• Meta เปิดตัว “Ghost Posts” บน Threads — แชร์ได้แบบไม่ต้องกลัวถูกจดจำ

    Meta เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บนแอป Threads ที่ชื่อว่า “Ghost Posts” ซึ่งเป็นโพสต์ที่หายไปอัตโนมัติภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเผยแพร่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถแชร์ความคิดแบบสดใหม่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความถาวรหรือภาพลักษณ์

    Ghost Posts เป็นฟีเจอร์ที่คล้ายกับ “Stories” บน Instagram และ Facebook แต่ถูกออกแบบมาให้ใช้ใน Threads ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการสนทนาแบบข้อความ ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้โดยกดไอคอนรูปผีในหน้าสร้างโพสต์

    โพสต์ที่เป็น Ghost จะปรากฏในฟีดเป็นฟองข้อความสีเทาแบบจุดไข่ปลา เพื่อแยกจากโพสต์ปกติ และจะถูกลบอัตโนมัติหลัง 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้ลบเอง

    ที่สำคัญคือ การตอบกลับโพสต์แบบ Ghost จะถูกส่งไปยังกล่องข้อความของผู้โพสต์เท่านั้น ไม่แสดงต่อสาธารณะ ทำให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยแบบส่วนตัวได้มากขึ้น

    Meta ระบุว่า ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ “แชร์ความคิดแบบไม่ต้องกลัวว่าจะถูกจดจำหรือถูกตัดสิน” และเป็นการส่งเสริมการใช้งาน Threads ให้หลากหลายขึ้น

    Ghost Posts คืออะไร
    โพสต์ที่หายไปอัตโนมัติภายใน 24 ชั่วโมง
    ใช้ไอคอนรูปผีเพื่อเปิดใช้งานในหน้าสร้างโพสต์
    แสดงเป็นฟองข้อความสีเทาแบบ dotted bubble

    การตอบกลับแบบส่วนตัว
    คอมเมนต์จะถูกส่งไปยังกล่องข้อความของผู้โพสต์
    ไม่แสดงต่อสาธารณะหรือในฟีด

    เป้าหมายของฟีเจอร์
    ส่งเสริมการแชร์ความคิดแบบไม่ต้องกลัวผลกระทบ
    ลดแรงกดดันจากการโพสต์แบบถาวร
    เพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน Threads

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    แม้โพสต์จะหายไป แต่อาจถูกแคปหน้าจอหรือบันทึกโดยผู้อื่น
    ไม่ควรใช้ Ghost Posts เพื่อแชร์ข้อมูลส่วนตัวหรือเนื้อหาละเมิด
    การตอบกลับแบบส่วนตัวอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหากไม่ระวัง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/28/meta-launches-039ghost-posts039-that-disappear-after-24-hours-on-threads
    👻 Meta เปิดตัว “Ghost Posts” บน Threads — แชร์ได้แบบไม่ต้องกลัวถูกจดจำ Meta เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บนแอป Threads ที่ชื่อว่า “Ghost Posts” ซึ่งเป็นโพสต์ที่หายไปอัตโนมัติภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเผยแพร่ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถแชร์ความคิดแบบสดใหม่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความถาวรหรือภาพลักษณ์ Ghost Posts เป็นฟีเจอร์ที่คล้ายกับ “Stories” บน Instagram และ Facebook แต่ถูกออกแบบมาให้ใช้ใน Threads ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการสนทนาแบบข้อความ ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้โดยกดไอคอนรูปผีในหน้าสร้างโพสต์ โพสต์ที่เป็น Ghost จะปรากฏในฟีดเป็นฟองข้อความสีเทาแบบจุดไข่ปลา เพื่อแยกจากโพสต์ปกติ และจะถูกลบอัตโนมัติหลัง 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้ลบเอง ที่สำคัญคือ การตอบกลับโพสต์แบบ Ghost จะถูกส่งไปยังกล่องข้อความของผู้โพสต์เท่านั้น ไม่แสดงต่อสาธารณะ ทำให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยแบบส่วนตัวได้มากขึ้น Meta ระบุว่า ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ “แชร์ความคิดแบบไม่ต้องกลัวว่าจะถูกจดจำหรือถูกตัดสิน” และเป็นการส่งเสริมการใช้งาน Threads ให้หลากหลายขึ้น ✅ Ghost Posts คืออะไร ➡️ โพสต์ที่หายไปอัตโนมัติภายใน 24 ชั่วโมง ➡️ ใช้ไอคอนรูปผีเพื่อเปิดใช้งานในหน้าสร้างโพสต์ ➡️ แสดงเป็นฟองข้อความสีเทาแบบ dotted bubble ✅ การตอบกลับแบบส่วนตัว ➡️ คอมเมนต์จะถูกส่งไปยังกล่องข้อความของผู้โพสต์ ➡️ ไม่แสดงต่อสาธารณะหรือในฟีด ✅ เป้าหมายของฟีเจอร์ ➡️ ส่งเสริมการแชร์ความคิดแบบไม่ต้องกลัวผลกระทบ ➡️ ลดแรงกดดันจากการโพสต์แบบถาวร ➡️ เพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน Threads ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ แม้โพสต์จะหายไป แต่อาจถูกแคปหน้าจอหรือบันทึกโดยผู้อื่น ⛔ ไม่ควรใช้ Ghost Posts เพื่อแชร์ข้อมูลส่วนตัวหรือเนื้อหาละเมิด ⛔ การตอบกลับแบบส่วนตัวอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหากไม่ระวัง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/28/meta-launches-039ghost-posts039-that-disappear-after-24-hours-on-threads
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta launches 'ghost posts' that disappear after 24 hours on Threads
    (Reuters) -Social media giant Meta launched on Monday posts that are automatically archived 24 hours after being uploaded, dubbed "ghost posts," on its Threads app, mimicking a popular feature available on its other platforms.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกรัฐบาลเผยสาระสำคัญของ "Joint Declaration" ที่นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาลงนามร่วมกันที่กัวลาลัมเปอร์ เพื่อยุติความตึงเครียดชายแดนอย่างถาวร โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ การถอนอาวุธหนัก จัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน และลดการยั่วยุ ก่อนที่ไทยจะพิจารณา "ยุติสถานะความเป็นปรปักษ์อย่างเป็นทางการ" และดำเนินการ "ปล่อยเชลยศึกชาวกัมพูชา" เพื่อปูทางสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้าน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102355

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    โฆษกรัฐบาลเผยสาระสำคัญของ "Joint Declaration" ที่นายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาลงนามร่วมกันที่กัวลาลัมเปอร์ เพื่อยุติความตึงเครียดชายแดนอย่างถาวร โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ การถอนอาวุธหนัก จัดตั้งกลไกผู้สังเกตการณ์อาเซียน และลดการยั่วยุ ก่อนที่ไทยจะพิจารณา "ยุติสถานะความเป็นปรปักษ์อย่างเป็นทางการ" และดำเนินการ "ปล่อยเชลยศึกชาวกัมพูชา" เพื่อปูทางสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102355 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง ฉากใหม่
    “ฉากใหม่”

    (1)

    เมื่อต้นอาทิตย์ (7,8 เม.ย) เราได้เห็นรูปถ่าย และข่าว ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงฉากการเมืองระหว่างประเทศของไทยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

    เป็นรูปของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย กำลังยิ้ม อย่างที่เขาเรียกว่า ไม่ใช่ยิ้มแค่ปาก กับ นาย Dmitry Medvedev นายกรัฐมนตรีของรัสเซีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนหน้าเฉย ตานิ่ง แต่คราวนี้ คุณหน้าเฉย ยิ้มออก คงเป็นยิ้ม ที่นานๆ จะหลุดมาให้เห็น จึงเป็นรูปที่น่าจะสร้างอารมณ์หลากหลายแก่ผู้ที่เห็น

    ผู้นำของรัสเซีย มาเป็นแขกของรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรก หลังจากทิ้งช่วงห่างนานถึง 25 ปี หลังสงครามเย็น ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซียอย่างเป็นทางการ ก็เย็นตามอุณหภูมิ ที่กลุ่มผู้นำโลกฝั่งตะวันตกต้ังไว้ให้ สมันน้อยว่าง่าย เชื่อฟังลูกพี่ใหญ่เสมอ ไม่เคยคัดค้าน ขัดขืน หรือเปลี่ยนแปลง ปรอทแสดงอุณหภูมิความสัมพันธ์กับรัสเซีย ที่อเมริกาเป็นผู้มาติดต้ังและกำกับไว้ จึงเย็นยะเยือกค้างเป็นทางการ อยู่อย่างนั้น

    มาถึงเดือนเมษายน ปีนี้ ขณะที่บ้านเรากำลังอยู่กลางฤดูร้อน อุณหภูมิความร้อนของเดือนเมษายน ในไทย ร้อนแรงจนแสบตัว และอาจจะแสบไปทั้งหลัง และหัวใจของใครหลายคน แต่ระหว่างไทยรัสเซีย อุณหภูมิความสัมพันธ์ กลับเริ่มอุ่นกำลังดี ความเย็นชาค่อยๆจางออกไป การเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิระดับนี้ น่าจะเป็นข่าวใหญ่ไม่น้อย เพราะมันเกิดขึ้นนอกเหนือคำสั่งของลูกพี่ใหญ่ ปรอทจำกัดอุณภูมิ ที่ตั้งไว้ ใช้การไม่ได้เสียแล้ว แต่จะถาวร หรือชั่วคราว คงต้องติดตามดูกันต่อไป

    น่าสนใจ ที่สำนักข่าวใหญ่ๆ เกือบทั้งหมด หลีกเลี่ยงที่จะให้ความสนใจ ให้ราคากับข่าวปรอทเสียนี้ แม้ว่ามันอาจมีผลกระทบไม่น้อย กับการเมืองในภูมิภาคนี้ และอาจจะกระทบไปถึงการเมืองระดับโลกด้วย

    นายกรัฐมนตรีรัสเซีย บอกว่า ประเทศไทย เป็นเพื่อนเก่าแก่ที่สุดของรัส เซียในเอเซียแปซิฟิก อีก 2 ปี เราจะได้ฉลองครบ 120 ปี ของความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแล้วนะ เราทั้ง 2 ประเทศ มาถึงตรงนี้ เพราะเรามีความเข้าใจในวัฒนธรรม ความเป็นเพื่อน และมีความเคารพให้แก่กัน คุณนายกหน้าเฉยเข้าใจพูด

    นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนคำสนทนาฉันท์มิตร ที่มีมารยาทแล้ว ไทยกับรัสเซีย ยังลงนามในบันทึกความเข้าใจ เกี่ยวกับการร่วมมือ ด้านการค้า การพลังงาน การลงทุน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม และกฏหมาย อีกด้วย

    จากการสัมภาษณ์ คุณหน้าเฉย นาย Dmitry Medvedev นายกรัฐมนตรีรัสเซีย โดยนายสุทธิชัย หยุ่น สื่อใหญ่ ซึ่งบอกว่า ไทยนับว่ารัสเซียเป็นเพื่อนแท้ เมื่อเทียบกับสัมพันธ์ระหว่างไทย กับเพื่อนตะวันตก ที่ตอนนี้กำลังออกรสเปรี้ยว หลังจากที่มีการปฏิวัติ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร คุณหน้าเฉยตอบว่า เราให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในไทยนะ แต่เราให้ความสนใจอย่างเคารพ we do it with respect … เราแสดงออกอย่างผู้ที่เจริญแล้ว ….ประเทศที่เป็นเอกราช ก็ต้องแก้ปัญหาภายในประเทศของตน ด้วยตนเอง

    อืม คุณหน้าเฉย นี่แกแสนสุภาพ แต่ คำที่พูดลอยฝากไปถึงใครนี่ เจ็บไม่เบา
    ส่วนนาย ฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อ ยู เอส เอ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการมาของนายกรัฐมนตรีรัสเซียว่า เป็นการมาช่วยรักษาหน้าให้กับ พลเอก ประยุทธ ได้ไม่น้อย แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากไทยกำลังปกครองโดยรัฐบาลทหาร ที่มาจากการปฏิวัติ และรัสเซียก็เป็นตัวแทนของขั้วอำนาจคนละฝั่ง กับพวกตะวันตก ที่กำลังไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ นายฐิตินันท์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ (การเข้าไปซบจีน กับรัสเซีย) ได้ผลแค่ระยะสั้น ในการคานการแสดงออกของฝั่งตะวันตก แต่มันอาจจะมีผลกระทบในระยะใกลได้ ในฐานะเป็นมิตรเก่าแก่ที่สุดของอเมริกาในภูมิภาคนี้ เครื่องถ่ายเอกสาร ยังทำงานได้ดี สมยี่ห้อ

    สำหรับคนทั่วไปบ้านเรา อาจมีบางคน มองด้วยความหงุดหงิดว่า ลุงตู่กำลังทำอะไร เราจะเปลี่ยนไปคบกับรัสเซีย ไม่เอาอเมริกาเพื่อนเก่าแก่แล้วหรือ ลุงตู่ทำได้ไง ไว้ใจได้ที่ไหน รัสเซียน่ะมาเฟียโหดทั้งนั้นนะ ไปดูแถวพัทยา ภูเก็ต สิ เห็นแล้วสยอง จนขนลุกไปหมด

    แต่บางคนก็อาจถูกใจ บอก เออ หัดคบเพื่อนใหม่เสียบ้าง มัวแต่เชื่อไอ้ก๊วนปีกเหี่ยวใบตองแห้งอยู่ได้ ถูกมันต้มเปื่อยมา 60 กว่าปีแล้ว น่าจะเปลี่ยนนโยบายมานานแล้ว เผื่อเพื่อนเก่าจะได้รู้จักปรับปรุงตัว

    และก็อาจมีพวกที่ยังหลงยุค ตกข่าว มองด้วยความไม่สบอารมณ์ นี่เราไปคบกับรัสเซียได้ไง เขาเป็นคอมมูนิสต์นะ เดี๋ยวพวกอยากเปลี่ยนการปกครองไม่เอาสถาบัน ก็ตีปีกดีใจ นึกว่ามีพวกมาสนับสนุน แถมรัฐบาลยังไปต้อนรับยิ้มหวานกับเขาเสียอีก

    แต่ก็ยังคงมีอีกหลายคน ที่ไม่สนใจ ไม่รับรู้ว่า ลุงตู่กับคุณหน้าเฉย เขากำลังทำอะไรกัน ดี หรือไม่ดี กับประเทศของตัวอย่างไร เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่แต่กับเรื่องส่วนตัว หรือมัวแต่สนใจว่านางเอกสาวคนนั้น ตกลงเธอมีกิ๊กอยู่เมืองนอก หรือเมืองไทยกันแน่… เหล่านี้ เป็นเรื่องธรรมดาของ ผู้คนในแดนสมันน้อย

    และที่เราน่าจะสนใจกันบ้าง เพราะมันย่อมมีผลกระทบถึงบ้านเรา แน่นอน คือปฏิกิริยา ของเพื่อนเก่า นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ที่น่าจะกำลังเครียดจัด เพราะว่า เหยื่อ ที่อยู่ในกำมือมานาน และมีเค้าว่าจะต้องรับใช้งานสำคัญ อาจกำลังจะหลุดมือไป ข่าวลือว่า นักล่า ถึงกับส่งทีมมาหาข่าวหลายทีม หลายวงการ ยิ่งแถวโรงแรมใหญ่กลางเมือง ที่อยู่ใกล้ๆกัน 2 โรง ทีมหาข่าวแทบจะเดินชนกันตาย เดินแถวนั้น มันจะได้ข่าวอะไร แถวนั้นมันมีแต่ก๊อสสิบโฮโส ข่าวที่ได้มันถึงได้หยำเฟอะ เลอะเทอะ พาเอานักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ได้ข่าวไขว้เขวไปหมด

    (2)

    มีอีกาคาบข่าว ไปบอกนักล่าใบตองแห้งมาพักใหญ่แล้วว่า สมันน้อยอาจไม่คิดอยู่ใต้ปีกเหี่ยวๆของนักล่าใบตองแห้ง แบบเป็นสมาชิกตลอดชีพอีกแล้ว สมันน้อยกำลังมองหาเพื่อนคนอื่นในป่าอันกว้างใหญ่นี้เหมือนกัน

    มันเป็นไปได้ยังไง นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ไม่เชื่อข่าวอีกา ก็เราครอบสมันน้อยจนอยู่หมัด ประกบทุกพรรค ทุกพวก ทุกกลุ่ม ทุกกระทรวง ทุกกองทัพ ไม่มีหลุด แล้วมันจะหลุดมือ ไปได้ยังไง (โว้ย) นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้งปลอบใจตัวเอง ว่ามันคงเป็นแค่ข่าวลือ

    แต่พอรูปยิ้มหวาน ระหว่างคุณแก้มยุ้ย กับคุณหน้าเฉย ออกกระจายเต็มหน้าสื่อ เขาว่าวันนั้น อุณหภูมิแถวถนนวิทยุ ขึ้นสูงกว่าเขตอื่น ขนาดเอาน้ำใส่แก้ววางหน้าสถานทูต ไม่ต้องเสียเวลาต้ม แล้วนี่เราจะรายงานไปทางวอชิงตันว่าไง เราไปหาใคร ทุกคนก็บอกว่า เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เรารักกัน เราไม่ทิ้งกัน แล้วรูปแบบนี้มันออกมาได้ไง

    มันเป็นการบังเอิญหรือไร เราเพิ่งบีบสมันน้อยจนเกือบจะ เละคามือ ให้เลิกกฏอัยการศึก สมันน้อยทำหน้าใสซื่อ บอกจะพิจารณาด่วน แล้วก็ยกเลิกจริง แต่ดันออก ม 44 ซึ่งร้อน และแรงกว่า กฏอัยการศึกอีก สมันน้อยไม่รู้เรื่อง หรือสมันน้อยย้อนเกล็ดเรา แล้วยังเอาไอ้หน้าเฉย มาบอกว่า เราเคารพการแก้ปัญหาภายในบ้านของผู้อื่น นี่มันเลิกกฏไม่ถึง 10 วัน มันเชิญคนมาแดกเราได้ มันเตี้ยมกันใช่ไหม
    ประมาณ 15 ปี ที่ผ่านมา นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง แม้จะซื้อไพ่ไว้ทุกใบตามสันดาน แต่เพราะเลือกใช้นโยบาย ยุให้แยก แยงจนแตก แล้วเข้าครอง นักล่าจึงให้ราคาไพ่บางใบ เกินราคาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะดันไปประเมินว่า เป็นไพ่ที่จะทำให้ แดนสมันน้อยแตก และนักล่า จะได้เข้าครอบครองแดนสมันน้อยอ ย่างเบ็ดเสร็จ (เสียที) แต่ นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง คำนวณพลาด นอกจากให้ราคาเกิน จนขาดทุนย่อยยับแล้ว การพยายามเอาทุนคืนของนักล่าใบตองแห้ง ด้วยการเข้ามาเสือก มาวุ่นวายในบ้านเมืองของสมันน้อย อย่างไม่เห็นแก่หน้า และศักดิ์ศรีของเจ้าของบ้าน ยิ่งทำให้แผนเขมือบเมืองของนักล่า ทำท่าว่า จะไปไม่รอด

    ผ่านไปหลายวัน จนถึงวันนี้ ยังไม่มีข่าวว่า นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จะแก้เกม ที่เสียแต้มอย่างหมดรูปคราวนี้อย่างไร รัสเซียมาเร็ว ด่า(ฝาก)เร็ว กลับเร็ว สมันน้อยซึ่งเคยอ้อยสร้อย คราวนี้กลับยกฉาก มาเปลี่ยนอย่างฉับไวเช่นเดียวกัน นานๆ จะทำให้นักล่า มึนรับประทานถึงกับยังไปไม่เป็น ยืนเซ่อ อยู่กลางสี่แยก

    แม้นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จะยังยืนคาสี่แยก ยังไม่รู้จะหยิบบทไหนมาเล่นต่อ แต่ไม่ต้องห่วง นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง มีเครื่องถ่ายเอกสารให้ใช้แยะ ให้มันออกมาเสี้ยมขัดตาทัพไปก่อน

    ลองอ่านการสัมภาษณ์ของ Deutsche Welle (DW) เมื่อวันที่ 8 เมษายน ออกมาเร็วทันใจ โดยผู้ตอบคือ นาย Zachary Abuza นักค้นคว้าอิสระ และเป็นนักเขียน เรื่องการก่อความไม่สงบทางภาคใต้ของไทย “The Insurgency in Southern Thailand” ซึ่งจัดพิมพ์โดย United States Institute of Peace

    นาย Abuza บอกว่า ขณะที่ หลายประเทศทางตะวันตก กระอักกระอ่วนใจอย่างยิ่ง ที่จะทำธุรกิจกับรัฐบาลทหารของไทย รัฐบาลไทย ก็เลยต้องเบนเข็มไปทางรัสเซียและจีน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศก็ฉวยโอกาสนี้ หาประโยชน์ให้ตัวเสียด้วย

    เขาว่า การมาของรัสเซีย ไม่มีอะไรทางเนื้อหาสาระหรอก มันเป็นเชิงสัญลักษญ์เสียมากกว่า กรุงเทพฯ กำลังส่งสัญญานไปทางวอชิงตัน ซึ่งเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญา
    ( treaty ally) ว่าตนเองก็มีทางเลือกนะ เท่านั้นเอง นอกจากนี้ สัมพันธ์ระหว่างฝ่ายทหารของไทยกับจีนที่กำลังงอกงาม เพราะไทยกำลังจะซื้ออาวุธจากจีน และจีน ก็กำลังจีบไทยเพื่อจะเข้ามาใช้ฐานทัพที่สัตตหีบ (อู่ตะเภา) ของไทย โดยจีนจะเป็นผู้ออกเงินปรับปรุงฐานทัพให้

    นาย Abuza สาธยายต่อไปว่า เศรษฐกิจไทยก็กำลังแย่ เพราะนักลงทุนจากตะวันตก และญี่ปุ่น ต่างเปลี่ยนทิศ มุ่งหน้า ไปเวียตนาม ฟิลิปปีนส์ และอินโดนีเซียแทน
    ส่วนเป้าหมายของรัสเซีย ก็คือต้องการส่งสัญญานไปถึงวอชิงตันว่า อำนาจของรัสเซีย ก็มีไปทั่วโลก แม้แต่ในภูมิภาค ที่อเมริกาคิดว่ามีแต่เพื่อนของตน และขณะที่สัมพันธ์ของอเมริกา/เวียตนาม กำลังดีวันดีคืน รัสเซียก็จะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายที่รัสเซียให้กับเวียตนาม มันก็เช่นเดียวกัน เหมือนกับที่รัสเซียกำลังสนุกสนาน กับการอ้าแขนรับของไทย ซึ่งเป็นมิตรกับอเมริกามายาวนาน ด้วยค่าใช้จ่ายของอเมริกา

    เป็นไงครับ บททวงบุญุคุญรายการนี้ไม่เบาเลย พูดซะผมเกือบเคลิ้ม ถ้าไม่พล่ามจนมั่วเรื่องนักลงทุนหนีไทย ไปใช้ฟิลิปปินส์ ผมคงเชื่อหมดจนตกเก้าอี้ สร้างโรงงานสู้ใต้ฝุ่น สนุก ฉ.ห. เลย อย่าลืมเอาอุปกรณ์ช่วยชีวิตแจกคนงานไว้ล่วงหน้าด้วยแล้วกัน

    (3)

    น่าสนใจ การเดินหมากของฝ่ายอเมริกา กับ จีน/รัส เซีย ในภูมิภาคแปซิฟิก อเมริกาประกาศว่า เราเป็นเจ้าแห่ง แปซิฟิก และจะเป็นอยู่ตลอดไป เราไม่เคยหายไปไหน ขนาดไม่หายไปไหน แต่เพียงแค่อาทิตย์เดียวที่ผ่านมา เจ้าแห่งแปซิฟิก ดูเหมือนจะถูกอีกฝ่ายเดินเกม ลูบคมเสียหน้าม้าน เสียไปหลายหมาก ยังแก้ไม่ได้ จากนี้ไป ไม่รู้ว่าแปซิฟิกจะร้อนตามตะวันออกกลางหรือไม่

    ก่อนมาเมืองไทย คุณหน้าเฉยแวะไปเยี่ยมเวียตนามก่อน ไปจับมือเวียตนาม ที่เขาลือว่าเลือกซบปีกเหี่ยวๆของนักล่าใบตองแห้งเรียบร้อย แล้ว ข่าวว่าคุณหน้าเฉย ทำหน้าเฉยถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ตกลงฐานทัพที่ Cam Rahn Bay น่ะ จะให้อเมริกามาใช้ หรือ จะให้รัสเซียใช้ เวียตนามบอกว่า ไม่น่าต้องถาม ใครถล่มเราจนราบไปทั้งเมือง และใครช่วยเรา เราแยกแยะได้ยามจำเป็น และยามจำเป็นน่าจะใกล้มาถึงแล้ว ประโยคหลังนี่ ผมเดาเอาจากสีหน้า ของพณะนายกรัฐมนตรีเวียตนาม ที่ยากจะบรรยาย

    และวันเดียวกันกับที่ คุณหน้าเฉยเดินทางออกจากเวียตนาม มาเมืองไทย คุณหน้าเซียว นายAsh Carter รัฐมนตรีกลาโหม คนใหม่ของอเมริกา เพิ่งแกะออกจากกล่องหมาดๆ ก็มีรายการเดินสายเข้ามาเยี่ยมแปซิฟิก คร้ังแรกในฐานะพณะท่านเหมือนกัน พณะหน้าเซียว แวะเยี่ยมลูกเลี้ยงทั้ง 2 แห่ง วันอังคารที่ 7 เมษา เยี่ยมญี่ปุ่น วันพฤหัสที่ 9 เมษา เยี่ยมเกาหลีใต้

    ก่อนมาถึงเกาหลีใต้ พณะหน้าเซียว ได้รับการต้อนรับอย่างน่าประทับใจ น้องคิมของผมส่งของขวัญไปให้ จากเกาหลีเหนือ เป็นการทดลองยิงจรวดระยะใกล้ ข้ามมาลงกลางทะเลใกล้เกาหลีใต้ วันอังคาร น้องคิมส่งให้ 2 ลูก น้องคิมไม่แน่ใจ เกรงว่าของขวัญจะน้อยไป วันศุกร์เลยเพิ่มจำนวน ส่งไป 4 ลูก เล่นเอา พณะรัฐมนตรีเพิ่งออกจากกล่อง ถึงกับรำพึงว่า ถ้าไอ้ที่เขายิงทดลองมานี่ เป็นการต้อนรับผม ผมก็เป็นปลื้มนะ ปลื้มจนหน้าเซียวเพิ่มระดับ
    เรื่อง ฉากใหม่ “ฉากใหม่” (1) เมื่อต้นอาทิตย์ (7,8 เม.ย) เราได้เห็นรูปถ่าย และข่าว ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงฉากการเมืองระหว่างประเทศของไทยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เป็นรูปของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย กำลังยิ้ม อย่างที่เขาเรียกว่า ไม่ใช่ยิ้มแค่ปาก กับ นาย Dmitry Medvedev นายกรัฐมนตรีของรัสเซีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนหน้าเฉย ตานิ่ง แต่คราวนี้ คุณหน้าเฉย ยิ้มออก คงเป็นยิ้ม ที่นานๆ จะหลุดมาให้เห็น จึงเป็นรูปที่น่าจะสร้างอารมณ์หลากหลายแก่ผู้ที่เห็น ผู้นำของรัสเซีย มาเป็นแขกของรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรก หลังจากทิ้งช่วงห่างนานถึง 25 ปี หลังสงครามเย็น ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซียอย่างเป็นทางการ ก็เย็นตามอุณหภูมิ ที่กลุ่มผู้นำโลกฝั่งตะวันตกต้ังไว้ให้ สมันน้อยว่าง่าย เชื่อฟังลูกพี่ใหญ่เสมอ ไม่เคยคัดค้าน ขัดขืน หรือเปลี่ยนแปลง ปรอทแสดงอุณหภูมิความสัมพันธ์กับรัสเซีย ที่อเมริกาเป็นผู้มาติดต้ังและกำกับไว้ จึงเย็นยะเยือกค้างเป็นทางการ อยู่อย่างนั้น มาถึงเดือนเมษายน ปีนี้ ขณะที่บ้านเรากำลังอยู่กลางฤดูร้อน อุณหภูมิความร้อนของเดือนเมษายน ในไทย ร้อนแรงจนแสบตัว และอาจจะแสบไปทั้งหลัง และหัวใจของใครหลายคน แต่ระหว่างไทยรัสเซีย อุณหภูมิความสัมพันธ์ กลับเริ่มอุ่นกำลังดี ความเย็นชาค่อยๆจางออกไป การเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิระดับนี้ น่าจะเป็นข่าวใหญ่ไม่น้อย เพราะมันเกิดขึ้นนอกเหนือคำสั่งของลูกพี่ใหญ่ ปรอทจำกัดอุณภูมิ ที่ตั้งไว้ ใช้การไม่ได้เสียแล้ว แต่จะถาวร หรือชั่วคราว คงต้องติดตามดูกันต่อไป น่าสนใจ ที่สำนักข่าวใหญ่ๆ เกือบทั้งหมด หลีกเลี่ยงที่จะให้ความสนใจ ให้ราคากับข่าวปรอทเสียนี้ แม้ว่ามันอาจมีผลกระทบไม่น้อย กับการเมืองในภูมิภาคนี้ และอาจจะกระทบไปถึงการเมืองระดับโลกด้วย นายกรัฐมนตรีรัสเซีย บอกว่า ประเทศไทย เป็นเพื่อนเก่าแก่ที่สุดของรัส เซียในเอเซียแปซิฟิก อีก 2 ปี เราจะได้ฉลองครบ 120 ปี ของความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแล้วนะ เราทั้ง 2 ประเทศ มาถึงตรงนี้ เพราะเรามีความเข้าใจในวัฒนธรรม ความเป็นเพื่อน และมีความเคารพให้แก่กัน คุณนายกหน้าเฉยเข้าใจพูด นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนคำสนทนาฉันท์มิตร ที่มีมารยาทแล้ว ไทยกับรัสเซีย ยังลงนามในบันทึกความเข้าใจ เกี่ยวกับการร่วมมือ ด้านการค้า การพลังงาน การลงทุน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม และกฏหมาย อีกด้วย จากการสัมภาษณ์ คุณหน้าเฉย นาย Dmitry Medvedev นายกรัฐมนตรีรัสเซีย โดยนายสุทธิชัย หยุ่น สื่อใหญ่ ซึ่งบอกว่า ไทยนับว่ารัสเซียเป็นเพื่อนแท้ เมื่อเทียบกับสัมพันธ์ระหว่างไทย กับเพื่อนตะวันตก ที่ตอนนี้กำลังออกรสเปรี้ยว หลังจากที่มีการปฏิวัติ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร คุณหน้าเฉยตอบว่า เราให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในไทยนะ แต่เราให้ความสนใจอย่างเคารพ we do it with respect … เราแสดงออกอย่างผู้ที่เจริญแล้ว ….ประเทศที่เป็นเอกราช ก็ต้องแก้ปัญหาภายในประเทศของตน ด้วยตนเอง อืม คุณหน้าเฉย นี่แกแสนสุภาพ แต่ คำที่พูดลอยฝากไปถึงใครนี่ เจ็บไม่เบา ส่วนนาย ฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อ ยู เอส เอ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการมาของนายกรัฐมนตรีรัสเซียว่า เป็นการมาช่วยรักษาหน้าให้กับ พลเอก ประยุทธ ได้ไม่น้อย แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากไทยกำลังปกครองโดยรัฐบาลทหาร ที่มาจากการปฏิวัติ และรัสเซียก็เป็นตัวแทนของขั้วอำนาจคนละฝั่ง กับพวกตะวันตก ที่กำลังไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ นายฐิตินันท์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ (การเข้าไปซบจีน กับรัสเซีย) ได้ผลแค่ระยะสั้น ในการคานการแสดงออกของฝั่งตะวันตก แต่มันอาจจะมีผลกระทบในระยะใกลได้ ในฐานะเป็นมิตรเก่าแก่ที่สุดของอเมริกาในภูมิภาคนี้ เครื่องถ่ายเอกสาร ยังทำงานได้ดี สมยี่ห้อ สำหรับคนทั่วไปบ้านเรา อาจมีบางคน มองด้วยความหงุดหงิดว่า ลุงตู่กำลังทำอะไร เราจะเปลี่ยนไปคบกับรัสเซีย ไม่เอาอเมริกาเพื่อนเก่าแก่แล้วหรือ ลุงตู่ทำได้ไง ไว้ใจได้ที่ไหน รัสเซียน่ะมาเฟียโหดทั้งนั้นนะ ไปดูแถวพัทยา ภูเก็ต สิ เห็นแล้วสยอง จนขนลุกไปหมด แต่บางคนก็อาจถูกใจ บอก เออ หัดคบเพื่อนใหม่เสียบ้าง มัวแต่เชื่อไอ้ก๊วนปีกเหี่ยวใบตองแห้งอยู่ได้ ถูกมันต้มเปื่อยมา 60 กว่าปีแล้ว น่าจะเปลี่ยนนโยบายมานานแล้ว เผื่อเพื่อนเก่าจะได้รู้จักปรับปรุงตัว และก็อาจมีพวกที่ยังหลงยุค ตกข่าว มองด้วยความไม่สบอารมณ์ นี่เราไปคบกับรัสเซียได้ไง เขาเป็นคอมมูนิสต์นะ เดี๋ยวพวกอยากเปลี่ยนการปกครองไม่เอาสถาบัน ก็ตีปีกดีใจ นึกว่ามีพวกมาสนับสนุน แถมรัฐบาลยังไปต้อนรับยิ้มหวานกับเขาเสียอีก แต่ก็ยังคงมีอีกหลายคน ที่ไม่สนใจ ไม่รับรู้ว่า ลุงตู่กับคุณหน้าเฉย เขากำลังทำอะไรกัน ดี หรือไม่ดี กับประเทศของตัวอย่างไร เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่แต่กับเรื่องส่วนตัว หรือมัวแต่สนใจว่านางเอกสาวคนนั้น ตกลงเธอมีกิ๊กอยู่เมืองนอก หรือเมืองไทยกันแน่… เหล่านี้ เป็นเรื่องธรรมดาของ ผู้คนในแดนสมันน้อย และที่เราน่าจะสนใจกันบ้าง เพราะมันย่อมมีผลกระทบถึงบ้านเรา แน่นอน คือปฏิกิริยา ของเพื่อนเก่า นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ที่น่าจะกำลังเครียดจัด เพราะว่า เหยื่อ ที่อยู่ในกำมือมานาน และมีเค้าว่าจะต้องรับใช้งานสำคัญ อาจกำลังจะหลุดมือไป ข่าวลือว่า นักล่า ถึงกับส่งทีมมาหาข่าวหลายทีม หลายวงการ ยิ่งแถวโรงแรมใหญ่กลางเมือง ที่อยู่ใกล้ๆกัน 2 โรง ทีมหาข่าวแทบจะเดินชนกันตาย เดินแถวนั้น มันจะได้ข่าวอะไร แถวนั้นมันมีแต่ก๊อสสิบโฮโส ข่าวที่ได้มันถึงได้หยำเฟอะ เลอะเทอะ พาเอานักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ได้ข่าวไขว้เขวไปหมด (2) มีอีกาคาบข่าว ไปบอกนักล่าใบตองแห้งมาพักใหญ่แล้วว่า สมันน้อยอาจไม่คิดอยู่ใต้ปีกเหี่ยวๆของนักล่าใบตองแห้ง แบบเป็นสมาชิกตลอดชีพอีกแล้ว สมันน้อยกำลังมองหาเพื่อนคนอื่นในป่าอันกว้างใหญ่นี้เหมือนกัน มันเป็นไปได้ยังไง นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ไม่เชื่อข่าวอีกา ก็เราครอบสมันน้อยจนอยู่หมัด ประกบทุกพรรค ทุกพวก ทุกกลุ่ม ทุกกระทรวง ทุกกองทัพ ไม่มีหลุด แล้วมันจะหลุดมือ ไปได้ยังไง (โว้ย) นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้งปลอบใจตัวเอง ว่ามันคงเป็นแค่ข่าวลือ แต่พอรูปยิ้มหวาน ระหว่างคุณแก้มยุ้ย กับคุณหน้าเฉย ออกกระจายเต็มหน้าสื่อ เขาว่าวันนั้น อุณหภูมิแถวถนนวิทยุ ขึ้นสูงกว่าเขตอื่น ขนาดเอาน้ำใส่แก้ววางหน้าสถานทูต ไม่ต้องเสียเวลาต้ม แล้วนี่เราจะรายงานไปทางวอชิงตันว่าไง เราไปหาใคร ทุกคนก็บอกว่า เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เรารักกัน เราไม่ทิ้งกัน แล้วรูปแบบนี้มันออกมาได้ไง มันเป็นการบังเอิญหรือไร เราเพิ่งบีบสมันน้อยจนเกือบจะ เละคามือ ให้เลิกกฏอัยการศึก สมันน้อยทำหน้าใสซื่อ บอกจะพิจารณาด่วน แล้วก็ยกเลิกจริง แต่ดันออก ม 44 ซึ่งร้อน และแรงกว่า กฏอัยการศึกอีก สมันน้อยไม่รู้เรื่อง หรือสมันน้อยย้อนเกล็ดเรา แล้วยังเอาไอ้หน้าเฉย มาบอกว่า เราเคารพการแก้ปัญหาภายในบ้านของผู้อื่น นี่มันเลิกกฏไม่ถึง 10 วัน มันเชิญคนมาแดกเราได้ มันเตี้ยมกันใช่ไหม ประมาณ 15 ปี ที่ผ่านมา นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง แม้จะซื้อไพ่ไว้ทุกใบตามสันดาน แต่เพราะเลือกใช้นโยบาย ยุให้แยก แยงจนแตก แล้วเข้าครอง นักล่าจึงให้ราคาไพ่บางใบ เกินราคาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะดันไปประเมินว่า เป็นไพ่ที่จะทำให้ แดนสมันน้อยแตก และนักล่า จะได้เข้าครอบครองแดนสมันน้อยอ ย่างเบ็ดเสร็จ (เสียที) แต่ นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง คำนวณพลาด นอกจากให้ราคาเกิน จนขาดทุนย่อยยับแล้ว การพยายามเอาทุนคืนของนักล่าใบตองแห้ง ด้วยการเข้ามาเสือก มาวุ่นวายในบ้านเมืองของสมันน้อย อย่างไม่เห็นแก่หน้า และศักดิ์ศรีของเจ้าของบ้าน ยิ่งทำให้แผนเขมือบเมืองของนักล่า ทำท่าว่า จะไปไม่รอด ผ่านไปหลายวัน จนถึงวันนี้ ยังไม่มีข่าวว่า นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จะแก้เกม ที่เสียแต้มอย่างหมดรูปคราวนี้อย่างไร รัสเซียมาเร็ว ด่า(ฝาก)เร็ว กลับเร็ว สมันน้อยซึ่งเคยอ้อยสร้อย คราวนี้กลับยกฉาก มาเปลี่ยนอย่างฉับไวเช่นเดียวกัน นานๆ จะทำให้นักล่า มึนรับประทานถึงกับยังไปไม่เป็น ยืนเซ่อ อยู่กลางสี่แยก แม้นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จะยังยืนคาสี่แยก ยังไม่รู้จะหยิบบทไหนมาเล่นต่อ แต่ไม่ต้องห่วง นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง มีเครื่องถ่ายเอกสารให้ใช้แยะ ให้มันออกมาเสี้ยมขัดตาทัพไปก่อน ลองอ่านการสัมภาษณ์ของ Deutsche Welle (DW) เมื่อวันที่ 8 เมษายน ออกมาเร็วทันใจ โดยผู้ตอบคือ นาย Zachary Abuza นักค้นคว้าอิสระ และเป็นนักเขียน เรื่องการก่อความไม่สงบทางภาคใต้ของไทย “The Insurgency in Southern Thailand” ซึ่งจัดพิมพ์โดย United States Institute of Peace นาย Abuza บอกว่า ขณะที่ หลายประเทศทางตะวันตก กระอักกระอ่วนใจอย่างยิ่ง ที่จะทำธุรกิจกับรัฐบาลทหารของไทย รัฐบาลไทย ก็เลยต้องเบนเข็มไปทางรัสเซียและจีน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศก็ฉวยโอกาสนี้ หาประโยชน์ให้ตัวเสียด้วย เขาว่า การมาของรัสเซีย ไม่มีอะไรทางเนื้อหาสาระหรอก มันเป็นเชิงสัญลักษญ์เสียมากกว่า กรุงเทพฯ กำลังส่งสัญญานไปทางวอชิงตัน ซึ่งเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญา ( treaty ally) ว่าตนเองก็มีทางเลือกนะ เท่านั้นเอง นอกจากนี้ สัมพันธ์ระหว่างฝ่ายทหารของไทยกับจีนที่กำลังงอกงาม เพราะไทยกำลังจะซื้ออาวุธจากจีน และจีน ก็กำลังจีบไทยเพื่อจะเข้ามาใช้ฐานทัพที่สัตตหีบ (อู่ตะเภา) ของไทย โดยจีนจะเป็นผู้ออกเงินปรับปรุงฐานทัพให้ นาย Abuza สาธยายต่อไปว่า เศรษฐกิจไทยก็กำลังแย่ เพราะนักลงทุนจากตะวันตก และญี่ปุ่น ต่างเปลี่ยนทิศ มุ่งหน้า ไปเวียตนาม ฟิลิปปีนส์ และอินโดนีเซียแทน ส่วนเป้าหมายของรัสเซีย ก็คือต้องการส่งสัญญานไปถึงวอชิงตันว่า อำนาจของรัสเซีย ก็มีไปทั่วโลก แม้แต่ในภูมิภาค ที่อเมริกาคิดว่ามีแต่เพื่อนของตน และขณะที่สัมพันธ์ของอเมริกา/เวียตนาม กำลังดีวันดีคืน รัสเซียก็จะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายที่รัสเซียให้กับเวียตนาม มันก็เช่นเดียวกัน เหมือนกับที่รัสเซียกำลังสนุกสนาน กับการอ้าแขนรับของไทย ซึ่งเป็นมิตรกับอเมริกามายาวนาน ด้วยค่าใช้จ่ายของอเมริกา เป็นไงครับ บททวงบุญุคุญรายการนี้ไม่เบาเลย พูดซะผมเกือบเคลิ้ม ถ้าไม่พล่ามจนมั่วเรื่องนักลงทุนหนีไทย ไปใช้ฟิลิปปินส์ ผมคงเชื่อหมดจนตกเก้าอี้ สร้างโรงงานสู้ใต้ฝุ่น สนุก ฉ.ห. เลย อย่าลืมเอาอุปกรณ์ช่วยชีวิตแจกคนงานไว้ล่วงหน้าด้วยแล้วกัน (3) น่าสนใจ การเดินหมากของฝ่ายอเมริกา กับ จีน/รัส เซีย ในภูมิภาคแปซิฟิก อเมริกาประกาศว่า เราเป็นเจ้าแห่ง แปซิฟิก และจะเป็นอยู่ตลอดไป เราไม่เคยหายไปไหน ขนาดไม่หายไปไหน แต่เพียงแค่อาทิตย์เดียวที่ผ่านมา เจ้าแห่งแปซิฟิก ดูเหมือนจะถูกอีกฝ่ายเดินเกม ลูบคมเสียหน้าม้าน เสียไปหลายหมาก ยังแก้ไม่ได้ จากนี้ไป ไม่รู้ว่าแปซิฟิกจะร้อนตามตะวันออกกลางหรือไม่ ก่อนมาเมืองไทย คุณหน้าเฉยแวะไปเยี่ยมเวียตนามก่อน ไปจับมือเวียตนาม ที่เขาลือว่าเลือกซบปีกเหี่ยวๆของนักล่าใบตองแห้งเรียบร้อย แล้ว ข่าวว่าคุณหน้าเฉย ทำหน้าเฉยถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ตกลงฐานทัพที่ Cam Rahn Bay น่ะ จะให้อเมริกามาใช้ หรือ จะให้รัสเซียใช้ เวียตนามบอกว่า ไม่น่าต้องถาม ใครถล่มเราจนราบไปทั้งเมือง และใครช่วยเรา เราแยกแยะได้ยามจำเป็น และยามจำเป็นน่าจะใกล้มาถึงแล้ว ประโยคหลังนี่ ผมเดาเอาจากสีหน้า ของพณะนายกรัฐมนตรีเวียตนาม ที่ยากจะบรรยาย และวันเดียวกันกับที่ คุณหน้าเฉยเดินทางออกจากเวียตนาม มาเมืองไทย คุณหน้าเซียว นายAsh Carter รัฐมนตรีกลาโหม คนใหม่ของอเมริกา เพิ่งแกะออกจากกล่องหมาดๆ ก็มีรายการเดินสายเข้ามาเยี่ยมแปซิฟิก คร้ังแรกในฐานะพณะท่านเหมือนกัน พณะหน้าเซียว แวะเยี่ยมลูกเลี้ยงทั้ง 2 แห่ง วันอังคารที่ 7 เมษา เยี่ยมญี่ปุ่น วันพฤหัสที่ 9 เมษา เยี่ยมเกาหลีใต้ ก่อนมาถึงเกาหลีใต้ พณะหน้าเซียว ได้รับการต้อนรับอย่างน่าประทับใจ น้องคิมของผมส่งของขวัญไปให้ จากเกาหลีเหนือ เป็นการทดลองยิงจรวดระยะใกล้ ข้ามมาลงกลางทะเลใกล้เกาหลีใต้ วันอังคาร น้องคิมส่งให้ 2 ลูก น้องคิมไม่แน่ใจ เกรงว่าของขวัญจะน้อยไป วันศุกร์เลยเพิ่มจำนวน ส่งไป 4 ลูก เล่นเอา พณะรัฐมนตรีเพิ่งออกจากกล่อง ถึงกับรำพึงว่า ถ้าไอ้ที่เขายิงทดลองมานี่ เป็นการต้อนรับผม ผมก็เป็นปลื้มนะ ปลื้มจนหน้าเซียวเพิ่มระดับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซิร์ฟเวอร์ AI ผลิตในฮิวสตันของ Apple เริ่มจัดส่งแล้ว – รองรับ Private Cloud Compute เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด

    Apple ประกาศเริ่มจัดส่งเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ผลิตในโรงงานใหม่ที่เมืองฮิวสตัน สหรัฐอเมริกา โดยเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในระบบ Private Cloud Compute (PCC) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นหลัก

    PCC ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ของผู้ใช้ เช่น iPhone หรือ Mac โดยเมื่ออุปกรณ์ต้องส่งคำขอไปยังคลาวด์ ข้อมูลจะถูกส่งไปยังระบบปฏิบัติการแบบ clean-room ที่ไม่มีการเก็บข้อมูล ไม่มีการติดตาม และไม่มีหน่วยความจำถาวร หลังจากประมวลผลเสร็จ ข้อมูลจะถูกลบออกทันที

    Apple ยังเปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยตรวจสอบระบบ PCC ได้ผ่าน Virtual Research Environment และจะเผยแพร่ภาพของระบบปฏิบัติการที่ใช้ในแต่ละเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้ตรวจสอบความปลอดภัยได้อย่างโปร่งใส

    แม้จะยังไม่เปิดเผยว่าเซิร์ฟเวอร์ใช้ชิปอะไร แต่คาดว่าเป็น Apple Silicon รุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อจากซีรีส์ M โดยเน้นการประมวลผล AI แบบไฮบริด คือทำงานบนอุปกรณ์ก่อน แล้วค่อยส่งต่อไปยัง PCC เมื่อจำเป็น

    การเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ของ Apple
    ผลิตในโรงงานใหม่ที่ฮิวสตัน สหรัฐอเมริกา
    ใช้ในระบบ Private Cloud Compute (PCC)
    รองรับการประมวลผล AI แบบไฮบริด (on-device + cloud)
    เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

    ความปลอดภัยของ PCC
    ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ clean-room ไม่มีการเก็บข้อมูล
    ไม่มีหน่วยความจำถาวร ไม่มี telemetry
    ลบข้อมูลทันทีหลังประมวลผล
    เปิดให้ตรวจสอบผ่าน Virtual Research Environment

    ความคาดหวังและผลกระทบ
    เป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุน $600 พันล้านในสหรัฐฯ
    ช่วยขยายขีดความสามารถของ Apple Intelligence
    ไม่พึ่งพาฮาร์ดแวร์จากผู้ผลิตรายอื่น
    ท้าทายแนวทางของ Microsoft และ Google ที่ใช้ GPU-heavy cloud

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/apples-houston-built-ai-servers-now-shipping
    🚚 เซิร์ฟเวอร์ AI ผลิตในฮิวสตันของ Apple เริ่มจัดส่งแล้ว – รองรับ Private Cloud Compute เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด Apple ประกาศเริ่มจัดส่งเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ผลิตในโรงงานใหม่ที่เมืองฮิวสตัน สหรัฐอเมริกา โดยเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในระบบ Private Cloud Compute (PCC) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นหลัก PCC ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ของผู้ใช้ เช่น iPhone หรือ Mac โดยเมื่ออุปกรณ์ต้องส่งคำขอไปยังคลาวด์ ข้อมูลจะถูกส่งไปยังระบบปฏิบัติการแบบ clean-room ที่ไม่มีการเก็บข้อมูล ไม่มีการติดตาม และไม่มีหน่วยความจำถาวร หลังจากประมวลผลเสร็จ ข้อมูลจะถูกลบออกทันที Apple ยังเปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยตรวจสอบระบบ PCC ได้ผ่าน Virtual Research Environment และจะเผยแพร่ภาพของระบบปฏิบัติการที่ใช้ในแต่ละเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้ตรวจสอบความปลอดภัยได้อย่างโปร่งใส แม้จะยังไม่เปิดเผยว่าเซิร์ฟเวอร์ใช้ชิปอะไร แต่คาดว่าเป็น Apple Silicon รุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อจากซีรีส์ M โดยเน้นการประมวลผล AI แบบไฮบริด คือทำงานบนอุปกรณ์ก่อน แล้วค่อยส่งต่อไปยัง PCC เมื่อจำเป็น ✅ การเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ของ Apple ➡️ ผลิตในโรงงานใหม่ที่ฮิวสตัน สหรัฐอเมริกา ➡️ ใช้ในระบบ Private Cloud Compute (PCC) ➡️ รองรับการประมวลผล AI แบบไฮบริด (on-device + cloud) ➡️ เน้นความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ✅ ความปลอดภัยของ PCC ➡️ ใช้ระบบปฏิบัติการแบบ clean-room ไม่มีการเก็บข้อมูล ➡️ ไม่มีหน่วยความจำถาวร ไม่มี telemetry ➡️ ลบข้อมูลทันทีหลังประมวลผล ➡️ เปิดให้ตรวจสอบผ่าน Virtual Research Environment ✅ ความคาดหวังและผลกระทบ ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุน $600 พันล้านในสหรัฐฯ ➡️ ช่วยขยายขีดความสามารถของ Apple Intelligence ➡️ ไม่พึ่งพาฮาร์ดแวร์จากผู้ผลิตรายอื่น ➡️ ท้าทายแนวทางของ Microsoft และ Google ที่ใช้ GPU-heavy cloud https://www.tomshardware.com/desktops/servers/apples-houston-built-ai-servers-now-shipping
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Apple's Houston-built AI servers are now shipping, according to CEO Tim Cook — custom silicon to power Private Cloud Compute
    Apple has begun deploying custom silicon servers from a new US facility to power Private Cloud Compute, its privacy-first AI backend.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่เคยโอนเงินบริจาคให้ "มูลนิธิธรรมนัส" : [THE MESSAGE]

    นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ชี้แจง กรณีเงินบริจาค ยืนยันไม่มีเจตนาเอาเงินไปให้ใคร ไม่มีเงินไปถึงมูลนิธิธรรมนัสฯ ประสานมูลนิธิที่มีความมั่นคงแห่งหนึ่งจะเปลี่ยนไปใช้ชื่อของเขา ตามข้อ 39 สาเหตุที่ไม่มีชื่อเป็นประธานฯ เพราะไม่รับตำแหน่งจะช่วยให้เกิดความโปร่งใส เป็นการคิดต่างกับหลายคน แต่เมื่ออยากให้รับก็จะนั่งประธานฯ เอง ส่วนกรณีผู้บริจาคเงินบางคนขอเงินคืน เงินบริจาคของนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล น่าจะไปทำถนนแล้ว แต่หากไม่สบายใจ จะนำเงินส่วนตัวคืนให้ ยืนยัน ตนเอง ประธาน และกรรมการทุกคน ไม่เคยได้เงินเดือน หรือรายได้ใดๆ จากมูลนิธิฯ ด้านน.ส.กาญจนา สถาวร ประธานมูลนิธิ เผย เงินตั้งมูลนิธิเริ่มต้น 500,000 บาท เป็นการลงขันจากเพื่อนๆ ของกัน มีเงินเข้าทั้งหมด 207 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 117 ล้านบาท มีเงินคงเหลือในบัญชี 90 ล้านบาทหน้างานยังมีภารกิจต่างๆ อยู่ ยืนยัน ไม่ได้เปิดรับเงินบริจาคก่อนมูลนิธิฯ จัดตั้งเสร็จ
    ไม่เคยโอนเงินบริจาคให้ "มูลนิธิธรรมนัส" : [THE MESSAGE] นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ชี้แจง กรณีเงินบริจาค ยืนยันไม่มีเจตนาเอาเงินไปให้ใคร ไม่มีเงินไปถึงมูลนิธิธรรมนัสฯ ประสานมูลนิธิที่มีความมั่นคงแห่งหนึ่งจะเปลี่ยนไปใช้ชื่อของเขา ตามข้อ 39 สาเหตุที่ไม่มีชื่อเป็นประธานฯ เพราะไม่รับตำแหน่งจะช่วยให้เกิดความโปร่งใส เป็นการคิดต่างกับหลายคน แต่เมื่ออยากให้รับก็จะนั่งประธานฯ เอง ส่วนกรณีผู้บริจาคเงินบางคนขอเงินคืน เงินบริจาคของนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล น่าจะไปทำถนนแล้ว แต่หากไม่สบายใจ จะนำเงินส่วนตัวคืนให้ ยืนยัน ตนเอง ประธาน และกรรมการทุกคน ไม่เคยได้เงินเดือน หรือรายได้ใดๆ จากมูลนิธิฯ ด้านน.ส.กาญจนา สถาวร ประธานมูลนิธิ เผย เงินตั้งมูลนิธิเริ่มต้น 500,000 บาท เป็นการลงขันจากเพื่อนๆ ของกัน มีเงินเข้าทั้งหมด 207 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 117 ล้านบาท มีเงินคงเหลือในบัญชี 90 ล้านบาทหน้างานยังมีภารกิจต่างๆ อยู่ ยืนยัน ไม่ได้เปิดรับเงินบริจาคก่อนมูลนิธิฯ จัดตั้งเสร็จ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อย่าเสียบสิ่งเหล่านี้เข้ากับพอร์ต USB-C ของ iPad ถ้าไม่อยาก “พังไม่รู้ตัว”

    แม้ iPad จะเป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังและสะดวกสบาย แต่พอร์ต USB-C ที่ดูเหมือนจะเปิดโอกาสให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมมากมาย ก็อาจกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เครื่องพังได้ในพริบตา หากคุณเสียบสิ่งที่ไม่ควรเข้าไป

    บทความจาก SlashGear เตือนผู้ใช้ iPad ว่ามีสองสิ่งที่ไม่ควรเสียบเข้ากับพอร์ต USB-C เด็ดขาด ได้แก่ “แฟลชไดรฟ์ที่ไม่รู้ที่มา” และ “สายชาร์จราคาถูกที่ไม่มีแบรนด์” เพราะอาจนำไปสู่การเสียหายของระบบภายใน หรือแม้แต่การทำให้ iPad กลายเป็น “อิฐ” ที่ใช้งานไม่ได้เลย

    1️⃣ อย่าเสียบแฟลชไดรฟ์ที่ไม่รู้ที่มา

    เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง
    อาจมีมัลแวร์หรือไวรัสที่พยายามเจาะระบบ
    อาจเป็น “USB killer” ที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงเข้าไปในเครื่อง
    อุปกรณ์เหล่านี้ถูกใช้ในงานทดสอบระบบหรือโดยเจ้าหน้าที่ แต่สามารถซื้อได้ทั่วไป

    คำเตือน
    การเสียบแฟลชไดรฟ์ที่ไม่รู้ที่มา อาจทำให้ iPad พังทันที
    อุปกรณ์เหล่านี้อาจทำให้ระบบภายในถูกเผาไหม้หรือเสียหายถาวร

    2️⃣ อย่าใช้สายชาร์จราคาถูกที่ไม่มีแบรนด์

    เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง
    อาจใช้วัสดุคุณภาพต่ำที่ทำให้ระบบควบคุมการชาร์จเสียหาย
    ไม่มีระบบป้องกันไฟเกินหรือไฟย้อนกลับ
    แบรนด์ที่ไม่มีเว็บไซต์หรือข้อมูลออนไลน์อาจไม่น่าเชื่อถือ

    ทางเลือกที่ปลอดภัย
    ใช้อุปกรณ์จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เช่น Anker, Belkin, Mophie
    ซื้อจากร้านค้าที่มีการรับประกันและข้อมูลผลิตภัณฑ์ชัดเจน

    คำเตือน
    การใช้สายชาร์จราคาถูก อาจทำให้ระบบชาร์จเสียหายถาวร
    การซ่อมหรือเปลี่ยน iPad ที่เสียหายจากการเสียบอุปกรณ์ผิด อาจมีค่าใช้จ่ายสูงมาก

    https://www.slashgear.com/1999688/never-plug-these-things-into-ipad-usb-c-port/
    ⚠️ อย่าเสียบสิ่งเหล่านี้เข้ากับพอร์ต USB-C ของ iPad ถ้าไม่อยาก “พังไม่รู้ตัว” แม้ iPad จะเป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังและสะดวกสบาย แต่พอร์ต USB-C ที่ดูเหมือนจะเปิดโอกาสให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมมากมาย ก็อาจกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เครื่องพังได้ในพริบตา หากคุณเสียบสิ่งที่ไม่ควรเข้าไป บทความจาก SlashGear เตือนผู้ใช้ iPad ว่ามีสองสิ่งที่ไม่ควรเสียบเข้ากับพอร์ต USB-C เด็ดขาด ได้แก่ “แฟลชไดรฟ์ที่ไม่รู้ที่มา” และ “สายชาร์จราคาถูกที่ไม่มีแบรนด์” เพราะอาจนำไปสู่การเสียหายของระบบภายใน หรือแม้แต่การทำให้ iPad กลายเป็น “อิฐ” ที่ใช้งานไม่ได้เลย 1️⃣ อย่าเสียบแฟลชไดรฟ์ที่ไม่รู้ที่มา ✅ เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง ➡️ อาจมีมัลแวร์หรือไวรัสที่พยายามเจาะระบบ ➡️ อาจเป็น “USB killer” ที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงเข้าไปในเครื่อง ➡️ อุปกรณ์เหล่านี้ถูกใช้ในงานทดสอบระบบหรือโดยเจ้าหน้าที่ แต่สามารถซื้อได้ทั่วไป ‼️ คำเตือน ⛔ การเสียบแฟลชไดรฟ์ที่ไม่รู้ที่มา อาจทำให้ iPad พังทันที ⛔ อุปกรณ์เหล่านี้อาจทำให้ระบบภายในถูกเผาไหม้หรือเสียหายถาวร 2️⃣ อย่าใช้สายชาร์จราคาถูกที่ไม่มีแบรนด์ ✅ เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง ➡️ อาจใช้วัสดุคุณภาพต่ำที่ทำให้ระบบควบคุมการชาร์จเสียหาย ➡️ ไม่มีระบบป้องกันไฟเกินหรือไฟย้อนกลับ ➡️ แบรนด์ที่ไม่มีเว็บไซต์หรือข้อมูลออนไลน์อาจไม่น่าเชื่อถือ ✅ ทางเลือกที่ปลอดภัย ➡️ ใช้อุปกรณ์จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เช่น Anker, Belkin, Mophie ➡️ ซื้อจากร้านค้าที่มีการรับประกันและข้อมูลผลิตภัณฑ์ชัดเจน ‼️ คำเตือน ⛔ การใช้สายชาร์จราคาถูก อาจทำให้ระบบชาร์จเสียหายถาวร ⛔ การซ่อมหรือเปลี่ยน iPad ที่เสียหายจากการเสียบอุปกรณ์ผิด อาจมีค่าใช้จ่ายสูงมาก https://www.slashgear.com/1999688/never-plug-these-things-into-ipad-usb-c-port/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Never Plug These Things Into Your iPad's USB-C Port - SlashGear
    There are two things you should keep well clear of your iPad's USB-C port: random, unknown flash drives or external storage, and cheap, no-name chargers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง เสื้อหนังกับเข็มขัดเหล็ก
    ” เสื้อหนัง กับ เข็มขัดเหล็ก”

    (1)

    รายการท้าชิงของมวยรุ่นเล็ก แต่ท่าทางจะเป็นพวกหมูตายไม่กลัวน้ำร้อน ดูเหมือนจะมีพวกแฟนๆรุ่นเก๋า เกาะเชือกเชียร์ไม่น้อย รวมทั้งผม

    พรรค Syriza ซ้ายจัดของกรีซ เพิ่งชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2015 แม้ไม่ได้คะแนนเสียงข้างมาก ต้องมีพรรคร่วม แต่ก็ได้เป็นรัฐบาลใหม่เอี่ยมของกรีก ที่นำโดยพรรค Syriza ก็ทำท่าจะ ซ่าสมชื่อโดยเฉพาะ ท่านรัฐมนตรีคลังหน้าใหม่มาดเซอร์ คุณน้อง Yanis Varoufakis ของผม

    พรรค Syriza หาเสียงกับชาวกรีกว่า เลือกพวกผมนะพี่น้อง แล้วพี่น้องจะไม่ต้องถูกกดขี่จากนโยบายของสหภาพยุโรปอีกต่อไป มันโหดกับเราขนาดไหน มันหั่นงบของกินของใช้เราขนาดไหน มากไปแล้ว… คงจะทำนองนี้นะครับ ผมไม่ได้แปลคำต่อคำ

    แล้วชาวกรีกก็ได้ Syriza มาเป็นรัฐบาล งานแรกที่ Syriza ต้องทำคือ วิ่งรอกหาพวกสนับสนุน เนื่องจากเงินกู้จำนวนประมาณ 350 พันล้านยูโร ของกรีซจะถึงกำหนดชำระสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ถ้าไม่มีการต่ออายุ และแน่นอน เศรษฐกิจของกรีซคงล้มระเนระนาด ล้มคราวนี้อาจจะหนักกว่า เมื่อปี 2011-2012 แต่ Syriza ก็ยังใจกล้า เข้ามาเป็นรัฐบาล มีของดีแอบอยู่หรือไง

    นายกรัฐมนตรี Alexis Tsipras กับรัฐมนตรีคลัง Yanis Varoufakis แยกกันเดินสาย ไปจับมือกับพวกพี่เบิ้มอียู ท่านนายกรัฐมนตรีมุ่งหน้าไปเยอรมัน ส่วนรัฐมนตรีคลังขอไปอังกฤษ มันกว่า

    ที่เยอรมัน นายกรัฐมนตรี Tsipras แวะไปคารวะอนุสาวรีย์สงครามโลกครั้งที่ 2 สื่อเยอรมันตีข่าวว่า กรีกกำลังมาทวงความจำว่า เยอรมันยังจำได้ไหม คนกรีกเคยช่วยพวกคนเยอรมันจากพวกกางเขนเหล็กของฮิตเลอร์ ตีข่าวกันแบบนี้ คุณป้าแมร์เคิลก็คงไม่ชอบใจ หาว่าฉันเป็นพวกนาซีหรือไงยะ ฉันไม่ใช่กางเขนเหล็กนะ ฉันแค่เข็มขัดเหล็ก

    ข่าวบอกว่า คุณป้าพยายามเลี่ยงการเจรจาแบบสองต่อสอง กับนายTsipras เป็นการทำโทษให้รู้ว่า ฉันไม่พอใจ อืม ป้าแมร์เคิลไม่เบานะ

    คุณเจ๊ Barbara Wesel ผู้สื่อข่าวเยอรมันของ Deutsche Welle ประจำกรุงบรัสเซลบอกว่า ไม่ฉลาดเลยนะ ที่คุณแสดงการดูถูกคนที่คุณจะต้องเจรจาง้องอนด้วย Angela Merkel ไม่สมควรจะได้รับการเปรียบเทียบกับฮิตเลอร์ ….เมื่อคุณเลือกที่จะปฎิบัติกับแมร์เคิลอย่างฝ่ายตรงข้าม คุณจะรู้เองว่า เธอจะเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ร้ายขนาด ไหน…. จำไม่ได้เหรอว่า นายเดวิด แคมารอน ก็เคยโดนมาแล้ว เมื่อตอนงัดข้อกับคุณป้า เรื่องจะไม่เอานาย Jean-Claude Juncker เป็นประธานอียู ตามที่คุณป้าเสนอ แล้วเป็นยังไง ต้องลี้กาย หายหน้าไปจากอียูพักใหญ่ ดีว่าไม่ต้องไปแบบถาวร
    โอ้โห พวกเจ๊กางเขนเหล็ก เข็มขัดเหล็ก นี่ดุจัง

    แล้วจำเรื่องบุลกาเรียได้มั้ย ซ่าดีนัก นายกรัฐมนตรีตอนนั้น นาย Plamen Oresshaski เสนอหน้ามาเชียร์เส้นทางท่อแก๊ส South Stream ของรัสเซีย รู้อยู่แล้วว่าป้าเขาไม่เอาด้วย เพราะมันขัดกับกฏของอียู (กฏอะไรจ๊ะเจ๊ เรื่องแซงชั่นน่ะ พูดมันชัดๆไปเลย) แล้วเป็นไง เงินกู้ก้อนใหญ่ถูกตัด ฉับ ฉับเลย ยังไม่พอ ถึงตอนเลือกตั้ง นายปลาเมน หงายท้องผลึ่งไปเลย ฝ่ายค้าน ชื่อ Boyko Borisov ขึ้นมาเป็นแทน และนายปูติน ก็ต้องยกเลิกโครงการไง เห็นฤทธิ์ป้าเข็มขัดเหล็กแล้วซีนะ

    คราวนี้พวกกรีก ที่คิดจะมาต่อรองอียู จะเหลืออะไร ถึงกรีซจะเป็นสมาชิกเก่า ไม่ใช่เด็กใหม่อย่างบุลกาเรีย แถมคนเชียร์ก็ประเภทน้ำหนักเกินกระสอบข้าวทั้งนั้น เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี แต่ก็ยังมีหลายอีกประเทศสมาชิก ที่จนกว่ากรีซ ฉนั้น ไม่เหลือบ่ากว่าแรงป้าหรอกน่า ถ้าป้าอยากจะแผลงฤทธิ์ให้ดู

    เซียนมวย อย่าพลาดรายการนี้เชียว เดี๋ยวจะว่ามีดีไม่บอก น้ำหนักมันต่างกันหลายเท่าตัว แต่ทะลึ่งไปท้าเขา ไอ้ตัวเล็ก ฝ่ายท้าชิง มันบ้า หรือ มันไปได้ยาดีมากันแน่…

    (2)

    ฝ่ายผู้ท้าชิง รัฐมนตรีคลังมาดเซอร์ คุณน้อง Yanis Varoufakis ของผม นี่ไม่ธรรมดานะ จบเศรษฐศาสตร์จาก มหาวิทยาล้ย Exter ของอังกฤษ แกมีนัดกับรัฐมนตรีคลังผู้ดีอังกฤษ George Osborne ไอ้หมอนี่ดีกว่าลูกพี่หน่อย เวลาพูดไม่จีบปาก คุณน้องYanis ไปพบรัฐมนตรีผู้ดี ที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง ก็ทำเนียบนายกนั่นแหละ คุณน้องใส่เสื้อหนัง เท่ สุดขีดไปเลย ข้างในเป็นเสื้อเชิร์ตสีฟ้า และไม่ผูกเนคไท!

    นี่ มันต้องอย่างนี้ ลุงนิทานเชียร์หมดกระเป๋าเลย

    คุณน้องเสื้อหนังบอกว่า เราไม่ได้จะเบี้ยวหนี้นะ เฮียหวัด แห่งไทยแลนด์แดนสมันน้อย เขาฝากมาสอนผม ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ก็แค่นั้น ผมกำลังเตรียมจะออกพันธบัตรใหม่ ไปแลกกับพันธบัตรชุดเดิม ที่พวก IMF กับ ECB จอมโหดมันบังคับให้ประเทศผมออกไว้ แต่ผมจะขอยืดเวลา เขาอยากได้หนี้คืนหรือเปล่าล่ะ หรือเขาอยากกำจัดเรา ประโยคท้ายนี่ ลุงนิทานแถมให้ครับ

    นาย Osbourne บอกว่า เรื่องหนี้กรีซ ที่รัฐบาลแถวยูโรโซน คุยกับเจ้าหนี้ไม่รู้เรื่องนี่ จะเป็นเรื่องที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลก ยิ่งกว่าเรื่องตะวันออกกลาง หรือเรื่องเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับพวกตะวันตกอีกนะ ไอ้หมอนี่ ถ้าจะตอแหลเก่ง ไม่น้อยกว่าลูกพี่จอมจีบปาก

    นอกจากนี้ นาย Mark Carney ผู้ว่าการของธนาคารชาติอังกฤษ ยังออกมาวิจารณ์ว่า นโยบายเข้มงวด เรื่องหนี้ของยูโรโซน จะยิ่งบีบให้จำนวนหนี้เพิ่ม แล้วก็ลากยาวกันไปอีก แปลกนะทำไมอังกฤษ สุ้มเสียงเหมือนกันเห็นใจกรีซ ผิดสันดานนักล่า

    อังกฤษกลัวใจคุณน้องเสื้อหนัง ว่าแกจะใช้นโยบายเบี้ยวหนี้ แล้วเดินออกจากอียูง่ายๆอย่างนั้น หรือไม่ก็ ถูกถีบออกจากอียู โดยไม่มีการต่ออายุ ไม่มีการผ่อนปรน เพราะไปลองดีกับพวกเข็มขัดเหล็ก เข้า หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้ามันเกิดขึ้น อังกฤษบอกว่า มันไม่ใช่กระทบแค่กรีซ มันกระแทกทั้งยุโรป และอังกฤษ ซึ่งอาศัยยุโรปเป็นตลาดส่งออกประมาณ 50 % ก็อ่วมตามด้วย
    ถ้ากรีซเจ๊ง มีข้อดีกับรัฐบาลอังกฤษอย่างเดียว อังกฤษกำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมที่จะถึง ถ้าแพ้เลือกตั้ง จะได้อ้างว่ามาจากเรื่องกรีซ ฮา

    ดูแล้ว เรื่องการห่วงกรีซของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นของปลอมไงไม่รู้ คงต้องตามไปคุ้ยต่อ

    แต่ก็มีเรื่องน่าคิด หนี้กรีซจำนวนมหึมา กำลังจะถึงกำหนด รู้หมู่รู้จ่าสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ พรรคของคุณน้องเสื้อหนังใจกล้า แอ่นอกเข้าเป็นรัฐบาล ส่วนสิ้นเดือนมีนาคม ก็ถึงกำหนดที่อียูต้องพิจารณาว่า จะต่ออายุการแซงชั่นรัสเซียหรือไม่ คุณป้าเข็มขัดเหล็กบอกว่าไว้แล้วว่า ยังไง เราก็ไม่มีวันผ่อนปรนให้นายปูติน ยกเว้น รัสเซียต้องถอยออกไปจากยูเครนให้หมดจด

    การลงมติ ที่จะต่ออายุการแซงชั่นรัสเซีย จะต้องได้คะแนนเสียงเอกฉันท์ ตอนนี้คุณป้าเข็มขัดเหล็กเลยออกเดินสาย ทำหน้าเข้มใส่ทุกคนเหมือนกัน ล่าสุดนี่ เห็นไปยืนบีบ นายVictor Orban นายกรัฐมนตรีฮังการี เสียหน้าเขียว ก็นาย Orban ดันบอกว่า เขาชอบรูปแบบการปกครองของนายปูติน แบบนี้เดี๋ยวได้โดนเข็มขัดแน่

    มติเอกฉันท์นี่ ไม่ได้กันง่ายๆนะครับ ใครไม่เอาด้วยรายเดียวก็จบ ผมเป็นคุณพี่ปูติน ก็เลิกเครียด ส่วนกรีซก็ไม่น่าเครียดเช่นเดียว กัน ทางออกมีให้เดินหลายทาง แต่ทางคุณป้าเข็มขัดเหล็ก และพวก คุณพี่ชาวเกาะนะซิ น่าจะเครียด ถ้ากรีซเลือกเดินทางนั้น อ้อ มิน่า ถึงได้ตาเหลือกกัน แหมคิดช้าจังลุง

    หมู่เกาะของกรีซ ใกล้กับตุรกีนิดเดียว ตุรกีก็ ไม่ไกลจากรัสเซีย รู้สึกคุณพี่ปูตินของผมนี่ แกชอบสะสม ชอบกินขนมชั้นนะ เอามาเรียงๆกันไว้ โดยเฉพาะกรีซนี่ อยู่กลางเมดิเตอร์เรเนียนเลย ช่างเหมาะจริงๆ แบบนี้กองทัพเรือของใคร ที่เพิ่งจัดงบปรับปรุงก้อนใหญ่ ก็คงเหนื่อยหน่อย จะเข้าไปได้ถึงไหน อย่างนี้ใส่เสื้อหนังไปคุยก็คงได้ คงเบ่งไม่ค่อยไหวแล้ว เอะ แล้วลูกพี่ใหญ่นักล่าใบตองแห้งว่าไงคร้าบ จะเสียหมากให้เขาอีกแล้วเหรอคร้าบ ฮา

    หมายเหตุ: อย่าลืมดูเวทียูเครนบ้างนะครับ ที่ตะวันออกกลางก็เหมือนกัน ตอนนี้เร่งเครื่องกันจัง เดี๋ยวจะว่าลุงไม่เตือน

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    4 กพ. 2558
    เรื่อง เสื้อหนังกับเข็มขัดเหล็ก ” เสื้อหนัง กับ เข็มขัดเหล็ก” (1) รายการท้าชิงของมวยรุ่นเล็ก แต่ท่าทางจะเป็นพวกหมูตายไม่กลัวน้ำร้อน ดูเหมือนจะมีพวกแฟนๆรุ่นเก๋า เกาะเชือกเชียร์ไม่น้อย รวมทั้งผม พรรค Syriza ซ้ายจัดของกรีซ เพิ่งชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2015 แม้ไม่ได้คะแนนเสียงข้างมาก ต้องมีพรรคร่วม แต่ก็ได้เป็นรัฐบาลใหม่เอี่ยมของกรีก ที่นำโดยพรรค Syriza ก็ทำท่าจะ ซ่าสมชื่อโดยเฉพาะ ท่านรัฐมนตรีคลังหน้าใหม่มาดเซอร์ คุณน้อง Yanis Varoufakis ของผม พรรค Syriza หาเสียงกับชาวกรีกว่า เลือกพวกผมนะพี่น้อง แล้วพี่น้องจะไม่ต้องถูกกดขี่จากนโยบายของสหภาพยุโรปอีกต่อไป มันโหดกับเราขนาดไหน มันหั่นงบของกินของใช้เราขนาดไหน มากไปแล้ว… คงจะทำนองนี้นะครับ ผมไม่ได้แปลคำต่อคำ แล้วชาวกรีกก็ได้ Syriza มาเป็นรัฐบาล งานแรกที่ Syriza ต้องทำคือ วิ่งรอกหาพวกสนับสนุน เนื่องจากเงินกู้จำนวนประมาณ 350 พันล้านยูโร ของกรีซจะถึงกำหนดชำระสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ ถ้าไม่มีการต่ออายุ และแน่นอน เศรษฐกิจของกรีซคงล้มระเนระนาด ล้มคราวนี้อาจจะหนักกว่า เมื่อปี 2011-2012 แต่ Syriza ก็ยังใจกล้า เข้ามาเป็นรัฐบาล มีของดีแอบอยู่หรือไง นายกรัฐมนตรี Alexis Tsipras กับรัฐมนตรีคลัง Yanis Varoufakis แยกกันเดินสาย ไปจับมือกับพวกพี่เบิ้มอียู ท่านนายกรัฐมนตรีมุ่งหน้าไปเยอรมัน ส่วนรัฐมนตรีคลังขอไปอังกฤษ มันกว่า ที่เยอรมัน นายกรัฐมนตรี Tsipras แวะไปคารวะอนุสาวรีย์สงครามโลกครั้งที่ 2 สื่อเยอรมันตีข่าวว่า กรีกกำลังมาทวงความจำว่า เยอรมันยังจำได้ไหม คนกรีกเคยช่วยพวกคนเยอรมันจากพวกกางเขนเหล็กของฮิตเลอร์ ตีข่าวกันแบบนี้ คุณป้าแมร์เคิลก็คงไม่ชอบใจ หาว่าฉันเป็นพวกนาซีหรือไงยะ ฉันไม่ใช่กางเขนเหล็กนะ ฉันแค่เข็มขัดเหล็ก ข่าวบอกว่า คุณป้าพยายามเลี่ยงการเจรจาแบบสองต่อสอง กับนายTsipras เป็นการทำโทษให้รู้ว่า ฉันไม่พอใจ อืม ป้าแมร์เคิลไม่เบานะ คุณเจ๊ Barbara Wesel ผู้สื่อข่าวเยอรมันของ Deutsche Welle ประจำกรุงบรัสเซลบอกว่า ไม่ฉลาดเลยนะ ที่คุณแสดงการดูถูกคนที่คุณจะต้องเจรจาง้องอนด้วย Angela Merkel ไม่สมควรจะได้รับการเปรียบเทียบกับฮิตเลอร์ ….เมื่อคุณเลือกที่จะปฎิบัติกับแมร์เคิลอย่างฝ่ายตรงข้าม คุณจะรู้เองว่า เธอจะเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ร้ายขนาด ไหน…. จำไม่ได้เหรอว่า นายเดวิด แคมารอน ก็เคยโดนมาแล้ว เมื่อตอนงัดข้อกับคุณป้า เรื่องจะไม่เอานาย Jean-Claude Juncker เป็นประธานอียู ตามที่คุณป้าเสนอ แล้วเป็นยังไง ต้องลี้กาย หายหน้าไปจากอียูพักใหญ่ ดีว่าไม่ต้องไปแบบถาวร โอ้โห พวกเจ๊กางเขนเหล็ก เข็มขัดเหล็ก นี่ดุจัง แล้วจำเรื่องบุลกาเรียได้มั้ย ซ่าดีนัก นายกรัฐมนตรีตอนนั้น นาย Plamen Oresshaski เสนอหน้ามาเชียร์เส้นทางท่อแก๊ส South Stream ของรัสเซีย รู้อยู่แล้วว่าป้าเขาไม่เอาด้วย เพราะมันขัดกับกฏของอียู (กฏอะไรจ๊ะเจ๊ เรื่องแซงชั่นน่ะ พูดมันชัดๆไปเลย) แล้วเป็นไง เงินกู้ก้อนใหญ่ถูกตัด ฉับ ฉับเลย ยังไม่พอ ถึงตอนเลือกตั้ง นายปลาเมน หงายท้องผลึ่งไปเลย ฝ่ายค้าน ชื่อ Boyko Borisov ขึ้นมาเป็นแทน และนายปูติน ก็ต้องยกเลิกโครงการไง เห็นฤทธิ์ป้าเข็มขัดเหล็กแล้วซีนะ คราวนี้พวกกรีก ที่คิดจะมาต่อรองอียู จะเหลืออะไร ถึงกรีซจะเป็นสมาชิกเก่า ไม่ใช่เด็กใหม่อย่างบุลกาเรีย แถมคนเชียร์ก็ประเภทน้ำหนักเกินกระสอบข้าวทั้งนั้น เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี แต่ก็ยังมีหลายอีกประเทศสมาชิก ที่จนกว่ากรีซ ฉนั้น ไม่เหลือบ่ากว่าแรงป้าหรอกน่า ถ้าป้าอยากจะแผลงฤทธิ์ให้ดู เซียนมวย อย่าพลาดรายการนี้เชียว เดี๋ยวจะว่ามีดีไม่บอก น้ำหนักมันต่างกันหลายเท่าตัว แต่ทะลึ่งไปท้าเขา ไอ้ตัวเล็ก ฝ่ายท้าชิง มันบ้า หรือ มันไปได้ยาดีมากันแน่… (2) ฝ่ายผู้ท้าชิง รัฐมนตรีคลังมาดเซอร์ คุณน้อง Yanis Varoufakis ของผม นี่ไม่ธรรมดานะ จบเศรษฐศาสตร์จาก มหาวิทยาล้ย Exter ของอังกฤษ แกมีนัดกับรัฐมนตรีคลังผู้ดีอังกฤษ George Osborne ไอ้หมอนี่ดีกว่าลูกพี่หน่อย เวลาพูดไม่จีบปาก คุณน้องYanis ไปพบรัฐมนตรีผู้ดี ที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง ก็ทำเนียบนายกนั่นแหละ คุณน้องใส่เสื้อหนัง เท่ สุดขีดไปเลย ข้างในเป็นเสื้อเชิร์ตสีฟ้า และไม่ผูกเนคไท! นี่ มันต้องอย่างนี้ ลุงนิทานเชียร์หมดกระเป๋าเลย คุณน้องเสื้อหนังบอกว่า เราไม่ได้จะเบี้ยวหนี้นะ เฮียหวัด แห่งไทยแลนด์แดนสมันน้อย เขาฝากมาสอนผม ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ก็แค่นั้น ผมกำลังเตรียมจะออกพันธบัตรใหม่ ไปแลกกับพันธบัตรชุดเดิม ที่พวก IMF กับ ECB จอมโหดมันบังคับให้ประเทศผมออกไว้ แต่ผมจะขอยืดเวลา เขาอยากได้หนี้คืนหรือเปล่าล่ะ หรือเขาอยากกำจัดเรา ประโยคท้ายนี่ ลุงนิทานแถมให้ครับ นาย Osbourne บอกว่า เรื่องหนี้กรีซ ที่รัฐบาลแถวยูโรโซน คุยกับเจ้าหนี้ไม่รู้เรื่องนี่ จะเป็นเรื่องที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลก ยิ่งกว่าเรื่องตะวันออกกลาง หรือเรื่องเผชิญหน้าระหว่างรัสเซียกับพวกตะวันตกอีกนะ ไอ้หมอนี่ ถ้าจะตอแหลเก่ง ไม่น้อยกว่าลูกพี่จอมจีบปาก นอกจากนี้ นาย Mark Carney ผู้ว่าการของธนาคารชาติอังกฤษ ยังออกมาวิจารณ์ว่า นโยบายเข้มงวด เรื่องหนี้ของยูโรโซน จะยิ่งบีบให้จำนวนหนี้เพิ่ม แล้วก็ลากยาวกันไปอีก แปลกนะทำไมอังกฤษ สุ้มเสียงเหมือนกันเห็นใจกรีซ ผิดสันดานนักล่า อังกฤษกลัวใจคุณน้องเสื้อหนัง ว่าแกจะใช้นโยบายเบี้ยวหนี้ แล้วเดินออกจากอียูง่ายๆอย่างนั้น หรือไม่ก็ ถูกถีบออกจากอียู โดยไม่มีการต่ออายุ ไม่มีการผ่อนปรน เพราะไปลองดีกับพวกเข็มขัดเหล็ก เข้า หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้ามันเกิดขึ้น อังกฤษบอกว่า มันไม่ใช่กระทบแค่กรีซ มันกระแทกทั้งยุโรป และอังกฤษ ซึ่งอาศัยยุโรปเป็นตลาดส่งออกประมาณ 50 % ก็อ่วมตามด้วย ถ้ากรีซเจ๊ง มีข้อดีกับรัฐบาลอังกฤษอย่างเดียว อังกฤษกำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมที่จะถึง ถ้าแพ้เลือกตั้ง จะได้อ้างว่ามาจากเรื่องกรีซ ฮา ดูแล้ว เรื่องการห่วงกรีซของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นของปลอมไงไม่รู้ คงต้องตามไปคุ้ยต่อ แต่ก็มีเรื่องน่าคิด หนี้กรีซจำนวนมหึมา กำลังจะถึงกำหนด รู้หมู่รู้จ่าสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ พรรคของคุณน้องเสื้อหนังใจกล้า แอ่นอกเข้าเป็นรัฐบาล ส่วนสิ้นเดือนมีนาคม ก็ถึงกำหนดที่อียูต้องพิจารณาว่า จะต่ออายุการแซงชั่นรัสเซียหรือไม่ คุณป้าเข็มขัดเหล็กบอกว่าไว้แล้วว่า ยังไง เราก็ไม่มีวันผ่อนปรนให้นายปูติน ยกเว้น รัสเซียต้องถอยออกไปจากยูเครนให้หมดจด การลงมติ ที่จะต่ออายุการแซงชั่นรัสเซีย จะต้องได้คะแนนเสียงเอกฉันท์ ตอนนี้คุณป้าเข็มขัดเหล็กเลยออกเดินสาย ทำหน้าเข้มใส่ทุกคนเหมือนกัน ล่าสุดนี่ เห็นไปยืนบีบ นายVictor Orban นายกรัฐมนตรีฮังการี เสียหน้าเขียว ก็นาย Orban ดันบอกว่า เขาชอบรูปแบบการปกครองของนายปูติน แบบนี้เดี๋ยวได้โดนเข็มขัดแน่ มติเอกฉันท์นี่ ไม่ได้กันง่ายๆนะครับ ใครไม่เอาด้วยรายเดียวก็จบ ผมเป็นคุณพี่ปูติน ก็เลิกเครียด ส่วนกรีซก็ไม่น่าเครียดเช่นเดียว กัน ทางออกมีให้เดินหลายทาง แต่ทางคุณป้าเข็มขัดเหล็ก และพวก คุณพี่ชาวเกาะนะซิ น่าจะเครียด ถ้ากรีซเลือกเดินทางนั้น อ้อ มิน่า ถึงได้ตาเหลือกกัน แหมคิดช้าจังลุง หมู่เกาะของกรีซ ใกล้กับตุรกีนิดเดียว ตุรกีก็ ไม่ไกลจากรัสเซีย รู้สึกคุณพี่ปูตินของผมนี่ แกชอบสะสม ชอบกินขนมชั้นนะ เอามาเรียงๆกันไว้ โดยเฉพาะกรีซนี่ อยู่กลางเมดิเตอร์เรเนียนเลย ช่างเหมาะจริงๆ แบบนี้กองทัพเรือของใคร ที่เพิ่งจัดงบปรับปรุงก้อนใหญ่ ก็คงเหนื่อยหน่อย จะเข้าไปได้ถึงไหน อย่างนี้ใส่เสื้อหนังไปคุยก็คงได้ คงเบ่งไม่ค่อยไหวแล้ว เอะ แล้วลูกพี่ใหญ่นักล่าใบตองแห้งว่าไงคร้าบ จะเสียหมากให้เขาอีกแล้วเหรอคร้าบ ฮา หมายเหตุ: อย่าลืมดูเวทียูเครนบ้างนะครับ ที่ตะวันออกกลางก็เหมือนกัน ตอนนี้เร่งเครื่องกันจัง เดี๋ยวจะว่าลุงไม่เตือน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 4 กพ. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง เสือกซ้ำซาก
    “เสือกซ้ำซาก”

    วันก่อน แฟนเพจท่านหนึ่งเพิ่งเขียนถามหน้าจอว่า “ลุงครับ ตาแดเนียล รัสเซล เขาจะมาหลอกล่อ ล้วงตับอะไรสมันน้อยไหม ตานี่ประวัติไม่ธรรมดา สงสัยมากดดันให้เลือกตั้งไวๆ ….”

    ผมละดีใจมาก ที่แฟนเพจนิทาน ตื่นตัว หูตากว้างไกล มองเห็นภัยของการเป็นสมันน้อยมากขึ้น ผมก็ตอบไปตามการวิเคราะห์ว่า ” เป็นจังหวะที่อเมริกาต้องมาตรวจแถว ก่อนจัดระเบียบแถวใหม่ และอื่นๆครับ อื่นๆ นี่ต้องไปถามท่านผู้นำเอง “

    ผมวิเคราะห์จากการขยับหมากตัวอื่นๆของไอ้นักล่าใบตองแห้ง ผมคิดว่ามันกำลังเตรียมแผน และตามนิสัยมัน ก่อนจะสรุปแผน ไอ้นักล่าต้องตรวจสอบทุกเรื่องก่อน และแน่นอนในการตรวจสอบ ก็คงทำการเสือกเหมือนเคย และผมก็เบื่อที่จะต้องด่าถึงความเสือกอย่างซ้ำซากของพวกมัน

    แต่วันนี้พอผมเปิดเครื่อง ผมยิ่งดีใจใหญ่ ที่มีหลายท่าน อินบ๊อกซ์เข้ามาด่าไอ้เวรทิ้งไว้ให้ผมอ่าน แสดงว่าเราไม่ได้เป็นสมันน้อยแล้ว เรารู้สึกไม่พอใจเป็นแล้ว และถ้าเราไม่พูดอะไรเสียเลย เดี๋ยวมันก็จะนึกว่าเราก็ไม่รู้ สึกรู้สา นึกว่าเราเป็นขี้ข้า อย่างเคยๆ กระดิกนิ้วเมื่อไหร่ก็มา ชี้ด่าเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นสมันน้อยเหมือนเดิม งั้นวันนี้เราต้องฉลองการเลิกเป็นสมันน้อยของพวกเรา อย่างน้อยก็พวกเราในเพจนิทานล่ะครับ และผมเชื่อว่า มีคนไทยอีกมากมาย ที่ไม่อยากเป็นสมันน้อย และกำลังหาทางแหกคอกออกมา

    นายดาเนียล รัสเซล Daniel R Russel นี่เป็นใคร เขาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ดูแลกิจการด้านเอเซียตะวันออกและแปซิฟิก ก่อนหน้ารับตำแหน่งนี้ เมื่อกรกฏาคม 2013 เขาเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีโอบามา ในการวางนโยบาย ปรับกำลังมาทางแปซิฟิกมากขึ้น Pivot To Asia

    คงจำกันได้ ก่อนหน้านั้น อเมริกาวางน้ำหนักความสำคัญด้านความมั่นคงให้ทางยุโรป โดยผ่านกองกำลังนาโต้ 60% และให้น้ำหนักทางแปซิฟิก 40% แต่เมื่อเกิดอาการช๊อก ที่เห็นอาเฮียโตเร็วเกินคาดในปี 2012 อเมริกาจึงรีบปรับนโยบาย ตอนนั้นคุณนายคลินตันเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินสายแถวแปซิฟิกเสียหน้าเหี่ยว และตอนนั้นอเมริกาก็คงพอใจ ที่ไทยแลนด์ แดนสมันน้อย มีรัฐบาลที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นพรมเช็ดเท้าให้อเมริกา เพราะมีหัวหน้ารัฐบาลที่แม้แต่พูดภาษาคนธรรมดายังไม่รู้เรื่อง อย่าว่าแต่พูดภาษาราชการ หรือภาษาการฑูตเลย

    แน่นอน นายเดเนียล รัสเซล ผู้มีส่วนสำคัญในการปรับนโยบายใหม่ คงยืดน่าดู เพราะได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ดูแลแปซิฟิกสมใจ

    5 กุมภาพันธ์ 2014 จากรายงานข่าวแจกของกระทรวงต่างประเทศ ที่วอชิงตัน บอกว่า อเมริกากำลังปรับดุลในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก “rebalance” โดยนายรัสเซลบอกว่า เราต้องใช้กำลังพลด้านการฑูตเพิ่มอีกมาก เพื่อให้ได้ตามวัตถุประสงค์ของ เรา rebalance นี้ จะครอบคลุมไปถึงเรื่อง เศรษฐกิจ ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม ฯลฯ โดยจะเน้นเรื่อง Trans -Pacific Partnership (TPP) และเรื่องขัดแย้งในทะเลจีน โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่อง Air Defense Indentification Zone (ADIZ) ที่จีนประกาศใช้ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งอเมริกาไม่ชอบใจ
    แหม! อ่านตั้งนาน กว่าไต๋จะโผล่ นักล่าหงุดหงิดเรื่องนี้เอง แปลว่า ไอ้ที่อเมริกาเคยบินโฉบไปแอบดูอาหม่วยแถวนั้น โดยไม่แจง ไม่แจ้งน่ะ ทำไม่ได้แล้วนะ

    นายรัสเซล ยังบอกอีกว่า สหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ของโลก และของแปซิฟิก มีสเต็กชิ้นใหญ่อยู่ในแปซิฟิก ที่จำเป็นจะต้องให้เอเซียแปซิฟิก เปิดประตูกว้างเอาไว้ เพื่อเดินเข้าไปกินสะดวก แปลว่าตอนนี้กินสเต็กไม่สะดวก เพราะจีนกำลังขวางทางเข้าไปกิน

    อ่านต่อไม่ไหวครับ ยาแก้คลื่นไส้ ไม่ช่วยเลย

    ขอเปลี่ยนไปต่อ ที่การเสนอข่าวฉบับนี้ ที่ผมว่าน่าสนใจกว่าที่ ไอ้ขี้โม้รัสเซลพูดอีก

    เป็นการเสนอข่าวของ นายกวี จงกิจถาวร ใน นสพ. The Nation เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2015 นี้เอง หัวเรื่อง ” Are Thai-US relations warming up slowly?”
    http://www.nationmultimedia.com/opinion/Are-Thai-US-relations-warming-up-slowly-30251708.html

    ก่อนไปถึงเนื้อข่าว ขอให้ข้อมูลท่านผู้อ่านเสียหน่อยว่า จากข้อมูลของวิกิลีกซ์ ที่หล่นมาให้พวกเราหูตาสว่างกัน เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนนั้น นายกวี เป็นนักข่าว ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในรายงานของสถานฑูตอเมริกัน ประจำราชอาณาจักรไทย เกือบทุกครั้งที่มีการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่สถานทูต หรือมีนายใหญ่จากวอชิงตันมา นายกวีจะต้องร่วมหารือและให้ความเห็นในฐานะสื่อใหญ่ของไทยเสมอ พูดง่ายๆว่า ไม่มากไม่น้อย อเมริกาก็เห็น หรือรู้จักประเทศไทย จากสายตาและความคิดของนายกวี ซึ่งก็มีข่าวว่า อเมริกายกย่องและดูแลอย่างดี

    เนื้อข่าวของนายกวี สรุปว่า นายรัสเซลมาเมืองไทยเมื่อเดือนเมษายน ปี 2014 และให้สัมภาษณ์กับ Thai PBS ว่า เขามีความหวังว่าไทยจะมีการเลือกตั้ง ผ่านระบบการเลือกตั้ง ซึ่งไทยควรมีการเลือกตั้งเช่นนั้น เพื่อที่จะสมกับการเป็นมิตรที่อเมริกาไว้วางใจ แต่หลังจากนั้น 44 วัน โดยไม่มีใครรู้ตัว (รวมทั้งนายรัสเซล และนายกวี ?!) ทหารก็ทำการยึดอำนาจ

    วอชิงตันแปลกใจมาก เพราะไม่ได้รู้ข่าวมาก่อน และนั่นเป็นสาเหตุที่นาย Kerry มีปฏิกริยารุนแรงกับไทย แล้วสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอเมริกา ก็ลงเหวอย่างรวดเร็ว โดยไม่เห็นหนทางที่จะเยียวยาให้ดีขึ้น Thai-US relations quickly went downhill without any prospect of amelioration !

    ว้าย ตาเถรหก! ผมอ่านแล้วตกใจแทบสิ้นสติ อ่านข่าวแจกของฝร้่ง ต้องกินยาแก้คลื่นไส้ แต่พอมาอ่านข่าวคนไทยเขียน ผมต้องรีบให้เด็กเอายาหอมมาให้!
    ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าการปฏิวัติของคุณพี่ตู่ มันน่ากลัวถึงขนาดนั้น แต่พอมาอ่านที่นายกวีเขียนว่า ถึงขนาดที่เราจะขาดมิตร ที่คบกับมากว่า 70 ปี โดย อย่างไม่เห็นหนทางเยียวยาเอาเลย นี่ ผมเลยลมรับประทาน….ด้วยความดีใจ…… ขอให้มันเป็นหยั่งงั้นเถิด เจ้าประคู้น เอ้า! แล้วนี่เสือกมาทำไมล่ะ มากรีดซ้ำเป็นการเยียวยาหรือยังไง เดี๋ยวต้องคอยตามอ่าน บทความของนายกวีเสียแล้วสินะ

    นายกวีขู่ผมต่อ …. หลังจาก 259 วันที่ปราศจากการติดต่อระดับรัฐมนตรี สัมพันธ์ที่เย็นยะเยือกของไทย-อเมริกัน ก็เริ่มปรับตัวอุ่นขึ้น ด้วยการมา (โปรด!) ของนายรัสเซล เขาบอกว่าระหว่าง 2 วัน ที่อยู่เมืองไทย เขาจะมาทำทุกอย่างที่เขาจะทำได้ให้อุ่นขึ้น เขาเน้นว่า ผู้บริหารระดับสูงของอเมริกา ยังไม่ติดต่อกับรัฐบาลไทยเลยนะ และนอกจากอเมริกาแล้ว EU ก็ยังไม่กลับมามีสัมพันธ์ปรกติกับไทยด้วย รอจนกว่าไทยจะมีการเลือกตั้งก่อน …

    กิจกรรมแรก ที่ไทยจะมีร่วมกับอเมริกาในต้นปีนี้คือ การฝึกประจำปี Cobra Gold ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับอเมริกามา 3 ทศวรรษ สำหรับปีนี้ จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่นครนายก แม้ว่าจะมีการเรียกร้องให้ไปจัดที่อื่น หลังจากที่ไทยมีการปฏิวัติ คราวนี้การฝึกคงเป็นระดับเล็กลง และประชาสัมพันธ์น้อยลง อืม..,

    เดี๋ยวนี้ ประเทศไทยดูเหมือนจะมีความหลากหลายในการสร้างมั่นคงของตน ถ้าใช้ตามวลีอันขึ้นชื่อของอดีตรัฐมนตรีกลาโหม นาย Donald Rumsfeld ก็ต้องบอกว่า ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนไป จากการคบคนเคยรู้กันแล้ว เป็นการคบกับคนที่ไม่เคยรู้กัน ( known-knowns เป็น known-unknowns) ที่ผ่านมาไม่กี่เดือน ประเทศไทยมีการเจรจา และมีโครงการด้านความมั่นคงกับจีน รัสเซีย เวียตนาม..

    เอาละครับ สรุปมาให้ฟัง ทั้งที่ฝรั่งแจก กับไทยเขียนแทนฝรั่ง คงเห็นกันแล้วว่า อเมริกากำลังคิดอย่างไร

    – อเมริกา หน้าแตก แหกเป็นริ้ว มานั่งคุยจ้อเรื่องเลือกตั้ง นึกว่าสั่งแล้ว เขารู้เรื่องทำตาม ที่ไหนได้ กลับบ้านไป 44 วันเขาปฏิวัติ ไม่หน้าแหกยังไง จมูก CIA เสียหมดหรือไง ถึงดมกลิ่นปฏิวัติไม่เจอเลย แถมไอ้ลูกพี่ ที่มานั่งคุยกร่าง ยังจับทางไม่ได้ นั่งอยู่กลางบ้านเขาแท้ๆ ยังงี้มันน่าปลดให้หมด แล้วไอ้คนไทยที่เลี้ยงไว้เป็นสายสืบ ก็ต้องปลดด้วย ลูกเต้าที่ส่งเสียให้เรียนมหาวิทยาลัยดัง ส่งกลับไปอยู่วัดจานบินให้หมด

    – อุตส่าห์คิดนโยบายใหม่ ไล่บี้ไอ้พวกลูกหาบ แถวเอเซียแปซิฟิกแรงๆ ให้มันไปช่วยกดดันจีน ดันบี้แรงไปหน่อย ทำท่าจะแหกคอก แตกแถว ไปอยู่ฝั่งโน้น อย่างนี้ ยิ่งกว่าหน้าแตก มันหน้าหัก หักหน้ากัน ไม่ตามมาด่าซ้ำถึงกลางบ้านได้ยังไง เด็กเลี้ยงมา 70 ปี มาทำหือ อย่างนีต้องเจอโทษหนักแน่นอน

    – แต่ที่แสดงความหมดท่า เสียที คือ อุตส่าห์คิดนโยบายใหม่ ย้ายมากดดันจีน
    ลืมระวังอีกข้าง ถูกลูกหลอกฝั่งรัสเซียจีนผลัดกันโหม่ง วิ่งรับลูกผิดทาง เจอคุณพี่ปูตินซัดเต็มเหนี่ยว เกี่ยวเอาไครเมีย กล่องดวงใจกลับไปกก อันนี้มันเป็นเรื่อง แค้นนี้ต้องชำระ

    – แล้วใครล่ะ ที่เดินจ๋อยๆ เป็นสมันน้อยน่ารัก แต่จับมือกับเขาไปทั่ว ไอ้รูปจับมือ สร้างทางรถไฟนี่ มันต้องคารวะให้ 3 จอก จังหวะดีเหลือเชื่อ
    เอาแค่ตัวอย่างที่ยกมา ผมจึงไม่แปลกใจ ที่จะมีไอ้บ้าอะไรสักตัว มานั่งพล่าม นั่งเสือกยุ่งอยู่ในบ้านคนอื่นเขา เขาจัดการเรื่องบ้านเมืองของเขา ตามที่เขาเห็นเหมาะสม มันต้องเสือกอะไรด้วย เราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของใคร ไม่ได้เป็นทาสของใคร อย่าไปสนใจ ตกใจกับเสียงเห่า ตามสันดานของพวกหวงรางหญ้าครับ ปล่อยให้มันบ้าไป คุณพี่ตู่ท่านทำถูกแล้วที่ไม่รับนัด จริงๆ ไม่ควรมีใครรับนัดเลย ปล่อยให้มันคุยแต่กับนังเอ๋อ รายเดียวเหมาะสมกันดีจะตาย

    สวัสดีครับ
    ลุงนิทาน
    27 มกราคม 2558

    U.S. to Intensify Rebalancing in Asia in 2014
    https://geneva.usmission.gov/2014/02/06/u-s-to-intensify-rebalancing-in-asia-in-2014/
    เรื่อง เสือกซ้ำซาก “เสือกซ้ำซาก” วันก่อน แฟนเพจท่านหนึ่งเพิ่งเขียนถามหน้าจอว่า “ลุงครับ ตาแดเนียล รัสเซล เขาจะมาหลอกล่อ ล้วงตับอะไรสมันน้อยไหม ตานี่ประวัติไม่ธรรมดา สงสัยมากดดันให้เลือกตั้งไวๆ ….” ผมละดีใจมาก ที่แฟนเพจนิทาน ตื่นตัว หูตากว้างไกล มองเห็นภัยของการเป็นสมันน้อยมากขึ้น ผมก็ตอบไปตามการวิเคราะห์ว่า ” เป็นจังหวะที่อเมริกาต้องมาตรวจแถว ก่อนจัดระเบียบแถวใหม่ และอื่นๆครับ อื่นๆ นี่ต้องไปถามท่านผู้นำเอง “ ผมวิเคราะห์จากการขยับหมากตัวอื่นๆของไอ้นักล่าใบตองแห้ง ผมคิดว่ามันกำลังเตรียมแผน และตามนิสัยมัน ก่อนจะสรุปแผน ไอ้นักล่าต้องตรวจสอบทุกเรื่องก่อน และแน่นอนในการตรวจสอบ ก็คงทำการเสือกเหมือนเคย และผมก็เบื่อที่จะต้องด่าถึงความเสือกอย่างซ้ำซากของพวกมัน แต่วันนี้พอผมเปิดเครื่อง ผมยิ่งดีใจใหญ่ ที่มีหลายท่าน อินบ๊อกซ์เข้ามาด่าไอ้เวรทิ้งไว้ให้ผมอ่าน แสดงว่าเราไม่ได้เป็นสมันน้อยแล้ว เรารู้สึกไม่พอใจเป็นแล้ว และถ้าเราไม่พูดอะไรเสียเลย เดี๋ยวมันก็จะนึกว่าเราก็ไม่รู้ สึกรู้สา นึกว่าเราเป็นขี้ข้า อย่างเคยๆ กระดิกนิ้วเมื่อไหร่ก็มา ชี้ด่าเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นสมันน้อยเหมือนเดิม งั้นวันนี้เราต้องฉลองการเลิกเป็นสมันน้อยของพวกเรา อย่างน้อยก็พวกเราในเพจนิทานล่ะครับ และผมเชื่อว่า มีคนไทยอีกมากมาย ที่ไม่อยากเป็นสมันน้อย และกำลังหาทางแหกคอกออกมา นายดาเนียล รัสเซล Daniel R Russel นี่เป็นใคร เขาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ ดูแลกิจการด้านเอเซียตะวันออกและแปซิฟิก ก่อนหน้ารับตำแหน่งนี้ เมื่อกรกฏาคม 2013 เขาเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีโอบามา ในการวางนโยบาย ปรับกำลังมาทางแปซิฟิกมากขึ้น Pivot To Asia คงจำกันได้ ก่อนหน้านั้น อเมริกาวางน้ำหนักความสำคัญด้านความมั่นคงให้ทางยุโรป โดยผ่านกองกำลังนาโต้ 60% และให้น้ำหนักทางแปซิฟิก 40% แต่เมื่อเกิดอาการช๊อก ที่เห็นอาเฮียโตเร็วเกินคาดในปี 2012 อเมริกาจึงรีบปรับนโยบาย ตอนนั้นคุณนายคลินตันเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินสายแถวแปซิฟิกเสียหน้าเหี่ยว และตอนนั้นอเมริกาก็คงพอใจ ที่ไทยแลนด์ แดนสมันน้อย มีรัฐบาลที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นพรมเช็ดเท้าให้อเมริกา เพราะมีหัวหน้ารัฐบาลที่แม้แต่พูดภาษาคนธรรมดายังไม่รู้เรื่อง อย่าว่าแต่พูดภาษาราชการ หรือภาษาการฑูตเลย แน่นอน นายเดเนียล รัสเซล ผู้มีส่วนสำคัญในการปรับนโยบายใหม่ คงยืดน่าดู เพราะได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ดูแลแปซิฟิกสมใจ 5 กุมภาพันธ์ 2014 จากรายงานข่าวแจกของกระทรวงต่างประเทศ ที่วอชิงตัน บอกว่า อเมริกากำลังปรับดุลในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก “rebalance” โดยนายรัสเซลบอกว่า เราต้องใช้กำลังพลด้านการฑูตเพิ่มอีกมาก เพื่อให้ได้ตามวัตถุประสงค์ของ เรา rebalance นี้ จะครอบคลุมไปถึงเรื่อง เศรษฐกิจ ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม ฯลฯ โดยจะเน้นเรื่อง Trans -Pacific Partnership (TPP) และเรื่องขัดแย้งในทะเลจีน โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่อง Air Defense Indentification Zone (ADIZ) ที่จีนประกาศใช้ในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งอเมริกาไม่ชอบใจ แหม! อ่านตั้งนาน กว่าไต๋จะโผล่ นักล่าหงุดหงิดเรื่องนี้เอง แปลว่า ไอ้ที่อเมริกาเคยบินโฉบไปแอบดูอาหม่วยแถวนั้น โดยไม่แจง ไม่แจ้งน่ะ ทำไม่ได้แล้วนะ นายรัสเซล ยังบอกอีกว่า สหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ของโลก และของแปซิฟิก มีสเต็กชิ้นใหญ่อยู่ในแปซิฟิก ที่จำเป็นจะต้องให้เอเซียแปซิฟิก เปิดประตูกว้างเอาไว้ เพื่อเดินเข้าไปกินสะดวก แปลว่าตอนนี้กินสเต็กไม่สะดวก เพราะจีนกำลังขวางทางเข้าไปกิน อ่านต่อไม่ไหวครับ ยาแก้คลื่นไส้ ไม่ช่วยเลย ขอเปลี่ยนไปต่อ ที่การเสนอข่าวฉบับนี้ ที่ผมว่าน่าสนใจกว่าที่ ไอ้ขี้โม้รัสเซลพูดอีก เป็นการเสนอข่าวของ นายกวี จงกิจถาวร ใน นสพ. The Nation เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2015 นี้เอง หัวเรื่อง ” Are Thai-US relations warming up slowly?” http://www.nationmultimedia.com/opinion/Are-Thai-US-relations-warming-up-slowly-30251708.html ก่อนไปถึงเนื้อข่าว ขอให้ข้อมูลท่านผู้อ่านเสียหน่อยว่า จากข้อมูลของวิกิลีกซ์ ที่หล่นมาให้พวกเราหูตาสว่างกัน เมื่อประมาณ 3 ปีก่อนนั้น นายกวี เป็นนักข่าว ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในรายงานของสถานฑูตอเมริกัน ประจำราชอาณาจักรไทย เกือบทุกครั้งที่มีการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่สถานทูต หรือมีนายใหญ่จากวอชิงตันมา นายกวีจะต้องร่วมหารือและให้ความเห็นในฐานะสื่อใหญ่ของไทยเสมอ พูดง่ายๆว่า ไม่มากไม่น้อย อเมริกาก็เห็น หรือรู้จักประเทศไทย จากสายตาและความคิดของนายกวี ซึ่งก็มีข่าวว่า อเมริกายกย่องและดูแลอย่างดี เนื้อข่าวของนายกวี สรุปว่า นายรัสเซลมาเมืองไทยเมื่อเดือนเมษายน ปี 2014 และให้สัมภาษณ์กับ Thai PBS ว่า เขามีความหวังว่าไทยจะมีการเลือกตั้ง ผ่านระบบการเลือกตั้ง ซึ่งไทยควรมีการเลือกตั้งเช่นนั้น เพื่อที่จะสมกับการเป็นมิตรที่อเมริกาไว้วางใจ แต่หลังจากนั้น 44 วัน โดยไม่มีใครรู้ตัว (รวมทั้งนายรัสเซล และนายกวี ?!) ทหารก็ทำการยึดอำนาจ วอชิงตันแปลกใจมาก เพราะไม่ได้รู้ข่าวมาก่อน และนั่นเป็นสาเหตุที่นาย Kerry มีปฏิกริยารุนแรงกับไทย แล้วสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอเมริกา ก็ลงเหวอย่างรวดเร็ว โดยไม่เห็นหนทางที่จะเยียวยาให้ดีขึ้น Thai-US relations quickly went downhill without any prospect of amelioration ! ว้าย ตาเถรหก! ผมอ่านแล้วตกใจแทบสิ้นสติ อ่านข่าวแจกของฝร้่ง ต้องกินยาแก้คลื่นไส้ แต่พอมาอ่านข่าวคนไทยเขียน ผมต้องรีบให้เด็กเอายาหอมมาให้! ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าการปฏิวัติของคุณพี่ตู่ มันน่ากลัวถึงขนาดนั้น แต่พอมาอ่านที่นายกวีเขียนว่า ถึงขนาดที่เราจะขาดมิตร ที่คบกับมากว่า 70 ปี โดย อย่างไม่เห็นหนทางเยียวยาเอาเลย นี่ ผมเลยลมรับประทาน….ด้วยความดีใจ…… ขอให้มันเป็นหยั่งงั้นเถิด เจ้าประคู้น เอ้า! แล้วนี่เสือกมาทำไมล่ะ มากรีดซ้ำเป็นการเยียวยาหรือยังไง เดี๋ยวต้องคอยตามอ่าน บทความของนายกวีเสียแล้วสินะ นายกวีขู่ผมต่อ …. หลังจาก 259 วันที่ปราศจากการติดต่อระดับรัฐมนตรี สัมพันธ์ที่เย็นยะเยือกของไทย-อเมริกัน ก็เริ่มปรับตัวอุ่นขึ้น ด้วยการมา (โปรด!) ของนายรัสเซล เขาบอกว่าระหว่าง 2 วัน ที่อยู่เมืองไทย เขาจะมาทำทุกอย่างที่เขาจะทำได้ให้อุ่นขึ้น เขาเน้นว่า ผู้บริหารระดับสูงของอเมริกา ยังไม่ติดต่อกับรัฐบาลไทยเลยนะ และนอกจากอเมริกาแล้ว EU ก็ยังไม่กลับมามีสัมพันธ์ปรกติกับไทยด้วย รอจนกว่าไทยจะมีการเลือกตั้งก่อน … กิจกรรมแรก ที่ไทยจะมีร่วมกับอเมริกาในต้นปีนี้คือ การฝึกประจำปี Cobra Gold ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับอเมริกามา 3 ทศวรรษ สำหรับปีนี้ จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่นครนายก แม้ว่าจะมีการเรียกร้องให้ไปจัดที่อื่น หลังจากที่ไทยมีการปฏิวัติ คราวนี้การฝึกคงเป็นระดับเล็กลง และประชาสัมพันธ์น้อยลง อืม.., เดี๋ยวนี้ ประเทศไทยดูเหมือนจะมีความหลากหลายในการสร้างมั่นคงของตน ถ้าใช้ตามวลีอันขึ้นชื่อของอดีตรัฐมนตรีกลาโหม นาย Donald Rumsfeld ก็ต้องบอกว่า ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนไป จากการคบคนเคยรู้กันแล้ว เป็นการคบกับคนที่ไม่เคยรู้กัน ( known-knowns เป็น known-unknowns) ที่ผ่านมาไม่กี่เดือน ประเทศไทยมีการเจรจา และมีโครงการด้านความมั่นคงกับจีน รัสเซีย เวียตนาม.. เอาละครับ สรุปมาให้ฟัง ทั้งที่ฝรั่งแจก กับไทยเขียนแทนฝรั่ง คงเห็นกันแล้วว่า อเมริกากำลังคิดอย่างไร – อเมริกา หน้าแตก แหกเป็นริ้ว มานั่งคุยจ้อเรื่องเลือกตั้ง นึกว่าสั่งแล้ว เขารู้เรื่องทำตาม ที่ไหนได้ กลับบ้านไป 44 วันเขาปฏิวัติ ไม่หน้าแหกยังไง จมูก CIA เสียหมดหรือไง ถึงดมกลิ่นปฏิวัติไม่เจอเลย แถมไอ้ลูกพี่ ที่มานั่งคุยกร่าง ยังจับทางไม่ได้ นั่งอยู่กลางบ้านเขาแท้ๆ ยังงี้มันน่าปลดให้หมด แล้วไอ้คนไทยที่เลี้ยงไว้เป็นสายสืบ ก็ต้องปลดด้วย ลูกเต้าที่ส่งเสียให้เรียนมหาวิทยาลัยดัง ส่งกลับไปอยู่วัดจานบินให้หมด – อุตส่าห์คิดนโยบายใหม่ ไล่บี้ไอ้พวกลูกหาบ แถวเอเซียแปซิฟิกแรงๆ ให้มันไปช่วยกดดันจีน ดันบี้แรงไปหน่อย ทำท่าจะแหกคอก แตกแถว ไปอยู่ฝั่งโน้น อย่างนี้ ยิ่งกว่าหน้าแตก มันหน้าหัก หักหน้ากัน ไม่ตามมาด่าซ้ำถึงกลางบ้านได้ยังไง เด็กเลี้ยงมา 70 ปี มาทำหือ อย่างนีต้องเจอโทษหนักแน่นอน – แต่ที่แสดงความหมดท่า เสียที คือ อุตส่าห์คิดนโยบายใหม่ ย้ายมากดดันจีน ลืมระวังอีกข้าง ถูกลูกหลอกฝั่งรัสเซียจีนผลัดกันโหม่ง วิ่งรับลูกผิดทาง เจอคุณพี่ปูตินซัดเต็มเหนี่ยว เกี่ยวเอาไครเมีย กล่องดวงใจกลับไปกก อันนี้มันเป็นเรื่อง แค้นนี้ต้องชำระ – แล้วใครล่ะ ที่เดินจ๋อยๆ เป็นสมันน้อยน่ารัก แต่จับมือกับเขาไปทั่ว ไอ้รูปจับมือ สร้างทางรถไฟนี่ มันต้องคารวะให้ 3 จอก จังหวะดีเหลือเชื่อ เอาแค่ตัวอย่างที่ยกมา ผมจึงไม่แปลกใจ ที่จะมีไอ้บ้าอะไรสักตัว มานั่งพล่าม นั่งเสือกยุ่งอยู่ในบ้านคนอื่นเขา เขาจัดการเรื่องบ้านเมืองของเขา ตามที่เขาเห็นเหมาะสม มันต้องเสือกอะไรด้วย เราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของใคร ไม่ได้เป็นทาสของใคร อย่าไปสนใจ ตกใจกับเสียงเห่า ตามสันดานของพวกหวงรางหญ้าครับ ปล่อยให้มันบ้าไป คุณพี่ตู่ท่านทำถูกแล้วที่ไม่รับนัด จริงๆ ไม่ควรมีใครรับนัดเลย ปล่อยให้มันคุยแต่กับนังเอ๋อ รายเดียวเหมาะสมกันดีจะตาย สวัสดีครับ ลุงนิทาน 27 มกราคม 2558 U.S. to Intensify Rebalancing in Asia in 2014 https://geneva.usmission.gov/2014/02/06/u-s-to-intensify-rebalancing-in-asia-in-2014/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • “LLM Brain Rot – โมเดลภาษาก็ ‘สมองเน่า’ ได้ ถ้าเสพข้อมูลขยะมากเกินไป!”

    งานวิจัยล่าสุดจากทีม Xing et al. เสนอแนวคิดใหม่ที่สะเทือนวงการ AI: โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) อาจเกิด “สมองเน่า” หรือ Brain Rot ได้ หากถูกฝึกด้วยข้อมูลขยะจากอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโพสต์จาก Twitter/X ที่เน้นความสั้นและความนิยมมากกว่าคุณภาพเนื้อหา

    นักวิจัยสร้างชุดข้อมูล “junk” และ “control” จากโพสต์จริง โดยใช้สองเกณฑ์คือ M1 (ระดับ engagement เช่น ไลก์ รีทวีต) และ M2 (คุณภาพเชิงเนื้อหา เช่น clickbait vs. ข้อเท็จจริง) แล้วนำไปฝึกโมเดล 4 ตัวแบบต่อเนื่อง ก่อนวัดผลด้าน reasoning, memory, safety และ personality

    ผลลัพธ์ชัดเจน: โมเดลที่ถูกฝึกด้วยข้อมูล junk มีความสามารถลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น คะแนน ARC-Challenge แบบ Chain of Thought ลดจาก 74.9 เหลือ 57.2 และ RULER-CWE ลดจาก 84.4 เหลือ 52.3 เมื่อ junk ratio เพิ่มขึ้นจาก 0% เป็น 100%

    ที่น่าตกใจคือ แม้จะพยายามแก้ด้วย instruction tuning หรือฝึกใหม่ด้วยข้อมูลคุณภาพสูง ก็ไม่สามารถฟื้นความสามารถเดิมได้หมด แสดงว่า “สมองเน่า” มีผลถาวรบางส่วน

    งานนี้จึงเสนอให้มองการคัดกรองข้อมูลฝึกโมเดลเป็นเรื่อง “สุขภาพจิตของ AI” และเรียกร้องให้มีการตรวจสุขภาพโมเดลเป็นระยะ เพื่อป้องกันการเสื่อมถอยของความสามารถโดยไม่รู้ตัว

    แนวคิดหลักของงานวิจัย
    เสนอ “LLM Brain Rot Hypothesis” – โมเดลเสื่อมความสามารถจากข้อมูลขยะ
    ใช้ continual pre-training บนข้อมูล junk จาก Twitter/X
    วัดผลด้าน reasoning, memory, safety, personality
    พบว่าความสามารถลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

    วิธีการทดลอง
    สร้างชุดข้อมูล junk/control จากโพสต์จริง
    ใช้เกณฑ์ M1 (engagement) และ M2 (semantic quality)
    ฝึกโมเดล 4 ตัวแบบต่อเนื่อง
    ใช้ instruction tuning เพื่อควบคุม format

    ผลกระทบที่พบ
    Reasoning ลดลง เช่น ARC-Challenge COT: 74.9 → 57.2
    Long-context memory ลดลง เช่น RULER-CWE: 84.4 → 52.3
    Safety ลดลง เช่น HH-RLHF risk เพิ่มขึ้น
    Personality เปลี่ยน เช่น psychopathy, narcissism เพิ่มขึ้น

    ข้อค้นพบเชิงลึก
    Thought-skipping คือ failure mode หลัก – โมเดลข้ามขั้นตอน reasoning
    การแก้ด้วย instruction tuning ฟื้นได้บางส่วนแต่ไม่หมด
    ความนิยมของโพสต์ (M1) เป็นตัวชี้วัด brain rot ที่ดีกว่าความยาว
    ผลกระทบมีลักษณะ dose-response – ยิ่ง junk มาก ยิ่งเสื่อมมาก

    ข้อเสนอจากงานวิจัย
    มองการคัดกรองข้อมูลฝึกเป็น “สุขภาพจิตของ AI”
    ควรมี “cognitive health check” สำหรับโมเดลที่ deploy แล้ว
    ปรับแนวทางการ curate ข้อมูลฝึกใหม่
    หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูล engagement-driven โดยไม่กรอง

    ข้อควรระวังและคำเตือน
    การใช้ข้อมูลจากโซเชียลโดยไม่กรอง อาจทำให้โมเดลเสื่อมถอย
    การฝึกต่อเนื่องโดยไม่ตรวจสุขภาพ อาจสะสมความเสียหาย
    การพึ่งพา instruction tuning อย่างเดียวไม่สามารถฟื้นฟูได้หมด
    โมเดลที่เสื่อมอาจมีพฤติกรรมไม่ปลอดภัยหรือไม่พึงประสงค์
    การวัดคุณภาพข้อมูลต้องใช้หลายมิติ ไม่ใช่แค่ semantic หรือ engagement

    https://llm-brain-rot.github.io/
    🧠 “LLM Brain Rot – โมเดลภาษาก็ ‘สมองเน่า’ ได้ ถ้าเสพข้อมูลขยะมากเกินไป!” งานวิจัยล่าสุดจากทีม Xing et al. เสนอแนวคิดใหม่ที่สะเทือนวงการ AI: โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) อาจเกิด “สมองเน่า” หรือ Brain Rot ได้ หากถูกฝึกด้วยข้อมูลขยะจากอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโพสต์จาก Twitter/X ที่เน้นความสั้นและความนิยมมากกว่าคุณภาพเนื้อหา นักวิจัยสร้างชุดข้อมูล “junk” และ “control” จากโพสต์จริง โดยใช้สองเกณฑ์คือ M1 (ระดับ engagement เช่น ไลก์ รีทวีต) และ M2 (คุณภาพเชิงเนื้อหา เช่น clickbait vs. ข้อเท็จจริง) แล้วนำไปฝึกโมเดล 4 ตัวแบบต่อเนื่อง ก่อนวัดผลด้าน reasoning, memory, safety และ personality ผลลัพธ์ชัดเจน: โมเดลที่ถูกฝึกด้วยข้อมูล junk มีความสามารถลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น คะแนน ARC-Challenge แบบ Chain of Thought ลดจาก 74.9 เหลือ 57.2 และ RULER-CWE ลดจาก 84.4 เหลือ 52.3 เมื่อ junk ratio เพิ่มขึ้นจาก 0% เป็น 100% ที่น่าตกใจคือ แม้จะพยายามแก้ด้วย instruction tuning หรือฝึกใหม่ด้วยข้อมูลคุณภาพสูง ก็ไม่สามารถฟื้นความสามารถเดิมได้หมด แสดงว่า “สมองเน่า” มีผลถาวรบางส่วน งานนี้จึงเสนอให้มองการคัดกรองข้อมูลฝึกโมเดลเป็นเรื่อง “สุขภาพจิตของ AI” และเรียกร้องให้มีการตรวจสุขภาพโมเดลเป็นระยะ เพื่อป้องกันการเสื่อมถอยของความสามารถโดยไม่รู้ตัว ✅ แนวคิดหลักของงานวิจัย ➡️ เสนอ “LLM Brain Rot Hypothesis” – โมเดลเสื่อมความสามารถจากข้อมูลขยะ ➡️ ใช้ continual pre-training บนข้อมูล junk จาก Twitter/X ➡️ วัดผลด้าน reasoning, memory, safety, personality ➡️ พบว่าความสามารถลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ✅ วิธีการทดลอง ➡️ สร้างชุดข้อมูล junk/control จากโพสต์จริง ➡️ ใช้เกณฑ์ M1 (engagement) และ M2 (semantic quality) ➡️ ฝึกโมเดล 4 ตัวแบบต่อเนื่อง ➡️ ใช้ instruction tuning เพื่อควบคุม format ✅ ผลกระทบที่พบ ➡️ Reasoning ลดลง เช่น ARC-Challenge COT: 74.9 → 57.2 ➡️ Long-context memory ลดลง เช่น RULER-CWE: 84.4 → 52.3 ➡️ Safety ลดลง เช่น HH-RLHF risk เพิ่มขึ้น ➡️ Personality เปลี่ยน เช่น psychopathy, narcissism เพิ่มขึ้น ✅ ข้อค้นพบเชิงลึก ➡️ Thought-skipping คือ failure mode หลัก – โมเดลข้ามขั้นตอน reasoning ➡️ การแก้ด้วย instruction tuning ฟื้นได้บางส่วนแต่ไม่หมด ➡️ ความนิยมของโพสต์ (M1) เป็นตัวชี้วัด brain rot ที่ดีกว่าความยาว ➡️ ผลกระทบมีลักษณะ dose-response – ยิ่ง junk มาก ยิ่งเสื่อมมาก ✅ ข้อเสนอจากงานวิจัย ➡️ มองการคัดกรองข้อมูลฝึกเป็น “สุขภาพจิตของ AI” ➡️ ควรมี “cognitive health check” สำหรับโมเดลที่ deploy แล้ว ➡️ ปรับแนวทางการ curate ข้อมูลฝึกใหม่ ➡️ หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูล engagement-driven โดยไม่กรอง ‼️ ข้อควรระวังและคำเตือน ⛔ การใช้ข้อมูลจากโซเชียลโดยไม่กรอง อาจทำให้โมเดลเสื่อมถอย ⛔ การฝึกต่อเนื่องโดยไม่ตรวจสุขภาพ อาจสะสมความเสียหาย ⛔ การพึ่งพา instruction tuning อย่างเดียวไม่สามารถฟื้นฟูได้หมด ⛔ โมเดลที่เสื่อมอาจมีพฤติกรรมไม่ปลอดภัยหรือไม่พึงประสงค์ ⛔ การวัดคุณภาพข้อมูลต้องใช้หลายมิติ ไม่ใช่แค่ semantic หรือ engagement https://llm-brain-rot.github.io/
    LLM-BRAIN-ROT.GITHUB.IO
    LLMs Can Get Brain Rot
    New finding: LLMs Can Get Brain Rot if being fed trivial, engaging Twitter/X content.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ OAuth เจาะระบบคลาวด์ – เปลี่ยนรหัสผ่านก็ไม่ช่วย!”

    นักวิจัยจาก Proofpoint ออกมาเตือนว่า ตอนนี้แฮกเกอร์กำลังใช้ช่องโหว่ในระบบ OAuth เพื่อเจาะเข้าระบบคลาวด์ขององค์กรต่าง ๆ และที่น่ากลัวคือ แม้จะเปลี่ยนรหัสผ่านหรือเปิดใช้ MFA (Multi-Factor Authentication) ก็ยังไม่สามารถไล่แฮกเกอร์ออกจากระบบได้!

    วิธีการคือ แฮกเกอร์จะใช้บัญชีที่ถูกเจาะเข้าไปสร้างแอปภายในที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เช่น ไฟล์ อีเมล หรือระบบสื่อสาร แล้วอนุมัติแอปนั้นให้ทำงานได้อย่างถาวร แม้บัญชีผู้ใช้จะถูกเปลี่ยนรหัสหรือปิดการใช้งาน แอปที่ถูกสร้างไว้ก็ยังคงทำงานอยู่ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบได้ต่อเนื่อง

    มีกรณีตัวอย่างที่นักวิจัยพบว่า หลังจากผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านแล้ว ยังมีการพยายามล็อกอินจาก IP ในไนจีเรีย ซึ่งคาดว่าเป็นต้นทางของแฮกเกอร์ แต่แอปที่ถูกสร้างไว้ยังคงทำงานได้ตามปกติ

    ช่องโหว่นี้ไม่ใช่แค่ทฤษฎี เพราะมีการใช้งานจริงแล้วในหลายกรณี และอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล การแฝงตัวในระบบ และการโจมตีต่อเนื่องแบบเงียบ ๆ โดยที่องค์กรไม่รู้ตัว

    วิธีการโจมตีผ่าน OAuth
    แฮกเกอร์ใช้บัญชีที่ถูกเจาะสร้างแอปภายในที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล
    แอปได้รับการอนุมัติให้ทำงานอย่างถาวร
    แม้เปลี่ยนรหัสผ่านหรือเปิด MFA แอปยังคงทำงานได้
    แอปสามารถเข้าถึงไฟล์ อีเมล และระบบสื่อสารภายใน
    เป็นการโจมตีแบบ “Adversary-in-the-middle” ที่แฝงตัวในระบบ

    กรณีตัวอย่างจาก Proofpoint
    พบการล็อกอินจาก IP ในไนจีเรียหลังเปลี่ยนรหัสผ่าน
    แอปยังคงทำงานได้แม้บัญชีถูกเปลี่ยน
    เป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎี
    นักวิจัยสร้างเครื่องมือจำลองการโจมตีเพื่อศึกษารูปแบบ

    แนวทางป้องกันและคำแนะนำ
    ต้องตรวจสอบสิทธิ์ของแอปภายในอย่างสม่ำเสมอ
    ควรมีระบบตรวจสอบและแจ้งเตือนเมื่อมีการสร้างแอปใหม่
    การลบสิทธิ์ของแอปเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดการเข้าถึง
    แอปที่ได้รับสิทธิ์จะมี credential ที่ใช้ได้นานถึง 2 ปี

    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-are-exploiting-oauth-loophole-for-persistent-access-and-resetting-your-password-wont-save-you
    🕵️‍♂️ “แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ OAuth เจาะระบบคลาวด์ – เปลี่ยนรหัสผ่านก็ไม่ช่วย!” นักวิจัยจาก Proofpoint ออกมาเตือนว่า ตอนนี้แฮกเกอร์กำลังใช้ช่องโหว่ในระบบ OAuth เพื่อเจาะเข้าระบบคลาวด์ขององค์กรต่าง ๆ และที่น่ากลัวคือ แม้จะเปลี่ยนรหัสผ่านหรือเปิดใช้ MFA (Multi-Factor Authentication) ก็ยังไม่สามารถไล่แฮกเกอร์ออกจากระบบได้! วิธีการคือ แฮกเกอร์จะใช้บัญชีที่ถูกเจาะเข้าไปสร้างแอปภายในที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เช่น ไฟล์ อีเมล หรือระบบสื่อสาร แล้วอนุมัติแอปนั้นให้ทำงานได้อย่างถาวร แม้บัญชีผู้ใช้จะถูกเปลี่ยนรหัสหรือปิดการใช้งาน แอปที่ถูกสร้างไว้ก็ยังคงทำงานอยู่ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบได้ต่อเนื่อง มีกรณีตัวอย่างที่นักวิจัยพบว่า หลังจากผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านแล้ว ยังมีการพยายามล็อกอินจาก IP ในไนจีเรีย ซึ่งคาดว่าเป็นต้นทางของแฮกเกอร์ แต่แอปที่ถูกสร้างไว้ยังคงทำงานได้ตามปกติ ช่องโหว่นี้ไม่ใช่แค่ทฤษฎี เพราะมีการใช้งานจริงแล้วในหลายกรณี และอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูล การแฝงตัวในระบบ และการโจมตีต่อเนื่องแบบเงียบ ๆ โดยที่องค์กรไม่รู้ตัว ✅ วิธีการโจมตีผ่าน OAuth ➡️ แฮกเกอร์ใช้บัญชีที่ถูกเจาะสร้างแอปภายในที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล ➡️ แอปได้รับการอนุมัติให้ทำงานอย่างถาวร ➡️ แม้เปลี่ยนรหัสผ่านหรือเปิด MFA แอปยังคงทำงานได้ ➡️ แอปสามารถเข้าถึงไฟล์ อีเมล และระบบสื่อสารภายใน ➡️ เป็นการโจมตีแบบ “Adversary-in-the-middle” ที่แฝงตัวในระบบ ✅ กรณีตัวอย่างจาก Proofpoint ➡️ พบการล็อกอินจาก IP ในไนจีเรียหลังเปลี่ยนรหัสผ่าน ➡️ แอปยังคงทำงานได้แม้บัญชีถูกเปลี่ยน ➡️ เป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎี ➡️ นักวิจัยสร้างเครื่องมือจำลองการโจมตีเพื่อศึกษารูปแบบ ✅ แนวทางป้องกันและคำแนะนำ ➡️ ต้องตรวจสอบสิทธิ์ของแอปภายในอย่างสม่ำเสมอ ➡️ ควรมีระบบตรวจสอบและแจ้งเตือนเมื่อมีการสร้างแอปใหม่ ➡️ การลบสิทธิ์ของแอปเป็นวิธีเดียวที่จะหยุดการเข้าถึง ➡️ แอปที่ได้รับสิทธิ์จะมี credential ที่ใช้ได้นานถึง 2 ปี https://www.techradar.com/pro/security/hackers-are-exploiting-oauth-loophole-for-persistent-access-and-resetting-your-password-wont-save-you
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Microsoft Publisher จะสิ้นสุดการสนับสนุนในเดือนตุลาคม 2026 — ปิดตำนานเครื่องมือออกแบบยุค 90” — เมื่อแอปสร้างใบปลิวและจดหมายข่าวที่เคยอยู่ในทุกบ้านกำลังจะอำลาอย่างถาวร

    Microsoft ประกาศว่าจะยุติการสนับสนุนแอป Publisher อย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2026 ซึ่งตรงกับวันหมดอายุของ Office LTSC 2021 โดยหลังจากวันนั้น Publisher จะถูกถอดออกจาก Microsoft 365 และไม่สามารถติดตั้งหรือเปิดไฟล์ .pub ได้อีกต่อไปในเวอร์ชันใหม่

    Publisher เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถออกแบบสิ่งพิมพ์ เช่น ใบปลิว, โบรชัวร์, จดหมายข่าว โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมระดับมืออาชีพอย่าง QuarkXPress หรือ Adobe InDesign ด้วยราคาที่เข้าถึงได้และการใช้งานง่าย ทำให้ Publisher กลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมในโรงเรียน, ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ใช้ตามบ้าน

    แม้จะไม่เคยครองใจนักออกแบบมืออาชีพ แต่ Publisher ก็มีบทบาทสำคัญในการ “ประชาธิปไตยด้านการออกแบบ” โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างสื่อสิ่งพิมพ์ได้ด้วยตัวเอง

    หลังจากการยุติการสนับสนุน Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้แปลงไฟล์ .pub เป็น PDF เพื่อเก็บไว้ดู และหากต้องการแก้ไข ให้เปิด PDF ใน Word — แม้ว่าการจัดวางอาจเพี้ยน โดยเฉพาะไฟล์ที่มีกราฟิกจำนวนมาก

    สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทางเลือกใหม่ Microsoft แนะนำให้ใช้ Word, PowerPoint หรือแอป Designer แทน ส่วนทางเลือกจากภายนอกก็มีเช่น:

    Canva — ใช้งานง่าย มีเทมเพลตหลากหลาย แต่ฟีเจอร์เต็มต้องสมัครสมาชิก
    LibreOffice Draw — ฟรีและโอเพ่นซอร์ส รองรับไฟล์ .pub ได้พอสมควร
    Affinity Publisher 2 — ซื้อครั้งเดียว ไม่มีรายเดือน เหมาะกับผู้ใช้จริงจัง

    Microsoft Publisher จะสิ้นสุดการสนับสนุนในเดือนตุลาคม 2026
    ตรงกับวันหมดอายุของ Office LTSC 2021

    Publisher จะถูกถอดออกจาก Microsoft 365
    ไม่สามารถติดตั้งหรือเปิดไฟล์ .pub ได้อีก

    Publisher เปิดตัวในปี 1991 และรวมอยู่ใน Office ตั้งแต่เวอร์ชัน 97
    เคยเป็นเครื่องมือออกแบบยอดนิยมสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    Microsoft แนะนำให้แปลงไฟล์ .pub เป็น PDF เพื่อเก็บไว้ดู
    และเปิด PDF ใน Word หากต้องการแก้ไข

    ทางเลือกใหม่จาก Microsoft ได้แก่ Word, PowerPoint และ Designer
    ใช้แทน Publisher สำหรับงานออกแบบทั่วไป

    ทางเลือกจากภายนอก ได้แก่ Canva, LibreOffice Draw, Affinity Publisher 2
    มีทั้งแบบฟรีและเสียเงินตามระดับความสามารถ

    https://www.slashgear.com/2001386/microsoft-ending-publisher-in-october-2026/
    📄 “Microsoft Publisher จะสิ้นสุดการสนับสนุนในเดือนตุลาคม 2026 — ปิดตำนานเครื่องมือออกแบบยุค 90” — เมื่อแอปสร้างใบปลิวและจดหมายข่าวที่เคยอยู่ในทุกบ้านกำลังจะอำลาอย่างถาวร Microsoft ประกาศว่าจะยุติการสนับสนุนแอป Publisher อย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม 2026 ซึ่งตรงกับวันหมดอายุของ Office LTSC 2021 โดยหลังจากวันนั้น Publisher จะถูกถอดออกจาก Microsoft 365 และไม่สามารถติดตั้งหรือเปิดไฟล์ .pub ได้อีกต่อไปในเวอร์ชันใหม่ Publisher เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถออกแบบสิ่งพิมพ์ เช่น ใบปลิว, โบรชัวร์, จดหมายข่าว โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมระดับมืออาชีพอย่าง QuarkXPress หรือ Adobe InDesign ด้วยราคาที่เข้าถึงได้และการใช้งานง่าย ทำให้ Publisher กลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมในโรงเรียน, ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ใช้ตามบ้าน แม้จะไม่เคยครองใจนักออกแบบมืออาชีพ แต่ Publisher ก็มีบทบาทสำคัญในการ “ประชาธิปไตยด้านการออกแบบ” โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างสื่อสิ่งพิมพ์ได้ด้วยตัวเอง หลังจากการยุติการสนับสนุน Microsoft แนะนำให้ผู้ใช้แปลงไฟล์ .pub เป็น PDF เพื่อเก็บไว้ดู และหากต้องการแก้ไข ให้เปิด PDF ใน Word — แม้ว่าการจัดวางอาจเพี้ยน โดยเฉพาะไฟล์ที่มีกราฟิกจำนวนมาก สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทางเลือกใหม่ Microsoft แนะนำให้ใช้ Word, PowerPoint หรือแอป Designer แทน ส่วนทางเลือกจากภายนอกก็มีเช่น: 📐 Canva — ใช้งานง่าย มีเทมเพลตหลากหลาย แต่ฟีเจอร์เต็มต้องสมัครสมาชิก 📐 LibreOffice Draw — ฟรีและโอเพ่นซอร์ส รองรับไฟล์ .pub ได้พอสมควร 📐 Affinity Publisher 2 — ซื้อครั้งเดียว ไม่มีรายเดือน เหมาะกับผู้ใช้จริงจัง ✅ Microsoft Publisher จะสิ้นสุดการสนับสนุนในเดือนตุลาคม 2026 ➡️ ตรงกับวันหมดอายุของ Office LTSC 2021 ✅ Publisher จะถูกถอดออกจาก Microsoft 365 ➡️ ไม่สามารถติดตั้งหรือเปิดไฟล์ .pub ได้อีก ✅ Publisher เปิดตัวในปี 1991 และรวมอยู่ใน Office ตั้งแต่เวอร์ชัน 97 ➡️ เคยเป็นเครื่องมือออกแบบยอดนิยมสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ✅ Microsoft แนะนำให้แปลงไฟล์ .pub เป็น PDF เพื่อเก็บไว้ดู ➡️ และเปิด PDF ใน Word หากต้องการแก้ไข ✅ ทางเลือกใหม่จาก Microsoft ได้แก่ Word, PowerPoint และ Designer ➡️ ใช้แทน Publisher สำหรับงานออกแบบทั่วไป ✅ ทางเลือกจากภายนอก ได้แก่ Canva, LibreOffice Draw, Affinity Publisher 2 ➡️ มีทั้งแบบฟรีและเสียเงินตามระดับความสามารถ https://www.slashgear.com/2001386/microsoft-ending-publisher-in-october-2026/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Microsoft Will Be Ending Support For This Popular Software In October 2026 - SlashGear
    Microsoft Publisher will reach end-of-support in October 2026 -- Microsoft will drop updates and remove it from Microsoft 365 apps.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ProtonMail จัดการอีเมลข่าวสารได้ดีกว่า Gmail — สะดวกกว่า ลึกกว่า และเป็นส่วนตัวมากกว่า” — เมื่อการจัดการ newsletter ไม่ใช่แค่การกด unsubscribe แต่คือการควบคุมข้อมูลของคุณ

    บทความจาก It’s FOSS โดย Abhishek เล่าประสบการณ์ตรงจากการใช้ ProtonMail มานานกว่า 5 ปี โดยเปรียบเทียบฟีเจอร์จัดการอีเมลข่าวสาร (newsletter) ระหว่าง ProtonMail กับ Gmail ซึ่งแม้ทั้งสองจะมีฟีเจอร์คล้ายกัน แต่ ProtonMail กลับทำได้ดีกว่าในหลายด้าน

    ใน Gmail ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ “Manage subscriptions” เพื่อดูรายชื่อผู้ส่งและกด unsubscribe ได้ แต่ข้อมูลที่แสดงค่อนข้างจำกัด เช่น จำนวนอีเมลที่ได้รับโดยประมาณ และไม่มีตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับจัดการอีเมลเก่า

    ProtonMail นำเสนอฟีเจอร์เดียวกันในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายกว่า และแสดงข้อมูลละเอียดกว่า เช่น จำนวนอีเมลที่ได้รับในเดือนล่าสุด และจำนวนที่ยังไม่ได้อ่าน พร้อมตัวเลือกจัดการอีเมลเก่า เช่น ย้ายไปถังขยะ, เก็บถาวร หรือทำให้เป็น “อ่านแล้ว” ทั้งหมด

    ที่สำคัญคือ ProtonMail ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะ “บล็อก” ผู้ส่งหรือแค่ “เลิกติดตาม” ซึ่งต่างกันมาก — การบล็อกจะปิดกั้นการสื่อสารทั้งหมดจากอีเมลนั้น ในขณะที่การเลิกติดตามจะหยุดเฉพาะอีเมลข่าวสารเท่านั้น

    ProtonMail ยังมีระบบ “จัดการแบบอัตโนมัติ” เช่น การย้ายอีเมลไปยังโฟลเดอร์เฉพาะ และการจัดเรียงตามความถี่หรือการอ่าน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเก็บหรือเลิกติดตามอีเมลใด

    ProtonMail มีฟีเจอร์จัดการ newsletter ที่เข้าถึงง่ายกว่า Gmail
    อยู่ในเมนู “Views” โดยไม่ต้องคลิก “More” เหมือน Gmail

    แสดงข้อมูลละเอียด เช่น จำนวนอีเมลที่ได้รับและยังไม่ได้อ่าน
    ช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลิกติดตามหรือไม่

    มีตัวเลือกจัดการอีเมลเก่าเมื่อกด unsubscribe
    เช่น ย้ายไปถังขยะ, เก็บถาวร หรือทำให้เป็น “อ่านแล้ว”

    แยกการ “เลิกติดตาม” กับ “บล็อก” ผู้ส่งอย่างชัดเจน
    บล็อกจะปิดกั้นการสื่อสารทั้งหมดจากอีเมลนั้น

    สามารถย้ายอีเมลไปยังโฟลเดอร์เฉพาะและใช้กับอีเมลในอนาคต
    คลิก “Apply to future messages” เพื่อจัดการอัตโนมัติ

    มีระบบจัดเรียง newsletter ตามความถี่และการอ่าน
    เช่น มากที่สุด/น้อยที่สุด, อ่านล่าสุด, ได้รับล่าสุด

    ฟีเจอร์นี้มีในเวอร์ชันฟรีของ ProtonMail ด้วย
    ไม่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อใช้งานพื้นฐาน

    https://news.itsfoss.com/protonmail-gmail-better-newsletter/
    📩 “ProtonMail จัดการอีเมลข่าวสารได้ดีกว่า Gmail — สะดวกกว่า ลึกกว่า และเป็นส่วนตัวมากกว่า” — เมื่อการจัดการ newsletter ไม่ใช่แค่การกด unsubscribe แต่คือการควบคุมข้อมูลของคุณ บทความจาก It’s FOSS โดย Abhishek เล่าประสบการณ์ตรงจากการใช้ ProtonMail มานานกว่า 5 ปี โดยเปรียบเทียบฟีเจอร์จัดการอีเมลข่าวสาร (newsletter) ระหว่าง ProtonMail กับ Gmail ซึ่งแม้ทั้งสองจะมีฟีเจอร์คล้ายกัน แต่ ProtonMail กลับทำได้ดีกว่าในหลายด้าน ใน Gmail ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ “Manage subscriptions” เพื่อดูรายชื่อผู้ส่งและกด unsubscribe ได้ แต่ข้อมูลที่แสดงค่อนข้างจำกัด เช่น จำนวนอีเมลที่ได้รับโดยประมาณ และไม่มีตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับจัดการอีเมลเก่า ProtonMail นำเสนอฟีเจอร์เดียวกันในตำแหน่งที่เข้าถึงง่ายกว่า และแสดงข้อมูลละเอียดกว่า เช่น จำนวนอีเมลที่ได้รับในเดือนล่าสุด และจำนวนที่ยังไม่ได้อ่าน พร้อมตัวเลือกจัดการอีเมลเก่า เช่น ย้ายไปถังขยะ, เก็บถาวร หรือทำให้เป็น “อ่านแล้ว” ทั้งหมด ที่สำคัญคือ ProtonMail ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะ “บล็อก” ผู้ส่งหรือแค่ “เลิกติดตาม” ซึ่งต่างกันมาก — การบล็อกจะปิดกั้นการสื่อสารทั้งหมดจากอีเมลนั้น ในขณะที่การเลิกติดตามจะหยุดเฉพาะอีเมลข่าวสารเท่านั้น ProtonMail ยังมีระบบ “จัดการแบบอัตโนมัติ” เช่น การย้ายอีเมลไปยังโฟลเดอร์เฉพาะ และการจัดเรียงตามความถี่หรือการอ่าน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเก็บหรือเลิกติดตามอีเมลใด ✅ ProtonMail มีฟีเจอร์จัดการ newsletter ที่เข้าถึงง่ายกว่า Gmail ➡️ อยู่ในเมนู “Views” โดยไม่ต้องคลิก “More” เหมือน Gmail ✅ แสดงข้อมูลละเอียด เช่น จำนวนอีเมลที่ได้รับและยังไม่ได้อ่าน ➡️ ช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะเลิกติดตามหรือไม่ ✅ มีตัวเลือกจัดการอีเมลเก่าเมื่อกด unsubscribe ➡️ เช่น ย้ายไปถังขยะ, เก็บถาวร หรือทำให้เป็น “อ่านแล้ว” ✅ แยกการ “เลิกติดตาม” กับ “บล็อก” ผู้ส่งอย่างชัดเจน ➡️ บล็อกจะปิดกั้นการสื่อสารทั้งหมดจากอีเมลนั้น ✅ สามารถย้ายอีเมลไปยังโฟลเดอร์เฉพาะและใช้กับอีเมลในอนาคต ➡️ คลิก “Apply to future messages” เพื่อจัดการอัตโนมัติ ✅ มีระบบจัดเรียง newsletter ตามความถี่และการอ่าน ➡️ เช่น มากที่สุด/น้อยที่สุด, อ่านล่าสุด, ได้รับล่าสุด ✅ ฟีเจอร์นี้มีในเวอร์ชันฟรีของ ProtonMail ด้วย ➡️ ไม่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อใช้งานพื้นฐาน https://news.itsfoss.com/protonmail-gmail-better-newsletter/
    NEWS.ITSFOSS.COM
    That One (of the several) Feature ProtonMail Does Better Than Gmail
    The newsletters can be a mess to manage. ProtonMail gives you better features than Gmail to manage your newsletter subscriptions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Cerabyte เปิดตัวสื่อบันทึกข้อมูลแบบเซรามิกบนกระจก: เก็บรัฐธรรมนูญสหรัฐไว้ในวัสดุที่อยู่เหนือกาลเวลา"

    ในงาน OCP Global Summit ปี 2025 ที่ซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย บริษัท Cerabyte ได้เปิดตัวเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่ใช้วัสดุ “เซรามิกบนกระจก” ซึ่งมีความทนทานสูงและไม่ต้องใช้พลังงานในการเก็บรักษา โดยแจกตัวอย่างสื่อบันทึกที่บรรจุสำเนารัฐธรรมนูญสหรัฐให้กับผู้เข้าร่วมงานในรูปแบบกรอบโชว์สุดล้ำ

    เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการเก็บข้อมูลระยะยาวในยุคที่ข้อมูลมีปริมาณมหาศาลและต้องการความมั่นคงสูง โดย Cerabyte ชูจุดเด่นว่า “ไม่ต้องบำรุงรักษา ไม่ต้องใช้พลังงาน และไม่ต้องย้ายข้อมูลซ้ำ” ซึ่งต่างจากระบบเก็บข้อมูลทั่วไปที่ต้องเปลี่ยนสื่อทุกไม่กี่ปี

    ที่น่าทึ่งคือ ตัวอย่างสื่อบันทึกสามารถอ่านข้อมูลได้ด้วยสมาร์ทโฟนทั่วไป แสดงให้เห็นถึงความเข้าถึงง่ายของเทคโนโลยีนี้ แม้จะยังอยู่ในขั้นต้น แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การเก็บข้อมูลแบบถาวรที่ยั่งยืน

    เทคโนโลยีเซรามิกบนกระจกของ Cerabyte
    ใช้วัสดุเซรามิกบนแผ่นกระจกเพื่อบันทึกข้อมูล
    ไม่ต้องใช้พลังงานหรือการบำรุงรักษา
    ออกแบบมาเพื่อการเก็บข้อมูลถาวรและลดต้นทุนระยะยาว

    การเปิดตัวในงาน OCP Summit 2025
    แจกตัวอย่างที่บรรจุสำเนารัฐธรรมนูญสหรัฐในกรอบโชว์
    แสดงการอ่านข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนแบบเรียลไทม์
    เป็นส่วนหนึ่งของ Innovation Village ที่เน้นเทคโนโลยีแห่งอนาคต

    จุดเด่นของเทคโนโลยี
    ทนทานต่อเวลาและสภาพแวดล้อม
    ลดการปล่อยคาร์บอนจากการเก็บข้อมูล
    เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เช่น hyperscalers และสถาบันวิจัย

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา ไม่พร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ
    ความจุยังจำกัดในระดับกิกะไบต์
    ต้องพิสูจน์ความสามารถในการผลิตในระดับอุตสาหกรรม

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:
    ความสำคัญของการเก็บข้อมูลถาวร
    ข้อมูลวิจัย, ประวัติศาสตร์, และหลักฐานทางกฎหมายต้องการสื่อที่มั่นคง
    สื่อแบบเทป, ฮาร์ดดิสก์ และ SSD มีอายุการใช้งานจำกัด

    แนวโน้มการพัฒนาในอนาคต
    การรวมเทคโนโลยีเซรามิกกับระบบ AI เพื่อจัดการข้อมูลถาวร
    การใช้วัสดุใหม่ เช่น sapphire, diamond-like carbon และ optical glass

    https://www.techradar.com/pro/own-a-piece-of-storage-history-as-cerabyte-gives-way-framed-ceramic-on-glass-media-samples-containing-copies-of-the-us-constitution
    📀 "Cerabyte เปิดตัวสื่อบันทึกข้อมูลแบบเซรามิกบนกระจก: เก็บรัฐธรรมนูญสหรัฐไว้ในวัสดุที่อยู่เหนือกาลเวลา" ในงาน OCP Global Summit ปี 2025 ที่ซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย บริษัท Cerabyte ได้เปิดตัวเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่ใช้วัสดุ “เซรามิกบนกระจก” ซึ่งมีความทนทานสูงและไม่ต้องใช้พลังงานในการเก็บรักษา โดยแจกตัวอย่างสื่อบันทึกที่บรรจุสำเนารัฐธรรมนูญสหรัฐให้กับผู้เข้าร่วมงานในรูปแบบกรอบโชว์สุดล้ำ เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการเก็บข้อมูลระยะยาวในยุคที่ข้อมูลมีปริมาณมหาศาลและต้องการความมั่นคงสูง โดย Cerabyte ชูจุดเด่นว่า “ไม่ต้องบำรุงรักษา ไม่ต้องใช้พลังงาน และไม่ต้องย้ายข้อมูลซ้ำ” ซึ่งต่างจากระบบเก็บข้อมูลทั่วไปที่ต้องเปลี่ยนสื่อทุกไม่กี่ปี ที่น่าทึ่งคือ ตัวอย่างสื่อบันทึกสามารถอ่านข้อมูลได้ด้วยสมาร์ทโฟนทั่วไป แสดงให้เห็นถึงความเข้าถึงง่ายของเทคโนโลยีนี้ แม้จะยังอยู่ในขั้นต้น แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การเก็บข้อมูลแบบถาวรที่ยั่งยืน ✅ เทคโนโลยีเซรามิกบนกระจกของ Cerabyte ➡️ ใช้วัสดุเซรามิกบนแผ่นกระจกเพื่อบันทึกข้อมูล ➡️ ไม่ต้องใช้พลังงานหรือการบำรุงรักษา ➡️ ออกแบบมาเพื่อการเก็บข้อมูลถาวรและลดต้นทุนระยะยาว ✅ การเปิดตัวในงาน OCP Summit 2025 ➡️ แจกตัวอย่างที่บรรจุสำเนารัฐธรรมนูญสหรัฐในกรอบโชว์ ➡️ แสดงการอ่านข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนแบบเรียลไทม์ ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของ Innovation Village ที่เน้นเทคโนโลยีแห่งอนาคต ✅ จุดเด่นของเทคโนโลยี ➡️ ทนทานต่อเวลาและสภาพแวดล้อม ➡️ ลดการปล่อยคาร์บอนจากการเก็บข้อมูล ➡️ เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เช่น hyperscalers และสถาบันวิจัย ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา ไม่พร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ ⛔ ความจุยังจำกัดในระดับกิกะไบต์ ⛔ ต้องพิสูจน์ความสามารถในการผลิตในระดับอุตสาหกรรม 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ ความสำคัญของการเก็บข้อมูลถาวร ➡️ ข้อมูลวิจัย, ประวัติศาสตร์, และหลักฐานทางกฎหมายต้องการสื่อที่มั่นคง ➡️ สื่อแบบเทป, ฮาร์ดดิสก์ และ SSD มีอายุการใช้งานจำกัด ✅ แนวโน้มการพัฒนาในอนาคต ➡️ การรวมเทคโนโลยีเซรามิกกับระบบ AI เพื่อจัดการข้อมูลถาวร ➡️ การใช้วัสดุใหม่ เช่น sapphire, diamond-like carbon และ optical glass https://www.techradar.com/pro/own-a-piece-of-storage-history-as-cerabyte-gives-way-framed-ceramic-on-glass-media-samples-containing-copies-of-the-us-constitution
    WWW.TECHRADAR.COM
    This framed piece of glass could outlast your hard drives
    Gigabyte-scale prototypes signal early progress toward scalable, glass-based storage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เตือนภัย! ซิลิโคน SGT-4 กลิ่นเปรี้ยว กัดกร่อนทองแดง ติดแน่นจนถอดไม่ออก"

    ในโลกของการระบายความร้อนซีพียูที่ต้องใช้ thermal paste หรือซิลิโคนเพื่อถ่ายเทความร้อนจากชิปไปยังฮีตซิงก์ มีผลิตภัณฑ์หนึ่งที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนัก—SGT-4 TIM จากเกาหลีใต้ ซึ่งแม้จะได้รับรีวิวดีในร้านค้าออนไลน์ แต่กลับมีคุณสมบัติทางเคมีที่เป็นอันตรายต่ออุปกรณ์อย่างรุนแรง

    จากการสืบสวนโดย Igor Wallossek พบว่า SGT-4 ปล่อยไอกรดที่มีกลิ่นคล้ายน้ำส้มสายชู ซึ่งสามารถกัดกร่อนทองแดง ทำให้เกิดรอย “pitting” หรือหลุมเล็ก ๆ บนพื้นผิว และที่แย่กว่านั้นคือมันทำให้ฮีตซิงก์ติดแน่นกับซีพียูจนถอดออกไม่ได้

    ซิลิโคนนี้ใช้สาร RTV ที่มีการบ่มด้วยกรดอะซิติก ซึ่งเมื่อสัมผัสความชื้นจะปล่อยกรดออกมา ทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีกับโลหะ โดยเฉพาะทองแดงที่ใช้ในฮีตซิงก์และฝาซีพียู ส่งผลให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนลดลงอย่างมาก

    แม้ผู้ผลิตจะอ้างว่าผลิตภัณฑ์ผ่านมาตรฐาน RoHS และ REACH แต่การกัดกร่อนโลหะและการปล่อยสารที่มีฤทธิ์ทางเคมีถือเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม

    คุณสมบัติของ SGT-4 TIM
    เป็น thermal paste ราคาถูกจากเกาหลีใต้
    ได้รับรีวิวดีในร้านค้าออนไลน์
    ใช้สาร RTV ที่ปล่อยกรดอะซิติกเมื่อสัมผัสความชื้น

    ผลกระทบต่ออุปกรณ์
    กัดกร่อนทองแดง ทำให้เกิด pitting และรอยด่าง
    ทำให้ฮีตซิงก์ติดแน่นกับซีพียูจนถอดออกไม่ได้
    ลดประสิทธิภาพการระบายความร้อนจากการสร้างช่องว่างใหม่แทนที่จะเติมเต็ม

    คำเตือนจากการใช้งาน
    ไอกรดที่ปล่อยออกมามีกลิ่นคล้ายน้ำส้มสายชู
    อาจทำให้ซีพียูเสียหายถาวรจากการกัดกร่อน
    การถอดฮีตซิงก์อาจทำให้ซีพียูหลุดออกจากซ็อกเก็ตอย่างรุนแรง

    การตรวจสอบทางเคมี
    พบสาร methyltriacetoxysilane ซึ่งเป็นตัวบ่มที่ปล่อยกรด
    ไม่ใช่ซิลิโคนมาตรฐานแบบ PMDS ที่ใช้ทั่วไป
    การวิเคราะห์จากผู้ใช้และห้องแล็บยืนยันผลกระทบทางเคมี

    ปฏิกิริยาของผู้ผลิต
    ปฏิเสธข้อกล่าวหาและตอบโต้ด้วยการดูหมิ่นผู้วิจัย
    ไม่เปิดเผยส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์
    อ้างมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่ไม่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาเคมี

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:
    ความเข้าใจเรื่อง RTV silicone
    RTV (Room Temperature Vulcanizing) เป็นซิลิโคนที่บ่มตัวเองเมื่อสัมผัสอากาศ
    มีหลายชนิด เช่น แบบบ่มด้วยกรด, แบบบ่มด้วยแอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลต่อความปลอดภัยต่างกัน

    วิธีเลือก thermal paste อย่างปลอดภัย
    ควรเลือกแบรนด์ที่มีการทดสอบจากแหล่งที่เชื่อถือได้
    หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ไม่เปิดเผยส่วนประกอบ
    ตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้จริงในชุมชนฮาร์ดแวร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-paste/stinky-thermal-paste-emits-acidic-vapors-corrodes-copper-glues-heatsinks-to-processors-and-permanently-damages-coolers-sgt-4-tim-is-a-chemically-reactive-blend-finds-investigation
    🧊 "เตือนภัย! ซิลิโคน SGT-4 กลิ่นเปรี้ยว กัดกร่อนทองแดง ติดแน่นจนถอดไม่ออก" ในโลกของการระบายความร้อนซีพียูที่ต้องใช้ thermal paste หรือซิลิโคนเพื่อถ่ายเทความร้อนจากชิปไปยังฮีตซิงก์ มีผลิตภัณฑ์หนึ่งที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนัก—SGT-4 TIM จากเกาหลีใต้ ซึ่งแม้จะได้รับรีวิวดีในร้านค้าออนไลน์ แต่กลับมีคุณสมบัติทางเคมีที่เป็นอันตรายต่ออุปกรณ์อย่างรุนแรง จากการสืบสวนโดย Igor Wallossek พบว่า SGT-4 ปล่อยไอกรดที่มีกลิ่นคล้ายน้ำส้มสายชู ซึ่งสามารถกัดกร่อนทองแดง ทำให้เกิดรอย “pitting” หรือหลุมเล็ก ๆ บนพื้นผิว และที่แย่กว่านั้นคือมันทำให้ฮีตซิงก์ติดแน่นกับซีพียูจนถอดออกไม่ได้ ซิลิโคนนี้ใช้สาร RTV ที่มีการบ่มด้วยกรดอะซิติก ซึ่งเมื่อสัมผัสความชื้นจะปล่อยกรดออกมา ทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีกับโลหะ โดยเฉพาะทองแดงที่ใช้ในฮีตซิงก์และฝาซีพียู ส่งผลให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนลดลงอย่างมาก แม้ผู้ผลิตจะอ้างว่าผลิตภัณฑ์ผ่านมาตรฐาน RoHS และ REACH แต่การกัดกร่อนโลหะและการปล่อยสารที่มีฤทธิ์ทางเคมีถือเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม ✅ คุณสมบัติของ SGT-4 TIM ➡️ เป็น thermal paste ราคาถูกจากเกาหลีใต้ ➡️ ได้รับรีวิวดีในร้านค้าออนไลน์ ➡️ ใช้สาร RTV ที่ปล่อยกรดอะซิติกเมื่อสัมผัสความชื้น ✅ ผลกระทบต่ออุปกรณ์ ➡️ กัดกร่อนทองแดง ทำให้เกิด pitting และรอยด่าง ➡️ ทำให้ฮีตซิงก์ติดแน่นกับซีพียูจนถอดออกไม่ได้ ➡️ ลดประสิทธิภาพการระบายความร้อนจากการสร้างช่องว่างใหม่แทนที่จะเติมเต็ม ‼️ คำเตือนจากการใช้งาน ⛔ ไอกรดที่ปล่อยออกมามีกลิ่นคล้ายน้ำส้มสายชู ⛔ อาจทำให้ซีพียูเสียหายถาวรจากการกัดกร่อน ⛔ การถอดฮีตซิงก์อาจทำให้ซีพียูหลุดออกจากซ็อกเก็ตอย่างรุนแรง ✅ การตรวจสอบทางเคมี ➡️ พบสาร methyltriacetoxysilane ซึ่งเป็นตัวบ่มที่ปล่อยกรด ➡️ ไม่ใช่ซิลิโคนมาตรฐานแบบ PMDS ที่ใช้ทั่วไป ➡️ การวิเคราะห์จากผู้ใช้และห้องแล็บยืนยันผลกระทบทางเคมี ‼️ ปฏิกิริยาของผู้ผลิต ⛔ ปฏิเสธข้อกล่าวหาและตอบโต้ด้วยการดูหมิ่นผู้วิจัย ⛔ ไม่เปิดเผยส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ ⛔ อ้างมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่ไม่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาเคมี 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ ความเข้าใจเรื่อง RTV silicone ➡️ RTV (Room Temperature Vulcanizing) เป็นซิลิโคนที่บ่มตัวเองเมื่อสัมผัสอากาศ ➡️ มีหลายชนิด เช่น แบบบ่มด้วยกรด, แบบบ่มด้วยแอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลต่อความปลอดภัยต่างกัน ✅ วิธีเลือก thermal paste อย่างปลอดภัย ➡️ ควรเลือกแบรนด์ที่มีการทดสอบจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ➡️ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ไม่เปิดเผยส่วนประกอบ ➡️ ตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้จริงในชุมชนฮาร์ดแวร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-paste/stinky-thermal-paste-emits-acidic-vapors-corrodes-copper-glues-heatsinks-to-processors-and-permanently-damages-coolers-sgt-4-tim-is-a-chemically-reactive-blend-finds-investigation
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อำลา Yang Chen-Ning: นักฟิสิกส์ผู้เปลี่ยนโลกและสร้างสะพานวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ"

    Yang Chen-Ning นักฟิสิกส์ระดับโลกและผู้ได้รับรางวัลโนเบลคนแรกของจีน เสียชีวิตอย่างสงบในกรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 103 ปี เขาเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในวงการฟิสิกส์ระดับโลกและการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของจีน

    Yang ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกับ Tsung-Dao Lee ในปี 1957 จากทฤษฎี “Parity Non-Conservation” ซึ่งพลิกโฉมความเข้าใจเกี่ยวกับแรงพื้นฐานในธรรมชาติ เขายังเป็นผู้ร่วมพัฒนา “Yang-Mills Theory” ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญของ Standard Model ในฟิสิกส์อนุภาค

    ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยการเดินทางทางวิชาการที่ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่เรียนที่มหาวิทยาลัยชิคาโก ไปจนถึงเป็นศาสตราจารย์ที่ Princeton และ SUNY Stony Brook ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University ในจีน ซึ่งเขาอุทิศตนเพื่อพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์และสร้างโอกาสให้กับนักวิจัยรุ่นใหม่

    Yang ไม่เพียงเป็นนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นผู้เชื่อมโยงโลกวิทยาศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ผ่านการแลกเปลี่ยนนักวิจัยและการให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลจีนในโครงการวิทยาศาสตร์ระดับชาติ

    ประวัติชีวิตและการศึกษา
    เกิดที่ Hefei, Anhui ในปี 1922
    เรียนที่ National Southwestern Associated University และ Tsinghua University
    ได้รับปริญญาเอกจาก University of Chicago ในปี 1948

    เส้นทางอาชีพในต่างประเทศ
    เป็นสมาชิกถาวรของ Institute for Advanced Study ที่ Princeton
    ดำรงตำแหน่ง Albert Einstein Professor ที่ SUNY Stony Brook จนถึงปี 1999
    เป็น visiting professor ที่ Chinese University of Hong Kong ตั้งแต่ปี 1986

    ผลงานทางวิทยาศาสตร์
    ร่วมกับ Tsung-Dao Lee เสนอทฤษฎี Parity Non-Conservation ใน weak interaction
    พัฒนา Yang-Mills Theory ซึ่งเป็นรากฐานของ Standard Model
    ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20

    บทบาทในจีน
    กลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University และเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของ Institute for Advanced Study
    เสนอแนวทางการฟื้นฟูงานวิจัยพื้นฐานให้รัฐบาลจีน
    สนับสนุนทุนการศึกษาให้นักวิจัยจีนไปศึกษาต่อในสหรัฐฯ
    มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานโยบายวิทยาศาสตร์ระดับชาติ

    ความสูญเสียของวงการวิทยาศาสตร์
    การจากไปของ Yang ถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในระดับโลกและระดับชาติ
    ทิ้งไว้เพียงผลงานและแรงบันดาลใจให้กับนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่

    มรดกทางวิชาการ
    ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 20 แห่งทั่วโลก
    เป็นสมาชิกต่างชาติของสถาบันวิทยาศาสตร์มากกว่า 10 แห่ง
    ผลงานของเขายังคงเป็นรากฐานของฟิสิกส์ยุคใหม่

    https://www.chinadaily.com.cn/a/202510/18/WS68f3170ea310f735438b5bf2.html
    🪦 "อำลา Yang Chen-Ning: นักฟิสิกส์ผู้เปลี่ยนโลกและสร้างสะพานวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศ" Yang Chen-Ning นักฟิสิกส์ระดับโลกและผู้ได้รับรางวัลโนเบลคนแรกของจีน เสียชีวิตอย่างสงบในกรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 103 ปี เขาเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในวงการฟิสิกส์ระดับโลกและการพัฒนาวิทยาศาสตร์ของจีน Yang ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกับ Tsung-Dao Lee ในปี 1957 จากทฤษฎี “Parity Non-Conservation” ซึ่งพลิกโฉมความเข้าใจเกี่ยวกับแรงพื้นฐานในธรรมชาติ เขายังเป็นผู้ร่วมพัฒนา “Yang-Mills Theory” ซึ่งกลายเป็นรากฐานสำคัญของ Standard Model ในฟิสิกส์อนุภาค ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยการเดินทางทางวิชาการที่ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่เรียนที่มหาวิทยาลัยชิคาโก ไปจนถึงเป็นศาสตราจารย์ที่ Princeton และ SUNY Stony Brook ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University ในจีน ซึ่งเขาอุทิศตนเพื่อพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์และสร้างโอกาสให้กับนักวิจัยรุ่นใหม่ Yang ไม่เพียงเป็นนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่ แต่ยังเป็นผู้เชื่อมโยงโลกวิทยาศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ผ่านการแลกเปลี่ยนนักวิจัยและการให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลจีนในโครงการวิทยาศาสตร์ระดับชาติ ✅ ประวัติชีวิตและการศึกษา ➡️ เกิดที่ Hefei, Anhui ในปี 1922 ➡️ เรียนที่ National Southwestern Associated University และ Tsinghua University ➡️ ได้รับปริญญาเอกจาก University of Chicago ในปี 1948 ✅ เส้นทางอาชีพในต่างประเทศ ➡️ เป็นสมาชิกถาวรของ Institute for Advanced Study ที่ Princeton ➡️ ดำรงตำแหน่ง Albert Einstein Professor ที่ SUNY Stony Brook จนถึงปี 1999 ➡️ เป็น visiting professor ที่ Chinese University of Hong Kong ตั้งแต่ปี 1986 ✅ ผลงานทางวิทยาศาสตร์ ➡️ ร่วมกับ Tsung-Dao Lee เสนอทฤษฎี Parity Non-Conservation ใน weak interaction ➡️ พัฒนา Yang-Mills Theory ซึ่งเป็นรากฐานของ Standard Model ➡️ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20 ✅ บทบาทในจีน ➡️ กลับมารับตำแหน่งที่ Tsinghua University และเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของ Institute for Advanced Study ➡️ เสนอแนวทางการฟื้นฟูงานวิจัยพื้นฐานให้รัฐบาลจีน ➡️ สนับสนุนทุนการศึกษาให้นักวิจัยจีนไปศึกษาต่อในสหรัฐฯ ➡️ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานโยบายวิทยาศาสตร์ระดับชาติ ‼️ ความสูญเสียของวงการวิทยาศาสตร์ ⛔ การจากไปของ Yang ถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญที่มีบทบาททั้งในระดับโลกและระดับชาติ ⛔ ทิ้งไว้เพียงผลงานและแรงบันดาลใจให้กับนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ✅ มรดกทางวิชาการ ➡️ ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำกว่า 20 แห่งทั่วโลก ➡️ เป็นสมาชิกต่างชาติของสถาบันวิทยาศาสตร์มากกว่า 10 แห่ง ➡️ ผลงานของเขายังคงเป็นรากฐานของฟิสิกส์ยุคใหม่ https://www.chinadaily.com.cn/a/202510/18/WS68f3170ea310f735438b5bf2.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ONLYOFFICE Docs 9.1 มาแล้ว!” — ปรับปรุงการทำงานร่วมกัน เพิ่มฟีเจอร์ Redact PDF และประสิทธิภาพสูตรคำนวณ

    หลังจากเปิดตัวเวอร์ชัน 9.0 ที่มาพร้อมอินเทอร์เฟซใหม่และฟีเจอร์ AI ล่าสุด ทีมพัฒนา ONLYOFFICE ได้ปล่อยเวอร์ชัน 9.1 ซึ่งเป็นการอัปเดตจุดแรกในซีรีส์ 9.x โดยเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพ ความสามารถในการทำงานร่วมกัน และเครื่องมือใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้สายเอกสารและองค์กร

    ฟีเจอร์เด่นในเวอร์ชันนี้คือเครื่องมือ “Redact” สำหรับ PDF ที่ช่วยลบข้อมูลสำคัญอย่างถาวร พร้อมตัวเลือก “Find & Redact” สำหรับเอกสารขนาดใหญ่ และการ Redact แบบทั้งหน้า/ช่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือ annotation ใหม่ เช่น วาดรูปทรงต่าง ๆ ลงบนเอกสาร

    ในด้านการแก้ไขเอกสารทั่วไป:

    การจัดการคอมเมนต์สามารถกรองระหว่าง “Open” และ “Resolved” ได้
    การแก้ไขกราฟรองรับการระเบิด (Explosion) สำหรับกราฟวงกลม
    การจัดการตารางมีแท็บ “Table Design” ใหม่
    Pivot Table รองรับการกรองตามวันที่
    สูตร LOOKUP, VLOOKUP, HLOOKUP และ XLOOKUP ทำงานเร็วขึ้นและใช้หน่วยความจำดีขึ้น
    การตั้งชื่อชีตและการใส่สูตรมีการเน้น argument เพื่อความเข้าใจง่าย

    ใน Presentation Editor มีแท็บ Slide Master ใหม่ ส่วน Document Editor รองรับ section break ใน block content control ทุกระดับ

    ด้านการรองรับไฟล์:
    เปิดดูภาพ HEIF และเอกสาร HWPML ได้
    แปลง PDF เป็น TXT และ PPTX เป็น TXT ได้โดยตรง
    รองรับสูตรคณิตศาสตร์ในรูปแบบ MathML

    เวอร์ชันเซิร์ฟเวอร์ยังมี Admin Panel ใหม่สำหรับดูสถานะและการตั้งค่าระบบ พร้อมการปรับปรุง localization สำหรับภาษาจีนดั้งเดิมและเซอร์เบีย

    ข้อมูลในข่าว
    ONLYOFFICE Docs 9.1 เป็นอัปเดตจุดแรกในซีรีส์ 9.x
    เพิ่มเครื่องมือ Redact สำหรับ PDF พร้อม Find & Redact และ Redact แบบช่วงหน้า
    เพิ่ม annotation tools เช่น Rectangle, Circle, Arrow, Connected Lines
    กรองคอมเมนต์ระหว่าง “Open” และ “Resolved” ได้
    รองรับ Explosion ในกราฟวงกลม 2D
    LOOKUP, VLOOKUP, HLOOKUP, XLOOKUP ทำงานเร็วขึ้น
    มีแท็บ “Table Design” สำหรับจัดการตาราง
    Pivot Table รองรับการกรองตามวันที่
    ตั้งชื่อชีตได้ทันที และสูตรมีการเน้น argument
    Presentation Editor มีแท็บ Slide Master ใหม่
    Document Editor รองรับ section break ใน block content control
    รองรับ HEIF, HWPML, PDF→TXT, PPTX→TXT, MathML
    เวอร์ชันเซิร์ฟเวอร์มี Admin Panel ใหม่
    ปรับปรุง localization สำหรับภาษาจีนดั้งเดิมและเซอร์เบีย

    https://news.itsfoss.com/onlyoffice-docs-9-1-release/
    📝 “ONLYOFFICE Docs 9.1 มาแล้ว!” — ปรับปรุงการทำงานร่วมกัน เพิ่มฟีเจอร์ Redact PDF และประสิทธิภาพสูตรคำนวณ หลังจากเปิดตัวเวอร์ชัน 9.0 ที่มาพร้อมอินเทอร์เฟซใหม่และฟีเจอร์ AI ล่าสุด ทีมพัฒนา ONLYOFFICE ได้ปล่อยเวอร์ชัน 9.1 ซึ่งเป็นการอัปเดตจุดแรกในซีรีส์ 9.x โดยเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพ ความสามารถในการทำงานร่วมกัน และเครื่องมือใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้สายเอกสารและองค์กร ฟีเจอร์เด่นในเวอร์ชันนี้คือเครื่องมือ “Redact” สำหรับ PDF ที่ช่วยลบข้อมูลสำคัญอย่างถาวร พร้อมตัวเลือก “Find & Redact” สำหรับเอกสารขนาดใหญ่ และการ Redact แบบทั้งหน้า/ช่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือ annotation ใหม่ เช่น วาดรูปทรงต่าง ๆ ลงบนเอกสาร ในด้านการแก้ไขเอกสารทั่วไป: 📝 การจัดการคอมเมนต์สามารถกรองระหว่าง “Open” และ “Resolved” ได้ 📝 การแก้ไขกราฟรองรับการระเบิด (Explosion) สำหรับกราฟวงกลม 📝 การจัดการตารางมีแท็บ “Table Design” ใหม่ 📝 Pivot Table รองรับการกรองตามวันที่ 📝 สูตร LOOKUP, VLOOKUP, HLOOKUP และ XLOOKUP ทำงานเร็วขึ้นและใช้หน่วยความจำดีขึ้น 📝 การตั้งชื่อชีตและการใส่สูตรมีการเน้น argument เพื่อความเข้าใจง่าย ใน Presentation Editor มีแท็บ Slide Master ใหม่ ส่วน Document Editor รองรับ section break ใน block content control ทุกระดับ ด้านการรองรับไฟล์: 📝 เปิดดูภาพ HEIF และเอกสาร HWPML ได้ 📝 แปลง PDF เป็น TXT และ PPTX เป็น TXT ได้โดยตรง 📝 รองรับสูตรคณิตศาสตร์ในรูปแบบ MathML เวอร์ชันเซิร์ฟเวอร์ยังมี Admin Panel ใหม่สำหรับดูสถานะและการตั้งค่าระบบ พร้อมการปรับปรุง localization สำหรับภาษาจีนดั้งเดิมและเซอร์เบีย ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ ONLYOFFICE Docs 9.1 เป็นอัปเดตจุดแรกในซีรีส์ 9.x ➡️ เพิ่มเครื่องมือ Redact สำหรับ PDF พร้อม Find & Redact และ Redact แบบช่วงหน้า ➡️ เพิ่ม annotation tools เช่น Rectangle, Circle, Arrow, Connected Lines ➡️ กรองคอมเมนต์ระหว่าง “Open” และ “Resolved” ได้ ➡️ รองรับ Explosion ในกราฟวงกลม 2D ➡️ LOOKUP, VLOOKUP, HLOOKUP, XLOOKUP ทำงานเร็วขึ้น ➡️ มีแท็บ “Table Design” สำหรับจัดการตาราง ➡️ Pivot Table รองรับการกรองตามวันที่ ➡️ ตั้งชื่อชีตได้ทันที และสูตรมีการเน้น argument ➡️ Presentation Editor มีแท็บ Slide Master ใหม่ ➡️ Document Editor รองรับ section break ใน block content control ➡️ รองรับ HEIF, HWPML, PDF→TXT, PPTX→TXT, MathML ➡️ เวอร์ชันเซิร์ฟเวอร์มี Admin Panel ใหม่ ➡️ ปรับปรุง localization สำหรับภาษาจีนดั้งเดิมและเซอร์เบีย https://news.itsfoss.com/onlyoffice-docs-9-1-release/
    NEWS.ITSFOSS.COM
    ONLYOFFICE Docs 9.1 Arrives with PDF Redaction and Many Editor Upgrades
    New redaction tools, performance boosts, and enhanced collaboration features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อ.ปานเทพ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ จี้ยกเลิก MOU43 และชะลอประชุม JBC วันที่ 21-22 ต.ค. ชี้หากไม่ยกเลิก เขมรจะอ้างข้อ 5 ของ MOU ฟ้องต่อนานาชาติให้ไทยถอนทหารจากภูมะเขือรวมพื้นที่ 11 จุดและห้ามสร้างรั้วถาวรตามพระราชปณิธานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอฯ กรมพระศรีสวางควัฒนฯ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000098813

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    “อ.ปานเทพ” ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ จี้ยกเลิก MOU43 และชะลอประชุม JBC วันที่ 21-22 ต.ค. ชี้หากไม่ยกเลิก เขมรจะอ้างข้อ 5 ของ MOU ฟ้องต่อนานาชาติให้ไทยถอนทหารจากภูมะเขือรวมพื้นที่ 11 จุดและห้ามสร้างรั้วถาวรตามพระราชปณิธานสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอฯ กรมพระศรีสวางควัฒนฯ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000098813 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI Agents: อัจฉริยะที่น่าทึ่ง หรือภัยเงียบที่ควบคุมไม่ได้?” — เมื่อผู้ช่วยดิจิทัลกลายเป็นผู้ตัดสินใจแทนมนุษย์

    บทความจาก The Star เปิดเผยว่า ปี 2026 กำลังจะกลายเป็น “ปีแห่ง AI Agents” — ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถวางแผนหลายขั้นตอน เข้าถึงบริการดิจิทัล และตัดสินใจแทนผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติ ต่างจากแชตบอทหรือผู้ช่วยเสียงทั่วไปที่แค่ตอบคำถามหรือทำตามคำสั่ง

    ผู้พัฒนาเช่น Amazon, Microsoft, Google และ OpenAI ต่างเร่งสร้าง AI Agents ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้เกือบทุกอย่าง เช่น สั่งซื้อของออนไลน์ จัดการงาน HR และ IT หรือแม้แต่โทรหาลูกค้าเพื่อเปลี่ยนสินค้าให้โดยไม่ต้องมีมนุษย์เกี่ยวข้อง

    Marc Benioff จาก Salesforce เรียกสิ่งนี้ว่า “โมเดลแรงงานใหม่” และคาดว่าจะมีการสร้าง AI Agents กว่า 1 พันล้านตัวภายในปี 2026 ขณะที่ Jensen Huang จาก NVIDIA เชื่อว่าแผนก HR จะรวมเข้ากับ IT เพราะ AI จะจัดการทุกอย่างได้เอง

    แต่เสียงเตือนจากนักวิจัยด้านจริยธรรม AI ก็เริ่มดังขึ้น Meredith Whittaker จาก Signal เตือนว่า AI Agents ต้องการสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างมหาศาล เช่น ปฏิทิน บัตรเครดิต และบัญชีอีเมล โดยไม่ต้องขออนุญาตทุกครั้ง ซึ่งเป็นช่องโหว่ใหญ่ด้านความเป็นส่วนตัว

    Yoshua Bengio และ Margaret Mitchell นักวิจัย AI ชื่อดัง เตือนว่า หากปล่อยให้ AI Agents ทำงานโดยไม่มีการควบคุม อาจนำไปสู่การสูญเสียอำนาจของมนุษย์อย่างถาวร และเปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีใช้ระบบเหล่านี้โจมตีหรือสอดแนม

    ตัวอย่าง AI Agents ที่มีอยู่แล้ว:
    Google: “Project Mariner” ใช้ Gemini 2.0 ทำงานในเบราว์เซอร์แทนมนุษย์
    Salesforce: โทรหาลูกค้าอัตโนมัติเพื่อเปลี่ยนสินค้า
    DeepL: ใช้ในระบบจัดการบทความ
    Microsoft: “Factory Operations Agent” สำหรับปรับปรุงกระบวนการในโรงงาน
    Amazon: พัฒนา Alexa ให้รู้จักนิสัยและตารางชีวิตของผู้ใช้
    Parloa: AI โทรหาลูกค้าเพื่อเสนออัปเกรดเที่ยวบิน

    ข้อมูลในข่าว
    AI Agents สามารถวางแผนหลายขั้นตอนและตัดสินใจแทนผู้ใช้ได้
    ต่างจากแชตบอททั่วไปที่ทำงานแบบตอบโต้
    Amazon, Microsoft, Google, OpenAI และ Salesforce กำลังพัฒนา AI Agents
    Salesforce คาดว่าจะมี AI Agents กว่า 1 พันล้านตัวภายในปี 2026
    AI Agents สามารถจัดการงาน HR, IT และบริการลูกค้าได้
    Google ใช้ Gemini 2.0 ใน “Project Mariner” เพื่อทำงานในเบราว์เซอร์
    DeepL มี AI Agent ที่ทำงานในระบบจัดการบทความ
    Microsoft มี “Factory Operations Agent” สำหรับโรงงาน
    Amazon พัฒนา Alexa ให้รู้จักนิสัยและตารางชีวิตของผู้ใช้
    Parloa มี AI ที่โทรหาลูกค้าเพื่อเสนออัปเกรดเที่ยวบิน

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    AI Agents ต้องการสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวจำนวนมาก
    อาจเข้าถึงบัตรเครดิต ปฏิทิน และอีเมลโดยไม่ขออนุญาตทุกครั้ง
    เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือสอดแนมจากผู้ไม่หวังดี
    หากไม่มีการควบคุม อาจนำไปสู่การสูญเสียอำนาจของมนุษย์
    การใช้ AI Agents โดยไม่เข้าใจความเสี่ยง อาจสร้างผลกระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะ
    นักวิจัยเตือนว่า AI Agents อาจกลายเป็นภัยระดับ “catastrophic” หากปล่อยให้เติบโตโดยไม่มีกรอบ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/16/incredibly-dangerous-or-incredibly-useful-the-rise-of-ai-agents
    🤖 “AI Agents: อัจฉริยะที่น่าทึ่ง หรือภัยเงียบที่ควบคุมไม่ได้?” — เมื่อผู้ช่วยดิจิทัลกลายเป็นผู้ตัดสินใจแทนมนุษย์ บทความจาก The Star เปิดเผยว่า ปี 2026 กำลังจะกลายเป็น “ปีแห่ง AI Agents” — ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถวางแผนหลายขั้นตอน เข้าถึงบริการดิจิทัล และตัดสินใจแทนผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติ ต่างจากแชตบอทหรือผู้ช่วยเสียงทั่วไปที่แค่ตอบคำถามหรือทำตามคำสั่ง ผู้พัฒนาเช่น Amazon, Microsoft, Google และ OpenAI ต่างเร่งสร้าง AI Agents ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้เกือบทุกอย่าง เช่น สั่งซื้อของออนไลน์ จัดการงาน HR และ IT หรือแม้แต่โทรหาลูกค้าเพื่อเปลี่ยนสินค้าให้โดยไม่ต้องมีมนุษย์เกี่ยวข้อง Marc Benioff จาก Salesforce เรียกสิ่งนี้ว่า “โมเดลแรงงานใหม่” และคาดว่าจะมีการสร้าง AI Agents กว่า 1 พันล้านตัวภายในปี 2026 ขณะที่ Jensen Huang จาก NVIDIA เชื่อว่าแผนก HR จะรวมเข้ากับ IT เพราะ AI จะจัดการทุกอย่างได้เอง แต่เสียงเตือนจากนักวิจัยด้านจริยธรรม AI ก็เริ่มดังขึ้น Meredith Whittaker จาก Signal เตือนว่า AI Agents ต้องการสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างมหาศาล เช่น ปฏิทิน บัตรเครดิต และบัญชีอีเมล โดยไม่ต้องขออนุญาตทุกครั้ง ซึ่งเป็นช่องโหว่ใหญ่ด้านความเป็นส่วนตัว Yoshua Bengio และ Margaret Mitchell นักวิจัย AI ชื่อดัง เตือนว่า หากปล่อยให้ AI Agents ทำงานโดยไม่มีการควบคุม อาจนำไปสู่การสูญเสียอำนาจของมนุษย์อย่างถาวร และเปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีใช้ระบบเหล่านี้โจมตีหรือสอดแนม ตัวอย่าง AI Agents ที่มีอยู่แล้ว: ⭐ Google: “Project Mariner” ใช้ Gemini 2.0 ทำงานในเบราว์เซอร์แทนมนุษย์ ⭐ Salesforce: โทรหาลูกค้าอัตโนมัติเพื่อเปลี่ยนสินค้า ⭐ DeepL: ใช้ในระบบจัดการบทความ ⭐ Microsoft: “Factory Operations Agent” สำหรับปรับปรุงกระบวนการในโรงงาน ⭐ Amazon: พัฒนา Alexa ให้รู้จักนิสัยและตารางชีวิตของผู้ใช้ ⭐ Parloa: AI โทรหาลูกค้าเพื่อเสนออัปเกรดเที่ยวบิน ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ AI Agents สามารถวางแผนหลายขั้นตอนและตัดสินใจแทนผู้ใช้ได้ ➡️ ต่างจากแชตบอททั่วไปที่ทำงานแบบตอบโต้ ➡️ Amazon, Microsoft, Google, OpenAI และ Salesforce กำลังพัฒนา AI Agents ➡️ Salesforce คาดว่าจะมี AI Agents กว่า 1 พันล้านตัวภายในปี 2026 ➡️ AI Agents สามารถจัดการงาน HR, IT และบริการลูกค้าได้ ➡️ Google ใช้ Gemini 2.0 ใน “Project Mariner” เพื่อทำงานในเบราว์เซอร์ ➡️ DeepL มี AI Agent ที่ทำงานในระบบจัดการบทความ ➡️ Microsoft มี “Factory Operations Agent” สำหรับโรงงาน ➡️ Amazon พัฒนา Alexa ให้รู้จักนิสัยและตารางชีวิตของผู้ใช้ ➡️ Parloa มี AI ที่โทรหาลูกค้าเพื่อเสนออัปเกรดเที่ยวบิน ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ AI Agents ต้องการสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวจำนวนมาก ⛔ อาจเข้าถึงบัตรเครดิต ปฏิทิน และอีเมลโดยไม่ขออนุญาตทุกครั้ง ⛔ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือสอดแนมจากผู้ไม่หวังดี ⛔ หากไม่มีการควบคุม อาจนำไปสู่การสูญเสียอำนาจของมนุษย์ ⛔ การใช้ AI Agents โดยไม่เข้าใจความเสี่ยง อาจสร้างผลกระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะ ⛔ นักวิจัยเตือนว่า AI Agents อาจกลายเป็นภัยระดับ “catastrophic” หากปล่อยให้เติบโตโดยไม่มีกรอบ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/16/incredibly-dangerous-or-incredibly-useful-the-rise-of-ai-agents
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Incredibly dangerous or incredibly useful? The rise of AI agents
    Developers say they can do nearly any task a human can at a computer. Critics say they are incredibly dangerous.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ไอร์แลนด์ประกาศรายได้พื้นฐานถาวรสำหรับศิลปิน” — โมเดลสนับสนุนศิลปะที่สร้างผลตอบแทนทางสังคมและเศรษฐกิจ

    รัฐบาลไอร์แลนด์ประกาศให้โครงการ Basic Income for the Arts (BIA) เป็นนโยบายถาวร เริ่มตั้งแต่ปี 2026 หลังจากประสบความสำเร็จในการทดลองเป็นเวลา 3 ปี โดยมีศิลปินและผู้ทำงานด้านศิลปะกว่า 2,000 คนได้รับเงินสนับสนุนรายสัปดาห์จำนวน €325 โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบรายได้หรือเงื่อนไขสวัสดิการอื่น ๆ

    รายงานประเมินผลจาก Alma Economics พบว่าโครงการนี้สร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างชัดเจน เช่น การมีส่วนร่วมของผู้ชมที่เพิ่มขึ้น การลดภาระสวัสดิการ และการพัฒนาสุขภาพจิตของผู้เข้าร่วม โดยทุก €1 ที่ลงทุนในศิลปิน สร้างผลตอบแทนกลับมา €1.39 รวมมูลค่ากว่า €100 ล้านในช่วง 3 ปี

    นอกจากผลทางเศรษฐกิจแล้ว โครงการยังช่วยให้ศิลปินสามารถทุ่มเทเวลาให้กับงานสร้างสรรค์มากขึ้นถึง 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และสร้างผลงานใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 40% พร้อมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น ความสามารถในการจ่ายค่าเช่าและการมีส่วนร่วมทางสังคม

    รัฐบาลยังประกาศเพิ่มงบประมาณด้านวัฒนธรรมในปี 2026 เช่น สนับสนุนสถานที่จัดแสดงดนตรีอิสระ, ภาพยนตร์, การท่องเที่ยวศิลปิน และการอนุรักษ์ดนตรีพื้นบ้าน เพื่อสร้างระบบนิเวศทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน

    ข้อมูลในข่าว
    ไอร์แลนด์ประกาศให้โครงการ Basic Income for the Arts เป็นนโยบายถาวรในปี 2026
    ผู้เข้าร่วมได้รับเงิน €325 ต่อสัปดาห์ โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบรายได้
    โครงการทดลองมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน ระหว่างปี 2022–2025
    รายงานพบว่าโครงการสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ €1.39 ต่อการลงทุน €1
    สร้างมูลค่าทางสังคมกว่า €16.9 ล้าน และสุขภาพจิตดีขึ้นกว่า €80 ล้าน
    ศิลปินใช้เวลาเพิ่มขึ้น 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในงานสร้างสรรค์
    ผลิตผลงานใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 40% และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
    รัฐบาลเพิ่มงบประมาณด้านวัฒนธรรม เช่น ดนตรีอิสระ ภาพยนตร์ และศิลปะพื้นบ้าน
    โครงการได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกจากภาคศิลปะและผู้กำหนดนโยบาย

    https://www.artnews.com/art-news/news/ireland-basic-income-artists-program-permanent-1234756981/
    🎨 “ไอร์แลนด์ประกาศรายได้พื้นฐานถาวรสำหรับศิลปิน” — โมเดลสนับสนุนศิลปะที่สร้างผลตอบแทนทางสังคมและเศรษฐกิจ รัฐบาลไอร์แลนด์ประกาศให้โครงการ Basic Income for the Arts (BIA) เป็นนโยบายถาวร เริ่มตั้งแต่ปี 2026 หลังจากประสบความสำเร็จในการทดลองเป็นเวลา 3 ปี โดยมีศิลปินและผู้ทำงานด้านศิลปะกว่า 2,000 คนได้รับเงินสนับสนุนรายสัปดาห์จำนวน €325 โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบรายได้หรือเงื่อนไขสวัสดิการอื่น ๆ รายงานประเมินผลจาก Alma Economics พบว่าโครงการนี้สร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างชัดเจน เช่น การมีส่วนร่วมของผู้ชมที่เพิ่มขึ้น การลดภาระสวัสดิการ และการพัฒนาสุขภาพจิตของผู้เข้าร่วม โดยทุก €1 ที่ลงทุนในศิลปิน สร้างผลตอบแทนกลับมา €1.39 รวมมูลค่ากว่า €100 ล้านในช่วง 3 ปี นอกจากผลทางเศรษฐกิจแล้ว โครงการยังช่วยให้ศิลปินสามารถทุ่มเทเวลาให้กับงานสร้างสรรค์มากขึ้นถึง 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และสร้างผลงานใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 40% พร้อมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น ความสามารถในการจ่ายค่าเช่าและการมีส่วนร่วมทางสังคม รัฐบาลยังประกาศเพิ่มงบประมาณด้านวัฒนธรรมในปี 2026 เช่น สนับสนุนสถานที่จัดแสดงดนตรีอิสระ, ภาพยนตร์, การท่องเที่ยวศิลปิน และการอนุรักษ์ดนตรีพื้นบ้าน เพื่อสร้างระบบนิเวศทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ ไอร์แลนด์ประกาศให้โครงการ Basic Income for the Arts เป็นนโยบายถาวรในปี 2026 ➡️ ผู้เข้าร่วมได้รับเงิน €325 ต่อสัปดาห์ โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบรายได้ ➡️ โครงการทดลองมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน ระหว่างปี 2022–2025 ➡️ รายงานพบว่าโครงการสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ €1.39 ต่อการลงทุน €1 ➡️ สร้างมูลค่าทางสังคมกว่า €16.9 ล้าน และสุขภาพจิตดีขึ้นกว่า €80 ล้าน ➡️ ศิลปินใช้เวลาเพิ่มขึ้น 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในงานสร้างสรรค์ ➡️ ผลิตผลงานใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 40% และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ➡️ รัฐบาลเพิ่มงบประมาณด้านวัฒนธรรม เช่น ดนตรีอิสระ ภาพยนตร์ และศิลปะพื้นบ้าน ➡️ โครงการได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกจากภาคศิลปะและผู้กำหนดนโยบาย https://www.artnews.com/art-news/news/ireland-basic-income-artists-program-permanent-1234756981/
    WWW.ARTNEWS.COM
    Three Years After Trial Launch, Ireland Is Making Basic Income for Artists Program Permanent
    Several years after launching a trial, Ireland is set to make its basic income for artists program permanent starting in 2026.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้านายกฯอนุทินทำตามฮุนเซนแสดงว่าเป็นบ๋อยสมคบคิดกับเขมรฮุนเซนจริงในการกำจัดอุ๊งอิ๊งหรือแผนสำรองเพื่อให้คนไทยตายใจจนนำไปสู่การเสียดินแดนถาวรในสนธิสัญญาสอดไส้ที่อดีตนายกฯอภิสิทธิ์สอดไส้ในUNไว้,1:200,000ไทยมีโอกาสเสียดินแดนชัดเจนและเอาผิดอาชญากรสงครามที่ยิงคนไทยเด็กๆไทยตายไม่ได้,เปิดด่านก็เข้าทางมันว่าไม่เป็นภัยคุกคาม เราจะทวงคืนดินแดนลำบาก บ้านหนองจานรวมทั้งตราดเสร็จมันเลยลากยาวลงทะเลด้วย ทรัพยากรเต็มภูเขาตลอดแนวอีสานใต้กว่า1,000ล้านล้านบาทจะเสร็จเขมรเสร็จฝรั่งเศสเสร็จอเมริกาทันที โดยเฉพาะทองคำและแร่เอิร์ธสร้างเทคโนโลยีล้ำสมัยในยุคหน้าได้ ตลอดยานยนต์อวกาศ วัตถุดิบมีค่ามากมายอเมริกาและเขมรจะยึดเอาทันทีตาม1:200,000เพราะไซออนิสต์ciaมันวางแผนไว้แล้วนั้นเอง,ไส้ศึกทรยศไทยจึงส่งงานเดินตามแผนมันสั่งทุกๆประการจนมาถึงเวลานี้ แผน100ปี แผน50ปี แผน20ปี แผน5ปี มันวางหมากให้เดินหมด,คนไทยจึงต้องสามัคคีกันตื่นรับรู้ร่วมกัน,เรา..ประเทศไทย ไม่มีใครรักประเทศไทยเท่า เรา..คนไทยเราทั้งประเทศไม่ว่าจะศาสนาใดๆด้วย,เรา..ประชาชนคนไทยต้องร่วมกันเปลี่ยนแปลงมัน,ปกป้องมัน ,รักษามันไว้ร่วมกันในทุกๆคน.
    ..นายกฯอนุทินต้องไม่ลงนามนี้เด็ดขาด อเมริกาไม่สามารถมาแทรกแซงไทยได้แม้เป็นชาติมหาอำนาจ,เรา..ประเทศไทยต้องจบเรื่องกับเขมรเอง,,เขมรไว้ใจไม่ได้แล้ว,เรา..ประชาชนคนไทยพร้อมเสนอขับไล่ฑูตอเมริกาออกจากประเทศไทยที่แทรกแซงวิถีปกครองเรา,ไม่ร่วมกำจัดเขมรภัยอาชญากรรมจริงของโลก,เข้าข้างเขมรชัดเจน ไม่สั่งUNเอาคนเขมรออกจากประเทศไทยด้วย,ไม่บังคับเขมรใช้เขตแดนเสาปันน้ำสันปันน้ำที่เป็น1:1เขตแดนตกลงจบแล้วจริงกับฝรั่งเศส,แต่เสือกแทรกแซงไทยที่เขมรผิดต่อไทยชัดเจนยิงไทยก่อนจนมีประชาชนเสียชีวิตจริง.
    ถ้านายกฯอนุทินทำตามฮุนเซนแสดงว่าเป็นบ๋อยสมคบคิดกับเขมรฮุนเซนจริงในการกำจัดอุ๊งอิ๊งหรือแผนสำรองเพื่อให้คนไทยตายใจจนนำไปสู่การเสียดินแดนถาวรในสนธิสัญญาสอดไส้ที่อดีตนายกฯอภิสิทธิ์สอดไส้ในUNไว้,1:200,000ไทยมีโอกาสเสียดินแดนชัดเจนและเอาผิดอาชญากรสงครามที่ยิงคนไทยเด็กๆไทยตายไม่ได้,เปิดด่านก็เข้าทางมันว่าไม่เป็นภัยคุกคาม เราจะทวงคืนดินแดนลำบาก บ้านหนองจานรวมทั้งตราดเสร็จมันเลยลากยาวลงทะเลด้วย ทรัพยากรเต็มภูเขาตลอดแนวอีสานใต้กว่า1,000ล้านล้านบาทจะเสร็จเขมรเสร็จฝรั่งเศสเสร็จอเมริกาทันที โดยเฉพาะทองคำและแร่เอิร์ธสร้างเทคโนโลยีล้ำสมัยในยุคหน้าได้ ตลอดยานยนต์อวกาศ วัตถุดิบมีค่ามากมายอเมริกาและเขมรจะยึดเอาทันทีตาม1:200,000เพราะไซออนิสต์ciaมันวางแผนไว้แล้วนั้นเอง,ไส้ศึกทรยศไทยจึงส่งงานเดินตามแผนมันสั่งทุกๆประการจนมาถึงเวลานี้ แผน100ปี แผน50ปี แผน20ปี แผน5ปี มันวางหมากให้เดินหมด,คนไทยจึงต้องสามัคคีกันตื่นรับรู้ร่วมกัน,เรา..ประเทศไทย ไม่มีใครรักประเทศไทยเท่า เรา..คนไทยเราทั้งประเทศไม่ว่าจะศาสนาใดๆด้วย,เรา..ประชาชนคนไทยต้องร่วมกันเปลี่ยนแปลงมัน,ปกป้องมัน ,รักษามันไว้ร่วมกันในทุกๆคน. ..นายกฯอนุทินต้องไม่ลงนามนี้เด็ดขาด อเมริกาไม่สามารถมาแทรกแซงไทยได้แม้เป็นชาติมหาอำนาจ,เรา..ประเทศไทยต้องจบเรื่องกับเขมรเอง,,เขมรไว้ใจไม่ได้แล้ว,เรา..ประชาชนคนไทยพร้อมเสนอขับไล่ฑูตอเมริกาออกจากประเทศไทยที่แทรกแซงวิถีปกครองเรา,ไม่ร่วมกำจัดเขมรภัยอาชญากรรมจริงของโลก,เข้าข้างเขมรชัดเจน ไม่สั่งUNเอาคนเขมรออกจากประเทศไทยด้วย,ไม่บังคับเขมรใช้เขตแดนเสาปันน้ำสันปันน้ำที่เป็น1:1เขตแดนตกลงจบแล้วจริงกับฝรั่งเศส,แต่เสือกแทรกแซงไทยที่เขมรผิดต่อไทยชัดเจนยิงไทยก่อนจนมีประชาชนเสียชีวิตจริง.
    ไทยส่อโดนรุมกินโต๊ะ หลังเขมรไปดีลลับแลก็ยืมมืออันวาร์ ทรัมป์ มาบีบนายกฯหนูผีลงนามข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งมีการสอดไส้ให้ยุติความขัดแย้ง ชะลอการทวงคืนแผ่นดินไทย และเปิดด่าน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 10
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3”
    ตอนที่ 10

    เรื่องต่อมาคือสภาพเศรษฐกิจของทั้ง 2 ฝ่าย

    สงสัยต้องให้เข้าไปอ่านจากเพจของอาจารย์ทนง ขันทอง ที่เขียนมานาน ชำแหละเสียจนผมไม่รู้จะเขียนอะไรเพิ่ม พอสรุปได้ว่า ตอนนี้อเมริกาแทบจะเหลือแต่เปลือก ดอลล่าร์ก็ถูกคว่ำบาตร ถูกท้าทายอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรกของประวัติ ส่วนทองที่ว่ามีเต็มตู้ ตอนนี้ก็โดนสาระพัดชาติทวงคืน ล่าสุดนี่มีข่าวว่าทางสวิสเซอแลนด์ก็คิดจะทวง จะมีส่งคืนเขาเต็มจำนวนหรือเปล่าไม่ก็ไม่รู้

    ส่วนรัสเซียนั้น มองการณ์ไกล เหมือนมีแผนอะไรอยู่ในใจ เงินกระดาษไม่ว่าเป็นสกุลอะไร ที่ได้มาจากการขายพลังงานของตน เขาว่ารัสเซียเอาไปกว้านซื้อทองมาเก็บแทนเงินกระดาษ เพราะฉะนั้นใครที่ประมาทหน้า ว่ารัสเซียไม่เก่งเรื่องการเงิน ก็รอดูไปก่อนนะครับ อาจจะได้เห็นเงินกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ที่ตอนนี้ออกอาการเซถลาหัวทิ่ม อาจมีค่า เหลือแค่ห่อลูกกวาดเม็ดเดียวก็ได้ ฮู้ย รอจะไม่ไหวอยู่แล้ว

    ในขณะที่จีนเอง เขาว่า ก็ทยอยตุนทองมานานหลายปีอย่างเงียบๆ มีมากเสียจนต้องย้ายที่ไปเก็บในโกดังแทน ฮา นี่ถ้าเผื่อมีการรื้อฟื้นระบบวินัยการคลัง จะพิมพ์แบงค์ ต้องมีมีทองสำรองครบ ไม่ใช่เอาเศรษกิจปลอมๆ และอำนาจของกองทัพมากนุนแทนทอง อย่างที่อเมริกาทำมานาน อเมริกาจะทำอย่างไรล่ะ อย่าให้แพ้สงครามเชียว เผลอๆ อาเฮียกับพี่ปูเขาจับมือกัน รื้อฟื้นระบบนี้ขึ้นมาใหม่ ฝั่งนี้ใครไม่มีทองไม่เป็นไร อาเฮียมีเหลือเฟือ ให้พวกยืมไปเป็นทองสำรองได้ เผลอๆ แถมแอบเตรียมแผนไว้แล้วด้วย แต่ที่น่ากลุ้มใจแทน ดูเหมือนจะเป็นฝั่งอเมริกาใครจะยืมใคร

    เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษ คิดนำการรบ แต่อยู่ในสภาพล้มละลาย อังกฤษได้อเมริกาเป็นนายทุน ทำให้เดินหน้าทำการรบได้โดยไม่กลุ้มใจ และคราวนี้ล่ะ อเมริกามีทุนหนาพร้อมรบหรือ พูดไม่ได้เต็มปากหรอกนะ

    อเมริกาทุนหนาไม่พอ แล้วอังกฤษจะช่วยไหวไหม แหม ถ้าอเมริกาไปถามนาย David Cameron แบบนี้ สงสัยอาจถูกจีบปากด่ายับ ยุโรปเอง ยังไม่ฟื้นจากโรคทรัพย์จาง CNN ออก ข่าวประจานไม่เลิก แล้วใครจะเป็นนายทุนให้อเมริกา ตัวเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอด พรรคพวกก็มีแต่กระเป๋าขาด พวกเสี่ยน้ำมันตะวันออกกลาง กลุ่มเสี่ยซาอุนะหรือ ต้องรู้จักนิสัยพวกนี้นะครับ เขาทุ่มได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ทุ่มให้หมดหรอก ก็บอกแล้ว มิตรภาพในตะวันออกกลาง มีไว้ให้เช่าชั่วคราว แต่ไม่ได้ขายถาวร
    ฝ่ายรัสเซีย แม้จะไม่ใช่เศรษฐี และสื่อย้อมก็พยายามใส่สีว่า รัสเซียอาการหนัก หลังจากถูกคว่ำบาตร ก็หนักจริงแหละ แต่คงไม่ถึงอับจน เพราะบังเอิญมีเพื่อนรักเป็นอาเฮีย กำลังอู๋ ทั้งเงินทั้งทองกำลังท่วมตัว แค่นี้ทำไมจะแบ่งไปให้เพื่อนรักเอาไปใช้ทำสงครามไม่ได้ ได้ก็ได้ด้วยกัน เสียก็เสียด้วยกัน จริงไหมครับอาเฮีย ก็เพื่อนรักกันนี่หว่า

    และอย่าลืมว่ากลุ่ม BRICS เขา ผนึกกำลังกัน จะแบบแนบแน่น หรือแบบหลวมๆ อีกเรื่องหนึ่ง อาจมีบางประเทศวางตัวเป็นกลาง แต่รับรองไม่มีใครแตกแถว ไปยืนอยู่กับอเมริกาแน่นอน ส่วนกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ Shanghai Co-Operation พวกมีแหล่งพลังงานของตนเองแบบเหลือเฟือเกือบทั้งนั้น ไม่ใช่ประเภทมาเป็นภาระให้รัสเซียแน่นอน

    สรุปเรื่องสภาพเศรษฐิจ ฝ่ายอเมริกาพี่เบิ้มเก่าก็ไม่ใช่ได้เปรียบอย่างที่คิดกัน

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    4 ธค. 2557
    แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3 ตอนที่ 10 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3” ตอนที่ 10 เรื่องต่อมาคือสภาพเศรษฐกิจของทั้ง 2 ฝ่าย สงสัยต้องให้เข้าไปอ่านจากเพจของอาจารย์ทนง ขันทอง ที่เขียนมานาน ชำแหละเสียจนผมไม่รู้จะเขียนอะไรเพิ่ม พอสรุปได้ว่า ตอนนี้อเมริกาแทบจะเหลือแต่เปลือก ดอลล่าร์ก็ถูกคว่ำบาตร ถูกท้าทายอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรกของประวัติ ส่วนทองที่ว่ามีเต็มตู้ ตอนนี้ก็โดนสาระพัดชาติทวงคืน ล่าสุดนี่มีข่าวว่าทางสวิสเซอแลนด์ก็คิดจะทวง จะมีส่งคืนเขาเต็มจำนวนหรือเปล่าไม่ก็ไม่รู้ ส่วนรัสเซียนั้น มองการณ์ไกล เหมือนมีแผนอะไรอยู่ในใจ เงินกระดาษไม่ว่าเป็นสกุลอะไร ที่ได้มาจากการขายพลังงานของตน เขาว่ารัสเซียเอาไปกว้านซื้อทองมาเก็บแทนเงินกระดาษ เพราะฉะนั้นใครที่ประมาทหน้า ว่ารัสเซียไม่เก่งเรื่องการเงิน ก็รอดูไปก่อนนะครับ อาจจะได้เห็นเงินกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ที่ตอนนี้ออกอาการเซถลาหัวทิ่ม อาจมีค่า เหลือแค่ห่อลูกกวาดเม็ดเดียวก็ได้ ฮู้ย รอจะไม่ไหวอยู่แล้ว ในขณะที่จีนเอง เขาว่า ก็ทยอยตุนทองมานานหลายปีอย่างเงียบๆ มีมากเสียจนต้องย้ายที่ไปเก็บในโกดังแทน ฮา นี่ถ้าเผื่อมีการรื้อฟื้นระบบวินัยการคลัง จะพิมพ์แบงค์ ต้องมีมีทองสำรองครบ ไม่ใช่เอาเศรษกิจปลอมๆ และอำนาจของกองทัพมากนุนแทนทอง อย่างที่อเมริกาทำมานาน อเมริกาจะทำอย่างไรล่ะ อย่าให้แพ้สงครามเชียว เผลอๆ อาเฮียกับพี่ปูเขาจับมือกัน รื้อฟื้นระบบนี้ขึ้นมาใหม่ ฝั่งนี้ใครไม่มีทองไม่เป็นไร อาเฮียมีเหลือเฟือ ให้พวกยืมไปเป็นทองสำรองได้ เผลอๆ แถมแอบเตรียมแผนไว้แล้วด้วย แต่ที่น่ากลุ้มใจแทน ดูเหมือนจะเป็นฝั่งอเมริกาใครจะยืมใคร เมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษ คิดนำการรบ แต่อยู่ในสภาพล้มละลาย อังกฤษได้อเมริกาเป็นนายทุน ทำให้เดินหน้าทำการรบได้โดยไม่กลุ้มใจ และคราวนี้ล่ะ อเมริกามีทุนหนาพร้อมรบหรือ พูดไม่ได้เต็มปากหรอกนะ อเมริกาทุนหนาไม่พอ แล้วอังกฤษจะช่วยไหวไหม แหม ถ้าอเมริกาไปถามนาย David Cameron แบบนี้ สงสัยอาจถูกจีบปากด่ายับ ยุโรปเอง ยังไม่ฟื้นจากโรคทรัพย์จาง CNN ออก ข่าวประจานไม่เลิก แล้วใครจะเป็นนายทุนให้อเมริกา ตัวเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอด พรรคพวกก็มีแต่กระเป๋าขาด พวกเสี่ยน้ำมันตะวันออกกลาง กลุ่มเสี่ยซาอุนะหรือ ต้องรู้จักนิสัยพวกนี้นะครับ เขาทุ่มได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ทุ่มให้หมดหรอก ก็บอกแล้ว มิตรภาพในตะวันออกกลาง มีไว้ให้เช่าชั่วคราว แต่ไม่ได้ขายถาวร ฝ่ายรัสเซีย แม้จะไม่ใช่เศรษฐี และสื่อย้อมก็พยายามใส่สีว่า รัสเซียอาการหนัก หลังจากถูกคว่ำบาตร ก็หนักจริงแหละ แต่คงไม่ถึงอับจน เพราะบังเอิญมีเพื่อนรักเป็นอาเฮีย กำลังอู๋ ทั้งเงินทั้งทองกำลังท่วมตัว แค่นี้ทำไมจะแบ่งไปให้เพื่อนรักเอาไปใช้ทำสงครามไม่ได้ ได้ก็ได้ด้วยกัน เสียก็เสียด้วยกัน จริงไหมครับอาเฮีย ก็เพื่อนรักกันนี่หว่า และอย่าลืมว่ากลุ่ม BRICS เขา ผนึกกำลังกัน จะแบบแนบแน่น หรือแบบหลวมๆ อีกเรื่องหนึ่ง อาจมีบางประเทศวางตัวเป็นกลาง แต่รับรองไม่มีใครแตกแถว ไปยืนอยู่กับอเมริกาแน่นอน ส่วนกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ Shanghai Co-Operation พวกมีแหล่งพลังงานของตนเองแบบเหลือเฟือเกือบทั้งนั้น ไม่ใช่ประเภทมาเป็นภาระให้รัสเซียแน่นอน สรุปเรื่องสภาพเศรษฐิจ ฝ่ายอเมริกาพี่เบิ้มเก่าก็ไม่ใช่ได้เปรียบอย่างที่คิดกัน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 4 ธค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จีโน่ อาฒยา ฐิติกุล” ผงาดขึ้นบัลลังก์ นักกอล์ฟหญิงมือ 1 โลก อย่างถาวรในปีทอง 2025 หลังคว้าแชมป์ LPGA ที่เซี่ยงไฮ้ พลิกแซงเนลลี่ คอร์ด้า จนทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000098024

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    “จีโน่ อาฒยา ฐิติกุล” ผงาดขึ้นบัลลังก์ นักกอล์ฟหญิงมือ 1 โลก อย่างถาวรในปีทอง 2025 หลังคว้าแชมป์ LPGA ที่เซี่ยงไฮ้ พลิกแซงเนลลี่ คอร์ด้า จนทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000098024 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • “วิธีทำความสะอาดหลอดไฟอย่างปลอดภัย — เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญที่คุณอาจมองข้าม”

    แม้หลอดไฟจะดูเหมือนไม่ใช่จุดที่สกปรกนัก แต่ความจริงแล้วมันเป็นหนึ่งในจุดที่ฝุ่นชอบเกาะมากที่สุดในบ้าน เพราะกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านหลอดไฟสามารถดึงดูดฝุ่นได้เหมือนแม่เหล็ก และเนื่องจากเราไม่ค่อยสังเกตหลอดไฟจนกว่ามันจะเสีย จึงทำให้ฝุ่นสะสมโดยไม่รู้ตัว

    การทำความสะอาดหลอดไฟอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยให้แสงสว่างชัดเจนขึ้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงจากความร้อนสะสมอีกด้วย

    วิธีทำความสะอาดหลอดไฟ
    เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
    ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้ง, ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ, บันได (ถ้าหลอดอยู่สูง)

    ปิดไฟและถอดปลั๊กก่อนเสมอ
    หากถอดปลั๊กไม่ได้ ให้ปิดเบรกเกอร์

    ถอดหลอดไฟออกจากโคมก่อนทำความสะอาด
    รอให้หลอดเย็นก่อนจับ

    เช็ดด้วยผ้าแห้งก่อน
    หากฝุ่นบาง ๆ จะหลุดออกง่าย

    หากยังสกปรก ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดเบา ๆ
    หลีกเลี่ยงไม่ให้โดนส่วนโลหะของหลอด

    รอให้หลอดแห้งสนิทก่อนใส่กลับ
    เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร

    หากไม่สามารถถอดหลอดได้
    ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดขณะอยู่กับที่ โดยต้องแน่ใจว่าไฟถูกตัดแล้ว

    กรณีหลอดไฟ LED
    ทำความสะอาดภายนอกเหมือนหลอดแก้ว
    ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้งเช็ดเบา ๆ

    หากฝุ่นเข้าไปด้านใน
    ถอดฝาครอบออก (ถ้าเป็นไปได้) แล้วเช็ดภายใน

    หลีกเลี่ยงไม่ให้วงจรภายในเปียก
    หากเปียกอาจทำให้วงจรเสียหายถาวร

    หากฝาครอบปิดถาวรและมีฝุ่นภายใน
    อาจต้องพิจารณาเปลี่ยนหลอดใหม่

    https://www.slashgear.com/1992170/how-to-clean-light-bulb/
    “วิธีทำความสะอาดหลอดไฟอย่างปลอดภัย — เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญที่คุณอาจมองข้าม” แม้หลอดไฟจะดูเหมือนไม่ใช่จุดที่สกปรกนัก แต่ความจริงแล้วมันเป็นหนึ่งในจุดที่ฝุ่นชอบเกาะมากที่สุดในบ้าน เพราะกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านหลอดไฟสามารถดึงดูดฝุ่นได้เหมือนแม่เหล็ก และเนื่องจากเราไม่ค่อยสังเกตหลอดไฟจนกว่ามันจะเสีย จึงทำให้ฝุ่นสะสมโดยไม่รู้ตัว การทำความสะอาดหลอดไฟอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยให้แสงสว่างชัดเจนขึ้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงจากความร้อนสะสมอีกด้วย 💡 วิธีทำความสะอาดหลอดไฟ ✅ เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ➡️ ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้ง, ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ, บันได (ถ้าหลอดอยู่สูง) ✅ ปิดไฟและถอดปลั๊กก่อนเสมอ ➡️ หากถอดปลั๊กไม่ได้ ให้ปิดเบรกเกอร์ ✅ ถอดหลอดไฟออกจากโคมก่อนทำความสะอาด ➡️ รอให้หลอดเย็นก่อนจับ ✅ เช็ดด้วยผ้าแห้งก่อน ➡️ หากฝุ่นบาง ๆ จะหลุดออกง่าย ✅ หากยังสกปรก ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดเบา ๆ ➡️ หลีกเลี่ยงไม่ให้โดนส่วนโลหะของหลอด ✅ รอให้หลอดแห้งสนิทก่อนใส่กลับ ➡️ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ✅ หากไม่สามารถถอดหลอดได้ ➡️ ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดขณะอยู่กับที่ โดยต้องแน่ใจว่าไฟถูกตัดแล้ว 💡 กรณีหลอดไฟ LED ✅ ทำความสะอาดภายนอกเหมือนหลอดแก้ว ➡️ ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แห้งเช็ดเบา ๆ ✅ หากฝุ่นเข้าไปด้านใน ➡️ ถอดฝาครอบออก (ถ้าเป็นไปได้) แล้วเช็ดภายใน ✅ หลีกเลี่ยงไม่ให้วงจรภายในเปียก ➡️ หากเปียกอาจทำให้วงจรเสียหายถาวร ✅ หากฝาครอบปิดถาวรและมีฝุ่นภายใน ➡️ อาจต้องพิจารณาเปลี่ยนหลอดใหม่ https://www.slashgear.com/1992170/how-to-clean-light-bulb/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    How To Clean A Light Bulb, According To The Experts - SlashGear
    Sometimes even lightbulbs need a good cleaning. Here's everything you need to know about cleaning both filament bulbs and LED bulbs around your home.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว


  • #พรบการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือคาร์บอนเครติดคือภัยพิบัติคนไทยเรา หรือมุกแอบแฝงควบคุมคาร์บอนให้ต่ำลง เป้าหมายควบคุมประชาชนในประเทศนั้นทั้งหมดให้เป็นทาสขี้ข้าโดยเบ็ดเสร็จของอีลิทไซออนิสต์deep state อะเจนด้า30ที่ต้องการ,

    #รัฐบาลสามารถควบคุมCBDCเชื่อมต่อกับรหัสดิจิทัลไบโอเมตริกซ์เชื่อมต่อกับเครือข่ายกล้องจดจำใบหน้า

    #รัฐบาลสามารถควบคุมปริมาณคาร์บอนของคุณ

    #รัฐบาลสามารถควบคุมวิธีการใช้จ่ายเงิน

    #รัฐบาลสามารถควบคุมระบบเครดิตทางสังคมของ

    #รัฐบาลสามารถควบคุมโปรแกรมCBDCให้หยุดเงินของคุณได้ทั้งหมด


    จีนคือตัวพ่อเผด็จการจะยึดโลกควบคุมมนุษย์ อีลิทไซออนิสต์deep stateโลกมันทิ้งอเมริกาย้ายมาใช้งานจีนแล้ว.,เหมือนทิ้งอังกฤษปอนด์ ไปหาอเมริกาดอลล่าร์เพื่อควบคุมโลก ในโลกยุคใหม่ที่เราเห็นกันชัดๆที่ผ่านๆมา,ตอนนี้กำลังจะเขียนบริบทโลกใหม่อีกแล้ว ยูโรปทางตัน อเมริกาก็ทางตัน ,จีนคือตัวเลือก ,ทิ้งดอลล่าร์ใช้หยวนนั้นเองในโลกทางการเงิน,แต่ความจริงระบบคอมมิวนิสต์ต่างหากที่เหมาะสมกับสไตล์อีลิทมัน,อังกฤษและอเมริกามันลองใช้แล้วล้มเหลว จึงจะใช้ระบบเผด็จการแทนในการทดสอบครั้งนี้ในยุคใหม่นี้ มันจึงถ่ายทอดเทคโนโลยีย้ายโอนมาอัดมาใส่ที่จีน,คนจีนคือห้องทดลองผิวโลกขนาดใหญ่ของมันที่ผ่านๆมา.,ทางเลือกมีแค่คนจีนดีๆจะลุกขึ้นสู้ร่วมต่อต้านระบบเผด็จการปลดปล่อยตนเองทั้งประเทศจีนเท่านั้น.,หรืออเมริกายิงขีปนาวุธถล่มจีนปลดปล่อยชาวจีนเท่านั้น,โดยอเมริกาก็ปลดปล่อยตนเองจากอีลิทเองด้วยซึ่งถูกกดขี่มานานเช่นกัน.
    ..ในสภาฯไทยเรา นายกฯอนุทินประกาศชัดเจนเหมือนมุ่งเน้นเจตนารมณ์ตามคำสั่งอีลิทเด่นมาก,ซึ่งจริงๆไม่ต้องอ่านหรือเขียนอย่างเป็นทางการก็ได้,รวมเอาพรบ.สภาพอากาศมายื่นพื้นช่วยค้ำให้อีลิทด้วย รับไม้ต่อชัดเจนไม่ว่าจะเปลี่ยนใครมาเป็นนายกฯ เหมือนไม่แตะบ่อปิโตรเลี่ยน บ่อน้ำมันไทยเลยนั้นล่ะ ถ้าประกาศว่าจะยกเลิกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่เคยผ่านสภาสส.สว.อันขัดต่อความมั่นคงทางอธิปไตยของชาติด้านพลังงานของรัฐธรรมนูญแม่บทเรา ถ้าประกาศแบบนี้จะดีมาก ยกเลิกเลย,แต่ไม่แตะเลย,วิกฤติเศรษฐกิจไทยแค่ลดราคาน้ำมันลงเหลือ1-2บาทแบบอิหร่าน เราจะผ่านพ้นทันทีทั้งประเทศ เสมือนยึดแดนดินคืนจากเขมรที่เสาหมุด1:1 ทั้ง73-74เสาเขตแดนตั้งเป็นฐานเดิมเรื่องเขตแดนก็จบแล้ว,mouใดๆถือว่าโมฆะหมด,เรามีนายกฯที่ไม่มีฝีมือ ไม่กล้าหาญจริงแต่นั้น,,นายกฯกล้าหาญคือโมฆะสัมปทานบ่อน้ำมันทั้งหมด ยึดดินแดนไทยคืนจากเขมร,สร้างรั้วลวดหนามตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมร,ปิดด่านไทยเขมรไม่มีกำหนดจนกว่าเขมรจะหมดสิ้นสภาพสถานะมาเป็นภัยร้ายแรงคุกคามกับไทยได้อีกพร้อมคว่ำบาตรเขมรทุกๆช่องทางทั้งหมดด้วย,กรณีโจรใต้เราก็สร้างรั้วลวดหนามถาวรตลอดแนวพรมแดนกว่า600กม.ด้วยเช่นกัน.,นี้คือพื้นฐานจริงที่นายกฯประเทศต้องทำทันทีในยุคนี้ ปลดปล่อยประเทศไทย กอบกู้ชาติไทยคืนจากการผูกขาดทรัพยากรชาติไทยจากต่างชาติทั้งหมด,เมื่อนายกฯในอดีตชั่วเลว นายกฯปัจจุบันไม่จำเป็นต้องคงสิ่งชั่วเลวที่มันร่วมกันทำไว้,เพราะอำนาจนายกฯอยู่ในมือตนแล้วในปัจจุบัน,เรามีผู้นำผู้ปกครองทันหมากอีลิทย่อมต่อกรหรือชนะได้แน่เช่นกัน.,ผ่านพ้นภัยอันตรายลักษณะผีบ้าที่คอมมิวนิสต์จีนทำกับประชาชนพลเมืองมันด้วย.

    [...CBDC ของจีนเชื่อมต่อกับรหัสดิจิทัลไบโอเมตริกซ์ที่จำเป็น ซึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายกล้องจดจำใบหน้าอันกว้างขวาง

    ประชาชนสามารถชำระค่าสิ่งของได้อย่าง "สะดวก" โดยไม่ต้องใช้อะไรเลยนอกจากใบหน้า

    แต่สิ่งนี้ยังทำให้รัฐบาลสามารถควบคุมวิธีการใช้จ่ายเงินของประชาชนได้อย่างสมบูรณ์

    ลองนึกภาพผู้หญิงคนนี้ต้องการซื้อโคล่า แต่ในเดือนนี้เธอได้เกินปริมาณคาร์บอนที่อนุญาตไว้แล้ว สามารถตั้งโปรแกรม CBDC ให้ปฏิเสธธุรกรรมโดยอัลกอริทึมได้

    หรือจินตนาการว่าเธอวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทางโซเชียลมีเดีย และพบว่าตัวเองถูกขึ้นบัญชีดำโดยระบบเครดิตทางสังคมของจีน สามารถตั้งโปรแกรม CBDC ให้หยุดเงินทุนของเธอได้ทั้งหมด

    อย่าพลาด: ฝันร้ายดิสโทเปียนี้กำลังจะเกิดขึ้นในโลกตะวันตก หากเรายอมให้รัฐบาลหลอกให้เรายอมรับ ID ดิจิทัลและ CBDC ]
    #พรบการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือคาร์บอนเครติดคือภัยพิบัติคนไทยเรา หรือมุกแอบแฝงควบคุมคาร์บอนให้ต่ำลง เป้าหมายควบคุมประชาชนในประเทศนั้นทั้งหมดให้เป็นทาสขี้ข้าโดยเบ็ดเสร็จของอีลิทไซออนิสต์deep state อะเจนด้า30ที่ต้องการ, #รัฐบาลสามารถควบคุมCBDCเชื่อมต่อกับรหัสดิจิทัลไบโอเมตริกซ์เชื่อมต่อกับเครือข่ายกล้องจดจำใบหน้า #รัฐบาลสามารถควบคุมปริมาณคาร์บอนของคุณ #รัฐบาลสามารถควบคุมวิธีการใช้จ่ายเงิน #รัฐบาลสามารถควบคุมระบบเครดิตทางสังคมของ #รัฐบาลสามารถควบคุมโปรแกรมCBDCให้หยุดเงินของคุณได้ทั้งหมด จีนคือตัวพ่อเผด็จการจะยึดโลกควบคุมมนุษย์ อีลิทไซออนิสต์deep stateโลกมันทิ้งอเมริกาย้ายมาใช้งานจีนแล้ว.,เหมือนทิ้งอังกฤษปอนด์ ไปหาอเมริกาดอลล่าร์เพื่อควบคุมโลก ในโลกยุคใหม่ที่เราเห็นกันชัดๆที่ผ่านๆมา,ตอนนี้กำลังจะเขียนบริบทโลกใหม่อีกแล้ว ยูโรปทางตัน อเมริกาก็ทางตัน ,จีนคือตัวเลือก ,ทิ้งดอลล่าร์ใช้หยวนนั้นเองในโลกทางการเงิน,แต่ความจริงระบบคอมมิวนิสต์ต่างหากที่เหมาะสมกับสไตล์อีลิทมัน,อังกฤษและอเมริกามันลองใช้แล้วล้มเหลว จึงจะใช้ระบบเผด็จการแทนในการทดสอบครั้งนี้ในยุคใหม่นี้ มันจึงถ่ายทอดเทคโนโลยีย้ายโอนมาอัดมาใส่ที่จีน,คนจีนคือห้องทดลองผิวโลกขนาดใหญ่ของมันที่ผ่านๆมา.,ทางเลือกมีแค่คนจีนดีๆจะลุกขึ้นสู้ร่วมต่อต้านระบบเผด็จการปลดปล่อยตนเองทั้งประเทศจีนเท่านั้น.,หรืออเมริกายิงขีปนาวุธถล่มจีนปลดปล่อยชาวจีนเท่านั้น,โดยอเมริกาก็ปลดปล่อยตนเองจากอีลิทเองด้วยซึ่งถูกกดขี่มานานเช่นกัน. ..ในสภาฯไทยเรา นายกฯอนุทินประกาศชัดเจนเหมือนมุ่งเน้นเจตนารมณ์ตามคำสั่งอีลิทเด่นมาก,ซึ่งจริงๆไม่ต้องอ่านหรือเขียนอย่างเป็นทางการก็ได้,รวมเอาพรบ.สภาพอากาศมายื่นพื้นช่วยค้ำให้อีลิทด้วย รับไม้ต่อชัดเจนไม่ว่าจะเปลี่ยนใครมาเป็นนายกฯ เหมือนไม่แตะบ่อปิโตรเลี่ยน บ่อน้ำมันไทยเลยนั้นล่ะ ถ้าประกาศว่าจะยกเลิกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่เคยผ่านสภาสส.สว.อันขัดต่อความมั่นคงทางอธิปไตยของชาติด้านพลังงานของรัฐธรรมนูญแม่บทเรา ถ้าประกาศแบบนี้จะดีมาก ยกเลิกเลย,แต่ไม่แตะเลย,วิกฤติเศรษฐกิจไทยแค่ลดราคาน้ำมันลงเหลือ1-2บาทแบบอิหร่าน เราจะผ่านพ้นทันทีทั้งประเทศ เสมือนยึดแดนดินคืนจากเขมรที่เสาหมุด1:1 ทั้ง73-74เสาเขตแดนตั้งเป็นฐานเดิมเรื่องเขตแดนก็จบแล้ว,mouใดๆถือว่าโมฆะหมด,เรามีนายกฯที่ไม่มีฝีมือ ไม่กล้าหาญจริงแต่นั้น,,นายกฯกล้าหาญคือโมฆะสัมปทานบ่อน้ำมันทั้งหมด ยึดดินแดนไทยคืนจากเขมร,สร้างรั้วลวดหนามตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมร,ปิดด่านไทยเขมรไม่มีกำหนดจนกว่าเขมรจะหมดสิ้นสภาพสถานะมาเป็นภัยร้ายแรงคุกคามกับไทยได้อีกพร้อมคว่ำบาตรเขมรทุกๆช่องทางทั้งหมดด้วย,กรณีโจรใต้เราก็สร้างรั้วลวดหนามถาวรตลอดแนวพรมแดนกว่า600กม.ด้วยเช่นกัน.,นี้คือพื้นฐานจริงที่นายกฯประเทศต้องทำทันทีในยุคนี้ ปลดปล่อยประเทศไทย กอบกู้ชาติไทยคืนจากการผูกขาดทรัพยากรชาติไทยจากต่างชาติทั้งหมด,เมื่อนายกฯในอดีตชั่วเลว นายกฯปัจจุบันไม่จำเป็นต้องคงสิ่งชั่วเลวที่มันร่วมกันทำไว้,เพราะอำนาจนายกฯอยู่ในมือตนแล้วในปัจจุบัน,เรามีผู้นำผู้ปกครองทันหมากอีลิทย่อมต่อกรหรือชนะได้แน่เช่นกัน.,ผ่านพ้นภัยอันตรายลักษณะผีบ้าที่คอมมิวนิสต์จีนทำกับประชาชนพลเมืองมันด้วย. [...CBDC ของจีนเชื่อมต่อกับรหัสดิจิทัลไบโอเมตริกซ์ที่จำเป็น ซึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายกล้องจดจำใบหน้าอันกว้างขวาง ประชาชนสามารถชำระค่าสิ่งของได้อย่าง "สะดวก" โดยไม่ต้องใช้อะไรเลยนอกจากใบหน้า แต่สิ่งนี้ยังทำให้รัฐบาลสามารถควบคุมวิธีการใช้จ่ายเงินของประชาชนได้อย่างสมบูรณ์ ลองนึกภาพผู้หญิงคนนี้ต้องการซื้อโคล่า แต่ในเดือนนี้เธอได้เกินปริมาณคาร์บอนที่อนุญาตไว้แล้ว สามารถตั้งโปรแกรม CBDC ให้ปฏิเสธธุรกรรมโดยอัลกอริทึมได้ หรือจินตนาการว่าเธอวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทางโซเชียลมีเดีย และพบว่าตัวเองถูกขึ้นบัญชีดำโดยระบบเครดิตทางสังคมของจีน สามารถตั้งโปรแกรม CBDC ให้หยุดเงินทุนของเธอได้ทั้งหมด อย่าพลาด: ฝันร้ายดิสโทเปียนี้กำลังจะเกิดขึ้นในโลกตะวันตก หากเรายอมให้รัฐบาลหลอกให้เรายอมรับ ID ดิจิทัลและ CBDC ]
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตอนที่ 1
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก”
    ตอนที่ 1
ตะวัน ออกกลาง อยู่กลางแดด แต่เหมือนแดนสนธยา เรื่องราวของคนกลางแดดน่าพิศวง ชวนงง ไม่ง่ายสำหรับคนนอกแดดจะเข้าใจ โดยเฉพาะพวกฝรั่งตะวันตกที่เข้าไปยึดครองครอบงำ ถึงขนาดมีการพูดถึงชาวตะวันออกกลางว่า มิตรภาพของพวกเขามีไว้ให้เช่า (ชั่วคราว) แต่ไม่ได้มีไว้ขาย (ถาวร) แม้จะเป็นชาวทะเลทรายด้วยกัน แต่ความต่างเผ่า ต่างพันธุ์ ต่างนิกาย ต่างประเพณี ทำให้วิธีคิด วิธีดำเนินชีวิต และการเดินนโยบายประเทศของพวกเขา แตกต่างกันอย่างเหลือเชื่อ
    ความแตกต่างของชาวตะวันออกกลาง มีมานานแล้ว แต่ปัจจุบัน ความแตกต่างดูเหมือนจะกลายเป็นความแตกแยก แบ่งกันเห็นชัดเป็น 2 ค่าย ค่ายหนึ่งนิยมและนอนนิ่ง อยู่ในอุ้งมือของนักล่าฝรั่งตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าใบตองแห้ง กับอังกฤษ นักล่าจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้ว ก้อยของเท้าซ้าย ค่ายนี้นำโดย ซาอุดิอารเบีย เสี่ยใหญ่แห่งทะเลทราย มีพรรคพวกในสังกัด เป็นเศรษฐีน้ำมัน ประเภทชอบพกกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ เป็นปึก คือ ยูไนเต็ดอาหรับเอมิเรต (UAE) คูเวต บาห์เรน โอมาน กาตาร์ และอิรัก บวกด้วย เศษของ เศรษฐีอีกหนึ่งราย คือ จอร์แดน ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่พวกบ้านติดอ่าวด้วยกัน แต่ก็เป็นประเภทนอนสบาย ไม่เดือดร้อนอยู่ในอุ้งมือนักล่าด้วยเช่นกัน
    ส่วน อีกค่ายหนึ่ง เข้าใจว่า ขณะนี้ไม่นิยมใช้ใบตองแห้ง และไม่ชอบอยู่เกาะ หลังจากเคยนิยมกันมาพักใหญ่ค่ายนี้นำโดยอิหร่าน ซึ่งกำลังถูกกล่าวหา (หรือกล่าวจริง) ว่ามีนิวเคลียร์พกติดกระเป๋ากางเกงไว้ตลอดเวลาอย่างน้อย 2 ลูก ส่วนพรรคพวกที่อิหร่านเพียรเกี้ยว และเกี่ยวมาเข้าค่ายเดียวกันมี ซีเรีย เลบานอน และกำลังล่อเอาอิรักออกมาจากค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ ลูกน้องตัวโปรดของนักล่าใบตองแห้งด้วย นอกจากนี้ ข่าวลือว่าตุรกี ซึ่งเคยเสพติดกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ก็กำลังลังเล อาจจะย้ายมาอยู่ค่ายนี้ด้วย แต่อย่างว่า นักไต่ลวดพันธ์ลูกครึ่งชอบเกมเสี่ยง คงยังไม่ตัดสินใจอะไรง่ายๆ ต้องรอให้เสียวจัดกว่านี้อีกสักหน่อย ค่อยแสดงฉากผาดโผน
    อะไรทำให้พวกอยู่กลางแดด แตกแยกกันถึงขนาดนี้ พวกเขาจะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องๆ ในมุมของแต่ละค่าย ซึ่งแน่นอน คนละเรื่องเดียวกันเสมอ
    เรื่อง การบุกเข้าไปถล่มอิรัก ของอเมริกานักล่าใบตองแห้ง และเก็บซัดดัมใส่ห่อฝังลืม ตั้งแต่ ค.ศ.2003 ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ บอกเป็นของขวัญอันล้ำค่า ที่อเมริกาดันมอบให้อิหร่านโดยประมาท หรือประเมินผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ การทำให้อิรักแหลก ซัดดัมเละ เกิดช่องว่างในอิรัก ให้อิหร่านแทรกตัวเข้าไปได้อย่างไม่ยาก อิรักมีพวกซีอ่ะห์อยู่เกือบ 60% ของพลเมือง มีเพื่อนซีอ่ะห์อย่าง อิหร่านมาสนับสนุน ประโลมใจ ยามบ้านแตกสาแหรกหาย ย่อมดีกว่ามีพวกฝรั่งนักล่ามา ไล่ถล่มทิ้งระเบิดใส่ ไม่ต้องวิเคราะห์มาก เรื่องตรงไปตรงมา แน่นอน เสี่ยใหญ่ย่อมไม่พอใจ มันฉวยโอกาสฉกเด็กของเราไป จะพูด จะบ่น เรื่องอะไรกับลูกพี่ เสี่ยใหญ่เป็นต้องเอาเรื่องนี้ ขึ้นต้นเป็น แผ่นเสียงตกร่องก่อนเสมอ ทำให้ลูกพี่แสนจะเอือม เลิกพูดซ้ำซากได้มั้ยเสี่ย มันพลาดไปแล้ว อย่าย้ำหัวตะปูมาก นี่ถ้าไม่ติดพันกันเรื่องน้ำมัน ป่านนี้ตอกตะปูหัวให้แล้ว
    เรื่อง Arab Spring จากการรดน้ำใส่ปุ๋ย เอาต้นไม้ประชาธิปไตย ปลูกลงดินแดนทะเลทรายมาเป็นเวลาหลายปี ทั้งทางตรงและทางอ้อม ค.ศ.2011 ก็เริ่มเห็นผล ต้นไม้ประชาธิปไตยเริ่มทยอยกันงอกกลางทะเลทราย เริ่มตั้งแต่ตูนีเซีย เรื่องของเด็กขายผลไม้เผาตัวเอง เป็นตำนานที่โลกจะไม่มีวันลืม กัดดาฟี่เผด็จการตัวร้าย ถูกขยี้อยู่ในที่หลบภัยพร้อมกับ ลูกรัก โลกตบมือ ไชโย ดีใจ เผด็จการตัวร้ายไปอีกหนึ่ง ไม่นานหลังจากนั้น อียิปต์ก็ลุกฮือเอาอย่าง มูบารักกุมบังเหียนมากว่า 30 ปี ก็มีวันที่ลงจากม้าแทบไม่ทัน แถมยังต้องถูกนอนเปลห้ามไปขึ้นศาลข้อหาฆ่าประชาชน อนิจจา อนิจจัง
    ต้นไม้ ประชาธิปไตยงอกงาม Arab Spring งามจริงๆ พร้อมกับการอ้างว่า เพื่อให้เป็นประชาธิปไตย แต่ประเทศล่มสลาย ประชาชนล้มตาย พิการเท่าไหร่ น้อยคนจะติดตาม เรื่องช่อง 3 จอดำคงมีคนติดตามมากกว่า สมันน้อย ก็คงตามดูข่าว อ้าปากหวอ สลับดูละครน้ำเน่าเหมือนเดิม
    ผู้ปกครอง ประเทศ ที่เป็นเผด็จการ ก็สมควรอยู่ที่จะต้องถูกกำจัด แต่มันคงไม่ง่ายเหมือนใจนึก หลังจากเด็ดหัวทิ้งแล้ว จะจัดการกับตัวอย่างไร ประเทศนะ ไม่ใช่ต้นกล้วย จะได้ฟันฉับแล้วจบ ถึงเป็นต้นกล้วยหน่อมันยังงอกเลย แล้วประเทศมันจะเปลี่ยน แบบฉากละครง่ายๆอย่างนั้นหรือ ใครที่คิดว่า จะเปลี่ยนอะไร แบบง่ายๆ ได้ง่ายๆ ก็คิดทบทวนให้มากๆหน่อยนะครับ
    หลัง Arab Spring ทำให้เกิดอาการผึ้งแตกรัง หัวหน้าไม่มี ฝูงผึ้งก็บินกระจัดกระจาย แต่มันไม่ใช่แค่ผึ้งรังเดียว มันทยอยกันแตกไม่รู้กี่รัง ไปทั่วทะเลทราย ไอ้คนที่ทำผึ้งแตกรัง ดันหดหัว หางตก กลับบ้าน เพราะยังตั้งตัวไม่ติด ถุด ! เก่งดีนัก !
    Arab Spring ทำให้ค่ายเสี่ยใหญ่ ซาอุดิ หงุดหงิด บอกมันเป็นการสร้างปัญหาให้กับพวกเรา แม้เราจะไม่เหมือน กัดดาฟี่ มูบารัก ซัดดัม เพราะคนพวกนี้กดขี่ประชาชนตนเอง แต่พวกเราคนรวย เราดูแลประชาชนของเราดี ไปดูตัวเลขที่ CIA แต่งให้ซิ รายได้ต่อหัวของพลเมืองเราอยู่อันดับไหน (หากันเอาเองนะครับ ผมขี้เกียจเข้าไปค้นตัวเลขปลอมๆของ CIA ) แต่นั่นล่ะนะ มันทำให้คนในบ้านเรา อดเกิดความคิดเฟื่องด้วยไม่ได้ ทำให้พวกเราต้องเพิ่มการดูแล และแลดูเขามากขึ้น มันเป็นการเพิ่มรายจ่ายให้กับเรานะ แล้วกัน เสี่ยใหญ่ เสียแรงเป็นลูกน้องระดับแถวหน้า ของเจ้าของผู้ผลิตสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตย ยังไม่ชื่นชมนิยมยินดีเลย แบบนี้เจ้าของเขาจะไปหลอกขายสินค้าใครได้
    แต่ สำหรับอิหร่านเจ้าของนิวเคลียร์ 2 ลูก บอก Arab Spring ไม่มีปัญหาสำหรับบ้านเรา เพราะคนบ้านเราเขาดูออกว่าเป็นสินค้าปลอม เขาเคยใช้สินค้านี้มาหลายสิบปี รู้ฤทธิ์ของปลอม ว่ามันทำพิษพวกเขาขนาดไหน และดีเสียอีก มีคนขายของปลอมกันมากๆ เป็นโอกาสที่เราจะเอาสินค้าตราอื่นไปขายแข่งบ้าง และดูเหมือนการตลาด หรือสินค้าของอิหร่านจะเข้าตา ตอนนี้ลูกค้าเพิ่มทุกวัน
    เรื่อง ซีเรีย ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ มองเหตุการณ์ที่ซีเรีย เหมือนฝันร้าย เล่นเอาตอนนี้นอนตาโพลง กลัวว่าถ้าหลับตา จะต้องฝันร้ายเรื่องเดียวกับซีเรีย สนามรบซีเรีย มีนักรบเพิ่มขึ้นมากมาย หลายพวก หลายกลุ่ม ทั้งฝั่งรัฐบาลและฝั่งต่อต้านรัฐบาล ต่างฝ่ายใช้วิธีการตลาดผ่านหน้า social media เหมือนสร้างหนังสด เล่นเอาพวกที่ชมดูอยู่ทางบ้าน อดใจไม่ไหว สะพายเป้เข้าไปร่วมรายการด้วยมากมาย มีการประกาศรายชื่อกลุ่มเพิ่มเกือบทุกวัน จนตามไม่ทัน กลุ่มเสี่ยใหญ่นั่งไม่ติด แล้วอเมริกาจะทำอะไรบ้างไหม ทำไมอเมริกาไม่ยกทัพไปปราบ เหมือนตอนปราบซัดดัม เหมือนตอนปราบบินลาเดน เหมือนตอนปราบกัดดาฟี่ เหมือนตอนปราบมูบารัก กลุ่มเสี่ยใหญ่กลุ้มใจ จนกรดไหลย้อนบ้านหมุน นี่ถ้าพวกไปหนุนซีเรีย ไม่ว่าข้างไหน มันชนะ ความวุ่นวายมันจะต้องลามมาถึงบ้านอันใหญ่โต หรูหรา เย็นฉ่ำ ของเราแน่นอน เราจะนิ่งเฉยๆดู อเมริกาอยู่เฉยๆ อย่างนี้น่ะหรือ !? คงต้องคิดทำอะไรบ้างแล้ว
    แต่สำหรับ อิหร่าน ซึ่งสานสัมพันธ์กับ Assad ของซีเรียมานานแล้ว รวมทั้งเลบานอนและอิรัก คงไม่ถึงกับนอนไม่หลับฝันร้าย แต่ในเมื่อเขาว่า ในตะวันออกกลาง มิตรภาพมีไว้ให้เช่า (ชั่วคราว) ไม่มีไว้ให้ขาย(ถาวร) วันหนึ่งเพื่อนหายหน้าหมด แต่การคว่ำบาตรของฝ่ายนักล่าตะวันตก ยังคงมีค้างอยู่กลางแดด อิหร่านก็ต้องคิดหนัก จะเดินหน้าเต็มตัวหนุน Assad ก็ต้องแน่ใจ และใจแน่ แต่ดูเหมือนอิหร่านจะเลือกใช้ถนน One way ถอยลำบากเสียแล้วกระมัง
    เรื่อง ศักยภาพทางอาวุธ หน่วยข่าวกรองรับจ๊อบ กระซิบบอกค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิว่า อิหร่านมีจรวดพิสัยกลางแน่นอน ขนาดกำลังพอดีกับเป้าหมายแถวอ่าว และเชื่อว่าอาวุธของอิหร่าน มีอานุภาพขั้นทำลายได้รุนแรง จริงจัง ไม่ใช่แค่ลำลายตึกและประชาชนเท่านั้น ข่าวนี้ทำให้ค่ายเสี่ยใหญ่ ฮึดสู้ทุ่มทุนซื้ออาวุธจากลูกพี่เพิ่มขึ้นตลอดทุกปี เงินหนานี่ จะเอาอะไรล่ะ ลูกพี่มีให้ทั้งนั้น
    แต่ที่ สำคัญ ตราบใดที่ลูกพี่มหามิตร นักล่าใบตองแห้ง ยังเป็นมหามิตรยืนอยู่ข้างหลังค่ายเสี่ยใหญ่อยู่ตลอดกาล อิหร่านต่างหาก จะกลายเป็นใบตองแห้งเสียเอง ดังนั้นค่ายเสี่ยใหญ่จึงต้องทำทุกอย่าง ให้ลูกพี่ประกาศออกมาต่อหน้าโลก ไม่ใช่มาทำกระซิบกระซาบเบาๆ แบบเหนียมอาย ว่าลูกพี่พร้อมที่จะปกป้องค่ายเสี่ยใหญ่ มายืนติดอยู่ข้างหลังเหมือนเอากาวทาติดตัวไว้ตลอด ได้ยินไหมคร๊าบ ลูกพี่
    ส่วน ค่ายอิหร่าน เจ้าของนิวเคลียร์ 2 ลูก ตอบขรึมๆว่า ก็คอยดูไปก็แล้วกัน เรื่องอาวุธไม่จำเป็นต้องคุย ใครๆก็รู้ว่าเสือซุ่มน่ากลัวแค่ไหน ส่วนจะมีใครยืนอยู่ข้างหลังโดยไม่ต้องใช้กาวทาติดไว้ ก็คอยดูไปอีกเช่นกัน แหม! ตอบแบบพระเอกเลยนะ
    เรื่อง อาวุธนิวเคลียร์ ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ คิดว่า เราก็เป็นเสี่ยใหญ่มีเงินหนา ทำไมเราจะซื้อหามามั่งไม่ได้ ข่าวเขาว่า ซาอุดิ กำลังปรับสมรรถนะเครื่องยิงจรวดวิถีไกล ที่ซื้อมาจากจีนอยู่อย่างเคร่งเครียด ข่าวนี้เขียนไปแล้วแต่หาเครื่องกรองไม่เจอ จึงไม่รับรองความแม่นยำนะครับ และมีข่าวว่า ปากีสถานก็อาจจะแบ่งขายอาวุธนิวเคลียร์ของตนให้เสี่ยซาอุดิด้วย เพราะเป็นมิตรรักร่วมใช้กระเป๋าของเสี่ยซาอุดิมานานแล้ว แค่นี้ทำไมจะปันแบ่งกันให้ไม่ได้ นี่พูดแบบหนังแขกเลยนะ ยังกะมันแบ่ง มันขายกันให้ง่ายๆงั้นแหละ เฮ้อ! พูดกับคนรวยนี่เหนื่อยนะ เอะอะก็เรามีเงิน เดี๋ยวซื้อนี่ ซื้อนั่น คำว่าสร้างน่ะรู้จักกันบ้างไหม นิวเคลียร์นะเขาสร้างกันนานแค่ไหน บารมี ก็เหมือนกัน ซื้อไม่ได้ นะครับ เขาต้องสร้างเอง สร้างนานด้วย ไอ้ที่ขึ้นมาเป็นใหญ่ปุ๊บปั๊บ ดังคับจอ บอกบารมีเต็มเปี่ยมน่ะ ถูกหลอกต้มทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวก็รู้สึก
    นอก เรื่องไปหน่อย กลับมาเรื่องเสี่ยซาอุดิ ซึ่งยังเชื่อว่า เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน น่าจะยังอยู่ในขั้นพัฒนา ไม่ใช่อยู่ในขั้นใช้การได้จริงๆ และถ้าจะใช้จริง ของดีที่อิสราเอลมีอยู่ ก็น่าจะมีอานุภาพมากกว่าของอิหร่าน ในฐานะสังกัดลูกพี่เดียวกัน ใจคออิสราเอลจะทิ้งให้ซาอุดิลำบากหรือ แหม! เสี่ยใหญ่คิดแบบนี้ละซิ มันถึงจะเจ๊งเอาจนได้ เวลาจะใช้นิวเคลียร์ของเขาก็ดันนับญาติ เวลาหมั่นไส้ ก็หาว่ายิวฮุบแผ่นดินอาหรับแล้วก็ส่งลูกกระเป๋งไปโซ๊ย ลูกพี่ใบตองแห้งฝากเตือนมานะเสี่ย
    ส่วนค่ายอิหร่าน เสี่ยนิวเคลียร์ 2 ลูกอยู่ในกระเป๋ากางเกง เหมือนเดิม พูดเรื่องอาวุธทีไร ต้องทำหน้าขรึม บอกว่า เราจะมีถึงขั้นใช้การได้หรือไม่ อีกหน่อยก็คงรู้กัน พูดซะหล่อเลย
    แม้ ทั้ง 2 ค่ายกลางทะเลทราย จะมีมุมมองในเรื่องต่างๆ คนละทิศกัน แต่ทั้ง 2 ค่าย ต่างก็เป็นหมากในกระดานของเกมชิงโลก แม้สถานะของหมากจะต่างกัน แต่มันขึ้นกับลูกพี่ใหญ่คนเดินหมาก ที่มีเป้าชิงโลกใบนี้ ให้อยู่ในมือตนแต่ผู้เดียว จะเดินหมากต่อไปอย่างไร
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
2 ตุลาคม 2557
    กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” ตอนที่ 1
ตะวัน ออกกลาง อยู่กลางแดด แต่เหมือนแดนสนธยา เรื่องราวของคนกลางแดดน่าพิศวง ชวนงง ไม่ง่ายสำหรับคนนอกแดดจะเข้าใจ โดยเฉพาะพวกฝรั่งตะวันตกที่เข้าไปยึดครองครอบงำ ถึงขนาดมีการพูดถึงชาวตะวันออกกลางว่า มิตรภาพของพวกเขามีไว้ให้เช่า (ชั่วคราว) แต่ไม่ได้มีไว้ขาย (ถาวร) แม้จะเป็นชาวทะเลทรายด้วยกัน แต่ความต่างเผ่า ต่างพันธุ์ ต่างนิกาย ต่างประเพณี ทำให้วิธีคิด วิธีดำเนินชีวิต และการเดินนโยบายประเทศของพวกเขา แตกต่างกันอย่างเหลือเชื่อ ความแตกต่างของชาวตะวันออกกลาง มีมานานแล้ว แต่ปัจจุบัน ความแตกต่างดูเหมือนจะกลายเป็นความแตกแยก แบ่งกันเห็นชัดเป็น 2 ค่าย ค่ายหนึ่งนิยมและนอนนิ่ง อยู่ในอุ้งมือของนักล่าฝรั่งตะวันตก โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าใบตองแห้ง กับอังกฤษ นักล่าจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้ว ก้อยของเท้าซ้าย ค่ายนี้นำโดย ซาอุดิอารเบีย เสี่ยใหญ่แห่งทะเลทราย มีพรรคพวกในสังกัด เป็นเศรษฐีน้ำมัน ประเภทชอบพกกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ เป็นปึก คือ ยูไนเต็ดอาหรับเอมิเรต (UAE) คูเวต บาห์เรน โอมาน กาตาร์ และอิรัก บวกด้วย เศษของ เศรษฐีอีกหนึ่งราย คือ จอร์แดน ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่พวกบ้านติดอ่าวด้วยกัน แต่ก็เป็นประเภทนอนสบาย ไม่เดือดร้อนอยู่ในอุ้งมือนักล่าด้วยเช่นกัน ส่วน อีกค่ายหนึ่ง เข้าใจว่า ขณะนี้ไม่นิยมใช้ใบตองแห้ง และไม่ชอบอยู่เกาะ หลังจากเคยนิยมกันมาพักใหญ่ค่ายนี้นำโดยอิหร่าน ซึ่งกำลังถูกกล่าวหา (หรือกล่าวจริง) ว่ามีนิวเคลียร์พกติดกระเป๋ากางเกงไว้ตลอดเวลาอย่างน้อย 2 ลูก ส่วนพรรคพวกที่อิหร่านเพียรเกี้ยว และเกี่ยวมาเข้าค่ายเดียวกันมี ซีเรีย เลบานอน และกำลังล่อเอาอิรักออกมาจากค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ ลูกน้องตัวโปรดของนักล่าใบตองแห้งด้วย นอกจากนี้ ข่าวลือว่าตุรกี ซึ่งเคยเสพติดกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ก็กำลังลังเล อาจจะย้ายมาอยู่ค่ายนี้ด้วย แต่อย่างว่า นักไต่ลวดพันธ์ลูกครึ่งชอบเกมเสี่ยง คงยังไม่ตัดสินใจอะไรง่ายๆ ต้องรอให้เสียวจัดกว่านี้อีกสักหน่อย ค่อยแสดงฉากผาดโผน อะไรทำให้พวกอยู่กลางแดด แตกแยกกันถึงขนาดนี้ พวกเขาจะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องๆ ในมุมของแต่ละค่าย ซึ่งแน่นอน คนละเรื่องเดียวกันเสมอ เรื่อง การบุกเข้าไปถล่มอิรัก ของอเมริกานักล่าใบตองแห้ง และเก็บซัดดัมใส่ห่อฝังลืม ตั้งแต่ ค.ศ.2003 ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ บอกเป็นของขวัญอันล้ำค่า ที่อเมริกาดันมอบให้อิหร่านโดยประมาท หรือประเมินผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ การทำให้อิรักแหลก ซัดดัมเละ เกิดช่องว่างในอิรัก ให้อิหร่านแทรกตัวเข้าไปได้อย่างไม่ยาก อิรักมีพวกซีอ่ะห์อยู่เกือบ 60% ของพลเมือง มีเพื่อนซีอ่ะห์อย่าง อิหร่านมาสนับสนุน ประโลมใจ ยามบ้านแตกสาแหรกหาย ย่อมดีกว่ามีพวกฝรั่งนักล่ามา ไล่ถล่มทิ้งระเบิดใส่ ไม่ต้องวิเคราะห์มาก เรื่องตรงไปตรงมา แน่นอน เสี่ยใหญ่ย่อมไม่พอใจ มันฉวยโอกาสฉกเด็กของเราไป จะพูด จะบ่น เรื่องอะไรกับลูกพี่ เสี่ยใหญ่เป็นต้องเอาเรื่องนี้ ขึ้นต้นเป็น แผ่นเสียงตกร่องก่อนเสมอ ทำให้ลูกพี่แสนจะเอือม เลิกพูดซ้ำซากได้มั้ยเสี่ย มันพลาดไปแล้ว อย่าย้ำหัวตะปูมาก นี่ถ้าไม่ติดพันกันเรื่องน้ำมัน ป่านนี้ตอกตะปูหัวให้แล้ว เรื่อง Arab Spring จากการรดน้ำใส่ปุ๋ย เอาต้นไม้ประชาธิปไตย ปลูกลงดินแดนทะเลทรายมาเป็นเวลาหลายปี ทั้งทางตรงและทางอ้อม ค.ศ.2011 ก็เริ่มเห็นผล ต้นไม้ประชาธิปไตยเริ่มทยอยกันงอกกลางทะเลทราย เริ่มตั้งแต่ตูนีเซีย เรื่องของเด็กขายผลไม้เผาตัวเอง เป็นตำนานที่โลกจะไม่มีวันลืม กัดดาฟี่เผด็จการตัวร้าย ถูกขยี้อยู่ในที่หลบภัยพร้อมกับ ลูกรัก โลกตบมือ ไชโย ดีใจ เผด็จการตัวร้ายไปอีกหนึ่ง ไม่นานหลังจากนั้น อียิปต์ก็ลุกฮือเอาอย่าง มูบารักกุมบังเหียนมากว่า 30 ปี ก็มีวันที่ลงจากม้าแทบไม่ทัน แถมยังต้องถูกนอนเปลห้ามไปขึ้นศาลข้อหาฆ่าประชาชน อนิจจา อนิจจัง ต้นไม้ ประชาธิปไตยงอกงาม Arab Spring งามจริงๆ พร้อมกับการอ้างว่า เพื่อให้เป็นประชาธิปไตย แต่ประเทศล่มสลาย ประชาชนล้มตาย พิการเท่าไหร่ น้อยคนจะติดตาม เรื่องช่อง 3 จอดำคงมีคนติดตามมากกว่า สมันน้อย ก็คงตามดูข่าว อ้าปากหวอ สลับดูละครน้ำเน่าเหมือนเดิม ผู้ปกครอง ประเทศ ที่เป็นเผด็จการ ก็สมควรอยู่ที่จะต้องถูกกำจัด แต่มันคงไม่ง่ายเหมือนใจนึก หลังจากเด็ดหัวทิ้งแล้ว จะจัดการกับตัวอย่างไร ประเทศนะ ไม่ใช่ต้นกล้วย จะได้ฟันฉับแล้วจบ ถึงเป็นต้นกล้วยหน่อมันยังงอกเลย แล้วประเทศมันจะเปลี่ยน แบบฉากละครง่ายๆอย่างนั้นหรือ ใครที่คิดว่า จะเปลี่ยนอะไร แบบง่ายๆ ได้ง่ายๆ ก็คิดทบทวนให้มากๆหน่อยนะครับ หลัง Arab Spring ทำให้เกิดอาการผึ้งแตกรัง หัวหน้าไม่มี ฝูงผึ้งก็บินกระจัดกระจาย แต่มันไม่ใช่แค่ผึ้งรังเดียว มันทยอยกันแตกไม่รู้กี่รัง ไปทั่วทะเลทราย ไอ้คนที่ทำผึ้งแตกรัง ดันหดหัว หางตก กลับบ้าน เพราะยังตั้งตัวไม่ติด ถุด ! เก่งดีนัก ! Arab Spring ทำให้ค่ายเสี่ยใหญ่ ซาอุดิ หงุดหงิด บอกมันเป็นการสร้างปัญหาให้กับพวกเรา แม้เราจะไม่เหมือน กัดดาฟี่ มูบารัก ซัดดัม เพราะคนพวกนี้กดขี่ประชาชนตนเอง แต่พวกเราคนรวย เราดูแลประชาชนของเราดี ไปดูตัวเลขที่ CIA แต่งให้ซิ รายได้ต่อหัวของพลเมืองเราอยู่อันดับไหน (หากันเอาเองนะครับ ผมขี้เกียจเข้าไปค้นตัวเลขปลอมๆของ CIA ) แต่นั่นล่ะนะ มันทำให้คนในบ้านเรา อดเกิดความคิดเฟื่องด้วยไม่ได้ ทำให้พวกเราต้องเพิ่มการดูแล และแลดูเขามากขึ้น มันเป็นการเพิ่มรายจ่ายให้กับเรานะ แล้วกัน เสี่ยใหญ่ เสียแรงเป็นลูกน้องระดับแถวหน้า ของเจ้าของผู้ผลิตสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตย ยังไม่ชื่นชมนิยมยินดีเลย แบบนี้เจ้าของเขาจะไปหลอกขายสินค้าใครได้ แต่ สำหรับอิหร่านเจ้าของนิวเคลียร์ 2 ลูก บอก Arab Spring ไม่มีปัญหาสำหรับบ้านเรา เพราะคนบ้านเราเขาดูออกว่าเป็นสินค้าปลอม เขาเคยใช้สินค้านี้มาหลายสิบปี รู้ฤทธิ์ของปลอม ว่ามันทำพิษพวกเขาขนาดไหน และดีเสียอีก มีคนขายของปลอมกันมากๆ เป็นโอกาสที่เราจะเอาสินค้าตราอื่นไปขายแข่งบ้าง และดูเหมือนการตลาด หรือสินค้าของอิหร่านจะเข้าตา ตอนนี้ลูกค้าเพิ่มทุกวัน เรื่อง ซีเรีย ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ มองเหตุการณ์ที่ซีเรีย เหมือนฝันร้าย เล่นเอาตอนนี้นอนตาโพลง กลัวว่าถ้าหลับตา จะต้องฝันร้ายเรื่องเดียวกับซีเรีย สนามรบซีเรีย มีนักรบเพิ่มขึ้นมากมาย หลายพวก หลายกลุ่ม ทั้งฝั่งรัฐบาลและฝั่งต่อต้านรัฐบาล ต่างฝ่ายใช้วิธีการตลาดผ่านหน้า social media เหมือนสร้างหนังสด เล่นเอาพวกที่ชมดูอยู่ทางบ้าน อดใจไม่ไหว สะพายเป้เข้าไปร่วมรายการด้วยมากมาย มีการประกาศรายชื่อกลุ่มเพิ่มเกือบทุกวัน จนตามไม่ทัน กลุ่มเสี่ยใหญ่นั่งไม่ติด แล้วอเมริกาจะทำอะไรบ้างไหม ทำไมอเมริกาไม่ยกทัพไปปราบ เหมือนตอนปราบซัดดัม เหมือนตอนปราบบินลาเดน เหมือนตอนปราบกัดดาฟี่ เหมือนตอนปราบมูบารัก กลุ่มเสี่ยใหญ่กลุ้มใจ จนกรดไหลย้อนบ้านหมุน นี่ถ้าพวกไปหนุนซีเรีย ไม่ว่าข้างไหน มันชนะ ความวุ่นวายมันจะต้องลามมาถึงบ้านอันใหญ่โต หรูหรา เย็นฉ่ำ ของเราแน่นอน เราจะนิ่งเฉยๆดู อเมริกาอยู่เฉยๆ อย่างนี้น่ะหรือ !? คงต้องคิดทำอะไรบ้างแล้ว แต่สำหรับ อิหร่าน ซึ่งสานสัมพันธ์กับ Assad ของซีเรียมานานแล้ว รวมทั้งเลบานอนและอิรัก คงไม่ถึงกับนอนไม่หลับฝันร้าย แต่ในเมื่อเขาว่า ในตะวันออกกลาง มิตรภาพมีไว้ให้เช่า (ชั่วคราว) ไม่มีไว้ให้ขาย(ถาวร) วันหนึ่งเพื่อนหายหน้าหมด แต่การคว่ำบาตรของฝ่ายนักล่าตะวันตก ยังคงมีค้างอยู่กลางแดด อิหร่านก็ต้องคิดหนัก จะเดินหน้าเต็มตัวหนุน Assad ก็ต้องแน่ใจ และใจแน่ แต่ดูเหมือนอิหร่านจะเลือกใช้ถนน One way ถอยลำบากเสียแล้วกระมัง เรื่อง ศักยภาพทางอาวุธ หน่วยข่าวกรองรับจ๊อบ กระซิบบอกค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิว่า อิหร่านมีจรวดพิสัยกลางแน่นอน ขนาดกำลังพอดีกับเป้าหมายแถวอ่าว และเชื่อว่าอาวุธของอิหร่าน มีอานุภาพขั้นทำลายได้รุนแรง จริงจัง ไม่ใช่แค่ลำลายตึกและประชาชนเท่านั้น ข่าวนี้ทำให้ค่ายเสี่ยใหญ่ ฮึดสู้ทุ่มทุนซื้ออาวุธจากลูกพี่เพิ่มขึ้นตลอดทุกปี เงินหนานี่ จะเอาอะไรล่ะ ลูกพี่มีให้ทั้งนั้น แต่ที่ สำคัญ ตราบใดที่ลูกพี่มหามิตร นักล่าใบตองแห้ง ยังเป็นมหามิตรยืนอยู่ข้างหลังค่ายเสี่ยใหญ่อยู่ตลอดกาล อิหร่านต่างหาก จะกลายเป็นใบตองแห้งเสียเอง ดังนั้นค่ายเสี่ยใหญ่จึงต้องทำทุกอย่าง ให้ลูกพี่ประกาศออกมาต่อหน้าโลก ไม่ใช่มาทำกระซิบกระซาบเบาๆ แบบเหนียมอาย ว่าลูกพี่พร้อมที่จะปกป้องค่ายเสี่ยใหญ่ มายืนติดอยู่ข้างหลังเหมือนเอากาวทาติดตัวไว้ตลอด ได้ยินไหมคร๊าบ ลูกพี่ ส่วน ค่ายอิหร่าน เจ้าของนิวเคลียร์ 2 ลูก ตอบขรึมๆว่า ก็คอยดูไปก็แล้วกัน เรื่องอาวุธไม่จำเป็นต้องคุย ใครๆก็รู้ว่าเสือซุ่มน่ากลัวแค่ไหน ส่วนจะมีใครยืนอยู่ข้างหลังโดยไม่ต้องใช้กาวทาติดไว้ ก็คอยดูไปอีกเช่นกัน แหม! ตอบแบบพระเอกเลยนะ เรื่อง อาวุธนิวเคลียร์ ค่ายเสี่ยใหญ่ซาอุดิ คิดว่า เราก็เป็นเสี่ยใหญ่มีเงินหนา ทำไมเราจะซื้อหามามั่งไม่ได้ ข่าวเขาว่า ซาอุดิ กำลังปรับสมรรถนะเครื่องยิงจรวดวิถีไกล ที่ซื้อมาจากจีนอยู่อย่างเคร่งเครียด ข่าวนี้เขียนไปแล้วแต่หาเครื่องกรองไม่เจอ จึงไม่รับรองความแม่นยำนะครับ และมีข่าวว่า ปากีสถานก็อาจจะแบ่งขายอาวุธนิวเคลียร์ของตนให้เสี่ยซาอุดิด้วย เพราะเป็นมิตรรักร่วมใช้กระเป๋าของเสี่ยซาอุดิมานานแล้ว แค่นี้ทำไมจะปันแบ่งกันให้ไม่ได้ นี่พูดแบบหนังแขกเลยนะ ยังกะมันแบ่ง มันขายกันให้ง่ายๆงั้นแหละ เฮ้อ! พูดกับคนรวยนี่เหนื่อยนะ เอะอะก็เรามีเงิน เดี๋ยวซื้อนี่ ซื้อนั่น คำว่าสร้างน่ะรู้จักกันบ้างไหม นิวเคลียร์นะเขาสร้างกันนานแค่ไหน บารมี ก็เหมือนกัน ซื้อไม่ได้ นะครับ เขาต้องสร้างเอง สร้างนานด้วย ไอ้ที่ขึ้นมาเป็นใหญ่ปุ๊บปั๊บ ดังคับจอ บอกบารมีเต็มเปี่ยมน่ะ ถูกหลอกต้มทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวก็รู้สึก นอก เรื่องไปหน่อย กลับมาเรื่องเสี่ยซาอุดิ ซึ่งยังเชื่อว่า เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน น่าจะยังอยู่ในขั้นพัฒนา ไม่ใช่อยู่ในขั้นใช้การได้จริงๆ และถ้าจะใช้จริง ของดีที่อิสราเอลมีอยู่ ก็น่าจะมีอานุภาพมากกว่าของอิหร่าน ในฐานะสังกัดลูกพี่เดียวกัน ใจคออิสราเอลจะทิ้งให้ซาอุดิลำบากหรือ แหม! เสี่ยใหญ่คิดแบบนี้ละซิ มันถึงจะเจ๊งเอาจนได้ เวลาจะใช้นิวเคลียร์ของเขาก็ดันนับญาติ เวลาหมั่นไส้ ก็หาว่ายิวฮุบแผ่นดินอาหรับแล้วก็ส่งลูกกระเป๋งไปโซ๊ย ลูกพี่ใบตองแห้งฝากเตือนมานะเสี่ย ส่วนค่ายอิหร่าน เสี่ยนิวเคลียร์ 2 ลูกอยู่ในกระเป๋ากางเกง เหมือนเดิม พูดเรื่องอาวุธทีไร ต้องทำหน้าขรึม บอกว่า เราจะมีถึงขั้นใช้การได้หรือไม่ อีกหน่อยก็คงรู้กัน พูดซะหล่อเลย แม้ ทั้ง 2 ค่ายกลางทะเลทราย จะมีมุมมองในเรื่องต่างๆ คนละทิศกัน แต่ทั้ง 2 ค่าย ต่างก็เป็นหมากในกระดานของเกมชิงโลก แม้สถานะของหมากจะต่างกัน แต่มันขึ้นกับลูกพี่ใหญ่คนเดินหมาก ที่มีเป้าชิงโลกใบนี้ ให้อยู่ในมือตนแต่ผู้เดียว จะเดินหมากต่อไปอย่างไร สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
2 ตุลาคม 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts