• ศาลอาญายกฟ้องคดี "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน

    เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีอ.2708/2566 ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.และนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัทผู้จัดการ 360 องศา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและนำข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เรียกค่าเสียหาย จำนวน 50 ล้านบาท

    คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นายสนธิ จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของช่องยูทูป และรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ หรือ รายการ Sonthi Talk โดยเมื่อวันที่ 6-7 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายสนธิ ได้พูดในรายการ Sonthi Talk พาดพิงให้เกิดความเสียหายด้วยข้อความว่า “จริงๆแล้วสมาคมฟุตบอลไทยนั้นทำงานเละเทะมานานแล้ว ตั้งแต่คุณสมยศขึ้นมาเป็นนายกสมาคม...” และข้อความ “คุณไม่รู้หรอกว่าชีวิตคุณเนี่ย ตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณได้สร้างวีรกรรมมาเยอะไปหมดเลย หลายอย่าง ไม่ว่าเป็นคดีบอส อยู่วิทยาโน่นนี่นั่น ซึ่งผมได้เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแฟนบอลไทยก็ต้องดีใจเก้อ เพราะล่าสุดประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งคนของคุณสมยศทั้งนั้น นี่ต้องยืนยันเป็นคนของคุณสมยศทั้งนั้น มีมติเป็นเอกฉันท์ยับยั้งการลาออก ให้ทำหน้าที่ไปจนครบวาระ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอ้างตามเกมที่คุณสมยศวางหมากไว้ว่า ไม่ให้ไทยต้องเสี่ยงการโดนฟีฟ่าลงดาบ ซึ่งจะถูกห้ามยุ่งกับการแข่งขันระดับนานาชาติทั้งหมด รวมทั้งกิจกรรมของฟีฟ่าประเด็นครับ ในวันลงมติมีคนในที่ประชุมกระซิบผมมาว่าก่อนลงมติบอร์ดสภากรรมการวงแตก หลายคน WORK OUT ขอลาออกรับไม่ได้ที่มีคนชงมติไว้ให้คุณสมยศอยู่ต่อ คนที่ชงมติไว้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ก็พี่นวยของผมนั่นเองอดีตมิตรตำรวจด้วยกันคือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน…” ข้อความต่อมา “ท่านผู้ชมอย่าลืมนะว่าคนคนนี้เป็นคนที่พูดว่า อาชีพตำรวจถือว่าเป็นไซต์ไลน์ อาชีพหลักๆ คือเป็นนักธุรกิจ คุณสมยศคือเสี่ยงิ้วราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในปี 2558... ยังมีอีกประเด็นหนึ่งไปยืมเงินเสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าพ่ออาบอบนวด ซึ่งต้องคดีค้ามนุษย์ถึงสี่ครั้ง ไปยืมมา 300 ล้านบาท จนเป็นข่าวฉาวโฉ่ในช่วงนั้น สมยศระบุมาตลอดชีวิตรับราชการเกือบจะเรียกได้ว่า อาชีพตำรวจเป็นไซต์ไลน์ แต่หลักๆ แล้วเค้าทำเรื่องหุ้น พฤศจิกายน 2564 สองปีที่แล้ว กฤษฎีกาตีความว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลโดยมิชอบ เพราะตำแหน่งรวมทั้งกรรมการสมาคมฟุตบอล เป็นงานอาสา งานเสียสละไม่ใช่งานลูกจ้าง จึงไม่สามารถเรียกรับเงินค่าตอบแทนได้แม้แต่บาทเดียว...พอเป็นข่าวก็ออกมาชี้แจง รับเงินเดือนจริงแต่บริจาคกลับไปที่สมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเด็นนี้คือว่ามันผิดกฎหมาย คุณจะบริจาคให้ใครไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งเงินเดือนคุณเอง เพราะงานนี้เป็นงานที่เสียสละ”



    นอกจากนี้ข้อความ “ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอล มีบริษัทหนึ่งชนะการประมูลจนได้เข้ามาดูแลนั้น บริษัทดังกล่าว แวดวงในบอกว่าเป็นลูกรักของบิ๊กอ็อด ที่เข้ามาอุ้มชู ปลุกปั้นมาตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจ หลายฝ่ายจึงมองว่าการประมูลในครั้งนี้มีการเอื้อประโยชน์แก่กัน ดูตัวอย่าง ตัวอย่างหนึ่ง เราย้อนกลับไปปี 2563 ได้บริษัทเซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ไม่มีประสบการในการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกีฬามาก่อน แต่ดันชนะการประมูล ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก มูลค่า 12,000 ล้านบาท ตกปีละ 1,500 ล้านบาท สุดท้ายไปไม่รอด ผู้บริหารขาดทุนแบบย่อยยับ ต้องเปลี่ยนผู้ถือครองมาเป็น AIS ทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์ตกลงมาเกือบ 4 เท่า เหลือแค่ 400 ล้านบาท ตัดภาพมาตอนปัจจุบันเลย ในเรื่องดราม่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลไทย ที่มีข่าวว่ามูลค่าลดฮวบ จาก 1,000 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท ถ้าเราย้อนอดีตไป ลิขสิทธิ์บอลไทยเคยมีรายได้อู้ฟู่ โดยที่กระฉูดที่สุดในช่วงปี 2560-2563 ที่ทรูวิชั่น ประมูลค่าลิขสิทธิ์ 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 60 900 ล้านบาท 61 1,000 ล้านบาท 62 1,100 ล้านบาท 63 1,200 ล้านบาท ในช่วงปี 2563 มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโรคโควิด ทรูวิชั่นก็ไม่มี ไม่สามารถจะจ่ายเต็มจำนวนได้ ฤดูกาล 2564-65 ค่าลิขสิทธิ์จาก AIS ก็ลดลงเหลือ 800 ล้านบาท ผ่านมาถึงฤดูกาล 2565-66 มีรายงานว่าเหลือแค่ราวๆ 300 ล้านบาท”และข้อความอื่น ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ๆทั้งนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันมีข้อความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นโจทก์โดยการโฆษณา ขอให้ลงโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไข ฉบับที่ 2 มาตรา 16 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332,393, 91 เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร

    โดยช่วงเช้าวันนี้ นายสนธิ จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมน.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ ส่วนโจทก์มีผู้รับมอบอำนาจมาฟังคำพิพากษา

    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต พิพากษายกฟ้อง

    ภายหลังนายสนธิ กล่าวเพียงว่า ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ ฟ้องหมิ่นประมาท โดยตนสู้คดีด้วยหลักฐาน ความจริง และมีพยานมายืนยันข้อเท็จจริงทุกคดี ซึ่งพอใจผลคำพิพากษา เพราะชนะคดีก็ต้องพอใจ ยืนยันว่าไม่ใช่คดีแรกในชีวิต ตนเองทำงานสื่อมวลชนมา 50 ปี มีคดีทั้งหมด 246 คดี

    ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้ จะไปขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่

    นายสนธิ กล่าวว่า ไปแน่นอน และให้สื่อมวลชนคอยฟังให้ดี เพราะตนจะมีทีเด็ดในการพูดบนเวทีการชุมนุมแน่นอน โดยการชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่ บ่าย 3 โมงเย็น ถึงเวลา 2 ทุ่มของวันเสาร์

    เมื่อถามว่า การพูดทีเด็ดบนเวที จะทำให้รัฐบาลสะเทือนหรือไม่ นายสนธิกล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลชุดนี้พูดอะไรไปก็ไม่สะเทือนหรอก"

    https://sondhitalk.com/photo-gallery/9680000059229?fbclid=IwQ0xDSwLHDOBleHRuA2FlbQIxMQABHjn6VGI0tuOTxS9x_CkwyfHJV-yBaFUZuPKiJhpkpFj61C6LFET_1vKF_qsn_aem_sKwXdW8qRXGV0NWL3DHNAQ
    ศาลอาญายกฟ้องคดี "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีอ.2708/2566 ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.และนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัทผู้จัดการ 360 องศา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและนำข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เรียกค่าเสียหาย จำนวน 50 ล้านบาท คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นายสนธิ จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของช่องยูทูป และรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ หรือ รายการ Sonthi Talk โดยเมื่อวันที่ 6-7 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายสนธิ ได้พูดในรายการ Sonthi Talk พาดพิงให้เกิดความเสียหายด้วยข้อความว่า “จริงๆแล้วสมาคมฟุตบอลไทยนั้นทำงานเละเทะมานานแล้ว ตั้งแต่คุณสมยศขึ้นมาเป็นนายกสมาคม...” และข้อความ “คุณไม่รู้หรอกว่าชีวิตคุณเนี่ย ตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณได้สร้างวีรกรรมมาเยอะไปหมดเลย หลายอย่าง ไม่ว่าเป็นคดีบอส อยู่วิทยาโน่นนี่นั่น ซึ่งผมได้เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแฟนบอลไทยก็ต้องดีใจเก้อ เพราะล่าสุดประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งคนของคุณสมยศทั้งนั้น นี่ต้องยืนยันเป็นคนของคุณสมยศทั้งนั้น มีมติเป็นเอกฉันท์ยับยั้งการลาออก ให้ทำหน้าที่ไปจนครบวาระ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอ้างตามเกมที่คุณสมยศวางหมากไว้ว่า ไม่ให้ไทยต้องเสี่ยงการโดนฟีฟ่าลงดาบ ซึ่งจะถูกห้ามยุ่งกับการแข่งขันระดับนานาชาติทั้งหมด รวมทั้งกิจกรรมของฟีฟ่าประเด็นครับ ในวันลงมติมีคนในที่ประชุมกระซิบผมมาว่าก่อนลงมติบอร์ดสภากรรมการวงแตก หลายคน WORK OUT ขอลาออกรับไม่ได้ที่มีคนชงมติไว้ให้คุณสมยศอยู่ต่อ คนที่ชงมติไว้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ก็พี่นวยของผมนั่นเองอดีตมิตรตำรวจด้วยกันคือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน…” ข้อความต่อมา “ท่านผู้ชมอย่าลืมนะว่าคนคนนี้เป็นคนที่พูดว่า อาชีพตำรวจถือว่าเป็นไซต์ไลน์ อาชีพหลักๆ คือเป็นนักธุรกิจ คุณสมยศคือเสี่ยงิ้วราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในปี 2558... ยังมีอีกประเด็นหนึ่งไปยืมเงินเสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าพ่ออาบอบนวด ซึ่งต้องคดีค้ามนุษย์ถึงสี่ครั้ง ไปยืมมา 300 ล้านบาท จนเป็นข่าวฉาวโฉ่ในช่วงนั้น สมยศระบุมาตลอดชีวิตรับราชการเกือบจะเรียกได้ว่า อาชีพตำรวจเป็นไซต์ไลน์ แต่หลักๆ แล้วเค้าทำเรื่องหุ้น พฤศจิกายน 2564 สองปีที่แล้ว กฤษฎีกาตีความว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลโดยมิชอบ เพราะตำแหน่งรวมทั้งกรรมการสมาคมฟุตบอล เป็นงานอาสา งานเสียสละไม่ใช่งานลูกจ้าง จึงไม่สามารถเรียกรับเงินค่าตอบแทนได้แม้แต่บาทเดียว...พอเป็นข่าวก็ออกมาชี้แจง รับเงินเดือนจริงแต่บริจาคกลับไปที่สมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเด็นนี้คือว่ามันผิดกฎหมาย คุณจะบริจาคให้ใครไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งเงินเดือนคุณเอง เพราะงานนี้เป็นงานที่เสียสละ” นอกจากนี้ข้อความ “ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอล มีบริษัทหนึ่งชนะการประมูลจนได้เข้ามาดูแลนั้น บริษัทดังกล่าว แวดวงในบอกว่าเป็นลูกรักของบิ๊กอ็อด ที่เข้ามาอุ้มชู ปลุกปั้นมาตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจ หลายฝ่ายจึงมองว่าการประมูลในครั้งนี้มีการเอื้อประโยชน์แก่กัน ดูตัวอย่าง ตัวอย่างหนึ่ง เราย้อนกลับไปปี 2563 ได้บริษัทเซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ไม่มีประสบการในการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกีฬามาก่อน แต่ดันชนะการประมูล ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก มูลค่า 12,000 ล้านบาท ตกปีละ 1,500 ล้านบาท สุดท้ายไปไม่รอด ผู้บริหารขาดทุนแบบย่อยยับ ต้องเปลี่ยนผู้ถือครองมาเป็น AIS ทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์ตกลงมาเกือบ 4 เท่า เหลือแค่ 400 ล้านบาท ตัดภาพมาตอนปัจจุบันเลย ในเรื่องดราม่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลไทย ที่มีข่าวว่ามูลค่าลดฮวบ จาก 1,000 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท ถ้าเราย้อนอดีตไป ลิขสิทธิ์บอลไทยเคยมีรายได้อู้ฟู่ โดยที่กระฉูดที่สุดในช่วงปี 2560-2563 ที่ทรูวิชั่น ประมูลค่าลิขสิทธิ์ 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 60 900 ล้านบาท 61 1,000 ล้านบาท 62 1,100 ล้านบาท 63 1,200 ล้านบาท ในช่วงปี 2563 มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโรคโควิด ทรูวิชั่นก็ไม่มี ไม่สามารถจะจ่ายเต็มจำนวนได้ ฤดูกาล 2564-65 ค่าลิขสิทธิ์จาก AIS ก็ลดลงเหลือ 800 ล้านบาท ผ่านมาถึงฤดูกาล 2565-66 มีรายงานว่าเหลือแค่ราวๆ 300 ล้านบาท”และข้อความอื่น ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ๆทั้งนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันมีข้อความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นโจทก์โดยการโฆษณา ขอให้ลงโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไข ฉบับที่ 2 มาตรา 16 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332,393, 91 เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร โดยช่วงเช้าวันนี้ นายสนธิ จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมน.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ ส่วนโจทก์มีผู้รับมอบอำนาจมาฟังคำพิพากษา ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต พิพากษายกฟ้อง ภายหลังนายสนธิ กล่าวเพียงว่า ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ ฟ้องหมิ่นประมาท โดยตนสู้คดีด้วยหลักฐาน ความจริง และมีพยานมายืนยันข้อเท็จจริงทุกคดี ซึ่งพอใจผลคำพิพากษา เพราะชนะคดีก็ต้องพอใจ ยืนยันว่าไม่ใช่คดีแรกในชีวิต ตนเองทำงานสื่อมวลชนมา 50 ปี มีคดีทั้งหมด 246 คดี ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้ จะไปขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า ไปแน่นอน และให้สื่อมวลชนคอยฟังให้ดี เพราะตนจะมีทีเด็ดในการพูดบนเวทีการชุมนุมแน่นอน โดยการชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่ บ่าย 3 โมงเย็น ถึงเวลา 2 ทุ่มของวันเสาร์ เมื่อถามว่า การพูดทีเด็ดบนเวที จะทำให้รัฐบาลสะเทือนหรือไม่ นายสนธิกล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลชุดนี้พูดอะไรไปก็ไม่สะเทือนหรอก" https://sondhitalk.com/photo-gallery/9680000059229?fbclid=IwQ0xDSwLHDOBleHRuA2FlbQIxMQABHjn6VGI0tuOTxS9x_CkwyfHJV-yBaFUZuPKiJhpkpFj61C6LFET_1vKF_qsn_aem_sKwXdW8qRXGV0NWL3DHNAQ
    SONDHITALK.COM
    Photo Gallery ศาลอาญายกฟ้อง "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พูดพาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต
    Photo Gallery ศาลอาญายกฟ้อง บิ๊กอ็อด ฟ้องหมิ่น สนธิ ลิ้มทองกุล พาดพิงในรายการสนธิทอร์ค ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • หลายคนใช้ CapCut เพราะมันฟรี ใช้ง่าย และมีลูกเล่นที่ดีมาก…แต่หลังจากอัปเดตข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Service) ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวเตือนว่า ผู้ใช้แทบไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อหาของตัวเองแล้ว

    CapCut เขียนเงื่อนไขว่า เมื่อคุณอัปโหลดวิดีโอ รูปภาพ หรือเสียงใด ๆ เข้าไปในระบบ (แม้แต่อันที่ไม่ได้กดเผยแพร่ก็ตาม) คุณจะมอบ สิทธิใช้งานแบบ “ทั่วโลก, ถาวร, โอนต่อได้, และไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์” ให้ CapCut ใช้ผลงานของคุณ — ทั้งใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และผลงานสร้างสรรค์ของคุณ เพื่อทำอะไรก็ได้ รวมถึงการใช้ในโฆษณา โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าหรือให้ค่าตอบแทนใด ๆ

    สิ่งที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ ถึงคุณจะลบบัญชี CapCut ไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็ยังเป็นของ CapCut ตลอดไป เพราะเขาเขียนว่า "perpetual" — ไม่มีหมดอายุ

    แถมไม่มีวิธี opt-out ด้วย...หมายความว่าแค่คุณใช้งานก็ถือว่ายอมรับโดยอัตโนมัติ

    ✅ CapCut อัปเดตข้อตกลงการใช้งาน โดยอ้างสิทธิในผลงานของผู้ใช้แบบถาวรและโอนต่อได้  
    • ครอบคลุมถึงภาพใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และงานตัดต่อทั้งหมด  
    • ใช้ได้แม้ผู้ใช้จะลบบัญชีแล้ว

    ✅ ข้อตกลงใหม่นี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาทั้งหมดที่อัปโหลด — แม้จะไม่ได้เผยแพร่ก็ตาม  
    • รวมถึงคลิป draft, voiceover, หรือไฟล์ชั่วคราว

    ✅ CapCut ไม่มีระบบ opt-out — หากใช้งานถือว่ายอมรับข้อตกลงทันที  
    • ใช้กับทั้งผู้ใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้เนื้อหาของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจละเมิดกฎหมายสิทธิภาพลักษณ์ (right of publicity)  
    • แต่การบังคับใช้ลำบากมากเพราะผู้ใช้กดยอมรับแล้วใน ToS

    ✅ ทางเลือกของผู้ใช้งานคือเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่น เช่น DaVinci Resolve หรือ Adobe Premiere ที่ให้ความเป็นเจ้าของผลงานแก่ผู้ใช้ชัดเจนกว่า

    https://www.techradar.com/pro/popular-video-editing-app-capcut-wants-to-use-any-content-you-produce-for-free-forever-heres-what-you-should-know
    หลายคนใช้ CapCut เพราะมันฟรี ใช้ง่าย และมีลูกเล่นที่ดีมาก…แต่หลังจากอัปเดตข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Service) ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวเตือนว่า ผู้ใช้แทบไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อหาของตัวเองแล้ว CapCut เขียนเงื่อนไขว่า เมื่อคุณอัปโหลดวิดีโอ รูปภาพ หรือเสียงใด ๆ เข้าไปในระบบ (แม้แต่อันที่ไม่ได้กดเผยแพร่ก็ตาม) คุณจะมอบ สิทธิใช้งานแบบ “ทั่วโลก, ถาวร, โอนต่อได้, และไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์” ให้ CapCut ใช้ผลงานของคุณ — ทั้งใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และผลงานสร้างสรรค์ของคุณ เพื่อทำอะไรก็ได้ รวมถึงการใช้ในโฆษณา โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าหรือให้ค่าตอบแทนใด ๆ สิ่งที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ ถึงคุณจะลบบัญชี CapCut ไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็ยังเป็นของ CapCut ตลอดไป เพราะเขาเขียนว่า "perpetual" — ไม่มีหมดอายุ แถมไม่มีวิธี opt-out ด้วย...หมายความว่าแค่คุณใช้งานก็ถือว่ายอมรับโดยอัตโนมัติ ✅ CapCut อัปเดตข้อตกลงการใช้งาน โดยอ้างสิทธิในผลงานของผู้ใช้แบบถาวรและโอนต่อได้   • ครอบคลุมถึงภาพใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และงานตัดต่อทั้งหมด   • ใช้ได้แม้ผู้ใช้จะลบบัญชีแล้ว ✅ ข้อตกลงใหม่นี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาทั้งหมดที่อัปโหลด — แม้จะไม่ได้เผยแพร่ก็ตาม   • รวมถึงคลิป draft, voiceover, หรือไฟล์ชั่วคราว ✅ CapCut ไม่มีระบบ opt-out — หากใช้งานถือว่ายอมรับข้อตกลงทันที   • ใช้กับทั้งผู้ใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้เนื้อหาของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจละเมิดกฎหมายสิทธิภาพลักษณ์ (right of publicity)   • แต่การบังคับใช้ลำบากมากเพราะผู้ใช้กดยอมรับแล้วใน ToS ✅ ทางเลือกของผู้ใช้งานคือเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่น เช่น DaVinci Resolve หรือ Adobe Premiere ที่ให้ความเป็นเจ้าของผลงานแก่ผู้ใช้ชัดเจนกว่า https://www.techradar.com/pro/popular-video-editing-app-capcut-wants-to-use-any-content-you-produce-for-free-forever-heres-what-you-should-know
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • ลองนึกภาพว่าเมื่อก่อน Google หรือ search engine เข้ามาเก็บข้อมูลเว็บเรา 6 ครั้ง จะมีคนคลิกเข้ามาสัก 1 ครั้งเพื่ออ่านจริง เหมือนเรายังพอ “มีค่าตอบแทน” จากการเปิดบ้านให้บอทเข้าเก็บข้อมูล

    แต่ตอนนี้อะไรเปลี่ยนไปหมด — Google, OpenAI และ Anthropic ใช้ AI มาสรุปเนื้อหาให้คนเลยทันที ผู้ใช้ไม่ต้องคลิก ไม่ต้องเข้าเว็บ แค่แชตหรือดูคำตอบบนหน้าแรกก็จบแล้ว ส่งผลให้สัดส่วน crawler : คนคลิก ลดฮวบลงเหลือระดับ “น่าตกใจ” เช่น:

    - Google: จาก 6:1 → เหลือ 18:1
    - OpenAI: จาก 250:1 → เหลือ 1,500:1
    - Anthropic: จาก 6,000:1 → เหลือ 60,000:1

    ซีอีโอของ Cloudflare มองว่าถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ อินเทอร์เน็ตอาจเข้าสู่ยุค “เว็บผีไร้คนอ่าน” เพราะเจ้าของเว็บไม่มีแรงจูงใจในการผลิตเนื้อหาอีกแล้ว

    แม้ AI หลายรายเริ่ม “ใส่เครดิต” และลิงก์กลับไปยังต้นทาง แต่ Prince บอกว่า “ไม่มีใครคลิกจริง” เพราะตอนนี้ผู้คนเชื่อใจคำตอบของ AI มากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่รู้ตัวว่าอาจกำลังอ่านข้อมูล “ผิดหรือคลาดเคลื่อน”

    เพื่อสู้กับเรื่องนี้ Cloudflare พัฒนาเครื่องมือใหม่ชื่อว่า AI Labyrinth ซึ่งเป็นระบบดัก crawler ที่ลอบเก็บข้อมูลโดยไม่เคารพ robots.txt หรือกฎเว็บ โดยจะพามัน “หลงในวงกตลิงก์ AI ปลอม ๆ” เพื่อให้มันเสียเวลาและพลังประมวลผลไปกับของไม่มีค่า — เหมือน AI เจอกับ AI นั่นเอง

    ✅ AI search และ zero-click result กำลังทำให้เว็บไซต์สูญเสียผู้เข้าชมจำนวนมาก  
    • สัดส่วน bot : คนคลิกพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว  
    • ส่งผลต่อรายได้จากโฆษณาและความอยู่รอดของเว็บไซต์

    ✅ Cloudflare เตรียมต่อสู้ด้วยเครื่องมือชื่อ “AI Labyrinth” เพื่อเบี่ยงเบน bot ที่ไม่เคารพกฎ  
    • สร้างลิงก์หลอกและหน้าปลอมให้ bot “เดินหลง”  
    • ใช้ AI สู้กับ AI ด้วยตรรกะแบบป้องกัน

    ✅ Google และ OpenAI แม้จะใส่เครดิตในผลลัพธ์ AI แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่คลิกลิงก์  
    • ผู้ใช้ “เชื่อ” คำตอบของ AI มากขึ้น  
    • เพิ่มโอกาสการกระจายข้อมูลผิดหรือไม่ครบถ้วน

    ✅ Cloudflare เตือนว่าถ้าไม่แก้ไข โมเดลรายได้ของเว็บจะล่มสลาย  
    • นักเขียน ครีเอเตอร์ และเว็บคุณภาพอาจเลิกสร้างเนื้อหา  
    • เหลือเพียงอินเทอร์เน็ตที่มีแต่ bot คุยกับ bot

    https://www.techspot.com/news/108399-cloudflare-ceo-warns-ai-crawlers-summaries-eroding-internet.html
    ลองนึกภาพว่าเมื่อก่อน Google หรือ search engine เข้ามาเก็บข้อมูลเว็บเรา 6 ครั้ง จะมีคนคลิกเข้ามาสัก 1 ครั้งเพื่ออ่านจริง เหมือนเรายังพอ “มีค่าตอบแทน” จากการเปิดบ้านให้บอทเข้าเก็บข้อมูล แต่ตอนนี้อะไรเปลี่ยนไปหมด — Google, OpenAI และ Anthropic ใช้ AI มาสรุปเนื้อหาให้คนเลยทันที ผู้ใช้ไม่ต้องคลิก ไม่ต้องเข้าเว็บ แค่แชตหรือดูคำตอบบนหน้าแรกก็จบแล้ว ส่งผลให้สัดส่วน crawler : คนคลิก ลดฮวบลงเหลือระดับ “น่าตกใจ” เช่น: - Google: จาก 6:1 → เหลือ 18:1 - OpenAI: จาก 250:1 → เหลือ 1,500:1 - Anthropic: จาก 6,000:1 → เหลือ 60,000:1 ซีอีโอของ Cloudflare มองว่าถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ อินเทอร์เน็ตอาจเข้าสู่ยุค “เว็บผีไร้คนอ่าน” เพราะเจ้าของเว็บไม่มีแรงจูงใจในการผลิตเนื้อหาอีกแล้ว แม้ AI หลายรายเริ่ม “ใส่เครดิต” และลิงก์กลับไปยังต้นทาง แต่ Prince บอกว่า “ไม่มีใครคลิกจริง” เพราะตอนนี้ผู้คนเชื่อใจคำตอบของ AI มากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่รู้ตัวว่าอาจกำลังอ่านข้อมูล “ผิดหรือคลาดเคลื่อน” เพื่อสู้กับเรื่องนี้ Cloudflare พัฒนาเครื่องมือใหม่ชื่อว่า AI Labyrinth ซึ่งเป็นระบบดัก crawler ที่ลอบเก็บข้อมูลโดยไม่เคารพ robots.txt หรือกฎเว็บ โดยจะพามัน “หลงในวงกตลิงก์ AI ปลอม ๆ” เพื่อให้มันเสียเวลาและพลังประมวลผลไปกับของไม่มีค่า — เหมือน AI เจอกับ AI นั่นเอง ✅ AI search และ zero-click result กำลังทำให้เว็บไซต์สูญเสียผู้เข้าชมจำนวนมาก   • สัดส่วน bot : คนคลิกพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว   • ส่งผลต่อรายได้จากโฆษณาและความอยู่รอดของเว็บไซต์ ✅ Cloudflare เตรียมต่อสู้ด้วยเครื่องมือชื่อ “AI Labyrinth” เพื่อเบี่ยงเบน bot ที่ไม่เคารพกฎ   • สร้างลิงก์หลอกและหน้าปลอมให้ bot “เดินหลง”   • ใช้ AI สู้กับ AI ด้วยตรรกะแบบป้องกัน ✅ Google และ OpenAI แม้จะใส่เครดิตในผลลัพธ์ AI แต่คนส่วนใหญ่ก็ไม่คลิกลิงก์   • ผู้ใช้ “เชื่อ” คำตอบของ AI มากขึ้น   • เพิ่มโอกาสการกระจายข้อมูลผิดหรือไม่ครบถ้วน ✅ Cloudflare เตือนว่าถ้าไม่แก้ไข โมเดลรายได้ของเว็บจะล่มสลาย   • นักเขียน ครีเอเตอร์ และเว็บคุณภาพอาจเลิกสร้างเนื้อหา   • เหลือเพียงอินเทอร์เน็ตที่มีแต่ bot คุยกับ bot https://www.techspot.com/news/108399-cloudflare-ceo-warns-ai-crawlers-summaries-eroding-internet.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Cloudflare CEO warns AI crawlers and summaries are eroding the internet's business model
    Speaking at an Axios event in Cannes last week, Prince explained that search engines and chatbots using generative AI to summarize web content have significantly reduced the...
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • ..คิดเล่นๆนะ,ถ้าประชาชนทุกๆคนที่เป็นสมาชิกพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลต่างทำการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทั้งหมดที่เคยเอาบัตรประชาชนตนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค ไปสนับสนุนการมีอยู่ของสมาชิกพรรคจะเกิดอะไรขึ้นถ้าร่วมสามัคคีใจทำการลาออกจากพวกทรยศอธิปไตยชาติไทยเรานะ,มันจะจัดตั้งพรรคมันก็ล่ารายชื่อเราเพื่อหาสมาชิกพรรคจากประชาชนกันจัง,จริงๆกกต.สมควรล้างสถานะสมาชิกพรรคทุกๆสมัยก่อนมีการเลือกตั้งนะ,ไม่ให้ผูกขาดหรือคงอยู่ของการมีอยู่บุคคลว่าสมัครเป็นสมาชิกพรรคตนไว้,ถ้าสถานะการมีอยู่ของประชาชนที่มาเป็นสมาชิกพรรคไม่ถึงเกณฑ์ห้ามพรรคส่งสส.ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองนั้นสิ้นสถานะพรรคการเมืองทันที,เช่นหากพรรคเพื่อไทย ประชาชนไม่พอใจเพราะวลีความว่าทหารไทยอยู่ตรงข้ามฝ่ายเรา,ประชาชนเสื้อแดงจากเคยเอาบัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคกว่า10-20ล้านคนที่ไม่อัพเดทมีตายทุกๆเดือนทุกๆปีก็ว่า,พากันลาออกออนไลน์ได้ทันทีในนามสมาชิกสนับสนุนการมีอยู่ของพรรคก่อนตั้งพรรคต้องมีสมาชิกจากประชาชนเข้าร่วมด้วยอย่างน้อย1,000คนจึงตั้งพรรคการเมืองได้,ประชาชนลงทะเบียนออนไลน์สายตรงต่อกกต.ว่าขอลาออกการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยทันทีกว่า10-20ล้านคนทันทีเข่นกัน,นั้นแสดงว่าขาดคุณสมบัติการมีอยู่ของพรรคการเมืองทันที,พรรคนั้นจะยุบพรรคไปเองทันทีโดยอัตโนมัติและต้องหาคนหาประชาชนคนไทยที่มีสิทธิเลือกตั้งมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่อีกครั้ง จดทะเบียนรายชื่อพรรคใหม่อีกครั้งนั้นเอง,นี้คือประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองชัดเจนอีกทางหนึ่ง,สส.ก็ด้วยสามารถไร้สกัดพรรคการเมืองได้,อิสระจากวิถีพรรคการเมืองได้,
    ..จริงๆหากสส.มีจิตสำนึกจริง จะต้องลาออกจากพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วย,สส.รัฐบาลทุกๆคนสามารถมีข้อหาเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยชาติเข่นกันรวมถึงทุกๆคนที่ได้รับเงินเดือนทำงานให้กับพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วยเพราะเป็นกลไกขับเคลื่อนความชั่วเลวให้ชาติไทยประสบกับภัยคุกคามรุกรานนี้ด้วยทางความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศไทยตนและขาดจิตสำนึกดีชั่ว ไม่รู้สำนึกควรไม่ควร ทำงานให้คนทรยศอธิปไตยแผ่นดินไทยตนเองซึ่งข่าวสารชัดเจนสามารถประกอบการตัดสินใจด้านจิตสำนึกดีชั่วเลวขั้นพื้นฐานได้,แต่ยังมีเจตนาชัดเจนหมายก่อการร่วมกระทำการไปด้วยอย่างตั้งใจเมื่อความชัดปรากฎแล้ว,
    ..นี้คือภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศ จะมาล่อเล่นไม่ได้,ประเทศไทยจะเป็นประเทศได้มิใช่ไม่มีที่ไปที่มา,มีเลือดมีเนื้อมีชีวิตผู้กล้ามากมายผู้บริสุทธิ์มากล้นต้องแลกมาเพื่อปกป้องอธิปไตยชาติไทยเรานี้.,สส.และกรรมการพรรคตลอดคนงานที่รับเงินเดือนค่าตอบแทนพรรคนั้นๆทั้งหมดสามารถเข้าใจชัดเจนว่ามีความผิดร้ายแรงอย่างให้อภัยโทษไม่ได้,ประชาชนผู้ร่วมเป็นสมาชิกพรรคนั้นๆก็ด้วยบางคนไม่รับรู้อะไรเลยว่าตนถูกขโมยเลขที่บัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆกกต.จึงต้องมีระบบตรวจสอบสถานะสมาชิกพรรคการเมืองอย่างสะดวกสบายเรียลไทม์ให้เห็นผลว่าเขาเป็นสมาชิกนั้นๆได้แค่ตรวจสอบออนไลน์เรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยีเราล้ำสมัยแล้ว,สามารถกดยืนยันลาออกจากสมาชิกนั้นเรียลไทม์ได้เช่นกัน,เราต้องปรับปรุงจริงๆนี้คือประชาชนมีส่วนร่วมจริงทางการบริหารประเทศ ชาติเสียหาย นายกฯไม่จำเป็นต้องลาออกหรือยุบสภาเลย,ประชาชนลาออกจากสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆก็จบ.,สส.ลาออกจากพรรคนั้นๆก็จบหากใช้สไตล์สส.มากจัดตั้งรัฐบาลได้.
    ..สรุป สส.ทั้งหมดคือตัวเหี้ยก็ได้ในตอนนี้,จะเป็นฮีโร่ก็ได้เช่นกันในเวลานี้ที่เป็นแปรสำคัญของทุกๆพรรคการเมืองในฝ่ายรัฐบาล,โยนความผิดให้สส.รัฐบาลเลย เพราะตัวการที่แท้จริงยังไม่ตัดสินใจว่าอะไรผิดถูก สมควรไม่สมควร เหมาะสมไม่เหมาะสม,ไม่ใช่แค่หัวหน้าพรรคหรือมติกรรมการพรรค ตัวพ่อมรึงคือมรึงนั้นล่ะ สส.ประจำพรรคจัดตัังรัฐบาลทั้งหลาย,ลาออกจากการเป็นสส.พรรครัฐบาลตั้งแต่ดูคลิปแล้วจึงจะสมควรสุด,ไม่อยากพูดแค่นั่นจริงๆ,และสื่อเราแบบโซเชียลทุกๆช่องทางสมควรตีหัวให้รู้สำนึกดีชั่วได้แล้ว,
    ..สส.พรรคนี้ทำดีมาก,คนทำงานในพรรคนี้ก็ดีด้วย,สามารถหนีหรือหลุดคดีภัยร้ายแรงด้านความมั่นคงทางอธิปไตยชาติไทยได้,และจริงๆต้องเป็นไปในรูปแบบนี้ด้วย กรรมการพรรค สส.พรรค เจ้าหน้าที่ทำงานแรงงานทุกๆคนในพรรคนั้นๆต้องรับโทษทั้งหมด,หนักเบาลดหย่อนตามบริบทหน้าที่หน้างานการมีส่วนกระบวนการนั้นๆแต่จริงๆโทษเสมอกันหมดในขั้นเรเวลความผิด.,มันจะเป็นบรรทัดฐานสร้างวินัยจิตสำนึกอันดีงามที่ดีในอนาคตได้และต่อยอดสิ่งดีๆเพิ่มขึ้นไปอีก.,และถ้าจะดีหากปลุกกระแสขับไล่สส.ที่อยู่ในพรรครัฐบาลทั้งหมดด้วยขาดจิตสำนึกรับผิดชอบชั่วดีขั้นพื้นฐานในบ้านในเมืองตนเองแท้ๆโดยเฉพาะเรื่องอธิปไตยชาติไทยตนเองเสือกยังคงดำรงตนอยู่เพื่อผลประโยชน์ตนเองต้องมาก่อน,จะสส.พรรคร่วมรัฐบาลก็ด้วย,ตลอดสส.ฝ่ายค้านเองก็เถอะ,เสือกอยากให้รัฐบาลยุบสภา,แต่ตนเองเสือกไม่ลาออกจากสส.ในการปกครองของรัฐบาล,ยุบสภาตัวเองก็พ้นสถานะสส.อยู่ดีกะแต่อยากได้ผลประโยชน์ใส่ตนเองหากลาออกหรือไม่ลาออก,สวัสดิการผลประโยชน์ชดเชยต่างกันก็ว่า,อุบาทก์สิ้นดีทั้งหมด,กลัวไม่ได้บำนาญสส.เหรอ.เดือนละเป็นหมื่นหลายหมื่นเนาะ.
    https://youtu.be/OXDSZRx7mOo?si=Y1y25Eci0honernx
    ..คิดเล่นๆนะ,ถ้าประชาชนทุกๆคนที่เป็นสมาชิกพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลต่างทำการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทั้งหมดที่เคยเอาบัตรประชาชนตนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค ไปสนับสนุนการมีอยู่ของสมาชิกพรรคจะเกิดอะไรขึ้นถ้าร่วมสามัคคีใจทำการลาออกจากพวกทรยศอธิปไตยชาติไทยเรานะ,มันจะจัดตั้งพรรคมันก็ล่ารายชื่อเราเพื่อหาสมาชิกพรรคจากประชาชนกันจัง,จริงๆกกต.สมควรล้างสถานะสมาชิกพรรคทุกๆสมัยก่อนมีการเลือกตั้งนะ,ไม่ให้ผูกขาดหรือคงอยู่ของการมีอยู่บุคคลว่าสมัครเป็นสมาชิกพรรคตนไว้,ถ้าสถานะการมีอยู่ของประชาชนที่มาเป็นสมาชิกพรรคไม่ถึงเกณฑ์ห้ามพรรคส่งสส.ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองนั้นสิ้นสถานะพรรคการเมืองทันที,เช่นหากพรรคเพื่อไทย ประชาชนไม่พอใจเพราะวลีความว่าทหารไทยอยู่ตรงข้ามฝ่ายเรา,ประชาชนเสื้อแดงจากเคยเอาบัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคกว่า10-20ล้านคนที่ไม่อัพเดทมีตายทุกๆเดือนทุกๆปีก็ว่า,พากันลาออกออนไลน์ได้ทันทีในนามสมาชิกสนับสนุนการมีอยู่ของพรรคก่อนตั้งพรรคต้องมีสมาชิกจากประชาชนเข้าร่วมด้วยอย่างน้อย1,000คนจึงตั้งพรรคการเมืองได้,ประชาชนลงทะเบียนออนไลน์สายตรงต่อกกต.ว่าขอลาออกการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยทันทีกว่า10-20ล้านคนทันทีเข่นกัน,นั้นแสดงว่าขาดคุณสมบัติการมีอยู่ของพรรคการเมืองทันที,พรรคนั้นจะยุบพรรคไปเองทันทีโดยอัตโนมัติและต้องหาคนหาประชาชนคนไทยที่มีสิทธิเลือกตั้งมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่อีกครั้ง จดทะเบียนรายชื่อพรรคใหม่อีกครั้งนั้นเอง,นี้คือประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองชัดเจนอีกทางหนึ่ง,สส.ก็ด้วยสามารถไร้สกัดพรรคการเมืองได้,อิสระจากวิถีพรรคการเมืองได้, ..จริงๆหากสส.มีจิตสำนึกจริง จะต้องลาออกจากพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วย,สส.รัฐบาลทุกๆคนสามารถมีข้อหาเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยชาติเข่นกันรวมถึงทุกๆคนที่ได้รับเงินเดือนทำงานให้กับพรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดด้วยเพราะเป็นกลไกขับเคลื่อนความชั่วเลวให้ชาติไทยประสบกับภัยคุกคามรุกรานนี้ด้วยทางความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศไทยตนและขาดจิตสำนึกดีชั่ว ไม่รู้สำนึกควรไม่ควร ทำงานให้คนทรยศอธิปไตยแผ่นดินไทยตนเองซึ่งข่าวสารชัดเจนสามารถประกอบการตัดสินใจด้านจิตสำนึกดีชั่วเลวขั้นพื้นฐานได้,แต่ยังมีเจตนาชัดเจนหมายก่อการร่วมกระทำการไปด้วยอย่างตั้งใจเมื่อความชัดปรากฎแล้ว, ..นี้คือภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศ จะมาล่อเล่นไม่ได้,ประเทศไทยจะเป็นประเทศได้มิใช่ไม่มีที่ไปที่มา,มีเลือดมีเนื้อมีชีวิตผู้กล้ามากมายผู้บริสุทธิ์มากล้นต้องแลกมาเพื่อปกป้องอธิปไตยชาติไทยเรานี้.,สส.และกรรมการพรรคตลอดคนงานที่รับเงินเดือนค่าตอบแทนพรรคนั้นๆทั้งหมดสามารถเข้าใจชัดเจนว่ามีความผิดร้ายแรงอย่างให้อภัยโทษไม่ได้,ประชาชนผู้ร่วมเป็นสมาชิกพรรคนั้นๆก็ด้วยบางคนไม่รับรู้อะไรเลยว่าตนถูกขโมยเลขที่บัตรประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆกกต.จึงต้องมีระบบตรวจสอบสถานะสมาชิกพรรคการเมืองอย่างสะดวกสบายเรียลไทม์ให้เห็นผลว่าเขาเป็นสมาชิกนั้นๆได้แค่ตรวจสอบออนไลน์เรียลไทม์ด้วยเทคโนโลยีเราล้ำสมัยแล้ว,สามารถกดยืนยันลาออกจากสมาชิกนั้นเรียลไทม์ได้เช่นกัน,เราต้องปรับปรุงจริงๆนี้คือประชาชนมีส่วนร่วมจริงทางการบริหารประเทศ ชาติเสียหาย นายกฯไม่จำเป็นต้องลาออกหรือยุบสภาเลย,ประชาชนลาออกจากสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆก็จบ.,สส.ลาออกจากพรรคนั้นๆก็จบหากใช้สไตล์สส.มากจัดตั้งรัฐบาลได้. ..สรุป สส.ทั้งหมดคือตัวเหี้ยก็ได้ในตอนนี้,จะเป็นฮีโร่ก็ได้เช่นกันในเวลานี้ที่เป็นแปรสำคัญของทุกๆพรรคการเมืองในฝ่ายรัฐบาล,โยนความผิดให้สส.รัฐบาลเลย เพราะตัวการที่แท้จริงยังไม่ตัดสินใจว่าอะไรผิดถูก สมควรไม่สมควร เหมาะสมไม่เหมาะสม,ไม่ใช่แค่หัวหน้าพรรคหรือมติกรรมการพรรค ตัวพ่อมรึงคือมรึงนั้นล่ะ สส.ประจำพรรคจัดตัังรัฐบาลทั้งหลาย,ลาออกจากการเป็นสส.พรรครัฐบาลตั้งแต่ดูคลิปแล้วจึงจะสมควรสุด,ไม่อยากพูดแค่นั่นจริงๆ,และสื่อเราแบบโซเชียลทุกๆช่องทางสมควรตีหัวให้รู้สำนึกดีชั่วได้แล้ว, ..สส.พรรคนี้ทำดีมาก,คนทำงานในพรรคนี้ก็ดีด้วย,สามารถหนีหรือหลุดคดีภัยร้ายแรงด้านความมั่นคงทางอธิปไตยชาติไทยได้,และจริงๆต้องเป็นไปในรูปแบบนี้ด้วย กรรมการพรรค สส.พรรค เจ้าหน้าที่ทำงานแรงงานทุกๆคนในพรรคนั้นๆต้องรับโทษทั้งหมด,หนักเบาลดหย่อนตามบริบทหน้าที่หน้างานการมีส่วนกระบวนการนั้นๆแต่จริงๆโทษเสมอกันหมดในขั้นเรเวลความผิด.,มันจะเป็นบรรทัดฐานสร้างวินัยจิตสำนึกอันดีงามที่ดีในอนาคตได้และต่อยอดสิ่งดีๆเพิ่มขึ้นไปอีก.,และถ้าจะดีหากปลุกกระแสขับไล่สส.ที่อยู่ในพรรครัฐบาลทั้งหมดด้วยขาดจิตสำนึกรับผิดชอบชั่วดีขั้นพื้นฐานในบ้านในเมืองตนเองแท้ๆโดยเฉพาะเรื่องอธิปไตยชาติไทยตนเองเสือกยังคงดำรงตนอยู่เพื่อผลประโยชน์ตนเองต้องมาก่อน,จะสส.พรรคร่วมรัฐบาลก็ด้วย,ตลอดสส.ฝ่ายค้านเองก็เถอะ,เสือกอยากให้รัฐบาลยุบสภา,แต่ตนเองเสือกไม่ลาออกจากสส.ในการปกครองของรัฐบาล,ยุบสภาตัวเองก็พ้นสถานะสส.อยู่ดีกะแต่อยากได้ผลประโยชน์ใส่ตนเองหากลาออกหรือไม่ลาออก,สวัสดิการผลประโยชน์ชดเชยต่างกันก็ว่า,อุบาทก์สิ้นดีทั้งหมด,กลัวไม่ได้บำนาญสส.เหรอ.เดือนละเป็นหมื่นหลายหมื่นเนาะ. https://youtu.be/OXDSZRx7mOo?si=Y1y25Eci0honernx
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
  • Perplexity เป็นคู่แข่งของ ChatGPT ที่เน้น "ตอบแบบอิงแหล่งข้อมูลจากเว็บ" โดยจะรวบรวมเนื้อหาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ มาสรุปตอบผู้ใช้ ซึ่งฟังดูดี...แต่ดันไปดึงบทความจากเว็บไซต์ข่าวอย่าง BBC, New York Times, Forbes ฯลฯ โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน

    BBC จึงส่งจดหมายถึง Perplexity ให้:
    - หยุดการ scrape (ดึง) ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ BBC
    - ลบเนื้อหาที่ได้มาทั้งหมด
    - ถ้าจะใช้ต่อ ต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนให้ด้วย

    BBC อาจฟ้องศาลและขอคำสั่งห้าม หาก Perplexity ไม่ยอมทำตาม ซึ่งสะท้อนแนวโน้มที่สำนักข่าวเริ่มหวงข้อมูลมากขึ้น—เพราะ AI ทำให้เซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาโดนโหลดหนักขึ้น โดยไม่ได้มีรายได้เพิ่มจากคนอ่านจริง

    ฝั่ง Perplexity เองก็ไม่ยอมง่าย ๆ ตอบโต้ผ่าน Financial Times ว่าการกระทำของ BBC “บิดเบือนและฉวยโอกาส” พร้อมตำหนิว่า BBC “ไม่เข้าใจอินเทอร์เน็ตและกฎหมายลิขสิทธิ์” ด้วยซ้ำ

    ปัญหานี้ไม่ได้มีแค่ BBC—ก่อนหน้านี้ Perplexity เคยโดน Forbes, Wired, และ NYT กล่าวหาว่า “ลอกเนื้อหา” โดยไม่ได้รับอนุญาต และเคยโดน NYT ส่งจดหมาย cease & desist มาแล้ว

    แม้ Perplexity จะพยายามผูกมิตรด้วยการตั้งโปรแกรม revenue share กับ TIME, Fortune, Der Spiegel ฯลฯ โดยให้ส่วนแบ่งสูงสุดถึง 25% แต่ BBC ยังไม่ได้เข้าร่วม

    https://www.neowin.net/news/bbc-threatens-perplexity-with-legal-action-over-content-scraping/
    Perplexity เป็นคู่แข่งของ ChatGPT ที่เน้น "ตอบแบบอิงแหล่งข้อมูลจากเว็บ" โดยจะรวบรวมเนื้อหาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ มาสรุปตอบผู้ใช้ ซึ่งฟังดูดี...แต่ดันไปดึงบทความจากเว็บไซต์ข่าวอย่าง BBC, New York Times, Forbes ฯลฯ โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน BBC จึงส่งจดหมายถึง Perplexity ให้: - หยุดการ scrape (ดึง) ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ BBC - ลบเนื้อหาที่ได้มาทั้งหมด - ถ้าจะใช้ต่อ ต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนให้ด้วย BBC อาจฟ้องศาลและขอคำสั่งห้าม หาก Perplexity ไม่ยอมทำตาม ซึ่งสะท้อนแนวโน้มที่สำนักข่าวเริ่มหวงข้อมูลมากขึ้น—เพราะ AI ทำให้เซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาโดนโหลดหนักขึ้น โดยไม่ได้มีรายได้เพิ่มจากคนอ่านจริง ฝั่ง Perplexity เองก็ไม่ยอมง่าย ๆ ตอบโต้ผ่าน Financial Times ว่าการกระทำของ BBC “บิดเบือนและฉวยโอกาส” พร้อมตำหนิว่า BBC “ไม่เข้าใจอินเทอร์เน็ตและกฎหมายลิขสิทธิ์” ด้วยซ้ำ ปัญหานี้ไม่ได้มีแค่ BBC—ก่อนหน้านี้ Perplexity เคยโดน Forbes, Wired, และ NYT กล่าวหาว่า “ลอกเนื้อหา” โดยไม่ได้รับอนุญาต และเคยโดน NYT ส่งจดหมาย cease & desist มาแล้ว แม้ Perplexity จะพยายามผูกมิตรด้วยการตั้งโปรแกรม revenue share กับ TIME, Fortune, Der Spiegel ฯลฯ โดยให้ส่วนแบ่งสูงสุดถึง 25% แต่ BBC ยังไม่ได้เข้าร่วม https://www.neowin.net/news/bbc-threatens-perplexity-with-legal-action-over-content-scraping/
    WWW.NEOWIN.NET
    BBC threatens Perplexity with legal action over content scraping
    The BBC is the latest news publisher to take issue with Perplexity scraping its content for free. It has outlined several options that Perplexity can take.
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก

    ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’

    วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ)

    เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า

    ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า

    วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย

    แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ?

    ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน

    แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความเก่า:
    ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944
    https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756
    https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html

    #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ) เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ? ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความเก่า: ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076 Credit รูปภาพจาก: https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944 https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756 https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    1 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • ใครจะเชื่อว่า “โบนัสเซ็นสัญญา” สำหรับนักวิจัย AI ตอนนี้อาจแตะตัวเลข 100 ล้านเหรียญ! Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ของน้องชายตัวเองว่า Meta เสนอตัวเลขนี้จริง ๆ เพื่อดึงคนจาก OpenAI ไป

    Altman บอกว่า “Meta เริ่มแจกข้อเสนอระดับไม่ธรรมดากับหลายคนในทีมเรา...ยังดีที่ตอนนี้ไม่มีใครตัดสินใจย้ายไปนะ” ข้อเสนอนี้รวมทั้งโบนัสและค่าตอบแทนรายปีซึ่งรวม ๆ กันก็ทำให้หลายคน “ตาค้าง”

    เบื้องหลังเรื่องนี้คือ Meta ตั้งทีม AI “superintelligence” ใหม่ โดยมี Alexandr Wang (อดีตซีอีโอของ Scale AI) มาเป็นผู้นำ ซึ่งนั่งทำงานใกล้กับ Mark Zuckerberg เลย แถม Meta ก็เพิ่งเทเงิน $14.3 พันล้านลงทุนใน Scale AI ไปหมาด ๆ ถือว่าจัดหนักในสนามนี้

    Altman ยังวิจารณ์เบา ๆ ว่า “Meta ไม่ใช่บริษัทที่เก่งเรื่องนวัตกรรม” และเตือนว่า ถ้าบริษัทไหนมองแค่เรื่องเงินมากกว่าภารกิจ AI ระดับ AGI (Artificial General Intelligence) อาจสร้างวัฒนธรรมที่ไม่เหมาะกับการเกิด “การค้นพบครั้งใหญ่”

    ✅ Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $100 ล้าน เพื่อดึงนักวิจัย AI จากคู่แข่ง  
    • รวมทั้งโบนัสเซ็นสัญญาและค่าตอบแทนรวมรายปี  
    • จุดมุ่งหมายเพื่อเร่งสร้างทีม AI ระดับ “superintelligence”

    ✅ Sam Altman เผยเรื่องนี้ในพอดแคสต์ โดยระบุว่า Meta เสนอให้หลายคนใน OpenAI  
    • ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีใครรับข้อเสนอ  
    • มองว่า OpenAI มีโอกาสบรรลุ AGI ได้มากกว่า Meta

    ✅ ผู้นำทีมใหม่ของ Meta คือ Alexandr Wang (อดีต CEO ของ Scale AI)  
    • ทำงานใกล้ชิดกับ Mark Zuckerberg  
    • Meta ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI เพื่อสนับสนุนทิศทางนี้

    ✅ Meta ได้ตัวนักวิจัยดังบางคนจาก Google DeepMind และ Sesame AI แล้ว  
    • เช่น Jack Rae และ Johan Schalkwyk  
    • แต่ยังไม่สำเร็จในการดึง Noam Brown จาก OpenAI หรือ Koray Kavukcuoglu จาก Google

    ✅ มีมุมมองจากผู้บริหาร AI คนอื่นว่าการล่าคนต้องมีทั้งเงินและทรัพยากร GPU  
    • CEO ของ Perplexity เผยนักวิจัยจาก Meta บอก “มี 10,000 H100 เมื่อไหร่ ค่อยกลับมาคุย”

    ‼️ การล่าพนักงานแบบ “เงินนำหน้า” อาจทำลายวัฒนธรรมองค์กร  
    • คนที่เข้ามาเพราะเงิน อาจไม่ยึดมั่นในเป้าหมายระยะยาวขององค์กร  
    • ยิ่งในการวิจัย AI แบบ AGI ที่ต้องการการร่วมมือและความมุ่งมั่นสูง

    ‼️ Meta ถูกวิจารณ์ว่านวัตกรรมโอเพ่นซอร์สของตัวเอง “สะดุด” หลังเลื่อนปล่อยโมเดลใหม่  
    • ทำให้คู่แข่งอย่าง Google, DeepSeek และ OpenAI นำหน้าไปก่อน

    ‼️ การแย่งบุคลากร AI อาจทำให้ช่องว่างเทคโนโลยีระหว่างบริษัทยิ่งถ่างออก  
    • บริษัทเล็กหรือประเทศกำลังพัฒนาจะเสียเปรียบอย่างมาก

    ‼️ การเสนอค่าตัวระดับเกิน 100 ล้านดอลลาร์อาจผลักดันค่าจ้างในวงการขึ้นแบบไม่ยั่งยืน  
    • กระทบ ecosystem ของ startup และการวิจัยสาธารณะ

    https://www.techspot.com/news/108357-meta-offering-up-100-million-lure-ai-talent.html
    ใครจะเชื่อว่า “โบนัสเซ็นสัญญา” สำหรับนักวิจัย AI ตอนนี้อาจแตะตัวเลข 100 ล้านเหรียญ! Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ของน้องชายตัวเองว่า Meta เสนอตัวเลขนี้จริง ๆ เพื่อดึงคนจาก OpenAI ไป Altman บอกว่า “Meta เริ่มแจกข้อเสนอระดับไม่ธรรมดากับหลายคนในทีมเรา...ยังดีที่ตอนนี้ไม่มีใครตัดสินใจย้ายไปนะ” ข้อเสนอนี้รวมทั้งโบนัสและค่าตอบแทนรายปีซึ่งรวม ๆ กันก็ทำให้หลายคน “ตาค้าง” เบื้องหลังเรื่องนี้คือ Meta ตั้งทีม AI “superintelligence” ใหม่ โดยมี Alexandr Wang (อดีตซีอีโอของ Scale AI) มาเป็นผู้นำ ซึ่งนั่งทำงานใกล้กับ Mark Zuckerberg เลย แถม Meta ก็เพิ่งเทเงิน $14.3 พันล้านลงทุนใน Scale AI ไปหมาด ๆ ถือว่าจัดหนักในสนามนี้ Altman ยังวิจารณ์เบา ๆ ว่า “Meta ไม่ใช่บริษัทที่เก่งเรื่องนวัตกรรม” และเตือนว่า ถ้าบริษัทไหนมองแค่เรื่องเงินมากกว่าภารกิจ AI ระดับ AGI (Artificial General Intelligence) อาจสร้างวัฒนธรรมที่ไม่เหมาะกับการเกิด “การค้นพบครั้งใหญ่” ✅ Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $100 ล้าน เพื่อดึงนักวิจัย AI จากคู่แข่ง   • รวมทั้งโบนัสเซ็นสัญญาและค่าตอบแทนรวมรายปี   • จุดมุ่งหมายเพื่อเร่งสร้างทีม AI ระดับ “superintelligence” ✅ Sam Altman เผยเรื่องนี้ในพอดแคสต์ โดยระบุว่า Meta เสนอให้หลายคนใน OpenAI   • ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีใครรับข้อเสนอ   • มองว่า OpenAI มีโอกาสบรรลุ AGI ได้มากกว่า Meta ✅ ผู้นำทีมใหม่ของ Meta คือ Alexandr Wang (อดีต CEO ของ Scale AI)   • ทำงานใกล้ชิดกับ Mark Zuckerberg   • Meta ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI เพื่อสนับสนุนทิศทางนี้ ✅ Meta ได้ตัวนักวิจัยดังบางคนจาก Google DeepMind และ Sesame AI แล้ว   • เช่น Jack Rae และ Johan Schalkwyk   • แต่ยังไม่สำเร็จในการดึง Noam Brown จาก OpenAI หรือ Koray Kavukcuoglu จาก Google ✅ มีมุมมองจากผู้บริหาร AI คนอื่นว่าการล่าคนต้องมีทั้งเงินและทรัพยากร GPU   • CEO ของ Perplexity เผยนักวิจัยจาก Meta บอก “มี 10,000 H100 เมื่อไหร่ ค่อยกลับมาคุย” ‼️ การล่าพนักงานแบบ “เงินนำหน้า” อาจทำลายวัฒนธรรมองค์กร   • คนที่เข้ามาเพราะเงิน อาจไม่ยึดมั่นในเป้าหมายระยะยาวขององค์กร   • ยิ่งในการวิจัย AI แบบ AGI ที่ต้องการการร่วมมือและความมุ่งมั่นสูง ‼️ Meta ถูกวิจารณ์ว่านวัตกรรมโอเพ่นซอร์สของตัวเอง “สะดุด” หลังเลื่อนปล่อยโมเดลใหม่   • ทำให้คู่แข่งอย่าง Google, DeepSeek และ OpenAI นำหน้าไปก่อน ‼️ การแย่งบุคลากร AI อาจทำให้ช่องว่างเทคโนโลยีระหว่างบริษัทยิ่งถ่างออก   • บริษัทเล็กหรือประเทศกำลังพัฒนาจะเสียเปรียบอย่างมาก ‼️ การเสนอค่าตัวระดับเกิน 100 ล้านดอลลาร์อาจผลักดันค่าจ้างในวงการขึ้นแบบไม่ยั่งยืน   • กระทบ ecosystem ของ startup และการวิจัยสาธารณะ https://www.techspot.com/news/108357-meta-offering-up-100-million-lure-ai-talent.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Meta is offering up to $100 million to lure AI talent, says OpenAI's Sam Altman
    The recruitment drive has a personal element: former Scale AI CEO Alexandr Wang heads Meta's new AI group, and some new hires are said to be working...
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • หลายคนอาจคิดว่า Cybersecurity คือแค่คนป้องกันไวรัส แต่จริง ๆ แล้วงานนี้แตกแขนงเป็นหลายสาย และแต่ละตำแหน่งก็มีค่าตอบแทนต่างกันมาก

    จากรายงาน Cybersecurity Staff Compensation Benchmark 2025 ระบุว่า “ชื่อตำแหน่ง” ไม่ได้บอกเสมอว่าใครทำอะไรมากน้อยแค่ไหน เพราะในความจริง 61% ของคนทำงานสายนี้ต้องทำหลายบทบาทควบกัน แต่ถ้าจะดูว่า “ใครได้เงินเดือนสูงที่สุด” ก็ยังพอแยกได้เป็นลำดับแบบนี้:

    1️⃣ Security Architect — ค่าตัวอันดับ 1 ฐานเงินเดือนเฉลี่ย $179,000 รวมโบนัส $206,000  
    • ต้องรู้ลึกทั้งเครือข่าย ระบบ การออกแบบนโยบายการป้องกัน  
    • 34% ได้หุ้นประจำปีอีกด้วย

    2️⃣ Security Engineer — รองแชมป์ รับเฉลี่ย $168,000 รวมโบนัสเป็น $191,000  
    • เน้นลงมือจริงกับระบบ เช่น firewall, IDS/IPS, pentest, EDR  
    • หลายคนมาจากสาย network หรือ sysadmin มาก่อน

    3️⃣ Risk/GRC Specialist — มือวางด้านการจัดการความเสี่ยงและ compliance  
    • เงินเดือน $146,000 รวมโบนัส $173,000  
    • เน้น policy, audit, risk register, ISO, NIST, GDPR ฯลฯ

    4️⃣ Security Analyst (เช่น SOC analyst) — มือ frontline จับภัยคุกคาม  
    • รับเฉลี่ย $124,000 รวมโบนัส $133,000  
    • คอยตรวจจับเหตุการณ์ ปรับ signature ดู log และ SIEM

    ทุกตำแหน่งต่างมีเส้นทางเฉพาะ เช่น Security Analyst → Engineer → Architect หรือ Risk Analyst → GRC Lead → CISO ก็ได้ ขึ้นกับสายที่ชอบและทักษะที่ฝึกต่อ

    ✅ รายได้สูงสุด: Security Architect ครองแชมป์แบบครบเครื่อง  
    • เงินเดือน $179K / รายได้รวม $206K / หุ้น 34%  
    • งานหลากหลาย: ออกแบบ, IAM, AppSec, Product Security

    ✅ Security Engineer มาเป็นอันดับสอง  
    • เงินเดือน $168K / รายได้รวม $191K / หุ้น 31%  
    • ต้องมีพื้นฐาน Network/IT แน่น ชำนาญอุปกรณ์/ระบบ

    ✅ สาย GRC ก็มาแรง  
    • เงินเดือน $146K / รายได้รวม $173K / หุ้น 26%  
    • ทักษะพิเศษ: Risk, Compliance, NIST, AI-policy

    ✅ Security Analyst รายได้เริ่มต้นดี และเป็นฐานสร้างอาชีพอื่น  
    • เงินเดือน $124K / รายได้รวม $133K / หุ้น 20%  
    • เหมาะสำหรับเริ่มต้นในสาย Cybersecurity

    ✅ แต่ละสายมีใบรับรองที่ช่วย boost เงินเดือน  
    • Architect: CISSP, CCSP  
    • Engineer: Security+, CCNP Sec, CEH  
    • GRC: CRISC, CGRC  
    • Analyst: CySA+, SOC certs

    ✅ สายงานมีความซ้อนทับสูง — หลายคนทำหลายบทบาทพร้อมกัน  
    • เช่น คนใน SecOps อาจทำ GRC, IAM, Product Security ด้วย

    ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง:
    ‼️ ชื่อตำแหน่งอาจไม่สะท้อนงานที่ทำจริงในแต่ละองค์กร  
    • ควรดูรายละเอียดงานจริง ไม่ใช่ดูแค่ title เวลาสมัครหรือเปรียบเทียบรายได้

    ‼️ เงินเดือนสูงมาพร้อมกับ skill ที่ลึกและการสื่อสารกับทีมหลากหลายฝ่าย  
    • สาย Architect และ GRC ต้องสื่อสารกับผู้บริหารและทีมเทคนิคได้ดี

    ‼️ บางสายมีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะระดับต้น เช่น Analyst และ Engineer  
    • ต้องมีจุดแข็ง เช่น cert, ผลงาน side project, หรือ soft skill

    ‼️ สายงานด้านความเสี่ยงและ compliance ต้องตามกฎระเบียบเปลี่ยนตลอดเวลา  
    • เช่น กฎหมาย AI, ความเป็นส่วนตัว, cloud compliance

    https://www.csoonline.com/article/4006364/the-highest-paying-jobs-in-cybersecurity-today.html
    หลายคนอาจคิดว่า Cybersecurity คือแค่คนป้องกันไวรัส แต่จริง ๆ แล้วงานนี้แตกแขนงเป็นหลายสาย และแต่ละตำแหน่งก็มีค่าตอบแทนต่างกันมาก จากรายงาน Cybersecurity Staff Compensation Benchmark 2025 ระบุว่า “ชื่อตำแหน่ง” ไม่ได้บอกเสมอว่าใครทำอะไรมากน้อยแค่ไหน เพราะในความจริง 61% ของคนทำงานสายนี้ต้องทำหลายบทบาทควบกัน แต่ถ้าจะดูว่า “ใครได้เงินเดือนสูงที่สุด” ก็ยังพอแยกได้เป็นลำดับแบบนี้: 1️⃣ Security Architect — ค่าตัวอันดับ 1 ฐานเงินเดือนเฉลี่ย $179,000 รวมโบนัส $206,000   • ต้องรู้ลึกทั้งเครือข่าย ระบบ การออกแบบนโยบายการป้องกัน   • 34% ได้หุ้นประจำปีอีกด้วย 2️⃣ Security Engineer — รองแชมป์ รับเฉลี่ย $168,000 รวมโบนัสเป็น $191,000   • เน้นลงมือจริงกับระบบ เช่น firewall, IDS/IPS, pentest, EDR   • หลายคนมาจากสาย network หรือ sysadmin มาก่อน 3️⃣ Risk/GRC Specialist — มือวางด้านการจัดการความเสี่ยงและ compliance   • เงินเดือน $146,000 รวมโบนัส $173,000   • เน้น policy, audit, risk register, ISO, NIST, GDPR ฯลฯ 4️⃣ Security Analyst (เช่น SOC analyst) — มือ frontline จับภัยคุกคาม   • รับเฉลี่ย $124,000 รวมโบนัส $133,000   • คอยตรวจจับเหตุการณ์ ปรับ signature ดู log และ SIEM ทุกตำแหน่งต่างมีเส้นทางเฉพาะ เช่น Security Analyst → Engineer → Architect หรือ Risk Analyst → GRC Lead → CISO ก็ได้ ขึ้นกับสายที่ชอบและทักษะที่ฝึกต่อ ✅ รายได้สูงสุด: Security Architect ครองแชมป์แบบครบเครื่อง   • เงินเดือน $179K / รายได้รวม $206K / หุ้น 34%   • งานหลากหลาย: ออกแบบ, IAM, AppSec, Product Security ✅ Security Engineer มาเป็นอันดับสอง   • เงินเดือน $168K / รายได้รวม $191K / หุ้น 31%   • ต้องมีพื้นฐาน Network/IT แน่น ชำนาญอุปกรณ์/ระบบ ✅ สาย GRC ก็มาแรง   • เงินเดือน $146K / รายได้รวม $173K / หุ้น 26%   • ทักษะพิเศษ: Risk, Compliance, NIST, AI-policy ✅ Security Analyst รายได้เริ่มต้นดี และเป็นฐานสร้างอาชีพอื่น   • เงินเดือน $124K / รายได้รวม $133K / หุ้น 20%   • เหมาะสำหรับเริ่มต้นในสาย Cybersecurity ✅ แต่ละสายมีใบรับรองที่ช่วย boost เงินเดือน   • Architect: CISSP, CCSP   • Engineer: Security+, CCNP Sec, CEH   • GRC: CRISC, CGRC   • Analyst: CySA+, SOC certs ✅ สายงานมีความซ้อนทับสูง — หลายคนทำหลายบทบาทพร้อมกัน   • เช่น คนใน SecOps อาจทำ GRC, IAM, Product Security ด้วย ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง: ‼️ ชื่อตำแหน่งอาจไม่สะท้อนงานที่ทำจริงในแต่ละองค์กร   • ควรดูรายละเอียดงานจริง ไม่ใช่ดูแค่ title เวลาสมัครหรือเปรียบเทียบรายได้ ‼️ เงินเดือนสูงมาพร้อมกับ skill ที่ลึกและการสื่อสารกับทีมหลากหลายฝ่าย   • สาย Architect และ GRC ต้องสื่อสารกับผู้บริหารและทีมเทคนิคได้ดี ‼️ บางสายมีการแข่งขันสูงโดยเฉพาะระดับต้น เช่น Analyst และ Engineer   • ต้องมีจุดแข็ง เช่น cert, ผลงาน side project, หรือ soft skill ‼️ สายงานด้านความเสี่ยงและ compliance ต้องตามกฎระเบียบเปลี่ยนตลอดเวลา   • เช่น กฎหมาย AI, ความเป็นส่วนตัว, cloud compliance https://www.csoonline.com/article/4006364/the-highest-paying-jobs-in-cybersecurity-today.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The highest-paying jobs in cybersecurity today
    According to a recent survey by IANS and Artico Search, risk/GRC specialists, along with security architects, analysts, and engineers, report the highest average annual cash compensation in cybersecurity.
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • หลังยุคโควิด บริษัทต่าง ๆ เคยสัญญาว่าเราจะได้ “Work-life balance” ที่ดีขึ้น แต่ผลจากรายงานล่าสุดของ Microsoft กลับพบว่า… ทุกอย่างกลับตาลปัตร

    คนทำงานจำนวนมากกำลังเผชิญ “วันทำงานไร้จุดจบ” ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า ลากยาวไปถึง หลัง 2 ทุ่ม และลามไปจนถึง วันเสาร์-อาทิตย์ โดยไม่รู้ตัว!

    ข้อมูลจาก Microsoft 365 แสดงว่า
    - 40% ของคนเริ่มเช็กอีเมลตั้งแต่ 6 โมงเช้า
    - เกินครึ่งของการประชุมทั้งหมดเกิดช่วง 9–11 โมงเช้าและ 1–3 บ่าย (ซึ่งเป็นช่วงพีคของ productivity)
    - มีพนักงานถึง 29% เช็กอีเมลตอน 4 ทุ่ม
    - วันเสาร์–อาทิตย์ก็ไม่เว้น: 20% เช็กเมลช่วงเช้าสองวันนั้น และ 5% ยังทำงานตอนค่ำวันอาทิตย์

    แถม Microsoft พบว่าแต่ละวัน พนักงานถูกขัดจังหวะ ทุก ๆ 2 นาที ด้วยอีเมล ประชุม หรือ Teams message โดยเฉลี่ย

    แล้ว AI มีคำตอบไหม? Microsoft มองว่า “ถ้าใช้ถูกทาง” AI อาจช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน โดยเฉพาะงานที่มีค่าน้อย เช่น ประชุมที่ไม่จำเป็น การสรุปรายงาน หรือจัดลำดับอีเมลสำคัญ แต่ก็เตือนว่า…ถ้าใช้ผิด AI ก็อาจยิ่งเร่งให้เราทำงานหนักกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว

    ✅ Microsoft เปิดรายงานชี้ว่า “Infinite Workday” กำลังกลายเป็นเรื่องปกติของคนทำงาน  
    • เริ่มงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า และลากยาวไปถึงหลัง 20.00 น.  
    • วันหยุดสุดสัปดาห์ก็มีพนักงานยังเช็กเมล–ทำงานอย่างต่อเนื่อง

    ✅ Microsoft 365 เผยพฤติกรรมการใช้งานจากผู้ใช้ทั่วโลก  
    • ประชุมหลัง 20.00 น. เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน  
    • พนักงานเฉลี่ยได้รับอีเมลวันละ 117 ฉบับ และข้อความ Teams อีก 153 ข้อความ

    ✅ ผลกระทบ: เกือบครึ่งของพนักงานรู้สึกว่างานวุ่นวายและ “แตกเป็นเสี่ยง”  
    • โดยเฉพาะพนักงานในตำแหน่งผู้นำยิ่งรู้สึกชัด

    ✅ Microsoft แนะนำว่า AI อาจช่วยได้ ถ้ามุ่งใช้กับงานที่ค่าน้อย (Low-value task)  
    • เช่น สรุปอีเมล จัดลำดับสิ่งที่ต้องทำ  
    • หรือใช้ “AI Agent” เป็นผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อรับมือกับภาระงาน

    ✅ แนวคิด “80/20 Rule” กลับมาอีกครั้งในบริบทยุค AI  
    • มุ่งเน้นทำงาน 20% ที่ให้ผลลัพธ์ 80% แทนที่จะพยายามทำทุกอย่างเอง

    ✅ มีการอ้างงานวิจัยอื่นที่แนะนำ work-rest ratio 75/33  
    • คือทำงาน 75 นาที แล้วพัก 33 นาที จะให้ productivity สูงกว่า

    ‼️ Infinite Workday กำลังกลืนเวลาส่วนตัวโดยที่ผู้คนไม่รู้ตัว  
    • การตอบอีเมล–ประชุมนอกเวลาทำงานกลายเป็น “นิวนอร์ม” โดยไม่มีค่าตอบแทนเพิ่ม

    ‼️ การใช้ AI แบบผิดวิธีอาจเร่งให้วงจรนี้แย่ลง  
    • หากผู้บริหารใช้ AI เพื่อ “รีด productivity” โดยไม่จัดสมดุล อาจทำให้พนักงานหมดไฟได้

    ‼️ จำนวนคอนเทนต์และการแจ้งเตือนมากเกินไป ทำให้สมอง ‘ล้าโดยไม่รู้ตัว’  
    • ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ลดลง และคุณภาพการตัดสินใจแย่ลงในระยะยาว

    ‼️ องค์กรที่ยังใช้โครงสร้างการทำงานแบบเดิม จะเสี่ยงสูงที่สุด  
    • ต้องปรับสู่ทีมที่ยืดหยุ่น (agile) และมี outcome เป็นตัวนำ มากกว่าการวัดด้วยชั่วโมงงาน

    https://www.techspot.com/news/108343-microsoft-study-finds-infinite-workday-hurting-productivity.html
    หลังยุคโควิด บริษัทต่าง ๆ เคยสัญญาว่าเราจะได้ “Work-life balance” ที่ดีขึ้น แต่ผลจากรายงานล่าสุดของ Microsoft กลับพบว่า… ทุกอย่างกลับตาลปัตร คนทำงานจำนวนมากกำลังเผชิญ “วันทำงานไร้จุดจบ” ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า ลากยาวไปถึง หลัง 2 ทุ่ม และลามไปจนถึง วันเสาร์-อาทิตย์ โดยไม่รู้ตัว! ข้อมูลจาก Microsoft 365 แสดงว่า - 40% ของคนเริ่มเช็กอีเมลตั้งแต่ 6 โมงเช้า - เกินครึ่งของการประชุมทั้งหมดเกิดช่วง 9–11 โมงเช้าและ 1–3 บ่าย (ซึ่งเป็นช่วงพีคของ productivity) - มีพนักงานถึง 29% เช็กอีเมลตอน 4 ทุ่ม - วันเสาร์–อาทิตย์ก็ไม่เว้น: 20% เช็กเมลช่วงเช้าสองวันนั้น และ 5% ยังทำงานตอนค่ำวันอาทิตย์ แถม Microsoft พบว่าแต่ละวัน พนักงานถูกขัดจังหวะ ทุก ๆ 2 นาที ด้วยอีเมล ประชุม หรือ Teams message โดยเฉลี่ย แล้ว AI มีคำตอบไหม? Microsoft มองว่า “ถ้าใช้ถูกทาง” AI อาจช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน โดยเฉพาะงานที่มีค่าน้อย เช่น ประชุมที่ไม่จำเป็น การสรุปรายงาน หรือจัดลำดับอีเมลสำคัญ แต่ก็เตือนว่า…ถ้าใช้ผิด AI ก็อาจยิ่งเร่งให้เราทำงานหนักกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว ✅ Microsoft เปิดรายงานชี้ว่า “Infinite Workday” กำลังกลายเป็นเรื่องปกติของคนทำงาน   • เริ่มงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า และลากยาวไปถึงหลัง 20.00 น.   • วันหยุดสุดสัปดาห์ก็มีพนักงานยังเช็กเมล–ทำงานอย่างต่อเนื่อง ✅ Microsoft 365 เผยพฤติกรรมการใช้งานจากผู้ใช้ทั่วโลก   • ประชุมหลัง 20.00 น. เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน   • พนักงานเฉลี่ยได้รับอีเมลวันละ 117 ฉบับ และข้อความ Teams อีก 153 ข้อความ ✅ ผลกระทบ: เกือบครึ่งของพนักงานรู้สึกว่างานวุ่นวายและ “แตกเป็นเสี่ยง”   • โดยเฉพาะพนักงานในตำแหน่งผู้นำยิ่งรู้สึกชัด ✅ Microsoft แนะนำว่า AI อาจช่วยได้ ถ้ามุ่งใช้กับงานที่ค่าน้อย (Low-value task)   • เช่น สรุปอีเมล จัดลำดับสิ่งที่ต้องทำ   • หรือใช้ “AI Agent” เป็นผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อรับมือกับภาระงาน ✅ แนวคิด “80/20 Rule” กลับมาอีกครั้งในบริบทยุค AI   • มุ่งเน้นทำงาน 20% ที่ให้ผลลัพธ์ 80% แทนที่จะพยายามทำทุกอย่างเอง ✅ มีการอ้างงานวิจัยอื่นที่แนะนำ work-rest ratio 75/33   • คือทำงาน 75 นาที แล้วพัก 33 นาที จะให้ productivity สูงกว่า ‼️ Infinite Workday กำลังกลืนเวลาส่วนตัวโดยที่ผู้คนไม่รู้ตัว   • การตอบอีเมล–ประชุมนอกเวลาทำงานกลายเป็น “นิวนอร์ม” โดยไม่มีค่าตอบแทนเพิ่ม ‼️ การใช้ AI แบบผิดวิธีอาจเร่งให้วงจรนี้แย่ลง   • หากผู้บริหารใช้ AI เพื่อ “รีด productivity” โดยไม่จัดสมดุล อาจทำให้พนักงานหมดไฟได้ ‼️ จำนวนคอนเทนต์และการแจ้งเตือนมากเกินไป ทำให้สมอง ‘ล้าโดยไม่รู้ตัว’   • ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ลดลง และคุณภาพการตัดสินใจแย่ลงในระยะยาว ‼️ องค์กรที่ยังใช้โครงสร้างการทำงานแบบเดิม จะเสี่ยงสูงที่สุด   • ต้องปรับสู่ทีมที่ยืดหยุ่น (agile) และมี outcome เป็นตัวนำ มากกว่าการวัดด้วยชั่วโมงงาน https://www.techspot.com/news/108343-microsoft-study-finds-infinite-workday-hurting-productivity.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft study finds "infinite workday" is hurting productivity
    Microsoft's June 2025 Work Trend Index Special Report warns that more people are now trapped in a seemingly infinite workday. It starts at 6 am, goes on...
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • 🤖 Meta เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง ดึงนักวิจัยชั้นนำจาก Google และ Sesame
    Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง (Artificial General Intelligence - AGI) โดยดึง นักวิจัยชั้นนำจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อสร้างทีม "Superintelligence" ที่จะช่วยปรับปรุงโมเดล AI ของ Meta เช่น Llama 4

    Meta ได้ว่าจ้าง Jack Rae นักวิจัยหลักจาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk ผู้เชี่ยวชาญด้าน Machine Learning จาก Sesame AI นอกจากนี้ Alexandr Wang ซีอีโอของ Scale AI กำลังจะเข้าร่วมทีม หลังจาก Meta ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Meta ดึงนักวิจัยจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อพัฒนา AI ระดับสูง
    - Jack Rae จาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk จาก Sesame AI เข้าร่วมทีม Superintelligence
    - Meta กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI เพื่อเพิ่มคุณภาพข้อมูลสำหรับฝึกโมเดล AI
    - Mark Zuckerberg เสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนระดับสูงเพื่อดึงดูดนักวิจัย AI ชั้นนำ
    - Meta ตั้งเป้าจ้างนักวิจัย AI ประมาณ 50 คน รวมถึงหัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์

    🔥 การแข่งขันในตลาด AI
    Meta ต้องการ ไล่ตาม Google และ OpenAI หลังจาก Llama 4 ได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดี โดย Zuckerberg จัดประชุมกับนักวิจัย AI ที่บ้านของเขาใน Lake Tahoe และ Palo Alto เพื่อโน้มน้าวให้เข้าร่วมทีม

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ Meta จะลงทุนมหาศาล แต่ยังต้องแข่งขันกับ Google และ OpenAI ที่มีโมเดล AI ที่แข็งแกร่งกว่า
    - บางนักวิจัย AI ปฏิเสธข้อเสนอของ Meta แม้จะมีค่าตอบแทนสูง
    - Google กำลังเร่งรักษานักวิจัย AI โดยแต่งตั้ง Koray Kavukcuoglu เป็น Chief AI Architect
    - ต้องติดตามว่า Meta จะสามารถพัฒนา AI ที่แข่งขันกับ Gemini และ ChatGPT ได้หรือไม่

    Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI ที่สามารถแข่งขันกับ Google และ OpenAI โดยการลงทุนใน นักวิจัยระดับสูงและข้อมูลคุณภาพสูงจาก Scale AI อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรม AI อย่างไร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/meta-taps-top-researchers-from-google-sesame-for-new-ai-lab
    🤖 Meta เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง ดึงนักวิจัยชั้นนำจาก Google และ Sesame Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI อัจฉริยะระดับสูง (Artificial General Intelligence - AGI) โดยดึง นักวิจัยชั้นนำจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อสร้างทีม "Superintelligence" ที่จะช่วยปรับปรุงโมเดล AI ของ Meta เช่น Llama 4 Meta ได้ว่าจ้าง Jack Rae นักวิจัยหลักจาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk ผู้เชี่ยวชาญด้าน Machine Learning จาก Sesame AI นอกจากนี้ Alexandr Wang ซีอีโอของ Scale AI กำลังจะเข้าร่วมทีม หลังจาก Meta ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI ✅ ข้อมูลจากข่าว - Meta ดึงนักวิจัยจาก Google DeepMind และ Sesame AI เพื่อพัฒนา AI ระดับสูง - Jack Rae จาก Google DeepMind และ Johan Schalkwyk จาก Sesame AI เข้าร่วมทีม Superintelligence - Meta กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ใน Scale AI เพื่อเพิ่มคุณภาพข้อมูลสำหรับฝึกโมเดล AI - Mark Zuckerberg เสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนระดับสูงเพื่อดึงดูดนักวิจัย AI ชั้นนำ - Meta ตั้งเป้าจ้างนักวิจัย AI ประมาณ 50 คน รวมถึงหัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์ 🔥 การแข่งขันในตลาด AI Meta ต้องการ ไล่ตาม Google และ OpenAI หลังจาก Llama 4 ได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดี โดย Zuckerberg จัดประชุมกับนักวิจัย AI ที่บ้านของเขาใน Lake Tahoe และ Palo Alto เพื่อโน้มน้าวให้เข้าร่วมทีม ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ Meta จะลงทุนมหาศาล แต่ยังต้องแข่งขันกับ Google และ OpenAI ที่มีโมเดล AI ที่แข็งแกร่งกว่า - บางนักวิจัย AI ปฏิเสธข้อเสนอของ Meta แม้จะมีค่าตอบแทนสูง - Google กำลังเร่งรักษานักวิจัย AI โดยแต่งตั้ง Koray Kavukcuoglu เป็น Chief AI Architect - ต้องติดตามว่า Meta จะสามารถพัฒนา AI ที่แข่งขันกับ Gemini และ ChatGPT ได้หรือไม่ Meta กำลัง เร่งพัฒนา AI ที่สามารถแข่งขันกับ Google และ OpenAI โดยการลงทุนใน นักวิจัยระดับสูงและข้อมูลคุณภาพสูงจาก Scale AI อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรม AI อย่างไร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/meta-taps-top-researchers-from-google-sesame-for-new-ai-lab
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta taps top researchers from Google, Sesame for new AI lab
    Meta Platforms Inc has poached top engineers from multiple tech firms, including Alphabet Inc's Google, for a new team focused on achieving a more advanced form of AI called artificial general intelligence.
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • 🔄 Linux Foundation เปิดตัวแพลตฟอร์มกลางเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในชุมชน WordPress
    Linux Foundation (LF) ได้เปิดตัว Fair Package Manager Project ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับ จัดการและเผยแพร่ปลั๊กอิน, ธีม และเครื่องมือของ WordPress โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดความขัดแย้งระหว่าง WordPress.org และ WP Engine

    🔍 เหตุผลที่ Linux Foundation เข้ามาแทรกแซง
    Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress และ WP Engine มีข้อพิพาทเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรของ WordPress.org ซึ่งส่งผลให้ ชุมชน WordPress อาจแตกแยก LF จึงเสนอ แพลตฟอร์มกลางที่เป็นกลางและไม่ขึ้นกับบริษัทใด เพื่อให้ นักพัฒนาและผู้ใช้สามารถเข้าถึงปลั๊กอินและธีมได้อย่างเสรี

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Linux Foundation เปิดตัว Fair Package Manager Project เพื่อจัดการปลั๊กอินและธีมของ WordPress
    - แพลตฟอร์มนี้เป็นทางเลือกแทน WordPress.org ที่มีการควบคุมแบบรวมศูนย์
    - Fair สามารถใช้เป็นปลั๊กอินแยก หรือเป็น WordPress เวอร์ชันที่ติดตั้งปลั๊กอินนี้มาแล้ว
    - ช่วยลดการพึ่งพาแหล่งเดียวในการอัปเดต WordPress และปลั๊กอิน
    - แพลตฟอร์มนี้ออกแบบให้สอดคล้องกับ GDPR และลดการส่งข้อมูลไปยังบริษัทเชิงพาณิชย์

    🔥 ความขัดแย้งระหว่าง WordPress.org และ WP Engine
    ในปี 2024 Mullenweg วิจารณ์ WP Engine ว่าใช้ทรัพยากรของ WordPress.org เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจโดยไม่จ่ายค่าตอบแทน ทำให้เกิดความขัดแย้งในชุมชน WordPress

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Fair Package Manager Project อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบนิเวศของ WordPress
    - ต้องติดตามว่าผู้ใช้และนักพัฒนาจะยอมรับแพลตฟอร์มใหม่นี้หรือไม่
    - WP Engine อาจตอบโต้ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มของตนเองเพื่อแข่งขัน
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อธุรกิจที่พึ่งพา WordPress.org ในการจัดการปลั๊กอินและธีม

    🚀 ผลกระทบต่ออนาคตของ WordPress
    Fair Package Manager Project อาจช่วยให้ WordPress มีความเป็นกลางมากขึ้น และ ลดความขัดแย้งภายในชุมชน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อการพัฒนา WordPress ในระยะยาวอย่างไร

    https://www.techspot.com/news/108233-linux-foundation-steps-neutral-solution-wordpress-crisis.html
    🔄 Linux Foundation เปิดตัวแพลตฟอร์มกลางเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในชุมชน WordPress Linux Foundation (LF) ได้เปิดตัว Fair Package Manager Project ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับ จัดการและเผยแพร่ปลั๊กอิน, ธีม และเครื่องมือของ WordPress โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดความขัดแย้งระหว่าง WordPress.org และ WP Engine 🔍 เหตุผลที่ Linux Foundation เข้ามาแทรกแซง Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress และ WP Engine มีข้อพิพาทเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรของ WordPress.org ซึ่งส่งผลให้ ชุมชน WordPress อาจแตกแยก LF จึงเสนอ แพลตฟอร์มกลางที่เป็นกลางและไม่ขึ้นกับบริษัทใด เพื่อให้ นักพัฒนาและผู้ใช้สามารถเข้าถึงปลั๊กอินและธีมได้อย่างเสรี ✅ ข้อมูลจากข่าว - Linux Foundation เปิดตัว Fair Package Manager Project เพื่อจัดการปลั๊กอินและธีมของ WordPress - แพลตฟอร์มนี้เป็นทางเลือกแทน WordPress.org ที่มีการควบคุมแบบรวมศูนย์ - Fair สามารถใช้เป็นปลั๊กอินแยก หรือเป็น WordPress เวอร์ชันที่ติดตั้งปลั๊กอินนี้มาแล้ว - ช่วยลดการพึ่งพาแหล่งเดียวในการอัปเดต WordPress และปลั๊กอิน - แพลตฟอร์มนี้ออกแบบให้สอดคล้องกับ GDPR และลดการส่งข้อมูลไปยังบริษัทเชิงพาณิชย์ 🔥 ความขัดแย้งระหว่าง WordPress.org และ WP Engine ในปี 2024 Mullenweg วิจารณ์ WP Engine ว่าใช้ทรัพยากรของ WordPress.org เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจโดยไม่จ่ายค่าตอบแทน ทำให้เกิดความขัดแย้งในชุมชน WordPress ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Fair Package Manager Project อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบนิเวศของ WordPress - ต้องติดตามว่าผู้ใช้และนักพัฒนาจะยอมรับแพลตฟอร์มใหม่นี้หรือไม่ - WP Engine อาจตอบโต้ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มของตนเองเพื่อแข่งขัน - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อธุรกิจที่พึ่งพา WordPress.org ในการจัดการปลั๊กอินและธีม 🚀 ผลกระทบต่ออนาคตของ WordPress Fair Package Manager Project อาจช่วยให้ WordPress มีความเป็นกลางมากขึ้น และ ลดความขัดแย้งภายในชุมชน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อการพัฒนา WordPress ในระยะยาวอย่างไร https://www.techspot.com/news/108233-linux-foundation-steps-neutral-solution-wordpress-crisis.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Linux Foundation steps in with neutral solution to WordPress crisis
    While Matt Mullenweg and WP Engine are fighting for the heart (and money) of WordPress, the Linux Foundation (LF) is trying to bring some semblance of order...
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • 🎥 YouTube Creators กับบทบาทใหม่ในการฝึก AI
    ปัจจุบัน YouTube เปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI โดยให้สิทธิ์ 18 บริษัท AI รายใหญ่ ใช้เนื้อหาวิดีโอเพื่อพัฒนาโมเดล AI โดยไม่มีค่าตอบแทน ซึ่งเป็นแนวทางที่ เน้นอิทธิพลมากกว่ารายได้

    แม้ว่าจะไม่มีค่าตอบแทนโดยตรง ครีเอเตอร์หลายคนมองว่าการเข้าร่วมช่วยให้เนื้อหาของพวกเขามีอิทธิพลต่อการพัฒนา AI ซึ่งอาจทำให้ วิดีโอของพวกเขาถูกนำไปใช้ในคำตอบของ AI writers และโมเดล AI ด้านการเขียนโค้ด

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - YouTube เปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI โดยไม่มีค่าตอบแทน
    - 18 บริษัท AI รายใหญ่สามารถใช้วิดีโอที่ได้รับอนุญาตเพื่อพัฒนาโมเดล
    - ครีเอเตอร์ที่เข้าร่วมมองว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มอิทธิพลของเนื้อหาของตน
    - Oxylabs เปิดตัวชุดข้อมูล YouTube ที่ได้รับความยินยอมจากครีเอเตอร์กว่า 1 ล้านช่อง
    - วิดีโอเหล่านี้ถูกใช้เพื่อฝึก AI ด้านการสร้างภาพและวิดีโอ

    🔥 ความท้าทายด้านลิขสิทธิ์และกฎหมาย
    แม้ว่า Oxylabs จะเน้นการใช้ข้อมูลที่ได้รับความยินยอม แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิ์ของครีเอเตอร์ โดยเฉพาะในประเทศที่ยังไม่มี กฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้เนื้อหาเพื่อฝึก AI

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ครีเอเตอร์ที่ไม่ได้เลือกเข้าร่วมจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ต้องตรวจสอบการตั้งค่าของตนเอง
    - กฎหมายเกี่ยวกับการใช้เนื้อหาเพื่อฝึก AI ยังไม่ชัดเจนในหลายประเทศ
    - UK’s Data (Use and Access) Bill ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา และอาจส่งผลต่อการใช้ข้อมูลในอนาคต
    - แม้จะเป็นโมเดลที่ได้รับความยินยอม แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นธรรมและมูลค่าของเนื้อหา

    การเปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI อาจช่วยให้โมเดล AI มีข้อมูลที่หลากหลายและมีคุณภาพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่ากฎหมายและแนวทางการคุ้มครองสิทธิ์จะพัฒนาไปในทิศทางใด

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/thousands-of-youtubers-are-letting-ai-firms-train-on-their-original-videos-for-absolutely-free-and-heres-why
    🎥 YouTube Creators กับบทบาทใหม่ในการฝึก AI ปัจจุบัน YouTube เปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI โดยให้สิทธิ์ 18 บริษัท AI รายใหญ่ ใช้เนื้อหาวิดีโอเพื่อพัฒนาโมเดล AI โดยไม่มีค่าตอบแทน ซึ่งเป็นแนวทางที่ เน้นอิทธิพลมากกว่ารายได้ แม้ว่าจะไม่มีค่าตอบแทนโดยตรง ครีเอเตอร์หลายคนมองว่าการเข้าร่วมช่วยให้เนื้อหาของพวกเขามีอิทธิพลต่อการพัฒนา AI ซึ่งอาจทำให้ วิดีโอของพวกเขาถูกนำไปใช้ในคำตอบของ AI writers และโมเดล AI ด้านการเขียนโค้ด ✅ ข้อมูลจากข่าว - YouTube เปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI โดยไม่มีค่าตอบแทน - 18 บริษัท AI รายใหญ่สามารถใช้วิดีโอที่ได้รับอนุญาตเพื่อพัฒนาโมเดล - ครีเอเตอร์ที่เข้าร่วมมองว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มอิทธิพลของเนื้อหาของตน - Oxylabs เปิดตัวชุดข้อมูล YouTube ที่ได้รับความยินยอมจากครีเอเตอร์กว่า 1 ล้านช่อง - วิดีโอเหล่านี้ถูกใช้เพื่อฝึก AI ด้านการสร้างภาพและวิดีโอ 🔥 ความท้าทายด้านลิขสิทธิ์และกฎหมาย แม้ว่า Oxylabs จะเน้นการใช้ข้อมูลที่ได้รับความยินยอม แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิ์ของครีเอเตอร์ โดยเฉพาะในประเทศที่ยังไม่มี กฎหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้เนื้อหาเพื่อฝึก AI ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ครีเอเตอร์ที่ไม่ได้เลือกเข้าร่วมจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ต้องตรวจสอบการตั้งค่าของตนเอง - กฎหมายเกี่ยวกับการใช้เนื้อหาเพื่อฝึก AI ยังไม่ชัดเจนในหลายประเทศ - UK’s Data (Use and Access) Bill ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา และอาจส่งผลต่อการใช้ข้อมูลในอนาคต - แม้จะเป็นโมเดลที่ได้รับความยินยอม แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นธรรมและมูลค่าของเนื้อหา การเปิดให้ครีเอเตอร์เลือกเข้าร่วมการฝึก AI อาจช่วยให้โมเดล AI มีข้อมูลที่หลากหลายและมีคุณภาพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่ากฎหมายและแนวทางการคุ้มครองสิทธิ์จะพัฒนาไปในทิศทางใด https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/thousands-of-youtubers-are-letting-ai-firms-train-on-their-original-videos-for-absolutely-free-and-heres-why
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    WWW.CBSNEWS.COM
    What's in Trump's House-passed "one big, beautiful bill"
    Republicans made a number of last-minute changes to the legislation that passed in the lower chamber early Thursday.
    0 Comments 0 Shares 656 Views 0 Reviews
  • รับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป
    ตำแหน่งพนักงานสถิติ จำนวน 3 อัตรา
    - อัตราค่าตอบแทน 21,780 บาท
    - คุณวุฒิ ปริญญาตรีทุกสาขา
    - สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม - 5 มิถุนายน 2568 ณ สำนักงานสถิติจังหวัดนครราชสีมา ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 3 ในวันและเวลาราชการ
    - ไม่เสียค่าธรรมเนียมสมัครสอบ
    สำนักงานสถิติจังหวัดนครราชสีมา
    รับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งพนักงานสถิติ จำนวน 3 อัตรา - อัตราค่าตอบแทน 21,780 บาท - คุณวุฒิ ปริญญาตรีทุกสาขา - สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม - 5 มิถุนายน 2568 ณ สำนักงานสถิติจังหวัดนครราชสีมา ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 3 ในวันและเวลาราชการ - ไม่เสียค่าธรรมเนียมสมัครสอบ สำนักงานสถิติจังหวัดนครราชสีมา
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • Elton John ประณามแผน AI ลิขสิทธิ์ของรัฐบาลอังกฤษว่าเป็น "อาชญากรรม"

    Elton John ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอังกฤษ โดยกล่าวหาว่า กำลัง "ขโมย" ผลงานของศิลปิน ผ่านแผนการที่อนุญาตให้บริษัทเทคโนโลยี ใช้เนื้อหาด้านดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของสหราชอาณาจักรในการฝึก AI โดยไม่รับประกันค่าตอบแทนที่เหมาะสม

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผน AI ลิขสิทธิ์ของรัฐบาลอังกฤษ
    ✅ รัฐบาลอังกฤษเสนอให้บริษัทเทคโนโลยีสามารถใช้เนื้อหาด้านดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ในการฝึก AI
    - โดยไม่ต้อง จ่ายค่าตอบแทนให้กับศิลปินและผู้สร้างผลงาน

    ✅ Elton John กล่าวว่าการกระทำนี้เป็น "การขโมย" และละเมิดสิทธิของศิลปิน
    - เนื่องจาก AI สามารถสร้างผลงานใหม่โดยใช้ข้อมูลจากศิลปินที่มีอยู่

    ✅ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับผลกระทบทางกฎหมายและจริยธรรมจาก AI
    - หลายประเทศ กำลังพิจารณากฎหมายเพื่อควบคุมการใช้ AI ในงานสร้างสรรค์

    ✅ นักดนตรีและศิลปินเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษทบทวนแผนดังกล่าว
    - เพื่อ ปกป้องสิทธิของผู้สร้างผลงานและรับประกันค่าตอบแทนที่เป็นธรรม

    ✅ AI กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดนตรีและศิลปะอย่างรวดเร็ว
    - ทำให้ เกิดคำถามเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของและความถูกต้องตามกฎหมายของผลงานที่ AI สร้างขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/18/039criminal039-elton-john-condemns-uk039s-ai-copyright-plans
    Elton John ประณามแผน AI ลิขสิทธิ์ของรัฐบาลอังกฤษว่าเป็น "อาชญากรรม" Elton John ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอังกฤษ โดยกล่าวหาว่า กำลัง "ขโมย" ผลงานของศิลปิน ผ่านแผนการที่อนุญาตให้บริษัทเทคโนโลยี ใช้เนื้อหาด้านดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ของสหราชอาณาจักรในการฝึก AI โดยไม่รับประกันค่าตอบแทนที่เหมาะสม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผน AI ลิขสิทธิ์ของรัฐบาลอังกฤษ ✅ รัฐบาลอังกฤษเสนอให้บริษัทเทคโนโลยีสามารถใช้เนื้อหาด้านดนตรีและความคิดสร้างสรรค์ในการฝึก AI - โดยไม่ต้อง จ่ายค่าตอบแทนให้กับศิลปินและผู้สร้างผลงาน ✅ Elton John กล่าวว่าการกระทำนี้เป็น "การขโมย" และละเมิดสิทธิของศิลปิน - เนื่องจาก AI สามารถสร้างผลงานใหม่โดยใช้ข้อมูลจากศิลปินที่มีอยู่ ✅ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับผลกระทบทางกฎหมายและจริยธรรมจาก AI - หลายประเทศ กำลังพิจารณากฎหมายเพื่อควบคุมการใช้ AI ในงานสร้างสรรค์ ✅ นักดนตรีและศิลปินเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษทบทวนแผนดังกล่าว - เพื่อ ปกป้องสิทธิของผู้สร้างผลงานและรับประกันค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ✅ AI กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดนตรีและศิลปะอย่างรวดเร็ว - ทำให้ เกิดคำถามเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของและความถูกต้องตามกฎหมายของผลงานที่ AI สร้างขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/18/039criminal039-elton-john-condemns-uk039s-ai-copyright-plans
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'Criminal': Elton John condemns UK's AI copyright plans
    LONDON (Reuters) -Elton John on Sunday accused the British government of "committing theft" by proposing that tech firms could train artificial intelligence models on the UK's music and creative output without guaranteeing proper recompense.
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • Bungie ถูกจับได้ว่าใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon และให้คำมั่นว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก

    Bungie กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาว่า ใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon ซึ่งเป็นเกมยิงแบบมัลติเพลเยอร์ที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา โดยศิลปินอิสระที่ชื่อ Antireal พบว่า ภาพบางส่วนในเกมมีความคล้ายคลึงกับผลงานของเธอที่สร้างขึ้นในปี 2017

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณีของ Bungie และ Marathon
    ✅ Antireal พบว่าภาพศิลปะของเธอถูกใช้ใน Marathon โดยไม่ได้รับอนุญาต
    - เธอระบุว่า Bungie นำภาพของเธอไปใช้โดยไม่มีเครดิตหรือค่าตอบแทน

    ✅ Bungie อ้างว่าภาพที่ถูกใช้มาจากอดีตพนักงานที่ไม่ได้รับอนุญาต
    - ทีมพัฒนา ไม่ทราบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้น

    ✅ Bungie ให้คำมั่นว่าจะตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้
    - บริษัท ติดต่อ Antireal เพื่อชดเชยและแก้ไขข้อผิดพลาด

    ✅ Bungie จะเพิ่มมาตรการตรวจสอบภาพศิลปะในเกมให้เข้มงวดขึ้น
    - เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคต

    ✅ Marathon เป็นเกมยิงแบบ Extraction Shooter ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2025
    - เกมนี้ เป็นการรีบูตจากเกม Marathon ดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1994

    https://www.techspot.com/news/107951-bungie-caught-using-stolen-art-assets-marathon-promises.html
    Bungie ถูกจับได้ว่าใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon และให้คำมั่นว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก Bungie กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาว่า ใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon ซึ่งเป็นเกมยิงแบบมัลติเพลเยอร์ที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา โดยศิลปินอิสระที่ชื่อ Antireal พบว่า ภาพบางส่วนในเกมมีความคล้ายคลึงกับผลงานของเธอที่สร้างขึ้นในปี 2017 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณีของ Bungie และ Marathon ✅ Antireal พบว่าภาพศิลปะของเธอถูกใช้ใน Marathon โดยไม่ได้รับอนุญาต - เธอระบุว่า Bungie นำภาพของเธอไปใช้โดยไม่มีเครดิตหรือค่าตอบแทน ✅ Bungie อ้างว่าภาพที่ถูกใช้มาจากอดีตพนักงานที่ไม่ได้รับอนุญาต - ทีมพัฒนา ไม่ทราบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้น ✅ Bungie ให้คำมั่นว่าจะตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้ - บริษัท ติดต่อ Antireal เพื่อชดเชยและแก้ไขข้อผิดพลาด ✅ Bungie จะเพิ่มมาตรการตรวจสอบภาพศิลปะในเกมให้เข้มงวดขึ้น - เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคต ✅ Marathon เป็นเกมยิงแบบ Extraction Shooter ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2025 - เกมนี้ เป็นการรีบูตจากเกม Marathon ดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1994 https://www.techspot.com/news/107951-bungie-caught-using-stolen-art-assets-marathon-promises.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Bungie caught using stolen art assets in Marathon, promises it will not happen again
    Bungie is under fire for allegedly using stolen art assets in its extraction shooter Marathon. Independent artist Antireal caught the Washington-based studio "recycling" some of her designs,...
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • Cloudflare เตือนว่า AI และ Zero-Click Internet กำลังทำลายโมเดลธุรกิจของเว็บ Matthew Prince ซีอีโอของ Cloudflare ได้ออกมาเตือนว่า AI และ Zero-Click Internet กำลังเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจของเว็บอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ การลดจำนวนคลิกที่นำผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ต้นทาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อ รายได้ของผู้สร้างเนื้อหาออนไลน์

    Prince อธิบายว่า ในอดีต Google จะส่งผู้เข้าชมไปยังเว็บไซต์ทุก ๆ 2 หน้าเว็บที่ถูกสแกน แต่ปัจจุบัน ต้องใช้ถึง 6 หน้าเว็บเพื่อให้ได้ผู้เข้าชมเพียง 1 คน ซึ่งหมายความว่า ผู้สร้างเนื้อหาได้รับผลตอบแทนน้อยลง

    ✅ AI และ Zero-Click Internet กำลังเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจของเว็บ
    - โดยเฉพาะ การลดจำนวนคลิกที่นำผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ต้นทาง

    ✅ Google เคยส่งผู้เข้าชมไปยังเว็บไซต์ทุก ๆ 2 หน้าเว็บที่ถูกสแกน
    - แต่ปัจจุบัน ต้องใช้ถึง 6 หน้าเว็บเพื่อให้ได้ผู้เข้าชมเพียง 1 คน

    ✅ 75% ของการค้นหาบน Google ได้รับคำตอบโดยไม่ต้องคลิกออกจากหน้าเว็บ
    - ส่งผลให้ ผู้สร้างเนื้อหาได้รับผลตอบแทนน้อยลง

    ✅ AI scraping เนื้อหาโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้สร้างเนื้อหาไม่ได้รับค่าตอบแทน
    - ส่งผลกระทบต่อ เว็บไซต์ขนาดเล็กและอิสระที่ไม่มีข้อตกลงกับบริษัท AI

    ✅ Cloudflare กำลังพิจารณาวิธีแก้ไขปัญหานี้ก่อนที่เว็บจะได้รับผลกระทบหนักขึ้น
    - Prince ระบุว่า บริษัทของเขาอยู่ใจกลางปัญหานี้และต้องหาทางแก้ไข

    https://www.techspot.com/news/107859-cloudflare-ceo-warns-ai-zero-click-internet-killing.html
    Cloudflare เตือนว่า AI และ Zero-Click Internet กำลังทำลายโมเดลธุรกิจของเว็บ Matthew Prince ซีอีโอของ Cloudflare ได้ออกมาเตือนว่า AI และ Zero-Click Internet กำลังเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจของเว็บอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ การลดจำนวนคลิกที่นำผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ต้นทาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อ รายได้ของผู้สร้างเนื้อหาออนไลน์ Prince อธิบายว่า ในอดีต Google จะส่งผู้เข้าชมไปยังเว็บไซต์ทุก ๆ 2 หน้าเว็บที่ถูกสแกน แต่ปัจจุบัน ต้องใช้ถึง 6 หน้าเว็บเพื่อให้ได้ผู้เข้าชมเพียง 1 คน ซึ่งหมายความว่า ผู้สร้างเนื้อหาได้รับผลตอบแทนน้อยลง ✅ AI และ Zero-Click Internet กำลังเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจของเว็บ - โดยเฉพาะ การลดจำนวนคลิกที่นำผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ต้นทาง ✅ Google เคยส่งผู้เข้าชมไปยังเว็บไซต์ทุก ๆ 2 หน้าเว็บที่ถูกสแกน - แต่ปัจจุบัน ต้องใช้ถึง 6 หน้าเว็บเพื่อให้ได้ผู้เข้าชมเพียง 1 คน ✅ 75% ของการค้นหาบน Google ได้รับคำตอบโดยไม่ต้องคลิกออกจากหน้าเว็บ - ส่งผลให้ ผู้สร้างเนื้อหาได้รับผลตอบแทนน้อยลง ✅ AI scraping เนื้อหาโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้สร้างเนื้อหาไม่ได้รับค่าตอบแทน - ส่งผลกระทบต่อ เว็บไซต์ขนาดเล็กและอิสระที่ไม่มีข้อตกลงกับบริษัท AI ✅ Cloudflare กำลังพิจารณาวิธีแก้ไขปัญหานี้ก่อนที่เว็บจะได้รับผลกระทบหนักขึ้น - Prince ระบุว่า บริษัทของเขาอยู่ใจกลางปัญหานี้และต้องหาทางแก้ไข https://www.techspot.com/news/107859-cloudflare-ceo-warns-ai-zero-click-internet-killing.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Cloudflare CEO warns AI and zero-click internet are killing the web's business model
    It's been known for some time that the web is changing into the Zero-Click Internet, the name for when users no longer need to click on links...
    0 Comments 0 Shares 136 Views 0 Reviews
  • พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เผยกรณีแพทยสภามีมติลงโทษว่ากล่าวตักเตือนและพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่รพ.ตำรวจ ชั้น 14 ทั้งหมด 3 ราย ซึ่งมีรายงานว่า 2 ใน 3 เป็นแพทย์รพ.ตำรวจ ได้สั่งให้กองวินัยเตรียมพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเป็นแพทย์ตำรวจที่ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องหยุดปฏิบัติงานด้านรักษาพยาบาลทันที และอาจระงับค่าตอบแทนพิเศษสำหรับตำแหน่งในวิชาชีพ ส่วนด้านวินัยตำรวจต้องพิจารณาว่ามีความผิดข้อใดบ้าง ส่วนการดำเนินคดีอาญาต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษจึงจะดำเนินการได้ ยืนยัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่นิ่งเฉย

    -ตระกูลนี้ต้องรับกรรม
    -แปะหมายเรียกคดีฮั้ว สว.
    -ลุยชั้นใต้ดินหาผู้สูญหาย
    -วอนเปิดใจอย่าตั้งธง
    พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เผยกรณีแพทยสภามีมติลงโทษว่ากล่าวตักเตือนและพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่รพ.ตำรวจ ชั้น 14 ทั้งหมด 3 ราย ซึ่งมีรายงานว่า 2 ใน 3 เป็นแพทย์รพ.ตำรวจ ได้สั่งให้กองวินัยเตรียมพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง หากเป็นแพทย์ตำรวจที่ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมต้องหยุดปฏิบัติงานด้านรักษาพยาบาลทันที และอาจระงับค่าตอบแทนพิเศษสำหรับตำแหน่งในวิชาชีพ ส่วนด้านวินัยตำรวจต้องพิจารณาว่ามีความผิดข้อใดบ้าง ส่วนการดำเนินคดีอาญาต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษจึงจะดำเนินการได้ ยืนยัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่นิ่งเฉย -ตระกูลนี้ต้องรับกรรม -แปะหมายเรียกคดีฮั้ว สว. -ลุยชั้นใต้ดินหาผู้สูญหาย -วอนเปิดใจอย่าตั้งธง
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 730 Views 40 0 Reviews
  • Xiaomi กำลังเร่งพัฒนา Xring SoC ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ออกแบบเอง โดยมีทีมงานมากกว่า 1,000 คน ทำงานในโครงการนี้ ซึ่งเป็นการขยายขีดความสามารถของบริษัทในการผลิตชิปสำหรับสมาร์ทโฟน

    ก่อนหน้านี้ Xiaomi เคยพยายามพัฒนาชิปเซ็ตของตัวเอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม Xring SoC อาจเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ Xiaomi สามารถแข่งขันกับ Qualcomm และ MediaTek ได้ในอนาคต

    ✅ Xiaomi มีทีมงานมากกว่า 1,000 คนทำงานในโครงการ Xring SoC
    - เป็นทีมงานที่แยกออกจากบริษัทแม่
    - มีอดีตผู้บริหารจาก Qualcomm เข้ามาช่วยพัฒนา

    ✅ เป้าหมายของ Xring SoC
    - ต้องการผลิตชิปเซ็ตที่สามารถแข่งขันกับ Qualcomm และ MediaTek
    - อาจช่วยให้ Xiaomi ลดการพึ่งพาผู้ผลิตชิปจากต่างประเทศ

    ✅ Xring SoC อาจถูกใช้ในสมาร์ทโฟน Xiaomi รุ่นใหม่
    - มีรายงานว่ามี ต้นแบบของชิปที่ถูกทดสอบแล้วในเดือนมีนาคม 2025
    - อาจช่วยให้ Xiaomi สามารถควบคุมต้นทุนและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ได้ดีขึ้น

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน
    - หาก Xring SoC ประสบความสำเร็จ อาจทำให้ บริษัทอื่น ๆ ในจีนเริ่มพัฒนาชิปของตัวเองมากขึ้น
    - อาจช่วยให้ วิศวกรที่ทำงานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น

    https://www.techpowerup.com/336395/1000-xiaomi-employees-reportedly-working-on-proprietary-xring-chipset-designs
    Xiaomi กำลังเร่งพัฒนา Xring SoC ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ออกแบบเอง โดยมีทีมงานมากกว่า 1,000 คน ทำงานในโครงการนี้ ซึ่งเป็นการขยายขีดความสามารถของบริษัทในการผลิตชิปสำหรับสมาร์ทโฟน ก่อนหน้านี้ Xiaomi เคยพยายามพัฒนาชิปเซ็ตของตัวเอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม Xring SoC อาจเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ Xiaomi สามารถแข่งขันกับ Qualcomm และ MediaTek ได้ในอนาคต ✅ Xiaomi มีทีมงานมากกว่า 1,000 คนทำงานในโครงการ Xring SoC - เป็นทีมงานที่แยกออกจากบริษัทแม่ - มีอดีตผู้บริหารจาก Qualcomm เข้ามาช่วยพัฒนา ✅ เป้าหมายของ Xring SoC - ต้องการผลิตชิปเซ็ตที่สามารถแข่งขันกับ Qualcomm และ MediaTek - อาจช่วยให้ Xiaomi ลดการพึ่งพาผู้ผลิตชิปจากต่างประเทศ ✅ Xring SoC อาจถูกใช้ในสมาร์ทโฟน Xiaomi รุ่นใหม่ - มีรายงานว่ามี ต้นแบบของชิปที่ถูกทดสอบแล้วในเดือนมีนาคม 2025 - อาจช่วยให้ Xiaomi สามารถควบคุมต้นทุนและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ได้ดีขึ้น ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน - หาก Xring SoC ประสบความสำเร็จ อาจทำให้ บริษัทอื่น ๆ ในจีนเริ่มพัฒนาชิปของตัวเองมากขึ้น - อาจช่วยให้ วิศวกรที่ทำงานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น https://www.techpowerup.com/336395/1000-xiaomi-employees-reportedly-working-on-proprietary-xring-chipset-designs
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    1000+ Xiaomi Employees Reportedly Working on Proprietary "Xring" Chipset Designs
    Mid-way through April, a few Asian media outlets proposed a fairly recent formation of Xiaomi's "chip platform department"—most likely operating as part of the Chinese corporation's mobile phone development operation. Industry insiders claimed that this special branch was tasked with the designing o...
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • Jensen Huang CEO ของ Nvidia ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยเพิ่มขึ้น 49% เป็น $1.5 ล้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับค่าตอบแทนให้สอดคล้องกับ CEO ของบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ

    แม้ว่าฐานเงินเดือนของ Huang จะอยู่ที่ประมาณ $1 ล้านต่อปี มานาน แต่ความมั่งคั่งของเขามาจาก หุ้น Nvidia ที่เขาถืออยู่ 3.5% ซึ่งมีมูลค่าประมาณ $94 พันล้าน

    นอกจากนี้ Huang ยังได้รับ เงินสดโบนัสเพิ่มขึ้น 50% เป็น $1 ล้าน และ หุ้นรางวัลมูลค่า $38.8 ล้าน ทำให้ค่าตอบแทนรวมของเขาในปี 2025 อยู่ที่ $49.8 ล้าน

    ✅ การปรับขึ้นเงินเดือนครั้งแรกในรอบ 10 ปี
    - ฐานเงินเดือนเพิ่มขึ้น 49% เป็น $1.5 ล้าน
    - เงินสดโบนัสเพิ่มขึ้น 50% เป็น $1 ล้าน

    ✅ มูลค่าหุ้นของ Huang
    - ถือหุ้น 3.5% ของ Nvidia
    - มูลค่าหุ้นอยู่ที่ประมาณ $94 พันล้าน

    ✅ ค่าตอบแทนรวมในปี 2025
    - รวมเงินเดือน, โบนัส และหุ้นรางวัล $49.8 ล้าน
    - ค่าตอบแทนของพนักงาน Nvidia เฉลี่ยอยู่ที่ $301,233

    ✅ เหตุผลในการปรับขึ้นเงินเดือน
    - คณะกรรมการของ Nvidia ต้องการให้ค่าตอบแทนของ Huang สอดคล้องกับ CEO ของบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ

    https://www.techspot.com/news/107772-nvidia-ceo-jensen-huang-gets-first-pay-raise.html
    Jensen Huang CEO ของ Nvidia ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยเพิ่มขึ้น 49% เป็น $1.5 ล้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับค่าตอบแทนให้สอดคล้องกับ CEO ของบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ แม้ว่าฐานเงินเดือนของ Huang จะอยู่ที่ประมาณ $1 ล้านต่อปี มานาน แต่ความมั่งคั่งของเขามาจาก หุ้น Nvidia ที่เขาถืออยู่ 3.5% ซึ่งมีมูลค่าประมาณ $94 พันล้าน นอกจากนี้ Huang ยังได้รับ เงินสดโบนัสเพิ่มขึ้น 50% เป็น $1 ล้าน และ หุ้นรางวัลมูลค่า $38.8 ล้าน ทำให้ค่าตอบแทนรวมของเขาในปี 2025 อยู่ที่ $49.8 ล้าน ✅ การปรับขึ้นเงินเดือนครั้งแรกในรอบ 10 ปี - ฐานเงินเดือนเพิ่มขึ้น 49% เป็น $1.5 ล้าน - เงินสดโบนัสเพิ่มขึ้น 50% เป็น $1 ล้าน ✅ มูลค่าหุ้นของ Huang - ถือหุ้น 3.5% ของ Nvidia - มูลค่าหุ้นอยู่ที่ประมาณ $94 พันล้าน ✅ ค่าตอบแทนรวมในปี 2025 - รวมเงินเดือน, โบนัส และหุ้นรางวัล $49.8 ล้าน - ค่าตอบแทนของพนักงาน Nvidia เฉลี่ยอยู่ที่ $301,233 ✅ เหตุผลในการปรับขึ้นเงินเดือน - คณะกรรมการของ Nvidia ต้องการให้ค่าตอบแทนของ Huang สอดคล้องกับ CEO ของบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ https://www.techspot.com/news/107772-nvidia-ceo-jensen-huang-gets-first-pay-raise.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia CEO Jensen Huang gets first pay raise in a decade, now earns $49.8 million
    Nvidia's stock price was around $0.50 at the start of 2015. Thanks to Team Green providing most of the hardware powering the generative AI revolution, its stock...
    0 Comments 0 Shares 257 Views 0 Reviews
  • Amazon ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนของผู้บริหารในปี 2024 โดยพบว่า Jeff Bezos อดีต CEO ของบริษัทได้รับค่าตอบแทนรวมมากกว่าผู้บริหารคนปัจจุบัน Andy Jassy แม้ว่าจะมีเงินเดือนที่ต่ำกว่า

    ✅ Jeff Bezos ได้รับค่าตอบแทนรวมสูงกว่า Andy Jassy
    - เงินเดือนของ Bezos อยู่ที่ 81,840 ดอลลาร์ ในปี 2024
    - Andy Jassy ได้รับเงินเดือน 365,000 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า Bezos ถึง 4.5 เท่า
    - อย่างไรก็ตาม Bezos ได้รับ ค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัย 1.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ค่าตอบแทนรวมของเขาสูงขึ้น

    ✅ ค่าตอบแทนของผู้บริหารระดับสูงของ Amazon
    - CEO ของ AWS Matt Garman ได้รับเงินเดือน 358,750 ดอลลาร์
    - CFO Brian Olsavsky, CEO ของ Amazon Stores Douglas Herrington และ Chief Global Affairs & Legal Officer David Zapolsky ได้รับเงินเดือน 365,000 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับ Jassy

    ✅ การประชุมผู้ถือหุ้นและข้อเสนอที่ถูกปฏิเสธ
    - มีการเสนอให้ เพิ่มความโปร่งใสในการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
    - มีข้อเสนอให้ รายงานผลกระทบของศูนย์ข้อมูลและบรรจุภัณฑ์
    - คณะกรรมการบริษัทลงมติ ปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าบริษัทมีมาตรการที่เพียงพออยู่แล้ว

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยของ Bezos
    - Amazon ให้เหตุผลว่าค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยของ Bezos เป็นสิ่งจำเป็นและสมเหตุสมผล
    - อย่างไรก็ตาม มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นของค่าใช้จ่ายที่สูงขนาดนี้

    ℹ️ ความโปร่งใสในการบริหารของ Amazon
    - การปฏิเสธข้อเสนอเกี่ยวกับการรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอาจทำให้เกิดข้อกังวลในกลุ่มนักลงทุน
    - ต้องติดตามว่า Amazon จะมีการปรับปรุงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคตหรือไม่

    ℹ️ แนวโน้มของค่าตอบแทนผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    - บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Google และ Microsoft มีแนวโน้มให้ค่าตอบแทนผู้บริหารสูงขึ้น
    - อาจมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างค่าตอบแทนเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาด

    https://www.techradar.com/pro/amazon-paid-out-more-to-jeff-bezos-than-its-actual-ceo-in-2024
    Amazon ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับค่าตอบแทนของผู้บริหารในปี 2024 โดยพบว่า Jeff Bezos อดีต CEO ของบริษัทได้รับค่าตอบแทนรวมมากกว่าผู้บริหารคนปัจจุบัน Andy Jassy แม้ว่าจะมีเงินเดือนที่ต่ำกว่า ✅ Jeff Bezos ได้รับค่าตอบแทนรวมสูงกว่า Andy Jassy - เงินเดือนของ Bezos อยู่ที่ 81,840 ดอลลาร์ ในปี 2024 - Andy Jassy ได้รับเงินเดือน 365,000 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า Bezos ถึง 4.5 เท่า - อย่างไรก็ตาม Bezos ได้รับ ค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัย 1.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ค่าตอบแทนรวมของเขาสูงขึ้น ✅ ค่าตอบแทนของผู้บริหารระดับสูงของ Amazon - CEO ของ AWS Matt Garman ได้รับเงินเดือน 358,750 ดอลลาร์ - CFO Brian Olsavsky, CEO ของ Amazon Stores Douglas Herrington และ Chief Global Affairs & Legal Officer David Zapolsky ได้รับเงินเดือน 365,000 ดอลลาร์ เช่นเดียวกับ Jassy ✅ การประชุมผู้ถือหุ้นและข้อเสนอที่ถูกปฏิเสธ - มีการเสนอให้ เพิ่มความโปร่งใสในการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก - มีข้อเสนอให้ รายงานผลกระทบของศูนย์ข้อมูลและบรรจุภัณฑ์ - คณะกรรมการบริษัทลงมติ ปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าบริษัทมีมาตรการที่เพียงพออยู่แล้ว ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยของ Bezos - Amazon ให้เหตุผลว่าค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยของ Bezos เป็นสิ่งจำเป็นและสมเหตุสมผล - อย่างไรก็ตาม มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความจำเป็นของค่าใช้จ่ายที่สูงขนาดนี้ ℹ️ ความโปร่งใสในการบริหารของ Amazon - การปฏิเสธข้อเสนอเกี่ยวกับการรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอาจทำให้เกิดข้อกังวลในกลุ่มนักลงทุน - ต้องติดตามว่า Amazon จะมีการปรับปรุงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคตหรือไม่ ℹ️ แนวโน้มของค่าตอบแทนผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี - บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Google และ Microsoft มีแนวโน้มให้ค่าตอบแทนผู้บริหารสูงขึ้น - อาจมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างค่าตอบแทนเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาด https://www.techradar.com/pro/amazon-paid-out-more-to-jeff-bezos-than-its-actual-ceo-in-2024
    WWW.TECHRADAR.COM
    Amazon paid out more to Jeff Bezos than its actual CEO in 2024
    Former CEO Jeff Bezos is still costing Amazon millions
    0 Comments 0 Shares 467 Views 0 Reviews
  • กลุ่มสำนักพิมพ์ที่อยู่ภายใต้ News/Media Alliance ได้เปิดตัวแคมเปญชื่อ "Support Responsible AI" โดยเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ออกนโยบายที่กำหนดให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้สร้างเนื้อหาที่ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ AI ของพวกเขา แคมเปญนี้ชี้ว่าการดึงเนื้อหาเหล่านี้มาโดยไม่จ่ายค่าตอบแทนถือเป็นการ "ไม่ยุติธรรมและไม่ถูกต้อง"

    == จุดมุ่งหมายหลักของแคมเปญนี้ ==

    ✅ ขอค่าตอบแทนที่เหมาะสม
    - บริษัทเทคโนโลยีและ AI ควรจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้สร้างเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็นนักข่าว ศิลปิน หรือผู้สร้างผลงานที่เนื้อหาเหล่านั้นถูกนำไปใช้ในการพัฒนาโมเดล AI

    ✅ สร้างความโปร่งใสในการใช้งาน AI
    - แคมเปญนี้เรียกร้องให้มีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจนในการระบุแหล่งที่มาของข้อมูล และความโปร่งใสในเนื้อหาที่สร้างจาก AI

    ✅ ป้องกันการผูกขาดและการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
    - เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ใช้อำนาจในตลาดที่เหนือกว่าเพื่อขัดขวางคู่แข่ง

    https://www.neowin.net/news/mainstream-media-calls-for-us-action-to-stop-ai-theft-by-companies-like-openai/
    กลุ่มสำนักพิมพ์ที่อยู่ภายใต้ News/Media Alliance ได้เปิดตัวแคมเปญชื่อ "Support Responsible AI" โดยเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ออกนโยบายที่กำหนดให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้สร้างเนื้อหาที่ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ AI ของพวกเขา แคมเปญนี้ชี้ว่าการดึงเนื้อหาเหล่านี้มาโดยไม่จ่ายค่าตอบแทนถือเป็นการ "ไม่ยุติธรรมและไม่ถูกต้อง" == จุดมุ่งหมายหลักของแคมเปญนี้ == ✅ ขอค่าตอบแทนที่เหมาะสม - บริษัทเทคโนโลยีและ AI ควรจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ผู้สร้างเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็นนักข่าว ศิลปิน หรือผู้สร้างผลงานที่เนื้อหาเหล่านั้นถูกนำไปใช้ในการพัฒนาโมเดล AI ✅ สร้างความโปร่งใสในการใช้งาน AI - แคมเปญนี้เรียกร้องให้มีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจนในการระบุแหล่งที่มาของข้อมูล และความโปร่งใสในเนื้อหาที่สร้างจาก AI ✅ ป้องกันการผูกขาดและการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม - เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ใช้อำนาจในตลาดที่เหนือกว่าเพื่อขัดขวางคู่แข่ง https://www.neowin.net/news/mainstream-media-calls-for-us-action-to-stop-ai-theft-by-companies-like-openai/
    WWW.NEOWIN.NET
    Mainstream media calls for US action to stop "AI theft" by companies like OpenAI
    Prominent US publishers have started a campaign urging the government to prevent Big Tech from "stealing content from creators" to train AI.
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • 10 แนวทางบริหารจัดการช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ CISOs แนะนำ 🔒🛡️

    ปัจจุบันองค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญกับ การจัดการช่องโหว่ด้านความปลอดภัย (Vulnerability Management) มากขึ้น เนื่องจากการละเลยในอดีตทำให้เกิด ความเสี่ยงทางธุรกิจ อย่างมหาศาล โดย CISOs (Chief Information Security Officers) หลายคนได้แบ่งปันบทเรียนและแนวทางที่ช่วยให้องค์กรสามารถลดความเสี่ยงจากช่องโหว่ทางไซเบอร์ได้

    ✅ 1. สร้างวัฒนธรรมไซเบอร์ซีเคียวริตี้ในองค์กร
    - องค์กรต้องมี แนวคิดที่เน้นความปลอดภัย โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น การโจมตี Log4J หรือ Ransomware
    - CISOs ย้ำว่า ต้องทำให้ความปลอดภัยเป็นวาระสำคัญระดับ CEO และคณะกรรมการบริษัท

    ✅ 2. เอกสารและกระบวนการที่ชัดเจน
    - ทุกขั้นตอนต้องมีการ บันทึกและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงการบริหารจัดการช่องโหว่

    ✅ 3. กำหนดกระบวนการที่เป็นมาตรฐาน
    - หลายองค์กรใช้กรอบงาน NIST หรือ ISO 27001 และปรับให้เข้ากับความต้องการขององค์กร
    - บางบริษัทมี ระบบบูรณาการที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อมีการควบรวมกิจการ

    ✅ 4. ระบุข้อมูลความปลอดภัยที่จำเป็น
    - ไม่ใช่แค่การตรวจสอบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่ต้องกำหนด ข้อมูลที่จำเป็นต่อการบริหารความเสี่ยง

    ✅ 5. บูรณาการข้อมูลให้เป็นระบบ
    - CISOs ต้องเข้าใจว่า ข้อมูลเกี่ยวกับช่องโหว่ควรส่งถึงใครบ้าง และต้องดำเนินการอย่างไรเมื่อได้รับข้อมูล

    ✅ 6. ตั้งค่ามาตรวัดเพื่อจัดลำดับความสำคัญ
    - ระบบต้องมีการ ประเมินมูลค่าธุรกิจของสินทรัพย์ที่มีช่องโหว่ และพิจารณาว่า มีมาตรการป้องกันที่เพียงพอหรือไม่

    ✅ 7. ตั้งค่า SLA เพื่อกำหนดขอบเขตเวลาแก้ไขปัญหา
    - ต้องมี Service Level Agreements (SLA) เพื่อกำหนดระยะเวลาที่ต้องแก้ไขช่องโหว่
    - หากทีมไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตามกำหนด ต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงกระบวนการต่อไป

    ✅ 8. พัฒนาแผนฉุกเฉินสำหรับแพตช์ระบบ
    - กรณี Log4Shell และ SolarWinds เป็นบทเรียนว่าองค์กรต้องมี แผนฉุกเฉินสำหรับการแพตช์ระบบในเหตุการณ์เร่งด่วน

    ✅ 9. ปรับเป้าหมายและแรงจูงใจให้สอดคล้องกัน
    - ต้องมี การทำงานร่วมกันระหว่างฝ่าย IT, DevOps, Security และฝ่ายธุรกิจ
    - บางองค์กรใช้ ค่าตอบแทนและโบนัสเพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับความปลอดภัย

    ✅ 10. ทดสอบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
    - เปลี่ยนจาก Penetration Testing แบบรายปี เป็น Continuous Security Testing
    - ใช้แนวทาง Threat-Informed Defense เพื่อ ทดสอบความสามารถของมาตรการป้องกัน

    https://www.csoonline.com/article/3853759/10-best-practices-for-vulnerability-management-according-to-cisos.html
    10 แนวทางบริหารจัดการช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่ CISOs แนะนำ 🔒🛡️ ปัจจุบันองค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญกับ การจัดการช่องโหว่ด้านความปลอดภัย (Vulnerability Management) มากขึ้น เนื่องจากการละเลยในอดีตทำให้เกิด ความเสี่ยงทางธุรกิจ อย่างมหาศาล โดย CISOs (Chief Information Security Officers) หลายคนได้แบ่งปันบทเรียนและแนวทางที่ช่วยให้องค์กรสามารถลดความเสี่ยงจากช่องโหว่ทางไซเบอร์ได้ ✅ 1. สร้างวัฒนธรรมไซเบอร์ซีเคียวริตี้ในองค์กร - องค์กรต้องมี แนวคิดที่เน้นความปลอดภัย โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น การโจมตี Log4J หรือ Ransomware - CISOs ย้ำว่า ต้องทำให้ความปลอดภัยเป็นวาระสำคัญระดับ CEO และคณะกรรมการบริษัท ✅ 2. เอกสารและกระบวนการที่ชัดเจน - ทุกขั้นตอนต้องมีการ บันทึกและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงการบริหารจัดการช่องโหว่ ✅ 3. กำหนดกระบวนการที่เป็นมาตรฐาน - หลายองค์กรใช้กรอบงาน NIST หรือ ISO 27001 และปรับให้เข้ากับความต้องการขององค์กร - บางบริษัทมี ระบบบูรณาการที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อมีการควบรวมกิจการ ✅ 4. ระบุข้อมูลความปลอดภัยที่จำเป็น - ไม่ใช่แค่การตรวจสอบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่ต้องกำหนด ข้อมูลที่จำเป็นต่อการบริหารความเสี่ยง ✅ 5. บูรณาการข้อมูลให้เป็นระบบ - CISOs ต้องเข้าใจว่า ข้อมูลเกี่ยวกับช่องโหว่ควรส่งถึงใครบ้าง และต้องดำเนินการอย่างไรเมื่อได้รับข้อมูล ✅ 6. ตั้งค่ามาตรวัดเพื่อจัดลำดับความสำคัญ - ระบบต้องมีการ ประเมินมูลค่าธุรกิจของสินทรัพย์ที่มีช่องโหว่ และพิจารณาว่า มีมาตรการป้องกันที่เพียงพอหรือไม่ ✅ 7. ตั้งค่า SLA เพื่อกำหนดขอบเขตเวลาแก้ไขปัญหา - ต้องมี Service Level Agreements (SLA) เพื่อกำหนดระยะเวลาที่ต้องแก้ไขช่องโหว่ - หากทีมไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ตามกำหนด ต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงกระบวนการต่อไป ✅ 8. พัฒนาแผนฉุกเฉินสำหรับแพตช์ระบบ - กรณี Log4Shell และ SolarWinds เป็นบทเรียนว่าองค์กรต้องมี แผนฉุกเฉินสำหรับการแพตช์ระบบในเหตุการณ์เร่งด่วน ✅ 9. ปรับเป้าหมายและแรงจูงใจให้สอดคล้องกัน - ต้องมี การทำงานร่วมกันระหว่างฝ่าย IT, DevOps, Security และฝ่ายธุรกิจ - บางองค์กรใช้ ค่าตอบแทนและโบนัสเพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ✅ 10. ทดสอบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง - เปลี่ยนจาก Penetration Testing แบบรายปี เป็น Continuous Security Testing - ใช้แนวทาง Threat-Informed Defense เพื่อ ทดสอบความสามารถของมาตรการป้องกัน https://www.csoonline.com/article/3853759/10-best-practices-for-vulnerability-management-according-to-cisos.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    10 best practices for vulnerability management according to CISOs
    After years of neglect, organizations are investing in vulnerability management programs to address business risk. A dozen CISOs offer lessons learned and best practices.
    0 Comments 0 Shares 470 Views 0 Reviews
  • การสำรวจพบว่าความไม่ยืดหยุ่นในนโยบายการทำงานเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พนักงานเทคลาออกเป็นจำนวนมากในปีที่ผ่านมา การจัดการที่ยืดหยุ่นไม่เพียงช่วยลดความเครียด แต่ยังสร้างความไว้วางใจและความผูกพันในที่ทำงาน บริษัทที่ไม่ปรับตัวอาจเสียพนักงานเก่ง ๆ ไป ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมนี้ยังคงเป็นหนึ่งในตลาดที่มีค่าตอบแทนสูงสุด

    ผลกระทบของนโยบาย:
    - พนักงานที่ทำงานแบบรีโมทจำนวนมากกล่าวว่าการจัดการเวลาที่ยืดหยุ่นเพิ่มความรู้สึก "เป็นส่วนหนึ่งของทีม" และ 68% เชื่อว่าความยืดหยุ่นช่วยสร้างความไว้วางใจระหว่างพนักงานและบริษัทได้มากขึ้น.

    ปัญหาความเหนื่อยล้าในอุตสาหกรรม:
    - มากกว่า 73% ของพนักงานไอทีรู้สึกเครียดหรือหมดไฟจากความกดดัน เช่น งานที่หนักเกินไป กำหนดเวลาที่แน่น และทรัพยากรที่ไม่เพียงพอ.

    ความสำคัญของความยืดหยุ่น:
    - Graig Paglieri ซีอีโอของ Randstad ชี้ว่าบริษัทที่เสนอสิทธิประโยชน์ส่วนบุคคลและการทำงานแบบยืดหยุ่นไม่เพียงช่วยดึงดูดแต่ยังรักษาพนักงานในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้อีกด้วย.

    ผลตอบแทนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี:
    - แม้จะเผชิญปัญหา แต่เทคโนโลยียังคงเป็นอุตสาหกรรมที่ให้ค่าตอบแทนสูงสุด โดยมีพนักงานจำนวนมากที่ได้รับเงินเดือนสูง

    https://www.techradar.com/pro/inflexible-work-policies-are-pushing-tech-workers-to-quit
    การสำรวจพบว่าความไม่ยืดหยุ่นในนโยบายการทำงานเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พนักงานเทคลาออกเป็นจำนวนมากในปีที่ผ่านมา การจัดการที่ยืดหยุ่นไม่เพียงช่วยลดความเครียด แต่ยังสร้างความไว้วางใจและความผูกพันในที่ทำงาน บริษัทที่ไม่ปรับตัวอาจเสียพนักงานเก่ง ๆ ไป ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมนี้ยังคงเป็นหนึ่งในตลาดที่มีค่าตอบแทนสูงสุด ผลกระทบของนโยบาย: - พนักงานที่ทำงานแบบรีโมทจำนวนมากกล่าวว่าการจัดการเวลาที่ยืดหยุ่นเพิ่มความรู้สึก "เป็นส่วนหนึ่งของทีม" และ 68% เชื่อว่าความยืดหยุ่นช่วยสร้างความไว้วางใจระหว่างพนักงานและบริษัทได้มากขึ้น. ปัญหาความเหนื่อยล้าในอุตสาหกรรม: - มากกว่า 73% ของพนักงานไอทีรู้สึกเครียดหรือหมดไฟจากความกดดัน เช่น งานที่หนักเกินไป กำหนดเวลาที่แน่น และทรัพยากรที่ไม่เพียงพอ. ความสำคัญของความยืดหยุ่น: - Graig Paglieri ซีอีโอของ Randstad ชี้ว่าบริษัทที่เสนอสิทธิประโยชน์ส่วนบุคคลและการทำงานแบบยืดหยุ่นไม่เพียงช่วยดึงดูดแต่ยังรักษาพนักงานในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้อีกด้วย. ผลตอบแทนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: - แม้จะเผชิญปัญหา แต่เทคโนโลยียังคงเป็นอุตสาหกรรมที่ให้ค่าตอบแทนสูงสุด โดยมีพนักงานจำนวนมากที่ได้รับเงินเดือนสูง https://www.techradar.com/pro/inflexible-work-policies-are-pushing-tech-workers-to-quit
    WWW.TECHRADAR.COM
    Inflexible work policies are pushing tech workers to quit
    2 in 5 workers quit in the last year due to workplace policies
    0 Comments 0 Shares 342 Views 0 Reviews
  • ล้างบาง ‘โกงยา’ โรงพยาบาลทหารผ่านศึกที่มีขบวนการทำมาอย่างยาวนานนับ 7 ปีตั้งแต่ แพทย์ ทหาร พันเองหญิง คนไข้ทิพย์ ที่ยอมกิน หวาน มัน เค็ม เพื่อให้ค่าเลือดผิด พบเส้นเงินกว่า 80 ล้าน กินเงินภาษีคนไทยทั้งประเทศมานานปี จนถึงวันที่เครื่อข่ายล้มสลาย ตอนโดนจับ แขนขาอ่อนแรงเดินเองไม่ได้ มีความเป็นมาอย่างไร NBT CONNEXT จะเล่าให้ฟัง🛑 ขบวนการนี้เป็นเครือข่ายจากลพบุรี มีทั้งแพทย์ ทหาร พยาบาล ครู เกี่ยวข้องกันทั้งหมดมี แพทย์ทหารหญิงยศพันเอกเป็นตัวบงการใหญ่ เริ่มแรกมีการเปิดโปงเรื่องนี้คือ นางสาวพัชนีย์ พูนสุข หรือ “ก้อย” ผู้ และนายธนเดช เพ็งสุข ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน และรองประธาน กมธ.ทหารฯ ที่ทนเห็นพฤติกรรมของกลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้ รวบรวมเก็บหลักฐานมานานปี มอบให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง เธอต้องมาใช้ชีวิตที่กองปราบนานนับเดือน เธอบอกว่าตอนนี้กองปราบเหมือนเป็นบ้านของเธอไปแล้ว🛑 ทีมนี้ แบ่งออกเป็น 6 ทีม แต่ละทีมมีแม่ทีม และชาวบ้านลูกทีมหลายสิบคน โดยการเตี๊ยมเนื้อหากับลูกทีม ว่าให้ไปพูดกับหมอยังไงตอนหมอนัดตรวจ บางคนก็ถูกบอกว่าให้กินอาหาร หวาน เค็ม มัน ให้ความดันสูง น้ำตาลสูง ไขมันสูง เพื่อให้ผลเลือดแย่ หมอจะได้จ่ายยาให้เยอะๆ เน้นเอายานอกบัญชีที่ราคาสูง โดยแต่ละคนได้ค่าตอบแทนครั้งละ 2-3 พันบาท พอได้ยามา ก็เอาไปให้แม่ทีม เอาไปขายต่อ อย่างไรก็ตาม มีการดำเนินการแบบนี้มาตลอดไม่เคยถูกจับได้ เพราะฐานข้อมูลไม่เชื่อมโยงกัน🛑 หลังจากเรื่องแดงขึ้น พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผ.อ.องค์การทหารผ่านศึก ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เมื่อเดือน ก.พ.2568 หลังพบว่ามีขบวนการนำยาออกจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และพบพฤติการณ์ผิดปกติว่ามีการจัดหาเครือข่ายบุคคลจาก จ.ลพบุรี เข้ามารับยาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และนำยาทั้งหมดที่ได้ให้กับแม่ทีมเครือข่ายเพื่อแลกกับค่าจ้างร้อยละ 10 ของค่ายา ซึ่งแม่ทีมเครือข่ายจะได้ค่าจ้างรายหัวอีกรายละ 1,500 บาท🛑 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้วางแนวทางการสืบสวนพบมีการทำเป็นขบวนการมี พ.อ.หญิง เป็นผู้วางแผนให้แม่ขายจัดหาบุคคลมาพบแพทย์ ทำทีตรวจรักษากับแพทย์หญิง และสั่งจ่ายยาให้กับผู้ป่วยทิพย์ เพื่อสั่งจ่ายยาที่เกินจากโรคที่เป็นอยู่จริง ก่อนจะรวบรวมยาไปเก็บเพื่อรอจำหน่าย กระจายไปยังจุดต่าง ๆ🛑 เมื่อได้หลักฐานเรียบร้อยแล้ว เช้าวันนี้จึงเริ่มมีปฏิบัติการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ปปป. นำกำลังร่วมกับ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ลุยตรวจค้นเป้าหมาย 17 จุดในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ลพบุรี และปราจีนบุรี ชลบุรี เพื่อจับกุมผู้ต้องหาขบวนการทุจริตเบิกจ่ายยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึกก่อนนำไปขายต่อให้กับบุคคลภายนอก ได้ตัวการสำคัญ พันเอกหญิง อายุ 59 ปี ข้าราชการบำนาญ ในย่านเกียกกาย เป็นถึงหัวหน้าขบวนการ ทำหน้าที่จัดหาเครือข่ายบุคคลจากจังหวัดลพบุรี เข้ามารับยาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และนำยาทั้งหมดที่ได้ให้กับแม่ทีมเครือข่ายเพื่อแลกกับค่าจ้างร้อยละ 10 ของค่ายา โดยแม่ทีมเครือข่ายจะได้ค่าจ้างรายหัวอีกรายละ 1,500 บาท🛑 แพทย์หญิง อายุ 48 ปี ผู้ชำนาญการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านลาดพร้าว 71 โดยตัวแพทย์หญิงบรินดา ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ต้องหาคนสำคัญของขบวนการ เนื่องจากเป็นคนทำหน้าที่สั่งจ่ายยา ด้วยการวินิจฉัยโรคให้เกินจากโรคที่เป็นอยู่จริงกับผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ป่วยที่เข้ามารับยาในขบวนการนี้🛑 นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ยืนยันว่า ผลการตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงินไม่พบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง และไม่มี mastermind แต่เส้นเงินดังกล่าวไปสิ้นสุดที่ 2 ผู้ต้องหาและเครือข่ายเท่านั้น จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีการทุจริตตั้งปี 2561-2564 และยังพบข้อมูลอีกว่าในช่วงปี 2561-2568 มีเงินถูกโอนเข้าบัญชีรวมกว่า 40 ล้านบาท และมีการประเมินความเสียหายจากการทุจริตอยู่ที่มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท🛑 คดีดังกล่าวขณะนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้ว 8 ราย และตามข้อกฎหมาย ให้สันนิษฐานว่า ผู้ถูกจับกุมยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาจนถึงที่สุดให้ให้ถือว่า ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่มา : nbtconnext
    ล้างบาง ‘โกงยา’ โรงพยาบาลทหารผ่านศึกที่มีขบวนการทำมาอย่างยาวนานนับ 7 ปีตั้งแต่ แพทย์ ทหาร พันเองหญิง คนไข้ทิพย์ ที่ยอมกิน หวาน มัน เค็ม เพื่อให้ค่าเลือดผิด พบเส้นเงินกว่า 80 ล้าน กินเงินภาษีคนไทยทั้งประเทศมานานปี จนถึงวันที่เครื่อข่ายล้มสลาย ตอนโดนจับ แขนขาอ่อนแรงเดินเองไม่ได้ มีความเป็นมาอย่างไร NBT CONNEXT จะเล่าให้ฟัง🛑 ขบวนการนี้เป็นเครือข่ายจากลพบุรี มีทั้งแพทย์ ทหาร พยาบาล ครู เกี่ยวข้องกันทั้งหมดมี แพทย์ทหารหญิงยศพันเอกเป็นตัวบงการใหญ่ เริ่มแรกมีการเปิดโปงเรื่องนี้คือ นางสาวพัชนีย์ พูนสุข หรือ “ก้อย” ผู้ และนายธนเดช เพ็งสุข ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน และรองประธาน กมธ.ทหารฯ ที่ทนเห็นพฤติกรรมของกลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้ รวบรวมเก็บหลักฐานมานานปี มอบให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง เธอต้องมาใช้ชีวิตที่กองปราบนานนับเดือน เธอบอกว่าตอนนี้กองปราบเหมือนเป็นบ้านของเธอไปแล้ว🛑 ทีมนี้ แบ่งออกเป็น 6 ทีม แต่ละทีมมีแม่ทีม และชาวบ้านลูกทีมหลายสิบคน โดยการเตี๊ยมเนื้อหากับลูกทีม ว่าให้ไปพูดกับหมอยังไงตอนหมอนัดตรวจ บางคนก็ถูกบอกว่าให้กินอาหาร หวาน เค็ม มัน ให้ความดันสูง น้ำตาลสูง ไขมันสูง เพื่อให้ผลเลือดแย่ หมอจะได้จ่ายยาให้เยอะๆ เน้นเอายานอกบัญชีที่ราคาสูง โดยแต่ละคนได้ค่าตอบแทนครั้งละ 2-3 พันบาท พอได้ยามา ก็เอาไปให้แม่ทีม เอาไปขายต่อ อย่างไรก็ตาม มีการดำเนินการแบบนี้มาตลอดไม่เคยถูกจับได้ เพราะฐานข้อมูลไม่เชื่อมโยงกัน🛑 หลังจากเรื่องแดงขึ้น พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผ.อ.องค์การทหารผ่านศึก ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เมื่อเดือน ก.พ.2568 หลังพบว่ามีขบวนการนำยาออกจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และพบพฤติการณ์ผิดปกติว่ามีการจัดหาเครือข่ายบุคคลจาก จ.ลพบุรี เข้ามารับยาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และนำยาทั้งหมดที่ได้ให้กับแม่ทีมเครือข่ายเพื่อแลกกับค่าจ้างร้อยละ 10 ของค่ายา ซึ่งแม่ทีมเครือข่ายจะได้ค่าจ้างรายหัวอีกรายละ 1,500 บาท🛑 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้วางแนวทางการสืบสวนพบมีการทำเป็นขบวนการมี พ.อ.หญิง เป็นผู้วางแผนให้แม่ขายจัดหาบุคคลมาพบแพทย์ ทำทีตรวจรักษากับแพทย์หญิง และสั่งจ่ายยาให้กับผู้ป่วยทิพย์ เพื่อสั่งจ่ายยาที่เกินจากโรคที่เป็นอยู่จริง ก่อนจะรวบรวมยาไปเก็บเพื่อรอจำหน่าย กระจายไปยังจุดต่าง ๆ🛑 เมื่อได้หลักฐานเรียบร้อยแล้ว เช้าวันนี้จึงเริ่มมีปฏิบัติการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ปปป. นำกำลังร่วมกับ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. ลุยตรวจค้นเป้าหมาย 17 จุดในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ลพบุรี และปราจีนบุรี ชลบุรี เพื่อจับกุมผู้ต้องหาขบวนการทุจริตเบิกจ่ายยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึกก่อนนำไปขายต่อให้กับบุคคลภายนอก ได้ตัวการสำคัญ พันเอกหญิง อายุ 59 ปี ข้าราชการบำนาญ ในย่านเกียกกาย เป็นถึงหัวหน้าขบวนการ ทำหน้าที่จัดหาเครือข่ายบุคคลจากจังหวัดลพบุรี เข้ามารับยาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และนำยาทั้งหมดที่ได้ให้กับแม่ทีมเครือข่ายเพื่อแลกกับค่าจ้างร้อยละ 10 ของค่ายา โดยแม่ทีมเครือข่ายจะได้ค่าจ้างรายหัวอีกรายละ 1,500 บาท🛑 แพทย์หญิง อายุ 48 ปี ผู้ชำนาญการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านลาดพร้าว 71 โดยตัวแพทย์หญิงบรินดา ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ต้องหาคนสำคัญของขบวนการ เนื่องจากเป็นคนทำหน้าที่สั่งจ่ายยา ด้วยการวินิจฉัยโรคให้เกินจากโรคที่เป็นอยู่จริงกับผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ป่วยที่เข้ามารับยาในขบวนการนี้🛑 นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ยืนยันว่า ผลการตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงินไม่พบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง และไม่มี mastermind แต่เส้นเงินดังกล่าวไปสิ้นสุดที่ 2 ผู้ต้องหาและเครือข่ายเท่านั้น จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า ขบวนการดังกล่าวมีการทุจริตตั้งปี 2561-2564 และยังพบข้อมูลอีกว่าในช่วงปี 2561-2568 มีเงินถูกโอนเข้าบัญชีรวมกว่า 40 ล้านบาท และมีการประเมินความเสียหายจากการทุจริตอยู่ที่มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท🛑 คดีดังกล่าวขณะนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้ว 8 ราย และตามข้อกฎหมาย ให้สันนิษฐานว่า ผู้ถูกจับกุมยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาจนถึงที่สุดให้ให้ถือว่า ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่มา : nbtconnext
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 998 Views 0 Reviews
More Results