• พันตำรวจโท "หัวโจก!" จัดฉากอุบัติเหตุ ฆาตกรรมอำพราง ชนซ้ำ 3 คัน 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้าน 💰🚗

    เจาะลึกคดีสะเทือนขวัญ! พันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ จัดฉากอุบัติเหตุชนซ้ำ 3 คัน สะสม 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้านบาท เรื่องจริงที่ซับซ้อนกว่าที่คิด!

    🔥 เปิดโปงแผนฆาตกรรมอำพราง! พันตำรวจโท หัวโจก จัดฉากอุบัติเหตุหวังเงินประกัน 14 ล้าน 🚨

    🚓 คดีสะเทือนวงการ! วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 วงการประกันภัยต้องสะเทือน เมื่อบริษัทประกันภัยหลากหลายแห่ง รวมตัวกันเดินทางไปยัง ภ.จว.สกลนคร เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบอุบัติเหตุรถชนซ้ำถึง 3 คัน เมื่อกลางดึกวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งทำให้นายวิเชียร จิตเย็น อายุ 32 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ความผิดปกติที่ปรากฏ ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็น "ฆาตกรรมอำพราง" ที่มีการวางแผนอย่างแยบยล!

    ประเด็นร้อน คือมีการทำประกันภัยรถยนต์ถึง 22 กรมธรรม์ คาดว่าจะได้รับเงินประกันรวมสูงถึง 14 ล้านบาท! แต่ที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าคือ การพบว่าเบื้องหลังขบวนการนี้ มีชื่อของ "พันตำรวจโท" เข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะหัวหน้าแก๊ง! 😱

    🤔 คดีฆาตกรรมอำพราง หรือ อุบัติเหตุธรรมดา? เหตุการณ์ในคืนสยองขวัญ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 21.10 น. ตำรวจโรงพักวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ได้รับแจ้งเหตุรถชน บริเวณถนนระหว่างบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กม.ที่ 15 ตำบลธาตุ พบผู้เสียชีวิตคาที่คือนายวิเชียร จิตเย็น จากข้อมูลเบื้องต้น เหมือนจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ความจริง กลับซับซ้อนเกินกว่าจะจินตนาการ! 😨

    3 คัน 22 กรมธรรม์... แค่บังเอิญจริงหรือ?
    - รถคันแรก ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 12 กรมธรรม์
    - รถคันที่สอง ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์
    - รถคันที่สาม ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์

    รวมทั้งสิ้น 22 กรมธรรม์!!! คิดเป็นวงเงินประกันกว่า 14 ล้านบาท 💸

    การทำประกันหลายฉบับในเวลาสั้น ๆ ทำให้บริษัทประกันภัยต่างสงสัยว่า คดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นแผนฆาตกรรมอำพราง ที่ถูกจัดฉากขึ้นอย่างแนบเนียน

    🕵️‍♀️ ปมเบื้องหลัง และพี่สาวผู้ตายกับเบาะแสชิ้นสำคัญ คำพูดที่กลายเป็นชนวนโศกนาฏกรรม นางสาวบัวเรียน อายุ 33 ปี พี่สาวของผู้ตายเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยระบายความในใจว่า อยากให้นายวิเชียร “ไปตายเสียที่ไหนก็ได้” เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว แต่คำพูดนั้นกลับถูกนายสกล ญาติคนสนิท นำไปตีความและจัดการ “สั่งสอน” ในแบบของตัวเอง...

    นายสกล... คนใกล้ตัวที่กลายเป็นฆาตกรเลือดเย็น หลังจากที่นายสกลรับปากว่า จะพานายวิเชียรไปสั่งสอน กลับกลายเป็น การวางแผนฆาตกรรมอำพรางที่ซับซ้อน ร่วมกับนายตำรวจระดับสูงยศ "พันตำรวจโท"และพรรคพวก 😨

    🔪 เผยแผนจัดฉากอุบัติเหตุสุดโหด! การเดินทางที่เต็มไปด้วยกับดัก
    - จุดเริ่มต้น โรงบรรจุน้ำอ่อนสุระทุม
    - จุดรับเหยื่อ บ้านสุวรรณคีรี
    - จุดตัดผมและซื้อเสื้อผ้า อ.เจริญศิลป์
    - จุดดื่มสุรา ร้านบัวชมพู

    ทุกอย่างดูปกติ... แต่แท้จริงแล้วคือ แผนหลอกล่อเหยื่อให้ติดกับ!

    ฉากจบที่กิโลเมตรที่ 15... ถนนสายบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กับความตายที่ถูกจัดฉาก นายวิเชียรซึ่งอยู่ในอากาศเมามายอย่างหนัก ครองสติตัวเองไม่ได้ ถูกหลอกให้ลงจากหลังกระบะรถ ลากร่างนอนคว่ำหน้ากลางถนนลาดยาง ก่อนจะถูกขับรถเหยียบทับซ้ำ! จากนั้นก็พากันขับรถกลับไปจอด ที่โรงน้ำเพื่ออำพรางความผิด...😡

    🕴️ พันตำรวจโท... หัวโจกผู้บงการเบื้องหลัง! บทบาทของนายตำรวจในคดีนี้ ในระหว่างการวางแผน มีรถตราโล่ในราชการตำรว จจอดหลบอยู่ในลานริมถนน ใกล้ที่กเกิดเหตุ และมีนายตำรวจระดับสารวัตรสอบสวน โรงพักที่เกิดเหตุ แต่งเครื่องแบบพันตำรวจโทเต็มยศ ยืนอยู่หน้ารถโล่ แม้ว่าตำรวจนายนี้จะไม่ได้ลงมือโดยตรง แต่การมีตัวตนในเหตุการณ์ สะท้อนถึงการพัวพันคดี อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

    ตำรวจสืบสวนเชื่อว่า พันตำรวจโทนายนี้คือ "หัวโจกตัวจริง!" เป็นคนวางแผน ประสานงาน และกำกับการฆาตกรรมอำพรางในครั้งนี้ อย่างแยบยล 👮‍♂️

    4 ผู้ต้องหา ถูกจับกุมและเปิดโปงความจริง! 👊
    1. นายสมศักดิ์ หรือแอะ โวเบ้า อายุ 56 ปี
    2. นายพีรพัฒน์ หรือป้อม รักกุศล อายุ 30 ปี
    3. นายสกล สอนแก้ว อายุ 38 ปี
    4. นายพรชนก หรือเก่ง อ่อนสุระทุม อายุ 41 ปี

    ทุกคนถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"!

    🚔 บทสรุป: เรื่องจริงที่ยังไม่จบ! ตำรวจยังเดินหน้าสืบสวน เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายหลัก ในการดำเนินคดีครั้งนี้!

    คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงินประกัน 14 ล้านบาท... แต่เป็นบทเรียนสำคัญ ที่เตือนให้สังคมเห็นถึง อันตรายของความโลภ และอิทธิพลที่แอบแฝง อยู่ในเงามืดของกฎหมาย

    คดีนี้เป็นเป็นการจัดฉากอุบัติเหตุ ที่มีแผนวางไว้ล่วงหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเรียกเงินประกันภัย จาก 22 กรมธรรม์ รวมวงเงิน 14 ล้านบาท

    ผู้บงการหลักในคดีนี้ คือนายตำรวจยศพันตำรวจโท ที่ถูกระบุว่าเป็นหัวโจกใหญ่ ที่มีบทบาทสำคัญในขบวนการนี้

    นายวิเชียรถูกเลือกเป็นเหยื่อ เพราะพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับในครอบครัว และคำพูดของพี่สาว ที่ถูกตีความผิด ทำให้ถูกวางแผนฆ่าทิ้ง เพื่อหวังเงินประกัน

    จากข้อมูลที่ได้รับ มีการตกลงชดใช้เงินให้พี่สาวผู้ตายจำนวน 150,000 บาท เพื่อปิดปาก แต่ความจริงก็ถูกเปิดเผยในภายหลัง

    บริษัทประกันภัยตรวจพบความผิดปกติ ในการทำประกันภัยจำนวนมาก จึงได้ร้องเรียน และร่วมมือกับตำรวจ ในการเปิดโปงคดีนี้

    มีแนวโน้มสูง! ที่จะมีผู้ต้องหารายอื่นถูกจับเพิ่มอีก เนื่องจากการสืบสวนพบว่า มีขบวนการที่กว้างขวาง และอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121544 มี.ค. 2568

    🔖 #ฆาตกรรมอำพราง #จัดฉากอุบัติเหตุ #โกงประกัน #พันตำรวจโท #คดีดังสกลนคร #รถชนซ้ำ #14ล้านประกัน #ข่าวเด่นวันนี้ #คดีอาชญากรรม #เปิดโปงขบวนการ
    พันตำรวจโท "หัวโจก!" จัดฉากอุบัติเหตุ ฆาตกรรมอำพราง ชนซ้ำ 3 คัน 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้าน 💰🚗 เจาะลึกคดีสะเทือนขวัญ! พันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ จัดฉากอุบัติเหตุชนซ้ำ 3 คัน สะสม 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้านบาท เรื่องจริงที่ซับซ้อนกว่าที่คิด! 🔥 เปิดโปงแผนฆาตกรรมอำพราง! พันตำรวจโท หัวโจก จัดฉากอุบัติเหตุหวังเงินประกัน 14 ล้าน 🚨 🚓 คดีสะเทือนวงการ! วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 วงการประกันภัยต้องสะเทือน เมื่อบริษัทประกันภัยหลากหลายแห่ง รวมตัวกันเดินทางไปยัง ภ.จว.สกลนคร เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบอุบัติเหตุรถชนซ้ำถึง 3 คัน เมื่อกลางดึกวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งทำให้นายวิเชียร จิตเย็น อายุ 32 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ความผิดปกติที่ปรากฏ ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็น "ฆาตกรรมอำพราง" ที่มีการวางแผนอย่างแยบยล! ประเด็นร้อน คือมีการทำประกันภัยรถยนต์ถึง 22 กรมธรรม์ คาดว่าจะได้รับเงินประกันรวมสูงถึง 14 ล้านบาท! แต่ที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าคือ การพบว่าเบื้องหลังขบวนการนี้ มีชื่อของ "พันตำรวจโท" เข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะหัวหน้าแก๊ง! 😱 🤔 คดีฆาตกรรมอำพราง หรือ อุบัติเหตุธรรมดา? เหตุการณ์ในคืนสยองขวัญ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 21.10 น. ตำรวจโรงพักวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ได้รับแจ้งเหตุรถชน บริเวณถนนระหว่างบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กม.ที่ 15 ตำบลธาตุ พบผู้เสียชีวิตคาที่คือนายวิเชียร จิตเย็น จากข้อมูลเบื้องต้น เหมือนจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ความจริง กลับซับซ้อนเกินกว่าจะจินตนาการ! 😨 3 คัน 22 กรมธรรม์... แค่บังเอิญจริงหรือ? - รถคันแรก ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 12 กรมธรรม์ - รถคันที่สอง ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์ - รถคันที่สาม ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์ รวมทั้งสิ้น 22 กรมธรรม์!!! คิดเป็นวงเงินประกันกว่า 14 ล้านบาท 💸 การทำประกันหลายฉบับในเวลาสั้น ๆ ทำให้บริษัทประกันภัยต่างสงสัยว่า คดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นแผนฆาตกรรมอำพราง ที่ถูกจัดฉากขึ้นอย่างแนบเนียน 🕵️‍♀️ ปมเบื้องหลัง และพี่สาวผู้ตายกับเบาะแสชิ้นสำคัญ คำพูดที่กลายเป็นชนวนโศกนาฏกรรม นางสาวบัวเรียน อายุ 33 ปี พี่สาวของผู้ตายเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยระบายความในใจว่า อยากให้นายวิเชียร “ไปตายเสียที่ไหนก็ได้” เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว แต่คำพูดนั้นกลับถูกนายสกล ญาติคนสนิท นำไปตีความและจัดการ “สั่งสอน” ในแบบของตัวเอง... นายสกล... คนใกล้ตัวที่กลายเป็นฆาตกรเลือดเย็น หลังจากที่นายสกลรับปากว่า จะพานายวิเชียรไปสั่งสอน กลับกลายเป็น การวางแผนฆาตกรรมอำพรางที่ซับซ้อน ร่วมกับนายตำรวจระดับสูงยศ "พันตำรวจโท"และพรรคพวก 😨 🔪 เผยแผนจัดฉากอุบัติเหตุสุดโหด! การเดินทางที่เต็มไปด้วยกับดัก - จุดเริ่มต้น โรงบรรจุน้ำอ่อนสุระทุม - จุดรับเหยื่อ บ้านสุวรรณคีรี - จุดตัดผมและซื้อเสื้อผ้า อ.เจริญศิลป์ - จุดดื่มสุรา ร้านบัวชมพู ทุกอย่างดูปกติ... แต่แท้จริงแล้วคือ แผนหลอกล่อเหยื่อให้ติดกับ! ฉากจบที่กิโลเมตรที่ 15... ถนนสายบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กับความตายที่ถูกจัดฉาก นายวิเชียรซึ่งอยู่ในอากาศเมามายอย่างหนัก ครองสติตัวเองไม่ได้ ถูกหลอกให้ลงจากหลังกระบะรถ ลากร่างนอนคว่ำหน้ากลางถนนลาดยาง ก่อนจะถูกขับรถเหยียบทับซ้ำ! จากนั้นก็พากันขับรถกลับไปจอด ที่โรงน้ำเพื่ออำพรางความผิด...😡 🕴️ พันตำรวจโท... หัวโจกผู้บงการเบื้องหลัง! บทบาทของนายตำรวจในคดีนี้ ในระหว่างการวางแผน มีรถตราโล่ในราชการตำรว จจอดหลบอยู่ในลานริมถนน ใกล้ที่กเกิดเหตุ และมีนายตำรวจระดับสารวัตรสอบสวน โรงพักที่เกิดเหตุ แต่งเครื่องแบบพันตำรวจโทเต็มยศ ยืนอยู่หน้ารถโล่ แม้ว่าตำรวจนายนี้จะไม่ได้ลงมือโดยตรง แต่การมีตัวตนในเหตุการณ์ สะท้อนถึงการพัวพันคดี อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ตำรวจสืบสวนเชื่อว่า พันตำรวจโทนายนี้คือ "หัวโจกตัวจริง!" เป็นคนวางแผน ประสานงาน และกำกับการฆาตกรรมอำพรางในครั้งนี้ อย่างแยบยล 👮‍♂️ 4 ผู้ต้องหา ถูกจับกุมและเปิดโปงความจริง! 👊 1. นายสมศักดิ์ หรือแอะ โวเบ้า อายุ 56 ปี 2. นายพีรพัฒน์ หรือป้อม รักกุศล อายุ 30 ปี 3. นายสกล สอนแก้ว อายุ 38 ปี 4. นายพรชนก หรือเก่ง อ่อนสุระทุม อายุ 41 ปี ทุกคนถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"! 🚔 บทสรุป: เรื่องจริงที่ยังไม่จบ! ตำรวจยังเดินหน้าสืบสวน เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายหลัก ในการดำเนินคดีครั้งนี้! คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงินประกัน 14 ล้านบาท... แต่เป็นบทเรียนสำคัญ ที่เตือนให้สังคมเห็นถึง อันตรายของความโลภ และอิทธิพลที่แอบแฝง อยู่ในเงามืดของกฎหมาย คดีนี้เป็นเป็นการจัดฉากอุบัติเหตุ ที่มีแผนวางไว้ล่วงหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเรียกเงินประกันภัย จาก 22 กรมธรรม์ รวมวงเงิน 14 ล้านบาท ผู้บงการหลักในคดีนี้ คือนายตำรวจยศพันตำรวจโท ที่ถูกระบุว่าเป็นหัวโจกใหญ่ ที่มีบทบาทสำคัญในขบวนการนี้ นายวิเชียรถูกเลือกเป็นเหยื่อ เพราะพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับในครอบครัว และคำพูดของพี่สาว ที่ถูกตีความผิด ทำให้ถูกวางแผนฆ่าทิ้ง เพื่อหวังเงินประกัน จากข้อมูลที่ได้รับ มีการตกลงชดใช้เงินให้พี่สาวผู้ตายจำนวน 150,000 บาท เพื่อปิดปาก แต่ความจริงก็ถูกเปิดเผยในภายหลัง บริษัทประกันภัยตรวจพบความผิดปกติ ในการทำประกันภัยจำนวนมาก จึงได้ร้องเรียน และร่วมมือกับตำรวจ ในการเปิดโปงคดีนี้ มีแนวโน้มสูง! ที่จะมีผู้ต้องหารายอื่นถูกจับเพิ่มอีก เนื่องจากการสืบสวนพบว่า มีขบวนการที่กว้างขวาง และอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121544 มี.ค. 2568 🔖 #ฆาตกรรมอำพราง #จัดฉากอุบัติเหตุ #โกงประกัน #พันตำรวจโท #คดีดังสกลนคร #รถชนซ้ำ #14ล้านประกัน #ข่าวเด่นวันนี้ #คดีอาชญากรรม #เปิดโปงขบวนการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำแพงเพชร – ตำรวจพร้อมอาสาสมัครกู้ภัยฯ ปูพรมค้นหาพยานหลักฐาน คลี่คดีฆาตกรรมอำพราง ฆ่า 3 พ่อแม่ลูกหมกกระบะจอดบ้านร้างคลองขลุงแรมเดือน ไล่ดูวงจรปิด-สแกนจุดพบรถ/ศพ ด้านญาติเตรียมสถานที่งานศพที่วัดศรีภิรมย์ เผยข้อความ sms ปริศนาอ้างเป็นหนึ่งในผู้ตาย

    ความคืบหน้า คดีฆาตกรรมอำพราง ฆ่าโหด 3 พ่อแม่ลูก คือ นายวงศกร หงสไกร อายุ 37 ปี ,น.ส.นันทกานต์ นาซึ อายุ 35 ปี ,ด.ช.นัทกร หงสไกร อายุ 7 ปี (น้องซันเดย์) ที่หายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68 ยัดศพใส่รถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุดีแมกซ์ (สีขาว) ป้ายทะเบียน กน 1738 กำแพงเพชร คลุมผ้าจอดหน้าบ้านร้างริมถนนพหลโยธิน (ขาขึ้น) พื้นที่ ม.10 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ซึ่งญาติผู้เสียชีวิต กำลังเตรียมสถานที่ประกอบพิธีศพที่วัดศรีภิรมย์

    เช้าวันนี้(14 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครกู้ภัย ได้ปูพรมค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมจามจุดต่างๆ บริเวณที่พบรถพร้อมร่างผู้เสียชีวิตทั้งสามศพ โดยกระจายกำลังค้นหาพื้นที่รอบๆ รวมทั้งในตัวบ้านเพื่อหาสิ่งต้องสงสัยที่จะนำมาเป็นพยานหลักฐานในคดีได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000014796

    #MGROnline #คดีฆาตกรรมอำพราง #ฆ่าโหด #3พ่อแม่ลูก
    กำแพงเพชร – ตำรวจพร้อมอาสาสมัครกู้ภัยฯ ปูพรมค้นหาพยานหลักฐาน คลี่คดีฆาตกรรมอำพราง ฆ่า 3 พ่อแม่ลูกหมกกระบะจอดบ้านร้างคลองขลุงแรมเดือน ไล่ดูวงจรปิด-สแกนจุดพบรถ/ศพ ด้านญาติเตรียมสถานที่งานศพที่วัดศรีภิรมย์ เผยข้อความ sms ปริศนาอ้างเป็นหนึ่งในผู้ตาย • ความคืบหน้า คดีฆาตกรรมอำพราง ฆ่าโหด 3 พ่อแม่ลูก คือ นายวงศกร หงสไกร อายุ 37 ปี ,น.ส.นันทกานต์ นาซึ อายุ 35 ปี ,ด.ช.นัทกร หงสไกร อายุ 7 ปี (น้องซันเดย์) ที่หายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68 ยัดศพใส่รถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุดีแมกซ์ (สีขาว) ป้ายทะเบียน กน 1738 กำแพงเพชร คลุมผ้าจอดหน้าบ้านร้างริมถนนพหลโยธิน (ขาขึ้น) พื้นที่ ม.10 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ซึ่งญาติผู้เสียชีวิต กำลังเตรียมสถานที่ประกอบพิธีศพที่วัดศรีภิรมย์ • เช้าวันนี้(14 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครกู้ภัย ได้ปูพรมค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมจามจุดต่างๆ บริเวณที่พบรถพร้อมร่างผู้เสียชีวิตทั้งสามศพ โดยกระจายกำลังค้นหาพื้นที่รอบๆ รวมทั้งในตัวบ้านเพื่อหาสิ่งต้องสงสัยที่จะนำมาเป็นพยานหลักฐานในคดีได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000014796 • #MGROnline #คดีฆาตกรรมอำพราง #ฆ่าโหด #3พ่อแม่ลูก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ปานเทพ” เผยกรณีศึกษาจากต่างประเทศ เด็กจมบ่อตื้นๆ เสียชีวิต เบื้องต้นเป็นคดีจมน้ำตายธรรมดา แต่ผลชันสูตรในรายละเอียดพบดินโคลนในปากและหลอดลม กลายเป็นฆาตกรรมอำพราง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122707

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ปานเทพ” เผยกรณีศึกษาจากต่างประเทศ เด็กจมบ่อตื้นๆ เสียชีวิต เบื้องต้นเป็นคดีจมน้ำตายธรรมดา แต่ผลชันสูตรในรายละเอียดพบดินโคลนในปากและหลอดลม กลายเป็นฆาตกรรมอำพราง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122707 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    26
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 964 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟันธง “แตงโม" ถูกฆาตกรรม มีเงื่อนงำพิรุธ.ที่ผ่านมา ผมพูดถึงประเด็นไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทริดา ผมพูดเรื่องนี้มาเมื่อ 2 ปี 9 เดือนที่แล้ว ผมเป็นสื่อมวลชนเพียงคนเดียวในประเทศไทยที่ใช้สัญชาติญาณบวกกับลางสังหรณ์ของตัวเองฟันธงลงไปว่า "แตงโม" เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมอำพราง เธอไม่ได้ตายเพราะตกน้ำ โดนใบพัดปั่นที่ขา ระหว่างนั่งปัสสาวะที่ท้ายเรือแต่อย่างใด.ผมได้กลิ่นความไม่ชอบมาพากลคล้ายๆกันคดีบอส อยู่วิทยา คือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ในเวลานั้น ออกแอกชันลงมาควบคุมการสอบสวนด้วยตัวเอง แม้แตงโมจะเป็นดาราดัง เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ แต่ผมได้กลิ่นตุๆ อย่างผิดวิสัย ว่าทำไมระดับ ผบ.ตร. ถึงลงมาทำคดีนี้ด้วยตัวเอง ตำรวจระดับล่างทำไม่ได้หรือ เพราะถ้าคุณมั่นใจว่าเป็นเรื่องคนตกน้ำตาย.วันนี้ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หอบเอกสารหลักฐานชิ้นใหญ่หลายอย่างที่ได้มาจากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ การหาข้อมูลเชิงเทคนิคตามหลักวิทยาศาสตร์ เอาเข้ามาให้กับอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กับทีมงาน "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ช่วยพิจารณา เพื่อยืนยันว่าลางสังหรณ์จากสัญชาติญาณของผมมันเป็นความจริง.แต่ที่ผมพูดวันนี้ ผมพูดจากคำพิพากษาของศาลยกฟ้องคดีหมิ่นประมาทที่ตำรวจ 21 นายฟ้องคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ว่า การสืบสวนสอบสวนของตำรวจนั้น พยานหลักฐานการตายล้วนมีเงื่อนงำและมีพิรุธมากมาย นี่ผมไม่ได้เขียนเองหรือพูดเองนะ เป็นข้อความที่ระบุในคำพิพากษาศาลจริงๆ.ทำไมศาลจึงให้เหตุผลในคำพิพากษายกฟ้องนายอัจฉริยะ กับพวก แบบนี้ ? หลายๆ คนคงอยากรู้แล้วใช่ไหม เอาเป็นว่าคดีแตงโมนั้นมีพิรุธ มีเงื่อนงำอยู่มากมาย อยากรู้ต้องไปติดตามอาจารย์ปานเทพ อาจารย์ยิปมันของผม แห่งบ้านพระอาทิตย์ สัปดาห์หน้าน่าจะมีคำพูดใหม่ๆ เพียบ ที่คุณไม่เคยรับรู้มาก่อน
    ฟันธง “แตงโม" ถูกฆาตกรรม มีเงื่อนงำพิรุธ.ที่ผ่านมา ผมพูดถึงประเด็นไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทริดา ผมพูดเรื่องนี้มาเมื่อ 2 ปี 9 เดือนที่แล้ว ผมเป็นสื่อมวลชนเพียงคนเดียวในประเทศไทยที่ใช้สัญชาติญาณบวกกับลางสังหรณ์ของตัวเองฟันธงลงไปว่า "แตงโม" เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมอำพราง เธอไม่ได้ตายเพราะตกน้ำ โดนใบพัดปั่นที่ขา ระหว่างนั่งปัสสาวะที่ท้ายเรือแต่อย่างใด.ผมได้กลิ่นความไม่ชอบมาพากลคล้ายๆกันคดีบอส อยู่วิทยา คือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ในเวลานั้น ออกแอกชันลงมาควบคุมการสอบสวนด้วยตัวเอง แม้แตงโมจะเป็นดาราดัง เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ แต่ผมได้กลิ่นตุๆ อย่างผิดวิสัย ว่าทำไมระดับ ผบ.ตร. ถึงลงมาทำคดีนี้ด้วยตัวเอง ตำรวจระดับล่างทำไม่ได้หรือ เพราะถ้าคุณมั่นใจว่าเป็นเรื่องคนตกน้ำตาย.วันนี้ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หอบเอกสารหลักฐานชิ้นใหญ่หลายอย่างที่ได้มาจากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ การหาข้อมูลเชิงเทคนิคตามหลักวิทยาศาสตร์ เอาเข้ามาให้กับอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กับทีมงาน "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ช่วยพิจารณา เพื่อยืนยันว่าลางสังหรณ์จากสัญชาติญาณของผมมันเป็นความจริง.แต่ที่ผมพูดวันนี้ ผมพูดจากคำพิพากษาของศาลยกฟ้องคดีหมิ่นประมาทที่ตำรวจ 21 นายฟ้องคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ว่า การสืบสวนสอบสวนของตำรวจนั้น พยานหลักฐานการตายล้วนมีเงื่อนงำและมีพิรุธมากมาย นี่ผมไม่ได้เขียนเองหรือพูดเองนะ เป็นข้อความที่ระบุในคำพิพากษาศาลจริงๆ.ทำไมศาลจึงให้เหตุผลในคำพิพากษายกฟ้องนายอัจฉริยะ กับพวก แบบนี้ ? หลายๆ คนคงอยากรู้แล้วใช่ไหม เอาเป็นว่าคดีแตงโมนั้นมีพิรุธ มีเงื่อนงำอยู่มากมาย อยากรู้ต้องไปติดตามอาจารย์ปานเทพ อาจารย์ยิปมันของผม แห่งบ้านพระอาทิตย์ สัปดาห์หน้าน่าจะมีคำพูดใหม่ๆ เพียบ ที่คุณไม่เคยรับรู้มาก่อน
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 583 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟันธง“แตงโม"ถูกฆาตกรรม มีเงื่อนงำพิรุธ
    .
    ที่ผ่านมา ผมพูดถึงประเด็นไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทริดา ผมพูดเรื่องนี้มาเมื่อ 2 ปี 9 เดือนที่แล้ว ผมเป็นสื่อมวลชนเพียงคนเดียวในประเทศไทยที่ใช้สัญชาติญาณบวกกับลางสังหรณ์ของตัวเองฟันธงลงไปว่า "แตงโม" เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมอำพราง เธอไม่ได้ตายเพราะตกน้ำ โดนใบพัดปั่นที่ขา ระหว่างนั่งปัสสาวะที่ท้ายเรือแต่อย่างใด
    .
    ผมได้กลิ่นความไม่ชอบมาพากลคล้ายๆกันคดีบอส อยู่วิทยา คือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ในเวลานั้น ออกแอกชันลงมาควบคุมการสอบสวนด้วยตัวเอง แม้แตงโมจะเป็นดาราดัง เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ แต่ผมได้กลิ่นตุๆ อย่างผิดวิสัย ว่าทำไมระดับ ผบ.ตร. ถึงลงมาทำคดีนี้ด้วยตัวเอง ตำรวจระดับล่างทำไม่ได้หรือ เพราะถ้าคุณมั่นใจว่าเป็นเรื่องคนตกน้ำตาย
    .
    วันนี้ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หอบเอกสารหลักฐานชิ้นใหญ่หลายอย่างที่ได้มาจากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ การหาข้อมูลเชิงเทคนิคตามหลักวิทยาศาสตร์ เอาเข้ามาให้กับอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กับทีมงาน "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ช่วยพิจารณา เพื่อยืนยันว่าลางสังหรณ์จากสัญชาติญาณของผมมันเป็นความจริง
    .
    แต่ที่ผมพูดวันนี้ ผมพูดจากคำพิพากษาของศาลยกฟ้องคดีหมิ่นประมาทที่ตำรวจ 21 นายฟ้องคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ว่า การสืบสวนสอบสวนของตำรวจนั้น พยานหลักฐานการตายล้วนมีเงื่อนงำและมีพิรุธมากมาย นี่ผมไม่ได้เขียนเองหรือพูดเองนะ เป็นข้อความที่ระบุในคำพิพากษาศาลจริงๆ
    .
    ทำไมศาลจึงให้เหตุผลในคำพิพากษายกฟ้องนายอัจฉริยะ กับพวก แบบนี้ ? หลายๆ คนคงอยากรู้แล้วใช่ไหม เอาเป็นว่าคดีแตงโมนั้นมีพิรุธ มีเงื่อนงำอยู่มากมาย อยากรู้ต้องไปติดตามอาจารย์ปานเทพ อาจารย์ยิปมันของผม แห่งบ้านพระอาทิตย์ สัปดาห์หน้าน่าจะมีคำพูดใหม่ๆ เพียบ ที่คุณไม่เคยรับรู้มาก่อน
    ฟันธง“แตงโม"ถูกฆาตกรรม มีเงื่อนงำพิรุธ . ที่ผ่านมา ผมพูดถึงประเด็นไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทริดา ผมพูดเรื่องนี้มาเมื่อ 2 ปี 9 เดือนที่แล้ว ผมเป็นสื่อมวลชนเพียงคนเดียวในประเทศไทยที่ใช้สัญชาติญาณบวกกับลางสังหรณ์ของตัวเองฟันธงลงไปว่า "แตงโม" เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมอำพราง เธอไม่ได้ตายเพราะตกน้ำ โดนใบพัดปั่นที่ขา ระหว่างนั่งปัสสาวะที่ท้ายเรือแต่อย่างใด . ผมได้กลิ่นความไม่ชอบมาพากลคล้ายๆกันคดีบอส อยู่วิทยา คือ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ในเวลานั้น ออกแอกชันลงมาควบคุมการสอบสวนด้วยตัวเอง แม้แตงโมจะเป็นดาราดัง เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ แต่ผมได้กลิ่นตุๆ อย่างผิดวิสัย ว่าทำไมระดับ ผบ.ตร. ถึงลงมาทำคดีนี้ด้วยตัวเอง ตำรวจระดับล่างทำไม่ได้หรือ เพราะถ้าคุณมั่นใจว่าเป็นเรื่องคนตกน้ำตาย . วันนี้ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หอบเอกสารหลักฐานชิ้นใหญ่หลายอย่างที่ได้มาจากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ การหาข้อมูลเชิงเทคนิคตามหลักวิทยาศาสตร์ เอาเข้ามาให้กับอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กับทีมงาน "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ช่วยพิจารณา เพื่อยืนยันว่าลางสังหรณ์จากสัญชาติญาณของผมมันเป็นความจริง . แต่ที่ผมพูดวันนี้ ผมพูดจากคำพิพากษาของศาลยกฟ้องคดีหมิ่นประมาทที่ตำรวจ 21 นายฟ้องคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ว่า การสืบสวนสอบสวนของตำรวจนั้น พยานหลักฐานการตายล้วนมีเงื่อนงำและมีพิรุธมากมาย นี่ผมไม่ได้เขียนเองหรือพูดเองนะ เป็นข้อความที่ระบุในคำพิพากษาศาลจริงๆ . ทำไมศาลจึงให้เหตุผลในคำพิพากษายกฟ้องนายอัจฉริยะ กับพวก แบบนี้ ? หลายๆ คนคงอยากรู้แล้วใช่ไหม เอาเป็นว่าคดีแตงโมนั้นมีพิรุธ มีเงื่อนงำอยู่มากมาย อยากรู้ต้องไปติดตามอาจารย์ปานเทพ อาจารย์ยิปมันของผม แห่งบ้านพระอาทิตย์ สัปดาห์หน้าน่าจะมีคำพูดใหม่ๆ เพียบ ที่คุณไม่เคยรับรู้มาก่อน
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1060 มุมมอง 0 รีวิว