• พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย

    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2568 เวลา 21.21 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ หลังทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93 นำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจของพสกนิกรชาวไทย เปรียบดังสูญเสียแม่ของแผ่นดิน ด้วยทรงประกอบพระราชกรณียกิจตลอดพระชนม์ชีพ เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ให้พสกนิกรชาวไทยอยู่ดีกินดี บ้านเมืองสงบร่มเย็นด้วยพระบารมีตลอดมา

    เมื่อเวลา 16.26 น. วันที่ 26 ต.ค. 2568 ขบวนรถเชิญพระบรมศพ ออกจากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยา พระบรมมหาราชวัง โดยมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศ แต่งกายไว้ทุกข์สีดำ เดินทางมาร่วมส่งเสด็จตลอดทางเป็นจำนวนมาก สำนักพระราชวัง อนุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.

    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ส.ค. 2475 เป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของพลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจน้อยใหญ่ ทั้งการเชิดชูศิลปวัฒนธรรมไทย มีพระราชดำริในการออกแบบเครื่องแต่งกายชุดไทยประจำชาติที่เรียกว่า "ชุดไทยพระราชนิยม" การส่งเสริมศิลปาชีพ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ พร้อมกับอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้าน เช่น การปั้น การทอ และการจักสาน ให้เป็นที่ประจักษ์ รวมทั้งการอนุรักษ์โขน ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย

    ขณะเดียวกัน ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยเฉพาะโครงการป่ารักน้ำ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริฯ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและการบุกรุกป่า นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างห้องสมุดอเนกประสงค์ "ศาลารวมใจ" การจัดหน่วยแพทย์พระราชทาน การรับคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ การรับนักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์ การก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครผู้บาดเจ็บหรือพิการ และการรับกิจการลูกเสือชาวบ้านไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นต้น

    ด้วยพระราชินีคู่บุญบารมีในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนนานัปการ จึงเป็นที่รักยิ่งแก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์

    #Newskit
    พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2568 เวลา 21.21 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ หลังทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93 นำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจของพสกนิกรชาวไทย เปรียบดังสูญเสียแม่ของแผ่นดิน ด้วยทรงประกอบพระราชกรณียกิจตลอดพระชนม์ชีพ เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ให้พสกนิกรชาวไทยอยู่ดีกินดี บ้านเมืองสงบร่มเย็นด้วยพระบารมีตลอดมา เมื่อเวลา 16.26 น. วันที่ 26 ต.ค. 2568 ขบวนรถเชิญพระบรมศพ ออกจากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยา พระบรมมหาราชวัง โดยมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศ แต่งกายไว้ทุกข์สีดำ เดินทางมาร่วมส่งเสด็จตลอดทางเป็นจำนวนมาก สำนักพระราชวัง อนุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ส.ค. 2475 เป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของพลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจน้อยใหญ่ ทั้งการเชิดชูศิลปวัฒนธรรมไทย มีพระราชดำริในการออกแบบเครื่องแต่งกายชุดไทยประจำชาติที่เรียกว่า "ชุดไทยพระราชนิยม" การส่งเสริมศิลปาชีพ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ พร้อมกับอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้าน เช่น การปั้น การทอ และการจักสาน ให้เป็นที่ประจักษ์ รวมทั้งการอนุรักษ์โขน ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย ขณะเดียวกัน ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยเฉพาะโครงการป่ารักน้ำ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริฯ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและการบุกรุกป่า นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างห้องสมุดอเนกประสงค์ "ศาลารวมใจ" การจัดหน่วยแพทย์พระราชทาน การรับคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ การรับนักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์ การก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครผู้บาดเจ็บหรือพิการ และการรับกิจการลูกเสือชาวบ้านไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นต้น ด้วยพระราชินีคู่บุญบารมีในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนนานัปการ จึงเป็นที่รักยิ่งแก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์ #Newskit
    Love
    1
    1 Comments 1 Shares 257 Views 0 Reviews
  • สำนักพระราชวัง เผยแพร่ประกาศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต
    .
    ตามที่คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2562 เพื่อติดตามพระอาการทางระบบต่าง ๆ ความทราบทั่วกันแล้วนั้น ในช่วงที่ประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรหลายครั้ง และคณะแพทย์ตรวจพบความผิดปรกติทางระบบต่าง ๆ ทำให้คณะแพทย์ต้องถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง
    .
    ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต แม้ว่าคณะแพทย์จะถวายการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่พระอาการทรุดหนักลงตามลำดับถึงวันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 เวลา 21 นาฬิกา 21 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93
    .
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวัง จัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
    .
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวาย มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันสววรรคตเป็นต้นไป
    .
    สำนักพระราชวัง
    24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568
    สำนักพระราชวัง เผยแพร่ประกาศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต . ตามที่คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2562 เพื่อติดตามพระอาการทางระบบต่าง ๆ ความทราบทั่วกันแล้วนั้น ในช่วงที่ประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรหลายครั้ง และคณะแพทย์ตรวจพบความผิดปรกติทางระบบต่าง ๆ ทำให้คณะแพทย์ต้องถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง . ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต แม้ว่าคณะแพทย์จะถวายการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่พระอาการทรุดหนักลงตามลำดับถึงวันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 เวลา 21 นาฬิกา 21 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93 . พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวัง จัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง . ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวาย มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันสววรรคตเป็นต้นไป . สำนักพระราชวัง 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568
    Sad
    Like
    6
    1 Comments 2 Shares 556 Views 0 Reviews
  • สำนักพระราชวัง เผยแพร่ประกาศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต
    .
    ตามที่คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2562 เพื่อติดตามพระอาการทางระบบต่าง ๆ ความทราบทั่วกันแล้วนั้น ในช่วงที่ประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรหลายครั้ง และคณะแพทย์ตรวจพบความผิดปรกติทางระบบต่าง ๆ ทำให้คณะแพทย์ต้องถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง
    .
    ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต แม้ว่าคณะแพทย์จะถวายการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่พระอาการทรุดหนักลงตามลำดับถึงวันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 เวลา 21 นาฬิกา 21 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93
    .
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวัง จัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
    .
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวาย มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันสววรรคตเป็นต้นไป
    .
    สำนักพระราชวัง
    24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568
    .
    ตามที่คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2562 เพื่อติดตามพระอาการทางระบบต่าง ๆ ความทราบทั่วกันแล้วนั้น ในช่วงที่ประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรหลายครั้ง และคณะแพทย์ตรวจพบความผิดปรกติทางระบบต่าง ๆ ทำให้คณะแพทย์ต้องถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง
    .
    ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต แม้ว่าคณะแพทย์จะถวายการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่พระอาการทรุดหนักลงตามลำดับถึงวันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 เวลา 21 นาฬิกา 21 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93
    .
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวัง จัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
    .
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวาย มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันสววรรคตเป็นต้นไป
    .
    สำนักพระราชวัง
    24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568
    สำนักพระราชวัง เผยแพร่ประกาศ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต . ตามที่คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2562 เพื่อติดตามพระอาการทางระบบต่าง ๆ ความทราบทั่วกันแล้วนั้น ในช่วงที่ประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรหลายครั้ง และคณะแพทย์ตรวจพบความผิดปรกติทางระบบต่าง ๆ ทำให้คณะแพทย์ต้องถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง . ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต แม้ว่าคณะแพทย์จะถวายการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่พระอาการทรุดหนักลงตามลำดับถึงวันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 เวลา 21 นาฬิกา 21 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93 . พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวัง จัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง . ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวาย มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันสววรรคตเป็นต้นไป . สำนักพระราชวัง 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 . ตามที่คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2562 เพื่อติดตามพระอาการทางระบบต่าง ๆ ความทราบทั่วกันแล้วนั้น ในช่วงที่ประทับที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรหลายครั้ง และคณะแพทย์ตรวจพบความผิดปรกติทางระบบต่าง ๆ ทำให้คณะแพทย์ต้องถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง . ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต แม้ว่าคณะแพทย์จะถวายการรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่พระอาการทรุดหนักลงตามลำดับถึงวันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 เวลา 21 นาฬิกา 21 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93 . พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวัง จัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง . ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวาย มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันสววรรคตเป็นต้นไป . สำนักพระราชวัง 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2568
    Love
    Sad
    4
    0 Comments 0 Shares 327 Views 0 Reviews
  • เนื้อว่านหลวงปู่เขียว หลวงพ่อสมนึก รุ่นแรก วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช ปี2540
    เนื้อว่านหลวงปู่เขียว หลวงพ่อสมนึก รุ่นแรก วัดหรงบน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ปี2540 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกหลายวาระ ปลุกเสกตั้งแต่ปี 2540 และนำเข้าพิธีปลุกเสกต่างๆที่หลวงพ่อสมนึกไปเป็นเจ้าพิธีกว่า 10 พิธี และเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดหรงบนทุกปี รวม 7 ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ มีอำนาจทางด้านการส่งเสริมดวงชะตาบารมี เสริมสิริมงคล รวมไปถึงเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ และยังสามารถป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง แคล้วคลาด คงกระพันตรี โชคลาภ ค้าขาย หน้าที่การงาน เจรจา เป็นที่รักใคร่ของผู้คน **

    ** เนื้อว่านหลวงปู่เขียว รุ่นแรก หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช ปี2540 ปลุกเสกตั้งแต่ปี 2540 และนำเข้าพิธีปลุกเสกต่างๆที่หลวงพ่อสมนึกไปเป็นเจ้าพิธีกว่า 10 พิธี และเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดหรงบนทุกปี รวม 7 ปี วาระสุดท้ายนำเข้าพิธีปลุกเสกพระพ่อท่านเขียวปี 2547 ที่วัดหรงบนก่อนจะออกให้บูชา นับว่าเป็นพระรุ่นที่ปลุกเสกยาวนานมาก ** หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบน"ผู้สืบตำนานวิชาเป่ายันต์เกราะเพชร จนเป็นที่รู้จักทางภาคใต้ เกจิดังเมืองนครศรีฯ..หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบล ได้รวบรวมสุดยอดมวลสารต่างๆ มวลสารที่นำมาจัดสร้างพระรุ่นนี้ล้วนเอกอุ มีว่านยา แร่ธาตุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั่วประเทศที่ทางวัดรวบรวมตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา มีกาฝากต่างๆกว่า 400 ชนิด ว่านต่างๆ 300 อย่าง และแร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น แร่เกาะล้าน แร่เขาเขียว แร่เขาอึมครึม ผงพระกรุ ผงอิฐตะไคร่เสมาเจดีย์ต่างๆ ผสมลูกอมชานหมากพ่อท่านเขียว จีวรที่ห่มศพพ่อท่านเขียวที่เผาไม่ไหม้ ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าพ่อท่านเขียว ก้านธูปไหว้พระพ่อท่านเขียวที่ท่านจุดตอนไหว้พระบนกุฏิในเวลาเช้า-เย็น **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เนื้อว่านหลวงปู่เขียว หลวงพ่อสมนึก รุ่นแรก วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช ปี2540 เนื้อว่านหลวงปู่เขียว หลวงพ่อสมนึก รุ่นแรก วัดหรงบน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ปี2540 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกหลายวาระ ปลุกเสกตั้งแต่ปี 2540 และนำเข้าพิธีปลุกเสกต่างๆที่หลวงพ่อสมนึกไปเป็นเจ้าพิธีกว่า 10 พิธี และเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดหรงบนทุกปี รวม 7 ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ มีอำนาจทางด้านการส่งเสริมดวงชะตาบารมี เสริมสิริมงคล รวมไปถึงเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ โชคลาภ และยังสามารถป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง แคล้วคลาด คงกระพันตรี โชคลาภ ค้าขาย หน้าที่การงาน เจรจา เป็นที่รักใคร่ของผู้คน ** ** เนื้อว่านหลวงปู่เขียว รุ่นแรก หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช ปี2540 ปลุกเสกตั้งแต่ปี 2540 และนำเข้าพิธีปลุกเสกต่างๆที่หลวงพ่อสมนึกไปเป็นเจ้าพิธีกว่า 10 พิธี และเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดหรงบนทุกปี รวม 7 ปี วาระสุดท้ายนำเข้าพิธีปลุกเสกพระพ่อท่านเขียวปี 2547 ที่วัดหรงบนก่อนจะออกให้บูชา นับว่าเป็นพระรุ่นที่ปลุกเสกยาวนานมาก ** หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบน"ผู้สืบตำนานวิชาเป่ายันต์เกราะเพชร จนเป็นที่รู้จักทางภาคใต้ เกจิดังเมืองนครศรีฯ..หลวงพ่อสมนึก วัดหรงบล ได้รวบรวมสุดยอดมวลสารต่างๆ มวลสารที่นำมาจัดสร้างพระรุ่นนี้ล้วนเอกอุ มีว่านยา แร่ธาตุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆทั่วประเทศที่ทางวัดรวบรวมตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา มีกาฝากต่างๆกว่า 400 ชนิด ว่านต่างๆ 300 อย่าง และแร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น แร่เกาะล้าน แร่เขาเขียว แร่เขาอึมครึม ผงพระกรุ ผงอิฐตะไคร่เสมาเจดีย์ต่างๆ ผสมลูกอมชานหมากพ่อท่านเขียว จีวรที่ห่มศพพ่อท่านเขียวที่เผาไม่ไหม้ ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าพ่อท่านเขียว ก้านธูปไหว้พระพ่อท่านเขียวที่ท่านจุดตอนไหว้พระบนกุฏิในเวลาเช้า-เย็น ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • พระชินราชท่าเรือ เจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ จ.นครศรีธรรมราช ปี2485
    พระชินราชท่าเรือ เนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี เจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ จ.นครศรีธรรมราช ปี2485 // พระเก่า พ.ศ ลึก พระดีพิธีใหญ่ พิธีพุทธาภิเษก มีพระเกจิอาจารย์ทางภาคใต้เข้าร่วมพิธีอย่างเข้มขลัง พระชินราชท่าเรือ เจ้าคุณไพศาล สร้างด้วยเนื้อดินที่สุดวิเศษ ซึ่งท่านได้รวบรวมมวลสาร และพระกรุต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพระเนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี //พระสถาพสวย สมบูรณ์ ผิวเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้าน เมตตาและแคล้วคลาดคงกระพันเป็นเลิศานคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดคมอาวุธ ตบะเดชะอิทธิฤทธิ์เหนือมวลศัตรู ป้องกันเขี้ยวงา พิษร้ายต่างๆ รวมถึงเมตตามหานิยม และประสบความรุ่งโรจน์ ความสำเร็จสูงสุดในชีวิต พระเครื่องยอดนิยมสูงสุดอีกองค์ของนครศรีธรรมราช **

    ** พระชินราชท่าเรือ ท่านเจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ปี2485 สร้างด้วยเนื้อดินที่สุดวิเศษ ซึ่งท่านได้รวบรวมมวลสาร และพระกรุต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพระเนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ(มีมากกว่าพระกรุที่อื่น) ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี พิธีพุทธาภิเษก มีพระเกจิอาจารย์ทางภาคใต้เข้าร่วมพิธีอย่างเข้มขลัง
    ท่านสร้างพระตั้งแต่ ปี2470 เรื่อยมา มีหลายพิมพ์ มีทั้งหลังเรียบ หลังจารสด หลังยันต์ปั๊ม ซึ่งส่วนมากเป็นพระเนื้อดินเผาท่านได้นำมวลสารจากพระกรุเก่าผสมผงพุทธคุณของท่าน องค์นี้เนื้อหาจัดมาก มีคราบความเก่า เพราะมีส่วนผสมของผงพระกรุ อยู่มาก ด้านหลัง จารยันต์สด (เข้าใจว่าสร้างยุคแรกๆ) จะหายากกว่า หลังปั๊มยันต์ **

    #พระสถาพสวย สมบูรณ์ ผิวเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระชินราชท่าเรือ เจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ จ.นครศรีธรรมราช ปี2485 พระชินราชท่าเรือ เนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี เจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ จ.นครศรีธรรมราช ปี2485 // พระเก่า พ.ศ ลึก พระดีพิธีใหญ่ พิธีพุทธาภิเษก มีพระเกจิอาจารย์ทางภาคใต้เข้าร่วมพิธีอย่างเข้มขลัง พระชินราชท่าเรือ เจ้าคุณไพศาล สร้างด้วยเนื้อดินที่สุดวิเศษ ซึ่งท่านได้รวบรวมมวลสาร และพระกรุต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพระเนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี //พระสถาพสวย สมบูรณ์ ผิวเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้าน เมตตาและแคล้วคลาดคงกระพันเป็นเลิศานคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดคมอาวุธ ตบะเดชะอิทธิฤทธิ์เหนือมวลศัตรู ป้องกันเขี้ยวงา พิษร้ายต่างๆ รวมถึงเมตตามหานิยม และประสบความรุ่งโรจน์ ความสำเร็จสูงสุดในชีวิต พระเครื่องยอดนิยมสูงสุดอีกองค์ของนครศรีธรรมราช ** ** พระชินราชท่าเรือ ท่านเจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ปี2485 สร้างด้วยเนื้อดินที่สุดวิเศษ ซึ่งท่านได้รวบรวมมวลสาร และพระกรุต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพระเนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ(มีมากกว่าพระกรุที่อื่น) ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี พิธีพุทธาภิเษก มีพระเกจิอาจารย์ทางภาคใต้เข้าร่วมพิธีอย่างเข้มขลัง ท่านสร้างพระตั้งแต่ ปี2470 เรื่อยมา มีหลายพิมพ์ มีทั้งหลังเรียบ หลังจารสด หลังยันต์ปั๊ม ซึ่งส่วนมากเป็นพระเนื้อดินเผาท่านได้นำมวลสารจากพระกรุเก่าผสมผงพุทธคุณของท่าน องค์นี้เนื้อหาจัดมาก มีคราบความเก่า เพราะมีส่วนผสมของผงพระกรุ อยู่มาก ด้านหลัง จารยันต์สด (เข้าใจว่าสร้างยุคแรกๆ) จะหายากกว่า หลังปั๊มยันต์ ** #พระสถาพสวย สมบูรณ์ ผิวเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 212 Views 0 Reviews
  • “รมว.ยุติธรรม” ถวายความเห็นประกอบพระราชดำริ กรณีการขอพระราชทานอภัยโทษของ “ทักษิณ” เพื่อส่งคืนเรื่องให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พิจารณานำความกราบบังคับทูลพระกรุณาตามขั้นตอนต่อไปแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095458

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    “รมว.ยุติธรรม” ถวายความเห็นประกอบพระราชดำริ กรณีการขอพระราชทานอภัยโทษของ “ทักษิณ” เพื่อส่งคืนเรื่องให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พิจารณานำความกราบบังคับทูลพระกรุณาตามขั้นตอนต่อไปแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095458 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 Comments 0 Shares 420 Views 0 Reviews
  • วงการพระชั่วโมงนี้ ...เขามีคำกล่าวกันว่า...ล้มมวยก็มา...ถ้าอยากเพ้อ ก็ถือไว้...ยกตัวอย่าง พระใหม่ ราคาตอนนี้เหลือแค่ 1 ใน 3 จากราคาจองวัด (ต่ำกว่าครึ่ง) ....เป็นเรตราคามาตรฐาน...ใครมีกำลัง ใครชอบ เงินเย็น ก็เก็บได้....แต่ที่น่าจับตาคือ พระกรุยอดนิยม (ที่เคยนิยมอยู่แล้ว) ราคา ทรงตัว....ส่วนพระหลักขยับขึ้นไปไกล.....
    วงการพระชั่วโมงนี้ ...เขามีคำกล่าวกันว่า...ล้มมวยก็มา...ถ้าอยากเพ้อ ก็ถือไว้...ยกตัวอย่าง พระใหม่ ราคาตอนนี้เหลือแค่ 1 ใน 3 จากราคาจองวัด (ต่ำกว่าครึ่ง) ....เป็นเรตราคามาตรฐาน...ใครมีกำลัง ใครชอบ เงินเย็น ก็เก็บได้....แต่ที่น่าจับตาคือ พระกรุยอดนิยม (ที่เคยนิยมอยู่แล้ว) ราคา ทรงตัว....ส่วนพระหลักขยับขึ้นไปไกล.....
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • "ในหลวง" ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "พล.ท.บุญสิน พาดกลาง" เป็น "นายทหารราชองครักษ์พิเศษ" ทั้งนี้✨️ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
    "ในหลวง" ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "พล.ท.บุญสิน พาดกลาง" เป็น "นายทหารราชองครักษ์พิเศษ" ทั้งนี้✨️ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป 💛💖🙏🇹🇭
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 309 Views 0 Reviews
  • รมว.กลาโหม เผย ซาบซึ้งพระกรุณาธิคุณ "กรมพระศรีสวางควัฒนฯ" ทรงเปิด "กองทุนหทัยทิพย์" สร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/21623/
    .
    #ไทยไท #ณัฐพลนาคพาณิชย์ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #ชายแดนไทยกัมพูชา
    รมว.กลาโหม เผย ซาบซึ้งพระกรุณาธิคุณ "กรมพระศรีสวางควัฒนฯ" ทรงเปิด "กองทุนหทัยทิพย์" สร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/21623/ . #ไทยไท #ณัฐพลนาคพาณิชย์ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #ชายแดนไทยกัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • พระปิดตาที่ระลึกผ้าป่าวิทยุเสียงธรรมสกลนคร วัดป่าหนองไผ่ ปี2555
    พระปิดตาที่ระลึกผ้าป่าวิทยุเสียงธรรมสกลนคร วัดป่าหนองไผ่ ปี2555 // พระดีพิธีขลัง !!จำนวนการสร้าง 5000 องค์ อธิษฐานจิต โดย หลวงพ่ออ้าน วัดป่านาคฯ หลวงปู่สุธรรม หนองไผ่ มวลสารผงว่า นเกศาผงอังคาร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย ป้องกันภยันตรายต่างๆ ค้าขายดี ส่งเสริมด้านการเงินและโชคลาภ ช่วยให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง และส่งเสริมด้านอำนาจและความยิ่งใหญ่ >>


    ** พระปิดตา ที่ระลึกผ้าป่าวิทยุเสียงธรรมสกลนคร วัดป่าหนองไผ่ เพื่อแจกเป็นที่ระลึกสำหรับผู้มาร่วมในงานผ้าป่าสามัคคีวิทยุเสียงธรรมในวันที่ 15 มกราคม 2555 หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม วัดป่าหนองไผ่ ได้มอบเกษาหลวงปู่ลี กุสลธโร วัดเกษรศีลคุณ ที่องค์ท่านได้เก็บรักษาบูชามานานหลายปี พระอาจารย์บัณฑิต จันทวัณโณ วัดป่าอุดมสมพร ได้มอบผงพุทธคุณของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ที่องค์ท่านเก็บรักษาไว้นานหลายปี ให้เป็นมวลสารในการจัดสร้าง

    มงคลวัตุเพื่อร่วมในการจัดสร้างครั้งนี้ คือ

    1.ดินกากยายักษ์จากตำบลลำพญา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 2.ผงว่านพุทธตุณ 108 3.ดินใต้กุฎิหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่านาคนิมิตต์ 4.ชนวนผงตะไบจากช่อพระกริ่งเพชรกลับเมตตาค้ำจุนโลก 5.ผงไม้งิ้วดำจากวัดผาเทพนิมิต 6.ผงพุทธคุณจากวัดผาเทพนิมิต 7.ผงกระเบื้องหลังคาโบสถ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส 8.ผงบดพระกรุเก่าอยุธยา และวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร 9.ผงบดแร่หินเหล็กไหล 10.ผงบดหินพญานาคแม่น้ำโขง 11.ผงพุทธคุณพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 12.ข้าวตอกดอกไม้พิธีมหาพุทธาภิเศกพระกริ่งเพชรกลับเมตตาค้ำจุนโลก และพิธีพุทธาภิเศกที่วัดสุขุมวารี โดยหลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ 13. ผงชานหมากหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน 14.ผงชานหมากหลวงปู่ขาว อนาลโย 15.ผงชานหมากหลวงปู่อว้าน เขมโก 16.ข้าวก้นบาตรหลวงปู่อว้าน เขมโก 17.เกษาพระอาจารย์วัน อุตตโม 18.เกษาหลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม 19.เกษาหลวงปู่อุ่นหล้า จิตตธัมโม 20.เกษาหลวงปู่เนย สมจิตโต 21.เกษาหลวงปู่อ้ม สุขกาโม 22.เกษาหลวงปู่อว้าน เขมโก 23. เกษาหลวงตาบุญหนา ธัมมทินโน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    พระปิดตาที่ระลึกผ้าป่าวิทยุเสียงธรรมสกลนคร วัดป่าหนองไผ่ ปี2555 พระปิดตาที่ระลึกผ้าป่าวิทยุเสียงธรรมสกลนคร วัดป่าหนองไผ่ ปี2555 // พระดีพิธีขลัง !!จำนวนการสร้าง 5000 องค์ อธิษฐานจิต โดย หลวงพ่ออ้าน วัดป่านาคฯ หลวงปู่สุธรรม หนองไผ่ มวลสารผงว่า นเกศาผงอังคาร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย ป้องกันภยันตรายต่างๆ ค้าขายดี ส่งเสริมด้านการเงินและโชคลาภ ช่วยให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง และส่งเสริมด้านอำนาจและความยิ่งใหญ่ >> ** พระปิดตา ที่ระลึกผ้าป่าวิทยุเสียงธรรมสกลนคร วัดป่าหนองไผ่ เพื่อแจกเป็นที่ระลึกสำหรับผู้มาร่วมในงานผ้าป่าสามัคคีวิทยุเสียงธรรมในวันที่ 15 มกราคม 2555 หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม วัดป่าหนองไผ่ ได้มอบเกษาหลวงปู่ลี กุสลธโร วัดเกษรศีลคุณ ที่องค์ท่านได้เก็บรักษาบูชามานานหลายปี พระอาจารย์บัณฑิต จันทวัณโณ วัดป่าอุดมสมพร ได้มอบผงพุทธคุณของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ที่องค์ท่านเก็บรักษาไว้นานหลายปี ให้เป็นมวลสารในการจัดสร้าง มงคลวัตุเพื่อร่วมในการจัดสร้างครั้งนี้ คือ 1.ดินกากยายักษ์จากตำบลลำพญา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา 2.ผงว่านพุทธตุณ 108 3.ดินใต้กุฎิหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่านาคนิมิตต์ 4.ชนวนผงตะไบจากช่อพระกริ่งเพชรกลับเมตตาค้ำจุนโลก 5.ผงไม้งิ้วดำจากวัดผาเทพนิมิต 6.ผงพุทธคุณจากวัดผาเทพนิมิต 7.ผงกระเบื้องหลังคาโบสถ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส 8.ผงบดพระกรุเก่าอยุธยา และวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร 9.ผงบดแร่หินเหล็กไหล 10.ผงบดหินพญานาคแม่น้ำโขง 11.ผงพุทธคุณพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 12.ข้าวตอกดอกไม้พิธีมหาพุทธาภิเศกพระกริ่งเพชรกลับเมตตาค้ำจุนโลก และพิธีพุทธาภิเศกที่วัดสุขุมวารี โดยหลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ 13. ผงชานหมากหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน 14.ผงชานหมากหลวงปู่ขาว อนาลโย 15.ผงชานหมากหลวงปู่อว้าน เขมโก 16.ข้าวก้นบาตรหลวงปู่อว้าน เขมโก 17.เกษาพระอาจารย์วัน อุตตโม 18.เกษาหลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม 19.เกษาหลวงปู่อุ่นหล้า จิตตธัมโม 20.เกษาหลวงปู่เนย สมจิตโต 21.เกษาหลวงปู่อ้ม สุขกาโม 22.เกษาหลวงปู่อว้าน เขมโก 23. เกษาหลวงตาบุญหนา ธัมมทินโน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 317 Views 0 Reviews


  • จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือ จังหวัดเกาะกง

    เมืองปัจจันตคิรีเขตร
    เมือง
    พ.ศ. 2398 – 2447
    ยุคทางประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์
    • ก่อตั้ง
    พ.ศ. 2398
    • ฝรั่งเศสไม่ยอมคืนดินแดน
    30 ธันวาคม พ.ศ. 2447

    เมืองตราด
    กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส
    ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ กัมพูชา
    จังหวัดปัจจันตคิรีเขตรChoawalit Chotwattanaphong หรือบางเอกสารจะเรียกว่า ปัตจันตคีรีเขตร์ บ้าง ประจันต์คิรีเขตต์ บ้าง[2] เป็นเมืองเดิมของราชอาณาจักรสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีความสำคัญเทียบเท่าจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ในอดีต มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะกง เขตจังหวัดเกาะกงในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน ดินแดนจังหวัดนี้ตกเป็นของฝรั่งเศสพร้อมกับหัวเมืองฝั่งขวาแม่น้ำโขง คือ แขวงไชยบุรีและแขวงจำปาศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2447

    ประวัติ

    Map of Siam in 1900
    แต่เดิมมาเกาะกงเป็นจังหวัดของราชอาณาจักรเขมร แต่มาถึงสมัยที่เขมรตกเป็นประเทศราชอยู่ในอำนาจของสยาม พระเจ้ากรุงสยามก็มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกงให้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองตราด

    เมื่อปี พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกง โดยพระราชทานนามเมืองนี้ว่า เมืองปัจจันตคีรีเขตต์ เพื่อให้เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีเขตติดต่อกับเขมรและญวน

    เหตุที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามเกาะกงว่า ปัจจันตคิรีเขตร ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ทางด้านภาคตะวันตกของไทย ซึ่งตั้งอยู่ในแนวรุ้ง (Latitude) เดียวกัน[3]

    ถึง พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์จัดตั้งสถานีทหารเรือขึ้นตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่เมืองชลบุรี บางพระ อำเภอบางละมุง เมืองระยอง เมืองแกลง เมืองจันทบุรี อำเภอขลุง เมืองตราด เมืองปัจจันตคิรีเขตร และเกาะเสม็ดนอก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสทางทะเล

    ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ฝรั่งเศสได้เริ่มดำเนินการทางทหารใช้กำลังเข้าบีบบังคับสยาม โดยยกกองทัพมาเข้าขับไล่ทหารไทยให้ถอยร่นออกจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ทำให้ความยุ่งยากทางชายแดนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการปรึกษาการป้องกันพระราชอาณาเขตขึ้น และจัดกองบัญชาการทัพอยู่ตามหัวเมืองชายทะเลแต่ละด้านขึ้นด้วย

    ในปี พ.ศ. 2436 รัฐบาลสยามได้แต่งตั้งให้นายพลเรือจัตวาพระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plésis de Richelieu) เป็นผู้จัดการป้องกันพระราชอาณาเขตทางหัวเมืองฝ่ายตะวันออก ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีคำสั่งมายังผู้ว่าราชการเมืองแถบนี้ ซึ่งรวมทั้งเมืองตราดและเมืองปัจจันตคิรีเขตรด้วย ให้ช่วยพระยาชลยุทธโยธินทร์จัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาเขต

    การเสียดินแดนจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร

    การส่งมอบตราดให้กับฝรั่งเศส
    วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศสสามารถฝ่าแนวป้องกันของสยามเข้ามาทอดสมอในกรุงเทพฯ ได้ ฝ่ายฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตามเมื่อ 20 กรกฎาคม โดยให้เวลาตอบ 48 ชั่วโมง ฝ่ายไทยได้ตอบข้อเรียกร้องเมื่อ 22 กรกฎาคม แต่ไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายฝรั่งเศส ดังนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ฝรั่งเศสจึงประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย สองวันถัดมา (26 กรกฎาคม) ฝรั่งเศสได้สั่งให้ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันออกไกลที่ไซ่ง่อนปิดล้อมอ่าวไทย ตั้งแต่แหลมเจ้าลายถึงบริเวณแหลมกระบัง และในวันที่ 29 กรกฎาคม ฝรั่งเศสได้ประกาศปิดล้อมอ่าวไทยครั้งที่ 2 โดยขยายเขตเพิ่มบริเวณเกาะเสม็ด จนถึงแหลมสิง รวม 2 เขต ฝ่ายไทยจำต้องยอมรับคำขาดของฝรั่งเศสที่ยื่นไว้แต่เดิมในวันเดียวกันนั้นเอง แต่ในวันรุ่งขึ้นฝรั่งเศสถือโอกาสยื่นคำขาดเพิ่มเติมอีก โดยประกาศยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน และบังคับให้ไทยถอนตัวออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอีกด้วย ไทยจำเป็นต้องยอมรับโดยไม่มีทางเลือก เมื่อฝ่ายไทยปฏิบัติตามคำขาดนั้นแล้ว ฝรั่งเศสจึงได้ยกเลิกการปิดอ่าวในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 12.00 น. แต่การยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรียังคงยึดไว้ตามเดิม

    ต่อมาได้มีการทำสัญญาสงบศึกกันโดยหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) ในหนังสือสัญญาฉบับนี้ มีข้อความระบุไว้ในอนุสัญญาผนวกต่อท้ายหนังสือสัญญาข้อ 6 ว่า "คอนเวอนแมนต์ (Government - รัฐบาล) ฝรั่งเศสจะได้ตั้งอยู่ต่อไปที่เมืองจันทบุรี จนกว่าจะได้ทำการสำเร็จแล้วตามข้อความในหนังสือสัญญานี้…"

    แม้ทางฝ่ายไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ฝรั่งเศสบีบบังคับทุกอย่าง ฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอมถอนทหาร ยังคงยึดจันทบุรีไว้อีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี เป็นเหตุให้ต้องมีการตกลงทำสัญญาขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่งคือ อนุสัญญาลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2445 แต่หนังสือฉบับนี้ฝรั่งเศสไม่ยอมให้สัตยาบันและไม่ถอนกำลังออกจากจันทบุรี จึงได้ตกลงมีสัญญาอีกฉบับหนึ่ง คือ สัญญาลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 คราวนี้ฝรั่งเศสจึงถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่ได้เข้ายึดครองเมืองตราดและบรรดาเกาะทั้งหลายภายใต้แหลมสิงลงไปซึ่งรวมถึงเกาะกงแทน ฝ่ายไทยจำต้องมอบเมืองตราดและเมืองประจันตคีรีเขตให้แก่ฝรั่งเศส ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447

    พื้นที่ดังกล่าวได้ตกอยู่ในการยึดครองของฝรั่งเศส จนถึงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 จึงได้มีการตกลงทำหนังสือสัญญาขึ้นอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า "หนังสือสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเปรสสิเดนต์แห่งรีปัปลิคฝรั่งเศส" ฝรั่งเศสจึงคืนเมืองตราดให้ไทยตามเดิม แต่ฝ่ายไทยจะต้องยอมยกดินแดนเขมรส่วนใน (มณฑลบูรพา) คือ เมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน แต่ปรากฏว่าเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) นั้นฝรั่งเศสมิได้คืนให้ไทยแต่ประการใด ปัจจุบันเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาไปโดยปริยาย[4]

    การสูญเสียแผ่นดินเกาะกงในสมัยนั้น ประวัติศาสตร์ของชาติไทยมิได้มีบันทึกการเสียดินแดนเกาะกงไว้แต่อย่างใด คงกล่าวโดยรวมในกรณีของดินแดนจังหวัดตราดเท่านั้น เพราะในขณะนั้นไทยต้องการดินแดนเขมรสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือดินแดนอีสานตอนใต้ในปัจจุบัน โดยให้ยึดทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นเขตแดน ซึ่งฝรั่งเศสก็ยินยอม



    จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือ จังหวัดเกาะกง เมืองปัจจันตคิรีเขตร เมือง พ.ศ. 2398 – 2447 ยุคทางประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์ • ก่อตั้ง พ.ศ. 2398 • ฝรั่งเศสไม่ยอมคืนดินแดน 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447 เมืองตราด กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ กัมพูชา จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร[1] หรือบางเอกสารจะเรียกว่า ปัตจันตคีรีเขตร์ บ้าง ประจันต์คิรีเขตต์ บ้าง[2] เป็นเมืองเดิมของราชอาณาจักรสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีความสำคัญเทียบเท่าจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ในอดีต มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะกง เขตจังหวัดเกาะกงในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน ดินแดนจังหวัดนี้ตกเป็นของฝรั่งเศสพร้อมกับหัวเมืองฝั่งขวาแม่น้ำโขง คือ แขวงไชยบุรีและแขวงจำปาศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2447 ประวัติ Map of Siam in 1900 แต่เดิมมาเกาะกงเป็นจังหวัดของราชอาณาจักรเขมร แต่มาถึงสมัยที่เขมรตกเป็นประเทศราชอยู่ในอำนาจของสยาม พระเจ้ากรุงสยามก็มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกงให้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองตราด เมื่อปี พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกง โดยพระราชทานนามเมืองนี้ว่า เมืองปัจจันตคีรีเขตต์ เพื่อให้เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีเขตติดต่อกับเขมรและญวน เหตุที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามเกาะกงว่า ปัจจันตคิรีเขตร ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ทางด้านภาคตะวันตกของไทย ซึ่งตั้งอยู่ในแนวรุ้ง (Latitude) เดียวกัน[3] ถึง พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์จัดตั้งสถานีทหารเรือขึ้นตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่เมืองชลบุรี บางพระ อำเภอบางละมุง เมืองระยอง เมืองแกลง เมืองจันทบุรี อำเภอขลุง เมืองตราด เมืองปัจจันตคิรีเขตร และเกาะเสม็ดนอก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสทางทะเล ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ฝรั่งเศสได้เริ่มดำเนินการทางทหารใช้กำลังเข้าบีบบังคับสยาม โดยยกกองทัพมาเข้าขับไล่ทหารไทยให้ถอยร่นออกจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ทำให้ความยุ่งยากทางชายแดนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการปรึกษาการป้องกันพระราชอาณาเขตขึ้น และจัดกองบัญชาการทัพอยู่ตามหัวเมืองชายทะเลแต่ละด้านขึ้นด้วย ในปี พ.ศ. 2436 รัฐบาลสยามได้แต่งตั้งให้นายพลเรือจัตวาพระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plésis de Richelieu) เป็นผู้จัดการป้องกันพระราชอาณาเขตทางหัวเมืองฝ่ายตะวันออก ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีคำสั่งมายังผู้ว่าราชการเมืองแถบนี้ ซึ่งรวมทั้งเมืองตราดและเมืองปัจจันตคิรีเขตรด้วย ให้ช่วยพระยาชลยุทธโยธินทร์จัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาเขต การเสียดินแดนจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร การส่งมอบตราดให้กับฝรั่งเศส วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศสสามารถฝ่าแนวป้องกันของสยามเข้ามาทอดสมอในกรุงเทพฯ ได้ ฝ่ายฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตามเมื่อ 20 กรกฎาคม โดยให้เวลาตอบ 48 ชั่วโมง ฝ่ายไทยได้ตอบข้อเรียกร้องเมื่อ 22 กรกฎาคม แต่ไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายฝรั่งเศส ดังนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ฝรั่งเศสจึงประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย สองวันถัดมา (26 กรกฎาคม) ฝรั่งเศสได้สั่งให้ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันออกไกลที่ไซ่ง่อนปิดล้อมอ่าวไทย ตั้งแต่แหลมเจ้าลายถึงบริเวณแหลมกระบัง และในวันที่ 29 กรกฎาคม ฝรั่งเศสได้ประกาศปิดล้อมอ่าวไทยครั้งที่ 2 โดยขยายเขตเพิ่มบริเวณเกาะเสม็ด จนถึงแหลมสิง รวม 2 เขต ฝ่ายไทยจำต้องยอมรับคำขาดของฝรั่งเศสที่ยื่นไว้แต่เดิมในวันเดียวกันนั้นเอง แต่ในวันรุ่งขึ้นฝรั่งเศสถือโอกาสยื่นคำขาดเพิ่มเติมอีก โดยประกาศยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน และบังคับให้ไทยถอนตัวออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอีกด้วย ไทยจำเป็นต้องยอมรับโดยไม่มีทางเลือก เมื่อฝ่ายไทยปฏิบัติตามคำขาดนั้นแล้ว ฝรั่งเศสจึงได้ยกเลิกการปิดอ่าวในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 12.00 น. แต่การยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรียังคงยึดไว้ตามเดิม ต่อมาได้มีการทำสัญญาสงบศึกกันโดยหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) ในหนังสือสัญญาฉบับนี้ มีข้อความระบุไว้ในอนุสัญญาผนวกต่อท้ายหนังสือสัญญาข้อ 6 ว่า "คอนเวอนแมนต์ (Government - รัฐบาล) ฝรั่งเศสจะได้ตั้งอยู่ต่อไปที่เมืองจันทบุรี จนกว่าจะได้ทำการสำเร็จแล้วตามข้อความในหนังสือสัญญานี้…" แม้ทางฝ่ายไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ฝรั่งเศสบีบบังคับทุกอย่าง ฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอมถอนทหาร ยังคงยึดจันทบุรีไว้อีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี เป็นเหตุให้ต้องมีการตกลงทำสัญญาขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่งคือ อนุสัญญาลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2445 แต่หนังสือฉบับนี้ฝรั่งเศสไม่ยอมให้สัตยาบันและไม่ถอนกำลังออกจากจันทบุรี จึงได้ตกลงมีสัญญาอีกฉบับหนึ่ง คือ สัญญาลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 คราวนี้ฝรั่งเศสจึงถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่ได้เข้ายึดครองเมืองตราดและบรรดาเกาะทั้งหลายภายใต้แหลมสิงลงไปซึ่งรวมถึงเกาะกงแทน ฝ่ายไทยจำต้องมอบเมืองตราดและเมืองประจันตคีรีเขตให้แก่ฝรั่งเศส ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447 พื้นที่ดังกล่าวได้ตกอยู่ในการยึดครองของฝรั่งเศส จนถึงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 จึงได้มีการตกลงทำหนังสือสัญญาขึ้นอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า "หนังสือสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเปรสสิเดนต์แห่งรีปัปลิคฝรั่งเศส" ฝรั่งเศสจึงคืนเมืองตราดให้ไทยตามเดิม แต่ฝ่ายไทยจะต้องยอมยกดินแดนเขมรส่วนใน (มณฑลบูรพา) คือ เมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน แต่ปรากฏว่าเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) นั้นฝรั่งเศสมิได้คืนให้ไทยแต่ประการใด ปัจจุบันเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาไปโดยปริยาย[4] การสูญเสียแผ่นดินเกาะกงในสมัยนั้น ประวัติศาสตร์ของชาติไทยมิได้มีบันทึกการเสียดินแดนเกาะกงไว้แต่อย่างใด คงกล่าวโดยรวมในกรณีของดินแดนจังหวัดตราดเท่านั้น เพราะในขณะนั้นไทยต้องการดินแดนเขมรสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือดินแดนอีสานตอนใต้ในปัจจุบัน โดยให้ยึดทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นเขตแดน ซึ่งฝรั่งเศสก็ยินยอม
    0 Comments 1 Shares 607 Views 0 Reviews
  • พระคง ไม่ทราบที่
    ** พระคง เนื้อดินเผา พระกรุเนื้อดินไม่ทราบที่ สภาพสวยเก็บหิ้ง // พุทธคุณสุดยอดคงกระพันหาใครเทียบยาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ คงกระพันชาตรี ทนต่ออาวุธ คมหอกคมดาบ และ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายต่างๆ อยู่เย็นเป็นสุข และเป็นที่รักของผู้พบเห็น >>

    ** พระคง เนื้อดินเผา เป็นหนึ่งในพระพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองลำพูน วัสดุเป็นดินเผา รูปทรงมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปแสดงปางมารวิชัย พระเศียรโล้น ไม่มีพระเกตุมาลา ครองจีวรห่มคลุมเรียบบางแนบพระวรกาย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชรบนฐานมีกลีบบัวที่คลี่คลายเป็นลายจุดไข่ปลาขนาดเล็ก รองรับด้วยฐานเรียบอีกชั้นหนึ่ง รอบพระวรกายมีประภาวลี หรือรัศมีที่เป็นเส้นรอบพระวรกาย เหนือขึ้นไปเป็นซุ้มปรกโพธิ์ ลักษณะรูปแบบของพระคง เป็นพระพิมพ์ขัดสมาธิเพชรที่อาจได้รับอิทธิพลจากพระพุทธรูปในศิลปะพุกามที่มีอิทธิพลจากพระพุทธรูปในศิลปะอินเดียแบบปาละและคุปตะปรากฏในงานศิลปกรรม เช่น พระพุทธรูป และพระพิมพ์ชนิดอื่นๆในวัฒนธรรมหริภุญไชย กำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระคง ไม่ทราบที่ ** พระคง เนื้อดินเผา พระกรุเนื้อดินไม่ทราบที่ สภาพสวยเก็บหิ้ง // พุทธคุณสุดยอดคงกระพันหาใครเทียบยาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ คงกระพันชาตรี ทนต่ออาวุธ คมหอกคมดาบ และ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายต่างๆ อยู่เย็นเป็นสุข และเป็นที่รักของผู้พบเห็น >> ** พระคง เนื้อดินเผา เป็นหนึ่งในพระพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองลำพูน วัสดุเป็นดินเผา รูปทรงมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปแสดงปางมารวิชัย พระเศียรโล้น ไม่มีพระเกตุมาลา ครองจีวรห่มคลุมเรียบบางแนบพระวรกาย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชรบนฐานมีกลีบบัวที่คลี่คลายเป็นลายจุดไข่ปลาขนาดเล็ก รองรับด้วยฐานเรียบอีกชั้นหนึ่ง รอบพระวรกายมีประภาวลี หรือรัศมีที่เป็นเส้นรอบพระวรกาย เหนือขึ้นไปเป็นซุ้มปรกโพธิ์ ลักษณะรูปแบบของพระคง เป็นพระพิมพ์ขัดสมาธิเพชรที่อาจได้รับอิทธิพลจากพระพุทธรูปในศิลปะพุกามที่มีอิทธิพลจากพระพุทธรูปในศิลปะอินเดียแบบปาละและคุปตะปรากฏในงานศิลปกรรม เช่น พระพุทธรูป และพระพิมพ์ชนิดอื่นๆในวัฒนธรรมหริภุญไชย กำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • พระกรุนาคาม เนื้อสัมฤทธิ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
    พระกรุนาคาม เนื้อสัมฤทธิ์ พิมพ์ปางมารวิชัยสดุ้งมาร จังหวัดนครศรีธรรมราช //พุทธศิลป์สมัยอยุธยายุคต้น ต่อสมัยอู่ทองยุคปลาย อายุพระนับแต่แรกสร้างถึงปัจจุบัน ๔๐๐ ปีเศษ // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณดีเลิศทางด้านควบคุมคน แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ค้าขาย โดดเด่นในด้านมหาอุด คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย ส่งเสริมในด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม. ถือเป็นพระกรุที่น่าบูชาของทางภาคใต้

    ** พระกรุนาคาม เนื้อสัมฤทธิ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พิมพ์ปางมารวิชัยสดุ้งมาร กรุวัดนาคาม (วัดเนกขัมมาราม ในปัจจุบัน) พุทธศิลป์สมัยอยุธยายุคต้น ต่อสมัยอู่ทองยุคปลาย อายุพระนับแต่แรกสร้างถึงปัจจุบัน ๔๐๐ ปีเศษ พระกรุนาคามถูกขุดพบครั้งแรกเมื่อปี ๒๔๘๐ ขณะรื้อโบสถ์หลังเก่า ของวัดนาคามซึ่งชำรุดทรุดโทรมมากเพื่อสร้างใหม่ จึงได้พบพระเครื่องจำนวนหนึ่ง บรรจุอยู่ใต้ฐานพระประธานหลายบาตร อีกส่วนหนึ่งบรรจุอยู่ในเจดีย์หน้าโบสถ์ มีหลายพิมพ์ ส่วนใหญ่เป็น พระพิมพ์นางพญาหลายรูปแบบ >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระกรุนาคาม เนื้อสัมฤทธิ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พระกรุนาคาม เนื้อสัมฤทธิ์ พิมพ์ปางมารวิชัยสดุ้งมาร จังหวัดนครศรีธรรมราช //พุทธศิลป์สมัยอยุธยายุคต้น ต่อสมัยอู่ทองยุคปลาย อายุพระนับแต่แรกสร้างถึงปัจจุบัน ๔๐๐ ปีเศษ // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณดีเลิศทางด้านควบคุมคน แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ค้าขาย โดดเด่นในด้านมหาอุด คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย ส่งเสริมในด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม. ถือเป็นพระกรุที่น่าบูชาของทางภาคใต้ ** พระกรุนาคาม เนื้อสัมฤทธิ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พิมพ์ปางมารวิชัยสดุ้งมาร กรุวัดนาคาม (วัดเนกขัมมาราม ในปัจจุบัน) พุทธศิลป์สมัยอยุธยายุคต้น ต่อสมัยอู่ทองยุคปลาย อายุพระนับแต่แรกสร้างถึงปัจจุบัน ๔๐๐ ปีเศษ พระกรุนาคามถูกขุดพบครั้งแรกเมื่อปี ๒๔๘๐ ขณะรื้อโบสถ์หลังเก่า ของวัดนาคามซึ่งชำรุดทรุดโทรมมากเพื่อสร้างใหม่ จึงได้พบพระเครื่องจำนวนหนึ่ง บรรจุอยู่ใต้ฐานพระประธานหลายบาตร อีกส่วนหนึ่งบรรจุอยู่ในเจดีย์หน้าโบสถ์ มีหลายพิมพ์ ส่วนใหญ่เป็น พระพิมพ์นางพญาหลายรูปแบบ >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 245 Views 0 Reviews
  • สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี ๒๕๖๘

    สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๘ ความว่า

    "คือขุนเขาลำเนาไพรคือสายน้ำ
    คือความงามความสุขคือทุกสิ่ง
    คือความรักความห่วงใยอันแท้จริง
    พระคุณแม่ใหญ่ยิ่งพ้นพรรณนา"

    #ทรงพระเจริญ #เดินตามพ่อ #วันแม่แห่งชาติ #สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
    สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี ๒๕๖๘ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๘ ความว่า "คือขุนเขาลำเนาไพรคือสายน้ำ คือความงามความสุขคือทุกสิ่ง คือความรักความห่วงใยอันแท้จริง พระคุณแม่ใหญ่ยิ่งพ้นพรรณนา" #ทรงพระเจริญ #เดินตามพ่อ #วันแม่แห่งชาติ #สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 426 Views 0 Reviews
  • พระรอดหลังปั้มเจดีย์ ปี2540 // มวลสารกรุเก่าและพระกรุสกุลลำพูนที่แตกหัก // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณแคล้วคลาด ปราศจากภัยอันตราย และความวิบัติต่างๆ นอกจากนี้ ยังเชื่อว่ามีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และคงกระพันชาตรี >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131

    # กรุณาโอน
    ธ.กรุงไทย 909-052-1852 สาขา ยะลา
    ชือ พงษ์ศักดิ์ โชคอรรคนิต
    โอนแล้วกรุณา..แจ้ง T.088 -1915131 +++ ทุกรายการส่งด่วน EMS ฟรี..+++
    พระรอดหลังปั้มเจดีย์ ปี2540 // มวลสารกรุเก่าและพระกรุสกุลลำพูนที่แตกหัก // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณแคล้วคลาด ปราศจากภัยอันตราย และความวิบัติต่างๆ นอกจากนี้ ยังเชื่อว่ามีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และคงกระพันชาตรี >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131 # กรุณาโอน ธ.กรุงไทย 909-052-1852 สาขา ยะลา ชือ พงษ์ศักดิ์ โชคอรรคนิต โอนแล้วกรุณา..แจ้ง T.088 -1915131 +++ ทุกรายการส่งด่วน EMS ฟรี..+++
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 Reviews
  • สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๘ ความว่า
    "คือขุนเขาลำเนาไพรคือสายน้ำ
    คือความงามความสุขคือทุกสิ่ง
    คือความรักความห่วงใยอันแท้จริง
    พระคุณแม่ใหญ่ยิ่งพ้นพรรณนา"
    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๘ ความว่า "คือขุนเขาลำเนาไพรคือสายน้ำ คือความงามความสุขคือทุกสิ่ง คือความรักความห่วงใยอันแท้จริง พระคุณแม่ใหญ่ยิ่งพ้นพรรณนา"
    0 Comments 0 Shares 339 Views 0 Reviews
  • หมายกำหนดการ

    พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา

    กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘

    (ฉบับเปลี่ยนแปลง)

    ตามหมายกำหนดการสำนักพระราชวัง ฉบับที่ ๑๗/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เรื่อง พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ดังรายละเอียดแจ้งอยู่แล้ว นั้น

    การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้งดพระราชพิธีดังกล่าว และให้กำหนดการเปลี่ยนแปลงดังนี้ -

    วันจันทร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ตั้งแต่เวลา ๘ นาฬิกา ถึงเวลา ๑๒ นาฬิกา สำนักพระราชวังจัดที่สำหรับลงพระนามและลงนามถวายพระพร ไว้ที่ในพระบรมหาราชวัง

    การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการและประชาชน เข้ากราบถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร ตั้งแต่เวลา ๘ นาฬิกา ถึงเวลา ๑๗ นาฬิกา

    เวลา ๑๒ นาฬิกา ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ ๒๑ นัด

    การแต่งกาย

    - ลงพระนามและลงนามถวายพระพร
    แต่งเครื่องแบบปกติขาว

    - กราบถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ณ ปราสาทพระเทพบิดร
    แต่งชุดสุภาพ

    สำนักพระราชวัง
    วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘

    #หมายกำหนดการ
    #พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
    หมายกำหนดการ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ฉบับเปลี่ยนแปลง) ตามหมายกำหนดการสำนักพระราชวัง ฉบับที่ ๑๗/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เรื่อง พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ดังรายละเอียดแจ้งอยู่แล้ว นั้น การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้งดพระราชพิธีดังกล่าว และให้กำหนดการเปลี่ยนแปลงดังนี้ - วันจันทร์ที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ตั้งแต่เวลา ๘ นาฬิกา ถึงเวลา ๑๒ นาฬิกา สำนักพระราชวังจัดที่สำหรับลงพระนามและลงนามถวายพระพร ไว้ที่ในพระบรมหาราชวัง การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการและประชาชน เข้ากราบถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร ตั้งแต่เวลา ๘ นาฬิกา ถึงเวลา ๑๗ นาฬิกา เวลา ๑๒ นาฬิกา ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ ๒๑ นัด การแต่งกาย - ลงพระนามและลงนามถวายพระพร แต่งเครื่องแบบปกติขาว - กราบถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ณ ปราสาทพระเทพบิดร แต่งชุดสุภาพ สำนักพระราชวัง วันที่ ๒๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ #หมายกำหนดการ #พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 470 Views 0 Reviews
  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโรงครัวพระราชทาน เพื่อสนับสนุนการประกอบอาหาร ดูแลชาวบ้านและผู้อพยพในพื้นที่ชายแดน
    .
    ซึ่งมีกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ดำเนินการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อสนับสนุนการประกอบอาหารพระราชทาน สำหรับแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนที่เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตรายใน ชายแดนไทย – กัมพูชา ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโรงครัวพระราชทาน เพื่อสนับสนุนการประกอบอาหาร ดูแลชาวบ้านและผู้อพยพในพื้นที่ชายแดน . ซึ่งมีกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ดำเนินการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อสนับสนุนการประกอบอาหารพระราชทาน สำหรับแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนที่เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่เสี่ยงอันตรายใน ชายแดนไทย – กัมพูชา ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์
    Love
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 371 Views 0 Reviews
  • พระบรมราชโองการ ประกาศ : มอบหมายผู้ดูแลรักษาและจัดการผลประโยชน์ทรัพย์สินในพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่าตามที่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เป็นผู้ดูแลรักษาและจัดการผลประโยชน์ทรัพย์สินส่วนพระองค์ และพระราชทานมอบอำนาจให้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ ตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๐ และต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตราพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๖๘ ให้เปลี่ยนชื่อ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็น สำนักงานพระคลังข้างที่ และให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ และภาระผูกพันของสำนักพระราชวัง เฉพาะส่วนของสำนักงานพระคลังข้างที่ ไปเป็นของสำนักงานพระคลังข้างที่ นั้นบัดนี้ ทรงมีพระราชดำริว่า เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย และเหมาะสมกับการดูแลทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ของสำนักงานพระคลังข้างที่ สมควรมอบหมายผู้ดูแลรักษาและจัดการผลประโยชน์ทรัพย์สินในพระองค์อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ประกอบมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๖๘ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมมอบหมายให้ สำนักงานพระคลังข้างที่ เป็น ผู้ดูแลรักษาและจัดการผลประโยชน์ทรัพย์สินในพระองค์ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปประกาศ ณ วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นปีที่ ๑๐ ในรัชกาลปัจจุบัน
    พระบรมราชโองการ ประกาศ : มอบหมายผู้ดูแลรักษาและจัดการผลประโยชน์ทรัพย์สินในพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่าตามที่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เป็นผู้ดูแลรักษาและจัดการผลประโยชน์ทรัพย์สินส่วนพระองค์ และพระราชทานมอบอำนาจให้จัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ ตามประกาศพระบรมราชโองการ ลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๐ และต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตราพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๖๘ ให้เปลี่ยนชื่อ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็น สำนักงานพระคลังข้างที่ และให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ และภาระผูกพันของสำนักพระราชวัง เฉพาะส่วนของสำนักงานพระคลังข้างที่ ไปเป็นของสำนักงานพระคลังข้างที่ นั้นบัดนี้ ทรงมีพระราชดำริว่า เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย และเหมาะสมกับการดูแลทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ของสำนักงานพระคลังข้างที่ สมควรมอบหมายผู้ดูแลรักษาและจัดการผลประโยชน์ทรัพย์สินในพระองค์อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พุทธศักราช ๒๕๖๑ ประกอบมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๖๘ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมมอบหมายให้ สำนักงานพระคลังข้างที่ เป็น ผู้ดูแลรักษาและจัดการผลประโยชน์ทรัพย์สินในพระองค์ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปประกาศ ณ วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นปีที่ ๑๐ ในรัชกาลปัจจุบัน
    0 Comments 0 Shares 338 Views 0 Reviews
  • เผยคาถาล้างกรรมและบทกรวดน้ำสุดขลังจากหลวงพ่อปาน! ปลดปล่อยวิญญาณ พ้นทุกข์ เสริมสิริมงคลชีวิต

    **คาถาล้างกรรมและบทกรวดน้ำ** ฉบับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค สุดยอดวิชาลี้ลับที่คุณยายฟื้นได้รับจากพระยายมราช! สวดแล้วช่วยบรรเทากรรมบรรพบุรุษ ปลดปล่อยวิญญาณสัมภเวสีให้พ้นทุกข์ และเสริมความสุข อายุยืนยาวให้ผู้สวด คาถานี้เคยหายไปจากการพิมพ์ แต่ถูกค้นพบจากต้นฉบับเก่า เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ทุกคน!

    ---

    ### **คาถาล้างกรรม**
    **ตั้งนะโม 3 จบ**
    *“พุทโธ อะระหัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวัณโณ พุทโธ อะระหัง กัมมะโตเมตัง กัมมะภันทะนัง ชีวิตตังให้ไปจุติ ให้ทุกชีวิตทุกวิญญาณจงไปผุดไปเกิด”*
    (สวด 3 จบ)

    ช่วยลดกรรมหนักของบรรพบุรุษ ให้วิญญาณได้ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี

    ---

    **บทกรวดน้ำ**
    *“อิมินา ปุญญกัมเมนะ ขอเดชเดชะกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าอุทิศไปให้คุณบิดามารดา ญาติกาทั้งหลาย สมณชีพราหมณ์ อีกทั้งเรือด ริ้น ลา พระอินทร์เจ้าฟ้า พระโคดม พระพรหมมีฤทธิ์ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระเพชรฉลูกรรณ พระมาตุลี พระกรุงพาลี พระภูมิเจ้าที่ แม่ซื้อพันจิต พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ ที่นำข้าพเจ้ามาเกิดในท้องพระพุทธศาสนา แม่พระคงคาไหล แม่พระเพลิง แม่พระพาย แม่พระฉูดฉาด พญายมราช ท้าวเวสสุวัณ ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ นายสมุห์บัญชี*

    *ตัวข้าพเจ้านี้ได้กระทำผิด จะขอแผ่อุทิศไปยังฝูงผีทั้งหลาย ปิดอบายให้มั่น เปิดประตูสวรรค์ให้สว่างกระจ่างแจ้ง เกิดในเมืองมนุษย์ให้เป็นสุข เกิดในเมืองสวรรค์ให้เป็นสุข ท่านทั้งหลายที่ได้ทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ได้สุข ขอให้สุขยิ่งๆ นิพพานัง ปัจจโย โหนตุ พุทธัง ชั่วอนันตัง ธัมมัง ชั่วจักวาลัง สังฆัง นิพพานัง ปัจจโย โหตุ”*

    สวดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณสัมภเวสี ญาติพี่น้อง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยปิดอบาย เปิดทางสวรรค์

    ---

    **เคล็ดลับ**: สวดภาวนาเป็นประจำ วิญญาณจะพ้นทุกข์ ผู้สวดจะมีแต่ความสุข สิ่งชั่วร้ายไม่กล้ำกราย อายุยืนยาว!
    ที่มา: ต้นฉบับเก่าวัดบางนมโค คุณยายฟื้นถวายหลวงพ่อปาน
    ลองสวดตามแล้วแชร์ผลบุญนี้ต่อ เพื่อเป็นวิทยาทานและเสริมสิริมงคลให้กันและกัน

    #คาถาล้างกรรม #บทกรวดน้ำ #หลวงพ่อปาน #วัดบางนมโค #เสริมดวง #พ้นทุกข์ #สิริมงคล
    เผยคาถาล้างกรรมและบทกรวดน้ำสุดขลังจากหลวงพ่อปาน! ปลดปล่อยวิญญาณ พ้นทุกข์ เสริมสิริมงคลชีวิต 🌟 **คาถาล้างกรรมและบทกรวดน้ำ** ฉบับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค สุดยอดวิชาลี้ลับที่คุณยายฟื้นได้รับจากพระยายมราช! สวดแล้วช่วยบรรเทากรรมบรรพบุรุษ ปลดปล่อยวิญญาณสัมภเวสีให้พ้นทุกข์ และเสริมความสุข อายุยืนยาวให้ผู้สวด 🙏 คาถานี้เคยหายไปจากการพิมพ์ แต่ถูกค้นพบจากต้นฉบับเก่า เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ทุกคน! --- ### **คาถาล้างกรรม** **ตั้งนะโม 3 จบ** *“พุทโธ อะระหัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวัณโณ พุทโธ อะระหัง กัมมะโตเมตัง กัมมะภันทะนัง ชีวิตตังให้ไปจุติ ให้ทุกชีวิตทุกวิญญาณจงไปผุดไปเกิด”* (สวด 3 จบ) ช่วยลดกรรมหนักของบรรพบุรุษ ให้วิญญาณได้ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดี --- **บทกรวดน้ำ** *“อิมินา ปุญญกัมเมนะ ขอเดชเดชะกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าอุทิศไปให้คุณบิดามารดา ญาติกาทั้งหลาย สมณชีพราหมณ์ อีกทั้งเรือด ริ้น ลา พระอินทร์เจ้าฟ้า พระโคดม พระพรหมมีฤทธิ์ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระเพชรฉลูกรรณ พระมาตุลี พระกรุงพาลี พระภูมิเจ้าที่ แม่ซื้อพันจิต พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ ที่นำข้าพเจ้ามาเกิดในท้องพระพุทธศาสนา แม่พระคงคาไหล แม่พระเพลิง แม่พระพาย แม่พระฉูดฉาด พญายมราช ท้าวเวสสุวัณ ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ นายสมุห์บัญชี* *ตัวข้าพเจ้านี้ได้กระทำผิด จะขอแผ่อุทิศไปยังฝูงผีทั้งหลาย ปิดอบายให้มั่น เปิดประตูสวรรค์ให้สว่างกระจ่างแจ้ง เกิดในเมืองมนุษย์ให้เป็นสุข เกิดในเมืองสวรรค์ให้เป็นสุข ท่านทั้งหลายที่ได้ทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ได้สุข ขอให้สุขยิ่งๆ นิพพานัง ปัจจโย โหนตุ พุทธัง ชั่วอนันตัง ธัมมัง ชั่วจักวาลัง สังฆัง นิพพานัง ปัจจโย โหตุ”* สวดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณสัมภเวสี ญาติพี่น้อง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยปิดอบาย เปิดทางสวรรค์ --- 💡 **เคล็ดลับ**: สวดภาวนาเป็นประจำ วิญญาณจะพ้นทุกข์ ผู้สวดจะมีแต่ความสุข สิ่งชั่วร้ายไม่กล้ำกราย อายุยืนยาว! 📖 ที่มา: ต้นฉบับเก่าวัดบางนมโค คุณยายฟื้นถวายหลวงพ่อปาน ✨ ลองสวดตามแล้วแชร์ผลบุญนี้ต่อ เพื่อเป็นวิทยาทานและเสริมสิริมงคลให้กันและกัน 🙏 #คาถาล้างกรรม #บทกรวดน้ำ #หลวงพ่อปาน #วัดบางนมโค #เสริมดวง #พ้นทุกข์ #สิริมงคล
    0 Comments 0 Shares 459 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อัฏฐังคิกมรรค คือหนทางเก่าที่ทรงพบใหม่
    สัทธรรมลำดับที่ : 687
    ชื่อบทธรรม :- อัฏฐังคิกมรรค คือหนทางเก่าที่ทรงพบใหม่
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=687
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อัฏฐังคิกมรรค คือหนทางเก่าที่ทรงพบใหม่
    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนบุรุษเที่ยวไปในป่าทึบ เกิดรอยทางซึ่งเคยเป็นหนทางเก่า
    ที่มนุษย์แต่กาลก่อนเคยใช้เดินแล้ว.
    บุรุษนั้นจึงเดินตามทางนั้นไป เมื่อเดินไปตามทางนั้นอยู่
    ได้พบซากนครซึ่งเป็นราชธานีโบราณ
    อันมนุษย์ทั้งหลายแต่กาลก่อนเคยอยู่อาศัยแล้ว เป็นที่อันสมบูรณ์ด้วยสวน
    สมบูรณ์ด้วยป่าไม้ สมบูรณ์ด้วยสระโบกขรณี มีซากกำแพงล้อม มีภูมิภาคน่ารื่นรมย์.
    +--ภิกษุ ท. ! ลำดับนั้น บุรุษนั้นเข้าไปกราบทูลแจ้งข่าวนี้แก่พระราชาหรือแก่มหาอำมาตย์ของพระราชาว่า
    “ขอท้าวพระกรุณาจงทรงทราบเถิด
    : ข้าพระเจ้าเมื่อเที่ยวไปในป่าทึบ ได้เห็นรอยทางซึ่งเคยเป็นหนทางเก่า
    ที่มนุษย์แต่กาลก่อนเคยใช้เดินแล้ว.
    ข้าพเจ้าได้เดินตามทางนั้นไป เมื่อเดินไปตามทางนั้นอยู่
    ได้พบซากนครซึ่งเป็นราชธานีโบราณ อันมนุษย์ ท. แต่กาลก่อนเคยอยู่อาศัยแล้ว
    เป็นที่อันสมบูรณ์ด้วยสวนสมบูรณ์ ด้วยป่าไม้สมบูรณ์ ด้วยสระโบกขรณี
    มีซากกำแพงล้อม มีภูมิภาคน่ารื่นรมย์.
    ขอพระองค์จงปรับปรุงสถานที่นั้นให้เป็นนครเถิด พระเจ้าข้า !“
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! ลำดับนั้น พระราชาหรืออำมาตย์ของพระราชานั้น
    จึงปรับปรุงสถานที่นั้นขึ้นเป็นนคร.
    สมัยต่อมา นครนั้นได้กลายเป็นนครที่มั่งคั่งและรุ่งเรือง มีประชาชนมาก
    เกลื่อนกล่นด้วยมนุษย์ ถึงแล้วซึ่งความเจริญไพบูลย์,
    นี้ฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น
    : เราได้เห็นแล้วซึ่งรอยทางเก่าที่เคยเป็นหนทางเก่า
    อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนเคยทรงดำเนินแล้ว.
    --ภิกษุ ท. ! ก็รอยทางเก่า ที่เคยเป็นหนทางเก่า
    อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนเคยทรงดำเนินแล้ว นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
    นั่นคือ อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้นั่นเทียว ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ
    http://etipitaka.com/read/pali/16/128/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค
    สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
    สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ.

    --ภิกษุ ท. ! นี้แล รอยทางเก่าที่เป็นหนทางเก่า
    อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนเคยทรงดำเนินแล้ว.
    เรานั้น ได้ดำเนินไปตามแล้วซึ่งหนทางนั้น.
    เมื่อดำเนินไปตามแล้วซึ่งหนทางนั้นอยู่, เราได้รู้ยิ่งเฉพาะแล้วซึ่ง
    ๑. ชรามรณะ,
    ๒. ซึ่งเหตุให้เกิดขึ้นแห่งชรามรณะ,
    ๓. ซึ่งความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะ,
    ๔. ซึ่งข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะ;
    http://etipitaka.com/read/pali/16/128/?keywords=ชรามรณํ

    (ข้อความต่อไปนี้ ได้ตรัสถึง
    ชาติ - ภพ - อุปาทาน - ตัณหา - เวทนา - ผัสสะ - สฬายตนะ - นามรูป - วิญญาณ -
    สุดลงเพียง - สังขาร (แต่ละอย่าง) โดยอาการทั้งสี่ (๔)
    ดังที่ได้ตรัสในกรณีแห่งชรามรณะ เหมือนกันทุกตัวอักษร
    เว้นแต่ชื่อของตัวปฏิจจสมุปปันธรรมนั้นๆ เท่านั้น).

    --ภิกษุ ท. ! เรานั้น,
    ครั้นรู้ยิ่งเฉพาะแล้วซึ่งหนทางนั้น,
    ได้บอกแล้วแก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ทั้งหลาย.
    --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์นี้ ที่เรากล่าวบอกแล้วนั้น
    ได้เป็น พรหมจรรย์ตั้งมั่น และรุ่งเรืองแล้ว
    เป็นพรหมจรรย์แผ่ไพศาล เป็นที่รู้แห่งชนมากเป็นปึกแผ่นแน่นหนา
    จนกระทั่งเทวดาและมนุษย์(เทวมนุสฺเสหิ)​ทั้งหลายสามารถประกาศได้ ด้วยดีแล้ว,
    http://etipitaka.com/read/pali/16/128/?keywords=เทวมนุสฺเสหิ
    ดังนี้.-

    #อัฏฐังคิกมรรคคือหนทางเก่าที่ทรงพบใหม่
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ .16/103/253.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/103/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ .๑๖/๑๒๘/๒๕๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/128/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%93
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=687
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=49&id=687
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=49
    ลำดับสาธยายธรรม : 49 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_49.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อัฏฐังคิกมรรค คือหนทางเก่าที่ทรงพบใหม่ สัทธรรมลำดับที่ : 687 ชื่อบทธรรม :- อัฏฐังคิกมรรค คือหนทางเก่าที่ทรงพบใหม่ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=687 เนื้อความทั้งหมด :- --อัฏฐังคิกมรรค คือหนทางเก่าที่ทรงพบใหม่ --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนบุรุษเที่ยวไปในป่าทึบ เกิดรอยทางซึ่งเคยเป็นหนทางเก่า ที่มนุษย์แต่กาลก่อนเคยใช้เดินแล้ว. บุรุษนั้นจึงเดินตามทางนั้นไป เมื่อเดินไปตามทางนั้นอยู่ ได้พบซากนครซึ่งเป็นราชธานีโบราณ อันมนุษย์ทั้งหลายแต่กาลก่อนเคยอยู่อาศัยแล้ว เป็นที่อันสมบูรณ์ด้วยสวน สมบูรณ์ด้วยป่าไม้ สมบูรณ์ด้วยสระโบกขรณี มีซากกำแพงล้อม มีภูมิภาคน่ารื่นรมย์. +--ภิกษุ ท. ! ลำดับนั้น บุรุษนั้นเข้าไปกราบทูลแจ้งข่าวนี้แก่พระราชาหรือแก่มหาอำมาตย์ของพระราชาว่า “ขอท้าวพระกรุณาจงทรงทราบเถิด : ข้าพระเจ้าเมื่อเที่ยวไปในป่าทึบ ได้เห็นรอยทางซึ่งเคยเป็นหนทางเก่า ที่มนุษย์แต่กาลก่อนเคยใช้เดินแล้ว. ข้าพเจ้าได้เดินตามทางนั้นไป เมื่อเดินไปตามทางนั้นอยู่ ได้พบซากนครซึ่งเป็นราชธานีโบราณ อันมนุษย์ ท. แต่กาลก่อนเคยอยู่อาศัยแล้ว เป็นที่อันสมบูรณ์ด้วยสวนสมบูรณ์ ด้วยป่าไม้สมบูรณ์ ด้วยสระโบกขรณี มีซากกำแพงล้อม มีภูมิภาคน่ารื่นรมย์. ขอพระองค์จงปรับปรุงสถานที่นั้นให้เป็นนครเถิด พระเจ้าข้า !“ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! ลำดับนั้น พระราชาหรืออำมาตย์ของพระราชานั้น จึงปรับปรุงสถานที่นั้นขึ้นเป็นนคร. สมัยต่อมา นครนั้นได้กลายเป็นนครที่มั่งคั่งและรุ่งเรือง มีประชาชนมาก เกลื่อนกล่นด้วยมนุษย์ ถึงแล้วซึ่งความเจริญไพบูลย์, นี้ฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : เราได้เห็นแล้วซึ่งรอยทางเก่าที่เคยเป็นหนทางเก่า อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนเคยทรงดำเนินแล้ว. --ภิกษุ ท. ! ก็รอยทางเก่า ที่เคยเป็นหนทางเก่า อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนเคยทรงดำเนินแล้ว นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? นั่นคือ อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้นั่นเทียว ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ http://etipitaka.com/read/pali/16/128/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. --ภิกษุ ท. ! นี้แล รอยทางเก่าที่เป็นหนทางเก่า อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนเคยทรงดำเนินแล้ว. เรานั้น ได้ดำเนินไปตามแล้วซึ่งหนทางนั้น. เมื่อดำเนินไปตามแล้วซึ่งหนทางนั้นอยู่, เราได้รู้ยิ่งเฉพาะแล้วซึ่ง ๑. ชรามรณะ, ๒. ซึ่งเหตุให้เกิดขึ้นแห่งชรามรณะ, ๓. ซึ่งความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะ, ๔. ซึ่งข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะ; http://etipitaka.com/read/pali/16/128/?keywords=ชรามรณํ (ข้อความต่อไปนี้ ได้ตรัสถึง ชาติ - ภพ - อุปาทาน - ตัณหา - เวทนา - ผัสสะ - สฬายตนะ - นามรูป - วิญญาณ - สุดลงเพียง - สังขาร (แต่ละอย่าง) โดยอาการทั้งสี่ (๔) ดังที่ได้ตรัสในกรณีแห่งชรามรณะ เหมือนกันทุกตัวอักษร เว้นแต่ชื่อของตัวปฏิจจสมุปปันธรรมนั้นๆ เท่านั้น). --ภิกษุ ท. ! เรานั้น, ครั้นรู้ยิ่งเฉพาะแล้วซึ่งหนทางนั้น, ได้บอกแล้วแก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์นี้ ที่เรากล่าวบอกแล้วนั้น ได้เป็น พรหมจรรย์ตั้งมั่น และรุ่งเรืองแล้ว เป็นพรหมจรรย์แผ่ไพศาล เป็นที่รู้แห่งชนมากเป็นปึกแผ่นแน่นหนา จนกระทั่งเทวดาและมนุษย์(เทวมนุสฺเสหิ)​ทั้งหลายสามารถประกาศได้ ด้วยดีแล้ว, http://etipitaka.com/read/pali/16/128/?keywords=เทวมนุสฺเสหิ ดังนี้.- #อัฏฐังคิกมรรคคือหนทางเก่าที่ทรงพบใหม่ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ .16/103/253. http://etipitaka.com/read/thai/16/103/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ .๑๖/๑๒๘/๒๕๓. http://etipitaka.com/read/pali/16/128/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%93 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=687 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=49&id=687 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=49 ลำดับสาธยายธรรม : 49 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_49.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อัฏฐังคิกมรรค คือหนทางเก่าที่ทรงพบใหม่
    -อัฏฐังคิกมรรค คือหนทางเก่าที่ทรงพบใหม่ ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนบุรุษเที่ยวไปในป่าทึบ เกิดรอยทางซึ่งเคยเป็นหนทางเก่า ที่มนุษย์แต่กาลก่อนเคยใช้เดินแล้ว. บุรุษนั้นจึงเดินตาม ทางนั้นไป เมื่อเดินไปตามทางนั้นอยู่ ได้พบซากนครซึ่งเป็นราชธานีโบราณ อันมนุษย์ทั้งหลายแต่กาลก่อนเคยอยู่อาศัยแล้ว เป็นที่อันสมบูรณ์ด้วยสวน สมบูรณ์ด้วยป่าไม้ สมบูรณ์ด้วยสระโบกขรณี มีซากกำแพงล้อม มีภูมิภาคน่ารื่นรมย์. ภิกษุ ท. ! ลำดับนั้น บุรุษนั้นเข้าไปกราบทูลแจ้งข่าวนี้แก่พระราชาหรือแก่มหาอำมาตย์ของพระราชาว่า “ขอท้าวพระกรุณาจงทรงทราบเถิด : ข้าพระเจ้าเมื่อเที่ยวไปในป่าทึบ ได้เห็นรอยทางซึ่งเคยเป็นหนทางเก่า ที่มนุษย์แต่กาลก่อนเคยใช้เดินแล้ว. ข้าพเจ้าได้เดินตามทางนั้นไป เมื่อเดินไปตามทางนั้นอยู่ ได้พบซากนครซึ่งเป็นราชธานีโบราณ อันมนุษย์ ท. แต่กาลก่อนเคยอยู่อาศัยแล้ว เป็นที่อันสมบูรณ์ด้วยสวนสมบูรณ์ ด้วยป่าไม้สมบูรณ์ ด้วยสระโบกขรณี มีซากกำแพงล้อม มีภูมิภาคน่ารื่นรมย์. ขอพระองค์จงปรับปรุงสถานที่นั้นให้เป็นนครเถิด พระเจ้าข้า !“ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! ลำดับนั้น พระราชาหรืออำมาตย์ของพระราชานั้น จึงปรับปรุงสถานที่นั้นขึ้นเป็นนคร. สมัยต่อมา นครนั้นได้กลายเป็นนครที่มั่งคั่งและรุ่งเรือง มีประชาชนมาก เกลื่อนกล่นด้วยมนุษย์ ถึงแล้วซึ่งความเจริญไพบูลย์, นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : เราได้เห็นแล้วซึ่งรอยทางเก่าที่เคยเป็นหนทางเก่า อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนเคยทรงดำเนินแล้ว. ภิกษุ ท. ! ก็รอยทางเก่า ที่เคยเป็นหนทางเก่า อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนเคยทรงดำเนินแล้ว นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? นั่นคือ อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้นั่นเทียว ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! นี้แล รอยทางเก่าที่เป็นหนทางเก่า อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนเคยทรงดำเนินแล้ว. เรานั้น ได้ดำเนินไปตามแล้วซึ่งหนทางนั้น. เมื่อดำเนินไปตามแล้วซึ่งหนทางนั้นอยู่, เราได้รู้ยิ่งเฉพาะแล้วซึ่งชรามรณะ, ซึ่งเหตุให้เกิดขึ้นแห่งชรามรณะ, ซึ่งความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะ, ซึ่งข้อปฏิบัติเครื่องทำสัตว์ให้ลุถึงความดับไม่เหลือแห่งชรามรณะ; (ข้อความต่อไปนี้ ได้ตรัสถึง ชาติ - ภพ - อุปาทาน - ตัณหา - เวทนา - ผัสสะ - สฬายตนะ - นามรูป - วิญญาณ - สุดลงเพียง - สังขาร (แต่ละอย่าง) โดยอาการทั้งสี่ ดังที่ได้ตรัสในกรณีแห่งชรามรณะ เหมือนกันทุกตัวอักษร เว้นแต่ชื่อของตัวปฏิจจสมุปปันธรรมนั้นๆ เท่านั้น). ภิกษุ ท. ! เรานั้น, ครั้นรู้ยิ่งเฉพาะแล้วซึ่งหนทางนั้น, ได้บอกแล้วแก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! พรหมจรรย์นี้ ที่เรากล่าวบอกแล้วนั้น ได้เป็น พรหมจรรย์ตั้งมั่น และรุ่งเรืองแล้ว เป็นพรหมจรรย์แผ่ไพศาล เป็นที่รู้แห่งชนมากเป็นปึกแผ่นแน่นหนา จนกระทั่งเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายสามารถประกาศได้ ด้วยดีแล้ว, ดังนี้.
    0 Comments 0 Shares 518 Views 0 Reviews
  • พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จ.สุพรรณบุรี
    พระขุนแผน เนื้อดินเผา (ปรากฏ แร่ เม็ดทรายให้เห็นในเนื้อพระ) กรุวัดบ้านกร่าง จ.สุพรรณบุรี // พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง เป็นพระกรุที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ นับเป็นพระกรุโบราณที่มีอายุการสร้างมาหลายร้อยปี //สภาพเนื้อพระเสื่อมตามกาลเวลา พระไม่ร้าว ไม่ราน ไม่บิ่น ไม่หัก ไม่ซ่อม หายากกครับ >>

    ** พุทธคุณด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มหาอุด และเมตตามหานิยม และ มหาเสน่ห์ มหาอำนาจ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง

    ** พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระปางมารวิชัยประทับนั่งในซุ้มเรือนแก้วมีใบระกาประดับด้านบนตัดขอบพระเป็นทรงห้าเหลี่ยม ตำนานเก่า เขาเล่าว่า พระนเรศวร์ สร้าง บรรจุกรุ ไว้นา ตั้งแต่ กู้เอกราช อโยธยาธานี ไทยนี้ เป็นพระดี ขลังศักดิ์สิทธิ์ ลือเลื่อง นานมาว่า คงกระพัน เมตตา มหานิยมนั้น เลิศล้ำ ดีเหลือ >>


    ** สภาพเนื้อพระเสื่อมตามกาลเวลา พระไม่ร้าว ไม่ราน ไม่บิ่น ไม่หัก ไม่ซ่อม หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จ.สุพรรณบุรี พระขุนแผน เนื้อดินเผา (ปรากฏ แร่ เม็ดทรายให้เห็นในเนื้อพระ) กรุวัดบ้านกร่าง จ.สุพรรณบุรี // พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง เป็นพระกรุที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ นับเป็นพระกรุโบราณที่มีอายุการสร้างมาหลายร้อยปี //สภาพเนื้อพระเสื่อมตามกาลเวลา พระไม่ร้าว ไม่ราน ไม่บิ่น ไม่หัก ไม่ซ่อม หายากกครับ >> ** พุทธคุณด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี มหาอุด และเมตตามหานิยม และ มหาเสน่ห์ มหาอำนาจ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ** พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จ.สุพรรณบุรี เป็นพระปางมารวิชัยประทับนั่งในซุ้มเรือนแก้วมีใบระกาประดับด้านบนตัดขอบพระเป็นทรงห้าเหลี่ยม ตำนานเก่า เขาเล่าว่า พระนเรศวร์ สร้าง บรรจุกรุ ไว้นา ตั้งแต่ กู้เอกราช อโยธยาธานี ไทยนี้ เป็นพระดี ขลังศักดิ์สิทธิ์ ลือเลื่อง นานมาว่า คงกระพัน เมตตา มหานิยมนั้น เลิศล้ำ ดีเหลือ >> ** สภาพเนื้อพระเสื่อมตามกาลเวลา พระไม่ร้าว ไม่ราน ไม่บิ่น ไม่หัก ไม่ซ่อม หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 268 Views 0 Reviews
  • พระนาคปรกกรุพระธาตุนาดูน จ.มหาสารคาม
    พระนาคปรกกรุพระธาตุนาดูน เนื้อดินเผา จ.มหาสารคาม // พระกรุเก่าแก่ สมัยทวารวดี อายุราว 1,300 ปี องค์พระไม่แแตกหัก ไม่ชำรุด // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยมช่วยให้เป็นที่รักของคนทั่วไป ส่งเสริมให้มีโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง แคล้วคลาด ป้องกันภัย และเสริมสิริมงคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านความสำเร็จ และการอยู่เย็นเป็นสุข >>

    ** พระกรุพระธาตุนาดูน ลักษณะของพระพิมพ์ดินเผากรุพระธาตุนาดูนมีมากกว่า 50 พิมพ์ ปัจจุบันพระกรุพระธาตุนาดูน มีการเช่าซื้อกันในวงกว้างมากขึ้น พระกรุนาดูน เป็นพระเครื่องที่ขุดค้นพบที่อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีความเก่าแก่และเป็นที่เคารพสักการะอย่างมาก เชื่อกันว่าเป็นพระเครื่องที่สร้างขึ้นในสมัยทวารวดี (ราว 1,300 ปีก่อน) และมีการค้นพบพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ในสถูปทองสำริดที่ขุดพบในบริเวณเดียวกัน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระนาคปรกกรุพระธาตุนาดูน จ.มหาสารคาม พระนาคปรกกรุพระธาตุนาดูน เนื้อดินเผา จ.มหาสารคาม // พระกรุเก่าแก่ สมัยทวารวดี อายุราว 1,300 ปี องค์พระไม่แแตกหัก ไม่ชำรุด // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ** พุทธคุณเมตตามหานิยมช่วยให้เป็นที่รักของคนทั่วไป ส่งเสริมให้มีโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง แคล้วคลาด ป้องกันภัย และเสริมสิริมงคล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านความสำเร็จ และการอยู่เย็นเป็นสุข >> ** พระกรุพระธาตุนาดูน ลักษณะของพระพิมพ์ดินเผากรุพระธาตุนาดูนมีมากกว่า 50 พิมพ์ ปัจจุบันพระกรุพระธาตุนาดูน มีการเช่าซื้อกันในวงกว้างมากขึ้น พระกรุนาดูน เป็นพระเครื่องที่ขุดค้นพบที่อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีความเก่าแก่และเป็นที่เคารพสักการะอย่างมาก เชื่อกันว่าเป็นพระเครื่องที่สร้างขึ้นในสมัยทวารวดี (ราว 1,300 ปีก่อน) และมีการค้นพบพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ในสถูปทองสำริดที่ขุดพบในบริเวณเดียวกัน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • วันนี้เวลา ๐๙.๑๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
    วันนี้เวลา ๐๙.๑๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 406 Views 0 Reviews
  • กัมพูชาเป็นประเทศราชของไทยอยู่เกือบร้อยกว่าปีในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อนไทยจะเสียดินแดนกัมพูชาให้กับฝรั่งเศส ดังนั้นกัมพูชาจึงได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมไทยไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักองค์ด้วงซึ่งทรงเติบโตในกรุงเทพกว่า 27 ปี เมื่อทรงกลับไปครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์กัมพูชาแล้วก็ทรงนำศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของราชสำนักไทยกลับไปยังกัมพูชาด้วย ยกตัวอย่างเช่น โขน ละคร และนาฏยศิลป์ของกัมพูชานั้นได้ครูโขนและครูนาฏศิลป์ไทยไปสอนและถ่ายทอดท่ารำ และแม้กระทั่งบทร้องบทละครก็ได้รับอิทธิพลไปจากไทยทั้งสิ้นดังที่ศาสตราจารย์ พลตรี หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เขียนเล่าไว้ในหนังสือโครงกระดูกในตู้ และคุณชายคึกฤทธิ์ ได้เขียนกลอนบริภาษเขมรเอาไว้ว่า

    "สัปดาห์นี้มีเรื่องความเมืองใหญ่ ไทยถูกฟ้องขับไล่ขึ้นโรงศาล
    เคยเป็นเรื่องโต้เถียงกันมานาน ที่ยอดเขาพระวิหารรู้ทั่วกัน
    กะลาครอบมานานโบราณว่า พอแลเห็นท้องฟ้าก็หุนหัน
    คิดว่าตนนั้นใหญ่ใครไม่ทัน ทำกำเริบเสิบสันทุกอย่างไป
    อันคนไทยนั้นสุภาพไม่หยาบหยาม เห็นใครหย่อนอ่อนความก็ยกให้
    ถึงล่วงเกินพลาดพลั้งยังอภัย ด้วยเห็นใจว่ายังเยาว์เบาความคิด
    เขียนบทความด่าตะบึงถึงหัวหู ไทยก็ยังนิ่งอยู่ไม่ถือผิด
    สั่งถอนทูตเอิกเกริกเลิกเป็นมิตร แล้วกลับติดตามต่อขอคืนดี
    ไทยก็ยอมตามใจไม่ดึงดื้อ เพราะไทยถือเขมรผองเหมือนน้องพี่
    คิดตกลงปลงกันได้ด้วยไมตรี ถึงคราวนี้ใจเขมรแลเห็นกัน
    หากไทยจำล้ำเลิกบ้างอ้างขอบเขต เมืองเขมรทั้งประเทศของใครนั่น?
    ใครเล่าตั้งวงศ์กษัตริย์ปัจจุบัน องค์ด้วงนั้นคือใครที่ไหนมา?
    เป็นเพียงเจ้าไม่มีศาลซมซานวิ่ง ได้แอบอิงอำนาจไทยจึงใหญ่กล้า
    ทัพไทยช่วยปราบศัตรูกู้พารา สถาปนาจัดระบอบให้ครอบครอง
    ได้เดชไทยไปคุ้มกะลาหัว จึงตั้งตัวขึ้นมาอย่างจองหอง
    เป็นข้าขัณฑสีมาฝ่าละออง ส่งดอกไม้เงินทองตลอดมา
    ไม่เหลียวดูโภไคไอศวรรย์ ทั้งเครื่องราชกกุธภัณฑ์เป็นหนักหนา
    ฝีมือไทยแน่นักประจักษ์ตา เพราะทรงพระกรุณาประทานไป
    มีพระคุณจุนเจือเหลือประมาณ ถึงลูกหลานกลับเนรคุณได้
    สมกับคำโบราณท่านว่าไว้ อย่าไว้ใจเขมรเห็นจริงเอย…

    ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
    หนังสือพิมพ์สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์
    18 ตุลาคม 2502

    สำหรับคนเขมรแล้ว เมื่อคราวเขมรแตกจากเขมรแดง โดยพลพต มีชาวเขมรหนีตายเข้ามาที่เขาล้านจังหวัดตราด นับแสนคน มาในสภาพโครงกระดูกเดินได้ อดอยาก เจ็บป่วย ปางตาย อุจจาระ ปัสสาวะกลาดเกลื่อนเหม็นคลุ้งไปทั้งเขาล้าน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยม ให้การช่วยเหลือ ทรงประทับแรมท่ามกลางผู้อพยพชาวเขมรนับแสนคน ในฐานะองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ได้ทรงให้สภากาชาดไทยจัดตั้งค่ายช่วยเหลือผู้อพยพหนีตายนับแสนคน ทรงงานหนักอย่างไม่ทรงรังเกียจด้วยพระเมตตาสูงสุดต่อชาวกัมพูชาพลัดบ้านพลัดถิ่นที่หนีตายมาพึ่งพระบารมี ทรงมีพระราชเสาวนีย์พระราชทานว่า “ฉันตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เหล่านี้ เท่าที่กำลังความสามารถของฉันจะมี”

    ในเหตุการณ์นั้นมีนายทหารหนุ่มคนหนึ่งโดยเสด็จและถวายงานในการช่วยเหลือชาวกัมพูชาอย่างใกล้ชิดคือในหลวงรัชกาลที่ 10 (ขณะนั้นทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร) ทรงลาดตระเวนถวายอารักขา ดูแลความปลอดภัยของพระราชมารดาผู้ทรงมุ่งมั่นทรงงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างเต็มที่ และทรงได้ถวายงานในการช่วยเหลือพี่น้องชาวกัมพูชาที่บ้านแตกสาแหรกขาดจนต้องหนีร้อนมาพึ่งเย็นพึ่งพระบรมโพธิสมภารอีกเช่นกัน

    กัมพูชาเป็นประเทศราชของไทยอยู่เกือบร้อยกว่าปีในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ก่อนไทยจะเสียดินแดนกัมพูชาให้กับฝรั่งเศส ดังนั้นกัมพูชาจึงได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมไทยไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักองค์ด้วงซึ่งทรงเติบโตในกรุงเทพกว่า 27 ปี เมื่อทรงกลับไปครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์กัมพูชาแล้วก็ทรงนำศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของราชสำนักไทยกลับไปยังกัมพูชาด้วย ยกตัวอย่างเช่น โขน ละคร และนาฏยศิลป์ของกัมพูชานั้นได้ครูโขนและครูนาฏศิลป์ไทยไปสอนและถ่ายทอดท่ารำ และแม้กระทั่งบทร้องบทละครก็ได้รับอิทธิพลไปจากไทยทั้งสิ้นดังที่ศาสตราจารย์ พลตรี หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เขียนเล่าไว้ในหนังสือโครงกระดูกในตู้ และคุณชายคึกฤทธิ์ ได้เขียนกลอนบริภาษเขมรเอาไว้ว่า "สัปดาห์นี้มีเรื่องความเมืองใหญ่ ไทยถูกฟ้องขับไล่ขึ้นโรงศาล เคยเป็นเรื่องโต้เถียงกันมานาน ที่ยอดเขาพระวิหารรู้ทั่วกัน กะลาครอบมานานโบราณว่า พอแลเห็นท้องฟ้าก็หุนหัน คิดว่าตนนั้นใหญ่ใครไม่ทัน ทำกำเริบเสิบสันทุกอย่างไป อันคนไทยนั้นสุภาพไม่หยาบหยาม เห็นใครหย่อนอ่อนความก็ยกให้ ถึงล่วงเกินพลาดพลั้งยังอภัย ด้วยเห็นใจว่ายังเยาว์เบาความคิด เขียนบทความด่าตะบึงถึงหัวหู ไทยก็ยังนิ่งอยู่ไม่ถือผิด สั่งถอนทูตเอิกเกริกเลิกเป็นมิตร แล้วกลับติดตามต่อขอคืนดี ไทยก็ยอมตามใจไม่ดึงดื้อ เพราะไทยถือเขมรผองเหมือนน้องพี่ คิดตกลงปลงกันได้ด้วยไมตรี ถึงคราวนี้ใจเขมรแลเห็นกัน หากไทยจำล้ำเลิกบ้างอ้างขอบเขต เมืองเขมรทั้งประเทศของใครนั่น? ใครเล่าตั้งวงศ์กษัตริย์ปัจจุบัน องค์ด้วงนั้นคือใครที่ไหนมา? เป็นเพียงเจ้าไม่มีศาลซมซานวิ่ง ได้แอบอิงอำนาจไทยจึงใหญ่กล้า ทัพไทยช่วยปราบศัตรูกู้พารา สถาปนาจัดระบอบให้ครอบครอง ได้เดชไทยไปคุ้มกะลาหัว จึงตั้งตัวขึ้นมาอย่างจองหอง เป็นข้าขัณฑสีมาฝ่าละออง ส่งดอกไม้เงินทองตลอดมา ไม่เหลียวดูโภไคไอศวรรย์ ทั้งเครื่องราชกกุธภัณฑ์เป็นหนักหนา ฝีมือไทยแน่นักประจักษ์ตา เพราะทรงพระกรุณาประทานไป มีพระคุณจุนเจือเหลือประมาณ ถึงลูกหลานกลับเนรคุณได้ สมกับคำโบราณท่านว่าไว้ อย่าไว้ใจเขมรเห็นจริงเอย… ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หนังสือพิมพ์สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ 18 ตุลาคม 2502 สำหรับคนเขมรแล้ว เมื่อคราวเขมรแตกจากเขมรแดง โดยพลพต มีชาวเขมรหนีตายเข้ามาที่เขาล้านจังหวัดตราด นับแสนคน มาในสภาพโครงกระดูกเดินได้ อดอยาก เจ็บป่วย ปางตาย อุจจาระ ปัสสาวะกลาดเกลื่อนเหม็นคลุ้งไปทั้งเขาล้าน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยม ให้การช่วยเหลือ ทรงประทับแรมท่ามกลางผู้อพยพชาวเขมรนับแสนคน ในฐานะองค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ได้ทรงให้สภากาชาดไทยจัดตั้งค่ายช่วยเหลือผู้อพยพหนีตายนับแสนคน ทรงงานหนักอย่างไม่ทรงรังเกียจด้วยพระเมตตาสูงสุดต่อชาวกัมพูชาพลัดบ้านพลัดถิ่นที่หนีตายมาพึ่งพระบารมี ทรงมีพระราชเสาวนีย์พระราชทานว่า “ฉันตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เหล่านี้ เท่าที่กำลังความสามารถของฉันจะมี” ในเหตุการณ์นั้นมีนายทหารหนุ่มคนหนึ่งโดยเสด็จและถวายงานในการช่วยเหลือชาวกัมพูชาอย่างใกล้ชิดคือในหลวงรัชกาลที่ 10 (ขณะนั้นทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร) ทรงลาดตระเวนถวายอารักขา ดูแลความปลอดภัยของพระราชมารดาผู้ทรงมุ่งมั่นทรงงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างเต็มที่ และทรงได้ถวายงานในการช่วยเหลือพี่น้องชาวกัมพูชาที่บ้านแตกสาแหรกขาดจนต้องหนีร้อนมาพึ่งเย็นพึ่งพระบรมโพธิสมภารอีกเช่นกัน
    0 Comments 0 Shares 671 Views 0 Reviews
More Results