• ทรัมป์ต้องการใช้คริปโตล้างหนี้สหรัฐ พร้อมปฏิวัติระบบการเงินโลก : คนเคาะข่าว 11-03-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    #ทรัมป์ #คริปโต #ล้างหนี้สหรัฐ #ปฏิวัติการเงินโลก #Bitcoin #CBDC #ดอลลาร์ดิจิทัล #เศรษฐกิจโลก #คนเคาะข่าว #ข่าวต่างประเทศ #Geopolitics #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #ทนงขันทอง #คริปโตเคอเรนซี #Blockchain #การเงินโลก #ThaiTimes
    ทรัมป์ต้องการใช้คริปโตล้างหนี้สหรัฐ พร้อมปฏิวัติระบบการเงินโลก : คนเคาะข่าว 11-03-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #ทรัมป์ #คริปโต #ล้างหนี้สหรัฐ #ปฏิวัติการเงินโลก #Bitcoin #CBDC #ดอลลาร์ดิจิทัล #เศรษฐกิจโลก #คนเคาะข่าว #ข่าวต่างประเทศ #Geopolitics #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #ทนงขันทอง #คริปโตเคอเรนซี #Blockchain #การเงินโลก #ThaiTimes
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Kaspersky พบว่ามีการแพร่กระจายโปรแกรม SilentCryptoMiner ซึ่งเป็นมัลแวร์ขุดคริปโตผ่านวิธีนี้ โดยผู้โจมตีมักอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือผู้พัฒนาเครื่องมือ และหลอกให้ยูทูบเบอร์ ผู้สร้างเนื้อหาโดยเฉพาะในรัสเซียตกเป็นเป้าหมายหลักของแคมเปญนี้ แปะลิงก์ของโปรแกรมในวิดีโอของพวกเขา ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือมีการดาวน์โหลดมัลแวร์นี้ไปแล้วกว่า 40,000 ครั้ง ก่อนที่เนื้อหานั้นจะถูกลบ

    https://www.techradar.com/pro/security/youtubers-targeted-by-blackmail-campaign-to-promote-malware-on-their-channels
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Kaspersky พบว่ามีการแพร่กระจายโปรแกรม SilentCryptoMiner ซึ่งเป็นมัลแวร์ขุดคริปโตผ่านวิธีนี้ โดยผู้โจมตีมักอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือผู้พัฒนาเครื่องมือ และหลอกให้ยูทูบเบอร์ ผู้สร้างเนื้อหาโดยเฉพาะในรัสเซียตกเป็นเป้าหมายหลักของแคมเปญนี้ แปะลิงก์ของโปรแกรมในวิดีโอของพวกเขา ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือมีการดาวน์โหลดมัลแวร์นี้ไปแล้วกว่า 40,000 ครั้ง ก่อนที่เนื้อหานั้นจะถูกลบ https://www.techradar.com/pro/security/youtubers-targeted-by-blackmail-campaign-to-promote-malware-on-their-channels
    WWW.TECHRADAR.COM
    YouTubers targeted by blackmail campaign to promote malware on their channels
    Hackers are blackmailing YouTube creators into sharing a cryptominer
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทาง Singapore Exchange (SGX) กำลังวางแผนเปิดตัว Bitcoin Perpetual Futures ซึ่งเป็นฟิวเจอร์สชนิดหนึ่งที่ไม่มีวันหมดอายุในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเป้าหมายหลักคือกลุ่มลูกค้าสถาบันและนักลงทุนระดับมืออาชีพ ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดสกุลเงินดิจิทัลสำหรับนักลงทุนกลุ่มนี้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ฟิวเจอร์สดังกล่าวจะจำกัดการเข้าถึงสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย เพื่อควบคุมความเสี่ยงและความผันผวนในตลาด

    การเปิดตัวฟิวเจอร์สตัวใหม่นี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญสำหรับตลาดสกุลเงินดิจิทัลในเอเชีย และเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การพัฒนาของ SGX ในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาด

    Bitcoin Perpetual Futures คือเครื่องมือการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในกรณีที่ราคาของ Bitcoin ขึ้นหรือลง โดยไม่ต้องกังวลกับวันหมดอายุของสัญญา แต่ต้องอาศัยการจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบเนื่องจากความผันผวนสูง หากประสบความสำเร็จ การเปิดตัวฟิวเจอร์สนี้อาจช่วยให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในกลุ่มนักลงทุนสถาบัน อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างฐานการเงินของ SGX ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    การจำกัดให้เฉพาะนักลงทุนสถาบันแสดงถึงความพยายามของ SGX ในการบริหารความเสี่ยงในตลาดที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เช่น ตลาดคริปโต ความเคลื่อนไหวนี้อาจจุดประกายให้ตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียเริ่มต้นพิจารณาและพัฒนาผลิตภัณฑ์สกุลเงินดิจิทัลที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดโดยรวม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/10/singapore-exchange-to-roll-out-open-ended-bitcoin-futures-listing-bloomberg-reports
    ทาง Singapore Exchange (SGX) กำลังวางแผนเปิดตัว Bitcoin Perpetual Futures ซึ่งเป็นฟิวเจอร์สชนิดหนึ่งที่ไม่มีวันหมดอายุในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยเป้าหมายหลักคือกลุ่มลูกค้าสถาบันและนักลงทุนระดับมืออาชีพ ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดสกุลเงินดิจิทัลสำหรับนักลงทุนกลุ่มนี้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ฟิวเจอร์สดังกล่าวจะจำกัดการเข้าถึงสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย เพื่อควบคุมความเสี่ยงและความผันผวนในตลาด การเปิดตัวฟิวเจอร์สตัวใหม่นี้ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญสำหรับตลาดสกุลเงินดิจิทัลในเอเชีย และเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การพัฒนาของ SGX ในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาด Bitcoin Perpetual Futures คือเครื่องมือการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ทั้งในกรณีที่ราคาของ Bitcoin ขึ้นหรือลง โดยไม่ต้องกังวลกับวันหมดอายุของสัญญา แต่ต้องอาศัยการจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบเนื่องจากความผันผวนสูง หากประสบความสำเร็จ การเปิดตัวฟิวเจอร์สนี้อาจช่วยให้ตลาดสกุลเงินดิจิทัลมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในกลุ่มนักลงทุนสถาบัน อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างฐานการเงินของ SGX ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การจำกัดให้เฉพาะนักลงทุนสถาบันแสดงถึงความพยายามของ SGX ในการบริหารความเสี่ยงในตลาดที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง เช่น ตลาดคริปโต ความเคลื่อนไหวนี้อาจจุดประกายให้ตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียเริ่มต้นพิจารณาและพัฒนาผลิตภัณฑ์สกุลเงินดิจิทัลที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดโดยรวม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/10/singapore-exchange-to-roll-out-open-ended-bitcoin-futures-listing-bloomberg-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Singapore Exchange to roll out open-ended bitcoin futures listing, Bloomberg reports
    (Reuters) - The Singapore Exchange plans to list bitcoin perpetual futures in the second half of 2025, targeting institutional clients and professional investors, Bloomberg News reported on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักตรวจการธนาคารสหรัฐฯ (OCC) ประกาศว่า ธนาคารในสหรัฐฯ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตบางประเภทได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากผู้กำกับดูแล การประกาศนี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและช่วยให้การดำเนินการธนาคารมีความชัดเจนและมั่นคง

    ธนาคารสามารถเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตได้ เช่น การเก็บรักษาทรัพย์สินคริปโต (crypto-asset custody) การทำกิจกรรมกับ stablecoin และการเข้าร่วมในเครือข่ายบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (distributed ledger networks) นอกจากนี้ การประกาศนี้ยกเลิกแนวทางที่เคยกำหนดให้ธนาคารต้องแสดงความพร้อมในการจัดการความเสี่ยงก่อนเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต

    Rodney Hood ผู้ตรวจการธนาคารสหรัฐฯ กล่าวว่า แนวทางใหม่นี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต และทำให้การดำเนินงานของธนาคารมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

    การประกาศในครั้งนี้มีการยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลที่ออกในยุคประธานาธิบดี Joe Biden ที่กำหนดให้ธนาคารต้องรายงานการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและแสดงวิธีการจัดการความเสี่ยงก่อน โดยทาง OCC ยังได้ถอนตัวจากแถลงการณ์ร่วมกับผู้กำกับดูแลของสหรัฐฯ ที่เคยเตือนธนาคารเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต เช่น ความผันผวนที่สูงของตลาดคริปโต

    การประกาศนี้มีผลให้ธนาคารมีความคล่องตัวในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตมากขึ้น และลดความยุ่งยากในการดำเนินการ แต่ยังคงต้องมีมาตรการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลให้ธนาคารสามารถนำนวัตกรรมทางการเงินเข้ามาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น

    การประกาศนี้เกิดขึ้นในวันที่ทำเนียบขาวจัดการประชุมสุดยอดคริปโต และประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารสร้างทุนสำรองเชิงกลยุทธ์สำหรับบิตคอยน์และคริปโตอื่น ๆ การยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลเก่าช่วยเพิ่มความมั่นใจในตลาดคริปโต ซึ่งเป็นผลดีต่อนักลงทุนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในสหรัฐฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/08/us-bank-regulator-reaffirms-banks-can-engage-in-some-crypto-activities
    สำนักตรวจการธนาคารสหรัฐฯ (OCC) ประกาศว่า ธนาคารในสหรัฐฯ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตบางประเภทได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากผู้กำกับดูแล การประกาศนี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและช่วยให้การดำเนินการธนาคารมีความชัดเจนและมั่นคง ธนาคารสามารถเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตได้ เช่น การเก็บรักษาทรัพย์สินคริปโต (crypto-asset custody) การทำกิจกรรมกับ stablecoin และการเข้าร่วมในเครือข่ายบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (distributed ledger networks) นอกจากนี้ การประกาศนี้ยกเลิกแนวทางที่เคยกำหนดให้ธนาคารต้องแสดงความพร้อมในการจัดการความเสี่ยงก่อนเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต Rodney Hood ผู้ตรวจการธนาคารสหรัฐฯ กล่าวว่า แนวทางใหม่นี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต และทำให้การดำเนินงานของธนาคารมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย การประกาศในครั้งนี้มีการยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลที่ออกในยุคประธานาธิบดี Joe Biden ที่กำหนดให้ธนาคารต้องรายงานการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและแสดงวิธีการจัดการความเสี่ยงก่อน โดยทาง OCC ยังได้ถอนตัวจากแถลงการณ์ร่วมกับผู้กำกับดูแลของสหรัฐฯ ที่เคยเตือนธนาคารเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต เช่น ความผันผวนที่สูงของตลาดคริปโต การประกาศนี้มีผลให้ธนาคารมีความคล่องตัวในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตมากขึ้น และลดความยุ่งยากในการดำเนินการ แต่ยังคงต้องมีมาตรการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลให้ธนาคารสามารถนำนวัตกรรมทางการเงินเข้ามาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น การประกาศนี้เกิดขึ้นในวันที่ทำเนียบขาวจัดการประชุมสุดยอดคริปโต และประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารสร้างทุนสำรองเชิงกลยุทธ์สำหรับบิตคอยน์และคริปโตอื่น ๆ การยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลเก่าช่วยเพิ่มความมั่นใจในตลาดคริปโต ซึ่งเป็นผลดีต่อนักลงทุนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในสหรัฐฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/08/us-bank-regulator-reaffirms-banks-can-engage-in-some-crypto-activities
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US regulator clears path for banks to engage in some crypto activities
    WASHINGTON (Reuters) -The U.S. regulator overseeing national banks clarified Friday that banks can engage in some crypto activities, and removed expectations firms should receive advance permission from regulators before doing so.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมนักวิจัยจาก Nisos ได้เผยแพร่รายงานที่น่าตกใจเกี่ยวกับเครือข่ายของแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่กำลังปลอมแปลงตัวตนเพื่อสมัครงานในบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้งในเอเชียและตะวันตก การกระทำนี้มุ่งเน้นหารายได้เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของรัฐบาลเกาหลีเหนือ

    วิธีการที่แฮกเกอร์ใช้
    1) สร้างตัวตนปลอม: แฮกเกอร์ใช้ GitHub และเนื้อหาผลงานจากบัญชีเก่าเพื่อสร้างโปรไฟล์ที่ดูเหมือนจริง
    2) เทคนิคการปลอมแปลง: ใช้รูปภาพที่ผ่านการตัดต่อ (Photoshop) และโปรไฟล์ที่ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าสงสัย
    3) การสมัครงานในบริษัทเล็ก: เป้าหมายคือบริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน ทำให้ง่ายต่อการแทรกซึมข้อมูล

    การจ้างงานช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบภายในของบริษัท เป้าหมายไม่เพียงแค่ขโมยข้อมูลที่สำคัญ แต่ยังรวมถึงเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮกเกอร์กลุ่มนี้มุ่งเน้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีประวัติการโจรกรรมครั้งใหญ่ในวงการนี้

    แม้จะไม่สามารถระบุตัวตนได้แน่นอน แต่พฤติกรรมและรูปแบบการโจมตีที่แสดงออกมามีลักษณะใกล้เคียงกับกลุ่ม Lazarus ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ และเคยเกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยมัลแวร์และการสร้างบริษัทปลอมเพื่อหลอกลวงนักพัฒนาซอฟต์แวร์

    การป้องกันและข้อควรรู้
    ผู้ว่าจ้างควรระวังข้อมูลที่ดูผิดปกติในโปรไฟล์ผู้สมัคร เช่น:
    - การใช้รูปภาพที่ดูไม่สมจริง
    - ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย หรืออีเมลที่คล้ายคลึงกันทั้งหมด
    - พิจารณาการตรวจสอบประวัติผู้สมัครอย่างละเอียด

    เรื่องนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงความซับซ้อนในโลกไซเบอร์ แต่ยังเตือนให้บริษัทในวงการเทคโนโลยีเพิ่มการตรวจสอบและตื่นตัวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกเมื่อ

    https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-job-hackers-are-going-the-extra-mile-to-make-sure-their-scams-seem-legit
    ทีมนักวิจัยจาก Nisos ได้เผยแพร่รายงานที่น่าตกใจเกี่ยวกับเครือข่ายของแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่กำลังปลอมแปลงตัวตนเพื่อสมัครงานในบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้งในเอเชียและตะวันตก การกระทำนี้มุ่งเน้นหารายได้เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของรัฐบาลเกาหลีเหนือ วิธีการที่แฮกเกอร์ใช้ 1) สร้างตัวตนปลอม: แฮกเกอร์ใช้ GitHub และเนื้อหาผลงานจากบัญชีเก่าเพื่อสร้างโปรไฟล์ที่ดูเหมือนจริง 2) เทคนิคการปลอมแปลง: ใช้รูปภาพที่ผ่านการตัดต่อ (Photoshop) และโปรไฟล์ที่ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าสงสัย 3) การสมัครงานในบริษัทเล็ก: เป้าหมายคือบริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน ทำให้ง่ายต่อการแทรกซึมข้อมูล การจ้างงานช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบภายในของบริษัท เป้าหมายไม่เพียงแค่ขโมยข้อมูลที่สำคัญ แต่ยังรวมถึงเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮกเกอร์กลุ่มนี้มุ่งเน้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีประวัติการโจรกรรมครั้งใหญ่ในวงการนี้ แม้จะไม่สามารถระบุตัวตนได้แน่นอน แต่พฤติกรรมและรูปแบบการโจมตีที่แสดงออกมามีลักษณะใกล้เคียงกับกลุ่ม Lazarus ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ และเคยเกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยมัลแวร์และการสร้างบริษัทปลอมเพื่อหลอกลวงนักพัฒนาซอฟต์แวร์ การป้องกันและข้อควรรู้ ผู้ว่าจ้างควรระวังข้อมูลที่ดูผิดปกติในโปรไฟล์ผู้สมัคร เช่น: - การใช้รูปภาพที่ดูไม่สมจริง - ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย หรืออีเมลที่คล้ายคลึงกันทั้งหมด - พิจารณาการตรวจสอบประวัติผู้สมัครอย่างละเอียด เรื่องนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงความซับซ้อนในโลกไซเบอร์ แต่ยังเตือนให้บริษัทในวงการเทคโนโลยีเพิ่มการตรวจสอบและตื่นตัวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกเมื่อ https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-job-hackers-are-going-the-extra-mile-to-make-sure-their-scams-seem-legit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก SquareX Labs ได้เปิดเผยถึงการโจมตีแบบ "polymorphic" ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ที่อันตรายสำหรับส่วนขยาย (extensions) บน Google Chrome โดยส่วนขยายที่เป็นอันตรายนี้สามารถปลอมตัวเป็นส่วนขยายยอดนิยม เช่น password managers, กระเป๋าเงินคริปโต (crypto wallets) และแอปธนาคารออนไลน์ เพื่อขโมยข้อมูลที่สำคัญอย่างแนบเนียน

    == วิธีการโจมตี ==
    1) การหลอกล่อให้ติดตั้ง: ส่วนขยายที่เป็นอันตรายจะถูกนำเสนอใน Chrome Web Store ภายใต้หน้ากากของเครื่องมือ AI การตลาด เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานให้ติดตั้ง
    2) การตรวจสอบส่วนขยายอื่นในเบราว์เซอร์: เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง ส่วนขยายจะใช้ API chrome.management หรือนำสคริปต์เข้าไปในเว็บเพจเพื่อค้นหาส่วนขยายอื่น ๆ ที่ติดตั้งอยู่
    3) การปลอมแปลง: หากพบเป้าหมาย เช่น ส่วนขยาย 1Password ส่วนขยายที่เป็นอันตรายจะเลียนแบบชื่อและไอคอน พร้อมแสดงหน้าต่างล็อกอินปลอมที่เหมือนจริง
    4)การขโมยข้อมูล: เมื่อผู้ใช้ป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบผ่านแบบฟอร์มปลอม ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี
    5) ย้อนกลับสู่สถานะปกติ: หลังจากโจมตีเสร็จ ส่วนขยายจะกลับไปเป็นรูปแบบเดิมเพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานสงสัย

    == ข้อแนะนำเพื่อป้องกัน ==
    - นักวิจัยแนะนำให้ Google อัปเดตระบบเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงไอคอนและ HTML ของส่วนขยายโดยทันที หรือแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะสำคัญ
    - พิจารณาคลาสสิฟาย API chrome.management ให้เป็นฟังก์ชันที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เนื่องจากเป็นจุดอ่อนสำคัญของการโจมตีนี้

    การโจมตีรูปแบบ polymorphic นี้เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความซับซ้อนและความสามารถของผู้โจมตีในยุคใหม่ ที่มุ่งเน้นการโจมตีส่วนขยายเบราว์เซอร์ซึ่งเคยถูกมองว่าปลอดภัยกว่า ถึงแม้จะไม่มีการป้องกันที่ชัดเจนในปัจจุบัน แต่การตระหนักถึงภัยคุกคามนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานระมัดระวังการติดตั้งส่วนขยายใหม่ ๆ บนเบราว์เซอร์ และให้ความสำคัญกับการตรวจสอบสิทธิ์และแหล่งที่มาของส่วนขยาย

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/malicious-chrome-extensions-can-spoof-password-managers-in-new-attack/
    นักวิจัยจาก SquareX Labs ได้เปิดเผยถึงการโจมตีแบบ "polymorphic" ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ที่อันตรายสำหรับส่วนขยาย (extensions) บน Google Chrome โดยส่วนขยายที่เป็นอันตรายนี้สามารถปลอมตัวเป็นส่วนขยายยอดนิยม เช่น password managers, กระเป๋าเงินคริปโต (crypto wallets) และแอปธนาคารออนไลน์ เพื่อขโมยข้อมูลที่สำคัญอย่างแนบเนียน == วิธีการโจมตี == 1) การหลอกล่อให้ติดตั้ง: ส่วนขยายที่เป็นอันตรายจะถูกนำเสนอใน Chrome Web Store ภายใต้หน้ากากของเครื่องมือ AI การตลาด เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานให้ติดตั้ง 2) การตรวจสอบส่วนขยายอื่นในเบราว์เซอร์: เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง ส่วนขยายจะใช้ API chrome.management หรือนำสคริปต์เข้าไปในเว็บเพจเพื่อค้นหาส่วนขยายอื่น ๆ ที่ติดตั้งอยู่ 3) การปลอมแปลง: หากพบเป้าหมาย เช่น ส่วนขยาย 1Password ส่วนขยายที่เป็นอันตรายจะเลียนแบบชื่อและไอคอน พร้อมแสดงหน้าต่างล็อกอินปลอมที่เหมือนจริง 4)การขโมยข้อมูล: เมื่อผู้ใช้ป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบผ่านแบบฟอร์มปลอม ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี 5) ย้อนกลับสู่สถานะปกติ: หลังจากโจมตีเสร็จ ส่วนขยายจะกลับไปเป็นรูปแบบเดิมเพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานสงสัย == ข้อแนะนำเพื่อป้องกัน == - นักวิจัยแนะนำให้ Google อัปเดตระบบเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงไอคอนและ HTML ของส่วนขยายโดยทันที หรือแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะสำคัญ - พิจารณาคลาสสิฟาย API chrome.management ให้เป็นฟังก์ชันที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เนื่องจากเป็นจุดอ่อนสำคัญของการโจมตีนี้ การโจมตีรูปแบบ polymorphic นี้เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความซับซ้อนและความสามารถของผู้โจมตีในยุคใหม่ ที่มุ่งเน้นการโจมตีส่วนขยายเบราว์เซอร์ซึ่งเคยถูกมองว่าปลอดภัยกว่า ถึงแม้จะไม่มีการป้องกันที่ชัดเจนในปัจจุบัน แต่การตระหนักถึงภัยคุกคามนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานระมัดระวังการติดตั้งส่วนขยายใหม่ ๆ บนเบราว์เซอร์ และให้ความสำคัญกับการตรวจสอบสิทธิ์และแหล่งที่มาของส่วนขยาย https://www.bleepingcomputer.com/news/security/malicious-chrome-extensions-can-spoof-password-managers-in-new-attack/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Malicious Chrome extensions can spoof password managers in new attack
    A newly devised "polymorphic" attack allows malicious Chrome extensions to morph into other browser extensions, including password managers, crypto wallets, and banking apps, to steal sensitive information.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • Amouranth หรือ Kaitlyn Siragusa สตรีมเมอร์แพล็ตฟอร์มผู้ใหญ่ชื่อดัง อ้างว่าเธอถูกโจรติดอาวุธบุกเข้าบ้านในช่วงดึกของวันที่ 2 มีนาคม คาดว่ามีเป้าหมายที่ทรัพย์สินดิจิทัลของเธอ ซึ่งรวมถึงบิทคอยน์มูลค่ากว่า 20 ล้านดอลลาร์ ที่เธอเคยเปิดเผยไว้ก่อนหน้านี้

    ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 Amouranth เคยโพสต์ภาพหน้าจอจากบัญชี Coinbase ของเธอ เผยให้เห็นว่าเธอถือครองบิทคอยน์ 211 เหรียญ และ Ether อีก 80,000 เหรียญ ทำให้เธอเป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมาก

    ไม่กี่ชั่วโมงหลังเหตุการณ์ เธอได้อัปเดตผ่านโซเชียลมีเดียว่า มีโจรติดอาวุธ 3 คนพยายามบุกเข้ามาในบ้าน และจากฟุตเทจกล้องวงจรปิด พบว่าเกิดเสียงดัง 3 ครั้ง ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะรีบหลบหนีออกไป

    ขบวนการ "Crypto Wrench Attack" ระบาด! คนคริปโตตกเป็นเป้าหมาย

    เหตุการณ์ของ Amouranth เป็นส่วนหนึ่งของกระแสการโจมตีแบบ "Crypto Wrench Attack" ซึ่งเป็นการใช้ความรุนแรงข่มขู่ให้เหยื่อโอนคริปโตให้กับคนร้าย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000021138

    #MGROnline #Crypto #cryptocurrency #บิทคอยน์
    Amouranth หรือ Kaitlyn Siragusa สตรีมเมอร์แพล็ตฟอร์มผู้ใหญ่ชื่อดัง อ้างว่าเธอถูกโจรติดอาวุธบุกเข้าบ้านในช่วงดึกของวันที่ 2 มีนาคม คาดว่ามีเป้าหมายที่ทรัพย์สินดิจิทัลของเธอ ซึ่งรวมถึงบิทคอยน์มูลค่ากว่า 20 ล้านดอลลาร์ ที่เธอเคยเปิดเผยไว้ก่อนหน้านี้ • ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 Amouranth เคยโพสต์ภาพหน้าจอจากบัญชี Coinbase ของเธอ เผยให้เห็นว่าเธอถือครองบิทคอยน์ 211 เหรียญ และ Ether อีก 80,000 เหรียญ ทำให้เธอเป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมาก • ไม่กี่ชั่วโมงหลังเหตุการณ์ เธอได้อัปเดตผ่านโซเชียลมีเดียว่า มีโจรติดอาวุธ 3 คนพยายามบุกเข้ามาในบ้าน และจากฟุตเทจกล้องวงจรปิด พบว่าเกิดเสียงดัง 3 ครั้ง ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะรีบหลบหนีออกไป • ขบวนการ "Crypto Wrench Attack" ระบาด! คนคริปโตตกเป็นเป้าหมาย • เหตุการณ์ของ Amouranth เป็นส่วนหนึ่งของกระแสการโจมตีแบบ "Crypto Wrench Attack" ซึ่งเป็นการใช้ความรุนแรงข่มขู่ให้เหยื่อโอนคริปโตให้กับคนร้าย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000021138 • #MGROnline #Crypto #cryptocurrency #บิทคอยน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tether บริษัทที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยี stablecoin ได้แต่งตั้ง Simon McWilliams เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) คนใหม่ ขณะที่บริษัทกำลังมุ่งหน้าไปสู่การตรวจสอบทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบ

    McWilliams มีประสบการณ์กว่า 20 ปีในการเป็นผู้นำบริษัทด้านการจัดการการลงทุนขนาดใหญ่ผ่านการตรวจสอบที่เข้มงวด เขาจะนำพา Tether สู่ความโปร่งใสและความพร้อมในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ นอกจากนี้ McWilliams ยังเข้ามารับตำแหน่งจาก Giancarlo Devasini ซึ่งจะเปลี่ยนไปเป็นประธานของกลุ่ม

    Tether ได้กลายเป็นกำลังสำคัญในตลาด stablecoin ที่กำลังเติบโต Stablecoin คือสกุลเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาให้มีมูลค่าคงที่โดยการผูกกับสกุลเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้ายเงินระหว่างคริปโตเคอเรนซีได้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับความผันผวนของราคา

    ความสำคัญของการตรวจสอบทางการเงินนี้คือการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในความโปร่งใสของ Tether ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่มีความผันผวนและเสี่ยงสูง บริษัทเช่น Tether ต้องการเพิ่มความไว้วางใจจากผู้ใช้และนักลงทุนโดยการแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/03/tether-appoints-simon-mcwilliams-its-new-cfo
    Tether บริษัทที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยี stablecoin ได้แต่งตั้ง Simon McWilliams เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) คนใหม่ ขณะที่บริษัทกำลังมุ่งหน้าไปสู่การตรวจสอบทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบ McWilliams มีประสบการณ์กว่า 20 ปีในการเป็นผู้นำบริษัทด้านการจัดการการลงทุนขนาดใหญ่ผ่านการตรวจสอบที่เข้มงวด เขาจะนำพา Tether สู่ความโปร่งใสและความพร้อมในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ นอกจากนี้ McWilliams ยังเข้ามารับตำแหน่งจาก Giancarlo Devasini ซึ่งจะเปลี่ยนไปเป็นประธานของกลุ่ม Tether ได้กลายเป็นกำลังสำคัญในตลาด stablecoin ที่กำลังเติบโต Stablecoin คือสกุลเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาให้มีมูลค่าคงที่โดยการผูกกับสกุลเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้ายเงินระหว่างคริปโตเคอเรนซีได้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับความผันผวนของราคา ความสำคัญของการตรวจสอบทางการเงินนี้คือการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในความโปร่งใสของ Tether ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่มีความผันผวนและเสี่ยงสูง บริษัทเช่น Tether ต้องการเพิ่มความไว้วางใจจากผู้ใช้และนักลงทุนโดยการแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/03/tether-appoints-simon-mcwilliams-its-new-cfo
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Simon McWilliams steps in as Tether CFO, will focus on audit readiness
    (Reuters) -Tether has appointed Simon McWilliams its new chief financial officer, the company behind the stablecoin technology said on Monday, as it moves towards a full financial audit.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตลาดคริปโตตอบสนองทันที หลังทรัมป์ประกาศจัดตั้งสำรองเชิงกลยุทธ์คริปโตของสหรัฐฯ

    ทรัมป์ประกาศคำสั่งบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลของตน โดยสั่งให้คณะทำงานประธานาธิบดีเดินหน้าสร้างกองทุนสำรองเชิงกลยุทธ์ด้านคริปโตโดยสนับสนุน $XRP, $SOL และ $ADA เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับอิทธิพลของอเมริกาในสินทรัพย์ดิจิทัล

    คำสั่งบริหารของเขาเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลยุติวาระต่อต้านคริปโตของไบเดน ทำให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำโลกด้านนวัตกรรมบล็อคเชน

    ทรัมป์: "ผมจะทำให้แน่ใจว่าสหรัฐฯ คือเมืองหลวงคริปโตของโลก"



    ตลาดคริปโตตอบสนองทันที หลังทรัมป์ประกาศจัดตั้งสำรองเชิงกลยุทธ์คริปโตของสหรัฐฯ ทรัมป์ประกาศคำสั่งบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลของตน โดยสั่งให้คณะทำงานประธานาธิบดีเดินหน้าสร้างกองทุนสำรองเชิงกลยุทธ์ด้านคริปโตโดยสนับสนุน $XRP, $SOL และ $ADA เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับอิทธิพลของอเมริกาในสินทรัพย์ดิจิทัล คำสั่งบริหารของเขาเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลยุติวาระต่อต้านคริปโตของไบเดน ทำให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำโลกด้านนวัตกรรมบล็อคเชน ทรัมป์: "ผมจะทำให้แน่ใจว่าสหรัฐฯ คือเมืองหลวงคริปโตของโลก"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลแชทภายในของกลุ่มแรนซัมแวร์ Black Basta ซึ่งถูกเปิดเผยโดยบุคคลลึกลับที่ใช้ชื่อว่า ExploitWhispers ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกอัพโหลดไปยังช่อง Telegram เฉพาะทาง ซึ่งข้อมูลนี้ถูกพบว่ามีการเก็บบันทึกการแชทภายในตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 ถึงกันยายน 2024

    การรั่วไหลดังกล่าวมีข้อมูลหลากหลาย เช่น เทมเพลตฟิชชิ่ง อีเมลที่ใช้ในการส่งฟิชชิ่ง ที่อยู่คริปโตเคอร์เรนซี ข้อมูลรั่วไหลของเหยื่อ และข้อมูลการยืนยันการโจมตีแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ยังพบลิงก์ ZoomInfo ที่มีมากถึง 367 ลิงก์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีบริษัทมากมายที่ถูกกลุ่มนี้โจมตีในช่วงเวลานี้

    หนึ่งในบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรั่วไหลครั้งนี้ อ้างว่าการรั่วไหลเกิดขึ้นเพราะกลุ่ม Black Basta ได้โจมตีธนาคารรัสเซีย นอกจากนี้ PRODAFT บริษัทข่าวกรองภัยคุกคามไซเบอร์ กล่าวว่ากลุ่ม Black Basta มีความขัดแย้งภายในและบางสมาชิกยังเคยหลอกลวงเหยื่อด้วยการเก็บเงินค่าไถ่โดยไม่ให้ decryptors ที่ใช้งานได้

    กลุ่ม Black Basta เป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ที่มีชื่อเสียงและมีเหยื่อหลากหลายทั่วโลก รวมถึงบริษัทในเครือข่ายด้านการดูแลสุขภาพและหน่วยงานรัฐบาล พวกเขาเคยโจมตีบริษัทต่าง ๆ เช่น Rheinmetall (ผู้ผลิตเครื่องยนต์และอาวุธชั้นนำของเยอรมนี), Hyundai's European division, BT Group (อดีต British Telecom), Ascension (บริษัทการดูแลสุขภาพในสหรัฐ), ABB (ผู้รับเหมาของรัฐบาลสหรัฐ), American Dental Association, Capita (บริษัทด้านเทคโนโลยีในสหราชอาณาจักร), Toronto Public Library และ Yellow Pages Canada

    Black Basta เริ่มกิจการในเดือนเมษายน 2022 และกลายเป็นที่รู้จักเพราะการโจมตีองค์กรและเก็บค่าไถ่มากถึง $100 ล้านจากเหยื่อกว่า 90 รายจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2023 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 นักวิจัยจากยูเครนเคยรั่วไหลข้อมูลการแชทภายในและซอร์สโค้ดของ Conti ransomware ซึ่งมีพื้นฐานเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ชื่อดังจากรัสเซีย

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/black-basta-ransomware-gang-s-internal-chat-logs-leak-online/
    มีรายงานเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลแชทภายในของกลุ่มแรนซัมแวร์ Black Basta ซึ่งถูกเปิดเผยโดยบุคคลลึกลับที่ใช้ชื่อว่า ExploitWhispers ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกอัพโหลดไปยังช่อง Telegram เฉพาะทาง ซึ่งข้อมูลนี้ถูกพบว่ามีการเก็บบันทึกการแชทภายในตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 ถึงกันยายน 2024 การรั่วไหลดังกล่าวมีข้อมูลหลากหลาย เช่น เทมเพลตฟิชชิ่ง อีเมลที่ใช้ในการส่งฟิชชิ่ง ที่อยู่คริปโตเคอร์เรนซี ข้อมูลรั่วไหลของเหยื่อ และข้อมูลการยืนยันการโจมตีแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ยังพบลิงก์ ZoomInfo ที่มีมากถึง 367 ลิงก์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีบริษัทมากมายที่ถูกกลุ่มนี้โจมตีในช่วงเวลานี้ หนึ่งในบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรั่วไหลครั้งนี้ อ้างว่าการรั่วไหลเกิดขึ้นเพราะกลุ่ม Black Basta ได้โจมตีธนาคารรัสเซีย นอกจากนี้ PRODAFT บริษัทข่าวกรองภัยคุกคามไซเบอร์ กล่าวว่ากลุ่ม Black Basta มีความขัดแย้งภายในและบางสมาชิกยังเคยหลอกลวงเหยื่อด้วยการเก็บเงินค่าไถ่โดยไม่ให้ decryptors ที่ใช้งานได้ กลุ่ม Black Basta เป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ที่มีชื่อเสียงและมีเหยื่อหลากหลายทั่วโลก รวมถึงบริษัทในเครือข่ายด้านการดูแลสุขภาพและหน่วยงานรัฐบาล พวกเขาเคยโจมตีบริษัทต่าง ๆ เช่น Rheinmetall (ผู้ผลิตเครื่องยนต์และอาวุธชั้นนำของเยอรมนี), Hyundai's European division, BT Group (อดีต British Telecom), Ascension (บริษัทการดูแลสุขภาพในสหรัฐ), ABB (ผู้รับเหมาของรัฐบาลสหรัฐ), American Dental Association, Capita (บริษัทด้านเทคโนโลยีในสหราชอาณาจักร), Toronto Public Library และ Yellow Pages Canada Black Basta เริ่มกิจการในเดือนเมษายน 2022 และกลายเป็นที่รู้จักเพราะการโจมตีองค์กรและเก็บค่าไถ่มากถึง $100 ล้านจากเหยื่อกว่า 90 รายจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2023 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 นักวิจัยจากยูเครนเคยรั่วไหลข้อมูลการแชทภายในและซอร์สโค้ดของ Conti ransomware ซึ่งมีพื้นฐานเป็นกลุ่มแรนซัมแวร์ชื่อดังจากรัสเซีย https://www.bleepingcomputer.com/news/security/black-basta-ransomware-gang-s-internal-chat-logs-leak-online/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Black Basta ransomware gang's internal chat logs leak online
    An unknown leaker has released what they claim to be an archive of internal Matrix chat logs belonging to the Black Basta ransomware operation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอกลาภ ยิ้มวิไล คุก 5 ปี คดี Zipmex ฉ้อโกงพันล้าน

    ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2568 จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่รอลงอาญา และลงโทษปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นเงิน 100,000 บาท ในคดีที่ผู้เสียหายรายหนึ่งยื่นฟ้องฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แม้นายเอกลาภยื่นขอประกันตนเองในชั้นอุทธรณ์ โดยยื่นหลักทรัพย์ 15 ล้านบาท แต่ทำเรื่องไม่ทัน จึงต้องไปคุมขังในเรือนจำ

    ถือเป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการคริปโตเคอเรนซี่ เพราะซิปเม็กซ์เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับสองของไทย รองจากบิทคับ (Bitkub) ของนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 ซิปเม็กซ์ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัลทุกกรณีเป็นการชั่วคราว ก่อนที่นายเอกลาภจะยอมรับว่าเกิดปัญหากับบริการ Zip-up ที่ลูกค้าในประเทศไทยฝากไปที่ Zipmex Global ในในสิงคโปร์ โดยคู่ค้าคือ Bebel Finance และ Celsius ประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ใน Zip-up ทั้ง Bitcoin Etherium USDT และ USDC มีปัญหา

    แต่กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนในซิปเม็กซ์พบว่า มีการโอนเหรียญไปที่ Celsius ตั้งแต่ปี 2564 แต่เพิ่งมีการออก Term & Condition ให้ผู้ใช้งานกดยอมรับเมื่อเดือน เม.ย.2565 ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. แม้รับทราบว่า Babel Finance และ Celsius มีปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่ยังโฆษณาชักชวนให้ไปลงทุน ในที่สุด ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายเอกลาภ 7 ข้อหา และบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ 6 ข้อหา ตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล รวมเป็นเงิน 10.97 ล้านบาท ไม่นับรวมกลุ่มผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งตำรวจได้ให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว

    ซิปเม็กซ์ถูกเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2567 ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายในนาม “กลุ่มร่วมสู้ Zipmex” ประกอบด้วยสมาชิก 741 คน มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2,667.29 ล้านบาท ได้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ต่อบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ นายเอกลาภ และผู้เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศรวม 23 ราย เรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งคดีล่าสุดที่นายเอกลาภติดคุก ถือเป็นการจุดความหวังให้ผู้เสียหายฟ้องคดีเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลคดีแรกของประเทศไทย

    #Newskit
    เอกลาภ ยิ้มวิไล คุก 5 ปี คดี Zipmex ฉ้อโกงพันล้าน ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2568 จำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยไม่รอลงอาญา และลงโทษปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นเงิน 100,000 บาท ในคดีที่ผู้เสียหายรายหนึ่งยื่นฟ้องฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 แม้นายเอกลาภยื่นขอประกันตนเองในชั้นอุทธรณ์ โดยยื่นหลักทรัพย์ 15 ล้านบาท แต่ทำเรื่องไม่ทัน จึงต้องไปคุมขังในเรือนจำ ถือเป็นคดีที่สั่นสะเทือนวงการคริปโตเคอเรนซี่ เพราะซิปเม็กซ์เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดัง ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับสองของไทย รองจากบิทคับ (Bitkub) ของนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา เหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 ซิปเม็กซ์ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัลทุกกรณีเป็นการชั่วคราว ก่อนที่นายเอกลาภจะยอมรับว่าเกิดปัญหากับบริการ Zip-up ที่ลูกค้าในประเทศไทยฝากไปที่ Zipmex Global ในในสิงคโปร์ โดยคู่ค้าคือ Bebel Finance และ Celsius ประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอยู่ใน Zip-up ทั้ง Bitcoin Etherium USDT และ USDC มีปัญหา แต่กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนในซิปเม็กซ์พบว่า มีการโอนเหรียญไปที่ Celsius ตั้งแต่ปี 2564 แต่เพิ่งมีการออก Term & Condition ให้ผู้ใช้งานกดยอมรับเมื่อเดือน เม.ย.2565 ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. แม้รับทราบว่า Babel Finance และ Celsius มีปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่ยังโฆษณาชักชวนให้ไปลงทุน ในที่สุด ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายเอกลาภ 7 ข้อหา และบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ 6 ข้อหา ตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล รวมเป็นเงิน 10.97 ล้านบาท ไม่นับรวมกลุ่มผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งตำรวจได้ให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว ซิปเม็กซ์ถูกเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2567 ขณะที่กลุ่มผู้เสียหายในนาม “กลุ่มร่วมสู้ Zipmex” ประกอบด้วยสมาชิก 741 คน มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2,667.29 ล้านบาท ได้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ต่อบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ นายเอกลาภ และผู้เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศรวม 23 ราย เรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ซึ่งคดีล่าสุดที่นายเอกลาภติดคุก ถือเป็นการจุดความหวังให้ผู้เสียหายฟ้องคดีเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลคดีแรกของประเทศไทย #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 485 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีฮาเวียร์ มิเลย์ของอาร์เจนตินากำลังเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล $LIBRA ซึ่งเขาเคยให้การสนับสนุนก่อนหน้านี้ โดยมูลค่ามันได้หายไปกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งใน “Rug pull” ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    จากการรายงานของสื่อ ระบุว่าเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Javier Milei โพสต์ข้อความสนับสนุนเหรียญคริปโตที่ชื่อว่า *Viva la Libertad Project – LIBRA* โดยพยายามเชิญชวนว่ามันเป็นโปรเจคส่วนตัวที่มุ่งส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจอาร์เจนตินา ผ่านการให้ทุนแก่ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพในประเทศ ทำให้มูลค่าได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทันที แต่กลับทรุดตัวแรงถึง 89% หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงที่มีการเทขายเหรียญออกมา ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตามตลาดเพียง $167 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่าตลาดที่พุ่งทะลุ 4,500 ล้านดอลลาร์

    ต่อมา Milei ลบโพสต์เดิมบนแพลตฟอร์ม X ที่โปรโมตเหรียญ meme นี้ โดย Milei ยืนยันว่าเขาได้โพสต์การเปิดตัวครั้งนี้จริงๆ แต่ย้ำว่าไม่ใช่เหรียญ meme ส่วนตัวของเขา และเขาได้แจ้งในโพสต์ใหม่ว่า "ผมไม่ได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์เกี่ยวกับโครงการนี้ก่อนโพสต์" และเขาไม่ต้องการสนับสนุนโปรเจกต์ดังกล่าวอีก

    แต่เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้น ตอนนี้สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกำลังเรียกร้องให้ถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเขาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้

    นอกจากนี้ยังมีความเห็นว่า Milei กำลังฉวยโอกาสจากกระแสความนิยมของเหรียญ meme ของทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มาสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเอง
    ประธานาธิบดีฮาเวียร์ มิเลย์ของอาร์เจนตินากำลังเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล $LIBRA ซึ่งเขาเคยให้การสนับสนุนก่อนหน้านี้ โดยมูลค่ามันได้หายไปกว่า 4,500 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งใน “Rug pull” ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จากการรายงานของสื่อ ระบุว่าเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Javier Milei โพสต์ข้อความสนับสนุนเหรียญคริปโตที่ชื่อว่า *Viva la Libertad Project – LIBRA* โดยพยายามเชิญชวนว่ามันเป็นโปรเจคส่วนตัวที่มุ่งส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจอาร์เจนตินา ผ่านการให้ทุนแก่ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพในประเทศ ทำให้มูลค่าได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทันที แต่กลับทรุดตัวแรงถึง 89% หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงที่มีการเทขายเหรียญออกมา ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตามตลาดเพียง $167 ล้านดอลลาร์ จากมูลค่าตลาดที่พุ่งทะลุ 4,500 ล้านดอลลาร์ ต่อมา Milei ลบโพสต์เดิมบนแพลตฟอร์ม X ที่โปรโมตเหรียญ meme นี้ โดย Milei ยืนยันว่าเขาได้โพสต์การเปิดตัวครั้งนี้จริงๆ แต่ย้ำว่าไม่ใช่เหรียญ meme ส่วนตัวของเขา และเขาได้แจ้งในโพสต์ใหม่ว่า "ผมไม่ได้รับข้อมูลที่สมบูรณ์เกี่ยวกับโครงการนี้ก่อนโพสต์" และเขาไม่ต้องการสนับสนุนโปรเจกต์ดังกล่าวอีก แต่เหตุการณ์ไม่จบแค่นั้น ตอนนี้สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกำลังเรียกร้องให้ถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเขาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีความเห็นว่า Milei กำลังฉวยโอกาสจากกระแสความนิยมของเหรียญ meme ของทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มาสร้างผลประโยชน์ให้กับตนเอง
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่เรียกว่า "Triplestrength" ซึ่งมีการใช้กลยุทธ์การโจมตีแบบ "สามภัยคุกคาม" โดยกลุ่มนี้มีการโจมตีด้วยการใช้แรนซัมแวร์ (Ransomware) การเข้าควบคุมบัญชีคลาวด์ (Cloud Compromise) และการขุดเหมืองคริปโต (Cryptomining) เพื่อสร้างรายได้จากการขู่เรียกค่าไถ่และการใช้ทรัพยากรคลาวด์ที่ไม่ได้รับอนุญาต

    กลุ่ม Triplestrength เริ่มใช้แรนซัมแวร์มาตั้งแต่ปี 2020 และได้เริ่มใช้การขุดเหมืองคริปโตในปีต่อมา โดยเน้นการเจาะเข้าระบบคลาวด์ของ Google Cloud, AWS, Microsoft Azure และอื่น ๆ การเข้าถึงเริ่มต้นทำได้โดยใช้การโจมตีแบบ brute force หรือการใช้ข้อมูลที่ถูกขโมยมา เมื่อระบบถูกเจาะแล้ว กลุ่มนี้จะติดตั้งมัลแวร์ เช่น Phobos, LokiLocker, RCRU64 หรือ Raccoon infostealer และสำหรับการขุดเหมืองคริปโต กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ใช้โปรแกรม unMiner

    จากการวิจัยของ Google พบว่ามีกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อหลายร้อยคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่ม Triplestrength มีความสามารถในการเจาะเข้าระบบคลาวด์ได้มากมาย

    https://www.techradar.com/pro/security/cybercrime-gang-targets-victims-with-triple-threat-attacks
    ข่าวนี้เกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่เรียกว่า "Triplestrength" ซึ่งมีการใช้กลยุทธ์การโจมตีแบบ "สามภัยคุกคาม" โดยกลุ่มนี้มีการโจมตีด้วยการใช้แรนซัมแวร์ (Ransomware) การเข้าควบคุมบัญชีคลาวด์ (Cloud Compromise) และการขุดเหมืองคริปโต (Cryptomining) เพื่อสร้างรายได้จากการขู่เรียกค่าไถ่และการใช้ทรัพยากรคลาวด์ที่ไม่ได้รับอนุญาต กลุ่ม Triplestrength เริ่มใช้แรนซัมแวร์มาตั้งแต่ปี 2020 และได้เริ่มใช้การขุดเหมืองคริปโตในปีต่อมา โดยเน้นการเจาะเข้าระบบคลาวด์ของ Google Cloud, AWS, Microsoft Azure และอื่น ๆ การเข้าถึงเริ่มต้นทำได้โดยใช้การโจมตีแบบ brute force หรือการใช้ข้อมูลที่ถูกขโมยมา เมื่อระบบถูกเจาะแล้ว กลุ่มนี้จะติดตั้งมัลแวร์ เช่น Phobos, LokiLocker, RCRU64 หรือ Raccoon infostealer และสำหรับการขุดเหมืองคริปโต กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ใช้โปรแกรม unMiner จากการวิจัยของ Google พบว่ามีกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อหลายร้อยคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่ม Triplestrength มีความสามารถในการเจาะเข้าระบบคลาวด์ได้มากมาย https://www.techradar.com/pro/security/cybercrime-gang-targets-victims-with-triple-threat-attacks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • การวิเคราะห์การเงินโลกเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและครอบคลุมหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงสถานะเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ นโยบายการเงิน การค้าระหว่างประเทศ ตลาดการเงิน และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาในการวิเคราะห์การเงินโลก:

    ### 1. **เศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการเติบโต**
    - **GDP โลก**: การเติบโตของ GDP โลกเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจโลก การชะลอตัวหรือการเติบโตที่ลดลงอาจส่งสัญญาณถึงปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การว่างงานที่เพิ่มขึ้นหรือการบริโภคที่ลดลง
    - **เศรษฐกิจหลัก**: เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก

    ### 2. **นโยบายการเงินและการคลัง**
    - **อัตราดอกเบี้ย**: ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เช่น Federal Reserve (สหรัฐอเมริกา), European Central Bank (สหภาพยุโรป), และ Bank of Japan (ญี่ปุ่น) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก
    - **นโยบายการคลัง**: การใช้จ่ายของรัฐบาลและการเก็บภาษีมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### 3. **ตลาดการเงิน**
    - **ตลาดหุ้น**: ดัชนีตลาดหุ้นหลัก ๆ เช่น S&P 500, Dow Jones, และ Nikkei 225 เป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจและการลงทุน
    - **ตลาดพันธบัตร**: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและความเสี่ยง
    - **ตลาดสกุลเงิน**: อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

    ### 4. **การค้าระหว่างประเทศ**
    - **ดุลการค้า**: การเกินดุลหรือขาดดุลการค้าของประเทศต่าง ๆ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
    - **ข้อตกลงการค้า**: ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ เช่น NAFTA, CPTPP, และ RCEP มีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

    ### 5. **ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์**
    - **ความขัดแย้งระหว่างประเทศ**: ความขัดแย้งทางการเมืองและการทหารสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน
    - **ความมั่นคงทางพลังงาน**: ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกพลังงาน

    ### 6. **เทคโนโลยีและนวัตกรรม**
    - **เทคโนโลยีการเงิน (FinTech)**: การพัฒนาของเทคโนโลยีการเงิน เช่น บล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี มีผลกระทบต่อระบบการเงินโลก
    - **นวัตกรรมทางอุตสาหกรรม**: การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI, IoT, และรถยนต์ไฟฟ้า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### 7. **ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน**
    - **การระบาดของโรค**: การระบาดของโรค เช่น COVID-19 มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก
    - **การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ**: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### สรุป
    การวิเคราะห์การเงินโลกต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน การเข้าใจแนวโน้มและความเสี่ยงเหล่านี้สามารถช่วยในการตัดสินใจทางการเงินและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    การวิเคราะห์การเงินโลกเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและครอบคลุมหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงสถานะเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ นโยบายการเงิน การค้าระหว่างประเทศ ตลาดการเงิน และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาในการวิเคราะห์การเงินโลก: ### 1. **เศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการเติบโต** - **GDP โลก**: การเติบโตของ GDP โลกเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจโลก การชะลอตัวหรือการเติบโตที่ลดลงอาจส่งสัญญาณถึงปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การว่างงานที่เพิ่มขึ้นหรือการบริโภคที่ลดลง - **เศรษฐกิจหลัก**: เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก ### 2. **นโยบายการเงินและการคลัง** - **อัตราดอกเบี้ย**: ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เช่น Federal Reserve (สหรัฐอเมริกา), European Central Bank (สหภาพยุโรป), และ Bank of Japan (ญี่ปุ่น) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก - **นโยบายการคลัง**: การใช้จ่ายของรัฐบาลและการเก็บภาษีมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุน ### 3. **ตลาดการเงิน** - **ตลาดหุ้น**: ดัชนีตลาดหุ้นหลัก ๆ เช่น S&P 500, Dow Jones, และ Nikkei 225 เป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจและการลงทุน - **ตลาดพันธบัตร**: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและความเสี่ยง - **ตลาดสกุลเงิน**: อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ### 4. **การค้าระหว่างประเทศ** - **ดุลการค้า**: การเกินดุลหรือขาดดุลการค้าของประเทศต่าง ๆ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก - **ข้อตกลงการค้า**: ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ เช่น NAFTA, CPTPP, และ RCEP มีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ### 5. **ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์** - **ความขัดแย้งระหว่างประเทศ**: ความขัดแย้งทางการเมืองและการทหารสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน - **ความมั่นคงทางพลังงาน**: ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกพลังงาน ### 6. **เทคโนโลยีและนวัตกรรม** - **เทคโนโลยีการเงิน (FinTech)**: การพัฒนาของเทคโนโลยีการเงิน เช่น บล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี มีผลกระทบต่อระบบการเงินโลก - **นวัตกรรมทางอุตสาหกรรม**: การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI, IoT, และรถยนต์ไฟฟ้า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ### 7. **ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน** - **การระบาดของโรค**: การระบาดของโรค เช่น COVID-19 มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก - **การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ**: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ### สรุป การวิเคราะห์การเงินโลกต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน การเข้าใจแนวโน้มและความเสี่ยงเหล่านี้สามารถช่วยในการตัดสินใจทางการเงินและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 442 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการจับกุมผู้จัดจำหน่ายบริการสื่อสารเข้ารหัส Sky ECC ในประเทศสเปนและเนเธอร์แลนด์ มีการจับกุมผู้ต้องหาสี่รายซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา โดยการใช้บริการนี้ในการสนทนาที่ปลอดภัย

    Sky ECC เป็นบริการสื่อสารที่ถูกนำมาใช้โดยอาชญากรอย่างแพร่หลาย ทางตำรวจสเปนประกาศว่าผู้ต้องหาสองรายที่ถูกจับกุมในประเทศนี้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักระดับโลกของบริการนี้และได้สร้างกำไรมากกว่า 13.5 ล้านยูโร

    ในเดือนมีนาคม 2021 Europol ได้ประกาศว่าสามารถถอดรหัส Sky ECC และทำให้สามารถติดตามการสื่อสารของผู้ใช้งานกว่า 70,000 ราย ซึ่งเปิดเผยถึงการกระทำผิดทางอาญาเป็นจำนวนมาก

    สำหรับการจับกุมล่าสุดในสเปน ทางตำรวจได้ยึดโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เงินสดกว่า 26,000 ดอลลาร์ และคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่า 1,400,000 ยูโร นอกจากนี้ยังมีการยึดรถยนต์และของมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ

    ทางเนเธอร์แลนด์ก็มีการจับกุมผู้ต้องหาอีกสองรายในกรุงอัมสเตอร์ดัมและเมือง Arnhem ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับ CEO ของ Sky ECC มานานหลายปี

    การให้บริการสื่อสารที่เข้ารหัสอย่างเดียวไม่ได้เป็นเรื่องผิดตามกฎหมาย แต่ปัญหาของ Sky ECC คือการที่บริการนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยอาชญากรในการสื่อสารอย่างปลอดภัยและไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งทำให้การดำเนินคดีและการติดตามการกระทำผิดทางอาญายากยิ่งขึ้น

    การที่ Sky ECC ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา เช่น การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการลักทรัพย์ ทำให้บริษัทนี้ต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผู้จัดจำหน่ายของ Sky ECC ได้ร่วมมือกับอาชญากรในการจัดหาบริการและได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากการกระทำผิดเหล่านี้

    ดังนั้น แม้ว่าการให้บริการสื่อสารเข้ารหัสไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าบริการนั้นถูกใช้ในการกระทำผิดทางอาญา และผู้ให้บริการหรือผู้จัดจำหน่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเหล่านั้น ก็อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีได้

    โดยสรุป ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในสเปนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ได้ทำงานร่วมกันในการตรวจสอบการกระทำผิดทางอาญาที่เชื่อมโยงกับบริการ Sky ECC อย่างใกล้ชิด

    https://www.bleepingcomputer.com/news/legal/sky-ecc-encrypted-service-distributors-arrested-in-spain-netherlands/
    มีการจับกุมผู้จัดจำหน่ายบริการสื่อสารเข้ารหัส Sky ECC ในประเทศสเปนและเนเธอร์แลนด์ มีการจับกุมผู้ต้องหาสี่รายซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา โดยการใช้บริการนี้ในการสนทนาที่ปลอดภัย Sky ECC เป็นบริการสื่อสารที่ถูกนำมาใช้โดยอาชญากรอย่างแพร่หลาย ทางตำรวจสเปนประกาศว่าผู้ต้องหาสองรายที่ถูกจับกุมในประเทศนี้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักระดับโลกของบริการนี้และได้สร้างกำไรมากกว่า 13.5 ล้านยูโร ในเดือนมีนาคม 2021 Europol ได้ประกาศว่าสามารถถอดรหัส Sky ECC และทำให้สามารถติดตามการสื่อสารของผู้ใช้งานกว่า 70,000 ราย ซึ่งเปิดเผยถึงการกระทำผิดทางอาญาเป็นจำนวนมาก สำหรับการจับกุมล่าสุดในสเปน ทางตำรวจได้ยึดโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เงินสดกว่า 26,000 ดอลลาร์ และคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่า 1,400,000 ยูโร นอกจากนี้ยังมีการยึดรถยนต์และของมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ ทางเนเธอร์แลนด์ก็มีการจับกุมผู้ต้องหาอีกสองรายในกรุงอัมสเตอร์ดัมและเมือง Arnhem ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับ CEO ของ Sky ECC มานานหลายปี การให้บริการสื่อสารที่เข้ารหัสอย่างเดียวไม่ได้เป็นเรื่องผิดตามกฎหมาย แต่ปัญหาของ Sky ECC คือการที่บริการนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยอาชญากรในการสื่อสารอย่างปลอดภัยและไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งทำให้การดำเนินคดีและการติดตามการกระทำผิดทางอาญายากยิ่งขึ้น การที่ Sky ECC ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา เช่น การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการลักทรัพย์ ทำให้บริษัทนี้ต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผู้จัดจำหน่ายของ Sky ECC ได้ร่วมมือกับอาชญากรในการจัดหาบริการและได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากการกระทำผิดเหล่านี้ ดังนั้น แม้ว่าการให้บริการสื่อสารเข้ารหัสไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าบริการนั้นถูกใช้ในการกระทำผิดทางอาญา และผู้ให้บริการหรือผู้จัดจำหน่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเหล่านั้น ก็อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีได้ โดยสรุป ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในสเปนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ได้ทำงานร่วมกันในการตรวจสอบการกระทำผิดทางอาญาที่เชื่อมโยงกับบริการ Sky ECC อย่างใกล้ชิด https://www.bleepingcomputer.com/news/legal/sky-ecc-encrypted-service-distributors-arrested-in-spain-netherlands/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Sky ECC encrypted service distributors arrested in Spain, Netherlands
    Four distributors of the encrypted communications service Sky ECC, used extensively by criminals, were arrested in Spain and the Netherlands.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" เผยคุย "อันวาร์" 3 เรื่อง จ่อถกผู้นำในอาเซียน แก้ปัญหาความขัดแย้งเมียนมา เดินหน้าคริปโตเคอร์เรนซี นำร่อง 3 ประเทศ สอดคล้องทิศทางสหรัฐฯ เผยรู้ว่าเจ้าของตึก 25 ชั้น ที่ปอยเปต เป็นของใคร มีสัญชาติไทยด้วย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012600

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ทักษิณ" เผยคุย "อันวาร์" 3 เรื่อง จ่อถกผู้นำในอาเซียน แก้ปัญหาความขัดแย้งเมียนมา เดินหน้าคริปโตเคอร์เรนซี นำร่อง 3 ประเทศ สอดคล้องทิศทางสหรัฐฯ เผยรู้ว่าเจ้าของตึก 25 ชั้น ที่ปอยเปต เป็นของใคร มีสัญชาติไทยด้วย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000012600 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1021 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีมัลแวร์ประเภทใหม่ที่ชื่อว่า ‘SparkCat’ ที่ถูกค้นพบในร้านค้าแอปพลิเคชันของ iOS และ Android โดยมัลแวร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลกู้คืนกระเป๋าเงินคริปโตของผู้ใช้งาน รายงานจาก Kaspersky ระบุว่ามัลแวร์นี้มีการฝังอยู่ในแอปพลิเคชันหลายตัวที่มีการดาวน์โหลดหลายพันครั้ง เช่น แอปส่งอาหารจากประเทศจีนชื่อว่า ComeCome ที่มีการดาวน์โหลดกว่า 10,000 ครั้ง

    SparkCat มีความสามารถในการสแกนรูปภาพในแกลเลอรี่ของผู้ใช้งานเพื่อค้นหาคำสำคัญ หากพบรูปภาพที่เกี่ยวข้อง มันจะส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุม (C2 server) นอกจากนี้ มัลแวร์นี้ยังมีความยืดหยุ่นพอที่จะขโมยข้อมูลสำคัญอื่น ๆ จากแกลเลอรี่ของเหยื่อได้ด้วย

    สิ่งที่น่าสนใจคือ นี่เป็นครั้งแรกที่พบมัลแวร์ประเภทนี้ในร้านค้าแอปของ Apple ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระบวนการตรวจสอบแอปพลิเคชันของ Apple อาจไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ถึงแม้ Apple จะตั้งใจให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้

    สำหรับผู้ที่มีแอปพลิเคชันที่ติดมัลแวร์นี้ Kaspersky แนะนำให้ลบแอปพลิเคชันนั้นทันทีและหลีกเลี่ยงการใช้งานจนกว่าจะมีการแก้ไข นอกจากนี้ การใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันข้อมูลสำคัญ

    https://www.techradar.com/pro/security/screen-reading-malware-found-in-ios-app-stores-for-first-time-and-it-might-steal-your-cryptocurrency
    มีมัลแวร์ประเภทใหม่ที่ชื่อว่า ‘SparkCat’ ที่ถูกค้นพบในร้านค้าแอปพลิเคชันของ iOS และ Android โดยมัลแวร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลกู้คืนกระเป๋าเงินคริปโตของผู้ใช้งาน รายงานจาก Kaspersky ระบุว่ามัลแวร์นี้มีการฝังอยู่ในแอปพลิเคชันหลายตัวที่มีการดาวน์โหลดหลายพันครั้ง เช่น แอปส่งอาหารจากประเทศจีนชื่อว่า ComeCome ที่มีการดาวน์โหลดกว่า 10,000 ครั้ง SparkCat มีความสามารถในการสแกนรูปภาพในแกลเลอรี่ของผู้ใช้งานเพื่อค้นหาคำสำคัญ หากพบรูปภาพที่เกี่ยวข้อง มันจะส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุม (C2 server) นอกจากนี้ มัลแวร์นี้ยังมีความยืดหยุ่นพอที่จะขโมยข้อมูลสำคัญอื่น ๆ จากแกลเลอรี่ของเหยื่อได้ด้วย สิ่งที่น่าสนใจคือ นี่เป็นครั้งแรกที่พบมัลแวร์ประเภทนี้ในร้านค้าแอปของ Apple ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระบวนการตรวจสอบแอปพลิเคชันของ Apple อาจไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ถึงแม้ Apple จะตั้งใจให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้ สำหรับผู้ที่มีแอปพลิเคชันที่ติดมัลแวร์นี้ Kaspersky แนะนำให้ลบแอปพลิเคชันนั้นทันทีและหลีกเลี่ยงการใช้งานจนกว่าจะมีการแก้ไข นอกจากนี้ การใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันข้อมูลสำคัญ https://www.techradar.com/pro/security/screen-reading-malware-found-in-ios-app-stores-for-first-time-and-it-might-steal-your-cryptocurrency
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณ Gabriel Galipolo ซึ่งเป็นหัวหน้านโยบายการเงินของธนาคารกลางบราซิล ได้รายงานว่า การใช้งานคริปโตในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา โดยประมาณ 90% ของการใช้งานคริปโตนี้เกี่ยวข้องกับ Stablecoins ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่โดยอิงกับสินทรัพย์ในโลกจริง เช่น ดอลลาร์สหรัฐ

    นาย Galipolo กล่าวในงานประชุมของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศที่เม็กซิโก ซิตี้ ว่า การใช้คริปโตเป็นหลักในการชำระเงินกลายเป็นความท้าทายในการควบคุมและการกำกับดูแล เขายังเน้นว่าการใช้งานเหล่านี้มักจะมีปัญหาด้านการเสียภาษีหรือการฟอกเงินด้วย

    สิ่งที่น่าสนใจคือโครงการ Drex ที่ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งเน้นในการปรับปรุงเครดิตด้วยสินทรัพย์ที่มีหลักประกัน Drex ใช้เทคโนโลยีการบันทึกบัญชีแบบกระจายศูนย์เพื่อการชำระเงินระหว่างธนาคารในระดับสถาบัน ขณะที่การเข้าถึงของผู้ใช้งานทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบของการฝากเงินที่ถูกแปลงเป็นโทเค็น

    นอกจากนี้ ระบบการชำระเงินทันทีของบราซิลที่เรียกว่า Pix ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ก็มีศักยภาพในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายการชำระเงินทันทีระหว่างประเทศ ทำให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/brazil039s-galipolo-sees-surge-in-crypto-use-says-90-of-flow-tied-to-stablecoins
    คุณ Gabriel Galipolo ซึ่งเป็นหัวหน้านโยบายการเงินของธนาคารกลางบราซิล ได้รายงานว่า การใช้งานคริปโตในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา โดยประมาณ 90% ของการใช้งานคริปโตนี้เกี่ยวข้องกับ Stablecoins ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่โดยอิงกับสินทรัพย์ในโลกจริง เช่น ดอลลาร์สหรัฐ นาย Galipolo กล่าวในงานประชุมของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศที่เม็กซิโก ซิตี้ ว่า การใช้คริปโตเป็นหลักในการชำระเงินกลายเป็นความท้าทายในการควบคุมและการกำกับดูแล เขายังเน้นว่าการใช้งานเหล่านี้มักจะมีปัญหาด้านการเสียภาษีหรือการฟอกเงินด้วย สิ่งที่น่าสนใจคือโครงการ Drex ที่ไม่ได้เป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง แต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มุ่งเน้นในการปรับปรุงเครดิตด้วยสินทรัพย์ที่มีหลักประกัน Drex ใช้เทคโนโลยีการบันทึกบัญชีแบบกระจายศูนย์เพื่อการชำระเงินระหว่างธนาคารในระดับสถาบัน ขณะที่การเข้าถึงของผู้ใช้งานทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบของการฝากเงินที่ถูกแปลงเป็นโทเค็น นอกจากนี้ ระบบการชำระเงินทันทีของบราซิลที่เรียกว่า Pix ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ก็มีศักยภาพในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายการชำระเงินทันทีระหว่างประเทศ ทำให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/brazil039s-galipolo-sees-surge-in-crypto-use-says-90-of-flow-tied-to-stablecoins
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Brazil's Galipolo sees surge in crypto use, says 90% of flow tied to stablecoins
    (Reuters) - Brazil's central bank chief Gabriel Galipolo said on Thursday that crypto asset usage in the country has surged over the past two to three years, with around 90% of the flow linked to stablecoins.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท BlackRock กำลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ (bitcoin exchange-traded product) ในยุโรปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนและผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ได้มากขึ้น แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์นี้จะถูกจดทะเบียนในสวิตเซอร์แลนด์

    ที่ผ่านมา BlackRock เป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันรายแรกที่เสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ติดตามราคาจริงของบิทคอยน์ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติผลิตภัณฑ์ในเดือนมกราคม 2024 การเคลื่อนไหวนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความหวังให้กับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ว่าคริปโตจะเป็นส่วนหนึ่งของการเงินกระแสหลักมากขึ้น

    ผลิตภัณฑ์บิทคอยน์ของ BlackRock ชื่อ IBIT ได้รับความนิยมอย่างมาก มีสินทรัพย์สุทธิถึง $57.5 พันล้าน ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั่วโลกบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้

    ตลาดคริปโตในยุโรปกำลังเผชิญกับการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น โดยสหภาพยุโรปได้เริ่มใช้กรอบการกำกับดูแลคริปโตที่เรียกว่า Markets in Crypto-Assets Regulation (MiCA) ตั้งแต่ต้นปี 2023 ทำให้บริษัทในยุโรปต้องปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่เหล่านี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/06/blackrock-prepares-to-launch-bitcoin-exchange-traded-product-in-europe-source-says
    บริษัท BlackRock กำลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์ (bitcoin exchange-traded product) ในยุโรปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนและผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี่ได้มากขึ้น แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์นี้จะถูกจดทะเบียนในสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านมา BlackRock เป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันรายแรกที่เสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ติดตามราคาจริงของบิทคอยน์ หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติผลิตภัณฑ์ในเดือนมกราคม 2024 การเคลื่อนไหวนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความหวังให้กับอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ว่าคริปโตจะเป็นส่วนหนึ่งของการเงินกระแสหลักมากขึ้น ผลิตภัณฑ์บิทคอยน์ของ BlackRock ชื่อ IBIT ได้รับความนิยมอย่างมาก มีสินทรัพย์สุทธิถึง $57.5 พันล้าน ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2025 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั่วโลกบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้ ตลาดคริปโตในยุโรปกำลังเผชิญกับการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น โดยสหภาพยุโรปได้เริ่มใช้กรอบการกำกับดูแลคริปโตที่เรียกว่า Markets in Crypto-Assets Regulation (MiCA) ตั้งแต่ต้นปี 2023 ทำให้บริษัทในยุโรปต้องปรับตัวและปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่เหล่านี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/06/blackrock-prepares-to-launch-bitcoin-exchange-traded-product-in-europe-source-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    BlackRock prepares to launch bitcoin exchange-traded product in Europe, source says
    LONDON (Reuters) - BlackRock is gearing up to launch a bitcoin exchange-traded product in Europe within weeks, a source familiar with the matter told Reuters, amid growing demand for exposure to cryptocurrencies from both money managers and consumers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • การวิเคราะห์การเงินโลกเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและครอบคลุมหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงสถานะเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ นโยบายการเงิน การค้าระหว่างประเทศ ตลาดการเงิน และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาในการวิเคราะห์การเงินโลก:

    ### 1. **เศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการเติบโต**
    - **GDP โลก**: การเติบโตของ GDP โลกเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจโลก การชะลอตัวหรือการเติบโตที่ลดลงอาจส่งสัญญาณถึงปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การว่างงานที่เพิ่มขึ้นหรือการบริโภคที่ลดลง
    - **เศรษฐกิจหลัก**: เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก

    ### 2. **นโยบายการเงินและการคลัง**
    - **อัตราดอกเบี้ย**: ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เช่น Federal Reserve (สหรัฐอเมริกา), European Central Bank (สหภาพยุโรป), และ Bank of Japan (ญี่ปุ่น) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก
    - **นโยบายการคลัง**: การใช้จ่ายของรัฐบาลและการเก็บภาษีมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### 3. **ตลาดการเงิน**
    - **ตลาดหุ้น**: ดัชนีตลาดหุ้นหลัก ๆ เช่น S&P 500, Dow Jones, และ Nikkei 225 เป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจและการลงทุน
    - **ตลาดพันธบัตร**: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและความเสี่ยง
    - **ตลาดสกุลเงิน**: อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

    ### 4. **การค้าระหว่างประเทศ**
    - **ดุลการค้า**: การเกินดุลหรือขาดดุลการค้าของประเทศต่าง ๆ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
    - **ข้อตกลงการค้า**: ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ เช่น NAFTA, CPTPP, และ RCEP มีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

    ### 5. **ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์**
    - **ความขัดแย้งระหว่างประเทศ**: ความขัดแย้งทางการเมืองและการทหารสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน
    - **ความมั่นคงทางพลังงาน**: ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกพลังงาน

    ### 6. **เทคโนโลยีและนวัตกรรม**
    - **เทคโนโลยีการเงิน (FinTech)**: การพัฒนาของเทคโนโลยีการเงิน เช่น บล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี มีผลกระทบต่อระบบการเงินโลก
    - **นวัตกรรมทางอุตสาหกรรม**: การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI, IoT, และรถยนต์ไฟฟ้า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### 7. **ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน**
    - **การระบาดของโรค**: การระบาดของโรค เช่น COVID-19 มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก
    - **การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ**: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน

    ### สรุป
    การวิเคราะห์การเงินโลกต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน การเข้าใจแนวโน้มและความเสี่ยงเหล่านี้สามารถช่วยในการตัดสินใจทางการเงินและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    การวิเคราะห์การเงินโลกเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและครอบคลุมหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงสถานะเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ นโยบายการเงิน การค้าระหว่างประเทศ ตลาดการเงิน และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาในการวิเคราะห์การเงินโลก: ### 1. **เศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการเติบโต** - **GDP โลก**: การเติบโตของ GDP โลกเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจโลก การชะลอตัวหรือการเติบโตที่ลดลงอาจส่งสัญญาณถึงปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การว่างงานที่เพิ่มขึ้นหรือการบริโภคที่ลดลง - **เศรษฐกิจหลัก**: เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก ### 2. **นโยบายการเงินและการคลัง** - **อัตราดอกเบี้ย**: ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ เช่น Federal Reserve (สหรัฐอเมริกา), European Central Bank (สหภาพยุโรป), และ Bank of Japan (ญี่ปุ่น) มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก - **นโยบายการคลัง**: การใช้จ่ายของรัฐบาลและการเก็บภาษีมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุน ### 3. **ตลาดการเงิน** - **ตลาดหุ้น**: ดัชนีตลาดหุ้นหลัก ๆ เช่น S&P 500, Dow Jones, และ Nikkei 225 เป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจและการลงทุน - **ตลาดพันธบัตร**: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและความเสี่ยง - **ตลาดสกุลเงิน**: อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ### 4. **การค้าระหว่างประเทศ** - **ดุลการค้า**: การเกินดุลหรือขาดดุลการค้าของประเทศต่าง ๆ มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก - **ข้อตกลงการค้า**: ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ เช่น NAFTA, CPTPP, และ RCEP มีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ### 5. **ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์** - **ความขัดแย้งระหว่างประเทศ**: ความขัดแย้งทางการเมืองและการทหารสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน - **ความมั่นคงทางพลังงาน**: ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกพลังงาน ### 6. **เทคโนโลยีและนวัตกรรม** - **เทคโนโลยีการเงิน (FinTech)**: การพัฒนาของเทคโนโลยีการเงิน เช่น บล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี มีผลกระทบต่อระบบการเงินโลก - **นวัตกรรมทางอุตสาหกรรม**: การพัฒนาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI, IoT, และรถยนต์ไฟฟ้า มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ### 7. **ความเสี่ยงและความไม่แน่นอน** - **การระบาดของโรค**: การระบาดของโรค เช่น COVID-19 มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก - **การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ**: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุน ### สรุป การวิเคราะห์การเงินโลกต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน การเข้าใจแนวโน้มและความเสี่ยงเหล่านี้สามารถช่วยในการตัดสินใจทางการเงินและการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 435 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอ Nvidia RTX 3090 ที่ถูกส่งไปซ่อมที่ NorthridgeFix โดยการ์ดจอนี้มีปัญหาไม่สามารถตรวจจับได้เมื่อเชื่อมต่อกับระบบพีซี เจ้าของการ์ดจอได้แนบโน้ตมาด้วยว่า การ์ดจอนี้ไม่ได้ใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี และถูกเก็บไว้ในที่เก็บเป็นเวลาหลายปี

    อย่างไรก็ตาม เมื่อ Alex จาก NorthridgeFix ตรวจสอบการ์ดจอ พบว่าการ์ดจอนี้มีปัญหามากกว่าที่คาดไว้ โดย GPU และชิปหน่วยความจำทั้งหมดหายไป และมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ถูกกระแทกออกไป ทำให้การ์ดจอนี้ไม่สามารถซ่อมแซมได้

    Alex คาดว่าลูกค้าน่าจะซื้อการ์ดจอนี้จากผู้ขายที่หลอกลวง โดยผู้ขายอ้างว่าการ์ดจอนี้ถูกใช้ในพีซีสำหรับเล่นเกมและไม่เคยใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอนี้มากกว่าที่การขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซีจะทำได้

    บทเรียนที่สำคัญจากเหตุการณ์นี้คือ ผู้ซื้อควรระมัดระวังในการซื้อคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบที่ใช้แล้ว โดยควรเลือกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อถือได้และมีนโยบายการคืนสินค้าที่ดี หากเป็นไปได้ ควรซื้อและทดสอบสินค้าด้วยตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าอยู่ในสภาพดี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-3090-sent-in-to-repairer-was-missing-the-gpu-and-all-its-memory-chips
    บทความนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอ Nvidia RTX 3090 ที่ถูกส่งไปซ่อมที่ NorthridgeFix โดยการ์ดจอนี้มีปัญหาไม่สามารถตรวจจับได้เมื่อเชื่อมต่อกับระบบพีซี เจ้าของการ์ดจอได้แนบโน้ตมาด้วยว่า การ์ดจอนี้ไม่ได้ใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี และถูกเก็บไว้ในที่เก็บเป็นเวลาหลายปี อย่างไรก็ตาม เมื่อ Alex จาก NorthridgeFix ตรวจสอบการ์ดจอ พบว่าการ์ดจอนี้มีปัญหามากกว่าที่คาดไว้ โดย GPU และชิปหน่วยความจำทั้งหมดหายไป และมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ถูกกระแทกออกไป ทำให้การ์ดจอนี้ไม่สามารถซ่อมแซมได้ Alex คาดว่าลูกค้าน่าจะซื้อการ์ดจอนี้จากผู้ขายที่หลอกลวง โดยผู้ขายอ้างว่าการ์ดจอนี้ถูกใช้ในพีซีสำหรับเล่นเกมและไม่เคยใช้ในการขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการ์ดจอนี้มากกว่าที่การขุดเหมืองคริปโตเคอเรนซีจะทำได้ บทเรียนที่สำคัญจากเหตุการณ์นี้คือ ผู้ซื้อควรระมัดระวังในการซื้อคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบที่ใช้แล้ว โดยควรเลือกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อถือได้และมีนโยบายการคืนสินค้าที่ดี หากเป็นไปได้ ควรซื้อและทดสอบสินค้าด้วยตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าอยู่ในสภาพดี https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-3090-sent-in-to-repairer-was-missing-the-gpu-and-all-its-memory-chips
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • Grayscale Investments ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตที่มีชื่อเสียง เปิดตัวกองทุนที่เน้นการลงทุนใน Dogecoin กองทุนนี้มีชื่อว่า Grayscale Dogecoin Trust และมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึง Dogecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น

    Dogecoin เริ่มต้นจากการเป็น "memecoin" หรือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนที่ไม่ได้รับการบริการจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ Rayhaneh Sharif-Askary หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และการวิจัยของ Grayscale กล่าวว่า Dogecoin ช่วยให้กลุ่มคนที่ไม่ได้รับการบริการจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้

    กองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาตลาดของ Dogecoin และเปิดให้สมัครสมาชิกสำหรับนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งบุคคลและสถาบัน. Dogecoin ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการสนับสนุนจาก Elon Musk CEO ของ Tesla และบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

    นอกจากนี้ Dogecoin ยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    การเปิดตัวกองทุนนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการหาผลตอบแทนจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/01/grayscale-launches-dogecoin-focused-fund-as-altcoin-adoption-picks-up-pace
    Grayscale Investments ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตที่มีชื่อเสียง เปิดตัวกองทุนที่เน้นการลงทุนใน Dogecoin กองทุนนี้มีชื่อว่า Grayscale Dogecoin Trust และมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึง Dogecoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีความนิยมเพิ่มขึ้น Dogecoin เริ่มต้นจากการเป็น "memecoin" หรือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อความสนุกสนาน แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้คนที่ไม่ได้รับการบริการจากระบบการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ Rayhaneh Sharif-Askary หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และการวิจัยของ Grayscale กล่าวว่า Dogecoin ช่วยให้กลุ่มคนที่ไม่ได้รับการบริการจากโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้าร่วมในระบบการเงินได้ กองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อติดตามราคาตลาดของ Dogecoin และเปิดให้สมัครสมาชิกสำหรับนักลงทุนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งบุคคลและสถาบัน. Dogecoin ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเนื่องจากการสนับสนุนจาก Elon Musk CEO ของ Tesla และบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก นอกจากนี้ Dogecoin ยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับแปดของโลก โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การเปิดตัวกองทุนนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการหาผลตอบแทนจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/01/grayscale-launches-dogecoin-focused-fund-as-altcoin-adoption-picks-up-pace
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Grayscale launches dogecoin-focused fund as altcoin adoption picks up pace
    (Reuters) - Grayscale Investments said on Friday it was launching an investment fund aimed at dogecoin, as the cryptocurrency asset manager looks to tap into the increasing momentum around alternatives to bitcoin.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังตรวจสอบว่า DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลของ OpenAI อย่างผิดกฎหมายเพื่อฝึกโมเดล AI ของตนหรือไม่ มีรายงานว่า Microsoft และ OpenAI ได้เริ่มการสอบสวนร่วมกันหลังจากที่นักวิจัยด้านความปลอดภัยของ Microsoft พบว่ากลุ่มที่เชื่อมโยงกับ DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลจำนวนมากผ่าน API ของ OpenAI

    แม้ว่าผู้พัฒนาสามารถจ่ายเงินเพื่อใช้ข้อมูลนี้ในแอปพลิเคชันของตนได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ Microsoft สงสัยว่าการกระทำของ DeepSeek อาจละเมิดข้อกำหนดการให้บริการของ OpenAI การสอบสวนนี้เริ่มขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว และขณะนี้กำลังถูกพิจารณาว่าเป็นการละเมิดข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น

    โฆษกของ OpenAI ปฏิเสธที่จะยืนยันการขโมยข้อมูล แต่กล่าวว่าบริษัทใช้มาตรการป้องกันที่ทันสมัยเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของตน นอกจากนี้ OpenAI ยังทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อป้องกันไม่ให้โมเดล AI ของตนตกไปอยู่ในมือของศัตรูและคู่แข่งจากต่างประเทศ

    David Sacks, ผู้ดูแลด้าน AI และคริปโตของทำเนียบขาว, กล่าวว่ามี "หลักฐานที่ชัดเจน" ว่า DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลของ OpenAI อย่างไม่ถูกต้องและอาจผิดกฎหมาย Microsoft ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ขณะที่ DeepSeek ไม่สามารถติดต่อได้เพื่อขอความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อขัดแย้งนี้

    https://www.techspot.com/news/106551-microsoft-investigating-if-deepseek-illegally-accessed-openai-data.html
    Microsoft กำลังตรวจสอบว่า DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลของ OpenAI อย่างผิดกฎหมายเพื่อฝึกโมเดล AI ของตนหรือไม่ มีรายงานว่า Microsoft และ OpenAI ได้เริ่มการสอบสวนร่วมกันหลังจากที่นักวิจัยด้านความปลอดภัยของ Microsoft พบว่ากลุ่มที่เชื่อมโยงกับ DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลจำนวนมากผ่าน API ของ OpenAI แม้ว่าผู้พัฒนาสามารถจ่ายเงินเพื่อใช้ข้อมูลนี้ในแอปพลิเคชันของตนได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ Microsoft สงสัยว่าการกระทำของ DeepSeek อาจละเมิดข้อกำหนดการให้บริการของ OpenAI การสอบสวนนี้เริ่มขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว และขณะนี้กำลังถูกพิจารณาว่าเป็นการละเมิดข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น โฆษกของ OpenAI ปฏิเสธที่จะยืนยันการขโมยข้อมูล แต่กล่าวว่าบริษัทใช้มาตรการป้องกันที่ทันสมัยเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของตน นอกจากนี้ OpenAI ยังทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อป้องกันไม่ให้โมเดล AI ของตนตกไปอยู่ในมือของศัตรูและคู่แข่งจากต่างประเทศ David Sacks, ผู้ดูแลด้าน AI และคริปโตของทำเนียบขาว, กล่าวว่ามี "หลักฐานที่ชัดเจน" ว่า DeepSeek ได้เข้าถึงข้อมูลของ OpenAI อย่างไม่ถูกต้องและอาจผิดกฎหมาย Microsoft ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ขณะที่ DeepSeek ไม่สามารถติดต่อได้เพื่อขอความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อขัดแย้งนี้ https://www.techspot.com/news/106551-microsoft-investigating-if-deepseek-illegally-accessed-openai-data.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft is investigating if DeepSeek illegally accessed OpenAI data to train its AI model
    According to unnamed sources cited by Bloomberg, the probe started last fall after Microsoft's security researchers discovered that a group linked to DeepSeek had accessed a large...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ "ทลายมังกรเทาชลบุรี" เข้าตรวจค้น 5 จุดในจังหวัดชลบุรี พบกลุ่มชาวจีนเทาใช้คริปโตเคอร์เรนซีจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ และจดทะเบียนนิติบุคคลกว่า 40 แห่ง เพื่อดำเนินธุรกิจปล่อยเช่า รับชำระค่าบริการผ่าน USDT และสกุลเงินต่างประเทศ ตำรวจยึดหลักฐานสำคัญ พร้อมเตรียมขยายผลดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้กระทำผิด มุ่งปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงินประเทศ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008991

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ "ทลายมังกรเทาชลบุรี" เข้าตรวจค้น 5 จุดในจังหวัดชลบุรี พบกลุ่มชาวจีนเทาใช้คริปโตเคอร์เรนซีจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ และจดทะเบียนนิติบุคคลกว่า 40 แห่ง เพื่อดำเนินธุรกิจปล่อยเช่า รับชำระค่าบริการผ่าน USDT และสกุลเงินต่างประเทศ ตำรวจยึดหลักฐานสำคัญ พร้อมเตรียมขยายผลดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้กระทำผิด มุ่งปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงินประเทศ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008991 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Haha
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1155 มุมมอง 0 รีวิว
  • Humanity Protocol บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนผ่านบล็อกเชน โดยใช้การสแกนฝ่ามือเพื่อยืนยันว่าบัญชีออนไลน์นั้นเป็นของบุคคลจริง เพิ่งได้รับการประเมินมูลค่าเต็มที่ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ หลังจากระดมทุนได้ 20 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุนที่นำโดย Pantera Capital และ Jump Crypto

    Humanity Protocol มีเป้าหมายที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตนในวงกว้างในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับบอท บัญชีปลอม และการฉ้อโกงออนไลน์

    การยืนยันตัวตนดิจิทัลกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ deepfakes และการฉ้อโกงทางไซเบอร์ บริษัทสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชนกำลังหันมาใช้ไบโอเมตริกส์เพื่อตอบสนองความต้องการนี้

    นอกจากนี้ Humanity Protocol ยังเตรียมเปิดตัวโทเค็นคริปโตของตนเอง โดยกำลังทำการเตรียมการขั้นสุดท้ายเพื่อให้การเปิดตัวเป็นไปอย่างราบรื่น การสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลับมาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาวอีกครั้ง ทำให้บริษัทสตาร์ทอัพด้านคริปโตและบล็อกเชนคาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนและการลงทุนมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/27/humanity-protocol-valued-at-11-billion-after-latest-fundraise
    Humanity Protocol บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนผ่านบล็อกเชน โดยใช้การสแกนฝ่ามือเพื่อยืนยันว่าบัญชีออนไลน์นั้นเป็นของบุคคลจริง เพิ่งได้รับการประเมินมูลค่าเต็มที่ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ หลังจากระดมทุนได้ 20 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุนที่นำโดย Pantera Capital และ Jump Crypto Humanity Protocol มีเป้าหมายที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตนในวงกว้างในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพิสูจน์ตัวตนได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับบอท บัญชีปลอม และการฉ้อโกงออนไลน์ การยืนยันตัวตนดิจิทัลกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ deepfakes และการฉ้อโกงทางไซเบอร์ บริษัทสตาร์ทอัพด้านบล็อกเชนกำลังหันมาใช้ไบโอเมตริกส์เพื่อตอบสนองความต้องการนี้ นอกจากนี้ Humanity Protocol ยังเตรียมเปิดตัวโทเค็นคริปโตของตนเอง โดยกำลังทำการเตรียมการขั้นสุดท้ายเพื่อให้การเปิดตัวเป็นไปอย่างราบรื่น การสนับสนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กลับมาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาวอีกครั้ง ทำให้บริษัทสตาร์ทอัพด้านคริปโตและบล็อกเชนคาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนและการลงทุนมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/27/humanity-protocol-valued-at-11-billion-after-latest-fundraise
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Humanity Protocol valued at $1.1 billion after latest fundraise
    (Reuters) - Humanity Protocol has secured a fully diluted valuation of $1.1 billion after raising $20 million in a funding round co-led by Pantera Capital and Jump Crypto, the identity verification blockchain firm said on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts