• คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการตัดสินใจนี้สะท้อนถึงแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    Binance เคยถูกกล่าวหาว่า เพิ่มปริมาณการซื้อขายโดยไม่โปร่งใส, โอนเงินลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่นักลงทุน อย่างไรก็ตาม การยกเลิกคดีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน และ Binance ยอมจ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

    นอกจากนี้ SEC ยังเคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Coinbase จัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นหลักทรัพย์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจเชิงนโยบาย
    - Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน
    - Binance จ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อยุติคดีอาญา
    - SEC เคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งถูกกล่าวหาว่าจัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การยกเลิกคดีไม่ได้หมายความว่า Binance ไม่มีความผิด แต่เป็นการตัดสินใจเชิงนโยบายของ SEC
    - นักลงทุนควรติดตามแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของทรัมป์
    - Binance ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบในประเทศอื่น ๆ
    - ตลาดคริปโตยังคงมีความเสี่ยงสูง และนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

    การยกเลิกคดี Binance ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต และอาจส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/us-sec-voluntarily-dismisses-lawsuit-against-binance
    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการตัดสินใจนี้สะท้อนถึงแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ Binance เคยถูกกล่าวหาว่า เพิ่มปริมาณการซื้อขายโดยไม่โปร่งใส, โอนเงินลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่นักลงทุน อย่างไรก็ตาม การยกเลิกคดีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน และ Binance ยอมจ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ SEC ยังเคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Coinbase จัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจเชิงนโยบาย - Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน - Binance จ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อยุติคดีอาญา - SEC เคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งถูกกล่าวหาว่าจัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การยกเลิกคดีไม่ได้หมายความว่า Binance ไม่มีความผิด แต่เป็นการตัดสินใจเชิงนโยบายของ SEC - นักลงทุนควรติดตามแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของทรัมป์ - Binance ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบในประเทศอื่น ๆ - ตลาดคริปโตยังคงมีความเสี่ยงสูง และนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน การยกเลิกคดี Binance ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต และอาจส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/us-sec-voluntarily-dismisses-lawsuit-against-binance
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US SEC dismisses lawsuit against Binance crypto exchange
    (Reuters) -The U.S. Securities and Exchange Commission on Thursday voluntarily dismissed its civil lawsuit against Binance, the world's largest cryptocurrency exchange, extending the regulator's new approach to cryptocurrencies since President Donald Trump reentered the White House.
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มมัลแวร์ที่กำลังเพิ่มขึ้นเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในกลยุทธ์ของอาชญากรไซเบอร์ โดยมีการใช้ AI และเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตี

    มัลแวร์กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ infostealers ที่ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น คุกกี้เบราว์เซอร์, ข้อมูล VPN, โทเค็น MFA และกระเป๋าเงินคริปโต ซึ่งถูกขายในตลาดมืดเพื่อให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบองค์กรได้ง่ายขึ้น

    นอกจากนี้ มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม (social engineering) กำลังเพิ่มขึ้น โดยใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คัดลอกและวางโค้ดที่เป็นอันตรายลงในระบบของตนเอง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - infostealers เพิ่มขึ้น 58% ในปีที่ผ่านมา และรับผิดชอบต่อ 75% ของข้อมูลที่ถูกขโมย
    - มัลแวร์ที่ฝังอยู่ในแพ็กเกจสำหรับนักพัฒนา เพิ่มขึ้น 156% โดยพบมากใน NPM, PyPI และ HuggingFace
    - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนไปใช้การโจมตีแบบเจาะจง โดยเน้นการขโมยข้อมูลก่อนเข้ารหัสไฟล์
    - มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม เช่น ClickFix กำลังแพร่หลายมากขึ้น

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - องค์กรควรตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของระบบ เพื่อป้องกันการโจมตีจาก infostealers
    - นักพัฒนาควรตรวจสอบแพ็กเกจที่ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงมัลแวร์ที่ฝังอยู่ในเครื่องมือพัฒนา
    - ผู้ใช้ควรระวังการโจมตีแบบ ClickFix ซึ่งอาจทำให้พวกเขาติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว
    - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์ จากการเข้ารหัสไฟล์ไปเป็นการขโมยข้อมูลและขู่กรรโชก

    แนวโน้มมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่องค์กรและผู้ใช้ทั่วไปต้องปรับตัวและเพิ่มมาตรการป้องกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/3997388/6-rising-malware-trends-every-security-pro-should-know.html
    ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มมัลแวร์ที่กำลังเพิ่มขึ้นเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในกลยุทธ์ของอาชญากรไซเบอร์ โดยมีการใช้ AI และเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตี มัลแวร์กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ infostealers ที่ขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น คุกกี้เบราว์เซอร์, ข้อมูล VPN, โทเค็น MFA และกระเป๋าเงินคริปโต ซึ่งถูกขายในตลาดมืดเพื่อให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบองค์กรได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม (social engineering) กำลังเพิ่มขึ้น โดยใช้เทคนิค ClickFix ที่หลอกให้ผู้ใช้คัดลอกและวางโค้ดที่เป็นอันตรายลงในระบบของตนเอง ✅ ข้อมูลจากข่าว - infostealers เพิ่มขึ้น 58% ในปีที่ผ่านมา และรับผิดชอบต่อ 75% ของข้อมูลที่ถูกขโมย - มัลแวร์ที่ฝังอยู่ในแพ็กเกจสำหรับนักพัฒนา เพิ่มขึ้น 156% โดยพบมากใน NPM, PyPI และ HuggingFace - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนไปใช้การโจมตีแบบเจาะจง โดยเน้นการขโมยข้อมูลก่อนเข้ารหัสไฟล์ - มัลแวร์ที่ใช้วิศวกรรมสังคม เช่น ClickFix กำลังแพร่หลายมากขึ้น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - องค์กรควรตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของระบบ เพื่อป้องกันการโจมตีจาก infostealers - นักพัฒนาควรตรวจสอบแพ็กเกจที่ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงมัลแวร์ที่ฝังอยู่ในเครื่องมือพัฒนา - ผู้ใช้ควรระวังการโจมตีแบบ ClickFix ซึ่งอาจทำให้พวกเขาติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว - แรนซัมแวร์กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์ จากการเข้ารหัสไฟล์ไปเป็นการขโมยข้อมูลและขู่กรรโชก แนวโน้มมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่องค์กรและผู้ใช้ทั่วไปต้องปรับตัวและเพิ่มมาตรการป้องกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้อนมากขึ้น https://www.csoonline.com/article/3997388/6-rising-malware-trends-every-security-pro-should-know.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    6 rising malware trends every security pro should know
    From infostealers commoditizing initial access to a more targeted approach to ransomware attacks, cybercriminals’ malware tools, tactics, and techniques are evolving rapidly.
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • GameStop บริษัทค้าปลีกวิดีโอเกมที่เคยเป็นกระแสจากปรากฏการณ์หุ้นมีมในปี 2021 ได้ลงทุนซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก โดยบริษัทซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยช่วงเวลาที่ทำการซื้อก็ตาม

    GameStop ดำเนินกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกับบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุด และราคาหุ้นของ Strategy มักจะปรับตัวขึ้นตามราคาของ Bitcoin ทำให้นักลงทุนบางรายสนใจลงทุนในบริษัทนี้แทนการลงทุนใน Bitcoin โดยตรง

    การลงทุนใน Bitcoin ของ GameStop อาจช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนและฟื้นฟูธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาในการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ หุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด ซึ่งสะท้อนถึงความหวังของนักลงทุนที่อาจมองว่าการเข้าสู่ตลาดคริปโตเป็นโอกาสใหม่

    🔍 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน
    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - GameStop ซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญ
    - ซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ
    - ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 108,903 เหรียญ ณ เวลา 7:00 น. ET
    - เป็นการซื้อ Bitcoin ครั้งแรกของบริษัทหลังประกาศแผนลงทุนในเดือนมีนาคม
    - หุ้นของ GameStop เพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด
    - บริษัทมีเงินสดและหลักทรัพย์มูลค่า 4.78 พันล้านเหรียญ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การลงทุนใน Bitcoin มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนอย่างมาก
    - นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน เนื่องจาก Bitcoin อาจมีแนวโน้มลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - เกมสต็อปกำลังเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และการซื้อ Bitcoin อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ชั่วคราว
    - นักลงทุนที่สนใจหุ้น GameStop ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ศักยภาพในการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนใน Bitcoin

    GameStop อาจพยายามใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างความสนใจจากตลาดและนักลงทุน แต่ก็ยังคงต้องพิสูจน์ว่าการลงทุนใน Bitcoin จะช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวได้จริงหรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/gamestop-buys-bitcoin-worth-513-million-in-crypto-push
    GameStop บริษัทค้าปลีกวิดีโอเกมที่เคยเป็นกระแสจากปรากฏการณ์หุ้นมีมในปี 2021 ได้ลงทุนซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก โดยบริษัทซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยช่วงเวลาที่ทำการซื้อก็ตาม GameStop ดำเนินกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกับบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุด และราคาหุ้นของ Strategy มักจะปรับตัวขึ้นตามราคาของ Bitcoin ทำให้นักลงทุนบางรายสนใจลงทุนในบริษัทนี้แทนการลงทุนใน Bitcoin โดยตรง การลงทุนใน Bitcoin ของ GameStop อาจช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนและฟื้นฟูธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาในการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ หุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด ซึ่งสะท้อนถึงความหวังของนักลงทุนที่อาจมองว่าการเข้าสู่ตลาดคริปโตเป็นโอกาสใหม่ 🔍 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน ✅ ข้อมูลจากข่าว - GameStop ซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญ - ซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ - ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 108,903 เหรียญ ณ เวลา 7:00 น. ET - เป็นการซื้อ Bitcoin ครั้งแรกของบริษัทหลังประกาศแผนลงทุนในเดือนมีนาคม - หุ้นของ GameStop เพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด - บริษัทมีเงินสดและหลักทรัพย์มูลค่า 4.78 พันล้านเหรียญ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การลงทุนใน Bitcoin มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนอย่างมาก - นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน เนื่องจาก Bitcoin อาจมีแนวโน้มลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว - เกมสต็อปกำลังเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และการซื้อ Bitcoin อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ชั่วคราว - นักลงทุนที่สนใจหุ้น GameStop ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ศักยภาพในการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนใน Bitcoin GameStop อาจพยายามใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างความสนใจจากตลาดและนักลงทุน แต่ก็ยังคงต้องพิสูจน์ว่าการลงทุนใน Bitcoin จะช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวได้จริงหรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/gamestop-buys-bitcoin-worth-513-million-in-crypto-push
    WWW.THESTAR.COM.MY
    GameStop buys bitcoin worth $513 million in crypto push
    (Reuters) -GameStop has purchased bitcoin worth about $513 million, the company said on Wednesday as the ailing video game retailer looks to capitalize on the growing adoption of cryptocurrencies globally.
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • InWin เปิดตัว IW-1650W – พาวเวอร์ซัพพลาย 1650W สำหรับ GPU โดยเฉพาะ

    InWin เปิดตัว IW-1650W ซึ่งเป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการ์ดจอโดยเฉพาะ โดยมี กำลังไฟ 1650W และรองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัวผ่านขั้วต่อ 16-pin ซึ่งเป็นแนวคิดที่คล้ายกับระบบที่ใช้ใน เซิร์ฟเวอร์และเครื่องขุดคริปโต

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ IW-1650W
    ✅ IW-1650W เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อจ่ายไฟให้กับ GPU เท่านั้น
    - ไม่สามารถ ทำงานได้โดยลำพัง ต้องใช้ร่วมกับพาวเวอร์ซัพพลายหลัก

    ✅ รองรับมาตรฐาน PCIe 5.1 CEM และมีขั้วต่อ 12V-2x6 จำนวน 4 ช่อง
    - สามารถ รองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัว เช่น RTX 5080

    ✅ มีพัดลมระบายความร้อนขนาด 13.5 ซม. และมี Active PFC ที่ 0.99
    - ช่วยให้ ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงถึง 90%

    ✅ ออกแบบให้เป็นระบบโมดูลาร์ สามารถถอดสายไฟที่ไม่จำเป็นออกได้
    - ช่วยให้ การจัดสายภายในเคสเป็นระเบียบมากขึ้น

    ✅ InWin เปิดตัว IW-1650W ที่งาน Computex 2025 แต่ยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่าย
    - คาดว่า จะมีข้อมูลเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/inwin-preps-1650w-gpu-power-supply-with-four-16-pin-power-connectors
    InWin เปิดตัว IW-1650W – พาวเวอร์ซัพพลาย 1650W สำหรับ GPU โดยเฉพาะ InWin เปิดตัว IW-1650W ซึ่งเป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการ์ดจอโดยเฉพาะ โดยมี กำลังไฟ 1650W และรองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัวผ่านขั้วต่อ 16-pin ซึ่งเป็นแนวคิดที่คล้ายกับระบบที่ใช้ใน เซิร์ฟเวอร์และเครื่องขุดคริปโต 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ IW-1650W ✅ IW-1650W เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อจ่ายไฟให้กับ GPU เท่านั้น - ไม่สามารถ ทำงานได้โดยลำพัง ต้องใช้ร่วมกับพาวเวอร์ซัพพลายหลัก ✅ รองรับมาตรฐาน PCIe 5.1 CEM และมีขั้วต่อ 12V-2x6 จำนวน 4 ช่อง - สามารถ รองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัว เช่น RTX 5080 ✅ มีพัดลมระบายความร้อนขนาด 13.5 ซม. และมี Active PFC ที่ 0.99 - ช่วยให้ ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงถึง 90% ✅ ออกแบบให้เป็นระบบโมดูลาร์ สามารถถอดสายไฟที่ไม่จำเป็นออกได้ - ช่วยให้ การจัดสายภายในเคสเป็นระเบียบมากขึ้น ✅ InWin เปิดตัว IW-1650W ที่งาน Computex 2025 แต่ยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่าย - คาดว่า จะมีข้อมูลเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้ https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/inwin-preps-1650w-gpu-power-supply-with-four-16-pin-power-connectors
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    InWin preps 1650W GPU power supply with four 16-pin power connectors
    A secondary power supply designed for the latest AMD and Nvidia graphics cards
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • ผุดไอเดียใหม่ ‘คริปโตเคอร์เรนซี ผูกบัตรเครดิต ใช้ซื้อสินค้า&บริการ’ ปัจจุบันประเทศไทย ยังไม่เปิดให้ใช้คริปโตฯ ซื้อสินค้าโดยตรง /รมว.คลัง แจงหลักการไอเดียนี้ คือ เมื่อผู้ซื้อ ใช้บัตรเครดิต จะสามารถเลือกได้ว่า ซื้อด้วยคริปโตฯ จากนั้นมีระบบ Exchange ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง แปลงสกุลเงิน เป็นเงินบาท ก่อนจะถึงมือผู้ขาย /ย้ำยังเป็นเพียงแนวคิด
    ผุดไอเดียใหม่ ‘คริปโตเคอร์เรนซี ผูกบัตรเครดิต ใช้ซื้อสินค้า&บริการ’ ปัจจุบันประเทศไทย ยังไม่เปิดให้ใช้คริปโตฯ ซื้อสินค้าโดยตรง /รมว.คลัง แจงหลักการไอเดียนี้ คือ เมื่อผู้ซื้อ ใช้บัตรเครดิต จะสามารถเลือกได้ว่า ซื้อด้วยคริปโตฯ จากนั้นมีระบบ Exchange ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง แปลงสกุลเงิน เป็นเงินบาท ก่อนจะถึงมือผู้ขาย /ย้ำยังเป็นเพียงแนวคิด
    Wow
    1
    0 Comments 0 Shares 295 Views 15 0 Reviews
  • เตือนภัย! มิจฉาชีพใช้วิดีโอ AI บน TikTok หลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์ขโมยข้อมูล

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Trend Micro พบว่ามิจฉาชีพ ใช้วิดีโอที่สร้างโดย AI บน TikTok เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมัลแวร์ขโมยข้อมูล โดยวิดีโอเหล่านี้ แสดงวิธีเปิดใช้งานฟีเจอร์พรีเมียมในแอปต่าง ๆ เช่น Windows, Microsoft Office, Spotify และ CapCut แต่แท้จริงแล้ว เป็นคำสั่ง PowerShell ที่ดาวน์โหลดมัลแวร์ Vidar และ StealC

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการโจมตีผ่านวิดีโอ AI บน TikTok
    ✅ วิดีโอถูกสร้างโดย AI และมีเสียงบรรยายที่ดูเหมือนจริง
    - ทำให้ ผู้ใช้หลงเชื่อและทำตามคำแนะนำในวิดีโอ

    ✅ วิดีโอแสดงให้เห็นการใช้คำสั่ง PowerShell เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์พรีเมียม
    - แต่แท้จริงแล้ว เป็นคำสั่งที่ดาวน์โหลดมัลแวร์ขโมยข้อมูล

    ✅ มัลแวร์ที่ถูกดาวน์โหลดสามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน, ข้อมูลบัตรเครดิต และกระเป๋าเงินคริปโต
    - รวมถึง คุกกี้, โค้ด 2FA และข้อมูลการเข้าสู่ระบบ

    ✅ TikTok ช่วยให้วิดีโอเหล่านี้แพร่กระจายได้ง่ายผ่านอัลกอริธึมของแพลตฟอร์ม
    - วิดีโอหนึ่ง มีผู้ชมมากกว่า 500,000 ครั้งและมีมากกว่า 20,000 ไลก์

    ✅ วิดีโอเหล่านี้มีลักษณะคล้ายกันมาก โดยเปลี่ยนเพียงมุมกล้องและ URL ที่ใช้ดาวน์โหลดมัลแวร์
    - แสดงให้เห็นว่า วิดีโอถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ

    ‼️ อย่ารันคำสั่ง PowerShell ที่มาจากวิดีโอหรือแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
    - ควร ตรวจสอบแหล่งที่มาก่อนดำเนินการใด ๆ

    ‼️ หากพบวิดีโอที่น่าสงสัยบน TikTok ควรแจ้งรายงานเพื่อให้แพลตฟอร์มตรวจสอบ
    - TikTok อาจต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของมัลแวร์

    https://www.techradar.com/pro/security/tiktok-fans-beware-experts-warn-dangerous-malware-spread-by-ai-fake-videos
    เตือนภัย! มิจฉาชีพใช้วิดีโอ AI บน TikTok หลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์ขโมยข้อมูล นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Trend Micro พบว่ามิจฉาชีพ ใช้วิดีโอที่สร้างโดย AI บน TikTok เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมัลแวร์ขโมยข้อมูล โดยวิดีโอเหล่านี้ แสดงวิธีเปิดใช้งานฟีเจอร์พรีเมียมในแอปต่าง ๆ เช่น Windows, Microsoft Office, Spotify และ CapCut แต่แท้จริงแล้ว เป็นคำสั่ง PowerShell ที่ดาวน์โหลดมัลแวร์ Vidar และ StealC 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการโจมตีผ่านวิดีโอ AI บน TikTok ✅ วิดีโอถูกสร้างโดย AI และมีเสียงบรรยายที่ดูเหมือนจริง - ทำให้ ผู้ใช้หลงเชื่อและทำตามคำแนะนำในวิดีโอ ✅ วิดีโอแสดงให้เห็นการใช้คำสั่ง PowerShell เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์พรีเมียม - แต่แท้จริงแล้ว เป็นคำสั่งที่ดาวน์โหลดมัลแวร์ขโมยข้อมูล ✅ มัลแวร์ที่ถูกดาวน์โหลดสามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน, ข้อมูลบัตรเครดิต และกระเป๋าเงินคริปโต - รวมถึง คุกกี้, โค้ด 2FA และข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ✅ TikTok ช่วยให้วิดีโอเหล่านี้แพร่กระจายได้ง่ายผ่านอัลกอริธึมของแพลตฟอร์ม - วิดีโอหนึ่ง มีผู้ชมมากกว่า 500,000 ครั้งและมีมากกว่า 20,000 ไลก์ ✅ วิดีโอเหล่านี้มีลักษณะคล้ายกันมาก โดยเปลี่ยนเพียงมุมกล้องและ URL ที่ใช้ดาวน์โหลดมัลแวร์ - แสดงให้เห็นว่า วิดีโอถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ ‼️ อย่ารันคำสั่ง PowerShell ที่มาจากวิดีโอหรือแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ - ควร ตรวจสอบแหล่งที่มาก่อนดำเนินการใด ๆ ‼️ หากพบวิดีโอที่น่าสงสัยบน TikTok ควรแจ้งรายงานเพื่อให้แพลตฟอร์มตรวจสอบ - TikTok อาจต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของมัลแวร์ https://www.techradar.com/pro/security/tiktok-fans-beware-experts-warn-dangerous-malware-spread-by-ai-fake-videos
    WWW.TECHRADAR.COM
    TikTok fans beware - experts warn dangerous malware spread by AI fake videos
    Campaign is a "significant departure" from earlier video-borne malware attacks
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • พบส่วนขยายปลอมบน Google Chrome ที่แอบขโมยข้อมูลผู้ใช้

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก DomainTools พบว่า มีส่วนขยายปลอมมากกว่า 100 รายการบน Google Chrome Web Store ที่แอบขโมยข้อมูลผู้ใช้ โดยส่วนขยายเหล่านี้ ปลอมตัวเป็น VPN, AI assistants และเครื่องมือคริปโต รวมถึง แอบอ้างแบรนด์ดังอย่าง Fortinet, YouTube และ Calendly

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับส่วนขยายปลอมบน Chrome
    ✅ พบส่วนขยายปลอมมากกว่า 100 รายการที่แอบขโมยข้อมูลผู้ใช้
    - ส่วนขยายเหล่านี้ สามารถรับคำสั่งจากแฮกเกอร์เพื่อดำเนินการโจมตีเพิ่มเติม

    ✅ Google ได้ลบส่วนขยายที่เป็นอันตรายออกจาก Chrome Web Store
    - อย่างไรก็ตาม ยังมีบางส่วนที่ยังคงอยู่และเป็นภัยต่อผู้ใช้

    ✅ แฮกเกอร์ใช้แคมเปญโฆษณาเพื่อโปรโมตส่วนขยายปลอม
    - ทำให้ ผู้ใช้หลงเชื่อและติดตั้งโดยไม่รู้ตัว

    ✅ ส่วนขยายปลอมสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและข้อมูลบัตรเครดิต
    - โดยใช้ สิทธิ์ระดับสูงที่ได้รับจากผู้ใช้

    ✅ นักวิจัยแนะนำให้ผู้ใช้ติดตั้งส่วนขยายจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น
    - ควรตรวจสอบ รีวิวและจำนวนการดาวน์โหลดก่อนติดตั้ง

    https://www.techradar.com/pro/security/these-dangerous-fake-google-chrome-extensions-spoof-vpns-and-youtube
    พบส่วนขยายปลอมบน Google Chrome ที่แอบขโมยข้อมูลผู้ใช้ นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก DomainTools พบว่า มีส่วนขยายปลอมมากกว่า 100 รายการบน Google Chrome Web Store ที่แอบขโมยข้อมูลผู้ใช้ โดยส่วนขยายเหล่านี้ ปลอมตัวเป็น VPN, AI assistants และเครื่องมือคริปโต รวมถึง แอบอ้างแบรนด์ดังอย่าง Fortinet, YouTube และ Calendly 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับส่วนขยายปลอมบน Chrome ✅ พบส่วนขยายปลอมมากกว่า 100 รายการที่แอบขโมยข้อมูลผู้ใช้ - ส่วนขยายเหล่านี้ สามารถรับคำสั่งจากแฮกเกอร์เพื่อดำเนินการโจมตีเพิ่มเติม ✅ Google ได้ลบส่วนขยายที่เป็นอันตรายออกจาก Chrome Web Store - อย่างไรก็ตาม ยังมีบางส่วนที่ยังคงอยู่และเป็นภัยต่อผู้ใช้ ✅ แฮกเกอร์ใช้แคมเปญโฆษณาเพื่อโปรโมตส่วนขยายปลอม - ทำให้ ผู้ใช้หลงเชื่อและติดตั้งโดยไม่รู้ตัว ✅ ส่วนขยายปลอมสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและข้อมูลบัตรเครดิต - โดยใช้ สิทธิ์ระดับสูงที่ได้รับจากผู้ใช้ ✅ นักวิจัยแนะนำให้ผู้ใช้ติดตั้งส่วนขยายจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น - ควรตรวจสอบ รีวิวและจำนวนการดาวน์โหลดก่อนติดตั้ง https://www.techradar.com/pro/security/these-dangerous-fake-google-chrome-extensions-spoof-vpns-and-youtube
    WWW.TECHRADAR.COM
    These dangerous fake Google Chrome extensions spoof VPNs and YouTube
    More than 100 extensions were seen stealing sensitive browser data
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • Microsoft นำทีมปฏิบัติการระดับโลก ปิดเครือข่ายมัลแวร์ Lumma Stealer ที่ติดไวรัสกว่า 394,000 เครื่อง

    Microsoft ร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลกเพื่อปิดเครือข่ายมัลแวร์ Lumma Stealer ซึ่งเป็น มัลแวร์ประเภท Infostealer ที่ขโมยข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางธุรกิจ โดยมี ผู้ใช้กว่า 394,000 รายได้รับผลกระทบในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการปิดเครือข่าย Lumma Stealer
    ✅ Microsoft Digital Crimes Unit (DCU) ประสบความสำเร็จในการรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานของ Lumma Stealer
    - ปิดกั้น 2,300 โดเมนที่ใช้เป็นศูนย์กลางของการดำเนินงาน

    ✅ มัลแวร์ Lumma Stealer ถูกใช้เพื่อขโมยรหัสผ่าน, ข้อมูลบัตรเครดิต และกระเป๋าเงินคริปโต
    - รวมถึง การโจมตีบริการสำคัญและการขโมยเอกสารจากเครื่องที่ติดไวรัส

    ✅ Microsoft ทำงานร่วมกับศาลรัฐบาลกลางในจอร์เจีย, กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ, Europol และศูนย์ควบคุมอาชญากรรมไซเบอร์ของญี่ปุ่น
    - เพื่อ รื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานของ Lumma และป้องกันการแพร่กระจายเพิ่มเติม

    ✅ มัลแวร์ LummaC2 ถูกขายในตลาดมืดตั้งแต่ปี 2022 และพัฒนาให้มีฟีเจอร์ขั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ
    - สามารถ ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, ค้นหากระเป๋าเงินคริปโต และเจาะระบบ VPN

    ✅ มัลแวร์แพร่กระจายผ่านอีเมลฟิชชิ่ง, โฆษณาอันตราย และเว็บไซต์ที่ถูกแฮก
    - รวมถึง การใช้ Captcha ปลอมเพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมัลแวร์

    https://www.techspot.com/news/108028-microsoft-led-massive-international-operation-against-notorious-lumma.html
    Microsoft นำทีมปฏิบัติการระดับโลก ปิดเครือข่ายมัลแวร์ Lumma Stealer ที่ติดไวรัสกว่า 394,000 เครื่อง Microsoft ร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลกเพื่อปิดเครือข่ายมัลแวร์ Lumma Stealer ซึ่งเป็น มัลแวร์ประเภท Infostealer ที่ขโมยข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางธุรกิจ โดยมี ผู้ใช้กว่า 394,000 รายได้รับผลกระทบในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการปิดเครือข่าย Lumma Stealer ✅ Microsoft Digital Crimes Unit (DCU) ประสบความสำเร็จในการรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานของ Lumma Stealer - ปิดกั้น 2,300 โดเมนที่ใช้เป็นศูนย์กลางของการดำเนินงาน ✅ มัลแวร์ Lumma Stealer ถูกใช้เพื่อขโมยรหัสผ่าน, ข้อมูลบัตรเครดิต และกระเป๋าเงินคริปโต - รวมถึง การโจมตีบริการสำคัญและการขโมยเอกสารจากเครื่องที่ติดไวรัส ✅ Microsoft ทำงานร่วมกับศาลรัฐบาลกลางในจอร์เจีย, กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ, Europol และศูนย์ควบคุมอาชญากรรมไซเบอร์ของญี่ปุ่น - เพื่อ รื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานของ Lumma และป้องกันการแพร่กระจายเพิ่มเติม ✅ มัลแวร์ LummaC2 ถูกขายในตลาดมืดตั้งแต่ปี 2022 และพัฒนาให้มีฟีเจอร์ขั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ - สามารถ ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์, ค้นหากระเป๋าเงินคริปโต และเจาะระบบ VPN ✅ มัลแวร์แพร่กระจายผ่านอีเมลฟิชชิ่ง, โฆษณาอันตราย และเว็บไซต์ที่ถูกแฮก - รวมถึง การใช้ Captcha ปลอมเพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดมัลแวร์ https://www.techspot.com/news/108028-microsoft-led-massive-international-operation-against-notorious-lumma.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Global crackdown led by Microsoft shuts down Lumma Stealer malware infecting 394,000 PCs
    Microsoft says its Digital Crimes Unit (DCU) successfully disrupted the server infrastructure behind Lumma Stealer, a malware-as-a-service (MaaS) operation that infected hundreds of thousands of Windows PCs....
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • Coinbase ถูกแฮก ข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล เสี่ยงต่อชีวิต

    Coinbase เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ ซึ่งทำให้ ข้อมูลผู้ใช้ที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ที่อยู่บ้านและยอดเงินในบัญชี ถูกขโมยไป Michael Arrington ผู้ก่อตั้ง TechCrunch เตือนว่าการรั่วไหลของข้อมูลนี้อาจนำไปสู่การลักพาตัวและอาชญากรรมร้ายแรง

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการแฮก Coinbase
    ✅ Coinbase ยืนยันว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์และข้อมูลผู้ใช้ถูกขโมย
    - ข้อมูลที่ถูกขโมย รวมถึงที่อยู่บ้านและยอดเงินในบัญชี

    ✅ Michael Arrington เตือนว่าการรั่วไหลของข้อมูลนี้อาจนำไปสู่การลักพาตัว
    - เขากล่าวว่า "อาจมีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แล้ว"

    ✅ Coinbase ประเมินว่าความเสียหายจากการแฮกอาจสูงถึง $400 ล้าน
    - บริษัท วางแผนที่จะชดเชยผู้ใช้ที่สูญเสียสินทรัพย์คริปโต

    ✅ Coinbase กำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อติดตามผู้กระทำผิด
    - แต่ ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของแฮกเกอร์

    ✅ Arrington เรียกร้องให้มีการลงโทษผู้บริหารของบริษัทที่ไม่สามารถปกป้องข้อมูลลูกค้าได้
    - เขาเสนอว่า ผู้บริหารควรได้รับโทษจำคุกหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

    https://www.techspot.com/news/108009-coinbase-data-heist-could-have-deadly-consequences-techcrunch.html
    Coinbase ถูกแฮก ข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล เสี่ยงต่อชีวิต Coinbase เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ ซึ่งทำให้ ข้อมูลผู้ใช้ที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ที่อยู่บ้านและยอดเงินในบัญชี ถูกขโมยไป Michael Arrington ผู้ก่อตั้ง TechCrunch เตือนว่าการรั่วไหลของข้อมูลนี้อาจนำไปสู่การลักพาตัวและอาชญากรรมร้ายแรง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการแฮก Coinbase ✅ Coinbase ยืนยันว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์และข้อมูลผู้ใช้ถูกขโมย - ข้อมูลที่ถูกขโมย รวมถึงที่อยู่บ้านและยอดเงินในบัญชี ✅ Michael Arrington เตือนว่าการรั่วไหลของข้อมูลนี้อาจนำไปสู่การลักพาตัว - เขากล่าวว่า "อาจมีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แล้ว" ✅ Coinbase ประเมินว่าความเสียหายจากการแฮกอาจสูงถึง $400 ล้าน - บริษัท วางแผนที่จะชดเชยผู้ใช้ที่สูญเสียสินทรัพย์คริปโต ✅ Coinbase กำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อติดตามผู้กระทำผิด - แต่ ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของแฮกเกอร์ ✅ Arrington เรียกร้องให้มีการลงโทษผู้บริหารของบริษัทที่ไม่สามารถปกป้องข้อมูลลูกค้าได้ - เขาเสนอว่า ผู้บริหารควรได้รับโทษจำคุกหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ https://www.techspot.com/news/108009-coinbase-data-heist-could-have-deadly-consequences-techcrunch.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Coinbase hack could get people killed, TechCrunch founder warns
    Coinbase recently disclosed a serious security breach in which unknown cybercriminals accessed highly sensitive user data. While the company works to contain the fallout, the cryptocurrency exchange's...
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • Microsoft ดำเนินการทางกฎหมายต่อ Lumma Stealer มัลแวร์ขโมยข้อมูล

    Microsoft ประกาศดำเนินการทางกฎหมายต่อ Lumma Stealer ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่ขโมยข้อมูลจาก Windows กว่า 400,000 เครื่องทั่วโลกในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา โดยมัลแวร์นี้สามารถ ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวมถึงกระเป๋าเงินคริปโต

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Lumma Stealer และการดำเนินการของ Microsoft
    ✅ Microsoft Digital Crimes Unit (DCU) ยื่นฟ้อง Lumma Stealer ในศาลสหรัฐฯ
    - ศาลแขวงสหรัฐฯ เขต Northern District of Georgia ออกคำสั่งให้ระงับและบล็อกโดเมนที่เกี่ยวข้องกับมัลแวร์นี้

    ✅ Lumma Stealer สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และกระเป๋าเงินคริปโต
    - รวมถึง ติดตั้งมัลแวร์อื่น ๆ บนเครื่องที่ติดเชื้อ

    ✅ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยึดโดเมนอินเทอร์เน็ต 5 แห่งที่ใช้ในการดำเนินการของ LummaC2
    - FBI สำนักงาน Dallas กำลังสืบสวนคดีนี้

    ✅ Microsoft ระบุว่าการเติบโตของ Lumma Stealer สะท้อนถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมไซเบอร์
    - เน้นย้ำถึง ความจำเป็นในการป้องกันหลายชั้นและความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรม

    ‼️ ผู้ใช้ควรตรวจสอบระบบของตนเพื่อป้องกันการติดมัลแวร์ Lumma Stealer
    - ควร อัปเดตซอฟต์แวร์และใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/microsoft-files-legal-action-against-information-stealing-malware-lumma-stealer
    Microsoft ดำเนินการทางกฎหมายต่อ Lumma Stealer มัลแวร์ขโมยข้อมูล Microsoft ประกาศดำเนินการทางกฎหมายต่อ Lumma Stealer ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่ขโมยข้อมูลจาก Windows กว่า 400,000 เครื่องทั่วโลกในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา โดยมัลแวร์นี้สามารถ ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวมถึงกระเป๋าเงินคริปโต 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Lumma Stealer และการดำเนินการของ Microsoft ✅ Microsoft Digital Crimes Unit (DCU) ยื่นฟ้อง Lumma Stealer ในศาลสหรัฐฯ - ศาลแขวงสหรัฐฯ เขต Northern District of Georgia ออกคำสั่งให้ระงับและบล็อกโดเมนที่เกี่ยวข้องกับมัลแวร์นี้ ✅ Lumma Stealer สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และกระเป๋าเงินคริปโต - รวมถึง ติดตั้งมัลแวร์อื่น ๆ บนเครื่องที่ติดเชื้อ ✅ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยึดโดเมนอินเทอร์เน็ต 5 แห่งที่ใช้ในการดำเนินการของ LummaC2 - FBI สำนักงาน Dallas กำลังสืบสวนคดีนี้ ✅ Microsoft ระบุว่าการเติบโตของ Lumma Stealer สะท้อนถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมไซเบอร์ - เน้นย้ำถึง ความจำเป็นในการป้องกันหลายชั้นและความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรม ‼️ ผู้ใช้ควรตรวจสอบระบบของตนเพื่อป้องกันการติดมัลแวร์ Lumma Stealer - ควร อัปเดตซอฟต์แวร์และใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/microsoft-files-legal-action-against-information-stealing-malware-lumma-stealer
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft files legal action against information-stealing malware Lumma Stealer
    (Reuters) -Microsoft said on Wednesday its Digital Crimes Unit (DCU) filed a legal action against Lumma Stealer last week, after it found nearly 400,000 Windows computers globally infected by the information-stealing malware in the past two months.
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • Bitcoin ทำสถิติใหม่ ทะลุระดับสูงสุดเดิมจากเดือนมกราคม

    Bitcoin พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $109,481.83 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเป็นการฟื้นตัวหลังจากการเทขายครั้งใหญ่เมื่อเดือนที่แล้วที่เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากร

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของ Bitcoin
    ✅ Bitcoin ทำสถิติใหม่ แซงระดับสูงสุดเดิมจากเดือนมกราคม
    - เพิ่มขึ้น 2% ในวันเดียว

    ✅ นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นหลังจากตลาดฟื้นตัวจากการเทขายครั้งใหญ่
    - การปรับขึ้นของ Bitcoin สะท้อนถึงแนวโน้มบวกในตลาดคริปโต

    ✅ ตลาดคริปโตโดยรวมมีแนวโน้มเป็นบวก โดย Ethereum และ Solana ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน
    - Ethereum แตะระดับ $4,200 และ Solana เพิ่มขึ้น 3%

    ✅ นักวิเคราะห์คาดว่า Bitcoin อาจแตะระดับ $120,000 ภายในสิ้นปีนี้
    - ปัจจัยที่สนับสนุนคือ การลดลงของอัตราดอกเบี้ยและการยอมรับคริปโตที่เพิ่มขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/bitcoin-rises-to-new-record-high-eclipses-january-top
    Bitcoin ทำสถิติใหม่ ทะลุระดับสูงสุดเดิมจากเดือนมกราคม Bitcoin พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $109,481.83 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเป็นการฟื้นตัวหลังจากการเทขายครั้งใหญ่เมื่อเดือนที่แล้วที่เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากร 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของ Bitcoin ✅ Bitcoin ทำสถิติใหม่ แซงระดับสูงสุดเดิมจากเดือนมกราคม - เพิ่มขึ้น 2% ในวันเดียว ✅ นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นหลังจากตลาดฟื้นตัวจากการเทขายครั้งใหญ่ - การปรับขึ้นของ Bitcoin สะท้อนถึงแนวโน้มบวกในตลาดคริปโต ✅ ตลาดคริปโตโดยรวมมีแนวโน้มเป็นบวก โดย Ethereum และ Solana ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน - Ethereum แตะระดับ $4,200 และ Solana เพิ่มขึ้น 3% ✅ นักวิเคราะห์คาดว่า Bitcoin อาจแตะระดับ $120,000 ภายในสิ้นปีนี้ - ปัจจัยที่สนับสนุนคือ การลดลงของอัตราดอกเบี้ยและการยอมรับคริปโตที่เพิ่มขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/bitcoin-rises-to-new-record-high-eclipses-january-top
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bitcoin rises to new record high, eclipses January top
    LONDON (Reuters) -The price of Bitcoin rose to its highest level on record on Wednesday, eclipsing the previous high from January, as risk sentiment continues to improve after last month's tariff-induced sell-off.
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews
  • JPMorgan Chase เปิดให้ลูกค้าซื้อ Bitcoin แต่ยังไม่รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล

    JPMorgan Chase ประกาศในงาน Investor Day ว่าจะเปิดให้ลูกค้าซื้อ Bitcoin ได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของธนาคารที่เคยมีท่าทีต่อต้านคริปโต อย่างไรก็ตาม CEO Jamie Dimon ยังคงสงสัยในความน่าเชื่อถือของ Bitcoin และยืนยันว่าธนาคารจะไม่รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการสนับสนุน Bitcoin ของ JPMorgan Chase
    ✅ ลูกค้าสามารถซื้อ Bitcoin และดูรายการธุรกรรมในบัญชีของตน
    - แต่ JPMorgan จะไม่รับฝาก Bitcoin หรือให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

    ✅ CEO Jamie Dimon ยังคงมีมุมมองเชิงลบต่อ Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซี
    - เขาเคยกล่าวว่า Bitcoin "ไร้ค่า" และหากมีอำนาจ เขาจะปิดอุตสาหกรรมคริปโต

    ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก FDIC ปรับแนวทางให้สถาบันการเงินสามารถทำธุรกรรมคริปโตได้โดยไม่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า
    - ทำให้ ธนาคารสามารถให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้ง่ายขึ้น

    ✅ JPMorgan Chase ตามรอย Morgan Stanley และธนาคารอื่น ๆ ที่เริ่มสนับสนุน Bitcoin
    - แสดงให้เห็นว่า การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในภาคการเงินกำลังเพิ่มขึ้น

    ✅ Bitcoin มีมูลค่ามากกว่า $105,000 ซึ่งสูงกว่าระดับต่ำสุดในปี 2022 ที่ประมาณ $16,000
    - แต่ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลเล็กน้อย

    https://www.techradar.com/pro/jpmorgan-will-now-let-clients-buy-bitcoin
    JPMorgan Chase เปิดให้ลูกค้าซื้อ Bitcoin แต่ยังไม่รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล JPMorgan Chase ประกาศในงาน Investor Day ว่าจะเปิดให้ลูกค้าซื้อ Bitcoin ได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของธนาคารที่เคยมีท่าทีต่อต้านคริปโต อย่างไรก็ตาม CEO Jamie Dimon ยังคงสงสัยในความน่าเชื่อถือของ Bitcoin และยืนยันว่าธนาคารจะไม่รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการสนับสนุน Bitcoin ของ JPMorgan Chase ✅ ลูกค้าสามารถซื้อ Bitcoin และดูรายการธุรกรรมในบัญชีของตน - แต่ JPMorgan จะไม่รับฝาก Bitcoin หรือให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ✅ CEO Jamie Dimon ยังคงมีมุมมองเชิงลบต่อ Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซี - เขาเคยกล่าวว่า Bitcoin "ไร้ค่า" และหากมีอำนาจ เขาจะปิดอุตสาหกรรมคริปโต ✅ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก FDIC ปรับแนวทางให้สถาบันการเงินสามารถทำธุรกรรมคริปโตได้โดยไม่ต้องขออนุญาตล่วงหน้า - ทำให้ ธนาคารสามารถให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้ง่ายขึ้น ✅ JPMorgan Chase ตามรอย Morgan Stanley และธนาคารอื่น ๆ ที่เริ่มสนับสนุน Bitcoin - แสดงให้เห็นว่า การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในภาคการเงินกำลังเพิ่มขึ้น ✅ Bitcoin มีมูลค่ามากกว่า $105,000 ซึ่งสูงกว่าระดับต่ำสุดในปี 2022 ที่ประมาณ $16,000 - แต่ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลเล็กน้อย https://www.techradar.com/pro/jpmorgan-will-now-let-clients-buy-bitcoin
    WWW.TECHRADAR.COM
    JPMorgan will now let clients buy Bitcoin
    JPMorgan Chase will let clients buy Bitcoin
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • SEC ตั้งข้อหา Unicoin และผู้บริหารฐานฉ้อโกงนักลงทุน

    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ตั้งข้อหาบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี Unicoin และผู้บริหารระดับสูง 3 คน รวมถึง CEO และประธานกรรมการ Alex Konanykhin ฐานให้ข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งนำไปสู่การระดมทุน กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงของ Unicoin
    ✅ SEC ระบุว่า Unicoin ใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อดึงดูดนักลงทุน
    - บริษัท ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพของเหรียญคริปโตและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ

    ✅ Unicoin ระดมทุนได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย
    - นักลงทุน ถูกชักจูงให้เชื่อว่าเหรียญมีมูลค่ามากกว่าความเป็นจริง

    ✅ Alex Konanykhin และผู้บริหารอีกสองคนถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง
    - SEC กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและลงโทษผู้กระทำผิด

    ✅ คดีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี
    - นักลงทุน ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

    ✅ SEC ยังคงเพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทคริปโตเพื่อป้องกันการฉ้อโกง
    - คาดว่า จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/sec-charges-unicoin-and-executives-for-fraud
    SEC ตั้งข้อหา Unicoin และผู้บริหารฐานฉ้อโกงนักลงทุน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ตั้งข้อหาบริษัทคริปโตเคอร์เรนซี Unicoin และผู้บริหารระดับสูง 3 คน รวมถึง CEO และประธานกรรมการ Alex Konanykhin ฐานให้ข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด ซึ่งนำไปสู่การระดมทุน กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงของ Unicoin ✅ SEC ระบุว่า Unicoin ใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเพื่อดึงดูดนักลงทุน - บริษัท ให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับศักยภาพของเหรียญคริปโตและผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ ✅ Unicoin ระดมทุนได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนหลายพันราย - นักลงทุน ถูกชักจูงให้เชื่อว่าเหรียญมีมูลค่ามากกว่าความเป็นจริง ✅ Alex Konanykhin และผู้บริหารอีกสองคนถูกตั้งข้อหาฉ้อโกง - SEC กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและลงโทษผู้กระทำผิด ✅ คดีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี - นักลงทุน ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ✅ SEC ยังคงเพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทคริปโตเพื่อป้องกันการฉ้อโกง - คาดว่า จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัทอื่น ๆ ที่ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/sec-charges-unicoin-and-executives-for-fraud
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SEC charges Unicoin and executives for fraud
    (Reuters) -The U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) on Wednesday charged cryptocurrency company Unicoin and three of its top executives, including its CEO and Board Chairman Alex Konanykhin, for false and misleading statements that raised more than $100 million from thousands of investors.
    0 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • นักลงทุนสถาบันปรับพอร์ต Bitcoin ETF หลังราคาคริปโตลดลง 12%

    ในไตรมาสแรกของปี 2025 นักลงทุนสถาบันหลายราย ลดการถือครอง Bitcoin ETF หลังจากราคาคริปโตลดลง 12% ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มก่อนหน้านี้ที่นักลงทุนมักเพิ่มการถือครองสินทรัพย์ประเภทนี้

    ✅ นักลงทุนสถาบันลดการถือครอง Bitcoin ETF หลังราคาคริปโตลดลง 12%
    - Hedge funds และกองทุนความมั่งคั่งบางแห่ง ลดสัดส่วนการลงทุน ขณะที่บางแห่งเพิ่มหรือปรับพอร์ตใหม่

    ✅ Millennium Management LLC ลดการถือครอง iShares Bitcoin Trust ETF ลง 41%
    - ขายหุ้นออกไป 17.6 ล้านหุ้น และถอนตัวจาก Invesco Galaxy Bitcoin ETF

    ✅ Brevan Howard ลดสัดส่วนการถือครอง iShares ETF ลง 15.6%
    - เป็นหนึ่งในกองทุนที่ ปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง

    ✅ กองทุนจาก Abu Dhabi เพิ่มการถือครอง iShares ETF เป็น 8.72 ล้านหุ้น มูลค่า $408.5 ล้าน
    - แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนบางส่วนยังคงเชื่อมั่นใน Bitcoin ETF

    ✅ Brown University เข้าสู่ตลาดคริปโต ETF เป็นครั้งแรก
    - ซื้อหุ้น iShares Bitcoin Trust ETF มูลค่า $4.9 ล้าน

    ‼️ การลดการถือครองของนักลงทุนสถาบันอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตลาดคริปโต
    - ต้องติดตามว่า แนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปหรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/institutional-investors-juggle-bitcoin-etf-holdings-us-filings-show
    นักลงทุนสถาบันปรับพอร์ต Bitcoin ETF หลังราคาคริปโตลดลง 12% ในไตรมาสแรกของปี 2025 นักลงทุนสถาบันหลายราย ลดการถือครอง Bitcoin ETF หลังจากราคาคริปโตลดลง 12% ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากแนวโน้มก่อนหน้านี้ที่นักลงทุนมักเพิ่มการถือครองสินทรัพย์ประเภทนี้ ✅ นักลงทุนสถาบันลดการถือครอง Bitcoin ETF หลังราคาคริปโตลดลง 12% - Hedge funds และกองทุนความมั่งคั่งบางแห่ง ลดสัดส่วนการลงทุน ขณะที่บางแห่งเพิ่มหรือปรับพอร์ตใหม่ ✅ Millennium Management LLC ลดการถือครอง iShares Bitcoin Trust ETF ลง 41% - ขายหุ้นออกไป 17.6 ล้านหุ้น และถอนตัวจาก Invesco Galaxy Bitcoin ETF ✅ Brevan Howard ลดสัดส่วนการถือครอง iShares ETF ลง 15.6% - เป็นหนึ่งในกองทุนที่ ปรับพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยง ✅ กองทุนจาก Abu Dhabi เพิ่มการถือครอง iShares ETF เป็น 8.72 ล้านหุ้น มูลค่า $408.5 ล้าน - แสดงให้เห็นว่า นักลงทุนบางส่วนยังคงเชื่อมั่นใน Bitcoin ETF ✅ Brown University เข้าสู่ตลาดคริปโต ETF เป็นครั้งแรก - ซื้อหุ้น iShares Bitcoin Trust ETF มูลค่า $4.9 ล้าน ‼️ การลดการถือครองของนักลงทุนสถาบันอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในตลาดคริปโต - ต้องติดตามว่า แนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปหรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/institutional-investors-juggle-bitcoin-etf-holdings-us-filings-show
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Institutional investors juggle bitcoin ETF holdings, US filings show
    (Reuters) -A number of high-profile asset managers cut their stakes in spot bitcoin exchange-traded funds amid a 12% drop in the cryptocurrency's price in the first quarter of 2025, according to recent regulatory filings.
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • Coinbase ถูกแฮก: ข้อมูลลูกค้ารั่วไหลและแฮกเกอร์เรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์

    Coinbase ซึ่งเป็น แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลอันดับสามของโลก ได้ยืนยันว่าระบบของบริษัทถูกแฮก ทำให้ข้อมูลของลูกค้าประมาณ 1% ถูกขโมย โดยข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึง รายละเอียดส่วนตัว, หมายเลขบัญชีธนาคารที่ถูกปิดบัง, หมายเลขประกันสังคมที่ถูกปิดบัง และภาพบัตรประชาชนที่อัปโหลด

    ✅ แฮกเกอร์ใช้วิธีติดสินบนพนักงานฝ่ายสนับสนุนที่อยู่นอกสหรัฐฯ เพื่อเข้าถึงข้อมูล
    - พนักงานที่เกี่ยวข้อง ถูกไล่ออกและถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย

    ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงยอดเงินคริปโตของลูกค้าและรายละเอียดภายในของบริษัท
    - แฮกเกอร์ ใช้ข้อมูลนี้เพื่อหลอกลูกค้าให้โอนสินทรัพย์คริปโตไปให้พวกเขา

    ✅ CEO ของ Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ที่แฮกเกอร์เรียกร้อง
    - บริษัทเสนอ เงินรางวัล 20 ล้านดอลลาร์ให้กับผู้ที่ช่วยจับตัวแฮกเกอร์แทน

    ✅ Coinbase จะชดเชยลูกค้าที่ถูกหลอกให้โอนสินทรัพย์คริปโตไปให้แฮกเกอร์
    - เป็นมาตรการ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้า

    ✅ บริษัทเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การตรวจสอบ ID เพิ่มเติมสำหรับการถอนเงินจำนวนมาก
    - รวมถึง การลงทุนเพิ่มเติมในระบบตรวจจับภัยคุกคามภายใน

    https://www.neowin.net/news/cyber-criminals-breach-coinbases-system-to-steal-customer-data/
    Coinbase ถูกแฮก: ข้อมูลลูกค้ารั่วไหลและแฮกเกอร์เรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ Coinbase ซึ่งเป็น แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลอันดับสามของโลก ได้ยืนยันว่าระบบของบริษัทถูกแฮก ทำให้ข้อมูลของลูกค้าประมาณ 1% ถูกขโมย โดยข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึง รายละเอียดส่วนตัว, หมายเลขบัญชีธนาคารที่ถูกปิดบัง, หมายเลขประกันสังคมที่ถูกปิดบัง และภาพบัตรประชาชนที่อัปโหลด ✅ แฮกเกอร์ใช้วิธีติดสินบนพนักงานฝ่ายสนับสนุนที่อยู่นอกสหรัฐฯ เพื่อเข้าถึงข้อมูล - พนักงานที่เกี่ยวข้อง ถูกไล่ออกและถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงยอดเงินคริปโตของลูกค้าและรายละเอียดภายในของบริษัท - แฮกเกอร์ ใช้ข้อมูลนี้เพื่อหลอกลูกค้าให้โอนสินทรัพย์คริปโตไปให้พวกเขา ✅ CEO ของ Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ที่แฮกเกอร์เรียกร้อง - บริษัทเสนอ เงินรางวัล 20 ล้านดอลลาร์ให้กับผู้ที่ช่วยจับตัวแฮกเกอร์แทน ✅ Coinbase จะชดเชยลูกค้าที่ถูกหลอกให้โอนสินทรัพย์คริปโตไปให้แฮกเกอร์ - เป็นมาตรการ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของลูกค้า ✅ บริษัทเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การตรวจสอบ ID เพิ่มเติมสำหรับการถอนเงินจำนวนมาก - รวมถึง การลงทุนเพิ่มเติมในระบบตรวจจับภัยคุกคามภายใน https://www.neowin.net/news/cyber-criminals-breach-coinbases-system-to-steal-customer-data/
    WWW.NEOWIN.NET
    Cyber criminals breach Coinbase's system to steal customer data
    Hackers managed to steal Coinbase customer's data, including their cryptocurrency balances, and are now demanding $20 million in exchange for the stolen information.
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 Reviews
  • อ่านดีๆ ดูดีๆ

    ทำความรู้จัก G-Token เครื่องมือกู้เงินใหม่ของรัฐบาลไทย คล้าย ‘พันธบัตรรัฐบาลในรูปแบบโทเคน’ หวังเข้าถึง ‘คนรุ่นใหม่’ เพิ่มการออมของประชาชน และเพิ่มการเข้าถึงการเงินให้ทั่วถึงและเท่าเทียม (Financial Inclusion) มากขึ้น โดยเล็งออก G-Token ในราคาเริ่มต้น หน่วยละ 1 บาทเท่านั้น ยืนยันผลตอบแทนดี สามารถซื้อได้ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เร็วสุดในกรกฎาคมปีนี้



    เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกโทเคนดิจิทัล พ.ศ. …. นับเป็นการเปิดทางให้ กระทรวงการคลังสามารถออกและเสนอขาย ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (Government Token: G-Token) เป็นประเทศแรกของโลก



    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับว่ามีขึ้นหลัง เมื่อปลายปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำเสนอแนวคิดการออกสเตเบิลคอยน์ที่ค้ำประกันด้วยพันธบัตรรัฐบาล (Government Bond) ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดเผยว่า มีแผนการ Bond Tokenization หรือการออกโทเคนโดยมีพันธบัตรรัฐบาลหนุน (Backed)



    ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (G-Token) คืออะไร?


    ไม่ใช่เงินตรา เนื่องจาก ไม่สามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือชำระเงินได้
    ไม่ใช่คริปโตเคอร์เรนซี
    เป็น ‘เครื่องมือการระดมทุน’ โดยเทียบเคียงได้กับ ‘พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง’
    เป็นการกู้เงินโดยตรงจากประชาชนของรัฐบาล


    G-Token ไม่กระทบหนี้สาธารณะ ไม่เกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ต


    พชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) อธิบายเพิ่มเติมว่า การออก G-Token นี้เป็นการระดมทุนรูปแบบใหม่ คล้ายคลึงกับการออกพันธบัตรออมทรัพย์สำหรับประชาชนตามปกติของ สบน.



    โดยการออก G-Token รอบแรก คาดว่า จะออกในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการระดมเงิน ภายใต้กรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2568 ตามปกติ และเป็นไปตามกรอบวงเงินการออกพันธบัตรออมทรัพย์ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่ สบน. วางแผนไว้ว่าในวงเงินไม่เกิน 1 แสนล้านบาท



    ดังนั้นการออก G-Token ในรอบแรกนี้จึงจะไม่เพิ่ม หรือไม่กระทบต่อ ‘หนี้สาธารณะ’ และไม่ใช่การระดมทุนเพื่อนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแต่อย่างใด



    ยืนยันการออกเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ


    พชรยังยืนยันว่า การออก G-Token นี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2567 ของ ก.ล.ต.



    “มติ ครม. วันนี้ เป็นการเปิดทางให้กระทรวงการคลัง ออก G-Token ตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 มาตรา 10 ที่ระบุว่า การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้ ทั้งนี้ ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ” พชร กล่าว



    นอกจากนี้พชรยังเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้ขอความเห็นจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้ยืนยันว่า ธปท.ไม่ได้ดูแลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ G-Token นี้
    อ่านดีๆ ดูดีๆ ทำความรู้จัก G-Token เครื่องมือกู้เงินใหม่ของรัฐบาลไทย คล้าย ‘พันธบัตรรัฐบาลในรูปแบบโทเคน’ หวังเข้าถึง ‘คนรุ่นใหม่’ เพิ่มการออมของประชาชน และเพิ่มการเข้าถึงการเงินให้ทั่วถึงและเท่าเทียม (Financial Inclusion) มากขึ้น โดยเล็งออก G-Token ในราคาเริ่มต้น หน่วยละ 1 บาทเท่านั้น ยืนยันผลตอบแทนดี สามารถซื้อได้ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เร็วสุดในกรกฎาคมปีนี้ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกโทเคนดิจิทัล พ.ศ. …. นับเป็นการเปิดทางให้ กระทรวงการคลังสามารถออกและเสนอขาย ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (Government Token: G-Token) เป็นประเทศแรกของโลก ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับว่ามีขึ้นหลัง เมื่อปลายปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำเสนอแนวคิดการออกสเตเบิลคอยน์ที่ค้ำประกันด้วยพันธบัตรรัฐบาล (Government Bond) ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดเผยว่า มีแผนการ Bond Tokenization หรือการออกโทเคนโดยมีพันธบัตรรัฐบาลหนุน (Backed) ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (G-Token) คืออะไร? ไม่ใช่เงินตรา เนื่องจาก ไม่สามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือชำระเงินได้ ไม่ใช่คริปโตเคอร์เรนซี เป็น ‘เครื่องมือการระดมทุน’ โดยเทียบเคียงได้กับ ‘พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง’ เป็นการกู้เงินโดยตรงจากประชาชนของรัฐบาล G-Token ไม่กระทบหนี้สาธารณะ ไม่เกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ต พชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) อธิบายเพิ่มเติมว่า การออก G-Token นี้เป็นการระดมทุนรูปแบบใหม่ คล้ายคลึงกับการออกพันธบัตรออมทรัพย์สำหรับประชาชนตามปกติของ สบน. โดยการออก G-Token รอบแรก คาดว่า จะออกในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการระดมเงิน ภายใต้กรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2568 ตามปกติ และเป็นไปตามกรอบวงเงินการออกพันธบัตรออมทรัพย์ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่ สบน. วางแผนไว้ว่าในวงเงินไม่เกิน 1 แสนล้านบาท ดังนั้นการออก G-Token ในรอบแรกนี้จึงจะไม่เพิ่ม หรือไม่กระทบต่อ ‘หนี้สาธารณะ’ และไม่ใช่การระดมทุนเพื่อนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแต่อย่างใด ยืนยันการออกเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ พชรยังยืนยันว่า การออก G-Token นี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2567 ของ ก.ล.ต. “มติ ครม. วันนี้ เป็นการเปิดทางให้กระทรวงการคลัง ออก G-Token ตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 มาตรา 10 ที่ระบุว่า การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้ ทั้งนี้ ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ” พชร กล่าว นอกจากนี้พชรยังเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้ขอความเห็นจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้ยืนยันว่า ธปท.ไม่ได้ดูแลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ G-Token นี้
    0 Comments 0 Shares 320 Views 0 Reviews
  • Google เปิดตัวฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่สำหรับผู้ใช้ Android

    Google ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่สำหรับ Android ซึ่งรวมถึง AI Scam Detection ที่สามารถตรวจจับการหลอกลวงทางการเงินและคริปโต, Find My Device ที่ได้รับการปรับปรุงเป็น Find Hub, และ Advanced Protection ที่เพิ่มฟีเจอร์ Intrusion Logging และ USB Protection

    ✅ AI Scam Detection สามารถตรวจจับการหลอกลวงทางการเงินและคริปโตได้
    - รวมถึง การหลอกลวงเกี่ยวกับบัตรของขวัญและค่าผ่านทาง

    ✅ Find My Device ถูกรีแบรนด์เป็น Find Hub และรองรับอุปกรณ์เพิ่มเติม
    - สามารถ ติดตามอุปกรณ์ผ่านดาวเทียมเมื่อไม่มีเครือข่ายมือถือ

    ✅ Android เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรม
    - หากอุปกรณ์ถูกรีเซ็ตโดยไม่ได้รับอนุญาต ระบบจะจำกัดการใช้งานทั้งหมด

    ✅ Key Verifier ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของคีย์สาธารณะก่อนเริ่มการสนทนา
    - ฟีเจอร์นี้จะเปิดตัวใน Google Messages บน Android 10+

    ✅ Advanced Protection ใน Android 16 เพิ่มฟีเจอร์ Intrusion Logging และ USB Protection
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบกิจกรรมที่น่าสงสัยและป้องกันการเชื่อมต่อ USB ที่ไม่ปลอดภัย

    ✅ Android จะเพิ่มฟีเจอร์แชร์ตำแหน่ง Bluetooth Tag กับสายการบินในปีหน้า
    - เพื่อช่วยให้ ผู้ใช้สามารถติดตามกระเป๋าเดินทางที่สูญหายได้ง่ายขึ้น

    https://www.neowin.net/news/google-reveals-several-new-safety-features-coming-to-android-users/
    Google เปิดตัวฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่สำหรับผู้ใช้ Android Google ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่สำหรับ Android ซึ่งรวมถึง AI Scam Detection ที่สามารถตรวจจับการหลอกลวงทางการเงินและคริปโต, Find My Device ที่ได้รับการปรับปรุงเป็น Find Hub, และ Advanced Protection ที่เพิ่มฟีเจอร์ Intrusion Logging และ USB Protection ✅ AI Scam Detection สามารถตรวจจับการหลอกลวงทางการเงินและคริปโตได้ - รวมถึง การหลอกลวงเกี่ยวกับบัตรของขวัญและค่าผ่านทาง ✅ Find My Device ถูกรีแบรนด์เป็น Find Hub และรองรับอุปกรณ์เพิ่มเติม - สามารถ ติดตามอุปกรณ์ผ่านดาวเทียมเมื่อไม่มีเครือข่ายมือถือ ✅ Android เพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรม - หากอุปกรณ์ถูกรีเซ็ตโดยไม่ได้รับอนุญาต ระบบจะจำกัดการใช้งานทั้งหมด ✅ Key Verifier ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของคีย์สาธารณะก่อนเริ่มการสนทนา - ฟีเจอร์นี้จะเปิดตัวใน Google Messages บน Android 10+ ✅ Advanced Protection ใน Android 16 เพิ่มฟีเจอร์ Intrusion Logging และ USB Protection - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบกิจกรรมที่น่าสงสัยและป้องกันการเชื่อมต่อ USB ที่ไม่ปลอดภัย ✅ Android จะเพิ่มฟีเจอร์แชร์ตำแหน่ง Bluetooth Tag กับสายการบินในปีหน้า - เพื่อช่วยให้ ผู้ใช้สามารถติดตามกระเป๋าเดินทางที่สูญหายได้ง่ายขึ้น https://www.neowin.net/news/google-reveals-several-new-safety-features-coming-to-android-users/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google reveals several new safety features coming to Android users
    Google has announced several new safety and security enhancements for Android users alongside its Material 3 Expressive design language.
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • Coinbase ก้าวสู่ S&P 500: จุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดคริปโต

    Coinbase Global กลายเป็น บริษัทคริปโตแห่งแรกที่ได้รับการบรรจุในดัชนี S&P 500 ซึ่งถือเป็น ก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นเกือบ 15% หลังจากมีการประกาศข่าวนี้

    ✅ Coinbase จะเข้ามาแทนที่ Discover Financial ซึ่งถูกซื้อกิจการโดย Capital One
    - การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลก่อนเปิดตลาดในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025

    ✅ นักวิเคราะห์มองว่าการเข้าร่วม S&P 500 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมคริปโต
    - อาจช่วยให้ บริษัทคริปโตอื่น ๆ มีโอกาสเข้าสู่ตลาดหุ้นหลักมากขึ้น

    ✅ นักลงทุนสถาบันเริ่มให้ความสนใจในคริปโตมากขึ้น หลังจากทรัมป์ประกาศนโยบายลดกฎระเบียบ
    - ส่งผลให้ Coinbase ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่

    ✅ Coinbase รายงานว่ากำไรไตรมาสแรกลดลง แต่ตลาดคริปโตที่ฟื้นตัวอาจช่วยให้บริษัทเติบโตต่อไป
    - บริษัทกำลังขยายฐานนักลงทุนสถาบันและขยายตลาดนอกสหรัฐฯ

    ✅ Coinbase เพิ่งประกาศซื้อกิจการ Deribit มูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายตลาดอนุพันธ์คริปโต
    - อาจช่วยให้ บริษัทมีบทบาทสำคัญในตลาดฟิวเจอร์สและออปชันคริปโต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/13/coinbase-shares-jump-on-addition-to-sp-500-index
    Coinbase ก้าวสู่ S&P 500: จุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดคริปโต Coinbase Global กลายเป็น บริษัทคริปโตแห่งแรกที่ได้รับการบรรจุในดัชนี S&P 500 ซึ่งถือเป็น ก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นเกือบ 15% หลังจากมีการประกาศข่าวนี้ ✅ Coinbase จะเข้ามาแทนที่ Discover Financial ซึ่งถูกซื้อกิจการโดย Capital One - การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลก่อนเปิดตลาดในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 ✅ นักวิเคราะห์มองว่าการเข้าร่วม S&P 500 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมคริปโต - อาจช่วยให้ บริษัทคริปโตอื่น ๆ มีโอกาสเข้าสู่ตลาดหุ้นหลักมากขึ้น ✅ นักลงทุนสถาบันเริ่มให้ความสนใจในคริปโตมากขึ้น หลังจากทรัมป์ประกาศนโยบายลดกฎระเบียบ - ส่งผลให้ Coinbase ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่ ✅ Coinbase รายงานว่ากำไรไตรมาสแรกลดลง แต่ตลาดคริปโตที่ฟื้นตัวอาจช่วยให้บริษัทเติบโตต่อไป - บริษัทกำลังขยายฐานนักลงทุนสถาบันและขยายตลาดนอกสหรัฐฯ ✅ Coinbase เพิ่งประกาศซื้อกิจการ Deribit มูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายตลาดอนุพันธ์คริปโต - อาจช่วยให้ บริษัทมีบทบาทสำคัญในตลาดฟิวเจอร์สและออปชันคริปโต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/13/coinbase-shares-jump-on-addition-to-sp-500-index
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Coinbase shares jump on addition to S&P 500 index in watershed for crypto market
    (Reuters) - Coinbase Global's shares jumped nearly 15% on Tuesday after the cryptocurrency exchange became the first digital asset player to be included in the benchmark S&P 500 index.
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • Coinbase เข้าซื้อ Deribit มูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายตลาดอนุพันธ์คริปโต Coinbase ซึ่งเป็น แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ ได้ประกาศเข้าซื้อ Deribit ซึ่งเป็นตลาดอนุพันธ์คริปโต ด้วยมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มบริการซื้อขายออปชันคริปโต

    ข้อตกลงนี้ช่วยให้ Coinbase สามารถเข้าถึงตลาดนอกสหรัฐฯ โดยเฉพาะในเอเชียและยุโรป ซึ่งมีการซื้อขายแบบใช้เลเวอเรจสูงกว่าในสหรัฐฯ นอกจากนี้ Coinbase ยังเตรียมพร้อมสำหรับการขยายบริการในกรณีที่สหรัฐฯ อนุญาตให้ซื้อขายออปชันคริปโตในประเทศ

    ✅ Coinbase ซื้อ Deribit ด้วยมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์
    - เป็น การซื้อขายแบบเงินสดและหุ้น โดยมี เงินสด 700 ล้านดอลลาร์ และหุ้น Coinbase 11 ล้านหุ้น

    ✅ ช่วยให้ Coinbase สามารถเข้าถึงตลาดอนุพันธ์คริปโตในเอเชียและยุโรป
    - ตลาดเหล่านี้ มีการซื้อขายแบบใช้เลเวอเรจสูงกว่าสหรัฐฯ

    ✅ Coinbase มีแผนขยายบริการซื้อขายออปชันคริปโตให้กับลูกค้าทั่วโลก
    - ออปชันคริปโต เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงและสร้างเสถียรภาพในตลาด

    ✅ หุ้นของ Coinbase เพิ่มขึ้น 5.7% หลังประกาศดีลนี้
    - แม้ว่าหุ้นของบริษัทจะลดลง 21% ในปี 2025

    ✅ ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ มีแนวโน้มสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
    - ประธานาธิบดี Donald Trump ให้การสนับสนุนคริปโตและต้องการให้สหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมนี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/coinbase-to-acquire-deribit-in-29-billion-deal-wsj-reports
    Coinbase เข้าซื้อ Deribit มูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายตลาดอนุพันธ์คริปโต Coinbase ซึ่งเป็น แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ ได้ประกาศเข้าซื้อ Deribit ซึ่งเป็นตลาดอนุพันธ์คริปโต ด้วยมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มบริการซื้อขายออปชันคริปโต ข้อตกลงนี้ช่วยให้ Coinbase สามารถเข้าถึงตลาดนอกสหรัฐฯ โดยเฉพาะในเอเชียและยุโรป ซึ่งมีการซื้อขายแบบใช้เลเวอเรจสูงกว่าในสหรัฐฯ นอกจากนี้ Coinbase ยังเตรียมพร้อมสำหรับการขยายบริการในกรณีที่สหรัฐฯ อนุญาตให้ซื้อขายออปชันคริปโตในประเทศ ✅ Coinbase ซื้อ Deribit ด้วยมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ - เป็น การซื้อขายแบบเงินสดและหุ้น โดยมี เงินสด 700 ล้านดอลลาร์ และหุ้น Coinbase 11 ล้านหุ้น ✅ ช่วยให้ Coinbase สามารถเข้าถึงตลาดอนุพันธ์คริปโตในเอเชียและยุโรป - ตลาดเหล่านี้ มีการซื้อขายแบบใช้เลเวอเรจสูงกว่าสหรัฐฯ ✅ Coinbase มีแผนขยายบริการซื้อขายออปชันคริปโตให้กับลูกค้าทั่วโลก - ออปชันคริปโต เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงและสร้างเสถียรภาพในตลาด ✅ หุ้นของ Coinbase เพิ่มขึ้น 5.7% หลังประกาศดีลนี้ - แม้ว่าหุ้นของบริษัทจะลดลง 21% ในปี 2025 ✅ ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ มีแนวโน้มสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น - ประธานาธิบดี Donald Trump ให้การสนับสนุนคริปโตและต้องการให้สหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมนี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/08/coinbase-to-acquire-deribit-in-29-billion-deal-wsj-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Coinbase buys Deribit in $2.9 billion deal to expand crypto options base
    (Reuters) -Coinbase, the largest publicly traded cryptocurrency exchange, said on Thursday it will buy derivatives exchange Deribit in a $2.9 billion deal to expand into the crypto options markets.
    0 Comments 0 Shares 212 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้กล่าวถึง การลักพาตัวนักลงทุนคริปโตในฝรั่งเศสและยุโรป ซึ่งกลุ่มอาชญากรใช้ วิธีการรุนแรงเพื่อบังคับให้เหยื่อจ่ายค่าไถ่เป็นคริปโต

    เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นใน กรุงปารีส เมื่อชายวัย 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทการตลาดคริปโต ถูกลักพาตัวกลางวันแสกๆ และถูกบังคับให้ลูกชายของเขาจ่ายค่าไถ่ระหว่าง $5.3 ล้านถึง $8 ล้าน ในคริปโต เหยื่อถูกกักขังเป็นเวลา สองวัน และถูกตัดนิ้วเพื่อส่งไปให้ลูกชายของเขา

    ✅ นักลงทุนคริปโตในฝรั่งเศสและยุโรปตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มอาชญากร
    - กลุ่มอาชญากรใช้ วิธีการรุนแรงเพื่อบังคับให้เหยื่อจ่ายค่าไถ่เป็นคริปโต
    - เหยื่อถูกลักพาตัวและถูกทำร้ายเพื่อกดดันให้จ่ายเงิน

    ✅ เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นในกรุงปารีส
    - ชายวัย 60 ปี ถูกลักพาตัวกลางวันแสกๆ
    - ถูกบังคับให้ลูกชายของเขาจ่ายค่าไถ่ระหว่าง $5.3 ล้านถึง $8 ล้าน ในคริปโต

    ✅ เหยื่อถูกกักขังเป็นเวลา 2 วันและถูกตัดนิ้วเพื่อส่งไปให้ลูกชายของเขา
    - ตำรวจติดตามและช่วยเหลือเหยื่อได้สำเร็จ
    - ผู้ต้องสงสัย 5 คนถูกจับกุม

    ✅ เหตุการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นกับ David Balland ผู้ร่วมก่อตั้ง Ledger
    - ถูกลักพาตัวและถูกตัดนิ้วเพื่อกดดันให้จ่ายค่าไถ่ $11.3 ล้าน ในคริปโต
    - ตำรวจช่วยเหลือเขาได้สำเร็จ

    ✅ มีกรณีลักพาตัวนักลงทุนคริปโตในสเปนและเบลเยียมในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา
    - ยังไม่แน่ชัดว่าคดีเหล่านี้เกี่ยวข้องกันหรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107816-crypto-millionaires-targeted-brutal-kidnappings-across-france-europe.html
    ข่าวนี้กล่าวถึง การลักพาตัวนักลงทุนคริปโตในฝรั่งเศสและยุโรป ซึ่งกลุ่มอาชญากรใช้ วิธีการรุนแรงเพื่อบังคับให้เหยื่อจ่ายค่าไถ่เป็นคริปโต เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นใน กรุงปารีส เมื่อชายวัย 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทการตลาดคริปโต ถูกลักพาตัวกลางวันแสกๆ และถูกบังคับให้ลูกชายของเขาจ่ายค่าไถ่ระหว่าง $5.3 ล้านถึง $8 ล้าน ในคริปโต เหยื่อถูกกักขังเป็นเวลา สองวัน และถูกตัดนิ้วเพื่อส่งไปให้ลูกชายของเขา ✅ นักลงทุนคริปโตในฝรั่งเศสและยุโรปตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มอาชญากร - กลุ่มอาชญากรใช้ วิธีการรุนแรงเพื่อบังคับให้เหยื่อจ่ายค่าไถ่เป็นคริปโต - เหยื่อถูกลักพาตัวและถูกทำร้ายเพื่อกดดันให้จ่ายเงิน ✅ เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นในกรุงปารีส - ชายวัย 60 ปี ถูกลักพาตัวกลางวันแสกๆ - ถูกบังคับให้ลูกชายของเขาจ่ายค่าไถ่ระหว่าง $5.3 ล้านถึง $8 ล้าน ในคริปโต ✅ เหยื่อถูกกักขังเป็นเวลา 2 วันและถูกตัดนิ้วเพื่อส่งไปให้ลูกชายของเขา - ตำรวจติดตามและช่วยเหลือเหยื่อได้สำเร็จ - ผู้ต้องสงสัย 5 คนถูกจับกุม ✅ เหตุการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นกับ David Balland ผู้ร่วมก่อตั้ง Ledger - ถูกลักพาตัวและถูกตัดนิ้วเพื่อกดดันให้จ่ายค่าไถ่ $11.3 ล้าน ในคริปโต - ตำรวจช่วยเหลือเขาได้สำเร็จ ✅ มีกรณีลักพาตัวนักลงทุนคริปโตในสเปนและเบลเยียมในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา - ยังไม่แน่ชัดว่าคดีเหล่านี้เกี่ยวข้องกันหรือไม่ https://www.techspot.com/news/107816-crypto-millionaires-targeted-brutal-kidnappings-across-france-europe.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Crypto millionaires targeted in brutal kidnappings across France and Europe
    The unidentified 60-year-old man was abducted in broad daylight at 10.30am on Thursday morning while walking down Paris' 14th arrondissement, writes The Guardian. Four men forced him...
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้กล่าวถึง ความตึงเครียดในสภาคองเกรสเกี่ยวกับโครงการคริปโตของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลให้ สมาชิกพรรคเดโมแครตชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล

    ก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก แต่ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อ ทรัมป์และสมาชิกในครอบครัวของเขาเริ่มโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว ทำให้พรรคเดโมแครตไม่พอใจและตัดสินใจ ชะลอการอภิปรายร่างกฎหมาย

    ✅ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก
    - ก่อนหน้านี้มีการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค
    - กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อ กำหนดกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล

    ✅ ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อทรัมป์และครอบครัวโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว
    - พรรคเดโมแครตไม่พอใจที่ ทรัมป์ใช้ตำแหน่งทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
    - ส่งผลให้ การอภิปรายร่างกฎหมายถูกชะลอออกไป

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล
    - ความล่าช้าในการออกกฎหมายอาจ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
    - อาจทำให้ บริษัทคริปโตต้องรอแนวทางการกำกับดูแลที่ชัดเจน

    ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - หากความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป อาจทำให้ กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลถูกเลื่อนออกไปอีก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/trump039s-crypto-ventures-cause-tensions-to-bubble-over-as-democratic-lawmaker-scuttles-key-hearing
    ข่าวนี้กล่าวถึง ความตึงเครียดในสภาคองเกรสเกี่ยวกับโครงการคริปโตของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งส่งผลให้ สมาชิกพรรคเดโมแครตชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก แต่ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อ ทรัมป์และสมาชิกในครอบครัวของเขาเริ่มโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว ทำให้พรรคเดโมแครตไม่พอใจและตัดสินใจ ชะลอการอภิปรายร่างกฎหมาย ✅ สภาคองเกรสมีแนวโน้มที่จะผ่านกฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นครั้งแรก - ก่อนหน้านี้มีการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค - กฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อ กำหนดกรอบการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ✅ ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อทรัมป์และครอบครัวโปรโมตโครงการคริปโตส่วนตัว - พรรคเดโมแครตไม่พอใจที่ ทรัมป์ใช้ตำแหน่งทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว - ส่งผลให้ การอภิปรายร่างกฎหมายถูกชะลอออกไป ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล - ความล่าช้าในการออกกฎหมายอาจ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน - อาจทำให้ บริษัทคริปโตต้องรอแนวทางการกำกับดูแลที่ชัดเจน ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - หากความขัดแย้งยังคงดำเนินต่อไป อาจทำให้ กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลถูกเลื่อนออกไปอีก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/trump039s-crypto-ventures-cause-tensions-to-bubble-over-as-democratic-lawmaker-scuttles-key-hearing
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump's crypto ventures cause tensions to bubble over as Democratic lawmaker scuttles key hearing
    (Reuters) -Tensions on Capitol Hill over President Donald Trump's various cryptocurrency ventures escalated on Tuesday and threatened to derail the digital asset sector's hope of legislation by the end of this year as a top Democratic lawmaker stalled efforts to debate a bill.
    0 Comments 0 Shares 190 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Socket ได้ค้นพบ แพ็กเกจ PyPI ที่เป็นอันตราย ซึ่งใช้ เซิร์ฟเวอร์ Gmail เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญและสื่อสารกับผู้โจมตี โดยแพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 55,000 ครั้ง และบางแพ็กเกจอยู่บนแพลตฟอร์มนานถึง 4 ปี

    แพ็กเกจที่เป็นอันตรายเหล่านี้มีชื่อคล้ายกับแพ็กเกจ Coffin ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Coffin-Codes-Pro, Coffin-Codes, NET2, Coffin-Codes-NET, Coffin-Codes-2022, Coffin2022 และ Coffin-Grave รวมถึง cfc-bsb ซึ่งทั้งหมดถูกลบออกจาก PyPI แล้ว

    ✅ แพ็กเกจ PyPI ที่เป็นอันตรายใช้เซิร์ฟเวอร์ Gmail เพื่อขโมยข้อมูล
    - ใช้ บัญชี Gmail ที่มีรหัสผ่านฝังอยู่ในโค้ด
    - สร้าง ช่องทางสื่อสารผ่าน WebSockets เพื่อหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์

    ✅ แพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 55,000 ครั้ง
    - บางแพ็กเกจอยู่บน PyPI นานถึง 4 ปี
    - ส่วนใหญ่เป็น การลอกเลียนแบบแพ็กเกจ Coffin

    ✅ Socket รายงานแพ็กเกจเหล่านี้ไปยัง PyPI และช่วยให้ถูกลบออกจากแพลตฟอร์ม
    - แม้ว่าจะถูกลบไปแล้ว แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว
    - ผู้ใช้ที่ติดตั้งแพ็กเกจเหล่านี้ต้อง ลบออกทันทีและเปลี่ยนรหัสผ่าน

    ✅ เป้าหมายหลักของมัลแวร์คือการขโมยข้อมูลเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี
    - พบว่ามัลแวร์ส่งข้อมูลไปยัง บัญชี Gmail ที่มีคำว่า "blockchain" และ "bitcoin"

    https://www.techradar.com/pro/security/gmail-servers-hijacked-by-malicious-pypi-packages-to-spread-havoc-heres-how-to-stay-safe
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Socket ได้ค้นพบ แพ็กเกจ PyPI ที่เป็นอันตราย ซึ่งใช้ เซิร์ฟเวอร์ Gmail เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญและสื่อสารกับผู้โจมตี โดยแพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 55,000 ครั้ง และบางแพ็กเกจอยู่บนแพลตฟอร์มนานถึง 4 ปี แพ็กเกจที่เป็นอันตรายเหล่านี้มีชื่อคล้ายกับแพ็กเกจ Coffin ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Coffin-Codes-Pro, Coffin-Codes, NET2, Coffin-Codes-NET, Coffin-Codes-2022, Coffin2022 และ Coffin-Grave รวมถึง cfc-bsb ซึ่งทั้งหมดถูกลบออกจาก PyPI แล้ว ✅ แพ็กเกจ PyPI ที่เป็นอันตรายใช้เซิร์ฟเวอร์ Gmail เพื่อขโมยข้อมูล - ใช้ บัญชี Gmail ที่มีรหัสผ่านฝังอยู่ในโค้ด - สร้าง ช่องทางสื่อสารผ่าน WebSockets เพื่อหลีกเลี่ยงไฟร์วอลล์ ✅ แพ็กเกจเหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 55,000 ครั้ง - บางแพ็กเกจอยู่บน PyPI นานถึง 4 ปี - ส่วนใหญ่เป็น การลอกเลียนแบบแพ็กเกจ Coffin ✅ Socket รายงานแพ็กเกจเหล่านี้ไปยัง PyPI และช่วยให้ถูกลบออกจากแพลตฟอร์ม - แม้ว่าจะถูกลบไปแล้ว แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว - ผู้ใช้ที่ติดตั้งแพ็กเกจเหล่านี้ต้อง ลบออกทันทีและเปลี่ยนรหัสผ่าน ✅ เป้าหมายหลักของมัลแวร์คือการขโมยข้อมูลเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี - พบว่ามัลแวร์ส่งข้อมูลไปยัง บัญชี Gmail ที่มีคำว่า "blockchain" และ "bitcoin" https://www.techradar.com/pro/security/gmail-servers-hijacked-by-malicious-pypi-packages-to-spread-havoc-heres-how-to-stay-safe
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • ทางการคูเวตได้ดำเนินการ ปราบปรามการขุดคริปโต ในเมือง Al-Wafrah ซึ่งส่งผลให้ การใช้พลังงานลดลงถึง 55% ภายในสัปดาห์เดียว โดยรัฐบาลระบุว่าการขุดคริปโต เป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย และอาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ

    แม้ว่าการซื้อขายคริปโตจะ ผิดกฎหมายในคูเวต แต่การขุดคริปโตยังไม่มีข้อห้ามชัดเจน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้บุกตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลัง ที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต โดยบางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า

    ✅ การใช้พลังงานลดลง 55% หลังจากปราบปรามการขุดคริปโต
    - เมือง Al-Wafrah พบว่าการใช้ไฟฟ้าลดลงอย่างมากหลังจากรัฐบาลดำเนินการ

    ✅ รัฐบาลคูเวตระบุว่าการขุดคริปโตเป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย
    - อาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ
    - ส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของประชาชน

    ✅ การตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลังที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต
    - บางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า
    - การขุด Bitcoin ใช้พลังงานมากกว่า 1,047 kWh ต่อธุรกรรม ซึ่งเทียบเท่ากับ การใช้ไฟฟ้าของบ้านในสหรัฐฯ หนึ่งเดือน

    ✅ เหตุผลที่คูเวตเป็นพื้นที่น่าสนใจสำหรับนักขุดคริปโต
    - คูเวตเป็นประเทศที่ มีราคาพลังงานต่ำ เนื่องจากเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
    - นักขุดคริปโตเลือกคูเวตเพราะ ต้นทุนไฟฟ้าถูกกว่าประเทศอื่น ๆ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/energy-use-in-a-kuwaiti-city-fell-by-over-50-percent-after-authorities-cracked-down-on-crypto-mining
    ทางการคูเวตได้ดำเนินการ ปราบปรามการขุดคริปโต ในเมือง Al-Wafrah ซึ่งส่งผลให้ การใช้พลังงานลดลงถึง 55% ภายในสัปดาห์เดียว โดยรัฐบาลระบุว่าการขุดคริปโต เป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย และอาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ แม้ว่าการซื้อขายคริปโตจะ ผิดกฎหมายในคูเวต แต่การขุดคริปโตยังไม่มีข้อห้ามชัดเจน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้บุกตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลัง ที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต โดยบางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า ✅ การใช้พลังงานลดลง 55% หลังจากปราบปรามการขุดคริปโต - เมือง Al-Wafrah พบว่าการใช้ไฟฟ้าลดลงอย่างมากหลังจากรัฐบาลดำเนินการ ✅ รัฐบาลคูเวตระบุว่าการขุดคริปโตเป็นการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย - อาจทำให้เกิด ไฟฟ้าดับในพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจ - ส่งผลกระทบต่อ ความปลอดภัยของประชาชน ✅ การตรวจค้นบ้านกว่า 100 หลังที่ต้องสงสัยว่ามีการขุดคริปโต - บางแห่งใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปถึง 20 เท่า - การขุด Bitcoin ใช้พลังงานมากกว่า 1,047 kWh ต่อธุรกรรม ซึ่งเทียบเท่ากับ การใช้ไฟฟ้าของบ้านในสหรัฐฯ หนึ่งเดือน ✅ เหตุผลที่คูเวตเป็นพื้นที่น่าสนใจสำหรับนักขุดคริปโต - คูเวตเป็นประเทศที่ มีราคาพลังงานต่ำ เนื่องจากเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมัน - นักขุดคริปโตเลือกคูเวตเพราะ ต้นทุนไฟฟ้าถูกกว่าประเทศอื่น ๆ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/energy-use-in-a-kuwaiti-city-fell-by-over-50-percent-after-authorities-cracked-down-on-crypto-mining
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลสหราชอาณาจักรเตรียมออกกฎหมายใหม่เพื่อ ห้ามไม่ให้ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต และจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภค ในขณะที่อุตสาหกรรมคริปโตถูกนำเข้าสู่การกำกับดูแลเป็นครั้งแรก

    กระทรวงการคลังของอังกฤษประกาศว่า จะบังคับใช้กฎระเบียบกับตลาดคริปโต โดยให้ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต อยู่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่

    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (FCA) ระบุว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตในสหราชอาณาจักรใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2022 ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุม

    ✅ การห้ามใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต
    - รัฐบาลต้องการ ลดความเสี่ยงทางการเงินของผู้บริโภค
    - FCA พบว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024

    ✅ การกำกับดูแลตลาดคริปโต
    - กระทรวงการคลังจะบังคับใช้กฎระเบียบกับ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต
    - ต้องการ กำจัดผู้เล่นที่ไม่โปร่งใส และสนับสนุน นวัตกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย

    ✅ ข้อจำกัดเกี่ยวกับสินเชื่อคริปโต
    - FCA กำลังพิจารณา การตรวจสอบเครดิตของผู้ลงทุน และ ทดสอบความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
    - การให้สินเชื่อคริปโตอาจมี ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการสูญเสียความเป็นเจ้าของสินทรัพย์

    ✅ ข้อยกเว้นสำหรับ Stablecoins
    - ผู้บริโภคยังสามารถใช้สินเชื่อซื้อ Stablecoins ที่ออกโดยบริษัทที่ได้รับการกำกับดูแลจาก FCA

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/britain-to-bar-consumers-from-borrowing-to-buy-crypto-under-new-regime
    รัฐบาลสหราชอาณาจักรเตรียมออกกฎหมายใหม่เพื่อ ห้ามไม่ให้ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต และจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภค ในขณะที่อุตสาหกรรมคริปโตถูกนำเข้าสู่การกำกับดูแลเป็นครั้งแรก กระทรวงการคลังของอังกฤษประกาศว่า จะบังคับใช้กฎระเบียบกับตลาดคริปโต โดยให้ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต อยู่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (FCA) ระบุว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตในสหราชอาณาจักรใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2022 ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุม ✅ การห้ามใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต - รัฐบาลต้องการ ลดความเสี่ยงทางการเงินของผู้บริโภค - FCA พบว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 ✅ การกำกับดูแลตลาดคริปโต - กระทรวงการคลังจะบังคับใช้กฎระเบียบกับ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต - ต้องการ กำจัดผู้เล่นที่ไม่โปร่งใส และสนับสนุน นวัตกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย ✅ ข้อจำกัดเกี่ยวกับสินเชื่อคริปโต - FCA กำลังพิจารณา การตรวจสอบเครดิตของผู้ลงทุน และ ทดสอบความรู้เกี่ยวกับการลงทุน - การให้สินเชื่อคริปโตอาจมี ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการสูญเสียความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ ✅ ข้อยกเว้นสำหรับ Stablecoins - ผู้บริโภคยังสามารถใช้สินเชื่อซื้อ Stablecoins ที่ออกโดยบริษัทที่ได้รับการกำกับดูแลจาก FCA https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/britain-to-bar-consumers-from-borrowing-to-buy-crypto-under-new-regime
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Britain to bar consumers from borrowing to buy crypto under new regime
    LONDON (Reuters) -Britain is to restrict consumers' use of credit cards to buy crypto and their access to crypto lending products, the regulator said on Friday, a move aimed at improving protection as cryptoassets are regulated for the first time.
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
  • คูเวตกำลังเผชิญกับ วิกฤตพลังงาน ที่รุนแรง ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลต้องดำเนินการ ปราบปรามการขุดคริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจากกิจกรรมนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า

    กระทรวงมหาดไทยของคูเวตได้เริ่ม ปฏิบัติการด้านความมั่นคง เพื่อตรวจสอบบ้านที่ใช้สำหรับการขุดคริปโต ซึ่งถือเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย โดยมีรายงานว่าบ้านบางหลังใช้พลังงานมากกว่าปกติถึง 20 เท่า

    แม้ว่าคูเวตจะ ห้ามการซื้อขายคริปโต แต่ยังไม่มี กฎหมายเฉพาะที่ควบคุมการขุดคริปโต ทำให้ผู้ขุดสามารถใช้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ถูกและการขาดการกำกับดูแลเพื่อดำเนินกิจกรรมของตน

    ✅ การดำเนินการของรัฐบาล
    - กระทรวงมหาดไทยเริ่มปฏิบัติการตรวจสอบบ้านที่ใช้ขุดคริปโต
    - บ้านบางหลังใช้พลังงานมากกว่าปกติถึง 20 เท่า

    ✅ สถานการณ์พลังงานในคูเวต
    - คูเวตกำลังเผชิญกับวิกฤตพลังงานจากการเติบโตของประชากรและอุณหภูมิที่สูงขึ้น
    - การบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าล่าช้าทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า

    ✅ กฎหมายเกี่ยวกับคริปโตในคูเวต
    - คูเวตห้ามการซื้อขายคริปโต แต่ยังไม่มีข้อบังคับเฉพาะเกี่ยวกับการขุด
    - ผู้ขุดใช้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ถูกและการขาดการกำกับดูแล

    ✅ ผลกระทบของการปราบปราม
    - การใช้พลังงานในพื้นที่ Al-Wafrah ลดลง 55% หลังจากปฏิบัติการของรัฐบาล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/01/kuwait-cracks-down-on-cryptocurrency-mining-amid-power-crisis
    คูเวตกำลังเผชิญกับ วิกฤตพลังงาน ที่รุนแรง ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลต้องดำเนินการ ปราบปรามการขุดคริปโตเคอร์เรนซี เนื่องจากกิจกรรมนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า กระทรวงมหาดไทยของคูเวตได้เริ่ม ปฏิบัติการด้านความมั่นคง เพื่อตรวจสอบบ้านที่ใช้สำหรับการขุดคริปโต ซึ่งถือเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย โดยมีรายงานว่าบ้านบางหลังใช้พลังงานมากกว่าปกติถึง 20 เท่า แม้ว่าคูเวตจะ ห้ามการซื้อขายคริปโต แต่ยังไม่มี กฎหมายเฉพาะที่ควบคุมการขุดคริปโต ทำให้ผู้ขุดสามารถใช้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ถูกและการขาดการกำกับดูแลเพื่อดำเนินกิจกรรมของตน ✅ การดำเนินการของรัฐบาล - กระทรวงมหาดไทยเริ่มปฏิบัติการตรวจสอบบ้านที่ใช้ขุดคริปโต - บ้านบางหลังใช้พลังงานมากกว่าปกติถึง 20 เท่า ✅ สถานการณ์พลังงานในคูเวต - คูเวตกำลังเผชิญกับวิกฤตพลังงานจากการเติบโตของประชากรและอุณหภูมิที่สูงขึ้น - การบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าล่าช้าทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า ✅ กฎหมายเกี่ยวกับคริปโตในคูเวต - คูเวตห้ามการซื้อขายคริปโต แต่ยังไม่มีข้อบังคับเฉพาะเกี่ยวกับการขุด - ผู้ขุดใช้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ถูกและการขาดการกำกับดูแล ✅ ผลกระทบของการปราบปราม - การใช้พลังงานในพื้นที่ Al-Wafrah ลดลง 55% หลังจากปฏิบัติการของรัฐบาล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/01/kuwait-cracks-down-on-cryptocurrency-mining-amid-power-crisis
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Kuwait cracks down on cryptocurrency mining amid power crisis
    KUWAIT (Reuters) -Kuwait has launched a crackdown on cryptocurrency miners it accuses of being a "major" cause of a power crisis that has led to blackouts, as authorities seek to ease pressure on the grid before the start of a sweltering summer.
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
More Results