• แฮ็กครั้งมโหฬาร: กลุ่ม Pirate Archivist ดูดข้อมูล Spotify 300TB ปล่อยทอร์เรนต์กว่า 86 ล้านไฟล์

    เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิง เมื่อกลุ่ม Anna’s Archive ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “เงาแห่งห้องสมุดโลก” ได้ทำการสกัดข้อมูลจาก Spotify ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยดึงไฟล์เพลงและเมทาดาทารวมกว่า 300TB ออกมาจากแพลตฟอร์ม พร้อมปล่อยเป็นทอร์เรนต์ให้ดาวน์โหลดอย่างเสรี การรั่วไหลครั้งนี้ครอบคลุมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็นประมาณ 37% ของคลังเพลงทั้งหมด แต่ครอบคลุมถึง 99.9% ของยอดการฟังบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนว่าข้อมูลที่หลุดออกมาคือ “แก่นกลาง” ของ Spotify อย่างแท้จริง

    Spotify ยืนยันว่ามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้โจมตีใช้วิธีหลบเลี่ยง DRM เพื่อดึงไฟล์เสียงต้นฉบับในรูปแบบ OGG Vorbis 160kbps ออกมา ขณะเดียวกันเมทาดาทากว่า 256 ล้านแถว รวมถึง ISRC ทั้ง 186 ล้านรายการ ก็ถูกนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลที่ค้นหาได้เต็มรูปแบบ ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลกถูกเปิดเผยอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น สัดส่วนเพลงที่แทบไม่มีคนฟัง หรือแนวโน้มความนิยมของเพลงที่มี BPM ประมาณ 120 ซึ่งเป็นจังหวะที่พบมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม

    Anna’s Archive อ้างว่าการกระทำครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “การอนุรักษ์ดนตรีของมนุษยชาติ” โดยมองว่า Spotify ให้ความสำคัญกับเพลงยอดนิยมมากเกินไป และคุณภาพเสียงที่ถูกบีบอัดก็ไม่เหมาะกับการเก็บถาวร พวกเขาจึงสร้างระบบทอร์เรนต์ที่จัดหมวดหมู่ตามความนิยม และใช้ฟอร์แมต AAC (Anna’s Archive Container) เพื่อแพ็กข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมทยอยปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ยังคงขยายตัวต่อไปอีกนาน

    ด้าน Spotify ระบุว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีถูกปิดแล้ว และกำลังเพิ่มมาตรการป้องกันใหม่เพื่อรับมือการโจมตีลักษณะนี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มสตรีมมิง และความเปราะบางของระบบ DRM ที่ถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ต้องการ “ปลดปล่อยข้อมูล” สู่สาธารณะ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ขนาดการรั่วไหลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    ข้อมูลกว่า 300TB ถูกดูดออกจาก Spotify
    รวมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ ครอบคลุม 99.9% ของยอดฟังทั้งหมด

    ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเปิดเผย
    เมทาดาทา 256 ล้านแถว และ ISRC 186 ล้านรายการ
    ข้อมูลเผยว่า 70% ของเพลงแทบไม่มีคนฟัง และ BPM 120 คือจังหวะยอดนิยม

    การตอบสนองของ Spotify
    ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี
    เพิ่มมาตรการป้องกันใหม่และตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัย

    ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา
    การหลบเลี่ยง DRM อาจกระทบความเชื่อมั่นในระบบสตรีมมิง
    การปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคตอาจทำให้ผลกระทบขยายวงกว้าง
    อุตสาหกรรมดนตรีอาจเผชิญความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่

    https://www.tomshardware.com/service-providers/streaming/pirate-archivist-group-scrapes-spotifys-300tb-library-posts-free-torrents-for-downloading-investigation-underway-as-music-and-metadata-hit-torrent-sites
    🎧 แฮ็กครั้งมโหฬาร: กลุ่ม Pirate Archivist ดูดข้อมูล Spotify 300TB ปล่อยทอร์เรนต์กว่า 86 ล้านไฟล์ เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิง เมื่อกลุ่ม Anna’s Archive ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “เงาแห่งห้องสมุดโลก” ได้ทำการสกัดข้อมูลจาก Spotify ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยดึงไฟล์เพลงและเมทาดาทารวมกว่า 300TB ออกมาจากแพลตฟอร์ม พร้อมปล่อยเป็นทอร์เรนต์ให้ดาวน์โหลดอย่างเสรี การรั่วไหลครั้งนี้ครอบคลุมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็นประมาณ 37% ของคลังเพลงทั้งหมด แต่ครอบคลุมถึง 99.9% ของยอดการฟังบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนว่าข้อมูลที่หลุดออกมาคือ “แก่นกลาง” ของ Spotify อย่างแท้จริง Spotify ยืนยันว่ามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้โจมตีใช้วิธีหลบเลี่ยง DRM เพื่อดึงไฟล์เสียงต้นฉบับในรูปแบบ OGG Vorbis 160kbps ออกมา ขณะเดียวกันเมทาดาทากว่า 256 ล้านแถว รวมถึง ISRC ทั้ง 186 ล้านรายการ ก็ถูกนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลที่ค้นหาได้เต็มรูปแบบ ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลกถูกเปิดเผยอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น สัดส่วนเพลงที่แทบไม่มีคนฟัง หรือแนวโน้มความนิยมของเพลงที่มี BPM ประมาณ 120 ซึ่งเป็นจังหวะที่พบมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Anna’s Archive อ้างว่าการกระทำครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “การอนุรักษ์ดนตรีของมนุษยชาติ” โดยมองว่า Spotify ให้ความสำคัญกับเพลงยอดนิยมมากเกินไป และคุณภาพเสียงที่ถูกบีบอัดก็ไม่เหมาะกับการเก็บถาวร พวกเขาจึงสร้างระบบทอร์เรนต์ที่จัดหมวดหมู่ตามความนิยม และใช้ฟอร์แมต AAC (Anna’s Archive Container) เพื่อแพ็กข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมทยอยปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ยังคงขยายตัวต่อไปอีกนาน ด้าน Spotify ระบุว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีถูกปิดแล้ว และกำลังเพิ่มมาตรการป้องกันใหม่เพื่อรับมือการโจมตีลักษณะนี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มสตรีมมิง และความเปราะบางของระบบ DRM ที่ถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ต้องการ “ปลดปล่อยข้อมูล” สู่สาธารณะ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ขนาดการรั่วไหลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ➡️ ข้อมูลกว่า 300TB ถูกดูดออกจาก Spotify ➡️ รวมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ ครอบคลุม 99.9% ของยอดฟังทั้งหมด ✅ ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเปิดเผย ➡️ เมทาดาทา 256 ล้านแถว และ ISRC 186 ล้านรายการ ➡️ ข้อมูลเผยว่า 70% ของเพลงแทบไม่มีคนฟัง และ BPM 120 คือจังหวะยอดนิยม ✅ การตอบสนองของ Spotify ➡️ ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี ➡️ เพิ่มมาตรการป้องกันใหม่และตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัย ‼️ ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา ⛔ การหลบเลี่ยง DRM อาจกระทบความเชื่อมั่นในระบบสตรีมมิง ⛔ การปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคตอาจทำให้ผลกระทบขยายวงกว้าง ⛔ อุตสาหกรรมดนตรีอาจเผชิญความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่ https://www.tomshardware.com/service-providers/streaming/pirate-archivist-group-scrapes-spotifys-300tb-library-posts-free-torrents-for-downloading-investigation-underway-as-music-and-metadata-hit-torrent-sites
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar

    RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล
    รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย
    https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams

    “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI
    CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai

    ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล
    รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030
    https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate

    GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน
    นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก
    https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard

    วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน
    วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์
    https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills

    หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม
    ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away

    LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่
    LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า
    https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name

    Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย
    Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย
    https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful

    ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม
    https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more

    NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin
    NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers

    Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI
    รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด
    https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees

    Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ
    Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel

    ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา
    ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why

    ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร
    https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware

    iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์
    หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026
    https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover

    ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ
    OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar 💾 RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams 🧠 “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai 🌡️ ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030 🔗 https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate 🕵️‍♂️ GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก 🔗 https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard ⚡ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills 📱 หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away 🖥️ LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่ LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name 🧊 Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful 🚨 ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more 🔐 NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers 🔄 Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด 🔗 https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees 🛂 Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel ⚖️ ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why 🏥 ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware 🤖 iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์ หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover 🎭 ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    0 Comments 0 Shares 300 Views 0 Reviews
  • Exim ระส่ำอีกครั้ง: ช่องโหว่ SQL Injection ลุกลามสู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต

    ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกเปิดเผยใน Exim 4.99 ทำให้โลกความปลอดภัยไซเบอร์ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เมื่อ Andrew Fasano จาก NIST ระบุว่าการอุดช่องโหว่เดิม (CVE-2025-26794) นั้น “ปิดไม่สนิท” จนกลายเป็นประตูบานใหญ่ให้แฮ็กเกอร์สามารถโจมตีลึกกว่าเดิมได้ ช่องโหว่นี้เริ่มจากการฉีดคำสั่ง SQL ผ่านฟิลด์ที่ควรจะถูก sanitize แต่กลับถูกละเลยในฟังก์ชัน xtextencode() ส่งผลให้ฐานข้อมูล SQLite ภายใน Exim ถูกควบคุมได้จากภายนอกอย่างไม่ตั้งใจ

    ความร้ายแรงไม่ได้หยุดแค่ SQL Injection เพราะ Fasano พบว่าช่องโหว่นี้สามารถเชื่อมโยงไปสู่ Heap Buffer Overflow ผ่านฟิลด์ bloom_size ที่ระบบอ่านโดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง เมื่อผู้โจมตีใส่ค่าขนาดผิดปกติ ระบบจะเขียนข้อมูลเกินขอบเขตหน่วยความจำ ทำให้เกิด memory corruption สูงสุดกว่า 1.5MB ซึ่งอาจนำไปสู่การยึดเครื่องได้ แม้ ASLR จะช่วยลดโอกาส RCE แต่ Fasano ยืนยันว่า “มีความเป็นไปได้” หากมีการพัฒนา exploit ต่อเนื่อง

    การโจมตีนี้เกิดขึ้นได้เฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ Exim ถูกคอมไพล์ด้วย USE_SQLITE=yes และใช้ ratelimit ACL ที่อิงข้อมูลจากผู้โจมตี เช่น sender_address ซึ่งเป็นการตั้งค่าที่พบได้ในองค์กรจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะระบบอีเมลที่ปรับแต่งเองหรือใช้ config เก่าไม่เคย audit ความปลอดภัย นอกจากนี้ เทรนด์การโจมตี MTA ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2025 จากกลุ่ม APT ที่มองหา entry point ราคาถูกแต่ทรงพลัง เช่นเดียวกับกรณี Postfix และ Sendmail ที่เพิ่งถูกตรวจพบช่องโหว่คล้ายกันในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ดูแลระบบอัปเดต Exim ทันที พร้อมตรวจสอบ config ที่ใช้ SQLite และ ratelimit ACL อย่างละเอียด รวมถึงพิจารณาเปลี่ยนไปใช้ parameterized queries เพื่อลดความเสี่ยง SQL Injection แบบถาวร นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าระบบอีเมลแบบ self-hosted ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญขององค์กร หากไม่มีการดูแลเชิงรุกและตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ SQL Injection ใน Exim 4.99
    เกิดจากการ sanitize ข้อมูลไม่สมบูรณ์ในฟังก์ชัน xtextencode()
    สามารถฉีดคำสั่ง SQL ผ่าน sender_address ได้

    ช่องโหว่ลุกลามสู่ Heap Buffer Overflow
    bloom_size ถูกอ่านโดยไม่มีการตรวจสอบ
    memory overflow สูงสุดกว่า 1.5MB

    เงื่อนไขที่ทำให้ระบบเสี่ยง
    Exim ถูกคอมไพล์ด้วย USE_SQLITE=yes
    ใช้ ratelimit ACL ที่อิงข้อมูลจากผู้โจมตี

    ความเสี่ยงระดับองค์กร
    อาจนำไปสู่ Remote Code Execution หาก exploit พัฒนาเพิ่ม
    ระบบอีเมล self-hosted ที่ไม่ได้อัปเดตมีความเสี่ยงสูงมาก

    คำแนะนำเร่งด่วน
    อัปเดต Exim ทันที
    ตรวจสอบ config ที่ใช้ SQLite และ ratelimit ACL

    https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows/
    🛡️ Exim ระส่ำอีกครั้ง: ช่องโหว่ SQL Injection ลุกลามสู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกเปิดเผยใน Exim 4.99 ทำให้โลกความปลอดภัยไซเบอร์ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เมื่อ Andrew Fasano จาก NIST ระบุว่าการอุดช่องโหว่เดิม (CVE-2025-26794) นั้น “ปิดไม่สนิท” จนกลายเป็นประตูบานใหญ่ให้แฮ็กเกอร์สามารถโจมตีลึกกว่าเดิมได้ ช่องโหว่นี้เริ่มจากการฉีดคำสั่ง SQL ผ่านฟิลด์ที่ควรจะถูก sanitize แต่กลับถูกละเลยในฟังก์ชัน xtextencode() ส่งผลให้ฐานข้อมูล SQLite ภายใน Exim ถูกควบคุมได้จากภายนอกอย่างไม่ตั้งใจ ความร้ายแรงไม่ได้หยุดแค่ SQL Injection เพราะ Fasano พบว่าช่องโหว่นี้สามารถเชื่อมโยงไปสู่ Heap Buffer Overflow ผ่านฟิลด์ bloom_size ที่ระบบอ่านโดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง เมื่อผู้โจมตีใส่ค่าขนาดผิดปกติ ระบบจะเขียนข้อมูลเกินขอบเขตหน่วยความจำ ทำให้เกิด memory corruption สูงสุดกว่า 1.5MB ซึ่งอาจนำไปสู่การยึดเครื่องได้ แม้ ASLR จะช่วยลดโอกาส RCE แต่ Fasano ยืนยันว่า “มีความเป็นไปได้” หากมีการพัฒนา exploit ต่อเนื่อง การโจมตีนี้เกิดขึ้นได้เฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ Exim ถูกคอมไพล์ด้วย USE_SQLITE=yes และใช้ ratelimit ACL ที่อิงข้อมูลจากผู้โจมตี เช่น sender_address ซึ่งเป็นการตั้งค่าที่พบได้ในองค์กรจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะระบบอีเมลที่ปรับแต่งเองหรือใช้ config เก่าไม่เคย audit ความปลอดภัย นอกจากนี้ เทรนด์การโจมตี MTA ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2025 จากกลุ่ม APT ที่มองหา entry point ราคาถูกแต่ทรงพลัง เช่นเดียวกับกรณี Postfix และ Sendmail ที่เพิ่งถูกตรวจพบช่องโหว่คล้ายกันในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ดูแลระบบอัปเดต Exim ทันที พร้อมตรวจสอบ config ที่ใช้ SQLite และ ratelimit ACL อย่างละเอียด รวมถึงพิจารณาเปลี่ยนไปใช้ parameterized queries เพื่อลดความเสี่ยง SQL Injection แบบถาวร นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าระบบอีเมลแบบ self-hosted ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญขององค์กร หากไม่มีการดูแลเชิงรุกและตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ SQL Injection ใน Exim 4.99 ➡️ เกิดจากการ sanitize ข้อมูลไม่สมบูรณ์ในฟังก์ชัน xtextencode() ➡️ สามารถฉีดคำสั่ง SQL ผ่าน sender_address ได้ ✅ ช่องโหว่ลุกลามสู่ Heap Buffer Overflow ➡️ bloom_size ถูกอ่านโดยไม่มีการตรวจสอบ ➡️ memory overflow สูงสุดกว่า 1.5MB ✅ เงื่อนไขที่ทำให้ระบบเสี่ยง ➡️ Exim ถูกคอมไพล์ด้วย USE_SQLITE=yes ➡️ ใช้ ratelimit ACL ที่อิงข้อมูลจากผู้โจมตี ‼️ ความเสี่ยงระดับองค์กร ⛔ อาจนำไปสู่ Remote Code Execution หาก exploit พัฒนาเพิ่ม ⛔ ระบบอีเมล self-hosted ที่ไม่ได้อัปเดตมีความเสี่ยงสูงมาก ‼️ คำแนะนำเร่งด่วน ⛔ อัปเดต Exim ทันที ⛔ ตรวจสอบ config ที่ใช้ SQLite และ ratelimit ACL https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows/
    SECURITYONLINE.INFO
    Exim’s Poisoned Record: How a Failed Patch and SQL Injection Lead to Critical Heap Overflows
    NIST warns of a critical Exim 4.99 flaw. A failed SQLi patch allows attackers to poison SQLite records and trigger a 1.5MB heap buffer overflow.
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.48

    อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิด หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนามอนุสัญญาออตตาวา ถือเป็นหลักหมุดหมายสำคัญในทางกฎหมายระหว่างประเทศที่เปลี่ยนผ่านจากการควบคุมอาวุธแบบดั้งเดิมไปสู่การคุ้มครองสิทธิทางมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีแก่นแท้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการยุติความเสียหายที่มิอาจเลือกปฏิบัติได้ระหว่างพลเรือนและคู่สงคราม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในเรื่องความจำเป็นทางการทหารและการแบ่งแยกกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน พันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญานี้กำหนดให้รัฐภาคีต้องยุติการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมทั้งมีหน้าที่ตามกฎหมายในการทำลายคลังแสงทุ่นระเบิดในครอบครองภายในระยะเวลาที่กำหนด และที่สำคัญที่สุดคือภาระหน้าที่ตามมาตราที่ห้าในการสำรวจและกวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดให้เสร็จสิ้นเพื่อคืนพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน ในบริบทของพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชาซึ่งเคยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอดีต การปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการทำลายอาวุธ แต่คือการแสดงเจตจำนงทางกฎหมายที่ต้องการเยียวยาผลกระทบจากสงครามอย่างเป็นรูปธรรม โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและนักทำลายล้างวัตถุระเบิดในการตรวจค้นและกวาดล้างทุ่นระเบิดถือเป็นภารกิจที่มีฐานอำนาจรองรับจากกฎหมายเพื่อสร้างความมั่นคงในมิติใหม่ที่ไม่ใช่การสะสมอาวุธแต่คือการสร้างความปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตและประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างปกติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล นอกจากนี้อนุสัญญายังเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างประเทศและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นมิติทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการสร้างความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐภาคีในการกำจัดภัยคุกคามที่ตกค้างจากความขัดแย้งในอดีตให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ทับซ้อนและแนวพรมแดนอย่างถาวร

    บทสรุปความสำเร็จของอนุสัญญาออตตาวาจึงมิได้วัดเพียงจำนวนทุ่นระเบิดที่ถูกขุดขึ้นมาทำลายลงไปเท่านั้น แต่คือการสร้างบรรทัดฐานทางจริยธรรมที่กลายเป็นกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งได้รับการยอมรับจากรัฐส่วนใหญ่ทั่วโลกในการปฏิเสธการใช้อาวุธที่มีลักษณะโหดร้ายและส่งผลกระทบต่อเนื่องยาวนานเกินกว่าความจำเป็นทางการทหาร การรักษาความร่วมมือระหว่างประเทศในการกวาดล้างทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชาโดยกำลังพลทหารที่มีความเชี่ยวชาญคือการตอกย้ำว่ากฎหมายสามารถเปลี่ยนสนามรบในอดีตให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการพัฒนาและสันติภาพได้ และเป็นการยืนยันว่าสิทธิในชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ย่อมอยู่เหนือยุทธศาสตร์ทางการทหารใดๆ ทั้งสิ้น การก้าวไปสู่โลกที่ไร้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจึงเป็นพันธกิจทางกฎหมายและมนุษยธรรมที่สำคัญยิ่งซึ่งมวลมนุษยชาติจะต้องร่วมกันรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของอนุสัญญาฉบับนี้ไว้เพื่อส่งต่อพื้นดินที่ปลอดภัยให้แก่คนรุ่นหลังสืบไป
    บทความกฎหมาย EP.48 อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิด หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนามอนุสัญญาออตตาวา ถือเป็นหลักหมุดหมายสำคัญในทางกฎหมายระหว่างประเทศที่เปลี่ยนผ่านจากการควบคุมอาวุธแบบดั้งเดิมไปสู่การคุ้มครองสิทธิทางมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีแก่นแท้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการยุติความเสียหายที่มิอาจเลือกปฏิบัติได้ระหว่างพลเรือนและคู่สงคราม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในเรื่องความจำเป็นทางการทหารและการแบ่งแยกกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน พันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญานี้กำหนดให้รัฐภาคีต้องยุติการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมทั้งมีหน้าที่ตามกฎหมายในการทำลายคลังแสงทุ่นระเบิดในครอบครองภายในระยะเวลาที่กำหนด และที่สำคัญที่สุดคือภาระหน้าที่ตามมาตราที่ห้าในการสำรวจและกวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดให้เสร็จสิ้นเพื่อคืนพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน ในบริบทของพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชาซึ่งเคยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอดีต การปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการทำลายอาวุธ แต่คือการแสดงเจตจำนงทางกฎหมายที่ต้องการเยียวยาผลกระทบจากสงครามอย่างเป็นรูปธรรม โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและนักทำลายล้างวัตถุระเบิดในการตรวจค้นและกวาดล้างทุ่นระเบิดถือเป็นภารกิจที่มีฐานอำนาจรองรับจากกฎหมายเพื่อสร้างความมั่นคงในมิติใหม่ที่ไม่ใช่การสะสมอาวุธแต่คือการสร้างความปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตและประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างปกติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล นอกจากนี้อนุสัญญายังเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างประเทศและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นมิติทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการสร้างความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐภาคีในการกำจัดภัยคุกคามที่ตกค้างจากความขัดแย้งในอดีตให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ทับซ้อนและแนวพรมแดนอย่างถาวร บทสรุปความสำเร็จของอนุสัญญาออตตาวาจึงมิได้วัดเพียงจำนวนทุ่นระเบิดที่ถูกขุดขึ้นมาทำลายลงไปเท่านั้น แต่คือการสร้างบรรทัดฐานทางจริยธรรมที่กลายเป็นกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งได้รับการยอมรับจากรัฐส่วนใหญ่ทั่วโลกในการปฏิเสธการใช้อาวุธที่มีลักษณะโหดร้ายและส่งผลกระทบต่อเนื่องยาวนานเกินกว่าความจำเป็นทางการทหาร การรักษาความร่วมมือระหว่างประเทศในการกวาดล้างทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชาโดยกำลังพลทหารที่มีความเชี่ยวชาญคือการตอกย้ำว่ากฎหมายสามารถเปลี่ยนสนามรบในอดีตให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการพัฒนาและสันติภาพได้ และเป็นการยืนยันว่าสิทธิในชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ย่อมอยู่เหนือยุทธศาสตร์ทางการทหารใดๆ ทั้งสิ้น การก้าวไปสู่โลกที่ไร้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจึงเป็นพันธกิจทางกฎหมายและมนุษยธรรมที่สำคัญยิ่งซึ่งมวลมนุษยชาติจะต้องร่วมกันรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของอนุสัญญาฉบับนี้ไว้เพื่อส่งต่อพื้นดินที่ปลอดภัยให้แก่คนรุ่นหลังสืบไป
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • Privacy is Marketing. Anonymity is Architecture: เมื่อคำว่า “ความเป็นส่วนตัว” กลายเป็นสโลแกน แต่ “สถาปัตยกรรม” ต่างหากที่ปกป้องคุณจริง

    บทความของ Servury เปิดโปงความจริงที่หลายคนรู้แต่ไม่ค่อยพูดออกมา: คำว่า “เราห่วงใยความเป็นส่วนตัวของคุณ” กลายเป็นเพียง วาทกรรมทางการตลาด ที่บริษัทเทคโนโลยีใช้เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ทั้งที่เบื้องหลังระบบยังคงเก็บข้อมูลทุกอย่างที่สามารถระบุตัวตนได้ ตั้งแต่ IP, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์ ไปจนถึงข้อมูลอุปกรณ์และพฤติกรรมการใช้งาน ความเป็นส่วนตัวในโลกปัจจุบันจึงไม่ใช่ “การปกป้องข้อมูล” แต่คือ “การครอบครองข้อมูล” ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่พร้อมถูกบังคับ เปิดเผย หรือรั่วไหลได้ทุกเมื่อ

    Servury ชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่าง Privacy (ความเป็นส่วนตัว) กับ Anonymity (การไม่ระบุตัวตน) อย่างชัดเจน โดยยกตัวอย่าง Mullvad VPN ที่ถูกตำรวจสวีเดนบุกค้นในปี 2023 แต่ไม่สามารถยึดข้อมูลผู้ใช้ได้ เพราะระบบถูกออกแบบให้ “ไม่มีข้อมูลใดๆ ให้ยึด” ตั้งแต่แรก นี่คือพลังของสถาปัตยกรรมที่ตั้งต้นจากแนวคิด “เก็บให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น” ไม่ใช่ “เก็บทุกอย่างแล้วค่อยปกป้องทีหลัง”

    Servury นำแนวคิดนี้มาใช้กับแพลตฟอร์มของตัวเอง โดยตัดสินใจไม่เก็บอีเมล ไม่เก็บ IP ไม่เก็บชื่อ ไม่เก็บข้อมูลการใช้งาน และไม่เก็บข้อมูลอุปกรณ์ สิ่งเดียวที่ผู้ใช้มีคือ credential แบบสุ่ม 32 ตัวอักษร ซึ่งเป็นทั้งบัญชีและกุญแจเข้าระบบในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่ามันแลกมากับความไม่สะดวก เช่น การกู้บัญชีไม่ได้ แต่ Servury ย้ำว่านี่คือ “ราคาของการไม่ทิ้งร่องรอย” และเป็นสิ่งที่บริษัทอื่นไม่กล้าทำเพราะขัดกับโมเดลธุรกิจที่ต้องพึ่งข้อมูลผู้ใช้

    บทความยังเตือนถึง “กับดักอีเมล” ซึ่งเป็นรากเหง้าของการติดตามตัวตนบนอินเทอร์เน็ต เพราะอีเมลผูกกับเบอร์โทร บัตรเครดิต บริการอื่นๆ และสามารถถูกติดตาม วิเคราะห์ หรือ subpoena ย้อนหลังได้ การใช้อีเมลจึงเท่ากับการยอมให้ตัวตนถูกผูกติดกับทุกบริการที่ใช้โดยอัตโนมัติ ในขณะที่โลกกำลังแยกออกเป็นสองฝั่ง—เว็บที่ต้องยืนยันตัวตนทุกอย่าง และ เว็บที่ยังคงรักษาความนิรนาม—บทความนี้คือคำเตือนว่าอนาคตของเสรีภาพออนไลน์ขึ้นอยู่กับสถาปัตยกรรม ไม่ใช่คำโฆษณา

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความแตกต่างระหว่าง Privacy vs Anonymity
    Privacy คือการ “สัญญาว่าจะปกป้องข้อมูล”
    Anonymity คือ “ไม่มีข้อมูลให้ปกป้องตั้งแต่แรก”
    สถาปัตยกรรมที่ไม่เก็บข้อมูลคือการป้องกันที่แท้จริง

    ตัวอย่างจริง: Mullvad VPN
    ถูกตำรวจบุกค้นแต่ไม่มีข้อมูลให้ยึด
    ใช้ระบบบัญชีแบบตัวเลขสุ่ม 16 หลัก
    แสดงให้เห็นว่าการไม่เก็บข้อมูลคือเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด

    สถาปัตยกรรมของ Servury
    ไม่เก็บอีเมล ชื่อ IP อุปกรณ์ หรือข้อมูลการใช้งาน
    ผู้ใช้มีเพียง credential 32 ตัวอักษร
    ไม่มีระบบกู้บัญชี เพราะจะทำลายความนิรนาม

    ทำไมอีเมลคือ “ศัตรูของความนิรนาม”
    ผูกกับตัวตนจริงในหลายระบบ
    ถูกติดตาม วิเคราะห์ และ subpoena ได้
    เป็นจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงตัวตนข้ามบริการ

    บริบทโลกอินเทอร์เน็ตยุคใหม่
    อินเทอร์เน็ตกำลังแบ่งเป็น “เว็บที่ต้องยืนยันตัวตน” และ “เว็บที่ยังนิรนามได้”
    บริการที่ไม่จำเป็นต้องรู้จักผู้ใช้ควรออกแบบให้ไม่เก็บข้อมูล
    ความนิรนามคือสถาปัตยกรรม ไม่ใช่ฟีเจอร์

    ประเด็นที่ต้องระวัง
    สูญเสีย credential = สูญเสียบัญชีถาวร
    ความนิรนามไม่เท่ากับความปลอดภัย หากผู้ใช้เก็บ credential ไม่ดี
    การไม่เก็บข้อมูลไม่ได้ทำให้ผู้ใช้ “ล่องหน” จากทุกระบบ—เพียงลดการเชื่อมโยงตัวตน

    https://servury.com/blog/privacy-is-marketing-anonymity-is-architecture/
    🕶️ Privacy is Marketing. Anonymity is Architecture: เมื่อคำว่า “ความเป็นส่วนตัว” กลายเป็นสโลแกน แต่ “สถาปัตยกรรม” ต่างหากที่ปกป้องคุณจริง บทความของ Servury เปิดโปงความจริงที่หลายคนรู้แต่ไม่ค่อยพูดออกมา: คำว่า “เราห่วงใยความเป็นส่วนตัวของคุณ” กลายเป็นเพียง วาทกรรมทางการตลาด ที่บริษัทเทคโนโลยีใช้เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ทั้งที่เบื้องหลังระบบยังคงเก็บข้อมูลทุกอย่างที่สามารถระบุตัวตนได้ ตั้งแต่ IP, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์ ไปจนถึงข้อมูลอุปกรณ์และพฤติกรรมการใช้งาน ความเป็นส่วนตัวในโลกปัจจุบันจึงไม่ใช่ “การปกป้องข้อมูล” แต่คือ “การครอบครองข้อมูล” ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่พร้อมถูกบังคับ เปิดเผย หรือรั่วไหลได้ทุกเมื่อ Servury ชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่าง Privacy (ความเป็นส่วนตัว) กับ Anonymity (การไม่ระบุตัวตน) อย่างชัดเจน โดยยกตัวอย่าง Mullvad VPN ที่ถูกตำรวจสวีเดนบุกค้นในปี 2023 แต่ไม่สามารถยึดข้อมูลผู้ใช้ได้ เพราะระบบถูกออกแบบให้ “ไม่มีข้อมูลใดๆ ให้ยึด” ตั้งแต่แรก นี่คือพลังของสถาปัตยกรรมที่ตั้งต้นจากแนวคิด “เก็บให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น” ไม่ใช่ “เก็บทุกอย่างแล้วค่อยปกป้องทีหลัง” Servury นำแนวคิดนี้มาใช้กับแพลตฟอร์มของตัวเอง โดยตัดสินใจไม่เก็บอีเมล ไม่เก็บ IP ไม่เก็บชื่อ ไม่เก็บข้อมูลการใช้งาน และไม่เก็บข้อมูลอุปกรณ์ สิ่งเดียวที่ผู้ใช้มีคือ credential แบบสุ่ม 32 ตัวอักษร ซึ่งเป็นทั้งบัญชีและกุญแจเข้าระบบในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่ามันแลกมากับความไม่สะดวก เช่น การกู้บัญชีไม่ได้ แต่ Servury ย้ำว่านี่คือ “ราคาของการไม่ทิ้งร่องรอย” และเป็นสิ่งที่บริษัทอื่นไม่กล้าทำเพราะขัดกับโมเดลธุรกิจที่ต้องพึ่งข้อมูลผู้ใช้ บทความยังเตือนถึง “กับดักอีเมล” ซึ่งเป็นรากเหง้าของการติดตามตัวตนบนอินเทอร์เน็ต เพราะอีเมลผูกกับเบอร์โทร บัตรเครดิต บริการอื่นๆ และสามารถถูกติดตาม วิเคราะห์ หรือ subpoena ย้อนหลังได้ การใช้อีเมลจึงเท่ากับการยอมให้ตัวตนถูกผูกติดกับทุกบริการที่ใช้โดยอัตโนมัติ ในขณะที่โลกกำลังแยกออกเป็นสองฝั่ง—เว็บที่ต้องยืนยันตัวตนทุกอย่าง และ เว็บที่ยังคงรักษาความนิรนาม—บทความนี้คือคำเตือนว่าอนาคตของเสรีภาพออนไลน์ขึ้นอยู่กับสถาปัตยกรรม ไม่ใช่คำโฆษณา 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความแตกต่างระหว่าง Privacy vs Anonymity ➡️ Privacy คือการ “สัญญาว่าจะปกป้องข้อมูล” ➡️ Anonymity คือ “ไม่มีข้อมูลให้ปกป้องตั้งแต่แรก” ➡️ สถาปัตยกรรมที่ไม่เก็บข้อมูลคือการป้องกันที่แท้จริง ✅ ตัวอย่างจริง: Mullvad VPN ➡️ ถูกตำรวจบุกค้นแต่ไม่มีข้อมูลให้ยึด ➡️ ใช้ระบบบัญชีแบบตัวเลขสุ่ม 16 หลัก ➡️ แสดงให้เห็นว่าการไม่เก็บข้อมูลคือเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด ✅ สถาปัตยกรรมของ Servury ➡️ ไม่เก็บอีเมล ชื่อ IP อุปกรณ์ หรือข้อมูลการใช้งาน ➡️ ผู้ใช้มีเพียง credential 32 ตัวอักษร ➡️ ไม่มีระบบกู้บัญชี เพราะจะทำลายความนิรนาม ✅ ทำไมอีเมลคือ “ศัตรูของความนิรนาม” ➡️ ผูกกับตัวตนจริงในหลายระบบ ➡️ ถูกติดตาม วิเคราะห์ และ subpoena ได้ ➡️ เป็นจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงตัวตนข้ามบริการ ✅ บริบทโลกอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ ➡️ อินเทอร์เน็ตกำลังแบ่งเป็น “เว็บที่ต้องยืนยันตัวตน” และ “เว็บที่ยังนิรนามได้” ➡️ บริการที่ไม่จำเป็นต้องรู้จักผู้ใช้ควรออกแบบให้ไม่เก็บข้อมูล ➡️ ความนิรนามคือสถาปัตยกรรม ไม่ใช่ฟีเจอร์ ‼️ ประเด็นที่ต้องระวัง ⛔ สูญเสีย credential = สูญเสียบัญชีถาวร ⛔ ความนิรนามไม่เท่ากับความปลอดภัย หากผู้ใช้เก็บ credential ไม่ดี ⛔ การไม่เก็บข้อมูลไม่ได้ทำให้ผู้ใช้ “ล่องหน” จากทุกระบบ—เพียงลดการเชื่อมโยงตัวตน https://servury.com/blog/privacy-is-marketing-anonymity-is-architecture/
    SERVURY.COM
    Privacy is Marketing. Anonymity is Architecture.
    Privacy is when they promise to protect your data. Anonymity is when they never had your data to begin with.
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • Copilot บน LG webOS TV: แค่ Shortcut ไม่ใช่แอป

    หลังจากเกิดความสับสนว่าทีวี LG รุ่นใหม่มีการติดตั้ง Copilot เป็นแอปถาวร LG ได้ออกมาชี้แจงว่า Copilot ที่ปรากฏบนหน้า Home เป็นเพียง ไอคอนลัด (shortcut) ที่เปิดเว็บ Copilot ผ่านเบราว์เซอร์ในตัวเครื่อง ไม่ได้ฝังอยู่ในระบบปฏิบัติการ และไม่ได้ทำงานเบื้องหลัง

    ฟีเจอร์และการทำงาน
    เมื่อผู้ใช้กดที่ไอคอน Copilot ทีวีจะเปิดเบราว์เซอร์ไปยังเว็บไซต์ Copilot โดยตรง ฟีเจอร์อย่างการใช้ไมโครโฟนจะไม่ถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ แต่จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ก่อนผ่านเบราว์เซอร์ ซึ่งหมายความว่าการเข้าถึงข้อมูลและระบบของทีวีไม่ได้ถูกผูกติดกับ Copilot

    การตอบสนองต่อเสียงวิจารณ์
    LG ยอมรับว่าผู้ใช้หลายคนไม่พอใจที่ไอคอน Copilot ปรากฏขึ้นโดยไม่มีตัวเลือกในการลบ จึงประกาศว่าจะออก อัปเดตซอฟต์แวร์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถลบ shortcut ได้เองในอนาคต เพื่อยืนยันว่าบริษัทเคารพสิทธิในการเลือกของผู้บริโภค

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    แม้ Copilot จะไม่ใช่แอปถาวร แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความกังวลของผู้ใช้เกี่ยวกับการบูรณาการ AI เข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หากไม่มีการสื่อสารที่ชัดเจน อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าถูกบังคับให้ใช้บริการโดยไม่สมัครใจ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    สถานะของ Copilot บน LG TV
    เป็น shortcut ที่เปิดเว็บ Copilot ผ่านเบราว์เซอร์
    ไม่ใช่แอปที่ติดตั้งถาวรในระบบ

    การทำงานของฟีเจอร์
    เปิดใช้งานไมโครโฟนได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้อนุญาต
    ไม่มีการเข้าถึงระบบทีวีโดยตรง

    การตอบสนองของ LG
    เตรียมออกอัปเดตให้ผู้ใช้สามารถลบ shortcut ได้
    ยืนยันว่าบริษัทเคารพสิทธิผู้บริโภค

    คำเตือนและผลกระทบ
    หากไม่มีการสื่อสารที่ชัดเจน อาจสร้างความเข้าใจผิด
    ผู้ใช้บางส่วนอาจรู้สึกว่าถูกบังคับให้ใช้บริการ AI

    https://www.tomshardware.com/monitors/televisions/lg-says-microsoft-copilot-on-webos-tvs-is-a-browser-shortcut-not-a-built-in-app
    📺 Copilot บน LG webOS TV: แค่ Shortcut ไม่ใช่แอป หลังจากเกิดความสับสนว่าทีวี LG รุ่นใหม่มีการติดตั้ง Copilot เป็นแอปถาวร LG ได้ออกมาชี้แจงว่า Copilot ที่ปรากฏบนหน้า Home เป็นเพียง ไอคอนลัด (shortcut) ที่เปิดเว็บ Copilot ผ่านเบราว์เซอร์ในตัวเครื่อง ไม่ได้ฝังอยู่ในระบบปฏิบัติการ และไม่ได้ทำงานเบื้องหลัง ⚡ ฟีเจอร์และการทำงาน เมื่อผู้ใช้กดที่ไอคอน Copilot ทีวีจะเปิดเบราว์เซอร์ไปยังเว็บไซต์ Copilot โดยตรง ฟีเจอร์อย่างการใช้ไมโครโฟนจะไม่ถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ แต่จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ก่อนผ่านเบราว์เซอร์ ซึ่งหมายความว่าการเข้าถึงข้อมูลและระบบของทีวีไม่ได้ถูกผูกติดกับ Copilot 🛠️ การตอบสนองต่อเสียงวิจารณ์ LG ยอมรับว่าผู้ใช้หลายคนไม่พอใจที่ไอคอน Copilot ปรากฏขึ้นโดยไม่มีตัวเลือกในการลบ จึงประกาศว่าจะออก อัปเดตซอฟต์แวร์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถลบ shortcut ได้เองในอนาคต เพื่อยืนยันว่าบริษัทเคารพสิทธิในการเลือกของผู้บริโภค ⚠️ ผลกระทบและข้อควรระวัง แม้ Copilot จะไม่ใช่แอปถาวร แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความกังวลของผู้ใช้เกี่ยวกับการบูรณาการ AI เข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หากไม่มีการสื่อสารที่ชัดเจน อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าถูกบังคับให้ใช้บริการโดยไม่สมัครใจ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ สถานะของ Copilot บน LG TV ➡️ เป็น shortcut ที่เปิดเว็บ Copilot ผ่านเบราว์เซอร์ ➡️ ไม่ใช่แอปที่ติดตั้งถาวรในระบบ ✅ การทำงานของฟีเจอร์ ➡️ เปิดใช้งานไมโครโฟนได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้อนุญาต ➡️ ไม่มีการเข้าถึงระบบทีวีโดยตรง ✅ การตอบสนองของ LG ➡️ เตรียมออกอัปเดตให้ผู้ใช้สามารถลบ shortcut ได้ ➡️ ยืนยันว่าบริษัทเคารพสิทธิผู้บริโภค ‼️ คำเตือนและผลกระทบ ⛔ หากไม่มีการสื่อสารที่ชัดเจน อาจสร้างความเข้าใจผิด ⛔ ผู้ใช้บางส่วนอาจรู้สึกว่าถูกบังคับให้ใช้บริการ AI https://www.tomshardware.com/monitors/televisions/lg-says-microsoft-copilot-on-webos-tvs-is-a-browser-shortcut-not-a-built-in-app
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.47

    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นองค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศที่โดดเด่นและมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในเชิงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงมวลมนุษยชาติภายใต้อาณัติของกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งเปรียบเสมือนธรรมนูญสูงสุดของประชาคมโลก ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งซึ่งทำให้องค์กรนี้มีความพิเศษกว่าองค์กรอื่นในระบบสหประชาชาติคืออำนาจในการออกข้อมติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อรัฐสมาชิกทั้งหมดตามมาตรายี่สิบห้าแห่งกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งระบุให้รัฐสมาชิกตกลงยอมรับและปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคง อันเป็นการโอนอ่อนอำนาจอธิปไตยบางส่วนในเชิงความมั่นคงมาไว้ที่การตัดสินใจร่วมกันในระดับพหุภาคีเพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งลุกลามจนกลายเป็นสงครามวงกว้าง โดยโครงสร้างทางกฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอำนาจของรัฐมหาอำนาจที่มีสถานะเป็นสมาชิกถาวรห้าประเทศกับสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งอีกสิบประเทศ แม้ว่าในเชิงนิติศาสตร์มักมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เท่าเทียมจากสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ที่สมาชิกถาวรครอบครองอยู่แต่ในอีกมุมหนึ่งโครงสร้างนี้คือกลไกเชิงประจักษ์ที่รักษาเสถียรภาพระหว่างมหาอำนาจเพื่อไม่ให้ระบบกฎหมายโลกพังทลายลงเหมือนเช่นในอดีต

    กระบวนการบังคับใช้กฎหมายของคณะมนตรีความมั่นคงนั้นดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนที่ระบุไว้ในหมวดที่หกและหมวดที่เจ็ดของกฎบัตรสหประชาชาติโดยเริ่มต้นจากการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีผ่านการสืบสวนและการประนีประนอมแต่หากสถานการณ์บานปลายจนกลายเป็นการคุกคามต่อสันติภาพหรือการกระทำอันเป็นการรุกรานคณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจตามหมวดที่เจ็ดในการใช้มาตรการบังคับซึ่งรวมถึงมาตรการที่มิใช่การใช้กำลังทางทหารเช่นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการจำกัดการคมนาคมขนส่งไปจนถึงมาตรการขั้นสูงสุดคือการอนุญาตให้ใช้กำลังทางทหารเพื่อรักษาสันติภาพกลับคืนมาการตัดสินใจเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตีความกฎหมายและการประเมินข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของรัฐอธิปไตยอย่างรุนแรงอำนาจหน้าที่เชิงนิติบัญญัติและนิติบริหารของคณะมนตรีความมั่นคงจึงถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการกำหนดทิศทางของกฎหมายระหว่างประเทศสมัยใหม่ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดนิยามของการก่อการร้ายและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับร้ายแรงที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงสากล

    บทสรุปของบทบาทคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในมิติทางกฎหมายจึงมิได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับการเจรจาต่อรองทางการเมืองเท่านั้นแต่คือเสาหลักของการบังคับใช้ระเบียบโลกที่อาศัยหลักนิติธรรมเป็นเครื่องนำทางท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันแม้ว่าความท้าทายใหม่ๆเช่นอาชญากรรมทางไซเบอร์หรือความขัดแย้งในรูปแบบพันทางจะขยายขอบเขตออกไปเกินกว่าที่ผู้ร่างกฎบัตรเมื่อแปดสิบปีก่อนจะคาดคิดแต่คณะมนตรีความมั่นคงยังคงต้องปรับตัวและตีความกฎหมายที่มีอยู่ให้สอดรับกับพลวัตของโลกเพื่อให้มั่นใจว่าเจตนารมณ์สูงสุดในการพิทักษ์สันติภาพจะยังคงศักดิ์สิทธิ์และมีผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืนสืบไปความสำเร็จขององค์กรนี้จึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐสมาชิกในการปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายและการเคารพในมติที่ออกมาเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมของมวลมนุษยชาติมากกว่าผลประโยชน์เฉพาะหน้าของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงลำพังอันจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในเวทีโลกอย่างแท้จริง
    บทความกฎหมาย EP.47 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นองค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศที่โดดเด่นและมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในเชิงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงมวลมนุษยชาติภายใต้อาณัติของกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งเปรียบเสมือนธรรมนูญสูงสุดของประชาคมโลก ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งซึ่งทำให้องค์กรนี้มีความพิเศษกว่าองค์กรอื่นในระบบสหประชาชาติคืออำนาจในการออกข้อมติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อรัฐสมาชิกทั้งหมดตามมาตรายี่สิบห้าแห่งกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งระบุให้รัฐสมาชิกตกลงยอมรับและปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคง อันเป็นการโอนอ่อนอำนาจอธิปไตยบางส่วนในเชิงความมั่นคงมาไว้ที่การตัดสินใจร่วมกันในระดับพหุภาคีเพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งลุกลามจนกลายเป็นสงครามวงกว้าง โดยโครงสร้างทางกฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอำนาจของรัฐมหาอำนาจที่มีสถานะเป็นสมาชิกถาวรห้าประเทศกับสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งอีกสิบประเทศ แม้ว่าในเชิงนิติศาสตร์มักมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เท่าเทียมจากสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ที่สมาชิกถาวรครอบครองอยู่แต่ในอีกมุมหนึ่งโครงสร้างนี้คือกลไกเชิงประจักษ์ที่รักษาเสถียรภาพระหว่างมหาอำนาจเพื่อไม่ให้ระบบกฎหมายโลกพังทลายลงเหมือนเช่นในอดีต กระบวนการบังคับใช้กฎหมายของคณะมนตรีความมั่นคงนั้นดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนที่ระบุไว้ในหมวดที่หกและหมวดที่เจ็ดของกฎบัตรสหประชาชาติโดยเริ่มต้นจากการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีผ่านการสืบสวนและการประนีประนอมแต่หากสถานการณ์บานปลายจนกลายเป็นการคุกคามต่อสันติภาพหรือการกระทำอันเป็นการรุกรานคณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจตามหมวดที่เจ็ดในการใช้มาตรการบังคับซึ่งรวมถึงมาตรการที่มิใช่การใช้กำลังทางทหารเช่นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการจำกัดการคมนาคมขนส่งไปจนถึงมาตรการขั้นสูงสุดคือการอนุญาตให้ใช้กำลังทางทหารเพื่อรักษาสันติภาพกลับคืนมาการตัดสินใจเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตีความกฎหมายและการประเมินข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของรัฐอธิปไตยอย่างรุนแรงอำนาจหน้าที่เชิงนิติบัญญัติและนิติบริหารของคณะมนตรีความมั่นคงจึงถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการกำหนดทิศทางของกฎหมายระหว่างประเทศสมัยใหม่ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดนิยามของการก่อการร้ายและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับร้ายแรงที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงสากล บทสรุปของบทบาทคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในมิติทางกฎหมายจึงมิได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับการเจรจาต่อรองทางการเมืองเท่านั้นแต่คือเสาหลักของการบังคับใช้ระเบียบโลกที่อาศัยหลักนิติธรรมเป็นเครื่องนำทางท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันแม้ว่าความท้าทายใหม่ๆเช่นอาชญากรรมทางไซเบอร์หรือความขัดแย้งในรูปแบบพันทางจะขยายขอบเขตออกไปเกินกว่าที่ผู้ร่างกฎบัตรเมื่อแปดสิบปีก่อนจะคาดคิดแต่คณะมนตรีความมั่นคงยังคงต้องปรับตัวและตีความกฎหมายที่มีอยู่ให้สอดรับกับพลวัตของโลกเพื่อให้มั่นใจว่าเจตนารมณ์สูงสุดในการพิทักษ์สันติภาพจะยังคงศักดิ์สิทธิ์และมีผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืนสืบไปความสำเร็จขององค์กรนี้จึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐสมาชิกในการปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายและการเคารพในมติที่ออกมาเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมของมวลมนุษยชาติมากกว่าผลประโยชน์เฉพาะหน้าของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงลำพังอันจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในเวทีโลกอย่างแท้จริง
    0 Comments 0 Shares 281 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar

    มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้
    เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า
    https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about

    ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว
    Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน
    https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix

    สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI
    บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots

    ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน
    CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe

    กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+
    Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น
    https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting

    ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว
    Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day

    รีวิว Agile CRM ปี 2026
    Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้
    https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review

    จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ
    บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ
    https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront

    โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์
    รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา
    https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output

    รีวิว Geekom AX8 Max mini PC
    Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง
    https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review

    Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini
    ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted

    Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์
    Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน
    https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity

    คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel
    ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน
    https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated

    Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว
    รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง
    https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review

    ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails

    Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้
    มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe

    Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น
    Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices

    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar 🖥️ มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้ เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า 🔗 https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about ⚠️ ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix 🤖 สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots 🔒 ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe 🏠 กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+ Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day 📊 รีวิว Agile CRM ปี 2026 Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review 🌐 จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront 🐞 โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์ รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output 💻 รีวิว Geekom AX8 Max mini PC Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง 🔗 https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review 🗺️ Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted 🔋 Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์ Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity 📈 คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated 🎮 Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง 🔗 https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review 💳 ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails 🌐 Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้ มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe 🐧 Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices
    0 Comments 0 Shares 556 Views 0 Reviews
  • Google ปิดบริการ Dark Web Report กุมภาพันธ์ 2026

    Google ประกาศยุติบริการ Dark Web Report ที่เคยช่วยผู้ใช้ตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนตัว เช่น อีเมล เบอร์โทร หรือที่อยู่ ปรากฏอยู่ในตลาดมืดหรือไม่ บริการนี้เปิดตัวครั้งแรกปี 2023 และขยายให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ในปี 2024 แต่จะหยุดการสแกนข้อมูลใหม่ตั้งแต่ 15 มกราคม 2026 และปิดถาวรใน 16 กุมภาพันธ์ 2026 พร้อมลบข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกจากระบบ

    สาเหตุหลักคือ ข้อจำกัดของบริการ ที่แม้จะแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อพบข้อมูลรั่วไหล แต่กลับไม่สามารถบอกวิธีแก้ไขที่ชัดเจนได้ เช่น เมื่อมีการแจ้งว่า “เบอร์โทรถูกพบใน Dark Web” ผู้ใช้กลับไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อ ทำให้เกิดความกังวลมากกว่าการแก้ปัญหา Google จึงเลือกหันไปลงทุนในเครื่องมือที่ให้การป้องกันเชิงรุกและมีขั้นตอนแก้ไขที่ชัดเจนกว่า

    หลังการยุติบริการ Google แนะนำให้ผู้ใช้หันไปใช้เครื่องมืออื่น ๆ เช่น Google Password Manager ที่ตรวจสอบรหัสผ่านที่ถูกเจาะ, Security Checkup ที่รีวิวกิจกรรมการเข้าสู่ระบบ, Passkeys ที่ช่วยยืนยันตัวตนแบบปลอดภัย และ Results about you ที่ช่วยลบข้อมูลส่วนตัวออกจากผลการค้นหา Google Search ซึ่งทั้งหมดนี้ให้การป้องกันที่เป็นรูปธรรมมากกว่าเพียงการแจ้งเตือน

    นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ว่าแม้ Google จะปิดบริการ แต่ผู้ใช้ยังสามารถใช้บริการภายนอก เช่น Have I Been Pwned, Bitwarden, 1Password หรือ Mozilla Monitor Plus ที่ยังคงให้การตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลบน Dark Web ได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการติดตามความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวอย่างจริงจัง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กำหนดการปิดบริการ Dark Web Report
    หยุดสแกนข้อมูลใหม่: 15 มกราคม 2026
    ปิดถาวรและลบข้อมูลทั้งหมด: 16 กุมภาพันธ์ 2026

    เหตุผลที่ยุติบริการ
    แจ้งเตือนทั่วไปแต่ไม่ให้แนวทางแก้ไขที่ชัดเจน
    สร้างความกังวลมากกว่าการแก้ปัญหา

    เครื่องมือที่ Google แนะนำแทน
    Google Password Manager – ตรวจสอบรหัสผ่านที่ถูกเจาะ
    Security Checkup – ตรวจสอบกิจกรรมการเข้าสู่ระบบ
    Passkeys – ระบบยืนยันตัวตนที่ปลอดภัย
    Results about you – ลบข้อมูลส่วนตัวจาก Google Search

    บริการทางเลือกจากภายนอก
    Have I Been Pwned – ตรวจสอบอีเมลที่ถูกเจาะ
    Bitwarden, 1Password, Mozilla Monitor Plus – ให้บริการตรวจสอบข้อมูลรั่วไหล

    คำเตือนต่อผู้ใช้
    หากไม่ลบข้อมูลโปรไฟล์ก่อนกำหนด ข้อมูลจะถูกลบโดยอัตโนมัติ 16 กุมภาพันธ์ 2026
    การพึ่งพาเพียงการแจ้งเตือนโดยไม่มีการป้องกันเชิงรุก อาจทำให้เสี่ยงต่อการโจมตีไซเบอร์มากขึ้น
    🛡️ Google ปิดบริการ Dark Web Report กุมภาพันธ์ 2026 Google ประกาศยุติบริการ Dark Web Report ที่เคยช่วยผู้ใช้ตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนตัว เช่น อีเมล เบอร์โทร หรือที่อยู่ ปรากฏอยู่ในตลาดมืดหรือไม่ บริการนี้เปิดตัวครั้งแรกปี 2023 และขยายให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ในปี 2024 แต่จะหยุดการสแกนข้อมูลใหม่ตั้งแต่ 15 มกราคม 2026 และปิดถาวรใน 16 กุมภาพันธ์ 2026 พร้อมลบข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกจากระบบ สาเหตุหลักคือ ข้อจำกัดของบริการ ที่แม้จะแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อพบข้อมูลรั่วไหล แต่กลับไม่สามารถบอกวิธีแก้ไขที่ชัดเจนได้ เช่น เมื่อมีการแจ้งว่า “เบอร์โทรถูกพบใน Dark Web” ผู้ใช้กลับไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อ ทำให้เกิดความกังวลมากกว่าการแก้ปัญหา Google จึงเลือกหันไปลงทุนในเครื่องมือที่ให้การป้องกันเชิงรุกและมีขั้นตอนแก้ไขที่ชัดเจนกว่า หลังการยุติบริการ Google แนะนำให้ผู้ใช้หันไปใช้เครื่องมืออื่น ๆ เช่น Google Password Manager ที่ตรวจสอบรหัสผ่านที่ถูกเจาะ, Security Checkup ที่รีวิวกิจกรรมการเข้าสู่ระบบ, Passkeys ที่ช่วยยืนยันตัวตนแบบปลอดภัย และ Results about you ที่ช่วยลบข้อมูลส่วนตัวออกจากผลการค้นหา Google Search ซึ่งทั้งหมดนี้ให้การป้องกันที่เป็นรูปธรรมมากกว่าเพียงการแจ้งเตือน นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ว่าแม้ Google จะปิดบริการ แต่ผู้ใช้ยังสามารถใช้บริการภายนอก เช่น Have I Been Pwned, Bitwarden, 1Password หรือ Mozilla Monitor Plus ที่ยังคงให้การตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลบน Dark Web ได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการติดตามความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวอย่างจริงจัง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กำหนดการปิดบริการ Dark Web Report ➡️ หยุดสแกนข้อมูลใหม่: 15 มกราคม 2026 ➡️ ปิดถาวรและลบข้อมูลทั้งหมด: 16 กุมภาพันธ์ 2026 ✅ เหตุผลที่ยุติบริการ ➡️ แจ้งเตือนทั่วไปแต่ไม่ให้แนวทางแก้ไขที่ชัดเจน ➡️ สร้างความกังวลมากกว่าการแก้ปัญหา ✅ เครื่องมือที่ Google แนะนำแทน ➡️ Google Password Manager – ตรวจสอบรหัสผ่านที่ถูกเจาะ ➡️ Security Checkup – ตรวจสอบกิจกรรมการเข้าสู่ระบบ ➡️ Passkeys – ระบบยืนยันตัวตนที่ปลอดภัย ➡️ Results about you – ลบข้อมูลส่วนตัวจาก Google Search ✅ บริการทางเลือกจากภายนอก ➡️ Have I Been Pwned – ตรวจสอบอีเมลที่ถูกเจาะ ➡️ Bitwarden, 1Password, Mozilla Monitor Plus – ให้บริการตรวจสอบข้อมูลรั่วไหล ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ ⛔ หากไม่ลบข้อมูลโปรไฟล์ก่อนกำหนด ข้อมูลจะถูกลบโดยอัตโนมัติ 16 กุมภาพันธ์ 2026 ⛔ การพึ่งพาเพียงการแจ้งเตือนโดยไม่มีการป้องกันเชิงรุก อาจทำให้เสี่ยงต่อการโจมตีไซเบอร์มากขึ้น
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • Adafruit โต้ Arduino หลังเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานใหม่ที่ถูกมองว่า “ไม่สอดคล้องกับโอเพ่นซอร์ส”

    หลังจากที่ Arduino ถูก Qualcomm เข้าซื้อกิจการเมื่อเดือนตุลาคม 2025 บริษัทได้ปรับปรุง Terms and Conditions ใหม่ ซึ่งรวมถึงการห้ามผู้ใช้ทำการ Reverse Engineering บริการคลาวด์, การกำหนดสิทธิ์การใช้งานแบบถาวรเหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด และการเพิ่มระบบตรวจสอบการใช้งาน AI ภายในแพลตฟอร์ม ข้อกำหนดเหล่านี้สร้างความไม่พอใจในชุมชนโอเพ่นซอร์ส โดยเฉพาะคู่แข่งอย่าง Adafruit ที่มองว่ากฎใหม่เป็นการจำกัดเสรีภาพของผู้ใช้

    มุมมองจาก Arduino และ Adafruit
    Arduino ชี้แจงว่าการห้าม Reverse Engineering ใช้เฉพาะกับ บริการ SaaS บนคลาวด์ ไม่ได้กระทบกับบอร์ดหรือเฟิร์มแวร์ที่ยังคงเปิดซอร์สเหมือนเดิม ขณะที่ Adafruit โดยผู้ก่อตั้ง Limor “Ladyada” Fried โต้ว่า การบังคับให้ผู้ใช้พึ่งพาเครื่องมือบนคลาวด์เป็นการจำกัดทางเลือก และทำให้การอ้างว่า “ยังคงโอเพ่นซอร์ส” ไม่สมบูรณ์ เพราะผู้ใช้ใหม่จำนวนมากถูกบังคับให้ใช้เครื่องมือออนไลน์เป็นหลัก

    ประเด็นด้านสิทธิ์และข้อมูลผู้ใช้
    หนึ่งในข้อถกเถียงใหญ่คือการที่ Arduino กำหนดสิทธิ์การใช้งานแบบ Irrevocable License เหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด เช่น โค้ดหรือโปรเจกต์ แม้ Arduino ยืนยันว่าผู้ใช้ยังคงเป็นเจ้าของเนื้อหา แต่สิทธิ์ที่ให้บริษัทถือครองอย่างถาวรทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะถูกนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์โดยไม่สามารถเพิกถอนได้ นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเรื่องการเก็บข้อมูลผู้ใช้และการตรวจสอบการใช้งาน AI ที่อาจกลายเป็นการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

    ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    Adafruit และนักวิจัยจาก EFF เตือนว่าการเพิ่มข้อจำกัดเช่นนี้อาจทำให้ Arduino สูญเสียความเชื่อมั่นจากชุมชนผู้พัฒนาและนักเรียนที่เคยใช้บอร์ด Arduino เป็นสัญลักษณ์ของการเรียนรู้แบบเปิด หากบริษัทต้องการควบคุมการใช้งานมากขึ้น ควรซื่อสัตย์และประกาศว่าเป็น “Source-Available” ไม่ใช่โอเพ่นซอร์สอย่างแท้จริง

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของ Arduino
    ห้าม Reverse Engineering บริการคลาวด์
    กำหนดสิทธิ์การใช้งานถาวรเหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด
    เพิ่มระบบตรวจสอบการใช้งาน AI

    การชี้แจงจาก Arduino
    ยืนยันว่าบอร์ดและเฟิร์มแวร์ยังคงเปิดซอร์ส
    การห้าม Reverse Engineering ใช้เฉพาะบริการ SaaS

    ข้อกังวลจาก Adafruit และชุมชน
    ผู้ใช้ใหม่ถูกบังคับให้ใช้เครื่องมือคลาวด์เป็นหลัก
    สิทธิ์การใช้งานถาวรอาจนำไปสู่การใช้ข้อมูลเชิงพาณิชย์
    การตรวจสอบ AI อาจกลายเป็นการเฝ้าระวังต่อเนื่อง

    ผลกระทบต่ออนาคตโอเพ่นซอร์ส
    เสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นจากผู้พัฒนาและนักเรียน
    อาจต้องเปลี่ยนการนิยามเป็น “Source-Available” แทนโอเพ่นซอร์ส

    https://thenewstack.io/adafruit-arduinos-rules-are-incompatible-with-open-source/
    ⚡ Adafruit โต้ Arduino หลังเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานใหม่ที่ถูกมองว่า “ไม่สอดคล้องกับโอเพ่นซอร์ส” หลังจากที่ Arduino ถูก Qualcomm เข้าซื้อกิจการเมื่อเดือนตุลาคม 2025 บริษัทได้ปรับปรุง Terms and Conditions ใหม่ ซึ่งรวมถึงการห้ามผู้ใช้ทำการ Reverse Engineering บริการคลาวด์, การกำหนดสิทธิ์การใช้งานแบบถาวรเหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด และการเพิ่มระบบตรวจสอบการใช้งาน AI ภายในแพลตฟอร์ม ข้อกำหนดเหล่านี้สร้างความไม่พอใจในชุมชนโอเพ่นซอร์ส โดยเฉพาะคู่แข่งอย่าง Adafruit ที่มองว่ากฎใหม่เป็นการจำกัดเสรีภาพของผู้ใช้ 🧩 มุมมองจาก Arduino และ Adafruit Arduino ชี้แจงว่าการห้าม Reverse Engineering ใช้เฉพาะกับ บริการ SaaS บนคลาวด์ ไม่ได้กระทบกับบอร์ดหรือเฟิร์มแวร์ที่ยังคงเปิดซอร์สเหมือนเดิม ขณะที่ Adafruit โดยผู้ก่อตั้ง Limor “Ladyada” Fried โต้ว่า การบังคับให้ผู้ใช้พึ่งพาเครื่องมือบนคลาวด์เป็นการจำกัดทางเลือก และทำให้การอ้างว่า “ยังคงโอเพ่นซอร์ส” ไม่สมบูรณ์ เพราะผู้ใช้ใหม่จำนวนมากถูกบังคับให้ใช้เครื่องมือออนไลน์เป็นหลัก 🔒 ประเด็นด้านสิทธิ์และข้อมูลผู้ใช้ หนึ่งในข้อถกเถียงใหญ่คือการที่ Arduino กำหนดสิทธิ์การใช้งานแบบ Irrevocable License เหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด เช่น โค้ดหรือโปรเจกต์ แม้ Arduino ยืนยันว่าผู้ใช้ยังคงเป็นเจ้าของเนื้อหา แต่สิทธิ์ที่ให้บริษัทถือครองอย่างถาวรทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะถูกนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์โดยไม่สามารถเพิกถอนได้ นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเรื่องการเก็บข้อมูลผู้ใช้และการตรวจสอบการใช้งาน AI ที่อาจกลายเป็นการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง 🌍 ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส Adafruit และนักวิจัยจาก EFF เตือนว่าการเพิ่มข้อจำกัดเช่นนี้อาจทำให้ Arduino สูญเสียความเชื่อมั่นจากชุมชนผู้พัฒนาและนักเรียนที่เคยใช้บอร์ด Arduino เป็นสัญลักษณ์ของการเรียนรู้แบบเปิด หากบริษัทต้องการควบคุมการใช้งานมากขึ้น ควรซื่อสัตย์และประกาศว่าเป็น “Source-Available” ไม่ใช่โอเพ่นซอร์สอย่างแท้จริง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของ Arduino ➡️ ห้าม Reverse Engineering บริการคลาวด์ ➡️ กำหนดสิทธิ์การใช้งานถาวรเหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด ➡️ เพิ่มระบบตรวจสอบการใช้งาน AI ✅ การชี้แจงจาก Arduino ➡️ ยืนยันว่าบอร์ดและเฟิร์มแวร์ยังคงเปิดซอร์ส ➡️ การห้าม Reverse Engineering ใช้เฉพาะบริการ SaaS ‼️ ข้อกังวลจาก Adafruit และชุมชน ⛔ ผู้ใช้ใหม่ถูกบังคับให้ใช้เครื่องมือคลาวด์เป็นหลัก ⛔ สิทธิ์การใช้งานถาวรอาจนำไปสู่การใช้ข้อมูลเชิงพาณิชย์ ⛔ การตรวจสอบ AI อาจกลายเป็นการเฝ้าระวังต่อเนื่อง ✅ ผลกระทบต่ออนาคตโอเพ่นซอร์ส ➡️ เสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นจากผู้พัฒนาและนักเรียน ➡️ อาจต้องเปลี่ยนการนิยามเป็น “Source-Available” แทนโอเพ่นซอร์ส https://thenewstack.io/adafruit-arduinos-rules-are-incompatible-with-open-source/
    THENEWSTACK.IO
    Adafruit: Arduino's Rules Are 'Incompatible With Open Source'
    Arduino has defended the changes, claiming its commitment to open source hardware remains unchanged.
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • การกู้คืน Li.st ของ Anthony Bourdain

    ผู้เขียนเล่าถึงความพยายามในการกู้คืนเนื้อหาที่ Anthony Bourdain เคยเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม li.st ซึ่งปิดตัวไปแล้ว โดยอ้างอิงจากงานของ Greg Technology ที่เคยเผยแพร่บางส่วน และใช้ Common Crawl เพื่อค้นหาและดึงข้อมูล HTML ที่ยังหลงเหลืออยู่ในอินเทอร์เน็ต

    วิธีการและเครื่องมือที่ใช้
    ผู้เขียนได้สร้างสคริปต์ Python (commoncrawl_search.py) เพื่อค้นหาเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับ Bourdain บน Common Crawl และดึงไฟล์ HTML ที่ยังคงอยู่มาแสดงผลใหม่ พร้อมปรับแต่งเลย์เอาต์ให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด แม้ภาพประกอบจำนวนมากจะสูญหายไป แต่ข้อความต้นฉบับยังสามารถกู้คืนได้ค่อนข้างสมบูรณ์

    เนื้อหาที่ถูกกู้คืน
    หลายลิสต์ที่ Bourdain เคยเขียนถูกกู้คืน เช่น:
    Things I No Longer Have Time or Patience For (สิ่งที่เขาไม่มีเวลาและความอดทนอีกต่อไป เช่น Cocaine, Beer nerds)
    Nice Views (สถานที่ที่เขาชื่นชอบ เช่น Montana, Puerto Rico, Istanbul)
    Objects of Desire (สิ่งของที่เขาหลงใหล เช่น แว่น Persol, มีด Kramer, เครื่องมือเจาะกะโหลกโบราณ)
    Hotel Slut (That’s Me) (โรงแรมที่เขารัก เช่น Chateau Marmont, Chiltern Firehouse, Park Hyatt Tokyo)
    Some New York Sandwiches (แซนด์วิชที่เขาชื่นชอบในนิวยอร์ก เช่น Pastrami Queen, Eisenberg’s Sandwich Shop)

    ความหมายและคุณค่า
    การกู้คืนนี้ไม่ใช่เพียงการเก็บบันทึกดิจิทัล แต่ยังเป็นการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและความคิดของ Bourdain ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสอีกครั้ง เนื้อหาของเขาเต็มไปด้วยมุมมองตรงไปตรงมา ความหลงใหลในอาหาร การเดินทาง และชีวิตที่ไม่เหมือนใคร

    สรุปประเด็นสำคัญ
    โครงการกู้คืน Li.st ของ Bourdain
    ใช้ Common Crawl และสคริปต์ Python เพื่อค้นหาและดึงข้อมูล HTML
    แม้ภาพสูญหาย แต่ข้อความยังคงอยู่

    เนื้อหาที่กู้คืนได้
    Things I No Longer Have Time or Patience For
    Nice Views, Objects of Desire, Hotel Slut, Some New York Sandwiches

    คุณค่าของการกู้คืน
    รักษามรดกทางวัฒนธรรมและความคิดของ Anthony Bourdain
    เปิดโอกาสให้สาธารณะเข้าถึงงานเขียนที่สูญหายไป

    คำเตือนด้านการกู้คืนข้อมูลดิจิทัล
    ภาพประกอบจำนวนมากไม่สามารถกู้คืนได้
    ข้อมูลบางส่วนอาจสูญหายถาวรและไม่สามารถเข้าถึงได้อีก

    https://sandyuraz.com/blogs/bourdain/
    📜 การกู้คืน Li.st ของ Anthony Bourdain ผู้เขียนเล่าถึงความพยายามในการกู้คืนเนื้อหาที่ Anthony Bourdain เคยเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม li.st ซึ่งปิดตัวไปแล้ว โดยอ้างอิงจากงานของ Greg Technology ที่เคยเผยแพร่บางส่วน และใช้ Common Crawl เพื่อค้นหาและดึงข้อมูล HTML ที่ยังหลงเหลืออยู่ในอินเทอร์เน็ต 🛠️ วิธีการและเครื่องมือที่ใช้ ผู้เขียนได้สร้างสคริปต์ Python (commoncrawl_search.py) เพื่อค้นหาเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับ Bourdain บน Common Crawl และดึงไฟล์ HTML ที่ยังคงอยู่มาแสดงผลใหม่ พร้อมปรับแต่งเลย์เอาต์ให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด แม้ภาพประกอบจำนวนมากจะสูญหายไป แต่ข้อความต้นฉบับยังสามารถกู้คืนได้ค่อนข้างสมบูรณ์ 🌍 เนื้อหาที่ถูกกู้คืน หลายลิสต์ที่ Bourdain เคยเขียนถูกกู้คืน เช่น: 💠 Things I No Longer Have Time or Patience For (สิ่งที่เขาไม่มีเวลาและความอดทนอีกต่อไป เช่น Cocaine, Beer nerds) 💠 Nice Views (สถานที่ที่เขาชื่นชอบ เช่น Montana, Puerto Rico, Istanbul) 💠 Objects of Desire (สิ่งของที่เขาหลงใหล เช่น แว่น Persol, มีด Kramer, เครื่องมือเจาะกะโหลกโบราณ) 💠 Hotel Slut (That’s Me) (โรงแรมที่เขารัก เช่น Chateau Marmont, Chiltern Firehouse, Park Hyatt Tokyo) 💠 Some New York Sandwiches (แซนด์วิชที่เขาชื่นชอบในนิวยอร์ก เช่น Pastrami Queen, Eisenberg’s Sandwich Shop) 🔮 ความหมายและคุณค่า การกู้คืนนี้ไม่ใช่เพียงการเก็บบันทึกดิจิทัล แต่ยังเป็นการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและความคิดของ Bourdain ให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสอีกครั้ง เนื้อหาของเขาเต็มไปด้วยมุมมองตรงไปตรงมา ความหลงใหลในอาหาร การเดินทาง และชีวิตที่ไม่เหมือนใคร 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ โครงการกู้คืน Li.st ของ Bourdain ➡️ ใช้ Common Crawl และสคริปต์ Python เพื่อค้นหาและดึงข้อมูล HTML ➡️ แม้ภาพสูญหาย แต่ข้อความยังคงอยู่ ✅ เนื้อหาที่กู้คืนได้ ➡️ Things I No Longer Have Time or Patience For ➡️ Nice Views, Objects of Desire, Hotel Slut, Some New York Sandwiches ✅ คุณค่าของการกู้คืน ➡️ รักษามรดกทางวัฒนธรรมและความคิดของ Anthony Bourdain ➡️ เปิดโอกาสให้สาธารณะเข้าถึงงานเขียนที่สูญหายไป ‼️ คำเตือนด้านการกู้คืนข้อมูลดิจิทัล ⛔ ภาพประกอบจำนวนมากไม่สามารถกู้คืนได้ ⛔ ข้อมูลบางส่วนอาจสูญหายถาวรและไม่สามารถเข้าถึงได้อีก https://sandyuraz.com/blogs/bourdain/
    SANDYURAZ.COM
    Recovering Anthony Bourdain’s (really) lost Li.st’s
    Loved reading through GReg TeChnoLogY Anthony Bourdain’s Lost Li.st’s and seeing the list of los...
    0 Comments 0 Shares 220 Views 0 Reviews
  • กองทัพภาคที่ 2 ออกคำสั่งด่วนควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงและยุทธภัณฑ์ผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี หลังตรวจพบการส่งออกน้ำมันในปริมาณผิดปกติ โดยให้งดส่งออกเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดและยุทธภัณฑ์ ส่วนการดำเนินการอื่นให้เป็นไปตามระเบียบเดิม คำสั่งมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. 2568 เป็นต้นไป เพื่อรักษาความมั่นคงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ชายแดน
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120276
    .
    #News1live #News1 #กองทัพภาค2 #ช่องเม็ก #อุบลราชธานี #ความมั่นคง #ชายแดนไทยกัมพูชา
    กองทัพภาคที่ 2 ออกคำสั่งด่วนควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงและยุทธภัณฑ์ผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี หลังตรวจพบการส่งออกน้ำมันในปริมาณผิดปกติ โดยให้งดส่งออกเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดและยุทธภัณฑ์ ส่วนการดำเนินการอื่นให้เป็นไปตามระเบียบเดิม คำสั่งมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. 2568 เป็นต้นไป เพื่อรักษาความมั่นคงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ชายแดน . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120276 . #News1live #News1 #กองทัพภาค2 #ช่องเม็ก #อุบลราชธานี #ความมั่นคง #ชายแดนไทยกัมพูชา
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 Reviews
  • “Apple ID ถูกล็อกถาวรจากบัตรของขวัญ – เมื่อชีวิตดิจิทัลพังทลาย”

    กรณีที่ปรากฏในบทความคือผู้ใช้ที่เป็นนักพัฒนาและนักเขียนหนังสือเกี่ยวกับ Apple ถูกล็อก Apple ID หลังจากพยายามใช้บัตรของขวัญมูลค่า 500 ดอลลาร์เพื่อชำระค่าบริการ iCloud+ ขนาด 6TB ผลคือบัญชีถูกปิดถาวร ทำให้สูญเสียการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ภาพถ่าย และอุปกรณ์กว่า 30,000 ดอลลาร์ที่กลายเป็น “อิฐดิจิทัล” ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ

    จากข้อมูลเพิ่มเติมในชุมชนผู้ใช้ Apple พบว่าปัญหาการถูกล็อกบัญชีหลังการใช้บัตรของขวัญเกิดขึ้นซ้ำ ๆ หลายกรณี โดย Apple มักอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย เช่น การสงสัยว่ามีการละเมิดเงื่อนไข หรือการใช้รหัสที่ถูกมองว่าไม่ถูกต้อง แม้ผู้ใช้จะยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชีแล้วก็ตาม แต่การปลดล็อกกลับทำได้ยากมาก

    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Apple ID อาจถูกล็อกชั่วคราวหรือถาวรจากหลายสาเหตุ เช่น การพิมพ์รหัสผิดหลายครั้ง การใช้บัตรเครดิตหมดอายุ หรือการเข้าสู่ระบบจากอุปกรณ์/ประเทศที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งระบบอัตโนมัติของ Apple จะตีความว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสงสัยและบังคับล็อกเพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูล แต่ผลลัพธ์คือผู้ใช้ที่สุจริตกลับต้องเผชิญกับการสูญเสียการเข้าถึงบริการทั้งหมด

    สิ่งที่น่ากังวลคือ หากบัญชีถูกปิดถาวร ผู้ใช้ไม่เพียงเสียสิทธิ์การเข้าถึงบริการ แต่ยังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลสำคัญ เช่น รูปถ่าย ข้อความ และการซื้อแอปพลิเคชันที่เคยจ่ายเงินไปแล้ว ซึ่งทำให้เกิดคำถามใหญ่ต่อความสมดุลระหว่าง “ความปลอดภัย” และ “สิทธิของผู้ใช้” ในระบบนิเวศของ Apple

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    ผู้ใช้ถูกล็อก Apple ID หลังใช้บัตรของขวัญ 500 ดอลลาร์เพื่อชำระ iCloud+
    สูญเสียการเข้าถึงข้อมูล รูปถ่าย และอุปกรณ์กว่า 30,000 ดอลลาร์
    Apple Support ไม่สามารถให้คำตอบหรือปลดล็อกได้ และแนะนำให้สร้างบัญชีใหม่

    ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Internet
    ปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยในชุมชนผู้ใช้ Apple โดยเฉพาะเมื่อใช้บัตรของขวัญ
    Apple ID อาจถูกล็อกจากสาเหตุอื่น เช่น บัตรเครดิตหมดอายุ หรือเข้าสู่ระบบจากอุปกรณ์แปลกใหม่
    การปลดล็อกต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตนที่ซับซ้อน และบางครั้งไม่สำเร็จ

    คำเตือน
    หาก Apple ID ถูกปิดถาวร ผู้ใช้จะสูญเสียสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลและการซื้อทั้งหมด
    การสร้างบัญชีใหม่อาจถูกเชื่อมโยงกับบัญชีเดิมและถูกล็อกซ้ำ
    การพยายามปลดล็อกด้วยวิธีที่ไม่เป็นทางการ เช่น เครื่องมือของบุคคลที่สาม อาจละเมิดเงื่อนไขและเสี่ยงต่อความปลอดภัย

    https://hey.paris/posts/appleid/
    📰 “Apple ID ถูกล็อกถาวรจากบัตรของขวัญ – เมื่อชีวิตดิจิทัลพังทลาย” กรณีที่ปรากฏในบทความคือผู้ใช้ที่เป็นนักพัฒนาและนักเขียนหนังสือเกี่ยวกับ Apple ถูกล็อก Apple ID หลังจากพยายามใช้บัตรของขวัญมูลค่า 500 ดอลลาร์เพื่อชำระค่าบริการ iCloud+ ขนาด 6TB ผลคือบัญชีถูกปิดถาวร ทำให้สูญเสียการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ภาพถ่าย และอุปกรณ์กว่า 30,000 ดอลลาร์ที่กลายเป็น “อิฐดิจิทัล” ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ จากข้อมูลเพิ่มเติมในชุมชนผู้ใช้ Apple พบว่าปัญหาการถูกล็อกบัญชีหลังการใช้บัตรของขวัญเกิดขึ้นซ้ำ ๆ หลายกรณี โดย Apple มักอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย เช่น การสงสัยว่ามีการละเมิดเงื่อนไข หรือการใช้รหัสที่ถูกมองว่าไม่ถูกต้อง แม้ผู้ใช้จะยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชีแล้วก็ตาม แต่การปลดล็อกกลับทำได้ยากมาก นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Apple ID อาจถูกล็อกชั่วคราวหรือถาวรจากหลายสาเหตุ เช่น การพิมพ์รหัสผิดหลายครั้ง การใช้บัตรเครดิตหมดอายุ หรือการเข้าสู่ระบบจากอุปกรณ์/ประเทศที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งระบบอัตโนมัติของ Apple จะตีความว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสงสัยและบังคับล็อกเพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูล แต่ผลลัพธ์คือผู้ใช้ที่สุจริตกลับต้องเผชิญกับการสูญเสียการเข้าถึงบริการทั้งหมด สิ่งที่น่ากังวลคือ หากบัญชีถูกปิดถาวร ผู้ใช้ไม่เพียงเสียสิทธิ์การเข้าถึงบริการ แต่ยังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลสำคัญ เช่น รูปถ่าย ข้อความ และการซื้อแอปพลิเคชันที่เคยจ่ายเงินไปแล้ว ซึ่งทำให้เกิดคำถามใหญ่ต่อความสมดุลระหว่าง “ความปลอดภัย” และ “สิทธิของผู้ใช้” ในระบบนิเวศของ Apple 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ผู้ใช้ถูกล็อก Apple ID หลังใช้บัตรของขวัญ 500 ดอลลาร์เพื่อชำระ iCloud+ ➡️ สูญเสียการเข้าถึงข้อมูล รูปถ่าย และอุปกรณ์กว่า 30,000 ดอลลาร์ ➡️ Apple Support ไม่สามารถให้คำตอบหรือปลดล็อกได้ และแนะนำให้สร้างบัญชีใหม่ ✅ ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Internet ➡️ ปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยในชุมชนผู้ใช้ Apple โดยเฉพาะเมื่อใช้บัตรของขวัญ ➡️ Apple ID อาจถูกล็อกจากสาเหตุอื่น เช่น บัตรเครดิตหมดอายุ หรือเข้าสู่ระบบจากอุปกรณ์แปลกใหม่ ➡️ การปลดล็อกต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตนที่ซับซ้อน และบางครั้งไม่สำเร็จ ‼️ คำเตือน ⛔ หาก Apple ID ถูกปิดถาวร ผู้ใช้จะสูญเสียสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลและการซื้อทั้งหมด ⛔ การสร้างบัญชีใหม่อาจถูกเชื่อมโยงกับบัญชีเดิมและถูกล็อกซ้ำ ⛔ การพยายามปลดล็อกด้วยวิธีที่ไม่เป็นทางการ เช่น เครื่องมือของบุคคลที่สาม อาจละเมิดเงื่อนไขและเสี่ยงต่อความปลอดภัย https://hey.paris/posts/appleid/
    HEY.PARIS
    20 Years of Digital Life, Gone in an Instant, thanks to Apple
    Summary: A major brick-and-mortar store sold an Apple Gift Card that Apple seemingly took offence to, and locked out my entire Apple ID, effectively bricking my devices and my iCloud Account, Apple Developer ID, and everything associated with it, and I have no recourse. Can you help? Email paris AT paris.id.au (and read on for the details). ❤️ Here’s how Apple “Permanently” locked my Apple ID. I am writing this as a desperate measure.
    0 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews
  • Battering RAM – ฮาร์ดแวร์แฮ็กเจาะทะลุ Secure CPU Enclaves

    นักวิจัยจาก KU Leuven University ได้สาธิตการโจมตีใหม่ชื่อว่า Battering RAM ในงาน Black Hat Europe 2025 โดยใช้ DDR4 interposer ราคาประมาณ 50 ดอลลาร์ เพื่อปรับเปลี่ยนการแมปหน่วยความจำ ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกเข้ารหัสและป้องกันไว้ใน secure enclaves ของ CPU ได้.

    Secure enclaves เช่น Intel SGX (Software Guard Extensions) และ AMD SEV (Secure Encrypted Virtualization) ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันข้อมูลแม้ในกรณีที่ผู้โจมตีมีสิทธิ์ระดับสูงหรือเข้าถึงเครื่องทางกายภาพ แต่การโจมตีนี้สามารถ อ่าน/เขียนข้อมูล plaintext และแม้กระทั่ง ดึง platform provisioning key ออกมาได้ ซึ่งเปิดทางให้สร้าง attestation reports ปลอมและฝัง backdoor ถาวรใน VM.

    สิ่งที่น่ากังวลคือการโจมตีนี้ทำงานใน runtime ทำให้หลบเลี่ยงการป้องกันที่ Intel และ AMD เคยออกแบบไว้สำหรับการโจมตีแบบ aliasing ในอดีต และทั้งสองบริษัทก็ระบุว่าเป็นการโจมตีที่อยู่นอกขอบเขตการป้องกัน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการดัดแปลงฮาร์ดแวร์โดยตรง.

    นักวิจัยเตือนว่าหากผู้โจมตีสามารถแทรกโมดูลหน่วยความจำที่ถูกดัดแปลงเข้าไปใน supply chain ก็จะสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อโจมตีระบบคลาวด์ที่พึ่งพา confidential computing ได้อย่างรุนแรง และเสนอว่าการแก้ไขในอนาคตควรเพิ่ม cryptographic freshness protections เพื่อป้องกันการโจมตีลักษณะนี้.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบใหม่จาก KU Leuven
    การโจมตี Battering RAM ใช้ DDR4 interposer ราคาถูก
    สามารถเจาะ secure enclaves ของ Intel SGX และ AMD SEV

    ผลกระทบต่อระบบคลาวด์
    อ่าน/เขียนข้อมูล plaintext และดึง provisioning key ได้
    เปิดทางให้สร้าง attestation reports ปลอมและฝัง backdoor

    ข้อจำกัดของการป้องกันปัจจุบัน
    การโจมตีทำงานใน runtime หลบเลี่ยง mitigations เดิม
    Intel และ AMD ระบุว่าอยู่นอกขอบเขตการป้องกัน

    ความเสี่ยงใน supply chain
    หากโมดูลหน่วยความจำถูกดัดแปลงและแทรกใน supply chain
    อาจนำไปสู่การโจมตีระบบคลาวด์ที่ใช้ confidential computing

    https://www.csoonline.com/article/4105022/battering-ram-hardware-hack-breaks-secure-cpu-enclaves.html
    🔓 Battering RAM – ฮาร์ดแวร์แฮ็กเจาะทะลุ Secure CPU Enclaves นักวิจัยจาก KU Leuven University ได้สาธิตการโจมตีใหม่ชื่อว่า Battering RAM ในงาน Black Hat Europe 2025 โดยใช้ DDR4 interposer ราคาประมาณ 50 ดอลลาร์ เพื่อปรับเปลี่ยนการแมปหน่วยความจำ ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกเข้ารหัสและป้องกันไว้ใน secure enclaves ของ CPU ได้. Secure enclaves เช่น Intel SGX (Software Guard Extensions) และ AMD SEV (Secure Encrypted Virtualization) ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันข้อมูลแม้ในกรณีที่ผู้โจมตีมีสิทธิ์ระดับสูงหรือเข้าถึงเครื่องทางกายภาพ แต่การโจมตีนี้สามารถ อ่าน/เขียนข้อมูล plaintext และแม้กระทั่ง ดึง platform provisioning key ออกมาได้ ซึ่งเปิดทางให้สร้าง attestation reports ปลอมและฝัง backdoor ถาวรใน VM. สิ่งที่น่ากังวลคือการโจมตีนี้ทำงานใน runtime ทำให้หลบเลี่ยงการป้องกันที่ Intel และ AMD เคยออกแบบไว้สำหรับการโจมตีแบบ aliasing ในอดีต และทั้งสองบริษัทก็ระบุว่าเป็นการโจมตีที่อยู่นอกขอบเขตการป้องกัน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการดัดแปลงฮาร์ดแวร์โดยตรง. นักวิจัยเตือนว่าหากผู้โจมตีสามารถแทรกโมดูลหน่วยความจำที่ถูกดัดแปลงเข้าไปใน supply chain ก็จะสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อโจมตีระบบคลาวด์ที่พึ่งพา confidential computing ได้อย่างรุนแรง และเสนอว่าการแก้ไขในอนาคตควรเพิ่ม cryptographic freshness protections เพื่อป้องกันการโจมตีลักษณะนี้. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบใหม่จาก KU Leuven ➡️ การโจมตี Battering RAM ใช้ DDR4 interposer ราคาถูก ➡️ สามารถเจาะ secure enclaves ของ Intel SGX และ AMD SEV ✅ ผลกระทบต่อระบบคลาวด์ ➡️ อ่าน/เขียนข้อมูล plaintext และดึง provisioning key ได้ ➡️ เปิดทางให้สร้าง attestation reports ปลอมและฝัง backdoor ✅ ข้อจำกัดของการป้องกันปัจจุบัน ➡️ การโจมตีทำงานใน runtime หลบเลี่ยง mitigations เดิม ➡️ Intel และ AMD ระบุว่าอยู่นอกขอบเขตการป้องกัน ‼️ ความเสี่ยงใน supply chain ⛔ หากโมดูลหน่วยความจำถูกดัดแปลงและแทรกใน supply chain ⛔ อาจนำไปสู่การโจมตีระบบคลาวด์ที่ใช้ confidential computing https://www.csoonline.com/article/4105022/battering-ram-hardware-hack-breaks-secure-cpu-enclaves.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Battering RAM hardware hack breaks secure CPU enclaves
    Black Hat Europe 2025: Low-cost hardware hack opens the door to supply chain attacks against confidential computing servers in cloud environments.
    0 Comments 0 Shares 295 Views 0 Reviews
  • ลองเชิง ตอนที่ 8

    “ลองเชิง”
    ตอน 8
    เขาว่ากันว่า สิ่งที่อเมริกาสนใจ และใส่ใจที่สุดในตะวันออกกลางคือ น้ำมัน กับอิสราเอลเท่านั้น ที่เถียงกันคือ ใน 2 สิ่ง อเมริกาห่วงสิ่งไหนมากกว่ากัน
    ที่เขาว่ากันแบบนั้น ก็คงไม่ผิดในเชิงการเมือง แต่ ในเชิงยุทธศาสตร์ ผมว่าอเมริกาคงสนใจแค่ 1 สิ่ง ในตะวันออกกลาง คืออเมริกา “จะต้องได้” ตะวันออกกลางทั้งหมดต่างหาก อย่างที่ผมเกริ่นมาในตอนก่อนๆ แต่อเมริกาจะกินตะวันออกกลางทั้งหมด อเมริกาก็ต้องวางแผนให้ดี เพราะห่วงว่าจะมีใครย้อนศร ส่วจรวดมาใส่ไข่แดงของอเมริกา ที่อยู่ในตะวันออกกลางคือ อิสราเอล จนเละทั้งใบ
    ไม่ใช่อเมริการักอิสราเอลมากนักหรอก แต่ยิวที่ขี่คอรัฐบาลอเมริกานั่นสิ ที่อเมริกาต้องห่วง และยิวในอเมริกาก็มีมากเสียด้วย เรียกดาราดังๆเชื้อสายยิวๆ มาเข้าฉากทั้งหมด รัฐบาลอเมริกันอาจพังง่ายๆ ตั้งแต่ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ ดาราตุ๊กตาทอง สื่อทุกรูปแบบ อยู่ในมือยิวเกือบทั้งนั้น อาวุธที่ทำให้อเมริกาเซได้ โดยไม่ต้องถล่มตลาดหุ้น หรือใช้จรวดยิง ก็คือ ใช้ดารากับสื่อนี่แหละครับ เอาหน้าเด่นๆ ผลัดกันมาออกรายการ ตีข่าวเข้าไปทุกวัน คนบ้าดารา เคลิ้มตาม เดี๋ยวก็ได้มีการลาออก หรือเปลี่ยนนโยบายกันให้เห็น
    แต่ไม่ได้หมายความว่า อเมริกาจะไม่มีวันทิ้งยิว …
    อัสซาด คนพ่อ Hafez Assad นั้น เป็นนักยุทธศาสตร์ตัวยง เหลี่ยมลึก มองไกล เขาดูแล้วว่า อิสราเอลเป็นจุดสำคัญที่สุดของตะวันออกกลาง ผมจึงชื่นชมอังกฤษ ไอ้ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้ายนักว่า มันสุดยอด(ชั่ว)จริงๆ ที่เอายิวไปอยู่ในตะวันออกกลางได้ และให้อยู่ในจุดนั้น
    ลองกลับไปดูแผนที่นะครับ และนึกถึงข้อตกลงของอังกฤษกับผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยว่า สมัยนั้น เขาตกลงแบ่งสมบัติกันอย่างไร สรุปว่า ประเทศที่มีทางออกสู่เมดิเตอร์เรเนียนทั้งหมดคือ ตุรกี ซีเรีย เลบานอน และอิสราเอล ยาวมาจนถึงอียิปต์ ตกอยู่ในความดูแลของอังกฤษกับพวก เพื่ออังกฤษและพวกจะได้คุมทางออกไปทะเล จำไว้นะครับ เรื่องการคุมทางออกทะเล เป็นยุทธศาสตร์สำคัญอันหนึ่ง
    แต่มาภายหลัง เมื่อตุรกี ซีเรีย เลบานอน ได้รับเอกราช สามารถปกครองบ้านเมืองตัวเองได้ โดยไม่ต้องฟังอังกฤษกับพวกแล้ว อเมริกาที่รับไม้ดูแลตะวันออกกลางต่อจากอังกฤษ จึงต้องทุ่มสร้างความมั่นคงให้กับอิสราเอล ไข่แดงของตัว และสร้างความมั่นคงให้อิยิปต์ด้วยในช่วงแรก เพื่อเป็นกำแพงพิงหลังให้อิสราเอล ขณะเดียวกัน อเมริกาก็พยายามซื้อเลบานอนอยู่หลายรอบ สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง
    อัสซาด คนพ่อ เห็นอย่างนั้นก็รู้ว่า อิสราเอล แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่ถ้าอเมริกาเสริมเหล็กใ้ห้จนแข็งขนาดนั้น ต่อไปซีเรียจะเหนื่อย เขาจึงสนับสนุนให้มีการสร้างกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ในเลบานอน ที่อยู่ติดหลังบ้านอิสราเอลขึ้นมา ไว้เป็นด่านกั้นให้ซีเรียชั้นหนึ่งก่อน ส่วนเลบานอนก็ไม่ปฏิเสธ เพราะตัวเองยิ่งแย่ใหญ่ หน้าเกือบจะชนก้นอิสราเอลอยู่แล้ว และนี่ ก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้อิสราเอลเกลียดซีเรีย อย่างไม่มีวันเลิก
    กลับมาที่แผนชั่วของอเมริกาใน ตะวันออกกลาง ตัวละครใหญ่สำคัญที่สุด 3 รายคือ อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย นั้น อเมริกาจับมาอยู่ในมือแล้ว คือ 2 รายหลัง เหลือรายแรกคือ อิหร่าน ที่อเมริกาเพียรจับ แต่จับๆ หลุดๆ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1950 กว่าๆ แต่ไม่เคยอยู่หมัดอยู่มือถาวร อเมริกาจึงต้องวางแผนใหม่อยู่เรื่อย
    จะครองโลก ไม่ใช่คิดวันนี้ ครองพรุ่งนี้ เขาวางแผนกันมาหลายสิบปี บางทีร้อยปี ก็มี จะต่อสู้หรือต่อต้าน ก็เช่นเดียวกัน เขาก็ต้องวางแผนนาน สนามซีเรีย ช่วงนี้จะนั่งดูรายวัน ก็ควรทำความเข้าใจก่อนว่า ใครเล่นอะไร ที่ไหน เพราะอะไร ไม่อย่างนั้น ก็แค่รู้ แต่ไม่เข้าใจ
    อเมริกาวางแผนที่จะกินอิหร่านหลายรูปแบบ รูปแบบสุดท้าย คือ เรื่องนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นละครซื้อเวลา แผนจริงรุ่นแรก ที่อเมริกาเดินเพื่อกินอิหร่าน คือ แผนบุกอิรัค ของเหยี่ยวกระหายเลือด คาวบอยบุช กับดิกเชนีย์ เมื่อ ปี ค.ศ.2003 ซึ่งเป็นไปตามแผนการจัดระเบียบโลกใหม่ New World Order ที่บุชตัวพ่อ ประกาศ ในปี ค.ศ.1991 เมื่อคิดว่า สหภาพโซเวียตล่มสลายตายสนิท
    แต่ภายหลัง ในช่วงประมาณปี ค.ศ.2000 ไอ้ที่คิดว่าตายสนิท ดันฟื้นเป็นรัสเซีย ที่ทำท่าจะเฟื่องต่อเสียด้วยซ้ำ และไอ้ที่คิดว่าดีแต่ค้าขายอย่างจีน ก็ทำท่าจะโตเร็วเกินไป แผนจัดการอิหร่าน เพื่อยึดตะวันออกกลาง และผ่ากลาง รัสเซียกับจีน จึงต้องรีบดำเนินการ
    แต่อยู่ดีๆ จะไปยึดอิหร่าน ที่ใหญ่เอาเรื่อง และก็ผูกสัมพันธ์กับรัสเซียมาตลอด คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะเซ่อซ่าวิ่งลุยเข้าไปง่ายๆ อเมริกาจึงคิดทุบรอบนอกอิหร่านก่อน และยุทธศาสตร์ทุบรอบนอก หรือทุบข้างในให้น่วมก่อนกิน นี่ ดูเหมือนจะเป็นยุทธศาสตร์ยอดนิยมของค่ายตะวันตก
    อิรัคและซัดดัม จึงถูกเลือกเป็นทั้งเป้าหมายจริง และเป็นเป้าหมายหลอกในขณะเดียวกัน อเมริกาไม่เคยกินเด้งเดียว อเมริกาต้องการครอบครองอิรัค เพื่อเอาน้ำมัน และใช้เป็นสะพานเพื่อเข้าไปบุกซีเรียและอิหร่านอีกต่อหนึ่ง ขณะเดียวกัน ก็เป็นการตัดเส้นทางเลี้ยงกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ ของเลบานอน ที่อยู่ติดกับประตูหลังบ้านของอิสราเอล ที่ทั้งอิหร่านและซีเรียส่งเสียเลี้ยงดู เพื่ออิสราเอลจะได้ปลอดภัย เห็นความแสบ ซับซ้อนของอเมริกาไหมครับ
    แผนนี้ ถ้าสำเร็จ มันจะเป็นการทลายค่ายต่อต้านอเมริกาอย่างถาวร ได้ดูแลยิว และผ่ารัสเซียจากจีน เป็นการตัดตอน 2 ประเทศใหญ่ เตรียมก้าวไปครองโลก คิดแล้วน่าเคลิ้มใจ
    อเมริกา ยังฝันเฟื่องต่อไปอีกว่า เมื่อยึดอิรัค กำจัดซัดดัมแล้ว จะจัดให้อิรัคมีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตย ซึ่งจะทำให้อิรัค เป็นมิตรที่ดีของอิสราเอล คอยช่วยเหลืออิสราเอล และช่วยด่าซีเรีย กับด่าอิหร่าน เป็นการปูพื้น เตรียมการให้อเมริกาบุก 2 ประเทศนั้นต่อ ระหว่างที่อ่านย่อหน้านี้ จะได้อารมณ์มาก ถ้านึกถึงหน้าคาวบอยบุซ ไปด้วยนะครับ จะได้ซึ้งถึงฝันเฟื่องของคาวบอย ว่ามัน
    เห่ย ขนาดไหน
    อเมริกา ไม่ได้เพียงประเมินตัวเองผิด อเมริกายังประเมินคู่ต่อสู้ของตัวผิดอีกด้วย การบุกอิรัค จึงกลายเป็นเรื่องหายนะของอเม ริกา และเป็นหายนะของอิรัคด้วย เพราะตามสูตรของอเมริกา เมื่อครอบครองไม่ได้ ก็ทำลายเสีย แล้วอิรัค ก็กลายเป็นรัฐล้มเหลว เช่นเดียวกับลิเบีย และอื่นๆ
    สำหรับอเมริกา ในการจะบุกซีเรีย อเมริกาต้องใช้สูตรสำเร็จ เอาปูนป้ายหน้า
    อัสซาดก่อนว่า ไอ้หมอนี่เป็นผู้นำที่เลว เผด็จการ ขี้โกง ไร้มนุษยธรรม ฯลฯ เหมือนอย่างที้ป้ายหน้า ซัดดัม กัดดาฟี ทำนองนั้น สูตรสำเร็จนี้ คนอ่านนิทานท่องได้ จำขึ้นใจกันแล้วทั้งนั้น
    แต่สำหรับซีเรีย สูตรสำเร็จแค่นั้นคงไม่พอ เพราะซีเรียก็แหลมคม และมีเพื่อน
    แล้วในปี ค.ศ.2005 จึงเกิดเรื่องการวางระเบิดคาร์บอม ใส่ขบวนรถของนายราฟิค ฮาริริ Rafiq Hariri อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน ข่าวบอกว่าเป็นฝีมือของกลุ่มเฮสบอลเลาะห์กองกำลังติดอาวุธของเลบานอน ที่อยู่คนละข้างกับกลุ่มของฮาริริ
    บังเอิญ ฮาริริ ดันเป็นคนที่ (มีคนสั่งให้) ซาอุ (จ่าย) สนับสนุนให้เป็นใหญ่ในเลบานอน เอาไว้เป็นหนาม อยู่กลางกลุ่มพวกอิหร่านและซีเรียในเลบานอน เรื่องมันจึงไม่ใช่การวางระเบิดระดับธรรมดา สื่อฟอกย้อม ลงข่าวว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบ เพราะตอนนั้นซีเรีย ดูแลด้านความมั่นคงให้แก่เลบานอน ตามสัญญา Taif Accord
    แม้จะดมกลิ่นระเบิดไม่ได้จากมือไหน แต่คาร์บอมรายการนี้ ก็ค่อนข้างชัดว่า น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนป้ายสีให้อัสซาด นอกจากนี้ หัวหน้าอาหรับสายสุนนี่ โดยเฉพาะสุนนี่ในเลบานอน ต่างออกมาประสานเสียงกันว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบในการลอบฆ่านี้ ผลสุดท้าย กองทัพซีเรียก็ต้องถอนกำลังออกไปจากเลบานอน และเลบานอนก็อยู่ในความดูแลของ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกองกำลังที่เรียกว่า “กองกำลังร่วม 14 มีนา” ที่ตั้งขึ้นทันที ที่ ฮาริริ ถูกฆ่าตาย และไม่ถูกกับกลุ่มเฮสบอลเลาะห์
    เลบานอน ก็เริ่มมีความวุ่นวาย
    หลังจากนั้น เสียงไม่เอาซีเรีย ไม่เอาอัสซาด ก็เริ่มระบาดดังขึ้นในเลบานอน สื่อในเลบานอน ตีข่าวด่าซีเรียทุกวัน กองกำลังร่วม 14 มีนา ก็แข็งกร้าวขึ้นทุกวัน และกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ปนกลิ่นแพะ ก็ปลิวว่อนในเลบานอน
    นี่คือจุดเริ่มต้นของการรวมกำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ที่มาจากสาระพัดพันธ์ุและสาระพัด เป้าหมาย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 8 “ลองเชิง” ตอน 8 เขาว่ากันว่า สิ่งที่อเมริกาสนใจ และใส่ใจที่สุดในตะวันออกกลางคือ น้ำมัน กับอิสราเอลเท่านั้น ที่เถียงกันคือ ใน 2 สิ่ง อเมริกาห่วงสิ่งไหนมากกว่ากัน ที่เขาว่ากันแบบนั้น ก็คงไม่ผิดในเชิงการเมือง แต่ ในเชิงยุทธศาสตร์ ผมว่าอเมริกาคงสนใจแค่ 1 สิ่ง ในตะวันออกกลาง คืออเมริกา “จะต้องได้” ตะวันออกกลางทั้งหมดต่างหาก อย่างที่ผมเกริ่นมาในตอนก่อนๆ แต่อเมริกาจะกินตะวันออกกลางทั้งหมด อเมริกาก็ต้องวางแผนให้ดี เพราะห่วงว่าจะมีใครย้อนศร ส่วจรวดมาใส่ไข่แดงของอเมริกา ที่อยู่ในตะวันออกกลางคือ อิสราเอล จนเละทั้งใบ ไม่ใช่อเมริการักอิสราเอลมากนักหรอก แต่ยิวที่ขี่คอรัฐบาลอเมริกานั่นสิ ที่อเมริกาต้องห่วง และยิวในอเมริกาก็มีมากเสียด้วย เรียกดาราดังๆเชื้อสายยิวๆ มาเข้าฉากทั้งหมด รัฐบาลอเมริกันอาจพังง่ายๆ ตั้งแต่ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ ดาราตุ๊กตาทอง สื่อทุกรูปแบบ อยู่ในมือยิวเกือบทั้งนั้น อาวุธที่ทำให้อเมริกาเซได้ โดยไม่ต้องถล่มตลาดหุ้น หรือใช้จรวดยิง ก็คือ ใช้ดารากับสื่อนี่แหละครับ เอาหน้าเด่นๆ ผลัดกันมาออกรายการ ตีข่าวเข้าไปทุกวัน คนบ้าดารา เคลิ้มตาม เดี๋ยวก็ได้มีการลาออก หรือเปลี่ยนนโยบายกันให้เห็น แต่ไม่ได้หมายความว่า อเมริกาจะไม่มีวันทิ้งยิว … อัสซาด คนพ่อ Hafez Assad นั้น เป็นนักยุทธศาสตร์ตัวยง เหลี่ยมลึก มองไกล เขาดูแล้วว่า อิสราเอลเป็นจุดสำคัญที่สุดของตะวันออกกลาง ผมจึงชื่นชมอังกฤษ ไอ้ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้ายนักว่า มันสุดยอด(ชั่ว)จริงๆ ที่เอายิวไปอยู่ในตะวันออกกลางได้ และให้อยู่ในจุดนั้น ลองกลับไปดูแผนที่นะครับ และนึกถึงข้อตกลงของอังกฤษกับผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยว่า สมัยนั้น เขาตกลงแบ่งสมบัติกันอย่างไร สรุปว่า ประเทศที่มีทางออกสู่เมดิเตอร์เรเนียนทั้งหมดคือ ตุรกี ซีเรีย เลบานอน และอิสราเอล ยาวมาจนถึงอียิปต์ ตกอยู่ในความดูแลของอังกฤษกับพวก เพื่ออังกฤษและพวกจะได้คุมทางออกไปทะเล จำไว้นะครับ เรื่องการคุมทางออกทะเล เป็นยุทธศาสตร์สำคัญอันหนึ่ง แต่มาภายหลัง เมื่อตุรกี ซีเรีย เลบานอน ได้รับเอกราช สามารถปกครองบ้านเมืองตัวเองได้ โดยไม่ต้องฟังอังกฤษกับพวกแล้ว อเมริกาที่รับไม้ดูแลตะวันออกกลางต่อจากอังกฤษ จึงต้องทุ่มสร้างความมั่นคงให้กับอิสราเอล ไข่แดงของตัว และสร้างความมั่นคงให้อิยิปต์ด้วยในช่วงแรก เพื่อเป็นกำแพงพิงหลังให้อิสราเอล ขณะเดียวกัน อเมริกาก็พยายามซื้อเลบานอนอยู่หลายรอบ สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง อัสซาด คนพ่อ เห็นอย่างนั้นก็รู้ว่า อิสราเอล แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่ถ้าอเมริกาเสริมเหล็กใ้ห้จนแข็งขนาดนั้น ต่อไปซีเรียจะเหนื่อย เขาจึงสนับสนุนให้มีการสร้างกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ในเลบานอน ที่อยู่ติดหลังบ้านอิสราเอลขึ้นมา ไว้เป็นด่านกั้นให้ซีเรียชั้นหนึ่งก่อน ส่วนเลบานอนก็ไม่ปฏิเสธ เพราะตัวเองยิ่งแย่ใหญ่ หน้าเกือบจะชนก้นอิสราเอลอยู่แล้ว และนี่ ก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้อิสราเอลเกลียดซีเรีย อย่างไม่มีวันเลิก กลับมาที่แผนชั่วของอเมริกาใน ตะวันออกกลาง ตัวละครใหญ่สำคัญที่สุด 3 รายคือ อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย นั้น อเมริกาจับมาอยู่ในมือแล้ว คือ 2 รายหลัง เหลือรายแรกคือ อิหร่าน ที่อเมริกาเพียรจับ แต่จับๆ หลุดๆ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1950 กว่าๆ แต่ไม่เคยอยู่หมัดอยู่มือถาวร อเมริกาจึงต้องวางแผนใหม่อยู่เรื่อย จะครองโลก ไม่ใช่คิดวันนี้ ครองพรุ่งนี้ เขาวางแผนกันมาหลายสิบปี บางทีร้อยปี ก็มี จะต่อสู้หรือต่อต้าน ก็เช่นเดียวกัน เขาก็ต้องวางแผนนาน สนามซีเรีย ช่วงนี้จะนั่งดูรายวัน ก็ควรทำความเข้าใจก่อนว่า ใครเล่นอะไร ที่ไหน เพราะอะไร ไม่อย่างนั้น ก็แค่รู้ แต่ไม่เข้าใจ อเมริกาวางแผนที่จะกินอิหร่านหลายรูปแบบ รูปแบบสุดท้าย คือ เรื่องนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นละครซื้อเวลา แผนจริงรุ่นแรก ที่อเมริกาเดินเพื่อกินอิหร่าน คือ แผนบุกอิรัค ของเหยี่ยวกระหายเลือด คาวบอยบุช กับดิกเชนีย์ เมื่อ ปี ค.ศ.2003 ซึ่งเป็นไปตามแผนการจัดระเบียบโลกใหม่ New World Order ที่บุชตัวพ่อ ประกาศ ในปี ค.ศ.1991 เมื่อคิดว่า สหภาพโซเวียตล่มสลายตายสนิท แต่ภายหลัง ในช่วงประมาณปี ค.ศ.2000 ไอ้ที่คิดว่าตายสนิท ดันฟื้นเป็นรัสเซีย ที่ทำท่าจะเฟื่องต่อเสียด้วยซ้ำ และไอ้ที่คิดว่าดีแต่ค้าขายอย่างจีน ก็ทำท่าจะโตเร็วเกินไป แผนจัดการอิหร่าน เพื่อยึดตะวันออกกลาง และผ่ากลาง รัสเซียกับจีน จึงต้องรีบดำเนินการ แต่อยู่ดีๆ จะไปยึดอิหร่าน ที่ใหญ่เอาเรื่อง และก็ผูกสัมพันธ์กับรัสเซียมาตลอด คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะเซ่อซ่าวิ่งลุยเข้าไปง่ายๆ อเมริกาจึงคิดทุบรอบนอกอิหร่านก่อน และยุทธศาสตร์ทุบรอบนอก หรือทุบข้างในให้น่วมก่อนกิน นี่ ดูเหมือนจะเป็นยุทธศาสตร์ยอดนิยมของค่ายตะวันตก อิรัคและซัดดัม จึงถูกเลือกเป็นทั้งเป้าหมายจริง และเป็นเป้าหมายหลอกในขณะเดียวกัน อเมริกาไม่เคยกินเด้งเดียว อเมริกาต้องการครอบครองอิรัค เพื่อเอาน้ำมัน และใช้เป็นสะพานเพื่อเข้าไปบุกซีเรียและอิหร่านอีกต่อหนึ่ง ขณะเดียวกัน ก็เป็นการตัดเส้นทางเลี้ยงกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ ของเลบานอน ที่อยู่ติดกับประตูหลังบ้านของอิสราเอล ที่ทั้งอิหร่านและซีเรียส่งเสียเลี้ยงดู เพื่ออิสราเอลจะได้ปลอดภัย เห็นความแสบ ซับซ้อนของอเมริกาไหมครับ แผนนี้ ถ้าสำเร็จ มันจะเป็นการทลายค่ายต่อต้านอเมริกาอย่างถาวร ได้ดูแลยิว และผ่ารัสเซียจากจีน เป็นการตัดตอน 2 ประเทศใหญ่ เตรียมก้าวไปครองโลก คิดแล้วน่าเคลิ้มใจ อเมริกา ยังฝันเฟื่องต่อไปอีกว่า เมื่อยึดอิรัค กำจัดซัดดัมแล้ว จะจัดให้อิรัคมีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตย ซึ่งจะทำให้อิรัค เป็นมิตรที่ดีของอิสราเอล คอยช่วยเหลืออิสราเอล และช่วยด่าซีเรีย กับด่าอิหร่าน เป็นการปูพื้น เตรียมการให้อเมริกาบุก 2 ประเทศนั้นต่อ ระหว่างที่อ่านย่อหน้านี้ จะได้อารมณ์มาก ถ้านึกถึงหน้าคาวบอยบุซ ไปด้วยนะครับ จะได้ซึ้งถึงฝันเฟื่องของคาวบอย ว่ามัน เห่ย ขนาดไหน อเมริกา ไม่ได้เพียงประเมินตัวเองผิด อเมริกายังประเมินคู่ต่อสู้ของตัวผิดอีกด้วย การบุกอิรัค จึงกลายเป็นเรื่องหายนะของอเม ริกา และเป็นหายนะของอิรัคด้วย เพราะตามสูตรของอเมริกา เมื่อครอบครองไม่ได้ ก็ทำลายเสีย แล้วอิรัค ก็กลายเป็นรัฐล้มเหลว เช่นเดียวกับลิเบีย และอื่นๆ สำหรับอเมริกา ในการจะบุกซีเรีย อเมริกาต้องใช้สูตรสำเร็จ เอาปูนป้ายหน้า อัสซาดก่อนว่า ไอ้หมอนี่เป็นผู้นำที่เลว เผด็จการ ขี้โกง ไร้มนุษยธรรม ฯลฯ เหมือนอย่างที้ป้ายหน้า ซัดดัม กัดดาฟี ทำนองนั้น สูตรสำเร็จนี้ คนอ่านนิทานท่องได้ จำขึ้นใจกันแล้วทั้งนั้น แต่สำหรับซีเรีย สูตรสำเร็จแค่นั้นคงไม่พอ เพราะซีเรียก็แหลมคม และมีเพื่อน แล้วในปี ค.ศ.2005 จึงเกิดเรื่องการวางระเบิดคาร์บอม ใส่ขบวนรถของนายราฟิค ฮาริริ Rafiq Hariri อดีตนายกรัฐมนตรีเลบานอน ข่าวบอกว่าเป็นฝีมือของกลุ่มเฮสบอลเลาะห์กองกำลังติดอาวุธของเลบานอน ที่อยู่คนละข้างกับกลุ่มของฮาริริ บังเอิญ ฮาริริ ดันเป็นคนที่ (มีคนสั่งให้) ซาอุ (จ่าย) สนับสนุนให้เป็นใหญ่ในเลบานอน เอาไว้เป็นหนาม อยู่กลางกลุ่มพวกอิหร่านและซีเรียในเลบานอน เรื่องมันจึงไม่ใช่การวางระเบิดระดับธรรมดา สื่อฟอกย้อม ลงข่าวว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบ เพราะตอนนั้นซีเรีย ดูแลด้านความมั่นคงให้แก่เลบานอน ตามสัญญา Taif Accord แม้จะดมกลิ่นระเบิดไม่ได้จากมือไหน แต่คาร์บอมรายการนี้ ก็ค่อนข้างชัดว่า น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนป้ายสีให้อัสซาด นอกจากนี้ หัวหน้าอาหรับสายสุนนี่ โดยเฉพาะสุนนี่ในเลบานอน ต่างออกมาประสานเสียงกันว่า ซีเรียต้องรับผิดชอบในการลอบฆ่านี้ ผลสุดท้าย กองทัพซีเรียก็ต้องถอนกำลังออกไปจากเลบานอน และเลบานอนก็อยู่ในความดูแลของ กลุ่มเฮสบอลเลาะห์ กับกองกำลังที่เรียกว่า “กองกำลังร่วม 14 มีนา” ที่ตั้งขึ้นทันที ที่ ฮาริริ ถูกฆ่าตาย และไม่ถูกกับกลุ่มเฮสบอลเลาะห์ เลบานอน ก็เริ่มมีความวุ่นวาย หลังจากนั้น เสียงไม่เอาซีเรีย ไม่เอาอัสซาด ก็เริ่มระบาดดังขึ้นในเลบานอน สื่อในเลบานอน ตีข่าวด่าซีเรียทุกวัน กองกำลังร่วม 14 มีนา ก็แข็งกร้าวขึ้นทุกวัน และกระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ ปนกลิ่นแพะ ก็ปลิวว่อนในเลบานอน นี่คือจุดเริ่มต้นของการรวมกำลังโค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ที่มาจากสาระพัดพันธ์ุและสาระพัด เป้าหมาย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 ต.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 516 Views 0 Reviews
  • จีนกดดันเนเธอร์แลนด์ให้แก้ปัญหาความขัดแย้ง Nexperia

    รัฐบาลจีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์เร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับบริษัท Nexperia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของดัตช์ที่ถูกควบคุมโดย Wingtech Technology ของจีน หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทำให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญ

    การแทรกแซงของรัฐและผลกระทบ
    ในเดือนกันยายน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็นเพื่อวาง Nexperia ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ พร้อมระงับสิทธิ์การโหวตของผู้บริหารที่มาจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระแทน จีนตอบโต้ด้วยการหยุดการส่งออกชิ้นส่วนที่บรรจุในจีนกลับไปยุโรป ส่งผลให้การผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรปสะดุดทันที

    ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    กว่า 70% ของเวเฟอร์ที่ผลิตในยุโรปโดย Nexperia ต้องถูกส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ เมื่อจีนหยุดส่งออก ทำให้เกิดการค้างสต็อกและใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้รับชำระจำนวนมาก ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการควบคุมบริษัทได้อย่างถาวร

    บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้าน ภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเร่งลงทุนเพื่อสร้างโรงงานใหม่ในประเทศตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานที่เสี่ยงต่อการเมือง

    สรุปสาระสำคัญ
    จีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์แก้ปัญหา Nexperia
    หลังการแทรกแซงของรัฐทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุด

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็น
    ระงับสิทธิ์ผู้บริหารจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระ

    จีนตอบโต้ด้วยการหยุดส่งออกชิ้นส่วน
    กระทบการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป

    ปัจจุบันผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน
    แต่ยังไม่แก้ปัญหาการควบคุมบริษัทได้ถาวร

    ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    70% ของเวเฟอร์ยุโรปต้องส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ

    ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์
    อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-presses-netherlands-to-resolve-nexperia-dispute-as-supply-concerns-grow
    🇨🇳 จีนกดดันเนเธอร์แลนด์ให้แก้ปัญหาความขัดแย้ง Nexperia รัฐบาลจีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์เร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับบริษัท Nexperia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของดัตช์ที่ถูกควบคุมโดย Wingtech Technology ของจีน หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทำให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญ 🏛️ การแทรกแซงของรัฐและผลกระทบ ในเดือนกันยายน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็นเพื่อวาง Nexperia ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ พร้อมระงับสิทธิ์การโหวตของผู้บริหารที่มาจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระแทน จีนตอบโต้ด้วยการหยุดการส่งออกชิ้นส่วนที่บรรจุในจีนกลับไปยุโรป ส่งผลให้การผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรปสะดุดทันที ⚡ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก กว่า 70% ของเวเฟอร์ที่ผลิตในยุโรปโดย Nexperia ต้องถูกส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ เมื่อจีนหยุดส่งออก ทำให้เกิดการค้างสต็อกและใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้รับชำระจำนวนมาก ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการควบคุมบริษัทได้อย่างถาวร 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้าน ภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเร่งลงทุนเพื่อสร้างโรงงานใหม่ในประเทศตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานที่เสี่ยงต่อการเมือง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ จีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์แก้ปัญหา Nexperia ➡️ หลังการแทรกแซงของรัฐทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุด ✅ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็น ➡️ ระงับสิทธิ์ผู้บริหารจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระ ✅ จีนตอบโต้ด้วยการหยุดส่งออกชิ้นส่วน ➡️ กระทบการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป ✅ ปัจจุบันผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน ➡️ แต่ยังไม่แก้ปัญหาการควบคุมบริษัทได้ถาวร ‼️ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ⛔ 70% ของเวเฟอร์ยุโรปต้องส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ ‼️ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-presses-netherlands-to-resolve-nexperia-dispute-as-supply-concerns-grow
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Chinese government wades into Dutch chipmaker dispute — presses Netherlands to resolve Nexperia saga as supply concerns grow
    Beijing urges the Dutch government to allow talks with Wingtech after state intervention disrupted chip flows.
    0 Comments 0 Shares 339 Views 0 Reviews
  • ยีนที่เปลี่ยนพฤติกรรมเมื่ออยู่บนที่สูง

    งานวิจัยใหม่เผยว่า การใช้ชีวิตบนพื้นที่สูง เช่นเทือกเขาแอนดีส สามารถทำให้ยีนของมนุษย์ปรับเปลี่ยนการทำงานได้แบบ Epigenetic โดยไม่ต้องเปลี่ยนรหัสพันธุกรรม และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าใจการปรับตัวของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมสุดขั้ว

    นักวิทยาศาสตร์จาก Emory University ศึกษาชุมชน Kichwa ที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาแอนดีสสูงกว่า 2,500 เมตร และเปรียบเทียบกับชุมชน Ashaninka ในแถบลุ่มน้ำอเมซอน ผลการวิเคราะห์พบว่า มีความแตกต่างของการทำงานยีนกว่า 779 ตำแหน่ง โดยเฉพาะยีนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อภาวะออกซิเจนต่ำ (hypoxia) และการควบคุมระบบหลอดเลือด

    Epigenetics: การปรับตัวแบบไม่เปลี่ยน DNA
    สิ่งที่ค้นพบไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมถาวร แต่เป็นการปรับระดับการทำงานของยีนผ่านกระบวนการ DNA methylation ซึ่งทำให้บางยีนทำงานมากขึ้นหรือน้อยลงตามสภาพแวดล้อม ตัวอย่างเช่น ยีนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อออกซิเจนมีการลดระดับ methylation เพื่อให้ร่างกายทนต่ออากาศเบาบางได้ดีขึ้น

    ผลกระทบจากรังสี UV และสภาพภูมิประเทศ
    นอกจากออกซิเจนต่ำแล้ว การอยู่บนพื้นที่สูงยังทำให้ร่างกายเผชิญกับ รังสี UV ที่เข้มข้นกว่า นักวิจัยพบความแตกต่างในยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีผิวถึง 39 ตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนว่าร่างกายมีการปรับตัวเพื่อป้องกันผิวจากรังสีที่รุนแรง

    ความหมายต่อการวิวัฒนาการมนุษย์
    แม้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจไม่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่การปรับตัวแบบ epigenetic ที่เกิดขึ้นตลอดชีวิตสามารถช่วยให้ชุมชนที่อยู่บนพื้นที่สูงดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน และยังชี้ให้เห็นว่า วิวัฒนาการมนุษย์ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยน DNA เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการปรับตัวแบบยืดหยุ่นในระดับเซลล์ด้วย

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบในชุมชน Kichwa และ Ashaninka
    พบความแตกต่างของการทำงานยีนกว่า 779 ตำแหน่ง
    ยีนเกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อออกซิเจนและระบบหลอดเลือด

    Epigenetic adaptation
    เกิดจาก DNA methylation ที่ปรับระดับการทำงานของยีน
    ไม่ใช่การเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมถาวร

    ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม
    รังสี UV เข้มข้นทำให้ยีนเม็ดสีผิวเปลี่ยนการทำงาน
    สภาพอากาศเบาบางกระตุ้นการปรับตัวของระบบหายใจ

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    ยังไม่แน่ชัดว่าการเปลี่ยนแปลง epigenetic สามารถถ่ายทอดสู่รุ่นลูกได้หรือไม่
    งานวิจัยยังจำกัดอยู่ในกลุ่มประชากรเฉพาะ ต้องศึกษาเพิ่มเติมในพื้นที่อื่น ๆ

    https://www.sciencealert.com/living-at-high-altitudes-induces-remarkable-changes-in-how-genes-behave
    🏔️ ยีนที่เปลี่ยนพฤติกรรมเมื่ออยู่บนที่สูง งานวิจัยใหม่เผยว่า การใช้ชีวิตบนพื้นที่สูง เช่นเทือกเขาแอนดีส สามารถทำให้ยีนของมนุษย์ปรับเปลี่ยนการทำงานได้แบบ Epigenetic โดยไม่ต้องเปลี่ยนรหัสพันธุกรรม และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าใจการปรับตัวของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมสุดขั้ว นักวิทยาศาสตร์จาก Emory University ศึกษาชุมชน Kichwa ที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาแอนดีสสูงกว่า 2,500 เมตร และเปรียบเทียบกับชุมชน Ashaninka ในแถบลุ่มน้ำอเมซอน ผลการวิเคราะห์พบว่า มีความแตกต่างของการทำงานยีนกว่า 779 ตำแหน่ง โดยเฉพาะยีนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อภาวะออกซิเจนต่ำ (hypoxia) และการควบคุมระบบหลอดเลือด 🧬 Epigenetics: การปรับตัวแบบไม่เปลี่ยน DNA สิ่งที่ค้นพบไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมถาวร แต่เป็นการปรับระดับการทำงานของยีนผ่านกระบวนการ DNA methylation ซึ่งทำให้บางยีนทำงานมากขึ้นหรือน้อยลงตามสภาพแวดล้อม ตัวอย่างเช่น ยีนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อออกซิเจนมีการลดระดับ methylation เพื่อให้ร่างกายทนต่ออากาศเบาบางได้ดีขึ้น 🌞 ผลกระทบจากรังสี UV และสภาพภูมิประเทศ นอกจากออกซิเจนต่ำแล้ว การอยู่บนพื้นที่สูงยังทำให้ร่างกายเผชิญกับ รังสี UV ที่เข้มข้นกว่า นักวิจัยพบความแตกต่างในยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีผิวถึง 39 ตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนว่าร่างกายมีการปรับตัวเพื่อป้องกันผิวจากรังสีที่รุนแรง 🌍 ความหมายต่อการวิวัฒนาการมนุษย์ แม้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจไม่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่การปรับตัวแบบ epigenetic ที่เกิดขึ้นตลอดชีวิตสามารถช่วยให้ชุมชนที่อยู่บนพื้นที่สูงดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน และยังชี้ให้เห็นว่า วิวัฒนาการมนุษย์ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยน DNA เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการปรับตัวแบบยืดหยุ่นในระดับเซลล์ด้วย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบในชุมชน Kichwa และ Ashaninka ➡️ พบความแตกต่างของการทำงานยีนกว่า 779 ตำแหน่ง ➡️ ยีนเกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อออกซิเจนและระบบหลอดเลือด ✅ Epigenetic adaptation ➡️ เกิดจาก DNA methylation ที่ปรับระดับการทำงานของยีน ➡️ ไม่ใช่การเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมถาวร ✅ ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ➡️ รังสี UV เข้มข้นทำให้ยีนเม็ดสีผิวเปลี่ยนการทำงาน ➡️ สภาพอากาศเบาบางกระตุ้นการปรับตัวของระบบหายใจ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่แน่ชัดว่าการเปลี่ยนแปลง epigenetic สามารถถ่ายทอดสู่รุ่นลูกได้หรือไม่ ⛔ งานวิจัยยังจำกัดอยู่ในกลุ่มประชากรเฉพาะ ต้องศึกษาเพิ่มเติมในพื้นที่อื่น ๆ https://www.sciencealert.com/living-at-high-altitudes-induces-remarkable-changes-in-how-genes-behave
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Living at High Altitudes Induces Remarkable Changes in How Genes Behave
    High in the Ecuadorian Andes, at altitudes thousands of meters above sea level, humans face environmental pressures very different from those at lower altitudes.
    0 Comments 0 Shares 247 Views 0 Reviews
  • “เท้ง–ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ผู้นำฝ่ายค้าน แถลงมองทางออกศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องใช้ “ทหารควบคู่การทูต” พร้อมชี้เป้าปัญหาหลักคือขบวนการสแกมเมอร์ที่หล่อเลี้ยงระบอบฮุน เซน
    .
    เตือนชีวิตทหาร–ประชาชนไม่ควรต้องสูญเสียไปกับสงครามที่ยืดเยื้อ ย้ำแนวคิด “ไม่มีการรบใดไม่จบที่โต๊ะเจรจา” พร้อมเสนอ 3 แนวรบ—ทหาร, การทูต, ปราบสแกมเมอร์-เพื่อกดดันกัมพูชากลับสู่ข้อตกลงและยุติวงจรปะทะให้ได้ถาวร
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118283
    .
    #News1live #News1 #ไทยกัมพูชา #ชายแดนตึงเครียด #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #สแกมเมอร์ #การทูต #ความมั่นคง
    “เท้ง–ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ผู้นำฝ่ายค้าน แถลงมองทางออกศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องใช้ “ทหารควบคู่การทูต” พร้อมชี้เป้าปัญหาหลักคือขบวนการสแกมเมอร์ที่หล่อเลี้ยงระบอบฮุน เซน . เตือนชีวิตทหาร–ประชาชนไม่ควรต้องสูญเสียไปกับสงครามที่ยืดเยื้อ ย้ำแนวคิด “ไม่มีการรบใดไม่จบที่โต๊ะเจรจา” พร้อมเสนอ 3 แนวรบ—ทหาร, การทูต, ปราบสแกมเมอร์-เพื่อกดดันกัมพูชากลับสู่ข้อตกลงและยุติวงจรปะทะให้ได้ถาวร . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118283 . #News1live #News1 #ไทยกัมพูชา #ชายแดนตึงเครียด #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #สแกมเมอร์ #การทูต #ความมั่นคง
    0 Comments 0 Shares 330 Views 0 Reviews
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar

    Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น
    เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it

    WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe

    กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก
    ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban

    Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender

    NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล
    NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox

    GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini
    OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week

    จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia
    Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage

    Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ
    Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads

    Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์
    นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up

    Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial
    Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences

    รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE
    เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ
    https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends

    Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ
    Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is

    Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่
    สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy

    ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p
    ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs

    รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด
    ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี
    https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review

    Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่
    Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it

    ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI
    Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี
    อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี
    นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation

    อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก
    นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ
    https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag

    FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่
    เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life

    Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด
    รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
    https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review

    FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้
    อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks

    ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่
    บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน
    https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack

    Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ
    รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk

    IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป
    บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ
    https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward

    ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI
    ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it

    ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว
    รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง
    https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands

    OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา”
    OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls

    React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง
    เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure

    SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้
    SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy
    https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy

    Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco
    แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด
    https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close

    X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป
    แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition

    Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว
    Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it

    มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย
    https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps

    AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT
    มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found

    Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros
    Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why

    แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้
    มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar 👓 Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it 🛡️ WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe 🌍 กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban 💻 Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่ ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender 📧 NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox 🤓 GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week ⚡ จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage 🚗 Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads 👓 Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์ นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up 🕶️ Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ 🔗 https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends ⌚ Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is 💿 Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่ สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy 🏥 ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs 🧹 รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review 📱 Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่ Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it 🧑‍💻 ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus 🌐 เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🎬 รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation 🎥 อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ 🔗 https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag 🛡️ FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่ เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life 🔋 Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review 🚁 FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้ อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks 🌱 ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่ บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack ⚠️ Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk 🤖 IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward 🎧 ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it 🏗️ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands 📱 OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา” OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls 🛡️ React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure 🕯️ SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้ SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy 🔗 https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy 🎮 Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด 🔗 https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close 💸 X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition 💻 Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it 📱 มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้ มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps 🤖 AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found 📺 Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why 🔋 แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้ มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    0 Comments 0 Shares 1278 Views 0 Reviews
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #securityonline


    ช่องโหว่ Bluetooth เสี่ยงทำรถอัจฉริยะและ Wear OS ค้าง
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่อาจทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ส่งผลให้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์ Wear OS เกิดการค้างหรือหยุดทำงานได้ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในรหัส CVE-2025-48593 และมีการเผยแพร่ PoC (Proof of Concept) แล้ว ซึ่งหมายความว่ามีตัวอย่างการโจมตีที่สามารถนำไปใช้จริงได้ แม้รายงานฉบับเต็มจะเปิดให้เฉพาะผู้สนับสนุน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความเสี่ยงที่ผู้ใช้รถยนต์และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะต้องเผชิญ หากไม่ได้รับการอัปเดตแก้ไขอย่างทันท่วงที
    https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool เสี่ยงข้อมูลรั่วและระบบล่ม
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในเครื่องมือ Duc ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ใช้สำหรับตรวจสอบและแสดงผลการใช้งานดิสก์บนระบบ Linux ช่องโหว่นี้คือ CVE-2025-13654 เกิดจาก integer underflow ในฟังก์ชัน buffer_get ที่ทำให้เกิด buffer overflow ได้ หากผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจง จะสามารถทำให้โปรแกรมล่ม (DoS) หรือดึงข้อมูลจากหน่วยความจำที่ไม่ควรถูกเข้าถึงได้ ปัญหานี้กระทบต่อทุกเวอร์ชันก่อน 1.4.6 และทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow

    มัลแวร์ SeedSnatcher บน Android ล่าขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้คริปโต
    มัลแวร์ใหม่ชื่อว่า “SeedSnatcher” กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้คริปโต โดยมันปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินชื่อ “Coin” และถูกเผยแพร่ผ่าน Telegram และโซเชียลต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง มัลแวร์จะสร้างหน้าจอหลอกเลียนแบบกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น MetaMask หรือ Trust Wallet เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase จากนั้นมันจะตรวจสอบคำที่กรอกด้วย wordlist ของ BIP 39 เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง ก่อนส่งข้อมูลไปยังผู้โจมตี นอกจากนี้ยังสามารถดักจับ SMS, ข้อมูลติดต่อ, บันทึกการโทร และสั่งการเครื่องจากระยะไกลได้ หลักฐานบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้โจมตีมีการจัดการแบบมืออาชีพและมีต้นทางจากจีนหรือผู้พูดภาษาจีน
    https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases

    Meta ปรับปรุงระบบช่วยเหลือด้วย AI Assistant และ Recovery Hub ใหม่
    Meta ยอมรับว่าระบบช่วยเหลือผู้ใช้ Facebook และ Instagram ที่ผ่านมา “ล้มเหลว” จนผู้ใช้จำนวนมากต้องหาทางแก้ไขด้วยตัวเองหรือแม้กระทั่งฟ้องร้อง ล่าสุดบริษัทประกาศเปิดตัว Support Hub ใหม่ที่รวมทุกเครื่องมือช่วยเหลือไว้ในที่เดียว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI Chat ให้ผู้ใช้สอบถามปัญหาได้ทันที อีกทั้งยังมี AI Assistant ที่ช่วยในกระบวนการกู้คืนบัญชี เช่น การตรวจจับอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย และการยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอเซลฟี่ Meta ระบุว่าการปรับปรุงนี้ทำให้อัตราการกู้คืนบัญชีที่ถูกแฮ็กในสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้นกว่า 30% อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย การเข้าถึง Support Hub ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ และการติดต่อเจ้าหน้าที่จริงยังคงต้องพึ่งบริการแบบเสียเงิน
    https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs

    EU ปรับ X €120 ล้าน ฐานละเมิด DSA ด้วยการตรวจสอบ Blue Check ที่หลอกลวง
    สหภาพยุโรปได้สั่งปรับแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เป็นเงิน 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีด้วย Blue Check ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” ระบบดังกล่าวทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าบัญชีที่จ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายนี้เป็นบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบจริง ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มงวด EU จึงมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่โปร่งใสและเป็นการละเมิดกฎหมาย การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของ EU ในการบังคับใช้ DSA และอาจเป็นสัญญาณเตือนให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น
    https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification

    CastleRAT มัลแวร์ใหม่ใช้ Steam เป็นช่องทางซ่อนตัว
    มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อ CastleRAT ที่ถูกออกแบบมาให้แอบแฝงเข้าไปในระบบองค์กรเพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องจากระยะไกล จุดที่น่ากังวลคือเวอร์ชันที่ถูกเขียนด้วยภาษา C ซึ่งมีความสามารถซ่อนตัวได้แนบเนียนกว่าเวอร์ชัน Python และยังทำได้หลายอย่าง เช่น ดักจับการพิมพ์, แอบถ่ายหน้าจอ, ขโมยข้อมูลจาก clipboard รวมถึงการควบคุมเบราว์เซอร์โดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ที่สำคัญ CastleRAT ยังใช้หน้า Community ของ Steam เป็นที่ซ่อนคำสั่ง ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนการใช้งานปกติ ปัจจุบันนักวิจัยได้ออกแนวทางตรวจจับเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยนี้ได้
    https://securityonline.info/sophisticated-castlerat-backdoor-uses-steam-community-pages-as-covert-c2-resolver-for-espionage

    LockBit 5.0 กลับมาอีกครั้งพร้อมความร้ายแรงกว่าเดิม
    หลังจากที่ปฏิบัติการ Cronos เคยทำให้กลุ่ม LockBit ถูกปราบไปเมื่อปี 2024 หลายคนคิดว่าภัยนี้จบแล้ว แต่ล่าสุด LockBit ได้กลับมาในเวอร์ชันใหม่ชื่อ LockBit 5.0 ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นคือสามารถทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux และ VMware ESXi พร้อมโหมดล่องหนที่เข้ารหัสไฟล์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และโหมดลบข้อมูลถาวรที่ทำให้การกู้คืนแทบเป็นไปไม่ได้ ที่น่ากลัวคือมันยังปิดการทำงานของระบบ Event Tracing ของ Windows ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยมองไม่เห็นการโจมตี การกลับมาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ยังคงพัฒนาไม่หยุดและองค์กรต้องเตรียมรับมืออย่างจริงจัง
    https://securityonline.info/lockbit-5-0-resurfaces-stronger-new-variant-blinds-defenders-by-disabling-windows-etw-for-stealth-encryption

    Windows 11 เพิ่มตัวเลือกปิดเมนู AI ใน File Explorer
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่าการคลิกขวาไฟล์รูปภาพแล้วเจอเมนู AI มากมาย เช่น การค้นหาด้วย Bing หรือการแก้ไขด้วย Paint, Photos ทำให้เมนูรกและใช้งานไม่สะดวก ล่าสุด Microsoft ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ใน Build 26220.7344 ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดการแสดงเมนู AI ได้ทั้งหมด แม้จะยังไม่สามารถซ่อน shortcut ที่อยู่ด้านล่างเมนูได้ แต่ก็ถือเป็นการตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ที่อยากได้เมนูที่เรียบง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในเวอร์ชันทดสอบและจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต
    https://securityonline.info/ai-clutter-solved-windows-11-adds-setting-to-disable-ai-actions-in-file-explorer-menu

    ศาลสหรัฐจำกัดสัญญา Default Search ของ Google เหลือ 1 ปี
    จากคดีฟ้องร้องผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐต่อ Google ล่าสุดผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำสั่งใหม่ที่บังคับให้สัญญาที่ Google ทำกับผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อให้บริการค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้น ต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น เดิมที Google มักทำสัญญาระยะยาว เช่น ดีลกับ Apple ที่ทำให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบน iPhone การจำกัดสัญญาเหลือปีต่อปีจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งอย่าง Bing หรือ DuckDuckGo มีสิทธิ์เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ถือเป็นการแก้ปัญหาผูกขาดโดยไม่ต้องบังคับให้ Google แยกธุรกิจ Chrome ออกไป
    https://securityonline.info/google-antitrust-remedy-judge-limits-default-search-contracts-to-one-year-term

    INE ได้รับรางวัล G2 Winter 2026 หลายสาขา
    แพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน IT และ Cybersecurity อย่าง INE ได้รับการยอมรับจาก G2 ด้วยรางวัลถึง 7 หมวดหมู่ในฤดูหนาวปี 2026 ทั้งตำแหน่ง Leader และ Momentum Leader รวมถึงการเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และเอเชียแปซิฟิก รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้ทั่วโลกที่เลือก INE เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคนิคและความปลอดภัยไซเบอร์ หลายรีวิวชื่นชมว่าคอร์สของ INE สามารถนำไปใช้จริงในงานได้ทันที และใบรับรองจาก INE ก็ได้รับการยอมรับในวงการ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ INE ในการสร้างบุคลากรด้าน IT ที่มีคุณภาพ
    https://securityonline.info/ine-earns-g2-winter-2026-badges-across-global-markets

    SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งใหม่
    SpaceX กำลังวางแผนทดสอบการบินของจรวด Starship อีกครั้ง โดยครั้งนี้ตั้งเป้าให้การปล่อยและการลงจอดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่การทดสอบก่อนหน้านี้มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว จุดเด่นของ Starship คือการออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศอย่างมหาศาล Elon Musk ยังย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดคือการใช้ Starship พามนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร การทดสอบครั้งนี้จึงถูกจับตามองจากทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้สนใจอวกาศทั่วโลก
    https://securityonline.info/spacex-prepares-next-starship-test-flight

    Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์ AI
    Apple ได้เปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมการผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาในหลายฟังก์ชัน เช่น การปรับแต่งภาพถ่ายอัตโนมัติ, การช่วยเขียนข้อความ และการจัดการงานประจำวันด้วย Siri ที่ฉลาดขึ้น จุดขายสำคัญคือการทำงานแบบ On-device AI ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่และกล้องที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ iPhone รุ่นใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม
    https://securityonline.info/apple-launches-new-iphone-with-ai-features

    Microsoft เปิดตัว Copilot เวอร์ชันใหม่สำหรับธุรกิจ
    Microsoft ได้เปิดตัว Copilot เวอร์ชันล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผสานเข้ากับแอปพลิเคชันหลักอย่าง Word, Excel และ Teams จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปข้อมูล, สร้างรายงาน และตอบคำถามจากฐานข้อมูลภายในองค์กรได้ทันที ทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น Copilot ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหล
    https://securityonline.info/microsoft-unveils-new-copilot-for-business

    เกมใหม่จาก Ubisoft ใช้ AI สร้างโลกเสมือนจริง
    Ubisoft ได้ประกาศเปิดตัวเกมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างโลกเสมือนจริงแบบไดนามิก ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่เล่น ตัวละคร NPC สามารถตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างสมจริงและมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นี่ถือเป็นการยกระดับวงการเกมที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนาเข้ากับพลังของ AI เพื่อสร้างโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความท้าทาย
    https://securityonline.info/ubisoft-announces-ai-powered-game

    Meta เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับนักข่าว
    Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักข่าวในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขียนบทความได้รวดเร็วขึ้น เครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันและสรุปออกมาเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้นักข่าวสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและลดเวลาในการตรวจสอบข่าวปลอม นอกจากนี้ Meta ยังย้ำว่าจะมีระบบตรวจสอบเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างข่าวปลอมเอง ถือเป็นการพยายามสร้างความเชื่อมั่นในวงการสื่อ
    https://securityonline.info/meta-launches-ai-tools-for-journalists

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ถูกโจมตีจริงในอุปกรณ์เครือข่ายสองค่ายใหญ่ คือเร้าเตอร์รุ่นเก่าของ D-Link และระบบ Array Networks ที่ใช้งานในญี่ปุ่น ช่องโหว่แรกเป็น Buffer Overflow ที่ไม่มีการอัปเดตแก้ไขเพราะอุปกรณ์หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบเปลี่ยนเครื่องใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองคือการ Inject คำสั่งใน ArrayOS ซึ่งแฮกเกอร์ใช้วาง backdoor และ webshell เพื่อควบคุมระบบจากระยะไกล หน่วยงาน JPCERT ของญี่ปุ่นยืนยันว่ามีการโจมตีจริงตั้งแต่เดือนสิงหาคม และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่หรือปิดฟีเจอร์ Desktop Direct เพื่อป้องกันภัย
    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack

    Samsung พลิกฟื้นโรงงานผลิตชิป 4nm
    หลังจากเจอปัญหาผลิตชิปไม่คงที่จนเสียลูกค้ารายใหญ่ไป Samsung Foundry เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อสามารถยกระดับอัตราการผลิตชิป 4nm ให้ได้ผลสำเร็จถึง 60–70% และคว้าออเดอร์ใหญ่จากสตาร์ทอัพ AI สัญชาติอเมริกัน Tsavorite มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ สัญญานี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าซัมซุงยังมีศักยภาพแข่งขันกับ TSMC ได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี 2nm ที่เตรียมใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy S26 อีกด้วย
    https://securityonline.info/samsung-foundry-hits-60-4nm-yield-secures-100m-ai-chip-order-from-tsavorite

    โค้ดโฆษณาในแอป ChatGPT Android จุดกระแสถกเถียง
    นักพัฒนาพบโค้ดที่ดูเหมือนระบบโฆษณาในแอป ChatGPT เวอร์ชันทดสอบบน Android ทำให้เกิดการคาดเดาว่า OpenAI อาจเตรียมใส่โฆษณาในบริการ แต่ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ OpenAI รีบออกมาปฏิเสธทันทีว่าบริษัทไม่ได้ทดสอบฟีเจอร์โฆษณาในตอนนี้ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ปิดโอกาสในอนาคต โดยย้ำว่าหากมีการนำโฆษณามาใช้จริง จะทำด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เนื่องจาก ChatGPT มีผู้ใช้งานมหาศาลกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์
    https://securityonline.info/ad-code-found-in-chatgpt-android-build-openai-denies-current-advertising-tests

    AI จับได้ GhostPenguin มัลแวร์ลินุกซ์สุดลึกลับ
    นักวิจัยจาก Trend Micro ใช้ระบบ AI ตรวจจับพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ GhostPenguin ที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบลินุกซ์โดยไม่ถูกตรวจจับนานหลายเดือน มัลแวร์นี้เขียนด้วย C++ มีความสามารถสูงในการควบคุมเครื่องจากระยะไกลผ่านการสื่อสารแบบ UDP ที่เข้ารหัสด้วย RC5 ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ จุดเด่นคือการทำงานแบบหลายเธรด ทำให้มัลแวร์ยังคงตอบสนองแม้บางส่วนของโค้ดหยุดทำงาน การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าการใช้ AI ในการล่ามัลแวร์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
    https://securityonline.info/ai-uncovers-ghostpenguin-undetectable-linux-backdoor-used-rc5-encrypted-udp-for-covert-c2

    Shanya Crypter เครื่องมือใหม่ของแก๊งแรนซัมแวร์
    Sophos รายงานการพบเครื่องมือใหม่ชื่อ Shanya Crypter ซึ่งเป็นบริการ “packer-as-a-service” ที่ช่วยให้กลุ่มแรนซัมแวร์สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้ใช้เทคนิคซับซ้อน เช่น การซ่อนโค้ดใน DLL ของระบบ Windows และการใช้ driver ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกัน (EDR Killer) ก่อนปล่อยแรนซัมแวร์เข้ามาโจมตี ทำให้การป้องกันยากขึ้นมาก กลุ่ม Akira, Medusa และ Qilin ถูกระบุว่าเป็นผู้ใช้งานหลักของเครื่องมือนี้ และมีการแพร่กระจายไปหลายประเทศแล้ว
    https://securityonline.info/shanya-crypter-is-the-new-ransomware-toolkit-uses-kernel-driver-abuse-to-kill-edr

    Microsoft เปิดตัว Copilot+ PC
    ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Copilot+ PC ซึ่งมาพร้อมชิป Snapdragon X Elite และ X Plus ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานแบบ “AI on-device” เช่น ฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยค้นหาสิ่งที่เคยทำบนเครื่องได้เหมือนย้อนเวลา และการใช้ Copilot ในการสร้างภาพหรือข้อความได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ถือเป็นการยกระดับ Windows ให้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานประจำวัน
    https://securityonline.info/microsoft-unveils-copilot-pc-powered-by-snapdragon-x-elite-and-x-plus

    Google DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3
    DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ที่ใช้ทำนายโครงสร้างโมเลกุลและปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาได้แม่นยำยิ่งขึ้น จากเดิมที่ AlphaFold 2 สร้างความฮือฮาในการทำนายโครงสร้างโปรตีน ตอนนี้ AlphaFold 3 ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจำลองการทำงานของ DNA, RNA และโมเลกุลขนาดเล็กที่ซับซ้อนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยเร่งการค้นคว้ายาใหม่และการวิจัยทางการแพทย์ได้อย่างมหาศาล
    https://securityonline.info/google-deepmind-launches-alphafold-3-ai-model-for-molecular-science

    SpaceX ส่งดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่
    SpaceX ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม ดาวเทียมรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและสามารถให้บริการในพื้นที่ห่างไกลได้ดีกว่าเดิม การปล่อยครั้งนี้ยังตอกย้ำความตั้งใจของ SpaceX ที่จะขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
    https://securityonline.info/spacex-launches-next-gen-starlink-satellites-for-faster-global-internet

    Sony เปิดตัว PlayStation 5 Pro
    Sony เปิดตัวเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro ที่มาพร้อมประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น รองรับการเล่นเกม 8K และมีระบบ Ray Tracing ที่สมจริงกว่าเดิม จุดขายคือการใช้ชิปใหม่ที่ทำให้เฟรมเรตเสถียรขึ้นแม้ในเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่า PS5 Pro จะช่วยดึงดูดนักเล่นเกมที่ต้องการประสบการณ์ภาพสมจริงและเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ PS5 รุ่นปัจจุบัน
    https://securityonline.info/sony-unveils-playstation-5-pro-with-8k-gaming-and-ray-tracing

    WHO เตือนการระบาดของโรคใหม่
    องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการระบาดของโรคใหม่ที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่แพร่กระจายเร็วกว่า โดยพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบสายพันธุ์เพื่อหาวิธีควบคุมการแพร่ระบาด WHO แนะนำให้ประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการรับมือและเพิ่มการตรวจสอบในสนามบินและด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/who-issues-warning-on-new-fast-spreading-flu-like-disease
    📌🔐🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔐📌 #รวมข่าวIT #20251209 #securityonline 🔐 ช่องโหว่ Bluetooth เสี่ยงทำรถอัจฉริยะและ Wear OS ค้าง เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่อาจทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ส่งผลให้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์ Wear OS เกิดการค้างหรือหยุดทำงานได้ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในรหัส CVE-2025-48593 และมีการเผยแพร่ PoC (Proof of Concept) แล้ว ซึ่งหมายความว่ามีตัวอย่างการโจมตีที่สามารถนำไปใช้จริงได้ แม้รายงานฉบับเต็มจะเปิดให้เฉพาะผู้สนับสนุน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความเสี่ยงที่ผู้ใช้รถยนต์และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะต้องเผชิญ หากไม่ได้รับการอัปเดตแก้ไขอย่างทันท่วงที 🔗 https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os 💻 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool เสี่ยงข้อมูลรั่วและระบบล่ม มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในเครื่องมือ Duc ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ใช้สำหรับตรวจสอบและแสดงผลการใช้งานดิสก์บนระบบ Linux ช่องโหว่นี้คือ CVE-2025-13654 เกิดจาก integer underflow ในฟังก์ชัน buffer_get ที่ทำให้เกิด buffer overflow ได้ หากผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจง จะสามารถทำให้โปรแกรมล่ม (DoS) หรือดึงข้อมูลจากหน่วยความจำที่ไม่ควรถูกเข้าถึงได้ ปัญหานี้กระทบต่อทุกเวอร์ชันก่อน 1.4.6 และทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow 📱 มัลแวร์ SeedSnatcher บน Android ล่าขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้คริปโต มัลแวร์ใหม่ชื่อว่า “SeedSnatcher” กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้คริปโต โดยมันปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินชื่อ “Coin” และถูกเผยแพร่ผ่าน Telegram และโซเชียลต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง มัลแวร์จะสร้างหน้าจอหลอกเลียนแบบกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น MetaMask หรือ Trust Wallet เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase จากนั้นมันจะตรวจสอบคำที่กรอกด้วย wordlist ของ BIP 39 เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง ก่อนส่งข้อมูลไปยังผู้โจมตี นอกจากนี้ยังสามารถดักจับ SMS, ข้อมูลติดต่อ, บันทึกการโทร และสั่งการเครื่องจากระยะไกลได้ หลักฐานบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้โจมตีมีการจัดการแบบมืออาชีพและมีต้นทางจากจีนหรือผู้พูดภาษาจีน 🔗 https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases 🤖 Meta ปรับปรุงระบบช่วยเหลือด้วย AI Assistant และ Recovery Hub ใหม่ Meta ยอมรับว่าระบบช่วยเหลือผู้ใช้ Facebook และ Instagram ที่ผ่านมา “ล้มเหลว” จนผู้ใช้จำนวนมากต้องหาทางแก้ไขด้วยตัวเองหรือแม้กระทั่งฟ้องร้อง ล่าสุดบริษัทประกาศเปิดตัว Support Hub ใหม่ที่รวมทุกเครื่องมือช่วยเหลือไว้ในที่เดียว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI Chat ให้ผู้ใช้สอบถามปัญหาได้ทันที อีกทั้งยังมี AI Assistant ที่ช่วยในกระบวนการกู้คืนบัญชี เช่น การตรวจจับอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย และการยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอเซลฟี่ Meta ระบุว่าการปรับปรุงนี้ทำให้อัตราการกู้คืนบัญชีที่ถูกแฮ็กในสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้นกว่า 30% อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย การเข้าถึง Support Hub ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ และการติดต่อเจ้าหน้าที่จริงยังคงต้องพึ่งบริการแบบเสียเงิน 🔗 https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs ⚠️ EU ปรับ X €120 ล้าน ฐานละเมิด DSA ด้วยการตรวจสอบ Blue Check ที่หลอกลวง สหภาพยุโรปได้สั่งปรับแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เป็นเงิน 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีด้วย Blue Check ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” ระบบดังกล่าวทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าบัญชีที่จ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายนี้เป็นบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบจริง ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มงวด EU จึงมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่โปร่งใสและเป็นการละเมิดกฎหมาย การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของ EU ในการบังคับใช้ DSA และอาจเป็นสัญญาณเตือนให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification 🏰 CastleRAT มัลแวร์ใหม่ใช้ Steam เป็นช่องทางซ่อนตัว มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อ CastleRAT ที่ถูกออกแบบมาให้แอบแฝงเข้าไปในระบบองค์กรเพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องจากระยะไกล จุดที่น่ากังวลคือเวอร์ชันที่ถูกเขียนด้วยภาษา C ซึ่งมีความสามารถซ่อนตัวได้แนบเนียนกว่าเวอร์ชัน Python และยังทำได้หลายอย่าง เช่น ดักจับการพิมพ์, แอบถ่ายหน้าจอ, ขโมยข้อมูลจาก clipboard รวมถึงการควบคุมเบราว์เซอร์โดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ที่สำคัญ CastleRAT ยังใช้หน้า Community ของ Steam เป็นที่ซ่อนคำสั่ง ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนการใช้งานปกติ ปัจจุบันนักวิจัยได้ออกแนวทางตรวจจับเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยนี้ได้ 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-castlerat-backdoor-uses-steam-community-pages-as-covert-c2-resolver-for-espionage 💀 LockBit 5.0 กลับมาอีกครั้งพร้อมความร้ายแรงกว่าเดิม หลังจากที่ปฏิบัติการ Cronos เคยทำให้กลุ่ม LockBit ถูกปราบไปเมื่อปี 2024 หลายคนคิดว่าภัยนี้จบแล้ว แต่ล่าสุด LockBit ได้กลับมาในเวอร์ชันใหม่ชื่อ LockBit 5.0 ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นคือสามารถทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux และ VMware ESXi พร้อมโหมดล่องหนที่เข้ารหัสไฟล์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และโหมดลบข้อมูลถาวรที่ทำให้การกู้คืนแทบเป็นไปไม่ได้ ที่น่ากลัวคือมันยังปิดการทำงานของระบบ Event Tracing ของ Windows ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยมองไม่เห็นการโจมตี การกลับมาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ยังคงพัฒนาไม่หยุดและองค์กรต้องเตรียมรับมืออย่างจริงจัง 🔗 https://securityonline.info/lockbit-5-0-resurfaces-stronger-new-variant-blinds-defenders-by-disabling-windows-etw-for-stealth-encryption 🖥️ Windows 11 เพิ่มตัวเลือกปิดเมนู AI ใน File Explorer ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่าการคลิกขวาไฟล์รูปภาพแล้วเจอเมนู AI มากมาย เช่น การค้นหาด้วย Bing หรือการแก้ไขด้วย Paint, Photos ทำให้เมนูรกและใช้งานไม่สะดวก ล่าสุด Microsoft ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ใน Build 26220.7344 ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดการแสดงเมนู AI ได้ทั้งหมด แม้จะยังไม่สามารถซ่อน shortcut ที่อยู่ด้านล่างเมนูได้ แต่ก็ถือเป็นการตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ที่อยากได้เมนูที่เรียบง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในเวอร์ชันทดสอบและจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/ai-clutter-solved-windows-11-adds-setting-to-disable-ai-actions-in-file-explorer-menu ⚖️ ศาลสหรัฐจำกัดสัญญา Default Search ของ Google เหลือ 1 ปี จากคดีฟ้องร้องผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐต่อ Google ล่าสุดผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำสั่งใหม่ที่บังคับให้สัญญาที่ Google ทำกับผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อให้บริการค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้น ต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น เดิมที Google มักทำสัญญาระยะยาว เช่น ดีลกับ Apple ที่ทำให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบน iPhone การจำกัดสัญญาเหลือปีต่อปีจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งอย่าง Bing หรือ DuckDuckGo มีสิทธิ์เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ถือเป็นการแก้ปัญหาผูกขาดโดยไม่ต้องบังคับให้ Google แยกธุรกิจ Chrome ออกไป 🔗 https://securityonline.info/google-antitrust-remedy-judge-limits-default-search-contracts-to-one-year-term 🎓 INE ได้รับรางวัล G2 Winter 2026 หลายสาขา แพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน IT และ Cybersecurity อย่าง INE ได้รับการยอมรับจาก G2 ด้วยรางวัลถึง 7 หมวดหมู่ในฤดูหนาวปี 2026 ทั้งตำแหน่ง Leader และ Momentum Leader รวมถึงการเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และเอเชียแปซิฟิก รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้ทั่วโลกที่เลือก INE เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคนิคและความปลอดภัยไซเบอร์ หลายรีวิวชื่นชมว่าคอร์สของ INE สามารถนำไปใช้จริงในงานได้ทันที และใบรับรองจาก INE ก็ได้รับการยอมรับในวงการ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ INE ในการสร้างบุคลากรด้าน IT ที่มีคุณภาพ 🔗 https://securityonline.info/ine-earns-g2-winter-2026-badges-across-global-markets 🚀 SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งใหม่ SpaceX กำลังวางแผนทดสอบการบินของจรวด Starship อีกครั้ง โดยครั้งนี้ตั้งเป้าให้การปล่อยและการลงจอดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่การทดสอบก่อนหน้านี้มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว จุดเด่นของ Starship คือการออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศอย่างมหาศาล Elon Musk ยังย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดคือการใช้ Starship พามนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร การทดสอบครั้งนี้จึงถูกจับตามองจากทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้สนใจอวกาศทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/spacex-prepares-next-starship-test-flight 📱 Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์ AI Apple ได้เปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมการผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาในหลายฟังก์ชัน เช่น การปรับแต่งภาพถ่ายอัตโนมัติ, การช่วยเขียนข้อความ และการจัดการงานประจำวันด้วย Siri ที่ฉลาดขึ้น จุดขายสำคัญคือการทำงานแบบ On-device AI ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่และกล้องที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ iPhone รุ่นใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม 🔗 https://securityonline.info/apple-launches-new-iphone-with-ai-features 🌐 Microsoft เปิดตัว Copilot เวอร์ชันใหม่สำหรับธุรกิจ Microsoft ได้เปิดตัว Copilot เวอร์ชันล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผสานเข้ากับแอปพลิเคชันหลักอย่าง Word, Excel และ Teams จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปข้อมูล, สร้างรายงาน และตอบคำถามจากฐานข้อมูลภายในองค์กรได้ทันที ทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น Copilot ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหล 🔗 https://securityonline.info/microsoft-unveils-new-copilot-for-business 🎮 เกมใหม่จาก Ubisoft ใช้ AI สร้างโลกเสมือนจริง Ubisoft ได้ประกาศเปิดตัวเกมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างโลกเสมือนจริงแบบไดนามิก ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่เล่น ตัวละคร NPC สามารถตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างสมจริงและมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นี่ถือเป็นการยกระดับวงการเกมที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนาเข้ากับพลังของ AI เพื่อสร้างโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความท้าทาย 🔗 https://securityonline.info/ubisoft-announces-ai-powered-game 📰 Meta เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับนักข่าว Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักข่าวในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขียนบทความได้รวดเร็วขึ้น เครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันและสรุปออกมาเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้นักข่าวสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและลดเวลาในการตรวจสอบข่าวปลอม นอกจากนี้ Meta ยังย้ำว่าจะมีระบบตรวจสอบเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างข่าวปลอมเอง ถือเป็นการพยายามสร้างความเชื่อมั่นในวงการสื่อ 🔗 https://securityonline.info/meta-launches-ai-tools-for-journalists 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ถูกโจมตีจริงในอุปกรณ์เครือข่ายสองค่ายใหญ่ คือเร้าเตอร์รุ่นเก่าของ D-Link และระบบ Array Networks ที่ใช้งานในญี่ปุ่น ช่องโหว่แรกเป็น Buffer Overflow ที่ไม่มีการอัปเดตแก้ไขเพราะอุปกรณ์หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบเปลี่ยนเครื่องใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองคือการ Inject คำสั่งใน ArrayOS ซึ่งแฮกเกอร์ใช้วาง backdoor และ webshell เพื่อควบคุมระบบจากระยะไกล หน่วยงาน JPCERT ของญี่ปุ่นยืนยันว่ามีการโจมตีจริงตั้งแต่เดือนสิงหาคม และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่หรือปิดฟีเจอร์ Desktop Direct เพื่อป้องกันภัย 🔗 https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack ⚙️ Samsung พลิกฟื้นโรงงานผลิตชิป 4nm หลังจากเจอปัญหาผลิตชิปไม่คงที่จนเสียลูกค้ารายใหญ่ไป Samsung Foundry เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อสามารถยกระดับอัตราการผลิตชิป 4nm ให้ได้ผลสำเร็จถึง 60–70% และคว้าออเดอร์ใหญ่จากสตาร์ทอัพ AI สัญชาติอเมริกัน Tsavorite มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ สัญญานี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าซัมซุงยังมีศักยภาพแข่งขันกับ TSMC ได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี 2nm ที่เตรียมใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy S26 อีกด้วย 🔗 https://securityonline.info/samsung-foundry-hits-60-4nm-yield-secures-100m-ai-chip-order-from-tsavorite 📱 โค้ดโฆษณาในแอป ChatGPT Android จุดกระแสถกเถียง นักพัฒนาพบโค้ดที่ดูเหมือนระบบโฆษณาในแอป ChatGPT เวอร์ชันทดสอบบน Android ทำให้เกิดการคาดเดาว่า OpenAI อาจเตรียมใส่โฆษณาในบริการ แต่ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ OpenAI รีบออกมาปฏิเสธทันทีว่าบริษัทไม่ได้ทดสอบฟีเจอร์โฆษณาในตอนนี้ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ปิดโอกาสในอนาคต โดยย้ำว่าหากมีการนำโฆษณามาใช้จริง จะทำด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เนื่องจาก ChatGPT มีผู้ใช้งานมหาศาลกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ 🔗 https://securityonline.info/ad-code-found-in-chatgpt-android-build-openai-denies-current-advertising-tests 🐧 AI จับได้ GhostPenguin มัลแวร์ลินุกซ์สุดลึกลับ นักวิจัยจาก Trend Micro ใช้ระบบ AI ตรวจจับพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ GhostPenguin ที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบลินุกซ์โดยไม่ถูกตรวจจับนานหลายเดือน มัลแวร์นี้เขียนด้วย C++ มีความสามารถสูงในการควบคุมเครื่องจากระยะไกลผ่านการสื่อสารแบบ UDP ที่เข้ารหัสด้วย RC5 ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ จุดเด่นคือการทำงานแบบหลายเธรด ทำให้มัลแวร์ยังคงตอบสนองแม้บางส่วนของโค้ดหยุดทำงาน การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าการใช้ AI ในการล่ามัลแวร์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ 🔗 https://securityonline.info/ai-uncovers-ghostpenguin-undetectable-linux-backdoor-used-rc5-encrypted-udp-for-covert-c2 💻 Shanya Crypter เครื่องมือใหม่ของแก๊งแรนซัมแวร์ Sophos รายงานการพบเครื่องมือใหม่ชื่อ Shanya Crypter ซึ่งเป็นบริการ “packer-as-a-service” ที่ช่วยให้กลุ่มแรนซัมแวร์สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้ใช้เทคนิคซับซ้อน เช่น การซ่อนโค้ดใน DLL ของระบบ Windows และการใช้ driver ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกัน (EDR Killer) ก่อนปล่อยแรนซัมแวร์เข้ามาโจมตี ทำให้การป้องกันยากขึ้นมาก กลุ่ม Akira, Medusa และ Qilin ถูกระบุว่าเป็นผู้ใช้งานหลักของเครื่องมือนี้ และมีการแพร่กระจายไปหลายประเทศแล้ว 🔗 https://securityonline.info/shanya-crypter-is-the-new-ransomware-toolkit-uses-kernel-driver-abuse-to-kill-edr 🌐 Microsoft เปิดตัว Copilot+ PC ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Copilot+ PC ซึ่งมาพร้อมชิป Snapdragon X Elite และ X Plus ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานแบบ “AI on-device” เช่น ฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยค้นหาสิ่งที่เคยทำบนเครื่องได้เหมือนย้อนเวลา และการใช้ Copilot ในการสร้างภาพหรือข้อความได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ถือเป็นการยกระดับ Windows ให้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานประจำวัน 🔗 https://securityonline.info/microsoft-unveils-copilot-pc-powered-by-snapdragon-x-elite-and-x-plus 🧬 Google DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ที่ใช้ทำนายโครงสร้างโมเลกุลและปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาได้แม่นยำยิ่งขึ้น จากเดิมที่ AlphaFold 2 สร้างความฮือฮาในการทำนายโครงสร้างโปรตีน ตอนนี้ AlphaFold 3 ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจำลองการทำงานของ DNA, RNA และโมเลกุลขนาดเล็กที่ซับซ้อนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยเร่งการค้นคว้ายาใหม่และการวิจัยทางการแพทย์ได้อย่างมหาศาล 🔗 https://securityonline.info/google-deepmind-launches-alphafold-3-ai-model-for-molecular-science 🚀 SpaceX ส่งดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ SpaceX ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม ดาวเทียมรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและสามารถให้บริการในพื้นที่ห่างไกลได้ดีกว่าเดิม การปล่อยครั้งนี้ยังตอกย้ำความตั้งใจของ SpaceX ที่จะขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ 🔗 https://securityonline.info/spacex-launches-next-gen-starlink-satellites-for-faster-global-internet 🎮 Sony เปิดตัว PlayStation 5 Pro Sony เปิดตัวเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro ที่มาพร้อมประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น รองรับการเล่นเกม 8K และมีระบบ Ray Tracing ที่สมจริงกว่าเดิม จุดขายคือการใช้ชิปใหม่ที่ทำให้เฟรมเรตเสถียรขึ้นแม้ในเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่า PS5 Pro จะช่วยดึงดูดนักเล่นเกมที่ต้องการประสบการณ์ภาพสมจริงและเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ PS5 รุ่นปัจจุบัน 🔗 https://securityonline.info/sony-unveils-playstation-5-pro-with-8k-gaming-and-ray-tracing 🏥 WHO เตือนการระบาดของโรคใหม่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการระบาดของโรคใหม่ที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่แพร่กระจายเร็วกว่า โดยพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบสายพันธุ์เพื่อหาวิธีควบคุมการแพร่ระบาด WHO แนะนำให้ประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการรับมือและเพิ่มการตรวจสอบในสนามบินและด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/who-issues-warning-on-new-fast-spreading-flu-like-disease
    0 Comments 0 Shares 963 Views 0 Reviews
  • สตาร์ทอัพสหรัฐฯ ยื่นขอคืนสิทธิ์เครื่องหมายการค้า Twitter

    สตาร์ทอัพชื่อ Operation Bluebird จากรัฐเวอร์จิเนีย ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐฯ (USPTO) เพื่อขอยกเลิกสิทธิ์เครื่องหมายการค้า “Twitter” และ “tweet” โดยอ้างว่า X Corp ของ Elon Musk ได้ละทิ้งสิทธิ์เหล่านี้ไปแล้ว หลังจากรีแบรนด์ Twitter เป็น X ตั้งแต่ปี 2023

    บริษัท Operation Bluebird มีแผนจะใช้ชื่อ “twitter.new” สำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ และได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Twitter” ด้วยตนเองเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2025 การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการท้าทายครั้งใหญ่ต่อ Musk และ X Corp เพราะหาก USPTO เห็นด้วย อาจทำให้ชื่อ Twitter ถูกนำกลับมาใช้งานโดยบริษัทอื่น

    กรณีนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในโลกเทคโนโลยี การละทิ้งชื่อที่มีมูลค่าทางแบรนด์มหาศาลอย่าง Twitter อาจเปิดช่องให้คู่แข่งเข้ามายึดครองสิทธิ์ทางกฎหมาย และสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่อาศัยชื่อเสียงเดิมในการดึงดูดผู้ใช้ ขณะเดียวกันก็เป็นบทเรียนสำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องระวังผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ในระดับโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเคลื่อนไหวของ Operation Bluebird
    ยื่นคำร้องต่อ USPTO เพื่อยกเลิกสิทธิ์เครื่องหมายการค้า Twitter และ tweet
    มีแผนเปิดแพลตฟอร์มใหม่ชื่อ “twitter.new”

    สถานการณ์ของ X Corp
    หลังรีแบรนด์ Twitter เป็น X ตั้งแต่ปี 2023 สิทธิ์เครื่องหมายการค้าอาจถูกมองว่าละทิ้ง
    หากคำร้องสำเร็จ อาจสูญเสียสิทธิ์ในชื่อ Twitter อย่างถาวร

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    เปิดช่องให้คู่แข่งใช้ชื่อ Twitter เพื่อสร้างแพลตฟอร์มใหม่
    เป็นบทเรียนด้านการจัดการแบรนด์และทรัพย์สินทางปัญญา

    คำเตือนและความเสี่ยง
    หาก Musk สูญเสียสิทธิ์ Twitter อาจกระทบต่อภาพลักษณ์และมูลค่าของ X Corp
    การใช้ชื่อ Twitter โดยบริษัทอื่นอาจสร้างความสับสนให้ผู้ใช้ทั่วโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/us-startup-seeks-to-reclaim-twitter-trademarks-039abandoned039-by-musks-x-
    ⚖️ สตาร์ทอัพสหรัฐฯ ยื่นขอคืนสิทธิ์เครื่องหมายการค้า Twitter สตาร์ทอัพชื่อ Operation Bluebird จากรัฐเวอร์จิเนีย ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐฯ (USPTO) เพื่อขอยกเลิกสิทธิ์เครื่องหมายการค้า “Twitter” และ “tweet” โดยอ้างว่า X Corp ของ Elon Musk ได้ละทิ้งสิทธิ์เหล่านี้ไปแล้ว หลังจากรีแบรนด์ Twitter เป็น X ตั้งแต่ปี 2023 บริษัท Operation Bluebird มีแผนจะใช้ชื่อ “twitter.new” สำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ และได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Twitter” ด้วยตนเองเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2025 การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการท้าทายครั้งใหญ่ต่อ Musk และ X Corp เพราะหาก USPTO เห็นด้วย อาจทำให้ชื่อ Twitter ถูกนำกลับมาใช้งานโดยบริษัทอื่น กรณีนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในโลกเทคโนโลยี การละทิ้งชื่อที่มีมูลค่าทางแบรนด์มหาศาลอย่าง Twitter อาจเปิดช่องให้คู่แข่งเข้ามายึดครองสิทธิ์ทางกฎหมาย และสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่อาศัยชื่อเสียงเดิมในการดึงดูดผู้ใช้ ขณะเดียวกันก็เป็นบทเรียนสำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องระวังผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ในระดับโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเคลื่อนไหวของ Operation Bluebird ➡️ ยื่นคำร้องต่อ USPTO เพื่อยกเลิกสิทธิ์เครื่องหมายการค้า Twitter และ tweet ➡️ มีแผนเปิดแพลตฟอร์มใหม่ชื่อ “twitter.new” ✅ สถานการณ์ของ X Corp ➡️ หลังรีแบรนด์ Twitter เป็น X ตั้งแต่ปี 2023 สิทธิ์เครื่องหมายการค้าอาจถูกมองว่าละทิ้ง ➡️ หากคำร้องสำเร็จ อาจสูญเสียสิทธิ์ในชื่อ Twitter อย่างถาวร ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ เปิดช่องให้คู่แข่งใช้ชื่อ Twitter เพื่อสร้างแพลตฟอร์มใหม่ ➡️ เป็นบทเรียนด้านการจัดการแบรนด์และทรัพย์สินทางปัญญา ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ หาก Musk สูญเสียสิทธิ์ Twitter อาจกระทบต่อภาพลักษณ์และมูลค่าของ X Corp ⛔ การใช้ชื่อ Twitter โดยบริษัทอื่นอาจสร้างความสับสนให้ผู้ใช้ทั่วโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/us-startup-seeks-to-reclaim-twitter-trademarks-039abandoned039-by-musks-x-
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US startup seeks to reclaim Twitter trademarks 'abandoned' by Musk’s X
    WASHINGTON, Dec 8 (Reuters) - A fledgling social media platform has asked the U.S. Patent and Trademark Office to cancel trademarks for Twitter so it can take them for itself, contending that billionaire Elon Musk's X Corp has abandoned them.
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • แคมเปญ JS#SMUGGLER: มัลแวร์ใหม่แพร่ผ่านเว็บไซต์ติดเชื้อ

    นักวิจัยจาก Securonix Threat Research รายงานการค้นพบแคมเปญมัลแวร์ใหม่ชื่อ JS#SMUGGLER ซึ่งใช้เทคนิคหลายชั้นในการแพร่กระจายและติดตั้ง NetSupport RAT บนเครื่อง Windows ของเหยื่อ โดยเริ่มต้นจากการฝังโค้ด JavaScript ที่ถูก obfuscate (ทำให้ยุ่งเหยิง) ลงในเว็บไซต์ที่ถูกเจาะ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของระบบรักษาความปลอดภัย

    ขั้นตอนการโจมตี 3 ระดับ
    1️⃣ JavaScript Loader – เมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ที่ติดเชื้อ โค้ดจะตรวจสอบว่าเป็น desktop หรือ mobile หากเป็น desktop จะโหลด payload ต่อไป

    2️⃣ HTA (HTML Application) – ใช้โปรแกรม mshta.exe ของ Windows รันโค้ดที่ถูกเข้ารหัสหลายชั้น (AES-256, Base64, GZIP) โดยไม่ทิ้งไฟล์หลักไว้ในดิสก์ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ

    3️⃣ NetSupport RAT – ติดตั้งตัว Remote Access Trojan ที่ให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ เช่น การเข้าถึงไฟล์, รันคำสั่ง, และสอดส่องกิจกรรมของผู้ใช้

    เทคนิคการซ่อนตัว
    มัลแวร์จะสร้างโฟลเดอร์ที่ดูปกติ เช่น C:\ProgramData\CommunicationLayer\ และเพิ่ม shortcut ปลอมชื่อ WindowsUpdate.lnk ใน Startup เพื่อให้ RAT ทำงานทุกครั้งที่เปิดเครื่อง วิธีนี้ทำให้การติดเชื้อมีความถาวรและยากต่อการสังเกต

    ความเสี่ยงและคำแนะนำ
    การโจมตีนี้ถือว่ามีความซับซ้อนและเป็นมืออาชีพสูง ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่รู้ตัวเลยว่าถูกติดเชื้อ การป้องกันที่ดีที่สุดคือ:
    หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    ใช้ระบบตรวจจับ endpoint ที่สามารถตรวจสอบ script และ process ที่ผิดปกติ
    อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบมัลแวร์ JS#SMUGGLER
    ใช้ JavaScript obfuscation และ HTA เพื่อแพร่กระจาย
    ติดตั้ง NetSupport RAT บน Windows

    เทคนิคการทำงาน
    เข้ารหัสหลายชั้น (AES-256, Base64, GZIP)
    สร้าง shortcut ปลอม WindowsUpdate.lnk เพื่อรันอัตโนมัติ

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้
    แฮกเกอร์สามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ
    ยากต่อการตรวจจับเพราะไม่ทิ้งไฟล์หลักบนดิสก์

    แนวทางป้องกัน
    หลีกเลี่ยงเว็บไซต์และไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    ใช้ระบบตรวจจับ endpoint และอัปเดตซอฟต์แวร์เสมอ

    https://hackread.com/jssmuggler-netsupport-rat-infected-sites/
    🕵️‍♂️ แคมเปญ JS#SMUGGLER: มัลแวร์ใหม่แพร่ผ่านเว็บไซต์ติดเชื้อ นักวิจัยจาก Securonix Threat Research รายงานการค้นพบแคมเปญมัลแวร์ใหม่ชื่อ JS#SMUGGLER ซึ่งใช้เทคนิคหลายชั้นในการแพร่กระจายและติดตั้ง NetSupport RAT บนเครื่อง Windows ของเหยื่อ โดยเริ่มต้นจากการฝังโค้ด JavaScript ที่ถูก obfuscate (ทำให้ยุ่งเหยิง) ลงในเว็บไซต์ที่ถูกเจาะ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของระบบรักษาความปลอดภัย ⚡ ขั้นตอนการโจมตี 3 ระดับ 1️⃣ JavaScript Loader – เมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ที่ติดเชื้อ โค้ดจะตรวจสอบว่าเป็น desktop หรือ mobile หากเป็น desktop จะโหลด payload ต่อไป 2️⃣ HTA (HTML Application) – ใช้โปรแกรม mshta.exe ของ Windows รันโค้ดที่ถูกเข้ารหัสหลายชั้น (AES-256, Base64, GZIP) โดยไม่ทิ้งไฟล์หลักไว้ในดิสก์ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ 3️⃣ NetSupport RAT – ติดตั้งตัว Remote Access Trojan ที่ให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ เช่น การเข้าถึงไฟล์, รันคำสั่ง, และสอดส่องกิจกรรมของผู้ใช้ 🔐 เทคนิคการซ่อนตัว มัลแวร์จะสร้างโฟลเดอร์ที่ดูปกติ เช่น C:\ProgramData\CommunicationLayer\ และเพิ่ม shortcut ปลอมชื่อ WindowsUpdate.lnk ใน Startup เพื่อให้ RAT ทำงานทุกครั้งที่เปิดเครื่อง วิธีนี้ทำให้การติดเชื้อมีความถาวรและยากต่อการสังเกต ⚠️ ความเสี่ยงและคำแนะนำ การโจมตีนี้ถือว่ามีความซับซ้อนและเป็นมืออาชีพสูง ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่รู้ตัวเลยว่าถูกติดเชื้อ การป้องกันที่ดีที่สุดคือ: 🪛 หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🪛 ใช้ระบบตรวจจับ endpoint ที่สามารถตรวจสอบ script และ process ที่ผิดปกติ 🪛 อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบมัลแวร์ JS#SMUGGLER ➡️ ใช้ JavaScript obfuscation และ HTA เพื่อแพร่กระจาย ➡️ ติดตั้ง NetSupport RAT บน Windows ✅ เทคนิคการทำงาน ➡️ เข้ารหัสหลายชั้น (AES-256, Base64, GZIP) ➡️ สร้าง shortcut ปลอม WindowsUpdate.lnk เพื่อรันอัตโนมัติ ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ ⛔ แฮกเกอร์สามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ⛔ ยากต่อการตรวจจับเพราะไม่ทิ้งไฟล์หลักบนดิสก์ ‼️ แนวทางป้องกัน ⛔ หลีกเลี่ยงเว็บไซต์และไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ⛔ ใช้ระบบตรวจจับ endpoint และอัปเดตซอฟต์แวร์เสมอ https://hackread.com/jssmuggler-netsupport-rat-infected-sites/
    HACKREAD.COM
    New JS#SMUGGLER Campaign Drops NetSupport RAT Through Infected Sites
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 184 Views 0 Reviews
  • Titans + MIRAS: ก้าวใหม่ของความทรงจำระยะยาวใน AI

    Google Research เปิดตัวสถาปัตยกรรม Titans และกรอบแนวคิด MIRAS เพื่อแก้ปัญหาการจัดการข้อมูลในลำดับยาวที่โมเดล Transformer แบบดั้งเดิมมักเจอข้อจำกัด เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการคำนวณเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อความยาวของ sequence ขยายตัว ทำให้ยากต่อการใช้งานในงานที่ต้องการการเข้าใจทั้งเอกสารหรือข้อมูลเชิงลึก เช่น การวิเคราะห์จีโนม

    Titans ถูกออกแบบให้ผสมผสานความเร็วของ RNNs เข้ากับความแม่นยำของ Transformers โดยเพิ่มโมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานเหมือน multi-layer perceptron (MLP) ซึ่งมีพลังในการสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบทสำคัญ ขณะเดียวกัน MIRAS ทำหน้าที่เป็นกรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลสามารถอัปเดตความจำได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้แนวคิด “surprise metric” ในการเลือกเก็บข้อมูลที่สำคัญหรือผิดคาดเข้าสู่ความจำถาวร

    จุดเด่นคือโมเดลไม่เพียงแต่เก็บข้อมูล แต่ยังสามารถ เรียนรู้ความสัมพันธ์และธีมหลัก ที่เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ได้ทันที พร้อมทั้งมีระบบ momentum เพื่อเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อเนื่อง และ forgetting gate เพื่อจัดการความจำที่มีขีดจำกัด

    MIRAS ยังนำเสนอการมองใหม่ต่อ sequence modeling โดยมองว่าโมเดลทุกแบบคือการออกแบบหน่วยความจำเชิงสัมพันธ์ (associative memory) ที่ต้องหาสมดุลระหว่างการเรียนรู้ใหม่กับการรักษาความรู้เดิม ทำให้สามารถสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ที่มีความยืดหยุ่นและทรงพลังมากขึ้น เช่น YAAD, MONETA และ MEMORA ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน

    ผลการทดลองแสดงว่า Titans และ MIRAS variants สามารถทำงานได้ดีกว่าโมเดลล้ำสมัยอื่นๆ เช่น Transformer++ และ Mamba-2 โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ long-context reasoning เช่นการประมวลผลเอกสารที่มีข้อมูลยาวกว่า 2 ล้าน tokens ซึ่ง Titans สามารถทำงานได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงกว่าแม้เทียบกับโมเดลขนาดใหญ่เช่น GPT-4

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Titans Architecture
    เพิ่มโมดูลความจำระยะยาวแบบ MLP เพื่อสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบท

    MIRAS Framework
    กรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลอัปเดตความจำแบบเรียลไทม์ด้วย “surprise metric”

    กลไกสำคัญ
    Momentum สำหรับเก็บข้อมูลต่อเนื่อง และ Forgetting Gate สำหรับลบข้อมูลที่ไม่จำเป็น

    โมเดลใหม่จาก MIRAS
    YAAD, MONETA, MEMORA ถูกออกแบบเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน

    ผลการทดลอง
    Titans และ MIRAS variants ทำงานได้ดีกว่า Transformer++ และ Mamba-2 ในงาน long-context reasoning

    ข้อท้าทาย
    การจัดการความจำที่มีขีดจำกัดยังต้องพึ่งกลไกการลืม (weight decay) เพื่อไม่ให้ระบบล้นข้อมูล

    https://research.google/blog/titans-miras-helping-ai-have-long-term-memory/
    🧠 Titans + MIRAS: ก้าวใหม่ของความทรงจำระยะยาวใน AI Google Research เปิดตัวสถาปัตยกรรม Titans และกรอบแนวคิด MIRAS เพื่อแก้ปัญหาการจัดการข้อมูลในลำดับยาวที่โมเดล Transformer แบบดั้งเดิมมักเจอข้อจำกัด เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการคำนวณเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อความยาวของ sequence ขยายตัว ทำให้ยากต่อการใช้งานในงานที่ต้องการการเข้าใจทั้งเอกสารหรือข้อมูลเชิงลึก เช่น การวิเคราะห์จีโนม Titans ถูกออกแบบให้ผสมผสานความเร็วของ RNNs เข้ากับความแม่นยำของ Transformers โดยเพิ่มโมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานเหมือน multi-layer perceptron (MLP) ซึ่งมีพลังในการสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบทสำคัญ ขณะเดียวกัน MIRAS ทำหน้าที่เป็นกรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลสามารถอัปเดตความจำได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้แนวคิด “surprise metric” ในการเลือกเก็บข้อมูลที่สำคัญหรือผิดคาดเข้าสู่ความจำถาวร จุดเด่นคือโมเดลไม่เพียงแต่เก็บข้อมูล แต่ยังสามารถ เรียนรู้ความสัมพันธ์และธีมหลัก ที่เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ได้ทันที พร้อมทั้งมีระบบ momentum เพื่อเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อเนื่อง และ forgetting gate เพื่อจัดการความจำที่มีขีดจำกัด MIRAS ยังนำเสนอการมองใหม่ต่อ sequence modeling โดยมองว่าโมเดลทุกแบบคือการออกแบบหน่วยความจำเชิงสัมพันธ์ (associative memory) ที่ต้องหาสมดุลระหว่างการเรียนรู้ใหม่กับการรักษาความรู้เดิม ทำให้สามารถสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ที่มีความยืดหยุ่นและทรงพลังมากขึ้น เช่น YAAD, MONETA และ MEMORA ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน ผลการทดลองแสดงว่า Titans และ MIRAS variants สามารถทำงานได้ดีกว่าโมเดลล้ำสมัยอื่นๆ เช่น Transformer++ และ Mamba-2 โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้ long-context reasoning เช่นการประมวลผลเอกสารที่มีข้อมูลยาวกว่า 2 ล้าน tokens ซึ่ง Titans สามารถทำงานได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงกว่าแม้เทียบกับโมเดลขนาดใหญ่เช่น GPT-4 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Titans Architecture ➡️ เพิ่มโมดูลความจำระยะยาวแบบ MLP เพื่อสรุปข้อมูลจำนวนมากโดยไม่สูญเสียบริบท ✅ MIRAS Framework ➡️ กรอบทฤษฎีที่ช่วยให้โมเดลอัปเดตความจำแบบเรียลไทม์ด้วย “surprise metric” ✅ กลไกสำคัญ ➡️ Momentum สำหรับเก็บข้อมูลต่อเนื่อง และ Forgetting Gate สำหรับลบข้อมูลที่ไม่จำเป็น ✅ โมเดลใหม่จาก MIRAS ➡️ YAAD, MONETA, MEMORA ถูกออกแบบเพื่อทดสอบแนวทางการจัดการความจำที่แตกต่างกัน ✅ ผลการทดลอง ➡️ Titans และ MIRAS variants ทำงานได้ดีกว่า Transformer++ และ Mamba-2 ในงาน long-context reasoning ‼️ ข้อท้าทาย ⛔ การจัดการความจำที่มีขีดจำกัดยังต้องพึ่งกลไกการลืม (weight decay) เพื่อไม่ให้ระบบล้นข้อมูล https://research.google/blog/titans-miras-helping-ai-have-long-term-memory/
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • "การทดลอง 10 ปีเผย Retrobrighting ทำให้พลาสติกเหลืองหนักกว่าเดิม"

    บทความจาก Tom’s Hardware รายงานผลการทดลองของ Tech Tangents (Shelby Jueden) ที่ใช้เวลา 10 ปี สังเกตผลของการทำ retrobrighting บนเครื่อง Sega Dreamcast โดยใช้วิธีคลาสสิกคือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ + แสงแดด เพื่อฟื้นฟูสีพลาสติกที่เหลือง

    ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่า ชิ้นส่วนที่ผ่านการ retrobright เหลืองหนักกว่าเดิม เมื่อเทียบกับชิ้นส่วนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย หลังจากเวลาผ่านไป พลาสติกที่ untreated ดูดีกว่าและมีสีเหลืองน้อยกว่าอย่างชัดเจน

    Jueden อธิบายว่า การเหลืองของพลาสติกเกิดจาก สารหน่วงไฟ (flame retardant) ในวัสดุที่ออกซิไดซ์เมื่อสัมผัสกับแสง UV, ออกซิเจน และความร้อน การใช้สารฟอกขาวอย่างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อาจช่วยชั่วคราว แต่ในระยะยาวกลับทำให้พลาสติกเสียหาย เกิด streaking, blotching และความเปราะบาง

    นอกจากนี้ยังมีการทดลองวิธีอื่น เช่น sous vide method (น้ำร้อน + hydrogen peroxide), ozone treatment, และ UV light แต่ผลลัพธ์ก็ไม่สามารถคืนสีเดิมได้อย่างสมบูรณ์ และบางครั้งทำให้พลาสติกเสียหายยิ่งกว่าเดิม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ผลการทดลอง 10 ปี
    Retrobright ทำให้พลาสติกเหลืองหนักกว่า untreated
    พื้นผิวที่ไม่ได้ทำอะไรเลยดูดีกว่าในระยะยาว

    สาเหตุการเหลือง
    Flame retardant ในพลาสติกออกซิไดซ์จาก UV, ออกซิเจน และความร้อน

    ปัญหาของ retrobright
    ทำให้เกิด streaking, blotching และพลาสติกเสียหาย
    ผลลัพธ์ชั่วคราว ไม่สามารถคืนสีเดิมได้ถาวร

    ข้อควรระวังสำหรับนักสะสม
    Retrobright อาจทำลายคุณค่าของเครื่อง retro gaming
    การปล่อยไว้ตามธรรมชาติอาจดีกว่าในระยะยาว

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/a-10-year-study-indicates-that-treated-surfaces-turn-yellow-more-severely-than-untreated-plastic-parts-retrobrighting-does-more-harm-than-good-to-consoles
    🕹️ "การทดลอง 10 ปีเผย Retrobrighting ทำให้พลาสติกเหลืองหนักกว่าเดิม" บทความจาก Tom’s Hardware รายงานผลการทดลองของ Tech Tangents (Shelby Jueden) ที่ใช้เวลา 10 ปี สังเกตผลของการทำ retrobrighting บนเครื่อง Sega Dreamcast โดยใช้วิธีคลาสสิกคือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ + แสงแดด เพื่อฟื้นฟูสีพลาสติกที่เหลือง ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่า ชิ้นส่วนที่ผ่านการ retrobright เหลืองหนักกว่าเดิม เมื่อเทียบกับชิ้นส่วนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย หลังจากเวลาผ่านไป พลาสติกที่ untreated ดูดีกว่าและมีสีเหลืองน้อยกว่าอย่างชัดเจน Jueden อธิบายว่า การเหลืองของพลาสติกเกิดจาก สารหน่วงไฟ (flame retardant) ในวัสดุที่ออกซิไดซ์เมื่อสัมผัสกับแสง UV, ออกซิเจน และความร้อน การใช้สารฟอกขาวอย่างไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อาจช่วยชั่วคราว แต่ในระยะยาวกลับทำให้พลาสติกเสียหาย เกิด streaking, blotching และความเปราะบาง นอกจากนี้ยังมีการทดลองวิธีอื่น เช่น sous vide method (น้ำร้อน + hydrogen peroxide), ozone treatment, และ UV light แต่ผลลัพธ์ก็ไม่สามารถคืนสีเดิมได้อย่างสมบูรณ์ และบางครั้งทำให้พลาสติกเสียหายยิ่งกว่าเดิม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ผลการทดลอง 10 ปี ➡️ Retrobright ทำให้พลาสติกเหลืองหนักกว่า untreated ➡️ พื้นผิวที่ไม่ได้ทำอะไรเลยดูดีกว่าในระยะยาว ✅ สาเหตุการเหลือง ➡️ Flame retardant ในพลาสติกออกซิไดซ์จาก UV, ออกซิเจน และความร้อน ✅ ปัญหาของ retrobright ➡️ ทำให้เกิด streaking, blotching และพลาสติกเสียหาย ➡️ ผลลัพธ์ชั่วคราว ไม่สามารถคืนสีเดิมได้ถาวร ‼️ ข้อควรระวังสำหรับนักสะสม ⛔ Retrobright อาจทำลายคุณค่าของเครื่อง retro gaming ⛔ การปล่อยไว้ตามธรรมชาติอาจดีกว่าในระยะยาว https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/a-10-year-study-indicates-that-treated-surfaces-turn-yellow-more-severely-than-untreated-plastic-parts-retrobrighting-does-more-harm-than-good-to-consoles
    0 Comments 0 Shares 226 Views 0 Reviews
  • ความทนทานของ MacBook Pro M5

    ข่าวนี้เล่าถึงกรณีที่ MacBook Pro M5 ของผู้ใช้รายหนึ่งถูกลืมไว้บนหลังคารถ ก่อนจะตกลงและถูกล้อรถทับ แต่กลับเสียหายเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของโครงสร้าง Unibody Aluminum ที่ Apple ใช้มานาน

    ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งเล่าว่าเขาลืมวาง MacBook Pro M5 ไว้บนหลังคารถ เมื่อขับออกไปเครื่องตกลงและถูกล้อรถทับ แต่เมื่อเก็บกลับมา พบว่าเครื่องยังทำงานได้สมบูรณ์ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจและยืนยันถึงคุณภาพวัสดุที่ Apple ใช้

    โครงสร้าง Unibody Aluminum
    Apple ใช้การออกแบบ Unibody Aluminum มานานหลายปี ซึ่งช่วยให้เครื่องแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดและแรงบิด เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวอย่างชัดเจนว่าโครงสร้างดังกล่าวสามารถป้องกันความเสียหายได้ดีกว่าลaptops ส่วนใหญ่ในตลาด

    มุมมองจากฟิสิกส์
    ผู้เชี่ยวชาญบางคนอธิบายว่า การที่เครื่องไม่แตกหักเกิดจากแรงกดที่กระจายไปทั่วพื้นที่กว้าง ทำให้แรงไม่กระจุกตัวจนทำลายโครงสร้าง อีกทั้ง MacBook ยังถูกใส่ในซองราคาถูกที่ช่วยลดแรงกระแทกเล็กน้อย

    ผลสะท้อนในชุมชนออนไลน์
    เหตุการณ์นี้ถูกแชร์อย่างกว้างขวางใน Reddit และสื่อเทคโนโลยี โดยหลายคนยกให้เป็น “หลักฐานภาคสนาม” ของความทนทาน MacBook และบางรายถึงกับเปรียบว่า “อาจกันกระสุนได้” เนื่องจากเคยมีกรณีที่ MacBook ช่วยชีวิตคนในเหตุกราดยิง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    MacBook Pro M5 ถูกล้อรถทับแต่ยังใช้งานได้
    มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อย

    โครงสร้าง Unibody Aluminum ของ Apple
    แข็งแรงและทนทานกว่า Laptops ส่วนใหญ่

    แรงกดถูกกระจายออกไปทั่วพื้นที่
    ลดความเสียหายจากการทับโดยตรง

    ชุมชนออนไลน์ยกเป็นตัวอย่างความทนทาน
    มีการเปรียบเทียบถึงความสามารถกันกระสุน

    เหตุการณ์นี้เป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่การรับประกัน
    ผู้ใช้ทั่วไปไม่ควรทดสอบด้วยการทำให้เครื่องตกหรือถูกทับ

    ความเสี่ยงจากการใช้งานผิดวิธี
    อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวรแม้มีโครงสร้างแข็งแรง

    https://wccftech.com/m5-macbook-pro-ran-over-by-car-by-sustains-minor-scratches/
    💻 ความทนทานของ MacBook Pro M5 ข่าวนี้เล่าถึงกรณีที่ MacBook Pro M5 ของผู้ใช้รายหนึ่งถูกลืมไว้บนหลังคารถ ก่อนจะตกลงและถูกล้อรถทับ แต่กลับเสียหายเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของโครงสร้าง Unibody Aluminum ที่ Apple ใช้มานาน ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งเล่าว่าเขาลืมวาง MacBook Pro M5 ไว้บนหลังคารถ เมื่อขับออกไปเครื่องตกลงและถูกล้อรถทับ แต่เมื่อเก็บกลับมา พบว่าเครื่องยังทำงานได้สมบูรณ์ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น เหตุการณ์นี้สร้างความประหลาดใจและยืนยันถึงคุณภาพวัสดุที่ Apple ใช้ 🛡️ โครงสร้าง Unibody Aluminum Apple ใช้การออกแบบ Unibody Aluminum มานานหลายปี ซึ่งช่วยให้เครื่องแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดและแรงบิด เหตุการณ์นี้จึงเป็นตัวอย่างชัดเจนว่าโครงสร้างดังกล่าวสามารถป้องกันความเสียหายได้ดีกว่าลaptops ส่วนใหญ่ในตลาด 🔬 มุมมองจากฟิสิกส์ ผู้เชี่ยวชาญบางคนอธิบายว่า การที่เครื่องไม่แตกหักเกิดจากแรงกดที่กระจายไปทั่วพื้นที่กว้าง ทำให้แรงไม่กระจุกตัวจนทำลายโครงสร้าง อีกทั้ง MacBook ยังถูกใส่ในซองราคาถูกที่ช่วยลดแรงกระแทกเล็กน้อย 🌍 ผลสะท้อนในชุมชนออนไลน์ เหตุการณ์นี้ถูกแชร์อย่างกว้างขวางใน Reddit และสื่อเทคโนโลยี โดยหลายคนยกให้เป็น “หลักฐานภาคสนาม” ของความทนทาน MacBook และบางรายถึงกับเปรียบว่า “อาจกันกระสุนได้” เนื่องจากเคยมีกรณีที่ MacBook ช่วยชีวิตคนในเหตุกราดยิง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ MacBook Pro M5 ถูกล้อรถทับแต่ยังใช้งานได้ ➡️ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อย ✅ โครงสร้าง Unibody Aluminum ของ Apple ➡️ แข็งแรงและทนทานกว่า Laptops ส่วนใหญ่ ✅ แรงกดถูกกระจายออกไปทั่วพื้นที่ ➡️ ลดความเสียหายจากการทับโดยตรง ✅ ชุมชนออนไลน์ยกเป็นตัวอย่างความทนทาน ➡️ มีการเปรียบเทียบถึงความสามารถกันกระสุน ‼️ เหตุการณ์นี้เป็นข้อยกเว้น ไม่ใช่การรับประกัน ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปไม่ควรทดสอบด้วยการทำให้เครื่องตกหรือถูกทับ ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้งานผิดวิธี ⛔ อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวรแม้มีโครงสร้างแข็งแรง https://wccftech.com/m5-macbook-pro-ran-over-by-car-by-sustains-minor-scratches/
    WCCFTECH.COM
    M5 MacBook Pro’s Superior Build Quality Demonstrated In An Extreme Scenario When Its Owner Accidentally Ran Over It And It Only Sustained ‘Minor Scratches’
    An M5 MacBook Pro owner was thoroughly surprised at how durable his machine is because it only obtained minor scratches after being run over by a car
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 Reviews
More Results