• DeepSeek บริษัทที่สร้างชื่อเสียงในวงการ AI ด้วยโมเดล R1 กำลังเตรียมเปิดตัวโมเดลใหม่ที่ชื่อว่า DeepSeek R2 ซึ่งมีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงถึง 512 PetaFLOPS โดยใช้ชิป Huawei Ascend 910B และระบบการฝึกอบรมแบบกระจายที่พัฒนาโดย DeepSeek เอง โมเดลนี้มีการปรับปรุงการใช้งานชิปให้มีประสิทธิภาพถึง 82% และลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมต่อหน่วยลงถึง 97.3%

    DeepSeek R2 ยังมีการสนับสนุนจากพันธมิตรหลายราย เช่น Tuowei Information ที่จัดการคำสั่งซื้อฮาร์ดแวร์กว่า 50% และ Sugon ที่ให้บริการตู้เซิร์ฟเวอร์ระบายความร้อนด้วยของเหลวที่รองรับพลังงานสูงถึง 40 kW ต่อหน่วย นอกจากนี้ Huawei ยังเตรียมเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ซึ่งเป็นทางเลือกในประเทศสำหรับ NVIDIA GB200 NVL72 โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่าในด้านการประมวลผลรวมและความจุ HBM

    ✅ ประสิทธิภาพการประมวลผล
    - DeepSeek R2 มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงถึง 512 PetaFLOPS
    - ใช้ชิป Huawei Ascend 910B และระบบการฝึกอบรมแบบกระจาย

    ✅ การลดค่าใช้จ่าย
    - ลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมต่อหน่วยลงถึง 97.3%

    ✅ การสนับสนุนจากพันธมิตร
    - Tuowei Information จัดการคำสั่งซื้อฮาร์ดแวร์กว่า 50%
    - Sugon ให้บริการตู้เซิร์ฟเวอร์ระบายความร้อนด้วยของเหลว

    ✅ การใช้งานในโครงการสมาร์ทซิตี้
    - DeepSeek R2 สนับสนุนโครงการสมาร์ทซิตี้ใน 15 จังหวัดผ่านแพลตฟอร์ม Yun Sai Zhilian

    ✅ การเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384
    - Huawei เตรียมเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า NVIDIA GB200 NVL72

    https://www.techpowerup.com/335984/deepseek-r2-leak-reveals-512-petaflops-push-on-domestic-ai-accelerator-infrastructure
    DeepSeek บริษัทที่สร้างชื่อเสียงในวงการ AI ด้วยโมเดล R1 กำลังเตรียมเปิดตัวโมเดลใหม่ที่ชื่อว่า DeepSeek R2 ซึ่งมีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงถึง 512 PetaFLOPS โดยใช้ชิป Huawei Ascend 910B และระบบการฝึกอบรมแบบกระจายที่พัฒนาโดย DeepSeek เอง โมเดลนี้มีการปรับปรุงการใช้งานชิปให้มีประสิทธิภาพถึง 82% และลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมต่อหน่วยลงถึง 97.3% DeepSeek R2 ยังมีการสนับสนุนจากพันธมิตรหลายราย เช่น Tuowei Information ที่จัดการคำสั่งซื้อฮาร์ดแวร์กว่า 50% และ Sugon ที่ให้บริการตู้เซิร์ฟเวอร์ระบายความร้อนด้วยของเหลวที่รองรับพลังงานสูงถึง 40 kW ต่อหน่วย นอกจากนี้ Huawei ยังเตรียมเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ซึ่งเป็นทางเลือกในประเทศสำหรับ NVIDIA GB200 NVL72 โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่าในด้านการประมวลผลรวมและความจุ HBM ✅ ประสิทธิภาพการประมวลผล - DeepSeek R2 มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงถึง 512 PetaFLOPS - ใช้ชิป Huawei Ascend 910B และระบบการฝึกอบรมแบบกระจาย ✅ การลดค่าใช้จ่าย - ลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมต่อหน่วยลงถึง 97.3% ✅ การสนับสนุนจากพันธมิตร - Tuowei Information จัดการคำสั่งซื้อฮาร์ดแวร์กว่า 50% - Sugon ให้บริการตู้เซิร์ฟเวอร์ระบายความร้อนด้วยของเหลว ✅ การใช้งานในโครงการสมาร์ทซิตี้ - DeepSeek R2 สนับสนุนโครงการสมาร์ทซิตี้ใน 15 จังหวัดผ่านแพลตฟอร์ม Yun Sai Zhilian ✅ การเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 - Huawei เตรียมเปิดตัวระบบ CloudMatrix 384 ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า NVIDIA GB200 NVL72 https://www.techpowerup.com/335984/deepseek-r2-leak-reveals-512-petaflops-push-on-domestic-ai-accelerator-infrastructure
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    DeepSeek R2 Leak Reveals 512 PetaFLOPS Push on Domestic AI Accelerator Infrastructure
    DeepSeek, a company that took the AI world by storm with its R1 model, is preparing a new and reportedly much improved DeepSeek R2 model release, according to a well-known AI insider @iruletheworldmo on X. Powered by Huawei's Ascend 910B chip clusters, a possible Huawei Atlas 900, and DeepSeek's in-...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบดิจิทัล (Digital Divide) เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยความเหลื่อมล้ำนี้สามารถแบ่งออกได้หลายมิติ ดังนี้:

    ### 1. **ความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างพื้นฐาน**
    - **พื้นที่เมือง vs. ชนบท**: ในเขตเมืองมักมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีกว่า ในขณะที่พื้นที่ห่างไกลหรือชนบทอาจขาดแคลนสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไฟฟ้า
    - **ความเร็วและความเสถียร**: แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ความเร็วและความเสถียรอาจไม่เท่ากัน ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพต่างกัน

    ### 2. **ความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ**
    - **ค่าใช้จ่าย**: การเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัล (เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์) และค่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจเป็นภาระสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
    - **รายได้และโอกาส**: กลุ่มที่มีรายได้สูงมักมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและทักษะดิจิทัลได้ดีกว่า ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางเศรษฐกิจมากขึ้น

    ### 3. **ความเหลื่อมล้ำด้านทักษะและการศึกษา**
    - **ทักษะดิจิทัล**: กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่ขาดโอกาสในการเรียนรู้อาจไม่มีความรู้เพียงพอในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
    - **การศึกษา**: โรงเรียนในเมืองอาจมีทรัพยากรด้านดิจิทัล (เช่น อุปกรณ์การเรียนออนไลน์) ดีกว่าโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล

    ### 4. **ความเหลื่อมล้ำด้านสังคมและประชากรศาสตร์**
    - **วัย**: คนรุ่นใหม่อาจปรับตัวกับเทคโนโลยีได้ดีกว่าผู้สูงอายุ
    - **เพศ**: ในบางสังคม ผู้หญิงอาจมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยกว่าผู้ชายเนื่องจากอคติทางวัฒนธรรม

    ### 5. **นโยบายและการสนับสนุนจากรัฐ**
    - **การกระจายทรัพยากร**: นโยบายของรัฐอาจไม่ทั่วถึง ทำให้บางพื้นที่หรือกลุ่มคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
    - **การส่งเสริมทักษะดิจิทัล**: โครงการฝึกอบรมอาจไม่เพียงพอหรือไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม

    ### ผลกระทบของความเหลื่อมล้ำดิจิทัล
    - **เศรษฐกิจ**: กลุ่มที่ขาดแคลนโอกาสดิจิทัลอาจถูกกีดกันจากตลาดงานสมัยใหม่
    - **การศึกษา**: นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลอาจเสียเปรียบเนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์
    - **สุขภาพ**: การเข้าถึงบริการสุขภาพดิจิทัล (Telemedicine) อาจจำกัดในบางพื้นที่
    - **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำอาจทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมระหว่างกลุ่มคนที่เข้าถึงเทคโนโลยีและกลุ่มที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

    ### แนทางแก้ไข
    - **พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน** โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล
    - **ลดค่าใช้จ่าย** ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ดิจิทัล
    - **ส่งเสริมการศึกษาและฝึกทักษะดิจิทัล** ให้กับทุกกลุ่มวัย
    - **ออกนโยบายที่ครอบคลุม** เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านหรือแจกแท็บเล็ตสำหรับนักเรียน

    ความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต การเข้าถึงดิจิทัลอย่างเท่าเทียมจะช่วยลดความไม่เสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
    การเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบดิจิทัล (Digital Divide) เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยความเหลื่อมล้ำนี้สามารถแบ่งออกได้หลายมิติ ดังนี้: ### 1. **ความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างพื้นฐาน** - **พื้นที่เมือง vs. ชนบท**: ในเขตเมืองมักมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีกว่า ในขณะที่พื้นที่ห่างไกลหรือชนบทอาจขาดแคลนสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไฟฟ้า - **ความเร็วและความเสถียร**: แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ความเร็วและความเสถียรอาจไม่เท่ากัน ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพต่างกัน ### 2. **ความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ** - **ค่าใช้จ่าย**: การเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัล (เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์) และค่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจเป็นภาระสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย - **รายได้และโอกาส**: กลุ่มที่มีรายได้สูงมักมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและทักษะดิจิทัลได้ดีกว่า ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางเศรษฐกิจมากขึ้น ### 3. **ความเหลื่อมล้ำด้านทักษะและการศึกษา** - **ทักษะดิจิทัล**: กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่ขาดโอกาสในการเรียนรู้อาจไม่มีความรู้เพียงพอในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล - **การศึกษา**: โรงเรียนในเมืองอาจมีทรัพยากรด้านดิจิทัล (เช่น อุปกรณ์การเรียนออนไลน์) ดีกว่าโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ### 4. **ความเหลื่อมล้ำด้านสังคมและประชากรศาสตร์** - **วัย**: คนรุ่นใหม่อาจปรับตัวกับเทคโนโลยีได้ดีกว่าผู้สูงอายุ - **เพศ**: ในบางสังคม ผู้หญิงอาจมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยกว่าผู้ชายเนื่องจากอคติทางวัฒนธรรม ### 5. **นโยบายและการสนับสนุนจากรัฐ** - **การกระจายทรัพยากร**: นโยบายของรัฐอาจไม่ทั่วถึง ทำให้บางพื้นที่หรือกลุ่มคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง - **การส่งเสริมทักษะดิจิทัล**: โครงการฝึกอบรมอาจไม่เพียงพอหรือไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม ### ผลกระทบของความเหลื่อมล้ำดิจิทัล - **เศรษฐกิจ**: กลุ่มที่ขาดแคลนโอกาสดิจิทัลอาจถูกกีดกันจากตลาดงานสมัยใหม่ - **การศึกษา**: นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลอาจเสียเปรียบเนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ - **สุขภาพ**: การเข้าถึงบริการสุขภาพดิจิทัล (Telemedicine) อาจจำกัดในบางพื้นที่ - **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำอาจทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมระหว่างกลุ่มคนที่เข้าถึงเทคโนโลยีและกลุ่มที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ### แนทางแก้ไข - **พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน** โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล - **ลดค่าใช้จ่าย** ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ดิจิทัล - **ส่งเสริมการศึกษาและฝึกทักษะดิจิทัล** ให้กับทุกกลุ่มวัย - **ออกนโยบายที่ครอบคลุม** เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านหรือแจกแท็บเล็ตสำหรับนักเรียน ความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต การเข้าถึงดิจิทัลอย่างเท่าเทียมจะช่วยลดความไม่เสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ Radeon PRO W9000 ที่ออกแบบมาสำหรับงานระดับมืออาชีพ เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเรนเดอร์ 3D และการพัฒนา AI โดยใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 ซึ่งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในงานจริง แม้จะมีหน่วยความจำเพียง 32GB ซึ่งน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้า Radeon PRO W7900 ที่มี 48GB แต่ AMD เน้นการให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า

    GPU รุ่นนี้ใช้สถาปัตยกรรม Navi 48 XTW ที่มีขนาด 356mm² และมีการปรับแต่งเพื่อรองรับงานระดับมืออาชีพ เช่น CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์ โดยมีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน

    อย่างไรก็ตาม RDNA 4 ยังไม่มีการรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม ROCm ของ AMD ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักพัฒนา AI และ Machine Learning

    ✅ การออกแบบและสถาปัตยกรรม
    - ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 และ Navi 48 XTW
    - ขนาด die 356mm² พร้อมการปรับแต่งสำหรับงานระดับมืออาชีพ

    ✅ เป้าหมายของ AMD
    - เน้นประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า
    - ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ไม่ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่

    ✅ การใช้งานในงานระดับมืออาชีพ
    - รองรับงาน CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์
    - มีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน

    ✅ การเปิดตัวและการจัดแสดง
    - คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 และงาน “Advancing AI” ของ AMD

    https://www.techradar.com/pro/amd-set-to-launch-new-radeon-pro-w9000-workstation-gpu-to-take-on-nvidias-formidable-rtx-pro-6000-blackwell-workstation-edition
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ Radeon PRO W9000 ที่ออกแบบมาสำหรับงานระดับมืออาชีพ เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเรนเดอร์ 3D และการพัฒนา AI โดยใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 ซึ่งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในงานจริง แม้จะมีหน่วยความจำเพียง 32GB ซึ่งน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้า Radeon PRO W7900 ที่มี 48GB แต่ AMD เน้นการให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า GPU รุ่นนี้ใช้สถาปัตยกรรม Navi 48 XTW ที่มีขนาด 356mm² และมีการปรับแต่งเพื่อรองรับงานระดับมืออาชีพ เช่น CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์ โดยมีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม RDNA 4 ยังไม่มีการรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม ROCm ของ AMD ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักพัฒนา AI และ Machine Learning ✅ การออกแบบและสถาปัตยกรรม - ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 และ Navi 48 XTW - ขนาด die 356mm² พร้อมการปรับแต่งสำหรับงานระดับมืออาชีพ ✅ เป้าหมายของ AMD - เน้นประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า - ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ไม่ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่ ✅ การใช้งานในงานระดับมืออาชีพ - รองรับงาน CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์ - มีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน ✅ การเปิดตัวและการจัดแสดง - คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 และงาน “Advancing AI” ของ AMD https://www.techradar.com/pro/amd-set-to-launch-new-radeon-pro-w9000-workstation-gpu-to-take-on-nvidias-formidable-rtx-pro-6000-blackwell-workstation-edition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า 200S Boost สำหรับชิป Arrow Lake ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบผ่านการปรับปรุงความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างหน่วยความจำและชิป อย่างไรก็ตาม การทดสอบโดย Phoronix พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้งานบนระบบ Linux

    ฟีเจอร์ 200S Boost เป็นโปรไฟล์ที่สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS โดยช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ เช่น DDR5-7200 หรือ DDR5-8000 อย่างไรก็ตาม การทดสอบพบว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น ไม่ใช่จากการปรับปรุงฟีเจอร์นี้โดยตรง

    Intel ได้พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการอัปเดต BIOS และ Windows Updates รวมถึงการเปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิปได้ภายใต้การรับประกัน

    ✅ การออกแบบและการใช้งาน
    - ฟีเจอร์ 200S Boost ช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ
    - สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS

    ✅ ผลการทดสอบ
    - การปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น
    - การทดสอบบน Linux พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ

    ✅ การปรับปรุงจาก Intel
    - Intel ได้อัปเดต BIOS และ Windows Updates เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake
    - เปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีนเพื่อปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิป

    ✅ เป้าหมายของ Intel
    - มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการปรับปรุงเทคโนโลยี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/tests-indicate-intels-200s-boost-feature-provides-no-real-gain-for-arrow-lake-cpus-on-linux
    Intel ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า 200S Boost สำหรับชิป Arrow Lake ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบผ่านการปรับปรุงความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างหน่วยความจำและชิป อย่างไรก็ตาม การทดสอบโดย Phoronix พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้งานบนระบบ Linux ฟีเจอร์ 200S Boost เป็นโปรไฟล์ที่สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS โดยช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ เช่น DDR5-7200 หรือ DDR5-8000 อย่างไรก็ตาม การทดสอบพบว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น ไม่ใช่จากการปรับปรุงฟีเจอร์นี้โดยตรง Intel ได้พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการอัปเดต BIOS และ Windows Updates รวมถึงการเปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิปได้ภายใต้การรับประกัน ✅ การออกแบบและการใช้งาน - ฟีเจอร์ 200S Boost ช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ - สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS ✅ ผลการทดสอบ - การปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น - การทดสอบบน Linux พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ✅ การปรับปรุงจาก Intel - Intel ได้อัปเดต BIOS และ Windows Updates เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake - เปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีนเพื่อปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิป ✅ เป้าหมายของ Intel - มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการปรับปรุงเทคโนโลยี https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/tests-indicate-intels-200s-boost-feature-provides-no-real-gain-for-arrow-lake-cpus-on-linux
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้เปิดตัว APU รุ่นใหม่ Ryzen 5 7533HS ซึ่งเป็นชิปที่พัฒนาจากสถาปัตยกรรม Rembrandt-R โดยมีการปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Ryzen 5 7535HS ด้วยการลดความเร็ว Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด ชิปนี้มี 6 คอร์ 12 เธรด พร้อมแคช L2 ขนาด 3MB และ L3 ขนาด 16MB รวมถึง iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2

    Ryzen 5 7533HS รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400 โดยมี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W ชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5 ซึ่งอาจเป็นการบ่งชี้ถึงความพิเศษที่ Lenovo ได้รับจาก AMD

    แม้ว่า Ryzen 5 7533HS จะไม่ได้เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาแล็ปท็อปที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ

    ✅ สถาปัตยกรรมและการออกแบบ
    - ใช้สถาปัตยกรรม Rembrandt-R พร้อม 6 คอร์ 12 เธรด
    - iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2

    ✅ การปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า
    - ลด Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด
    - รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400

    ✅ การใช้งานในแล็ปท็อป
    - ใช้ในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5
    - มี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W

    ✅ เป้าหมายของ AMD
    - มุ่งเน้นตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัดที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-ryzen-5-7533hs-apu-makes-its-debut-with-lenovos-budget-lineup
    AMD ได้เปิดตัว APU รุ่นใหม่ Ryzen 5 7533HS ซึ่งเป็นชิปที่พัฒนาจากสถาปัตยกรรม Rembrandt-R โดยมีการปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Ryzen 5 7535HS ด้วยการลดความเร็ว Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด ชิปนี้มี 6 คอร์ 12 เธรด พร้อมแคช L2 ขนาด 3MB และ L3 ขนาด 16MB รวมถึง iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2 Ryzen 5 7533HS รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400 โดยมี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W ชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5 ซึ่งอาจเป็นการบ่งชี้ถึงความพิเศษที่ Lenovo ได้รับจาก AMD แม้ว่า Ryzen 5 7533HS จะไม่ได้เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาแล็ปท็อปที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ ✅ สถาปัตยกรรมและการออกแบบ - ใช้สถาปัตยกรรม Rembrandt-R พร้อม 6 คอร์ 12 เธรด - iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2 ✅ การปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า - ลด Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด - รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400 ✅ การใช้งานในแล็ปท็อป - ใช้ในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5 - มี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W ✅ เป้าหมายของ AMD - มุ่งเน้นตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัดที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-ryzen-5-7533hs-apu-makes-its-debut-with-lenovos-budget-lineup
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้เปรียบเทียบเทคโนโลยีการอัปสเกลภาพในเกมระหว่าง AMD FSR 4 และ Nvidia DLSS 4 ที่ความละเอียด 4K โดยเน้นถึงความก้าวหน้าของ FSR 4 ซึ่งมีการปรับปรุงอย่างมากเมื่อเทียบกับ FSR 3.1 โดยเฉพาะในโหมด Performance และ Quality แม้ว่า DLSS 4 จะยังคงมีความเสถียรและรายละเอียดที่เหนือกว่าในบางกรณี แต่ FSR 4 ก็สามารถแข่งขันได้อย่างใกล้เคียงในหลายสถานการณ์

    FSR 4 มีจุดเด่นในด้านการลดปัญหาภาพเบลอและการแสดงผลที่คมชัดขึ้น โดยเฉพาะในเกมที่มีรายละเอียดสูง เช่น Spider-Man 2 และ Horizon Zero Dawn อย่างไรก็ตาม DLSS 4 ยังคงมีข้อได้เปรียบในด้านการรักษาคุณภาพของพื้นผิวและความเสถียรของภาพในโหมด Performance

    ✅ การปรับปรุงของ FSR 4
    - FSR 4 มีความคมชัดและเสถียรมากขึ้นเมื่อเทียบกับ FSR 3.1
    - โหมด Performance ของ FSR 4 สามารถใช้งานได้ดีขึ้นในความละเอียด 4K

    ✅ การเปรียบเทียบกับ DLSS 4
    - DLSS 4 ยังคงมีความเสถียรและรายละเอียดที่เหนือกว่าในบางกรณี
    - FSR 4 สามารถแข่งขันได้ใกล้เคียงในโหมด Quality

    ✅ การใช้งานในเกม
    - FSR 4 แสดงผลได้ดีในเกมที่มีรายละเอียดสูง เช่น Spider-Man 2 และ Horizon Zero Dawn
    - DLSS 4 มีความสามารถในการรักษาคุณภาพของพื้นผิวได้ดีกว่า

    ✅ ผลกระทบต่อประสิทธิภาพ
    - FSR 4 และ DLSS 4 ให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในโหมด Quality

    https://www.techspot.com/article/2976-amd-fsr4-4k-upscaling/
    บทความนี้เปรียบเทียบเทคโนโลยีการอัปสเกลภาพในเกมระหว่าง AMD FSR 4 และ Nvidia DLSS 4 ที่ความละเอียด 4K โดยเน้นถึงความก้าวหน้าของ FSR 4 ซึ่งมีการปรับปรุงอย่างมากเมื่อเทียบกับ FSR 3.1 โดยเฉพาะในโหมด Performance และ Quality แม้ว่า DLSS 4 จะยังคงมีความเสถียรและรายละเอียดที่เหนือกว่าในบางกรณี แต่ FSR 4 ก็สามารถแข่งขันได้อย่างใกล้เคียงในหลายสถานการณ์ FSR 4 มีจุดเด่นในด้านการลดปัญหาภาพเบลอและการแสดงผลที่คมชัดขึ้น โดยเฉพาะในเกมที่มีรายละเอียดสูง เช่น Spider-Man 2 และ Horizon Zero Dawn อย่างไรก็ตาม DLSS 4 ยังคงมีข้อได้เปรียบในด้านการรักษาคุณภาพของพื้นผิวและความเสถียรของภาพในโหมด Performance ✅ การปรับปรุงของ FSR 4 - FSR 4 มีความคมชัดและเสถียรมากขึ้นเมื่อเทียบกับ FSR 3.1 - โหมด Performance ของ FSR 4 สามารถใช้งานได้ดีขึ้นในความละเอียด 4K ✅ การเปรียบเทียบกับ DLSS 4 - DLSS 4 ยังคงมีความเสถียรและรายละเอียดที่เหนือกว่าในบางกรณี - FSR 4 สามารถแข่งขันได้ใกล้เคียงในโหมด Quality ✅ การใช้งานในเกม - FSR 4 แสดงผลได้ดีในเกมที่มีรายละเอียดสูง เช่น Spider-Man 2 และ Horizon Zero Dawn - DLSS 4 มีความสามารถในการรักษาคุณภาพของพื้นผิวได้ดีกว่า ✅ ผลกระทบต่อประสิทธิภาพ - FSR 4 และ DLSS 4 ให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในโหมด Quality https://www.techspot.com/article/2976-amd-fsr4-4k-upscaling/
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD FSR 4 vs Nvidia DLSS 4 at 4K
    After proving its mettle at 1440p, FSR 4 challenges Nvidia's DLSS 4 at 4K. In this deep dive, we test both upscalers on high-res scenes to see...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงนี่โกรธความดื้อดึงของ Microsoft ในเรื่องนี้จริงๆ

    Microsoft ได้เริ่มย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel ไปยัง Settings app ใน Windows 11 อย่างต่อเนื่อง โดยในอัปเดตล่าสุดสำหรับ Dev และ Beta builds ได้เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ด เช่น Character Repeat Delay (ระยะเวลาที่ต้องกดปุ่มก่อนเริ่มการพิมพ์ซ้ำ) และ Character Repeat Rate (ความเร็วในการพิมพ์ซ้ำ) ซึ่งสามารถปรับได้ผ่านแถบเลื่อนใน Settings > Accessibility > Keyboard

    อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ใหม่นี้ยังถูกซ่อนอยู่ในค่าตั้งต้น และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Microsoft เนื่องจากยังไม่สมบูรณ์ เช่น ตัวเลือก Cursor Blink Rate (ความเร็วในการกระพริบของเคอร์เซอร์) ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app

    การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Microsoft ในการทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11

    ✅ การย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel
    - เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ดใน Settings app
    - ตัวเลือกใหม่ เช่น Character Repeat Delay และ Character Repeat Rate

    ✅ การปรับปรุง Settings app
    - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ง่ายขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรวมศูนย์การตั้งค่า

    ✅ สถานะของฟีเจอร์ใหม่
    - ฟีเจอร์ยังถูกซ่อนในค่าตั้งต้นและยังไม่สมบูรณ์
    - Cursor Blink Rate ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app

    ✅ เป้าหมายของ Microsoft
    - ทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11

    https://www.neowin.net/news/microsoft-moves-more-control-panel-elements-to-the-settings-app-in-windows-11/
    ลุงนี่โกรธความดื้อดึงของ Microsoft ในเรื่องนี้จริงๆ Microsoft ได้เริ่มย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel ไปยัง Settings app ใน Windows 11 อย่างต่อเนื่อง โดยในอัปเดตล่าสุดสำหรับ Dev และ Beta builds ได้เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ด เช่น Character Repeat Delay (ระยะเวลาที่ต้องกดปุ่มก่อนเริ่มการพิมพ์ซ้ำ) และ Character Repeat Rate (ความเร็วในการพิมพ์ซ้ำ) ซึ่งสามารถปรับได้ผ่านแถบเลื่อนใน Settings > Accessibility > Keyboard อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ใหม่นี้ยังถูกซ่อนอยู่ในค่าตั้งต้น และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Microsoft เนื่องจากยังไม่สมบูรณ์ เช่น ตัวเลือก Cursor Blink Rate (ความเร็วในการกระพริบของเคอร์เซอร์) ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Microsoft ในการทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11 ✅ การย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel - เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ดใน Settings app - ตัวเลือกใหม่ เช่น Character Repeat Delay และ Character Repeat Rate ✅ การปรับปรุง Settings app - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ง่ายขึ้น - การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรวมศูนย์การตั้งค่า ✅ สถานะของฟีเจอร์ใหม่ - ฟีเจอร์ยังถูกซ่อนในค่าตั้งต้นและยังไม่สมบูรณ์ - Cursor Blink Rate ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app ✅ เป้าหมายของ Microsoft - ทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11 https://www.neowin.net/news/microsoft-moves-more-control-panel-elements-to-the-settings-app-in-windows-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft moves more Control Panel elements to the Settings app in Windows 11
    Microsoft continues to slowly migrate Control Panel elements to the Settings app. Certain keyboard settings received a modern overhaul in the latest Windows 11 preview builds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พ่อนายกฯ" ลั่นไม่มีความคิดเตะ "ภูมิใจไทย" ไปเป็นฝ่ายค้าน โยนเป็นอำนาจ "นายกฯ" ปรับ ครม.
    https://www.thai-tai.tv/news/18364/
    "พ่อนายกฯ" ลั่นไม่มีความคิดเตะ "ภูมิใจไทย" ไปเป็นฝ่ายค้าน โยนเป็นอำนาจ "นายกฯ" ปรับ ครม. https://www.thai-tai.tv/news/18364/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทักษิณ” บอกอำนาจปรับ ครม.เป็นของนายกฯ แต่พูดเป็นฉากๆ ยังไม่มีความคิดปรับพรรคไหนออกไปเป็นฝ่ายค้าน ส่วนภายใน พท.ก็รอปรับทีเดียว แย้มดึง พปชร.เข้าร่วมก็มีเพื่อนฝูงกันคุยกันอยู่ แต่ยังไม่คิดดึงใคร

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039239

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทักษิณ” บอกอำนาจปรับ ครม.เป็นของนายกฯ แต่พูดเป็นฉากๆ ยังไม่มีความคิดปรับพรรคไหนออกไปเป็นฝ่ายค้าน ส่วนภายใน พท.ก็รอปรับทีเดียว แย้มดึง พปชร.เข้าร่วมก็มีเพื่อนฝูงกันคุยกันอยู่ แต่ยังไม่คิดดึงใคร อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039239 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทราย สก๊อต"ไปเหยียบตีนใคร ที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ในทะเลไทย
    .
    “ทราย สก๊อต” หรือ สิรณัฐ ภิรมย์ภักดี อินฟลูเอนเซอร์หนุ่มลูกครึ่งไทย-สกอตต์แลนด์ ทายาทสิงห์รุ่น 4 หลานชายของคุณจำนงค์ ภิรมย์ภักดี อดีตประธานบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ทรายเรียนจบการศึกษาปริญญาตรีทางด้านแอนิเมชันจากสหรัฐอเมริกาและเจ้าของสถิติว่ายน้ำทะเล 30 กม.ได้รับฉายาเป็น“อควาแมนเมืองไทย” ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯนายอรรถพล เจริญชันษา เมื่อต้นปี 2567 ด้วยภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ รักษ์ทะเล จริงจังเรื่องสิ่งแวดล้อม และสื่อสารเก่งผ่านโซเชียล
    .
    เขาทำงานเชิงรุกในภาคสนามอย่างเข้มข้น ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ผ่อนปรน ยอมหักไม่ยอมงอ ทั้งเตือนนักท่องเที่ยว ใช้กฎหมายจัดการผู้ละเมิดกฎอุทยาน ไม่เว้นแม้แต่บริษัทเรือหรือไกด์ทัวร์ที่ให้อาหารสัตว์ทะเลหรือเหยียบปะการัง จนเกิดความไม่พอใจจากบางกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจเกินขอบเขต ทำคอนเทนต์เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และพูดจาเหยียดหยามเจ้าหน้าที่
    .
    เหตุการณ์เริ่มต้นจากคลิป “หนีห่าว” ที่ทรายเข้าไปตักเตือนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พูดจาเหยียดคนไทย ตามด้วยคดีฟ้องหมิ่นประมาทจากบริษัทเรือ ก่อกระแสโต้กลับหนักบนโซเชียลและในวงราชการ กระทั่งวันที่ 21 เม.ย. 2568 อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาตินายอรรถพล เจริญชันษา มีคำสั่งปลดทรายออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่า “มีความประพฤติไม่เหมาะสม เตือนแล้วก็ไม่แก้ไขปรับปรุง ทำงานร่วมกับใครไม่ได้”
    .
    สังคมออนไลน์กลับมองต่าง ช่วยกันติดแฮชแท็ก #Saveทราย #คืนทรายให้ทะเล พร้อมตั้งคำถามว่า “เขาไปเหยียบตีนใครหรือเปล่า?” เพราะสิ่งที่ทรายพูดอาจเป็นการสะกิดรอยรั่วของระบบอุทยานฯ โดยเฉพาะพื้นที่ “ทำเงิน”ในอุทยานทางทะเล 4 แห่งคืออุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดภูเก็ต, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดกระบี่, อุทยานแห่งชาติแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง, อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา ก็ฟาดไปกว่าปีละ 500 ล้านบาท
    .
    ทรายยืนยันว่า “ไม่ได้ล้ำเส้น แค่ใช้กฎให้ถูกต้อง” พร้อมเปรยว่า “ผมเห็นเยอะเกินไป” เป็นประโยคที่หลายคนตีความว่า เขาอาจสัมผัสปัญหาหรือความหย่อนยานเชิงโครงสร้างในระบบราชการที่ไม่มีใครกล้าพูด
    .
    ขบวนการผลประโยชน์ที่ "ทราย สก๊อต" มองเห็นอยู่ ย่อมไม่มีผลดีต่อพวกที่คิดชั่ว ทำชั่วระบบเวียนตั๋ว-อุปถัมภ์-ผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ใช่แค่โกงตั๋ว ยังมีการจัดซื้อจัดจ้าง ส่อแววเอื้อพวกพ้อง ทั้งที่รายได้จากอุทยานทั่วประเทศปี 2567 พุ่งถึง 2,200 ล้านบาท แต่สวัสดิการพื้นฐานของเจ้าหน้าที่อุทยาน เช่น ประกันภัยยังแทบไม่มี “ทราย สก๊อต” เคยเสนอแนวคิดใช้เงินตรงนี้ดูแลคนทำงานจริง กลับถูกต้านจากระบบ เป็นไปได้หรือไม่ว่าตัวจริงเป็น "ไอ้โม่ง" ที่อยู่ข้างหลัง คือตัวเบิ้มๆ ที่คอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
    .
    นี่ล่ะ คือเบื้องหน้าเบื้องหลังของกรณี "หนีห่าว" ของ "ทราย สก๊อต" ที่ไม่ได้จบแค่เรื่องการเหยียดคนไทยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาเชิงระบบ ปัญหาเรื่องผลประโยชน์นับพันล้านของกรมอุทยานแห่งชาติฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเงื้อมมือของข้าราชการและนักการเมืองที่ตัดไม่ได้ขายไม่ออกด้วย
    .
    สำหรับคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน นั้น ท่านก็เคยมีวีรกรรมของท่านมากมายเหลือเกินสมัยที่ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แล้วก็มีเรื่องนี้ที่เกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าการสั่งซื้อเรือราคาหลายร้อยล้านบาทนั้น มันออกมาจากคนไหน ท่านรัฐมนตรีฯ เฉลิมชัย เป็นคนกระซิบคุณอริยะ เชื้อชม ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติหรือเปล่า ผมไม่ทราบ ผมรู้แต่ว่า คุณเฉลิมชัย อยู่ที่ไหน ที่นั่นไม่ค่อยจะสงบสุขเลย
    "ทราย สก๊อต"ไปเหยียบตีนใคร ที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์ในทะเลไทย . “ทราย สก๊อต” หรือ สิรณัฐ ภิรมย์ภักดี อินฟลูเอนเซอร์หนุ่มลูกครึ่งไทย-สกอตต์แลนด์ ทายาทสิงห์รุ่น 4 หลานชายของคุณจำนงค์ ภิรมย์ภักดี อดีตประธานบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ทรายเรียนจบการศึกษาปริญญาตรีทางด้านแอนิเมชันจากสหรัฐอเมริกาและเจ้าของสถิติว่ายน้ำทะเล 30 กม.ได้รับฉายาเป็น“อควาแมนเมืองไทย” ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯนายอรรถพล เจริญชันษา เมื่อต้นปี 2567 ด้วยภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ รักษ์ทะเล จริงจังเรื่องสิ่งแวดล้อม และสื่อสารเก่งผ่านโซเชียล . เขาทำงานเชิงรุกในภาคสนามอย่างเข้มข้น ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ผ่อนปรน ยอมหักไม่ยอมงอ ทั้งเตือนนักท่องเที่ยว ใช้กฎหมายจัดการผู้ละเมิดกฎอุทยาน ไม่เว้นแม้แต่บริษัทเรือหรือไกด์ทัวร์ที่ให้อาหารสัตว์ทะเลหรือเหยียบปะการัง จนเกิดความไม่พอใจจากบางกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจเกินขอบเขต ทำคอนเทนต์เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และพูดจาเหยียดหยามเจ้าหน้าที่ . เหตุการณ์เริ่มต้นจากคลิป “หนีห่าว” ที่ทรายเข้าไปตักเตือนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พูดจาเหยียดคนไทย ตามด้วยคดีฟ้องหมิ่นประมาทจากบริษัทเรือ ก่อกระแสโต้กลับหนักบนโซเชียลและในวงราชการ กระทั่งวันที่ 21 เม.ย. 2568 อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาตินายอรรถพล เจริญชันษา มีคำสั่งปลดทรายออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่า “มีความประพฤติไม่เหมาะสม เตือนแล้วก็ไม่แก้ไขปรับปรุง ทำงานร่วมกับใครไม่ได้” . สังคมออนไลน์กลับมองต่าง ช่วยกันติดแฮชแท็ก #Saveทราย #คืนทรายให้ทะเล พร้อมตั้งคำถามว่า “เขาไปเหยียบตีนใครหรือเปล่า?” เพราะสิ่งที่ทรายพูดอาจเป็นการสะกิดรอยรั่วของระบบอุทยานฯ โดยเฉพาะพื้นที่ “ทำเงิน”ในอุทยานทางทะเล 4 แห่งคืออุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดภูเก็ต, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดกระบี่, อุทยานแห่งชาติแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง, อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา จังหวัดพังงา ก็ฟาดไปกว่าปีละ 500 ล้านบาท . ทรายยืนยันว่า “ไม่ได้ล้ำเส้น แค่ใช้กฎให้ถูกต้อง” พร้อมเปรยว่า “ผมเห็นเยอะเกินไป” เป็นประโยคที่หลายคนตีความว่า เขาอาจสัมผัสปัญหาหรือความหย่อนยานเชิงโครงสร้างในระบบราชการที่ไม่มีใครกล้าพูด . ขบวนการผลประโยชน์ที่ "ทราย สก๊อต" มองเห็นอยู่ ย่อมไม่มีผลดีต่อพวกที่คิดชั่ว ทำชั่วระบบเวียนตั๋ว-อุปถัมภ์-ผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ใช่แค่โกงตั๋ว ยังมีการจัดซื้อจัดจ้าง ส่อแววเอื้อพวกพ้อง ทั้งที่รายได้จากอุทยานทั่วประเทศปี 2567 พุ่งถึง 2,200 ล้านบาท แต่สวัสดิการพื้นฐานของเจ้าหน้าที่อุทยาน เช่น ประกันภัยยังแทบไม่มี “ทราย สก๊อต” เคยเสนอแนวคิดใช้เงินตรงนี้ดูแลคนทำงานจริง กลับถูกต้านจากระบบ เป็นไปได้หรือไม่ว่าตัวจริงเป็น "ไอ้โม่ง" ที่อยู่ข้างหลัง คือตัวเบิ้มๆ ที่คอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ . นี่ล่ะ คือเบื้องหน้าเบื้องหลังของกรณี "หนีห่าว" ของ "ทราย สก๊อต" ที่ไม่ได้จบแค่เรื่องการเหยียดคนไทยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาเชิงระบบ ปัญหาเรื่องผลประโยชน์นับพันล้านของกรมอุทยานแห่งชาติฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในเงื้อมมือของข้าราชการและนักการเมืองที่ตัดไม่ได้ขายไม่ออกด้วย . สำหรับคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน นั้น ท่านก็เคยมีวีรกรรมของท่านมากมายเหลือเกินสมัยที่ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แล้วก็มีเรื่องนี้ที่เกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าการสั่งซื้อเรือราคาหลายร้อยล้านบาทนั้น มันออกมาจากคนไหน ท่านรัฐมนตรีฯ เฉลิมชัย เป็นคนกระซิบคุณอริยะ เชื้อชม ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติหรือเปล่า ผมไม่ทราบ ผมรู้แต่ว่า คุณเฉลิมชัย อยู่ที่ไหน ที่นั่นไม่ค่อยจะสงบสุขเลย
    Like
    Love
    17
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 541 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..คนยุคน้ำหมากเราก็เหนื่อยเป็นนะ,จะมั่วแต่มาออกมาไล่มาชุมนุมประกาศความชั่วเลวเป็นตัวแทนความดีเหี้ยนี้ไม่นานหรอก,มันบ่งบอกถึงระบบมันชั่วเลวชัดเจนจึงควบคุมคนชั่วเลวไม่ได้จริง,ระบบปกครองล้มเหลวจนเดือดร้อนประชาชนตนดำๆทั่วประเทศต้องมาทวงคืนความเป็นธรรมแทนคนไทยร่วมกันแทน,ในขณะตัวแทนพวกกาเลทอกตั้งอวดอวยตนกราบไหว้ก่อนกาเลือกบอกว่าจะเป็นตัวแทนที่ดีเสือกกระทำชั่ว,คนในระบบแบบคนข้าราชการก็ไม่ทำอะไรสร้างดุลความยุติธรรม,มองตาปริบๆในวงราชการตนเองนั่งคาตำแหน่งอำนาจกระจายเต็มแผ่นดินไทยตั้งแต่ระดับผู้ว่า,นายอำเภอคนราชการท้องถิ่นซึ่งชัดเจนว่าอยุติธรรมเต็มแผ่นดินเพียงใดในปัญหาประจำท้องถิ่นตนแต่ล่ะที่ พบเจอค่าจริงมากมาย แต่หดเป็นเต่าไม่บอกความจริงประชาชนเลยก็คนราชการนี้ล่ะ,บ่อน้ำมันบ่อทองคำมากมายเต็มประเทศระดับผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.รับรู้หมดล่ะ,อะไรไม่ดีก็ไม่คิดอ่านส่งเสริมให้ดี,อะไรดีก็ตัดตอนทำให้แย่,มันคือการปกครองแบบใด,บ่อนพนันเลวๆรู้ว่าชั่ว มีผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.กี่คนออกมาประกาศจุดยืนปกป้องประเทศให้พ้นอบายมุขในสิ่งชั่ว,นึกเล่นๆสิผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.ร่วมกันตีแผ่บอกค่าจริงที่เลวชั่วสาระพัดร่วมกัน ใครประชาชนที่ไหนจะมืดบอดอีก ตนในฐานะพ่อเมืองพ่อบ้านที่อวดอวยอ้างนักกลับไม่ออกมาสู้ อ้างผิดวิถีคนใต้ปกครองพะนะ ถ้าวิถีปกครองเหี้ยๆนี้ปิดปากให้อบายมุขสิ่งเลวชั่วเจริญรุ่งเรืองก็อย่ามีวิถีปกครองแบบนำพาประชาชนให้มืดบอดเลย บรรลุรู้เองพะนะ คงไม่จำเป็นต้องมีผู้ว่านายเภออบต.อบจ.ประดับแผ่นดินไทยสิ้นเปลืองงบประมาณประเทศที่แม้ความชั่วเลวก็ออกมาสู้รบกับข้าศึกชั่วเลวนี้แบบเปิดเผยชี้บอกเลวชั่วต่อทหารตนไม่ได้ว่ารบกับข้าศึกทำไม สู้เพื่ออะไรในนานแม่ทัพนำหน้ารบ,เสือกหลบมืดใต้ดินที่เกรงกลัวข้าศึกศัตรูแต่พอเงินเดือนออกสวัสดิโบนัสมารีบเร่งเบิกเร่งรับโอนเต็มๆ มันใช้ไม่ได้นะ,เราต้องล้างทุบทำลายวิถีปกครองที่ส่งเสริมความชั่วเลวเถอะ,ตนถูกปล้นก็ไม่สู้กลับเอาคืน,ตนถูกหลอกก็ไม่บอกความจริงให้หายโง่ไม่พาคนตามโง่ไปด้วย ฉีกความโง่ทิ้ง,แบบฉีกสัญญาทาสฉีกกฎหมายเลวชั่วที่ปล้นบ่อน้ำมันเราไปแบบฉีกรัฐธรรมนูญที่ทหารยึดอำนาจแล้วทำเสียของมาก,ไม่เป็นประโยชน์จริงอะไรต่อการสร้างชาติ นึกว่าจะเอาวัตถุดิบสร้างชาติคืนทั้งหมดได้เช่นสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายทีีเอกชนต่างชาติผูกขาดไปและคนทรยศเอกชนไทยเองยึดเอาผูกขาดเอาไปก็ด้วยให้ตกเป็นของกลางสร้างชาติจริงในอนาคตต่อยอดสิ่งต่างๆมากมายต่อไป,กาก&กระจอกมาก,ฝีมือไม่ถึง,เสียเวลาและเสียของจนก่อปัญหาไม่จบสิ้นถึงปัจจุบัน,ปัญหาทั้งหมดคือพวกปกครองพวกได้อำนาจไปปกครองที่ไร้ฝีมือ นำพาประเทศสู่ความฉิบหายทั่วประเทศ เจริญแบบเป็นทาสขี้ข้าวัตถุต่างชาติ เขาทุบทำลายตนเมื่อใดก็ไร้ความเจริญเพราะเจริญแบบปลอมๆ,ไม่สร้างรากฐานความเจริญที่แท้จริงจากคนของแผ่นดินไทยตนก่อน,ทุกๆคนไทยเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ ยืนด้วยขาตนเองจริง ร่ำรวยทางวัตถุแม้ไม่มากแต่ความว่าสิ้นชาติไทยจะไม่มีบนแผ่นดินไทยต่อคนไทยเราทุกๆคนและพลิกสู่เจริญวัตถุธาตุร่ำรวยทั้งทางกายและจิตวิญญาณที่ดีงามฝ่ายเดียวด้วยคู่ขนานโลกยุคล้ำๆต่างๆปรับเข้าลงตัวต่อโลกได้อย่างสบาย.
    ..ปัจจุบันสมควรจบจริง ภาคนักการเมืองแบบนี้และแบบภาคก่อนคณะกบฎ2475ก็คงรับการปกครองแบบนั้นไม่ได้ในสไตล์ศักดินาขี้ข้าทาสไพร่รับใช้แบบนั้น,วิถีปกครองเราต้องธรรมาธิปไตยสไตล์ธรรมะฝ่ายกุศลธรรมนำหน้าจริงๆจึงพอก้าวต่อไปได้,ทุกๆคนไทยจะมีธรรมดีปกครองในใจใครมันบนจริตสันดานปรับปรุงตนให้ดีขึ้นเรื่อยๆร่วมกันได้,ตรงข้ามทุกๆคนไทยขาดธรรมดี วุ่นวายทั้งชุมชนสังคมแบบในปัจจุบันนี้แน่นอน ทำร้ายกันแบบไร้สติคิดอ่านล่ะ,จึงต้องเคลียร์พื้นที่อย่างรวดเร็ว,ใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยต้องถีบออกจากประเทศไทยทั้งหมดทันที ความโกลาหลจากคนต่างบ้านต่างเมืองจะหมดไปจะเหลือแค่จัดการกันเองภายในล้วนๆ, นโยบายเร่งด่วนคือใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยกรุณาบินกลับประเทศตนเองทั้งหมดทันที,สนับสนุนส่งไปเกาะใดๆพักคนพวกนี้ได้,หรือติดต่อประเทศที่สามรับไปดูแลแทนแบบพวกสงครามพม่า,ไม่ใช่ภาระเราต้องแบกรับปัญหาที่บ้านเมืองมันเองก่อการกันเอง.แล้วมาสร้างความไม่สงบสุขแก่คนของแผ่นดินไทยในบ้านเมืองไทยเราด้วย,กิจการไหนเสียดายต่างด้าวกรุณาย้ายฐานการผลิตไปตั้งโรงงานที่ประเทศต่างด้าวนั้นเลยบวกตัดเครดิตในภาครัฐทั้งหมดที่รัฐส่งเสริมสนับสนุนทิ้งทั้งหมด ข้อหาส่งเสริมต่างด้าวสร้างภัยความมั่นคงไม่สงบต่อชุมชนสังคมรอบกิจการโรงงานและคนไทยร่วมทั้งประเทศ,
    ..แม้ฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆจะอาศัยต่างด้าวสร้างเป็นมือที่สามหรือใดๆจะก่อการลำบากหรือยากหรือไม่ได้เป็นเพียงอาศัยคนทรยศคนไทยอย่างเดียวแล้วแค่นั้นหรือมันก่อการเองของต่างชาตินั้นๆ.ตัดตอนปัญหาสาระพัดเลยล่ะหรือหมอพยาบาลที่ดูแลต่างด้าวมากกว่าคนไทย งบมากมาย ทรัพยากรจำกัดหลากหลายที่ต่างชาติต่างด้าวนี้มาแย่งชิงการใช้ขณะดำรงชีวิตไม่ให้ตายในไทยจะลดลงมหาศาลเป็นจำนวนมากทันที,ฝ่ายการเมืองเลวชั่วจะใช้ต่างด้าวมาปั่นป่วนใดๆก็จบเกมส์ด้วย,ความสงบสุขมากมายที่ผิดปกติไปเพราะต่างชาติต่างด้าวนี้ล่ะคือตัวปัญหาซึ่งคนชั่วสามารถวางสนุ็คใช้ในแผนการต่างๆมันได้,กิจการที่อาศัยทาสแรงงานต่างด้าวค้ากำไรจะตายลงไป,คนกิจการจริงจะอาศัยสัมมาครอบครัวใครมันทำการค้าขายแต่พอดีตามกำลังแรงตนใครมันไม่เอาเปรียบกันก็ว่า,สัมมาอาชีพมากมายจะค้าขายกันพอดีกำลังไม่กอบโกยรวบเอามากองแต่หน้าตักตนเอง,แรงตนกับคนในครอบครัวปกติทำรายได้10-100ล้าน โลภอยากได้มากๆตัดสัมมาอาชีพคนอื่นที่สามารถทำได้ไปยึดผูกขาดทำเองหมดจนตังกว่าแสนล้านหรือล้านล้านบาทจากแรงงานต่างด้าวนำเข้าหรือใครคนอื่นแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้,ตนครอบครัวใครมันทำได้เท่าไรก็เอาแต่พอดี ปล่อยคนอื่นๆร่ำรวยมีสุขบ้างในแต่ละท้องที่ จรรโจงชุมชนสังคมทั่วไทย ยืนร่วมกันด้วยขาตนเองร่วมกันในสัมมาอาชีพต่างๆบนแผ่นดินไทยตน,ซึ่งปัจจุบันเหี้ยภายในไม่พอ ไปเชิญชวนต่างชาติมายึดครองแผ่นดินไทยตนด้วย,แล้วฉลาดอวดโง่ว่านำพานักลงทุนมาลงแดกเต็มประเทศไทยได้.,วิถีปกครองนี้เลวชั่วและคือภัยความมั่นคงของประเทศไทยเราอย่างชัดเจน.

    https://m.youtube.com/watch?v=9krnTyEP7pQ
    ..คนยุคน้ำหมากเราก็เหนื่อยเป็นนะ,จะมั่วแต่มาออกมาไล่มาชุมนุมประกาศความชั่วเลวเป็นตัวแทนความดีเหี้ยนี้ไม่นานหรอก,มันบ่งบอกถึงระบบมันชั่วเลวชัดเจนจึงควบคุมคนชั่วเลวไม่ได้จริง,ระบบปกครองล้มเหลวจนเดือดร้อนประชาชนตนดำๆทั่วประเทศต้องมาทวงคืนความเป็นธรรมแทนคนไทยร่วมกันแทน,ในขณะตัวแทนพวกกาเลทอกตั้งอวดอวยตนกราบไหว้ก่อนกาเลือกบอกว่าจะเป็นตัวแทนที่ดีเสือกกระทำชั่ว,คนในระบบแบบคนข้าราชการก็ไม่ทำอะไรสร้างดุลความยุติธรรม,มองตาปริบๆในวงราชการตนเองนั่งคาตำแหน่งอำนาจกระจายเต็มแผ่นดินไทยตั้งแต่ระดับผู้ว่า,นายอำเภอคนราชการท้องถิ่นซึ่งชัดเจนว่าอยุติธรรมเต็มแผ่นดินเพียงใดในปัญหาประจำท้องถิ่นตนแต่ล่ะที่ พบเจอค่าจริงมากมาย แต่หดเป็นเต่าไม่บอกความจริงประชาชนเลยก็คนราชการนี้ล่ะ,บ่อน้ำมันบ่อทองคำมากมายเต็มประเทศระดับผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.รับรู้หมดล่ะ,อะไรไม่ดีก็ไม่คิดอ่านส่งเสริมให้ดี,อะไรดีก็ตัดตอนทำให้แย่,มันคือการปกครองแบบใด,บ่อนพนันเลวๆรู้ว่าชั่ว มีผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.กี่คนออกมาประกาศจุดยืนปกป้องประเทศให้พ้นอบายมุขในสิ่งชั่ว,นึกเล่นๆสิผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.ร่วมกันตีแผ่บอกค่าจริงที่เลวชั่วสาระพัดร่วมกัน ใครประชาชนที่ไหนจะมืดบอดอีก ตนในฐานะพ่อเมืองพ่อบ้านที่อวดอวยอ้างนักกลับไม่ออกมาสู้ อ้างผิดวิถีคนใต้ปกครองพะนะ ถ้าวิถีปกครองเหี้ยๆนี้ปิดปากให้อบายมุขสิ่งเลวชั่วเจริญรุ่งเรืองก็อย่ามีวิถีปกครองแบบนำพาประชาชนให้มืดบอดเลย บรรลุรู้เองพะนะ คงไม่จำเป็นต้องมีผู้ว่านายเภออบต.อบจ.ประดับแผ่นดินไทยสิ้นเปลืองงบประมาณประเทศที่แม้ความชั่วเลวก็ออกมาสู้รบกับข้าศึกชั่วเลวนี้แบบเปิดเผยชี้บอกเลวชั่วต่อทหารตนไม่ได้ว่ารบกับข้าศึกทำไม สู้เพื่ออะไรในนานแม่ทัพนำหน้ารบ,เสือกหลบมืดใต้ดินที่เกรงกลัวข้าศึกศัตรูแต่พอเงินเดือนออกสวัสดิโบนัสมารีบเร่งเบิกเร่งรับโอนเต็มๆ มันใช้ไม่ได้นะ,เราต้องล้างทุบทำลายวิถีปกครองที่ส่งเสริมความชั่วเลวเถอะ,ตนถูกปล้นก็ไม่สู้กลับเอาคืน,ตนถูกหลอกก็ไม่บอกความจริงให้หายโง่ไม่พาคนตามโง่ไปด้วย ฉีกความโง่ทิ้ง,แบบฉีกสัญญาทาสฉีกกฎหมายเลวชั่วที่ปล้นบ่อน้ำมันเราไปแบบฉีกรัฐธรรมนูญที่ทหารยึดอำนาจแล้วทำเสียของมาก,ไม่เป็นประโยชน์จริงอะไรต่อการสร้างชาติ นึกว่าจะเอาวัตถุดิบสร้างชาติคืนทั้งหมดได้เช่นสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายทีีเอกชนต่างชาติผูกขาดไปและคนทรยศเอกชนไทยเองยึดเอาผูกขาดเอาไปก็ด้วยให้ตกเป็นของกลางสร้างชาติจริงในอนาคตต่อยอดสิ่งต่างๆมากมายต่อไป,กาก&กระจอกมาก,ฝีมือไม่ถึง,เสียเวลาและเสียของจนก่อปัญหาไม่จบสิ้นถึงปัจจุบัน,ปัญหาทั้งหมดคือพวกปกครองพวกได้อำนาจไปปกครองที่ไร้ฝีมือ นำพาประเทศสู่ความฉิบหายทั่วประเทศ เจริญแบบเป็นทาสขี้ข้าวัตถุต่างชาติ เขาทุบทำลายตนเมื่อใดก็ไร้ความเจริญเพราะเจริญแบบปลอมๆ,ไม่สร้างรากฐานความเจริญที่แท้จริงจากคนของแผ่นดินไทยตนก่อน,ทุกๆคนไทยเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ ยืนด้วยขาตนเองจริง ร่ำรวยทางวัตถุแม้ไม่มากแต่ความว่าสิ้นชาติไทยจะไม่มีบนแผ่นดินไทยต่อคนไทยเราทุกๆคนและพลิกสู่เจริญวัตถุธาตุร่ำรวยทั้งทางกายและจิตวิญญาณที่ดีงามฝ่ายเดียวด้วยคู่ขนานโลกยุคล้ำๆต่างๆปรับเข้าลงตัวต่อโลกได้อย่างสบาย. ..ปัจจุบันสมควรจบจริง ภาคนักการเมืองแบบนี้และแบบภาคก่อนคณะกบฎ2475ก็คงรับการปกครองแบบนั้นไม่ได้ในสไตล์ศักดินาขี้ข้าทาสไพร่รับใช้แบบนั้น,วิถีปกครองเราต้องธรรมาธิปไตยสไตล์ธรรมะฝ่ายกุศลธรรมนำหน้าจริงๆจึงพอก้าวต่อไปได้,ทุกๆคนไทยจะมีธรรมดีปกครองในใจใครมันบนจริตสันดานปรับปรุงตนให้ดีขึ้นเรื่อยๆร่วมกันได้,ตรงข้ามทุกๆคนไทยขาดธรรมดี วุ่นวายทั้งชุมชนสังคมแบบในปัจจุบันนี้แน่นอน ทำร้ายกันแบบไร้สติคิดอ่านล่ะ,จึงต้องเคลียร์พื้นที่อย่างรวดเร็ว,ใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยต้องถีบออกจากประเทศไทยทั้งหมดทันที ความโกลาหลจากคนต่างบ้านต่างเมืองจะหมดไปจะเหลือแค่จัดการกันเองภายในล้วนๆ, นโยบายเร่งด่วนคือใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยกรุณาบินกลับประเทศตนเองทั้งหมดทันที,สนับสนุนส่งไปเกาะใดๆพักคนพวกนี้ได้,หรือติดต่อประเทศที่สามรับไปดูแลแทนแบบพวกสงครามพม่า,ไม่ใช่ภาระเราต้องแบกรับปัญหาที่บ้านเมืองมันเองก่อการกันเอง.แล้วมาสร้างความไม่สงบสุขแก่คนของแผ่นดินไทยในบ้านเมืองไทยเราด้วย,กิจการไหนเสียดายต่างด้าวกรุณาย้ายฐานการผลิตไปตั้งโรงงานที่ประเทศต่างด้าวนั้นเลยบวกตัดเครดิตในภาครัฐทั้งหมดที่รัฐส่งเสริมสนับสนุนทิ้งทั้งหมด ข้อหาส่งเสริมต่างด้าวสร้างภัยความมั่นคงไม่สงบต่อชุมชนสังคมรอบกิจการโรงงานและคนไทยร่วมทั้งประเทศ, ..แม้ฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆจะอาศัยต่างด้าวสร้างเป็นมือที่สามหรือใดๆจะก่อการลำบากหรือยากหรือไม่ได้เป็นเพียงอาศัยคนทรยศคนไทยอย่างเดียวแล้วแค่นั้นหรือมันก่อการเองของต่างชาตินั้นๆ.ตัดตอนปัญหาสาระพัดเลยล่ะหรือหมอพยาบาลที่ดูแลต่างด้าวมากกว่าคนไทย งบมากมาย ทรัพยากรจำกัดหลากหลายที่ต่างชาติต่างด้าวนี้มาแย่งชิงการใช้ขณะดำรงชีวิตไม่ให้ตายในไทยจะลดลงมหาศาลเป็นจำนวนมากทันที,ฝ่ายการเมืองเลวชั่วจะใช้ต่างด้าวมาปั่นป่วนใดๆก็จบเกมส์ด้วย,ความสงบสุขมากมายที่ผิดปกติไปเพราะต่างชาติต่างด้าวนี้ล่ะคือตัวปัญหาซึ่งคนชั่วสามารถวางสนุ็คใช้ในแผนการต่างๆมันได้,กิจการที่อาศัยทาสแรงงานต่างด้าวค้ากำไรจะตายลงไป,คนกิจการจริงจะอาศัยสัมมาครอบครัวใครมันทำการค้าขายแต่พอดีตามกำลังแรงตนใครมันไม่เอาเปรียบกันก็ว่า,สัมมาอาชีพมากมายจะค้าขายกันพอดีกำลังไม่กอบโกยรวบเอามากองแต่หน้าตักตนเอง,แรงตนกับคนในครอบครัวปกติทำรายได้10-100ล้าน โลภอยากได้มากๆตัดสัมมาอาชีพคนอื่นที่สามารถทำได้ไปยึดผูกขาดทำเองหมดจนตังกว่าแสนล้านหรือล้านล้านบาทจากแรงงานต่างด้าวนำเข้าหรือใครคนอื่นแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้,ตนครอบครัวใครมันทำได้เท่าไรก็เอาแต่พอดี ปล่อยคนอื่นๆร่ำรวยมีสุขบ้างในแต่ละท้องที่ จรรโจงชุมชนสังคมทั่วไทย ยืนร่วมกันด้วยขาตนเองร่วมกันในสัมมาอาชีพต่างๆบนแผ่นดินไทยตน,ซึ่งปัจจุบันเหี้ยภายในไม่พอ ไปเชิญชวนต่างชาติมายึดครองแผ่นดินไทยตนด้วย,แล้วฉลาดอวดโง่ว่านำพานักลงทุนมาลงแดกเต็มประเทศไทยได้.,วิถีปกครองนี้เลวชั่วและคือภัยความมั่นคงของประเทศไทยเราอย่างชัดเจน. https://m.youtube.com/watch?v=9krnTyEP7pQ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมเดาว่าเป็น Terminal Impulse Wave...
    .
    Classic Elliott Wave ก็จะบอกว่า ต้องดิ่งนรกทะลุต่ำกว่า Low ของ Wave 1 ลงไป
    .
    Neo Elliott Wave จะบอกว่า ก็ลงแรงแหล่ะ แต่ไม่จำเป็นต้อง ต้องดิ่งนรกทะลุ ลงต่ำกว่า Low ของ Wave 1 เสมอไป
    .
    ช่วงปรับฐานอาจจะใช่เวลาเป็นเดือน
    ...
    ...
    ถ้าคุณ เป็นพวก "In Gold We Trust" ก็กำเงินไว้ให้แน่นครับ รอจังหว่ะอีกไม่นานแล้ว...!!!
    ผมเดาว่าเป็น Terminal Impulse Wave... . Classic Elliott Wave ก็จะบอกว่า ต้องดิ่งนรกทะลุต่ำกว่า Low ของ Wave 1 ลงไป . Neo Elliott Wave จะบอกว่า ก็ลงแรงแหล่ะ แต่ไม่จำเป็นต้อง ต้องดิ่งนรกทะลุ ลงต่ำกว่า Low ของ Wave 1 เสมอไป . ช่วงปรับฐานอาจจะใช่เวลาเป็นเดือน ... ... ถ้าคุณ เป็นพวก "In Gold We Trust" ก็กำเงินไว้ให้แน่นครับ รอจังหว่ะอีกไม่นานแล้ว...!!!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • Gigabyte ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาการรั่วไหลของเจลระบายความร้อนในกราฟิกการ์ด RTX 50-series ซึ่งเป็นปัญหาที่พบในผลิตภัณฑ์รุ่นแรกๆ ของสายการผลิต โดยเจลระบายความร้อนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีการสัมผัสที่ดีขึ้นระหว่างพื้นผิวที่ไม่เรียบของส่วนประกอบ และสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 150°C โดยไม่ละลาย

    Gigabyte ยอมรับว่าปัญหานี้เกิดจากการใช้เจลในปริมาณที่มากเกินไปในสายการผลิตช่วงแรก ซึ่งส่งผลให้เกิดการรั่วไหลที่มองเห็นได้ แต่ยืนยันว่าปัญหานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ความเสถียร หรืออายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่

    อย่างไรก็ตาม Gigabyte ยังไม่ได้ประกาศโปรแกรมเรียกคืนหรือเปลี่ยนสินค้า โดยแนะนำให้ผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบติดต่อศูนย์บริการลูกค้าในภูมิภาคของตน

    ✅ การออกแบบเจลระบายความร้อน
    - เจลระบายความร้อนถูกออกแบบมาเพื่อให้มีการสัมผัสที่ดีขึ้นระหว่างพื้นผิวที่ไม่เรียบ
    - สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 150°C โดยไม่ละลาย

    ✅ ปัญหาที่พบในสายการผลิต
    - การใช้เจลในปริมาณที่มากเกินไปในสายการผลิตช่วงแรก
    - ปัญหานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ความเสถียร หรืออายุการใช้งาน

    ✅ การตอบสนองของ Gigabyte
    - ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่
    - แนะนำให้ผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบติดต่อศูนย์บริการลูกค้า

    ✅ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
    - ปัญหานี้อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gigabyte-addresses-rtx-50-series-thermal-gel-leak-blames-over-application-in-early-production-units
    Gigabyte ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับปัญหาการรั่วไหลของเจลระบายความร้อนในกราฟิกการ์ด RTX 50-series ซึ่งเป็นปัญหาที่พบในผลิตภัณฑ์รุ่นแรกๆ ของสายการผลิต โดยเจลระบายความร้อนนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีการสัมผัสที่ดีขึ้นระหว่างพื้นผิวที่ไม่เรียบของส่วนประกอบ และสามารถทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 150°C โดยไม่ละลาย Gigabyte ยอมรับว่าปัญหานี้เกิดจากการใช้เจลในปริมาณที่มากเกินไปในสายการผลิตช่วงแรก ซึ่งส่งผลให้เกิดการรั่วไหลที่มองเห็นได้ แต่ยืนยันว่าปัญหานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ความเสถียร หรืออายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม Gigabyte ยังไม่ได้ประกาศโปรแกรมเรียกคืนหรือเปลี่ยนสินค้า โดยแนะนำให้ผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบติดต่อศูนย์บริการลูกค้าในภูมิภาคของตน ✅ การออกแบบเจลระบายความร้อน - เจลระบายความร้อนถูกออกแบบมาเพื่อให้มีการสัมผัสที่ดีขึ้นระหว่างพื้นผิวที่ไม่เรียบ - สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 150°C โดยไม่ละลาย ✅ ปัญหาที่พบในสายการผลิต - การใช้เจลในปริมาณที่มากเกินไปในสายการผลิตช่วงแรก - ปัญหานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ความเสถียร หรืออายุการใช้งาน ✅ การตอบสนองของ Gigabyte - ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ - แนะนำให้ผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบติดต่อศูนย์บริการลูกค้า ✅ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค - ปัญหานี้อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/gigabyte-addresses-rtx-50-series-thermal-gel-leak-blames-over-application-in-early-production-units
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่สำหรับ AI โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของ AI และการสร้างโซลูชันแบบครบวงจร (Full-stack solutions) ที่รวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกัน หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ยังคงอยู่ในแผนคือ GPU ที่มีชื่อรหัสว่า Jaguar Shores ซึ่งออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI ในระดับแร็ค (Rack-level design) โดยใช้เทคโนโลยี Silicon Photonics เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

    Intel ยังได้ปรับโครงสร้างหน่วยงาน AI โดยแยกออกจากแผนกศูนย์ข้อมูล และแต่งตั้ง Sachin Katti เป็น CTO และหัวหน้าฝ่าย AI เพื่อเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคที่ AI มีบทบาทสำคัญต่อการประมวลผล

    นอกจากนี้ Intel ยังมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาซิลิคอนแบบกำหนดเอง (Custom-built silicon) และกำลังประเมินตัวเลือกสถาปัตยกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด AI

    ✅ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI
    - Intel มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของ AI
    - GPU Jaguar Shores ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI ในระดับแร็ค

    ✅ การใช้เทคโนโลยี Silicon Photonics
    - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ AI ในศูนย์ข้อมูล
    - Intel เป็นผู้ผลิตที่มีตัวเลือกโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีออปติก

    ✅ การปรับโครงสร้างหน่วยงาน AI
    - แยกหน่วยงาน AI ออกจากแผนกศูนย์ข้อมูล
    - แต่งตั้ง Sachin Katti เป็น CTO และหัวหน้าฝ่าย AI

    ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตร
    - พัฒนาซิลิคอนแบบกำหนดเองและประเมินตัวเลือกสถาปัตยกรรมใหม่ๆ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-redefines-ai-strategy-jaguar-shores-to-be-rack-level-design-with-focus-on-silicon-photonics
    Intel ได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่สำหรับ AI โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของ AI และการสร้างโซลูชันแบบครบวงจร (Full-stack solutions) ที่รวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกัน หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ยังคงอยู่ในแผนคือ GPU ที่มีชื่อรหัสว่า Jaguar Shores ซึ่งออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI ในระดับแร็ค (Rack-level design) โดยใช้เทคโนโลยี Silicon Photonics เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน Intel ยังได้ปรับโครงสร้างหน่วยงาน AI โดยแยกออกจากแผนกศูนย์ข้อมูล และแต่งตั้ง Sachin Katti เป็น CTO และหัวหน้าฝ่าย AI เพื่อเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคที่ AI มีบทบาทสำคัญต่อการประมวลผล นอกจากนี้ Intel ยังมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาซิลิคอนแบบกำหนดเอง (Custom-built silicon) และกำลังประเมินตัวเลือกสถาปัตยกรรมใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด AI ✅ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI - Intel มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของ AI - GPU Jaguar Shores ออกแบบมาเพื่อการประมวลผล AI ในระดับแร็ค ✅ การใช้เทคโนโลยี Silicon Photonics - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ AI ในศูนย์ข้อมูล - Intel เป็นผู้ผลิตที่มีตัวเลือกโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีออปติก ✅ การปรับโครงสร้างหน่วยงาน AI - แยกหน่วยงาน AI ออกจากแผนกศูนย์ข้อมูล - แต่งตั้ง Sachin Katti เป็น CTO และหัวหน้าฝ่าย AI ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตร - พัฒนาซิลิคอนแบบกำหนดเองและประเมินตัวเลือกสถาปัตยกรรมใหม่ๆ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-redefines-ai-strategy-jaguar-shores-to-be-rack-level-design-with-focus-on-silicon-photonics
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • Adobe ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Firefly ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างภาพและวิดีโอด้วย AI โดยเพิ่มความสามารถในการรวมโมเดล AI จากพันธมิตร เช่น Google และ OpenAI เพื่อให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างภาพที่มีลิขสิทธิ์ได้ในบางกรณี เช่น การออกแบบที่ต้องใช้โลโก้หรือภาพที่มีลิขสิทธิ์ของลูกค้า

    นอกจากนี้ Adobe ยังเปิดตัว Firefly Boards ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง "moodboards" หรือแผ่นภาพที่รวบรวมไอเดียจากภาพที่สร้างขึ้นหรือคัดลอกมา เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาไอเดียเพิ่มเติม

    Adobe ยังได้ปรับปรุงโมเดล AI ของตัวเอง เช่น Firefly Image Model 4 ที่สามารถสร้างภาพที่มีความสมจริงมากขึ้น และเพิ่มตัวเลือกการควบคุม เช่น มุมกล้องและระดับการซูม รวมถึงการสร้างภาพในความละเอียดต่ำเพื่อการทดลองก่อนที่จะสร้างภาพในความละเอียดสูง

    ✅ การรวมโมเดล AI จากพันธมิตร
    - Adobe รวมโมเดล AI จาก Google และ OpenAI เพื่อเพิ่มตัวเลือกในการสร้างภาพ
    - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างภาพที่มีลิขสิทธิ์ในบางกรณี

    ✅ ฟีเจอร์ Firefly Boards
    - ช่วยให้ผู้ใช้งานสร้าง "moodboards" เพื่อรวบรวมและพัฒนาไอเดีย
    - สามารถใช้ภาพจากโมเดล AI หรือภาพที่คัดลอกมา

    ✅ การปรับปรุงโมเดล AI ของ Adobe
    - Firefly Image Model 4 สร้างภาพที่สมจริงมากขึ้นและเพิ่มตัวเลือกการควบคุม
    - เพิ่มตัวเลือกการสร้างภาพในความละเอียดต่ำเพื่อการทดลอง

    ✅ การเปิดตัว APIs สำหรับองค์กร
    - APIs ใหม่ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างเนื้อหาด้วย AI ได้อย่างรวดเร็ว

    https://www.techspot.com/news/107673-adobe-firefly-now-supports-partner-ai-models-moodboards.html
    Adobe ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Firefly ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างภาพและวิดีโอด้วย AI โดยเพิ่มความสามารถในการรวมโมเดล AI จากพันธมิตร เช่น Google และ OpenAI เพื่อให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างภาพที่มีลิขสิทธิ์ได้ในบางกรณี เช่น การออกแบบที่ต้องใช้โลโก้หรือภาพที่มีลิขสิทธิ์ของลูกค้า นอกจากนี้ Adobe ยังเปิดตัว Firefly Boards ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง "moodboards" หรือแผ่นภาพที่รวบรวมไอเดียจากภาพที่สร้างขึ้นหรือคัดลอกมา เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาไอเดียเพิ่มเติม Adobe ยังได้ปรับปรุงโมเดล AI ของตัวเอง เช่น Firefly Image Model 4 ที่สามารถสร้างภาพที่มีความสมจริงมากขึ้น และเพิ่มตัวเลือกการควบคุม เช่น มุมกล้องและระดับการซูม รวมถึงการสร้างภาพในความละเอียดต่ำเพื่อการทดลองก่อนที่จะสร้างภาพในความละเอียดสูง ✅ การรวมโมเดล AI จากพันธมิตร - Adobe รวมโมเดล AI จาก Google และ OpenAI เพื่อเพิ่มตัวเลือกในการสร้างภาพ - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างภาพที่มีลิขสิทธิ์ในบางกรณี ✅ ฟีเจอร์ Firefly Boards - ช่วยให้ผู้ใช้งานสร้าง "moodboards" เพื่อรวบรวมและพัฒนาไอเดีย - สามารถใช้ภาพจากโมเดล AI หรือภาพที่คัดลอกมา ✅ การปรับปรุงโมเดล AI ของ Adobe - Firefly Image Model 4 สร้างภาพที่สมจริงมากขึ้นและเพิ่มตัวเลือกการควบคุม - เพิ่มตัวเลือกการสร้างภาพในความละเอียดต่ำเพื่อการทดลอง ✅ การเปิดตัว APIs สำหรับองค์กร - APIs ใหม่ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างเนื้อหาด้วย AI ได้อย่างรวดเร็ว https://www.techspot.com/news/107673-adobe-firefly-now-supports-partner-ai-models-moodboards.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Adobe Firefly now supports partner AI models, moodboards, and enterprise APIs
    As with most applications being enhanced with GenAI, the creative world of AI-powered image and video creation continues to evolve at a tremendously rapid pace. It's no...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้เปิดตัวระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบปิด (Closed-loop liquid cooling) สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่ GB200 NVL72 และ GB300 NVL72 ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล ระบบนี้ช่วยให้เซิร์ฟเวอร์สามารถรองรับการประมวลผลที่มีความหนาแน่นสูง โดยใช้พลังงานระหว่าง 120 ถึง 140 กิโลวัตต์ต่อแร็ค ซึ่งสูงกว่าระบบทั่วไปถึงเจ็ดเท่า

    ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบปิดของ Nvidia ใช้แผ่นเย็น (Cold plates) ที่ติดตั้งตรงกับ GPU และ CPU เพื่อถ่ายเทความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบนี้สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบอากาศ นอกจากนี้ ระบบยังใช้เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลว (Liquid-to-liquid heat exchangers) ที่พัฒนาโดยพันธมิตร เช่น CoolIT และ Motivair เพื่อรองรับความร้อนสูงสุดถึง สองเมกะวัตต์

    อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนมาใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวต้องการการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงในระยะแรก Nvidia ได้ร่วมมือกับ Schneider Electric เพื่อพัฒนาโครงสร้างอ้างอิงที่ช่วยเร่งการติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวในศูนย์ข้อมูล

    ✅ การออกแบบระบบระบายความร้อน
    - ใช้แผ่นเย็นที่ติดตั้งตรงกับ GPU และ CPU เพื่อถ่ายเทความร้อน
    - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า

    ✅ สมรรถนะของระบบ
    - รองรับการประมวลผลที่มีความหนาแน่นสูง โดยใช้พลังงานระหว่าง 120 ถึง 140 กิโลวัตต์ต่อแร็ค
    - ใช้เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลวที่รองรับความร้อนสูงสุดถึงสองเมกะวัตต์

    ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตร
    - Nvidia ร่วมมือกับ Schneider Electric เพื่อพัฒนาโครงสร้างอ้างอิงสำหรับการติดตั้งระบบ

    ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูล
    - ระบบช่วยลดการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล

    https://www.techspot.com/news/107680-closed-loop-liquid-cooling-powers-nvidia-push-greener.html
    Nvidia ได้เปิดตัวระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบปิด (Closed-loop liquid cooling) สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่ GB200 NVL72 และ GB300 NVL72 ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล ระบบนี้ช่วยให้เซิร์ฟเวอร์สามารถรองรับการประมวลผลที่มีความหนาแน่นสูง โดยใช้พลังงานระหว่าง 120 ถึง 140 กิโลวัตต์ต่อแร็ค ซึ่งสูงกว่าระบบทั่วไปถึงเจ็ดเท่า ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบปิดของ Nvidia ใช้แผ่นเย็น (Cold plates) ที่ติดตั้งตรงกับ GPU และ CPU เพื่อถ่ายเทความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบนี้สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบอากาศ นอกจากนี้ ระบบยังใช้เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลว (Liquid-to-liquid heat exchangers) ที่พัฒนาโดยพันธมิตร เช่น CoolIT และ Motivair เพื่อรองรับความร้อนสูงสุดถึง สองเมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนมาใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวต้องการการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงในระยะแรก Nvidia ได้ร่วมมือกับ Schneider Electric เพื่อพัฒนาโครงสร้างอ้างอิงที่ช่วยเร่งการติดตั้งระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวในศูนย์ข้อมูล ✅ การออกแบบระบบระบายความร้อน - ใช้แผ่นเย็นที่ติดตั้งตรงกับ GPU และ CPU เพื่อถ่ายเทความร้อน - ลดการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า ✅ สมรรถนะของระบบ - รองรับการประมวลผลที่มีความหนาแน่นสูง โดยใช้พลังงานระหว่าง 120 ถึง 140 กิโลวัตต์ต่อแร็ค - ใช้เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลวที่รองรับความร้อนสูงสุดถึงสองเมกะวัตต์ ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตร - Nvidia ร่วมมือกับ Schneider Electric เพื่อพัฒนาโครงสร้างอ้างอิงสำหรับการติดตั้งระบบ ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูล - ระบบช่วยลดการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล https://www.techspot.com/news/107680-closed-loop-liquid-cooling-powers-nvidia-push-greener.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia's liquid-cooled AI racks promise 25x energy and 300x water efficiency
    Nowhere is this shift more evident than in Nvidia's latest offerings. The company's GB200 NVL72 and GB300 NVL72 rack-scale systems represent a significant leap in computational density,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นแนวคิดที่ลุงคิดอยู่ในหัวเงียบๆ มาจะ 10 ปีแล้วเหมือนกันครับ

    บทความนี้กล่าวถึงการทดลองทางวิศวกรรมภูมิอากาศ (Geoengineering) ที่กำลังจะเริ่มต้นในสหราชอาณาจักร โดยมีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการปรับเปลี่ยนเมฆในชั้นบรรยากาศให้สะท้อนแสงอาทิตย์มากขึ้น การทดลองนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน Advanced Research and Invention Agency (ARIA) ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณ 50 ล้านปอนด์ (66.5 ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนการทดลองขนาดเล็กในพื้นที่กลางแจ้ง

    การทดลองจะใช้ละอองลอย (Aerosols) เพื่อเพิ่มความสว่างของเมฆและลดอุณหภูมิของโลก โดย ARIA ยืนยันว่าผลกระทบจากการทดลองจะสามารถย้อนกลับได้และไม่มีการปล่อยสารพิษ อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำฝนและการเกษตร

    นอกจากนี้ ARIA ยังมีแผนสนับสนุนการทดลองในห้องปฏิบัติการ การพัฒนารูปแบบการจำลองสภาพภูมิอากาศ และการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับวิศวกรรมภูมิอากาศ

    ✅ เป้าหมายของการทดลอง
    - ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการปรับเปลี่ยนเมฆ
    - ใช้ละอองลอยเพื่อเพิ่มความสว่างของเมฆและลดอุณหภูมิ

    ✅ งบประมาณและการสนับสนุน
    - ARIA จัดสรรงบประมาณ 50 ล้านปอนด์สำหรับการทดลองขนาดเล็ก
    - สนับสนุนการทดลองในห้องปฏิบัติการและการพัฒนารูปแบบการจำลอง

    ✅ การรับรองความปลอดภัย
    - ผลกระทบจากการทดลองสามารถย้อนกลับได้
    - ไม่มีการปล่อยสารพิษที่เป็นอันตราย

    ✅ การสำรวจความคิดเห็นของประชาชน
    - ARIA มีแผนสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับวิศวกรรมภูมิอากาศ

    https://www.techspot.com/news/107676-geoengineering-experiments-dim-sunlight-may-soon-begin-climate.html
    เป็นแนวคิดที่ลุงคิดอยู่ในหัวเงียบๆ มาจะ 10 ปีแล้วเหมือนกันครับ บทความนี้กล่าวถึงการทดลองทางวิศวกรรมภูมิอากาศ (Geoengineering) ที่กำลังจะเริ่มต้นในสหราชอาณาจักร โดยมีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการปรับเปลี่ยนเมฆในชั้นบรรยากาศให้สะท้อนแสงอาทิตย์มากขึ้น การทดลองนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน Advanced Research and Invention Agency (ARIA) ซึ่งได้จัดสรรงบประมาณ 50 ล้านปอนด์ (66.5 ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนการทดลองขนาดเล็กในพื้นที่กลางแจ้ง การทดลองจะใช้ละอองลอย (Aerosols) เพื่อเพิ่มความสว่างของเมฆและลดอุณหภูมิของโลก โดย ARIA ยืนยันว่าผลกระทบจากการทดลองจะสามารถย้อนกลับได้และไม่มีการปล่อยสารพิษ อย่างไรก็ตาม การทดลองนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียง เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำฝนและการเกษตร นอกจากนี้ ARIA ยังมีแผนสนับสนุนการทดลองในห้องปฏิบัติการ การพัฒนารูปแบบการจำลองสภาพภูมิอากาศ และการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับวิศวกรรมภูมิอากาศ ✅ เป้าหมายของการทดลอง - ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการปรับเปลี่ยนเมฆ - ใช้ละอองลอยเพื่อเพิ่มความสว่างของเมฆและลดอุณหภูมิ ✅ งบประมาณและการสนับสนุน - ARIA จัดสรรงบประมาณ 50 ล้านปอนด์สำหรับการทดลองขนาดเล็ก - สนับสนุนการทดลองในห้องปฏิบัติการและการพัฒนารูปแบบการจำลอง ✅ การรับรองความปลอดภัย - ผลกระทบจากการทดลองสามารถย้อนกลับได้ - ไม่มีการปล่อยสารพิษที่เป็นอันตราย ✅ การสำรวจความคิดเห็นของประชาชน - ARIA มีแผนสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับวิศวกรรมภูมิอากาศ https://www.techspot.com/news/107676-geoengineering-experiments-dim-sunlight-may-soon-begin-climate.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Geoengineering experiments to dim sunlight may soon begin in the fight against climate change
    The United Kingdom's Advanced Research and Invention Agency (ARIA) will soon announce experiments to test the theory that altering Earth's clouds can help counteract the effects of...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในระบบ Linux ที่ถูกเปิดเผยโดยบริษัท Armo ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยบนคลาวด์และ Kubernetes โดย Armo ได้สร้าง Proof-of-Concept (PoC) rootkit ที่ชื่อว่า Curing เพื่อแสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของเครื่องมือรักษาความปลอดภัยในระบบ Linux เช่น Falco, Tetragon และ Microsoft Defender

    Curing ใช้ io_uring Linux kernel interface ซึ่งช่วยให้แอปพลิเคชันสามารถดำเนินการต่างๆ โดยไม่ต้องใช้ system calls ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่พึ่งพาการตรวจสอบ system calls ไม่สามารถตรวจจับ rootkits ที่ใช้ io_uring ได้

    Armo ระบุว่าปัญหานี้เกิดจากการพึ่งพา Extended Berkeley Packet Filter (eBPF) ซึ่งเป็นวิธีการตรวจสอบ system calls ที่มีข้อจำกัดในการตรวจจับภัยคุกคามที่ใช้เทคนิคใหม่ๆ เช่น io_uring นอกจากนี้ Armo ยังเรียกร้องให้ผู้พัฒนาเครื่องมือรักษาความปลอดภัยปรับปรุงการออกแบบให้รองรับฟีเจอร์ใหม่ใน Linux kernel และสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ Proof-of-Concept (PoC) rootkit
    - Armo สร้าง PoC rootkit ที่ชื่อว่า Curing เพื่อแสดงข้อจำกัดของเครื่องมือรักษาความปลอดภัย
    - Curing ใช้ io_uring Linux kernel interface เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ

    ✅ ข้อจำกัดของเครื่องมือรักษาความปลอดภัย
    - Falco ไม่สามารถตรวจจับ Curing ได้
    - Microsoft Defender ไม่สามารถตรวจจับ Curing และมัลแวร์ทั่วไปได้
    - Tetragon สามารถตรวจจับ io_uring ได้ แต่ต้องใช้ Kprobes และ LSM hooks ซึ่งไม่ได้เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น

    ✅ การเรียกร้องให้ปรับปรุงการออกแบบ
    - Armo เรียกร้องให้ผู้พัฒนาเครื่องมือรักษาความปลอดภัยปรับปรุงการออกแบบให้รองรับฟีเจอร์ใหม่ใน Linux kernel
    - แนะนำให้ตรวจสอบการใช้งาน io_uring ที่ผิดปกติ

    ✅ ผลกระทบต่อระบบ Linux
    - io_uring สามารถถูกใช้เป็นช่องทางเข้าสู่ kernel ที่อาจถูกโจมตี

    https://www.csoonline.com/article/3971170/proof-of-concept-bypass-shows-weakness-in-linux-security-tools-claims-israeli-vendor.html
    บทความนี้กล่าวถึงช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในระบบ Linux ที่ถูกเปิดเผยโดยบริษัท Armo ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยบนคลาวด์และ Kubernetes โดย Armo ได้สร้าง Proof-of-Concept (PoC) rootkit ที่ชื่อว่า Curing เพื่อแสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของเครื่องมือรักษาความปลอดภัยในระบบ Linux เช่น Falco, Tetragon และ Microsoft Defender Curing ใช้ io_uring Linux kernel interface ซึ่งช่วยให้แอปพลิเคชันสามารถดำเนินการต่างๆ โดยไม่ต้องใช้ system calls ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่พึ่งพาการตรวจสอบ system calls ไม่สามารถตรวจจับ rootkits ที่ใช้ io_uring ได้ Armo ระบุว่าปัญหานี้เกิดจากการพึ่งพา Extended Berkeley Packet Filter (eBPF) ซึ่งเป็นวิธีการตรวจสอบ system calls ที่มีข้อจำกัดในการตรวจจับภัยคุกคามที่ใช้เทคนิคใหม่ๆ เช่น io_uring นอกจากนี้ Armo ยังเรียกร้องให้ผู้พัฒนาเครื่องมือรักษาความปลอดภัยปรับปรุงการออกแบบให้รองรับฟีเจอร์ใหม่ใน Linux kernel และสามารถตรวจจับภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ Proof-of-Concept (PoC) rootkit - Armo สร้าง PoC rootkit ที่ชื่อว่า Curing เพื่อแสดงข้อจำกัดของเครื่องมือรักษาความปลอดภัย - Curing ใช้ io_uring Linux kernel interface เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ✅ ข้อจำกัดของเครื่องมือรักษาความปลอดภัย - Falco ไม่สามารถตรวจจับ Curing ได้ - Microsoft Defender ไม่สามารถตรวจจับ Curing และมัลแวร์ทั่วไปได้ - Tetragon สามารถตรวจจับ io_uring ได้ แต่ต้องใช้ Kprobes และ LSM hooks ซึ่งไม่ได้เปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้น ✅ การเรียกร้องให้ปรับปรุงการออกแบบ - Armo เรียกร้องให้ผู้พัฒนาเครื่องมือรักษาความปลอดภัยปรับปรุงการออกแบบให้รองรับฟีเจอร์ใหม่ใน Linux kernel - แนะนำให้ตรวจสอบการใช้งาน io_uring ที่ผิดปกติ ✅ ผลกระทบต่อระบบ Linux - io_uring สามารถถูกใช้เป็นช่องทางเข้าสู่ kernel ที่อาจถูกโจมตี https://www.csoonline.com/article/3971170/proof-of-concept-bypass-shows-weakness-in-linux-security-tools-claims-israeli-vendor.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • Slate Auto ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ได้เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและออกแบบมาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยรถรุ่นนี้มีดีไซน์ย้อนยุค ขนาดกะทัดรัด และราคาต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์ (ขึ้นอยู่กับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในแต่ละพื้นที่) ซึ่งแตกต่างจาก Tesla Cybertruck ที่มีขนาดใหญ่และราคาสูง

    รถกระบะไฟฟ้าของ Slate Auto มีตัวถังที่สามารถปรับแต่งได้ง่ายด้วยแผงคอมโพสิตที่ไม่มีการตกแต่งด้วยโครเมียม และสามารถติดตั้งชุดตกแต่งเพิ่มเติมได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 500 ดอลลาร์ รถรุ่นนี้มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งที่เพลาหลัง และมีตัวเลือกแบตเตอรี่สองขนาดคือ 52.7kWh และ 84.3kWh ซึ่งให้ระยะทางสูงสุดถึง 240 ไมล์

    นอกจากนี้ รถยังมีพื้นที่เก็บของด้านหน้า (frunk) ที่กว้างขวาง และภายในที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย โดยมีเพียงที่วางโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต และลำโพงเสริมที่สามารถติดตั้งในกล่องเก็บของ

    ✅ การออกแบบและราคา
    - ดีไซน์ย้อนยุค ขนาดกะทัดรัด และราคาต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์
    - ตัวถังปรับแต่งได้ง่ายด้วยแผงคอมโพสิต

    ✅ สมรรถนะและแบตเตอรี่
    - มอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งที่เพลาหลัง
    - ตัวเลือกแบตเตอรี่สองขนาด: 52.7kWh และ 84.3kWh
    - ระยะทางสูงสุด 240 ไมล์

    ✅ ฟีเจอร์เพิ่มเติม
    - พื้นที่เก็บของด้านหน้า (frunk) ที่กว้างขวาง
    - ภายในเรียบง่าย พร้อมที่วางโทรศัพท์และลำโพงเสริม

    ✅ เป้าหมายการผลิต
    - การผลิตจะเริ่มต้นในปีหน้า

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/slate-autos-new-electric-pick-up-truck-is-everything-the-tesla-cybertruck-isnt-and-could-be-a-big-hit
    Slate Auto ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ได้เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและออกแบบมาเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยรถรุ่นนี้มีดีไซน์ย้อนยุค ขนาดกะทัดรัด และราคาต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์ (ขึ้นอยู่กับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในแต่ละพื้นที่) ซึ่งแตกต่างจาก Tesla Cybertruck ที่มีขนาดใหญ่และราคาสูง รถกระบะไฟฟ้าของ Slate Auto มีตัวถังที่สามารถปรับแต่งได้ง่ายด้วยแผงคอมโพสิตที่ไม่มีการตกแต่งด้วยโครเมียม และสามารถติดตั้งชุดตกแต่งเพิ่มเติมได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 500 ดอลลาร์ รถรุ่นนี้มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งที่เพลาหลัง และมีตัวเลือกแบตเตอรี่สองขนาดคือ 52.7kWh และ 84.3kWh ซึ่งให้ระยะทางสูงสุดถึง 240 ไมล์ นอกจากนี้ รถยังมีพื้นที่เก็บของด้านหน้า (frunk) ที่กว้างขวาง และภายในที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย โดยมีเพียงที่วางโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต และลำโพงเสริมที่สามารถติดตั้งในกล่องเก็บของ ✅ การออกแบบและราคา - ดีไซน์ย้อนยุค ขนาดกะทัดรัด และราคาต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์ - ตัวถังปรับแต่งได้ง่ายด้วยแผงคอมโพสิต ✅ สมรรถนะและแบตเตอรี่ - มอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งที่เพลาหลัง - ตัวเลือกแบตเตอรี่สองขนาด: 52.7kWh และ 84.3kWh - ระยะทางสูงสุด 240 ไมล์ ✅ ฟีเจอร์เพิ่มเติม - พื้นที่เก็บของด้านหน้า (frunk) ที่กว้างขวาง - ภายในเรียบง่าย พร้อมที่วางโทรศัพท์และลำโพงเสริม ✅ เป้าหมายการผลิต - การผลิตจะเริ่มต้นในปีหน้า https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/slate-autos-new-electric-pick-up-truck-is-everything-the-tesla-cybertruck-isnt-and-could-be-a-big-hit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นใน Exchange Online ซึ่งเป็นบริการอีเมลของบริษัท โดยปัญหานี้ทำให้ระบบป้องกันสแปมที่ใช้ Machine Learning (ML) เข้าใจผิดและระบุอีเมลที่ถูกต้องตามกฎหมายจาก Adobe ว่าเป็นสแปม ปัญหานี้เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 22-24 เมษายน 2025 และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานบางส่วนที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบ

    Microsoft อธิบายว่า ML ของระบบป้องกันสแปมได้ระบุอีเมลที่มี URL ของ Adobe ว่าเป็นสแปม เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับอีเมลที่ใช้ในการโจมตีแบบสแปมจริงๆ เพื่อแก้ไขปัญหา Microsoft ได้ใช้กระบวนการ Replay Time Travel (RTT) เพื่อปรับปรุงการวิเคราะห์และแก้ไขผลกระทบ

    นอกจากนี้ บริการวิเคราะห์มัลแวร์ ANY.RUN ยังพบว่ามีการส่งลิงก์ Adobe Acrobat Cloud ที่ถูกระบุผิดพลาดไปยังระบบของพวกเขา ซึ่งทำให้มีการอัปโหลดไฟล์ที่มีข้อมูลสำคัญของบริษัทหลายแห่งมากกว่า 1,000 ไฟล์ ANY.RUN ได้ดำเนินการแก้ไขโดยทำให้การวิเคราะห์ทั้งหมดเป็นแบบส่วนตัวเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล

    ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้น
    - ระบบ ML ของ Exchange Online ระบุอีเมล Adobe ว่าเป็นสแปมโดยผิดพลาด
    - ปัญหาเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2025

    ✅ การแก้ไขปัญหา
    - Microsoft ใช้กระบวนการ Replay Time Travel (RTT) เพื่อแก้ไขผลกระทบ
    - ปรับปรุงการวิเคราะห์ของระบบ ML

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
    - ผู้ใช้งานบางส่วนที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบอาจไม่ได้รับอีเมลที่ถูกต้อง

    ✅ การตอบสนองของ ANY.RUN
    - ทำให้การวิเคราะห์ไฟล์ที่เกี่ยวข้องเป็นแบบส่วนตัวเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-fixes-annoying-bug-which-marked-adobe-emails-as-spam
    Microsoft ได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นใน Exchange Online ซึ่งเป็นบริการอีเมลของบริษัท โดยปัญหานี้ทำให้ระบบป้องกันสแปมที่ใช้ Machine Learning (ML) เข้าใจผิดและระบุอีเมลที่ถูกต้องตามกฎหมายจาก Adobe ว่าเป็นสแปม ปัญหานี้เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 22-24 เมษายน 2025 และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานบางส่วนที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบ Microsoft อธิบายว่า ML ของระบบป้องกันสแปมได้ระบุอีเมลที่มี URL ของ Adobe ว่าเป็นสแปม เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับอีเมลที่ใช้ในการโจมตีแบบสแปมจริงๆ เพื่อแก้ไขปัญหา Microsoft ได้ใช้กระบวนการ Replay Time Travel (RTT) เพื่อปรับปรุงการวิเคราะห์และแก้ไขผลกระทบ นอกจากนี้ บริการวิเคราะห์มัลแวร์ ANY.RUN ยังพบว่ามีการส่งลิงก์ Adobe Acrobat Cloud ที่ถูกระบุผิดพลาดไปยังระบบของพวกเขา ซึ่งทำให้มีการอัปโหลดไฟล์ที่มีข้อมูลสำคัญของบริษัทหลายแห่งมากกว่า 1,000 ไฟล์ ANY.RUN ได้ดำเนินการแก้ไขโดยทำให้การวิเคราะห์ทั้งหมดเป็นแบบส่วนตัวเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้น - ระบบ ML ของ Exchange Online ระบุอีเมล Adobe ว่าเป็นสแปมโดยผิดพลาด - ปัญหาเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2025 ✅ การแก้ไขปัญหา - Microsoft ใช้กระบวนการ Replay Time Travel (RTT) เพื่อแก้ไขผลกระทบ - ปรับปรุงการวิเคราะห์ของระบบ ML ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน - ผู้ใช้งานบางส่วนที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบอาจไม่ได้รับอีเมลที่ถูกต้อง ✅ การตอบสนองของ ANY.RUN - ทำให้การวิเคราะห์ไฟล์ที่เกี่ยวข้องเป็นแบบส่วนตัวเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-fixes-annoying-bug-which-marked-adobe-emails-as-spam
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft fixes annoying bug which marked Adobe emails as spam
    Thankfully short-lived bug proved frustrating for Microsoft users
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนได้ประกาศยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าชิปบางประเภทจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการลดภาษีตอบโต้ที่เคยกำหนดไว้สูงถึง 125% โดยการยกเว้นนี้ครอบคลุมรหัสภาษี 8 หมวดหมู่ ที่เกี่ยวข้องกับวงจรรวม (Integrated Circuits) แต่ไม่รวมถึงชิปหน่วยความจำที่จีนผลิตภายในประเทศเอง

    บริษัทที่ได้ชำระภาษีสำหรับสินค้าที่ได้รับการยกเว้นระหว่างวันที่ 10-24 เมษายน สามารถยื่นขอคืนเงินภาษีได้ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสะท้อนถึงความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ทางการจีนยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีนี้

    การยกเว้นภาษีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกเผชิญกับความท้าทายจากสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านชิปขั้นสูงที่ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานระดับโลก

    ✅ การยกเว้นภาษีชิปบางประเภท
    - ครอบคลุมรหัสภาษี 8 หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับวงจรรวม
    - ไม่รวมถึงชิปหน่วยความจำที่จีนผลิตเอง

    ✅ การคืนเงินภาษี
    - บริษัทที่ชำระภาษีระหว่างวันที่ 10-24 เมษายนสามารถยื่นขอคืนเงินได้

    ✅ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้า
    - อาจสะท้อนถึงความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ

    ✅ ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การยกเว้นภาษีช่วยลดผลกระทบจากสงครามการค้า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-reportedly-waives-tariffs-on-some-us-chip-imports-duties-paid-are-eligible-for-refunds
    จีนได้ประกาศยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าชิปบางประเภทจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการลดภาษีตอบโต้ที่เคยกำหนดไว้สูงถึง 125% โดยการยกเว้นนี้ครอบคลุมรหัสภาษี 8 หมวดหมู่ ที่เกี่ยวข้องกับวงจรรวม (Integrated Circuits) แต่ไม่รวมถึงชิปหน่วยความจำที่จีนผลิตภายในประเทศเอง บริษัทที่ได้ชำระภาษีสำหรับสินค้าที่ได้รับการยกเว้นระหว่างวันที่ 10-24 เมษายน สามารถยื่นขอคืนเงินภาษีได้ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสะท้อนถึงความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ทางการจีนยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีนี้ การยกเว้นภาษีดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกเผชิญกับความท้าทายจากสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านชิปขั้นสูงที่ต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ✅ การยกเว้นภาษีชิปบางประเภท - ครอบคลุมรหัสภาษี 8 หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับวงจรรวม - ไม่รวมถึงชิปหน่วยความจำที่จีนผลิตเอง ✅ การคืนเงินภาษี - บริษัทที่ชำระภาษีระหว่างวันที่ 10-24 เมษายนสามารถยื่นขอคืนเงินได้ ✅ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้า - อาจสะท้อนถึงความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ✅ ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การยกเว้นภาษีช่วยลดผลกระทบจากสงครามการค้า https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-reportedly-waives-tariffs-on-some-us-chip-imports-duties-paid-are-eligible-for-refunds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • TP-Link ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์เราเตอร์ยอดนิยมในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับการสอบสวนด้านการผูกขาดและความมั่นคงแห่งชาติจากกระทรวงยุติธรรม (DoJ) และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ โดยการสอบสวนนี้มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การตั้งราคาของ TP-Link และความเชื่อมโยงกับจีน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคง

    TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์การตั้งราคาที่กดดันคู่แข่งเพื่อครองตลาดเราเตอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบัน TP-Link มีส่วนแบ่งตลาดถึง 65% และ 12 ใน 20 รุ่นที่ขายดีที่สุดบน Amazon เป็นของ TP-Link นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเราเตอร์ TP-Link ที่เคยถูกใช้ในเครือข่ายบอตเน็ตและการโจมตีทางไซเบอร์

    ในปี 2024 TP-Link USA ได้ควบรวมกิจการกับหน่วยงานที่ไม่ใช่ของจีนเพื่อสร้าง TP-Link Systems Inc. ซึ่งตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย โดยมีเป้าหมายเพื่อแยกโครงสร้างการบริหารออกจากบริษัทแม่ในจีน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลยังคงตรวจสอบว่าโครงสร้างใหม่นี้สามารถป้องกันการแทรกแซงจากจีนได้จริงหรือไม่

    ✅ การสอบสวนด้านการผูกขาด
    - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สอบสวนกลยุทธ์การตั้งราคาของ TP-Link
    - TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์การตั้งราคาที่กดดันคู่แข่ง

    ✅ ความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ สอบสวนความเชื่อมโยงของ TP-Link กับจีน
    - เราเตอร์ TP-Link เคยถูกใช้ในเครือข่ายบอตเน็ตและการโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ การปรับโครงสร้างองค์กร
    - TP-Link USA ควบรวมกิจการกับหน่วยงานที่ไม่ใช่ของจีนในปี 2024
    - โครงสร้างใหม่มีเป้าหมายเพื่อแยกการบริหารออกจากบริษัทแม่ในจีน

    ✅ ผลกระทบต่อส่วนแบ่งตลาด
    - TP-Link มีส่วนแบ่งตลาดเราเตอร์ในสหรัฐฯ ถึง 65%

    https://www.techspot.com/news/107682-tp-link-router-pricing-china-ties-under-us.html
    TP-Link ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์เราเตอร์ยอดนิยมในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับการสอบสวนด้านการผูกขาดและความมั่นคงแห่งชาติจากกระทรวงยุติธรรม (DoJ) และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ โดยการสอบสวนนี้มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การตั้งราคาของ TP-Link และความเชื่อมโยงกับจีน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคง TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์การตั้งราคาที่กดดันคู่แข่งเพื่อครองตลาดเราเตอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบัน TP-Link มีส่วนแบ่งตลาดถึง 65% และ 12 ใน 20 รุ่นที่ขายดีที่สุดบน Amazon เป็นของ TP-Link นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเราเตอร์ TP-Link ที่เคยถูกใช้ในเครือข่ายบอตเน็ตและการโจมตีทางไซเบอร์ ในปี 2024 TP-Link USA ได้ควบรวมกิจการกับหน่วยงานที่ไม่ใช่ของจีนเพื่อสร้าง TP-Link Systems Inc. ซึ่งตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย โดยมีเป้าหมายเพื่อแยกโครงสร้างการบริหารออกจากบริษัทแม่ในจีน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลยังคงตรวจสอบว่าโครงสร้างใหม่นี้สามารถป้องกันการแทรกแซงจากจีนได้จริงหรือไม่ ✅ การสอบสวนด้านการผูกขาด - กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สอบสวนกลยุทธ์การตั้งราคาของ TP-Link - TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์การตั้งราคาที่กดดันคู่แข่ง ✅ ความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ สอบสวนความเชื่อมโยงของ TP-Link กับจีน - เราเตอร์ TP-Link เคยถูกใช้ในเครือข่ายบอตเน็ตและการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ การปรับโครงสร้างองค์กร - TP-Link USA ควบรวมกิจการกับหน่วยงานที่ไม่ใช่ของจีนในปี 2024 - โครงสร้างใหม่มีเป้าหมายเพื่อแยกการบริหารออกจากบริษัทแม่ในจีน ✅ ผลกระทบต่อส่วนแบ่งตลาด - TP-Link มีส่วนแบ่งตลาดเราเตอร์ในสหรัฐฯ ถึง 65% https://www.techspot.com/news/107682-tp-link-router-pricing-china-ties-under-us.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    TP-Link's router pricing and China ties under US government investigation
    The affordability of TP-Link's routers is part of what makes them so popular. Prosecutors at the DoJ are examining whether the company engaged in predatory pricing to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ เช่น Tesla ในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ เพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตจากจีน โดยกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ อนุญาตให้บริษัทสามารถขอข้อยกเว้นจากกฎความปลอดภัยบางประการสำหรับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับที่ใช้เพื่อการวิจัยและการสาธิตเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงข้อกำหนดการรายงานอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ขับขี่อัตโนมัติ เพื่อลดความซับซ้อนและลดภาระของบริษัท

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Tesla เตรียมเปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ในเดือนมิถุนายน โดย Tesla ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตรถยนต์จีน เช่น BYD

    ✅ การผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนการพัฒนา
    - อนุญาตให้ขอข้อยกเว้นจากกฎความปลอดภัยสำหรับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ
    - ปรับปรุงข้อกำหนดการรายงานอุบัติเหตุเพื่อลดภาระของบริษัท

    ✅ เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง
    - สนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศให้แข่งขันกับผู้ผลิตจากจีน
    - ลดความซับซ้อนของกฎระเบียบเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยี

    ✅ การเปิดตัวบริการใหม่ของ Tesla
    - Tesla เตรียมเปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส

    ✅ การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไร้คนขับ
    - Tesla เผชิญกับการแข่งขันจากผู้ผลิตรถยนต์จีน เช่น BYD

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/25/us-to-loosen-rules-on-tesla-other-carmakers-taking-on-china-in-race-for-self-driving-cars
    รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ เช่น Tesla ในการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ เพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตจากจีน โดยกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ อนุญาตให้บริษัทสามารถขอข้อยกเว้นจากกฎความปลอดภัยบางประการสำหรับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับที่ใช้เพื่อการวิจัยและการสาธิตเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงข้อกำหนดการรายงานอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ขับขี่อัตโนมัติ เพื่อลดความซับซ้อนและลดภาระของบริษัท การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Tesla เตรียมเปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ในเดือนมิถุนายน โดย Tesla ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตรถยนต์จีน เช่น BYD ✅ การผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนการพัฒนา - อนุญาตให้ขอข้อยกเว้นจากกฎความปลอดภัยสำหรับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ - ปรับปรุงข้อกำหนดการรายงานอุบัติเหตุเพื่อลดภาระของบริษัท ✅ เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง - สนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศให้แข่งขันกับผู้ผลิตจากจีน - ลดความซับซ้อนของกฎระเบียบเพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยี ✅ การเปิดตัวบริการใหม่ของ Tesla - Tesla เตรียมเปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ✅ การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไร้คนขับ - Tesla เผชิญกับการแข่งขันจากผู้ผลิตรถยนต์จีน เช่น BYD https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/25/us-to-loosen-rules-on-tesla-other-carmakers-taking-on-china-in-race-for-self-driving-cars
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US to loosen rules on Tesla, other carmakers taking on China in race for self-driving cars
    The Trump administration is loosening rules to help US automakers like Elon Musk's Tesla develop self-driving cars so they can take on Chinese rivals.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงวิธีป้องกันไม่ให้ อุปกรณ์สตรีมมิ่ง เช่น Fire Stick, Roku, Chromecast และ Apple TV ติดตามพฤติกรรมการรับชมของคุณ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักรวบรวมข้อมูลส่วนตัว เช่น ประวัติการค้นหา การตั้งค่า และการโต้ตอบกับโฆษณา เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานและแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย

    แม้ว่าการเก็บข้อมูลบางส่วนจะจำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐาน แต่การเก็บข้อมูลที่มากเกินไปอาจทำให้คุณสูญเสียความเป็นส่วนตัวและตกอยู่ใน "วงจำกัดของข้อมูล" (filter bubble) ซึ่งจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่หลากหลาย

    ✅ การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
    - ตรวจสอบและปิดการตั้งค่าการติดตามในอุปกรณ์สตรีมมิ่ง
    - จำกัดการติดตามโฆษณาและเลือกไม่รับโฆษณาแบบเจาะจง

    ✅ การใช้ VPN
    - ใช้ VPN เพื่อเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลและปกปิดที่อยู่ IP

    ✅ การจัดการคำสั่งเสียง
    - ปิดการใช้งานคำสั่งเสียงหรือใช้งานอย่างระมัดระวัง

    ✅ การตัดการเชื่อมต่อเมื่อไม่ใช้งาน
    - ตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์จากอินเทอร์เน็ตเมื่อไม่ได้ใช้งาน

    ✅ คำแนะนำเฉพาะสำหรับอุปกรณ์
    - Apple TV: ปิดการติดตามในแอปและการวิเคราะห์
    - Google Chromecast: ปิดการวิเคราะห์และการปรับแต่งโฆษณา
    - Roku: ปิดการติดตามโฆษณาและการเข้าถึงไมโครโฟน
    - Amazon Fire TV: ปิดการเก็บข้อมูลการใช้งานและโฆษณาแบบเจาะจง

    https://www.zdnet.com/home-and-office/home-entertainment/is-your-streaming-device-tracking-your-tv-viewing-habits-yes-but-heres-how-to-stop-it/
    บทความนี้กล่าวถึงวิธีป้องกันไม่ให้ อุปกรณ์สตรีมมิ่ง เช่น Fire Stick, Roku, Chromecast และ Apple TV ติดตามพฤติกรรมการรับชมของคุณ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักรวบรวมข้อมูลส่วนตัว เช่น ประวัติการค้นหา การตั้งค่า และการโต้ตอบกับโฆษณา เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานและแสดงโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย แม้ว่าการเก็บข้อมูลบางส่วนจะจำเป็นสำหรับการทำงานพื้นฐาน แต่การเก็บข้อมูลที่มากเกินไปอาจทำให้คุณสูญเสียความเป็นส่วนตัวและตกอยู่ใน "วงจำกัดของข้อมูล" (filter bubble) ซึ่งจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่หลากหลาย ✅ การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว - ตรวจสอบและปิดการตั้งค่าการติดตามในอุปกรณ์สตรีมมิ่ง - จำกัดการติดตามโฆษณาและเลือกไม่รับโฆษณาแบบเจาะจง ✅ การใช้ VPN - ใช้ VPN เพื่อเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลและปกปิดที่อยู่ IP ✅ การจัดการคำสั่งเสียง - ปิดการใช้งานคำสั่งเสียงหรือใช้งานอย่างระมัดระวัง ✅ การตัดการเชื่อมต่อเมื่อไม่ใช้งาน - ตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์จากอินเทอร์เน็ตเมื่อไม่ได้ใช้งาน ✅ คำแนะนำเฉพาะสำหรับอุปกรณ์ - Apple TV: ปิดการติดตามในแอปและการวิเคราะห์ - Google Chromecast: ปิดการวิเคราะห์และการปรับแต่งโฆษณา - Roku: ปิดการติดตามโฆษณาและการเข้าถึงไมโครโฟน - Amazon Fire TV: ปิดการเก็บข้อมูลการใช้งานและโฆษณาแบบเจาะจง https://www.zdnet.com/home-and-office/home-entertainment/is-your-streaming-device-tracking-your-tv-viewing-habits-yes-but-heres-how-to-stop-it/
    WWW.ZDNET.COM
    How to prevent your streaming device from tracking your viewing habits (and why it makes a difference)
    Your Fire Stick, Roku, and other streaming devices collect your personal data for various reasons. If you're uncomfortable with that, here's how to get peace of mind.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • Onyx ได้เปิดตัวเครื่องอ่าน e-reader รุ่นใหม่ในซีรีส์ Go ได้แก่ BOOX Go 7 และ BOOX Go Color 7 (Gen 2) ซึ่งเป็นรุ่นที่เพิ่มฟีเจอร์การรองรับปากกา stylus เพื่อการจดบันทึกและการวาดภาพ โดยฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะในรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่ตอนนี้ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบเครื่องอ่านขนาดกะทัดรัด 7 นิ้วสามารถเพลิดเพลินกับฟีเจอร์นี้ได้

    BOOX Go 7 มาพร้อมหน้าจอ Carta 1300 monochrome ที่มีความละเอียด 300 PPI เพื่อความคมชัดของข้อความ ส่วน BOOX Go Color 7 Gen 2 ใช้หน้าจอ E-Ink Kaleido 3 ที่มีการปรับปรุงความอิ่มตัวของสี ลด ghosting และเพิ่มอัตราการรีเฟรช โดยในโหมดสีจะมีความละเอียด 150 PPI

    ทั้งสองรุ่นรองรับการหมุนหน้าจออัตโนมัติและการปรับอุณหภูมิแสงไฟหน้า มีหน่วยความจำ 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB (รองรับ microSD) และแบตเตอรี่ 2,400 mAh พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 13 และการเข้าถึง Google Play Store

    ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
    - รองรับปากกา BOOX InkSense active stylus (จำหน่ายแยก)
    - เพิ่มความสามารถในการจดบันทึกและวาดภาพ

    ✅ หน้าจอและความละเอียด
    - BOOX Go 7: หน้าจอ Carta 1300 monochrome ความละเอียด 300 PPI
    - BOOX Go Color 7 Gen 2: หน้าจอ E-Ink Kaleido 3 ความละเอียด 150 PPI ในโหมดสี

    ✅ การออกแบบและฟังก์ชันเพิ่มเติม
    - ออกแบบให้ใช้งานมือเดียวได้ พร้อมปุ่มพลิกหน้ากระดาษ
    - มีพื้นผิวด้านหลังที่ช่วยให้จับถนัดมือ

    ✅ ราคาและการวางจำหน่าย
    - BOOX Go 7 ราคา $249.99 วางจำหน่ายแล้ว
    - BOOX Go Color 7 Gen 2 ราคา $279.99 จะวางจำหน่ายในภายหลัง

    https://www.neowin.net/news/onyx-brings-stylus-and-handwriting-capabilities-to-its-7-inch-go-e-readers/
    Onyx ได้เปิดตัวเครื่องอ่าน e-reader รุ่นใหม่ในซีรีส์ Go ได้แก่ BOOX Go 7 และ BOOX Go Color 7 (Gen 2) ซึ่งเป็นรุ่นที่เพิ่มฟีเจอร์การรองรับปากกา stylus เพื่อการจดบันทึกและการวาดภาพ โดยฟีเจอร์นี้เคยมีเฉพาะในรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่ตอนนี้ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบเครื่องอ่านขนาดกะทัดรัด 7 นิ้วสามารถเพลิดเพลินกับฟีเจอร์นี้ได้ BOOX Go 7 มาพร้อมหน้าจอ Carta 1300 monochrome ที่มีความละเอียด 300 PPI เพื่อความคมชัดของข้อความ ส่วน BOOX Go Color 7 Gen 2 ใช้หน้าจอ E-Ink Kaleido 3 ที่มีการปรับปรุงความอิ่มตัวของสี ลด ghosting และเพิ่มอัตราการรีเฟรช โดยในโหมดสีจะมีความละเอียด 150 PPI ทั้งสองรุ่นรองรับการหมุนหน้าจออัตโนมัติและการปรับอุณหภูมิแสงไฟหน้า มีหน่วยความจำ 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB (รองรับ microSD) และแบตเตอรี่ 2,400 mAh พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 13 และการเข้าถึง Google Play Store ✅ ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามา - รองรับปากกา BOOX InkSense active stylus (จำหน่ายแยก) - เพิ่มความสามารถในการจดบันทึกและวาดภาพ ✅ หน้าจอและความละเอียด - BOOX Go 7: หน้าจอ Carta 1300 monochrome ความละเอียด 300 PPI - BOOX Go Color 7 Gen 2: หน้าจอ E-Ink Kaleido 3 ความละเอียด 150 PPI ในโหมดสี ✅ การออกแบบและฟังก์ชันเพิ่มเติม - ออกแบบให้ใช้งานมือเดียวได้ พร้อมปุ่มพลิกหน้ากระดาษ - มีพื้นผิวด้านหลังที่ช่วยให้จับถนัดมือ ✅ ราคาและการวางจำหน่าย - BOOX Go 7 ราคา $249.99 วางจำหน่ายแล้ว - BOOX Go Color 7 Gen 2 ราคา $279.99 จะวางจำหน่ายในภายหลัง https://www.neowin.net/news/onyx-brings-stylus-and-handwriting-capabilities-to-its-7-inch-go-e-readers/
    WWW.NEOWIN.NET
    Onyx brings stylus and handwriting capabilities to its 7-inch Go e-readers
    Onyx is launching a refreshed version of its 7-inch e-readers, which, for the first time, now feature proper stylus support and handwriting capabilities.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts