• บทความกฎหมาย EP.50

    ข่าวกรองคือกระบวนการทางปัญญาที่มีความหมายลึกซึ้งกว่าเพียงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารทั่วไปเพราะในทางกฎหมายและระเบียบปฏิบัติของรัฐข่าวกรองเปรียบเสมือนพยานหลักฐานที่ผ่านการกลั่นกรองและตรวจสอบความถูกต้องมาอย่างเป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นมีน้ำหนักน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจในระดับยุทธศาสตร์ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความมั่นคงข้อมูลที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบย่อมถือเป็นเพียงข่าวลือหรือข่าวสารดิบที่ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเป็นฐานในการใช้อำนาจตามกฎหมายได้การที่หน่วยงานรัฐจะดำเนินมาตรการใดๆที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรือการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศจำเป็นต้องอาศัยข่าวกรองที่มีความแม่นยำสูงมีแหล่งที่มาที่ชัดเจนและได้รับการยืนยันผ่านกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์หรือการสืบสวนเชิงลึกเพื่อให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรมที่กำหนดว่าการใช้อำนาจรัฐต้องตั้งอยู่บนฐานของข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วเท่านั้นกระบวนการเปลี่ยนข่าวสารให้กลายเป็นข่าวกรองจึงถือเป็นพันธกิจหลักที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการยึดมั่นในระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจนำไปสู่ความเสียหายต่อส่วนรวมหรือการละเมิดสิทธิของบุคคลโดยมิชอบ

    ในมิติด้านกฎหมายมหาชนและการตีความพยานหลักฐานการนิยามว่าข่าวกรองคือข่าวที่ได้รับการตรวจสอบหลักฐานแล้วว่าเชื่อถือได้สะท้อนถึงมาตรฐานการพิสูจน์ที่เข้มงวดคล้ายคลึงกับหลักการรับฟังพยานหลักฐานในชั้นศาลซึ่งต้องมีการตรวจสอบความเชื่อมโยงและความสมเหตุสมผลของข้อมูลในทุกมิติข่าวกรองที่มีคุณภาพจึงต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญคือความถูกต้องความทันสมัยและความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์โดยมีกฎหมายรองรับบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงภายใต้ขอบเขตที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้การทำหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองทหารหรือหน่วยงานความมั่นคงจึงไม่ใช่เพียงการรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดแต่คือการวิเคราะห์แยกแยะระหว่างความจริงกับความลวงโดยใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีและสติปัญญาของมนุษย์ผสมผสานกันเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อสรุปที่มีพยานหลักฐานสนับสนุนอย่างแน่นหนาความน่าเชื่อถือของข่าวกรองจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้รัฐสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าและยับยั้งภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักการป้องกันก่อนเกิดเหตุซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักรและการคุ้มครองอธิปไตยของชาติในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่เต็มไปด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง

    โดยสรุปแล้วข่าวกรองจึงมิใช่เพียงคำจำกัดความของการรู้แจ้งเห็นจริงในเหตุการณ์ต่างๆเท่านั้นแต่เป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายและการบริหารราชการแผ่นดินที่ให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ทราบความจริงก่อนการตัดสินใจดำเนินการใดๆในนามของรัฐการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการข่าวกรองจึงเท่ากับการรักษามาตรฐานความยุติธรรมและความปลอดภัยของสังคมโดยรวมเพราะเมื่อข่าวกรองมีความชัดเจนและปราศจากข้อสงสัยย่อมทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเป็นธรรมและมีพยานหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ซึ่งจะส่งผลให้รัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนานาชาติได้อย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความจริงที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นระบบและสมบูรณ์ที่สุดในฐานะที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความมั่นคงของชาติในทุกมิติ
    บทความกฎหมาย EP.50 ข่าวกรองคือกระบวนการทางปัญญาที่มีความหมายลึกซึ้งกว่าเพียงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารทั่วไปเพราะในทางกฎหมายและระเบียบปฏิบัติของรัฐข่าวกรองเปรียบเสมือนพยานหลักฐานที่ผ่านการกลั่นกรองและตรวจสอบความถูกต้องมาอย่างเป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นมีน้ำหนักน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจในระดับยุทธศาสตร์ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความมั่นคงข้อมูลที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบย่อมถือเป็นเพียงข่าวลือหรือข่าวสารดิบที่ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเป็นฐานในการใช้อำนาจตามกฎหมายได้การที่หน่วยงานรัฐจะดำเนินมาตรการใดๆที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรือการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศจำเป็นต้องอาศัยข่าวกรองที่มีความแม่นยำสูงมีแหล่งที่มาที่ชัดเจนและได้รับการยืนยันผ่านกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์หรือการสืบสวนเชิงลึกเพื่อให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรมที่กำหนดว่าการใช้อำนาจรัฐต้องตั้งอยู่บนฐานของข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วเท่านั้นกระบวนการเปลี่ยนข่าวสารให้กลายเป็นข่าวกรองจึงถือเป็นพันธกิจหลักที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการยึดมั่นในระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจนำไปสู่ความเสียหายต่อส่วนรวมหรือการละเมิดสิทธิของบุคคลโดยมิชอบ ในมิติด้านกฎหมายมหาชนและการตีความพยานหลักฐานการนิยามว่าข่าวกรองคือข่าวที่ได้รับการตรวจสอบหลักฐานแล้วว่าเชื่อถือได้สะท้อนถึงมาตรฐานการพิสูจน์ที่เข้มงวดคล้ายคลึงกับหลักการรับฟังพยานหลักฐานในชั้นศาลซึ่งต้องมีการตรวจสอบความเชื่อมโยงและความสมเหตุสมผลของข้อมูลในทุกมิติข่าวกรองที่มีคุณภาพจึงต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญคือความถูกต้องความทันสมัยและความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์โดยมีกฎหมายรองรับบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงภายใต้ขอบเขตที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้การทำหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองทหารหรือหน่วยงานความมั่นคงจึงไม่ใช่เพียงการรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดแต่คือการวิเคราะห์แยกแยะระหว่างความจริงกับความลวงโดยใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีและสติปัญญาของมนุษย์ผสมผสานกันเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อสรุปที่มีพยานหลักฐานสนับสนุนอย่างแน่นหนาความน่าเชื่อถือของข่าวกรองจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้รัฐสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าและยับยั้งภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักการป้องกันก่อนเกิดเหตุซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักรและการคุ้มครองอธิปไตยของชาติในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่เต็มไปด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยสรุปแล้วข่าวกรองจึงมิใช่เพียงคำจำกัดความของการรู้แจ้งเห็นจริงในเหตุการณ์ต่างๆเท่านั้นแต่เป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายและการบริหารราชการแผ่นดินที่ให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ทราบความจริงก่อนการตัดสินใจดำเนินการใดๆในนามของรัฐการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการข่าวกรองจึงเท่ากับการรักษามาตรฐานความยุติธรรมและความปลอดภัยของสังคมโดยรวมเพราะเมื่อข่าวกรองมีความชัดเจนและปราศจากข้อสงสัยย่อมทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเป็นธรรมและมีพยานหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ซึ่งจะส่งผลให้รัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนานาชาติได้อย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความจริงที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นระบบและสมบูรณ์ที่สุดในฐานะที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความมั่นคงของชาติในทุกมิติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายเน เพื่อนของผู้ก่อเหตุยิงหนุ่มขับรถเก๋งเสียชีวิตบนทางด่วน เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อให้ปากคำ ยืนยันไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ และไม่ได้มีความสนิทสนมกับผู้ก่อเหตุเป็นการส่วนตัว หลังมีบางสื่อนำภาพไปเสนอว่าอยู่ร่วมเหตุการณ์ ทำให้ได้รับความเสียหาย
    .
    นายเน ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้มาหารุ่นพี่ของตน และตนถูกขอให้พาไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านบางใหญ่ โดยยืนยันว่าไม่ได้เจอกันมานานกว่า 2 ปี และไม่ทราบอาชีพหรือพฤติกรรมส่วนตัว หลังดื่มสุราหมดขวดจึงแยกย้ายกัน โดยผู้ก่อเหตุไปส่งตนที่บ้านย่านบางบัวทอง ก่อนขับรถกลับเพียงลำพัง
    กระทั่งเช้าวันถัดมา เมื่อทราบข่าวการยิงเสียชีวิตบนทางด่วน จึงรู้สึกตกใจและรีบเข้าพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุแต่อย่างใด
    .
    ขณะเดียวกัน ตำรวจได้นำรถตู้โตโยต้า เวลไฟร์ คันก่อเหตุ มาจอดไว้ที่ สน.ประชาชื่น หลังตรวจพบถูกจอดทิ้งในโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.นครปฐม เพื่อตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยพบว่ามีการติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่ออำพรางการติดตามของเจ้าหน้าที่
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123809
    .
    #News1live #News1 #ยิงบนทางด่วน #คดีอุกฉกรรจ์ #เพื่อนผู้ก่อเหตุ #เวลไฟร์
    นายเน เพื่อนของผู้ก่อเหตุยิงหนุ่มขับรถเก๋งเสียชีวิตบนทางด่วน เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อให้ปากคำ ยืนยันไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ และไม่ได้มีความสนิทสนมกับผู้ก่อเหตุเป็นการส่วนตัว หลังมีบางสื่อนำภาพไปเสนอว่าอยู่ร่วมเหตุการณ์ ทำให้ได้รับความเสียหาย . นายเน ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้มาหารุ่นพี่ของตน และตนถูกขอให้พาไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านบางใหญ่ โดยยืนยันว่าไม่ได้เจอกันมานานกว่า 2 ปี และไม่ทราบอาชีพหรือพฤติกรรมส่วนตัว หลังดื่มสุราหมดขวดจึงแยกย้ายกัน โดยผู้ก่อเหตุไปส่งตนที่บ้านย่านบางบัวทอง ก่อนขับรถกลับเพียงลำพัง กระทั่งเช้าวันถัดมา เมื่อทราบข่าวการยิงเสียชีวิตบนทางด่วน จึงรู้สึกตกใจและรีบเข้าพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุแต่อย่างใด . ขณะเดียวกัน ตำรวจได้นำรถตู้โตโยต้า เวลไฟร์ คันก่อเหตุ มาจอดไว้ที่ สน.ประชาชื่น หลังตรวจพบถูกจอดทิ้งในโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.นครปฐม เพื่อตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยพบว่ามีการติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่ออำพรางการติดตามของเจ้าหน้าที่ . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123809 . #News1live #News1 #ยิงบนทางด่วน #คดีอุกฉกรรจ์ #เพื่อนผู้ก่อเหตุ #เวลไฟร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาออกโรงแถลง ย้ำจุดยืนต้องการ “หยุดยิงทันที” เพื่อยุติความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย พร้อมเดินหน้าการทูตทุกช่องทาง เปิดรับการไกล่เกลี่ยจากประเทศที่สาม อ้างกัมพูชาตอบรับข้อเสนอหยุดยิงมาแล้วหลายครั้ง แต่ฝ่ายไทยยังไม่ตอบรับ
    .
    สื่อกัมพูชา Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. นายปรัก สุคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้แถลงต่อสื่อมวลชน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเตโช ภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมพิเศษรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งหารือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทย
    .
    นายปรัก สุคน ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์การปะทะทางอาวุธที่ยังดำเนินอยู่ จุดยืนของกัมพูชาคือการยุติการสู้รบทันที และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของประชาชน รวมถึงการสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บ และความเสียหายต่อทรัพย์สินของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาย้ำว่า กัมพูชามุ่งใช้แนวทางการทูตเป็นหลัก ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหาร พร้อมเปิดรับความช่วยเหลือจากประเทศที่สามหรือกลไกระหว่างประเทศในการเข้ามาไกล่เกลี่ย หากจะช่วยนำไปสู่การยุติความขัดแย้งอย่างสันติ
    .
    พร้อมกันนี้ นายปรัก สุคน อ้างว่า นับตั้งแต่เกิดการปะทะเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนได้เสนอให้มีการหยุดยิงแล้ว 3 ครั้ง รวมถึงข้อเสนอจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีก 1 ครั้ง ซึ่งกัมพูชาได้ตอบรับทั้งหมด แต่ฝ่ายไทยยังไม่เห็นชอบ
    .
    ทั้งนี้ กัมพูชาได้เสนอแนวทาง 3 ประการต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ได้แก่
    1. ให้มีการหยุดการสู้รบทันที
    2. ให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายถอนกลับไปยังที่ตั้งเดิม
    3. แก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี
    .
    โดยอ้างว่า ที่ประชุมอาเซียนได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงและเดินหน้าเจรจา พร้อมเห็นชอบให้มีการจัดการประชุมระหว่างกองทัพกัมพูชา–ไทย ในวันที่ 24 ธันวาคม เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123817
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #อาเซียน #การทูต #ข่าวต่างประเทศ
    รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาออกโรงแถลง ย้ำจุดยืนต้องการ “หยุดยิงทันที” เพื่อยุติความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย พร้อมเดินหน้าการทูตทุกช่องทาง เปิดรับการไกล่เกลี่ยจากประเทศที่สาม อ้างกัมพูชาตอบรับข้อเสนอหยุดยิงมาแล้วหลายครั้ง แต่ฝ่ายไทยยังไม่ตอบรับ . สื่อกัมพูชา Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. นายปรัก สุคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้แถลงต่อสื่อมวลชน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเตโช ภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมพิเศษรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งหารือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทย . นายปรัก สุคน ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์การปะทะทางอาวุธที่ยังดำเนินอยู่ จุดยืนของกัมพูชาคือการยุติการสู้รบทันที และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของประชาชน รวมถึงการสูญเสียชีวิต การบาดเจ็บ และความเสียหายต่อทรัพย์สินของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน . รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาย้ำว่า กัมพูชามุ่งใช้แนวทางการทูตเป็นหลัก ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางทหาร พร้อมเปิดรับความช่วยเหลือจากประเทศที่สามหรือกลไกระหว่างประเทศในการเข้ามาไกล่เกลี่ย หากจะช่วยนำไปสู่การยุติความขัดแย้งอย่างสันติ . พร้อมกันนี้ นายปรัก สุคน อ้างว่า นับตั้งแต่เกิดการปะทะเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนได้เสนอให้มีการหยุดยิงแล้ว 3 ครั้ง รวมถึงข้อเสนอจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีก 1 ครั้ง ซึ่งกัมพูชาได้ตอบรับทั้งหมด แต่ฝ่ายไทยยังไม่เห็นชอบ . ทั้งนี้ กัมพูชาได้เสนอแนวทาง 3 ประการต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ได้แก่ 1. ให้มีการหยุดการสู้รบทันที 2. ให้กองกำลังทั้งสองฝ่ายถอนกลับไปยังที่ตั้งเดิม 3. แก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี . โดยอ้างว่า ที่ประชุมอาเซียนได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงและเดินหน้าเจรจา พร้อมเห็นชอบให้มีการจัดการประชุมระหว่างกองทัพกัมพูชา–ไทย ในวันที่ 24 ธันวาคม เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการต่อไป . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123817 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #อาเซียน #การทูต #ข่าวต่างประเทศ
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • Operation Sentinel: Interpol ผนึก 19 ชาติแอฟริกา จับ 574 ผู้ต้องสงสัย — ถอดรหัสแรนซัมแวร์ 6 ตัว ปิดลิงก์มุ่งร้ายกว่า 6,000 รายการ

    ปฏิบัติการขนาดใหญ่ของ Interpol ภายใต้ชื่อ Operation Sentinel ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 27 พฤศจิกายน สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยด้านอาชญากรรมไซเบอร์ได้มากถึง 574 รายใน 19 ประเทศทั่วแอฟริกา พร้อมทั้งปิดลิงก์อันตรายกว่า 6,000 รายการ และกู้คืนเงินได้ราว 3 ล้านดอลลาร์ จากการถอดรหัสแรนซัมแวร์ 6 สายพันธุ์ที่ใช้โจมตีองค์กรในภูมิภาคนี้

    ภัยคุกคามหลักที่พบในปฏิบัติการครั้งนี้คือ Business Email Compromise (BEC), การกรรโชกดิจิทัล และแรนซัมแวร์ ซึ่งสร้างความเสียหายรวมกว่า 21 ล้านดอลลาร์ หนึ่งในคดีใหญ่เกิดขึ้นในเซเนกัล เมื่อแฮกเกอร์เข้าควบคุมระบบอีเมลของบริษัทพลังงานรายใหญ่และพยายามสั่งโอนเงิน 7.9 ล้านดอลลาร์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่อายัดบัญชีปลายทางได้ทันเวลา

    ในกานา เจ้าหน้าที่สามารถวิเคราะห์มัลแวร์ขั้นสูงจนสร้าง เครื่องมือถอดรหัสเอง ช่วยกู้ข้อมูลได้เกือบ 30TB จากทั้งหมด 100TB ที่ถูกเข้ารหัส พร้อมระบุสายพันธุ์แรนซัมแวร์ที่ใช้โจมตีได้สำเร็จ นี่สะท้อนให้เห็นว่าศูนย์ปฏิบัติการไซเบอร์ในแอฟริกากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและเริ่มมีความสามารถด้าน Forensics ที่ทัดเทียมประเทศพัฒนาแล้วมากขึ้น

    Interpol ระบุว่าการโจมตีไซเบอร์ในแอฟริกากำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกว่า 30% ของอาชญากรรมที่รายงานในแอฟริกาตะวันตกและตะวันออกเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ และสองในสามของประเทศสมาชิกระบุว่าอาชญากรรมไซเบอร์มีสัดส่วนระดับ “กลางถึงสูง” ของคดีทั้งหมด ปฏิบัติการ Sentinel จึงเป็นสัญญาณว่าภูมิภาคนี้กำลังก้าวสู่ยุคที่ต้องรับมือภัยไซเบอร์อย่างจริงจังและเป็นระบบมากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ผลลัพธ์สำคัญจาก Operation Sentinel
    จับกุมผู้ต้องสงสัย 574 รายใน 19 ประเทศแอฟริกา
    ปิดลิงก์อันตรายกว่า 6,000 รายการ และกู้คืนเงิน 3 ล้านดอลลาร์
    ถอดรหัสแรนซัมแวร์ได้ 6 สายพันธุ์ ช่วยกู้ข้อมูลจำนวนมาก
    คดีใหญ่ในเซเนกัล: ป้องกันการโอนเงินผิดกฎหมาย 7.9 ล้านดอลลาร์ ได้ทันเวลา

    ความเสี่ยงและสัญญาณเตือนจากข้อมูลในข่าว
    BEC ยังคงเป็นภัยอันดับหนึ่ง ในหลายประเทศแอฟริกา
    แรนซัมแวร์ยังคงโจมตีสถาบันการเงินและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่างต่อเนื่อง
    อาชญากรรมไซเบอร์คิดเป็น 30% ของคดีทั้งหมด ในบางภูมิภาคของแอฟริกา
    เครือข่ายอาชญากรมีความร่วมมือข้ามประเทศมากขึ้น ทำให้ตรวจจับยากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/interpol-led-cybercrime-crackdown-results-in-574-arrests-in-19-african-nations-decrypts-six-ransomware-variants-operation-sentinel-disrupts-rings-that-caused-usd21-million-in-losses-recovers-usd3-million
    🛡️🌍 Operation Sentinel: Interpol ผนึก 19 ชาติแอฟริกา จับ 574 ผู้ต้องสงสัย — ถอดรหัสแรนซัมแวร์ 6 ตัว ปิดลิงก์มุ่งร้ายกว่า 6,000 รายการ ปฏิบัติการขนาดใหญ่ของ Interpol ภายใต้ชื่อ Operation Sentinel ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 27 พฤศจิกายน สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยด้านอาชญากรรมไซเบอร์ได้มากถึง 574 รายใน 19 ประเทศทั่วแอฟริกา พร้อมทั้งปิดลิงก์อันตรายกว่า 6,000 รายการ และกู้คืนเงินได้ราว 3 ล้านดอลลาร์ จากการถอดรหัสแรนซัมแวร์ 6 สายพันธุ์ที่ใช้โจมตีองค์กรในภูมิภาคนี้ ภัยคุกคามหลักที่พบในปฏิบัติการครั้งนี้คือ Business Email Compromise (BEC), การกรรโชกดิจิทัล และแรนซัมแวร์ ซึ่งสร้างความเสียหายรวมกว่า 21 ล้านดอลลาร์ หนึ่งในคดีใหญ่เกิดขึ้นในเซเนกัล เมื่อแฮกเกอร์เข้าควบคุมระบบอีเมลของบริษัทพลังงานรายใหญ่และพยายามสั่งโอนเงิน 7.9 ล้านดอลลาร์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่อายัดบัญชีปลายทางได้ทันเวลา ในกานา เจ้าหน้าที่สามารถวิเคราะห์มัลแวร์ขั้นสูงจนสร้าง เครื่องมือถอดรหัสเอง ช่วยกู้ข้อมูลได้เกือบ 30TB จากทั้งหมด 100TB ที่ถูกเข้ารหัส พร้อมระบุสายพันธุ์แรนซัมแวร์ที่ใช้โจมตีได้สำเร็จ นี่สะท้อนให้เห็นว่าศูนย์ปฏิบัติการไซเบอร์ในแอฟริกากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและเริ่มมีความสามารถด้าน Forensics ที่ทัดเทียมประเทศพัฒนาแล้วมากขึ้น Interpol ระบุว่าการโจมตีไซเบอร์ในแอฟริกากำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกว่า 30% ของอาชญากรรมที่รายงานในแอฟริกาตะวันตกและตะวันออกเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ และสองในสามของประเทศสมาชิกระบุว่าอาชญากรรมไซเบอร์มีสัดส่วนระดับ “กลางถึงสูง” ของคดีทั้งหมด ปฏิบัติการ Sentinel จึงเป็นสัญญาณว่าภูมิภาคนี้กำลังก้าวสู่ยุคที่ต้องรับมือภัยไซเบอร์อย่างจริงจังและเป็นระบบมากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ผลลัพธ์สำคัญจาก Operation Sentinel ➡️ จับกุมผู้ต้องสงสัย 574 รายใน 19 ประเทศแอฟริกา ➡️ ปิดลิงก์อันตรายกว่า 6,000 รายการ และกู้คืนเงิน 3 ล้านดอลลาร์ ➡️ ถอดรหัสแรนซัมแวร์ได้ 6 สายพันธุ์ ช่วยกู้ข้อมูลจำนวนมาก ➡️ คดีใหญ่ในเซเนกัล: ป้องกันการโอนเงินผิดกฎหมาย 7.9 ล้านดอลลาร์ ได้ทันเวลา ‼️ ความเสี่ยงและสัญญาณเตือนจากข้อมูลในข่าว ⛔ BEC ยังคงเป็นภัยอันดับหนึ่ง ในหลายประเทศแอฟริกา ⛔ แรนซัมแวร์ยังคงโจมตีสถาบันการเงินและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่างต่อเนื่อง ⛔ อาชญากรรมไซเบอร์คิดเป็น 30% ของคดีทั้งหมด ในบางภูมิภาคของแอฟริกา ⛔ เครือข่ายอาชญากรมีความร่วมมือข้ามประเทศมากขึ้น ทำให้ตรวจจับยากขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/interpol-led-cybercrime-crackdown-results-in-574-arrests-in-19-african-nations-decrypts-six-ransomware-variants-operation-sentinel-disrupts-rings-that-caused-usd21-million-in-losses-recovers-usd3-million
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251223 #TechRadar

    Surfshark ขยาย Dedicated IP มาสู่ Linux GUI App
    Surfshark เดินหน้าขยายฟีเจอร์ Dedicated IP มายังแอป GUI บน Linux แบบเต็มรูปแบบ ช่วยลด CAPTCHA, ลดการถูกบล็อก และเพิ่มความเสถียรในการเข้าถึงบริการสำคัญ เช่น ระบบงานองค์กรและธนาคาร โดยไม่ต้องพึ่งส่วนขยายเบราว์เซอร์อีกต่อไป การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันฟีเจอร์ระดับโปรให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม หลังจากขยายอย่างหนักในปี 2025 และช่วยให้ผู้ใช้ Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและปลอดภัยยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-dedicated-ip-to-linux-in-its-latest-desktop-update

    Anthropic เปิด Agent Skills เป็นโอเพ่นซอร์ส ท้าชน OpenAI
    Anthropic เดินเกมเชิงรุกด้วยการเปิด Agent Skills เป็นมาตรฐานโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ AI agents ทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น โดย Microsoft และเครื่องมือโค้ดหลายตัวเริ่มนำไปใช้แล้ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตั้งใจของ Anthropic ที่ต้องการเป็นเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรม AI ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตโมเดลอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/anthropic-takes-the-fight-to-openai-with-enterprise-ai-tools-and-theyre-going-open-source-too

    ดีลคลาวด์ช่วงคริสต์มาส ช่วยเคลียร์รูปในมือถือแบบคุ้มสุด
    TechRadar แนะนำดีลคลาวด์สตอเรจช่วงคริสต์มาสสำหรับคนที่รูปเต็มมือถือ โดยยกให้ IDrive เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเพราะได้พื้นที่ 10TB ในราคาถูกมาก พร้อมเข้ารหัสแบบ end‑to‑end และแอปใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีดีลจาก Internxt, Sync.com และ Degoo ที่เน้นความปลอดภัยและพื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/cut-through-camera-roll-chaos-with-these-christmas-cloud-storage-deals-including-a-huge-saving-on-our-top-choice

    รีวิวโต๊ะยืน Eureka Ark EL — ดีไซน์เด่น ฟีเจอร์ครบ แต่ราคาแรง
    Eureka Ark EL Executive Standing Desk โดดเด่นด้วยดีไซน์ขาโต๊ะทรงใหญ่สไตล์พรีเมียม พร้อมระบบปรับระดับไฟฟ้า 3 โปรไฟล์ ความสูงสูงสุด 48 นิ้ว รองรับน้ำหนัก 100 กก. และมีที่ชาร์จไร้สาย + พอร์ต USB ในตัว แม้จะเป็นโต๊ะที่ใช้งานดีและประกอบง่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง วัสดุบางส่วนไม่พรีเมียมเท่าที่ควร และลิ้นชักมีความจุจำกัด
    https://www.techradar.com/pro/eureka-ergonomic-ark-el-executive-standing-desk

    HPE เตือนลูกค้าอัปเดต OneView ด่วน หลังพบช่องโหว่ระดับ 10/10
    HPE ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงใน OneView (CVE‑2025‑37164) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เสี่ยงต่อการถูกเปลี่ยนค่าคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ ติดมัลแวร์ หรือสร้างแบ็กดอร์ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้ใช้ต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 11.0 หรือใช้ hotfix ทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://www.techradar.com/pro/security/hpe-tells-customers-to-patch-oneview-immediately-as-top-level-security-flaw-spotted

    Arm สูญมูลค่าหลายพันล้าน หลัง Qualcomm เดินเกม RISC‑V
    Arm เผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Ventana Micro เพื่อเร่งพัฒนา RISC‑V ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอนาคตความต้องการสถาปัตยกรรม Arm อาจลดลง ส่งผลให้หุ้นร่วงหนัก ขณะที่ Qualcomm กลับพุ่งขึ้นเพราะตลาดมองว่าบริษัทกำลังวางรากฐานสู่ยุค CPU แบบผสมผสาน Arm + RISC‑V สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/arm-sheds-billions-in-market-capitalization-after-qualcomm-hints-at-risc-v-adoption-with-ventara-micro-acquisition

    Qualcomm เร่งขยายอาณาจักร AI Data Center ด้วยดีล Alphawave Semi
    Qualcomm ปิดดีลซื้อ Alphawave Semi เร็วกว่ากำหนด เสริมแกร่งด้านเทคโนโลยีเชื่อมต่อความเร็วสูงและชิปแบบ custom เพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ โดยจะผสานเข้ากับสถาปัตยกรรม Oryon และ Hexagon เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบวงจร พร้อมตั้ง CEO ของ Alphawave มาคุมธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง สะท้อนความตั้งใจของ Qualcomm ที่จะท้าชน Nvidia ในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://www.techradar.com/pro/watch-out-nvidia-qualcomm-acquires-alphawave-semi-in-latest-addition-to-its-ai-data-center-push

    Gemini 3 Flash ฉลาดและเร็ว — แต่ยัง “มั่วเนียน” เมื่อไม่รู้คำตอบ
    Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลายการทดสอบ แต่ผลวิเคราะห์ล่าสุดเผยว่าเมื่อโมเดลไม่รู้คำตอบ มันเลือก “ตอบมั่ว” ถึง 91% แทนที่จะบอกว่าไม่รู้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการใช้งานในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเมื่อถูกผนวกเข้ากับ Search แม้ยังเป็นหนึ่งในโมเดลที่แม่นยำที่สุด แต่ความมั่นใจเกินเหตุในบริบทที่ไม่มีข้อมูลจริงยังเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ Google ต้องเร่งแก้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini-3-flash-is-smart-but-when-it-doesnt-know-it-makes-stuff-up-anyway

    AWS มองอนาคตเป็นยุค “Internet of Agents” พร้อมผลักดัน AgentCore
    ผู้บริหาร AWS เผยวิสัยทัศน์ยุคใหม่ที่ AI agents จะกลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวทุกคน โดย AWS ต้องการให้ทุกนักพัฒนาเป็น “agentic developer” ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง AgentCore และ Kiro IDE ที่ช่วยสร้าง agent ได้ง่ายขึ้น พร้อมย้ำว่าความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบโดยมนุษย์ยังเป็นหัวใจสำคัญ ก่อนที่โลกจะเข้าสู่ยุคที่งานจำนวนมากถูกเร่งด้วย agent แต่ไม่แทนที่มนุษย์
    https://www.techradar.com/pro/we-are-living-in-times-of-great-change-i-speak-to-aws-top-ai-minds-to-hear-how-it-wants-to-open-up-agents-and-building-to-everyone

    กล้องวงจรปิดไม่ง้อรายเดือน — 3 รุ่นแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ Smart Home
    TechRadar คัด 3 กล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้เต็มฟีเจอร์โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน ได้แก่ Baseus S2 ที่มีแผงโซลาร์หมุนตามแสงและระบบจดจำใบหน้า, Swann MaxRanger4K ที่ให้ความละเอียดสูงพร้อมฐานเก็บข้อมูลในตัว และ Reolink Altas PT Ultra ที่เด่นด้านการหมุน‑แพน‑ซูมและภาพกลางคืนสีสันคมชัด ทั้งหมดรองรับการบันทึกแบบ local storage ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว
    https://www.techradar.com/home/home-security/top-3-subscription-free-home-security-cameras

    Google Cloud รีเฟรช Partner Network ครั้งใหญ่ เตรียมใช้จริงปี 2026
    Google Cloud เปิดตัวโปรแกรมพาร์ตเนอร์รูปแบบใหม่ที่เน้น “ผลลัพธ์จริงของลูกค้า” มากกว่าการส่งเอกสารหรือทำตามเช็กลิสต์ โดยเพิ่มระบบอัตโนมัติ, การติดตามด้วย AI และเปิดระดับใหม่ชื่อ Diamond สำหรับพาร์ตเนอร์ที่สร้างผลลัพธ์โดดเด่นที่สุด พร้อมช่วงเปลี่ยนผ่าน 6 เดือนเพื่อให้ทุกประเภทพาร์ตเนอร์ปรับตัวก่อนระบบใหม่เริ่มใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2026
    https://www.techradar.com/pro/google-cloud-reveals-all-new-channel-program-heres-all-the-key-details

    Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เสริมพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์
    Alphabet เข้าซื้อ Intersect Power แบบเต็มตัวเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากเคยลงทุนไปแล้ว $800M ในปี 2024 โดย Intersect จะยังคงดำเนินงานแยกบริษัท พร้อมส่งมอบโครงการพลังงานหลายกิกะวัตต์ให้ Google ใช้ขยายศูนย์ข้อมูลในอนาคต แม้บางทรัพย์สินในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสจะถูกแยกออกไปตั้งบริษัทใหม่ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/alphabet-secures-usd4-75-billion-intersect-deal-to-make-sure-its-data-centers-have-enough-energy

    Oppo Find X9 Pro — เรือธงสุดโหดสำหรับสาย Android ตัวจริง
    Oppo Find X9 Pro มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบขอบแบน กล้องจัดเต็ม 50MP + 50MP + 200MP, ชิป Dimensity 9500, RAM 16GB และแบต 7,500mAh ที่อึดกว่าคู่แข่งหลายรุ่น หน้าจอ AMOLED 120Hz สว่างสุด 3600 nits และประสิทธิภาพระดับท็อป แม้จะมีความร้อนบ้างและซอฟต์แวร์บางจุดยังแปลก ๆ แต่โดยรวมคือหนึ่งใน Android ที่ครบเครื่องที่สุด—ติดเพียงข้อจำกัดด้านการวางจำหน่ายที่ยังไม่ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/phones/oppo-phones/oppo-find-x9-pro-review

    NordProtect เพิ่มระบบ Fraud Monitoring ตรวจจับการปลอมตัวและกู้เงินแอบอ้าง
    NordProtect อัปเกรดระบบป้องกันการฉ้อโกงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลจาก Equifax, Experian และ TransUnion เพื่อหาสัญญาณเปิดบัญชีใหม่, การเปลี่ยนเครดิตสกอร์, การกู้เงินระยะสั้น และการเปิดบัญชีการเงินโดยใช้ข้อมูลผู้ใช้ พร้อมผสานการล็อกเครดิตของ TransUnion เข้ามาในระบบ แม้บริการเต็มรูปแบบจะยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐฯ ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/nordprotect-adds-fraud-monitoring-tool-to-help-protect-users-from-scams

    iPod Classic กลับมาในร่างใหม่ — USB‑C, Bluetooth และราคาสุดถูก
    Innioasis Y1 คือเครื่องเล่นเพลงที่ถอดแบบ iPod Classic แทบทุกจุด ทั้งดีไซน์และ clickwheel แต่เพิ่มความทันสมัยด้วย USB‑C, Bluetooth, รองรับไฟล์หลากหลาย และแบตเล่นเพลงได้ 25–30 ชั่วโมง ในราคาต่ำกว่า $60 แม้คุณภาพงานประกอบและซอฟต์แวร์จะไม่เทียบ Apple และความจุจำกัดที่ 128GB แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีเสน่ห์สำหรับคนคิดถึงยุค iPod
    https://www.techradar.com/audio/portable-media-players/someones-made-a-usb-c-version-of-the-ipod-classic-complete-with-clickwheel-and-its-extremely-cheap

    Windows 11 เดินหน้าทดสอบ AI Agents ในระบบ แม้เสียงวิจารณ์ยังแรง
    Microsoft ปล่อยพรีวิว Windows 11 ที่โชว์การทำงานของ AI agents ชัดขึ้น ทั้ง Ask Copilot บนทาสก์บาร์, การอัปเดตสถานะ reasoning แบบเรียลไทม์เมื่อโฮเวอร์ไอคอน และระบบ Agent Launcher ที่เปิดให้แอปภายนอกสร้าง agent ของตัวเองได้ แม้เป็นก้าวสำคัญของ Windows ยุค AI แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่พอใจที่ Microsoft ทุ่มทรัพยากรไปกับ AI มากกว่าการแก้ปัญหา UX และบั๊กพื้นฐานของระบบ
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-preview-provides-more-details-on-how-ai-agents-will-work-but-this-remains-a-controversial-path-for-microsoft

    มหาวิทยาลัย Phoenix ถูกแฮ็ก ข้อมูลกว่า 3.5 ล้านรายรั่วจากช่องโหว่ Oracle
    University of Phoenix ยืนยันว่าถูกกลุ่มแรนซัมแวร์ Cl0p เจาะระบบผ่านช่องโหว่ zero‑day ของ Oracle E‑Business Suite ทำให้ข้อมูลของอดีตนักศึกษา พนักงาน และซัพพลายเออร์กว่า 3.5 ล้านรายถูกขโมย ทั้งชื่อ วันเกิด เบอร์บัญชี และ Social Security Number มหาวิทยาลัยแจ้งเตือนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้บริการตรวจสอบตัวตน 12 เดือน และตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายสูงสุด $1 ล้าน
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/university-of-phoenix-data-breach-may-have-hit-over-3-5-million-victims-heres-what-we-know
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251223 #TechRadar 🛡️ Surfshark ขยาย Dedicated IP มาสู่ Linux GUI App Surfshark เดินหน้าขยายฟีเจอร์ Dedicated IP มายังแอป GUI บน Linux แบบเต็มรูปแบบ ช่วยลด CAPTCHA, ลดการถูกบล็อก และเพิ่มความเสถียรในการเข้าถึงบริการสำคัญ เช่น ระบบงานองค์กรและธนาคาร โดยไม่ต้องพึ่งส่วนขยายเบราว์เซอร์อีกต่อไป การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันฟีเจอร์ระดับโปรให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม หลังจากขยายอย่างหนักในปี 2025 และช่วยให้ผู้ใช้ Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและปลอดภัยยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-dedicated-ip-to-linux-in-its-latest-desktop-update 🤖 Anthropic เปิด Agent Skills เป็นโอเพ่นซอร์ส ท้าชน OpenAI Anthropic เดินเกมเชิงรุกด้วยการเปิด Agent Skills เป็นมาตรฐานโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ AI agents ทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น โดย Microsoft และเครื่องมือโค้ดหลายตัวเริ่มนำไปใช้แล้ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตั้งใจของ Anthropic ที่ต้องการเป็นเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรม AI ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตโมเดลอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/anthropic-takes-the-fight-to-openai-with-enterprise-ai-tools-and-theyre-going-open-source-too ☁️ ดีลคลาวด์ช่วงคริสต์มาส ช่วยเคลียร์รูปในมือถือแบบคุ้มสุด TechRadar แนะนำดีลคลาวด์สตอเรจช่วงคริสต์มาสสำหรับคนที่รูปเต็มมือถือ โดยยกให้ IDrive เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเพราะได้พื้นที่ 10TB ในราคาถูกมาก พร้อมเข้ารหัสแบบ end‑to‑end และแอปใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีดีลจาก Internxt, Sync.com และ Degoo ที่เน้นความปลอดภัยและพื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/cut-through-camera-roll-chaos-with-these-christmas-cloud-storage-deals-including-a-huge-saving-on-our-top-choice 🪑 รีวิวโต๊ะยืน Eureka Ark EL — ดีไซน์เด่น ฟีเจอร์ครบ แต่ราคาแรง Eureka Ark EL Executive Standing Desk โดดเด่นด้วยดีไซน์ขาโต๊ะทรงใหญ่สไตล์พรีเมียม พร้อมระบบปรับระดับไฟฟ้า 3 โปรไฟล์ ความสูงสูงสุด 48 นิ้ว รองรับน้ำหนัก 100 กก. และมีที่ชาร์จไร้สาย + พอร์ต USB ในตัว แม้จะเป็นโต๊ะที่ใช้งานดีและประกอบง่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง วัสดุบางส่วนไม่พรีเมียมเท่าที่ควร และลิ้นชักมีความจุจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/eureka-ergonomic-ark-el-executive-standing-desk 🔥 HPE เตือนลูกค้าอัปเดต OneView ด่วน หลังพบช่องโหว่ระดับ 10/10 HPE ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงใน OneView (CVE‑2025‑37164) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เสี่ยงต่อการถูกเปลี่ยนค่าคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ ติดมัลแวร์ หรือสร้างแบ็กดอร์ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้ใช้ต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 11.0 หรือใช้ hotfix ทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hpe-tells-customers-to-patch-oneview-immediately-as-top-level-security-flaw-spotted 📉 Arm สูญมูลค่าหลายพันล้าน หลัง Qualcomm เดินเกม RISC‑V Arm เผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Ventana Micro เพื่อเร่งพัฒนา RISC‑V ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอนาคตความต้องการสถาปัตยกรรม Arm อาจลดลง ส่งผลให้หุ้นร่วงหนัก ขณะที่ Qualcomm กลับพุ่งขึ้นเพราะตลาดมองว่าบริษัทกำลังวางรากฐานสู่ยุค CPU แบบผสมผสาน Arm + RISC‑V สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/arm-sheds-billions-in-market-capitalization-after-qualcomm-hints-at-risc-v-adoption-with-ventara-micro-acquisition 🏗️ Qualcomm เร่งขยายอาณาจักร AI Data Center ด้วยดีล Alphawave Semi Qualcomm ปิดดีลซื้อ Alphawave Semi เร็วกว่ากำหนด เสริมแกร่งด้านเทคโนโลยีเชื่อมต่อความเร็วสูงและชิปแบบ custom เพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ โดยจะผสานเข้ากับสถาปัตยกรรม Oryon และ Hexagon เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบวงจร พร้อมตั้ง CEO ของ Alphawave มาคุมธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง สะท้อนความตั้งใจของ Qualcomm ที่จะท้าชน Nvidia ในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/watch-out-nvidia-qualcomm-acquires-alphawave-semi-in-latest-addition-to-its-ai-data-center-push 🤖 Gemini 3 Flash ฉลาดและเร็ว — แต่ยัง “มั่วเนียน” เมื่อไม่รู้คำตอบ Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลายการทดสอบ แต่ผลวิเคราะห์ล่าสุดเผยว่าเมื่อโมเดลไม่รู้คำตอบ มันเลือก “ตอบมั่ว” ถึง 91% แทนที่จะบอกว่าไม่รู้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการใช้งานในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเมื่อถูกผนวกเข้ากับ Search แม้ยังเป็นหนึ่งในโมเดลที่แม่นยำที่สุด แต่ความมั่นใจเกินเหตุในบริบทที่ไม่มีข้อมูลจริงยังเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ Google ต้องเร่งแก้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini-3-flash-is-smart-but-when-it-doesnt-know-it-makes-stuff-up-anyway 🧠 AWS มองอนาคตเป็นยุค “Internet of Agents” พร้อมผลักดัน AgentCore ผู้บริหาร AWS เผยวิสัยทัศน์ยุคใหม่ที่ AI agents จะกลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวทุกคน โดย AWS ต้องการให้ทุกนักพัฒนาเป็น “agentic developer” ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง AgentCore และ Kiro IDE ที่ช่วยสร้าง agent ได้ง่ายขึ้น พร้อมย้ำว่าความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบโดยมนุษย์ยังเป็นหัวใจสำคัญ ก่อนที่โลกจะเข้าสู่ยุคที่งานจำนวนมากถูกเร่งด้วย agent แต่ไม่แทนที่มนุษย์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/we-are-living-in-times-of-great-change-i-speak-to-aws-top-ai-minds-to-hear-how-it-wants-to-open-up-agents-and-building-to-everyone 🏠 กล้องวงจรปิดไม่ง้อรายเดือน — 3 รุ่นแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ Smart Home TechRadar คัด 3 กล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้เต็มฟีเจอร์โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน ได้แก่ Baseus S2 ที่มีแผงโซลาร์หมุนตามแสงและระบบจดจำใบหน้า, Swann MaxRanger4K ที่ให้ความละเอียดสูงพร้อมฐานเก็บข้อมูลในตัว และ Reolink Altas PT Ultra ที่เด่นด้านการหมุน‑แพน‑ซูมและภาพกลางคืนสีสันคมชัด ทั้งหมดรองรับการบันทึกแบบ local storage ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/top-3-subscription-free-home-security-cameras ☁️ Google Cloud รีเฟรช Partner Network ครั้งใหญ่ เตรียมใช้จริงปี 2026 Google Cloud เปิดตัวโปรแกรมพาร์ตเนอร์รูปแบบใหม่ที่เน้น “ผลลัพธ์จริงของลูกค้า” มากกว่าการส่งเอกสารหรือทำตามเช็กลิสต์ โดยเพิ่มระบบอัตโนมัติ, การติดตามด้วย AI และเปิดระดับใหม่ชื่อ Diamond สำหรับพาร์ตเนอร์ที่สร้างผลลัพธ์โดดเด่นที่สุด พร้อมช่วงเปลี่ยนผ่าน 6 เดือนเพื่อให้ทุกประเภทพาร์ตเนอร์ปรับตัวก่อนระบบใหม่เริ่มใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-cloud-reveals-all-new-channel-program-heres-all-the-key-details ⚡ Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เสริมพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์ Alphabet เข้าซื้อ Intersect Power แบบเต็มตัวเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากเคยลงทุนไปแล้ว $800M ในปี 2024 โดย Intersect จะยังคงดำเนินงานแยกบริษัท พร้อมส่งมอบโครงการพลังงานหลายกิกะวัตต์ให้ Google ใช้ขยายศูนย์ข้อมูลในอนาคต แม้บางทรัพย์สินในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสจะถูกแยกออกไปตั้งบริษัทใหม่ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/alphabet-secures-usd4-75-billion-intersect-deal-to-make-sure-its-data-centers-have-enough-energy 📱 Oppo Find X9 Pro — เรือธงสุดโหดสำหรับสาย Android ตัวจริง Oppo Find X9 Pro มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบขอบแบน กล้องจัดเต็ม 50MP + 50MP + 200MP, ชิป Dimensity 9500, RAM 16GB และแบต 7,500mAh ที่อึดกว่าคู่แข่งหลายรุ่น หน้าจอ AMOLED 120Hz สว่างสุด 3600 nits และประสิทธิภาพระดับท็อป แม้จะมีความร้อนบ้างและซอฟต์แวร์บางจุดยังแปลก ๆ แต่โดยรวมคือหนึ่งใน Android ที่ครบเครื่องที่สุด—ติดเพียงข้อจำกัดด้านการวางจำหน่ายที่ยังไม่ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/phones/oppo-phones/oppo-find-x9-pro-review 🔐 NordProtect เพิ่มระบบ Fraud Monitoring ตรวจจับการปลอมตัวและกู้เงินแอบอ้าง NordProtect อัปเกรดระบบป้องกันการฉ้อโกงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลจาก Equifax, Experian และ TransUnion เพื่อหาสัญญาณเปิดบัญชีใหม่, การเปลี่ยนเครดิตสกอร์, การกู้เงินระยะสั้น และการเปิดบัญชีการเงินโดยใช้ข้อมูลผู้ใช้ พร้อมผสานการล็อกเครดิตของ TransUnion เข้ามาในระบบ แม้บริการเต็มรูปแบบจะยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐฯ ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nordprotect-adds-fraud-monitoring-tool-to-help-protect-users-from-scams 🎧 iPod Classic กลับมาในร่างใหม่ — USB‑C, Bluetooth และราคาสุดถูก Innioasis Y1 คือเครื่องเล่นเพลงที่ถอดแบบ iPod Classic แทบทุกจุด ทั้งดีไซน์และ clickwheel แต่เพิ่มความทันสมัยด้วย USB‑C, Bluetooth, รองรับไฟล์หลากหลาย และแบตเล่นเพลงได้ 25–30 ชั่วโมง ในราคาต่ำกว่า $60 แม้คุณภาพงานประกอบและซอฟต์แวร์จะไม่เทียบ Apple และความจุจำกัดที่ 128GB แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีเสน่ห์สำหรับคนคิดถึงยุค iPod 🔗 https://www.techradar.com/audio/portable-media-players/someones-made-a-usb-c-version-of-the-ipod-classic-complete-with-clickwheel-and-its-extremely-cheap 🪟 Windows 11 เดินหน้าทดสอบ AI Agents ในระบบ แม้เสียงวิจารณ์ยังแรง Microsoft ปล่อยพรีวิว Windows 11 ที่โชว์การทำงานของ AI agents ชัดขึ้น ทั้ง Ask Copilot บนทาสก์บาร์, การอัปเดตสถานะ reasoning แบบเรียลไทม์เมื่อโฮเวอร์ไอคอน และระบบ Agent Launcher ที่เปิดให้แอปภายนอกสร้าง agent ของตัวเองได้ แม้เป็นก้าวสำคัญของ Windows ยุค AI แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่พอใจที่ Microsoft ทุ่มทรัพยากรไปกับ AI มากกว่าการแก้ปัญหา UX และบั๊กพื้นฐานของระบบ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-preview-provides-more-details-on-how-ai-agents-will-work-but-this-remains-a-controversial-path-for-microsoft 🔓 มหาวิทยาลัย Phoenix ถูกแฮ็ก ข้อมูลกว่า 3.5 ล้านรายรั่วจากช่องโหว่ Oracle University of Phoenix ยืนยันว่าถูกกลุ่มแรนซัมแวร์ Cl0p เจาะระบบผ่านช่องโหว่ zero‑day ของ Oracle E‑Business Suite ทำให้ข้อมูลของอดีตนักศึกษา พนักงาน และซัพพลายเออร์กว่า 3.5 ล้านรายถูกขโมย ทั้งชื่อ วันเกิด เบอร์บัญชี และ Social Security Number มหาวิทยาลัยแจ้งเตือนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้บริการตรวจสอบตัวตน 12 เดือน และตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายสูงสุด $1 ล้าน ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/university-of-phoenix-data-breach-may-have-hit-over-3-5-million-victims-heres-what-we-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮ็กครั้งใหญ่โจมตีหน่วยงานน้ำของโรมาเนีย: คอมพิวเตอร์ 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware

    การโจมตีครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อโครงสร้างพื้นฐานของโรมาเนีย เมื่อหน่วยงานบริหารจัดการน้ำถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เข้ารหัสข้อมูลผ่าน BitLocker ของ Windows ส่งผลให้คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องใน 10 จาก 11 สำนักงานภูมิภาคต้องหยุดทำงานทันที แม้ระบบควบคุมการจ่ายน้ำจริงจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ระบบสนับสนุนทั้งหมด เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส ฐานข้อมูล และ GIS กลับถูกทำให้ใช้งานไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

    ผู้โจมตีไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นกลุ่มใด แต่ทิ้งข้อความให้หน่วยงานติดต่อกลับภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในยุโรปช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีเดนมาร์กที่เคยถูกแฮ็กจนแรงดันน้ำผิดปกติและท่อแตกหลายจุดในปี 2024 เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บ้านเรือนกว่า 500 หลังไม่มีน้ำใช้ชั่วคราว และกลายเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบสาธารณูปโภคกำลังกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของสงครามไซเบอร์ยุคใหม่

    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของโรมาเนีย (DNSC) ระบุว่ายังไม่ทราบช่องทางการโจมตี แต่ยืนยันว่าผู้โจมตีใช้ BitLocker ในการเข้ารหัสข้อมูลแทนที่จะใช้เครื่องมือเฉพาะทางแบบ ransomware กลุ่มอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือซับซ้อนเสมอไป ขณะนี้ DNSC และหน่วยข่าวกรองกำลังเร่งกู้ระบบและตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม

    เหตุการณ์นี้ยังเชื่อมโยงกับแนวโน้มการโจมตีที่หลายประเทศในยุโรปมองว่าเป็น “สงครามลูกผสม” โดยเฉพาะการโจมตีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มที่สนับสนุนรัสเซีย เช่น Z‑Pentest และ NoName057(16) ที่เคยโจมตีระบบน้ำและเว็บไซต์ของเดนมาร์ก รวมถึง Fancy Bear ที่ถูกกล่าวหาว่าโจมตีระบบควบคุมการบินของเยอรมนีในปี 2024 ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยไซเบอร์น้อยเกินไป

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ขนาดความเสียหายและผลกระทบ
    คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware
    ระบบสนับสนุน เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส และฐานข้อมูลหยุดทำงาน

    ระบบน้ำยังทำงานได้ตามปกติ
    ระบบควบคุมการจ่ายน้ำไม่ถูกโจมตีโดยตรง
    การควบคุมยังทำผ่านศูนย์สั่งการและการสื่อสารเสียง

    รูปแบบการโจมตีและการสืบสวน
    ผู้โจมตีไม่ประกาศตัว แต่ทิ้งข้อความให้ติดต่อภายใน 7 วัน
    ใช้ BitLocker ของ Windows ในการเข้ารหัสข้อมูล

    ความเสี่ยงและสัญญาณเตือน
    โครงสร้างพื้นฐานยุโรปกำลังเป็นเป้าหมายของ “สงครามลูกผสม”
    เคยมีกรณีเดนมาร์กถูกโจมตีจนท่อแตกและบ้านเรือนขาดน้ำ
    ความปลอดภัยไซเบอร์ยังเป็นเรื่องที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญต่ำเกินไป

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/1-000-computers-taken-offline-in-romanian-water-management-authority-hack-ransomware-takes-bitlocker-encrypted-systems-down
    🚨 แฮ็กครั้งใหญ่โจมตีหน่วยงานน้ำของโรมาเนีย: คอมพิวเตอร์ 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware การโจมตีครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อโครงสร้างพื้นฐานของโรมาเนีย เมื่อหน่วยงานบริหารจัดการน้ำถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เข้ารหัสข้อมูลผ่าน BitLocker ของ Windows ส่งผลให้คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องใน 10 จาก 11 สำนักงานภูมิภาคต้องหยุดทำงานทันที แม้ระบบควบคุมการจ่ายน้ำจริงจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ระบบสนับสนุนทั้งหมด เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส ฐานข้อมูล และ GIS กลับถูกทำให้ใช้งานไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ผู้โจมตีไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นกลุ่มใด แต่ทิ้งข้อความให้หน่วยงานติดต่อกลับภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในยุโรปช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีเดนมาร์กที่เคยถูกแฮ็กจนแรงดันน้ำผิดปกติและท่อแตกหลายจุดในปี 2024 เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บ้านเรือนกว่า 500 หลังไม่มีน้ำใช้ชั่วคราว และกลายเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบสาธารณูปโภคกำลังกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของสงครามไซเบอร์ยุคใหม่ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของโรมาเนีย (DNSC) ระบุว่ายังไม่ทราบช่องทางการโจมตี แต่ยืนยันว่าผู้โจมตีใช้ BitLocker ในการเข้ารหัสข้อมูลแทนที่จะใช้เครื่องมือเฉพาะทางแบบ ransomware กลุ่มอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือซับซ้อนเสมอไป ขณะนี้ DNSC และหน่วยข่าวกรองกำลังเร่งกู้ระบบและตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้ยังเชื่อมโยงกับแนวโน้มการโจมตีที่หลายประเทศในยุโรปมองว่าเป็น “สงครามลูกผสม” โดยเฉพาะการโจมตีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มที่สนับสนุนรัสเซีย เช่น Z‑Pentest และ NoName057(16) ที่เคยโจมตีระบบน้ำและเว็บไซต์ของเดนมาร์ก รวมถึง Fancy Bear ที่ถูกกล่าวหาว่าโจมตีระบบควบคุมการบินของเยอรมนีในปี 2024 ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยไซเบอร์น้อยเกินไป 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ขนาดความเสียหายและผลกระทบ ➡️ คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware ➡️ ระบบสนับสนุน เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส และฐานข้อมูลหยุดทำงาน ✅ ระบบน้ำยังทำงานได้ตามปกติ ➡️ ระบบควบคุมการจ่ายน้ำไม่ถูกโจมตีโดยตรง ➡️ การควบคุมยังทำผ่านศูนย์สั่งการและการสื่อสารเสียง ✅ รูปแบบการโจมตีและการสืบสวน ➡️ ผู้โจมตีไม่ประกาศตัว แต่ทิ้งข้อความให้ติดต่อภายใน 7 วัน ➡️ ใช้ BitLocker ของ Windows ในการเข้ารหัสข้อมูล ‼️ ความเสี่ยงและสัญญาณเตือน ⛔ โครงสร้างพื้นฐานยุโรปกำลังเป็นเป้าหมายของ “สงครามลูกผสม” ⛔ เคยมีกรณีเดนมาร์กถูกโจมตีจนท่อแตกและบ้านเรือนขาดน้ำ ⛔ ความปลอดภัยไซเบอร์ยังเป็นเรื่องที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญต่ำเกินไป https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/1-000-computers-taken-offline-in-romanian-water-management-authority-hack-ransomware-takes-bitlocker-encrypted-systems-down
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    1,000 computers taken offline in Romanian water management authority hack
    No group has claimed the attack yet, and thankfully, water is still flowing in Romania.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮ็กครั้งมโหฬาร: กลุ่ม Pirate Archivist ดูดข้อมูล Spotify 300TB ปล่อยทอร์เรนต์กว่า 86 ล้านไฟล์

    เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิง เมื่อกลุ่ม Anna’s Archive ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “เงาแห่งห้องสมุดโลก” ได้ทำการสกัดข้อมูลจาก Spotify ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยดึงไฟล์เพลงและเมทาดาทารวมกว่า 300TB ออกมาจากแพลตฟอร์ม พร้อมปล่อยเป็นทอร์เรนต์ให้ดาวน์โหลดอย่างเสรี การรั่วไหลครั้งนี้ครอบคลุมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็นประมาณ 37% ของคลังเพลงทั้งหมด แต่ครอบคลุมถึง 99.9% ของยอดการฟังบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนว่าข้อมูลที่หลุดออกมาคือ “แก่นกลาง” ของ Spotify อย่างแท้จริง

    Spotify ยืนยันว่ามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้โจมตีใช้วิธีหลบเลี่ยง DRM เพื่อดึงไฟล์เสียงต้นฉบับในรูปแบบ OGG Vorbis 160kbps ออกมา ขณะเดียวกันเมทาดาทากว่า 256 ล้านแถว รวมถึง ISRC ทั้ง 186 ล้านรายการ ก็ถูกนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลที่ค้นหาได้เต็มรูปแบบ ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลกถูกเปิดเผยอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น สัดส่วนเพลงที่แทบไม่มีคนฟัง หรือแนวโน้มความนิยมของเพลงที่มี BPM ประมาณ 120 ซึ่งเป็นจังหวะที่พบมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม

    Anna’s Archive อ้างว่าการกระทำครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “การอนุรักษ์ดนตรีของมนุษยชาติ” โดยมองว่า Spotify ให้ความสำคัญกับเพลงยอดนิยมมากเกินไป และคุณภาพเสียงที่ถูกบีบอัดก็ไม่เหมาะกับการเก็บถาวร พวกเขาจึงสร้างระบบทอร์เรนต์ที่จัดหมวดหมู่ตามความนิยม และใช้ฟอร์แมต AAC (Anna’s Archive Container) เพื่อแพ็กข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมทยอยปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ยังคงขยายตัวต่อไปอีกนาน

    ด้าน Spotify ระบุว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีถูกปิดแล้ว และกำลังเพิ่มมาตรการป้องกันใหม่เพื่อรับมือการโจมตีลักษณะนี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มสตรีมมิง และความเปราะบางของระบบ DRM ที่ถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ต้องการ “ปลดปล่อยข้อมูล” สู่สาธารณะ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ขนาดการรั่วไหลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    ข้อมูลกว่า 300TB ถูกดูดออกจาก Spotify
    รวมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ ครอบคลุม 99.9% ของยอดฟังทั้งหมด

    ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเปิดเผย
    เมทาดาทา 256 ล้านแถว และ ISRC 186 ล้านรายการ
    ข้อมูลเผยว่า 70% ของเพลงแทบไม่มีคนฟัง และ BPM 120 คือจังหวะยอดนิยม

    การตอบสนองของ Spotify
    ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี
    เพิ่มมาตรการป้องกันใหม่และตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัย

    ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา
    การหลบเลี่ยง DRM อาจกระทบความเชื่อมั่นในระบบสตรีมมิง
    การปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคตอาจทำให้ผลกระทบขยายวงกว้าง
    อุตสาหกรรมดนตรีอาจเผชิญความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่

    https://www.tomshardware.com/service-providers/streaming/pirate-archivist-group-scrapes-spotifys-300tb-library-posts-free-torrents-for-downloading-investigation-underway-as-music-and-metadata-hit-torrent-sites
    🎧 แฮ็กครั้งมโหฬาร: กลุ่ม Pirate Archivist ดูดข้อมูล Spotify 300TB ปล่อยทอร์เรนต์กว่า 86 ล้านไฟล์ เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิง เมื่อกลุ่ม Anna’s Archive ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “เงาแห่งห้องสมุดโลก” ได้ทำการสกัดข้อมูลจาก Spotify ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยดึงไฟล์เพลงและเมทาดาทารวมกว่า 300TB ออกมาจากแพลตฟอร์ม พร้อมปล่อยเป็นทอร์เรนต์ให้ดาวน์โหลดอย่างเสรี การรั่วไหลครั้งนี้ครอบคลุมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็นประมาณ 37% ของคลังเพลงทั้งหมด แต่ครอบคลุมถึง 99.9% ของยอดการฟังบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนว่าข้อมูลที่หลุดออกมาคือ “แก่นกลาง” ของ Spotify อย่างแท้จริง Spotify ยืนยันว่ามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้โจมตีใช้วิธีหลบเลี่ยง DRM เพื่อดึงไฟล์เสียงต้นฉบับในรูปแบบ OGG Vorbis 160kbps ออกมา ขณะเดียวกันเมทาดาทากว่า 256 ล้านแถว รวมถึง ISRC ทั้ง 186 ล้านรายการ ก็ถูกนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลที่ค้นหาได้เต็มรูปแบบ ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลกถูกเปิดเผยอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น สัดส่วนเพลงที่แทบไม่มีคนฟัง หรือแนวโน้มความนิยมของเพลงที่มี BPM ประมาณ 120 ซึ่งเป็นจังหวะที่พบมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Anna’s Archive อ้างว่าการกระทำครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “การอนุรักษ์ดนตรีของมนุษยชาติ” โดยมองว่า Spotify ให้ความสำคัญกับเพลงยอดนิยมมากเกินไป และคุณภาพเสียงที่ถูกบีบอัดก็ไม่เหมาะกับการเก็บถาวร พวกเขาจึงสร้างระบบทอร์เรนต์ที่จัดหมวดหมู่ตามความนิยม และใช้ฟอร์แมต AAC (Anna’s Archive Container) เพื่อแพ็กข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมทยอยปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ยังคงขยายตัวต่อไปอีกนาน ด้าน Spotify ระบุว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีถูกปิดแล้ว และกำลังเพิ่มมาตรการป้องกันใหม่เพื่อรับมือการโจมตีลักษณะนี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มสตรีมมิง และความเปราะบางของระบบ DRM ที่ถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ต้องการ “ปลดปล่อยข้อมูล” สู่สาธารณะ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ขนาดการรั่วไหลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ➡️ ข้อมูลกว่า 300TB ถูกดูดออกจาก Spotify ➡️ รวมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ ครอบคลุม 99.9% ของยอดฟังทั้งหมด ✅ ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเปิดเผย ➡️ เมทาดาทา 256 ล้านแถว และ ISRC 186 ล้านรายการ ➡️ ข้อมูลเผยว่า 70% ของเพลงแทบไม่มีคนฟัง และ BPM 120 คือจังหวะยอดนิยม ✅ การตอบสนองของ Spotify ➡️ ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี ➡️ เพิ่มมาตรการป้องกันใหม่และตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัย ‼️ ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา ⛔ การหลบเลี่ยง DRM อาจกระทบความเชื่อมั่นในระบบสตรีมมิง ⛔ การปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคตอาจทำให้ผลกระทบขยายวงกว้าง ⛔ อุตสาหกรรมดนตรีอาจเผชิญความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่ https://www.tomshardware.com/service-providers/streaming/pirate-archivist-group-scrapes-spotifys-300tb-library-posts-free-torrents-for-downloading-investigation-underway-as-music-and-metadata-hit-torrent-sites
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาคประชาสังคมเกาหลีใต้รวมตัวชุมนุมหน้าสถานทูตกัมพูชาประจำกรุงโซล เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ พร้อมกดดันรัฐบาลโซลให้ใช้มาตรการตอบโต้ที่จริงจังและเป็นรูปธรรม หลังมีชาวเกาหลีจำนวนมากตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมหลอกลวง
    .
    สื่อท้องถิ่นรายงานว่า กลุ่มแนวร่วมภาคประชาชนและองค์กรกว่า 30 แห่ง ชูป้ายประณามกัมพูชาอย่างรุนแรง พร้อมตั้งคำถามต่อฝ่ายการเมืองเกาหลีใต้ที่เคยเดินทางเยือนกัมพูชา แต่ไม่ได้นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าสู่การพิจารณาอย่างจริงจัง
    .
    แกนนำการชุมนุมระบุว่า ปัญหาสแกมเมอร์ในกัมพูชาไม่ได้เป็นเพียงอาชญากรรมทั่วไป แต่เป็นโครงข่ายข้ามชาติที่สร้างความเสียหายต่อพลเมืองเกาหลีใต้ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลโซลทบทวนความสัมพันธ์ทางการทูต ความช่วยเหลือระหว่างประเทศ และมาตรการด้านความมั่นคง หากกัมพูชายังไม่แสดงความร่วมมืออย่างชัดเจน
    .
    การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนแรงกดดันทางสังคมที่เพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้ ต่อบทบาทของกัมพูชาในปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ และอาจกลายเป็นประเด็นร้อนในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123199
    .
    #News1live #News1 #เกาหลีใต้ #กัมพูชา #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #การทูต
    ภาคประชาสังคมเกาหลีใต้รวมตัวชุมนุมหน้าสถานทูตกัมพูชาประจำกรุงโซล เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ พร้อมกดดันรัฐบาลโซลให้ใช้มาตรการตอบโต้ที่จริงจังและเป็นรูปธรรม หลังมีชาวเกาหลีจำนวนมากตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมหลอกลวง . สื่อท้องถิ่นรายงานว่า กลุ่มแนวร่วมภาคประชาชนและองค์กรกว่า 30 แห่ง ชูป้ายประณามกัมพูชาอย่างรุนแรง พร้อมตั้งคำถามต่อฝ่ายการเมืองเกาหลีใต้ที่เคยเดินทางเยือนกัมพูชา แต่ไม่ได้นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเข้าสู่การพิจารณาอย่างจริงจัง . แกนนำการชุมนุมระบุว่า ปัญหาสแกมเมอร์ในกัมพูชาไม่ได้เป็นเพียงอาชญากรรมทั่วไป แต่เป็นโครงข่ายข้ามชาติที่สร้างความเสียหายต่อพลเมืองเกาหลีใต้ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลโซลทบทวนความสัมพันธ์ทางการทูต ความช่วยเหลือระหว่างประเทศ และมาตรการด้านความมั่นคง หากกัมพูชายังไม่แสดงความร่วมมืออย่างชัดเจน . การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนแรงกดดันทางสังคมที่เพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้ ต่อบทบาทของกัมพูชาในปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ และอาจกลายเป็นประเด็นร้อนในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อไป . อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123199 . #News1live #News1 #เกาหลีใต้ #กัมพูชา #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #การทูต
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • NIST เตือนเซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจคลาดเคลื่อน — เมื่อ “เวลามาตรฐานของโลก” สะดุดเพราะไฟดับ

    เหตุขัดข้องครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อศูนย์ NIST ที่ Boulder, Colorado สูญเสียไฟฟ้าระดับยูทิลิตี้ในช่วงลมแรงที่ทำให้สายไฟเสียหายและมีการปิดระบบเพื่อป้องกันไฟป่า ผลกระทบหนักที่สุดคือการที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในจุดสำคัญของโซ่สัญญาณ ทำให้ atomic ensemble time scale NIST‑F4 ซึ่งเป็นหัวใจของ Internet Time Service หยุดทำงานชั่วคราว ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ time‑a‑b ถึง time‑e‑b รวมถึง ntp‑b.nist.gov อาจให้เวลาที่ไม่ถูกต้อง

    แม้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ยังตอบสนองคำขอ NTP ได้ แต่ NIST เตือนว่ามันอาจไม่ได้อ้างอิงแหล่งเวลาที่ถูกต้อง และอาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์บางตัวเพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิดพลาด ปัญหานี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ที่ Gaithersburg ซึ่งทำให้เวลาคลาดเคลื่อนถึง –10 มิลลิวินาที แสดงให้เห็นว่าระบบเวลามาตรฐานของสหรัฐฯ กำลังเผชิญความเสี่ยงจากเหตุการณ์โครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น

    แม้ความคลาดเคลื่อนระดับไมโครวินาทีจะไม่กระทบผู้ใช้ทั่วไป แต่สำหรับระบบที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การเงิน 고‑frequency, การซิงก์ข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์, ระบบไฟฟ้า, และ GPS — ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจสร้างความเสียหายเป็นลูกโซ่ได้ นี่คือเหตุผลที่ผู้ใช้งานระดับ critical ต้องตรวจสอบหลายแหล่งเวลาเสมอ และเหตุการณ์นี้ย้ำให้เห็นว่าการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเพียงจุดเดียวเป็นความเสี่ยงเชิงระบบ

    NIST ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะกู้คืนระบบทั้งหมดเมื่อใด แต่ยืนยันว่าบริการ time.nist.gov ซึ่งใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดข้ามหลายภูมิภาคไม่ได้รับผลกระทบ เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าการออกแบบระบบเวลาในระดับประเทศต้องมีความทนทานต่อความล้มเหลวมากกว่าที่เป็นอยู่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เหตุไฟดับทำให้ระบบเวลาหลัก NIST‑F4 สะดุด
    เกิดจากลมแรงทำให้สายไฟเสียหายและระบบป้องกันไฟป่าตัดไฟ
    เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในตำแหน่งสำคัญของโซ่สัญญาณ

    เซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจให้เวลาคลาดเคลื่อน
    time‑a‑b ถึง time‑e‑b และ ntp‑b.nist.gov ได้รับผลกระทบ
    อาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์เพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิด

    บริการหลัก time.nist.gov ไม่ได้รับผลกระทบ
    ใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดหลายภูมิภาค
    ผู้ใช้ทั่วไปจึงไม่เห็นผลกระทบโดยตรง

    ความเสี่ยงเชิงระบบจากความคลาดเคลื่อนของเวลา
    กระทบระบบการเงิน, ดาต้าเซ็นเตอร์, พลังงาน, และ GPS
    ความผิดพลาดระดับไมโครวินาทีอาจสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่

    โครงสร้างพื้นฐานเวลาของประเทศยังเปราะบาง
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองในเดือนเดียว
    การพึ่งพาแหล่งเวลาเดียวเป็นความเสี่ยงที่ต้องแก้ไข

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nist-warns-of-potential-inaccuracies-on-boulder-time-servers-after-power-failure
    ⏱️ NIST เตือนเซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจคลาดเคลื่อน — เมื่อ “เวลามาตรฐานของโลก” สะดุดเพราะไฟดับ เหตุขัดข้องครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อศูนย์ NIST ที่ Boulder, Colorado สูญเสียไฟฟ้าระดับยูทิลิตี้ในช่วงลมแรงที่ทำให้สายไฟเสียหายและมีการปิดระบบเพื่อป้องกันไฟป่า ผลกระทบหนักที่สุดคือการที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในจุดสำคัญของโซ่สัญญาณ ทำให้ atomic ensemble time scale NIST‑F4 ซึ่งเป็นหัวใจของ Internet Time Service หยุดทำงานชั่วคราว ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ time‑a‑b ถึง time‑e‑b รวมถึง ntp‑b.nist.gov อาจให้เวลาที่ไม่ถูกต้อง แม้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ยังตอบสนองคำขอ NTP ได้ แต่ NIST เตือนว่ามันอาจไม่ได้อ้างอิงแหล่งเวลาที่ถูกต้อง และอาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์บางตัวเพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิดพลาด ปัญหานี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ที่ Gaithersburg ซึ่งทำให้เวลาคลาดเคลื่อนถึง –10 มิลลิวินาที แสดงให้เห็นว่าระบบเวลามาตรฐานของสหรัฐฯ กำลังเผชิญความเสี่ยงจากเหตุการณ์โครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น แม้ความคลาดเคลื่อนระดับไมโครวินาทีจะไม่กระทบผู้ใช้ทั่วไป แต่สำหรับระบบที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การเงิน 고‑frequency, การซิงก์ข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์, ระบบไฟฟ้า, และ GPS — ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจสร้างความเสียหายเป็นลูกโซ่ได้ นี่คือเหตุผลที่ผู้ใช้งานระดับ critical ต้องตรวจสอบหลายแหล่งเวลาเสมอ และเหตุการณ์นี้ย้ำให้เห็นว่าการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเพียงจุดเดียวเป็นความเสี่ยงเชิงระบบ NIST ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะกู้คืนระบบทั้งหมดเมื่อใด แต่ยืนยันว่าบริการ time.nist.gov ซึ่งใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดข้ามหลายภูมิภาคไม่ได้รับผลกระทบ เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าการออกแบบระบบเวลาในระดับประเทศต้องมีความทนทานต่อความล้มเหลวมากกว่าที่เป็นอยู่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เหตุไฟดับทำให้ระบบเวลาหลัก NIST‑F4 สะดุด ➡️ เกิดจากลมแรงทำให้สายไฟเสียหายและระบบป้องกันไฟป่าตัดไฟ ➡️ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในตำแหน่งสำคัญของโซ่สัญญาณ ✅ เซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจให้เวลาคลาดเคลื่อน ➡️ time‑a‑b ถึง time‑e‑b และ ntp‑b.nist.gov ได้รับผลกระทบ ➡️ อาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์เพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิด ✅ บริการหลัก time.nist.gov ไม่ได้รับผลกระทบ ➡️ ใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดหลายภูมิภาค ➡️ ผู้ใช้ทั่วไปจึงไม่เห็นผลกระทบโดยตรง ‼️ ความเสี่ยงเชิงระบบจากความคลาดเคลื่อนของเวลา ⛔ กระทบระบบการเงิน, ดาต้าเซ็นเตอร์, พลังงาน, และ GPS ⛔ ความผิดพลาดระดับไมโครวินาทีอาจสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ ‼️ โครงสร้างพื้นฐานเวลาของประเทศยังเปราะบาง ⛔ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองในเดือนเดียว ⛔ การพึ่งพาแหล่งเวลาเดียวเป็นความเสี่ยงที่ต้องแก้ไข https://www.tomshardware.com/tech-industry/nist-warns-of-potential-inaccuracies-on-boulder-time-servers-after-power-failure
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.48

    อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิด หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนามอนุสัญญาออตตาวา ถือเป็นหลักหมุดหมายสำคัญในทางกฎหมายระหว่างประเทศที่เปลี่ยนผ่านจากการควบคุมอาวุธแบบดั้งเดิมไปสู่การคุ้มครองสิทธิทางมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีแก่นแท้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการยุติความเสียหายที่มิอาจเลือกปฏิบัติได้ระหว่างพลเรือนและคู่สงคราม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในเรื่องความจำเป็นทางการทหารและการแบ่งแยกกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน พันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญานี้กำหนดให้รัฐภาคีต้องยุติการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมทั้งมีหน้าที่ตามกฎหมายในการทำลายคลังแสงทุ่นระเบิดในครอบครองภายในระยะเวลาที่กำหนด และที่สำคัญที่สุดคือภาระหน้าที่ตามมาตราที่ห้าในการสำรวจและกวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดให้เสร็จสิ้นเพื่อคืนพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน ในบริบทของพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชาซึ่งเคยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอดีต การปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการทำลายอาวุธ แต่คือการแสดงเจตจำนงทางกฎหมายที่ต้องการเยียวยาผลกระทบจากสงครามอย่างเป็นรูปธรรม โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและนักทำลายล้างวัตถุระเบิดในการตรวจค้นและกวาดล้างทุ่นระเบิดถือเป็นภารกิจที่มีฐานอำนาจรองรับจากกฎหมายเพื่อสร้างความมั่นคงในมิติใหม่ที่ไม่ใช่การสะสมอาวุธแต่คือการสร้างความปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตและประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างปกติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล นอกจากนี้อนุสัญญายังเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างประเทศและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นมิติทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการสร้างความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐภาคีในการกำจัดภัยคุกคามที่ตกค้างจากความขัดแย้งในอดีตให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ทับซ้อนและแนวพรมแดนอย่างถาวร

    บทสรุปความสำเร็จของอนุสัญญาออตตาวาจึงมิได้วัดเพียงจำนวนทุ่นระเบิดที่ถูกขุดขึ้นมาทำลายลงไปเท่านั้น แต่คือการสร้างบรรทัดฐานทางจริยธรรมที่กลายเป็นกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งได้รับการยอมรับจากรัฐส่วนใหญ่ทั่วโลกในการปฏิเสธการใช้อาวุธที่มีลักษณะโหดร้ายและส่งผลกระทบต่อเนื่องยาวนานเกินกว่าความจำเป็นทางการทหาร การรักษาความร่วมมือระหว่างประเทศในการกวาดล้างทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชาโดยกำลังพลทหารที่มีความเชี่ยวชาญคือการตอกย้ำว่ากฎหมายสามารถเปลี่ยนสนามรบในอดีตให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการพัฒนาและสันติภาพได้ และเป็นการยืนยันว่าสิทธิในชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ย่อมอยู่เหนือยุทธศาสตร์ทางการทหารใดๆ ทั้งสิ้น การก้าวไปสู่โลกที่ไร้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจึงเป็นพันธกิจทางกฎหมายและมนุษยธรรมที่สำคัญยิ่งซึ่งมวลมนุษยชาติจะต้องร่วมกันรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของอนุสัญญาฉบับนี้ไว้เพื่อส่งต่อพื้นดินที่ปลอดภัยให้แก่คนรุ่นหลังสืบไป
    บทความกฎหมาย EP.48 อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิด หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนามอนุสัญญาออตตาวา ถือเป็นหลักหมุดหมายสำคัญในทางกฎหมายระหว่างประเทศที่เปลี่ยนผ่านจากการควบคุมอาวุธแบบดั้งเดิมไปสู่การคุ้มครองสิทธิทางมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีแก่นแท้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการยุติความเสียหายที่มิอาจเลือกปฏิบัติได้ระหว่างพลเรือนและคู่สงคราม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในเรื่องความจำเป็นทางการทหารและการแบ่งแยกกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน พันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญานี้กำหนดให้รัฐภาคีต้องยุติการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมทั้งมีหน้าที่ตามกฎหมายในการทำลายคลังแสงทุ่นระเบิดในครอบครองภายในระยะเวลาที่กำหนด และที่สำคัญที่สุดคือภาระหน้าที่ตามมาตราที่ห้าในการสำรวจและกวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดให้เสร็จสิ้นเพื่อคืนพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน ในบริบทของพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชาซึ่งเคยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอดีต การปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการทำลายอาวุธ แต่คือการแสดงเจตจำนงทางกฎหมายที่ต้องการเยียวยาผลกระทบจากสงครามอย่างเป็นรูปธรรม โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและนักทำลายล้างวัตถุระเบิดในการตรวจค้นและกวาดล้างทุ่นระเบิดถือเป็นภารกิจที่มีฐานอำนาจรองรับจากกฎหมายเพื่อสร้างความมั่นคงในมิติใหม่ที่ไม่ใช่การสะสมอาวุธแต่คือการสร้างความปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตและประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างปกติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล นอกจากนี้อนุสัญญายังเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างประเทศและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นมิติทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการสร้างความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐภาคีในการกำจัดภัยคุกคามที่ตกค้างจากความขัดแย้งในอดีตให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ทับซ้อนและแนวพรมแดนอย่างถาวร บทสรุปความสำเร็จของอนุสัญญาออตตาวาจึงมิได้วัดเพียงจำนวนทุ่นระเบิดที่ถูกขุดขึ้นมาทำลายลงไปเท่านั้น แต่คือการสร้างบรรทัดฐานทางจริยธรรมที่กลายเป็นกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งได้รับการยอมรับจากรัฐส่วนใหญ่ทั่วโลกในการปฏิเสธการใช้อาวุธที่มีลักษณะโหดร้ายและส่งผลกระทบต่อเนื่องยาวนานเกินกว่าความจำเป็นทางการทหาร การรักษาความร่วมมือระหว่างประเทศในการกวาดล้างทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชาโดยกำลังพลทหารที่มีความเชี่ยวชาญคือการตอกย้ำว่ากฎหมายสามารถเปลี่ยนสนามรบในอดีตให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการพัฒนาและสันติภาพได้ และเป็นการยืนยันว่าสิทธิในชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ย่อมอยู่เหนือยุทธศาสตร์ทางการทหารใดๆ ทั้งสิ้น การก้าวไปสู่โลกที่ไร้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจึงเป็นพันธกิจทางกฎหมายและมนุษยธรรมที่สำคัญยิ่งซึ่งมวลมนุษยชาติจะต้องร่วมกันรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของอนุสัญญาฉบับนี้ไว้เพื่อส่งต่อพื้นดินที่ปลอดภัยให้แก่คนรุ่นหลังสืบไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกประกาศเตือนภัยกลุ่มข้าราชการบำนาญและผู้สูงอายุ หลังพบแก๊งสแกมเมอร์ใช้สารพัดอุบายหลอกลวงออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม มีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และเกิดความเสียหายตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงเกือบ 1 ล้านบาทต่อราย
    .
    พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คนร้ายมักแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานด้านสวัสดิการ โทรศัพท์เข้าหาเหยื่อโดยใช้ข้อมูลส่วนตัวที่รั่วไหล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนหลอกให้เพิ่มเพื่อนใน LINE และส่งลิงก์ให้ติดตั้งแอปปลอม ซึ่งเป็นมัลแวร์ควบคุมโทรศัพท์จากระยะไกล
    .
    กลโกงที่พบบ่อยคือการหลอกให้เหยื่อเปลี่ยนภาษาแอปธนาคารเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ผู้สูงอายุสับสนและถูกหลอกให้โอนเงินโดยไม่รู้ตัว จากข้อมูลศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ พบว่ากลุ่มอายุ 60–74 ปี เป็นเป้าหมายหลักของขบวนการนี้
    .
    ตำรวจย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อสายแปลกหน้า ไม่กดลิงก์ ไม่ติดตั้งแอปนอกแหล่งที่เชื่อถือ และห้ามเปลี่ยนภาษาแอปธนาคารตามคำบอก หากสงสัยสามารถติดต่อสายด่วน 1441 หรือโทรแจ้งเหตุ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122657
    .
    #News1live #News1 #เตือนภัยสแกมเมอร์ #ข้าราชการบำนาญ #ภัยออนไลน์ #หลอกโอนเงิน
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกประกาศเตือนภัยกลุ่มข้าราชการบำนาญและผู้สูงอายุ หลังพบแก๊งสแกมเมอร์ใช้สารพัดอุบายหลอกลวงออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม มีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และเกิดความเสียหายตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงเกือบ 1 ล้านบาทต่อราย . พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คนร้ายมักแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานด้านสวัสดิการ โทรศัพท์เข้าหาเหยื่อโดยใช้ข้อมูลส่วนตัวที่รั่วไหล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนหลอกให้เพิ่มเพื่อนใน LINE และส่งลิงก์ให้ติดตั้งแอปปลอม ซึ่งเป็นมัลแวร์ควบคุมโทรศัพท์จากระยะไกล . กลโกงที่พบบ่อยคือการหลอกให้เหยื่อเปลี่ยนภาษาแอปธนาคารเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ผู้สูงอายุสับสนและถูกหลอกให้โอนเงินโดยไม่รู้ตัว จากข้อมูลศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ พบว่ากลุ่มอายุ 60–74 ปี เป็นเป้าหมายหลักของขบวนการนี้ . ตำรวจย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อสายแปลกหน้า ไม่กดลิงก์ ไม่ติดตั้งแอปนอกแหล่งที่เชื่อถือ และห้ามเปลี่ยนภาษาแอปธนาคารตามคำบอก หากสงสัยสามารถติดต่อสายด่วน 1441 หรือโทรแจ้งเหตุ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122657 . #News1live #News1 #เตือนภัยสแกมเมอร์ #ข้าราชการบำนาญ #ภัยออนไลน์ #หลอกโอนเงิน
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองกำลังป้องกันชายแดนจังหวัดจันทบุรีและตราด เปิดปฏิบัติการ “ตราดปราบปรปักษ์” ประสานกองทัพอากาศ ใช้เครื่องบิน F-16 ปฏิบัติการโจมตีบ่อนกาสิโนในพื้นที่ตำบลทมอดา อำเภอเวียลเวง จังหวัดโพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา ส่งผลให้สิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายอย่างหนัก
    .
    รายงานระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกตรวจพบว่าเป็นที่ตั้งของฐานปืนใหญ่ขนาด 122 มิลลิเมตร ซึ่งเข้าข่ายเป็นเป้าหมายทางทหารตามสถานการณ์ความมั่นคงชายแดน
    .
    ภายหลังการปฏิบัติการ พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มสแกมเมอร์ที่อยู่ในพื้นที่ เร่งอพยพอุปกรณ์และหลบหนีออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122629
    .
    #News1live #News1 #F16 #โพธิสัตว์ #บ่อนกาสิโน #สแกมเมอร์ #สถานการณ์ชายแดน
    กองกำลังป้องกันชายแดนจังหวัดจันทบุรีและตราด เปิดปฏิบัติการ “ตราดปราบปรปักษ์” ประสานกองทัพอากาศ ใช้เครื่องบิน F-16 ปฏิบัติการโจมตีบ่อนกาสิโนในพื้นที่ตำบลทมอดา อำเภอเวียลเวง จังหวัดโพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา ส่งผลให้สิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายอย่างหนัก . รายงานระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวถูกตรวจพบว่าเป็นที่ตั้งของฐานปืนใหญ่ขนาด 122 มิลลิเมตร ซึ่งเข้าข่ายเป็นเป้าหมายทางทหารตามสถานการณ์ความมั่นคงชายแดน . ภายหลังการปฏิบัติการ พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มสแกมเมอร์ที่อยู่ในพื้นที่ เร่งอพยพอุปกรณ์และหลบหนีออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122629 . #News1live #News1 #F16 #โพธิสัตว์ #บ่อนกาสิโน #สแกมเมอร์ #สถานการณ์ชายแดน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทดสอบยาว 3 ปีเผยผลชัด — OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ รุ่นส่วนใหญ่ใช้งานเกิน 10,000 ชั่วโมง

    การทดสอบความทนทานของทีวีจำนวน 102 เครื่อง ที่ดำเนินต่อเนื่องกว่า 3 ปี โดยสถาบันวิจัยด้านภาพและทีวี (ตามรายงานของ Tom’s Hardware) เผยผลที่น่าประหลาดใจว่า OLED มีความทนทานสูงกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านอายุการใช้งานและความเสถียรของภาพ โดยทีวี OLED ส่วนใหญ่สามารถทำงานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง โดยไม่มีอาการเสื่อมที่ส่งผลต่อการใช้งานจริง.

    จากการทดสอบ พบว่า มีทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง โดยสัดส่วนความเสียหายเกิดขึ้นในกลุ่ม LCD มากกว่าอย่างชัดเจน ขณะที่ OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่ามาก ซึ่งสวนทางกับความเชื่อดั้งเดิมที่มักมองว่า OLED เสี่ยงต่อการ burn‑in และเสื่อมสภาพเร็วกว่า LCD การทดสอบนี้จึงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชี้ว่าเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีความทนทานกว่าที่หลายคนคาดไว้.

    ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ OLED รุ่นใหม่ทนขึ้นมาจากการพัฒนา วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่, ระบบควบคุมพิกเซล, และ อัลกอริทึมป้องกัน burn‑in ที่ฉลาดขึ้นมาก รวมถึงการออกแบบ panel ที่รองรับความสว่างสูงโดยไม่เร่งพิกเซลจนเกินไป ขณะที่ LCD แม้จะไม่มีปัญหา burn‑in แต่กลับมีอัตราความล้มเหลวด้าน backlight, power board และ panel defect สูงกว่าในการทดสอบระยะยาว.

    ผลการทดสอบนี้ยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดทีวีระดับพรีเมียม ซึ่งกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการคุณภาพภาพสูงสุดและความทนทานที่พิสูจน์ได้จริงจากการใช้งานระยะยาว.

    การทดสอบ 3 ปีพบว่า OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ
    OLED ส่วนใหญ่ใช้งานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง
    LCD มีอัตราความล้มเหลวสูงกว่าอย่างชัดเจน

    ทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง
    ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดในกลุ่ม LCD
    OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่าที่คาดไว้

    เทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีระบบป้องกัน burn‑in ที่ดีขึ้นมาก
    วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่
    อัลกอริทึมควบคุมพิกเซลที่ฉลาดขึ้น

    ตลาดพรีเมียมกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นมาตรฐานใหม่
    คุณภาพภาพสูงกว่า
    ความทนทานพิสูจน์ได้จากการใช้งานจริง

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    การทดสอบเกิดในสภาพแวดล้อมควบคุม
    ผลลัพธ์อาจแตกต่างในบ้านที่มีความสว่างสูงหรือเปิดทิ้งยาว

    OLED ยังมีความเสี่ยง burn‑in หากใช้งานผิดประเภท
    เช่น เปิดภาพนิ่งนานหลายชั่วโมงทุกวัน

    LCD ยังมีข้อดีในด้านความสว่างสูงสุดและราคาที่ถูกกว่า
    ผู้ใช้บางกลุ่มอาจยังเหมาะกับ LCD มากกว่า

    https://www.tomshardware.com/monitors/televisions/three-year-test-shows-oled-is-significantly-more-reliable-than-lcd-with-most-lasting-more-than-10-000-hours-20-tvs-failed-out-of-102-tested
    📺⏳ ทดสอบยาว 3 ปีเผยผลชัด — OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ รุ่นส่วนใหญ่ใช้งานเกิน 10,000 ชั่วโมง การทดสอบความทนทานของทีวีจำนวน 102 เครื่อง ที่ดำเนินต่อเนื่องกว่า 3 ปี โดยสถาบันวิจัยด้านภาพและทีวี (ตามรายงานของ Tom’s Hardware) เผยผลที่น่าประหลาดใจว่า OLED มีความทนทานสูงกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านอายุการใช้งานและความเสถียรของภาพ โดยทีวี OLED ส่วนใหญ่สามารถทำงานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง โดยไม่มีอาการเสื่อมที่ส่งผลต่อการใช้งานจริง. จากการทดสอบ พบว่า มีทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง โดยสัดส่วนความเสียหายเกิดขึ้นในกลุ่ม LCD มากกว่าอย่างชัดเจน ขณะที่ OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่ามาก ซึ่งสวนทางกับความเชื่อดั้งเดิมที่มักมองว่า OLED เสี่ยงต่อการ burn‑in และเสื่อมสภาพเร็วกว่า LCD การทดสอบนี้จึงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชี้ว่าเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีความทนทานกว่าที่หลายคนคาดไว้. ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ OLED รุ่นใหม่ทนขึ้นมาจากการพัฒนา วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่, ระบบควบคุมพิกเซล, และ อัลกอริทึมป้องกัน burn‑in ที่ฉลาดขึ้นมาก รวมถึงการออกแบบ panel ที่รองรับความสว่างสูงโดยไม่เร่งพิกเซลจนเกินไป ขณะที่ LCD แม้จะไม่มีปัญหา burn‑in แต่กลับมีอัตราความล้มเหลวด้าน backlight, power board และ panel defect สูงกว่าในการทดสอบระยะยาว. ผลการทดสอบนี้ยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดทีวีระดับพรีเมียม ซึ่งกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการคุณภาพภาพสูงสุดและความทนทานที่พิสูจน์ได้จริงจากการใช้งานระยะยาว. ✅ การทดสอบ 3 ปีพบว่า OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ ➡️ OLED ส่วนใหญ่ใช้งานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง ➡️ LCD มีอัตราความล้มเหลวสูงกว่าอย่างชัดเจน ✅ ทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง ➡️ ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดในกลุ่ม LCD ➡️ OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่าที่คาดไว้ ✅ เทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีระบบป้องกัน burn‑in ที่ดีขึ้นมาก ➡️ วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่ ➡️ อัลกอริทึมควบคุมพิกเซลที่ฉลาดขึ้น ✅ ตลาดพรีเมียมกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นมาตรฐานใหม่ ➡️ คุณภาพภาพสูงกว่า ➡️ ความทนทานพิสูจน์ได้จากการใช้งานจริง ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ การทดสอบเกิดในสภาพแวดล้อมควบคุม ⛔ ผลลัพธ์อาจแตกต่างในบ้านที่มีความสว่างสูงหรือเปิดทิ้งยาว ‼️ OLED ยังมีความเสี่ยง burn‑in หากใช้งานผิดประเภท ⛔ เช่น เปิดภาพนิ่งนานหลายชั่วโมงทุกวัน ‼️ LCD ยังมีข้อดีในด้านความสว่างสูงสุดและราคาที่ถูกกว่า ⛔ ผู้ใช้บางกลุ่มอาจยังเหมาะกับ LCD มากกว่า https://www.tomshardware.com/monitors/televisions/three-year-test-shows-oled-is-significantly-more-reliable-than-lcd-with-most-lasting-more-than-10-000-hours-20-tvs-failed-out-of-102-tested
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีเหนือกับสถิติการโจรกรรมคริปโต

    รายงานจาก Chainalysis ระบุว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเกาหลีเหนือสามารถขโมยคริปโตได้มากถึง 2.02 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่มีการบันทึกมา โดยรวมแล้วตั้งแต่เริ่มมีการติดตาม เกาหลีเหนือได้ขโมยไปแล้วกว่า 6.75 พันล้านดอลลาร์ การโจมตีเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อแพลตฟอร์มคริปโต แต่ยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญให้กับรัฐบาลที่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

    เทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อน
    หนึ่งในวิธีที่ DPRK ใช้คือการส่งคนไปแฝงตัวเป็น IT professionals ในบริษัทเป้าหมาย เพื่อเข้าถึงระบบภายในและหาช่องโหว่ นอกจากนี้ยังมีการสร้าง ประกาศรับสมัครงานปลอม ที่บังคับให้ผู้สมัครติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว ซึ่งมัลแวร์นี้สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น credentials, source code และ SSO access ได้ อีกทั้งยังมีการหลอกผู้บริหารด้วยข้อเสนอซื้อกิจการปลอม เพื่อใช้กระบวนการตรวจสอบข้อมูลในการเจาะระบบ

    การโจมตีครั้งใหญ่: ByBit Hack
    เหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายมากที่สุดคือการโจมตีแพลตฟอร์ม ByBit ที่สูญเงินไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง FBI ยืนยันว่าเป็นฝีมือของแฮกเกอร์จาก DPRK การโจมตีครั้งนี้คิดเป็นเกือบ 75% ของมูลค่าที่ DPRK ขโมยไปในปีเดียว และสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเลือกเป้าหมายที่ใหญ่และมีผลกระทบสูง

    แนวโน้มและคำเตือน
    แม้จำนวนการโจมตีโดยรวมจะลดลง แต่ความเสียหายกลับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก DPRK มุ่งเป้าไปที่องค์กรใหญ่และระบบที่มีมูลค่าสูง แพลตฟอร์ม DeFi หลายแห่งเริ่มมีมาตรการป้องกันที่เข้มแข็งขึ้น ทำให้แฮกเกอร์หันไปโจมตี exchange, custodians และกระเป๋าเงินส่วนบุคคล ที่มีการป้องกันอ่อนแอกว่า

    สรุปเป็นหัวข้อ
    สถิติการโจรกรรมคริปโตของ DPRK
    ปี 2025 ขโมยได้ 2.02 พันล้านดอลลาร์
    รวมตั้งแต่เริ่มบันทึกกว่า 6.75 พันล้านดอลลาร์

    เทคนิคการโจมตี
    แฝงตัวเป็น IT professionals ในบริษัทเป้าหมาย
    ประกาศรับสมัครงานปลอมพร้อมมัลแวร์
    หลอกผู้บริหารด้วยข้อเสนอซื้อกิจการ

    เหตุการณ์สำคัญ
    ByBit สูญเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์
    FBI ยืนยันเป็นฝีมือ DPRK

    คำเตือนและแนวโน้ม
    จำนวนการโจมตีลดลง แต่ความเสียหายเพิ่มขึ้น
    เป้าหมายหลักคือ exchange, custodians และกระเป๋าเงินส่วนบุคคล
    สะท้อนว่าระบบที่อ่อนแอยังคงเสี่ยงสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/north-korean-hackers-steal-a-record-usd2-billion-in-crypto-in-2025-including-single-heist-worth-usd1-5-billion-report-claims-rogue-state-accounts-for-60-percent-of-all-reported-crypto-thefts-this-year-usd6-75-billion-total-since-records-began
    💰 เกาหลีเหนือกับสถิติการโจรกรรมคริปโต รายงานจาก Chainalysis ระบุว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเกาหลีเหนือสามารถขโมยคริปโตได้มากถึง 2.02 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่มีการบันทึกมา โดยรวมแล้วตั้งแต่เริ่มมีการติดตาม เกาหลีเหนือได้ขโมยไปแล้วกว่า 6.75 พันล้านดอลลาร์ การโจมตีเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อแพลตฟอร์มคริปโต แต่ยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญให้กับรัฐบาลที่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ 🕵️ เทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อน หนึ่งในวิธีที่ DPRK ใช้คือการส่งคนไปแฝงตัวเป็น IT professionals ในบริษัทเป้าหมาย เพื่อเข้าถึงระบบภายในและหาช่องโหว่ นอกจากนี้ยังมีการสร้าง ประกาศรับสมัครงานปลอม ที่บังคับให้ผู้สมัครติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว ซึ่งมัลแวร์นี้สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น credentials, source code และ SSO access ได้ อีกทั้งยังมีการหลอกผู้บริหารด้วยข้อเสนอซื้อกิจการปลอม เพื่อใช้กระบวนการตรวจสอบข้อมูลในการเจาะระบบ ⚡ การโจมตีครั้งใหญ่: ByBit Hack เหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายมากที่สุดคือการโจมตีแพลตฟอร์ม ByBit ที่สูญเงินไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง FBI ยืนยันว่าเป็นฝีมือของแฮกเกอร์จาก DPRK การโจมตีครั้งนี้คิดเป็นเกือบ 75% ของมูลค่าที่ DPRK ขโมยไปในปีเดียว และสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเลือกเป้าหมายที่ใหญ่และมีผลกระทบสูง ⚠️ แนวโน้มและคำเตือน แม้จำนวนการโจมตีโดยรวมจะลดลง แต่ความเสียหายกลับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก DPRK มุ่งเป้าไปที่องค์กรใหญ่และระบบที่มีมูลค่าสูง แพลตฟอร์ม DeFi หลายแห่งเริ่มมีมาตรการป้องกันที่เข้มแข็งขึ้น ทำให้แฮกเกอร์หันไปโจมตี exchange, custodians และกระเป๋าเงินส่วนบุคคล ที่มีการป้องกันอ่อนแอกว่า 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ สถิติการโจรกรรมคริปโตของ DPRK ➡️ ปี 2025 ขโมยได้ 2.02 พันล้านดอลลาร์ ➡️ รวมตั้งแต่เริ่มบันทึกกว่า 6.75 พันล้านดอลลาร์ ✅ เทคนิคการโจมตี ➡️ แฝงตัวเป็น IT professionals ในบริษัทเป้าหมาย ➡️ ประกาศรับสมัครงานปลอมพร้อมมัลแวร์ ➡️ หลอกผู้บริหารด้วยข้อเสนอซื้อกิจการ ✅ เหตุการณ์สำคัญ ➡️ ByBit สูญเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์ ➡️ FBI ยืนยันเป็นฝีมือ DPRK ‼️ คำเตือนและแนวโน้ม ⛔ จำนวนการโจมตีลดลง แต่ความเสียหายเพิ่มขึ้น ⛔ เป้าหมายหลักคือ exchange, custodians และกระเป๋าเงินส่วนบุคคล ⛔ สะท้อนว่าระบบที่อ่อนแอยังคงเสี่ยงสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/north-korean-hackers-steal-a-record-usd2-billion-in-crypto-in-2025-including-single-heist-worth-usd1-5-billion-report-claims-rogue-state-accounts-for-60-percent-of-all-reported-crypto-thefts-this-year-usd6-75-billion-total-since-records-began
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline


    Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI
    Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge
    https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse

    Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน
    Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก
    https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่
    https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover

    หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน
    ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account

    Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows
    ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน
    https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users

    OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon
    มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์
    https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch

    Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19%
    รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์
    https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge

    Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด
    https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining

    Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT
    รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ
    https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures

    “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้
    https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls

    Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม
    กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ
    https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes

    Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ
    นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์
    https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports

    GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner
    เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้
    https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry

    ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที
    Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่
    https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers

    CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains

    แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email
    Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น
    https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit

    SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root
    SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline 🦊 Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge 🔗 https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse 🔒 Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์ เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover 🚦 หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account 💻 Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users 💰 OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch 🌐 Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19% รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์ 🔗 https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge 🖥️ Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด 🔗 https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining 📧 Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ 🔗 https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures 🔐 “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้ 🔗 https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls 🐉 Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ 🔗 https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes 📚 Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports 🛠️ GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้ 🔗 https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers 🚨 CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 🔗 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains 🐚 แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น 🔗 https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit 🔒 SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 648 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI กำลังทำให้ Formal Verification กลายเป็นกระแสหลักในซอฟต์แวร์

    Formal Verification หรือการพิสูจน์ความถูกต้องของซอฟต์แวร์ด้วยหลักคณิตศาสตร์ เคยเป็นเรื่องที่ใช้เฉพาะในงานวิจัยหรือระบบที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ระบบการบินหรือการเข้ารหัสข้อมูล เนื่องจากต้องใช้เวลาและความเชี่ยวชาญสูงมาก เช่น กรณี seL4 microkernel ที่ใช้เวลาถึง 20 ปีคนในการพิสูจน์ความถูกต้องของโค้ดเพียงไม่กี่พันบรรทัด. แต่ปัจจุบัน AI โดยเฉพาะ LLM-based coding assistants กำลังเข้ามาช่วยลดภาระนี้อย่างมหาศาล.

    AI ไม่เพียงแต่ช่วยเขียนโค้ด แต่ยังสามารถสร้าง proof scripts เพื่อยืนยันว่าโค้ดนั้นสอดคล้องกับสเปกที่กำหนดไว้ Proof checkers อย่าง Isabelle หรือ Lean จะทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง ทำให้แม้ AI จะ “หลอน” หรือสร้างโค้ดผิดพลาด ก็ไม่สามารถผ่านการตรวจสอบได้ สิ่งนี้เปลี่ยนสมการทางเศรษฐศาสตร์ของการพัฒนา เพราะต้นทุนการพิสูจน์ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับต้นทุนของบั๊กที่อาจสร้างความเสียหาย.

    นอกจากการลดต้นทุนแล้ว AI ยังสร้าง “ความจำเป็นใหม่” ในการใช้ Formal Verification เนื่องจากโค้ดที่สร้างโดย AI มีความเร็วสูงแต่เสี่ยงต่อข้อผิดพลาดที่มนุษย์อาจตรวจไม่พบ การให้ AI พิสูจน์ความถูกต้องของโค้ดที่มันสร้างเอง จึงเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือกว่าการตรวจสอบด้วยสายตามนุษย์ และอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม.

    อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังอยู่ที่การเขียน formal specification หรือการกำหนดคุณสมบัติที่ต้องการให้โค้ดมี ซึ่งยังต้องใช้ความเชี่ยวชาญและการตีความที่ถูกต้อง หากสเปกไม่ชัดเจน การพิสูจน์ก็ไม่มีความหมาย นักวิจัยบางส่วนจึงมองว่า AI อาจช่วยแปลสเปกจากภาษาธรรมชาติเป็นภาษาทางการได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเรื่องการตีความผิดพลาดที่ต้องระวัง.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    AI กำลังทำให้ Formal Verification เข้าสู่กระแสหลัก
    Proof assistants เช่น Lean, Isabelle, Agda ถูกใช้ร่วมกับ AI เพื่อลดภาระการเขียน proof scripts
    ต้นทุนการพิสูจน์ลดลง ทำให้การตรวจสอบโค้ดมีความคุ้มค่ามากขึ้น

    AI สร้างความจำเป็นใหม่ในการตรวจสอบโค้ด
    โค้ดที่สร้างโดย LLMs มีความเร็วสูงแต่เสี่ยงต่อบั๊ก
    Proof checkers สามารถป้องกันข้อผิดพลาดที่มนุษย์อาจมองไม่เห็น

    การเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐศาสตร์และมาตรฐานอุตสาหกรรม
    ต้นทุนบั๊กสูงกว่าต้นทุนการพิสูจน์ ทำให้ Formal Verification มีความคุ้มค่า
    อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในซอฟต์แวร์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    การเขียน formal specification ยังต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง หากผิดพลาดจะทำให้การพิสูจน์ไร้ค่า
    การใช้ AI แปลสเปกจากภาษาธรรมชาติอาจเสี่ยงต่อการตีความผิดพลาด

    https://martin.kleppmann.com/2025/12/08/ai-formal-verification.html
    🧩 AI กำลังทำให้ Formal Verification กลายเป็นกระแสหลักในซอฟต์แวร์ Formal Verification หรือการพิสูจน์ความถูกต้องของซอฟต์แวร์ด้วยหลักคณิตศาสตร์ เคยเป็นเรื่องที่ใช้เฉพาะในงานวิจัยหรือระบบที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ระบบการบินหรือการเข้ารหัสข้อมูล เนื่องจากต้องใช้เวลาและความเชี่ยวชาญสูงมาก เช่น กรณี seL4 microkernel ที่ใช้เวลาถึง 20 ปีคนในการพิสูจน์ความถูกต้องของโค้ดเพียงไม่กี่พันบรรทัด. แต่ปัจจุบัน AI โดยเฉพาะ LLM-based coding assistants กำลังเข้ามาช่วยลดภาระนี้อย่างมหาศาล. AI ไม่เพียงแต่ช่วยเขียนโค้ด แต่ยังสามารถสร้าง proof scripts เพื่อยืนยันว่าโค้ดนั้นสอดคล้องกับสเปกที่กำหนดไว้ Proof checkers อย่าง Isabelle หรือ Lean จะทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง ทำให้แม้ AI จะ “หลอน” หรือสร้างโค้ดผิดพลาด ก็ไม่สามารถผ่านการตรวจสอบได้ สิ่งนี้เปลี่ยนสมการทางเศรษฐศาสตร์ของการพัฒนา เพราะต้นทุนการพิสูจน์ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับต้นทุนของบั๊กที่อาจสร้างความเสียหาย. นอกจากการลดต้นทุนแล้ว AI ยังสร้าง “ความจำเป็นใหม่” ในการใช้ Formal Verification เนื่องจากโค้ดที่สร้างโดย AI มีความเร็วสูงแต่เสี่ยงต่อข้อผิดพลาดที่มนุษย์อาจตรวจไม่พบ การให้ AI พิสูจน์ความถูกต้องของโค้ดที่มันสร้างเอง จึงเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือกว่าการตรวจสอบด้วยสายตามนุษย์ และอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม. อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังอยู่ที่การเขียน formal specification หรือการกำหนดคุณสมบัติที่ต้องการให้โค้ดมี ซึ่งยังต้องใช้ความเชี่ยวชาญและการตีความที่ถูกต้อง หากสเปกไม่ชัดเจน การพิสูจน์ก็ไม่มีความหมาย นักวิจัยบางส่วนจึงมองว่า AI อาจช่วยแปลสเปกจากภาษาธรรมชาติเป็นภาษาทางการได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเรื่องการตีความผิดพลาดที่ต้องระวัง. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ AI กำลังทำให้ Formal Verification เข้าสู่กระแสหลัก ➡️ Proof assistants เช่น Lean, Isabelle, Agda ถูกใช้ร่วมกับ AI เพื่อลดภาระการเขียน proof scripts ➡️ ต้นทุนการพิสูจน์ลดลง ทำให้การตรวจสอบโค้ดมีความคุ้มค่ามากขึ้น ✅ AI สร้างความจำเป็นใหม่ในการตรวจสอบโค้ด ➡️ โค้ดที่สร้างโดย LLMs มีความเร็วสูงแต่เสี่ยงต่อบั๊ก ➡️ Proof checkers สามารถป้องกันข้อผิดพลาดที่มนุษย์อาจมองไม่เห็น ✅ การเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐศาสตร์และมาตรฐานอุตสาหกรรม ➡️ ต้นทุนบั๊กสูงกว่าต้นทุนการพิสูจน์ ทำให้ Formal Verification มีความคุ้มค่า ➡️ อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในซอฟต์แวร์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง ‼️ ความท้าทายและข้อควรระวัง ⛔ การเขียน formal specification ยังต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง หากผิดพลาดจะทำให้การพิสูจน์ไร้ค่า ⛔ การใช้ AI แปลสเปกจากภาษาธรรมชาติอาจเสี่ยงต่อการตีความผิดพลาด https://martin.kleppmann.com/2025/12/08/ai-formal-verification.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมชลประทานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถอดบทเรียนอุทกภัยจังหวัดสงขลา เพื่อวางแผนรับมือน้ำท่วมหาดใหญ่อย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั้งระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง และระยะยาว เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
    .
    การประชุมดังกล่าวมีการรายงานสถานการณ์น้ำท่วมและอุปสรรคในการบริหารจัดการอุทกภัย รวมถึงการเตรียมความพร้อม การรับมือระหว่างเกิดเหตุ และการฟื้นฟูหลังน้ำลด พร้อมพิจารณาการสนับสนุนจากภาครัฐในอนาคต
    .
    กรมชลประทานได้เสนอแผนเร่งด่วน เช่น การขุดลอกคลองและซ่อมแซมอาคารชลประทาน แผนระยะปานกลางในการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำหลายสายคลอง และแผนระยะยาวในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำและคลองผันน้ำ เพื่อเสริมศักยภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก และลดความเสียหายที่จะเกิดกับประชาชน
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122030
    .
    #News1live #News1 #กรมชลประทาน #น้ำท่วม #หาดใหญ่ #สงขลา #อุทกภัย
    กรมชลประทานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถอดบทเรียนอุทกภัยจังหวัดสงขลา เพื่อวางแผนรับมือน้ำท่วมหาดใหญ่อย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั้งระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง และระยะยาว เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ . การประชุมดังกล่าวมีการรายงานสถานการณ์น้ำท่วมและอุปสรรคในการบริหารจัดการอุทกภัย รวมถึงการเตรียมความพร้อม การรับมือระหว่างเกิดเหตุ และการฟื้นฟูหลังน้ำลด พร้อมพิจารณาการสนับสนุนจากภาครัฐในอนาคต . กรมชลประทานได้เสนอแผนเร่งด่วน เช่น การขุดลอกคลองและซ่อมแซมอาคารชลประทาน แผนระยะปานกลางในการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำหลายสายคลอง และแผนระยะยาวในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำและคลองผันน้ำ เพื่อเสริมศักยภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก และลดความเสียหายที่จะเกิดกับประชาชน . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122030 . #News1live #News1 #กรมชลประทาน #น้ำท่วม #หาดใหญ่ #สงขลา #อุทกภัย
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 365 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจ สภ.บางพลีน้อย อายัดตัวคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ สอบปากคำ หลังเกิดอุบัติเหตุดัมพ์กระบะท้ายยกขึ้นชนสะพานลอย บนถนนบางนา-ตราด กม.34 ส่งผลให้คานสะพานขาดหล่นทับรถยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
    .
    เหตุเกิดช่วงกลางวันของวันที่ 18 ธ.ค. โดยคานสะพานลอยถล่มลงมาทับรถบรรทุกพ่วงขนดิน และรถกระบะบรรทุกไข่ ทำให้นายสังเวียน อายุ 59 ปี ผู้ขับขี่รถกระบะบรรทุกไข่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วงได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาล
    .
    จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่ารถบรรทุกพ่วงมีการยกดัมพ์กระบะขึ้นระหว่างขับขี่ ก่อนจะชนโครงสร้างสะพานลอยจนพังถล่ม ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการและกรมทางหลวงอยู่ระหว่างเร่งเคลื่อนย้ายซากสะพาน พร้อมแนะนำประชาชนเลี่ยงเส้นทาง และเตรียมซ่อมแซมความเสียหายโดยเร็ว
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121889
    .
    #News1live #News1 #อุบัติเหตุ #สะพานลอยถล่ม #บางนาตราด #สมุทรปราการ #ตำรวจสอบสวน
    ตำรวจ สภ.บางพลีน้อย อายัดตัวคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ สอบปากคำ หลังเกิดอุบัติเหตุดัมพ์กระบะท้ายยกขึ้นชนสะพานลอย บนถนนบางนา-ตราด กม.34 ส่งผลให้คานสะพานขาดหล่นทับรถยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย . เหตุเกิดช่วงกลางวันของวันที่ 18 ธ.ค. โดยคานสะพานลอยถล่มลงมาทับรถบรรทุกพ่วงขนดิน และรถกระบะบรรทุกไข่ ทำให้นายสังเวียน อายุ 59 ปี ผู้ขับขี่รถกระบะบรรทุกไข่ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถบรรทุกพ่วงได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาล . จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่ารถบรรทุกพ่วงมีการยกดัมพ์กระบะขึ้นระหว่างขับขี่ ก่อนจะชนโครงสร้างสะพานลอยจนพังถล่ม ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการและกรมทางหลวงอยู่ระหว่างเร่งเคลื่อนย้ายซากสะพาน พร้อมแนะนำประชาชนเลี่ยงเส้นทาง และเตรียมซ่อมแซมความเสียหายโดยเร็ว . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121889 . #News1live #News1 #อุบัติเหตุ #สะพานลอยถล่ม #บางนาตราด #สมุทรปราการ #ตำรวจสอบสวน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 511 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! เกิดสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หลังมีรายงานว่า ทหารไทยเปิดปฏิบัติการยิงถล่มเป้าหมายทางทหารในพื้นที่เมืองปอยเปต จังหวัดบันทายมีชัย ประเทศกัมพูชา ตรงข้ามอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
    .
    โดยเมื่อเวลา 11.54 น. วันที่ 18 ธันวาคม เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force ได้เผยแพร่วิดีโอคลิปการโจมตี พร้อมระบุว่าเป็นการถล่มฐานทหารกัมพูชา จำนวน 5 พิกัด ในพื้นที่เมืองปอยเปต
    .
    รายงานระบุว่า การปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังตรวจพบการซ่องสุมกำลังพลและอาวุธของทหารกัมพูชา ซึ่งเข้าข่ายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศไทย
    .
    ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือความสูญเสียอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานรัฐ โดยสถานการณ์ชายแดนยังอยู่ระหว่างการติดตามอย่างใกล้ชิด
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121788
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปอยเปต #ความมั่นคง #สถานการณ์ชายแดน
    ด่วน! เกิดสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หลังมีรายงานว่า ทหารไทยเปิดปฏิบัติการยิงถล่มเป้าหมายทางทหารในพื้นที่เมืองปอยเปต จังหวัดบันทายมีชัย ประเทศกัมพูชา ตรงข้ามอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว . โดยเมื่อเวลา 11.54 น. วันที่ 18 ธันวาคม เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force ได้เผยแพร่วิดีโอคลิปการโจมตี พร้อมระบุว่าเป็นการถล่มฐานทหารกัมพูชา จำนวน 5 พิกัด ในพื้นที่เมืองปอยเปต . รายงานระบุว่า การปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังตรวจพบการซ่องสุมกำลังพลและอาวุธของทหารกัมพูชา ซึ่งเข้าข่ายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศไทย . ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือความสูญเสียอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานรัฐ โดยสถานการณ์ชายแดนยังอยู่ระหว่างการติดตามอย่างใกล้ชิด . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000121788 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ปอยเปต #ความมั่นคง #สถานการณ์ชายแดน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพเรือยืนยัน หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด สามารถยึดพื้นที่บ้าน 3 หลัง จังหวัดตราด ได้สำเร็จ 100% หลังการปฏิบัติการตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง โดยขณะนี้ธงชาติไทยได้ถูกปักและโบกสะบัดในพื้นที่อย่างชัดเจน
    .
    ขณะเดียวกัน กองทัพบกเปิดเผยภาพรวมผลกระทบจากการสู้รบตามแนวชายแดน พบพื้นที่ได้รับความเสียหายจากกระสุนตกแล้วรวม 105 จุด ครอบคลุมหลายจังหวัดชายแดน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 27 หลัง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และกระทบสถานพยาบาล ศาสนสถาน และสถานศึกษา
    .
    ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ระบุว่า ได้จัดทำคำชี้แจงเหตุสู้รบถึง 16 ภาษา เพื่อสื่อสารกับนานาชาติ พร้อมย้ำว่าฝ่ายไทยจะรวบรวมหลักฐานการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและกติกาสากล เพื่อนำเสนอในเวทีระหว่างประเทศต่อไป
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121539
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #นยตราด #กองทัพเรือ #กองทัพบก #ธงชาติไทย #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    กองทัพเรือยืนยัน หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด สามารถยึดพื้นที่บ้าน 3 หลัง จังหวัดตราด ได้สำเร็จ 100% หลังการปฏิบัติการตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง โดยขณะนี้ธงชาติไทยได้ถูกปักและโบกสะบัดในพื้นที่อย่างชัดเจน . ขณะเดียวกัน กองทัพบกเปิดเผยภาพรวมผลกระทบจากการสู้รบตามแนวชายแดน พบพื้นที่ได้รับความเสียหายจากกระสุนตกแล้วรวม 105 จุด ครอบคลุมหลายจังหวัดชายแดน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 27 หลัง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และกระทบสถานพยาบาล ศาสนสถาน และสถานศึกษา . ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ ระบุว่า ได้จัดทำคำชี้แจงเหตุสู้รบถึง 16 ภาษา เพื่อสื่อสารกับนานาชาติ พร้อมย้ำว่าฝ่ายไทยจะรวบรวมหลักฐานการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและกติกาสากล เพื่อนำเสนอในเวทีระหว่างประเทศต่อไป . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121539 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #นยตราด #กองทัพเรือ #กองทัพบก #ธงชาติไทย #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบุกจับกุมชายชาวจีน ตัวการเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ ขณะเตรียมเดินทางออกนอกประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังหลอกลวงเพื่อนร่วมชาติกว่า 500 ราย ให้ร่วมลงทุน สร้างความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท
    .
    การตรวจสอบพบผู้ต้องหาใช้หนังสือเดินทางเม็กซิโกปลอมในการแสดงตน ทั้งที่ถือวีซ่า Thailand Privilege Card ถูกต้อง ก่อนพบว่ามีหมายแดงของอินเตอร์โพลจากทางการจีน และมีหนังสือเดินทางจีนฉบับจริงซุกซ่อนอยู่
    .
    จากการสืบสวนระบุว่า ผู้ต้องหาตั้งฐานแก๊งสแกมเมอร์ในพื้นที่ชายแดนเมียนมา ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและโซเชียลมีเดียหลอกเหยื่อ ก่อนเชิดเงินและตัดการติดต่อ เบื้องต้นถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย พร้อมประสานส่งตัวตามกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121299
    .
    #News1live #News1 #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #ตม #สนามบินสุวรรณภูมิ #หมายแดงอินเตอร์โพล #หลอกลงทุน
    ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบุกจับกุมชายชาวจีน ตัวการเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ ขณะเตรียมเดินทางออกนอกประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังหลอกลวงเพื่อนร่วมชาติกว่า 500 ราย ให้ร่วมลงทุน สร้างความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท . การตรวจสอบพบผู้ต้องหาใช้หนังสือเดินทางเม็กซิโกปลอมในการแสดงตน ทั้งที่ถือวีซ่า Thailand Privilege Card ถูกต้อง ก่อนพบว่ามีหมายแดงของอินเตอร์โพลจากทางการจีน และมีหนังสือเดินทางจีนฉบับจริงซุกซ่อนอยู่ . จากการสืบสวนระบุว่า ผู้ต้องหาตั้งฐานแก๊งสแกมเมอร์ในพื้นที่ชายแดนเมียนมา ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและโซเชียลมีเดียหลอกเหยื่อ ก่อนเชิดเงินและตัดการติดต่อ เบื้องต้นถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย พร้อมประสานส่งตัวตามกระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121299 . #News1live #News1 #สแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #ตม #สนามบินสุวรรณภูมิ #หมายแดงอินเตอร์โพล #หลอกลงทุน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เด็กชายทำลาย SSD 50 ตัว – พ่อสูญเสียพื้นที่เก็บข้อมูล 25TB ท่ามกลางวิกฤต NAND”

    ภาพที่แชร์ในกลุ่ม Facebook “Build a PC is easy” ของเวียดนามเผยให้เห็น SSD Samsung PM991a ขนาด 512GB จำนวน 50 ตัวที่ถูกงอจนใช้การไม่ได้ เด็กชายวัย 10 ปีซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของ ได้ทำการ “ทดสอบความทนทาน” โดยไม่รู้ว่ากำลังทำลายอุปกรณ์ที่มีมูลค่ารวมกว่า 3,800–4,000 ดอลลาร์

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดหน่วยความจำ NAND กำลังเผชิญวิกฤตราคาพุ่งสูง โดยราคาของ SSD และ RAM เพิ่มขึ้นเร็วกว่าทองคำ ทำให้การสูญเสียครั้งนี้ยิ่งเจ็บปวดสำหรับผู้เป็นพ่อที่ถูกเรียกว่า “the most miserable dad in the world” ในโพสต์ต้นทาง

    แม้ SSD ที่ถูกงออาจยังมีบางตัวที่สามารถใช้งานได้ หากชิ้นส่วน PCB ไม่เสียหาย แต่โดยทั่วไปแล้วการบิดงอทำให้โอกาสใช้งานต่อแทบเป็นศูนย์ และหากไม่สามารถซ่อมได้ก็ต้องนำไปรีไซเคิล NAND chips เท่านั้น

    เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และเป็นบทเรียนว่าการเก็บรักษาอุปกรณ์ไอทีควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาหน่วยความจำทั่วโลกกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เด็กชายวัย 10 ปีทำลาย SSD Samsung PM991a จำนวน 50 ตัว
    แต่ละตัวมีความจุ 512GB รวมทั้งหมดกว่า 25,600GB

    มูลค่าความเสียหายประมาณ 3,800–4,000 ดอลลาร์
    เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ NAND พุ่งสูง

    เหตุการณ์ถูกแชร์ในกลุ่ม Facebook เวียดนาม
    เจ้าของถูกเรียกว่า “the most miserable dad in the world”

    ความเสี่ยงต่อการใช้งาน SSD ที่ถูกงอ
    โอกาสใช้งานต่อแทบไม่มี หาก PCB เสียหาย
    ทางออกเดียวคือการรีไซเคิล NAND chips

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/boy-breaks-50-of-his-fathers-samsung-m-2-nvme-ssds-worth-nearly-usd4-000-25-600-gb-of-storage-ruined-by-ten-year-old-oblivious-to-global-nand-crisis
    📰 “เด็กชายทำลาย SSD 50 ตัว – พ่อสูญเสียพื้นที่เก็บข้อมูล 25TB ท่ามกลางวิกฤต NAND” ภาพที่แชร์ในกลุ่ม Facebook “Build a PC is easy” ของเวียดนามเผยให้เห็น SSD Samsung PM991a ขนาด 512GB จำนวน 50 ตัวที่ถูกงอจนใช้การไม่ได้ เด็กชายวัย 10 ปีซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของ ได้ทำการ “ทดสอบความทนทาน” โดยไม่รู้ว่ากำลังทำลายอุปกรณ์ที่มีมูลค่ารวมกว่า 3,800–4,000 ดอลลาร์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดหน่วยความจำ NAND กำลังเผชิญวิกฤตราคาพุ่งสูง โดยราคาของ SSD และ RAM เพิ่มขึ้นเร็วกว่าทองคำ ทำให้การสูญเสียครั้งนี้ยิ่งเจ็บปวดสำหรับผู้เป็นพ่อที่ถูกเรียกว่า “the most miserable dad in the world” ในโพสต์ต้นทาง แม้ SSD ที่ถูกงออาจยังมีบางตัวที่สามารถใช้งานได้ หากชิ้นส่วน PCB ไม่เสียหาย แต่โดยทั่วไปแล้วการบิดงอทำให้โอกาสใช้งานต่อแทบเป็นศูนย์ และหากไม่สามารถซ่อมได้ก็ต้องนำไปรีไซเคิล NAND chips เท่านั้น เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และเป็นบทเรียนว่าการเก็บรักษาอุปกรณ์ไอทีควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาหน่วยความจำทั่วโลกกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เด็กชายวัย 10 ปีทำลาย SSD Samsung PM991a จำนวน 50 ตัว ➡️ แต่ละตัวมีความจุ 512GB รวมทั้งหมดกว่า 25,600GB ✅ มูลค่าความเสียหายประมาณ 3,800–4,000 ดอลลาร์ ➡️ เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ NAND พุ่งสูง ✅ เหตุการณ์ถูกแชร์ในกลุ่ม Facebook เวียดนาม ➡️ เจ้าของถูกเรียกว่า “the most miserable dad in the world” ‼️ ความเสี่ยงต่อการใช้งาน SSD ที่ถูกงอ ⛔ โอกาสใช้งานต่อแทบไม่มี หาก PCB เสียหาย ⛔ ทางออกเดียวคือการรีไซเคิล NAND chips https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/boy-breaks-50-of-his-fathers-samsung-m-2-nvme-ssds-worth-nearly-usd4-000-25-600-gb-of-storage-ruined-by-ten-year-old-oblivious-to-global-nand-crisis
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI ออกแบบคอมพิวเตอร์เสร็จใน 1 สัปดาห์ – Project Speedrun สร้างสถิติใหม่”

    การออกแบบแผงวงจร (PCB) มักเป็นงานที่ใช้เวลานานและซับซ้อน โดยปกติวิศวกรต้องใช้เวลาหลายเดือนในการวางแผนและทดสอบ แต่ Quilter AI ได้แสดงให้เห็นว่า AI สามารถลดเวลาจาก 430 ชั่วโมงเหลือเพียง 38.5 ชั่วโมง พร้อมสร้างคอมพิวเตอร์ที่บูตระบบปฏิบัติการ Debian ได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก ถือเป็นการพิสูจน์ศักยภาพของ AI ในการออกแบบฮาร์ดแวร์ที่ซับซ้อน

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Quilter AI ไม่ได้ถูกฝึกจากตัวอย่าง PCB ที่มนุษย์ออกแบบมาก่อน แต่ใช้การ “เล่นเกมกับกฎฟิสิกส์” เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ระบบไม่ถูกจำกัดด้วยข้อผิดพลาดที่มนุษย์เคยทำ และสามารถสร้างการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

    การทดลองนี้ยังสะท้อนถึงอนาคตของอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ ที่อาจเปิดโอกาสให้ สตาร์ทอัพหรือผู้เล่นรายเล็กเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น เพราะ AI สามารถลดต้นทุนเวลาและแรงงานลงอย่างมหาศาล ทำให้การสร้างคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ใหม่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้ทีมวิศวกรขนาดใหญ่เสมอไป

    ในระยะยาว Quilter ตั้งเป้าว่า AI จะไม่เพียงแค่ “ทำงานแทนมนุษย์” แต่จะสามารถออกแบบ PCB ที่ดีกว่าที่มนุษย์เคยทำได้ ซึ่งหากสำเร็จจริง อาจเป็นการพลิกโฉมวงการอิเล็กทรอนิกส์และการผลิตคอมพิวเตอร์ทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Project Speedrun ของ Quilter AI
    ออกแบบคอมพิวเตอร์ Linux แบบ Dual-PCB มีชิ้นส่วน 843 ชิ้น

    ลดเวลาออกแบบอย่างมหาศาล
    ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ และแรงงานมนุษย์ 38.5 ชั่วโมง จากเดิม 430 ชั่วโมง

    บูต Debian สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก
    แสดงถึงความแม่นยำและประสิทธิภาพของการออกแบบโดย AI

    แนวทางการฝึก AI
    ไม่ใช้ตัวอย่างมนุษย์ แต่เรียนรู้จากกฎฟิสิกส์โดยตรง

    ความท้าทายและความเสี่ยง
    หาก AI ออกแบบผิดพลาด อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อวงจรหรือระบบที่ซับซ้อน
    การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์สูญเสียทักษะการออกแบบเชิงลึก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/dual-pcb-linux-computer-with-843-components-designed-by-ai-boots-on-first-attempt-project-speedrun-was-made-in-just-one-week-and-required-less-than-40-hours-of-human-work
    📰 “AI ออกแบบคอมพิวเตอร์เสร็จใน 1 สัปดาห์ – Project Speedrun สร้างสถิติใหม่” การออกแบบแผงวงจร (PCB) มักเป็นงานที่ใช้เวลานานและซับซ้อน โดยปกติวิศวกรต้องใช้เวลาหลายเดือนในการวางแผนและทดสอบ แต่ Quilter AI ได้แสดงให้เห็นว่า AI สามารถลดเวลาจาก 430 ชั่วโมงเหลือเพียง 38.5 ชั่วโมง พร้อมสร้างคอมพิวเตอร์ที่บูตระบบปฏิบัติการ Debian ได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก ถือเป็นการพิสูจน์ศักยภาพของ AI ในการออกแบบฮาร์ดแวร์ที่ซับซ้อน สิ่งที่น่าสนใจคือ Quilter AI ไม่ได้ถูกฝึกจากตัวอย่าง PCB ที่มนุษย์ออกแบบมาก่อน แต่ใช้การ “เล่นเกมกับกฎฟิสิกส์” เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ระบบไม่ถูกจำกัดด้วยข้อผิดพลาดที่มนุษย์เคยทำ และสามารถสร้างการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม การทดลองนี้ยังสะท้อนถึงอนาคตของอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ ที่อาจเปิดโอกาสให้ สตาร์ทอัพหรือผู้เล่นรายเล็กเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น เพราะ AI สามารถลดต้นทุนเวลาและแรงงานลงอย่างมหาศาล ทำให้การสร้างคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ใหม่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้ทีมวิศวกรขนาดใหญ่เสมอไป ในระยะยาว Quilter ตั้งเป้าว่า AI จะไม่เพียงแค่ “ทำงานแทนมนุษย์” แต่จะสามารถออกแบบ PCB ที่ดีกว่าที่มนุษย์เคยทำได้ ซึ่งหากสำเร็จจริง อาจเป็นการพลิกโฉมวงการอิเล็กทรอนิกส์และการผลิตคอมพิวเตอร์ทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Project Speedrun ของ Quilter AI ➡️ ออกแบบคอมพิวเตอร์ Linux แบบ Dual-PCB มีชิ้นส่วน 843 ชิ้น ✅ ลดเวลาออกแบบอย่างมหาศาล ➡️ ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์ และแรงงานมนุษย์ 38.5 ชั่วโมง จากเดิม 430 ชั่วโมง ✅ บูต Debian สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก ➡️ แสดงถึงความแม่นยำและประสิทธิภาพของการออกแบบโดย AI ✅ แนวทางการฝึก AI ➡️ ไม่ใช้ตัวอย่างมนุษย์ แต่เรียนรู้จากกฎฟิสิกส์โดยตรง ‼️ ความท้าทายและความเสี่ยง ⛔ หาก AI ออกแบบผิดพลาด อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อวงจรหรือระบบที่ซับซ้อน ⛔ การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์สูญเสียทักษะการออกแบบเชิงลึก https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/dual-pcb-linux-computer-with-843-components-designed-by-ai-boots-on-first-attempt-project-speedrun-was-made-in-just-one-week-and-required-less-than-40-hours-of-human-work
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Dual-PCB Linux computer with 843 components designed by AI boots on first attempt — Project Speedrun was made in just one week and required less than 40 hours of human work
    Quilter, the LA-based startup behind this feat, says its dual-PCB Linux computer with 843 components was designed in just one week.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอป MAGA Messaging App ที่ไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด

    มีรายงานว่าแอปแชทที่ถูกโปรโมตว่าเป็น “Super Secure MAGA Messaging App” เกิดเหตุการณ์รั่วไหลครั้งใหญ่ โดยข้อมูล หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้ทั้งหมด ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจอย่างมาก เพราะแอปดังกล่าวเคลมว่ามีระบบความปลอดภัยสูงและเน้นการปกป้องข้อมูลส่วนตัว แต่กลับเกิดข้อผิดพลาดร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้สูญเสียความเชื่อมั่นทันที

    สาเหตุและผลกระทบ
    การรั่วไหลครั้งนี้เกิดจาก การตั้งค่าฐานข้อมูลที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ข้อมูลผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตนใดๆ ผลกระทบคือผู้ใช้จำนวนมากเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การโทรก่อกวน (Spam Calls), การโจมตีแบบฟิชชิ่ง (Phishing) หรือแม้กระทั่งการนำข้อมูลไปเชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนตัวอื่นเพื่อสร้างการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้น

    บทเรียนด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้แอปจะโฆษณาว่ามีความปลอดภัยสูง แต่หาก โครงสร้างระบบไม่ได้รับการตรวจสอบและป้องกันอย่างจริงจัง ก็สามารถสร้างความเสียหายใหญ่หลวงได้ทันที ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำว่า ผู้ใช้ควรเลือกใช้แพลตฟอร์มที่มีการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม และควรเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) รวมถึงหลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลส่วนตัวเกินความจำเป็น

    สรุปสาระสำคัญ
    เหตุการณ์รั่วไหลของแอป MAGA Messaging App
    ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ผู้ใช้ทั้งหมดถูกเปิดเผย
    เกิดจากการตั้งค่าฐานข้อมูลที่ไม่ปลอดภัย

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    เสี่ยงต่อการถูกโทรก่อกวนและสแปม
    เสี่ยงต่อการโจมตีแบบฟิชชิ่งและการขโมยข้อมูลส่วนตัว

    บทเรียนด้านความปลอดภัย
    แอปที่โฆษณาว่าปลอดภัยอาจไม่จริง หากไม่มีการตรวจสอบระบบ
    ผู้ใช้ควรเปิดใช้งาน 2FA และระมัดระวังในการแชร์ข้อมูลส่วนตัว

    https://ericdaigle.ca/posts/super-secure-maga-messaging-app-leaks-everyones-phone-number/
    📱 แอป MAGA Messaging App ที่ไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด มีรายงานว่าแอปแชทที่ถูกโปรโมตว่าเป็น “Super Secure MAGA Messaging App” เกิดเหตุการณ์รั่วไหลครั้งใหญ่ โดยข้อมูล หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้ทั้งหมด ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจอย่างมาก เพราะแอปดังกล่าวเคลมว่ามีระบบความปลอดภัยสูงและเน้นการปกป้องข้อมูลส่วนตัว แต่กลับเกิดข้อผิดพลาดร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้สูญเสียความเชื่อมั่นทันที 🔎 สาเหตุและผลกระทบ การรั่วไหลครั้งนี้เกิดจาก การตั้งค่าฐานข้อมูลที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ข้อมูลผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตนใดๆ ผลกระทบคือผู้ใช้จำนวนมากเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การโทรก่อกวน (Spam Calls), การโจมตีแบบฟิชชิ่ง (Phishing) หรือแม้กระทั่งการนำข้อมูลไปเชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนตัวอื่นเพื่อสร้างการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้น ⚠️ บทเรียนด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้แอปจะโฆษณาว่ามีความปลอดภัยสูง แต่หาก โครงสร้างระบบไม่ได้รับการตรวจสอบและป้องกันอย่างจริงจัง ก็สามารถสร้างความเสียหายใหญ่หลวงได้ทันที ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำว่า ผู้ใช้ควรเลือกใช้แพลตฟอร์มที่มีการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม และควรเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) รวมถึงหลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลส่วนตัวเกินความจำเป็น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เหตุการณ์รั่วไหลของแอป MAGA Messaging App ➡️ ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ผู้ใช้ทั้งหมดถูกเปิดเผย ➡️ เกิดจากการตั้งค่าฐานข้อมูลที่ไม่ปลอดภัย ‼️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ⛔ เสี่ยงต่อการถูกโทรก่อกวนและสแปม ⛔ เสี่ยงต่อการโจมตีแบบฟิชชิ่งและการขโมยข้อมูลส่วนตัว ‼️ บทเรียนด้านความปลอดภัย ⛔ แอปที่โฆษณาว่าปลอดภัยอาจไม่จริง หากไม่มีการตรวจสอบระบบ ⛔ ผู้ใช้ควรเปิดใช้งาน 2FA และระมัดระวังในการแชร์ข้อมูลส่วนตัว https://ericdaigle.ca/posts/super-secure-maga-messaging-app-leaks-everyones-phone-number/
    ERICDAIGLE.CA
    "Super secure" MAGA-themed messaging app leaks everyone's phone number
    You can be, do, and have whatever you want, except for not spilling user information
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • Claude AI ทำงานผิดพลาดจนลบ Home Directory

    นักพัฒนารายหนึ่งเล่าว่าขณะใช้ Claude CLI เพื่อจัดการแพ็กเกจใน repository เก่า คำสั่งที่ถูกสร้างขึ้นกลับมีการขยายสัญลักษณ์ ~ อย่างผิดพลาด ทำให้คำสั่ง rm -rf tests/ patches/ plan/ ~/ ลบไฟล์ทั้งหมดใน Home Directory ของ macOS รวมถึง Desktop, Documents, Downloads และ Library ที่เก็บ Keychains และ Credential Store ของ Claude เอง

    ผลกระทบที่เกิดขึ้น
    การลบครั้งนี้ทำให้ข้อมูลสำคัญสูญหาย เช่น credential, application data และไฟล์ผู้ใช้ทั้งหมดใน /Users/ ซึ่งแทบจะไม่สามารถกู้คืนได้ การสูญเสียนี้ไม่เพียงกระทบต่อการทำงานของนักพัฒนา แต่ยังสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลการยืนยันตัวตนอาจถูกทำลายหรือสูญหายไป

    แนวทางแก้ไขที่ถูกเสนอ
    วิธีแก้ไขที่นักพัฒนาหลายคนแนะนำคือการรัน Claude CLI ภายใน Docker container เพื่อจำกัดสิทธิ์และพื้นที่ทำงานของ AI ไม่ให้เข้าถึงระบบหลักโดยตรง หากเกิดความผิดพลาด คำสั่งที่เป็นอันตรายก็จะถูกจำกัดอยู่ใน container โดยไม่กระทบไฟล์จริงบนเครื่อง

    มุมมองจากวงการเทคโนโลยี
    เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการใช้ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงระบบโดยตรง หากไม่มีการจำกัดสิทธิ์หรือ sandbox ที่เหมาะสม AI อาจทำงานผิดพลาดและสร้างความเสียหายใหญ่หลวงได้ จึงเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่นำ AI มาใช้ใน workflow

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    Claude CLI รันคำสั่งผิดพลาด rm -rf ~/
    ลบข้อมูลทั้ง Home Directory รวมถึง Desktop, Documents และ Keychains

    ผลกระทบ
    สูญเสีย credential และ application data
    ข้อมูลผู้ใช้ใน /Users/ หายไปทั้งหมด

    แนวทางแก้ไข
    ใช้ Docker container เพื่อจำกัดสิทธิ์ AI
    ลดความเสี่ยงจากคำสั่งที่ผิดพลาด

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    การให้ AI เข้าถึงระบบโดยตรงเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูล
    หากไม่มี sandbox หรือ isolation อาจเกิดความเสียหายใหญ่หลวง

    https://securityonline.info/data-disaster-claude-ai-executes-rm-rf-and-wipes-developers-mac-home-directory/
    💻 Claude AI ทำงานผิดพลาดจนลบ Home Directory นักพัฒนารายหนึ่งเล่าว่าขณะใช้ Claude CLI เพื่อจัดการแพ็กเกจใน repository เก่า คำสั่งที่ถูกสร้างขึ้นกลับมีการขยายสัญลักษณ์ ~ อย่างผิดพลาด ทำให้คำสั่ง rm -rf tests/ patches/ plan/ ~/ ลบไฟล์ทั้งหมดใน Home Directory ของ macOS รวมถึง Desktop, Documents, Downloads และ Library ที่เก็บ Keychains และ Credential Store ของ Claude เอง ⚠️ ผลกระทบที่เกิดขึ้น การลบครั้งนี้ทำให้ข้อมูลสำคัญสูญหาย เช่น credential, application data และไฟล์ผู้ใช้ทั้งหมดใน /Users/ ซึ่งแทบจะไม่สามารถกู้คืนได้ การสูญเสียนี้ไม่เพียงกระทบต่อการทำงานของนักพัฒนา แต่ยังสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เนื่องจากข้อมูลการยืนยันตัวตนอาจถูกทำลายหรือสูญหายไป 🛡️ แนวทางแก้ไขที่ถูกเสนอ วิธีแก้ไขที่นักพัฒนาหลายคนแนะนำคือการรัน Claude CLI ภายใน Docker container เพื่อจำกัดสิทธิ์และพื้นที่ทำงานของ AI ไม่ให้เข้าถึงระบบหลักโดยตรง หากเกิดความผิดพลาด คำสั่งที่เป็นอันตรายก็จะถูกจำกัดอยู่ใน container โดยไม่กระทบไฟล์จริงบนเครื่อง 🌐 มุมมองจากวงการเทคโนโลยี เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการใช้ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงระบบโดยตรง หากไม่มีการจำกัดสิทธิ์หรือ sandbox ที่เหมาะสม AI อาจทำงานผิดพลาดและสร้างความเสียหายใหญ่หลวงได้ จึงเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่นำ AI มาใช้ใน workflow 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ➡️ Claude CLI รันคำสั่งผิดพลาด rm -rf ~/ ➡️ ลบข้อมูลทั้ง Home Directory รวมถึง Desktop, Documents และ Keychains ✅ ผลกระทบ ➡️ สูญเสีย credential และ application data ➡️ ข้อมูลผู้ใช้ใน /Users/ หายไปทั้งหมด ✅ แนวทางแก้ไข ➡️ ใช้ Docker container เพื่อจำกัดสิทธิ์ AI ➡️ ลดความเสี่ยงจากคำสั่งที่ผิดพลาด ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ การให้ AI เข้าถึงระบบโดยตรงเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูล ⛔ หากไม่มี sandbox หรือ isolation อาจเกิดความเสียหายใหญ่หลวง https://securityonline.info/data-disaster-claude-ai-executes-rm-rf-and-wipes-developers-mac-home-directory/
    SECURITYONLINE.INFO
    Data Disaster: Claude AI Executes rm -rf ~/ and Wipes Developer's Mac Home Directory
    A developer's Mac home directory was wiped after Claude AI executed an unconstrained rm -rf ~/ command. Experts urge using Docker to contain AI coding tools for safety.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts