• #พี่คิงส์วิเคราะห์แบบนี้
    เด ถั่วดำ จากทั้งพฤติกรรม และการนำเสนอ
    ที่ชาวไทยเห็นมาโดยตลอด
    นั่นคือความ หิว
    ไม่ว่าหิวแสง หิวตำแหน่ง หรือจะหิวเงินก็ตาม
    โดย เดถั่วดำเอง ตอนที่รับรู้ว่า ตั้มได้รับเงินจากเจ๊อ้อย
    ที่ตั้มอ้างว่า ได้โดสิเน่หานั้น เดถึงกับหลุดปากว่า
    อุ้ย ตั้ม แนะนำให้พี่บ้าง
    ซึ่งยิ่งข้อมูลถูกเปิดจากสนธิมากเท่าไหร่
    เดยิ่งรู้ว่า ตั้ม ยังซุกไว้อีกเยอะ
    และยิ่งเห็นคนออกตัวหล่อๆพ่อขุนแผน
    อย่างสายหยุด ที่เมื่อก่อนก็เป็นทานายธรรมดา
    ว่าความหลักหมื่น หลับคบตั้ม กลับร่ำรวยอู้ฟู่อย่างผิดหูผิดตา
    เดน่าจะเห็นจุดนี้ เพราะคิดว่า ทำตัวหิวแสงมานาน
    ก็ยังไม่มีใครไว้ใจ ให้ทำ KaDee ที่จะทำให้ร่ำรวยได้เลย
    ยอมโดนคนประมาณ เพียงอยากได้แสง คงมีหวัง
    ที่จะเจอคนอย่างเจ๊อ้อยนี่แหละ หลุดมาบ้าง
    แต่ด้วยความที่ เดถั่วดำ ทั้งเบ้าหน้า และภาพลักษณ์
    ดูยังไงก็ไม่เป็นที่น่าไว้วางใจได้เลย
    จึงเป็นเหตุให้ต้องโพสของานบ่อยๆในเพจตัวเอง
    และถ้าสังเกตุดีๆ หมอนี่ วันๆอยู่กับโซเชียล
    นานๆที จะมีหน่วยงานหลงผิดเอาไปบรรยายบ้าง
    ทั้งๆที่เด ถั่วดำเองก็ไม่เคยได้มีสร้างประโยชน์ใดๆกับสังคม
    ที่อ้างว่า ตัวเองให้ความรู้ทางกฏฏหมายกับปชช อะ
    คำถามคือ ใครได้ประโยชน์ มีแต่หาแสงไปวันๆ
    แล้วถามว่า มันไปว่า ความ ตอนไหนฟร๊ะ
    ดังนั้น เดคงเห็นแล้วว่า ถ้าครั้งนี้ ตนเองออกตัวช่วยตั้ม
    อย่างน้อย ออกมาก็ต้องมีติดไม้ติดมือหลักสิบหลักร้อยหละแว๊
    แถมแถลงว่า อย่างมากก็ได้เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนตั้ม
    คำถามคือ เด ถั่วดำ สนิทอะไรกับตั้มขนาดนั้นไหม
    ตอบคือ สองตัวนี้ เคยมีปัญหากันมาตลอด
    เคยฟ๊องร้องกัน เคยด้อยค่ากัน
    ถ้าสนิทกันจริง คนที่รวยต้องไม่ใช่สายหยุด
    แต่ต้องเป็นเด ถั่วดำแทนไปแล้ว
    ดังนั้น วิเคราะห์ได้ทางเดียวนี่แหละ
    ความหวัง ลมๆแล้งๆ ยอมทุกอย่าง
    ทำเป็นกันชน ปากกล้ากับสนธิ
    อยากให้ข่าวเข้าไปในกรง
    ให้ตั้มสัมนาคุณให้บ้าง
    แม้จะต้องเสี่ยงกับการถูกถอดจากการเป็นทานายก็ยังยอม
    คงหวังว่า เข้าไปไม่กี่ปี ออกมา จิบบบไวนน์ ท่ามกลางภูเขา
    ในวัยชรา ทุ๊ย เด ถั่วดำ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เมิงมโนหรอก
    สุดท้าย จะได้ออกมา หรือตุยตูนี่เย่ไปซะก่อนก็ไม่รู้
    เด ถั่วดำ อายุไม่น้อยแล้ว กรรูว่า ไม่ได้ออกมาหรอก
    ตุยยยก่อน ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    #พี่คิงส์วิเคราะห์แบบนี้ เด ถั่วดำ จากทั้งพฤติกรรม และการนำเสนอ ที่ชาวไทยเห็นมาโดยตลอด นั่นคือความ หิว ไม่ว่าหิวแสง หิวตำแหน่ง หรือจะหิวเงินก็ตาม โดย เดถั่วดำเอง ตอนที่รับรู้ว่า ตั้มได้รับเงินจากเจ๊อ้อย ที่ตั้มอ้างว่า ได้โดสิเน่หานั้น เดถึงกับหลุดปากว่า อุ้ย ตั้ม แนะนำให้พี่บ้าง ซึ่งยิ่งข้อมูลถูกเปิดจากสนธิมากเท่าไหร่ เดยิ่งรู้ว่า ตั้ม ยังซุกไว้อีกเยอะ และยิ่งเห็นคนออกตัวหล่อๆพ่อขุนแผน อย่างสายหยุด ที่เมื่อก่อนก็เป็นทานายธรรมดา ว่าความหลักหมื่น หลับคบตั้ม กลับร่ำรวยอู้ฟู่อย่างผิดหูผิดตา เดน่าจะเห็นจุดนี้ เพราะคิดว่า ทำตัวหิวแสงมานาน ก็ยังไม่มีใครไว้ใจ ให้ทำ KaDee ที่จะทำให้ร่ำรวยได้เลย ยอมโดนคนประมาณ เพียงอยากได้แสง คงมีหวัง ที่จะเจอคนอย่างเจ๊อ้อยนี่แหละ หลุดมาบ้าง แต่ด้วยความที่ เดถั่วดำ ทั้งเบ้าหน้า และภาพลักษณ์ ดูยังไงก็ไม่เป็นที่น่าไว้วางใจได้เลย จึงเป็นเหตุให้ต้องโพสของานบ่อยๆในเพจตัวเอง และถ้าสังเกตุดีๆ หมอนี่ วันๆอยู่กับโซเชียล นานๆที จะมีหน่วยงานหลงผิดเอาไปบรรยายบ้าง ทั้งๆที่เด ถั่วดำเองก็ไม่เคยได้มีสร้างประโยชน์ใดๆกับสังคม ที่อ้างว่า ตัวเองให้ความรู้ทางกฏฏหมายกับปชช อะ คำถามคือ ใครได้ประโยชน์ มีแต่หาแสงไปวันๆ แล้วถามว่า มันไปว่า ความ ตอนไหนฟร๊ะ ดังนั้น เดคงเห็นแล้วว่า ถ้าครั้งนี้ ตนเองออกตัวช่วยตั้ม อย่างน้อย ออกมาก็ต้องมีติดไม้ติดมือหลักสิบหลักร้อยหละแว๊ แถมแถลงว่า อย่างมากก็ได้เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนตั้ม คำถามคือ เด ถั่วดำ สนิทอะไรกับตั้มขนาดนั้นไหม ตอบคือ สองตัวนี้ เคยมีปัญหากันมาตลอด เคยฟ๊องร้องกัน เคยด้อยค่ากัน ถ้าสนิทกันจริง คนที่รวยต้องไม่ใช่สายหยุด แต่ต้องเป็นเด ถั่วดำแทนไปแล้ว ดังนั้น วิเคราะห์ได้ทางเดียวนี่แหละ ความหวัง ลมๆแล้งๆ ยอมทุกอย่าง ทำเป็นกันชน ปากกล้ากับสนธิ อยากให้ข่าวเข้าไปในกรง ให้ตั้มสัมนาคุณให้บ้าง แม้จะต้องเสี่ยงกับการถูกถอดจากการเป็นทานายก็ยังยอม คงหวังว่า เข้าไปไม่กี่ปี ออกมา จิบบบไวนน์ ท่ามกลางภูเขา ในวัยชรา ทุ๊ย เด ถั่วดำ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เมิงมโนหรอก สุดท้าย จะได้ออกมา หรือตุยตูนี่เย่ไปซะก่อนก็ไม่รู้ เด ถั่วดำ อายุไม่น้อยแล้ว กรรูว่า ไม่ได้ออกมาหรอก ตุยยยก่อน ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    Haha
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 361 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุริยะยืนกราน ที่ดินเขากระโดงเป็นของ รฟท. ไม่รู้สนามฟุตบอล-แข่งรถครอบคลุมหรือไม่
    (19/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ที่ดินเขากระโดง #รฟท. #กรมที่ดิน #ฟ้องร้องที่ดินเขากระโดง
    สุริยะยืนกราน ที่ดินเขากระโดงเป็นของ รฟท. ไม่รู้สนามฟุตบอล-แข่งรถครอบคลุมหรือไม่ (19/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ที่ดินเขากระโดง #รฟท. #กรมที่ดิน #ฟ้องร้องที่ดินเขากระโดง
    Like
    Haha
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1012 มุมมอง 120 1 รีวิว
  • 🔸️นับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนสำหรับเด็กเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่าของปริมาณทั้งหมด
    ในขณะเดียวกัน การวินิจฉัยโรคออทิซึมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 27,000%
    https://thepeoplesvoice.tv/aluminum-levels-in-childhood.../
    ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของอะลูมิเนียมในวัคซีนมักเกี่ยวข้องกับบทบาทของอะลูมิเนียมในฐานะสารเสริมภูมิคุ้มกัน—ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น—การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างส่วนประกอบของวัคซีนและอัตราการเกิดออทิซึมที่เพิ่มมากขึ้น
    อัตราการเกิดโรคออทิซึมในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 เมื่อครั้งนั้น อัตราการวินิจฉัยโรคออทิซึมโดยประมาณอยู่ที่ 1 ใน 10,000 เด็ก ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 อัตราดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 150 และข้อมูลล่าสุดจากปี 2023 ระบุว่าอัตราดังกล่าวอยู่ที่ 1 ใน 36 เด็ก
    ดร. คริส เอ็กซ์ลีย์ จากมหาวิทยาลัยคีลในอังกฤษและเพื่อนร่วมงานได้ตีพิมพ์งานวิจัยที่ทำการศึกษาเนื้อเยื่อสมองของผู้ป่วยออทิสติกเป็นครั้งแรก เพื่อตรวจสอบระดับอะลูมิเนียม (หมายเหตุ: ในสหราชอาณาจักรผู้ป่วยสะกดคำว่า “อะลูมิเนียม” เป็น “อะลูมิเนียม”) ที่พบในเนื้อเยื่อสมอง
    สำหรับใครก็ตามที่พยายามจะโน้มน้าวโลกให้เชื่อว่า “วิทยาศาสตร์ได้รับการพิสูจน์แล้วและวัคซีนไม่ได้ทำให้เกิดโรคออทิซึม” ผลการศึกษานี้ขัดแย้งกับคำกล่าวนี้อย่างมาก
    ในโพสต์บล็อกที่เขียนโดยศาสตราจารย์เอ็กซ์ลีย์ในวันที่ผลการศึกษาของเขาได้รับการตีพิมพ์
    เขาได้อธิบายผลลัพธ์อันล้ำสมัยดังต่อไปนี้:
    “…ในขณะที่ปริมาณอะลูมิเนียมในสมองของผู้ป่วยออทิสติกทั้ง 5 รายนั้นสูงอย่างน่าตกใจ แต่ตำแหน่งในเนื้อเยื่อสมองต่างหากที่เป็นจุดสังเกตที่โดดเด่น…หลักฐานใหม่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอะลูมิเนียมเข้าสู่สมองของผู้ป่วย ASD [กลุ่มอาการออทิสติก] ผ่านทางเซลล์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบซึ่งมีอะลูมิเนียมสะสมอยู่ในเลือดและ/หรือน้ำเหลือง ซึ่งก็เหมือนกับที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในโมโนไซต์ที่บริเวณที่ฉีดวัคซีนรวมถึงสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียม”
    คำพูดของดร. เอ็กซ์ลีย์รวมถึงการอ้างถึง “โมโนไซต์ที่บริเวณฉีด” และความจริงที่ว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างโมโนไซต์เหล่านี้กับอะลูมิเนียมได้รับการพิสูจน์แล้วในวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้
    ฉันรู้ว่ามันฟังดูเป็นเทคนิคมาก แต่ลองฟังฉันก่อน
    “โมโนไซต์” คือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ซึ่งโมโนไซต์ชนิดหนึ่งคือ “แมคโครฟาจ” แมคโครฟาจอาจเปรียบได้กับมนุษย์ขยะในระบบภูมิคุ้มกันที่คอยกัดกินสิ่งแปลกปลอม เศษเซลล์ ฯลฯ
    อย่างที่คุณจะสังเกตเห็นในอีกไม่ช้านี้ ดูเหมือนว่าแมคโครฟาจจะมีบทบาทสำคัญและร้ายแรงในการกระตุ้นให้เกิดออทิซึม โดยทำหน้าที่นำอะลูมิเนียมที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งฉีดจากวัคซีนโดยตรงเข้าไปในสมอง ซึ่งสามารถขัดขวางการพัฒนาของสมองและกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้
    การศึกษาวิจัยของดร. เอ็กซ์ลีย์เรื่อง “ อะลูมิเนียมในเนื้อเยื่อสมองและออทิซึม ” ถือได้ว่าเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายของปริศนาที่เริ่มประกอบเข้าด้วยกันในปี 2004 และได้รับความสนใจมากขึ้นหลังปี 2010 ซึ่งช่วยส่งเสริมความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์อย่างมากว่าวัคซีนสามารถกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้อย่างไร
    ไทม์ไลน์นี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนัก เนื่องจากศาลวัคซีนในสหรัฐฯ ได้ยกฟ้องสมมติฐานเกี่ยวกับวัคซีน-ออทิซึมในปี 2009 นานก่อนที่สิ่งที่ฉันจะอธิบายต่อไปนี้จะเกิดขึ้นเสียอีก
    วิทยาศาสตร์คือความต่อเนื่อง ความจริงที่ปรากฏผ่านการศึกษาหลาย ๆ อย่างซึ่งมักต้องนำมาประกอบเข้าด้วยกันก่อนจึงจะมองเห็นภาพรวมได้ชัดเจน และบางครั้งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อาจดำเนินไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งถึงจุดที่ความจริงที่ปรากฏปรากฏขึ้นในลักษณะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป
    ในความเห็นของฉัน การศึกษาของดร. เอ็กซ์ลีย์ให้ข้อมูลเพียงส่วนเดียวที่ขาดหายไปจากคำอธิบายที่รัดกุมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของฉันและเด็กอีกหลายๆ คน และได้ให้ "ความน่าจะเป็นทางชีววิทยา" แก่ผู้ที่ไม่เชื่อทั้งหมดว่าวัคซีนที่ฉีดเข้าที่ไหล่ของทารกสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคออทิซึมได้อย่างไร
    สำหรับชาวอเมริกัน การแข่งขันเพื่อค้นหาสาเหตุของโรคออทิซึมทั้งหมดนั้นน่าจะชนะได้ในต่างแดน ดังที่คุณจะเห็นในไม่ช้านี้ วิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่อธิบายสาเหตุของโรคออทิซึมมาจากต่างประเทศ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จาก Caltech จะเป็นคนผลักโดมิโนตัวแรกไปเมื่อปี 2549 ก็ตาม
    ทำไมถึงมีอะลูมิเนียมอยู่ในวัคซีน?
    อะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบสำคัญของวัคซีนส่วนใหญ่ที่ให้กับเด็ก อะลูมิเนียมทำหน้าที่เป็น “สารเสริมภูมิคุ้มกัน” ซึ่งหมายความว่าอะลูมิเนียมทำหน้าที่ “ปลุก” ระบบภูมิคุ้มกันให้ตื่นขึ้น กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำ “แอนติเจน” ในวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่วัคซีนทำหน้าที่ป้องกันโรค
    ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนที่ให้กับเด็ก ๆพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเริ่มตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 ด้วยสาเหตุสองประการ: 1) มีการเพิ่มวัคซีนเข้าไปในตารางวัคซีนสำหรับเด็กมากขึ้น และ 2) อัตราการฉีดวัคซีนสำหรับวัคซีนทุกชนิดที่ให้กับเด็กเพิ่มขึ้น (จาก 50–60% ของเด็ก ๆ ที่ได้รับวัคซีนในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เป็นมากกว่า 90% ในปัจจุบัน)
    ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เด็กจะได้รับอะลูมิเนียมจากวัคซีน 1,250 ไมโครกรัมภายในอายุ 18 เดือนหากได้รับวัคซีนครบถ้วน ปัจจุบัน ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 4,925 ไมโครกรัม ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าจากปริมาณอะลูมิเนียมทั้งหมด
    คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในผลการศึกษาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งตีพิมพ์โดย Neil Miller
    ที่น่าประหลาดใจก็คือ อะลูมิเนียมไม่เคยผ่านการทดสอบทางชีวภาพเพื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยในการฉีดเข้าไปในทารก เนื่องจากอะลูมิเนียมได้รับการ "ยกเว้น" ไว้ในมาตรฐานความปลอดภัยสมัยใหม่ของเรา นักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดา ดร. คริส ชอว์ และ ดร. ลูซิจา ทอมเยโนวิช ได้กล่าวถึงการละเว้นนี้ในการศึกษาวิจัยเชิงวิจารณ์ที่พวกเขาตีพิมพ์ในปี 2011 ในวารสารCurrent Medicinal Chemistryชื่อว่า “ สารเสริมฤทธิ์วัคซีนอะลูมิเนียม: ปลอดภัยหรือไม่ ” พวกเขาเขียนว่า:
    “อะลูมิเนียมเป็นสารพิษต่อระบบประสาทที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากการทดลองและเป็นสารเสริมฤทธิ์วัคซีนที่ใช้กันทั่วไป แม้ว่าจะมีการใช้สารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมอย่างแพร่หลายมานานเกือบ 90 ปีแล้ว แต่ความเข้าใจของวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมยังคงต่ำอย่างน่าตกใจนอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพิษวิทยาและเภสัชจลนศาสตร์ของสารประกอบเหล่านี้อย่างขาดแคลน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล แม้จะเป็นเช่นนั้น แนวคิดที่ว่าอะลูมิเนียมในวัคซีนนั้นปลอดภัยก็ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางอย่างไรก็ตาม การวิจัยเชิงทดลองแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมมีศักยภาพในการทำให้เกิดความผิดปกติทางภูมิคุ้มกันที่ร้ายแรงในมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อะลูมิเนียมในรูปแบบสารเสริมฤทธิ์มีความเสี่ยงต่อภูมิคุ้มกันตนเอง การอักเสบของสมองในระยะยาว และภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทที่เกี่ยวข้อง และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างกว้างขวางและรุนแรง”
    ICANตัดสินใจทดสอบความสามารถของ CDC และ NIH ในการผลิตงานวิจัยใดๆ เพื่อแสดงให้เห็นความปลอดภัยของสารเสริมฤทธิ์วัคซีนผ่านการฟ้องร้องภายใต้ FOIA ตอนนี้ฉันเดาว่าคุณคงรู้ว่าคดีจบลงอย่างไร... อ่านบทความฉบับสมบูรณ์
    “คำตอบของ CDC และ NIH ต่อคำร้องขอภายใต้พระราชบัญญัติเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล (FOIA) ของ ICAN เกี่ยวกับสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมเผยให้เห็นการยอมรับที่น่าตกตะลึง นั่นคือ พวกเขาไม่มีการศึกษาแม้แต่ชิ้นเดียวที่จะสนับสนุนความปลอดภัยในการแนะนำให้ฉีดสารพิษต่อเซลล์และระบบประสาทนี้ซ้ำๆ เป็นส่วนหนึ่งของตารางการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กของ CDC”
    🔸️นับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนสำหรับเด็กเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่าของปริมาณทั้งหมด ในขณะเดียวกัน การวินิจฉัยโรคออทิซึมก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 27,000% https://thepeoplesvoice.tv/aluminum-levels-in-childhood.../ ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของอะลูมิเนียมในวัคซีนมักเกี่ยวข้องกับบทบาทของอะลูมิเนียมในฐานะสารเสริมภูมิคุ้มกัน—ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น—การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างส่วนประกอบของวัคซีนและอัตราการเกิดออทิซึมที่เพิ่มมากขึ้น อัตราการเกิดโรคออทิซึมในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 เมื่อครั้งนั้น อัตราการวินิจฉัยโรคออทิซึมโดยประมาณอยู่ที่ 1 ใน 10,000 เด็ก ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 อัตราดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 150 และข้อมูลล่าสุดจากปี 2023 ระบุว่าอัตราดังกล่าวอยู่ที่ 1 ใน 36 เด็ก ดร. คริส เอ็กซ์ลีย์ จากมหาวิทยาลัยคีลในอังกฤษและเพื่อนร่วมงานได้ตีพิมพ์งานวิจัยที่ทำการศึกษาเนื้อเยื่อสมองของผู้ป่วยออทิสติกเป็นครั้งแรก เพื่อตรวจสอบระดับอะลูมิเนียม (หมายเหตุ: ในสหราชอาณาจักรผู้ป่วยสะกดคำว่า “อะลูมิเนียม” เป็น “อะลูมิเนียม”) ที่พบในเนื้อเยื่อสมอง สำหรับใครก็ตามที่พยายามจะโน้มน้าวโลกให้เชื่อว่า “วิทยาศาสตร์ได้รับการพิสูจน์แล้วและวัคซีนไม่ได้ทำให้เกิดโรคออทิซึม” ผลการศึกษานี้ขัดแย้งกับคำกล่าวนี้อย่างมาก ในโพสต์บล็อกที่เขียนโดยศาสตราจารย์เอ็กซ์ลีย์ในวันที่ผลการศึกษาของเขาได้รับการตีพิมพ์ เขาได้อธิบายผลลัพธ์อันล้ำสมัยดังต่อไปนี้: “…ในขณะที่ปริมาณอะลูมิเนียมในสมองของผู้ป่วยออทิสติกทั้ง 5 รายนั้นสูงอย่างน่าตกใจ แต่ตำแหน่งในเนื้อเยื่อสมองต่างหากที่เป็นจุดสังเกตที่โดดเด่น…หลักฐานใหม่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอะลูมิเนียมเข้าสู่สมองของผู้ป่วย ASD [กลุ่มอาการออทิสติก] ผ่านทางเซลล์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบซึ่งมีอะลูมิเนียมสะสมอยู่ในเลือดและ/หรือน้ำเหลือง ซึ่งก็เหมือนกับที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในโมโนไซต์ที่บริเวณที่ฉีดวัคซีนรวมถึงสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียม” คำพูดของดร. เอ็กซ์ลีย์รวมถึงการอ้างถึง “โมโนไซต์ที่บริเวณฉีด” และความจริงที่ว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างโมโนไซต์เหล่านี้กับอะลูมิเนียมได้รับการพิสูจน์แล้วในวิทยาศาสตร์ที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ ฉันรู้ว่ามันฟังดูเป็นเทคนิคมาก แต่ลองฟังฉันก่อน “โมโนไซต์” คือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ซึ่งโมโนไซต์ชนิดหนึ่งคือ “แมคโครฟาจ” แมคโครฟาจอาจเปรียบได้กับมนุษย์ขยะในระบบภูมิคุ้มกันที่คอยกัดกินสิ่งแปลกปลอม เศษเซลล์ ฯลฯ อย่างที่คุณจะสังเกตเห็นในอีกไม่ช้านี้ ดูเหมือนว่าแมคโครฟาจจะมีบทบาทสำคัญและร้ายแรงในการกระตุ้นให้เกิดออทิซึม โดยทำหน้าที่นำอะลูมิเนียมที่มนุษย์สร้างขึ้นซึ่งฉีดจากวัคซีนโดยตรงเข้าไปในสมอง ซึ่งสามารถขัดขวางการพัฒนาของสมองและกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้ การศึกษาวิจัยของดร. เอ็กซ์ลีย์เรื่อง “ อะลูมิเนียมในเนื้อเยื่อสมองและออทิซึม ” ถือได้ว่าเป็นชิ้นส่วนสุดท้ายของปริศนาที่เริ่มประกอบเข้าด้วยกันในปี 2004 และได้รับความสนใจมากขึ้นหลังปี 2010 ซึ่งช่วยส่งเสริมความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์อย่างมากว่าวัคซีนสามารถกระตุ้นให้เกิดออทิซึมได้อย่างไร ไทม์ไลน์นี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตระหนัก เนื่องจากศาลวัคซีนในสหรัฐฯ ได้ยกฟ้องสมมติฐานเกี่ยวกับวัคซีน-ออทิซึมในปี 2009 นานก่อนที่สิ่งที่ฉันจะอธิบายต่อไปนี้จะเกิดขึ้นเสียอีก วิทยาศาสตร์คือความต่อเนื่อง ความจริงที่ปรากฏผ่านการศึกษาหลาย ๆ อย่างซึ่งมักต้องนำมาประกอบเข้าด้วยกันก่อนจึงจะมองเห็นภาพรวมได้ชัดเจน และบางครั้งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อาจดำเนินไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งถึงจุดที่ความจริงที่ปรากฏปรากฏขึ้นในลักษณะที่ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป ในความเห็นของฉัน การศึกษาของดร. เอ็กซ์ลีย์ให้ข้อมูลเพียงส่วนเดียวที่ขาดหายไปจากคำอธิบายที่รัดกุมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายของฉันและเด็กอีกหลายๆ คน และได้ให้ "ความน่าจะเป็นทางชีววิทยา" แก่ผู้ที่ไม่เชื่อทั้งหมดว่าวัคซีนที่ฉีดเข้าที่ไหล่ของทารกสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคออทิซึมได้อย่างไร สำหรับชาวอเมริกัน การแข่งขันเพื่อค้นหาสาเหตุของโรคออทิซึมทั้งหมดนั้นน่าจะชนะได้ในต่างแดน ดังที่คุณจะเห็นในไม่ช้านี้ วิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่อธิบายสาเหตุของโรคออทิซึมมาจากต่างประเทศ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จาก Caltech จะเป็นคนผลักโดมิโนตัวแรกไปเมื่อปี 2549 ก็ตาม ทำไมถึงมีอะลูมิเนียมอยู่ในวัคซีน? อะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบสำคัญของวัคซีนส่วนใหญ่ที่ให้กับเด็ก อะลูมิเนียมทำหน้าที่เป็น “สารเสริมภูมิคุ้มกัน” ซึ่งหมายความว่าอะลูมิเนียมทำหน้าที่ “ปลุก” ระบบภูมิคุ้มกันให้ตื่นขึ้น กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันจดจำ “แอนติเจน” ในวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่วัคซีนทำหน้าที่ป้องกันโรค ปริมาณอะลูมิเนียมในวัคซีนที่ให้กับเด็ก ๆพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเริ่มตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 ด้วยสาเหตุสองประการ: 1) มีการเพิ่มวัคซีนเข้าไปในตารางวัคซีนสำหรับเด็กมากขึ้น และ 2) อัตราการฉีดวัคซีนสำหรับวัคซีนทุกชนิดที่ให้กับเด็กเพิ่มขึ้น (จาก 50–60% ของเด็ก ๆ ที่ได้รับวัคซีนในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เป็นมากกว่า 90% ในปัจจุบัน) ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 เด็กจะได้รับอะลูมิเนียมจากวัคซีน 1,250 ไมโครกรัมภายในอายุ 18 เดือนหากได้รับวัคซีนครบถ้วน ปัจจุบัน ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 4,925 ไมโครกรัม ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าจากปริมาณอะลูมิเนียมทั้งหมด คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในผลการศึกษาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งตีพิมพ์โดย Neil Miller ที่น่าประหลาดใจก็คือ อะลูมิเนียมไม่เคยผ่านการทดสอบทางชีวภาพเพื่อพิจารณาถึงความปลอดภัยในการฉีดเข้าไปในทารก เนื่องจากอะลูมิเนียมได้รับการ "ยกเว้น" ไว้ในมาตรฐานความปลอดภัยสมัยใหม่ของเรา นักวิทยาศาสตร์ชาวแคนาดา ดร. คริส ชอว์ และ ดร. ลูซิจา ทอมเยโนวิช ได้กล่าวถึงการละเว้นนี้ในการศึกษาวิจัยเชิงวิจารณ์ที่พวกเขาตีพิมพ์ในปี 2011 ในวารสารCurrent Medicinal Chemistryชื่อว่า “ สารเสริมฤทธิ์วัคซีนอะลูมิเนียม: ปลอดภัยหรือไม่ ” พวกเขาเขียนว่า: “อะลูมิเนียมเป็นสารพิษต่อระบบประสาทที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากการทดลองและเป็นสารเสริมฤทธิ์วัคซีนที่ใช้กันทั่วไป แม้ว่าจะมีการใช้สารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมอย่างแพร่หลายมานานเกือบ 90 ปีแล้ว แต่ความเข้าใจของวิทยาศาสตร์การแพทย์เกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมยังคงต่ำอย่างน่าตกใจนอกจากนี้ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับพิษวิทยาและเภสัชจลนศาสตร์ของสารประกอบเหล่านี้อย่างขาดแคลน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล แม้จะเป็นเช่นนั้น แนวคิดที่ว่าอะลูมิเนียมในวัคซีนนั้นปลอดภัยก็ยังได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางอย่างไรก็ตาม การวิจัยเชิงทดลองแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมมีศักยภาพในการทำให้เกิดความผิดปกติทางภูมิคุ้มกันที่ร้ายแรงในมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อะลูมิเนียมในรูปแบบสารเสริมฤทธิ์มีความเสี่ยงต่อภูมิคุ้มกันตนเอง การอักเสบของสมองในระยะยาว และภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาทที่เกี่ยวข้อง และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างกว้างขวางและรุนแรง” ICANตัดสินใจทดสอบความสามารถของ CDC และ NIH ในการผลิตงานวิจัยใดๆ เพื่อแสดงให้เห็นความปลอดภัยของสารเสริมฤทธิ์วัคซีนผ่านการฟ้องร้องภายใต้ FOIA ตอนนี้ฉันเดาว่าคุณคงรู้ว่าคดีจบลงอย่างไร... อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ “คำตอบของ CDC และ NIH ต่อคำร้องขอภายใต้พระราชบัญญัติเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล (FOIA) ของ ICAN เกี่ยวกับสารเสริมฤทธิ์อะลูมิเนียมเผยให้เห็นการยอมรับที่น่าตกตะลึง นั่นคือ พวกเขาไม่มีการศึกษาแม้แต่ชิ้นเดียวที่จะสนับสนุนความปลอดภัยในการแนะนำให้ฉีดสารพิษต่อเซลล์และระบบประสาทนี้ซ้ำๆ เป็นส่วนหนึ่งของตารางการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กของ CDC”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## Li Ziqi (หลีจื่อชี) กลับมาแล้ว ##
    ..
    ..
    หลีจื่อชี กลับมาอัปเดตวิดีโออีกครั้งหลังจากผ่านไป 3 ปี...!!!
    .
    หลังจากเรื่องราวการฟ้องร้อง ระหว่าง บริษัท WeiNian และ นาย หลิวถงหมิง กับ บริษัท Ziqi Culture ของ หลีจื่อชี ซึ่งจบลงด้วยการไกล่เกลี่ย
    .
    หลังจากนั้น เธอก็เงียบหายไป...
    .
    โดยตัวเธอระบุว่า ได้ใช้เวลาไปกับ “การพักผ่อน และ ดูแลคุณยาย”
    .
    เธอเดินทางไปหลายสถานที่ในกว่า 20 มณฑล และ พบปะกับผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และ ผู้ทำงานด้านวัฒนธรรมกว่า 100 คน ซึ่งทำให้เธอค้นพบแนวทางในอนาคต...
    .
    หลี่จื่อฉี วัย 34 ปี เจ้าของรางวัล Guinness World Record สำหรับ "ผู้ติดตามช่องภาษาจีนบน YouTube มากที่สุด"
    .
    ผู้ผลิตคอนเทนต์ที่จะนำพาเรา เขาไปสู่อีกโลกหนึ่ง พื่นที่ป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ รอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ด้วยชีวิตที่ สงบ และ สุข กับการใช้ชีวิต และ กินอยู่ กับธรรมชาติ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และ ยังสวยงามชวนฝันอีกด้วย...
    .
    เธอเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้ทำคอนเทนต์ รุ่นน้องหลายราย ที่ผลิตคอนเทนต์ ในลักษณะเดียวกันออกมาอีกมากมายในภายหลัง...
    ...
    และที่สำคัญ เป็น คอนเทนต์ที่ผมชอบมาก...
    .
    😊😊😊😊😊😊😊😊
    .
    https://youtu.be/IrXjnw8BpM0?si=j4ldHD-aOzecMHvA
    ## Li Ziqi (หลีจื่อชี) กลับมาแล้ว ## .. .. หลีจื่อชี กลับมาอัปเดตวิดีโออีกครั้งหลังจากผ่านไป 3 ปี...!!! . หลังจากเรื่องราวการฟ้องร้อง ระหว่าง บริษัท WeiNian และ นาย หลิวถงหมิง กับ บริษัท Ziqi Culture ของ หลีจื่อชี ซึ่งจบลงด้วยการไกล่เกลี่ย . หลังจากนั้น เธอก็เงียบหายไป... . โดยตัวเธอระบุว่า ได้ใช้เวลาไปกับ “การพักผ่อน และ ดูแลคุณยาย” . เธอเดินทางไปหลายสถานที่ในกว่า 20 มณฑล และ พบปะกับผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และ ผู้ทำงานด้านวัฒนธรรมกว่า 100 คน ซึ่งทำให้เธอค้นพบแนวทางในอนาคต... . หลี่จื่อฉี วัย 34 ปี เจ้าของรางวัล Guinness World Record สำหรับ "ผู้ติดตามช่องภาษาจีนบน YouTube มากที่สุด" . ผู้ผลิตคอนเทนต์ที่จะนำพาเรา เขาไปสู่อีกโลกหนึ่ง พื่นที่ป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ รอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ด้วยชีวิตที่ สงบ และ สุข กับการใช้ชีวิต และ กินอยู่ กับธรรมชาติ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และ ยังสวยงามชวนฝันอีกด้วย... . เธอเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผู้ทำคอนเทนต์ รุ่นน้องหลายราย ที่ผลิตคอนเทนต์ ในลักษณะเดียวกันออกมาอีกมากมายในภายหลัง... ... และที่สำคัญ เป็น คอนเทนต์ที่ผมชอบมาก... . 😊😊😊😊😊😊😊😊 . https://youtu.be/IrXjnw8BpM0?si=j4ldHD-aOzecMHvA
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักร้องยื่นเรื่องไม่เคลียร์ กกต.ข้องใจกลัวโดนฟ้อง ทนายตั้ม ยังไม่หลุดบัญชี ส.ว.
    .
    หลังจากที่มีสรพัดเรื่องร้องเรียนเข้ามายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เป็นจำนวนมาก เวลานี้เริ่มมีเสียงท้วงติงจากกกต.แล้วข้อร้องเรียนหลายเรื่องขาดความชัดเจนที่ไม่อาจนำไปสู่การพิจารณาได้
    .
    นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า เมื่อมีการร้องเข้ามา กกต.ก็จะต้องนำมาพิจารณาดูก่อน ไม่ว่าจะเป็นคำร้องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาร้องความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีการยื่นคำร้องเข้ามาเป็นจำนวนมาก ยอมรับว่า กกต.อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบมากขึ้น แต่หากจะยื่นเรื่องร้องเรียนขอให้มีข้อมูลให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เป็นการมาตั้งคำถาม
    .
    "ส่วนมากทุกเรื่องจะยื่นมาในลักษณะตั้งคำถามในลักษณะผิดหรือไม่ เข้าใจว่าอาจจะเป็นการหลบหลีกในเรื่องของการถูกฟ้องร้องหรือไม่ แต่สำนักงาน กกต.ก็ไม่เคยทิ้ง แต่ต้องใช้ความเข้มงวดมากขึ้น ในอดีตให้โอกาสเพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. การจะรับคำร้องก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริง ส่วนรูปแบบการร้องหรือสาระสำคัญในการยื่นคำร้อง ขอให้ผู้ร้องได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและผิดกฎหมายมาตราใด ไม่ใช่มาถามว่าผิดหรือไม่"
    .
    ขณะเดียวกัน นายแสวง ระบุว่า กรณีที่กกต.จังหวัดสมุทรสาคร เข้าไปสอบปากคำ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในเรือนจำ ซึ่งถูกร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติในการสมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เนื่องจากทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี นั้น เป็นขั้นตอนตามกระบวนการ กล่าวคือ เมื่อมีคนร้องว่ามีลักษณะต้องห้ามของการเป็น ส.ว. จึงต้องไปสอบตามคำร้อง ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ถือว่านายษิทรายังมีคุณสมบัติการเป็น ส.ว.ตามกฎหมาย สามารถอยู่ในบัญชีสำรองได้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ไม่ว่าจะชั้นไหน
    ..............
    Sondhi X
    นักร้องยื่นเรื่องไม่เคลียร์ กกต.ข้องใจกลัวโดนฟ้อง ทนายตั้ม ยังไม่หลุดบัญชี ส.ว. . หลังจากที่มีสรพัดเรื่องร้องเรียนเข้ามายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เป็นจำนวนมาก เวลานี้เริ่มมีเสียงท้วงติงจากกกต.แล้วข้อร้องเรียนหลายเรื่องขาดความชัดเจนที่ไม่อาจนำไปสู่การพิจารณาได้ . นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า เมื่อมีการร้องเข้ามา กกต.ก็จะต้องนำมาพิจารณาดูก่อน ไม่ว่าจะเป็นคำร้องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาร้องความผิดตามกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีการยื่นคำร้องเข้ามาเป็นจำนวนมาก ยอมรับว่า กกต.อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบมากขึ้น แต่หากจะยื่นเรื่องร้องเรียนขอให้มีข้อมูลให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เป็นการมาตั้งคำถาม . "ส่วนมากทุกเรื่องจะยื่นมาในลักษณะตั้งคำถามในลักษณะผิดหรือไม่ เข้าใจว่าอาจจะเป็นการหลบหลีกในเรื่องของการถูกฟ้องร้องหรือไม่ แต่สำนักงาน กกต.ก็ไม่เคยทิ้ง แต่ต้องใช้ความเข้มงวดมากขึ้น ในอดีตให้โอกาสเพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. การจะรับคำร้องก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริง ส่วนรูปแบบการร้องหรือสาระสำคัญในการยื่นคำร้อง ขอให้ผู้ร้องได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและผิดกฎหมายมาตราใด ไม่ใช่มาถามว่าผิดหรือไม่" . ขณะเดียวกัน นายแสวง ระบุว่า กรณีที่กกต.จังหวัดสมุทรสาคร เข้าไปสอบปากคำ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในเรือนจำ ซึ่งถูกร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติในการสมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เนื่องจากทำงานภาคประชาสังคมไม่ถึง 10 ปี นั้น เป็นขั้นตอนตามกระบวนการ กล่าวคือ เมื่อมีคนร้องว่ามีลักษณะต้องห้ามของการเป็น ส.ว. จึงต้องไปสอบตามคำร้อง ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ถือว่านายษิทรายังมีคุณสมบัติการเป็น ส.ว.ตามกฎหมาย สามารถอยู่ในบัญชีสำรองได้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ไม่ว่าจะชั้นไหน .............. Sondhi X
    Haha
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 710 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✳ ขอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทินรีบดำเนินการทบทวนการอนุญาตวัคซีนโควิดของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา
    วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

    เอกสารแนบ
    ๑. สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ลงวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
    ๒. สำเนาหนังสือที่กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ส่งให้ส่วนราชการภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับปัญหาของวัคซีนโควิด

    ตามที่ท่านเป็นรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ โดยมาตรา ๘๖ ได้บัญญัติไว้ว่า “ยาใดที่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้แล้ว หากภายหลัง ปรากฏว่ายานั้นไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ หรืออาจไม่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ .............ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยานั้นได้ การเพิกถอน ให้กระทำโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา คำสั่งของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด” ปัจจุบันมีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า วัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา ไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ กล่าวคือ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ ไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อ ไม่สามารถลดการป่วยหนัก และไม่สามารถลดการเสียชีวิตลงได้ อีกทั้งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตต่อผู้บริโภค อาจไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ท่านในฐานะรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงมีอำนาจและหน้าที่ ในการสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาดังกล่าว ทั้งนี้หากท่านไม่รีบดำเนินการทันทีที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ อาจเข้าข่ายการกระทำผิดในฐาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งส่งผลให้ท่านต้องรับผิดทางอาญาและรับผิดทางละเมิดหากมีผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องกล่าวโทษท่านในอนาคต ในทางตรงกันข้ามหากท่านดำเนินการเพิกถอนทะเบียนตำรับยาวัคซีน mRNA ท่านจะกลายเป็นวีรบุรุษของประชาชน และยังเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อใช้ในการรักษาผลข้างเคียงจากวัคซีนดังกล่าวด้วย

    อนึ่งจากผลการเลือกตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศนโยบายในการปฏิรูปสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของประเทศสหรัฐ พร้อมทั้งฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยาทั้งสองข้างต้นในข้อหาให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน อีกทั้งยังจะทำการสอบสวนสื่อมวลชนในการให้ข้อมูลเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวัคซีนโควิดด้วย นโยบายดังกล่าวย่อมสงผลให้ประชาคมโลกรวมทั้งประเทศไทยรับรู้ข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน mRNA อันจะส่งผลให้ ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยา และหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภคในที่สุด
    จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านดำเนินการเพิกถอนตำรับยา และแถลงข่าวในเรื่องนี้ให้สาธารณชนได้รับรู้โดยเร็วต่อไป

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    เอกสารแนบ
    🔸️๑. วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา https://drive.google.com/file/d/194Tdo5zsHVbln0QgcEHR4w0vqQKkKKT8/view?usp=drivesdk

    🔸️๒. วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชน https://docs.google.com/document/d/1UiTSqJLYwCJjMDHVKdLxvsRYSJt-pTkY/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true

    วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนการอนุญาตให้ใช้วัคซีนชนิด mRNA
    https://docs.google.com/document/d/1VE4buQ0_cFnq0skvZZBeMsrhKj4Y1WWO/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true

    วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย สัญญาทาส ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์
    https://drive.google.com/file/d/1yJ0G2ZYqtSiGLyqfNcYh815zAw4wPt21/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy) https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้เพิกถอนกสนอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด ชนิด mRNA
    https://drive.google.com/file/d/19mD3aUoAB3t-ciwUXNS9QY4EqtWS7LJ5/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนพฤติกรรมการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโคเมอร์เนตี้
    https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ https://drive.google.com/file/d/1GIDGcv1jafx3O9bwgDUOgfohvuxNat0q/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขยืนยันการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย
    https://drive.google.com/file/d/1lvGImexMXmKdpRPdvJSq9Oqm3wrVovKK/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ กระทรวงสาธารณสุขมีเจตนาที่จะบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย https://drive.google.com/file/d/1uuKi_PTKtO48LBRbcLV_JbsVHTo6zKzI/view?usp=drive_link

    วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทไฟเซอร์
    https://drive.google.com/file/d/1bGwVKoRQUyNt7dXpWbTJJ_AzRyRRsgMH/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที”
    https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk

    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ขอให้รมต.สธ. ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
    https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk

    รวมจดหมายเปิดผนึกและหนังสือต่างๆที่ทางกลุ่มฯได้ยื่นให้หน่วยงานภาครัฐ
    https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    ✳ ขอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทินรีบดำเนินการทบทวนการอนุญาตวัคซีนโควิดของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เอกสารแนบ ๑. สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ลงวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ๒. สำเนาหนังสือที่กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ส่งให้ส่วนราชการภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับปัญหาของวัคซีนโควิด ตามที่ท่านเป็นรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ โดยมาตรา ๘๖ ได้บัญญัติไว้ว่า “ยาใดที่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้แล้ว หากภายหลัง ปรากฏว่ายานั้นไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ หรืออาจไม่ปลอดภัยแก่ผู้ใช้ .............ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยานั้นได้ การเพิกถอน ให้กระทำโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา คำสั่งของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด” ปัจจุบันมีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า วัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา ไม่มีสรรพคุณตามที่ขึ้นทะเบียนไว้ กล่าวคือ ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ ไม่สามารถป้องกันการแพร่เชื้อ ไม่สามารถลดการป่วยหนัก และไม่สามารถลดการเสียชีวิตลงได้ อีกทั้งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตต่อผู้บริโภค อาจไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ท่านในฐานะรัฐมนตรีที่รักษาการตามพระราชบัญญัติดังกล่าว จึงมีอำนาจและหน้าที่ ในการสั่งให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาดังกล่าว ทั้งนี้หากท่านไม่รีบดำเนินการทันทีที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ อาจเข้าข่ายการกระทำผิดในฐาน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งส่งผลให้ท่านต้องรับผิดทางอาญาและรับผิดทางละเมิดหากมีผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องกล่าวโทษท่านในอนาคต ในทางตรงกันข้ามหากท่านดำเนินการเพิกถอนทะเบียนตำรับยาวัคซีน mRNA ท่านจะกลายเป็นวีรบุรุษของประชาชน และยังเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อใช้ในการรักษาผลข้างเคียงจากวัคซีนดังกล่าวด้วย อนึ่งจากผลการเลือกตั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศนโยบายในการปฏิรูปสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของประเทศสหรัฐ พร้อมทั้งฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยาทั้งสองข้างต้นในข้อหาให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน อีกทั้งยังจะทำการสอบสวนสื่อมวลชนในการให้ข้อมูลเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวัคซีนโควิดด้วย นโยบายดังกล่าวย่อมสงผลให้ประชาคมโลกรวมทั้งประเทศไทยรับรู้ข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีน mRNA อันจะส่งผลให้ ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนดังกล่าวฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัทยา และหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภคในที่สุด จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านดำเนินการเพิกถอนตำรับยา และแถลงข่าวในเรื่องนี้ให้สาธารณชนได้รับรู้โดยเร็วต่อไป กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ เอกสารแนบ 🔸️๑. วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ สำเนาหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ขอให้ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา https://drive.google.com/file/d/194Tdo5zsHVbln0QgcEHR4w0vqQKkKKT8/view?usp=drivesdk 🔸️๒. วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชน https://docs.google.com/document/d/1UiTSqJLYwCJjMDHVKdLxvsRYSJt-pTkY/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนการอนุญาตให้ใช้วัคซีนชนิด mRNA https://docs.google.com/document/d/1VE4buQ0_cFnq0skvZZBeMsrhKj4Y1WWO/edit?usp=drive_link&ouid=114317915619449341642&rtpof=true&sd=true วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย สัญญาทาส ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์ https://drive.google.com/file/d/1yJ0G2ZYqtSiGLyqfNcYh815zAw4wPt21/view?usp=drivesdk วันที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy) https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp=drivesdk วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้เพิกถอนกสนอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด ชนิด mRNA https://drive.google.com/file/d/19mD3aUoAB3t-ciwUXNS9QY4EqtWS7LJ5/view?usp=drivesdk วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนพฤติกรรมการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโคเมอร์เนตี้ https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๗ ขอให้ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ https://drive.google.com/file/d/1GIDGcv1jafx3O9bwgDUOgfohvuxNat0q/view?usp=drivesdk วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๗ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขยืนยันการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย https://drive.google.com/file/d/1lvGImexMXmKdpRPdvJSq9Oqm3wrVovKK/view?usp=drivesdk วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗ กระทรวงสาธารณสุขมีเจตนาที่จะบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย https://drive.google.com/file/d/1uuKi_PTKtO48LBRbcLV_JbsVHTo6zKzI/view?usp=drive_link วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๗ ขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทไฟเซอร์ https://drive.google.com/file/d/1bGwVKoRQUyNt7dXpWbTJJ_AzRyRRsgMH/view?usp=drivesdk วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๗ ขอติดตามความคืบหน้าในการเพิกถอนการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาฉีด mRNA (modified RNA) https://drive.google.com/file/d/1AFg_Ilr8vyPjJtUeM277UX6tl3yGNB5c/view?usp=drivesdk วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ คำเตือนครั้งสุดท้ายถึงผู้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงสาธารณสุข “ขอให้ระงับการฉีด mRNA ทุกชนิดทันที” https://drive.google.com/file/d/1cugBtvCskQFxw8VdwqJs8jEwZNjhhFVh/view?usp=drivesdk วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ขอให้รมต.สธ. ระงับการฉีดวัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk รวมจดหมายเปิดผนึกและหนังสือต่างๆที่ทางกลุ่มฯได้ยื่นให้หน่วยงานภาครัฐ https://drive.google.com/drive/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 450 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขาบอกว่า หากใครมีประเด็นก็ไปฟ้องศาล พื้นที่เขากระโดงมีพื้นที่กว่า 5 พันไร่ เท่าที่ทราบตระกูลชิดชอบมีอยู่ 300 ไร่ แล้วอีก 4,700 ไร่ จะผิดแค่ 300 ไร่ได้อย่างไร หากเป็นอย่างนั้นก็ไปพิสูจน์เอา ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่อำนาจในการเพิกถอนหรืออนุญาต อยากจะยุ่งก็ยุ่งไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ

    ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ายังมีรายละเอียดอีกเยอะที่หลายคนไม่รู้ ซึ่ง รฟท.หรือประชาชนเองต้องทำการพิสูจน์สิทธิให้ชัดเจน ตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ให้ลองคิดดูว่าในประเทศไทยมีพื้นที่ใดที่กันรางรถไฟออกไป 1 กิโลเมตร ตรงไหนบ้างที่ไม่ใช่ชุมทาง แต่เป็นสถานีใหญ่ๆ มีหรือไม่ หากมี มีที่ไหนบ้างช่วยตอบหน่อย แล้วทำไมต้องเป็นแค่พื้นที่ตรงนี้ รฟท.จะเอาที่ดินไปทำอะไร

    เขาบอกว่า โดยส่วนตัวได้ติดตามเรื่องนี้มาพอสมควร และมองว่าน่าจะมีแผนที่บางตอนที่หายไป ซึ่งแผนที่ที่นำมาแสดงตนดูแล้วมีคลาดเคลื่อนอยู่ประมาณ 500 เมตร ซึ่งมองว่าน่าจะมีความขัดแย้งกัน แต่ทั้งนี้เราได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ซึ่งได้มีการพิจารณาไปแล้วว่า กรมที่ดินยังไม่ได้เพิกถอนโฉนดพื้นที่เขากระโดง แต่ก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์การรถไฟฯ แต่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น เพราะการรถไฟฯ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะทำให้คณะกรรมการสามารถเพิกถอนได้ ครั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของการรถไฟฯ ที่จะไปฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป

    เมื่อถามว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ก็ระบุว่าพื้นที่เขากระโดงต้องเป็นของการรถไฟฯ เพราะถือว่าคำตัดสินของศาลฎีกาเป็นที่สิ้นสุด รมช.มหาดไทยตอบว่า ส่วนตัวมองว่าคำพิพากษาของศาลฎีกา หากอ่านดีๆ จะพบว่ามีฎีกาทับฎีกาอยู่เสมอ ในโอกาสที่จะมีหลักฐานใหม่เข้ามา เพื่อให้เกิดความรอบคอบและความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน

    เมื่อถามถึงข้อกังขาว่า หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบเป็นคนในกลุ่มเพื่อนเนวิน นายทรงศักดิ์กล่าวว่า คิดมากไป ทุกคนที่มาเป็นคณะกรรมการก็มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว หากการทำหน้าที่ทำอะไรผิดไปและมีคนติดใจ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย จะไปมองว่าคนนั้นคนนี้เป็นใครไม่ได้ เพราะการทำงานของแต่ละคนก็มีบรรทัดฐานตามกรอบอยู่แล้ว

    ซักว่า ในพื้นที่เขากระโดงปรากฏว่ามีการถือครองที่ดินจากคนในตระกูลชิดชอบอยู่กว่า 20 แปลง ได้มีการตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายทรงศักดิ์กล่าวว่า การได้มาของที่ดินเขากระโดงก็ได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดิน ได้สิทธิ์ตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการ จะจำกัดว่าตระกูลหนึ่ง จะไม่มีสิทธิ์ไปครอบครองที่ดินเลยก็คงไม่ได้ มีกฎหมายตรงไหนที่ห้ามตระกูลหนึ่งเข้าไปถือสิทธิที่ดินตามกฎหมาย มีหรือไม่ มันไม่มี เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กัน

    ขณะที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจง งานในส่วนของกรมที่ดินว่าทำอยู่ 3 ส่วน โดยส่วนแรกทำตามคำสั่งศาลปกครอง ส่วนที่สองทำตามข้อกฎหมาย ไม่มีส่วนใดใช้เรื่องดุลยพินิจ และส่วนที่สามทำไปตามข้อเท็จจริงที่มีพยานหลักฐานและกฎหมายที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นทุกอย่างสามารถตรวจสอบในเรื่องการดำเนินการได้

    เมื่อถามต่อว่า ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยอยู่ในพรรคภูมิใจไทย จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการฟอกขาว อธิบดีกรมที่ดินยืนยันว่า กระบวนการที่ดำเนินมาทำตั้งแต่ก่อนที่นายอนุทินจะเข้ามา การตั้งคณะกรรมการมีการตั้งก่อน และการหาเอกสารพยานหลักฐานในการดำเนินการก็ทำมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ตนจึงยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครอง ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

    อย่างไรก็ตาม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ หากเป็นที่ดินของ รฟท.แม้กระทั่งตารางวาก็จะเสียไปไม่ได้ จึงให้ รฟท.ไปเช็กดู ซึ่งได้รับรายงานว่าวันที่ 10 พ.ย.นี้ รฟท.ได้ยื่นขอต่อศาลปกครองกลาง แจ้งว่าอธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาไม่ครบถ้วน ขอให้ศาลปกครองพิจารณาหรือไต่สวนกำหนดวิธีการดำเนินการ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ในการร่วมกันชี้แนวเขตที่ดินของ รฟท. และให้พิจารณามีคำสั่งในประเด็นต่างๆ ต่อไป ซึ่งผู้ว่าฯ รฟท.ได้ทำหนังสือถึงกรมที่ดินเพื่อยื่นคัดค้านหนังสือของอธิบดีกรมที่ดิน ตามมาตรา 44 พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง ซึ่งในนั้นระบุว่าเราต้องยื่นภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย. และเราส่งไปเรียบร้อยแล้ววันที่ 11 พ.ย. รฟท.รู้กฎหมายอยู่ จะไปหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินกว่า 900 แปลง ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ยังมีเวลา ยืนยันว่าจะดูให้รอบคอบ

    ถามว่า เรื่องนี้เรื้อรังมานานจะเคลียร์ให้จบภายในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ รมว.คมนาคมตอบว่า เรื่องนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมาย มันไม่ช้าอยู่แล้ว

    ซักว่า จำเป็นต้องพูดคุยกับนายอนุทินหรือไม่ นายสุริยะชี้แจงว่า เป็นระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ เมื่อกรมที่ดินบอกว่าเป็นที่ของเขา ไม่ได้เป็นที่ของ รฟท. เพราะมีหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ รฟท.เชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอ ก็ได้ดำเนินการไป

    เมื่อถามว่า มีการมองว่าที่ดินหลายแปลงในเขากระโดงเป็นของตระกูลชิดชอบ นายสุริยะกล่าวว่า ไม่อยากให้เรื่องขยายเป็นประเด็นการเมือง อยากให้ว่าไปตามกระบวนการ หรือ รฟท.เห็นว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรเมื่ออธิบดีกรมที่ดินชี้มาแบบนี้ รฟท.เห็นว่าไม่ใช่ก็ต้องพยายามรักษาสิทธิ์ของ รฟท.ไว้

    "คิดว่าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าไปมองว่าใครอยู่พรรคไหนหรือมีความขัดแย้งกัน" รมว.คมนาคมกล่าว.

    ที่มา https://www.thaipost.net/one-newspaper/688793/

    #Thaitimes
    เขาบอกว่า หากใครมีประเด็นก็ไปฟ้องศาล พื้นที่เขากระโดงมีพื้นที่กว่า 5 พันไร่ เท่าที่ทราบตระกูลชิดชอบมีอยู่ 300 ไร่ แล้วอีก 4,700 ไร่ จะผิดแค่ 300 ไร่ได้อย่างไร หากเป็นอย่างนั้นก็ไปพิสูจน์เอา ไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่อำนาจในการเพิกถอนหรืออนุญาต อยากจะยุ่งก็ยุ่งไม่ได้เพราะไม่มีอำนาจ ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่ายังมีรายละเอียดอีกเยอะที่หลายคนไม่รู้ ซึ่ง รฟท.หรือประชาชนเองต้องทำการพิสูจน์สิทธิให้ชัดเจน ตนไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ให้ลองคิดดูว่าในประเทศไทยมีพื้นที่ใดที่กันรางรถไฟออกไป 1 กิโลเมตร ตรงไหนบ้างที่ไม่ใช่ชุมทาง แต่เป็นสถานีใหญ่ๆ มีหรือไม่ หากมี มีที่ไหนบ้างช่วยตอบหน่อย แล้วทำไมต้องเป็นแค่พื้นที่ตรงนี้ รฟท.จะเอาที่ดินไปทำอะไร เขาบอกว่า โดยส่วนตัวได้ติดตามเรื่องนี้มาพอสมควร และมองว่าน่าจะมีแผนที่บางตอนที่หายไป ซึ่งแผนที่ที่นำมาแสดงตนดูแล้วมีคลาดเคลื่อนอยู่ประมาณ 500 เมตร ซึ่งมองว่าน่าจะมีความขัดแย้งกัน แต่ทั้งนี้เราได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ซึ่งได้มีการพิจารณาไปแล้วว่า กรมที่ดินยังไม่ได้เพิกถอนโฉนดพื้นที่เขากระโดง แต่ก็ไม่ได้ตัดสิทธิ์การรถไฟฯ แต่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น เพราะการรถไฟฯ ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่จะทำให้คณะกรรมการสามารถเพิกถอนได้ ครั้งนี้ก็เป็นสิทธิ์ของการรถไฟฯ ที่จะไปฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป เมื่อถามว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ก็ระบุว่าพื้นที่เขากระโดงต้องเป็นของการรถไฟฯ เพราะถือว่าคำตัดสินของศาลฎีกาเป็นที่สิ้นสุด รมช.มหาดไทยตอบว่า ส่วนตัวมองว่าคำพิพากษาของศาลฎีกา หากอ่านดีๆ จะพบว่ามีฎีกาทับฎีกาอยู่เสมอ ในโอกาสที่จะมีหลักฐานใหม่เข้ามา เพื่อให้เกิดความรอบคอบและความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน เมื่อถามถึงข้อกังขาว่า หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบเป็นคนในกลุ่มเพื่อนเนวิน นายทรงศักดิ์กล่าวว่า คิดมากไป ทุกคนที่มาเป็นคณะกรรมการก็มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว หากการทำหน้าที่ทำอะไรผิดไปและมีคนติดใจ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย จะไปมองว่าคนนั้นคนนี้เป็นใครไม่ได้ เพราะการทำงานของแต่ละคนก็มีบรรทัดฐานตามกรอบอยู่แล้ว ซักว่า ในพื้นที่เขากระโดงปรากฏว่ามีการถือครองที่ดินจากคนในตระกูลชิดชอบอยู่กว่า 20 แปลง ได้มีการตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายทรงศักดิ์กล่าวว่า การได้มาของที่ดินเขากระโดงก็ได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดิน ได้สิทธิ์ตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนในอนาคตจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการ จะจำกัดว่าตระกูลหนึ่ง จะไม่มีสิทธิ์ไปครอบครองที่ดินเลยก็คงไม่ได้ มีกฎหมายตรงไหนที่ห้ามตระกูลหนึ่งเข้าไปถือสิทธิที่ดินตามกฎหมาย มีหรือไม่ มันไม่มี เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กัน ขณะที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจง งานในส่วนของกรมที่ดินว่าทำอยู่ 3 ส่วน โดยส่วนแรกทำตามคำสั่งศาลปกครอง ส่วนที่สองทำตามข้อกฎหมาย ไม่มีส่วนใดใช้เรื่องดุลยพินิจ และส่วนที่สามทำไปตามข้อเท็จจริงที่มีพยานหลักฐานและกฎหมายที่ชัดเจน เพราะฉะนั้นทุกอย่างสามารถตรวจสอบในเรื่องการดำเนินการได้ เมื่อถามต่อว่า ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทยอยู่ในพรรคภูมิใจไทย จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการฟอกขาว อธิบดีกรมที่ดินยืนยันว่า กระบวนการที่ดำเนินมาทำตั้งแต่ก่อนที่นายอนุทินจะเข้ามา การตั้งคณะกรรมการมีการตั้งก่อน และการหาเอกสารพยานหลักฐานในการดำเนินการก็ทำมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ตนจึงยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งศาลปกครอง ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ หากเป็นที่ดินของ รฟท.แม้กระทั่งตารางวาก็จะเสียไปไม่ได้ จึงให้ รฟท.ไปเช็กดู ซึ่งได้รับรายงานว่าวันที่ 10 พ.ย.นี้ รฟท.ได้ยื่นขอต่อศาลปกครองกลาง แจ้งว่าอธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติตามคำพิพากษาไม่ครบถ้วน ขอให้ศาลปกครองพิจารณาหรือไต่สวนกำหนดวิธีการดำเนินการ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ในการร่วมกันชี้แนวเขตที่ดินของ รฟท. และให้พิจารณามีคำสั่งในประเด็นต่างๆ ต่อไป ซึ่งผู้ว่าฯ รฟท.ได้ทำหนังสือถึงกรมที่ดินเพื่อยื่นคัดค้านหนังสือของอธิบดีกรมที่ดิน ตามมาตรา 44 พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง ซึ่งในนั้นระบุว่าเราต้องยื่นภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย. และเราส่งไปเรียบร้อยแล้ววันที่ 11 พ.ย. รฟท.รู้กฎหมายอยู่ จะไปหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินกว่า 900 แปลง ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ยังมีเวลา ยืนยันว่าจะดูให้รอบคอบ ถามว่า เรื่องนี้เรื้อรังมานานจะเคลียร์ให้จบภายในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ รมว.คมนาคมตอบว่า เรื่องนี้ต้องดำเนินการตามกฎหมาย มันไม่ช้าอยู่แล้ว ซักว่า จำเป็นต้องพูดคุยกับนายอนุทินหรือไม่ นายสุริยะชี้แจงว่า เป็นระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ เมื่อกรมที่ดินบอกว่าเป็นที่ของเขา ไม่ได้เป็นที่ของ รฟท. เพราะมีหลักฐานไม่เพียงพอ แต่ รฟท.เชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอ ก็ได้ดำเนินการไป เมื่อถามว่า มีการมองว่าที่ดินหลายแปลงในเขากระโดงเป็นของตระกูลชิดชอบ นายสุริยะกล่าวว่า ไม่อยากให้เรื่องขยายเป็นประเด็นการเมือง อยากให้ว่าไปตามกระบวนการ หรือ รฟท.เห็นว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรเมื่ออธิบดีกรมที่ดินชี้มาแบบนี้ รฟท.เห็นว่าไม่ใช่ก็ต้องพยายามรักษาสิทธิ์ของ รฟท.ไว้ "คิดว่าเป็นเรื่องที่ปฏิบัติตามกฎหมาย อย่าไปมองว่าใครอยู่พรรคไหนหรือมีความขัดแย้งกัน" รมว.คมนาคมกล่าว. ที่มา https://www.thaipost.net/one-newspaper/688793/ #Thaitimes
    WWW.THAIPOST.NET
    มท.ปัดเอื้อที่ดินเขากระโดง ‘สุริยะ’ลั่นรฟท.ไม่ยอมแน่!
    "อนุทิน" ยัน “คดีเขากระโดง” ไม่มีแทรกแซง ไม่มีช่วยเพื่อน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • ️ประธานาธิบดีคนใหม่ ทรัมป์ ได้วางแผน 10 ประการเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ของ Deep State

    1. ฟื้นคืนอำนาจของประธานาธิบดีในการปลดข้าราชการที่ทุจริต

    2. ไล่ผู้กระทำทุจริตออกจากหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยข่าวกรอง
    3. ปฏิรูปศาล FISA ซึ่ง "ทุจริตมากจนผู้พิพากษาไม่สนใจว่าศาลจะโกหกหรือไม่เมื่อศาลออกหมายจับ

    4. จัดตั้งคณะกรรมการความจริงและการปรองดองเพื่อเปิดเผยและเผยแพร่เอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการสอดส่อง การเซ็นเซอร์ และการทุจริตของ Deep State

    5. ปราบปรามผู้รั่วไหลข้อมูลของรัฐบาลที่สมคบคิดกับข่าวปลอมเพื่อสร้างเรื่องราวเท็จโดยเจตนาและล้มล้างรัฐบาลและประชาธิปไตยของเรา

    6. ทำให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทุกแห่งเป็นอิสระและแยกออกจากแผนกที่พวกเขากำกับดูแล

    7. ขอให้รัฐสภาจัดตั้งระบบการตรวจสอบอิสระเพื่อตรวจสอบหน่วยข่าวกรองของเราและให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้สอดส่องพลเมืองของเราหรือดำเนินการรณรงค์ข้อมูลเท็จต่อชาวอเมริกัน

    8. ย้ายส่วนต่างๆ ของระบบราชการของรัฐบาลกลางที่ขยายตัวออกไปไปยังสถานที่ใหม่นอกวอชิงตัน "เช่นเดียวกับที่ฉันย้ายสำนักงานจัดการที่ดินไปที่โคโลราโด"

    9. ห้ามข้าราชการของรัฐบาลกลางเข้าทำงานในบริษัทที่พวกเขาติดต่อด้วย และห้ามไม่ให้ข้าราชการของรัฐบาลกลางควบคุมดูแล "เช่นเดียวกับบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่"

    10. ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภา

    ไม่มีเวลาให้เสียเปล่า!

    ทรัมป์สัญญาที่จะปราบปรามกลุ่มคนข้ามเพศ:

    1. คำสั่งฝ่ายบริหารที่จะห้ามหน่วยงานของรัฐบาลกลางส่งเสริมหรือให้ทุนสนับสนุน "การเปลี่ยนเพศ" สำหรับทุกวัย

    2. เรียกร้องให้รัฐสภาที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกันผ่านร่างกฎหมายที่:

    - หยุดการให้ทุนเพื่อจ่ายสำหรับ "การผ่าตัดแปลงเพศ"

    - ห้าม "การผ่าตัดแปลงเพศ" สำหรับเด็กทั่วประเทศ

    - ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฟ้องร้อง "แพทย์" ที่เรียกตัวเองว่า "แพทย์" ที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศกับเด็กได้

    - กำหนดให้รัฐบาลกลางรับรองเฉพาะเพศ "ชาย" และ "หญิง" ที่กำหนดตั้งแต่แรกเกิดเท่านั้น

    3. สั่งให้กระทรวงยุติธรรมสอบสวนบริษัทยาขนาดใหญ่และเครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่ (เช่น คลีฟแลนด์คลินิก เมโยคลินิก จอห์นฮอปกินส์) เพื่อพิจารณาว่า "การดูแลที่ยืนยันเพศ" ที่เรียกว่านั้นส่งผลต่อผลลัพธ์หรือไม่
    ️ประธานาธิบดีคนใหม่ ทรัมป์ ได้วางแผน 10 ประการเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ของ Deep State 1. ฟื้นคืนอำนาจของประธานาธิบดีในการปลดข้าราชการที่ทุจริต 2. ไล่ผู้กระทำทุจริตออกจากหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยข่าวกรอง 3. ปฏิรูปศาล FISA ซึ่ง "ทุจริตมากจนผู้พิพากษาไม่สนใจว่าศาลจะโกหกหรือไม่เมื่อศาลออกหมายจับ 4. จัดตั้งคณะกรรมการความจริงและการปรองดองเพื่อเปิดเผยและเผยแพร่เอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการสอดส่อง การเซ็นเซอร์ และการทุจริตของ Deep State 5. ปราบปรามผู้รั่วไหลข้อมูลของรัฐบาลที่สมคบคิดกับข่าวปลอมเพื่อสร้างเรื่องราวเท็จโดยเจตนาและล้มล้างรัฐบาลและประชาธิปไตยของเรา 6. ทำให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทุกแห่งเป็นอิสระและแยกออกจากแผนกที่พวกเขากำกับดูแล 7. ขอให้รัฐสภาจัดตั้งระบบการตรวจสอบอิสระเพื่อตรวจสอบหน่วยข่าวกรองของเราและให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้สอดส่องพลเมืองของเราหรือดำเนินการรณรงค์ข้อมูลเท็จต่อชาวอเมริกัน 8. ย้ายส่วนต่างๆ ของระบบราชการของรัฐบาลกลางที่ขยายตัวออกไปไปยังสถานที่ใหม่นอกวอชิงตัน "เช่นเดียวกับที่ฉันย้ายสำนักงานจัดการที่ดินไปที่โคโลราโด" 9. ห้ามข้าราชการของรัฐบาลกลางเข้าทำงานในบริษัทที่พวกเขาติดต่อด้วย และห้ามไม่ให้ข้าราชการของรัฐบาลกลางควบคุมดูแล "เช่นเดียวกับบริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่" 10. ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกรัฐสภา ไม่มีเวลาให้เสียเปล่า! ทรัมป์สัญญาที่จะปราบปรามกลุ่มคนข้ามเพศ: 1. คำสั่งฝ่ายบริหารที่จะห้ามหน่วยงานของรัฐบาลกลางส่งเสริมหรือให้ทุนสนับสนุน "การเปลี่ยนเพศ" สำหรับทุกวัย 2. เรียกร้องให้รัฐสภาที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกันผ่านร่างกฎหมายที่: - หยุดการให้ทุนเพื่อจ่ายสำหรับ "การผ่าตัดแปลงเพศ" - ห้าม "การผ่าตัดแปลงเพศ" สำหรับเด็กทั่วประเทศ - ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฟ้องร้อง "แพทย์" ที่เรียกตัวเองว่า "แพทย์" ที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศกับเด็กได้ - กำหนดให้รัฐบาลกลางรับรองเฉพาะเพศ "ชาย" และ "หญิง" ที่กำหนดตั้งแต่แรกเกิดเท่านั้น 3. สั่งให้กระทรวงยุติธรรมสอบสวนบริษัทยาขนาดใหญ่และเครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่ (เช่น คลีฟแลนด์คลินิก เมโยคลินิก จอห์นฮอปกินส์) เพื่อพิจารณาว่า "การดูแลที่ยืนยันเพศ" ที่เรียกว่านั้นส่งผลต่อผลลัพธ์หรือไม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราควรวิจัยว่าเรื่องที่ฝ่ายตรงข้ามกับผลประโยชน์ของประชาชนกำลังขับเคลื่อนอยู่ ช่วยกันวิจัยเชิงปฏิบัติการให้ได้เห็นภาพรวม ธาตุแท้ความต้องการของเขา สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและประเทศชาติอย่างไรบ้าง มันต้องผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆอย่างแน่นอน เราขับเคลื่อนไปเปิดโปงจัดการกระดานและอื่นๆมาตลอดมากมายในแต่ละเรื่องแต่เราควรทำงานเชิงรุกดูว่าเขาผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญกฎหมายอาญากฎหมายแพ่งและกฎหมายอื่นๆ ในทุกๆเรื่องเพื่อให้ทีมงานด้านกฎหมายด้านการเมืองเศรษฐกิจบูรณาการเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีให้เร็วขึ้นถ้าเรามั่นใจว่ามันผิดกฎหมายทำร้ายทำลายสังคมและประชาชนประเทศชาติ เราก็ยืมหลักการเพิ่มเติมฟ้องเพิ่มยินดีต้อนรับสู่คลิปบอร์ดของ Gboard ข้อความที่คุณคัดลอกจะบันทึกไว้ที่นี่เช่นเรื่อง MOU 44 คุณปานเทพพูดได้ดีมากรอบคอบเป็นระบบและคลิปความรู้อื่นๆประกอบกันยื่นฟ้องต่อศาลหรือองค์กรอิสระน่าจะทำแบบยืนฟ้องให้อัยการ 15 วันก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือยื่นฟ้องต่อศาลเคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือหน่วยงานอื่นเพราะการขับเคลื่อนของรัฐกระทำผิดกฎหมายอยู่ตลอดเมื่อยื่นฟ้องไปแล้วยังไม่หยุดกระทำการเป็นการกระทำผิดที่ชัดเจนหน่วยงานด้านกฎหมายก็รับรู้รับเรื่องแล้วสังคมก็รับรู้แล้วการขับทเคลื่อนต่ของรัฐต่อไปหลังจากมีการยื่นฟ้องร้องแล้วถือว่ารู้แล้วยังทำต่อจะถูกเน้นซูมให้ทุกฝ่ายรู้ว่าคุณก็ต้องทำผิดกฎหมายต่อไม่ทบทวนไม่รับฟังไม่หยุดการกระทำนั้นความผิดจะยิ่งชัดเจนขึ้นต่อหน่วยงานที่รับฟ้องโดยตรง เรื่องการแจกเงินดิจิตอลจะสร้างความเสียหายอย่างไรก็รวบรวมข้อมูลยื่นฟ้องน่าจะได้เหมือนกันก่อนที่จะเกิดความเสียหายแก้ไขเหตุการณ์ไม่ทัน เรื่องยาบ้า 5 เม็ดกับสร้างความเสียหายมากผิดกฎหมายในการออกกฎระเบียบ เรื่องการให้เล่นการพนันเสรีก็น่าจะผิดกฎหมายการสร้างความสงบให้กับประชาชนไม่สร้างความผิดพลาดประสบความล้มเหลวให้กับประชาชน เรื่องที่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ยอมยึดทรัพย์หลายหมื่นล้านรวมถึงเขากระโดงและเรื่องอื่นๆน่าจะทำไปแนวใหม่ได้คือฟ้องเชิงรุกเพิ่มเติมแนวใหม่ขึ้นมาเพื่อเราจะไม่ต้องเป็นการเสียเวลาร่วมกันสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายขับเคลื่อนแบบเดิมๆเปิดโปงคัดค้านวิจารณ์กันหลากหลายเรื่องชุลมุนไปหมดประชาชนก็ตื่นรู้ได้ดีก็ทำต่อไปแต่ให้ทุ่มเทเวลาในการวิจัยรวบรวมข้อมูลฟ้องร้องไปให้เร็วที่เขากระทำผิดกฎหมายอยู่ในเรื่องต่างๆเพื่อหยุดยั้งยังได้ผลต่อการกระทำผิดของฝ่ายตรงข้ามให้เร็วขึ้นเพราะเขาถือหลักสร้างเรื่องชุลมุนมากมายพร้อมๆกันไปหลากหลายเรื่องเพื่อสร้างความปั่นป่วนกวนน้ำให้ขุ่นให้หมดจะได้สำเร็จในบางเรื่องเราขับเคลื่อนต้านทานไม่ทันในบางเรื่องก็อาจเป็นได้ฝ่ายบริหารการจัดรายการน่าจะมีแผนชมเรื่องให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีความสามารถกระตุ้นให้เขาสนใจนำเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปคิดวิเคราะห์ฟ้องร้องตามที่เขามีจุดเด่นมีความสามารถฟ้องร้องมาแล้วที่เขาทำได้ดีมากเราก็กระตุ้นไปให้เขามาร่วมสนใจฟ้องให้เร็ววิจัยประมวลเหตุการณ์ให้เร็วจะได้ฟ้องมันทุกเรื่องทุกช็อตทิ่มแทงให้ตรงหัวใจไปทุกเรื่องยิ่งสร้างเรื่องมากชุลมุนมากคุณจะถูกทิ่มแทงไปที่หัวใจมากเรื่องตรงเป้าเข้าจุดอย่างไม่ชักช้ายิ่งสร้างเรื่องมามากยิ่งพังมากและจะมีเป็นจำเลยมากมายหลายเรื่องซึ่งในอนาคตจะต้องมีการฟ้องทางแพ่งประกอบความเสียหายจากผลประโยชน์ของประชาชนและของประเทศชาติพร้อมกันไปด้วยแล้วจี้บังคับให้ชดใช้อย่างรวดเร็วที่สุดใครไม่กระทำก็ฟ้องเอาเข้าคุกทั้งระบบเครือข่ายของเขาในเรื่องนั้นๆ
    เราควรวิจัยว่าเรื่องที่ฝ่ายตรงข้ามกับผลประโยชน์ของประชาชนกำลังขับเคลื่อนอยู่ ช่วยกันวิจัยเชิงปฏิบัติการให้ได้เห็นภาพรวม ธาตุแท้ความต้องการของเขา สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและประเทศชาติอย่างไรบ้าง มันต้องผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆอย่างแน่นอน เราขับเคลื่อนไปเปิดโปงจัดการกระดานและอื่นๆมาตลอดมากมายในแต่ละเรื่องแต่เราควรทำงานเชิงรุกดูว่าเขาผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญกฎหมายอาญากฎหมายแพ่งและกฎหมายอื่นๆ ในทุกๆเรื่องเพื่อให้ทีมงานด้านกฎหมายด้านการเมืองเศรษฐกิจบูรณาการเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีให้เร็วขึ้นถ้าเรามั่นใจว่ามันผิดกฎหมายทำร้ายทำลายสังคมและประชาชนประเทศชาติ เราก็ยืมหลักการเพิ่มเติมฟ้องเพิ่มยินดีต้อนรับสู่คลิปบอร์ดของ Gboard ข้อความที่คุณคัดลอกจะบันทึกไว้ที่นี่เช่นเรื่อง MOU 44 คุณปานเทพพูดได้ดีมากรอบคอบเป็นระบบและคลิปความรู้อื่นๆประกอบกันยื่นฟ้องต่อศาลหรือองค์กรอิสระน่าจะทำแบบยืนฟ้องให้อัยการ 15 วันก็ส่งศาลรัฐธรรมนูญหรือยื่นฟ้องต่อศาลเคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือหน่วยงานอื่นเพราะการขับเคลื่อนของรัฐกระทำผิดกฎหมายอยู่ตลอดเมื่อยื่นฟ้องไปแล้วยังไม่หยุดกระทำการเป็นการกระทำผิดที่ชัดเจนหน่วยงานด้านกฎหมายก็รับรู้รับเรื่องแล้วสังคมก็รับรู้แล้วการขับทเคลื่อนต่ของรัฐต่อไปหลังจากมีการยื่นฟ้องร้องแล้วถือว่ารู้แล้วยังทำต่อจะถูกเน้นซูมให้ทุกฝ่ายรู้ว่าคุณก็ต้องทำผิดกฎหมายต่อไม่ทบทวนไม่รับฟังไม่หยุดการกระทำนั้นความผิดจะยิ่งชัดเจนขึ้นต่อหน่วยงานที่รับฟ้องโดยตรง เรื่องการแจกเงินดิจิตอลจะสร้างความเสียหายอย่างไรก็รวบรวมข้อมูลยื่นฟ้องน่าจะได้เหมือนกันก่อนที่จะเกิดความเสียหายแก้ไขเหตุการณ์ไม่ทัน เรื่องยาบ้า 5 เม็ดกับสร้างความเสียหายมากผิดกฎหมายในการออกกฎระเบียบ เรื่องการให้เล่นการพนันเสรีก็น่าจะผิดกฎหมายการสร้างความสงบให้กับประชาชนไม่สร้างความผิดพลาดประสบความล้มเหลวให้กับประชาชน เรื่องที่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ยอมยึดทรัพย์หลายหมื่นล้านรวมถึงเขากระโดงและเรื่องอื่นๆน่าจะทำไปแนวใหม่ได้คือฟ้องเชิงรุกเพิ่มเติมแนวใหม่ขึ้นมาเพื่อเราจะไม่ต้องเป็นการเสียเวลาร่วมกันสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายขับเคลื่อนแบบเดิมๆเปิดโปงคัดค้านวิจารณ์กันหลากหลายเรื่องชุลมุนไปหมดประชาชนก็ตื่นรู้ได้ดีก็ทำต่อไปแต่ให้ทุ่มเทเวลาในการวิจัยรวบรวมข้อมูลฟ้องร้องไปให้เร็วที่เขากระทำผิดกฎหมายอยู่ในเรื่องต่างๆเพื่อหยุดยั้งยังได้ผลต่อการกระทำผิดของฝ่ายตรงข้ามให้เร็วขึ้นเพราะเขาถือหลักสร้างเรื่องชุลมุนมากมายพร้อมๆกันไปหลากหลายเรื่องเพื่อสร้างความปั่นป่วนกวนน้ำให้ขุ่นให้หมดจะได้สำเร็จในบางเรื่องเราขับเคลื่อนต้านทานไม่ทันในบางเรื่องก็อาจเป็นได้ฝ่ายบริหารการจัดรายการน่าจะมีแผนชมเรื่องให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีความสามารถกระตุ้นให้เขาสนใจนำเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปคิดวิเคราะห์ฟ้องร้องตามที่เขามีจุดเด่นมีความสามารถฟ้องร้องมาแล้วที่เขาทำได้ดีมากเราก็กระตุ้นไปให้เขามาร่วมสนใจฟ้องให้เร็ววิจัยประมวลเหตุการณ์ให้เร็วจะได้ฟ้องมันทุกเรื่องทุกช็อตทิ่มแทงให้ตรงหัวใจไปทุกเรื่องยิ่งสร้างเรื่องมากชุลมุนมากคุณจะถูกทิ่มแทงไปที่หัวใจมากเรื่องตรงเป้าเข้าจุดอย่างไม่ชักช้ายิ่งสร้างเรื่องมามากยิ่งพังมากและจะมีเป็นจำเลยมากมายหลายเรื่องซึ่งในอนาคตจะต้องมีการฟ้องทางแพ่งประกอบความเสียหายจากผลประโยชน์ของประชาชนและของประเทศชาติพร้อมกันไปด้วยแล้วจี้บังคับให้ชดใช้อย่างรวดเร็วที่สุดใครไม่กระทำก็ฟ้องเอาเข้าคุกทั้งระบบเครือข่ายของเขาในเรื่องนั้นๆ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ฟ้องร้อง #หลอกลวง #กล่าวเท็จ #ด่า #หมิ่นประมาท #สุดซอย #ความจริงมีหนึ่งเดียว
    #ฟ้องร้อง #หลอกลวง #กล่าวเท็จ #ด่า #หมิ่นประมาท #สุดซอย #ความจริงมีหนึ่งเดียว
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ รับซื้อของผิดกฎหมายจะเป็นผลเสียเกิดการฟ้องร้องฟ้องศาลเป็นคดีความวุ่นวาย กระทำการสิ่งใดควรเก็บเอกสารไว้เป็นหลักฐานยืนยันเพราะมีเกณฑ์จะขัดแย้งโต้เถียงกัน ค้ำประกันให้ใครชื่อเสียงจะเสียหายจนหมดเครดิต ความคิดสร้างสรรค์ที่ถดถอยจะถูกบั่นทอนลดความสำคัญและทำลายความมั่นใจ แต่ชีวิตการงานจะเจริญก้าวหน้า มีตำแหน่ง ยศศักดิ์ อำนาจ วาสนา บารมี โชคดีทางการเงิน เพศหญิงจะต้องแบกรับภาระหนักจนเป็นเหตุให้เกิดการหย่าร้าง ความเครียดจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาด ทั้งลูกหลานบริวารไม่ยอมเชื่อฟัง รวมทั้งโรคร้ายภัยแปลกๆ ภัยจากสิ่งเร้นลับหลอกหลอนที่ยากต่อการพิสูจน์หาคำตอบได้ โรคบางโรคเป็นได้ง่ายแต่รักษายากอาจกลายพันธ์ุเรื้อรังจนเป็นโรคที่น่ากลัว
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เดือนนี้ รับซื้อของผิดกฎหมายจะเป็นผลเสียเกิดการฟ้องร้องฟ้องศาลเป็นคดีความวุ่นวาย กระทำการสิ่งใดควรเก็บเอกสารไว้เป็นหลักฐานยืนยันเพราะมีเกณฑ์จะขัดแย้งโต้เถียงกัน ค้ำประกันให้ใครชื่อเสียงจะเสียหายจนหมดเครดิต ความคิดสร้างสรรค์ที่ถดถอยจะถูกบั่นทอนลดความสำคัญและทำลายความมั่นใจ แต่ชีวิตการงานจะเจริญก้าวหน้า มีตำแหน่ง ยศศักดิ์ อำนาจ วาสนา บารมี โชคดีทางการเงิน เพศหญิงจะต้องแบกรับภาระหนักจนเป็นเหตุให้เกิดการหย่าร้าง ความเครียดจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาด ทั้งลูกหลานบริวารไม่ยอมเชื่อฟัง รวมทั้งโรคร้ายภัยแปลกๆ ภัยจากสิ่งเร้นลับหลอกหลอนที่ยากต่อการพิสูจน์หาคำตอบได้ โรคบางโรคเป็นได้ง่ายแต่รักษายากอาจกลายพันธ์ุเรื้อรังจนเป็นโรคที่น่ากลัว ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตก

    เดือนนี้ เป็นเพราะปากพาจนเป็นผลให้การเจรจานำไปสู่การแตกหัก ชื่อเสียงที่สั่งสมไว้จึงถูกดิสเครดิตรให้เสียหาย คำมั่นคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับใครจะถูกทวงถามให้เป็นที่น่ารำคาญใจ จะตกลงเอกสารสัญญาต้องรัดกุมให้มากๆมีโอกาสตัดสินใจผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ยุ่งเรื่องคนอื่นจะเดือดร้อนเสียหายทำให้ถูกฟ้องร้องจนกลายเป็นคดีความ ครอบครัวมีโอกาสแตกแยกเพราะนอกใจ แม้แต่คนงานในบ้านอาจเป็นสายรู้เห็นเป็นใจให้แก่โจรมาปล้นขโมย อีกทั้งควรป้องกันอัคคีภัยก่อนจะบานปลาย โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงจะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บเพราะโลหะ มีด ของมีคม หรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ ระวังอาหารจะเป็นพิษ ดื่มน้ำเย็นจัดจะเป็นผลร้าย จะเจ็บป่วยหนักจนเป็นโรคร้ายที่ปอด คอ ปาก ฟัน ลิ้น รังไข่ มดลูก ลำไส้ใหญ่ โรคเพศสัมพันธุ์
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตก เดือนนี้ เป็นเพราะปากพาจนเป็นผลให้การเจรจานำไปสู่การแตกหัก ชื่อเสียงที่สั่งสมไว้จึงถูกดิสเครดิตรให้เสียหาย คำมั่นคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับใครจะถูกทวงถามให้เป็นที่น่ารำคาญใจ จะตกลงเอกสารสัญญาต้องรัดกุมให้มากๆมีโอกาสตัดสินใจผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ยุ่งเรื่องคนอื่นจะเดือดร้อนเสียหายทำให้ถูกฟ้องร้องจนกลายเป็นคดีความ ครอบครัวมีโอกาสแตกแยกเพราะนอกใจ แม้แต่คนงานในบ้านอาจเป็นสายรู้เห็นเป็นใจให้แก่โจรมาปล้นขโมย อีกทั้งควรป้องกันอัคคีภัยก่อนจะบานปลาย โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงจะโชคร้ายได้รับบาดเจ็บเพราะโลหะ มีด ของมีคม หรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ ระวังอาหารจะเป็นพิษ ดื่มน้ำเย็นจัดจะเป็นผลร้าย จะเจ็บป่วยหนักจนเป็นโรคร้ายที่ปอด คอ ปาก ฟัน ลิ้น รังไข่ มดลูก ลำไส้ใหญ่ โรคเพศสัมพันธุ์ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧵ชัยชนะของทรัมป์ทำให้โซรอสต้องโศกเศร้า: นี่คือสาเหตุ

    กองทุนป้องกันความเสี่ยงมหาเศรษฐี จากฉลามที่ผันตัวมาเป็น “นักการกุศล” เสรีนิยมที่มีแนวคิดฉ้อฉล ผลประโยชน์ทางการเงินของจอร์จ โซรอส และโครงการทางการเมืองอาจประสบปัญหาเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาที่ทำเนียบขาว.
    .
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา, Bloomberg รายงานว่า Soros Fund Management มีแผนจะปิดสำนักงานในฮ่องกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "การปรับโครงสร้างองค์กร" แบบกะทันหัน หลังจากดำเนินกิจการมาเป็นเวลา ๑๔ ปี
    .
    ในขณะเดียวกัน, แคมเปญของเฒ่าโซรอสผู้เป็นพ่อและอเล็กซ์ลูกชายของเขาเพื่อให้พรรคเดโมแครตยังคงอยู่ในทำเนียบขาวก็ล้มเหลวในการจ่ายเงินปันผล, แม้ว่ากองทุนเพื่อการปฏิรูปนโยบายของโซรอสจะโอนเงิน ๖๐ ล้านดอลลาร์ให้กับ Future Forward, ซึ่งเป็นกลุ่มซูเปอร์ PAC ที่บริจาคเงินมืดสนับสนุนพรรคเดโมแครต นอกเหนือจากเงินบริจาค ๑๕ ล้านดอลลาร์จากบริษัทในเครือ Open Society Foundations ในปี ๒๐๒๓
    .
    นอกจากเงินแล้ว ครอบครัว Soros ยังได้ลงทุนส่วนตัวจำนวนมากในการรณรงค์ต่อต้าน “พรรครีพับลิกันแบบ MAGA” ในปี ๒๐๒๔ ในช่วงต้นปี ๒๐๒๓, Alex Soros ได้ประกาศลดขนาดการดำเนินงานของ OSF ในยุโรปตะวันตกลงอย่างมาก เพื่อมุ่งเน้นไปที่ยูเครน, มอลโดวา, บอลข่านตะวันตก, และสหรัฐอเมริกา โดยพยายามหยุดยั้งไม่ให้ทรัมป์กลายเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด
    .
    จอร์จ โซรอส ส่งสัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์เป็นครั้งแรกในปี ๒๐๑๖, เมื่อเขาทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์ให้กับแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของฮิลลารี คลินตัน หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง, โซรอสได้ให้ทุนสนับสนุน “ขบวนการต่อต้าน” ต่อต้านทรัมป์ โดยแสดงออกผ่านการประท้วงบนท้องถนน, การท้าทายวาระในประเทศของทรัมป์ในศาล, การล็อบบี้ลับๆ ของสมาชิกในรัฐบาลของเขา, การสนับสนุนสมาชิกรัฐสภาที่ส่งเสริมนโยบายต่างประเทศแบบเสรีนิยมใหม่, และแม้แต่เงินสด ๑ ล้านดอลลาร์ที่ใช้ไปกับเอกสาร “สมคบคิดระหว่างทรัมป์-รัสเซีย” ที่ฉาวโฉ่
    .
    ในช่วงวาระแรกของทรัมป์, โซรอสได้ล็อบบี้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ให้ควบคุมโซเชียลมีเดีย จัดหาเงินทุนสำหรับแคมเปญเพื่อสนับสนุนอัยการและผู้พิพากษาสายเสรีนิยม, ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ, ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา, และเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและท้องถิ่นอื่นๆ หลายสิบหรือหลายร้อยคนในปี ๒๐๑๘ และ ๒๐๒๐
    .
    การเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของ Soros และ OSF จากการแทรกแซงในต่างประเทศไปสู่การแทรกแซงการเมืองภายในประเทศของสหรัฐฯ ทำให้ผู้สนับสนุนทรัมป์โกรธแค้น, ซึ่งพยายามประกาศว่าเขาเป็น “ผู้ก่อการร้ายในประเทศ,” ริบทรัพย์สินของเขา, และขับไล่มหาเศรษฐีชาวฮังการีผู้นี้ออกจากประเทศ
    .
    เมื่อโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งในปี ๒๐๒๐, กลุ่มนักวิจัยที่เชื่อมโยงกับโซรอสได้ล็อบบี้รัฐบาลของเขาให้สนับสนุนนโยบายที่สนับสนุนหลักการ OSF ในนโยบายด้านที่แตกต่างกันเกือบสองโหล, และจัดสรรเงิน ๒๐ ล้านดอลลาร์เพื่อจัดตั้ง "องค์กรระดับรากหญ้า" เพื่อขายร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า ๑.๒ ล้านล้านดอลลาร์ของไบเดน
    .
    ในปี ๒๐๒๒, โซรอสได้จัดสรรเงิน ๑๒๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯให้กับ “Democracy PAC” เพื่อสนับสนุนผู้สมัครที่ต่อต้าน MAGA ในช่วงกลางเทอม
    .
    ในปี ๒๐๒๓, เมื่อเริ่มมีการฟ้องร้องทางอาญากับทรัมป์, อดีตประธานาธิบดีเชื่อมโยงการ "ล่าแม่มด" ทางการเมืองต่อตัวเขาเข้ากับโซรอส และอัลวิน แบร็กก์ อัยการแมนฮัตตันที่ "คัดเลือกและจัดหาเงินทุนเอง" ของเขาทันที ซึ่งแคมเปญหาเสียงในปี ๒๐๒๑ โซรอสเป็นที่รู้จักว่าบริจาคเงินให้อย่างน้อย ๑ ล้านดอลลาร์
    .
    “ผมคาดว่าทรัมป์จะถูกตัดสินว่ามีความผิดอย่างน้อยในบางกรณี, และจะต้องติดคุกในวันเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ๒๐๒๔,” โซรอสกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๐๒๓ “ถ้าผมพูดถูก, เขาไม่น่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าผมพูดผิด, สหรัฐฯ จะเผชิญกับวิกฤตรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน”
    .
    ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดพลาดอย่างร้ายแรงในการคำนวณของมหาเศรษฐี, โดยอดีตผู้จัดการด้านการเงินของโซรอส, สแตน ดรัคเคนมิลเลอร์, ได้เตือนเมื่อกลางเดือนตุลาคมว่าตลาด "มั่นใจมาก" ว่าทรัมป์จะชนะ
    .
    🧵TRUMP’S TRIUMPH SOWS SORROW FOR SOROS: HERE’S WHY

    Billionaire hedge fund shark-turned liberal “philanthropist” George Soros’ financial interests and political projects may be in trouble when Donald Trump returns to the Oval Office.
    .
    On Friday, Bloomberg reported that Soros Fund Management plans to shut down its Hong Kong office as part of a surprise “administrative reorganization” after 14 years of operations.
    .
    Meanwhile, the campaign by the elder Soros and his son Alex to keep a Democrat in the White House has failed to pay dividends, despite the Soros’ Fund for Policy Reform’s transfer of $60 million to Future Forward, a pro-Democrat dark money super PAC. That’s on top of a $15 million donation by an Open Society Foundations subsidiary in 2023.
    .
    Along with money, the Soros family invested significant personal capital into the campaign against “MAGA-style Republicans” in 2024. In early 2023, Alex Soros announced a dramatic scaling back of the OSF’s operations in Western Europe to focus on Ukraine, Moldova, the Western Balkans, and the United States, with the effort to stop Trump becoming a top priority.
    .
    George Soros first sounded the alarm over Trump’s “America First” foreign policy in 2016, when he pumped millions into Hillary Clinton’s presidential campaign. After Trump won, Soros funded an anti-Trump “resistance movement,” manifesting itself in street protests, court challenges to his domestic agenda, secret lobbying of members of his administration, support for lawmakers promoting a neoliberal foreign policy, and even $1 million in cash spent on the infamous “Trump-Russia collusion” dossier.
    .
    During Trump’s first term, Soros lobbied tech giants to regulate social media, funded a campaign to support dozens, if not hundreds, of liberal prosecutors and judges, gubernatorial candidates, congressional hopefuls, and other state and local officials in 2018 and 2020.
    .
    Soros and the OSF’s noticeable shift away from meddling abroad to interfering in US domestic politics earned the ire of Trump backers, who sought to declare him a “domestic terrorist,” strip him of his assets, and expel the Hungarian-born billionaire from the country.
    .
    When Joe Biden won in 2020, a Soros-linked think tank lobbied his administration to support policies favoring OSF principles in nearly two dozen different policy areas, and laid out $20 million to create “grass roots organizations” to sell Biden’s $1.2 trillion infrastructure bill.
    .
    In 2022, Soros channeled $125 million into a “Democracy PAC” to support anti-MAGA candidates in the midterms.
    .
    In 2023, as criminal indictments began to come down on Trump, the former president immediately linked the political “witch hunt” against him to Soros and his “hand-picked and funded” Manhattan DA Alvin Bragg, to whose 2021 campaign Soros is known to have donated at least $1 million.
    .
    “I expect that Trump will be found guilty at least in some cases, and will be in jail by election day in November 2024,” Soros said in an August 2023 interview. “If I am right, he is unlikely to win the election. But if I am wrong, the US will face a constitutional crisis that is likely to bring on an economic crisis as well.”
    .
    Something seems to have gone terribly wrong in the billionaire’s calculations, with Soros’ ex-money manager, Stan Druckenmiller, warning in mid-October that the markets were “very convinced” that Trump would win.
    .
    8:20 PM · Nov 9, 2024 · 28.4K Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1855239000606265400
    🧵ชัยชนะของทรัมป์ทำให้โซรอสต้องโศกเศร้า: นี่คือสาเหตุ กองทุนป้องกันความเสี่ยงมหาเศรษฐี จากฉลามที่ผันตัวมาเป็น “นักการกุศล” เสรีนิยมที่มีแนวคิดฉ้อฉล ผลประโยชน์ทางการเงินของจอร์จ โซรอส และโครงการทางการเมืองอาจประสบปัญหาเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาที่ทำเนียบขาว. . เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา, Bloomberg รายงานว่า Soros Fund Management มีแผนจะปิดสำนักงานในฮ่องกง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "การปรับโครงสร้างองค์กร" แบบกะทันหัน หลังจากดำเนินกิจการมาเป็นเวลา ๑๔ ปี . ในขณะเดียวกัน, แคมเปญของเฒ่าโซรอสผู้เป็นพ่อและอเล็กซ์ลูกชายของเขาเพื่อให้พรรคเดโมแครตยังคงอยู่ในทำเนียบขาวก็ล้มเหลวในการจ่ายเงินปันผล, แม้ว่ากองทุนเพื่อการปฏิรูปนโยบายของโซรอสจะโอนเงิน ๖๐ ล้านดอลลาร์ให้กับ Future Forward, ซึ่งเป็นกลุ่มซูเปอร์ PAC ที่บริจาคเงินมืดสนับสนุนพรรคเดโมแครต นอกเหนือจากเงินบริจาค ๑๕ ล้านดอลลาร์จากบริษัทในเครือ Open Society Foundations ในปี ๒๐๒๓ . นอกจากเงินแล้ว ครอบครัว Soros ยังได้ลงทุนส่วนตัวจำนวนมากในการรณรงค์ต่อต้าน “พรรครีพับลิกันแบบ MAGA” ในปี ๒๐๒๔ ในช่วงต้นปี ๒๐๒๓, Alex Soros ได้ประกาศลดขนาดการดำเนินงานของ OSF ในยุโรปตะวันตกลงอย่างมาก เพื่อมุ่งเน้นไปที่ยูเครน, มอลโดวา, บอลข่านตะวันตก, และสหรัฐอเมริกา โดยพยายามหยุดยั้งไม่ให้ทรัมป์กลายเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด . จอร์จ โซรอส ส่งสัญญาณเตือนภัยเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์เป็นครั้งแรกในปี ๒๐๑๖, เมื่อเขาทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์ให้กับแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของฮิลลารี คลินตัน หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง, โซรอสได้ให้ทุนสนับสนุน “ขบวนการต่อต้าน” ต่อต้านทรัมป์ โดยแสดงออกผ่านการประท้วงบนท้องถนน, การท้าทายวาระในประเทศของทรัมป์ในศาล, การล็อบบี้ลับๆ ของสมาชิกในรัฐบาลของเขา, การสนับสนุนสมาชิกรัฐสภาที่ส่งเสริมนโยบายต่างประเทศแบบเสรีนิยมใหม่, และแม้แต่เงินสด ๑ ล้านดอลลาร์ที่ใช้ไปกับเอกสาร “สมคบคิดระหว่างทรัมป์-รัสเซีย” ที่ฉาวโฉ่ . ในช่วงวาระแรกของทรัมป์, โซรอสได้ล็อบบี้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ให้ควบคุมโซเชียลมีเดีย จัดหาเงินทุนสำหรับแคมเปญเพื่อสนับสนุนอัยการและผู้พิพากษาสายเสรีนิยม, ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ, ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา, และเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและท้องถิ่นอื่นๆ หลายสิบหรือหลายร้อยคนในปี ๒๐๑๘ และ ๒๐๒๐ . การเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของ Soros และ OSF จากการแทรกแซงในต่างประเทศไปสู่การแทรกแซงการเมืองภายในประเทศของสหรัฐฯ ทำให้ผู้สนับสนุนทรัมป์โกรธแค้น, ซึ่งพยายามประกาศว่าเขาเป็น “ผู้ก่อการร้ายในประเทศ,” ริบทรัพย์สินของเขา, และขับไล่มหาเศรษฐีชาวฮังการีผู้นี้ออกจากประเทศ . เมื่อโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งในปี ๒๐๒๐, กลุ่มนักวิจัยที่เชื่อมโยงกับโซรอสได้ล็อบบี้รัฐบาลของเขาให้สนับสนุนนโยบายที่สนับสนุนหลักการ OSF ในนโยบายด้านที่แตกต่างกันเกือบสองโหล, และจัดสรรเงิน ๒๐ ล้านดอลลาร์เพื่อจัดตั้ง "องค์กรระดับรากหญ้า" เพื่อขายร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า ๑.๒ ล้านล้านดอลลาร์ของไบเดน . ในปี ๒๐๒๒, โซรอสได้จัดสรรเงิน ๑๒๕ ล้านเหรียญสหรัฐฯให้กับ “Democracy PAC” เพื่อสนับสนุนผู้สมัครที่ต่อต้าน MAGA ในช่วงกลางเทอม . ในปี ๒๐๒๓, เมื่อเริ่มมีการฟ้องร้องทางอาญากับทรัมป์, อดีตประธานาธิบดีเชื่อมโยงการ "ล่าแม่มด" ทางการเมืองต่อตัวเขาเข้ากับโซรอส และอัลวิน แบร็กก์ อัยการแมนฮัตตันที่ "คัดเลือกและจัดหาเงินทุนเอง" ของเขาทันที ซึ่งแคมเปญหาเสียงในปี ๒๐๒๑ โซรอสเป็นที่รู้จักว่าบริจาคเงินให้อย่างน้อย ๑ ล้านดอลลาร์ . “ผมคาดว่าทรัมป์จะถูกตัดสินว่ามีความผิดอย่างน้อยในบางกรณี, และจะต้องติดคุกในวันเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ๒๐๒๔,” โซรอสกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนสิงหาคม ๒๐๒๓ “ถ้าผมพูดถูก, เขาไม่น่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่ถ้าผมพูดผิด, สหรัฐฯ จะเผชิญกับวิกฤตรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน” . ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดพลาดอย่างร้ายแรงในการคำนวณของมหาเศรษฐี, โดยอดีตผู้จัดการด้านการเงินของโซรอส, สแตน ดรัคเคนมิลเลอร์, ได้เตือนเมื่อกลางเดือนตุลาคมว่าตลาด "มั่นใจมาก" ว่าทรัมป์จะชนะ . 🧵TRUMP’S TRIUMPH SOWS SORROW FOR SOROS: HERE’S WHY Billionaire hedge fund shark-turned liberal “philanthropist” George Soros’ financial interests and political projects may be in trouble when Donald Trump returns to the Oval Office. . On Friday, Bloomberg reported that Soros Fund Management plans to shut down its Hong Kong office as part of a surprise “administrative reorganization” after 14 years of operations. . Meanwhile, the campaign by the elder Soros and his son Alex to keep a Democrat in the White House has failed to pay dividends, despite the Soros’ Fund for Policy Reform’s transfer of $60 million to Future Forward, a pro-Democrat dark money super PAC. That’s on top of a $15 million donation by an Open Society Foundations subsidiary in 2023. . Along with money, the Soros family invested significant personal capital into the campaign against “MAGA-style Republicans” in 2024. In early 2023, Alex Soros announced a dramatic scaling back of the OSF’s operations in Western Europe to focus on Ukraine, Moldova, the Western Balkans, and the United States, with the effort to stop Trump becoming a top priority. . George Soros first sounded the alarm over Trump’s “America First” foreign policy in 2016, when he pumped millions into Hillary Clinton’s presidential campaign. After Trump won, Soros funded an anti-Trump “resistance movement,” manifesting itself in street protests, court challenges to his domestic agenda, secret lobbying of members of his administration, support for lawmakers promoting a neoliberal foreign policy, and even $1 million in cash spent on the infamous “Trump-Russia collusion” dossier. . During Trump’s first term, Soros lobbied tech giants to regulate social media, funded a campaign to support dozens, if not hundreds, of liberal prosecutors and judges, gubernatorial candidates, congressional hopefuls, and other state and local officials in 2018 and 2020. . Soros and the OSF’s noticeable shift away from meddling abroad to interfering in US domestic politics earned the ire of Trump backers, who sought to declare him a “domestic terrorist,” strip him of his assets, and expel the Hungarian-born billionaire from the country. . When Joe Biden won in 2020, a Soros-linked think tank lobbied his administration to support policies favoring OSF principles in nearly two dozen different policy areas, and laid out $20 million to create “grass roots organizations” to sell Biden’s $1.2 trillion infrastructure bill. . In 2022, Soros channeled $125 million into a “Democracy PAC” to support anti-MAGA candidates in the midterms. . In 2023, as criminal indictments began to come down on Trump, the former president immediately linked the political “witch hunt” against him to Soros and his “hand-picked and funded” Manhattan DA Alvin Bragg, to whose 2021 campaign Soros is known to have donated at least $1 million. . “I expect that Trump will be found guilty at least in some cases, and will be in jail by election day in November 2024,” Soros said in an August 2023 interview. “If I am right, he is unlikely to win the election. But if I am wrong, the US will face a constitutional crisis that is likely to bring on an economic crisis as well.” . Something seems to have gone terribly wrong in the billionaire’s calculations, with Soros’ ex-money manager, Stan Druckenmiller, warning in mid-October that the markets were “very convinced” that Trump would win. . 8:20 PM · Nov 9, 2024 · 28.4K Views https://x.com/SputnikInt/status/1855239000606265400
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 407 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยนโยบายที่จะยับยั้งการส่งเสริมเรื่องเพศที่หลากหลายในเยาวชนอเมริกัน:

    - “ขอให้รัฐสภาผ่านร่างกฎหมายที่กำหนดให้เพศที่รัฐบาลสหรัฐฯ รับรองมีเพียงชายและหญิงเท่านั้น และเพศเหล่านี้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกเกิด”

    - “ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่ เพื่อสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางทุกแห่งยุติโครงการทั้งหมดที่ส่งเสริมแนวคิดเรื่องเพศและการเปลี่ยนแปลงทางเพศในทุกช่วงวัย”

    - “ขอให้รัฐสภาหยุดใช้เงินภาษีของประชาชนซึ่งใช้โดยรัฐบาลกลางอย่างถาวร ในการส่งเสริมหรือจ่ายเงินสำหรับขั้นตอนเหล่านี้ และผ่านกฎหมายห้ามการทำลายอวัยวะเพศในเด็กทั่วทั้ง 50 รัฐ”

    - “จะออกประกาศกำหนดแนวทางว่าโรงพยาบาลหรือผู้ให้บริการด้านการแพทย์ใดๆ ที่เข้าร่วมในการทำลายร่างกาย จิตใจ และสารเคมีของเยาวชน จะเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยของรัฐบาลกลางสำหรับ Medicaid และ Medicare อีกต่อไป และจะถูกยกเลิกจากการสนับสนุนของภาครัฐทันที”

    - “สนับสนุนการสร้างสิทธิส่วนบุคคลในการฟ้องร้องแพทย์ที่ทำขั้นตอนเหล่านี้กับเด็กโดยไม่สามารถให้อภัยได้”

    - “กระทรวงยุติธรรมจะสอบสวนบริษัทยาขนาดใหญ่และเครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อพิจารณาว่าพวกเขาตั้งใจปกปิดผลข้างเคียงที่เลวร้ายในระยะยาวของการเปลี่ยนแปลงทางเพศเพื่อความร่ำรวยโดยไม่คำนึงถึงผู้ป่วยที่เปราะบางหรือไม่”

    - “ตรวจสอบว่าบริษัทยาขนาดใหญ่หรือบริษัทอื่นๆ มีฮอร์โมนและยาเพื่อหยุดการเจริญวัย วางตลาดอย่างผิดกฎหมายหรือไม่”

    - “แจ้งให้รัฐและเขตการศึกษาทราบว่า หากครูหรือเจ้าหน้าที่โรงเรียนคนใด พยายามให้ข้อมูลต่อเด็กว่า พวกเขามีร่างกายที่ไม่ตรงกับจิตใจ จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพศของเด็ก เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาอย่างร้ายแรง”

    - “ปกป้องสิทธิของผู้ปกครองจากการถูกกดดันจากรอบข้าง เพื่ออนุญาตให้บุตรของตนเปลี่ยนเพศและอัตลักษณ์ใหม่โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง”
    โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยนโยบายที่จะยับยั้งการส่งเสริมเรื่องเพศที่หลากหลายในเยาวชนอเมริกัน: - “ขอให้รัฐสภาผ่านร่างกฎหมายที่กำหนดให้เพศที่รัฐบาลสหรัฐฯ รับรองมีเพียงชายและหญิงเท่านั้น และเพศเหล่านี้ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกเกิด” - “ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่ เพื่อสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางทุกแห่งยุติโครงการทั้งหมดที่ส่งเสริมแนวคิดเรื่องเพศและการเปลี่ยนแปลงทางเพศในทุกช่วงวัย” - “ขอให้รัฐสภาหยุดใช้เงินภาษีของประชาชนซึ่งใช้โดยรัฐบาลกลางอย่างถาวร ในการส่งเสริมหรือจ่ายเงินสำหรับขั้นตอนเหล่านี้ และผ่านกฎหมายห้ามการทำลายอวัยวะเพศในเด็กทั่วทั้ง 50 รัฐ” - “จะออกประกาศกำหนดแนวทางว่าโรงพยาบาลหรือผู้ให้บริการด้านการแพทย์ใดๆ ที่เข้าร่วมในการทำลายร่างกาย จิตใจ และสารเคมีของเยาวชน จะเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยของรัฐบาลกลางสำหรับ Medicaid และ Medicare อีกต่อไป และจะถูกยกเลิกจากการสนับสนุนของภาครัฐทันที” - “สนับสนุนการสร้างสิทธิส่วนบุคคลในการฟ้องร้องแพทย์ที่ทำขั้นตอนเหล่านี้กับเด็กโดยไม่สามารถให้อภัยได้” - “กระทรวงยุติธรรมจะสอบสวนบริษัทยาขนาดใหญ่และเครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่เพื่อพิจารณาว่าพวกเขาตั้งใจปกปิดผลข้างเคียงที่เลวร้ายในระยะยาวของการเปลี่ยนแปลงทางเพศเพื่อความร่ำรวยโดยไม่คำนึงถึงผู้ป่วยที่เปราะบางหรือไม่” - “ตรวจสอบว่าบริษัทยาขนาดใหญ่หรือบริษัทอื่นๆ มีฮอร์โมนและยาเพื่อหยุดการเจริญวัย วางตลาดอย่างผิดกฎหมายหรือไม่” - “แจ้งให้รัฐและเขตการศึกษาทราบว่า หากครูหรือเจ้าหน้าที่โรงเรียนคนใด พยายามให้ข้อมูลต่อเด็กว่า พวกเขามีร่างกายที่ไม่ตรงกับจิตใจ จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพศของเด็ก เจ้าหน้าที่เหล่านั้นจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมาอย่างร้ายแรง” - “ปกป้องสิทธิของผู้ปกครองจากการถูกกดดันจากรอบข้าง เพื่ออนุญาตให้บุตรของตนเปลี่ยนเพศและอัตลักษณ์ใหม่โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 41 0 รีวิว
  • #ว่าจะไม่โพสถึงเรื่องนี้แต่ก็อดไม่ได้
    #ขอฝากข้อความนี้ถึงแน๊กชาลีในฐานะเพจนึงที่ปกป้องแน๊กมาโดยตลอด
    จากจุดเริ่มต้นที่พี่คิงส์ ได้เข้ามาสู่จักรวาล ชาลี จีกามิน
    แฟนเพจทุกคนรู้ดีว่า มาจากที่แน๊กได้ไลฟ์สดกลางคืนถึงรุ่งเช้า
    ระบายถึงสิ่งที่ตนเองถูกกระทำ ทำให้ทั้งเพจคิงส์โพธิ์แดง
    แฟนคลับแน๊กชาลี แม้กระทั่งพี่แนน และนักรบตต.อีกจำนวนมาก
    ที่ออกมาปกป้องแน๊ก ระยะยาวเกิน 100 วัน
    - สิ่งที่พี่คิงส์โพธิ์แดง และคนที่ออกตัวปกป้องทุกคนคาดหวังคือ เราแทบทุกคนเชื่อว่า น้องแน๊ก จะมีการดำเนินการใดๆก็ตามในการปกป้องตนเอง และครอบครัว แต่สิ่งที่น้องแน๊กสื่อสาร จะมีความกำกวม ไม่ชัดเจน และสิ่งที่เราได้เห็นคือการที่น้องแน๊ก ใช้ชีวิตอย่างปกติ แซวสาว สนุกสนาน ซึ่งก็จริงที่นั่นเป็นสิทธิของแน๊กเอง
    - แต่ทว่าอยากให้ลองมองอีกฝั่งหนึ่ง นั่นคือคนที่รัก คลั่งไคล้จีกามิน ทั้งพี่คิงส์และแฟนคลับแน๊กชาลี จะเห็นชัดเจนว่า ทุกคนที่ออกตัวปกป้องจีกามิน จะได้รับการโปรเทคจากจีกามินเสมอ แม้กระทั่งป้า จ. ที่ออกหน้าต่อสู้กับพี่คิงส์ จีกามินกลับแสดงออกถึงการขอบคุณอย่างเอิกเริก
    - แน๊กอาจจะมองได้นะครับ ว่า พี่คิงส์ และคนอื่นๆที่ออกมาปกป้องน้อง เราทำกันเอง แน๊กไม่ได้สั่งให้ทำ แต่แน๊กต้องรู้ว่า ผลกระทบมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
    พี่คิงส์ฯ ผ่านเหตุการณ์และมีวิธีการในการต่อสู้และไม่เคยกลัวต่อสิ่งใด ถ้าอยู่บนความจริง
    - แต่น้องๆหลายคน สร้างช่อง ตต.มา ใช้เวลาเป็นปี กว่าจะมีผู้ติดตามหลักแสนหลักล้าน ยอมทุ่มเทในการยืนข้างน้องแน๊ก จนช่องปลิวกันเป็นว่าเล่น ต้องเสียช่องที่ฟูมฟักและสร้างมานาน
    - ทุกคน ใช้เวลาทั้งกลางวัน กลางคืน วนเวียนอยู่กับการไปเชียร์ ไปให้กำลังใจ อยู่ฝั่งน้องแน๊ก จนหลายๆคนเสียการเสียงาน
    แน๊กจะเห็นว่า ทุกคนที่รักแน๊ก เค้าพร้อมซัพพอตน้อง
    แต่เวลานี้ มันล่วงเลยมานานมากมันร้อยกว่าวันแล้วน้อง
    แน๊ก ไม่เคยแสดงท่าทีที่จะปกป้องคนที่ปกป้องน้องเลย
    รู้ไหมว่า น้องๆ เหล่านี้ เค้าเสียสละเพื่อแน๊กมามากแค่ไหน
    มีทักมาถอดใจกับพี่คิงส์จำนวนหลักร้อยคน
    เพราะเค้าเชื่อมั่นมาเสมอว่า สารที่แน๊กสื่อผ่านการไลฟ์สดในวันนั้น
    มันจะมีหลักฐานในการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแน๊กเอง
    โพสนี้ พี่คิงส์ไม่ได้โพสเพื่อเพจพี่ แต่พี่เห็นความถดถอยทางจิตใจ
    ของทั้งเจ้าของช่อง ทั้งแฟนคลับของแน๊กเองที่ต่างมาระบาย
    แทบจะไปในทิศทางเดียวกัน ยกเว้นที่เป็นแฟนคลับแบบลึกจริงๆ
    ของน้องที่อาจจะไม่ตั้งคำถาม ไม่ว่าแน๊กทำอะไร ดีหมด ถูกหมด
    แต่สำหรับพี่คิงส์ กับน้องๆอีกหลายคน ไม่ใช่ครับ
    ...................................................
    และจากไม่กี่วันที่ผ่านมา กับการมาของกามิน ที่ป้า จ. ก็จัดการทุกอย่าง และสรุปคือ จะมีการฟ้องร้องอย่างที่มีการแถลง
    และมีการออกมาชี้แจงประเด็นต่างๆเพิ่มว่า
    -ไม่ได้พูดว่าคนไทยหลอกง่ายและดังได้ด้วยตัว
    เอง
    -ไม่ได้คบชู้
    -ไม่ได้เผาบ้าน
    -ไม่ได้ติดเหล้า
    -ไม่ได้ขโมยของ
    -จ่ายภาษีที่ไทยแล้ว
    -ไม่ติดต่อกลับ เพราะเป็นฝ่ายโดนบอกเลิก
    -ไม่ได้เผากางเกงในแฟนเก่า เพราะความจริงไม่
    เจอชุดชั้นใน
    -ไม่มีค่าปรับอย่างที่อีกฝ่ายพูด
    อย่างที่พี่คิงส์แคปมาไว้ในโพสนี้
    บางข้อเช่นกรณีที่จีกามิน พูดว่าคนไทยหลอกง่ายและดังด้วยตัวเองoyho -
    - กรณีหลอกง่ายเป็นคำพูดของอีกคนก็จริง
    - หรือคำว่าดังด้วยตัวเองจะเป็นคำแปลของคนเกาหลีแท้ๆก็ตาม
    แต่ในอีกหลายๆข้อถึงแม้ว่าน้องแน๊กจะพูดได้ว่า น้องไม่เคยพูดสิ่งเหล่านี้เลย
    แต่ก็ออกตัวไม่ได้เช่นกันว่า น้องไม่เคยพูดให้คนที่ฟังตีความไปในทิศทางนี้
    ดังนั้น สิ่งที่น้องควร และต้องทำคือ การนำหลักฐานออกมานำเสนอ
    การดำเนินการให้ชัดเจน ไม่ใช่ไลฟ์สดกับสาวไปวันๆแบบที่ผ่านมาเท่านั้น
    แต่ก็ไม่ได้บอกให้หยุดไลฟ์สดเพราะแฟนคลับของแน๊กส่วนใหญ่ก็ชอบและมีความสุขกับน้องแน๊กในบริบทแบบนี้ พี่คิงส์เข้าใจได้
    - แต่นี่มันคือวาระที่แน๊กเองต้องยืนขึ้นด้วยตัวเองแสดงออกในการชี้แจง เพราะน้องปล่อยเวลาให้มันล่วงเลยยาวนาน แล้วยิ่งจีกามิน กล้าที่จะจัดแถลงและมีการพีอาร์ใหญ่โตแบบนี้ สิ่งที่แน๊กต้องทำคือการชี้แจง
    - แต่สิ่งที่ชาลีแอคชั่นหลังจากนั้น คือการเบรคการทำกิจกรรมที่ผูกพันธ์กับแบรนต่างๆ น้องรู้หรือไม่ คนที่เคยปกป้องน้องส่วนใหญ่ ออกอาการงงเป็นไก่ตาแตกว่า ในเมื่องน้องไม่ผิด ทำไมต้องหยุดทำไมต้องเบรคงาน ถ้าน้องเป็นฝ่ายถูก ทำไมไม่ชี้แจงอะไร
    - ที่ผ่านมาทุกคนได้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อแน๊ก แต่แน๊กไม่เคยแสดงออกถึงการต่อสู้เพื่อเค้า และการต่อสู้เพื่อเค้าเหล่านั้น ก็คือการที่แน๊กออกมาปกป้องตนเองและครอบครัว ด้วยหลักฐาน คำถามคือ แน๊กทำอะไรอยู่
    - เพราะพอตัดภาพนึง น้องในตต. หรือเพจหลายเพจ ก็ออกตัวปกป้องแน๊ก แต่พอตัดภาพมาที่น้องแน๊ก น้องแน๊กกำลังจีบสาวอยู่หว่ะ
    เนี่ย มันเป็นแบบนี้มาตลอด
    - ตอนนี้ พี่คิงส์เองก็มูฟออนแล้ว เพราะมีเรื่องสำคัญๆกว่าเรื่องของน้องหลายๆเรื่องที่ควรทำและพี่ไม่ได้ทำ เพราะพี่เองไม่ได้อยู่ในจักรวาลของน้องชาลีมาตั้งแต่ต้น เพียงเพราะสงสารน้องที่พี่เชื่อมาตลอดว่าถูกรังแก นิสัยพี่คิงส์มันเป็นแบบนี้ และน้องก็ถูกรังแกจริงที่พี่เองก็เห็นหรือมีหลักฐานอยู่ แต่เมื่อน้องไม่คิดที่จะปกป้องตนเอง หรือปกป้องคนที่ยืนหยัดเพื่อน้อง
    พี่คิงส์บอกล่วงหน้าไว้เลยว่า สุดท้าย เมื่อน้องไม่ปกป้องตัวเอง อีกหลายคนจะท้อ และตามด้วยถอย เพราะคงไม่มีใครจะต่อสู้เพื่อคนที่ไม่คิดจะปกป้องตัวเองจำคำพี่คิงส์ไว้ พี่คิงส์อยากให้น้องแน๊กสู้ให้คนเชียร์ได้เห็น ถ้าสิ่งที่น้องสื่อสาร มันคือความจริง
    พี่คิงส์ฝากแฟนคลับชั้นลึกของน้อง ส่งสารนี้ถึงแน๊กชาลีด้วย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ว่าจะไม่โพสถึงเรื่องนี้แต่ก็อดไม่ได้ #ขอฝากข้อความนี้ถึงแน๊กชาลีในฐานะเพจนึงที่ปกป้องแน๊กมาโดยตลอด จากจุดเริ่มต้นที่พี่คิงส์ ได้เข้ามาสู่จักรวาล ชาลี จีกามิน แฟนเพจทุกคนรู้ดีว่า มาจากที่แน๊กได้ไลฟ์สดกลางคืนถึงรุ่งเช้า ระบายถึงสิ่งที่ตนเองถูกกระทำ ทำให้ทั้งเพจคิงส์โพธิ์แดง แฟนคลับแน๊กชาลี แม้กระทั่งพี่แนน และนักรบตต.อีกจำนวนมาก ที่ออกมาปกป้องแน๊ก ระยะยาวเกิน 100 วัน - สิ่งที่พี่คิงส์โพธิ์แดง และคนที่ออกตัวปกป้องทุกคนคาดหวังคือ เราแทบทุกคนเชื่อว่า น้องแน๊ก จะมีการดำเนินการใดๆก็ตามในการปกป้องตนเอง และครอบครัว แต่สิ่งที่น้องแน๊กสื่อสาร จะมีความกำกวม ไม่ชัดเจน และสิ่งที่เราได้เห็นคือการที่น้องแน๊ก ใช้ชีวิตอย่างปกติ แซวสาว สนุกสนาน ซึ่งก็จริงที่นั่นเป็นสิทธิของแน๊กเอง - แต่ทว่าอยากให้ลองมองอีกฝั่งหนึ่ง นั่นคือคนที่รัก คลั่งไคล้จีกามิน ทั้งพี่คิงส์และแฟนคลับแน๊กชาลี จะเห็นชัดเจนว่า ทุกคนที่ออกตัวปกป้องจีกามิน จะได้รับการโปรเทคจากจีกามินเสมอ แม้กระทั่งป้า จ. ที่ออกหน้าต่อสู้กับพี่คิงส์ จีกามินกลับแสดงออกถึงการขอบคุณอย่างเอิกเริก - แน๊กอาจจะมองได้นะครับ ว่า พี่คิงส์ และคนอื่นๆที่ออกมาปกป้องน้อง เราทำกันเอง แน๊กไม่ได้สั่งให้ทำ แต่แน๊กต้องรู้ว่า ผลกระทบมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง พี่คิงส์ฯ ผ่านเหตุการณ์และมีวิธีการในการต่อสู้และไม่เคยกลัวต่อสิ่งใด ถ้าอยู่บนความจริง - แต่น้องๆหลายคน สร้างช่อง ตต.มา ใช้เวลาเป็นปี กว่าจะมีผู้ติดตามหลักแสนหลักล้าน ยอมทุ่มเทในการยืนข้างน้องแน๊ก จนช่องปลิวกันเป็นว่าเล่น ต้องเสียช่องที่ฟูมฟักและสร้างมานาน - ทุกคน ใช้เวลาทั้งกลางวัน กลางคืน วนเวียนอยู่กับการไปเชียร์ ไปให้กำลังใจ อยู่ฝั่งน้องแน๊ก จนหลายๆคนเสียการเสียงาน แน๊กจะเห็นว่า ทุกคนที่รักแน๊ก เค้าพร้อมซัพพอตน้อง แต่เวลานี้ มันล่วงเลยมานานมากมันร้อยกว่าวันแล้วน้อง แน๊ก ไม่เคยแสดงท่าทีที่จะปกป้องคนที่ปกป้องน้องเลย รู้ไหมว่า น้องๆ เหล่านี้ เค้าเสียสละเพื่อแน๊กมามากแค่ไหน มีทักมาถอดใจกับพี่คิงส์จำนวนหลักร้อยคน เพราะเค้าเชื่อมั่นมาเสมอว่า สารที่แน๊กสื่อผ่านการไลฟ์สดในวันนั้น มันจะมีหลักฐานในการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับแน๊กเอง โพสนี้ พี่คิงส์ไม่ได้โพสเพื่อเพจพี่ แต่พี่เห็นความถดถอยทางจิตใจ ของทั้งเจ้าของช่อง ทั้งแฟนคลับของแน๊กเองที่ต่างมาระบาย แทบจะไปในทิศทางเดียวกัน ยกเว้นที่เป็นแฟนคลับแบบลึกจริงๆ ของน้องที่อาจจะไม่ตั้งคำถาม ไม่ว่าแน๊กทำอะไร ดีหมด ถูกหมด แต่สำหรับพี่คิงส์ กับน้องๆอีกหลายคน ไม่ใช่ครับ ................................................... และจากไม่กี่วันที่ผ่านมา กับการมาของกามิน ที่ป้า จ. ก็จัดการทุกอย่าง และสรุปคือ จะมีการฟ้องร้องอย่างที่มีการแถลง และมีการออกมาชี้แจงประเด็นต่างๆเพิ่มว่า -ไม่ได้พูดว่าคนไทยหลอกง่ายและดังได้ด้วยตัว เอง -ไม่ได้คบชู้ -ไม่ได้เผาบ้าน -ไม่ได้ติดเหล้า -ไม่ได้ขโมยของ -จ่ายภาษีที่ไทยแล้ว -ไม่ติดต่อกลับ เพราะเป็นฝ่ายโดนบอกเลิก -ไม่ได้เผากางเกงในแฟนเก่า เพราะความจริงไม่ เจอชุดชั้นใน -ไม่มีค่าปรับอย่างที่อีกฝ่ายพูด อย่างที่พี่คิงส์แคปมาไว้ในโพสนี้ บางข้อเช่นกรณีที่จีกามิน พูดว่าคนไทยหลอกง่ายและดังด้วยตัวเองoyho - - กรณีหลอกง่ายเป็นคำพูดของอีกคนก็จริง - หรือคำว่าดังด้วยตัวเองจะเป็นคำแปลของคนเกาหลีแท้ๆก็ตาม แต่ในอีกหลายๆข้อถึงแม้ว่าน้องแน๊กจะพูดได้ว่า น้องไม่เคยพูดสิ่งเหล่านี้เลย แต่ก็ออกตัวไม่ได้เช่นกันว่า น้องไม่เคยพูดให้คนที่ฟังตีความไปในทิศทางนี้ ดังนั้น สิ่งที่น้องควร และต้องทำคือ การนำหลักฐานออกมานำเสนอ การดำเนินการให้ชัดเจน ไม่ใช่ไลฟ์สดกับสาวไปวันๆแบบที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้บอกให้หยุดไลฟ์สดเพราะแฟนคลับของแน๊กส่วนใหญ่ก็ชอบและมีความสุขกับน้องแน๊กในบริบทแบบนี้ พี่คิงส์เข้าใจได้ - แต่นี่มันคือวาระที่แน๊กเองต้องยืนขึ้นด้วยตัวเองแสดงออกในการชี้แจง เพราะน้องปล่อยเวลาให้มันล่วงเลยยาวนาน แล้วยิ่งจีกามิน กล้าที่จะจัดแถลงและมีการพีอาร์ใหญ่โตแบบนี้ สิ่งที่แน๊กต้องทำคือการชี้แจง - แต่สิ่งที่ชาลีแอคชั่นหลังจากนั้น คือการเบรคการทำกิจกรรมที่ผูกพันธ์กับแบรนต่างๆ น้องรู้หรือไม่ คนที่เคยปกป้องน้องส่วนใหญ่ ออกอาการงงเป็นไก่ตาแตกว่า ในเมื่องน้องไม่ผิด ทำไมต้องหยุดทำไมต้องเบรคงาน ถ้าน้องเป็นฝ่ายถูก ทำไมไม่ชี้แจงอะไร - ที่ผ่านมาทุกคนได้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อแน๊ก แต่แน๊กไม่เคยแสดงออกถึงการต่อสู้เพื่อเค้า และการต่อสู้เพื่อเค้าเหล่านั้น ก็คือการที่แน๊กออกมาปกป้องตนเองและครอบครัว ด้วยหลักฐาน คำถามคือ แน๊กทำอะไรอยู่ - เพราะพอตัดภาพนึง น้องในตต. หรือเพจหลายเพจ ก็ออกตัวปกป้องแน๊ก แต่พอตัดภาพมาที่น้องแน๊ก น้องแน๊กกำลังจีบสาวอยู่หว่ะ เนี่ย มันเป็นแบบนี้มาตลอด - ตอนนี้ พี่คิงส์เองก็มูฟออนแล้ว เพราะมีเรื่องสำคัญๆกว่าเรื่องของน้องหลายๆเรื่องที่ควรทำและพี่ไม่ได้ทำ เพราะพี่เองไม่ได้อยู่ในจักรวาลของน้องชาลีมาตั้งแต่ต้น เพียงเพราะสงสารน้องที่พี่เชื่อมาตลอดว่าถูกรังแก นิสัยพี่คิงส์มันเป็นแบบนี้ และน้องก็ถูกรังแกจริงที่พี่เองก็เห็นหรือมีหลักฐานอยู่ แต่เมื่อน้องไม่คิดที่จะปกป้องตนเอง หรือปกป้องคนที่ยืนหยัดเพื่อน้อง พี่คิงส์บอกล่วงหน้าไว้เลยว่า สุดท้าย เมื่อน้องไม่ปกป้องตัวเอง อีกหลายคนจะท้อ และตามด้วยถอย เพราะคงไม่มีใครจะต่อสู้เพื่อคนที่ไม่คิดจะปกป้องตัวเองจำคำพี่คิงส์ไว้ พี่คิงส์อยากให้น้องแน๊กสู้ให้คนเชียร์ได้เห็น ถ้าสิ่งที่น้องสื่อสาร มันคือความจริง พี่คิงส์ฝากแฟนคลับชั้นลึกของน้อง ส่งสารนี้ถึงแน๊กชาลีด้วย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Yay
    5
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1252 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ กำชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส อย่างง่ายดายและเด็ดขาดเกินคาดหมายในวันพุธ (6 พ.ย.) หลังกวาดคะแนนจากรัฐสมรภูมิสำคัญ และได้กลับสู่ทำเนียบขาวสมัยที่สองที่มีแนวโน้มสร้างแรงกระเพื่อมทั่วโลก นอกจากนั้น พรรครีพับลิกันของเขายังสามารถชิงอำนาจการควบคุมวุฒิสภาจากเดโมแครตได้สำเร็จ
    .
    ถึงแม้ผลสำรวจจากหลายสำนักก่อนหน้าการเลือกตั้งซึ่งจัดขึ้นในวันอังคาร (5) ต่างระบุว่า การแข่งขันครั้งนี้จะคู่คี่สูสีกันมากและอาจต้องรอนานหลายวันกว่าจะรู้ผล แต่กลายเป็นว่า พวกสื่อยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ สามารถประกาศอย่างเป็นเสียงเอกฉันท์ชนิดไม่มีเจ้าไหนแตกแถวตั้งแต่ในวันพุธ (6) ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ปี เป็นผู้ชนะ หลังจากอดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้สามารถกวาดคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) เกิน 270 คะแนนซึ่งเป็นเกณฑ์สำหรับผู้ชนะ และได้เป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47
    .
    วิสคอนซิน ซึ่งเป็น 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ผู้ออกเสียงไม่ได้แสดงความนิยมในผู้สมัครคนไหนหรือพรรคใหญ่พรรคใดอย่างชัดเจน จึงถูกมองว่าจะเป็นตัวชี้ขาดผู้มีชัยในการเลือกตั้งคราวนี้ ได้กลายเป็นรัฐตัดสินไปจริงๆ โดยหลังจากฟ็อกซ์นิวส์ เป็นสื่อยักษ์ใหญ่เจ้าแรกที่คาดการณ์ว่าทรัมป์ชนะในรัฐนี้ แล้วจึงประกาศว่าเขาได้เสียงคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 เสียงและเป็นผู้ชนะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปแล้ว ถัดจากนั้นอีกหลายชั่วโมงต่อมา สื่อยักษ์ใหญ่อื่นๆ ได้แก่ เอบีซี ซีบีเอส เอ็นบีซี ซีเอ็นเอ็น เอพี ก็เดินมาในรอยทางเดียวกัน กล่าวคือ ทยอยประกาศคาดการณ์ว่าทรัมป์ได้วิสคอนซินซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 10 เสียงไป และทำให้เป็นผู้ชนะโดยรวม ถึงแม้ในทางเป็นจริงแล้วยังมีอีกหลายรัฐที่นับคะแนนยังไม่ทันเสร็จสิ้นก็ตามที
    .
    ไม่เพียงชนะด้วยเสียงคณะผู้เลือกตั้ง ในครั้งนี้ทรัมป์ยังได้คะแนนป็อปปูลาร์โหวต หรือเสียงโหวตจากผู้ออกเสียงทั่วประเทศ นำหน้าแฮร์ริสถึงประมาณ 5 ล้านคะแนน แตกต่างจากตอนที่เขาชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสมัยแรกในปี 2016 ซึ่งเขามีชัยด้านเสียงคณะผู้เลือกตั้ง แต่แพ้ป็อปปูลาร์โหวตให้แก่คู่แข่งคือ ฮิลลารี คลินตัน เกือบ 3 ล้านคะแนน
    .
    นอกจากนั้นแล้ว พรรครีพับลิกันของทรัมป์ ยังเข้ายึดวุฒิสภามาจากเดโมแครตได้สำเร็จ โดยชิงที่นั่งซึ่งเดิมเป็นของเดโมแครตมาได้ 2 ที่นั่ง ทำให้พวกเขาเวลานี้เป็นฝ่ายที่มีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ขณะที่ในสภาผู้แทนราษฎรที่ชุดที่แล้วรีพับลิกันครองเสียงข้างมากเกินครึ่งเพียงเล็กน้อยนั้น ยังไม่มีพรรคใดทำท่าชนะอย่างแน่นอนชัดเจน และต้องรอผลการนับคะแนนอย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่านี้
    .
    แฮร์ริสที่ถูกเปลี่ยนตัวเข้าแทนที่ โจ ไบเดน และมีเวลาในการรณรงค์หาเสียงเพียง 15 สัปดาห์เท่านั้น ทำไม่สำเร็จในการระดมเสียงสนับสนุนให้มากพอเพื่อยับยั้งทรัมป์ โดยเฉพาะในการคลายความกังวลของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งที่สำคัญที่สุดคือภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาผู้อพยพ มิหนำซ้ำผู้ออกเสียงส่วนใหญ่ยังไม่สนใจคำเตือนของแคนดิเดตจากพรรคเดโมแครตผู้นี้ที่ว่า ทรัมป์ต้องการอำนาจแบบไม่มีการตรวจสอบและเป็นตัวอันตรายสำหรับประชาธิปไตย ทำให้ประเด็นหลักในการหาเสียงของแฮร์ริสคือ การสร้างความเป็นเอกภาพและสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง สุดท้ายยังไม่เพียงพอให้เธอสามารถสร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ อีกทั้งเป็นหญิงผิวดำและเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกด้วย
    .
    จากโพลสำเร็จของรอยเตอร์/อิปซอสส์ บ่งชี้ว่าพวกผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองว่า เรื่องงานและเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของอเมริกา โดยคนอเมริกันจำนวนมากไม่พอใจปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจด้านอื่นๆ อยู่ในอาการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้นพุ่งทำสถิติ ค่าแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอัตราว่างงานต่ำ ทั้งนี้นอกจากคนเหล่านั้นมองว่า เรื่องเงินเฟ้อเป็นความผิดของคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่ยังบอกว่า ไว้ใจทรัมป์มากกว่าแฮร์ริสในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
    .
    กลุ่มฮิสปานิกหรือกลุ่มคนพูดภาษาสเปน ที่เดิมทีเป็นฐานเสียงของเดโมแครต รวมทั้งครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำที่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อรุนแรงที่สุด กลายเป็นตัวช่วยส่งให้ทรัมป์ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ นอกเหนือจากฐานเสียงที่จงรักภักดีเหนียวแน่นกับพวกเขาซึ่งได้แก่กลุ่มคนผิวขาวที่เรียนไม่ถึงระดับมหาวิทยาลัย
    .
    ชัยชนะครั้งนี้เกิดขึ้นมา ถึงแม้ว่า ทรัมป์มีคะแนนนิยมต่ำต่อเนื่อง เคยผ่านกระบวนการถูกพิจารณาถอดถอนถึง 2 ครั้ง ถูกอดีตหัวหน้าคณะทำงานในทำเนียบขาวของตนเองระบุว่าเป็น “ฟาสซิสต์” ถูกฟ้องร้องคดีอาญา 4 คดี และถูกตัดสินว่าผิดในคดีแพ่งจากการล่วงละเมิดทางเพศและการหมิ่นประมาท ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเขาถูกคณะลูกขุนในนิวยอร์กตัดสินว่า กระทำผิดในการปลอมแปลงข้อมูลธุรกิจเพื่อปกปิดการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังปลุกใจเสือป่า
    .
    ด้วยวัย 78 ปี ทรัมป์กำลังจะสร้างสถิติใหม่ในการเป็นประธานาธิบดีที่อายุมากที่สุด
    .
    ชัยชนะของทรัมป์ยังมีนัยสำคัญต่อนโยบายการค้า ผู้อพยพ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอเมริกา และสงครามในยูเครน
    .
    นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ข้อเสนอขึ้นภาษีศุลกากรอย่างแรงของทรัมป์มีแนวโน้มจุดชนวนสงครามการค้ารุนแรงขึ้นกับจีน ตลอดจนกับพวกประเทศพันธมิตรของอเมริกา นอกจากนั้นเขายังให้สัญญาเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายครั้งใหญ่
    .
    ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของผู้สนับสนุนที่ไปรวมตัวติดตามดูการนับคะแนนอยู่ที่รัฐฟลอริดา ทรัมป์ขึ้นเวทีพร้อมเมลาเนีย ภรรยา และลูกๆ และประกาศว่า นี่คือชัยชนะอันงดงามสำหรับคนอเมริกัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ตนทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
    .
    เขายังกล่าวถึงการรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารสองครั้งระหว่างช่วงหาเสียงว่า หลายคนบอกว่าพระเจ้าปกป้องเขา
    .
    นอกจากครอบครัวทรัมป์ วุฒิสมาชิก เจดี. แวนซ์ คู่หูในตำแหน่งรองประธานาธิบดี และบรรดาผู้นำพรรครีพับลิกันแล้ว งานนี้ยังมี อีลอน มัสก์ นักธุรกิจและมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลกที่อัดฉีดแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ราว 120 ล้านดอลลาร์ เข้าร่วมฉลองด้วย โดยทรัมป์ยกย่องนายใหญ่เอ็กซ์และเทสลาผู้นี้เป็น “ดาวดวงใหม่” และก่อนหน้านี้ยังประกาศว่า จะแต่งตั้งมัสก์เป็นประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบประสิทธิภาพของรัฐบาล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107148
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ กำชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส อย่างง่ายดายและเด็ดขาดเกินคาดหมายในวันพุธ (6 พ.ย.) หลังกวาดคะแนนจากรัฐสมรภูมิสำคัญ และได้กลับสู่ทำเนียบขาวสมัยที่สองที่มีแนวโน้มสร้างแรงกระเพื่อมทั่วโลก นอกจากนั้น พรรครีพับลิกันของเขายังสามารถชิงอำนาจการควบคุมวุฒิสภาจากเดโมแครตได้สำเร็จ . ถึงแม้ผลสำรวจจากหลายสำนักก่อนหน้าการเลือกตั้งซึ่งจัดขึ้นในวันอังคาร (5) ต่างระบุว่า การแข่งขันครั้งนี้จะคู่คี่สูสีกันมากและอาจต้องรอนานหลายวันกว่าจะรู้ผล แต่กลายเป็นว่า พวกสื่อยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ สามารถประกาศอย่างเป็นเสียงเอกฉันท์ชนิดไม่มีเจ้าไหนแตกแถวตั้งแต่ในวันพุธ (6) ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ปี เป็นผู้ชนะ หลังจากอดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้สามารถกวาดคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) เกิน 270 คะแนนซึ่งเป็นเกณฑ์สำหรับผู้ชนะ และได้เป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 . วิสคอนซิน ซึ่งเป็น 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ผู้ออกเสียงไม่ได้แสดงความนิยมในผู้สมัครคนไหนหรือพรรคใหญ่พรรคใดอย่างชัดเจน จึงถูกมองว่าจะเป็นตัวชี้ขาดผู้มีชัยในการเลือกตั้งคราวนี้ ได้กลายเป็นรัฐตัดสินไปจริงๆ โดยหลังจากฟ็อกซ์นิวส์ เป็นสื่อยักษ์ใหญ่เจ้าแรกที่คาดการณ์ว่าทรัมป์ชนะในรัฐนี้ แล้วจึงประกาศว่าเขาได้เสียงคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 เสียงและเป็นผู้ชนะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปแล้ว ถัดจากนั้นอีกหลายชั่วโมงต่อมา สื่อยักษ์ใหญ่อื่นๆ ได้แก่ เอบีซี ซีบีเอส เอ็นบีซี ซีเอ็นเอ็น เอพี ก็เดินมาในรอยทางเดียวกัน กล่าวคือ ทยอยประกาศคาดการณ์ว่าทรัมป์ได้วิสคอนซินซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 10 เสียงไป และทำให้เป็นผู้ชนะโดยรวม ถึงแม้ในทางเป็นจริงแล้วยังมีอีกหลายรัฐที่นับคะแนนยังไม่ทันเสร็จสิ้นก็ตามที . ไม่เพียงชนะด้วยเสียงคณะผู้เลือกตั้ง ในครั้งนี้ทรัมป์ยังได้คะแนนป็อปปูลาร์โหวต หรือเสียงโหวตจากผู้ออกเสียงทั่วประเทศ นำหน้าแฮร์ริสถึงประมาณ 5 ล้านคะแนน แตกต่างจากตอนที่เขาชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสมัยแรกในปี 2016 ซึ่งเขามีชัยด้านเสียงคณะผู้เลือกตั้ง แต่แพ้ป็อปปูลาร์โหวตให้แก่คู่แข่งคือ ฮิลลารี คลินตัน เกือบ 3 ล้านคะแนน . นอกจากนั้นแล้ว พรรครีพับลิกันของทรัมป์ ยังเข้ายึดวุฒิสภามาจากเดโมแครตได้สำเร็จ โดยชิงที่นั่งซึ่งเดิมเป็นของเดโมแครตมาได้ 2 ที่นั่ง ทำให้พวกเขาเวลานี้เป็นฝ่ายที่มีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ขณะที่ในสภาผู้แทนราษฎรที่ชุดที่แล้วรีพับลิกันครองเสียงข้างมากเกินครึ่งเพียงเล็กน้อยนั้น ยังไม่มีพรรคใดทำท่าชนะอย่างแน่นอนชัดเจน และต้องรอผลการนับคะแนนอย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่านี้ . แฮร์ริสที่ถูกเปลี่ยนตัวเข้าแทนที่ โจ ไบเดน และมีเวลาในการรณรงค์หาเสียงเพียง 15 สัปดาห์เท่านั้น ทำไม่สำเร็จในการระดมเสียงสนับสนุนให้มากพอเพื่อยับยั้งทรัมป์ โดยเฉพาะในการคลายความกังวลของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งที่สำคัญที่สุดคือภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาผู้อพยพ มิหนำซ้ำผู้ออกเสียงส่วนใหญ่ยังไม่สนใจคำเตือนของแคนดิเดตจากพรรคเดโมแครตผู้นี้ที่ว่า ทรัมป์ต้องการอำนาจแบบไม่มีการตรวจสอบและเป็นตัวอันตรายสำหรับประชาธิปไตย ทำให้ประเด็นหลักในการหาเสียงของแฮร์ริสคือ การสร้างความเป็นเอกภาพและสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง สุดท้ายยังไม่เพียงพอให้เธอสามารถสร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ อีกทั้งเป็นหญิงผิวดำและเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกด้วย . จากโพลสำเร็จของรอยเตอร์/อิปซอสส์ บ่งชี้ว่าพวกผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองว่า เรื่องงานและเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของอเมริกา โดยคนอเมริกันจำนวนมากไม่พอใจปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจด้านอื่นๆ อยู่ในอาการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้นพุ่งทำสถิติ ค่าแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอัตราว่างงานต่ำ ทั้งนี้นอกจากคนเหล่านั้นมองว่า เรื่องเงินเฟ้อเป็นความผิดของคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่ยังบอกว่า ไว้ใจทรัมป์มากกว่าแฮร์ริสในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ . กลุ่มฮิสปานิกหรือกลุ่มคนพูดภาษาสเปน ที่เดิมทีเป็นฐานเสียงของเดโมแครต รวมทั้งครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำที่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อรุนแรงที่สุด กลายเป็นตัวช่วยส่งให้ทรัมป์ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ นอกเหนือจากฐานเสียงที่จงรักภักดีเหนียวแน่นกับพวกเขาซึ่งได้แก่กลุ่มคนผิวขาวที่เรียนไม่ถึงระดับมหาวิทยาลัย . ชัยชนะครั้งนี้เกิดขึ้นมา ถึงแม้ว่า ทรัมป์มีคะแนนนิยมต่ำต่อเนื่อง เคยผ่านกระบวนการถูกพิจารณาถอดถอนถึง 2 ครั้ง ถูกอดีตหัวหน้าคณะทำงานในทำเนียบขาวของตนเองระบุว่าเป็น “ฟาสซิสต์” ถูกฟ้องร้องคดีอาญา 4 คดี และถูกตัดสินว่าผิดในคดีแพ่งจากการล่วงละเมิดทางเพศและการหมิ่นประมาท ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเขาถูกคณะลูกขุนในนิวยอร์กตัดสินว่า กระทำผิดในการปลอมแปลงข้อมูลธุรกิจเพื่อปกปิดการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังปลุกใจเสือป่า . ด้วยวัย 78 ปี ทรัมป์กำลังจะสร้างสถิติใหม่ในการเป็นประธานาธิบดีที่อายุมากที่สุด . ชัยชนะของทรัมป์ยังมีนัยสำคัญต่อนโยบายการค้า ผู้อพยพ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของอเมริกา และสงครามในยูเครน . นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า ข้อเสนอขึ้นภาษีศุลกากรอย่างแรงของทรัมป์มีแนวโน้มจุดชนวนสงครามการค้ารุนแรงขึ้นกับจีน ตลอดจนกับพวกประเทศพันธมิตรของอเมริกา นอกจากนั้นเขายังให้สัญญาเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายครั้งใหญ่ . ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของผู้สนับสนุนที่ไปรวมตัวติดตามดูการนับคะแนนอยู่ที่รัฐฟลอริดา ทรัมป์ขึ้นเวทีพร้อมเมลาเนีย ภรรยา และลูกๆ และประกาศว่า นี่คือชัยชนะอันงดงามสำหรับคนอเมริกัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ตนทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง . เขายังกล่าวถึงการรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารสองครั้งระหว่างช่วงหาเสียงว่า หลายคนบอกว่าพระเจ้าปกป้องเขา . นอกจากครอบครัวทรัมป์ วุฒิสมาชิก เจดี. แวนซ์ คู่หูในตำแหน่งรองประธานาธิบดี และบรรดาผู้นำพรรครีพับลิกันแล้ว งานนี้ยังมี อีลอน มัสก์ นักธุรกิจและมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลกที่อัดฉีดแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ราว 120 ล้านดอลลาร์ เข้าร่วมฉลองด้วย โดยทรัมป์ยกย่องนายใหญ่เอ็กซ์และเทสลาผู้นี้เป็น “ดาวดวงใหม่” และก่อนหน้านี้ยังประกาศว่า จะแต่งตั้งมัสก์เป็นประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบประสิทธิภาพของรัฐบาล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107148 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1328 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7/11/67

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0wtGwGxxx2yADXfGPcg1g2ssRuANArQV8YknfinwEfUuXxb7caxLMttmeKn9Pn3pjl&id=100050478820109

    เห็นหน้านายกแถลงจริงจัง เรื่องเกาะกูดเป็นของไทย MOU 44 เลิกไม่ได้ หากเลิกจะถูกฟ้องและ ต้องเดินหน้าเจรจาต่อ แล้วรู้สึกแปลก ๆ ว่าเธอจบรัฐศาสตร์จุฬาจริงหรือ ใครสอนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือเธอไม่ตั้งใจเรียน

    1. เกาะกูดน่ะ อย่างไรก็เป็นของไทย ตามสนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเมื่อปี 2450 ที่ไทยยอมแลก พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เพื่อเอาจันทบุรี และตราดคืนมา โดยแบ่งพื้นที่ว่า เกาะกูดนั้นอยู่ในเขตแดนไทย ส่วนเกาะกง หรือเมืองประจันต์คีรีเขต ที่เป็นเมืองหน้าด่านทางทะเลทางตะวันออก คู่กับ ประจวบคีรีขันธ์ทางทิศตะวันตก นั้นเป็นของฝรั่งเศส

    2. MOU ก็แค่ Memorandum Of Understanding บันทึกความเข้าใจต่อกัน ไม่ใช่สนธิสัญญา (Treaty) ที่มีผลบังคับที่มีข้อผูกพันตามกฎหมาย สนธิสัญญานั้น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิด อีกฝ่ายสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลระหว่างประเทศได้ แต่ MOU นั้นเป็นแค่บันทึกความเข้าใจ นำไปฟ้องร้องใด ๆ ไม่ได้ และหากอยากจะยกเลิก ก็ยกเลิกฝ่ายเดียวได้ คือ ผ่าน ครม. และผ่านสภา จากนั้นก็แจ้งฝ่ายตรงข้ามว่า ฉันขอยกเลิกบันทึกความเข้าใจฉบับนี้เท่านั้น

    3. รัฐบาลจะเดินหน้าเจรจาต่อตาม MOU อันนี้ไม่ผิดอะไร แต่คุณเธอไม่พูดให้ชัดสักคำว่า การเดินหน้าเจรจาจะต้องเจรจาเรื่องเขตแดนให้ชัดเจนควบคู่ไปกับการเจรจาแบ่งปันประโยชน์ ไม่ใช่แบบอีตาอ้วนที่บอกว่า ขอเจรจาเรื่องผลประโยชน์ก่อน เขตแดนคุยไปก็ไม่จบ เสียเวลาคุย ราวกับหากช้าเดี๋ยวของที่อยู่ใต้ทะเลจะเน่าเสีย

    4. วันนึงเพื่อนบ้านคุณ ขีดเส้นมาผ่ากลางบ้านคุณ แล้วบอกว่า เป็นแค่เส้นสมมติ อย่าไปใส่ใจ เรามาขุดหาสมบัติใต้พื้นดินตรงนั้นกันดีกว่า ขุดได้แล้วหารสองแบ่งกันคนละครึ่ง หากคุณยอม ไม่โง่ ก็บ้า ครับ
    7/11/67 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0wtGwGxxx2yADXfGPcg1g2ssRuANArQV8YknfinwEfUuXxb7caxLMttmeKn9Pn3pjl&id=100050478820109 เห็นหน้านายกแถลงจริงจัง เรื่องเกาะกูดเป็นของไทย MOU 44 เลิกไม่ได้ หากเลิกจะถูกฟ้องและ ต้องเดินหน้าเจรจาต่อ แล้วรู้สึกแปลก ๆ ว่าเธอจบรัฐศาสตร์จุฬาจริงหรือ ใครสอนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือเธอไม่ตั้งใจเรียน 1. เกาะกูดน่ะ อย่างไรก็เป็นของไทย ตามสนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศสเมื่อปี 2450 ที่ไทยยอมแลก พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เพื่อเอาจันทบุรี และตราดคืนมา โดยแบ่งพื้นที่ว่า เกาะกูดนั้นอยู่ในเขตแดนไทย ส่วนเกาะกง หรือเมืองประจันต์คีรีเขต ที่เป็นเมืองหน้าด่านทางทะเลทางตะวันออก คู่กับ ประจวบคีรีขันธ์ทางทิศตะวันตก นั้นเป็นของฝรั่งเศส 2. MOU ก็แค่ Memorandum Of Understanding บันทึกความเข้าใจต่อกัน ไม่ใช่สนธิสัญญา (Treaty) ที่มีผลบังคับที่มีข้อผูกพันตามกฎหมาย สนธิสัญญานั้น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละเมิด อีกฝ่ายสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีในศาลระหว่างประเทศได้ แต่ MOU นั้นเป็นแค่บันทึกความเข้าใจ นำไปฟ้องร้องใด ๆ ไม่ได้ และหากอยากจะยกเลิก ก็ยกเลิกฝ่ายเดียวได้ คือ ผ่าน ครม. และผ่านสภา จากนั้นก็แจ้งฝ่ายตรงข้ามว่า ฉันขอยกเลิกบันทึกความเข้าใจฉบับนี้เท่านั้น 3. รัฐบาลจะเดินหน้าเจรจาต่อตาม MOU อันนี้ไม่ผิดอะไร แต่คุณเธอไม่พูดให้ชัดสักคำว่า การเดินหน้าเจรจาจะต้องเจรจาเรื่องเขตแดนให้ชัดเจนควบคู่ไปกับการเจรจาแบ่งปันประโยชน์ ไม่ใช่แบบอีตาอ้วนที่บอกว่า ขอเจรจาเรื่องผลประโยชน์ก่อน เขตแดนคุยไปก็ไม่จบ เสียเวลาคุย ราวกับหากช้าเดี๋ยวของที่อยู่ใต้ทะเลจะเน่าเสีย 4. วันนึงเพื่อนบ้านคุณ ขีดเส้นมาผ่ากลางบ้านคุณ แล้วบอกว่า เป็นแค่เส้นสมมติ อย่าไปใส่ใจ เรามาขุดหาสมบัติใต้พื้นดินตรงนั้นกันดีกว่า ขุดได้แล้วหารสองแบ่งกันคนละครึ่ง หากคุณยอม ไม่โง่ ก็บ้า ครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์-แฮร์ริส ตระเวนปราศรัยตามรัฐสมรภูมิ ในวันสุดท้ายของการหาเสียงศึกชิงทำเนียบขาวที่เต็มไปด้วยดรามา ตั้งแต่การที่ทรัมป์ถูกตัดสินทำผิดอุกฉกรรจ์และถูกลอบสังหารสองครั้งสองหน จนถึงการที่ประธานาธิบดีในตำแหน่งอย่างไบเดนถูกกดดันจนต้องถอนตัวจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้ แฮร์ริส เน้นชูประเด็นสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง ขณะที่ทรัมป์ยังปลุกกระแสว่าถูกโกงเลือกตั้งครั้งที่แล้วและอาจถูกโกงอีกในคราวนี้ โดยทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความมั่นใจว่า ตนเองจะเป็นผู้ชนะ
    .
    รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต วางแผนใช้เวลาทั้งวันจันทร์ (4 พ.ย.) ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (electoral votes) 19 เสียง มากที่สุดในบรรดา 7 รัฐซึ่งเรียกกันว่าเป็นรัฐสมรภูมิ ที่หมายถึงรัฐที่ยังไม่มีความแน่นอนชัดเจนว่าจะโหวตให้ผู้สมัครคนไหน และดังนั้นจึงกลายเป็นตัวตัดสินทำให้ผู้ชนะมีโอกาสได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งจนเกินครึ่งหนึ่ง หรือ 270 คะแนนจากทั้งประเทศ 538 คะแนน ที่จะเป็นตัวชี้ขาดว่าผู้สมัครคนไหนจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป
    .
    สำหรับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกันนั้น มีกำหนดตระเวนหาเสียงใน 3 รัฐสมรภูมิ ได้แก่ นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และมิชิแกน
    .
    รายงานข่าวระบุว่า มีคนอเมริกันราว 77 ล้านคนแล้วที่ไปลงคะแนนล่วงหน้า แต่แฮร์ริสและทรัมป์ยังคงพยายามผลักดันผู้สนับสนุนอีกหลายล้านคนไปใช้สิทธิในวันอังคาร (5 ) ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ทั้งสิ้น
    .
    กล่าวคือหากทรัมป์ชนะจะทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกฟ้องร้องและถูกศาลตัดสินว่าทำผิดอุกฉกรรจ์ในคดีอาญาจากกรณีจ่ายเงินปิดปากดาราหนังปลุกใจเสือป่าในนิวยอร์ก โดยที่การได้กลับสู่ทำเนียบขาวจะทำให้เขามีอำนาจในการยุติการสอบสวนตนเองอีกหลายคดี นอกจากนั้นทรัมป์ยังจะเป็นประธานาธิบดีคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งสองสมัยติดกัน โดยคนก่อนหน้านี้คือ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
    .
    ส่วนแฮร์ริสจะได้เป็นประธานาธิบดีหญิงผิวดำที่มีเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกของอเมริกา
    .
    แฮร์ริสจับพลัดจับผลูได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงศึกชิงทำเนียบขาวครั้งนี้ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน โชว์ผลงานการดีเบตสุดเลวร้ายเมื่อเดือนมิถุนายนจนถูกกดดันหนักและตัดสินใจถอนตัวจากการเลือกตั้ง
    .
    ทางฝั่งทรัมป์รอดหวุดหวิดจากการถูกลอบยิงระหว่างหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม ต่อมาในเดือนกันยายน เจ้าหน้าที่กรมกิจการลับก็สกัดความพยายามลอบสังหารครั้งที่ 2 โดยมือปืนคนหนึ่งที่แอบซุ่มเตรียมปืนไรเฟิลในสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งของทรัมป์ในฟลอริดาขณะที่เจ้าตัวกำลังตีกอล์ฟ
    .
    ในส่วนการหาเสียงนั้น แฮร์ริสประกาศตัวเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย โดยเน้นย้ำการสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง หลังจากศาลสูงสุดได้ตัดสินยกเลิกสิทธิในการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2022 เธอยังตั้งข้อสังเกตมาโดยตลอดเกี่ยวกับบทบาทของทรัมป์ในเหตุการณ์ม็อบบุกโจมตีอาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค. 2021
    .
    รองประธานาธิบดีผู้นี้ยังโจมตีทรัมป์ว่า เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย และไม่นานมานี้ถึงขั้นเรียกทรัมป์ว่า เป็นพวกเผด็จการฟาสซิสต์
    .
    อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองวันสุดท้ายของการหาเสียง แฮร์ริสแทบจะหยุดโจมตีทรัมป์โดยสิ้นเชิง และหันมาให้สัญญาว่า จะแก้ไขปัญหาต่างๆ และหาทางประนีประนอม
    .
    ด้านทรัมป์ปัดฝุ่นสโลแกนยอดฮิตของตัวเอง “ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” และ “อเมริกาต้องมาก่อน” รวมทั้งยังประกาศจุดยืนแข็งกร้าวในประเด็นคนเข้าเมือง พร้อมโจมตีเดโมแครตเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ และให้คำมั่นฟื้นยุคทองทางเศรษฐกิจ ยุติวิกฤตการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และปิดพรมแดนทางใต้ของอเมริกา
    .
    อย่างไรก็ดี บ่อยครั้งที่ทรัมป์ออกนอกสคริปต์ไปคร่ำครวญเรื่องที่ตัวเองถูกฟ้องหลังจากพยายามล้มล้างชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดนเมื่อปี 2020 และด้อยค่าอเมริกาว่าเป็น “ประเทศที่ล้มเหลว”
    .
    ในวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ทรัมป์กล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานอีกครั้งว่า ระบบการเลือกตั้งของอเมริกากำลังคดโกงตัวเขา และบอกว่า ไม่น่ายอมขนของออกจากทำเนียบขาวหลังการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก่อนโอ้อวดว่า ครั้งนี้จะชนะถล่มทลายจนโกงไม่ได้
    .
    เรื่องที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีมีแนวโน้มชี้ขาดกันในการโหวตที่ 7 รัฐสมรภูมินั้น สามารถสาวย้อนกลับไปในปี 2016 ซึ่งทรัมป์ชนะได้เป็นประธานาธิบดี ภายหลังมีชัยในรัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน แต่ในปี 2020 เมื่อเขาเสียทั้ง 3 รัฐนี้ให้ไบเดน เขาก็ตกเป็นฝ่ายแพ้ ทั้งนี้อีก 4 รัฐสมรภูมิที่เหลือ ได้แก่ นอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย แอริโซนา และเนวาดา
    .
    ทรัมป์นั้นเคยชนะในนอร์ทแคโรไลนา 2 ครั้ง และแพ้ในเนวาดา 2 ครั้ง เขาชนะในแอริโซนาและจอร์เจียในปี 2016 แต่แพ้ไบเดนในอีก 4 ปีต่อมา
    .
    ทางด้านทีมหาเสียงของแฮร์ริสแสดงความมั่นใจในระยะไม่กี่วันหลังๆ นี้ โดยชี้ไปที่ข้อมูลการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งผู้ออกเสียงหญิงมาใช้สิทธิในจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงกว่าผู้ออกเสียงชายค่อนข้างมาก ตลอดจนผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจมีความโน้มเอียงเลือกแฮร์ริส กระนั้น บรรดาผู้ช่วยของเธออยากให้มองว่า แฮร์ริสยังคงเป็นมวยรอง
    .
    ส่วนทีมหาเสียงของทรัมป์แสดงความมั่นใจไม่แพ้กัน โดยอ้างว่า แนวทางประชานิยมของทรัมป์สามารถดึงดูดหนุ่มสาวและชนชั้นแรงงานจากทุกชาติพันธุ์และสีผิว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106360
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์-แฮร์ริส ตระเวนปราศรัยตามรัฐสมรภูมิ ในวันสุดท้ายของการหาเสียงศึกชิงทำเนียบขาวที่เต็มไปด้วยดรามา ตั้งแต่การที่ทรัมป์ถูกตัดสินทำผิดอุกฉกรรจ์และถูกลอบสังหารสองครั้งสองหน จนถึงการที่ประธานาธิบดีในตำแหน่งอย่างไบเดนถูกกดดันจนต้องถอนตัวจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้ แฮร์ริส เน้นชูประเด็นสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง ขณะที่ทรัมป์ยังปลุกกระแสว่าถูกโกงเลือกตั้งครั้งที่แล้วและอาจถูกโกงอีกในคราวนี้ โดยทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความมั่นใจว่า ตนเองจะเป็นผู้ชนะ . รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต วางแผนใช้เวลาทั้งวันจันทร์ (4 พ.ย.) ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (electoral votes) 19 เสียง มากที่สุดในบรรดา 7 รัฐซึ่งเรียกกันว่าเป็นรัฐสมรภูมิ ที่หมายถึงรัฐที่ยังไม่มีความแน่นอนชัดเจนว่าจะโหวตให้ผู้สมัครคนไหน และดังนั้นจึงกลายเป็นตัวตัดสินทำให้ผู้ชนะมีโอกาสได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งจนเกินครึ่งหนึ่ง หรือ 270 คะแนนจากทั้งประเทศ 538 คะแนน ที่จะเป็นตัวชี้ขาดว่าผู้สมัครคนไหนจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป . สำหรับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกันนั้น มีกำหนดตระเวนหาเสียงใน 3 รัฐสมรภูมิ ได้แก่ นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และมิชิแกน . รายงานข่าวระบุว่า มีคนอเมริกันราว 77 ล้านคนแล้วที่ไปลงคะแนนล่วงหน้า แต่แฮร์ริสและทรัมป์ยังคงพยายามผลักดันผู้สนับสนุนอีกหลายล้านคนไปใช้สิทธิในวันอังคาร (5 ) ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ทั้งสิ้น . กล่าวคือหากทรัมป์ชนะจะทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกฟ้องร้องและถูกศาลตัดสินว่าทำผิดอุกฉกรรจ์ในคดีอาญาจากกรณีจ่ายเงินปิดปากดาราหนังปลุกใจเสือป่าในนิวยอร์ก โดยที่การได้กลับสู่ทำเนียบขาวจะทำให้เขามีอำนาจในการยุติการสอบสวนตนเองอีกหลายคดี นอกจากนั้นทรัมป์ยังจะเป็นประธานาธิบดีคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งสองสมัยติดกัน โดยคนก่อนหน้านี้คือ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 . ส่วนแฮร์ริสจะได้เป็นประธานาธิบดีหญิงผิวดำที่มีเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกของอเมริกา . แฮร์ริสจับพลัดจับผลูได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงศึกชิงทำเนียบขาวครั้งนี้ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน โชว์ผลงานการดีเบตสุดเลวร้ายเมื่อเดือนมิถุนายนจนถูกกดดันหนักและตัดสินใจถอนตัวจากการเลือกตั้ง . ทางฝั่งทรัมป์รอดหวุดหวิดจากการถูกลอบยิงระหว่างหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม ต่อมาในเดือนกันยายน เจ้าหน้าที่กรมกิจการลับก็สกัดความพยายามลอบสังหารครั้งที่ 2 โดยมือปืนคนหนึ่งที่แอบซุ่มเตรียมปืนไรเฟิลในสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งของทรัมป์ในฟลอริดาขณะที่เจ้าตัวกำลังตีกอล์ฟ . ในส่วนการหาเสียงนั้น แฮร์ริสประกาศตัวเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย โดยเน้นย้ำการสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง หลังจากศาลสูงสุดได้ตัดสินยกเลิกสิทธิในการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2022 เธอยังตั้งข้อสังเกตมาโดยตลอดเกี่ยวกับบทบาทของทรัมป์ในเหตุการณ์ม็อบบุกโจมตีอาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค. 2021 . รองประธานาธิบดีผู้นี้ยังโจมตีทรัมป์ว่า เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย และไม่นานมานี้ถึงขั้นเรียกทรัมป์ว่า เป็นพวกเผด็จการฟาสซิสต์ . อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองวันสุดท้ายของการหาเสียง แฮร์ริสแทบจะหยุดโจมตีทรัมป์โดยสิ้นเชิง และหันมาให้สัญญาว่า จะแก้ไขปัญหาต่างๆ และหาทางประนีประนอม . ด้านทรัมป์ปัดฝุ่นสโลแกนยอดฮิตของตัวเอง “ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” และ “อเมริกาต้องมาก่อน” รวมทั้งยังประกาศจุดยืนแข็งกร้าวในประเด็นคนเข้าเมือง พร้อมโจมตีเดโมแครตเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ และให้คำมั่นฟื้นยุคทองทางเศรษฐกิจ ยุติวิกฤตการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และปิดพรมแดนทางใต้ของอเมริกา . อย่างไรก็ดี บ่อยครั้งที่ทรัมป์ออกนอกสคริปต์ไปคร่ำครวญเรื่องที่ตัวเองถูกฟ้องหลังจากพยายามล้มล้างชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดนเมื่อปี 2020 และด้อยค่าอเมริกาว่าเป็น “ประเทศที่ล้มเหลว” . ในวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ทรัมป์กล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานอีกครั้งว่า ระบบการเลือกตั้งของอเมริกากำลังคดโกงตัวเขา และบอกว่า ไม่น่ายอมขนของออกจากทำเนียบขาวหลังการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก่อนโอ้อวดว่า ครั้งนี้จะชนะถล่มทลายจนโกงไม่ได้ . เรื่องที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีมีแนวโน้มชี้ขาดกันในการโหวตที่ 7 รัฐสมรภูมินั้น สามารถสาวย้อนกลับไปในปี 2016 ซึ่งทรัมป์ชนะได้เป็นประธานาธิบดี ภายหลังมีชัยในรัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน แต่ในปี 2020 เมื่อเขาเสียทั้ง 3 รัฐนี้ให้ไบเดน เขาก็ตกเป็นฝ่ายแพ้ ทั้งนี้อีก 4 รัฐสมรภูมิที่เหลือ ได้แก่ นอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย แอริโซนา และเนวาดา . ทรัมป์นั้นเคยชนะในนอร์ทแคโรไลนา 2 ครั้ง และแพ้ในเนวาดา 2 ครั้ง เขาชนะในแอริโซนาและจอร์เจียในปี 2016 แต่แพ้ไบเดนในอีก 4 ปีต่อมา . ทางด้านทีมหาเสียงของแฮร์ริสแสดงความมั่นใจในระยะไม่กี่วันหลังๆ นี้ โดยชี้ไปที่ข้อมูลการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งผู้ออกเสียงหญิงมาใช้สิทธิในจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงกว่าผู้ออกเสียงชายค่อนข้างมาก ตลอดจนผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจมีความโน้มเอียงเลือกแฮร์ริส กระนั้น บรรดาผู้ช่วยของเธออยากให้มองว่า แฮร์ริสยังคงเป็นมวยรอง . ส่วนทีมหาเสียงของทรัมป์แสดงความมั่นใจไม่แพ้กัน โดยอ้างว่า แนวทางประชานิยมของทรัมป์สามารถดึงดูดหนุ่มสาวและชนชั้นแรงงานจากทุกชาติพันธุ์และสีผิว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106360 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1055 มุมมอง 0 รีวิว
  • คดีขโมยทรัพย์หักสวาทกับกลิ่นตุๆ 10 ปมพิรุธ ปกปิดทรัพย์สินเมียบิ๊กตำรวจ
    .
    22 ตุลาคมนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ คุณธนัฎฐา ยอดเยี่ยม หรือ หนิง อายุ 50 ปี อาชีพเป็นถึงอาจารย์พิเศษ อยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นครปฐมไปออกรายการ ถกไม่เถียง มีคุณทิน โชคกมลกิจ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ผู้หญิงคนนี้มาแฉว่าเมียบิ๊กตำรวจมาเล่นชู้กับสามีตัวเองที่เป็นตำรวจเช่นกัน ในคอนโดฯ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ มิหนำซ้ำยังขโมยทรัพย์สินเป็นทองคำกว่า 120 บาท และเงินสดอีก 6 แสนบาท มูลค่ารวม 5 ล้านกว่าบาท
    .
    ผมอยากให้ท่านผู้ชมเห็นพิรุธของคนทั้งสามคนนี้ คือในเรื่องขโมยทรัพย์หักสวาทเรื่องนี้มันมีกลิ่นตุๆ ซุกซ่อนอยู่ในนี้หลายประเด็น
    .
    หนึ่ง เท่าที่ผมรู้ ดร.ศิรินัดดา ขจัดพาล ให้การกับตำรวจขณะมามอบตัวว่ามีการเช่าคอนโดฯ ห้องที่เกิดเหตุกับพ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามีคุณหนิงตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2567ต้นปี ตกลงเช่ากันไว้ 1 ปี ในราคาเดือนละ 10,000 บาท แต่ได้จ่ายค่าเช่าเป็นเงิน 120,000 บาท แสดงว่าการเช่าสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า (2568) เพราะฉะนั้นแล้วการเอากระสอบสีรุ้ง 5 ใบ ก็สามารถเก็บไว้ได้ตามอายุสัญญาเช่า ไม่จำเป็นต้องเอาออกไปแต่อย่างใด
    .
    สอง ตามคำให้การของคุณหนิง พบว่าคุณหนิงกับสามี พ.ต.อ.ภีมพจน์ มีการเข้าห้องที่เกิดเหตุตั้งหลายครั้ง ทำไม ดร.ศิรินัดดา ไม่มีการแจ้งความในข้อหาบุกรุกกับสองคนผัวเมีย
    .
    สาม ถ้ามีการเช่า ทำไมไม่เปลี่ยนกุญแจคีย์การ์ดล็อกได้อีกชั้น ถ้าไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวายในห้องนี้
    .
    สี่ ในซอยสุขุมวิท 101 ซอยย่อย 47 ดร.ศิรินัดดา มีคอนโดฯอีก 3 ห้อง ซึ่งใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอยู่ซอย 21 ทำไมถึงไม่เอาเงินทอง 5 ถุงไปเก็บไว้ที่มีตำรวจตัวเอง
    .
    ห้า ข้อมูลเชิงลึก ดร.ศิรินัดดาหรือมาดามกุ๊กคบหารู้จักสามีคุณหนิงตั้งแต่เป็นสารวัตร รับราชการที่จังหวัดสงขลา จนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง
    .
    หก เรื่องซื้อขายทองตามปรากฏ post-it ในถุงสีรุ้ง ดันไปตรงกับข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ที่ พ.ต.ต.ชานนท์ รายงานการซื้อขายทอง ตรงกับหลักฐานที่ ปปง. มีอยู่ จึงเชื่อได้ว่าทองคำที่คุณหนิงอ้างว่าถูกมาดามกุ๊กขโมยไปนั้น ไม่น่าจะเป็นทองของคุณหนิง แต่เป็นทองของสุรเชชษฐ์ กับมาดามกุ๊กมากกว่า แต่ทำไมคุณหนิงแต่งเรื่องเพื่อแบล็กเมล ใช่หรือเปล่า
    .
    เจ็ด ตัวคุณหนิงเองก็เคยมีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคดี ถูกฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์เกือบสิบคดี และเบื้องหลังคุณหนิงกับสามีก็ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จะเอาทองคำ 120 บาท กับเงิน 6 แสนบาท มาจากไหนครับและหลักฐานที่จะแสดงถึงว่าคุณซื้อทองยังไม่มีเลย
    .
    แปด ตรรกะง่ายๆ เมียที่ไหนจับได้ว่าผู้หญิงเอาผัวตัวไปทำชู้พร้อมหลักฐานชัดเจน แต่ไม่อาละวาด เคลียร์กันเงียบๆ แล้วแยกย้ายจากกัน ดูเป็นแม่พระเหลือเกิน ต่างกับตอนมาออกรายการโหนกระแส ธาตุแท้ยิ่งกว่าตลาด บุคลากรแบบนี้หรือที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจนำมาสั่งสอนนักเรียนนายร้อยตำรวจ ดีแล้วที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจไม่ให้คุณทำการสอนต่อ
    .
    เก้า คุณหนิงกับสามีรับลูกกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยในรายการ “โหนกระแส” ทั้งๆ ที่มันเป็นความผิดร้ายแรงของระบบราชการที่มีการคบซ้อนเชิงชู้สาว ร้ายแรงถึงออกจากราชการ แต่ทั้งคู่ไม่ได้แคร์ เหมือนกับรู้ว่าจะได้ลาภก้อนใหญ่จนกระทั่งไม่สนชีวิตราชการ แม้กระทั่งเงินบำเหน็จบำนาญ
    .
    สิบ ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ มันขมวดถึงข้อพิรุธและความน่าสงสัยของการพยายามปกปิดทรัพย์สิน ร่ำรวยเกินกว่าเหตุของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และ ดร.ศิรินัดดา รวมถึงเส้นทางทางการเงินที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายมินนี่ หรือ BNK Master เรื่องคดีพวกนี้ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ผมก็ยังงงกับหน่วยงานที่ไปตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือ ปปง. ที่ยังเชื่องช้าเหมือนเด็กหัดเดิน ทำอะไร พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่ได้เต็มข้อเสียที ทั้งๆ ที่ตำรวจขนหลักฐานไปให้ไม่รู้เท่าไร พวกคุณรออะไรกันอยู่ หรือจะรอให้มันโยกเงินโยกทองหนีออกนอกประเทศไปก่อน
    .
    เรื่องคดีอาญาที่ ปปง. ดำเนินการ ไปถึงไหนแล้ว บทเรียนมีไม่ใช่หรือ ว่ามันโยกเงินแม้กระทั่งจากกรมธรรม์ประกันชีวิต มันก็ทำไปแล้ว ไม่เห็นหรือ นี่คือข้อสังเกตของผม ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่าเรื่องนี้มันทะแม่งๆ น่าสนใจมาก
    คดีขโมยทรัพย์หักสวาทกับกลิ่นตุๆ 10 ปมพิรุธ ปกปิดทรัพย์สินเมียบิ๊กตำรวจ . 22 ตุลาคมนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ คุณธนัฎฐา ยอดเยี่ยม หรือ หนิง อายุ 50 ปี อาชีพเป็นถึงอาจารย์พิเศษ อยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นครปฐมไปออกรายการ ถกไม่เถียง มีคุณทิน โชคกมลกิจ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ผู้หญิงคนนี้มาแฉว่าเมียบิ๊กตำรวจมาเล่นชู้กับสามีตัวเองที่เป็นตำรวจเช่นกัน ในคอนโดฯ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ มิหนำซ้ำยังขโมยทรัพย์สินเป็นทองคำกว่า 120 บาท และเงินสดอีก 6 แสนบาท มูลค่ารวม 5 ล้านกว่าบาท . ผมอยากให้ท่านผู้ชมเห็นพิรุธของคนทั้งสามคนนี้ คือในเรื่องขโมยทรัพย์หักสวาทเรื่องนี้มันมีกลิ่นตุๆ ซุกซ่อนอยู่ในนี้หลายประเด็น . หนึ่ง เท่าที่ผมรู้ ดร.ศิรินัดดา ขจัดพาล ให้การกับตำรวจขณะมามอบตัวว่ามีการเช่าคอนโดฯ ห้องที่เกิดเหตุกับพ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามีคุณหนิงตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2567ต้นปี ตกลงเช่ากันไว้ 1 ปี ในราคาเดือนละ 10,000 บาท แต่ได้จ่ายค่าเช่าเป็นเงิน 120,000 บาท แสดงว่าการเช่าสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า (2568) เพราะฉะนั้นแล้วการเอากระสอบสีรุ้ง 5 ใบ ก็สามารถเก็บไว้ได้ตามอายุสัญญาเช่า ไม่จำเป็นต้องเอาออกไปแต่อย่างใด . สอง ตามคำให้การของคุณหนิง พบว่าคุณหนิงกับสามี พ.ต.อ.ภีมพจน์ มีการเข้าห้องที่เกิดเหตุตั้งหลายครั้ง ทำไม ดร.ศิรินัดดา ไม่มีการแจ้งความในข้อหาบุกรุกกับสองคนผัวเมีย . สาม ถ้ามีการเช่า ทำไมไม่เปลี่ยนกุญแจคีย์การ์ดล็อกได้อีกชั้น ถ้าไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวายในห้องนี้ . สี่ ในซอยสุขุมวิท 101 ซอยย่อย 47 ดร.ศิรินัดดา มีคอนโดฯอีก 3 ห้อง ซึ่งใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอยู่ซอย 21 ทำไมถึงไม่เอาเงินทอง 5 ถุงไปเก็บไว้ที่มีตำรวจตัวเอง . ห้า ข้อมูลเชิงลึก ดร.ศิรินัดดาหรือมาดามกุ๊กคบหารู้จักสามีคุณหนิงตั้งแต่เป็นสารวัตร รับราชการที่จังหวัดสงขลา จนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง . หก เรื่องซื้อขายทองตามปรากฏ post-it ในถุงสีรุ้ง ดันไปตรงกับข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ที่ พ.ต.ต.ชานนท์ รายงานการซื้อขายทอง ตรงกับหลักฐานที่ ปปง. มีอยู่ จึงเชื่อได้ว่าทองคำที่คุณหนิงอ้างว่าถูกมาดามกุ๊กขโมยไปนั้น ไม่น่าจะเป็นทองของคุณหนิง แต่เป็นทองของสุรเชชษฐ์ กับมาดามกุ๊กมากกว่า แต่ทำไมคุณหนิงแต่งเรื่องเพื่อแบล็กเมล ใช่หรือเปล่า . เจ็ด ตัวคุณหนิงเองก็เคยมีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคดี ถูกฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์เกือบสิบคดี และเบื้องหลังคุณหนิงกับสามีก็ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จะเอาทองคำ 120 บาท กับเงิน 6 แสนบาท มาจากไหนครับและหลักฐานที่จะแสดงถึงว่าคุณซื้อทองยังไม่มีเลย . แปด ตรรกะง่ายๆ เมียที่ไหนจับได้ว่าผู้หญิงเอาผัวตัวไปทำชู้พร้อมหลักฐานชัดเจน แต่ไม่อาละวาด เคลียร์กันเงียบๆ แล้วแยกย้ายจากกัน ดูเป็นแม่พระเหลือเกิน ต่างกับตอนมาออกรายการโหนกระแส ธาตุแท้ยิ่งกว่าตลาด บุคลากรแบบนี้หรือที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจนำมาสั่งสอนนักเรียนนายร้อยตำรวจ ดีแล้วที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจไม่ให้คุณทำการสอนต่อ . เก้า คุณหนิงกับสามีรับลูกกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยในรายการ “โหนกระแส” ทั้งๆ ที่มันเป็นความผิดร้ายแรงของระบบราชการที่มีการคบซ้อนเชิงชู้สาว ร้ายแรงถึงออกจากราชการ แต่ทั้งคู่ไม่ได้แคร์ เหมือนกับรู้ว่าจะได้ลาภก้อนใหญ่จนกระทั่งไม่สนชีวิตราชการ แม้กระทั่งเงินบำเหน็จบำนาญ . สิบ ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ มันขมวดถึงข้อพิรุธและความน่าสงสัยของการพยายามปกปิดทรัพย์สิน ร่ำรวยเกินกว่าเหตุของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และ ดร.ศิรินัดดา รวมถึงเส้นทางทางการเงินที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายมินนี่ หรือ BNK Master เรื่องคดีพวกนี้ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ผมก็ยังงงกับหน่วยงานที่ไปตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือ ปปง. ที่ยังเชื่องช้าเหมือนเด็กหัดเดิน ทำอะไร พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่ได้เต็มข้อเสียที ทั้งๆ ที่ตำรวจขนหลักฐานไปให้ไม่รู้เท่าไร พวกคุณรออะไรกันอยู่ หรือจะรอให้มันโยกเงินโยกทองหนีออกนอกประเทศไปก่อน . เรื่องคดีอาญาที่ ปปง. ดำเนินการ ไปถึงไหนแล้ว บทเรียนมีไม่ใช่หรือ ว่ามันโยกเงินแม้กระทั่งจากกรมธรรม์ประกันชีวิต มันก็ทำไปแล้ว ไม่เห็นหรือ นี่คือข้อสังเกตของผม ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่าเรื่องนี้มันทะแม่งๆ น่าสนใจมาก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 695 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาวเหินจรคู่ผสมระหว่างปีและเดือน ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567

    ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 7 เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึง วันศุกร์ที่ 6 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 เป็นเดือน乙亥(อิกไห) กุนไม้ ธาตุไฟ มีกระแสพลังดาธาตุดิน 五黃 (โหงวอึ๊ง) ดาวแห่งวิบาก ดาวแห่งสันโดษและดาวแห่งอำนาจสูงสุด ร่วมกันขัดแย้งกับกระแสพลังดาวธาตุไม้ 三碧 (ซาเพ็ก) พลังดาวแห่งการฟ้องร้อง การต่อสู้แย่งชิง การทะเลาะวิวาท การเสียทรัพย์ ประจำที่ปีจร甲辰 (กะซิ้ง) มะโรงไม้ ธาตุไฟ จากแนวคิดที่ต่างยึดติดคิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ส่งผลให้สังคมยังคงรวมกันไม่ติดไม่ปรองดองต่อกัน เกิดแนวความคิดวิวาทะแตกแยกต่างขั้วจนเป็นคดีความต่อกัน แม้แต่การร่วมฉันทามติที่จะหาทางออกให้แก่สถาบันและองค์กรยังไร้เสถียรภาพเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ยังผลให้เศรษฐกิจที่ต้องรอวันกระเตื้องกลับยิ่งจะเปราะบางเพิ่มมากขึ้น ทั้งตลาดเงิน ตลาดทอง ตลาดหุ้น ผันผวนขึ้นลงแปรปรวนอย่างไร้ทิศทาง แม้แต่โรคบางโรคอาจจะกลายพันธุ์ให้เป็นโรคเรื้อรังที่น่าหวาดกลัว อีกทั้งจะขึ้นรถลงเรือหรือขึ้นเหนือล่องใต้ควรตรวจสอบก่อนการเดินทางทุกครั้ง รวมทั้งอุบัติเหตุเภทภัยอันเนื่องจากผืนดินแยกแผ่นหินถล่ม
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ดาวเหินจรคู่ผสมระหว่างปีและเดือน ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 7 เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึง วันศุกร์ที่ 6 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 เป็นเดือน乙亥(อิกไห) กุนไม้ ธาตุไฟ มีกระแสพลังดาธาตุดิน 五黃 (โหงวอึ๊ง) ดาวแห่งวิบาก ดาวแห่งสันโดษและดาวแห่งอำนาจสูงสุด ร่วมกันขัดแย้งกับกระแสพลังดาวธาตุไม้ 三碧 (ซาเพ็ก) พลังดาวแห่งการฟ้องร้อง การต่อสู้แย่งชิง การทะเลาะวิวาท การเสียทรัพย์ ประจำที่ปีจร甲辰 (กะซิ้ง) มะโรงไม้ ธาตุไฟ จากแนวคิดที่ต่างยึดติดคิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้ง ส่งผลให้สังคมยังคงรวมกันไม่ติดไม่ปรองดองต่อกัน เกิดแนวความคิดวิวาทะแตกแยกต่างขั้วจนเป็นคดีความต่อกัน แม้แต่การร่วมฉันทามติที่จะหาทางออกให้แก่สถาบันและองค์กรยังไร้เสถียรภาพเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ยังผลให้เศรษฐกิจที่ต้องรอวันกระเตื้องกลับยิ่งจะเปราะบางเพิ่มมากขึ้น ทั้งตลาดเงิน ตลาดทอง ตลาดหุ้น ผันผวนขึ้นลงแปรปรวนอย่างไร้ทิศทาง แม้แต่โรคบางโรคอาจจะกลายพันธุ์ให้เป็นโรคเรื้อรังที่น่าหวาดกลัว อีกทั้งจะขึ้นรถลงเรือหรือขึ้นเหนือล่องใต้ควรตรวจสอบก่อนการเดินทางทุกครั้ง รวมทั้งอุบัติเหตุเภทภัยอันเนื่องจากผืนดินแยกแผ่นหินถล่ม ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียสั่งปรับกูเกิล 2 หมื่นล้านล้านล้านล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่า GDP ของทั้งโลก ข้อหาแบนช่องรัสเซียใน Youtube

    31 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวTNN Thailand ระบุว่า สำนักข่าวตะวันตกหลายสำนักข่าว เช่น อินดีเพนเดนต์ (Independent) ของอังกฤษรายงานว่า รัฐบาลรัสเซียสั่งปรับอัลฟาเบต (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล (Google) และยูทูบ (Youtube) ในข้อหาแบนช่องยูทูบที่เป็นช่องทางของสื่อรัสเซียและสื่อทางการของรัสเซียหลายช่อง จำนวนกว่า 2 หมื่น-ล้าน-ล้าน-ล้าน-ล้าน-ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ($20,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000)

    รัสเซียปรับ Google มากกว่า GDP ทั้งโลกรวมกัน

    ขณะที่รายงานจาก TASS สำนักข่าวทางการรัฐบาลของรัสเซีย ระบุว่า ค่าปรับดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่บริษัทได้ทำการลบช่องสื่อของรัสเซียบน Youtube หลายช่อง ซึ่งเดอะ มอสโคว์ ไทม์ส (The Moscow Times) สื่ออิสระที่รายงานข่าวรัสเซียซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ รายงานจำนวนช่องที่ลบไปนั้นรวมทั้งหมด 17 ช่อง

    ซึ่งค่าปรับดังกล่าวมากกว่ามูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของทั้งโลก (Global GDP) ซึ่งมีมูลค่า 105.44 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลจากเวิลด์แบงก์ (World Bank) และมากกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทที่ประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมากกว่ารายได้ของบริษัทในไตรมาสล่าสุดที่ 80,540 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามการรายงานของยูโรนิวส์ (Euronews)

    ต้นตอรัสเซียปรับ Google

    ค่าปรับดังกล่าวเป็นคดีสืบเนื่องจากการฟ้องร้องโดยทนายความ อิวาน โมโรซอฟ (Ivan Morozov) ในปี 2020 จากการที่ยูทูบสั่งปิดช่องโดยที่ทางทนายเชื่อว่าไม่เป็นธรรม โดยอิวานได้ฟ้องร้องต่อศาลในรัสเซียตามมาตรา 13.41 (Art. 13.41) ของกฎหมายความรับผิดของฝ่ายปกครองของรัสเซีย ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาสั่งปรับ แต่ไม่มีการจ่ายค่าปรับนับตั้งแต่นั้น ทำให้ค่าปรับมีการทวีคูณต่อเนื่องจนเป็นยอดในปัจจุบัน

    ทั้งนี้ ตามการรายงานของ TASS ระบุว่า ถ้าบริษัทอัลฟาเบตไม่จ่ายค่าปรับจำนวนดังกล่าวภายใน 9 เดือน ตามกฎหมายรัสเซียค่าปรับจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในทุก ๆ วันและไม่มีเพดานค่าปรับสูงสุดแต่อย่างใด รวมถึงบริการต่าง ๆ ของบริษัทจะไม่สามารถทำการตลาดในรัสเซียได้เว้นแต่ศาลจะสั่งเป็นอย่างอื่นต่อไป

    ที่มาข้อมูล Independent, Euronews, TASS, The Moscow Times, World Bank

    #Thaitimes
    รัสเซียสั่งปรับกูเกิล 2 หมื่นล้านล้านล้านล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่า GDP ของทั้งโลก ข้อหาแบนช่องรัสเซียใน Youtube 31 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวTNN Thailand ระบุว่า สำนักข่าวตะวันตกหลายสำนักข่าว เช่น อินดีเพนเดนต์ (Independent) ของอังกฤษรายงานว่า รัฐบาลรัสเซียสั่งปรับอัลฟาเบต (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล (Google) และยูทูบ (Youtube) ในข้อหาแบนช่องยูทูบที่เป็นช่องทางของสื่อรัสเซียและสื่อทางการของรัสเซียหลายช่อง จำนวนกว่า 2 หมื่น-ล้าน-ล้าน-ล้าน-ล้าน-ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ($20,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000) รัสเซียปรับ Google มากกว่า GDP ทั้งโลกรวมกัน ขณะที่รายงานจาก TASS สำนักข่าวทางการรัฐบาลของรัสเซีย ระบุว่า ค่าปรับดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่บริษัทได้ทำการลบช่องสื่อของรัสเซียบน Youtube หลายช่อง ซึ่งเดอะ มอสโคว์ ไทม์ส (The Moscow Times) สื่ออิสระที่รายงานข่าวรัสเซียซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ รายงานจำนวนช่องที่ลบไปนั้นรวมทั้งหมด 17 ช่อง ซึ่งค่าปรับดังกล่าวมากกว่ามูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของทั้งโลก (Global GDP) ซึ่งมีมูลค่า 105.44 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลจากเวิลด์แบงก์ (World Bank) และมากกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทที่ประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมากกว่ารายได้ของบริษัทในไตรมาสล่าสุดที่ 80,540 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามการรายงานของยูโรนิวส์ (Euronews) ต้นตอรัสเซียปรับ Google ค่าปรับดังกล่าวเป็นคดีสืบเนื่องจากการฟ้องร้องโดยทนายความ อิวาน โมโรซอฟ (Ivan Morozov) ในปี 2020 จากการที่ยูทูบสั่งปิดช่องโดยที่ทางทนายเชื่อว่าไม่เป็นธรรม โดยอิวานได้ฟ้องร้องต่อศาลในรัสเซียตามมาตรา 13.41 (Art. 13.41) ของกฎหมายความรับผิดของฝ่ายปกครองของรัสเซีย ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาสั่งปรับ แต่ไม่มีการจ่ายค่าปรับนับตั้งแต่นั้น ทำให้ค่าปรับมีการทวีคูณต่อเนื่องจนเป็นยอดในปัจจุบัน ทั้งนี้ ตามการรายงานของ TASS ระบุว่า ถ้าบริษัทอัลฟาเบตไม่จ่ายค่าปรับจำนวนดังกล่าวภายใน 9 เดือน ตามกฎหมายรัสเซียค่าปรับจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในทุก ๆ วันและไม่มีเพดานค่าปรับสูงสุดแต่อย่างใด รวมถึงบริการต่าง ๆ ของบริษัทจะไม่สามารถทำการตลาดในรัสเซียได้เว้นแต่ศาลจะสั่งเป็นอย่างอื่นต่อไป ที่มาข้อมูล Independent, Euronews, TASS, The Moscow Times, World Bank #Thaitimes
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สัจจะ หรือ Commitment"

    พันธะสัญญา เป็นเพียงเครื่องมือในการยืนยันสัจจะ ระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่าย หากมนุษย์ทุกคนในสังคม ได้ยึดถือสัจจะเป็นข้อประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตแล้ว ปัญหาการผิดสัญญาหรือกรณีพิพาทฟ้องร้องต่างๆ คงลดน้อยลง จนไม่มีเหลืออยู่ในที่สุด.

    ปัจจุบัน ศีลธรรมในจิตใจของมนุษย์เสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ จึงส่งผลให้เกิดปัญหาความวุ่นวายต่างๆ ในสังคม และเกิดความเดือดร้อนแก่ประชาคมโลก (สงครามโลก ครั้งที่ 3 หรือ World War III) นั่นเอง.

    ณรงค์ คนขำ
    29/10/2567
    Credit รูปภาพ: วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
    "สัจจะ หรือ Commitment" พันธะสัญญา เป็นเพียงเครื่องมือในการยืนยันสัจจะ ระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่าย หากมนุษย์ทุกคนในสังคม ได้ยึดถือสัจจะเป็นข้อประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตแล้ว ปัญหาการผิดสัญญาหรือกรณีพิพาทฟ้องร้องต่างๆ คงลดน้อยลง จนไม่มีเหลืออยู่ในที่สุด. ปัจจุบัน ศีลธรรมในจิตใจของมนุษย์เสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ จึงส่งผลให้เกิดปัญหาความวุ่นวายต่างๆ ในสังคม และเกิดความเดือดร้อนแก่ประชาคมโลก (สงครามโลก ครั้งที่ 3 หรือ World War III) นั่นเอง. ณรงค์ คนขำ 29/10/2567 Credit รูปภาพ: วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สัจจะ หรือ Commitment"

    พันธะสัญญา เป็นเพียงเครื่องมือในการยืนยันสัจจะ ระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่าย หากมนุษย์ทุกคนในสังคม ได้ยึดถือสัจจะเป็นข้อประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตแล้ว ปัญหาการผิดสัญญาหรือกรณีพิพาทฟ้องร้องต่างๆ คงลดน้อยลง จนไม่มีเหลืออยู่ในที่สุด.

    ปัจจุบัน ศีลธรรมในจิตใจของมนุษย์เสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ จึงส่งผลให้เกิดปัญหาความวุ่นวายต่างๆ ในสังคม และเกิดความเดือดร้อนแก่ประชาคมโลก (สงครามโลก ครั้งที่ 3 หรือ World War III) นั่นเอง.

    ณรงค์ คนขำ
    29/10/2567
    Credit รูปภาพ: วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
    "สัจจะ หรือ Commitment" พันธะสัญญา เป็นเพียงเครื่องมือในการยืนยันสัจจะ ระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่าย หากมนุษย์ทุกคนในสังคม ได้ยึดถือสัจจะเป็นข้อประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตแล้ว ปัญหาการผิดสัญญาหรือกรณีพิพาทฟ้องร้องต่างๆ คงลดน้อยลง จนไม่มีเหลืออยู่ในที่สุด. ปัจจุบัน ศีลธรรมในจิตใจของมนุษย์เสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ จึงส่งผลให้เกิดปัญหาความวุ่นวายต่างๆ ในสังคม และเกิดความเดือดร้อนแก่ประชาคมโลก (สงครามโลก ครั้งที่ 3 หรือ World War III) นั่นเอง. ณรงค์ คนขำ 29/10/2567 Credit รูปภาพ: วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧵ดาราดังฮอลลีวู้ดถูกแบล็กเมล์ให้สนับสนุน กมลา แฮร์ริส หรือไม่?

    ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา, ดาราดังระดับเอ-ลิสต์ อย่าง บียอนเซ, เอ็มมิเน็ม, และ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ต่างก็ถูกดึงตัวให้มาสนับสนุน กมลา แฮร์ริส ดาราดังหลายคนเหล่านี้ถูกล่วงละเมิดเนื่องจากความเกี่ยวข้องกับแร็ปเปอร์ พี. ดิดดี้, ซึ่งขณะนี้กำลังถูกสอบสวนในข้อหาค้าประเวณี, อดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจิตวิทยาของกองทัพบกสหรัฐฯ สก็อตต์ เบนเน็ตต์ กล่าวกับสปุตนิก
    .
    🗨️ "การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ถูกค้นพบและมีการเขียนถึงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา," เบนเนตต์ กล่าว, และเสริมว่า "เมื่อไม่นานมานี้ การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ยังเชื่อมโยงกับเจฟฟรีย์ เอปสเตน และปฏิบัติการแบล็กเมล์ของหน่วยมอสสาดของอิสราเอลอีกด้วย"
    .
    🔸เอปสเตนอวดอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของมอสสาด, อดีตแฟนสาว และเหยื่อของผู้ค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีรายนี้ โดยอ้างในคดีฟ้องร้อง หญิงชาวอเมริกันที่ไม่เปิดเผยชื่อได้กล่าวหาผู้ค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีรายนี้ว่าข่มขืนเธอที่คฤหาสน์ของเขาในนิวยอร์ก โดยยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางแมนฮัตตัน, เดอะ เดลีบีสต์ เปิดเผยเมื่อต้นปีนี้
    .
    🔸อดีตเจ้าหน้าที่ Mossad และนักธุรกิจชาวอิสราเอล Ari Ben-Menashe เคยกล่าวอ้างทำนองเดียวกัน เอปสเตนล่อลวงนักการเมืองชายชาวอเมริกันโดยใช้เด็กสาวอายุต่ำกว่าเกณฑ์เพื่อแบล็กเมล์ให้ทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองอิสราเอล, เบ็น-เมนาเช่ เคยกล่าวอ้างในหนังสือของเขาชื่อ “Epstein: Dead Men Tell No Tales” ซึ่งออกจำหน่ายในปี ๒๐๑๙

    เขายังกล่าวอ้างว่า เคยเป็นผู้จัดการของโรเบิร์ต พ่อของ กิเลน แม็กซ์เวลล์ ผู้สมรู้ร่วมคิดกับเอปสเตน, และเป็นคนแนะนำลูกสาวของเขาและเอปสเตนให้รู้จักกับ Mossad
    .
    🧵ARE HOLLYWOOD CELEBRITIES BEING BLACKMAILED INTO ENDORSING KAMALA HARRIS?

    In recent weeks, A-list celebrities such as Beyonce, Eminem, and Taylor Swift have been trotted out to endorse Kamala Harris. Many of these celebrities were compromised by their association with rapper P. Diddy, who is currently under investigation for sex trafficking charges, former US Army psychological operations officer Scott Bennett told Sputnik.
    .
    🗨️"These revelations have been discovered and written about in the past decade,” said Bennett, adding that “they have also recently been connected to Jeffrey Epstein and Israel’s Mossad blackmail operations.”
    .
    🔸Epstein boasted of being a Mossad agent, a former girlfriend and victim of the late sex trafficker has claimed in a lawsuit. The unnamed American woman has accused the late sex trafficker of raping her at his New York mansion in a complaint filed against his estate in Manhattan federal court, the Daily Beast revealed earlier this year.
    .
    🔸Similar claims were voiced by former Mossad agent and Israeli businessperson Ari Ben-Menashe. Epstein honey trapped American male politicians using underage girls to blackmail them into working for Israeli intelligence, Ben-Menashe had asserted in his book “Epstein: Dead Men Tell No Tales” released in 2019.

    He had also claimed he used to be the handler of Epstein accomplice Ghislaine Maxwell’s father Robert, and was the one who introduced his daughter and Epstein to Mossad.
    .
    5:42 PM · Oct 29, 2024 · 1,198 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1851213013556011519
    🧵ดาราดังฮอลลีวู้ดถูกแบล็กเมล์ให้สนับสนุน กมลา แฮร์ริส หรือไม่? ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา, ดาราดังระดับเอ-ลิสต์ อย่าง บียอนเซ, เอ็มมิเน็ม, และ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ต่างก็ถูกดึงตัวให้มาสนับสนุน กมลา แฮร์ริส ดาราดังหลายคนเหล่านี้ถูกล่วงละเมิดเนื่องจากความเกี่ยวข้องกับแร็ปเปอร์ พี. ดิดดี้, ซึ่งขณะนี้กำลังถูกสอบสวนในข้อหาค้าประเวณี, อดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการจิตวิทยาของกองทัพบกสหรัฐฯ สก็อตต์ เบนเน็ตต์ กล่าวกับสปุตนิก . 🗨️ "การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ถูกค้นพบและมีการเขียนถึงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา," เบนเนตต์ กล่าว, และเสริมว่า "เมื่อไม่นานมานี้ การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ยังเชื่อมโยงกับเจฟฟรีย์ เอปสเตน และปฏิบัติการแบล็กเมล์ของหน่วยมอสสาดของอิสราเอลอีกด้วย" . 🔸เอปสเตนอวดอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของมอสสาด, อดีตแฟนสาว และเหยื่อของผู้ค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีรายนี้ โดยอ้างในคดีฟ้องร้อง หญิงชาวอเมริกันที่ไม่เปิดเผยชื่อได้กล่าวหาผู้ค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีรายนี้ว่าข่มขืนเธอที่คฤหาสน์ของเขาในนิวยอร์ก โดยยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางแมนฮัตตัน, เดอะ เดลีบีสต์ เปิดเผยเมื่อต้นปีนี้ . 🔸อดีตเจ้าหน้าที่ Mossad และนักธุรกิจชาวอิสราเอล Ari Ben-Menashe เคยกล่าวอ้างทำนองเดียวกัน เอปสเตนล่อลวงนักการเมืองชายชาวอเมริกันโดยใช้เด็กสาวอายุต่ำกว่าเกณฑ์เพื่อแบล็กเมล์ให้ทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองอิสราเอล, เบ็น-เมนาเช่ เคยกล่าวอ้างในหนังสือของเขาชื่อ “Epstein: Dead Men Tell No Tales” ซึ่งออกจำหน่ายในปี ๒๐๑๙ เขายังกล่าวอ้างว่า เคยเป็นผู้จัดการของโรเบิร์ต พ่อของ กิเลน แม็กซ์เวลล์ ผู้สมรู้ร่วมคิดกับเอปสเตน, และเป็นคนแนะนำลูกสาวของเขาและเอปสเตนให้รู้จักกับ Mossad . 🧵ARE HOLLYWOOD CELEBRITIES BEING BLACKMAILED INTO ENDORSING KAMALA HARRIS? In recent weeks, A-list celebrities such as Beyonce, Eminem, and Taylor Swift have been trotted out to endorse Kamala Harris. Many of these celebrities were compromised by their association with rapper P. Diddy, who is currently under investigation for sex trafficking charges, former US Army psychological operations officer Scott Bennett told Sputnik. . 🗨️"These revelations have been discovered and written about in the past decade,” said Bennett, adding that “they have also recently been connected to Jeffrey Epstein and Israel’s Mossad blackmail operations.” . 🔸Epstein boasted of being a Mossad agent, a former girlfriend and victim of the late sex trafficker has claimed in a lawsuit. The unnamed American woman has accused the late sex trafficker of raping her at his New York mansion in a complaint filed against his estate in Manhattan federal court, the Daily Beast revealed earlier this year. . 🔸Similar claims were voiced by former Mossad agent and Israeli businessperson Ari Ben-Menashe. Epstein honey trapped American male politicians using underage girls to blackmail them into working for Israeli intelligence, Ben-Menashe had asserted in his book “Epstein: Dead Men Tell No Tales” released in 2019. He had also claimed he used to be the handler of Epstein accomplice Ghislaine Maxwell’s father Robert, and was the one who introduced his daughter and Epstein to Mossad. . 5:42 PM · Oct 29, 2024 · 1,198 Views https://x.com/SputnikInt/status/1851213013556011519
    Like
    Wow
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • "GGC" แจงคืบหน้าคดีอาญาอดีตผู้บริหาร-คู่ค้าทำสต็อกลมเสียหายกว่า 2 พันล้าน หลังเกิดเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังสูญหายช่วงมิถุนายน 2561 ชี้ลงบันทึกในระบบบัญชีของบริษัทได้รับวัตถุดิบครบถ้วน

    18 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวฐานเศรษฐกิจระบุว่า นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยความคืบหน้าด้านคดีความอันเนื่องมาจากเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังสูญหาย ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงมิถุนายน 2561 ตามที่ GGC ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหาร พนักงานและ คู่ค้าที่เกี่ยวข้อง

    ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร GGC 2 ราย และบริษัทคู่ค้า อีก 9 ราย ซึ่งเป็นผู้ขายวัตถุดิบ กรณีร่วมกันดำเนินการให้บริษัทซื้อวัตถุดิบและจ่ายชำระเงินค่าซื้อเต็มจำนวนให้แก่ผู้ขายโดยไม่ได้รับวัตถุดิบทั้งหมดหรือได้รับเพียงบางส่วน

    แต่กลับลงบันทึกในระบบบัญชีของบริษัทว่าได้รับวัตถุดิบครบถ้วนแล้ว รวมทั้งกรณีส่งมอบวัตถุดิบไปกลั่นโดยไม่ได้มีการกลั่นจริง ทำให้ GGC ได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่ารวม 2,157 ล้านบาท

    ทั้งนี้ GGC ได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งทางแพ่ง และอาญา ร่วมกับ ก.ล.ต. มาอย่างต่อเนื่อง โดยคดีมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก และมีคดีถึงที่สุดแล้วหลายคดี ดังนี้

    ในส่วนคดีแพ่ง GGC มีการฟ้องร้องคดีแพ่ง 5 คดี และศาลตัดสินแล้วทั้งหมด โดย GGC ชนะทุกคดี และคดีถึงที่สุดแล้ว 4 คดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบังคับคดีตามคำสั่งศาลมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท

    ด้านคดีที่ GGC ถูกฟ้องเป็นจำเลยมี 6 คดี ศาลตัดสินแล้ว 4 คดี โดย GGC ชนะ 3 คดี และอีก 2 คดีอยู่ระหว่างการสืบพยาน

    ขณะที่คดีอาญา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษอดีตผู้บริหารของ GGC และบริษัทคู่ค้า และ GGC ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับอดีตผู้บริหารและบริษัทคู่ค้ารวมทั้งสิ้น 8 คดี โดยมีคดีอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี ซึ่งมีการตัดสินแล้ว 2 คดี

    คดีแรก ในปี 2566 ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหาร 2 ปี และกรรมการของคู่ค้า 1 ปี 4 เดือน และให้อดีตผู้บริหารชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ GGC จำนวนประมาณ 328.87 ล้านบาท ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์

    คดีที่สอง ตัดสินเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลพิพากษายกฟ้อง อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาดังกล่าวเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น คดียังไม่ถึงที่สุด และ GGC จะสามารถใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ได้ โดยคดีดังกล่าว มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 72.88 ล้านบาท ซึ่ง GGC ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายของบริษัทคู่ค้าไว้แล้ว

    "GGC ขอยืนยันว่า บริษัทจะดำเนินคดีตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงผ่านกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง เพื่อปกป้องสิทธิและรักษาผลประโยชน์ของ GGC และผู้ถือหุ้นทุกคน"

    ที่มา https://www.thansettakij.com/sustainable/energy/609697

    #Thaitimes
    "GGC" แจงคืบหน้าคดีอาญาอดีตผู้บริหาร-คู่ค้าทำสต็อกลมเสียหายกว่า 2 พันล้าน หลังเกิดเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังสูญหายช่วงมิถุนายน 2561 ชี้ลงบันทึกในระบบบัญชีของบริษัทได้รับวัตถุดิบครบถ้วน 18 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวฐานเศรษฐกิจระบุว่า นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยความคืบหน้าด้านคดีความอันเนื่องมาจากเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังสูญหาย ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงมิถุนายน 2561 ตามที่ GGC ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหาร พนักงานและ คู่ค้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร GGC 2 ราย และบริษัทคู่ค้า อีก 9 ราย ซึ่งเป็นผู้ขายวัตถุดิบ กรณีร่วมกันดำเนินการให้บริษัทซื้อวัตถุดิบและจ่ายชำระเงินค่าซื้อเต็มจำนวนให้แก่ผู้ขายโดยไม่ได้รับวัตถุดิบทั้งหมดหรือได้รับเพียงบางส่วน แต่กลับลงบันทึกในระบบบัญชีของบริษัทว่าได้รับวัตถุดิบครบถ้วนแล้ว รวมทั้งกรณีส่งมอบวัตถุดิบไปกลั่นโดยไม่ได้มีการกลั่นจริง ทำให้ GGC ได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่ารวม 2,157 ล้านบาท ทั้งนี้ GGC ได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งทางแพ่ง และอาญา ร่วมกับ ก.ล.ต. มาอย่างต่อเนื่อง โดยคดีมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก และมีคดีถึงที่สุดแล้วหลายคดี ดังนี้ ในส่วนคดีแพ่ง GGC มีการฟ้องร้องคดีแพ่ง 5 คดี และศาลตัดสินแล้วทั้งหมด โดย GGC ชนะทุกคดี และคดีถึงที่สุดแล้ว 4 คดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบังคับคดีตามคำสั่งศาลมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท ด้านคดีที่ GGC ถูกฟ้องเป็นจำเลยมี 6 คดี ศาลตัดสินแล้ว 4 คดี โดย GGC ชนะ 3 คดี และอีก 2 คดีอยู่ระหว่างการสืบพยาน ขณะที่คดีอาญา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษอดีตผู้บริหารของ GGC และบริษัทคู่ค้า และ GGC ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับอดีตผู้บริหารและบริษัทคู่ค้ารวมทั้งสิ้น 8 คดี โดยมีคดีอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี ซึ่งมีการตัดสินแล้ว 2 คดี คดีแรก ในปี 2566 ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหาร 2 ปี และกรรมการของคู่ค้า 1 ปี 4 เดือน และให้อดีตผู้บริหารชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ GGC จำนวนประมาณ 328.87 ล้านบาท ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ คดีที่สอง ตัดสินเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลพิพากษายกฟ้อง อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาดังกล่าวเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น คดียังไม่ถึงที่สุด และ GGC จะสามารถใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ได้ โดยคดีดังกล่าว มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 72.88 ล้านบาท ซึ่ง GGC ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายของบริษัทคู่ค้าไว้แล้ว "GGC ขอยืนยันว่า บริษัทจะดำเนินคดีตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงผ่านกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง เพื่อปกป้องสิทธิและรักษาผลประโยชน์ของ GGC และผู้ถือหุ้นทุกคน" ที่มา https://www.thansettakij.com/sustainable/energy/609697 #Thaitimes
    WWW.THANSETTAKIJ.COM
    "GGC" แจงคืบหน้าคดีอาญาอดีตผู้บริหาร-คู่ค้าทำสต็อกลมเสียหายกว่า 2 พันล้าน
    "GGC" แจงคืบหน้าคดีอาญาอดีตผู้บริหาร-คู่ค้าทำสต็อกลมเสียหายกว่า 2 พันล้าน หลังเกิดเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังสูญหายช่วงมิถุนายน 2561 ชี้ลงบันทึกในระบบบัญชีของบริษัทได้รับวัตถุดิบครบถ้วน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts