• เปิดหน้าพระเขมรสุดห้าว + เปรี้ยวสุด ใส่สบงทรงพลัง (18/9/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #scambodia
    #CambodiaEncroachingThailand
    #เขมร
    #พระเขมร
    เปิดหน้าพระเขมรสุดห้าว + เปรี้ยวสุด ใส่สบงทรงพลัง (18/9/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #scambodia #CambodiaEncroachingThailand #เขมร #พระเขมร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Intel Gaudi 3 ฝ่าด่านตลาด AI ด้วยการจับมือ Dell — เปิดตัวในเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge XE7740 พร้อมความหวังใหม่ในยุคที่ NVIDIA ครองเกม

    หลังจากที่ Intel พยายามผลักดันไลน์ผลิตภัณฑ์ด้าน AI มาหลายปีโดยไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ล่าสุด Gaudi 3 ซึ่งเป็นชิปเร่งความเร็ว AI รุ่นใหม่ของ Intel ได้รับการบรรจุในเซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE7740 อย่างเป็นทางการ ถือเป็นหนึ่งใน “ชัยชนะเล็ก ๆ” ที่อาจพลิกเกมให้ Intel กลับมาแข่งขันกับ NVIDIA และ AMD ได้อีกครั้ง

    PowerEdge XE7740 เป็นเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กรที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ รองรับ Gaudi 3 ได้สูงสุด 8 ตัวในระบบเดียว พร้อมระบบเครือข่ายแบบ 1:1 ระหว่าง accelerator และ NIC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลและการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ยังรองรับโมเดล AI ยอดนิยม เช่น Llama4, Deepseek, Phi4 และ Falcon3

    Dell ชูจุดเด่นของ Gaudi 3 ว่า “คุ้มค่า” และ “ปรับขนาดได้ง่าย” โดยเฉพาะในองค์กรที่มีข้อจำกัดด้านพลังงานและระบบระบายความร้อน ซึ่ง Gaudi 3 ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีในแร็คขนาด ~10kW ที่พบได้ทั่วไปในดาต้าเซ็นเตอร์

    แม้ Dell ยังไม่เปิดเผยตัวเลขประสิทธิภาพอย่างเป็นทางการ แต่จากการทดสอบก่อนหน้านี้ Gaudi 3 เคยแสดงผลลัพธ์ที่เร็วกว่า NVIDIA H100 และ H200 ในบางงาน inferencing ซึ่งหากเป็นจริง ก็อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Intel ในตลาด AI ที่เคยถูกมองว่า “ช้าเกินไป”

    Intel Gaudi 3 ได้รับการบรรจุในเซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE7740
    ถือเป็นการบุกตลาดองค์กรครั้งสำคัญของ Intel
    Dell เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายแรกที่นำ Gaudi 3 มาใช้ในระบบจริง

    PowerEdge XE7740 รองรับงาน AI เต็มรูปแบบ
    รองรับ Gaudi 3 ได้สูงสุด 8 ตัวในระบบเดียว
    มีระบบเครือข่ายแบบ 1:1 ระหว่าง accelerator และ NIC
    รองรับโมเดล AI ยอดนิยม เช่น Llama4, Phi4, Falcon3

    จุดเด่นของ Gaudi 3 คือความคุ้มค่าและความยืดหยุ่น
    เหมาะกับองค์กรที่มีข้อจำกัดด้านพลังงานและระบบระบายความร้อน
    รองรับการเชื่อมต่อแบบ RoCE v2 สำหรับงานขนาดใหญ่

    Dell ชูจุดเด่นด้านการปรับขนาดและการติดตั้งง่าย
    ใช้แชสซีแบบ 4U ที่ระบายความร้อนได้ดี
    รองรับการติดตั้งในแร็คมาตรฐาน ~10kW โดยไม่ต้องปรับโครงสร้าง

    Gaudi 3 เคยแสดงผลลัพธ์ดีกว่า NVIDIA H100/H200 ในบางงาน
    โดยเฉพาะงาน inferencing ที่เน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์
    ยังต้องรอผลการทดสอบจาก Dell เพื่อยืนยัน

    https://wccftech.com/intel-gaudi-3-ai-chips-secure-rare-integration-in-dell-poweredge-servers/
    📰 Intel Gaudi 3 ฝ่าด่านตลาด AI ด้วยการจับมือ Dell — เปิดตัวในเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge XE7740 พร้อมความหวังใหม่ในยุคที่ NVIDIA ครองเกม หลังจากที่ Intel พยายามผลักดันไลน์ผลิตภัณฑ์ด้าน AI มาหลายปีโดยไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ล่าสุด Gaudi 3 ซึ่งเป็นชิปเร่งความเร็ว AI รุ่นใหม่ของ Intel ได้รับการบรรจุในเซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE7740 อย่างเป็นทางการ ถือเป็นหนึ่งใน “ชัยชนะเล็ก ๆ” ที่อาจพลิกเกมให้ Intel กลับมาแข่งขันกับ NVIDIA และ AMD ได้อีกครั้ง PowerEdge XE7740 เป็นเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กรที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ รองรับ Gaudi 3 ได้สูงสุด 8 ตัวในระบบเดียว พร้อมระบบเครือข่ายแบบ 1:1 ระหว่าง accelerator และ NIC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลและการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ยังรองรับโมเดล AI ยอดนิยม เช่น Llama4, Deepseek, Phi4 และ Falcon3 Dell ชูจุดเด่นของ Gaudi 3 ว่า “คุ้มค่า” และ “ปรับขนาดได้ง่าย” โดยเฉพาะในองค์กรที่มีข้อจำกัดด้านพลังงานและระบบระบายความร้อน ซึ่ง Gaudi 3 ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีในแร็คขนาด ~10kW ที่พบได้ทั่วไปในดาต้าเซ็นเตอร์ แม้ Dell ยังไม่เปิดเผยตัวเลขประสิทธิภาพอย่างเป็นทางการ แต่จากการทดสอบก่อนหน้านี้ Gaudi 3 เคยแสดงผลลัพธ์ที่เร็วกว่า NVIDIA H100 และ H200 ในบางงาน inferencing ซึ่งหากเป็นจริง ก็อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Intel ในตลาด AI ที่เคยถูกมองว่า “ช้าเกินไป” ✅ Intel Gaudi 3 ได้รับการบรรจุในเซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE7740 ➡️ ถือเป็นการบุกตลาดองค์กรครั้งสำคัญของ Intel ➡️ Dell เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายแรกที่นำ Gaudi 3 มาใช้ในระบบจริง ✅ PowerEdge XE7740 รองรับงาน AI เต็มรูปแบบ ➡️ รองรับ Gaudi 3 ได้สูงสุด 8 ตัวในระบบเดียว ➡️ มีระบบเครือข่ายแบบ 1:1 ระหว่าง accelerator และ NIC ➡️ รองรับโมเดล AI ยอดนิยม เช่น Llama4, Phi4, Falcon3 ✅ จุดเด่นของ Gaudi 3 คือความคุ้มค่าและความยืดหยุ่น ➡️ เหมาะกับองค์กรที่มีข้อจำกัดด้านพลังงานและระบบระบายความร้อน ➡️ รองรับการเชื่อมต่อแบบ RoCE v2 สำหรับงานขนาดใหญ่ ✅ Dell ชูจุดเด่นด้านการปรับขนาดและการติดตั้งง่าย ➡️ ใช้แชสซีแบบ 4U ที่ระบายความร้อนได้ดี ➡️ รองรับการติดตั้งในแร็คมาตรฐาน ~10kW โดยไม่ต้องปรับโครงสร้าง ✅ Gaudi 3 เคยแสดงผลลัพธ์ดีกว่า NVIDIA H100/H200 ในบางงาน ➡️ โดยเฉพาะงาน inferencing ที่เน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์ ➡️ ยังต้องรอผลการทดสอบจาก Dell เพื่อยืนยัน https://wccftech.com/intel-gaudi-3-ai-chips-secure-rare-integration-in-dell-poweredge-servers/
    WCCFTECH.COM
    Intel’s Gaudi 3 AI Chips Secure Integration in Dell’s PowerEdge Servers, Marking One of the Few Wins for the Struggling Lineup
    Intel's Gaudi 3 AI chips have seen a rather 'rare' feature from Dell's AI servers, which are claimed to be cost-efficient and scalable.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5 ไอเดียสุดสร้างสรรค์สำหรับ Raspberry Pi เครื่องเก่าของคุณ — เปลี่ยนบอร์ดเล็กให้กลายเป็นอุปกรณ์ทรงพลัง

    แม้ Raspberry Pi รุ่นเก่าจะดูธรรมดาเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่อย่าง Pi 5 ที่มีพัดลมในตัว แต่ความสามารถของมันยังคงน่าทึ่ง หากคุณมีบอร์ดที่นอนนิ่งอยู่ในลิ้นชัก ลองนำมันกลับมาใช้ใหม่ด้วยโปรเจกต์ที่ทั้งสนุกและมีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเราเตอร์พกพา สถานีตรวจอากาศ หรือแม้แต่เซิร์ฟเวอร์เกมส่วนตัว

    บทความนี้แนะนำ 5 โปรเจกต์ที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถทำได้แม้ใช้ Raspberry Pi รุ่นเก่า โดยแต่ละโปรเจกต์มีแนวทางการใช้งานที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การใช้ OpenWrt เพื่อสร้างเราเตอร์ ไปจนถึงการติดตั้ง Pi-hole เพื่อบล็อกโฆษณาทั้งเครือข่าย

    สร้างเราเตอร์พกพาด้วย Raspberry Pi
    ใช้ Raspberry Pi CM4 ร่วมกับโมเด็ม 4G และ OpenWrt
    สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับเราเตอร์ Verizon Hotspot
    เหมาะสำหรับการเดินทางหรือใช้แทนเราเตอร์บ้านที่ล้าสมัย

    สร้างสถานีตรวจอากาศส่วนตัว
    ใช้ Raspberry Pi Zero W ร่วมกับ Weather HAT หรือเซ็นเซอร์แยก
    แสดงข้อมูลบนหน้าจอและสร้างแดชบอร์ดออนไลน์ได้
    ช่วยให้เข้าใจสภาพอากาศในพื้นที่ของตนเองมากขึ้น

    เปลี่ยน Pi ให้เป็นเซิร์ฟเวอร์เกม Minecraft
    ใช้ Raspberry Pi 3 หรือ 4 ติดตั้ง Nukkit server
    รองรับผู้เล่นสูงสุด 10 คนในเครือข่ายเดียวกัน
    เหมาะสำหรับเกมที่ใช้ทรัพยากรต่ำ เช่น Minecraft หรือเกมอินดี้

    ใช้ Pi เป็นอุปกรณ์สตรีมเกมผ่านคลาวด์
    ติดตั้ง Chromium เพื่อเข้าถึง Xbox Cloud Gaming หรือ Steam Link
    เชื่อมต่อกับทีวีผ่าน HDMI เพื่อเล่นเกมแบบสตรีม
    แนะนำให้ใช้สาย LAN และจอยแบบมีสายเพื่อลด latency

    ติดตั้ง Pi-hole เพื่อบล็อกโฆษณาทั้งเครือข่าย
    กรองโดเมนโฆษณาและมัลแวร์ก่อนถึงอุปกรณ์
    ใช้งานง่ายและสามารถตั้งค่าได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
    เหมาะสำหรับบ้านที่มีหลายอุปกรณ์และต้องการความปลอดภัย

    https://www.slashgear.com/1967517/creative-uses-for-old-raspberry-pi/
    📰 5 ไอเดียสุดสร้างสรรค์สำหรับ Raspberry Pi เครื่องเก่าของคุณ — เปลี่ยนบอร์ดเล็กให้กลายเป็นอุปกรณ์ทรงพลัง แม้ Raspberry Pi รุ่นเก่าจะดูธรรมดาเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่อย่าง Pi 5 ที่มีพัดลมในตัว แต่ความสามารถของมันยังคงน่าทึ่ง หากคุณมีบอร์ดที่นอนนิ่งอยู่ในลิ้นชัก ลองนำมันกลับมาใช้ใหม่ด้วยโปรเจกต์ที่ทั้งสนุกและมีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเราเตอร์พกพา สถานีตรวจอากาศ หรือแม้แต่เซิร์ฟเวอร์เกมส่วนตัว บทความนี้แนะนำ 5 โปรเจกต์ที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถทำได้แม้ใช้ Raspberry Pi รุ่นเก่า โดยแต่ละโปรเจกต์มีแนวทางการใช้งานที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การใช้ OpenWrt เพื่อสร้างเราเตอร์ ไปจนถึงการติดตั้ง Pi-hole เพื่อบล็อกโฆษณาทั้งเครือข่าย ✅ สร้างเราเตอร์พกพาด้วย Raspberry Pi ➡️ ใช้ Raspberry Pi CM4 ร่วมกับโมเด็ม 4G และ OpenWrt ➡️ สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับเราเตอร์ Verizon Hotspot ➡️ เหมาะสำหรับการเดินทางหรือใช้แทนเราเตอร์บ้านที่ล้าสมัย ✅ สร้างสถานีตรวจอากาศส่วนตัว ➡️ ใช้ Raspberry Pi Zero W ร่วมกับ Weather HAT หรือเซ็นเซอร์แยก ➡️ แสดงข้อมูลบนหน้าจอและสร้างแดชบอร์ดออนไลน์ได้ ➡️ ช่วยให้เข้าใจสภาพอากาศในพื้นที่ของตนเองมากขึ้น ✅ เปลี่ยน Pi ให้เป็นเซิร์ฟเวอร์เกม Minecraft ➡️ ใช้ Raspberry Pi 3 หรือ 4 ติดตั้ง Nukkit server ➡️ รองรับผู้เล่นสูงสุด 10 คนในเครือข่ายเดียวกัน ➡️ เหมาะสำหรับเกมที่ใช้ทรัพยากรต่ำ เช่น Minecraft หรือเกมอินดี้ ✅ ใช้ Pi เป็นอุปกรณ์สตรีมเกมผ่านคลาวด์ ➡️ ติดตั้ง Chromium เพื่อเข้าถึง Xbox Cloud Gaming หรือ Steam Link ➡️ เชื่อมต่อกับทีวีผ่าน HDMI เพื่อเล่นเกมแบบสตรีม ➡️ แนะนำให้ใช้สาย LAN และจอยแบบมีสายเพื่อลด latency ✅ ติดตั้ง Pi-hole เพื่อบล็อกโฆษณาทั้งเครือข่าย ➡️ กรองโดเมนโฆษณาและมัลแวร์ก่อนถึงอุปกรณ์ ➡️ ใช้งานง่ายและสามารถตั้งค่าได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง ➡️ เหมาะสำหรับบ้านที่มีหลายอุปกรณ์และต้องการความปลอดภัย https://www.slashgear.com/1967517/creative-uses-for-old-raspberry-pi/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Creative Uses For Your Old Raspberry Pi - SlashGear
    Turn an unused Raspberry Pi into something useful with projects like a travel router, weather station, game server, streaming hub, or ad blocker.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • 18-09-68/04​ : หมี CNN / หมาโบโซ หมารับใช้ขี้ข้าวอชิงตัน สุดท้ายนอนคุก 27 ปี ขี้ข้าเหี้ยชะตากรรมเดียวกันหมด ไม่ตายอนาถ ก็คาคุก ตอนมีอำนาจ รับใช้เหี้ยวอชิงตันแบบสุดขั้ว กลัวเค้าไม่รู้ว่าตราขี้ข้าเหี้ยยิวขึ้นที่หน้าผาก วางแผนปฎิวัติ หลังแพ้ยับเลือกตั้ง หมายังรู้ มรึงอยู่ต่อ อีแซมบ้าชะตากรรมเดียวกับอีเมสซี่แลนด์แน่ มีแต่หนี้กับหนี้ เพราะเหี้ยมันเลี้ยงเชื้อ ไม่ให้มรึงตายทันที แต่จะตายไปอย่างช้าๆ เพราะยังต้องส่งส่วยให้มันไปตลอดกาล เดาไม่ยาก พอเรื่องเงียบ มรึงก็โดนสั่งเก็บในคุก มาตามท้องเรื่อง จุดจบขี้ข้าขายชาติ เป็นอย่างงี้หมด ที่มาว่าทำไม ชาวแซมบ้าถึงอยากจะได้ปลดแอกอิทธิพลเหี้ย ลงมติเป็นเอกฉันท์ ได้ผู้นำคนใหม่ฝักใฝ่ขั้วใหม่เต็มตรีน ไม่เอาเหี้ยอีกต่อไปแล้ว ใครจะมาก็เหี้ยไม่แพ้กัน? เลยเอาขวาสุดขอบจักรวาลมาแม่งซะเลย แล้วได้สมใจนึกวังบูรพา เทดอลล่าร์ มุ่งหาเอเซีย จับตาดูเมื่อแซมบ้าเปลี่ยนได้ หลายชาติลาตินถึงเปลี่ยนตาม จับกลุ่มพลังงานของเวเนฯ คิวบา นิการากัว โบลิเวีย โคลอมเบีย(กลายร่าง) แต่ยังมีไอ้โง่ที่ดักดานไม่เลิกคืออีเมสซี่แลนด์ เผ้าพันธุ์ชาตินี้ อยากอยู่ใต้กระโปกเหี้ยยิวไปจนวันตาย สุดท้ายล่มสลาย อาร์เจนติน่าโชคร้ายที่สุดในโลก คือมีนักการเมืองขายชาติมากจนเกินไป ไม่มีใครคิดเรื่องส่วนรวม คิดแค่วันนี้ กูจะเอาอะไรยัดห่า ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป แตกแน่ แยกย่อย นี่คือสภาพของชาติที่ไร้ความมั่นคง ผู้โง่ไม่พอ ประชาชนโคตรโง่ ชาติยิ่งฉิบหาย มรึงเห็นเต็มตาแล้วรึยัง? การมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงเมตตา มันช่วยรวมคนเป็นหนึ่งเดียวได้ เรามี แต่ชาติอื่นไม่มี เราโชคดีกว่าเค้าแค่ไหน แล้วอยู่ดีดี มันจะมาล้มเจ้าเพื่ออะไร? หวังแตกประเทศไทยไงล่ะ หมายังรู้? แซมบ้าวันนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว เดินหน้าเต็มสูบกับกลุ่ม BRICS ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังส้นตรีนทันที ลาตินตอนนี้ ดื้อแพ่งแล้ว อิทธิพลอเมริกา ยิว อังกฤษ แทบไม่มีเหลือ หมายังไม่กลัวเลย? โลกเปลี่ยนมือ เพราะคนจริง กล้าจริง

    Brazil’s Bolsonaro sentenced to over 27 years for coup plot โบลโซนาโรถูกตัดสินจำคุก 27 ปีจากแผนการรัฐประหาร

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : โบลโซนาโรถูกตัดสินจำคุก 27 ปีจากแผนการรัฐประหาร

    อดีตประธานาธิบดีบราซิล ฌาอีร์ โบลโซนาโรถูกตัดสินใจจำคุก 27 ปี 3 เดือนหลังได้รับการตัดสินว่าเป็นผู้วางแผนเพื่อให้ยังอยู่ในอำนาจหลังความพ่ายแพ้จากการเลือกตั้งในปี 2022

    คำตัดสินจากศาลสูงสุดในบราซิลเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีถูกตัดสินใจว่าเป็นผู้ทำลายประชาธิปไตยในประเทศ

    คณะผู้พิพากษาตัดสินใจว่าโบลโซนาโรมีความผิดจากการเข้าร่วมองค์กรอาชญากรรมที่ติดอาวุธซึ่งพยายามโค่นประชาธิปไตยจากกองกำลัง การวางแผนรัฐประหาร และการทำลายทรัพย์สินของรัฐ ผู้พิพากษา 4 คนลงความเห็นว่าเขามีความผิดขณะที่อีกคนตั้งคำถามเรื่องอำนาจตุลาการ

    คำตัดสินยิ่งทำให้โบลโซนาโรมีปัญหาทางกฎหมายมากขึ้น เมื่อปี 2023 ศาลการเลือกตั้งบราซิลห้ามไม่ให้เขาลงเลือกตั้งจนถึงปี 2030 หลังตัดสินว่า เขาเผยแพร่เรื่องที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับระบบลงคะแนนอิเล็กทรอนิกของประเทศ ทนายของเขาอธิบายว่าการตัดสินล่าสุด “เกินไปมาก” และยืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์

    โบลซานาโรอดีตผู้บัญชาการที่มักชื่นชมระบอบเผด็จการปี 1964-1985 ของบราซิลเริ่มอาชีพที่ยาวนานในสภาคองเกรสจนถึงการเป็นประธานาธิบดีในปี 2018 วาระของเขาเกิดจากความขัดแย้งกับสถาบันต่างๆ ซึ่งเป็นการรับมือเรื่องโรคระบาดที่มีความขัดแย้งกันรวมถึงข้อพิพาทเรื่องการตัดไม้ทำลายป่าอเมซอน เขาออกจากตำแหน่งในเดือนมกราคม ปี 2023 หลังพ่ายแพ้ให้ประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา

    การตัดสินใจว่ากระทำความผิดขยายไปมากกว่าโบลโซนาโร พันธมิตรของเขา 7 คนรวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารล้วนถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการประณามความพยายามที่จะใช้กองกำลังติดอาวุธเพื่อท้าทายหลักการพลเรือน

    ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์พันธมิตรที่ใกล้ชิดกับโบลโซนาโรกล่าวว่า การตัดสินเป็น “เรื่องที่ไม่ดี” และระบุว่า “แย่มากสำหรับบราซิล”

    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐมาร์โก รูบิโอสนับสนุนท่าทีของทรัมป์ซึ่งระบุผ่านเอ็กซ์ (X) ว่า ศาล “ตัดสินอย่างไม่ยุติธรรม” และเรียกการพิจารณาคดีว่าเป็น “การล่าแม่มด” เขาเตือนให้สหรัฐ “ตอบโต้ในแบบเดียวกัน”

    รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการต่อต้านคณะผู้พิพากษาบราซิล กระทรวงต่างประเทศคว่ำบาตรผู้พิพากษาสูงสุด อเล็กซานเดอร์ เดอ โมราเรสที่กล่าวหาเขาว่าใช้เรื่องการเมืองมาตัดสินเดอ โมราเรสและผู้เกี่ยวข้องนิรนามรวมถึงญาติของเขาถูกห้ามเรื่องวีซ่าและทรัพย์สินในสหรัฐอาจจะถูกยึด

    ทรัมป์สร้างความตึงเครียดทางการค้าอย่างมากด้วยการประกาศอัตราภาษี 50% ต่อการนำเข้าสินค้าบราซิลในเดือนสิงหาคม เขาอ้างถึงการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับ “การโจมตีต่อการโจมตีอย่างอิสระ” ในบราซิล แม้ข้อมูลจากทางการแสดงให้เห็นว่า สหรัฐได้เงินจากการค้ากับบราซิลถึง 28.6 พันล้านดอลลาร์

    ประธานาธิบดีลูลาประณามอัตราภาษีว่า “เผด็จการ” แต่ไม่ได้แก้แค้น นักวิเคราะห์ระบุว่า มาตรการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ผิดปกติจากสหรัฐที่จะกดดันกระบวนการศาลภายในประเทศบราซิลที่สร้างความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ

    https://www.presstv.ir/Detail/2025/09/12/754841/Brazil-Bolsonaro-Sentenced-to-Over-27-Years-for-Coup-Plot

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    18-09-68/04​ : หมี CNN / หมาโบโซ หมารับใช้ขี้ข้าวอชิงตัน สุดท้ายนอนคุก 27 ปี ขี้ข้าเหี้ยชะตากรรมเดียวกันหมด ไม่ตายอนาถ ก็คาคุก ตอนมีอำนาจ รับใช้เหี้ยวอชิงตันแบบสุดขั้ว กลัวเค้าไม่รู้ว่าตราขี้ข้าเหี้ยยิวขึ้นที่หน้าผาก วางแผนปฎิวัติ หลังแพ้ยับเลือกตั้ง หมายังรู้ มรึงอยู่ต่อ อีแซมบ้าชะตากรรมเดียวกับอีเมสซี่แลนด์แน่ มีแต่หนี้กับหนี้ เพราะเหี้ยมันเลี้ยงเชื้อ ไม่ให้มรึงตายทันที แต่จะตายไปอย่างช้าๆ เพราะยังต้องส่งส่วยให้มันไปตลอดกาล เดาไม่ยาก พอเรื่องเงียบ มรึงก็โดนสั่งเก็บในคุก มาตามท้องเรื่อง จุดจบขี้ข้าขายชาติ เป็นอย่างงี้หมด ที่มาว่าทำไม ชาวแซมบ้าถึงอยากจะได้ปลดแอกอิทธิพลเหี้ย ลงมติเป็นเอกฉันท์ ได้ผู้นำคนใหม่ฝักใฝ่ขั้วใหม่เต็มตรีน ไม่เอาเหี้ยอีกต่อไปแล้ว ใครจะมาก็เหี้ยไม่แพ้กัน? เลยเอาขวาสุดขอบจักรวาลมาแม่งซะเลย แล้วได้สมใจนึกวังบูรพา เทดอลล่าร์ มุ่งหาเอเซีย จับตาดูเมื่อแซมบ้าเปลี่ยนได้ หลายชาติลาตินถึงเปลี่ยนตาม จับกลุ่มพลังงานของเวเนฯ คิวบา นิการากัว โบลิเวีย โคลอมเบีย(กลายร่าง) แต่ยังมีไอ้โง่ที่ดักดานไม่เลิกคืออีเมสซี่แลนด์ เผ้าพันธุ์ชาตินี้ อยากอยู่ใต้กระโปกเหี้ยยิวไปจนวันตาย สุดท้ายล่มสลาย อาร์เจนติน่าโชคร้ายที่สุดในโลก คือมีนักการเมืองขายชาติมากจนเกินไป ไม่มีใครคิดเรื่องส่วนรวม คิดแค่วันนี้ กูจะเอาอะไรยัดห่า ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป แตกแน่ แยกย่อย นี่คือสภาพของชาติที่ไร้ความมั่นคง ผู้โง่ไม่พอ ประชาชนโคตรโง่ ชาติยิ่งฉิบหาย มรึงเห็นเต็มตาแล้วรึยัง? การมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงเมตตา มันช่วยรวมคนเป็นหนึ่งเดียวได้ เรามี แต่ชาติอื่นไม่มี เราโชคดีกว่าเค้าแค่ไหน แล้วอยู่ดีดี มันจะมาล้มเจ้าเพื่ออะไร? หวังแตกประเทศไทยไงล่ะ หมายังรู้? แซมบ้าวันนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว เดินหน้าเต็มสูบกับกลุ่ม BRICS ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังส้นตรีนทันที ลาตินตอนนี้ ดื้อแพ่งแล้ว อิทธิพลอเมริกา ยิว อังกฤษ แทบไม่มีเหลือ หมายังไม่กลัวเลย? โลกเปลี่ยนมือ เพราะคนจริง กล้าจริง Brazil’s Bolsonaro sentenced to over 27 years for coup plot โบลโซนาโรถูกตัดสินจำคุก 27 ปีจากแผนการรัฐประหาร ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : โบลโซนาโรถูกตัดสินจำคุก 27 ปีจากแผนการรัฐประหาร อดีตประธานาธิบดีบราซิล ฌาอีร์ โบลโซนาโรถูกตัดสินใจจำคุก 27 ปี 3 เดือนหลังได้รับการตัดสินว่าเป็นผู้วางแผนเพื่อให้ยังอยู่ในอำนาจหลังความพ่ายแพ้จากการเลือกตั้งในปี 2022 คำตัดสินจากศาลสูงสุดในบราซิลเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีถูกตัดสินใจว่าเป็นผู้ทำลายประชาธิปไตยในประเทศ คณะผู้พิพากษาตัดสินใจว่าโบลโซนาโรมีความผิดจากการเข้าร่วมองค์กรอาชญากรรมที่ติดอาวุธซึ่งพยายามโค่นประชาธิปไตยจากกองกำลัง การวางแผนรัฐประหาร และการทำลายทรัพย์สินของรัฐ ผู้พิพากษา 4 คนลงความเห็นว่าเขามีความผิดขณะที่อีกคนตั้งคำถามเรื่องอำนาจตุลาการ คำตัดสินยิ่งทำให้โบลโซนาโรมีปัญหาทางกฎหมายมากขึ้น เมื่อปี 2023 ศาลการเลือกตั้งบราซิลห้ามไม่ให้เขาลงเลือกตั้งจนถึงปี 2030 หลังตัดสินว่า เขาเผยแพร่เรื่องที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับระบบลงคะแนนอิเล็กทรอนิกของประเทศ ทนายของเขาอธิบายว่าการตัดสินล่าสุด “เกินไปมาก” และยืนยันว่าจะยื่นอุทธรณ์ โบลซานาโรอดีตผู้บัญชาการที่มักชื่นชมระบอบเผด็จการปี 1964-1985 ของบราซิลเริ่มอาชีพที่ยาวนานในสภาคองเกรสจนถึงการเป็นประธานาธิบดีในปี 2018 วาระของเขาเกิดจากความขัดแย้งกับสถาบันต่างๆ ซึ่งเป็นการรับมือเรื่องโรคระบาดที่มีความขัดแย้งกันรวมถึงข้อพิพาทเรื่องการตัดไม้ทำลายป่าอเมซอน เขาออกจากตำแหน่งในเดือนมกราคม ปี 2023 หลังพ่ายแพ้ให้ประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา การตัดสินใจว่ากระทำความผิดขยายไปมากกว่าโบลโซนาโร พันธมิตรของเขา 7 คนรวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารล้วนถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการประณามความพยายามที่จะใช้กองกำลังติดอาวุธเพื่อท้าทายหลักการพลเรือน ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์พันธมิตรที่ใกล้ชิดกับโบลโซนาโรกล่าวว่า การตัดสินเป็น “เรื่องที่ไม่ดี” และระบุว่า “แย่มากสำหรับบราซิล” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐมาร์โก รูบิโอสนับสนุนท่าทีของทรัมป์ซึ่งระบุผ่านเอ็กซ์ (X) ว่า ศาล “ตัดสินอย่างไม่ยุติธรรม” และเรียกการพิจารณาคดีว่าเป็น “การล่าแม่มด” เขาเตือนให้สหรัฐ “ตอบโต้ในแบบเดียวกัน” รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการต่อต้านคณะผู้พิพากษาบราซิล กระทรวงต่างประเทศคว่ำบาตรผู้พิพากษาสูงสุด อเล็กซานเดอร์ เดอ โมราเรสที่กล่าวหาเขาว่าใช้เรื่องการเมืองมาตัดสินเดอ โมราเรสและผู้เกี่ยวข้องนิรนามรวมถึงญาติของเขาถูกห้ามเรื่องวีซ่าและทรัพย์สินในสหรัฐอาจจะถูกยึด ทรัมป์สร้างความตึงเครียดทางการค้าอย่างมากด้วยการประกาศอัตราภาษี 50% ต่อการนำเข้าสินค้าบราซิลในเดือนสิงหาคม เขาอ้างถึงการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับ “การโจมตีต่อการโจมตีอย่างอิสระ” ในบราซิล แม้ข้อมูลจากทางการแสดงให้เห็นว่า สหรัฐได้เงินจากการค้ากับบราซิลถึง 28.6 พันล้านดอลลาร์ ประธานาธิบดีลูลาประณามอัตราภาษีว่า “เผด็จการ” แต่ไม่ได้แก้แค้น นักวิเคราะห์ระบุว่า มาตรการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่ผิดปกติจากสหรัฐที่จะกดดันกระบวนการศาลภายในประเทศบราซิลที่สร้างความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ https://www.presstv.ir/Detail/2025/09/12/754841/Brazil-Bolsonaro-Sentenced-to-Over-27-Years-for-Coup-Plot ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.PRESSTV.IR
    Brazil’s Bolsonaro sentenced to over 27 years for coup plot
    The Supreme Court ruling marks the first time a former president has been convicted for undermining democracy in Brazil.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • 18-09-68/02​ : หมี CNN / ฝันเปียกอีกแล้ว! มรึงน่ะเหรอ? ให้กูหยุดสั่งซื้อน้ำมันรัสเซีย? ถามจริง? ตัวมรึงเองยังแอบสั่งอยู่เลย ผ่านอีไก่งวง ฟาโรห์ ยังมีหน้ามาสั่งกูห้ามซื้อ กูไม่ใช่ ไอ้โง่ยุโรปน่ะเฟ้ย? อีแขกขรรมกลิ้ง จะคุยกับกูเพื่อ? กูส่งออกที่อื่นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นมรึง สิ่งที่สำคัญกว่าเงินคือพลังงาน ประเทศกูจะพัฒนาต่อเนื่องได้อย่างไรหากขาดพลังงาน มรึงคิดว่าแค่การค้าประเทศเดียวกับมรึง กับพลังงาน กูยังต้องคิดเยอะอีกเหรอ? ทุกวันนี้ เหี้ยมะกันเตะหมูเข้าปากหมี และพญามังกร โดยที่ขั้วใหม่ ไม่ต้องทำเหี้ยอาไยเลย เห็นมาเยอะแล้ว ยืนเคียงข้างเหี้ย แล้วสุดท้ายย้ายขั้วออกหมด เพราะแม้แต่พวกเดียวกันมรึงยังจะแดร๊กกันเอง ใครจะคบล่ะจ๊ะ? ล่าสุด อีแขก จีน รัสเซีย จับมือกันแล้ว ไม่คิดถึงอดีตที่ผ่านมา ที่อีแขกมัวแต่ลีลาเป็นกระเบื้อง วันนี้ ไม่มีจีน ไม่มีรัสเซีย ไม่มี BRICS อีแขกจะอยู่ได้ยังไง? อิทธิพลก็ต้องแข่งขันกันไป อำนาจเป็นสิ่งที่ต้องแย่งชิง แต่ไม่โง่พอที่จะรีบชิงตายห่าก่อนเวลาอันควร มีถอยเพื่อรุก มีรุกเพื่อต้าน กฎเหล็กขาใหญ่ต่างรู้กันดี ประเด็นคือ ทำไม ทั้งโลกต่างต้องการพลังงานรัสเซีย เพราะว่ามันถูกและดีจริง มรึงจะไปหาพลังงานราคาถูกที่ไหนได้อีก แค่ที่มรึงมียังไม่พอใช้เลย ไอ้สัส! แม้แต่อเมริกาเอง พลังงานสำรองหมดไปเยอะ สุ่มเสี่ยงหนัก หากจะเปิดสงคราม ทำไม รัสเซีย จีน จะดูไม่ออก มรึงจะรบเนี่ย พลังงานสำรองมรึงมีใช้ได้กี่เดือน กูลากเป็นปี มรึงก็ฉิบหายแล้ว ไม่ต้องฆ่ามรึงดอก เดี๋ยวชาวบ้านลงถนนตามไปไล่ล่ามรึงถึงที่เอง เพราะไม่มีไฟฟ้าจะใช้ อีโง่ยุโรปแบกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20% เหตุเพราะดันไปซื้อพลังงานแพงจากเหี้ยด้วยกันไงล่ะ? มรึงถึงได้พากันตายห่ายกคอก ทั้งหมดคือเกมส์การเมือง สหรัฐแค่ต้องการทำให้โลกยังเห็นว่า "สั่งอีแขกได้อยู่" ส่วนอีแขก ก็เล่นบท "กูไม่ใช่ขี้ข้ามรึงอีกต่อไป" หลังเป็นทาสเหี้ยสิงโตมาช้านาน อดีตขี้ข้า วันนี้ก็ต้องเป็นขี้ข้ากูต่อ จะสลัดหลุดออกจกวังวนเหี้ย มรึงต้องยืนด้วยขาตัวเอง จีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง ทำสำเร็จ แต่อีแขกยังไม่สะเด็ดน้ำ เพราะมรึงมันลังเล หลายใจ ลีลา เอาแต่ได้ ไม่ยอมเสีย ถึงไปไม่สุดซักกะเรื่อง ไม่แปลกที่ตามหลังจีนแบบไม่เห็นฝุ่น ไปแก้ที่ MIND SET มรึงก่อนดีกว่ามั้ย?

    US will ‘sort out’ trade deal with India after it stops buying Russian oil – commerce secretary รัฐมนตรีพาณิชย์ระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังหยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : รัฐมนตรีพาณิชย์ระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังหยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย

    รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ โฮวาร์ด ลุตนิคระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังประเทศหยุดซื้อน้ำมันรัสเซียและเปิดตลาด

    ความเห็นของลุตนิคเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์และนายกรัฐมนตรีอินเดียนเรนทรา โมดียืนยันว่า สหรัฐและอินเดียยังคงเจรจาทางการค้าและแสดงความมั่นใจว่า การเจรจาจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

    รัสเซียกลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันหลักให้อินเดียตั้งแต่เกิดความรุนแรงจากความขัดแย้งยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 ที่คิดเป็นเกือบ 40% ของการนำเข้าน้ำมันดิบอินเดีย ในขณะเดียวกัน อินเดียกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของน้ำมันกลั่นให้ยุโรปตั้งแต่ปี 2023

    เมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐกำหนดอัตราภาษี 25% ของการนำเข้าสินค้าอินเดียทั้งหมดต่อการนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียของอินเดีย ถือเป็นส่วนที่เพิ่มจาก 25% หลังอินเดียและสหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในช่วงต้นเดือนสิงหาคมได้

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในการพิจารณาคดีของวุฒิสมาชิก ตัวแทนของทรัมป์หรือทูตอินเดียเซอร์จิโอ กอร์แสดงความรู้สึกแบบเดียวกันในการค้าน้ำมันของอินเดียกับรัสเซีย

    เขากล่าวขณะที่กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นทางการค้าจะได้รับการแก้ปัญหาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้ว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ดังนั้นอินเดียต้องหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย”

    กอร์กล่าวว่า “เรามีมาตรฐานที่แตกต่างสำหรับอินเดีย เราจึงคาดหวังว่าจะได้มากกว่าประเทศอื่น”

    https://www.rt.com/india/624557-us-will-sort-out-trade/

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    18-09-68/02​ : หมี CNN / ฝันเปียกอีกแล้ว! มรึงน่ะเหรอ? ให้กูหยุดสั่งซื้อน้ำมันรัสเซีย? ถามจริง? ตัวมรึงเองยังแอบสั่งอยู่เลย ผ่านอีไก่งวง ฟาโรห์ ยังมีหน้ามาสั่งกูห้ามซื้อ กูไม่ใช่ ไอ้โง่ยุโรปน่ะเฟ้ย? อีแขกขรรมกลิ้ง จะคุยกับกูเพื่อ? กูส่งออกที่อื่นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นมรึง สิ่งที่สำคัญกว่าเงินคือพลังงาน ประเทศกูจะพัฒนาต่อเนื่องได้อย่างไรหากขาดพลังงาน มรึงคิดว่าแค่การค้าประเทศเดียวกับมรึง กับพลังงาน กูยังต้องคิดเยอะอีกเหรอ? ทุกวันนี้ เหี้ยมะกันเตะหมูเข้าปากหมี และพญามังกร โดยที่ขั้วใหม่ ไม่ต้องทำเหี้ยอาไยเลย เห็นมาเยอะแล้ว ยืนเคียงข้างเหี้ย แล้วสุดท้ายย้ายขั้วออกหมด เพราะแม้แต่พวกเดียวกันมรึงยังจะแดร๊กกันเอง ใครจะคบล่ะจ๊ะ? ล่าสุด อีแขก จีน รัสเซีย จับมือกันแล้ว ไม่คิดถึงอดีตที่ผ่านมา ที่อีแขกมัวแต่ลีลาเป็นกระเบื้อง วันนี้ ไม่มีจีน ไม่มีรัสเซีย ไม่มี BRICS อีแขกจะอยู่ได้ยังไง? อิทธิพลก็ต้องแข่งขันกันไป อำนาจเป็นสิ่งที่ต้องแย่งชิง แต่ไม่โง่พอที่จะรีบชิงตายห่าก่อนเวลาอันควร มีถอยเพื่อรุก มีรุกเพื่อต้าน กฎเหล็กขาใหญ่ต่างรู้กันดี ประเด็นคือ ทำไม ทั้งโลกต่างต้องการพลังงานรัสเซีย เพราะว่ามันถูกและดีจริง มรึงจะไปหาพลังงานราคาถูกที่ไหนได้อีก แค่ที่มรึงมียังไม่พอใช้เลย ไอ้สัส! แม้แต่อเมริกาเอง พลังงานสำรองหมดไปเยอะ สุ่มเสี่ยงหนัก หากจะเปิดสงคราม ทำไม รัสเซีย จีน จะดูไม่ออก มรึงจะรบเนี่ย พลังงานสำรองมรึงมีใช้ได้กี่เดือน กูลากเป็นปี มรึงก็ฉิบหายแล้ว ไม่ต้องฆ่ามรึงดอก เดี๋ยวชาวบ้านลงถนนตามไปไล่ล่ามรึงถึงที่เอง เพราะไม่มีไฟฟ้าจะใช้ อีโง่ยุโรปแบกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20% เหตุเพราะดันไปซื้อพลังงานแพงจากเหี้ยด้วยกันไงล่ะ? มรึงถึงได้พากันตายห่ายกคอก ทั้งหมดคือเกมส์การเมือง สหรัฐแค่ต้องการทำให้โลกยังเห็นว่า "สั่งอีแขกได้อยู่" ส่วนอีแขก ก็เล่นบท "กูไม่ใช่ขี้ข้ามรึงอีกต่อไป" หลังเป็นทาสเหี้ยสิงโตมาช้านาน อดีตขี้ข้า วันนี้ก็ต้องเป็นขี้ข้ากูต่อ จะสลัดหลุดออกจกวังวนเหี้ย มรึงต้องยืนด้วยขาตัวเอง จีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง ทำสำเร็จ แต่อีแขกยังไม่สะเด็ดน้ำ เพราะมรึงมันลังเล หลายใจ ลีลา เอาแต่ได้ ไม่ยอมเสีย ถึงไปไม่สุดซักกะเรื่อง ไม่แปลกที่ตามหลังจีนแบบไม่เห็นฝุ่น ไปแก้ที่ MIND SET มรึงก่อนดีกว่ามั้ย? US will ‘sort out’ trade deal with India after it stops buying Russian oil – commerce secretary รัฐมนตรีพาณิชย์ระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังหยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : รัฐมนตรีพาณิชย์ระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังหยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ โฮวาร์ด ลุตนิคระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังประเทศหยุดซื้อน้ำมันรัสเซียและเปิดตลาด ความเห็นของลุตนิคเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์และนายกรัฐมนตรีอินเดียนเรนทรา โมดียืนยันว่า สหรัฐและอินเดียยังคงเจรจาทางการค้าและแสดงความมั่นใจว่า การเจรจาจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ รัสเซียกลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันหลักให้อินเดียตั้งแต่เกิดความรุนแรงจากความขัดแย้งยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 ที่คิดเป็นเกือบ 40% ของการนำเข้าน้ำมันดิบอินเดีย ในขณะเดียวกัน อินเดียกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของน้ำมันกลั่นให้ยุโรปตั้งแต่ปี 2023 เมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐกำหนดอัตราภาษี 25% ของการนำเข้าสินค้าอินเดียทั้งหมดต่อการนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียของอินเดีย ถือเป็นส่วนที่เพิ่มจาก 25% หลังอินเดียและสหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในช่วงต้นเดือนสิงหาคมได้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในการพิจารณาคดีของวุฒิสมาชิก ตัวแทนของทรัมป์หรือทูตอินเดียเซอร์จิโอ กอร์แสดงความรู้สึกแบบเดียวกันในการค้าน้ำมันของอินเดียกับรัสเซีย เขากล่าวขณะที่กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นทางการค้าจะได้รับการแก้ปัญหาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้ว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ดังนั้นอินเดียต้องหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย” กอร์กล่าวว่า “เรามีมาตรฐานที่แตกต่างสำหรับอินเดีย เราจึงคาดหวังว่าจะได้มากกว่าประเทศอื่น” https://www.rt.com/india/624557-us-will-sort-out-trade/ ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.RT.COM
    US will ‘sort out’ trade deal with India after it stops buying Russian oil – commerce secretary
    Howard Lutnick has called on New Delhi to open its markets and refrain from importing crude from Russia
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เปิดตัว Ryzen 9000 PRO — ชิปองค์กร Zen 5 ที่เน้นความปลอดภัยและประสิทธิภาพ พร้อมลดพลังงานลงเหลือ 65W

    ในขณะที่ตลาดซีพียูสำหรับผู้ใช้ทั่วไปกำลังแข่งขันกันด้วยจำนวนคอร์และความเร็ว AMD ก็ไม่ลืมกลุ่มองค์กร ล่าสุดได้เปิดตัวซีรีส์ใหม่ Ryzen PRO 9000 ที่พัฒนาบนสถาปัตยกรรม Zen 5 “Granite Ridge” เช่นเดียวกับ Ryzen 9000 รุ่นทั่วไป แต่มีการปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานในระดับองค์กร โดยเน้นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย การจัดการระบบ และประสิทธิภาพที่เสถียร

    ซีรีส์นี้ประกอบด้วย 3 รุ่น ได้แก่ Ryzen 5 PRO 9645 (6 คอร์), Ryzen 7 PRO 9745 (8 คอร์) และ Ryzen 9 PRO 9945 (12 คอร์) โดยทั้งหมดมี TDP เพียง 65W ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับ Ryzen 9 9900X รุ่นทั่วไปที่มี TDP สูงถึง 120W แม้จะมีคอร์มากกว่า แต่ PRO 9945 ก็ยังสามารถทำงานได้ใกล้เคียงในหลายแง่มุม

    แม้จะไม่เน้นตัวเลขดิบ แต่ AMD ก็เผยว่า Ryzen 9 PRO 9945 มีประสิทธิภาพสูงกว่า Intel Core i7-14700 ถึง 44% ในงาน Blender และเร็วขึ้น 22% ในงาน productivity อื่น ๆ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ประหยัดพลังงาน

    ที่น่าสนใจคือซีพียูเหล่านี้จะมาพร้อมพัดลม Wraith Stealth ในกล่อง แม้จะเป็นรุ่นองค์กรก็ตาม และจะถูกจำหน่ายผ่าน OEM เท่านั้น ไม่เปิดขายทั่วไป

    AMD เปิดตัว Ryzen PRO 9000 สำหรับองค์กร
    ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 “Granite Ridge”
    เน้นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการจัดการระบบ
    จำหน่ายผ่าน OEM เท่านั้น ไม่วางขายทั่วไป

    มีทั้งหมด 3 รุ่นในซีรีส์ PRO 9000
    Ryzen 5 PRO 9645: 6 คอร์ / 12 เธรด / 3.9–5.4 GHz / 38MB cache
    Ryzen 7 PRO 9745: 8 คอร์ / 16 เธรด / 3.8–5.4 GHz / 40MB cache
    Ryzen 9 PRO 9945: 12 คอร์ / 24 เธรด / 3.4–5.4 GHz / 76MB cache

    ทุกตัวมี TDP เพียง 65W
    ลดลงจากรุ่นทั่วไปที่มี TDP สูงถึง 120W–170W
    เหมาะกับองค์กรที่ต้องการประหยัดพลังงานและลดความร้อน

    ประสิทธิภาพเทียบกับ Intel
    Ryzen 9 PRO 9945 เร็วกว่า Core i7-14700 ถึง 44% ใน Blender
    เร็วขึ้น 22% ในงาน productivity อื่น ๆ

    มาพร้อมพัดลม Wraith Stealth ในกล่อง
    แม้จะเป็นรุ่นองค์กร แต่ยังให้ชุดระบายความร้อนมาให้
    ช่วยลดต้นทุนในการติดตั้งระบบ

    คำเตือนเกี่ยวกับข้อจำกัดของซีรีส์ PRO
    ไม่เปิดขายทั่วไป ต้องซื้อผ่าน OEM เท่านั้น
    Ryzen 9 PRO 9945 มีคอร์น้อยกว่ารุ่น 9900X (12 vs 16)
    ความเร็ว base clock ลดลงจากรุ่นก่อนหน้า (3.4 GHz vs 3.7 GHz)
    Ryzen PRO ยังไม่ครบเครื่องเท่า Intel vPro ในบางด้านของการจัดการระบบ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-launches-ryzen-9000-pro-series-flagship-model-tops-out-at-12-cores-new-enterprise-lineup-includes-3-cpus-for-oems-featuring-added-business-and-security-features
    📰 AMD เปิดตัว Ryzen 9000 PRO — ชิปองค์กร Zen 5 ที่เน้นความปลอดภัยและประสิทธิภาพ พร้อมลดพลังงานลงเหลือ 65W ในขณะที่ตลาดซีพียูสำหรับผู้ใช้ทั่วไปกำลังแข่งขันกันด้วยจำนวนคอร์และความเร็ว AMD ก็ไม่ลืมกลุ่มองค์กร ล่าสุดได้เปิดตัวซีรีส์ใหม่ Ryzen PRO 9000 ที่พัฒนาบนสถาปัตยกรรม Zen 5 “Granite Ridge” เช่นเดียวกับ Ryzen 9000 รุ่นทั่วไป แต่มีการปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานในระดับองค์กร โดยเน้นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย การจัดการระบบ และประสิทธิภาพที่เสถียร ซีรีส์นี้ประกอบด้วย 3 รุ่น ได้แก่ Ryzen 5 PRO 9645 (6 คอร์), Ryzen 7 PRO 9745 (8 คอร์) และ Ryzen 9 PRO 9945 (12 คอร์) โดยทั้งหมดมี TDP เพียง 65W ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับ Ryzen 9 9900X รุ่นทั่วไปที่มี TDP สูงถึง 120W แม้จะมีคอร์มากกว่า แต่ PRO 9945 ก็ยังสามารถทำงานได้ใกล้เคียงในหลายแง่มุม แม้จะไม่เน้นตัวเลขดิบ แต่ AMD ก็เผยว่า Ryzen 9 PRO 9945 มีประสิทธิภาพสูงกว่า Intel Core i7-14700 ถึง 44% ในงาน Blender และเร็วขึ้น 22% ในงาน productivity อื่น ๆ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ประหยัดพลังงาน ที่น่าสนใจคือซีพียูเหล่านี้จะมาพร้อมพัดลม Wraith Stealth ในกล่อง แม้จะเป็นรุ่นองค์กรก็ตาม และจะถูกจำหน่ายผ่าน OEM เท่านั้น ไม่เปิดขายทั่วไป ✅ AMD เปิดตัว Ryzen PRO 9000 สำหรับองค์กร ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 “Granite Ridge” ➡️ เน้นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการจัดการระบบ ➡️ จำหน่ายผ่าน OEM เท่านั้น ไม่วางขายทั่วไป ✅ มีทั้งหมด 3 รุ่นในซีรีส์ PRO 9000 ➡️ Ryzen 5 PRO 9645: 6 คอร์ / 12 เธรด / 3.9–5.4 GHz / 38MB cache ➡️ Ryzen 7 PRO 9745: 8 คอร์ / 16 เธรด / 3.8–5.4 GHz / 40MB cache ➡️ Ryzen 9 PRO 9945: 12 คอร์ / 24 เธรด / 3.4–5.4 GHz / 76MB cache ✅ ทุกตัวมี TDP เพียง 65W ➡️ ลดลงจากรุ่นทั่วไปที่มี TDP สูงถึง 120W–170W ➡️ เหมาะกับองค์กรที่ต้องการประหยัดพลังงานและลดความร้อน ✅ ประสิทธิภาพเทียบกับ Intel ➡️ Ryzen 9 PRO 9945 เร็วกว่า Core i7-14700 ถึง 44% ใน Blender ➡️ เร็วขึ้น 22% ในงาน productivity อื่น ๆ ✅ มาพร้อมพัดลม Wraith Stealth ในกล่อง ➡️ แม้จะเป็นรุ่นองค์กร แต่ยังให้ชุดระบายความร้อนมาให้ ➡️ ช่วยลดต้นทุนในการติดตั้งระบบ ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับข้อจำกัดของซีรีส์ PRO ⛔ ไม่เปิดขายทั่วไป ต้องซื้อผ่าน OEM เท่านั้น ⛔ Ryzen 9 PRO 9945 มีคอร์น้อยกว่ารุ่น 9900X (12 vs 16) ⛔ ความเร็ว base clock ลดลงจากรุ่นก่อนหน้า (3.4 GHz vs 3.7 GHz) ⛔ Ryzen PRO ยังไม่ครบเครื่องเท่า Intel vPro ในบางด้านของการจัดการระบบ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-launches-ryzen-9000-pro-series-flagship-model-tops-out-at-12-cores-new-enterprise-lineup-includes-3-cpus-for-oems-featuring-added-business-and-security-features
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ryzen AI Max+ 395: ชิป AI ที่อาจเป็นหมัดเด็ดของ AMD พลิกเกมตลาดมินิพีซีและแล็ปท็อปทั่วโลก

    ในปี 2025 AMD ได้เปิดตัวชิป Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็นหัวใจของแพลตฟอร์ม Strix Halo ที่รวม CPU, GPU และ NPU ไว้ในตัวเดียวกัน โดยมีจุดเด่นคือการรองรับงาน AI ที่ขอบเครือข่าย (Edge AI) ด้วยพลังประมวลผลสูงถึง 50 TOPS และหน่วยความจำ UMA ที่สามารถใช้ RAM สูงสุดถึง 96GB เป็นหน่วยความจำกราฟิกโดยตรง

    ชิปนี้ถูกนำไปใช้ในมินิพีซีและแล็ปท็อปกว่า 30 รุ่นภายในเวลาเพียง 8 เดือน โดยมีแบรนด์อย่าง Asus, HP, Beelink และ GMKtec ร่วมวงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ดีไซน์ทรงลูกบาศก์สุดล้ำ ไปจนถึงเครื่องแบบ tower ขนาดเล็กที่เน้นประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ

    หนึ่งในรุ่นที่โดดเด่นคือ GMKtec EVO-X2 ซึ่งมาพร้อม RAM 64–128GB และ Radeon RX 8060S ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในการเล่นเกม การเรนเดอร์ 3D และงาน AI แบบ local โดยมีการทดสอบแล้วว่าให้คะแนน multi-core สูงถึง 15,526.6 คะแนนใน CPU-Z

    แม้ AMD จะเคลมว่ากราฟิกในตัวสามารถเทียบชั้นกับ RTX รุ่นพกพา แต่ยังไม่มีการทดสอบในวงกว้างเพื่อยืนยันข้อกล่าวอ้างนี้ และอุปกรณ์ที่ใช้ชิปนี้ยังมีจำกัดในตลาดจริง

    AMD เปิดตัว Ryzen AI Max+ 395 ในแพลตฟอร์ม Strix Halo
    รวม CPU 16 คอร์ Zen 5, GPU RDNA 3.5 40 หน่วย และ NPU XDNA 2
    รองรับหน่วยความจำ UMA สูงสุด 96GB สำหรับงานกราฟิก
    พลังประมวลผล AI สูงถึง 50 TOPS

    มีการเปิดตัวมินิพีซีและแล็ปท็อปกว่า 30 รุ่น
    แบรนด์ที่เข้าร่วม ได้แก่ Asus, HP, Beelink, GMKtec
    ดีไซน์หลากหลาย ตั้งแต่ทรงลูกบาศก์ไปจนถึง tower ขนาดเล็ก
    รุ่นเด่น GMKtec EVO-X2 มาพร้อม Radeon RX 8060S และ RAM สูงสุด 128GB

    ประสิทธิภาพในการใช้งานจริงเริ่มมีการทดสอบ
    CPU-Z ให้คะแนน multi-core สูงถึง 15,526.6
    รองรับงาน AI, เกม และการเรนเดอร์ 3D ได้ดี
    ระบบระบายความร้อนมีประสิทธิภาพและเสียงเงียบ

    ราคาถูกกว่าระบบ AI server แบบเดิม
    มินิพีซี Strix Halo มีราคาประมาณ $1,800–$2,800
    ใช้พลังงานต่ำกว่า 300W และวางบนโต๊ะได้สะดวก

    คำเตือนเกี่ยวกับข้อจำกัดของชิป Ryzen AI Max+ 395
    อุปกรณ์ที่ใช้ชิปนี้ยังมีจำกัดในตลาดจริง
    การเคลมว่า iGPU เทียบชั้น RTX ยังไม่มีการพิสูจน์ในวงกว้าง
    รุ่น Engineering Sample ยังพบปัญหา BIOS และการจัดการพลังงาน
    การบำรุงรักษาอุปกรณ์บางรุ่นยังทำได้ยากเนื่องจากดีไซน์ซับซ้อน

    https://www.techradar.com/pro/ryzen-ai-max-395-cpu-could-be-amds-sleeper-hit-against-nvidias-ai-dominance-as-nearly-30-strix-halo-mini-ai-workstation-models-hit-the-market-including-some-rather-funky-ones
    📰 Ryzen AI Max+ 395: ชิป AI ที่อาจเป็นหมัดเด็ดของ AMD พลิกเกมตลาดมินิพีซีและแล็ปท็อปทั่วโลก ในปี 2025 AMD ได้เปิดตัวชิป Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็นหัวใจของแพลตฟอร์ม Strix Halo ที่รวม CPU, GPU และ NPU ไว้ในตัวเดียวกัน โดยมีจุดเด่นคือการรองรับงาน AI ที่ขอบเครือข่าย (Edge AI) ด้วยพลังประมวลผลสูงถึง 50 TOPS และหน่วยความจำ UMA ที่สามารถใช้ RAM สูงสุดถึง 96GB เป็นหน่วยความจำกราฟิกโดยตรง ชิปนี้ถูกนำไปใช้ในมินิพีซีและแล็ปท็อปกว่า 30 รุ่นภายในเวลาเพียง 8 เดือน โดยมีแบรนด์อย่าง Asus, HP, Beelink และ GMKtec ร่วมวงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ดีไซน์ทรงลูกบาศก์สุดล้ำ ไปจนถึงเครื่องแบบ tower ขนาดเล็กที่เน้นประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ หนึ่งในรุ่นที่โดดเด่นคือ GMKtec EVO-X2 ซึ่งมาพร้อม RAM 64–128GB และ Radeon RX 8060S ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในการเล่นเกม การเรนเดอร์ 3D และงาน AI แบบ local โดยมีการทดสอบแล้วว่าให้คะแนน multi-core สูงถึง 15,526.6 คะแนนใน CPU-Z แม้ AMD จะเคลมว่ากราฟิกในตัวสามารถเทียบชั้นกับ RTX รุ่นพกพา แต่ยังไม่มีการทดสอบในวงกว้างเพื่อยืนยันข้อกล่าวอ้างนี้ และอุปกรณ์ที่ใช้ชิปนี้ยังมีจำกัดในตลาดจริง ✅ AMD เปิดตัว Ryzen AI Max+ 395 ในแพลตฟอร์ม Strix Halo ➡️ รวม CPU 16 คอร์ Zen 5, GPU RDNA 3.5 40 หน่วย และ NPU XDNA 2 ➡️ รองรับหน่วยความจำ UMA สูงสุด 96GB สำหรับงานกราฟิก ➡️ พลังประมวลผล AI สูงถึง 50 TOPS ✅ มีการเปิดตัวมินิพีซีและแล็ปท็อปกว่า 30 รุ่น ➡️ แบรนด์ที่เข้าร่วม ได้แก่ Asus, HP, Beelink, GMKtec ➡️ ดีไซน์หลากหลาย ตั้งแต่ทรงลูกบาศก์ไปจนถึง tower ขนาดเล็ก ➡️ รุ่นเด่น GMKtec EVO-X2 มาพร้อม Radeon RX 8060S และ RAM สูงสุด 128GB ✅ ประสิทธิภาพในการใช้งานจริงเริ่มมีการทดสอบ ➡️ CPU-Z ให้คะแนน multi-core สูงถึง 15,526.6 ➡️ รองรับงาน AI, เกม และการเรนเดอร์ 3D ได้ดี ➡️ ระบบระบายความร้อนมีประสิทธิภาพและเสียงเงียบ ✅ ราคาถูกกว่าระบบ AI server แบบเดิม ➡️ มินิพีซี Strix Halo มีราคาประมาณ $1,800–$2,800 ➡️ ใช้พลังงานต่ำกว่า 300W และวางบนโต๊ะได้สะดวก ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับข้อจำกัดของชิป Ryzen AI Max+ 395 ⛔ อุปกรณ์ที่ใช้ชิปนี้ยังมีจำกัดในตลาดจริง ⛔ การเคลมว่า iGPU เทียบชั้น RTX ยังไม่มีการพิสูจน์ในวงกว้าง ⛔ รุ่น Engineering Sample ยังพบปัญหา BIOS และการจัดการพลังงาน ⛔ การบำรุงรักษาอุปกรณ์บางรุ่นยังทำได้ยากเนื่องจากดีไซน์ซับซ้อน https://www.techradar.com/pro/ryzen-ai-max-395-cpu-could-be-amds-sleeper-hit-against-nvidias-ai-dominance-as-nearly-30-strix-halo-mini-ai-workstation-models-hit-the-market-including-some-rather-funky-ones
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP31 | อาคาร 100 ปี โดดเด่นเคียงคู่ มัสยิดบางอ้อ

    ท่ามกลางชุมชนมุสลิมย่านบางอ้อ นอกจากมัสยิดที่งดงามสมคำร่ำลือ ยังมี “อาคาร 100 ปี” ที่ตั้งตระหง่านเคียงข้างมัสยิด เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของความทรงจำและประวัติศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้

    อาคารหลังนี้ไม่ได้มีคุณค่าเพียงแค่สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง การเป็นศูนย์กลางของชุมชน ทั้งในด้านศาสนา การศึกษา และการรวมพลังของผู้คนหลายยุคหลายสมัย

    จากอาคารไม้หลังเก่า สู่การเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และกิจกรรมของชาวมุสลิมบางอ้อ อาคาร 100 ปีหลังนี้จึงเปรียบเสมือนพยานแห่งกาลเวลาที่เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของชุมชนอย่างใกล้ชิด

    ติดตามเรื่องราวของอาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้ และบทบาทสำคัญที่ยังคงมีอยู่จวบจนปัจจุบัน

    #สลามเมืองไทย #EP31 #อาคาร100ปี #มัสยิดบางอ้อ #มรดกชุมชน #ชุมชนมุสลิมบางอ้อ #ศรัทธาและกาลเวลา #ThaiMuslimCommunity #MuslimHeritage #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP31 | อาคาร 100 ปี โดดเด่นเคียงคู่ มัสยิดบางอ้อ ท่ามกลางชุมชนมุสลิมย่านบางอ้อ นอกจากมัสยิดที่งดงามสมคำร่ำลือ ยังมี “อาคาร 100 ปี” ที่ตั้งตระหง่านเคียงข้างมัสยิด เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของความทรงจำและประวัติศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้ อาคารหลังนี้ไม่ได้มีคุณค่าเพียงแค่สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง การเป็นศูนย์กลางของชุมชน ทั้งในด้านศาสนา การศึกษา และการรวมพลังของผู้คนหลายยุคหลายสมัย จากอาคารไม้หลังเก่า สู่การเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และกิจกรรมของชาวมุสลิมบางอ้อ อาคาร 100 ปีหลังนี้จึงเปรียบเสมือนพยานแห่งกาลเวลาที่เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงของชุมชนอย่างใกล้ชิด ติดตามเรื่องราวของอาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้ และบทบาทสำคัญที่ยังคงมีอยู่จวบจนปัจจุบัน #สลามเมืองไทย #EP31 #อาคาร100ปี #มัสยิดบางอ้อ #มรดกชุมชน #ชุมชนมุสลิมบางอ้อ #ศรัทธาและกาลเวลา #ThaiMuslimCommunity #MuslimHeritage #ThaiTimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Soft X-Ray Lithography กับความหวังใหม่ของการผลิตชิประดับต่ำกว่า 5 นาโนเมตร — เทคโนโลยี B-EUV กำลังท้าทาย EUV รุ่น Hyper-NA

    ในโลกของการผลิตชิปที่เล็กลงเรื่อย ๆ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่อาจเปลี่ยนเกมของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ นั่นคือ “Beyond EUV” หรือ B-EUV ซึ่งใช้แสงเลเซอร์ในช่วง Soft X-ray ที่มีความยาวคลื่นสั้นเพียง 6.5–6.7 นาโนเมตร เพื่อสร้างลวดลายบนแผ่นซิลิคอนที่ละเอียดระดับต่ำกว่า 5 นาโนเมตร

    เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการแทนที่ EUV แบบ Hyper-NA ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งแม้จะสามารถผลิตชิปรุ่น 2 นาโนเมตรได้ แต่ก็ต้องใช้ระบบออปติกที่ซับซ้อนและมีราคาสูงถึงหลายร้อยล้านดอลลาร์

    ทีมวิจัยของศาสตราจารย์ Michael Tsapatsis ได้ค้นพบว่าโลหะอย่าง “สังกะสี” สามารถดูดซับแสง Soft X-ray และปล่อยอิเล็กตรอนออกมาเพื่อกระตุ้นปฏิกิริยาเคมีในสารอินทรีย์ที่เรียกว่า “อิมิดาโซล” ซึ่งเป็นวัสดุเรซิสต์ชนิดใหม่ที่สามารถสร้างลวดลายบนแผ่นซิลิคอนได้อย่างแม่นยำ

    นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคนิคใหม่ชื่อว่า “Chemical Liquid Deposition” (CLD) ที่สามารถเคลือบฟิล์มบางระดับนาโนเมตรได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยให้สามารถทดสอบวัสดุเรซิสต์แบบใหม่ได้รวดเร็วขึ้น และอาจนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นนอกเหนือจากเซมิคอนดักเตอร์

    แม้เทคโนโลยี B-EUV จะยังอยู่ในขั้นทดลอง และยังไม่มีเครื่องมือที่พร้อมใช้งานจริง แต่การค้นพบนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ปัญหาวัสดุเรซิสต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปสรรคใหญ่ของการผลิตชิปขนาดเล็กในอนาคต

    นักวิจัยจาก Johns Hopkins พัฒนาเทคโนโลยี B-EUV
    ใช้แสง Soft X-ray ที่มีความยาวคลื่น 6.5–6.7 นาโนเมตร
    สามารถสร้างลวดลายบนชิปที่เล็กกว่า 5 นาโนเมตรได้ในทางทฤษฎี

    ค้นพบวัสดุเรซิสต์ใหม่ที่ตอบสนองต่อแสง Soft X-ray
    ใช้โลหะอย่างสังกะสีร่วมกับสารอินทรีย์อิมิดาโซล
    สังกะสีปล่อยอิเล็กตรอนเพื่อกระตุ้นปฏิกิริยาเคมีที่จำเป็นในการสร้างลวดลาย

    พัฒนาเทคนิค Chemical Liquid Deposition (CLD)
    เคลือบฟิล์มบางระดับนาโนเมตรได้อย่างแม่นยำ
    ช่วยให้ทดสอบวัสดุเรซิสต์ใหม่ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

    B-EUV มีศักยภาพในการแทนที่ Hyper-NA EUV
    ลดความซับซ้อนของระบบออปติก
    อาจช่วยลดต้นทุนการผลิตในอนาคต

    คำเตือนเกี่ยวกับข้อจำกัดของเทคโนโลยี B-EUV
    แหล่งกำเนิดแสง Soft X-ray ยังไม่มีมาตรฐานอุตสาหกรรม
    กระจกสะท้อนแสงสำหรับช่วงคลื่นนี้ยังไม่สามารถผลิตได้
    วัสดุเรซิสต์ทั่วไปไม่ตอบสนองต่อพลังงานโฟตอนสูงของ Soft X-ray
    ยังไม่มีระบบ ecosystem ที่รองรับการผลิตแบบ B-EUV อย่างเต็มรูปแบบ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/beyond-euv-chipmaking-tech-pushes-soft-x-ray-lithography-closer-to-challenging-hyper-na-euv-b-euv-uses-new-resist-chemistry-to-make-smaller-chips
    📰 Soft X-Ray Lithography กับความหวังใหม่ของการผลิตชิประดับต่ำกว่า 5 นาโนเมตร — เทคโนโลยี B-EUV กำลังท้าทาย EUV รุ่น Hyper-NA ในโลกของการผลิตชิปที่เล็กลงเรื่อย ๆ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่อาจเปลี่ยนเกมของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ นั่นคือ “Beyond EUV” หรือ B-EUV ซึ่งใช้แสงเลเซอร์ในช่วง Soft X-ray ที่มีความยาวคลื่นสั้นเพียง 6.5–6.7 นาโนเมตร เพื่อสร้างลวดลายบนแผ่นซิลิคอนที่ละเอียดระดับต่ำกว่า 5 นาโนเมตร เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการแทนที่ EUV แบบ Hyper-NA ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งแม้จะสามารถผลิตชิปรุ่น 2 นาโนเมตรได้ แต่ก็ต้องใช้ระบบออปติกที่ซับซ้อนและมีราคาสูงถึงหลายร้อยล้านดอลลาร์ ทีมวิจัยของศาสตราจารย์ Michael Tsapatsis ได้ค้นพบว่าโลหะอย่าง “สังกะสี” สามารถดูดซับแสง Soft X-ray และปล่อยอิเล็กตรอนออกมาเพื่อกระตุ้นปฏิกิริยาเคมีในสารอินทรีย์ที่เรียกว่า “อิมิดาโซล” ซึ่งเป็นวัสดุเรซิสต์ชนิดใหม่ที่สามารถสร้างลวดลายบนแผ่นซิลิคอนได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคนิคใหม่ชื่อว่า “Chemical Liquid Deposition” (CLD) ที่สามารถเคลือบฟิล์มบางระดับนาโนเมตรได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยให้สามารถทดสอบวัสดุเรซิสต์แบบใหม่ได้รวดเร็วขึ้น และอาจนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นนอกเหนือจากเซมิคอนดักเตอร์ แม้เทคโนโลยี B-EUV จะยังอยู่ในขั้นทดลอง และยังไม่มีเครื่องมือที่พร้อมใช้งานจริง แต่การค้นพบนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ปัญหาวัสดุเรซิสต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปสรรคใหญ่ของการผลิตชิปขนาดเล็กในอนาคต ✅ นักวิจัยจาก Johns Hopkins พัฒนาเทคโนโลยี B-EUV ➡️ ใช้แสง Soft X-ray ที่มีความยาวคลื่น 6.5–6.7 นาโนเมตร ➡️ สามารถสร้างลวดลายบนชิปที่เล็กกว่า 5 นาโนเมตรได้ในทางทฤษฎี ✅ ค้นพบวัสดุเรซิสต์ใหม่ที่ตอบสนองต่อแสง Soft X-ray ➡️ ใช้โลหะอย่างสังกะสีร่วมกับสารอินทรีย์อิมิดาโซล ➡️ สังกะสีปล่อยอิเล็กตรอนเพื่อกระตุ้นปฏิกิริยาเคมีที่จำเป็นในการสร้างลวดลาย ✅ พัฒนาเทคนิค Chemical Liquid Deposition (CLD) ➡️ เคลือบฟิล์มบางระดับนาโนเมตรได้อย่างแม่นยำ ➡️ ช่วยให้ทดสอบวัสดุเรซิสต์ใหม่ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ✅ B-EUV มีศักยภาพในการแทนที่ Hyper-NA EUV ➡️ ลดความซับซ้อนของระบบออปติก ➡️ อาจช่วยลดต้นทุนการผลิตในอนาคต ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับข้อจำกัดของเทคโนโลยี B-EUV ⛔ แหล่งกำเนิดแสง Soft X-ray ยังไม่มีมาตรฐานอุตสาหกรรม ⛔ กระจกสะท้อนแสงสำหรับช่วงคลื่นนี้ยังไม่สามารถผลิตได้ ⛔ วัสดุเรซิสต์ทั่วไปไม่ตอบสนองต่อพลังงานโฟตอนสูงของ Soft X-ray ⛔ ยังไม่มีระบบ ecosystem ที่รองรับการผลิตแบบ B-EUV อย่างเต็มรูปแบบ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/beyond-euv-chipmaking-tech-pushes-soft-x-ray-lithography-closer-to-challenging-hyper-na-euv-b-euv-uses-new-resist-chemistry-to-make-smaller-chips
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 2 สวรรค์ล่ม

    ความรื่นเริงเฉลิมฉลองมันอายุสั้นจริง ๆ ยังไม่ทันที่การเก็บกวาดซากกำแพงเบอร์ลินให้สะอาดดี วอชิงตันและพวกยุโรปตะวันตก ก็มาพร้อมกับ สวรรค์บนดิน เครื่องมือ ช๊อคทางเศรษฐกิจ

    IMF มาพร้อมกับยาแรงตามสูตร การปฎิรูปตลาดการค้าเสรี (คุ้นกันใหม่คำนี้) บอก แหม ! ประเทศหลังม่านนี่มีตั้งแยะ แยกเป็น 6 ประเทศ ตาม Warsaw Pact (Bulgaria, Czecho, East Germany, Hungary, Poland และ Romania) และอีก 15 ประเทศที่อยู่ในสหภาพโซเวียต ตูจะไปจัดโปรแกรมใหม่ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ 21 โปรแกรม ยังไงไหว เอางี้แล้วกัน เอาสูตรสำเร็จไปใช้แล้วกันนะ Privatization แปรรูปยังไงละคุณน้องหลังม่าน แปรมันให้หมด รัฐวิสาหกิจที่ทำอุตสาหกรรมน่ะ แล้วก็ลดค่าเงินรัสเซี่ยนรูเบิล กับเงินอะไรเรียกไม่ถูก ของหลาย ๆ ประเทศนั่นด้วย ใช้สูตรชุดนี้มันทั้งหมดแหละ แหะ แหะ สำเร็จ เออ ไม่ใช่ เสร็จแล้วครับนายท่าน !

    IMF shock therapy หรือที่สมันน้อยรู้จักกันดี คือ โปรแกรม SAP (Structural Adjustment Policies) ก็เปิดประตูกว้าง ให้นักลงทุนตะวันตกหอบกระดาษสี เขียวตีเครื่องหมายว่า In God We Trust มาเป็นกระสอบ นำโดยนาย George Soros และนักค้าเหล็กหนีคุก ชื่อ Marc Rich (แหม ! พอบอกเป็นพวกคนหนีคุก รีบเดากันเชียวนะ ว่าจะเป็นอีกชื่อนึง อยู่กันคนละเมืองครับ มาไม่ทัน ติดนัดนักร้องอยู่ ฮา ) และธนาคารพวกตะกรุมตระกราม เช่น Credit Suisse และแน่นอนต้องมี Chase เจ้าเก่าของเขามาด้วย ก็ยกทีมกันมา
    นโยบายของ IMF แสนจะเอื้อให้ไอ้พวกหัวขะโมยพวกนี้ มาชี้นิ้ว จิ้มเอา จิ้มเอา เลือกทรัพย์สินประเภทเพชรประดับมงกุฎ ของรัสเซียไปในราคาสตางค์เดียว มันจิ้มซื้อตั้งแต่พลังงานน้ำมัน ไปจนถึงพลูโตเนี่ยม เฮ้อ ! เขียนไปแล้วก็นึกว่าเขียนเรื่อง ปรส. เบื่อครับ ! เรื่องซ้ำซาก เล่นซ้ำซาก แล้วก็ยอมให้เขาต้มซ้ำซาก เมื่อไหร่มันจะมีคนรู้ แล้วรื้อฉากแบบนี้ทิ้งเสียที คนเขียนคงไม่อยู่เขียนเรื่องซ้ำซาก แบบนี้ไปอีกนานหรอก อ่าน ๆ แล้วก็จำกันไว้บ้างนะครับ เล่าให้ลูกหลานฟังกันบ้างว่า รุ่น ปู่ ย่า พ่อ แม่ ถูกเขาต้มมาอย่างไร รุ่นเจ้าก็จะโดนอย่างเดิมแหละ ถ้าไม่ลุกขึ้นตื่นกันเสียที (ปตท. นี่ก้อค้างอยู่ ข่าวว่าเรียกคนที่เป็นที่ปรึกษาการเงินตอนแปรรูป มาถามว่าการแปรรูปเป็นธรรมไหม ราคาถูกต้องไหม ฯลฯ ก็น่าจะเดาคำตอบกันได้ แบบนี้ระวังชาวบ้านเขาจะเรียกว่า เมาหมัดนะครับ ไม่อยากใช้คำแรงกว่านี้)

    กินเนื้อแล้วก็โยนกระดูกติดเนื้อมาให้ พวกที่เคยทำหน้าที่ในรัฐบาล Yeltsin ที่อเมริกาเคยต้มให้ทำการแปรรูป จนรัสเซีย ฉ.ห รอบแรก จำได้ไหมครับ จำไม่ได้ไปเอานิทานเรื่องจริง เรื่องมายากลยุทธ มาอ่านอีกทีนะครับ รายการนี้เขาเรียกว่าแจกรางวัลให้คนขายชาติ มีทุกชาติแหละครับ มากน้อยอีกเรื่องนึง ผมขอแช่งจริง ๆ ยอมบาป อย่ามาท้วง มาต่อว่าผม ใครขายชาติ ผมแช่งจริงๆ

    ผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย Mikhail Gorbachev ได้พยายามที่จะฟื้นสหภาพโซเวี ยตจากนโยบาย Glasnost และ Perestroika แต่ไม่สำเร็จ เขาจึงหันหัวไปทางตะวันตก นาย Bush (คนพ่อ) ปราบปลื้มตบหัว 1 ที แล้วบอกดีมาก รู้ว่าควรทำอย่างไร เพื่อเป็นการตอบแทน เราสัญญาว่า อเมริกาจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ไม่ไปขม้ำประเทศที่เพิ่งหลุดมาจาก Warsaw Pact โอเคไหม ?
    Gorbachev เชื่อน้ำคำของนาย Bush ว่าจะไม่ตระบัดสัตย์ (โถ !) ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล ระหว่างที่กำลังชุลมุลกับการเก็บสมบัติส่วนรวมไปเป็นของส่วนตัว นาย Gorbachev เลยลืมให้ นาย Bush ทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร วอชิงตันบอกไม่มีปัญหา เราไม่ลืมหรอกน่า ว่าเราพูดอะไรไว้ (ทำหรือไม่ทำอีกเรื่องนึง เป็นประโยคที่นาย Gorbachev ก็คงลืมนึกอีกเช่นเดียวกัน)

    นอกจากลืมทวงสัญญาแล้ว นาย Gorbachev ยังดันไปตกปากรับคำด้วยว่า สหภาพโซเวียตผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งบัดนี้น้ำหนักลดหดตัวลงมาเหลือเป็นแค่ประเทศรัสเซียเล็ก ๆ สัญญาว่าจะค่อย ๆ รื้อถอนคลังอาวุธนิวเคลียร์ และตกลงที่จะลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ อีกด้วย อเมริกาและรัสเซีย ตกลงยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะไม่ใช้จรวดยิ่งใส่กัน โดยลงนามในข้อตกลง Anti Ballistic Missile Treaty (ABM) 1972

    แล้วอยู่ดี ๆ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 นายบุช (คนลูก) ก็แจ้งรัสเซียว่า ไอถอนตัวจากสัญญา ABM งี่เง้านั่นแล้วนะ เกลอเอ๋ย นี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ ที่อเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ น่า ! ทุกอย่างมันก็มีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ เพื่อเป็นการเปิดทางให้อเมริกาทิ้งหน่วยงาน US Missile Defense Agency มันน่างงไหมล่ะ !

    รัสเซียบอกมึนวู้ย ! รัสเซียยอมยกเลิก Warsaw Pact คู่สัญญาของ NATO รัสเซียยอมถอนทัพจากยุโรปตะวันออกและบริเวณที่เป็นสหภาพโซเวียตเดิม ทำให้รัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยเป็นของสหภาพโซเวียตกระดี้กระด้า ที่จะเป็นอิสระตามคำโฆษณาขายสินค้าของฝ่ายที่อยู่นอกม่าน เพราะเชื่อว่า ถ้าเข้าไปเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปแล้ว จะมีชีวิตที่ซาบซ่านกว่า Republic of Georgia ก็เป็นหนึ่งในรัฐเล็กรัฐน้อย ที่เคลิ้มกับคำโฆษณาขายสินค้านั้นด้วย

    ส่วนข้อตกลงของวอชิงตัน ว่าจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ของนาย Bush (คนพ่อ) ก็คงเป็นเพียงลมปากที่พัดไปในสายลมจริง ๆ เพราะต่อมา นาย Clinton ก็กลายเป็นคนขี้ลืมไปด้วย อเมริกายังเดินหน้า ล่อหลอกให้ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact ทีละประเทศ ให้เข้ามาอยู่กับ NATO แล้วในที่สุด NATO ก็ขยายปีกมาทางตะวันออก ยาวใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 2 สวรรค์ล่ม ความรื่นเริงเฉลิมฉลองมันอายุสั้นจริง ๆ ยังไม่ทันที่การเก็บกวาดซากกำแพงเบอร์ลินให้สะอาดดี วอชิงตันและพวกยุโรปตะวันตก ก็มาพร้อมกับ สวรรค์บนดิน เครื่องมือ ช๊อคทางเศรษฐกิจ IMF มาพร้อมกับยาแรงตามสูตร การปฎิรูปตลาดการค้าเสรี (คุ้นกันใหม่คำนี้) บอก แหม ! ประเทศหลังม่านนี่มีตั้งแยะ แยกเป็น 6 ประเทศ ตาม Warsaw Pact (Bulgaria, Czecho, East Germany, Hungary, Poland และ Romania) และอีก 15 ประเทศที่อยู่ในสหภาพโซเวียต ตูจะไปจัดโปรแกรมใหม่ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ 21 โปรแกรม ยังไงไหว เอางี้แล้วกัน เอาสูตรสำเร็จไปใช้แล้วกันนะ Privatization แปรรูปยังไงละคุณน้องหลังม่าน แปรมันให้หมด รัฐวิสาหกิจที่ทำอุตสาหกรรมน่ะ แล้วก็ลดค่าเงินรัสเซี่ยนรูเบิล กับเงินอะไรเรียกไม่ถูก ของหลาย ๆ ประเทศนั่นด้วย ใช้สูตรชุดนี้มันทั้งหมดแหละ แหะ แหะ สำเร็จ เออ ไม่ใช่ เสร็จแล้วครับนายท่าน ! IMF shock therapy หรือที่สมันน้อยรู้จักกันดี คือ โปรแกรม SAP (Structural Adjustment Policies) ก็เปิดประตูกว้าง ให้นักลงทุนตะวันตกหอบกระดาษสี เขียวตีเครื่องหมายว่า In God We Trust มาเป็นกระสอบ นำโดยนาย George Soros และนักค้าเหล็กหนีคุก ชื่อ Marc Rich (แหม ! พอบอกเป็นพวกคนหนีคุก รีบเดากันเชียวนะ ว่าจะเป็นอีกชื่อนึง อยู่กันคนละเมืองครับ มาไม่ทัน ติดนัดนักร้องอยู่ ฮา ) และธนาคารพวกตะกรุมตระกราม เช่น Credit Suisse และแน่นอนต้องมี Chase เจ้าเก่าของเขามาด้วย ก็ยกทีมกันมา นโยบายของ IMF แสนจะเอื้อให้ไอ้พวกหัวขะโมยพวกนี้ มาชี้นิ้ว จิ้มเอา จิ้มเอา เลือกทรัพย์สินประเภทเพชรประดับมงกุฎ ของรัสเซียไปในราคาสตางค์เดียว มันจิ้มซื้อตั้งแต่พลังงานน้ำมัน ไปจนถึงพลูโตเนี่ยม เฮ้อ ! เขียนไปแล้วก็นึกว่าเขียนเรื่อง ปรส. เบื่อครับ ! เรื่องซ้ำซาก เล่นซ้ำซาก แล้วก็ยอมให้เขาต้มซ้ำซาก เมื่อไหร่มันจะมีคนรู้ แล้วรื้อฉากแบบนี้ทิ้งเสียที คนเขียนคงไม่อยู่เขียนเรื่องซ้ำซาก แบบนี้ไปอีกนานหรอก อ่าน ๆ แล้วก็จำกันไว้บ้างนะครับ เล่าให้ลูกหลานฟังกันบ้างว่า รุ่น ปู่ ย่า พ่อ แม่ ถูกเขาต้มมาอย่างไร รุ่นเจ้าก็จะโดนอย่างเดิมแหละ ถ้าไม่ลุกขึ้นตื่นกันเสียที (ปตท. นี่ก้อค้างอยู่ ข่าวว่าเรียกคนที่เป็นที่ปรึกษาการเงินตอนแปรรูป มาถามว่าการแปรรูปเป็นธรรมไหม ราคาถูกต้องไหม ฯลฯ ก็น่าจะเดาคำตอบกันได้ แบบนี้ระวังชาวบ้านเขาจะเรียกว่า เมาหมัดนะครับ ไม่อยากใช้คำแรงกว่านี้) กินเนื้อแล้วก็โยนกระดูกติดเนื้อมาให้ พวกที่เคยทำหน้าที่ในรัฐบาล Yeltsin ที่อเมริกาเคยต้มให้ทำการแปรรูป จนรัสเซีย ฉ.ห รอบแรก จำได้ไหมครับ จำไม่ได้ไปเอานิทานเรื่องจริง เรื่องมายากลยุทธ มาอ่านอีกทีนะครับ รายการนี้เขาเรียกว่าแจกรางวัลให้คนขายชาติ มีทุกชาติแหละครับ มากน้อยอีกเรื่องนึง ผมขอแช่งจริง ๆ ยอมบาป อย่ามาท้วง มาต่อว่าผม ใครขายชาติ ผมแช่งจริงๆ ผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย Mikhail Gorbachev ได้พยายามที่จะฟื้นสหภาพโซเวี ยตจากนโยบาย Glasnost และ Perestroika แต่ไม่สำเร็จ เขาจึงหันหัวไปทางตะวันตก นาย Bush (คนพ่อ) ปราบปลื้มตบหัว 1 ที แล้วบอกดีมาก รู้ว่าควรทำอย่างไร เพื่อเป็นการตอบแทน เราสัญญาว่า อเมริกาจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ไม่ไปขม้ำประเทศที่เพิ่งหลุดมาจาก Warsaw Pact โอเคไหม ? Gorbachev เชื่อน้ำคำของนาย Bush ว่าจะไม่ตระบัดสัตย์ (โถ !) ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล ระหว่างที่กำลังชุลมุลกับการเก็บสมบัติส่วนรวมไปเป็นของส่วนตัว นาย Gorbachev เลยลืมให้ นาย Bush ทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร วอชิงตันบอกไม่มีปัญหา เราไม่ลืมหรอกน่า ว่าเราพูดอะไรไว้ (ทำหรือไม่ทำอีกเรื่องนึง เป็นประโยคที่นาย Gorbachev ก็คงลืมนึกอีกเช่นเดียวกัน) นอกจากลืมทวงสัญญาแล้ว นาย Gorbachev ยังดันไปตกปากรับคำด้วยว่า สหภาพโซเวียตผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งบัดนี้น้ำหนักลดหดตัวลงมาเหลือเป็นแค่ประเทศรัสเซียเล็ก ๆ สัญญาว่าจะค่อย ๆ รื้อถอนคลังอาวุธนิวเคลียร์ และตกลงที่จะลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ อีกด้วย อเมริกาและรัสเซีย ตกลงยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะไม่ใช้จรวดยิ่งใส่กัน โดยลงนามในข้อตกลง Anti Ballistic Missile Treaty (ABM) 1972 แล้วอยู่ดี ๆ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 นายบุช (คนลูก) ก็แจ้งรัสเซียว่า ไอถอนตัวจากสัญญา ABM งี่เง้านั่นแล้วนะ เกลอเอ๋ย นี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ ที่อเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ น่า ! ทุกอย่างมันก็มีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ เพื่อเป็นการเปิดทางให้อเมริกาทิ้งหน่วยงาน US Missile Defense Agency มันน่างงไหมล่ะ ! รัสเซียบอกมึนวู้ย ! รัสเซียยอมยกเลิก Warsaw Pact คู่สัญญาของ NATO รัสเซียยอมถอนทัพจากยุโรปตะวันออกและบริเวณที่เป็นสหภาพโซเวียตเดิม ทำให้รัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยเป็นของสหภาพโซเวียตกระดี้กระด้า ที่จะเป็นอิสระตามคำโฆษณาขายสินค้าของฝ่ายที่อยู่นอกม่าน เพราะเชื่อว่า ถ้าเข้าไปเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปแล้ว จะมีชีวิตที่ซาบซ่านกว่า Republic of Georgia ก็เป็นหนึ่งในรัฐเล็กรัฐน้อย ที่เคลิ้มกับคำโฆษณาขายสินค้านั้นด้วย ส่วนข้อตกลงของวอชิงตัน ว่าจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ของนาย Bush (คนพ่อ) ก็คงเป็นเพียงลมปากที่พัดไปในสายลมจริง ๆ เพราะต่อมา นาย Clinton ก็กลายเป็นคนขี้ลืมไปด้วย อเมริกายังเดินหน้า ล่อหลอกให้ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact ทีละประเทศ ให้เข้ามาอยู่กับ NATO แล้วในที่สุด NATO ก็ขยายปีกมาทางตะวันออก ยาวใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • “TARS: ใบเรือสุริยะหมุนได้จากพลังแสง — แนวคิดใหม่จาก David Kipping ที่อาจส่งยานขนาดมือถือออกนอกระบบสุริยะ”

    นักดาราศาสตร์ David Kipping และ Kathryn Lampo จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้เสนอแนวคิดใหม่ในการขับเคลื่อนยานอวกาศขนาดเล็กสู่การเดินทางระหว่างดาว ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า TARS (Torqued Accelerator using Radiation from the Sun) ซึ่งใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในการสร้างแรงหมุนสะสม แล้วปลดปล่อยเป็นแรงผลักดันให้ยานพุ่งออกจากระบบสุริยะโดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง

    TARS ประกอบด้วยแผ่นบางสองด้านที่มีค่าการสะท้อนแสง (albedo) ต่างกัน เมื่ออยู่ในวงโคจรแบบ “quasite” รอบดวงอาทิตย์ แรงดันรังสีจากแสงอาทิตย์จะค่อย ๆ ทำให้ระบบหมุนเร็วขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน จากนั้นพลังงานหมุนนี้จะถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อเร่งความเร็วให้ payload ขนาดเท่ามือถือทะยานออกไปด้วยความเร็วระดับระหว่างดาว

    แม้จะไม่สามารถทำความเร็วแบบ relativistic ได้ (ใกล้ความเร็วแสง) แต่ TARS ก็สามารถส่งยานขนาดเล็กออกนอกระบบสุริยะภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี โดยใช้วัสดุที่มีจำหน่ายทั่วไป เช่น แผ่นคาร์บอนนาโนทิวบ์ (CNT) หรือกราฟีน และมีน้ำหนักรวมเพียงไม่กี่กิโลกรัม

    แนวคิดนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการสร้างสนามแม่เหล็กเพื่อป้องกันดาวอังคารจากลมสุริยะ หรือใช้เป็นเครือข่ายสื่อสารระยะไกลในอวกาศผ่านการปล่อยยานเป็นฝูง (swarm) ที่มีต้นทุนต่ำและควบคุมง่าย

    ข้อมูลสำคัญ
    TARS คือระบบใบเรือสุริยะที่ใช้แรงหมุนจากแสงอาทิตย์เพื่อเร่งความเร็ว
    ใช้แผ่นบางสองด้านที่มี albedo ต่างกันเพื่อสร้างแรงหมุน
    อยู่ในวงโคจร quasite รอบดวงอาทิตย์เพื่อสะสมพลังงาน
    สามารถส่ง payload ขนาดมือถือออกนอกระบบสุริยะภายใน 1 ปี

    เทคโนโลยีและการใช้งาน
    ใช้วัสดุทั่วไป เช่น CNT หรือกราฟีน น้ำหนักรวมเพียงไม่กี่กิโลกรัม
    ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง onboard — หลุดจากข้อจำกัดของสมการจรวด
    อาจใช้สร้างสนามแม่เหล็กเพื่อป้องกันดาวอังคาร
    สามารถปล่อยเป็นฝูงเพื่อสร้างเครือข่ายสื่อสารระยะไกล

    ข้อมูลเสริม
    ใบเรือสุริยะแบบเดิมใช้แรงดันรังสีโดยตรง แต่มีข้อจำกัดด้านทิศทาง
    TARS ใช้หลักการคล้าย radiometer และ dipole หมุนเพื่อสร้างแรง
    การใช้ Jupiter เป็นเลนส์บูสต์สัญญาณเป็นแนวคิดเสริมที่กำลังศึกษา
    อาจใช้ TARS เพื่อศึกษาสื่อระหว่างดาว หรือเป็นเครื่องตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วง

    คำเตือนและข้อจำกัด
    ความเร็วที่ได้ยังไม่ถึงระดับ relativistic — ไม่เหมาะกับภารกิจที่ต้องการความเร็วสูงมาก
    การออกแบบต้องคำนึงถึงความแข็งแรงของวัสดุเมื่อหมุนด้วยความเร็วสูง
    การควบคุมทิศทางและการปลดปล่อยพลังงานต้องแม่นยำสูง
    การ scale ระบบให้ใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วจะเพิ่มความซับซ้อนแบบ exponential
    ยังไม่มีการทดสอบจริงในอวกาศ — อยู่ในขั้นแนวคิดและการจำลอง

    https://youtu.be/MDM1COWJ2Hc
    🚀 “TARS: ใบเรือสุริยะหมุนได้จากพลังแสง — แนวคิดใหม่จาก David Kipping ที่อาจส่งยานขนาดมือถือออกนอกระบบสุริยะ” นักดาราศาสตร์ David Kipping และ Kathryn Lampo จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้เสนอแนวคิดใหม่ในการขับเคลื่อนยานอวกาศขนาดเล็กสู่การเดินทางระหว่างดาว ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า TARS (Torqued Accelerator using Radiation from the Sun) ซึ่งใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในการสร้างแรงหมุนสะสม แล้วปลดปล่อยเป็นแรงผลักดันให้ยานพุ่งออกจากระบบสุริยะโดยไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง TARS ประกอบด้วยแผ่นบางสองด้านที่มีค่าการสะท้อนแสง (albedo) ต่างกัน เมื่ออยู่ในวงโคจรแบบ “quasite” รอบดวงอาทิตย์ แรงดันรังสีจากแสงอาทิตย์จะค่อย ๆ ทำให้ระบบหมุนเร็วขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน จากนั้นพลังงานหมุนนี้จะถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อเร่งความเร็วให้ payload ขนาดเท่ามือถือทะยานออกไปด้วยความเร็วระดับระหว่างดาว แม้จะไม่สามารถทำความเร็วแบบ relativistic ได้ (ใกล้ความเร็วแสง) แต่ TARS ก็สามารถส่งยานขนาดเล็กออกนอกระบบสุริยะภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี โดยใช้วัสดุที่มีจำหน่ายทั่วไป เช่น แผ่นคาร์บอนนาโนทิวบ์ (CNT) หรือกราฟีน และมีน้ำหนักรวมเพียงไม่กี่กิโลกรัม แนวคิดนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการสร้างสนามแม่เหล็กเพื่อป้องกันดาวอังคารจากลมสุริยะ หรือใช้เป็นเครือข่ายสื่อสารระยะไกลในอวกาศผ่านการปล่อยยานเป็นฝูง (swarm) ที่มีต้นทุนต่ำและควบคุมง่าย ✅ ข้อมูลสำคัญ ➡️ TARS คือระบบใบเรือสุริยะที่ใช้แรงหมุนจากแสงอาทิตย์เพื่อเร่งความเร็ว ➡️ ใช้แผ่นบางสองด้านที่มี albedo ต่างกันเพื่อสร้างแรงหมุน ➡️ อยู่ในวงโคจร quasite รอบดวงอาทิตย์เพื่อสะสมพลังงาน ➡️ สามารถส่ง payload ขนาดมือถือออกนอกระบบสุริยะภายใน 1 ปี ✅ เทคโนโลยีและการใช้งาน ➡️ ใช้วัสดุทั่วไป เช่น CNT หรือกราฟีน น้ำหนักรวมเพียงไม่กี่กิโลกรัม ➡️ ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง onboard — หลุดจากข้อจำกัดของสมการจรวด ➡️ อาจใช้สร้างสนามแม่เหล็กเพื่อป้องกันดาวอังคาร ➡️ สามารถปล่อยเป็นฝูงเพื่อสร้างเครือข่ายสื่อสารระยะไกล ✅ ข้อมูลเสริม ➡️ ใบเรือสุริยะแบบเดิมใช้แรงดันรังสีโดยตรง แต่มีข้อจำกัดด้านทิศทาง ➡️ TARS ใช้หลักการคล้าย radiometer และ dipole หมุนเพื่อสร้างแรง ➡️ การใช้ Jupiter เป็นเลนส์บูสต์สัญญาณเป็นแนวคิดเสริมที่กำลังศึกษา ➡️ อาจใช้ TARS เพื่อศึกษาสื่อระหว่างดาว หรือเป็นเครื่องตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วง ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ ความเร็วที่ได้ยังไม่ถึงระดับ relativistic — ไม่เหมาะกับภารกิจที่ต้องการความเร็วสูงมาก ⛔ การออกแบบต้องคำนึงถึงความแข็งแรงของวัสดุเมื่อหมุนด้วยความเร็วสูง ⛔ การควบคุมทิศทางและการปลดปล่อยพลังงานต้องแม่นยำสูง ⛔ การ scale ระบบให้ใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความเร็วจะเพิ่มความซับซ้อนแบบ exponential ⛔ ยังไม่มีการทดสอบจริงในอวกาศ — อยู่ในขั้นแนวคิดและการจำลอง https://youtu.be/MDM1COWJ2Hc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'อรรถวิชช์' ลั่น 'พีระพันธุ์' ไม่ได้หวังตำแหน่งนายกฯ ชี้ เป็น 'รมว.พลังงาน' ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ยัน ทำแต่งานไม่สนตำแหน่ง
    https://www.thai-tai.tv/news/21508/
    .
    #ไทยไท #อรรถวิชช์สุวรรณภักดี #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    'อรรถวิชช์' ลั่น 'พีระพันธุ์' ไม่ได้หวังตำแหน่งนายกฯ ชี้ เป็น 'รมว.พลังงาน' ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ยัน ทำแต่งานไม่สนตำแหน่ง https://www.thai-tai.tv/news/21508/ . #ไทยไท #อรรถวิชช์สุวรรณภักดี #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ชุมพล จุลใส’ นำทัพ ‘พลังชุมพร’ ทิ้ง 'รทสช.'! ยกทีมซบ 'ภูมิใจไทย'! ลั่นเพื่อ 'แลนด์บริดจ์' !
    https://www.thai-tai.tv/news/21503/
    .
    #ไทยไท #ภูมิใจไทย #อนุทินชาญวีรกูล #ชุมพลจุลใส #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ‘ชุมพล จุลใส’ นำทัพ ‘พลังชุมพร’ ทิ้ง 'รทสช.'! ยกทีมซบ 'ภูมิใจไทย'! ลั่นเพื่อ 'แลนด์บริดจ์' ! https://www.thai-tai.tv/news/21503/ . #ไทยไท #ภูมิใจไทย #อนุทินชาญวีรกูล #ชุมพลจุลใส #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • “MediaTek ปล่อยชิปเรือธงบนเทคโนโลยี 2nm ของ TSMC — ก้าวแรกสู่ยุคใหม่ของ AI, มือถือ และยานยนต์”

    MediaTek ประกาศความสำเร็จในการ tape-out ชิป SoC รุ่นเรือธงตัวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 2 นาโนเมตรของ TSMC ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่เข้าสู่ยุค 2nm อย่างเป็นทางการ โดยชิปนี้จะเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในช่วงปลายปี 2026 และพร้อมวางจำหน่ายในช่วงเวลาเดียวกัน

    เทคโนโลยี 2nm ของ TSMC ใช้โครงสร้างทรานซิสเตอร์แบบ nanosheet เป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นของลอจิกได้ถึง 1.2 เท่า เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด 18% ที่พลังงานเท่าเดิม และลดการใช้พลังงานลงถึง 36% ที่ความเร็วเท่าเดิม เมื่อเทียบกับกระบวนการ N3E รุ่นก่อนหน้า

    MediaTek ยังไม่เปิดเผยว่าชิปนี้จะใช้ในผลิตภัณฑ์ใดโดยตรง แต่มีการคาดการณ์ว่าอาจเกี่ยวข้องกับความร่วมมือกับ NVIDIA ในกลุ่ม AI PC หรือชิปสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองบริษัทเคยร่วมมือกันในโปรเจกต์ GB10 “Grace Blackwell” Superchip ที่ใช้กระบวนการ 3nm

    ชิปใหม่นี้จะถูกนำไปใช้ในหลากหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น มือถือระดับเรือธง, คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง, ยานยนต์อัจฉริยะ และเซิร์ฟเวอร์ edge computing โดย MediaTek ยืนยันว่าการร่วมมือกับ TSMC จะช่วยให้สามารถส่งมอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานได้ทั่วโลก

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    MediaTek ประกาศ tape-out ชิป SoC รุ่นเรือธงที่ใช้เทคโนโลยี 2nm ของ TSMC
    เข้าสู่การผลิตจำนวนมากปลายปี 2026 และวางจำหน่ายช่วงเวลาเดียวกัน
    ใช้โครงสร้างทรานซิสเตอร์แบบ nanosheet เป็นครั้งแรก
    เพิ่ม logic density 1.2 เท่า, เพิ่ม performance 18%, ลดพลังงาน 36% เทียบกับ N3E

    กลุ่มเป้าหมายและการใช้งาน
    ชิปนี้อาจใช้ในมือถือ, คอมพิวเตอร์, ยานยนต์ และ edge computing
    มีความเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับความร่วมมือกับ NVIDIA ในกลุ่ม AI PC
    MediaTek และ TSMC มีความร่วมมือระยะยาวในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง
    ชิปนี้จะเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของการประมวลผลแบบประหยัดพลังงาน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    TSMC N2P คือรุ่นพัฒนาต่อจาก N2 ที่เน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์
    Apple และ AMD ก็เตรียมใช้เทคโนโลยี 2nm ในชิปของตนในปี 2026 เช่นกัน
    การใช้ nanosheet transistor ช่วยให้สามารถใส่ accelerator และ IP block ได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม
    เหมาะกับงาน on-device AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ใช้พลังงานต่ำ

    https://wccftech.com/mediatek-tapes-out-flagship-soc-tsmc-2nm-process-production-availability-end-2026/
    🧠 “MediaTek ปล่อยชิปเรือธงบนเทคโนโลยี 2nm ของ TSMC — ก้าวแรกสู่ยุคใหม่ของ AI, มือถือ และยานยนต์” MediaTek ประกาศความสำเร็จในการ tape-out ชิป SoC รุ่นเรือธงตัวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 2 นาโนเมตรของ TSMC ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่เข้าสู่ยุค 2nm อย่างเป็นทางการ โดยชิปนี้จะเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในช่วงปลายปี 2026 และพร้อมวางจำหน่ายในช่วงเวลาเดียวกัน เทคโนโลยี 2nm ของ TSMC ใช้โครงสร้างทรานซิสเตอร์แบบ nanosheet เป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นของลอจิกได้ถึง 1.2 เท่า เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด 18% ที่พลังงานเท่าเดิม และลดการใช้พลังงานลงถึง 36% ที่ความเร็วเท่าเดิม เมื่อเทียบกับกระบวนการ N3E รุ่นก่อนหน้า MediaTek ยังไม่เปิดเผยว่าชิปนี้จะใช้ในผลิตภัณฑ์ใดโดยตรง แต่มีการคาดการณ์ว่าอาจเกี่ยวข้องกับความร่วมมือกับ NVIDIA ในกลุ่ม AI PC หรือชิปสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองบริษัทเคยร่วมมือกันในโปรเจกต์ GB10 “Grace Blackwell” Superchip ที่ใช้กระบวนการ 3nm ชิปใหม่นี้จะถูกนำไปใช้ในหลากหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น มือถือระดับเรือธง, คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง, ยานยนต์อัจฉริยะ และเซิร์ฟเวอร์ edge computing โดย MediaTek ยืนยันว่าการร่วมมือกับ TSMC จะช่วยให้สามารถส่งมอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานได้ทั่วโลก ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ MediaTek ประกาศ tape-out ชิป SoC รุ่นเรือธงที่ใช้เทคโนโลยี 2nm ของ TSMC ➡️ เข้าสู่การผลิตจำนวนมากปลายปี 2026 และวางจำหน่ายช่วงเวลาเดียวกัน ➡️ ใช้โครงสร้างทรานซิสเตอร์แบบ nanosheet เป็นครั้งแรก ➡️ เพิ่ม logic density 1.2 เท่า, เพิ่ม performance 18%, ลดพลังงาน 36% เทียบกับ N3E ✅ กลุ่มเป้าหมายและการใช้งาน ➡️ ชิปนี้อาจใช้ในมือถือ, คอมพิวเตอร์, ยานยนต์ และ edge computing ➡️ มีความเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับความร่วมมือกับ NVIDIA ในกลุ่ม AI PC ➡️ MediaTek และ TSMC มีความร่วมมือระยะยาวในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ➡️ ชิปนี้จะเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ของการประมวลผลแบบประหยัดพลังงาน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ TSMC N2P คือรุ่นพัฒนาต่อจาก N2 ที่เน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์ ➡️ Apple และ AMD ก็เตรียมใช้เทคโนโลยี 2nm ในชิปของตนในปี 2026 เช่นกัน ➡️ การใช้ nanosheet transistor ช่วยให้สามารถใส่ accelerator และ IP block ได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม ➡️ เหมาะกับงาน on-device AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ใช้พลังงานต่ำ https://wccftech.com/mediatek-tapes-out-flagship-soc-tsmc-2nm-process-production-availability-end-2026/
    WCCFTECH.COM
    MediaTek Tapes Out Flagship SoC Using TSMC's 2nm Process, Mass Production & Availability By End of 2026
    MediaTek has announced the tape-out of its flagship SoC, fabricated on TSMC's 2nm process node, which will be available by the end of 2026.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AMD EPYC Embedded 4005: ซีพียูขอบระบบที่ไม่ธรรมดา — Zen 5 บน AM5 เพื่อโลกที่ต้องการความเร็วและความเสถียร”

    AMD เปิดตัวซีพียูตระกูล EPYC Embedded 4005 อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2025 โดยมุ่งเป้าไปที่ตลาด edge computing, ระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่าย และเซิร์ฟเวอร์อุตสาหกรรมระดับเริ่มต้น จุดเด่นของซีรีส์นี้คือการนำสถาปัตยกรรม Zen 5 มาใช้บนแพลตฟอร์ม AM5 ซึ่งเป็นซ็อกเก็ตเดียวกับ Ryzen รุ่นทั่วไป แต่ปรับแต่งให้เหมาะกับงานฝังตัวที่ต้องการความเสถียรและอายุการใช้งานยาวนาน

    EPYC Embedded 4005 ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ chiplet ขนาด 4 นาโนเมตร รองรับสูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด พร้อม L3 cache สูงสุด 128MB และ TDP ที่ปรับได้ตั้งแต่ 65W ถึง 170W เพื่อให้เหมาะกับงานที่หลากหลาย ตั้งแต่ไฟร์วอลล์รุ่นใหม่ไปจนถึงระบบควบคุมแบบเรียลไทม์ในโรงงาน

    ซีพียูรุ่นนี้รองรับ DDR5-5600 แบบ ECC, PCIe Gen 5 จำนวน 28 เลน และชุดคำสั่ง AVX-512 แบบเต็ม 512 บิต ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล AI inference และงานที่ต้องการ vector computing เช่น การวิเคราะห์ภาพ, การประมวลผล JSON หรือฐานข้อมูล PostgreSQL

    จุดแข็งอีกด้านคือการรับประกันการผลิตนานถึง 7 ปี พร้อมฟีเจอร์ RAS (Reliability, Availability, Serviceability) เช่น ECC บน DRAM และ PCIe, parity บนชิป และการตรวจจับข้อผิดพลาดแบบ built-in ซึ่งเหมาะกับระบบที่ต้องการ uptime สูงและการบำรุงรักษาต่ำ

    AMD ยังออกแบบให้ EPYC Embedded 4005 ใช้ซ็อกเก็ต AM5 ร่วมกับซีพียู Ryzen ทำให้สามารถใช้เมนบอร์ดเดิมได้ ลดต้นทุนการออกแบบ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการอัปเกรดระบบในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่ม SMB และผู้ให้บริการ hosting ที่ต้องการระบบที่คุ้มค่าแต่มีความสามารถระดับองค์กร

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    AMD เปิดตัว EPYC Embedded 4005 สำหรับงาน edge และระบบฝังตัว
    ใช้ Zen 5 บนแพลตฟอร์ม AM5 พร้อมเทคโนโลยี chiplet ขนาด 4 นาโนเมตร
    รองรับสูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด, L3 cache สูงสุด 128MB
    TDP ปรับได้ตั้งแต่ 65W ถึง 170W เพื่อรองรับงานหลากหลาย

    จุดเด่นด้านเทคโนโลยี
    รองรับ DDR5-5600 ECC และ PCIe Gen 5 จำนวน 28 เลน
    มีชุดคำสั่ง AVX-512 แบบเต็ม 512 บิต สำหรับงาน AI และ HPC
    รับประกันการผลิตนานถึง 7 ปี พร้อมฟีเจอร์ RAS ครบถ้วน
    ใช้ซ็อกเก็ต AM5 ร่วมกับ Ryzen ทำให้ลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    EPYC 4005 เป็นรุ่นต่อยอดจาก EPYC 4004 โดยเพิ่มความเร็วแรมและชุดคำสั่ง
    มีรุ่น 16 คอร์ TDP 65W สำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพแต่ประหยัดพลังงาน
    เหมาะกับงานไฟร์วอลล์, NAS, เซิร์ฟเวอร์ SMB และระบบควบคุมอุตสาหกรรม
    แข่งกับ Intel Xeon E และ Xeon 6300P ซึ่งยังจำกัดที่ 8 คอร์และ DDR5-4800

    คำเตือนและข้อจำกัด
    แม้จะใช้ AM5 แต่ EPYC Embedded 4005 ต้องใช้ BIOS ที่รองรับ ECC และฟีเจอร์ RAS
    ชุดคำสั่ง AVX-512 อาจไม่ถูกใช้งานเต็มประสิทธิภาพในซอฟต์แวร์ทั่วไป
    การใช้งานในระบบฝังตัวต้องพิจารณาเรื่องความร้อนและการระบายอากาศอย่างรอบคอบ
    แม้จะรับประกันการผลิต 7 ปี แต่การสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตเมนบอร์ด
    ราคาของรุ่นสูงสุดอาจใกล้เคียงกับ Xeon ระดับกลาง ทำให้ต้องเปรียบเทียบอย่างละเอียดก่อนเลือกใช้งาน

    https://www.techpowerup.com/341063/amd-introduces-epyc-embedded-4005-processors-for-low-latency-applications-at-the-edge
    🧩 “AMD EPYC Embedded 4005: ซีพียูขอบระบบที่ไม่ธรรมดา — Zen 5 บน AM5 เพื่อโลกที่ต้องการความเร็วและความเสถียร” AMD เปิดตัวซีพียูตระกูล EPYC Embedded 4005 อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2025 โดยมุ่งเป้าไปที่ตลาด edge computing, ระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่าย และเซิร์ฟเวอร์อุตสาหกรรมระดับเริ่มต้น จุดเด่นของซีรีส์นี้คือการนำสถาปัตยกรรม Zen 5 มาใช้บนแพลตฟอร์ม AM5 ซึ่งเป็นซ็อกเก็ตเดียวกับ Ryzen รุ่นทั่วไป แต่ปรับแต่งให้เหมาะกับงานฝังตัวที่ต้องการความเสถียรและอายุการใช้งานยาวนาน EPYC Embedded 4005 ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ chiplet ขนาด 4 นาโนเมตร รองรับสูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด พร้อม L3 cache สูงสุด 128MB และ TDP ที่ปรับได้ตั้งแต่ 65W ถึง 170W เพื่อให้เหมาะกับงานที่หลากหลาย ตั้งแต่ไฟร์วอลล์รุ่นใหม่ไปจนถึงระบบควบคุมแบบเรียลไทม์ในโรงงาน ซีพียูรุ่นนี้รองรับ DDR5-5600 แบบ ECC, PCIe Gen 5 จำนวน 28 เลน และชุดคำสั่ง AVX-512 แบบเต็ม 512 บิต ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล AI inference และงานที่ต้องการ vector computing เช่น การวิเคราะห์ภาพ, การประมวลผล JSON หรือฐานข้อมูล PostgreSQL จุดแข็งอีกด้านคือการรับประกันการผลิตนานถึง 7 ปี พร้อมฟีเจอร์ RAS (Reliability, Availability, Serviceability) เช่น ECC บน DRAM และ PCIe, parity บนชิป และการตรวจจับข้อผิดพลาดแบบ built-in ซึ่งเหมาะกับระบบที่ต้องการ uptime สูงและการบำรุงรักษาต่ำ AMD ยังออกแบบให้ EPYC Embedded 4005 ใช้ซ็อกเก็ต AM5 ร่วมกับซีพียู Ryzen ทำให้สามารถใช้เมนบอร์ดเดิมได้ ลดต้นทุนการออกแบบ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการอัปเกรดระบบในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่ม SMB และผู้ให้บริการ hosting ที่ต้องการระบบที่คุ้มค่าแต่มีความสามารถระดับองค์กร ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ AMD เปิดตัว EPYC Embedded 4005 สำหรับงาน edge และระบบฝังตัว ➡️ ใช้ Zen 5 บนแพลตฟอร์ม AM5 พร้อมเทคโนโลยี chiplet ขนาด 4 นาโนเมตร ➡️ รองรับสูงสุด 16 คอร์ 32 เธรด, L3 cache สูงสุด 128MB ➡️ TDP ปรับได้ตั้งแต่ 65W ถึง 170W เพื่อรองรับงานหลากหลาย ✅ จุดเด่นด้านเทคโนโลยี ➡️ รองรับ DDR5-5600 ECC และ PCIe Gen 5 จำนวน 28 เลน ➡️ มีชุดคำสั่ง AVX-512 แบบเต็ม 512 บิต สำหรับงาน AI และ HPC ➡️ รับประกันการผลิตนานถึง 7 ปี พร้อมฟีเจอร์ RAS ครบถ้วน ➡️ ใช้ซ็อกเก็ต AM5 ร่วมกับ Ryzen ทำให้ลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ EPYC 4005 เป็นรุ่นต่อยอดจาก EPYC 4004 โดยเพิ่มความเร็วแรมและชุดคำสั่ง ➡️ มีรุ่น 16 คอร์ TDP 65W สำหรับงานที่ต้องการประสิทธิภาพแต่ประหยัดพลังงาน ➡️ เหมาะกับงานไฟร์วอลล์, NAS, เซิร์ฟเวอร์ SMB และระบบควบคุมอุตสาหกรรม ➡️ แข่งกับ Intel Xeon E และ Xeon 6300P ซึ่งยังจำกัดที่ 8 คอร์และ DDR5-4800 ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ แม้จะใช้ AM5 แต่ EPYC Embedded 4005 ต้องใช้ BIOS ที่รองรับ ECC และฟีเจอร์ RAS ⛔ ชุดคำสั่ง AVX-512 อาจไม่ถูกใช้งานเต็มประสิทธิภาพในซอฟต์แวร์ทั่วไป ⛔ การใช้งานในระบบฝังตัวต้องพิจารณาเรื่องความร้อนและการระบายอากาศอย่างรอบคอบ ⛔ แม้จะรับประกันการผลิต 7 ปี แต่การสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์อาจขึ้นอยู่กับผู้ผลิตเมนบอร์ด ⛔ ราคาของรุ่นสูงสุดอาจใกล้เคียงกับ Xeon ระดับกลาง ทำให้ต้องเปรียบเทียบอย่างละเอียดก่อนเลือกใช้งาน https://www.techpowerup.com/341063/amd-introduces-epyc-embedded-4005-processors-for-low-latency-applications-at-the-edge
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Introduces EPYC Embedded 4005 Processors for Low-Latency Applications at the Edge
    AMD today announced the EPYC Embedded 4005 Series processors, purpose-built to address rising demand for real-time compute performance, optimized system costs and extended deployment lifecycles in network security appliances and entry-level industrial edge servers. Built on proven AMD server technol...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AMD เปิดตัว Ryzen 9700F, 9500F, 7400 และ 5600F — ซีพียูรุ่นประหยัดที่ซ่อนพลังไว้มากกว่าที่คิด”

    AMD เปิดตัวซีพียูใหม่ 4 รุ่นแบบเงียบ ๆ โดยไม่จัดงานแถลงข่าวหรือประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เพิ่มข้อมูลลงในเว็บไซต์ ได้แก่ Ryzen 7 9700F, Ryzen 5 9500F, Ryzen 5 7400 และ Ryzen 5 5600F ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่สถาปัตยกรรม Zen 5, Zen 4 ไปจนถึง Zen 3 โดยเน้นกลุ่มผู้ใช้ระดับเริ่มต้นและตลาดต่างประเทศ

    Ryzen 7 9700F และ Ryzen 5 9500F เป็นชิป Zen 5 แบบไม่มีกราฟิกในตัว (iGPU-less) โดย 9700F มี 8 คอร์ 16 เธรด, L3 cache 32MB, TDP 65W และบูสต์สูงสุด 5.5GHz ส่วน 9500F มี 6 คอร์ 12 เธรด และบูสต์สูงสุด 5.0GHz ทั้งคู่ใช้แพลตฟอร์ม AM5 และรองรับ PCIe Gen5 รวมถึง DDR5 สูงสุด 192GB

    Ryzen 5 7400 เป็น Zen 4 รุ่นใหม่ที่มี 6 คอร์ 12 เธรด แต่มี L3 cache เพียง 16MB ซึ่งผิดปกติสำหรับชิปที่ใช้โครงสร้าง chiplet แบบ Raphael โดยคาดว่า AMD ปิดการทำงานของ cache บางส่วนเพื่อใช้ชิปที่มีตำหนิจากการผลิต ลดการสูญเปล่าและต้นทุน

    Ryzen 5 5600F เป็น Zen 3 รุ่นสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในตลาด โดยมี 6 คอร์ 12 เธรด, L3 cache 32MB และบูสต์สูงสุด 4.0GHz แม้จะใช้ชื่อ F-series แต่จริง ๆ แล้ว Zen 3 ไม่มี iGPU อยู่แล้ว จึงเป็นการรีแบรนด์เพื่อขายในตลาดเอเชียโดยเฉพาะ

    ชิปเหล่านี้ส่วนใหญ่จะวางขายเฉพาะในภูมิภาค เช่น 9700F ในอเมริกาเหนือ, 5600F ในเอเชียแปซิฟิก และ 7400F เฉพาะในจีน โดยมีเพียง 9500F ที่มีวางจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งสะท้อนกลยุทธ์ของ AMD ที่เน้นการใช้ชิปที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในแต่ละตลาด

    ข้อมูลซีพียูใหม่จาก AMD
    Ryzen 7 9700F: Zen 5, 8 คอร์, 5.5GHz boost, ไม่มี iGPU
    Ryzen 5 9500F: Zen 5, 6 คอร์, 5.0GHz boost, ไม่มี iGPU
    Ryzen 5 7400: Zen 4, 6 คอร์, L3 cache 16MB, ลดต้นทุนจากชิปที่มีตำหนิ
    Ryzen 5 5600F: Zen 3, 6 คอร์, ไม่มี iGPU โดยธรรมชาติ

    จุดเด่นและกลยุทธ์
    ใช้แพลตฟอร์ม AM5 รองรับ PCIe Gen5 และ DDR5 สูงสุด 192GB
    เปิดตัวแบบเงียบ ๆ โดยเพิ่มข้อมูลลงในเว็บไซต์เท่านั้น
    F-series คือรุ่นไม่มีกราฟิกในตัว และบางรุ่นมีสเปกใกล้เคียงกับรุ่น X
    วางจำหน่ายแบบจำกัดภูมิภาคตามความเหมาะสมของตลาด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Ryzen 5 9500F คาดว่าราคาอยู่ที่ประมาณ $218 และ 9700F ที่ $294
    Zen 5 มีการปรับปรุงด้าน branch prediction, ALU และ cache hierarchy
    Ryzen 5 7400F มี L3 cache 32MB และบูสต์สูงกว่า 7400 ถึง 400MHz
    Intel ก็ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน โดยนำชิปเก่ากลับมารีแบรนด์ใน Ultra Series 1

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-launches-four-new-ryzen-cpus-including-cutdown-zen-4-and-zen-3-models-most-only-available-in-global-markets
    🧠 “AMD เปิดตัว Ryzen 9700F, 9500F, 7400 และ 5600F — ซีพียูรุ่นประหยัดที่ซ่อนพลังไว้มากกว่าที่คิด” AMD เปิดตัวซีพียูใหม่ 4 รุ่นแบบเงียบ ๆ โดยไม่จัดงานแถลงข่าวหรือประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เพิ่มข้อมูลลงในเว็บไซต์ ได้แก่ Ryzen 7 9700F, Ryzen 5 9500F, Ryzen 5 7400 และ Ryzen 5 5600F ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่สถาปัตยกรรม Zen 5, Zen 4 ไปจนถึง Zen 3 โดยเน้นกลุ่มผู้ใช้ระดับเริ่มต้นและตลาดต่างประเทศ Ryzen 7 9700F และ Ryzen 5 9500F เป็นชิป Zen 5 แบบไม่มีกราฟิกในตัว (iGPU-less) โดย 9700F มี 8 คอร์ 16 เธรด, L3 cache 32MB, TDP 65W และบูสต์สูงสุด 5.5GHz ส่วน 9500F มี 6 คอร์ 12 เธรด และบูสต์สูงสุด 5.0GHz ทั้งคู่ใช้แพลตฟอร์ม AM5 และรองรับ PCIe Gen5 รวมถึง DDR5 สูงสุด 192GB Ryzen 5 7400 เป็น Zen 4 รุ่นใหม่ที่มี 6 คอร์ 12 เธรด แต่มี L3 cache เพียง 16MB ซึ่งผิดปกติสำหรับชิปที่ใช้โครงสร้าง chiplet แบบ Raphael โดยคาดว่า AMD ปิดการทำงานของ cache บางส่วนเพื่อใช้ชิปที่มีตำหนิจากการผลิต ลดการสูญเปล่าและต้นทุน Ryzen 5 5600F เป็น Zen 3 รุ่นสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในตลาด โดยมี 6 คอร์ 12 เธรด, L3 cache 32MB และบูสต์สูงสุด 4.0GHz แม้จะใช้ชื่อ F-series แต่จริง ๆ แล้ว Zen 3 ไม่มี iGPU อยู่แล้ว จึงเป็นการรีแบรนด์เพื่อขายในตลาดเอเชียโดยเฉพาะ ชิปเหล่านี้ส่วนใหญ่จะวางขายเฉพาะในภูมิภาค เช่น 9700F ในอเมริกาเหนือ, 5600F ในเอเชียแปซิฟิก และ 7400F เฉพาะในจีน โดยมีเพียง 9500F ที่มีวางจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งสะท้อนกลยุทธ์ของ AMD ที่เน้นการใช้ชิปที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในแต่ละตลาด ✅ ข้อมูลซีพียูใหม่จาก AMD ➡️ Ryzen 7 9700F: Zen 5, 8 คอร์, 5.5GHz boost, ไม่มี iGPU ➡️ Ryzen 5 9500F: Zen 5, 6 คอร์, 5.0GHz boost, ไม่มี iGPU ➡️ Ryzen 5 7400: Zen 4, 6 คอร์, L3 cache 16MB, ลดต้นทุนจากชิปที่มีตำหนิ ➡️ Ryzen 5 5600F: Zen 3, 6 คอร์, ไม่มี iGPU โดยธรรมชาติ ✅ จุดเด่นและกลยุทธ์ ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม AM5 รองรับ PCIe Gen5 และ DDR5 สูงสุด 192GB ➡️ เปิดตัวแบบเงียบ ๆ โดยเพิ่มข้อมูลลงในเว็บไซต์เท่านั้น ➡️ F-series คือรุ่นไม่มีกราฟิกในตัว และบางรุ่นมีสเปกใกล้เคียงกับรุ่น X ➡️ วางจำหน่ายแบบจำกัดภูมิภาคตามความเหมาะสมของตลาด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Ryzen 5 9500F คาดว่าราคาอยู่ที่ประมาณ $218 และ 9700F ที่ $294 ➡️ Zen 5 มีการปรับปรุงด้าน branch prediction, ALU และ cache hierarchy ➡️ Ryzen 5 7400F มี L3 cache 32MB และบูสต์สูงกว่า 7400 ถึง 400MHz ➡️ Intel ก็ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน โดยนำชิปเก่ากลับมารีแบรนด์ใน Ultra Series 1 https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-launches-four-new-ryzen-cpus-including-cutdown-zen-4-and-zen-3-models-most-only-available-in-global-markets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Corsair WS3000: พาวเวอร์ซัพพลาย 3,000W ที่เล็กแต่โหด — พร้อมรองรับ 4 การ์ดจอระดับเทพในเครื่องเดียว”

    Corsair เปิดตัว WS3000 พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นใหม่ที่มีกำลังไฟสูงถึง 3,000 วัตต์ ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่ทะลุขีดจำกัด 1,600W เดิม โดยออกแบบมาเพื่อรองรับระบบที่ใช้การ์ดจอหลายใบ เช่น เวิร์กสเตชันสำหรับงาน AI, เรนเดอร์ 3D หรือ CAD ที่ต้องการพลังงานมหาศาลและการจ่ายไฟที่เสถียร

    WS3000 เป็นพาวเวอร์ซัพพลายแบบ ATX 3.1 ที่มีขนาดเพียง 6.9 x 5.9 x 3.4 นิ้ว ซึ่งถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับกำลังไฟที่ให้มา ทำให้สามารถติดตั้งในเคส ATX ทั่วไปได้โดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม ตัวเครื่องเป็นแบบ fully modular ช่วยให้จัดการสายไฟได้ง่าย และมาพร้อมกับพัดลมขนาด 140 มม. แบบลูกปืนคู่เพื่อการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ แม้จะไม่มีโหมด Zero RPM เพื่อความเงียบ แต่ก็ออกแบบมาเพื่อเน้นความเสถียรมากกว่าความเงียบ

    จุดเด่นคือการรองรับสายไฟแบบ 12V-2x6 จำนวน 4 เส้น ซึ่งสามารถจ่ายไฟให้การ์ดจอที่ใช้หัวต่อ 12VHPWR ได้สูงสุดถึง 600W ต่อเส้น รวมถึงสาย PCIe 8-pin แบบคู่ 4 เส้น และสาย EPS 8-pin สำหรับเมนบอร์ดระดับเวิร์กสเตชันอีก 2 เส้น

    WS3000 ใช้ระบบ single-rail ที่จ่ายไฟ +12V ได้สูงสุดถึง 250A และรองรับเฉพาะไฟบ้าน 220–240V เท่านั้น โดยใช้สายไฟแบบ C19 ที่ใหญ่และทนกระแสสูงกว่าสาย C13 ทั่วไป ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ต้องมีระบบไฟฟ้าในบ้านที่รองรับการใช้งานระดับนี้

    Corsair รับประกัน WS3000 นานถึง 10 ปี และตั้งราคาขายไว้ที่ $599.99 แต่มีบางร้านในสหรัฐฯ ขายต่ำกว่าราคานี้เล็กน้อย

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Corsair เปิดตัว WS3000 พาวเวอร์ซัพพลายขนาด 3,000W รุ่นแรกของแบรนด์
    เป็นแบบ ATX 3.1 ขนาดเล็กเพียง 6.9 นิ้ว ติดตั้งในเคสทั่วไปได้
    ใช้ระบบ single-rail จ่ายไฟ +12V ได้สูงสุด 250A
    รองรับไฟบ้าน 220–240V และใช้สาย C19 ที่ทนกระแสสูง

    จุดเด่นด้านการเชื่อมต่อ
    มีสาย 12V-2x6 จำนวน 4 เส้น รองรับการ์ดจอ 600W ได้ 4 ใบ
    มีสาย PCIe 8-pin แบบคู่ 4 เส้น รวมเป็น 8 หัวต่อ
    มีสาย EPS 8-pin สำหรับเมนบอร์ดเวิร์กสเตชัน 2 เส้น
    เป็นแบบ fully modular ช่วยให้จัดการสายไฟได้ง่าย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เหมาะสำหรับงาน AI, เรนเดอร์ 3D, CAD และระบบ multi-GPU
    ใช้พัดลม 140 มม. แบบลูกปืนคู่เพื่อการระบายความร้อนที่เสถียร
    ไม่มี Zero RPM mode และไม่รองรับ Corsair iCUE
    รับประกันนาน 10 ปี และมี MTBF สูงถึง 100,000 ชั่วโมง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/corsair-launches-gargantuan-3-000w-power-supply-for-usd599-99-comes-with-four-native-12v-2x6-600w-gpu-cables
    ⚡ “Corsair WS3000: พาวเวอร์ซัพพลาย 3,000W ที่เล็กแต่โหด — พร้อมรองรับ 4 การ์ดจอระดับเทพในเครื่องเดียว” Corsair เปิดตัว WS3000 พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นใหม่ที่มีกำลังไฟสูงถึง 3,000 วัตต์ ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่ทะลุขีดจำกัด 1,600W เดิม โดยออกแบบมาเพื่อรองรับระบบที่ใช้การ์ดจอหลายใบ เช่น เวิร์กสเตชันสำหรับงาน AI, เรนเดอร์ 3D หรือ CAD ที่ต้องการพลังงานมหาศาลและการจ่ายไฟที่เสถียร WS3000 เป็นพาวเวอร์ซัพพลายแบบ ATX 3.1 ที่มีขนาดเพียง 6.9 x 5.9 x 3.4 นิ้ว ซึ่งถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับกำลังไฟที่ให้มา ทำให้สามารถติดตั้งในเคส ATX ทั่วไปได้โดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม ตัวเครื่องเป็นแบบ fully modular ช่วยให้จัดการสายไฟได้ง่าย และมาพร้อมกับพัดลมขนาด 140 มม. แบบลูกปืนคู่เพื่อการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ แม้จะไม่มีโหมด Zero RPM เพื่อความเงียบ แต่ก็ออกแบบมาเพื่อเน้นความเสถียรมากกว่าความเงียบ จุดเด่นคือการรองรับสายไฟแบบ 12V-2x6 จำนวน 4 เส้น ซึ่งสามารถจ่ายไฟให้การ์ดจอที่ใช้หัวต่อ 12VHPWR ได้สูงสุดถึง 600W ต่อเส้น รวมถึงสาย PCIe 8-pin แบบคู่ 4 เส้น และสาย EPS 8-pin สำหรับเมนบอร์ดระดับเวิร์กสเตชันอีก 2 เส้น WS3000 ใช้ระบบ single-rail ที่จ่ายไฟ +12V ได้สูงสุดถึง 250A และรองรับเฉพาะไฟบ้าน 220–240V เท่านั้น โดยใช้สายไฟแบบ C19 ที่ใหญ่และทนกระแสสูงกว่าสาย C13 ทั่วไป ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ต้องมีระบบไฟฟ้าในบ้านที่รองรับการใช้งานระดับนี้ Corsair รับประกัน WS3000 นานถึง 10 ปี และตั้งราคาขายไว้ที่ $599.99 แต่มีบางร้านในสหรัฐฯ ขายต่ำกว่าราคานี้เล็กน้อย ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Corsair เปิดตัว WS3000 พาวเวอร์ซัพพลายขนาด 3,000W รุ่นแรกของแบรนด์ ➡️ เป็นแบบ ATX 3.1 ขนาดเล็กเพียง 6.9 นิ้ว ติดตั้งในเคสทั่วไปได้ ➡️ ใช้ระบบ single-rail จ่ายไฟ +12V ได้สูงสุด 250A ➡️ รองรับไฟบ้าน 220–240V และใช้สาย C19 ที่ทนกระแสสูง ✅ จุดเด่นด้านการเชื่อมต่อ ➡️ มีสาย 12V-2x6 จำนวน 4 เส้น รองรับการ์ดจอ 600W ได้ 4 ใบ ➡️ มีสาย PCIe 8-pin แบบคู่ 4 เส้น รวมเป็น 8 หัวต่อ ➡️ มีสาย EPS 8-pin สำหรับเมนบอร์ดเวิร์กสเตชัน 2 เส้น ➡️ เป็นแบบ fully modular ช่วยให้จัดการสายไฟได้ง่าย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เหมาะสำหรับงาน AI, เรนเดอร์ 3D, CAD และระบบ multi-GPU ➡️ ใช้พัดลม 140 มม. แบบลูกปืนคู่เพื่อการระบายความร้อนที่เสถียร ➡️ ไม่มี Zero RPM mode และไม่รองรับ Corsair iCUE ➡️ รับประกันนาน 10 ปี และมี MTBF สูงถึง 100,000 ชั่วโมง https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/corsair-launches-gargantuan-3-000w-power-supply-for-usd599-99-comes-with-four-native-12v-2x6-600w-gpu-cables
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Intel Core Ultra 3 205: ซีพียูระดับเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา — แรงเกินคาด แซง Core i3 และ i5 รุ่นก่อนหน้า”

    Intel กำลังกลับมาอย่างน่าสนใจในตลาดซีพียูระดับเริ่มต้น ด้วยการเปิดตัว Core Ultra 3 205 ซึ่งเป็นรุ่นล่างสุดของตระกูล Arrow Lake สำหรับเดสก์ท็อป แม้ยังไม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่รีวิวจาก Bulls Lab ในเกาหลีใต้ได้เผยให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่น่าทึ่งเกินคาด

    Core Ultra 3 205 ใช้สถาปัตยกรรมแบบ hybrid มี 4 P-core ที่เร่งได้ถึง 4.9 GHz และ 4 E-core ที่เร่งได้ถึง 4.4 GHz เมื่อจับคู่กับเมนบอร์ด H810 และแรม DDR5 32GB พบว่าสามารถใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหล เปิดหลายแท็บเบราว์เซอร์พร้อมกัน และดูวิดีโอ YouTube 8K โดยใช้พลังงานต่ำ

    ผลการทดสอบ Cinebench R23 พบว่าได้คะแนน multi-core สูงถึง 13,394 ซึ่งมากกว่า Core i3-14100 ถึง 48% และคะแนน single-core ที่ 1,983 ก็ยังเหนือกว่า Core i5-14400 ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ iGPU ที่ติดมากับชิปยังใช้ Xe-core 2 ตัว ทำให้เล่นเกมเบา ๆ อย่าง DOTA และ Valorant ได้สบาย ๆ

    ราคาที่คาดการณ์อยู่ที่ประมาณ $140 หรือ 199,000 วอน ซึ่งถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประกอบเครื่องราคาประหยัด โดย Bulls Lab ยังพบว่ามีพีซีสำเร็จรูปที่ใช้ชิปนี้พร้อม RAM 8GB และ SSD 500GB วางขายในราคาเพียง $360

    แม้จะดูน่าสนใจ แต่ Intel ยังไม่เปิดตัวชิปนี้ในช่องทางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และอาจวางขายเฉพาะในตลาด OEM หรือพีซีสำเร็จรูปเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบเครื่อง DIY เข้าถึงได้ยาก

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Core Ultra 3 205 เป็นซีพียูระดับเริ่มต้นในตระกูล Arrow Lake
    ใช้ hybrid architecture: 4 P-core (สูงสุด 4.9 GHz) + 4 E-core (สูงสุด 4.4 GHz)
    ทดสอบกับเมนบอร์ด H810 และ RAM DDR5 32GB
    ใช้งานทั่วไปลื่นไหล ดู YouTube 8K ได้โดยใช้พลังงานต่ำ

    ผลการทดสอบประสิทธิภาพ
    Cinebench R23 multi-core: 13,394 คะแนน (สูงกว่า Core i3-14100 ถึง 48%)
    Single-core: 1,983 คะแนน (เหนือกว่า Core i5-14400)
    iGPU ใช้ Xe-core 2 ตัว เล่นเกมเบา ๆ ได้ดี
    ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Core Ultra 5 225 ในด้านกราฟิก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ใช้พลังงานสูงสุด 65W — แนะนำให้ใช้ฮีตซิงก์จากผู้ผลิตอื่นแทนของ Intel
    ราคา CPU ประมาณ $140 และพีซีสำเร็จรูปอยู่ที่ $360
    รองรับ DDR5 ความเร็วสูงถึง 6400 MHz และมี L2 cache ขนาด 16MB
    ผลิตบนกระบวนการ 3nm — เล็กกว่า Core i3-14100 ที่ใช้ 10nm

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-core-ultra-3-205-delivers-impressive-results-in-early-review-reportedly-surpasses-previous-gen-core-i3-14100-and-core-i5-14400
    ⚙️ “Intel Core Ultra 3 205: ซีพียูระดับเริ่มต้นที่ไม่ธรรมดา — แรงเกินคาด แซง Core i3 และ i5 รุ่นก่อนหน้า” Intel กำลังกลับมาอย่างน่าสนใจในตลาดซีพียูระดับเริ่มต้น ด้วยการเปิดตัว Core Ultra 3 205 ซึ่งเป็นรุ่นล่างสุดของตระกูล Arrow Lake สำหรับเดสก์ท็อป แม้ยังไม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่รีวิวจาก Bulls Lab ในเกาหลีใต้ได้เผยให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่น่าทึ่งเกินคาด Core Ultra 3 205 ใช้สถาปัตยกรรมแบบ hybrid มี 4 P-core ที่เร่งได้ถึง 4.9 GHz และ 4 E-core ที่เร่งได้ถึง 4.4 GHz เมื่อจับคู่กับเมนบอร์ด H810 และแรม DDR5 32GB พบว่าสามารถใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหล เปิดหลายแท็บเบราว์เซอร์พร้อมกัน และดูวิดีโอ YouTube 8K โดยใช้พลังงานต่ำ ผลการทดสอบ Cinebench R23 พบว่าได้คะแนน multi-core สูงถึง 13,394 ซึ่งมากกว่า Core i3-14100 ถึง 48% และคะแนน single-core ที่ 1,983 ก็ยังเหนือกว่า Core i5-14400 ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ iGPU ที่ติดมากับชิปยังใช้ Xe-core 2 ตัว ทำให้เล่นเกมเบา ๆ อย่าง DOTA และ Valorant ได้สบาย ๆ ราคาที่คาดการณ์อยู่ที่ประมาณ $140 หรือ 199,000 วอน ซึ่งถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประกอบเครื่องราคาประหยัด โดย Bulls Lab ยังพบว่ามีพีซีสำเร็จรูปที่ใช้ชิปนี้พร้อม RAM 8GB และ SSD 500GB วางขายในราคาเพียง $360 แม้จะดูน่าสนใจ แต่ Intel ยังไม่เปิดตัวชิปนี้ในช่องทางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และอาจวางขายเฉพาะในตลาด OEM หรือพีซีสำเร็จรูปเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบเครื่อง DIY เข้าถึงได้ยาก ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Core Ultra 3 205 เป็นซีพียูระดับเริ่มต้นในตระกูล Arrow Lake ➡️ ใช้ hybrid architecture: 4 P-core (สูงสุด 4.9 GHz) + 4 E-core (สูงสุด 4.4 GHz) ➡️ ทดสอบกับเมนบอร์ด H810 และ RAM DDR5 32GB ➡️ ใช้งานทั่วไปลื่นไหล ดู YouTube 8K ได้โดยใช้พลังงานต่ำ ✅ ผลการทดสอบประสิทธิภาพ ➡️ Cinebench R23 multi-core: 13,394 คะแนน (สูงกว่า Core i3-14100 ถึง 48%) ➡️ Single-core: 1,983 คะแนน (เหนือกว่า Core i5-14400) ➡️ iGPU ใช้ Xe-core 2 ตัว เล่นเกมเบา ๆ ได้ดี ➡️ ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Core Ultra 5 225 ในด้านกราฟิก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ใช้พลังงานสูงสุด 65W — แนะนำให้ใช้ฮีตซิงก์จากผู้ผลิตอื่นแทนของ Intel ➡️ ราคา CPU ประมาณ $140 และพีซีสำเร็จรูปอยู่ที่ $360 ➡️ รองรับ DDR5 ความเร็วสูงถึง 6400 MHz และมี L2 cache ขนาด 16MB ➡️ ผลิตบนกระบวนการ 3nm — เล็กกว่า Core i3-14100 ที่ใช้ 10nm https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-core-ultra-3-205-delivers-impressive-results-in-early-review-reportedly-surpasses-previous-gen-core-i3-14100-and-core-i5-14400
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Quantum Motion เปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมจากชิปซิลิคอน — จุดเปลี่ยนที่อาจทำให้ควอนตัมกลายเป็นเรื่อง ‘ธรรมดา’”

    Quantum Motion สตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักรที่แยกตัวจากมหาวิทยาลัย Oxford และ UCL ได้ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบ full-stack เครื่องแรกของโลกที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีชิปซิลิคอนมาตรฐานแบบเดียวกับที่ใช้ในโน้ตบุ๊กและสมาร์ตโฟน โดยระบบนี้ถูกติดตั้งแล้วที่ศูนย์ National Quantum Computing Centre (NQCC) ของสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2025

    สิ่งที่ทำให้ระบบนี้โดดเด่นคือการใช้กระบวนการผลิต CMOS ขนาด 300 มม. ซึ่งสามารถผลิตได้ในโรงงานชิปทั่วไป และติดตั้งในตู้เซิร์ฟเวอร์ขนาดมาตรฐาน 19 นิ้วเพียง 3 ตู้เท่านั้น — รวมถึงระบบ cryogenics และอุปกรณ์ควบคุมทั้งหมด ถือเป็น “quantum computing’s silicon moment” ที่อาจเปลี่ยนเกมการผลิตฮาร์ดแวร์ควอนตัมให้สามารถขยายได้ในระดับอุตสาหกรรม

    ระบบนี้ใช้สถาปัตยกรรมแบบ tileable ที่สามารถขยายจำนวน qubit ได้ในอนาคต และรองรับเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Qiskit และ Cirq ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปควอนตัมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือใหม่ทั้งหมด

    แม้จะเป็นก้าวใหญ่ด้านวิศวกรรม แต่ Quantum Motion ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น จำนวน qubit, ความแม่นยำของ gate, เวลาคงอยู่ของ qubit หรือ benchmark ใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้ยังไม่สามารถประเมินประสิทธิภาพจริงได้ในตอนนี้ และต้องรอการทดสอบจาก NQCC ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Quantum Motion เปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบ full-stack จากชิปซิลิคอนมาตรฐาน
    ใช้กระบวนการผลิต CMOS ขนาด 300 มม. ที่สามารถผลิตในโรงงานทั่วไป
    ติดตั้งในศูนย์ NQCC ของสหราชอาณาจักรเมื่อ 15 กันยายน 2025
    ระบบทั้งหมดอยู่ในตู้เซิร์ฟเวอร์ขนาด 19 นิ้วเพียง 3 ตู้ รวมถึงตู้เย็นควอนตัมและอุปกรณ์ควบคุม

    จุดเด่นด้านเทคโนโลยี
    ใช้สถาปัตยกรรม tileable ที่สามารถขยายจำนวน qubit ได้ในอนาคต
    รองรับเฟรมเวิร์กยอดนิยม เช่น Qiskit และ Cirq
    ออกแบบให้สามารถติดตั้งในศูนย์ข้อมูลทั่วไปโดยไม่ต้องปรับโครงสร้าง
    เป็นระบบแรกที่ใช้ชิปซิลิคอนแบบ mass manufacturable สำหรับควอนตัม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Quantum Motion ก่อตั้งในปี 2017 โดยนักวิจัยจาก Oxford และ UCL
    ได้รับเงินทุนกว่า $50.8 ล้านในปี 2023 และเข้าร่วมโครงการ DARPA QBI ในปี 2025
    การใช้ชิปซิลิคอนช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการผลิตจำนวนมาก
    หากสำเร็จ อาจนำไปสู่การใช้งานควอนตัมในด้านพลังงาน ยา และการเงินอย่างแพร่หลาย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/uk-start-up-quantum-computer-runs-on-standard-chips
    🧊 “Quantum Motion เปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมจากชิปซิลิคอน — จุดเปลี่ยนที่อาจทำให้ควอนตัมกลายเป็นเรื่อง ‘ธรรมดา’” Quantum Motion สตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักรที่แยกตัวจากมหาวิทยาลัย Oxford และ UCL ได้ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบ full-stack เครื่องแรกของโลกที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีชิปซิลิคอนมาตรฐานแบบเดียวกับที่ใช้ในโน้ตบุ๊กและสมาร์ตโฟน โดยระบบนี้ถูกติดตั้งแล้วที่ศูนย์ National Quantum Computing Centre (NQCC) ของสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2025 สิ่งที่ทำให้ระบบนี้โดดเด่นคือการใช้กระบวนการผลิต CMOS ขนาด 300 มม. ซึ่งสามารถผลิตได้ในโรงงานชิปทั่วไป และติดตั้งในตู้เซิร์ฟเวอร์ขนาดมาตรฐาน 19 นิ้วเพียง 3 ตู้เท่านั้น — รวมถึงระบบ cryogenics และอุปกรณ์ควบคุมทั้งหมด ถือเป็น “quantum computing’s silicon moment” ที่อาจเปลี่ยนเกมการผลิตฮาร์ดแวร์ควอนตัมให้สามารถขยายได้ในระดับอุตสาหกรรม ระบบนี้ใช้สถาปัตยกรรมแบบ tileable ที่สามารถขยายจำนวน qubit ได้ในอนาคต และรองรับเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Qiskit และ Cirq ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปควอนตัมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือใหม่ทั้งหมด แม้จะเป็นก้าวใหญ่ด้านวิศวกรรม แต่ Quantum Motion ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น จำนวน qubit, ความแม่นยำของ gate, เวลาคงอยู่ของ qubit หรือ benchmark ใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้ยังไม่สามารถประเมินประสิทธิภาพจริงได้ในตอนนี้ และต้องรอการทดสอบจาก NQCC ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Quantum Motion เปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบ full-stack จากชิปซิลิคอนมาตรฐาน ➡️ ใช้กระบวนการผลิต CMOS ขนาด 300 มม. ที่สามารถผลิตในโรงงานทั่วไป ➡️ ติดตั้งในศูนย์ NQCC ของสหราชอาณาจักรเมื่อ 15 กันยายน 2025 ➡️ ระบบทั้งหมดอยู่ในตู้เซิร์ฟเวอร์ขนาด 19 นิ้วเพียง 3 ตู้ รวมถึงตู้เย็นควอนตัมและอุปกรณ์ควบคุม ✅ จุดเด่นด้านเทคโนโลยี ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม tileable ที่สามารถขยายจำนวน qubit ได้ในอนาคต ➡️ รองรับเฟรมเวิร์กยอดนิยม เช่น Qiskit และ Cirq ➡️ ออกแบบให้สามารถติดตั้งในศูนย์ข้อมูลทั่วไปโดยไม่ต้องปรับโครงสร้าง ➡️ เป็นระบบแรกที่ใช้ชิปซิลิคอนแบบ mass manufacturable สำหรับควอนตัม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Quantum Motion ก่อตั้งในปี 2017 โดยนักวิจัยจาก Oxford และ UCL ➡️ ได้รับเงินทุนกว่า $50.8 ล้านในปี 2023 และเข้าร่วมโครงการ DARPA QBI ในปี 2025 ➡️ การใช้ชิปซิลิคอนช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการผลิตจำนวนมาก ➡️ หากสำเร็จ อาจนำไปสู่การใช้งานควอนตัมในด้านพลังงาน ยา และการเงินอย่างแพร่หลาย https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/uk-start-up-quantum-computer-runs-on-standard-chips
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Start-up hails world's first quantum computer made from everyday silicon — fits in three 19-inch server racks and is touted as 'quantum computing's silicon moment'
    Built on a standard CMOS process and packed into three racks, Quantum Motion’s silicon spin-qubit machine is ready to be tested.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Loongson 9A1000: ก้าวแรกของ GPU จีนสู่ความเป็นอิสระ — ประสิทธิภาพระดับ RX 550 พร้อมพลัง AI 40 TOPS”

    หลังจากพัฒนาอย่างเงียบ ๆ มาตั้งแต่ปี 2023 บริษัท Loongson Technology ได้ประกาศความคืบหน้าครั้งสำคัญในเดือนกันยายน 2025 กับ GPU รุ่นแรกของบริษัทชื่อว่า “Loongson 9A1000” ซึ่งเตรียมเข้าสู่กระบวนการ tapeout หรือการส่งแบบไปผลิตจริงในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Loongson ในตลาดกราฟิกการ์ด หลังจากที่เคยเน้นเฉพาะด้านซีพียูมาก่อน

    9A1000 ถูกวางตำแหน่งเป็นกราฟิกการ์ดระดับเริ่มต้น โดยมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ AMD Radeon RX 550 ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการรองรับการเร่งความเร็วด้าน AI ด้วยพลังประมวลผลสูงถึง 40 TOPS ซึ่งใกล้เคียงกับ NPU รุ่นใหม่ของ AMD อย่าง XDNA 2 ที่ให้ได้ถึง 50 TOPS

    Loongson ยังเผยว่าได้ปรับปรุงสถาปัตยกรรมภายในหลายจุด เช่น ลดพื้นที่ของ stream processor ลง 20% เพิ่มความถี่การทำงานขึ้น 25% และลดการใช้พลังงานในโหลดต่ำลงถึง 70% GPU นี้รองรับ API อย่าง OpenGL 4.0 และ OpenCL ES 3.2 และมีประสิทธิภาพสูงกว่ากราฟิกในตัว LG200 ที่อยู่ในซีพียู 2K3000 ถึง 4 เท่า

    แม้จะยังไม่มีข้อมูลสเปกเต็ม แต่ Loongson ก็ประกาศแผนต่อยอดด้วยรุ่น 9A2000 ที่จะเร็วกว่า 9A1000 ถึง 10 เท่า และมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ NVIDIA RTX 2080 รวมถึงรุ่น 9A3000 ที่อยู่ในแผนพัฒนาแล้วเช่นกัน

    การเปิดตัวนี้สะท้อนความพยายามของจีนในการสร้าง ecosystem ด้าน GPU ที่พึ่งพาตนเองได้ โดยมีบริษัทอื่น ๆ เช่น Moore Threads, Biren และ Lisuan ร่วมแข่งขันในตลาด แม้หลายสตาร์ทอัพจะล้มเหลวไปก่อนหน้านี้ แต่ Loongson ยังคงเดินหน้าด้วยความมั่นคงและเป้าหมายระยะยาว

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Loongson 9A1000 เป็น GPU รุ่นแรกของบริษัท เตรียมเข้าสู่ขั้นตอน tapeout ใน Q3 ปี 2025
    พัฒนาเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2023 และวางตำแหน่งเป็นกราฟิกการ์ดระดับเริ่มต้น
    ประสิทธิภาพใกล้เคียง AMD RX 550 พร้อมรองรับ AI acceleration
    ให้พลังประมวลผล AI สูงถึง 40 TOPS ใกล้เคียงกับ AMD XDNA 2 NPU

    จุดเด่นด้านสถาปัตยกรรม
    ลดพื้นที่ stream processor ลง 20% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    เพิ่มความถี่การทำงานขึ้น 25% และลดการใช้พลังงานในโหลดต่ำลง 70%
    รองรับ OpenGL 4.0 และ OpenCL ES 3.2
    เร็วกว่กราฟิกในตัว LG200 ถึง 4 เท่า

    แผนพัฒนารุ่นต่อไป
    Loongson 9A2000 จะเร็วกว่า 9A1000 ถึง 10 เท่า และใกล้เคียง RTX 2080
    Loongson 9A3000 อยู่ในแผนพัฒนา แต่ยังไม่มีข้อมูลสเปก
    Loongson เข้าร่วมแข่งขันในตลาด GPU จีนร่วมกับ Moore Threads, Biren และ Lisuan

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    RX 550 เป็นกราฟิกการ์ดระดับเริ่มต้นที่เปิดตัวในปี 2017
    40 TOPS ถือว่าเพียงพอสำหรับงาน AI inference ระดับเบื้องต้น เช่น การรู้จำภาพหรือเสียง
    การลดพลังงานในโหลดต่ำช่วยให้เหมาะกับงาน edge computing และ embedded systems
    การเข้าสู่ตลาด GPU ถือเป็นการขยายขอบเขตธุรกิจของ Loongson จากเดิมที่เน้นซีพียู

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/chinas-entry-level-gpu-with-amd-rx-550-level-of-performance-is-ready-for-tapeout-loongson-9a1000-is-finally-off-the-drawing-board-and-headed-to-fabs
    🎮 “Loongson 9A1000: ก้าวแรกของ GPU จีนสู่ความเป็นอิสระ — ประสิทธิภาพระดับ RX 550 พร้อมพลัง AI 40 TOPS” หลังจากพัฒนาอย่างเงียบ ๆ มาตั้งแต่ปี 2023 บริษัท Loongson Technology ได้ประกาศความคืบหน้าครั้งสำคัญในเดือนกันยายน 2025 กับ GPU รุ่นแรกของบริษัทชื่อว่า “Loongson 9A1000” ซึ่งเตรียมเข้าสู่กระบวนการ tapeout หรือการส่งแบบไปผลิตจริงในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Loongson ในตลาดกราฟิกการ์ด หลังจากที่เคยเน้นเฉพาะด้านซีพียูมาก่อน 9A1000 ถูกวางตำแหน่งเป็นกราฟิกการ์ดระดับเริ่มต้น โดยมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ AMD Radeon RX 550 ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการรองรับการเร่งความเร็วด้าน AI ด้วยพลังประมวลผลสูงถึง 40 TOPS ซึ่งใกล้เคียงกับ NPU รุ่นใหม่ของ AMD อย่าง XDNA 2 ที่ให้ได้ถึง 50 TOPS Loongson ยังเผยว่าได้ปรับปรุงสถาปัตยกรรมภายในหลายจุด เช่น ลดพื้นที่ของ stream processor ลง 20% เพิ่มความถี่การทำงานขึ้น 25% และลดการใช้พลังงานในโหลดต่ำลงถึง 70% GPU นี้รองรับ API อย่าง OpenGL 4.0 และ OpenCL ES 3.2 และมีประสิทธิภาพสูงกว่ากราฟิกในตัว LG200 ที่อยู่ในซีพียู 2K3000 ถึง 4 เท่า แม้จะยังไม่มีข้อมูลสเปกเต็ม แต่ Loongson ก็ประกาศแผนต่อยอดด้วยรุ่น 9A2000 ที่จะเร็วกว่า 9A1000 ถึง 10 เท่า และมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ NVIDIA RTX 2080 รวมถึงรุ่น 9A3000 ที่อยู่ในแผนพัฒนาแล้วเช่นกัน การเปิดตัวนี้สะท้อนความพยายามของจีนในการสร้าง ecosystem ด้าน GPU ที่พึ่งพาตนเองได้ โดยมีบริษัทอื่น ๆ เช่น Moore Threads, Biren และ Lisuan ร่วมแข่งขันในตลาด แม้หลายสตาร์ทอัพจะล้มเหลวไปก่อนหน้านี้ แต่ Loongson ยังคงเดินหน้าด้วยความมั่นคงและเป้าหมายระยะยาว ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Loongson 9A1000 เป็น GPU รุ่นแรกของบริษัท เตรียมเข้าสู่ขั้นตอน tapeout ใน Q3 ปี 2025 ➡️ พัฒนาเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2023 และวางตำแหน่งเป็นกราฟิกการ์ดระดับเริ่มต้น ➡️ ประสิทธิภาพใกล้เคียง AMD RX 550 พร้อมรองรับ AI acceleration ➡️ ให้พลังประมวลผล AI สูงถึง 40 TOPS ใกล้เคียงกับ AMD XDNA 2 NPU ✅ จุดเด่นด้านสถาปัตยกรรม ➡️ ลดพื้นที่ stream processor ลง 20% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ เพิ่มความถี่การทำงานขึ้น 25% และลดการใช้พลังงานในโหลดต่ำลง 70% ➡️ รองรับ OpenGL 4.0 และ OpenCL ES 3.2 ➡️ เร็วกว่กราฟิกในตัว LG200 ถึง 4 เท่า ✅ แผนพัฒนารุ่นต่อไป ➡️ Loongson 9A2000 จะเร็วกว่า 9A1000 ถึง 10 เท่า และใกล้เคียง RTX 2080 ➡️ Loongson 9A3000 อยู่ในแผนพัฒนา แต่ยังไม่มีข้อมูลสเปก ➡️ Loongson เข้าร่วมแข่งขันในตลาด GPU จีนร่วมกับ Moore Threads, Biren และ Lisuan ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ RX 550 เป็นกราฟิกการ์ดระดับเริ่มต้นที่เปิดตัวในปี 2017 ➡️ 40 TOPS ถือว่าเพียงพอสำหรับงาน AI inference ระดับเบื้องต้น เช่น การรู้จำภาพหรือเสียง ➡️ การลดพลังงานในโหลดต่ำช่วยให้เหมาะกับงาน edge computing และ embedded systems ➡️ การเข้าสู่ตลาด GPU ถือเป็นการขยายขอบเขตธุรกิจของ Loongson จากเดิมที่เน้นซีพียู https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/chinas-entry-level-gpu-with-amd-rx-550-level-of-performance-is-ready-for-tapeout-loongson-9a1000-is-finally-off-the-drawing-board-and-headed-to-fabs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Seraphic ผนึกกำลัง CrowdStrike — ปฏิวัติความปลอดภัยเบราว์เซอร์องค์กรด้วย AI และ SIEM รุ่นใหม่”

    ในงาน Fal.Con 2025 ที่ลาสเวกัส Seraphic ได้ประกาศเปิดตัวการผนวกระบบ Secure Enterprise Browser (SEB) เข้ากับ CrowdStrike Falcon Next-Gen SIEM อย่างเป็นทางการ พร้อมวางจำหน่ายผ่าน CrowdStrike Marketplace แล้ววันนี้ การรวมพลังครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยของเบราว์เซอร์ในองค์กร ซึ่งเป็นจุดที่มักถูกมองข้าม แต่กลับกลายเป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีไซเบอร์ยุคใหม่

    Seraphic ใช้เทคโนโลยีเบราว์เซอร์เนทีฟที่สามารถเปลี่ยนเบราว์เซอร์ทั่วไปให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ปลอดภัย โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของผู้ใช้ รองรับทั้งอุปกรณ์ที่องค์กรจัดการและอุปกรณ์ส่วนตัว รวมถึงแอป SaaS ยอดนิยมอย่าง Teams, Slack, Discord และ WhatsApp

    การผนวกกับ Falcon Next-Gen SIEM ทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูล telemetry จากเบราว์เซอร์เข้ากับข้อมูลภัยคุกคามของ CrowdStrike ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ส่วนขยายอันตราย การคลิกฟิชชิ่ง หรือการรั่วไหลของข้อมูล ได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

    ในยุคที่ AI ถูกใช้ในการโจมตีไซเบอร์อย่างแพร่หลาย ระบบ SIEM แบบเก่าไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา เพราะช้า เสียงรบกวนเยอะ และมีต้นทุนสูง การรวม Seraphic เข้ากับ Falcon จึงเป็นการเติมเต็มช่องว่างนี้ และช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    จุดเด่นจากข่าวการเปิดตัว
    Seraphic SEB พร้อมใช้งานผ่าน CrowdStrike Marketplace แล้ว
    ผนวกกับ Falcon Next-Gen SIEM เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลภัยคุกคามแบบเรียลไทม์
    รองรับทุกเบราว์เซอร์และแอป SaaS บนทั้งอุปกรณ์องค์กรและส่วนตัว
    เพิ่มการตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ส่วนขยายอันตรายและการรั่วไหลของข้อมูล

    ความเห็นจากผู้บริหาร
    VP ของ Seraphic ระบุว่าเบราว์เซอร์คือจุดทำงานหลักและเป้าหมายใหม่ของการโจมตี
    CISO จาก New American Funding ยืนยันว่า Seraphic ให้การควบคุมที่ต่อเนื่องโดยไม่ลดประสิทธิภาพ
    CrowdStrike ชี้ว่าเบราว์เซอร์เป็นพื้นที่โจมตีที่ถูกละเลย และ Seraphic ช่วยปิดช่องโหว่ได้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Seraphic ได้รับรางวัล Frost & Sullivan ด้าน Zero Trust Technology
    รองรับการทำงานแบบ Zero Trust โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
    ใช้ AI และ telemetry เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้แบบละเอียด
    CrowdStrike Marketplace เป็นแพลตฟอร์มรวมโซลูชันความปลอดภัยระดับโลก

    https://hackread.com/seraphic-browser-native-protection-now-available-for-purchase-on-the-crowdstrike-marketplace/
    🛡️ “Seraphic ผนึกกำลัง CrowdStrike — ปฏิวัติความปลอดภัยเบราว์เซอร์องค์กรด้วย AI และ SIEM รุ่นใหม่” ในงาน Fal.Con 2025 ที่ลาสเวกัส Seraphic ได้ประกาศเปิดตัวการผนวกระบบ Secure Enterprise Browser (SEB) เข้ากับ CrowdStrike Falcon Next-Gen SIEM อย่างเป็นทางการ พร้อมวางจำหน่ายผ่าน CrowdStrike Marketplace แล้ววันนี้ การรวมพลังครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยของเบราว์เซอร์ในองค์กร ซึ่งเป็นจุดที่มักถูกมองข้าม แต่กลับกลายเป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีไซเบอร์ยุคใหม่ Seraphic ใช้เทคโนโลยีเบราว์เซอร์เนทีฟที่สามารถเปลี่ยนเบราว์เซอร์ทั่วไปให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ปลอดภัย โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของผู้ใช้ รองรับทั้งอุปกรณ์ที่องค์กรจัดการและอุปกรณ์ส่วนตัว รวมถึงแอป SaaS ยอดนิยมอย่าง Teams, Slack, Discord และ WhatsApp การผนวกกับ Falcon Next-Gen SIEM ทำให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูล telemetry จากเบราว์เซอร์เข้ากับข้อมูลภัยคุกคามของ CrowdStrike ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ส่วนขยายอันตราย การคลิกฟิชชิ่ง หรือการรั่วไหลของข้อมูล ได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ในยุคที่ AI ถูกใช้ในการโจมตีไซเบอร์อย่างแพร่หลาย ระบบ SIEM แบบเก่าไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา เพราะช้า เสียงรบกวนเยอะ และมีต้นทุนสูง การรวม Seraphic เข้ากับ Falcon จึงเป็นการเติมเต็มช่องว่างนี้ และช่วยให้องค์กรสามารถรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ จุดเด่นจากข่าวการเปิดตัว ➡️ Seraphic SEB พร้อมใช้งานผ่าน CrowdStrike Marketplace แล้ว ➡️ ผนวกกับ Falcon Next-Gen SIEM เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ ➡️ รองรับทุกเบราว์เซอร์และแอป SaaS บนทั้งอุปกรณ์องค์กรและส่วนตัว ➡️ เพิ่มการตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ส่วนขยายอันตรายและการรั่วไหลของข้อมูล ✅ ความเห็นจากผู้บริหาร ➡️ VP ของ Seraphic ระบุว่าเบราว์เซอร์คือจุดทำงานหลักและเป้าหมายใหม่ของการโจมตี ➡️ CISO จาก New American Funding ยืนยันว่า Seraphic ให้การควบคุมที่ต่อเนื่องโดยไม่ลดประสิทธิภาพ ➡️ CrowdStrike ชี้ว่าเบราว์เซอร์เป็นพื้นที่โจมตีที่ถูกละเลย และ Seraphic ช่วยปิดช่องโหว่ได้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Seraphic ได้รับรางวัล Frost & Sullivan ด้าน Zero Trust Technology ➡️ รองรับการทำงานแบบ Zero Trust โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม ➡️ ใช้ AI และ telemetry เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้แบบละเอียด ➡️ CrowdStrike Marketplace เป็นแพลตฟอร์มรวมโซลูชันความปลอดภัยระดับโลก https://hackread.com/seraphic-browser-native-protection-now-available-for-purchase-on-the-crowdstrike-marketplace/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • “xTool P3 เปิดตัวเลเซอร์ CO₂ อัจฉริยะ 80W — ปลดล็อกการผลิตอัตโนมัติสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและนักสร้างสรรค์”

    xTool ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องตัดและแกะสลักด้วยเลเซอร์ ได้เปิดตัวเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด “xTool P3” ซึ่งเป็นเครื่องเลเซอร์ CO₂ ขนาด 80W ที่มาพร้อมระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบและขุมพลัง AI เพื่อยกระดับการผลิตให้กับธุรกิจขนาดเล็ก (SMBs) และนักสร้างสรรค์ทั่วโลก

    P3 ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้เจอมานาน เช่น การตั้งค่าที่ยุ่งยาก ความเร็วในการตัดต่ำ การรองรับวัสดุจำกัด และระบบระบายความร้อนที่ไม่เสถียร โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ล้ำสมัย เช่น:

    - ระบบ Automated Creation System™ ที่ใช้กล้องคู่ความละเอียดสูงและ LiDAR เพื่อจัดตำแหน่งอัตโนมัติแบบแม่นยำระดับ 0.0079 นิ้ว
    - ระบบ AutoLift Base ที่ปรับความสูงและโฟกัสโดยอัตโนมัติ
    - AI chip และเซ็นเซอร์กว่า 25 ตัวที่ช่วยจัดการ workflow แบบ end-to-end
    - ความสามารถในการตัดวัสดุหนาถึง 26 มม. ด้วยความเร็วสูงสุด 1200 มม./วินาที

    นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น RA3 Smart Rotary สำหรับงานทรงกระบอก และ Intelligent Conveyor Feeder สำหรับงานขนาดใหญ่แบบต่อเนื่อง พร้อมระบบความปลอดภัยระดับสูง เช่น Active Fire Detection และ SafetyPro Air Purifier

    xTool P3 วางจำหน่ายแล้วในราคาเปิดตัว $6,399 พร้อมส่วนลดพิเศษฉลองครบรอบ 5 ปีของแบรนด์ ซึ่งลดสูงสุดถึง $1,985

    จุดเด่นของ xTool P3
    เลเซอร์ CO₂ ขนาด 80W พร้อมเลเซอร์อินฟราเรด 5W สำหรับวัสดุโลหะ
    ระบบ ACS™ ใช้กล้องคู่และ LiDAR เพื่อจัดตำแหน่งอัตโนมัติแม่นยำ
    AutoLift Base ปรับความสูงและโฟกัสโดยไม่ต้องตั้งค่าด้วยมือ
    รองรับวัสดุหนาถึง 26 มม. และพื้นที่ทำงานขนาด 24x59 นิ้ว

    ฟีเจอร์อัจฉริยะและอุปกรณ์เสริม
    AI chip และเซ็นเซอร์กว่า 25 ตัวช่วยจัดการ workflow แบบอัตโนมัติ
    RA3 Smart Rotary ใช้ LiDAR 360° สร้างโมเดล 3D สำหรับงานทรงกระบอก
    Intelligent Conveyor Feeder ช่วยสร้างงานขนาดใหญ่แบบต่อเนื่อง
    ระบบความปลอดภัย: Active Fire Detection, SafetyPro Air Purifier, Water Chiller

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    xTool P3 เป็นเครื่องแรกที่ใช้ระบบ “load & leave” — ผู้ใช้ไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อน
    ระบบ Auto-Nesting และ Batch Fill ช่วยลดการสูญเสียวัสดุ
    เหมาะสำหรับงานไม้, อะคริลิก, เครื่องประดับ, ของตกแต่งบ้าน และงานโลหะบาง
    มีส่วนลดพิเศษฉลองครบรอบ 5 ปี ลดสูงสุดถึง $1,985

    https://www.slashgear.com/sponsored/1970184/xtool-p3-co2-laser-automation-small-businesses-makers/
    🔧 “xTool P3 เปิดตัวเลเซอร์ CO₂ อัจฉริยะ 80W — ปลดล็อกการผลิตอัตโนมัติสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและนักสร้างสรรค์” xTool ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องตัดและแกะสลักด้วยเลเซอร์ ได้เปิดตัวเครื่องรุ่นใหม่ล่าสุด “xTool P3” ซึ่งเป็นเครื่องเลเซอร์ CO₂ ขนาด 80W ที่มาพร้อมระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบและขุมพลัง AI เพื่อยกระดับการผลิตให้กับธุรกิจขนาดเล็ก (SMBs) และนักสร้างสรรค์ทั่วโลก P3 ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้เจอมานาน เช่น การตั้งค่าที่ยุ่งยาก ความเร็วในการตัดต่ำ การรองรับวัสดุจำกัด และระบบระบายความร้อนที่ไม่เสถียร โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ล้ำสมัย เช่น: - ระบบ Automated Creation System™ ที่ใช้กล้องคู่ความละเอียดสูงและ LiDAR เพื่อจัดตำแหน่งอัตโนมัติแบบแม่นยำระดับ 0.0079 นิ้ว - ระบบ AutoLift Base ที่ปรับความสูงและโฟกัสโดยอัตโนมัติ - AI chip และเซ็นเซอร์กว่า 25 ตัวที่ช่วยจัดการ workflow แบบ end-to-end - ความสามารถในการตัดวัสดุหนาถึง 26 มม. ด้วยความเร็วสูงสุด 1200 มม./วินาที นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น RA3 Smart Rotary สำหรับงานทรงกระบอก และ Intelligent Conveyor Feeder สำหรับงานขนาดใหญ่แบบต่อเนื่อง พร้อมระบบความปลอดภัยระดับสูง เช่น Active Fire Detection และ SafetyPro Air Purifier xTool P3 วางจำหน่ายแล้วในราคาเปิดตัว $6,399 พร้อมส่วนลดพิเศษฉลองครบรอบ 5 ปีของแบรนด์ ซึ่งลดสูงสุดถึง $1,985 ✅ จุดเด่นของ xTool P3 ➡️ เลเซอร์ CO₂ ขนาด 80W พร้อมเลเซอร์อินฟราเรด 5W สำหรับวัสดุโลหะ ➡️ ระบบ ACS™ ใช้กล้องคู่และ LiDAR เพื่อจัดตำแหน่งอัตโนมัติแม่นยำ ➡️ AutoLift Base ปรับความสูงและโฟกัสโดยไม่ต้องตั้งค่าด้วยมือ ➡️ รองรับวัสดุหนาถึง 26 มม. และพื้นที่ทำงานขนาด 24x59 นิ้ว ✅ ฟีเจอร์อัจฉริยะและอุปกรณ์เสริม ➡️ AI chip และเซ็นเซอร์กว่า 25 ตัวช่วยจัดการ workflow แบบอัตโนมัติ ➡️ RA3 Smart Rotary ใช้ LiDAR 360° สร้างโมเดล 3D สำหรับงานทรงกระบอก ➡️ Intelligent Conveyor Feeder ช่วยสร้างงานขนาดใหญ่แบบต่อเนื่อง ➡️ ระบบความปลอดภัย: Active Fire Detection, SafetyPro Air Purifier, Water Chiller ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ xTool P3 เป็นเครื่องแรกที่ใช้ระบบ “load & leave” — ผู้ใช้ไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อน ➡️ ระบบ Auto-Nesting และ Batch Fill ช่วยลดการสูญเสียวัสดุ ➡️ เหมาะสำหรับงานไม้, อะคริลิก, เครื่องประดับ, ของตกแต่งบ้าน และงานโลหะบาง ➡️ มีส่วนลดพิเศษฉลองครบรอบ 5 ปี ลดสูงสุดถึง $1,985 https://www.slashgear.com/sponsored/1970184/xtool-p3-co2-laser-automation-small-businesses-makers/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    xTool P3: Industrial-Grade 80W CO₂ Laser Brings Automation To SMBs And Makers - SlashGear
    Whether you're a small business owner or just a creative with a workshop, a laser machine can upgrade your setup. Find out what makes the xTool P3 so special.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • “5 รถต้นแบบสุดล้ำจาก Honda ที่ไม่เคยได้ผลิตจริง — เมื่อจินตนาการล้ำหน้าเกินกว่าความเป็นจริงจะตามทัน”

    Honda เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่ไม่เคยหยุดฝัน โดยเฉพาะในโลกของ “รถต้นแบบ” หรือ Concept Cars ที่มักถูกสร้างขึ้นเพื่อโชว์วิสัยทัศน์แห่งอนาคต แม้หลายรุ่นจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์จริง เช่น Honda Urban EV แต่ก็มีอีกหลายคันที่ยังคงอยู่แค่บนเวทีโชว์และในความทรงจำของแฟน ๆ เท่านั้น

    บทความนี้พาเราย้อนดู 5 รถต้นแบบจาก Honda ที่โดดเด่นทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และแนวคิด แต่ไม่เคยได้ผลิตจริง:

    1️⃣ Honda Spocket (1999) — รถลูกผสมระหว่างสปอร์ต, พิคอัพ และเปิดประทุน ที่สามารถเปลี่ยนจาก 4 ที่นั่งเป็น 2 ที่นั่งได้ มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบไฮบริด และกล้องแทนกระจกข้าง พร้อม HUD บนกระจกหน้า

    2️⃣ Honda Puyo (2007) — รถที่ออกแบบด้วยแนวคิด “ความนุ่มนวล” ตัวถังเรืองแสงทำจากวัสดุเจลนุ่มเพื่อความปลอดภัยและความเป็นมิตร ใช้พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และควบคุมด้วยจอยสติ๊กแทนพวงมาลัย

    3️⃣ Honda Kiwami (2003) — ซีดานพลังงานไฮโดรเจนที่ออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากสวนญี่ปุ่น ใช้โครงสร้างแบบ skateboard chassis เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายใน พร้อมระบบ ultracapacitor และเซลล์เชื้อเพลิง

    4️⃣ Honda Project 2&4 (2015) — รถแข่งขนาดเล็กที่ผสมผสาน DNA ของมอเตอร์ไซค์และรถ F1 ใช้เครื่องยนต์ V4 จาก RC213V ให้แรงม้ากว่า 212 ตัว แต่มีที่นั่งแบบ “ลอยตัว” ซึ่งอาจไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย

    5️⃣ Honda Fuya-Jo (1999) — รถสำหรับสายปาร์ตี้โดยเฉพาะ ออกแบบให้สามารถยืน เต้น และเล่นดนตรีได้ภายใน มีเบาะแบบเก้าอี้สูงและแดชบอร์ดที่เหมือนโต๊ะมิกซ์ของดีเจ

    แม้รถเหล่านี้จะไม่ถูกผลิตจริง แต่ก็สะท้อนถึงความกล้าคิด กล้าทดลอง และความตั้งใจของ Honda ที่จะผลักดันขอบเขตของการออกแบบและเทคโนโลยียานยนต์ให้ก้าวไปข้างหน้า

    รถต้นแบบมักไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ที่นั่งลอยตัวของ Project 2&4
    วัสดุเจลของ Puyo อาจไม่เหมาะกับการผลิตจริงและมีปัญหาเรื่องความทนทาน
    ระบบพลังงานไฮโดรเจนยังขาดโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเติมเชื้อเพลิง
    รถที่ออกแบบเพื่อความบันเทิง เช่น Fuya-Jo อาจไม่เหมาะกับการใช้งานจริงบนถนน
    ต้นทุนการผลิตและความต้องการตลาดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้รถเหล่านี้ไม่ถูกผลิต

    https://www.slashgear.com/1422341/futuristic-honda-concept-cars-never-made-production/
    🚗 “5 รถต้นแบบสุดล้ำจาก Honda ที่ไม่เคยได้ผลิตจริง — เมื่อจินตนาการล้ำหน้าเกินกว่าความเป็นจริงจะตามทัน” Honda เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่ไม่เคยหยุดฝัน โดยเฉพาะในโลกของ “รถต้นแบบ” หรือ Concept Cars ที่มักถูกสร้างขึ้นเพื่อโชว์วิสัยทัศน์แห่งอนาคต แม้หลายรุ่นจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์จริง เช่น Honda Urban EV แต่ก็มีอีกหลายคันที่ยังคงอยู่แค่บนเวทีโชว์และในความทรงจำของแฟน ๆ เท่านั้น บทความนี้พาเราย้อนดู 5 รถต้นแบบจาก Honda ที่โดดเด่นทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และแนวคิด แต่ไม่เคยได้ผลิตจริง: 1️⃣ Honda Spocket (1999) — รถลูกผสมระหว่างสปอร์ต, พิคอัพ และเปิดประทุน ที่สามารถเปลี่ยนจาก 4 ที่นั่งเป็น 2 ที่นั่งได้ มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบไฮบริด และกล้องแทนกระจกข้าง พร้อม HUD บนกระจกหน้า 2️⃣ Honda Puyo (2007) — รถที่ออกแบบด้วยแนวคิด “ความนุ่มนวล” ตัวถังเรืองแสงทำจากวัสดุเจลนุ่มเพื่อความปลอดภัยและความเป็นมิตร ใช้พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และควบคุมด้วยจอยสติ๊กแทนพวงมาลัย 3️⃣ Honda Kiwami (2003) — ซีดานพลังงานไฮโดรเจนที่ออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากสวนญี่ปุ่น ใช้โครงสร้างแบบ skateboard chassis เพื่อเพิ่มพื้นที่ภายใน พร้อมระบบ ultracapacitor และเซลล์เชื้อเพลิง 4️⃣ Honda Project 2&4 (2015) — รถแข่งขนาดเล็กที่ผสมผสาน DNA ของมอเตอร์ไซค์และรถ F1 ใช้เครื่องยนต์ V4 จาก RC213V ให้แรงม้ากว่า 212 ตัว แต่มีที่นั่งแบบ “ลอยตัว” ซึ่งอาจไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย 5️⃣ Honda Fuya-Jo (1999) — รถสำหรับสายปาร์ตี้โดยเฉพาะ ออกแบบให้สามารถยืน เต้น และเล่นดนตรีได้ภายใน มีเบาะแบบเก้าอี้สูงและแดชบอร์ดที่เหมือนโต๊ะมิกซ์ของดีเจ แม้รถเหล่านี้จะไม่ถูกผลิตจริง แต่ก็สะท้อนถึงความกล้าคิด กล้าทดลอง และความตั้งใจของ Honda ที่จะผลักดันขอบเขตของการออกแบบและเทคโนโลยียานยนต์ให้ก้าวไปข้างหน้า ⛔ รถต้นแบบมักไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ที่นั่งลอยตัวของ Project 2&4 ⛔ วัสดุเจลของ Puyo อาจไม่เหมาะกับการผลิตจริงและมีปัญหาเรื่องความทนทาน ⛔ ระบบพลังงานไฮโดรเจนยังขาดโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเติมเชื้อเพลิง ⛔ รถที่ออกแบบเพื่อความบันเทิง เช่น Fuya-Jo อาจไม่เหมาะกับการใช้งานจริงบนถนน ⛔ ต้นทุนการผลิตและความต้องการตลาดเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้รถเหล่านี้ไม่ถูกผลิต https://www.slashgear.com/1422341/futuristic-honda-concept-cars-never-made-production/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Futuristic Honda Concept Cars That Never Made Production - SlashGear
    While some Honda concept cars have made their way into production, others haven't gone beyond showcase floors. These five were the most futuristic.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • “50 สิ่งที่คุณทำได้ด้วย Software Defined Radio — เปิดโลกคลื่นวิทยุที่ซ่อนอยู่รอบตัวเรา”

    ในโลกที่เต็มไปด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เราอาจไม่รู้เลยว่ามีการสื่อสารเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งจากวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงดาวเทียมและอุปกรณ์ IoT ทั้งหมดนี้สามารถถูกตรวจจับได้ด้วยอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่เรียกว่า Software Defined Radio (SDR) ซึ่งเป็นวิทยุที่ใช้ซอฟต์แวร์ในการประมวลผลแทนฮาร์ดแวร์แบบดั้งเดิม

    ผู้เขียนบล็อกชื่อ “blinry” ได้ทดลองใช้ SDR แบบ USB dongle รุ่น RTL-SDR Blog V4 พร้อมเสาอากาศราคาประหยัด เพื่อค้นหาสิ่งที่สามารถรับฟังหรือวิเคราะห์ได้จากคลื่นวิทยุรอบตัวเขาในเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ภายในเวลา 1 สัปดาห์ เขาสามารถค้นพบถึง 50 สิ่งที่น่าทึ่ง ตั้งแต่การฟังวิทยุ FM ไปจนถึงการติดตามดาวเทียมและบอลลูนอุตุนิยมวิทยา

    สิ่งที่น่าประทับใจคือการใช้ SDR รับข้อมูลจากอุปกรณ์รอบตัว เช่น เซ็นเซอร์อุณหภูมิของเพื่อนบ้าน, การสื่อสารของรถบัส, การส่งภาพจากดาวเทียม NOAA, การฟังรหัสมอร์สจากประเทศอื่น ๆ และแม้แต่การตรวจจับสัญญาณ NFC จากสมาร์ตโฟนที่เปิดหน้าจอ

    นอกจากนี้ยังมีการทดลองสร้างเสาอากาศเองจากสายไฟธรรมดา และใช้ซอฟต์แวร์หลากหลาย เช่น SDR++, SDRangel, WSJT-X, fldigi และ QSSTV เพื่อถอดรหัสสัญญาณต่าง ๆ ทั้งเสียง ข้อความ และภาพ

    แม้จะมีข้อจำกัดทางกฎหมายในบางประเทศ เช่น เยอรมนี ที่ห้ามฟังการสื่อสารที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่โปรเจกต์นี้แสดงให้เห็นว่า SDR เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเรียนรู้โลกของคลื่นวิทยุ และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่โลกของวิทยุสมัครเล่นอย่างจริงจัง

    สิ่งที่ค้นพบจากการทดลอง SDR
    ฟังวิทยุ FM, AM, DAB และ CB radio ได้อย่างชัดเจน
    รับข้อมูลจากดาวเทียม NOAA และ Max Valier พร้อมภาพถ่ายจากอวกาศ
    ตรวจจับสัญญาณจากเซ็นเซอร์อุณหภูมิ, รถบัส, ยางรถยนต์ และอุปกรณ์ IoT
    ฟังรหัสมอร์สจากประเทศต่าง ๆ และรับข้อความดิจิทัลจากระบบ FT8, RTTY, SSTV
    ตรวจจับสัญญาณ NFC จากสมาร์ตโฟน และใช้หนังสือส่งรหัสมอร์สผ่านคลื่น NFC
    รับสัญญาณจากบอลลูนอุตุนิยมวิทยา และติดตามตำแหน่งการตกของบอลลูน
    รับสัญญาณจากระบบนำทางของเครื่องบิน (VOR) และระบบติดตามเรือ (AIS)
    ฟังสถานีลึกลับ เช่น “The Buzzer” และ “Number Stations” ที่อาจใช้ในงานจารกรรม

    อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่ใช้
    ใช้ SDR แบบ USB dongle รุ่น RTL-SDR Blog V4 ราคาประมาณ $30
    เสาอากาศ dipole และสายไฟยาว 21.6 เมตร สำหรับความถี่ต่ำ
    ซอฟต์แวร์ SDR++, SDRangel, WSJT-X, fldigi, QSSTV, noaa-apt และ rtl_433
    ใช้ Linux เป็นระบบปฏิบัติการหลักในการทดลอง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SDR เป็นเครื่องมือสำคัญในงานวิจัยด้านคลื่นวิทยุและการสื่อสารไร้สาย
    นักวิทยุสมัครเล่นใช้ SDR เพื่อเรียนรู้และทดลองการส่งสัญญาณ
    ในปี 2024 เยอรมนีเตรียมเปิดคลาสใบอนุญาตใหม่ “N class” สำหรับผู้เริ่มต้น
    SDR สามารถใช้ร่วมกับระบบคลาวด์และแผนที่ออนไลน์เพื่อรับสัญญาณจากทั่วโลก

    https://blinry.org/50-things-with-sdr/
    📡 “50 สิ่งที่คุณทำได้ด้วย Software Defined Radio — เปิดโลกคลื่นวิทยุที่ซ่อนอยู่รอบตัวเรา” ในโลกที่เต็มไปด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เราอาจไม่รู้เลยว่ามีการสื่อสารเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งจากวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงดาวเทียมและอุปกรณ์ IoT ทั้งหมดนี้สามารถถูกตรวจจับได้ด้วยอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่เรียกว่า Software Defined Radio (SDR) ซึ่งเป็นวิทยุที่ใช้ซอฟต์แวร์ในการประมวลผลแทนฮาร์ดแวร์แบบดั้งเดิม ผู้เขียนบล็อกชื่อ “blinry” ได้ทดลองใช้ SDR แบบ USB dongle รุ่น RTL-SDR Blog V4 พร้อมเสาอากาศราคาประหยัด เพื่อค้นหาสิ่งที่สามารถรับฟังหรือวิเคราะห์ได้จากคลื่นวิทยุรอบตัวเขาในเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ภายในเวลา 1 สัปดาห์ เขาสามารถค้นพบถึง 50 สิ่งที่น่าทึ่ง ตั้งแต่การฟังวิทยุ FM ไปจนถึงการติดตามดาวเทียมและบอลลูนอุตุนิยมวิทยา สิ่งที่น่าประทับใจคือการใช้ SDR รับข้อมูลจากอุปกรณ์รอบตัว เช่น เซ็นเซอร์อุณหภูมิของเพื่อนบ้าน, การสื่อสารของรถบัส, การส่งภาพจากดาวเทียม NOAA, การฟังรหัสมอร์สจากประเทศอื่น ๆ และแม้แต่การตรวจจับสัญญาณ NFC จากสมาร์ตโฟนที่เปิดหน้าจอ นอกจากนี้ยังมีการทดลองสร้างเสาอากาศเองจากสายไฟธรรมดา และใช้ซอฟต์แวร์หลากหลาย เช่น SDR++, SDRangel, WSJT-X, fldigi และ QSSTV เพื่อถอดรหัสสัญญาณต่าง ๆ ทั้งเสียง ข้อความ และภาพ แม้จะมีข้อจำกัดทางกฎหมายในบางประเทศ เช่น เยอรมนี ที่ห้ามฟังการสื่อสารที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่โปรเจกต์นี้แสดงให้เห็นว่า SDR เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเรียนรู้โลกของคลื่นวิทยุ และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่โลกของวิทยุสมัครเล่นอย่างจริงจัง ✅ สิ่งที่ค้นพบจากการทดลอง SDR ➡️ ฟังวิทยุ FM, AM, DAB และ CB radio ได้อย่างชัดเจน ➡️ รับข้อมูลจากดาวเทียม NOAA และ Max Valier พร้อมภาพถ่ายจากอวกาศ ➡️ ตรวจจับสัญญาณจากเซ็นเซอร์อุณหภูมิ, รถบัส, ยางรถยนต์ และอุปกรณ์ IoT ➡️ ฟังรหัสมอร์สจากประเทศต่าง ๆ และรับข้อความดิจิทัลจากระบบ FT8, RTTY, SSTV ➡️ ตรวจจับสัญญาณ NFC จากสมาร์ตโฟน และใช้หนังสือส่งรหัสมอร์สผ่านคลื่น NFC ➡️ รับสัญญาณจากบอลลูนอุตุนิยมวิทยา และติดตามตำแหน่งการตกของบอลลูน ➡️ รับสัญญาณจากระบบนำทางของเครื่องบิน (VOR) และระบบติดตามเรือ (AIS) ➡️ ฟังสถานีลึกลับ เช่น “The Buzzer” และ “Number Stations” ที่อาจใช้ในงานจารกรรม ✅ อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ ➡️ ใช้ SDR แบบ USB dongle รุ่น RTL-SDR Blog V4 ราคาประมาณ $30 ➡️ เสาอากาศ dipole และสายไฟยาว 21.6 เมตร สำหรับความถี่ต่ำ ➡️ ซอฟต์แวร์ SDR++, SDRangel, WSJT-X, fldigi, QSSTV, noaa-apt และ rtl_433 ➡️ ใช้ Linux เป็นระบบปฏิบัติการหลักในการทดลอง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SDR เป็นเครื่องมือสำคัญในงานวิจัยด้านคลื่นวิทยุและการสื่อสารไร้สาย ➡️ นักวิทยุสมัครเล่นใช้ SDR เพื่อเรียนรู้และทดลองการส่งสัญญาณ ➡️ ในปี 2024 เยอรมนีเตรียมเปิดคลาสใบอนุญาตใหม่ “N class” สำหรับผู้เริ่มต้น ➡️ SDR สามารถใช้ร่วมกับระบบคลาวด์และแผนที่ออนไลน์เพื่อรับสัญญาณจากทั่วโลก https://blinry.org/50-things-with-sdr/
    BLINRY.ORG
    Fifty Things you can do with a Software Defined Radio 📻
    Last week, I went on an adventure through the electromagnetic spectrum!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเรื่องสุขภาพประชาชน ด้วยศาสตร์ต่างๆ ดังนี้
    1.ศาสตร์แพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine)
    ยาเบญจโลกวิเชียร(ห้าราก),ยาขาว,ยาใบมะขาม,ยาตรีผลา,ยาจันทลีลา,ยาเขียวหอม,ยาแสงหมึก,ยาประสะจันทน์แดง,ยามหานิลแท่งทอง,ยาสิงฆาณิกา,ยาธาตุบรรจบ,ยาเหลืองปิดสมุทร,ยาธาตุอบเชย,ยาปราบชมพูทวีป,ยาประสะมะแว้ง,ยาอัมฤควาที,ยาบำรุงโลหิต,ยาเลือดงาม,ยาถ่าย,ยาชุมเห็ดเทศ,ยาธรณีสัณฑฆาต,ยาตรีหอม,ยาลม300จำพวก,ยาหอม,ยาดองมะกรูด,ยาประสะกะเพรา,ยาประสะกานพลู,ยาวิสัมพยาใหญ่,ยามันทธาตุ,ยามหาจักรใหญ่,ยาประสะเจตพังคี,ยามะฮอกกานี,ยาแก้ไอมะขามป้อม,ยาพญายอ,สมุนไพรถ่ายพยาธิต่างๆ เช่น เมล็ดฟักทอง,เมล็ดมะขาม,เมล็ดเล็บมือนาง,เมล็ดสแก,ผงปวกหาด(มะหาด),ผลมะเกลือ,ยาเปลือกมังคุด,รางจืด,ฟ้าทลายโจร,โกฐจุฬาลัมพา,พลูคาว,ใบหนุมานประสานกาย,กระชาย,กัญชา,ขมิ้นชัน,อ้อยดำ,ฝาง,ผักบุ้งแดง,ดอกเกลือ,สมุนไพร ลมปราณ,ปัตจัตตัง เป็นต้น
    2.ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine)
    ยกตัวอย่าง สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์
    ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง
    ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน และศาสตร์การฝังเข็ม เป็นต้น
    3.ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ (Homeophathy) ยาสกัดพลังธรมชาติ จาก พืช สัตว์ แร่ธาตุ ได้แก่ ตำรับโฮมิโอพาธีร์ต่างๆ ตำรับยาหมออมร ดังนี้ Isopathy ของวัคซีน AstraZeneca และ Sinopharm ตำรับ Benjalo แก้แพ้วัคซีนและลองโควิด,TotalTox ล้างพิษที่ตกค้างในอาหาร,RJHT ล้างพิษฟอร์มาลีนและสารเคมีการเกษตร,CKDMHT ขจัดพิษตกค้างจากสารเคมีปรุงรส,CBZA ช่วยล้างพิษสารเคมีกันบูดในอาหาร
    4.การครอบแก้ว,กรอกเลือด (Wet Cupping) เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เอาเลือดที่
    คั่งค้างออก ซึ่งส่งผลทำให้ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและสามารถบรรเทาได้หลายโรค
    5.ศาสตร์ผสมผสาน (Integrative Medicine)
    การเหยียบดิน/หญ้า(Grounding),การอบตัว,อดอาหารเป็นระยะ(Intermittent Fasting),ศาสตร์ยา9เม็ดหมอเขียว,สวนล้างลำไส้(Enema),ล้างลำไส้แบบลึก(Colonics),Vitamin C Flush,เสียงบำบัด(Sound Therapy),ความถี่บำบัด(Frequency Therapy),ใช้แสงแดงFar Infrared,Reiki,แช่เท้า(Herbal Foot Bath),ล้างพิษตับ(Liver Compression,Castor Oil Pack,การใช้ทองแดง(Copper Tensor Rings),Crystals,การเขียนบันทึก (Journaling),Art Therapy,ภูษาบำบัด(Twisting Tourniquet Technique),การทำสมาธิ Pasitive Affirmations,ฝึกการหายใจ(Breathing Exercises),การตากแดด,เข้าใกล้มังสวิรัติ,คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน(CDS),ไฮดรอกซีคลอโรควีน(HCQ),เมทาลีนบลู(Methylene Blue),ดินภูเขาไฟเบนโทไนท์(Bentonite Clay),ซีโอไลท์(Zeolite),ซิลเวอร์คอลลอยด์(ColloidalSilver),DMSO,ไอโอดีน(Iodine),ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(Hydrogen Peroxide),ไอเวอร์เมคติน(Ivermectin),เฟนเบนดาโซล (Fenbendazole),แอสไพลิน(Aspirin),น้ำเสริมไฮโดรเจน(hydrogen-rich water),บอแรกซ์(Borax),นัตโตะไคเนส(Nattokinase),โบรมิเลน(Bromelain),Magnesium Antisense(แมกนีเซียมแอนไทเซนส์),เพนท็อกซิฟิลลีน(Pentoxifylline),แมกนีเซียม(Magnesium),กลูตาไธโอน(Glutathione),สังกะสี(Zinc),แอสตาแซนธิน(Astaxanthin),ซิลิมาริน(Sillymarin),กรดอัลฟาไลโปอิก(Alpha Lipoic Acid),เมลาโทนิน(Melatonin),วิตามินดี(Vitamin D),NACหรือN-Acetylcysteine,CoQ10,ซิลิเนียม(Selenium),กรดฟูลวิค(Fulvic Acid),ผักชี(coriander),มะระขี้นก(Bitter gourd),สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina),มิลค์ทิสเซิล(Milk Thistle-Silymarin),พริกคาเยน(Chayenne Peper),ชาเขียว(Green Tea),เห็ดถั่งเช่า(Cordyceps Mushrooms),อาติโช๊ค(Artichoke),คลอเรลลา(Chlorella),สาหร่าย Dulse,Shilajit และอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆที่โลกมี เป็นต้น

    โอเพนแชท "ล้างพิษ ยาฉีด"
    https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเรื่องสุขภาพประชาชน ด้วยศาสตร์ต่างๆ ดังนี้ 🧐1.ศาสตร์แพทย์แผนไทย (Traditional Thai Medicine) ยาเบญจโลกวิเชียร(ห้าราก),ยาขาว,ยาใบมะขาม,ยาตรีผลา,ยาจันทลีลา,ยาเขียวหอม,ยาแสงหมึก,ยาประสะจันทน์แดง,ยามหานิลแท่งทอง,ยาสิงฆาณิกา,ยาธาตุบรรจบ,ยาเหลืองปิดสมุทร,ยาธาตุอบเชย,ยาปราบชมพูทวีป,ยาประสะมะแว้ง,ยาอัมฤควาที,ยาบำรุงโลหิต,ยาเลือดงาม,ยาถ่าย,ยาชุมเห็ดเทศ,ยาธรณีสัณฑฆาต,ยาตรีหอม,ยาลม300จำพวก,ยาหอม,ยาดองมะกรูด,ยาประสะกะเพรา,ยาประสะกานพลู,ยาวิสัมพยาใหญ่,ยามันทธาตุ,ยามหาจักรใหญ่,ยาประสะเจตพังคี,ยามะฮอกกานี,ยาแก้ไอมะขามป้อม,ยาพญายอ,สมุนไพรถ่ายพยาธิต่างๆ เช่น เมล็ดฟักทอง,เมล็ดมะขาม,เมล็ดเล็บมือนาง,เมล็ดสแก,ผงปวกหาด(มะหาด),ผลมะเกลือ,ยาเปลือกมังคุด,รางจืด,ฟ้าทลายโจร,โกฐจุฬาลัมพา,พลูคาว,ใบหนุมานประสานกาย,กระชาย,กัญชา,ขมิ้นชัน,อ้อยดำ,ฝาง,ผักบุ้งแดง,ดอกเกลือ,สมุนไพร ลมปราณ,ปัตจัตตัง เป็นต้น 🧐2.ศาสตร์แพทย์แผนจีน (Traditional Chinese Medicine) ยกตัวอย่าง สมุนไพรฉั่งฉิก ยาเขียวธรรมดา ยาเขียวพิเศษชิงเฟ่ยซองสีส้ม ยาชะลอวัย ยาวาสคิวล่าร์ ถ้าเกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันใช้ยา 脑心通胶囊 เหน่า ซิน ทง ถ้าก้อนเนื้องอกกำเริบ ใช้温胆汤加减 เวิน ต่าน ทัง เจีย เจี่ยน และศาสตร์การฝังเข็ม เป็นต้น 🧐3.ศาสตร์โฮมิโอพาธีร์ (Homeophathy) ยาสกัดพลังธรมชาติ จาก พืช สัตว์ แร่ธาตุ ได้แก่ ตำรับโฮมิโอพาธีร์ต่างๆ ตำรับยาหมออมร ดังนี้ Isopathy ของวัคซีน AstraZeneca และ Sinopharm ตำรับ Benjalo แก้แพ้วัคซีนและลองโควิด,TotalTox ล้างพิษที่ตกค้างในอาหาร,RJHT ล้างพิษฟอร์มาลีนและสารเคมีการเกษตร,CKDMHT ขจัดพิษตกค้างจากสารเคมีปรุงรส,CBZA ช่วยล้างพิษสารเคมีกันบูดในอาหาร 🧐4.การครอบแก้ว,กรอกเลือด (Wet Cupping) เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น เอาเลือดที่ คั่งค้างออก ซึ่งส่งผลทำให้ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและสามารถบรรเทาได้หลายโรค 🧐5.ศาสตร์ผสมผสาน (Integrative Medicine) การเหยียบดิน/หญ้า(Grounding),การอบตัว,อดอาหารเป็นระยะ(Intermittent Fasting),ศาสตร์ยา9เม็ดหมอเขียว,สวนล้างลำไส้(Enema),ล้างลำไส้แบบลึก(Colonics),Vitamin C Flush,เสียงบำบัด(Sound Therapy),ความถี่บำบัด(Frequency Therapy),ใช้แสงแดงFar Infrared,Reiki,แช่เท้า(Herbal Foot Bath),ล้างพิษตับ(Liver Compression,Castor Oil Pack,การใช้ทองแดง(Copper Tensor Rings),Crystals,การเขียนบันทึก (Journaling),Art Therapy,ภูษาบำบัด(Twisting Tourniquet Technique),การทำสมาธิ Pasitive Affirmations,ฝึกการหายใจ(Breathing Exercises),การตากแดด,เข้าใกล้มังสวิรัติ,คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน(CDS),ไฮดรอกซีคลอโรควีน(HCQ),เมทาลีนบลู(Methylene Blue),ดินภูเขาไฟเบนโทไนท์(Bentonite Clay),ซีโอไลท์(Zeolite),ซิลเวอร์คอลลอยด์(ColloidalSilver),DMSO,ไอโอดีน(Iodine),ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์(Hydrogen Peroxide),ไอเวอร์เมคติน(Ivermectin),เฟนเบนดาโซล (Fenbendazole),แอสไพลิน(Aspirin),น้ำเสริมไฮโดรเจน(hydrogen-rich water),บอแรกซ์(Borax),นัตโตะไคเนส(Nattokinase),โบรมิเลน(Bromelain),Magnesium Antisense(แมกนีเซียมแอนไทเซนส์),เพนท็อกซิฟิลลีน(Pentoxifylline),แมกนีเซียม(Magnesium),กลูตาไธโอน(Glutathione),สังกะสี(Zinc),แอสตาแซนธิน(Astaxanthin),ซิลิมาริน(Sillymarin),กรดอัลฟาไลโปอิก(Alpha Lipoic Acid),เมลาโทนิน(Melatonin),วิตามินดี(Vitamin D),NACหรือN-Acetylcysteine,CoQ10,ซิลิเนียม(Selenium),กรดฟูลวิค(Fulvic Acid),ผักชี(coriander),มะระขี้นก(Bitter gourd),สาหร่ายเกลียวทอง (Spirulina),มิลค์ทิสเซิล(Milk Thistle-Silymarin),พริกคาเยน(Chayenne Peper),ชาเขียว(Green Tea),เห็ดถั่งเช่า(Cordyceps Mushrooms),อาติโช๊ค(Artichoke),คลอเรลลา(Chlorella),สาหร่าย Dulse,Shilajit และอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆที่โลกมี เป็นต้น โอเพนแชท "ล้างพิษ ยาฉีด" https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts