• 21 ปี "11-M" วินาศกรรมระเบิดรถไฟมาดริด กวาดชีวิต 200 ศพ บาดเจ็บกว่า 1,800 ราย 🚆💣 ไขปริศนาเบื้องหลัง โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ ที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สเปน ไปตลอดกาล

    📝 เสียงระเบิดที่เปลี่ยนสเปนไปตลอดกาล วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2547 ในช่วงช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เช้าตรู่เหมือนทุกวัน รถไฟโดยสารสาย Cercanías ของกรุงมาดริด ประเทศสเปน กำลังวิ่งเข้าเทียบชานชาลา ที่สถานีอาโตชา (Atocha) อย่างปกติ ก่อนที่เสียงระเบิดลูกแรกจะดังขึ้น และตามด้วยระเบิดอีก 12 ลูก ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้ขบวนรถไฟ 4 ขบวน ที่บรรทุกผู้โดยสารไปทำงานในช่วงเร่งด่วน กลายเป็นซากเศษเหล็กในพริบตา 💥

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น หรือที่ชาวสเปนเรียกกันว่า "11-M" (Once de Marzo) ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมก่อการร้าย ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป มีผู้เสียชีวิตถึง 200 ศพ และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 1,800 ราย มันไม่เพียงแต่ทำลายชีวิตผู้คน แต่ยังสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล และเปลี่ยนผลการเลือกตั้งในสเปน โดยสิ้นเชิง 🗳️

    📚 เหตุการณ์ที่โลกไม่อาจลืม เหตุระเบิดรถไฟที่กรุงมาดริด หรือ 11-M เป็นปฏิบัติการก่อการร้าย ที่ประสานงานกันอย่างซับซ้อน โดยมือระเบิดใช้อุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่อง (IED) วางไว้ในกระเป๋าเป้ และนำขึ้นรถไฟ ที่มุ่งหน้าเข้าสู่สถานีหลักของกรุงมาดริด

    ✨ กลุ่มผู้ต้องสงสัย คือกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ที่ต่อต้านการมีส่วนร่วมของสเปนใ นสงครามอิรัก เหตุการณ์นี้นับเป็นการโจมตีพลเรือน ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่เหตุการณ์ ระเบิดเครื่องบิน Pan Am เที่ยวบิน 103 เมื่อปี 2531 และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมือง และความมั่นคงของประเทศสเปน ในเวลานั้น 📍

    🔎 ไทม์ไลน์วินาศกรรม 11-M นาทีชีวิตในกรุงมาดริด
    07.01 - 07.14 น. รถไฟทั้งสี่ขบวนออกจาก Alcalá de Henares มุ่งหน้าสู่สถานี Atocha

    07.37 - 07.40 น. ระเบิดลูกแรกระเบิดขึ้นที่ ขบวน 21431 บริเวณ ฃสถานี Atocha ตามด้วยอีกสองลูกในเวลาไม่ถึง 4 วินาที 🚆💥
    ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ที่สถานี El Pozo
    ขบวน 21713 ระเบิดที่สถานีSanta Eugenia
    ขบวน 17305 เกิดระเบิด 4 จุด บริเวณ Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha

    08.00 น. เป็นต้นไป หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินและทีม TEDAX หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าพื้นที่

    08.30 น. ตั้งโรงพยาบาลสนามที่สนามกีฬา Daoiz y Velarde

    09.00 น. ตำรวจยืนยันมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ศพ สุดท้าย ผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 200 ราย และรายสุดท้ายเสียชีวิตในปี 2557 หลังจากโคม่า 10 ปี

    🚨 จุดระเบิด 13 จุด ของแต่ละสถานี
    📍 สถานี Atocha ขบวน 21431 เกิดระเบิด 3 ลูก อีก 1 ลูก ถูกทีม TEDAX จุดระเบิดควบคุมในเวลาต่อมา

    📍 สถานี El Pozo ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ในตู้ที่ 4 และ 5 พบระเบิดอีก 1 ลูกในตู้รถที่ 3 ถูกควบคุมระเบิดโดย TEDAX

    📍 สถานี Santa Eugenia ขบวน 21713 ระเบิดลูกเดียวที่ตู้ที่ 4

    📍 Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha ขบวน 17305 ระเบิด 4 ลูกที่ตู้ 1, 4, 5 และ 6

    🕵️‍♂️ ผู้ต้องสงสัย เบื้องหลังการโจมตี หลักฐานที่ค้นพบในรถตู้ Renault Kangoo ซึ่งจอดอยู่หน้าสถานี Alcalá de Henares ได้แก่ ตัวจุดชนวน เทปเสียงอัดบทกวีจากคัมภีร์อัลกุรอาน และโทรศัพท์มือถือที่ใช้จุดระเบิด

    ตำรวจสเปนจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 5 คน ในวันเดียวกัน เป็นชาวโมร็อกโก 3 คน และปากีสถาน 2 คน โดยเฉพาะ "จามาล ซูกัม" (Jamal Zougam) ชาวโมร็อกโก ที่ถูกดำเนินคดีในที่สุด

    การโจมตีครั้งนี้เชื่อว่า เป็นการตอบโต้สเปนที่เข้าร่วมสงครามอิรัก กับสหรัฐอเมริกาในปี 2546

    ❗ ข้อถกเถียงและการเมืองที่ลุกเป็นไฟ เหตุการณ์ 11-M เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเพียง 3 วัน พรรค Partido Popular (PP) ภายใต้การนำของ "โฆเซ มาเรีย อัซนาร์" พยายามโยงความผิดให้กลุ่ม ETA โดนพรรคฝ่ายค้าน PSOE กล่าวหาว่ารัฐบาลบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันการเสียคะแนนเสียง

    ผลการเลือกตั้งพลิกล็อก พรรค PSOE ภายใต้การนำของ "โฆเซ หลุยส์ โรดริเกซ" ซาปาเตโร ได้รับชัยชนะ และขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสเปน

    ⚖️ ผลการสอบสวนและคำพิพากษา หลังจากการสืบสวน 21 เดือน มีผู้ถูกตัดสินว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีทั้งหมด 21 คน ไม่มีหลักฐานชัดเจน ที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ วัตถุระเบิดที่ใช้คือ Goma-2 ECO ผลิตในสเปน

    🌍 ผลกระทบที่สะท้อนถึงโลกใบนี้ เหตุการณ์ 11-M ถูกเปรียบเทียบกับการโจมตี 11 กันยายน 2001 (9/11) ที่สหรัฐฯ ทั้งในแง่ของขนาดของการวางแผน ผลกระทบต่อการเมืองภายในประเทศ การลุกฮือของประชาชนเรียกร้อง “ความจริง” จากรัฐบาล และยังกระตุ้นให้เกิด มาตรการความปลอดภัย ในระบบขนส่งมวลชนทั่วโลก 🚆🛑

    🧠 บทเรียนจากโศกนาฏกรรม 11-M ความโปร่งใสของรัฐบาล เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียความไว้วางใจ การเฝ้าระวังระบบขนส่งสาธารณะ ต้องได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การเมืองและการก่อการร้าย เป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้ ในยุคโลกาภิวัตน์

    📌 เหตุการณ์ก่อการร้าย ที่สะท้อนภาพโศกนาฏกรรมปี 2547
    🎒 เหตุการณ์เบสลัน (Beslan Siege) วันที่ 1-3 กันยายน พ.ศ. 2547 กลุ่มแบ่งแยกดินแดนเชชเนีย จับตัวประกันที่โรงเรียน มีผู้เสียชีวิตกว่า 330 ศพ ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กนักเรียน เป็นอีกตัวอย่างของความโหดร้าย จากการก่อการร้ายที่โลกไม่มีวันลืม 💔

    ✅ ความทรงจำยังคงอยู่ 21 ปีหลังเหตุการณ์ 11-M สเปนและโลกยังคงรำลึกถึงเหยื่อผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตในวันนั้น และบทเรียนที่ได้รับ ยังคงชัดเจนอยู่ทุกวินาที การเปลี่ยนแปลงในนโยบายความมั่นคง การเลือกตั้ง และบทบาททางการเมืองที่พลิกผัน เป็นสิ่งที่ทำให้ 11 มีนาคม ไม่ใช่เพียงวันแห่งความเศร้า แต่ยังเป็นวันที่ทำให้มนุษยชาติหยุดคิด และตั้งคำถามกับความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ 🌍🙏

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 110922 มี.ค. 2568

    🔖 📌 #11M #MadridBombings #ก่อการร้าย #ประวัติศาสตร์สเปน #PSOE #PP #สงครามอิรัก #ก่อการร้ายยุโรป #มาดริด #TerrorismHistory 🚆💣
    21 ปี "11-M" วินาศกรรมระเบิดรถไฟมาดริด กวาดชีวิต 200 ศพ บาดเจ็บกว่า 1,800 ราย 🚆💣 ไขปริศนาเบื้องหลัง โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ ที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สเปน ไปตลอดกาล 📝 เสียงระเบิดที่เปลี่ยนสเปนไปตลอดกาล วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2547 ในช่วงช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เช้าตรู่เหมือนทุกวัน รถไฟโดยสารสาย Cercanías ของกรุงมาดริด ประเทศสเปน กำลังวิ่งเข้าเทียบชานชาลา ที่สถานีอาโตชา (Atocha) อย่างปกติ ก่อนที่เสียงระเบิดลูกแรกจะดังขึ้น และตามด้วยระเบิดอีก 12 ลูก ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้ขบวนรถไฟ 4 ขบวน ที่บรรทุกผู้โดยสารไปทำงานในช่วงเร่งด่วน กลายเป็นซากเศษเหล็กในพริบตา 💥 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น หรือที่ชาวสเปนเรียกกันว่า "11-M" (Once de Marzo) ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมก่อการร้าย ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป มีผู้เสียชีวิตถึง 200 ศพ และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 1,800 ราย มันไม่เพียงแต่ทำลายชีวิตผู้คน แต่ยังสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาล และเปลี่ยนผลการเลือกตั้งในสเปน โดยสิ้นเชิง 🗳️ 📚 เหตุการณ์ที่โลกไม่อาจลืม เหตุระเบิดรถไฟที่กรุงมาดริด หรือ 11-M เป็นปฏิบัติการก่อการร้าย ที่ประสานงานกันอย่างซับซ้อน โดยมือระเบิดใช้อุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่อง (IED) วางไว้ในกระเป๋าเป้ และนำขึ้นรถไฟ ที่มุ่งหน้าเข้าสู่สถานีหลักของกรุงมาดริด ✨ กลุ่มผู้ต้องสงสัย คือกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ที่ต่อต้านการมีส่วนร่วมของสเปนใ นสงครามอิรัก เหตุการณ์นี้นับเป็นการโจมตีพลเรือน ครั้งใหญ่ที่สุดในยุโรป นับตั้งแต่เหตุการณ์ ระเบิดเครื่องบิน Pan Am เที่ยวบิน 103 เมื่อปี 2531 และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมือง และความมั่นคงของประเทศสเปน ในเวลานั้น 📍 🔎 ไทม์ไลน์วินาศกรรม 11-M นาทีชีวิตในกรุงมาดริด 07.01 - 07.14 น. รถไฟทั้งสี่ขบวนออกจาก Alcalá de Henares มุ่งหน้าสู่สถานี Atocha 07.37 - 07.40 น. ระเบิดลูกแรกระเบิดขึ้นที่ ขบวน 21431 บริเวณ ฃสถานี Atocha ตามด้วยอีกสองลูกในเวลาไม่ถึง 4 วินาที 🚆💥 ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ที่สถานี El Pozo ขบวน 21713 ระเบิดที่สถานีSanta Eugenia ขบวน 17305 เกิดระเบิด 4 จุด บริเวณ Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha 08.00 น. เป็นต้นไป หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินและทีม TEDAX หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าพื้นที่ 08.30 น. ตั้งโรงพยาบาลสนามที่สนามกีฬา Daoiz y Velarde 09.00 น. ตำรวจยืนยันมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ศพ สุดท้าย ผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 200 ราย และรายสุดท้ายเสียชีวิตในปี 2557 หลังจากโคม่า 10 ปี 🚨 จุดระเบิด 13 จุด ของแต่ละสถานี 📍 สถานี Atocha ขบวน 21431 เกิดระเบิด 3 ลูก อีก 1 ลูก ถูกทีม TEDAX จุดระเบิดควบคุมในเวลาต่อมา 📍 สถานี El Pozo ขบวน 21435 ระเบิด 2 ลูก ในตู้ที่ 4 และ 5 พบระเบิดอีก 1 ลูกในตู้รถที่ 3 ถูกควบคุมระเบิดโดย TEDAX 📍 สถานี Santa Eugenia ขบวน 21713 ระเบิดลูกเดียวที่ตู้ที่ 4 📍 Calle Téllez ใกล้สถานี Atocha ขบวน 17305 ระเบิด 4 ลูกที่ตู้ 1, 4, 5 และ 6 🕵️‍♂️ ผู้ต้องสงสัย เบื้องหลังการโจมตี หลักฐานที่ค้นพบในรถตู้ Renault Kangoo ซึ่งจอดอยู่หน้าสถานี Alcalá de Henares ได้แก่ ตัวจุดชนวน เทปเสียงอัดบทกวีจากคัมภีร์อัลกุรอาน และโทรศัพท์มือถือที่ใช้จุดระเบิด ตำรวจสเปนจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 5 คน ในวันเดียวกัน เป็นชาวโมร็อกโก 3 คน และปากีสถาน 2 คน โดยเฉพาะ "จามาล ซูกัม" (Jamal Zougam) ชาวโมร็อกโก ที่ถูกดำเนินคดีในที่สุด การโจมตีครั้งนี้เชื่อว่า เป็นการตอบโต้สเปนที่เข้าร่วมสงครามอิรัก กับสหรัฐอเมริกาในปี 2546 ❗ ข้อถกเถียงและการเมืองที่ลุกเป็นไฟ เหตุการณ์ 11-M เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเพียง 3 วัน พรรค Partido Popular (PP) ภายใต้การนำของ "โฆเซ มาเรีย อัซนาร์" พยายามโยงความผิดให้กลุ่ม ETA โดนพรรคฝ่ายค้าน PSOE กล่าวหาว่ารัฐบาลบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันการเสียคะแนนเสียง ผลการเลือกตั้งพลิกล็อก พรรค PSOE ภายใต้การนำของ "โฆเซ หลุยส์ โรดริเกซ" ซาปาเตโร ได้รับชัยชนะ และขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสเปน ⚖️ ผลการสอบสวนและคำพิพากษา หลังจากการสืบสวน 21 เดือน มีผู้ถูกตัดสินว่ามีส่วนร่วมในการโจมตีทั้งหมด 21 คน ไม่มีหลักฐานชัดเจน ที่เชื่อมโยงกับอัลกออิดะห์ วัตถุระเบิดที่ใช้คือ Goma-2 ECO ผลิตในสเปน 🌍 ผลกระทบที่สะท้อนถึงโลกใบนี้ เหตุการณ์ 11-M ถูกเปรียบเทียบกับการโจมตี 11 กันยายน 2001 (9/11) ที่สหรัฐฯ ทั้งในแง่ของขนาดของการวางแผน ผลกระทบต่อการเมืองภายในประเทศ การลุกฮือของประชาชนเรียกร้อง “ความจริง” จากรัฐบาล และยังกระตุ้นให้เกิด มาตรการความปลอดภัย ในระบบขนส่งมวลชนทั่วโลก 🚆🛑 🧠 บทเรียนจากโศกนาฏกรรม 11-M ความโปร่งใสของรัฐบาล เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียความไว้วางใจ การเฝ้าระวังระบบขนส่งสาธารณะ ต้องได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง การเมืองและการก่อการร้าย เป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้ ในยุคโลกาภิวัตน์ 📌 เหตุการณ์ก่อการร้าย ที่สะท้อนภาพโศกนาฏกรรมปี 2547 🎒 เหตุการณ์เบสลัน (Beslan Siege) วันที่ 1-3 กันยายน พ.ศ. 2547 กลุ่มแบ่งแยกดินแดนเชชเนีย จับตัวประกันที่โรงเรียน มีผู้เสียชีวิตกว่า 330 ศพ ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กนักเรียน เป็นอีกตัวอย่างของความโหดร้าย จากการก่อการร้ายที่โลกไม่มีวันลืม 💔 ✅ ความทรงจำยังคงอยู่ 21 ปีหลังเหตุการณ์ 11-M สเปนและโลกยังคงรำลึกถึงเหยื่อผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตในวันนั้น และบทเรียนที่ได้รับ ยังคงชัดเจนอยู่ทุกวินาที การเปลี่ยนแปลงในนโยบายความมั่นคง การเลือกตั้ง และบทบาททางการเมืองที่พลิกผัน เป็นสิ่งที่ทำให้ 11 มีนาคม ไม่ใช่เพียงวันแห่งความเศร้า แต่ยังเป็นวันที่ทำให้มนุษยชาติหยุดคิด และตั้งคำถามกับความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ 🌍🙏 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 110922 มี.ค. 2568 🔖 📌 #11M #MadridBombings #ก่อการร้าย #ประวัติศาสตร์สเปน #PSOE #PP #สงครามอิรัก #ก่อการร้ายยุโรป #มาดริด #TerrorismHistory 🚆💣
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่ยังไม่รอด ประชาชนจะเหลืออะไร BRN ตอกย้ำชัยชนะในภาคใต้ : ถอนหมุดข่าว 10/03/68
    เจ้าหน้าที่ยังไม่รอด ประชาชนจะเหลืออะไร BRN ตอกย้ำชัยชนะในภาคใต้ : ถอนหมุดข่าว 10/03/68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร (4 มี.ค.) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    เอเอฟพีรายงานวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆ เป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้บริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
    .
    ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯ รายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์
    .
    นอกจากนี้ กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ต่อผลประโยชน์ของ 'ฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์' (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆ ในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆ ภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์
    .
    ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ตท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯ หรือไม่
    .
    เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า
    .
    “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)”
    .
    และเสริมว่า
    .
    “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย เช่น เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง”
    .
    เอเอฟพีรายงานต่อว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ปลายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน
    .
    แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฏิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯ กลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯ เป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้เจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021234
    ..............
    Sondhi X
    ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร (4 มี.ค.) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . เอเอฟพีรายงานวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆ เป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้บริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ . ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯ รายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์ . นอกจากนี้ กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์ . CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆ ใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ต่อผลประโยชน์ของ 'ฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์' (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆ ในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆ ภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ . ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ตท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯ หรือไม่ . เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า . “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)” . และเสริมว่า . “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย เช่น เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง” . เอเอฟพีรายงานต่อว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ปลายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน . แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ . เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฏิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯ กลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯ เป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้เจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021234 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    Sad
    Angry
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2079 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์สั่ง “ระงับ” ความช่วยเหลือยูเครนเพื่อบีบเซเลนสกีร่วมเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย ลั่นไม่อดทนกับผู้นำเคียฟอีกต่อไป ด้านรองประธานาธิบดีแวนซ์ก็สำทับวิพากษ์วิจารณ์ยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้เคียฟสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ทางยูเครนแถลงวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า กองทหารของตนซึ่งกำลังสู้รบกับฝ่ายรัสเซียอยู่ ยังสามารถรักษาสถานการณ์ในสมรภูมิเอาไว้ได้ด้วยตัวเอง
    .
    ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นหลังการประชุมที่กลายเป็นการปะทะคารมอย่างดุเดือด ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ที่ผ่านมา โดยที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ รุมทึ้งโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่ไม่ยินยอมเข้าเจรจาสร้างสันติภาพกับรัสเซียโดยรวดเร็ว รวมทั้งกล่าวหาประธานาธิบดียูเครน ไม่เคารพและไม่สำนึกบุญคุณอเมริกาอย่างเพียงพอ ทั้งที่สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทางทหารเป็นจำนวนมหาศาลนับจากเคียฟถูกรัสเซียรุกรานเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
    .
    ในวันจันทร์ (3) สื่อต่างๆ พากันรายงานข่าวโดยอ้างเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผย ว่า ทรัมป์เวลานี้โฟกัสอยู่ที่การทำให้บรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และต้องการให้เซเลนสกีมุ่งมั่นกับเป้าหมายเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยังระบุด้วยว่า ขณะนี้อเมริกาได้ระงับเพื่อดำเนินการทบทวนความช่วยเหลือที่ให้แก่ยูเครนแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าวัตถุประสงค์ของทรัมป์ดังกล่าวข้างต้นจะบรรลุผล โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้จนกว่าทรัมป์จะตัดสินใจว่า ยูเครนแสดงความมุ่งมั่นในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย
    .
    ความเคลื่อนไหวคราวนี้มีความร้ายแรงยิ่งกว่าที่ทรัมป์ประกาศตอนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเสียอีก โดยในตอนนั้นเป็นการระบุว่าสหรัฐฯ จะไม่ให้ความช่วยเหลือใหม่ๆ แก่ยูเครน แต่สำหรับคำสั่งล่าสุดนี้เป็นการระงับการจัดส่งอาวุธที่รวมถึงกระสุนและขีปนาวุธ ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว แต่ยังอยู่ในกระบวนการจัดหาและจัดส่ง
    .
    ทางด้านสมาชิกพรรคเดโมแครตในรัฐสภาสหรัฐฯ ออกมาแสดงปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วด้วยการประณามการตัดสินใจครั้งนี้ของทรัมป์ เป็นต้นว่า ส.ว. จีน ชาฮีน ซึ่งเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภา ตำหนิว่า การระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเท่ากับว่า ทรัมป์เปิดกว้างให้ปูตินรุกรานและกระทำรุนแรงต่อประชาชนยูเครนหนักข้อขึ้นซึ่งจะส่งผลร้ายแรงอย่างไม่ต้องสงสัย
    .
    ทรัมป์ที่ประกาศระหว่างหาเสียงว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งนั้น แสดงความไม่พอใจเซเลนสกีมากขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องที่ยังคงต้องทำสงครามต่อไป ขณะเดียวกันเขาก็แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียจะรักษาสันติภาพ หากบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับฝ่ายยูเครน
    .
    หลังจากที่สื่อรายงานว่า เซเลนสกีที่ให้สัมภาษณ์พวกผู้สื่อข่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (2) ว่า น่าจะอีกนานมากกว่าที่สงครามจะยุติ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเจรจาข้อตกลง ทรัมป์ก็อยู่ในอาการฟิวส์ขาด ระบุว่า เป็นคำพูดที่แย่ที่สุดของประธานาธิบดียูเครน และอเมริกาจะไม่อดทนอีกต่อไป
    .
    ด้านเซเลนสกีพยายามอธิบายผ่านโซเชียลมีเดียว่า ยูเครนกำลังพยายามดำเนินมาตรการทางการทูตเพื่อให้สงครามยุติลงโดยเร็วที่สุด และย้ำว่า ยูเครนต้องการสันติภาพที่แท้จริงและการรับประกันความมั่นคง ทว่า ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้การรับประกันดังกล่าวมาโดยตลอด
    .
    ในส่วนของ แวนซ์ เขากล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อทีวีฟ็อกซ์ นิวส์ที่ ออกอากาศช่วงค่ำวันจันทร์ว่า พันธมิตรยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้ยูเครนสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด คำถามคือยูเครนจะเอาเงินและอาวุธจากไหนมาสู้ และจะต้องแลกด้วยชีวิตใครบ้าง
    .
    อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า ข้อตกลงลงทุนในแร่ธาตุของยูเครนยังมีทางสามารถบรรลุผลได้ และเขาจะอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดคืนวันอังคาร (4 มี.ค.) ระหว่างแถลงต่อการประชุมร่วมของรัฐสภาสหรัฐฯ
    .
    เกี่ยวกับข้อตกลงฉบับนี้ คณะบริหารทรัมป์ มองว่า มันคือค่าชดเชยที่อเมริกาควรได้รับจากการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและการทหารแก่เคียฟหลายแสนล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
    .
    ขณะที่แวนซ์กล่าวผ่านฟ็อกซ์ นิวส์ว่า ถ้าเซเลนสกีต้องการการรับประกันความมั่นคง และอยากมั่นใจว่า ปูตินจะไม่รุกรานยูเครนอีก การเปิดทางให้เศรษฐกิจอเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วมในอนาคตของยูเครนคือการรับประกันที่ดีที่สุด
    .
    ยูเครนโวยังมีหนทางประคองสถานการณ์ที่แนวหน้า
    .
    ในวันอังคาร (4) ภายหลังรายงานข่าวเรื่องสหรัฐฯ ระงับการส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนแพร่ออกไป นายกรัฐมนตรี เดนิส ชมีฮัล ของยูเครน ออกมาแถลงว่า เคียฟยังคงมีหนทางที่จะส่งกำลังบำรุงให้แก่กองทหารของตนเอง “กองทัพของเราและรัฐบาลมีสมรรถนะ มีเครื่องมือ พูดได้ว่าอย่างนั้น ที่จะประคองสถานการณ์ในแนวหน้าเอาไว้” เขากล่าว
    .
    ชมีฮัล ยังกล่าวขอบคุณสหรัฐฯ และย้ำว่ายูเครนต้องการความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย
    .
    “เราจะยังคงทำงานกับสหรัฐฯ ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวงด้วยความสงบสุขุม” เขากล่าวในการแถลงข่าว “เรามีแผนการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือเพื่อชัยชนะและเพื่อความอยู่รอด เราจะชนะหรือไม่ยังงัยก็จะต้องเจอกับแผนบี ซึ่งถูกเขียนขึ้นมาโดยคนอื่นๆ”
    .
    สำหรับตัวเซเลนสกีเองนั้น เก็บตัวค่อนข้างเงียบเชียบ จนกระทั่งถึงบ่ายวันอังคารในกรุงเคียฟ สิ่งที่เขาแถลงต่อสาธารณชนก็มีเพียงว่าเขาได้พูดจากับ ฟรีดริช เมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พร้อมกับเน้นย้ำถึงความช่วยเหลือทั้งทางทหารและทางการเงินที่ได้รับจากเยอรมนี
    .
    “เราจักจดจำไว้ว่าเยอรมนีคือผู้นำในเรื่องการจัดหาจัดส่งระบบการป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ยูเครน และแสดงบทบาทที่สำคัญยิ่งยวดในการรับประกันเสถียรภาพทางการเงินของเรา” เขาโพสต์ข้อความเช่นนี้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ภายหลังคุยโทรศัพท์กับเมร์ซ
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง พวกผู้เชี่ยวชาญทางทหารของฝ่ายตะวันตกบอกว่า อาจจะกินเวลาไปอีกระยะหนึ่งกว่าที่ผลกระทบจากการถูกตัดขาดความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จะเป็นที่รู้สึกกัน ทั้งนี้เมื่อตอนที่งบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ถูกแขวนเอาไว้เป็นเวลาหลายเดือนทีเดียวในปีที่แล้ว โดยฝีมือของพวกสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาล่าง ผลกระทบเบื้องต้นที่รู้สึกกันมากที่สุดคือการขาดแคลนอาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่จะสามารถสอยขีปนาวุธและโดรนของฝ่ายรัสเซีย ถึงแม้ในเวลาต่อมาทางกองทหารยูเครนร้องเรียนว่าพวกเครื่องกระสุนต่างๆ ในแนวน้าร่อยหรอลงไปมาก
    .
    “มันมีความสำคัญมากทีเดียว ทว่าไม่ได้ใกล้เคียงกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นถ้าหากมันเป็นช่วงก่อนหน้านี้ของสงคราม เพราะยูเครนเวลานี้ต้องพึ่งพาอาศัยความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ โดยตรง ลดน้อยลงไปมากแล้ว” เป็นความเห็นของไมเคิล คอฟแมน นักวิจัยอาวุโสของคาร์เนกี เอนดาวเมนต์
    .
    ผลกระทบต่อพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ
    .
    การที่สหรัฐฯ ระงับจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนคราวนี้ เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อพวกชาติพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ โดยที่ชาติเหล่านี้เองได้แสดงท่าทีออกมาปลอบขวัญโอบอุ้มเซเลนสกีอย่างเปิดเผยภายหลังจากเหตุการณ์ปะทะคารมเดือดที่ทำเนียบขาว
    .
    มีรายงานว่าเวลานี้ยุโรปกำลังเร่งรีบเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายทางทหารของพวกเขาเอง และในวันอังคาร (4) อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป ได้เปิดเผยข้อเสนอต่างๆ ที่มุ่งเพิ่มพูนการใช้จ่ายทางทหารในอียู ซึ่งเธอกล่าวว่าอาจจะระดมเงินในเรื่องนี้ออกมาได้สูงถึง 800,000 ล้านยูโร (840,000 ล้านดอลลาร์) กันทีเดียว ทั้งนี้อียูมีกำหนดจัดการประชุมฉุกเฉินในเรื่องเกี่ยวกับยูเครนในวันพฤหัสบดี (6) นี้
    .
    ในฝรั่งเศส เบนจามิน ฮัดดัด รัฐมนตรีช่วยดูแลด้านยุโรป ได้ออกมากล่าวประณามการระงับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ คราวนี้ โดยกล่าวว่ามันทำให้สันติภาพ “ห่างไกลออกไปมากขึ้น เพราะมันมีแต่ทำให้เงื้อมมือของผู้รุกราน ... ซึ่งก็คือรัสเซีย เข้มแข็งยิ่งขึ้น”
    .
    ขณะที่สหราชอาณาจักร ซึ่งแสดงทีท่าต้องการดึงให้คณะบริหารทรัมป์ยังคงอยู่ข้างๆ ตัว ไม่แตกแถวออกไปไกลกว่านี้ แสดงท่าทีสุขุมรอบคอบยิ่งกว่า โดยที่นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ได้พูดจาทางโทรศัพท์กับทรัมป์ในคืนวันจันทร์ (3) ตามการแถลงของโฆษกผู้หนึ่งของสตาร์เมอร์ แต่ไม่ได้ระบุว่าทรมป์ได้เอ่ยถึงเรื่องการระงับความช่วยเหลือนี้หรือไม่
    .
    “ท่านนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังโฟกัสอยู่ที่ผลลัพธ์อย่างเดียวกัน นั่นคือการทำให้เกิดสันติภาพที่มั่นคงและยั่งยืนขึ้นมาในยูเครน” โฆษกผู้นี้บอก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021233
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์สั่ง “ระงับ” ความช่วยเหลือยูเครนเพื่อบีบเซเลนสกีร่วมเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย ลั่นไม่อดทนกับผู้นำเคียฟอีกต่อไป ด้านรองประธานาธิบดีแวนซ์ก็สำทับวิพากษ์วิจารณ์ยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้เคียฟสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ขณะที่ทางยูเครนแถลงวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า กองทหารของตนซึ่งกำลังสู้รบกับฝ่ายรัสเซียอยู่ ยังสามารถรักษาสถานการณ์ในสมรภูมิเอาไว้ได้ด้วยตัวเอง . ความเคลื่อนไหวเหล่านี้มีขึ้นหลังการประชุมที่กลายเป็นการปะทะคารมอย่างดุเดือด ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ที่ผ่านมา โดยที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ รุมทึ้งโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่ไม่ยินยอมเข้าเจรจาสร้างสันติภาพกับรัสเซียโดยรวดเร็ว รวมทั้งกล่าวหาประธานาธิบดียูเครน ไม่เคารพและไม่สำนึกบุญคุณอเมริกาอย่างเพียงพอ ทั้งที่สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทางทหารเป็นจำนวนมหาศาลนับจากเคียฟถูกรัสเซียรุกรานเมื่อ 3 ปีที่แล้ว . ในวันจันทร์ (3) สื่อต่างๆ พากันรายงานข่าวโดยอ้างเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผย ว่า ทรัมป์เวลานี้โฟกัสอยู่ที่การทำให้บรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และต้องการให้เซเลนสกีมุ่งมั่นกับเป้าหมายเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยังระบุด้วยว่า ขณะนี้อเมริกาได้ระงับเพื่อดำเนินการทบทวนความช่วยเหลือที่ให้แก่ยูเครนแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าวัตถุประสงค์ของทรัมป์ดังกล่าวข้างต้นจะบรรลุผล โดยคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้จนกว่าทรัมป์จะตัดสินใจว่า ยูเครนแสดงความมุ่งมั่นในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย . ความเคลื่อนไหวคราวนี้มีความร้ายแรงยิ่งกว่าที่ทรัมป์ประกาศตอนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเสียอีก โดยในตอนนั้นเป็นการระบุว่าสหรัฐฯ จะไม่ให้ความช่วยเหลือใหม่ๆ แก่ยูเครน แต่สำหรับคำสั่งล่าสุดนี้เป็นการระงับการจัดส่งอาวุธที่รวมถึงกระสุนและขีปนาวุธ ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน แล้ว แต่ยังอยู่ในกระบวนการจัดหาและจัดส่ง . ทางด้านสมาชิกพรรคเดโมแครตในรัฐสภาสหรัฐฯ ออกมาแสดงปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วด้วยการประณามการตัดสินใจครั้งนี้ของทรัมป์ เป็นต้นว่า ส.ว. จีน ชาฮีน ซึ่งเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภา ตำหนิว่า การระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเท่ากับว่า ทรัมป์เปิดกว้างให้ปูตินรุกรานและกระทำรุนแรงต่อประชาชนยูเครนหนักข้อขึ้นซึ่งจะส่งผลร้ายแรงอย่างไม่ต้องสงสัย . ทรัมป์ที่ประกาศระหว่างหาเสียงว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งนั้น แสดงความไม่พอใจเซเลนสกีมากขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องที่ยังคงต้องทำสงครามต่อไป ขณะเดียวกันเขาก็แสดงความเชื่อมั่นว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียจะรักษาสันติภาพ หากบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับฝ่ายยูเครน . หลังจากที่สื่อรายงานว่า เซเลนสกีที่ให้สัมภาษณ์พวกผู้สื่อข่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ (2) ว่า น่าจะอีกนานมากกว่าที่สงครามจะยุติ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเจรจาข้อตกลง ทรัมป์ก็อยู่ในอาการฟิวส์ขาด ระบุว่า เป็นคำพูดที่แย่ที่สุดของประธานาธิบดียูเครน และอเมริกาจะไม่อดทนอีกต่อไป . ด้านเซเลนสกีพยายามอธิบายผ่านโซเชียลมีเดียว่า ยูเครนกำลังพยายามดำเนินมาตรการทางการทูตเพื่อให้สงครามยุติลงโดยเร็วที่สุด และย้ำว่า ยูเครนต้องการสันติภาพที่แท้จริงและการรับประกันความมั่นคง ทว่า ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้การรับประกันดังกล่าวมาโดยตลอด . ในส่วนของ แวนซ์ เขากล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สื่อทีวีฟ็อกซ์ นิวส์ที่ ออกอากาศช่วงค่ำวันจันทร์ว่า พันธมิตรยุโรปกำลังทำให้ยูเครนตกอยู่ในอันตรายด้วยการไม่กดดันให้เซเลนสกีหาทางยุติสงคราม แต่กลับสนับสนุนให้ยูเครนสู้ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด คำถามคือยูเครนจะเอาเงินและอาวุธจากไหนมาสู้ และจะต้องแลกด้วยชีวิตใครบ้าง . อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า ข้อตกลงลงทุนในแร่ธาตุของยูเครนยังมีทางสามารถบรรลุผลได้ และเขาจะอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดคืนวันอังคาร (4 มี.ค.) ระหว่างแถลงต่อการประชุมร่วมของรัฐสภาสหรัฐฯ . เกี่ยวกับข้อตกลงฉบับนี้ คณะบริหารทรัมป์ มองว่า มันคือค่าชดเชยที่อเมริกาควรได้รับจากการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและการทหารแก่เคียฟหลายแสนล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา . ขณะที่แวนซ์กล่าวผ่านฟ็อกซ์ นิวส์ว่า ถ้าเซเลนสกีต้องการการรับประกันความมั่นคง และอยากมั่นใจว่า ปูตินจะไม่รุกรานยูเครนอีก การเปิดทางให้เศรษฐกิจอเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วมในอนาคตของยูเครนคือการรับประกันที่ดีที่สุด . ยูเครนโวยังมีหนทางประคองสถานการณ์ที่แนวหน้า . ในวันอังคาร (4) ภายหลังรายงานข่าวเรื่องสหรัฐฯ ระงับการส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนแพร่ออกไป นายกรัฐมนตรี เดนิส ชมีฮัล ของยูเครน ออกมาแถลงว่า เคียฟยังคงมีหนทางที่จะส่งกำลังบำรุงให้แก่กองทหารของตนเอง “กองทัพของเราและรัฐบาลมีสมรรถนะ มีเครื่องมือ พูดได้ว่าอย่างนั้น ที่จะประคองสถานการณ์ในแนวหน้าเอาไว้” เขากล่าว . ชมีฮัล ยังกล่าวขอบคุณสหรัฐฯ และย้ำว่ายูเครนต้องการความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย . “เราจะยังคงทำงานกับสหรัฐฯ ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวงด้วยความสงบสุขุม” เขากล่าวในการแถลงข่าว “เรามีแผนการเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือเพื่อชัยชนะและเพื่อความอยู่รอด เราจะชนะหรือไม่ยังงัยก็จะต้องเจอกับแผนบี ซึ่งถูกเขียนขึ้นมาโดยคนอื่นๆ” . สำหรับตัวเซเลนสกีเองนั้น เก็บตัวค่อนข้างเงียบเชียบ จนกระทั่งถึงบ่ายวันอังคารในกรุงเคียฟ สิ่งที่เขาแถลงต่อสาธารณชนก็มีเพียงว่าเขาได้พูดจากับ ฟรีดริช เมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พร้อมกับเน้นย้ำถึงความช่วยเหลือทั้งทางทหารและทางการเงินที่ได้รับจากเยอรมนี . “เราจักจดจำไว้ว่าเยอรมนีคือผู้นำในเรื่องการจัดหาจัดส่งระบบการป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ยูเครน และแสดงบทบาทที่สำคัญยิ่งยวดในการรับประกันเสถียรภาพทางการเงินของเรา” เขาโพสต์ข้อความเช่นนี้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ภายหลังคุยโทรศัพท์กับเมร์ซ . ในอีกด้านหนึ่ง พวกผู้เชี่ยวชาญทางทหารของฝ่ายตะวันตกบอกว่า อาจจะกินเวลาไปอีกระยะหนึ่งกว่าที่ผลกระทบจากการถูกตัดขาดความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ จะเป็นที่รู้สึกกัน ทั้งนี้เมื่อตอนที่งบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ถูกแขวนเอาไว้เป็นเวลาหลายเดือนทีเดียวในปีที่แล้ว โดยฝีมือของพวกสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาล่าง ผลกระทบเบื้องต้นที่รู้สึกกันมากที่สุดคือการขาดแคลนอาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่จะสามารถสอยขีปนาวุธและโดรนของฝ่ายรัสเซีย ถึงแม้ในเวลาต่อมาทางกองทหารยูเครนร้องเรียนว่าพวกเครื่องกระสุนต่างๆ ในแนวน้าร่อยหรอลงไปมาก . “มันมีความสำคัญมากทีเดียว ทว่าไม่ได้ใกล้เคียงกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นถ้าหากมันเป็นช่วงก่อนหน้านี้ของสงคราม เพราะยูเครนเวลานี้ต้องพึ่งพาอาศัยความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ โดยตรง ลดน้อยลงไปมากแล้ว” เป็นความเห็นของไมเคิล คอฟแมน นักวิจัยอาวุโสของคาร์เนกี เอนดาวเมนต์ . ผลกระทบต่อพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ . การที่สหรัฐฯ ระงับจัดส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนคราวนี้ เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อพวกชาติพันธมิตรในยุโรปของสหรัฐฯ โดยที่ชาติเหล่านี้เองได้แสดงท่าทีออกมาปลอบขวัญโอบอุ้มเซเลนสกีอย่างเปิดเผยภายหลังจากเหตุการณ์ปะทะคารมเดือดที่ทำเนียบขาว . มีรายงานว่าเวลานี้ยุโรปกำลังเร่งรีบเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายทางทหารของพวกเขาเอง และในวันอังคาร (4) อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป ได้เปิดเผยข้อเสนอต่างๆ ที่มุ่งเพิ่มพูนการใช้จ่ายทางทหารในอียู ซึ่งเธอกล่าวว่าอาจจะระดมเงินในเรื่องนี้ออกมาได้สูงถึง 800,000 ล้านยูโร (840,000 ล้านดอลลาร์) กันทีเดียว ทั้งนี้อียูมีกำหนดจัดการประชุมฉุกเฉินในเรื่องเกี่ยวกับยูเครนในวันพฤหัสบดี (6) นี้ . ในฝรั่งเศส เบนจามิน ฮัดดัด รัฐมนตรีช่วยดูแลด้านยุโรป ได้ออกมากล่าวประณามการระงับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ คราวนี้ โดยกล่าวว่ามันทำให้สันติภาพ “ห่างไกลออกไปมากขึ้น เพราะมันมีแต่ทำให้เงื้อมมือของผู้รุกราน ... ซึ่งก็คือรัสเซีย เข้มแข็งยิ่งขึ้น” . ขณะที่สหราชอาณาจักร ซึ่งแสดงทีท่าต้องการดึงให้คณะบริหารทรัมป์ยังคงอยู่ข้างๆ ตัว ไม่แตกแถวออกไปไกลกว่านี้ แสดงท่าทีสุขุมรอบคอบยิ่งกว่า โดยที่นายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ ได้พูดจาทางโทรศัพท์กับทรัมป์ในคืนวันจันทร์ (3) ตามการแถลงของโฆษกผู้หนึ่งของสตาร์เมอร์ แต่ไม่ได้ระบุว่าทรมป์ได้เอ่ยถึงเรื่องการระงับความช่วยเหลือนี้หรือไม่ . “ท่านนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังโฟกัสอยู่ที่ผลลัพธ์อย่างเดียวกัน นั่นคือการทำให้เกิดสันติภาพที่มั่นคงและยั่งยืนขึ้นมาในยูเครน” โฆษกผู้นี้บอก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021233 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2163 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานพิเศษจากเพจAround the World เมื่อ5 มีนาคมระบุว่าบีบสำเร็จ! “CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์” ของเจ้าสัว “ลีกาชิง” ยอมตัดใจขายทิ้งหุ้น 90% คุมคลองปานามาและในอีก 23 ประเทศทั่วโลกให้บ.อเมริกัน BlackRock มีสิทธิ์สะเทือน "แหลมฉบัง" ของไทย
    .
    .
    .
    .
    .
    เอเอฟพี/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ – ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร(4 มี.ค) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    เอเอฟพีรายงานวันอังคาร(4 มี.ค)ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้กับบริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
    .
    ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯรายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์
    .
    นอกจากนี้กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์
    .
    CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆต่อผลประโยชน์ของฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์ (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์
    .
    ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ทท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯหรือไม่
    .
    เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า
    .
    “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)”
    .
    และเสริมว่า
    .
    “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย อาทิ เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง”
    .
    เอเอฟพีรายงานต่อว่า CKฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ท้ายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกทของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน
    .
    แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ
    .
    เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฎิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯกลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯเป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้กับเจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์
    รายงานพิเศษจากเพจAround the World เมื่อ5 มีนาคมระบุว่าบีบสำเร็จ! “CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์” ของเจ้าสัว “ลีกาชิง” ยอมตัดใจขายทิ้งหุ้น 90% คุมคลองปานามาและในอีก 23 ประเทศทั่วโลกให้บ.อเมริกัน BlackRock มีสิทธิ์สะเทือน "แหลมฉบัง" ของไทย . . . . . เอเอฟพี/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ – ภายใต้แรงบีบจากทรัมป์ บริษัท CK ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ของเจ้าสัวฮ่องกง ลีกาชิง วันอังคาร(4 มี.ค) แถลงยอมขายทิ้งหุ้น 90% คุมท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศทั่วโลกที่อาจรวมถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยไปให้บริษัทกิจการค้าร่วมอเมริกันของ BlackRock ตามข้อตกลงมหาศาลมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . เอเอฟพีรายงานวันอังคาร(4 มี.ค)ว่า บริษัทบริหารท่าเรือข้ามชาติชื่อดังของฮ่องกง CK Hutchison Holdings แถลงว่า ทางบริษัทยอมตกลงที่จะขายทิ้งหุ้น 90% ที่ถือในบริษัทการท่าปานามา (Panama Ports Company) และท่าเรืออื่นๆเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในจีนไปให้กับบริษัทบริหารอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯ BlackRock เป็นมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์ . บลูมเบิร์กชี้ว่า การขายทิ้งที่ท่าเรือปานามาของเจ้าสัวลีกาชิงครั้งนี้เป็นเสมือนการหยิบยื่นชัยชนะให้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ . ขณะที่ CNBC ของสหรัฐฯรายงานว่า ข้อตกลงจะเห็นกิจการค้าร่วมอเมริกันภายใต้การนำของบริษัท BlackRock และรวมบริษัท Global Infrastructure Partners และบริษัท Terminal Investment จะเข้าควบคุม 80% ของผลประโยชน์ในท่าเรือปานามา 2 ท่าของ CK ฮัตชิสันคิดเป็นมูลค่า 14.21 พันล้านดอลลาร์ . นอกจากนี้กิจการค้าร่วมอเมริกันจะเข้าควบคุมท่าเรืออื่น 43 ท่าประกอบด้วยท่าเทียบเรือ 199 ท่าในทั้งหมด 23 ประเทศทั่วโลกโดยทั้งหมดตามข้อตกลงที่ 19 พันล้านดอลลาร์ . CNBC ชี้ว่า ข้อตกลงการขายทิ้งการบริหารท่าเรือปานามาและท่าเรืออื่นๆใน 23 ประเทศของ CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ นี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆต่อผลประโยชน์ของฮัตชิสัน พอร์ท โฮลดิ้งส์ ทรัสต์ (Hutchison Port Holdings Trust) ที่ควบคุมท่าเรือต่างๆในฮ่องกงและเมืองเซินเจิ้นในทางใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่หรือ ท่าเรืออื่นๆภายในจีน อ้างอิงจากแถลงการณ์บริษัท CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ . ทั้งนี้พบว่า CK ฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ เป็นผู้บริหารท่าเรือในภาคตะวันออกของประเทศไทย อ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทพบว่ามีชื่อเป็นผู้บริหารเทอร์มินอล A2 ของท่าเรือแหลมบังในไทยมาตั้งแต่ปี 2006 ภายใต้ชื่อบริษัท Hutchison Ports Thailand แต่อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การควบคุมพอร์ทท่าเรือแหลมฉบังนี้รวมอยู่ในข้อตกลง 19 พันล้านดอลลาร์ที่ทำไว้กับ BlackRock ของสหรัฐฯหรือไม่ . เว็บไซต์ของ Hutchison Ports Thailand กล่าวว่า . “ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 เพื่อควบรวมการบริหารจัดการท่าเทียบเรือภายใต้การปฏิบัติการของบริษัท Hutchison Ports ในท่าเรือแหลมฉบังเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัท Thai Laemchabang Terminal (TLT) และบริษัท Hutchison Laemchabang Terminal (HLT)” . และเสริมว่า . “โดยท่าเทียบเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของเราที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย อาทิ เขตอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นที่ตั้งของบริษัทและโรงงานผู้ผลิตสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทยหลายแห่ง” . เอเอฟพีรายงานต่อว่า CKฮัตชิสัน โฮลดิ้งส์ ได้บริหารท่า Balboa และท่า Cristobal ที่มหาสมุทรแปซิฟิกและที่ท้ายสุดของมหาสมุทรแอตแลนติกทของคลองเชื่อมมหาสมุทรทั้ง 2 เข้าด้วยกัน . แต่ทว่านับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่มกราคมที่ผ่านมา เขาได้ออกมาอ้างว่าจีนเข้าควบคุมคลองปานามาเส้นเลือดหลักของการขนส่งทางทะเลของโลกที่สำคัญ . เอเอฟพีชี้ว่า ทรัมป์ถึงขั้นปฎิเสธที่จะไม่ทิ้งช่องทางการใช้กำลังทหารเพื่อเข้ารุกรานปานามาเพื่อให้สหรัฐฯกลับมาควบคุมคลองปานามาที่สหรัฐฯเป็นผู้ขุดได้อีกครั้งหลังเคยส่งมอบกลับคืนให้กับเจ้าของประเทศในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จิมมี คาร์เตอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ว่าเขาเตรียมเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พูดคุยเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยของแคนาดา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ส่งเสียงเรียกร้องซ้ำๆ ให้เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา
    .
    คำพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าของทรัมป์ โหมกระพือเสียงโวยวายในแคนาดา โดยพวกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธอย่างหนักแน่น เกี่ยวกับการพูดคุยใดๆ กรณีที่พวกเขาจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ
    .
    ครั้งที่เข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ ซึ่งทรงอยู่ในฐานะประมุขแห่งรัฐของแคนาดา ในวันจันทร์ (3 มี.ค.) ทรูโดเผยว่าเขาหวัง "หารือในประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญกับแคนาดาและชาวแคนาดา"
    .
    "และผมสามารถบอกกับคุณได้ว่า เวลานี้ไม่มีอะไรสำคัญกับชาวแคนาดามากไปกว่าการยืนหยัดเพื่ออธิปไตยของเราและเอกราชของเรา ในฐานะประเทศหนึ่ง" นายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุ ระหว่างอยู่ในลอนดอน เพื่อร่วมประชุมซัมมิตเกี่ยวกับยูเครน
    .
    ทรัมป์ ยึดติดอยู่กับอธิปไตยของแคนาดาโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย
    .
    ผู้สำสหรัฐฯ พาดพิงแคนาดาบ่อยครั้งในฐานะ "รัฐที่ 51" และดูหมิ่น ทรูโด ด้วยการเรียกเขาว่าเป็น "ผู้ว่าการรัฐ" แทนที่จะเป็น "นายกรัฐมนตรี"
    .
    ทั้งนี้ ทรัมป์ ออกคำสั่งรีดภาษีบรรดาคู่ค้าหลีกของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร (4 มี.ค.) แต่บอกว่าแคนาดาสามารถหลีกเลี่ยงการถูกรีดภาษีได้ หากกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา
    .
    เมื่อเดือนที่แล้ว ทรูโด เตือนว่าการพูดจาอย่างไม่หยุดหย่อนของทรัมป์ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดา เพื่อเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาตินั้น "เป็นของจริง"
    .
    ชาวแคนาดาบางส่วนส่งเสียงแสดงความสงสัยว่าทำไมกษัตริย์ชาร์ลส์ถึงไม่ออกมาตรัสอะไรบ้าง เกี่ยวกับการปกป้องแคนาดา อย่างไรก็ตาม ตามธรรมเนียมประเพณีแล้ว กษัตริย์มีหน้าที่ได้แค่เพียงให้คำแนะนำนายกรัฐมนตรี ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชาติในเครือจักรภพ
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เชิญ ทรัมป์ เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรแบบรัฐพิธีเป็นครั้งที่ 2 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งอาจเป็นการเปิดโอกาสให้กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงหยิบยกประเด็นอธิปไตยของแคนาดาพูดคุยกับทรัมป์
    .
    ณ ที่ประชุมซัมมิตด้านความมั่นคงของยูเครน ในลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ทรูโด เน้นย้ำว่า แคนาดา ยังคงให้การสนับสนุนยูเครน อย่างหนักแน่นและไม่เปลี่ยนแปลง และได้แถลงมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020426
    ..............
    Sondhi X
    จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ว่าเขาเตรียมเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พูดคุยเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยของแคนาดา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ส่งเสียงเรียกร้องซ้ำๆ ให้เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา . คำพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าของทรัมป์ โหมกระพือเสียงโวยวายในแคนาดา โดยพวกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธอย่างหนักแน่น เกี่ยวกับการพูดคุยใดๆ กรณีที่พวกเขาจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ . ครั้งที่เข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ชาร์ลส์ ซึ่งทรงอยู่ในฐานะประมุขแห่งรัฐของแคนาดา ในวันจันทร์ (3 มี.ค.) ทรูโดเผยว่าเขาหวัง "หารือในประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญกับแคนาดาและชาวแคนาดา" . "และผมสามารถบอกกับคุณได้ว่า เวลานี้ไม่มีอะไรสำคัญกับชาวแคนาดามากไปกว่าการยืนหยัดเพื่ออธิปไตยของเราและเอกราชของเรา ในฐานะประเทศหนึ่ง" นายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุ ระหว่างอยู่ในลอนดอน เพื่อร่วมประชุมซัมมิตเกี่ยวกับยูเครน . ทรัมป์ ยึดติดอยู่กับอธิปไตยของแคนาดาโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสมัย . ผู้สำสหรัฐฯ พาดพิงแคนาดาบ่อยครั้งในฐานะ "รัฐที่ 51" และดูหมิ่น ทรูโด ด้วยการเรียกเขาว่าเป็น "ผู้ว่าการรัฐ" แทนที่จะเป็น "นายกรัฐมนตรี" . ทั้งนี้ ทรัมป์ ออกคำสั่งรีดภาษีบรรดาคู่ค้าหลีกของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร (4 มี.ค.) แต่บอกว่าแคนาดาสามารถหลีกเลี่ยงการถูกรีดภาษีได้ หากกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา . เมื่อเดือนที่แล้ว ทรูโด เตือนว่าการพูดจาอย่างไม่หยุดหย่อนของทรัมป์ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดา เพื่อเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาตินั้น "เป็นของจริง" . ชาวแคนาดาบางส่วนส่งเสียงแสดงความสงสัยว่าทำไมกษัตริย์ชาร์ลส์ถึงไม่ออกมาตรัสอะไรบ้าง เกี่ยวกับการปกป้องแคนาดา อย่างไรก็ตาม ตามธรรมเนียมประเพณีแล้ว กษัตริย์มีหน้าที่ได้แค่เพียงให้คำแนะนำนายกรัฐมนตรี ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชาติในเครือจักรภพ . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เชิญ ทรัมป์ เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรแบบรัฐพิธีเป็นครั้งที่ 2 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งอาจเป็นการเปิดโอกาสให้กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงหยิบยกประเด็นอธิปไตยของแคนาดาพูดคุยกับทรัมป์ . ณ ที่ประชุมซัมมิตด้านความมั่นคงของยูเครน ในลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ทรูโด เน้นย้ำว่า แคนาดา ยังคงให้การสนับสนุนยูเครน อย่างหนักแน่นและไม่เปลี่ยนแปลง และได้แถลงมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เล่นงานรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020426 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1157 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในที่สุดออสเตรียก็ได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว หลังจากผ่านการเลือกตั้งมานานถึงห้าเดือน พรรคที่ได้อันดับหนึ่ง กลายเป็นฝ่ายค้าน เพราะไม่มีใครอยากร่วมด้วย พรรครัฐบาลเกิดจากพรรคอันดับรองลงไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยผสมกันระหว่างฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา

    พรรคเสรีภาพ ( Freedom Party - FPÖ) ต้องเป็นฝ่ายค้าน แม้ว่าพรรคจะได้รับชัยชนะมีที่นั่งสูงสุดมาเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งเมื่อห้าเดือนที่แล้ว แต่ไม่พอจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และ "ไม่มีพรรคใดอยากเข้าร่วมด้วย"

    ขณะที่พรรคอันดับรองลงไป ซึ่งก็คือพรรคประชาชนอนุรักษ์นิยม (The conservative People's Party - ÖVP) พรรคสังคมประชาธิปไตย (Social Democrats - SPÖ) และพรรคเสรีนิยมนีโอ (Austria’s liberal Neos) จับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ซึ่งกินเวลานานถึง 151 วัน หรือประมาณห้าเดือน นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งถือเป็นสถิติที่ใช้ระยะเวลาจัดตั้งรัฐบาลนานที่สุดในการเมืองออสเตรีย นอกจากนี้ยังเป็นพรรคผสมระหว่างฝ่ายซ้าย (เสรีนิยม) และฝ่ายขวา (อนุรักษ์นิยม) อีกด้วย

    คริสเตียน สต็อคเกอร์ หัวหน้าพรรคประชาชนออสเตรีย (ÖVP) ซึ่งเป็น "พรรคอนุรักษ์นิยมสายกลาง" จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

    ในที่สุดออสเตรียก็ได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว หลังจากผ่านการเลือกตั้งมานานถึงห้าเดือน พรรคที่ได้อันดับหนึ่ง กลายเป็นฝ่ายค้าน เพราะไม่มีใครอยากร่วมด้วย พรรครัฐบาลเกิดจากพรรคอันดับรองลงไปร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยผสมกันระหว่างฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา พรรคเสรีภาพ ( Freedom Party - FPÖ) ต้องเป็นฝ่ายค้าน แม้ว่าพรรคจะได้รับชัยชนะมีที่นั่งสูงสุดมาเป็นอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งเมื่อห้าเดือนที่แล้ว แต่ไม่พอจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และ "ไม่มีพรรคใดอยากเข้าร่วมด้วย" ขณะที่พรรคอันดับรองลงไป ซึ่งก็คือพรรคประชาชนอนุรักษ์นิยม (The conservative People's Party - ÖVP) พรรคสังคมประชาธิปไตย (Social Democrats - SPÖ) และพรรคเสรีนิยมนีโอ (Austria’s liberal Neos) จับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ซึ่งกินเวลานานถึง 151 วัน หรือประมาณห้าเดือน นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งในเดือนกันยายน 2024 ซึ่งถือเป็นสถิติที่ใช้ระยะเวลาจัดตั้งรัฐบาลนานที่สุดในการเมืองออสเตรีย นอกจากนี้ยังเป็นพรรคผสมระหว่างฝ่ายซ้าย (เสรีนิยม) และฝ่ายขวา (อนุรักษ์นิยม) อีกด้วย คริสเตียน สต็อคเกอร์ หัวหน้าพรรคประชาชนออสเตรีย (ÖVP) ซึ่งเป็น "พรรคอนุรักษ์นิยมสายกลาง" จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพการประท้วงในโรมาเนียเพื่อกดดันให้รัฐบาลลาออก และเร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว

    เป็นภาพการประท้วงที่ไม่ค่อยมีสื่อตะวันตกจากโลกเสรีรายงานข่าว เนื่องจากนี่เป็นการประท้วงของชาวโรมาเนียอย่างแท้จริง สังเกตุได้จากไม่มีธงชาติของประเทศอื่นๆในยุโรป ไม่มีธงของสหภาพยุโรป

    ชาวโรมาเนียกำลัง "ตาสว่าง" โดยให้ความสำคัญกับประเทศของตนเป็นอันดับแรก! เพราะนี่ไม่ใช่การทประท้วงที่มาจากการสนับสนุนจาก NGO หรือองค์กรพัฒนาเอกชนที่ได้รับทุนจากภายนอก

    เมื่อปลายปีที่แล้ว โรมาเนียจัดการเลือกตั้งรอบแรก และ คาลิน จอร์เจสคู ได้รับชัยชนะ ซึ่งเป็นบุคคลที่ต่อต้านยุโรป และเป็นมิตรกับรัสเซีย

    ก่อนจะมีการเลือกตั้งรอบที่สอง ศาลตัดสินให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ และตั้งข้อกล่าวหาจอร์เจสคู ในความผิดที่เกี่ยวข้องกับการได้รับแรงสนับสนุนจากรัสเซีย ต่อมารัสเซียออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จอร์เจสคูยังต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาอื่นๆจากรัฐบาลอีกมากมาย เพื่อขัดขวางเขาไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง

    ความพยายามในการขัดขวาง จอร์เจสคู ครั้งนี้ สื่อโรมาเนียรายงานว่า รัฐบาลโรมาเนียได้รับแรงกดดันจากประเทศสมาชิกยุโรป เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการให้แนวนโยบายของโรมาเนียเปลี่ยนแปลงไปเข้าข้างรัสเซีย
    ภาพการประท้วงในโรมาเนียเพื่อกดดันให้รัฐบาลลาออก และเร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว เป็นภาพการประท้วงที่ไม่ค่อยมีสื่อตะวันตกจากโลกเสรีรายงานข่าว เนื่องจากนี่เป็นการประท้วงของชาวโรมาเนียอย่างแท้จริง สังเกตุได้จากไม่มีธงชาติของประเทศอื่นๆในยุโรป ไม่มีธงของสหภาพยุโรป ชาวโรมาเนียกำลัง "ตาสว่าง" โดยให้ความสำคัญกับประเทศของตนเป็นอันดับแรก! เพราะนี่ไม่ใช่การทประท้วงที่มาจากการสนับสนุนจาก NGO หรือองค์กรพัฒนาเอกชนที่ได้รับทุนจากภายนอก เมื่อปลายปีที่แล้ว โรมาเนียจัดการเลือกตั้งรอบแรก และ คาลิน จอร์เจสคู ได้รับชัยชนะ ซึ่งเป็นบุคคลที่ต่อต้านยุโรป และเป็นมิตรกับรัสเซีย ก่อนจะมีการเลือกตั้งรอบที่สอง ศาลตัดสินให้ผลการเลือกตั้งเป็นโมฆะ และตั้งข้อกล่าวหาจอร์เจสคู ในความผิดที่เกี่ยวข้องกับการได้รับแรงสนับสนุนจากรัสเซีย ต่อมารัสเซียออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จอร์เจสคูยังต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาอื่นๆจากรัฐบาลอีกมากมาย เพื่อขัดขวางเขาไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง ความพยายามในการขัดขวาง จอร์เจสคู ครั้งนี้ สื่อโรมาเนียรายงานว่า รัฐบาลโรมาเนียได้รับแรงกดดันจากประเทศสมาชิกยุโรป เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการให้แนวนโยบายของโรมาเนียเปลี่ยนแปลงไปเข้าข้างรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุ การยุติสนับสนุนยูเครนจะไม่นำมาซึ่งสันติภาพ แต่จะทำให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น

    มาครงเตือนสหรัฐว่า หากไม่สนใจยูเครน ไม่เพียงแต่จะสูญเสียอิทธิพลในโลกไปเท่านั้น แต่ยังทำให้รัสเซียและจีนได้รับชัยชนะครั้งสำคัญอีกด้วย

    เขาเน้นย้ำว่าการหยุดยิงใดๆ จำเป็นต้องมีการรับประกันความปลอดภัยที่แท้จริงสำหรับยูเครน มิฉะนั้น ความขัดแย้งจะกลับมารุนแรงขึ้น

    คำพูดของเขาเกิดขึ้นก่อนจะมีการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปในวันอาทิตย์นี้ ในกรุงลอนดอน

    ขณะเดียวกัน Kaja Kallas หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวในทำนองเดียวกันว่า “หากพวกเราไม่สามารถกดดันรัสเซียได้มากพอ แล้วเราจะมีข้ออ้างอะไรว่าเราสามารถเอาชนะจีนได้?”
    มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ระบุ การยุติสนับสนุนยูเครนจะไม่นำมาซึ่งสันติภาพ แต่จะทำให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น มาครงเตือนสหรัฐว่า หากไม่สนใจยูเครน ไม่เพียงแต่จะสูญเสียอิทธิพลในโลกไปเท่านั้น แต่ยังทำให้รัสเซียและจีนได้รับชัยชนะครั้งสำคัญอีกด้วย เขาเน้นย้ำว่าการหยุดยิงใดๆ จำเป็นต้องมีการรับประกันความปลอดภัยที่แท้จริงสำหรับยูเครน มิฉะนั้น ความขัดแย้งจะกลับมารุนแรงขึ้น คำพูดของเขาเกิดขึ้นก่อนจะมีการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปในวันอาทิตย์นี้ ในกรุงลอนดอน ขณะเดียวกัน Kaja Kallas หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวในทำนองเดียวกันว่า “หากพวกเราไม่สามารถกดดันรัสเซียได้มากพอ แล้วเราจะมีข้ออ้างอะไรว่าเราสามารถเอาชนะจีนได้?”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อสรุปที่สำคัญบางส่วนจากคำกล่าวของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการของหน่วยงานความมั่นคงกลาง (FSB) วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) :

    - การพบกันครั้งแรกกับฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ทำให้รู้ว่าสหรัฐมีความปรารถนาที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

    - การเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากที่ฝ่ายบริหารชุดใหม่เข้ามามีอำนาจ

    - ผลของการต่อสู้อย่างแข็งแกร่งของรัสเซียในสนามรบ ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงบนเวทีโลกมากมาย

    - รัสเซียพยายามใช้ทุกวิถีทางของการทูตรวมทั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อขัดขวางความพยายามของ "ชนชั้นนำตะวันตกบางกลุ่ม" ที่มุ่งมั่นขัดขวางการเจรจาระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ

    - นโยบายของตะวันตกเริ่มบ่อนทำลายชุมชนตะวันตกของพวกเขาจากภายใน

    - รัสเซียจะใช้มาตรการอย่างจริงจังเพื่อปกป้องพรมแดนของรัฐ และจะเพิ่มความเข้มงวดของพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากต่อภัยความมั่นคง

    - ประเด็นการสร้างระบบความมั่นคงระดับโลกได้พัฒนามากขึ้น โดยแต่ละประเทศจะต้องเป็นผู้รักษาเสถียรภาพ ไม่ใช่คอยเอาเปรียบรัสเซีย

    - FSB เป็นหน่วยงานที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพด้านความมั่นคงแห่งชาติ FSB จำเป็นต้องต่อสู้กับลัทธิหัวรุนแรงและการก่อการร้ายอย่างเด็ดขาดต่อไป

    - ในภูมิภาคใหม่ จำเป็นต้องได้รับการเสริมสร้างทักษะของเจ้าหน้าที่ด้านต่อต้านการก่อการร้าย

    - จำนวนการโจมตีทางไซเบอร์ต่อรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบนเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลและบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ

    - รัสเซียไม่เคยปฏิเสธการแก้ไขความขัดแย้งในยูเครนด้วยสันติวิธี

    - ทหารผู้กล้าที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ได้สร้างเงื่อนไขสำหรับการเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนและวิกฤตอื่นๆ ด้วยความกล้าหาญและชัยชนะของพวกเขา

    - การวิจัยที่ดำเนินการโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียจะต้องเริ่มดำเนินการอย่างรวดเร็ว และประกาศให้รับรู้กันทั่วไป แทนที่จะถูกเก็บไว้และติดป้ายว่าเป็นความลับ



    ข้อสรุปที่สำคัญบางส่วนจากคำกล่าวของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการของหน่วยงานความมั่นคงกลาง (FSB) วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) : - การพบกันครั้งแรกกับฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ทำให้รู้ว่าสหรัฐมีความปรารถนาที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ - การเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากที่ฝ่ายบริหารชุดใหม่เข้ามามีอำนาจ - ผลของการต่อสู้อย่างแข็งแกร่งของรัสเซียในสนามรบ ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงบนเวทีโลกมากมาย - รัสเซียพยายามใช้ทุกวิถีทางของการทูตรวมทั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อขัดขวางความพยายามของ "ชนชั้นนำตะวันตกบางกลุ่ม" ที่มุ่งมั่นขัดขวางการเจรจาระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ - นโยบายของตะวันตกเริ่มบ่อนทำลายชุมชนตะวันตกของพวกเขาจากภายใน - รัสเซียจะใช้มาตรการอย่างจริงจังเพื่อปกป้องพรมแดนของรัฐ และจะเพิ่มความเข้มงวดของพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากต่อภัยความมั่นคง - ประเด็นการสร้างระบบความมั่นคงระดับโลกได้พัฒนามากขึ้น โดยแต่ละประเทศจะต้องเป็นผู้รักษาเสถียรภาพ ไม่ใช่คอยเอาเปรียบรัสเซีย - FSB เป็นหน่วยงานที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพด้านความมั่นคงแห่งชาติ FSB จำเป็นต้องต่อสู้กับลัทธิหัวรุนแรงและการก่อการร้ายอย่างเด็ดขาดต่อไป - ในภูมิภาคใหม่ จำเป็นต้องได้รับการเสริมสร้างทักษะของเจ้าหน้าที่ด้านต่อต้านการก่อการร้าย - จำนวนการโจมตีทางไซเบอร์ต่อรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบนเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลและบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ - รัสเซียไม่เคยปฏิเสธการแก้ไขความขัดแย้งในยูเครนด้วยสันติวิธี - ทหารผู้กล้าที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ได้สร้างเงื่อนไขสำหรับการเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนและวิกฤตอื่นๆ ด้วยความกล้าหาญและชัยชนะของพวกเขา - การวิจัยที่ดำเนินการโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียจะต้องเริ่มดำเนินการอย่างรวดเร็ว และประกาศให้รับรู้กันทั่วไป แทนที่จะถูกเก็บไว้และติดป้ายว่าเป็นความลับ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ขานรับญัตติหนึ่งที่ร่างโดยสหรัฐฯ ในวาระครบรอบ 3 ปี รัสเซียรุกรานยูเครน ที่ขอให้ใช้จุดยืนเป็นกลางในความขัดแย้งดังกล่าว ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหาทางเป็นคนกลางสร้างสันติภาพ
    .
    ที่ผ่านมา สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 15 ชาติ ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้เกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน สืบเนื่องจากรัสเซียมีอำนาจวีโต้ ในขณะที่ญัตติล่าสุดที่เสนอโดยสหรัฐฯ นั้น ได้รับเสียงสนับสนุน 10 เสียง ส่วนฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร กรีซ และสโลวีเนีย งดออกเสียง
    .
    "ญัตตินี้นำพาเราไปสู่เส้นทางแห่งสันติภาพ มันเป็นก้าวย่างแรก แต่เป็นก้าวย่างที่สำคัญ เป็นหนึ่งในก้าวย่างที่เราทุกคนควรภูมิใจ" โดโรธีย์ เชีย ผู้แทนทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติบอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ "ตอนนี้ เราต้องใช้มันสร้างอนาคตแห่งสันติเพื่อยูเครน รัสเซียและประชาคมนานาชาติ"
    .
    ในญัตติสั้นๆ ที่ไว้อาลัยผู้สูญเสียชีวิตในความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ได้เน้นย้ำถึงเจตจำนงของสหประชาชาติในการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และหาทางออกในข้อพิพาทต่างๆ อย่างสันติ รวมถึงเรียกร้องให้ยุติความขัดแย้งอย่างรวดเร็วและแสวงหาสันติภาพอย่างยั่งยืน
    .
    ความพยายามเป็นคนกลางของทรัมป์ ก่อความกังวลแก่บรรดาพันธมิตรยุโรปและยูเครน ที่วิตกว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ มุ่งเน้นให้ความสำคัญแต่กับรัสเซียและกีดกันพวกเขาออกจากการเจรจาสันติภาพ
    .
    บาร์บารา วู้ดวาร์ด ผู้แทนทูตสหราชอาณาจักรประจำสหประชาชาติ บอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า เงื่อนไขสำหรับสันติภาพในยูเครนเป็นสิ่งสำคัญ และต้องไม่ส่งสารผิดๆ ไปถึงผู้รุกราน "นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงไม่อาจมีความเท่าเทียมได้ระหว่างรัสเซียและยูเครน ในแนวทางที่คณะมนตรีกล่าวอ้างถึงสงครามนี้ ถ้าเราจะพบเส้นทางสันติภาพที่ยั่งยืน คณะมนตรีต้องพูดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับที่มาที่ไปของสงคราม"
    .
    ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมสมัชชาแห่งสหประชาติ 193 ประเทศ ปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่ขอให้ลดสุ้มเสียงแข็งกร้าวขององค์กรระหว่างประเทศแห่งนี้ ที่มีจุดยืนมาช้านานในการหนุนหลังอธิปไตย เอกราช ความเป็นหนึ่งเดียวกันและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน และเรียกร้องสันติภาพที่ยั่งยืนและครอบคลุมตามกรอบของกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งถือเป็นตราสารสถาปนาองค์การแห่งนี้อย่างเป็นทางการ
    .
    ขณะเดียวกัน สมัชชาแห่งสหประชาติได้ขานรับญัตติ 2 ญัตติ หนึ่งในนั้นร่างโดยยูเครนและยุโรป ส่วนอีกหนึ่งร่างโดยสหรัฐฯ ที่ผ่านการปรับแก้โดยที่ประชุมสมัชชาแล้ว ในนั้นรวมถึงภาษาที่สนับสนุนยูเครน ทั้งนี้ผลโหวตดังกล่าวถือเป็นชัยชนะทางการทูตของยูเครนและยุโรป เหนือวอชิงตัน
    .
    "สงครามนี้ไม่เคยเป็นเรื่องเกี่ยวกับเฉพาะยูเครนเท่านั้น แต่มันเกี่ยวข้องกับสิทธิพื้นฐานของประเทศไหนในการอยู่รอด ในการเลือกเส้นทางของตนเองและในการมีชีวิตอยู่โดยปราศจากการรุกราน" มาเรียนา เบตซา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน บอกกับที่ประชุมก่อนการโหวต
    .
    ญัตติที่ร่างโดยสหรัฐฯ ฉบับผ่านการปรับแก้แล้ว ได้รับเสียงสนับสนุนจากที่ประชุม 93 เสียง งดออกเสียง 73 เสียงและมี 8 เสียงที่โหวตคัดค้าน ขณะที่รัสเซียเองก็ล้มเหลวในการปรับแก้ร่างของสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงกรณีถูกพาดพิงเป็น "สาเหตุรากเหง้า" ของความขัดแย้ง
    .
    ส่วนญัตติที่ร่างโดยยูเครนและบรรดาชาติยุโรป ผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนน 93 เสียง งดออกเสียง 65 เสียง และโหวตคัดค้าน 18 เสียง โดยนอกเหนือจากสหรัฐฯ แล้ว บางประเทศที่โหวตโน ได้แก่รัสเซีย เกาหลีเหนือและอิสราเอล
    .
    "วันนี้ สหายอเมริกาของเรา มองตัวเองว่าเป็นเส้นทางสู่สันติภาพในยูเครน แต่มันจะไม่ใช่เส้นทางที่ง่าย และมีอยู่หลายชาติที่พยายามเตะถ่วงการมาของสันติภาพให้ยืดเยื้อนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่พวกเขาไม่อาจหยุดยั้งเราได้" วาสซิลีย์ เนเบนเซีย ผู้แทนทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติบอกกับที่ประชุม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018396
    ..............
    Sondhi X
    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ขานรับญัตติหนึ่งที่ร่างโดยสหรัฐฯ ในวาระครบรอบ 3 ปี รัสเซียรุกรานยูเครน ที่ขอให้ใช้จุดยืนเป็นกลางในความขัดแย้งดังกล่าว ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหาทางเป็นคนกลางสร้างสันติภาพ . ที่ผ่านมา สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 15 ชาติ ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้เกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน สืบเนื่องจากรัสเซียมีอำนาจวีโต้ ในขณะที่ญัตติล่าสุดที่เสนอโดยสหรัฐฯ นั้น ได้รับเสียงสนับสนุน 10 เสียง ส่วนฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร กรีซ และสโลวีเนีย งดออกเสียง . "ญัตตินี้นำพาเราไปสู่เส้นทางแห่งสันติภาพ มันเป็นก้าวย่างแรก แต่เป็นก้าวย่างที่สำคัญ เป็นหนึ่งในก้าวย่างที่เราทุกคนควรภูมิใจ" โดโรธีย์ เชีย ผู้แทนทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติบอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ "ตอนนี้ เราต้องใช้มันสร้างอนาคตแห่งสันติเพื่อยูเครน รัสเซียและประชาคมนานาชาติ" . ในญัตติสั้นๆ ที่ไว้อาลัยผู้สูญเสียชีวิตในความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ได้เน้นย้ำถึงเจตจำนงของสหประชาชาติในการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และหาทางออกในข้อพิพาทต่างๆ อย่างสันติ รวมถึงเรียกร้องให้ยุติความขัดแย้งอย่างรวดเร็วและแสวงหาสันติภาพอย่างยั่งยืน . ความพยายามเป็นคนกลางของทรัมป์ ก่อความกังวลแก่บรรดาพันธมิตรยุโรปและยูเครน ที่วิตกว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ มุ่งเน้นให้ความสำคัญแต่กับรัสเซียและกีดกันพวกเขาออกจากการเจรจาสันติภาพ . บาร์บารา วู้ดวาร์ด ผู้แทนทูตสหราชอาณาจักรประจำสหประชาชาติ บอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า เงื่อนไขสำหรับสันติภาพในยูเครนเป็นสิ่งสำคัญ และต้องไม่ส่งสารผิดๆ ไปถึงผู้รุกราน "นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงไม่อาจมีความเท่าเทียมได้ระหว่างรัสเซียและยูเครน ในแนวทางที่คณะมนตรีกล่าวอ้างถึงสงครามนี้ ถ้าเราจะพบเส้นทางสันติภาพที่ยั่งยืน คณะมนตรีต้องพูดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับที่มาที่ไปของสงคราม" . ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมสมัชชาแห่งสหประชาติ 193 ประเทศ ปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่ขอให้ลดสุ้มเสียงแข็งกร้าวขององค์กรระหว่างประเทศแห่งนี้ ที่มีจุดยืนมาช้านานในการหนุนหลังอธิปไตย เอกราช ความเป็นหนึ่งเดียวกันและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน และเรียกร้องสันติภาพที่ยั่งยืนและครอบคลุมตามกรอบของกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งถือเป็นตราสารสถาปนาองค์การแห่งนี้อย่างเป็นทางการ . ขณะเดียวกัน สมัชชาแห่งสหประชาติได้ขานรับญัตติ 2 ญัตติ หนึ่งในนั้นร่างโดยยูเครนและยุโรป ส่วนอีกหนึ่งร่างโดยสหรัฐฯ ที่ผ่านการปรับแก้โดยที่ประชุมสมัชชาแล้ว ในนั้นรวมถึงภาษาที่สนับสนุนยูเครน ทั้งนี้ผลโหวตดังกล่าวถือเป็นชัยชนะทางการทูตของยูเครนและยุโรป เหนือวอชิงตัน . "สงครามนี้ไม่เคยเป็นเรื่องเกี่ยวกับเฉพาะยูเครนเท่านั้น แต่มันเกี่ยวข้องกับสิทธิพื้นฐานของประเทศไหนในการอยู่รอด ในการเลือกเส้นทางของตนเองและในการมีชีวิตอยู่โดยปราศจากการรุกราน" มาเรียนา เบตซา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน บอกกับที่ประชุมก่อนการโหวต . ญัตติที่ร่างโดยสหรัฐฯ ฉบับผ่านการปรับแก้แล้ว ได้รับเสียงสนับสนุนจากที่ประชุม 93 เสียง งดออกเสียง 73 เสียงและมี 8 เสียงที่โหวตคัดค้าน ขณะที่รัสเซียเองก็ล้มเหลวในการปรับแก้ร่างของสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงกรณีถูกพาดพิงเป็น "สาเหตุรากเหง้า" ของความขัดแย้ง . ส่วนญัตติที่ร่างโดยยูเครนและบรรดาชาติยุโรป ผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนน 93 เสียง งดออกเสียง 65 เสียง และโหวตคัดค้าน 18 เสียง โดยนอกเหนือจากสหรัฐฯ แล้ว บางประเทศที่โหวตโน ได้แก่รัสเซีย เกาหลีเหนือและอิสราเอล . "วันนี้ สหายอเมริกาของเรา มองตัวเองว่าเป็นเส้นทางสู่สันติภาพในยูเครน แต่มันจะไม่ใช่เส้นทางที่ง่าย และมีอยู่หลายชาติที่พยายามเตะถ่วงการมาของสันติภาพให้ยืดเยื้อนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่พวกเขาไม่อาจหยุดยั้งเราได้" วาสซิลีย์ เนเบนเซีย ผู้แทนทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติบอกกับที่ประชุม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018396 .............. Sondhi X
    Like
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2187 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานนี้แม้ชัยชนะจะเป็นของโปรสาวอเมริกัน แต่คนไทยก็เหมือนชนะไปกับเธอด้วย เพราะถ้าแอลเจิล หยิน ไม่มีโปรต้อมเป็นลมใต้ปีก ก็อาจไปไม่ถึงดวงดาว

    #ดราม่าฮอนด้าLPGA #แคตดี้ไทยหิ้วสาวมะกัน #แองเจิลหยิน #โปรต้อม #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    งานนี้แม้ชัยชนะจะเป็นของโปรสาวอเมริกัน แต่คนไทยก็เหมือนชนะไปกับเธอด้วย เพราะถ้าแอลเจิล หยิน ไม่มีโปรต้อมเป็นลมใต้ปีก ก็อาจไปไม่ถึงดวงดาว #ดราม่าฮอนด้าLPGA #แคตดี้ไทยหิ้วสาวมะกัน #แองเจิลหยิน #โปรต้อม #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Haha
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2327 มุมมอง 77 0 รีวิว
  • พวกอนุรักษนิยมของเยอรมนีคว้าชัยในศึกเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) แต่เสียงโหวตที่แตกกัน ส่งให้พรรค Alternative for Germany (AfD) พรรคขวาจัด คว้าอันดับ 2 มีผลงานดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และอาจทำให้ ฟรีดริช แมร์ซ ผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ประสบความยุ่งยากในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล
    .
    แมร์ซ ผู้ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ในการดำรงตำแหน่งมาก่อน เตรียมก้าวมาเป็นนายกรัฐมนตรีของชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรป ที่เวลานี้อยู่ในภาวะเปราะบาง มีความแตกแยกในสังคมเกี่ยวกับปัญหาคนเข้ามืองและติดแหง็กอยู่ในประเด็นความมั่นคงท่ามกลางการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียและจีน
    .
    ตามหลังการพังครืนของรัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชล์ซ ทาง แมร์ซ วัย 69 ปี รับปากกับกองเชียร์ที่ส่งเสียงดังกึกก้อง ว่ารัฐบาลของเขามีความตั้งใจทำให้เยอรมนีมีตัวตนในยุโรปอีกครั้ง เพื่อที่โลกจะสังเกตเห็นว่าเยอรมนีกำลังถูกปกครองด้วยความน่าเชื่อถืออีกครั้ง "คืนนี้เราจะเฉลิมฉลอง ทว่านับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะเริ่มทำงาน โลกภายนอกรอเราไม่ได้"
    .
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งพันธมิตรอย่าง อีลอน มัสก์ ส่งเสียงสนับสนุนพรรค AfD ซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างศึกหาเสียง แสดงความยินดีต่อชัยชนะของฝ่ายอนุรักษนิยมบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง "แทบเหมือนกับในสหรัฐฯ ประชาชนเยอรมนีเบื่อหน่านกับวาระที่ไม่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะพลังงานและคนเข้าเมือง ที่ถูกให้ความสำคัญมานานหลายปีเหลือเกิน"
    .
    ผลการเลือกตั้งพบว่ากลุ่มก้อนอนุรักษนิยมพรรค CDU/CSU คว้าคะแนนเสียงไปได้ 28.4% ตามมาด้วยพรรค AfD ที่ได้คะแนนเสียง 20.4% ตามการคาดการณ์ของสำนักข่าว ZDF
    .
    อย่างไรก็ตาม พรรคกระแสหลักทั้งหลายปฏิเสธทำงานร่วมกับ AfD ที่กวาดคะแนนเสียงได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากศึกเลือกตั้งคราวก่อน และมองผลการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น "มือของเรายังคงเปิดกว้างสำหรับการจัดตั้งรัฐบาล" อลิซ ไวเดล ผู้นำพรรค AfD บอกกับผู้สนับสนุน พร้อมระบุ "ครั้งต่อไป เราจะมาเป็นอันดับ 1"
    .
    คาดหมายว่า แมร์ซ กำลังมุ่งหน้าสู่สิ่งที่เชื่อว่าอาจเป็นการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมที่ยืดเยื้อยาวนาน เนื่องจากไม่ได้ถือครองความได้เปรียบในการเจรจาเท่าไหร่ โดยแม้กลุ่มก้อน CDU/CSU ของเขาจะคว้าคะแนนมาเป็นอันดับ 1 แต่ก็ถือเป็นผลการเลือกตั้งเลวร้ายที่สุดอันดับ 2 ของพวกเขาในยุคหลังสงคราม
    .
    ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า แมร์ซ จะต้องการพรรคร่วมรัฐบาล 1 หรือ 2 พรรค สำหรับรวบรวมเสียงข้างมาก ในขณะที่ชะตากรรมของบรรดาพรรคขนาดเล็กก็ไม่ชัดเจนเช่นกัน การจัดตั้งรัฐบาล 3 พรรคก็ยิ่งอาจทำให้อุ้ยอ้ายกว่าเดิม และอาจบั่นทอนศักยภาพของเยอรมนี ในการแสดงออกถึงความเป็นผู้นำ
    .
    พรรคโซเชียลเดโมแครตส์ (SPD) ของนายกรัฐมตรีโชลซ์ ทำผลงานได้เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้คะแนนโหวตเพียง 16.4% และโชลซ์ ยอมรับว่ามันเป็นผลการเลือกตั้งที่เจ็บปวด อ้างอิงการคาดการณ์ของ ZDF ขณะที่พรรคกรีนส์ได้คะแนนเสียง 12.2% ส่วนพรรคซ้ายจัดอย่าง Die Linke ได้คะแนนเสียงเพียง 8.9% แม้ได้รับแรงสนับสนุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนหนุ่มสาว
    .
    อ้างอิงข้อมูลเอ็กซิตโพล พบว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงถึง 83% มากที่สุดตั้งแต่ก่อนรวมชาติเยอรมนีในปี 1990 ขณะเดียวกันพบว่าผู้ออกเสียงที่เป็นผู้ชายมีความโน้มเอียงไปทางฝ่ายขวา ส่วนผู้ออกเสียงที่เป็นผู้หญิง ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อพรรคฝ่ายซ้าย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000017982
    ..............
    Sondhi X
    พวกอนุรักษนิยมของเยอรมนีคว้าชัยในศึกเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) แต่เสียงโหวตที่แตกกัน ส่งให้พรรค Alternative for Germany (AfD) พรรคขวาจัด คว้าอันดับ 2 มีผลงานดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และอาจทำให้ ฟรีดริช แมร์ซ ผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ประสบความยุ่งยากในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล . แมร์ซ ผู้ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ในการดำรงตำแหน่งมาก่อน เตรียมก้าวมาเป็นนายกรัฐมนตรีของชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรป ที่เวลานี้อยู่ในภาวะเปราะบาง มีความแตกแยกในสังคมเกี่ยวกับปัญหาคนเข้ามืองและติดแหง็กอยู่ในประเด็นความมั่นคงท่ามกลางการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซียและจีน . ตามหลังการพังครืนของรัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชล์ซ ทาง แมร์ซ วัย 69 ปี รับปากกับกองเชียร์ที่ส่งเสียงดังกึกก้อง ว่ารัฐบาลของเขามีความตั้งใจทำให้เยอรมนีมีตัวตนในยุโรปอีกครั้ง เพื่อที่โลกจะสังเกตเห็นว่าเยอรมนีกำลังถูกปกครองด้วยความน่าเชื่อถืออีกครั้ง "คืนนี้เราจะเฉลิมฉลอง ทว่านับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะเริ่มทำงาน โลกภายนอกรอเราไม่ได้" . ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งพันธมิตรอย่าง อีลอน มัสก์ ส่งเสียงสนับสนุนพรรค AfD ซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างศึกหาเสียง แสดงความยินดีต่อชัยชนะของฝ่ายอนุรักษนิยมบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง "แทบเหมือนกับในสหรัฐฯ ประชาชนเยอรมนีเบื่อหน่านกับวาระที่ไม่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะพลังงานและคนเข้าเมือง ที่ถูกให้ความสำคัญมานานหลายปีเหลือเกิน" . ผลการเลือกตั้งพบว่ากลุ่มก้อนอนุรักษนิยมพรรค CDU/CSU คว้าคะแนนเสียงไปได้ 28.4% ตามมาด้วยพรรค AfD ที่ได้คะแนนเสียง 20.4% ตามการคาดการณ์ของสำนักข่าว ZDF . อย่างไรก็ตาม พรรคกระแสหลักทั้งหลายปฏิเสธทำงานร่วมกับ AfD ที่กวาดคะแนนเสียงได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากศึกเลือกตั้งคราวก่อน และมองผลการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น "มือของเรายังคงเปิดกว้างสำหรับการจัดตั้งรัฐบาล" อลิซ ไวเดล ผู้นำพรรค AfD บอกกับผู้สนับสนุน พร้อมระบุ "ครั้งต่อไป เราจะมาเป็นอันดับ 1" . คาดหมายว่า แมร์ซ กำลังมุ่งหน้าสู่สิ่งที่เชื่อว่าอาจเป็นการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมที่ยืดเยื้อยาวนาน เนื่องจากไม่ได้ถือครองความได้เปรียบในการเจรจาเท่าไหร่ โดยแม้กลุ่มก้อน CDU/CSU ของเขาจะคว้าคะแนนมาเป็นอันดับ 1 แต่ก็ถือเป็นผลการเลือกตั้งเลวร้ายที่สุดอันดับ 2 ของพวกเขาในยุคหลังสงคราม . ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า แมร์ซ จะต้องการพรรคร่วมรัฐบาล 1 หรือ 2 พรรค สำหรับรวบรวมเสียงข้างมาก ในขณะที่ชะตากรรมของบรรดาพรรคขนาดเล็กก็ไม่ชัดเจนเช่นกัน การจัดตั้งรัฐบาล 3 พรรคก็ยิ่งอาจทำให้อุ้ยอ้ายกว่าเดิม และอาจบั่นทอนศักยภาพของเยอรมนี ในการแสดงออกถึงความเป็นผู้นำ . พรรคโซเชียลเดโมแครตส์ (SPD) ของนายกรัฐมตรีโชลซ์ ทำผลงานได้เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้คะแนนโหวตเพียง 16.4% และโชลซ์ ยอมรับว่ามันเป็นผลการเลือกตั้งที่เจ็บปวด อ้างอิงการคาดการณ์ของ ZDF ขณะที่พรรคกรีนส์ได้คะแนนเสียง 12.2% ส่วนพรรคซ้ายจัดอย่าง Die Linke ได้คะแนนเสียงเพียง 8.9% แม้ได้รับแรงสนับสนุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนหนุ่มสาว . อ้างอิงข้อมูลเอ็กซิตโพล พบว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงถึง 83% มากที่สุดตั้งแต่ก่อนรวมชาติเยอรมนีในปี 1990 ขณะเดียวกันพบว่าผู้ออกเสียงที่เป็นผู้ชายมีความโน้มเอียงไปทางฝ่ายขวา ส่วนผู้ออกเสียงที่เป็นผู้หญิง ให้การสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อพรรคฝ่ายซ้าย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000017982 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1533 มุมมอง 0 รีวิว
  • The Sun สื่ออังกฤษ รายงานว่า ทรัมป์ปฏิเสธกระแสข่าวว่าเขา 'จะเดินทางมาร่วมงาน "วันแห่งชัยชนะ" (Victory day) ในวันที่ 9 พฤษภาคมปีนี้ ที่กรุงมอสโก ร่วมกับปูติน และ สี จิ้นผิง

    "ไม่ ผมไม่ไป" เมื่อทรัมป์ถูกถามว่าเขาจะไปร่วมงานหรือไม่

    ก่อนหน้านี้สื่อฝรั่งเศส Le Point อ้างแหล่งข่าวจากรัสเซียว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้าร่วมงานที่รัสเซีย

    สำหรับการจัดงานที่จัตุรัสแดง จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการชัยชนะของรัสเซียที่มีต่อนาซีเยอรมนีในปี 1945 และกลายเป็นงานสำคัญสำหรับผู้นำรัสเซีย


    The Sun สื่ออังกฤษ รายงานว่า ทรัมป์ปฏิเสธกระแสข่าวว่าเขา 'จะเดินทางมาร่วมงาน "วันแห่งชัยชนะ" (Victory day) ในวันที่ 9 พฤษภาคมปีนี้ ที่กรุงมอสโก ร่วมกับปูติน และ สี จิ้นผิง "ไม่ ผมไม่ไป" เมื่อทรัมป์ถูกถามว่าเขาจะไปร่วมงานหรือไม่ ก่อนหน้านี้สื่อฝรั่งเศส Le Point อ้างแหล่งข่าวจากรัสเซียว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้าร่วมงานที่รัสเซีย สำหรับการจัดงานที่จัตุรัสแดง จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการชัยชนะของรัสเซียที่มีต่อนาซีเยอรมนีในปี 1945 และกลายเป็นงานสำคัญสำหรับผู้นำรัสเซีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และ ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐ ตอบรับคำเชิญของประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย เข้าร่วมงาน "วันแห่งชัยชนะ" (Victory day) ในวันที่ 9 พฤษภาคมปีนี้ ที่กรุงมอสโก ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองชัยชนะของรัสเซียเหนือนาซีเยอรมัน

    หากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนด จะเป็นการพบของ 3 ผู้นำของโลกในขณะนี้ และอาจทำให้ผู้นำสหภาพยุโรปเกิดอาการคลุ้มคลั่งได้!

    นอกจากนี้ วูซิช(เซอร์เบีย) ฟิโก(สโลวาเกีย) และลูลา(บราซิล) ก็แสดงความต้องการจะเข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และ ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐ ตอบรับคำเชิญของประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย เข้าร่วมงาน "วันแห่งชัยชนะ" (Victory day) ในวันที่ 9 พฤษภาคมปีนี้ ที่กรุงมอสโก ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองชัยชนะของรัสเซียเหนือนาซีเยอรมัน หากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนด จะเป็นการพบของ 3 ผู้นำของโลกในขณะนี้ และอาจทำให้ผู้นำสหภาพยุโรปเกิดอาการคลุ้มคลั่งได้! นอกจากนี้ วูซิช(เซอร์เบีย) ฟิโก(สโลวาเกีย) และลูลา(บราซิล) ก็แสดงความต้องการจะเข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • 70 ปี ไทย-อิหร่าน 46 ปี แห่งชัยชนะของปฏิวัติอิสลาม : [คุยผ่าโลก Worldtalk]

    การฉลองครบรอบปีที่ 46 ชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามและกว่า 400 ปี ความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างอิหร่านและไทย
    70 ปี ไทย-อิหร่าน 46 ปี แห่งชัยชนะของปฏิวัติอิสลาม : [คุยผ่าโลก Worldtalk] การฉลองครบรอบปีที่ 46 ชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามและกว่า 400 ปี ความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างอิหร่านและไทย
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • Călin Georgescu ประกาศว่า หากเขาได้เป็นประธานาธิบดีโรมาเนีย วันแรกในหารดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาจะแบนเครือข่าย Soros ทั้งหมดในโรมาเนีย

    "เรามีวิธีที่จะทำเรื่องนี้ได้ เพราะเรารู้ว่าพวกเขาเป็นใคร เรามีรายชื่อทั้งหมดมันชัดเจนมาก"

    Georgescu ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก แต่ถูกศาลสูงมีคำสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ จนถึงเวลานี้ รัฐบาลยังไม่ยอมประกาศการเลือกตั้งครั้งใหม่

    ขณะที่ประธานาธิบดีได้ลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว หลังจากทนแรงกดดันของประชาชนที่ออกมาชุมนุมประท้วงให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด
    Călin Georgescu ประกาศว่า หากเขาได้เป็นประธานาธิบดีโรมาเนีย วันแรกในหารดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาจะแบนเครือข่าย Soros ทั้งหมดในโรมาเนีย "เรามีวิธีที่จะทำเรื่องนี้ได้ เพราะเรารู้ว่าพวกเขาเป็นใคร เรามีรายชื่อทั้งหมดมันชัดเจนมาก" Georgescu ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก แต่ถูกศาลสูงมีคำสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ จนถึงเวลานี้ รัฐบาลยังไม่ยอมประกาศการเลือกตั้งครั้งใหม่ ขณะที่ประธานาธิบดีได้ลาออกจากตำแหน่งไปแล้ว หลังจากทนแรงกดดันของประชาชนที่ออกมาชุมนุมประท้วงให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สหรัฐฯกำลังพยายาม "สร้างความพึงพอใจ" แก่รัสเซีย ในการเจรจาเกี่ยวกับยูเครน และเตือนถึงความอ่อนแอทางทหารของยุโรป
    .
    ในปฏิกิริยาที่มีต่อท่าทีของพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่แสดงความคิดเห็นต่างๆ ไปในทิศทางประนีประนอมกับรัสเซีย ทางเซเลนสกีกล่าวว่า "เวลานี้ สหรัฐฯ กำลังพูดในสิ่งต่างๆ ที่เป็นผลดีกับปูตินมากๆ เพราะพวกเขาอยากสร้างความพึงพอใจแก่เขา" ผู้นำยูเครนระบุ ระหว่างการให้สัมภาษณ์ที่บันทึกเทปเอาไว้ ในเมืองมิวนิกเมื่อวันเสาร์ (15 ก.พ.)
    .
    "พวกต้องการพบปะกันอย่างเร่งด่วนและมีชัยอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่พวกเขาอยากได้ก็แค่ข้อตกลงหยุดยิง ไม่ใช่ชัยชนะ" เซเลนสกีกล่าว
    .
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สร้างความตกตะลึงแก่บรรดาพันธมิตร ด้วยการเปิดเผยว่าเขาได้พูดคุยโดยตรงกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เกี่ยวกับกระบวนการเดินหน้ายุติสงครามในยูเครนอย่างรวดเร็ว
    .
    ขณะเดียวกัน พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ดูเหมือนจะตัดความเป็นไปได้ที่ยูเครนจะเข้าร่วมเป็นรัฐสมาชิกนาโต หรือทวงคืนดินแดนทั้งหมดที่สูญเสียไปตั้งแต่ปี 2014
    .
    ในแนวโน้มของข้อตกลงใดๆ ในอนาคต เซเลนสกีบอกว่า "เราจะไม่ลงนามสิ่งใดเพียงเพื่อได้รับเสียงชื่นชม และขอเน้นย้ำว่าชะตากรรมของประเทศของเราสำหรับหลายชั่วอายุคนกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง" เขากล่าว พร้อมปฏิเสธความคิดยอมสละดินแดนของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดไป "เราจะทวงคืนมันทั้งหมด"
    .
    คำกล่าวนี้ของเซเลนสกี เป็นเทปบันทึกการสัมภาษณ์ซึ่งมีขึ้นระหว่างการประชุมความมั่นคงที่เมืองมิวนิก เป็นเวลา 3 วัน สิ้นสุดในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ก่อนหน้านี้พวกผู้ยุโรปจะจัดประชุมหารือฉุกเฉินในกรุงปารีส เพื่อระดมวิธีรับมืออเมริกา หลังจากตลอดสัปดาห์ที่แล้วคณะบริหารทรัมป์เดินเกมรุกทางการทูตที่ดูเหมือนอ้าแขนรับรัสเซียและเมินเฉยทอดทิ้งพันธมิตรเก่าแก่อย่างยุโรป และเวลานี้ยังอยู่ระหว่างการพูดคุย
    .
    ประธานาธิบดียูเครนเตือนว่ายุโรปจะอยู่ในสถานะอ่อนแอ หากไม่อาจพึ่งพิงร่มเงาความมั่นคงของสหรัฐฯ "แม้มีการยกระดับความพร้อมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในแง่ของความเข้มแข็งทางทหาร จำนวนของกำลังพลสู้รบ กองเรือ กองทัพอากาศและโดรน แต่ผมคิดโดยสัตย์จริงว่า ณ วันนี้ ยุโรปนั้นอ่อนแอ"
    .
    เซเลนสกี อ้างว่า ยูเครน มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และ "ปูตินไม่สามารถรุกรานยึดครองเรา ในหนทางที่เขาต้องการ" อย่างไรก็ตามเขาเตือนว่า "ยูเครนจะไม่อาจได้รับชัยชนะหากปราศจากแรงสนับสนุนจากอเมริกา"
    .
    ผู้นำยูเครนเผยด้วยว่าเขาและทรัมป์ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการประจำการทหารต่างชาติ เพื่อพิทักษ์ข้อตกลงหยุดยิงใดๆ ในอนาคต "ผมบอกกับเขาไปว่า อเมริกาควรเป็นส่วนหนึ่งในสิ่งนี้ เพราะไม่เช่นนั้น เราอาจสูญเสียความเป็นหนึ่งเดียวกัน"
    .
    ณ ที่ประชุมบรรดาผู้สนับสนุนเคียฟในบรัสเซลส์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฮกเซธ ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ใดๆ ที่สหรัฐฯ จะประจำการทหารในยูเครน
    .
    เมื่อถามว่าเขาจะยอมสละตำแหน่งประธานาธิบดีหรือไม่ ถ้ามันมีความจำเป็นเพื่อข้อตกลงหนึ่งๆ เซเลนสกี บอกว่า "เพื่อสันติภาพแล้ว ผมพร้อมทำในทุกอย่าง" เขากล่าว "ถ้าพรุ่งนี้ยูเครนได้รับการตอบรับเข้าร่วมอียูและนาโต ถ้าทหารรัสเซียถอนทหารและเราได้รับคำรับประกันความมั่นคง ผมคงไม่ต้องการอะไรที่มากไปกว่านี้อีกแล้ว"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015976
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์สหรัฐฯกำลังพยายาม "สร้างความพึงพอใจ" แก่รัสเซีย ในการเจรจาเกี่ยวกับยูเครน และเตือนถึงความอ่อนแอทางทหารของยุโรป . ในปฏิกิริยาที่มีต่อท่าทีของพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่แสดงความคิดเห็นต่างๆ ไปในทิศทางประนีประนอมกับรัสเซีย ทางเซเลนสกีกล่าวว่า "เวลานี้ สหรัฐฯ กำลังพูดในสิ่งต่างๆ ที่เป็นผลดีกับปูตินมากๆ เพราะพวกเขาอยากสร้างความพึงพอใจแก่เขา" ผู้นำยูเครนระบุ ระหว่างการให้สัมภาษณ์ที่บันทึกเทปเอาไว้ ในเมืองมิวนิกเมื่อวันเสาร์ (15 ก.พ.) . "พวกต้องการพบปะกันอย่างเร่งด่วนและมีชัยอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่พวกเขาอยากได้ก็แค่ข้อตกลงหยุดยิง ไม่ใช่ชัยชนะ" เซเลนสกีกล่าว . ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สร้างความตกตะลึงแก่บรรดาพันธมิตร ด้วยการเปิดเผยว่าเขาได้พูดคุยโดยตรงกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เกี่ยวกับกระบวนการเดินหน้ายุติสงครามในยูเครนอย่างรวดเร็ว . ขณะเดียวกัน พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ดูเหมือนจะตัดความเป็นไปได้ที่ยูเครนจะเข้าร่วมเป็นรัฐสมาชิกนาโต หรือทวงคืนดินแดนทั้งหมดที่สูญเสียไปตั้งแต่ปี 2014 . ในแนวโน้มของข้อตกลงใดๆ ในอนาคต เซเลนสกีบอกว่า "เราจะไม่ลงนามสิ่งใดเพียงเพื่อได้รับเสียงชื่นชม และขอเน้นย้ำว่าชะตากรรมของประเทศของเราสำหรับหลายชั่วอายุคนกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง" เขากล่าว พร้อมปฏิเสธความคิดยอมสละดินแดนของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดไป "เราจะทวงคืนมันทั้งหมด" . คำกล่าวนี้ของเซเลนสกี เป็นเทปบันทึกการสัมภาษณ์ซึ่งมีขึ้นระหว่างการประชุมความมั่นคงที่เมืองมิวนิก เป็นเวลา 3 วัน สิ้นสุดในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ก่อนหน้านี้พวกผู้ยุโรปจะจัดประชุมหารือฉุกเฉินในกรุงปารีส เพื่อระดมวิธีรับมืออเมริกา หลังจากตลอดสัปดาห์ที่แล้วคณะบริหารทรัมป์เดินเกมรุกทางการทูตที่ดูเหมือนอ้าแขนรับรัสเซียและเมินเฉยทอดทิ้งพันธมิตรเก่าแก่อย่างยุโรป และเวลานี้ยังอยู่ระหว่างการพูดคุย . ประธานาธิบดียูเครนเตือนว่ายุโรปจะอยู่ในสถานะอ่อนแอ หากไม่อาจพึ่งพิงร่มเงาความมั่นคงของสหรัฐฯ "แม้มีการยกระดับความพร้อมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในแง่ของความเข้มแข็งทางทหาร จำนวนของกำลังพลสู้รบ กองเรือ กองทัพอากาศและโดรน แต่ผมคิดโดยสัตย์จริงว่า ณ วันนี้ ยุโรปนั้นอ่อนแอ" . เซเลนสกี อ้างว่า ยูเครน มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และ "ปูตินไม่สามารถรุกรานยึดครองเรา ในหนทางที่เขาต้องการ" อย่างไรก็ตามเขาเตือนว่า "ยูเครนจะไม่อาจได้รับชัยชนะหากปราศจากแรงสนับสนุนจากอเมริกา" . ผู้นำยูเครนเผยด้วยว่าเขาและทรัมป์ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการประจำการทหารต่างชาติ เพื่อพิทักษ์ข้อตกลงหยุดยิงใดๆ ในอนาคต "ผมบอกกับเขาไปว่า อเมริกาควรเป็นส่วนหนึ่งในสิ่งนี้ เพราะไม่เช่นนั้น เราอาจสูญเสียความเป็นหนึ่งเดียวกัน" . ณ ที่ประชุมบรรดาผู้สนับสนุนเคียฟในบรัสเซลส์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฮกเซธ ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ใดๆ ที่สหรัฐฯ จะประจำการทหารในยูเครน . เมื่อถามว่าเขาจะยอมสละตำแหน่งประธานาธิบดีหรือไม่ ถ้ามันมีความจำเป็นเพื่อข้อตกลงหนึ่งๆ เซเลนสกี บอกว่า "เพื่อสันติภาพแล้ว ผมพร้อมทำในทุกอย่าง" เขากล่าว "ถ้าพรุ่งนี้ยูเครนได้รับการตอบรับเข้าร่วมอียูและนาโต ถ้าทหารรัสเซียถอนทหารและเราได้รับคำรับประกันความมั่นคง ผมคงไม่ต้องการอะไรที่มากไปกว่านี้อีกแล้ว" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015976 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1737 มุมมอง 1 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่าอิสราเอลจะสามารถ "จบงาน" กับอิหร่าน ภายใต้แรงสนับสนุนของสหรัฐฯ ระหว่างแถลงข่าวในเยรูซาเลม ร่วมกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาผู้มาเยือน
    .
    "ช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา อิสราเอลก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่อักษะก่อการร้ายของอิหร่าน ภายใต้ผู้นำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และภายใต้การสนับสนุนอย่างไม่ย่อท้อของคุณ ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะจบงานนี้" เนทันยาฮูระบุ
    .
    ตามหลังเหตุการณ์พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อิสราเอลสู้รบทำสงครามกับนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในกาซา และพวกฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน ในเลบานอน
    .
    นอกจากนี้ อิสราเอลยังเผชิญการโจมตีจากบรรดากลุ่มติดอาวุธทั้งหลายในเยเมนและอิรัก ที่อิหร่านสนับสนุน สำหรับแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ "อิสราเอลและอเมริกา ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กันในการตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุ
    .
    เนทันยาฮู แสดงความยินดีต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งหวนคืนสถานะนโยบาย "กดดันขั้นสูงสุด" กับอิหร่านทันทีทันใด แบบเดียวกับที่เคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก จากคำกล่าวหาประเทศแห่งนี้กำลังแสวงหาศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์
    .
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ว่าอิหร่านจะไม่มีวันได้กลายมาเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ และเรียกสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ว่าเป็นต้นตอสำคัญที่บั่นทอนเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
    .
    "จะไม่มีทางมีนิวเคลียร์อิหร่าน หากมีนิวเคลียร์อิหร่าน เมื่อนั้นพวกเขาจะได้รับภูมิคุ้มกันจากแรงกดดันและการกระทำต่างๆ ซึ่งไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นได้" รูบิโอแถลงกับผู้สื่อข่าวร่วมกับเนทันยาฮู "ไม่ว่าเราจะพูดถึงฮามาสหรือพูดถึงฮิซบอลเลาะห์ พูดถึงความรุนแรงในเวสต์แบงก์ พูดถึงภาวะไร้เสถียรภาพในซีเรีย หรือพูดเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ พวกติดอาวุธในอิรัก ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งมวลคือ อิหร่าน"
    .
    อิหร่านและอิสราเอลโจมตีกันโดยตรงกันไปมาเมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นการโจมตีกันโดยตรงเป็นครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค ที่โหมกระพือขึ้นจากสงครามกาซา
    .
    เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม อิสราเอลทิ้งบอมบ์ใส่ที่ตั้งทางทหารในอิหร่าน สังหารกำลังพลไป 4 ราย ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงห่าขีปนาวุธกว่า 200 ลูก เข้าใส่
    .
    ก่อนหน้านั้นในวันที่ 13 เมษายน อิหร่านปล่อยโดรนและยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศนองเลือดถล่มสถานทูตอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งทางเตหะรานกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015546
    ..............
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่าอิสราเอลจะสามารถ "จบงาน" กับอิหร่าน ภายใต้แรงสนับสนุนของสหรัฐฯ ระหว่างแถลงข่าวในเยรูซาเลม ร่วมกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาผู้มาเยือน . "ช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา อิสราเอลก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่อักษะก่อการร้ายของอิหร่าน ภายใต้ผู้นำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และภายใต้การสนับสนุนอย่างไม่ย่อท้อของคุณ ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะจบงานนี้" เนทันยาฮูระบุ . ตามหลังเหตุการณ์พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อิสราเอลสู้รบทำสงครามกับนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในกาซา และพวกฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน ในเลบานอน . นอกจากนี้ อิสราเอลยังเผชิญการโจมตีจากบรรดากลุ่มติดอาวุธทั้งหลายในเยเมนและอิรัก ที่อิหร่านสนับสนุน สำหรับแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ "อิสราเอลและอเมริกา ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กันในการตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุ . เนทันยาฮู แสดงความยินดีต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งหวนคืนสถานะนโยบาย "กดดันขั้นสูงสุด" กับอิหร่านทันทีทันใด แบบเดียวกับที่เคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก จากคำกล่าวหาประเทศแห่งนี้กำลังแสวงหาศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ . มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ว่าอิหร่านจะไม่มีวันได้กลายมาเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ และเรียกสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ว่าเป็นต้นตอสำคัญที่บั่นทอนเสถียรภาพในตะวันออกกลาง . "จะไม่มีทางมีนิวเคลียร์อิหร่าน หากมีนิวเคลียร์อิหร่าน เมื่อนั้นพวกเขาจะได้รับภูมิคุ้มกันจากแรงกดดันและการกระทำต่างๆ ซึ่งไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นได้" รูบิโอแถลงกับผู้สื่อข่าวร่วมกับเนทันยาฮู "ไม่ว่าเราจะพูดถึงฮามาสหรือพูดถึงฮิซบอลเลาะห์ พูดถึงความรุนแรงในเวสต์แบงก์ พูดถึงภาวะไร้เสถียรภาพในซีเรีย หรือพูดเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ พวกติดอาวุธในอิรัก ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งมวลคือ อิหร่าน" . อิหร่านและอิสราเอลโจมตีกันโดยตรงกันไปมาเมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นการโจมตีกันโดยตรงเป็นครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค ที่โหมกระพือขึ้นจากสงครามกาซา . เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม อิสราเอลทิ้งบอมบ์ใส่ที่ตั้งทางทหารในอิหร่าน สังหารกำลังพลไป 4 ราย ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงห่าขีปนาวุธกว่า 200 ลูก เข้าใส่ . ก่อนหน้านั้นในวันที่ 13 เมษายน อิหร่านปล่อยโดรนและยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศนองเลือดถล่มสถานทูตอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งทางเตหะรานกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015546 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1445 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6G ตัวเปลี่ยนเกมและวิถีสงครามโลกยุคใหม่
    .
    หัวเว่ยกำลังสร้างนวัตกรรม 6G และเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก หลังจากต้องเผชิญกับความมืดมน ความไม่แน่นอน และความพ่ายแพ้นับไม่ถ้วน แต่ก็ได้พบกับปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นไปได้ ตามคำกล่าวของเมิ่ง หว่านโจว ลูกสาวของ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง CEO ของหัวเว่ย ที่หลายปีก่อนเธอถูกจับเป็นตัวประกันที่แคนาดา ในสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับอเมริกา
    .
    หัวเว่ยจะเป็นบริษัทแรกในโลกนี้ที่นำ 6G มาใช้ในเชิงพาณิชย์ ผมเคยพูดไว้แล้วในรายการตอน213เมื่อ29ตุลาคม2566 เกือบสองปีแล้วที่ผมวิเคราะห์ว่าเรื่อง Super Network 6G อนาคตโลกในมือจีน วันนี้หัวเว่ยประกาศว่าระบบการสื่อสารแบบ 6G จะมีการเปิดใช้เชิงพาณิชย์ ภายในปี 2573 อีกห้าปีข้างหน้า เร็วมาก ชีวิตประจำวันของคนเราจะเปลี่ยนไปโดย 6G ของหัวเว่ย ซึ่งได้รวมการสื่อสารภาคพื้นดิน อวกาศ ดาวเทียม และทะเล เข้าด้วยกัน นำไปใช้ในอุปกรณ์อย่างเช่น IoT: Internet of Things ใช้ในอุตสาหกรรมการขับขี่ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โรงงานที่เป็น Smart Factory และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
    .
    ขณะนี้รัฐบาลจีนได้อนุมัติใช้คลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ เพื่อรองรับไว้แล้ว และจะปฏิวัติเทคโนโลยีการสื่อสารไปอีกขั้น เพราะ 6G มีความเร็วกว่า 5G ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ถึง 100 เท่า ปานสายฟ้าแลบและใช้พลังงานน้อยกว่าแบตเตอรีน้อยกว่า 5G ถึง 10 เท่า ทำให้หัวเว่ยเป็นผู้นำการพัฒนา 6G ทิ้งห่างประเทศตะวันตกอย่างยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น
    .
    หัวเว่ยมีสิทธิบัตรทาง 6G มากที่สุดในโลกถึง 12,700 ฉบับหรือประมาณ 35% ของทั่วโลก พิสูจน์ให้เห็นถึงความรุนแรงของสงคราม 6G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ความสำเร็จของหัวเว่ยคือชัยชนะของนวัตกรรม หรือเป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้กับมหาอำนาจอเมริกา และชาติตะวันตก ที่ตั้งใจจะบดขยี้หัวเว่ยให้จมดิน
    .
    ดังนั้น 6G กับแสนยานุภาพทางการทหารจีนที่จีนพุ่งเป้านำเทคโนโลยี 6G ไปใช้ในการทหารก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากสำหรับกองทัพแล้ว ประสิทธิภาพมีความสำคัญ และนี่คือสมรภูมิการแข่งขันที่มีความสำคัญ สมรภูมิการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอาวุธและสนามรบด้านแสนยานุภาพของการทหารอีกด้วย
    .
    รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวซินหัว เมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ระบุว่า จีนตอนนี้มีสถานีฐาน 5G 4.1 ล้านแห่งแล้ว สถานี 5G 4 ล้านกว่าแห่ง เป้าหมายต่อไปใน 2 ปีข้างหน้า 2570 ผู้ใช้เครือข่ายไร้สายในประเทศจีน ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมากกว่า 85% จะต้องเข้าถึงโครงข่าย 5G อีกสามปีข้างหน้านั่นเองและก็ถึงเวลาที่จะต้องเปิด 6G
    .
    จาก 5G ไปถึง 6G เทคโนโลยีที่เปรียบเทียบได้กับการแข่งขันทางอวกาศระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียต แต่เป้าหมายในการแข่งขันนั้นไม่ใช่เรื่องการลงจอดบนดวงจันทร์อีกต่อไป แต่มันเป็นเรื่องการสร้างรากฐานของการเชื่อมต่อสำหรับทศวรรษหน้าที่กำลังจะมาถึง
    .
    จะเห็นได้ว่าการแข่งขันเพื่อ 6G ของหัวเว่ยนั้น มีความหมายมากกว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ต แต่ยังเกี่ยวกับการที่ประเทศจีนกำลังจะเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และสารสนเทศในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่กำหนดนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูมิรัฐศาสตร์ด้วย ซึ่งจีน อเมริกา และยุโรป กำลังแข่งขันกันเพื่อครองความได้เปรียบบนพื้นที่โลกดิจิทัลในอนาคต เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ของเกมเทคโนโลยีอันเป็นกุญแจสำคัญที่สุดที่จะนำพาประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองระยะยาว
    6G ตัวเปลี่ยนเกมและวิถีสงครามโลกยุคใหม่ . หัวเว่ยกำลังสร้างนวัตกรรม 6G และเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก หลังจากต้องเผชิญกับความมืดมน ความไม่แน่นอน และความพ่ายแพ้นับไม่ถ้วน แต่ก็ได้พบกับปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นไปได้ ตามคำกล่าวของเมิ่ง หว่านโจว ลูกสาวของ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง CEO ของหัวเว่ย ที่หลายปีก่อนเธอถูกจับเป็นตัวประกันที่แคนาดา ในสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับอเมริกา . หัวเว่ยจะเป็นบริษัทแรกในโลกนี้ที่นำ 6G มาใช้ในเชิงพาณิชย์ ผมเคยพูดไว้แล้วในรายการตอน213เมื่อ29ตุลาคม2566 เกือบสองปีแล้วที่ผมวิเคราะห์ว่าเรื่อง Super Network 6G อนาคตโลกในมือจีน วันนี้หัวเว่ยประกาศว่าระบบการสื่อสารแบบ 6G จะมีการเปิดใช้เชิงพาณิชย์ ภายในปี 2573 อีกห้าปีข้างหน้า เร็วมาก ชีวิตประจำวันของคนเราจะเปลี่ยนไปโดย 6G ของหัวเว่ย ซึ่งได้รวมการสื่อสารภาคพื้นดิน อวกาศ ดาวเทียม และทะเล เข้าด้วยกัน นำไปใช้ในอุปกรณ์อย่างเช่น IoT: Internet of Things ใช้ในอุตสาหกรรมการขับขี่ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โรงงานที่เป็น Smart Factory และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง . ขณะนี้รัฐบาลจีนได้อนุมัติใช้คลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ เพื่อรองรับไว้แล้ว และจะปฏิวัติเทคโนโลยีการสื่อสารไปอีกขั้น เพราะ 6G มีความเร็วกว่า 5G ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ถึง 100 เท่า ปานสายฟ้าแลบและใช้พลังงานน้อยกว่าแบตเตอรีน้อยกว่า 5G ถึง 10 เท่า ทำให้หัวเว่ยเป็นผู้นำการพัฒนา 6G ทิ้งห่างประเทศตะวันตกอย่างยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น . หัวเว่ยมีสิทธิบัตรทาง 6G มากที่สุดในโลกถึง 12,700 ฉบับหรือประมาณ 35% ของทั่วโลก พิสูจน์ให้เห็นถึงความรุนแรงของสงคราม 6G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ความสำเร็จของหัวเว่ยคือชัยชนะของนวัตกรรม หรือเป็นจุดเปลี่ยนในการต่อสู้กับมหาอำนาจอเมริกา และชาติตะวันตก ที่ตั้งใจจะบดขยี้หัวเว่ยให้จมดิน . ดังนั้น 6G กับแสนยานุภาพทางการทหารจีนที่จีนพุ่งเป้านำเทคโนโลยี 6G ไปใช้ในการทหารก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากสำหรับกองทัพแล้ว ประสิทธิภาพมีความสำคัญ และนี่คือสมรภูมิการแข่งขันที่มีความสำคัญ สมรภูมิการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอาวุธและสนามรบด้านแสนยานุภาพของการทหารอีกด้วย . รายงานล่าสุดจากสำนักข่าวซินหัว เมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ระบุว่า จีนตอนนี้มีสถานีฐาน 5G 4.1 ล้านแห่งแล้ว สถานี 5G 4 ล้านกว่าแห่ง เป้าหมายต่อไปใน 2 ปีข้างหน้า 2570 ผู้ใช้เครือข่ายไร้สายในประเทศจีน ซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลมากกว่า 85% จะต้องเข้าถึงโครงข่าย 5G อีกสามปีข้างหน้านั่นเองและก็ถึงเวลาที่จะต้องเปิด 6G . จาก 5G ไปถึง 6G เทคโนโลยีที่เปรียบเทียบได้กับการแข่งขันทางอวกาศระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพโซเวียต แต่เป้าหมายในการแข่งขันนั้นไม่ใช่เรื่องการลงจอดบนดวงจันทร์อีกต่อไป แต่มันเป็นเรื่องการสร้างรากฐานของการเชื่อมต่อสำหรับทศวรรษหน้าที่กำลังจะมาถึง . จะเห็นได้ว่าการแข่งขันเพื่อ 6G ของหัวเว่ยนั้น มีความหมายมากกว่าความเร็วของอินเทอร์เน็ต แต่ยังเกี่ยวกับการที่ประเทศจีนกำลังจะเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และสารสนเทศในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่กำหนดนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภูมิรัฐศาสตร์ด้วย ซึ่งจีน อเมริกา และยุโรป กำลังแข่งขันกันเพื่อครองความได้เปรียบบนพื้นที่โลกดิจิทัลในอนาคต เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ของเกมเทคโนโลยีอันเป็นกุญแจสำคัญที่สุดที่จะนำพาประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองระยะยาว
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ให้จัดตั้งกองทัพยุโรป ระบุทวีปแห่งนี้ไม่อาจแน่ใจได้อีกต่อไปว่าจะได้รับการปกป้องจากสหรัฐฯ และจะได้รับความเคารพจากวอชิงตันก็ต่อเมื่อมีกองกำลังที่เข้มแข็งเท่านั้น
    .
    เขาประกาศกร้าวด้วยว่าเคียฟจะไม่มีวันยอมรับข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงครามรัสเซียและยูเครน ที่จัดทำลับหลังพวกเขา และคาดเดาว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะพยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินทางไปยังกรุงมอสโก ร่วมพิธีสวนสนามวาระครบรอบชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 พฤษภาคม "ไม่ใช่ในฐานะผู้นำที่ให้ความเคารพ แต่เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเขาเอง"
    .
    ในถ้อยแถลงที่มีต่อที่ประชุมด้านความมั่นคงประจำปีในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ทางเซเลนสกี บอกว่าคำกล่าวของรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ แห่งสหรัฐฯ หนึ่งวันก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนไป
    .
    "ขอพูดด้วยความสัตย์จริง ตอนนี้เราไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่อเมริกาอาจบอกปัดยุโรปในประเด็นต่างๆ ที่คุกคามพวกเขา" เซเลนสกีกล่าว ในขณะที่สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งจุดชนวนหนึ่งจากการรุกรานของมอสโก ใกล้ล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว "พวกผู้นำหลายคน พูดกันว่ายุโรปจำเป็นต้องมีกองทัพและทหารของตนเอง กองทัพแห่งยุโรป และผมเชื่ออย่างจริงจังว่ามันถึงเวลาแล้ว จำเป็นต้องจัดตั้งกองทัพแห่งยุโรป"
    .
    เซเลนสกี บอกว่ากองทัพยุโรป ซึ่งจะรวมถึงยูเครน มีความจำเป็นเพื่อที่อนาคตของทวีปแห่งนี้จะพึ่งพิงเฉพาะแค่ยุโรป และการตัดสินใจต่างๆ เกี่ยวกับยุโรปจะดำเนินการในยุโรป" เขากล่าว พร้อมระบุ "อเมริกาต้องการยุโรปในฐานะตลาดหนึ่งๆ หรือไม่? ใช่ แต่ในฐานะพันธมิตรละ? ผมไม่รู้ ถ้าต้องการให้คำตอบออกมาเป็นใช่ ยุโรปจำเป็นต้องส่งเสียงเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่เสียงที่แตกต่างกันนับสิบ"
    .
    เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าพวกเขาคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรยุโรปในนาโต ต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลักสำหรับความมั่นคงของตนเอง เนื่องจากเวลานี้อเมริกาให้ลำดับความสำคัญไปที่เรื่องอื่นๆ เช่น ความมั่นคงตามชายแดนและการตอบโต้จีน
    .
    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ บอกว่าพวกเขายังคงมุ่งมั่นในพันธมิตรทหารข้ามแอตแลนติกหรือนาโต "อเมริกาจำเป็นต้องได้เห็นว่ายุโรปกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน" เซเลนสกี "ทิศทางนโยบายยุโรปไม่ควรเป็นแค่คำสัญญา แต่มันควรเป็นว่าอเมริกาต้องการยืนหยัดเคียงข้างยุโรปอย่างแข็งขัน"
    .
    ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่พันธมิตรยุโรป โดยการต่อสายพูดคุยกับปูตินเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับพวกเขาล่วงหน้า พร้อมทั้งยังประกาศเริ่มเจรจาสันติภาพยูเครนในทันที ทั้งนี้ เซเลนสกี บอกกับที่ประชุม เชื่อว่ามันจะ "อันตราย" หากว่า ทรัมป์ พบปะกับ ปูติน ก่อนเขา
    .
    จนถึงตอนนี้รัฐบาลของทรัมป์กำลังสร้างความคลางแคลงใจกับบรรดาพันธมิตรยุโรปบางส่วน ว่าพวกเขากำลังยอมอ่อนข้อแก่ปูติน โดยที่ยูเครนต้องเป็นผู้ชดใช้ ก่อนการเจรจาใดๆ เริ่มต้นขึ้น ในขณะที่ความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางส่วนของสหรัฐฯ ก็ยิ่งเพิ่มความสับสน
    .
    ด้วยเหตุนี้ เซเลนสกี จึงเตือนพวกผู้นำยุโรปอีกรอบว่า ประเทศของพวกเขาอาจเป็นรายต่อไปที่ต้องเจอการโจมตีของรัสเซีย "ถ้าสงครามนี้ (ยูเครน-รัสเซีย) จบลงในหนทางผิดๆ ปูตินจะมีทหารที่ผ่านการสู้รบมากมาย ซึ่งไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย นอกเหนือจากการฆ่าและปล้นสะดม" เขากล่าว อ้างถึงรายงานข่าวกรองที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะส่งทหารเข้าไปยังเบลารุส พันธมิตรใกล้ชิดและอีกหนึ่งเพื่อนบ้านของยูเครนในฤดูร้อนนี้
    .
    ความร่วมมือทางทหารในบรรดาชาติยุโรปเป็นเป้าหมายหลักภายในนาโต แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลชาติต่างๆ ยังคงปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้จัดตั้งกองทัพเดี่ยวของยุโรปขึ้นมา อ้างว่าการป้องกันตนเองเป็นเรื่องของอธิปไตยแห่งชาติ
    .
    เซเลนสกี โต้แย้งว่าการที่ยุโรปเสริมความเข้มแข็งด้านการทหาร ไม่ใช่จะเป็นผลดีเฉพาะกับความมั่นคง แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจของทวีปด้วย "มันไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับสต๊อกอาวุธ แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ้างงาน ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับยุโรป"
    .
    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากชาติยุโรปตะวันตกแห่งหนึ่ง ที่เป็นสมาชิกของอียู แสดงความเคลือบแคลงต่อข้อเสนอของเซเลนสกี ในการจัดตั้งกองทัพยุโรป โดยบอกว่า "มีกองทหารยุโรปอยู่แล้ว ที่เรียกกันว่านาโต"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015321
    ..................
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ให้จัดตั้งกองทัพยุโรป ระบุทวีปแห่งนี้ไม่อาจแน่ใจได้อีกต่อไปว่าจะได้รับการปกป้องจากสหรัฐฯ และจะได้รับความเคารพจากวอชิงตันก็ต่อเมื่อมีกองกำลังที่เข้มแข็งเท่านั้น . เขาประกาศกร้าวด้วยว่าเคียฟจะไม่มีวันยอมรับข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงครามรัสเซียและยูเครน ที่จัดทำลับหลังพวกเขา และคาดเดาว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะพยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินทางไปยังกรุงมอสโก ร่วมพิธีสวนสนามวาระครบรอบชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 พฤษภาคม "ไม่ใช่ในฐานะผู้นำที่ให้ความเคารพ แต่เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเขาเอง" . ในถ้อยแถลงที่มีต่อที่ประชุมด้านความมั่นคงประจำปีในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ทางเซเลนสกี บอกว่าคำกล่าวของรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ แห่งสหรัฐฯ หนึ่งวันก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนไป . "ขอพูดด้วยความสัตย์จริง ตอนนี้เราไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่อเมริกาอาจบอกปัดยุโรปในประเด็นต่างๆ ที่คุกคามพวกเขา" เซเลนสกีกล่าว ในขณะที่สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งจุดชนวนหนึ่งจากการรุกรานของมอสโก ใกล้ล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว "พวกผู้นำหลายคน พูดกันว่ายุโรปจำเป็นต้องมีกองทัพและทหารของตนเอง กองทัพแห่งยุโรป และผมเชื่ออย่างจริงจังว่ามันถึงเวลาแล้ว จำเป็นต้องจัดตั้งกองทัพแห่งยุโรป" . เซเลนสกี บอกว่ากองทัพยุโรป ซึ่งจะรวมถึงยูเครน มีความจำเป็นเพื่อที่อนาคตของทวีปแห่งนี้จะพึ่งพิงเฉพาะแค่ยุโรป และการตัดสินใจต่างๆ เกี่ยวกับยุโรปจะดำเนินการในยุโรป" เขากล่าว พร้อมระบุ "อเมริกาต้องการยุโรปในฐานะตลาดหนึ่งๆ หรือไม่? ใช่ แต่ในฐานะพันธมิตรละ? ผมไม่รู้ ถ้าต้องการให้คำตอบออกมาเป็นใช่ ยุโรปจำเป็นต้องส่งเสียงเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่เสียงที่แตกต่างกันนับสิบ" . เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าพวกเขาคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรยุโรปในนาโต ต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลักสำหรับความมั่นคงของตนเอง เนื่องจากเวลานี้อเมริกาให้ลำดับความสำคัญไปที่เรื่องอื่นๆ เช่น ความมั่นคงตามชายแดนและการตอบโต้จีน . อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ บอกว่าพวกเขายังคงมุ่งมั่นในพันธมิตรทหารข้ามแอตแลนติกหรือนาโต "อเมริกาจำเป็นต้องได้เห็นว่ายุโรปกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน" เซเลนสกี "ทิศทางนโยบายยุโรปไม่ควรเป็นแค่คำสัญญา แต่มันควรเป็นว่าอเมริกาต้องการยืนหยัดเคียงข้างยุโรปอย่างแข็งขัน" . ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่พันธมิตรยุโรป โดยการต่อสายพูดคุยกับปูตินเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับพวกเขาล่วงหน้า พร้อมทั้งยังประกาศเริ่มเจรจาสันติภาพยูเครนในทันที ทั้งนี้ เซเลนสกี บอกกับที่ประชุม เชื่อว่ามันจะ "อันตราย" หากว่า ทรัมป์ พบปะกับ ปูติน ก่อนเขา . จนถึงตอนนี้รัฐบาลของทรัมป์กำลังสร้างความคลางแคลงใจกับบรรดาพันธมิตรยุโรปบางส่วน ว่าพวกเขากำลังยอมอ่อนข้อแก่ปูติน โดยที่ยูเครนต้องเป็นผู้ชดใช้ ก่อนการเจรจาใดๆ เริ่มต้นขึ้น ในขณะที่ความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางส่วนของสหรัฐฯ ก็ยิ่งเพิ่มความสับสน . ด้วยเหตุนี้ เซเลนสกี จึงเตือนพวกผู้นำยุโรปอีกรอบว่า ประเทศของพวกเขาอาจเป็นรายต่อไปที่ต้องเจอการโจมตีของรัสเซีย "ถ้าสงครามนี้ (ยูเครน-รัสเซีย) จบลงในหนทางผิดๆ ปูตินจะมีทหารที่ผ่านการสู้รบมากมาย ซึ่งไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย นอกเหนือจากการฆ่าและปล้นสะดม" เขากล่าว อ้างถึงรายงานข่าวกรองที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะส่งทหารเข้าไปยังเบลารุส พันธมิตรใกล้ชิดและอีกหนึ่งเพื่อนบ้านของยูเครนในฤดูร้อนนี้ . ความร่วมมือทางทหารในบรรดาชาติยุโรปเป็นเป้าหมายหลักภายในนาโต แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลชาติต่างๆ ยังคงปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้จัดตั้งกองทัพเดี่ยวของยุโรปขึ้นมา อ้างว่าการป้องกันตนเองเป็นเรื่องของอธิปไตยแห่งชาติ . เซเลนสกี โต้แย้งว่าการที่ยุโรปเสริมความเข้มแข็งด้านการทหาร ไม่ใช่จะเป็นผลดีเฉพาะกับความมั่นคง แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจของทวีปด้วย "มันไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับสต๊อกอาวุธ แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ้างงาน ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับยุโรป" . อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากชาติยุโรปตะวันตกแห่งหนึ่ง ที่เป็นสมาชิกของอียู แสดงความเคลือบแคลงต่อข้อเสนอของเซเลนสกี ในการจัดตั้งกองทัพยุโรป โดยบอกว่า "มีกองทหารยุโรปอยู่แล้ว ที่เรียกกันว่านาโต" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015321 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    Sad
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1735 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้พูดถึงการพัฒนาล่าสุดของ Cerebras Systems โดยเฉพาะการเปิดตัว DeepSeek R1 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาใหญ่ที่ลดต้นทุนการฝึกโมเดลถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับโมเดลที่มีอยู่ในตลาดเช่น OpenAI's GPTo1 ทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและแพร่หลายมากขึ้น

    Andrew Feldman CEO ของ Cerebras อธิบายว่า ความเร็วของระบบ CS-3 ของบริษัทสามารถรัน DeepSeek ได้เร็วกว่าบริษัทอื่น ๆ ถึง 57 เท่า โดยที่ AI โมเดลอื่นอย่าง OpenAI GPTo1 ใช้เวลานานกว่า 22 วินาทีในการทำงานเดียวกันในขณะที่ DeepSeek ที่รันบน Cerebras ใช้เวลาเพียง 1.5 วินาทีเท่านั้น ความเร็วนี้เป็นผลมาจากการใช้เซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก WSE-3 ของบริษัท

    นอกจากนี้ Cerebras ยังเน้นย้ำว่าความสำเร็จของ DeepSeek เป็นชัยชนะใหญ่สำหรับ AI ที่โอเพนซอร์ส เนื่องจากทำให้การพัฒนาโมเดลที่ก้าวหน้าโดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่เป็นไปได้ง่ายขึ้น

    นอกเหนือจากประเด็นเทคโนโลยีแล้ว Feldman ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของการลดต้นทุนการคำนวณ ซึ่งทำให้ตลาดของ AI ขยายตัวอย่างมาก ทุกครั้งที่ต้นทุนลดลง ตลาดจะใหญ่ขึ้น อย่างเช่นการลดราคาของคอมพิวเตอร์ x86 ที่ทำให้ขายได้มากขึ้นและถูกใช้งานมากขึ้น

    สำหรับอนาคต Feldman คาดการณ์ว่าจะมีการสร้างระบบ AI ที่ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก

    เปรียบเทียบเหมือนกับที่คุณมีคอมพิวเตอร์หลายเครื่องในบ้าน เช่น โทรศัพท์มือถือ ทีวี เครื่องซักผ้า ฯลฯ การลดต้นทุนการคำนวณจะทำให้ AI แพร่หลายยิ่งขึ้นและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานที่ไม่สามารถทำได้มาก่อน

    https://www.zdnet.com/article/cerebras-ceo-on-deepseek-every-time-computing-gets-cheaper-the-market-gets-bigger/
    บทความนี้พูดถึงการพัฒนาล่าสุดของ Cerebras Systems โดยเฉพาะการเปิดตัว DeepSeek R1 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาใหญ่ที่ลดต้นทุนการฝึกโมเดลถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับโมเดลที่มีอยู่ในตลาดเช่น OpenAI's GPTo1 ทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและแพร่หลายมากขึ้น Andrew Feldman CEO ของ Cerebras อธิบายว่า ความเร็วของระบบ CS-3 ของบริษัทสามารถรัน DeepSeek ได้เร็วกว่าบริษัทอื่น ๆ ถึง 57 เท่า โดยที่ AI โมเดลอื่นอย่าง OpenAI GPTo1 ใช้เวลานานกว่า 22 วินาทีในการทำงานเดียวกันในขณะที่ DeepSeek ที่รันบน Cerebras ใช้เวลาเพียง 1.5 วินาทีเท่านั้น ความเร็วนี้เป็นผลมาจากการใช้เซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก WSE-3 ของบริษัท นอกจากนี้ Cerebras ยังเน้นย้ำว่าความสำเร็จของ DeepSeek เป็นชัยชนะใหญ่สำหรับ AI ที่โอเพนซอร์ส เนื่องจากทำให้การพัฒนาโมเดลที่ก้าวหน้าโดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่เป็นไปได้ง่ายขึ้น นอกเหนือจากประเด็นเทคโนโลยีแล้ว Feldman ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของการลดต้นทุนการคำนวณ ซึ่งทำให้ตลาดของ AI ขยายตัวอย่างมาก ทุกครั้งที่ต้นทุนลดลง ตลาดจะใหญ่ขึ้น อย่างเช่นการลดราคาของคอมพิวเตอร์ x86 ที่ทำให้ขายได้มากขึ้นและถูกใช้งานมากขึ้น สำหรับอนาคต Feldman คาดการณ์ว่าจะมีการสร้างระบบ AI ที่ใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก เปรียบเทียบเหมือนกับที่คุณมีคอมพิวเตอร์หลายเครื่องในบ้าน เช่น โทรศัพท์มือถือ ทีวี เครื่องซักผ้า ฯลฯ การลดต้นทุนการคำนวณจะทำให้ AI แพร่หลายยิ่งขึ้นและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานที่ไม่สามารถทำได้มาก่อน https://www.zdnet.com/article/cerebras-ceo-on-deepseek-every-time-computing-gets-cheaper-the-market-gets-bigger/
    WWW.ZDNET.COM
    Cerebras CEO on DeepSeek: Every time computing gets cheaper, the market gets bigger
    The economic breakthrough of DeepSeek's techniques will lead not only to an expansion of AI use but a continued arms race to achieve breakthroughs, says CEO Andrew Feldman.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระสยามเทวาธิราช วัดเทพศิรินทร์ กทม. ปี2515
    เหรียญพระสยามเทวาธิราช หลัง นวม. (ผิวปีกแมลงทับ เหรียญสวยมาก) วัดเทพศิรินทร์ กทม. ปี2515 //พระดีพิธีใหญ๋ พิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ที่วัดบวรนิเวศฯ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปลุกเสก ยังได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเพิ่มเติมอีก 9 พิธี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พระเลื่ยมกรอบเก่า เลื่ยมโบราณแบบคลาสสิค สวยพร้อมใช้ >>

    ** พุทธคุณขจัดทุกข์ โรคภัยความโศก ศัตรู อุปัทวะ และอันตรายมิใช่น้อยให้พินาศไปโดยไม่เหลือ ขอชัยชนะความสำเร็จแห่งกิจการทรัพย์ ลาภ ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง ศรี อายุ วรรณะ โภคสมบัติ ความ เจริญและยศ มีอายุยืน >>

    ** เหรียญพระสยามเทวาธิราช นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ที่วัดบวรนิเวศฯ โดยมีสมเด็จพระวันรัต(ปุ่น ปุณณสิริ)
    เป็นประธานสงฆ์ พระเถราจารย์เข้าร่วมพิธีดังนี้ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต สมเด็จพระสังฆราช(วาส)ในขณะที่ยังทรงดำรงสมณศักดิ์ที่พระพุทธโฆษาจารย์ หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ พระธรรมไตรโลกาจารย์ รองเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2515

    ** นอกจากนั้นยังได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเพิ่มเติมอีก 9 พิธีดังนี้ >>

    1. เสาร์ที่ 16 ก.พ. 2516 โดยท่านพระศีลขันธโสภณ เป็นผู้นำเข้าพิธี ที่วัดเทพศิรินทร์
    2. เสาร์ที่ 7 เม.ษ. 2516 เข้าพิธีเสาร์ห้า ที่ วัดศีลขันธ์ อ่างทอง พร้อมกับสมเด็จสายรุ้ง
    3. พุธที่ 11 เม.ษ. 2516 พิธีพุทธาภิเษกที่วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ มีพระเถราจารย์เข้าร่วมดังนี้ หลวงปู่สิม หลวงปู่คำแสน หลวงปู่คำมี หลวงปู่ตื้อ
    4. พุธที่ 23 และพฤหัส ที่ 24 ต.ค. 2517 หลวงปู่สิมปลุกเสกเดี่ยว
    5. เสาร์ที่ 30 พ.ย. 2517 ร่วมพิธีพร้อมพระปิดตาอุตตมะและเหรียญของคุณถนอมศักดิ์ อนุกูล โดย หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน ลำปาง
    6. พุธที่ 25 ถึงศุกร์ที่ 27 ธ.ค. 2517 หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต ปลุกเสกเดี่ยว
    7. ศุกร์ที่ 14 ก.พ. 2518 หลวงพ่อสาลี่ เจ้าอาวาสวัดห้วยยาง ชลบุรี ปลุกเสกเดี่ยวด้วยคาถาชินบัญชร
    8. เสาร์ที่ 15 ก.พ. 2518 หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปลุกเสกเดี่ยว
    9. อาทตย์ที่ 16 ก.พ. 2518 หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ปลุกเสกเดี่ยว... >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131

    เหรียญพระสยามเทวาธิราช วัดเทพศิรินทร์ กทม. ปี2515 เหรียญพระสยามเทวาธิราช หลัง นวม. (ผิวปีกแมลงทับ เหรียญสวยมาก) วัดเทพศิรินทร์ กทม. ปี2515 //พระดีพิธีใหญ๋ พิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ที่วัดบวรนิเวศฯ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปลุกเสก ยังได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเพิ่มเติมอีก 9 พิธี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พระเลื่ยมกรอบเก่า เลื่ยมโบราณแบบคลาสสิค สวยพร้อมใช้ >> ** พุทธคุณขจัดทุกข์ โรคภัยความโศก ศัตรู อุปัทวะ และอันตรายมิใช่น้อยให้พินาศไปโดยไม่เหลือ ขอชัยชนะความสำเร็จแห่งกิจการทรัพย์ ลาภ ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง ศรี อายุ วรรณะ โภคสมบัติ ความ เจริญและยศ มีอายุยืน >> ** เหรียญพระสยามเทวาธิราช นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ที่วัดบวรนิเวศฯ โดยมีสมเด็จพระวันรัต(ปุ่น ปุณณสิริ) เป็นประธานสงฆ์ พระเถราจารย์เข้าร่วมพิธีดังนี้ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต สมเด็จพระสังฆราช(วาส)ในขณะที่ยังทรงดำรงสมณศักดิ์ที่พระพุทธโฆษาจารย์ หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ พระธรรมไตรโลกาจารย์ รองเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2515 ** นอกจากนั้นยังได้นำเข้าพิธีปลุกเสกเพิ่มเติมอีก 9 พิธีดังนี้ >> 1. เสาร์ที่ 16 ก.พ. 2516 โดยท่านพระศีลขันธโสภณ เป็นผู้นำเข้าพิธี ที่วัดเทพศิรินทร์ 2. เสาร์ที่ 7 เม.ษ. 2516 เข้าพิธีเสาร์ห้า ที่ วัดศีลขันธ์ อ่างทอง พร้อมกับสมเด็จสายรุ้ง 3. พุธที่ 11 เม.ษ. 2516 พิธีพุทธาภิเษกที่วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ มีพระเถราจารย์เข้าร่วมดังนี้ หลวงปู่สิม หลวงปู่คำแสน หลวงปู่คำมี หลวงปู่ตื้อ 4. พุธที่ 23 และพฤหัส ที่ 24 ต.ค. 2517 หลวงปู่สิมปลุกเสกเดี่ยว 5. เสาร์ที่ 30 พ.ย. 2517 ร่วมพิธีพร้อมพระปิดตาอุตตมะและเหรียญของคุณถนอมศักดิ์ อนุกูล โดย หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน ลำปาง 6. พุธที่ 25 ถึงศุกร์ที่ 27 ธ.ค. 2517 หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต ปลุกเสกเดี่ยว 7. ศุกร์ที่ 14 ก.พ. 2518 หลวงพ่อสาลี่ เจ้าอาวาสวัดห้วยยาง ชลบุรี ปลุกเสกเดี่ยวด้วยคาถาชินบัญชร 8. เสาร์ที่ 15 ก.พ. 2518 หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปลุกเสกเดี่ยว 9. อาทตย์ที่ 16 ก.พ. 2518 หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ปลุกเสกเดี่ยว... >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสีวลี กรุวัดอุโมงค์ จ.ลำพูน

    พระสีวลี (ขนาดใหญ๋ สูง 4 นิ้ว) กรุวัดอุโมงค์ จ.ลำพูน อายุ ราว700ปี กรุเก่าเดิมไม่ล้าง เนื้อดินแกร่ง // เนื้อดินผสมแร่เหล็ก แร่วิเศษต่างๆมากมาย เก่าแกร่ง //สวย คม ชัด ลึก คราบกรุเก่า //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณแคล้วคลาด ปราศจากภัยอันตราย และความวิบัติต่างๆ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม ได้ลาภผล และคงกระพันชาตรี มหาอำนาจ เมตตามหานิยม และโชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ ทำมาค้าขาย เงินทองไหลมา เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และแคล้วคลาดเป็นเลิศ ติดต่อหน้าที่การงานเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ จะได้มีชัยชนะ >>

    ** พระกรุวัดอุโมงค์ ต.อุโมงค์ จ.ลำพูน เนื้อดิน เก่าแกร่ง มีคราบกรุเก่าเดิม อายุ ราว700ปี ถูกค้นพบที่วัดอุโมงค์ ปีพ.ศ. 2529 เป็นพระเนื้อดินผสมแร่วิเศษต่างๆมากมาย เมื่อเผาและฝังไว้ในดินนับพันปี เนื้อแกร่งจนเป็นหินหรือเกือบเป็นหิน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระสีวลี กรุวัดอุโมงค์ จ.ลำพูน พระสีวลี (ขนาดใหญ๋ สูง 4 นิ้ว) กรุวัดอุโมงค์ จ.ลำพูน อายุ ราว700ปี กรุเก่าเดิมไม่ล้าง เนื้อดินแกร่ง // เนื้อดินผสมแร่เหล็ก แร่วิเศษต่างๆมากมาย เก่าแกร่ง //สวย คม ชัด ลึก คราบกรุเก่า //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณแคล้วคลาด ปราศจากภัยอันตราย และความวิบัติต่างๆ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม ได้ลาภผล และคงกระพันชาตรี มหาอำนาจ เมตตามหานิยม และโชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ ทำมาค้าขาย เงินทองไหลมา เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และแคล้วคลาดเป็นเลิศ ติดต่อหน้าที่การงานเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ จะได้มีชัยชนะ >> ** พระกรุวัดอุโมงค์ ต.อุโมงค์ จ.ลำพูน เนื้อดิน เก่าแกร่ง มีคราบกรุเก่าเดิม อายุ ราว700ปี ถูกค้นพบที่วัดอุโมงค์ ปีพ.ศ. 2529 เป็นพระเนื้อดินผสมแร่วิเศษต่างๆมากมาย เมื่อเผาและฝังไว้ในดินนับพันปี เนื้อแกร่งจนเป็นหินหรือเกือบเป็นหิน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญในหลวง ร.9 นั่งบัลลังก์ ปี2539
    เหรียญในหลวง ร.9 นั่งบัลลังก์ ปี2539 เนื้ออัลปาก้า บล็อกนิยม มีเม็ดตา กระบี่ยาวมีปลอก // พระดีพิธีใหญ๋ ชนวนมวลสารโลหะจากแผ่นจารอาคมจากพระเกจิอาจารย์ทุกภาคทั่วประเทศ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ชัยชนะ ความสำเร็จแห่งกิจการทรัพย์ ลาภ ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง ศรี อายุ วรรณะ โภคสมบัติ ความ เจริญและยศ มีอายุยืน >>

    ** จัดสร้างโดยกระทรวงมหาดไทยในวาระเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อ พ.ศ.2539 ผู้จัดสร้างได้นำเนื้อโลหะชนวนมวลสารโลหะจากพิธีสำคัญๆ เช่น ชนวนโลหะพระกริ่งดำรงราชานุภาพในงาน 100 ปี กระทรวงมหาดไทยจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2533 และชนวนโลหะพระนิโรคันตรายที่กระทรวงมหาดไทยและประชาชนทั่วประเทศจัดสร้างเพื่อน้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2538 และแผ่นจารอาคมจากพระเกจิอาจารย์ทุกภาคทั่วประเทศ

    ** พระที่มาทำพิธีมังคลาภิเษกคร่าวๆมีดังนี้

    สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธาน
    1. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
    2. หลวงพ่อลำใย วัดลาดหญ้า
    3. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    4. หลวงปู่ดี วัดพระรูป
    5. หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี
    6. หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง
    7. หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ ฯลฯ

    เหรียญแท้มีผู้นำไปบูชาแล้วต่างมีประสบการณ์มากมาย เรียกได้ว่าห้อยเหรียญเดียวไปเหนือจรดใต้ได้อย่างสนิทใจ


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญในหลวง ร.9 นั่งบัลลังก์ ปี2539 เหรียญในหลวง ร.9 นั่งบัลลังก์ ปี2539 เนื้ออัลปาก้า บล็อกนิยม มีเม็ดตา กระบี่ยาวมีปลอก // พระดีพิธีใหญ๋ ชนวนมวลสารโลหะจากแผ่นจารอาคมจากพระเกจิอาจารย์ทุกภาคทั่วประเทศ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ชัยชนะ ความสำเร็จแห่งกิจการทรัพย์ ลาภ ความสวัสดี ความมีโชค ความสุข กำลัง ศรี อายุ วรรณะ โภคสมบัติ ความ เจริญและยศ มีอายุยืน >> ** จัดสร้างโดยกระทรวงมหาดไทยในวาระเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เมื่อ พ.ศ.2539 ผู้จัดสร้างได้นำเนื้อโลหะชนวนมวลสารโลหะจากพิธีสำคัญๆ เช่น ชนวนโลหะพระกริ่งดำรงราชานุภาพในงาน 100 ปี กระทรวงมหาดไทยจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2533 และชนวนโลหะพระนิโรคันตรายที่กระทรวงมหาดไทยและประชาชนทั่วประเทศจัดสร้างเพื่อน้อมเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2538 และแผ่นจารอาคมจากพระเกจิอาจารย์ทุกภาคทั่วประเทศ ** พระที่มาทำพิธีมังคลาภิเษกคร่าวๆมีดังนี้ สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธาน 1. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม 2. หลวงพ่อลำใย วัดลาดหญ้า 3. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ 4. หลวงปู่ดี วัดพระรูป 5. หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี 6. หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง 7. หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ ฯลฯ เหรียญแท้มีผู้นำไปบูชาแล้วต่างมีประสบการณ์มากมาย เรียกได้ว่าห้อยเหรียญเดียวไปเหนือจรดใต้ได้อย่างสนิทใจ ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts