• 27-29 มกราคม 2568 เทศกาลตรุษจีน 新正如意 新年發財 新正如意 新年发财

    "ตรุษจีน" หรือ “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ” เป็นวันสำคัญที่ชาวจีนทั่วโลก ต่างเฝ้ารอด้วยความตื่นเต้น และเปี่ยมไปด้วยความสุข ในปีนี้ ตรุษจีนตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ความเป็นสิริมงคล และการรวมตัวของครอบครัว 🌟

    ตรุษจีน (Chinese New Year) เป็นเทศกาลที่มีความสำคัญที่สุด ในปฏิทินจีน ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ ตามปฏิทินจันทรคติ โดยเริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 และสิ้นสุดในวันที่ 15 ซึ่งเป็นเทศกาลโคมไฟ ทั้งนี้ ตรุษจีนไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง การเปลี่ยนปีใหม่ แต่ยังเป็นโอกาส ในการแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ การฟื้นฟูความสัมพันธ์ในครอบครัว และการเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ในชีวิต

    เทศกาลตรุษจีน มีประวัติยาวนานนับพันปี โดยเริ่มต้นจาก ตำนานสัตว์ร้าย “เหนียน” (年) ที่จะออกมาสร้างความหวาดกลัว ให้กับผู้คนทุกปี ชาวบ้านจึงใช้วิธีจุดประทัด และตกแต่งบ้านด้วยสีแดง เพื่อขับไล่ปีศาจร้าย จนกลายมาเป็นประเพณี ที่นิยมปฏิบัติในปัจจุบัน 🎆

    ตรุษจีนไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลองปีใหม่ แต่ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้ง เช่น
    - การเริ่มต้นใหม่ที่ดี การทำความสะอาดบ้าน และตกแต่งด้วยสีแดง เพื่อขจัดโชคร้าย
    - ความรักและความสัมพันธ์ในครอบครัว การรับประทานอาหารร่วมกัน เป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี
    - ความมั่งคั่งและโชคลาภ ซองอั่งเปาและการไหว้เจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล

    ประเพณีตรุษจีนในไทย
    วันจ่าย
    28 มกราคม 2568 คือวันก่อนวันตรุษจีน ชาวไทยเชื้อสายจีน จะออกไปซื้อของจำเป็น เช่น เนื้อสัตว์ ผลไม้ ขนมมงคล และเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ เพื่อเตรียมตัวสำหรับวันไหว้

    วันไหว้
    29 มกราคม 2568 เป็นวันสำคัญ ที่มีพิธีไหว้ใน 3 ช่วง ได้แก่
    - ช่วงเช้ามืด ไหว้เทพเจ้า เช่น เทพเจ้าผู้คุ้มครอง
    - ช่วงสาย ไหว้บรรพบุรุษ โดยมีอาหารที่ผู้ล่วงลับเคยชอบ เช่น หมู เป็ด ไก่ และขนมเข่ง
    - ช่วงบ่าย ไหว้ “ฮ่อเฮียตี๋” (วิญญาณพี่น้องที่ล่วงลับ) พร้อมจุดประทัดเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

    วันเที่ยว
    30 มกราคม 2568 หรือ “วันถือ” เป็นวันที่ชาวจีนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ ออกเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ และมอบส้มสีทอง เป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง 🍊

    คำอวยพรตรุษจีนยอดนิยม
    ในช่วงเทศกาลตรุษจีน การส่งคำอวยพรเป็นสิ่งสำคัญ ที่สื่อถึงความปรารถนาดี ตัวอย่างคำอวยพร ที่ใช้กันบ่อย ได้แก่

    “新正如意 新年發財” (ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย) ขอให้ปีใหม่สมปรารถนาและร่ำรวยมั่งคั่ง
    “恭喜發財” (กงสี่ฟาไฉ) ขอให้ร่ำรวยเงินทอง
    “萬事如意” (ว่านซื่อหรูอี้) ขอให้สมปรารถนาในทุกสิ่ง

    ✨ การใช้ซองอั่งเปา (ซองสีแดง) เพื่อมอบเงินให้กับเด็ก หรือผู้ที่อายุน้อยกว่า ก็เป็นอีกหนึ่งการแสดงความปรารถนาดี

    อาหารมงคลในวันตรุษจีน
    อาหารถือเป็นส่วนสำคัญของตรุษจีน โดยมีเมนูที่มีความหมายมงคล เช่น
    - ปลา (鱼) ความอุดมสมบูรณ์
    - ขนมเข่งและขนมเทียน ความเจริญรุ่งเรือง
    - เกี๊ยว (饺子) ความมั่งคั่ง
    - เส้นหมี่ (长寿面) อายุยืนยาว

    การเลือกรับประทานอาหารเหล่านี้ ไม่ได้เพียงแค่ตามธรรมเนียม แต่ยังเป็นการเสริมสร้างกำลังใจ ในปีใหม่อีกด้วย

    เคล็ดลับเสริมโชคลาภช่วงตรุษจีน
    - ทำความสะอาดบ้านก่อนตรุษจีน เพื่อขจัดโชคร้าย แต่หลีกเลี่ยงการกวาดบ้าน ในวันปีใหม่
    - สวมใส่เสื้อผ้าสีแดง สีแดงถือเป็นสีแห่งความโชคดี
    - งดการพูดคำไม่ดี เพื่อเริ่มต้นปีใหม่อย่างเป็นมงคล
    - มอบส้มสีทอง เป็นการส่งมอบความมั่งคั่งให้แก่กัน

    ตรุษจีนปี 2568 ไม่ได้เป็นเพียงเทศกาล สำหรับชาวจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ทุกคน สามารถมีส่วนร่วมในประเพณี ที่เต็มไปด้วยสีสัน และความหมายดี ๆ ลองร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ ด้วยการเรียนรู้ และเข้าใจวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ เพื่อเสริมสร้างความสุข และความมั่งคั่งให้กับตนเอง และครอบครัว

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281035 ม.ค. 2568

    #ตรุษจีน2568 #新正如意新年發財 #ChineseNewYear2025 #เทศกาลตรุษจีน #ประเพณีจีน #ตรุษจีนไทย #คำอวยพรตรุษจีน #อั่งเปา #อาหารมงคลตรุษจีน #โชคลาภตรุษจีน
    27-29 มกราคม 2568 เทศกาลตรุษจีน 新正如意 新年發財 新正如意 新年发财 "ตรุษจีน" หรือ “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ” เป็นวันสำคัญที่ชาวจีนทั่วโลก ต่างเฝ้ารอด้วยความตื่นเต้น และเปี่ยมไปด้วยความสุข ในปีนี้ ตรุษจีนตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ความเป็นสิริมงคล และการรวมตัวของครอบครัว 🌟 ตรุษจีน (Chinese New Year) เป็นเทศกาลที่มีความสำคัญที่สุด ในปฏิทินจีน ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ ตามปฏิทินจันทรคติ โดยเริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 และสิ้นสุดในวันที่ 15 ซึ่งเป็นเทศกาลโคมไฟ ทั้งนี้ ตรุษจีนไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง การเปลี่ยนปีใหม่ แต่ยังเป็นโอกาส ในการแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ การฟื้นฟูความสัมพันธ์ในครอบครัว และการเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ในชีวิต เทศกาลตรุษจีน มีประวัติยาวนานนับพันปี โดยเริ่มต้นจาก ตำนานสัตว์ร้าย “เหนียน” (年) ที่จะออกมาสร้างความหวาดกลัว ให้กับผู้คนทุกปี ชาวบ้านจึงใช้วิธีจุดประทัด และตกแต่งบ้านด้วยสีแดง เพื่อขับไล่ปีศาจร้าย จนกลายมาเป็นประเพณี ที่นิยมปฏิบัติในปัจจุบัน 🎆 ตรุษจีนไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลองปีใหม่ แต่ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้ง เช่น - การเริ่มต้นใหม่ที่ดี การทำความสะอาดบ้าน และตกแต่งด้วยสีแดง เพื่อขจัดโชคร้าย - ความรักและความสัมพันธ์ในครอบครัว การรับประทานอาหารร่วมกัน เป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี - ความมั่งคั่งและโชคลาภ ซองอั่งเปาและการไหว้เจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล ประเพณีตรุษจีนในไทย วันจ่าย 28 มกราคม 2568 คือวันก่อนวันตรุษจีน ชาวไทยเชื้อสายจีน จะออกไปซื้อของจำเป็น เช่น เนื้อสัตว์ ผลไม้ ขนมมงคล และเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ เพื่อเตรียมตัวสำหรับวันไหว้ วันไหว้ 29 มกราคม 2568 เป็นวันสำคัญ ที่มีพิธีไหว้ใน 3 ช่วง ได้แก่ - ช่วงเช้ามืด ไหว้เทพเจ้า เช่น เทพเจ้าผู้คุ้มครอง - ช่วงสาย ไหว้บรรพบุรุษ โดยมีอาหารที่ผู้ล่วงลับเคยชอบ เช่น หมู เป็ด ไก่ และขนมเข่ง - ช่วงบ่าย ไหว้ “ฮ่อเฮียตี๋” (วิญญาณพี่น้องที่ล่วงลับ) พร้อมจุดประทัดเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย วันเที่ยว 30 มกราคม 2568 หรือ “วันถือ” เป็นวันที่ชาวจีนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ ออกเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ และมอบส้มสีทอง เป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง 🍊 คำอวยพรตรุษจีนยอดนิยม ในช่วงเทศกาลตรุษจีน การส่งคำอวยพรเป็นสิ่งสำคัญ ที่สื่อถึงความปรารถนาดี ตัวอย่างคำอวยพร ที่ใช้กันบ่อย ได้แก่ “新正如意 新年發財” (ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย) ขอให้ปีใหม่สมปรารถนาและร่ำรวยมั่งคั่ง “恭喜發財” (กงสี่ฟาไฉ) ขอให้ร่ำรวยเงินทอง “萬事如意” (ว่านซื่อหรูอี้) ขอให้สมปรารถนาในทุกสิ่ง ✨ การใช้ซองอั่งเปา (ซองสีแดง) เพื่อมอบเงินให้กับเด็ก หรือผู้ที่อายุน้อยกว่า ก็เป็นอีกหนึ่งการแสดงความปรารถนาดี อาหารมงคลในวันตรุษจีน อาหารถือเป็นส่วนสำคัญของตรุษจีน โดยมีเมนูที่มีความหมายมงคล เช่น - ปลา (鱼) ความอุดมสมบูรณ์ - ขนมเข่งและขนมเทียน ความเจริญรุ่งเรือง - เกี๊ยว (饺子) ความมั่งคั่ง - เส้นหมี่ (长寿面) อายุยืนยาว การเลือกรับประทานอาหารเหล่านี้ ไม่ได้เพียงแค่ตามธรรมเนียม แต่ยังเป็นการเสริมสร้างกำลังใจ ในปีใหม่อีกด้วย เคล็ดลับเสริมโชคลาภช่วงตรุษจีน - ทำความสะอาดบ้านก่อนตรุษจีน เพื่อขจัดโชคร้าย แต่หลีกเลี่ยงการกวาดบ้าน ในวันปีใหม่ - สวมใส่เสื้อผ้าสีแดง สีแดงถือเป็นสีแห่งความโชคดี - งดการพูดคำไม่ดี เพื่อเริ่มต้นปีใหม่อย่างเป็นมงคล - มอบส้มสีทอง เป็นการส่งมอบความมั่งคั่งให้แก่กัน ตรุษจีนปี 2568 ไม่ได้เป็นเพียงเทศกาล สำหรับชาวจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ทุกคน สามารถมีส่วนร่วมในประเพณี ที่เต็มไปด้วยสีสัน และความหมายดี ๆ ลองร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ ด้วยการเรียนรู้ และเข้าใจวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ เพื่อเสริมสร้างความสุข และความมั่งคั่งให้กับตนเอง และครอบครัว ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281035 ม.ค. 2568 #ตรุษจีน2568 #新正如意新年發財 #ChineseNewYear2025 #เทศกาลตรุษจีน #ประเพณีจีน #ตรุษจีนไทย #คำอวยพรตรุษจีน #อั่งเปา #อาหารมงคลตรุษจีน #โชคลาภตรุษจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 724 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลข 8 มักเชื่อมโยงกับภาพลักษณ์ของนักเลง มาเฟีย มิจฉาชีพ โจร คนเจ้าเล่ห์ และผู้หลอกลวง ซึ่งแสดงถึงพลังงานที่ดึงดูดผู้คนหลากหลาย ทั้งในแง่ดีและไม่ดี..ในทาง จีน เลข 8 คือ เลขรวย เลขเงิน คุณคงได้เห็นหลายธุรกิจ เอาเลข 8 ไปรวมอยู่ในชื่อมากมาย..เช่น เวปพนัน นี่เยอะเลย..เพราะด้วยความที่หมายถึง เงิน..และในบรรดาเลข 0-9 สำหรับคนจีน เลขนี้ ดีที่สุด..ส่วนคนไทย ก็ต้องเลข 9 ดังนั้น ถ้ากลุ่มเลข รวมพวก 6-8-9 ..จะดี..เช่น สมัยก่อนผู้เขียนได้ไป ธ.กรุงเทพ สนง.ใหญ่ พบว่า รถผู้บริหารหลายคัน ใช้ทะเบียน 6868 ...อย่างที่เคยเขียน 6 คือ การเดินทาง 8 คือ เงิน...
    ..ในทางความเชื่อไทย ว่า เป็นเลขราหู ..ส่วนตัวเฉยๆ กับแนวคิดนี้...แต่ขอขยายคำว่า ราหูนิดนึง..ราหูไม่่ใช่ไม่ดี....ในตำราโบราณ อธิบายความไว้ว่า ราห เปรียบดัง โจร ู ถ้าเราสักการะท่าน ท่านจะปล้นจากคนอื่นมาให้เรา..แต่ถ้าเราลบหลู่ ดูถูก ท่านจะปล้นเรา..ไปให้คนอื่น..แทน...

    ข้อดีของเลข 8
    การใช้เลข 8 มีศักยภาพในการดึงดูดโอกาสและผู้คนจำนวนมากเข้ามาในชีวิต ซึ่งอาจส่งเสริมความมั่งคั่งและความสำเร็จ โดยเฉพาะในเชิงธุรกิจหรือการสร้างเครือข่าย เพราะเลขนี้มักเชื่อมโยงกับโชคลาภและการเติบโตทางการเงิน
    ..หละกฐานเขิงประจักษ์ ผู้เขียน เอาเบอร์ 0** 89888*8 ไปให้ลูกสาวใช้...เงินทั้งนั้น งานทั้งนั้น..แต่แบบที่เขียนด้านบนเลย ข้อเสียก็มี...ต้องมีสติ คิดดีๆ อาจถูกชักจูงโดยง่าย.


    เลข 8 มักเชื่อมโยงกับภาพลักษณ์ของนักเลง มาเฟีย มิจฉาชีพ โจร คนเจ้าเล่ห์ และผู้หลอกลวง ซึ่งแสดงถึงพลังงานที่ดึงดูดผู้คนหลากหลาย ทั้งในแง่ดีและไม่ดี..ในทาง จีน เลข 8 คือ เลขรวย เลขเงิน คุณคงได้เห็นหลายธุรกิจ เอาเลข 8 ไปรวมอยู่ในชื่อมากมาย..เช่น เวปพนัน นี่เยอะเลย..เพราะด้วยความที่หมายถึง เงิน..และในบรรดาเลข 0-9 สำหรับคนจีน เลขนี้ ดีที่สุด..ส่วนคนไทย ก็ต้องเลข 9 ดังนั้น ถ้ากลุ่มเลข รวมพวก 6-8-9 ..จะดี..เช่น สมัยก่อนผู้เขียนได้ไป ธ.กรุงเทพ สนง.ใหญ่ พบว่า รถผู้บริหารหลายคัน ใช้ทะเบียน 6868 ...อย่างที่เคยเขียน 6 คือ การเดินทาง 8 คือ เงิน... ..ในทางความเชื่อไทย ว่า เป็นเลขราหู ..ส่วนตัวเฉยๆ กับแนวคิดนี้...แต่ขอขยายคำว่า ราหูนิดนึง..ราหูไม่่ใช่ไม่ดี....ในตำราโบราณ อธิบายความไว้ว่า ราห เปรียบดัง โจร ู ถ้าเราสักการะท่าน ท่านจะปล้นจากคนอื่นมาให้เรา..แต่ถ้าเราลบหลู่ ดูถูก ท่านจะปล้นเรา..ไปให้คนอื่น..แทน... ข้อดีของเลข 8 การใช้เลข 8 มีศักยภาพในการดึงดูดโอกาสและผู้คนจำนวนมากเข้ามาในชีวิต ซึ่งอาจส่งเสริมความมั่งคั่งและความสำเร็จ โดยเฉพาะในเชิงธุรกิจหรือการสร้างเครือข่าย เพราะเลขนี้มักเชื่อมโยงกับโชคลาภและการเติบโตทางการเงิน ..หละกฐานเขิงประจักษ์ ผู้เขียน เอาเบอร์ 0** 89888*8 ไปให้ลูกสาวใช้...เงินทั้งนั้น งานทั้งนั้น..แต่แบบที่เขียนด้านบนเลย ข้อเสียก็มี...ต้องมีสติ คิดดีๆ อาจถูกชักจูงโดยง่าย.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้หากมองว่าสายมโน ก็สามารถพูดไม่ผิดได้,แต่แบงค์ไทยจะว่าไปจริงๆก็ปิดปรับปรุงบ่อยมากๆผิดปกติ นี้8พ.ยบวกลบ2-3วันปรับปรุงก็จะทำกันอีกแล้ว.บางคนก็ว่า CBDCสายมืดของฝ่ายมืด,QFSสายฝ่ายแสงฝ่ายดีพะนะ,บางคนก็บอกว่าเหี้ยพวกเดียวกันหมดนั้นล่ะ เล่นหลอกชาวโลกคนละบริบทเฉยพะนะ,ตรองกันเองเน้อ.(ช่วงนี้มีหุ้นขายหุ้นขายกองทุนทิ้งเน้อ จะติดดอย,มีตังฝากในแบงค์มากๆก็คงเหลือไว้สัก100บาทในแต่ละบัญชีก็พอ เขาคุ้มครองแค่ล้านเดียวเนาะ,ไฟดับ หน่วยความจำระบบเหี้ยทั้งแบงค์ถูกแฮ็กลบเป็นว่างเปล่า ตังเป็นศูนย์บาทจะหนาว,ใครทำเองใครทำให้ก็ได้หมดนะ,จงเชื่อแค่ตัวท่านเองเถอะ)

    ..ได้รับการยืนยันแล้ว! การเปิดตัว QFS กำลังบังคับให้ธนาคารกระจายความมั่งคั่งทันที—ภายในการประชุมลับของชนชั้นสูงธนาคาร!

    ระบบการเงินควอนตัม (QFS) เป็นเครื่องมือปลดปล่อยที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา และกำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการเงินระดับโลกอย่างเป็นความลับ การเปิดตัว QFS นี้เป็นปฏิบัติการลับเพื่อรื้อถอนระบบการเงินที่ทุจริตซึ่งกดขี่ประชาชนมานานหลายทศวรรษ QFS คืออนาคต—ดำเนินการอย่างแม่นยำและเป็นความลับโดยกลุ่มหมวกขาวและพันธมิตรของพวกเขา

    การโอนความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์มาถึงแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บท QFS ภายใต้ GESARA นี่ไม่ใช่แค่การเชื่อมโยงธนาคารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการยึดทรัพย์สมบัติที่ขโมยมาของชนชั้นสูงแล้วส่งคืนให้กับประชาชนอีกด้วย เงินหลายล้านล้านที่ขโมยมาจากการโกหกและการจัดการกำลังจะถูกดึงออกมาจากผู้ทุจริตและส่งคืนให้กับประชาชน

    QFS ซึ่งสอดคล้องกับ GESARA กำลังพลิกโฉมระบบการเงิน เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่กลุ่มคนชั้นสูงได้กักตุนความมั่งคั่งและอำนาจไว้ แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับตาลปัตร ในที่สุดมวลชนก็ได้รับอำนาจ และการผูกขาดของกลุ่มคนระดับโลกกำลังจะสิ้นสุดลง

    ธนาคารทั่วโลกกำลังถูกดึงเข้าสู่ระบบ QFS ด้วยความเร็วที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน นี่ไม่ใช่การอัปเกรดแบบเลือกได้ แต่เป็นความต้องการที่กำลังสั่นคลอนโลกการเงินแบบดั้งเดิม ธนาคารทั้งขนาดใหญ่และเล็กกำลังถูกบูรณาการ ตรวจสอบ และทดสอบ QFS ไม่สนใจสถานะหรือประวัติ แต่จะบังคับใช้การปฏิบัติตามและความซื่อสัตย์อย่างสมบูรณ์

    หลังประตูที่ปิดสนิท เจ้าหน้าที่ธนาคารกำลังตื่นตระหนก ซีอีโอและหัวหน้าฝ่ายการเงินเข้าร่วมการบรรยายสรุปแบบลับ โดยถูกบอกว่าพวกเขาต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน QFS มิฉะนั้นจะถูกตัดขาดจากเศรษฐกิจใหม่ ยุคของการทุจริตระบบ ปกปิดธุรกรรม และโอนเงินเข้าบัญชีลับได้สิ้นสุดลงแล้ว QFS มองเห็นทุกสิ่ง—กำลังบังคับให้มีการตรวจสอบในทุกธุรกรรม
    มีผู้รักชาติและผู้แจ้งเบาะแสที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชี QFS ก่อนกำหนดเป็นรางวัลสำหรับการเปิดโปงระบบเก่า ผู้บุกเบิกเหล่านี้ซึ่งติดอาวุธด้วยสิทธิ์ในการเข้าถึง QFS กำลังเป็นผู้นำในการก้าวเข้าสู่ยุคแห่งอิสรภาพทางการเงิน

    QFS เป็นมากกว่าเทคโนโลยี แต่เป็นการปฏิวัติเพื่อถ่ายโอนอำนาจกลับคืนสู่ประชาชน ระบบเก่าถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนเป็นหนี้และพึ่งพาผู้อื่น แต่ QFS กำลังเขียนสคริปต์นั้นใหม่ เงินของคุณเป็นของคุณเพียงผู้เดียวแล้ว—ได้รับการคุ้มครองจากธนาคาร รัฐบาล และใครก็ตามที่เคยอ้างสิทธิ์เงินนั้น

    แม้ในขณะที่เรากำลังพูดอยู่นี้ ทีมงานลับทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อนำธนาคารเข้ามาอยู่ใน QFS โดยไม่สนใจสื่อเพราะกลุ่มคนชั้นนำไม่ต้องการให้สาธารณชนตระหนักว่าการควบคุมของพวกเขาลดลงอย่างรวดเร็วเพียงใด การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่คุณเห็น ไม่ว่าจะเป็นธนาคารที่ผลักดันการอัปเดตทางดิจิทัล การหยุดให้บริการโดยไม่ทราบสาเหตุ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการบูรณาการ QFS

    ความปลอดภัยของ QFS นั้นไม่มีใครเทียบได้: การเข้ารหัสควอนตัม การเชื่อมโยงบัญชีกับบุคคลโดยใช้ลายเซ็นควอนตัมโดยเฉพาะ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการป้องกันอย่างสมบูรณ์ ไม่มีแฮกเกอร์ รัฐนอกกฎหมาย หรืออาชญากรใดที่จะเจาะระบบได้ ด้วย QFS การควบคุมทางการเงินจะอยู่ที่คุณและคุณเท่านั้น

    อำนาจเก่ากำลังต่อสู้กลับ QFS พร้อมแล้ว สถาบันที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจะถูกอายัดทรัพย์สิน และถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ผู้พิทักษ์เก่ากำลังถูกกำจัดออกไปอย่างเป็นระบบ เหลือเพียงผู้ที่พร้อมจะยอมรับวิสัยทัศน์ของ QFS เกี่ยวกับความรับผิดชอบและความโปร่งใส

    QFS คือแสงนำทางในยุคการเงินยุคใหม่นี้ ที่ซึ่งสกุลเงินทุกหน่วยมีมูลค่าที่แท้จริง นี่คือรุ่งอรุณของระบบที่รับใช้ประชาชน โลกที่เรารู้จักกำลังเปลี่ยนแปลง และอนาคตก็ชัดเจน: QFS อยู่ที่นี่เพื่ออยู่ต่อ

    เข้าร่วมและแชร์ช่องของฉันทันที:
    ⬇️⬇️⬇️⬇️

    เจ้าหญิงไดอาน่า
    ..นี้หากมองว่าสายมโน ก็สามารถพูดไม่ผิดได้,แต่แบงค์ไทยจะว่าไปจริงๆก็ปิดปรับปรุงบ่อยมากๆผิดปกติ นี้8พ.ยบวกลบ2-3วันปรับปรุงก็จะทำกันอีกแล้ว.บางคนก็ว่า CBDCสายมืดของฝ่ายมืด,QFSสายฝ่ายแสงฝ่ายดีพะนะ,บางคนก็บอกว่าเหี้ยพวกเดียวกันหมดนั้นล่ะ เล่นหลอกชาวโลกคนละบริบทเฉยพะนะ,ตรองกันเองเน้อ.(ช่วงนี้มีหุ้นขายหุ้นขายกองทุนทิ้งเน้อ จะติดดอย,มีตังฝากในแบงค์มากๆก็คงเหลือไว้สัก100บาทในแต่ละบัญชีก็พอ เขาคุ้มครองแค่ล้านเดียวเนาะ,ไฟดับ หน่วยความจำระบบเหี้ยทั้งแบงค์ถูกแฮ็กลบเป็นว่างเปล่า ตังเป็นศูนย์บาทจะหนาว,ใครทำเองใครทำให้ก็ได้หมดนะ,จงเชื่อแค่ตัวท่านเองเถอะ) ..ได้รับการยืนยันแล้ว! การเปิดตัว QFS กำลังบังคับให้ธนาคารกระจายความมั่งคั่งทันที—ภายในการประชุมลับของชนชั้นสูงธนาคาร! ระบบการเงินควอนตัม (QFS) เป็นเครื่องมือปลดปล่อยที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา และกำลังเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการเงินระดับโลกอย่างเป็นความลับ การเปิดตัว QFS นี้เป็นปฏิบัติการลับเพื่อรื้อถอนระบบการเงินที่ทุจริตซึ่งกดขี่ประชาชนมานานหลายทศวรรษ QFS คืออนาคต—ดำเนินการอย่างแม่นยำและเป็นความลับโดยกลุ่มหมวกขาวและพันธมิตรของพวกเขา การโอนความมั่งคั่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์มาถึงแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บท QFS ภายใต้ GESARA นี่ไม่ใช่แค่การเชื่อมโยงธนาคารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการยึดทรัพย์สมบัติที่ขโมยมาของชนชั้นสูงแล้วส่งคืนให้กับประชาชนอีกด้วย เงินหลายล้านล้านที่ขโมยมาจากการโกหกและการจัดการกำลังจะถูกดึงออกมาจากผู้ทุจริตและส่งคืนให้กับประชาชน QFS ซึ่งสอดคล้องกับ GESARA กำลังพลิกโฉมระบบการเงิน เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่กลุ่มคนชั้นสูงได้กักตุนความมั่งคั่งและอำนาจไว้ แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับตาลปัตร ในที่สุดมวลชนก็ได้รับอำนาจ และการผูกขาดของกลุ่มคนระดับโลกกำลังจะสิ้นสุดลง ธนาคารทั่วโลกกำลังถูกดึงเข้าสู่ระบบ QFS ด้วยความเร็วที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน นี่ไม่ใช่การอัปเกรดแบบเลือกได้ แต่เป็นความต้องการที่กำลังสั่นคลอนโลกการเงินแบบดั้งเดิม ธนาคารทั้งขนาดใหญ่และเล็กกำลังถูกบูรณาการ ตรวจสอบ และทดสอบ QFS ไม่สนใจสถานะหรือประวัติ แต่จะบังคับใช้การปฏิบัติตามและความซื่อสัตย์อย่างสมบูรณ์ หลังประตูที่ปิดสนิท เจ้าหน้าที่ธนาคารกำลังตื่นตระหนก ซีอีโอและหัวหน้าฝ่ายการเงินเข้าร่วมการบรรยายสรุปแบบลับ โดยถูกบอกว่าพวกเขาต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน QFS มิฉะนั้นจะถูกตัดขาดจากเศรษฐกิจใหม่ ยุคของการทุจริตระบบ ปกปิดธุรกรรม และโอนเงินเข้าบัญชีลับได้สิ้นสุดลงแล้ว QFS มองเห็นทุกสิ่ง—กำลังบังคับให้มีการตรวจสอบในทุกธุรกรรม มีผู้รักชาติและผู้แจ้งเบาะแสที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชี QFS ก่อนกำหนดเป็นรางวัลสำหรับการเปิดโปงระบบเก่า ผู้บุกเบิกเหล่านี้ซึ่งติดอาวุธด้วยสิทธิ์ในการเข้าถึง QFS กำลังเป็นผู้นำในการก้าวเข้าสู่ยุคแห่งอิสรภาพทางการเงิน QFS เป็นมากกว่าเทคโนโลยี แต่เป็นการปฏิวัติเพื่อถ่ายโอนอำนาจกลับคืนสู่ประชาชน ระบบเก่าถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนเป็นหนี้และพึ่งพาผู้อื่น แต่ QFS กำลังเขียนสคริปต์นั้นใหม่ เงินของคุณเป็นของคุณเพียงผู้เดียวแล้ว—ได้รับการคุ้มครองจากธนาคาร รัฐบาล และใครก็ตามที่เคยอ้างสิทธิ์เงินนั้น แม้ในขณะที่เรากำลังพูดอยู่นี้ ทีมงานลับทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อนำธนาคารเข้ามาอยู่ใน QFS โดยไม่สนใจสื่อเพราะกลุ่มคนชั้นนำไม่ต้องการให้สาธารณชนตระหนักว่าการควบคุมของพวกเขาลดลงอย่างรวดเร็วเพียงใด การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่คุณเห็น ไม่ว่าจะเป็นธนาคารที่ผลักดันการอัปเดตทางดิจิทัล การหยุดให้บริการโดยไม่ทราบสาเหตุ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการบูรณาการ QFS ความปลอดภัยของ QFS นั้นไม่มีใครเทียบได้: การเข้ารหัสควอนตัม การเชื่อมโยงบัญชีกับบุคคลโดยใช้ลายเซ็นควอนตัมโดยเฉพาะ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการป้องกันอย่างสมบูรณ์ ไม่มีแฮกเกอร์ รัฐนอกกฎหมาย หรืออาชญากรใดที่จะเจาะระบบได้ ด้วย QFS การควบคุมทางการเงินจะอยู่ที่คุณและคุณเท่านั้น อำนาจเก่ากำลังต่อสู้กลับ QFS พร้อมแล้ว สถาบันที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจะถูกอายัดทรัพย์สิน และถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ผู้พิทักษ์เก่ากำลังถูกกำจัดออกไปอย่างเป็นระบบ เหลือเพียงผู้ที่พร้อมจะยอมรับวิสัยทัศน์ของ QFS เกี่ยวกับความรับผิดชอบและความโปร่งใส QFS คือแสงนำทางในยุคการเงินยุคใหม่นี้ ที่ซึ่งสกุลเงินทุกหน่วยมีมูลค่าที่แท้จริง นี่คือรุ่งอรุณของระบบที่รับใช้ประชาชน โลกที่เรารู้จักกำลังเปลี่ยนแปลง และอนาคตก็ชัดเจน: QFS อยู่ที่นี่เพื่ออยู่ต่อ เข้าร่วมและแชร์ช่องของฉันทันที: ⬇️⬇️⬇️⬇️ เจ้าหญิงไดอาน่า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#เบื้องหลังทำไมชววอินเดียมีหลากสีผิว ตอน 02.🤠

    🤯3. ภายใต้การปกครองอาณานิคมของอังกฤษ🤯

    ในศตวรรษที่ 17 อินเดียได้รับการสนับสนุนจากชาวอังกฤษผิวขาว

    บริเตนเคยเป็นที่รู้จักในนามจักรวรรดิที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดิน เพราะกษัตริย์พระองค์หนึ่งของเขาตรัสว่า ที่ใดดวงอาทิตย์ส่องแสงไปถึง ที่นั่นก็มีที่ดินอยู่ภายใต้เขตอำนาจของอังกฤษ

    โดยผ่านการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกและการปฏิรูปสังคม สหราชอาณาจักรเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเริ่มขยายอาณานิคมไปทั่วโลก

    การขับเคลื่อนเป็นพลังช่วยด้วยสถานะระหว่างประเทศที่เข้มแข็งและการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก อังกฤษเปิดฉากสงครามกับอินเดียครั้งแรกในปี ค.ศ. 1757 ด้วยการใช้ยุทโธปกรณ์ทางทหารขั้นสูงและติดสินบนเจ้าหน้าที่อินเดียด้วยเงินจำนวนมาก อังกฤษจึงเข้ายึดครองแคว้นเบงกอลของอินเดียโดยใช้กองกำลังจำนวนน้อยมาก

    แม้ว่าอินเดียจะเป็นประเทศอารยธรรมโบราณ แต่อยู่ในภาวะแบ่งแยกมาเป็นเวลาช้านานแล้ว โดยมีประเทศเล็กๆ จำนวนมากอยู่ภายในขอบเขตของตน ประเทศเล็กๆ เหล่านี้ยังคงดำเนินกิจการปกครองอย่างเป็นอิสระ และสงครามก็ปะทุขึ้นเป็นครั้งคราว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถรวมพลังเป็นเอกภาพได้เลย

    หลังจากที่เจ้าอาณานิคมอังกฤษเข้าสู่อินเดีย ต่างจากชาวอารยันผู้โหดร้ายรุนแรง ไม่มีการเร่งรีบที่จะรวมชาวอินเดียเข้าด้วยกัน พวกเขากลับไปเยือนประเทศต่างๆ ด้วยทัศนคติที่เป็นมิตร และใช้เส้นทางวิธีแห่งการติดสินบน การแบ่งแยก และการโจมตี

    ในตอนแรกพวกเขาสร้างพันธมิตรกับกองกำลังอินเดียที่ทรงอำนาจมากกว่า จากนั้นเอาชนะกองกำลังอินเดียที่อ่อนแอกว่า และยังคงสร้างความขัดแย้งเพื่อให้กองกำลังอินเดียในท้องถิ่นโจมตีกันเอง ในขณะเดียวกันก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ตามไปด้วยไปด้วย

    ภายใต้ระบบวรรณะดั้งเดิมของอินเดีย ผู้คนในวรรณะ ศูทร จะไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นทหาร ส่งผลให้อินเดียมีกำลังทหารที่อ่อนแอ

    เพื่อเสริมสร้างการปกครองทางทหารในอินเดีย อังกฤษได้ยกเว้นและรวมคนวรรณะ ศูทร เหล่านี้เข้าในกองทัพ เพื่อเพิ่มขนาดของกองทัพ ด้วยความแข็งแกร่งทางศักยภาพการทหารที่เข้มแข็งและวิถีทางทางการเมืองที่ยืดหยุ่น โดยมีบริษัทอินเดียตะวันออกเป็นกำลังหลัก จึงค่อย ๆ รุกล้ำเข้าไปในหลายภูมิภาคในอินเดีย

    จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1858 สหราชอาณาจักรได้จำแนกอินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษโดยสมบูรณ์ ซึ่งใช้เวลาเกือบร้อยปี

    การปกครองอาณานิคมของอังกฤษในอินเดียมีไว้เพื่อพัฒนาทรัพยากรในท้องถิ่นและอำนวยความสะดวกทางการค้าเท่านั้น พวกเขาไม่ต้องการให้ความรู้แก่ประชาชน และไม่ต้องการครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ พวกเขาเพียงแค่สร้างระบบบางอย่างและสร้างสภาพแวดล้อมการค้าขายที่มีคุณภาพสูง

    เนื่องจากอินเดียถูกปกครองโดยชาวอารยัน และจากนั้นก็ถูกพิชิตและปกครองโดยชาวกรีกและมองโกลที่มีอำนาจอย่างต่อเนื่อง กระดูกสันหลังรากเหง้าของชาติเผ่าพันธุ์ถูกทำลายไปนานแล้ว โดยได้ปรับตัวให้เข้ากับการปกครองของอังกฤษอย่างรวดเร็วและไม่มีความรู้สึกต่อต้านเลย

    รวมทั้งเมื่อประกอบกับศาสนาที่หลากหลาย พวกเขาเผยแพร่ลัทธิเวรกรรมของการกลับชาติมาเกิด ทำให้ผู้คนสามารถอดทนต่อความทุกข์ทรมานของชีวิตนี้ได้อย่างมีสติ และตั้งตารอชีวิตที่ไร้สาระและมีความสุขในชีวิตหน้า ผู้คนถูกผูกมัดความคิดที่ต่อต้านจากภายนอกด้วยศาสนาเอาไว้ และไม่สนใจการเมืองที่เป็นอยู่ในมือ ซึ่งก็ไม่ต้องพูดถึงการพัฒนาเศรษฐกิจเลย

    คนผิวขาวส่วนใหญ่ในอินเดียมาจากวรรณะบน และพวกเขามีความเคารพอย่างลึกซึ้งและการเชื่อฟังต่อชาวอังกฤษซึ่งเป็นคนผิวขาวเช่นกัน

    อังกฤษปกครองอินเดียโดยได้รับเครื่องเทศ ยางไม้ น้ำตาล และทรัพยากรอื่นๆ จากอินเดียอย่างง่ายดายและต่อเนื่อง ต่อมาพวกเขาได้พัฒนาอินเดียให้เป็นอุตสาหกรรมและได้รับทรัพยากรทางอุตสาหกรรมจำนวนมาก

    🤯4. จำนวนคนผิวขาวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง🤯

    ด้วยการปกครองของอังกฤษในอินเดียคนผิวขาวเข้ามาในประเทศอินเดียมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดคลื่นลูกใหม่ของคนผิวขาวและเพิ่มการบูรณาการทางเชื้อชาติ

    อาณานิคมของอังกฤษตระหนักดีถึงระบบเชื้อชาติของอินเดีย ซึ่งเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ต่างๆ ละเลยซึ่งกันและกัน และความมั่งคั่งและเสียงส่วนใหญ่อยู่ในมือของคนที่มีวรรณะสูง ตราบใดที่วรรณะบนสนับสนุนการปกครองของตน วรรณะอื่นๆ ก็จะปฏิบัติตาม

    ดังนั้น ในระหว่างการปกครองในอินเดีย ชาวอังกฤษจึงให้การปฏิบัติอันเป็นที่ชื่นชอบแก่คนวรรณะสูงมากมาย และสร้างพันธมิตรที่เป็นมิตรกับพวกเขา

    เพื่อแสดงความเคารพต่อคนวรรณะสูงของอังกฤษ เจ้าหน้าที่อาวุโสของอังกฤษบางคนจะแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียวรรณะสูงเป็นภรรยา ด้วยเหตุนี้จึงบรรลุความร่วมมือกับวรรณะบนและบรรลุผลประโยชน์ที่มากขึ้น

    คนอังกฤษซึ่งฐานะเป็นผู้ปกครองหลังจากเข้าสู่อินเดียจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มวรรณะสูงโดยอัตโนมัติ ผู้สูงศักดิ์อินเดียก็มีความยินดีที่ได้แต่งงานกับพวกเขาเช่นกัน การแต่งงานระหว่างเจ้าหน้าที่อังกฤษและผู้สูงศักดิ์อินเดียในลักษณะนี้ ส่วนผสมของเลือดของชาวอินเดียมีเพิ่มมากขึ้น ช่วยเพิ่มการผสมผสานระหว่างสายเลือดของชาวอินเดียอย่างมาก และยังช่วยยกสถานะของอินเดียนผิวขาวด้วย

    นักธุรกิจชาวอังกฤษผู้มีอิทธิพลบางคนเห็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าและชีวิตความเป็นอยู่ พวกเขาจึงปฏิบัติทำตามและแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียในท้องถิ่นและมีลูกหลาน

    นอกจากนี้ยังมีชาวอังกฤษบางคนที่อาศัยสถานะของตนในฐานะชาวอาณานิคมมีชีวิตในอินเดียแย่มาก จะเลี้ยงดูผู้หญิงอินเดียที่สวยงามไว้บางคน

    แม้ว่าชาวอังกฤษจะเป็นคนผิวขาวเช่นกัน แต่ไม่เหมือนชาวอารยันซึ่งมีความรู้สึกที่แข็งแกร่งเข้มงวดในเรื่องของสายเลือด มองการแต่งงานกับคนอินเดียเป็นการทรยศชั่วร้าย ในทางตรงกันข้าม รู้สึกว่าการแต่งงานกับคนอินเดียเป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรมแบบหนึ่ง

    ในช่วง 200 ปีแห่งการปกครองอาณานิคมของอังกฤษ ชาวอินเดียยังคงผสมกันในสายเลือดกับชาวอังกฤษผิวขาวอยู่ไม่ขาด และเด็กผสมเชื้อชาติผิวขาวจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้น

    อินเดียได้รับความนิยมมากกว่าในประเทศตะวันตก สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าพวกเขาเชื่อว่าชาวอินเดียมีสายเลือดคนผิวขาวอยู่ในร่างกาย จึงมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับพวกเขา

    เนื่องจากมีเชื้อสายยุโรปจึงมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างชาวอินเดียกับผู้คนจากประเทศในเอเชียตะวันออก แม้ว่าผมของพวกเขาจะเป็นสีดำ แต่ใบหน้าของพวกเขามีมิติมากกว่า โดยส่วนใหญ่เป็นสันจมูกตรงและตาโต

    บางครั้งเมื่อคุณเห็นคนผิวขาวในอินเดีย คุณอาจคิดว่าพวกเขาเป็นคนยุโรป แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นเพียงอินเดียวรรณะพราหมณ์และกษัตริย์ที่มีผิวขาวเท่านั้น

    แต่ไม่ใช่ว่าคนผิวขาวทุกคนจะมีวรรณะสูง เด็กลูกผสมบางคนเกิดจากคู่รักชาวอังกฤษและอินเดีย แม้ว่าเด็กเหล่านี้จะเป็นคนผิวขาว แต่ก็เป็นเพียงลูกนอกสมรสชนชั้นต่ำเท่านั้น

    เด็กเชื้อชาติผสมผิวขาววรรณะต่ำเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่มีสิทธิในการรับมรดกตามกฎหมาย แต่ยังถูกเลือกปฏิบัติในสังคมด้วย เนื่องจากการศึกษาที่พวกเขาได้รับแตกต่างจากการศึกษาในท้องถิ่น

    เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง อินเดียประกาศอิสรภาพ และอังกฤษก็ถอนตัวออกจากอินเดีย เด็กอินเดียผิวขาวที่เหลือไม่สามารถกลับไปอังกฤษเพื่อมีอัตลักษณ์ของอังกฤษได้ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมอินเดียซึ่งมีวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เข้มแข็ง มาเป็นแพะรับบาปให้กับอินเดียเพื่อระบายความอัปยศอดสูและความสิ้นหวังในประวัติศาสตร์ของตัวเอง

    โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลมีชีวิตอกำเนิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แม่น้ำแห่งประวัติศาสตร์ที่ทอดยาวไหลไปข้างหน้า การแลกเปลี่ยนและการบูรณาการระหว่างเชื้อชาติไม่เพียงแต่มีด้านที่โหดร้ายเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความมั่งคั่งร่ำรวยและความหลากหลายของอารยธรรมอีกด้วย

    ปัจจุบันอินเดียเป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติรวมเป็นเอกภาพซึ่งคนผิวเหลือง คนผิวดำ และคนผิวขาวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกจะไปที่นั่นเพื่อพัฒนา

    เมื่อเดินไปตามถนนหนทางจะไม่มีใครรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นคนผิวสีต่างๆอีกต่อไป

    แม้ว่าด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ คนผิวขาวส่วนใหญ่ในอินเดียยังคงมีสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดีแต่ผู้คนกลับไม่มองว่าสีผิวเป็นสิ่งซึ่งใช้ในการโอ่อวดอีกต่อไป

    ด้วยความก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องของอารยธรรม ประเพณีพื้นบ้านมีความเป็นอารยะมากขึ้น และทุกคนก็มีสติสัมปชัญญะสำนึกในเหตุผลมากขึ้นพวกเขาไม่ตัดสินคนจากสีผิวอีกต่อไป ผู้คนทุกสีผิวจะต้องทำงานหนักเพื่อที่จะกลายเป็นชนชั้นสูงของสังคม

    ต้องรู้ว่าทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันและไม่สามารถแยกแยะตามสีผิว ชาติพันธุ์ เพศ หรือความเชื่อได้ ควรปฏิบัติต่อทุกสิ่งด้วยทัศนคติที่ไม่แบ่งแยก

    🥳โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#เบื้องหลังทำไมชววอินเดียมีหลากสีผิว ตอน 02.🤠 🤯3. ภายใต้การปกครองอาณานิคมของอังกฤษ🤯 ในศตวรรษที่ 17 อินเดียได้รับการสนับสนุนจากชาวอังกฤษผิวขาว บริเตนเคยเป็นที่รู้จักในนามจักรวรรดิที่ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดิน เพราะกษัตริย์พระองค์หนึ่งของเขาตรัสว่า ที่ใดดวงอาทิตย์ส่องแสงไปถึง ที่นั่นก็มีที่ดินอยู่ภายใต้เขตอำนาจของอังกฤษ โดยผ่านการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรกและการปฏิรูปสังคม สหราชอาณาจักรเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก และเริ่มขยายอาณานิคมไปทั่วโลก การขับเคลื่อนเป็นพลังช่วยด้วยสถานะระหว่างประเทศที่เข้มแข็งและการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งแรก อังกฤษเปิดฉากสงครามกับอินเดียครั้งแรกในปี ค.ศ. 1757 ด้วยการใช้ยุทโธปกรณ์ทางทหารขั้นสูงและติดสินบนเจ้าหน้าที่อินเดียด้วยเงินจำนวนมาก อังกฤษจึงเข้ายึดครองแคว้นเบงกอลของอินเดียโดยใช้กองกำลังจำนวนน้อยมาก แม้ว่าอินเดียจะเป็นประเทศอารยธรรมโบราณ แต่อยู่ในภาวะแบ่งแยกมาเป็นเวลาช้านานแล้ว โดยมีประเทศเล็กๆ จำนวนมากอยู่ภายในขอบเขตของตน ประเทศเล็กๆ เหล่านี้ยังคงดำเนินกิจการปกครองอย่างเป็นอิสระ และสงครามก็ปะทุขึ้นเป็นครั้งคราว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถรวมพลังเป็นเอกภาพได้เลย หลังจากที่เจ้าอาณานิคมอังกฤษเข้าสู่อินเดีย ต่างจากชาวอารยันผู้โหดร้ายรุนแรง ไม่มีการเร่งรีบที่จะรวมชาวอินเดียเข้าด้วยกัน พวกเขากลับไปเยือนประเทศต่างๆ ด้วยทัศนคติที่เป็นมิตร และใช้เส้นทางวิธีแห่งการติดสินบน การแบ่งแยก และการโจมตี ในตอนแรกพวกเขาสร้างพันธมิตรกับกองกำลังอินเดียที่ทรงอำนาจมากกว่า จากนั้นเอาชนะกองกำลังอินเดียที่อ่อนแอกว่า และยังคงสร้างความขัดแย้งเพื่อให้กองกำลังอินเดียในท้องถิ่นโจมตีกันเอง ในขณะเดียวกันก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ตามไปด้วยไปด้วย ภายใต้ระบบวรรณะดั้งเดิมของอินเดีย ผู้คนในวรรณะ ศูทร จะไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นทหาร ส่งผลให้อินเดียมีกำลังทหารที่อ่อนแอ เพื่อเสริมสร้างการปกครองทางทหารในอินเดีย อังกฤษได้ยกเว้นและรวมคนวรรณะ ศูทร เหล่านี้เข้าในกองทัพ เพื่อเพิ่มขนาดของกองทัพ ด้วยความแข็งแกร่งทางศักยภาพการทหารที่เข้มแข็งและวิถีทางทางการเมืองที่ยืดหยุ่น โดยมีบริษัทอินเดียตะวันออกเป็นกำลังหลัก จึงค่อย ๆ รุกล้ำเข้าไปในหลายภูมิภาคในอินเดีย จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1858 สหราชอาณาจักรได้จำแนกอินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษโดยสมบูรณ์ ซึ่งใช้เวลาเกือบร้อยปี การปกครองอาณานิคมของอังกฤษในอินเดียมีไว้เพื่อพัฒนาทรัพยากรในท้องถิ่นและอำนวยความสะดวกทางการค้าเท่านั้น พวกเขาไม่ต้องการให้ความรู้แก่ประชาชน และไม่ต้องการครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่ พวกเขาเพียงแค่สร้างระบบบางอย่างและสร้างสภาพแวดล้อมการค้าขายที่มีคุณภาพสูง เนื่องจากอินเดียถูกปกครองโดยชาวอารยัน และจากนั้นก็ถูกพิชิตและปกครองโดยชาวกรีกและมองโกลที่มีอำนาจอย่างต่อเนื่อง กระดูกสันหลังรากเหง้าของชาติเผ่าพันธุ์ถูกทำลายไปนานแล้ว โดยได้ปรับตัวให้เข้ากับการปกครองของอังกฤษอย่างรวดเร็วและไม่มีความรู้สึกต่อต้านเลย รวมทั้งเมื่อประกอบกับศาสนาที่หลากหลาย พวกเขาเผยแพร่ลัทธิเวรกรรมของการกลับชาติมาเกิด ทำให้ผู้คนสามารถอดทนต่อความทุกข์ทรมานของชีวิตนี้ได้อย่างมีสติ และตั้งตารอชีวิตที่ไร้สาระและมีความสุขในชีวิตหน้า ผู้คนถูกผูกมัดความคิดที่ต่อต้านจากภายนอกด้วยศาสนาเอาไว้ และไม่สนใจการเมืองที่เป็นอยู่ในมือ ซึ่งก็ไม่ต้องพูดถึงการพัฒนาเศรษฐกิจเลย คนผิวขาวส่วนใหญ่ในอินเดียมาจากวรรณะบน และพวกเขามีความเคารพอย่างลึกซึ้งและการเชื่อฟังต่อชาวอังกฤษซึ่งเป็นคนผิวขาวเช่นกัน อังกฤษปกครองอินเดียโดยได้รับเครื่องเทศ ยางไม้ น้ำตาล และทรัพยากรอื่นๆ จากอินเดียอย่างง่ายดายและต่อเนื่อง ต่อมาพวกเขาได้พัฒนาอินเดียให้เป็นอุตสาหกรรมและได้รับทรัพยากรทางอุตสาหกรรมจำนวนมาก 🤯4. จำนวนคนผิวขาวยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง🤯 ด้วยการปกครองของอังกฤษในอินเดียคนผิวขาวเข้ามาในประเทศอินเดียมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดคลื่นลูกใหม่ของคนผิวขาวและเพิ่มการบูรณาการทางเชื้อชาติ อาณานิคมของอังกฤษตระหนักดีถึงระบบเชื้อชาติของอินเดีย ซึ่งเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ต่างๆ ละเลยซึ่งกันและกัน และความมั่งคั่งและเสียงส่วนใหญ่อยู่ในมือของคนที่มีวรรณะสูง ตราบใดที่วรรณะบนสนับสนุนการปกครองของตน วรรณะอื่นๆ ก็จะปฏิบัติตาม ดังนั้น ในระหว่างการปกครองในอินเดีย ชาวอังกฤษจึงให้การปฏิบัติอันเป็นที่ชื่นชอบแก่คนวรรณะสูงมากมาย และสร้างพันธมิตรที่เป็นมิตรกับพวกเขา เพื่อแสดงความเคารพต่อคนวรรณะสูงของอังกฤษ เจ้าหน้าที่อาวุโสของอังกฤษบางคนจะแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียวรรณะสูงเป็นภรรยา ด้วยเหตุนี้จึงบรรลุความร่วมมือกับวรรณะบนและบรรลุผลประโยชน์ที่มากขึ้น คนอังกฤษซึ่งฐานะเป็นผู้ปกครองหลังจากเข้าสู่อินเดียจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มวรรณะสูงโดยอัตโนมัติ ผู้สูงศักดิ์อินเดียก็มีความยินดีที่ได้แต่งงานกับพวกเขาเช่นกัน การแต่งงานระหว่างเจ้าหน้าที่อังกฤษและผู้สูงศักดิ์อินเดียในลักษณะนี้ ส่วนผสมของเลือดของชาวอินเดียมีเพิ่มมากขึ้น ช่วยเพิ่มการผสมผสานระหว่างสายเลือดของชาวอินเดียอย่างมาก และยังช่วยยกสถานะของอินเดียนผิวขาวด้วย นักธุรกิจชาวอังกฤษผู้มีอิทธิพลบางคนเห็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าและชีวิตความเป็นอยู่ พวกเขาจึงปฏิบัติทำตามและแต่งงานกับผู้หญิงอินเดียในท้องถิ่นและมีลูกหลาน นอกจากนี้ยังมีชาวอังกฤษบางคนที่อาศัยสถานะของตนในฐานะชาวอาณานิคมมีชีวิตในอินเดียแย่มาก จะเลี้ยงดูผู้หญิงอินเดียที่สวยงามไว้บางคน แม้ว่าชาวอังกฤษจะเป็นคนผิวขาวเช่นกัน แต่ไม่เหมือนชาวอารยันซึ่งมีความรู้สึกที่แข็งแกร่งเข้มงวดในเรื่องของสายเลือด มองการแต่งงานกับคนอินเดียเป็นการทรยศชั่วร้าย ในทางตรงกันข้าม รู้สึกว่าการแต่งงานกับคนอินเดียเป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรมแบบหนึ่ง ในช่วง 200 ปีแห่งการปกครองอาณานิคมของอังกฤษ ชาวอินเดียยังคงผสมกันในสายเลือดกับชาวอังกฤษผิวขาวอยู่ไม่ขาด และเด็กผสมเชื้อชาติผิวขาวจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้น อินเดียได้รับความนิยมมากกว่าในประเทศตะวันตก สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าพวกเขาเชื่อว่าชาวอินเดียมีสายเลือดคนผิวขาวอยู่ในร่างกาย จึงมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับพวกเขา เนื่องจากมีเชื้อสายยุโรปจึงมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างชาวอินเดียกับผู้คนจากประเทศในเอเชียตะวันออก แม้ว่าผมของพวกเขาจะเป็นสีดำ แต่ใบหน้าของพวกเขามีมิติมากกว่า โดยส่วนใหญ่เป็นสันจมูกตรงและตาโต บางครั้งเมื่อคุณเห็นคนผิวขาวในอินเดีย คุณอาจคิดว่าพวกเขาเป็นคนยุโรป แต่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นเพียงอินเดียวรรณะพราหมณ์และกษัตริย์ที่มีผิวขาวเท่านั้น แต่ไม่ใช่ว่าคนผิวขาวทุกคนจะมีวรรณะสูง เด็กลูกผสมบางคนเกิดจากคู่รักชาวอังกฤษและอินเดีย แม้ว่าเด็กเหล่านี้จะเป็นคนผิวขาว แต่ก็เป็นเพียงลูกนอกสมรสชนชั้นต่ำเท่านั้น เด็กเชื้อชาติผสมผิวขาววรรณะต่ำเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไม่มีสิทธิในการรับมรดกตามกฎหมาย แต่ยังถูกเลือกปฏิบัติในสังคมด้วย เนื่องจากการศึกษาที่พวกเขาได้รับแตกต่างจากการศึกษาในท้องถิ่น เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง อินเดียประกาศอิสรภาพ และอังกฤษก็ถอนตัวออกจากอินเดีย เด็กอินเดียผิวขาวที่เหลือไม่สามารถกลับไปอังกฤษเพื่อมีอัตลักษณ์ของอังกฤษได้ และไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมอินเดียซึ่งมีวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เข้มแข็ง มาเป็นแพะรับบาปให้กับอินเดียเพื่อระบายความอัปยศอดสูและความสิ้นหวังในประวัติศาสตร์ของตัวเอง โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลมีชีวิตอกำเนิดขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แม่น้ำแห่งประวัติศาสตร์ที่ทอดยาวไหลไปข้างหน้า การแลกเปลี่ยนและการบูรณาการระหว่างเชื้อชาติไม่เพียงแต่มีด้านที่โหดร้ายเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความมั่งคั่งร่ำรวยและความหลากหลายของอารยธรรมอีกด้วย ปัจจุบันอินเดียเป็นประเทศที่มีหลายเชื้อชาติรวมเป็นเอกภาพซึ่งคนผิวเหลือง คนผิวดำ และคนผิวขาวจำนวนมากจากทั่วทุกมุมโลกจะไปที่นั่นเพื่อพัฒนา เมื่อเดินไปตามถนนหนทางจะไม่มีใครรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นคนผิวสีต่างๆอีกต่อไป แม้ว่าด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ คนผิวขาวส่วนใหญ่ในอินเดียยังคงมีสภาพเศรษฐกิจที่ค่อนข้างดีแต่ผู้คนกลับไม่มองว่าสีผิวเป็นสิ่งซึ่งใช้ในการโอ่อวดอีกต่อไป ด้วยความก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องของอารยธรรม ประเพณีพื้นบ้านมีความเป็นอารยะมากขึ้น และทุกคนก็มีสติสัมปชัญญะสำนึกในเหตุผลมากขึ้นพวกเขาไม่ตัดสินคนจากสีผิวอีกต่อไป ผู้คนทุกสีผิวจะต้องทำงานหนักเพื่อที่จะกลายเป็นชนชั้นสูงของสังคม ต้องรู้ว่าทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันและไม่สามารถแยกแยะตามสีผิว ชาติพันธุ์ เพศ หรือความเชื่อได้ ควรปฏิบัติต่อทุกสิ่งด้วยทัศนคติที่ไม่แบ่งแยก 🥳โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 649 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประสบการณ์สายมู: พระตรีมูรติและวัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก)

    ผมได้มีโอกาสสักการะพระตรีมูรติที่ศาลพระตรีมูรติ หน้าตึก Empire Tower เป็นครั้งแรก บอกเลยว่าประทับใจมาก! 🙏✨


    เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณศาล รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกที่ต่างจากความวุ่นวายของถนน #สาทร กลับกลายเป็นความสงบ มีกลิ่นธูปหอมๆ ลอยมาแตะจมูก ทำให้จิตใจผ่อนคลายอย่างมาก ได้กราบไหว้และ #ขอพร ทั้งพระพรหม พระนารายณ์ และพระศิวะ ซึ่งรวมอยู่ในร่างของพระตรีมูรติ ขอโชคลาภทั้งในเรื่องงาน เงิน และความรัก 😆 


    สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความสบายใจและกำลังใจเพิ่มขึ้น เหมือนมีพลังบวกเติมเต็มหัวใจ ❤️


    หลังจากสักการะพระตรีมูรติที่ตึก Empire Tower เสร็จ ก็ไปเติม #พลังศรัทธา ต่อที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่รู้จักกันในนาม "วัดแขก“ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือน 😁 ที่นี่ได้กราบไหว้องค์เทพสำคัญในศาสนาฮินดูหลายองค์


    🔹 พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ เทพสูงสุดที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง รักษา และทำลายล้าง

    🔹 พระพิฆเนศ เทพแห่ง #การขจัดอุปสรรค
    🔹 พระนางลักษมี เทพีแห่ง #ความมั่งคั่งและ #โชคลาภ
    🔹 พระนางอุมาเทวี (มเหสีของพระศิวะ) เทพีแห่ง #พลังอำนาจ

    การขอพรครั้งนี้ครอบคลุมทั้งการเงิน การงาน และความรัก ขอให้ชีวิตราบรื่นและประสบความสำเร็จในทุกด้าน 💖💼💰

    
รู้สึกอิ่มเอมใจ มีพลังบวกเต็มเปี่ยม พร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น! ใครที่มีเวลาว่าง แนะนำให้ลองแวะมากันนะ อาจจะได้พบกับความสงบและพลังศรัทธาที่จะช่วยเสริมพลังใจให้เราก้าวต่อไป 💪🌟


    ถ้าคุณชอบเนื้อหาแบบนี้ อย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่พลาดการอัปเดตประสบการณ์ดีๆ ที่จะช่วยเติมพลังใจให้คุณได้ทุกวัน! 🌈✨

    #ความศรัทธา #เสริมดวง
    ประสบการณ์สายมู: พระตรีมูรติและวัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก) ผมได้มีโอกาสสักการะพระตรีมูรติที่ศาลพระตรีมูรติ หน้าตึก Empire Tower เป็นครั้งแรก บอกเลยว่าประทับใจมาก! 🙏✨
 เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณศาล รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกที่ต่างจากความวุ่นวายของถนน #สาทร กลับกลายเป็นความสงบ มีกลิ่นธูปหอมๆ ลอยมาแตะจมูก ทำให้จิตใจผ่อนคลายอย่างมาก ได้กราบไหว้และ #ขอพร ทั้งพระพรหม พระนารายณ์ และพระศิวะ ซึ่งรวมอยู่ในร่างของพระตรีมูรติ ขอโชคลาภทั้งในเรื่องงาน เงิน และความรัก 😆 
 สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความสบายใจและกำลังใจเพิ่มขึ้น เหมือนมีพลังบวกเติมเต็มหัวใจ ❤️
 หลังจากสักการะพระตรีมูรติที่ตึก Empire Tower เสร็จ ก็ไปเติม #พลังศรัทธา ต่อที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่รู้จักกันในนาม "วัดแขก“ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือน 😁 ที่นี่ได้กราบไหว้องค์เทพสำคัญในศาสนาฮินดูหลายองค์
 🔹 พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ เทพสูงสุดที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง รักษา และทำลายล้าง
 🔹 พระพิฆเนศ เทพแห่ง #การขจัดอุปสรรค 🔹 พระนางลักษมี เทพีแห่ง #ความมั่งคั่งและ #โชคลาภ
 🔹 พระนางอุมาเทวี (มเหสีของพระศิวะ) เทพีแห่ง #พลังอำนาจ การขอพรครั้งนี้ครอบคลุมทั้งการเงิน การงาน และความรัก ขอให้ชีวิตราบรื่นและประสบความสำเร็จในทุกด้าน 💖💼💰 
รู้สึกอิ่มเอมใจ มีพลังบวกเต็มเปี่ยม พร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น! ใครที่มีเวลาว่าง แนะนำให้ลองแวะมากันนะ อาจจะได้พบกับความสงบและพลังศรัทธาที่จะช่วยเสริมพลังใจให้เราก้าวต่อไป 💪🌟
 ถ้าคุณชอบเนื้อหาแบบนี้ อย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่พลาดการอัปเดตประสบการณ์ดีๆ ที่จะช่วยเติมพลังใจให้คุณได้ทุกวัน! 🌈✨ 
#ความศรัทธา #เสริมดวง

    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 910 มุมมอง 0 รีวิว