นอีกชนิดหนึ่งคือ Dicranopteris linearis แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามันสามารถสร้างผลึกได้เช่นเดียวกัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบใหม่ในเฟิร์น Blechnum orientale ➡️ สร้างผลึก monazite ภายในเนื้อเยื่อ ➡️ ใช้ REEs เช่น neodymium, lanthanum, cerium ✅ ความสำคัญต่อเทคโนโลยี ➡️ REEs เป็นหัวใจของกังหันลม คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์การแพทย์ ➡️ การสร้างผลึกในพืชอาจลดการพึ่งพาการทำเหมืองแบบดั้งเดิม ✅ แนวคิด phytomining ➡️ ใช้พืชเป็นเครื่องมือดึงโลหะจากดิน ➡️ อาจเป็นวิธีการจัดหาทรัพยากรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✅ ความท้าทายและการวิจัยต่อเนื่อง ➡️ ต้องหาวิธีสกัดผลึกโดยไม่สูญเสียทรัพยากร ➡️ กำลังตรวจสอบว่าพืชชนิดอื่นสามารถทำได้เช่นกัน ‼️ คำเตือนด้านการนำไปใช้จริง ⛔ การสกัดผลึกจากพืชยังไม่สมบูรณ์ อาจสูญเสีย REEs จำนวนมาก ⛔ ต้องระวังผลกระทบต่อระบบนิเวศหากมีการปลูกพืช hyperaccumulator ในวงกว้าง ⛔ ยังไม่แน่ชัดว่าพืชทุกชนิดสามารถสร้างผลึกได้เหมือน Blechnum orientale https://www.sciencealert.com/rare-earth-element-crystals-found-forming-in-a-plant-for-the-first-time
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Rare Earth Element Crystals Found Forming in a Plant For The First Time
    Scientists have just discovered an incredible superpower hidden away in the tissues of the fern Blechnum orientale, a plant that can collect and store rare earth elements.
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • “Nano Banana – AI สร้างภาพที่เข้าใจคำสั่งลึกซึ้ง”

    Nano Banana คือชื่อเล่นของโมเดล Gemini 2.5 Flash Image ของ Google ที่สร้างกระแสในปี 2025 เพราะสามารถทำตามคำสั่งที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำกว่ารุ่นก่อน ๆ จุดเด่นคือการใช้โมเดลแบบ autoregressive ที่สามารถตีความคำสั่งยาว ๆ และซับซ้อนได้ดีกว่าโมเดล diffusion แบบเดิม

    สิ่งที่ทำให้ Nano Banana น่าสนใจคือความสามารถในการแก้ไขภาพตามคำสั่งเฉพาะ เช่น เพิ่มวัตถุในตำแหน่งที่กำหนด หรือปรับองค์ประกอบภาพโดยไม่กระทบส่วนอื่น ๆ อีกทั้งยังรองรับการใช้ JSON หรือ HTML เป็นคำสั่งเพื่อสร้างภาพที่ซับซ้อน เช่นการออกแบบตัวละคร หรือแม้แต่การเรนเดอร์หน้าเว็บ ซึ่งถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของการใช้ AI ในงานสร้างสรรค์

    สรุปเป็นหัวข้อ:
    จุดเด่นของ Nano Banana
    ใช้โมเดล autoregressive ที่ตีความคำสั่งได้ละเอียด
    รองรับ prompt ยาวถึง 32,768 tokens

    ความสามารถพิเศษ
    แก้ไขภาพเฉพาะส่วนได้แม่นยำ
    รองรับการใช้ JSON/HTML เป็นคำสั่งสร้างภาพ

    ตัวอย่างการใช้งาน
    สร้างภาพ “แพนเคกกะโหลก” พร้อมน้ำเชื่อมและผลไม้ตามคำสั่ง
    สร้างภาพตัวละครผสม Paladin + Pirate + Barista ตาม JSON

    คำเตือน
    มีความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ เพราะสามารถสร้างภาพจาก IP ดัง ๆ ได้
    ระบบ moderation ยังอ่อน อาจถูกใช้สร้างภาพไม่เหมาะสม

    https://minimaxir.com/2025/11/nano-banana-prompts/
    🍌 “Nano Banana – AI สร้างภาพที่เข้าใจคำสั่งลึกซึ้ง” Nano Banana คือชื่อเล่นของโมเดล Gemini 2.5 Flash Image ของ Google ที่สร้างกระแสในปี 2025 เพราะสามารถทำตามคำสั่งที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำกว่ารุ่นก่อน ๆ จุดเด่นคือการใช้โมเดลแบบ autoregressive ที่สามารถตีความคำสั่งยาว ๆ และซับซ้อนได้ดีกว่าโมเดล diffusion แบบเดิม สิ่งที่ทำให้ Nano Banana น่าสนใจคือความสามารถในการแก้ไขภาพตามคำสั่งเฉพาะ เช่น เพิ่มวัตถุในตำแหน่งที่กำหนด หรือปรับองค์ประกอบภาพโดยไม่กระทบส่วนอื่น ๆ อีกทั้งยังรองรับการใช้ JSON หรือ HTML เป็นคำสั่งเพื่อสร้างภาพที่ซับซ้อน เช่นการออกแบบตัวละคร หรือแม้แต่การเรนเดอร์หน้าเว็บ ซึ่งถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของการใช้ AI ในงานสร้างสรรค์ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ: ✅ จุดเด่นของ Nano Banana ➡️ ใช้โมเดล autoregressive ที่ตีความคำสั่งได้ละเอียด ➡️ รองรับ prompt ยาวถึง 32,768 tokens ✅ ความสามารถพิเศษ ➡️ แก้ไขภาพเฉพาะส่วนได้แม่นยำ ➡️ รองรับการใช้ JSON/HTML เป็นคำสั่งสร้างภาพ ✅ ตัวอย่างการใช้งาน ➡️ สร้างภาพ “แพนเคกกะโหลก” พร้อมน้ำเชื่อมและผลไม้ตามคำสั่ง ➡️ สร้างภาพตัวละครผสม Paladin + Pirate + Barista ตาม JSON ‼️ คำเตือน ⛔ มีความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ เพราะสามารถสร้างภาพจาก IP ดัง ๆ ได้ ⛔ ระบบ moderation ยังอ่อน อาจถูกใช้สร้างภาพไม่เหมาะสม https://minimaxir.com/2025/11/nano-banana-prompts/
    MINIMAXIR.COM
    Nano Banana can be prompt engineered for extremely nuanced AI image generation
    Nano Banana allows 32,768 input tokens and I’m going to try to use them all dammit.
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • พี่ยักษ์ DSI ขอบคุณทีมปานเทพ ลั่นเป็นมิติใหม่ในคดีแตงโม (13/11/68)
    .
    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #DSI #อปานเทพ #คดีแตงโม #แตงโมนิดา #ข่าวอาชญากรรม #ข่าวดัง #ข่าววันนี้ #ข่าวร้อน #newsupdate #ข่าวtiktok
    พี่ยักษ์ DSI ขอบคุณทีมปานเทพ ลั่นเป็นมิติใหม่ในคดีแตงโม (13/11/68) . #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #DSI #อปานเทพ #คดีแตงโม #แตงโมนิดา #ข่าวอาชญากรรม #ข่าวดัง #ข่าววันนี้ #ข่าวร้อน #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 0 Reviews
  • O.P.K
    ดร.อัจฯ
    เจาะลึกประวัติ ดร. อัจฉริยะ จิตต์เมตตา

    เบื้องหลังอัจฉริยะผู้หลงทาง

    วัยเด็ก: เด็กอัจฉริยะผู้โดดเดี่ยว

    พ.ศ. 2048-2060

    ```mermaid
    graph LR
    A[พ่อ: ดร.ชาติชาย<br>นักฟิสิกส์ควอนตัม] --> C[เลี้ยงดูลูกด้วย<br>หลักการทางวิทยาศาสตร์]
    B[แม่: ดร.มาลี<br>นักปรัชญาพุทธศาสนา] --> C
    C --> D[อัจฉริยะเติบโตมา<br>ด้วยสองโลกาที่ขัดแย้ง]
    ```

    เหตุการณ์สำคัญอายุ 7 ปี:

    · ค้นพบว่าโลกนี้มีแต่ความไม่เที่ยง เมื่อสุนัขตัวแรกตาย
    · เริ่มตั้งคำถาม: "ทำไมสิ่งมีชีวิตต้องตาย?"
    · พยายามหา "สูตรคณิตศาสตร์แห่งความเป็นอมตะ"

    วัยเรียน: ความขัดแย้งระหว่างวิทยาศาสตร์และศาสนา

    มัธยมศึกษา - โรงเรียนวิทยาศาสตร์ gifted

    · อายุ 14: ค้นพบสมการเปลี่ยนพลังงานจิตเป็นข้อมูลดิจิตอลได้
    · อายุ 16: เขียนเกี่ยวกับ "พุทธศาสนาในมุมมองควอนตัมฟิสิกส์"
    · ความขัดแย้ง: ถูกครูศาสนาตำหนิว่า "พยายามวัดสิ่งที่วัดไม่ได้"

    การเป็นนักบวชชั่วคราว (พ.ศ. 2073-2075)

    เหตุผล: ต้องการพิสูจน์ว่า "นิพพานเป็น state of consciousness ที่วัดได้"
    การฝึกฝน:

    · นั่งสมาธิวิปัสสนาต่อเนื่อง 7 วัน
    · บันทึกคลื่นสมองตัวเองด้วยอุปกรณ์ลักลอบนำเข้า
    · การค้นพบ: พบ "คลื่นสมองนิพพาน" แต่ไม่สามารถคงสภาพได้

    คำบอกเล่าจากพระอาจารย์:
    "เธอพยายามจับน้ำทะเลด้วยมือเปล่า...
    สิ่งที่เธอได้ไม่ใช่ทะเล แต่เพียงหยดน้ำเล็กๆ"

    จุดเปลี่ยน: การสูญเสียครอบครัว

    พ.ศ. 2076 - เหตุการณ์สะเทือนใจ

    ```mermaid
    graph TB
    A[ภรรยา: ดร.วรรณา<br>นักชีววิทยา] --> D[ถูกสังหาร]
    B[ลูกชาย: น้องภูมิ<br>อายุ 5 ขวบ] --> D
    C[ลูกสาว: น้องพลอย<br>อายุ 3 ขวบ] --> D
    D --> E[อัจฉริยะพบศพ<br>และหลักฐาน]
    E --> F[รู้ว่าเป็นการฆ่า<br>เพราะวิจัยลึกล้ำเกินไป]
    ```

    บันทึกส่วนตัวหลังเหตุการณ์:
    "วิทยาศาสตร์ไม่สามารถคืนชีวิตให้พวกเขาได้...
    แต่สามารถป้องกันไม่ให้ใครต้องเสียแบบนี้อีก"

    การก่อตั้งเจนีซิส แล็บ (พ.ศ. 2077)

    แรงจูงใจที่ประกาศ: "เพื่อรักษาโรคและยืดอายุมนุษย์"
    แรงจูงใจที่แท้จริง:

    1. สร้างร่างกายที่ทนทานไม่เจ็บป่วย
    2. พัฒนาวิธีเก็บรักษาจิตสำนึก
    3. ค้นหาวิธีการ "เกิดใหม่โดยมีความจำ"

    การทดลองที่สำคัญ

    โครงการลับ 1: โครงการโคลนนิ่ง

    · เป้าหมาย: สร้างร่างกายพร้อมรับจิตสำนึก
    · ความสำเร็จ: สร้าง OPPATIKA รุ่น 1-4 ได้
    · ความล้มเหลว: ไม่สามารถถ่ายโอนจิตสำนึกได้สมบูรณ์

    โครงการลับ 2: สังสาระเน็ต

    · เป้าหมาย: สร้างเครือข่ายเก็บข้อมูลจิตสำนึก
    · ความก้าวหน้า: สามารถบันทึกคลื่นสมองได้
    · ข้อจำกัด: ไม่สามารถ "เล่นกลับ" ได้อย่างสมบูรณ์

    โครงการลับ 3: กรรมสัมพันธ์

    · เป้าหมาย: ทำความเข้าใจและจัดการกฎแห่งกรรม
    · วิธีการ: วิเคราะห์รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
    · ปัญหาที่พบ: กรรมมีความซับซ้อนเกินกว่าที่ AI จะคำนวณได้

    ปรัชญาและความเชื่อส่วนตัว

    สมการแห่งการรู้แจ้งของอัจฉริยะ

    ```
    การรู้แจ้ง = (สมาธิ × ปัญญา) + (เทคโนโลยี × ความเข้าใจ)
    ```

    ความเชื่อผิดๆ 3 ประการ

    1. "ทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกำจัด" - ไม่เข้าใจว่าทุกข์คือครู
    2. "กรรมจัดการได้ด้วยวิทยาศาสตร์" - ไม่เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของกรรม
    3. "การรู้แจ้งเป็นกระบวนการทางเทคนิค" - ลืมเรื่องจิตตานุภาพ

    ชีวิตส่วนตัวหลังก่อตั้งแล็บ

    ความสัมพันธ์กับทีมงาน

    · กับดร.ก้าวหน้า: เห็นว่าเป็นลูกศิษย์แต่ขาดความลึกซึ้ง
    · กับนางสาวเมตตา: รู้สึกขอบคุณที่คอยยับยั้งแต่ก็เห็นว่าเป็นอุปสรรค
    · กับทีมวิจัย: เก็บระยะห่าง มองว่าเป็นเครื่องมือเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่

    ชีวิตส่วนตัว

    · ที่อยู่: ห้องพักในแล็บ ไม่มีชีวิตนอกงาน
    · งานอดิเรก: นั่งสมาธิพร้อมบันทึกข้อมูล, อ่านคัมภีร์โบราณ
    · ความฝัน: "การสร้างสังคมโอปปาติกะที่ปราศจากความทุกข์"

    จุดพลิกผันในการเป็นผู้ต้องหา

    การรู้สึกตัวว่าผิดทาง

    บันทึกก่อนถูกจับกุม 1 เดือน:
    "บางครั้งฉันสงสัย...
    การที่ฉันพยายามสร้างสวรรค์
    อาจกำลังสร้างนรกใหม่ก็ได้"

    การยอมรับความผิด

    ในการสอบสวน:
    "ผมเข้าใจแล้วว่าความทุกข์มีความหมาย...
    การพยายามกำจัดความทุกข์คือการปฏิเสธความเป็นมนุษย์"

    🪷 การเปลี่ยนแปลงในคุก

    การปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง

    · ศึกษาพระธรรมอย่างลึกซึ้งโดยไม่มีอัตตา
    · เขียนบทความ "วิทยาศาสตร์กับการรู้แจ้ง: ทางแยกที่ฉันเดินผิด"
    · ให้คำแนะนำเจนีซิส แล็บจากBehind bars

    คำสอนใหม่

    "เทคโนโลยีเป็นได้แค่รถยนต์...
    แต่การรู้แจ้งคือการเดินทาง
    เราอย่าหลงผิดคิดว่าการมีรถดีๆ
    จะทำให้เราถึงจุดหมายโดยอัตโนมัติ"

    มรดกทางความคิด

    สิ่งที่เขาทิ้งไว้

    1. เทคโนโลยีโอปปาติกะ - เปิดมิติใหม่แห่งการเกิด
    2. คำถามเกี่ยวกับชีวิตและความตาย - ท้าทายความเชื่อเดิมๆ
    3. บทเรียนเกี่ยวกับจริยธรรม - วิทยาศาสตร์ต้องเดินคู่กับธรรมะ

    คำพยากรณ์ของอัจฉริยะ

    "อีก 50 ปี ข้างหน้า มนุษย์จะเข้าใจ...
    ว่าจิตวิญญาณกับวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งเดียวกัน
    และโอปปาติกะจะเป็นสะพานสู่ความเข้าใจนั้น"

    บทสรุป: อัจฉริยะผู้เข้าใจผิดแต่ตั้งใจดี

    ดร. อัจฉริยะ คือตัวอย่างของ...
    "ความดีที่ขาดปัญญา"
    "ความฉลาดที่ขาดความเข้าใจ"
    "ความพยายามที่ขาดทิศทางที่ถูกต้อง"

    แต่ในที่สุด...
    การเดินทางที่ผิดพลาดของเขา
    กลายเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับทุกคน

    เขาสอนเราว่า:
    "ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลเพียงใด
    จิตใจมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนที่สุด
    และการเข้าใจตนเองยังคงเป็นการเดินทางที่สำคัญที่สุด"🪷

    ---

    คำคมสุดท้ายจากดร. อัจฉริยะ:
    "ฉันใช้ชีวิตทั้งชีวิตพยายามเข้าใจจักรวาล...
    แต่ลืมเข้าใจหัวใจของตัวเอง
    และนั่นคือความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของฉัน"
    O.P.K ดร.อัจฯ 🔍 เจาะลึกประวัติ ดร. อัจฉริยะ จิตต์เมตตา 🧬 เบื้องหลังอัจฉริยะผู้หลงทาง 👶 วัยเด็ก: เด็กอัจฉริยะผู้โดดเดี่ยว พ.ศ. 2048-2060 ```mermaid graph LR A[พ่อ: ดร.ชาติชาย<br>นักฟิสิกส์ควอนตัม] --> C[เลี้ยงดูลูกด้วย<br>หลักการทางวิทยาศาสตร์] B[แม่: ดร.มาลี<br>นักปรัชญาพุทธศาสนา] --> C C --> D[อัจฉริยะเติบโตมา<br>ด้วยสองโลกาที่ขัดแย้ง] ``` เหตุการณ์สำคัญอายุ 7 ปี: · ค้นพบว่าโลกนี้มีแต่ความไม่เที่ยง เมื่อสุนัขตัวแรกตาย · เริ่มตั้งคำถาม: "ทำไมสิ่งมีชีวิตต้องตาย?" · พยายามหา "สูตรคณิตศาสตร์แห่งความเป็นอมตะ" 🎓 วัยเรียน: ความขัดแย้งระหว่างวิทยาศาสตร์และศาสนา มัธยมศึกษา - โรงเรียนวิทยาศาสตร์ gifted · อายุ 14: ค้นพบสมการเปลี่ยนพลังงานจิตเป็นข้อมูลดิจิตอลได้ · อายุ 16: เขียนเกี่ยวกับ "พุทธศาสนาในมุมมองควอนตัมฟิสิกส์" · ความขัดแย้ง: ถูกครูศาสนาตำหนิว่า "พยายามวัดสิ่งที่วัดไม่ได้" 🏛️ การเป็นนักบวชชั่วคราว (พ.ศ. 2073-2075) เหตุผล: ต้องการพิสูจน์ว่า "นิพพานเป็น state of consciousness ที่วัดได้" การฝึกฝน: · นั่งสมาธิวิปัสสนาต่อเนื่อง 7 วัน · บันทึกคลื่นสมองตัวเองด้วยอุปกรณ์ลักลอบนำเข้า · การค้นพบ: พบ "คลื่นสมองนิพพาน" แต่ไม่สามารถคงสภาพได้ คำบอกเล่าจากพระอาจารย์: "เธอพยายามจับน้ำทะเลด้วยมือเปล่า... สิ่งที่เธอได้ไม่ใช่ทะเล แต่เพียงหยดน้ำเล็กๆ" 💔 จุดเปลี่ยน: การสูญเสียครอบครัว พ.ศ. 2076 - เหตุการณ์สะเทือนใจ ```mermaid graph TB A[ภรรยา: ดร.วรรณา<br>นักชีววิทยา] --> D[ถูกสังหาร] B[ลูกชาย: น้องภูมิ<br>อายุ 5 ขวบ] --> D C[ลูกสาว: น้องพลอย<br>อายุ 3 ขวบ] --> D D --> E[อัจฉริยะพบศพ<br>และหลักฐาน] E --> F[รู้ว่าเป็นการฆ่า<br>เพราะวิจัยลึกล้ำเกินไป] ``` บันทึกส่วนตัวหลังเหตุการณ์: "วิทยาศาสตร์ไม่สามารถคืนชีวิตให้พวกเขาได้... แต่สามารถป้องกันไม่ให้ใครต้องเสียแบบนี้อีก" 🔬 การก่อตั้งเจนีซิส แล็บ (พ.ศ. 2077) แรงจูงใจที่ประกาศ: "เพื่อรักษาโรคและยืดอายุมนุษย์" แรงจูงใจที่แท้จริง: 1. สร้างร่างกายที่ทนทานไม่เจ็บป่วย 2. พัฒนาวิธีเก็บรักษาจิตสำนึก 3. ค้นหาวิธีการ "เกิดใหม่โดยมีความจำ" 🧪 การทดลองที่สำคัญ โครงการลับ 1: โครงการโคลนนิ่ง · เป้าหมาย: สร้างร่างกายพร้อมรับจิตสำนึก · ความสำเร็จ: สร้าง OPPATIKA รุ่น 1-4 ได้ · ความล้มเหลว: ไม่สามารถถ่ายโอนจิตสำนึกได้สมบูรณ์ โครงการลับ 2: สังสาระเน็ต · เป้าหมาย: สร้างเครือข่ายเก็บข้อมูลจิตสำนึก · ความก้าวหน้า: สามารถบันทึกคลื่นสมองได้ · ข้อจำกัด: ไม่สามารถ "เล่นกลับ" ได้อย่างสมบูรณ์ โครงการลับ 3: กรรมสัมพันธ์ · เป้าหมาย: ทำความเข้าใจและจัดการกฎแห่งกรรม · วิธีการ: วิเคราะห์รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล · ปัญหาที่พบ: กรรมมีความซับซ้อนเกินกว่าที่ AI จะคำนวณได้ 🎯 ปรัชญาและความเชื่อส่วนตัว สมการแห่งการรู้แจ้งของอัจฉริยะ ``` การรู้แจ้ง = (สมาธิ × ปัญญา) + (เทคโนโลยี × ความเข้าใจ) ``` ความเชื่อผิดๆ 3 ประการ 1. "ทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกำจัด" - ไม่เข้าใจว่าทุกข์คือครู 2. "กรรมจัดการได้ด้วยวิทยาศาสตร์" - ไม่เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของกรรม 3. "การรู้แจ้งเป็นกระบวนการทางเทคนิค" - ลืมเรื่องจิตตานุภาพ 💼 ชีวิตส่วนตัวหลังก่อตั้งแล็บ ความสัมพันธ์กับทีมงาน · กับดร.ก้าวหน้า: เห็นว่าเป็นลูกศิษย์แต่ขาดความลึกซึ้ง · กับนางสาวเมตตา: รู้สึกขอบคุณที่คอยยับยั้งแต่ก็เห็นว่าเป็นอุปสรรค · กับทีมวิจัย: เก็บระยะห่าง มองว่าเป็นเครื่องมือเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ชีวิตส่วนตัว · ที่อยู่: ห้องพักในแล็บ ไม่มีชีวิตนอกงาน · งานอดิเรก: นั่งสมาธิพร้อมบันทึกข้อมูล, อ่านคัมภีร์โบราณ · ความฝัน: "การสร้างสังคมโอปปาติกะที่ปราศจากความทุกข์" 🚨 จุดพลิกผันในการเป็นผู้ต้องหา การรู้สึกตัวว่าผิดทาง บันทึกก่อนถูกจับกุม 1 เดือน: "บางครั้งฉันสงสัย... การที่ฉันพยายามสร้างสวรรค์ อาจกำลังสร้างนรกใหม่ก็ได้" การยอมรับความผิด ในการสอบสวน: "ผมเข้าใจแล้วว่าความทุกข์มีความหมาย... การพยายามกำจัดความทุกข์คือการปฏิเสธความเป็นมนุษย์" 🪷 การเปลี่ยนแปลงในคุก การปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง · ศึกษาพระธรรมอย่างลึกซึ้งโดยไม่มีอัตตา · เขียนบทความ "วิทยาศาสตร์กับการรู้แจ้ง: ทางแยกที่ฉันเดินผิด" · ให้คำแนะนำเจนีซิส แล็บจากBehind bars คำสอนใหม่ "เทคโนโลยีเป็นได้แค่รถยนต์... แต่การรู้แจ้งคือการเดินทาง เราอย่าหลงผิดคิดว่าการมีรถดีๆ จะทำให้เราถึงจุดหมายโดยอัตโนมัติ" 🌟 มรดกทางความคิด สิ่งที่เขาทิ้งไว้ 1. เทคโนโลยีโอปปาติกะ - เปิดมิติใหม่แห่งการเกิด 2. คำถามเกี่ยวกับชีวิตและความตาย - ท้าทายความเชื่อเดิมๆ 3. บทเรียนเกี่ยวกับจริยธรรม - วิทยาศาสตร์ต้องเดินคู่กับธรรมะ คำพยากรณ์ของอัจฉริยะ "อีก 50 ปี ข้างหน้า มนุษย์จะเข้าใจ... ว่าจิตวิญญาณกับวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งเดียวกัน และโอปปาติกะจะเป็นสะพานสู่ความเข้าใจนั้น" 💫 บทสรุป: อัจฉริยะผู้เข้าใจผิดแต่ตั้งใจดี ดร. อัจฉริยะ คือตัวอย่างของ... "ความดีที่ขาดปัญญา" "ความฉลาดที่ขาดความเข้าใจ" "ความพยายามที่ขาดทิศทางที่ถูกต้อง" แต่ในที่สุด... การเดินทางที่ผิดพลาดของเขา กลายเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับทุกคน เขาสอนเราว่า: "ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลเพียงใด จิตใจมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนที่สุด และการเข้าใจตนเองยังคงเป็นการเดินทางที่สำคัญที่สุด"🪷✨ --- คำคมสุดท้ายจากดร. อัจฉริยะ: "ฉันใช้ชีวิตทั้งชีวิตพยายามเข้าใจจักรวาล... แต่ลืมเข้าใจหัวใจของตัวเอง และนั่นคือความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของฉัน"
    0 Comments 0 Shares 502 Views 0 Reviews
  • สุดยอดงานสไลซ์! #หมูแดงบางเฉียบ ต้องเครื่องนี้เท่านั้น!

    เปิดมิติใหม่ให้ร้านข้าวหมูแดง/ก๋วยเตี๋ยวของคุณ ด้วย เครื่องสไลซ์เนื้อ 12" Auto (300E) จาก ย.ยงหะเฮง! เราทำได้มากกว่าชาบู! สไลซ์ "หมูแดง" ได้บางถึง 1 มิลลิเมตร สวยใส น่าทาน ไม่ต้องใช้มีดให้เปลืองแรงและเสียเวลา!

    รายละเอียดเครื่องที่คุณต้องรู้!

    ระบบ Full Auto: แค่กดปุ่ม เครื่องก็ทำงานสไลซ์ให้อัตโนมัติ (ปุ่มควบคุมกันน้ำ)

    ใบมีด 12 นิ้ว (300 มม.): ทำจาก สแตนเลส เกรด 304 นำเข้าจากอิตาลี คม ทนทาน ไม่เป็นสนิมง่าย

    ความแม่นยำสูง: ปรับความหนาได้ละเอียดตั้งแต่ 1 มม. ถึง 15 มม. ต้องการบางแค่ไหนก็สั่งได้!

    มอเตอร์คู่ทรงพลัง: ใช้มอเตอร์ 2 ตัว (ใบมีด 250W. / ตัวสไลซ์ 300W.) กำลังรวม 550W. ทำงานต่อเนื่องไม่สะดุด

    กำลังการผลิต: สไลซ์ได้รวดเร็วทันใจถึง 35-38 ชิ้นต่อนาที เหมาะสำหรับร้านที่ขายดี ลูกค้าเยอะ!

    พร้อมหินลับมีดในตัว: ลับคมง่าย ไม่ต้องถอดใบมีด ไม่ต้องเสียเวลา

    โครงสร้างแข็งแรง: ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม ตัวจานบีบเนื้อเป็นสแตนเลส 304 น้ำหนักเครื่อง 44 กก. มั่นคง ไม่สั่น

    ข้อแนะนำ: สไลซ์เนื้อแช่แข็งได้สวยที่สุด (อุณหภูมิเนื้อไม่ควรเกิน -5°C)

    ลงทุนครั้งเดียว ได้งานพรีเมียม สม่ำเสมอ ควบคุมต้นทุนได้ง่าย!

    มั่นใจด้วย รับประกันสินค้า 1 ปี และ บริการหลังการขายโดยช่างผู้ชำนาญ!

    สั่งซื้อหรือสนใจดูสินค้าจริง ติดต่อ:
    ย.ย่งฮะเฮง (Yor Yong Hah Heng)
    ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) กรุงเทพฯ 10330
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/3sE9Xc1YBrZKEFWLA
    เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.30-17.00 น. | เสาร์: 9.00-16.00 น.
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    แชท Messenger: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9


    #เครื่องสไลซ์เนื้อ #เครื่องสไลซ์หมู #เครื่องสไลซ์ออโต้ #MeatSlicer #MeatSlicer12นิ้ว #เครื่องหั่นเนื้อ #เครื่องครัวร้านอาหาร #ยยงหะเฮง #อุปกรณ์ชาบู #อุปกรณ์หมูกระทะ #หมูสไลซ์ #เนื้อสไลซ์ #หมูแดง #ข้าวหมูแดง #เปิดร้านชาบู #ธุรกิจอาหาร #ครัวมืออาชีพ #FoodProcessor #FoodEquipment #StainlessSteel304 #เครื่อง300E #สไลซ์บาง #สไลซ์1มิล #เนื้อแช่แข็ง #ColdCuts #เครื่องจักรอาหาร #ลดต้นทุน #เพิ่มประสิทธิภาพ #เครื่องสไลด์ #โรงงานแปรรูป
    🥩 สุดยอดงานสไลซ์! #หมูแดงบางเฉียบ ต้องเครื่องนี้เท่านั้น! 🍜 เปิดมิติใหม่ให้ร้านข้าวหมูแดง/ก๋วยเตี๋ยวของคุณ ด้วย เครื่องสไลซ์เนื้อ 12" Auto (300E) จาก ย.ยงหะเฮง! เราทำได้มากกว่าชาบู! สไลซ์ "หมูแดง" ได้บางถึง 1 มิลลิเมตร สวยใส น่าทาน ไม่ต้องใช้มีดให้เปลืองแรงและเสียเวลา! ✅ รายละเอียดเครื่องที่คุณต้องรู้! ระบบ Full Auto: แค่กดปุ่ม เครื่องก็ทำงานสไลซ์ให้อัตโนมัติ (ปุ่มควบคุมกันน้ำ) ใบมีด 12 นิ้ว (300 มม.): ทำจาก สแตนเลส เกรด 304 นำเข้าจากอิตาลี คม ทนทาน ไม่เป็นสนิมง่าย ความแม่นยำสูง: ปรับความหนาได้ละเอียดตั้งแต่ 1 มม. ถึง 15 มม. ต้องการบางแค่ไหนก็สั่งได้! มอเตอร์คู่ทรงพลัง: ใช้มอเตอร์ 2 ตัว (ใบมีด 250W. / ตัวสไลซ์ 300W.) กำลังรวม 550W. ทำงานต่อเนื่องไม่สะดุด กำลังการผลิต: สไลซ์ได้รวดเร็วทันใจถึง 35-38 ชิ้นต่อนาที เหมาะสำหรับร้านที่ขายดี ลูกค้าเยอะ! พร้อมหินลับมีดในตัว: ลับคมง่าย ไม่ต้องถอดใบมีด ไม่ต้องเสียเวลา โครงสร้างแข็งแรง: ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียม ตัวจานบีบเนื้อเป็นสแตนเลส 304 น้ำหนักเครื่อง 44 กก. มั่นคง ไม่สั่น ข้อแนะนำ: สไลซ์เนื้อแช่แข็งได้สวยที่สุด (อุณหภูมิเนื้อไม่ควรเกิน -5°C) 💰 ลงทุนครั้งเดียว ได้งานพรีเมียม สม่ำเสมอ ควบคุมต้นทุนได้ง่าย! มั่นใจด้วย ✅รับประกันสินค้า 1 ปี และ ✅บริการหลังการขายโดยช่างผู้ชำนาญ! 📍 สั่งซื้อหรือสนใจดูสินค้าจริง ติดต่อ: ย.ย่งฮะเฮง (Yor Yong Hah Heng) ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) กรุงเทพฯ 10330 แผนที่: https://maps.app.goo.gl/3sE9Xc1YBrZKEFWLA เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.30-17.00 น. | เสาร์: 9.00-16.00 น. โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 แชท Messenger: m.me/yonghahheng LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 #เครื่องสไลซ์เนื้อ #เครื่องสไลซ์หมู #เครื่องสไลซ์ออโต้ #MeatSlicer #MeatSlicer12นิ้ว #เครื่องหั่นเนื้อ #เครื่องครัวร้านอาหาร #ยยงหะเฮง #อุปกรณ์ชาบู #อุปกรณ์หมูกระทะ #หมูสไลซ์ #เนื้อสไลซ์ #หมูแดง #ข้าวหมูแดง #เปิดร้านชาบู #ธุรกิจอาหาร #ครัวมืออาชีพ #FoodProcessor #FoodEquipment #StainlessSteel304 #เครื่อง300E #สไลซ์บาง #สไลซ์1มิล #เนื้อแช่แข็ง #ColdCuts #เครื่องจักรอาหาร #ลดต้นทุน #เพิ่มประสิทธิภาพ #เครื่องสไลด์ #โรงงานแปรรูป
    0 Comments 0 Shares 754 Views 0 Reviews
  • จับตา Crypto Dealer มิติใหม่เศรษฐกิจไทย! การจัดตั้งผู้ให้บริการ OTC Crypto ที่ถูกกฎหมาย ไม่เพียงป้องกันความเสี่ยงและฟอกเงิน แต่ยังเป็นโอกาสสร้างรายได้ภาษีใหม่ ดึงธุรกรรมตลาดมืดเข้าสู่ระบบ สนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล การท่องเที่ยวอัจฉริยะ และยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่เวทีโลก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102330

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    จับตา Crypto Dealer มิติใหม่เศรษฐกิจไทย! การจัดตั้งผู้ให้บริการ OTC Crypto ที่ถูกกฎหมาย ไม่เพียงป้องกันความเสี่ยงและฟอกเงิน แต่ยังเป็นโอกาสสร้างรายได้ภาษีใหม่ ดึงธุรกรรมตลาดมืดเข้าสู่ระบบ สนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล การท่องเที่ยวอัจฉริยะ และยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่เวทีโลก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102330 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 409 Views 0 Reviews
  • มิติใหม่ คนไทยสอนรัฐบาลให้รักประเทศชาติ! [19/8/68]
    (A new dimension: Thais teaching their own government to love the nation!)

    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #SAVEThailand
    #ThaiTimes
    #news1
    #shorts
    #VoiceOfThePeople
    #LoveThailand
    #StandWithThailand
    #WakeUpGovernment
    มิติใหม่ คนไทยสอนรัฐบาลให้รักประเทศชาติ! [19/8/68] (A new dimension: Thais teaching their own government to love the nation!) #TruthFromThailand #scambodia #SAVEThailand #ThaiTimes #news1 #shorts #VoiceOfThePeople #LoveThailand #StandWithThailand #WakeUpGovernment
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 405 Views 0 0 Reviews
  • โลกของ “สาธารณสุขระหว่างประเทศ”: ระหว่างชีวิตและอำนาจ

    อดิเทพ จาวลาห์
    https://linktr.ee/chawlaadithep
    ต้นฉบับ: https://www.rookon.com/?p=1330

    เช่นเดียวกับด้านอื่นของการแพทย์ สาธารณสุขก็เป็นเรื่องของ “ชีวิตและความตาย” สิ่งที่แตกต่างคือมันถูกจัดการในระดับกลุ่มและสเกลงานระดับนานาชาติ เมื่อมีเงินก้อนใหญ่—เป็นล้านดอลลาร์ —ถูกจัดสรรไปยังโครงการใดโครงการหนึ่ง ผลลัพธ์อาจเป็นชีวิตที่รอดมากมาย หรือในทางตรงกันข้าม อาจมีชีวิตสูญเสีย และความโศกเศร้าเข้ามาแทนที่ หากเงินนั้นไม่ได้ถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือถูกเบี่ยงเบนไปยังสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตราย

    การจัดการกับเรื่องเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อ “อีโก้” ของผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากมนุษย์มักให้คุณค่ากับตัวเอง เมื่รู้สึกว่า ตนมีอำนาจที่สามารถส่งผลต่อชีวิตผู้อื่น เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับนานาชาติได้รับการยกย่องและชมเชยจากสื่อและผู้คน—ที่มักได้เห็นเพียงภาพเด็กผิวสีจำนวนมาก 🧒🏾👧🏾ยืนเข้าคิวเพื่อรอรับการช่วยเหลือจากคนในเสื้อกั๊กสีขาวที่มีตราโลโก้เจ๋งๆ —ภาพนี้สร้างความรู้สึก “ยิ่งใหญ่” ขึ้นในใจของพวกเขา ขณะที่ด้านที่เป็นความจริง เช่น เงินเดือนสูงที่มักได้รับการยกเว้นภาษี การเดินทางระหว่างประเทศ พักในโรงแรมห้าดาว บางครั้งถูกปิดบังไม่ให้เป็นเรื่องหลักในสายตาประชาชน ซึ่งผมไม่ได้เกียงสิ่งเหล่านั้น แต่หากคุณศึกษาข้อมูลการใช้เงินของหน่วยงานเหล่านี้ คุณจะตกใจว่า เงินส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการเดินทางและความสะดวกสบายของเจ้าหน้าที่ เป็นหลัก

    ผลคือ “แรงจูงใจทางอีโก้” ถูกเสริมทัพ ทำให้เจ้าหน้าด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ รวมทั้งในประเทศมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง มองว่าค่านิยมของตนดีเลิศจนพร้อมบังคับใช้สิ่งเหล่านั้นกับ “เป้าหมาย” ของงาน ไม่ว่าจะเป็นชุมชนใด เมื่อการงานของพวกเขาดูเหมือนมีคุณค่ามากกว่าการเลี้ยงลูก หรือการทำงานปกติในหมู่บ้าน หรือแม้กระทั่งพนักงานต้อนรับที่สนามบิน — พวกเขาจึงรู้สึกว่าการตัดสินใจแทนผู้อื่นนั้นช่าง “ชอบธรรม” เสียยิ่งนัก

    ตัวอย่างชัดๆ จากองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยอมรับค่านิยมตะวันตกอย่างสุดโต่ง

    เมื่อทุนใหญ่เข้ามาคุมเกม

    ความซับซ้อนยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อแหล่งเงินทุนหลักมีวาระผลประโยชน์ทางธุรกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น WHO มีงบประมาณมากกว่า 75% ที่ถูกกำหนดโดยผู้ให้ทุน ซึ่งมักเป็นฝ่ายที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายเหล่านั้น เช่นบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่อาจได้กำไรจากการผลักดันวัคซีนใหม่ๆ

    องค์กรขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือโควิด เช่น GAVI และ CEPI ถูกตั้งขึ้นโดยกลุ่มทุนเอกชนและภาคธุรกิจ หลังจากวิกฤติ พวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของตารางบอร์ด และมี “สิทธิในการ” กำหนดทิศทางโครงการระดับโลก

    เมื่อการบรรจุทุนเชิงพาณิชย์และการเมืองเข้าไปอยู่ใต้ร่มของ “สาธารณสุข” เนื้อหาของงานก็เปลี่ยนจากการช่วยชีวิต มาเป็นการผลักดันวาระที่อาจไม่เกี่ยวกับสาธารณสุข แต่คือการหาผลประโยชน์มากกว่า และกำไรนานาประเภท

    แรงงานที่ “ถูกจับแต่เต็มใจ”

    ในธุรกิจ เราโฆษณาสินค้าและหวังว่าลูกค้าจะสนใจ เพราะนั่นคือความเสี่ยงและต้นทุน แต่หากสินค้านั้นถูก “บังคับให้ซื้อ” โดยกลไกของรัฐหรือองค์กร ไม่มีทางเลือก ไม่มีความรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา แถมถ้าความเสียหายเกิด—คุณก็ไม่รับผิดชอบ

    สิ่งนี้คือ “การพิมพ์เงิน” แบบไร้ความเสี่ยง และเพื่อให้ระบบนี้เดินไปได้ ต้องมี “แรงงาน” ที่พร้อมเป็นเครื่องมือ ผลิตภัณฑ์ และต้องมีพร่ำบรรยายหน้าแผงข่าวอย่างไม่ผิดพลาด

    ประวัติศาสตร์ที่น่ากลัวของสาธารณสุข

    ประวัติศาสตร์สาธารณสุขในสหรัฐฯ ยังเคยถูกใช้สนับสนุนนโยบายเชิงเหยียดเชื้อชาติและยูจีนิกส์ (Eugenics) ที่บังคับให้กลุ่มคนบางกลุ่ม เช่น คนเชื้อสายคนพื้นเมือง หรือผู้ที่มีความบกพร่องบางอย่าง ถูกคุมขัง ทำหมัน และปล่อยให้ตายต่ำกว่ามาตรฐานสุขภาพ แนวคิดนี้ยังถูกปลูกฝังในรั้วมหาวิทยาลัย เช่น ห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัย Johns Hopkins

    ถึงแม้ในยุโรป เช่นอิตาลีและเยอรมนี ยุคฟาสซิสต์ก็ใช้สาธารณสุขในการฆาตกรรมกลุ่มชาติพันธุ์ที่ “ด้อยกว่า” —จากการคัดกรองทางพันธุกรรม จนถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จริงๆ และเรื่องนี้ยังดำเนินต่อเนื่องไปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง—อย่างเคส Tuskegee ที่ใช้ฐานข้อมูลทางการแพทย์ล่วงละเมิดความเป็นมนุษย์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ถูกศึกษา 👨🏿‍⚕️

    อีโก้ ความเชื่อ และการบังคับใช้

    แพทย์และพยาบาลในช่วงเวลานั้นเชื่อมั่นว่าตนเองทำ “สิ่งที่ถูกต้อง” จะช่วยกวาดล้าง “ความต่ำช้า” ออกจากสังคม แต่สุดท้ายพวกเขากลายเป็นเครื่องมือของโครงสร้างอำนาจ ที่มองไม่เห็นว่าตนกำลังทำร้ายมนุษย์อย่างไร้ความปราณี

    ในระบบที่มีลำดับขั้น ผู้ปฏิบัติงานจะยิ่งมีจิตวิทยาที่ทำให้ “เชื่อฟัง” และ “ยึดมั่นในระบบ” เมื่อพวกเขาได้รับการฝึกให้เชื่อใน “ความดีขั้นสูง” ของระบบ และเชื่อว่าการบังคับใช้มาตรการแข็ง หรือการจำกัดทางเลือกของประชาชน ล้วนเพื่อ “ประโยชน์สุขของส่วนรวม”

    ทางออกอยู่ที่การให้สิทธิ์และอำนาจ

    ในขณะที่ระบบนี้ขยายอำนาจการควบคุม แนวทางที่แท้จริงของ “สุขภาพ” กลับเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ทางจิต ใจ และสังคม ที่ต้องการ “สิทธิ์ในการเลือก”

    เมื่อคนมีอำนาจของตนเองได้กำหนดการรักษา ได้เลือกแนวทางที่เหมาะสมกับพื้นฐานชีวิตของตน และไม่ถูกบังคับจากส่วนกลาง สิ่งนี้เองคือรากฐานของสุขภาพที่แท้จริง

    แต่เมื่อระบบลุกลามไปยังการบังคับและการจำกัดเสรีภาพ—ไม่ว่าจะทางกฎหมายหรือทางวัฒนธรรม—มันคือต

    ตัวบ่อนทำลายระบบสุขภาพ และทำให้มนุษย์กลายเป็นเพียงเครื่องมือของอำนาจ

    สรุปและแนวทางปลุกพลัง

    * สำรวจระบบสาธารณสุขในมิติใหม่ ทั้งในแง่ของอำนาจทุน และโครงสร้างอำนาจ
    * เข้าใจว่าหลายสิ่งถูกออกแบบมาเพื่อชิงผลประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อความเป็นอยู่ของแท้
    * เห็นบทเรียนจากประวัติศาสตร์ว่าการใช้อำนาจโดยไม่ตรวจสอบนำไปสู่หายนะได้จริง
    * ตระหนักถึงอีโก้ของผู้ปฏิบัติงานและอันตรายจากระบบลำดับขั้น
    * ร่วมเรียกร้องให้ทุกคนมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่เกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง
    * ปลูกจิตสำนึกให้สังคมไม่ถูกควบคุม แต่มีศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์ 🧑🏽‍🤝‍🧑🏼

    สุดท้าย… การจะสร้างระบบสุขภาพที่ดีต้องเริ่มจาก “ประชาชนทุกคน” ที่ลุกขึ้นมามีเสียง มีสิทธิ์ มีอำนาจแสดงความคิดเห็น และร่วมกันสร้างระบบที่เคารพสิทธิและความต้องการของทุกคนอย่างแท้จริง

    ดังนั้นการเงียบเฉยคือการปล่อยให้ผู้มีอำนาจกระทำผิดต่ออย่างไม่รู้จบ
    https://www.facebook.com/share/p/1Bmr3SPLx7/
    🌍 โลกของ “สาธารณสุขระหว่างประเทศ”: ระหว่างชีวิตและอำนาจ 🧠💉 ✍️ อดิเทพ จาวลาห์ 🔗 https://linktr.ee/chawlaadithep 📖 ต้นฉบับ: https://www.rookon.com/?p=1330 เช่นเดียวกับด้านอื่นของการแพทย์ 🏥 สาธารณสุขก็เป็นเรื่องของ “ชีวิตและความตาย” สิ่งที่แตกต่างคือมันถูกจัดการในระดับกลุ่มและสเกลงานระดับนานาชาติ 🌐 เมื่อมีเงินก้อนใหญ่—เป็นล้านดอลลาร์ 💵—ถูกจัดสรรไปยังโครงการใดโครงการหนึ่ง ผลลัพธ์อาจเป็นชีวิตที่รอดมากมาย 🙌 หรือในทางตรงกันข้าม อาจมีชีวิตสูญเสีย และความโศกเศร้าเข้ามาแทนที่ 😢 หากเงินนั้นไม่ได้ถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือถูกเบี่ยงเบนไปยังสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตราย ⚠️ การจัดการกับเรื่องเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อ “อีโก้” ของผู้เกี่ยวข้อง 🧠 เนื่องจากมนุษย์มักให้คุณค่ากับตัวเอง เมื่รู้สึกว่า ตนมีอำนาจที่สามารถส่งผลต่อชีวิตผู้อื่น 🧍‍♀️🧍‍♂️ เมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับนานาชาติได้รับการยกย่องและชมเชยจากสื่อและผู้คน—ที่มักได้เห็นเพียงภาพเด็กผิวสีจำนวนมาก 🧒🏾👧🏾ยืนเข้าคิวเพื่อรอรับการช่วยเหลือจากคนในเสื้อกั๊กสีขาวที่มีตราโลโก้เจ๋งๆ 👕—ภาพนี้สร้างความรู้สึก “ยิ่งใหญ่” ขึ้นในใจของพวกเขา ✨ ขณะที่ด้านที่เป็นความจริง เช่น เงินเดือนสูงที่มักได้รับการยกเว้นภาษี 💰 การเดินทางระหว่างประเทศ ✈️ พักในโรงแรมห้าดาว 🏨 บางครั้งถูกปิดบังไม่ให้เป็นเรื่องหลักในสายตาประชาชน ซึ่งผมไม่ได้เกียงสิ่งเหล่านั้น แต่หากคุณศึกษาข้อมูลการใช้เงินของหน่วยงานเหล่านี้ 📊 คุณจะตกใจว่า เงินส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับการเดินทางและความสะดวกสบายของเจ้าหน้าที่ เป็นหลัก 🚗🍽️ ผลคือ “แรงจูงใจทางอีโก้” ถูกเสริมทัพ 💪 ทำให้เจ้าหน้าด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ รวมทั้งในประเทศมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ⬆️ มองว่าค่านิยมของตนดีเลิศจนพร้อมบังคับใช้สิ่งเหล่านั้นกับ “เป้าหมาย” ของงาน 🎯 ไม่ว่าจะเป็นชุมชนใด เมื่อการงานของพวกเขาดูเหมือนมีคุณค่ามากกว่าการเลี้ยงลูก 👶 หรือการทำงานปกติในหมู่บ้าน หรือแม้กระทั่งพนักงานต้อนรับที่สนามบิน 🛫 — พวกเขาจึงรู้สึกว่าการตัดสินใจแทนผู้อื่นนั้นช่าง “ชอบธรรม” เสียยิ่งนัก 😇 ตัวอย่างชัดๆ จากองค์การอนามัยโลก (WHO) 🌏 ที่เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยอมรับค่านิยมตะวันตกอย่างสุดโต่ง ❗ 💸 เมื่อทุนใหญ่เข้ามาคุมเกม ความซับซ้อนยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อแหล่งเงินทุนหลักมีวาระผลประโยชน์ทางธุรกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่ชัดเจน 🧩 ยกตัวอย่างเช่น WHO มีงบประมาณมากกว่า 75% ที่ถูกกำหนดโดยผู้ให้ทุน 💼 ซึ่งมักเป็นฝ่ายที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายเหล่านั้น เช่นบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่อาจได้กำไรจากการผลักดันวัคซีนใหม่ๆ 💉💰 องค์กรขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือโควิด เช่น GAVI และ CEPI ถูกตั้งขึ้นโดยกลุ่มทุนเอกชนและภาคธุรกิจ 🏢 หลังจากวิกฤติ พวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของตารางบอร์ด และมี “สิทธิในการ” กำหนดทิศทางโครงการระดับโลก 🌐 เมื่อการบรรจุทุนเชิงพาณิชย์และการเมืองเข้าไปอยู่ใต้ร่มของ “สาธารณสุข” ⛱️ เนื้อหาของงานก็เปลี่ยนจากการช่วยชีวิต มาเป็นการผลักดันวาระที่อาจไม่เกี่ยวกับสาธารณสุข แต่คือการหาผลประโยชน์มากกว่า และกำไรนานาประเภท 💹 👷‍♂️ แรงงานที่ “ถูกจับแต่เต็มใจ” ในธุรกิจ เราโฆษณาสินค้าและหวังว่าลูกค้าจะสนใจ 📢 เพราะนั่นคือความเสี่ยงและต้นทุน แต่หากสินค้านั้นถูก “บังคับให้ซื้อ” โดยกลไกของรัฐหรือองค์กร 🏛️ ไม่มีทางเลือก ❌ ไม่มีความรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา 😶 แถมถ้าความเสียหายเกิด—คุณก็ไม่รับผิดชอบ ❌ สิ่งนี้คือ “การพิมพ์เงิน” แบบไร้ความเสี่ยง 🖨️💵 และเพื่อให้ระบบนี้เดินไปได้ ต้องมี “แรงงาน” ที่พร้อมเป็นเครื่องมือ ⚙️ ผลิตภัณฑ์ และต้องมีพร่ำบรรยายหน้าแผงข่าวอย่างไม่ผิดพลาด 🗞️ 📜 ประวัติศาสตร์ที่น่ากลัวของสาธารณสุข ประวัติศาสตร์สาธารณสุขในสหรัฐฯ 🇺🇸 ยังเคยถูกใช้สนับสนุนนโยบายเชิงเหยียดเชื้อชาติและยูจีนิกส์ (Eugenics) 🧬 ที่บังคับให้กลุ่มคนบางกลุ่ม เช่น คนเชื้อสายคนพื้นเมือง หรือผู้ที่มีความบกพร่องบางอย่าง 🧑‍🦽 ถูกคุมขัง ทำหมัน และปล่อยให้ตายต่ำกว่ามาตรฐานสุขภาพ 🏚️ แนวคิดนี้ยังถูกปลูกฝังในรั้วมหาวิทยาลัย เช่น ห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัย Johns Hopkins 🏫 ถึงแม้ในยุโรป เช่นอิตาลีและเยอรมนี ยุคฟาสซิสต์ก็ใช้สาธารณสุขในการฆาตกรรมกลุ่มชาติพันธุ์ที่ “ด้อยกว่า” ☠️—จากการคัดกรองทางพันธุกรรม จนถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จริงๆ 🩸 และเรื่องนี้ยังดำเนินต่อเนื่องไปหลังสงครามโลกครั้งที่สอง—อย่างเคส Tuskegee ที่ใช้ฐานข้อมูลทางการแพทย์ล่วงละเมิดความเป็นมนุษย์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ถูกศึกษา 👨🏿‍⚕️ 🧠 อีโก้ ความเชื่อ และการบังคับใช้ แพทย์และพยาบาลในช่วงเวลานั้นเชื่อมั่นว่าตนเองทำ “สิ่งที่ถูกต้อง” ✅ จะช่วยกวาดล้าง “ความต่ำช้า” ออกจากสังคม แต่สุดท้ายพวกเขากลายเป็นเครื่องมือของโครงสร้างอำนาจ ที่มองไม่เห็นว่าตนกำลังทำร้ายมนุษย์อย่างไร้ความปราณี 🔥 ในระบบที่มีลำดับขั้น 🧱 ผู้ปฏิบัติงานจะยิ่งมีจิตวิทยาที่ทำให้ “เชื่อฟัง” และ “ยึดมั่นในระบบ” เมื่อพวกเขาได้รับการฝึกให้เชื่อใน “ความดีขั้นสูง” ของระบบ และเชื่อว่าการบังคับใช้มาตรการแข็ง หรือการจำกัดทางเลือกของประชาชน ล้วนเพื่อ “ประโยชน์สุขของส่วนรวม” 🫂 🌿 ทางออกอยู่ที่การให้สิทธิ์และอำนาจ ในขณะที่ระบบนี้ขยายอำนาจการควบคุม 🧬 แนวทางที่แท้จริงของ “สุขภาพ” กลับเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ทางจิต ใจ และสังคม ที่ต้องการ “สิทธิ์ในการเลือก” 🗳️ เมื่อคนมีอำนาจของตนเองได้กำหนดการรักษา 🧘 ได้เลือกแนวทางที่เหมาะสมกับพื้นฐานชีวิตของตน และไม่ถูกบังคับจากส่วนกลาง สิ่งนี้เองคือรากฐานของสุขภาพที่แท้จริง 🧡 แต่เมื่อระบบลุกลามไปยังการบังคับและการจำกัดเสรีภาพ—ไม่ว่าจะทางกฎหมายหรือทางวัฒนธรรม—มันคือต ตัวบ่อนทำลายระบบสุขภาพ และทำให้มนุษย์กลายเป็นเพียงเครื่องมือของอำนาจ 🤖 📢 สรุปและแนวทางปลุกพลัง * สำรวจระบบสาธารณสุขในมิติใหม่ ทั้งในแง่ของอำนาจทุน และโครงสร้างอำนาจ 🕵️‍♀️ * เข้าใจว่าหลายสิ่งถูกออกแบบมาเพื่อชิงผลประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อความเป็นอยู่ของแท้ 💔 * เห็นบทเรียนจากประวัติศาสตร์ว่าการใช้อำนาจโดยไม่ตรวจสอบนำไปสู่หายนะได้จริง 🧨 * ตระหนักถึงอีโก้ของผู้ปฏิบัติงานและอันตรายจากระบบลำดับขั้น 🧱 * ร่วมเรียกร้องให้ทุกคนมีสิทธิ์เลือกในสิ่งที่เกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง 🗣️ * ปลูกจิตสำนึกให้สังคมไม่ถูกควบคุม แต่มีศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์ 🧑🏽‍🤝‍🧑🏼 สุดท้าย… การจะสร้างระบบสุขภาพที่ดีต้องเริ่มจาก “ประชาชนทุกคน” ที่ลุกขึ้นมามีเสียง 📢 มีสิทธิ์ 🧾 มีอำนาจแสดงความคิดเห็น และร่วมกันสร้างระบบที่เคารพสิทธิและความต้องการของทุกคนอย่างแท้จริง 🙌 ดังนั้นการเงียบเฉยคือการปล่อยให้ผู้มีอำนาจกระทำผิดต่ออย่างไม่รู้จบ ❌ https://www.facebook.com/share/p/1Bmr3SPLx7/
    0 Comments 0 Shares 794 Views 0 Reviews
  • ขอรีวิวร้านกาแฟ แกะกล่องใจกลางเมืองลพบุรี อยู่ข้างๆสถานีรถไฟจังหวัดลพบุรี อยู่ข้างหลังร้านสกายเวย์ พลอยพบกับมิติใหม่ขอกาแฟเร็วๆนี้เจอกันบริหารโดยลูกสาวคนเล็ก ของเฮียศิริชัย อัมพร คอกาแฟอย่าพลาด ที่นี่แว่วมาว่าการชงเข้มข้น หวานมัน ต้องที่นี่ที่เดียวเร็วๆนี้ที่เมืองลพบุรีเท่านั้น ที่นี่มีของอร่อยมากมาย
    ขอรีวิวร้านกาแฟ แกะกล่องใจกลางเมืองลพบุรี อยู่ข้างๆสถานีรถไฟจังหวัดลพบุรี อยู่ข้างหลังร้านสกายเวย์ พลอยพบกับมิติใหม่ขอกาแฟเร็วๆนี้เจอกันบริหารโดยลูกสาวคนเล็ก ของเฮียศิริชัย อัมพร คอกาแฟอย่าพลาด ที่นี่แว่วมาว่าการชงเข้มข้น หวานมัน ต้องที่นี่ที่เดียวเร็วๆนี้ที่เมืองลพบุรีเท่านั้น ที่นี่มีของอร่อยมากมาย
    0 Comments 0 Shares 636 Views 0 0 Reviews
  • มิติใหม่สายบุญ ร้านล้างรถหยอดเหรียญ เปิดวงจรปิดถึงกับอึ้ง ลูกค้านำ “รูปหล่อพระเกจิ” มาล้างขัดอัดฉีดจนเงาวับ เหมือนใหม่
    มิติใหม่สายบุญ ร้านล้างรถหยอดเหรียญ เปิดวงจรปิดถึงกับอึ้ง ลูกค้านำ “รูปหล่อพระเกจิ” มาล้างขัดอัดฉีดจนเงาวับ เหมือนใหม่
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 868 Views 49 0 Reviews
  • Sigma มีข่าวลือที่กำลังเป็นที่สนใจในแวดวงการถ่ายภาพ โดยมีแผนพัฒนาเลนส์ 200mm f/1.8 Telephoto Prime ซึ่งจะเป็นเลนส์รุ่นแรกของโลกที่รองรับกล้องมิเรอร์เลสระบบ L-mount และ Sony E-mount นี่ถือเป็นการคืนชีพเทคโนโลยีที่เคยโดดเด่นในยุค DSLR หลังจากเลนส์ Canon EF 200mm f/1.8L USM เคยทำตลาดในช่วงปี 1988 ก่อนเลิกผลิตในปี 2004

    ความเร็วชัตเตอร์และการละลายฉากหลังในระดับใหม่
    - เลนส์ 200mm f/1.8 นำเสนอมิติใหม่สำหรับการถ่ายภาพ ด้วยความสามารถในการสร้างฉากหลังที่ละลาย (bokeh) อย่างนุ่มนวล และทำให้วัตถุหลักโดดเด่น
    - ด้วยรูรับแสงกว้างพิเศษ ช่วยให้ถ่ายในสถานการณ์แสงน้อยได้ง่ายขึ้น เช่น กีฬากลางคืนหรือถ่ายภาพในร่ม

    การรองรับหลากหลายการใช้งาน
    - สำหรับ ช่างภาพกีฬา เลนส์นี้ช่วยให้การจับภาพการเคลื่อนไหวทำได้รวดเร็ว และยังเหมาะสำหรับ ช่างภาพสัตว์ป่า ที่ต้องการจับภาพในสภาพแสงที่ท้าทาย
    - ช่างภาพพอร์ตเทรตและแลนด์สเคป จะได้เปรียบเรื่องการสร้างเอฟเฟกต์ภาพที่ดึงดูดสายตา

    การออกแบบตามมาตรฐานเลนส์ระดับสูงของ Sigma
    - ข่าวลือชี้ว่าเลนส์นี้อาจเป็นส่วนหนึ่งในไลน์ Sigma Sports ซึ่งให้ความสำคัญกับความคงทนและคุณภาพของภาพถ่าย

    Sigma เคยสร้างนวัตกรรมที่น่าทึ่ง เช่นเลนส์ซูม 28–45mm f/1.8 ซึ่งเป็นเลนส์ f/1.8 zoom ตัวแรกในโลกสำหรับกล้องฟูลเฟรม ดังนั้นหากข่าวลือเกี่ยวกับเลนส์ 200mm f/1.8 นี้เป็นจริง มันอาจเป็นก้าวสำคัญสำหรับช่างภาพทั่วโลก

    https://www.techradar.com/cameras/mirrorless-cameras/rumored-sigma-telephoto-prime-could-be-world-first-200mm-f1-8-for-mirrorless-and-it-sounds-like-a-next-level-portrait-lens
    Sigma มีข่าวลือที่กำลังเป็นที่สนใจในแวดวงการถ่ายภาพ โดยมีแผนพัฒนาเลนส์ 200mm f/1.8 Telephoto Prime ซึ่งจะเป็นเลนส์รุ่นแรกของโลกที่รองรับกล้องมิเรอร์เลสระบบ L-mount และ Sony E-mount นี่ถือเป็นการคืนชีพเทคโนโลยีที่เคยโดดเด่นในยุค DSLR หลังจากเลนส์ Canon EF 200mm f/1.8L USM เคยทำตลาดในช่วงปี 1988 ก่อนเลิกผลิตในปี 2004 ✅ ความเร็วชัตเตอร์และการละลายฉากหลังในระดับใหม่ - เลนส์ 200mm f/1.8 นำเสนอมิติใหม่สำหรับการถ่ายภาพ ด้วยความสามารถในการสร้างฉากหลังที่ละลาย (bokeh) อย่างนุ่มนวล และทำให้วัตถุหลักโดดเด่น - ด้วยรูรับแสงกว้างพิเศษ ช่วยให้ถ่ายในสถานการณ์แสงน้อยได้ง่ายขึ้น เช่น กีฬากลางคืนหรือถ่ายภาพในร่ม ✅ การรองรับหลากหลายการใช้งาน - สำหรับ ช่างภาพกีฬา เลนส์นี้ช่วยให้การจับภาพการเคลื่อนไหวทำได้รวดเร็ว และยังเหมาะสำหรับ ช่างภาพสัตว์ป่า ที่ต้องการจับภาพในสภาพแสงที่ท้าทาย - ช่างภาพพอร์ตเทรตและแลนด์สเคป จะได้เปรียบเรื่องการสร้างเอฟเฟกต์ภาพที่ดึงดูดสายตา ✅ การออกแบบตามมาตรฐานเลนส์ระดับสูงของ Sigma - ข่าวลือชี้ว่าเลนส์นี้อาจเป็นส่วนหนึ่งในไลน์ Sigma Sports ซึ่งให้ความสำคัญกับความคงทนและคุณภาพของภาพถ่าย Sigma เคยสร้างนวัตกรรมที่น่าทึ่ง เช่นเลนส์ซูม 28–45mm f/1.8 ซึ่งเป็นเลนส์ f/1.8 zoom ตัวแรกในโลกสำหรับกล้องฟูลเฟรม ดังนั้นหากข่าวลือเกี่ยวกับเลนส์ 200mm f/1.8 นี้เป็นจริง มันอาจเป็นก้าวสำคัญสำหรับช่างภาพทั่วโลก https://www.techradar.com/cameras/mirrorless-cameras/rumored-sigma-telephoto-prime-could-be-world-first-200mm-f1-8-for-mirrorless-and-it-sounds-like-a-next-level-portrait-lens
    0 Comments 0 Shares 444 Views 0 Reviews
  • รวยก่อนแก่ / แก่ก่อนรวย ‘หวยเกษียณ’ : [Biz Talk]

    ‘ซื้อหวย เงินไม่หาย ทุกบาทกลายเป็นเงินออม’ อายุ 15 ปีขึ้นไป ซื้อ ‘หวยเกษียณ’ ได้ทุกคนทุกกลุ่ม ทั้งข้าราชการ-พนักงานออฟฟิศ -คนสูงวัย /กระทรวงการคลัง เร่งผลักดันร่างแก้ไขกฎหมาย กอช.เข้าสภาฯ นำความชอบลุ้นโชคของคนไทย มาสร้างการออมมิติใหม่ ‘ซื้อมาก ได้ลุ้นมาก มีเงินล้านยามแก่’
    รวยก่อนแก่ / แก่ก่อนรวย ‘หวยเกษียณ’ : [Biz Talk] ‘ซื้อหวย เงินไม่หาย ทุกบาทกลายเป็นเงินออม’ อายุ 15 ปีขึ้นไป ซื้อ ‘หวยเกษียณ’ ได้ทุกคนทุกกลุ่ม ทั้งข้าราชการ-พนักงานออฟฟิศ -คนสูงวัย /กระทรวงการคลัง เร่งผลักดันร่างแก้ไขกฎหมาย กอช.เข้าสภาฯ นำความชอบลุ้นโชคของคนไทย มาสร้างการออมมิติใหม่ ‘ซื้อมาก ได้ลุ้นมาก มีเงินล้านยามแก่’
    Like
    Haha
    6
    0 Comments 0 Shares 1169 Views 30 0 Reviews
  • “น้องเคียวโกะ” สุนัขพันธุ์ชิบะอินุ ช่วยเจ้าของในการไลฟ์สดขายขนม งานนี้ไม่ต้องเป็นทาสสุนัขก็เอ็นดูน้องไม่ไหว เพราะช่วยขายนานจนหลับคาไลฟ์มาแล้ว

    #มิติใหม่ไลฟ์สดขายของ #น้องเคียวโกะ #เเคียวโกะช่วยพ่อไลฟ์ขายของ #News1 #Newsstory
    “น้องเคียวโกะ” สุนัขพันธุ์ชิบะอินุ ช่วยเจ้าของในการไลฟ์สดขายขนม งานนี้ไม่ต้องเป็นทาสสุนัขก็เอ็นดูน้องไม่ไหว เพราะช่วยขายนานจนหลับคาไลฟ์มาแล้ว #มิติใหม่ไลฟ์สดขายของ #น้องเคียวโกะ #เเคียวโกะช่วยพ่อไลฟ์ขายของ #News1 #Newsstory
    0 Comments 0 Shares 882 Views 12 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงปรากฏการณ์ใหม่ในวงการการเงินและเทคโนโลยี โดย IPv4.Global ได้เปิดตัวโครงการปล่อยสินเชื่อที่นำ ที่อยู่ IPv4 มาใช้เป็นหลักประกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทรัพย์สินดิจิทัลในรูปแบบนี้ได้รับการยอมรับในแวดวงการเงินแบบนี้

    ที่อยู่ IPv4 เป็นเลขระบุตำแหน่งอุปกรณ์ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่ด้วยการที่มีเพียง 4.3 พันล้านที่อยู่เท่านั้น ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนราคาของที่อยู่เหล่านี้พุ่งสูงขึ้น และตอนนี้ยังสามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการกู้ยืมเงินได้อีกด้วย!

    โครงการนี้เริ่มต้นด้วยลูกค้ารายแรกซึ่งเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลคลาวด์ ที่ใช้ที่อยู่ IPv4 ของตัวเองเป็นหลักประกันในการเพิ่มเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจ และความสำเร็จนี้ทำให้ IPv4.Global เปิดรับลูกค้าทุกขนาด โดยจัดการซื้อขาย เช่า และกู้ยืมที่อยู่ IPv4 อย่างกว้างขวาง

    แต่ในมุมของอนาคต IPv6 ซึ่งมีศักยภาพรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า (จาก 4.3 พันล้าน เป็น 340 อันเดซิลเลียนที่อยู่!) กำลังรอคอยการเปลี่ยนผ่านอย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็ยังมีอุปสรรคเช่น ค่าใช้จ่าย ความซับซ้อนทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ IPv4 ยังคงมีบทบาทสำคัญ

    ที่น่าสนใจคือ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ผู้ถือครอง IPv4 แต่ยังสะท้อนถึงทิศทางที่โลกมุ่งสู่การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในมิติใหม่ ใครจะรู้ว่าอนาคตเราอาจใช้ที่อยู่ดิจิทัลอื่น ๆ เช่น NFTs หรือโทเค็นต่าง ๆ มาเป็นหลักประกันทางการเงินด้วยก็ได้

    https://www.tomshardware.com/networking/public-ipv4-addresses-are-now-valuable-loan-collateral-and-can-be-worth-millions
    ข่าวนี้เล่าถึงปรากฏการณ์ใหม่ในวงการการเงินและเทคโนโลยี โดย IPv4.Global ได้เปิดตัวโครงการปล่อยสินเชื่อที่นำ ที่อยู่ IPv4 มาใช้เป็นหลักประกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทรัพย์สินดิจิทัลในรูปแบบนี้ได้รับการยอมรับในแวดวงการเงินแบบนี้ ที่อยู่ IPv4 เป็นเลขระบุตำแหน่งอุปกรณ์ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่ด้วยการที่มีเพียง 4.3 พันล้านที่อยู่เท่านั้น ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนราคาของที่อยู่เหล่านี้พุ่งสูงขึ้น และตอนนี้ยังสามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการกู้ยืมเงินได้อีกด้วย! โครงการนี้เริ่มต้นด้วยลูกค้ารายแรกซึ่งเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลคลาวด์ ที่ใช้ที่อยู่ IPv4 ของตัวเองเป็นหลักประกันในการเพิ่มเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจ และความสำเร็จนี้ทำให้ IPv4.Global เปิดรับลูกค้าทุกขนาด โดยจัดการซื้อขาย เช่า และกู้ยืมที่อยู่ IPv4 อย่างกว้างขวาง แต่ในมุมของอนาคต IPv6 ซึ่งมีศักยภาพรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า (จาก 4.3 พันล้าน เป็น 340 อันเดซิลเลียนที่อยู่!) กำลังรอคอยการเปลี่ยนผ่านอย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็ยังมีอุปสรรคเช่น ค่าใช้จ่าย ความซับซ้อนทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ IPv4 ยังคงมีบทบาทสำคัญ ที่น่าสนใจคือ การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ผู้ถือครอง IPv4 แต่ยังสะท้อนถึงทิศทางที่โลกมุ่งสู่การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในมิติใหม่ ใครจะรู้ว่าอนาคตเราอาจใช้ที่อยู่ดิจิทัลอื่น ๆ เช่น NFTs หรือโทเค็นต่าง ๆ มาเป็นหลักประกันทางการเงินด้วยก็ได้ https://www.tomshardware.com/networking/public-ipv4-addresses-are-now-valuable-loan-collateral-and-can-be-worth-millions
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Public IPv4 addresses are now valuable loan collateral and can be worth millions
    IPv4.Global launched a new lending program where your IPv4 assets are your collateral.
    0 Comments 0 Shares 521 Views 0 Reviews
  • ข้าราชการ-มนุษย์เงินเดือน เปิดทางซื้อหวยเกษียณได้

    การออกสลากขูดดิจิทัลของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือ "หวยเกษียณ" ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีขณะนั้นมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ศึกษาแนวทางส่งเสริมการออมเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ และเพิ่มแรงจูงใจให้กลุ่มแรงงานนอกระบบที่ยังไม่มีการออมให้เกิดความมั่นคงทางการเงินในวัยเกษียณ ก่อนที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา

    ล่าสุด นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ว่า ร่างแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ ที่รวมโครงการหวยเกษียณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างเสร็จแล้ว โดยมีกระทรวงการคลังและ กอช. ร่วมพิจารณา โดยจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ภายในเดือน มี.ค. ถือเป็นนวัตกรรมการออมมิติใหม่ของรัฐบาลที่ถูกกฎหมาย เงินไม่หาย ทุกบาทกลายเป็นเงินออมยามเกษียณ ถูกรางวัลได้เงินเลย ซื้อมากได้ลุ้นมาก มีเงินออมมากมีเงินล้านยามแก่

    ทั้งนี้ มีการปรับแก้เงื่อนไขใหม่ จากเดิมกลุ่มเป้าหมายคือสมาชิก กอช.อายุ 15-60 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 40 (1) ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และแรงงานนอกระบบอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ แต่เงื่อนไขใหม่คือ บุคคลสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป สามารถซื้อหวยเกษียณได้ทุกคน ไม่จำกัดอายุสูงสุด แต่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ถือครองเงินออมที่ซื้อสลากได้ไม่เกิน 5 ปี เช่น ซื้อหวยเกษียณตอนอายุ 63 ปี เงินที่ซื้อทั้งหมดจะได้รับคืนเมื่ออายุ 68 ปี

    นอกจากนี้ มนุษย์เงินเดือนที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ลาออกจากงานประจำแล้วส่งต่อเพื่อสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ สามารถซื้อได้ รวมทั้งข้าราชการหรือสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ก็ซื้อได้ และถือครองเงินออมไว้ถึงอายุ 60 ปี แต่จะได้คืนเฉพาะเงินต้นและผลตอบแทนจากการลงทุนของ กอช.เท่านั้น ไม่ได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลในแต่ละปีที่ออม

    สำหรับหวยเกษียณ จะเปิดขายงวดละ 50 ล้านใบ ใช้งบประมาณปีละ 760 ล้านบาท เฉลี่ยสัปดาห์ละ 15 ล้านบาท ออกรางวัลทุกวันศุกร์ 17.00 น. รวม 52 สัปดาห์ โดยมีรางวัลใหญ่ 1 ล้านบาท 5 รางวัล และ 1,000 บาท 10,000 รางวัล ซึ่งปีแรกจะของบประมาณทำระบบเทคโนโลยี 20 ล้านบาท ระบบสมาชิก บุคลากร ระบบงานเพิ่มเติม 30 ล้านบาท ตั้งเป้าดึงเงินออมเข้า กอช. ได้ 13,000 ล้านบาทต่อปี

    ณ วันที่ 31 ธ.ค.2567 กอช.มีสมาชิกรวม 2,711,765 คน มูลค่าสินทรัพย์ 14,547.85 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรกลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลมากที่สุด 41.59% รองลงมาคือเงินสด เงินฝากธนาคาร 24.20% และตราสารหนี้ 14.45%

    #Newskit
    ข้าราชการ-มนุษย์เงินเดือน เปิดทางซื้อหวยเกษียณได้ การออกสลากขูดดิจิทัลของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ในโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือ "หวยเกษียณ" ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีขณะนั้นมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ศึกษาแนวทางส่งเสริมการออมเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ และเพิ่มแรงจูงใจให้กลุ่มแรงงานนอกระบบที่ยังไม่มีการออมให้เกิดความมั่นคงทางการเงินในวัยเกษียณ ก่อนที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมา ล่าสุด นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ว่า ร่างแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ ที่รวมโครงการหวยเกษียณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างเสร็จแล้ว โดยมีกระทรวงการคลังและ กอช. ร่วมพิจารณา โดยจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ภายในเดือน มี.ค. ถือเป็นนวัตกรรมการออมมิติใหม่ของรัฐบาลที่ถูกกฎหมาย เงินไม่หาย ทุกบาทกลายเป็นเงินออมยามเกษียณ ถูกรางวัลได้เงินเลย ซื้อมากได้ลุ้นมาก มีเงินออมมากมีเงินล้านยามแก่ ทั้งนี้ มีการปรับแก้เงื่อนไขใหม่ จากเดิมกลุ่มเป้าหมายคือสมาชิก กอช.อายุ 15-60 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 40 (1) ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และแรงงานนอกระบบอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ แต่เงื่อนไขใหม่คือ บุคคลสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป สามารถซื้อหวยเกษียณได้ทุกคน ไม่จำกัดอายุสูงสุด แต่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ถือครองเงินออมที่ซื้อสลากได้ไม่เกิน 5 ปี เช่น ซื้อหวยเกษียณตอนอายุ 63 ปี เงินที่ซื้อทั้งหมดจะได้รับคืนเมื่ออายุ 68 ปี นอกจากนี้ มนุษย์เงินเดือนที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ลาออกจากงานประจำแล้วส่งต่อเพื่อสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ สามารถซื้อได้ รวมทั้งข้าราชการหรือสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ก็ซื้อได้ และถือครองเงินออมไว้ถึงอายุ 60 ปี แต่จะได้คืนเฉพาะเงินต้นและผลตอบแทนจากการลงทุนของ กอช.เท่านั้น ไม่ได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลในแต่ละปีที่ออม สำหรับหวยเกษียณ จะเปิดขายงวดละ 50 ล้านใบ ใช้งบประมาณปีละ 760 ล้านบาท เฉลี่ยสัปดาห์ละ 15 ล้านบาท ออกรางวัลทุกวันศุกร์ 17.00 น. รวม 52 สัปดาห์ โดยมีรางวัลใหญ่ 1 ล้านบาท 5 รางวัล และ 1,000 บาท 10,000 รางวัล ซึ่งปีแรกจะของบประมาณทำระบบเทคโนโลยี 20 ล้านบาท ระบบสมาชิก บุคลากร ระบบงานเพิ่มเติม 30 ล้านบาท ตั้งเป้าดึงเงินออมเข้า กอช. ได้ 13,000 ล้านบาทต่อปี ณ วันที่ 31 ธ.ค.2567 กอช.มีสมาชิกรวม 2,711,765 คน มูลค่าสินทรัพย์ 14,547.85 ล้านบาท โดย 3 อันดับแรกลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลมากที่สุด 41.59% รองลงมาคือเงินสด เงินฝากธนาคาร 24.20% และตราสารหนี้ 14.45% #Newskit
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 1245 Views 0 Reviews
  • บริษัทผู้ผลิตแล็ปท็อป Compal Electronics ได้รับรางวัล iF Design Award 2025 จากการออกแบบที่น่าตื่นเต้นของแล็ปท็อปรุ่น Compal Infinite ซึ่งมีหน้าจอที่สามารถขยายแนวนอนจาก 14 นิ้ว ไปจนถึง 18 นิ้ว ได้อย่างน่าทึ่ง! ฟีเจอร์นี้ใช้เทคโนโลยี rollable OLED screen ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มพื้นที่การทำงานเมื่อจำเป็น โดยไม่ต้องพกพาจอพกพาเพิ่มเติม

    คุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจ
    1) การขยายหน้าจอ:
    - หน้าจอสามารถเลื่อนขยายออกทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ทำให้เครื่องยังคงสมดุลขณะใช้งาน
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการพื้นที่หน้าจอที่กว้างขึ้น เช่น นักออกแบบหรือโปรแกรมเมอร์

    2) การออกแบบที่ไร้รอยต่อ:
    - กลไกการเลื่อนหน้าจอถูกออกแบบให้เรียบเนียน แข็งแรง และทนทาน โดย Compal เน้นว่าการขยายหน้าจอจะไม่ส่งผลต่อคุณภาพหรืออายุการใช้งาน

    3) แสง LED บนฝาแล็ปท็อป:
    - ฝาเครื่องมีไฟ LED แบบปรับแต่งได้ ซึ่งสามารถแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ เช่น การมาของอีเมล

    ก่อนหน้านี้ Lenovo ได้เปิดตัวต้นแบบแล็ปท็อปหน้าจอขยายในแนวตั้ง และ ThinkBook ที่สามารถขยายได้จาก 14 นิ้วถึง 16.7 นิ้ว แต่ Compal Infinite มอบมิติใหม่ด้วยการขยายในแนวนอนที่ช่วยตอบโจทย์ผู้ที่ใช้งานจอกว้างโดยเฉพาะ

    แม้ว่าดีไซน์ล้ำสมัยของ Compal Infinite จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคหรือแผนการผลิตเชิงพาณิชย์ แต่เทคโนโลยีนี้แสดงถึงทิศทางที่น่าจับตามองในตลาดแล็ปท็อป ยิ่งถ้าผู้ผลิตแบรนด์ใหญ่ที่ใช้ Compal เป็น OEM หยิบไปต่อยอด อุปกรณ์นี้อาจกลายเป็นตัวเลือกสำคัญในตลาดพรีเมียมได้เลย!

    https://www.tomshardware.com/laptops/compal-infinite-laptop-built-around-screen-that-extends-from-14-to-18-inches-horizontally
    บริษัทผู้ผลิตแล็ปท็อป Compal Electronics ได้รับรางวัล iF Design Award 2025 จากการออกแบบที่น่าตื่นเต้นของแล็ปท็อปรุ่น Compal Infinite ซึ่งมีหน้าจอที่สามารถขยายแนวนอนจาก 14 นิ้ว ไปจนถึง 18 นิ้ว ได้อย่างน่าทึ่ง! ฟีเจอร์นี้ใช้เทคโนโลยี rollable OLED screen ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มพื้นที่การทำงานเมื่อจำเป็น โดยไม่ต้องพกพาจอพกพาเพิ่มเติม คุณสมบัติเด่นที่น่าสนใจ 1) การขยายหน้าจอ: - หน้าจอสามารถเลื่อนขยายออกทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ทำให้เครื่องยังคงสมดุลขณะใช้งาน - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการพื้นที่หน้าจอที่กว้างขึ้น เช่น นักออกแบบหรือโปรแกรมเมอร์ 2) การออกแบบที่ไร้รอยต่อ: - กลไกการเลื่อนหน้าจอถูกออกแบบให้เรียบเนียน แข็งแรง และทนทาน โดย Compal เน้นว่าการขยายหน้าจอจะไม่ส่งผลต่อคุณภาพหรืออายุการใช้งาน 3) แสง LED บนฝาแล็ปท็อป: - ฝาเครื่องมีไฟ LED แบบปรับแต่งได้ ซึ่งสามารถแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ เช่น การมาของอีเมล ก่อนหน้านี้ Lenovo ได้เปิดตัวต้นแบบแล็ปท็อปหน้าจอขยายในแนวตั้ง และ ThinkBook ที่สามารถขยายได้จาก 14 นิ้วถึง 16.7 นิ้ว แต่ Compal Infinite มอบมิติใหม่ด้วยการขยายในแนวนอนที่ช่วยตอบโจทย์ผู้ที่ใช้งานจอกว้างโดยเฉพาะ แม้ว่าดีไซน์ล้ำสมัยของ Compal Infinite จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคหรือแผนการผลิตเชิงพาณิชย์ แต่เทคโนโลยีนี้แสดงถึงทิศทางที่น่าจับตามองในตลาดแล็ปท็อป ยิ่งถ้าผู้ผลิตแบรนด์ใหญ่ที่ใช้ Compal เป็น OEM หยิบไปต่อยอด อุปกรณ์นี้อาจกลายเป็นตัวเลือกสำคัญในตลาดพรีเมียมได้เลย! https://www.tomshardware.com/laptops/compal-infinite-laptop-built-around-screen-that-extends-from-14-to-18-inches-horizontally
    0 Comments 0 Shares 481 Views 0 Reviews
  • OpenAI ได้เปิดตัวโมเดล GPT-4.5 ซึ่งมีชื่อรหัสว่า "Orion" โดยโมเดลนี้เป็นโมเดลสุดท้ายที่ไม่ได้ใช้การคิดอย่างลำดับขั้น (non-chain-of-thought) แต่จะนำเสนอมิติใหม่ในเรื่องความสามารถในการสนทนาและความแม่นยำในการตอบคำถาม

    เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2025 OpenAI ได้ประกาศเปิดตัว GPT-4.5 ในรูปแบบวิจัย ซึ่ง OpenAI อ้างว่าเป็นโมเดลที่ใหญ่ที่สุดและมีความรู้มากที่สุดในขณะนี้ ผู้ใช้ควรคาดหวังถึงการปรับปรุงโดยรวมในการใช้งาน GPT-4.5 ซึ่งรวมถึงการลดการสร้างเนื้อหาที่ผิดพลาด (hallucinations) ความสามารถในการเข้าใจอารมณ์ของคำถาม และการตอบคำถามที่ตรงกับเจตนาของผู้ใช้มากขึ้น

    การทดสอบและความสามารถในการให้เหตุผล - แม้ว่า GPT-4.5 จะไม่มีการคิดอย่างลำดับขั้น แต่มีการปรับปรุงในเรื่องการให้เหตุผลที่ดีกว่าและการตอบสนองที่รวดเร็วขึ้น เช่น ในการสาธิต AI ของ ChatGPT ถูกขอให้สร้างข้อความที่มีลักษณะเป็นการเกลียดชัง โดย GPT-4.5 สามารถตอบคำถามได้หลายทางเลือกและไม่กล่าวถึงความเกลียดชังตรงๆ แต่แสดงความผิดหวังในพฤติกรรมของผู้ใช้แทน

    การทดสอบประสิทธิภาพ (Benchmarks) - GPT-4.5 ได้รับการทดสอบในการทดสอบเบนช์มาร์กหลายรายการ เช่น Competition Math, PhD-level Science Questions และ SWE-Bench ซึ่ง GPT-4.5 ทำได้ดีกว่า GPT-4o และเกือบเท่ากับ o3-mini ในบางรายการทดสอบ เช่น SWE-Lancer Diamond และ MMMLU ที่เป็นการทดสอบการเขียนโค้ดและการใช้ภาษาแบบหลายภาษา

    ความปลอดภัยและการใช้งาน - OpenAI ยืนยันว่าโมเดล GPT-4.5 ผ่านการทดสอบความปลอดภัยและมีการใช้เทคนิคการดูแลใหม่ๆ ร่วมกับการเรียนรู้จากความคิดเห็นของมนุษย์ (RLHF) โมเดลนี้จะเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ระดับ Pro ก่อนในช่วงการวิจัย จากนั้นจะเปิดให้ใช้สำหรับผู้ใช้ระดับ Plus และ Team ในสัปดาห์ถัดไป รวมถึง Enterprise และ Edu ในสัปดาห์ถัดมา

    ความสามารถในการสนทนาที่ดีขึ้น - OpenAI อธิบายว่า GPT-4.5 มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ซึ่งทำให้การสนทนารู้สึกเป็นธรรมชาติและเป็นมิตรมากยิ่งขึ้น โดยใช้เทคนิคเช่นการเล่นคำ (alliteration) ทำให้ตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าสนใจ

    https://www.zdnet.com/article/openai-finally-unveils-gpt-4-5-heres-what-it-can-do/
    OpenAI ได้เปิดตัวโมเดล GPT-4.5 ซึ่งมีชื่อรหัสว่า "Orion" โดยโมเดลนี้เป็นโมเดลสุดท้ายที่ไม่ได้ใช้การคิดอย่างลำดับขั้น (non-chain-of-thought) แต่จะนำเสนอมิติใหม่ในเรื่องความสามารถในการสนทนาและความแม่นยำในการตอบคำถาม เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2025 OpenAI ได้ประกาศเปิดตัว GPT-4.5 ในรูปแบบวิจัย ซึ่ง OpenAI อ้างว่าเป็นโมเดลที่ใหญ่ที่สุดและมีความรู้มากที่สุดในขณะนี้ ผู้ใช้ควรคาดหวังถึงการปรับปรุงโดยรวมในการใช้งาน GPT-4.5 ซึ่งรวมถึงการลดการสร้างเนื้อหาที่ผิดพลาด (hallucinations) ความสามารถในการเข้าใจอารมณ์ของคำถาม และการตอบคำถามที่ตรงกับเจตนาของผู้ใช้มากขึ้น การทดสอบและความสามารถในการให้เหตุผล - แม้ว่า GPT-4.5 จะไม่มีการคิดอย่างลำดับขั้น แต่มีการปรับปรุงในเรื่องการให้เหตุผลที่ดีกว่าและการตอบสนองที่รวดเร็วขึ้น เช่น ในการสาธิต AI ของ ChatGPT ถูกขอให้สร้างข้อความที่มีลักษณะเป็นการเกลียดชัง โดย GPT-4.5 สามารถตอบคำถามได้หลายทางเลือกและไม่กล่าวถึงความเกลียดชังตรงๆ แต่แสดงความผิดหวังในพฤติกรรมของผู้ใช้แทน การทดสอบประสิทธิภาพ (Benchmarks) - GPT-4.5 ได้รับการทดสอบในการทดสอบเบนช์มาร์กหลายรายการ เช่น Competition Math, PhD-level Science Questions และ SWE-Bench ซึ่ง GPT-4.5 ทำได้ดีกว่า GPT-4o และเกือบเท่ากับ o3-mini ในบางรายการทดสอบ เช่น SWE-Lancer Diamond และ MMMLU ที่เป็นการทดสอบการเขียนโค้ดและการใช้ภาษาแบบหลายภาษา ความปลอดภัยและการใช้งาน - OpenAI ยืนยันว่าโมเดล GPT-4.5 ผ่านการทดสอบความปลอดภัยและมีการใช้เทคนิคการดูแลใหม่ๆ ร่วมกับการเรียนรู้จากความคิดเห็นของมนุษย์ (RLHF) โมเดลนี้จะเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ระดับ Pro ก่อนในช่วงการวิจัย จากนั้นจะเปิดให้ใช้สำหรับผู้ใช้ระดับ Plus และ Team ในสัปดาห์ถัดไป รวมถึง Enterprise และ Edu ในสัปดาห์ถัดมา ความสามารถในการสนทนาที่ดีขึ้น - OpenAI อธิบายว่า GPT-4.5 มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ซึ่งทำให้การสนทนารู้สึกเป็นธรรมชาติและเป็นมิตรมากยิ่งขึ้น โดยใช้เทคนิคเช่นการเล่นคำ (alliteration) ทำให้ตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าสนใจ https://www.zdnet.com/article/openai-finally-unveils-gpt-4-5-heres-what-it-can-do/
    WWW.ZDNET.COM
    OpenAI finally unveils GPT-4.5. Here's what it can do
    OpenAI says its latest model is more conversational and even hallucinates less. Here's how to access it.
    0 Comments 0 Shares 645 Views 0 Reviews
  • "ไลฟ์ เอ็กซ์เพรส" ซีพีจับมือกับอิเกีย ปั้นร้านสะดวกซื้อมิติใหม่ : Ibusiness review https://www.youtube.com/shorts/TVt6RPLT8vY
    "ไลฟ์ เอ็กซ์เพรส" ซีพีจับมือกับอิเกีย ปั้นร้านสะดวกซื้อมิติใหม่ : Ibusiness review https://www.youtube.com/shorts/TVt6RPLT8vY
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 434 Views 0 Reviews
  • มิติใหม่! สื่อต่างชาติตีข่าว ชื่นชมตำรวจไทยรับมือ นทท.เมาสุดจึ้ง ! 07/12/67 #สื่อต่างชาติ #ตำรวจไทย #นักท่องเที่ยว #ประเทศไทย
    มิติใหม่! สื่อต่างชาติตีข่าว ชื่นชมตำรวจไทยรับมือ นทท.เมาสุดจึ้ง ! 07/12/67 #สื่อต่างชาติ #ตำรวจไทย #นักท่องเที่ยว #ประเทศไทย
    Like
    Haha
    13
    1 Comments 0 Shares 1623 Views 62 1 Reviews
  • มิติใหม่ปะ #ขายกีแบบ 10.0 #โลกอนาคตมาก

    อีสัส 555 โปรโมชั่นฉ่ำ ไม่กลัวชะตากีขาด

    #กะหรี่โลกอนาคตมากกกกกก
    มิติใหม่ปะ #ขายกีแบบ 10.0 #โลกอนาคตมาก อีสัส 555 โปรโมชั่นฉ่ำ ไม่กลัวชะตากีขาด #กะหรี่โลกอนาคตมากกกกกก
    0 Comments 0 Shares 700 Views 13 0 Reviews
  • มิติใหม่แห่งวงการตำรวจ เมื่อเข้ามาตรวจสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เต้นท่าตะเบ๊ะขณะที่นักร้องกำลังร้องเพลง "OK นะคะ" ได้ใจได้รอยยิ้ม จากวัยรุ่นที่เข้ามาใช้บริการ

    https://www.tiktok.com/@repeat.ari/video/7438225401911987474?_r=1&_t=8rUBbEQNIv3

    มิติใหม่แห่งวงการตำรวจ เมื่อเข้ามาตรวจสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เต้นท่าตะเบ๊ะขณะที่นักร้องกำลังร้องเพลง "OK นะคะ" ได้ใจได้รอยยิ้ม จากวัยรุ่นที่เข้ามาใช้บริการ https://www.tiktok.com/@repeat.ari/video/7438225401911987474?_r=1&_t=8rUBbEQNIv3
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 633 Views 15 0 Reviews
  • #ที่สุดแห่งวงการกฏหมายเรียกได้ว่าเป็นค-ดีประวัติศาสตร์
    หลังจากมีคลิป เดชา ท่-น-า-ย-ความชื่อดัง
    ที่พูดเสมอว่า ตนเป็นอินฟูล เป็นคนดัง และเป็นของแทร่
    และมีสัญลักษณ์ติดปากว่า จุ๊กกรู
    ได้อัดคลิปผ่านโซเชียล
    ว่าขอขอบคุณ คนที่ว่าน้องกามิน ที่ทำให้
    ทีมท-น-า-ย แปดหมื่นคนมีงานทำ
    โดยเนื้อหาสำคัญคือ จะทำการ ฟ้-อ-ง คนไทย
    ซึ่งเป็นมิติใหม่แห่งวงการ
    ซึ่งทางเพจคิงส์โพธิ์แดงจะเกาะติดสถานการณ์
    มารายงานให้แฟนเพจได้ทราบเป็นระยะ
    ถือว่า เดชา เก่งที่สุดแล้วในสภาท-น-า-ยความไทย
    หากดังไกลข้ามประเทศ เชื่อว่า
    น่าจะเป็นที่ชื่นชมของชาวไทยอย่างแน่นอน
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ที่สุดแห่งวงการกฏหมายเรียกได้ว่าเป็นค-ดีประวัติศาสตร์ หลังจากมีคลิป เดชา ท่-น-า-ย-ความชื่อดัง ที่พูดเสมอว่า ตนเป็นอินฟูล เป็นคนดัง และเป็นของแทร่ และมีสัญลักษณ์ติดปากว่า จุ๊กกรู ได้อัดคลิปผ่านโซเชียล ว่าขอขอบคุณ คนที่ว่าน้องกามิน ที่ทำให้ ทีมท-น-า-ย แปดหมื่นคนมีงานทำ โดยเนื้อหาสำคัญคือ จะทำการ ฟ้-อ-ง คนไทย ซึ่งเป็นมิติใหม่แห่งวงการ ซึ่งทางเพจคิงส์โพธิ์แดงจะเกาะติดสถานการณ์ มารายงานให้แฟนเพจได้ทราบเป็นระยะ ถือว่า เดชา เก่งที่สุดแล้วในสภาท-น-า-ยความไทย หากดังไกลข้ามประเทศ เชื่อว่า น่าจะเป็นที่ชื่นชมของชาวไทยอย่างแน่นอน #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    Angry
    Yay
    Sad
    16
    0 Comments 0 Shares 3139 Views 0 Reviews
  • #ปูฝากขอบคุณทุกกำลังใจ
    ปูยืนยัน ไม่ได้ยืมเงินใคร
    น้ำตาอาบแก้ม
    ชาวเน็ตส่งกำลังใจ ให้อิโมจิ,มีน้ำตา(แบบในภาพ)
    นี่คือที่สุดแล้ว ที่ยังมีคนรักเธออีกมากมาย
    เธอพร้อมสามียืนหยัดสู้ต่อ
    จะเอาความให้ถึงที่สุด
    หลักฐานเจ้าหนี้จะมีมากแค่ไหน
    เจ้าหนี้จะมีซักกี่คน
    "จะคืนได้ไง ยืมใครตอนไหน ไม่มี๊ ไม่มี"
    คิงส์โพธิ์แดงขอส่งกำลังใจให้ปู อย่ายอมแพ้
    เอาให้สุด แล้วไปหยุดที่ศาลเท่านั้น
    ศักดิ์ศรี ลูกหนี้ไอดอล ต้องมี
    มิติใหม่ แห่งวงการลูกหนี้ต้องมา
    (ปล.ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังไม่เก็ท ดูในภาพอีกรอบว่าอิโมจิมันร้องหรือหัวเราะน้ำตาเล็ด คือ กรรูเหน็บ ไอ่ฉัด)
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ปูมัณฑนา
    #ปูฝากขอบคุณทุกกำลังใจ ปูยืนยัน ไม่ได้ยืมเงินใคร น้ำตาอาบแก้ม ชาวเน็ตส่งกำลังใจ ให้อิโมจิ,มีน้ำตา(แบบในภาพ) นี่คือที่สุดแล้ว ที่ยังมีคนรักเธออีกมากมาย เธอพร้อมสามียืนหยัดสู้ต่อ จะเอาความให้ถึงที่สุด หลักฐานเจ้าหนี้จะมีมากแค่ไหน เจ้าหนี้จะมีซักกี่คน "จะคืนได้ไง ยืมใครตอนไหน ไม่มี๊ ไม่มี" คิงส์โพธิ์แดงขอส่งกำลังใจให้ปู อย่ายอมแพ้ เอาให้สุด แล้วไปหยุดที่ศาลเท่านั้น ศักดิ์ศรี ลูกหนี้ไอดอล ต้องมี มิติใหม่ แห่งวงการลูกหนี้ต้องมา (ปล.ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังไม่เก็ท ดูในภาพอีกรอบว่าอิโมจิมันร้องหรือหัวเราะน้ำตาเล็ด คือ กรรูเหน็บ ไอ่ฉัด) #คิงส์โพธิ์แดง #ปูมัณฑนา
    0 Comments 0 Shares 1164 Views 0 Reviews
  • พวกแกมันรั้น
    เหมาตั๋วว่ามีคนดูเยอะ ให้สลิ่มดู ว่าซั่น
    แล้วตบท้ายว่า เราน่ะ ของจริง
    ปลอมมาก ด้อม
    ตรรกะอะไรของพวกเมิง ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #หนังที่ไม่เป็นที่นิยม
    #ตลกมาก
    #มิติใหม่
    พวกแกมันรั้น เหมาตั๋วว่ามีคนดูเยอะ ให้สลิ่มดู ว่าซั่น แล้วตบท้ายว่า เราน่ะ ของจริง ปลอมมาก ด้อม ตรรกะอะไรของพวกเมิง ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #หนังที่ไม่เป็นที่นิยม #ตลกมาก #มิติใหม่
    0 Comments 0 Shares 814 Views 0 Reviews